เมื่อผู้ใหญ่บางคนพูดถึง “คนรุ่นใหม่” (คน Gen Z และ Millennial ตอนปลาย) หลายครั้งเราก็อาจจะได้ยินเสียงบ่นมาบ้างว่าคนในยุคนี้ใช้เงินกันฟุ่มเฟือยเหลือเกิน เงินเดือนเท่านั้นเท่านี้ทำไมไม่พอใช้
แต่ทราบกันหรือไม่ว่าอ้างอิงจากงานวิจัยชิ้นใหม่โดยบริษัทข้อมูลสถิติ ConsumerAffairs ของสหรัฐฯ จริงๆ แล้ว
เงินของคน Gen Z ในช่วงอายุ 20 ปีนั้น มีอำนาจการซื้อของต่างๆ น้อยกว่าคนรุ่น Baby boomers ตอนอายุเท่ากันร่วม 86% ได้เลย อย่างน้อยๆ ก็ในสหรัฐอเมริกา
โดยเหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็ถูกระบุไว้หลักๆ 4 ข้อประกอบด้วย
1. ค่าแรงที่แท้จริงกำลังลดลงเมื่อเทียบกับในยุค 70 คนรุ่นใหม่อาจได้ค่าแรงเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 80%แต่ดัชนีราคาผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นถึง 500% เช่นกัน ทำให้ในความเป็นจริงการทำงานของพวกเขาจะซื้อของได้น้อยลง
2. ราคาบ้านเฉลี่ยโดยเฉลี่ยแพงขึ้นได้พุ่งสูงขึ้นเกือบ 100% เมื่อเทียบกับในยุค 70
3. ค่าเทอมในมหาวิทยาลัยรัฐพุ่งขึ้น 310% แต่มีคนจบการศึกษาเพิ่มขึ้น 254% นั่นหมายความว่าไม่เพียงแต่คนรุ่นใหม่จะต้องลงทุนกับการเรียนมากขึ้น แต่พวกเขายังมีคู่แข่งในการหางานมากขึ้นตามไป
4. และนี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่คนรุ่นใหม่ต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงกว่า Baby boomers ถึง 57% อีกด้วย
ดังนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องเกินจริงนักที่จะบอกว่าคนรุ่นใหม่เอง ก็มีเรื่องลำบากในแบบของเขาเช่นกัน
เพราะต่อให้การเก็บข้อมูลนี้จะทำให้สหรัฐเท่านั้น แต่ผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อนั้น ก็ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับแทบทุกประเทศไม่เว้นแม้แต่ไทยเลยนั่นเอง
ที่มา
www.consumeraffairs.com/finance/comparing-the-costs-of-generations.html
www.fastcompany.com/90778446/gen-z-vs-baby-boomers-purchasing-power
thematter.co/brief/182917/182917