Author:
-
19 ภาพแห่งความงงงวย ต้องตั้งสติซัก 10 วินาที ถึงจะรู้แท้จริงแล้วมันเป็นยังไง!?
หลายคนอาจคิดว่าสิ่งที่รับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือความจริงที่สุด แต่จริงๆ แล้ว สัมผัสเหล่านั้นบางครั้งมันก็อาจลวงเราได้เหมือนกัน เหมือนกับภาพต่อไปนี้ที่ทำเอาหลายงงงวย ต้องดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ถึงจะรู้ว่าแท้จริงมันเป็นยังไง เกือบโดนสัมผัสหลอกซะแล้ว 1. นึกว่ามีกระรอกยักษ์มางัดรถ ที่ไหนได้ มันคือกระรอกตัวน้อยเกาะอยู่หน้าต่างนี่เอง 2. เล่นซะ คุณลุงเซกซี่เลย 3. เฮ้ย!! นึกว่าสิ่งมีชีวิตไฮบริด ครึ่งคนครึ่งหมา 4. พ่อหนุ่มคนนี้ไม่ได้กำลังบนทะเลสาบนะ แต่เขากำลังนอนบนต้นไม้ที่ถูกโค่นแล้วมองขึ้นฟ้าต่างหาก 5. เกือบด่าพ่อคนนี้แล้วเชียวว่าเล่นหวาดเสียวกับลูกบนระเบียง ที่ไหนได้ นั่นมันสถานที่จำลอง 6. เจ้าวัวเกรียนมายืนหลังหญิงสาวแล้วกางหู จนนึกว่าเป็นหูผู้หญิงคนนี้ซะอีก 7. มีชายอีกคนอยู่ข้างหลังจริงๆ นะ ไม่ใช่ภาพบนผนัง 8. ดูผ่านๆ อาจจะคิดว่าทำไมแขนเธอถึงยาวจัง 9.ชายคนนี้ไม่ได้อยู่หลังประตูนะ แต่นี่มันเป็นภาพที่ถ่ายจากมุมสูงต่างหาก 10. จังหวะที่เด็กหญิงลอยอยู่กลางอากาศ แต่หลายคนคิดว่าเธอลอยอยู่บนน้ำ 11.…
-
เพราะไฟป่าทำให้ครอบครัวต้องพลัดพรากสัตว์เลี้ยง แต่ “เจ้าหมา” ยังรอคอยอยู่ตรงที่เดิม…
เมื่อไม่กี่วันมานี้เราคงได้ติดตามข่าวไฟป่าในแคลิฟอร์เนียที่เผาทำลายแหล่งผลิตไวน์ รวมทั้งบ้านเรือน จนต้องมีการอพยพผู้คนกว่า 25,000 คน นอกจากความเสียหายของบ้านเรือนและทรัพย์สินแล้ว บางครอบครัวยังต้องสูญเสียสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักด้วย แต่โชคดีที่มีครอบครัวหนึ่งได้กลับมาพบกับสุนัขของพวกเขาในที่สุด นี่เป็นเรื่องราวสุดซึ้งของครอบครัวพ่อแม่ของ Beckyjean Widen ที่ประสบกับภัยพิบัติจากไฟป่าที่ลามเข้ามาถึงบ้านเรือนพวกเขา เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวไม่มีทางเลือก นอกจากต้องทิ้งทุกอย่างรวมทั้งของมีค่าไว้ที่นั่นและหนีออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อเอาตัวรอด ที่น่าเศร้าคือ Izzy สุนัขผู้เป็นที่รักของพวกเขาได้หายไปก่อนเกิดไฟไหม้เพียงไม่กี่นาที จึงทำให้ครอบครัวต้องพลัดพรากกับมันตั้งแต่นั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไฟดับหมดแล้ว ครอบครัวก็ตัดสินใจกลับไปยังบ้านที่ตอนนี้เหลือแต่ซาก แต่ไม่น่าเชื่อว่า Izzy มารอพวกเขาอยู่ที่นั่น ด้านล่างนี้เป็นคลิปขณะที่ครอบครัวกลับไปตามหาน้องหมา โดยพยายามปรบมือเพื่อเรียกหามัน ในคลิปจะเห็นว่าบ้านเรือนบริเวณนั้นถูกไฟไหม้จนหมด และแทบจะไม่มีเห็นสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่เลย แต่ใครจะไปคิด เมื่อพวกเขาเดินมาใกล้ถึงที่ที่เคยเป็นบ้าน อยู่ๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนที่ มันคือเจ้าหมา Izzy ที่วิ่งออกมาต้อนรับพวกเขาด้วยความดีใจ ไม่มีใครรู้ว่าช่วงที่เกิดไฟไหม้น้องหมาไปอยู่ที่ไหน แต่เห็นได้ชัดว่าขนของมันไม่มีรอยไหม้เลยสักนิด แถมยังกลับมารออยู่ที่บ้าน แม้บ้านจะถูกไฟไหม้ไปแล้วก็ตาม น้องหมาดูเหนื่อยและหิวน้ำ แต่อย่างอื่นมันไม่เป็นอะไรเลย หลังจากนั้นพวกเขาก็พามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอีกที หลังจากที่ Widen โพสต์คลิปนี้ในเฟซบุ๊กก็มีคนเข้ามาดูจำนวนมาก หลายคนถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจที่เห็นน้องหมาวิ่งออกมาต้อนรับเจ้าของ…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ความแปลกของ ‘เพื่อนบ้าน’ ถ้าได้อยู่ข้างกันล่ะก็คงมีแต่เรื่องบันเทิงแน่!!
เราอาจจะเคยเจอเพื่อนบ้านที่ใจดีบ้าง เพื่อนบ้านหยิ่งบ้าง หรือแม้กระทั่งเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย แล้วมีเคยเจอเพื่อนบ้านแปลกๆ มั้ย? อย่างเพื่อนบ้านเหล่านี้ที่ชอบทำอะไรแปลกไปจากคนทั่วไป จนบางทีก็ออกจะน่ากลัวไปซะหน่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นการสร้างความบันเทิงให้เพื่อนบ้านขี้เผือกอย่างเราๆ 1. ดัดแปลงระเบียงให้เป็นเรือโจรสลัด อืม คิดอะไรอยู่หนอ? 2. เจอแบบนี้ คุณจะคิดว่าเขาเป็นเพื่อนบ้านที่แปลกมั้ย? 3. ปกติเห็นแต่กวางลากซานต้า แต่นี่เอาซานต้าลากกวาง 4. เพื่อนบ้านกำลังประชุมกับแตงโมตอนตี 3!? 5. เพื่อนบ้านพานกแก้วไปเดินเล่น? 6. เพื่อนบ้านนำก้อนหิมะมาแช่แข็ง เพื่อเอาไว้ปาเล่นในช่วงฤดูร้อน 7. เอาเทปมาปิดรอยแตก แต่พอเพื่อนบ้านวัย 92 ปี มาเห็น คิดว่าติดเลขที่บ้านและเอามาแปะบ้าง 8. ระเบียงข้างบนเป็นของ 2 หนุ่ม ชั้นล่างเป็นของ 2 สาว นี่แหละความต่างของผู้หญิงกับผู้ชาย 9. เพื่อนบ้านติดป้ายไม่ให้ทิ้งก้นบุหรี่ลงในสวน เพราะเจ้าเหมียวชอบเอามาสูบต่อตอนกลางคืน และพวกเขาพยายามให้มันเลิกอยู่ …
-
จีนจัดนิทรรศการภาพถ่าย ‘แอฟริกา’ เทียบชนพื้นเมืองกับสัตว์ป่า… จนกลายเป็นการเหยียดผิว
กลายเป็นประเด็นดราม่าในโซเชียลเมื่อพิพิธภัณฑ์จีนจัดนิทรรศการภาพถ่ายที่มีการเทียบภาพชนพื้นเมืองคู่กับสัตว์ป่า จนถูกมองว่าเป็นการเหยียดชนชาติอื่น นี่คือนิทรรศการภาพถ่ายที่จัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ Hubei Provincial Museum เป็นชุดภาพที่ทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสามัคคีระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ซึ่งถ่ายโดยช่างภาพและนักธุรกิจระหว่างเดินทางไปแอฟริกาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นิทรรศการนี้มีชื่อว่า “This is Africa” ภายใต้หัวข้อ “One’s heart makes one’s appearance” โดยนำเอาภาพเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นชนพื้นเมืองของแอฟริกามาประกบคู่กับภาพสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ในชุดภาพดังกล่าวนี้ประกอบด้วยภาพชายชราประกบคู่กับลิง อีกภาพเป็นรูปของชายชาวแอฟริกาในท่าที่มองผ่านไหล่ตัวเองประกบกับภาพเสื้อชีต้าที่ทำท่าคล้ายกัน มีภาพเด็กอ้าปากกว้างวางคู่กับภาพกอริลลา และอื่นๆ อีกมากมาย ในบรรดาภาพเหล่านั้นมีภาพของกลุ่มนักเรียนแอฟริกาในประเทศจีนอยู่ด้วย และเมื่อรู้ว่ามีคนเอาภาพพวกเขาไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์โดยประกบคู่กับสัตว์ที่ทำท่าคล้ายกัน จึงได้มีการขอร้องไม่ให้ระบุชื่อของพวกเขา เพราะกลัวจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสงสัยว่าลักลอบเข้ามา หลังจากที่ถูกร้องเรียน ทางพิพิธภัณฑ์ก็ได้เอาภาพดังกล่าวออก อย่างไรก็ตามนักเรียนแอฟริกาได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทางคณบดีของมหาวิทยาลัยทราบ ในขณะที่คนอื่นๆ ได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังสถานทูตแอฟริกาในจีน สำหรับนิทรรศการนี้ได้จัดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว เพื่อเป็นการฉลองวันหยุดแห่งชาติ 8 วันของจีน ซึ่งมีคนเข้าเยี่ยมชมพิพิภัณฑ์นั้นไปแล้ว 133,000 คน ต่อมา Wang Yuejun ผู้วางแผนจัดนิทรรศการนี้ได้ออกมาแถลงว่า “เราเข้าใจทุกๆ ความเห็นที่ร้องเรียนเข้ามา แต่ผมอยากเรียนให้ทราบว่าผู้เข้าชมนิทรรศการส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ในทัศนะของคนจีนการเปรียบเทียบคนกับสัตว์นั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจเลย” Wang ยังชี้ให้เห็นว่า ชาวจีนมักจะบูชาเทวรูปสัตว์ และในระบบจักรราศีเกิดของจีนก็มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ด้วย…
-
ภาพถ่ายแนวธรรมชาติยอดเยี่ยมประจำปี 2017 ของ Nationl Geographic งามๆ ทั้งนั้น
โลกนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามที่เราคงได้เห็นไม่หมดในชีวิตนี้ อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณช่างภาพหลายๆ คนที่ได้เก็บภาพความงดงามเหล่านั้นมาให้เราได้ดูกัน และนี่คือภาพถ่ายแนวธรรมชาติที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประจำปี 2017 ของ Nationl Geographic ที่ทำให้รู้ว่าโลกนี้น่าหลงใหลแค่ไหน “Smile For The Camera” ถ่ายโดย Gary Peart ขณะที่ช่างภาพแอบดูจระเข้อเมริกันผ่านน้ำใสๆ จู่ๆ มันก็ว่ายเข้ามาใกล้เกือบชนจมูก แม้ช่างภาพจะรู้สึกลัวจนมือไม้สั่น แต่เขาก็พยายามรวบรวมสติแล้วก็เก็บภาพอันน่าทึ่งนี้ไว้ได้ “Over Glacial Waters” ถ่ายโดย Shane Kalyn ภาพนี้ถ่ายขณะที่ช่างภาพบินอยู่เหนือแม่น้ำโฮล์มส์ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา แม่น้ำสีฟ้าตัดกับผืนป่าสีเขียวช่างเป็นภาพที่งดงามมาก “There Is Always Room For One More” ถ่ายโดย Eivor Kuchta กลุ่มแกะน้อยกำลังเบียดกันยืนบนก้อนหินจนต้องซ้อนกัน บนเทือกเขาอีแวนส์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา “Atlantic Puffin” ถ่ายโดย Harry Collins นี่คือนกพัฟฟินแอตแลนติกที่อยู่บนเกาะ Machias Seal นอกชายฝั่ง Maine “On The…
-
ช่างแต่งหน้าสาวกับผลงานการแต่งหน้าแบบสุดหลอน เหมือนจริงซะจนรู้สึกสยึ๋มกึ๋ย
การแต่งหน้าถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง นอกจากจะแต่งให้สวยให้หล่อได้แล้ว ยังสามารถแต่งเป็นแนวอื่นได้ด้วย เช่น การแต่งหน้าแฟนซี ให้ออกมาตลกบ้าง เป็นการ์ตูนบ้าง หรือแม้กระทั่งการทำให้ดูหลอนไปเลย เหมือนกับ Samantha Staines ช่างแต่งหน้าและช่างทำเล็บคนนี้ ที่จะทำให้คุณหลงรักด้วยการโชว์ทักษะการแต่งหน้าหลากหลายแนว โดยเฉพาะแนวหลอนจนทำให้หลายคนลืมไม่ลง Samantha มักจะแต่งหน้าแปลกๆ ไม่ซ้ำใคร เพื่อเป็นการสื่อว่าการแต่งหน้านั้นไม่มีขีดจำกัด และถึงจะดูหลอนไปสักหน่อยก็ตาม สำหรับใครที่สนและอยากลองแต่งหน้าแนวนี้บ้าง หญิงสาวคนนี้ก็ทำวิดีโอสอนให้ด้วยนะ ซึ่งสามารถติดตามได้ที่ช่องยูทูบของเธอ SammyLovesFossas และอินสตาแกรม sammylovesfossas . เหมือนโดนดูดจริงๆ เลย เอิ่ม ช่วยลบความจำตรูที . มีใครให้มากกว่านี้มั้ย . เวลาถูกลมตีหน้าแรงๆ มันก็จะเป็นแบบนี้แหละ . . . . . . . . . . ยึ๋ย!! . . . .…
-
บริษัทชุดสูทผู้หญิงทำโฆษณาให้ผู้ชายเปลือยเป็นตัวประกอบ นำไปสู่ประเด็นร้อนในโซเชียล
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการโฆษณาเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อยอดการขายสินค้ามาก ดังนั้นผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงมักทุ่มเทให้กับการโฆษณาเป็นหลัก เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคให้มากที่สุด แต่ดูเหมือนโฆษณาตัวล่าสุดของ Suistudio จะเป็นการฉีกกฏการโฆษณาแบบเดิมๆ มากเกินไป จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกออนไลน์ในขณะนี้ Suistudio เป็นบริษัทชุดสูทผู้หญิง ได้ออกแคมเปญโฆษณาตัวล่าสุดภายใต้หัวข้อ “Not Dressing Men” ซึ่งน่าสะดุดตาตรงที่ว่าให้ผู้ชายเปลือยกายอยู่ในแคมเปญด้วย แม้ว่านี่จะเป็นการโฆษราชุดสูทผู้หญิง แต่ทางบริษัทได้นำผู้ชายเปลือยกายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภาพ เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามหากสังเกตดูดีๆ บริษัทจะเน้นที่ตัวนางแบบในชุดสูทเป็นหลัก โดยให้ผู้ชายเปลือยเป็นเพียงแค่ฉากประกอบเท่านั้น อย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์ โฆษณาชิ้นนี้เรียกได้ว่าเป็นการฉีกกฏเดิมๆ ของวงการโฆษณาไปเลย ซึ่งก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีคนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย บางคนบอกว่า Kristina Barricelli ประธาน Suistudio และทีมงานโฆษณาชิ้นนี้ ส่งเสริมให้มองมนุษย์เป็นเพียงแค่วัตถุชิ้นหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม Barricelli ได้ออกมาอธิบายว่า นั่นไม่ใช่เจตนาของบริษัท สิ่งที่เธอต้องการสื่อคือ ‘การให้ผู้ชมได้พิจารณาในเรื่องบทบาททางเพศผ่านการโฆษณา’ ชายเปลือยที่มีบทบาทเหมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง นางแบบในชุดสูทจะถูกชูให้โดดเด่นกว่าชายที่นอนเปลือย แต่หลายคนเข้าใจว่านี่เป็นการส่งเสริมให้มองมนุษย์เป็นแค่วัตถุเท่านั้น ชาวเน็ตรายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า “ไม่มีใครสมควรถูกทำให้เป็นเพียงแค่วัตถุเท่านั้น” ผู้ชายคนนั้นอาจเป็นเพื่อน พี่ชาย…
-
ยลโฉมความน่ารักของลูกแพนด้าทั้ง 17 ตัว หลังประเทศจีนประสบความสำเร็จในการแพร่พันธุ์
แพนด้ายักษ์เป็นสัตว์ที่ถูกจัดอยู่ในสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ โดยมีแพนด้ายักษ์ในธรรมชาติราว 1,600 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในป่าเขามณฑลซื่อชวนภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ด้วยเหตุนี้ที่ผ่านมากองค์กรอนุรักษ์สัตว์ทั่วโลกจึงได้มีความพยายามในแพร่พันธุ์พวกมันด้วยการผสมพันธุ์เทียม และตอนนี้ประเทศจีนก็ได้ทำสำเร็จแล้วด้วยการผสมเทียมจากอสุจิแช่แข็ง หลังจากที่ทำสำเร็จ จีนก็ได้เผยแพร่ภาพลูกหมีแพนด้ายักษ์ 17 ตัว จากทั้งหมด 42 ตัวที่เกิดในปี 2017 นี้ ซึ่งแต่ละตัวน่ารักอย่างไม่มีขีดจำกัดเลยหล่ะ แพนด้ายักษ์น้อย 17 ตัวอยู่ ขณะนี้ได้รับการดูแลอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์และวิจัยเพื่อหมีแพนด้ายักษ์แห่งประเทศจีน ในมณฑลเสฉวน เมือง Ya’an ส่วนตัวอื่นอยู่ที่เขตพื้นที่คุ้มครอง Wolong National Nature Reserve ก่อนที่ประเทศจีนจะเผยแพร่ภาพเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ได้ดูแลลูกแพนด้ายักษ์ทุกตัวอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เพื่อให้แน่ใจว่าทุกตัวจะได้กินอิ่ม นอนอุ่น และไม่เจ็บไข้ได้ป่วย Zhang Hemin รองหัวหน้าศูนย์เพาะพันธุ์บอกว่า “จำนวนลูกแพนด้ายักษ์ที่เกิดในปีนี้ แสดงให้เห็นว่าวิธีการเก็บรักษาอสุจิแช่แข่งและเทคนิคการผสมพันธุ์ของเรานั้นมีประสิทธิภาพ” เขายังบอกอีกว่าเทคโนโลยีที่ใช้ในการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ได้พัฒนาขึ้นกว่าที่ผ่านมาก จากที่มีหมีแพนด้ายักษ์เกิดเพียง 6 ตัวในปี 1983 ปีนี้ได้เพิ่มเป็น 273 ตัวแล้ว ปัจจุบันหมีแพนด้ายักษ์อาศัยอยู่ในป่าทางตอนใต้ของมณฑลกานซู่ มณฑลส่านซี…
-
หนุ่มโดนอัดคลิปขณะลากลูกหมาตัวน้อยที่หมดเรี่ยวแรงเดิน จนโดนชาวเน็ตด่ายับ
สุนัขมักจะมีความสุขเสมอเวลาที่เจ้าของพาไปเดินเล่นนอกบ้าน แต่มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบกับสุนัขทุกตัวเสมอไป เหมือนกับหมาน้อยผู้น่าสงสารตัวนี้ที่ถูกเจ้าของจูงลากไปกับพื้นถนนอย่างโหดร้าย เพราะน้องหมาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดิน เหตุการณ์นี้ถูกถ่ายโดย Jade Barker วัย 23 ปี ขณะที่เดินสวนกับชายคนหนึ่งที่มาพร้อมกับสุนัข 3 ตัว แม้สองตัวจะเดินนำหน้าปกติ แต่หมาน้อยอีกตัวกลับถูกลากอยู่ข้างหลังเจ้าของ ทราบชื่อเจ้าของหมาในภายหลังว่าเขาคือ Robert Loombe วัย 46 ปี… คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ในโซเชียลจนทำให้เจ้าของหมาถูกจับกุมในที่สุด นาย Loombe ได้รับสารภาพในชั้นศาลว่าเขาได้ทำทารุณต่อสัตว์เลี้ยงจริง ทำให้เขาถูกปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 18,000 บาท และถูกตัดสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของหมาที่ชื่อ Fatsy ซึ่งเป็นตัวที่ถูกลากในคลิปด้วย หลังจากที่เจ้าของหมารับสารภาพและถูกปล่อยตัว Barker บอกว่าเธอรู้สึกผิดหวังที่ Loombe ไม่ได้ถูกสั่งห้ามไม่ให้เลี้ยงสัตว์อีกต่อไป เธอบอกว่า “มันเป็นการลงโทษที่ไม่ยุติธรรมเลยและเขาก็ถูกปล่อยตัวออกมาง่ายๆ ตอนแรกตำรวจบอกว่าได้นำหมาออกมาจากการดูแลของเขาทั้งหมด แต่ตอนนี้ดูเหมือน Loombe จะพาสุนัขทุกตัวกลับไปอยู่กับเขาเหมือนเดิมแล้ว” “Fatsy คือหมาหนึ่งใน 7 ตัวที่อยู่ในบ้านของ Loombe เขาดูไม่เป็นมิตรตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ และสิ่งที่เขาทำมันก็บ่งบอกชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ได้รักสุนัขเลย” Barker บอก เธอยังได้เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นว่า “ตอนที่ฉันเห็นหมาน้อยผู้น่าสงสารถูกลากไปกับพื้น ฉันเดินเข้าไปและขออุ้มมันขึ้นมา แต่เจ้าของหมากลับตะคอกใส่ฉันว่า ‘ให้พ้นเลย!!’ จากนั้นน้องหมาก็โดนลากไปอีกกว่า 50 เมตร ฉันเสียใจมากที่ช่วยอะไรมันไม่ได้” …
-
พาไปส่องความงดงามของ ‘บ้านมาโคร’ ที่อังกฤษสร้างขึ้นมาเพื่อลดปัญหาคนไร้บ้าน
ทุกวันนี้มีกิจกรรมดีๆ มากมายที่่ขับเคลื่อนเพื่อคนไร้บ้าน และสำหรับคนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเหล่านี้ คงไม่มีของขวัญชิ้นไหนดีไปกว่าการมีบ้านเป็นของตัวเอง หนึ่งในกิจกรรมเหล่านั้นคือบ้านมาโครหรือที่ใช้ชื่อว่า iKozies ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ที่ทำขึ้นเพื่อจัดการกับคนเร่ร่อนในอังกฤษ โดยการทำบ้านขนาดเล็กมอบให้กับพวกเขา บ้านขนาดเล็กนี้มีพื้นที่ 17.25 ตารางเมตร ซึ่งได้แรงบรรดาใจมาจากเรือยอชท์และห้องโดยสารเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสที่มีราคาอยู่ที่ 1.7 ล้านบาท แม้จะเป็นบ้านที่ทำขึ้นเพื่อคนจรจัดในราคาที่ถูก แต่ก็มีการออกแบบภายในเป็นอย่างดี มีทั้งห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ และโซนบันเทิงพร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างครบครัน ส่วนโครงสร้างของบ้านทำด้วยโครงเหล็ก และปิดทับด้วยไม้เนื้อแข็ง ส่วนหลังคาทำด้วยเหล็กลูกฟูกพร้อมติดแผ่นโซลาเซลล์ โครงการดังกล่าวนี้ ดำเนินการโดย Homeless Foundation และมี Spring Housing Association มาจัดการในเร่ื่องของคุณสมบัติของผู้ที่จะได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ สำหรับคนที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องรับผิดชอบในเรื่องค่าเช่า ค่าน้ำและค่าอาหารเอง โดยทางทีมงานจะสอนวิธีการอยู่รอดให้พวกเขาก่อน หากโครงการดังกล่าวนี้ประสบความสำเร็จ ทางผู้ดำเนินการติดตั้งบ้านแบบนี้ทั่วประเทศเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศ้ัยในประเทศ และผู้โชคดีคนแรกที่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้คือ Kieran Evans ชายหนุ่มวัย 18 ปี หลังจากที่เขาต้องใช้ชีิวิตเป็นคนเร่ร่อนตลอด 1 ปีที่ผ่านมา Kieran ออกจากบ้านตอนอายุ 17 ปี เขาใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์อยู่ที่โฮสเทล YMCA ก่อนจะย้ายไปอยู่ในบ้านพักชั่วคราวตอนอายุ 18 ปี เขาบอกว่า…
-
10 เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับโลก ที่ทำให้เห็นว่าโลกช่างกว้างใหญ่ เกินจะรับรู้ทั้งหมด…
หลายคนอาจจะคิดว่ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโลกใบนี้ แต่จริงๆ แล้ว นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ มากมายเกี่ยวกับจักรวาลอยู่ตลอดเวลา และพวกเขาเชื่อว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ยังไม่ถูกค้นพบ และนี่คือการค้นพบอันน่าทึ่ง ที่ทำให้รู้ว่าโลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์และยิ่งใหญ่เกินกว่ามนุษย์จะเข้าใจทั้งหมด 1. ยอดเขาเอเวอร์เรสไม่ใช่ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ที่ผ่านมาหลายคนเข้าใจว่าเทือกเขาเอเวอร์เรสเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งมีความสูงอยู่ที่ 8,848 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในขณะที่ภูเขา Mauna Kea มีระดับความสูง 4,205 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แต่ยังมีพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูเขาที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ดังนั้นเมื่อวัดความสูงจากฐานไปถึงยอด Mauna Kea จะมีความสูงอยู่ที่ 10,203 เมตร ซึ่งสูงกว่าเอเวอร์เรสถึง 1,355 เมตร ภูเขา Mauna Kea ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก 2. ชั้นบรรยากาศของโลกมีพรมแดน เส้น Kármán ได้รับการยอมในสากลว่าเป็นเส้นที่ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 100 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเล แม้ว่าระดับของชั้นบรรยากาศโลกจะอยู่สูงกว่า แต่เส้นดังกล่าวนี้ก็ได้รับการยอมรับจาก The World Air Sports Federation ว่าเป็นเส้นแบ่งระหว่างบรรยากาศกับนอกโลก 3. สถานที่ที่แห้งที่สุดในโลกตั้งอยู่ในแอนตาร์กติกา ปกติเราเชื่อกันว่าสถานที่แห้งแล้งที่สุดในโลกคือทะเลทรายอะตาคามาในชิลี ที่ไม่มีฝนตกเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว แต่มีการค้นพบว่า McMurdo Dry Valleys ในแอนตาร์กติกา…
-
งานแต่งงานในฝันของคู่รักทั่วโลกต้องล่มลง เพราะคู่รักที่ถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้ง “โบลว์จ๊อบ” ในกรีซ
หลังจากที่คู่บ่าวสาวถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสโม๊กกี้หน้าโบสถ์บนเกาะในประเทศกรีซ จนเป็นเหตุให้ชาวต่างชาติถูกแบนไม่ให้ไปจัดงานแต่งที่นั่นอีก เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้ชาวต่างชาติทั่วโลก โดยเฉพาะคู่รักที่มีแพลนจะไปแต่งงานที่นั่น ต้องฝันสลายไปด้วย เหมือนกับว่าที่เจ้าสาว Suzanne Sparkles วัย 33 ปี จาก Chorley ใน Lancashire สหราชอาณาจักร และแฟนหนุ่ม Steve Arnold วัย 38 ปี ที่ตั้งใจไปแต่งงานในโบสถ์เซนต์พอล เมือง Rhodes โดยได้จองสถานที่ไว้แล้วกว่า 1.7 ล้านบาท Suzanne และ Steve แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องถูกยกเลิก เมื่อรัฐบาลกรีซประกาศแบนชาวต่างชาติ เพราะคู่รักชาวอังกฤษคู่หนึ่งไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสโม๊กกี้ที่นั่น หลังจากที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมา 3 ปีครึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจจะแต่งงานกัน โดยได้ทำการจองสถานที่แต่งงานบนเกาะกรีกเมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากที่ได้รับแจ้งว่างานแต่งอาจต้องถูกยกเลิก Sparkles รู้สึกโกรธมาก และโทษคู่รักชาวอังกฤษที่เป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องแบบนี้ เธอบอกว่า “ฉันเสียใจมาก การกระทำที่ไม่มีการยั้งคิดของพวกเขา ทำให้งานแต่งในฝันของต้องล่มอย่างไม่เป็นท่า มีแขกจากจากสหราชอาณาจักร 52 คน จะไปร่วมงานของเรา โดยได้จองที่พักไว้แล้วเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์”…
-
หมาน้อยเกิดมาไม่มีขาหน้า ได้รับการดูแลจากมนุษย์ผู้ใจดี จนเสพติดการกอดซะงั้น
การเกิดมาด้วยสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ไม่ได้หมายความคุณแตกต่างและต้องถูกเลือกปฏิบัติจากคนอื่น แต่คุณมีสิทธิจะได้รับความรักและการปฏิบัติเช่นเดียวกับคนทั่วไป เหมือนกับเจ้าหมาน้อย Nubby ที่เกิดมาไม่มีขาหน้า แต่มันก็อยากมีชีวิตที่ดีเหมือนสุนัขตัวอื่นๆ และโชคดีที่มีมนุษย์ใจดีมาดูแลมันทำให้ความปราถนาของมันเป็นจริง ตอนที่ Nubby เกิดมาได้เพียง 2 ชั่วโมง สัตวแพทย์ต่างลงความเห็นว่าควรทำการการุณยฆาตมัน เนื่องจากน้องหมาเกิดมาไม่มีขาหน้า ซึ่งจะทำให้มันใช้ชีวิตลำบากในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นหมาที่ไม่แข็งแรงที่สุดในบรรดาพี่น้องที่เกิดในครอกเดียวกัน เพราะมันถูกตัวอ่ื่นๆ แย่งกินอาหารตลอด Lou Robinson แม่อุปถัมภ์ของ Nubby บอกว่า “เวลาที่แม่ให้นมลูกๆ Nubby จะถูกพี่น้องผลักออก ทำให้มันแทบไม่ได้กินนมเลย ซึ่งหากปล่อยไว้แบบนั้น มันอาจจะตายได้ ฉันเลยตัดสินใจพามันกลับมาที่บ้านด้วย” Robinson อาศัยอยู่ในฮูสตัน รัฐเท็กซัส เธอทำงานช่วยเหลือสัตว์มาเป็นเวลานาน และยังเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มที่เรียกว่า Warriors Educate About Rescue ซึ่งเป็นคอร์สเรียนเกี่ยวกับการดูแลสัตว์ จึงนับว่าโชคดีที่ Nubby ได้อยู่ในการดูแลของคนที่ไม่เพียงแต่รักสัตว์เท่านั้นแต่ยังเป็นคนที่เชี่ยวชาญในการดูแลสัตว์ที่มีความต้องการเป็นพิเศษ ที่สำคัญ Mark สามีของ Robinson ก็ถูกอกถูกใจเจ้าหมาตัวนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เนื่องจากร่างกายของ Nubby ไม่ค่อยแข็งแรง คู่รักจึงได้ค้นคว้าหาข้อมูลอย่างสุดความสามารถ เพื่อทำให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไป สิ่งแรกที่ต้องทำคือ พวกเขาต้องให้มันกินนมด้วยขวดนม แต่ต้องคอยเอียงขวดให้มัน และต้องรู้ด้วยว่าแค่ไหนที่ทำให้มันอิ่มพอดี เพราะหากให้มากไปอาจทำให้มันเกิดภาวะปอดบวมได้ …
-
เมื่อคุณแม่เห็นภาพตัวเองถูกแชร์ไปด่าสนั่นโซเชียล เลยตอกกลับด้วยความจริง จนชาวเน็ตเงิบ
ทุกวันนี้โลกโซเชียลน่ากลัวกว่าที่คิดที่เยอะ เพราะผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่เห็นบนสื่อออนไลน์ได้อย่างกว้างขวาง โดยที่บางคนยังไม่ทันรู้ความจริงด้วยซ้ำ เหมือนอย่างกรณีของคุณแม่คนนี้ที่ถูกถ่ายรูปแล้วเอาไปโพสต์ในสื่อออนไลน์ จนทำให้เธอถูกชาวเน็ตด่าสนั่นโซเชียลอย่างเสียๆ หายๆ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าคุณแม่แต่ละคนอาจจะมีวิธีเลี้ยงลูกที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนก็รักลูกเสมอ เช่นเดียวกับ Molly Lensing ที่มีแผนการเลี้ยงลูกในแบบของตัวเอง โดยเธอมีวิธีจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ที่บางคนอาจไม่เห็นด้วย กระทั่งวันหนึ่งขณะที่เธออยู่ในสนามบินและได้วางลูกน้อยนอนกับพื้น โดยปูผ้าไว้ให้ ซึ่งเธอคงมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น แต่มีบางคนไม่เข้าใจ จึงได้แอบถ่ายรูปเธอ ก่อนจะนำไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ คนที่เผยแพร่ภาพดังกล่าวไม่ได้ถาม Molly สักคำว่าทำไมถึงให้ลูกนอนพื้นแบบนั้น แต่กลับไปโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นที่คิดขึ้นมาเอง และแน่นอนว่ามันทำให้เธอถูกชาวเน็ตรุมด่าอย่างรุนแรง Molly ไม่รู้เลยว่าภาพดังกล่าวถูกแชร์ไปด่าในโลกโซเชียล กระทั่งเวลาผ่านไปหลายเดือน และภาพนั้นถูกแชร์ไปมากกว่า 60,000 ครั้งแล้ว เธอก็เพิ่งจะรู้ตัว… ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ใต้ภาพของเธอนั้นมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่จะออกไปทางด่าทอซะมากกว่า ต่อมา Molly ได้ออกมาเผยความจริงเกี่ยวกับภาพนั้นว่า “คำพูดทั้งหมดเหล่านั้นไม่เป็นความจริงเลย วันนั้นฉันอุ้มลูกสาว Anastasia เป็นเวลาหลายชั่วโมง จนแขนเริ่มล้า” “แต่การอุ้มในอ้อมแขนนานๆ จะทำให้เด็กนอนไม่สบาย เธอจำเป็นต้องนอนในพื้นที่กว้างกว่านี้ เพื่อที่จะได้ยืดแขนยืดขา และฉันเองก็ต้องติดต่อกับญาติๆ เพื่อบอกพวกเขาว่าเราอยู่ที่ไหน” เธอยังบอกอีกว่าการอยู่ในสนามบินนานๆ มันก็เครียดพออยู่แล้ว แต่นี่เธอต้องอุ้มลูกวัย 2 เดือนไว้ตลอดเวลา…
-
ประเทศกรีซสั่งแบนชาวต่างชาติ ไม่ให้แต่งงานบนเกาะ หลังภาพพรีเวดดิ้งสโม๊กกี้ว่อนเน็ต!!
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้นำเสนอเรื่องภาพพรีเวดดิ้งที่ไม่เหมาะสม จนถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียล ซึ่งน่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับคู่รักอ่ื่นๆ ในการถ่ายรูปพรีดิ้งบ้าง แต่ปรากฏว่าตอนนี้มีคู่รักอีกคู่หนึ่งที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้้งในลักษณะที่คล้ายกัน แถมยังไปถ่ายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของกรีซด้วย จึงทำให้พวกเขาถูกแบนในที่สุด เรื่องนี้กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์เมื่อ Matthew Lunn จากเบอร์มิงแฮมได้โพสต์ภาพขณะที่ตัวเองถอดกางเกง ส่วนภรรยา Carly คุกเข่าและทำท่าเหมือนกำลังมีเพศสัมพันธ์ทางปากต่อหน้าโบสถ์กรีกอันศักดิ์สิทธิ์ ทั้งคู่อ้างว่าที่ถ่ายแบบนั้นก็เพื่อทำอะไรที่แตกต่างและมองเป็นเรื่องขำๆ เท่านั้น แต่เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้ครอบครัวของทั้งคู่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้เป็นปู่ที่ไม่รู้สึกตลกด้วยสักนิด ไม่เพียงแต่ครอบครัวเท่านั้น แต่สร้างความไม่พอใจให้กับชาวกรีกทั้งประเทศ จนในที่สุดรัฐบาลกรีซถึงกับออกมาประากาศสั่งแบนชาวต่างชาติไม่ให้มาจัดงานแต่งงานบนเกาะหแห่งนี้อีก นั่นหมายความว่าคู่รักชาวต่างชาติคู่อื่นๆ ที่วางแผนจะมาแต่งงานที่นี่ก็ต้องฝันสลายไปด้วย Giorgos Eleftheriou ผู้นำชุมชน Lindos ใน Rhodes ได้ออกมาพูดถึงกรณีนี้ว่า “เราเป็นชาวกรีก เรารักประเพณีอันดีงามของเรา เราให้พื้นที่ทางศาสนาเป็นพื้นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเราจึงรับไม่ได้ที่มีพฤติกรรมอันน่ารังเกียจปรากฏขึ้นบนเกาะแห่งนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม” การตัดสินใจในครั้งนี้ทำให้คู่รักจากอังกฤษและทั่วโลกไม่น้อยรู้สึกเสียใจและเสียดาย แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นบทเรียนให้กับชาวต่างชาติ ทางด้าน Carly หลังจากแต่งงานไปเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาได้ออกมาพูดว่า “เราคิดไว้แล้วว่าจะถ่ายรูปแบบนั้น ซึ่งคาดหวังว่ามันจะเป็นภาพตลกที่สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ที่ได้เห็น แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ภาพถูกโพสต์ ทุกอย่างกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด” ตอนนี้ผู้คนทั่วอังกฤษกำลังวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของคู่รักคู่นี้ และแน่นอนว่ามันยังส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลก เพราะตอนนี้ชาวต่างชาติไม่สามารถไปจัดงานแต่งที่นั่นได้อีกแล้ว จะทำอะไรให้ขอให้คำนึงถึงความเหมาะสมด้วยนะเออ…
-
ภาพบรรยากาศในช่วงสัปดาห์วันชาติจีน เมื่อประชาชนแห่มาเที่ยวที่เดียวกันจนล้น…
ช่วงเทศกาลวันหยุดแห่งชาติ หลายครอบครัวมักวางแผนไปเที่ยวด้วยกันในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศ และหากคนส่วนใหญ่มีเป้าหมายอยู่ที่สถานที่เดียวกัน มันจะเกิดอะไรขึ้น!? นีี่คือภาพที่ถ่ายจาก Millennium City Park มณฑลเหอหนานใจกลางประเทศจีน ในช่วง “สัปดาห์ทอง” ซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติ ตั้งแต่วันที่ 1-7 ตุลาคม แต่ปีนี้ให้หยุดถึง 8 วัน เนื่องจากมีเทศกาล Mid-Autumn ด้วย ในภาพแสดงให้เห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่มาเที่ยวที่ Millennium City Park ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีิทิวทัศน์สวยงาม ที่เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1998 สำนักข่าว People’s Daily รายงานว่า สวนสาธารณะแห่งนี้มีพื้นกว่า 10 เอเคอร์หรือราวๆ 25 ไร่ แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจนแทบจะไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ จุดที่แออัดกว่าพื้นที่อ่ื่นเห็นจะเป็นสะพานหินของสวนสาธารณะ ผู้คนต่างเบียดเสียดพาตัวเองไปยืนบนนั้น เพราะเป็นที่ที่มองเห็นการแสดงได้เจนที่สุด แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลซักเท่าไหร่ เพราะผู้คนมีมากเกินไป จนทำให้มองเห็นแต่หัวผู้คนแทนที่จะเห็นการแสดงหรือวิวอื่นๆ ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาใน Millennium City Park ตลอดทั้ง 8 นี้ พบว่าสูงถึง 705 ล้านคน ทำรายได้กว่า 2,968…
-
15 แฟชั่นยุคใหม่ เผยความล้ำหลุดโลก จนต้องคิดแล้วคิดอีก จะทำตามดีมั้ย!?
ทุกอย่างย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา โดยเฉพาะแฟชั่นในปัจจุบันนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนบางทีเราก็ตามไม่ทันเหมือนกันนะ แต่สำหรับแฟชั่นต่อไปนี้ ดูเหมือนมันจะล้ำเกินไปมากๆ จนหลายคนขอเซโนไม่ตามเทรนดีกว่า แต่ไม่แน่ นี่อาจจะถูกใจชาวเด็กแนวก็เป็นได้… 1. เสื้อเดนิมที่ทำจากชิ้นส่วนของกางเกงยีนส์ 2. เลกกิ้งขนหน้าแข้ง…นี่แน่ใจนะว่าไม่ใช่ขนจริงๆ 3. เสื้อที่ดูเหมือนเลอะโคลนตลอดเวลา 4. เล็บขนปุย 5. ถุงน่องปักลายดอกไม้ 6. ผ้าขนหนูสำหรับหุ้มนม 7. ใส่กางเกงกลับด้าน+เสื้อขาดๆ 8. ชุดแซกสำหรับผู้ชาย 9. รองเท้าคาวบอย 10. บราที่ใส่นอกเสื้อ 11. กระเป๋าพุงพลุ้ย 12. ใส่กางเกงในชุดเดรส 13. รองเท้ากีฬาแบบส้นสูง 14. กางเกงขาสั้นที่มีซิปต่อเป็นกางเกงขายาว..หรือจริงๆ ก็เอากางเกงปกติมาตัดเป็น 2 ท่อนนั่นเอง 15. เลกกิ้งแบบบางเฉียบจนมองทะลุได้ อืม ใครไม่อยากตกเทรน…
-
อาจารย์พาหมาเข้ามาเรียนด้วย พร้อมกับทำควิซถามถึงหมา เพิ่มความสุขให้นักศึกษาถ้วนหน้า
การจะทำให้นักศึกษาได้ความรู้จากคลาสเรียน นอกจากต้องสอนเนื้อหาที่น่าสนใจแล้ว บรรยากาศในห้องเรียนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ด้วยเหตุนี้อาจารย์ David Chapnick จากมหาวิทยาลัย University of Vermont จึงได้พาสุนัขเข้ามาในคลาสของเขาด้วย เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้เต็มไปด้วยความสุข นี่เป็นคลาสกฏหมายและนโยบายเกี่ยวกับผู้บริโภค ที่เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. แน่นอนว่าการเรียนในช่วงค่ำแบบนี้ อาจทำให้นักศึกษารู้สึกเบื่อเป็นธรรมดา กระทั่งเย็นวันหนึ่ง ทุกคนดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ เมื่ออาจารย์ได้พานักศึกษาใหม่เข้ามาเรียนด้วย มันคือ Maggie ซึ่งเป็นสุนัขของอาจารย์นั่นเอง Chapnick หนึ่งในนักศึกษาของคลาสดังกล่าวเล่าว่า “ตอนแรกที่ Maggie เข้ามาในห้อง ทุกคนต่างจับจ้องไปที่มัน มันน่ารักมากๆ และนั่งนิ่งๆ โดยไม่รบกวนการเรียนการสอนเลย” “ส่วนตัวผมคิดว่ามันเข้ามาทำให้บรรยากาศในห้องเรียนสดใสขึ้น และเป็นประโยนช์อย่างมากสำหรับคลาสเรียนในช่วงค่ำแบบเช่นนี้” นักศึกษาบอก เช่นเดียวกับนักศึกษาคนอื่นๆ ที่ต่างมีความสุขกับการได้เจอ Maggie ในระหว่างที่นั่งเรียน เจ้าหมาได้เดินทักทายทุกคนทั่วห้อง และเห็นได้ชัดว่านอกจากมันมีความสุขที่ได้เข้ามาในนี้แล้ว มันยังมีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น อาจารย์ David ได้ทำควิซเกี่ยวกับสุนัขของเขาด้วย โดยขึ้นคำถามไว้บนหน้าจอว่า “คุณรู้สึกอย่างไรกับ Maggie?” พร้อมกับตัวเลือก 5 ข้อคือ A มันเป็นหมาที่ดี B…
-
หนุ่มพาตัวเองย้อนเวลา ตัดต่อรูปปัจจุบันเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตวัยเด็กของตัวเอง
ในโลกนี้ไม่มีใครสามารถย้อนเวลาได้หรอก แต่ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยที่มาในรูปแบบโปรแกรมตัดต่ออย่างโฟโต้ชอป อะไรๆ ก็เป็นได้ทั้งนั้น ขอแค่คุณใช้มันเป็น เหมือนกับ Conor Nickerson ช่างภาพที่ใช้โฟโต้ชอปตัดต่อภาพปัจจุบันตัวเองไปอยู่ในภาพวัยเด็กที่อยู่ระหว่างปี 1997-2005 เพื่อเป็นการย้อนเวลาให้ตัวเอง และมันก็ดูสมจริงซะด้วยสิ Conor บอกว่า “ขณะที่ดูภาพเก่าๆ ของครอบครัว ผมก็สงสัยว่ามันจะเป็นอย่างไร ถ้าเราใช้โฟโต้ชอปตัดต่อตัวเองในวันนี้ไปอยู่ในภาพเหล่านั้น” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ได้หาเสื้อผ้า หมวก และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับช่วงเวลาในรูปให้มากที่สุด แล้วก็ถ่ายรูปให้เหมือนอยู่ในบริบทเดียวกัน ก่อนจะใช้โฟโต้ชอปปรับแต่งให้มีความสมจริงยิ่งขึ้น มันอาจจะฟังดูง่าย แต่ Conor บอกว่า “สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ การทำให้ภาพปัจจุบันกับภาพในอดีตกลมกลืนกันอย่างแนบเนียน ทั้งความคมชัด รอยเปรอเปื้อน โทนสี และการวางตำแหน่งของรูป” ชายหนุ่มต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการปรับแต่งรูปและต้องมีความละเอียดสูงมาก เพื่อให้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ท้ายที่สุดหลังจากทำเสร็จแล้ว เขารู้สึกว่าเหมือนได้พาตัวเองกลับไปอยู่ในวัยเด็กจริงๆ แม้จะเป็นเพียงความรู้สึก แต่มันก็ได้ทำให้เขาเห็นตัวเองในปัจจุบันกับตัวเองในวัยเด็กอยู่ในเฟรมเดียวกันอย่างกลมกลืน นี่ถ้าไม่บอก ไม่คิดเลยนะว่าเป็นการตัดต่อ Conor ปัจจุบันกับวัยเด็กในเฟรมเดียวกัน เนียนซะเหมือนพ่อเล่นกับลูก ที่แท้ก็คนเดียวกันนั่นแหละ . ทั้งตำแหน่ง…
-
Jake DuPree ฟิตเนสไอดอลกล้ามโต๊โต ไม่ขายความหล่อเท่ แต่น่ารักและฮาได้แบบจัดเต็ม!!
โดยปกติแล้วฟิตเนสไอดอลที่เราเห็นกันในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง พวกเขามักจะมาในรูปแบบการนำเสนอรูปร่าง โชว์กล้ามหรือซิกแพ็ค เพื่อสร้างแรงบันดาลในการดูแลตัวเอง แต่ดูเหมือน Jake DuPree จะมีวิธีการนำเสนอที่แตกต่างออกไป เพราะแม้จะเป็นชายหนุ่มกล้ามโต แต่เขาเลือกที่จะมาทางสายฮามากกว่า ความหล่อความเท่นะหรอ ลืมไปได้เลย สื่อที่ออกมาก็จะประมาณนี้ เป็นหนุ่มกล้ามโตที่น่ารักใช้มั้ยล่ะ?? แต่จะว่าไปหน้าแบบนี้ขายความหล่อได้เลยนะ แล้วบวกกับกล้ามโตๆ นั่นอีก มันได้ค่ะขุ่นแม่ มาถึงจุดนี้หลายคนคงอยากรู้จักเขาคนนี้ให้มากกว่านี้ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน ทำอะไร และตัวตนที่แท้จริงเป็นอย่างในคลิปที่นำเสนอไปหรือเปล่า? Jake เป็นเจ้าของฟิตเนสและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังที่เป็นที่ปรึกษาให้กับ The Doctors and PopSugar Fitness คลาสสอนของ Jack เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร Pasadena Magazine ในฐานะคลาสชั้นสูงและยอดเยี่ยมที่สุด นอกจากนี้เขายังได้รับการยกย่องจาก RateYourBurn.com ว่าเป็นหนึ่งในห้าของสุดยอดผู้สอน BARRE ในลอสแอนเจลิส ไม่เพียงแต่เป็นฟิตเนสไอดอล แต่ในลอสแอนเจลิสเขายังเป็นที่รู้จักในฐานะนักเต้นมืออาชีพ เทรนเนอร์ นักเสริมสร้างรูปร่างจากการออกกำลังกายแบบ Pilates และผู้สอนการออกกำลังกายเป็นกลุ่ม ด้วยความสามารถเหล่านี้ ทำให้ Jack นำเสนอรูปแบบการออกกำลังกายที่แตกต่างไปจากไอดอลคนอื่นๆ เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนหันมาออกกำลังกายตามที่ใจต้องการ …
-
26 ภาพเหมียวนักเที่ยว จุดประกายให้คุณพาเจ้าเหมียวของตัวเอง ออกไปท่องโลกกว้าง!!
หลายคนเข้าใจว่าแมวชอบความสงบ ชอบนอนอยู่แต่ในบ้าน แต่จริงๆ แล้ว พวกมันชอบเที่ยวมากกว่านะ สังเกตจากการที่พวกมันชอบหายออกจากบ้านบ่อยๆ ด้วยเหตุนี้ Ryan Carter จึงได้สร้างแคมเปญ @campingwithdogs เป็นแรงบันดาลใจให้คนรักแมวทั่วโลกพาน้องแมวของตัวเองออกไปท่องโลกกว้าง แล้วโพสต์รูปภาพลงอินสตาแกรมพร้อมแฮชแท็ก #campingwithcats ตอนที่เริ่มแคมเปญ แฮชแท็กดังกล่าวถูกใช้แค่ 37 ครั้งเท่านั้น แต่ตอนนี้มันมีมากกว่า 7,000 ครั้งแล้ว 1. ได้รับลมธรรมชาติ หน้านี่ฟินเชียว Ryan บอกว่า “การพาแมวไปเที่ยว ไม่จำเป็นต้องให้มันอยู่แต่ในกระเป๋าตลอดเวลา แต่คุณสามารถใช้เชือกจูงผูกที่คอของมัน เพื่อให้น้องเหมียวได้มีอิสระในการท่องเที่ยว และให้มันผจญภัยในแบบของแมว จะได้รู้ว่าแมวของคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร” และนี่คือภาพส่วนหนึ่งของแมวเหมียวผู้โชคดีที่เจ้าของพาไปเที่ยว ไปดูกันซิ๊ แต่ละตัวจะมีความสุขขนาดไหน 2. ทัวร์กันเป็นแก๊งค์เลย คงไม่ต้องบอกนะ ใครเป็นหัวหน้าแก๊งค์ 3. มีเต็นท์ส่วนตัวด้วย 4. อิจฉามั้ยล่ะมนุษย์? 5. เปียกๆ ชื้นๆ ไปด้วยกันนี่แหละ 6. ไม่คุ้นกับการนอนนอกบ้านสักเท่าไหร่แฮะ 7. ได้ที่นอนที่ลงตัวจริงๆ…
-
ชายหนุ่มเห็น “หมีขั้วโลก” ถูกตาข่ายพันกำลังเกือบจมน้ำ ตัดสินใจทิ้งความกลัว เข้าไปช่วยเหลือมัน!!
Kaktovik ในอลาสก้า เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรอยู่ 300 คน ที่นั่นผู้คนจะเห็นหมีขั้วโลกอยู่รอบๆ เมืองเต็มไปหมด จนกลายเป็นภาพที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว หมีขั้วโลกกับชาวเมืองแห่งนี้อยู่ร่วมกันโดยไม่เบียดเบียนกัน นั่นทำให้หมีขั้วโลกสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และชุมชนก็ไม่ต้องกลัวหมีทำร้ายด้วย ธรรมชาติอันน่าหลงใหลนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมักจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ เพื่อดูวิถีชีวิตของหมีขั้วโลกอย่างใกล้ชิด แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎที่ตั้งไว้ เพื่อไม่เป็นการคุกคามพวกมัน อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่ไกด์นำเที่ยว Rolan Warrior พานักท่องเที่ยวไปยังเกาะเพื่อดูวิถีชีวิตหมีขั้วโลก เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ เขาเห็นหมีขั้วโลกตัวหนึ่งถูกตาข่ายจับปลาพันรอบตัว และมันกำลังตะเกียกตะกายเอาตัวรอดจากการจมน้ำ ท่ามกลางตวามตกใจของลูกทัวร์ที่มาด้วย สิ่งที่ Rolan คิดได้อย่างแรกคือหมีต้องได้รับการช่วยเหลือโดยด่วน แต่หมีเป็นสัตว์ใหญ่และอันตราย ใครล่ะจะลงไปช่วย และจะช่วยมันด้วยวิธีไหน พลาดไปเขาจะโดนมันฆ่าเสียเองหรือไม่? โชคดีที่มีกลุ่มชาวเมือง Kaktovik มาที่เกิดเหตุพอดี และได้พยายามทำให้หมีขั้วโลกตัวนั้นสงบลง เพื่อให้มันเข้าใจว่าพวกเขามาช่วย ไม่ได้จะมาทำร้าย นี่เป็นภารกิจที่ค่อนข้างยาก เพราะน้ำมีความเย็นมาก ที่สำคัญหมีขั้วโลกตัวนี้ก็หนักมาก โดยตัวผู้ที่เต็มวัยจะมีน้ำหนักมากกว่า 500 กิโลกรัม ซึ่งพวกเขาต้องลากเจ้าหมีตัวนี้ขึ้นไปยังฝั่งให้เร็วที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น…
-
เจ้าหมากลายเป็นฮีโร่ ช่วยระบุตำแหน่ง “เด็กน้อย” ที่หายจากบ้านตอนกลางคืน จนเจ้าหน้าที่พบตัว..
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายๆ คนจึงนับสุนัขเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว สาเหตุหนึ่งคงเป็นเพราะความซื่อสัตย์ของมัน ที่สำคัญมันมีประโยชน์มากกว่าที่จะเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงเท่านั้น เหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ที่ช่วยเหลือเด็กน้อยวัย 2 ขวบ ด้วยการระบุที่อยู่ให้เจ้าหน้าที่ทราบ จนเด็กน้อยได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย หลังจากที่เขาหายออกจากบ้านไปถึง 3 ชั่วโมง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใน Richmond รัฐมินิสโซตา ขณะที่เด็กน้อยกำลังเล่นกับลูกพี่ลูกน้องอยู่นอกบ้านตามปกติเหมือนทุกครั้ง ด้วยความชะล่าของผู้ปกครอง พวกเขาจึงไม่ได้อยู่ดูเด็กๆ ตลอดเวลา และปล่อยให้พวกเขาเล่นกันเอง แต่แล้วเหตุไม่คาดคิดก็เกิด เมื่อเด็กน้อยวัย 2 ขวบไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ครอบครัวตกใจมาก ทุกคนจึงช่วยกันออกตามหา กระทั่ง 30 นาทีผ่าน เมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มมืดลงทุกที พวกเขาจึงตัดสินใจโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยออกตามหาอีกแรง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย เจ้าหน้าที่ของอำเภอจึงได้ร่วมภารกิจตามหาในครั้งนี้ด้วย โดยได้มีคำสั่งให้นำเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนมาใช้ในการค้นหาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากขณะนั้นฟ้ามืดจนมองอะไรแทบไม่เห็นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้อุปกรณ์จับความร้อน(heat-seeking device)เข้ามาช่วย และแล้วอุปกรณ์ดังกล่าวที่ติดตั้งบนเฮลิคอปเตอร์ก็จับภาพสุนัขที่กำลังเดินอยู่ใกล้ๆ กับเด็กน้อยที่หายตัวไป เจ้าหน้าที่บอกว่าการเคลื่อนไหวของสุนัขเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้เจ้าหน้าที่มองเห็นพวกเขาผ่านอุปกรณ์จับความร้อน โดยสุนัขอยู่ใกล้กับเด็กในลักษณะดูแลและคอยปกป้องเด็กน้อยตลอดเวลา เนื่องจากตลอดเวลาที่เห็นคือมันไม่ยอมอยู่ห่างจากตัวเด็กเลย ทั้งคู่กำลังเดินอยู่ในทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง ซึ่งปกคลุมไปด้วยความมืด เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือทันที และพาทั้งคู่กลับมาอย่างปลอดในเวลา 21.20 น. เด็กน้อยถูกพบในสภาพหิวโหยและร่างกายค่อนข้างอ่อนล้า…
-
เชิญชม 22 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่าโลกของเราน่ะ มีอะไรเจ๋งๆ กว่าที่คุณคิดไว้เยอะ!!
โลกของเรานี้กว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจและน่าอัศจรรย์มากกมาย เหมือนกับภาพเหล่านี้ที่แสดงให้เห็นว่าโลกมีอะไรเจ๋งๆ กว่าที่เราคิดไว้เยอะ 1. สะพานข้ามแม่น้ำซึ่งแข็งจนเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว ในประเทศแคนาดา 2. โรงแรมที่มีห้องใต้น้ำในดูไบ 3. ทางเดินกระจก ความสูง 1,430 เมตร ในประเทศจีน 4. Melissani Lake ทะเลสาบที่น้ำใสที่สุดในโลก อยู่ในประเทศกรีซ 5. ถนนผ่าน Death Valley ในสหรัฐอเมริกา 6. เงาของเครื่องบินโดยสารสะท้อนในชั้นหมอก เหนือสนามบิน Logan Airport ในบอสตัน 7. ต้นโอ๊กที่มีอายุนับพันปี พร้อมด้วยโบสถ์อยู่ภายใน ตั้งอยู่ในประเทศฝรั่งเศส 8. ภาพวาดที่สร้างขึ้นจากเส้นตรงทั้งหมด ซ้อนทับกันจนเรามองว่าเป็นเส้นโค้ง 9. สระว่ายน้ำแก้วที่อยู่ระหว่าง 2 อาคาร ในลอนดอน 10. วิวยอดเขาเอเวอร์เรส เมื่อมองลงมาจากบนเครื่องบิน 11. ประติมากรรมที่ทำจากขวดพลาสติกบนชายหาดริโอเดอจาเนโร 12. สะพานที่ทำจากรากไม้…
-
นักบำบัดความงามแนะนำเหตุผล ทำไมคุณถึงควรล้างหน้าใน “อ่างล้างหน้า” มากกว่าที่ฝักบัว!?
โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะล้างในซิงค์ล้างหน้า แต่ก็มีหลายคนเหมือนกันที่มักจะล้างหน้าโดยใช้ฝักบัวในระหว่างอาบน้ำ อาจจะเป็นเพราะสะดวกที่จะทำแบบนั้นมากกว่านั่นเอง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามชาวเกาหลีคนหนึ่งได้ออกมาให้เหตุผลว่าทำไมคุณถึงควรล้างหน้าในซิงค์ล้างหน้า ไม่ใช่ที่ฝักบัว?? Charlotte Cho ผู้ก่อตั้ง Soko Glam หนึ่งในแหล่งขายผลิตภัณฑ์เสริมความที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ทั้งยังเป็นนักบำบัดความงามที่มีใบอนุญาตในนิวยอร์กซิตี้ด้วย เมื่อไม่นานนี้ Charlotte ได้มีการพูดถึงความงามแบบเกาหลี รวมทั้งสิ่งที่ควรทำกับไม่ควรในการดูแลผิว โดยสิ่งแรกที่หญิงสาวแนะนำคือ คุณควรจะหยุดล้างหน้าด้วยฝักบัว หญิงสาวให้เหตุผลว่า “น้ำอุ่นที่ไหลมากับฝักบัวนั้น จะทำลายความชุ่มชื้นบนผิวหน้า ส่งผลให้ผิวหน้าแห้งกร้าน หย่อนยานและแตกลายได้ง่าย” “ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงน้ำอุ่นจากท่อฝักบัวโดยตรง ควรจะล้างหน้าในซิงค์ด้วยน้ำอุ่นที่เตรียมมาเองจะดีกว่า เพื่อเป็นการถนอมผิวหน้า” ใน The Klog Tina Cho บรรณาธิการของ Soko Glam และผู้ช่วยด้านความงามเขียนไว้ว่า เธอมักล้างหน้าสองรอบเสมอ จากนั้นก็ลงน้ำมันบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นกับหน้าแล้วค่อยไปอาบน้ำ เธอบอกอีกว่า “น้ำมันจะช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวและช่วยกันความชุ่มชื้นไม่ให้หายไปกับน้ำอุ่นจากฝักบัวที่กระทบกับใบหน้ากระหว่างอาบน้ำ” ในระหว่างอาบน้ำ อาจจะมีแชมพูหรือสบู่โดนหน้าบ้าง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหากคุณลงน้ำมันบนผิวก่อน เพราะหลังจากที่อาบน้ำเสร็จคุณก็แค่เช็ด ทำความสะอาดใบหน้าเท่านั้น โดยที่แชมพูหรือสบู่ไม่ได้ซึมเข้าสู่ผิว และความชุ่มชื้นก็ไม่หลุดออกไปด้วย Charlotte บอกว่า “คุณสามารถล้างหน้าก่อนหรือหลังอาบน้ำก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่ต้องจำไว้คือ ควรจะใช้วิธีที่อ่อนโยนที่สุดในการดูแลผิวหน้า…
-
23 ภาพลับๆ เบื้องหลังชีวิตสุดฮาของเหล่าสัตว์ป่า เมื่อนักสำรวจตั้งกล้องแอบถ่ายพวกมัน…
โดยปกติแล้วกล้อง Trail Cameras มักจะใช้ในการล่าสัตว์หรือสำรวจทางธรรมชาติ โดยจะมีโหมดตั้งค่าให้บันทึกภาพเคลื่อนไหวอัตโนมัติ นอกจากนี้มันใช้ในการสังเกตการเคลื่อนไหวของสัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติอีกด้วย ต้องขอบคุณกล้องตัวนี้ที่ทำให้เราเห็นเบื้องหลังของสัตว์ป่า ว่าจริงๆ แล้วเวลาที่อยู่ตามธรรมชาติ ไม่มีสายตามนุษย์คอยจับจ้อง พวกมันทำอะไรกันบ้าง 1. มนุษย์ติดตั้งเครื่องให้อาหารกวาง แม้จะอยู่สูงไปหน่อย แต่แรคคูนก็ฉลาดพอที่จะหาวิธีเข้าถึงอาหารนั้น 2. เจ้ากวางกำลังวิ่งหนีกระรอกบินด้วยความหวาดกลัว 3. แม่หมีกำลังช่วยลูกน้อยทำอะไรสักอย่าง 4. แม้จะง่วงมากแค่ไหน แต่แม่หมาป่าก็พยายามยืนเพื่อให้นมลูกน้อยทั้ง 8 ตัว 5. เข้าใจผิดมาตลอดว่ากวางเดินสี่ขา 6. ทำไรกันหนะ อย่าคิดว่าไม่เห็นนะ 7. แหม่ ดึกๆ ดื่นๆ แต่งเขาซะเริศเชียว จะไปไหนหรอ? 8. มีหมูป่าไว้ทำไม ขี่หลังมันสิ ดีกว่าเดินเองเย๊อะ 9. ว้ายตายว้ายกริ๊ด บัดสีบัดเถลิง เล่นสวิงกิ้งกันเลยหรอ 10. นี่คงจะพลาดท่าตกบ่อโคลนมาสินะ …
-
เกิดเหตุกราดยิงกลางตลาดในสวีเดน บาดเจ็บ 4 ราย ตำรวจสันนิษฐานไม่น่าใช่การก่อการร้าย
ข่าวเหตุการณ์กราดยิงในลาสเวกัสยังไม่ทันจางหาย ก็มีเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันซ้ำซะแล้ว แต่คราวนี้เป็นการกราดยิงในประเทศสวีเดน เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (13 ตุลาคม 2017) มีรายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงขึ้นกลางตลาดในสวีเดน แต่ทางตำรวจสันนิษฐานไม่น่าจะเป็นการก่อการร้ายเหมือนกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา หลังจากที่เกิดเหตุกราดยิงกลางตลาด Trelleborg เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก็มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้าปิดล้อมสถานที่ดังกล่าวในเวลาต่อมา ต่อมาโฆษกตำตรวจ Fredrik Bratt ได้ออกมาเผยว่า “ตั้งแต่เกิดเหตุ มีพลเมืองโทรมาแจ้งอย่างต่อเนื่องว่ามีการกราดยิงใน Trelleborg” “เมื่อเราไปถึงก็พบว่า พลเมืองหลายคนได้รับบาดเจ็บเหตุดังกล่าว โดยพบผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย แต่คาดว่าน่าจะมีกว่านี้ เราจึงได้ทำการปิดล้อมที่เกิดเหตุ เพื่อที่ทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป” ตำรวจยังบอกอีกว่านี่คือข้อมูลทั้งหมดที่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ และเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างหาหลักฐานเพิ่มเติม หากมีความคืบหน้า จะมารายงานให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง ที่มา dailymail
-
20 ประโยคเด็ดๆ ฮาๆ จากแฮชแท็ก #คําด่าที่ไม่มีคําหยาบ มาดูว่าใครจะเจ็บแสบกว่ากัน!?
คำด่าคือคำที่เราส่วนใหญ่พบเจอในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่ถูกด่าก็เป็นฝ่ายด่าเค้านั้นแหละ และทุกๆ คำด่ามันจะมีคำหยาบอยู่ด้วยเสมอเพื่อเพิ่มเลเวลความแรงและความสะใจ แต่จริงๆ แล้วเราสามารถหลีกเลี่ยงคำหยาบได้ โดยที่ยังคงความหมายเดิม มันจะทำให้คนด่าดูเป็นผู้ดีมากขึ้น ขณะเดียวกันมันทำให้คนถูกด่าเจ็บใจมากกว่าการใช้คำหยาบตรงๆ ซะอีก วันนี้เราขอนำเสนอตัวอย่างคำด่าผ่าน #คําด่าที่ไม่มีคําหยาบ ที่กำลังเป็นแฮชแท็กยอดฮิตในโซเชียลขณะนี้ ที่รับรองได้เลยว่าแม้ไม่มีคำหยาบ ก็ทำให้คนถูกด่าแสบได้ถึงทรวงเหมือนกัน เจอด่าแบบนี้ไป ถึงกับไปไม่เป็นเลยนะเออ ใครมาทำเก่งกับเรา ซัดประโยคนี้ไปเลย รับรองจุก เกิดมาเพราะความผิดพลาดนี่ มันจะยังเหลือความภูมิใจมั้ยนะ? แด่คนที่ชอบทำตัวเด่น เรียกยอดไลค์ เกิดมาทั้งที มีค่าแค่ผักตบชวา ซองเลย์เลยหรอ มันกลวงมากเลยนะ โดนด่าแบบนี้ หลบตาแทบไม่ทัน เดี๋ยวนี้ ถึงไม่เป็นจิตรกรก็สร้างภาพได้นะ กับงานหนะ ทุ่มเทแบบนี้มั้ย อุ๊ต่ะ!! . ใครปากเก่ง มันต้องเจอด่าแบบนี้ แด่คนขี้เห่อ เดี๋ยวนี้มีคนรู้ดีมากกว่าคนรู้ใจซะอีก แฟนเก่าหรอ…
-
ตำรวจที่จับกุมพยาบาลสาวเพราะไม่ยอมให้เจาะเลือดผู้ป่วยหมดสติ ถูกไล่ออกแล้วในที่สุด!!
จากเหตุการณ์ขอความเป็นธรรมของพยาบาลสาวในเหตุการณ์ที่เธอปฏิเสธเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเพราะเธอไม่อยากเจาะเลือดของคนไข้รายหนึ่งออกมาในขณะที่เขาหมดสติอยู่ ทำให้เธอถูกเจ้าหน้าที่คนนั้นจับใส่กุญแจมือและดึงออกไปขังไว้ในรถก่อนที่จะถูกปล่อยตัวในอีก 20 นาทีต่อมา คลิปเหตุการณ์ เมื่อมีคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวออกมา ก็กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตและนายกเทศมนตรีเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำในการรักษาสิทธิ์ของคนไข้ นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ก็ไม่พอใจเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวกลับไม่ได้รับโทษใดๆ เลยและยังออกตรวจพื้นที่ตามปกติได้อย่างหน้าตาเฉย อ่านข่าวเก่า จากเหตุการณ์คลิปวิดีโอ “พยาบาลถูกตำรวจจับ” เพราะทำหน้าที่ ตอนนี้ได้บทสรุปแล้ว ต่อมานายตำรวจ Brandon Shearer ได้ออกมาบอกว่าหัวหน้าของพวกเขาได้เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย และเขาก็ได้บอกด้วยอีกว่าเรื่องข้อระเบียบของการเจาะเลือดผู้ป่วยนั้นไม่ได้รับการอัปเดตให้ทุกคนได้ทราบ จึงทำให้มีตำรวจบางคนไม่รู้เรื่องข้อบังคับดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น รายละเอียดเรื่องนี้ก็ได้ถูกเพิ่มเติมในข้อระเบียบและได้แจ้งให้กับตำรวจทุกนายทราบอย่างเป็นทางการแล้ว ทางด้าน Jeff Payne นายตำรวจในเหตุการณ์แม้ว่าในตอนแรกจะได้รับปล่อยตัวให้กลับไปทำหน้าที่ตามปกติ แต่ต่อมาก็ได้ถูกพักงานและกำลังอยู่ในช่วงการดำเนินการตรวจสอบภายใน ในขณะที่พยาบาลสาว Wubbles ผู้เสียหายในเรื่องนี้ได้ออกมาบอกว่าเธอต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวได้รับการอบรมอย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการลงโทษและจะได้ไม่มีการทำผิดซ้ำอีก คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง แม้ Payne จะถูกพักงานไปแล้ว แต่ผู้คนก็ยังสงสัยว่าเขาจะได้รับโทษอะไร กระทั่งวันนี้ข้อสรุปที่ทุกคนรอคอยได้ออกมาเรียบร้อยแล้ว Mike Brown หัวหน้าตำรวจที่ Payne สังกัดอยู่ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “พฤติกรรมของ Payne ที่เห็นในคลิป เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ทั้งยังทำให้ชื่อเสียงตำรวจเสื่อมเสียด้วย” Brown ยังบอกอีกว่า “Payne ได้ทำการจับกุมพยาบาลโดยไม่ฟังข้อเท็จจริง แม้จะอ้างว่าอยู่ในเหตุการณ์คับขันแต่ก็เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น…
-
หนุ่มสร้างภาพโปรไฟล์ในแอปฯ Tinder แบบเจ๋งๆ จนสาวๆ อยากรู้จักเขาให้มากขึ้น
แม้ว่า Tinder จะเป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับหาคู่หรือเพื่อนคุย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จ ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากรูปโปรไฟล์ที่คุณเลือกใช้ด้วย ด้วยเหตุนี้ Jesse จึงใช้กลยุทธ์สุดสร้างสรรค์ในการสร้างรูปโปรไฟล์ที่แหวกแนว ทั้งเจ๋งและน่าสนใจซะจนสาวๆ ไม่กล้าปัดผ่าน ใครที่เคยสมัครเข้าใช้ Tinder จะรู้ว่าคุณสามารถใส่รูปโปรไฟล์ได้มากกว่า 1 รูป คนส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้รูปที่คิดว่าดูดีที่สุด แต่ Jesse กลับคิดต่างด้วยการใช้รูปเรียงต่อกันพร้อมข้อความที่ให้คนเลื่อนไปยังภาพต่อไป Jesse เริ่มด้วยภาพที่เขาใส่เสื่อผ้ามิดชิดพร้อมเสื้อคลุมกับข้อความด้านข้างว่า “แตะเพื่อลบชั้นแรก” ก่อนจะโผล่ไปยังภาพถัดมาที่ไม่ได้มีเสื้อคลุมแล้ว แน่นอนว่ามันทำให้ผู้คนเกิดความสนใจและลุ้นว่าภาพต่อไปยังไงนะ?? และเมื่อเลื่อนต่อไปก็เป็นภาพที่ชายหนุ่มใส่แค่กางเกงในตัวเดียว มาถึงจุดนี้สาวๆ คนจะเริ่มสนใจแล้วว่าภาพต่อไปจะเหลืออะไร แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ชายหนุ่มมาแบบล่อนจ้อนเลยจ้า แต่ยังค่ะ ยังไม่จบแค่นี้ เค้ายังบอกให้เลื่อนต่อไปอีก และสิ่งที่เห็นคือ Jesse ในสภาพที่เหลือแต่เนื้อหนัง โอ้ย แบบนี้มันเข้าขั้นหลอนแล้ว แต่ในเมื่อมีข้อความให้เลื่อนต่อไปอีกก็เลื่อนต่อไปละกัน ดูสิ๊จะมีอะไรเซอร์ไพรส์กว่านี้มั้ย นั่นไง จากหนังก็เหลือแต่กระดูก ตามสเต็ปเลย พร้อมข้อความว่า เลื่อนเพื่อนอ่านประวัติของ Jesse มาถึงจุดนี้แน่นอนว่าผู้คนต้องอยากรู้แน่ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน ทำอะไร …
-
8 สัญญาณยืนยันว่า “ปัญหาอายุ-สังคมญี่ปุ่น” เหมือนระเบิดเวลา ที่กำลังรอวันระเบิดครั้งใหญ่
ขณะนี้ญี่ปุ่นอยู่ในจุดที่เรียกได้ว่าปัญหาอายุและสังคมกำลังจะระเบิด เนื่องจากมีอัตราเด็กเกิดใหม่ที่ต่ำ การใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ลดลง และเศรษฐกิจของประเทศค่อยๆ หดตัวลงในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ประชากรมีอายุยืนนานขึ้น ทำให้ต้องเสียเงินค่าครองชีพมากขึ้น ที่สำคัญไม่มีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาแทนที่พวกเขา และต่อไปนี้คือสัญญาณว่าสังคมญี่ปุ่นใกล้จะถึงเวลาระเบิดแล้ว 1. ขณะนี้มีผู้คนกว่า 68,000 คนที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ญี่ปุ่นมีกลุ่มประชากรที่มีอายุตั้งแต่หนึ่งร้อยปีขึ้นไปสูงที่สุดในโลก โดยมีใน 100,000 คน จะมีผู้สูงอายุ 4.8 คน ในขณะที่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ มีเพียง 2.2 คน ใน 100,000 คนเท่านั้น 2. ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ขายได้มากกว่าผ้าอ้อมเด็ก นับตั้งแต่ปี 2011 ยอดขายได้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ได้แซงหน้าผ้าอ้อมเด็กอย่างต่อเนื่อง ยอดขายนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มประชากรผู้สูงอายุของญี่ปุ่นนั้นมีมากขนาดไหน ประชากรที่มีอายุตังแต่ 65 ปี ขึ้นไป คือกลุ่มประชากรที่มีมากที่สุดในญี่ปุ่น จากทั้งหมด 127.11 ล้านคน มีผู้สูงอายุถึง 26.7% 3. ปี 2016 มีรายงานว่าอัตราการเกิดต่ำที่สุดในญี่ปุ่นในรอบ 117 ปี นับตั้งแต่ปี…
-
11 ทริคอันชาญฉลาดเกี่ยวกับความสวยความงาม รับรองเป็นประโยชน์กับสาวๆ ทุกคนแน่นอน
ผู้หญิงหลายคนกว่าจะเป๊ะปังออกจากบ้านได้ ต้องเสียเวลาแต่งหน้านานแสนนานแถมยังเสียเงินไปไม่ใช่น้อย แต่ความจริงแล้วสาวๆ สามารถสวยเป๊ะได้ด้วยวิธีง่ายๆ แถมไม่ต้องเปลืองตังเยอะด้วย และนี่คือ 11 วิธีอันชาญฉลาดที่ทางเว็บไซต์ Bright Side รับรองว่าทำให้สาวๆ สวยได้อย่างประหยัดแน่นอน 1. นำลิปสติกเก่าไปละลายด้วยความร้อนเพื่อให้ดูเหมือนใหม่ นำตลับลิปเก่าไปละลายด้วยความร้อน จนกระจายทั่วตลับ จากนั้นก็รอให้มันเย็นลง แล้วจะเห็นมันดูเหมือนของใหม่อีกครั้ง 2. ทำให้ที่ดัดขนตาอุ่นขึ้นด้วยไดร์เป่าผมก่อนนำไปใช้ ก่อนที่จะตัดขนตา ควรทำให้ที่ดัดขนตาอุ่นซะก่อนเพื่อขนดูงอนและยาวมากขึ้น 3. วาสลินช่วยให้รอยด่างดำดูจางลง ผลิตภัณฑ์เสริมความงามหลายชิ้นอาจจะช่วยลดจุดด่างดำได้ แต่ก็อาจเป็นอันตรายต่อผิวได้เช่นกัน… คุณสามารถเลือกวิธีที่ดีกว่านั้นได้ด้วยการใช้วาสลิน ล้างหน้าให้สะอาดแล้วใช้วาสลินทาบริเวณที่มีจุดด่างดำ จากนั้นก็ทับด้วยแผ่นพลาสติกบางๆ จากนั้นก็ปิดด้วยผ้าขนหนู ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วลอกพลาสติกออก ต่อด้วยการนำทิชชู่แห้งบีบจุดด่างดำออก 4. ใช้ทำมาสคาร่าจากวัตถุทางธรรมชาติ นำเม็ดคาร์บอนกับเจลว่านหางจระเข้ผสมให้เข้ากัน มันจะกลายเป็นมาสคาร่าชั้นดี แถมไม่อันตรายต่อดวงตาและผิวหนังของคุณด้วย 5. ใช้เทปกาวติดกรรไกรตัดเล็บ เพื่อไม่ให้เล็บกระเด็นเวลาตัด การใช้เทปกาวติดกรรไกรตัดเล็บจะทำให้เล็บที่ตัดไม่กระเด็นและง่ายต่อการเก็บไปทิ้ง 6. วิธีทำให้แปรงแต่งใช้งานได้นานขึ้น หากคุณเก็บแปรงแต่งหน้าไม่เป็นที่เป็นทางจะทำให้หัวแปรงพังได้ง่าย คุณสามารถทำให้มันอยู่ได้นานขึ้นด้วยวิธีง่ายๆ คือการนำไปติดไว้บนคลิปบอร์ด โดยใช้ยางรัดยืดเอา แถมยังง่ายต่อการหยิบใช้และจัดเก็บด้วย…
-
แม่เหมียวท้องแก่ เดินดุ่มๆ มาร้องหน้าบ้านของคนแปลกหน้า แล้วก็ได้บ้านนั้นอยู่เฉยเลย
ใครที่กำลังคิดว่าจะเลือกแมวแบบไหนมาเลี้ยง ให้คุณหยุดความคิดไว้ตรงนั้น เพราะในความเป็นจริงแล้วคุณไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกหรอก เจ้าเหมียวต่างหากที่จะเป็นฝ่ายเลือกเจ้าของ เหมือนกับเจ้าแมวตัวนี้ที่อยู่ดีๆ ก็มายืนอยู่หน้าบ้าน พร้อมใบหน้าที่บ่งบอกว่า “เฮ้ มนุษย์ ขอมาอยู่ด้วยได้มั้ย?” หลังจากนั้นสักพักมันก็เดินเข้ามาเองโดยไม่ต้องรอให้เชิญ “ในนี้อุ่นกว่าข้างนอกเย๊อะ เนาะ” และแล้วครอบครัวนี้ก็ได้เลี้ยงเจ้าแมวตัวนี้แบบไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน ผู้ใช้ reddit ที่ใช้ชื่อว่า fishtank88 เล่าว่า “บ้านเราไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน และเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ทำให้เรามีประสบการณ์กับคำว่า ‘พูดไม่ออกบอกไม่ถูก’” หลังจากนั้นครอบครัวก็ได้อาบน้ำตัดขนให้ เตรียมที่นอนอุ่นๆ ให้ และเลี้ยงมันในฐานะลูกน้อยของบ้าน พร้อมทั้งทำให้มันมีความสุขที่สุด แต่ที่ผิดสังเกตคือ เจ้าเหมียวมักจะเอาแต่นอนซะเป็นส่วนใหญ่ จนมารู้ทีหลังว่ามันกำลังตั้งท้องอยู่ และได้คลอดลูกน้อยที่น่ารัก 3 ตัวในเวลาต่อมา ลูกๆ ของมันน่ารักมาก นั่นยิ่งทำให้ครอบครัวหลงรักแมวมากยิ่งขึ้น ยิ่งโตยิ่งน่ารัก แม่ของมันก็เช่นกัน และนี่คือลูกแมวในวัย 6 สัปดาห์ น่ารักน่าชังมาก ครอบครัวบอกว่าต้องขอบคุณแม่แมวในวันนั้นที่เลือกเราให้ดูแล มันคุ้มค่ามากกับสิ่งที่มันมอบให้เราในเวลาต่อมา…
-
สายเปย์ที่แท้ทรู!! หมอศัลยกรรมที่ทำทุกอย่างให้ “เมีย” ตัวเองสวยเช้งแม้วัยใกล้ 50
ผู้หญิงที่มีแฟนเป็นสายเปย์ ซื้อเครื่องสำอาง จ่ายเงินให้ทำศัลยกรรม คงจะรู้สึกโชคดีมาก แต่ก็คงไม่มีใครโชคดีไปกว่าผู้หญิงที่มีแฟนเป็นหมอศัลย์ ที่พร้อมจะทำให้เธอสวยเป๊ะตามความต้องการได้ทุกเมื่อ เหมือนกับ Phillip Craft ศัลยแพทย์วัย 47 ปี ที่เปิดคลินิกเป็นของตัวเองที่ไมอามี่ รัฐฟลอริด้า และได้ทำการศัลยกรรมเสริมความงามให้ภรรยา Anna ตั้งแต่เธอให้กำเนิดลูกชาย 2 คนทั้งสองคน ตอนนี้ Anna อายุ 43 ปี เธอบอกว่าตื่นเต้นกับร่างกายที่สมบูรณ์แบบของตัวเอง ซึ่งหมดนี้เป็นผลงานที่ทำให้สามีรู้สึกภาคภูมิใจมาก ตลอด 21 ปีที่ทั้งคู่แต่งงานกันมา Anna ได้รับการศัลยกรรมจากสามีนับครั้งไม่ถ้วนและทำแทบทุกอย่าง เช่น ดูดไขมัน ทำหน้าอก เพิ่มขนาดบั้นท้าย ผ่าตัดเปลี่ยนรูปร่าง ทั้งช่วงเองและหน้าท้อง นอกจากนี้ยังฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ที่แก้มและริมฝีปาก จริงๆ แล้วเธอค่อนข้างภูมิใจในรูปร่างตัวเองอยู่แล้ว แต่เพื่อทำให้สามีสมความปรารถนาในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเธอ Anna ได้ตัดสินใจให้เขาศัลยกรรมหลังจากที่เธอคลอดลูกชายคนที่สอง หลังจากที่ผ่านการศัลยกรรม Anna รู้สึกชื่นชอบรูปร่างใหม่ของเธอมาก เพราะมันมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าที่เธอคาดหวังไว้ในตอนแรกซะอีก ภรรยาบอกว่า “Phillip เป็นคนที่ชอบแต่งรถสปอร์ต ชอบดัดแปลงเฟอร์นิเจอร์ และที่ชอบมากที่สุดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้ฉัน ซึ่งฉันก็ยินดีให้เขาทำทุกอย่างที่ต้องการ”…
-
13 เทคนิค “ไลฟ์แฮ็ก” ที่แชร์กันทั่วในโลกออนไลน์ แท้จริงแล้วมันทำไม่ได้หรอกนะ…
ไลฟ์แฮ็กคือวิธีการง่ายๆ ที่จะทำให้ชีิวิตของเราง่ายขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นการแชร์วิธีต่างๆ เหล่านี้ทั่วโลกออนไลน์ แต่จริงๆ แล้วไลฟ์แฮ็กบางอย่าง เมื่อนำไปใช้จริงกลับทำให้มีปัญหามากกว่ามีประโยชน์ซะอีก แถมยังเปลืองเวลาและพลังงานโดยใช้เหตุ และต่อไปนี้คือไลฟ์แฮ็กที่ควรหลีกเลี่ยง 1. เคร่ื่องปิ้งขนมปังไม่ได้ทำให้ชีสสุกพอดีได้ วิธีที่ได้รับการแนะนำคือ วางชีสไว้บนขนมปังแล้วเอาไปวางในเครื่องปิ้งขนมปัง โดยให้เครื่องอยู่ในลักษณะนอน… มันคือวิธีที่ผิดและไม่ควรทำ วิธีดังกล่าวนี้นอกจากจะอันตรายแล้วมันยังไม่ได้ผลด้วย เพราะสุดท้ายแล้วชีสกับขนมปังจะไม่ติดเป็นเน่ื้อเดียวกัน เนื่องจากความร้อนที่ไม่เพียงพอ ที่สำคัญคือขนมปังอาจจะเด้งออกมา แต่ชีสจะละลายอยู่ภายในเครื่องปิ้งขนมปัง จนอาจทำให้เครื่องพังได้ 2. ม้วนกระดาษทิชชู่ไม่สามารถนำมาทำเป็นลำโพงโทรศัพท์ได้ วิธีที่แนะนำคือนำแกนกระดาษทิชชู่มาต่อกัน แล้วเจาะช่องตรงกลางสำหรับเป็นช่องวางโทรศัพท์ จากนั้นเมื่อเปิดเพลงหรือเสียงอะไรก็แล้วแต่ จะทำให้เสียนั้นดังขึ้น ราวกับเปิดลำโพง แต่จริงๆ มันไม่ได้ทำเสียงดังขึ้นตามที่อ้างมา เนื่องจากมันเป็นเพียงแค่กระดาษที่ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรกับเคลื่อนที่ของเสียง แต่หากนำโทรศัพท์ไปวางในถ้วยหรือแก้ว มันจะเห็นผลมากกว่า เพราะเสียงกระทบกับแก้วจะทำให้เสียงก้องขึ้น 3. ช้อนไม้ไม่ได้ทำให้น้ำต้มไม่ทะลักออกจากหม้อ ไลฟ์แฮ็กบอกว่าให้วางช้อนไม้บนปากหม้อ สามารถป้องกันไม่ให้น้ำในหม้อทะลักออกมาและหกเลอะเทอะ วิธีนี้อาจจะใช้ได้กับหม้อตุ๋นบางประเภท แต่ถ้าเป็นหม้อทั่วไป น้ำจะเดือดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดีไม่ดีช้อนคุณอาจจะตกลงไปพร้อมน้ำก็ได้ 4. ที่งัเตะปูไม่ได้ช่วยให้เปิดจุกขวดไวน์ วิธีที่แนะนำกันมาคือ ตอกตะปูเข้าไปให้แน่นแล้วก็ใช้ที่ดึงตะปูที่อยู่ปลายค้อนดึงตะปูนั้นขึ้นมา มันจะทำให้จุกไวน์ติดออกมาด้วย วิธีนี้จะได้ผลเฉพาะในกรณีที่คุณมีเคร่ื่องมือในการเปิดหลายอย่าง ดังนั้นแทนที่จะหาอุปกรณ์เหล่านี้มาแนะนำให้เปิดด้วยที่เปิดธรรมดาจะดีกว่า 5.…
-
ให้ตายเถอะ… 18 ภาพวาดคู่รักในช่วงเวลาโรแมนติก ที่จะฆ่าคนโสดให้ตายอย่างช้าๆ
เป็นคนโสดไม่มีคนจีบมันก็เศร้าพออยู่แล้ว ยังต้องมาเห็นรูปคนมีแฟนเค้าสวีทกันอีก คิดดูหัวใจมันจะหงอยเหงาและห่อเหี่ยวแค่ไหน ตอกย้ำด้วยภาพวาดของ Zipcy หรือชื่อจริง Yang Se Eun ศิลปินเกาหลีวัย 29 ปี จากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่วาดการ์ตูนคู่รักได้บาดใจคนโสดมาก กอดกันในวันที่มีเรื่องไม่สบายใจ นี่คือชุดภาพที่มีชื่อว่า Touch เป็นภาพวาดที่แสดงให้เห็นความโรแมนติกของคู่รักในช่วงแรกๆ ที่คบกัน พวกเขาแทบจะไม่ได้อยู่ห่างกัน แต่จะอยู่ใกล้ชิดกันในทุกช่วงเวลา มันช่างเป็นภาพชวนให้คนโสดอยากมีแฟนซะเหลือเกิน แต่ตอนนี้เลื่อนดูให้สะเทือนอารมณ์กันก่อน มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเมื่อไหร่ค่อยจัดเต็มเนาะ ตอนนี้ก็รู้สึกอิจฉากันไปก่อน ฮร่าาาา นอนฟังเสียงลมหายใจของกันและกันในวันที่ฝนตก อยากกอดกันไว้ตลอดเวลา ชอบที่จะสัมผัสผิวของกันและกัน ใช้ริมฝีปากสัมผัสหูของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา อื้มมม ความรู้สึกที่คนโสดอาจไม่เข้าใจ ชอบจ้องมองอีกฝ่ายตลอดเวลา ฝ่ายหญิงจะเคลิ้มทุกทีเมื่อนิ้วของเขาสัมผัสกับผมของเธอ ไม่ใช่แค่การสัมผัสทางร่างกาย แต่จิตใจของคุณจะได้รับการเข้าถึงโดยอีกฝ่ายจนคุณอยากปล่อยความรู้สึกให้ลอยไปกับเขา มันเป็นครั้งแรกที่คุณจะสัมผัสถึงความรู้สึกล่องลอย คุณจะชอบการสัมผัสที่นุ่มนวลของอีกฝ่าย คุณจะจำกลิ่นของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี มันเป็นเวลาที่คุณจะปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามความรู้สึก เมื่อได้จับมือจะไม่อยากปล่อย และการจับมือ…
-
8 ท่าบริหารไม่ง่ายไม่ยาก ที่จะทำให้คุณหน้าเรียว ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้แบบไม่คาดคิด
เดี๋ยวนี้สาวๆ ส่วนใหญ่อยากมีใบหน้าเรียวได้รูป จึงเลือกที่จะทำศัลยกรรมบ้าง ฉีดโบท็อกซ์บ้าง ทั้งเจ็บและต้องใช้เงินเยอะ แต่จริงๆ แล้ว คุณสามารถมีหน้าเรียวได้โดยไม่ต้องพึ่งสิ่งเหล่านั้น และนี่คือท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าแบบง่ายๆ จาก Bright Side กับผลลัพธ์ที่จะทำให้หน้าเรียว ดูกระชับและอ่อนเยาว์ โดยผ่านการรับรองจากแพทย์แล้วว่าเป็นท่าที่มีประสิทธิภาพจริง เริ่มด้วยการวอร์มกล้ามเนื้อหน้าก่อน ก่อนจะเข้าสู่ท่าบริหารให้คุณวอร์มกล้ามเนื้อหน้าก่อน จะยืนขึ้นหรือนั่งลงก็ได้ แต่ต้องให้หลังตรงเสมอ จากนั้นก็ออกเสียงตัว “I” “O” “E” และ “A” โดยแต่ละตัวนั้นให้ลากเส่ียงยาวเท่าที่จะทำได้ และทำจนกว่าจะรู้สึกว่าหน้าของคุณจะมีความพร้อมสำหรับการบริหาร ท่าที่ 1 นั่งลงและเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็จินตนาการว่าคุณจะใช้ริมฝาปากล่างแตะเพดานให้ได้ พร้อมๆ กับทำริมฝีปากล่างชี้ขึ้นไปข้างบนและค้างไว้ 5-10 นาที จากนั้นก็ทำซ้ำท่าเดิม 2-3 ครั้ง ท่าที่ 2 ยืนตรง ไขว้แขนทั้งสองข้างแล้วเอามือจับที่แขน คล้ายกับท่ากอดตัวเอง โดยกอดให้แน่นที่สุด จากนั้นก็ยกคางขึ้นแล้วหายใจเข้าลึกๆ นับถึง 10 หรือ 15 ก่อนจะกลับมาอยู่ในท่าเดิม และทำซ้ำอีก…
-
หญิงสาวโชว์ให้เห็นถึงวิธีการปลอมหุ่นลงโซเชียล ‘ก่อนหลังลดน้ำหนัก’ แบบเนียนๆ
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาฟิตหุ่นให้เฟิร์มดูดีกันทั้งนั้น แต่กว่าจะทำได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จึงไม่แปลกที่หลายคนเมื่อทำสำเร็จแล้วจึงมักจะมีการถ่ายรูปอวดโซเชียล แต่ก็นั่นแหละ ใช่ว่าทุกอย่างที่อยู่บนโซเชียลจะเป็นความจริงเสมอไป บางคนตัวจริงเป็นอีกอย่างแต่ลงรูปในอินเตอร์เน็ตอีกอย่าง อาจจะมีการใช้มุมกล้องบ้าง แต่งรูปบ้าง หรือทริคอื่นๆ ตามที่สรรหามาทำได้ ด้วยเหตุนี้บล็อกเกอร์ฟิตเนสอย่าง Madalin Giorgetta จึงได้ออกมาเตือนผู้คนว่า ‘อย่างหลงเชื่อทุกอย่างที่คุณเห็นบนโซเชียล’ ด้วยการทำบางอย่างให้ดู เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Giorgetta ได้โพสต์วิดีโอลงในอินสตาแกรมของเธอ ซึ่งเธอได้ทำให้เห็นกันจะๆ ว่าการขยับกล้ามเนื้อเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนรูปร่างของคุณได้อย่างเหลือเชื่อ อีกเหตุผลหนึ่งที่หญิงสาวเผยแพร่คลิปดังกล่าวเพราะเธอเป็นคนที่ชอบลงรูปหุ่นตัวเองในอินสตาแกรม จนหลายคนหาว่าเธอใช้โฟโต้ช้อปในการตัดต่อรูปตัวเองบ้าง หาว่าเป็นภาพปลอมบ้าง ทั้งๆ ที่ทั้งหมดนั้นคือรูปร่างของเธอจริง แต่แทนที่หญิงสาวจะอธิบายเป็นคำพูดให้พวกเขาฟัง เธอเลือกที่จะถ่ายวิดีโอ โดยทำให้ทุกคนเห็นว่าหุ่นที่แท้จริงเป็นยังไง และการสร้างหุ่นปลอมๆ นั้นทำยังไง หญิงสาวบอกว่า “หุ่นของฉันมันสามารถขยายออกและลดลงได้ตลอดเวลา เพราะฉันไม่ใช้รูปปั้น” โพสต์ของ Giorgetta ได้สร้างความตระหนักให้ผู้คนได้ดีมาก ในเรื่องความน่าเชื่อถือของข้อมูลบนโลกออนไลน์ และที่สำคัญคือไม่มีร่างกายของใครจะดูเหมือนเดิมตลอดเวลา ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ คลิปที่หญิงสาวแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จากการขยับกล้ามเนื้อเพียงเล็กน้อย ที่มา thisisinsider
-
ในที่สุดเจ้าหมาก็มี “บ้าน” สักที หลังต้องอยู่ใน “สถานสงคราะห์สัตว์” มานานกว่า 10 ปี!!
สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัข พวกมันไม่ได้ต้องการชีวิตที่หรูหราหรืออาหารรสเลิศทุกมื้อ แต่สิ่งที่มันต้องการคือเจ้าของที่รักมันและบ้านที่อบอุ่นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ Floyd น้องหมาจากสถานสงเคราะห์จึงรอคอยบ้านด้วยความหวังเกือบตลอดชีวิต จนกระทั่ง 10 ปี ผ่านไป ความหวังของมันก็เป็นจริงสักที Floyd อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์ Freshfields Animal Rescue ในเมืองลิเวอร์พูล มานานมาจนที่นี่เปรียบเสมือนบ้านของมันไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็หวังว่าสักวันจะมีคนมารับเลี้ยงมันบ้างเหมือนเพื่อนหมาตัวอื่นๆ ก่อนที่ Floyd จะได้รับความช่วยเหลือจาก Freshfields มันอยู่ในสวนหลังบ้านกับครอบครัวหนึ่ง แต่ที่นั่นน้องหมาไม่ได้รับความรักเลย แถมยังถูกทรมาณอย่างต่อเนื่องโดยเด็กๆ ที่ชอบขว้างปามันด้วยก้อนหิน ทาง Freshfields ซึ่งมีสุนัขอยู่ 122 ตัว บอกว่าปกติสุนัขที่เข้ามาอยู่ในนี้จะอยู่แค่ไม่กี่สัปดาห์ก็มีคนมารับเลี้ยงแล้ว แต่สำหรับ Floyd มันอยู่มานานเป็นปี และไม่ใช่แค่ปีหรือสองปี แต่นานถึง 10 ปีเลยทีเดียว หลังจากที่หาบ้านให้น้องหมาเป็นเวลาหลายปี หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของ Freshfields ก็ได้ตัดสินใจรับ Floyd ไปเลี้ยง เพราะมันแก่ขึ้นทุกปี และไม่อยากให้มันต่อรอนานกว่านี้อีกแล้ว แม้ Floyd จะถูกรับเลี้ยงแล้ว แต่มันก็ยังกลับมาเยี่ยมศูนย์พักพิงนี้บ่อยๆ พร้อมเจ้าของ เพราะมันมีความผูกพันกับที่แห่งนี้ โดยเฉพาะกับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่คอยดูแลมันเป็นอย่างดีตลอด…
-
มีทหาร 12 คนกำลังพรางตัวอยู่ในภาพนี้ คุณสามารถหาได้ครบทุกคนหรือไม่!?
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเวลาที่ทหารมีการลาดตระเวนนั้นจำเป็นต้องมีการอำพรางตัวเพื่อไม่ให้เป้าหมายเห็น โดยทำตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมนั้นๆ เมื่อไม่นานนี้กองทัพอังกฤษได้โพสต์ภาพสุดน่าทึ่งในเฟซบุ๊ก ซึ่งถ่ายที่ป่าแห่งหนึ่งในบรูไน โดยระบุว่ามีทหารซ่อนอยู่ในรูปนี้ถึง 12 คน ใต้ภาพที่ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุว่า “นี่คือกรมทหารราบที่ดีที่สุด พวกเขามีสติปัญญาที่ซับซ้อน มีทักษะการต่อสู้ที่ร้ายกาจ และเป็นความคาดหวังของกองทัพอังกฤษในการสู้รบ พวกเขากำลังอยู่ระหว่างการฝึกทักษะที่สำคัญในบรูไน ซึ่งเป็นทักษะการเอาตัวรอดในสนามรบ” ประเด็นคือ หลายคนพยายามหาทหารทั้ง 12 คนที่ว่านั้นในรูปนี้ ซึ่งไม่ว่าจะหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอสักคน เพื่อนๆ ช่วยกันหาหน่อยสิ๊… สำหรับกลุ่มทหารทั้งหมดนี้มาจาก Household Cavalry หน่วยทหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดของกองทัพอังกฤษ ที่ประจำการอยู่ในบรูไน และอยู่ระหว่างการฝึกลาดตระเวน Close Target Reconnaissance กรมทหารราบ Household Cavalry ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1660 จนกลายเป็นกองทหารที่เก่าแก่ที่สุดในกองกำลังติดอาวุธของสหราชอาณาจักร ใครที่ยังจมอยู่กับการหาทหารในภาพด้านบน ถ้าไม่ไหวแล้ว ภาพด้านล่างนี้คือเฉลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีภาพการอำพรางตัวของทหารนาวิกโยธินหน่วย US Marine Brent Downing ของสหรัฐฯ ซึ่งเขาได้ทำการพรางตัวกับป่าได้อย่างแนบเนียน จนเรามองไม่ออกเลยว่าเขาอยู่ตรงไหน ต่อให้เฉลยแล้วก็ตาม ในหน่วยนี้เขาฝึกให้ทหารสามารถอำพรางตัวได้และสร้างพื้นที่ที่สามารถมองเห็นศตรูได้ทั่วถึง ไปดูกันว่าเขาจะซ่อนจากสายตาเราได้หรือไม่ 1. . .…
-
ญี่ปุ่นผลิต “หมอนหุ่นยนต์หางแมว” สำหรับคนรักสัตว์ที่ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ตัวจริงได้
สำหรับคนที่ชอบเล่นกับสัตว์เลี้ยงแต่ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตพวกมันในฐานะเจ้าของ การได้ครอบครองหมอนหางแมวชิ้นนี้อาจะเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคุณก็ได้ นี่คือ Qoobo ที่พัฒนาขึ้นโดย Yukai Engineering Co ซี่งเป็นบริษัทในญี่ปุ่น มันคือหมอนหุ่นยนต์รูปทรงหางแมว หนัก 0.9 กิโลกรัม เท่ากับขนาดสัตว์เลี้ยงจริงๆ Qoobo เปิดตัวครั้งแรกในงานแสดงสินค้า CEATEC 2017 โดยคาดว่าจะถูกวางจำหน่ายในซัมเมอร์ถัดไปด้วยราคาใบละ 3,300 บาท ผู้สร้างเผยว่าเจ้าหมอนหางแมวนี้มีแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นาน 8 ชั่วโมง และคุณสามารถชาร์ตแบตได้โดยใช้สาย USB เช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ลักษณะเด่นของหมอนหางแมวนี้คือ ส่วนหางของมันจะมีการเคลื่อนไหวได้หลากหลายรูป ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของคุณ นอกจากนี้หากมันยังสั่นได้ด้วยหากคุณลูบมันอย่างเป็นจังหวะ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เหมือนแมวจริงๆ เลย สำหรับแรงบันดาลใจในการสร้างหมอนหุ่นยนต์ตัวมาจากนักออกแบบของ Yukai Engineering Co คนหนึ่ง เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ตอนนั้นนักออกแบบคนนี้จำเป็นต้องทิ้งแมวสุดที่รักไว้กับพ่อแม่ที่บ้าน เนื่องจากเธอต้องย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นต์และที่นั่นไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ นั่นทำให้เธอคิดจะทำบางสิ่งเพื่อเป็นตัวแทนสัตว์เลี้ยง ซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นจริงๆ แม้ว่ามันจะไม่มีหัว ไม่มีแขนขาก็ตาม แต่การมีหมอนหางแมวนี้อยู่ด้วย ก็ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจเหมือนมีสัตว์เลี้ยงอยู่ข้างๆ หมอนหุ่นยนต์นี้อาจจะมีลักษณะเหมือนหางแมว แต่ Shunsuke Aoki CEO ของ Yukai…
-
เปิดประวัติ “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล” ผลกระทบต่อชีวิต และอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้น…
ทุกการก่อสร้างบนโลกนี้มักจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดที่ว่า ‘เพื่อทำให้ชีวิตที่ดีขึ้น’ แต่ผลที่ออกมาไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังเสมอไป เหมือนกับวิถีชีวิตของผู้คนใน Pripyat ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเชอร์โนบิล ที่มีการสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เพียง 20 กิโลเมตร ในตอนแรกนั้น ผู้คนนับร้อยได้ตั้งชื่อให้โรงงานนี้ว่า V.I. Lenin Nuclear Power Station ซึ่งถูกสร้างขึ้นในระหว่างยุคสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (USSR) วัตถุประสงค์หลักของโรงงานนี้คือการผลิตพลังงานไฟฟ้าโดยใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ RBMK-1000 จำนวน 4 เครื่อง และแต่ละเครื่องสามารผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 1,000 เมกกะวัตต์ต่อชั่วโมง หากดูแค่ตัวเลขมันอาจจะไม่เข้าใจขีดความสามารถมากเท่าไหร่ แต่หากเจาะลึกลงไปตัวเลขดังกล่าวนี้หมายความว่าโรงงานแห่งนี้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าถึง 10% จากพนังงานที่ใช้ทั้งหมดในยูเครน ทั้งนี้เครื่องปฏิกรณ์ตัวแรกสร้างขึ้นในปี 1977 หนึ่งปีต่อมาได้สร้างเครื่องที่สองสำเร็จ หลังจากนั้นอีก 3 ปี ได้สร้างเครื่องที่ 3 จนเสร็จ ตามด้วยเครื่องที่ 4 ในปี 1983 ตามแผนที่วางไว้คือเครื่องปฏิกรณ์เหล่านี้จะถูกใช้เป็นเวลาหลายปี แต่แล้วแผนทั้งหมดก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือความหายนะที่ทำให้อนาคตของหลายคนกลายเป็นฝันร้าย… มันเกิดขึ้นในวันที่ 26 เดือนเมษายน ปี 1986 เมื่อเครื่องปฏิกรณ์ตัวที่ 4 ระเบิดขึ้นระหว่างการทดสอบ…
-
ชมภาพมุมสูงไซต์ก่อสร้าง ‘กำแพงทรัมป์’ ตัวต้นแบบ ที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ
หลายคนคงจำกันได้เมื่อตอนที่โดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเคยประกาศว่าจะสร้างกำแพงสูงเพื่อกั้นเขตแดนระหว่างอเมริกาและเม็กซิโกออกจากกัน ซึ่งได้มีการเริ่มก่อสร้างมาได้สักพักแล้ว และนี่คือภาพล่าสุดของโครงการดังกล่าว โดยทรัมป์คาดหวังว่ามันจะเป็นกำแพงที่มีประสิทธิภาพในการกันคนลักลอบเข้ามาสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฏหมาย กำแพงทรัมป์ถูกสร้างขึ้นเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ทะเลทรายแคลิฟอร์เนียใกล้กับซานดิเอโก…ที่มีความล่าช้าเพราะถูกผู้รับเหมาที่ไม่ชนะการประมูลประท้วงนานถึง 3 เดือน เมื่อสัปดาห์นี้เองช่างภาพและผู้สื่อข่าวได้รับเชิญจาก Customs and Border Patrol ให้เข้าไปชมการก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้มีการเทคอนกรีตในบางส่วนแล้ว ตามแแผนคือ กำแพงจะมี 8 แบบด้วยกัน แต่ละแบบจะมีความสูง 9 เมตร ยาว 9 เมตรต่อกำแพงหนึ่งอัน ส่วนต้นแบบทั้ง 8 นั้นจะถูกจำแนกเป็นกำแพงที่มีคอนกรีตเป็นวัสดุหลัก 4 แบบ ส่วนอีก 4 แบบจะเป็นวัสดุอะไรก็ได้ ขณะนี้ผู้รับเหมากับทำการก่อสร้างกำแพงทั้ง 8 แบบ เมื่อเสร็จแล้วจะมีการคัดเลือกแบบที่ดีที่สุดเพื่อใช้ทำกำแพงกั้นตามที่ทรัมป์ได้กล่าวไว้ นี่คือแบบแผนของกำแพงทรัมป์ที่จะกั้นเม็กซิโกกับสหรัฐอเมริกา สำหรับกำแพงดังกล่าวนี้นับเป็นนโยบายหลักที่ทำให้ทรัมป์ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ซึ่งทางด้านรัฐบาลเม็กซิโกได้ย้ำแล้วย้ำอีกว่าจะไม่มีการจ่ายเงินให้โครงการดังกล่าว แต่ทรัมป์ยืนยันว่าสุดท้ายแล้วเม็กซิโกต้องยอมจ่ายเงินให้โครงการนี้ โดยให้ผู้เสียภาษีชาวอเมริกันจ่ายภาษีจนกว่าเม็กซิโกจะยอมทำตามข้อเสนอ . ในระหว่างการก่อสร้างนี้มีการลาดตระเวนชายแดนในแถบซานดิเอโกอย่างต่อเนื่อง ทำให้การลักลอบข้ามพรมแดนในช่วงนี้จึงเป็นอะไรที่ยากมากๆ …
-
นักแสดงหนุ่มเกือบโดนยิงตาย เพราะถ่ายหนังฉากปล้นธนาคารแต่ไม่ได้แจ้งให้ตำรวจรู้!?
ในการถ่ายทำละครหรือหนัง หากต้องใช้สถานที่สาธารณะหรือมีฉากเกี่ยวข้องความรุนแรง ทีมงานควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้มีการประสานกับคนในพื้นที่รวมทั้งเจ้าหน้าที่แล้วเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เหมือนกับการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ที่ทำเอานักแสดงเกือบถูกตำรวจยิงตาย หลังถ่ายทำฉากปล้นธนาคาร แต่ไม่ได้แจ้งให้ตำรวจรู้ล่วงหน้าก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง Crawfordsville ได้ยิง Jeff Duff นักแสดงที่สวมหมวกโม่ง หลังได้รับแจ้งว่ามีการโจรกรรมที่บริษัท Back Step Brewing ในคลิปจะเห็น Duff ถือปืนปลอมในมือแล้วค่อยๆ ถอยออกมาจากอาคาร ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการปล้นธนาคาร ขณะนั้นตำรวจมาถึงพอดีและได้สั่งให้เขาวางปืนลง ก่อนจะยิงปืนใส่เขา แต่โชคดีที่ตำรวจยิงพลาด นักแสดงหนุ่มจึงรีบตะโกนบอกตำรวจว่า “เรากำลังถ่ายทำหนังอยู่ ผมไม่ได้โกหกนะ!!” หลังจากที่นาทีระทึกนี้ผ่านไป Phillip Demoret นักแสดงอีกคนเล่าว่า “กระสุนเฉียดหัวเขาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น มันใกล้มากๆ ผมไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ากระสุนโดนเขาจริงๆ” ต่อมา Kodi Swank เจ้าของ Montgomery County Production ที่ถ่ายทำหนังดังกล่าวได้ออกมาแถลงว่า “จากเหตุการณ์นี้เราได้รับบทเรียนที่สำคัญ 2 เรื่องคือ การทำงานของเรามีคุณภาพต่ำ และกรมตำรวจมีการปฏิบัติหน้าที่อย่างรวดเร็ว” “เราต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม แม้ว่านั่นจะเป็นการเข้าใจผิดก็ตาม และต้องขออภัยที่ทางเราไม่ได้มีการประสานงานให้ดี ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาบอกว่า “ปืนที่นักแสดง Duff เป็นปืนปลอมที่ใช้ในการถ่ายทำหนัง แต่ทางทีมงานไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ถ่ายทำให้พื้นที่สาธารณะ”…
-
เจ้าวัว Cowboy Tuff Chex ที่มีเขายาวที่สุดในโลก ถูกประมูลขายไปในราคา 5.5 ล้านบาท
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าวัวนั้นมีราคาซื้อขายอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ใครจะคิดว่ามันจะมีราคาสูงถึง 5.5 ล้านบาท จริงๆ แล้วราคาวัวทั่วไปคงไม่สูงขนาดนี้หรอกถ้าไม่ใช่เจ้าวัว Cowboy Tuff Chex ตัวนี้ Cowboy Tuff Chex หรือ Chex ได้รับการบันทึกในกินเนสเวิร์ลในฐานะวัวที่เขายาวที่สุดในโลก ถูกประมูลไปในราคา 5.5 ล้านบาท เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Chex เป็นวัวพันธุ์ Texas Longhorn มีเขาที่โดดเด่นกว่าวัวทั่วไป ซึ่งสามารถยาวได้ถึง 2.1 เมตร สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้ดี สำหรับเจ้า Chex มันมีความยาวของเขาอยูที่ 2.5 เมตร จึงไม่แปลกที่มันจะครองตำแหน่งวัวที่มีเขายาวที่สุดในโลก มันถูกซื้อโดย Richard และ Jeanne Filip ก่อนที่การประมูลจะเริ่มขึ้น มันถูกคาดหวังมูลค่าไว้ที่ 16 ล้านบาท ขณะนั้นทาง Filip เตรียมที่จะซื้อมันในราคา 33 ล้านบาท ด้าน Jeanne ผู้เป็นภรรยาบอกว่า สามีของเธออยากได้วัวตัวนี้มาก และเขายอมจ่ายให้คู่แข่งคนอื่นๆ เพื่อที่จะเจ้า Chex…
-
หนุ่มเลื่อนการขอแต่งงานให้เร็วขึ้น หลังแฟนสาวตรวจเจอ ‘มะเร็งร้าย’ ก่อนจากไปไม่มีวันกลับ
ในโลกนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เรื่องไม่คาดคิด และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ดังนั้นไม่ว่าคุณจะวางแผนชีวิตมาดีแค่ไหน ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เหมือนกับ Will Arnold หนุ่มที่วางแผนจะขอแฟนสาว Katie Sutterby แต่งงาน แต่แล้วก็ต้องเลื่อนเข้ามาให้เร็วขึ้นเมื่อเธอตรวจเจอมะเร็ง ก่อนที่เธอจะจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ Katie เป็นครูอยู่ที่โรงเรียนประถม Maltese Road Primary School เธอมีอายุ 29 ปี ตอนที่เสียชีวิต ทั้งที่เพิ่งแต่งงานได้เพียงสามวัน จริงๆ แล้ว Arnold มีแผนที่ขอแฟนสาวแต่งานในปีนี้ แต่เมื่อรู้ว่าแฟนสาวป่วยเป็นมะเร็ง ทั้งคู่จึงตัดสินใจจัดงานแต่งภายในเวลาสั้นๆ Arnold เผยว่า “ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เพราะ Katie มีสุขภาพดี เธอดูแข็งแรงมาตลอด ที่สำคัญคือเธอเพิ่งอายุ 29 ปีเท่านั้นเอง” นอกจากนี้หญิงสาวยังเป็นคนที่มีความกระฉับกระเฉง มีความสุขในการทำงาน และมักจะชวนแฟนหนุ่มไปวิ่งและเข้ายิมบ่อยๆ กระทั่งเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่าน เธอก็เริ่มมีอาการไม่ดี แต่ทุกคนคิดว่าจะเป็นอาการไม่สบายทั่วไป ก็เลยไปซื้อยาจากร้านยามาทาน แต่อาการของหญิงสาวไม่ดีขึ้น เธอจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ ตอนแรกหมอสันนิษฐานว่าอาจเป็นโรคนิ่ว จึงได้มีการแสกนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ในระหว่างนี้ Katie ยังรู้สึกปวดอย่างต่อเนื่อง เธอจึงถูกส่งตัวไปที่ A&E เพื่อทำการเอ็กซ์เรย์ จนวันรุ่งขึ้นแพทย์ก็ได้แจ้งข่าวร้ายกับเธอ…
-
10 สัตวโลกที่ดูน่ารักน่าชัง แต่ที่จริงแล้วพวกมันสามารถ ‘คร่าชีวิต’ ของคุณได้เลย!!
สัตว์โลกบางชนิดดูแล้วน่ารักน่าชัง ไม่มีพิษภัยอะไรจนใครก็พากันชื่นชมมัน แต่จริงๆ แล้วมันอาจจะอันตรายถึงกับฆ่าเราได้เลย เหมือนกับสัตว์ต่อไปนี้ ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับพวกมันในฐานะสัตว์น่ารัก แต่สัญชาตญาณธรรมชาติของพวกมันไม่ได้น่ารักอย่างที่เห็นนะ 10. แพนด้า แพนด้ามักจะถูกมองเป็นสัตว์น่ารัก ดูไร้เดียงสา แถมบางชุมชนยังยกให้มันเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพและความเมตตาอีกด้วย แต่เมื่อไรก็ตามที่มันถูกคุกคามหรือรู้สึกว่าตกอยู่ในอันตราย มันสามารถเผยพฤติกรรมตามธรรมชาติออก ที่มีความร้ายแรงถึงกับฆ่าคุณได้เลย 9. แมวน้ำเสือดาว แมวน้ำเสือดาวมีหน้าตาน่ารัก ดูไม่มีพิษภัย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันถูกคุกคาม มันจะเผยความก้าวร้าวออกมา และอาหารโปรดของมันก็คือนกเพนกวิน 8. หงส์ หงส์อาจจะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความโรแมนติก แต่รู้มั้ยว่ามันสามารถทำทุกอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง รวมถึงการฆ่าคนด้วย ดังนั้นอย่าเผลอทำให้มันไม่พอใจล่ะ 7. ตัวนิ่ม ตัวนิ่มมักจะใส่กรงเล็บในการขุดหาอาหาร แต่นอกเหนือจากนี้มันยังใช้ป้องกันตัวด้วย ที่น่ากลัวคือมันสามารถฆ่าเราให้ตายทันทีด้วยการตวัดกรงเล็บใส่เราเพียงครั้งเดียว 6. แทสเมเนียนเดวิล แทสเมเนียนเดวิล มักจะปรากฏในการ์ตูนที่ถูกสร้างคาร์แร็กเตอร์ให้ดูน่ารัก จนไม่คิดว่ามันจะเป็นอันตราย แต่ดูดีๆ มันจะมีเขี้ยวเล็กๆ 2 ซี่ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปแหย่มัน หรือทำให้มันไม่พอใจ มันสามารถใช้เขี้ยวคู่นั้นฆ่าเราได้เลยนะ 5. ช้าง ช้างเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ แต่มันมักจะถูกทำให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่องและดูน่ารัก เป็นเหตุผลที่ทำให้มนุษย์นำช้างมาหาผลประโยชน์มากมายสารพัด…
-
สาวเผยความรู้สึกเมื่อได้ยินเสียงแม่กรีดร้อง ตอนถูกข่มขืนและฆาตกรรมโดยชายแปลกหน้า
เราทุกคนย่อมรักพ่อแม่ไม่น้อยไปกว่าที่พวกเขารักเรา เวลาที่ลูกเจ็บ พ่อแม่คงจะรู้สึกเจ็บยิ่งกว่า เช่นเดียวกันหากรู้ว่าพ่อแม่เจ็บ ลูกก็คงปวดร้าวไม่ต่างกัน เช่นเดียวกับหญิงสาวคนนี้ ที่เผยความรู้สึกเมื่อได้ยินเสียงแม่กรีดร้อง ขณะถูกข่มขืนและถูกฆาตกรรมโดยคนแปลกหน้าอย่างโหดเหี้ยม ตอนที่เกิดเหตุการณ์นี้ Sarah Parry อายุเพียง 12 ปี ในขณะที่คุณแม่ Crystal Perry อายุ 30 ปี เธอถูกข่มขืนและถูกแทงมากกว่า 50 ครั้ง จนเสียชีวิตภายในห้องครัวของเธอ ที่ทำให้ลูกสาวเจ็บปวดอย่างไม่มีที่สิ้นสุดคือ เธอต้องรอนานถึง 10 ปี กว่าคุณแม่ผู้ล่วงลับจะได้รับความยุติธรรม… Sarah เล่าว่า ในวันนั้นเธอใช้เวลาอยู่กับแม่ทั้งวัน รวมทั้งทานข้าวเย็นด้วย ก่อนจะเข้านอน… แต่จู่ๆ เธอก็ได้ยินการเปิดลิ้นชักในครัว แล้วก็ได้เสียงมีดแทงเข้ากับบางอย่าง ตามด้วยเสียงกรีดร้องของแม่!! ตอนแรก Sarah ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าแม่คงทะเลาะกับแฟนของเธอ แต่ทว่าเสียงกรีดร้องนั้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและดังขึ้นเรื่อยๆ จนเธอคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ตลอดระยะเวลาที่ได้ยินเสียงแม่กรีดร้องนั้น สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือวิ่งไปหลบอยู่ในห้องตัวเอง แล้วรอฟังเสียงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเจ็บปวด จนกระทั่งเสียงกรีดร้องสงบลง ลูกสาวได้รวบรวมความกล้าแล้วค่อยๆ เดินไปที่ห้องครัว ก่อนจะเห็นร่างแม่กองอยู่บนพื้น Sarah รีบโทรไปยัง 911 ทันที แต่โชคร้ายที่สายไม่ว่าง…
-
12 คดีฆาตรกรรมที่มีผู้กระทำผิดเป็น ‘เยาวชน’ กับวีรกรรมสุดโหด ที่ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือเด็ก
เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กหรือเยาวชนอาจจะทำผิดพลาดบ้าง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความไม่รู้ ความอยากรู้อยากลองรวมทั้งสภาพแวดล้อมที่เด็กเติบโตมา แต่สำหรับเยาวชนเหล่านี้ได้สร้างวีรกรรมด้วยการก่อคดีฆาตรกรรมสุดโหดเหี้ยม จนกลายเป็นฆาตรกรวัยเยาว์ที่โลกต้องตะลึง 1. Jon Venables และ Robert Thompson ทั้งสองคนนี้อายุเพียง 10 ขวบ พวกเขาได้ล่อลวงเด็กน้อยวัย 2 ขวบ ออกห่างจากแม่ของเขาในศูนย์การค้าของอังกฤษเมื่อปี 1993 จากนั้นทั้งคู่ได้พาเด็กน้อยไปที่รางรถไฟก่อนที่จะลงมือฆ่าเด็กน้อยคนนั้นอย่างโหดเหี้ยม แต่หลังจากที่แพทย์ชันสูตรศพแล้ว ก็ไม่สามารถเผยสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ 2. Sandra และ Beth Andersen Sandra วัย 16 ปี และ Beth วัย 15 ปี ได้ก่อคดีฆาตกรรมจนถูกเรียกว่า “Bathtub Girls” เพราะเด็กสาวทั้งสองทำการมอมเหล้าแม่ของตัวเองในปี 2003 ก่อนจะให้เธอกินไทลินอลแล้วจับเธอกดน้ำในอ่างอาบน้ำ 3. Brenda Spencer Brenda เด็กสาววัย 16 ปีใช้อาวุธปืนไรเฟิลที่ได้รับเป็นของขวัญจากพ่อในวันคริสมาสต์กราดยิงเด็กๆ 8 คน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่โรงเรียนในคลีฟแลนด์ นอกจากนี้เธอยังพยายามฆ่าครูใหญ่และผู้ปกครองท่านอื่นด้วย ส่วนเหตุผลที่เธอก่อเหตุเช่นนี้เพราะว่าเธอเกลียดวันจันทร์ …
-
เปิดประวัติโต๊ะทำงานในทำเนียบขาว ของขวัญพระราชทานจากควีนวิคทอเรีย ตั้งแต่ยุค 1900s
ใครก็ตามที่ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกานั้น แม้จะต้องแบกรับภาระอันหนักหน่วงแต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็จะรู้สึกภาคภูมิใจที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในทำเนียบขาว เหตุผลสำคัญที่ทำให้ประธานาธิบดีรู้สึกภูมิใจคือการได้นั่งทำงานบนโต๊ะตัวหนึ่งในทำเนียบขาว ซึ่งมีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดา จนทำให้หลายคนอยากมีโอกาสได้สัมผัสโต๊ะตัวดังกล่าวสักครั้งในชีวิต เพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจความสำคัญของโต๊ะตัวนี้ #เหมียวขี้ส่อง ขอเล่าย้อนไปตั้งแต่แรกเลยละกันนะ John Franklin นักสำรวจผู้มีประสบการณ์และเจ้าหน้าที่กองทัพเรือได้ออกจากอังกฤษในปี 1845 เพื่อทำภารกิจสำรวจแนวชายฝั่งอาร์กติก และไม่เคยกลับมาอีกเลย เรือที่เดินทางมากับเขาสองลำคือ HMS Erebus และ HMS Terror ได้ไปชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง ส่งผลให้กัปตันเรือและคนของเขาเสียชีวิต กระทั่ง 3 ปี หลังจากที่เขาออกมาสำรวจ รัฐบาลอังกฤษก็ได้ส่งเรือหลายลำออกไปตามหาลูกเรือที่สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว จากการค้นหาในครั้งนี้พวกเขาได้พบกับเรือ HMS Resolute หนึ่งในเรือที่ออกเดินทางพร้อม Franklin และเป็นเรือที่ถูกออกแบบมาพิเศษกว่าเรือลำอื่นๆ ก่อนจะถูกส่งไปยังแถบอาร์กติกตะวันออก ต่อมาในปี 1852 เรือ Resolute ถูกส่งไปทำภารกิจกู้ซากเรือจากเหตุการณ์นี้อีกครั้ง แต่แล้วเรือลำนี้ก็เจอชะตากรรมเดียวกันคือชนกับภูเขาน้ำแข็งที่นั่น เรือ Resolute ถูกทิ้งไว้ที่อาร์กติก จนกระทั่งปี 1855 มันก็ถูกพบโดยนักล่าวาฬจากอเมริกา ทางกัปตันเรือจึงได้ส่งลูกเรือครึ่งหนึ่งไปกู้ Resolute ออกมา ต่อมาในปี 1856 เรือ Resolute ก็ถูกนำกลับมายังอังกฤษ และพวกเขาได้มอบเป็นของขวัญให้กับควีนวิกตอเรีย จนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของพระองค์ เรือ Resolute ถูกใช้ในกองทัพอังกฤษจนถึงปี 1879 หลังจากนั้นรัฐบาลอังกฤษก็มีคำสั่งให้ทำโต๊ะ…
-
40 ภาพถ่ายเงาสะท้อน ที่ออกมาสวยงามสุดๆ คัดจากผลงานช่างภาพมืออาชีพทั่วโลก
หนึ่งในเทคนิคการถ่ายภาพเจ๋งๆ คือการถ่ายภาพสะท้อน ที่ดูเหมือนจะถ่ายง่ายๆ แค่มีกระจกหรือน้ำที่ทำให้เกิดภาพสะท้อนได้ก็ถ่ายได้แล้ว แต่จริงๆ แล้ว เบื้องหลังการถ่ายภาพสะท้อนมันมีอะไรมากกว่านั้น เพราะต้องอาศัยความอดทนและความคิดสร้างสรรค์ในการหามุมกล้องให้ภาพออกมางดงามและสมบูรณ์แบบที่สุด นอกจากนี้ต้องอาศัยแสงสี และจังหวะที่เหมาะสมด้วย บางภาพเหล่านี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะถ่ายออกมาแบบนี้ได้แม้จะอยู่ในสถานที่เดียวกันก็ตาม เพราะบางสถานที่ บางช่วงจังหวะ มีโอกาสเกิดขึ้นแค่หนึ่งในล้านเท่านั้น นั่นหมายความว่านอกจากช่างภาพจะมีฝีมือแล้ว พวกเขาต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในการหาจังหวะหามุมในการจับภาพสะท้อนด้วย สำหรับภาพต่อไปนี้เราได้รวบรวมมาจากเว็บไซต์รูปภาพชื่อดังอย่าง Pinterest โดยเหล่านี้เป็นผลงานของช่างภาพมากฝีมือจากทั่วโลก . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
พ่อชาวรัสเซียตบสั่งสอนเด็กวัย 9 ขวบซะหน้าหงาย เพราะไปกลั่นแกล้งลูกชายของตน
เป็นธรรมดาของเด็กๆ ที่อาจจะมีเรื่องให้ทะเลาะกันบ้าง แต่พอวันรุ่งขึ้นพวกเขาก็สามารถกลับมาเล่นด้วยกันเหมือนเดิมได้ และผู้ปกครองเองก็ควรจะตักเตือนเด็กๆ ด้วยเหตุผล เพื่อไม่ให้พวกเขาใช้ความรุนแรงต่อกันอีก แต่ดูเหมือนคุณพ่อท่านนี้จะโมโหจัดเมื่อรู้ว่าลูกตัวเองถูกเพื่อนๆ รังแกในสนามเด็กเล่น เขาจึงเข้าไปหาเด็กกลุ่มนั้น และใช้ความรุนแรงกับพวกเขาเพื่อเป็นการสั่งสอน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Krasnodar ในพื้นที่ Krasnodar Krai ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย โดยมีคนบันทึกวิดีโอเอาไว้ได้ก่อนจะโพสต์ลงในสื่อออนไลน์ ในคลิปดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยชื่อคุณพ่อคนนั้น แต่คาดว่าน่าจะอายุประมาณ 34 ปี เขาได้เดินเข้าไปยังกลุ่มของเด็กๆ ที่อยู่ในสนามเด็กเล่น ก่อนจะใช้มือฟาดไปที่ตัวเด็กน้อยคนหนึ่งอย่างแรง แล้วจับเขย่าจนเด็กล้มลงไปกับพื้น แค่นั้นยังไม่พอ คุณพ่อคนนี้ยังหันไปด่าเด็กอีกคนหนึ่งที่นั่งชิงช้าแล้วก็ตีเขาด้วย ก่อนจะหันไปยังเด็กคนแรกที่นอนกองกับพื้น จากนั้นก็ตีและเตะซ้ำเข้าไปอีกจนมีผู้ใหญ่สองคนพยายามเข้ามาห้าม Olga แม่ของหนึ่งในเด็กชายที่ถูกคุณพ่อคนนั้นทำร้ายเผยว่า “ตอนแรก Ratmir ลูกชายวัย 9 ขวบของฉันและเพื่อนของเขา Timur ไปออกไปเล่นด้วยในสนามเด็กเล่น” “จากนั้นก็มีเด็กชายคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วก็ตี Ratmir จน Timur ต้องเอาอาหารในมือปาใส่เด็กชายคนนั้น และไล่ให้เขาไปที่อื่น” “แต่ไม่นานหลังจากนั้นพ่อของเด็กชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหา Ratmir ด้วยความโกรธ แล้วก็ใช้ฝ่ามือทุบตีเขา จนกองลงไปกับพื้นอย่างที่เห็น” เธอบอกอีกว่า “หลังจากที่ชายคนนั้นเดินจากไป ลูกชายของฉันรีบลุกขึ้นแล้วกลับมาที่บ้านทันที แต่เหตุการณ์นั้นทำให้เขานอนไม่หลับ และกลัวที่จะกลับไปที่สนามเด็กเล่นนั้นอีกครั้ง” สำหรับเหตุการณ์นี้อยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ…
-
นางแบบชาวสวีเดนถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก หลังโชว์ขนหน้าแข้งในแคมเปญใหม่ของ Adidas
ผู้คนส่วนใหญ่มักจะคาดหวังว่าคนที่เป็นนางแบบนั้นต้องมีรูปร่างดี ตัวสูง ผอม ผิวพรรณดี หรือมีคุณลักษณะตามที่นางแบบควรจะเป็น แต่ล่าสุดแบรนด์กีฬายอดนิยมอย่าง Adidas ได้เปิดตัวแคมเปญ “Superstar” ซึ่งเป็นแคมเปญที่ให้ความสำคัญกับความเป็นจริง ดังนั้นการเลือกนางแบบสำหรับสินค้าชิ้นนี้จึงต้องมีความสมจริงตามคอนเซปต์ด้วย สำหรับ Superstar นั้น เป็นรองเท้าผ้าใบที่ทาง Adidas ต้องการสื่อให้เห็นถึงความงามในมิติใหม่ แต่หลังจากที่ปล่อยคลิปโฆษณาออกไป ปรากฏว่านางแบบที่เลือกมาถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกอินเตอร์เน็ต เหตุผลหลักของการวิพากษ์วิจารณ์นี้เป็นเพราะพรีเซนเตอร์ของสินค้าดังกล่าวคือ Arvida Byström ซึ่งเป็นศิลปิน นางแบบ และช่างภาพชาวสวีเดน ที่เป็นรู้จักในฐานะผู้ที่ต่อต้านคตินิยมและเป็นนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนไม่ให้มีการโกนขนตามร่างกาย (no-shave) แม้จะถูกเลือกให้มาเป็นพรีเซนเตอร์รองเท้าของ Adidas แต่หญิงสาวก็ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ เธอใส่ชุดเดรสสีขาวกับเสือข้างในสีชมพูและใส่รองเท้า Superstar สีพาสเทล ในโฆษณาชุดนี้ Byström ได้นำเสนอความงามในแบบของตัวเอง นั่นคือการโชว์ท่อนขาที่ไม่มีการโกนขนแต่อย่างใด ซึ่งเป็นความงามในแบบของตัวเอง และเธอก็มั่นใจกับสิ่งที่เป็นนี้มาตลอด แต่ปรากฏว่าหลายคนมองว่าไม่สวย ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เธออย่างเสียๆ หายๆ ทั้งยังส่งข้อความข่มขู่หญิงสาวสารพัด ต่อมา Byström ได้เขียนในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์แรงขนาดนั้น ฉันแค่ทำให้สิ่งที่มีสิทธิ์จะทำ มันอาจจะดูแตกต่างจากความที่ทุกคนคาดหวัง แต่อยากให้จำไว้ว่าเราทุกคนไม่ได้มีประสบการณ์เหมือนกันเสมอไป” …
-
คู่รักนักเดินทาง ถ่ายภาพแต่งงานระหว่างออกเดินทางรอบโลก 5 ทวีปในเวลา 3 ปี!!
ในการถ่ายพรีเวดดิ้งแต่ละครั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ไหนจะค่าชุด ค่าช่างภาพ ค่าเช่าสถานที่ หรือแม้กระทั่งค่าเดินทาง ล้วนแต่ต้องใช้เงินทั้งนั้น แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นได้มากถ้ามีการวางแผนกันเป็นอย่างดี (แต่ไปเสียให้กับการท่องเที่ยวแทน) เหมือนกับคู่รักนักเดินทางคู่นี้ ที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งระหว่างเดินทางด้วยงบที่จำกัด ประเทศกรีซ ชายหนุ่มเล่าว่าเขาและภรรยา Zhu ชอบการเดินทางมากๆ และทั้งคู่ก็มักจะไปด้วยกันทุกที่ จนเมื่อ 3 ปีที่แล้วพวกเขาตัดสินใจจะถ่ายภาพพรีเวดดิ้งระหว่างที่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ด้วยงบที่มีจำกัด ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะไม่จ้างช่างภาพแต่เลือกที่จะถ่ายกันเอง โดยเริ่มที่การซื้อชุดแต่งงานคนละชุด Zhu ไปเรียนแต่งหน้าด้วยตัวเอง ส่วนชายหนุ่มก็ได้ซื้อกล้องมาพร้อมเลนส์อีก 2-3 ตัว ที่สำคัญคือขาตั้งกล้อง ประเทศจีน หลังจากที่วางแผนทุกอย่างมาเป็นอย่างดีแล้วทั้งคู่ก็ออกเดินทางไปยัง 5 ทวีปทั่วโลกคือ ทวีปเอเชีย ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปโอเชียเนีย ทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา ภายในเวลา 3 ปี ภาพถ่ายส่วนใหญ่จะใช้ขาตั้งกล้องและรีโมท ส่วนภาพที่เหลือได้จากเพื่อนร่วมเดินทางที่อาสาถ่ายให้ ประเทศเวียดนาม ทั้งคู่เลือกถ่ายภาพในสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะแปลกๆ แหล่งมรดกโลก ถ้ำ ท่ามกลางหิมะ และแม้กระทั่งเทือกเขาหิมาลัย…
-
หนุ่มผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงเผย ตั้งใจขอแฟนสาวแต่งงานหลังคอนเสิร์ต แต่ไม่มีวันนั้นแล้ว…
ไม่กี่วันมานี้ทั่วโลกถึงกับช็อคเมื่อรู้ข่าวเหตุการณ์กราดยิงผู้ในงานคอนเสิร์ตที่ลาสเวกัส เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในวันที่ผู้คนจำนวนมากกำลังมีความสุขกับเสียงดนตรี หนึ่งในผู้ที่หัวใจแตกสลายมากที่สุดจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้คงจะเป็น Derek Miller ที่ตัดสินใจจะขอแฟนสาว Andrea Castilla แต่งงานหลังจบคอนเสิร์ต แต่น่าเศร้าที่เธอถูกยิงเสียชีวิตไปก่อนจะถึงเวลาสำคัญนั้น Andrea ได้มาฉลองวันเกิดครบรอบ 28 ปี ของที่เทศกาลดนตรี Route 91 พร้อมกับแแฟนหนุ่ม น้องสาวของเธอ Athena และแฟนน้องสาว Shane Armstrong โดยหญิงสาวไม่รู้เลยว่า Derek กำลังมีแผนเซอร์ไพรส์เธอหลังจบคอนเสิร์ต ในระหว่างที่ทุกคนสนุกกับเสียงดนตรีที่บรรเลงอย่างต่อเนื่องนั้น อยู่ดีๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เสียงปืนเข้ามาแทนที่เสียงดนตรี ตามด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของผู้คนในงาน ผู้คนวิ่งหนีหาที่กำบังอย่างวุ่นวาย Andrea จับมือน้องสาวไว้แน่น และคอยเอาตัวป้องเธอไว้ตลอด และโชคร้าย กระสุนนัดหนึ่งพุ่งใส่ศีรษะ จนทำให้ร่างของเธอร่วงลงไปกองกับพื้น ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ทั้ง Derek Athena และ Shane พยายามมีสติและรีบคว้าตัว Andrea ขึ้นมา ก่อนจะพาไปหลบในที่ปลอดภัย จนกระทั่งได้ขึ้นรถพยาบาล Andrea ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที ในขณะที่แฟนหนุ่มและคนอื่นๆ ต่างก็รออยู่หน้าห้องด้วยความวิตกกังวลเป็นเวลากว่า 7 ชั่วโมง และคาดหวังให้การผ่าตัดจะผ่านพ้นไปด้วยดี แต่สุดท้ายแล้ว คุณหมอได้ออกมาแจ้งข่าวร้ายให้ทุกคนทราบว่าไม่สามารถยื้อชีวิตหญิงสาวไว้…Andrea ได้เสียชีวิตลงท่ามกลางความโศกเศร้าของพี่น้อง โดยเฉพาะแฟนหนุ่ม Derek หลังจากที่แฟนสาวจากไปแล้ว Derek…
-
การตีกอล์ฟที่นานและไกลที่สุดในโลก กับ 14,000 พาร์ ระยะทางกว่า 2,000 กิโลฯ
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าการตีกอล์ฟนั้นต้องใช้พื้นที่ที่ค่อนข้างกว้าง และใช้เวลานาน แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะนานถึง 80 วัน แถมต้องใช้ระยะทางกว่า 2,011 กิโลเมตรเลยทีเดียว กว่าลูกจะลงหลุม Adam Rolston คือผู้เปิดประวัติศาสตร์ใหม่ของวงการกอล์ฟ ด้วยการใช้เวลานานที่สุดและตีจำนวนครั้งมากที่สุดในโลก โดยทั้งหมดนี้ก็เพื่อระดมทุนเพื่อองค์กรการกุศล เขาบอกว่านี่เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิต ที่แม้แต่ตัวเขาก็แทบไม่อยากเชื่อว่าจะทำได้ เช่นเดียวกับเพื่อนๆ ของเขาก็ต่างหัวเราะเขาในตอนแรก และต่างพูดเป็นเสียเดียวกันว่าเขาทำไม่ได้แน่นอน ทุกอย่างมันเริ่มขึ้นเมื่อ Rolston ได้เจอกับ Ron Rutland เพื่อนเก่าที่เคยเล่นรักบี้ด้วยกันในเคนย่า และทั้งคู่ก็ได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับภารกิจเพื่อองค์กรการกุศลของ Rutland ก่อนหน้านี้ นั่นทำให้ Rolston ปิ้งไอเดียที่จะตีกอล์ฟเพื่อที่จะช่วยเหลือองค์กรการกุศล จากนั้นพวกเขาก็ตั้งจุดเริ่มต้นที่มองโกเลีย เพราะเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีผู้คนอยู่ไม่มาก ไม่มีรั้ว และมีพื้นที่ราบที่กว้างที่สุดในโลก Rolston ตั้งเป้าไว้ว่าเขาจะต้องตีจำนวน 14,000 ครั้ง ให้ลูกลงหลุมและเป็นอันเสร็จภารกิจ ซึ่ง Rutland ก็เห็นด้วย และพร้อมร่วมภารกิจกับเขา กระทั่ง 8 เดือนต่อมา ทั้งคู่ได้ทำภารกิจระดมทุนช่วยเหลือ Laureus ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ให้การช่วยเหลือเด็กๆ จากทั่วโลก Rolston บอกว่า “มีคนบอกเราว่า ‘มันเป็นความคิดที่บ้าบอมาก’ ‘มันเป็นไปไม่ได้หรอก’ และ…
-
หญิงสาวเล่าประสบการณ์ “อ่อย” ชายแปลกหน้าบนรถไฟหลายปี จนสุดท้ายก็ได้รักกัน!!
เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเราจะมัวมานั่งรอให้ฝ่ายชายเป็นมาจีบก่อนก็คงไม่ทันการแล้วหล่ะ เดี๋ยวโดนคนอื่นแย่งไปซะก่อน แต่จะจีบเขาตรงๆ ก็กลัวถูกปฏิเสธ มีอีกทางเลือกหนึ่งคือการอ่อยค่ะ แล้วต้องอ่อยจนกว่าจะได้ด้วยนะ เหมือนกับ Zoë Folbigg หญิงสาวที่ตกหลุมรักชายหนุ่มคนหนึ่งที่เจอบนรถไฟโดยยังเอิญระหว่างเดินทางไปทำงาน และเธอก็ตัดสินใจทำบางอย่างเพื่อให้เขาเห็นเธอในสายตาบ้าง เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเกือบๆ สิบปีก่อน ทุกๆ วัน Zoë จะเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟขบวนเดิมๆ ที่เจอแต่ผู้คนเดิมๆ จนเธอรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับชีวิตเป็นอย่างมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง มีผู้โดยสารหนุ่มหน้าใหม่มานั่งตรงข้ามกับเธอ แล้วใครจะไปคิดล่ะว่าผู้โดยสารหนุ่มคนนี้ได้ดึงดูดความสนใจของ Zoë เป็นอย่างมาก และเธอก็อยากให้เขาหันมาสนใจเธอด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะชายหนุ่มมักจะก้มหน้าอ่านหนังสือตลอดการเดินทาง หญิงสาวจึงตัดสินใจใช้กลยุทธ์ใหม่เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา Zoë เริ่มด้วยการเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวเล็กน้อย ปกติแล้วเธอจะใส่กางเกงยีนส์กับรองเท้าคอนเวิร์สทุกวัน แต่เพื่อเรียกความสนใจจากหนุ่มแปลกหน้า เธอจึงหันมาสวมชุดกระโปรงบ่อยขึ้น แต่การเปลี่ยนเสื้อผ้าดูเหมือนจะไม่ได้ผลเลย เพราะชายแปลกหน้ายังคงก้มหน้าอ่านหนังสือเหมือนเดิม แต่นั่นไม่ได้ทำให้หญิงสาวยอมแพ้ หญิงสาวได้เล่าเรื่องหนุ่มบนรถไฟให้เพื่อนร่วมงานฟังด้วย ตั้งแต่นั้นมาเพื่อนๆ ก็จะถามว่า ‘หนุ่มรถไฟเป็นไงบ้าง เขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอยัง’ คำตอบคือ ‘ยัง’ หลังจากที่ทำการอ่อยหนุ่มแปลกหน้าเป็นเวลาหลายเดือนแล้วไม่ได้ผล ในที่สุด Zoë ก็คิดว่าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้การแล้ว เธอต้องลงมือทำอะไรบางอย่างจริงๆ จังๆ สักที เมื่อถึงวันเกิดของเธอในเดือนพฤษภาคม หญิงสาวได้เขียนโน๊ตไว้แล้วยื่นให้เขาตอนเดินออกจากรถไฟ…
-
ศิลปินเปลี่ยนรูปปั้นประวัติศาสตร์ไร้ชีวิตให้กลายเป็นรูปวาดที่มีสีสัน ราวกับมีชีวิตอีกครั้ง
เรื่องราวอดีตมักจะถูกท่ายทอดในรูปของสัญญะเพื่อที่ทำให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้น รูปวาด รวมทั้งสื่อในรูปแบบต่างๆ ด้วย แต่บางครั้งรูปปั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ดูนิ่งและน่าเบื่อ ด้วยเหตุนี้ศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Jane Long จึงได้เปลี่ยนรูปปั้นให้เป็นรูปวาดพร้อมตกแต่งด้วยสีสันสวยงาม Hebe รูปปั้นเหล่านี้ถูกถ่ายมากจากสวน Ballarat Botanical Gardens ในรัฐวิคตอเรียเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นผลงานของ Charles Summer โดยรับอิทธิพลจาก James Russell Thompson ในปี 1888 แม้จะเป็นการเปลี่ยนรูปปั้นให้มีสีสันแต่ศิลปินยังคงรักษาท่าทีเดิมของรูปปั้นเอาไว้ พร้อมสร้างบริบทใหม่ที่มีความเหมาะสมกับท่าทางของรูปปั้นแต่ละตัวด้วย ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ janelong.com.au เฟซบุ๊ก Jane Long Photography และอินสตาแกรม long_jane รูปปั้น Hebe เมื่อถูกเปลี่ยนเป็นภาพวาด Susannah . Ruth . Rebekah . Modesty . ราวกับเป็นการฟื้นชีวิตให้รูปปั้นอีกครั้ง ที่มา boredpanda
-
30 ลายสักสวยๆ จาก 6 สไตล์แบบมินิมอล ที่ไม่ว่าจะประทับไว้บนส่วนไหนก็ดูเจ๋ง
สำหรับคนรักลายสัก นอกจากจะคำนึงถึงความหมายของลายสักแล้ว พวกเขายังให้ความสำคัญกับลายเส้นและรูปแบบของการสักด้วย และแน่นอนว่าที่คนส่วนใหญ่คิดคือ ลายสักบนร่างกายของพวกเขาต้องไม่เหมือนใคร เพื่อเป็นการสร้างเอกลักษณ์ของตัวเอง ส่วนใครที่อยากสักแต่ไม่รู้จะสักแนวไหน Bright Side ได้นำลายสักมินิมอลสวยๆ มาให้ดู เผื่อเป็นแนวทางในการเลือกลายสักได้บ้าง 1. มินิมอลสายธรรมชาติ . . . 2. มินิมอลแบบเน้นลายเส้นบางๆ . . . 3. มินิมอลแบบเน้นรายละเอียดลายสัก . . . . . . . 4. มินิมอลลายอวกาศ . . 5. ลายสัตว์เลี้ยง . . . . . . 6. ลายรูปวาดสีน้ำ . . . …
-
14 แนวคิดล้ำโลกของ Elon Musk ในตอนนี้ ที่บางคนก็ว่าบ้า บางคนว่าอัจฉริยะ!!
ความคิดของคนบ้ากับคนอัจฉริยะนั้นห่างกันเพียงเส้นบางๆ เท่านั้น จนบางทีก็แยกไม่ออกด้วยซ้ำว่านี่มันคนบ้าหรือคนอัจฉริยะกันแน่?? เหมือนกับ Elon Musk ประธานบริหารของบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง Tesla และ SpaceX ที่มีแนวความคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการมองทั้งโลกและจักรวาล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเขาได้เผยแนวคิดของเขาเกี่ยวกับการใช้จรวด SpaceX ในการส่งผู้คนไปยังที่ต่างๆ ทั่วโลกภายในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ได้ยินแบบนี้แล้ว หลายคนอาจจะคิดว่าเขาคงเพี้ยน บางคนก็คนก็บอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะ แต่ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงกับ Musk ลองไปดูรายเอียดแผนการของเขาก่อน แล้วค่อยตัดสินกันอีกที และนี่คืือแนวคิดของ Musk ทั้ง 14 ข้อ ตั้งแต่เรื่องดาวอังคารไปจนถึงเรื่องปัญญาประดิษฐ์ ที่คุณจะต้องทึ่งในวิสัยทัศน์ของอย่างแน่นอน 1. Musk บอกว่าเขาจะเริ่มส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคารภายในปี 2024 เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2016 Musk บอกว่า “เรากำลังสร้างเที่ยวบินบรรทุกสินค้าไปยังดางอังคารที่ทุกคนสามารถวางใจได้” “วงโคจรของโลกกับดาวอังคารจะมาประจบกันทุกๆ 26 ปี ดังนั้นเราจะไปถึงที่นั่นครั้งแรกในปี 2018 และครั้งถัดไปในปี 2020 ผมคิดว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน เราน่าจะเปิดโอกาสให้ทุกคนในปี 2024 และถึงในปี 2025” 2. เขาได้เผยแผนการที่จะก่อตั้งรัฐบาลของชาวดาวอังคารด้วย …
-
ช่างภาพถ่ายภาพแมวตาบอด เพื่อให้คนได้เห็นถึงความงดงามของมัน และรับไปเลี้ยง
สัตว์ทุกตัวต่างมีความน่ารักในตัวเอง ต่อให้พวกมันเกิดมาด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์บ้างก็ตาม แต่หากคุณสัมผัสมันด้วยใจ จะรู้ว่าแมวก็คือแมวที่พร้อมจะทำให้คุณตกหลุมรักได้เสมอ ด้วยเหตุนี้ Casey ช่างภาพแมวจากลอสแองเจลิสจึงตัดสินใจถ่ายภาพแมวตาบอดในศูนย์พักพิง รวมทั้งในศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ Milo’s เพื่อให้คนรับพวกมันไปเลี้ยง Cooper เป็นแมวตาบอดที่ได้รับการช่วยเหลือตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ มันขี้กลัวและกินเก่ง ช่างภาพบอกว่า “ฉันถ่ายรูปแมวตาบอกจากศูนย์พักพิงหลายๆ แห่ง เพื่อให้มีคนมารับไปเลี้ยง เพราะพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ” หลังจากที่ช่างภาพได้ถ่ายรูปแมวตาบอดไปครั้งแรก ปรากฏว่ามีจำนวนแมวตาบอดที่ถูกรับเลี้ยงมีมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจสร้างชุดภาพแมวตาบอดแบบจริงๆ จังๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการประกาศให้โลกรู้ว่าแมวตาบอดก็ต้องการคนดูแลเหมือนกัน Pixie Pawspouncer ถูกทิ้งอยู่บนถนนขณะที่มันท้อง โชคดีที่ Milo’s ช่วยเหลือไว้ทัน Thomas Trueheart ถูกน้ำกรดเทใส่หน้า แต่ดีที่มันได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ทำให้ยังพอมองเห็นบ้าง Daisy มาจากบ้านคนเก็บของที่มีแมวถึง 200 ตัว และหมาอีก 100 ตัว ซึ่งมันก็เอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด Phoenix Flamepaws ได้รับการช่วยมาจากถนนในลองแองเจลิส ในสภาพที่ตาบอดและไม่สบาย Regis ได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์ฆ่าสัตว์ในลอสแองเจลิส หลังจากที่เจ้าของมันจากไป มันเป็นโรคต้อหิน ทำให้ต้องผ่าตัดตาออก…
-
ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งแค่ภาพเดียว เป็นกระแสร้อนทั่วโลกออนไลน์ ชาวเน็ตถามถึงความเหมาะสม!?
ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเรื่องผิดหากคู่รักจะแสดงความรักต่อกันในระหว่างถ่ายพรีเวดดิ้ง แต่การแสดงออกมากน้อยแค่ไหนต้องดูกาลเทศะเพื่อความเหมาะสมด้วย อย่างภาพพรีเวดดิ้งของคู่รักคู่นี้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกออนไลน์ เป็นภาพขณะที่เจ้าสาวคุกเข่าแล้วทำท่าเหมือนกำลังมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มกลางป่า ไม่ว่าภาพดังกล่าวนี้จะเป็นการจงใจถ่ายหรือถูกแอบถ่าย แต่เมื่อมันถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กแล้ว มีชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยมีการแชร์ต่อนับพันครั้ง แคปชั่นประกอบภาพเขียนไว้ว่า “คู่บ่าวสาวที่ไม่อาจรอจนงานเลิกได้ พวกเขาแอบออกไปสวีทกันในที่เงียบๆ โชคดีที่ทั้งคู่ได้กล่าวคำมั่นสัญญาต่อกันแล้ว จึงถือว่าได้แต่งงานอย่างเป็นทางการแล้ว” Michel Klooster ช่างภาพที่ถ่ายภาพดังกล่าวบอกว่า “จริงๆ แล้ว ภาพนี้เป็นไอเดียของแม่ใครสักคนในทั้งสองคนนี้ โดยมีเจตนาเพื่อความสนุกเท่านั้น” ช่างภาพยังบอกอีกว่าทั้งคู่จัดงานแต่งอย่างเรียบง่าย ไม่เป็นทางการ ซึ่งครอบครัวของพวกเขาก็เปี่ยมด้วยความสุข ดังนั้นอะไรที่ทำให้พวกเขามีความสุข ช่างภาพก็ทำให้ แม้คู่รักและครอบครัวจะทำเพราะความสนุก แต่ดูเหมือนชาวเน็ตบางส่วนเห็นว่าไม่เหมาะสม และทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก ฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นภาพตลกตรงไหนเลย ถ้าเป็นฉันนะจะเก็บไว้ให้มิด แล้วเอาไว้ดูกันแค่คนในครอบครัวก็พอ พวกรสนิยมต่ำ พวกเขาต้องเสียใจมากแน่ๆ ถ้าหย่ากัน นี่เป็นพฤติกรรมที่หยาบคายและน่ารังเกียจมาก ไม่คำนึงถึงความเหมาะสมเลย อีก 5 ปี ข้างหน้า มนุษย์คงเดินแก้ผ้าในที่สาธารณะกันเป็นเรื่องปกติละมั้ง หรืออาจจะมีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะแบบไม่รู้สึกอาย อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตอีกจำนวนหนึ่งที่มองว่าภาพดังกล่าวเป็นการการโพสต์ท่าขำๆ เท่านั้น และพวกเขาคงไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ตรงนั้น ทำไมต้องคิดว่าพวกเขากำลังมีอะไรกัน เจ้าสาวอาจจะแค่หาของลับเจ้าบ่าวไม่เจอ…
-
15 เรื่องจริงที่คุณอาจไม่เชื่อว่ามันคือความจริง!? รู้เอาไว้ก็ดีเอาไปโม้กับเพื่อนก็ได้นะ
ในโลกนี้มีหลายเรื่องให้เราประหลาดใจอยู่เสมอ บางเรื่องแทบจะไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นจริงด้วยซ้ำ เหมือนกับ 16 เรื่องต่อไปนี้ที่รวบรวมโดยเว็บไซต์ Brightside 1. แมลงสาบสามารถอยู่ได้โดยไม่มีหัวเป็นเวลาหลายสัปดาห์ พวกมันจะตายต่อเมื่อทนความหิวไม่ได้ 2. ผู้หญิงจะใช้เวลาไดเอทโดยเฉลี่ย 17 ปี 3. ในแต่ละสัปดาห์ มนุษย์จะนั่งส้วมนานกว่าออกกำลังกาย และตลอดชีวิตมนุษย์จะนั่งส้วมประมาณ 1.4 ปี 4. มีช้างแมมมอธจำนวนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ระหว่างที่มีการสร้างปีรามิดของอียิปต์ 5. ผึ้งสามารถต่อยผึ้งตัวอื่นที่มาจากที่อื่นได้ เพื่อปกป้องอาณาเขตของตัวเอง 6. เครื่องหยอดเหรียญสามารถฆ่าคนได้มากกว่าปลาฉลามซะอีก ในสหรัฐอเมริกาจะมีคนตายด้วยเครื่องหยอดเหรียญอย่างน้อย 2 คนต่อปี เพราะพวกเขาพยายามเอียงตู้หรือทำบางอย่างกับตู้ด้วยวิธีที่ผิดๆ 7. อาหารบนเครื่องบินจะมีรสชาติแย่ลง เนื่องจากความดันกลางอากาศจะต่ำและความมีความชื้นต่ำเช่นกัน 8. ช่วงประมาณ 4 ขวบ เด็กจะตั้งคำถามเกือบ 400 ครั้ง ต่อวัน 9. คลีโอพัตราอยู่ใกล้กับช่วงเวลาที่คนขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์มากกว่าการสร้างพีระมิด มหาพีระมิดแห่งกิซา สร้างขึ้นเมื่อ 2,600 ปีก่อนคริสตศักราช…
-
หญิงสาวถูกระบุว่า ‘ตาย’ จากความผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ จนต้องพิสูจน์ตัวเองให้โลกเห็น!!
เทคโนโลยีเปรียบเสมือนเหรียญสองด้านที่มีด้านดีและไม่ดี จริงอยู่ที่มันทำให้การใช้ชีวิตประจำวันสะดวกสบาย แต่หากมีการผิดพลาดขึ้นมาก็อาจทำให้เราเดือดร้อนไปด้วย เหมือนกับ Juana Escudero หญิงวัย 52 ปี ที่อยู่ดีๆ ก็ถูกตัดสินว่าตาย ทั้งๆ ที่เธอยังมีชีวิต นำไปสู่การพิสูจน์ตัวเองให้โลกเห็นนานถึง 7 ปี เรื่องราวความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปี ที่แล้ว เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อและวันเกิดตรงกับ Juana เสียชีวิตลงในเมืองมาลาก้า ประเทศสเปน แต่ด้วยความผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ ทำให้ Juana ถูกระบุว่าเป็นบุคคลที่เสียชีวิต จนไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างคนมีชีวิตได้ เช่น ต่อใบขับขี่ไม่ได้ หมอไม่สามารถออกใบนัดให้ได้ และอื่นๆ อีกหลายเรื่อง Juana รู้สึกหมดหวังกับชีวิต เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ แม้กระทั่งการไปขุดหลุมศพที่อ้างว่าเป็นของเธอ เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเธอไม่ได้ถูกฝังอยู่ที่นั่น ตอนแรกหญิงสาวและครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่ Alcalá de Guadaíra ใกล้กับเมืองเซบีย่า คิดว่ามันเป็นแค่การเข้าใจผิด และมองว่าเป็นเรื่องตลกมากกว่า แต่ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนก็ยิ้มไม่ออกอีกต่อไป เพราะเธอไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ Juana รู้ว่าตัวเองถูกระบุว่าตายครั้งแรกเมื่อตอนไปที่ไปหาหมอตามนัดเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่โชคดีที่หมอคนนั้นจำคนไข้ตัวเองได้…
-
ผู้เชี่ยวชาญแนะ “วิธีเอาตัวรอด” ที่ดีที่สุด หากคุณบังเอิญตกอยู่ใน “เหตุกราดยิง”
เมื่อไม่กี่วันนี้เราคงได้ยินข่าวเหตุการณ์กราดยิงฝูงชนที่งานเทศการดนตรีในลาสเวกัส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับสิบรายและบาดเจ็บอีกนับร้อย Gun Runnerz หนึ่งในช่องยูทูบที่มักจะนำเสนอเรื่องปืนบอกว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีผู้คนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เพราะผู้คนส่วนใหญ่ไม่คิดว่าเองจะตกเป็นเป้าหมายของมือปืน จึงไม่มีการป้องกันตัวเองเท่าที่ควร ด้วยเหตุนี้เขาจึงอัพโหลดวิดีโอในช่องยูทูบของเขา เพื่อแนะนำวิธีการเอาตัวรอดหากตกอยู่ในเหตุการณ์กราดยิง เขาบอกว่า “เห็นได้ชัดว่าผู้คนที่อยู่ในคลิปที่ลาสเวกัสไม่เข้าใจเสียงปืน และไม่รู้ด้วยว่าปืนกำลังเล็งมาที่พวกเขา ในฐานะที่ผมได้เรียนการยิงปืนและชำนาญในด้านนี้พอสมควร จึงเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะสอนคุณให้เข้าใจเสียงปืน เพื่อนำไปสู่การเอาตัวรอด” “สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้คือ พวกเขาใช้ปืนชนิดไหน และคนยิงอยู่ห่างออกไปไกลแค่ไหน” เพื่อทำความเข้าใจง่ายขึ้น เราจะแบ่งกระสุนออกเป็น 2 ประเภทคือ Supersonic และ Subsonic ซึ่งทั้งสองชนิดจะมีเสียงที่แตกต่างกัน กระสุน Supersonic มักจะใช้กับปืนยาว เมื่อถูกใช้งาน เสียงแรกที่คุณจะได้ยินคือเสียงคล้ายกับการหักนิ้วหัวแม่มือ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงที่แตกต่างกัน 3 เสียงคือ เสียงกระทบกับวัตถุหรือเมื่อยิงถูกคน จากนั้นก็จะได้ยินเหมือนเสียงตกกระทบพื้น ต่อเสียงคล้ายกับคอนกรีตแตก นั่นหมายความหากคุณอยู่ในเหตุการณ์กราดยิง สิ่งแรกเลยคือต้องมีสติและคอยฟังเสียงคล้ายการหักนิ้วแม่มือ จากนั้นก็รีบมองหาต้นเสียง จากนั้นก็พยายามหาที่กำบังที่สามารถป้องกันคุณจากกระสุนปืนได้ (มือปืนของจริงไม่ได้ยิงแม่นแบบในเกมหรอกนะ) ในสถานการณ์จริง แม้คุณจะแยกแยะเสียงปืนได้ แต่มันอาจจะยากตรงการได้ยิน เนื่องจากมีเสียงผู้คนร้องเอะอะแทรกขึ้นมาจนทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าปืนยิงมาจากทิศทางไหน ลองไปชมคลิปกันดีกว่าว่าเราต้องทำยังไงบ้าง หากเพื่อนๆ สนใจเรื่องนี้สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ช่องยูทูบ Gun…
-
เปิดประวัติศาสตร์ 40 ภาพสีหายาก “ประเทศญี่ปุ่น” ในยุค 1940 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
หลังจากที่ญี่ปุ่นยอมจำนนในสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งผลให้ประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากประเทศจักรวรรดิภายใต้จักรพรรดิไปสู่ประเทศที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยและปลอดทหาร ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต้องอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังหลังสิ้นสุดสงคราม เนื่องจากถูกโจมตีทางอากาศด้วยระเบิดปรมาณูในฮิโรชิมาและนางาซากิ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของประเทศได้กลับมาฟื้นตัวและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในปี 1964 ที่โตเกียวเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก นอกจากนี้ญี่ปุ่นได้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับบใหม่ขึ้นและสานสัมพันธ์กับสหรัฐฯ โดยมีข้อตกลงร่วมกันในเรื่องการใช้กำลังทหาร และนี่คือภาพสีหายากของญี่ปุ่น ที่ถ่ายโดยชาวอเมริกันจากหน่วยข่าวกรอง Counter Intelligence ที่ประจำการอยู่ในเมืองคุมะโมโตะ ระหว่างที่อเมริกายึดครองญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
16 ความดีงามในประเทศญี่ปุ่น ที่มีความสร้างสรรค์จนอยากให้มีในทุกประเทศบนโลกนี้
ญี่ปุ่นนอกจากจะมีภูมิประเทศที่สวยงาม วัฒนธรรมที่หลากหลายเหมาะกับการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีเทคโนโลยีแปลกใหม่ให้เราได้ตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ และนี่คือ 16 เทคโนโลยีสุดสร้างสรรค์จากญี่ปุ่น ที่ผู้คนทั่วโลกอยากให้มีในประเทศตัวเองด้วยเช่นกัน 1. มีปั๊มน้ำมันที่ไม่เหมือนใคร ปั๊มน้ำมันในญี่ปุ่น สายจ่ายน้ำมันจะห้อยลงมาจากด้านบน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนผู้ขับขี่ที่ไม่สามารถจอดรถให้ฝาน้ำมันอยู่ทางเดียวกับหัวจ่ายน้ำมันได้ 2. เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเวลามาก จนมีการคิดค้นเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ เพื่อประหยัดเวลาในการซื้อสินค้าที่ทั้งสะดวกและรวดเร็ว 3. ที่จอดรถในพื้นที่จำกัด ญี่ปุ่นมีประชากร 127 ล้านคน ดังนั้นการจัดการเรื่องพื้นที่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยหนึ่งในนั้นคือการทำที่จอดรถสองชั้นในพื้นที่แคบๆ เช่นนี้ 4. เครื่องดื่มกระป๋องสำหรับคนตาบอด ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับคนที่ไม่สามารถมองเห็น ด้วยการทำเครื่องดื่มกระป๋องที่มีอักษรเบลล์อยู่ด้านบน เพื่อให้รู้ว่ามันคือเครื่องดื่มชนิดไหน 5. เก้าอี้พร้อมที่แขวนกระเป๋า หลายครั้งที่คุณเอากระเป๋าหรือถุงห้อยกับเก้าอี้ แล้วมันก็ร่วงลงมา มันอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่ญี่ปุ่นรู้มันทำให้เราหงุดหงิดได้ ก็เลยสร้างเก้าอี้พร้อมที่แขวนกระเป๋า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ 6. รถไฟพร้อมสปาเท้า นี่เป็นบริการที่คุณจะไม่ได้เห็นจากที่อื่นแน่นอน เพราะมีเฉพาะในญี่ปุ่น แต่เป็นรถไฟขบวนพิเศษที่มาพร้อมอ้างน้ำร้อนให้คุณแช่เท้าระหว่างเดินทาง เป็นการช่วยกำจัดความเครียดบางส่วนในชีวิตประจำวันได้ดีเลยล่ะ 7. มีทิชชู่แจกฟรีบนถนน เมื่อคุณรู้สึกเนื้อตัวเปื้อนหรือสกปรกขณะที่อยู่ข้างนอก ไม่ต้องวิ่งเข้าไปซื้อทิชชู่ในร้านให้เสียเวลา เพราะมีทิชชู่แจกฟรีบริการอยู่ตามถนน…
-
คุณยายวัย 90 ปี เปลี่ยนหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านให้กลายเป็นแกลลอรี่โชว์ผลงานศิลปะของเธอ
การจะทำให้บ้านเกิดเมืองนอนของเราดูน่าอยู่ยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอันทันสมัยเสมอไป หากเรารู้จักเทคนิคศิลปะเพียงเล็กน้อย เหมือนกับ Anežka (Agnes) Kašpárková หญิงชราวัย 90 ปี ชาวเมือง Louka ในสาธารณรัฐเช็ก ที่มีเป้าหมายจะเปลี่ยนผนังอาคารทั่วบ้านเกิดของเธอให้เต็มไปด้วยลวดลายดอกไม้ ใบหญ้า เพื่อให้บ้านเมืองดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น Agnes ไม่ได้เป็นศิลปินตั้งแต่แรก แต่เธอเป็นอดีตเกษตรกรที่ชอบวาดรูปเป็นงานอดิเรก ดังนั้นตั้งแต่เกษียณมา เธอก็ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการวาดรูปตามผนังอาคารในหมู่บ้าน หญิงชราไม่ได้ใช้เทคนิคที่ยากอะไรมากมาย เธอใช้เพียงสีน้ำเงินและพู่กันขนาดเล็กสร้างเป็นลวดลายดอกไม้ที่มีความสวยงามและซับซ้อน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะแบบดั้งเดิมของ Moravian (ทางใต้ของสาธารณรัฐเช็ก) ตอนนี้หญิงชราได้รับการยอมทั้งในท้องถิ่นและบุคคลภายนอกในฐานะศิลปิน แต่เธอบอกว่าไม่ได้หวังมากขนาดนั้น เธอแค่ทำเพราะมีความสุขกับการวาดรูปจริงๆ “ฉันรู้สึกสนุกกับการวาดรูปและอยากทำให้บ้านเมืองน่าอยู่ขึ้น” Agnes กล่าว นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ หากคุณรักที่จะทำสิ่งใดแล้ว ขอแค่ลงมือทำ อย่าให้อายุหรืออะไรก็แล้วแต่มาขัดขวางคุณได้ เท่านี้ก็จะทำให้รู้สึกเหมือนประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว ลายเส้นและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคุณยาย . แม้จะใช้แค่สีน้ำเงินสีเดียว แต่ก็ทำให้ผนังดูสวยงามได้ คุณยายผู้มีความสุขกับการสร้างสรรค์งานศิลปะ . . . . .…
-
แข็งแกร่ง!! หนุ่มเอาชนะงูยักษ์ความยาว 7 เมตรได้ด้วยมือเปล่า แต่ก็ร่อแร่ใกล้ตายเหมือนกัน
แทบจะไม่มีใครรอดกลับมาเมื่อต้องเผชิญกับงูยักษ์ขนาดใหญ่ที่สามารถกลืนมนุษย์ลงไปทั้งตัวได้ แต่สำหรับหนุ่มคนนี้กลับเอาตัวรอดจากงูหลามความยาว 7 เมตร ได้อย่างหวุดหวิด นี่เป็นเรื่องราวของ Robert Nababan ที่ได้พบกับงูหลามขนาดใหญ่โดยบังเอิญบนถนนระหว่างเดินทางกลับจากที่ทำงานใน Indragiri Hulu Regency ของจังหวัด Riau ประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ Robert วัย 37 ปี ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เขาก็เห็นคนสองคนหยุดชะงักระหว่างทาง เนื่องจากมีงูยักษ์นอนขวางอยู่ แทนที่จะหลบไปทางอื่น แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะสู้กับงูยักษ์ตัวนั้น เขาเล่าว่า “ผมพยายามจะเข้าไปจับตัวมัน แต่มันก็ล็อกแขนผมไว้ แล้วก็ทุ่มผมกระแทกกับพื้นอย่างแรง” เขายังเล่าอีกว่าแม้จะถูกงูพันแขนแต่เขาก็พยายามดิ้นเอาตัวรอดและกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับเจ้างูอย่างสุดกำลัง ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายเอาชนะงูหลามได้อย่างหวุดหวิด แม้จะล้มงูได้แต่ Robert ก็เกือบจะไม่รอดเช่นกัน เพราะหลังจากที่การต่อสู้จบลงเขาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยสภาพร่างกายอ่อนแรงและได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะแขนซ้ายที่ถูกงูรัด สำหรับศพเจ้างูหลามถูกลากไปยังหมู่บ้านของ Robert สร้างความตะลึงให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก จนแทบไม่อยากเชื่อว่ามนุษย์จะจัดการมันได้ นอกจากนี้งูหลามตัวดังกล่าวยังถือว่ามีขนาดเกือบใหญ่ที่สุดในโลก เพราะในสถิติ Guinness World งูที่ยาวที่สุดอยู่ที่ 7.67 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าเพียงนิดเดียวเท่านั้น ชาวบ้านแห่ดูงูความยาว 7 เมตร…
-
12 ผลงานเปลี่ยนภาพถ่ายคุณกับสัตว์เลี้ยง เป็นการ์ตูนสุดน่ารัก ที่คุณก็มีส่วนร่วมได้
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบการ์ตูน และอยากมีภาพวาดของตัวเองที่ออกแบบเอง บางที Robert DeJesus ศิลปินชาวอเมริกันคนนี้อาจช่วยคุณสานฝันได้นะ Robert DeJesus คือศิลปินวาดภาพที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนจำนวนมาก และถ้าคุณเองอยากเปลี่ยนรูปตัวเองให้เป็นภาพวาดสุดน่ารัก โอกาสมาถึงแล้วและยิ่งหากคุณมีสัตว์เลี้ยงด้วย พลาดไม่ได้เลยหล่ะ ด้านล่างนี้คือชุดภาพ “ผู้คนกับสัตว์เลี้ยง” ที่วาดโดย Robert ซึ่งเป็นการทำภาพจริงให้กลายเป็นภาพการ์ตูนที่น่ารักสุดๆ ลองไปชมกันเลย 1. สำหรับใครที่สนใจ ข่าวดีคือ ศิลปินคนนี้เค้ารับวาดให้ผู้คนทั่วโลกเลยนะ ติดตามรายได้เอียดได้ที่เว็บไซต์ Deviantart หรือเฟสบุ๊ก The Art of Robert DeJesus ส่วนข่าวร้ายคือ ราคาค่อนข้างแพงหน่อยนะ โดยมีตั้งแต่ 3,000-10,000 บาท 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12.…
-
15 คลิปหมาเจอเจ้าของอีกครั้ง หลังจากพลัดพรากไปนาน ให้คุณหลั่งน้ำตาเพราะความสุข
หลายคนเลี้ยงสุนัขในฐานะสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง แต่สำหรับน้องหมาแล้ว ตั้งแต่วินาทีแรกที่ถูกรับเลี้ยง มันจะคิดว่าคุณคือครอบครัว มันจึงซื่อสัตย์ต่อคุณและรักเจ้าของอย่างหมดหัวใจ เช่นเดียวกับมนุษย์ เมื่อสมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่งต้องจากไปไกล และนานแสนนาน ก็จะมีความคิดถึง ห่วงหา และรอคอยการกลับมาอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับสุนัขเหล่านี้ที่ดีใจสุดๆ เมื่อได้เจอเจ้าของอีกครั้ง หลังต้องห่างกันเป็นเวลานาน 1. ดีใจสุดๆ กอดเท่าไหร่ก็ไม่พอ 2. โอ้ย ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่จริงๆ 3. หลอกให้ไปเก็บบอล พอกลับมาเท่านั้นแหละ เซอร์ไพรส์ไปอีก 4. อ๊ออ๊อย มารับถึงสนามบินเลย 5. ดีใจจนทำอะไรไม่ถูกเลย วิ่งวนไปค่ะ 6. ใจเย็นนะหนู เดี๋ยวได้กอดเต็มที่แน่ 7. เป็นการต้อนรับที่อบอุ่นมาก 8. เททุกสิ่งอย่างเพื่อไปกอดเจ้าของ 9. ดีใจกว่าคนในครอบครัวก็เจ้าหมานี่แหละ 10. กลับมามีเจ้าสี่ขามาต้อนรับแบบนี้ ฟินตายเลย 11. ยังไม่ทันเข้าบ้านเลย…
-
สื่อนอกแนะนำ 9 เหตุผลดีๆ ว่าทำไมคุณควรซื้อ iPhone 8 มากกว่า iPhone X !?
เมื่อไม่กี่วันก่อน เราได้นำเสนอคำแนะนำของบทความจากสื่อต่างประเทศที่ว่าทำไมควรซื้อ iPhone X มากกว่า iPhone 8 นั่นอาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่า iPhone 8 ไม่น่าใช้ ดังนั้นเพื่อความแฟร์ วันนี้สื่อนอกเจ้าเดิมจึงเผยเหตุผลที่ว่าทำไมคุณควรซื้อ iPhone 8 มากกว่า iPhone X เว็บไซต์ดังกล่าวจึงได้นำเสนอบทความอีกด้าน ซึ่งแนะนำให้ซื้อ iPhone 8 มากกว่า iPhone X โดยให้เหตุผล 9 ข้อ ดังนี้ 1. iPhone 8 และ 8 Plus ใช้พลังงานเดียวกันกับ iPhone X โทรศัพท์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ใช้พลังงานจากชิป A11 Bionic ตัวควบคุม และโปรเซสเซอร์การประมวลผล M11 ของ Apple มีข้อแตกต่างเล็กน้อยคือ iPhone X ใช้ชิป A11 และระบบสแกนใบหน้า ซึ่ง iPhone 8…
-
ตามส่อง ‘คุณพ่อสุดหล่อในดิสนีย์แลนด์’ ความแซ่บที่ทำให้สาวๆ ระทวย (ภาพจัดเต็มค่า!!)
เราอาจจะเคยเห็นภาพฮาๆ เมื่อปล่อยลูกน้อยอยู่กับพ่อตามลำพัง แต่สำหรับพ่อบางคนนั้นเมื่ออยู่กับลูก นอกจากไม่ฮาแล้ว ยังดูเท่สุดๆ จนอยากเข้าไปเป็นภรรยาคนที่สองให้ และหากเพื่อนๆ ยังจำกันได้ เมื่อปีที่แล้ว เราได้นำภาพจากอินสตาแกรม DILFS Of Disneyland ซึ่งเป็นไอจีที่รวบรวมโมเม้นต์น่ารักของคุณพ่อสุดคูลกับลูกน้อยในดิสนีย์แลนด์ ภาพจากปีที่แล้วอาจจะไม่หนำใจพอ วันนี้เราเลยนำภาพใหม่ๆ ของคุณพ่อสุดหล่อมาฝากเพื่อนๆ อีกครั้ง เป็นการอัพเดตเบาๆ แต่อาจจะมีอาการปวดหัวหน่อยนะ เพราะคุณมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นหนะ อิอิ ณ จุดจุดนี้ อยากไปอยู่ตำแหน่งลูกจัง ถ้าไม่อยากได้เมียเพิ่ม อย่ายิ้มแบบนี้ ถ้าได้ลูบเคราสักครั้ง สัญญาจะตั้งใจทำงาน ตายแล้ว อยากได้คนช่วยเลี้ยงลูกมั้ยคะ ความมุ้งมิ้งของผู้ชายหน้าโหด ต้องทำบุญด้วยอะไรถึงจะได้เป็นผู้หญิงคนนั้นของเธอ เป็นพ่อแล้ว จำเป็นต้องหล่อขนาดนี้มั้ย หล่อแล้วยังเลี้ยงลูกเป็นอีก คนถ่ายถึงกับหลุดโฟกัสลูกไปเลย เอาแต่พ่อพอ ลุคแบดๆ แต่ควงลูกสองนะจ๊ะ อยากเป็นเจ้าหญิงของพ่อหนูบ้างจัง นี่แหละ ใช่เลย พ่อของลูก …
-
มหาวิทยาลัยจะบูรณะใหม่ เลยให้ศิลปินกราฟิตี้ 100 คน จัดเต็มแสดงผลงานสุดสร้างสรรค์
โดยปกติแล้วคนที่ชอบพ่นสีตามกำแพงหรือที่เรียกกันว่ากราฟิตี้ มักจะถูกมองว่าเป็นการทำให้ผนังสกปรกมากกว่าที่จะมองว่าเป็นมันเป็นงานศิลปะ แต่หากมองว่ามันเป็นศิลปะจะเห็นว่าการพ่นกำแพงนั้นเต็มไปลวดลายสุดล้ำ ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัย Cité Internationale Universitaire ในปารีส จึงได้เชิญศิลปินกราฟิตี้กว่า 100 คนทั่วโลก มาประทับผลงานสุดสร้างสรรค์บนผนังหอพักของมหาวิทยาลัย ก่อนจะทำการบูรณะใหม่ ศิลปินกราฟิตี้ทั้ง 100 คนได้ใช้เวลาสร้างผลงานบนผนังหอพักนักศึกษานี้ประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งทุกคนก็ได้ใส่จินตาการสุดล้ำลงไปบนผนัง ก่อนจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาชม น่าเสียดายที่กราฟิตี้เหล่านี้อยู่ได้ไม่นานก็ถูกลบออกในระหว่างการบูรณะหอพักอย่างเป็นทางการ แต่โชคดีที่มีช่างภาพบันทึกภาพเหล่านี้เอาไว้ได้ทัน และนี่คือส่วนหนึ่งของผลงานศิลปิน 100 คน . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
ในที่สุด นักโบราณคดีก็ไขปริศนา “การสร้างพีรามิด” ว่าขนหิน 2.5 ตัน ระยะทาง 800 กิโลได้ยังไง!?
มหาพีระมิดแห่งกีซา เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ยังคงอยู่จนปัจจุบันนี้ และด้วยขนาด รูปทรงของ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามันถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ในยุคนั้นไม่น่าจะมีเครื่องมือที่เพียงพอสำหรับการทำอะไรแบบนี้ได้ แต่ตอนนี้นักโบราณคดีได้ค้นพบหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าชาวอียิปต์ได้ขนหินก้อนละ 2.5 ตัน เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตร เพื่อสร้างเป็นที่เก็บศพของฟาโรห์คูฟู เมื่อ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล มหาพีระมิด มีความสูงถึง 147 เมตร ซึ่งเป็นพีรามิดที่ใหญ่ที่สุดจนถึงยุคกลาง เนื่องจากมีการก่อสร้างมหาวิหารลินคอล์น (Lincoln Cathedral) ที่ ประเทศอังกฤษ ซึ่งมียอดวิหารสูง 160 เมตร ในปี พ.ศ. 1843 ในเวลาต่อมา ข้อมูลทางโบราณคดีเผยว่า มีคนงานมืออาชีพหลายพันคนได้ขนก้อนหิน 170,000 ตัน มาตามแม่น้ำไนล์ โดยใช้เชือกมัดก้อนหินไว้ด้วยกันแล้วลำเลียงมาบนเรือไม้ ผ่านคันคลอง ไปยังท่าเรือที่อยู่ห่างจากพีรามิดเพียงไม่กี่หลา ขณะเดียวกันได้มีการค้นพบกระดาษปาปิรัสโบราณที่เมืองท่า Wadi Al-Jarf ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบทบาทของเรือที่มีผลต่อการก่อสร้างพีระมิด ข้อความในกระดาษดังกล่าวเขียนโดย Merer ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลคนงานจำนวน 40 คน ในนั้นพูดถึงการสร้างมหาพีระมิดและอธิบายว่าก้อนหินถูกส่งมาจาก Tura ถึง Giza ได้อย่างไร …
-
17 ภาพแห่ง “ความเป๊ะ” อาจเป็นเพราะเราคู่กันมาแต่ชาติไหน มันก็เลยพอดีแบบนี้จ้า
เคยเจอเหตุการณ์หรือเห็นอะไรที่แบบว่า “เฮ้ย!! เป๊ะอะ” มั้ย คือ มันเป็นความลงตัวที่ไม่ได้เกิดการจงใจทำให้ มันเป๊ะของมันเอง ราวกับเกินมาเพื่อกันและกัน เหมือนกับภาพเหล่านี้ที่อยู่ด้วยกันแล้วเป๊ะ ราวกับถูกจัดวางยังไงอย่างงั้น 1. ชั้นวางหนังสือที่เอามาวางในรถพ่วงแล้ว พอดีกันเป๊ะ 2. แผ่นซาลามิกับขนมปังที่มีรูปทรงเดียวกันเป๊ะ แถววางทับกันได้พอดีด้วย 3. อะไรมันจะลงตัวเบอร์นี้ ทั้งเงาที่ทับเส้นได้พอดี และคนที่บังเอิญมาเห็นพอดี 4. หรือรอยแตกนี่จะเกิดมาเพื่อสายไฟเส้นนี้ 5. แก้วที่จุโค้ก 1 กระป๋องพอดีเป๊ะ ไม่ขาด ไม่เกิน 6. แม้แต่พรมเช็ดเท้ากับรอยต่อแผ่นกระเบื้อง ระยะห่างแบบพอดิบดิี 7. กรอบประตูกับที่นอน เท่ากันเป๊ะ 8. โค้งได้รับกับรูปร่างของมินเนี่ยนเลย 9. แม้แต่น้ำแข็งยังพร้อมใจละลายเป็น 3 เหลี่ยม 10. ไม่กวาดกับช่องว่าง กว้างเท่ากันเด๊ะเลยแหะ 11.…
-
เจ้าหมาแอบตดบนโซฟาเนียนๆ แถมไม่รู้ตัวนี่มันกลิ่นอะไร ก้มไปดมถึงกับหน้าเหวอ ฮ่าๆ
เวลาผายลม ไม่ว่าจะเป็นการแอบตดหรือตดแบบเปิดเผย ตัวเราเองจะรู้ดีที่สุด แต่ดูเหมือนเจ้าหมาตัวนี้มันไม่ค่อยคุ้ยเคยกับการตดสักเท่าไหร่นะ นี่เป็นโมเม้นต์ฮาๆ ของ ลูซี่ สุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด วัย 8 เดือน กับประสบการณ์การตดพร้อมกลิ่น ที่จะทำให้มันไม่มีวันลืม นี่เป็นคลิปวิดีโอสั้นๆ ความยาว 30 วินาที ขณะที่เจ้าลูซี่กำลังนั่งชิลๆ อยู่บนโซฟา อยู่ดีมันก็ตดออกมาซะงั้น แต่ดูเหมือนมันจะไม่รู้ตัวนะ เพราะมันยังนั่งลอยหน้าลอยตาดมกลิ่นตดตัวเองอยู่เลย หลังจากที่ดมกลิ่นตดตัวเองไปสักพัก ลูซี่ก็สงสัยว่ากลิ่นแปลกนี้มันคือะไรกันนะ? แล้วมันมาจากไหน? ว่าแล้ว มันก็ลองดมก้นตัวเองดู ปรากฏว่า… อื้อหือ ชัดเลย กลิ่นมันมาจากตรงนี้นี่เอง ลุกหนีแทบไม่ทันแหน่ะ ทางด้าน Kayla Eggers เจ้าของลูซี่บอกว่า “วันนั้นลูซี่ตดบ่อยมาก และฉันก็ถ่ายวิดีโอไว้ได้ครั้งหนึ่ง มันตลกมากๆ จนฉันหยุดหัวเราะไม่ได้เลย” ต่อมาเจ้าของได้โพสต์วิดีโอนี้ในเฟสบุ๊ก จนมีคนเข้ามากดไลค์ และคอมเม้นต์ดีๆ อีกมากมาย เธอก็เลยโพสต์ลงในยูทูปด้วย เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสเห็นความน่ารักของลูกซี่ เจ้าของยังบอกอีกว่า จริงๆ มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่หมาตดเท่านั้นเอง แต่รับรองว่าถ้าได้ดูคลิปสั้นๆ…
-
ส่องพัฒนาการ “ทรงผมหนุ่มเกาหลี” ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา เปลี่ยนไปมากขนาดไหน
เพื่อนๆ ที่เป็นติ่งเกาหลี จำได้มั้ยเราเริ่มคลั่งไคล้อปป้าตั้งแต่ยุคไหน เราชอบอะไรในตัวพวกเขา แล้วตอนนั้นแฟชั่นของพวกเขาเป็นอย่างไร? ไม่ว่าจะหลงรักอปป้าด้วยเหตุผลอะไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนน่าจะจำได้เป็นอย่างดี นั่นคือ ทรงผมของหนุ่มเกาหลี ที่ไม่ว่าจะทำทรงเรา สาวๆ ก็จะกริ๊ด แถมมีหนุ่มๆ ในบ้านเราทำตามกันตรึมด้วย วันนี้เรามาย้อนดูวิวัฒนาการทรงผมหนุ่มเกาหลีกันดีกว่าว่าในช่วง 100 ปี ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และเราเคยกริ๊ดทรงไหนกันบ้าง ช่วงยุค 1910s ทรงนี้เราอาจจะเกิดไม่ทัน แต่ได้ดูผ่านซีรีส์มาบ้าง เรียกได้ว่าเป็นทรงที่เนี๊ยบแบบดูดีเลยหล่ะ ต่อกันด้วยยุค 1920s เป็นยุคที่หนุ่มเกาหลีอาจไม่ทำทรงผมทั่วไป แต่ที่ขาดไม่ได้คือพร็อพบนหัว เพื่อเพิ่มความคูลให้ตัวเอง ยุค 1930s ทรงผมจะออกแนวเรียบร้อย ให้ดูเหมือนเป็นผู้ชายอบอุ่น ยุค 1940s เป็นช่วงที่เทรนเด็กแนวเริ่มก่อตัว ทรงผมก็เลยออกแนวๆ หน่อย ยุค 1950s ยุคที่หมวกปานามาไม่ได้มีไว้เพื่อผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังเป็นที่นิยมในหมู่หนุ่มๆ อีกด้วย ยุค 60 หนุ่มๆ มักจะทำทรงผมที่ดูเป็นธรรมชาติ…
-
แมวเบงกอลน้อยนั่งท่าน่ารักเกินไป ชาวเน็ตหมั่นไส้ ช่วยกันจับมาตัดต่อซะเสียเลย ฮ่าๆ!!
ว่ากันด้วยเรื่องแมว เป็นสัตว์เลี้ยงที่แบบว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปซะหมด แต่อย่างเผลอทำท่าแปลกๆ ล่ะ เพราะเดียวนี้กล้องมันทำงานเร็วหนะ ที่ร้ายกว่าก็พวกชาวเน็ตนักตัดต่อเนี่ยแหละ เหมือนกับเจ้าแมวเบงกอลตัวนี้ ที่ไม่รู้คิดอะไรอยู่ แต่ดูท่าที่มันนั่งสิ มันผิดธรรมชาติแมวอยู่นา แต่ก็นั่น มันก็ยังน่ารักอยู่ดี จนชาวเน็ตหมั่นไส้ เลยช่วยกันตัดต่อซะฮาเลย ไหน เป็นอะไร บอกเหมียวสิ๊ ไปโผล่บนปกหนังสือเฉย เอ๊ะ ต้องอยู่บนปกไหนถึงจะเหมาะกว่านะ? เอ๊ะ หรือนางกำลังมโนว่ากำลังนั่งถ่ายบนชักโครก นี่ถ้าเอาไปปั่นจักรยานล้อเดียว คงเซียนเลยสินะ ทำไรกันหนะ เหมียวมองอยู่เด้อ ดื้อมั้ย เราหนะ เพื่อนซี้ต่างสายพันธุ์ แมวอวกาศก็มา โอ้ววว บรรยากาศบนนี้มันเสียวๆ ยังไงไม่รู้แหะ นี่ถ้ามาอยู่ในฉากนี้จริงๆ ตีบทแตกเลยนะเนี่ย หน้ามันได้ เป็นแมวแรพเปอร์อ่านะ โย่ว ขาวๆ โย่ว อู้วว โย่ว โย่ว…
-
คู่หนุ่มสาวโดนปรับเกือบ 700,000 บาท หลังทำบุญ “ปล่อยกุ้งลอบสเตอร์” 360 ตัว ลงทะเล
ชาวพุทธหลายคนนิยมทำบุญด้วยการปล่อยสัตว์สู่ธรรมชาติ โดยมีความเชื่อว่ายิ่งปล่อยสัตว์จำนวนมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้บุญมากเท่านั้น แต่ล่าสุดคู่หนุ่มสาวที่โดนจับและปรับเกือบ 700,000 บาท หลังทำบุญปล่อย “กุ้งลอบสเตอร์” นับพันลงทะเล เนื่องจากก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม Zhixiong Li และ Ni Li ได้ช่วยชีวิตปูและกุ้งลอบสเตอร์ ด้วยการปล่อยพวกมันลงสู่ทะเลห่างจากชายฝั่ง Brighton ของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิธีคืนสัตว์สู่ถิ่น ประจำปี 2015 พิธีกรรมดังกล่าวนี้อยู่ภายใต้ความเชื่อที่ว่าการนำสัตว์คืนสู่ธรรมชาตินั้นเป็นการทำกรรมดี แต่หารู้ไม่ว่าความเมตตานี้อาจส่งผลร้ายมากกว่า เนื่องจากสิ่งมีชีวิตที่ได้ปล่อยสู่น่านน้ำอังกฤษอาจไปทำลายสัตว์ประจำถิ่นอื่นๆ จนถึงขั้นสูญพันธุ์ได้ จากการปล่อยปูและกุ้งลอบสเตอร์ในน่านน้ำอังกฤษครั้งนี้ ทำให้องค์การบริหารจัดการทางทะเล (MMO) จำเป็นต้องระดมกำลังหลายพันคน เพื่อนำปูและกุ้งเหล่านั้นออกจากทะเล ก่อนจะนำไปขายต่อให้ชาวประมงในราคาถูก ต่อมา Zhixiong เจ้าหน้าที่ธนาคารวัย 33 ปี และ Ni ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ วัย 30 ปี (ทั้งคู่มาจากลอนดอน) รับสารภาพว่าได้ปล่อยสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์ประจำถิ่นลงทะเลจริง การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดภายใต้พระราชบัญญัติสัตว์ป่าและชนบท(Wildlife and Countryside Act) ซึ่งในกฏหมายระบุว่า หากใครจะปล่อยสัตว์ลงทะเลต้องรับใบอนุญาตก่อน แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่ไม่ได้ทำการภายใต้ข้อกฏหมายดังกล่าว Joseph Miller อัยการผู้รับผิดชอบคดีนี้ กล่าวว่าคดีนี้เป็นเรื่องดังขึ้นมา…
-
สื่อนอกแนะนำ 7 เหตุผลว่าทำไม คุณควรซื้อ iPhone X มากกว่า iPhone 8 !?
เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานสำหรับ iPhone 8 และ iPhone X ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะ iPhone 8 ที่ว่ากันว่าไม่ต่างอะไรจาก iPhone 7 เลย ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงและฟังก์ชั่นต่างๆ และสำหรับใครที่กำลังลังเลว่าระหว่าง iPhone ที่ออกใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ จะซื้อรุ่นไหนดี? วันนี้ทางเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง BusinessInsider ได้ให้เหตุผล 7 ข้อว่าทำไมคุณควรซื้อ iPhone X มากกว่า iPhone 8? 1. iPhone X มีหน้าจอขนาดใหญ่กว่า iPhone 8 และ 8 Plus มีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้วและ 5.5 นิ้วตามลำดับ ในขณะที่ iPhone X มีหน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว ที่ครอบคลุมหน้าจอโทรศัพท์เกือบทั้งหมด 2. จอแสดงผลของ iPhone X มีคุณภาพดีกว่าหน้าจอ…
-
7 เรื่องที่ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งถึงกับ “ว๊าวววววว” เมื่อได้มีโอกาสมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย และน่าสนใจ จนกลายเป็นประเทศเป้าหมายของบรรดานักท่องเที่ยวทั่วโลก และเมื่อนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น เขาได้สัมผัสความน่าทึ่งมากมายที่นั่น โดยเฉพาะ 7 เรื่องนี้ ที่ถึงกับต้องร้อง ว๊าวว 1. อ่างอาบของญี่ปุ่นโคตรไฮเทค อ่างอาบน้ำสามารถพบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น ซึ่งในอ่างน้ำจะมีเครื่องทำน้ำร้อนอัตโนมัติโดยการกดปุ่ม เพื่อรักษาระดับความร้อนของน้ำไม่ให้ลดลง อย่างไรก็ตาม แม้ความร้อนจะลดลง น้ำในอ่างก็ยังคงรักษาอุณภูมิให้อยู่ในระดับธรรมชาติ นั่นหมายความว่ามันจะไม่เย็นจนเกินไป นี่อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนญี่ปุ่น แต่สำหรับเราชาวฝรั่งเศสแล้ว มันเป็นเรื่องน่าทึ่งมาก เพราะที่ห้องอาบน้ำฝรั่งเศสนั้นจะมีแค่ฝักบัวอันเดียว ในกรณีที่มีอ่างอาบน้ำด้วย คุณจะเติมน้ำร้อนเองเหมือนสมัยก่อน 2. คุณต้องต่อแถวขึ้นรถไฟอย่างเป็นระเบียบ ที่ญี่ปุ่นเวลาจะขึ้นรถไฟเราต้องเข้าแถวและขึ้นไปอย่างมีระเบียบ ซึ่งในฝรั่งเศสคุณจะไม่ได้เห็นการต่อแถวแบบนี้อย่างแน่นอน เพราะทุกคนจะแย่งกันขึ้นทันทีที่รถไฟมาถึง 3. เก้าอี้ชิงกันเซ็งของญี่ปุ่นปรับที่นั่งได้ เมื่อพูดถึงชิงกันเซ็ง(รถไฟความเร็วสูง)ในฝรั่งเศส อาจจะเทียบความเร็วกับชิงกันเซ็งของญี่ปุ่นได้ แต่ที่ต่างกันคือ เก้าอี้นั่งของญี่ปุ่นสามารถปรับขึ้นหน้าหรือถอยหลังได้ เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร 4. เมืองสวยงามมาก แต่ชายหาดสกปรก บริเวณบ้านเมืองของญี่ปุ่นนั้นสะอาดสะอ้านมาก มันน่าอยู่ มองไปทางไหนก็ดูสวยงาม แต่น่าแปลกที่พวกเขานำขยะไปทิ้งในทะเลจนถูกพัดขึ้นฝั่งเต็มไปหมด 5. มีลิฟต์และบันไดเลื่อนอยู่ที่สถานีทุกที่ ที่ฝรั่งเศสสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งไม่มีทั้งลิฟท์และบันไดเลื่อน แต่ที่ญี่ปุ่น แม้สถานีจะตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ…
-
มหาวิทยาลัยจีนเปิดคลาส “วิธีเป็นเน็ตไอดอล” เพื่อสร้างชื่อให้ดังบนโลกออนไลน์
ทุกวันนี้สื่อมีอิทธิพลกับสังคมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะในประเทศไหนก็ตาม และที่น่าทึ่งคือ หลายคนประสบความสำเร็จจากการมีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ หรือที่เราเรียนกันว่า “เน็ตไอดอล” ด้วยเหตุนี้ มหาวิยาลัยแห่งหนึ่งในจีนถึงกับเปิดคลาส “วิธีการเป็นเน็ตไอดอล” เพื่อสร้างชื่อเสียงในโลกออนไลน์ สำหรับผู้ที่สนใจทางสายนี้ สำนักข่าว Beijing Youth Daily รายงานว่า ที่สถาบันวิศวกรรมศาสตร์ฉงชิ่ง (Chongqing Institute of Engineering) มีนักศึกษามาลงทะเบียนแล้ว 19 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เพื่อมาเรียนวิธีการนำเสนอตัวเองในโลกออนไลน์ อันจะนำไปสู่การเป็นเน็ตไอดอลต่อไป ในแผนการสอนมีประโยคหนึ่งเขียนไว้ว่า “เราจะสอนตัวอย่างการขอของขวัญ วิธีการสร้างหัวข้อไวรัล และการเอาใจแฟนๆ นอกจากนี้เราจะสอนให้นักศึกษาเก่งทั้งในด้านการแสดงและทำการตลาดออนไลน์ที่เน้นการโน้มน้าวใจด้วย” คอร์สนี้ใช้เวลา 3 เดือน โดยตลอดระยะเวลานี้ นักศึกษาจะได้เรียนจิตวิทยา การสร้างตัวละคร การแต่งหน้าทำผม การแต่งตัว การโพสต์ท่า การแสดงออก การใช้แอพ และทักษะในการไลฟ์สด หนึ่งในผู้สอนที่ชื่อ Zhang บอกว่า “คนที่จะได้เรียนคอร์ส์นี้ นอกจากจะสมัครเข้ามาเองแล้ว ต้องผ่านการคัดเลือกหลังจากทดสอบเรื่องรูปร่าง หน้าตา การแสดงออก และทักษะอื่นๆ” สำหรับนักเรียนกลุ่มแรกนี้เป็นนักศึกษาปี 4 จากหลักสูตรอีคอมเมิร์ซและหลักสูตรการตลาด โดยได้มีการเปิดโอกาสหให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาสมัครได้ด้วย …
-
14 สุดยอดสถาปัตยกรรมสมัยใหม่จากรอบโลก ที่คุณจะไม่มีวันลืมเลย หากได้เห็นมันสักครั้ง..
เราอาจจะเคยได้ยินหรือเคยเห็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยสมัยโบราณ ซึ่งแต่ละอย่างนั้นมีความอลังการและงดงามอย่างน่าทึ่ง สำหรับวันนี้ brightside ได้เผย 14 สุดยอดสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ แต่สวยงามไม่แพ้สมัยโบราณ และรับรองว่าหากคุณได้เห็นสักครั้ง คงจะลืมไม่ลงแน่ๆ 14. อาคารดอกบัว ในเมืองวูจิน ประเทศจีน อาคารดอกบัวถูกใช้เป็นสำนักวางแผนของเมือง มีลักษณะเป็นดอกบัวบาน ตั้งอยู่กลางเมืองวูจิน ซึ่งสถาปนิกผู้ออกแบบต้องการสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจในทุกช่วงฤดูกาล 13. โรงแรมที่น่าทึ่งในเทือกเขาแอลป์ นี่เป็นเพียงจำลองของโรงแรมที่จะสร้างขึ้นในเทือกเขาแอลป์ ผู้ออกแบบคือ Andrii Rozhko เขาได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิประเทศที่น่าทึ่งของภูเขา โดยจะทำให้โรงแรมอยู่กลางหน้าผาและตกแต่งอาคารด้วยกระจกที่มีรูปทรงโดดเด่น 12. Lotus Temple ในหมู่บ้าน Bahapur ประเทศอินเดีย อาคารที่มีรูปทรงเหมือนดอกบัวนี้ เป็นที่ประกอบพิธีของศาสนาศาสนาบาไฮ ซึ่งต้อนรับทุกคน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไรก็ตาม ความโดดเด่นของอาคารคือ มีประตูทางเข้า 9 บาน ที่นำไปสู่จุดศูนย์กลางของอาคาร ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ความสามัคคีของทุกศาสนา 11. Cubic Houses of Rotterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีกลุ่มบ้านลักษณะเหมือนกัน 40 หลัง ตั้งอยู่บนถนน Overblaak ใน Rotterdam ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปนิก Piet Blom…
-
16 มะหมาที่โดนเจ้าของสปอยล์ อยากได้อะไรต้องได้ ชีวิตมันดี๊ดี จนคุณเองต้องอิจฉา
สำหรับคนรักสัตว์แล้ว สุนัขก็เปรียบเสมือนลูกน้อยคนหนึ่งนั่นแหละ ทำให้มันทุกอย่างเหมือนเด็กๆ ไหนจะพาไปเดินเล่น ซื้อของเล่นให้ อาบน้ำ แต่งตัวให้ กินอาหารดีๆ พาเข้านอน แถมยังทำห้องส่วนตัวให้มันด้วย เหมือนกับเจ้าหมาเหล่านี้ที่ถูกครอบครัวสปอยส์ อยากได้อะไรก็ต้องได้ แถมยังมีชีวิตดี๊ดี จนมนุษย์อย่างเรายังต้องอิจฉาเลย 1. ให้นอนข้างสระ ไม่ยอม ขอนอนกลางสระ เพราะฟินกว่า 2. น้องหมาที่ไม่ชอบเดินเพราะกลัวเล็บพัง เจ้าของเลยต้องจัดแบบนี้ให้ 3. บางคนยังไม่มีบ้านเลย แต่น้องหมาตัวนี้มีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว อลังการซะด้วย 4. หมาสายกิน ชอบไปทานข้าวนอกบ้านกับเจ้าของ แถมสั่งอาหารสำหรับตัวเองด้วย 5. เจ้าของกับสุนัขรักกันมาก เมื่อแฟนหนุ่มทำพรมลายน้องหมาให้แฟนสาว ก็ต้องทำให้ลายแฟนสาวให้น้องหมาด้วย ไม่งั้นมันไม่ยอม 6. น้องหมาที่ทำตัวเหมือนแฟน แบบนี้แฟนตัวจริงก็ไม่จำเป็นแล้วซินะ? 7. เจ้าหมาที่พร้อมจะดินเนอร์กับคุณทุกวัน 8. มนุษย์มีรถแล้วไง หมาก็มีเหมือนกันเด้อ 9. ไม่อยากนั่งร่วมกับคนอื่นอะ ขอนั่งเครื่องบินส่วนตัวละกันนะ 10.…
-
ผลวิจัยล่าสุดเผย ทำไมผู้หญิงที่มี “พี่ชายน้องชาย” จะมีรายได้น้อยกว่าการเป็น “ลูกคนเดียว”!?
ผู้หญิงหลายๆ คนชอบการมีน้องชายหรือพี่ชาย เพราะพวกเขาเปรียบเสมือนเพื่อนต่างเพศ ที่คอยให้คำแนะนำในสิ่งที่เราไม่รู้เกี่ยวกับผู้ชายได้ แต่รู้หรือไม่ว่าการที่หญิงสาวมีพี่ชายหรือน้องชายนั้น มันมีผลต่อรายได้นะ!? การวิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัย Cornell University พบว่า ผู้หญิงที่มีพี่ชายหรือน้องชายจะมีรายได้ลดลง 10% ในช่วงวัยระหว่าง 20 ปลายๆ และ 30 ต้นๆ ในขณะที่ผู้หญิงวัยเดียวกัน แต่ไม่มีพี่ชายหรือน้องชาย จะรายได้ลดลงเพียง 5% อาจจะฟังดูไม่เข้าท่า แต่ผลวิจัยนี้มีข้อมูลรองรับที่น่าเชื่อถือพอสมควร นักวิจัย Angela Cools และ Eleonora Patacchini ได้รวบรวมข้อมูลในสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้หญิงที่มีน้องชายหรือพี่ชาย มีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และวางแผนที่จะมีลูก พวกเขาจะให้ความสำคัญกับครอบครัวมากกว่าคนที่ไม่มีพี่ชายหรือน้องชาย ตามข้อมูลที่ Cools และ Patacchini ได้รวบรวมมานี้ อาจเป็นเพราะเด็กผู้หญิงที่มีพี่ชายหรือน้องชายถูกปลูกฝังเรื่องบทบาททางเพศตั้งแต่อายุยังน้อย “ในสหรัฐอเมริกานั้น ทัศนะเกี่ยวกับบทบาททางเพศแบบดั้งเดิมยังคงมีส่วนที่ทำให้เกิดช่องว่างด้านค่าจ้าง และจากการตรวจสอบบทบาทของเพศระหว่างพี่น้องกับค่าแรงของผู้หญิง แสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในครอบครัว ส่งผลให้ผู้หญิงมีอัคติเกี่ยวเพศสภาพน้อยลง ซึ่งอาจลดช่องว่างรายได้ระหว่างชายและหญิงได้ หลังจากที่ผ่านพ้นวัยดังกล่าว” …
-
7 ท่าโยคะสำหรับสาวๆ ที่อยากมีหน้าอกสวย กระชับ และเต่งตึง พร้อมด้วยสุขภาพที่ดี
สาวๆ หลายคนหันไปพึ่งมีดหมอเพราะอยากมีหน้าอกที่ดูสวย แต่จริงๆ แล้ว คุณสามารถมีนมที่สวยได้ด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการเล่นโยคะ เว็บไซต์ Bright Side ได้นำเสนอ 7 ท่าโยคะง่ายๆ ที่จะทำให้หน้าอกของสาวๆ ดูสวย ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกแข็งแรงและมีสุขภาพดีอีกด้วย 1. Warrior Pose Virabhadrasana หรือ Warrior ไม่ใช่แค่ทำให้รู้สึกแข็งแรง แต่ยังช่วยขยายหน้าอก ทั้งยังทำให้นมเด้งและเต่งตึง ขั้นตอนการทำท่านี้ก็ง่ายๆ 4 สเต็ป ดังนี้ 1. ยืนแยกเท้าออก โดยวางตำแหน่งเท้าทั้งสองข้างให้ขนานกับลำตัว 2. ก้าวเท้าซ้ายไปทางซ้าย 90 องศา ส่วนเท้าขวาให้อยู่ด้านใน หายใจเข้าลึกๆ แล้วงอเท้าซ้ายของคุณ 3. ให้เท้าขวาอยู่ในท่าเดิม คือชี้ตรงไป ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นให้ขนานกับไหล่ หันศีรษะไปทางซ้ายแล้วมองไปที่ข้อมือตัวเอง 4. ทำซ้ำท่าเดิม 7-10 ครั้ง แล้วย้ายไปทำข้างขวาด้วยท่าเดียวกัน 2. Triangle Trikonasana หรือ Triangle จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย เสริมสร้างทรวงอกให้กระชับ ยืดกระดูกสันหลัง และปรับระบบการไหลเวียนโลหิต…
-
19 ภาพที่อาจดูไม่มีอะไร แต่มันทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด สะกิดสายตา งึกๆ งักๆ แปลกๆ
เคยเป็นมั้ย หงุดหงิดเวลาเห็นอะไรที่มันขัดหู ขัดตา จริงๆ ไม่ได้ผิดอะไรหรอก แต่มันไม่ใช่อ่ากิ๊บ มันไม่ใช่ ยิ่งหากคุณเป็นคนเจ้าระเบียบละก็ ภาพต่อไปนี้จะทำให้คุณรู้สึกรำคาญใจเป็นเป็นพิเศษ 1. ไม่สิ แซนวิซไม่ต้องไม่จัดแบบนี้ 2. ใครเค้าบอกให้ตัดเค้กแบบนี้ มันต้องสามเหลี่ยมสิถึงจะถูก 3. ของแต่ละชิ้นมันมีวิธีการเปิดอยู่ ไม่ใช่นึกอยากแกะยังไงก็แกะ เห้อ 4. แล้วจะผ่าครึ่งแผ่นพิชซ่าทำไมเล่า วู้ว 5. ไม่รู้ว่าพลาดหรือตั้งใจ แต่เห็นเลขมันกลับหัวแบบนี้แล้วหงุดหงิดอะ 6. โอ้วแม่เจ้า เอาตัวอย่างไว้หน้า Desktop คิดหรอว่ามันจะหาง่ายขึ้น เหอะๆ 7. มันก็ติดแค่นิดเดียวแหละ แต่ไม่ติดเลยจะดีกว่านะ 8. วาฟเฟิลบลูเบอรี่ เกือบสมบูรณ์แบบแล้ว ดันโผล่มาให้เห็นจุดหนึ่งซะงั้น 9. ตอนติดตั้งนี่เมาหรืออะไร ทำไมต้องทำให้มันโดดออกมาอันหนึ่งด้วย 10. เราควรจะทำยังไงกับกระจกแบบนี้ 11. ขวดที่มีน้ำเหลือแค่ติ่ง…
-
เจ้าอ้วน!! แมวสถานรับเลี้ยงหนักถึง 11 กิโล ได้บ้านใหม่ พร้อมเจ้าของที่รักมันตั้งแต่แรกเห็น
แมวเนี่ยยิ่งอ้วนยิ่งน่ารักนะเออ ยิ่งถ้ามันสุขภาพดีด้วยแล้ว อื้อหือ ใครได้เลี้ยงแมวแบบนี้คงฟินตายเลย ดูอย่างเจ้า Faye เนี่ยสิ เป็นแมวอ้วนน่ากอดรัดฟัดเหวี่ยงสุดๆ Faye ได้รับการช่วยเหลือโดยศูนย์พักพิง Jacksonville Humane Society ของฟลอริด้า หลังจากที่เจ้าของเดิมของมันไม่สามารถดูแลมันได้อีกต่อไป แต่ดูจากรูปร่างของเจ้าเหมียวแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนอาหารเลย ทำไมนะหรอ ก็หุ่นของมันเนี่ยสิ ช่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ซะเหลือเกิน ตอนที่เข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิง Faye ชั่งน้ำหนักได้ 11 กิโลกรัม ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในแมวที่น่าสนใจมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โฆษกของศูนย์พักพิงบอกว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเรามีแมวที่อ้วนที่สุด น้ำอยู่ที่ประมาณ 8-9 กิโลกรัม แต่เมื่อ Faye เข้ามา มันทำให้ตัวอื่นๆ ดูเล็กไปเลย” Faye ไม่ใช่แค่อ้วน แต่มันยังเป็นแมวที่น่ารักน่ากอดมากๆ ด้วย แต่ใครคิดจะอุ้มมันละก็ต้องแน่ใจว่าคุณมีกำลังพอนะ เพราะเจ้าเหมียวตัวนี้ค่อนข้างหนักมาก เมื่อได้กอดได้ชื่มชมเจ้าแมวอ้วนพอหอมปากหอมคอแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ประกาศหาบ้านใหม่ให้มันผ่านเพจเฟซบุ๊ก Jacksonville Humane Society แล้วปรากฏว่าไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็มีคนจำนวนมากติดต่อเข้ามาเพื่อขอรับมันไปเลี้ยง แต่มีเพียงครอบครัวที่ดูจะพยายามมากเป็นพิเศษ เพราะหลังจากประกาศไปเพียง 2 ชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงศูนย์พักพิง แล้วบอกว่าพวกเขารู้สึกผูกพันกับเจ้าเหมียวตัวนี้อย่างบอกไม่ถูก …
-
สังคมไทยแห่งการล่าแม่มด พร้อมจะรุมด่าคนที่ตนเชื่อว่า “ผิด” ได้ แม้จะยังไม่รู้ความจริง…
“ที่ใดมีดราม่า ที่นั่นมีขาเผือก” นี่คงจะเป็นวลีที่เหมาะกับสังคมไทย ณ ขนาดนี้ และไม่ใช่เผือกธรรมดา ทั้งจิกกัด ด่าทอ สาปแช่งสารพัดอย่าง แม้ว่าจะยังไม่รู้ความจริงก็ตาม แต่ขอได้ด่าไว้ก่อน วันสองวันนี้… ขาเผือกแทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว เมื่อมีดราม่าของนางเอกสาวชื่อดังกับสามี ที่ว่ากันว่าขาเตียงหัก โดยมีพิธีกรสาวนางหนึ่งเป็นมือที่สาม คือเรื่องของเรื่องเนี่ย มันเกิดจากดาราสาวออกมาให้สัมภาษณ์ว่าได้แยกกันอยู่กับสามี แต่ยังคงสถานะสามี-ภรรยากันเหมือนเดิม งานนี้คิดหรอว่าขาเผือกจะเชื่อ เลยนำไปสู่การขุดคุ้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จนกระทั่งไปเจอรูปภาพในไอจีของพิธีกรสาวคนหนึ่ง ที่มีภาพสะท้อนผู้ชายบนใบมีด และเมื่อซูมดีๆ ใกล้ๆ ปรากฏว่าผู้ชายคนนั้นหน้าคล้ายสามีของดาราสาวที่เพิ่งให้สัมภาษณ์ไป ก็เลยทำให้เกิดกระแสลั่นโลกออนไลน์ขึ้นมาเลยทีเดียว พอเจอภาพนี้ปุ๊บ จะใช่สามีดาราสาวหรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่ชาวเน็ตตีความไปแล้วว่าต้องใช่แน่นอน จากนั้นก็มีการขุดคุ้ยต่อไปว่าระหว่างสามีดารากับพิธีคนนี้เคยเจอกันที่ไหน และแล้วก็ไปเจอคลิปเก่าที่พิธีกรสาวเคยสัมภาษณ์สามีดารา แล้วก็พากันโยงใยว่าทั้งคู่อาจจะมีการติดต่อกันตั้งแต่นั้นมา แค่นี้ยังไม่พอ ขาเผือกยังไปขุดรูปเก่าในไอจีของทั้งสามีดาราและพิธีกรสาวที่มีบางรูปเหมือนจะอยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน เพื่อยืนยันความทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างลับๆ จริง เท่านั้นแหละ ไอจีของพิธีกรสาวก็ถูกขาเผือก ชาวเน็ต แฟนคลับของดาราสาวรุมด่ากันรัวๆ บางคนด่าเหมือนรู้ดีทุกอย่าง เหมือนอยู่ในเหตุการณ์เองยังไงอย่างนั้นแหละ ยังไม่พอค่ะ ยังมีการด่าฝ่ายชายด้วย ประมาณว่ามีภรรยาที่ดีเลิศเลอขนาดนี้ ทำไมยังทำร้ายเธอได้ลง โอ้ย!! ดูเหมือนเรื่องจะบานปลายไม่มีที่สุด…
-
20 การทำอาหารสุดเฟล แหม่… ครั้งแรกมันก็ต้องพลาดกันบ้าง ก็เลยฮาจังซี่หล่ะ!!
สำหรับคนที่ชอบทำอาหาร ไม่ว่าจะเมนูไหนก็ดูจะง่ายไปหมด แต่คนที่ไม่ชินกับการทำอาหารเนี่ยสิ พังตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าครัวเลย พังครั้งแรกยังพอเข้าใจ แต่ถ้าครั้งที่สอง ที่สามยังเละเหมือนเดิม ควรจะพิจารณาด้วยเองได้แล้วว่าเราคงไม่เหมาะกับสายนี้จริงๆ เหมือนกับคนเหล่านี้ 1. ตั้งใจจะอุ่นพิซซ่า แต่ดูเหมือนเจ้าเครื่องเตาอบนี่ไม่เป็นใจเอาซะเลย 2. เห็นเค้าทำแล้วน่ารัก เลยทำดูบ้าง… เอิ่ม คงจำสูตรผิดละมั้ง 3. แน่ใจนะว่ามันคือพิซซ่า 4. ทำคุกกี้แต่ลืมเพิ่มแป้ง และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น 5. เค้กไหลเป็นลาวาเลย 6. นี่นะเหรอ นักเก็ตไก่ แต่อบนานไปหน่อย 7. ขนมเมอแร็งก์ มันไปพลาดที่ตรงไหนกันนะ 8. คราวหลังไม่ต้องศิลปะมากนะ ขอให้กินได้ก็พอ 9. เชื่อว่าหลายคนเคยพลาดในจุดนี้ เอาไข่เข้าไมโครเวฟ 10. ใครจะคิดว่ามาการองมันจะทำยากขนาดนี้ 11. เกือบดีละ ถ้าไม่ใส่ตัวหนังสือมานะ คนบ้าที่ไหนกินกางเกง 12.…
-
13 ภาพถ่ายที่ชนะสาขาต่างๆ จากการประกวดถ่ายภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก จาก 150 ประเทศ
ในเดือนกันยายนนี้ที่กรุงเบอร์ลิน EyeEm ชุมชนการถ่ายภาพและวิดีโอที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ได้ประกาศผลภาพถ่ายที่ชนะการประกวดครั้งที่ 4 ในสาขาต่างๆ การประกวดครั้งนี้ได้มีภาพส่งเข้ามายัง EyeEm Photography Festival กว่า 590,000 ภาพ จากช่างภาพ 88,000 คน ใน 150 ประเทศ จนทำให้ EyeEm กลายเป็นเวทีประกวดภาพถ่ายที่ใหญ่ที่สุดของโลก และด้านล่างนี้คือภาพที่ชนะในสาขาต่างๆ 1. ผลงานชนะเลิศสาขา Portraitist โดย Adeolu Osibodu ประเทศไนจีเรีย . 2. ผลงานชนะเลิศสาขา Street Photographer โดย Julie Hrudova ประเทศเนเธอร์แลนด์ . 3. ผลงานชนะเลิศสาขา Community Vote โดย Robert Torrontegui ประเทศฟิลิปปินส์ . 4. ผลงานชนะเลิศสาขา Architect โดย Denise Kwong ประเทศออสเตรเลีย . 5. ผลงานชนะเลิศสาขา Great…
-
นักศึกษาเอาลูกแฝดมาเรียนด้วย อาจารย์จึงช่วยอุ้มพร้อมสอนไปด้วย จนหมดคาบเรียน
ครูบาอาจารย์คือแม่พิมพ์ของชาติที่คอยอบรม สั่งสอน และมอบความรู้ให้กับนักเรียน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ครูบางคนได้ให้นักเรียนมากกว่าการเป็นครู จนเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สองเลยก็ว่าได้ เหมือนกับ Jose Luis Canote อาจารย์จากมหาวิทยาลัย Universidad del Norte Santo Tomas de Aquino ประเทศอาร์เจนตินา ได้รับการชื่นชม หลังช่วยนักศึกคนหนึ่งปลอบลูกน้อย Mariana Nunez นักศึกษาที่มีความจำเป็นต้องเอาลูกแฝด Peace และ Thomas มาเข้าห้องเรียนด้วย เนื่องจากไม่มีคนช่วยเลี้ยงและเธอก็ไม่อยากขาดเรียน แต่แล้วระหว่างที่นั่งเรียนอยู่ดีๆ Peace ก็ร้องไห้ออกมา แม่พยายามปลอบลูกแต่ก็ไม่สำเร็จ ผู้ช่วยอาจารย์เลยอุ้มน้องออกไปปลอบนอกห้อง แฝดคนแรกยังไม่ทันหยุดร้อง Thomas ก็ร้องไห้ตามอีก จังหวะนั้น อาจารย์ Luis Canote จึงเดินเข้ามาหาเด็กน้อย แล้วอุ้มเขาขึ้นมา โดยที่ผู้เป็นแม่ก็อนุญาต อาจารย์ไม่ได้พาเด็กไปปลอบข้างนอก แต่เขาอุ้มเด็กไปด้วย สอนไปด้วยในเวลาเดียว ตอนนั้นเขากำลังบรรยายเรื่อง “การสื่อสารในองค์กร” ที่เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการสื่อสารทางสังคม โมเม้นต์ที่อาจารย์สอนพร้อมอุ้มเด็กน้อย สร้างความประทับใจให้กับนักศึกษาในห้องนั้นเป็นอย่างมาก จนพวกเขาได้ถ่ายรูปเอาไว้ ก่อนจะโพสต์ลงในโซเชียล สื่อไม่ได้ว่าเขาอุ้มเด็กไว้นานแค่ไหน แต่อาจารย์บอกว่าเขาได้อุ้มเด็กน้อยจนกระทั่งสอนเสร็จ ซึ่งก็น่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงได้ …
-
ไอเดียรอยสักมาแรง “เพ้นท์เท้าหมา” ให้เพื่อนสัตว์เลี้ยงแสนรัก สร้างศิลปะบนตัวคุณ
หากคุณเป็นคนที่เลี้ยงสุนัข คงจะเข้าใจดีว่าน้องหมานั้นมีความสำคัญกับเรามากแค่ไหน มันไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่มันเปรียบเสมือนคนในครอบครัว เพราะแบบนี้เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายๆ คนก็เลยสักรอยเท้าน้องหมาไว้ตามร่างกาย เพื่อเป็นการบอกว่าสุนัขมีความสำคัญกับพวกเขามากแค่ไหน จนกลายเป็นไอเดียรอยสักที่มาแรงในตอนนี้ . รอยสักที่ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ . . . รอยสักที่ทำให้รู้สึกเหมือนมีน้องหมาอยู่ด้วยในทุกที่ แม้น้องหมาต้องจากไปในสักวันหนึ่ง แต่รอยเท้าของมันจะอยู่กับคุณตลอดไป สำหรับบางคนแล้ว หมาเป็นมากว่าแค่สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง พวกมันคือเพื่อน คือครอบครัว คือสิ่งสำคัญในชีวิตที่ไม่อาจขาดได้ . . อุ้งเท้าน่ารักๆ ของน้องหมา . . . . นี่คงจะเป็นรอยสักที่งดงามและมีความหมายที่สุด . ให้รู้ไปเลยว่าเรารักสุนัขแค่ไหน . . . . . ให้รอยสักเป็นทั้งศิลปะและสิ่งมีค่าในเวลาเดียวกัน . . . . .…
-
18 ภาพยืนยันว่า “เด็กๆ” คือตัวป่วนที่สุดในงานวิวาห์ ทำให้เกิดเรื่องฮาๆ ได้ทุกที่
เวลามีงานแต่ง หลายๆ คู่มักจะให้เด็กๆ มาทำหน้าที่ถือแหวนให้บ้าง โปรยดอกไม้บ้าง หรือบางคนก็มาในฐานะแขก ซึ่งดูแล้วช่างเป็นภาพที่น่ารักซะจริงๆ ถ้า… เด็กๆ ให้ความร่วมมือนะ แต่ก็นั่นแหละ เด็กก็คือเด็ก ตอนที่ทำการซักซ้อม หรือก่อนงานแต่ง พวกเขาอาจจะรู้สึกตื่นเต้น แต่พอวันงานจริงๆ เด็กบางคนอาจจะรู้สึกเบื่อ รำคาญ หงุดหงิด ที่ฮาคือ บางคนเห็นเป็นสนามเด็กเล่นซะงั้น ความวุ่ยวายก็บังเกิดสิงานนี้ 1. ทำหน้าที่โปรยดอกไม้ คงจะเหนื่อยมากเลยสินะหนู 2. เด็กโปรยดอกไม้ที่แย่งซีนคู่บ่าวสาวได้แบบขาดลอย 3. งานแต่งมันช่างน่าเบื่ออะไรเบอร์นี้ 4. เห็นอะไรสุ่มๆ เป็นไม่ได้ ต้องพุ่งเข้าใส่ 5. นี่คงใส่กางเกงในตัวใหม่มาสินะ 6. ให้สีหน้าบอกความรู้สึกละกัน 7. หลังจากเหนื่อยกับการร่วมงานแต่งมาทั้งวัน 8. โธ่วหนู เก็บอาการหน่อยก็ได้ 9. นี่หนูคงโดนบังคับให้มางานแต่งสินะ 10.…
-
แมวถูกช่วยเหลือมา แล้วก็ถูกเปลี่ยนให้เป็น “เทเลอร์ สวิฟท์” เอาซะสวยมุ้งมิ้งเชียว
แมวเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ แต่พลังความน่ารักของมันนั้นล้นเหลือมาก เหมือนกับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นเทเลอร์ สวิฟท์ เพิ่มดีกรีความน่ารักให้มากขึ้นไปอีก นี่คือ Jessica สัตวแพทย์จากพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน เธอให้การดูแลลูกแมวน้อยๆ จำนวนหนึ่ง ซึ่งแต่ละตัวนั้นน่ารักมากๆ เลยล่ะ นอกจากนี้ Jessica แฟนคลับตัวยงของเทเลอร์ สวิฟท์ด้วย และเมื่อเธอได้ดูวิดีโอเพลง Look What You Made Me Do หญิงสาวก็ปิ๊งไอเดียบางอย่างขึ้นมา เธอตัดสินใจตัดชุดให้มิ้วน้อย Luna เหมือนกับชุดของเทเลอร์ แล้วดูสิ มุ้งมิ้งเชียว ประหนึ่งว่าเป็นชุดคู่ ไม่เหมือนตรงไหน เอาปากกามาวงสิ๊ ส่วนนี่คือ Dobby มันก็มีชุดเหมือนเทเลอร์เหมือนกัน Pinto กับชุดที่เหมือนเทเลอร์ในเพลง Shake It Off น้องแมว Fava กับการโคเวอร์ชุดที่เทเลอร์ใส่ขึ้นรับรางวัล ชุดสำหรับงานฮาโลวีน แหม่ แต่งซะจนน้องเหมียวคิดว่าตัวเองเป็นเทเลอร์ซะเอง มันก็น่ารักๆ หน่อยอะนะ ที่มา buzzfeed
-
นักวิจัยเผย “ทำไมคนนับถือศาสนาถึงยึดติดอยู่กับความเชื่อ ทั้งที่ขัดแย้งกับความจริง?”
ศาสนาเป็นเรื่องของความศรัทธา เมื่อเราเชื่อสิ่งใด เราก็จะปฏิบัติตามวิถีของความเชื่อนั้นๆ ที่สำคัญคือความเชื่อเป็นสิ่งที่เปลี่ยนได้ยากที่สุด แม้จะมีเหตุผลหรือข้อพิสูจน์มาหักล้างก็ตาม สอดคล้องกับการศึกษาล่าสุดที่พบว่า คนที่นับถือศาสนาจะ “ยึดมั่น” กับความเชื่อบางอย่างที่มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับมุมมองทางศีลธรรมของพวกเขา นักวิจัยกล่าวว่า “บุคคลที่ดันทุรังยืดมั่นในความศรัทธาของตัวเองแม้สิ่งนั้นจะขัดแย้งกับหลักความเป็นจริงก็ตาม นั่นเป็นเพราะความเชื่อเหล่านั้นสื่ออารมณ์ ความรู้สึก” ในทางตรงข้าม นักวิทยาศาตร์พบว่า คนที่พยายามต่อสู้หรือเชื่อว่าพระเจ้าไม่มีอยู่จะมีมุมมองด้านบวกเกี่ยวกับศาสนา เพราะสมองของพวกเขาถูกครอบงำโดยการคิดวิเคราะห์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Case Western Reserve University ในโอไฮโอ ได้สัมภาษณ์คนที่นับถือศาสนากับคนไม่มีศาสนา จำนวน 900 คน ซึ่งทั้งสองกลุ่มต่างถือความคิดตัวเองเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ทั้งนี้ในทั้งสองกลุ่มนี้ คนที่มีทักษะในการให้เหตุผล จะเป็นคนที่มีความเชื่อน้อยกว่า แต่พวกเขาจะแตกต่างกันในเรื่องความกังวลทางศีลธรรมมีอิทธิพลต่อความคิดของพวกเขา Anthony Jack รองศาสตราจารย์ด้านปรัชญาและผู้ร่วมวิจัย กล่าวว่า “อารมณ์ความรู้สึกจะช่วยให้คนที่นับถือศาสนามีความมั่นใจมากขึ้น เห็นความถูกต้องทางศีลธรรมในบางอย่างมากขึ้น และช่วยยืนยันความคิดของพวกเขามากขึ้นด้วย” “ในทางตรงข้าม ความกังวลทางศีลธรรมจะทำให้คนที่ไม่นับถือศาสนารู้สึกไม่มั่นใจ” Anthony กล่าว ในขณะที่ Jared Friedman นักศึกษาปริญญาเอกและผู้ร่วมวิจัย กล่าวว่า “มันแสดงให้เห็นคนที่นับถือศาสนาจะยืดติดอยู่กับความเชื่อบางอย่าง โดยเฉพาะสิ่งที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกับเหตุผลเชิงวิเคราะห์ นั่นเป็นเพราะความเชื่อเหล่านั้นสอดคล้องกับความรู้สึกทางศีลธรรมของพวกเขา” …
-
ช่างภาพถึงกับทึ่ง เมื่อฝูงสิงโตกว่า 20 ตัว เรียงหน้ากระดาน ก่อนจะดื่มน้ำไปพร้อมๆ กัน
ธรรมชาตินั้นยังมีหลายอย่างให้เราได้แปลกใจ โดยเฉพาะวิถีของสัตว์ป่าที่มักจะเซอร์ไพรส์เราเสมอ แต่น้อยคนที่จะเห็นกับตัวเอง เหมือนกับสิงโตเหล่านี้ ที่ไม่รู้ว่าเป็นกฏหมู่ของพวกมันหรืออะไร แต่พวกมันเรียงหน้ากันเป็นหน้ากระดาน ก่อนจะดื่มน้ำไปพร้อมๆ กัน ภาพหายากนี้ถ่ายโดยช่างภาพ Bernhard Bekker วัย 40 ปี เขาเล่าว่า “เราเจอสิงโตพวกนี้ในเย็นวันหนึ่ง พวกมันนั่งเล่นอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำ แล้วดูท่าว่าพวกมันคงไม่มีแพลนที่จะไปที่ไหน ดังนั้นเราเลยนั่งดูมันสักพักก่อนจะกลับไปที่แคมป์” เช้าวันรุ่งขึ้น Bekker ได้กลับไปที่เดิมอีกครั้ง เพื่อดูว่าพวกมันกำลังทำอะไร แต่น่าเสียดายฝูงสิงโตได้ไปจากที่นั่นเสียแล้ว ช่างภาพพร้อมเพื่อนที่มาด้วยจึงตัดสินใจที่จะขับรถสำรวจตามแม่น้ำ เพื่อที่จะดูสัตว์ป่าอื่นๆ ประมาณหนึ่งชัวโมงหลังจากนั้นพวกเขาก็กลับไปยังค่าย เหมือนโชคจะเข้าข้าง เพราะหว่างที่เดินทางกลับไปนั้น พวกเขาก็เห็นฝูงสิงโตอยู่ที่ริมแม่น้ำ แล้วก็ได้เห็นโมเม้นอันน่าทึ่งในตอนนั้น Bekker บอกว่า “ตอนแรกมีสิงโตเพียงตัวเดียวที่ลงไปดื่มน้ำ ก่อนจะมีตัวอื่นๆ ตามมาทีละตัวๆ ปิดท้ายด้วยลูกสิงโตตัวน้อย รวมแล้ว 20 ตัว จากนั้นพวกมันก็ดื่มน้ำไปพร้อมๆ กัน” Bernhard Bekker ช่างภาพวัย 40 ปี ผู้บันทึกภาพสิงโตดื่มน้ำพร้อมกัน เขายังบอกอีกว่าตั้งแต่เป็นช่างมา 18 ปี…
-
คุณพ่อนำรถเข็นเด็กมาวิ่งมาราธอนด้วย เพื่อเป็นการรำลึกถึงลูกชายที่เสียชีวิตตั้งแต่เกิด
พ่อแม่ทุกคนต่างดีใจและตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าจะมีลูก พวกเขาจึงเตรียมทุกอย่างเอาไว้ รอวันที่ลูกลืมตาดูโลก รวมทั้งคาดหวังที่จะเห็นลูกเติบโตขึ้น น่าเศร้าสำหรับพ่อแม่คู่นี้ที่เฝ้ารอคอยลูกเหมือนคนอื่นๆ แต่เมื่อถึงวันที่พวกเขาควรจะดีใจที่สุด กลับกลายเป็นวันที่เสียใจที่สุด เพราะลูกน้อยได้จากไปทั้งที่ยังไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก เมื่อปี 2016 Troy Austin และภรรยา Kelly ได้ไปอัลตราซาวนด์ลูกในครรภ์ ขณะที่ท้องได้ 27 สัปดาห์ และก่อนจะถึงวันกำหนดคลอด ทั้งคู่ตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นหน้าลูกชายตัวน้อย แต่แล้วความรู้สึกของพ่อแม่ก็พังสลาย เมื่อลูกชายเกิดมาแล้วไม่หายใจ พวกเขาจึงได้ส่งลูกชาย T.G ขึ้นสวรรค์ในไม่กี่วันต่อมา แม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นการเติบโตของลูก แต่ครอบครัว Austins ก็ยังตั้งใจที่จะทำบางอย่างเพื่อเตือนให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาการคลอดบุตร รวมทั้งช่วยเหลือครอบครัวอื่นที่เจอสถานการณ์เช่นเดียวกันนี้ โดยผ่านองค์กรการกุศล เพื่อเป็นการระลึกถึง T.G ในเดือนสิงหาคม Troy ได้เข้าร่วมการวิ่งมาราธอน Sunshine Coast Marathon พร้อมกับรถเข็นที่ว่างเปล่าของลูกน้อย เขาได้เล่าประสบการณ์เหล่านี้ผ่านเฟซบุ๊กว่า “ขณะที่ผมยืนอยู่บนหลังเส้นสตาร์ทพร้อมรถเข็นที่ว่างเปล่า มีคำพูดหนึ่งดังขึ้นมา ‘แด่เพื่อนที่สูญเสียเสียลูก’ นั่นเป็นวลีที่สะกิดใจของผมมาก ก่อนที่คนพูดจะเดินเข้ามากอดผม” นาทีนั้นเขาได้ยิ้มออกมาด้วยความตื้นตันใจ เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาคาดหวัง และเขาก็ได้รับมันเกือบตลอดทั้งวันจากคนที่มาร่วมวิ่งมาราธอนในครั้งนี้ “ตอนนี้ถ้า T.G ยังอยู่ เขาจะมีอายุ 1 ขวบครึ่ง และนั่งอยู่ในรถเข็นคันนี้…
-
30 ภาพสุดฟินของคนที่อยู่กับสัตว์เลี้ยงมากกว่า 3 ตัว ได้เสพความน่ารักเข้าไปไม่มีสิ้นสุด
หลายคนอาจจะคิดว่าการมีสัตว์เลี้ยงยิ่งมาก ภาระก็ยิ่งมากตามด้วย มันก็จริงนนะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า ยิ่งมีสัตว์เลี้ยงมากเท่าไหร่ เรายิ่งจะได้เสพความน่ารักจากพวกมันมากเท่านั้น และภาพต่อนี้ไปนี้จะช่วยยืนยันว่าหากคุณมีสัตว์เลี้ยงมากกว่า 3 ตัว มันจะให้ความรู้สึกฟินขนาดไหน 1. นี่คือภาพที่คุณจะเห็นเมื่อเลี้ยงแมว 12 ตัว 2. เจ้าหมาบ๊อบกับเพื่อนๆ นกทั้ง 8 ตัว พร้อมด้วยเจ้าหนูแฮมสเตอร์อีกหนึ่งตัว 3. เมื่อคุณรับน้องหมาเข้ามาอยู่ท่ามกลางเหล่าแมวเหมียว 4. ชายผู้มีความสุขกับการอยู่กับสัตว์มากหน้าหลายตา 5. คู่รักถึงกับต้องขยายเตียง เพื่อให้แมว 5 ตัว กับหมา 2 ตัวมานอนด้วย 6. เมื่อแมวต้องมาร่วมกับเจ้าหมาถึง 3 ตัว 7. เมื่อปล่อยสัตว์เลี้ยงให้อยู่กับลูกน้อย 8. นี่คือภาพที่เจ้าของเห็นทุกคืนก่อนนอน 9. เมื่อคุณไม่ยอมตื่น ทั้งๆ ที่ถึงเวลาอาหารเช้าของพวกเหมียวแล้ว 10.…
-
ผลสำรวจทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่าเฉลี่ยแล้วผู้หญิงและผู้ชาย มี “คู่เซ็กส์” กี่คนตลอดชีวิต…
สมัยนี้การมีเซ็กส์ถือเป็นเรื่องเปิดกว้างอย่างเสรี ไม่ต้องรอหลังแต่งงานก็มีได้ บางคนไม่ได้เป็นอะไรกันยังมีเซ็กส์กันเลย ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าบางคนจะมีคู่เซ็กส์หลายคน เมื่อเป็นแบบนี้ จึงกลายเป็นความสงสัยเล็กๆ ว่า ตลอดชีวิตนี้ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีคู่เซ็กส์กี่คนกันแน่? การศึกษาที่ดำเนินการโดย SuperDrug ได้ทำการสำรวจจากผู้คนมากกว่า 2,000 คน ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศของพวกเขา และพบว่าจำนวนคู่เซ็กส์โดยเฉลี่ยตลอดทั้งชีวิต มีน้อยกว่าที่เราคิดซะอีก ตามที่มีการสำรวจไปพบว่า ผู้หญิงมีจำนวนคู่เซ็กส์ตลอดชีวิตโดยเฉลี่ย 7 คน ในขณะที่ผู้ชายเฉลี่ยประมาณ 6 คน เท่านั้น แน่นอนว่าหลายคนคิดว่านี่เป็นตัวเลขที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับการมีชีวิตที่ยาวนาน แต่นี่เป็นจำนวนโดยเฉลี่ยในความคิดของคนในสหรัฐฯ ผู้เข้าร่วมการสำรวจในสหรัฐฯ เห็นว่า “7 คน” คือจำนวนที่มากที่สุดและเหมาะสมที่สุดเท่าที่คนคนหนึ่งจะมีเซ็กส์ได้ในชีวิตนี้ อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาหนึ่งที่ทำขึ้นเองได้ออกมาแย้งว่า ตัวเลขดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง… จากการสำรวจ ผู้หญิง 67.4% และผู้ชาย 58.6% ได้เผยความจริง 100% เกี่ยวกับจำนวนเซ็กส์ของพวกเขาตลอดทั้งชีวิต พวกเขาบอกว่าไม่เคยมีการวิจัยไหนเลยที่กำหนดคู่เซ็กส์ว่าควรมีกี่คน เนื่องจากข้อจำกัดนี้ไม่เคยได้รับการยอม และเพราะว่าทุกคนมีค่านิยมทางที่ต่างกัน ดังนั้นข้อกำหนดทางเพศจึงแตกต่างกันไปด้วย ที่สำคัญมันอาจเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าการสำรวจข้างต้นด้วยซ้ำ ทั้งนี้อย่าลืมว่าธรรมชาติของมนุษย์นั้นมีการแข่งขันและต้องการรู้ว่าจะอยู่เหนือคนอื่นได้อย่างไร นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีการศึกษาในเรื่องนี้กันจำนวนมาก แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องการรู้คู่เซ็กส์เฉลี่ยของมนุษย์ …
-
ชุดภาพถ่าย “แม่ให้กำเนิดลูก” ที่มีคนไลค์นับแสน สะท้อนความเจ็บปวดอันแสนงดงาม
เมื่อเร็วๆ นี้ Jill Krause นักเขียนและคุณแม่ลูกสี่ ได้เห็นภาพด้านล่างนี้ที่ถ่ายโดย Katie Lacer ซึ่งเป็นภาพช่วงเวลาแห่งการคลอด ที่แม้จะเจ็บปวดแต่ก็งดงามเกินบรรยาย ในภาพดังกล่าวนี้มีคำบรรยายว่า “ฉันไม่มีวันลืมใบหน้าของพยาบาลที่เดิมตามฉันเข้าในห้องน้ำหลังจากคลอดลูก มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกอ่อนแอ เหนื่อย กลัว แล้วก็สั่นไปทั้งตัว” “พยาบาลเหล่านี้ปฏิบัติกับฉันดีมาก พวกเขาอ่อนโยน สุภาพ และให้เกียรติฉัน ที่สำคัญพวกเขายังคอยช่วยฉันในทุกๆ ขั้นตอน ทั้งหมดนี้ทำให้ฉันมีรู้สึกดีขึ้นมากเลย” “ภาพนี้ถ่ายโดยเพื่อนของฉัน MommaKT Shoots โดยถ่ายจากด้านนอกของห้องน้ำ ขณะที่พยาบาลช่วยใส่แผ่นรองระบายความร้อนให้ โดยไม่ถือตัวเลย” Krause ได้นำภาพดังเหล่าโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก จนทำห้มีการแชร์ต่ออีกกว่า 24,000 ครั้ง ในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากนั้นก็มีแม่ๆ อีกหลายคนเริ่มแบ่งปันประสบการณ์การคลอดของตัวเอง รวมทั้งพูดถึงพยาบาลที่ค่อยให้การช่วยเหลือ Leigh Kathleen เล่าว่า “ฉันไม่มีวันลืมใบหน้าของพยาบาลที่ช่วยทำคลอดให้ฉันเช่นกัน พวกเขาคอยเช็ดน้ำตา คอยปัดเหงื่อให้ฉัน” Tiffany Barnes บอกว่า “ตอนที่ฉันคลอดลูกสาวในห้องน้ำ มีพยาบาลที่ใจดีคอยช่วยเหลือฉัน ฉันตกจนทำอะไรไม่ถูก แต่พวกเขาคอยอยู่เคียงข้างแล้วทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้น” “ที่ฉันไม่เคยลืมเลยคือ…
-
17 ภาพสุดซึ้งจากชาวเม็กซิโก แม้ประสบภัยแผ่นดินไหว แต่ก็ยังจับมือกันอย่างเข้มแข็ง
ในโลกนี้คงไม่มีอะไรมาทำร้ายมนุษย์ได้ นอกจากมนุษย์จะทำร้ายกันเอง แม้แต่ภัยธรรมชาติที่รุนแรงก็ไม่อาจทำอะไรมนุษย์ได้ ตราบเท่าที่มนุษย์ยังคงจับมือฝ่าฟันมันไปด้วยกัน และนี่คือภาพความประทับใจจากชาวเม็กซิโก ที่ทำให้เห็นว่าแม้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังจับมือกันอย่างเข้มแข็ง 1. หน่วยกู้ชีพและประชาชนช่วยกันหาคนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังของอาคาร หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริกเตอร์ ในเม็กซิโก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา 2. ผู้คนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บท่ามกลางซากปรักหักพังของอาคารที่พังลงมา 3. หน่วยกู้ภัย นักดับเพลิง ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร ช่วยกันเอาซากปรักหักพังออกจากอาคาร 4. หน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครช่วยกันขุดเศษซากออกจากอาคาร 5. ผู้คนช่วยกันเอาเศษซากออกจากอาคาร 6. เจ้าหน้าที่และประชาชนช่วยกันเอาเศษซากออก เพื่อตามหาคนที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง 7. เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยสุนัขออกจากซากปรักหักพังระหว่างการค้นหาผู้รอดชีวิต 8. ทุกคนทำงานอย่างไม่รู้สึกเหนื่อย เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต 9. หน่วยกู้ภัยชูกำปั้นขึ้น เป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คนเงียบ เพื่อที่จะได้ยินเสียงผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง 10. หญิงสาวชูป้ายขอให้ทุกคนเงียบ เพื่อที่จะฟังเสียผู้รอดชีวิต 11. หน่วยกู้ภัยช่วยผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ที่รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว …
-
รีบไปกันให้ไว!! ญี่ปุ่นจัดกิจกรรม “นั่งชิงช้าสวรรค์กับหนุ่มล่ำ” สาวน้อยสาวใหญ่ก็เข้าร่วมได้
สำหรับผู้หญิง ไม่ว่าจะสาวน้อยสาวใหญ่ หากคุณใฝ่ฝันที่อยากสัมผัสหนุ่มหุ่นล่ำแบบใกล้ชิด แต่ไม่มีโอกาสสักที ตอนนี้โอกาสของคุณมาถึงล้าว เมื่อวันที่ 16-17 กันยายนที่ผ่านมา โตเกียวได้ตั้งคำถามว่า “จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณได้นั่งชิงช้าสวรรค์กับหนุ่มหุ่นล่ำ?” นี่ไม่ใช่การตั้งคำถามลอยๆ เพราะหลังจากไม่นาน คำตอบที่สาวๆ เฝ้ารอก็เกิดขึ้นในงาน Muscle Greeting ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยกลุ่ม ALL OUT กิจกรรมสุดพิเศษนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ภายในงานจะมีหนุ่มๆ หล่อล่ำ พร้อมซิกแพ็คเป็นก้อนๆ คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น และที่พลาดไม่ได้คือ หนุ่มๆ เหล่านี้จะพาคุณขึ้นชิงช้าสวรรค์ที่ตั้งอยู่ใน Palette Town ของ Odaiba ระหว่างเวลา 12.30 น. ไปจนถึง 17.30 น. เมื่อเข้ามาในงานแล้ว สิ่งแรกที่สาวๆ จะได้ทำคือการถ่ายรูปกับหนุ่มล่ำทั้ง 3 คน เพื่อไว้ที่เป็นที่ระลึกหรือใครจะเอาไปอวดเพื่อนๆ ก็ไม่เลวนะ ในการถ่ายรูป คุณสามารถเลือกได้ว่าจะโพสต์ท่าธรรมดา หรือให้หนุ่มๆ อุ้มก็ได้ แต่ #เหมียวขี้ส่อง แนะนำให้จัดเต็มไปเลย ครั้งหนึ่งในชีวิตเอาให้สุดค่ะ …
-
คุณพ่อสานฝันลูกสาวด้วยการสร้างบ้านสองชั้นให้ ที่รวมความต้องการทุกอย่างของลูกเอาไว้
เด็กๆ หลายคนคงมีความใฝ่ฝันที่อยากมีปราสาทหรือสนามเด็กเล่นเป็นของตัวเอง สำหรับเด็กหญิงสองคนนี้คือคนที่โชคดีที่สุด เพราะฝันของพวกเขาเป็นจริงแล้ว เมื่อเดือนสิงหาคม Adam Boyd จากมิชิแกน ได้สร้างบ้านสองชั้นไว้ที่สนามหลังบ้านให้ลูกสาวที่น่ารักของเขาทั้งสองคน เพราะนั่นคือความใฝ่ฝันของลูกๆ Boyd เป็นประธานบริษัทก่อสร้าง ATB Building Inc เขาได้โพสต์ภาพลงในเพจเฟซบุ๊ก ATB Building Inc. พร้มอแคปชั่นว่า “นี่คือบ้านที่ผมสร้างให้ลูก ผมจะทำมันอีกครั้งหากมีครอบครัวอื่นต้องการ” “ผมรับรองได้เลยบ้านน้อยๆ นี้ต้องได้รับความสนใจมากอย่างแน่นอน แล้วก็ต้องขอบคุณลูกสาวตัวน้อยของผมที่ทำให้ภาพเหล่านี้ออกมาสมบูรณ์แบบ” แม้จะเป็นบ้านที่สร้างขึ้นมาให้ลูก แต่พ่อแม่ก็มักจะไปนั่งทำกิจกรรมครอบครัวในบ้านหลังนี้เสมอ เช่นไปเล่นกับๆ ลูก รวมทั้งนั่งทานข้าวด้วย พ่อบอกว่า “มันเป็นอะไรที่คุ้มค่า มันอาจจะต้องลงทุนในระดับหนึ่ง แต่ผมไม่เสียดาย เพราะผมกับภรรยาได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ได้เห็นพวกเขามีความสุขในบ้านของตัวเอง” บ้านของเด็กหญิงทั้งสองสูง 7 เมตร และมีเพดานสูงอีก 2 เมตร โดยมีผนังที่ทำจากหิน สไลด์เดอร์ ชิงช้า และห้องใต้หลังคา สำหรับการตกแต่งภายในนั้น พ่อได้เลือกสีโปรดของลูกทั้งสองคือสีม่วง แต่ Avery ชอบสีม่วงเข้ม ในขณะที่ Violet ชอบสีม่วงอ่อน พ่อก็เลยเอาทั้งสองเฉดสีมารวมกันอย่างลงตัว …
-
23 ภาพแสดง “ด้านมืด” ของสัตว์เลี้ยงของเรา เห็นหมาแมวมุ้งมิ้ง ที่จริงพวกมันร้าย!!
นอกจากสัตว์เลี้ยงจะน่ารัก ขี้อ้อนและขี้เล่นแล้ว พวกมันยังเป็นตลกได้อีกด้วย อาจด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่เราก็อดหัวเราะไม่ได้ เมื่อเห็นพวกมันทำอะไรแปลกๆ เช่นเดียวกับเจ้าหมา เจ้าแมวเหล่านี้ ที่บางทีมันก็ทำอะไรเกินเลยคำว่าฮา จนกลายเป็นความน่ากลัวนิดๆ ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้ว สัตว์พวกนี้มันร้ายนะ 1. ก็สบายใจที่นอนท่านี้อะ ใครจะทำไม 2. นึกว่าแมวถูกผีเข้า เรียกหมอผีแทบไม่ทัน 3. เมื่อน้องหมาเล่นซ่อนหา และนี่คือการซ่อนที่มันคิดว่าเนียนที่สุด 4. เมื่อน้องหมาเลือกไม่ได้ว่าจะนั่งหรือนอน 5. คงจะง่วงมาก จนไม่ทันได้หาที่นอนดีๆ 6. เจ้าหมาทำทาล้อเลียนเจ้าของทุกครั้งหลังออกกำลังกาย 7. ครั้งแรก มันไปติดอยู่แบบนี้เพราะความบังเอิญ แต่ตอนนี้กลายเป็นที่โปรดของมันซะละ 8. น้องแมวผันตัวกลายเป็นของเหลว 9. แน่ใจนะว่านอนท่านี้แล้วโอเค 10. หมาที่มีความเป็นแมวอยู่ในสายเลือด 11. ออกไปแป๊บเดียว ก็ประกาศตามหาละ พวกมนุษย์นี่มันยังไง …
-
18 ภาพสุดเท่ห์จากกองทัพอากาศอเมริกา US Air Force เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี
กองทัพสหรัฐได้มีการจัดซื้อเครื่องบินครั้งแรกเมื่อปี 1909 และได้ก่อตั้งเป็นกองทัพอากาศ US Air Force อย่างเป็นการเมื่อวันที่ 18 กันยายน ปี 1947 ทั้งนี้ทางกองทัพได้จัดงานฉลองครบรอบ 70 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยได้มีการเผยภาพที่แสดงให้เห็นว่านับตั้งแต่ก่อตั้งมา กองทัพได้มีการปรับปรุง พัฒนาความสามารถในด้านต่างๆ จนเรียกได้ว่าแทบไม่มีกองทัพไหนเทียบเท่าได้ และนี่คือภาพส่วนหนึ่งจากกองทัพอากาศอเมริกา US Air Force เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี 1. นักบินอาวุโส Taylor Lancaster หัวหน้าฝูงบินซ่อมบำรุงอากาศยานแห่งที่ 5 กำลังนำเครื่องบิน B-52H Stratofortress ลงจอดบนฐานทัพอากาศ Minot Air Force Base เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2015 2. นักบิน F-22 จากฝูงบินขับไล่ 95th Fighter Squadron กำลังเตรียมเข้าไปนั่งในเครื่องบิน ก่อนที่จะบินออกจากฐานทัพอากาศ Amari Air Base เอสโตเนียเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2015…
-
19 ภาพถ่ายหายากจากอดีต ที่อาจทำให้มุมมองของคุณที่มีต่อประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป
เรื่องราวในอดีตหลายๆ เรื่อง เราอาจจะไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้เห็น แต่วันนี้ทางเว็บไซต์ Brightside ได้นำเสนอภาพที่จะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่อาจทำคุณมองประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป 1. นักเต้นเปลื้องผ้าเปิดประโปรงต่อหน้าศาล นักเต้นจาก Clearwater รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ปกป้องตัวเองหลังจากถูกตำรวจจับเพราะใส่ชุดชั้นในที่เผยให้เห็นของลับ ภาพที่เห็นนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี นักเต้นสาวได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วยการเปิดชุดชั้นในให้ศาลดู เพื่อแสดงให้เห็นว่าชุดชั้นในของเธอมันใหญ่เกินกว่าที่จะเห็นของลับของเธอ 2. เครื่องพ่นน้ำหอมปี 1952 3. ยานพาหนะที่ถูกทิ้งหลังจากอุบัติเหตุนิวเคลียร์ที่เชอร์โนบิล 4. วิกฤติเศรษฐิกิจ ปี 1930 ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ บริษัทแป้งได้เรียนรู้ว่า เหล่าคุณแม่ที่มีฐานะยากจนหลายคนใช้ถุงแป้งทำเสื้อผ้าให้ลูก พวกเขาจึงตัดสินใจขายแป้งที่มีถุงสีแตกต่างกันในสหรัฐในช่วงปี 1930 5. Seryozha Aleshkov วัย 6 ขวบ หนึ่งในเด็กที่กลายเป็นทหารในปี 1942 6. โคอาล่าใช้ช้อนดื่มน้ำ ในออสเตรเลีย ปี 1900 7. เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์และนักโบราณคดีช่วยกันต่อขาไดโนเสาร์ที่ค้นพบในปี 1916 8. นักบินอวกาศ Donald Slayton และ…
-
อยากหนีความวุ่นวาย? แนะนำ “เกาะ Fethaland” เงียบสงบเพราะไม่มีใครอยู่มานาน 80 ปีแล้ว
หลายๆ คนอยากหนีจากความวุ่นวายในสังคมเมืองที่เต็มไปรถรา ตึกสูง และผู้คนมากมาย แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็ยังต้องเจอผู้คนและความวุ่นวายอยู่ดี ขอแนะนำที่นี่เลย Fethaland ที่มีทิวทัศน์อันสวยงาม ปกคลุมไปด้วยความเงียบสงบ เพราะไม่มีใครอยู่มานานเกือบ 80 ปีแล้ว เกาะ Fethaland ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของ เกาะเชตแลนด์ ประเทศสก็อตแลนด์ มีเนื้อที่ 98 เฮกตาร์ โดยครอบครัว David Murray เป็นเจ้าของเกาะนี้มานานกว่า 150 ปี เกาะดังกล่าวถูกประกาศขายในราคา 26 ล้านบาท พร้อมบ้านหลังเล็กๆ 3 หลัง หนึ่งในนั้นมีบ้านครอบครัวที่มี 4 ห้องนอน สำหรับเกาะ Fethaland เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทั้งยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยมีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ที่นี่ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า ที่นี่เคยเป็นศูนย์ประมงเก่าที่ก่อตั้งเมื่อศตวรรษที่ 15 และ 16 จนกลายเป็นแหล่งประมงที่ใหญ่ที่สุดในเชตแลนด์ ก่อนจะถูกทิ้งร้างในปี 1906 David Murray ผู้เป็นเจ้าของบอกว่าพ่อของเขา Douglas Murray เป็นคนสุดท้ายที่เกิดที่นี่…
-
รวม 20 ภาพความป่วน ฮา ใสซื่อ ของเหล่า “เด็กๆ” เห็นแล้วจะรักหรือเกลียดดีเนี๊ยยยย!!
มีหลายเหตุผลที่ทำให้บางคนเกลียดเล็ก แล้วก็มีหลายเหตุผลเช่นกันที่ทำให้คนอีกกลุ่มรักเด็ก แต่จริงๆ แล้วเด็กก็มีทั้งด้านดีและไม่ดีนั่นแหละ บางครั้งเด็กอาจสร้างเรื่องปวดหัว บางครั้งอาจจะก่อกวน บางครั้งอาจทำให้รำคาญ แต่ทั้งหมดนี้คือความไร้เดียงสาที่ครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็น และหากคุณเป็นคนรักจะเห็นว่าไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรก็น่ารักไปซะหมด เวลาไม่พอใจก็จะร้องไห้ฟูมฟาย อึเลอะเทอะแค่ไหน คุณต้องตามเก็บ ตามเช็ด อย่าคาดหวังว่าเด็กจะทำความสะอาดห้อง เด็กจะทำให้คุณนั่งดูรายการเด็กกับพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เล่นตลอดเวลา จนคุณไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปด้วย แต่ด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา ทำให้หลายคนเกลียดเด็กไม่ลง พวกเขาเป็นแค่เด็กน้อยที่น่ารักคนหนึ่ง โลกของเด็กมีแต่ความสุข บางครั้งผู้ใหญ่ยังต้องหาความสุขกับเด็กเลย จะทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด ไม่ใช่แค่น่ารักแต่ตลกด้วย เวลาอยู่กับเด็ก คุณจะยิ้ิมและหัวเราะกว่าตอนไม่มีพวกเขา แม้แต่เวลาที่พวกเขาก่อความวุ่นวายระหว่างที่คุณทำงาน แต่คุณก็ยังหัวเราะได้ เด็กอาจทำเรื่องวุ่ยวายไม่เว้นแต่ละวัน แต่พวกเขาเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อคุณ สำหรับลูกแล้ว พ่อแม่คือคนที่วิเศษที่สุดสำหรับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้พ่อแม่เช่นกัน เด็กชอบเลียนแบบก็จริง แต่พวกเขาจะมีวิธีของตัวเอง เด็กทำให้คุณยอมเสียสละ ยอมเจ็บแทนพวกเขา ทำให้คุณกลายเป็นคนมีใจเมตตามากกว่าตอนที่ไม่มีพวกเขา…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ภาพ ‘คุณพ่อสมัยยังเป็นหนุ่ม’ กับความเก๋าที่คนสมัยนี้เทียบไม่ได้หรอก
พ่อหลายๆ คนมัักจะโม้ให้ลูกฟังถึงชีวิตตอนเป็นหนุ่มๆ ว่าทำอะไรบ้าง เก๋ายังไง บางคนไม่ได้พูดเฉยๆ นะ แต่มีภาพยืนยันด้วย เช่นเดียวกับคุณพ่อเหล่านี้ 1. สมัยพ่อเป็นหนุ่มนะ ไม่มีใครเท่ไปกว่าพ่อแล้ว 2. A : สมัยพ่อเป็นหนุ่มนะ ขับมัสแตงสาวๆ นี่กรี๊ดตรึมเลย B : กรี๊ดพ่อขับรถโคตรเท่ ไปที่ไหนสาวก็มอง? A : รถเบรกแตก เกือบพุ่งชนแผงลอยหน้าเซเว่น นึกว่าไม่รอดแล้วตรู B : ผ่าง! 3. อายุ 15 พ่อจับปลาตัวใหญ่เท่าพ่อแหละ ลูกเอ้ย 4. พ่อในวัย 64 โชว์ความเก๋าบนยอดเขามองบลังค์ 5. ภาพคุณพ่อเมื่อปี 1969 อย่าให้พูดเลย ให้ภาพมันเล่าละกัน 6. ในปี 1969 ตอนพ่อเป็นนักโต้คลื่น พ่อนอนบนชายหาดถึง 3…
-
5 แอพพลิเคชั่นสำหรับคู่รักระยะไกล ที่จะทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นใจ ราวกับอยู่ข้างๆ กัน
สำหรับคู่รักที่ต้องอยู่ห่างไกลกันอาจจะรู้สึกทรมานหัวใจในบางครั้งบางคราว แม้จะมีสื่อหรือแอพลิเคชั่นมากมายที่ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกัน แต่นั่นก็ยังให้ความรู้สึกไม่สมจริงอยู่ดี แต่นั่นอาจเป็นเพราะคุณยังไม่รู้จักแอพเหล่านี้ ซึ่งเป็นแอพที่จะทำให้คุณรูุ้สึกอบอุ่นหัวใจ ราวกับได้อยู่ในอ้อมกอดของคนรัก แม้ร่างกายจะอยู่ห่างกันไกลแสนไกลก็ตาม 1. Couple เช่นเดียวกับแอพทั่วไป มันสามารถแชร์รูปภาพ วิดีโอ และข้อความหากันได้ โดยการสนทนาหมดจะถูกเก็บไว้ในที่เดียวกัน จากนั้นคุณสามารถสร้างเป็นไทม์ไลน์เพื่อที่จะได้เปิดดูไดัทุกเมื่อที่ต้องการ แอพนี้สามารถใช้ได้ทั้งระบบ iOS และ Android 2. Klikaklu นี่เป็นแอพที่ให้มากกว่าการส่งรุูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความหากัน แต่คุณสามารถเช็คที่อยู่ปัจจุบันของคนรักได้ด้วย ไม่ใช่เพื่อตามจับผิดนะ แต่เพื่อให้คุณเดทกันได้แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ใช้ได้เฉพาะในระบบ iOS 3. Dreamdays แอพสำหรับนับถอยหลังสำหรับวันครบรอบ วันสำคัญ หรือวันที่จะได้เจอกัน โดยสามารถตั้งไว้บนหน้าจอหลักได้ ทำให้คุณมีความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าสำคัญกำลังใกล้เข้ามาแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งปันวันสำคัญเหล่านี้ในทวิตเตอร์หรือเฟสบุ๊กได้ด้วย 4. Lovense นี่คงเป็นอีกหนึ่งแอพที่คู่รักระยะไกลใฝ่หา เพราะมันคือแอพที่ทำให้คุณสามารถมีเซ็กส์กันได้แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แม้จะไม่ได้สัมผัสกันจริงๆ แต่ทั้งเสียงและการเคลื่อนไหวต่างๆ จะแสดงบนหน้าจอ ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้อึ๊บกันจริงๆ เลยแหละ สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android 5. iMessage iMessage เป็นแอพที่มีนานแล้ว ซึี่งมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจเรียกว่า Digital Touch เป็นการเขย่าโทรศัพท์เพื่อเรียกคนรักที่อยู่ห่างไกล ทั้งยังส่งเสียงเต้นของหัวใจให้กันได้ด้วย หวังว่าแอพลิเคชั่นเหล่านี้จะช่วยให้คู่รักระยะไกลรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาบ้างนะ ที่มา metro…
-
เหตุผลว่า “ทำไมสระว่ายน้ำจึงมักเป็นสีฟ้า?” โดยนักฟิสิกส์จากมหาลัยเคมบริดจ์
เพื่อนๆ เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมสระว่ายน้ำที่ไหนๆ ก็มักจะเป็นสีฟ้า ทำไมไม่ทำสีอื่นบ้าง? มันมีเหตุผลอะไรแอบแฝงอยู่กันนะ? คำตอบที่เรามักจะได้ยินคือ เพราะพวกเขาใช้กระเบื้องสีฟ้า เลยทำให้ดูเหมือนน้ำเป็นสีฟ้า อีกหนึ่งเหตุผลคือเป็นเพราะสีสะท้อนของท้องฟ้านั่นเอง ทางด้าน Paul Coxon นักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ให้เหตุผลว่า “แสงแดดเป็นสีขาวซึ่งประกอบด้วยสเปกตรัมสีต่างๆ” “หากมีน้ำเพียงเล็กน้อย เช่น น้ำในแก้ว จะเห็นว่ามันไม่มีสี แม้จะถูกแดดส่องก็ตาม แต่หากที่ใดมีน้ำในปริมาณมากอย่างในสระว่ายน้ำ เราจะเห็นเป็นสีฟ้า เนื่องจากมีโมเลกุลขนาดเล็กคอยดูดซับแสงจากปลายสีแดงของสเปกตรัม” ทั้งนี้แสงแดดจะประกอบด้วยสีแดง สีเขียว และสีฟ้า ทั้งหมดนี้คือสเปกตรัม ซึ่งเรามักจะเห็นสีทั้งสามสีเข้าด้วยกัน และหากเอาสีแดงออก ก็จะเห็นแสงออกเป็นสีฟ้าเล็กน้อย ปฏิกิริยาเดียวกันนี้เกิดขึ้นได้ในสระว่ายน้ำ ยิ่งน้ำลึกเท่าไหร่ก็จะเห็นสีฟ้าเข้มมากเท่านั้นจนกลายเป็นสีน้ำเงิน ดังนั้นการทำสระว่ายน้ำโดยกระเบื้องสีฟ้า ยิ่งเป็นการสนับสนุนปฏิกิริยาจนทำให้เราเห็นเป็นสีฟ้าอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการให้เหตุผลส่วนตัวว่าที่นิยมทำเป็นสีฟ้าเพราะเป็นสีที่ทำให้รู้สึกสบายตาที่สุด เหมาะกับการพักผ่อน แต่หากเป็นสีเขียวจะดูเหมือนน้ำสปรก หรือสีแดงก็ดูเหมือนเลือดซะมากกว่า แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ คิดยังไง? ที่มา edition
-
หญิงสาวทุ่มเงินกว่าล้านบาท ดัดแปลงเครื่องบินให้เป็นร้านทำผมสุดหรูอหลังบ้าน
เครื่องบินเก่าๆ ที่ใช้งานไม่ได้แล้วก็ไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่ง แต่จริงๆ แล้ว ต่อให้มันใช้การไม่ใด้ เราก็สามารถดัดแปลงมันได้ แทนที่จะปล่อยทิ้งร้างไว้แบบนั้น ด้วยเหตุนี้ Amber Scott วัย 25 ปี จึงได้ลงทุนกว่า 1,300,000 บาท ในการเปลี่ยนเครื่องบินให้เป็นร้านตัดผมในสวนหลังบ้าน จริงๆ แล้ว Amber ซุ่มทำร้านตัดผมนี้มานาน แต่ไม่เคยบอกให้ใครรู้ เพราะอยากให้มันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวานที่ผ่านมา หญิงสาวได้เริ่มดัดแปลงเครื่องบิน 1957 Air Atlantique Convair CV-440 Metropolitan ให้เป็น Runway Studios เมื่อเดือนมีนาคม โดยให้บริการทั้งตัดผมและแต่งหน้า สำหรับเครื่องบินลำนี้เธอได้เป็นขวัญขวัญจากพ่อแม่ Andrew และ Tricia ที่ได้ซื้อไว้เมื่อ 10 ปีก่อน ในราคา 1 ล้านบาท เพื่อดัดแปลงเป็นเป็นร้านตัดผม พวกเขาต้องเพิ่มเงินอีก 900,000 บาท ในการนำเครื่องบินจากสนามบิน Coventry Airport มายังสก็อตแลนด์ สุดท้าย Amber ก็ลงทุนต่อจากพ่อแม่อีก 1.3 ล้านบาท…
-
เสื้อสเวตเตอร์ออกใหม่จากคาลวินไคลน์ เผยให้เห็นหัวนมรำไร มูลค่าสูงกว่า 6 หมื่นบาท
บางทีแฟนชั่นก็เป็นอะไรที่เข้าใจยาก โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยสนใจในแวดวงนี้สักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่คลุกคลีอยู่กับวงการแฟชั่นเป็นประจำ คงไม่ใช่เรื่องแปลกสักเท่าไหร่ เหมือนกับคอลเลคชั่่นฤดูใบไม้ร่วงประจำปี 2017 ของ Calvin Klein เป็นเสื้อสเวตเตอร์ไฮแฟชั่นที่เผยให้เห็นหัวนม แต่มีมูลค่าสูงกว่า 60,000 บาท คอลเลคชั่่นฤดูใบไม้ร่วงประจำปี 2017 เป็นเสื้อสเวตเตอร์ที่ส่วนแขนจะหนานุ่มให้ความอบอุ่น ในขณะที่่ส่วนลำตัวจะเป็นผ้าสีกลมกลืนกับสีผิวของเรา เผยให้เห็นสรีระภายใน รวมทั้งหัวนมด้วย ทั้งนี้คอลเล็คชั่นดังกล่าวมีทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง โดยมีวางจำหน่ายที่เว็บไซต์ Ssense ราคาอยู่ที่ตัวละ 66,000 บาท หรือหากใครอยากได้ราคาที่ถูกกว่านี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ของ Barney ในราคา 38,000 บาท แม้ว่าเสื้อผ้าคอลเล็คชั่นจะออกแบบมาเพื่อให้ดูเซ็กซี่นิดๆ แต่หากใครที่ไม่ชอบโชว์ก็สามารถใส่เสื้อชั้นในมาปิดได้เช่นกัน หรือหากใครจะใส่กับกระโปรงลายดอกไม้ก็ได้ ดูหวานปนเซกซี่ อีกหนึ่งไอเทมเพิ่มความคูล ที่ผู้ชายไม่ควรพลาดเด้อ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ คิดยังไงกับเสื้อผ้าคอลเล็คชั่นนี้ ที่มา dailymail
-
หนุ่มเอาอวัยวะเพศสอดเข้าแผ่นน้ำหนัก แต่ดันดึงออกไม่ได้ จนหน่วยกู้ภัยต้องเข้ามาช่วย
อุปกรณ์ออกกำลังกายแต่ละชนิดต่างถูกออกแบบให้ใช้เฉพาะท่า หากใครจะเอาไปประยุกต์ใช้กับท่าที่ต่างออกไปก็ควรจะเป็นท่าที่ใกล้เคียงหรืออยู่ในขอบข่ายที่พอจะทำได้ แต่ชายหนุ่มคนนี้ดันนำอวัยวะเพศใส่เข้าไปในแผ่นน้ำหนัก ดัมเบล บาร์เบล ไม่รู้ว่าทำเพื่ออะไร แต่สุดท้ายแล้วเขากลับดึงน้องชายออกมาไม่ได้ ยุ่งเลยสิ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ยิมแห่งหนึ่งในเมืองวอมส์ ประเทศเยอรมนี เมื่อชายคนหนึ่งเล่นพิเรนทร์ เอาอวัยวะเพศใส่เข้าไปในแผ่นน้ำหนัก ดัมเบล บาร์เบล ที่มีน้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม สื่อไม่ได้เปิดเผยว่าเขาทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร แต่สุดท้ายแล้วเขาไม่สามารถดึงมันออกมาได้ แม้เพื่อนๆ จะเข้ามาช่วยก็ทำไม่ได้ เขาจึงถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อให้หมอช่วยเหลือ เนื่องจากแผ่นน้ำหนักนี้หนาเกินไปกว่าเครื่องมือแพทย์จะทำได้ คุณหมอจึงต้องเรียกหน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วย นั่นทำให้ชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายถูกล้อมไปด้วยเจ้าหน้าที่กูภัย เจ้าหน้าที่ต้องใช้เลื่อย เครื่องมือตัดเหล็กขนาดใหญ่ และทำอย่างระมัดะวัง จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง น้องชายของชายคนนั้นก็เป็นอิสระ แม้อวัยวะเพศจะหลุดออกมาได้แล้ว แต่เน่ื่องจากมันติดอยู่ในแผ่นน้ำหนักนาน บวกกับการกระทบเทือนระหว่างการช่วยเหลือ ทำให้น้องชายของเขาได้รับผลกระทบไปด้วย ชายคนดังกล่าวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Bristol Southmeads เพื่อให้หมอช่วยรักษาอวัยวะเพศของเขา ซึ่งหมอต้องทำการผ่าตัดฉุกเฉินนานถึง 8 ชั่วโมงกว่าจะเสร็จ และตอนนี้ผู้เคราะห์ร้ายพร้อมน้องชายก็ปลอดภัยแล้ว รอพักฟื้นอีกสักพักก็กลับบ้านได้ ทางด้านหน่วยกู้ภัยได้ถ่ายรูปแผ่นน้ำหนักที่แตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วเตือนผู้คนว่านี่ไม่ใช่วิธีใช้งานที่ถูกต้อง อย่าลอกเลียนแบบเด็ดขาด ที่มา dailymail
-
10 ไอศกรีมรสแปลกๆ ผสมจากวัตถุดิบที่แตกต่างกันสุดขั้ว เพื่อรังสรรค์รสชาติไม่ซ้ำใคร…
ไอศกรีมอาจเป็นของโปรดของใครหลายๆ คนในวัยเด็ก หรือแม้ตอนโตบางคนก็ยังชอบกินไอศกรีมอยู่ เพราะมีรสออกใหม่ให้เราได้ลิ้มลองเรื่อยๆ ไอกรีมรสใหม่ๆ ที่ออกมานั้นมีทั้งรสชาติที่เราคุ้นเคยและไม่คุ้ยเคย แต่สำหรับไอศกรีมรสต่อไปนี้มันช่างแปลกสิ้นดี และแน่นอนว่าคุณอาจคิดไม่ถึงว่ามันมีอยู่จริง!? 10. ไขกระดูกกับเชอร์รี่ ไอศกรีมรสชาตินี้ได้แรงบันดาลใจมาจากบริษัท Salt & Straw ที่ต้องการรังสรรค์ไอศกรีมรสใหม่ ไม่ซ้ำใคร จึงได้ผสมไขกระดูกกับเชอร์รี่จนเป็นเนื้อเดียวกัน โดยใส่โป๊ยกั๊ก เม็ดยี่หร่า ฮีคโคะริ และน้ำเชื่อม โดยรสชาติจะออกหวานๆ หน่อย 9. Alaska Fireweed กับน้ำผึ้ง เป็นไอศกรีมที่ทำจากสมุนไพรพื้นเมืองของอลาสก้าผสมกับดอกไม้ Fireweed สีชมพูและน้ำผึ้ง ทำให้รสชาติมีเอกลักษณ์ ที่สำคัญดอกไม้ Fireweed นั้นมีวิตามิน A และ C สูงมาก ควรค่าแก่การลิ้มลอง 8. ข้าวโพดหวาน นี่เป็นไอศกรีมจากร้าน Sweet Republic จากรัฐแอริโซนา โดยเปลี่ยนข้าวโพดหวานให้อยู่ในรูปแบบไอศกรีม เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่กับคนรักไอศกรีม 7. กาแฟเวียดนามกับอัลมอนด์ฝาดและแกงเนยถั่วลิสง ไอศกรีมจาก Blue Bottle Vietnamese Coffee ในซานฟรานซิสโก ที่ผสมแกงเผ็ด…
-
ชาวจีนช็อคหนัก หลังพบจระเข้ตัวเป็นๆ ที่มีคนมาฝากไว้ในบ่อปลาชุมชน เพื่อทำเป็นมื้อเย็น
ปกติแล้วเราจะเห็นจระเข้อยู่ในสวนสัตว์หรือในแม่น้ำใหญ่ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ชาวบ้านคนหนึ่งถึงกับตกใจเมื่อเดินเล่นอยู่ดีๆ ก็ไปเจอเข้ากับจระเข้ตัวเป็นๆ อยู่ในบ่อปลาในย่านชุมชน เรื่องนี้เกิดขึ้นในย่านชุมชนแห่งหนึ่งในเมืองเฉิงตู เมื่อชาวเมืองคนหนึ่งเดินเล่นอยู่ก็ไปเจอเข้ากับจระเข้ความยาวประมาณ 1 เมตร กำลังแหวกว่ายอยู่ในบ่อปลาของชุมชน!? เขาจึงตะโกนลั่นก่อนจะมีคนอื่นๆ แห่มาดู และพากันร้องด้วยความตกใจ จนมีชายคนหนึ่งโผล่มาแล้วบอกให้ทุกคนใจเย็น ก่อนจะอธิบายว่านี่เป็นจระเข้ของเอง!! เจ้าของจระเข้บอกว่ามันเป็นจระเข้ที่เขาตั้งใจจะทำเป็นอาหารมื้อเย็นนี้ แต่เอามาฝากไว้นี่ก่อน และสังเกตดูดีๆ ปากของมันก็มีสก๊อตเทปพันอยู่ จึงไม่เป็นอันตรายแน่นอน แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ดูแลย่านชุมชนแห่งนั้นได้มาคุยกับชายเจ้าของจระเข้และบอกกับเขาว่าที่นี่ไม่เหมาะสำหรับเอาจระเข้มาไว้ พร้อมทั้งสั่งให้เขานำจระเข้ตัวนี้ออกไป เพราะตอนนี้ผู้คนจำนวนมากขวัญเสียเพราะจระเข้ตัวนี้ จนในที่สุดแล้วชายคนดังกล่าวจึงย้ายจระเข้ออกไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก… เราอาจจะไม่ค่อยคุ้ยเคยกับจระเข้ในฐานะอาหาร แต่สำหรับชาวจีนแล้วพวกเขาสามารถกินจระเข้โดยไม่ผิดกฎหมาย นั่นส่งผลให้มีฟาร์มจระเข้จำนวนมาในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม เจ้าของฟาร์มคนหนึ่งได้ออกมาบอกว่า การปล่อยจระเข้ในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง แม้จะมีการมัดปากมันแล้วก็ตาม และเมื่อตรวจสอบดูดีๆ ปรากฏว่าจระเข้ตัวดังกล่าวนั้นเป็นจระเข้สยาม ซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่อันตรายมากที่สุดในโลก และเป็นพันธุ์ที่อยุ่ในกลุ่มสัตว์คุ้มครองของจีนด้วย แม้จะมีกฏข้อห้ามต่างๆ สำหรับจระเข้บางสายพันธุ์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกมันเป็นอาหารเลิศรสของจีนที่ได้รับความนิยมมาก… และในขณะที่ปริมาณของจระเข้สยามที่ในฟาร์มทั่วทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนประมาณ 700,000 ตัว แต่จระเข้สยามที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาตินั้น กลับมีจำนวนที่ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ที่มา shanghaiist
-
ครอบครัวมอบชีวิตใหม่ให้ “เจ้าเหมียวหน้าเอ๋อ” และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างมันตลอดไป…
ขึ้นชื่อว่าแมวแล้ว ต่อให้มันมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง พวกมันก็ยังน่ารักสำหรับทาสแมวอยู่ดี ไม่ได้เข้าข้างนะ แต่พวกมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เหมือนกับ Maya แมวหน้าเอ๋อที่อาศัยอยู่ที่ Odd Cat Sanctuary ศูนย์ช่วยเหลือแมวที่พร้อมต้อนรับแมวทุกตัวที่กำลังลำบาก โดยเฉพาะแมวป่วย แมวแก่ แมวใกล้ตาย รวมไปถึงแมวแปลกๆ ขณะนั้น Lauren ที่ติดตามเพจของ Odd Cat Sanctuary ได้เห็นโพสต์ของเจ้าเหมียว Maya เธอจึงตัดสินในรับเลี้ยงมันทันทีในคืนนั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะมีอีกหลายครอบครัวที่ต้องการแมวตัวนี้เหมือนกัน ทำให้ Lauren ต้องรอถึง 6 สัปดาห์กว่าจะถูกเรียกสัมภาษณ์และได้ไปเยี่ยมเจ้าเหมียวตัวนั้น ที่สำคัญคือ Odd Cat Sanctuary มีการคัดกรองที่เข้มงวดมาก เพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงของพวกเขาจะไปอยู่ในบ้านที่ดีและรักแมวจริงๆ โชคดีที่ Lauren ผ่านการคัดเลือก เธอจึงได้ไปพบกับ Maya ที่ศูนย์พักพิง และได้พามันกลับบ้านด้วยในวันนั้น เธอบอกว่า… “เราไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของมัน แต่คาดว่าน่าจะอายุประมาณ 1 ปี หรืออาจจะแก่หรืออ่อนกว่านั้นนิดหน่อย มันค่อนข้างตัวเล็ก แต่มันมีอุ้งเท้าที่ใหญ่และขนหนามาก” Lauren รู้สึกถูกใจ Maya ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และเธอก็มุ่งมั่นจนสามารถพามันมาอยู่ด้วยในที่สุด เธอบอกว่าเคยดูแลเด็กพิเศษทุกวันเสาร์ตอนอายุ 12…
-
เผยภาพ “อลิซอินวันเดอร์แลนด์” ฉบับภาพยนตร์เมื่อ 100 ปีก่อน ที่ยังคงเป็นเพียงหนังเงียบ…
เมื่อพูดถึงเรื่อง อลิซอินวันเดอร์แลนด์ หรือ อลิซผจญแดนมหัศจรรย์ หลายคนคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทั้งในรูปแบบนิยายและภาพยนต์ และยังถูกนำมาทำซ้ำอีกหลายต่อหลายครั้ง… อลิซอินวันเดอร์แลนด์ถูกประพันธ์เป็นครั้งแรกโดย Lewis Carroll ในรูปแบบนวนิยาย ก่อนจะถูกนำมาทำเป็นภาพยนต์ในปี 1915 ซึ่งเขียนบทและกำกับโดย WW Young สำหรับภาพยนตร์เรื่องอลิซอินวันเดอร์แลนปี 1915 นั้น มีความยาวเพียงแค่ 52 นาที โดยบอกเล่าเรื่องราวของอลิซที่ตกลงไปในโพรงกระต่าย จากนั้นเธอก็พบกับตัวละครที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น กระต่ายขาวและหนอนผีเสื้อคาบบุหรี่ สำหรับตัวละครอลิซนั้นรับบทโดย Viola Savoy ซึ่งทางผู้กำกับ WW Young เอง ก็ไม่เคยคาดหวังว่าหนังเงียบของเขาจะได้รับการเข้าฉาย แต่ปรากฏว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อลิซอินวันเดอร์แลนด์ของ Carroll นั้นกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ต่อมาในปี 1951 ดิสนีย์ก็นำมาดัดแปลงในรูปแบบการ์ตูน โดยให้ตัวละครอลิซใส่ชุดกระโปรงสีฟ้า และมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น กระทั่งปี 2010 นิทานเรื่องดังกล่าวก็ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์อีกครั้งโดย Tim Burton นำแสดงโดย Helena Bonham Carter, Timothy Spall และ Stephen Fry …
-
เมื่อหญิงสาวเล่นพิเรนท์ ทาสีโปสเตอร์ชมพูพริ้งทั่วใบหน้า เพื่อทดสอบว่า ‘ล้างออกได้’…
วัยรุ่นเป็นวัยที่ชอบความท้าทาย ชอบสรรหาเรื่องแปลกๆ มาทำอยู่ตลอด เพียงเพราะความอยากรู้อยากเห็น จนกลายเป็นการเล่นอะไรที่ไม่เข้าท่าเข้าซะได้นี่!? นี่เป็นเรื่องราวของ Leah ผู้ใช้ทวิตเตอร์ในนาม @LeleTill เธอได้โพสต์รูปภาพ 4 รูป พร้อมคำบรรยายเกี่ยวกับการเล่นสีโปสเตอร์กลิตเตอร์สีชมพูมุ้งมิ้งของเธอด้วย… ภาพแรกเป็นรูปของ Leah ที่เอากลิตเตอร์เพชรสีชมพูทาทั่วใบหน้า ภาพถัดมาเป็นขวดกลิตเตอร์สีชมพู โดยมีฉลากข้างขวดเขียนว่า “ล้างออกจากผิวได้ง่ายและไม่ทิ้งคราบ” แต่ภาพสุดท้าย เป็นรูปที่เธอล้างสีออก ทว่าสีหน้ายังคงเป็นสีชมพูเหมือนเดิม เพียงแค่ไม่เข้มเหมือนตอนแรกเท่านั้นเอง นั่นทำให้หญิงสาวตระหนักได้ว่านอกจากล้างออกยากแล้ว ยังทิ้งคราบราวกับไม่ได้ล้างเลย… Leah จึงตัดสินใจอ่านฉลากให้ละเอียดอีกครั้ง แล้วก็พบข้อความแนะนำการใช้ที่ว่า “สีโปสเตอร์กลิตเตอร์ล้างออกได้” แต่สินค้ามันไม่ได้ถูกออกแบบมา เพื่อรองรับการทาบนผิวหน้าโดยตรงแบบนี้หรอกนะ!! ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหญิงสาวต้องอยู่กับหน้าชมพูพริ้งนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่นี่ถือเป็นบทเรียนก็แล้วกันนะ คำเตือนบนฉลากน่ะ ควรจะตีความเยอะๆ ก่อนทดลองใช้นะจ๊ะ ฮร่าาา แทนที่จะเอามาลองทานิดๆ บนแขนขา นี่เล่นทาทั่วใบหน้าเลย เฮ้อออ… ที่มา mashable, @LeleTill
-
นักเขียนใช้เวลา 26 ปี สืบหาตัวตนที่แท้จริงของ Jack The Ripper ฆาตกรต่อเนื่องชื่อกระฉ่อนโลก…
Jack The Ripper เป็นคนที่มักจะถูกนำไปอ้างชื่อในคดีฆาตกรรม รวมทั้งหนังสืบสวน สอบสวน หรือแม้แต่ในการ์ตูนโคนันเองก็เคยปรากฏชื่อนี้เหมือนกัน แน่นอนว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่า Jack The Ripper เป็นใครกันแน่? แล้วทำไมถึงต้องมีการกล่าวอ้างชื่อของเขาบ่อยขนาดนี้? Jack The Ripper เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อคดีสะเทือนขวัญมานับครั้งไม่ถ้วนในประเทศอังกฤษ แต่กลับไม่มีใครรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของฆาตกรรายนี้เลย และยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ David Bullock ผู้เป็นนักเขียน จึงได้เริ่มค้นคว้าเรื่องของ Jack the Ripper เมื่อ 26 ปีที่แล้ว และค้นพบว่าชายที่ชื่อ Thomas Cutbush นั้น เข้าข่ายเป็นฆาตกรต่อเนื่องรายนี้มากที่สุด ผู้เขียนได้เข้าถึงข้อมูลของ Cutbush จากโรงพยาบาลจิตเวช Broadmoor จนทำให้เขาค้นพบแผนการฝังศพของครอบครัวหนึ่งในสุสาน Nunhead Cemetery ซึ่งเชื่อว่า Cutbush ยังใช้ที่นั่นเป็นที่พักอาศัยด้วย Thomas Cutbush ในหนังสือ “The Man Who Would Be Jack” Bullock เขียนไว้ว่า “คนมักจะคิดว่าเขาเสียชีวิตใน Broadmoor…
-
เรื่องราวของ “Wadlow” บุคคลที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก กับอุปสรรคชีวิตที่ต้องฝ่าฟัน…
หลายคนอยากสูง เพราะคนสูงมักจะมีข้อได้เปรียบในหลายๆ อย่าง เช่นเวลาไปดูคอนเสิร์ตก็ไม่กลัวใครมาบัง ทั้งยังมีโอกาสเข้าถึงสายงานต่างๆ ได้มากกว่า แต่หากคุณได้รู้เบื้องหลังที่แท้จริงของคนสูง คุณอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ เพราะความสูงมักมาพร้อมกับอุปสรรคในการใช้ชีวิตที่ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสื้อผ้า การถูกล้อ จนทำให้รู้สึกอึดอัดที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวที่น่าสนใจและน่าเศร้าของ Robert Pershin Wadlow หรือฉายา Giant of Illinois (ยักษ์ใหญ่แห่งอิลลินอยส์) ซึ่งเป็นบุคคลที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์โลกเลยล่ะ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 1918 Robert เกิดมาพร้อมน้ำหนักตัว 3.9 กิโลกรัม ในเมือง Alton รัฐอิลลินอยส์ จนหนึ่งปีต่อมาเขาวัดส่วนสูงได้ประมาณ 100 เซนติเมตร กับน้ำหนัก 20 กิโลกรัม ต่อมาเมื่ออายุได้ 8 ขวบ Robert ก็มีส่วนสูงที่มากกว่าคุณพ่อ ทางโรงเรียนต้องทำโต๊ะพิเศษให้กับเขา โดยที่ความสูงยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่ออายุ 13 ปี เขาสูงมากถึง 223 เซนติเมตร จนทำให้เขากลายเป็นเด็กชายที่สูงที่สุดในโลก สำหรับความสูงที่ผิดปกตินี้ เป็นผลมาจากภาวะ Hyperplasia (การเจริญเกิน) ของต่อมใต้สมอง…
-
ตัดกำลังกันงี้เลย… ลูกชายนักมวย ทั้งต่อยทั้งถีบเข้าเป้าคู่แข่งของพ่อ ในวันโปรโมทคู่ชก!!
ใครที่ดูมวยเป็นประจำจะสังเกตเห็นว่า ก่อนขึ้นชกนั้นนักมวยจะต้องมีการโปรโมทคู่ชกก่อน พร้อมทั้งทำการชั่งน้ำหนัก ทักทาย ถ่ายรูป รวมทั้งมีการข่มขวัญคู่แข่งด้วย และเมื่อ Billy Joe Saunders นักมวยอาชีพจากอังกฤษ ต้องมาเจอกับ Willie Monroe Jr. นักชกชาวอเมริกันที่ London’s Copper Box Arena ซึ่งเป็นการชกที่ Saunders ต้องปกป้องเข็มขัดแชมป์ WBO รุ่นมิดเดิลเวทของเขา Billy Joe Saunders เช่นเดียวกับทุกครั้ง ก่อนขึ้นชกทั้งสองคนได้มาชั่งน้ำหนักในวันโปรโมท พร้อมข่มขวัญคู่ต่อสู้ด้วยคำพูดและท่าทาง แต่ครั้งนี้ ลูกชายของ Saunders ดันขึ้นมาด้วย และทำสิ่งที่หลายคนถึงกับหัวเราะลั่นเลย!! เพราะสิ่งที่เจ้าหนูน้อยทำก็คือ เขาขึ้นมาบนแท่นชั่งน้ำหนัก โดยที่ Monroe Jr. ผู้เป็นคู่ชกของพ่อเขา ก็ได้ทำการลูบหัวด้วยความเอ็นดู แต่แล้วเด็กชายก็ต่อยเข้าที่เป้าของคู่ชกของพ่อแบบเต็มๆ จนการ์ดต้องรีบพาเด็กออกไป คลิปตอนที่เด็กชายต่อยเป้าคู่แข่งพ่อ แน่นอนว่าผู้ชมทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะแฟนๆ ชาวอเมริกันต่างพึมพำว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ทำแบบนั้นได้ไง? พร้อมทั้งด่าทอ Saunders ต่างๆ นานา ทางด้าน Saunders…
-
ช้านร๊ากคูณณณ… คนไข้สาวเพิ่งฟื้นตัว แต่ยังเมายาสลบไม่ได้สติ ขอแต่งงานบุรุษพยาบาลรัวๆ
คนที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาล หรือบุคคลากรทั่วไป ในวันหนึ่งๆ พวกเขาต้องพบเจอกับผู้คนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทั้งแปลกบ้าง ดีบ้าง ร้ายบ้าง ก็ต้องคอยรับมือให้เหมาะสมกับความเป็นมืออาชีพอยู่เสมอ เหมือนกับ Luke บุรุษพยาบาลหนุ่มที่ถูกคนไข้สาวบอกรักและขอแต่งงาน เนื่องจากอาการเมายาสลบยังไม่ได้สติเท่าที่ควร ทำเอาเจ้าหน้าที่ทั้งห้องอดหัวเราะไม่ได้กันเลยทีเดียวล่ะ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2016 หลังจากที่ Paris Ferguson ประสบกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอก็ได้รับการผ่าตัดแขนหักจนพ้นขีดอันตราย และเพิ่งจะรู้สึกตัวได้ไม่นานนัก แต่เนื่องจากฤทธิ์ยาสลบยังไม่หมด ทำให้เธอมีอาการเหมือนคนเมาไม่ได้สติเท่าที่ควรนัก และด้วยสาเหตุของคนเมาที่มักจะพูดหรือทำอะไรโดยไม่รู้ตัว เธอคนนี้ก็เช่นกัน ด้วยความเมายาสลบอย่างหนักหน่วง เธอจึงพูดกับบุรุษพยาบาลที่คอยดูแลเธอว่า “ฉันรักคุณม๊ากกกกกก” แค่นั้นยังไม่พอเธอยังลูบไล้แขนและเคราของเขาด้วย จนบุรุษพยาบาลต้องบอกกับเธอขำๆ ว่า “เราเพิ่งเจอกันวันนี้นะ” และที่ฮากว่าคือเธอตอบมาว่า “ฉันรู้ แต่เราต้องแต่งงานกันนะ” จากนั้นเธอก็พูดย้ำอีกว่า “ฉันคิดว่าเราควรจะแต่งงานกันนะ” แล้วเธอก็ร้องไห้ออกมา แน่นอนว่าหากเธอรู้เรื่องนี้หลังจากฤทธิ์ยาสลบหมดแล้ว เธอคงแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีแน่ๆ แต่ระหว่างที่ยังคงมีอาการเมายาสลบอยู่นี้ มันเหมือนเธอได้อยู่ในช่วงเวลาที่มีความสุขกับการหลงใหลผู้ชายคนหนึ่ง และเธอก็ได้บอกความรู้สึกทุกอย่างที่มีต่อเขาโดยไม่รู้ตัว “เราเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก Luke ฉันรักคุณ คุณคือผู้ชายที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย” …
-
คุณแม่ลูกอ่อนวัย 23 ปี ตัดสินใจ “บริจาคน้ำนม” ให้กับเหล่าทารก แม้จะไม่เคยรู้จักกันเลย…
ในขณะที่คุณแม่บางคนมีน้ำนมมากจนลูกดื่มไม่ทัน และแม่หลายคนกลับมีน้ำนมไม่พอสำหรับลูก ดังนั้นคงจะดีกว่าถ้าหากคุณแม่ที่มีน้ำนมเยอะ ช่วยบริจาคให้กับคุณแม่ที่มีน้ำนมไม่เพียงพอ… เหมือนกับ Olivia Ames คุณแม่วัย 23 ปี ที่ตัดสินใจบริจาคน้ำนมตัวเองบางส่วน ให้กับทารกที่กำลังขาดแคลนนมแม่ แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ตาม Olivia เริ่มต้นด้วยการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการบริจาคน้ำนม แล้วก็มีคนแนะนำให้เธอเข้ากลุ่มเฟสบุ๊ก Human Milk for Human Babies UK ซึ่งภายในกลุ่มนั้น ก็จะมีทั้งคนบริจาคและคนรับการบริจาคอยู่ด้วยกัน หลังจากที่เข้ากลุ่มแล้ว เธอต้องทำการกรอกประวัติสุขภาพเสียก่อน เนื่องจากการจะบริจาคน้ำนมได้นั้น คุณแม่ต้องมีสุขภาพที่ผ่านเกณฑ์เท่านั้นถึงจะทำได้ เมื่อผ่านการคัดกรองแล้ว เธอก็ได้ประกาศเรื่องนี้ผ่านเครือข่ายโซเชียล เพื่อบอกว่ากำลังจะบริจาคน้ำนมให้กับทารกทุกคนที่ต้องการ เพียงไม่นานก็มีคุณแม่สองท่านติดต่อมาหาเธอ โดยที่คนแรกบอกว่าเธอพยายามจะให้นมลูกแล้ว แต่ลูกก็บ้วนมันออกมา แถมยังมีอาการอาเจียนออกมาด้วย ส่วนคุณแม่คนที่สองที่ติดต่อเข้ามา เธอค่อนข้างจะอยู่ไกลหน่อย ลูกของเธอเกิดก่อนกำหนดถึง 6 สัปดาห์ ซึ่งในตอนนี้ก็มีอายุได้ 4 เดือนแล้ว แต่กำลังประสบกับปัญหาสุขภาพ เรื่องราวของคุณแม่ทั้งสองคนนั้นสะเทือนใจ Olivia มาก เธอเข้าใจว่าคนเป็นแม่รู้สึกอย่างไร และต้องเจ็บปวดแค่ไหน เมื่อไม่สามารถทำให้ลูกมีสุขภาพที่ดีได้ …
-
20 ภาพถ่ายฮาๆ จาก Google Street View ที่ทำให้ภาพบนโลกนี้ ดูผิดเพี้ยนไปซะหมด…
Google Street View เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำหรับ Google Map และ Google Earth ที่ให้มุมมองภาพแบบพาโนรามาจากตำแหน่งต่างๆ ตามถนนหลายแห่งบนโลก โดยเปรียบเสมือนว่าเราได้ไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นกันเลย… แต่ทว่าหลายครั้งที่กล้อง Street View มักจะจับภาพหรือเหตุการณ์แปลกๆ ได้อยู่เสมอ และเนื่องจากเป็นการจับภาพแบบพาโนรามารอบทิศทาง การนำภาพทุกมุมมาประกอบกันเป็นจุดเดียว จึงมีความผิดเพี๊ยนไปบ้าง และผลที่ได้ออกมาก็ทำให้ดูตลกซะด้วยสิ!! 1. นึกว่าผีเสือยักษ์ แถมยังมาไม่เต็มตัวอีก 2. คุณอาจจะตั้งใจโพสต์ท่าให้กล้อง แต่อย่าหวังว่าภาพจะออกมาตามที่คิด 3. เพี้ยนจนดูหลอนไปเลยก็มี… 4. นี่คงจะเป็นป้ายเตือนจริงๆ ที่ไหนสักที่แหละ 5. ว่าแต่ไปห่อรถอย่างนั้นทำไมหว่า? 6. บางคนเห็นกล้องปุ๊บ ถึงกับจัดท่าเด็ดให้กันเลย… 7. เดี๋ยวนี้เด็กๆ เค้าไม่ขี่ม้าก้านกล้วยกันแล้ว 8. พี่คงอยากจะโชว์เทให้กล้องสินะเนี่ย 9. เอ๊ะ มองจากมุมนี้แล้ว รูปทรงมันคุ้นๆ นะ …
-
สถานการณ์ล่าสุดของ “เสือดาวหิมะ” ดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เสี่ยงสูญพันธุ์มานานถึง 45 ปี
เสือดาวหิมะ ถูกจัดอยู่ในสัตว์หายากและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มานานถึง 45 ปี แต่ล่าสุดทาง International Union for Conservation of Nature (IUCN) ได้ออกมาประกาศว่า ในขณะนี้สถานการณ์ของเสือดาวหิมะเริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง… โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มนักอนุรักษ์ได้ออกมาเตือนว่า เสือดาวหิมะนั้นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์และจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเร่งด่วน แต่ก็ยังมีผู้คนลักลอบฆ่าพวกมันเพื่อนำขนไปหาผลประโยชน์ อีกหนึ่งสาเหตุคือบริเวณทุ่งหญ้าอันเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของเสือดาวหิมะลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งส่งผลร้ายแรงต่อการมีชีวิตรอดของพวกมันอีกด้วย ทั้งนี้เสือดาวหิมะถูกระบุว่าเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ตั้งปี 1972 จนกระทั่งวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาทางสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ได้ออกมาประกาศใหม่อีกครั้ง หลังทำการประเมินสถานการณ์มานานกว่า 3 ปี พวกเขาบอกว่าขณะนี้มีเสือดาวหิมะที่โตเต็มวัยไม่น้อยกว่า 2,500 ตัว ที่อาศัยอยู่ในเขตธรรมชาติ และมีอัตราการลดลงที่ต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา… นอกจากนี้ในการสำรวจประชากรเสือดาวหิมะทั้งหมด ผู้เชี่ยวชาญยังพบว่ามีอยู่ประมาณ 4,000 ตัว (ทั้งในช่วงโตเต็มวัยและวัยทารก) หรือหากรวมกับพื้นที่ที่ยังไม่ได้สำรวจ อาจจะมีมากถึง 10,000 ตัวเลยทีเดียว Peter Zahler ผู้ประสานงานของโครงการอนุรักษ์เสือดาวหิมะจากองค์กร Wildlife Conservation Society กล่าวว่าการทำวิจัยในเรื่องนี้มีความยากลำบากมากๆ เนื่องจากต้องออกไปสำรวจพื้นที่ห่างไกลหลายๆ แห่ง…
-
ช่วงเวลาดีๆ ของแม่หมูกับลูกๆ ที่ถูกขังมาทั้งชีวิต ได้สัมผัสอิสระและแสงแดดเป็นครั้งแรก…
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ เราต่างก็ต้องการการอยู่อย่างอิสระทั้งนั้น ไม่ได้อยากอยู่ในพื้นที่จำกัดแล้วต้องคอยทำตามความต้องการของคนอื่นตลอดเวลา เหมือนที่น้องหมูเหล่านี้ถูกกระทำอยู่… นี่คือเรื่องราวของแม่หมูและลูกๆ ที่ถูกขังอยู่ภายในพื้นที่โรงฆ่าสัตว์มาโดยตลอด พวกมันไม่เคยได้ออกไปข้างนอก และไม่เคยได้สัมผัสแสงแดดเลยซักครั้งในชีวิต… แต่แล้ววันหนึ่งองค์กรพิทักษ์สัตว์ Viva! พร้อมด้วย Dean Farm Animal Sanctuary ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือพวกมันออกมา ย้ายออกมาสู่ฟาร์มแห่งใหม่ที่จะเป็นบ้านอันแสนอบอุ่น พร้อมกับมอบอิสรภาพเพื่อให้พวกมันได้สัมผัสแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรก… จากการที่พวกมันต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ข้างใน ทำให้มันรู้สึกลังเลเมื่อมีคนเปิดประตูให้ จะสังเกตได้ถึงอาการกล้าๆ กลัวๆ ที่จะโผล่หัวออกมาจากโรงนา แต่แล้วแม่หมูก็ตระหนักว่าได้รับอิสระแล้ว มันจึงได้พาลูกๆ ออกไปข้างนอก โมเม้นต์แรกที่แม่หมูได้สัมผัสบรรยากาศภายนอก ลูกหมูเองต่างก็วิ่งเล่นไปทั่วสนามกันอย่างสนุกสนาน วินาทีที่ได้เห็นแม่หมูและลูกๆ ออกวิ่งเล่นกัน บ่งบอกถึงความสุขได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ ถึงจะเป็นสัตว์แต่ก็อยากมีอิสระเหมือนกันนะ ที่มา viralnova
-
20 ภาพถ่าย “บ้านหลังน้อย” ในเมืองเกียวโต เผยให้เห็นเสน่ห์เล็กๆ ที่ยังคงเฉิดฉายอยู่…
เกียวโตเป็นเมืองหลวงอันเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น อุดมไปด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองที่เต็มไปด้วยวัดโบราณ และอาคารขนาดใหญ่ของราชวงศ์ต่างๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่โตเกียวจะมีตึกสูงเรียงราย เพื่อรองรบนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้คนอีกกลุ่มหนึ่งเลือกที่จะสร้างบ้านหลังเล็กๆ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ที่ไม่มีความหรูหราอะไรมาก แต่ดูโดดเด่นไม่แพ้ตึกสูงระฟ้าเลย 1. บ้านหลังเล็กติดถนนใหญ่ เมื่อประมาณ 1 ปีก่อน John Einarsen ช่างภาพและผู้ก่อตั้งนิตยสาร Kyoto Journal ได้เริ่มโพสต์ภาพชุดที่มีชื่อว่า Small Buildings of Kyoto ลงในอินสตาแกรม ภาพชุดนี้ถ่ายจากกล้องไอโฟนในระหว่างที่ช่างภาพได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น และได้ปั่นจักรยานเป็นประจำทุกวันเพื่อชมความงดงามของเมืองเกียวโตแห่งนี้ 2. ร้านตัดผมนากาฮารา ในระหว่างการท่องเที่ยวนี้ เขาได้ถ่ายรูปมากกว่า 200 รูป ประกอบไปด้วยรูปบ้าน อาคารธุรกิจเล็กๆ ศาลเจ้า เวิร์คช็อป รวมทั้งโรงน้ำชา ซึ่งแต่ละที่ก็ล้วนมีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน อาคารเหล่านี้อาจไม่ได้ดูโดดเด่นอะไร แต่มันก็ทำให้เห็นถึงความแตกต่างและความงดงามในอีกแง่มุมหนึ่งท่ามกลางเมืองท่องเที่ยวและเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมแห่งนี้ 3. อาคารที่ประดับด้วยกุหลาบแดง 4. บ้านไม้เก่าๆ บนถนนโฮริคาวา 5. ศาลเจ้า Jizo…
-
รักสัตว์จริง ต้องไปให้สุด… ด้วยชุดว่ายน้ำสกรีนลายสัตว์เลี้ยง เพิ่มดีกรีความน่ารักในตัวคุณ!!
สำหรับคนรักสัตว์บางคน นอกจากเลี้ยงสัตว์ ช่วยเหลือสัตว์แล้ว พวกเขายังชอบคอลเลคชั่นที่เป็นรูปสัตว์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ และอื่นๆ ที่มีการสกรีนรูปสัตว์เต็มไปหมด!! ถ้าหากว่าสิ่งของเหล่านั้น ยังไม่อาจสนองความรักสัตว์ของคุณมากพอ ก็ขอเชิญพบกับคอลเลคชั่นชุดว่ายน้ำสกรีนรูปสัตว์เลี้ยง!! ไม่ว่าจะหันไปทางไหนคุณก็จะเห็นแต่รูปสัตว์เลี้ยง ทำเอาคนรักสัตว์ฟินสุดๆ ไปเลยล่ะ โดยคอลเลคชั่นชุดนี้ผลิตขึ้นโดย Petflair เป็นบริษัทในเครือของซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในการผลิตชุดว่ายน้ำและอุปกรณ์เสริมต่างๆ โดยมี Tyler Martin, Charlie Gearside และ Brittany Bloomer เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของคอลเลคชั่นนี้ จุดเริ่มต้นมาจากเพื่อนของ Martin ได้ขอให้สกรีนภาพน้องหมาบนชุดว่ายน้ำให้หน่อย แม้จะมองว่ามันเป็นความคิดที่ดูตลกในตอนแรก แต่เขาก็ยินดีที่จะทำให้ แต่ปรากฏว่ามีหลายคนที่ชื่นชอบชุดว่ายน้ำนั้น พวกเขาจึงได้เริ่มทำชุดว่ายน้ำสกรีนภาพสัตว์เลี้ยงออกขายแบบจริงจังซะเลย และขณะนี้อยู่ระหว่างการระดมทุนเป็นจำนวน 400,000 บาท ผ่านเว็บไซต์ Kickstarter เพื่อที่จะสามารถทำการผลิตและวางจำหน่ายได้จริง!! อีกทั้งคุณ Bloomer นั้น ก็เป็นผู้ก่อตั้ง Pound Paws ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ทำงานร่วมกับเจ้าของสัตว์เลี้ยง โดยการระดมทุนเพื่อให้เจ้าของได้ดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างดีที่สุด ดังนั้นเงินรายได้ส่วนหนึ่งของชุดว่ายน้ำนี้ ก็จะนำไปใช้กับโครงการดังกล่าวด้วย ชุดว่ายน้ำลายสัตว์เลี้ยงมีให้เลือก…
-
ลูกสาวรีบกลับไปเรียน แต่ดันลืมเอามะม่วงไปด้วย พ่อก็เลยส่งพัสดุตามไปให้ทันที!!
แม้ว่าจะเราโตแค่ไหน หรือเรียนในระดับไหน สำหรับพ่อแม่แล้ว เราก็ยังเป็นเพียงเด็กน้อยสำหรับท่าน จึงไม่แปลกที่พ่อแม่จะห่วงและและทะนุถนอมเรา ไม่ต่างจากตอนเป็นเด็กน้อยเลย แม้จะเป็นในช่วงที่เรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม อย่างเช่นหญิงสาวรายนี้ ที่ลืมมะม่วงที่ทางบ้านเตรียมไว้ให้ แต่แทนที่พ่อแม่จะเก็บไว้กินเอง พวกเขาก็ส่งไปให้ลูกที่มหาวิทยาลัยซะเลย… นี่คือ Cecilia Li วัย 19 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย UCLA และกำลังเรียนอยู่ในช่วงซัมเมอร์ ดังนั้นเมื่อมีเวลาว่างแม้เพียงนิดเดียว เธอจะกลับไปหาพ่อแม่ที่เมือง San Diego อยู่เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอมีเรียนวันอาทิตย์ ดังนั้นวันเสาร์เธอจึงกลับไปหาพ่อแม่ที่บ้าน และต้องรีบออกจากบ้านในเช้าวันต่อมา เพื่อไปให้ทันเวลาเรียน Li บอกว่า “ครอบครัวของเรามีสวนผลไม้ขนาดใหญ่ค่ะ ทุกๆ ปี เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว พ่อกับแม่จะซื้อกล่องสำหรับใส่มะม่วงเพื่อเอาไปแจกให้คนอื่นๆ” สำหรับ Li แล้ว มะม่วงคือผลไม้โปรด ดังนั้นเมื่อเธอกลับมาบ้านในวันเสาร์นี้ พ่อก็ได้หั่นมะม่วงเตรียมไว้ให้ แล้วใส่ตู้เย็นเอาไว้ เพื่อให้เธอพกติดไปด้วยในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอบอกว่า “พ่อทำงานวันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ ฉันก็เลยไม่ค่อยได้เจอเขา” นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกดีใจมาก ที่พ่อเตรียมผลไม้ให้ตอนที่เธอกลับบ้าน แต่น่าเสีย เมื่อถึงเช้าวันอาทิตย์ Li รีบมาก…
-
ศิลปินนำ “อึ” ตัวเองบรรจุกระป๋องให้เป็นงานศิลปะ จนกลายเป็นผลงานที่มีมูลค่านับล้านบาท
พูดถึง “อึ” ปุ๊บ หลายคนถึง “ยี้” ทันที โอ้ยก็มันเป็นขี้อะ ใครๆ ก็รังเกียจกันทั้งนั้น แต่เดี๋ยวก่อน เพราะในขณะที่เราพากันรังเกียจขี้นั้น มีใครคนหนึ่งทำให้ขี้กลายเป็นงานศิลปะ แถมยังมีมูลค่าจนทำให้ได้ดีในทุกวันนี้ นี่คืองานศิลปะที่ชื่อว่า Artist’s Shit เป็นการบรรจุขี้ใส่กระป๋อง ปริมาณ 30 กรัม โดย Piero Manzoni ศิลปินชาวอิตาเลียน และมีนักสะสมซื้อไปในราคาหลายหมื่นบาท Manzoni ได้ไอเดียการนำขี้มาทำเป็นงานศิลปะครั้งแรกเมื่อปี 1961 โดยการใช้ขี้ตัวเองบรรจุในกระป๋องขนาด 30 กรัม จนวันหนึ่งเขาก็ได้ขายมันในราคาที่แพงอย่างเหลือเชื่อ ในปี 2007 แกลเลอรี่ศิลปะ Tate ในกรุงลอนดอนได้ซื้อกระป๋องบรรจุขี้ของ Manzoni จำนวน 90 กระป๋อง มูลค่ารวม 900,000 บาท ในปีเดียวกันนี้กระป๋องบรรจุขี้ของ Merda d’Artista ก็ได้ถูกประมูลในมิลาน โดยมีราคาประมูลสูงถึง 3,500,000 บาท มันฟังดูบ้ามากใช่มั้ย แต่นั่นยังน้อยไป เพราะราคากระป๋องขี้ของ Manzoni ล่าสุด สูงถึง 13…
-
นี่คือ ‘นิทานก่อนนอน’ ของเด็กในเยอรมันที่น่าขนลุก จนไม่คิดว่าเป็นหนังสือเด็ก
หนังสือนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กมักจะเป็นเรื่องเหนือจินตนาการที่แฝงไปด้วยข้อคิด และที่ขาดไม่ได้คือรูปภาพประกอบที่มีความน่ารัก เหมาะสมกับเด็กๆ แต่มีนิทานก่อนนอนของเยอรมันเรื่องหนึ่งชื่อว่า Struwwelpeter ที่ประกอบไปด้วยเรื่องราวแปลกๆ และภาพที่ดูน่าขนลุก จนไม่คิดว่าถูกเขียนขึ้นมาเพื่อเด็ก ภายในหนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเรื่องย่อยๆ ที่มีเนื้อหาที่รุนแรง ตั้งแต่การเล่นอะไรแปลกๆ ไปจนถึงการตายอย่างน่ากลัว เนื้อหาของเรื่อง Struwwelpeter เริ่มด้วยเรื่องของเด็กผู้ชายที่ไม่ได้ดูแลตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น และด้วยเหตุนี้ทำให้เขากลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจ ในเรื่อง The Dreadful Story of the Matches เด็กผู้หญิงเล่นกับไม้ขีดไฟ แล้วเกิดพลาดท่า ทำให้ถูกไฟไหม้จนตาย เรื่อง The Story of the Black Boys มีคนที่ชื่อ Nikolas ได้จับตัวเด็กที่ไปล้อคนผิวสี แล้วสอนบทเรียนให้พวกเขาด้วยการใช้หมึกสีดำมาทาตัวทุกคน เรื่อง The Story of the Thumb-Sucker เป็นเรื่องของแม่ที่ตักเตือนลูกไม่ให้ดูดนิ้วมือ แต่เมื่อลูกออกไปข้างนอก เธอกลับดูดนิ้ว จนช่างเย็บผ้าเห็นเข้า ก็เลยใช้กรรไกรยักษ์ตัดนิ้วมือเด็กคนนั้นจนขาด เรื่อง The Story of the Soup-Kaspar เป็นเรื่องของ Augustus…
-
คุณหมอชาวจีนลงทุนเอากล้องสวนทวารด้วยตัวเอง เพื่อที่จะเข้าใจความรู้สึกคนได้ดียิ่งขึ้น
หลายคนมักจะคิดว่าหมอคือคนที่รู้ทุกอย่าง เข้าใจทุกอาการ แต่จริงๆ แล้วหมอก็พูดไปตามทฤษฎีและประสบการณ์จากคนไข้ที่ผ่านมานั่นแหละ เพราะหมอไม่ได้ประสบกับทุกโรคด้วยตัวเอง แต่นั่นไม่ใช่สำหรับคุณหมอเฟิ่งโจว รองผู้อำนวยการแผนก Proctology Department ของโรงพยาบาลเซี่ยงไฮ้ เพื่อที่จะเข้าใจคนไข้ได้ดียิ่งขึ้น คุณหมอเฟิ่งถึงกับใช้กล้องสวนทวารด้วยตัวเองเป็นเวลา 15 นาที เพื่อที่จะรู้ว่ามันรู้สึกยังไง สำหรับคนที่เคยตรวจด้วยการสวนทวารแบบนี้คงจะเข้าใจความรู้สึกนั้นดีว่า มันทั้งปวด หน่วง และรู้สึกอึดอัดในเวลาเดียวกัน วัตถุประสงค์หลักที่คุณหมอลงทุนสวนกล้องด้วยตัวเองคือเพื่อที่จะพัฒนาทักษะการผ่าตัดของเขา และเพื่อที่จะได้รู้แต่ละขั้นตอนนั้นควรจะทำอย่างไรให้คนไข้รู้สึกสบายตัวที่สุด หลังจากที่ลองสวนกล้องใส่ทวารเรียบร้อยแล้ว คุณหมอเฟ่ย ได้โพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์เหล่านี้ลงในหน้า WeChat ของตัวเอง โดยอธิบายว่า เวลาที่แพทย์ทำการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ควรจะทำด้วยความเบามือ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนไข้รู้สึกปวด แต่ทางที่ดีควรใช้ยาระบายคุณภาพดีๆ จะดีกว่า จริงๆ แล้ว หมอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก แต่คุณหมอคนนี้คิดว่าเพื่อความปลอดภัย และการอยู่รอดของคนไข้แล้ว มันคุ้มที่จะเสี่ยงนะ แบบนี้สิ ถึงจะเรียกว่าเป็นหมอที่เข้าใจคนไข้จริงๆ ที่มา odditycentral
-
โมเม้นต์น่ารัก เมื่อเจ้าเมียร์แคทโจมตีเสือชีต้าร์ แต่พี่เสือคิดว่าตัวเองโดนลูบ ฟินเฉยเลย!!
ใครจะไปคิดว่าสัตว์นักล่าอย่างเสือชีตาร์จะมีโมเม้นต์อ่อนโยน มุ้งมิ้งกับเค้าด้วย โดยเฉพาะเจ้าตัวที่ชื่อ Kinji ที่เป็นมิตรกับสัตว์เล็กสัตว์น้อยเกือบทุกตัว Kinji อาศัยอยู่ที่ Cheetah Experience องค์กรไม่หวังผลกำไรในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงสำหรับสัตว์หลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะสัตว์ที่ถูกคุกคามอย่าง เสือชีตาร์ เสือดาว สิงโตตัวผู้ เสิร์ฟ แคราแคล แมวป่าแอฟริกัน หมาป่า เมียร์แคท และเสือไซบีเรีย สำหรับ Kinji นั้น มันชอบเมียร์แคทมากๆ และมักจะไปหาพวกมันอยู่บ่อยๆ แต่ทางด้านเมียร์แคท มันเห็นเสือชีตาร์เป็นศัตรูที่จะมาคุกคามพวกมัน ดังนั้นเมื่อ Kinji เข้ามาใกล้ มันจะพยายามโจมตีเพื่อป้องกันตัวที หารู้ไม่ว่าการโจมตีของพวกมันถูกใจเจ้า Kinji มาก เพราะการที่ถูกเมียร์แคทโจมตีด้วยอุ้งมือเล็กๆ ทำให้มันคิดว่าพวกมันเล่นด้วย และรู้สึกฟินเหมือนกำลังโดนลูบยังไงอย่างงั้น นี่เป็นเหตุผลที่มันมาหาเจ้าสัตว์เล็กพวกนี้บ่อยๆ ยังไงล่ะ ผู้ดูแล Dolph C. Volker บอกว่า “ปกติแล้ว Kinji จะไม่ค่อยทำเสียงคำราม แต่มีเพียงพวกเมียร์แคทเท่านั้นที่ทำให้มันเผยเสียงแห่งความฟินออกมาได้” เห็นได้ชัดว่า Kinji ชอบและรู้สึกฟินเมื่อถูกเกาตัว เหมือนที่พวกเมียร์แคททำ แม้ว่าจริงๆ…
-
25 สัตว์เลี้ยงผู้น่ารัก คาบของขวัญมาให้เจ้าของ บางอย่างอาจดูน่ากลัวไปบ้าง แต่มันหวังดีนะ
ใครที่เลี้ยงสุนัขหรือแมว คงจะเคยเจอช่วงเวลาที่พวกมันชอบคาบของโน่นนี่มาให้ นั่นเป็นเพราะพวกมันอยากขอบคุณเรา แต่มันพูดไม่ได้ เลยเลือกที่จะคาบของขวัญมาให้แทน ไม่ว่าของที่น้องหมาน้องแมวคาบมานั้นจะเป็นอะไรก็ตาม พวกมันจะเอามาให้ด้วยความภาคภูมิใจ อาจมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เจ้าของอย่างเราช็อคไปบ้าง แต่ต้องเข้าใจว่ามันอยากขอบคุณเราจริงๆ นะ 1. หมาน้อยกับของขวัญสุดคิ้วท์ 2. ลั่นเลย เมื่อน้องหมาใส่ฟันปลอมของเจ้าของ 3. เจ้าเหมียวผู้นำดอกไม้มาให้เจ้าของทุกคืน 4. โยนบอลไปให้ แต่มันกลับมาพร้อมมันฝรั่ง 5. เอาก้อนดินมาให้ แล้วดูสายตามันสิ ออดอ้อนเชียว 6. นี่คือลูกแมวที่เจ้าหมาคาบมาให้เจ้าของ 7. ส่วนเจ้าตัวนี้เอาดอกไม้มาให้เจ้าของ น่ารักเชียว 8. หมาที่ออฟฟิศคาบของเล่นทุกชิ้นมาให้ เพื่ออ้อนมนุษย์ให้อยู่ต่อ 9. เจ้าเหมียวขโมยไส้กรอกของเพื่อนบ้าน เพื่อเอามาให้เจ้าของของมัน 10. เมื่อเจ้าตูบตัวนี้ได้รักใครแล้ว มันจะคาบหมอนมาให้แบบนี้ 11. เจ้าเหมียวไม่ยอมน้อยหน้าพี่ของมันที่มีทักษะในการล่า มันเลยจะเอาบ้าง ด้วยการคาบใบไม้มาให้ สุดยอดไปเลย 555 …
-
หนุ่มแอบขโมยสุนัขเพื่อนบ้านไปทำอาหารขาย โดนเจ้าของหมาไล่ตามสืบจนจับตัวได้
ในขณะที่คนส่วนใหญ่เลี้ยงสุนัขด้วยความทะนุถนอมด้วยความรักและเอ็นดูพวกมันเหมือนลูกคนหนึ่ง แต่ยังมีคนอีกกลุ่มที่เห็นสุนัขเป็นอาหาร และฆ่าพวกมันอย่างเหี้ยมโหด เหมือนกับเจ้าของร้านอาหารในเมืองยี่ฉางในมณฑลเหอเป่ย ที่แอบขโมยและฆ่าสุนัขในละแวกใกล้เคียงเพื่อไปทำอาหาร แต่สุดท้ายก็โดนเจ้าของหมาตามสืบจนเจอ เช้าวันพุธที่ผ่านมา ตำรวจในเมืองยี่ฉาง ได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งว่า สุนัขของเขาถูกฆ่าและตอนนี้มันอยู่ในรถ และเขากำลังไล่ตามรถคันนั้น เมื่อตำรวจมาถึงที่รับแจ้ง ก็พบรถสีดำคันหนึ่งจอดทิ้งไว้บนทางเท้า โดยมีล้อข้างหนึ่งหลุด คาดว่าน่าจะผ่านการชนมาอย่างรุนแรง วันต่อมาได้มีการเผยแพร่คลิปในสื่อออนไลน์ของประเทศจีน เป็นเหตุการณ์ขณะที่เจ้าของหมาตามรถที่ขโมย ก่อนจะชนเข้าที่ท้ายรถ จนทำให้รถคันดังกล่าวขึ้นมาอยู่บนทางเท้าอย่างที่เห็น คนที่เหตุการณ์เล่าว่า หลังจากที่เกิดเหตุ คนที่ขับรถคันนี้ได้วิ่งหนีไปทันที จากนั้นตำรวจก็ได้เปิดดูท้ายรถ ปรากฏว่าในนั้นมีสุนัขที่ตายแล้วถึง 8 ตัว ซึ่งบางตัวเป็นหมาของชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง คนร้ายลอยนวลได้ไม่นาน ตำรวจก็ตามจับตัวจนได้ เขาให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆ ในท้องถิ่น โดยที่รู้จักกันในชื่อ dog hot pot และเพื่อที่จะทำเมนูพิเศษสำหรับลูกค้า เขาจึงได้ออกไปล่าสุนัขในตอนเช้ามืด โดยมีภรรยาเป็นคนคอยเก็บสุนัขที่เขาฆ่าตายมาใส่ไว้ในรถ ขณะที่ยังไม่สามารถระบุโทษที่ชัดเจนสำหรับผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากจีนมีกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่หละหลวมมาก ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องทำการพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง มนุษย์หนอ กะจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าหรือไง ที่มา shanghaiist
-
อินเดียเริ่มสร้างรถไฟหัวกระสุน โดยได้รับความร่วมมือจากญี่ปุ่น เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน การเดินทางถือเป็นกิจกรรมหลักของประชากรส่วนใหญ่ในแต่ละวัน ดังนั้น หลายๆ ประเทศจึงต้องปรับปรุงและพัฒนาระบบการขนส่งให้เหมาะสมกับความต้องการอยู่เสมอ ล่าสุดประเทศที่มีประชากรจำนวนมากอย่างอินเดียก็เริ่มสร้างรถไฟความเร็วสูงแล้ว เพื่อที่จะรองรับการเดินทางของประชากรทั่วประเทศ สำหรับรถไฟความเร็วสูงนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2022 โดยจะลดระยะเวลาการเดินทางจาก 8 ชั่วโมง เหลือเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งนี้อินเดียได้รับความช่วยเหลือจากญี่ปุ่น ในการสร้างรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งได้เกือบ 500 กิโลเมตร ระหว่าง Ahmadabad ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าของอินเดีย ไปยังศูนย์กลางทางการเงินของอินเดียที่เมืองมุมไบ นอกจากเสนอความช่วยเหลือแล้วด้านการสร้างแล้ว ญึ่ปุ่นยังให้ความช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับทำโครงการนี้อีกด้วย โดยการให้กู้เงินและคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ ความร่วมมือดังกล่าวนี้ส่งผลให้ผู้นำอินเดีย Narendra Modi และญี่ปุ่น Shinzo Abe ได้ระดมแรงงานกว่า 4,000 คน เพื่อฝึกอบรมในการทำรถไฟความเร็วเร็วสูง ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า “นายกรัฐมนตรี Narendra Modi เป็นเพื่อนที่ดีของผม เขาเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขาได้ตัดสินใจที่จะสร้างรถไฟความเร็วสูงเมื่อ 2 ปี ก่อน เพื่อที่จะนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่อินเดีย” “เมื่อผมกลับที่นี่อีกครั้งในไม่กี่ปีข้างหน้า ผมคาดหวังว่าจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามของอินเดีย ผ่านหน้าต่างรถไฟหัวกระสุน” ทางด้านนักวิเคราะห์บอกว่า การสร้างรถไฟความเร็วสูงจะช่วยเพิ่มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภาคอุตสาหกรรมตะวันตกของอินเดียที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยลดความแออัดในเมืองด้วย…
-
หนุ่มห่วงเจ้าเต่าน้อยแอบหนีเที่ยว กลับมาอีกทีมี ‘สติ๊กเกอร์รูปหัวใจ’ ติดกลับมาด้วย!?
เต่าเป็นสัตว์ที่เชื่องช้า อุ้ยอ้าย ดูไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ไม่น่าจะหนีไปไหนได้ ถ้าหากเราเอามาเลี้ยง แต่อย่าชะล่าใจไปเชียว เพราะเต่ามันร้ายกว่าที่คิดนะคะคุณพี่!! นี่คือเจ้าเต่าที่มีชื่อว่า Odette เป็นสัตว์เลี้ยงของ Thomás Tavares ทั้งคู่เปรียบเหมือนเพื่อนสนิทของกันและกัน แต่เดี๋ยวก่อน ถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่ก็ใช่ว่ามันอยากมีคุณอยู่ด้วยทุกที่ทุกเวลานะ ตอนนี้ Odette อายุ 4 ขวบ ปกติมันจะชอบเดินเล่นทั่วบ้านรวมทั้งในสวนหลังบ้านกับเจ้าของ ภายในเมือง Rio de Janeiro ประเทศบราซิล มีบางครั้งที่เจ้าเต่าต้องการความสงบ อยากอยู่ตัวคนเดียว มันก็จะแอบหนีออกไปนอกบ้านซักพัก หลังจากนั้นประมาณวันหรือสองวันมันก็จะกลับมาเอง แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดความผิดปกติขึ้น เมื่อปลายเดือนที่แล้ว Odette ออกจากบ้านไปนานกว่าปกติ จากวันเป็นสัปดาห์ จนทำให้ Thomás รู้สึกเสียใจมาก เพราะคิดว่าจะไม่ได้เจอมันอีก เจ้าของคิดอยู่เสมอว่า มันได้รับบาดเจ็บที่ไหนหรือเปล่า? หรือมันจะหนีจากเขาไปแล้วจริงๆ? เขากังวลมากและคิดแต่เรื่องเหล่านี้วนไปวนมา แต่หารู้ไม่ว่า Odette กำลังออกไปหาความสุขโดยไม่อยากให้เขาไปด้วยต่างหาก… Thomás รู้เรื่องนี้เมื่อได้พบกับเจ้าเต่าอีกครั้ง หลังจากมันหายไปนานกว่า 3 สัปดาห์ เจ้าของเล่าว่า “วันนั้นผมกับแม่กำลังจะออกจากบ้าน แล้วผมก็เห็น Odette กำลังข้ามถนนมา เพื่อที่จะกลับมาบ้านของเรา และที่ผิดสังเกตคือ…
-
สาวเปิดเจอภาพถ่ายในหีบเก่า จึงประกาศหาครอบครัวของคนในภาพ เพื่อนำรูปส่งคืนให้…
สำหรับคนที่ชอบสะสมของเก่า อาจจะมีบางครั้งที่คุณเจอกับสิ่งของที่สร้างความประหลาดใจได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวแปลกๆ หรือหลักฐานแปลกๆ จากอดีต เหมือนกับหญิงสาวชาวนิวซีแลนด์ที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @irisshackleton ได้ซื้อหีบเก่าใบหนึ่งมา ซึ่งเป็นหีบโบราณแบบญี่ปุ่น แต่เมื่อเปิดหีบออกมาแล้ว เขาก็เจอรูปภาพขาวดำจำนวนหนึ่งอยู่ในนั้น แม้ตัวเธอเองจะไม่รู้ว่าคนในรูปเหล่านี้คือใคร แต่เธอก็มุ่งมั่นที่จะส่งคืนรูปเหล่านี้ให้กับครอบครัวหรือลูกหลานของคนในภาพ แน่นอนว่าการตามครอบครัวพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เธอได้สอบถามกับทางร้านที่ซื้อหีบใบนี้มา เพื่อถามหาต้นตอของหีบใบนี้ แต่คนที่นำหีบใบนี้มาไว้ที่ร้านไม่อยู่เสียแล้ว จากนั้นจึงได้ตัดสินใจขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียลแทน เธอได้ทำการอัพโหลดรูปภาพเหล่านี้ในทวิตเตอร์และเขียนแคปชั่นว่า “ฉันต้องการความช่วยเหลือ ฉันซื้อหีบเก่าใบหนึ่งมา แล้วเจอรูปภาพเหล่านี้อยู่ข้างใน อยากให้ช่วยตามหาครอบครัวของคนในรูป เพื่อที่ฉันได้ส่งรูปพวกนี้ไปให้พวกเขา” ชาวเน็ตไม่นิ่งเฉย พวกเขาได้แชร์รูปนี้กันอย่างรวดเร็ว โดยมีการแชร์ลงในเฟสบุ๊กด้วย เพื่อขยายกลุ่มสังคมให้กว้างขึ้น โดยเจ้าของทวิตเตอร์ @Snfm23 ได้ส่งเรื่องนี้ไปยังสถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นด้วย นอกจากนี้คนอื่นๆ ยังส่งข้อมูลนี้เพื่อตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์เป็นภาษาญี่ปุ่น ตอนนี้ได้มีการรีทวิตกว่า 34,000 ครั้ง ทางด้านสื่อโทรทัศน์ของญี่ปุ่นก็กำลังนำเสนอเรื่องนี้ และเริ่มแพร่กระจายไปทั่วสังคมออนไลน์ในญี่ปุ่นแล้ว เนื่องจากไม่มีตัวหนังสือหรือตัวเลขใดๆ ในหีบหรือในรูปภาพเลย ดังนั้นชาวเน็ตจึงต้องทำการคาดเดาตำแหน่งและเวลาที่ถ่ายภาพ เพื่อให้ง่ายต่อการตามหาลูกหลาน มีหลายคนบอกว่า ดูจากลักษณะเสื้อผ้าแล้ว น่าจะอยู่ในช่วงปลายยุคเมจิหรือ ช่วงต้นยุคไทโช (ปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20) ขณะที่บางคนคาดเดาจากของเล่นเด็กภายในภาพ โดยจะดูว่าเป็นของในยุคไหนหรืออยู่ในภูมิภาคใดของประเทศ นี่เป็นการแสดงออกถึงพลังโซเชียล…
-
เปิดแฟ้มภาพเชลยศึกช่วงสงครามโลกที่ 2 จากค่ายกักกันญี่ปุ่น ที่ผ่ายผอมจนหนังติดกระดูก
เราคงเคยเห็นภาพประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกที่สอง ที่เผยให้ถึงความความเสียหาย ความหดหู่ และการสูญเสียอีกนับไม่ถ้วน เช่นเดียวกับภาพที่น่าตกใจเหล่านี้ เป็นภาพของเชลยศึกชาวอังกฤษที่ผอมจนหนังติดกระดูก หลังถูกจับและกักกันในค่ายเชลยศึกของฝ่ายญี่ปุ่น ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากการล่มสลายของญี่ปุ่นในปี 1945 ทหารอังกฤษนับร้อยคนถูกพบอยู่ในสภาวะหิวโหย ร่างกายผอมแห้ง และถูกทำร้ายโดยกลุ่มที่จับตัวพวกเขาไป ช่างภาพได้ถ่ายภาพของเชลยศึกเหล่านี้เอาไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในคดีอาชญากรรมสงครามในอนาคต ซึ่งแต่ละคนนั้นดูอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากต้องเผชิญกับความหิวโหย และถูกบังคับใช้แรงงานจนร่างกายผอมแห้งแล้ว พวกเขายังถูกทำร้ายร่างกายด้วยวิธีต่างๆ นานา ซึ่งโหดร้ายเกินจะรับได้ เชลยคนหนึ่งถูกจับขังบนเก้าอี้ทรมานที่ค่ายญี่ปุ่น ในค่ายญี่ปุ่น มีผู้คุมที่โหดเหี้ยมสองคนคือร้อยโท Kishio Usuki และชาวเกาหลีที่มีชื่อว่า Mad Mongrel สำหรับ Usuki นั้น คอยคุมและเฆี่ยนตีเชลยศึกที่ทำงานที่ทางรถไฟสายมรณะ ในบริเวณของประเทศพม่า นอกจากนี้เขายังได้ตัดหัวของหนึ่งในเชลยศึกชาวอังกฤษต่อหน้าคนอื่นๆ เนื่องจากพยายามหลบหนี อย่างไรก็ตามผู้คุมทั้งสองคนนี้ถูกตัดสินประหารชีวิตในภายหลัง ร้อยโท Usuki ผู้คุมอันโหดเหี้ยม ที่รู้จักกันในชื่อ Black Prince ส่วนนี่คือผู้คุมชาวเกาหลี มีฉายาว่า Mad Mongrel นอกจากสองคนนี้แล้วก็ยังมีสิบเอก…
-
สาวๆ ถึงกับยอมพลีกาย เมื่อได้เห็น ‘กลุ่มตำรวจสุดหล่อ’ ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้คนจากพายุเออร์มา
หลังจากที่พายุเออร์มาเข้าถล่มรัฐฟลอริดา ทำให้อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ผู้คนอยู่อย่างหวาดระแวง แต่ในขณะเดียวกันนี้ก็มีเรื่องที่ทำให้ผู้คนหัวใจเบิกบานขึ้นได้บ้าง โดยเฉพาะสาวๆ และคนที่ทำให้หัวใจสาวๆ เต้นระรัวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ Nordman Hamill และ Rengering จาก Gainesville Police Department รัฐฟลอริดาที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังพายุเออร์มาถล่ม ซึ่งเป็นอะไรที่ดีต่อใจสาวๆ มาก!! เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพจเฟสบุ๊กของ Gainesville Police Department ได้โพสต์ภาพตำรวจหนุ่มทั้งสามคน พร้อมแคปชั่นว่า “เจ้าหน้าที่ Norman Hamill และ Rengering พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่แล้ว” ดูเหมือนจะเป็นการลงภาพธรรมดาทั่วไป เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ว่าตำรวจได้ออกปฏิบัติหน้าที่แล้ว แต่เพียงแค่เวลาสั้นๆ รูปภาพดังกล่าวก็ถูกแชร์ไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต โดยมีคนกดถูกใจกว่า 207,000 คน และมีคอมเม้นต์อีก 167,000 ครั้ง และจำนวนแชร์กระหน่ำออกไปอีก 132,000 ครั้ง ซึ่งแต่ละคอมเม้นต์ก็แบบว่าไม่ได้เก็บอาการอะไรเลย… ขนาดไม่ได้อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ก็ยังอยากไปอยู่ที่นี่เพื่อที่จะได้เจอเจ้าหน้าสุดหล่อทั้ง 3 คนนี้ยังไงล่ะ ฮร่าาาา ทักษะมารยาสุดคลาสสิค ‘คุณตำรวจขา ฉันหายใจไม่ออก ช่วยฉันด้วยค่ะ ขอแบบปากติดแนบชิดเลยน้าาา’ นี่สินะที่เป็นเหตุผลของคุณยาย…
-
จากการศึกษาพบว่า ‘การให้สุนัขนอนกับเราในห้อง’ จะช่วยให้คุณหลับสบายมากยิ่งขึ้น!!
หลายคนคิดว่าการพาสุนัขมานอนในห้องด้วย จะทำให้นอนได้ไม่เต็มอิ่ม หรือนอนหลับไม่สบาย เพราะกลัวน้องหมาตื่นมาเล่นหรือเห่าเสียงดังรบกวน แต่ผลการศึกษาใหม่กลับพบว่า การให้น้องหมามานอนกับเรานั้น จะทำให้เรารู้สึกสบาย ปลอดภัย และจะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น นักวิจัยจาก Centre for Sleep Medicine เผยว่าการนอนกับสัตว์เลี้ยงนั้น ส่งผลดีต่อการนอนหลับของมนุษย์ โดยทำการวิจัยกับกลุ่มผู้ใหญ่จำนวน 40 คน ที่เคยนอนกับสุนัขมานานกว่า 5 เดือน Dr Lois Krahn ผู้เขียนงานวิจัยกล่าวว่า “คนส่วนใหญ่คิดว่าการให้สัตว์เลี้ยงมานอนด้วยนั้นจะเป็นอุปสรรคต่อการนอน แต่เราพบว่าหลายคนรู้สึกสบาย ปลอดภัย และนอนหลับได้ง่ายเมื่อมีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย” ทั้งนี้นักวิจัยบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นสุนัขสายพันธุ์อะไรก็ตาม มันจะทำให้คุณนอนหลับได้อย่างสบายเหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้ก็คือ อย่าให้สุนัขนอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคุณโดยเด็ดขาด สาเหตุที่ไม่ควรนอนร่วมผ้าห่มกับสุนัข นั่นก็เป็นเพราะจะทำให้คุณภาพการนอนของทั้งเจ้าของและสุนัขแย่ลง และเพื่อนๆ รู้ไหมว่า สุนัขเองก็ฝันได้เหมือนกับมนุษย์ และสุนัขจะมีลักษณะการฝันที่คล้ายกับมนุษย์ เช่นฝันถึงชีวิตประจำวัน สำหรับสุนัขขนาดกลาง จะฝันรอบละประมาณ 20 นาที สังเกตจากลูกตาของมันเคลื่อนไปมาทั้งๆ ที่เปลือกตาปิดอยู่ และมีจังหวะการหายใจไม่ค่อยสม่ำเสมอ ส่วนสุนัขขนาดเล็กจะฝันบ่อยกว่า แต่ละครั้งก็จะกินเวลาเพียงสั้นๆ เท่านั้น…
-
เมื่อมนุษย์หวังให้หมากับแมว เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ในความเป็นจริงคือศัตรูกันตลอดกาล…
เราคงจะเคยได้ยินว่าหมากับแมวอยู่ด้วยกันไม่ได้ เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะหมามีนิสัยขี้เล่น ในขณะที่แมวชอบความสงบและความเป็นส่วนตัว(สูง) ดังนั้นถ้ามันมาอยู่ด้วยก็คงจะมีความขัดแย้งกันบ้างเป็นธรรมดา… อย่างไรก็ตาม หลายๆ คนก็เลือกที่จะเลี้ยงหมากับแมวไว้ด้วยกัน เพราะเวลาที่พวกมันมาอยู่ด้วยกัน มักเกิดช่วงเวลาที่น่ารักเสมอ อย่างเช่นภาพตัวอย่างที่จะได้เห็นเหล่านี้เจ้าหมาแมวเหล่านี้ 1. มองไปทางไหนก็เจอแต่แมว ถึงกับเกร็งเลย 2. ตอนอยู่กันตามลำพัง VS เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าของ 3. หน้าเจ้าเหมียว เมื่อเจ้าของเล่นงุ้งงิ้งกับหมา 4. อืม ใครต้องกลัวใครกันแน่ 5. จะนอนก็ไม่ได้นอน กวนอยู่นั่นแหละ 6. โดนแย่งที่ซะละ จะทวงคืนยังไงล่ะเนี่ย 7. นี่คือสายตาของเจ้าเหมียว เมื่อเจ้าของพาหมาตัวใหม่เข้าบ้าน 8. ยอมให้แมวทุกอย่าง… ลองขัดใจดูสิ 9. เมื่อคุณเลีี้ยงหมากับแมวไว้ด้วยกัน ก็ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้แหละ 10. เมื่อหมาโดนแมวแย่งที่นอน จะทวงคืนก็กลัวพลังเล็บของมัน เลยฟ้องเจ้าของด้วยสีหน้าแบบนี้ 11. ดูก็รู้ว่าใครเหนือกว่า น้องหมานี่แทบไม่กล้าขยับเลย…
-
ช่างภาพถ่ายทอด “พิธีขับไล่ปีศาจ” จากเอธิโอเปีย ความเชื่อที่ต้องแลกด้วยเม็ดเงิน…
ทุกวันนี้แม้โลกจะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ผู้คนให้การยอมรับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีกลุ่มคนไม่น้อยที่ยังไม่ละทิ้งความเชื่อแบบดั้งเดิม และสืบทอดมาจนปัจจุบันนี้ อย่างเช่น พิธีขับไล่ปีศาจของชาวเอธิโอเปีย แม้จะไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ แต่พวกเขาต่างก็นับถือและปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด พิธีกรรมดังกล่าวนี้ได้รับการถ่ายทอดโดย David Tesinsky ช่างภาพที่พยายามเก็บเงิน ซื้อตั๋วที่มีราคาถูกที่สุด ศึกษาหาข้อมูล จนพาตัวเองมาอยู่ในเมือง Addis Ababa สภาพของเมืองหลวง Addis Ababa นั้นไม่ต่างจากชุมชนแออัด และเต็มไปด้วยผู้คนที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไหร่ เพราะ David เกือบถูกปล้น แต่เขาได้ทำการต่อสู้และขัดขืนจึงทำให้รอดพ้นมาได้ มันไม่ได้แย่ไปซะทุกอย่าง เมื่อ David รู้ว่าที่นี่มีพิธีขับไล่ และนั่นทำให้เขาตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาประมาณตี 4 ตี 5 เพื่อที่จะไปดูและเก็บภาพพิธีกรรมดังกล่าว ช่างภาพตัดสินใจเดินทางไปยังโบสถ์ ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธี โดยคาดหวังว่าพวกเขาจะอนุญาตให้เขาถ่ายรูประหว่างทำพิธีได้ ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่มาสังเกตการณ์ที่นี่ เขาเห็นผู้คนมากกว่า 150 ชีวิต มานั่งรอเพื่อที่จะได้พบกับนักบวช Memehir พวกเขาเหล่านั้นมีอาการกรีดร้อง ร้องไห้ และหัวเราแบบแปลกๆ เมื่อนักบวชออกมา เขาได้ตบศีรษะของคนที่มีอาการเหล่านั้นทีละคน พร้อมกับสาดน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทำการขับไล่ปีศาจที่สิงสู่อยู่ในร่างกายพวกเขา …
-
เจ้าเหมียวมาแจกความสุขในซุปเปอร์มาร์เก็ตทุกวัน จนผู้คนร่วมสร้างรูปปั้นให้ เมื่อมันจากไป
ใครที่สร้างความสุขให้กับผู้คน มักจะได้รับการชื่นชมเสมอ โดยเฉพาะหากใครคนหนึ่งเป็นสัตว์เลี้ยง มันได้รับความรัก ความเอ็นดูจากผู้คนอย่างไม่ขาดสายเลยล่ะ เหมือน Brutus เจ้าเหมียวที่ชอบไปซุปเปอร์มาร์เก็ตในท้องถิ่นทุกวันจนกลายเป็นบ้านหลังที่สองของมันแล้ว ที่สำคัญคือมันได้สร้างความสุขให้กับทุกคน จนบางคนมาซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อมาเจอมันโดยเฉพาะก็มี ทุกๆ วัน Brutus จะมาเดินเล่นในซุปเปอร์มาร์เก็ต Morrisons สหราชอาณาจักร และคอยช่วยเจ้าร้านของต้อนรับและทักทายลูกค้าเสมอ ทุกคนที่เข้ามาในซุปเปอร์มาร์เก็ต Morrisons จะได้เห็นรอยยิ้มของเจ้าเหมียวตัวนี้ และไม่มีใครเลยที่จะอดเล่นกับมันได้ แต่นั้นยังไม่พอ มันยังโผล่ไปเซอร์ไพรส์ผู้คนตามโซนสินค้าต่างๆ ยิ่งสร้างความประทับใจให้ลูกค้าไปอีกขั้น Claire Owens เจ้าของของเจ้าเหมียวบอกว่า “Brutus กลายเป็นขวัญใจของผู้คนที่มาช้อปปิ้งใน Morrisons จนทำให้มีผู้ติดตามในเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญเราได้รับข้อความจากแฟนคลับจำนวนมาก จนอ่านไม่ทันเลยล่ะ” Brutus สร้างความสุขให้กับทุกคนคนวัย ครั้งแรกมันอาจจะมาที่นี่เพราะความชอบส่วนตัว และหลังๆ นี้ มันไปเพราะรู้ว่ามีหลายคนรอคอยมันอยู่ ไม่ว่าเจ้าเหมียวจะทำอะไร ก็มีแต่รุมล้อมมัน ราวกับมันเป็นเซเลบประจำซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ ที่สำคัญคือมันเป็นแมวที่ชอบกล้องมาก ดังนั้นทุกคนที่อยากได้ภาพสวยๆ ของมัน ไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะนางจะเก๊กให้ถ่ายแต่โดยไม่ต้องบอกเลย สื่อเล่าว่าในปี 2013 หมอตรวจพบว่ามันเป็นโรค Polycystic ซึ่งเป็นตั้งแต่เกิด และรักษาไม่หาย…
-
เจ้าของสะพายคอร์กี้ไปตามแหล่งชุมชน เพื่อแบ่งปันความสุขที่ได้จากรอยยิ้มของน้องหมา
การสะพายน้องหมาใส่กระเป๋าไปแล้วเดินไปตามสถานที่ที่มีคนเยอะๆ ไม่เพียงแค่ทำให้สุนัขมีความสุข และยังได้สร้างรอยยิ้มให้ทุกคนที่พบเห็นด้วย และยิ่งถ้าเป็นหมาที่น่ารักและเป็นมิตรกับทุกคนเหมือนเจ้าคอร์กี้ที่ชื่อ Maxine ตัวนี้ มันทำให้ผู้คนหลงรักจนอยากตามมันกลับบ้านด้วยเลย Maxine เป็นสุนัขตัวเมียอาศัยอยู่ที่นิวยอร์กกับเจ้าของ Bryan Reisberg และภรรยาของเขา ทั้งคู่ไม่เพียงแต่เลี้ยงน้องหมาไว้ในบ้าน แต่มักจะมันออกไปท่องเที่ยวและพบปะผู้คนบ่อยๆ แทนที่จะพาเดินเหมือนสุนัขทั่วไป Bryan เลือกที่จะใส่น้องหมาไว้ในกระเป๋าเป้สะพายหลัง ซึ่งเจ้า Maxine ก็ชอบที่อยู่ในเป้แบบนี้ด้วยสิ เจ้าของเล่าว่า เขาโชคดีมากที่ทำงานที่เจ้านายอนุญาตให้เอาหมามาได้ ดังนั้นตอนที่ Maxine ยังเป็นเด็ก เขาก็มักจะเอามันใส่เป้แล้วพาไปทำงานด้วย ทำให้มันติดจนทุกวันนี้ เช่นเดียวกับเจ้าของคนอื่นๆ Bryan ชอบบันทึกวิดีโอทุกช่วงเวลาของน้องหมา ไม่ว่าจะเป็นตอนไปเดินเล่น ขับรถ หรือแม้แต่ตอนขึ้นรถโดยสารสาธารณะ ทุกครั้งที่พาน้องหมาใส่เป้แล้วออกไปข้างนอก มันมักจะแจกรอยยิ้มให้ทุกคนที่เจอเสมอ และนั่นก็ทำให้ผู้คนมีความสุขไปด้วยเมื่อเห็นสุนัขตัวนี้ Bryan บอกว่าเจ้าหมาตัวนี้ทำให้เขามีความสุขเสมอ ดังนั้นเขาจึงอยากแบ่งความความสุขนี้ให้กับคนอื่นๆ ด้วย และมันก็ได้ผลจริงๆ เขาได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้คนบนรถไฟใต้ดินที่แออัด นั่นเป็นเพราะพวกเขาได้เห็นความน่ารักของ Maxine สำหรับคนที่ไม่ได้ใกล้ชิดเจ้า Maxine ไม่ต้องเสียใจ เพราะเพื่อนๆ สามารถติดตามและดูความน่ารักของมันได้ที่เฟซบุ๊ก Maxine the Fluffy Corgi หรืออินสตาแกรม madmax_fluffyroad …
-
เรื่องราวของ “บ๊อบ” สุนัขที่ชื่นชอบรถไฟเป็นชีวิตจิตใจ จนได้เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลบนรถไฟ
สุนัขไม่ต่างจากมนุษย์เราเลย พวกมันมีสิ่งที่ชอบ มีความฝัน และคาดหวังว่าทำความฝันให้สำเร็จในสักวันหนึ่ง แต่ฝันของบางตัวจะไม่สำเร็จเลย ถ้าไม่ได้โอกาสจากมนุษย์ เช่นเดียวกับ บ๊อบ สุนัขที่ชื่นชอบรถไฟเป็นชีวิตจิตใจ จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ และถูกนำไปสร้างเป็นรูปปั้นในที่สุด บ๊อบ สุนัขรถไฟหรือที่รู้จักกันในชื่อ Terowie Bob ซึ่งเป็นสุนัขที่มีบทบาทสำคัญกับการรถไฟ South Australian Railways บ๊อบเกิดที่ออสเตรเลียใต้เมื่อปี 1882 มันเป็นหมาที่ชอบรถไฟมาก โดยในช่วงปีแรกๆ ของชีวิตบ๊อบเป็นเพียงหมาจรจัด แต่มันจะคอยเดินตามคนงานประจำรางรถไฟไปทำงานเสมอ จนวันหนึ่งน้องหมาถูกคนจับตัวไป เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มันเกือบตาย แต่โชคดีที่นายสถานีผู้ใจดีคนหนึ่งได้ซื้อตัวบ๊อบเอาไว้ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็พาบ๊อบขึ้นรถไฟไปด้วยทุกที่ นอกจากพาไปด้วยทุกที่แล้ว เจ้าของยังแต่งตั้งให้เจ้าบ๊อบเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลรถไฟในตู้รถไฟด้วย ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ได้ดีเสมอ ในที่สุด เจ้าของของน้องหมาก็ได้เลื่อนตำแหน่งให้ นั่นทำให้เจ้าของกับบ๊อบจำเป็นต้องแยกทางกัน และทำให้บ๊อบเริ่มขึ้นรถไฟออกเดินทางไปตามลำพังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บ๊อบได้เดินทางไปทั่วออสเตรเลียใต้ จนทำให้มันกลายเป็นภาพที่คุ้นตาและเป็นที่รักของทุกคนที่ขึ้นรถไฟสายที่มีบ๊อบดูแลอยู่ บางครั้ง เมื่อบ๊อบต้องการอยู่ตามลำพัง มันก็จะไปอยู่ในตู้รถไฟที่ว่างเปล่า แต่หากมีผู้โดยสารมันจะขับไล่โดยการเห่าจนอย่างบ้าคลั่งจนพวกเขาต้องหนีไปนั่งที่อื่น นายสถานีและผู้เจ้าหน้าที่ในสถานีทุกคนต่างรู้จักเจ้าบ๊อบดี พวกเขาจึงปล่อยให้มันเดินทางตามใจชอบ สำหรับในตอนกลางคืน มันจะตามคนขับรถไฟกลับบ้านไปกินอาหารอุ่นๆ นอนในที่นอนนุ่มๆ และกลับมาขึ้นรถไฟอีกครั้งในเช้าวันต่อมา เมื่อเวลาผ่านไป บ๊อบก็กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น และมีชื่อเสียงโด่งดัง จนเคยได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยง Melbourne…
-
รู้ไว้ก่อนจะสาย… 14 สิ่งที่อาจทำให้คุณตายได้ หากทานในปริมาณ ‘มหาศาล’ เกินจะรับไหว
อาหารที่เราทานเข้าไปทุกวันนี้มีทั้งที่ดีและไม่ดีต่อร่างกาย แต่นอกจากตัวอาหารเองแล้ว ปริมาณที่เราทานเข้าไปก็มีผลต่อร่างกายเช่นกัน อาหารบางชนิดมีสารอาหารที่มีประโยชน์ แต่ถ้าหากทานมากเกินไป แทนที่จะส่งผลดีแต่กลับกลายเป็นยาพิษที่ย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ และทางเว็บไซต์ Brightside ก็ได้เผยรายชื่ออาหารทั้ง 15 ที่เป็นอันตราย ถ้าหากทานในปริมาณที่มากเกินไป 1. น้ำ (ภาวะน้ำเป็นพิษ) เราอาจะเคยได้ยินว่าควรจะดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร แต่หากคุณดื่มมากกว่านั้น 3 เท่า ไตของคุณจะไม่สามารถประมวลปริมาณของเหลวที่มากขนาดนั้นได้ และทำให้ระบบการทำงานในร่างกายเสียหายไปด้วย ผลของการมีของเหลวในร่างกายมากเกินไปคือ ทำให้สมองบวมน้ำ และจะหยุดหายใจในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดกับ Jennifer Strange ที่ดื่มน้ำเข้าไปถึง 7.5 ลิตร ระหว่างการแข่งขัน “Hold Your Wee for a Wii” 2. กาแฟ เชื่อกันว่าหากทานคาเฟอีนเข้าไปครึ่งออนซ์อาจถึงตายได้ เพราะเทียบเท่ากับกาแฟ 113 แก้ว หรือ 250 มิลลิลิตร!! สำหรับบางกรณีอาจจะไม่ตายเพราะได้รับคาเฟอีนมากเกินไป แต่เป็นเพราะกาแฟ 113 แก้ว ที่มีน้ำอยู่ถึง 30 ลิตร ที่จะก่อให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ…
-
7 เหตุผลที่ทำให้โรงเรียนในฟินแลนด์เจ๋งที่สุดในโลก ที่หลายประเทศไม่อาจเลียนแบบได้
ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในด้านการศึกษามากที่สุด แน่นอนว่าพวกเขาคงจะมีเคล็ดลับดีๆ ที่หลายประเทศอยากรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษาบ้าง ทางเว็บไซต์ Businessinsider จึงได้รวบรวมเหตุผลที่ทำให้โรงเรียนในประเทศฟินแลนด์นั้น มีความเจ๋งที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะพยายามทำตามแล้ว แต่ก็ไม่อาจทำในระดับที่เทียบเท่าได้เลย จะเป็นเพราะอะไรบ้าง เรามาดูกันเถอะ!! 1. โรงเรียนและศูนย์ชุมชน Kastelli ตั้งอยู่ในเมือง Oulu ประเทศฟินแลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี 2014 สามารถรองรับนักเรียนได้ 1,500 คน นอกจากเป็นโรงเรียนแล้วและศูนย์ชุมชนแล้ว Kastelli ยังเป็นที่พักผ่อนและศูนย์สุขภาพสำหรับผู้ใหญ่ด้วย แต่วัตถุประสงค์หลักของสถานที่แห่งนี้ก็คือ เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ทีมสถาปนิก Lahdelma & Mahlamäki จึงได้ออกแบบทางเดินและลานกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเช่นเดียวกันสำหรับพื้นที่ด้านนอก ก็จะเป็นลานกิจกรรมสำหรับคนอีกช่วงอายุหนึ่ง 2. ภายในจะมีทางเดินที่ทอดยาวและพื้นที่ว่าง สำหรับให้นักเรียนได้พบปะ พูดคุยกับเพื่อนได้ตามสะดวก Reino Tapaninen หัวหน้าของทีมสถาปนิกกล่าวว่า แม้จะมีพื้นที่ว่างสำหรับให้นักเรียนพูดคุยกัน แต่ด้วยการออกแบบที่พิเศษ จะช่วยลดเสียงของพวกเขาไม่ให้ดังเกินไปจนสร้างความรำคาญให้คนอื่น นอกจากนี้ภายในอาคารก็จะมีเก้าอี้นุ่มๆ เบาะขนาดใหญ่ เก้าอี้โยก โซฟา ผนังที่สามารถเลื่อนได้ และที่กั้น…
-
20 ภาพของผู้คนสายบันเทิง แม้จะโดนพายุเล่นงานอย่างหนัก แต่ก็ยังสรรหาเรื่องตลกทำได้อยู่ดี
ในขณะที่รัฐฟลอริดากำลังถูกพายุเออร์มาถล่มอย่างหนัก จนทำให้เกิดน้ำท่วมและสร้างความเสียหายต่ออาคาร บ้านเรือนอย่างต่อเนื่อง และผู้คนจำเป็นที่จะต้องอพยพไปยังในพื้นที่ที่ปลอดภัยแทน แน่นอนว่าสถานการณ์ที่ร้ายแรงแบบนี้ ผู้คนคงจะอยู่ในภาวะที่ตึงเครียด จนไม่เป็นอันทำอะไร แต่ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ชีวิตติดตลก แม้จะอยู่สถาการณ์ที่โหดร้าย แต่ก็ยังมองโลกในแง่ดีมีความตลกอยู่เสมอ… แหม่ นี่ก็ยิ้มสู้ภัยสินะเนี่ย 1. เราจะเปิดให้บริการไปเรื่อยๆ จนกว่าตัวอักษรจะหลุดออกจากป้าย 2. ขอบคุณพายุเออร์มาที่พัดพาแทรมโพลีนมาให้ (ของใครก็ไม่รู้) 3. แจกต้นไม้ฟรีจ้า เอาไปได้เลย 4. แทนที่จะนั่งดูน้ำท่วมเฉยๆ เรามาสนุกกันเถอะ 5. น้ำจะท่วมหรอ ไม่หวั่นหรอก เพราะเราเตรียมเสื้อชูชีพไว้แล้ว 6. ในขณะที่นักข่าวรายงานความรุนแรงของพายุเออร์มา พี่คนข้างหลังยังโต้ลมเพลินๆ อยู่… 7. กลัวแม่เป็นห่วงเลยส่งภาพนี้ไปให้ “ยังโอเคอยู่แม่” 8. นี่คงจะเกลียดเกาหลีเหนือมากสินะ 9. เออร์มา โปรดรับสิ่งนี้ไปด้วยเถอะ 10. อืม สนุกมั้ยละเธอ 11.…
-
พาชมห้องเปิดตัวสินค้ามูลค่า 500 ล้าน ของ Apple ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ Steve Jobs
เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ iPhone 8 และ iPhone X แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในเวลาเดียวกันนี้ได้มีการเปิดตัวโรงละคร Steve Jobs Theater ที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ Steve Jobs โดยโรงละครแห่งนี้ตั้งอยู่ Apple Park สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ใน Cupertino รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งทางบริษัทคาดการณ์ไว้ว่าจะใช้ในการจัดงานสื่อมวลชนในปีต่อๆ ไป Steve Jobs Theater ตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงาน Apple Park โดยทางบริษัทคาดว่าจะย้ายพนักงานมาที่สำนักงานแห่งนี้ภายในสิ้นปี Steve Jobs Theater สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่สำหรับเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple โดยมีมูลค่าถึง 500 ล้านบาท Apple ได้มีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่คือ iPhone 8 และ iPhone X เมื่อวันที่ 12 กันยายน ปี 2017 ตัวพื้นที่จัดแสดงหรือโรงละครนั้นจะอยู่ชั้นใต้ดิน เพื่อที่จะเข้าไปในนั้นคุณต้องลงจากห้องกระจกที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ ชั้นล็อบบี้…
-
20 ภาพความหวาดกลัวและหยดน้ำตาจากแอฟริกากลาง เรื่องจริงปี 2014 ที่น้อยคนจะได้รู้
ย้อนกลับไปในปี 2014 สาธารณรัฐแอฟริกากลางได้เผชิญกับวิกฤติด้านความมั่นคง และวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่ร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่ได้รับอิสระในปี 1960 ทั้งประเทศต้องเผชิญกับความรุนแรงจากเหตุสงครามกลางเมืองอย่างต่อเนื่อง ประชาชนได้รับผลกระทบมากมายทั้งถูกบังคับให้อพยพออกไปจากที่อยู่อาศัยของตัวเอง ส่วนใครที่ยังคงอยู่ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากลูกหลงของสงคราม อาชญากรรมเกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ และปัญหาที่รุนแรงที่สุดคือการกวาดล้างชาวมุสลิม จนเป็นเหตุให้มีการหยิบยืมมือจากกองกำลังจากสหภาพยุโรปเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ โดยตั้งชื่อปฏิบัติการนี้ว่า ปฏิบัติการ Sangaris โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในสาธารณรัฐแอฟริกา นับตั้งแต่ปฏิบัติการ Sangaris เริ่มต้นขึ้น เหตุการณ์ความไม่สงบก็เริ่มลดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยีงมีรายงานว่า หลังจากที่สงครามได้สงบลงแล้วทางด้านกองกำลังรักษาสันติภาพขององค์การสหประชาชาติในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง (MINUSCA) และกองกำลังรักษาสันติภาพจากองค์การสหภาพแอฟริกัน (African Union : AU) จะเป็นผู้รับช่วงต่อภารกิจในการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่างๆ ของแอฟริกากลาง รวมถึงในกรุงบังกีที่เป็นเมืองหลวงต่อไป และนี่คือภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองจากช่างภาพ Michael Zumstein จากสำนักข่าว Le Monde ของประเทศฝรั่งเศสที่ได้ลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลมาให้พวกเราได้รับชมกัน **ภาพอาจมีความรุนแรง** 1. ในย่าน Combattant ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคริสเตียน มีกลุ่มผู้ชายฉลองการกลับมาของ Alexandre Ferdinand N’Guendet ประธาน CNT (สภาสันติภาพชั่วคราวของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง) และประธานาธิบดีเฉพาะกาลหลังจากการลาออกของ…
-
11 สิ่งที่น่าแปลกใจเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพ บ่งบอกบางอย่างที่แอบแฝงอยู่ในตัวคุณ
เรามักจะได้ยินคนพูดว่า “อย่าตัดสินคนที่ภายนอก” ถึงเราจะเชื่อตามนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลักษณะภายนอกเป็นส่วนที่มีความสำคัญในการใช้ชีวิตเหมือนกัน และเชื่อมั้ยว่า การตัดสินใจคนจากภายนอกนั้นไม่ผิดเสมอไป เพราะลักษณะภาพนอกของบางคนนั้นสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายๆ อย่าง 1. หากคุณเป็นคนหน้าตาดี คนอื่นจะคิดกับคุณในแง่บวก ปรากฏการณ์ที่นักจิตวิทยาเรียกว่า the halo effect คือการตัดสินใจคนจากลักษณะภายนอก คือเมื่อเห็นใครก็ตามที่ดูดี เรามักจะคิดว่าคนนั้นมีความพิเศษอ่ื่นๆ เช่น ฉลาด หรือเป็นคนดี ในขณะที่ Daniel Hamermesh นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย University of Texas บอกว่า คนที่ดูดีนั้นมีโอกาสที่จะได้สร้างรายได้มากกว่า 2. รูปบ่งบอกลักษณะนิสัย ในปี 2009 นักวิจัยพบว่าไม่ว่าคุณจะถ่ายรูปมุมไหนหรือทำท่าอะไร ผู้คนจะคาดเดาได้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน เป็นคนนับถือตัวเองมากแค่ไหน นับถือศาสนาอะไร พอใจกับอะไร และมีความซื่อสัตย์มากแค่ไหน 3. ความยาวของหน้าบ่งบอกความเป็นผู้นำ ในปี 2013 กลุ่มนักจิตวิทยา นักประสาทวิทยา และนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จากยุโรปและสหรัฐอเมริกา ได้ประเมินภาวะการเป็นผู้นำโดยดูจากรูปภาพของผู้ชายและผู้หญิงรวม 130 คน การวิจัยพบกว่า เพศและความยาวของใบหน้าสามารถบอกความสูงของคนคนนั้นได้ และปัจจัยเดียวกันนี้สามารถบอกความเป็นผู้นำได้ด้วย โดยคนที่มีใบหน้ายาวถูกจัดอันดับให้อยู่ในคนที่เหมาะกับเป็นผู้นำที่ดี 4. โครงหน้าบอกความก้าวร้าวได้…
-
‘Kanga Roo’ มิ้วน้อยผู้เกิดมาผิดปกติจนต้องเดินสองขาเหมือนจิงโจ้ แต่ก็ยังแฮปปี้ได้ตลอด
ครั้งหนึ่งเราเคยนำเสนอเรื่องราวของแมวพิเศษ Kanga Roo ที่มีความผิดปกติทางร่างกาย จนทำให้มันต้องยืนสองขาเหมือนจิงโจ้ สำหรับวันนี้เราจะมาอัพเดตเรื่องราวของน้องค่ะ แต่ขอเล่าย้อนไปนิดนึงนนะ สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามก่อหน้านี้ แล้วคุณจะหลงรักเหมียวตัวนี้แน่นอน Kanga Roo เกิดในช่วงเดือนเมษายนของปี 2014 และถูกรับไปเลี้ยงโดยศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Saving Grace Rescue ในซานฟรานซิสโก ที่นั่นมันได้รับการดูแลและความใส่ใจเป็นอย่างดี น้องเหมียวเกิดมาพร้อมกับโรคติดตัวที่ชื่อ Radial Hypoplasia ที่ทำให้ลูกแมวมีความผิดปกติบริเวณขาหน้า และไม่มีกระดูกตั้งแต่ข้อต่อกับอุ้งเท้า จึงทำให้ขาหน้าสั้นและปวกเปียกคล้ายกับกระรอกหรือจิงโจ้ ต่อมา Cheryl เจ้าหน้าที่ได้บังเอิญแวะไปที่คลินิกที่น้องเหมียวอยู่ เธอก็สังเกตเห็นทันทีว่ามันเป็นแมวที่พิเศษมาก และได้ตัดสินใจติดต่อไปยัง Saving Grace Rescue เพื่อที่จะช่วยเหลือแมวตัวนี้ จากนั้น Kanga ก็ได้ออกจาคลินิกพร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิง และทันทีที่มันมาถึง มันก็รีบกระโดดลงไปและเดินสำรวจบ้านใหม่ทุกซอกทุกมุม ส่วนความน่ารักของมันนะหรอ ดูจากคลิปด้านล่างนี้ละกัน ต่อมาเมื่อ Joyce และครอบครัวได้ติดตามเรื่องราวของ Kanga ผ่านสื่อ พวกเขาก็ตัดสินใจโดยไม่ลังเลว่าจะรับเลี้ยงน้องแมวตัวนี้ Joyce บอกว่า “ครั้งแรกที่เราเห็นคลิปวิดีโอของเจ้าเหมียวตัวนี้ เราตกหลุมรักมันทันที เพราะมันน่ารักและตัวเล็กมากๆ เราอยากมอบความรักให้มันค่ะ” กระทั่งวันที่ 28 มิถุนายน…
-
หญิงสาวยอมกู้เงิน และขายของทุกอย่างที่มี เพื่อช่วยชีวิตน้องหมาที่เป็นโรคลิ้นหัวใจ
ใครก็ตามที่ได้เลี้ยงสุนัขคงรู้สึกว่ามันเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง พวกมันเป็นเหมือนกับคนในครอบครัว ที่หากพวกมันเป็นอะไร เราก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อมัน เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่ยอมขายข้าวของทุกอย่างที่มี รวมทั้งของที่เธอรักมากที่สุด เพื่อนำเงินไปช่วยชีวิตน้องหมาตัวโปรด ซึ่งต้องใช้เงินมากถึง 1,600,000 ล้านบาท Snoopy เป็นสุนัขพันธุ์ผสมระหว่างยอร์คเชียร์กับชิวาวา มันได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์พักพิงในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 9 ปีก่อน หลังจากที่ถูกทิ้งโดยครอบครัวหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว Dolly-Ann Osterloh เจ้าของของ Snoopy ได้พามันไปหาสัตวแพทย์หลังจากที่สังเกตว่ามันหายใจลำบาก จากการตรวจร่างกายพบว่า น้องหมาเป็นโรคลิ้นหัวใจ เนื่องจากหัวใจของมันมีขนาดใหญ่เกินไป และหากไม่ทำการผ่าตัดหัวใจให้ มันก็อยู่ได้อีกเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น Dolly-Ann บอกว่า “ฉันต้องให้ยา Snoopy 11 ครั้งต่อวัน นั่นหมายความว่าฉันต้องตั้งนาฬิกาปลุก 11 ครั้งต่อวันด้วย และเพราะว่ามันตัวเล็ก ฉันก็ต้องหั่นยาให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้มันกินได้ง่ายขึ้น” “โชคดีที่เขายอมกินยา และยาตัวนี้ก็ส่งผลดีกับร่างกายของเขา ซึ่งหมายความมันจะส่งผลดีต่อการผ่าตัดของเขาด้วย” “เรามีนัดผ่าตัดวันที่ 19 กันยายน ที่ปารีส โดยสัตวแพทย์ที่มาจากโตเกียวจะเป็นผู้ผ่าตัดให้ เนื่องจากการผ่าตัดโรคนี้มักจะไม่ค่อยประสบความเร็จ” “หมอคนอื่นๆ เมื่อทำการผ่าตัดโรคนี้ สุนัขนะมีโอกาสรอดเพียง 15-20 % แต่หมอที่มาจากโตเกียวคนนี้เป็นคนเดียวที่ทำให้สุนัขมีโอกาสรอดถึง…
-
6 เซเลบเน็ตไอดอลที่สร้างตัวตนปลอมในโซเชียล แต่ก็มีคนเชื่อจนกลายเป็นคนโด่งดัง
ทุกวันนี้ใครมียอดไลค์หรือยอดฟอลโล่วเยอะๆ ก็ถูกเรียกว่าเน็ตไอดอลแล้ว ทั้งๆ ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่รู้เลยว่าตัวตนที่แท้จริงกับสิ่งที่เห็นในโซเชียลนั้นจะเหมือนกันหรือเปล่า เหมือนกับเน็ตไอดอลในอินสแกรมเหล่านี้ ที่สร้างบัญชีขึ้นมาด้วยข้อมูลปลอม บางคนไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ แต่ก็มีคนหลงเชื่อจนทำให้คนเหล่านี้โด่งดังขึ้นมาได้ 1. หนุ่มใหญ่วัย 35 ปี Pawel Ladziak ชาวโปร์แลนด์ อายุ 35 ปี แต่ทำให้ตัวเองดูแก่กว่าอายุถึง 10 ปี และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นคนโด่งดัง มักจะมีคนพูดถึง Pawel ว่า เป็นหนุ่มใหญ่วัย 40 ปีที่มีความร้อนแรง บางคนคิดว่าเขาอายุ 60 ด้วยซ้ำ แต่เมื่อดูจากหุ่น และไลฟ์สไตล์แล้วเหมือนคนหนุ่มเลย จริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นของลุคหนุ่มใหญ่หุ่นแสบนี้ มาจากตอนที่ Pawel เริ่มมีผมสีเทาเมื่อหลายปีก่อน เขาก็เลยตัดสินใจย้อมผมกับเคราให้เป็นสีเทาซะเลย ต่อมาเมื่อเขาเริ่มโพสต์รูปลงในอินสตาแกรม ปรากฏว่ามีคนเข้ามาถูกใจจำนวนมาก ส่งผลให้เขากลายเป็นคนดังในทุกวันนี้ เอาง่ายๆ เหตุผลที่ดังคือ เป็นเพราะคนคิดว่าเขาเป็นคนมีอายุแต่ยังดูแซ่บนั่นเอง 2. อินสตาแกรมที่โด่งดังจาการโพสต์ภาพเก่า ก็อย่างที่รู้ว่าอินสตาแกรมนั้นสามารถสร้างรายได้ได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างให้เป็นจริงไปทั้งหมด เพราะคุณสามารถโพสต์ภาพหรือข้อมูลปลอมได้โดยที่คนอื่นไม่รู้ ด้วยเหตุนี้ Mediakix จึงบัญชีอินสตาแกรมปลอมขึ้นมา…
-
แบบนี้ก็ได้เหรอ!! รวม 20 ภาพที่ทำให้คุณหงุดหงิดหัวใจ ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยย
ทุกวันนี้บ้านเมืองมีกฏเกณฑ์เพื่อจัดระเบียบให้สังคมอยู่กันอย่างสงบสุข แต่ก็อย่างที่เห็นแหละ ทุกวันนี้ยังคงมีความวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน เพราะมีบางคนบางพวกชอบแหกกฏ บางที่อาจไม่มีข้อห้าม แต่เราน่าจะรู้มารยาทในการอยู่ร่วมกันนะ และนี่คือตัวอย่างคนแหกกฏในสังคม…. 1. อะไรคือแรงบันดาลใจให้เขาจอดรถแบบนี้ 2. บอกว่าไม่มีกลูเต็น แต่บรรทัดล่างบอกมีกลูเต็น นี่มันคืออะไรกัน 3. ใครเป็นคนออกแบบหนังสือภาพเล่มนี้กันนะ 4. เค้าทำเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัย แต่นี่ดันทำของเลียนแบบเพื่อหลอกตำรวจซะงั้น 5. ถ้าเงื่อนไขการตั้งพาสเวิร์ดมันจะยุ่งยากขนาดนี้ ไม่ตั้งมันซะเลยดีกว่า 6. ความผิดใครละเนี่ย เจ้าของบ้านที่ไม่ทำที่เผื่อพัสุดหรือพนักงานส่งของที่ไม่คิดว่าฝนจะตก 7. อยากกินก็ซื้อซิ ทำแบบนี้ของเสียหมด 8. เอิ่ม คงคิดว่านอนอยู่ที่บ้านสินะ 9. นี่ก็เช่นกัน 10. “มีใครรู้วิธีกำจัดผึ้งบ้าง มันอยู่ในสวนดอกไม้เต็มไปหมด” 11. โลกนี้ช่างหลอกลวง 12. สุดท้ายก็ลงถังเดียวกัน แต่ทำไมต้องทำช่องทิ้งแยกกัน งงเลย 13. เราควรจะทำยังไงกับคนแบบนี้ 14. ป้ายเตือนไม่ได้มีผลอะไรกับพวกเขาเลย…
-
17 สิ่งของจากอดีตอันไกลโพ้น ที่คุณเห็นแล้วอาจจะนึกไม่ออกว่าพวกมันเอาไว้ทำอะไรได้
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะเมื่อมีเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าออกมา แม้แต่เทคโนโลยีที่เจ๋งสุดในตอนนี้ วันข้างหน้ามันอ่าจจะกลายเป็นแค่สิ่งที่ล้าสมัยก็ได้ เช่นเดียวกับสิ่งของต่อไปนี้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของใหม่ ทันสมัย และเป็นที่นิยมมาก แต่พอมาถึงยุคปัจจุบัน มันกลายเป็นสิ่งที่เราแทบนึกไม่ออกว่ามันมีไว้ทำอะไรกันแน่ 1. ไม้จิ้มฟันในอังกฤษปี 1620 เมื่อเทียบกับไม้จิ้มฟันในปัจจุบันแล้ว แทบไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือไม้จิ้มฟัน ซึ่งพอจะเดาได้ว่าคนสมัยนั้นคงใส่ใจเรื่องฟันกันมาก 2. กล้องส่องของกองทัพทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วิธีการใช้กล้องตัวนี้คือ จะเอาไปติดกับตัวนกพิราบแล้วก็ให้มันบินสำรวจพื้นที่ต้องการ อาจฟังดูแปลกๆ แต่สำหรับคนในยุคนั้น นี่คือเทคโนโลยีที่ล้ำมาก กล้องตัวข้างบน เมื่อนำมาติดในตัวนกพิราบแล้ว มันก็จะเป็นประมาณนี้ คือต้องยอมรับว่าคนสมัยก่อนนี้มีความคิดสร้างสรรค์มากเลยนะ 3. เก้าอี้พร้อมเครื่องชั่ง เก้าอี้ที่มาพร้อมเครื่องชั่งนี้ ผู้ออกแบบได้คำนึงถึงปัญหาสุขภาพของคนที่นั่ง นั่นคือเป็นการเตือนผู้คนเมื่อนั่งนานเกินไป ควรจะลุกไปออกไปกำลังกายบ้าง ดังนั้นมันจึงเป็นเก้าอี้ที่ใครได้นั่งจะรู้สึกกังวลนิดๆ ตลอดเวลา 4. เข็มฉีดยาสำหรับทำแท้ง การทำแท้งไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่สังเกตเทคโนโลที่นำมาใช้ในการทำแท้งสิ นึกไม่ออกเลยไปว่ามันใช้ยังไง 5. หมวกออกซิเจน หมวกออกซิเจนนี้จะช่วยให้คุณมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น สังเกตตรงช่องตามั้ย มันเป็นช่องเล็กๆ นั้นก็เพื่อให้คุณโฟกันที่งานเพียงอย่างเดียว ที่สำคัญออกซิเจนในถังก็มีจำกัด ซึ่งช่วยให้คุณตื่นตัวและทำงานภายเวลาที่จำกัด 6.…
-
แบรนด์ซันโทรี่เตรียมเปิดตัว ‘เครื่องดื่มชานมสีใส’ หน้าตาเหมือนน้ำเปล่า แต่มีรสชานมด้วย!?
ปกติแล้วเราเชื่อกันว่าน้ำเปล่านั้นไม่มีรสชาติ เพราะมันคือน้ำเปล่าๆ ที่ไม่ได้ผสมอะไรเลย แต่ล่าสุดบริษัท ซันโทรี่ ผู้ผลิตเครื่องดื่มจากญี่ปุ่น ได้เปิดมิติใหม่ด้วย ‘น้ำเปล่ากลิ่นชานม’ สำหรับน้ำเปล่ารสชานมนี้ ทางบริษัทซันโทรี่ต้องการให้ผู้คนได้รับประสบการณ์ใหม่จากการดื่มน้ำเปล่า ให้คุณรู้สึกสดชื่นและฟินยิ่งขึ้น เมื่อดื่มน้ำเปล่า ทางบริษัทได้ผลิตน้ำเปล่ารสชานมจากชาอัสสัมและ ‘ส่วนผสมลับที่สกัดออกมาจากนม’ นั่นจะทำให้เราได้รสชาติของนมเวลาดื่มน้ำ หรือใครจะดื่มคู่กับมื้อเช้าก็ได้ ฟังดูเหมือนทุกอย่างจะดีหมดใช่มั้ย? แต่มีคนได้ลองน้ำดื่มรสมะนาวก่อนหน้านี้ที่ทางซันโทรี่ผลิตออกมา ปรากฏว่ามันทีรสมะนาวจริง แต่ขวดจะมีกลิ่นเหมือนสนิมและสารเคมีแปลกๆ อยู่ และสำหรับน้ำดื่มรสชานมนี้ยังไม่มีใครได้ลิ้มรสมาก่อน เพราะทางบริษัทยังไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ในราคาขวดละประมาณ 40 บาทเท่านั้น เป็นอะไรที่แปลกใหม่ และน่าลองเหมือนกันนะ ที่มา rocketnews24
-
โมเม้นต์สุดคิ้วท์ ของเจ้าแรคคูนสองสหาย พากันแหวกว่ายในสระว่ายน้ำคู่กับเจ้าของ…
เราคงจะเห็นแมวว่ายน้ำ เป็นว่ายน้ำ หมาว่ายน้ำ หรือแม้แต่หมู พวกมันดูน่ารักใช่มั้ยล่ะเวลาอยู่กับน้ำ แล้วเราเคยเห็นแรคคูนว่ายน้ำกันบ้างมั้ยเอ่ย? สำหรับใครที่ไม่เคยเห็น ลองดูคลิปด้านล่างนี้ เจ้าแรคคูนสองตัวกำลังว่ายน้ำอยู่ในสระภายในเมือง Orange Park รัฐฟลอริดา ให้ความรู้สึกที่ว่าน่าร๊ากกกก น่ารักใช่มั้ยเอ่ย ดูครั้งแรกก็เหมือนจะไม่ชอบเสียเท่าไหร่ แต่พอพวกมันได้ลงน้ำเท่านั้นแหละ ก็ติดใจไปเลย ถ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักกับทั้งสองตัวกันหน่อยดีกว่า โดยที่เจ้าแรคคูนสองตัวนี้ก็คือ Waylon อายุ 2 ขวบ และ Willie อายุ 2 ขวบครึ่ง ทาง Vicki Coppen ผู้เป็นเจ้าของบอกว่า เจ้าแรคคูนสองตัวนี้ไม่ค่อยกินอาหารมากนัก แต่พวกมันจะมีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง Willie จะมาว่ายน้ำเกือบทุกวัน ส่วน Waylon ไม่ชอบว่ายน้ำ แต่มันจะชอบให้พาไปออกกำลังกายมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้น เวลาที่สามีของ Vicki เขาก็มักจะพาเจ้าสองตัวนี้ไปด้วยเสมอนะ เห็นพวกแกชอบว่ายน้ำแบบนี้ ก็รู้สึกตะมุตะมิในหัวใจเลย อิอิ โอ้ย ว่ายน้ำป๋อมแป๋มแบบนี้ มีความน่ารักที่สุดดด!! ที่มา dailymail
-
เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ พะยูนเกยตื้นตามแนวชายฝั่ง หลังพายุเออร์มาพัดน้ำทะเลจนแห้ง…
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ หลายคนคงได้ยินชื่อพายุเออร์มาผ่านสื่อต่างๆ แทบทุกวัน สาเหตุที่ต้องมีการรายงานเพราะนี่ถือเป็นหนึ่งพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ พายุเออร์มาไม่ได้ส่งผลกระทบกับแค่คน สัตว์เลี้ยง หรืออาคาร บ้านเรือน เท่านั้น แต่สัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติก็ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงเช่นกัน โดยสัตว์ที่ต้องอาศัยน้ำอย่างพะยูนแมนนาทีตัวนี้ อยู่ในสภาพเกยตื้นตามแนวชายฝั่ง และไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ หลังพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาถล่ม พัดเอาน้ำออกไปจากชายฝั่งฟลอริดาจนแห้ง ภาพเหตุการณ์นี้ถูกแชร์ในเฟสบุ๊กโดย Michael Sechler เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นภาพพะยูนแมนนาทีสองตัวเกยตื้นอยู่บนผิวทะเลที่เหือดแห้ง เมื่อทางการได้เห็นภาพดังกล่าว จึงได้รีบประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ของเขต Manatee County ทันที เพื่อให้เข้าไปช่วยเหลือพวกมันเป็นการด่วน Marcelo Clavijo หนึ่งในชาวบ้านที่เข้าไปช่วยเหลือพะยูนบอกว่า พะยูนทั้งสองตัวหนักมาก มีน้ำหนักตัวราวๆ 226 กิโลกรัมเลยทีเดียว ทำให้ทีมช่วยเหลือต้องดันมันขึ้นอยู่บนผืนผ้าใบ แล้วก็ค่อยๆ ลากมันกลับลงไปถึงพื้นที่ระดับผิวน้ำ จนทำให้ทั้งสองตัวรอดจากความโหดร้ายนี้ไปได้ สำหรับความรุนแรงของเออร์มานั้น อยู่ในระกับ 5 ซึ่งถือว่ารุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา มันได้พัดเอาน้ำออกจากชายฝั่งจนเหือดแห้งไปหมด ส่งผลทำให้สัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบไปด้วย นับว่าโชคดีที่ยังมีคนใจดีเข้าช่วยเหลือสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือเหล่านี้ แต่นี่อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะทางเจ้าหน้าที่คาดว่าพื้นที่ห่างไกลผู้คนอาจมีสัตว์อีกจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม มีหลายคนออกมาบอกว่าลักษณะน้ำทะเลแห้งเช่นนี้คล้ายกับสึนามิ…
-
20 อันดับผลงานสุดอลังการ จากเทศกาลพาเหรดดอกไม้ประจำปี 2017 ที่เนเธอร์แลนด์
ทุกๆ ปี วันอาทิตย์แรกของเดือนกันยายน ประชากรชาวเมืองบ้านเกิดของศิลปินระดับโลกอย่าง Vincent Van Gogh จะมีการจัดเตรียมงานสำหรับเทศกาลพาเหรดดอกไม้ โดยจะแห่ไปตามท้องถนน ท่ามกลางผู้ชมที่แห่แหนมาจากทั่วโลก นี่คือเทศกาลที่เรียกว่า Corso Zundert เป็นขบวนบุปผชาติที่ Zundert เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งในประเทศเนเธอแลนด์ โดยมีจุดเริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ปี 1936 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่พื้นที่ส่วนนี้เป็นผู้ส่งออกดอกรักเร่ที่มีชื่อเสียงของโลก และจะทำการเดินขบวนบุปผชาติในวันอาทิตย์แรกของเดือนกันยายนเป็นประจำทุกปี ขบวนชนะเลิศอันดับที่ 1 Op Handen Gedragen สำหรับปีนี้จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 เดือนกันยายนที่ผ่านมา มีขบวนดอกไม้สุดอลังการกว่า 20 ขบวน ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิด เป็นรูปร่างและธีมต่างๆ เช่น รูปสัตว์ บุคคล โครงสร้างต่างๆ กว่าดอกไม้จะมาเป็นรูปร่างและขนาดสุดอลังการนี้ ทีมที่ส่งเข้าประกวดจะมีการเตรียมตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน โดยสมาชิกทุกเพศทุกวัยจะมาร่วมกันออกแบบขบวนดอกไม้ของหมู่บ้านตัวเอง อันดับที่ 2 Aangeslagen เมื่อวางแผนแล้ว พวกเขาจะเริ่มลงมือสร้างดอกไม้ตามโครงที่วางไว้ในช่วง 3 เดือน ก่อนที่เทศกาลการเดินขบวนพาเหรดจะเริ่มขึ้น แน่นอนว่าต้องใช้ความประณีต ความละเอียดที่ค่อนข้างสูง เพื่อให้ออกมาเป็นงานที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุด สำหรับปีนี้ขบวนที่ชนะเลิศคือขบวน Op…
-
ฆาตกรต่อเนื่องผู้สังหารเหยื่อ 7 ราย รับสารภาพต่อศาลสูง และจะรับโทษจำคุก 360 ปี!!
สำหรับคดีร้ายแรงอย่างการฆ่าคนนั้น ส่วนใหญ่จะผู้ต้องหาจะต้องได้รับโทษสูงสุดคือ ‘ประหารชีวิต’ แต่สำหรับกรณีดังกล่าว บางประเทศก็ได้มีการยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้ว จึงกลายเป็นว่าโทษสูงสุดถูกแปรเปลี่ยนให้กลายมาเป็นการถูกจำคุกตลอดชีวิตแทน และหากผู้หาก่อคดีร้ายแรงต่อเนื่องหลายคดีก็ต้องรับโทษตามจำนวนของคดีที่ก่อเอาไว้ อย่างเช่นคดีสะเทือนขวัญของฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนไปถึง 7 คน เป็นเหตุให้ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 360 ปี William Devin Howel วัย 47 ปี จากเมือง New Britain รัฐ Connecticut ได้รับสารภาพระหว่างการพิจารณาคดีภายในศาลสูงแห่งเมือง New Britain ว่าเขาได้ลงมือฆาตกรรมเหยื่อมากถึง 6 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เคยก่อคดีฆาตกรรมเหยื่อรายหนึ่งมาก่อนหน้านี้แล้ว นั่นก็คือ Nilsa Arizmendi และถูกตัดสินความผิดร่วมกับการก่อเหตุที่เกิดขึ้นอีกรวมทั้งสิ้น 7 ราย Howell เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ Connecticut เท่าที่เคยเกิดขึ้นมา โดยที่ไม่นับรวมกับเหตุการณ์สังหารหมู่ในโรงเรียนประถม Sandy Hook ณ เมือง Newtown เมื่อปี 2012 ทั้งนี้ศพของเหยื่อทั้ง 7 ราย ถูกฝังอยู่ในพื้นที่ป่าแห่งหนึ่งบนถนน Hartford หมายเลข…
-
ศิลปินชาวญี่ปุ่นโชว์สกิลเทพ วาดภาพ ‘ซองขนม’ ทั้งแสงและสี เก็บเนี้ยบจนแยกไม่ออก!?
ภาพวาดยังไงก็คือภาพวาด เพราะแม้จะวาดเหมือนแค่ไหนก็ยังมีจุดให้เราสังเกตได้ว่ามันมีความแตกต่างกันอยู่ แต่ในครั้งนี้กลับทำให้เรารู้สึกอึ้งไปอีก เนื่องจากว่าการวาดภาพในครั้งนี้มันเนียนจนแทบจะแยกไม่ออกเลยจริงๆ ด้วยความสามารถของศิลปินชาวญึ่ปุ่น Polka ที่ไม่ใช่แค่วาดรูปเก่งเท่านั้น แต่เธอยังวาดรูปได้เหมือนของจริงเป๊ะๆ อย่างกับเสกออกทุกสิ่งให้ออกมาได้จากปลายพู่กัน โดยเฉพาะการวาดรูปซองขนมต่างๆ สำหรับผลงานสุดน่าทึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างคู่สามีภรรยาที่รักในการวาดรูป โดย Polka จะทำหน้าที่วาดรูป ส่วนสามี KxWxR จะทำการบันทึกวิดีโอและตัดต่อคลิปวิดีโอ เทคนิคการวาดรูปของ Polka คือการใช้สีอะคริลิคเป็นหลักและวาดลงบนสมุดสเก๊ตของเธอ โดยมักจะเลือกใช้สีรองพื้นเป็นสีดำ เพราะจะทำให้ให้เห็นรายได้ละเอียดได้ชัด และใช้เวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมง ต่อ 1 ภาพ ภาพที่ Polka ใช้เป็นแบบในการวาดรูปนั้นส่วนใหญ่เป็นภาพถ่ายที่หามาได้ทั่วไป แต่บางครั้งเธอก็จะเอาของจริงมาวางคู่กันแล้วก็วาดตามนั้นเลย เมื่อถามว่าปัจจุบันเธอทำอาชีพอะไร Polka บอกว่า “ฉันคิดว่าฉันเป็นแม่บ้านนะ ฮาๆๆ” แหม่ ช่างถ่อมตัวเหลือเกิน ฝีมือขนาด ดูยังไงก็ศิลปินชัดๆ จะเหมือนแค่ไหน ดูเอาละกัน ไม่มีความผิดเพียงทั้งรูปทรง สี และแสง . . . . บอกได้คำเดียวว่า ‘โคตรเก่ง’ ฝีมือเกินจะเป็นแม่บ้านแล้ว!! ที่มา kotaku
-
รวม 20 ภาพของสุดยอดพ่อบ้าน ผู้ยอมเสียสละให้มนุษย์เมีย มีรูปสวยๆ ไว้อวดโซเชียล!!
คนที่เข้าใจยากมากที่สุดในโลกนี้ไม่ใช่เด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ ไม่ใช่คนไม่มีเหตผล แต่พวกเค้าคือมนุษย์แฟนหรือเมีย โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบเล่นโซเชียลกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สังเกตมั้ยว่าเวลาสาวๆ ลงรูปในโซเชียล ไม่ว่าจะในเฟสบุ๊กหรืออินสตาแกรม ส่วนใหญ่แล้วรูปที่ลงนั้นต้องผ่านการถ่ายมาเป็นสิบๆ รูป แล้วคัดเลือกรูปที่ดูดีที่สุดมาลง และผู้หญิงคงจะฟินมาก หากคุณผู้ชายเข้าใจเธอในจุดนี้!! เหมือนกับหนุ่มเหล่านี้ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แฟนสาวมีภาพสวยๆ ลงอินสตาแกรม แม้ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน แต่เพื่อความสุขแฟนแล้ว ยอมได้ทั้งนั้น เพราะด้วยเหตุผลนี้ ถึงกับต้องมีไอจีในชื่อ @boyfriends_of_insta ที่รวบรวมความเสียสละของเหล่าพ่อบ้านที่เป็นเบื้องหลังรูปสวยๆ ให้กับเหล่ามนุษย์เมียยังไงล่ะ ฮร่า 1. เต็มที่เลยสาวๆ ไม่ต้องห่วงความปลอดภัยพี่หรอก 2. ผู้ชายอาจจะหงายหลังได้ แต่แฟนสาวต้องได้รูปสวยๆ ก่อน 3. เพื่อความสุขของเธอ ต่อให้ต้องหมอบหน้าจูบพื้นก็ยอมทั้งนั้น 4. ถ่ายรูปอย่างเดียวไม่พอ ต้องหิ้วกระเป๋าให้ด้วย 5. โพสท่าเต็มที่เลย นึกว่าเป็นช่างภาพละกัน 6. แอ่นอีก ที่รัก แอ่นอีก 7. อืม ยอมนอนพื้นเพื่อท่านี้ของแฟนสาว…
-
ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด… ชาวเน็ตร่วมแชร์ 17 ผลงานการวาดรูป ที่พัฒนาขึ้นไปอีกระดับ
หากคุณเป็นคนที่รักในการวาดรูป อยากหยุดวาดเพียงเพราะคุณผิดหวังผลงานของตัวเองในครั้งแรก อย่าหยุดเพียงคนอื่นมองว่ามันไม่สวย และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดคุณก็ไม่ควรทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ทุกอย่างล้วนต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝน การวาดรูปก็เช่นกัน วาดครั้งแรกไม่สวย ไม่ถูกใจ เอาใหม่ วาดใหม่ แล้ววันหนึ่งคุณจะพบว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ 1. พัฒนาการจากปี 2011 จนถึงปี 2017 2. หญิงสาวที่ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค แม้จะไม่ถนัดวาดร่างกาย แต่เธอก็พยายามจนเกิดการเปลี่ยนแปลง 3. ภาพด้านซ้ายคือผลงานตอนปี 2016 ด้านขวาคือปี 2017 4. ภาพเดียวกันที่วาดตอนอายุ 12 และ 18 ปี 5. ทุกการฝึกฝนย่อมทีการพัฒนาเสมอ 6. 13 ปีที่แล้วกับตอนนี้ 7. ฝีมือตอนอายุ 10 ขวบ กับตอน 21 ปี 8.…
-
เจ้าสาวอ้างช่วยจัดการปาร์ตี้สละโสด ให้เจ้าบ่าวและเพื่อนๆ แต่ดันเชิดเงินหนีกว่า 5 แสนบาท!!
แม้หลายคนจะให้ความสำคัญกับความรักมากกว่าสิ่งอื่นใด แต่บางทีเมื่อมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ความรักอาจสำคัญน้อยกว่าเงินก็เป็นได้… เหมือนกับกรณีนี้ เมื่อชายหญิงคู่หนึ่ง คบกันมาได้สักพักจนถึงขั้นตกลงปลงใจแต่งงานกัน แต่แล้วฝ่ายหญิงก็หายตัวไปพร้อมเงินของว่าที่เจ้าบ่าวและเพื่อนๆ ขณะที่ Chris Mahone อายุ 27 ปี กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับ Rachel Doran วัย 29 ปี เขาจึงวางแผนจัดปาร์ตี้สละโสด โดยว่าที่เจ้าสาวอาสาจัดการทุกอย่างให้ ทั้งจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และเรื่องเล็กน้อยจิปาถะอื่นๆ Doran ได้เรียกเก็บเงินจากเพื่อนๆ ของ Mahone ทั้งหมด 29 คน คนประมาณละ 19,000 บาท รวมแล้ว 551,000 บาท โดยอ้างว่าจะจัดการทุกอย่างให้ แต่แล้วขณะที่ว่าที่เจ้าบ่าวและเพื่อนๆ กำลังเดินทางไปยังสนามบิน Leeds-Bradford เพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังเกาะสวรรค์อีบิซ่าที่เฝ้ารอคอย แต่ทุกคนก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกว่าที่เจ้าสาวตัวแสบหลอกซะแล้ว เพราะเธอไม่ได้จองตั๋วเครื่องบิน ไม่ได้จองที่พักให้ แถมยังหายตัวไปพร้อมเงินของพวกเขาด้วย เพื่อนเจ้าบ่าวบอกว่า ตั๋วเครื่องบินที่ได้จาก Doran นั้นเป็นของปลอม ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจโทรไปเช็คโรงแรมที่เธออ้างว่าจองให้ แต่ปรากฏว่าผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ได้ทำการจองแต่อย่างใด แต่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว เพราะ Doran…
-
ผู้เชี่ยวชาญเผยถึงเหตุผลสำคัญที่ว่า “ทำไมชื่อของพายุเฮอร์ริเคน ต้องตั้งตามชื่อคน?”
เมื่อเกิดเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคนถล่มแต่ละครั้ง จะมีการตั้งชื่อให้กับพายุแต่ละลูกตามชื่อของมนุษย์ แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่ามันมีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่ในการตั้งชื่อเช่นนั้น? ชื่อพายุเฮอร์ริเคนในแถบมหาสมุทรแอตแลนติกเหล่านี้ ถูกตั้งขึ้นโดยศูนย์พายุหมุนแห่งชาติในช่วงปี 1950 ซึ่งบริหารจัดการโดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานที่นั่นได้ตัดสินใจตั้งชื่อให้เฮอร์ริเคนแต่ละลูก โดยมีเหตุผลสำคัญที่ทำเช่นนั้น ทำไมเราต้องตั้งชื่อให้พายุเฮอร์ริเคน? หลักการนั้นไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากมาย นั่นก็คือการตั้งชื่อจะทำให้จำง่ายกว่าตัวเลข และที่สำคัญมันง่ายต่อการเตือนภัยและสามารถนำเสนอผ่านสื่อให้เข้าใจตรงกันได้ เมื่อมีการตั้งชื่อให้พายุเฮอร์ริเคน เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะใช้ชื่อดังกล่าวเตือนภัยให้ประชาชน เพื่อที่จะสามารถเตรียมตัวรับมือและอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ได้ทันเวลา โดยหวังจะให้เกิดความสูญเสียน้อยลง นอกจากนี้การตั้งชื่อจะทำให้เกิดโอกาสผิดพลาดในการวางแผนน้อยลง แต่หากใช้ละติจูด ลองจิจูด หรือวิธีระบุถึงพายุด้วยวิธีอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชื่อ อาจทำให้ยากต่อการแจ้งเตือนได้ นอกจากนี้การตั้งชื่อจะช่วยให้เรือ ฐานเฝ้าระวังชายฝั่งทะล และสถานีตรวจสอบสถานการณ์ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและสื่อสารกันได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ วิธีการตั้งชื่อพายุเฮอร์ริเคน พายุเฮอร์ริเคนจะถูกตั้งชื่อโดยเรียงตามตัวอักษร แต่ต้องมีความสอดคล้องกับลำดับวันเดือนปี โดยจะมีทั้งหมด 6 ชื่อ และมีการวนทุกๆ หกปี เดิมทีจะมีการนำชื่อผู้หญิงมาใช้ แต่ต่อมาในปี 1979 ได้มีการนำชื่อผู้ชายมาใช้ด้วย จนทำให้มีชื่อทั้งหมด 12 ชื่อ โดยจะนำไปตั้งเป็นชื่อของพายุแปซิฟิก ไซโคลน และไต้ฝุ่น อย่างไรก็ตาม ชื่อที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร Q U…
-
ครอบครัวชาวรัสเซียถึงกับช็อค ไปทำงานที่อื่นเดือนเดียว กลับมาบ้านหายกลายเป็นถนน!!?
เป็นใครก็ต้องตกใจ เมื่อออกจากไปนานๆ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แล้วกลับอีกทีปรากฏว่าบ้านหาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าของไม่ได้รับแจ้งอะไรเลย นี่เป็นเรื่องที่เกิดในรัสเซีย เมื่อครอบครัวนี้ได้เดินทางออกจากบ้านในชานเมือง Nizhny Novgorod ของประเทศรัสเซีย เพื่อไปทำงานที่อื่น แต่พอกลับมาอีกทีก็บ้านที่เคยอยู่ก็สลายหายไปเสียแล้ว ปกติแล้วครอบครัว Udalov มักจะออกไปทำงานนอกเมืองบ่อยๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Nizhny Novgorod เท่าไหร่นัก และนานๆ ครั้งก็จะกลับมาพักที่บ้าน แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่าน เพราะเมื่อกลับมาหลังจากที่ออกไปทำงาน 1 เดือน ปรากฏว่าบ้านของพวกเขาถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครั้งอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากซากปรักหักพังเลย เท่านั้นยังไม่พอ บ้านที่หายไปครึ่งหนึ่งนั้น มันถูกแทนที่ด้วยถนนลาดยางไปเรียบร้อย ส่วนข้าวของถูกทิ้งกระจายอยู่ข้างถนน โดยที่ทางครอบครัวไม่เคยรู้หรือได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ด้วยเหตุนี้ Valeria Udalov และสามี จึงตัดสินใจนำไม้มาทำเป็นที่กั้นบนถนน ในส่วนที่มันเคยเป็นพื้นที่บ้านของพวกเขามาก่อน เพราะในทางเอกสารแล้ว พื้นที่ส่วนนี้เป็นของพวกเขาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้พวกเขายังได้กางเต้นท์นอนอยู่ข้างๆ บ้านส่วนที่เหลือ ซึ่งสามารถพังลงได้ทุกเมื่อ อีกทั้งยังยืนยันว่าจะปิดกั้นถนนส่วนนี้จนกว่าเจ้าหน้าที่จะแสดงความรับผิดชอบและจ่ายค่าชดเชยให้ ทางครอบครัวได้ติดต่อไปยังหน่วยงานระดับภูมิภาค พร้อมแสดงเอกสารสิทธิ์ในการถือครองพื้นที่ดังกล่าวเป็นหลักฐาน แต่กลับได้รับคำชี้แจ้งที่ไม่ชัดเจนและฟังไม่ขึ้น เจ้าหน้าที่อ้างว่า ครอบครัว Udalovs มักจะออกจากบ้านบ่อยๆ ซึ่งแต่ละครั้งก็หายไปนานมาก…
-
ล้ำได้อีก… หมอนข้างทรง “Y” เพิ่มฟีเจอร์ที่มากกว่าการกอด เพื่อประสบการณ์นอนที่ดีกว่า!?
สำหรับหนุ่มโสดอารมณ์เปลี่ยว การนอนคนเดียวในค่ำคืนที่เหว่ว้า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดีไม่ดีอาจนอนไม่หลับจนถึงเช้าเลยก็ได้ บางคนบอกก็หาแฟนสิ แหม่ จะบ้าหรอ แฟนนะไม่ใช่เสื้อผ้า ที่จะหาได้ตามร้านค้าทั่วไป บางคนแนะนำให้ซื้อตุ๊กตายางมาแก้เหงาสิ มันก็อยากได้อยู่หรอก แต่ราคาเนี่ยสิ ไม่ใช่เล่นเลย อย่างเพิ่งหมดหวังค่ะ เพราะคุณยังมีอีกหนึ่งทางเลือก ขอแนะนำหมอนรูปตัว “Y” ที่มาพร้อมรูปตู๊กตาหน้าตาจิ้มลิ้ม ที่เด็ดสุดๆ คือ เธอไม่ใส่เสื้อผ้าด้วยนะ!! หมอนทรงตัว Y ออกแบบโดยนักวาดภาพประกอบ Konomi โดยทำได้เพิ่มภาพของตัวละคร Kamikaze จากเกมและการ์ตูนเรื่อง Kantai Collection ในสภาพที่แตกต่างกันบนปลอกหมอนทั้งสองด้าน ด้านหนึ่งใส่เสื้อผ้าชิ้นน้อย แบบว่าพอยั่วให้คุณตื่นตัวได้ ส่วนอีกด้านเปลือยหมด พร้อมให้คุณจู่โจมได้ทันที และที่ทำเป็นรูปตัว Y เพราะส่วนตรงที่แยกนั้นคือส่วนขายังไงล่ะ คือคุณสามารถจับขาแม่สาวน้อยแหวกกว้างเท่าไหร่ก็ได้… แหม่ แม้ว่ามันจะถูกผลิตให้เป็นหมอนข้างสำหรับนอนกอด แต่ดูจากรูปทรงและภาพการ์ตูนสาวเปลือยแล้ว คุณผู้ชายคนจะไม่หยุดแค่การกอดแน่ๆ คงไม่ต้องบอกว่ามันเอาไปทำอะไรได้อีก เพราะคุณผู้ชายที่ตัดสินใจซื้อหมอนรูปตัว “Y” คงจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว รออะไรล่ะ เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน พุ่งเลยสิ อิอิ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะให้ความรู้สึกไม่สมจริงนะ…
-
“เดินตามรอยพ่อ” คือเหตุผลว่าทำไม ‘Robert Irwin’ ถึงได้รับรางวัลถ่ายภาพสัตว์ยอดเยี่ยม
เมื่อลูกมีความสามารถหรือชอบทำอะไรเหมือนพ่อแม่ มักจะมีคนพูดว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” เหมือนกับช่างภาพคนนี้ที่เดินตามรอยพ่อจนประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขารัก… Robert Irwin ลูกชายของ Steve Irwin Robert Irwin เป็นลูกชายของ Steve Irwin เขาเป็นคนที่ชอบไปไหนมาไหนกับพ่อตั้งแต่เด็กๆ และนั่นทำให้กลายเป็นคนที่ตกหลุมรักธรรมชาติเช่นเดียวกับพ่อ Robert เป็นคนที่หลงใหลในโลกธรรมชาติตั้งแต่เด็กๆ ขณะเดียวกันเขาก็ชอบถ่ายรูปด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหนเขาจะถ่ายรูปสัตว์เอาไว้เสมอ นอกจากชอบถ่ายรูปแล้ว Robert คงเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในด้านนี้ เพราะตอนที่อายุ 13 ปี เขาได้โพสต์ภาพถ่ายสัตว์ต่างๆ ลงในอินสตาแกรม ปรากฏได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก และชื่นชมฝีมือของเขา นั่นกลายเป็นแรงบันดาลให้เขาพัฒนาฝีมือขึ้นไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันนี้ Robert และครอบครัวมักจะออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายภาพความงดงามของสัตว์ตามธรรมชาติ แน่นอนว่าเมื่อเวลาเปลี่ยน ฝีมือของเขาก็พัฒนาขึ้นมาก และมันก็สวยมากพอที่ทำให้มั่นใจในการส่งผลงานภาพถ่ายเข้าประกวด ไม่เพียงเท่านั้นเขายังกวาดรางวัลมาแล้วนับไม่ถ้วน สำหรับรางวัลล่าสุดคือ รางวัลถ่ายภาพสัตว์ยอดเยี่ยม และเมื่อได้เห็นผลงานของเราแล้ว จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้รางวัลนี้ เพราะแต่ละภาพนั้นงดงามจริงๆ นอกจากพรสวรรค์และการฝึกฝนแล้ว เขาบอกว่าที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ได้เพราะเขาเลือกที่จะเดินตามรอยพ่อ จนทำให้เขาได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองรักในที่สุด ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Instagram และเว็บไซต์ robertirwinphotos.com . .…
-
ศิลปินเปลี่ยนภาพคนจริง ให้กลายเป็นภาพการ์ตูน 3 มิติ เนื้องานละเอียดเนี้ยบแทบทุกส่วน!!
ในโลกของศิลปะนั้นไม่ว่าจะแขนงไหนก็ตาม มักจะทำให้เราทึ่งได้เสมอ เพราะการสร้างผลงานศิลปะทำให้ศิลปินเผยจินตนการที่ไม่มีที่สิ้นสุด เช่นเดียวกับ Lance Phan ศิลปินผู้มากความสามารถ ที่เปลี่ยนภาพของคนจริงๆ ให้กลายเป็นภาพการ์ตูนในรูปแบบ 3 มิติ ที่มีความงดงามเหมือนกับสตูดิโอ Pixar ไปเสกมาให้เลยนะเนี่ย!? 1. การวาดรูปเหมือนอาจไม่ต้องใช้จินตการมากเท่ากับการสร้างผลงานในแนวอื่นๆ แต่ต้องยอมรับเลยว่าคนที่จะทำแบบนี้ได้ต้องผ่านการฝึกฝนและต้องมีฝีมือจริงๆ ถึงทำออกมาได้เนี้ยบขนาดนี้ และแม้จะเป็นภาพการ์ตูน แต่สังเกตดูดีๆ ทุกรูปจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องใช้ความประนีตและความละเอียดค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นเส้นผม ดวงตา เงาต่างๆ ก็งดงามอย่างเหลือเชื่อ 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15.…
-
33 ภาพเปิดตำนาน “Facebook” จากโปรเจ็คของเด็กเนิร์ด สู่บริษัทโซเชียลยักษ์ใหญ่ระดับโลก!!
ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็มีบัญชีเฟสบุ๊กเป็นของตัวเอง เพราะด้วยจุดประสงค์การเริ่มต้นที่มีไว้ใช้ทำการติดต่อเพื่อนๆ คนรู้จักได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และกลายเป็นแหล่งรวมความบันเทิงน้อยใหญ่อีกเพียบ และเมื่อพูดถึงเฟสบุ๊กแล้ว จะไม่กล่าวถึง Mark Zuckerberg คงเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเขาคือผู้ก่อตั้งและประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกลายเป็นผู้มีอิทธิคนหนึ่งของโลกในปัจจุบันไปแล้ว ปัจจุบัน เฟสบุ๊กมีมูลค่าประมาณ 16.560 ล้านล้านบาท และมีผู้ลงชื่อเข้าใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คนี้มากกว่า 2 พันล้านคนในทุกๆ เดือน แน่นอนว่าความสำเร็จนี้คงไม่ได้มาง่ายๆ เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาย้อนดูกันหน่อยว่าตั้งแต่เฟสบุ๊กก่อตั้งครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 จนถึงวันนี้ เป็นยังไงบ้าง? เฟสบุ๊กได้กำเนิดขึ้นที่หอพัก Kirkland House ในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นหอพักเดียวกันกับ Wallace Shawn ผู้ให้เสียง Rex ในเรื่อง Toy Story ในตอนที่เขายังเรียนอยู่ที่ฮาร์วาร์ด Mark Zuckerberg ได้เข้ามาเรียนที่ฮาร์วาร์ดในปี 2002 และต่อมาในปี 2003 ในขณะที่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 เขาก็ได้สร้างเว็บไซต์หนึ่งขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า Facemash Facemash เป็นเว็บไซต์แบบ Hot or Not หรือเว็บไซต์แนวหาคู่ที่จะให้ผู้ใช้เว็บไซต์เข้ามาให้คะแนนรูปภาพของบุคคลที่อัพโหลดเข้าไป สำหรับ Zuckerberg…
-
ทารกน้อยวัย 10 วัน ถ่ายภาพคู่กับเรือที่ช่วยชีวิตเธอจากพายุฮาร์วีย์ จนรอดมาได้อย่างปลอดภัย…
ว่ากันว่าฟ้าหลังฝนมักสดใสเสมอ เหมือนกับพายุฮาร์วีย์ที่พัดถล่มเท็กซัสในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเสียหายมหาศาล แต่ในความร้ายแรงนั้นมันทำให้เราได้เห็นถึงน้ำใจของผู้คน เห็นการช่วยเหลือ เห็นการแบ่งปัน เช่นกับหนูน้อยคนนี้ที่รอดมาด้วยเรือชูชีพลำหนึ่งได้อย่างปลอดภัย ทางครอบครัวจึงเลือกที่จะถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเจออะไรมาบ้าง… เด็กน้อย Hope จาก Beaumont รัฐเท็กซัส อายุเพียง 10 วัน ในช่วงที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากเหตุการณ์น้ำท่วมเนื่องจากถูกพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ถล่ม เมื่อหนูน้อยรอดมาได้อย่างปลอดภัย พ่อแม่จึงตัดสินในที่จะถ่ายรูปเธอกับเรือลำเดียวกับที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ เพื่อให้เธอได้ดูเมื่อโตขึ้นและบอกให้รู้ว่าเธอรอดมาได้เพราะอะไร สำหรับช่วงเวลาที่เด็กน้อยกับพ่อแม่ Emily และ Levi Chimenoก อยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายนั้นเกิดขึ้นเมื่อวัน 30 สิงหาคม 2017 ครอบครัวได้อพยพไปยังเมือง Lake Charles เพื่อรอให้พายุสงบลง ตอนนั้น Hope ในวัย 10 วัน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เธอนอนอยู่ในอ้อมกอดของแม่ท่ามกลางพายุที่รุนแรง คุณแม่บอกว่า วันนั้นเธอไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย ไม่ห่วงบ้าน ไม่ห่วงข้าวของ เธอห่วงแค่ลูกสาวตัวน้อยที่เพิ่งคลอด แม้เธอเองจะยังเจ็บจากการคลอด แต่ก็ยอมลุยน้ำเพื่อพาลูกไปอยู่ในที่ปลอดภัย จนกระทั่งพายุเข้าทางตะวันออกของเท็กซัส ครอบครัวตัดสินใจที่จะอพยพไปยังพื้นที่ที่สูงกว่านี้ จากนั้นพวกเขาก็ขึ้นเรือของกลุ่มช่วยเหลือผู้ประสบภัย Cajun Navy ออกจากบ้านพร้อมเด็กๆ…
-
หนุ่มเซลฟี่ทุกวันตั้งแต่อายุ 12 ปี ไม่เคยยิ้มซักรูป พอถึงวันแต่งงานปุ๊บ ก็ยิ้มออกเสียที!!
เรามักจะมีเหตุผลในการยิ้มเสมอ บางคนยิ้มเพราะมีความสุข บางคนยิ้มเพราะมีเรื่องที่ทำให้ยิ้ม แต่เกือบทุกคนที่เมื่อรู้ว่าอยู่หน้ากล้อง พวกเขาจะยิ้มโดยไม่ต้องมีเหตุผล พูดแบบนี้เราอาจจะคิดว่าทุกคนจะยิ้มเมื่อถ่ายรูป มันก็ไม่จริงเสมอไปหรอก โดยเฉพาะผู้ชายบางคนที่เวลาถ่ายรูปต้องทำหน้าเคร่งขรึม ไม่ยอมยิ้มเลย ทำอย่างกับไปโกรธใครมาแหนะ… กรณีของการถ่ายรูปเซลฟี่แบบไม่เคยจะเผยรอยยิ้มนั้น ก็เกิดขึ้นกับหนุ่ม Hugo Cornellier จากประเทศแคนาดา ผู้ไม่เคยจะยิ้มให้กับกล้องเลยซักรูป จะว่าเกลียดกล้องก็ไม่เชิง เพราะเขาเซลฟี่เองทุกวัน เริ่มตั้งแต่ปี 2008 ตอนอายุ 12 ปี ไม่ว่าจะเซลฟี่เดี่ยว เซลฟี่กับเพื่อนหรือแฟน ไม่ว่าจะอยู่ในปาร์ตี้ หรืองานสังสรรค์ เวลาถ่ายรูปเขาจะทำหน้าเดียวคือ หน้าตึง ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำแบบนั้นทำไม หรืออาจเป็นเพราะทำหน้าบึ้งแล้วทำให้เขามั่นใจ? หรือมันเป็นคอนเซปต์การถ่ายรูปของเขา? เราคาดเดาไม่ได้เลย แต่ที่รู้คือมันกลายเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปแล้ว ต่อมาเขาก็ได้เผยแพร่คลิปภาพตัวเอง ที่มีการรวมรูปตั้งแต่ตอนอายุ 12 ปี จนถึงปัจจุบัน ที่เขาถ่ายทุกวัน รวมแล้วประมาณ 2,500 รูป ซึ่งก็ไม่มีรูปไหนที่เขายิ้มเลยแม้แต่รูปเดียว คลิปนี้มีความยาว 2.38 นาที แน่นอนว่ามันอาจจะน่าเบื่อที่ต้องดูผู้ชายที่ทำหน้าเดียวหน้าเดิมตลอดทุกชอต แต่อย่างเพิ่งกดข้าม เพราะในช่วงสุดท้ายของคลิปเขาได้เผยภาพเซลฟี่พร้อมรอยยิ้ม…
-
สาวน้อยถูกเซอร์ไพรส์ด้วยลูกหมาสุดคิ้วท์ หลังอ้อนพ่อแม่อยากเลี้ยงสุนัขมานาน
จำความรู้สึกตอนเป็นเด็กได้มั้ย เวลาที่เราอยากได้อะไรหรือต้องการอะไร เราก็จะอ้อนพ่อแม่ให้ซื้อให้ บางคนอ้อนให้ซื้อของกิน บางคนอยากได้ของเล่น บางคนอยากได้เสื้อผ้าใหม่ สำหรับ Ava เด็กหญิงวัย 6 ขวบ มีความใฝ่ฝันที่อยากมีน้องหมาเป็นของตัวเอง แต่แล้วเธอก็รู้สึกหมดหวังเมื่อครอบครัวไม่อนุญาตให้เลี้ยง คุณแม่เล่าว่าเด็กหญิงอยากได้ลูกหมามาก ถึงกับนำตุ๊กตามาเป็นตัวแทนน้องหมา ให้น้ำให้อาหารมัน แถมยังพามันไปเดินเล่นด้วย แม้ที่บ้านจะบอกไปแล้วว่าไม่ให้เลี้ยง แต่เด็กน้อยผู้น่ารักก็ยังพยายามที่จะอ้อนคุณพ่อให้ซื้อมาให้ได้ พร้อมทั้งขอให้ผู้คนทวีิตหาคุณพ่อด้วย เพื่อให้พวกเขาช่วยพูดกับพ่อให้ซื้อหมาให้เธอ จนในที่พ่อแม่ก็ใจอ่อน แต่พวกเขายังไม่ได้บอกลูกสาวเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะอยากทำเซอร์ไพรส์เธอ พ่อได้ซื้อลูกหมาตัวหนึ่งและให้มานั่งรอที่ร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ในขณะที่คุณแม่ได้พาลูกสาวไปยังร้านดังกล่าว แล้วบอกเธอว่ามีบางอย่างจะให้ และทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เด็กหญิงถึงกับตะลึง เพราะที่เห็นคือ น้องหมาน่ารักตัวหนึ่งนั่งรอเธออยู่ในห้องนั้น Ava รู้ทันทีว่านั่นเป็นสุนัขที่พ่อซื้อมาให้ เธอรีบเข้าไปกอดมัน ทักทายมัน แน่นอนว่ามันเป็นช่วงว่าที่เด็กหญิงมีความสุขที่สุด เพราะนี่คือความฝันสูงสุดของชีวิต ณ ตอนนั้น โมเม้นต์ตอนที่ความฝันของเด็กหญิงเป็นจริงและเธอได้พบกับน้องหมาครั้งแรก ทีมเหมียวขอแสดงความยินดีกับน้องด้วยนะคะ ยังไงก็ขอให้รักกันไปนานๆ นะ ที่มา viralnova
-
นักวิจัยเผย “อุจจาระ” ของชาวมังสวิรัติมีค่า เพราะสามารถใช้รักษาโรคทางเดินอาหารได้
สำหรับคนทั่วไปแล้ว “อึ” ถือเป็นของเสียในร่างกายที่ต้องได้รับการขับไถ่เป็นประจำ แต่สำหรับ “อึ” ของชาววีแกนถือเป็นสิ่งที่มีค่า เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้ วีแกน (Vegans) คือการใช้ชีวิตหลีกเลี่ยงจากอาหารที่ทำมาจากส่วนประกอบทั้งทางตรงและทางอ้อมของสัตว์ การงดอาหาร รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในปรัชญา ที่ว่าด้วยการปฏิเสธ เครื่องอุปโภคบริโภคที่ได้มาจากการทรมานสัตว์ เพราะการเลือกกินแบบนี้ ส่งผลให้มีการยก “ขี้” ของชาววีแกนเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างหนึ่งในปัจจุบัน Faecal microbiota transplant (FMT) คือ การนำอุจจาระจากคนที่มีสุขภาพดีพร้อมด้วยแบคทีเรียดีนำไปใส่ในลำไส้ของคนที่มีแบคทีเรียไม่ดี นอกจากนี้อุจจาระดังกล่าวยังสามารถนำไปรักษาโรคโครห์น (Crohn’s disease) ซึ่งเป็นความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ทำให้เกิดการระคายเคืองและทางเดินอาหารบวม ข่าวดีคือโรคนี้สามารถรักษาได้โดยอุจจาะระของชาววีแกน ลองดูกระบวนการของ FMT จากวิดีโอด้านล่างนี้ Dr Greger จาก Nutrition Facts บอกว่า “โดยทั่วไปแล้ว ในลำไส้ของเราประกอบไปด้วยแบคทีเรียจำนวนมากทั้งดีและไม่ดี” “เรามีการปลูกถ่ายไตและหัวใจ ร่วมทั้งอวัยวะอื่นๆ แล้วทำไมเราถึงไม่ปลูกถ่ายแบคทีเรียในลำไส้ เพื่อนำแบคทีเรียที่ดีมาทดแทนแบคทีเรียที่ไม่ดี” Dr Gerger บอกว่า ชาววีแวนมีแนวโน้มที่จะมีแบคทีเรียดีในกระเพาะอาหาร เนื่องจากอาหารที่พวกเขาทานนั้นล้วนมาจากพืชที่มีเส้นใยสูง และยิ่งคุณทานไฟเบอร์มากเท่าไหร่ แบคทีเรียดีในลำไส้ของคุณยิ่งมากเท่านั้น ทั้งนี้จากการวิจัยเมื่อปีที่แล้ว…
-
ภาพหาชมยากของ “อัฟกานิสถาน” ในอดีต ก่อนที่จะถูกยึดครองโดยกลุ่มตอลิบาน
ในปี 1967 Dr. William Podlich ได้ลาจากการสอนที่มหาวิทยาลัย Arizona State University และเริ่มทำงานกับเพื่อที่จะไปสอนที่ Higher Teachers College ในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ในฐานะผู้ชำนาญด้านการศึกษา ภรรยาของเขา Margaret และลูกสาวสองคน Peg กับ Jan ก็ไปกับเขาด้วย จนกระทั่งโตขึ้นพวกเขาก็ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน American International School of Kabul ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับเด็กชาวอเมริกันและชาวต่างชาติที่อาศัยและทำงานในประเทศ นอกจากเป็นผู้ชำนาญด้านการศึกษาด้วย Podlich ยังเป็นช่างภาพมือสมัครเล่นที่รักการถ่ายรูปมาก นั่นทำให้ตามเก็บภาพวิถีชีวิตใน Kabul 10 ปี ก่อนการคุกคามจากโซเวียต ชาวอัฟกานิสถานมีชีวิตที่เรียบง่าย สงบ และถือเป็นประเทศที่งดงามในระดับหนึ่งเลยทีเดียว และนี่คือภาพที่่ถ่ายระหว่างปี 1967-1968 แสดงให้เห็นถึงชีวิตของผู้คนที่ความเรียบง่าย ซึ่งแตกต่างกับปัจจุบันที่เต็มไปด้วยสงครามและการสู้รบ Jan (ซ้าย) และ Peg (ขวา) ขณะอยู่ที่ Paghman Gardens ซึ่งถูกทำลายในช่วงไม่กี่ปีก่อนการรุกรานของสหรัฐฯในปี 2001 ภาพของ Peg Podlich ถ่ายใน Kabul Peg Podlic ใส่แว่นกันแดดขณะเดินทางไปกับครอบครัวบนรถบัส…
-
ชายชาวจีนนำไพ่มาพับและสร้างเป็น “แจกันจีน” ขนาดเท่าของจริง งดงามมาก
ของเล่นบางอย่างนั้นไม่เพียงแค่ให้ความสนุก แต่มันยังทำให้เกิดการเรียนรู้ ยิ่งไปกว่านั้นหากเราเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ก็สามารถนำของเล่นไปประยุกต์ทำอย่างอื่นได้อีก จางเก๋อหัว วัย 65 ปี จากเมือเฉียนเจียง มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน เป็นผู้มีทักษะอันเป็นเอกลักษณ์ เขาสามารถทำแจกันจีนที่เหมือนของจริงด้วยการพับไพ่ของเล่น หลังจากที่เกษียณจากการทำงาน Zhang ก็หันมานั่งพับไพ่ของเล่น และพยายามจะเรียนรู้วิธีการพับในรูปแบบต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่เพียงแค่พับเล่นๆ เท่านั้น แต่นายจางตั้งใจที่จะนำไพ่ที่พับเหล่านี้มาประกอบกันเป็นแจกันเท่าของจริง และตกแต่งด้วยลวดลายแบบดั้งเดิมของแจกันจีนด้วย ผลงานของเขาแทบจะไม่ที่ให้ติเลย เพราะเขาได้ทำมันอย่างตั้งใจทุกขึ้นตอน และเก็บรายละเอียดทุกส่วน จนไม่น่าเชื่อว่ามันทำมาจากไพ่ นอกจากนี้ผลงานของ นายจาง ได้รับการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษด้วย จนได้รับความสนใจผู้คนทั่วโลก บางคนถึงขั้นค้นหาประวัติของเขา สำหรับ นายจางเคยทำงานเป็นช่างก่ออิฐ ในมณฑลหูเป่ย โดยในช่วงชีวิตส่วนใหญ่แล้ว เขาจะทำงานกับการฟื้นฟูอาคารโบราณในย่านเจี้ยนลี่ นั่นหมายความว่าเขามีโอกาสได้ชมพระธาตุโบราณ ซึ่งเต็มไปด้วยโบราณวัตถุ หนึ่งในนั้นคือ แจกันโบราณ ซีี่งเป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบมาก สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาคือ การรวมกันของเครื่องลายครามสีขาวและสีฟ้าและรูปแบบที่ซับซ้อน แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะทำแจกันแบบนี้ด้วยตัวเองได้ จนกระทั่งขณะที่เขานั่งเล่นไพ่อยู่คนเดียว จนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความคิดเกี่ยวกับศิลปะก็ได้เข้ามาในความคิดของเขาหลังจากที่เห็นเด็กๆ พับกระดาษใส่ลงในขวดโหลสามเหลี่ยมใบเล็กๆ นั่นทำให้เขาคิดขึ้นได้ว่าสามารถพับกระดาษให้เกิดเป็นรูปร่างที่ต้องการได้ และสิ่งแรกที่แว็บเข้ามาในหัวคือแจกัน ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้านเขาจึงเริ่มที่จะฝึกพับไพ่ทันที แม้นายจางจะล้มเหลวในการทำงานหลายต่อหลายครั้ง…
-
เรื่องราวของ ‘Roberts’ โจรสลัดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคทองของโจรสลัด
โจรสลัดอาจเป็นเรื่องที่เราคนไทยไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ แต่หากนึกไม่ออกจริงๆ ให้จินตนาการถึงการ์ตูนเรื่อง วันพีซ เพราะนั่นเป็นเรื่องที่เผยมุมมองของโจรสลัดได้ชัดมาก แม้จะเป็นแค่การ์ตูนก็ตาม สำหรับในชีวิตจริงนั้น ก็มียุคหนึ่งที่โจรสลัดระบาดหนักเช่นกัน แต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกสวยงามเหมือนในการ์ตูนนะ เพราะโจรสลัดในชีวิตจะออกปล้นอย่างบ้าคลั่ง เพื่อสะสมสมบัติให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับ Bartholomew “Black Bart” Roberts ที่แม้ไม่ได้ตั้งใจเป็นโจรสลัด แต่โชคชะตาก็นำพาให้เขากลายเป็นโจรสลัดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง Bartholomew “Black Bart” Roberts เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ปี 1682 ใน Casnewydd-Bach ประเทศเวลส์ ชื่อจริงของเขาคือ John Roberts ในช่วงที่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม เขาได้ออกทะเลเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นทหารเรือ เขาไม่เคยคิดที่จะเป็นโจรสลัดมาก่อน แต่สุดท้ายแล้วเขากลับกลายเป็นโจรสลัดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของยุคทอง ในปี 1719 เขาได้ทำงานเป็นผู้ช่วยต้นหนเรือบนเรือของบริษัทค้าทาสอังกฤษที่ชื่อ Princess for the Royal Africa Company ภายใต้การนำของกัปตันเรือ Abraham Plumb แต่ต่อมาเรือดังกล่าวถูกปล้นโดยโจรสลัด Howell Davis ซึ่งเป็นผู้ที่มีเรือใต้บังคับบัญชา 2 ลำคือ Royal Rover และ Royal James ตอนนั้นเองที่ลูกเรือ Princess รวมทั้ง Roberts…
-
เรื่องราวของ ‘Mary Read’ สาวที่ชอบแต่งตัวเป็นผู้ชาย จนกลายเป็นโจรสลัดที่โลกต้องจดจำ
ย้อนกลับไปในอดีต ผู้หญิงส่วนใหญ่ในโลกตะวันตกมักจะแต่งตัวคล้ายกันคือใส่กระโปรงสุ่มใหญ่ๆ รักสวยรักงาม เลี้ยงลูกอยู่บ้าน และมีกิริยา มารยาทที่เรียบร้อย แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ Mary Read เลยแม้แต่น้อย เพราะแม้จะเกิดมาเป็นผู้หญิง แต่เธอกลับชอบแต่งตัวเป็นผู้ชาย ที่สำคัญคือชอบขึ้นเรือโจรสลัดด้วย Mary เป็นที่รู้จักกันในฐานะลูกเรือโจรสลัดที่นำโดย Calico Jack Rackham โดยมีคู่หูเป็นโจรสลัดหญิงที่ชื่อ Anne Bonny แม้จะเป็นผู้หญิง แต่ Mary เป็นคนที่เก่งกาจและเป็นที่น่าเกรงขามไม่ต่างจากโจรสลัดชายที่แล่นเรือไปตามทะลเลย เธอเข้าร่วมการเป็นโจรสลัดในช่วงศตวรรษที่ 18 โดยแม่ของเธอได้ปลอมตัวให้กลายเป็นเด็กผู้ชายและใช้ชื่อพี่ชายของเธอที่เสียชีวิตไปแล้วแทน เธอจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า Mark Read สาเหตุที่ต้องปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชายเพราะแม่ของเธอไม่อยากเสียผลประโยชน์จากย่าของเธอ และย่าก็หลงเชื่อมาตลอดว่า Mary คือ Mark พี่ชายของเธอ หญิงสาวจึงต้องแต่งตัวเป็นเด็กชายมาตลอดและทำงานเป็นเด็กรับใช้จนกระทั่งได้ออกเรือ นอกจากแต่งเป็นผู้ชายได้อย่างแนบเนียนแล้ว เธอยังเลือกทำงานสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะด้วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า Mary จะมีรสนิยมเหมือนผู้ชายทุกอย่าง เธอยังคงเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ใจเต้นแรงเมื่อเจอผู้ชายที่ชอบ และนั่นทำให้เธอยอมเผยตัวตนที่แท้จริง หลังตกหลุมรักทหารชาวดัชต์คนหนึ่งในระหว่างที่เธอเข้าร่วมกับกองเรืออังกฤษ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับฮอลแลนด์ในเวลานั้น สุดท้ายทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน แต่ความสุขนั้นก็สั้นเหลือเกิน สามีเธอเสียชีวิตหลังจากแต่งงานเพียงไม่นาน Mary จึงต้องกลับไปแต่งตัวเป็นชายอีกครั้ง และเข้าร่วมกับกองทัพเรือฮอลแลนด์ ก่อนที่เรือของเธอจะถูกโจรสลัดยึดได้ …
-
ศิลปินสร้างผลงาน “ภาพอีโรติคแบบหลอน” เผยความกลัวที่ซ่อนอยู่ภายในแรงปรารถนา
หลายคนอาจจะคิดว่าความหลอนกับความอิีโรติกเป็นคนละเรื่อง คนละสายทางที่ไม่สามารถรวมกันได้ เพราะมันสื่ออารมณ์ต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่สำหรับ Brittany Markert เลือกที่จะนำความหลอนกับความอิีโรติกมาผสมผสานเป็นงานศิลปะภายใต้ชื่อ In Rooms UNTITLED NEW ORLEANS ปี 2017 In Rooms คือ ภาพชุดที่ชวนขนลุกให้ความรู้สึกหลอน แต่ในนั้นยังมีความอีโรติกแฝงอยู่ ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากจิตใต้สำนึกของศิลปินเอง Markert เริ่มทำงานด้านนี้ครั้งแรกในปี 2011 หลังจากที่กลับไปดูภาพชุดแรกที่เธอเคยถ่ายเอาไว้ และได้ตกหลุมรักงานแนวนี้ตั้งแต่นั้นมา UNTITLED CALIFORNIA ปี 2015 จากนั้นเธอก็มักจะทำงานในห้องมืดสลัว นอกจากนี้สำหรับ Markert แล้ว การถ่ายภาพตัวเองเปรียบเสมือนการเขียนไดอารี่ที่ไม่ต้องเขียนด้วยปากกาแต่บรรยายด้วยภาพแทน เธอบอกว่า “ห้องที่มืดสลัวจะช่วยจัดระเบียบจิตใจของเรา ซึ่งเป็นวิธีการที่จะทำให้จินตนาการของเราชัดเจนขึ้น มันทำให้เรารู้สึกกลัวและมีความปรารถนาในเวลาเดียวกัน” UNTITLED LOUISIANA ปี 2015 สำหรับงานเหล่านี้ เธอได้รับอิทธิพลจากการวิเคราะห์เงาและศิลปะเหนือจริงที่เคลื่อนไหวได้ของ Jungian ผลงาน In Rooms ของ Markert นั้น จะเป็นการปลดปล่อยจินตนาการ ความกลัว และความปรารถนาที่ถูกปิดกั้นอยู่ในจิตใจของเรา …
-
10 โลโก้ของแบรนด์ดังกับเรื่องราวที่แอบซ่อนอยู่ในสัญลักษณ์ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
ทุกวันนี้เราเห็นโลโก้สินค้าอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะโฆษณาในทีวี ป้ายตามทาง ถุงสินค้า หรือแม้แต่ในตัวสินค้าเอง แต่รู้มั้ย โลโก้บางอย่างมีเร่ื่องราวแอบแฝงมากกว่าที่เรารู้นะ เรามาดูกันสิว่าในสัญลักษณ์ต่างๆ นั้นมีอะไรซ่อนอยู่? 1. McDonald’s นักออกแบบคนแรกของแมคโดนัลด์ได้มีการตกแต่งหน้าร้านด้วยซุ้มสีทองขนาดใหญ่ ก่อนที่ซุ้มนั้นจะถูกนำมาใช้เป็นโลโก้ของแมคโดนัลด์ในภายหลัง ต่อมาทางบริษัทต้องการยกเลิกการโลโก้นี้ แต่นักจิตวิทยา Louis Cheskin แนะนำให้ใช้ต่อไป โดยให้เหตุผลว่ามันเหมือนเต้านมผู้หญิง ซึ่งเป็นการแสดงถึงความห่วงใยนั่นเอง 2. Chanel Coco Chanel เป็นผู้ออกแบบและวาดสัญลักษณ์ชาเนลด้วยตัวเอง ขณะอยู่ที่ Château Crémat ในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส บางสื่อบอกว่าสัญลักาษณ์นี้ได้แรงบันดาลใจจากซุ้มโค้งของปราสาท แต่ก็มีหลายคนบอกว่า สัญลักษณ์นี้มาจากตัว C สองตัว คือ “CC” ซึ่งหมายถึงตัวอักษรตัวแรกในชื่อปราสาทและชื่อย่อของ Coco 3. Google ผู้ที่สร้างโลโก้กูเกิ้ลได้ใช้สีหลัก 3 สีคือ สีน้ำเงิน สีแดง และสีเหลือง โดยมีการจัดเรียงสีในตำแหน่งเฉพาะ แต่มีเพียงตัวอักสีเขียวที่ตัวโดดเด่น เป็นการบ่งบอกว่ามันเป็นอักษรที่สำคัญที่สุดในนี้ ความพิเศษของตัวอักษรสีเขียวนี้ ดูเหมือนผู้ออกแบบต้องการสื่อว่า กูเกิ้ล ไม่มีกฏที่ตายตัวและจะไม่ทำตามกฏทั่วไปด้วย 4. Gillette…
-
Rough Guide จัดอันดับ 20 ประเทศที่สวยที่สุดในโลก ที่คุณควรไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง
ในโลกนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมายกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ ซึ่งบางประเทศนั้นมีภูมิประเทศที่ช่างงดงามจนน่าอิจฉามากเลยทีเดียว Rough Guide เป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทท่องเที่ยว อีบุ๊ก และบล็อก ได้เผยรายชื่อประเทศที่สวยที่สุดในโลกซึ่งได้รับการโหวตจากผู้อ่าน และนี่คือ 20 อันดับที่จัดโดยเว็บไซต์ของ Rough Guide 20. เวียดนาม ประเทศเวียดนามมีภูมิทัศน์ที่งดงาม น่าประทับใจ รวมทั้งทุ่งหญ้าในเทือกเขา Sa Pa ที่มีความงดงามจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 19. โครเอเชีย โครเอเชียมีสถานที่ที่ขึ้นชื่ออย่าง ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก เพราะเป็นเมืองเก่าดั้งเดิม ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ตลอดแนวกำแพง 2 กิโลเมตร ที่โอบเมืองเก่าเอาไว้ 18. ไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์มีภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อนและน้ำพุที่งดงาม จนกลายเป็นประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก 17. นอร์เวย์ ไม่ว่าจเป็นภูเขาน้ำแข็ง เมืองคึกคักไปด้วยผู้คน รวมทั้งแสงเหนือ ทั้งหมดนี้กลายเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่มาเยือนนอร์เวย์ จนต้องกลับมาเที่ยวอีกเป็นครั้งที่สอง 16. เปรู เปรูมีภูมิทัศน์ที่น่าสนใจ และมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าฝนที่มีความชื้นตลอดปี ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และทะเลทรายหลายๆ…
-
สื่อนอกเผย “เฮอร์ริเคนเออร์มา” ที่กำลังถล่มสหรัฐอยู่ในขณะนี้ ร้ายแรงยิ่งกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์!!
ช่วงนี้ข่าวที่ได้รับการรายงานผ่าสื่อต่างๆ เกือบทุกวันคงจะหนีไม่พ้นข่าวพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาที่กำลังมุ่งหน้าไปยังทะเลแคริบเบียน ซึ่งมีความรุนแรงในระดับที่น่ากลัวมากสำหรับหมู่เกาะแอตแลนติกและประเทศใกล้เคียง โดยเมื่อวันอังคารที่ 5 กันยายน 2017 ชาวเกาะได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับพายุเฮอริเคนเออร์มา ที่น่าจะเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากกว่าที่เคยเจอมา… พายุเออร์มามีความรุนแรงในระดับ 5 ซึ่ง เป็นระดับที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ โดยมีความเร็วลมอยู่ที่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีขนาดใหญ่เทียบเท่าได้กับประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว สำนักข่าว BBC รายงานว่า พายุเออร์มาได้พัดขึ้นฝั่งเกาะบาร์บูดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศแอนติกาและบาร์บูดาในทะเลแคริบเบียนเมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 6 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจะพัดถล่มเกาะซินต์มาร์เติน และกำลังมุ่งหน้าสู่เปอร์โตริโก เฮติ คิวบา รวมทั้งสหรัฐฯ ด้วย ทางด้านนายกรัฐมนตรีของประเทศบาฮามาส Hubert Minnis กล่าวว่า ขณะนี้ได้วางแผนที่จะอพยพประชากรออกจากไปพื้น และคาดว่าน่าจะเป็นการอพยพคนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ในขณะที่ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา Rick Scott ก็ได้ประกาศให้พื้นที่ใน 67 เมือง ของรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกาเป็นพื้นที่อันตราย “เฮอร์ริเคนเออร์มาเป็นพายุขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคน ดังนั้นฟลอริด้าจึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถาณการณ์ฉุกเฉินนี้” เจ้าหน้ากรมอุตุเผยว่า พายุขนาดใหญ่เช่นนี้จะทำให้เกิดฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน และอาจมีคลื่นสูงถึง 7…
-
20 ภาพประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกทำให้เป็นภาพสีราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ในสมัยที่ยังไม่มีกล้องถ่ายภาพสี ภาพถ่ายจะมีแค่สีขาวดำ ซึ่งบางทีภาพที่ปราศจากสีอาจสื่อความรู้สึกหรืออารมณ์ได้ไม่ชัดเจนเท่าภาพสี ด้วยเหตุนี้ Doug และศิลปินคนอื่นจาก Colourisehistory Group จึงได้นำภาพประวัติศาตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกถ่ายเป็นขาวดำมาเติมสี ราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน 1. เครื่องบิน Vc ‘Tropical’ JK707 MX-P ถูกยิงตกลงระหว่างการสู้รบ ถูกเติมสีโดย Paul Reynold 2. ทหารฟินแลนด์ในช่วงฤดูหนาวท่ามกลางหิมะที่โรงเรียนฝึกสุนัขทหารระหว่างสงคราม Finnish-Soviet Continuation War เติมสีโดย Jared Enos 3. เครื่องบิน Focke Wulf FW-190A6 Nº20 ที่สนามบิน Immola ในฟินแลนด์ ภาพสีโดย Jared Enos 4. ทหารสัญชาติจีนกำลังยืนคุ้มกันเครื่องบิน Curtiss P-40 ‘Warhawks’ ของกลุ่ม American Volunteer Group (AVG) ภาพสีโดย Tom Thounaojam จากอินเดีย 5. ทหารกำลังทำความสะอาดรถถัง Sd.Kfz ภาพสีโดย Royston Leonard …
-
สุนัขผู้มีใจเมตตา ช่วยคาบไส้เดือนบนพื้นคอนกรีตไปวางในสนามหญ้า จนปลอดภัยทุกตัว
เป็นที่ทราบกันดีกว่าปกติไส้เดือนจะอยู่ในดิน แต่หากเกิดเหตุทำให้มันไปติดอยู่พื้นคอนกรีตที่ห่างไกลพื้นดิน พวกมันก็จะแห้งตายในไม่ช้า เราหลายคนอาจเดินผ่านไส้เดือนที่ใกล้ตายโดยไม่สนใจ แต่สำหรับเจ้า Holliday น้องหมาวัย 2 ปี มันเลือกที่จะช่วยไส้เดือนทุกตัวจากพื้นคอนกรีตแล้วคาบไปไว้บนพื้นดิน โดยไม่รังเกียจพวกมันเลยสักนิด สำหรับเจ้า Holliday นั้น มันถูก Caitlyn Beebe รับมาเลี้ยงขณะยังเป็นลูกหมาตัวน้อยในความดูแลของสถานดูแลสัตว์ Felines and Canines ในชิคาโก การได้รับความช่วยเหลือในครั้งนั้น กลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เจ้า Holliday ไม่มีวันลืม และมันก็โตมาเป็นสุนัขผู้มีจิตใจเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้อื่นจนทุกวันนี้ ล่าสุดขณะที่เดินไปยังบ้านพ่อแม่ของ Beebe น้องหมาก็เห็นไส้เดือนอยู่บนถนนคอนกรีตและพวกมันกำลังต้องการความช่วยเหลือ เจ้า Holliday ไม่รอช้า มันรีบคาบไส้เดือนขึ้นมาอย่างนุ่มนวล แล้วไปไว้บนสนามหญ้าทีละตัวๆ จนครบทุกตัว จากนั้นแทนที่มันจะตรงไปยังบ้านของพ่อแม่ Beebe เลย แต่มันกลับเดินหาไส้เดือนตัวอื่นๆ ต่อ น้องหมายายามเดินอย่างระมัดระวัง คอยมองหาไส้เดือนตัวอื่นๆ ที่ยังติดอยู่พื้นคอนกรีต เพราะมันคงไม่สบายใจแน่ถ้าเห็นไส้เดือนตายโดยที่มันไม่ทันช่วยเหลือ นี่เป็นโมเม้นต์สุดประทับใจที่ใครเห็นก็คงต้องชื่นชมเจ้า Holliday แม้แต่ Beebe ยังรู้สึกเซอร์ไพรส์กับสิ่งที่มันทำ เธอบอกว่า “ฉันตกใจมาก ตอนแรกคิดว่ามันจะกินไส้เดือนพวกนั้น แต่ปรากฏว่ามันอ่อนโยนกับพวกมันอย่างไม่น่าเชื่อ” ตอนที่คาบนั้น บางทีไส้เดือนจะหลุดปากบ้าง แต่น้องหมาก็จะคาบขึ้นมาใหม่…
-
‘พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา’ พัดถล่มสนามบินที่ชื่อดัง Princess Juliana สร้างความเสียหายมหาศาล!!
สนามบินนานาชาติ Princess Juliana ถือเป็นสนามบินที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ตอนนี้สนามบินดังกล่าวถูกพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่โจมตี จนเละเทะไปหมด มีรายงานพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ได้เคลื่อนผ่านสนามบินนานาชาติ Princess Juliana ด้วยความเร็ว 185 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุณพระ!) ทำลายรั้วกั้นและชายหาด Maho ที่อยู่ติดกัน นอกจากนี้พายุยังได้พัดทรายไปกองอยู่บนรันเวย์ ในขณะที่ก้อนจำนวนมากได้ตกลงมาใส่เครื่องบินจนได้รับความเสียหายหนัก ซากสิ่งของถูกกระจายอยู่ทั่วรันเวย์ หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนพัดเข้าเกาะแซงมาเตียง ก็เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงขึ้นทั่วเกาะ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้ประชนชนอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน แต่จนถึงขนาดนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พายุได้พัดผ่านเข้าอาคาร จนทำให้ข้าวของกระจายอย่างที่เห็น Alex Woolfall หนึ่งในผู้ที่อยู่บนเกาะตอนที่พายุเข้า เล่าว่าตอนนั้นเขาและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ อยู่ในอาคาร อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงพายุ ก่อนที่ข้าวของจะพังลงมาและถูกพัดกระจายไปทั่ว ในขณะที่ Brit Carolyne Coleby เจ้าของธุรกิจเกสต์เฮาส์แห่งหนึ่งบนเกาะเล่าว่า ชาวบ้านแถวนั้นพยายามจะปกป้องบ้านและทรัยพ์สินด้วยเอง ด้วยการนำบอร์ดมาตั้งเพื่อกันลม ท่าเทียบเครื่องบินถูกพายุทล่มจนขาดเป็นสองส่วน เธอบอกอีกว่า “ก่อนที่เกิดพายุเฮอร์ริเคนนี้ ท้องฟ้าสดใส แดดส่องสว่างจ้า แต่แล้วอยู่ดีๆ พายุก็เข้าในแบบที่เราคาดไม่ถึงเลย” เที่ยวบินหนึ่งของสายการบิน British…
-
หนุ่มดีใจขอแฟนสาวแต่งงานได้สำเร็จ แต่ตื่นเต้นเกินเหตุ จนพลาดตกสะพานเสียชีวิต…
สำหรับผู้ชายบางคน การขอแฟนสาวแต่งงานไม่ใช่เรื่อยง่ายๆ ที่จะขอที่ไหนก็ได้ แต่พวกเขาจะเลือกเวลา เลือกสถานที่ที่ดีที่สุด เพื่อให้ฝ่ายหญิงยอมตกลงให้ได้ เหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ที่เลือกสะพานที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกมาเป็นสถานที่ขอแต่งงาน และเขาก็ทำให้เธอตอบตกลงได้สำเร็จซะด้วย แต่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นก็เกิดเหตุสลด เนื่องจากฝ่ายชายดีใจมากเกินเหตุ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สะพานเชื่อมระหว่างเกาะมิยาโกะและเกาะอิราบุ ในจังหวัดโอะกินะวะ เมื่อหนุ่มวัย 32 ปี ขับรถพาแฟนสาวมาที่นี่เพื่อขอแต่งงาน หลังจากที่ให้เธอชื่นชมความงามและทิวทัศน์โดยรอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการหยิบแหวนขึ้นมา และคุกเข่าขอเธอแต่งงาน หญิงสาวไม่ลังเล เธอตอบตกลงทันที ชายหนุ่มดีใจมาก กระโดดไปมาด้วยความตื่นเต้น แค่นั้นยังไม่พอ เขายังกระโดดขึ้นไปบนราวสะพานด้วย แต่แล้วเขาก็เกินเสียการทรงตัวและพลาดท่าจนทำให้ตกจากสะพานที่มีความสูงถึง 30 เมตร ลงไปสู่ทะเล แฟนสาวตกใจมาก เมื่อไม่เห็นเขาขึ้นมา เธอจีงรีบโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยทันที ซึ่งเจ้าหน้าได้ทำการค้นหาเป็นเวลานานพอสมควร จนกระทั่ง 7 ชั่วโมงต่อมา เขาก็ถูกพบเป็นศพแล้ว ต่อมาจากรายของเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า ก่อนที่จะขอแต่งงาน ชายคนนี้ได้ดื่มเหล้ามาก่อน นั่นอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เกิดเหตุสลดในครั้งนี้ ที่มา dailymail
-
25 ภาพการของสิ่งของ “หกเลอะเทอะ” ที่แม้จะสกปรกไปบ้าง แต่ก็สร้างเสริมจินตนาการสุดๆ
เวลาทำน้ำหก ไม่ว่าจะเป็นน้ำอะไรก็ตาม มักจะสร้างความรำคาญใจให้กับเราเสมอ โดยเฉพาะเวลาที่มันหกใส่ของสำคัญของเรา แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากหงุดหงิดเวลาน้ำหกละก็ ลองสังเกตดีๆ สิ บางครั้งน้ำที่หกมันจะทำให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างจนคล้ายอะไรบางอย่างที่เราเจอในชีวิตประจำวัน จะเรียกว่าศิลปะจากน้ำหกก็ได้นะ มองแบบนี้อาจทำให้เรารู้สึกสนุกแทนที่จะหงุดหงิดก็ได้ 1. น้ำหมึกหกใส่นิ้ว แล้วดูสิ เหมือนป่าถูกไฟไหม้เลย 2. รอยน้ำหกบนโต๊ะ เหมือนหมากำลังทำหน้าฟินแหน่ 3. เมื่อทำชาหก แล้วดูสิ แจกนิ้วกลางให้ซะงั้น 4. นี่คงจะเป็นการทำน้ำหกที่น่ารักที่สุด 5. เมื่อหมึกดำหกใส่หมึกชมพูแบบไม่ได้ตั้งใจ 6. อย่างกับภูเขาไฟระเบิด 7. สีหกเป็นหยดน้ำที่โคตรสมบูรณ์แบบ 8. เมื่อสีดำซึมเข้าไปในสีขาว เหมือนตั้งใจวาดเลย 9. ไหนๆ น้ำก็หกแล้ว ทำให้มันเป็นเรื่องสนุกไปเลยดีกว่า 10. ทำกาแฟหก สักพักกลับมาดู เหมือนโดนสายตาจับจ้องยังไงไม่รู้ 11. น้ำมันคงรู้สึกตกใจเหมือนกัน เวลาโดนทำหก…
-
คุณครูช่วยเหมียวน้อยที่ถูกทิ้งไว้ในถุง ชุบเลี้ยงมาตลอด 1 ปี ก็เติบโตสดใสจนอ้วนตั๊บ!!
ทุกวันนี้มีแมวจรจัดมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือ พวกมันต้องดิ้นรนต่อสู้กับอุปสรรคที่ต้องเจอในแต่ละวัน เพียงเพราะอยากมีชีวิตในโลกนี้ให้นานที่สุด แม้โลกจะใจร้ายกับพวกมันก็ตาม แต่มันจะดีแค่ไหน ถ้าเราในฐานะมนุษย์เป็นผู้พาเจ้าเหมียวเหล่านั้นออกจากโลกอันโหดร้ายนั้น แล้วมอบชีวิตใหม่ให้กับพวกมัน… เรื่องราวของเจ้าแมวน้อยที่ถูกทิ้งอยู่ในถุงพลาสติกจนเกือบตาย แต่โชคดีที่คุณครูท่านหนึ่งมาพกเข้า จึงได้ช่วยเหลือมันเอาไว้ได้ทัน คุณครู Aline Martins เล่าว่า “เช้าของวันที่ 3 มีนาคม ผมได้พาหมาไปเดินเล่นเหมือนทุกเช้าที่ผ่านมา แล้วผมก็สังเกตเห็นถุงพลาสติกใบหนึ่งเคลื่อนจากทางเดินข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง” จากนั้นเขาก็ได้เสียงลูกแมวร้องออกมา จึงเดินเข้าไปเปิดถุงใบนั้น ปรากฏว่ามีแมวน้อยนอนอยู่ในถุงนั้นจริงๆ อยู่ในสภาพที่เปียกปอนและอ่อนแรงมาก Aline จึงรีบอุ้มแมวน้อยแล้วพากลับไปที่บ้าน จากนั้นก็ให้การช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ ตอนนั้นลูกแมวรู้สึกหวาดกลัวมาก คุณครูจึงพามันอยู่กับผู้ดูแล จนทำให้มันใจเย็นและรู้สึกปลอดภัย เมื่อมันรู้สึกสบายใจและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้ในระดับหนึ่งแล้ว Aline จึงพามิ้วน้อยไปอาบน้ำอุ่นๆ เพื่อให้มันรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ก่อนจะพามันไปนอนบนเตียงนุ่มๆ ที่เตรียมไว้สำหรับมันโดยเฉพาะ เนื่องจากน้องแมวยังเด็กมาก มันยังไม่สามารถกินอาหารเองได้ Aline จึงต้องใช้เข็มฉีดยาป้อนอาหารให้ และโชคดีที่น้องตัวนี้กินเก่งมาก แถมกินได้ทุกอย่างด้วย จากนั้น คุณครูก็พามันไปรู้จักกับแมวตัวอื่นๆ ซึ่งทุกตัวก็ให้การต้อนรับมันอย่างดีในฐานะน้องใหม่ของบ้าน แต่เห็นตัวเล็กแบบนี้ มันก็กินจุมากกว่าเหมียวรุ่นพี่เสียอีกแหนะ!! เพียงสัปดาห์เดียว ขนของก็เริ่มฟูฟ่องอย่างเห็นได้ชัด คุณครูบอกว่า “ตอนนี้มันลืมอดีตที่โหดร้ายได้แล้ว…
-
ความรักอันแสนเศร้า ของคู่รักที่คบกันตั้งแต่มัธยม แต่สุดท้ายก็มีฝ่ายหนึ่งต้องจากไป…
การตามหารักแท้ว่ายากแล้ว แต่การรักษารักแท้ให้อยู่กับเราไปตลอดชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ยากกว่า เพราะวันหนึ่งไม่เขาหรือเราก็ต้องจากกันด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง… นี่เป็นเรื่องราวของ Jake Coates และ Emmy Collett คู่รักที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม จนกระทั่งได้แต่งงานกัน แต่ไม่นานหลังจากนั้นฝ่ายหญิงก็ได้จากไปอย่างน่าเศร้า เหลือเพียงความทรงจำอันงดงามที่อยู่ในใจของฝ่ายชายตลอดไป เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้มีการแชร์เรื่องนี้ในเฟซบุ๊กที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว Jake เขียนไว้ว่า “ทุกวันที่ได้อยู่ด้วยกัน ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ผมสงสัยเสมอว่า ทำไมคนอย่าง Emmy ถึงเลือกผม” “แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เธอทำ เราอาจจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในเวลาอันสั้น แต่ตอนนี้ผมคิดถึงเจ้าสาวแสนสวยมากกว่าครั้งไหนๆ” Jake กับ Emmy พบกันตอนที่คนหนึ่งอายุ 11 ปี จนกระทั่งอายุ 13 ปี Jake ก็ได้ตกหลุมรักฝ่ายหญิง และเขาก็ได้บอกเธอว่า เธอคือ กุ้งล็อบสเตอร์ ผู้ที่จะคอยโอบกอดเขาไว้นั่นเอง ต่อมาทั้งคู่ก็ได้ตกลงคบกันเป็นแฟน จนกระทั่ง 3 ปี ผ่านไป ตอนนั้นพวกเขาอยู่ในวัย 19 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องเรียนระดับมหาวิทยาลัย และเนื่องจากเรียนคนละที่จึงจำเป็นต้องแยกทางกัน อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี พวกเขาก็ยังคงติดต่อกันตลอด แม้กระทั่งวัยทำงาน Jake…
-
หนุ่มชาวประมงว่ายขึ้นบนผิวน้ำเร็วเกินไป ส่งผลให้ร่างกายปูดบวม และพองเหมือนลูกโป่ง!!
ในทุกๆ สายงานอาชีพ แม้จะมีความชำนาญมากแค่ไหน แต่หากไม่ระวัง ก็อาจเกิดความผิดพลาดหรืออุบัติเหตุได้เสมอ เหมือนกับกรณีของชาวประมงคนนี้ Alejandro Ramos Martinez ชาวเปรู ได้ดำลงไปใต้ท้องทะเลเพื่อหาสัตว์ทะเลเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้กลับเกิดความผิดพลาดอย่างร้ายแรง นั่นจึงทำให้ร่างกายของเขาบวมขึ้นอย่างน่าตกใจ!! ความผิดพลาดนี้เกิดจากการที่เขาลอยขึ้นไปยังผิวน้ำเร็วเกินไป ส่งผลให้ไนโตรเจนในเลือดก่อตัวกันเป็นฟองอากาศจำนวนมหาศาล และทำให้ร่างกายพองตัวเหมือนลูกโป่ง ไนโตรเจนที่พองตัวในถุงน้ำดีนั้นทำให้ร่างกายถูกบีบอัดจน Alejandro รู้สึกเจ็บปวด ทรมานไปหมด จนต้องไปให้คุณหมอช่วยเหลือ คุณหมอได้ให้การรักษาเบื้องต้น จนลมในร่างกายลดลงไปประมาณ 30% แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นลมในร่างกายของ Alejandro ยังเหลืออยู่จำนวนมาก สำหรับโรคนี้มีชื่อเรียกว่า โรคน้ำหนีบ เป็นโรคที่มีโอกาสเกิดได้กับนักดำน้ำทั้งหลาย เกิดจากการดำน้ำลึกมากกว่า30 ฟุตและใช้เวลานานเกินกำหนด จากนั้นก็ขึ้นสู่ผิวน้ำทันทีโดยไม่หยุดลดความกดดันภายในร่าง ซึ่งอาจมีผลกระทบที่ร้ายแรงต่อร่างกาย อย่างเช่น ข้อต่อบวม ผิวหนังอักเสบ สมองได้รับความเสียหาย เป็นอัมพาต ไอ เวียนศีรษะ และคลื่นไส้ แต่กรณีของ Alejandro ไนโตรเจนได้ก่อตัวกันเหมือนลูกโป่งในบริเวณกล้ามเนื้อของเขา ซึ่งถือเป็นกรณีที่พิเศษที่ไม่เหมือนเคสอื่นๆ ขณะนี้คุณหมอได้ให้การรักษาด้วยออกซิเจนในห้องที่มีแรงดันสูง Miguel Alarcon แพทย์จากโรงพยาบาล San Juan de Dios Hospital…
-
พนักงานส่งของหวังดี วางพัสดุไว้ให้ใต้ลูกบิดประตู กลายเป็นขังเจ้าของไว้ในบ้านซะงั้น!?
เป็นธรรมดาสำหรับพนักงานส่งที่จะวางพัสดุไว้หน้าบ้าน กรณีที่เจ้าของไม่อยู่บ้านหรือไม่มีคนออกมารับของ แต่จะวางสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ เดี๋ยวของหายแล้วยุ่งเลย… สำหรับกรณีนี้ไม่ต้องกลัวของหายหรอก เพราะพนักงานส่งของได้วางพัสดุเอาไว้หน้าบ้านเป็นอย่างดี แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำนี้ได้ขังเจ้าของบ้านไว้โดยไม่รู้ตัว!? เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองดับลิน รัฐแคลิฟอร์เนีย พนักงานส่งของจาก UPS ได้นำพัสดุไปวางไว้หน้าบ้านติดกับลูกบิด หวังจะให้เจ้าของบ้านเห็นทันทีที่เปิดประตู เหมือนภาพด้านล่างนี้ ดูเหมือนพนักงานจะลืมดูลักษณะของลูกบิดนะ เพราะถ้าบิดจากข้างใน ที่จับด้านนอกจะต้องหมุนลงไปข้างล่างด้วย แต่ตอนนี้มันไม่สามารถลงได้เพราะมีของมาขวางอยู่ แล้วจะบิดประตูยังไงล่ะทีนี้!? หลังจากเกิดเรื่องนี้ Jessie Lawrence ก็ได้โพสต์ทวิตเตอร์ว่าเขาถูกขังอยู่ในบ้านด้วยความไม่รอบคอบของพนักงานส่งของคนหนึ่ง เขาต้องโทรเรียกคนซ่อมบำรุงอาคารมาย้ายของออก จนสามารถเปิดประตูได้ในที่สุด หลังจากนั้นโพสต์ของเขาก็มีคนเข้ามากดไลค์กว่า 137,000 คน และรีทวิตอีก 53,000 ครั้ง บางคนก็เข้ามาแซวเล่นขำๆ ด้วย พนักงานส่งของคงจะบอกว่า “ผมได้ยินคนอยู่ข้างใน แต่ไม่มีใครเปิดประตูให้ ก็เลยจัดให้อยู่ในบ้านไปนานๆ ซะเลย” พนักงานส่งของไม่ทำแบบนั้นหรอก เพื่อนบ้านจอมแสบของคุณต่างหากที่เป็นคนทำ ต่อมา เมื่อทาง UPS ทราบเรื่องดังกล่าวจึงได้เขียนขอโทษ Jessie ว่า “เราต้องขออภัยสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น เรายินดีที่จะช่วยเหลือคุณ กรุณาคลิ๊กปุ่มด้านล่างนี้ เพื่อรายงานปัญหาของคุณให้เราทราบ” แต่ดูเหมือนมันจะเป็นข้อความตอบกลับอัตโนมัติมากกว่านะ… (เหมือนกับผู้ให้บริการต่างๆ ในเว็บบอร์ดไทยหลักหมื่นแถวๆ นี้เลย)…
-
25 ภาพการ์ตูนกับ “ตรรกะป่วยขั้นสุด” ที่ทำให้รู้ว่าอะไรก็เป็นไปได้ เพราะมันคือการ์ตูน!!
การ์ตูนก็คือการ์ตูน เวลาเราอ่าน เราอย่าไปคาดหวังความสมจริงจากมันนักเลย เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความบันเทิงมากกว่าเรื่องอื่นใด ถึงอย่างนั้นก็เถอะ บางทีตรรกะที่เราเห็นในการ์ตูนมันช่างขัดหูขัดตาซะเหลือ ก็เล่นแหกกฎธรรมชาติซะขนาดนั้น แต่ก็นั่นแหละ มันทำให้เรารู้ว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ในโลกการ์ตูน 1. ดูรูปพ่อหมูที่ผนังสิ มันคุ้นๆ นะ 2. เดี๋ยวนะ หูของเอ็งอยู่ตรงนั้นเหรอ!? 3. ปกติทอมกับเจอรี่ก็ไม่ใส่เสื้อผ้าอยู่แล้ว แต่พอไปทะเลดันใส่เสื้อผ้า คือต้องการอะไร… 4. นี่ออกไม่ได้จริงหรอ? 5. อืม หมาจุงหมา 6. ปกติก็ใส่แค่เสื้อ แต่พอถอดเท่านั้นแหละ รู้สึกโป๊ช่วงล่างทันที คือ?? 7. สุดยอดแห่งการใช้ตะเกียบ 8. ตัวเองก็เป็นหนูแท้ๆ แต่ดันกลัวหนูด้วยกัน 9. ในโลกนี้ไม่มีใครใส่รองเท้าเบอร์เดียวกับซินเดอเรล่าจริงหรอ? 10. คู่รักที่เหมือนพี่น้องกันซะมากกว่า 11. ในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล เจ้าชายสามารถตามหาศพเจ้าหญิงจนพบ ในสภาพที่ยังสมบูรณ์ นี่มันจะเก่งเกินไปแล้ว…
-
ร้านแมคโดนัลด์สาขาที่สาม หนึ่งในสาขาที่เก่าแก่ที่สุด เปิดมาตั้งแต่ปี 1953 จนถึงปัจจุบัน…
แมคโดนัลด์เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ผู้คนใช้บริการมาเป็นเวลานาน โดยมีสาขาใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก แล้วเราเคยสงสัยมั้ยว่าสาขาที่เก่าแก่ที่สุดเปิดมาตั้งแต่ปีอะไร ปัจจุบันยังอยู่มั้ย และมันตั้งอยู่ที่ไหน? เว็บไซต์ Thevintagenews ได้เปิดเผยว่าหนึ่งในร้านแมคโดนัลด์สาขาที่เก่าแก่ที่สุด ตั้งอยู่ที่ 10207 Lakewood Boulevard ใน Florence Avenue รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นสาขาที่ 3 เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 1953 สำหรับตำนานร้านอาหารแมคโดนัลด์นั้น เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1937 โดยสองพี่น้อง Richard และ Maurice McDonald เปิดร้านอาหารที่ชื่อว่า Airdrome ก่อนที่จะย้ายอาคารที่ตั้งในปี 1940 มาที่ 1398 North E Street เป็นรูปแบบอาหารบาร์บีคิวไดรฟ์ทรู ในเมืองแซนเบอร์นาร์ดีโน ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และพบว่ากำไรจากการขายอาหารส่วนใหญ่นั้นมาจากเมนู ‘แฮมเบอร์เกอร์’ จากนั้นในปี 1948 ทางร้านก็ได้ปิดให้บริการเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้งในเดือนธันวาคมในรูปแบบเพิงขายมีที่นั่งด้านนอกแบบชั่วคราวเพียงเล็กน้อย โดยมาพร้อมเมนูใหม่คือ แฮมเบอร์เกอร์ มันฝรั่งทอด และน้ำส้ม และภายปีต่อมาได้เพิ่มเฟรนซ์ฟราย…
-
สาวผู้ตกเป็นเหยื่อสาดน้ำกรด เผยภาพหลังการรักษา ไม่มีรอยแผลเป็นเลยแม้แต่น้อย!!
การโจมตีด้วยน้ำกรดถือเป็นหนึ่งในการทำร้ายร่างกายที่เลวร้ายที่สุด เพราะแม้จะไม่ถึงกับตาย แต่การต้องใช้ชีวิตหลังจากนั้นไม่ต่างจากการตายทั้งเป็นเลย… สำหรับกรณีของ Resham Khan หญิงสาววัย 21 ปี ถูกสาดน้ำกรดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่เธออาศัยอยู่กับญาติ Jameel Muhktar ในลอนดอนตะวันออก แต่ 3 เดือนหลังจากเกิดเหตุ หญิงสาวได้โพสต์ภาพการฟื้นตัวหลังการรักษา เผยให้เห็นใบหน้าที่ไม่รอยแผลเป็นจากการถูกสาดน้ำกรดแม้แต่น้อย สำหรับสาเหตุนั้นเกิดจากที่มีคนพยายามปั่นป่วนและด่าทอเธอผ่านอินสตาแกรม หญิงสาวรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงเลี่ยงด้วยการไม่ตอบข้อความของเขา จนกระทั่งวันที่ 21 มิถุนายน เธอก็ถูกชายคนดังกล่าวลอบทำร้าย ด้วยการสาดน้ำกรดใส่โดยไม่ทันได้ตั้งตัว… นาย Muhktar ลูกพี่ลูกน้องของเธอ เล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่า “Khan กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ตาของเธอพุพอง ใบหน้าเริ่มละลาย ส่วนผมโดนแค่ด้านข้าง แต่มันก็แสบไม่ใช่เล่นเลย” หลังจากนั้นหญิงสาวก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลทันที แพทย์ได้ทำการผ่าตัดใบหน้าให้และรักษาด้วยขั้นตอนต่างๆ จนทำให้ใบหน้าของเธอกลับมาอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ภายในเวลา 3 เดือนเท่านั้น สภาพของเธอหลังจากโดนน้ำกรดสาด ต่อมาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม John Tomlin คนที่สาดน้ำกรดใส่หญิงสาวได้ปรากฏตัวต่อหน้าศาล Snaresbrook…
-
45 ภาพประวัติศาสตร์ของสงคราม “Pearl Harbor” ในปี 1941 ที่ควรค่าแก่การรับชม
ถือว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์โลกที่กลายเป็นที่จดจำไปทั่วโลก สำหรับสงครามในอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ เมื่อปี 1941 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงแก่กองทัพสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สาเหตุของการโจมตี สืบเนื่องมาจากสงครามจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่ 2 เมื่อจักรวรรดิญี่ปุ่นได้บุกเข้ายึดครองดินแดนแมนจูเรียหลังเกิดกรณีมุกเดน (เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้น) เนื่องจากญี่ปุ่นได้เล็งเห็นผลประโยชน์ในดินแดนแมนจูเรียหลายประการ หลังจากยึดครองสำเร็จก็แต่งตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดให้อยู่ภายใต้การนำของจักรวรรดิญี่ปุ่น โดยมีจักรพรรดิปูยี (อดีตจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิง) ให้มาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและเป็นจักรพรรดิแห่งแมนจูเรียได้แต่เพียงในนามเท่านั้น เรือรบยูเอสเอสชอว์ระเบิด ในระหว่างการจู่โจมที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ ในฮาวาย เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจแก่สาธารณรัฐจีนเป็นอย่างมากจึงได้ไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปยังสันนิบาตชาติ เวลาต่อมาสันนิบาตชาติดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นสันนิบาตชาติก็ได้ลงความเห็นเห็นว่า จักรวรรดิญี่ปุ่นเป็นฝ่ายผิดและเป็นผู้รุกราน จึงออกแถลงการณ์ลิตตัน เพื่อประณามการกระทำของญี่ปุ่นในการรุกรานแมนจูเรียและออกคำสั่งให้ญี่ปุ่นถอนกองทัพออกจากดินแดนแมนจูเรีย ทำให้ญี่ปุ่นไม่พอใจพร้อมประกาศถอนตัวออกจากสันนิบาตชาติไปทันที นักบินญี่ปุ่นได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเรือบรรทุกเครื่องบินก่อนการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ขณะนั้นกองทัพจีนได้พ่ายแพ้กองทัพญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องจนแทบจะสิ้นชาติ แม้จะพยายามขอความช่วยเหลือจากหลายๆ ประเทศ แต่ก็ไม่มีใครยอมส่งกำลังมาช่วย ทันใดนั้นเองพวกเขาก็นึกออกว่ามีประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ที่น่าจะช่วยเหลือพวกเขาได้ นั่นก็คือสหรัฐอเมริกา ดังนั้นจีนจึงส่งขอความช่วยเหลือไปยังสหรัฐฯทันที แม้ว่าสหรัฐฯจะพยายามทำตัวเป็นกลางไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามก็ตามแต่ก็ยินดีให้ความช่วยเหลือกับจีนอย่างเต็มที่ เรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่นซุยคาคุ ในเดือนกันยายนของปี 1941 โดยซุยคาคุ จะแล่นไปฮาวาย ซึ่งเป็นหนึ่งในหกสายการบินที่ใช้ในการโจมตีโดยกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีรูสเวลท์ก็ได้ประกาศยุติการส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่น เช่น น้ำมัน เหล็ก เป็นต้น ทำให้ญี่ปุ่นขาดปัจจัยในการบำรุงกองทัพโดยเฉพาะน้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่นำไปสู่สงคราม จักรวรรดิญี่ปุ่นจึงได้ส่งทูตไปเจรจากับสหรัฐฯเพื่อขอให้ส่งน้ำมันต่อ แต่ว่าการเจรจาก็ล้มเหลวเพราะสหรัฐฯ…
-
พยาบาลออกมาแนะ วิธีดีที่สุดที่ควรทำ หากคุณถูกโจมตีด้วย “น้ำกรด” เพื่อลดความเสียหาย
หนึ่งในการใช้สารเคมีทำร้ายร่างกายที่เลวร้ายที่สุดคือ การสาดน้ำกรด ที่มักจะเกิดกับปัญหาเมียหลวง เมียน้อย หรือการเล่นชู้ที่เคลียร์กันไม่ลงตัว การโดนทำร้ายร่างกายด้วยการทุบตี อาจรักษาให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ แต่ใครก็ตามที่โดนสาดน้ำกรด นั่นหมายความว่าชีวิตคุณอาจจะพังไปตลอดกาล เนื่องจากไม่สามารถรักษาให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ โดยเฉพาะหากโดนสาดบริเวณใบหน้า คุณอาจสูญเสียการมองเห็นไปตลอดกาล แต่น้ำกรดอาจจะไม่ทำให้ชีวิตพังเสมอไปก็ได้ หากเรารู้จักวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เว็บไซต์ independent ระบุว่า หากคุณโดนน้ำกรดสาด ให้รีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันทีเพื่อลดความเสียหายที่เกิดกับผิวหนัง สำหรับการปฐมพยาบาลนี้เป็นคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่พยาบาลที่เข้าไปช่วยเหลือเหยื่อถูกน้ำกรดสาด 5 คน เมื่อช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ประสบเองหรืออยู่ในเหตุการณ์ สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเห็นคนถูกน้ำกรดสาดคือ ตรวจสอบให้แน่ใจพื้นที่โดยรอบมีความปลอดภัย จากนั้นก็สวมถุงมือเพื่อที่จะโดนสารเคมี พยาบาลจาก St John’s Ambulance แนะนำว่า “ในกรณีที่สารเคมีอยู่ในรูปแบบผง ให้ปัดออกจากผิวได้เลย” ที่สำคัญคืออย่าพยายามตามหายาแก้พิษหรือหาอะไรมาหยุดยั้งการเผาไหม้จากน้ำกรด ยกเว้นในกรณีที่คุณได้รับการฝึกอบรบในเรื่องนี้มาแล้ว วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ เทน้ำลงไปในส่วนที่ถูกน้ำกรดเพื่อเจือจางกรดและลดการเผาไหม้ นี่คือวิธีที่ง่ายและดีที่สุดที่เราทุกคนทำได้ ทั้งนี้ให้เทน้ำเปล่าต่อเนื่องกันอย่างน้อย 20 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีกรดปนเปื้อนบนผิวหนังของเหยื่อแล้ว ในขณะที่เทน้ำ ให้ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของเหยื่อที่มีน้ำกรดปนเปื้อนออก จากนั้นก็ให้เรียกรถพยาบาลทันที ระหว่างนั้นตรวจเช็คเหยื่อตลอดว่ายังหายใจหรือมีการตอบสนองอยู่ กรณีที่น้ำกรดเข้าไปในตา ให้ลืมตาแล้วค่อยๆ เทน้ำเย็นลงไปประมาณ 10 นาที โดยล้างด้วยน้ำทั้งในดวงตาและรอบดวงตาให้ทั่วถึงที่สุด ที่สำคัญคือ…
-
มาได้ไง!? นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาดีๆ แต่ดันมีรถพุ่งทะลุกำแพงบ้านเข้ามา จนมีผู้บาดเจ็บ 4 ราย
ทุกวันนี้ชีวิตเราเต็มไปด้วยเรื่องที่คาดไม่ถึง เพราะต่อให้คุณอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปไหน หรือแม้แต่การนั่งเฉยๆ บางทีเรื่องก็อาจจะมาหาถึงที่แบบงงๆ อย่างเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นในย่านคลิฟตั้นมอร์ ประเทศอังกฤษ ในขณะที่ชายหนึ่งกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้านของตัวเองอย่างมีความสุข จู่ๆ ก็มีรถคันหนึ่งพุ่งทะลุกำแพงบ้านเข้ามาชน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คนคือ คนขับ 1 คน ผู้โดยสาร 2 คน และชายเจ้าของที่นั่งอยู่ในโซฟาห้องนั่งเล่น ดูจากสภาพที่รถพุ่งทะลุกำแพงแล้ว คาดว่าน่าจะมีความรุนแรงในระดับหนึ่ง แต่นับว่ายังมีความโชคดีอยู่บ้างที่ไม่มีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บรายแรง ชายเจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บที่ขาเล็กน้อย ส่วนภรรยาและลูกลุกหนีไปทัน ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนผู้โดยสารในรถทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ศีรษะและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทคนขับรถทันที นั่งอยู่ในบ้านตัวเองแท้ๆ อุบัติเหตุก็ยังอุส่าห์มาหาถึงที่ ที่มา unilad
-
เด็กหญิง ‘Marcia’ และ ‘Mille’ ฝาแฝดคนละสีผิว โอกาสเกิดเพียง 1 ในล้านคู่เท่านั้น
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นฝาแฝดก็ไม่ได้หมายความจะเหมือนกันทุกอย่าง บางคู่มีความต่างในเรื่องเพศ สีผม สีดวงตา แต่สำหรับฝาแฝดคู่นี้ความแตกต่างของพวกเขาคือสีผิว ซึ่งมีโอกาสเกิดได้เพียงหนึ่งในล้านคู่เท่านั้น พวกเขาคือ Marcia แฝดผิวขาวกับผมสีบลอนด์ ในขณะที่ Mille เป็นแฝดผิวสีกับผมสีดำ ทั้งคู่ไม่ใช่แค่พี่น้อง แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กันและกันด้วย เรื่องราวของพวกเธอนั้นถือว่าประหลาดและหาได้ยากมาก แม้กระทั่งคุณครูประจำชั้นของทั้งสองยังไม่เชื่อว่าพวกเธอเป็นฝาแฝดกัน ดังนั้นคุณแม่ Amanda Biggs จึงต้องเข้าไปพูดคุยกับทางโรงเรียน King Solomon International Business School ในเมืองแอสตั้น ประเทศอังกฤษเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับปีการศึกษาใหม่ Amanda บอกว่า “ตอนนี้พวกเขายังอยู่ในระดับประถม และคนอื่นๆ มันจะสับสนเสมอ ตอนที่ฉันไปรับลูกหลังเลิกเรียน ผู้ปกครองคนได้เข้ามาห้ามฉันแล้วถามว่า ‘พวกเขาเป็นลูกสาวคุณหรอ?’” “และเมื่อฉันตอบพวกเขาไปว่า ‘ทั้งคู่เป็นฝาแฝดกัน’ นั่นยิ่งทำให้คนอื่นแปลกใจ พวกเขาถึงกับต้องถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ” คุณแม่กล่าว เธอยังบอกอีกว่า บางทีก็รู้สึกรำคาญเหมือนกันที่ต้องเจออะไรแบบนี้เป็นประจำ อย่างเวลาเดินเล่นกับลูกอยู่ดีๆ ก็มีคนเข้ามาขัดขวาง เพราะคิดว่าเธอไปเอาลูกคนอื่นมา อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณแม่คิดขึ้นได้ว่าเธอโชคดีแค่ไหนที่ได้เป็นแม่ของเด็กน้อยมหัศจรรย์ทั้งสองคน ความโกรธเหล่านั้นก็หายไป สำหรับฝาแฝดที่เกิดมามีผิวคนละสีเช่นนี้ มีโอกาสเกิดขึ้นได้เพียง 1 ในล้านคู่เท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทั้งสองคนถึงเป็นคนที่พิเศษที่สุดสำหรับพ่อแม่ สำหรับ Michael ผู้เป็นพ่อนั้น ก็ตื่นเต้นไม่น้อยเช่นกัน…
-
นักวิจััยเผย การไว้หนวดเคราช่วยยับยั้งรังสี UV ไม่ให้ซึมเข้าผิวหนัง สาเหตุหนึ่งของมะเร็ง
การไว้หนวดบนใบหน้านั้นถือเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่งของคุณผู้ชายหลายท่าน (เอ๊ะ หรือบางคนไว้เพราะขี้เกียจโกนกันนะ?) แต่ไม่ว่าจะไว้ด้วยเหตุผลอะไร ขอให้รู้ไว้ว่ามันมีประโยชน์นะเออ ประโยชน์ที่ว่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่มันสามารถช่วยชีวิตคุณได้เลย เพราะหนวดเคราบนใบหน้านั้นช่วยป้องกันรังสี UV อันที่สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ นักวิจัยชาวออสเตรเลียจาก University of Southern Queensland พบว่า หนวดเคราสามารถยับยั้งรังสี UV เข้าสู่ผิวหนังได้มากถึง 95% ในขณะที่ศาสตราจารย์ Alfio Parisi หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า “แม้หนวดเคราจะไม่ได้มีคุณสมบัติป้องกันแดดเหมือนครีมกันแดด แต่รู้มั้ยมันสามารถทำหน้าที่ยับยังรังสี UV สู่ผิวหนังได้ดีเลยล่ะ” นอกจากนี้พวกเขายังบอกอีกว่า หนวดและเส้นผมคือส่วนที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดน้อยที่สุด แม้จะเป็นช่วงเที่ยงหรือช่วงบ่ายที่ดวงอาทิตย์ขึ้นสูงสุดในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม นักวิจัยไม่แน่นำให้เลิกใช้ครีมกันแดด แต่ตรงข้ามเราควรใช้ครีมกันแดดที่มีคุณภาพสูงเพราะมันจะช่วยป้องกันแสงแดดได้มาก และอย่าลืมว่าหนวดไม่ได้มีคุณสมบัติในการป้องกันแดด แต่มันจะช่วยปิดกั้นไม่ให้รังสี UV ซึมเข้าไปในผิวหนังของเรา แต่ต้องไว้หนวดคราวในปริมาณที่หนาระดับหนึ่งนะ ผู้ชายไว้หนวดคือผู้ชายสายเฮลตี้นะ รู้ยัง ที่มา dailymail
-
ผลงานสุดอลังการ ‘ปราสาททรายสูงที่สุดในโลก’ โดย 19 นักก่อทรายระดับเทพจากทั่วโลก
ตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยเล่นปั้นดิน ปั้นทราย แต่พอวันเวลาผ่านไป การละเล่นเหล่านี้ก็ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา แต่ยังมีอีกหลายคน ที่นำความสนุกในวัยเด็กมาพัฒนาต่อตอนโตจนเกิดเป็นงานศิลปะสุดอลังการ เหมือนกับปราสาททรายที่จะให้ดูกันในวันนี้ ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยทีมงานนักก่อทรายระดับเทพ 19 คน จนเกิดเป็นผลงานการปั้นทรายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยประติมากรทรายจาก 10 ประเทศทั่วโลกได้มารวมตัวกันในเมืองดืสบูร์ก ประเทศเยอรมนี เพื่อทำในส่ิ่งที่ผู้คนไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ ทีมงานทั้งหมดประกอบไปด้วยสมาชิก 19 คน พวกเขาได้ร่วมสร้างปราสาททรายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา โดยปั้นในธีมสถานที่ท่องเที่ยวต่างจากๆ รอบโลก ในตัวปราสาททรายนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมาย เช่น ซากราดาฟามีเลียในบาร์เซโลนา สะพานริเอลโต้อิตาลี มหาพีระมิดกิซ่า หอเอนเมืองปิซา และที่ฝังศพของเอลวิสเพรสลีย์ เจ้าของสถิติก่อนหน้านี้ได้สร้างปราสาททรายที่มีความสูงถึง 14 เมตร และนั่นทำให้ทีมเยอรมนีรู้ว่าต้องทำลายสถิติให้ได้เพื่อสร้างสถิติใหม่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมนี้ต้องการทำลายสถิติ เพราะเมื่อปีที่ผ่านมาพวกเขาก็เคยพยายามมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ประสบกับความล้มเหลว มาครั้งนี้ นักปั้นจึงได้เปลี่ยนกลยุทธ์ด้วยการเลือกใช้ทรายควอทซ์ ซึ่งเป็นทรายที่ดีที่สุดสำหรับการขึ้นรูปโครงต่างๆ ตามต้องการ Eugenia Kolot ประติมากรชาวยูเครน บอกว่า “ครั้งนี้มันจะไม่พังลงมาเหมือนครั้งที่ผ่านมาแน่นอน เพราะเราเลือกทรายที่มีคุณภาพ สร้างอยู่ในที่ที่มีอากาศดี ที่สำคัญเราวางแผนมาอย่างดีมาก” ในที่สุดพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ ได้ผลงานปราสาททรายที่มีความสูงเกือบ 16…
-
อดีตอันมืดมน ‘โรงพยาบาลบ้ามิสซิสซิปปี’ ดั่งผืนป่าช้าที่ฝังร่างผู้ป่วยจิตเภทกว่า 7,000 ศพ
นี่คือเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย Mississippi State University ในเมือง Jackson ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสถานที่ดูแลรักษาผู้ป่วยทางจิตทั่วไป แต่จริงๆ แล้วในอดีตเกิดเรื่องราวอันน่ากลัวขึ้นที่นี่ “โรงพยาบาล Mississippi State Lunatic Asylum เปิดทำการเมื่อปี 1855 และดำเนินการจนถึงปี 1935 ที่นี่เคยมีผู้ป่วยประมาณ 35,000 คน ตลอดระยะเวลากว่า 80 ปี” คำบอกเล่าจาก Molly Zuckerman รองศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยรัฐมิสซิสซิปปี Mississippi State Lunatic Asylum ดำเนินการโดย Dorothea Dix นักปฏิรูปสังคมที่มีชื่อเสียง เธอเป็นที่รู้จักในนาม Angel of the Madhouses Dix ได้เดินทางมายังมิสซิสซิปปีและประกาศว่าจะช่วยผู้ป่วยทางจิตหรือผู้มีพัฒนาการที่บกพร่อง โดยจะเปิดโรงพยาบาลให้กับพวกเขา แต่หลังจากที่สร้าง ปรากฏว่าสถานที่ดังกล่าวไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ระบบความปลอดภัยก็ไม่น่าไว้วางใจด้วย ในช่วงสงครามกลางเมือง กลุ่มทหารได้เข้ามาปล้นโรงพยาบาล ทำลายข้าวของ และบังคับให้พนักงาน 7 ใน 10 คน เข้าร่วมกับกองกำลังฝ่ายเหนือของอเมริกา ต่อมาช่วงปลายปี 1880 ผู้ป่วยจำนวนมากป่วยเป็นโรคร้ายแรง…
-
คนงานก่อสร้างจีนขุดพบ ‘ศพโบราณ’ ในสภาพที่เกือบสมบูรณ์ แม้จะผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว
สำหรับคนงานก่อสร้างการเจอวัตถุแปลกๆ ระหว่างการขุดเจาะนับเป็นเรื่องปกติ แต่งานนี้ดูจะไม่ปกติแล้วซะแล้ว เมื่อคนงานดันขุดเจอศพ!! เรื่องราวนี้เกิดที่ประเทศจีน เมื่อคนงานก่อสร้างขุดเจอโลงศพที่น่าจะมีอายุหลายร้อยปี ภายในมีศพผู้ชายที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี สำหรับศพดังกล่าวนั้นถูกค้นพบในหมู่บ้าน Zhizhu มณฑล Anhua คาดว่าน่าจะถูกฝังในช่วงราชวงศ์หมิง ราวๆ ปี 1368-1644 หรือราชวงศ์ชิง ประมาณปี 1644-1912 โดยศพสวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าละเอียด ภายในยังพบพัดที่คาดว่าน่าจะเป็นพัดใบโปรดของผู้ตาย สำหรับโลงศพนั้น ทำมาจากหินปูนและไม้เนื้อดี ทั้งสองอย่างมีคุณสมบัตในการป้องกันไม่ให้ศพย่อยสลาย ส่งผลให้ศพยังอยู่ในสภาพดีอย่างที่เห็น ทั้งที่เวลาผ่านไปเป็นหลายร้อยปีแล้ว เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ดูแลมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศจีน กล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่าชายคนนี้เป็นขุนนาง หรือไม่ก็มาจากตระกูลที่ร่ำรวย ส่วนสถานที่พบศพนั้นเป็นของครอบครัวตระกูล “Wang” ตอนนี้ศพถูกนำออกมาจากไซต์ก่อสร้างและนักโบราณดคีอยู่กำลังทำการศึกษาร่องรอยทางประวัติศาสตร์จากศพดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้คนจีนมีความเชื่อว่า การเปิดโลงศพนั้น มักจะนำความโชคร้ายมาให้ ด้านศูนย์ดูแลมรดกทางวัฒนธรรมได้สั่งระงับการก่อสร้างอย่างไม่มีกำหนด และนอกจากนำศพไปศึกษาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้มีการแถลงการณ์ใดๆ ว่าจะตามหาลูกหลานของศพหรือไม่ แม้จะพบในพื้นที่ของครอบครัว Wang ก็ตาม คลิปเต็ม พบศพอายุกว่าร้อยปีในประเทศจีน ที่มา dailymail
-
สุดล้ำ!! KFC ในจีนเปิดบริการ “ยิ้มก่อนจ่าย” ผ่านเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ เป็นที่แรกของโลก
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีได้เข้ามาทีบทบาทในชีวิตเราเกือบทุกด้าน ทำให้แรงงานคนถูกใช้น้อยลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันช่วยทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆ เลยล่ะ และล่าสุดนี้ ก็มีเทคโนโลยีสุดล้ำที่ได้นำมาใช้ในธุรกิจ KFC ในประเทศจีน ผ่านเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ ที่ต้องยิ้มก่อนถึงจะจ่ายค่าอาหารได้!! เครื่องสั่งอาหารนี้สร้างขึ้นบนพื้นฐาน Face Recognition หรือเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Ant Financial ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัท Alipay ผู้นำด้านระบบการจ่ายเงินของประเทศจีน โดยบริการนี้จะเริ่มเปิดใช้บริการครั้งที่สาขา KFC ในเมืองหางโจว และถือเป็นการนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้ามาในใช้ร้านอาหารแห่งแรกของโลกด้วย สำหรับขั้นตอนในการจ่ายเงินด้วยการจดจำใบหน้านั้นทำได้ง่ายๆ เพราะทันทีที่คุณเริ่มทำรายการ เครื่องจะบอกให้คุณทำตามทีละขั้นตอน จนกว่าจะทำรายการสำเร็จ ในส่วนของการจดจำใบหน้า เครื่องจะทำการถ่ายรูปคุณด้วยกล้อง 3 มิติ จากนั้นก็เอาไปวิเคราะห์กับฐานข้อมูลลูกค้า KFC ว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อตรงกัน ระบบก็จะให้คุณกดเบอร์โทรศัพท์เพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้ง จากนั้นก็จ่ายเงินได้เลย บางคนอาจมีความกังวลว่า เมื่อแต่งหน้า หรือ ตัดผมแล้ว อาจต้องเริ่มสร้างข้อมูลใหม่ทั้งหมด หายห่วงได้เลยค่ะ เพราะต่อให้คุณแต่งหน้าจัด หรือไม่แต่งหน้าเลย เปลี่ยนทรงผม หรือเปลี่ยนสีผม เครื่องก็ยังคงจำใบหน้าเดิมของคุณได้ตามปกติค่ะ…
-
ครูสาวถูกจับกุม หลังส่งภาพเปลือยของตัวเอง ให้นักเรียนชายกว่า 5 คนในระยะหลายเดือน…
“ครู” ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ดังนั้นจึงต้องวางตัวให้เหมาะสมและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนอยู่เสมอ สิ่งไหนผิดก็ต้องตักเตือน สิ่งไหนไม่ควรก็อย่าไปส่งเสริม และเมื่อเห็นว่านักเรียนทำดีก็ต้องชื่นชม แต่สำหรับคุณครูคนหนึ่งในเมือง Logan รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย กลับส่งภาพเปลือยของตัวเองให้กับนักเรียนไม่ต่ำกว่า 5 คน จนทำให้เธอถูกจับกุมในข้อหาเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร Tracy Miller ครูสาววัย 27 ปี ได้ส่งรูปภาพเปลือยของตัวเอง เป็นจำนวนหลายภาพให้กับนักเรียนชายหลายคนผ่านแอพโซเชียล Snapchat และทำแบบนี้มาเป็นระยะเวลาหลายเดือนแล้ว เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน Logan High School กล่าวว่า พวกเขารับได้รับแจ้งเรื่องนี้หลังจากที่นักเรียนชายคนหนึ่งเข้ามาหา และให้ดูภาพที่เขาได้รับจากคุณครู Miller ต่อมาครูคนสาวคนดังกล่าวจึงถูกเรียกตัวไปสอบสวน เธอรับสารภาพว่าในปีนี้เธอได้มีการแลกเปลี่ยนภาพโป๊ของตัวเองกับนักเรียนชายอย่างน้อย 5 คน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของเธอทั้งหมด โดยจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้กันต่อไป และจะทำการสอบนักเรียนเพิ่มด้วยว่า นอกจาก 5 คนนี้แล้ว ยังมีคนอื่นๆ อีกหรือไม่ที่ได้รับภาพเปลือยจาก Miller? ตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Miller เชื่อมต่อกับแอพที่กลุ่มนักเรียนใช้ได้อย่างไร นำเบอร์โทรศัพท์ของพวกเขามาจากไหน และเธอมีแรงจูงอะไรในการทำแบบนี้? สำหรับ Miller นั้น เธอได้รับว่าจ้างให้มาเป็นครูที่โรงเรียนตั้งแต่เดือนมกราคม…
-
ร้านเบเกอรี่ในเท็กซัสถูกน้ำท่วม แต่ยังคงทำงานกันต่อไป เพื่อแจกขนมปังให้กับผู้ประสบภัย
หากใครที่ติดตามข่าวในช่วยสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คงจะเห็นข่าวพายุฮาร์วีย์ถล่มเท็กซัส สร้างความเสียหายมหาศาล ถนนและบ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูง จนทำให้ผู้คนไม่มีที่อยู่อาศัย แต่ก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะท่ามวิกฤติอันเลวร้ายนี้ ผู้คนไม่ทอดทิ้งกัน และทุกคนต่างให้ความช่วยเหลือกันและกันเท่าที่จะทำได้ โดยไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติหรือศาสนาใดๆ ล่าสุดเจ้าของร้านขนมปังก็ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยการมอบขนมปังให้ทานกันฟรี เพราะนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาจะช่วยเพื่อนมนุษย์ในขณะนี้ และนี่คือร้านขนมปัง El Bolillo Bakery ที่ต้องปิดรับลูกค้าตั้งแต่เกิดภาวะน้ำท่วม แต่นั่นก็ไม่ได้ปิดโอกาสให้พวกเขาทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนมนุษย์ หลังจากที่ปิดให้บริการไป 2 วัน แทนที่นั่งรอการช่วยเหลือ เจ้าของกิจการพร้อมพนักงานเลือกที่จะทำงานต่อไปด้วยการนำขนมปังไปอบตลอดทั้งคืน เพื่อที่จะเตรียมแจกจ่ายให้ผู้ที่ต้องการ จริงๆ แล้วพนักงานของ El Bolillo หลายคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม บางคนเสียบ้าน เสียรถไป แต่พวกเขาก็ยินดีทำงานต่อเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้อื่น แม้จะไม่ได้ค่าตอบแทนก็ตาม เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอีกแล้ว จากภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องอยู่เคียงข้างกัน ฝ่าฟันมันไปด้วยกันให้ได้ และหวังว่าขนมปังจากร้าน El Bolillo จะทำให้วันแย่ๆ ของผู้ประสบภัยสดใสขึ้นได้บ้าง การช่วยเหลือกันนี้ได้ส่งทอดกันเป็นโดมิโนเลย เพราะก่อนหน้านี้ ร้านเฟอร์นิเจอร์ Gallery Furniture of Houston ก็ได้เปิดร้านให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัยเช่นเดียวกัน ที่มา lifebuzz
-
สัตวแพทย์เร่งเข้าช่วยเหลือ ‘สุนัขติดเฮโรอีน’ ในอัฟกานิสถาน เพื่อให้มันได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่า
ในช่วงฤดูร้อนของปี 2016 ได้มีคลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ทั่วอัฟกานิสถาน เพียงไม่กี่ชั่วโมงมีคนเข้าดูนับพันๆ ครั้ง และกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ในคลิปนั้น เผยให้เห็นสุนัขจรจัดตัวหนึ่งที่มีแววตาเหม่อลอยตลอดเวลา นอนอยู่ใต้สะพานแห่งหนึ่ง และเห็นได้ชัดว่ามันมีอาการเหมือนคนติดยาเสพติด สำหรับอัฟกานิสถานนั้นถือเป็นประเทศที่มีการปลูกฝิ่นมากที่สุดในโลก โดยมีฝิ่น 93% ของโลก ถูกปลูกไว้ที่นั่น ส่งผลให้คนจรจัดจำนวนมากติดยา โดยอาศัยอยู่ตามข้างถนนในเมือง Kabul และตามตรอกซอยมืดๆ ที่ไม่ค่อยมีคนผ่าน นอกจากคนแล้ว สุนัขจรจัดก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน… ในชุมชนนั้นมีหมาหนุ่มตัวหนึ่งชื่อ Nesha ที่มีความหมายว่า “มึนเมา” ในภาษา Dari ซึ่งเป็นหนึ่งในภาษาประจำชาติของอัฟกานิสถาน สุนัขตัวนี้ถูกพบอยู่ใต้สะพาน Pul-e-Sokhta มันมีอาการแปลกๆ ก่อนที่ทราบภายหลังว่ามันติดยาเสพติด จริงๆ แล้วเป็นที่ทราบกันดีว่าคนใน Kabul จำนวนมากติดยา แต่ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะลามไปถึงสุนัขด้วย ต่อมามีวิดีโอที่เผยแพร่โดยลูกของเพื่อนบ้านคนหนึ่ง เผยเห็นตอนที่ Nesha ในสภาพที่มึนเมา หลังถูกคนบังคับให้มันเสพยา แต่ไม่กี่วันต่อมา วิดีโอนั้นก็ถูกลบออกไป อย่างไรก็ตามเรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ ทั้งยังได้รับความสนใจจากสำนักข่าวต่างๆ จนมีการนำเสนอออกทีวี Hannah Surowinski ผู้ร่วมก่อตั้ง Nowzad ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงแห่งเดียวในอัฟกานิสถาน กล่าวว่า “สัตวแพทย์ของเรารู้สึกแย่มาก…
-
อาจารย์โอดะเผย “เจ็ดเทพโจรสลัด” ทำให้วันพีซดำเนินเรื่อง มาได้นานกว่าที่ตั้งใจเอาไว้…
วันพีซกลายเป็นการ์ตูนที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลก เพราะมีเนื้อหาที่น่าตื่นเต้น แฝงข้อคิด รวมทั้งมิตรภาพของความเป็นเพื่อน จนแฟนๆ การ์ตูนไม่อยากจะให้เรื่องนี้มีจุดจบเลยล่ะ… แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการ์ตูนวันพีซ #เหมียวขี้ส่อง ขอสรุปให้สั้นๆ ว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีความปรารถนาอยากเป็นราชาโจรสลัด ทั้งนี้ความสนุกตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณผู้เขียนมากฝีมืออย่าง อ.เออิชิโร โอะดะ ที่ไม่เคยทำให้แฟนๆ ผิดหวังเลย หากใครที่ติดตามมาตั้งแต่แรกคงจะคุ้นชื่อ เจ็ดเทพโจรสลัด (ชิชิบุไค) กันเป็นอย่างดี หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องมี 7 คน ซึ่งล่าสุดนี้ อาจารย์โอดะก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านคอลัมน์นักเขียนในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์แล้วว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น… “เหตุผลที่ทำให้วันพีซดำเนินมาได้กว่า 20 ปี เป็นเพราะเจ็ดเทพโจรสลัด จากตอนแรกที่ตั้งใจไว้ว่า จะเป็นเรื่องราวการต่อสู้กับจักรพรรดิทั้งสี่องค์ (Yonko) แต่แลัวมันก็จบลงภายใน 5 ปีเท่านั้น นั่นทำให้ผมคิดขึ้นได้ว่าถ้ามีเจ็ดเทพโจรสลัด มันน่าจะทำให้การ์ตูนน่าลุ้นยิ่งขึ้น ก็เหมือนกับหนังสยองขวัญที่ความซับซ้อนทำให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างยาวนานขึ้น หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมไม่เป็น สองหรือห้าเทพโจรสลัด? แต่สำหรับผมแล้ว “เจ็ดเทพ” มันฟังดูเท่กว่า ดังนั้นตั้งแต่เริ่มวาดจนถึงตอนนี้ผมไม่เคยเสียใจกับมันเลย เพราะผมได้วาดในสิ่งตัวเองต้องการ แม้มันจะนานกว่าที่ตั้งใจไว้ไปนิดนึงก็ตาม” นี่แหละเหตุผลของอาจารย์โอดะ เหตุผลที่ต้องเป็นเจ็ดเทพโจรสลัด (ชิชิบุไค) เพราะมันฟังดูดี…
-
นักจิตวิทยาเผย “พิซซ่า” เป็นแรงจูงใจที่ช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น มากกว่าเงินโบนัสซะอีก!?
ถ้าคุณไม่มีความกระตือรือร้นในการทำงานตอนเช้าๆ ชอบงีบหลับบนโต๊ะทำงานในช่วงบ่าย วันนี้เราก็มีทางออกง่ายๆ มานำเสนอ… จากการวิจัยใหม่ที่เพิ่งออกมา พบว่า พิซซ่าเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้คุณรู้สึกตื่นตัว ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ด้วยแหนะ!! งานวิจัยนี้มาจาก Payoff: The Hidden Logic That Shapes Our Motivations หนังสือเล่มใหม่ของนักจิตวิทยา Dan Ariely ระบุว่า แผ่นแป้งที่เต็มไปด้วยชีสเหนอะหนะ เป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้ดี การวิจัยนี้ Ariely ได้ทำการทดลองกับคนงานประกอบชิปคอมพิวเตอร์ในบริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่งในอิสราเอล เพื่อค้นหาแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขาทำงานหนักขึ้น ในช่วงเริ่มต้นของสัปดาห์การทำงาน ผู้ที่เข้าร่วมการวิจัยได้รับหนึ่งในข้อความเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นแรงจูงใจว่า ‘สัญญาว่าจะพาไปเลี้ยงพิซซ่า’ ‘ให้โบนัสเป็นเงินสดประมาณ 800 บาท’ หรือ ‘คำชมจากจากเจ้านายในรูปแบบของข้อความ’ ถ้าหากว่าพวกเขาทำงานได้ตามเป้าในแต่ละวัน และพนักงานอีกส่วนจะไม่ได้รับข้อความใดๆ เลย ทั้งๆ เพื่อเป็นการถ่วงดุลระดับความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน ที่จะส่งผลทำให้ไม่มีกำลังใจในการทำงาน และอาจจะมีความเฉื่อยต่อการทำงานได้ ซึ่งเมื่อนำมาเทียบกับอีกกลุ่มที่ได้รับข้อความ ซึ่งเป็นพนักงานที่ได้รับข้อความ เกี่ยวกับคำสัญญาว่าจะพาไปเลี้ยงพิซซ่า ปรากฏว่าหลังการทดลองวันแรก พวกเขาก็มีความกระตือรือร้นเพิ่มขึ้นถึง 6.7% ในขณะที่พนักงานอีกกลุ่มที่ได้รับข้อความ รับรางวัลคำชมจากเจ้านาย การทำงานของพวกเขาดีขึ้น 6.6% และสำหรับกลุ่มที่ต้องการเงินโบนัส มีการทำงานดีขึ้นเพียง…
-
เว็บไซต์ดังเผย ทำไมสูดฮีเลียมเข้าไปแล้ว “เสียงเปลี่ยนโทนสู๊งสูง” ฟังแล้วตลกพิลึก!?
คลิปที่เพื่อนๆ ได้ดูไปนี้ จะเห็นว่าคนในคลิปในมีเสียงเปลี่ยนเป็นเสียงแหลมและฟังดูตลกหลังจากดื่มเครื่องดื่มที่มีฮีเลียมเข้าไป บางคนอาจสงสัยว่าเสียงเปลี่ยนไปจริงๆ หรือเป็นการเฟคขึ้นมากันแน่? #เหมียวขี้ส่อง ก็สงสัยเหมือน จึงได้หาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้จนได้ไปเจอข้อมูลหนึ่งที่อ้างอิงจากเว็บไซต์ Mentalfloss ลองไปดูซิ เค้าจะว่ายังไงกันบ้าง… สำหรับแก๊สฮีเลียมนั้นเป็นแก๊สเฉื่อย ระดับเฉื่อยที่สุดและความหนาแน่นต่ำ โดยที่ความเฉื่อยนี้ทำให้ไม่มีผลเสียอะไรต่อร่างกายมนุษย์ ในขณะที่ความหนาแน่นต่ำ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของเส้นเสียง ทำให้เส้นเสียงสั่นได้มากขึ้น เสียงที่ออกมานั้นจึงสูงขึ้นกว่าระดับปกติ ธรรมชาติของเสียง เวลาที่เราพูด อากาศจะเดินทางจากปอดผ่านกล่องเสียงซึ่งอยู่ตรงกับเส้นเสียง ทำให้เส้นคู่ขนานของเยื่อเมือกยืดออกในแนวนอนผ่านกล่องเสียง และกระทบกับด้านล่างจนทำให้เกิดการสั่น การสั่นของเส้นเสียงจะช่วยกระตุ้นโมเลกุลของอากาศในระบบเสียงของเรา และจะตั้งค่าความถี่ของระดับเสียง ทั้งนี้การสั่นของเส้นเสียงจะมีผลต่อการรับรู้ความถี่พื้นฐานเสียงของเรา ทีนี้เมื่อเสียงของเราเจอกับฮีเลียมจะเป็นอย่างไร? นอกจากการสั่นและกระบวนการที่มีผลต่อเสียงของเราแล้ว พื้นที่ที่เราเปล่งเสียงก็มีผลต่อการสร้างเสียเช่นกัน เมื่อเราพูดกับใครสักคนในห้อง มันจะประกอบด้วยไนโตรเจนร้อยละ 78.08 ออกซิเจนร้อยละ 20.95 อาร์กอนร้อยละ 0.93 คาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 0.038 และก๊าซอื่นๆ อีกเล็กน้อย ช่องลมของเราจะประกอบด้วยไนโตรเจนเป็นส่วนใหญ่ โดยจะมีมวลประมาณ 7 เท่าของฮีเลียม เนื่องจากฮีเลียมมีน้ำหนักเบากว่าอากาศ ทำให้คลื่นเสียงเดินทางได้เร็วขึ้น ในห้องที่อุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส เสียงจะเดินทางด้วยความเร็ว 344 เมตรต่อวินาที โดยผ่านอากาศ…
-
หนุ่มวัย 15 ปี ใช้จอบขุด ‘บ่อน้ำแห่งชีวิต’ เพียงลำพังกว่า 27 ปี หวังเพื่อให้หมู่บ้านได้มีน้ำกินน้ำใช้…
ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างวุ่นวายอยู่กับธุระของตัวเอง พอมีปัญหาเกิดขึ้นในชุมชนก็จะรอความช่วยเหลือจากคนนั้นคนนี้ ทั้งๆ ที่ปัญหาบางสามารถแก้เองได้ เพียงแค่เห็นความสำคัญของส่วนรวมบ้าง อย่างเช่นหมู่บ้าน Saja Pahad ในเขต Koriya รัฐฉัตตีสครห์ ประเทศอินเดีย ที่ประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ทำให้วัวของชาวบ้านแทบจะไม่ได้กินน้ำเลย โดยที่ชาวบ้านไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร ในขณะที่ทางรัฐบาลก็ไม่มีทีท่าว่าจะให้การช่วยเหลือด้วย จนกระทั่งวันหนึ่ง Shyam Lal ชายหนุ่มวัย 15 ปี ตัดสินใจที่จะใช้จอบขุดบ่อน้ำด้วยตัวเอง หวังเพื่อจะทำให้หมู่บ้านของเขามีน้ำกินน้ำใช้อีกครั้ง ชาวบ้านคนอื่นๆ ต่างบางกันหัวเราะกับความคิดของชายหนุ่ม พวกเขาบอกมันเป็นเพียงแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น Lal ก็ยังยืนยันที่จะทำตามความตั้งใจของเขา Lal เริ่มด้วยการหาแหล่งที่เหมาะสมกับการขุดบ่อน้ำในป่าแห่งหนึ่ง จากนั้นเขาก็ลงมือขุดอย่างมุ่งมั่นเพียงลำพัง และใช้เวลาในการขุดนานถึง 27 ปีด้วยกัน และผลที่ได้ก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถของมนุษย์ ในระยะเวลา 27 ปี เขาขุดบ่อได้ลึกประมาณ 4.5 เมตร และในนั้นก็เต็มไปด้วยน้ำที่เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงชีวิตของคนในหมู่บ้าน Lal ในวัย 42 ปี เล่าว่า “ไม่มีใครช่วยผมทำงานเลย ไม่ว่าจะเป็นผู้นำหมู่บ้านหรือชาวบ้านทั่วไป ทั้งๆ ที่ทั้งหมดนี้ผมทำเพื่อทุกคนในหมู่บ้านรวมทั้งสัตว์เลี้ยงของเราด้วย” หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในการขุดบ่อให้หมู่บ้าน ชาวบ้านก็พากันยกให้เป็นบุคคลต้นแบบและผู้ช่วยชีวิตหมู่บ้านไปโดยปริยาย ในขณะที่ Ramsaran…
-
นักวิทย์ในอดีต ควบคุมประชากรกระต่ายป่า ด้วยการปล่อยเชื้อร้ายที่คร่าชีวิตกว่า 500 ล้านตัว…
ระบบนิเวศในธรรมชาติไม่มีอะไรที่มากหรือน้อยเกินไป ทั้งพืชและสัตว์ต่างอยู่ร่วมกัน อาศัยซึ่งกันและกันอย่างเป็นระบบ อันจะนำไปสู่ความสมดุลในธรรมชาตินั่นเอง เว้นเสียแต่ธรรมชาตินั้นถูกคุกคาม ตัดสิน และจัดการโดยมนุษ์ เมื่อนั้นภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในระบบนิเวศอย่างแน่นอน!! เหมือนกับครั้งหนึ่งในอดีต เมื่อนักวิทยาศาสตร์นำโรคร้ายไปปล่อยในหมู่กระต่ายป่า หวังควบคุมประชากร แต่หารู้มั้ยว่านั่นเป็นการทำลายสิ่งมีชีวิตอย่างเลือดเย็น… ในวันที่ 13 พฤษภาคม ปี 1787 กลุ่มเรือ 11 ลำ ที่เรียกตัวเองว่า First Fleet left England ได้ค้นพบอาณานิคมที่ต่อมากลายเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของยุโรปแห่งแรกในออสเตรเลีย จากจุดเริ่มต้นในประเทศอังกฤษ กลุ่มเรือดังกล่าวจะเดินทางไปยังกรุงรีโอเดจาเนโร ก่อนจะไปยังทางตะวันออกสู่เมืองเคปทาวน์ และอ่าว Botany Bay (ปัจุบันอยู่ในซิดนีย์) โดยผ่านเส้นทางเดินเรือมหาสมุทรใต้ เรือทั้ง 11 ลำ ประกอบด้วย เรือสำหรับราชนาวีอังกฤษ 2 ลำ เรือขนของ 3 ลำ และอีก 6 ลำ สำหรับลำเลียงนักโทษที่กระทำความผิดพร้อมด้วยกระต่ายจำนวนหนึ่ง และเรือทั้งหมดก็ได้เดินทางมาถึงออสเตรเลียในช่วง 18-20 มกราคม ปี 1788… …
-
ชาวบ้านถึงกับเกาหัว เมื่อพบเจอ “จู๋ไม้แกะสลักอันเบ้อเร่อ” ถูกนำทิ้งไว้กลางสวนสาธารณะ!?
ทำเอาผู้คนในประเทศสวีเดนถึงกับงง เมื่ออยู่ดีๆ มีคนไปเจออวัยวะเพศชายปลอมขนาดมหึมาถูกทิ้งไว้ในสวนสาธารณะที่พลุกพล่านเต็มไปด้วยผู้คน โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2017 หญิงคนหนึ่งพบผลงานไม้แกะสลักอวัยวะเพศชาย ถูกนำมาวางอยู่ในสวนสาธารณะ Blinkenbergs Park โดยบังเอิญ เธอจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เทศบาลเมือง Hagfors ให้มาตรวจสอบทันที จริงๆ แล้ว นี่ไม่ใช่ผลงานแกะสลักไม้ชิ้นแรกที่มีการค้นพบ โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ก็เคยเจอถูกทิ้งไว้ในป่าบ้าง แหล่งว่ายน้ำ และแหล่งชุมชนต่างๆ แต่สำหรับผลงานชิ้นนี้มันใหญ่มาก โดยมีความยาวมากกว่า 1 เมตร และอาจจะใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบก็เป็นได้!! ทางด้าน Nathalie Andersson เจ้าหน้าที่เทศบาลเมือง Hagfors กล่าวว่า “เราได้รับโทรศัพท์จากชาวเมืองท่านหนึ่งที่ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ Blinkenbergs ในจังหวะนั้นเธอบอกว่าพบจู๋ไม้ขนาดมหึมา ถูกวางอยู่กลางสวนสาธารณะเลย” ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนนำผลงานสุดทะลึ่งตึงตังมาทิ้งไว้แบบนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มลัทธิ หรือกลุ่มวัยรุ่นวัยคะนองที่ทำขึ้นมาเพื่อความสนุก และได้นำมาทิ้งไว้ที่นี่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และได้เก็บผลงานจู๋ไม้อลังการชิ้นนี้ไว้ที่สำนักงานกลางของเทศบาลเมือง และเจ้าหน้าที่ Andersson ก็ทิ้งท้ายให้ไว้ด้วยว่า… “พวกเรากำลังตามหาเจ้าของผลงานชิ้นนี้อยู่ คงจะดีไม่น้อยถ้าหากได้พบกับศิลปิน ผู้เป็นเบื้องหลังความคิดสร้างสรรค์ในงานศิลปะ ถ้าหากอยากจะได้คืน ก็มาเอาคืนไปได้เลยนะ” โอ้ละพ่อ…
-
ประวัติศาสตร์อันยาวนานของ “ดาบไวกิ้ง” ตัวแทนแห่งมูลค่า และสัญลักษณ์แห่งอำนาจ…
ดาบยาว (Longsword) หรือสปาตาร์ (Spatha) ไม่ได้เป็นเพียงแค่อาวุธที่น่าเกรงขามเท่านั้น แต่มันยังใช้ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์อันทรงคุณค่า และมักจะถูกรังสรรค์ขึ้นมาโดยช่างตีดาบผู้มากฝีมือ ในบรรดาดาบที่ยังถูกเก็บไว้จนทุกวันนี้ มักจะแฝงไปด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรม ศิลปะ สงคราม พิธีกรรมทางศาสนา ประเพณีการฝังศพ กฎหมาย รวมถึงความเกี่ยวข้องทางด้านภาษีด้วย!! ในระหว่างการครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์เลอมาญ Charlemagne (ค.ศ. 768 – 814) ดาบยาวพร้อมฝักมีมูลค่าเท่ากับ 7 เหรียญ Solidus ซึ่งเป็นสกุลเงินในเวลานั้น จากการอ้างอิงภายใน Lex Ribuaria ซึ่งเป็นชุดของกฎหมายโบราณจากศตวรรษที่ 7 ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องการจ่ายภาษีของผู้คนในยุคสมัยนั้น การจ่ายภาษีในยุคดังกล่าว มักจะถูกจ่ายด้วยสิ่งของ อย่างเช่น ‘ดาบ’ แทนสกุลเงิน ดังนั้นมูลค่าของสินค้าจะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า ที่น่าสนใจคือดาบที่ไม่มีฝัก จะมีมูลค่าเพียง 3 Solidus เท่านั้น แสดงให้เห็นว่ามูลค่าของดาบขึ้นอยู่กับฝักนั่นเอง ราคานี้เมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์ ก็เปรียบได้กับม้าที่มีสุขภาพแข็งแรง จะมีราคาเท่ากับ 7 Solidus ในขณะที่วัวสุขภาพดีมีราคาเพียง 1 Solidus เท่านั้น ในช่วงแรก…
-
ภรรยาทุ่มเทลดความอ้วน เพื่อโชว์รูปร่างผอมให้สามีได้เห็น ก่อนที่เขาจะจากไปด้วยมะเร็ง…
หลายคนคงทราบดีว่าการลดความอ้วนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทุกคนรู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะผอม แต่พอจะทำจริงๆ มันช่างเป็นอะไรที่ยากเหลือเกิน เพราะแบบนี้หลายๆ คนจึงต้องหาแรงบันดาลเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก เหมือนกับเธอคนนี้ที่อยากผอมให้สามีได้เห็นสักครั้งก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป… Taylor Murphy วัย 24 ปี จากรัฐวอชิงตัน ครั้งหนึ่งเธอเคยมีน้ำหนักมากถึง 127 กิโลกรัม นั่นทำให้สามีช็อคหนักมากแต่ก็ไม่ได้ทำให้รักน้อยลงหรอก จนกระทั่งสามีของเธอ Ricky Carrington วัย 29 ปี ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในสมองที่ไม่สามารถรักษาได้ และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 15 เดือนเท่านั้น นั่นเป็นข่าวร้ายสำหรับ Taylor เป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาเธอแทบจะไม่ดูแลตัวเอง และไม่มีเวลาให้สามีเลย ในที่สุดเธอก็คิดได้ว่าต้องลดน้ำหนักให้ได้ เพื่อที่จะมีรูปร่างผอมให้สามีได้เห็น และได้ทำกิจกรรมร่วมกันก่อนที่เขาจะจากไป ปกติหญิงสาวมักจะกินอาหารในปริมาณมากๆ และมักจะกินอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง โดยเฉพาะตอนเช้า เธอจะกินกาแฟมอคค่าของร้านกาแฟสีเขียวเจ้าดังเป็นประจำ แม้สามีจะไม่ได้รักเธอน้อยลงเพราะความอ้วน แต่เขาก็ยอมรับความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ไม่ค่อยดีนัก เพราะพวกเขาไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เนื่องจาก Taylor มักจะเหนื่อยง่ายและขี้หงุดหงิด แต่ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ตัดสินใจลดน้ำหนัก เธอก็เลิกพฤติกรรมการกินเหล่านั้น ทั้งกาแฟ ทั้งขนมหวานต่างๆ และนั่นช่วยลดน้ำหนักได้ดีมาก …
-
ภาพน่ารักๆ ของ ‘ลูกแม่สอง’ เดินจูงมือด้วยกัน เพราะภรรยาใหม่ของพ่อก็เสมือนแม่อีกคน…
ปัญหาการหย่าร้างนั้นมักจะมาจากมือที่สาม และมันจะยิ่งเลวร้ายไปอีกถ้าหากพวกเขามีลูกด้วยกัน เพราะสุดท้ายปัญหามักจะตกไปอยู่กับคนเป็นลูก แต่มันก็ไม่เสมอไป เพราะแม้พ่อแม่จะมีปัญหากัน แต่พวกเขาก็ยังต้องการที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูก นั่นทำให้หลายๆ คู่ยังคงทำหน้าที่พ่อแม่ต่อไป แม้จะหย่ากันแล้วก็ตาม… เช่นเดียวกับกรณีของ Hayley Booth ที่ได้โพสต์เรื่องราวตัวเองในเฟสบุ๊ก พร้อมชื่นชม Dakota ซึ่งภรรยาคนใหม่ของอดีตสามี และขณะนี้ยังเป็นแม่เลี้ยงให้กับลูกของเธอด้วย Hayley เขียนไว้ว่า บ่อยครั้งที่มีคนถามฉันว่า ฉัน อดีตสามี ภรรยาใหม่ของสามี และลูก อยู่ด้วยกันโดยมีปัญหาได้อย่างไร? ฉันจะตอบเหมือนกันทุกครั้งว่า “เพราะเรารักลูกสาวของเรา” เราทุกคนรักเธอและมันจะไม่วันเปลี่ยน เด็กไม่สมควรที่จะถูกทิ้ง หรือต้องมารับปัญหาที่ผู้ใหญ่ก่อเอาไว้ เธอไม่ได้เลือกที่จะเกิดมาในครอบครัวแบบนี้ และแน่นอนว่าเธอไม่ได้เป็นคนเลือกให้พ่อแม่หย่าร้างกัน ดังนั้น ทำไมเราจะต้องสร้างปัญหาให้กับการเธอด้วยการให้เลือกว่าจะอยู่กับพ่อหรือแม่? Dakota แม่ใหม่ของเด็กหญิง ลูกสาวของฉันเรียกแม่เลี้ยงว่า “แม่” แล้วรู้อะไรมั้ย? ฉันรู้สึกโอเคกับแบบนั้น เพราะสำหรับลูกแล้ว Dakota ก็คือแม่ของเธอคนหนึ่ง Dakota อยู่กับลูกสาวฉันตลอดเวลา ดูแลเธอ เล่นกับเธอ สอนการใช้ชีวิตให้เธอ สอนสิ่งที่ควรทำ ให้ความรักเธอ จูบบอกฝันดี เธอทำทุกอย่างที่แม่ควรทำให้ลูก สิ่งที่สำคัญที่สุด…
-
ฆาตกรในคราบนักเขียนชาวจีน ถูกจับกุมหลังจากเขียนนวนิยาย ที่มาจากเรื่องจริงของตัวเอง
เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมหนังสือหลายๆ เล่ม โดยเฉพาะหนังสือแนวฆาตกรรมถึงเขียนออกมาได้ดี ราวกับมันมาจากประสบการณ์จริงมากกว่าจินตนาการ เหมือนกับ หลิวหยงเปียว นักเขียนนวนิยายชาวจีนชื่อดังคนหนึ่ง ผลงานของเขาโด่งดังจนมีการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์จำนวนกว่า 50 ตอน ล่าสุด เขากำลังจะมีผลงานนิยายเรื่องใหม่ว่าด้วยเรื่องของนักเขียนฆาตกรที่พยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังก่อคดีฆาตกรรมสุดสยอง ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมล่ะ แต่รู้หรือไม่ เรื่องราวในนิยายดังกล่าว ไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่เขาจินตนาการขึ้นมาเท่านั้น แต่กลับเป็นเรื่องจริงที่เขาเคยทำเมื่อยี่สิบปีก่อน! ในบทนำของ เรื่อง The Guilty Secret ผลงานสร้างชื่อให้กับหลิวหยงเปียว เขาได้กล่าวว่า เขาได้เริ่มเขียนผลงานชิ้นใหม่แล้ว โดยนิยายเรื่องใหม่ของเขาจะเป็นนิยายแนวสืบสวนสอบสวน เล่าเรื่องของนักเขียนสาวคนหนึ่งที่ก่อเหตุฆาตกรรมสุดสยอง จนต้องหลบหนีการจับกุมของตำรวจ เขาตั้งชื่อนิยายเรื่องใหม่ของเขาว่า “The Beautiful Writer who Killed” แต่ดูเหมือนว่าทางตำรวจคิดว่าเรื่องราวที่เขาจะเขียนนั้น ไม่ได้เป็นแค่เรื่องแต่ง แต่เป็นเรื่องที่หลิวหยงเปียวเขียนเหตุการณ์จริงในชีวิตและเหยื่อทั้ง 4 คนของเขา ในคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 29 พฤศจิกายน ปี 1995 ต่อมาเมื่อตำรวจมั่นใจว่าหนังสือนั้นเขียนขึ้นมาจากเรื่องจริง จึงทำการเข้าจับกุมทันที เมื่อไปถึงบ้านของนายหลิว เขาก็เดินออกมาพบกับตำรวจด้วยสีหน้าเรียบเฉยพร้อมกับพูดว่า “ผมรอพวกคุณอยู่ที่นี่ตลอดเวลา” เว็บไซต์ Sixth Tone…
-
หญิงสาวทรมานจากการขับปัสสาวะไม่ได้เป็นเวลา 3 ปี หลังตรวจพบเป็นโรคที่หายาก
คนต้องปัสสาวะแทบทุกวัน บางวันมากกว่า 2-3 ครั้งด้วยซ้ำ แต่สำหรับหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ฉี่มานานถึง 3 ปี หลังถูกวินิจัยว่ามีภาวะผิดปกติที่หาได้ยาก Vikki Black หญิงสาววัย 23 ปี จากคัมเบรีย เริ่มรู้สึกปวดท้องเวลาเข้าห้องน้ำครั้งแรกเมื่อปี 2014 ตอนนั้นเธอคิดว่ามันคงเป็นอาการจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบเท่านั้น แต่ปรากฏผ่าน 2-3 วัน อาการปวดดังกล่าวก็ยังไม่ลดลง ตรงกันข้าม Vikki รู้สึกปวดมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงจุดที่เธอทนไม่ได้อีกต่อไป นอกจากอาการปวดแล้ว กระเพาะของเธอก็บวมอย่างเห็นได้ชัด เธอบอกว่ามันเหมือนคนท้องไม่ต่ำกว่า 20 สัปดาห์ และตัดสินใจโทรหาคุณพ่อ Steve ก่อนจะถูกนำตัวไปโรงพยาบาล เมื่อมาถึงโรงพยาบาล Vikki ก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที พยาบาลนำสายยางสวนเข้าไปยังกระเพาะปัสสาวะเพื่อระบายน้ำ 1200 มิลลิลิตรออกไป ซึ่งมากกว่าปัสสาวะในร่างกายคนปกติถึง 2 เท่า Vikki อธิบายว่า “ปกติกระเพาะปัสสาวะของคนเราจะเก็บน้ำได้มากที่สุด 500 มิลลิลิตร นั่นหมายความสภาพของฉันในตอนนั้นมันแย่มากๆ” อย่างไรก็ตามหลังจากที่ปัสสาวะปริมาณ 1200 มิลลิลิตร ถูกระบายออกไป Vikki ก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมาก แต่แล้ววันต่อมา ท้องของเธอก็บวมขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง และคุณหมอก็สั่งให้รอดูอาการต่อไปเป็นเวลา…
-
ชายหนุ่มไปตกปลา แต่จู่ๆ มีแมวน้อยเข้ามาทำสายตาออดอ้อน น่ารักจนต้องพากลับบ้านด้วย
เวลาออกไปตกปลา สิ่งที่ทุกคนคาดหวังว่าจะได้กลับมาก็ต้องเป็นปลาอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับชายคนนี้ เพราะแทนที่เขาจะได้ปลากลับมา ดันไปได้เจ้าแมวน้อยกลับมาแทนซะอย่างงั้น เรื่องราวดังกล่าวเป็นของชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า Jason เขาเล่าว่าเขาได้ไปตกปลาอยู่ริมทะเลสาบแห่งหนึ่งที่เขาไปเป็นประจำ อยู่ดีๆ ก็มีลูกแมววิ่งเข้ามาหา แถมมาทำหน้าออดอ้อน ราวกับว่าอยากให้พากลับบ้านไปด้วย เจอแมวหน้าตาแบบนี้ คุณจะปฏิเสธได้ลงหรอ? Jason รู้สึกแปลกใจมากที่น้องเหมียวขนปุยปีนขึ้นมาบนกระเป๋าของเขา แล้วทำหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเพื่อเรียกร้องความสนใจ เขาบอกว่า “มันพยายามขึ้นมาหาผมกับเพื่อนที่กำลังตกปลา โดยเดินมาจากถนนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม” ต่อมาพวกเขาก็เห็นลูกแมวอีกตัวหนึ่งโผล่มาซึ่งเขาคาดว่ามันน่าจะเป็นพี่น้องกัน เขาคิดว่าพวกมันคงอาจพลัดหลงกับแม่หรือถูกทิ้งมา แต่เห็นได้ชัดว่ามันยังเล็กเกินไปที่จะอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว หลังเจอสายตาออดอ้อนของน้องเหมียวแล้ว พวกเขาก็ไม่อาจทิ้งลูกแมวให้อยู่ตรงนั้นได้ สุดท้ายจึงตัดสินใจพาพวกมันกลับบ้านด้วย ซึ่งทั้งสองตัวก็ยอมไปด้วยโดยดี Jason ตัดสินใจรับเจ้าตัวสีเทามาเลี้ยง เพราะท่าทางมันจะชอบเขามากๆ ส่วนอีกตัว เพ่ื่อนของเขาเป็นคนรับไปดูแล ทันทีที่เขาอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอด ปรากฏว่ามันติดอกติดใจจนไม่ยอมลงเลย และชอบให้มนุษย์กอดมันตลอดเวลา เมื่อถึงบ้าน ชายหนุ่มก็อาบน้ำให้เจ้าเหมียว โดยที่มันไม่ขัดขืนเลยสักนิด ตรงข้ามมันให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะไม่เคยมีใครให้การดูแลมันแบบนี้มาก่อน Jason บอกว่า “หลังจากที่อาบน้ำแล้ว มันก็ดูสดชื่นขึ้น มันกินได้เยอะ ที่สำคัญไม่มีเห็บ หมัด นั่นหมายความไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว” …
-
คุณแม่ตั้งครรภ์ตัดสินใจถ่ายภาพร่วมกับผึ้งนับหมื่นตัว ด้วยรอยยิ้มแห่งความเป็นมิตร
เมื่อตั้งท้อง เชื่อว่าไม่ว่าใครก็ต้องตื่นเต้นดีใจทั้งนั้น จนทำให้คุณแม่หลายๆ คน จ้างตากล้องเพื่อเก็บภาพช่วงเวลาอันน่าประทับใจเหล่านี้เอาไว้ แต่ดูเหมือนคุณแม่คนนี้จะมีไอเดียการถ่ายรูปที่แตกต่างและดูน่ากลัวไปนิดนึง เพราะเธอถ่ายรูปกับฝูงผึ้งนับหมื่นตัว แบบถึงเนื้อถึงตัว Emily Mueller ทำธุรกิจเกี่ยวกับผึ้งในชื่อว่า Mueller Honey Bee Removal ร่วมกับสามีของเธอ Akron ในรัฐโอไฮโอ งานของพวกเขาคือคอยตามหารังผึ้งเพื่อเก็บน้ำผึ้ง รวมทั้งคอยย้ายรังผึ้งที่อยู่ในที่ๆ ไม่เหมาะสม เช่นในบ้านคนหรือออฟฟิศต่างๆ ไปอยู่ในที่ๆ ปลอยภัย ถึงจะมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง แต่ผึ้งเหล่านี้ก็ทำให้พวกเขามีรายได้จากการขายน้ำผึ้งได้ไม่ใช่น้อย เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเลย จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้คู่สามีภรรยามีความคุ้นเคย และชำนาญในการเข้าถึงผึ้งได้เป็นอย่าง รวมทั้งรู้วิธีการป้องกันด้วย จนกระทั่ง Emily ตั้งท้อง และมีกำหนดคลอดในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะถ่ายรูปกับฝูงผึ้งกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งได้รับการช่วยเหลือ Emily บอกว่า “ผึ้งที่ฉันถ่ายรูปด้วยนี้ ฉันกับสามีได้ช่วยพวกมันจากสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง พวกมันสร้างรังอยู่ในที่คนพลุกพล่าน ซึ่งมีเด็กมากมายวิ่งเล่นแถวนั้น” แต่ผู้คนจะหลีกเลี่ยงตรงที่มีรังผึ้ง หรือบางคนเลือกที่มาสวนสาธารณะแห่งนั้น เพราะกลัวผึ้ง ในที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมายัง Emily กับสามี ให้มาช่วยกำจัดรังผึ้งดังกล่าว แทนที่สามีภรรยาจะกำจัดผึ้งเหล่านั้น แต่พวกเขากลับย้ายผึ้งไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ห่างไกลผู้คน และนั่นทำให้เกิดมิตรภาพระหว่างมนุษย์กับผึ้ง และนั่นทำให้ Emily ตัดสินใจถ่ายรูปร่วมกับผึ้งเหล่านั้น ซึ่งมีประมาณ 20,000…
-
พาไปดู WOW Air บินจากอเมริกาไปยุโรปในราคา 2,100 บาท เราจะได้บริการอย่างไรบ้าง??
เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ สายการบิน WOW Air ได้ประกาศลดราคาเที่ยวบินที่เดินทางจากอเมริกาไปยุโรปเหลือเพียง 2,100 บาทต่อที่นั่งเท่านั้น ซึ่งโปรโมชั่นดังกล่าวเป็นโปรโมชั่นแบบจำกัดเวลา สำหรับโปรโมชั่นนี้ จัดขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าทุกกลุ่มมีโอกาสได้ใช้บริการจาก WOW Air อย่างไรก็ตาม การลดราคาครั้งนี้มีเฉพาะการเดินทางจากสหรัฐอเมริกาไปยุโรปเท่านั้น ส่วนขายุโรปกลับมาสหรัฐอเมริกา ราคาก็ยังคงสูสีกับสายการบินอื่นๆ อยู่ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เที่ยวบินโปรโมชั่นจะไม่มีการบริการอาหาร เครื่องดื่ม รวมทั้งสิ่งบันเทิง หากคุณต้องการสามารถจ่ายเงินเพิ่มได้ (แต่ไม่รับประกันว่าจะถูกใจมั้ยนะ) เห็นราคาถูกขนาดนี้ หลายคนคงอยากรู้ว่าถ้าซื้อตั๋วโปรโมชั่นนี้ เราจะได้บริการแบบไหน ได้ที่นั่งแบบยังไง หรือแม้แต่อาหารที่ทางสายการบินบริการจะเป็นอย่างไร ลองไปดูกันเลยดีกว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทางสายการบินนำเสนอเอง แต่เป็นการแชร์ประสบการณ์ของผู้โดยสาร 2 คน ที่ซื้อตั๋วโปรโมชั่นนี้ หนึ่งในนั้นคือ James Dozer เขาจองตั๋วในราคา 3,200 บาท สำหรับเดินทางจากลอสแองเจลิสไปยัง Reykjavik เคาน์เตอร์เช็คอินจะเปิดทำการตั้งแต่เช้า ซึ่งผู้โดยสารต้องเช็คอินก่อนเครื่องออกประมาณ 3 ชั่วโมง ไม่ใช่เพราะเรื่องการเลือกที่นั่งนะ แต่เป็นเพราะเหตุผลอื่น เดี๋ยวรู้กัน กระเป๋าถือขนาดเล็กที่มีขนาด 42 x 32 x 25 ซม.…
-
25 สัตว์โลกสุดเกรียน ที่ไม่แคร์กฏอะไรทั้งนั้น แหกทุกข้อห้าม อีกหน่อยคงครองโลกละมั้ง
มนุษย์มักจะตั้งกฏต่างๆ เพื่อให้สังคมเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งปกติแล้ว ทุกคนก็ยินดีที่จะปฏิบัติตาม เพราะถ้าไม่ทำตาม อาจมีบทลงโทษตามมาได้ แต่สำหรับเหล่าสัตว์โลกแล้ว พวกมันไม่แคร์กฏเหล่านั้นหรอก และไม่ใช่แค่ไม่สนนะ แต่พวกมันยังชอบทำลายกฏที่มนุษย์ตั้งขึ้นด้วย โดยเฉพาะกฏที่ทำลายเสรีภาพของสัตว์ พวกมันจะเกลียดมากๆ ก็เลยแหกซะทุกอย่างเลย ไม่เชื่อลองไปชมดูสิ 1. โดดทำไม เหนื่อย แบบนี้ง่ายกว่าเย๊อะ 2. น้องหมาขึ้นนั่งบนโต๊ะ เจ้าของจึงทำโทษด้วยการให้มันออกไปอยู่ข้างนอก แล้วดูสิ่งที่มันทำ 3. เอากรงมาขังตรูเหรอ ไม่ได้ผลหร๊อก 4. เจ้าเหมียวรุ่นพี่สอนแมวน้อยให้แหกกฏ 5. อย่าเล่นกับหมา คิดหรอว่าเจ้าเหมียวจะแคร์ 6. ล้อหมุนมันต้องเล่นแบบนี้โว้ยยย 7. ขนาดย้ำแล้วว่า “อย่าๆ!!” มันก็ยังทำได้ลง 8. เป็นแมวจะใช้ประตูไหนก็ได้ 9. ยืนจนเบื่อละ ขอคว่ำหัวบ้างเด้อ 10. สำหรับผ้าขาวเท่านั้น แต่เหมียวดำไม่สนจ้า …
-
ตื่นตาตื่นใจกับ 15 สิ่งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก ที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
ในโลกเรานี้มี สิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ขนาดใหญ่มากมาย บางอย่างเราอาจไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้มาก่อน เพราะพวกมันอาจสูญพันธุ์และสูญหายไปจากโลกแล้ว เหลือเพียงร่องรอยทางประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ดู วันนี้ #เหมียวขี้ส่อง จะพาเพื่อนๆ ไปชม 15 สิ่งของที่ “ใหญ่” ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน จะมีอะไรบ้าง ลองไปชมกันเลย 15. ต้น Sequoia Sequoia เป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสามารถโตได้สูงสุด 83 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 เมตร 14. Amphicoelia Amphicoelia เป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการค้นพบมา พวกมันมีลำตัวยาวสูงสุด 58 เมตร และมีกระดูกสันหลังยาว 2.5 เมตร 13. Titanoboa Titanoboa เป็นสัตว์กระกูลเดียวกับงูหลาม แต่มันตัวใหญ่กว่ามาก พวกมันมีชีวิตอยู่เมื่อ 58-61 ล้านปีก่อน โดยมีลำตัวยาวสูงสุดถึง 13 เมตร สำหรับงูหลาม ยังคงอาศัยอยู่ในโลกจนปัจจุบันนี้ พวกมันมีความยาวสูงสุด 7.5 เมตรเท่านั้น 12. ขนุน ขนุนถือเป็นผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก…
-
9 เมืองชื่อดังจากรอบโลก ที่คุณสามารถไปเที่ยวได้ใน “ประเทศจีน” แบบว่าเนียนสุดๆ
เมื่อพูดถึงเรื่องการก๊อปปี้ หลายคนคงจะนึกถึงประเทศจีน เพราะเป็นประเทศที่ก๊อปได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ของใช้ ของกิน รวมไปถึงการก๊อปเมืองชื่อดังจากรอบโลกด้วย และนี่คือ 9 เมืองสุดอลังการชื่อดังจากรอบโลก ที่คุณสามารถไปเที่ยวได้ครบทุกที่ภายใน “ประเทศจีน” แหม่ ก็อปซะเนียนเลยนะ 1. Florentia Village หมู่บ้าน Florentia Village ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองพอร์ตของเทียนจิน ซึ่งถูกออกแบบมาให้คล้ายกับหมู่บ้านหมู่ในอิตาลี เรียกได้ว่าเป็นการก๊อปได้เนียนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ ลำคลอง กระเบื้องโมเสค แถมยังมีร้านชื่อดังอย่าง Gucci และ Prada ด้วย ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่อิตาลี และไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาโดยนักพัฒนาชาวอิตาลีนั่นเอง 2. เมืองปารีส เมื่อออกไปทางนอกเมืองหางโจวประมาณ 2-3 ชั่วโมง คุณพบกับเถียนตู้เฉิง ซึ่งเป็นการจำลองเมืองปารีสที่มาพร้อมกับหอไอเฟลสุดอลังการ ที่นี่ถูกตั้งให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 10,000 คน แต่ภาพที่เห็นส่วนใหญ่คือ มันมักจะถูกปล่อยให้โล่งอยู่เสมอ 3. Hallstatt ท่ามกลางมณฑลกวางตุ้งของจีน เป็นที่ตั้งการจำลอง Hallstatt ซึ่งเป็นหมู่บ้านอัลไพน์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในออสเตรีย นอกจากนี้ จีนยังได้ทุ่มงบกว่า 30,000 ล้านบาทในการก๊อปปี้ UNESCO World Heritage…
-
นักบินไม่ยอมนำเครื่องออก หลังรู้ว่าผู้ลี้ภัยอาจเกิดอันตราย ถ้าเกิดถูกส่งกลับประเทศตัวเอง
การช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ด้วยกันนั้น นับเป็นสิ่งที่ประเสริฐ เพราะในบางครั้ง การช่วยเหลือเพียงน้อยนิด อาจเปลี่ยนชีวิตใครคนหนึ่งไปตลอดกาลก็ได้ Samim Bigzad วัย 22 ปี ได้จองตั๋วเครื่องบินเพื่อกลับไปยังประเทศตัวเองคืออัฟกานิสถาน หลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปฏิเสธการยื่นคำร้องขอวีซ่าเข้าสหราชอาณาจักรของเขาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จริงๆ แล้วมีคนนับพันคนที่ลงชื่อคัดค้านเรื่องดังกล่าวและพยายามปกป้อง Bigzad ไม่ให้ถูกส่งไปยังประเทศตัวเอง เพราะที่นั่นเขาถูกคุกคามโดยกลุ่มตาลีบัน กลุ่มก่อการร้ายที่หลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่เมื่อการคัดค้านไม่สำเร็จ Bigzad จึงจำเป็นต้องกลับไป เขาเดินทางไปยังสนามบินฮีทโธรว์โดยมีการ์ด 3 คน บังคับให้ขึ้นเที่ยวบิน Turkish Airlines ที่กำลังจะออก Arash ญาติของเขาบอกว่า “ตอนนั้น Bigzad ร้องไห้ฟูมฟาย และตะโกนซ้ำๆ ว่า ‘ผมจะถูกฆ่าในอัฟกานิสถาน’!!“ เมื่อนักบินของเที่ยวบิน Turkish Airlines ได้ยินเสียงตะโกนของผู้โดยสารคนนั้น เขาก็ตัดสินใจที่ไม่นำเครื่องออก ตราบใดที่ Bigzad ยังอยู่บนเครื่อง Samim เล่าว่า “นักบินออกมายืนพูดกับการ์ดว่า ‘ถ้าคุณไม่พาผู้โดยสารคนนี้ลงจากเครื่อง ผมก็จะไม่นำเครื่องออกเหมือนกัน เพราะชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในความเสี่ยง’“ หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็ไม่มีสื่อไหนรายงานความคืบหน้าอีก แต่เชื่อว่า Bigzad ถูกส่งตัวไปอยู่ในศูนย์ผู้ลี้ภัย Brook House ที่ใกล้กับสนามบินแกตวิก สำหรับ Bigzad นั้น ได้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเมื่อปี 2015…
-
จบเลย โจรหนุ่มเข้าไปปล้นร้าน แต่ขาดันติดกับประตูจนหนีไม่ได้ ต้องรอให้ตำรวจมาช่วย
แม้เราจะไม่ใช่โจรขโมยของ แต่ที่ผ่านมาเราพอจะรู้ว่าก่อนลงมือก่อเหตุ โจรส่วนใหญ่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ทั้งการบุกเข้าไปยังเป้าหมาย การลงมือ รวมถึงการหลบหนี ว่าจะหนีอย่างไร ไม่ให้ตำรวจสาวมาถึงตัวของพวกเขาได้ แต่ดูเหมือนโจรคนนี้จะมีการวางแผนมาไม่ดีพอ เพราะนอกจากจะไม่ได้อะไรแล้ว ยังถูกจับได้ในที่เกิดเหตุโดยเจ้าหน้าที่แทบไม่ต้องลงแรงด้วยซ้ำ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดของวันจันทร์ที่ผ่านมา โจรคนหนึ่งพยายามเข้าไปขโมยของในร้านที่ตั้งอยู่ในเมืองปู้เทียน มณฑลฝูเจี้ยน โจรดังกล่าวได้ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาจากร้าน จากนั้นก็ตั้งใจเดินเข้าไปในร้านอีกครั้ง แต่ระหว่างนั้นประตูร้านค่อยๆ เลื่อนลงมา จนทำให้โจรลังเลว่าจะเข้าไปหรือไม่เข้าดี ในที่สุดเขาก็ตัดสินว่าไม่ไปดีกว่า แต่คงจะเพราะคิดช้าไป เพราะ ณ ตอนนั้น ประตูได้เลื่อนลงมาหนีบขาของเขาไว้แล้ว โจรขโมยของพยายามดึงขาออก แต่ดึงเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ แถมมีแต่จะทำให้เจ็บตัวเปล่าๆ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจยอมแพ้ต่อโชคชะตา แล้วก็นอนอยู่ในสภาพนั้นจนสว่าง หวังให้ตำรวจมาช่วย พอเช้ามา โจรก็อยู่ในสภาพที่เห็นนี่แหละ เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้ทั้งหมดโดยกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่หน้าร้าน… มาดูคลิปเต็มๆ กันเลยดีกว่า จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดีเนี่ย ที่มา shanghaiist
-
นักศึกษาจีน ออกแบบหมวก AI เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีความบกพร่องด้านการมองเห็น
ทุกวันนี้ผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตานั้นต้องใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบาก แม้จะมีอุปกรณ์ช่วยเหลือบ้าง แต่นั่นก็ช่วยได้แค่บางอย่างเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ 2 นักศึกษาหนุ่มจากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคุนหมิงในประเทศจีน จึงได้คิดค้นอุปกรณ์อัจฉริยะที่มีชื่อว่า Eye See เพื่อช่วยคนที่มีความบกพร่องทางสายใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น Eye See มีลักษณะคล้ายหมวกกันน็อคที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตาโดยเฉพาะ โดยมีฟังก์ชันการรับรู้ภาพในตัว ที่ช่วยให้ผู้พิการทางสายตาสามารถอ่านหนังสือได้ นอกจากนี้ยังมีเลเซอร์ตรวจจับอุปสรรคต่างๆ บนท้องถนน เพื่อช่วยให้ผู้พิการไม่เดินสะดุดหรือเดินชนสิ่งกีดขวางที่อาจเป็นอันตรายได้ นอกจากหมวกกันน็อค Eye See แล้ว พวกเขายังได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ อีกหลายอย่าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการทางตา หวังซินไข่ หนึ่งในผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์นี้บอกว่า “ตอนนี้เรากำลังพัฒนาแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยให้ผู้พิการสายตาสามารถซื้อสินค้าในซุปเปอร์มาร์เกตผ่านเทคโนโลยีการจดจำภาพ” นี่ถือเป็นตัวอย่างดีๆ ของวัยรุ่นยุคใหม่ ที่นำความรู้ที่เล่าเรียนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อเพื่อนมนุษย์ที่ต้องการความช่วยเหลืออีกหลายล้านคนทั่วโลก ที่มา designyoutrust
-
เด็กหญิงอายที่มีรอยแผลเป็น คุณพ่อจึงสักเป็นรอยแผลเหมือนกัน เพื่อให้ลูกมั่นใจอีกครั้ง
สำหรับเด็กที่เกิดมาพร้อมกับสภาพร่างกายผิดปกติหรือมีรอยดำ รอยแดงแปลกๆ บนร่างกาย มักจะถูกเพื่อนล้อจนทำให้เด็กสูญเสียความมั่นใจ ซึ่งกำลังใจที่สำคัญที่สุด ก็คงจะเป็นพ่อแม่ของเด็กนั่นเอง เหมือนกับ Freya Fitzpatrick เด็กหญิงวัย 2 ขวบ เธอถูกน้ำร้อนลวกจนเกิดเป็นแผลขนาดใหญ่บนอกด้านซ้าย ซึ่งแผลเป็นดังกล่าวทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นลูกสาวรู้สึกแย่กับรอยแผลเป็น Kyle พ่อวัย 24 ปี จึงตัดสินใจลงทุนประมาณ 2,000 บาท เพื่อสักเป็นรอยแผลเป็นคล้ายกับลูกสาว และอยู่ในตำแหน่งเดียวกันด้วย Kyle บอกว่า “Freya มักจะรู้สึกแย่เมื่อมองรอยแผลเป็นตัวเอง ผมก็เลยคิดว่าเธอคงจะรู้สึกดีขึ้นถ้าเห็นว่าคนอื่นก็มีรอยแบบนั้นเช่นกัน แล้วมันก็ได้ผลจริงๆ ด้วย เธอไม่รู้สึกแย่กับรอยแผลเป็นตัวเองอีกแล้ว” Tyler Jones แม่ของเด็กหญิงเล่าว่า ขณะที่เธอกำลังต้มน้ำก๋วยเตี๋ยวอยู่ในครัว ลูกสาวในวัยหัดเดินได้เข้ามาในครัวแล้วเอื้อมมือไปจับหม้อที่กำลังเดือด จนทำให้น้ำร้อนหกใส่ลำตัวของเธอ คุณแม่บอกว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เธอไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่ถึงจะตกใจแค่ไหน เธอก็รวบรวมสติโทรไปบอกสามีที่กำลังทำงานอยู่ ด้านเพื่อนบ้านเมื่อได้ยินเสียงร้องของเธอกับลูก พวกเขาก็รีบมาดูทันทีและช่วยปฐมพยาบาลให้เด็กหญิง ก่อนจะพาไปโรงพยาบาล เมื่อ Kyle ทราบเรื่อง เขาก็รีบเดินทางไปยังโรงพยาบาลทันที และภาพแรกที่เห็นคือ ลูกสาวผู้เป็นที่รักนอนอยู่เตียงคนไข้ด้วยความทุกข์ทรมาน…
-
ภาพก่อน-หลังของถนนในเท็กซัส หลังถูกพายุถล่มจนเกิดน้ำท่วมหนักที่สุดในประวัติศาสตร์
ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ เท็กซัสได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากพายุฮาร์วีย์ร้ายแรง และยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับภาพด้านล่างนี้ ซึ่งเป็นภาพถนนหลวง I-10 ในเท็กซัส ก่อนและหลังการเกิดอุทกภัยจากพายุฮาร์วีย์ ที่ทำให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ขณะนี้รุนแรงมากเพียงใด ถนนหลวงในเท็กซัสในภาวะปกติ ถนนเส้นเดียวกันหลังถูกพายุฮาร์วีย์ถล่ม นอกจากนี้ช่างภาพ Logan Wheat ยังได้ถ่ายภาพวัวที่กำลังอยู่ในอาการหวาดกลัวท่ามกลางน้ำที่ท่วมขึ้นสูงเรื่อยๆ ช่างภาพบอกว่า “เมื่อเห็นวัวอยู่ในสภาพนั้น มันทำให้ผมรู้สึกจุกในลำคอ อยากช่วยเหลือพวกมันออกมา แต่มันค่อนเป็นเรื่องยาก” ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าน้ำท่วมสูงแค่ไหน แต่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 เมตร เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมสูงจนแทบจะมองไม่เห็นหลังคารถแล้ว ใกล้กับที่ภาพที่เราเห็นนี้ มีศูนย์ผู้ลี้ภัย George R Brown Convention Center ในฮุสตันที่โดยปกติแล้ว สามารถรองรับผู้คนได้เพียง 5,000 คน แต่ขณะนี้ มีผู้ประสบภัยเข้ามาอยู่ถึง 9,021 คนแล้ว พวกเขาต้องอยู่กันอย่างแออัด บางคนนอนพื้นบ้าง นอนบนเก้าอี้บ้าง เนื่องจากเตียงที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับจำนวนประชากร อย่างไรก็ตาม ทีมช่วยเหลือก็กำลังทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เพื่อพาผู้ประสบภัยออกจากอาคารบ้านเรือน ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย และพยายามจะกระจายคนไปอยู่ตามศูนย์ลี้ภัยต่างๆ…
-
25 บาร์โค้ดเจ๋งๆ ที่ถูกออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์ ชูสินค้าให้น่าสนใจขึ้นอีกระดับ
ปัจจุบันไม่ว่าเราจะซื้อสินค้าอะไร ก็มักจะมีบาร์โค้ดกำกับอยู่เสมอ และลักษณะของบาร์โค้ดนั้นก็จะเหมือนกันหมดคือเป็นเส้นๆ หนาบ้าง บางบ้าง เรียงสลับกันเป็นแถวพร้อมตัวเลขด้านล่าง บาร์โค้ดลักษณะดังกล่าวนั้นเราเห็นกันบ่อย จนไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นอีกแล้ว แต่สำหรับภาพต่อไปนี้จะทำให้คุณสังเกตบาร์โค้ดกันมากขึ้น เพราะแต่ละชิ้นนั้นล้วนมีความสร้างสรรค์ แถมทำให้สินค้าดูน่าสนใจยิ่งขึ้น 1. บาร์โค้ดบนขวดครีมโกนหนวด 2. บาร์โค้ดซองสปาเก็ตตี้ 3. บาร์โค้ดด้านหลังหนังสือเด็ก 4. บาร์โค้ดรูปหีบเพลง 5. บาร์โค้ดรากต้นไม้ 6. บาร์โค้ดคนยกกองกระดาษ ข้างขวดน้ำ 7. บาร์โค้ดโรงนา 8. บาร์โค้ดคนตกปลา 9. นี่ถ้าไม่สังเกตดีๆ ไม่คิดว่าเป็นบาร์โค้ดนะ มาเป็นแว่นตาเชียว 10. บาร์โค้ดที่สามารถเรียงกันแล้วเกิดเป็นรูปเป็นร่างอย่างสวยงาม 11. บาร์โค้ดชาซอง 12. บาร์โค้ดต้นไม้ 13. บาร์โค้ดฝักบัว 14. บาร์โค้ดคลื่นทะเล 15. บาร์โค้ดบนปกหนังสือ 16. บาร์ข้างบนขวดแชมพู 17. บาร์โค้ดรูปโต๊ะ 18. บาร์โค้ดหญ้าพร้อมน้องวัว 19. บาร์โค้ดปากกะโหลก 20. บาร์โค้ดรูปสะพานที่ขึ้นชื่อของโลก…
-
ชาวเน็ตประทับใจ “เจ้าหน้าที่นั่งงีบคาเครื่องแบบ” หลังช่วยเหลือผู้คนในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่
เรามักจะได้ยินคำว่า “ตำรวจรับใช้ประชาชน” ซึ่งมันก็จริงนะ โดยเฉพาะเวลาเกิดเรื่องหรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ไม่ว่าเวลาไหน เมื่อไหร่ ตำรวจก็พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือเสมอ อย่างเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ที่ถล่มเท็กซัส จนเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยกู้ภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างก็เข้าไปให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เหตุการณ์นี้ทำให้น้ำท่วมถนน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ในบางพื้นที่น้ำท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนไม่สามารถย้ายออกจากอาคารได้ ต้องรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในฮุสตันไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือตลอดเวลาตั้งแต่เกิดภัยพิบัติ โดยให้การช่วยเหลือทั้งคนและสัตว์ จนแทบไม่มีเวลาได้หยุดพัก ขณะเดียวกันในเว็บไซต์ Reddit ได้มีการโพสต์ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ที่กำลังนั่งงีบในชุดเครื่องแบบพร้อมรองเท้ากันน้ำ หลังลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง หลังจากภาพดังกล่าวถูกโพสต์ ก็ได้มีการแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว หลายคนเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมากและอยากให้พวกเขาพักผ่อนบ้าง แต่สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ประชาชนมาก่อนเสมอ มีหลายคนยังติดอยู่ในบ้าน รอคอยการช่วยเหลือด้วยความหวัง แล้วแบบนี้ตำรวจจะหลับลงได้อย่างไร นั่นทำให้ตำรวจต้องทำงานอย่างไม่รู้จักเหนื่อยเพื่อช่วยผู้ประสบภัยออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย สมาชิก Reddit ดังกล่าวยังบอกอีกว่าเจ้าหน้าที่ Robert Goerlitz ผู้ซึ่งทำงานอยู่ที่ Harris County Sheriff’s Office ได้เขียนในเพจว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ มีคนโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือตลอดเวลา ซึ่งเราเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยเพราะนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ ตอนนี้เราได้พาผู้คนออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วกว่า 10,000 คน แต่เรายังพักไม่ได้…
-
เจ้าฮิปโปยอมหยุดกินเพื่อเข้าไปช่วยเหลือวีลเดอร์บีสต์ที่กำลังจะถูกจระเข้เขมือบทั้งเป็น!!
ในธรรมชาตินั้นสัตว์ที่อ่อนแอกว่ามักจะตกเป็นเหยื่อของสัตว์ที่แข็งแรงกว่าเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นสัตว์พวกมันก็คงไม่นิ่งเฉยเมื่อเห็นสัตว์ที่อ่อนถูกรังแก เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ที่ฮิปโปผู้หิวโหยถึงกับต้องหยุดกิน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเจ้าวีลเดอร์บีสต์ผู้เคราะห์ที่กำลังจะถูกจระเข้กลืนกินทั้งเป็น เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกได้จาก South Africa’s Kruger Park โดย Mervyn Van Wyk วัย 72 ปี ขณะไปเยือนอุทยานกับภรรยา Tokkie ตอนแรกทั้งคู่เห็นฝูงวีลเดอร์บีสต์จำนวนหนึ่งกำลังมีความสุขกับการหาอาหารตามชายฝั่งแม่น้ำ พร้อมทั้งฝูงม้าลายและละมั่งแอฟริกา แต่แล้วขณะที่ Tokkie เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปอยู่นั้น เธอก็เห็นวีลเดอร์บีสต์ตัวหนึ่งกำลังถูกจระเข้กัดเข้าที่ขาและพยายามจะดึงมันลงน้ำ เจ้าวีลเดอร์บีสต์พยายามขัดขืน ดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างสุดชีวิต จนเวลาผ่านไปประมาณ 8 นาที มันก็หมดแรงและพ่ายแพ้ให้กับจระเข้และก่อนจะถูกลากลงน้ำ ขณะที่เจ้าวีลเดอร์บีสต์ยอมแพ้ต่อชะตากรรมตัวเองนั้น อยู่ๆ ก็มีฮิปโปสองตัวที่กำลังหากินอยู่ในน้ำ เห็นเหตุการณ์เข้า พวกมันตัดสินใจหยุดกินแล้วพุ่งไปยังจระเข้ตัวนั้นทันที จากนั้นพวกมันก็ทำการขัดขวางและบังคับให้จระเข้ปล่อยวีลเดอร์บีสต์ตัวนั้น สักพักจระเข้คงสู้แรงฮิปโปไม่ไหวจึงต้องปล่อยเหยื่อไป ส่งผลทำให้วีลเดอร์บีสต์รอดชีวิตได้ในที่สุด นี่ไม่ใช่แค่ฮิปโปต้องการช่วยสัตว์อื่น แต่มันเป็นการแสดงถึงความเป็นเจ้าถิ่น ด้วยการกันสัตว์อื่นออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร แต่ก็ต้องขอบคุณฮิปโปที่ช่วยเหยื่อได้สำเร็จ ที่มา dailymail
-
เจ้าหมาน้อยดีใจสุดๆ เผยรอยยิ้มสุดน่ารัก หลังรู้ว่ากำลังจะได้ไปอยู่บ้านใหม่แล้ว
สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างหมาหรือแมวนั้น สิ่งที่ทำให้มันดีใจมากที่สุด ไม่ใช่การมีของเล่น ไม่ใช่การมีอาหารดีๆ กิน แต่คือการมีเจ้าของหรือการมีคนดีรับมันไปดูแล เพราะนั่นทำให้มันรู้สึกมีครอบครัวเป็นของตัวเอง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าหมาน้อย Matilda จากศูนย์พักพิงถึงกับเผยรอยยิ้มแป้นแล้น เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะไปอยู่บ้านใหม่แล้ว เจ้า Matilda อายุ 2 เดือน มันเป็นสุนัขจรจัดมาก่อน แต่เมื่อไม่นานนี้มันได้รับการช่วยเหลือก่อนจะถูกพามายังศูนย์พักพิงด้วยสถาพที่ผิวถลอกและท้องของมันก็มีแต่หนอน ต่อมาทาง Teresa Bowles-Chiofalo กับ Pibbles & More Animal Rescue ได้ช่วยเหลือและทำการรักษาให้น้องหมาจนแผลตามร่างกายหายเป็นปกติ กระทั่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Bowles-Chiofalo ก็ได้ไปรับน้องหมาที่ศูนย์พักพิง เพื่อที่จะพามันไปยังบ้านอุปถัมภ์ แล้วดูหน้าของมันสิ ดีใจจนยิ้มไม่หุบเลย ตอนนี้ Matilda อาศัยอยู่กับ Kerrie Rich เธอบอกว่าหลังจากที่น้องหมาเข้ามาอยู่ในบ้านได้ไม่กี่วัน มันก็มีพัฒนาการที่น่ารักมากๆ มันจะชอบจูบ ชอบเลียเจ้าของ เพราะอยากมอบความรักให้ ตอบแทนที่พวกเขารับมันมาเลี้ยง ที่สำคัญมันเป็นหมาที่ขึ้เล่นมากๆ และยังเป็นมิตรกับสุนัขอีกตัวในบ้านด้วย แล้วก็อย่างที่รู้ว่า หากน้องหมาทีความสุขมันมักจะส่ายหาง แต่สำหรับ Matilda มันส่ายหางไม่หยุดเลย ราวกับจะบอกว่ามีความสุขตลอดเวลา จนเมื่อ Rich ใส่ปลอกคอให้…
-
25 ภาพอนิเมชั่นจากการ์ตูน Ghibli ที่จะทำให้คุณสัมผัสความรู้สึกฟินแบบขั้นสุด
ถ้าพูดถึง Studio Ghibli เราก็คงนึกถึงการ์ตูนค่ายหนึ่งของญี่ปุ่นที่ทำการ์ตูนแต่ละเรื่องออกมาได้ดีงามมากๆ จนถึงกับเคยได้รับรางวัลออสการ์มาแล้ว!! ถึงแม้ว่าเราจะเกิดไม่ทัน แต่เราก็ตามเก็บ ตามดูทุกเรื่องที่ค่ายนี้ทำจนหมด เรียกได้ว่าเป็นค่ายที่ครองใจใครหลายคนเลย วันนี้ทางเว็บไซต์ buzzfeed ได้รวบรวมฉากต่างๆ จากการ์ตูนเรื่องต่างของ Studio Ghibli ในรูปแบบ GIF ที่รับรองได้เลยว่ายิ่งดูยิ่งฟิน อื้มมม 1. เป็นการหั่นไข่ดาวที่เกร๋มาก 2. ขึ้นแล้วลงไปพร้อมๆ กัน 3. กลับไข่เจียวแบบมืออาชีพ 4. มันก็จะรู้สึกบุ๋งๆ หน่อยอ่า 5. ความวุ่นวายแบบคิ้วท์ๆ 6. คนอาหารแบบนุ่มละมุนแต่ได้อารมณ์ 7. หายใจเข้า หายใจออก 8. เป็นการปอกเปลือกสัปรดที่นิ่มและลื่นปึ๊ดมาก 9. สบัดหางม้าแบบพลิ้วสวาย 10. กุ้งทอดที่มีความกรุบกรอบจนเรายังสัมผัสได้ 11. โอ้ยยย น้ำลายหกหมดแล้วพี่เอ้ย 12.…
-
ผลจากพายุฮาร์วีย์ ทำให้มดคันไฟต้องรวมกันเป็นเกาะ เพื่อความอยู่รอดในภาวะน้ำท่วม
ตั้งแต่พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ถล่มเท็กซัสในช่วงที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ได้สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินชีวิตมากมาย ซึ่งบางชีวิตต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเอง โดยเฉพาะสัตว์ที่มักจะถูกช่วยเหลือหลังมนุษย์ สัตว์ที่กำลังถูกพูดถึงในขณะนี้คือมดคันไฟ ที่ได้รวมตัวกันเพื่อความอยู่รอด จนทำให้เกิดเกาะมดขึ้นเป็นแห่งๆ ลอยอยู่เหนือน้ำในฮุสตัน มดคันไฟขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในมดที่กัดเจ็บมากที่สุด แถมยังมีพิษอ่อนๆ ด้วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เราจะพูดถึง สิ่งที่อยากให้เพื่อเห็นในวันนี้คือ วิธีเอาตัวรอดของมดคันไฟในภาวะน้ำทั่ว พวกมันทีทักษะในการเอาตัวรอดด้วยตัวเอง โดยการรวมตัวกันแล้วสร้างแพหรืออะไรบางอย่างที่ดูเหมือนเกาะกลางน้ำ เพื่อที่อยู่ที่ปลอดภัยในช่วงวิกฤตนี้ การวิจัยในเดือนกรกฎาคมโดยนักวิจัยจาก Georgia Institute of Technology พบว่า มดคันไฟสามารถเชื่อมต่อร่างกายของพวกมันเข้าด้วยกันได้ โดยใช้แผ่นเหนียวๆ ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า เมื่อพวกมันรวมตัวกันมากขึ้นๆ มันจะดูคล้ายกับกองดินหรือเศษไม้ และนี่คือคลิปวิดีโอที่ถ่ายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาในบริเวณฮุสตัน เป็นภาพที่เหล่ามดคันไฟรวมตัวกันแล้วลอยอยู่เหนือน้ำ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอย่าเข้าไปสัมผัสมันเด็ดขาด เพราะไม่ใช่แค่เป็นการทำลายพวกมันเอง แต่ตัวคุณเองอาจตกอยู่ในอันตรายด้วย จากคลิปนี้ ทำให้นึกย้อนไปถึงการวิจัยเมื่อปี 2011 จากวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences พบว่า เมื่อมดคันไฟรวมตัวกันเป็นกลุ่ม พวกมันจะสามารถลอยอยู่บนน้ำได้ตั้งแต่เป็นวันไปจนถึงสัปดาห์ ที่สำคัญมันสามารถรวมตัวกันเป็นเกาะขนาดใหญ่แบบนี้เร็วที่สุดเพียง 100…
-
เจ้าของโชว์ภาพ ‘น้องหมาที่รู้สึกผิดจนต้องไปแอบหลังตู้เย็น’ หลังทำบ้านเละกระจุย
ใครที่เลี้ยงสุนัขคงจะเจอพวกมันก่อความวุ่นวายอยู่บ่อยๆ แต่เชื่อมั้ยว่าพวกมันไม่ได้ตั้งใจทำให้เราโกรธนะ มันแค่อยากเล่นสนุกเท่านั้นเอง อย่างกรณีนี้เมื่อ Jennifer Kinderman วัย 23 ปี จาก Canutillo รัฐเท็กซัส กลับมาบ้านแล้วพบว่าที่นอนถูกฉีกกัดออกเป็นชิ้นๆ กระจายทั่วห้อง ส่วนผู้ต้องสงสัยไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร เธอมีสุนัขตัวแสบอยู่สองตัว คือ Abby และ Tobby แต่จากท่าทางของพวกมันเห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นฝีมือของสุนัขตัวไหน Kinderman เล่าว่าเธอออกไปทำธุระข้างนอกเพียงไม่กี่ชั่วโมง พอกลับมาก็เจอเศษฟองน้ำกระจายอยู่ทั่วพื้นห้องนั่งเล่น เธอจึงได้ถ่ายรูปไปให้คู่หมั้นของเธอดู แล้วบอกเขาว่า “ดูสิ่งที่ลูกเธอทำสิ” แล้วเธอก็หันไปถามเจ้าหมาทั้งสองว่า “ตัวไหนทำ บอกมาซิ?” เท่านั้นแหละ เจ้า Tobby รีบวิ่งไปแอบหลังตู้เย็นทันที จนเจ้าของคิดว่าเป็นฝีมือมันตัวเดียว แต่พอมาคิดอีกที นี่คงไม่ใช่ฝีมือมันตัวเดียวแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้เจ้า Abby ก็เคยทำเตียงตัวเองพังมาแล้วครั้งหนึ่ง นี่มันต้องเล่นด้วยกันแน่ๆ แต่ก็นั่นแหละ Abby ดูไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด ในขณะที่เจ้า Tobby กลับแสดงพิรุธออกมาชัดเจนซะจนเจ้าของคิดว่าเป็นฝีมือมันทั้งหมด อย่างไรก็ตามในขณะที่ Kinderman ทำการเก็บกวาดฝีมือของเจ้าหมาตัวแสบนั้น Abby เองก็คงรู้สึกผิดเช่นกัน มันก็เลยคาบของเล่นตัวเองมาให้เจ้าของเพื่อเป็นการขอโทษ ส่วน Tobby ยังคงแอบอยู่หลังตู้เย็นจนกระทั่งเจ้าของทำความสะอาดเสร็จ ในที่สุดมันก็เดินออกมาแล้วไปขอคุกกี้กับเธอ เพราะนั่นเป็นของโปรดของมัน แม้จะรู้สึกหงุดหงิดบ้างเวลาเจอแบบนี้ แต่เจ้าของบอกว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ เพราะพวกมันมักจะมีมุมน่ารักๆ ทำให้เธอยิ้มได้อยู่เสมอ …
-
27 ภาพ “คุณแม่กับลูกสาว” ที่เหมือนอยู่ในวัยเดียวกัน นึกว่าเป็นเพื่อนสาวกันซะมากกว่า
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่แม่ลูกจะมีหน้าตาเหมือนกัน โดยเฉพาะลูกสาวกับแม่ แต่ต่อให้เหมือนกันมากแค่ไหน ริ้วรอยแห่งวัย จะทำให้เราดูออกว่าใครเป็นลูกหรือใครเป็นแม่ แต่สำหรับคู่แม่ลูกเหล่านี้ ดูเหมือนริ้วรอยหรือความต่างของวัยจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้เลย เพราะแต่ละคู่นั้นหน้าตาเหมือนอยู่ในวัยไล่เลี่ยกันจนคิดว่าเป็นพี่สาวกับน้องสาว 1. นักแสดง Reese Witherspoon วัย 41 ปี กับลูกสาว Ava Phillippe วัย 17 ปี 2. แม่(ซ้าย) วัย 43 กับลูกสาวฝาแฝด 3. แม่วัย 41 ปี กับลูกสาว ที่เปรียบเสมือนคู่เพื่อนซี้ 4. แม่(คนมวยผม) กับลูกสาวทั้งสอง 5. เมื่อลูกสาวโตจนถึงวัยที่เหมือนแม่เป๊ะ 6. คนกลางคือแม่วัย 63 ปี คนขวาคือลูกสาววัย 41 ปี และคนซ้ายลูกสาววัย 36 ปี 7. แม่วัย 43 ปี…
-
ย้อนดู 14 ความรัก ‘วัยป๊อปปี้เลิฟ’ อันหอมหวาน ที่จะทำให้หวนนึกถึงสมัยรักไร้เดียงสา…
ขึ้นชื่อว่า ‘ความรัก’ มันก็มักจะเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ โดยเฉพาะความรักครั้งแรก ป๊อปปี้เลิฟ หรือรักในวัยเด็ก เพราะคุณจะรู้สึกตื่นเต้นกับทุกๆ อย่างที่ได้ทำครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นการบอกรัก การได้จับมือ หรือแม้แต่เวลาพูดคุยกัน เราลองมาย้อนอดีตกันซะหน่อยดีกว่า ว่าตอนเป็นเด็กแล้วมีความรักครั้งแรก เราเป็นแบบนี้กันบ้างมั้ย อื้มมม วัยเด็กเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว… 1. เมื่อคุณตกหลุมรักใครสักคน คุณจะส่งโน๊ตหยอดคำถามไปให้เขาหรือเธอ 2. เมื่อได้จับมือกันครั้งแรก คุณจะรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้องฟ้าเต็มไปหมด 3. เวลาบอกรักเค้าแล้ว คุณจะขอให้เขารักตอบด้วย 4. ไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะทำด้วยกันเสมอ 5. ทำตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋เลย 6. แอบเอาของขวัญ ดอกไม้ หรือขนม ไปไว้ที่กระเป๋าของเค้า 7. เมื่อคุณชวนอีกฝ่ายไปดูหนัง แต่อีกใจก็กลัวถูกปฏิเสธ ก็เลยทำเป็นชวนเฉยๆ ไม่คาดหวังหรอก แต่ในใจหวังไว้สูงมาก… 8. เมื่อคุณไม่รู้จะพูดอะไรดี ก็เลยวาดภาพไปแทน 9. เมื่อคุณได้จูบครั้งแรก…
-
พาชม “สนามเด็กเล่นร้าง” ที่น่ากลัวที่สุดในรัสเซีย มีแต่ความหลอนเท่านั้นให้คุณสัมผัส
เมื่อพูดถึงสนามเด็กเล่น เราคงจะนึกถึงบรรยากาศความสนุกสนานที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นต่างๆ รูปปั้น พื้นที่วิ่งเล่น และสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็กๆ อีกมากมาย แต่ทั้งหมดที่กล่าวไปนั้น คุณจะไม่มีทางสัมผัสได้จากที่แห่งนี้แน่นอน เพราะนี่คือสนามเด็กเล่นที่ถูกทิ้งร้างในรัสเซีย ซึ่งมีบรรยากาศไม่ต่างอะไรจากบ้านผีสิงเลย สิ่งที่ทำให้บรรยากาศของสนามเด็กเล่นแห่งนี้ดูน่ากลัวไม่ใช่แค่เพราะมันถูกทิ้งร้าง แต่รูปปั้นต่างๆ ที่เคยดูน่ารัก สวยงาม ตอนนี้มันเสื่อมสภาพ หัก พัง จนทำให้ดูหลอนอย่างบอกไม่ถูก ยิ้มหลอนๆ ของเหล่าหุ่นยาง แม้แต่ M&M ก็ดูน่ากลัวเมื่ออยู่ในสนามเด็กเล่นร้างแห่งนี้ ถ้าไปตั้งที่อื่น มันคงจะให้ความรู้สึกน่ารักอยู่หรอก แน่ใจนะว่านี่ทำมาเพื่อเด็กเล็ก . อวสานการ์ตูนที่เด็กๆ ชื่นชอบ “ลูกหมูสามตัว” สยดสยองที่สุด สาบาญว่านี่คือครอบครัวสุขสันต์ เล่นไปคนเดียวเถอะ . เหมือนโดนจ้องตลอดเวลา . . . แบบนี้มันต่างจากบ้านผีสิงตรงไหน . มาเล่นกันเถอะ .…
-
ผู้เชี่ยวชาญแนะ 18 เทคนิคการเข้าสังคมแบบง่ายๆ จะทำให้คุณกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน
ในยุคที่สื่อ เทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อชีวิตเรานี้ อาจทำให้หลายคนมีปัญหาในการเข้าสังคม แล้วคุณรู้มั้ยว่าสาเหตุที่แท้จริงของปัญหานั้นคืออะไร และคุณควรจะแก้ยังไง? มีข้อแนะนำกว่า 83 ข้อ สำหรับการแก้ปัญหาเหล่านี้ แต่เว็บไซต์ Businessinsider ร่วมมือกับ Kathleen Elkins และ Natalie Walters ได้คัดเลือกที่ดีที่สุด 18 ข้อดังนี้ 1. สบตากับคู่สนทนา การสบตาผู้พูดหรือผู้ฟัง จะสร้างความมั่นใจกับคุณมากกว่าการแสดงออกทางพฤติกรรม ทั้งยังแสดงถึงความจริงใจที่คุณมีต่อคู่สนทนาด้วย 2. เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า Basil Chiasson แนะนำว่า เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าจนกว่าการสนทนาจะจบลง มองไปที่ผู้พูดและให้ความสนใจ หยุดทำเรื่องส่วนของคุณ และอย่าขัดจังหวะ 3. เรียกชื่อแทนสรรพนาม เมื่อคุณทักทายใครสักคนด้วยการเรียกชื่อ พวกเขาจะรู้สึกดีกว่าการใช้คำสรรพนามแทน แต่ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการจำชื่อ ให้ลองใช้วิธีเขียนชื่อพวกเขากับใบหน้าที่ทำให้คุณจำง่าย ประมาณ 2-3 ครั้ง คุณจะจำชื่อพวกเขาได้อย่างขึ้นใจ 4. ยิ้ม คุณอาจไม่รู้ว่าการยิ้มนั้นมีพลังมาก เวลาที่มีคนพูดแล้วคุณยิ้ม หัวเราะ หรือแสดงสีหน้าตามเรื่องที่พวกเขาพูด มันเป็นการสะท้อนว่าคุณให้ความสนใจโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ เช่นเดียวกัน หากคุณอยากให้คนสนใจเรื่องที่คุณพูด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ลองใช้ภาษาท่าทางประกอบ…
-
รู้จักกับ 9 โรคแปลกๆ ที่เกิดขึ้นเฉพาะในบางเมือง และเกิดเฉพาะกับคนบางพื้นที่เท่านั้น
ในโลกนี้มีโรคต่างมากมาย แต่เชื่อมั้ยว่าต่อให้เราเป็นคนเหมือนกัน แต่โรคบางชนิดที่เราเป็น คนที่อื่นอาจไม่เป็น เช่นเดียวกัน บางโรคคนที่อื่นเป็น แต่เราเป็นไม่ได้ เพราะโรคเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะในบางพื้นที่เท่านั้น 1. อินเดียซินโดรม ทุกๆ ปี ผู้คนจากทั่วโลกจะเดินทางไปยังอินเดียเพื่อแสวงบุญ แต่มีบางคนที่ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย ทั้งนี้เป็นเพราะในอินเดียมีลัทธิต่างๆ มากมาย บางลัทธิมีการวิธีการดึงดูดจนทำให้ผู้แสดวงบุญรู้สึกติดเหมือนการติดยาจนถอนตัวไมได้ การฝึกทำตามวิถีของลัทธิอาจทำให้นักเดินทางบางคนสูญเสียความเป็นตัวเอง และมอบชีวิตให้สิ่งตัวเองนับถือ ภาวะเช่นนี้เรียกว่า “โรคอินเดีย” โรคนี้มักเกิดกับคนตะวันตกที่เดินทางไปหาที่พึ่งพาในอินเดีย เพราะวัฒนธรรมต่างๆ ในอินเดียมักจะทำให้คนตะวันตกรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลา โรคนี้อาจจะหายไปเมื่อพวกเขาได้กลับบ้าน สัมผัสบรรยากาศเดิมๆ ที่บ้าน แต่บางคนไม่สามารถแก้ได้ พวกเขาจะกลายเป็นคนประสาทหลอนถาวร และจะหายได้ต่อเมื่อเสียชีวิตเท่านั้น เพิ่มเติม culteducation 2. สตอกโฮล์มซินโดรม โรคนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้คนถูกทำร้ายร่างกาย แต่พวกเขากลับไม่เอาผิดคนทำร้าย ตรงข้าม กลับเห็นอกเห็นใจและยอมให้ตัวเองถูกทำร้ายต่อไป รวมทั้งอาจมีความรู้สึกเสน่หาต่อคนร้ายด้วย โรคนี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1973 เมื่อมีคน 4 คน ถูกนาย Jan-Erik Olsson วัย 32 ปี จับเป็นตัวประกันระหว่างทำการปล้นธนาคาร เมื่อการปล้นจบลง…
-
สภาสั่ง “ยิงกระต่ายทุกตัว” ที่มากินดอกไม้บนหลุมศพในสุสาน หลังถูกญาติผู้ตายร้องเรียน!!
เวลาที่เห็นภาพกระต่ายอยู่ท่ามกลางดอกไม้ มันช่างเป็นภาพที่สวยงาม เห็นแล้ว สบายตาเป็นที่สุด แต่ตอนนี้ทางสภาในคัมเบรีย ได้ออกมาประกาศว่า หากพบกระต่ายกินดอกไม้ให้ยิงทิ้งทันที!! เป็นเวลาหลายปีที่สภา Allerdale Council ในคัมเบรียพยายามจะหยุดกระต่ายจากการกินดอกไม้ไว้ทุกข์ที่ญาติเอามาไว้บนหลุมศพคนตายในสุสาน Cockermouth แต่ก็ไม่สำเร็จ และตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการฆ่ากระต่ายซะ เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้คนรักสัตว์เป็นอย่างมาก ในปีนี้กระต่ายกว่า 30 ตัว ถูกยิงตายในสุสาน Cockermouth ที่สำคัญสุสาน Maryport ก็ใช้วิธีเดียวกันนี้กำจัดกระต่ายเช่นกัน Jaquie Stobbart จาก Cockermouth กล่าวว่า “กระต่ายไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พวกมันกินนั้นหมายความว่าอะไร ดังนั้นการฆ่าพวกมันดูจะโหดร้ายเกินไป และมนุษย์เองก็ไม่ควรฆ่าสัตว์เพียงเพราะเหตุผลแค่นั้น” “ผมมั่นใจว่าการแก้ปัญหาเช่นนี้เป็นความต้องการของคนกลุ่มน้อยเท่านั้น และต่อให้ใช้วิธีนี้ก็ไม่สามารถหยุดพวกมันให้มากินดอกไม้ได้หรอก มีแต่จะทำลายเผ่าพันธุ์กระต่ายเท่านั้น” “การแก้ปัญหาแบบนี้จะจบลงอย่างไร เมื่อไหร่ เพราะสัตว์ป่ามีอยู่ทุกที่ และการที่พวกมันกินดอกไม้ก็เพื่อความอยู่รอด มันเป็นวิถีแห่งธรรมชาติ” ทางด้าน Len Davies ที่ปรึกษาของ Cockermouth กล่าวว่า “เราจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่าง เพราะผู้คนต่างโมโห เมื่อดอกไม้ที่พวกเขาเพิ่งเอามาวางถูกกระต่ายกินจนไม่เหลือชิ้นดี” “ผมเป็นคนรักสัตว์นะ แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถหาวิธีอื่นในการแก้ปัญหาได้ นอกจากการฆ่าพวกมัน และผมก็ไม่รู้ว่ามันจะมีวิธีไหนที่ดีกว่านี้มั้ย” Davies บอก นอกจากนี้การแก้ปัญหาดังกล่าวก็ผ่านความเห็นชอบจากสภา Allerdale แล้วด้วย โดยอนุญาตให้ยิงกระต่ายที่มาขุดหลุมหรือการระทำอื่นๆ ที่คุกคามหลุมศพ …
-
คุณแม่ได้รับจดหมายปลอบใจจากคนแปลกหน้า ช่วยเยียวยาหัวใจหลังสูญเสียลูกชาย
กำลังใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนที่เสียใจ หมดหวัง หรือท้อแท้ แต่ไม่ว่ากำลังใจนั้นจะมาจากใครก็ตาม มันก็คือสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้ Tricia Belstra กำลังเดินทางไปยังชิคาโก เพื่อไปจัดงานศพให้ลูกชาย Kyle วัย 25 ปี ที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา แน่นอนว่าหัวอกคนเป็นแม่นั้นต้องเสียใจมากเมื่อมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่เมื่อเครื่องลงจอดเธอก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งจากคนแปลกหน้า ตอนที่ได้รับข่าวร้ายของลูกชายนั้น Tricia กำลังอยู่ที่บ้านในโคโลราโด เธอบอกกับสำนักข่าว BBC ว่า “มันเป็นวันที่เลวร้ายที่สุด ฉันจมอยู่กับความทุกข์ทรมานใจตลอดทั้งอาทิตย์นั้นเลย” จากนั้นเธอพร้อมลูกสาวและสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ จึงได้เดินทางไปยังเซาธ์เบนด์ รัฐอินเดียนา เพื่อจัดงานศพให้กับลูกชายที่จากไป ตอนที่อยู่บนเครื่อง Tricia นั่งอยู่ระหว่างคนแปลกหน้าสองคน และเธอก็ถุงอ้วกอยู่ระหว่างขา จากนั้นก็มีพนักงานเดินเข้ามาถามว่าเธอโอเคมั้ย คุณแม่บอกว่าตอนนี้เธอรู้สึกแย่ เพราะกำลังเดินทางไปจัดงานศพให้กับลูกชาย ซึ่งจะมีขึ้นในวันถัดไป ไม่ใช่แค่จิตใจที่บอกช้ำ ตอนนี้ร่างกายของ Tricia อ่อนโรยริน และมือของเธอก็สั่นตลอดเวลา แม้แต่การเทน้ำใส่แก้วก็ดูจะลำบาก จนผู้โดยสารที่นั้งข้างๆ อาสาเทให้ จนกระทั่งเครื่องลงจอด พนักงานก็นำกระดาษโน๊ตใบหนึ่งมากับให้ Tricia เธอรับมันไว้แล้วขอบคุณก่อนจะลงจากเครื่องไป ขณะที่ออกจากเครื่องแล้วเดินทางตามทางเดิน คุณแม่ก็หยิบกระดาษใบนั้นออกมาดู แล้วเธอก็ถึงกับร้องไห้ออกมาทันที …
-
เท็กซัสเจอวิกฤติหนัก น้ำท่วมสูงต่อเนื่อง จนมีจระเข้ออกมาว่ายน้ำในสวนหลังบ้านแล้ว!?
เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม นอกจากต้องปกป้องทรัพย์สินให้เสียหายน้อยที่สุดแล้ว เรายังต้องปกป้องชีวิตจากอันตรายที่อาจจะมากับน้ำ เช่น งู หรือ จระเข้!! เหมือนอย่างเท็กซัสในขณะนี้ที่ถูกพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ถล่ม เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ร้ายกว่านั้นคือมีคนพบจระเข้ออกมาว่ายน้ำในเมืองฮูสตันด้วย ผู้หญิงคนหนึ่งจาก Missouri City ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองฮูนตัน ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในเฟซบุ๊ก เป็นคลิปขณะที่จระเข้สองตัวกำลังว่ายน้ำอยู่ในสวนหลังบ้านของเธอที่ถูกน้ำท่วม ทั้งนี้ก่อนที่ฮาร์วีย์จะเข้าหนึ่งสัปดาห์ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ทั่วเท็กซัส ได้ออกมาเตือนประชาชนให้ระวังวัตถุอันตรายที่ลอยไปกับน้ำและสัตว์ร้ายที่อาจโผล่มาได้ทุกเมื่อ สำหรับสถานการณ์ล่าสุดทาง National Hurricane Center ได้ออกมาบอกว่า พายุฮาร์วีย์ได้พัดเข้าใกล้เขตแนวชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ฮุสตันและกัลเวลตัน เมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ยิ่งเป็นการเผยให้เห็นอันตรายที่มีกับพายุดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ในฮูสตันจึงได้ออกมาประกาศเตือนอีกครั้งว่าให้ประชาชนย้ายออกจากพื้นที่น้ำท่วม และยิ่งห่างเท่าไหร่ยิ่งดี นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะยังระบุไม่ได้ว่าเหตุการณ์นี้จะสงบลงเมื่อไหร่ ในขณะเดียวกันทีมช่วยเหลือก็พยายามเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดอยู่ในอาคาร บ้านเรือนออกมาอย่างเร่งด่วนเท่าที่จะทำได้ Keith Smith เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์บอกว่า ปกติแล้วใน 24 ชั่วโมง จะมีคนโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือประมาณ 8,000 สาย แต่ตั้งแต่เกิดพายุฮาร์วีย์มีคนโทรเข้ามากว่า 56,000 สาย ในเวลาเพียง 17 ชั่วโมงเท่านั้น …
-
นักบำบัดเรื่องบนเตียงเผย “คุณควรมีเซ็กส์บ่อยแค่ไหน?” เพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้ยั่งยืน
บางคนมีเซ็กส์วันละหลายๆ ครั้ง บางคนมีเซ็กส์สองสามวันต่อหนึ่งครั้ง ในขณะที่หลายคนเว้นไว้เป็นเดือนเป็นปี แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่าควรมีเซ็กส์บ่อยแค่ไหนมันถึงจะเรียกว่าพอดี? Nelson นักบำบัดเซ็กส์และนักเขียนเรื่อง The New Monogamy กล่าวว่า “หลายคนอยากทราบว่าพวกเขามีเซ็กส์บ่อยเกินไปหรือน้อยเกินไปมั้ย จนบางครั้งพวกเขาก็คิดว่าต้องหาอะไรที่แปลกใหม่ทำบนเตียงกับคู่รัก” เมื่อเกิดคำตามเหล่านี้ Nelson มักจะตอบว่า “ลืมเรื่องความธรรมดาหรือปกติไปเลย เพราะมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญคือคุณควรเรียนรู้ที่จะเอาใจใส่คู่นอนของคุณมากกว่า และยอมรับความต้องการของเขาหรือเธอ แม้มันจะต่างไปจากความต้องการของเราก็ตาม” นอกจากนี้ Nelson และนักบำบัดเซ็กส์คนอื่นๆ ได้แนะนำเกี่ยวกับการมีเซ็กส์ ดังต่อไปนี้ 1. หยุดกังวลเรื่องความบ่อยในการมีเซ็กส์ Dawn Michael นักบำบัดเซ็กส์และนักเขียนเรื่อง My Husband Won’t Have Sex With Me บอกว่า “เมื่อพูดถึงเรื่องเซ็กส์ แต่ละคู่ก็คงมีปัญหาอยู่แล้ว และปัญหาเหล่านั้นที่คุณควรจะใส่ใจ ส่วนเรื่องมีเซ็กส์บ่อยหรื่อไม่นั้น ลืมไปได้เลย” “ถ้าคู่รักมีเพศสัมพันธ์กัน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี และตอนนี้ลดลงเหลือสัปดาห์ครั้ง นั่นหมายความว่ารูปแบบการมีเซ็กส์ของคุณเปลี่ยนไป จนทำให้มีเซ็กส์กันน้อยลง ประเด็นนี้แหละที่คู่รักควรจะมีการพูดคุยกันให้มากขึ้น” แต่ถึงแม้หลายคู่จะบอกว่าพวกเขามีเซ็กส์กันสัปดาห์ละ…
-
พบกับ ‘Frederick The Great’ อาชาหนุ่มโฉมงามไร้ที่ติ จนได้ชื่อว่า ‘ม้าที่หล่อที่สุดในโลก’
หลายคนอาจจะดูไม่ออกว่าม้าตัวไหนหล่อหรือสวยมากน้อยกว่ากัน แต่ไม่ใช่สำหรับม้าหนุ่มตัวนี้แน่นอน เพราะมันทั้งโดดเด่นและหล่อกว่าม้าตัวไหนๆ “Real-life Black Beauty” “Storybook Stallion” หรือ “Fabio of Hoses” ทั้งหมดนี้เป็นเพียงฉายาส่วนหนึ่งที่ผู้คนมักใชเรียก Frederick The Great ม้าหนุ่มวัย 16 ปี Frederick เกิดที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเมื่ออายุ 6 ขวบ มันก็ถูกนำตัวเข้ามาในสหรัฐฯ โดย Stacy Nazario เจ้าของฟาร์มม้า Pinnacle Fiesians ในรัฐ Arkansas Nazario บอกว่าเธอรู้สึกว่าม้าตัวนี้มีความพิเศษตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ Frederick โดมาเป็นม้าที่สง่างามจนมนุษย์เองยังต้องอิจฉาในความหล่อเหลาของมันเลย!! เมื่อช่วงซัมเมอร์ของปีที่ผ่านมา รูปภาพของ Frederick ถูกเผยแพร่สู่โลกโซเชียล จนได้รับการคอมเม้นชื่นชมและถูกแชร์ต่ออีกนับครั้งไม่ถ้วน ผู้คนส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่อยากเชื่อเลยว่ามีม้าที่สง่างามได้ถึงเพียงนี้ ตั้งแต่หัวจรดเท้าของมัน งดงามอย่างไร้ที่ติ บางคนยังยกให้มันเป็นม้าที่หล่อที่สุดในโลกด้วย จนกระทั่งปี 2016 เป็นปีที่ Frederick โด่งดังมากๆ จนกลายที่รู้จักของผู้คนทั่วโลก Stacy…