เอ่อ ก็คือว่า ทุกคนก็คงจะมี “ขนตรู๊ด” กันอยู่แล้วล่ะเนอะ แต่บางคนก็อาจจะไม่มี
ซึ่งคนที่มีเนี่ย ก็จะรู้กันดีว่าบางทีมันก็จะมีความคิดแว๊บ ๆ ขึ้นมาในหัวว่า “อยากจะโกนทิ้งดูจัง” แต่สุดท้ายเราก็ต่างจะรู้กันดีว่า “มันไม่เวิร์ก” และนี่ก็เป็นข่าวที่ตอกย้ำถึงความจริงที่ว่านั้นครับ…
เว็บไซต์ Ettoday รายงานข่าวของนักศึกษาชายรายหนึ่ง ที่ออกมาโพสต์เตือนภัยใกล้ตัว จนกลายเป็นไวรัล
ซึ่งพี่แกเล่าว่าตนเองมีขนตรู๊ดค่อนข้างเยอะและหนามาก ซึ่งมันค่อนข้างที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิต ทำให้ไม่สบายตัว (จริง ๆ รายละเอียดมีเยอะกว่านี้แต่ขอไม่เล่าเยอะละกัน เพราะมันจะทำให้เกิดจินตนาการภาพ)
ทีนี้พี่แกก็เลยตัดสินใจที่จะโกนมันออกโดยใช้ “ใบมีดโกน” แบบทั่ว ๆ ไปราคาไม่แพง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความบรรลัยครับ…
พ่อหนุ่มรายดังกล่าวบอกว่า “มันคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต” เพราะวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทำการโกน เขาก็เริ่มรู้สึกว่ามันมีเหงื่อไหลออกมา มีน้ำเหนียว ๆ คล้ายเมือกเกาะอยู่รอบทวารหนัก แล้วก็ทำให้มีอาการคัน แถมยังมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อีกต่างหาก
หลังจากนั้นก็เริ่มมีอาการถ่ายไม่ออก ผายลมไม่ได้ และพอขนเริ่มงอกออกมาใหม่ ก็รู้สึกว่ามันเหมือนกับมีตะปูทิ่ม และมีการเสียดสี จึงได้ตัดสินใจออกมาโพสต์เตือนทุกคนว่า “อย่าโกนขนตรู๊ดเด็ดขาด!!”
จากเรื่องนี้ไม่นานก็กลายเป็นไวรัล มีผู้เชี่ยวชาญทางลำไส้ใหญ่ และทวารหนักได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้กับทาง Ettoday ว่า “ควรโกนขนตรู๊ดหรือไม่?”
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ที่บริเวณร่องทวารหนัก จะมีความบอบบางมาก และขนตรู๊ดเองก็มีหน้าที่ของมันในการลดการเสียดสีในจุดอับ
ยิ่งพอเอามีดโกนไปโกน ก็ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นได้รับบาดเจ็บ จนทำให้ของเหลวในเนื้อเยื่อที่ถูกเปิดออกไหลออกมา
นอกจากนี้พอมีขนงอกออกมาใหม่ ก็จะทำให้มีอาการคัน และรับรู้สัมผัสได้ดีกว่าจุดอื่น เพราะผิวหนังมีความบอบบางนั่นเอง
รวมไปถึงอาจจะมีบาดแผลที่เกิดจากการโกน ทำให้เกิดการระคายเคือง การติดเชื้อ จึงทำให้เกิดอาการทั้งหมดทั้งมวลตามมา
ผู้เชี่ยวชาญยังเปิดเผยอีกว่า ขนตรู๊ดเนี่ยนอกจากจะมีหน้าที่ในการลดการเสียดสีแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้ของเหลวสกปรกสัมผัสกับทวารหนักโดยตรงอีกด้วย
เมื่อชั้นผิวหนัง หรือขนโดนโกนออก ผิวหนังชั้นนอกก็มีสิทธิ์ที่จะถูกทำลาย รวมไปถึงต่อมไขมันที่อยู่บริเวณนั้นด้วย
ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า การโกนขนตรู๊ดเนี่ย ทำได้ แต่ต้องทำให้ถูกวิธีเช่น การเลเซอร์ เป็นต้น
พร้อมกับทิ้งท้ายว่า เอาจริง ๆ แล้วบริเวณทวารหนักเนี่ย ไม่เหมาะกับการล้าง หรือถูด้วยสบู่แบบแรง ๆ และควรระมัดระวังให้มาก ๆ เวลาทำความสะอาด
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ที่มา : https://health.ettoday.net/news/2480374