หลังจากที่โดนเป่าหูโดยคนรอบข้างมาเป็นระยะเวลาหนึ่งได้แล้ว ว่าแนะนำให้ลองไปดูเรื่อง Reply 1988
แต่ด้วยความที่เวลาว่างน้อย บวกกับติดเกม เลยไม่มีโอกาสได้ดูสักที จนผ่านมาหลายปี และอยู่ ๆ อะไรดลใจก็ไม่รู้เปิดดูเล่น ๆ 1 ตอน เท่านั้นแหละ ยาวเลยครับ…
พอดูจบก็เลยอยากจะเขียนรีวิวสักหน่อย เพราะเป็นซีรี่ส์ที่ผมบอกได้เลยว่า “ดีที่สุด” เท่าที่เคยดูมาเลยล่ะ จะเป็นอย่างไรลองไปติดตามชมกันได้เลยครับ…
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในซอยเล็ก ๆ ซอยหนึ่ง ชื่อว่า “ซังมุนดง” ผ่านมุมมองของ “ซอง ด็อกซอน” เด็กสาวที่อยู่ในชั้นมัธยมปลาย
เธอเติบโตขึ้นมาพร้อมกับครอบครัวที่อบอุ่น และมีเพื่อนสนิทวัยเดียวกันที่เป็นเพื่อนบ้าน ซึ่งซีรี่ส์ก็จะพาเราไปดูการเติบโตของพวกเขา ความสัมพันธ์ของแต่ละครอบครัว และความสัมพันธ์ของเพื่อนบ้านในซอยซังมุนดง
ความรู้สึกหลังจากดูจบ
สิ่งที่ชอบ
– เรื่องราวในซีรี่ส์จะเกิดในช่วงปี 1988 ครับ เพราะฉะนั้นคนที่เป็นวัยรุ่นในยุคนั้น ซักอายุ 30 ปลาย ๆ ไปจนถึง 40 ก็ทำให้หวนนึกถึงบรรยากาศในช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี ตรงนี้ซีรี่ส์นำเสนอกลิ่นอายออกมาได้ดีมาก
– การกระจายบทของตัวละครทำได้ยอดเยี่ยมมาก เลยทำให้รู้สึกว่าทุกตัวละครสำคัญหมด
– เทคนิคการเล่าเรื่องของซีรี่ส์เรื่องนี้คือการดึงเอาประเด็นที่แสนจะธรรมดา เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของทุกคน มาเล่าในแบบที่แสนจะธรรมดา แต่ดูแล้วมันโคตรจะทัชใจเลย
– นักแสดงแต่ละคนเคมีเข้ากันมาก การแสดงก็ทำได้ดี แต่ละคนตีบทแตกมาก โดยเฉพาะซอง ด็อกซอน ที่รับบทโดยฮเยริ คือตอนที่รับบทนางเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป แต่พอในเรื่องคือแบบ ไม่ห่วงสวยกันเลย 55555 (แต่น้องก็ยังสวยอยู่ดี)
– มีการสอดแทรกแนวคิด คำสอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับครอบครัว และการใช้ชีวิต เอาไว้ในบทพูดของตัวละคร ซึ่งมันแนบเนียนมาก เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้รู้สึกว่าโดนยัดเยียดมาเลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่ไม่ชอบ
– จริง ๆ มันมีช่วง Time Skip ที่สามารถเอามาเล่นต่อได้อีก 10-20 ตอน คือมันดีมากจนอยากดูต่อเรื่อย ๆ อ่ะ ไม่อยากให้มันจบ T T
– ควรจะมีอีกยาว ๆ ซัก 100 ตอน ไม่อยากให้จบเลย
– แสบตา เพราะดูแล้วร้องไห้เยอะมากกกกกกกกกกกก ร้องแล้วร้องอีก ร้องจนแสบตา (คือสาเหตุที่ร้องนี่มันไม่ได้เป็นเพราะเศร้านะ แต่มันหลากหลายความรู้สึกมาก อธิบายไม่ถูก ต้องลองไปสัมผัสเอง)
สรุป
เป็นซีรี่ส์ที่ทำให้รู้สึกว่า “มัวแต่ทำอะไรอยู่ ทำไมถึงเพิ่งมาดู” เพราะมันคือสุดยอดแห่งซีรี่ส์ ที่ไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรหวือหวา พล็อตเรื่องล้ำ ๆ อะไรเลย แต่เอาเรื่องธรรมดา ๆ ในชีวิตของคนเรานี่แหละมาเล่า
ฟังดูเหมือนง่ายใช่มะ? แต่ไม่เลย เพราะส่วนประกอบทุกอย่างของซีรี่ส์เรื่องนี้มันลงตัวหมดจดจริง ๆ ทั้งงานภาพ แสง เสียง บท นักแสดง การตัดต่อ ทุกคนทุกฝ่ายช่วยกันสรรค์สร้างให้งานศิลป์ชิ้นนี้ออกมาได้อย่างงดงามและน่าจดจำ
สุดท้ายนี้คือ ใครที่เคยเห็นผ่าน ๆ หรือ ว่าจะดู แต่ไม่ได้ดูซักที แนะนำให้ไปดูซะ แล้วคุณจะหลงรักมัน
และท้ายของท้ายอีกที หากคุณดูจบแล้วรู้สึกค้างคาใจกับบทสรุปของมัน ให้ไปอ่านข่าวเกี่ยวกับซีรี่ส์เรื่องนี้่ต่อ แล้วคุณจะรู้สึกไม่ติดค้างอะไรอีกเลย…
ส่วนใครที่ดูจบแล้วก็มาพูดคุยกันได้ในคอมเมนต์นะครับ
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว