นี่เป็นกระทู้ที่เป็นกระแสขึ้นมาบนเว็บบอร์ด Reddit เกิดการถกเถียงกันหลายพันคอมเมนต์เลยครับ
ประเด็นมาจากมีหมอรายหนึ่งมาตั้งกระทู้เล่าว่า ก่อนหน้านี้เขาได้ขึ้นเครื่องบินไฟลต์ยาวแล้วบินช่วงเวลากลางวันเลยขอเอนจอยกับสิ่งบันเทิงในไฟลต์เต็มที่ เขาก็ดื่มตั้งแต่อยู่ในเลาจ์ก่อนขึ้นเครื่องแล้วก็กรึ่มๆ แล้ว
แล้วพอขึ้นเครื่องก็มีผู้หญิงวัยเดียวกันที่นั่งข้างๆ ในชั้น Business ชวนเขาคุย พอกรึ่มก็ทำให้ปกติที่ไม่ค่อยคุยกับใครบนเครื่องก็คุยมากขึ้น เขาเลยบอกหญิงคนนั้นไปว่าเป็นหมอ พอจบบทสนทนาต่างคนก็ต่างพักผ่อนของตัวเองไป
จากนั้นเขาก็เปิดหนังดูแล้วก็ดื่มต่ออีกทำให้ตอนนั้นรู้สึกเมาพอสมควร แล้วจู่ๆ คนข้างๆ ก็มาแตะตัวเขาบอกว่าลูกเรือได้ประกาศหาคนเป็นหมอ เพราะมีผู้โดยสารป่วยต้องการหมอ
ด้วยการที่เขาเมาสติอะไรไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เขาเลยปฏิเสธไม่ขอไปช่วย แต่อีกฝ่ายก็ยังรบเร้าไม่เลิก เขาเลยบอกไปว่า “ฟังนะคุณผู้หญิง แค่ผมเป็นหมอไม่ใช่ว่าผมต้องเป็นหมอตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง 7 วัน ผมทำงานแต่ที่โรงพยาบาล พออยู่นอกโรงพยาบาลผมก็เป็นคนปกติเหมือนทุกคน ผมมีสิทธิ์ดื่มและผ่อนคลาย”
จากนั้นหญิงคนนั้นก็ทำหน้าขยะแขยงใส่เขาและไม่คุยกับเขาอีกเลย
เขาเสริมว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้โดยสารที่ต้องการหมอ แต่จากการที่ไม่ได้ยินประกาศหาหมอต่อ ก็คิดว่าทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี”
เขาคิดว่าตอนนั้นชัดเจนมาว่ากำลังเมาจนไม่สามารถช่วยใครได้ เขาดื่มนอกเวลางานและคิดว่าหมอก็ควรจะได้อยู่ชิลๆ บ้าง
เขาเลยมาตั้งกระทู้ถามอยากได้ความเห็นจากชาวเน็ตว่าการที่ตัวเองทำแบบนี้ถือว่าตัวเองเป็นคนเฮงซวยไหม?
กระทู้นี้ได้ถูกตั้งขึ้นเมื่อ 2 เดือนก่อนแล้วก็เป็นกระแสดังขึ้นมาโดยมีความเห็นแตกเป็นสองฝั่ง
แต่ท็อปคอมเมนต์ส่วนใหญ่จะเห็นตรงกันว่าเขาตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ช่วย แต่เขาพูดอธิบายให้คนข้างๆ ได้ไม่ดีเท่าไหร่
แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องราวนี้บ้าง ลองมาแลกเปลี่ยนได้เลยครับ