เชื่อว่าทุกคนที่เคยดูนักกีฬาทีมชาติไทยแข่ง มักจะได้เห็นกองเชียร์คนหนึ่งถูกกล้องจับออกทีวีอยู่บ่อยๆ เป็นคุณลุงที่แต่งตัวชุดไทย เพนต์หน้าเป็นธงชาติไทย มีผ้าพันคอ THAILAND และมีพร็อพเป็นร่มที่หมุนเป็นธงชาติไทย
ซึ่งในโอลิมปิกครั้งนี้เนี่ย เราก็ได้เห็นลุงแกอีกแล้ว จนลุงแกเกิดเป็นกระแสพูดถึงขึ้นมา วันนี้เราเลยขอพามารู้จักกับลุงแกให้มากขึ้นกันครับ
– ลุงแกชื่อ “ท้าวดักแด้” คนรู้จักเรียกว่า พี่แด้ เกิดที่ยโสธร ชอบเล่นวอลเลย์บอลมากจนได้ติดทีมจังหวัด และมีฝันอยากติดทีมชาติไทยมาตลอด
– จนปี 2528 ได้เข้ามาเรียน ม.รามคำแหง ที่กรุงเทพฯ ก็เจอว่ามีคนที่เก่งกว่าตัวเองเยอะมาก เลยเริ่มคิดแล้วว่าฝีมือตัวเองอาจไม่มีวันได้ติดทีมชาติ เลยมาเอาดีด้านการเป็นผู้นำเชียร์กีฬา เพราะพอเล่นกีฬามาก็รู้ว่าตอนไหนควรเชียร์ ตอนไหนควรเงียบ และเชียร์ยังไงให้นักกีฬามีกำลังใจ
– จากทีแรกเป็นผู้นำเชียร์ตามกีฬาสี กีฬามหาลัย จนครั้งแรกที่แต่งตัวไปนำเชียร์ทีมชาติไทยคือซีเกมส์ เชียงใหม่ 2538 (1995) ไปเชียร์ไทยหลายกีฬาจนคนเริ่มเห็นในทีวีและในข่าว
– ทำให้ต่อมาพอเรียนจบ แกได้มีโอกาสได้เข้าสู่วงการโฆษณา และวงการบันเทิง ควบคู่ไปกับงานเจ้าหน้าที่ในการแข่งวอลเลย์บอล เวลาที่ไทยมีจัดแข่งวอลเลย์บอล
– ผลงานเด่นของแกคือโฆษณา ปตท. “มนุษย์ตะกั่ว” ที่ดังมากสมัยในยุค 90s และนักแสดงสมทบในละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ฉายช่อง 7 เรื่อง เทพสามฤดู รับบท มาตุลี
– จนแกเริ่มออกไปเชียร์ทีมชาติไทยที่ต่างประเทศด้วยการออกเงินเอง เริ่มจาก เอเชียนบีชเกมส์ปี 2008 (2551) ที่บาหลี อินโดนีเซีย
– จากนั้นปี 2010 (2553) ก็ตามไปเชียร์ เอเชียน พาราเกม ที่กว่างโจว ประเทศจีน โดยหางินทุนจากการร้องเพลงออกอัลบั้ม
– หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นพี่แกไปเชียร์ทีมชาติไทยข้างสนามอยู่ตลอดเกือบทุกอีเวนต์ เทุกชนิดกีฬา ทุกประเทศ ที่มีนักกีฬาทีมชาติไทยแข่ง
– แกเคยเล่าว่า ช่วงแรกที่ไปเชียร์ต้องออกเงินเอง ถ้าไม่มีก็ต้องหาไปให้ได้ เคยต้องขายรถ เอาของไปจำนำ อะไรที่ประหยัดได้ก็ประหยัด บางครั้งก็ไปนอนในวัดไทยที่ต่างประเทศ นอนที่บ้านคนไทยบ้าง ร้านอาหารไทยบ้าง
– ถ้าไม่มีที่นอนจริงๆ ก็จะไปขอนอนกับพี่น้องนักข่าวที่รู้จัก มีครั้งหนึ่งที่เอเชียนเกมส์เกาหลีใต้ แอบไปนอนกับนักข่าว แต่เตียงไม่พอ ก็เลยนอนในตู้เสื้อผ้า
– บางครั้งไปเชียร์ของกินแพงมาก นักกีฬาก็แบ่งข้าวให้ บางครั้งก็ขนอาหารเช้าโรงแรมใส่ย่ามเก็บไว้ พอเริ่มเป็นที่รู้จักก็มีผู้ใหญ่ใจดีและสปอนเซอร์มาสนับสนุนค่าใช้จ่าย
– ถ้าถามว่าลำบากขนาดนั้นทำไมไม่เลิกเชียร์ แกบอกว่า ครั้งหนึ่งตอนไปเชียร์กีฬาคนพิการ นักกีฬาตาบอดเคยมาบอกว่าพอได้ยินเสียงเชียร์จากแก เขาก็มีกำลังใจขึ้นมาจริงๆ แถมทำแบบนี้มา 20 กว่าปีแล้ว ทำไปทำมารู้สึกว่าลงจากหลังเสือไม่ได้
– พี่แด้โด่งดังมากในหมู่คนต่างประเทศ เพราะไปเชียร์ที่ต่างประเทศบ่อยแถมโดดเด่นกล้องจับออกทีวีอยู่ตลอด จนถูกเรียกว่า Mr.Thailand โดยเฉพาะในหมู่ชาติอาเซียน
– แกก็เลยปิ๊งไอเดีย เปลี่ยนชื่อตัวเองจาก “บัญชา คำทอง” มาเป็น “ไทยแลนด์ คำทอง” เพื่อจะได้เป็น Mr.Thailand จริงๆ ไปเลยในปี 2548
เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยแพสชั่นของจริงเลยครับ และเราก็น่าจะได้เห็นแกไปเชียร์กีฬาทีมชาติไทยต่อไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่แกยังไหวครับ