นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ระดับตำนานของวงการเกม ที่ขนาดที่ว่าหน่วยงานเกี่ยวกับกรมควบคุมโรคของสหรัฐ ถึงกับต้องมาขอข้อมูลเพื่อนำไปศึกษากันเลยทีเดียว
มันคือเหตุการณ์ “ไวรัสล้างโลก” ที่เกิดขึ้นในโลกของเกม World of Warcraft มีตัวละครของผู้เล่นมากมายเสียชีวิต มีการร่วมมือกันเพื่อสร้างเขตกักกันโรค แยกโซนกันระหว่างคนติดเชื้อกับไม่ติดเชื้อ
จนถึงขนาดที่ว่าหน่วย CDC (หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกา) ถึงกับมาขอข้อมูลของเกมในช่วงนี้เพื่อไปวิเคราะห์ศึกษาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคในอนาคตเลยทีเดียว
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในปี 2005 ทางค่ายเกม Blizzard ได้อัปเดตแพทช์เวอร์ชั่น 1.7.0 ชื่อว่า Rise of the Blood God ในแพทช์นี้จะมีดันเจี้ยนสุดโหดที่ผ่านได้ยากมาก ๆ เพราะตัวบอสใหญ่ที่มีชื่อว่า Hakkar นั้นมีสกิลสุดโหดอยู่
เนื่องจากว่ามันเป็นบอสใหญ่ประจำแพทช์ ความยากในการกำจัดมันก็ย่อมต้องสูงตามไปด้วย
เจ้าบอส Hakkar นี้จะมีสกิลที่มีชื่อว่า Corrupted Blood เป็นสกิลแบบ DOT หรือสกิลที่สร้างดาเมจได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ผลพิเศษของมันก็คือสามารถติดต่อไปยังตัวละครอื่นได้ถ้าอยู่ใกล้ ๆ กันราวกับว่าเป็นโรคติดต่อยังไงยังงั้น
อย่างไรก็ตามสกิลดังกล่าวนี้จะหายไปเมื่อออกไปนอกดันเจี้ยน หรือก็คือจะมีผลแค่เฉพาะในดันเจี้ยนเท่านั้น
แต่เรื่องราวความฉิบหายวายป่วงทั้งหมดมันเริ่มต้นจากตรงที่ว่า มีผู้เล่นอาชีพฮันเตอร์ และวอร์ล็อก ได้อัญเชิญสัตว์เลี้ยงของตัวเองออกมาเพื่อช่วยต่อสู้กับบอส
กลายเป็นว่าไอ้เชื้อดังกล่าวนั้นมันดันสามารถติดไปยังสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย อันที่จริงแล้วเจ้าเชื้อตัวนี้มันถูกออกแบบมาให้เกิดขึ้นเฉพาะแต่ในดันเจี้ยนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่ากับกรณีของ “สัตว์เลี้ยง” นี้จะมีข้อยกเว้นอยู่
เมื่อผู้เล่นอาชีพฮันเตอร์ และวอร์ล็อกออกไปนอกดันเจี้ยน และเผลอเรียกสัตว์เลี้ยงออกมา ความหายนะก็เกิดขึ้น…
สกิล Blood Corrupted ถูกแพร่ออกมานอกดันเจี้ยน และระบาดไปทั่วจากผู้เล่นสู่ผู้เล่น โดยเฉพาะผู้เล่นเลเวลต่ำก็จะเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว เมื่อตายไปเกิดใหม่ที่จุดเกิดก็จะเจอกับผู้เล่นที่ติดเชื้อวนเวียนกันไปไม่รู้จบ
ทำให้ทั้งเมืองต่าง ๆ เต็มไปด้วยโครงกระดูก ซากศพ ของผู้เล่นนอนเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด
ระหว่างนั้นเองผู้เล่นหลายคนก็เริ่มคิดค้นหาวิธีจัดการด้วยตัวเองก่อน เริ่มจากการจำกัดการแพร่กระจาย โดยแบ่งให้คนที่ติดเชื้อกับคนที่ไม่ติดเชื้อแยกออกจากกัน แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเหลวเพราะมีผู้เล่นบางคนไม่ยอมทำตาม เอาตัวละครที่ติดเชื้อเข้าไปปะปน
หลังจากที่ทีมงานของ Blizzard ที่เป็นผู้พัฒนาเกมพยายามคิดหาวิธีแก้ไขปัญหา อัปเดตแพทช์ไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งกินเวลาไปมากกว่า 1 เดือน แต่ก็ยังไม่เป็นผล
ในที่สุดทาง Blizzard ก็ตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการ “รีเซตเซิร์ฟเวอร์” การระบาดของโรคจึงจบลง
เหตุการณ์นี้ถูกเรียกว่า Blood Plague หลังจากจบเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ทางด้าน CDC (Centers for Disease Control and Prevention) หน่วยงานการควบคุม และป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกาถึงกับติดต่อไปยัง Blizzard
เพื่อขอข้อมูลเกมในช่วงเหตุการณ์ Blood Plague นำไปศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของพฤติกรรม การแพร่กระจาย การตอบสนองของเหล่าเพลย์เยอร์ กับการเกิดโรคระบาด เนื่องจากว่าเกม World of Warcarft เป็นเกมที่มีผู้เล่นเป็นจำนวนมาก (จากข้อมูลปี 2005 มีจำนวนผู้เล่นสูงถึง 14 ล้านคนจากทั่วโลก)
ข้อมูลดังกล่าวจึงสามารถนำมาใช้เทียบเคียงกับการแพร่ระบาดของโรคจริง ๆ ได้ และมันจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนรับมือหากเกิดโรคระบาดร้ายแรงขึ้นมาในโลกแห่งความเป็นจริง!!
#เหมียวหง่าว
ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/Corrupted_Blood_incident