ขึ้นชื่อว่า “วิตามิน” ตามปกติเราก็คงจะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย แต่ก็เช่นเดียวกับสิ่งอื่นๆ ในชีวิต อะไรที่มันมากเกินไป ก็อาจจะมีโทษกับร่างกายได้ทั้งสิ้น
อย่างล่าสุดนี้เอง เหล่าแพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอีสต์ เคนท์ ในอังกฤษก็เพิ่งจะออกมาเปิดเผย เรื่องราวกรณีศึกษาของชายคนหนึ่ง ซึ่งต้องถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล
หลังจากที่เจ้าตัวทานวิตามิน D เข้าไปเกินขนาด จนมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย หูอื้อ ปวดท้อง ปากแห้ง กระหายน้ำ และเป็นตะคริวที่ขา ต่อเนื่องยาวนานถึง 3 เดือนเลย
อ้างอิงจากรายงานคนไข้รายนี้ เคยประสบปัญหาด้านสุขภาพหลายอย่าง เช่น วัณโรค ของเหลวในสมองสะสม ไซนัสอักเสบเรื้อรัง เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากแบคทีเรีย และเนื้องอกในหูชั้นใน
ดังนั้นเขาจึงเริ่มรับประทานวิตามินเสริมมากกว่า 20 ชนิด โดยที่ได้ไม่รู้เลยว่าเขาทานวิตามินหลายชนิดสูงกว่าความต้องการของร่างกายไปมาก
โดยเฉพาะวิตามิน D ซึ่งเขาทานไปถึง 150,000 IU ต่อวัน สูงเกือบ 400 เท่าจากที่ร่างกายต้องการจริงๆ (400 IU ต่อวัน)
นับว่าเป็นโชคดีที่ตั้งแต่เริ่มมีอาการชายคนนี้ก็หยุดทานวิตามินเสริมไปอาการของเข้าจึงไม่แย่ลงกว่านี้ แต่ถึงอย่างนั้น ในตอนที่เขาตัดสินใจเข้าพบโรงพยาบาล แพทย์ก็พบว่าเขายังมีระดับวิตามิน D สูงกว่าที่ควร 7 เท่าอยู่ดี
และมันก็ทำให้ไตของเข้าไม่สามารถทำงานตามปกติแล้วด้วย
ดังนั้นตลอดช่วง 8 วันต่อมา ชายคนนี้จึงต้องเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ ใช้ IV fluid ล้างสารที่มากเกินออกจากร่างกาย และใช้ยายาที่ช่วยลดระดับแคลเซียมในเลือด
ถึงอย่างนั้นก็ตามหลังจากออกจากโรงพยาบาลไป 2 เดือนระดับวิตามิน D ของเขาก็ยังคงสูงกว่าปกติอยู่ดี
เรื่องที่เกิดขึ้นถึงกับทำให้แพทย์ต้องออกมาเตือนถึงพฤติกรรมการทานอาหารเสริมในปัจจุบันเลย
เพราะแม้วิตามิน D จะมีโอกาสเป็นพิษได้ยาก แต่ด้วยจำนวนคนที่เริ่มทานอาหารเสริมกันมากขึ้น ความเสี่ยงในปัจจุบันจึงถือเป็นสิ่งที่น่าจับตามองมากขึ้นเช่นกัน
ดังนั้นใครที่ทานอาหารเสริมอยู่ก็ขอให้คุมปริมาณให้ดี อย่าทานอะไรเกินขนาดก็แล้วกัน
ที่มา bmj, sciencealert