เชื่อว่าทุกคนเองต่างก็มีวิธีจัดการกับทรัพย์สินของตัวเองแตกต่างกันออกไป
แต่จะมีคนไหนบ้างที่ได้เงินจากมรดกมาเป็นมูลค่าหลักหลายร้อนล้านบาท แต่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับมันดี ก็เลยบริจาคไปซะเกือบหมดเลย
นี่คือเรื่องราวของ Mariene Engelhorn สาววัย 29 ปี จากประเทศเยอรมนี เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลมหาเศรษฐี
ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ แถมยังเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1865 มีมูลค่าทางธุรกิจไม่ต่ำกว่า 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (416,000 ล้านบาท)
และคุณย่าของ Mariene ก็ได้รับมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ เป็นส่วนแบ่งทางการตาลด มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,200 ล้านเหรียญฯ (159,000 ล้านบาท) ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะเสียชีวิตไป
ทำให้ Mariene ได้รับเงินมรดก เป็นมูลค่า 10 ล้านเหรียญฯ หรือราว ๆ 379 ล้านบาท
แทนที่จะยินดีกับจำนวนเงินมูลค่าดังกล่าว แต่ Mariene กลับบอกว่า “เธอไม่ต้องการมัน” เพราะมันทำให้เธอไม่มีความสุข
“ฉันไม่ควรที่จะได้เข้าไปตัดสินใจอะไรกับเงินของครอบครัว ที่ฉันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวตั้งแต่แรก หรือหามันมาด้วยตัวเอง”
“การจัดการกับเงินมรดก มันเป็นอะไรที่เสียเวลามาก และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เป้าหมายในการใช้ชีวิตของฉัน”
ด้วยเหตุนี้เธอก็เลยวางแผนที่จะบริจาคทรัพย์สินดังกล่าวจำนวนกว่า 90-95% ให้กับองค์กรการกุศล เพราะมันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะจัดการกับมัน
“นี่ไม่ใช่การจุดประเด็นเกี่ยวกับความต้องการของฉัน แต่เป็นการจุดประเด็นถึงเรื่อง ‘ความยุติธรรม’ ต่างหาก”
“ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับมรดกนี้เลยแม้แต่น้อย มันคือความโชคดี ที่บังเอิญคล้ายกับการซื้อลอตเตอรี่ลงมาเกิดในครอบครัวรวย ๆ”
นอกจากนี้ Mariene ยังสนับสนุนนโยบายที่คนรวยจะต้องเสียภาษีให้มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับอารยธรรมมนุษย์ของเรา
ในส่วนที่ว่าหลังจากที่บริจาคเงินมรดกเกือบทั้งหมดไปแล้ว เธอจะทำอะไรต่อไป? Mariene บอกว่า “ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันอยากจะทำงานหนัก เหมือนกับที่ทุกคนทำนั่นแหละ”
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ที่มา : https://www.dailymail.co.uk/news/article-11364703/German-heiress-Marlene-Engelhorn-wants-billion-dollar-inheritance-taxed-90-cent.html
https://nypost.com/2022/10/27/german-heir-annoyed-by-multibillion-dollar-inheritance-wants-it-taxed-away/