หัวจะปวดแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ๆ สำหรับกรณีนี้ เมื่อชายหนุ่มจากเนแบรสกา สหรัฐฯ เผลอโทรแจ้งตำรวจเพื่อให้ตำรวจมาจับตัวเองในข้อหาเมาแล้วขับ เอ้า…
เรื่องราวมันมีอยู่ว่า ชายหนุ่มคนนี้ขับรถไปตามถนนทางหลวงที่ 77 ในสภาพมึนเมา ก่อนพบว่ามีรถขับสวนเลนมา
เห็นคนทำผิดกฎหมายแบบนี้ใครล่ะจะทนไหว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจโทรหา 911 เพื่อแจ้งเหตุว่ามีคนขับรถผิดเลนนะ เนี่ยคุณตำรวจรู้ปะว่าเขาเปิดไฟสูงใส่ด้วย เกือบทำเขาตกไหล่ทางไปเลย
ชายหนุ่มบอกกับตำรวจว่า
“ผมกำลังขับขึ้นเหนืออยู่บนถนนหมายเลข 77 แล้วหมอนั่นกำลังขับลงใต้ ผมอยู่เลนขวาแล้วหมอนั่นอยู่เลนซ้าย เพื่อน! เขาเกือบชนผมแล้วนะ จนผมอุทานแบบ ‘เ*ยเอ้ยยย'”
หลังจากที่รับสายของชายหนุ่มตำรวจทางหลวงก็ได้ขับรถไปตามถนนที่เขาบอกเพื่อตามหารถที่กระทำความผิด
อธิบายก่อนเลยว่าถนนทางหลวงนี้ใหญ่มาก โดยถนนขาเข้ากับขาออกถูกคั่นกลางด้วยพื้นหญ้า
และจากกล้องของตำรวจพบรถเก๋งคันหนึ่งขับสวนเลนกับรถคันอื่น ๆ อยู่ ตำรวจจึงรีบขับตาม เรียกให้เขาจอดรถ และนี่คือบทสนทนาของพวกเขา
ตำรวจ: “รู้ไหมทำไมผมถึงเรียกให้คุณหยุด”
ชายหนุ่ม: “ครับ เพราะผมขับรถผิดเลน ผมคงเลยทางออกมาแล้ว”
ตำรวจ: “คุณคือคนที่โทรหา 911 เมื่อกี้หรือเปล่า?”
ชายหนุ่ม: “ใช่ครับ เพราะผมคิดว่ามีคนขับรถผิดเลนอะครับ”
ตำรวจ: “และมันกลายเป็นว่าคุณขับผิดเลนใช่ไหม?”
ชายหนุ่ม: “ใช่ครับ อย่างโง่เลยผมอะ”
หลังจากบทสนทนาอันแสนโบ๊ะบ๊ะนี้ตำรวจได้ทำการตรวจค่าแอลกอฮอลในเลือดของชายคนนี้และพบว่าค่าสูงกว่า 2 เท่าที่ทางกฎหมายกำหนดเอาไว้เลย สุดท้ายเขาก็ถูกจับและดำเนินคดีตามกฎหมาย
โชคดีมากค่ะที่ไม่มีใครบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “เมาไม่ขับ” จริง ๆ นะ…
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ