Author:
-
25 ภาพสมบูรณ์แบบกับเบื้องหลังสุดฮา ทำให้รู้ได้ว่าอย่าเพิ่งปักใจในสิ่งที่เห็นอยู่…
การถ่ายภาพให้ออกมาสวยสมบูรณ์แบบนั้น ช่างภาพจำเป็นต้องมีทักษะในการถ่ายรูปบวกกับความสามารถในการแต่งรูปอีกระดับหนึ่ง แม้ว่าปัจจุบันนี้ช่างภาพมักจะอาศัยเทคโนโลยีในการช่วยแต่งรูปเป็นส่วนใหญ่ แต่บางทีมันก็อาจจะไม่เพียงพอ พวกเขาก็เลยต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการจัดฉากหรือทำโน่นทำนี่อยู่เบื้องหลังการทำภาพก็ได้ 1. เบื้องหลังภาพพรีเวดดิ้งที่งดงาม 2. หญ้าหลังบ้านนี่แหละ เหมาะกับการถ่ายรูปสุดๆ 3. จ่ะ ฟินจ่ะ ฟินจริงๆ 4. เห็นเค้าถ่ายภาพสวยก็เลยจะเอาบ้าง แต่ต้องต่อคิวนะ 5. อย่างเจ๋ง 6. สร้างบรรยากาศด้วยตัวเอง 7. สมมติว่ามีรถเยอะ 8. เบื้องหลังความคูล 9. อยากได้ภาพสวยต้องลงทุนกันหน่อย 10. ก็ว่า ทำไมถ่ายกี่ทีๆ ก็ไม่เห็นควันชัดแบบนี้สักที 11. ใครๆ ก็เป็นฮิปสเตอร์ได้ 12. เนรมิตทะเลให้สวยดังใจ 13. โลเคชั่นถ่ายรูปไม่ต้องไปไหนไกลหรอก คันคลองข้างบ้านนี่แหละ 14. เบื้องหลังภาพใต้น้ำ…
-
สุดยอดงาน “ถักโครเชต์ยักษ์” ทีมงานร่วมถักกว่า 50 ชีวิต และสำเร็จภายใน 2 ชั่วโมง
เมื่อพูดถึงการถักโครเชต์ หลายคนมักจะเข้าใจว่าเป็นกิจกรรมยามว่างของคนเฒ่าคนแก่ เพราะเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับงานฝีมือด้านนี้เหมือนเมื่อก่อน แต่จริงๆ แล้ว การถักโครเชต์นอกจากจะเป็นงานฝีมือแล้วยังถือเป็นศิลปะชั้นยอดที่ต้องอาศัยเวลาในการสร้างสรรค์ขึ้นมา แต่จะใช้เวลานานแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับ รูปทรง ลวดลาย และขนาดด้วย อย่างผลงานการถักโครเชต์ยักษ์ที่ลอยอยู่เหนือ Marina Bay ในประเทศสิงคโปร์ ก็ถือเป็นงานศิลปะที่มีความสร้างสรรค์จนทำให้เด็กรุ่นใหม่หันมาสนใจการถักโครเชต์อีกครั้ง งานโครเชต์ยักษ์นี้เป็นทรงกึ่งกลม มีขนาด 17 เมตรน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม โดยอาศัยทีมงาน 50 คนในการถักและใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงต่อหนึ่งลูก โครเชต์แต่ละลูกจะมีลวดลายที่ละเอียดมากๆ แสดงให้เห็นถึงความประณีตในการถัก นอกจากลวดลายแล้ว มันยังคุณสมบัติพิเศษคือ กลางวันมันดูโดดเด่นอยู่กลางแดด ส่วนกลางคืนมันจะเรืองแสงท่ามกลางความมืด และผู้ที่อยู่เบื้องหลังงานโครเชต์ยักษ์นี้คือ Choi+Shine กลุ่มสถาปนิกจากลอนดอนและโซล ที่ได้ออกแบบมาเพื่อจัดแสดงในงาน 2017 iLight Marina Bay Festival ที่ประเทศสิงคโปร์ นับตั้งแต่งานโครเชต์ยักษ์ถูกจัดแสดง ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาจำนวนมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย นี่อาจจะกลายเป็นการจุดประกายให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจการถักโครเชต์มากขึ้นก็ได้ มันอาจจะต้องใช้เวลา ใช้ความอดทน แต่เมื่อถักเสร็จคุณจะรู้สึกว่ามันคุ้มค่ามาก . . .…
-
ญี่ปุ่นเตรียมเปิดบริการ “รถไฟโปเกม่อน” พร้อมพาผู้โดยสารไปโลดแล่น ในช่วงซัมเมอร์นี้!!
เมื่อพูดถึงรถไฟหลายคนอาจจะนึกถึงความแออัดและความเชื่องช้า โดยเฉพาะรถไฟในญี่ปุ่นที่มักจะเต็มไปด้วยคนที่เดินทางไปทำงานหรือไปเรียน แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกเดินทางหลักของประเทศนี้เลยล่ะ… แต่ตอนนี้คุณอาจจะต้องหันมาให้ความสนใจกับรถไฟขึ้นมาก็ได้ เพราะตอนนี้จะมีการเปิดตัว Pokémon with You Train ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าธีมโปเกม่อนที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วงวันหยุดในฤดูร้อนนี้โดยเฉพาะเลย!! จริงๆ แล้วรถไฟ Pokémon with You Train นั้นได้เปิดให้บริการครั้งแรกในช่วงฤดูหนาวของปี 2012 ที่แม้ว่าจะไม่ได้วิ่งทุกวันแต่ก็มีผู้ที่เคยใช้บริการแล้วกว่า 40,000 คน และยิ่งได้รับความสนใจยิ่งขึ้นในช่วงที่เกมโปเกม่อนฮิตมากๆ อีกด้วย สำหรับตัวรถไฟนั้น ด้านนอกจะถูกตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนจากโปเกม่อนโดยเน้นสีสันสดใส ส่วนด้านหน้าจะเป็นตัวพระเอกของเรานั้นก็คือปิกาจูผู้นำทัพที่น่ารักที่สุด ในขณะที่ภายในก็มีความมุ้งมิ้งไม่แพ้กัน เพราะทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ ผ้าม่าน หรือแม้แต่พื้นก็จะถูกตกแต่งด้วยลายและสีสันแบบปิกาจูทั้งหมด รถไฟขบวนพิเศษนี้ทำขึ้นมาเพื่อให้ชาวสาวกโปเกมอนได้มีประสบการณ์การเดินทางที่แสนวิเศษและน่าจดจำ และไม่ใช่เฉพาะผู้ใหญ่หรือวัยรุ่น แต่มีที่นั่งสำหรับเด็กเล็กด้วย เรียกได้ว่าใส่ใจทุกวัยไม่มีพลาดอยู่แล้ว สำหรับเส้นทางการเดินรถไฟนั้น จะไปกลับสาย Ofunato ที่ทอดยาวจากสถานี Ichinoseki ทางตอนใต้ของจังหวัดอิวะเตะ ไปยังสถานี Kesennuma ทางตอนเหนือของจังหวัดมิยะงิ ซึ่งหากใครได้ติดตามข่าวจะรู้ว่า ทางภาคเหนือของญี่ปุ่นเคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและสินามิในปี 2011 ดังนั้นจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารถไฟโปเกม่อนนี้จะสร้างรอยยิ้มให้กับคนในพื้นที่หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาแล้ว ส่วนใครที่อยากไปมีประสบการณ์การเดินทางไปพร้อมเหล่าโปเกมอน รถไฟ Pokémon with You Train จะเปิดให้บริการครั้งแรกของปี 2017 ในวันที่ 15…
-
ชายพิการผู้ไม่เคยย่อท้อ พิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน ฝ่าฟันจนได้เป็นจิตรกรระดับโลก!!
บางคนอาจจะคิดว่าคนพิการคือคนที่ไร้ความสามารถ แต่หากเราลองเปิดใจและเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถ พวกเขาอาจจะทำได้มากกว่าที่เราคิดก็ได้ อย่าง Rakan Abdulaziz Kurdi จากซาอุดิอาราเบีย ที่มีความพิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่ทว่าความพิการไม่ได้ทำให้เขายอมแพ้ที่จะทำตามความฝันได้เลยแม้แต่น้อย Rakan เป็นคนที่ชอบวาดรูป ตอนเด็กๆ เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นจิตรกรผู้มีชื่อเสียง แต่ตอนนั้นผู้คนรอบข้างต่างคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ไม่ได้ เพราะเขามีร่างกายพิการจนแทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ความพิการไม่ได้ทำให้ Rakan รู้สึกด้อยไปกว่าคนอื่นๆ เขายังคงมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตัวเองรัก จนในที่สุดเขาก็สำเร็จการศึกษาเหมือนคนอื่นๆ หลังจากเรียนจบแล้ว เขาไม่ได้นิ่งเฉย แต่ใช้ความรู้ความสามารถที่มีเพื่อสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองขึ้นมา จนตอนนี้ได้กลายเป็นจิตรกรมืออาชีพและนักออกกราฟิกไปแล้ว และสิ่งที่หลายคนคิดไม่ถึงคือ เขาแต่งงานมีครอบครัวแล้วด้วย… Rakan ได้พิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นว่า ความพิการไม่ใช่ข้อจำกัดในการบรรลุเป้าหมาย และเมื่อได้เห็นผลของเขาแล้วก็เชื่อเลยว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ สำหรับผลงานของชายผู้พิการคนนี้ บอกได้เลยว่าสลวยสวยงาม เลอค่ามากๆ เพราะหลายคนที่แม้มีร่างกายสมบูรณ์ก็ยังไม่สามารถทำได้ถึงขนาดนี้เลย ความสำเร็จของ Rakan นอกจากจะเป็นการพิสูจน์ตัวเองแล้ว เขายังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้พิการทั่วโลกรวมทั้งคนที่กำลังท้อแท้ด้วย และเป็นข้อคิดที่ดีสำหรับผู้อื่นที่ว่าถ้าหากเราพยายามแล้ว ซักวันหนึ่งความสำเร็จก็จะงอกเงยตอบแทนในความพยายามนั่นเอง . . . . . . . . .…
-
เด็กชายวัย 5 ขวบชอบใส่กระโปรง แต่พ่อแม่ก็ไม่ขัดใจ พร้อมสนับสนุนในสิ่งที่เขารัก…
รสนิยมเป็นความชอบส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใครและไม่จำเป็นต้องมีใครเหมือน ถ้าหากว่าคนอื่นไม่ชอบในสิ่งที่เราเป็น ก็อย่าไปใส่ใจให้มากมายตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลเดือดร้อนต่อชีวิตของคนอื่น อย่าง Cian เด็กชายวัย 5 ขวบ ที่ชอบใส่กระโปรงเป็นชีวิตจิตใจ โดยที่พ่อแม่ก็ยอมรับในรสนิยมของเขาและสนับสนุนให้เขาได้ทำในสิ่งที่รักเสมอ Cian เป็นเด็กชายมีนิสัยเหมือนเด็กผู้ชายคนทั่วไปคือ ชอบเล่นเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ ชอบเล่นรถแข่ง และตัดผมสั้นอย่างที่เห็น นั่นเป็นเพราะเขาเป็นเด็กผู้ชาย แต่เพศของเขาไม่ได้กำหนดว่าต้องชอบหรือไม่ชอบอะไร นั่นหมายความว่าการเป็นเด็กผู้ชายไม่ได้หมายความว่าจะใส่กระโปรงไม่ได้หรือเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ไม่ได้ ทางด้านพ่อแม่เองก็เลี้ยงลูกในฐานะลูก โดยไม่มีกฎตายตัวว่าต้องทำอะไรที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับเพศของลูก ของแค่เป็นสิ่งที่ลูกรักและมีความมั่นใจกับสิ่งนั้นก็พอ พ่อแม่ยังบอกอีกว่าพวกเขาไม่เคยสอนลูกว่า “นี่สำหรับผู้หญิงหรือนั่นสำหรับผู้ชาย” และจะไม่มีวันสอนลูกแบบนั้นด้วย เพราะคิดว่าไม่จำเป็น ความคิดดังกล่าวนี้อาจจะดูแตกต่างจนพ่อแม่หลายๆ คนไม่เห็นด้วย แต่พ่อแม่ของ Cian ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าอย่างน้อยลูกก็ได้ทำในสิ่งที่รัก ดีกว่าไปบังคับให้เขาทำสิ่งที่ไม่ชอบ การที่ลูกมีรสนิยมที่แตกต่าง พวกเขาก็คงอยากแสดงออกอย่างมั่นใจและอยากได้รับการยอมรับโดยเฉพาะกับพ่อแม่ ดังนั้นพ่อแม่ของเด็กชายจึงเลือกที่จะเป็นผู้ปกครองในแบบที่ลูกต้องการ ตอนนี้พ่อแม่เองไม่แน่ใจว่าลูกอยากเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ เพราะเขาชอบใส่กระโปรงแต่ชอบเล่นเป็นไอรอนแมน แต่พ่อแม่เชื่อว่าเมื่อเขาโตขึ้นเขาจะเลือกได้เองว่าจะเป็นอะไร วันหนึ่งเขาอาจจะกลับมาบอกพ่อแม่ว่าอยากผ่าตัดแปลงเพศ อยากเป็นเหมือนผู้หญิง แต่ไม่ว่าเด็กชายจะเลือกทางไหนพ่อแม่ก็พร้อมที่จะสนับสนุนเขาเสมอ . . . แต่แต่งตัวดูดีแบบนี้ ก็หล่อไม่ใช่เล่นๆ…
-
ทุกคำถามมีคำตอบกับ 12 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ “ฝาแฝด” ที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
ฝาแฝดนอกจากจะมีหน้าตาคล้ายกันแล้ว เรารู้อะไรเกี่ยวกับฝาแฝดอีกบ้าง? หลายคนอาจจะไม่รู้ แต่จริงๆ แล้วพวกเขามีอะไรที่น่าสนกว่าที่คิดซะอีก เนื่องจากประชากรที่เป็นฝาแฝดนั้นมีเพียง 3% ของโลก ดังนั้นคนที่ฝาแฝดมักจะถูกตั้งคำถามจากคนรอบข้างมากมาย พวกเขาต้องตอบแล้วตอบอีก ดังนั้นวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทำความรู้จักกับฝาแฝดมากขึ้น เพื่อช่วยให้คนฝาแฝดไม่ต้องตอบคำถามทุกคน!! 1. ลายนิ้วมือและ DNA ของฝาแฝดไม่เหมือนกัน ฝาแฝดไม่ได้เกิดจากการโคลนนิ่ง ทำให้พวกเขามีลายนิ้วมือที่ไม่เหมือนกัน พวกเขาอาจจะเกิดจากครรภ์เดียวกันแต่ตอนอยู่ในท้องพวกเขาอยู่คนละที่กัน จึงทำให้มีเอกลักษณ์ต่างกัน นอกจากนี้ DNA ของพวกเขาก็ไม่เหมือนกันด้วย เพราะจากการวิจัยพบว่า ฝาแฝดที่แม้จะเหมือนกันแต่พวกเขาสามารถมีลำดับ DNA ที่ต่างกัน ส่วนฝาแฝดที่เป็นหญิง-ชาย เกิดจากความผิดพลาดโครโมโซมที่หาได้ยากมากๆ 2. ฝาแฝดไม่ได้ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น หลายคนเข้าในผิดเมื่อฝาแฝดมีลูกพวกเขาก็จะมีลูกแฝดอีก แต่นักวิทยาศาสตร์ออกมายืนยันว่าฝาแฝดไม่ได้ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งนี้ทั้งฝาแฝดสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ โดยผู้หญิงที่มีฝาแฝดมีแนวโน้มที่จะมีลูกแฝดมากกว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 2.5 เท่า นอกจากนี้การมีฝาแฝดนั้นมักจะถ่ายทอดมาจากยีนของมารดาเป็นสำคัญ และโอกาสในการมีฝาแฝดก็ขึ้นอยู่กับอายุและวิธีการตั้งครรภ์ด้วย 3. ฝาแฝดเกิดมาเพื่อเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน หากใครที่มีฝาแฝด รู้ว่าเลยว่าคุณถูกกำหนดให้มีเพื่อนที่ดีที่สุดตั้งแต่เกิดแล้ว แน่นอนว่ามีฝาแฝดนับร้อยคู่ที่ไม่เห็นด้วยกับคำพูดนี้ แต่ฝาแฝดนั้นจะมีพันธะพิเศษที่เชื่อมพวกเขาไว้ด้วยและไม่อาจปฏิเสธได้ ส่วนสาเหตุที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะพวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าการใช้ห้องร่วมกัน ใส่เสื้อเหมือนกัน ถูกเลี้ยงดูโดยพ่อแม่คนเดียวกัน ดังนั้นจึงยากที่พวกเขาจะไม่เป็นเพื่อนกัน …
-
เด็กชายอ้วนที่สุดในโลก ต้องยื้อชีวิตด้วยการ “ผ่าตัดกระเพาะ” เพื่อให้อิ่มท้องนานขึ้น!!
เมื่อปีที่แล้วเราได้นำเสนอเรื่องราวของ Arya Permana เด็กชายวัย 10 คนหนึ่งที่มีน้ำหนักตัวมากถึง 192 กิโลกรัม จนไม่สามารถเดินได้และต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาดูแลตัวเอง ล่าสุดสื่อนอกมีรายงานความคืบหน้าว่า เด็กชายคนดังกล่าวได้เข้ารับการผ่าตัดเอาไขมันออกแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นเขาอาจจะเสียชีวิตได้!! ปัจจุบัน Arya อายุ 11 ปี เมื่อเดือนที่แล้วเขามีน้ำหนัก 190 กิโลกรัม ซึ่งเท่ากับน้ำหนักของเด็กรุ่นเดียวกันถึง 6 คน แต่กว่าจะเดินได้แต่ละครั้งเขาต้องใช้เวลาถึง 5 นาทีเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเด็กชายก็ไม่สามารถลดปริมาณอาหารลงได้ จนส่งผลต่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ พ่อแม่ของเขา Ade และ Rokayah Soemantri จึงได้พาเด็กชายไปตรวจที่โรงพยาบาล Omni ในจาการ์ตา หลังจากตรวจร่างกายแล้ว คุณหมอแนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เพราะไม่อย่างนั้นเด็กชายจะอ้วนขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่สามารถควบคุมเรื่องอาหารได้ ในที่สุดเด็กชายก็ได้รับการผ่าตัดโดยคุณหมอ Handi-Wing ซึ่งต้องผ่าตัดกระเพาะบางส่วนของเด็กชายออก เพื่อทำให้เขารู้สึกอิ่มนานขึ้น คุณหมอบอกว่าในกรณีของ Arya ถือว่าอยู่ในภาวะของเด็กที่อ้วนที่สุดในโลก หากไม่ได้รับการควบคุมหรือการรักษาที่ถูกต้องอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หลังการผ่าตัดผ่านไป 1 เดือน น้ำหนักของเด็กชายก็ลดลงไปเกือบ 30…
-
ผลงานภาพชุด “แอบถ่ายเพื่อนบ้าน” จนถูกเพื่อนบ้านฟ้อง เพราะคุกคามความเป็นส่วนตัว!?
เป็นปกติที่เราบางคนอาจจะแอบดูเพื่อนบ้านบ้างในบางครั้ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้ามันไม่เข้าข่ายถ้ำมองนะ เพราะบางมีเพื่อนบ้านอาจจะทำเสียงดัง หรือทำอะไรที่เป็นจุดสนใจจนเราต้องหันไปมอง Arne Svenson วัย 60 ปีจากแมนฮัตตันตอนล่าง ก็ชอบแอบมองเพื่อนบ้านในบางครั้งเหมือนกัน เพราะเขามักจะใช้ชีวิตในสตูดิโอของอพาร์ทเม้นต์ ซึ่งเป็นหน้าต่างกระจกที่สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้อย่างชัดเจน หลังจากที่เขาแอบมองเพื่อนบ้านอยู่หลังกระจกหลายต่อหลายครั้ง เขาก็เริ่มที่จะถ่ายรูปสิ่งที่เห็นจนกลายเป็นภาพชุด “แอบถ่ายข้างบ้าน” Svenson บอกว่า “โปรเจคนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อผมมองเพื่อนบ้านผ่านกระจกและได้ถ่ายรูปกิจกรรมต่างๆ ที่พวกเขาทำในแต่ละวัน” เขาบอกอีกว่า “แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ตัวว่าถูกแอบถ่าย แต่ผมก็พยายามที่จะไม่เปิดเผยใบหน้าของพวกเขาเพื่อเป็นการไม่ละเมิดสิทธิครับ ที่สำคัญผมไม่ได้ถ่ายภาพเพื่อระบุตัวตนของพวกเขา แต่ผมถ่ายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์” แม้ว่า Svenson จะไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับเพื่อนบ้าน แต่หลังจากที่รูปเหล่านี้ถูกปรากฏอยู่ในแกลเลอรี่ ก็มีเพื่อนบ้านสองคนที่รู้สึกถูกคุกคามความเป็นส่วนตัวจนนำไปสู่การฟ้องร้อง Svenson ได้พูดในชั้นศาลว่า “ผมไม่ได้ถ่ายภาพอะไรที่มันดูน่าเกลียด ผมได้ถ่ายเพื่อระบุว่าพวกเขาเป็นใคร แต่ผมถ่ายภาพพวกเขาในฐานะที่เป็นตัวแทนมนุษย์คนหนึ่งครับ” “เจตนาของผมคือการถ่ายภาพกิจวัตรประจำวันของมนุษย์ในแต่ละวันที่แตกต่างกัน และวิธีที่เราจะได้ความจริงคือต้องถ่ายโดยไม่ให้พวกเขารู้ตัว” “มันเป็นงานศิลปะที่ต้องการสื่อให้เห็นว่า ธรรมชาติของมนุษย์เรานั้นเป็นยังไง ผมไม่ได้ระบุตัวตนแต่ผมแค่อาศัยช่วงที่พวกเขามีการเคลื่อนไหวบันทึกภาพเท่านั้นเองครับ” หลังจากที่ฟังคำแก้ต่างแล้ว ศาลได้ลงความเห็นว่า Svenson ไม่มีความผิดตามรัฐธรรมมนูญฉบับที่หนึ่งที่พูดถึงเสรีภาพในการแสดงออก นั่นหมายความว่าเขามีสิทธิที่จะถ่ายภาพคนข้างบ้านได้ ตราบใดที่เขาไม่ได้มีเจตนาไม่ได้ดี และไม่ได้ระบุตัวตน . .…
-
คุณพ่อผิวสีผู้ยากจน คืนเงินให้คนที่โอนมาผิด ชาวเน็ตร่วมตอบแทนความดีอย่างท่วมท้น
สังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันเช่นนี้ มักจะหาคนมีน้ำใจหรือมีความซื่อสัตย์ยาก เพราะแต่ละคนต่างก็ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองทั้งนั้น แต่ทว่ายังมีส่วนเล็กๆ ที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสียทีเดียว อย่างเช่น Gerrell McAllister ชายผิวสีผู้ยากจนคนนี้ที่ตัดสินใจนำเงินที่โอนผิดคืนให้เจ้าของ นำไปสู่การช่วยเหลือจากสังคม McAllisterl วัย 28 ปี มีลูกสาววัย 5 ขวบ เขาทำงานเป็นพนักงานแคชเชียร์ที่ร้านขายอาหารสัตว์ในเมือง Tacoma รัฐวอชิงตัน เพื่อหาเลี้ยงดูครอบครัว สื่อรายงานว่าแม่ของเขาเสียชีวิตเมื่อเดือนธันวาคม และพี่ชายของเขา Mario Small ก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น ทำให้ McAllister ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก คุณพ่อผิวสีบอกกับสื่อว่า แม้จะได้รับเงินเยียวยาจากการสูญเสียครอบครัว แต่เงินส่วนที่ได้นั้นพวกเขาให้เป็นค่าเลี้ยงดูลูกสาวของเขามากกว่า ทำให้เขาต้องดิ้นรนเลี้ยงตัวเองและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เหลือ แต่แล้วโชคชะตาก็ทำให้มาเจอกับ Melissa Trusler และคุณพ่อของเธอ Alan ที่ทำการโอนเงินผิดพลาด Melissa Trusler ผู้บริหารฝ่ายขายจาก Seattle วัย 30 ปี และพ่อของเธอ Alan ได้ทำการโอนเงินให้กันผ่านช่องทาง PayPal โดยไม่คิดว่าการโอนเงินในครั้งนี้จะไม่ถึงลูกสาวเสียแล้ว พ่อของ Trusler ได้โอนเงินไปให้ลูกสาวจำนวน 40,000 บาทเป็นของขวัญวันเกิด…
-
ที่สุดของทางยกระดับในจีน 15 เลน 5 ชั้น และ 8 เส้นทาง ดูแล้วซับซ้อน ชวนงงเหลือเกิน
ยิ่งมีการใช้รถยนต์เพิ่มมากขึ้นเท่าไร การจราจรก็ยิ่งติดขัดมากเท่านั้น รัฐจึงพยายามแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำอุโมงค์ ทางด่วน หรือทางยกระดับ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมดเสียทีเดียว และลองสังเกตดูดีๆ ำยิ่งมีจนวนรถยนต์เพิ่มมากขึ้นทุกปี จำนวนชั้นของทางยกก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย อย่างทางยกในฉงชิ่ง ของประเทศจีนที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลกในตอนนี้ ทางยกระดับดังกล่าวนี้มีทั้งหมด 15 เลน 5 ชั้น และครอบคลุม 8 เส้นทาง จนทำให้มันขึ้นชื่อว่าเป็น “สุดยอดทางยกระดับที่ซับซ้อนที่สุด” การมีทางยกที่เยอะแยะมากมายขนาดนี้ หลายคนอาจจะคิดว่ามันจะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง แต่บอกไว้เลยมันมีความซับซ้อน เสี่ยงต่อการสับสนและอาจจะพลาดใช้ผิดทางจนกลายเป็นการเสียเวลาไปซะงั้น ไม่ใช่แค่คนนอกอย่างเรานะที่งงกับทางยกแสนซับซ้อนนี้ เพราะคนในพื้นที่บางคน แม้จะใช้ถนนนี้เป็นประจำบางครั้งพวกเขาก็พลาดได้เหมือนกัน หากว่าใครจะต้องใช้ถนนยกระดับนี้จริงๆ ควรศึกษาเส้นทางให้ละเอียดก่อนว่าจะขึ้นตรงไหน แล้วออกไปโผล่ตรงไหน เพราะถ้าหากพลาดขึ้นมา จะกลายเป็นว่าทำให้เสียเวลาไปทั้งวันเลย แต่ชาวจีนแนะนำว่า หากใครที่ไม่คุ้นเส้นทางหรือไม่ใช่คนในพื้นที่ ควรไปใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินจะดีกว่านะ ไม่หลงแน่นอนค่ะ เส้นไหนเป็นเส้นไหน งงไปหมด โอ้วววพี่ชาย บอกฉันที ฉันอยู่ไหน!? งงมั้ย ถามใจเธอดู?…
-
สุนัขจิตอาสาผันตัวเป็น “เด็กเก็บลูกกอล์ฟ” เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือสัตว์ในสถานรับเลี้ยง
ในขณะที่เราหลายคนมีความเป็นห่วงเป็นใยต่อสัตว์จรจัดในศูนย์พักพิงและพยายามหาทางช่วยเหลือพวกมัน สัตว์หลายๆ ตัวก็ไม่นิ่งเฉยนะ พวกมันก็พยายามจะช่วยเหลือพวกพ้องตัวเองเหมือนกัน อย่าง Davos น้องหมาผู้มีจิตสาธารณะ ช่วยเหลือพวกพ้องด้วยการเป็นเด็กเก็บลูกกอล์ฟ เพื่อนำเงินที่ได้ไปบริจาคให้กับสถานรับเลี้ยงสัตว์ Davos เป็นหมาที่น่ารักมากๆ มีนิสัยอยากรู้อยากเห็นอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญมันยังมีความสามารถพิเศษเกี่ยวกับการหาของ ดังนั้นมันจึงมักจะหาสิ่งที่คนอื่นอาจจะไม่หาไม่เจอได้ สุนัขแสนรู้ไม่ได้ปล่อยให้ความสามารถพิเศษนี้สูญเปล่า แต่มันได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการเป็นเด็กเก็บลูกกอล์ฟเพื่อที่จะช่วยเพื่อนๆ อีกนับร้อยนับพันตัวในศูนย์พักพิง Cooper ผู้เป็นเจ้าของน้องหมาตัวดังกล่าวเป็นคนที่ชอบตีกอล์ฟมาก และเมื่อรับเลี้ยง Davos เขาจึงตัดสินใจพามันไปด้วยทุกครั้ง แม้น้องหมาจะเล่นกอล์ฟไม่เป็น แต่ทุกครั้งที่ Cooper ตีลูกกอล์ฟออกไปแล้ว เจ้า Davos จะวิ่งตามไปเก็บทุกครั้ง และดูมันมีความสุขมากที่ได้ทำเช่นนั้น และระหว่างที่เจ้าหมาตามไปเก็บลูกนั้น มันมักจะไปเจอกับลูกกอล์ฟของคนอื่นอยู่เสมอ เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Cooper เกิดไอเดียดีๆ สุนัขและเจ้าของได้ช่วยกันเก็บลูกกอล์ฟเหล่านั้นแล้วเอาไปขายในราคาลูกละประมาณ 8 บาท (25 เซนต์) แล้วได้นำเงินทั้งหมดนี้ไปบริจาคให้กับสถานรับเลี้ยง Animal Humane Society ตั้งแต่นั้นมา ความสามารถของเจ้า Davos ก็กลายเป็นที่สนใจของบรรดานักตีกอล์ฟทั้งหลาย และถูกนำไปใช้ประโยชน์มากขึ้น ตอนนี้น้องหมากลายเป็นเด็กเก็บลูกกอล์ฟที่ใครๆ ก็ต้องการตัว โดยสามารถหาเงินด้วยตัวเองได้กว่า…
-
หญิงชาวอินเดียอ้างวิชาแม่มด ใช้มีดดาบทิ่มแทงตามร่างกาย เพื่อรักษาความเจ็บป่วย!!
แม้การรักษาทางการแพทย์สสมัยใหม่จะได้รับการยอมรับจากทั่วโลก แต่ก็ยังมีผู้คนอีกมายที่เลือกรักษาโรคตามความเชื่อหรือตามลัทธิที่นับถือ อย่าง Phuleshwari Devi หญิงชาวอินเดียวัย 45 ปีจาก Koriya ใน Chhattisgarh ที่อ้างตัวว่าเป็นแม่มด มีพลังอำนาจเหนือธรรมชาติ และสามารถรักษาความเจ็บป่วยได้ด้วยดาบปลุกเสกของเธอ โดยในภาพจะเห็น Phuleshwari ใช้มีดแทงเข้าไปในตาของ Rama Devi คนไข้วัย 27 ปี ที่เข้ามาหาเธอเพราะสายตาไม่ดีและมีอาการปวด และหลังจากที่ทำการรักษาเสร็จ Rama บอกว่าเธอรู้สึกดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์!! ไม่เพียงแต่ใช้มีดทิ่มเข้าไปในตาเท่านั้น แต่เธอยังได้นำมีดที่อ้างว่าเป็นของขลังนั้นทิ่มแทงลงไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ ของคนไข้ด้วยเพื่อทำการรักษาตามอาการ ทั้งอาการปวดตา กระดูกหัก รวมถึงการมีบุตรยากด้วย แม้ว่าจะมีคนมาขอการรักษามากมาย แต่ Phuleshwari จะทำงานแค่ 2 วันต่อสัปดาห์คือ วันจันทร์และวันพฤหัสบดี โดยเวลาทำการรักษาก็จะมีคนจำนวนมากมามุงดูอยู่ห่างๆ วิธีการนี้อาจจะเป็นการรักษาที่ดูค่อนข้างน่ากลัวและเสี่ยงในสายตาคนภายนอก แต่ชาวบ้านที่นี่เชื่อและใช้วิธีการนี้มานานกว่า 25 ปีแล้ว Rama คนที่มารักษาตาเล่าให้ฟังว่า “ฉันมีปัญหากับตาค่ะ ก็เลยมารักษากับเธอ…และจะกลับมาหาเธอทุกครั้งที่รู้สึกปวด เธอก็ใช้ดาบรักษาให้จนฉันรู้สึกดีขึ้นค่ะ ตอนนี้ฉันมาเธอได้ 3 ปีแล้วค่ะ” …
-
แมวน้อยขาหลังหักจนเดินไม่ได้ แต่ด้วยพลังแห่งรัก ช่วยให้มันต่อสู้เพื่อตัวเองอีกครั้ง…
ไม่ว่าคนหรือสัตว์ต่างต้องพบเจออุปสรรคมากมายในชีวิต ซึ่งบางปัญหาก็ยากที่จะสู้หรือผ่านมันได้ แต่หากคุณสู้ด้วยพลังแห่งรัก คุณอาจจะผ่านมันไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างเจ้ามิ้วน้อยตัวนี้ที่มีปัญหากับขาหลัง จนสัตวแพทย์บอกว่ามันจะไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป แต่เมื่อได้รับการดูแลด้วยความรัก มันก็เริ่มจะเดินได้อีกครั้ง Hannah Shaw จาก Kitten Lady ได้ไปยังศูนย์พักพิงเพื่อรับเลี้ยงแมว 2 ตัว ระหว่างนั้นเธอได้พบกับ Chloe แมวน้อยที่มีปัญหากับขาหลังจนไม่สามารถเดินได้ Hannah คิดว่าขาของมันน่าจะเกิดจากการถูกทำร้ายมา แต่น้องแมวมีแววตาที่น่ารักมาก แถมมีนิสัยอ่อนโยนจนยากที่จะปฏิเสธมันลง วันนั้นเลยจบลงด้วยการรับแมวมาเลี้ยงถึง 3 ตัว ตอนนั้นหญิงสาวไม่รู้เลยว่าอาการของ Chloe แย่แค่ไหน จะกลับมาเดินได้อีกมั้ย แต่ที่รู้คือเธอจะดูแลมันอย่างดี จะทำให้มันผ่านพ้นความเจ็บปวดเหล่านี้ และจะทำให้มันกลับมาเดินได้อีกครั้ง หลังจากที่พากลับบ้านได้ไม่นาน แมวน้อยมีการปรับตัวที่เร็วมาก แม้จะเดินไม่ได้ แต่มันก็จะลากขาหลังไปเพื่อสำรวจรอบๆ บ้าน และมันจะรู้สึกฟินมาถ้าเกาคางให้ Chloe ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีความมีความพิการเลย มันทำทุกอย่างเหมือนแมวปกติ มันรักที่จะมีชีวิตอยู่และมักจะทำให้เจ้าของแปลกใจกับความพยายามของมันอยู่เสมอ ต่อมาเจ้าของได้พามันได้หาสัตวแพทย์ แล้วก็พบว่าขาหลังทั้งสองข้างของมันหัก มันจะไม่สามารถเดินได้ด้วยขาหลังตลอดไป ทำได้มากสุดก็แค่ลากไปเท่านั้น นั่นหมายความว่าทั้งหางและกระเพาะปัสสวะของมันก็ใช้การไม่ได้เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้น Hannah ก็ตั้งใจจะฟื้นฟูขาหลังให้ และจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้มันเดินได้อีกครั้ง แม้สัตวแพทย์จะยืนยันว่ามันจะไม่สามารถเดินได้อีกแล้วก็ตาม…
-
17 แมวเหมียวเกรียนไม่แคร์ผู้ใด กับความป่วนกวนบาทา ใครหน้าไหนก็หยุดไม่ได้!!
แมวเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่ผู้คนนิยมเลี้ยงมากที่สุด เพราะแมวเป็นสัตว์ที่น่ารัก น่ากอด ที่สำคัญ พวกมันจะมีนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จุดนี้แหละที่ทำให้มนุษย์รักมันแบบหัวปักหัวปำ ดูเพียงแค่ผิวเผินอาจจะคิดว่าแมวมีสิสัยขี้อ้อนเหมือนกันหมด แต่ลองสังเกตพวกมันดีๆ นะ พวกมันอาจจะเป็นแมวไม่สนโลกเลย มีความเกรียนให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน 1. น้องเหมียวที่ไม่อยากให้เจ้าของหลับ เจอสายตาแบบนี้ หลับไม่ลงจริงๆ 2. ที่นอนเจ้านายน้อยหรอ ใครแคร์ละ นอนแม่มเลย 3. มันใช่เวลามาออดอ้อนมั้ยเหมียว 4. อย่าทำงานเลยนะ เล่นกับเก๊าก่อน 5. อะไร ก็จะอยู่ในนี้อะ ใครจะทำไม 6. บอกว่าอย่าไปเล่นในพุ่มไม้ ก็ยังจะไปอยู่ ท้าทายอำนาจยายหรอ ห๊า!! 7. กินแล้วก็จะกินอีก ให้เจ้านายน้อยได้กินบ้างเหอะเหมียว 8. เสื้อคู่หรอ…เหอะ ถามเค้ายังว่าชอบมั้ย? 9. โหลๆ ว1 เรียก ว2 พบแมวกินแคทนิปเกินขนาด ขณะนี้นิ่งเป็นท่อนซุงเลย…
-
อดีตสุนัขจรจัด ช่วยเหลือนกฮัมมิ่งเบิร์ดที่ใกล้ตาย ก่อให้เกิดเป็นเพื่อนซี้ที่ไม่อาจห่างกันได้
ตามสัญชาตญาณของมนุษย์เมื่อเห็นผู้อื่นเป็นทุกข์หรือเดือนร้อน ก็จะเกิดความเห็นใจจนอยากเข้าไปช่วยเหลือ โดยเฉพาะคนที่เคยประสบชะตาชีวิตเหมือนกัน ซึ่งสัตว์ก็มีส่วนนี้ที่ไม่ต่างจากมนุษย์เลย Rex เป็นสุนัขจรจัดที่เติบโตมากับชีวิตเร่ร่อนบนข้างถนน แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในปีที่แล้ว เมื่อมีคนใจดีรับมันไปเลี้ยงและได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นจนทุกวันนี้ ชีวิตของ Rex มีแต่ความสุขสบาย แต่มันไม่เคยลืมว่ามันมาจากไหน และเคยทุกข์เพียงใด ดังนั้นเมื่อมันเห็นใครกำลังลำบาก มันก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเหมือนที่มันเคยได้รับ เมื่อปีที่แล้วขณะที่ Rex เดินเล่นกับเจ้าของ Ed Gernon ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มันก็ไปเจอกับนกอาร์มมิ่งเบิร์ดตัวหนึ่ง นอนหมดสติอยู่บนพื้น และรอบๆ ตัวมีแต่มดเต็มไปหมด Gernon เองคิดว่านกตัวนั้นคงตายไปแล้ว ก็เลยจะเดินผ่านไป แต่เจ้าหมาไม่ยอมเดินไปด้วย มันยังคงให้ความสนใจนกตัวนั้นและพยายามจะเข้าไปช่วยมัน เจ้าของจึงเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วก็พบว่านกตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่มันหายใจแผ่วเบามาก Gernon บอกว่า “มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กมากครับ และโลกกำลังจะฆ่ามัน แต่ Rex เลือกที่จะปกป้องมัน” เมื่อสุนัขทำท่าจะช่วยนกฮาร์มมิ่งเบิร์ดให้ได้ เจ้าของจึงจำเป็นต้องพานกตัวนี้กลับไปดูแลที่บ้านและได้ตั้งชื่อให้มันว่า Hummer จนกระทั่งหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ร่างกายของ Hummer ก็เริ่มแข็งแรงขึ้นจนกลับมาบินได้อีกครั้ง และที่สำคัญคือมันไว้ใจ Rex มาก เพราะมันจำได้ว่าสุนัขตัวนี้ได้ช่วยชีวิตมันเอาไว้ นอกจากไว้ใจแล้ว นกน้อยยังติด Rex มาก มันจะคอยบินอยู่ใกล้ๆ และไม่ยอมออกห่างเลย ดังนั้นไม่ว่าน้องหมาจะอยู่ที่ไหน เจ้านกจิ๋วก็จะอยู่ใกล้ๆ…
-
ชายวัย 91 ปี อุทิศชีวิตสร้างวิหาร 53 ปี แม้ยังไม่เสร็จ แต่จะทำต่อไป… ตามสัญญา
สถานที่สำคัญทางศาสนาอย่าง วัด หรือ โบสถ์ นั้นนอกจากจะสร้างเพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีแล้ว ยังเป็นการท่ายทอดผลงานทางศิลปะ ดังนั้นจึงต้องอาศัยเวลาการสร้างที่ค่อนข้างนาน ช่างมากฝีมือ และทำงานกันอย่างแข็งขัน แต่ก็มักจะใช้เวลาในการก่อสร้างนานพอดู แต่จะมีใครคิดว่า คนๆ เดียวจะลงมือสร้างวิหารด้วยตัวเองเพียงคนเดียว อย่าง Don Justo ที่ลงทุน ลงแรง สร้างวิหารของตัวเองโดยใช้เวลานานกว่า 53 ปี แต่ก็ยังคงไม่เสร็จ… จุดเริ่มต้นของการสร้างวิหาร เกิดจาก Don Justo ป่วยเป็นวัณโรคและอาการหนักมาก เขาจึงเริ่มสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าขอให้หายจากโรคนี้ และได้ให้คำมั่นสัญญาว่า หากหายเป็นปกติแล้วเขาจะสร้างวิหารเป็นการตอบแทน สุดท้ายในปี 1961 เขาหายจากโรคนี้ได้เป็นผลสำเร็จ จึงได้สร้างวิหารตามที่ได้สัญญาเอาไว้ ซึ่งเป็นวิหารที่เกิดจากความรักและความศรัทธาของเขา วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่นั้นเป็นการรีไซเคิลของเก่า ซึ่งเป็นความตั้งใจของเขาที่สร้างวิหารที่ในบรรยากาศแบบสบายๆ และไม่เหมือนใคร ภายในของวิหารมีการติดตั้งตัวกรองแสงในเพดานโค้งที่มีลักษณะเป็นทรงหกเหลี่ยม ส่วนโดมที่อยู่ส่วนกลางของวิหารนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ แต่ Don Justo ทำให้มันมีความสูงเพิ่มขึ้นอีก 40 เมตร วิหารถูกออกแบบมาอย่างยิ่งใหญ่ อลังการ และมีเอกลักษณ์ แต่รู้มั้ยว่า Don Justo ไม่เคยมีความรู้ด้านสถาปัตยกรรม…
-
นักบินเครื่องโบอิ้ง 747 รวมผลงานภาพถ่าย “ห้องทำงาน” อันแสนสวย ที่หลายคนอยากสัมผัส…
หลายคนมักจะถ่ายรูปวิวขณะอยู่บนเครื่องบิน เพราะมันเป็นวิวที่สวยงามและไม่ค่อยคุ้นตาเท่าไรนัก แต่นั่นเป็นเพียงมุมเล็กๆ ที่เราได้เห็นจากหน้าต่างเท่านั้น และผู้ที่เห็นวิวบนเครื่องบินแบบมุมกว้างและหลากหลายคงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากนักบินทั้งหลาย และในวันนี้พระเอกของเราอย่างคุณ Van Heijst นักบินชาวดัตช์ ที่ได้เห็นบรรยากาศรอบโลกบนเครื่องบินโบอิ้ง 747 ซึ่งเป็นเครื่องที่เขาใช้ทำงานตลอดนั่นเอง การเป็นนักบินทำให้ Van Heijst ได้เห็นวิวที่แตกต่างจากหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งความงามของสภาพอากาศบนท้องฟ้าด้วย เขาบอกว่า “เวลาที่ขับเครื่องบิน ผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบเป็นของผมเลยครับ มันเหมือนการรับสิทธิพิเศษในการชมวิวบนที่สูงในแบบที่หลายคนอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็น” ดังนั้นเขาจึงไม่พลาดที่จะถ่ายรูปความงามที่เขาได้เห็นไว้ เพื่อให้ผู้คนได้ชมวิวในมุมมองของนักบิน และแม้ว่านักบินจะเป็นอาชีพที่เหนื่อยและตรึงเครียด เพราะมันคือการรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารทั้งลำ แต่การได้เห็นวิวสวยงามเช่นนี้ถือเป็นกำไรชีวิตที่วิเศษสุดๆ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
ศิลปินทำลายความน่าเบื่อรอบเมืองด้วย “ดวงตาวิเศษ” กลายเป็นภาพที่ชวนมองยิ่งขึ้น
ถนนรอบๆ ตัวเราอาจเต็มไปด้วยสิ่งปรักหักพัง ไม่น่ามองเอาซะเลย และเมื่อต้องเจอกับสิ่งเหล่านี้ทุกวันๆ อาจทำเราเกิดความรู้สึกเบื่อได้ แต่เมื่อเดือนที่แล้วเราได้นำเสนอวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้ถนนที่น่าเบื่อเหล่านี้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น นั่นคือ ศิลปินเปลี่ยนเมืองที่น่าเบื่อให้มีชีวิตชีวา ติดดวงตาวิเศษ โผล่ไปทั่วทุกสารทิศของเมือง!! จนทำบรรยากาศเดิมๆ น่ามองยิ่งขึ้น ตั้งแต่นั้นมาก็เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ เมืองเริ่มเกิดการทำตาม หนึ่งในนั้นคือ Vanyu Krastev ศิลปินชาวบัลแกเรีย ผุ้นำดวงตาไปตกแต่งไว้ทั่วเมือง Krastev ได้นำดวงตาไปตกแต่งไว้ทุกที่ที่ผู้คนมักจะมองผ่าน หรือที่ที่ไม่ชวนมอง เช่น ถังขยะ ต้นไม้แห้ง ซากปรักหักพัง หรือแม้กระทั่งบนพื้นคอนกรีตเดิมๆ ที่ผู้คนใช้สัญจรทุกวัน มันอาจจะไม่ใช่ศิลปะชั้นสูงอะไร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแค่นำดวงตาเล็กๆ ไปติด ก็ทำให้มุมเดิมๆ เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดและให้ความรู้สึกที่ต่างกัน จากนี้ไป การเดินทางผ่านถนนเส้นเดิมๆ สิ่งแวดล้อมเดิมๆ จะทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่ออีกต่อไป แต่อาจจะสร้างรอยยิ้มให้กับคุณทุกครั้งที่ได้เห็น . . . . . . . . . . . . .…
-
ร้านไอศกรีมไม่ยอมตักรสเดียวกัน 2 ลูกในถ้วยเดียว จนกว่าชาว LGBT จะได้แต่งงานถูกกฎหมาย
ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกกำลังมีการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิให้ชาว LGBT แต่งงานอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งบางประเทศก็ให้การยอมรับแล้ว และคาดว่าออสเตรเลียอาจจะเป็นประเทศต่อไป… เนื่องจากตอนนี้ร้านไอศกรีมชื่อดังของประเทศอย่าง Ben and Jerry ได้เรียกร้องสิทธิให้ชาว LGBT ด้วยการ ไม่ตักไอศกรีมรสชาติเดียวกันสองก้อนในถ้วยเดียว จนกว่าจะมีกฏหมายรองรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน ไอเดียนี้ได้มาจากความต้องการของเจ้าของกิจการที่ต้องการให้ลูกค้าเห็นด้วยกับการสนับสนุนเพศที่สาม และเพื่อผลักดันสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ความเสมอภาคในการแต่งงานของคนทุกเพศอย่างเท่าเทียม และทางร้าน Ben and Jerry จะยืนยันจุดยืนนี้จนกว่าสิ่งที่เรียกร้องจะเกิดขึ้น… ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของ Ben and Jerry กล่าวว่า “ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเดินเข้าไปในร้านไอศกรีมแล้วสั่ง ไอศกรีมโปรดของคุณ 2 ก้อนในถ้วยเดียว แต่พวกเขาไม่ทำให้ คุณจะโกรธมั้ย?…” “แล้วลองเปรียบเทียบกับการแต่งงานสิ ถ้าพวกเขาปฏิเสธที่จะให้คุณแต่งงานกับคนที่คุณรัก คุณจะรู้สักยังไง? ดังนั้นเราจึงเริ่มด้วยการไม่ตักไอศกรีมรสเดียวกัน 2 ก้อนให้เหมือนกัน เพื่อให้ลูกค้าเรียกร้องต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วบอกพวกเขาว่า ถึงเวลาแล้วที่จะให้ความเสมอภาคกับทุกเพศในการแต่งงานอย่างถูกกฎหมาย” แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวของ Ben and Jerry มีอิทธิพลมาก รวมทั้งเปิดกล่องจดหมายเฉพาะกิจภายในร้านกว่า 26 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าเขียนจดหมายไปถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร…
-
9 ภาพของมิตรภาพแสนอบอุ่น จากวันนั้นถึงวันนี้ ความเป็นเพื่อนก็ไม่เคยจางหาย…
สำหรับใครหลายๆ คน เพื่อนคือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต บางคนอาจเข้ามาแล้วก็ผ่านเลยไป แต่นั่นก็เป็นเพราะเหตุผลของแต่ละคนที่โตขึ้นและต่างแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง หากวันหนึ่งเราได้โคจรมาเจอกับเพื่อนในวัยเด็กอีกครั้ง นับเป็นความโชคดีมากๆ แม้ว่าจะไม่ได้โตมาด้วยกัน แต่เพื่อนก็ยังคงเป็นเพื่อนเสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เหมือนพวกเขาเหล่านี้ 1. แก๊งเพื่อนในวัย 10 ขวบ 17 ปี และวัย 29 ปี 2. เพื่อนที่คบกันมานานกว่า 30 ปี (1980-2009) 3. 38 ปีผ่านไป เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อนเหมือนเดิม 4. เพื่อสนิทที่แชะภาพคู่ตั้งแต่ตอนจบเด็กเล็กจนตอนนี้จบมัธยมพร้อมกันแล้ว 5. ภาพในปี 1998 ถ่ายก่อนงานปาร์ตี้ และภาพปัจจุบันกับเพื่อนคนเดิมในวันแต่งงาน 6. เพื่อนในปี 2002 มารวมอีกครั้งที่งานแต่งเพื่อนในปี 2016 7. ไม่ว่าจะปีไหนๆ เพื่อนคนเดิมก็ยังอยู่เคียงข้างเสมอ 8. ญาติพี่น้องและผองเพื่อน ยังอยู่ครบแก๊ง …
-
ดีงามที่สุด!! 20 ไอเดียแต่งห้องนอน โดยนักศึกษาจาก 20 หอพักมหาวิทยาลัยนอก
การนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด แต่เราจะนอนได้อย่างไร ถ้าหากอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่เอื้อต่อการนอน หรือการต้องในห้องที่ไม่ถูกใจ โดยเฉพาะเพื่อนที่ต้องอยู่หอพัก จริงๆ หอพักในมหาวิทยาลัยหรือหอพักในกำกับทั้งหลายก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ต่อให้ต้องอยู่ร่วมกับรูมเมทก็ตาม แต่มันอยู่การตกแต่งและการจัดวางมากกว่า ว่าเราจะทำให้มันน่าอยู่และน่านอนได้มากแค่ไหน หากใครที่ยังไม่คิดไม่ออก วันนี้เราก็ได้นำไอเดียการแต่งห้องของนักศึกษาฝั่งตะวันตกมาให้เพื่อนๆ ดูกันค่ะ เผื่อจะเป็นแนวทางในการแต่งห้องได้บ้าง 1. Auburn University จัดวางของใช้ในห้องให้เป็นระเบียบ ให้โต๊ะอ่านหนังสืออยู่ตรงกลาง เก็บของเป็นที่เป็นทางก็ช่วยให้ห้องน่าอยู่ขึ้นนะคะ 2. Barnard College สำหรับใครที่ชอบความเรียบง่าย อาจจะตกแต่งห้องด้วยของใช้สีอ่อนๆ ดูแล้วสบายหูสบายก็ช่วยให้นอนหลับสบายเหมือนกันนะ 3. Brown University อาจจะดูรกไปนิด แต่ถ้าทุกอย่างที่อยู่ในห้องเป็นสิ่งที่คุณรัก มันก็ดีไม่ใช่หรอ? 4. Burnett Hall, Carson-Newman University จัดวางทุกอย่างให้อยู่ฝั่งเดียวกันหมดและเป็นระเบียบ จะช่วยเพิ่มพื้นที่ให้เยอะเลย 5. Bunting Hall, Colorado Mesa University สำหรับใครนอนยากนอนเย็น การนำไฟดวงเล็กมาประดับประดาแล้วเปิดยามนอน ก็อาจจะทำให้นอนง่ายขึ้นนะ 6. Dartmouth College อย่าลืมว่าการหันหัวเตียงไปทางที่มีหน้าต่างเนี่ย…
-
หนุ่มวัย 19 ปี โดนปรับกว่า 3 แสนบาท เพราะดั๊นขับรถลงไปในถนนคอนกรีตที่ยังไม่แห้ง!?
ปกติแล้วเวลามีการทำถนนหรือปรับปรุงถนนเจ้าหน้าที่ก็จะทำป้ายเตือนและนำกรวยมากั้นไว้ จนกว่ามันจะอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ แต่มันก็จะมีบางคนที่ไม่แคร์ป้ายเตือนหรือกรวยกั้นอะไรทั้งนั้น อย่างพ่อหนุ่ม Shadrach Yasiah วัย 19 ปีคนนี้ ที่ขับรถบนพื้นคอนกรีตที่ยังไม่แห้ง จนทำให้รถติดอยู่ในนั้น แถมต้องชดใช้อีกกว่า 300,000 บาท เมื่อวันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2017 เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงถนนได้ทำการปรับปรุงถนนในเมืองลินคอล์น รัฐเนแบรสกา โดยได้เทคอนกรีตใหม่ และได้นำกรวยมากั้นพื้นที่นั้นเอาไว้ ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะปกติดี แต่แล้วจู่ๆ ก็มีรถฮอนด้า ซีวิค สีน้ำเงินคันหนึ่งขับเข้าไปในพื้นคอนกรีตที่ยังไม่แห้ง จนทำให้ติดแหงกจนออกไม่ได้ และต้องเรียกเจ้าหน้าที่ให้มาจัดการ ในขณะที่ Thomas Shafer วิศกรของเมืองดังกล่าวบอกว่า ตอนที่ชายหนุ่มขับเข้าไปนั้น คอนกรีตเพิ่งจะถูกพักไว้ไม่ถึง 30 นาที ทำให้รถของจมลงไปและออกไม่ได้ ทางผู้รับเหมาได้ประเมินความเสียหายเบื้องต้นพบว่าอาจต้องจ่ายมากกว่า 300,000 บาท เป็นค่าดึงรถออกมาจากบริเวณนั้น ค่าขูดซีเมนต์เก่าที่ถูกรถทับ ค่าเติมซีเมนต์ใหม่ และการฉาบให้เรียบเหมือนเดิม ซึ่งคนขับต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด!! ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการดึงรถออกคอนกรีต เพราะมันติดแน่นมาก ส่วน Yasiah หลังจากที่เกิดเหตุเขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย …
-
สุนัขผู้ร่าเริงถูกรับไปเลี้ยงและถูกนำคืนศูนย์พักพิงถึง 3 ครั้ง จนกลายเป็นหมาซึมเศร้า…
ใครที่มีความกังวลมากๆ มักจะไม่มีความสุขในชีวิต และไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้น แต่สัตว์เลี้ยงบางตัวก็มีความวิตกกังวลไม่ต่างจากเราเลย Boo สุนัขวัย 2 ปี อยู่ที่ศูนย์พักพิงในลองแองเจลิสตั้งตอนมันยังเล็กๆ และเคยถูกรับเลี้ยงไปแล้วถึง 3 ครั้ง แต่สุดท้ายมันก็ถูกส่งกลับมาอยู่ในศูนย์พักพิงเช่นเดิมทุกครั้งด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในครั้งที่สามนี้ มันถูกนำตัวกลับมาพร้อมบาดแผลที่ร้ายแรง จนทำให้มันกลายเป็นสุนัขขี้กังวลไปเลย เจ้าหน้าของศูนย์พักพิงบอกว่า จริงๆ แล้ว Boo เป็นหมาที่น่ารัก มีนิสัยร่าเริง และขี้เล่น ทำให้สองครอบครัวก่อนหน้าที่รับมันไปเลี้ยงโดยไม่ลังเลเลย แต่เมื่อรับไปเลี้ยงแล้วก็พบว่า Boo ซนมากและไม่ได้เป็นอย่างที่ต้องการ ก็เลยพามันกลับมาคือให้ศูนย์พักพิง แน่นอนว่าการที่มันถูกส่งกลับมาถึงสองครั้งทำให้มันเริ่มรู้สึกหดหู่และสับสนมากๆ สำหรับการรับเลี้ยงและถูกส่งกลับมาครั้งที่สามนี้ เจ้าหน้าที่พบว่าเข่าหลังของมันหักและมันไม่เคยได้รับการดูแลด้วยวิธีที่ถูกต้อง หลังจากที่นำ Boo ไปตรวจร่างกายก็พบว่ามีรอยแผลไหม้จากก้นบุหรี่หลายจุดมาก และมันดูมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด เพราะถูกเลี้ยงด้วยวิธีรุนแรงแถมยังถูกส่งกลับมาถึงสามครั้งแล้ว ตั้งแต่นั้นมัน Boo ก็กลายเป็นหมาที่สิ้นหวัง และไม่ร่าเริงเหมือนอย่างเก่า มันกลัวที่ที่มีคนเยอะ ระแวงเมื่อเจอคนแปลกหน้า และจะเกิดความกลัวทุกครั้งที่มีใครพยายามคุกคามมัน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ของ The Dog Cafe ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูสภาพจิตใจสัตว์และช่วยสุนัขที่ถูกสังคมทารุณกรรมได้มาเห็นมัน จึงได้ตัดสินใจช่วยเหลือมันทันที หลังจากที่มันได้เข้าไปอยู่ใน The Dog Cafe ไม่กี่วัน Boo ก็เริ่มสนิทกับสัตว์ตัวอื่นๆ มากขึ้น ที่สำคัญมันกลับมาสดใสเหมือนเดิมแล้ว…
-
หนุ่มจีนเผลอทำแหวนราคา 1.4 ล้านหาย ระหว่างขรี้บนเครื่องบิน เจ้าหน้าที่ก็ช่วยหาจนเจอ!!
ใครที่มีของมีค่าหรือของที่หวงมากๆ ไม่ควรจะพกติดตัวหรือโชว์หราให้ชาวโลกรู้นะ เพราะถ้ามันเสียหายหรือเกิดหายขึ้นมาคุณอาจจะต้องเสียใจไปตลอดก็ได้ อย่างหนุ่มจีนคนนี้ที่ทำแหวนมูลค่า 1.4 ล้านหายระหว่างขึ้นเครื่อง แต่โชคดีที่สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ช่วยกันตามหาจนเจอ… เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2017 Shen ได้เดินทางจากเมือง Doha ประเทศกาตาร์ ไปยังสนามบินนานาชาติ Hangzhou’s Xiaoshan แต่ระหว่างที่เข้าห้องน้ำบนเที่ยวบิน เขาได้ทำแหวนเพชร 2 กะรัตหล่นลงชักโครก!! Shen จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที แต่เนื่องจากเครื่องบินกำลังลอยอยู่กลางอากาศ ทำให้ไม่สามารถค้นหาได้ในขณะนั้น ต้องรอจนกว่าเครื่องบินจะลงจอด และพอไปถึงสนามบิน ชายหนุ่มได้รีบไปหาเจ้าหน้าที่สนามบินเพื่อขอให้ช่วยตามหาแหวนเพชรที่หล่นหายไป… เมื่อรู้ว่าหนุ่มจีนทำแหวนมูลค่านับล้านหาย เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานจึงได้เรียกพนักงานแผนกทำความสะอาดจำนวนหนึ่งมาและให้ค้นหาตามถังบำบัดน้ำเสียและสระน้ำ สำหรับน้ำเสียบนเครื่องบินนั้น มักจะถูกดูดเข้าไปในถังของเสีย ก่อนที่พนักงานภาคพื้นดินจะเข้าไปทำความสะอาด จากนั้นของเสียทั้งหมดก็จะถูกส่งไปยังสระน้ำเสีย เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสองคนถึงกับยอมลงไปหาในสระน้ำเสีย แต่หลังจากที่ลงไปค้นหากว่าครึ่งชั่วโมงก็ไม่พบอะไรเลย…หรือบางทีมันอาจจะอยู่ในถังของเสีย?? พวกเขาจึงได้ไปค้นหาในถังของเสียต่อ โดยอาศัยแสงจากแฟลชโทรศัพท์ และหลังจากค้นหานานหลายชั่วโมง ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็เจอแหวนเพชรดังกล่าว ส่วน Shen ที่กำลังรออยู่ในสนามบินด้วยความกระวนกระวายใจ เมื่อเห็นแหวนที่เจ้าหน้าที่นำมันกลับมาได้ เขาถึงกับพูดไม่ออก และรู้สึกซาบซึ้งมากที่เจ้าหน้าที่ยอมลงไปในบ่อน้ำเสียเป็นชั่วโมงเพื่อหาแหวนให้ ใขณะที่เจ้าที่ที่ลงไปในบ่อน้ำเสียบอกว่า “มันเหม็นและสกปรกมากครับ ขนาดอาบน้ำขัดตัวนานเป็นชั่วโมงยังรู้สึกเหม็นอยู่เลย” …
-
เรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดในป่าด้วย “อุปกรณ์เทคโนโลยี” เพียงไม่กี่ชิ้น จากผู้รอดชีวิตดิจิตอล
ปัจจุบันนี้เราส่วนใหญ่อยู่กับเทคโนโลยีแทบจะตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นการส่งหรือตอบข้อความ ใช้ค้นหาแผนที่ และการใช้ในการติดต่อสื่อสารกับทั่วโลกได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แต่รู้มั้ยว่านอกจากติดต่อสื่อสารแล้ว อุปกรณ์เหล่านี้ยังสามารถใช้เอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันได้ด้วย อย่างเช่นการเอาตัวรอดในป่า Andy Quitmeyer ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ได้ทดสอบให้เห็นด้วยการเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกลที่สุด โดยพกเพียงแค่ชิ้นส่วนของเทคโนโลยีที่เราใช้ในชีวิตประจำวันติดตัวไปเท่านั้น ในการเดินมางครั้งนี้ Quitmeyer เอาไปแค่แล็ปท็อปและกล้องดิจิตอลเท่านั้นเพื่อความอยู่รอด จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงมักจะเรียกตัวเองว่า “ผู้รอดชีวิตดิจิตอล” และเพื่อให้ผู้คนได้เห็นว่าเขาเอาตัวรอดอย่างไรด้วยอุปกรณ์นี้ มีทีมงานติดตามไปด้วยเพื่อบันทึกวิดีโอการใช้ชีวิตในป่าของเขา เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆ คน Quitmeyer ถูกนำไปปล่อยทิ้งไว้ในป่าเป็นเวลา 4 วัน เขาเริ่มต้นด้วยการสร้างที่ดักยุงโดยใช้ขดลวดและกล้องดิจิตอล หลังจากนั้นเขาก็ทำเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยอาศัยพลังงานจากแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อทำให้หลอดไฟทำงาน และทำเข็มทิศจากแล็ปท็อปด้วย ตลอดทั้ง 4 วันนี้ Quitmeyer เดินทางไปทุกหนทุกแห่งจากเกาะทะเลทรายสู่ป่าน้ำแข็งอลาสก้า ที่สำคัญคือตลอดเวลาการเดินทางเขาไม่ได้รับอาหาร น้ำ และการช่วยเหลือใดๆ เลย แต่เขาสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยการหาพืช ผลไม้และของป่าประทังชีวิต นอกจากนี้เขายังนำอาหารบางชนิดมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าด้วย ส่วนความรู้เรื่องการใช้เทคโนโลยีนอกจากการสื่อสารนี้ Quitmeyer บอกว่าเขาค้นพบในขณะที่เริ่มซ่อมอุปกรณ์เทคโนโลยีตอนที่เป็นนักชีววิทยาภาคสนาม ก่อนที่จะทำการถ่ายทอดผ่านรายการนี้ Quitmeyer เคยมีช่องยูทูปของตัวเองด้วย โดยจะสาธิตการวิธีการซ่อมเทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้ในป่า จนกลายเป็นช่องทางที่ทำให้เขามีรายการทีวีเป็นของตัวเอง Quitmeyer บอกว่า…
-
หญิงสาวสูญเสียหนูตะเภาที่รักเหมือนลูก จึงนำภาพเก่ามาตกแต่ง เพื่อส่งความคิดถึงไปให้
ใครก็ตามเมื่อได้เลี้ยงสัตว์แล้วก็จะเกิดความผูกพันกับมันจนไม่อยากจากกัน และคงไม่อาจหาสัตว์เลี้ยงตัวอื่นมาทดแทนในวันที่มันจากเราไปได้ เพราะแต่ละตัวมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และนี่คือเรื่องราวของหญิงสาวที่เลี้ยงหนูตะเภา เธอตั้งชื่อให้มันว่า Archie แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อเจ้าหนูน้อยเกิดป่วยหนักและจากเธอไปเมื่อไม่นานมานี้… ตอนที่รู้ว่า Archie ป่วย เจ้าของก็ได้พามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อหาทางรักษามัน แต่คุณหมอฉีดยาให้น้องหนูไม่กี่เข็ม ก่อนจะให้พากลับบ้านได้ หลังจากที่ไปหาหมอและฉีดยาแล้ว หญิงสาวก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเพราะคิดว่ามันคงจะดีขึ้นแล้วแน่ๆ แต่ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม เพราะเจ้า Archie ตายในอ้อมแขนของเธอหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง เจ้าของเสียใจมาก เธอเอาแต่โทษตัวเองที่ปล่อยให้มันตายโดยช่วยอะไรมันไม่ได้เลย ใขณะที่หลายคนบอกว่าให้หาตัวใหม่มาแทน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะด้วยเงื่อนไขของความผูกพันที่ไม่สามารถแทนกันได้ เธอยังบอกอีกว่า เวลาเลี้ยงสัตว์คุณจะเกิดความรู้สึกพิเศษกับสัตว์ตัวนั้นๆ ต่อให้มีสัตว์เลี้ยงหลายตัว แต่ความรู้สึกที่มีให้พวกมันนั้นจะแตกต่างกัน ดังนั้นอย่าคิดว่าสัตว์จะแทนที่กันได้ มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน หรือบางคนอาจจะคิดว่า เพียงไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ คุณจะทำใจได้เอง แต่นั่นไม่ใช่สำหรับหญิงสาวรายนี้ เพราะ Archie เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอไปแล้ว ดังนั้นการเสียมันไปก็ไม่ต่างจากการสูญเสียลูกน้อยคนหนึ่งเลย สิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้ก็คือ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่โดยไม่มีมัน แต่เธอถึงอย่างนั้นความทรงจำดีและช่วงเวลาที่เคยอยู่ร่วมกันมาจะคงอยู่ในความทรงจำของเธอตลอดไป แต่เพราะความคิดถึง หญิงสาวจึงได้นำรูปของ Archie มาแต่งให้ดูน่ารักสดใสเพื่อเอาไว้ดูต่างหน้า และยังเป็นการระลึกถึงหนูน้อยที่จากไปด้วย เชื่อเหลือเกินว่าหนูน้อยที่ตายไปก็คงรับคิดถึงและรับรู้ถึงความรู้สึกของเจ้าของคนนี้เหมือนกัน… . .…
-
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยน้องหมา ให้รอดจากเหตุไฟไหม้ มันจึงกลับมาขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม
สัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นเพียงแค่สัตว์เท่านั้น แต่มันยังเป็นสมาชิกที่สำคัญสำหรับครอบครัวด้วย ดังนั้นมันก็ควรได้รับความสำคัญพอๆ กับคนอื่นในครอบครัว ไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนก็ตาม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก Snohomish County Fire District 7 ในรัฐวอชิงตันได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้ในบ้านหลังหนึ่ง และเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง ก็พบว่าทุกคนออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว เว้นแต่ Sampson สุนัขของพวกครอบครัวนี้ที่ยังติดอยู่ข้างใน ตอนนี้บ้านที่ถูกไฟไหม้เต็มไปด้วยควัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องรีบเข้าไปตามหาเจ้าหมาเคราะห์ร้าย ก่อนที่มันจะสำลักควันไปมากกว่านี้ ในที่สุดก็สามารถพา Sampson ออกมาจากบ้านได้ในสภาพที่หมดสติ แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่ละความพยายามที่จะช่วยมัน พวกเขาเริ่มที่จะทำ CPR ให้ หวังให้มันฟื้นขึ้นมาให้ได้ หลังจากทำ CPR จนเจ้าหมาเริ่มมีสติกลับมา เจ้าหน้าที่ก็เลยใส่หน้ากากออกซิเจนให้ ก่อนจะพามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป โชคดีตรงที่ว่าน้องหมาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย นอกจากการสำลักควัน และเมื่อตรวจจนแน่ใจว่าพ้นขีดอันตรายแล้วสัตว์แพทย์จึงปล่อยให้มันกลับบ้านได้ในวันนั้น ไม่กี่วันต่อมา Sampson ก็กลับมาแข็งแรงและสดใสเหมือนเดิม แต่มันไม่เคยลืมเลยว่าใครที่ช่วยให้มันมีวันนี้อีกครั้ง ดังนั้นหลังจากที่ทุกอย่างกลับมาเข้าที่เข้าทางแล้ว ทางครอบครัวจึงพาเจ้าหมาไปหาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ช่วยมันเอาไว้ เมื่อน้องหมาได้เห็นผู้ช่วยชีวิตอีกครั้ง มันรีบวิ่งเข้าไปขอบคุณทุกคน ทางด้านเจ้าหน้าที่เอง เมื่อเห็นน้องหมาที่เคยช่วยไว้อยู่ในสภาพที่แข็งแรง พวกเขาก็ดีใจไม่น้อยเลยเหมือนกัน จากนั้นน้องหมาและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ถ่ายรูปร่วมกันเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก และเป็นความทรงจำที่ดีของทั้งสองฝ่าย ที่มา thedodo
-
เด็กหญิงถ่ายรูปเลียนคนดัง ผู้เป็นต้นแบบหญิงแกร่ง เพื่อเป็นกำลังใจให้ยายที่เป็นมะเร็ง…
เป็นธรรมดาที่เราจะถ่ายรูปเลียนแบบดาราหรือคนดัง แม้จะไม่เหมือนเป๊ะแต่เราก็มีความสุขที่ได้ทำเช่นนั้น และสำหรับเด็กหญิงวัย 3 ขวบคนนี้ การถ่ายรูปเลียนแบบคนดังไม่ได้สร้างความสุขให้เธอเพียงคนเดียว แต่มันเป็นความสุขของคนทั้งครอบครัวด้วย และนี่ไม่ใช่การถ่ายรูปเลียนแบบทั่วๆ ไป แต่ทางครอบครัวได้ทำเป็นโปรเจคที่เริ่มขึ้นเมื่อ Nonnie คุณยายของเด็กหญิง Scout ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ครอบครัวจึงอยากจะทำบางสิ่งเพื่อให้จมกับความเศร้าที่ต้องเจอ Malala เมื่อผมของคุณยายเริ่มหลุดร่วง Scout เองก็ไม่มีความสุขเช่นกันเพราะเธอเป็นห่วงยายมาก แต่ผู้เป็นแม่ที่เฝ้าดูอยู่ ก็อยากทำให้ทั้งคู่รู้สึกสบายใจ คุณแม่สอนพวกเขาว่าเป็นผู้หญิงต้องอดทนและเข้มแข็งให้เหมือนนักรบ!! และได้ยกตัวอย่างผู้หญิงที่เป็นต้นแบบของความเข้มแข็ง Carrie Fisher คุณแม่ได้เลือกรูปของผู้หญิงต้นแบบเหล่านั้น แล้วพูดถึงประวัติแต่ละคนให้ Scout ฟัง จากนั้นทั้งคุณยาย แม่ และลูกสาวก็ช่วยกันเลือกภาพที่ต้องการจะเลียนแบบ สำหรับโปรเจคนี้ใช้เวลาไม่ถึง 1 ปี และตลอดช่วงเวลาที่เริ่มทำโปรเจคนั้น คุณยายได้เข้ารับการรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ สำหรับคุณยาย Nonnie เธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมตั้งแต่ปี 2016 เธอทำคีโมไปแล้วประมาณ 6 ครั้งตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายนในปีเดียวกัน หลังจากนั้นร่างกายคุณยายก็ดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่โชคร้าย เธอประสบอุบัติเหตุจนต้องเข้าผ่าตัดเต้านมถึง 2 ครั้ง แต่อย่างน้อยคุณยายก็ได้สอนให้หลานสาวรู้ว่า ผู้หญิงที่แข็งแกร่งนั้นเป็นอย่างไร Frida…
-
เกือบไปแล้ว… 3 โจรวิ่งหนีตำรวจไปเจอหมีดักหน้า เลยยอมวิ่งกลับไปให้โดนจับแต่โดยดี
หมีขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ป่าที่น่ากลัว เพราะสิ่งมีชีวิตชนิดไหนที่เข้าใกล้มันก็ตกเป็นเหยื่อของมันทั้งนั้นรวมทั้งมนุษย์ด้วย แต่ต้องเข้าใจว่านั่นคือธรรมชาติของหมี แต่บางครั้งธรรมชาติแห่งการเป็นนักล่านี้อาจไม่ได้เลวร้ายกับทุกสถานการณ์ อย่างกรณีนี้ที่ทางเว็บไซต์ esuteru ได้รายงานว่ามีหมีตัวหนึ่งสามารถช่วยตำรวจจับคนร้ายได้ถึง 3 คนเลยทีเดียว!! เมื่อเวลาประมาณ 2:50 น. ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2017 ตามเวลาท้องถิ่น ชายสามคนอายุระหว่าง 18-22 ปี ได้ก่อเหตุบุกเข้าไปยังบ้านหลังหนึ่งในเมืองอุสึโนะมิยะ จังหวัดโทะชิงิ ประเทศญี่ปุ่น และได้ทำร้ายหญิงวัย 75 ปี 2 คนในบ้านจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนทั้งสามจะหลบหนีไปพร้อมเครื่องประดับมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ต่อมากรมตำตรวจโทะชิงิ ได้ทำการติดตามด้วยเฮลิคอปเตอร์จนพบทั้งสามคนอยู่ในรถบริเวณเมืองนิกโกะ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ก่อเหตุราว 50 กิโลเมตร โดยกำลังหลบหนีไปตามทางหลวง เมื่อรู้ว่ากำลังลูกไล่ล่า คนร้ายทั้งสามจึงตัดสินใจทิ้งรถไว้ข้างทาง ก่อนจะวิ่งหลบเข้าไปในป่า แต่โชคร้ายเมื่อพวกเขาดันไปเจอกับสิ่งที่ร้ายแรงกว่าการถูกตำรวจจับ!! เพราะหลังจากที่สามคนวิ่งเข้าป่าได้สักพัก ก็ไปเจอกับหมีตัวเป็นๆ เข้าอย่างจัง ทำให้พวกเขานึกถึงสิ่งที่ได้ทำกับหญิงชราขึ้นมาทันที… เมื่อรู้ว่ากำลังเผชิญกับสัตว์ร้าย ทั้งสามคนจึงวิ่งกลับไปทางเดิม และแน่นอนว่าพอวิ่งกลับมาทางเดิม พวกเขาก็เจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 20 นายที่ตามมา แต่เมื่อเทียบกับหมีที่เพิ่งเจอแล้ว พวกเขารู้ดีว่าการยอมให้ตำรวจจับเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเยอะ …
-
โคตรตรง… นักการเมืองเม็กซิโกขึ้นป้ายหาเสียง “#แฮชแท็กแคมเปญ” แบบโต้งๆ แถมดังระเบิด!!
ในปัจจุบันถ้าหากอยากจะให้เกิดกระแสอะไรในโซเชียลหรือเรื่องไหนฮิตๆ จะมีการใช้แฮชแท็กติดสอยห้อยท้ายกันไป เช่น #Catdumb รวมไปถึงแคมเปญหรือการเคลื่อนไหวต่างๆ เช่นเดียวกัน ในการใช้งานจริง เพียงแค่ใช้สัญลักษณ์ # ทุกคนก็เข้าใจตรงกันแล้วว่ามันคือแฮชแท็กที่พร้อมจะใส่ข้อความแล้ว และนี่จึงกลายเป็นโอกาสสำหรับนักการเมืองทั้งหลายที่จะใช้ในการหาเสียง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถโปรโมทให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น และหนึ่งในนั้นคือ Javier Zapata นักการเมืองชาวเม็กซิโก ที่เลือกใช้แฮชแท็กในการช่วยหาเสียง แต่ดูเหมือนท่านจะเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวแฮชแท็กไปหน่อยนะ เว็บไซต์ The Guardian รายงานว่า Javier Zapata ได้ลงสมัครเป็นผู้ว่าการรัฐนายาริต และได้ทำการหาเสียงด้วยแผ่นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เหมือนนักการเมืองทั่วไป ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปกติแล้ว เพราะมีรูปและชื่อเขาติดอยู่บนแผ่นป้าย แต่ก็ต้องสะดุดกับ #hashtagcampaña ที่ทำให้ผู้พบเห็นอดขำไม่ได้ และกลายเป็นความอับอายสำหรับ Zapata ด้วย ทางสื่อบอกว่า จริงๆ เขาต้องการจะสร้างแฮชแท็กเกี่ยวกับหนวดที่เป็นการบ่งบอกถึงตัวเขาเพื่อใช้หาเสียง แต่ท่านอาจจะไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับแฮชแท็กหรือเกิดความผิดพลาด จนกลายเป็นเรื่องหน้าแตกซะงั้น แฮชแท็กแบบนี้ก็ได้หรอ จะว่า Zapata คนเดียวก็ไม่ได้นะ เพราะป้ายโฆษณานี้ต้องผ่านทั้งทีมงานออกแบบและคนทำป้ายอีกหลายคน พวกเขาไม่เอะใจบ้างหรอ? หรือว่าเพียงแค่ปล่อยผ่านงานให้เสร็จๆ ไป แต่ไม่ว่าพวกเขาจะรู้หรือไม่รู้ ตอนนี้ภาพหาเสียงของ Zapata กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกโซเชียลของเม็กซิโกแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะออกแนวเยาะเย้ยและขำกับการใช้แฮชแท็กของนักการเมืองคนนี้ แหม่ มีเรื่องให้ขำแต่เช้าเลย …
-
ชีวิตดี๊ดีของ “Vladimir” เจ้าเหมียวรักผจญภัย ออกท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติตั้งแต่กำเนิด
การเที่ยวรอบโลกถือเป็นความใฝ่ฝันของหลายๆ คน แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ไม่ใช่เรื่อง่ายเลย ไหนจะต้องทำงานเก็บเงิน แถมต้องมีเวลามากพอสมควรเลยทีเดียวล่ะ แต่ทว่างานนี้เพื่อนๆ คงต้องอิจฉาเจ้าเหมียว Vladimir แน่ๆ เลย เพราะมันได้เที่ยวรอบโลกไปกับเจ้าของตั้งแต่เกิดแล้ว… เจ้าเหมียว Vladimir อาศัยอยู่กับคุณ Cees และ Madison Hofman ในรถบ้าน Toyota RV ตั้งแต่เกิด ทำให้มันได้ไปเที่ยวในอุทยานแห่งชาติกว่า 52 แห่งจากทั้งหมด 59 แห่งในหลายๆ รัฐ ที่ต้องเป็นอุทยานแห่งชาติ เพราะ Cees เคยถูกขอแต่งงานในอุทยานแห่งชาติ Yosemite National Park ในปี 2014 ตั้งแต่นั้นมาอุทยานแห่งชาติทุกแห่งก็กลายเป็นที่ที่มีความหมายสำหรับทั้งคู่ ทั้ง Cees และ Madison ต่างเป็นคนรักการเดินทางและชอบธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะไปเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเมื่อมีเวลาว่าง โดยเฉพาะปี 2016 พวกเขาเดินทางมากกว่าอยู่บ้านซะอีก และตั้งชื่อให้กับรถบ้านของพวกเขาว่า ‘Vie’ ที่พ้องเสียงกับคำว่า ‘ชีวิต’ ในภาษาฝรั่งเศส ไม่นานหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้มีสมาชิกใหม่ร่วมการเดินทาง…
-
นักวิทย์ค้นพบเซลล์ภูมิคุ้มกัน ที่กระตุ้นการงอกของเส้นผม ช่วยลดวิกฤตหัวล้านในอนาคต!?
หัวล้านเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เป็นผลจากพันธุกรรม แพ้สารเคมี แพ้อาหาร แพ้ยา และสาเหตุอื่นๆ แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร ก็คงไม่มีใครอยากหัวล้านหรอกใช่มั้ย… แล้วมันจะดีแค่ไหนถ้าเรามีวิธีต้านทานวิกฤตหัวล้านได้ แม้จะเป็นการสืบทอดทางพันธุกรรมก็ตาม? โดยล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบเซลล์ที่สามารถช่วยบรรเทาหัวล้านได้ เซลล์ภูมิคุ้มกัน T หรือที่รู้จักกันว่า Tregs มีอยู่ทั่วร่างกายของเรา โดยจะทำหน้าที่ควบคุมการอักเสบ เพื่อทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทุกส่วนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการที่นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย University of California ในซานฟรานซิสโกได้ทำการทดลองกับหนู พบว่าเซลล์ Tregs ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ คือ สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้… Dr. Michael Rosenblum หัวหน้างานวิจัยบอกว่า การค้นพบนี้เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับอาการหัวล้านและระบบภูมิคุ้มกัน เขาบอกว่า “รูขุมขนของมนุษย์จะมีการสร้างใหม่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อเส้นผมหลุดออกจากรูขุมขน เส้นผมใหม่ก็จะงอกขึ้นมาแทนที่” จริงๆ แล้ว กระบวนการนี้มันจะเป็นการทำงานของเซลล์ต้นกำเนิด แต่ตอนนี้กลับพบว่าเซลล์ Tregs มีความสำคัญมากกว่าในการกระตุ้นการงอกของเส้นผม นั่นหมายความว่าหากคุณขาดเซลล์ดังกล่าว ผมของคุณก็จะไม่งอกใหม่เช่นกัน นอกจากนี้ งานวิจัยยังบอกอีกว่าเซลล์ Tregs สามารถนำไปรักษาอาการผมร่วง หนึ่งในโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่เป็นสาเหตุของอาการดังกล่าว แม้การวิจัยนี้จะเป็นเพียงการค้นพบเบื้องต้นเกี่ยวกับคุณสมบัติของเซลล์ Tregs เท่านั้น…
-
วงการนักวิ่งตะลึง!! สาวคว้าชัยวิ่งมาราธอน 50 กิโลฯ ทั้งที่ใส่กระโปรงและรองเท้าแตะ
การจะเริ่มวิ่งมาราธอนได้นั้น หลายคนต้องอาศัยการฝึกซ้อมมาเป็นปี เพื่อเตรียมความพร้อมให้ร่างกาย นอกจากนี้ผู้เข้าแข่งขันจะใส่ชุดกีฬาที่ออกแบบมาเพื่อวิ่งโดยเฉพาะ ตั้งแต่เสื้อ กางเกง และรองเท้า ที่เน้นความกระชับเป็นหลัก แต่สำหรับ María Lorena Ramírez ชาวพื้นเมือง Rarámuri จากเม็กซิโก วัย 22 ปี ที่ไม่เคยฝึกวิ่งเลย และสวมแค่เสื้อยืด กระโปรงยาวถึงหัวเข่า และรองเท้าแตะเก่าๆ คู่หนึ่ง ได้เข้าร่วมการแข่งวิ่งมาราธอนระยะทาง 50 กิโลเมตร หญิงสาวยืนท่ามกลางนักวิ่งหญิงจากทั่วโลกประมาณ 500 คน เห็นได้ชัดว่าเธอแตกต่างจากคนอื่น เพราะชุดที่ใส่ แต่เธอดูจะไม่ค่อยสนใจเรื่องชุดสักเท่าไร ปกติชาว Rarámuri หรือ Tarahumara เป็นชนเผ่าพื้นเมืองของเม็กซิโกที่มีชื่อเสียงด้านการวิ่งอยู่แล้ว และ Ramírez ก็ถือเป็นหนึ่งในนักวิ่งระยะยาวที่วิ่งเร็วที่สุดของหมู่บ้านคนหนึ่ง ในการแข่งขันครั้งนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะชนะการแข่ง เพราะชุดที่เธอใส่นั้นดูไม่เหมาะกับการวิ่งเอาซะเลย และต้องวิ่งระยะทางไกลขนาดนี้ ชุดของเธอต้องเป็นอุปสรรคแน่ๆ แต่หลังจากปล่อยตัวนักกีฬาไป 7 ชั่วโมง กับอีก 3 นาที ทุกคนถึงกับเซอร์ไพรส์ เมื่อ Ramírez วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในบรรดาผู้หญิงทั้งหมด และคว้าถ้วยรางวัลพร้อมเงินสดประมาณ 11,000 บาท …
-
เด็กวัย 13 ปี ได้รับเกียรติบัตร “มีแนวโน้มจะเป็นผู้ก่อการร้าย” จากคุณครูที่โรงเรียน!?
เวลาที่ทำความดีหรือแสดงความสามารถแล้วได้รับเกียรติบัตร เป็นใครก็ต้องรู้สึกดีใจ แถมยังสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ปกครองด้วย แต่สำหรับ Lizeth Villanueva เด็กหญิงวัย 13 ปี กลับไม่ค่อยภูมิใจกับเกียรติบัตรที่คุณครูมอบให้ เพราะข้อความภายในนั้นบอกว่า “มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ก่อการร้าย” Villanueva จากรัฐเท็กซัส เป็นนักเรียนเกรดเจ็ด (เทียบเท่าชั้น ม.1) จากโรงเรียน Anthony Aguirre Junior High School โดยสื่อ KPRC รายงานว่า เธอได้รับเกียรติบัตรในคาบเรียน AVID ซึ่งเป็นแผนการเรียนระดับสูงที่เตรียมความพร้อมให้เด็กเพื่อก้าวสู่ชีวิตในระดับวิทยาลัยและการทำงาน เด็กหญิงเล่าให้ฟังว่า “ตอนนั้นคุณครูประกาศหน้าห้องว่าเป็นเกียรติบัตร “ผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ก่อการร้าย” จากนั้นครูก็เรียกชื่อหนู แล้วก็มอบให้หนูค่ะ” หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องขำๆ ที่ครูล้อเล่นกับนักเรียน แต่ทว่าทั้ง Villanueva และแม่ของเธอ Ena Hernandez ไม่ได้คิดเช่นนั้น คุณแม่บอกว่า “ตอนที่ลูกเอาเกียรติบัตรให้ดู ฉันอารมณ์เสียและโกรธมากเลยค่ะ ฉันตกใจมาก เพราะลูกสาวของฉันเป็นคนเรียบร้อยและเคยได้เกียรติบัตรเรียนดีมาแล้ว” ในขณะเดียวกัน ทางโรงเรียนก็ได้ยอมรับผิด และขอโทษมายังเด็กหญิงและพ่อแม่ของเธอสำหรับเกียรติบัตรดังกล่าว รวมถึงใบอื่นๆ อย่าง “ผู้มีแนวโน้มจะกลายเป็นคนจรจัด” และ “ผู้มีแนวโน้มจะขอความช่วยเหลือทุกอย่าง” ที่นักเรียนคนอื่นได้รับไป ในการแถลงการณ์ของทางโรงเรียน…
-
พาชมกระบวนการสร้าง “เสียงประกอบฉาก” แบบดั้งเดิม แม้จะเล็กน้อยแต่สำคัญมาก!!
การทำหนังหรือละครนั้น เสียงประกอบถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สร้างความสมบูรณ์ให้หนังเรื่องนั้นๆ แต่รู้มั้ยว่าเสียงที่เราได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงที่เกิดจากการถ่ายทำนะ แต่เป็นเสียงที่ทำแยกแล้วค่อยนำมาตัดต่อกับภาพอีกที ถ้าเป็นหนังในยุคปัจจุบัน การสร้างเสียงประกอบจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เพราะสามารถจัดหาอุปกรณ์ หรือสร้างเสียงตามต้องการได้ทันทีจากคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีที่ทำหนังแนวย้อนยุค การทำเสียงประกอบจะค่อนข้างซับซ้อนและทำยาก เพราะหลายๆ เสียงไม่สามารถใช้อุปกรณ์สมัยใหม่ทำได้ เนื่องจากว่าอาจจะไม่สมจริงเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามจากที่เราเคยดูหนังย้อนยุคที่ผ่านมา เมื่อฟังเสียงแล้ว ทุกอย่างเนียนมากเหมือนเสียงที่เกิดขึ้นจริงๆ จากประสบการณ์ที่เราได้ยินมาด้วยตัวเองจากชีวิตประจำวัน แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความสามารถของผู้ที่อยู่เบื้องหลังเสียงเหล่านี้ นอกจากอุปกรณ์ในการสร้างเสียงแล้ว บรรยากาศและสถานที่ก็สำคัญเช่นกัน เพราะในระหว่างสร้างเสียงนั้นจะมีการบันทึกเสียงไปด้วย ดังนั้นจึงต้องแน่ใจว่าไม่มีเสียงอื่นเข้ามาแทรกเสียงที่ต้องการ การถ่ายทำที่ถือว่ายากแล้ว แต่การสร้างเสียงนั้นก็ยากไม่แพ้กัน เพราะจะต้องทำเสียงให้ตรงกับการเคลื่อนไหวของตัวละคร รวมทั้งบรรยากาศรอบข้างด้วย และนี่คือหนึ่งในเบื้องหลังการทำเสียงประกอบฉากที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น การสร้างเสียงไม่ใช่งานหมูๆ เลยนะเนี่ย ที่มา viralnova
-
8 รูปปั้นขนาดมหึมารอบโลก ที่ถูกสร้างมาเนิ่นนาน แต่ทว่าไม่ค่อยมีใครรู้จักว่ามีอยู่…
สถาปัตยกรรรมขนาดยักษ์สามารถพบได้ในเกือบทุกประเทศ ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงถึงฝีมือด้านศิลปะของประเทศนั้นๆ แล้ว ยังเป็นอนุสาวรีย์เพื่อแสดงความเคารพต่อตัวบุคคลและความเชื่อต่างๆ ด้วยขนาดใหญ่มหึมาจึงทำให้สถาปัตยกรรมเหล่านี้มีชื่อเสียงและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก แต่ก็ยังมีอีกหลายแห่งเหมือนกัน ที่แม้จะสร้างมานานแล้วแต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย 1. Mao Zedong ในมณฑลฉางชา ประเทศจีน สำหรับรูปปั้นขนาดยักษ์เหล่านี้อาจทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า พวกเขาเป็นใคร และทำไมต้องถูกนำมาสร้างเป็นอนุสาวรีย์ขนาดนี้ด้วย!? เหมือนดั่งเช่น Fabrice Fouillet ที่กำลังตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ว่ารูปปั้นขนาดยักษ์เหล่านี้ทำไมเขาถึงไม่รู้จักเลย และผู้คนส่วนใหญ่ก็อาจจะไม่รู้จักเช่นกัน 2. Dai Kannon ในเซนได ประเทศญี่ปุ่น Fouillet เป็นคนที่ชื่นชอบงานสถาปัตยกรรม จึงได้เดินทางไปดูสถานที่อันงดงามต่างๆ ทั่วโลก และในระหว่างนี้ทำให้รู้ว่ายังมีรูปปั้นมากมายที่ถูกสร้างมันนานแล้ว แต่มันกลับเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเราทั้งหลาย 3. Mother of the Fatherland ในเคียฟ ประเทศยูเครน 4. Christ Blessing ในมานาโด ประเทศอินโดนีเซีย 5. African Renaissance Monument ในดาการ์ ประเทศเซเนกัล 6. Christ the…
-
โอกาสมาถึงแล้ว… คลินิกแมวไอร์แลนด์เปิดรับ “นักกอดแมวอาชีพ” งานเหมาะกับทาสแมวที่สุด!!
สิ่งที่คนรักแมวส่วนใหญ่ชอบทำที่สุดก็คือการกอดแมวเหมียว แต่บางทีก็ไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไร จึงได้กอดพวกมันเฉพาะในเวลาว่าง หรืออาจจะกอดได้ไม่เต็มอิ่ม แต่จะดีแค่ไหนถ้าคุณได้กอดเจ้าเหมียวแบบหนำใจ โดยไม่ต้องรอให้ถึงเวลาว่าง แถมยังได้เงินจากการกอดแมวด้วยนะ เพราะนี่ก็คือ “อาชีพกอดแมว” ที่เกิดมาเพื่อคนรักแมวโดยเฉพาะ เมื่อคลินิกเฉพาะทางแมว Just Cats จากประเทศไอร์แลนด์ ได้ทำการประกาศตามหาผู้ร่วมงานผ่านเว็บไซต์ในตำแหน่ง ‘นักกอดแมวอาชีพ’ ซึ่งต้องการบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นคนรักแมวจริงๆ เพราะต้องทำหน้าที่กอดและให้ความรักแมวในทุกๆ วัน ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นของคนที่จะทำอาชีพนี้คือ ความรู้สึก เพราะคุณจะต้องถ่ายทอดความอบอุ่นและความรักให้เหล่าแมวเหมียวทุกครั้งที่เจอ และต้องคอยให้อาหารพวกมันในยามที่ต้องการด้วย ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ คือ คุณจะต้องเป็นคนที่อ่อนโยนเพื่อคอยลูบตัวให้เจ้าเหมียวเป็นเวลานานๆ ได้ นอกจากนี้คุณจะต้องมีเสียงที่แผ่วเบา เพื่อกระซิบคุยกับแมว ซึ่งจะเป็นการช่วยผ่อนคลายความเครียดให้พวกมันได้ แต่ถึงแม้ว่าคุณจะมีคุณสมบัติครบทั้งหมดแล้ว คุณยังต้องผ่านการรับรองจากสภาสัตวแพทย์แห่งไอร์แลนด์ด้วยนะ ถึงจะสามารถเข้าทำงานในตำแหน่งนี้ได้ บอกได้เลยว่ามันเป็นงานที่ดีเยี่ยมมากๆ ใครรู้ตัวว่าเป็นคนรักแมว โอกาสของคุณมาถึงแล้ว ย้ำว่าต้องเป็นคนรักแมวจริงๆ นะ แต่ต่อให้รักแมวถ้าแพ้ขนแมวก็อดนะ แต่ช้าก่อน… คลินิกแห่งนี้อยู่ไกลถึงประเทศไอร์แลนด์ ถ้าหากว่าคุณสนใจอยากจะไปจริงๆ ก็สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ justcats.ie ได้เลย หวังว่าคุณจะได้เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกนะ!! รู้สึกอยากกอดแมวขึ้นมา…
-
20 นวัตกรรมเจ๋งๆ เปลี่ยนความยุ่งยากให้เป็นเรื่องง่าย ใครๆ ก็อยากหมายปองมาครองไว้
ทุกวันนี้มนุษย์ได้สร้างนวัตกรรมขึ้นมากมาย ทั้งนวัตกรรมใหม่และการพัฒนานวัตกรรมเก่าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวัน และปฏิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่มีสิ่งเหล่านี้ การใช้ชีวิตของเราก็สะดวกสบายขึ้นจริงๆ และนี่คือนวัตกรรมส่วนหนึ่งที่ได้ออกแบบมาเพื่อทำให้เรื่องยุ่งยากกลายเป็นเรื่องง่าย ทั้งเจ๋งและมีประโยชน์จนอยากได้มาครอบครองทุกชิ้นเลย 1. ภาชนะสำหรับใส่เครื่องเทศและน้ำมัน 2. เครื่องคว้านสับปะรด 3. เยลลี่สำหรับทำความสะอาดพื้นที่ ที่เข้าถึงยาก 4. แถบบน USB ที่แสดงพื้นที่ ที่ถูกใช้งานและพื้นที่ว่าง 5. จักรยานตัดแบ่งพิซซ่า 6. สลิปเปอร์พร้อมไฟส่อง LED 7. จักรยานพร้อมรถเข็นเด็ก 8. แท่นวางอาหารทรงจิ๊กซอว์ 9. แก้วกาแฟกันเลอะเทอะ 10. กระถางดอกไม้ป้องกันตกหล่น . 11. ที่นั่งสาธารณะ หมุนบิดเปลี่ยนพื้นผิวได้ ทำให้แห้งตลอดเวลา 12. ฐานวางแก้ว ที่ให้พลังงานชาร์จแบตฯ โทรศัพท์ได้ 13.…
-
งดงามเหลือเกิน… ทุ่งดอกทิวลิปบานสะพรั่ง ท่ามกลางหิมะโปรยปราย เย็นชุ่มฉ่ำไปถึงหัวใจ
ดอกทิวลิปนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มักจะมีความงดงามเสมอ และความพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ มันจะบานสะพรั่งในฤดูหนาว ซึ่งต่างกับดอกไม้ทั่วไปที่จะผลิบานในฤดูอบอุ่น จึงทำให้ทิวลิปเป็นดอกไม้ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก สำหรับประเทศไทยแม้จะไม่ใช่เมืองหนาว แต่ปัจจุบันก็ได้มีการนำดอกทิวลิปมาจัดแสดงในงานดอกไม้ต่างๆ มากขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสความงดงามของมัน แต่สิ่งที่เราได้เห็นนั้นเป็นความงามของดอกทิวลิปท่ามกลางบรรยากาศที่ถูกจัดขึ้นในสถานที่เตรียมไว้ ในครั้งนี้เราจึงนำภาพดอกทิวทิปที่อยู่ในเมืองหนาวจริงๆ โดยเฉพาะในช่วงหิมะตกมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ดอกทิวลิปนับพันอยู่ท่ามกลางหิมะในฟาร์มทิวลิปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมอลโดวา หลังจากที่ทิวลิปบานสะพรั่งในช่วงกลางเดือนเมษายน วันต่อมาหิมะก็เทลงมาอย่างหนัก ทำให้ทิวทิปถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ แม้ว่าหิมะจะตกหนักจนบดบังดอกทิวลิปเกือบทั้งหมด แต่เมื่อมองโดยรวมแล้ว ดอกทิวทิปท่ามกลางหิมะช่างสดใสและสวยงามเหลือเกิน หลายคนอาจจะกังวลว่าหิมะเหล่านี้จะทำให้ดอกทิวลิปตายได้ แต่ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะมันเป็นดอกที่ทนต่อความสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดี แต่ก็ไม่ควรทิ้งไว้นานเกินไปนะ อย่างไรก็ตามทางเจ้าของฟาร์มได้กล่าวว่า หิมะไม่ได้ตกหนักแบบนี้ทุกปี หรือหากตก สองสามวันถัดไปก็หยุด จึงไม่ได้ทำให้ดอกทิวลิปเสียหาย แต่สำหรับปีนี้หิมะตกหนักเป็นพิเศษ จนเกิดเป็นความสวยงามที่น่าทึ่ง ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาถ่ายรูปก่อนที่หิมะจะหายไปในอีกไม่กี่วันถัดไปเหมือนที่ผ่านมา . . . . . . . . . . . . . . . . …
-
บริษัทสัญชาติเบลารุส เริ่มกระบวนการผลิต “จักรยานไม้” สวยงามมีความวินเทจขั้นสุด!!
ทุกวันนี้งานไม้ถูกนำมาใช้ประโยชน์หลากหลายและสร้างสรรค์มาก เช่น การนำมาทำเป็นกรอบแว่น เคสโทรศัพท์ และผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันอื่นๆ อีกมากมาย และล่าสุดนี้ Belwooddoors หนึ่งในบริษัทสัญชาติเบลารุส ก็ไม่พลาดที่สร้างสรรค์ผลงานจากไม้เหมือนกัน โดยนำไม้มาทำเป็นจักรยานที่สามารถใช้งานได้จริง และมันก็งดงามมากซะด้วย!! จักรยานไม้นี้ถูกสร้างขึ้นจากไม้เกือบทั้งคัน ยกเว้นเพียงแต่ส่วนล้อขับเคลื่อน ที่จำเป็นต้องใช้ล้อยางและโครงล้อที่เป็นเหล็ก และแน่นอนว่าทางบริษัทก็ไม่ได้สั่งซื้อแบบสำเร็จรูปมา เพราะทุกองค์ประกอบจะต้องผลิตขึ้นมาเองทั้งหมด น้ำหนักจักรยานไม้จะอยู่ที่ 21 กิโลกรัม ส่วนราคาก็ประมาณ 34,000 บาท (1,000 ดอลลาร์) ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า และอุปกรณ์ที่นำมาประกอบด้วย ส่วนการใช้งานนั้นจะเหมือนจักรยานคลาสสิกทุกประการ นั่นก็หมายความว่าจักรยานไม้คันนี้ จะไม่มีเบรกหน้าและไม่ได้มีออปชั่นการใช้งานหวือหวาเหมือนจักรยานรุ่นใหม่ โดยจะมีการรับประกันเฟรมจักรยานไม้คันนี้ถึง 5 ปีเลยล่ะ . แต่ว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช้ไอเดียใหม่หรอกนะ เพราะทางบริษัทเองก็ได้ไอเดียนี้ มาจากจักรยานไม้ที่ทำขึ้นในเบลารุสในช่วงปี 1920 – 1930 หนึ่งในต้นแบบของจักรยานไม้ ที่ยังคงหลงเหลือจากปี 1993 สำหรับจักรยานไม้ที่สร้างขึ้นในปี 1933 ปัจจุบันถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เบลารุส ซึ่งสามารถใช้งานได้จริง……
-
สัตวแพทย์ทำ “ลำโพงจิ๋ว” ให้เจ้าหนูแฮมสเตอร์ หลังเล่นซนจนต้องผ่าตัดขาหนึ่งข้าง…
ปกติแล้วหลังจากที่สัตว์เข้ารับการผ่าตัดหรือมีแผล สัตว์แพทย์ก็จะให้พวกมันใส่คอลลาร์ หรือที่เรียกกันว่าลำโพงสัตว์ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลียแผลตัวเอง แต่ลำโพงสัตว์เหล่านั้นก็ใช่ว่าสัตว์ทุกชนิดจะใส่ได้ โดยเฉพาะสัตว์ขนาดจิ๋วอย่างหนูแฮมสเตอร์ ที่ไม่มีลำโพงขนาดพอดีกับตัวมันเลย Lavender หนูแฮมสเตอร์วัย 4 เดือน เป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว Weeks ในประเทศอังกฤษ แต่ด้วยลักษณะนิสัยที่ซนมากๆ จนล่าสุดมันหายไปจากกรงตัวเอง ทำเอาเจ้าของต้องตามหากันวุ่น ในทึ่สุดมันก็ถูกพบอยู่หลังเตาอบในห้องครัว โดยที่ขาของมันข้างหนึ่งเข้าไปติดอยู่ในซอกแคบๆ และเมื่อเจ้าของช่วยมันออกมาได้ ก็พบว่าขาของมันได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก ด้วยเหตุนี้ทางครอบครัว Weeks จึงได้พาเจ้าหนูแสนซนไปหาคุณหมอทันที หลังจากสัตวแพทย์ Amy Andrews ได้ตรวจร่างกายของเจ้า Lavender แล้ว ก็พบว่าขาของมันหัก ตอนนี้จึงมีตัวเลือก 2 ทางคือ ต้องพ่นยาชาให้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด หรือตัดขาของมันทิ้งเพื่อไม่ให้มันต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป เจ้าของ Lavender จึงเลือกการผ่าตัดขาข้างที่หัก เพราะถึงจะเจ็บแต่ก็เจ็บเพียงแค่ครั้งเดียว และโชคดีที่การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี เหลือแค่รอให้น้องหนูฟื้นตัวเท่านั้น Lavender ก็เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไปที่จำเป็นต้องใส่ลำโพงหลังรับการรักษา เพื่อไม่ให้มันเลียแผลตัวเอง แต่ทว่าลำโพงที่มีอยู่นั้น มีขนาดใหญ่เกินกว่าตัวมันหลายเท่า ดังนั้นทีมรักษาหนูแฮมสเตอร์ตัวนี้ จึงได้ทำลำโพงจิ๋วแบบพิเศษให้กับเจ้า Lavender…
-
หญิงสาวเสียโฉมจากน้ำกรด จนชีวิตแทบหมดหวัง แต่ได้พบรักแท้เพราะโทรผิดเบอร์!?
การจะแต่งงานกับใครสักคน แม้หน้าตาจะมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างแรก แต่เชื่อว่าเรื่องจิตใจนั้นน่าจะสำคัญกว่า เพราะคนส่วนใหญ่ก็อยากมีคู่ชีวิตที่เป็นคนที่เข้าอกเข้าใจอีกฝ่าย เพื่อจะได้ประครองรักให้นานเท่านาน อย่างหญิงสาวรายนี้ แม้จะถูกพี่ชายสาดน้ำกรดใส่จนหน้าเสียโฉมแทบสิ้นเชิง แต่เธอก็ได้พบเจอชายหนุ่มที่มองข้ามเรื่องหน้าตา จนถึงขั้นตกลงปลงใจแต่งงานกันในที่สุด!! Lalita Benbansi วัย 26 ปี จากเมือง Azamgarh ประเทศอินเดีย ถูกพี่ชายสาดน้ำกรดใส่ในปี 2012 ทำให้ใบหน้าของเธอได้รับความเสียหาย และเสียโฉมจนจำแทบไม่เหลือเค้าเดิมอยู่เลย ตั้งแต่นั้นมาเธอต้องผ่านการผ่าตัดถึง 17 ครั้ง เพื่อทำให้ใบหน้ากลับมาดูปกติที่สุด ในขณะเดียวกันเธอก็คิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสมีแฟนอีกแล้ว เพราะคงไม่มีใครรับใบหน้าของเธอได้ แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อเธอต้องการโทรหาเพื่อน แต่ดันกดหมายเลขผิดเป็นเบอร์ของ Rahul Kumar ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเมืองมุมไบ แม้จะเป็นการโทรผิด แต่ทั้งสองก็รู้สึกชอบพอกันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินเสียง ก็เลยโทรศัพท์ติดต่อกันมากขึ้นและบ่อยขึ้น จนพัฒนาความสัมผัสเป็นเพื่อนที่รู้ใจ ก่อนจะกลายมาเป็นคนรักในเวลาต่อมา หลังจากที่พวกเขาคบหาดูใจกันมาประมาณ 2 เดือน ชายหนุ่มก็ขอหญิงสาวแต่งงาน ซึ่งเกินความคาดหมายของ Lalita มาก เพราะเธอไม่เคยคิดว่าจะมีใครมารักเธอได้อีก Lalita บอกว่า “ฉันไม่เคยคิดเลยว่า การโทรผิดเบอร์ในครั้งนั้น จะเปลี่ยนชีวิตฉันได้ขนาดนี้ ตอนนี้ฉันรู้สึกมีความสุขมากๆ…
-
12 ภาพบรรยากาศ “ชั่วโมงเร่งด่วน” จากหลากประเทศทั่วโลก บ้านเราเทียบได้มั้ยเอ่ย?
ไม่ว่าประเทศไหนต่างก็ประสบปัญหาการจราจรติดขัดกันนั้น อย่างประเทศไทยที่เราอยู่กัน การจราจรในกรุงเทพฯ ก็ขึ้นชื่อว่าติดขัดมากที่สุดในโลกเช่นกัน เมื่อได้สัมผัสบรรยากาศชั่วโมงเร่งด่วนภายในบ้านเรากันไปแล้ว เราลองไปดูที่ต่างประเทศกันบ้างดีกว่าว่า สภาพรถติดของพวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง จะมีสภาพที่คล้ายๆ กับเรา หรือว่าหนักหนาสาหัสกว่าเรารึเปล่า? 1. กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน 2. กรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ 3. นครเวนิส ประเทศอิตาลี 4. รัฐฉัตตีสครห์ ประเทศอินเดีย 5. กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 6. เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา 7. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ 8. กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย 9. นครเซาเปาลู ประเทศบราซิล 10. เมืองกัมปาลา ประเทศยูกันดา 11. เมืองปาแลร์โม ประเทศอิตาลี 12.…
-
เล่าประสบการณ์เที่ยว “ยอดภูเขาไฟเพ็กตู” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด แห่งเกาหลีเหนือ!!
หลายคนอาจทราบมาบ้างแล้วว่า เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในประเทศที่น่ากลัว เนื่องจากมีการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ที่ร้ายแรง และหากพวกเขาทำการทดลองอาวุธนิวเคลียร์นี้ อาจส่งผลให้ภูเขาไฟปะทุได้ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญเผย สำหรับภูเขาไฟเพ็กตูนั้น ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวเกาหลีเหนือ และหากมันปะทุขึ้นมา จะทำให้คนในเกาหลีเหนือและจีนเสียชีวิตหลายพันคน จนนำไปสู่หายนะครั้งใหญ่ ชาวเกาหลีเหนืออ้างว่าที่ภูเขาไฟแห่งนี้เป็นจุดกำเนิดของบรรพบุรุษพวกเขา… และในช่วงปี 1950 ผู้ก่อตั้งประเทศอย่าง คิม อิล-ซ็อง ก็ได้สั่งให้กองทหารตั้งฐานทัพลับที่นี่เพื่อต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นด้วย วิธีเดียวที่นักท่องเที่ยวจะไปยังภูเขาไฟเพ็กตูได้ คือต้องไปด้วยเที่ยวบิน Air Koryo จากกรุงเปียงยางไปยังสนามบิน Samjiyon ในแต่ละเที่ยวบินจะมีทหารมาด้วยทุกครั้ง โดยเครื่องบินดังกล่าวนี้เก่ามากจนถูกขึ้นบัญชีดำของยุโรป นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังถูกสั่งห้ามไม่ให้ใช้แล็ปท็อประหว่างอยู่บนเครื่องบินด้วย ชาวเกาหลีเหนือยังบอกอีกว่าบอกว่า คิม จ็อง-อิล ก็เกิดที่นี่เช่นกันในปี 1942 แต่จริงๆ แล้วเขาเกิดที่ไซบีเรีย ซึ่งพ่อของเขาใช้เป็นที่หลบภัยหลังจากหนีทหารญี่ปุ่น ดังนั้นเกาหลีเหนือจึงหวงแหนและคอยปกป้องภูเขาไฟแห่งนี้ ไม่ให้คนภายนอกเข้ามารุกราน รวมทั้งนักท่องที่เที่ยวที่จะเข้ามาเยี่ยมชมก็ต้องอยู่ในระยะที่กำหนดเท่านั้น และนี่คือประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวท่านหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปสัมผัสภูเขาไฟเพ็กตู แล้วนำมาเปิดเผยให้ชาวเน็ตได้ชมกัน… เมื่อมาถึงสนามบิน Samjiyon สัมภาระจะถูกจัดส่งอย่างรวดเร็ว โดยชายในเครื่องแบบ หมู่บ้านรอบๆ Samjiyon ที่ดูเหมือนเพิ่งจะก่อตั้งขึ้นใหม่ แต่ถ้ามองดูใกล้ๆ จะเห็นความยากลำบากที่ผู้คนที่นี่ต้องเผชิญ กลุ่มนักเรียนที่ต้องเดินทางเป็นอาทิตย์เพื่อเดินตามรอย คิม อิล-ซ็อง…
-
สงสารจับใจ…น้องหมาทำหน้าเศร้า หลังรู้ว่าถูกเจ้าของทิ้ง และไม่มีวันกลับมารับมันอีก
บางทีก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันนะว่าทำไมคนเลี้ยงสุนัขบางคนถึงกล้าทิ้งสุนัขตัวเองได้ลงคอ ทั้งที่เคยอยู่ด้วยกันมาเป็นเดือนเป็นปี อย่าว่าแต่เดือนเลย แค่วันหรือสองวันเราก็เกิดความผูกพันจนไม่อยากอยู่ห่างจากมันแล้ว Electra เป็นสุนัขพันธุ์พิทบูลวัย 4 ปี ที่ถูกเจ้าของนำไปทิ้งไว้กับศูนย์พักพิง Inland Valley Humane Society ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อมันรู้ตัวว่าถูกนำมาทิ้ง เจ้า Electra ก็ทำหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด และเอาแต่ก้มมองพื้นในกรง เพราะรู้ว่าเจ้าของจะไม่กลับมารับมันอีกแล้ว ใครก็ตามที่ได้เห็นโมเม้นนั้น คงเศร้าไปกับมันและกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แน่ๆ ไม่นานภาพสุดเศร้าของน้องหมาก็ถูกโพสต์ลงในเฟสบุ๊กโดย Lolys Menchaka ซึ่งเป็นหญิงสาวที่ช่วยสัตว์ในศูนย์พักพิงหาบ้าน เธอเขียนอธิบายไว้ว่า ‘ใบหน้าของเจ้า Electra ดูเศร้ามาก และมันเป็นแบบนี้จริงๆ เมื่อต้องมาอยู่ในศูนย์พักพิง’ เธอยังบอกอีกว่า “บางทีฉันก็อยากเข้าใจคนที่ทิ้งสัตว์เลี้ยงตัวเองนะ แต่เมื่อเห็นใบหน้าเศร้าของสุนัขที่ต้องเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิง ในขณะที่เจ้าของยังคงทำหน้ายิ้มแย้มแล้ว บอกตรงๆ มันยากที่จะเข้าใจจริงๆ” และหลังจากที่ภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาดูกว่า 270,000 คน ซึ่งทุกคนต่างก็รู้สึกสงสารเจ้า Electra จับใจ… ชาวเน็ตคนหนึ่งคอมเม้นต์ว่า ‘ทำได้ยังไง ดูที่ตาของมันสิ มันดูหวาดกลัวมาก มันทั้งให้ความรักและซื่อสัตย์กับเจ้าของ…
-
นักเรียนหนุ่มไปถ่ายรูปจบในร้านอาหารธรรมดา แต่ด้วยออร่าความหล่อ ทำให้ร้านดูดีขึ้นมาทันที!?
“คนหน้าตาดี ทำอะไรก็ดูดี” ประโยคที่หลายๆ คนได้ยิน ได้ฟังมาตั้งเด็ก แต่ก็ไม่คิดใครบางคนจะหน้าตาดีจนถึงขั้นทำให้ร้านอาหารธรรมด๊าาา ธรรมาดา ให้ดูเหมือนภัตตาคารสุดหรูได้ Andrew McBurnie นักเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายจากเมือง Bourbonnais รัฐอิลลินอยส์ ที่อยากถ่ายรูปก่อนจบแบบเก๋ๆ ไม่เหมือนใคร Andrew จึงได้ชวน Wesley Taylor เพื่อนที่เป็นช่างภาพไปยังร้าน Taco Bell ซึ่งเป็นร้านฟาสต์ฟู้ดธรรมดาๆ ที่เหมือนกับร้านเบอร์เกอร์ทั่วๆ ไปในบ้านเรานั่นแหละ ชายหนุ่มได้แต่งตัวด้วยชุดสูทสุดเนี๊ยบ บวกกับหน้าตาอันหล่อเหลาของเขาแล้ว มันช่างขัดแย้งกับร้านที่เขาจะเข้าไปถ่ายรูปซะเหลือเกิน Andrew บอกว่า “ที่ผมตัดสินใจไปถ่ายรูปในร้านนี้ เพราะมันเป็นที่ที่ผมและเพื่อนๆ มักจะไปนั่งกินอาหารด้วยกันบ่อยๆ ในตลอดการเป็นนักเรียน ม. ปลายครับ” ดังนั้นร้านอาหารนี้จึงเปรียบเสมือนแหล่งรวมความทรงจำของเขากับเพื่อนๆ จึงอยากได้รูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก ทั้งยังเป็นการช่วยโปรโมทร้านด้วย ชายหนุ่มกำลังทำท่านั่งเหม่อ เหมือนกำลังอยู่ในร้านอาหารหรู หล่อแบบมีออร่า อยู่ที่ไหนที่นั่นก็ดูดีไปด้วย เขายังบอกอีกว่า “สิ่งที่ยากที่สุดในการถ่ายรูปครั้งนี้คือการถืออาหารโดยไม่กินเลยครับ ผมอาจจะใช้เวลาถ่ายรูปแค่ 10 นาที แต่การถืออาหารไว้นานๆ…
-
คลิปวิดีโอที่สะท้อนให้เห็นความทารุณของมนุษย์ กับการจับสัตว์ป่าเพื่อแสวงหาความสุข!!
ขึ้นชื่อว่าสัตว์ป่ามันก็ควรจะใช้ชีวิตอยู่ในป่า เพราะลักษณะนิสัยหรือพฤติกรรมตามธรรมชาตินั้นถูกออกแบบมาเพื่อสิ่งแวดล้อมในป่าเท่านั้น แต่มนุษย์เราชอบนำสัตว์ป่ามาเป็นสัตว์เลี้ยง และพยายามจะหาความบันเทิงจากพวกมัน แต่หารู้ไม่ว่านั่นเป็นการฝืนธรรมชาติสัตว์ป่า ที่อาจเป็นอันตรายต่อทั้งตัวสัตว์ป่าเองและมนุษย์ด้วย อย่างวิดีโอที่เราได้นำเสนอในวันนี้ ในคลิปจะเห็นชายคนหนึ่งอุ้มลูกหมีขึ้นมาเหมือนกำลังเล่นกับเด็กตัวเล็กๆ แต่ด้วยความเป็นสัตว์ป่า หมีน้อยไม่รู้ว่ามนุษย์เล่นด้วย มันเลยเกิดอาการกลัวจนถึงขั้นฉี่ราดออกมาเลย แม้น้องหมีจะฉี่ราดด้วยความกลัว แต่ชายที่อุ้มหมีกลับไม่สะทกสะท้าน เขายังคงยิ้มอย่างมีความสุขกับการกระทำของตัวเอง… ชายในคลิปที่อุ้มลูกหมีคือ Tim Stark เจ้าของ Wildlife In Need ซึ่งเป็นสวนสัตว์ริมถนนใน Charlestown รัฐอินดีแอนา ที่นำสัตว์ป่ามาขังไว้ในกรงเล็กๆ เพื่อหารายได้จากพวกมัน ในสวนสัตว์ของ Stark นั้นเต็มไปด้วยสัตว์ป่าที่เข้าถึงตัวยาก อย่าง หมี เสือ สิงโต ลิง นาก และสัตว์ป่าอื่นๆ อีกมากมาย โดยจะให้ผู้คนเข้ามาเล่นกับสัตว์เหล่านี้แบบใกล้ชิด ราวกับเป็นคาเฟ่สัตว์ป่า แต่ Stark นั้นมีประวัติที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการนำสัตว์ป่าพวกนี้เข้ามา… Jenni James ที่ปรึกษากฎหมายการทารุณกรรมสัตว์จากมูลนิธิ PETA บอกว่า เขาได้ละเมิดสวัสดิภาพสัตว์ป่ามานาน เพราะเขาอนุญาตให้พนักงานที่ดูแลสามารถตีลูกเสือและขี่ลูกม้าได้!! นอกจากนี้เขายังโปรโมทให้ผู้คนเข้ามาดู มาสัมผัสสัตว์เหล่านี้แบบใกล้ชิด โดยจัดกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า “Tiger Baby…
-
11 นักแสดงจาก “Spy Kids” ทั้งความเปลี่ยนแปลงและงานในปัจจุบัน ห่างหายกันไปนานมาก!!
ตอนเด็กๆ #เหมียวขี้ส่อง เชื่อว่าเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ต้องเคยดู Spy Kids แน่นอน เพราะเรียกได้ว่าเป็นหนังคุณภาพอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความประทับให้คนดูไม่น้อยเลย และแน่นอนว่านักแสดงของเรื่องนี้ อาจเป็นขวัญใจของใครหลายๆ คนก็ได้ ว่าแต่เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ พวกเขาเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน และกำลังทำอะไรอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราแทบจะไม่ได้เห็นหน้าพวกเขาอีกเลย… 1. Alexa PenaVega รับบทเป็น Carmen Cortez ปัจจุบันเธอได้แสดงในซีรีย์ Nashville ซีซั่นที่ 3 และยังได้ร่วมแสดงในภาพยนต์เรื่องใหม่ชื่อ Sleep Away อีกด้วย ส่วนสถานะของเธอตอนนี้ ได้แต่งงานกับ Carlos PenaVega และมีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่อ Ocean King PenaVega 2. Daryl Sabara รับบทเป็น Juni Cortez ปัจจุบันเขาเป็นนักพากย์เสียงการ์ตูนในเรื่อง Ben 10 และมีแฟนสาวเป็นนักร้องชื่อดัง Meghan Trainor ด้วยนะเออ 3. Antonio Banderas รับบทเป็น Gregorio Cortez ปัจจุบันเขารับบทเป็น Gianni…
-
ชายชราอุทิศตน สร้างทางเดินบนภูเขาเพื่อเชื่อมหมู่บ้านอันห่างไกล ด้วยเงินของตัวเอง…
ถิ่นที่อยู่อาศัยในดินแดนอันห่างไกล มักจะประสบกับปัญหาความเจริญที่เข้าไม่ถึง และขาดการดูแลจากภาครัฐในหลายๆ เรื่อง คนในพื้นที่จึงต้องดูแลกันเองเพื่อความอยู่รอด อย่างเช่น Zhang Jiwen ชายชราวัย 75 ปี ที่แม้ว่าเกือบจะหูหนวกแล้ว แต่เขายังมีสองมือที่พร้อมจะช่วยเหลือผู้คนที่ด้อยโอกาสเสมอ ย้อนกลับไปในปี 2012 เขาได้เริ่มแบกวัสดุก่อสร้างขึ้นไปยังภูเขาในอุทยานแห่งชาติ Fuling Forest Park ใกล้กับเมืองฉงชิ่ง เพื่อสร้างทางเดินที่ปลอดภัย เชื่อมจากถนนลาดยางมายังหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลบนยอดเขา หลายคนคงสงสัยว่าทำไมชายชราถึงต้องทุ่มเทให้หมู่บ้านมากขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะ Zhang เคยเติบโตมาในหมู่บ้าน Fuling ที่มีความกันดาร ต่อมาเขาได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีความเจริญ มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง แต่เขาไม่เคยลืมหมู่บ้านที่ตัวเองจากมาเลย เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวของหมู่บ้านบนภูเขาว่า เด็กๆ ต้องเดินทางลงเขาด้วยเส้นทางที่ลาดชันและมีความเสี่ยงเพื่อไปโรงเรียน เขาจึงไม่ลังเลที่จะเข้าไปช่วยเหลือในทันที แต่การเดินทางไปทำงานบนยอดเขาเป็นไปได้ยากมาก Zhang จึงต้องหารถยนต์เพื่อขนส่งวัสดุและเดินทางไปยังที่หมาย ตลอดระยะเวลา 5 ปี เขาต้องนั่งรถบัสพร้อมกับขนวัสดุทีละเล็กทีละน้อยจากฉงชิ่งไปยังอุทยาน Fuling Forest Park โดยการทำงานในครั้งนี้ Zhang ต้องซื้อวัสดุ อุปกรณ์จำนวนมาก โดยใช้เงินตัวเองทั้งหมด ส่วนวัสดุที่ไม่จำเป็นต้องซื้ออย่าง หินหรือทราย เขาก็ได้ขนมาจากแม่น้ำใกล้เคียง รวมทั้งนำอิฐเก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้วมาสมทบด้วย…
-
20 น้องหมาสุดเกรียน พยามแหกกฎทุกอย่างที่มนุษย์ตั้งไว้ ถึงจะดื้อแต่ก็โกรธไม่ลง…
สุนัขนอกจากจะเป็นสัตว์ที่มีความซื่อสัตย์แล้ว มันยังมีความฉลาดเป็นเลิศอีกนะ สอนอะไรทำได้หมด ขนาดเรื่องที่ไม่ได้สอนมันยังรู้เลย แต่สำหรับสุนัขบางตัวการทำตามคำสั่งมนุษย์ดูจะเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไปหน่อย พวกมันเลยอวดรู้ด้วยการแหกกฎที่มนุษย์ตั้งไว้ให้ เพื่อทำให้เห็นว่า เป็นหมาก็คิดเองเป็นเฟ้ย 1. น้องหมาที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องครัว แต่มันก็พยายามอยู่ให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ 2. มีความงอน เมื่อไม่อนุญาตให้เข้าห้องครัว 3. รู้นะว่าอยากกิน แต่พอหันไปมองเท่านั้น “อะไร ไม่รู้วววว” 4. พอรู้ว่าไม่อนุญาตให้เข้าห้อง มันเลยหลีกเลี่ยงด้วยการไม่สบตา ทำเนียนไม่รู้ไม่ชี้ 5. มาทำท่าออดท้อน เพราะอยากให้เจ้าของโยนบอลให้ 6. เมื่อเจ้าของไม่ให้ไปนอนบนเตียง ประชดซะเลยนี่ 7. ไม่ให้นอนบนโซฟาใช่มั้ย ได้ งั้นลากหมอนจากโซฟามานอนบนพื้นละกัน 8. เมื่อเจ้าของไม่ให้นอนบนเฟอร์นิเจอร์… ดูมันทำ 9. ไม่ให้นอนใช่มั้ย งั้นขอวางตัวแป๊บนะ 10. เจ้าของไม่ให้นอนบนโซฟา แต่พอเด็กน้อยกว้างหมอนใบหนึ่งลงมาปุ๊บ มันอาศัยจังหวะนั้นขึ้นไปนั่งทันที …
-
พบกับ ‘Sophie’ แมวมีระเบียบดีเด่น เข้านอนบนเตียงตัวเอง เวลาเดียวกับเจ้าของเป๊ะๆ
คนเลี้ยงแมวจะรู้ดีว่า แมวเหมียวมักจะไม่นอนในที่ที่เราจัดให้ ต่อให้น่านอนมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วพวกมันก็ยังชอบไปนอนตามโซฟาหรือบนเตียงของเรามากกว่า แต่สำหรับน้องแมว Sophie ตั้งแต่มีเตียงของตัวเอง มันไม่เคยไปนอนที่อื่นเลย นอกจากที่เตียงที่ทำให้ แถมเข้านอนเป็นเวลาซะด้วย เมื่อตอนที่ Sophie อายุประมาณ 3 ปี มันถูกช่วยเหลือออกมาจากที่กักขังแมว ซึ่งเต็มไปด้วยแมวจำนวนมากที่ต้องอยู่แออัดกันในกรงอันคับแคบ แมวน้อยได้รับการช่วยเหลือจาก Animal Rescue League of Boston (ARL) หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ก็มีคนใจดีรับมันไปเลี้ยง Sophie เป็นแมวที่น่ารักมากๆ และมักจะอยู่ใกล้กับเจ้าของทุกที่ทุกเวลา แม้กระทั่งเวลาที่เจ้าของเข้านอน มันก็จะกระโดดขึ้นบนโต๊ะเครื่องแป้งและนอนหลับอยู่ตรงนั้นตลอดทั้งคืน ราวกับว่าต้องการจะอยู่ให้สูงพอที่จะมองเห็นเจ้าของได้จนกว่าจะตื่น Christiana Viscusi เจ้าของของ Sophie บอกว่า “ฉันคอยสังเกตว่ามันจะนอนบนเตียงของเราหรือเปล่า แต่มันก็ไม่เคยขึ้นมานอนเลยค่ะ มันเอาแต่นอนบนโต๊ะเครื่องแป้งเหมือนเดิมทุกคืนเลย” ไม่กี่คืนต่อมา เจ้าของจึงได้เอาโต๊ะเครื่องแป้งออก แล้วนำเตียงที่สั่งทำพิเศษให้ไปวางแทนที่ ปรากฏว่าตั้งแต่นั้นมา Sophie ก็จะขึ้นนอนบนเตียงนั้นทุกครั้งที่เจ้าของเข้านอนเหมือนกัน เตียงของ Sophie เหมือนกับเตียงมนุษย์ทุกอย่างเลย แต่เป็นขนาดมินิย่อส่วนให้พอดีตัว นอกจากนี้ยังมีชุดผ้าปูที่นอน…
-
หนุ่มใหญ่ร้องไห้ เมื่อได้พบเจ้าเหมียวหูหนวกตาบอดอีกครั้ง หลังจากหายไปนาน 2 เดือน
ไม่แปลกใจเลยทำไมหลายๆ คนถึงได้รักสัตว์เลี้ยงเหมือนลูกคนหนึ่ง เพราะเมื่อคุณอยู่ด้วยกัน ได้ดูแลกัน ก็จะก่อเกิดเป็นความรักความผูกพัน จนยากที่จะแยกออกจากกันได้ และเพราะความรักที่มีต่อสัตว์เลี้ยงนี่เอง ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อได้พบกับแมวที่มีทั้งอาการหูหนวกและตาบอดวัย 20 ปี ของเขาที่หายไปเมื่อ 2 เดือนก่อน เมื่อ 2 เดือนก่อน Raymond McNamara ได้พา Lily แมวที่หูหนวกและตาบอดไปท่องเที่ยวทั่วประเทศ แต่แล้ววันหนึ่งน้องแมวก็หายไประหว่างที่กำลังเดินทางไปเซาท์ฟลอริดา ทันที่รู้ว่าเจ้าเหมียวหายตัวไป Raymond จึงได้ออกตามหาทุกซอกทุกมุม ทั้งไปเคาะประตูบ้านคนแถวนั้น แจ้งไปยังศูนย์ควบคุมสัตว์ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม้จะไม่มีความคืบหน้าเลย แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะตามหามันต่อไป และเมื่อศูนย์พักพิง Saving Sage Animal Rescue ในไมอามีได้รู้เรื่องราวของแมวที่หายไป พวกเขาจึงทำการประชุมหาทางเพื่อช่วยชายคนดังกล่าวตามหา แต่ไม่ว่าจะหายังไงก็หาไม่เจอแม้แต่ร่องรอยของมัน ทำให้ Raymond เสียใจหนักมาก จนกระทั่งเวลาผ่านไป 2 เดือน Kathy Bieniek จาก Saving Sage Animal Rescue ก็ได้รับข้อความจากหญิงคนหนึ่งผ่านเฟสบุ๊ก โดยบอกว่าเธอพบแมวที่ไซต์ก่อสร้างใกล้กับจุดที่ Lily หายตัวไป เมื่อได้ทราบข่าว ทุกคนมั่นใจว่าต้องเป็นแมวของ Raymond แน่ๆ…
-
ชาวเน็ตสมทบทุนจัดวิวาห์ผู้ป่วยมะเร็ง ก่อนเจ้าบ่าวจะเสียชีวิตหลังแต่งเพียง 48 ชั่วโมง
สำหรับใครหลายๆ คน การแต่งงานถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นพร้อมกับคู่ชีวิต ที่ต้องคอยดูแลกันและกันจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต แต่บางคนกลับไม่มีโอกาสได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขหลังแต่งงานเลย… เพราะเธอคนนี้สูญเสียสามีอันเป็นที่รัก หลังจากแต่งงานไปเพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2017 องค์กรการกุศลได้จัดงานแต่งงานให้กับ Ray Kershaw วัย 63 ปี และ Tracy Brooks วัย 43 ปี จากมหานครแมนเชสเตอร์ หลังจากที่ Kershaw ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงไม่กี่วัน งานแต่งถูกจัดขึ้นที่บ้านพักคนชรา Springhill Hospice โดยมีเพื่อนสนิทและญาติของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นพยานรักให้ทั้งคู่ แต่หลังจากการแต่งงานเพียง 48 ชั่วโมง ทางด้าน Gift of a Wedding องค์การกุศลที่จัดงานแต่งให้ก็ได้ออกมายืนยันว่า Kershaw เสียชีวิตแล้ว ทางองค์การกุศลเผยว่า หลังจากที่ทราบอาการป่วยของ Kershaw พวกเขาก็ได้ทำการระดมทุนเพื่อจัดงานแต่งงานให้เขา โดยมีชาวเน็ตเข้าร่วมสมทบทุนอีกจำนวนมาก แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ทางองค์กรก็แจ้งให้ทุกคนทราบว่าเจ้าบ่าวที่ป่วยเป็นมะเร็งเสียชีวิตลงแล้ว อย่างไรตามต้องขอบคุณผู้สนับสนุนทุกคนที่ทำให้ฝันของชายคนหนึ่งเป็นจริงก่อนที่เขาจะจากไป…
-
พ่อหนุ่มทำเนียน “หลับนอนกับคนดังนับไม่ถ้วน” ด้วยการตัดต่อสุดเกรียนที่เห็นแล้ว… เอิ่มมม!!
ไม่แปลกเลยถ้าคุณจะตัดต่อรูปเองกับดาราที่ชื่นชอบ อยากให้ภาพออกมาเป็นแบบไหนก็จัดไปโล้ดดด (แต่ทำให้เนียนก็แล้วกัน) อย่างพ่อหนุ่มที่ใช้ชื่อนามแฝงว่า Average Rob ผู้มีความใฝ่ฝันอยากนอนหลับกับคนดังที่หลายๆ คนรู้จักกันดี ก็เลยตัดต่อภาพนอนตัวเองอยู่ในเฟรมเดียวกับเหล่าเซเลปทั้งหลาย จนกลายเป็นหนุ่มที่ได้หลับนอนกับคนดังมากที่สุดในโลกไปในตอนนี้แล้ว ฮาๆๆ 1. ขนาดเทเลอร์ สวิฟท์ ยังต้องนั่งรอ จนกว่าพี่จะตื่น 2. เดวิด เบคแฮม ค่อนข้างจะรำคาญหน่อยๆ ที่ต้องมาดูแล 3. อยู่กับโอบาม่าและทีมงานของเขาบนบนรถไฟใต้ดิน ระหว่างเดินทางกลับบ้าน 4. ขนาดนอน ไรอันยังมาถ่ายรูปด้วยเลย 5. กับลูกพี่เอ็มมิเน็ม 6. จ่ะ นอนให้มิล่า คูนิส เขียนหน้าเล่น 7. คานนีย์ นอร์ธ และร็อบ ก่อนขึ้นคอนเสิร์ต 8. มาร์กอน รอพบี้ น้องหมาและชายหนุ่มผู้รักการนอนหลับ 9. กับนักฟุตบอลทีมชาติเบลเยียม ซี้ปึ๊กเลย 10. ได้นอนซบไหล่เซเลน่า…
-
17 ภาพฮาๆ น่ารักๆ จากแฟนเพจตำรวจออสเตรเลีย ที่ทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้ว “ตำรวจเป็นคนตลก”
โดยปกติแล้วเพจของตำรวจหรือเพจที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการ มักจะโพสต์หรือแชร์เรื่องที่เป็นสาระ และค่อนข้างที่จะจริงจัง โดยที่เราแทบจะไม่เห็นมุกตลกจากเพจเหล่านี้ แต่สำหรับหน้าเพจกองตำรวจ New South Wales Police Force ในออสเตรเลียนั้น กลับเต็มไปด้วยเรื่องขบขัน หรือแม้แต่เรื่องจริงจัง พวกเขาก็ทำให้เป็นเรื่องฮาๆ ได้ พวกเขามักจะหยิบจับอะไรในสถานีหรือระหว่างปฏิบัติงาน กระทั่งสุนัขตำรวจประจำสำนักงานก็จับมาแซวได้ตลอดเวลา และนี่คือเรื่องราวที่ชาวเน็ตรวบรวมความฮาของพวกเขา มาให้เราได้ร่วมขำขันกัน… 1. น้องหมาเข้ามาแจ้งความ น้องหมา: แจ้งความหน่อยฮะ เจ้าของหาย ตำรวจ: หายไปนานแค่ไหนแล้วครับ น้องหมา: 12 วิครับ ตำรวจ:…. 2. “ไหนดูสิ ในฐานข้อมูลตำรวจมีใครเป็นเด็กดีบ้าง” 3. “เช้าวันจันทร์ มองอะไรก็พร่ามัวไปหมด” 4. “แอม อิน เลิฟ วิธ เดอะ เชฟ ออก ยูวววว” 5. “ตำรวจกับคู่หูสี่ขา” 6. “หวัดดีครับ รู้ตัวมั้ยว่าวิ่งเร็วแค่ไหน?”…
-
ห่างกันเพียงเอื้อมมือ… ตำรวจญี่ปุ่นวิ่งไล่จับคนร้าย เวอร์ชั่นสโลว์ไลฟ์ เหนื่อยเหลือเกิน!!
ปกติเวลาตำรวจไล่ล่าคนร้ายนั้น สิ่งที่เราคุ้นตาคือฉากไล่จับที่จะดูดุเดือดมาก เพราะคนร้ายจะวิ่งหนีสุดชีวิตเพื่อเอาตัวรอด ในขณะที่ตำรวจก็ตามสุดความสามารถเพื่อไม่ให้คนร้ายหนีไปได้ สำหรับสถานการณ์นี้ แม้จะเป็นการวิ่งไล่ล่าคนร้ายเหมือนกัน แต่กลับไม่มีความดุเดือดเลย แถมดูละเมียดละไม จนคนเจแปนีสที่ผ่านมาพบเห็นคิดว่าเป็นการถ่ายทำหนังซะงั้น เหตุเกิดในวันที่ 23 พฤษภาคมที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อชายคนหนึ่งเข้าไปใน Elizabeth Jewelers และพยายามจะขโมยเครื่องประดับกับนาฬิกาเอ็มโพเรียม แต่ยังไม่ทันเอาออกจากร้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงซะก่อน คนร้ายจึงวิ่งหนีออกไปทันที โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งตามมาติดๆ พยานที่เห็นเหตุการณ์ช่วงนั้นบอกว่า “ทั้งสองคนวิ่งเร็วมากเลยค่ะ พวกเขาวิ่งข้ามสี่แยก โดยไม่สนใจเลยว่ามันเป็นไฟแดงอยู่” นั่นเป็นการให้การของพยาน แต่เมื่อดูจากกล้องที่บันทึกเหตุการณ์นั้นไว้ หลายคนถึงกับสงสัยว่า ‘นั่นเรียกว่าวิ่งเร็วแล้วหรอ?’ ในคลิปวิดีโอจะเห็นคนร้ายสวมเสื้อยืดสีขาว ใส่กางเกงยีนส์ สวมหน้ากาก ถุงมือ และใส่แว่นตาดำ รูปร่างเขาค่อนข้างบึกบึน ดูแล้วคงยากที่ตำรวจจะจับตัวเขาได้ แต่เปล่าเลย แม้ว่าตำรวจจะวิ่งไล่ตามอยู่ติดๆ แต่คนร้ายกลับวิ่งเหยาะๆ เหมือนกำลังวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะยังไงอย่างงั้น วินาทีตำรวจไล่จับคนร้ายด้วยความเร็วแบบไฮสปีด จริงจริ๊ง เห็นวิ่งเหยาะๆ แบบนี้ใช่ว่าจะจับตัวได้ง่ายๆ เพราะชาวเน็ตหลายคนแซวว่าตำรวจที่วิ่งตามก็วิ่งช้าไม่ต่างจากคนร้ายเลย ทั้งคู่ทิ้งระยะห่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่จับไม่ได้สักที จริงๆ แล้วอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาวิ่งไล่กันก่อนหน้าที่นานแล้วก็ได้ จึงทำให้อ่อนแรงในตอนที่ถูกถ่ายวิดีโอพอดี…
-
เรื่องราวสุดฮา “เมื่อแม่อยากให้ผมทำภาพสวัสดีวันจันทร์” ความบรรลัยสุดฮาจึงบังเกิดขึ้น…
เช้ามา เอาละ ติ๊งน่อง… ไม่ใช่คนมากดกริ่งหน้าบ้านนะแต่เป็นเสียงไลน์ ดูสิใครทักมาก เปิดปุ๊บ…เจ้าเดิม ไม่พ่อก็แม่กับข้อความ ‘สวัสดีวันจันทร์ อังคาร… ยาวไปจนถึงอาทิตย์’ ใครเจอแบบนี้บ้าง? แหม่ก็ยุคนี้ชีวิตต้องติดโซเชียล มีรึพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่จะพลาด บางคนจริงจังถึงขั้นทำรูป ทำตัวหนังสือเองเลย และไม่ใช่ส่งให้แค่ลูกหลานนะ แต่ส่งเพื่อนๆ ในกลุ่มไลน์ที่ตั้งกันเองด้วย อย่างคุณ Prince Devitt หนุ่มชาวเหนือที่ได้แชร์ประสบการณ์ในกระทู้พันธิปว่า “เมื่อแม่อยากให้ผมทำภาพสวัสดีวันจันทร์-อาทิตย์ ความบรรลัยจึงบังเกิด” งานนี้คุณ Prince กับเราว่าแม่ได้ทักไลน์มาหา และขออย่างหนึ่งคือให้ช่วยหารูปดอกไม้สวยๆ ให้ เพื่อที่จะได้ส่งต่อให้เพื่อนๆ ในไลน์ คุณเจ้าของกระทู้เลยส่งรูปด้านล่างนี้ไปให้ แต่คุณแม่ตอบกลับมาว่า “ไม่ใช่แบบนั้นลูก แม่อยากได้แบบนี้อะ” ชายหนุ่มเลยถามกลับไปว่า “อ๋อ งั้นจะให้ใส่ข้อความด้วยเลยมั้ย?” แม่จึงตอบว่า “ทำให้ด้วยก็ดีนะ” แถมยังบอกอีกว่าใส่สถานที่ด้วยจะดีมาก งานนี้ด้วยความที่อยากจะให้แม่ตัวเองเก๋กว่าคนอื่นเขา แถมยังได้อะไรเจ๋งๆ คูลๆ ก็เลยลงทุนทำให้แม่ซะเลย เมื่อแม่ขอมา ลูกเลยจัดให้ “สวัสดีวันจันทร์” “สุขสันต์วันอังคาร” แถมคติเล็กน้อยให้ด้วย …
-
ลายสักแรกของแม่ จากการออกแบบและสักโดยลูกสาว มอบเป็นของขวัญอันล้ำค่าในวันแม่
การสักถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แต่ด้วยเหตุผลต่างๆ คนส่วนใหญ่จึงมักจะให้เด็กอยู่ห่างจากศิลปะแนวนี้ ไม่ว่าจะในฐานะคนสักหรือคนถูกสัก แต่สำหรับคุณแม่ท่านนี้ กลับยอมให้ลูกสาววัย 7 ขวบ สักลายให้เธอในวันแม่สหรัฐฯ ในปีนี้ ด้วยลายที่ลูกสาวออกแบบเองเพื่อเธอโดยเฉพาะ เมื่อวันแม่สหรัฐฯ ที่ผ่านมาคุณแม่ Morgan ได้พาลูกสาว Delilah วัย 7 ขวบ ไปยังร้านสัก The Warren Tattoo ในย่าน Sunset Blvd, West Hollywood ส่วนลายที่จะสักนั้น คุณแม่ได้ให้ลูกสาวออกแบบให้ เด็กหญิงจึงได้วาดดอกทิวลิปสีเหลืองให้แม่เพราะเป็นดอกที่คุณแม่ชอบมาก แต่ไม่ว่าลูกสาวจะวาดลายอะไร Morgan ก็ยินดีที่จะสักลายนั้นอยู่แล้ว และเมื่อเห็นลูกสาววาดทิวลิปให้ เธอจึงรู้สึกดีใจมาก เพราะไม่คิดว่าลูกสาวจะจำได้ ตอนแรก Morgan ตั้งใจที่จะให้ลูกสาวจับมือเธอไว้ในช่วงที่สัก แต่แล้วก็ต้องเซอร์ไพรส์เมื่อ Zoey Taylor เจ้าของร้านและช่างสักตัดสินใจทำอะไรที่ล้ำค่ายิ่งกว่านั้น Zoey ให้เด็กหญิงทำหน้าที่สักให้คุณแม่ เพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษให้โดยเธอจะนั่งสอนเด็กหญิงอย่างใกล้ชิด… นี่เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของ Morgan มากๆ แต่เธอบอกว่า “ฉันคงจะรู้สึกดีมากถ้ามีลายสักที่ลูกสาวสักให้” คุณแม่บอกว่า “มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากเลยค่ะ และฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่เชื่อเหลือเกินว่าช่วงเวลานี้จะกลายเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกน้อยของฉัน”…
-
สาวนักซิ่งรับเลี้ยงสุนัขขี้กลัว พร้อมพาไปเที่ยวด้วยทุกที่ เพื่อลบล้างอดีตที่เจ็บปวด
สำหรับคนเลี้ยงสุนัขหลายๆ คนพอถึงเวลาไปเที่ยวก็มักจะนำน้องหมาไปฝากไว้กับเพื่อนบ้าน หรือไปฝากตามร้านเลี้ยงสัตว์ให้ช่วยดูแลในระหว่างที่ตัวเองไม่อยู่ แต่สำหรับ Pete น้องหมาพันธุ์ผสมชิวาวาวัย 5 ขวบ มันโชคดีมาก เพราะนอกจากจะได้รับการช่วยเหลือแล้ว มันยังได้ไปเที่ยวรอบโลกกับเจ้าของคนใหม่ด้วย Collete Davis เป็นนักแข่งรถที่ได้พบกับเจ้า Pete ครั้งแรกที่งาน AT&T Park ในซานฟรานซิสโก เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นมันอยู่ภายใต้การดูแลของ Family Dog Rescue ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสุนัขจากศูนย์พักพิงในแคลิฟอร์เนียและเม็กซิโก และที่นี่ก็เต็มไปด้วยลูกสุนัขที่อยู่ในอาการหวาดกลัวและกำลังต้องการบ้าน… Davis บอกว่า “ตอนนั้นฉันสังเกตเห็น Pete อยู่ท่ามกลางฝูงเพื่อน แต่มันตัวเล็กมากเลยถูกสุนัขตัวอื่นเหยียบและกัดหูของมัน” “ฉันก็เลยอุ้มมันขึ้นมา แล้วมันก็มองหน้าฉัน ทันทีที่ได้สบตากับสุนัขตัวนี้ หัวใจฉันถึงกับละลายไปเลย ฉันจึงตัดสินใจรับเลี้ยงมันโดยไม่ลังเลเลยค่ะ” เธอบอก Davis เริ่มแข่งรถตั้งแต่ตอนอายุ 15 ปี ดังนั้นเธอจึงมักจะเดินทางไปแข่งที่สนาม Red Bull Global Rallycross เป็นประจำ เธอต้องเดินทางโดยเครื่องบินไปยังรัฐฟลอริดา ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ดังนั้นหลังจากที่รับเลี้ยงเจ้า Pete…
-
สับปะรดสีชมพูหวานพริ้ง สายพันธุ์ที่เกิดจากการตัดแต่งพันธุกรรม ปลอดภัยและทานได้นะ…
ปกติเรารู้จักสับปะรดในฐานะผลไม้ที่มีสีเหลือง มีตาเต็มตัวไปหมด แต่หลังจากได้อ่านบทความนี้คุณอาจจะเกิดความสับสนขึ้นมาก็ได้ว่า จริงๆ แล้วสับปะรดมันเป็นสีอะไรกันแน่? เพราะนี่คือสับปะรดสีชมพู๊ววว ชมพู จนหลายคนคงคิดว่ามันเป็นแค่การย้อมสีหรือเปล่า? เปล่าเลยค่ะ เพราะมันคือสับปะรดแท้ 100% นี่แหละ!! ตอนนี้ภาพสับปะรดสีชมพูถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์เลย กับคำถามที่ว่ามันเป็นของจริงรึเปล่า แล้วทำไมสับปะรดถึงเป็นสีชมพู ทั้งๆ ที่มันต้องมีสีเหลืองสิ? มันเป็นสับปะรดที่ดูน่ารักและแปลกตามากๆ โดยเฉพาะคนที่หลงใหลสีชมพู ถึงกับตามหาสวนที่ปลูกสับปะรดนี้ เพื่อที่จะซื้อมาไว้ครอบครองเป็นของตัวเองกันเลยล่ะ ทว่าในความเป็นจริงของสับปะรดสีชมพูนี้ มันเกิดมาจากการตัดแต่งพันธุกรรม โดยทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ บอกว่า ‘สับปะรดสีชมพูเกิดจากการทดลองตัดแต่งพันธุกรรมเพื่อมันมีเนื้อสีชมพูและมีรสหวาน นอกจากเหนือนี้ สับปะรดสีชมพูยังมีความปลอดภัยสูงและมีคุณค่าทางโภชนาการไม่ต่างจากสับปะรดสีเหลือง’ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสับปะรดสีชมพูเลยว่า ปลูกที่ไหน หรือมีจำหน่ายที่ใด ซึ่งน่าจะเป็นเพราะว่ามันยังอยู่ในช่วงการทดลองที่ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน จึงยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลมากนัก เอาเป็นว่ามารอดูลุ้นกันต่อไปดีกว่าว่า เราจะได้ลิ้มรสสับปะรดสีชมพูรสหวานนี้กันหรือไม่ ส่วนตอนนี้ชมภาพสับปะรดแสนหวานกันไปก่อนเนาะ สีหวานๆ แบบนี้ รสชาติจะหวานสักแค่ไหนนะ ที่มา buzzfeed, nbcnews
-
หญิงสาว “ทำห้องนั่งเล่นให้แก๊งเหมียว” พร้อมเฟอร์นิเจอร์จิ๋ว ชอบใจจนไม่ยอมออกห้องเลย
ทาสแมวหลายคนมักจะซื้อทั้งคอนโดแมวและที่นอนแมวอย่างดีมาให้นายท่าน แต่สังเกตมั้ยว่าพวกมันจะไม่ค่อยอยู่ในที่ที่เราจัดหาให้สักเท่าไร แต่ชอบไปแย่งที่ของเรา อย่างห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น และบางตัวก็ชอบขีดข่วนเฟอร์นิเจอร์จนพังหมด เพราะแบบนี้ Christine จึงได้จัดทำห้องนั่งเล่นสำหรับแก๊งแมวทั้งหมดของเธอ ให้พวกมันได้นอนบนเฟอร์นิเจอร์ตัวเอง กระโดดขึ้นลงได้เต็มที่ และจะขีดข่วนเท่าไรก็ได้ อยากจะทำหนักทำเบาแค่ไหนก็จัดไป!! ก่อนที่จะมีแมวถึง 3 ตัวในบ้าน Christine ไม่เคยคิดที่จะรับแมวมาเลี้ยงเลย แต่เมื่อปลายปี 2015 อยู่ดีๆ ก็มีแมวตัวเล็กๆ แมวไร้หาง และแมวท้องแก่มาหาเธอถึงหน้าบ้านเลย ตอนแรกหญิงสาวและแฟนหนุ่มไม่คิดจะเลี้ยงแมวที่ตั้งท้อง เพราะจะเป็นการเพิ่มภาระและทำให้พื้นที่ในบ้านแคบลง แต่ในวันที่ 1 มกราคม ปี 2016 แม่แมวท้องแก่ก็คลอดลูกออกมา 5 ตัว Christine ไม่สามารถเลี้ยงทั้งหมดไว้ได้ ก็เลยหาบ้านที่ดีที่สุดให้กับพวกมัน จนมีคนรับลูกแมวไปเลี้ยง 2 ตัว ส่วนตัวที่เหลือคือ Monkey Pippa และ Klaus และตัวแม่ชื่อ Kibitz จากที่เคยตั้งใจหาบ้านให้แมวทั้งครอบครัว แต่สุดท้ายแล้วเธอกลับตกหลุมรักพวกมันอย่างหมดใจ ก็เลยเลี้ยงตัวที่เหลือทั้งหมดนี้ไว้ในบ้านของตัวเอง แม่แมวมีนิสัยน่ารักมาก มันผูกมิตรกับแมวอีก 2…
-
นักวิทย์หาคู่ให้หอยทากที่ผสมพันธุ์ยาก แต่ดันกลายเป็นรักสามเส้า ที่ลงเอยด้วยความเสียใจ…
เรื่องของหัวใจเป็นสิ่งที่บังคับกันไม่ได้ เลยไม่แปลกใจว่าทำไมโลกนี้ถึงเต็มไปด้วยคนรักข้างเดียว รักคนที่เค้าไม่รักตอบ คนที่รักเรา เราก็ไม่ชอบเค้าอีก กลายเป็นว่าไม่มีใครสมหวังในความรักเลย… และเรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้เกิดกับมนุษย์เพียงอย่างเดียวนะ พวกสัตว์โลกเองก็มีปัญหาเรื่องหัวใจเหมือนกัน ย้อนไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 นักวิจัยได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับหอยทากที่ชื่อ Jeremy พบว่ามันมีภาวะทางพันธุกรรมที่หายาก และอาจจะผสมพันธุ์ไม่ได้เลย Jeremy เป็นหอยทากที่ถนัดซ้ายโดยธรรมชาติ มันจะหมุนรอบเปลือกตัวเองแบบทวนเข็มนาฬิกา และอวัยวะเพศของมันก็อยู่ทางด้านซ้ายด้วย แน่นอนว่าลักษณะกายภาพเช่นนี้มันยากต่อการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ เนื่องจากหอยทากส่วนใหญ่จะมีอวัยวะเพศอยู่ด้านขวา ดังนั้น Jeremy จึงไม่สามารถสืบพันธุ์กับหอยทากตัวอื่นได้ ด้วยเหตุนี้หอยทากตัวดังกล่าวจึงกลายเป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์จำนวนมาก โดยพวกเขามีความสนใจที่เปลี่ยนแปลงยีนของมันให้เปลือกหมุนไปทิศทางอื่นเพื่อที่จะผสมพันธุ์ได้ ในขณเดียวกันทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Nottingham ก็ได้สร้างแฮชแท็ก #snaillove เพื่อตามหาหอยทากที่เหมาะกับ Jeremy น้องหอยทากอยากจู๋จี๋ด้วยเหรอ… และแล้วพวกเขาก็ได้เจอ Lefty หอยทากที่ถูกพบในอิปสวิช ประเทศอังกฤษ มันเป็นหอยทากที่เจ้าชู้มาก แต่สำหรับหอยทากด้วยกันจะถือว่ามันเป็นหอยที่มีความอบอุ่น อีกตัวหนึ่งคือ Tomeu หอยทากที่มีการพัฒนาทางพันธุกรรมเหมือนกับ Jeremy พวกเขาจึงได้พาทั้ง 3 มารู้จักกันที่ฟาร์มในสเปน แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อทั้ง 3 ตัวมาเจอกันก็เกิดรักสามเส้าขึ้น โดย Jeremy ถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียว ส่วน Lefty และ Tomeu พลอดรักกันแบบไม่สนไม่แคร์อะไรเลย จนมีลูกหอยทาก 170 ตัวที่เกิดจากการผสมพันธุ์ของทั้งคู่…
-
คุณพ่อนักประดิษฐ์ “สร้างบ้านครอบครัวจากรถบัสสองชั้น” ได้บ้านสวยด้วยงบที่ประหยัด
การจะสร้างบ้านสักหลังนั้นต้องมีการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อม เช่น พวกไม้หรือปูน แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สิ่งเหล่านี้แทบจะไม่ใช่ประเด็นหลักในการสร้างบ้านเลย เหมือนกับนักประดิษฐ์มืออาชีพอย่าง Rick Hunt จากเคมบริดจ์ ที่ได้ดัดแปลงรสบัสสองชั้นให้กลายเป็นบ้านสำหรับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ Rick ได้ซื้อรสบัสสองชั้นที่ไม่ใช้งานแล้วในราคา 130,000 บาท จากนั้นก็นำเก้าอี้นั่งทั้งหมดในรถออก แล้วสร้างเป็นห้องนอน 3 ห้อง ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องทานข้าว และที่นั่งสำหรับตอนรถเคลื่อนที่ ก่อนหน้านี้ครอบครัวของเขาเช่าบ้านอยู่ในราคาเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท และหากจะซื้อบ้านในอังกฤษ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ล้านบาทเลยล่ะ ตอนนั้น Rick และภรรยามีเงินเก็บรวมกันประมาณ 700,000 บาท แต่เขาอยากมีบ้านครอบครัวเป็นของตัวเองโดยไม่ต้องจ่ายค่ามัดจำ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจจะดัดแปลงรสบัสสองชั้นให้กลายเป็นบ้านครอบครัว และได้ถอนเงินจากธนาคารออกมาทั้งหมดเพื่อลงทุนสร้างบ้านที่ค่อนข้างมีความท้าทาย แต่ปัญหามีอยู่อย่างหนึ่งคือ ภรรยาของเขา Amanda ประสบอุบัติเหตุจนทำให้เธอเดินไม่ได้ และต้องใช้รถเข็นตลอดเวลา ดังนั้นในการสร้างบ้านบนรถนี้ต้องคำนึงถึงการเคลื่อนย้ายของภรรยาด้วย Rick จึงได้ทำลิฟท์พิเศษให้กับภรรยาเพื่อใช้ในการขึ้นลง โดยให้ทางสถาปนิกเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยและความถูกต้องของลิฟท์ดังกล่าวด้วย ชั้นบนสุดถูกดัดแปลงให้เป็นที่นั่งสำหรับตอนที่รถเคลื่อนที่ Rick…
-
ขี่หลังให้รู้ว่ารัก…ไก่ชอบเกาะหลังเพื่อนต่างสายพันธุ์ทุกตัว เพราะอยากบอกรักแบบใกล้ชิด
ปกติเราเคยเห็นแต่นกเอี้ยงเกาะบนหลังควาย ซึ่งเป็นภาพที่เราคุ้นตากันดี แต่ไก่ขี่หลังลานี่ไม่ค่อยคุุ้นแฮะ แถมเกาะติดหนึบแบบไม่ยอมลงด้วยนะ เมื่อเดือนมีนาคมในปีนี้ มีคนพบไก่ตัวหนึ่งกำลังจะเดินข้ามถนนที่เต็มไปด้วยรถรา และเดินตามคู่รักคู่หนึ่งที่เข้าไปในห้าง Petco ไม่มีใครรู้ว่าไก่ตัวนี้มาจากไหน พนักงานของห้าง Petco จึงได้โทรหา Sue Chapman ผู้ก่อตั้ง Becky’s Hope Horse Rescue ใน Frisco รัฐเท็กซัส เพื่อให้มารับไก่ตัวนี้ไป หลังจากที่ไปรับไก่มา Sue ก็ตั้งชื่อให้มันว่า Dora ตั้งแต่นั้นมามันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวสัตว์ที่ถูกรับเลี้ยงใน Becky’s Hope ซึ่งมีทั้งม้าที่ถูกช่วยจากการถูกฆ่าและลาอีกจำนวนหนึ่ง Missy Smith อาสาสมัครใน Becky’s Hope บอกว่า “ตอนแรกที่เราพบ Dora มันยังเป็นแค่ลูกเจี๊ยบตัวจิ๋ว แต่ตอนนี้มันโตขึ้นมาเกือบ 3 เท่าตัวเลยค่ะ” Dora เติบโตขึ้นท่ามกลางเพื่อนๆ ต่างสายพันธุ์ แต่มันกลับสนิทกับพวกมันทุกตัวในเวลาอันรวดเร็ว และก็ชอบขึ้นไปขี่หลังของเพื่อนๆ ทุกตัวด้วย ไม่ใช่แค่ขี่หลังเพื่อนเท่านั้น บางทีถ้าเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดคอกม้า คอกลา Dora ยังกระโดดเกาะแขนเพื่อเรียกร้องความสนใจอีกด้วย ทุกคนจึงได้รู้ว่าที่มันชอบกระโดดขี่หลังเพื่อนๆ เป็นเพราะมันอยากอยู่ใกล้ชิดกับเพื่อนที่มันรักนั่นเอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลมันด้วย …
-
จากนางงามกลายเป็นผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องตัดขาทิ้ง และอยู่กับ “ขากลับด้าน” ด้วยรอยยิ้ม
เป็นที่รู้กันดีว่าโรคมะเร็งมักจะพรากความสวยงามภายนอก อย่างแรกเลยก็คือการสูญเสียผมจนทำให้หลายคนเสีความมั่นใจไป แต่สำหรับนางงามคนนี้ เธอได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งมากกว่าการสูญเสียผม นั่นคือการถูกตัดขาบางส่วนทิ้งไป และเธอต้องอยู่กับขาที่เหลือในสภาพกลับด้าน!! Jillian Williams วัย 20 ปี จาก Odem รัฐเท็กซัส เป็นหนึ่งในสาวงามที่เคยเข้าประกวดบนเวทีมิสทีนสหรัฐอเมริกาและยังเป็นนักวอลเลย์บอลที่มีพรสวรรค์ด้วย แต่แล้วทุกอย่างที่กำลังไปได้สวยก็พังทลายลง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วเธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งชนิด Ewing ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกชนิดที่หายาก Jillian เริ่มมีอาการปวดหัวเข่าตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2015 ขณะที่เล่นวอลเลย์บอลในมหาวิทยาลัย Texas Lutheran จนทำให้เอ็นเข่าอักเสบ ตอนนั้นครูฝึกได้บอกเธอว่า มันเป็นอาการของกล้ามเนื้อฉีกขาด และเธอยังคงสามารถเล่นวอลเลย์บอลต่อไปได้ ถ้าหากว่ายังไม่มีอาการที่เจ็บปวดมากจนเกินไป หญิงสาวจึงตัดสินใจฝืนลงแข่งขัน และจะเข้ารับการรักษาหลังการแข่งสิ้นสุดลง… เมื่อเธอได้กลับบ้านในช่วงเดือนธันวาคม เธอก็ได้ไปพบกับศัลยแพทย์กระดูกที่ St Antonio และคุณหมอก็ได้ทำ MRI ให้ (Magnetic Resonance Imaging) จากการทำ MRI พบว่า กระดูกหัวเข่าของ Jillian แตก และมีก้อนเนื้ออยู่ข้างในที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาสองเดือนเท่านั้น เธอจึงไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอก และได้รับคำตอบว่า ‘มันอาจจะเป็นแค่การติดเชื้อ แต่ต้องขอตรวจดูให้ละเอียดก่อน’ …
-
เผยภาพคุกหรู El Pozo 2 ในฮอนดูรัส สถานที่กักขังกลุ่มแก๊งอันธพาล ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
ไม่ว่าใครๆ ก็คงไม่อยากเข้าไปอยู่ในคุกหรอก เพราะในคุกนั้นทั้งแออัด สกปรก ต้องอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้าที่ก่ออาชญากรรมมาทั้งนั้น และที่สำคัญถูกตัดขาดจากอิสรภาพอย่างสิ้นเชิง แต่ทว่าคุกในแต่ละแห่งทั่วโลกก็ไม่ได้มีความเหมือนกันอย่างที่เราเข้าใจ อย่างคุกในประเทศฮอนดูรัสที่ขังสมาชิกแก๊ง Mara Salvatrucha (MS-13) ไว้ ที่นี่มีทั้งทีวีจอขนาด 52 นิ้ว มีวิดีโอเกมให้เล่น และยังมีห้องสำหรับมีเพศสัมพันธ์แบบเปิดเผยด้วย!? ตั้งแต่สมาชิกแก๊ง (MS-13) จำนวน 773 คน ถูกนำตัวไปขังไว้ในคุก Tamara ที่ใกล้กับเมืองหลวงของฮอนดูรัส พวกเขาก็ก่อความวุ่นวายให้กับนักโทษด้วยกันและผู้คุมไม่เว้นในแต่ละวัน ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงถูกย้ายไปยังคุก El Pozo 2 ใน La Tova ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของฮอนดูรัส… ภายในคุกแห่งนี้มีเครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องปั่นอาหาร เครื่องชงกาแฟ และตู้เย็น เรียกได้ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการดำรงชีพครบครัน นักโทษบางคนยังได้มีโอกาสใช้ห้องพิเศษด้วย ที่มีการประดับประดาด้วยแสงสีหรือห้องที่เรียกว่า Kamasutra เพื่อให้พวกเขาได้ปลดปล่อยอารมณ์กับภรรยาหรือแฟนที่มาเยี่ยม การได้เข้าไปยังห้อง Kamasutra นั้น ถือเป็นสิทธิพิเศษสำหรับหัวหน้าแก๊งและสมาชิกแก๊งอาวุโสที่ผ่านการอนุญาตจากหัวหน้าแก๊ง แต่ถ้าใครไม่ได้มีคู่รักหรือไม่ได้ต้องการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง พวกเขาก็สามารถเลือกที่จะเล่นวิดีโอเกมได้ เพื่อทำให้ตัวเองมีความสุขภายในคุกแห่งนี้ สำหรับนักโทษทั้งหมดนี้ ตำรวจเชื่อว่ามาจากแก๊ง MS-13 และแก๊ง Barrio 18 ในฮอนดูรัส ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มที่อันตรายมากที่สุดในโลก …
-
ผู้คนแปลกหน้านับร้อย เข้าร่วมงานศพทหารผ่านศึกผู้เดียวดาย แม้จะไม่เคยรู้จักกัน…
มีไม่กี่คนหรอกที่เต็มใจไปเป็นทหารด้วยตัวเอง ซึ่งแสดงถึงความเสียสละ และความต้องการปกป้องประเทศชาติ แม้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาอาจจะเจอจุดจบที่น่าเศร้าก็ตาม แต่ไม่ว่าจะเจอจุดจบเช่นไร หากครั้งหนึ่งคุณเคยรับใช้ชาติ คุณจะถูกจดจำให้ฐานะฮีโร่ผู้เสียสละตลอดกาล… เหมือนดั่ง Harry Wheeler อดีตทหารผ่านศึกในช่วงศงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้นี้ Wheeler วัย 96 ปี ล่วงลับไปอย่างสงบด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ภายในบ้านพักคนชราในมณฑล Cheshire ประเทศอังกฤษ โดยที่ทางญาติไม่เคยได้รับรู้เรื่องนี้เลย เพราะทางบ้านพักไม่สามารถติดต่อญาติของเขาได้ อย่างไรก็ตามในฐานะที่เขาเคยเป็นทหารผู้เสียสละ เขาสมควรจะได้รับการจัดงานศพที่สมเกียรติ ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการประกาศผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อให้ผู้คนมาร่วมงานศพ หลังจากข่าวนี้ถูกแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีประชาชนกว่าหลายร้อยคนเดินทางมายังมณฑล Cheshire เพื่อร่วมไว้อาลัยให้กับอดีตทหารผ่านศึกผู้เสียสละท่านนี้ เพื่อนสนิทของ Wheeler บอกว่า “เขาเป็นคนที่รักลูกและภรรยามาก แต่น่าเศร้าทั้งสองคนเสียชีวิตไปหลายปีแล้วครับ” ภายในงานศพมีการบรรเลงดนตรีจากกองกำลังนาวิกโยธินอังกฤษ ท่ามกลางคนแปลกหน้าประมาณ 200-300 คนที่มาร่วมไว้อาลัยในครั้งนี้ ทางด้านประวัติของ Wheeler นั้น ไม่ทราบแน่ชัด แต่หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาได้เข้าร่วมกับกองกำลัง Royal Marines ในประเทศอิตาลี ก่อนที่จะใช้ชีวิตในวัยเกษียณที่เมือง…
-
ศิลปินนำเหรียญ 15,000 เหรียญ กองไว้บนพื้นที่โล่ง เพื่อดูว่าคนที่ผ่านมาจะทำอย่างไร?
เงินมักเป็นสิ่งล่อตาล่อใจให้มนุษย์ทำอะไรที่ไม่คาดคิดได้เสมอ โดยเฉพาะหากมันถูกวางในที่ลับตาก็จะยิ่งง่ายต่อการถูกหยิบฉวยไป ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เงินของตัวเอง… ด้วยเหตุนี้ศิลปินจึงลองนำเหรียญจำนวน 15,000 เหรียญ นำไปกองไว้บนคันคลองโล่งๆ แล้วคอยสังเกตอยู่ห่างๆ ว่าผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อเห็นเงินที่ไม่มีเจ้าของวางทิ้งไว้แบบนั้น Jamahl McMurran เจ้าของที่พักที่เข้าร่วม AirBnB กับแขกที่เข้าพวก Lana Mesic ผู้เป็นศิลปินและช่างภาพชาวโครเอเชีย ได้คิดไอเดียนี้ขึ้นมาหลังจากที่ Lana ได้ใช้เหรียญจำนวนนี้ในการจัดแสดงงานศิลปะครั้งที่ผ่านมา และเธอไม่รู้ว่าจะนำไปทำอะไรต่อดี แทนที่จะขนเงินทั้งหมดนี้กลับบ้าน เธอและ Jamahl ก็คิดขึ้นได้ว่าควรนำมันใช้ในทางที่สร้างสรรค์กว่านั้น นั่นคือการนำเหรียญทั้งหมดนี้ไปกองไว้ข้างคันคลองในเมืองลอนดอน แล้วสังเกตดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นทั้งสองคนก็แอบสังเกตในจุดผู้คนมองไม่เห็น เพื่อคอยดูว่าคนที่เดินผ่านกองเหรียญนั้นจะมีปฏิกิริยาอย่างไร โดย Jamahl ได้เขียนสิ่งที่เห็นลงในทวิตเตอร์ของเขาด้วย เด็กน้อยคนนี้ได้นำเหรียญที่เห็นใส่กระเป๋าจนเต็ม ตามประสาวัยเด็ก บางคนก็นั่งเล่นเหรียญ ก่อนที่จะเดินจากไป หนุ่มฮิปสเตอร์นำร่มวางบนกองเหรียญเพื่อถ่ายรูป นี่คงจะเป็นรูปที่มีมูลค่าสินะ คนปั่นจักรยานคนนี้ถือโอกาสแลกเหรียญซะเลย ส่วนชายคนนี้นำเหรียญมาโปรยเหนือหัว คงจะคิดว่าเป็นเหรียญศักดิ์สิทธิ์ละมั้ง สุดท้ายการสังเกตก็ต้องจบลง เมื่อชายสองคนนี้ผ่านมาเห็นเหรียญ… และเก็บเหรียญใส่กระเป๋าจนเกลี้ยง แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ…
-
“อุโมงค์นิรภัยเก็บเมล็ดพืช” เพื่อรับมือวันสิ้นโลก ถูกน้ำท่วมจนเกือบเสียหายมหาศาล!!
ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าโลกนี้จะถึงจุดสิ้นสุดเมื่อไหร่ และในวันนี้จะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แต่มนุษย์ก็มักจะเตรียมตัวอยู่เสมอเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการกักตุนสิ่งของที่จำเป็นเอาไว้หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาจริงๆ Svalbard Global Seed Vault อุโมงค์นิรภัยสำหรับกักเก็บเมล็ดพืชจากทั่วโลก เพื่อนำมาใช้ในยามขาดแคลนรวมถึงไว้ใช้เป็นที่หลบภัยจากวิกฤตต่างๆ แต่ทว่ายังไม่ทันไร อุโมงค์นิรภัยแห่งนี้ก็ท่วมด้วยน้ำทะเลอาร์กติกซะแล้ว ทำให้เมล็ดพืชที่อยู่ภายในเสี่ยงต่อการได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก อุโมงค์นิรภัยสำหรับเก็บเมล็ดพืชแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะสปีตสเบร์เกน ในหมู่เกาะสฟาลบาร์ของประเทศนอร์เวย์ ใกล้กับเมืองลองเยียร์เบียน ห่างจากขั้วโลกเหนือประมาณ 1,300 กิโลเมตร โดยสร้างขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว การออกแบบอุโมงค์ดังกล่าวใช้วัสดุที่คาดว่าทนทานต่อทุกสภาพอากาศและภัยพิบัติต่างๆ แต่แล้วปีนี้สภาพอากาศเกิดแปรปรวนผิดปกติ ส่งผลให้น้ำซัดเข้าไปในปากอุโมงค์อย่างไม่คาดคิด ตามการรายงานข่าวของ Guardian เมื่อน้ำทะลักเข้าข้างในอุโมงค์ โชคยังดีที่ไม่ทำให้เมล็ดพืชจำนวนมากได้รับความเสียหาย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเช่นนี้อาจส่งผลต่ออุโมงค์นิรภัยในระยะยาวก็เป็นได้ ที่ผ่านมาอุโมงค์นิรภัยไม่เคยได้รับผลกระทบหรือการรุกรานใดๆ จากมนุษย์ เพราะเป็นสถานที่ต้องห้ามที่มีตัวอย่างเมล็ดพันธุ์พืชกว่า 50,000 ชนิด บุคคลที่จะเข้าไปภายในได้ก็มีเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยจะมีหน่วยรักษาความปลอดภัยเฝ้าอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง Hege Njaa Aschim ตัวแทนจากรัฐบาลนอร์เวย์ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า “ตั้งแต่สร้างอุโมงค์นี้ขึ้นมาเราไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ มันอยู่นอกเหนือจากการคาดการณ์ของเราไป” “มีน้ำเข้าไปในอุโมงค์เยอะมาก และด้วยอุณภูมิที่ติดลบทำให้น้ำเหล่านี้ก่อตัวเป็นน้ำแข็งภายในอุโมงค์ และปีนี้อุณภูมิสูงขึ้น ทำให้น้ำแข็งจากภายนอกละลายมากขึ้น…
-
ลูกผู้ชายตัวจริง…ลุงจู๋ 4 นิ้ว ยอมรับแมนๆ ผ่านสื่อว่ามีน้องชายเล็ก และภูมิใจที่มีเท่านี้
ผู้ชายหลายคนอาจจะรู้สึกอายและไม่กล้ายอมรับที่มีน้องชายขนาดเล็ก แต่สำหรับคุณลุงท่านนี้กล้ายอมรับแมนๆ ว่าตัวเองนั้นเล็กจริง แถมยังเผยผ่านรายการโทรทัศน์ซะด้วย!! เมื่อไม่นานมานี้ รายการ This Morning ได้เชิญ Ant Smith มาออกรายการ เพื่อสอบถามถึงเรื่องขนาดความเล็กของเขา แล้วดูสิว่าที่ว่าเล็กนั้นเล็กแค่ไหน? นอกจากจะมาบอกถึงขนาดน้องชายแล้ว Smith ยังตั้งใจจะมาโปรโมทหนังสือ The Small Penis Bible ของเขาในรายนี้ด้วย เพื่อเป็นการขจัดความอายให้กลายเป็นเพื่อนตัวจิ๋ว รายการดังกล่าวมี Eamonn Holmes และ Ruth Langsford เป็นพิธีกร โดยได้เตรียมบอร์ดรูปหุ่น 2 ตัว แต่ละตัวจะมีหรรมกระดาษแข็งยื่นออกมาจากตำแหน่งระหว่างขา ตัวหนึ่งมีหรรมขนาดปกติ และอีกตัวหนึ่งจะมีขนาดเล็กกว่า แล้วพิธีกรก็ไห้ Smith ไปชี้ขนาดน้องชายของตัวเอง ปรากฏว่าเขาไปจับหุ่นที่มีขนาดเล็กแล้วยังได้ตัดกระดาษนั้นให้เล็กกว่าเดิมอีก และพูดว่า “น้องชายของผมมีขนาดเท่านี้แหละครับ” เมื่อวัดดูแล้ว น้องชายของคุณ Smith อยู่ที่ 4 นิ้วเท่านั้น ถือว่าเล็กมากจริงๆ เพราะขนาดหรรมมาตรฐานโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 5.16 นิ้ว Ruth ถามต่อไปด้วยความอยากรู้ว่า “แล้วเวลามีอารมณ์ทางเพศ คุณสามารถใช้มันได้เต็มที่มั้ยครับ?” แขกรับเชิญตอบแบบไม่รู้สึกเขินว่า…
-
“ห้องซาวน่าทรงไข่” ใช้พลังอบจากแสงอาทิตย์ ให้ผู้คนได้พูดคุยภายใต้บรรยากาศที่แตกต่าง
พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานทดแทนที่ถูกนำมาใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ต่างได้หลากหลาย อยู่ที่ว่าจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ดีแค่ไหน อย่างเช่น Riksbyggen กับ Bigert & Bergström (B&B) ที่ได้สร้างประติกรรมห้องซาวน่ารูปไข่โดยอาศัยความร้อนจากแสงอาทิตย์ และทำการติดตั้งไว้ที่บริเวณ Luossabacken ของเมือง Kiruna ทางตอนเหนือสุดของประเทศสวีเดน Solar Egg หรือห้องซาวน่าทรงไข่ ใช้แผ่นสแตนเลสสีทองทรงเหลี่ยมห่อหุ้มไข่เอาไว้เพื่อเป็นตัวรับความร้อนจากแสงอาทิตย์ให้ซึมซับเข้าไปถึงภายใน ภายในของห้องซาวน่าไข่จะใช้แผ่นไม้สนติดตามผนังและพื้นระเบียง ในขณะที่ม้านั่งทำด้วยไม้แอสเพน ส่วนตรงกลางจะเป็นเตาอบรูปหัวใจที่ทำจากหินและเหล็ก ห้องซาวน่าไข่ถูกติดตั้งท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นของพื้นที่ภูมิภาค Lapland แต่ภายในจะมีความอบอุ่น โดยอุณภูมิจะแตกต่างกันระหว่าง 75 และ 85 องศาเซลเซียส ทางผู้ออกแบบต้องการให้ซาวน่าเป็นที่พบปะของผู้คน เพื่อพักผ่อน พูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายใต้บรรยากาศที่แตกต่างจากห้องซาวน่าทั่วไป ระหว่างทำการสร้างห้องซาวน่าทรงไข่ ห้องซาวน่าไข่ถูกติดตั้งบนพื้นที่โล่งแจ้ง . สัมผัสความอุ่นตั้งแต่ก้าวขึ้นบันได ภายในจะติดไม้รอบด้าน เตาผิงไฟรูปทรงหัวใจ (หัวใจจริงๆ ของมนุษย์) . .…
-
ใกล้กันกันแค่นี้เอง… ตัวอย่างคำที่คนไทยพูดแล้วคนไต้หวันเข้าใจ เพราะใช้เหมือนกันเลย
รู้มั้ยว่าภาษาไทยที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้มีหลายคำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ แต่เรานำมาใช้ปนกันจนหลายคนแยกไม่ออกไม่ว่าคำไหนไทยแท้หรือคำไหนเป็นคำที่ยืมมา โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่แทบจะไม่รู้กันเลย ดังนั้นจึงไม่แปลกว่าทำไมคำบางคำจึงใช้เหมือนกันในหลายประเทศ แถมยังมีความหมายที่เหมือนกันเป๊ะ อย่างประเทศไต้หวันที่สามารถเข้าใจภาษาไทยบางคำได้ เนื่องจากเป็นคำที่มีต้นกำเนิดเหมือนกัน วันนี้ โบโบ คนไทยเชื้อสายจีนกับ เจ๋อเจ๋อ จากไต้หวันจะยกตัวอย่างให้เราเห็นว่าคำไทยคำไหนบ้างที่คนไต้หวันฟังแล้วเข้าใจ? แต่ก่อนอื่น #เหมียวขี้ส่อง ขอแนะนำเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ โบโบ เป็นคนไทยเชื้อสายจีน กำลังเรียกเอกการสอนภาษาจีนที่ประเทศไต้หวัน ส่วนเจ๋อเจ๋อเป็นชาวไต้หวัน จบการสอนจีนจากไต้หวัน ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คำไทยหลายๆ คำนั้นยืมมาจากภาษาจีนโดยเฉพาะภาษาแต้จิ๋ว ซึ่งบรรพบุรษของคนแต้จิ๋วกับคนไต้หวันนั้นเคยอยู่ใกล้กันมาก่อน และมีชาวแต้จิ๋วอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยในอดีต ส่งผลทำให้เกิดคำไทยที่ยืมมาจากแต้จิ๋ว จึงทำให้คนไต้หวันเข้าใจคำไทยบางคำ จะมีคำไหนบ้างไปดูกันค่ะ เริ่มที่คำศัพท์ที่ใช้เรียกคนในครอบครัวนะคะ พ่อ – คนไต้หวันเรียก ปาป๊า คนไทยเรียก ปะป๊า แม่ – คนไต้หวันเรียก มาม้า คนไทยเรียก มาม๊า ตา – คนไต้หวันเรียก อากง คนไทยก็เรียก อากง เหมือนกันค่ะ ยาย…
-
ช่างภาพจีนถ่ายรูป “ชุดแต่งงานลุกเป็นไฟ” เพื่อสร้างผลงานที่แตกต่าง และเร้าใจมากกว่าใคร!!
ใครที่ชอบชมผลงานศิลปะคงจะรู้ดีว่าในโลกแห่งศิลปะนั้นมักไม่ข้อจำกัดหรือไม่มีนิยามใดๆ ที่ตายตัว ดังนั้นจึงไม่แปลกว่าทำไมหลายๆ ผลงานจึงยากที่จะเข้าใจได้ อย่างหญิงสาวคนนี้ที่ลงทุนใช้ร่างกายตัวเองเพื่อสร้างผลงานศิลปะให้กับช่างภาพ ด้วยการสวมชุดแต่งงานแล้วใช้ไฟจริงๆ จุดที่ชายกระโปรงให้ไฟลุกขึ้นมา เพื่อที่จะสร้างเป็นภาพศิลปะสวยๆ คลิปวิดีโอเบื้องหลังการถ่ายภาพชุดแต่งงานลุกเป็นไฟ ถูกถ่ายขึ้นที่มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน และได้ถูกแชร์ในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2017 จนถูกวิจารณ์อย่างแพร่หลายจากชาวเน็ตจีน ในคลิปวิดีโอจะเห็นหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดแต่งงานยืนอยู่ริมน้ำ จากนั้นก็มีผู้ช่วยคนหนึ่งเดินเข้าไปจุดไฟที่ชายกระโปรงของเธอ สักพักไฟสีส้มจากชายกระโปรงก็ลุกสูงขึ้นจนช่างภาพ Zheng คิดว่าเป็นจังหวะที่พอดี เขาจึงได้ถ่ายรูปช่วงเวลานั้นเอาอย่างรวดเร็ว ไฟยังคงลุกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งขึ้นไปถึงหลังของนางแบบ แต่ทุกคนดูไม่ตื่นเต้นเลย เพราะพวกเขาได้เตรียมถังดับเพลิงไว้แล้ว พร้อมที่จะดับไฟได้ตลอดเวลา Zheng ได้พูดถึงการทำงานศิลปะครั้งนี้ว่า “ก่อนที่เราจะลงมือถ่ายจริงๆ เราได้ตรวจสอบทุกอย่างแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันที่ใช้ เนื้อผ้าของชุดแต่งงาน และระยะเวลาในการดับไฟ เพื่อให้ทุกอย่างไม่มีความผิดพลาด” สำหรับแนวคิดนี้ เขาได้รับแรงบันดาลใจจาก John Michael Cooper ซึ่งเป็นช่างภาพงานแต่งงานที่มีผลงานโดดเด่นที่รู้จักกันว่า Trash the Dress โดยเป็นการทำลายชุดแต่งงานเพื่องานศิลปะในปี 2001 หลังจากที่ผลงานของ Michael ถูกแชร์ในโลกโซเชียล แนวคิดดังกล่าวก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และมีช่างภาพมากมายพยายามจะทำตาม Zheng บอกว่าเขาเองก็อยากถ่ายรูปแบบนั้นเช่นกัน…
-
“Zorro” จิ้งจอกที่กลับมาหาเพื่อนมนุษย์ในฤดูหนาวทุกปี กระชับความสัมพันธ์ไม่ให้จางหาย
สนัขจิ้งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสัตว์นักล่า ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีใครอยากเข้าไปใกล้พวกมันมากนัก หรือหากเจอในป่าก็จะพยายามหนีห่างให้เร็วที่สุด แต่ก็ใช่ว่าสุนัขจิ้งจอกทุกตัวจะทำอันตรายกับมนุษย์เสมอไป อย่างเจ้า Zorro ที่มักจะแวะเวียนมาหาเพื่อนมนุษย์อยู่บ่อยๆ เพื่อทำการทักทายกระชับมิตรไม่ให้ลืมกัน Zorro เป็นสุนัขจิ้งจอกที่พิเศษกว่าตัวอื่นๆ เพราะมันจะกลับมาหาคุณ Jon Wedge ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ในพื้นที่ของรัฐ Prince Edward Island ในประเทศแคนาดา Jon เป็นช่างภาพที่ได้เจอกับเจ้า Zorro เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนเจอครั้งแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเข้าใจว่ามันคงเป็นสุนัขจิ้งจอกทั่วไปที่แวะเวียนมาแถวๆ นี้เท่านั้น และเขาได้ทำการถ่ายรูปของมันเก็บเอาไว้ด้วย แต่ปีถัดมาในช่วงเวลาเดียวกันนั่นก็คือในช่วงฤดูหนาว Jon ก็ได้พบกับสุนัขจิ้งจอกตัวเดิมอีกครั้ง นั่นจึงทำให้เขามั่นใจในความเป็นมิตรของมัน และเจ้า Zorro เองก็ไม่เคยทำอันตรายกับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่งเข้าสู่ปีที่สาม เมื่อ Zorro และ Jon ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ทั้งสองก็มีความสนิทใจกันมากขึ้น จนกลายเป็นเพื่อนของกันและกัน และแม้จะสื่อสารกันด้วยคนละภาษา แต่รับรู้ได้อยู่อย่างหนึ่งว่าทุกฤดูหนาว พวกเขาจะมาเจอกันที่นี่ แต่ถึงจะเป็นเพื่อนกันแล้ว Jon ก็ยังต้องรักษาระยะห่างกับเจ้า Zorro อยู่ดี…
-
“Dragon’s Breath” พริกที่เผ็ดร้อนที่สุดในโลก แม้จะกินเข้าไปนิดเดียว ก็อาจทำให้ช็อคได้!!
ขึ้นชื่อว่าพริกก็ต้องมีความเผ็ดเป็นของคู่กัน แต่ระดับความเผ็ดจะมีมากแค่ไหนนั้นก็อยู่ที่ชนิดของพริกด้วย ซึ่งพริกบางชนิดเผ็ดถึงขั้นทานแล้วถึงขั้นสลบได้เลย หลายคนอาจจะเคยลิ้มรสความเผ็ดของพริกขี้หนูแดงมาแล้ว ซึ่งมีความเผ็ดอยู่ที่ ประมาณ 28,000 SHU กินเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงความเผ็ดแสบเยอะแล้ว แต่บอกได้เลยว่ามันเผ็ดน้อยมากถ้าเทียบกับพริกที่เราจะนำเสนอในครั้งนี้ มันคือพริกที่เรียกว่า Dragon’s Breath ที่ค้นพบโดย Mike Smith ชาวสวนผลไม้จากเวลส์วัย 53 ปี หลังจากพยายามดัดแปลงพันธุกรรมพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก Dragon’s Breath เป็นพริกที่พบในประเทศเวลส์ มีความเผ็ดอยู่ที่ 2.48 ล้าน SHU ซึ่งเป็นความเผ็ดที่มนุษย์ทานไม่ได้แน่นอน เว้นแต่ว่าคุณจะยอมเสี่ยงชีวิตตัวเอง ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า มนุษย์เราสามารถเคี้ยวและกลืนพริกขี้หนูได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่สำหรับ Dragon’s Breath นั้น หากใครได้กินเข้าไปอาจส่งผลถึงขึ้นช็อค เนื่องจากความเผ็ดของมันมีความร้อนแรงถึงขั้นเผาไหม้และปิดทางเดินหายใจของมนุษย์ได้ Mike ได้เพาะพันธุ์พริก Dragon’s Breath โดยได้รับความช่วยเหลือจากนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Nottingham Trent University เขาไม่ได้ลองกินพริกชนิดนี้ด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่ามันเผ็ดเกินกว่าร่างกายจะต้านทานไหว แต่ Mike ทดสอบด้วยการลองนำพริกสุดร้อนแรงนี้แตะที่ปลายลิ้นเพียงนิดเดียวก็รู้ได้เลยว่ามันโคตรจะเผ็ดเลย!! อย่างไรก็ตาม Mike และทีมวิจัยเชื่อว่า อาจมีการนำพริก Dragon’s Breath มาใช้เป็นตัวยาที่สำคัญได้ เนื่องจากน้ำมันจากพริกดังกล่าวทำให้ผิวหนังด้านชา ดังนั้นจึงสามารถนำมาใช้เป็นยาสลบได้ในประเทศโลกที่สาม…
-
10 โอปป้าเกาหลีกับบทบาทหมอในซีรีส์ หล่อหน้าใส กระชากใจสาวๆ จนอยากป่วยทันที
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ใครที่ได้ดูซีรี่ส์เกาหลีไปแล้วหนึ่งเรื่องก็จะติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น ต้องดูเรื่อยต่อไปเรื่อยๆ บางคนถึงขั้นทิ้งทุกสิ่งอย่างเพื่อตั้งอกตั้งใจดูซีรีย์อย่างจริงจัง ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้คนติดซีรี่ส์หัวปักหัวปำได้ขนาดนั้น ก็คงหนีไม่พ้นโอปป้าในเรื่องนั่นเอง ทั้งหล่อ สูง บวกกับบทที่เล่น ทุกอย่างส่งเสริมกันดีมากๆ โดยเฉพาะโอปป้า 10 ที่ได้รับบทเป็นหมอนะ แม่คุณเอ้ยยย สะอาดสะอ้าน น่าสัมผัส จนอยากป่วยขึ้นมาทันทีเลยล่ะค่ะ 1. อันแจฮยอน จากเรื่อง Blood . 2. ลีจงซอก จากเรื่อง Doctor Stranger . 3. ชอยจินฮยอค จากเรื่อง Emergency Couple . 4. จูวอน จากเรื่อง Good Doctor และเรื่อง Yong Pal . 5. ปาร์คแฮจิน จากเรื่อง Doctor Stranger . 6. ยุนคยุนซัง…
-
เด็กน้อยผิวเผือกเกิดมาพร้อมเส้นผมสีบลอนด์ เหมือนดั่ง “คาลิซี” จาก Game of Thrones
หากใครเคยดูหนังเรื่อง Game of Thrones คงจะรู้จักตัวละครที่ชื่อ ‘คาลิซี’ หญิงสาวผู้มีผมสีขาวออกบลอนด์อันทรงเสน่ห์ที่หาได้ยากในชีวิตจริง นอกเสียจากว่าจะผ่านการย้อมสีเท่านั้น ล่าสุดหนูน้อย Devina Smith จากรัฐ Mississippi เกิดมาพร้อมเส้นผมสีขาวธรรมชาติอย่างเหลือเชื่อ ดูแล้วก็นึกถึงคาลิซีขึ้นมาทันที แต่เมื่อ Jessica Smith วัย 27 ปี คุณแม่ของหนูน้อยนำรูปของเธอไปโพสต์ในอินเตอร์เน็ต ปรากฏว่ามีชาวเน็ตมากมายให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าเป็นหนูน้อยจะมีผมสีขาวจริง และคิดว่าเป็นการแต่งรูปเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามคุณหมอได้ออกมายืนยันแล้วว่านี่เป็นเส้นผมจริงๆ ของ Devina ที่เกิดจากความผิดปกติของส่วนที่เรียกว่า Albinism หรือโรคผิวเผือก ซึ่งทำให้สูญเสียเม็ดสีในเส้นผม ตา และผิวหนัง คุณหมอยังบอกว่าอีกว่านี่เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่หาได้ยากมาก โดยมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นเพียง 5 ใน 100,000 คนเท่านั้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรป สำหรับโรคผิวเผือกนั้นเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติในยีนที่มีผลต่อการผลิตเมลานินในร่างกาย ซึ่งเมลานินจะเป็นตัวทำให้เกิดสีที่ดวงตา ผิวหนัง และเส้นผม ผลจากการเป็นโรคเผือกคือ ผิวหนังจะไวต่อแสงมาก ดังนั้นคนเผือกจึงต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด หรือถ้าจะออกแดดจริงๆ ต้องใส่เสื้อผ้าปกคลุมอย่างมิดชิด ปัจจุบันโรคเผือกมีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าอาจเกิดจากข้อบกพร่อง (หรือการกลายพันธุ์) ในยีนจำนวนหนึ่งที่มีผลต่อการผลิตเมลานิน…
-
คุณยายฝาแฝดถ่ายรูปคู่ด้วยกัน ฉลองอายุครบ 100 ปี ย้อนอายุเหมือนดั่งสาววัยใส
ฝาแฝดหลายๆ คู่ แม้ตอนเด็กจะสนิทกันมากแค่ไหน แต่เมื่อโตขึ้นต่างคนต่างก็มีครอบครัวเป็นของตัวเอง และส่วนใหญ่ก็แยกย้ายกันไปเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง จนทำให้โอกาสในการกลับมาเจอกันนั้นน้อยมากๆ แต่สำหรับพี่น้องฝาแฝด Maria Pignaton Pontin และ Paulina Pignaton Pandolfi พวกเขาอยู่ด้วยกันจนกระทั่งอายุจะย่างเข้า 100 ปีแล้ว อาจจะเป็นคู่ฝาแฝดที่น่ารักมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะแม้ทั้งคู่จะย่างเข้า 100 ปี แล้ว แต่ความมุ้งมิ้ง และความน่ารักของพวกเธอยังเหมือนวัยเด็กไม่มีเปลี่ยนเลย ก่อนที่จะถึงวันเกิดปีที่ 100 ทั้งคู่ได้ถ่ายรูปด้วยกันที่ Ilha do Frade ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Vitória ประเทศบราซิล เพื่อฉลองถึงชีวิตฝาแฝดที่ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนแก่ Camila Lima ช่างภาพที่ถ่ายรูปให้คุณยายฝาแฝดในครั้งนี้บอกว่า “ทั้งคู่เป็นฝาแฝดที่น่ารักมากเลยค่ะ แม้ว่าจะอายุมากแล้ว แต่เวลาถ่ายรูป ทั้งคู่มักจะทำท่าทางเหมือนสาวแรกรุ่นอยู่เลย” เธอยังบอกอีกว่ารู้สึกโชคดีที่ได้มาถ่ายรูปให้คุณยายทั้งสอง ซึ่งเธอยังช่วยทั้งคู่ในเรื่องการจัดฉาก รวมทั้งพรอพต่างๆ ที่ใช้ในการถ่ายรูป นอกจากไม่คิดค่าถ่ายรูปแล้ว ช่างภาพสาวยังตั้งใจที่ภาพทั้งหมดนี้ให้คุณยายแบบฟรีๆ ด้วยเพื่อเป็นของขวัญในวันคล้ายวันเกิดครบ 100 ปีของทั้งคู่ นอกเหนือจากการถ่ายรูปในวันเกิดแล้ว…
-
ตู้กดน้ำหลบไป… สิงคโปร์เปิดโชว์รูมรถหรู พร้อมระบบกดซื้ออัตโนมัติ เอาใจคนยุคไฮเทค
โดยทั่วไปโชว์รูมขายรถมักจะต้องใช้พื้นที่ที่ค่อนข้างกว้าง เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นรถได้ทุกซอกทุกมุมและลองนั่งได้สะดวก โดยจะมีพนักงานฝ่ายขายคอยให้ข้อมูลและบริการอย่างใกล้ชิด หลายคนอาจจะรู้แล้วว่าประเทศสิงค์โปร์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงและมีพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้การตั้งโชว์รูมแต่ละแห่งนั้นไม่สามารถใช้พื้นกว้างเหมือนประเทศอื่นๆ ได้ แต่เรื่องนี้ไม่ยากเกินความสามารถของคนสิงค์โปร์ โดยหนึ่งในบริษัทจำหน่ายรถอย่าง Autobahn Motors ได้เปิดตัวโชว์รูมในรูปแบบอาคาร 15 ชั้น ซึ่งเป็นอีกสาขาหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ อาคารดังกล่าวนี้สามารถจุรถยนต์ได้ 60 คัน โดยได้จำหน่ายรถหรูอย่าง Ferrari Bentley และ Porsche โดยทั้งหมดนี้มีให้ลูกค้าได้เลือกสรรจากตัวอาคารโชว์รูมทั้งหมดเลย แค่นั้นยังไม่พอ แทนที่ลูกค้าจะซื้อรถผ่านพนักงานขายเหมือนโชว์รูมทั่วไป แต่ Autobahn Motors ได้ติดตั้งเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อผ่านแอพพลิเคชั่นได้ทันที หลังจากที่ทำการสั่งซื้อไปแล้ว เครื่องจำหน่ายจะส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าภายใน 2 นาที หลังจากการชำระเงิน โดยจะส่งผ่านระบบการส่งสินค้าแบบก้างปลา (Fishbone Delivery System) ที่มีเทคโนโลยีการจัดส่งสินค้าเข้ามาช่วยเหลือ Gary Hong ผู้จัดการบริษัท Autobahn Motors บอกว่า “สำหรับนวัตกรรมใหม่นี้ เราได้ออกแบบมาเพื่อที่สามารถจัดเก็บรถจำนวนมากในพื้นที่จำกัดได้ ในขณะเดียวกันเราก็ต้องความสร้างสรรค์ในการจำหน่ายรถด้วยครับ” สำหรับรายละเอียดของตึก สามารถรับชมในคลิปวิดีโอดังกล่าว……
-
20 ภาพของการเซลฟี่กับอดีตคนรัก เพื่อพิสูจน์ว่าเลิกกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องเกลียดกันเสมอไป…
ในการหย่าร้างของคนสองคนเกิดได้หลายสาเหตุ แต่ไม่ว่าจะหย่ากันด้วยสาเหตุอะไร หลายคู่ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาก็ยังเป็นมิตรที่ดีต่อกันได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในสถานะคนรักแล้วก็ตาม เหมือนพวกเขาเหล่านี้ที่แม้จะหย่ากันไปแล้ว แต่ยังสามารถเซลฟี่ด้วยกันพร้อมรอยยิ้มได้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเลิกกันไม่จำเป็นต้องเกลียดกันเสมอไป 1. คู่รักใส่เสื้อคู่เซลฟี่ในวันที่เลิกกัน 2. หลังจากแต่งงานกันมา 8 ปี ทั้งคู่ตัดสินหย่ากัน แต่ยังเป็นเพื่อนกันได้และจะทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีให้ลูกต่อไป 3. เซลฟี่กับอดีตคนรักพร้อมใบหย่า กับรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าจบกันด้วยดี 4. เปลี่ยนสถานะจากคนรักเป็นเพื่อนสนิท ก็ไม่เลวนะ 5. เซลฟฟี่ในวันหย่า 6. เซลฟี่หน้าศาลที่เพิ่งหย่ากันไป 7. จบแบบแฮปปี้ 8. เพราะทั้งคู่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามากมาย แต่เมื่อถึงวันที่ต้องหย่ากัน ทั้งคู่สัญญาที่จะเป็นเพื่อนกันตลอดไป 9. แม้จะหย่ากันแต่อย่างน้อยครั้งหนึ่งก็เคยได้ใช้ชีวิตร่วมกันคนดีๆ คนหนึ่ง 10. หลังจากที่เป็นภรรยาเขามา 4 ปี ตอนนี้เธอยินดีที่จะลดสถานะเป็นเพื่อนกับเขาตลอดไป 11. เรายังเป็นเพื่อนกันได้เสมอ 12. หย่ากันเสร็จก็ไปนั่งดื่มเบียร์ด้วยกันเป็นการร่ำลาชีวิตคู่ และพร้อมจะเริ่มใหม่อีกครั้งในสถานะเพื่อน…
-
รวมภาพ “หนูตะเภาขนดก” จนยาวลากพื้น เพิ่มดีกรีความน่ารัก ระดับเทพีแห่งหนู!!
ใครเกลียดหนู ใครยี้หนู ใครไม่ชอบหนู คุณจะเปลี่ยนเป็นคนรักหนูก็จากบทความนี้แหละ เพราะหนูที่เพื่อนๆ จะเห็นวันนี้ มันน่าลูบ น่าสัมผัสจนคุณอาจจะอดใจไว้ไม่อยู่ หนูตะเภาถือเป็นหนูชนิดหนึ่งที่มนุษย์นิยมเลี้ยงกันมากที่สุด เพราะพวกมันมีความน่ารักและแตกต่างจากหนูบ้านทั่วไป ซึ่งหนูตะเภาแต่ละชนิดก็จะมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย อย่างสายพันธุ์ Abyssinian, Peruvian, Coronet และ Silkie ซึ่งอยู่ในตระกูลหนูตะเภาเช่นกัน พวกมันมีจุดเด่นอยู่ที่ขนยาวสลวย สวยจนลากพื้นกันเลยทีเดียว แต่ถ้าหากปล่อยให้ขนพวกมันยาวรกรุงรังตามธรรมชาติ ก็อาจจะดูสกปรกได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นมนุษย์ก็ต้องคอยดูแลขนให้มันด้วย อย่างที่เห็นว่าพวกมันมีขนที่ยาวเงางาม ราวกับไปอบไอน้ำมาเลยแหนะ อะ ลองดูทรงผมของหนูตะเภาเหล่านี้ แล้วช่วยโหวตให้ด้วยนะว่าชอบทรงไหนมากที่สุด อิอิ . ผมสามสีมาเลย ไม่ได้ไฮไลท์นะ ธรรมชาติจ๊ะ หนูน้อยในลุคคุณหนู เท่บาดใจไปเลย . ขาวสะอาด น่าสัมผัสใช่มั้ยล่าาา ดำเงางามก็มา . หนูเซอร์ๆ เคยเห็นป่ะ? . . . .…
-
‘Appetence’ แอพหาคู่ที่ปิดรูปโปรไฟล์ ให้คุยกันด้วยใจก่อน แล้วค่อยๆ เผยให้เห็นทีละนิด
แอพหาคู่ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนโสดในปัจจุบัน และปฏิเสธไม่ได้ว่าบางคนได้แต่งงานก็เพราะแอพหาคู่นี่แหละ แต่ก็มีอีกหลายคนเช่นกันที่ต้องกินแห้วเพราะแอพชนิดเดียวกันนี้ อย่างที่รู้ว่าเดี๋ยวนี้มีแอพหาคู่มากมายให้เลือกใช้ แต่หลายคนก็ยังโสดอยู่ดีเพราะแอพเหล่านี้มักจะให้เราเผยโฉมหน้า ซึ่งบางทีอาจจะไม่ถูกใจคู่แชท จนถูกปฏิเสธไปเลยตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำความรู้จัก แล้วมันจะดีมั้ยถ้าคุยกันแบบไม่ให้เห็นหน้า แต่คุยกันด้วยใจ? ครั้งแรกของโลกกับ Appetence แอพหาคู่ที่จะทำให้คนสองคนค่อยๆ ทำความรู้จักกันด้วยใจ โดยยังไม่ต้องเห็นใบหน้าจนกว่าจะแน่ใจว่าคุณรักกันที่ใจไม่ใช่หน้าตา… แอพ Appetence เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคบกันใจด้วยใจจริงๆ โดยจะให้คนสองคนได้คุยกันผ่านข้อความอย่างน้อย 100 ข้อความ จากนั้นจึงจะเผยเห็นรูปของอีกฝ่ายได้ สำหรับคนที่สนใจใช้แอพนี้ คุณต้องเริ่มด้วยการดาวน์โหลดแอพมาก่อนนะคะ เริ่มจากการเข้าไปที่ iTunes แล้วลงทะเบียน จากนั้นให้ระบุกลุ่มความสนใจเบื้องต้น เช่น ดนตรี อาหาร ภาพยนต์ สัตว์เลี้ยง และอื่นๆ เมื่อสร้างโปรไฟล์เสร็จเรียบร้อย แอพจะทำการค้นหาคู่แชทที่ตรงกับความสนใจและเหมาะกับคุณ จากนั้นคุณและคู่แชทก็เริ่มพูดคุยกันได้เลย อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่แรกว่าคุณจะไม่สามารถเห็นรูปของคู่แชทได้ เพราะแอพจะซ่อนภาพของทั้งคู่เอาไว้ แต่ภาพเหล่านั้นจะค่อยๆ ถูกเปิดเผยจากบทสนทนาที่ทั้งคู่เริ่มคุยกัน อย่างเช่นเมื่อคุณคุยกับคู่แชท เขาหรือเธออาจจะชอบหรือไม่ชอบข้อความที่คุณส่งไป แต่ถ้าคู่แชทมีการตอบสนองต่อข้อความของคุณมากเท่าไร รูปภาพของคุณยิ่งจะถูกเปิดเผยมากเท่านั้น โดยจะค่อยๆ เปิดออกทีละส่วน ดังนั้นการจะเห็นรูปโปรไฟล์ของคู่แชทคุณต้องกดไลค์ข้อความที่ส่งมาอย่างน้อย 50 ครั้ง และคู่แชทเองก็ต้องถูกใจข้อความของคุณอย่างน้อย 50 ครั้งเหมือนกัน แต่น่าเสียดายนะที่หลายคนไม่ประสบความสำเร็จกับแอพนี้ อย่างที่รู้ว่าคนปัจจุบันไม่ชอบพูดคุยกันด้วยข้อความเท่านั้น…
-
ตำรวจจับกุมพ่อแม่วัยรุ่น หลังพบว่าปล่อยให้ลูกถูกหนูกัดกว่า 100 แผล จนบอบช้ำทั่วร่างกาย!!
การจะเป็นพ่อแม่วัยใสหรือการมีลูกตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ มักจะทำให้มีปัญหาตามมากับตัวเด็ก เพราะพ่อแม่เองก็ยังเป็นวัยรุ่นที่ยังไม่พร้อมที่จะดูแลลูก อย่างกรณีนี้ เมื่อพ่อแม่วัยใสจากรัฐอาร์คันซอถูกตำรวจจับ หลังพบว่าลูกสาววัยแรกเกิดของทั้งคู่มีรอยหนูกัดกว่า 100 แผลทั่วร่างกาย Erica Shyrock วัย 19 ปี และแฟนหนุ่ม Charles Elliott วัย 18 ปี ถูกจับเข้าคุกในเมืองแมกโนเลีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในข้อหาละเลยต่อสวัสดิการเด็กและปล่อยให้เด็กอยู่ในอันตราย สำหรับลูกสาววัยแรกเกิดนั้นถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ต่อมาพยาบาลได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า เด็กน้อยเพิ่งเกิดได้ 15 วัน และมีน้ำหนักเพียง 2.27 กิโลกรัมเท่านั้น จากการตรวจร่างกายหนูน้อยพบรอยถูกกัดประมาณ 75-100 แผลทั่วร่างกาย รวมทั้งแขน นิ้วมือ และบนใบหน้าของเธอ ในขณะที่เว็บไซต์ ArkansasMatters รายงานว่าทารกมีบาดแผลที่ร้ายแรงทึ่สุดตรงหน้าผากของเธอ ที่มีความกว้างประมาณ 1 นิ้ว และลึกเกือบจะถึงกะโหลกศีรษะของเธอ หลังจากที่ตำรวจได้สอบปากคำพ่อแม่วัยใส ทราบว่า Shyrock คบกับแฟนหนุ่มตั้งแต่ปี 2015 จนกระทั่งมีลูกด้วยกันในปีนี้ แม่วัยใสได้เล่าถีงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกว่า ในวันเกิดเหตุนั้นเธอได้พาลูกเข้านอนในเปลที่อยู่ติดกับเตียงของเธอเวลาประมาณ 5.30 แต่พอผ่านไป 2…
-
นักวิทย์ฯ พบปลาประหลาดหลายชนิดใต้ทะเล 4,000 เมตร คาดว่ามีมานานกว่า 40 ล้านปี…
โลกนี้เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดมากมายที่เรายังไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จัก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น ในป่าลึก หรือใต้ท้องทะเลลึก อย่างสิ่งมีชีวิตตัวนี้ที่มีหน้าตาประหลาดและน่ากลัวจนถูกขนานนามว่าเป็นเอเลี่ยนแห่งท้องทะเล ที่ถูกพบใต้มหาสมุทรที่มีความลึกกว่า 4,000 เมตร นี่คือ Deepsea Lizardfish หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวของมหาสมุทรแห่งนี้ ในสัปดาห์นี้ทีมนักวิทยาศาสตร์กว่า 40 คนได้เดินไปยังน่านน้ำตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นน่านน้ำที่ไม่ค่อยมีใครผ่านเข้าไป ทั้งนี้ก็เพื่อเข้าไปสำรวจสิ่งมีชีวิตทางทะลในละแวกนั้น พวกเขาได้ยินมาว่าใต้มหาสมุทรความลึก 4,000 เมตร ของที่นี่ มีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวและน่าศึกษาอาศัยอยู่… ทีมงานจึงได้ใช้กล้องและอุปกรณ์ดำน้ำในการลงไปเก็บภาพสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่ใต้มหาสมุทรแห่งนี้ หลังจากที่ใช้เวลาสำรวจเป็นเดือน พวกเขาก็ค้นพบว่าใต้ความลึกนี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตประหลาดและน่ากลัว ซึ่งมนุษย์แทบจะไม่รู้จักสัตว์เหล่านี้เลย Tim O’Hara จากพิพิธภัณฑ์ Victoria ที่ร่วมเดินทางไปด้วยบอกว่า “ใต้ท้องมหาสมุทรแห่งนี้ถือเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์น่ากลัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของมหาสมุทรครับ” ปลา Humpback Blackdevil (Melanocetus johnsonii) แม้สัตว์ประหลาดเหล่านี้จะถูกค้นพบที่ความลึก 4,000 เมตร แต่จริงๆ แล้ว มหาสมุทรแห่งนี้มีความลึกสูงสุด 6,000 เมตร ซึ่งลึกว่าพื้นที่ที่สามารถดำน้ำได้ถึง 100 เท่า…
-
งานวิจัยพบ “วาซาบิญี่ปุ่น” ช่วยปลูกผมได้ และมีประสิทธิภาพมากกว่าน้ำยาปลูกผมถึง 3 เท่า
ปกติเรารู้จักวาซาบิในฐานะเครื่องปรุงชนิดหนึ่งที่มักทานคู่กับอาหารญี่ปุ่น และจะต้องทานในปริมาณพอดีที่จะทำให้รสชาติอาหารมีความอูมามิขึ้น แต่ถ้าทานในปริมาณที่มากเกินไปแล้ว นอกจากจะรู้สึกไม่อูมามิยังจะเป็นการทรมานตัวเองอีกต่างหาก แต่ทว่าล่าสุดนี้ Kinin หนึ่งในบริษัทชั้นนำเกี่ยวกับวาซาบิได้ค้นพบว่า วาซาบิสามารถใช้ปลูกผลได้ด้วยนะเออ!! ทีมวิจัยของบริษัท Kinin พบว่า ในใบของวาซาบินั้นมีสารชนิดหนึ่งเรียกว่า Isosaponarin ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นเซลล์ Papilla ในศีรษะมนุษย์ เมื่อเซลล์ Papilla ทำปฏิกิริยากับสาร Isosaponarin ทำให้หนังศีรษะได้รับการกระตุ้น ส่งผลให้เส้นผมใหม่งอกขึ้นมา และทำให้ผมหนาขึ้น นอกจากนี้วาซาบิยังทำให้เกิดการพัฒนาของโปรตีนที่ลำเลียงสารอาหารไปยังเซลล์ Papilla ด้วย ซึ่งคล้ายกับผลิตภัณฑ์ปลูกผม Minoxidil ที่มีขายตามท้องตลาดในปัจจุบัน แต่ทีมวิจัยบอกว่าสาร Isosaponarin มีประสิทธิภาพมากกว่าน้ำยาปลูกผมทั่วไปถึง 3 เท่า นอกจากนี้ส่วนของรากวาซาบิ (ส่วนที่เราทาน) ก็มีผลต่อเซลล์ดังกล่าวเช่นกัน แต่ต้องให้แน่ใจว่าเซลล์จะสัมผัสกับสารเหล่านี้จริงๆ ในใบวาซาบินั้นเต็มไปด้วยสาร Isosaponarin นั่นหมายความว่าการทานวาซาบิมากๆ ไม่ได้ช่วยให้คุณผมดกขึ้น แต่คุณจะต้องให้วาซาบินี้สัมผัสกับหนังศีรษะของคุณโดยตรง จึงจะทำให้ผมดกขึ้นได้ แต่หากคุณจะใช้วาซาบิจริงๆ คุณต้องมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับกลิ่นฉุนของวาซาบิที่จะลอยเข้าจมูกคุณด้วย แต่สำหรับบางคนมันอาจจะคุ้มค่าที่จะทำ เพราะมันจะทำให้มีผมที่หนาขึ้นอีกครั้งด้วยวิถีแห่งธรรมชาติ หลังจากงานวิจัยนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตหลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก… และนี่คือเสียงตอบรับบางส่วน “ตายแล้ว…
-
แม่ชาวจีนไม่ยอมแพ้ เลี้ยงดูลูกพิการ-มีปัญหาทางสมอง จนส่งเข้าเรียน Harvard ได้ในที่สุด!!
เราต่างรู้ดีว่าการเลี้ยงลูกที่มีความพิการนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องดูแลพวกเขาตลอดเวลาตั้งแต่เล็กจนโต แต่หากเราใช้ความอดทน และดูแลคนพิการอย่างถูกวิธี คุณจะได้เห็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า Zou Hongyan จากมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ได้คลอดลูกชายคนแรกชื่อ Ding Ding เมื่อปี 1988 แต่โชคร้ายที่เกิดภาวะแทรกซ้อน ทำให้ลูกชายของเธอประสบกับสมองอัมพาตและพิการตั้งแต่กำเนิด คุณหมอได้แนะนำว่าเธอควรจะยอมแพ้ที่จะเลี้ยงลูกพิการคนนี้ต่อไป ซึ่งสามีของเธอก็เห็นด้วย เพราะถ้าฝืนเลี้ยงต่อไปจะมีแต่ความลำบากไปตลอดชีวิต แต่ Zou ไม่ยอมทำตามคำแนะนำของพวกเขา จนถึงขั้นต้องหย่ากับสามี และตัดสินใจที่จะเลี้ยงลูกชายผู้พิการคนนี้เพียงลำพัง แม้จะไม่มีใครเห็นด้วยก็ตาม Zou ต้องทำงานอย่างน้อย 3 งาน เพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัวเล็กๆ ของตัวเอง ทั้งยังต้องแบ่งเวลามาเล่นเกมกระตุ้นสมองกับลูกชายด้วย เป็นการทำให้สมองของเขาเกิดการรับรู้และมีสติปัญญาในระดับมาตรฐาน นอกจากการใช้สมองแล้ว เธอยังสอนให้ลูกช่วยเหลือตัวเองในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ด้วย อย่างการสอนให้ลูกใช้ตะเกียบ แม้ว่ามือของเขาแทบจะไม่สามารถหยิบจับอะไรได้เลยก็ตาม คุณแม่บอกว่า “ลูกชายของฉันมีความสามารถด้อยกว่าคนปกติทั่วไปในหลายๆ ด้าน แต่ฉันไม่อยากให้ลูกอายที่เกิดมาเป็นคนพิการ ฉันจึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยให้เขาผ่านพ้นความยากลำบากเหล่านี้ค่ะ” จนกระทั่ง 29 ปี ผ่านไป Ding Ding ก็สามารถคว้าใบปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้สำเร็จ…
-
ชาวอินเดียแห่ดู “ลูกแพะตาเดียว” และเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เบื้องบนประทานมาให้
บางครั้งความผิดปกติที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ก็หาคำอธิบายไม่ได้ แม้กระทั่งนักวิทยาศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งคิดว่ามันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงแห่กราบไหว้ โดยเฉพาะในประเทศไทยของเรา แล้วถ้าเป็นที่อื่นล่ะ พวกเขาจะทำอย่างไร? เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ประเทศอินเดีย มีลูกแพะดำตัวหนึ่งเกิดมามีตาเพียงดวงเดียว แถมมีหูข้างเดียวด้วย ทำเอาชาวบ้านถึงกับงงว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ก็มีความปกติดี ทางด้านสัตวแพทย์อธิบายว่า มันเป็นความผิดปกติที่พัฒนาขึ้นในครรภ์เรียกว่า Cyclopia ซึ่งเกิดจากสมองซีกซ้ายและขวาของมันไม่ได้แยกออกจากกันในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ด้วยเหตุนี้จึงนำไปสู่การหลอมรวมอวัยวะที่ต้องมีสองให้เหลือเพียงหนึ่ง เช่น ดวงตาที่ควรจะมีทั้ง 2 ข้าง ก็ถูกรวมมาอยู่จุดเดียวกัน มันจึงเกิดมามีตาดวงเดียวอยู่กลางใบหน้าและมีขนาดใหญ่กว่าตาปกติ นอกจากนี้ยังทำให้มันไม่มีเปลือกตาและขนตาเหมือนแพะทั่วไป รวมทั้งจมูกของมันก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องด้วย… แม้จะมีรีมฝีปากบนและล่างแต่มันมีขนาดเล็กกว่าปกติโดยกรามบนจะสั้นกว่า และไม่มีฟันทำให้ลิ้นของมันยื่นออกมานอกปากตลอดเวลา สัตวแพทย์ยังบอกอีกว่าลูกแพะตัวนี้จะตายภายในสองถึงสามวันข้างหน้านี้ เพราะระบบในร่างกายของมันทำงานไม่ปกติ จึงทำให้มันมีอายุสั้นมากๆ หลังจากที่รู้ว่ามีแพะตาเดียวเกิดมา ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างแห่ไปดูมัน ซึ่งชาวบ้านบางกลุ่มมีความเชื่อว่า แพะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นจึงได้กราบไหว้บูชาแพะตาเดียวตัวนี้ ทางด้าน Mukhuri Das เจ้าของแพะตาเดียวบอกว่า “ผมตกใจมากเลยครับ ที่อยู่ๆ ก็มีคนมากมายแห่มาดูลูกแพะตัวนี้ บางคนมีดอกไม้ ธูปเทียนมากราบไหว้ด้วยนะ” แม้เพื่อนบ้านจะมาเยี่ยมลูกแพะเพราะความเชื่อต่างๆ นานา…
-
เมืองแซคราเมนโตออกกฎให้ “ร้านขายสัตว์” ต้องมาจากศูนย์พักพิง เพื่อลดสัตว์จรจัดลง
ทุกวันนี้มีร้านขายสัตว์เลี้ยงอยู่มากมาย ทั้งสัตว์ที่หาได้ทั่วไปและสัตว์หายาก แต่เราเคยสงสัยกันมั้ยว่าพวกเขาได้สัตว์เหล่านี้มาจากไหน เป็นการเพาะพันธุ์จากฟาร์มเพื่อขายโดยเฉพาะรึเปล่า? แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าหากร้านขายสัตว์นำสัตว์จากศูนย์พักพิงมาขาย เพราะมันต้องการบ้านจริงๆ… ซึ่งที่ผ่านมาหลายประเทศก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ร้านขายสัตว์ขายสัตว์ที่เอามาจากศูนย์พักพิงเท่านั้น เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเมืองแซคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ก็กลายเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ออกกฎหมายให้ร้านขายสัตว์เลี้ยงต้องนำสัตว์จากศูนย์พักพิงมาขายเท่านั้น จนตอนนี้ทุกร้านในแซคราเมนโตก็หันมาเปลี่ยนเป็นระบบนี้หมด ขณะนี้มี 213 เมืองจาก 18 รัฐทั่วทั้งสหรัฐฯ ที่ประกาศใช้ข้อบังคับนี้ เพื่อส่งเสริมให้มีการซื้อสัตว์เลี้ยงที่ต้องการบ้านจริงๆ และหยุดการเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงเพื่อการขาย หลายคนคงจะรู้อยู่แล้วว่าฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัขส่วนใหญ่ จะทำให้สุนัขเกิดทีละจำนวนมากๆ ให้อยู่รวมกันในที่แคบๆ และสกปรก ส่งผลให้ลูกสุนัขมีปัญหาสุขภาพและมีความผิดกปกติตามมา ดังนั้นการออกกฎหมายให้ร้านขายสัตว์เลี้ยงนำสัตว์จากศูนย์พักพิง จะช่วยลดจำนวนร้านที่ขายสัตว์ลง และเป็นการช่วยยับยั้งการเพาะพันธุ์สัตว์ได้อย่างมาก ไม่ใช่แค่เมืองแซคราเมนโตเท่านั้น แต่ตอนนี้เมืองส่วนใหญ่ในรัฐฟลอริดา แคลิฟอร์เนีย และรัฐนิวเจอร์ซีย์ ต่างก็ประกาศที่จะนำกฎหมายนี้มาใช้กับร้านขายสัตว์ทั้งหมดในรัฐแล้ว อย่างไรก็ตามพวกเขาจะเคลื่อนไหวให้มีการใช้บังคับใช้กฎหมายนี้ทั่วประเทศให้ใด้ เพื่อช่วยเหลือสัตว์ในที่พักพิง และเป็นการลดจำนวนสัตว์จรจัดด้วย ที่มา thedodo
-
หญิงสาวช่วยมิ้วน้อยที่เกือบตายตั้งแต่เกิด ทำให้มันโตมาเป็นแมวแสนรู้ที่น่ารักน่ากอดฝุดๆ
ใครก็ตามที่ตัดสินใจรับแมวเหมียวมาเลี้ยง บอกได้เลยว่าคุณคิดไม่ผิดค่ะ เพราะแมวเนี่ยยิ่งโตยิ่งน่ารัก แถมขี้อ้อนสุดๆ จนคุณไม่อยากอยู่ห่างมันเลยค่ะ Fred ลูกแมวตัวจิ๋วที่เกือบจะไม่รอดชีวิตอยู่แล้ว แต่โชคดีที่ Claudia Branco ไปเจอมันซะก่อน เลยเก็บเอามาเลี้ยง จนมันกลายเป็นแมวที่น่ารักในวันนี้ หญิงสาวได้เจอลูกแมวครั้งแรกตอนที่ได้ยินเสียงมันร้องอยู่ข้างนอก เธอตัดสินใจเดินไปตามเสียงร้องนั้นแล้วก็เห็น ลูกแมว 3 ตัวอยู่ตามลำพังท่ามกลางความหนาวโดยไม่มีแม่ แต่น่าเสียดายที่อีก 2 ตัวตายในเวลาต่อมา ดังนั้นจึงเหลือ Fred ตัวเดียวเท่านั้นที่รอดมาได้ แต่ร่างกายของมันอ่อนแอมาก Claudia และครอบครัวจึงพาแมวน้อยไปหาสัตวแพทย์และทำให้ร่างกายมันได้รับความอบอุ่น แม้ร่างกายจะอ่อนแอ แต่แมวน้อยทำให้ทุกคนเห็นว่ามันอยากมีชีวิตอยู่ และมันไม่ยอมแพ้ต่อสภาพร่างกายนี้ ทางด้านหญิงสาวก็นอนเฝ้าเหมียวตลอด 24 ชั่วโมง ให้อาหารมันตามเวลา และคอยเช็คให้แน่ใจว่ามันยังมีลมหายใจอยู่ ไม่ใช่แค่ Claudia เท่านั้น แต่ทั้งครอบครัวของเธอต่างก็มาดูแลและให้ความรักความอบอุ่นกับ Fred เหมือนเป็นลูกน้อยคนหนึ่ง หลังจากที่นอนเฝ้ามันคืนแล้วคืนแล้ว ทุกคนก็ต้องเซอร์ไพรส์ในเช้าวันหนึ่งเมื่อพวกเขาตื่นมาและเห็น Fred กำลังนั่งทำหน้าแป๋ว ราวกับเป็นคนละตัวกับที่หญิงสาวช่วยเอาไว้ตอนแรก ตอนนี้แมวน้อยแทบไม่มีอาการป่วยหลงเหลืออยู่แล้ว มันเริ่มที่จะเล่น เริ่มสำรวจมุมต่างๆ ของบ้าน และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญมันติด Claudia มาก ถึงกับเดินตามไปทุกที่ จากแมวที่เกือบตาย ตอนนี้…
-
ช่างภาพกับกล้อง Graflex ปี 1913 ใช้เก็บภาพการแข่งขัน F1 ภาพสวยไม่แพ้กล้องรุ่นใหม่!!
ปัจจุบันนวัฒกรรมของกล้องได้รับการพัฒนาให้มีความละเอียดและคมชัดมาก เพื่อใช้บันทึกภาพและเก็บรายละเอียดการเคลื่อนไหวต่างๆ ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะการถ่ายภาพกีฬาที่มักจะมีการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเสมอ ดังนั้นหากต้องการเก็บภาพให้ทัน ช่างภาพจำเป็นต้องใช้กล้องที่มีคุณภาพสูง Joshua Paul กับกล้องโบราณในการเก็บภาพการแข่งขันรถ Formula 1 แต่เรื่องแบบนี้มันก็อยู่ที่ฝีมือเหมือนกันนะ เพราะบางคนต่อให้ใช้กล้องราคาแพง คุณภาพสูง ถ้าฝีมือไม่ถึงก็อาจได้ภาพไม่สวย และเช่นเดียวกัน หากช่างภาพที่ฝีมือดีต่อให้ใช้กล้องคุณภาพต่ำ แต่ก็สามารถถ่ายให้ภาพออกมาสวยงามได้ หนึ่งในการแข่งขันทางด้านความเร็วอย่างรถ Formula 1 นั้น ก็ต้องอาศัยความเร็วและความแรง ดังนั้นช่างภาพที่มารอเก็บภาพต่างพกกล้องที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่มายืนเรียงกันเพียบ ในบรรดาช่างภาพเหล่านั้นมีเพียงแค่ Joshua Paul เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่พกกล้องสมัยใหม่เหมือนคนอื่น แต่เขาใช้กล้องยี่ห้อ Graflex ขนาด 4×5 จากปี 1913 ที่อายุผ่านมาร้อยกว่าปีแล้ว แน่นอนว่าเขาถูกช่างภาพคนอื่นๆ มองด้วยสายตาแปลกๆ ที่กล้าใช้กล้องเก่าๆ มาถ่ายภาพกีฬาที่ต้องอาศัยความเร็วเช่นนี้ คุณสมบัติของกล้องสมัยใหม่นั้นสามารถจับภาพได้ 20 ภาพต่อวินาที ในขณะที่กล้อง Graflex จากปี 1913 สามารถเก็บภาพได้ทั้งหมดเพียง 20 ภาพเท่านั้นและที่สำคัญก็คือลบไม่ได้ด้วย ดังนั้นก่อนจะกดชัตเตอร์แต่ละครั้ง Paul จะต้องคิดให้รอบคอบ…
-
เช็คไซส์ก่อนซื้อ… สาวๆ กับชุดเดรสในอินเตอร์เน็ต ปังปินาศจนต้องโหยหาความเมตตา
แม้งานพรอมจะจัดขึ้นเพื่อฉลองจบการศึกษา แต่สำหรับหลายๆ คนมันอาจจะเป็นวันที่ทำให้เขาหรือเธอได้มาเจอเนื้อคู่ก็ได้ ดังนั้นหนุ่มๆ สาวๆ จึงมักจะแต่งตัวให้สวยให้หล่อที่สุดในงานนี้ นอกเหนือจากนี้ก็คืองานราตรีเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษต่างๆ โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีการเตรียมตัวเป็นเดือนเป็นปีเลยล่ะ แน่นอนว่าพวกเขาต้องเล็งชุดที่คิดว่าใส่แล้วจะสวยที่สุดหรือเด่นที่สุดในงาน ที่มาของชุดจะมาจากไหนไปไม่ได้ นอกจากร้านค้าออนไลน์ เพราะมีชุดให้เลือกมากมาย ทั้งยังมีนางแบบใส่ให้ดูด้วยว่าใส่แล้วจะออกมาเป็นยังไง ที่สำคัญการช้อปปิ้งออนไลน์นั้นทั้งสะดวกและรวดเร็ว เราก็แค่สั่ง โอนเงิน และรอรับชุดสวยๆ อยู่ที่บ้าน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงจากการสั่งของออนไลน์ก็คือ เราจะได้ของตามที่เห็นในรูปรึเปล่านี่สิ… ดังนั้นก่อนจะสั่งชุดจากร้านออนไลน์ โปรดเช็คขนาด และเทียบความสูงของนางแบบในรูปกับตัวคุณเองดีซะก่อน ไม่อย่างนั้นละก็ จากปังจะกลายเป็นพังแน่ เหมือนสาวๆ เหล่านี้ที่ร่วมแชร์ประสบการณ์สุดเฟล เมื่อซื้อชุดงานพรอมจากร้านออนไลน์ แต่พอได้ลองใส่ชุดปุ๊บ ความฝันที่ปังในงานพรอมแทบจะดับลงไปทันที อยากปังในงานพรอมอย่าไว้ใจร้านออนไลน์เชียวละ เห้อออ สิ่งที่คิดกับความเป็นจริง แน่ใจนะว่าชุดเดียวกัน อยากเดินเฉิดฉายเข้างานพรอม แต่เหมือนชุดจะไม่เป็นใจ ก็เกือบเหมือนนะ ไม่ปงไม่ไปมันแล้ว งานพรอมอะ จากวันที่ควรดีใจ กลับกลายเป็นวันแย่ๆ เพราะชุดชุดเดียว …
-
มนุษย์งง… เจอแมวร้องเสียงคีย์ต่ำผิดปกติ จนกลายเป็นดราม่าเล็กๆ ว่าเสียงจริงหรือเฟค!?
ปกติเราจะได้ยินเสียงแมวร้องมิ๊วๆ เงี้ยวๆ เมี๊ยวๆ หรืออาจจะแปลกไปกว่านี้ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะอยู่ในโทนนี้แหละ ยกเว้นตอนที่พวกมันติดสัตว์ มันจะร้องเสียงแหลมกว่าปกติ แล้วถ้าแมวร้องเสียงต่ำล่ะ เคยได้ยินมั้ย? เราอาจจะได้ยินในบางครั้งตอนที่แมวเป็นหวัด หรือแมวเจ็บคอ แต่เชื่อมั้ยว่ามีแมวบางตัวร้องเสียงคีย์ต่ำเป็นเสียงปกตินะ อย่าง Jack แมวดำลายขาวตัวนี้ ที่สร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าของตอนที่กำลังถ่ายคลิปวิดีโอ ด้วยการร้องเสียงต่ำจนไม่คิดว่าเป็นเสียงแมว เจ้าของบอกว่าปกติแล้ว Jack เป็นแมวขี้อายมากๆ ไม่ก็เลยไม่ค่อยร้องเสียงดังให้ได้ยินสักเท่าไร แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อมันมีความกล้ามากขึ้น มันก็ร้อง “เมี๊ยว” แบบเต็มเสียง ก่อนอื่น ลองมาฟังเสียงในคลิปกันดูก่อนค่ะ… แต่เสียง “เมี๊ยว” ที่ได้ยินนั้นมันฟังแล้วไม่คุ้นหูเลยซะเลย เพราะมันร้องด้วยเสียงต่ำมากชนิดที่แบบว่าไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน หลังจากที่เจ้าของได้แชร์วิดีโอนี้ในโลกออนไลน์ มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามากดไลค์ กดแชร์ และแสดงความคิดเห็นว่า ‘แมวที่ร้องด้วยเสียงต่ำแบบนี้หาได้ยากมาก เพราะมันเป็นเสียงเฉพาะของมันเองที่ไม่เหมือนแมวทั่วไป’ ต่อมาเจ้าของได้มาให้คำตอบกับที่มาของเสียงนี้ว่า “ผมได้พามันไปหาหมอแล้วนะ หมอบอกว่า Jack มันมีอาการอัมพาตที่คอ ก็เลยมีเสียงร้องที่ต่ำแบบนี้” แต่บางคนไม่เชื่อ พวกเขาพยายามจะอธิบายที่มาของเสียงแบบนี้ โดยผู้ใช้ยูทูปที่ชื่อ Grace Shah ที่อ้างว่าเป็นนักสัตววิทยาบอกว่า “ถ้าแมวเป็นอัมพาตที่คอจริง มันจะแสดงอาการปวดเวลาเปล่งเสียง แต่เห็นได้ชัดว่า Jack ไม่มีอาการอะไรเลย”…
-
เจ้าหมาจะกระโดดรับบอลแต่ดันพลาด ท่าทางอันแสนฮานี้ เลยโดนชาวเน็ตจับตัดต่อซะฮาไปอีก!!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนเลี้ยงหมาส่วนใหญ่มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันสุนัขช่วยคลายเครียดได้ ไม่ใช่แค่มันน่ารักหรือคอยเป็นเพื่อนยามเหงานะ แต่มันก็ยังมีมุมรั่วๆ ฮาๆ จนให้เราได้ขำกันอยู่บ่อยๆ ด้วย อย่างเจ้าหมาตัวนี้ที่ถูกแชร์รูปในเว็บไซต์ Reddit ผ่านยูเซอร์ Marmite_Badger ซึ่งเป็นภาพขณะที่มันรับบอลด้วยหน้าอก แล้วทำหน้าแบบได้อารมณ์มาก หลังจากภาพของหมาตัวนี้ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างพากันกดไลค์ กดแชร์ในความฮาของมัน และไม่หยุดอยู่แค่นี้นะ เพราะพวกเขายังได้เอาไปตัดต่อเพื่อสร้างความฮาขึ้นอีกระดับ วู้ววว ได้ร่วมเล่นคอนเสิร์ตกับศิลปินระดับโลกด้วย เนียนๆ ไปดับเด็กๆ ในวันฮาโลวีน รู้มั้ยโลกนี้ใครครอง ฮาๆๆ แฮ่ กลัวไร กลัวด้วยดิ เดี๋ยว!! ถ้าจะเข้าไปต้องผ่านศพเทพแห่งสุนัขก่อน ชอตนี้สยองไปนะ ได้นั่งท่ามกลางสาวๆ มันฟินแบบนี้นี่เอง ตำรวจสุนัขผู้พิทักษ์ซอยเปลี่ยว ค่ำคืนที่แสนน่ากลัว ถูกปกคลุ่มวิญญาณหมาหน้าโหด คิดว่ามนุษย์เต้นเป็นคนเดียวไง๊ เจอสเตปหมาเข้าไปเป็นไง เงิบดิ ใครมีฮากว่านี้มั้ย ช่วยตัดต่อที ที่มา distractify
-
หมาจรจัดที่ต้องนอนข้างถนน 8 ปี ได้เจ้าของใหม่พร้อมที่นอนนุ่มๆ ฟินจนไม่อยากตื่นเลย
ไม่ว่าใครก็คงอยากนอนบนที่นอนนุ่มๆ อุ่นๆ กันทั้งนั้น เพราะจะทำให้หลับสบาย พักผ่อนได้ยาวนานขึ้น และอาจจะทำให้เราฝันดีไปด้วยนะ แต่ในความเป็นจริงแล้วใช่ว่าทุกคนจะมีสิทธิเลือกที่นอน โดยเฉพาะสุนัขจรจัดที่ไม่มีแม้กระทั่งบ้าน ดังนั้นการได้นอนในที่ที่ปลอดภัยถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกมันแล้ว แม้มันไม่อุ่น และไม่สบายก็ตาม และนี่คือเรื่องราวของ Lola สุนัขที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนอย่างน่าสังเวช ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือ… Lola เป็นสุนัขพันธุ์พิทบูลที่ถูกล่ามโซ่ไว้ในอู่ซ่อมรถอันสกปรกและมืดมิดนาน 8 ปี มันไม่เคยสัมผัสที่นอนอุ่นๆ เลย นอนจากพื้นคอนกรีตที่ทั้งแข็งและเย็น และแล้ววันหนึ่งก็มีหญิงสาวคนหนึ่งผ่านมาเห็น Lola เธอจึงแจ้งไปยัง AMA Animal Rescue ที่เป็นองค์กรสวัสดิภาพสัตว์มีศูนย์อยู่ที่นิวยอร์ก หลังจากนั้นไม่นานทางทีมงานของ AMA Animal Rescue ก็ได้มายังที่ที่ได้รับแจ้ง และได้เข้าพูดคุยกับเจ้าของสุนัข เพื่อให้ปล่อย Lola อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ โชคดีที่เจ้าของเป็นคนคุยง่ายและยอมปล่อยให้เจ้าหน้าที่จัดการ ตอนแรกทุกคนคิดว่ามันคงจะมีนิสัยก้าวร้าวและไม่ยอมเป็นมิตรกับใครเพราะมันถูกคุมขังมาตลอด แต่กลับตรงข้ามเลย Lola เป็นมิตรกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือมัน มันส่ายหางไปมาตลอดด้วยความดีใจตลอดตั้งแต่เจอทีมช่วยเหลือ Michele Walsh อาสาสมัครจาก AMA บอกว่า “ตอนมันส่ายหางด้วยความดีใจ มันน่ารักมากเลยค่ะ มันเฟรนลี่มากๆ ยอมให้ทุกคนกอด มันยอมให้เราปลดโซ่ออกให้และตามทีมงานไปที่รถแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องเรียกเลยค่ะ” Lola…
-
หนุ่มอินเดียวัย 18 ปี ประดิษฐ์ดาวเทียมเล็กและบางที่สุดในโลก จนได้รับรางวัลจาก NASA
ปัจจุบันมีเวทีมากมายที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนแสดงความสามารถ และเวทีเหล่านี้แหละที่ทำให้รู้ว่าเด็กส่วนใหญ่ล้วนมีความสามารถที่น่าทึ่งมากๆ อย่างเด็กหนุ่มชาวอินเดียคนนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประดิษฐ์ดาวเทียมที่มีขนาดเล็กและเบาที่สุดในโลก ในการแข่งขันบนเวที Cubes in Space และยังได้รับรางวัลจาก NASA อีกด้วย Rifath Shaarook เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ได้สร้างดาวเทียมขนาด 65 กรัม ซึ่งเป็นอุปกรณ์จำลองที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานของคาร์บอนไฟเบอร์ในรูปแบบแม่พิมพ์ 3D ส่วนคุณสมบัติของดาวเทียมขนาดเล็กนี้สามารถอยู่ในอวกาศได้นาน 4 ชั่วโมง และภายในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ดาวเทียมก็จะใช้เวลาแค่ 12 นาที ในการเริ่มติดตั้งตัวเองและทำงานอย่างเต็มที่ เขาบอกกับ Business Standard ว่า “เราได้ออกแบบให้มันสมบูรณ์ตั้งแต่แรกแล้วครับ เราได้ใช้คอมพิวเตร์ออนบอร์ดแบบใหม่ โดยใส่ตัวเซนเซอร์ 8 ตัวไว้เพื่อวัดความเร่ง และใส่ระบบการโคจรของโลก” Shaarook ได้ตั้งชื่อดาวเทียมขนาดเล็กของตัวเองว่า KalamSat ตามชื่อของอดีตประธานธิบดีอินเดีย Abdul Kalam ที่ชอบวิทยาศาสตร์เหมือนกัน พื้นฐานของ Shaarook มาจากเมืองเล็กๆ ในรัฐ Tamil Nadu เขาเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และปัจจุบันทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของ Space Kidz India นี่ไม่ใช่ผลงานแรกของเขา แต่เมื่อ 3 ปีก่อน…
-
22 น้องหมาที่มากับความกลัวทุกสิ่งทุกอย่าง จนกลายเป็นภาพฮาๆ สำหรับมนุษย์ซะงั้น!!
ความกลัวเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ แม้แต่เหล่าสุนัขเองพวกมันก็มีความกลัวเช่นกัน แต่บางทีความกลัวของพวกมันก็กลายเป็นเรื่องฮาสำหรับมนุษย์ซะงั้น ไม่เชื่อก็อย่างเช่น…. 1. เห็นตัวใหญ่แบบนี้ ก็กลัวมิ้วน้อยนะ 2. “ไม่ ไม่ เค้ากลัวตุ๊กตาแกะ!!” 3. กลัวเครื่องดูดฝุ่น 4. หมาที่กลัวจูเลีย โรเบิร์ต เห็นแค่รูปก็ถึงกับถอยแล้ว 5. “อุ้มหน่อยๆ กลัวหมาน้อย” 6. หมา แมว กลัวฟ้าผ่า 7. น้องหมากลัวฝน 8. นี่ก็เกินไป๊ กลัวที่จะออกจากพรม 9. กลัวหนูหนักมาก 10. “เฮ้ย ทำไมเป็ดขึ้นมาเดินบนนี้ได้แว๊” 11. กลัวแมวจนต้องหันหน้าเข้ากำแพง เจ้าของบอกว่ามันไม่ได้ป่วยนะ มันแค่เขิน อย่าเพิ่งดราม่าจ้า!! 12. หมากลัวบวบยักษ์ 13.…
-
เจ้าหญิง Mako แห่งญี่ปุ่น สละสถานะราชวงศ์ เพื่อแต่งงานกับหนุ่มธรรมดาที่พบรักในร้านอาหาร…
ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงและเจ้าชายแล้ว ใครๆ ก็คิดว่าพวกเขาต้องอยู่สูงกว่าคนธรรมดาทั่วไป และไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำให้สมฐานะ โดยเฉพาะการเลือกคู่ครองที่เป็นคนในระดับเดียวกันหรือสูงกว่า แต่สำหรับเจ้าหญิง Mako แห่งญี่ปุ่น ผู้ยอมสละสถานะการเป็นเจ้าหญิงของตัวเองเพื่อไปแต่งงานกับชายสามัญชนที่เจอกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เรื่องราวนี้คงทำให้ใครหลายคนได้มองเรื่องของฐานะและความรักในอีกมุมมองหนึ่ง สำหรับชายหนุ่มผู้คว้าหัวใจเจ้าหญิงไปคือ Kei Komuro ที่การพบเจอของทั้งคู่เกิดขึ้นครั้งแรกในร้านอาหารแห่งหนึ่ง จากการรู้จักในวันนั้นก่อเกิดเป็นความรักในวันนี้ ข้อดีของเขาคือการเป็นคนที่รักทะเล เล่นสกีได้ เล่นไวโอลินเป็น และทำอาหารเก่ง นอกจากนี้เขายังเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่ International Christian University (ICU) ในโตเกียวด้วย Komuro ทำงานเป็นพนักงานตำแหน่ง Prince of the Sea ซึ่งมีหน้าที่โปรโมทการท่องเที่ยวของชายหาดโชนันในมณฑลคะนะงะวะ ทั้งคู่เจอกันเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่ร้านอาหารใน Tokyo’s Shibuya และได้คุยกันเกี่ยวกับการเรียนในต่างประเทศ ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็ได้เจอกันบ่อยขึ้น เจ้าหญิงรู้อยู่เสมอว่า หากพระองค์ตกลงที่จะแต่งงานกับ Komuro พระองค์จะต้องเสียสถานะการเป็นเจ้าหญิงแห่งไป และกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามพระองค์ก็อยากให้ทางราชวงศ์ยอมรับในการตัดสินใจของเธอ ในที่สุดเจ้าหญิงก็ได้พา Komuro ไปแนะนำกับคนในราชวงศ์ ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย แต่เนื่องจากในราชวังนั้นมีกฏมากกมายที่สืบทอดกันมายาวนานเป็นร้อยๆ ปี ดังนั้นแม้ว่าเจ้าหญิง Mako จะมีความประสงค์ที่จะสละสถานะและสละราชสมบัติ ก็ต้องผ่านขั้นตอนและกระบวนการตามธรรมเนียมของจักรพรรดิญี่ปุ่น…
-
คู่รักจับมือกันในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต ก่อนจะจากโลกนี้ไป ห่างกันเพียงหนึ่งชั่วโมง…
หากเรารักใครสักคน เราก็คงอยากอยู่กับเขาหรือเธอจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตและอยากลาจากโลกนี้ไปพร้อมๆ กัน เพื่อไม่ให้ใครอีกคนต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว การจากลาโดยธรรมชาตินั้น เป็นไปได้ยากมากสำหรับการที่คนสองคนจะสิ้นลมหายใจไปพร้อมๆ กัน หรือเวลาใกล้เคียงกันมากที่สุด… แต่สำหรับคู่รักตายายคู่นี้ พวกเขาได้จับมือกันในช่วงสุดท้ายของชีวิต และสิ้นลมห่างกันเพียงแค่ 1 ชั่วโมง นี่เป็นเรื่องราวของคุณตา Tom วัย 84 ปีและคุณยาย Delma Ledbetter วัย 82 ปี ที่คบหาดูใจกันมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ซึ่งรู้จักกันจากการแนะนำของเพื่อนในรัฐฟลอริด้า หลังจากที่คบกันได้เพียง 3 สัปดาห์ ทั้งคู่ก็ตัดสินใจแต่งงานจนมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ปัจจุบันมีหลาน 7 คน และเหลนอีก 7 คน แม้จะอยู่ในวัยเกษียณแล้ว Tom กับ Delma ก็ยังคอยเติมเต็มความหวานให้แก่กันและกันเสมอ พวกเขาเดินทางไปเที่ยวด้วยกันทั่วสหรัฐฯ และตั้งแคมป์ค้างคืนในบางครั้ง เหมือนเป็นการย้อนวัยเบาๆ แต่แล้วเมื่อทั้งคู่อายุมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มีปัญหาสุขภาพตามมา โดย Delma เริ่มป่วยหนักเมื่อเดือนที่แล้วจนต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาล…
-
สาวป่วยเป็นมะเร็ง “ถ่ายรูปแต่งงานเดี่ยว” เพื่อสานฝันตัวเองให้เป็นจริง ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่
การแต่งงานถือเป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงหลายๆ คน แต่ก็มีบางที่ไม่ได้แต่งงานตามความฝันนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าไม่มีคู่ครองที่เหมาะสม หรือด้วยเหตุผลอื่นๆ อีกมากมายหลายประการที่ทำให้ไม่สามารถแต่งงานได้ แต่สำหรับหญิงสาวคนนี้ แม้จะเป็นโสดเธอก็สามารถออกแบบงานแต่งให้ตัวเองได้ เพราะเธอคิดว่าการจะทำความฝันให้สำเร็จไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาช่วย แต่ตั้งเริ่มที่ตัวเอง เมื่อหลายปีก่อน Q May Chen วัย 27 ปี จากไทเป ประเทศไต้หวัน ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะที่สอง และอีก 2 ปีต่อมา อาการของเธอก็แย่ลงจนอยู่ในระยะที่สี่ เธอเป็นหญิงสาวที่มีความใฝ่ฝันเหมือนกับผู้หญิงทั่วไปคือ อยากใส่ชุดสวยๆ ในวันแต่งงานของตัวเอง แต่ทว่าในความเป็นจริงคือเธอยังโสด และเป็นโรคร้ายแรงอีกด้วย ทำให้โอกาสที่จะได้แต่งงานนั้นดูช่างห่างไกลเหลือเกิน แต่เธอยังไม่หมดหวังซะทีเดียว เพราะวันเกิดของเธอเมื่อปีที่แล้ว หญิงสาวตัดสินใจฉลองวันเกิดด้วยการทำฝันให้เป็นจริงนั่นก็คือการถ่ายพรีเวดดิ้งเดี่ยว โดยไม่มีเจ้าบ่าวอยู่เคียงข้าง Chen บอกว่า “ตอนเด็กๆ ฉันเป็นคนชอบแต่งตัวมากค่ะ และใฝ่ฝันว่าสักวันฉันจะได้ใส่ชุดแต่งงานในวันแต่งงานของตัวเอง ดังนั้นฉันจึงรอให้วันนั้นมาถึง…” “แต่ฉันดันมาป่วยซะก่อน แถมยังไม่มีแฟนด้วย เวลาที่จะมีชีวิตอยู่ก็เหลือน้อยลง ฉันก็เลยคิดว่าจะต้องทำความความฝันให้เป็นจริงด้วยตัวเองค่ะ” ก่อนที่จะถ่ายภาพชุดแต่งงาน หญิงสาวมีความกังวลเล็กน้อย เพราะกลัวว่าการถ่ายภาพแต่งงานคนเดียวจะออกมาไม่สวย และอาจจะขาดองค์ประกอบหลักอื่นๆ ไป…
-
คุณหมอบอกว่าเจ้าหมาจะอยู่ได้แค่ 6 เดือน แต่ผ่านมาถึงวันนี้ มันได้ฉลองอายุครบ 1 ปีแล้ว
แม้เราทุกคนจะมีความฝัน มีเป้าหมายของตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นตามที่เราคาดหวังไว้ เพราะความไม่แน่นอนของชีวิตนั้นมักจะเกิดขึ้นได้เสมอ… อย่างลูกหมาผู้น่าสงสารตัวนี้ ที่คุณหมอวินิจฉัยว่ามันจะอยู่ได้เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น แต่ทว่าหลังจากผ่านพ้นช่วงเวลานั้นมาแล้ว ตอนนี้มันมีโอกาสได้ฉลองอายุครบ 1 ปีอย่างเหลือเชื่อ!! เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ Erica Mahnken ได้มีโอกาสไปหา Lorraine Healy ผู้เป็นเพื่อนและเป็นผู้ก่อตั้ง Husky House ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือสุนัขในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ปกติแล้ว Mahnken ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ และเธอไม่เคยคิดที่จะรับสัตว์มาเลี้ยงด้วย แต่การมาหาเพื่อนในครั้งนี้ ทำให้เธอได้พบกับ Honey สุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดวัย 2 เดือน ที่มีความตะมุตะมิจนเธอตกหลุมรักมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่น่าเศร้าสำหรับเจ้า Honey มันเกิดมาพร้อมความผิดปกติทางร่างกาย ประสบกับโรคหัวใจพิการ เนื่องจากท่อลำเลียงเลือดสู่หัวใจของมันนั้นเล็กมาก ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่เต็มที่ Merrick Fultz สัตวแพทย์จากคลีนิก Blue Pearl Veterinary Clinic บอกว่า “โรคนี้เรียกว่า Subaortic Stenosis ทำให้ความดันไปทำลายหัวใจ สุดท้ายสุนัขก็จะตายก่อนวัยอันควร” และได้กำชับว่าเจ้า Honey จะมีชีวิตเหลืออยู่เพียงแค่ 6…
-
เหมียวจินจินผู้โชคร้าย ถูกฝากพาไปตัดขนได้ทรงเหลือแค่ขนบนหน้า จะโกรธหรือขำดีเนี่ย?
ส่วนสำคัญที่ทำให้น้องแมวเหมียวมีความน่ารัก นอกจากจะเป็นนิสัยขี้อ้อนของมันแล้วก็คงจะเป็นขนปุยของพวกเนี่ยแหละ ยิ่งหนาหนุ่มก็ยิ่งน่ากอด แล้วถ้าเราจะต้องตัดขนให้พวกมันล่ะ จะตัดอย่างไร ทรงไหนเพื่อคงความน่ารักของพวกมันเอาไว้ เอาแบบเจ้าเหมียวจินจินมั้ย ที่ตัดขนแล้วได้เปิดโลกใหม่แห่งวงการแฟชั่นแมวไปเลย!! จินจิน – Jin Jin มีเจ้าของชื่อ Xie Qian Qian ที่มักจะพาน้องเหมียวไปตัดขนทุกปี เพื่อช่วยทำให้มันเย็นสบายขึ้นในหน้าร้อน ปีนี้ก็เช่นกัน เธอตัดสินใจจะพามันไปตัดขนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เจ้าของยุ่งมากเลยไม่ได้ไปส่ง Jin Jin ด้วยตัวเอง เธอได้วานให้เพื่อนไปส่งเจ้าเหมียวตัดขนแทน พอเพื่อนพาแมวกลับมาเท่านั้นแหละ เธอถึงกับสตั๊นไปสิบวิ!! ผ่างงงงงงง!! คือ Jin Jin กลับมาในสภาพที่ถูกตัดขนเกลี้ยงทั้งตัว… ยกเว้นส่วนใบหน้าของมัน เหลือเฉพาะแค่ส่วนนั้นจริงๆ เพราะขนหัวก็โดนตัดออกไปด้วย ทีนี้ก็งงเลยว่าเพื่อนไปบอกช่างให้ตัดยังไง? Qian บอกว่า “ฉันตกใจมากเลยค่ะตอนเห็น Jin Jin เดินเข้าบ้านมา แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้เหมือนกัน” เธอยังบอกอีกว่า “สามีฉันก็ไม่ชอบทรงนี้เหมือนกันนะ แต่ดูสิ เขาหัวเราะไม่หยุดเลย” “แน่นอนว่ามันทั้งน่ากลัวและตลกในเวลาเดียวกัน แต่ Jin Jin ดูไม่ค่อยจะใส่ใจกับทรงขนใหม่สักเท่าไร เพราะมันเป็นแมวที่เชื่อฟังดีมาก สั่งให้ทำอะไรก็ทำหมด…
-
17 ภาพการทำความสะอาด จากสปกรกเขรอะให้เอี่ยมหมดจด เห็นความต่างปุ๊บก็ฟินเลย!!
อะไรที่เป็นของใหม่เรามักจะเห่อมันเสมอ แต่เมื่อไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปก็ทำให้มันมีสภาพเก่า สิ่งเหล่านั้นก็มักจะถูกเมินหรืออาจถูกโยนทิ้งไป ทั้งๆ มันอาจจะยังใช้การได้ดีอยู่ แล้วทำไมต้องทิ้งของที่ยังใช้งานได้ล่ะ ลองทำความสะอาดสิ่งเหล่านั้นดูสิ แล้วจะเห็นว่ามันไม่สมควรจะถูกทิ้งเลยสักนิด แถมมองแล้วสบายตาขึ้นเยอะด้วย 1. เห็นความต่างมั้ยเอ่ย? แบบที่สะอาดแล้วกับสกปร๊ก สกปรก 2. แค่ทำสะอาด แต่เหมือนได้เตาอบใหม่เลย 3. ภายใต้สติ๊กเกอร์เก่าๆ นั้นมีความสดใหม่ซ่อนอยู่ 4. เป็นไง น่าบิดขึ้นเยอะ 5. ไม่ต้องเทปูนใหม่หรอก แค่ขัดถูก็ได้ของใหม่แล้ว 6. ขวดเก่าที่ถูกทิ้งไว้มานาน เอามาทำความสะอาดแล้วเหมือนซื้อขวดใหม่มาเลย 7. บางทีหลังคาอาจไม่ได้เก่าอย่างที่เห็นก็ได้… 8. ฟองแต่งหน้า ไม่ควรปล่อยให้ดำเขรอะแบบนี้นะ เดี๋ยวหน้าพัง 9. เปลี่ยนแป้นพิมพ์เก่าๆ ให้เป็นแป้นที่ใหม่เอี่ยม 10. หม้อขึ้นสนิมจนใช้การไม่ได้แล้ว แต่พอเอามาขัดถู เหมือนได้หม้อใหม่เลย 11. เพดานก็รอให้คุณทำความสะอาดเหมือนกันนะ…
-
ตกแต่งเมืองด้วยดอกไม้สีสดใส เพื่อให้ผู้คนเบิกบานใจ และมีรอยยิ้มท่ามกลางความวุ่นวาย
ปกติแล้วเราจะเดินเข้าไปใกล้ถังขยะก็ตอนที่ต้องการจะทิ้งสิ่งของที่เราไม่ต้องการแล้ว แต่หากไม่มีธุระเราจะไม่เดินเข้าไปใกล้ถังขยะแน่นอน เพราะมันเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกและส่งกลิ่นเหม็นไม่สำราญใจเอาซะเลย ซึ่งตรงข้ามกับดอกไม้ ที่แม้จะอยู่ที่ไหนก็มีแต่คงอยากเข้าไปหา เพราะมันมีความสวยงามและมีกลิ่นหอมช่วยผ่อนคลาย… แล้วถ้านำดอกไม้ไปจัดไว้ในถังขยะล่ะ เราจะเดินเข้าหาได้รึเปล่า? Lewis Miller นักออกแบบตกแต่งดอกไม้จากนิวยอร์ก ได้ทำให้เมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายให้มีความน่ามองยิ่งขึ้น ด้วยการใช้ดอกไม้มาประดับประดาตามจุดต่างๆ ทั่วทั้งเมือง ดังนั้นในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ เมือง Manhattan จึงเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน เขาได้นำดอกไม้ไปวางไว้ตามทางเท้าโดยจัดให้อยู่ในรูปร่างที่สวยงามจนแทบจะไม่กล้าเหยียบเลยล่ะ นอกจากนี้ยังนำดอกไม่ไปจัดไว้ในถังขยะที่มีแต่คนรังเกียจ รูปปั้นที่น่าเบื่อ และสวนสาธารณะที่ไม่ค่อยมีผู้คนเข้าไปใช้บริการ แต่หลังจากที่ Lewis ได้นำดอกไม้ไปวางไว้ตามจุดต่างๆ เหล่านี้ มันก็ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยหลายคนตอบสนองด้วยรอยยิ้ม นั่นแหละคือสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุด สำหรับภารกิจจัดดอกไม้ครั้งนี้เขาเรียกมันว่า Flower Flashes ซึ่งจะมีรูปแบบการจัดที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับรูปร่างและสถานที่นั้นๆ มีดอกไม้นับพันดอกที่ถูกใช้ในการตกแต่ง ประกอบไปด้วยดอกกุหลาบ ดอกดาเลีย และดอกกล้วยไม้ ซึ่งถ้าไปซื้อก็คงเสียไปเป็นหมื่นเป็นแสนกันเลยทีเดียว แต่โชคดีที่ Lewis ที่ไม่ต้องซื้อดอกไม้เหล่านี้ เพราะเขานำมาจากร้านดอกไม้ของตัวเอง ที่ตั้งใจปลูกเพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนในเมือง หลังจากที่ได้นำดอกไม้ไปจัดไว้ตามจุดต่างๆ ทำให้เขาได้เห็นรอยยิ้มของผู้คนท่ามกลางความวุ่นวาย ถังขยะที่มีคนหลีกเลี่ยง ตอนนี้ก็มีแต่คนเดินเข้าไปหา บางคนเข้าไปดมกลิ่นดอกไม้ บางคนก็เข้าไปถ่ายรูป…
-
เด็กหนุ่มอัจฉริยะเรียนรู้ได้เกินวัย จนสามารถคว้าใบปริญญาตรีได้ ด้วยอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น
ใครที่เคยผ่านการเรียนระดับปริญาตรีมาแล้วคงจะรู้ดีว่ามันไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ปริญญามาสักหนึ่งใบ บางคนเรียนเกินหลักสูตรบ้าง หรือบางคนก็ท้อ เรียนต่อไม่ไหวจนเลิกเรียนไปเลยก็มี… แต่สำหรับหนุ่มน้อย Carson Huey-You ผู้นี้ กลับคว้าใบปริญาตรีมาครอบครองได้ด้วยวัยเพียง 14 ปีเท่านั้น จนกลายเป็นหนึ่งในผู้สำเร็จการศึกษาที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก Huey-You เริ่มเรียนวิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสคริสเตียน ตอนอายุ 11 ปี โดยเรียนควบคู่กับวิชาคณิตศาสตร์และภาษาจีนด้วย Carson Huey-You วัย 14 ปี เด็กหนุ่มเผยว่า “การเรียนปริญญาตรีมันไม่ง่ายเลยนะครับ… ผมรู้ตัวว่าชอบฟิสิกส์ตอนเรียนมัธยมครับ แต่ควอนตัมฟิสิกส์ทำให้ผมมีความสนใจด้านนี้มากขึ้น เพราะมันเป็นเรื่องนามธรรมครับ” เขายังบอกอีกว่า “การเรียนสิ่งที่เป็นนามธรรมนั้น คุณจะไม่สามารถมองเห็นทุกอย่างได้ ดังนั้นผมจึงต้องอาศัยคณิตศาสตร์เป็นตัวช่วยครับ” มหาวิทยาลัยเท็กซัสคริสเตียน Claretta Kimp แม่ของ Huey-You บอกว่าลูกของเธอมีความสนใจในวิชาคณิตศาสตร์ตั้งแต่เขามีอายุเพียงแค่ 3 ขวบ “ตอนนี้ลูกได้ถามฉันว่า ‘ผมสามารถเรียนแคลคูลัสได้มั้ยครับแม่’ ฉันมองหน้าเขาแล้วตอบ ‘อืมมม ได้สิ’” นอกจากนี้คุณครูที่เคยสอน Huey-You ในวัยเด็กยังบอกว่าอีกว่า เขาเป็นเด็กที่มีความอัจฉริยะมาก สามารถเข้าใจคณิตศาสตร์ของชั้น ม. 2…
-
21 ภาพที่จะยืนยันว่า ‘ออสเตรเลียคือดินแดนประหลาด’ ที่มักจะมีสัตว์โผล่มาหาคุณถึงที่!!
เมื่อพูดถึงประเทศออสเตรเลีย หลายคนคงจะนึกถึงดินแดนแห่งจิงโจ้ แต่หารู้ไม่ว่าที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสัตว์มีพิษ สัตว์อันตรายและสัตว์แปลกๆ มากมาย จนกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับชาวออสเตรเลียไปแล้ว เหมือนกับสัตว์เหล่านี้ ที่อาจจะดูแปลกหูแปลกตา แต่ถ้าคุณได้ไปออสเตรเลีย คุณจะรู้ว่าในแต่วันพวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง!? 1. หนอนผีเสื้อที่เดินเรียงกันเป็นแถว 2. เมื่อแกะไม่ได้ตัดขนนาน 5 ปี 3. จิงโจ้ผู้บึกบึนที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ 4. แมงมุมที่ถูกพบในฟาร์ม 5. งูกำลังกลืนกินพอสซัมทั้งตัว 6. งูสามารถกินจระเข้ได้ทั้งตัวเช่นกัน 7. แต่บางทีงูก็ตกเป็นเหยื่อของกบ!! 8. ของที่ระลึกรูปทรงแปลกๆ นะ 9. แมงมุมทำรังบนเครื่องวัดพลังงาน 10. รองเท้ากลายเป็นแหล่งกบดาน 11. รองเท้ายังเป็นที่ที่แมงมุมชอบมาสร้างบ้านด้วย 12. แมงกะพรุนตัวจิ๋ว แทบมองไม่เห็น แต่มันคือหนึ่งในสัตว์ที่อันตรายที่สุดในโลก 13. ก็นี่มันดินแดนจิงโจ้ พวกมันเลยคิดว่าจะทำอะไรก็ได้…
-
หนุ่มอินเดียจำลองบรรยากาศสถานที่จากรอบโลก อยู่แต่ในห้องแต่เหมือนได้ออกไปจริงๆ!!
มีสถานที่มากมายบนโลกแห่งนี้ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากไปสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหรือเรื่องเวลา ทำให้เราไม่สามารถไปได้อย่างที่หวังเอาไว้ แต่มีอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้คุณได้ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน โดยไม่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก หรือรอให้มีเวลาว่าง เพราะคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของสถานที่เหล่านั้นโดยไม่ต้องออกจากบ้านเลย!! Vatsal Kataria หนุ่มชาวอินเดียที่เป็นทั้งช่างภาพและหัวหน้าทีมครีเอทีฟ ทำให้ตัวเองได้ไปเที่ยวรอบโลก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ออกไปไหน โดยทั้งหมดนี้จัดอยู่ภายในสตูดิโอของเขา Vatsal มีสตูดิโอเล็กๆ ในบ้านของตัวเอง ภายในนั้นจะมีผลงานที่เขาทุ่มเทสร้างสถานการณ์และจำลองสถานที่ต่างๆ มากมาย โดยทุกชิ้นให้ความสำคัญกับบรรยากาศที่เหมือนจริง ในการสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ ชายหนุ่มจะใช้กระดาษแข็งเก่าๆ พลาสเตอร์ แผ่นโพลิรีน กระดาษหนังสือพิมพ์ และสีอะคริลิค เขาได้นำวัสดุและอุปกรณ์ทั้งหมดนี้มาปั้นให้เป็นรูปเป็นร่าง จากนั้นก็ระบายสี ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะจะต้องลงสีให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง และไล่ระดับสีให้มีความพอดีกัน หลังจากนั้นเขาก็จะถ่ายรูปผลงานเหล่านั้นเอาไว้ แล้วเอาไปเข้าโปรแกรมโฟโต้ช้อปเพื่อสร้างบรรยากาศให้ใกล้เคียงมากที่สุด ราวกับได้ไปสัมผัสสถานที่นั้นด้วยตัวเอง เพียงเท่านั้นคุณก็สามารถไปเที่ยวรอบโลกได้แล้ว หากใครจะทำตามคุณต้องมีฝีมือด้านศิลปะพอสมควรนะ แม้ว่าจะไม่เก่งทางด้านนี้ แต่ถ้าหมั่นฝึกฝนบ่อยๆ คุณต้องทำได้แน่นอน . . . . ดีจังแฮะ…
-
หญิงสาวใส่สร้อยคอที่แฟนหนุ่มให้เป็นปี โดยไม่รู้ว่าในนั้นซ่อน “แหวนขอแต่งงาน” เอาไว้
การขอแต่งงานใช่ว่าจะขอได้ทันทีหรือทำยังไงก็ได้ ซึ่งหลายคนก็ให้ความสำคัญถึงขั้นต้องเตรียมทำเซอร์ไพรส์ไว้อย่างดีเพื่อสร้างความประทับใจให้คู่รักตัวเอง อย่างชายหนุ่ม Terry ชาวออสเตรเลีย ที่ตัดสินใจขอ Anna ผู้เป็นแฟนสาวแต่งงาน หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมากว่า 2 ปี ก่อนจะขอแต่งงาน ชายหนุ่มได้มอบสร้อยคอเส้นหนึ่งให้แฟนสาวโดยได้แอบซ่อนแหวนไว้ข้างในอีกชั้น ทางด้าน Anna ก็ใส่สร้อยเส้นนี้มาเป็นปี แต่เธอไม่เคยรู้เลยว่ามีแหวนซ่อนอยู่ในนั้น และแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่ Terry จะบอกกับแฟนสาว… ระหว่างที่ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกัน อยู่ๆ ชายหนุ่มก็คุกเข่าและขอ Anna แต่งงาน ตอนแรกหญิงสาวงงมากเพราะเธอไม่เห็นแฟนหนุ่มหยิบแหวนขึ้นมาเลย จนเขาเฉลยให้เธอรู้ว่าเขาได้เอาแหวนซ่อนไว้ในจี้ที่เธอใส่อยู่ เมื่อหญิงสาวเปิดจี้ออกมาก็พบแหวนในนั้นจริงๆ เธอดีใจมาก แน่นอนว่าเธอประทับใจการเซอร์ไพรส์ครั้งนี้จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ก่อนจะตกลงแต่งงานด้วย และนับว่าเป็นโชคดีของ Anna เพราะเธอยอมรับว่าตอนที่ได้สร้อยเส้นนี้ มันไม่ได้มีความโดดเด่นหรือสวยงามอะไรเลย แต่เพราะแฟนหนุ่มให้มาก็เลยใส่ติดตัวไว้ตลอด ที่สำคัญคือ ต้องนับถือในความอดทนของ Terry ที่สามารถเก็บความลับกับแฟนได้นานเป็นปี โดยไม่ทำให้เธอสงสัยแม้แต่นิดเดียว จนทำให้การขอแต่งงานครั้งนี้ผ่านไปอย่างราบรื่นตามที่คาดหวังไว้ Terry ขอแต่งงานโดยใช้แหวนที่ซ่อนอยู่ในจี้ที่แฟนสาวห้อยอยู่ แหวนที่อยู่กับเธอมาเป็นปี แต่เธอไม่เคยรู้เลย ชายหนุ่มขอแฟนสาวแต่งงานที่ถ้ำ Smoo ในสกอตแลนด์ หลังจากที่เก็บความลับมานาน…
-
อิตาลีพร้อมจ่าย 76,000 บาท เพื่อให้คนย้ายมาอาศัยใหม่ เพราะเกรงว่าหมู่บ้านจะร้าง…
ในขณะที่บางประเทศกำลังประสบปัญหาคนล้นเมือง ประชากรไม่มีที่อยู่ หรือมีที่แต่ไม่มีเงินซื้อ แต่สำหรับบางพื้นที่ก็กำลังประสบปัญหาขาดแคลนประชากรจนถึงขั้นต้องจ้างให้คนไปอยู่กันเลยล่ะ!! Bormida หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี มีประชากรเพียง 394 คน จนเกือบจะกลายเป็นหมู่บ้านร้างแล้ว ด้วยเหตุนี้นายกเทศมนตรี Daniele Galliano จึงได้ประกาศผ่านเฟสบุ๊คว่า เขาจะทำโครงการเสนอเงินให้กับผู้ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ประมาณ 76,000 บาท (2,000 ยูโร) เพราะไม่อยากให้ที่แห่งนี้กลายเป็นหมู่บ้านร้าง อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวนี้ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาก่อน และหากผ่านแล้วเขาจะดำเนินการให้เร็วที่สุดก่อนที่จะมีประชากรลดลงไปมากกว่านี้ สำหรับหมู่บ้าน Genoa นั้น ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตเรียบง่าย อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่ย้ายถิ่นฐานออกไปเพื่อไปอยู่ในเมืองที่มีความเจริญและมีโอกาสในการหางานทำมากกว่า หลังจากที่โพสต์ของนายกเทศมนตรีได้ถูกเผยแพร่ออกไป หลายคนให้ความสนใจมาก โดยเฉพาะชาวอินเดีย สหรัฐฯ อังกฤษ ฮังการี และอินโดนีเซีย บางคนต้องการเข้ามาอยู่เพราะมีเงินเป็นแรงจูงใจ ในขณะที่บางคนก็บอกว่าไม่ต้องการเงินแต่อยากไปอยู่ด้วยใจเพราะชอบความเรียบง่าย และที่ถามหากันมากที่สุดคือสัญญาณอินเตอร์เน็ต เพราะหลายคนต้องพึ่งพาอินเตอร์เน็ตในการทำงาน ทั้งการติดต่อสื่อสาร และการติดตามข่าวสารต่างๆ Daniele Galliano นายกเทศมนตรีประจำหมู่บ้าน Bormida หนึ่งในชาวบ้านที่อยู่อาศัยบอกว่า “อยู่ที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำมาก แต่เรามีป่าไม้…
-
ชาวบ้านพบซากประหลาดขนาดใหญ่ ลอยมาติดชายฝั่ง ไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร!?
โลกที่กว้างใหญ่ไพศาลใบนี้มีอะไรให้เราเรียนรู้มากมาย แม้จะผ่านช่วงอายุจนแก่เฒ่าก็ใช่ว่าจะรู้จักทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก เหมือนกับการค้นพบซากประหลาดในครั้ง ที่ทำให้ผู้คนพากันงงว่ามันคืออะไรกันแน่ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญเองก็ยังยืนยันคำตอบไม่ได้? ซากประหลาดนี้ถูกพบโดย Asrul Tuanakota อายุ 37 ปี ณ บริเวณ Hulung Beach ซึ่งอยู่ฝั่งทะเลทางตอนเหนือของเกาะ Seram ในประเทศอินโดนีเซีย คนที่พบไม่มีใครระบุได้ว่ามันคืออะไร เบื้องต้นสำนักข่าว Jakarta Globe รายงานว่า ซากประหลาดนี้มีความยาว 15 เมตร และมีความกว้างอีกหลายเมตร Tuanakota วัย 37 ปี คือคนที่พบซากประหลาดนี้ ในตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ที่ถูกฆ่าจนลอยมาติดเกาะ แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ปรากฏว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เข้าใจ ซึ่งเขาเองก็บอกไม่ได้เช่นกันว่ามันคืออะไร จนเช้าวันต่อมา ชาวบ้านก็แห่กันไปยังชายหาด Hulung Beach เพื่อไปดูซากดังกล่าว และทุกคนก็ต่างพากันประหลาดใจ เพราะนอกจากจะมีขนาดใหญ่แล้ว มันยังเปลี่ยนสีได้ด้วย พวกเขาจึงคาดเดาว่ามันอาจจะเป็นซากปลาหมึกยักษ์หรือซากปลาวาฬ ก่อนจะติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาตรวจสอบและจัดการต่อไป นี่ไม่ใช่การค้นพบสิ่งประหลาดครั้งแรก เพราะเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็มีการพบซากประหลาดบนชายหาดในฟิลิปปินส์เหมือนกัน ซึ่งชาวบ้านที่นั่นคาดเดาว่ามันคือพะยูนสายพันธุ์หนึ่งที่หาได้ยาก จนถึงตอนนี้ทั้งสองกรณีก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัด ว่าซากประหลาดที่พบนั้นคืออะไรกันแน่…
-
แซ่บมาก… คุณแม่ชาวจีนวัย 49 ปี หน้าเด็กและหุ่นเป๊ะมาก จนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนลูกชาย
สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง เพราะเมื่อเวลาผ่านไปร่างกายก็จะค่อยๆ เหี่ยวย่นและเสื่อมไปตามอายุที่มากขึ้น แต่ดูเหมือนคำพูดนี้จะใช้ไม่ได้กับใครบางคนนะ โดยเฉพาะเธอคนนี้ Liu Yelin ที่แม้จะเป็นคุณแม่วัย 49 ปีแล้ว แต่ผิวพรรณและใบหน้าของเธอยังคงเต่งตึงเหมือนสาวแรกรุ่น Liu เกิดเมื่อปี 1968 ที่ Xinyang ซึ่งอยู่ใจกลางมณฑลเหอหนานของประเทศจีน และกำลังโด่งดังมากในโลกโซเชียลขณะนี้ เนื่องจากเธอมีหน้าตาที่อ่อนเยาว์บวกกับผิวที่ยังดูเต่งตึงแม้อายุใกล้จะ 50 แล้วก็ตาม เธอบอกว่า “ที่เห็นฉันหน้าเด็กและผิวเต่งตึงแบบนี้เป็นเพราะฉันออกกำลังกายเพื่อขับเหงื่อออกบ่อยๆ ค่ะ จนตอนนี้ฉันยังรู้สึกเหมือนอายุ 15 อยู่เลย” แต่บางทีความอ่อนเยาว์ของ Liu ก็ทำให้เธอปวดหัวเหมือนกันนะ เพราะคนส่วนมากมักเข้าใจผิดว่าเธอเป็นแฟนกับลูกชายวัย 22 ปี อย่างครั้งหนึ่งเมื่อเธอควงลูกชายไปงานแต่งเพื่อน แขกในงานต่างพากันซุบซิบว่าเธอเปิดตัวแฟนใหม่ ทั้งๆ ที่หนุ่มคนนั้นคือลูกชายแท้ๆ ของเธอเอง ส่วนเบื้องหลังผิวเต่งตึงและเปล่งปลั่งขนาดนี้ Liu บอกว่าเธอแทบจะไม่ได้ใช้เครื่องสำอางเลยนะ แต่เธอเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายมาก และทำต่อเนื่องมานานกว่า 30 ปีแล้ว เธอบอกว่า “ฉันชอบว่ายน้ำในทะเลสาบและออกกำลังกายทุกวัน แต่สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดคือการว่ายน้ำกลางแจ้งในช่วงฤดูหนาวค่ะ” คุณแม่และลูกชาย …
-
‘Edificio Santalaia’ อาคารสวนแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไลฟ์สไตล์เมืองเป็นมิตรกับธรรมชาติ
ในสังคมเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า สิ่งปลูกสร้างที่ล้วนเกิดจากการแทนที่ต้นไม้ใบหญ้า จึงเป็นไปยากในการหาทำเลที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ นอกจากต้องไปนอกเมืองหรือต่างจังหวัด แต่หากคุณเป็นรักธรรมชาติจริง และไม่อยากย้ายออกจากสังคมเมือง คุณก็สามารถสร้างธรรมชาติขึ้นมาเองได้ แม้ต้องอยู่ท่ามกลางตึกสูงก็ตาม Edificio Santalaia อาคารที่ปกคลุมด้วยพืชธรรมชาติ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย และถือเป็นสวนแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตึก Edificio Santalaia มีเนื้อที่กว่า 3,065 ตารางเมตร เป็นอาคาร 11 ชั้น (แบ่งเป็นชั้นใต้ดิน 2 ชั้น) ที่เกิดจากการออกแบบร่วมกันระหว่างทีมออกแบบจากสเปน Paisajismo Urbano และบริษัท Groncol ในโคลอมเบีย หลังจากที่ได้ร่วมกันวางแผนกว่า 8 เดือน และลงมือสร้างอีก 8 เดือน ในที่สุดตึกก็ถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนธันวาคม ปี 2015 และถูกขนานนามว่า “หัวใจสีเขียวแห่งโบโกตา” นอกจากนี้ตึก Edificio Santalaia ยังเป็นสัญลักษณ์ที่คอยย้ำเตือนให้เห็นความสำคัญทั้งการสร้างตึกสูงและการอนุรักษ์ธรรมชาติในเวลาเดียวกัน เพราะแม้จะอยู่ในสังคมที่เจริญแค่ไหน พืชพรรณธรรมชาติก็ยังคงมีความสำคัญต่อชีวิตอยู่ดี สวนแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ประกอบด้วยพืชจำนวน 115,000 ต้น ซึ่งมาจากพืช 10 ชนิด และจากตระกูลพืชที่แตกต่างกัน…
-
หญิงสาวนำวอลเปเปอร์ห้องครัวของคุณยาย มาตัดเป็นชุดเดรสสวยหวาน ดูแพงแบบวินเทจ
สาวๆ หลายคนต้องเก็บเงินเป็นเดือน เป็นปีเพื่อจะซื้อชุดสวยๆ ใส่ แต่แท้จริงแล้วชุดสวยไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไปหรอกนะ หากเรารู้จักนำสิ่งที่อยู่รอบตัวมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างหญิงสาวคนนี้ที่ได้ใส่ชุดสวย ถูกใจ แถมไม่ต้องเสียเงินซื้อด้วย เพราะมันเป็นชุดที่ทำจากวอลเปเปอร์ห้องครัวของคุณยาย อย่างที่ทราบกันดีว่า ก่อนจะขายบ้านเราจำเป็นต้องปรับปรุงบ้านให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ สวยงาม บางอย่างต้องรื้อออก บางจุดต้องต่อเติมเพื่อจะได้ขายในราคาที่ต้องการ แต่ของบางชิ้นที่เรารื้อออกยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ จนบางทีก็ทิ้งไม่ลง เหมือนคุณยายของ Emily Seilhamer ที่ได้ปรับปรุงบ้านก่อนจะขาย คุณยายได้ปรับปรุงทุกส่วนของบ้าน รวมทั้งห้องครัวด้วย ซึ่งต้องทาสีใหม่เกือบทั้งหมด ดังนั้นเธอจึงได้ลอกวอลเปเปอร์ลายดอกออกด้วย เมื่อ Emily มาเห็นวอลเปเปอร์ที่กำลังจะถูกทิ้ง เธอจึงปิ้งไอเดียดีๆ ขึ้นมา และได้ขอวอลเปเปอร์นั้นมาจากคุณยาย… แทนที่หญิงสาวจะเอาไปวอลเปเปอร์ชิ้นนี้ไปติดไว้ตามผนังบ้านตามที่ควรจะเป็น แต่เธอคิดอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือการนำมาตัดเป็นชุดเดรสสวยๆ Emily ลงมือออกแบบ และตัดชุดด้วยตัวเองทุกขั้นตอน และแล้วเธอก็ได้ชุดเดรสลายดอกไม้สวยหวาน ใส่แล้วดูแพงราวกับเป็นชุดที่ขายตามห้างร้านเลย ถ้าหากว่าวอลเปเปอร์ของคุณยายถูกทิ้งไปวันนั้น เราคงไม่ได้เห็นชุดสวยหวาน แบบนี้แน่นอน แล้วเพื่อนๆ ล่ะ มีเศษผ้าหรือวอลเปเปอร์ที่ไม่ใช้แล้วบ้างรึเปล่า ลองเปลี่ยนให้เป็นชุดสวยๆ แบบนี้สิ .…
-
หนุ่มฝึกใช้ “โปรแกรมเพ้นท์” นาน 10 ปี นำไปสู่ผลงานภาพวาดอันสวยงาม ด้วยเพ้นท์ล้วนๆ
หลายคนอาจจะคิดว่าโปรแกรมเพ้นท์ (Microsoft Paint) เหมาะสำหรับวัยเด็กเท่านั้น เพราะใช้งานง่ายและไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรมากนัก แต่ถ้าเราลองเรียนรู้ และพัฒนาทักษะในการใช้โปรแกรมเพ้นท์ไปเรื่อยๆ คุณจะเห็นว่าเพ้นท์มีอะไรน่าทึ่งกว่าที่คิดเยอะ Pat Hines เป็นคนที่ไม่ถนัดใช้โปรแกรมโฟโต้ช้อป เพราะด้วยเทคโนโลยีและลูกเล่นที่สูงกว่า และมีขั้นตอนที่ยุ่งยากไปหมด เขาจึงหันมาสร้างสรรค์ผลงานการวาดรูปสวยๆ ด้วยโปรแกรมเพ้นท์ ซึ่งทำมานานกว่า 10 ปีแล้ว Pat ทำงานเป็นพนักงานของโรงพบาบาลแห่งหนึ่ง และมักจะได้อยู่เวรช่วงกลางคืน เป็นช่วงที่คนไข้หลับหรือไม่มีอะไรทำ (ก็ว่างนั่นแหละ) เขาก็จะแก้ง่วงด้วยการวาดรูปในโปรแกรมเพ้นท์ อย่างที่รู้ว่าเครื่องมือการวาดรูปในเพ้นท์นั้นมีอยู่ไม่กี่อย่าง มันจึงง่ายต่อการเรียนรู้ และตอนนี้ Pat ก็เชี่ยวชาญในการใช้โปรแกรมเพ้นท์เป็นอย่างดี ต่อมา Pat ก็ได้ลองวาดภาพประกอบนวนิยายของเขาเรื่อง Camp Redblood And The Essential Revenge ซึ่งออกมาสวยงาม สื่ออารมณ์จนดูไม่ออกเลยว่าใช้โปรแกรมเพ้นท์ สำหรับ Camp Redblood And The Essential Revenge เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับค่ายฤดูร้อนที่จัดขึ้นในช่วงปี 1980 ซึ่งคนที่ไปเข้าค่ายต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย ทั้งผี สัตว์ประหลาด และการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง…
-
ค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์อายุ 110 ล้านปี อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่โลกเคยจารึกมา…
เราต่างรู้กันดีว่า ฟอสซิล คือซากหรือร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในอดีต ที่ถูกทับถมไว้ในชั้นหิน เช่น ซากพืช ซากสัตว์ แต่สภาพที่เห็นจะสมบูรณ์แค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลา สถานที่ และคุณสมบัติของฟอสซิลชิ้นนั้นๆ ด้วย อย่างฟอสซิลชิ้นนี้ ซึ่งเป็นซากไดโนเสาร์ที่ถูกพบให้สภาพที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ที่สุดตั้งแต่เคยค้นพบมา และมีการเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในประเทศแคนาดา นักโบราณคดีคาดว่าฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นดังกล่าวนี้มีอายุกว่า 110 ล้านปี พวกเขาตั้งชื่อมันว่า “four legged tank” ถูกพบโดย Shawn Funk คนงานเหมืองแร่ ในระหว่างทำการขุดเจาะที่เหมือง Millenium Mine ในรัฐแอลเบอร์ตา ทางตอนเหนือของประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ปี 2011 หลังจากนั้นจึงเริ่มกั้นเขตและขุดค้นเพิ่มเติม เมื่อการขุดค้นเสร็จสิ้น นำซากไดโนเสาร์ขึ้นมาตรวจสอบ และทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย พวกเขาพบว่ามันเป็นฟอสซิลที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา จากการรายงานของ National Geographic ตอนที่ Shawn ขุดพบครั้งแรกนั้น เขาคิดว่ามันเป็นหินธรรมดา แต่รูปร่างมันดูแปลกกว่าหินทั่วไป เขาก็เลยตัดสินใจเข้าไปดูใกล้ๆ จึงได้รู้ว่ามันเป็นซากสัตว์โบราณ ภายหลังมันถูกส่งไปยังพิพิธภัณฑ์ซากดึกดำบรรพ์ Royal Tyrrell Museum…
-
รูปภาพชวนสะพรึงของตำราแพทย์ ว่าด้วยการผ่าตัดในยุค 1830 น่ากลัวแต่ก็เปี่ยมด้วยความรู้
เมื่อพูดการผ่าตัด คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับยุคปัจจุบัน เพราะเรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีเครื่องมีที่พร้อมต่อการผ่าตัดเกือบทุกรูปแบบ ตั้งแต่สมองยันลงไปถึงนิ้วก้อยเท้าด้านซ้ายเลยล่ะ แต่เราเคยสังสัยมั้ยว่าในสมัยที่ยังไม่มีเครื่องมือเหล่านี้ หรือในยุคที่การผ่าตัดเพิ่งเกิดขึ้น แพทย์ในสมัยก่อนนั้นมีวิธีทำการผ่าตัดอย่างไร และมีใครเครื่องมืออะไรในการผ่าตัด!? ในปี 1830 Jean-Baptiste Marc Bourgery ได้เขียนเรื่องราวการทำงานในชีวิตของเขาในตำรา “กายวิภาคของมนุษย์และเวชศาสตร์การผ่าตัด” ซึ่งเป็นการรวมหนังสือย่อยทางการแพทย์ไว้ 8 เล่มด้วยกัน หนังสือเล่มดังกล่าวถูกเขียนเสร็จในปี 1849 ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปีเดียวกันนี้ และหนังสือที่มีความหนา 2108 ของเขาก็ได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือฉบับสมบูรณ์ในปี 1853 ภายในหนังสือเล่มดังกล่าวนี้เป็นการรวบรวมความรู้ของ Bourgery ที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรง ซึ่งเกี่ยวกับเทคนิคการผ่าตัดและอวัยวะภายในของมนุษย์ รายละเอียดทั้งหมดถูกถ่ายทอดเป็นรูปภาพที่วาดโดยศิลปิน Nicholas Henri Jacob ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของจิตรกรนีโอคลาสสิคชาวฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง Jacques-Louis David จนทำหนังสือเล่มนี้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะที่ Bourgery ทำการผ่าตัดพร้อมบรรยายวิธีและขั้นตอนต่างๆ Jacob ก็ได้ทำหน้าที่จดรายละเอียดเหล่านั้นเป็นรูปภาพตามที่เขาเห็นและได้ฟังจากผู้ให้ข้อมูล จึงได้เรียกได้ว่าหนังสือเล่มดังกล่าวนี้เกิดจากการร่วมมือระหว่างแพทย์ผ่าตัดและศิลปิน ดังนั้นไม่ว่าแพทย์จะทำการผ่าตัดส่วนไหน Jacob ก็จะเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้วาดรูปผิดเพี้ยน และที่ต้องบรรยายเป็นภาพเป็นเพราะการผ่าตัดเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับคนสมัยก่อน ดังนั้นภาพจึงสิ่งที่บรรยายได้ชัดเจนที่สุดจึงทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น หากคนปัจจุบันได้เปิดอ่านหนังสือเล่มนี้คงจะเห็นถึงความสยดสยอง และมองการผ่าตัดเป็นเรื่องน่ากลัว เพราะนอกจากการได้เห็นขั้นตอนการผ่าตัดสดๆ แล้ว ต้องจินตการว่าในยุคนั้นแวดวงการแพทย์ยังไม่มียาชาหรือยาสลบด้วย …
-
หมีหนุ่มโผล่เยี่ยมมนุษย์ถึงหน้าบ้าน หลังได้กลิ่น “บราวนี่” หอมอบอวลเกินห้ามใจ
ปกติแล้วหมีมักจะอยู่ในป่าลึก ซึ่งก็อาจจะมีหลงเข้ามาในเมืองบ้างนานๆ ครั้ง แต่หากคุณตั้งบ้านอยู่ในป่าก็อย่าแปลกใจถ้ามีหมีแวะทักทายคุณถึงที่ เพราะมันจะมาตามเสียงเรียกของหัวใจ เอ๊ย ของท้องมันนั่นเอง อย่างกรณีนี้เมื่อหญิงชาวรัฐคอนเน็กติกัตคนหนึ่ง เธอกำลังทำอาหารในครัว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าบ้าน จึงกะจะไปเปิดประตูให้ แต่พอเห็นโฉมหน้าผู้มาเยือนเท่านั้นแหละ ล็อคประตูแทบไม่ทัน!! สาเหตุที่ต้องรีบล็อคประตูเพราะผู้มาเยือนเป็นหมี ใช่แล้ว มันเป็นหมีตัวเป็นๆ และต่อให้จะเป็นหมีหนุ่มน้อยวัยเด็กหน้าตาหล่อขนาดไหนก็เถอะ เธอก็ไม่กล้าเปิดประตูให้มันอยู่ดี ด้านน้องหมีเกาะอยู่ที่กระจก ทำสายตาออดอ้อนหวังให้มนุษย์เชิญมันเข้าไป และสิ่งที่เรียกร้องให้น้องหมีอยากเข้าไปข้างในมากขนาดนี้ เป็นเพราะมันได้กลิ่นบราวนี่ที่หญิงคนดังกล่าวอบไว้ ซึ่งดูท่ามันจะหอมอบอวลไปทั่วไปป่า จนน้องหมีอดใจไม่ไหว เมื่อมันตามกลิ่นบราวนี่มาจนเจอ มันก็พยายามเรียกเจ้าของบ้านอยู่ที่ระเบียง หวังจะให้มนุษย์แบ่งขนมอันหอมหวานนี้ให้มันบ้าง เมื่อไม่มีคนเปิดประตูให้ มันจึงพยายามเปิดประตูด้วยตัวเอง ดูรู้เลยว่ามันคงต้องชอบกินบราวนี่มากแน่ๆ แต่เจ้าของบ้านกลัวว่ามันอาจจะไม่ใช่แค่มากินบราวนี่ แต่จะกินเธอด้วยนี่แหละ เธอจึงไม่กล้าเปิดประตูให้มัน ในที่สุด Bob Belfiore ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านก็ผ่านมาเห็นพอดี และพยายามจะหาทางช่วยเหลือเธอ ระหว่างสังเกตการณ์นั้นเขาได้เห็นถึงความพยายามของลูกหมีตัวนี้ เขาเล่าให้ฟังว่า “หมีตัวนี้คงอยากกินบราวนี่มาก เพราะหลังจากมันเปิดประตูครัวไม่ได้ มันก็ปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อหาทางเข้า” “แต่ก็ไม่สามารถเข้าได้อีก มันเลยย้ายมาที่ประตูห้องนั่งเล่น และพยายามจะหาทางเข้าไปให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จ ในที่สุดมันคงคิดได้ว่า…
-
หลับใหลไปกับ “หมอนยักษ์ลายพระจันทร์” พร้อมของแต่งห้อง ที่ทำให้คุณฝันหวาน…
มีคำกล่าวว่า การนอน คือการพักผ่อนที่ดีที่สุด แต่เราจะพักผ่อนได้เต็มที่หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าเรานอนที่ไหน หรือในบรรยากาศไหนเป็นสำคัญด้วย เพราะบางทีแค่เตียง หมอน และผ้าห่มอาจไม่พอ เปิดประสบการใหม่แห่งการนอนด้วย Full Moon Odyssey หมอนขนาดยักษ์ที่ไม่ใช่แค่หนุน แต่สามารถเอนกายนอนได้ทั้งตัว ให้คุณรู้สึกสบายยิ่งขึ้น หมอนขนาดยักษ์นี้เป็นหมอนแฮนเมดที่ทำขึ้นโดย i3Lab ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 ขนาดด้วยกัน เพื่อรองรับกับความต้องการและพื้นที่ของคุณ หมอน Full Moon Odyssey มีรูปร่างเป็นทรงกลม ถูกแต่งลวดลายให้เหมือนกับพระจันทร์ มีความหนานุ่ม เพื่อให้คุณได้สัมผัสถึงโลกแห่งความฝันอันงดงามระหว่างนอนหลับ . และยิ่งหากคุณเป็นคนชอบพระจันทร์ คุณต้องไม่พลาดสินค้าจาก i3Lab เลย เพราะเค้ามีไอเท็มพระจันทร์ให้คุณเลือกได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหมอนพระจันทร์เรืองแสง สติ๊กเกอร์เรืองแสง พรมกาแล็กซี่ และปีกนางฟ้า . สติ๊กเกอร์เรืองแสงติดผนังห้องลายพระจันทร์ ที่จะทำให้ห้องของคุณมีบรรยากาศที่น่านอนมากยิ่งขึ้น พักผ่อนได้เต็มที่ไร้กังวล นอกจากไอเท็มการนอนแล้ว ยังมีเคสโทรศัพท์เรืองแสงลายพระจันทร์ด้วยนะ ใครอยากเป็นนางฟ้ายามราตรี นี่เลย ปีกนางฟ้าที่จะทำให้ฝันคุณเป็นจริง …
-
20 แร่หินสวยๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ความงดงามที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น
แร่ธาตุคือสารประกอบที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่มีอยู่นับพันชนิดบนโลกของเรา ที่เราคุ้นเคยก็อาจจะเป็นทองคำ เงิน ทองแดง แต่แน่นอนว่าที่เคยเห็นนั้นเป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีแร่บางชนิดที่มีความสวยงามราวกับถูกดัดแปลง เติมแต่ง จนคุณแทบจะไม่เชื่อว่าแร่ธาตุเหล่านี้เกิดเองตามธรรมชาติเหมือนแร่ทั่วไป 1. โอปอลลายพระอาทิตย์ตก 2. บิสมัท 3. โอปอลลายสายฟ้าสีน้ำเงิน 4. ฟอสซิลโอปอล 5. ผลึกโรสควอตซ์ 6. ฟลูออไรท์ 7. ทัวร์มาลีนพม่า 7. คริสโซโคลล่าในมรกต 8. ทัวร์มาลีนแตงโม 9. อรูไรต์ 10. บิสมัท 11. อูวาโรไวต์ 12. โคบัลโตแคไซต์ 13. ทัวร์มาลีนบนควอตซ์กับเลพิโดไลต์ และคลีเวแลนไดต์ 14. บอทสวานา อาเกต…
-
หยุดว๊อยลำไยยย!! วินาที “ช่างป่า” เข้าไปห้าม “นกกระจอกเทศ” ที่กำลังตีกันให้สงบศึกซะ
เวลาเห็นคนทะเลาะกันหรือตีกันเนี่ย อย่ามัวแต่ยืนถ่ายคลิปอย่างเดียวนะ อย่างน้อยก็ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้มาจัดการ ครั้นจะไปห้ามเองถ้าเราไม่เก๋าหรือเจ๋งพอ อาจจะโดนลูกหลงดับได้ง่ายๆ แต่ไม่ใช่กับ… พี่ช้าง เป็นสัตว์ตัวใหญ่จนทำให้มันถูกมองเป็นสัตว์ที่น่ากลัว และน้อยคนนักที่จะกล้าเข้าใกล้เพราะกลัวมันจะทำอันตรายได้ แต่เมื่อได้ดูคลิปนี้แล้วคุณจะรู้ว่าช้างก็ไม่ชอบความรุนแรงเหมือนกันนะ คลิปนี้ถ่ายจากอุทยานแห่งชาติ Tarangire National Park ในแทนซาเนีย โดยมีนกกระจอกเทศสองตัวกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ระหว่างที่การต่อสู้กำลังทวีความรุนแรงและดูสับสนวุ่นวายนั้น ช้างป่าตัวหนึ่งก็ผ่านมาเห็นพอดี มันเลยเดินเข้าไปยังจุดเกิดเหุตเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อเห็นว่าทั้งสองตัวกำลังต่อสู่กัน ช้างป่าไม่รอช้า ราวกับว่ามันรำคาญ หรืออยากจะให้ทั้งสองตัวที่กำลังก่อความวุ่นวายในที่อยู่ของมันไปพ้นๆ จนทำให้การต่อสู้นั้นยุติลง ก่อนที่นกกระจอกเทศทั้งสองตัวจะแยกย้ายกันไป Joyce Poole นักชีววิทยาและนักอนุรักษ์ ได้ทำการศึกกษาเกี่ยวกับภาษาทางกายของช้างร่วมกับ National Geographic พบว่า… การขยับหูของช้างเป็นการบ่งบอกถึงการรุกราน ดังนั้นเมื่อมันเข้าไปห้ามการต่อสู้มันจึงขยับหูให้เห็นชัด แต่ดูเหมือนพวกนกกระจอกเทศจะไม่เข้าใจภาษากายของช้างมันเลยต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งช้างทำเสียงคำราม เหมือนต้องการจะบอกว่า ‘หยุด’ ‘พอแล้ว’ ซึ่งดูเหมือนนกกระจอกเทศจะเข้าใจ พวกมันจึงแยกย้ายกันทันที จากเหตุการณ์ทำให้รู้ว่าช้างอาจไม่ใช่สัตว์ที่มีความรุนแรงอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ แต่บางทีมันอาจจะทำเพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น หยุดทะเลาะกันเดี๋ยวนี้นะ!! คลิปนาทีพี่ช้าง เข้าไปห้ามนกกระจอกเทศทะเลาะกัน . ที่มา: dailymail
-
ลูกชายพูดมากจนครูโทรมาฟ้องบ่อยๆ คุณพ่อเลยจัดให้ ไปนั่งเรียนด้วยคน… เงียบเลย!!
ใครเคยเกเรจนถูกโรงเรียนเรียกพบผู้ปกครองบ้าง แหม่ บางคนถามว่าเคยนี่คงจะดูถูกมากไป ต้องถามว่าเคยถูกเรียกมากี่ครั้งจะดีกว่า (ฮ่าาาาาา) เป็นธรรมดาของวัยรุ่นแหละที่มักจะเกเรในวัยเรียน แต่บางคนก็เกเรซ้ำแล้วซ้ำอีกจนพาลเดือดร้อนผู้ปกครองไปด้วย แล้วถ้าคุณเป็นผู้ปกครองจะจัดการปัญหานี้ยังไง!? จะทำแบบพ่อของ Brad Howard มั้ย ที่เข้าไปนั่งเรียนกลับลูกด้วย หลังจากมีจดหมายจากโรงเรียนเรื่องพฤติกรรมไม่ดีของลูกบ่อยครั้ง Brad Howard นักเรียนวัย 17 ปี จากรัฐเท็กซัส มักจะก่อเรื่องในโรงเรียน จนผู้ปกครองได้รับจดหมายรายงานความประพฤติของเขาหลายต่อหลายครั้ง จนในที่สุดพ่อของ Brad ได้ยื่นคำขาดว่า “ถ้าพ่อยังได้รับจดหมายจากทางโรงเรียนอีก พ่อจะไปนั่งข้างลูกในห้องเรียนด้วย” ส่วนความเกเรของ Brad นั้นเขาบอกว่า “ตอนอยู่ในห้องผมชอบพูดมากครับ คุณครูก็เลยส่งจดหมายรายงานความประพฤติให้พ่อผม” ในขณะที่ผู้เป็นพ่อบอกว่า “ลูกชายผมชอบใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในปาร์ตี้ตลอดเวลา จนบางครั้งมันก็สร้างปัญหาให้เขาแบบนี้แหละครับ ผมก็เลยบอกเขาว่าถ้าได้จดหมายหรือมีครูโทรมาอีก ผมจะไปนั่งข้างเขาในห้องเรียนด้วย” โดนพ่อขู่ขนาดนี้แล้วนึกว่าเขาคงจะไม่กล้าก่อเรื่องอีก ที่ไหนได้ หลังจากเตือนไปไม่นาน พ่อก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณครูอีกและรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมเดิมๆ พูดมากจนคุณครูไม่เป็นอันสอน เพื่อนไม่เป็นอันเรียนของ Brad และวันศุกร์ก็เป็นวันหยุดของพ่อพอดี ภรรยาจึงปลุกให้เขาไปนั่งเฝ้าลูกที่โรงเรียน ตอนนั้น Brad ไม่รู้เรื่องนี้เลย จริงอยู่ที่พ่อได้ขู่เอาไว้ แต่ไม่คิดว่าพ่อจะทำจริงๆ เมื่อ Brad ไปถึงห้องเรียนและได้เซย์เฮลโหลเพื่อนทุกคนตามปกติ พอจะเดินไปนั่งที่ตัวเองเท่านั้นแหละ ก็ต้องเซอร์ไพรส์อย่างแรงเมื่อเห็นพ่อนั่งรออยู่ก่อนแล้ว…
-
พนักงานสถานีรถบัส ทำที่นอนให้สุนัขจรจัด แบ่งปันความอบอุ่นในค่ำคืนอันหนาวเหน็บ
แม้ต้องอยู่ในค่ำคืนที่เหน็บหนาวสักแค่ไหน ก็คงไม่เป็นปัญหาสำหรับมนุษย์เราหลายๆ คน เพราะเราอยู่ในบ้าน อยู่บนที่นอนกับผ้าห่มอุ่นๆ แล้วพวกสัตว์จรจัดที่อยู่ตามข้างถนนล่ะ พวกมันจะอยู่อย่างไร จะนอนอย่างไรเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด จะดีมั้ยถ้าเรายื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพวกมัน!? ไม่ต้องถึงขั้นเอาพวกมันเข้าไปบ้านก็ได้ แค่แบ่งปันความอบอุ่นเล็กๆ น้อยๆ ให้ก็ดีมากแล้ว เหมือนอย่างที่พนักงานสถานีรถบัส Barreirinha ในตอนใต้บราซิล ได้มอบให้กับสุนัขจรจัดที่นั่น สุนัขจรจัดมากมายต้องเผชิญกับค่ำคืนที่เหน็บหนาวคืนแล้วคืนเล่า โดยไม่มีใครเหลียวแล แต่เมื่อ Max, Pitoco และ Zoinho พนักงานในสถานีรถบัสเห็นสุนัขเหล่านี้อยู่ในอาการที่หนาวสั่น ก็อดเห็นใจไม่ได้ ปกติพวกเขาจะเอาอาหาร เอาน้ำให้ แต่ตอนนี้บราซิลย่างเข้าสู่ฤดูหนาวแค่อาหารคงจะไม่พอสำหรับสุนัขพวกมันแล้ว ดังนั้นพนักงานทั้ง 3 คนจึงได้ทำที่นอนให้ด้วยเพื่อแบ่งปันความอบอุ่นให้กับพวกมัน ที่นอนนี้ทำมาจากยางรถเก่าๆ ที่ไม่ใช้งาน แล้วพร้อมกับผ้าห่มอุ่นๆ เพื่อมอบเป็นเตียงส่วนตัวให้กับพวกมัน มันเป็นการช่วยเหลือที่ไม่ต้องลงทุนอะไร แค่มีใจในการให้ก็พอ สำหรับสุนัขจรจัดนี่ไม่ใช่แค่ของขวัญเล็กน้อย แต่เป็นสิ่งล้ำค่าที่พวกมันต้องการ สุนัขจรจัดได้นอนบนเตียงของตัวเองกับผ้าห่มอุ่นๆ และเป็นครั้งแรกที่พวกมันเข้าใจความรู้สึกของการได้อยู่ในบ้าน การช่วยเหลือของ Max, Pitoco และ Zoinho ได้ดึงดูดผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Fabiane Rosa ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เธอจึงได้นำเรื่องราวสุดประทับใจนี้โพสต์ลงในเฟสบุ๊ค พร้อมเขียนชื่นชมพนักงานทั้ง 3…
-
นาทีระทึก!! นักปั่นจักรยานถูกหมีไล่ล่ากลางป่า แต่โชคดีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
การปั่นจักรยานถือเป็นกิจกรรมยามว่างของใครหลายๆ คน แล้วยิ่งถ้าเป็นคนชอบผจญภัยอยู่ด้วยก็จะไปปั่นตามดอยตามเขาหรือสถานที่ที่ท้าทายเพื่อความมันส์อีกระดับหนึ่ง แต่ไม่ว่าคุณจะชอบความท้าทายแค่ไหน ก็ต้องใส่ใจเรื่องความปลอดภัยด้วย โดยเฉพาะเวลาเข้าป่า เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ระหว่างทางบ้าง เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้…เมื่อนักปั่น 2 คนได้เข้าไปในป่า Malino Brdo ประเทศสโลวาเกีย แล้วจู่ๆ ก็มีหมีโผล่ออกมาจากข้างทางวิ่งไล่นักปั่นแบบไม่ทันตั้งตัว!! จากคลิปวิดีโอจะเห็นว่า หมีได้ไล่ตามนักปั่นคนแรกในระยะกระชั้นชิด นักปั่นคนดังกล่าวจึงปั่นหนีสุดความสามารถ เพื่อพ้นจากอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา เหตุการณ์ทั้งหมดนี้บันทึกได้จากกล้องหน้าหมวกกันน๊อคของนักปั่นคนที่ 2 ซึ่งปั่นตามมาติดๆ พร้อมตะโกนไล่หลังเพื่อช่วยเพื่อน หลังจากที่หมีวิ่งตามนักปั่นสักพักมันก็เปลี่ยนเส้นทางเข้าป่าไป… นักปั่นคนที่ถูกไล่จึงย้อนกลับมาเส้นทางเดิม และพากันออกจากป่านั้นอย่างรวดเร็ว จากเหตุการณ์นี้ดูเหมือนหมีตัวนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอันตรายพวกเขา เพราะหากมันจะทำแบบนั้นจริงๆ มันสามารถเข้าถึงตัวมนุษย์ได้ง่ายมาก เพราะมันวิ่งเร็วกว่าจักรยานหลายเท่า แต่มันก็เลือกที่จะเลี่ยงเข้าป่าไป คลิปนาทีนักปั่นถูกหมีไล่ล่า อย่างไรก็ตาม ใครที่คิดจะเข้าไปทำกิจกรรมอะไรในป่าก็ต้องระมัดระวังตัวไว้ด้วยนะคะ เพราะคุณอาจจะไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้ ที่มา dailymail
-
ขำกะละลิ่ง?? 16 การตอบคำถามแบบไร้เดียงสา ตามสไตล์เด็กไทย แต่มันฮาเหลือเกิน
เด็กเอ๋ยเด็กดี พูดถึงแล้ว รู้ใช่มั้ยว่า เด็กโกหกไม่เป็น ก็อย่างที่เรารู้กันแหละว่า เวลาเด็กมันคิดหรือเห็นอะไร มันก็พูดไปตามที่เห็น นี่แหละคือเสน่ห์ของความเป็นเด็ก เมื่อทางเพจ We Share – เรื่องเด็ดทั่วโลก รวมรวมความไร้เดียงสาของเด็กๆ กับการตอบคำถามสุดฮา อารมณ์ประมาณว่า คิดยังไง ก็เขียนโลดดดดดด… นี่หนูเป็นลูกอะไรจ๊ะ?? เอ๊ะ อวัยวะส่วนนั้นของผู้ชาย มันมีรูปร่างแบบนี้หรอ นี่ก็ถูกแล้วไง เด็กไม่คิด แต่ผู้ใหญ่อะ ไม่แน่!! ตั้งใจตอบขนาดนี้ จะให้ผิดก็ยังไงๆอยู่ ถูกหมดเลยละกัน มดหมดปลากินไร?? เป็นคำถามน่าคิดนะ หนูน้อยสายโหด แค่ให้อ่านหนังสือ ถึงกับต้องซัดยาบ้าเลยหราาา ที่บ้านหนูเรียกแบบนี้แหละคุณครู เห็นภาพเลยว่า แดดบ้านเรานี่โคตะระร้อนเลย รู้เลยว่า แม่เป็นคนยังไง?? ทั้งสัมผัส และคล้องจอง ทำให้ครูให้ผมแต่งใหม่อ่า ไม่เข้าใจ เออ นั่นสิ คงตลกน่าดู…
-
รู้จัก “ไฮแลนด์คาว” วัวพื้นเมืองจากสกอตแลนด์ ขนปุยหนานุ่ม น่ารัก น่ากอดสุดๆ
วัวบนโลกนี้มีมากมายหลายชนิด หลายสายพันธุ์และที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้เป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น วันนี้เราจะพาไปรู้จักวัวอีกชนิดหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่น่ารักที่สุดในสกอตแลนด์เลยล่ะ แท่นแด่นนน นี่คือ วัวไฮแลนด์ หรือวัวภูเขา เป็นหนึ่งในสายพันธุ์วัวท้องถิ่นของประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งมักจะพบอยู่บริเวณที่ราบสูงและเกาะทางตะวันตกของประเทศ ด้วยความน่ารักของวัวไฮแลนด์ ทำให้พวกมันถูกเพาะพันธุ์และถูกส่งออกไปยังทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในออสเตรเลียและอเมริกาเหนือตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จุดเด่นของวัวไฮแลนด์ที่ทำให้พวกมันเป็นที่รักใคร่ของผู้คนก็คือ ขนที่ปุกปุยที่ขึ้นอยู่รอบๆ ตัวมัน ที่ไม่ใช่มีเพียงแค่ความน่ารัก เพราะขนเหล่านี้มีความพิเศษกว่าขนสัตว์ทั่วไปด้วย ขนของมันมีน้ำมันเคลือบขนทำให้ไม่ค่อยเปียก และนั่นแหละทำให้การจับพวกมันมาอาบน้ำเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แถมขนของมันยังหนาถึงสองชั้น และสามารถยาวได้มากที่สุดถึง 33 เซนติเมตร แต่เมื่อถึงหน้าฤดูร้อนพวกวัวไฮแลนด์ก็สามารถผลัดขนของตัวเองออกไปได้ เพื่อให้ร่างกายเย็นสบาย แต่พออากาศหนาวกลับมาอีกครั้ง ขนของพวกมันก็จะกลับมายาวโดยอัตโนมัติ เรียกว่าเป็นกลไกธรรมชาติที่น่าทึ่งจริงๆ เพราะขนที่หนานุ่มของมัน ต่อให้มันเป็นถูกเลี้ยงอยู่ข้างนอก คลุกฝุ่นคลุกดิน แต่มันก็ยังคงเป็นสัตว์ที่น่ากอดเสมอ แต่ถึงมันจะน่ารักแค่ก็ไม่ควรเข้าถึงตัวมันแบบปุบปับนะ เพราะมันอาจจะทำอันตรายกับคุณได้ถ้าไม่สนิทกันมากพอ ดังนั้นหากคุณอยากจะกอด มันจะทำความคุ้นเคยกับมันก่อนนะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่คุณเข้าหามันด้วยความรักความจริงใจ และทำให้มันไว้ใจ มันก็พร้อมจะเป็นเพื่อนกับคุณเสมอ . . . . . . . .…
-
ชายทุ่มเททั้งชีวิต ดูแลแมวจรจัดกว่า 100 ตัว ตลอด 10 ปี ผูกพันจนไม่อาจหยุดดูแลได้…
เรามักจะพูดว่าไม่มีของฟรีในโลก ดังนั้นไม่ว่าใครจะทำอะไร คนนั้นย่อมหวังผลเสมอ… แต่ Glen Venezio ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าบางทีการทุ่มเททำอะไรบางอย่างโดยไม่หวังผลอะไร แต่อย่างน้อยๆ ก็ได้ความรู้สึกสุขใจกลับมา Glen เคยอาศัยอยู่ที่นิวเจอร์ซีและนิวยอร์ก แต่ตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่งในซานฮวน เมืองเปอร์โตริโกตั้งแต่ปี 2006 และตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป Glen ได้พบเห็นหมา แมวจรจัดมากมายบนเกาะแห่งนี้ พวกมันไม่มีเจ้าของและไม่มีคนเหลียวแลเลย Glen ไม่อาจทำเห็นพวกมันในสภาพเช่นนี้ได้ จึงได้ตัดสินใจที่จะช่วยเหลือพวกมัน เขาเริ่มด้วยการนำอาหารไปให้สัตว์จรจัดตามสถานที่ต่างๆ และช่วยทำหมันให้กับพวกมันด้วยเพื่อควบคุมจำนวนประชากร เมื่อเขาได้คลุกคลีกับสัตว์มากขึ้น ก็เกิดความผูกพันกับพวกมัน จนไม่สามารถถอนตัวจากการช่วยเหลือได้ Glen บอกว่า “เมื่อผมได้ช่วยพวกมันครั้งหนึ่งแล้ว ผมก็ไม่สามารถถอนตัวได้อีกเลย เพราะพวกมันไม่มีใครนอกจากผมครับ” แต่การช่วยเหลือนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ได้รับการสนุนจากใครหรือหน่วยงานใดๆ เขาเคยขอความช่วยเหลือจากตำรวจท้องถิ่นหลายครั้งมาก แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับเลยสักครั้ง เขาบอกว่า “ตอนนี้ไม่ใช่แค่ให้อาหารแมวกับสุนัข แต่ผมได้ทำหมันให้กับพวกมันเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่ผู้คนก็ยังคงทิ้งหมาแมวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง” Glen ทุ่มเทดูแลสัตว์จรจัดมากกว่าดูแลตัวเองซะอีก ในตอนกลางคืนเขาจะออกไปดูสัตว์ตามที่ต่างๆ เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าพวกมันอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน และได้กินอาหารกับครบทุกตัวแล้ว และนี่ไม่ใช่แค่กิจวัตรชั่วคราว แต่มันคือกิจกรรมหลักที่เขาทำมานานกว่า 10 ปีแล้ว…
-
ช่างภาพทดลองตั้งกล้องไว้ใต้ถังน้ำ คลายข้อสงสัยที่ว่า พวกมันมีวิธีซดน้ำกันอย่างไร!?
เวลาสัตว์มันก้มกินน้ำเนี่ยเราไม่เห็นหรอกว่ามันทำปากยังไง มันอาจจะดูด อาจจะเลีย หรืออาจจะอ้าปากให้น้ำเข้าไปเอง เอ๊ะ หรือที่บอกมาทั้งหมดนี้มันไม่ถูกเลย!? แต่ไม่เป็นไร วันนี้ The Field Lab จะมาเผยไขข้อสงสัยนี้ให้เรารู้กัน ด้วยการเอากล้องซ่อนไว้ใต้ถังน้ำ แล้วคอยดูว่าสัตว์แต่ละชนิดกินน้ำกันอย่างไร เพื่อให้เราได้เห็นมุมที่ต่างออกไปของสัตว์แต่ละชนิด และสัตว์ที่มาร่วมทำภารกิจในครั้งนี้ประกอบไปด้วยผึ้ง นก กระรอก ลา และวัวที่ชื่อ Ben แต่มันไม่ง่ายเลยนะที่จะให้พวกมันไปดื่มน้ำในถังที่มีกล้องซ่อนไว้อยู่ ทีมงาน The Field Lab ต้องต้อนพวกมันให้เดินไปที่ถังน้ำ ภายในเวลาที่กำหนดไว้ ต้อนว่ายากแล้ว แต่ทำให้พวกมันกินน้ำยากกว่าอีก เพราะหลายตัวต้องต้อนไปหาน้ำหลายรอบมากกว่าจะมันจะกินน้ำ แม้การทำงานกับสัตว์จะวุ่นวายไปซะหน่อย แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้ภาพที่ต้อง แถมมีมุมกล้องที่สวยมากๆ ทำให้เราได้เห็นภาพสัตว์กินน้ำได้อย่างชัดเจน เจ้าลาหน้ายิ้มแป้นมาเชียว Ben วัวหนุ่มผู้ทำภารกิจเป็นตัวสุดท้าย แต่ใช้เวลานานกว่าตัวอื่นเลยนะ แล้วลีลาของแต่ละตัวจะเป็นอย่างไร จะตวัดลิ้นสุดเหวี่ยงขนาดไหนกันนะ? ที่มา petapixel l TheFieldLab
-
ชายหนุ่มอ้วนที่สุดในโลก เข้ารับการผ่าตัดครั้งแรก หลังจากต้องนอนอยู่บนเตียงนาน 7 ปี
สำหรับบางคนความอ้วนอาจจะไม่มีผลต่อความมั่นใจ แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองอ้วนจนเกินไป เพราะจะทำให้มีปัญหาสุขภาพอย่างรุนแรงและอาจมีความเสี่ยงถึงชีวิตได้ เหมือนกับ Juan Pedro Franco ชายผู้มีน้ำหนักมากที่สุดในโลกคนนี้ ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อช่วยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อได้ Franco วัย 32 ปี มีน้ำหนัก 588 กิโลกรัม ทำให้มีปัญหาสุขภาพขั้นรุนแรง และมีความเสี่ยงต่อชีวิตของเขาด้วย จึงต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากน้ำหนักของเขามากเกินไป ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ทันที เพราะมันอาจจะเสี่ยงต่อปอดและการทำงานของหัวใจได้ Franco ต้องควบคุมอาหารและพยายามลดไขมันให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาที่จำกัดก่อนจะผ่าตัด และไม่อาจปล่อยไว้นานเกินไปกว่านี้ได้ เพราะเขาอาจจะเสียชีวิตในไม่ช้านี้ เมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือน เขาก็สามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 30% ของน้ำหนักทั้งหมด จนสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย แต่เขายังไม่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นทีมแพทย์และพยาบาลจากจึงได้นำอุปกรณ์พิเศษไปรับเขาในบ้าน และกว่าจะนำตัวออกมาได้ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องค่อยๆ ประคองเขาออกมา และก่อนผ่าตัดนั้นเขาต้องเตรียมความพร้อมในการผ่าตัดด้วยการทดสอบร่างกายอย่างเข้มงวดเป็นเวลา 5 วัน เพื่อสังเกตการทำงานของปอดและหัวใจ รวมทั้งเตรียมเลือดที่จะใช่ในการผ่าตัด เพื่อเป็นการป้องกันหากเกิดกรณีที่เสียเลือดมาก การผ่าตัดในครั้งนี้คุณหมอตั้งใจที่ทำให้เขามีน้ำน้อยลงประมาณ 27 กิโลกรัม เพราะหากเอาออกมากกว่านี้อาจทำให้ร่างกายเขาช็อกและเสียชีวิต…
-
ประเทศซาอุฯ เตรียมให้ผู้หญิง สามารถไปเรียนหรือทำงานได้ ไม่ต้องขออนุญาตฝ่ายชาย
“ซาอุดีอาระเบีย” เป็นประเทศมุสลิมที่เคร่งครัดกฎระเบียบและมีการแบ่งแยกทางเพศมากที่สุด เนื่องจากการตีความคัมภีร์ทางศาสนา และความเคร่งครัดในขนบประเพณี นอกจากนี้ผู้ชายจะเป็นฝ่ายควบคุมชีวิตของผู้หญิงทุกอย่าง และไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะอายุมากหรือน้อยแค่ไหน ก็ต้องมีผู้ชายซึ่งเป็นสามีหรือญาติใกล้ชิดติดตามไปด้วยในฐานะผู้คุ้มครอง รวมทั้งควบคุมด้านการทำเอกสารต่างๆ ด้วย แต่ตอนนี้ซาอุดีอาระเบียกำลังจะออกกฎหมายใหม่ให้ผู้หญิงมีสิทธิในการใช้ชีวิตของตัวเองมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการศึกษา การทำงาน และรับการรักษาในโรงพยาบาล กฎหมายนี้สืบเนื่องมาจากกษัตริย์ Salman bin Abdulaziz Al Saud ได้ออกคำสั่งให้ผู้หญิงได้รับประโยชน์จากการบริการของรัฐมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากฝ่ายชาย การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้ หมายความว่าผู้หญิงสามารถที่จะรับการศึกษาและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ทั้งของภาครัฐและเอกชน Maha Akeel นักรณรงค์ด้านสิทธิสตรีและผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมืออิสลามของเมืองเจดดาห์กล่าวว่า “กฎหมายนี้ก็เปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปกครองมากขึ้น โดยจะทำให้ผู้หญิงเป็นอิสระและดูแลตัวเองได้” และนี่ถือเป็นครั้งแรกของประเทศซาอุดีอาระเบียที่มีการเคลื่อนไหว เพื่อผู้หญิงที่จะเข้ามามีบทบาทให้สังคมมากขึ้น รวมทั้งการมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจด้วย อย่างไรก็ตามประเทศซาอุดิอารเบียยังคงเป็นประเทศที่ 141 ใน 144 ประเทศทั่วโลกที่กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาว่าสตรีควรจะมีส่วนร่วมในด้านเศรษฐกิจและการปกครองอย่างไร ที่มา independent
-
‘Ordos’ เมืองแห่งอนาคตของจีนที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะความล้ำสมัยที่มากเกินไป…
จีนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอิทธิพลต่อโลกมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันจีนก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นเป็นเมืองผีที่ใหญ่ที่สุดในโลกเช่นกัน เนื่องจากความล้มเหลวในการสร้าง “เมืองแห่งอนาคต” ช่วงต้นปี 2000 ต้นๆ การทำเหมืองแร่ในจีนมีความรุ่งเรืองมาก รัฐบาลทุ่มจึงทุ่มเงินให้มีการพัฒนาขึ้นไปอีกโดยหวังจะให้เกิดศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง Ordos ตั้งอยู่ในพื้นที่หนึ่งในหกของเหมืองถ่านหิน ทำให้เป็นที่น่าสนในมากสำหรับนักพัฒนา Ordos New Town หรือที่รู้จักกันในชื่อ Kangbashi ที่ถูกสร้างให้เป็นเมืองแห่งอนาคต มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 1 ล้านคน มีสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่มากมาย มีอาคารที่พักอาศัย และสถานที่เล่นกีฬาสุดล้ำสมัย (ต่อมานักพัฒนาได้มีการปรับปรุงให้รองรับผู้คนได้เพียง 300,000 คน) ปลายยุค 90 และต้นปี 2,000 บริษัทเหมืองแร่เอกชนได้รับอนุญาติให้ทำการขุดเจาะแร่ที่นั่น ทำให้มีธุรกิจใหม่ๆ หลั่งไหลเข้ามา และส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้จากภาษีจำนวนมาก แต่ต่อมาเมื่อภาษีและค่าครองชีพสูงขึ้น บวกกับการก่อสร้างที่คาราคาซัง ทำให้มีผู้อพยพย้ายออกจากเมือง Ordos และเหลือเพียง 100,000 คนในปี 2016 Raphael Olivier ที่มีโอกาสได้เข้าไปเก็บภาพในเมืองแห่งนี้ได้บอกว่า “ทุกอย่างมันดูโล่งไปหมด มีตึกสูงที่ล้ำสมัยแต่ไมมีคนอาศัยอยู่ เหมือนกับการล่มสลายของยูโทเปียเลยครับ” ต่อมารัฐบาลจึงต้องการที่สร้างเมืองแห่งอนาคตขึ้นมาที่นั่น และในปี…
-
เปลี่ยนศิลปะยุคคลาสสิก ให้เป็นแฟชั่นสไตล์ฮิปเตอร์ ผสานยุคเก่ากับใหม่ได้อย่างลงตัว…
การทำงานศิลปะไม่จำเป็นต้องทำแยกเฉพาะยุคโบราณ หรือยุคสมัยใหม่ แต่คุณสามารถนำทั้งเก่าและมารวมกันให้เกิดเป็นศิลปะร่วมสมัยได้ ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าหากงานศิลปะยุคเก่า อย่างโมนา ลิซ่า บางทีเธออาจจะเบื่อกับต้องใช้ชุดเดิมๆ ท่าเดิมๆ ดังนั้นเราลองมาเปลี่ยนให้เธอมาใส่ชุดของยุคนี้กันบ้างดีกว่า Shusaku Takaoka นักออกแบบชาวญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในศิลปินที่ชอบเปลี่ยนภาพศิลปะแบบคลาสสิกให้ปะปนอยู่ในสังคมเมืองสมัยใหม่ โดยทำออกมาเป็นแนวฮิปสเตอร์ เทรนด์ที่กำลังฮิตในตอนนี้ แล้วมาดูกันสิว่า เมื่อศิลปะยุคคลาสสิกกลายเป็นชาวฮิปสเตอร์ในยุคสมัยใหม่ พวกเขาจะดูเป็นอย่างไรกันบ้าง? . ความเผ็ชของคุณแม่โมนา ลิซ่า เมื่อต้องอยู่ในสังคมสมัยใหม่ อู้ววว นี่ถ้ามาอยู่ในยุคนี้จริงๆ จัสติน บีเบอร์ไม่ได้เกิดแล้วพ่อคุ๊ณณณ เนียนได้อีก ถึงจะใส่ผ้าโพกหัวแบบคลาสสิกแต่ก็ดูเข้ากันดีในแนวฮิปสเตอร์นะ . โมนา ลิซ่าแซ่บอีกแล้ว ปกนิตยสาร Vogue สไตล์ฮิปสเตอร์แบบคลาสสิก . . . เอ้อออ เอาสิ๊ เดอะเฟสมั้ยล่าา อยู่ในกรอบมานาน เบื่อ ออกมาหาไรเล่นสนุกๆ…
-
คู่รักพิสูจน์รักแท้พากันขึ้นยอดเขาเอเวอเรสต์ เพื่อไปถ่ายพรีเวดดิ้ง ณ จุดสูงที่สุดของโลก!!
การแต่งงานถือเป็นวันสำคัญที่สุดของคู่บ่าวสาว ดังนั้นจึงต้องมีการจัดเตรียมทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์แบบ เริ่มตั้งแต่การถ่ายพรีเวดดิ้ง ที่ต้องเลือกชุดและสถานที่ที่สวยงามประทับใจแบบไม่มีวันลืม ด้วยเหตุนี้หลายคู่จึงมักจะไปถ่ายพรีเวดดิ้งตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือสถานที่ที่ตัวเองชอบ และก็เหมือนกับบ่าวสาวคู่นี้ที่เลือกไปถ่ายพรีเวดดิ้งบนยอดเขาเอเวอเรสต์ ท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด James Sissom และ Ashley Schmieder เป็นคู่รักชาวอเมริกันที่ชอบการผจญภัยและมักจะไปเที่ยวในสถานที่ที่มีความท้าทายด้วยกันเสมอ ดังนั้นจะถ่ายพรีเวดดิ้งทั้งที พวกเขาจึงเลือกที่จะไปถ่ายรูปที่ Everest Base Camp หรือบนยอดเขาเอเวอเรสต์ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 5,000 เมตร การมาถ่ายรูปบนยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องทนกับสภาพอากาศที่หนาวจัดที่ติดลบถึง -20 ถึง -15 องศา และยังต้องปีนเขาที่มีความสูงชันอีก ในระหว่างการถ่ายพรีเวดดิ้งนั้น James ก็มีอาการหายใจติดขัดเล็กน้อย เพราะไม่ชินกับสภาพอากาศแบบนี้ แต่โชคดีที่พวกเขาพกถังออกซิเจนไปด้วย จึงพอจะช่วยบรรเทาอาการของเขาได้บ้าง ในสุดที่การถ่ายพรีเวดดิ้งของทั้งคู่ก็ผ่านไปด้วยดี แถมยังได้ภาพสวยๆ ท่ามกลางสถานที่สวยๆ ตามที่ต้องการเด๊ะๆ และต้องขอบคุณช่างภาพ Charleton Churchil ที่ร่วมผจญภัยไปกับพวกเขาในครั้งนี้ จนทำให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ คู่บ่าวสาวต้องปีนเขาที่สูงชัน ต้องอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวจัดตลอดเวลา แต่ทั้งหมดก็เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม …
-
“คู่รักสายโหด” วัย 70 ผู้เลี้ยงดูเด็ก 5 คนอย่างทรมาน-ขังห้องใต้ดินนานกว่า 30 ปี!!
ปัญหาการทารุณกรรมเด็กนั้นมีให้เห็นอยู่ในทุกสังคม โดยเหยื่อมักจะถูกทารุณด้วยวิธีการต่างๆ แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ถือเป็นการกระทำที่โหดร้ายและผิดกฏหมายอยู่ดี นี่เป็นคดีที่สะเทือนใจอีกคดีหนึ่ง เมื่อคู่รักวัยชรา 2 คน ขังเด็ก 5 คนไว้ในห้องใต้ดินที่บ้าน เป็นระยะเวลากว่า 30 ปี โดยไม่มีใครรู้เลย Valerie Stannard ยายวัย 73 ปี และ Roy สามีของเธอวัย 74 ปี ทั้งคู่อาศัยอยู่ที่บ้านใน Stoke Newington ตอนเหนือของมหานครลอนดอน ภายในบ้านของตายายคู่นี้ มีเด็ก 3 คน ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกเลี้ยงขังไว้ในห้องใต้ดินที่มีแต่ความสกปรก โดยไม่เคยได้ออกไปไหน และชาวบ้านละแวกนั้นก็ไม่ใครรู้เรื่องนี้เลย เวลาที่เด็กร้องไห้หรือคิดหนี พวกเขาจะถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนด้วยไม้ไผ่หรือเข็มขัด เด็กที่อายุน้อยที่สุดในนี้ยังอยู่ในวัยหัดเดินเท่านั้น เขาถูกมัดไว้กับเก้าอี้แล้วเอาไปขังไว้ในตู้ที่มีสุนัขอยู่ 2 ตัว เพราะเขาชอบร้องไห้ เกรงว่าคนข้างนอกจะได้ยิน จากคำบอกเล่าของเหยื่อ การกระทำของ 2 ตายายไม่ต่างจากพวกโรคจิตเลย เช่น กรณีของ Valerie เธอจะทำสัญลักษณ์ไว้ที่ขวดนมเพื่อให้รู้ว่านมเหลือเท่าไร และเมื่อจับได้ว่าเด็กแอบกินนม เธอก็ตีพวกเขาอย่างแรง ส่วน Roy จับเหยื่อผู้หญิงคนหนึ่งมาเปลือยกาย และข่มขืนเธอกว่า 6 ครั้ง…
-
ด้านมืดสังคมผ่าน “เจ้าหญิงดิสนีย์” สะท้อนปัญหายา-เซ็กส์-ความรุนแรง ที่ไม่สวยเหมือนในนิยาย…
ปกติแล้วเราจะเคยชินกับภาพเจ้าหญิงดิสนีย์ที่มีความงดงาม บริสุทธิ์ น่าหลงใหล และให้ความรู้สึกดีทุกครั้งที่มอง จนบางครั้งก็อยากจะเป็นเจ้าหญิงซะเองเลย แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเปลี่ยนเจ้าหญิงดิสนีย์เหล่านั้นให้มาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง การใช้ยาเสพติด การค้าประเวณีและความโหดร้ายอื่นๆ ที่เราพบได้ในสังคมปัจจุบันนี้ 1. การใช้ความรุนแรงภายใน ภาพเหล่านี้สร้างสรรค์และถ่ายโดย Shannon Dermody ช่างภาพจากฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นชุดภาพที่เผยให้เห็นด้านมืดของบรรดาเจ้าหญิงดิสนีย์ที่เราไม่เคยเห็นในเทพนิยาย แต่มันคือความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม Dermody ได้สร้างผลงานนี้ขึ้นมาเพื่อให้เกิดความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาในสังคมที่เราพบได้ทั่วทุกมุมโลก และที่เลือกเป็นธีมเจ้าหญิงดิสนีย์ก็เพื่อจะย้ำว่าบางทีความสวยงามที่เราเห็นอาจจะมีเบื้องหลังที่โหดร้ายซ่อนอยู่ก็ได้ 2. มลพิษในสังคม 3. ติดเหล้า 4. การข่มขืน 5. การฆ่าตัวตาย 6. การสูบบุหรี่และยาเสพติด 7. การค้ามนุษย์ 8. ติดยาเสพติด 9. ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม… เจ้าหญิงที่งดงามและดีพร้อมคงมีแต่ในนิยาย ส่วนใครที่สนใจผลงานของเขา สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ในลิงค์ที่มาด้านล่างเลยค่ะ… ที่มา boredpanda l Shannon Dermody | Facebook l demilked l ufunk
-
ไอเดียออกแบบ “เสื้อ 4 ด้าน” ให้เปลี่ยนใส่ได้ 4 แบบในตัวเดียว งงล่ะสิ งงล่ะสิ!?
การเดินทางไปเที่ยวหรือไปที่ไหนนานๆ เรามักจะต้องนำเสื้อผ้าติดตัวไปเยอะๆ เพราะได้มีตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ต้องใส่ซ้ำตัวเดิมและไม่ต้องซักด้วย แต่บางทีการแบกกระเป๋าหนักๆ ไปด้วย มันอาจจะเป็นภาระกับการเดินทางได้ แล้วมันจะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถทำให้กระเป๋าเบาลงได้ โดยไม่ลดจำนวนเสื้อผ้าเลย ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาความสะดวกสบายแบบนี้อยู่ เราขอแนะนำ “เสื้อ 4 อิน 1” ที่จะทำให้คุณได้ใส่เสื้อ 4 แบบ 4 ลาย จากเสื้อแค่ตัวเดียว เอ๊ะ ฟังดูงงๆ เนาะ… คืองี้ เสื้อที่ว่าเนี่ย มันก็มีแค่ตัวเดียวนี่แหละ แต่มันสามารถทำให้มันกลายเป็นเสื้อถึง 4 ตัวได้ ไม่ใช่แยกชิ้นส่วนนะ แต่เป็นการกลับเสื้อไปมา จนทำให้ได้ลายเสื้อถึง 4 แบบในตัวเดียว เสื้อ 4 อิน 1 นี้ถูกตั้งชื่อว่า Quad-Face shirt ซึ่งมาจากแบรนด์เสื้อผ้าอิตาลีชื่อดังอย่าง Uztzu โดยผู้หลิตบอกว่านอกจากจะให้มันเป็นเสื้อได้ถึง 4 ตัวแล้ว มันยังมีคุณสมบัติพิเศษในการดูดซับกลิ่นและทำให้มันแห้งอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาด แค่เปลี่ยนลายก็เหมือนได้ใส่เสื้อตัวใหม่แล้ว (สงสัยเค้าอาจจะไม่เคยเจอแดดเมืองไทย…
-
จะน่ารักแค่ไหน เมื่อสัตว์โลกตัวกลม ถูกเปลี่ยนให้เป็น “สัตว์ตัวเหลี่ยม” เหมือนมายคราฟท์!?
เกมยอดฮิตอย่ามายคราฟท์ มีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งอยู่ตรงที่ ตัวละครและอุปกรณ์ต่างๆ ทุกอย่างที่ปรากฏในเกมจะมีรูปร่างเป็นทรงเหลี่ยมทั้งมด ด้วยเหตุนี้ Aditya Aryanto นักออกแบบและนักตัดต่อชาวอินโดนีเซียจึงได้เกิดคำถามว่า “เอ๊ะ แล้วถ้าสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้มีรูปร่างเป็นทรงเหลี่ยมเหมือนมายคราฟท์ มันจะเป็นยังไงนะ?” ด้วยความยอยากรู้อยากเห็นบวกกับการเป็นคนชอบตัดต่ออยู่แล้ว เขาก็เลยตัดสินใจลองเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตบนโลกให้กลายเป็นทรงเหลี่ยมภายใต้ชุดภาพที่ชื่อ Minecraft in Real Life ว่าแล้ว Aryanto ก็ได้นำภาพสัตว์มาจากเว็บไซต์ Pixabay และ Unsplash ซึ่งเป็นเว็บไซต์ไม่ติดลิขสิทธิ์มาลองทำดู หลังจากนั้นก็ทำการเปลี่ยนรูปร่างสัตว์เหล่านั้นให้เหมือนในเกมมายคราฟ มาดูกันสิ เมื่อสัตว์ตัวกลมกลายเป็นเหลี่ยมมันจะเป็นยังไง? . . อะไรๆ ก็ดูเหลี่ยมไปหมด . . . . ปิดท้ายด้วยแกะเหลี่ยมแบบแบ๊วๆ ถ้าอยากดูเพิ่มเติมอีก เข้าไปที่เว็บไซต์ Behance เพื่อชมผลงานของเจ้าตัวได้เลยนะคะ ตัวกลมกับตัวเหลี่ยม เพื่อนๆ ชอบแบบไหนมากกว่าเอ่ย!? ที่มา thisiscolossal
-
คือดีอะ… ไอเดียบ้านจิ๋ว ใช้เวลาประกอบแค่ 5 ชั่วโมง แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน!!
หลายคนไม่ชอบนอนต่างที่ เพราะไม่มีความคุ้นเคยกับที่เดิมๆ ดังนั้นเมื่อก็ตามที่ต้องไปค้างต่างที่ก็จะมีความรู้สึกคิดถึงบ้านจนนอนไม่หลับเลยก็มี แต่มันจะดีแค่ไหนหากเราไปพักต่างจังหวัดแล้วพกบ้านไปด้วยได้?… ที่นี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนคุณก็ยังได้นอนในบ้านของตัวเอง ฟังดูอาจจะเชื่อยากนะ แต่มันมีจริงๆ นะเออ ปกติแล้วการเคลื่อนย้ายบ้านแต่ละครั้งเนี่ย เป็นไปค่อนข้างยากลำบาก และอาจทำให้ข้าวของเสียหายระหว่างการย้ายด้วย ดังนั้นบริษัท Estonian จึงคิดค้นบ้านที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายขึ้นโดยไม่ทำให้ของพัง บ้านที่ว่านี้มีลักษณะเป็นบ้านทรงกล่องที่ใช้เวลาสร้างประมาณ 5 ชั่วโมง (หรือเฉลี่ยเพียง 4-7 ชั่วโมงเท่านั้น) ที่สำคัญคือคุณย้ายสามารถมันไปไว้ที่ไหนก็ได้ แต่เสียดายที่ไม่สามารถเอาไปเพื่อนบ้านไปด้วยได้ แฮ่ บริษัทได้ตั้งชื่อให้บ้านนี้ว่า Koda เป็นอาคารที่มีพื้นที่ประมาณ 22 ตารางเมตร มีห้องนั่งเล่นแบบเปิด มีห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัว ด้านหน้าของบ้านจะเป็นกระจกใส เพื่อให้คุณสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้ชัดเจน ส่วนการติดตั้งนั้นสามารถเอาไปตั้งไว้ตรงไหนก็ได้ เพียงแค่คุณทำการเชื่อมต่อกับระบบน้ำ ไฟฟ้า และระบบระบายน้ำทิ้งของสถานที่นั้นๆ คุณก็สามารถอยู่ในบ้านหลังเล็กนี้ได้สบายๆ เหมือนบ้านหลังใหญ่เลย Kodasema บริษัทที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบนี้ในครั้งนี้บอกว่า “คุณภาพชีวิตเราจะดีหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับบ้านและสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ตอบสนองต่อความต้องการของเรา” พวกเขาบอกอีกว่า “ปกติแล้วการย้ายบ้านแม้เราจะได้ทำเลที่ถูกใจ แต่มันยากที่ตกแต่งทุกอย่างให้เหมือนบ้านเดิมของเรา หรือบางทีอาจจะต้องมีการต่อเติม หรือรื้อถอนอีก ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด…
-
รวม 7 พิธีกรรมแปลกๆ จากทั่วโลก อาจจะดูโหด สยอง น่ากลัว แต่ก็สืบทอดจนทุกวันนี้
บนโลกเรานี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายและมีการสืบทอดกันมายาวนาน ซึ่งก็มีบางวัฒนธรรมที่ดูจะแปลกๆ ไปซะหน่อย ถ้ามองจากมุมมองของเรา แต่ในมุมมองของคนท้องถิ่นเหล่านั้น ก็เป็นเรื่องปกติของพวกเขา ทำให้มันถูกสืบทอดทำต่อมาจนทุกวันนี้ อย่างวัฒนธรรมต่อไปนี้ที่ดูแปลกในสายตาชาวโลก แต่สำหรับผู้ที่อยู่ภายใต้วัฒนธรรมเหล่านี้ถือเป็นสิ่งดีงามและศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นจึงมีการรักษาและสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นนั่นเอง 1. วัฒนธรรมตัดนิ้วมือ เมื่อมีการเสียชีวิตของสมาชิกในครอบครัวของชนเผ่า Dani ในอินโดนีเซีย ถือเป็นความสูญเสียสะเทือนอารมณ์มากๆ โดยเฉพาะกับผู้หญิง เพราะผู้หญิงในครอบครัวจะถูกบังคับให้ตัดนิ้วมือส่วนหนึ่งออก แต่ก่อนที่จะทำการตัดนิ้วมือ พวกเขาจะทำการนำเชือกมามัดนิ้วไว้ 30 นาทีเพื่อให้เกิดความรู้สึกชา และเมื่อตัดนิ้วมือออกแล้ว ก็จะทำการเผาปลายนิ้วที่ถูกตัดเพื่อเป็นการปิดแผล ประเพณีนี้ถือเป็นวิธีปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่แปลกที่สุดในโลก ที่ทำขึ้นเพื่อให้เกียรติบรรพบุรุษ ปัจจุบันยังหลงเหลืออยู่ในแค่ในหมู่บ้านเล็กๆ เท่านั้น 2. วัฒนธรรม Endocannibalism ชนเผ่า Yanomami อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่อยู่ในป่าฝนอะเมซอนใกล้กับชายแดนเวเนซูเอลาและบราซิล พวกเขามักเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สืบทอดวัฒนธรรม Endocannibalism Endocannibalism คือวัฒนธรรมการกินคนในชนเผ่าตัวเองหลังจากพวกเขาเสียชีวิตแล้ว โดยจะเอาศพมาชำแหละบนใบไม้ที่ปูไว้ แล้วก็ตากแห้งเอาไว้ให้แมลงมากัดกิน หลังจากทิ้งไว้ประมาณ 30-45 วัน พวกเขาก็จะนำกระดูกที่เหลือมาบดแล้วผสมลงไปในซุปกล้วย จากนั้นก็จะร่วมกันกินทั้งหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมากๆ สำหรับพวกเขา อีกหนึ่งปีต่อมา พวกเขาจะนำขี้เถ้าที่เก็บไว้มาต้มเป็นซุปอีกครั้ง…
-
ศิลปินสร้างสรรค์ “ผลงานเสมือนจริง” บนท้องถนน สะท้อนปัญหาสังคมที่ไม่ควรมองข้าม
ผลงานทางศิลปะไม่ใช่แค่การนำเสนอความงามหรือความคิดสร้างสรรค์ แต่ศิลปินส่วนใหญ่มักจะสร้างงานที่สะท้อนถึงปัญหาสังคมด้วย เพื่อให้ผู้คนให้ความสนใจกับสังคมผ่านผลงานอันเตะตาเหล่านั้น Mark Jenkins เป็นศิลปินผู้ที่ชอบทำงานกับร่างกาย ซึ่งร่างกายในที่นี้ไม่ใช่ร่างของคนจริงๆ นะ แต่เป็นหุ่นเพราะมันสามารถหมุน หรือดัดตามต้องการได้ โดยจะทำให้มันเหมือนคนจริงๆ ผลงานที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ งานที่จัดวางท่าทางหุ่นให้อยู่ในสภาพผิดปกติ และไปติดตั้งไว้ตามถนนเพื่อให้เป็นงานศิลปะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยรวมแล้วผลงานของเขาจะออกแนวพิเรนท์มากกว่า เพราะมันเป็นงานแปลกๆ ที่คนปกติไม่ค่อยจะทำ ทั้งดูน่ากลัว สับสน และสร้างความรู้สึกอึดอัดใจให้คนดูเสมอ แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสะท้อนปัญหาสังคมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เหยื่อของการฆาตกรรมที่ถูกนำไปถ่วงน้ำ หรือเด็กที่ถูกทิ้งในถังขยะ และเมื่อผู้คนได้เห็นงานเหล่านี้ตามท้องถนน พวกเขาจะตระหนักได้ว่าทุกวันนี้สังคมของเราเป็นยังไง เกิดอะไรขึ้นบ้าง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนเกิดจิตสำนึกในการแก้ปัญหาร่วมกัน . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ดูภาพผลของเขา แล้วคิดถึงปัญหาอะไรที่อยู่รอบตัวเราขึ้นมาบ้างรึเปล่า??…
-
คุณพ่อสานฝันในวัย 50 ปี ถ่ายรูปธีม Game of Thrones ยกกันไปทั้งครอบครัวเพื่อความสมจริง
ทุกคนต่างมีความชอบความใฝ่ฝันเป็นของตัวเอง ที่แม้จะมันอยู่ห่างไกลจากความเป็นจริงและยากต่อการเข้าถึง แต่เราก็คงอยากสัมผัสสิ่งเหล่านั้นสักครั้งในชีวิต เหมือนกับคุณพ่อชาวอังกฤษท่านนี้ที่กำลังจะย่างเข้าสู่วัย 50 ปีในปีนี้ และต้องการให้มันเป็นปีที่พิเศษที่สุด เขาจัดทริปเดินทางไปยังเมืองคอร์นวอลล์พร้อมภรรยา ลูกชาย ลูกสาว และเพื่อนลูกสาวอีก 2 คนที่เป็นช่างภาพและช่างแต่งหน้า หลายคนอาจจะงงว่ามันพิเศษยังไง คือจริงๆ แล้วคุณพ่อเป็นคนชื่นชอบซีรีส์ Game of Thrones ดังนั้นความพิเศษที่ว่านี้ก็คือการถ่ายรูปครอบครัวในธีมเดียวกับซีรีส์ดังเรื่องนี้นี่เอง พวกเขาถ่ายรูปพร้อมกับเรื่องราว โดยเริ่มที่เรื่องราวแบบฉบับของเขา… Goron แห่ง Cornish ต้องต่อสู้กับกองกำลังชั่วร้ายที่เข้ามาคุกคามราชอาณาจักร เพื่อปกป้องกษัตริย์ Mordred และหลังจากผ่านการต่อสู้ที่รุนแรงที่สุดบนชายฝั่ง Cornish เขาก็ได้รับชัยชนะ จนได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรษ แต่เพราะเขากลายเป็นวีรบุรุษที่มีแต่คนชื่นชม กษัตริย์ Mordred จึงเกิดความอิจฉา จนได้ส่ง Gwenora ซึ่งเป็นแม่มดสีฟ้าให้ไปทำให้ Goron เข้าสู่ด้านมืด เพื่อที่จะกำจัดเขาออกจากอาณาจักรของตัวเอง แต่ทุกอย่างไม่จบง่ายๆ การต่อสู้ของมนุษย์และเวทย์มนต์ ระหว่าง Goron และ Gwenora จนนำไปสู่มหาสงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักร นี่คือ Goron ผู้ที่ต้องต่อสู้กับศัตรูชั่วร้ายเพื่อปกป้องอาณาจักร เขาอธิษฐานขอพรจากเทพเจ้า สำหรับสงครามที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ กษัตริย์ Mordred . …
-
ร้านเช่าจักรยานในญี่ปุ่น เปิดบริการ “กาแฟ & สาเก” ดื่มก่อน-หลังปั่น สดชื่นจังเลยอ่าห์!!
ดื่มกาแฟตอนสายๆ กลางวันออกไปปั่นจักรยานเที่ยว ตอนเย็นมานั่งจิบสาเก มันช่างฟินอะไรเยี่ยงนี้… พูดถึง โตเกียว เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ผู้คนทั่วโลกหลั่งไหลเข้าไปสัมผัสอย่างมากมายในแต่ละปี และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะโตเกียวนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย ส่วนการเดินทางนั้นก็สะดวกสบาย เพราะมีทั้งรถประจำทาง รถไฟใต้ดิน คอยบริการส่งคุณไปยังที่ต่างๆ แต่ถ้าคุณเบื่อการเดินทางด้วยรถพวกนี้ จักรยานก็เป็นทางเลือกที่ดีนะ แถมยังได้ไปไหนมาไหนอย่างอิสระด้วย แต่การไปต่างประเทศคุณคงไม่พกจักรยานติดตัวไปด้วยหรอกมั้ง นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย หากคุณใช้บริการของ Tokyobike Rentals Yanaka ร้านเช่าจักรยานกับไอเดียครบวงจรมากกว่าร้านอื่น ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน Yanaka เพิ่งจะเปิดเมื่อสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นร้านให้มากกว่าการเช่าจักรยาน ที่มีทั้งกาแฟและสาเกคอยบริการคุณอยู่ ที่นี่จะมีคนคอยแนะนำและบอกข้อมูลที่จำเป็นให้กับคุณ เช่น แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว บอกเส้นทาง เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจตลอดการท่องเที่ยว โดยจักรยานที่ให้เช่านั้นจะมี 4 รุ่นด้วยกัน แต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกจักรยานที่เหมาะกับตัวเองและใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ราคาเช่าจักรยานจะอยู่ที่ 700 บาทต่อคัน ใช้ได้ตั้งแต่ร้านเปิดคือ 10.00 น. และต้องคืนก่อนเวลา 18.30 น. หรือก่อนร้านปิดนั่นเอง แต่ถ้าคิดว่าเวลาแค่นี้ไม่พอสำหรับคุณ จะเช่าเป็นรายวันก็ได้นะ แถมราคาก็ถูกกว่าด้วยคือ วันละ 460…
-
หญิงสาวผู้ไม่ยอมแพ้ แม้ตัวเองเป็นอัมพาต แต่สู้จนคว้าปริญญาได้ด้วยการ “กะพริบตา”
ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น… คำคมนี้ยังคงเป็นคติประจำใจของใครหลายๆ คนเสมอ โดยเฉพาะนักล่าฝันทั้งหลาย และหลายครั้งพวกเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันได้ผลจริงๆ Dawn Faizey Webster วัย 40 ปี ป่วยเป็นอัมพาต เดินไม่ได้ พูดไม่ได้ และขยับแขนไม่ได้ แต่เธอสามารถคว้าใบปริญญามาได้ด้วยการเรียนผ่านการกะพริบตาเท่านั้น Webster ต้องกลายเป็นอัมพาตตั้งแต่อายุ 30 ปี หลังจากคลอดลูกชาย Alexander เพียงไม่นาน จนทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล คุณหมอบอกว่า Webster ต้องคลอดลูกแบบฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการคลอดก่อนกำหนด แต่หลังจากคลอดเสร็จคุณหมอพบว่าเธอมีความดันโลหิตสูงผิดปกติ ใขณะที่เธอเองก็ไม่ได้แสดงอาการผิดปกติแต่อย่างใด และยังบอกอีกว่าเธอสบายดี คุณหมอก็เลยอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ปรากฏว่าความดันของเธอยังสูงต่อเนื่อง จนกระทั่ง 2 สัปดาห์ต่อมาเธอก็กลายเป็นอัมพาต ภาพนี้ถ่ายหลังจากที่เธอคลอดลูกชาย Alexander ตั้งแต่เป็นอัมพาต แม้สุขภาพของเธอจะแข็งแรงดี แต่เธอไม่สามารถสื่อสารได้ ทำได้เพียงขยับหัวเล็กน้อย กะพริบตา และกระตุกเบาๆ เธอได้เล่าผ่านคอมพิวเตอร์ว่า “ตอนนั้นฉันเอาแต่จ้องมองเพดาน มีญาติๆ มาเยี่ยมฉัน ฉันฟังพวกเขาคุยกันเกี่ยวกับฉัน ในใจของฉันมันก็ร้องไห้ออกมา แต่ทว่าน้ำตากลับไม่ไหลออกมาเลย” Webster ตอนอายุ…
-
โกลาหล!! ยูทูบเบอร์สาวแกล้งปลอมตัวเป็น Justin Bieber ทำเอากรี๊ดห้างแทบแตก
การเป็นคนดังบางทีมันก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิดนะ เพราะจะไปไหนมาไหนก็ลำบาก ต้องคอยหลีกเลี่ยงปาปาราซี่ จนแทบจะไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย นอกจากคนดังแล้ว คนที่เป็นแฟนคลับผู้คลั่งไคล้ดาราดังก็ต้องมีสติเช่นกัน เพราะไม่งั้นคุณอาจจะถูกหลอกได้ง่ายๆ เหมือนกับกรณีนี้ Krizz Solano ยูทูบเบอร์สาววัย 19 ปี ได้ทำคลิปทดลองสุดฮา เมื่อเธอ ปลอมตัวเป็นศิลปินชื่อดังอย่าง Justin Bieber เพื่อจะพิสูจน์ให้เห็นว่าการเป็นคนดังนั้นคุณต้องเจออะไรบ้าง Solano ได้แกล้งแต่งตัวเหมือน Justin เด๊ะๆ ทั้งเสื้อผ้า แว่นตาดำ รองเท้า ทั้งท่าทางต่างๆ แล้วก็ไปเดินในห้างแห่งหนึ่งที่เมือง Escazu ในคอสตาริกาพร้อมกับบอดี้การ์ดอีก 2 คน ทันทีที่เธอปรากฏตัวในห้าง ผู้คนที่พบเห็นต่างก็คิดว่าเธอคือ Justin ตัวจริงๆ ก็เลยพากันวิ่งไล่ตามหญิงสาว เพื่อที่จะขอถ่ายรูปด้วย แต่ไม่นานหลังจากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้น เมื่อมีคนมหาศาลมารุมล้อมเธอเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถเดินหรือขยับไปไหนได้ ผู้คนต่างพยายามที่จะเข้าถึงตัว Solano ให้ได้ ทั้งถ่ายรูปบ้าง จับมือบ้าง ส่วนตัวหญิงสาวเองก็พยายามจะผ่านวงล้อมฝูงชนออกไป แต่ทำยังไงก็ออกไปไม่ได้ จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องเข้าไปช่วย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เธอให้ช่างภาพบันทึกไว้แล้วเอาไปลงในช่องยูทูบของเธอที่มีคนติดตามมากถึง 82,000 คน และได้เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้น …
-
เหมียวขี้อายอยู่ในศูนย์พักพิง 400 วัน ผันตัวเป็นพนักงานต้อนรับ สุดท้ายก็ถูกรับเลี้ยงสมใจ
สัตว์ไม่ได้ต่างจากมนุษย์เราหรอก พวกมันอยากมีคนดูแล อยากมีเพื่อน และอยากอยู่ในบ้านที่อบอุ่น แต่ทุกวันนี้มีสัตว์มากมายต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว และรอคอยให้ใครสักคนรับเลี้ยงอย่างมีความหวัง เหมือนน้องแมวที่ชื่อ Champas อาศัยอยู่ที่สถานพักพิง Animal Welfare League มานานกว่า 400 วันแล้ว มันอยู่โดยไม่มีครอบครัว และน่าสงสารมากๆ จนเจ้าที่ศูนย์ต้องทำแคมเปญเพื่อหาบ้านให้กับมัน Champas เข้ามาอยู่ในสถานดูแลแห่งนี้ ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2015 มันเป็นสัตว์ที่ขี้อายมากๆ จึงมักจะหลบไปอยู่ตามมุมต่างๆ และหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ระหว่างที่มันอยู่ที่นี่ มีสัตว์จรจัดมากมายถูกนำตัวเข้ามา แต่พวกมันเหล่านั้นก็ถูกมนุษย์รับไปเลี้ยงตัวแล้วตัวเล่า เหลือเพียงเจ้านี่แหละที่ถูกมองข้ามตลอด ดังนั้นเข้าหน้าที่ศูนย์จึงหาทางที่จะเพิ่มโอกาสในการรับเลี้ยงให้กับมัน ด้วยการทำแคมเปญให้เจ้าเหมียวได้พบปะและสนิทสนมกับผู้คน หลังจากคิดว่าจะทำยังไงดีให้มันได้เจอกับผู้คนบ่อยขึ้น พวกเขาจึงให้มันทำหน้าที่เป็น พนักงานต้อนรับ อยู่ที่แผนกต้อนรับส่วนหน้า เพราะตำแหน่งนี้มันจะได้กับผู้คนบ่อยๆ และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของ Champas หลังจากที่ได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตา มันก็ตระหนักได้ว่ามนุษย์ไม่ใช่คนเลวทุกคน แต่ยังมีคนดีๆ อีกมากมาย ซึ่งทุกคนที่เจอก็รักและเอ็นดูมัน และแล้ววันหนึ่ง Champas ก็ได้เจอกับคนที่ตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกเจอ และตัดสินใจรับมันเลี้ยงทันที เขาคนนั้นคือ Nathan ผู้ที่จะพ่อใหม่ให้มันต่อจากนี้ หลังจากที่ Champas อยู่ในศูนย์พักพิงนี้มานาน 436…
-
ภรรยาโมโหจับได้ว่าสามีมีชู้ กลืนเงินสด 200,000 บาท ลงท้องเพื่อแก้แค้น ลำบากคุณหมออีก…
ถ้าคุณจับได้ว่าแฟนมีชู้คุณจะทำยังไง? แน่นอนว่าคุณจะต้องโมโห โมโหแล้วทำยังไง กรี๊ดมั้ย ทุบตีมั้ย เดินหนีไปเลยมั้ย หรือคุณจะมีวิธีจัดการยังไง? แต่สำหรับ Sandra Milena Almeida ชาวโคลอมเบีย เมื่อจับได้ว่าสามีมีชู้ เธอตัดสินใจแก้แค้นด้วยการกลืนเงินสดฟ่อนหนึ่ง คิดเป็นเงินไทยมูลค่ากว่า 200,000 บาท เพื่อซ่อนเงินจำนวนนี้จากสามี เงินที่ภรรยากลืนลงไปนี้เป็นสินสมรสของทั้ง 2 คน แต่เมื่อรู้ว่าฝ่ายสามีไม่ซื่อสัตย์ เธอจึงคิดว่าสามีไม่ควรได้เงินจำนวนนี้ จึงตัดสินใจที่เอาเงินส่วนนี้ซ่อนจากสามี อาจจะด้วยความโมโหจัดเลยไม่ทันได้คิด Almeida จึงตัดสินใจกลืนเงินลงท้องเพราะคิดว่าเป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว และสามีหาไม่เจอแน่ๆ วันต่อมา Almeida เกิดปวดท้องอย่างรุนแรง จนต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล แต่เธอไม่ได้บอกหมอนะว่าได้กลืนเงินลงท้อง จนคุณหมอต้องเอกซ์เรย์แล้วก็วัตถุประหลาดในกระเพาะอาหารและลำไส้ของเธอ เมื่อนำวัตถุนั้นออกมาก็พบว่าเป็นเงินจำนวนเกือบ 200,000 บาท พยาบาลจึงได้ทำสะอาดและตากให้แห้งอยู่บนเตียงคนไข้ รอคืนให้กับเธอต่อไป Juan Pablo Serrano หัวหน้าศัลยแพทย์จากโรงพยาบาล Santander University Hospital บอกว่า “ครั้งแรกเราคิดว่าเธอกลืนยาเสพติดลงไปเพื่อหนีตำตรวจ เพราะภาพเอกซ์เรย์มันเหมือนถุงยาเสพติดมากๆ ครับ” คุณหมอยังบอกอีกว่า “เราต้องทำการผ่าตัดสองขั้นตอนเพื่อที่จะนำวัตถุเหล่านั้นออกมาครับ…
-
17 ความเปลี่ยนแปลงของรอยสักสวยๆ สะท้อนการเลือกชนิดหมึก ตำแหน่งสัก และการดูแลรักษา
การสักถือเป็นค่านิยมอย่างหนึ่งคนทุกเพศ ทุกรุ่น และทุกวัย บางคนอาจสักเพื่อความสวยงาม บางคนก็สักเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร จำไว้ว่ามันจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ดังนั้นก่อนจะสักควรคิดให้รอบคอบจนมั่นใจดีแล้วค่อยสักนะคะ และสำหรับใครที่สักอยู่แล้วคงจะเข้าใจดีว่า รอยแม้จะลบไม่ได้แต่มันจางลงได้เหมือนกันหากไม่ดูแลดีดี 1. ตอนสักใหม่ๆ VS 8 ปีผ่านไป ตอนสักใหม่ๆ คุณจะได้รอยสักที่มีสดและตรงตามที่ต้องการ ทำให้หลายคนปลื้มกับรอยสักนั้นมาก แต่พอเวลาผ่านไป รอยสักนั้นค่อยๆ มีสีจางลง หรือบางลายอาจเลือนลางจนไม่เหลือเป็นรูปเป็นร่างแล้วก็ได้ ทั้งนี้เป็นเพราะสีหมึกที่ใช้สักมีหลายเกรด หลายระดับ หากคุณใช้หมึกที่มีคุณภาพสูง คุณก็ได้สีตามต้องการและอยู่ได้นาน แต่หากใช้สีคุณภาพต่ำ ก็อาจจะมีสีเพื้ยนบ้างและจางง่าย นอกจากชนิดของหมึกสักแล้ว ตำแหน่งที่สักก็มีส่วนเช่นกัน อย่างเช่น การสักบริเวณขา หรือแขน จะจางเร็วกว่าบริเวณหลังหรือหน้าอก เพราะส่วนเหล่านี้จะไม่ค่อยถูกสัมผัสสักเท่าไร 2. ผ่านไป 3 ปี สีก็จาง แต่ถ้าอยากให้รอยสักอยู่กับคุณไปนานๆ โดยที่สีไม่จางง่าย การดูแลรักษาตอนช่วงแรกๆ นั้นสำคัญที่สุด คือพยายามอย่าให้รอยสักโดนเสียดสี เพราะอาจทำรอยสักเปลี่ยนสี หรืออาจเกิดการติดเชื้อได้ นอกจากนี้พยายามหลีกเลี่ยงอย่าให้รอยสักโดนแดด หรือหากจำเป็นต้องออกแดดจริงๆ ควรใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพที่ภาพสูง วิธีนี้เหล่านี้จะช่วยปกป้องรอยสักของคุณได้เยอะเลยล่ะ และยิ่งดูแลอย่างต่อเนื่อง…
-
Carl Warner ผู้ที่สามารถหยิบจับทุกสิ่งอย่าง มาสร้าง ‘ฉากแลนด์สเคป’ ได้เพลินตาเหลือเกิน
ในโลกใบนี้เต็มไปด้วยศิลปินที่มีความคิดสร้างสรรค์ ที่พยายามรังสรรค์ผลงานออกมา ไม่ว่าจะเป็นงานสวยงาม หรืองานแปลกๆ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้เราได้ผ่อนคลายหลังจากความเคร่งเครียดจากการทำงานหรือการเรียนได้อย่างดีเลยทีเดียว เช่นเดียวกับศิลปินที่ #เหมียวขี้ส่อง จะพามาแนะนำวันนี้ บอกเลยไอเดียเจิดมาก เพราะเขาได้สร้างสรรค์ภาพที่บอกเลยว่าดูยังไงก็ไม่เบื่อ Carl Warner ศิลปินที่สามารถนำทุกสิ่งทุกอย่างมาจัดเป็นสวนจนกลายเป็นภูมิทัศน์ที่สวยงามได้ และเขายังเป็นที่รู้จักในฐานะช่างภาพโฆษณาด้วย จุดเริ่มต้นของเขานั้น เกิดจากการได้เห็นเห็ดและผักบางชนิดที่มีลักษณะแปลกๆ ที่ดูแล้วเหมือนเป็นของที่อยู่ในโลกมนุษย์ต่างดาวยังไงอย่างงั้น เขาก็เลยนำอาหารเหล่านั้นกลับไปที่สตูดิโอของเขา และนี่คือจุดเริ่มต้นในการสร้างภูมิทัศน์อันสวยงามนี้…. Warner เริ่มทำสร้างภูมิทัศน์จากผักได้อย่างน่าทึ่ง แต่เขาไม่หยุดแค่นี้ แต่เริ่มขยายไปเรื่อยๆ จนมีการใช้เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งร่างกายมนุษย์ด้วย นอกจากนี้ เขายังได้ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับงานนี้ออกมา 2 เล่ม ที่สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้ (เพื่อให้แน่ใจ ลองเช็คข้อมูลและผลงานของเขาที่ Behance) เรามาชมผลงานของเขาให้อิ่มหนำใจกันไปเลยดีกว่า หมู่บ้านนี้ บรอกโคลีใหญ่จัง กินได้อีกหลายปีแน่นอน ดูผ่านๆ นึกว่าเป็นถนนที่โอบล้อมด้วยภูเขาซะอีก ร่างกายคน ที่เอามาจัดเรียงกันเป็นบรรยากาศแบบทะเลทราย นี่มันหมู่บ้านขนมปังชัดๆ บอกเลยว่า นี่เป็นภาพอาทิตย์ตกดิน ที่เห็นแล้วหิวที่สุด เอาฉันไปติดเกาะนี้ที …
-
มหาเศรษฐีรัสเซียทุ่มเงิน 15,000 ล้านบาท สร้างเรือยอร์ชสุดอลังการ สูงกว่าหอคอยบิ๊กเบน
เรือหรู มักจะถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์แทนความมั่งคั่งของกลุ่มชนชั้นสูง สังเกตจากไฮโซหรือคนดังหลายๆ คนมักมีเรือส่วนตัวเป็นของตัวเอง ยิ่งหรูมากเท่าไหร่ยิ่งแสดงถึงฐานะของบุคคลนั้น ล่าสุดได้มีโครงการสร้างเรือยอร์ชหนึ่งในเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงยิ่งกว่าหอคอยบิ๊กเบน ที่อยู่ระหว่างการทดสอบในยิบรอลตาร์ ก่อนจะส่งมอบให้เจ้าของผู้ร่ำรวย เรือสุดอลังการนี้มีชื่อว่า Sailing Yacht A ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเรือยอร์ชที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มี Andrey Melnichenko มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เป็นเจ้าของและเป็นเจ้าของโครงการนี้ด้วย ผู้ออกแบบคือ Philippe Starck ซึ่งเป็นนักออกแบบชาวฝรั่งเศส โดยเธอต้องออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรวบรวมเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรือให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังต้องผ่านการพูดคุยถึงรายละเอียด การวางแผนอีกนับครั้งไม่ถ้วน ทุกอย่างนี้ก็เพื่อความสมบูรณ์แบบที่สุด ก่อนจะส่งมอบแบบให้ Nobiskrug นาวิกโยธินชาวเยอรมันเพื่อก่อสร้างต่อไป ความโดดเด่นของเรือ Sailing Yacht A คือ เสาทั้งสาม ที่มีความสูง 90 เมตร มีที่จอดเฮลิคอปเตอร์ และมีห้องสังเกตการณ์ใต้น้ำด้วย ในขณะที่ทางสื่อ Superyachtfan.com รายงานว่า Sailing Yacht A ขับเคลื่อนด้วยชุดไฮบริดดีเซลไฟฟ้าพร้อมด้วยใบพัดที่ต้องมีการควบคุม โดยได้ออกแบบเพื่อรองรับผู้โดยสาร 20 คน และลูกเรือ 54 ราย Melnichenko เริ่มโครงการสร้างเรือขนาดยักษ์นี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา…
-
ชายหนุ่มทุ่มเงินเกือบล้าน เปลี่ยนตัวเองให้เป็น “เอลฟ์ในชีวิตจริง” เจ็บแค่ตัว แต่สุขที่ใจ…
ปัจจุบันการศัลยกรรมถือเป็นเรื่องที่แทบจะปกติในสังคมไปแล้ว ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่สร้างความมั่นใจให้ใครหลายๆ คน แต่ที่อาจจะไม่พบได้บ่อยครั้งนักก็คือ… บางคนยังศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เหนือมนุษย์ปกติไปอีกขั้นด้วย รูปลักษณ์เหนือมนุษย์นี้ก็คือการศัลยกรรมเลียนแบบตัวละครจากนวนิยายหรือจากหนังแฟนซี ที่มักจะมีรูปร่างหรือส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ไม่เหมือนมนุษย์ปกติทั่วไป ทำให้หลายคนคลั่งไกล้จนอยากมีรูปร่างเช่นนั้น Luis Padron วัย 25 ปี คือหนึ่งในผู้หลงใหลตัวละครแฟนซี ถึงขนาดยอมทุ่มเงินมากกว่า 900,000 บาท เพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองให้เหมือนเอลฟ์ให้ได้ Padron จากบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เขาบอกว่าตัวเองถูกรังแกมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่มีสังคม ดังนั้นชีวิตของเขาจึงหมกมุ่นอยู่กับโลกเทพนิยายของเอลฟ์ นางฟ้า และโลกเหนือจินตนาการ และเมื่อโตขึ้น เขาจึงเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมือนตัวละครที่เขาชื่นชอบ โดยเฉพาะเอลฟ์ เขาเริ่มด้วยการฟอกสีผมและทำสีผิว ระหว่างนี้เขาต้องใช้เงินเดือนละประมาณ 150,000 บาท เพื่อใช้ครีมทาผิวที่มีคุณสมบัติพิเศษ ใช้ครีมเปลี่ยนสีผิว ครีมบำรุงผิว และครีมกันแดด SPF 100 นอกจากนี้เขายังทำศัลยกรรมผ่าตัดกราม แก้ไขจมูก กำจัดขนทั้งตัว และเปลี่ยนสีดวงตาด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เขาใช้เงินไปประมาณ 900,000 บาท ตอนนี้รูปร่างหน้าตาของ Padron เปลี่ยนไปจนห่างไกลความเป็นมนุษย์มากขึ้นทุกทีๆ แต่เขาก็ไม่สนใจว่าใครจะว่าหรือจะมองเขายังไง และจะไม่หยุดทำจนกว่าจะเปลี่ยนตัวเองให้เหมือนเอลฟ์จริงๆ Padron…
-
วินาทีแสนซึ้ง เมื่ออุรังอุตังวัย 4 ขวบ ถูกขังในกล่องไม้นาน 2 ปี ได้รับการช่วยเหลือกลับสู่ป่า
ทุกวันนี้แม้หลายๆ ประเทศจะออกกฏหมายคุ้มครองสัตว์แล้ว แต่จะเห็นได้ว่าหลายๆ ที่ หรือหลายๆ คนก็ยังคงจับสัตว์มาทรมานเพียงเพื่อผลประโยชน์เล็กน้อยของตัวเอง อย่างกรณีนี้เกิดขึ้นที่ในกาลิมันตันตะวันตก ของประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์จาก International Animal Rescue (IAR) และเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ (BKSDA) ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลืออุรังอุตังตัวหนึ่งที่ถูกขังในกล่องไม้มานาน 2 ปี อุรังอุตังตัวนี้มีชื่อว่า Kotap อายุ 4 ขวบ ถูกมนุษย์จับมาจากป่า และนำมาขังไว้ในกล่องไม้ที่มีขนาดเพียง 10 ตารางฟุตเท่านั้น เป็นเวลาถึง 2 ปีเต็ม คนที่จับ Kotap ขังไว้ในกล่องไม้นี้ชื่อ Baco ซึ่งเขาอ้างว่าได้อุรังอุตังตัวนี้มาจากคนในหมู่บ้าน Ketapang ที่อยู่ในแถบเดียวกันนี้นี่เอง Baco บอกว่าตอนนั้นมันเป็นแค่ลูกอุรังอุตังตัวน้อย มันอยู่ในกล่องกระดาษแข็งเล็กๆ เขาก็เลยตัดสินใจรับมันมาดูแลที่บ้านเพื่อจะได้ช่วยเหลือมัน แต่ต่อมาเมื่อมันโตขึ้น Baco ก็กลัวว่ามันจะไปรบกวนชาวบ้านหรือไปทำลายข้าวของของคนอื่น เขาก็เลยสร้างกรงให้มัน โดยให้กินอาหารเหมือนมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นขนมปังหรือข้าว เขายังบอกอีกว่า อาหารโปรดของอุรังอุตังตัวนี้คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบดิบๆ ที่ผสมกับน้ำหวาน… จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จาก BKSDA เคยมาหา Baco แล้วครั้งหนึ่งที่หมู่บ้าน และได้ขอให้เขาส่งมอบ…
-
นักวิทยาศาสตร์สามารถฆ่าเชื้อ HIV ในสัตว์ได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกของมวลมนุษยชาติ…
โรงเอดส์ถือเป็นโรคร้ายที่พรากชีวิตมนุษย์ไปแล้วมากมาย เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หาย อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ หรือทีมแพทย์ก็พยายามทำวิจัยและทดลองมาอย่างต่อเนื่องเพื่อหาทางรักษาโรคนี้ ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบการฆ่าเชื้อ HIV ในสัตว์แล้ว โดยการใช้กระบวนการตัดแต่งยีนด้วย CRISPR ที่อยู่ในจุดซ่อนเร้นและเข้าถึงได้ยากมากๆ งานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับ HIV ถูกเผยแพร่ในสัปดาห์นี้เอง นักวิทยาศาสตร์สหรัฐได้มีการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถกำจัดเชื้อจากเซลล์มนุษย์ที่ฝังไว้ในหนูได้สำเร็จ รวมทั้งการป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติมด้วย นี่จึงนับว่าเป็นครั้งแรกมวลมนุษยชาติที่สามารถกำจัดเชื้อ HIV ในสัตว์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และนับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การทดลองกับมนุษย์ต่อไป ความสำเร็จครั้งนี้ถูกค้นพบโดยทีมจาก Lewis Katz School of Medicine ในมหาวิทยาลัย Temple University และมหาวิทยาลัย Pittsburgh โดยนำเซลล์ภูมิคุ้มกันมนุษย์และเชื้อไว้รัสจากมนุษย์ใส่ในตัวหนูทดลอง Dr Wenhui Hu จาก LKSOM ร่วมกับทีวิจัยก่อนหน้านี้ ได้ทำการกำจัดเชื้อ HIV ชนิด HIV-1 จากยีนทั้งชุดของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในเนื้อเยื่อส่วนใหญ่ หลังจากความสำเร็จในครั้งนั้น พวกเขาก็ทำการวิจัยมาอย่างต่อเนื่อง จน 1 ปีต่อมา ก็ประสบความสำเร็จด้วยการกำจัดเชื้อไวรัสออกจากเนื้อเยื่อทุกชิ้นได้สำเร็จ แน่นอนว่ามันเป็นการค้นพบที่ครอบคลุมเชื้อ HIV มากขึ้นด้วย Dr Hu ค่อนข้างมั่นใจในความสำเร็จครั้งนี้ เพราะเขาได้ทำการทดลองควบคู่กัน…
-
ม่านดำมืดมิดกับลวดลายแสงไฟ ให้คุณรู้สึกว่า ใช้ชีวิตอยู่ในเพนท์เฮาส์หรูบนตึกสูง
การสร้างบ้านนั้นนอกจากโครงสร้างภายนอกแล้ว การตกแต่งภายในก็สำคัญเช่นกัน เพราะบรรยากาศในบ้านจะน่าอยู่หรือไม่ก็อยู่ที่การจัดวางและตกแต่งนี่แหละ ผ้าม่าน เป็นหนึ่งในของตกแต่งบ้านที่เราไม่ควรมองข้าม ซึ่งผ่าม่านโดยทั่วไปนั้นมีไว้เพื่อความสวยงาม บังแดด บังแสง แต่จะดีแค่ไหนถ้ามีผ้าม่านที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศในห้องของคุณได้ด้วย ถ้าคุณกำลังมองหาผ้าม่านเจ๋งๆ อยู่ละก็… นี่เลยผ้าม่านที่สามารถเปลี่ยนกลางวันให้เป็นกลางคืนได้ แม้แดดข้างนอกจะแรงแค่ไหน ผ้าม่านตัวนี้ก็เอาอยู่ ย้อนกลับไปในอดีต เมื่อปี 1939 สหราชอาณาจักรถูกฝ่ายตรงข้ามคุกคามทางอากาศ ดังนั้นรัฐบาลจึงสั่งให้ประชาชนทุกคนทุกบ้านปิดไฟให้หมดทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าของศัตรู แต่เนื่องจากประชาชนจำเป็นต้องความสว่างในชีวิตประจำวัน พวกเขาจึงแก้ปัญหาด้วยการนำผ้าสีดำสนิทมาแขวนเป็นผ้าม่านไว้ในบ้าน รวมทั้งในรถด้วยเพื่อให้มีแสงจากภายในเล็ดลอดออกไปแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าม่านที่มืดมิดนี่จะทำให้รู้สึกอึดอัดสักหน่อย แต่มันก็ทำให้เกิดบรรยากาศความเป็นส่วนตัว ดังนั้นเมื่อสงครามสงบลง ประชาชนบางส่วนจึงเก็บผ้าดำนั้นไว้เพื่อเอาไว้ใช้ในยามที่ต้องการ ปัจจุบันผ้าม่านสีดำนี้ถูกนำมาใช้อีกครั้ง ไม่ใช่เพื่อหลบหลีกสงคราม แต่เพื่อตกแต่งและสร้างบรรยากาศภายในบ้านมากกว่า ซึ่งผ้าดำที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดนั้นจะมีความหนาเป็นพิเศษและสามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99% เลยทีเดียว ดังนั้นหากคุณใช้ผ้าตัวนี้แทนผ้าม่านทั่วไป ผู้ผลิตระบุว่ามันจะช่วยดักความร้อนไม่ให้ให้แผ่เข้ามาบ้าน และจะช่วยคุณประหยัดไฟได้มากเลยล่ะ แต่การต้องอยู่ภายในห้องที่มองไปทางไหนก็เห็นความมืด บางทีมันอาจจะทำให้คุณรู้สึกเบื่อก็ได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้นำผ้าดำมาสร้างลวดลายให้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ลวดลายที่ว่านี้ เป็นลายตึกรา บ้านช่อง และเมื่อลายเหล่านี้ถูกกระทบกับแสงภายนอก มันจะให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังอยู่ในช่วงเวลากลางคืน ทั้งๆ ที่เวลานั้นแดดข้างนอกกำลังจ้าอยู่เลย…
-
22 ภาพวิถีชีวิตที่บ่งบอกความเป็นฮิปสเตอร์ ว่ามันค่อนข้างจะฮิป แหวกแนวไปสักหน่อยแล้ว
วิถีฮิปสเตอร์ถือว่าเป็นเทรนที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่บอกใด้เลยหากคุณไม่ได้มีความเป็นฮิปสเตอร์ในตัว หรือเป็นเพราะทำตามคนอื่นเนี่ย คุณจะเป็นฮิปสเตอร์ได้ไม่นาน เพราะเส้นทางนี้มันไม่ง่ายเลย พวกเขามักจะทำอะไรที่คนอื่นไม่ค่อยทำ โดยเฉพาะร้านนั่งชิลทั้งหลาย ที่มักจะมีเมนูแปลกๆ ใช้ภาชนะเก๋ๆ เก่าๆ แต่นั่นคือชีวิตปกติของพวกเขาเลยแหละ ซึ่งบางทีมันก็ดูชิคๆ ซะจนอยากจะเป็นชาวฮิปสเตอร์บ้าง 1. ร้านฮิปสเตอร์เสิร์ฟเบียร์ใส่เหยือก อร๊าาาาาา 2. แค่เปลี่ยนชื่อร้านนิดเดียว ก็สามารถอัพราคาได้ถึง 10 เท่า 3. รังสรรค์เมนูแปลกๆ เช่น ผักผสมกับคุกกี้ 4. เสิร์ฟมาร์ตินี่กระป๋องให้ลูกค้า 5. เปลี่ยนจากคำว่าเวลาเปิดปิด เป็นเวลาแห่งความสร้างสรรค์ 6. บางทีก็นำของเก่าสำหรับตั้งโชว์มาใช้งานจริง อย่างเครื่องปั่นเนยตัวนี้ 7. ใช้แว่นตาหรือหนวดเป็นตราสัญลักษณ์ผลไม้พันปี 8. และของบางอย่างเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร!? มีแต่ชาวฮิปเท่านั้นที่เข้าใจ 9. ใช้โดนัทมาตกแต่งผนัง 10. ป้ายเชิญชวนที่ไม่ต้องประณีตมากแต่แฝงไปด้วยข้อความดึงดูด 11. บิลในกระดูก ไม่ฮิปจริงเข้าไม่ถึงนะ 12. นำอาหารใส่ในกล่องไข่แทนจาน…
-
คู่รักสูงวัยขาดการติดต่อ 20 ปี กลับมาเจอกันอีกครั้ง ตกลงแต่งงาน เพื่อใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกัน…
ความรักนั้นไม่มีขีดจำกัดและไม่มีขอบเขต ไม่ว่าจะมีอุปสรรคหนักหนาแค่ไหน หากคุณยังหนักแน่นในความรักนั้น สักวันรักของคุณจะสมหวังแน่นอน เหมือนกับเรื่องราวของ 2 ตายายที่ขาดการติดต่อกันนานกว่า 20 ปี แต่เมื่อพวกเขาโคจรมาเจอกันอีกครั้ง ความรักของพวกเขาก็ถูกสานต่อทันทีโดยไม่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ Ken Boyer วัย 60 ปี และ Michelle ‘Shelly’ Kimbrel ทั้งคู่เจอกันเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่รัฐมิซซูรี ซึ่งผ่านหญิงอาศัยอยู่ที่นั่น และฝ่ายชายเป็นเจ้าของบาร์แห่งหนึ่งในนั้นด้วย ตอนนั้นพวกเขามีการพูดคุยกันบ้างในฐานะคนที่มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน แต่หลังๆ มาทั้งคู่คุยกันน้อยลง เริ่มห่างหายกันไป และขาดการติดต่อไปเลย จนกระทั่งไปเวลาผ่าน 20 ปี Ken ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง และตอนนี้เขาก็ย้ายไปอยู่ที่ Palm Bay รัฐฟลอริด้า ตอนนั้นเองที่เขาเห็นชื่อ Shelly ขึ้นที่รายชื่อคนขอเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊ค หลังจากรับเป็นเพื่อนแล้ว พวกเขาก็ได้คุยกันเล็กน้อย Ken เล่าให้เธอฟังถึงความเป็นอยู่ปัจจุบันตัว โรคที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ และได้พูดทิ้งไว้ว่าตอนนี้ไม่มีใครดูแล เขาก็เลยต้องดูแลตัวเอง หลังจาก Shelly ได้ยินแบบนั้น เธอรีบพูดออกโดยไม่ลังเลเลยว่า “ไม่ค่ะ คุณไม่ต้องทำแบบนั้นอีกแล้ว ฉันจะลาออกจากงานแล้วจะดูแลคุณเอง” …
-
สถานพักพิงปิ๊งไอเดีย “จัดงานพรอม” ให้สุนัขสูงอายุ สาดความน่ารักเต็มที่ หวังมีคนรับเลี้ยง
ในขณะที่มนุษย์เรามีงานเลี้ยงมากมายตั้งแต่เด็กจนแก่ แล้วเคยคิดมั้ยว่าบรรดาสัตว์เลี้ยงก็อยากมีปาร์ตี้เหมือนมนุษย์เหมือนกันนะ อย่างงานพรอมเนี่ยเราก็จัดให้สัตว์เลี้ยงได้เหมือนกันนะ แต่เหตุผลคงไม่ใช่เพราะจบการศึกษาแน่ๆ เพราะพวกมันไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนกันเรา แล้วเราจะจัดให้พวกมันเนื่องในโอกาสอะไรนะ?? Rupert เป็นสุนัขที่กำลังหาบ้านอยู่ แต่ดูเหมือนจะหายากกว่าสุนัขทั่วไป เพราะมันอายุ 10 ขวบแล้ว ที่สำคัญคือมันตาบอดและมีการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้า แต่ถึงอย่างนั้น Hanna Cofer ประธาน Pug Rescue of Austin องค์กรที่ช่วยเหลือ Rupert ก็ยืนยันว่ามันยังคงเป็นหมาที่สมบูรณ์แบบมากๆ เลยล่ะ Cofer บอกว่า “มันเป็นหมาที่น่ารักมากๆ เลยค่ะ เดินไปไหนมาไหนด้วยตัวเองได้ ทั้งๆ ที่ตาบอด และในสายตาเรามันยังคงเป็นลูกหมาขี้เล่นเสมอค่ะ” ดังนั้นเพื่อที่จะให้คนอื่นได้รู้จัก Rupert มากขึ้น The Grey Muzzle องค์กรที่ให้การสนับสนุนกลุ่มที่ช่วยเหลือสุนัขแก่จึงได้จัดงานพรอมให้กับมัน เพื่อให้งานพรอมของ Rupert ออกมาสมบูรณ์แบบ เจ้าหน้าที่ได้แต่งชุดให้มันด้วย เป็นหมวกและโบว์ติดคอขนาดใหญ่แล้วก็่ถ่ายรูปให้มัน แล้วดูเหมือนมันจะชอบชุดนี้มากๆ ด้วยสิ ตอนถ่ายรูปนี่นั่งนิ่งเลย มันดูน่ารักมากเป็นพิเศษ จนทุกคนคิดว่างานพรอมครั้งนี้ Rupert ต้องได้บ้านแน่ๆ ไอเดียนี้ The Grey Muzzle ได้มาจาก Muttville…
-
26 สิ่งประดิษฐ์ที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้ “มนุษยชาติ” สามารถ “กินอาหาร” ได้สะดวกสบายขึ้นเยอะ!!
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์แล้วย่อมต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองสะดวกสบายที่สุด ดังนั้นทุกวันนี้จึงมีการคิดค้น ประดิษฐ์สิ่งต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ รวมทั้งการกินอาหารที่ว่าง่ายแล้วก็ยังทำให้ง่ายขึ้นไปอีก วันนี้เราได้นำสิ่งที่ต้องเจอในชีวิตประจำวันแต่ถูกทำให้มีความสะดวกมากขึ้นมาให้เพื่อนๆ ดู เอาใจคนรักความสะดวกสบาย ไปดูกันสิจะถูกใจเพื่อนๆ มั้ย!? 1. อโวคาโดที่มีสติกเกอร์แปะกำกับเพื่อให้รู้ว่าสุกแค่ไหนถึงจะกินได้ 2. ภาชนะใส่ของกินและเครื่องดื่ม เป็นทั้งแก้วทั้งจาน ประหยัดพื้นที่ไปเยอะ ไม่ต้องถือหลายมือด้วย 3. รถเข็นที่มีแว่นขยายสำหรับผู้สูงอายุ 4. เป็นทั้งตะเกียบและส้อม 5. เป็นทั้งโต๊ะสำหรับเด็กและยังเป็นเก้าอี้ได้อีกด้วย 6. วัสดุที่ทำมาเพื่อห่อหุ้มอาหารทานเหลือโดยเฉพาะ ทำให้มันคงสภาพเดิมมากกว่าพลาสติกหุ้มธรรมดา 7. ห่อกระดาษสำหรับใส่เฟรนซ์ฟราย และด้านข้างยังมีช่องใส่ซอสด้วยนะ 8. หัวฉีดสเปรย์ที่เสียบเข้าไปในผลไม้แล้วฉีดออกมาได้เลย 9. ป้ายบอกระดับความสุกของกล้วยที่พร้อมทาน เพื่อให้คุณได้ทานกล้วยที่มีความสุกพอดี 10. ที่ช้อนขนมให้อยู่ขอบภาชนะ ไม่ต้องล้วงไปหยิบให้เปื้อนมืออีกแล้ว 11. น้ำแข็งกาแฟจะเติมกาแฟหรือทานเป็นก้อนเลยก็ได้ 12. เสิร์ฟเบียร์แบบไม่ต้องใช้พนักงานเสิร์ฟ แต่ใช้รถเลื่อนของเล่นแทน 13.…
-
เจ้าของโพสต์ภาพพา “หมาตาบอด” เดินเล่นยามดึก นำสู่ดราม่า ถ้าเป็นแบบนี้จะเลี้ยงไว้ทำไม??
สุนัขแม้จะเป็นแค่สัตว์ธรรมมดาแต่มันก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ดังนั้นมนุษย์หลายๆ คนที่มีความผูกพันกับสุนัขจึงยอมทำทุกอย่างให้มันมีความสุขจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ดังนั้นคนที่ตัดสินใจเลี้ยงสุนัขต้องเตรียมใจรับมือกับช่วงสุดท้ายของชีวิตพวกมันด้วย เหมือนกับ Kiefer สุนัขที่ต้องคอยดูแลเป็นพิเศษเพราะมันป่วยหนัก Kiefer เข้ารับการผ่าตัดเอาลูกตาออกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง แต่หลังจากผ่าตัดอาการของมันก็แย่ลงเรื่อยๆ แต่มันโชคดีที่มีเจ้าของที่รักและเป็นห่วงมันเสมอ เจ้าของได้อยู่ดูแล Kiefer อย่างใกล้ชิด แต่พยายามทำทุกอย่างให้สุนัขป่วยตัวนี้มีความสุขที่สุดก่อนมันจากไป อาการของมันยังคงทรุดลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดมันไม่ยอมขยับไปไหนเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว ทำให้ทุกคนในบ้านเตรียมใจรับมือกับการจากลาของมันในอีกไม่ช้านี้ แต่แล้วคืนหนึ่งเวลาประมาณ 01:30 น. Kiefer ก็ลุกขึ้นยืนและทำท่าเหมือนอยากออกไปเดินเล่นให้ได้ เจ้าของถึงกับแปลกใจ แต่ก็ไม่ลังเล ตัดสินใจพามันออกไปเดินเล่นทันที เพราะนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้ทำเพื่อเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ตัวนี้ก็ได้ เจ้าของพา Kiefer เดินไปยังร้านพิชซ่า แล้วแบ่งให้มันกินด้วย จากนั้นก็พามันเดินไปตามถนนเรื่อยๆ สุนัขดูมีความสุขมาก มันเดินไปทุกที่แม้จะมองไม่เห็นแล้วก็ตาม เจ้าของเองก็ไม่ลืมที่จะถ่ายภาพช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไว้ด้วย หลังจากนั้นเจ้าของก็ได้แบ่งบันเรื่องนี้ในเว็บไซต์ Imgur จนมีชาวเน็ตมากมายเข้ามาให้กำลังใจ แต่แล้วเรื่องราวดราม่าก็บังเกิด ชาวเน็ตหลายคนคอมเม้นท์ไปในทางที่ว่ามันป่วยหนัก แต่ก็ไม่ยอมปล่อยให้มันไปสบายด้วยการการุณยฆาต กลับเลี้ยงมันเอาไว้ให้มันทรมาน ก็มีบางส่วนบอกว่า ‘ทำแบบนี้มันทรมานสัตว์ชัดๆ รู้ทั้งรู้ว่ามันป่วยก็ยังพาออกมาเดินเล่นอีก’ หรือบางคนก็บอกว่า ‘เขาไม่ได้ทำเพื่อหมาแต่ทำเพื่อความสบายใจของตัวเองมากกว่า’ …
-
โปรเจ็คถ่ายรูปเหล่าผู้บกพร่อง สื่อให้เห็นว่าแม้พวกเขา “ไม่สมบูรณ์แบบ” แต่ก็เป็นคนเหมือนกับเรา
เราทุกคนคงไม่มีใครอยากเกิดมาพร้อมความพิการ เพราะจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตรวมทั้งขีดความสามารถในการเรียนรู้ที่จำกัดด้วย แต่ถึงจะเกิดมาพิการก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะแย่ไปเสียหมด หากเราเปิดใจแล้วก้าวเข้าในโลกของคนพิการเราจะเห็นถึงความพิเศษและได้เข้าใจพวกเขามากขึ้น Zoe Proctor ช่างภาพจากหน่วยงาน Zebedee Management ที่รวบรวมภาพของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ เพื่อให้ทุกคนมองข้ามความพิการและทำความเข้าใจกับสิ่งที่พวกเขาเป็น สำหรับแรงบันดาลใจในการถ่ายรูปครั้งนี้ เกิดจากการที่ช่างภาพได้เห็นคนใกล้ตัวซึ่งมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ แต่เขาสามารถทำอะไรมากกว่าที่เราคิด เช่นบางคนอาจจะอ่านได้ช้า แต่มีความสามารถในการคิดเลขได้อย่างรวดเร็ว บางคนอาจจะพูดตอบโต้ได้ช้า แต่สามารถจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้อย่างแม่นยำ เพราะพวกเขาแค่มีบางสิ่งต่างไปเท่านั้นเอง สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า คนพิการบางคนแม้จะดูไม่ปกติ แต่พวกเขาเกิดมาพร้อมพรสวรรค์พิเศษที่คนอื่นไม่มี และที่หลายๆ คนไม่เคยรู้เป็นเพราะมองพวกเขาเป็นเพียงคนพิการเท่านั้น ดังนั้นหากคุณอยากเห็นความสามารถของพวกเขา ลองเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคนพิการ เปิดโอกาศให้พวกได้แสดงความสามารถ และไม่ควรแบ่งแยกเขาออกจากสังคม แต่ควรจะปฏิบัติกับพวกเขาเช่นเดียวกับคนธรรมดาทั่วไป . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
สุนัขถูกทิ้งได้เจอเจ้านายใหม่ผู้รักจริง ที่พิสูนจ์ความรักต่อสุนัข ด้วยการวิ่งมาราธอน!!
ธรรมชาติของสุนัขมักจะรักและซื่อสัตย์กับเจ้าของเสมอ แต่มีมนุษย์บางคนที่ไม่ได้เห็นความสำคัญเหล่านี้มากพอ จึงทำให้สุนัขหลายตัวต้องถูกทิ้งทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เหมือนกับสุนัขตัวนี้ที่ถูกทอดทิ้งอย่างน่าสงสาร แต่โชคดีที่มันได้เจอคนดีๆ และมีความรักให้มันจริงๆ ทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไปตลอดกาล Kai อายุ 3 ปี ถูกทิ้งอยู่ที่สถานีตำรวจในสก๊อตแลนด์ โดยมีเชือกที่ผูกมันกับราวเอาไว้ และที่ข้างๆ มีกระเป๋าใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยข้าวของของมัน ทั้งของเล่น อาหาร ชามใส่อาหารและหมอน ต่อมาเมื่อ Scottish SPCA ผ่านมาพบกับเจ้า Kai พวกเขาจึงพามันกลับมาที่ศูนย์ด้วย โดยตั้งใจที่จะหาบ้านและเจ้าของใหม่ให้ จริงๆ แล้ว Kai มีไมโครชิปติดตัวมาด้วย แต่ทางครอบครัวบอกว่า พวกเขาได้ขายหมาตัวนี้ไปเมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว และไม่มีข้อมูลที่จะติดต่อเจ้าของคนที่ทิ้งมันได้เลย Stewart Taylor จาก Scottish SPCA บอกว่า “การซื้อ-ขายสัตว์เลี้ยงออนไลน์ มักจะมีปัญหาแบบนี้ตามมา เพราะบางคนที่ซื้อไปไม่ได้รู้จักกับสัตว์ตัวนั้นจริงๆ เมื่อรับนิสัยมันไม่ได้ ก็จะนำไปปล่อยทิ้งเหมือนเคสนี้” หลังจากเอามาอยู่ในศูนย์เพียงไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็ประกาศหาบ้านให้กับ Kai และหลังจากโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีคนมากมายติดต่อเพื่อขอรับเลี้ยงมัน Alan Gran ผู้ช่วยใน Scottish SPCA…
-
ผู้เชี่ยวชาญพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์เพียงน้อยนิด ช่วยลดอาการปวดดีกว่ายาพาราฯ!?
เวลาปวดหัวเรามักจะนึกถึงยาพาราฯ เป็นอันดับแรก เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ จะเจ็บจะป่วยอะไรยังไงก็ซัดพาราฯ ไว้ก่อน แต่ล่าสุดนี้ก็มีการศึกษาที่เผยว่า ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยบรรเทาปวดได้ดีกว่าพาราฯ ซะอีก โดยนักวิจัยทางการแพทย์พบว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยจะช่วยลดการปวดได้ และให้ผลดีกว่าการทานพาราเซตามอล!! พวกเขากล่าวว่า หากร่างกายมนุษย์มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดประมาณ 0.08% ก็จะช่วยลดระดับความรุนแรงของอาการปวดต่างๆ ได้ ทางด้าน Dr Trevor Thompson หัวหน้าทีมวิจัยจาก London’s Greenwich University กล่าวว่า ‘พวกเราพบหลักฐานสำคัญที่ว่าแอลกอฮอล์นั้นมีประสิทธิภาพเหมือนดั่งยาแก้ปวด ซึ่งอาจจะเทียบเท่าได้กับสารเสพติดโคเดอีนและมีฤทธิ์ที่มากกว่าพาราเซตามอล ถ้าหากว่าเราสามารถผลิตยาที่ไร้ผลข้างเคียงในด้านลบได้ อย่างแอลกอฮอล์ที่ดื่มได้และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เราก็อาจจะมียาแก้ปวดที่มีประสิทธิภาพสูงและดีกว่าสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน’ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอธิบายเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะว่าแอลกอฮอล์จะลดความวิตกกังวลของเรา และทำให้เรามีความรู้สึกต่อสิ่งต่างๆ น้อยลง รวมทั้งความรู้สึกในการรับรู้ถึงความเจ็บปวดด้วย จากการศึกษาและเผยแพร่งานวิจัยผ่านวารสาร The Journal of Pain ที่มีมากกว่า 18 กรณีทดสอบ มีอาสาสมัครเข้าร่วมทดลองกว่า 400 คน พอจะอธิบายได้ว่าทำไมผู้คนที่เป็นโรคปวดเรื้อรัง อย่างเช่นข้ออักเสบ มักจะชอบดื่มแอลกอฮอล์…
-
คู่รักครองรักนาน 77 ปี คอยดูแลกันจนวินาทีสุดท้าย ก่อนจะกุมมือจากโลกนี้ไปพร้อมๆ กัน
คู่รักหลายๆ คู่มักต้องการที่จะอยู่เคียงกันข้างจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นั่นหมายถึงการตายไปพร้อมๆ กัน แต่ก็อย่างที่รู้ว่าความตายนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครกำหนดได้ ทำให้หลายคนต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในวันที่คนรักจากไป แต่ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า ความบังเอิญ ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไม่ได้ให้เกิดขึ้นได้จริง เหมือนเรื่องราวของตายายคู่นี้ ที่รักกันมานานกว่า 77 ปี และได้จากโลกนี้ไปพร้อมๆ กัน คุณตา Frank วัย 97 ปี และคุณยาย Joyce Dodd วัย 96 ปี พวกเขาคบกันตั้งแต่อายุ 14 ปี และตัดสินใจแต่งงานกันในปี 1940 จนมีลูกด้วยกัน 5 คน หลาน 12 คน และเหลนอีก 10 คน คุณตาต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาล Darent Valley Hospital ในเมือง Dartford ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว และคุณยายจะคอยมาเยี่ยมทุกวัน จนกระทั่ง 5 เดือนต่อมา เธอก็ล้มป่วยและเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลเดียวกัน ถึงแม้จะแก่มากแล้ว…
-
แม่หมาอาสาเลี้ยงลูกหมูกำพร้าสองตัว ดูแลเหมือนดั่งลูกตัวเอง แม้จะร้องอู๊ดอู๊ด…
สำหรับผู้ที่เป็นแม่จะมีสัญชาตญาณความเป็นแม่อย่างเต็มเปี่ยม จึงไม่แปลกใจว่าทำไมแม่จึงยอมทำทุกอย่างเพื่อลูกได้เสมอ และมีความรักความเอ็นดูกับเด็กทุกคนถึงแม้จะไม่ใช่ลูกของตัวเองก็ตาม สัตว์ทั้งหลายก็มีคุณสมบัตินี้เช่นเดียวกัน เมื่อเป็นแม่แล้วมันก็พร้อมจะทำหน้าที่แม่ให้กับลูกสัตว์ทุกตัว รวมทั้งสัตว์ต่างสายพันธุ์ด้วย เหมือนดั่งเจ้า Molly แม่หมาที่ทำหน้าดูแลลูกหมู 2 ตัว ลูกหมูกำพร้า 2 ตัว อยู่กับแม่หมาตั้งแต่สูญเสียแม่ไป Molly เป็นหมาพันธุ์ลาบาดอร์ที่เพิ่งคลอดลูกเมื่อไม่นานนี้ วันหนึ่ง Serena Spearey และ Adam Szymborski ทั้งคู่เป็นชาวไร่อายุ 38 ปี ก็ได้พาลูกหมูสองตัวมาแนะนำให้กับแม่หมาได้รู้จัก และไม่ใช่เพียงแค่แนะนำเท่านั้น แต่อยากจะให้แม่หมารับลูกหมูทั้งสองตัวเป็นลูกด้วย เพราะลูกหมูสูญเสียแม่ไปแล้ว ทำให้พวกมันไม่มีนมกิน และไม่ได้รับความอบอุ่นจากแม่ ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ เจ้า Molly ก็ไม่ลังเลที่จะรับทั้งสองตัวมาเลี้ยง แม้จะเป็นสัตว์ต่างสายพันธุ์ก็ตาม มันให้ลูกหมูกินนมเหมือนลูกหมาตัวอื่นๆ แต่ในบางครั้ง Molly ก็รู้สึกแปลกๆ ไปบ้างเมื่อได้ยินร้องของลูกหมูและนิสัยบางอย่างที่ไม่เหมือนลูกๆ ของมัน แต่พอได้อยู่ด้วยกันนานๆ มันก็เริ่มชิน จนไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร แม่หมูผู้จากไป Spearey และ Szymborski บอกว่าแม่ของลูกหมูทั้งสองตัวเสียชีวิตตั้งแต่วันคลอดแล้ว…
-
คุณหมอใจดีทำ “หูสำรองสุดคิ้วท์” ให้น้องหมาหลังรับการผ่าตัดรักษาหู เพื่อเป็นการปลอบใจ
เวลาที่สัตว์เข้ารับการผ่าตัด แล้วร่างกายของมันไม่เหมือนเดิม บางทีมันก็สูญเสียความไม่มั่นใจ จนทำให้รู้สึกไม่มีความสุขไปเลยก็ได้นะ แต่สำหรับน้องหมา Remi แม้จะต้องรับการผ่าตัดหู และต้องปิดแผลเป็นเวลานาน แต่ก็มีความสุขได้เพราะคุณหมอได้ทำหูปลอมสุดน่ารักให้กับมันหลังผ่าตัดนั่นเอง ก่อนที่จะผ่าตัดนั้น หูข้างหนึ่งของเจ้า Remi มีอาการบวมผิดปกติ ทำให้ Carlie Childres ผู้เป็นเจ้าของตกใจมาก แม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เธอก็กลัวว่าจะทำให้สุนัของเธอเจ็บปวด Remi มีพี่ชายอีกตัวชื่อ Cooper ซึ่งทั้งคู่ได้รับการช่วยเหลือจาก Lucky Lab Rescue and Adoption และเป็นส่วนหนึ่งของสุนัขทั้ง 7 ตัวที่ถูกช่วยออกมาจากบ้านหลังหนึ่งใน Liberty County รัฐเท็กซัส ก่อนที่ Carlie จะทำหน้าที่ดูแลทั้งคู่ในเวลาต่อมา ดังนั้นหญิงสาวจึงติดต่อไปยัง Lucky Lab แล้วบอกพวกเขาว่า Remi มีอาการบวมที่หูและเธอคิดว่ามันอาจจะอันตรายกับสุนัขด้วย ทางเจ้าหน้าที่จึงขอให้เธอส่งรูปมาให้ดู เมื่อตรวจดูแล้วจึงรู้มันเป็นอาการของ Hematomas หรือภาวะเลือดออกในเนื้อเยื่อ ซึ่งคุณหมอ Lynanne Mockler แนะนำให้ผ่าตัดทันที ไม่งั้นจะเป็นอันตรายกับน้องหมาได้ แต่คุณหมอ Mockler บอกว่าการผ่าตัดหูลักษณะนี้ค่อนข้างมีความเสี่ยง เนื่องจากการรักษาหลังผ่าตัดจะทำได้ยากและไม่ทั่วถึง อาจจะทำให้แผลติดเชื้อได้ ต่อมาคุณหมอก็ได้กำหนดวันผ่าตัดให้ ในขณะที่ Carlie ยังคงกังวลกับผลค้างเคียงที่จะตามมาหลังผ่าตัด แต่เธอก็ตั้งใจที่จะดูแลมันเป็นอย่างดีและไม่อยากทำให้เกิดผลข้างเคียงโดยเด็ดขาด จึงตัดสินใจให้ Remi…
-
นักเรียนตาบอดสีวัย 17 สร้างแบรนด์ถุงเท้าของตัวเอง และประสบความสำเร็จภายใน 4 ปี
การที่มนุษย์เราเกิดมาพร้อมความบกพร่องทางร่างกายนั้นอาจะทำให้มีอุปสรรคในชีวิต และอาจจะมีโอกาสทางสังคมที่น้อยกว่าคนธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับบางคนแล้วจุดด้อยเหล่านั้นกลับกลายเป็นแรงผลักดันชั้นยอด รู้จักที่จะนำข้อบกพร่องของตัวเองมาทำใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ อย่างเช่น Brennan Agranoff นักเรียนหนุ่มวัย 17 ปี เป็นคนตาบอดสี และเขาสามารถผลิตแบรนด์ถุงเท้าของตัวเอง จนมีรายได้จากการขายถุงเท้าไปแล้วมากกว่า 34 ล้านบาทภายในระยะเวลา 4 ปีเท่านั้น Brennan Agranoff Brennan ได้ริเริ่มที่จะทำบริษัทถุงเท้าของตัวเองตอนอายุ 13 ปี ซึ่งตอนนั้นเขาได้เล่นบาสเกตบอลที่โรงเรียนมัธยมใน Sherwood และมักจะเห็นเพื่อนๆ ใส่ถุงเท้า NIKE สีขาวเหมือนกันหมด นักเรียนหนุ่มจึงคิดว่า การใส่ถุงเท้าสีขาวมันดูธรรมดาและเหมาะสำหรับเด็กๆ มากกว่า ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะทำถุงเท้าที่มีสีสันและลวดลายที่เหมาะกับวัยรุ่นมากขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือทำทันที ชายหนุ่มเริ่มด้วยการศึกษา ค้นคว้าหาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ทั้งผ้าที่จะใช้ทำ เครื่องจักร และเทคโนโลยีการพิมพ์แบบดิจิตอล รวมทั้งจัดทำแผนธุรกิจด้วย โดยใช้เวลาในการเตรียมตัวอยู่ 6 เดือน เมื่อวางแผนจนทุกอย่างลงตัวแล้ว เขาก็ได้ไปขอยืมเงินจากพ่อแม่มาก้อนหนึ่ง ตอนแรกพ่อแม่ก็ลังเลที่จะให้เขายืมเงินมากขนาดนั้น แต่เมื่อชายหนุ่มคุยให้พ่อแม่เข้าใจ พ่อแม่ก็สนับสนุนและให้ยืมเงินไปลงทุน 100,000 บาท …
-
จุดจบของชายคบซ้อน ที่ถูกสองสาวเซอร์ไพรส์เอาคืน เดินโผล่มาพร้อมกันถึงกับกินจุด…
คู่รักหลายคู่ที่ต้องเลิกรากันไป สาเหตุหนึ่งก็มาจากการมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องนี่แหละ แต่บอกไว้เลยนะว่าคนที่คบซ้อนทั้งหลาย มักจะมีจุดจบที่ไม่สวยสักเท่าไหร่นัก Mared Parry วัย 20 ปี และ Georgia วัย 23 ปี สองสาวที่เพิ่งจะรู้ว่ากำลังคบผู้ชายคนเดียวกัน นั่นก็คือ Matt Lewis ทั้งคู่จึงคิดแผนที่จะแก้แค้นชายหนุ่มคนนี้ด้วยกัน!! Mared Parry คนซ้าย และ Georgia คนขวา Georgia เล่าว่าชายหนุ่มพยายามกลับมาง้อคืนดีด้วย แต่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาแล้ว ก็เลยทำการปฏิเสธไป แต่ชายหนุ่มก็ยังคงตามง้อเรื่อยๆ จนเธอยอมกลับไปคบด้วย แต่ในครั้งนี้เธอตั้งใจที่จะคบเล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไรเหมือนแต่ก่อน ต่อมา Georgia เริ่มสังเกตว่าชายหนุ่มมีท่าทีที่เปลี่ยนไป เธอก็เลยตามสืบดูแล้ว จึงได้รู้ว่าแฟนหนุ่มกำลังคบกับผู้หญิงอีกคน แต่แทนที่จะโวยวายตามประสา เธอกลับเข้าไปบอกความจริงกับผู้หญิงอีกคน นั่นก็คือ Mared เมื่อทั้งคู่รู้ความจริงแล้ว จึงได้วางแผนร่วมกันที่จะเอาคืนหนุ่มเจ้าเล่ห์จอมเจ้าชู้คนนี้ และรอจนกว่าทุกอย่างจะลงตัว นั่นก็คือวันที่ชายหนุ่มนัดทานข้าวกับสาว Mared ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในลอนดอน Mared กับ Matt ระหว่างที่รอ Mared กับ Matt มาตามนัดที่โรงแรม Georgia ก็ได้ไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ เมื่อทั้งคู่มาถึง Mared…
-
หนุ่มโคลอมเบีย โชว์ห้อยโหนในคราบสไปเดอร์แมน สร้างความสุขแลกกับเงินยังชีพ…
ท่ามกลางความเติบโตของสังคม มีอาชีพที่หลากหลายรองรับความสามารถของมนุษย์ แต่ก็ยังเกิดภาวะแย่งงานกันทำอยู่ทุกในสังคม ทำให้หลายคนกลายเป็นคนตกงานเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มนุษย์ต้องดิ้นรนด้วยวิธีต่างๆ เพื่อเอาตัวรอดในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันเช่นนี้ และหนึ่งในนั้นคือ Jahn Freddy Duque จากประเทศโคลอมเบีย Freddy เป็นคนที่ไม่มีงานทำ เขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงตัวเอง แต่ทุกงานต่างก็มีแต่คนแย่งกันทำเต็มหมด เขาเลยปิ้งไอเดียที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการแต่งตัวเป็นสไปเดอร์แมน แล้วห้อยตัวลงมาจากสะพานในเมือง Bogota ซึ่งอยู่ในเมืองหลวงของโคลอมเบีย เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้น งานนี้มีความเสี่ยงมาก เพราะการทำงานแต่ละครั้งไม่มีสลิง มีเพียงผ้าผืนเดียวเท่านั้น ซึ่งเขาต้องมัดให้แน่นพอและจะต้องรู้วิธีการห้อยโหนเป็นอย่างดีด้วย แต่กว่าจะตัดสินใจทำแบบนี้จริงๆ เขาได้ฝึกมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนมั่นใจในทักษะตัวเองพอสมควร สิ่งเดียวที่เขากลัวตอนนี้ก็คือ สะพานมีความเก่ามากจนแทบจะทรุดลงมาได้ตลอดเวลา การห้อยตัวบนสะพานของ Freddy สร้างความประทับใจให้คนดูทุกรุ่นทุกวัย โดยหนึ่งในคนที่ชื่นชอบสไปเดอร์แมนและเคยชมการแสดงของเขาบอกว่า “ผมชอบเขามากเลยครับ” “ผมชอบตอนที่เขาห้อยลงมาจากสะพาน เพราะมันเหมือนการได้อยู่เหนื่อยความวุ่นวายบนท้องถนนทั้งหมด ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากมีโอกาสทำแบบนั้นสักครั้งครับ แต่มันดูเสี่ยงมากเลย” สำหรับการหารายได้ในคราบสไปเดอร์แมนนี้ทำให้ Freddy สามารถหาเงินได้ราวๆ 300 บาทต่อชั่วโมง มันไม่อาจจะไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยง แต่เงินเหล่านี้ก็ทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ในทุกวันนี้ . .…
-
ช่างภาพบอกเหตุผล ทำไมตาแมวถึงสะท้อนแสงในที่มืด พร้อมแนะวิธีไม่ให้แมวยิงเลเซอร์!!
โดยปกติแล้วแมวจะเป็นสัตว์ที่น่ารัก น่ากอด และมีความขี้อ้อน ทำให้ผู้คนต่างกันหลงรักจนต้องยอมเป็นทาส แต่จริงๆ แล้วพวกมันก็มีด้านมืดเหมือนกัน ด้านมืดนั้นไม่ใช่อะไรหรอก แต่มันเป็นการถ่ายรูปเหมียวในที่มืด เวลานั้นแหละคุณจะเห็นความน่ากลัวของแมว เพราะตาของพวกมันจะดูเหมือนกับว่าพร้อมจะปล่อยแสงเลเซอร์ยิงใส่คุณทุกได้เมื่อ Robert E. Jackson ได้รวบรวมภาพแมวที่ถูกถ่ายในที่มืดเหล่านี้ไว้เป็นคอลเลคชั่น เพื่อให้เห็นว่าสายตาของพวกนั้นน่ากลัวขนาดไหน แต่เขาไม่ได้ต้องการให้เรากลัวแมวนะ Robert แค่ต้องการจะอธิบายว่า สัตว์หลายชนิดบนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว และกวาง ม่านตาของพวกมันจะมีแสงสะท้อนที่ได้เรียกว่า Tapetum lucidum ซึ่งทำหน้าที่เสมือนกระจกหลังของตา นอกจากนี้ภายในสารานุกรมบริตานิกายังได้อธิบายถึง Tapetum lucidum ว่า “ในม่านตามนุษย์นั้นจะไม่มี Tapetum lucidum อยู่ในชั้นม่านตา ดังนั้นเมื่อแสงกระทบกับตามนุษย์ในที่มืดจึงไม่มีแสดงสะท้อนออกมา” “แต่หลายคนอาจจะเคยเห็นรูปถ่ายที่ตาเป็นสีแดง นั่นเป็นเพราะว่าแฟลชกล้องมีแสงมากพอที่จะทำให้เกิดแสงสะท้อนจากจอตา และที่เป็นสีแดงก็เพราะมันคือหลอดเลือดที่หล่อเลี้ยงดวงตานั่นเอง” อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีกล้องหลายตัวที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งเป็นกล้องที่ใช้แฟลช 2 ระดับ ระดับแรกคือ เป็นแฟลชสำหรับเตรียมถ่ายรูป ส่วนระดับสองคือถ่ายรูปจริง ซึ่งแฟลชแรกจะทำให้ลดการสะท้อนแสงในตาอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าจะให้ดีควรจะเปิดไฟให้มีแสงสว่างพอดี เพื่อไม่ให้ตาแมวสะท้อนแสงหรือเกิดตาแดงในมนุษย์… และสุดท้ายนี้ ก็ขอฝากคอลเลคชั่นภาพแมวตาเลเซอร์ผีสิง…
-
ศิลปินนำไม้เก่ามารีไซเคิล เป็นประติมากรรมขนาดยักษ์ซ่อนไว้ในป่า พร้อมบอกใบ้ให้คนตามหา
การจะสร้างผลงานเจ๋งๆ สักชิ้นไม่จำเป็นต้องมีวัสดุดีๆ เสมอไป ขอแค่คุณมีความคิดสร้างสรรค์ และมีฝีมืออีกสักนิดอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ Thomas Dambo ศิลปินชาวเดนมาร์ก เป็นผู้ที่ชอบทำงานกับวัสดุรีไซเคิล โดยเมื่อ 3 ปีที่แล้วเขาได้สร้างผลงานรีไซเคิลไว้ทั่วโลกกว่า 25 ชิ้น Little Tilde เขายังคงทำงานรีไซเคิลอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดเขาได้สร้างประติมากรรมขนาดยักษ์ 6 ชิ้น ซ่อนไว้ในป่าที่บ้านเกิดของเขาบริเวณใกล้ๆ เมือง Copenhagen ประติมากรรมทั้ง 6 ชิ้นนี้น้อยคนนักจะได้เห็น เพราะเขาสร้างขึ้นท่ามกลางป่าที่ไม่ค่อยมีผู้คนรู้จัก ดังนั้นหากใครอยากมาเห็นต้องศึกษาตามแผนที่ที่เขาได้จัดทำขึ้นเท่านั้น งานประติมากรรมรีไซเคิลทั้ง 6 ชิ้นถูกสร้างขึ้นด้วยลักษณะที่แตกต่างกัน และถูกวางไว้คนละทิศคนละทาง ถ้าอยากเห็นครบทุกชิ้นต้องอาศัยแผนที่ที่เตรียมให้ เพราะในนั้นจะบอกว่างานชิ้นไหนคืออะไรและมีตำแหน่งอยู่ตรงไหน แน่นอนว่ามันเป็นที่สนใจของผู้คนจำนวนมาก เพราะทุกชิ้นเป็นประติมากรรมที่นำไม้มารีไซเคิลทั้งหมด ซึ่งได้จากการที่เขารวบรวมจากรั้วเก่าๆ หลังคาเก่า และวัสดุอื่นๆ เท่าที่จะหามาได้ Thomas บนภูเขา แต่ละตัวต้องใช้เศษไม้กว่า 600 ชิ้น เมื่อรวมทั้ง 6 ตัวแล้วต้องใช้ไม้ถึง 3,600 ชิ้น…
-
ผลการศึกษาพบว่า คนสูบบุหรี่มากขึ้นเพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระตุ้นให้เกิดความอยาก
เคยสังเกตมั้ยว่า สำหรับคนที่สูบบุหรี่ หลังจากที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าร่างกายไปแล้ว จะตามด้วยการสูบบุหรี่ และถี่มากเป็นพิเศษ นั่นเป็นความเคยชินหรือมีอะไรมากกว่านั้น? นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้ จนพบกว่าการที่คนดื่มแอลกอฮอล์ก่อนสูบบุหรี่นั้นเป็นเพราะว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้นให้มีความอยากสูบบุหรี่มากกว่าปกติ นอกจากนี้ยังพบว่า การสูบบุหรี่หลังดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้รู้สึกมีความสุขมากกว่าการสูบบุหรี่เพียงอย่างเดียว ตรรกะดังกล่าวนี้ยังนำไปสู่การเลิกบุหรี่ของวัยรุ่นได้อีกด้วย กล่าวคือสาเหตุของการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นส่วนใหญ่ มาจากการเริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบกัญชา ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้พวกเขามีความอยากสูบบุหรี่ในเวลาต่อมา จากการศึกษาวิจัยกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 18- 25 ปี ซึ่งมีรายงานว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมามีการทดลองใช้แฮลกอฮอล์และกัญชากับวัยรุ่นเพื่อให้เลิกสูบบุหรี่ ผลจากการทดลอง พบว่า ผู้สูบบุหรี่ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบกัญชาด้วย มักจะมีทั้งสองอย่างนี้กระตุ้นให้พวกเขาอยากสูบบุหรี่เสมอ จะเห็นได้ว่าพวกเขาไม่ได้อยากสูบบุหรี่ตั้งแต่แรก แต่สูบเพราะมีการกระตุ้น และพวกเขาก็ไม่ได้ติดบุหรี่ด้วย ดังนั้นวิธีทำให้เลิกสูบหรี่คือการเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกัญชา อีกวีธีหนึ่งคือการหาอย่างอื่นมาแทนบุหรี่ เช่น ขนมขบเคี้ยว ให้ทานหลังจากที่ดื่มแอลกอฮอล์ หรืออาจจะหาอย่างอื่นที่ทานด้วยกันได้ลงตัว เช่นการดื่มไวน์แดงและตามด้วยชีส วิธีดังกล่าวนี้อาจไม่ได้ผล 100% แต่จะเป็นการละลายพฤติกรรมให้ผู้สูบบุหรี่ค่อยๆ ปรับตัว แต่อย่างไรก็ตามต้องอาศัยความอดทนและเวลาด้วย เอาเป็นว่า ถ้าหากอยากจะเลิก ก็ควรลดจำนวนให้น้อยลงนะจ๊ะ ที่มา ladbible, medicaldaily
-
นักศึกษาสาวคว้ารางวัล “ห้องสกปรกที่สุดแห่งปี” ความภูมิใจที่ไม่ควรมีเป็นครั้งที่ 2
ช่วงที่เรียนมหาลัย วัยรุ่นส่วนใหญ่จะเช่าหอพักอยู่ อาจจะเพาะต้องการความเป็นส่วนตัว หรืออยู่ใกล้มหาวิทยาลัย แต่ที่แน่ๆ คือ ได้เป็นอิสระ ทำอะไรได้ตามใจชอบ โดยไม่ต้องมีใครมาบ่นมาว่าเลย แต่เพราะด้วยเหตุนี้เอง ทำให้หอพักนักศึกษาหลายๆ แห่งกลายเป็นแหล่งรวมความซกมก เหมือนกับหอพักที่มหาวิทยาลัย Bristol University ในสหราชอาณาจักรที่มีคนทำห้องรกจนได้รับรางวัลห้องสกปรกที่สุดแห่งปี!! ห้องที่ว่านี้เป็นห้องของนักศึกษาสาว Brittani Cooper และรูมเมท พวกเค้าทำห้องรก โดยไม่ยอมเก็บกวาด ไม่เคยทำความสะอาดจนส่งกลิ่นเหม็นมาถึงข้างนอก ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ในห้องที่มีสภาพแบบนี้ได้อย่างไรกัน สำหรับความสกปรก ซกมกนี้ ครอบครัวของ Brittani ก็ทราบเป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อพ่อแม่ได้เห็นข่าวการประกวดห้องสกปรก พวกเขาจึงได้ส่งลิงก์ไปให้ลูกสาวเพราะคิดว่าเหมาะกับเธอที่สุดแล้ว ดูจากชื่อการประกวดแล้วไม่น่าจะเข้าร่วมเลย แต่สำหรับ Brittani และรูมเมทกลับไม่ลังเล พวกเขาถ่ายรูปสภาพห้อง ณ ขณะนั้นโดยไม่ต้องจัดฉากอะไรเลย เพราะมันสกปรกอยู่แล้ว… เมื่อผลการประกวดออกมา ปรากฏว่ารางวัลห้องสกปรกที่สุดแห่งปี ก็ตกเป็นของ Brittani พร้อมกับเช็คเงินสดอีก 400 ปอนด์หรือราวๆ 22,400 บาท เธอบอกว่ามันคุ้มค่านะกับการโชว์ห้องสกปรกเพื่อแลกกับรางวัลนี้ ผู้เป็นพ่อก็เลยมาแซวเล่นว่า “อย่าลืมแบ่งเงินให้พ่อด้วยนะ เพราะพ่อเป็นคนให้เราส่งประกวด” แต่หญิงสาวตอบกลับไปว่า “ไม่มีวันซะหรอกพ่อ”…
-
น้องหมาถึงกับนอยด์ เมื่อเจ้าของฝรั่งพาไปตัดขนกับช่างจีน แต่ดันพูดกันไม่รู้เรื่อง…
ใครที่เลี้ยงหมาอยู่ อย่าปล่อยให้พวกมันมีขนรกรุงรังนะคะ ควรจะตัดแต่งขนให้กับมันด้วย และไม่ใช่ทรงไหนก็ได้นะ เพราะถึงจะเป็นหมาก็อยากสวยอยากหล่อเหมือนมนุษย์เรานี่แหละ ฮร่าาาา แต่ดูเหมือนเจ้า Seren พันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ด จะโชคร้ายหน่อย เมื่อเจ้าของซึ่งเป็นชาวอังกฤษพามันไปตัดขนในร้านให้มีช่างเป็นคนจีน และพวกเขาก็สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เพราะเขาไม่สามารถพูดภาษาจีนได้เลยแม้แต่คำเดียว… Leigh Simmons วัย 27 ปี เป็นเจ้าของน้องหมา Seren เขาทำงานอยู่กับ Kat ผู้เป็นภรรยาที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน เป็นระยะเวลา 7 เดือนแล้ว ทรงขนเดิมของเจ้า Seren สำหรับสุนัขตัวนี้ Simmons ไปเจอมันอยู่ข้างถนนใกล้กับ Merthyr Tydfil ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเวลส์ เขาจึงเก็บมันมาเลี้ยงจนถึงตอนนี้ ระหว่างอยู่จีนนั้นเขาก็ได้พาน้องหมาสุดที่รักไปตัดขน เพราะตอนนั้นอากาศร้อนมาก แต่ Simmons พูดภาษาจีนไม่ได้เลย ส่วนช่างตัดขนก็พูดอังกฤษไม่ได้เช่นกัน เขาก็เลยใช้ภาษาท่าทางเพื่ออธิบายให้ช่างเข้าใจว่าต้องการทรงไหน ทรงขนที่ได้จากการสื่อสารไม่รู้เรื่อง ระหว่างช่างกับเจ้าของ!? เขาต้องการบอกให้ช่างโกนขนให้น้องหมา เขาก็เลยทำท่าโกนพร้อมกับทำเสียงที่โกนขน ช่างคนนั้นพยักหน้า ประหนึ่งว่า ‘อ๋อ เข้าใจแล้ว จะเอาแบบนั้นใช่มั้ย!?’ จากนั้นช่างก็บอกให้ Simmons กลับมารับสุนัขอีกทีประมาณ 16.00 น.…
-
โครงการดีๆ ที่เชิญแก๊งลามะร่วมงานแต่งงาน สร้างความประทับใจ และระดมเงินช่วยการกุศล
งานแต่งงานถือเป็นวันสำคัญสำหรับคู่บ่าวสาว ดังนั้นทุกอย่างจึงถูกจัดเตรียมมาเป็นเดือนๆ เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด รวมทั้งกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่เจ้าภาพเตรียมไว้เซอร์ไพรส์แขกที่มาร่วมงานด้วย แต่หากใครยังไม่รู้จะเซอร์ไพรส์ยังไง เราขอแนะนำลามะจาก Mtn Peaks Therapy Llamas & Alpacas ที่พร้อมจะไปปรากฏตัวในงานแต่งคุณได้ทันที หากคุณเชิญเจ้าลามะพวกนี้ไปงานแต่ง คุณจะไม่รู้สึกผิดหวังเลย เพราะพวกมันได้รับการฝึกเป็นอย่างดี พวกมันรู้ว่าต้องจะแต่งตัวแบบไหน วางตัวอย่างไร และจะทำยังไงให้แขกในงานมีความสุข และพวกมันก็ไม่ใช่มือใหม่ด้วย มีประสบการณ์ไปร่วมงานแต่งมาแล้วมากมาย และงานไหนก็ตามที่มีแก๊งลามะไปร่วมด้วย งานนั้นจะวิเศษมากๆ เลยล่ะ แขกบางคนไม่เคยเห็นหรือเคยสัมผัสลามะมาก่อน ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้มาเห็นลามะในงาน พวกเขาจะรู้สึกตื่นเต้นมาก ยิ่งถ้าได้เล่นกับลามะด้วยแล้ว พวกเขาจะไม่มีวันลืมความสุขเหล่านั้นไปได้เลย ทีนี้ก็มั่นใจเลยว่าการเซอร์ไพรส์ด้วยลามะได้ผลเกินคาดจริงๆ แต่การเชิญลามะไปงานแต่ง อาจจะต้องมีค่าจ้างให้พวกมันเล็กๆ น้อยๆ เพราะพวกมันกำลังทำภารกิจหาเงินเพื่อองค์กรบำบัดและการศึกษา ซึ่งเป็นองค์การกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร โปรแกรมดีๆ แบบนี้ก็วินวินกันทั้งสองฝ่าย คุณได้เซอร์ไพรส์แขก ลามะได้ระดมทุนช่วยองค์กร แต่น่าเสียดายหน่อยก็ตรงที่ไม่อาจเชิญลามะไปรอบโลกได้ โครงการนี้จำกัดอยู่ในพื้นที่ เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา…
-
มหกรรมภาพลูกช้างแสนซน กับความน่ารักน่าเอ็นดู ที่จะทำให้คุณหลงรักได้ทันทีทันใด
ชาติถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยเรา แต่น้อยคนนักที่จะได้สัมผัสความน่ารักของมันพวกมัน ซึ่งอาจเป็นเพราะความเข้าถึงยากเพราะเป็นสัตว์ป่า และด้วยขนาดตัวที่ใหญ่มากๆ แต่จริงๆ แล้ว ถ้าคุณลองไปสัมผัสกับพวกมัน จะเห็นถึงความน่ารักที่ไม่คาดคิดมาก่อน โดยเฉพาะลูกช้างที่ชอบแสดงความน่ารักออกมาจนคุณต้องหลงรักไม่ต่างจากสุนัขหรือแมวเลย . ช้างแรกเกิดจะมีน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม สูง 90 เซนติเมตร พวกมันจะมีท่าทางเงอะงะเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน เพราะอยู่ในช่วงหัดเดิน แต่ก็จะมีแม่คอยดูแลอยู่ไม่ห่างตลอดเวลา นอกจากนี้คุณจะเห็นลูกช้างมักจะส่ายหางและงวงไปมาตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะพวกมันยังไม่รู้จักวิธีควบคุม ดูรวมๆ ก็ลักษณะคล้ายกับคนเมาแต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว จนกระทั่งมันโตขึ้น ช้างตัวผู้จะแยกออกจากโขลงหลังจากที่มีอายุ 12 ปี แต่สำหรับตัวเมียนั้นมันจะอยู่กับครอบครัวไปตลอดชีวิต ซึ่งมันก็ดีต่อแม่ช้างที่ไม่อยากให้ลูกจากไปไหน ความน่ารักของลูกช้างมันบรรยายยากนะ เอาเป็นว่าให้ภาพเหล่านี้บอกละกันว่าพวกมันน่ารักขนาดไหน รับรองว่าเห็นแล้วคุณต้องอยากไปเล่นกับพวกมันแน่ๆ . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
อังกฤษทดลองเปิด ‘ยิมสำหรับงีบ’ สอนวิธีที่ถูกต้อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสมอง
การออกกำลังกายถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับมนุษย์ ดังนั้นจึงได้มีการเปิดโรงยิมมากมายให้ผู้คนได้มาออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรง รวมทั้งการทำให้รูปร่างดูดี แต่นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การงีบพักก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน ด้วยเหตุนี้โรงยิมแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรจึงได้เปิดคอร์สสอนการงีบสำหรับผู้ที่เหน็ดเหนื่อยหรือต้องการพักผ่อนในระหว่างวัน ได้ยินแบบนี้มันแปลกๆ อยู่แฮะ เพราะการงีบเป็นเรื่องที่เราทำกันเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว หากง่วงตึงไม่สดชื่นก็งีบหลับซักพัก แต่ที่นี่เค้าไม่ได้ให้คุณมานอนงีบเหมือนอยู่บ้านนะ แต่เขาจะสอนวิธีการงีบที่ถูกต้องให้ด้วย โรงยิมสำหรับงีบนี้จะมีการปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการงีบหลับ โดยจะมีเทรนเนอร์คอยแนะนำว่าต้องทำอะไรบ้าง เริ่มแรกต้องยืดกล้ามเนื้อก่อน 15 นาที ต่อด้วยการงีบ 45 นาที ผู้ที่ก่อตั้งโรงยิมแห่งนี้ เรียกการงีบลักษณะนี้ว่า Nap-Ercise ซึ่งเป็นคลาสที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจและอารมณ์ของผู้ที่อยู่ในอาการเหนื่อยล้าหรือเครียด รวมทั้งเผาผลาญแคลลอรี่ที่ไม่จำเป็นอีกด้วย นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคิดขึ้นมาเองลอยๆ แต่ผลวิจัยของวิทยาลัย Allegheny College ออกมารองรับเรื่องนี้ด้วย โดยการศึกษาพบว่า ‘ผู้ที่ได้งีบในช่วงเวลากลางวัน 45 นาที จะจัดการความเครียดได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้งีบเลย’ นอกจากนี้ยังมีการวิจัยของ UC Berkeley ที่พบว่า ‘การงีบในช่วงบ่ายอาจเพิ่มขีดความสามารถในการเรียนรู้ของสมอง’ ตอนนี้ยิมสำหรับนอนได้มีการทดลองเปิดที่แรกที่ David Lloyd Clubs ในย่าน Sidcup, London ประเทศอังกฤษ และหากประสบความสำเร็จ ยิมทั่วประเทศก็จะเพิ่มคอร์สการงีบเหมือนกัน .…
-
นักวิทย์ไขปริศนา น้ำตกสีเลือดในทะเลแอนตาร์กติกาได้แล้ว หลังหาคำตอบนาน 100 ปี
การที่เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติแปลกๆ นั้น ทำให้ปัญหาตกอยู่ที่มนุษย์ เพราะเราต้องมาคิดกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร หรือมีที่มาที่ไปอย่างไร อย่างน้ำตกที่ไหลเป็นสีเลือดในทะเลแอนตาร์กติกา ซึ่งก็ทำให้มนุษย์งงว่ามันคืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่าง โดยเหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างทำงานอย่างหนักเพื่อหาที่มาของน้ำสีเลือดนี้ และหลังจากที่มีการไขปริศนาของเรื่องนี้มานานกว่า 100 ปี ทางนักวิทยาศาตร์ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขารู้สาเหตุของปรากฏการณ์นี้แล้ว น้ำตกสีเลือดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1911 โดยนักธรณีวิทยาชาวออสเตรเลีย ซึ่งตอนนั้นเขาเชื่อว่ามันเกิดจากสาหร่ายสีแดง ต่อมาในปี 2003 ก็มีคนแย้งว่า น้ำสีแดงนี้ไหลมาจากธารน้ำ Taylor Glacier โดยมีธาตุเหล็กออกซิไดซ์เป็นสาหตุที่ทำให้เกิดสีแดง หรือบางทีมันอาจจะเป็นเศษซากที่ตกตะกอนในทะเลสาบน้ำเค็มที่มีอายุกว่า 5 ล้านปี อย่างไรก็ตามตอนนี้ได้มีการค้นพบทฤษฏีใหม่โดยมหาวิทยาลัย University of Alaska และวิทยาลัย Colorado College ระบุว่า มันคือน้ำที่ไหลจากทะเลสาบขนาดใหญ่ และรวมกันอยู่ใต้น้ำแข็งมานานกว่า 1 ล้านปี ทฤษฏีนี้เกิดจากการที่นักวิทยาศาสตร์ได้ติดตามที่มาของน้ำตกสายนี้โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Echolocation หรือการหาตำแหน่งของวัตถุโดยใช้เวลาและทิศทางของการสะท้อนกลับ พวกเขาบอกว่า “เราได้ขยับเสาอากาศไปรอบๆ ธารน้ำแข็งในรูปแบบคล้ายตาราง แล้วเราได้เห็นสิ่งที่อยู่ใต้น้ำแข็งเหล่านั้น” แผนภาพแสดงระบบการกักเก็บน้ำของน้ำตกสีเลือดแห่งนี้ นอกจากนี้ทางทีมวิจัยก็ได้ยืนยันว่า ธารน้ำแข็งดังกล่าวนี้ มันมีระบบจัดการน้ำเป็นของตัวเอง…
-
สับให้ขาดเลยชั๊บชั๊บชั๊บ… ช่างตัดผมสายโหดสัส ใช้ขวานแทนกรรไกร ได้ทรงถูกใจด้วยนะ!!
การจะเป็นช่างตัดผมนั้น ใช่ว่าทุกคนจะเป็นได้ แต่คุณต้องมีฝีมือในการตัดผมตามความต้องการของลูกค้า แต่ในสังคมที่มีร้านตัดผมมากมายขนาดนี้ มีฝีมืออย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องมีกลยุทธ์การตลาดเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสนใจด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าหากเราจะเห็นช่างตัดผมใช้วิธีการที่แตกต่างไปบ้าง แต่ว่าจะสู้วิธีการของ Daniil Istomin ได้หรือเปล่า เพราะเขาใช้ขวานแทนกรรไกรนี่สิ!! Daniil เป็นช่างตัดผมชาวรัสเซีย ผู้เป็นเจ้าของไอเดียการตัดผมด้วยขวาน ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับว่ามีทั้งประสิทธิภาพและความรุนแรงในเวลาเดียวกัน ไอเดียนี้มีจุดเริ่มต้นจากการแข่งขันตัดผม โดย Daniil อยากสร้างสรรค์วิธีการตัดผมที่แตกต่างออกไป เขาได้รับแรงบันดาลใจจากการใช้ขวานโกนหนวดเคราของผู้ชายในอดีต เนื่องจากสมัยนั้นไม่มีมีดโกน Daniil ได้เริ่มทดลองใช้ขวานในการตัดผมเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จากนั้นก็พัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง โดยการพยายามตัดแต่งผมทรงต่างๆ ให้ออกมาดูดีที่สุด แน่นอนว่าครั้งแรกที่ใช้ขวานตัดผมนั้น เขาคงไม่กล้าเอาคนจริงๆ มาเป็นหนูลองยา และคงไม่มีใครกล้าเป็นให้เขาด้วย ดังนั้นเขาจึงใช้หุ่นแทน และเมื่อทำไปหลายๆ ครั้ง เขาก็ค่อยๆ มั่นใจในฝีมือตัวเองมากขึ้น หลังจากที่ฝึกมาจนชำนาญแล้ว เขาก็นำไปใช้จริงกับลูกค้าคนแรกที่เป็นผู้หญิง แต่ก่อนตัดเขาได้ถามความสมัครใจของลูกค้าก่อน โดยทางลูกค้าก็ยอมตกลงโดยดี Daniil บอกว่า “ขวานทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นครับ เพราะการที่คุณลงขวานแค่ครั้งเดียว ก็สามารตัดผมได้มากมายแล้ว แต่ถ้าใช้กรรไกรคุณจะตัดผมได้มากขนาดนี้ในครั้งเดียวไม่ได้แน่นอน” เขายังบอกอีกว่าไม่ใช่จะใช้ขวานแบบไหนก็ได้ แต่ขวานที่ใช้ต้องมีความคมเป็นพิเศษ เพื่อให้การตัดผมออกมาสมบูรณ์แบบ ไม่เว้าไม่แหว่ง Daniil มักจะได้รับเชิญให้แสดงทักษะการตัดผมด้วยขวานในงานประกวดตัดผม…
-
21 ภาพชวนคิดลึก ที่เกิดจากความไร้เดียงสาของเด็กวัยซน เด็กนี่มันเด็กจริงๆ เฮ้อ…
วัยเด็กเป็นวัยที่ไร้เดียงสา ไม่รู้หรอกว่าอะไรควรไม่ควร อะไรที่เห็นว่าสนุกก็เล่นหมดแบบไม่ต้องคิดอะไร มีแต่ผู้ใหญ่มากประสบการณ์อย่างเราๆ นี่แหละ ที่คิดมากจนเกินไปกับการกระทำของเด็กน้อยทั้งหลาย แต่บางทีมันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ เหมือนกับภาพต่อไปนี้ที่การเล่นขำๆ ของเด็กกลายเป็นเรื่องที่แอบทะลึ่ง เอาหน่า เด็กก็คือเด็ก อย่าไปถือสาเลย ปล่อยๆ ไปบ้าง ชีวิตจะได้มีสีสัน 1. เด็กวัยหัดเดิน ขอจับหน่อยทำเป็นตกใจไปได้ 2. ไปจำจากไหนมาลูก 3. มีที่เยอะแยะ ก็เลือกจะจุ๊บตรงนั้นเนาะ 4. เป็นไงสวยมั้ยคะ ทั้งใหญ่และยาว หนูทำเองกับมือเลยนะ 5. ใส่ผิดด้านแล้วหนู 6. แอบเอาถุงยางของพี่ไปเล่น คิดว่ามันเป็นลูกโป่งล่ะสิ 7. เด็กยังไม่หย่านม เข้าใจเค้าหน่อยละกัน 8. ทุกครั้งที่แม่ออกจากห้องน้ำ หนูน้อยก็จะมองก้นแม่ด้วยสายตาแบบนี้ 9. ทำไมไม่ใส่กางเกง นี่แหน่ะ 10. เด็กตั้งใจทำบ้านให้นกเฉยๆ คิดมากไปได้ ‘มาเข้าปากฉันสิ’ อิอิ…
-
ครอบครัวน่ารัก… คุณแม่พร้อมลูกชายทั้ง 6 ยอมไว้ผมยาวเป็นปี ตั้งใจบริจาคให้ผู้ป่วยมะเร็ง
การไว้ผมยาวนับเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กผู้หญิง แต่ในหมู่เด็กผู้ชายนั้นเราไม่ค่อยจะได้เห็นกันสักเท่าไร เพราะเป็นผู้ชายก็คงชอบที่จะไว้ผมสั้นเสียมากกว่า แต่สำหรับลูกชายทั้ง 6 คนของ Phoebe Kannisto พวกเขาตัดสินใจไว้ผมยาวเป็นปีๆ โดยมีเป้าหมายที่จะเอาไปบริจาคให้ผู้ป่วยที่ต้องการนั่นเอง คุณแม่และลูกชายทั้ง 6 คน คุณแม่ไม่ได้บังคับให้ลูกๆ ให้ไว้ผมยาว แต่เธอถามความสมัครใจจากพวกเขาก่อนทุกคน โดยคนที่อาสาไว้ผมยาวเป็นคนแรกคือพี่ชายคนโตสุด Andre วัย 10 ขวบ ต่อมาเป็นลูกชายฝาแฝด Silas และ Emerson วัย 8 ขวบ และน้องเล็กสุดซึ่งเป็นแฝดสามวัย 5 ขวบ คือ Herbie, Reed และ Dexter โดยคุณแม่ก็ทำภารกิจนี้เช่นกัน จริงๆ มีลูกสาววัย 2 ขวบอีกคนหนึ่ง แต่เธอมีผมน้อยเกินไปจึงไม่ได้ร่วมทำภารกิจนี้ พวกเขาอดทนไว้ผมนาน 1-5 ปี ด้วยความเป็นเด็กผู้ชาย การผมยาวจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บางครั้งพวกเขาก็อึดอัดบ้าง รำคาญบ้าง ที่ร้ายกว่านั้นคือ บางคนยังถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนแกล้งอีกด้วย แต่ทุกคนได้รับกำลังใจจากคุณแม่ และมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะไว้ผมยาวเพื่อเอาไปบริจาคให้เด็กๆ ที่สูญเสียผม…
-
ภรรยาจับได้ว่าสามีแอบซ่อนหนังไว้ใต้โต๊ะ จึงวาดรูปเพื่อตักเตือนให้รู้ไว้ ก่อนจะหักแผ่นทิ้ง!!
ส่วนมากถ้าพูดถึงเรื่องหนังผู้ใหญ่กลุ่มผู้ชมก็คงจะเป็นชายโสดที่ยังมีความกลัดมัน แต่ทว่าบางคนแต่งงานแล้วก็ยังชอบอะไรแบบนี้อยู่ ถ้าเกิดว่าคุณภรรยาไม่ได้ซีเรียสอะไรก็แล้วไป แต่ถ้าหากว่าไม่อยากให้ดูก็ต้องเก็บซ่อนไว้ให้มิดชิด อย่าให้โดนจับได้ล่ะ เพราะอะไรจะเกิดขึ้นตามมาก็ไม่อาจจินตนาการได้ ฮร่าาา อย่างกรณีนี้ที่คุณสามีแอบดูหนังโป๊ และเก็บซ่อนแผ่นเอาไว้ในที่ลับตา แต่คิดหรอว่าภรรยาจะไม่รู้ มาดูกันสิว่าเมื่อเธอเจอแผ่นหนังโป๊ของสามี เธอจะจัดการอย่างไร… เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวของเจ้าของทวิตเตอร์ที่ชื่อ @terajun6966 ซึ่งเจ้าตัวก็แต่งงานแล้ว และได้แยกออกมาอยู่กับภรรยาตามลำพัง แต่ด้วยความเป็นผู้ชายทั่วไป ที่ไม่ถนัดทำงานบ้านถนัดแต่ทำรก ภาระงานบ้านทุกอย่างก็เลยต้องตกเป็นหน้าที่ของคุณภรรยา (ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับบทความ) โดยวันที่เกิดเหตุนั้นก็เหมือนกับทุกครั้ง เขาบอกให้ภรรยาช่วยทำความสะอาดโต๊ะให้หน่อย คุณภรรยาก็น่ารักเข้าไปจัดเก็บข้าวของให้โดยไม่บ่นสักคำ แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะที่โต๊ะของเขาไม่ได้แค่หนังสือหรือฝุ่น แต่สามีแอบซ่อน DVD หนังโป๊เอาไว้ด้วย แล้วจะเกิดอะไรขึ้นนะ?? หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับข้อความจากภรรยา เป็นข้อความรูปภาพที่เธอวาดเอง แต่ภาพนี้มันคุ้นๆ เหลือเกิน เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน… แล้วสามีก็อยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อเขาได้เห็นกล่อง DVD วางอยู่ข้างๆ โน๊ตรูปวาด ซึ่งเป็นภาพสาวในชุดนักเรียนซะด้วย!! โดยในภาพนั้นมาพร้อมกับใจความว่า.. “เจอไอ้เนี่ยซ่อนอยู่โต๊ะของคุณ เพราะฉะนั้นแล้วฉันก็จะหักแผ่นแล้วก็โยนทิ้งไปซะ!!” แต่ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนจับได้ เพราะในปี 2012 เขาเคยโดนมาก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นเป็นแฟลชไดร์ฟที่เขาเซฟภาพโป๊เอาไว้ แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อแต่ดันลืมเอาออกมา …
-
พบกับ ‘Suhyup’ เจ้าเหมียวเฝ้าแผงปลาจากเกาหลี ประจำที่ตัวเองตลอด ไม่มีบกพร่อง!!
แมวเนี่ยอย่าให้มันไปอยู่ใกล้ปลาเชียวนะ ไม่งั้นคุณอาจจะไม่เหลือปลาเลยสักตัว เพราะเสร็จเจ้าแมวขี้ขโมยเหล่านี้แน่นอน แต่ดูเหมือนทฤษฎีนี้จะใช้ไม่ได้กับแมวตัวนี้ซะแล้วล่ะ… เพราะเจ้าเหมียว Suhyup จากเกาหลีใต้ตัวนี้ ที่นอกจากจะไม่กินปลาแล้ว มันยังทำหน้าที่เฝ้าแผงขายปลาในตลาดสดให้เจ้าของอีกด้วย!! เจ้าของเล่าให้ฟังว่า “มันไม่เคยแตะต้องปลาของฉันเลยค่ะ ต่อให้มีคนยื่นปลาให้ มันก็ไม่ยอมกิน มันเป็นแมวที่มีความอดทนสูงมากเลยค่ะ” นอกจากนี้มันจะไม่ยอมกินอาหารจากคนแปลกหน้าเลย มันจะยอมกินจากมือเจ้าของเท่านั้น และในทุกๆ ครั้งมันก็จะนั่งอยู่ที่เก้าอี้พลาสติกประจำตำแหน่ง เพื่อคอยปกป้องแผงปลาสดให้กับเจ้าของ และถ้าเมื่อไหร่ที่มีใครเอาตัวมันออกไปจากร้านขายปลา มันจะรีบวิ่งกลับไปทันทีที่มีโอากาส เพราะอยากจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ที่เจ๋งกว่านั้นคือมันไม่ใช่แมวขี้เซาเหมือนแมวทั่วไปด้วย มันจะตื่นตัวอยู่เสมอ หากใครที่คิดจะขโมยปลา อย่าหวังเลยว่าจะพ้นสายตาของ Suhyup ไปได้!! ณ จุดๆ นี้คงไม่มีใครทำงานหนักและดีกว่าเจ้าเหมียวตัวนี้อีกแล้ว และถ้าคุณเห็นมันวิ่งไปยังที่แคบๆ ก็อย่าแปลกใจล่ะ เพราะโจรผู้ร้ายที่น่ากลัวของแม่ค้าในตลาดสดก็คือ ‘หนู’ นั่นเอง ซึ่งสำหรับเจ้าเหมียว Suhyup ก็ไม่พลาดที่จะจับจอมโจรหนู หากจับไม่ได้มันจะไม่ยอมกลับไปเด็ดขาด ดังนั้นตั้งแต่ Suhyup มาเฝ้าร้าน ก็แทบจะไม่เห็นหนูมาวิ่งเพ่นพ่านผ่านแผงปลาอีกเลย แต่ในบางครั้งก็แมวตัวอื่นที่หวังจะมาขโมยปลาเช่นกัน มันก็จะวิ่งไล่จนแมวตัวนั้นไม่กล้ามาแหยมกับแผงปลาอีกเลย ให้มันรู้ซะบ้างว่าที่นี่ใครคือขาใหญ่ตัวจริง!! เลี้ยงแมวทั้งทีมันต้องสอนให้ได้แบบนี้ ทำงานดียิ่งกว่าหมาซะอีก…
-
พี่ชายผู้เป็นโรคซึมเศร้า แต่งเป็นเจ้าชายโฉมงาม เพื่อเซอร์ไพรส์น้องสาวในวันเกิด
การที่ต้องมีพี่น้องอายุห่างกันมากๆ บางทีมันอาจจะให้เกิดระยะห่างระหว่างความเป็นพี่น้องได้ จนทำให้คุณไม่มีความสนิทกัน แต่ทว่าบางครั้งมันก็ไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะสำหรับบางคนแล้วต่อให้อายุห่างกันมาแค่ไหน พวกเขาก็มีความสนิทสนมกันมากและดูแลกันอย่างดี เหมือนดั่งหนุ่มน้อย Anthony วัย 13 ปีคนนี้ Anthony ประสบกับโรคซึมเศร้า ดังนั้นการที่จะเห็นเขามีความสุขถือเป็นที่เรื่องยากมากๆ เว้นเสียแต่เวลาที่เขาได้อยู่กับ Anabel น้องสาววัย 5 ขวบของเขา เด็กหญิงเป็นคนช่างพูด มีนิสัยร่างเริง ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหนเธอก็จะมีเพื่อนอยู่เสมอ แต่เพื่อนที่เด็กหญิงสนิทด้วยมากที่สุดก็คือ Anthony พี่ชายของเธอเอง พวกเขามีพี่น้องทั้งหมด 7 คน แต่มีแค่ Anthony และ Anabel ที่สนิทกันมากที่สุด แม้อายุจะห่างกันมากก็ตาม พี่ชายมักจะดูหนังกับเธอ สอนเธอเล่นสเก็ตบอร์ด และเป็นคนที่คอยอุ้มเธอไปนอนบนเตียง นอกจากนี้ทั้งคู่จะมีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่รู้กันอยู่สองคน อย่างเช่นก่อนนอน พี่ชายจะทำพิธีปัดฝันร้ายให้น้องสาว ด้วยการวางเกลือที่สมมติว่ามันเป็นเกลือวิเศษไว้บนหัวเตียง เพื่อให้น้องสาวรู้สึกอุ่นใจและนอนหลับฝันดีตลอดคืน เมื่อถึงช่วงวันคล้ายวันเกิดของน้องสาว Anabel คุณแม่จึงอยากจะถ่ายรูปเธอในชุดเจ้าสาวดิสนีย์ โดยคุณแม่ได้เลือกซื้อชุดจากร้านค้าออนไลน์ แต่ Anthony ดันมาเห็นเข้าซะก่อน เขาจึงขอให้แม่หาชุดเจ้าชายให้เขาด้วย ตอนแรกคุณแม่ก็แปลกใจว่าทำไมลูกถึงอยากใส่ชุดเจ้าชาย จนตอนนี้ก็ได้คำตอบแล้วว่า เขาจะใส่ชุดเจ้าชายเพื่อถ่ายรูปคู่กับ Anabel…
-
เพื่อนบ้านใจร้าย!! สัญญาจะดูแลหมาให้คุณยาย สุดท้ายเอาไปปล่อยทิ้งอย่างน่าสงสาร
สำหรับนิยามของคำว่าเพื่อนบ้าน อาจจะเป็นพวกที่รู้หน้าไม่รู้ใจก็เป็นได้ ต่อหน้าพูดอีกอย่าง พอลับหลังก็พูดอีกอย่าง ดังนั้นต่อให้รู้จักกันมานานก็ไม่อาจไว้ใจได้ง่ายๆ เหมือนเรื่องของคุณยาย Yvonne Radcliffe วัย 76 ปีคนนี้ เธอเลี้ยงสุนัขแสนรักชื่อ Tessa วันหนึ่งเมื่อคุณยายต้องย้ายไปอยู่แคนาดา เธอจึงตัดสินใจให้เพื่อนบ้านพามันไปเลี้ยงดูต่อ เนื่องจากว่าคุณยายไม่สามารถพา Tessa ไปด้วยได้ เพราะมันมีอายุมากแล้ว คุณยายเกรงว่าการนั่งเครื่องบินนานๆ จะเป็นอันตรายกับมัน… ดังนั้นคุณยายจึงขอให้เพื่อนบ้านที่รู้จักมานานกว่า 9 ปีให้ช่วยรับเจ้า Tessa ไปดูแลต่อ ตอนนั้นเพื่อนบ้านทำท่าตื่นเต้นมาก และบอกกับคุณยายว่า “ยินดีมากเลยที่จะให้มันมาอยู่ด้วย เพราะผมก็ชอบสุนัขมากๆ เราจะเลี้ยงดูมันอย่างดีครับ” และเมื่อได้ยินแบบนั้นคุณยายก็หายห่วง บินไปแคนาดาด้วยความโล่งใจ… แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น ก็มีคนไปพบเจ้า Tessa ถูกทิ้งอยู่ในทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง พร้อมกับโน๊ตข้อความยาวเหยียดที่ถูกเขียนไว้โดยเพื่อนบ้านคนเดิมที่คุณยายไว้ใจด้วยใจความประมาณว่า “เจ้าหมาตัวนี้ไม่ใช่ของผม แต่เป็นเพื่อนบ้านที่ฝากให้เลี้ยงแทน เพราะจะย้ายไปอยู่แคนาดา ผมตอบตกลงไป แต่ผมรู้ว่าผมได้อยากเลี้ยงมัน เจ้า Tessa ชอบชากาแฟและนม อาหารมื้อแรกของมันจะเริ่มที่เวลา 11.30 น. แต่ตอนนี้เพื่อนบ้านของผมย้ายไปแคนาดาแล้ว และกำลังคิดว่า Tessa อยู่ในการดูแลเป็นอย่างดี…
-
หญิงผู้เป็น ‘มารดาแห่งการอุปถัมภ์’ รับเลี้ยงเด็กกว่า 1,400 คน และรักเหมือนครอบครัวจริงๆ
การที่ใครคนหนึ่งจะรับเลี้ยงเด็กกำพร้าสักคนนั้น ต้องผ่านการคิดแล้วคิดอีก นอกจากนี้คนรับเลี้ยงต้องมีความรักให้กับเด็กคนนั้นด้วย แต่เนื่องจากการเลี้ยงเด็กสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นผู้รับเลี้ยงจึงต้องมีความพร้อม ความมั่นคงด้านหน้าที่การงานด้วย เพื่อให้เด็กคนนั้นได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี และจะได้ไม่เป็นปัญหาในอนาคต ดังนั้นไม่ว่าคุณจะรักเด็กมากแค่ไหน ก็คงสามารถรับเลี้ยงมาเลี้ยงได้แค่ 1 หรือ 2 คนเท่านั้น แต่สำหรับ Sindhutai Sapkal เธอสามารถรับเด็กเป็นลูกบุญธรรมได้มากถึง 1,400 คน และทุกคนก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี Sindhutai Sapkal วัย 68 ปี มีความมุ่งมั่นในการเป็นแม่ให้กับเด็กที่ไม่มีใครต้องการ โดยนอกจากมอบอาหารและที่พักให้แล้ว เธอก็รักพวกเขาเหมือนคนในครอบครัวจริงๆ ด้วย ด้วยความเมตตาที่น่าทึ่งนี้ ทำให้ Sapkal ได้รับรางวัลมากกว่า 750 รางวัล และยังได้รับยกย่องให้เป็น “มารดาแห่งการอุปถัมภ์” ด้วย Sapkal มีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า 4 ที่ ใน Prune รัฐมหาราษฏระของอินเดีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอเอง โดยแบ่งเป็นสำหรับเด็กผู้หญิง 2 ที่ และเด็กผู้ชายอีก 2 ที่ โครงการของ Sapkal ได้รับความช่วยเหลือจาก Mamta ซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆ…
-
แม่พิทบูลขี้ระแวง ยอมให้มนุษย์นำตัวลูกทั้ง 8 ตัวไป เพื่อให้ลูกได้อยู่ในที่ปลอดภัย
การช่วยเหลือสัตว์สักตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะสัตว์ไม่รู้ว่ามนุษย์เข้าหานั้นจะมาดีหรือมาร้าย พวกมันก็มักจะระมัดระวังตัวไว้ก่อนเสมอ เพราะการที่จะช่วยเหลือสัตว์นั้นคุณต้องเรียนรู้วิธีการเข้าหามันด้วย โดยเฉพาะการทำให้มันเชื่อใจ อย่าง Rainbow แม่หมาที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ เพราะมันไม่ไว้ใจใครเลย Rainbow เป็นสุนัขจรจัดสายพันธุ์พิทบูล มันอาศัยอยู่ข้างถนนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ในทุกๆ วันมันต้องเอาชีวิตรอดอย่างยากลำบาก แต่ไม่นานหลังจากนั้น Rainbow ก็คลอดลูกอีก 8 ตัว ยิ่งทำให้มันลำบากมากขึ้น เพราะมันต้องปกป้องลูกให้ดีที่สุด และยิ่งไปกว่านั้นวันที่มันคลอดลูกก็เป็นช่วงที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักพอดี มันจึงพาลูกๆ ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย โชคดีที่ตอนนั้นทาง Hope for Paws ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีให้ไปช่วย Rainbow และลูกๆ ออกมาจากตรงนั้น แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินทางมากถึง 3 ชั่วโมงครึ่งกว่าจะมาถึงเป้าหมาย ฝนยังคงตกลงมาไม่หยุด และเวลาก็ค่ำมืดแล้วด้วย ทำให้ภารกิจช่วยเหลือในครั้งนี้ค่อนข้างลำบาก โดยแม่หมาได้พาลูกๆ ไปหลบอยู่ในพุ่มไม้แห่งหนึ่ง Rainbow ให้ลูกทุกตัวเข้ามาอยู่ใต้ท้องของมันเพื่อให้ความอบอุ่น… ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน มีหลายคนจะให้ความช่วยเหลือ Rainbow แต่มันไม่ไว้ใครเลย เอาแต่วิ่งหนี จนกระทั่งวันที่มันคลอดลูก มันจึงคิดได้ว่าต้องยอมให้มนุษย์ช่วยเหลือสักที เมื่อ Eldad Hagar ผู้ก่อตั้ง Hope for…
-
เผยโฉมหมอนวิเศษแพงที่สุดในโลก ราคาใบละเกือบ 2 ล้าน เหมาะกับทุกสรีระร่างกาย!!
การจะซื้อหมอนสักใบ เราก็คงคำนึงแค่ความหนานุ่มของมัน และราคาที่สมเหตุสมผล ว่าแต่หมอนที่เพื่อนๆ เคยซื้อกันนั้น มีราคาแพงที่สุดเท่าไหร่? แล้วมันจะแพงเท่าหมอนใบนี้หรือเปล่า เพราะนี่คือหมอนที่ราคาแพงที่สุดในโลก ด้วยราคาประมาณ 1,970,000 บาท อู้ววว นี่มันบ้าไปแล้ววว!! มาดูกันดีกว่าว่าทำไมหมอนใบนี้ถึงมีราคาสูงลิ่วขนาดนี้ หมอนใบนี้ได้รับการพัฒนาโดย Thijs van der Hilst นักกายภาพบำบัดชาวดัตช์ ที่ทุ่มเทเวลากว่า 15 ปี Hilst เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอ เขาได้พัฒนาหมอนที่ทำจากผ้าไหมมัลเบอร์รี่ ผ้าฝ้ายอียิปต์ โฟมปลอดสารพิษ และผ้าทอง 24 กะรัต ส่วนซิปของหมอนนั้นทำด้วยแกนที่มีเพชรฝังอยู่ 4 ชิ้น และมีพลอยไพลินขนาดใหญ่อีก 22.5 กะรัต ทีนี้รู้แล้วสิว่าทำไมมันถึงแพงขนาดนี้ ถึงแม้จะเป็นหมอนราคาแพงที่สุดในโลกแต่ Hilst ก็ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มันเป็นหมอนสำหรับบรรดามหาเศรษฐีหรือผู้ร่ำรวย แต่เขาทำขึ้นมาเพื่อคนไข้ของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการผลิตหมอนใบนี้เพื่อขายเป็นจริงเป็นจัง เขาแค่ต้องการแก้ปัญหาให้คนไข้ และแก้นิสัยการนอนหลับให้คนที่ชอบนอนผิดท่าด้วย เขาบอกว่า “ผมเคยแน่นำคนไข้ให้หาหมอนดีๆ มาหนุน แต่ก็มาคิดขึ้นได้ว่า ไหนล่ะหมอนดีๆ ในโลกนี้ เพราะไม่มีหมอนที่ดีพอสำหรับคนไข้ของผมเลย” ก็อย่างที่รู้แหละว่า…
-
กิจกรรมในชีวิตประจำวันจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แค่ลองมองมุมกลับ ปรับมุมมอง เอ้าเริ่ม!!
หากคุณกำลังรู้สึกเบื่อกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ลองเปลี่ยนมุมมองดูสิ แล้วจะรู้ว่าสิ่งที่เราพบเห็นอยู่ทุกวันนี้ มันอาจจะมีอะไรที่ซ่อนอยู่มากกว่านั้นก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันก็ไม่ได้มีสาระที่จะพลิกชีวิตของคุณหรอก แต่มันจะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับจินตนาการเล็กๆ น้อยๆ เป็นการเติมสีสันในชีวิตที่น่าเบื่อยังไงล่ะ 1. รูปร่างไก่ตัวนี้เหมือนคนกำลังทำหน้าโมโหเลย 2. เห็นเงานั่นมั้ย เหมือนหน้าคนมีหนวดเลย 3. เอ๋ ทำไมหน้าเหมือนเราจัง 4. ม้วนพลาสติกที่ดูเหมือนตัวประหลาดไรสักอย่าง 5. โอ้วววแม่สาวน้อย มาทอดหุ่นอยู่นี่เอง 6. เหมือนรองเท้ากำลังคิดแผนร้าย 7. อาจจะมีปีศาจแฝงอยู่ในรถก็เป็นได้ 8. ไข่คงจะร้อนมาก เลยแปลงร่างเป็นหน้าผีซะเลย 9. เมาแอ๋เลย 10. ดูสิ ทำเหมือนไม่อยากออกจากบ้านงั้นแหละ 11. ขี้นกเป็นรูปเป็นร่างเชียว 12. เห็นเหมือนกันมั้ย หมีทำหน้ายิ้ม 13. อุโมงค์ที่พร้อมจะกลืนทุกอย่าง 13. นี่กล้องวงจรปิด…
-
อู้วว!! ญี่ปุ่นโปรโมทออนเซน ให้หนุ่มหุ่นล่ำมาเล่นน้ำ จนไม่รู้ว่าจะต้องโฟกัสที่อะไรดี
ถ้าคุณชอบผู้ชายล่ำๆ กล้ามแน่นๆ บอกได้เลยคุณมาถูกทางแล้ว เพราะนี่คือการโปรโมทน้ำพุร้อนออนเซนที่ใช้ผู้ชายหุ่นล่ำกล้ามปูเป็นพรีเซนเตอร์ จนคุณต้องร้องอู้วว้าวววว ปกติการโฆษณาอะไรเกี่ยวกับอาบน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสบู่ หรือห้องน้ำก็มักจะใช้ผู้หญิงเป็นพรีเซนเตอร์เสมอ แต่เราจะได้เห็นผู้ชายเป็นพรีเซนเตอร์เต็มๆ บ้างก็ครั้งนี้แหละ เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น กิจกรรมที่หลายๆ คนชอบทำคือการไปแช่ออนเซน ทำให้มีการเปิดบ่อออนเซนมากมายในญี่ปุ่น ทีนี้ก็อยู่ที่กลยุทธ์การโฆษณาแล้วล่ะ ว่าเจ้าไหนจะดึงดูดลูกค้าได้มากกว่ากัน แต่ ณ จุดจุดนี้คงต้องยกให้จังหวัดอิบะระกิ บนชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชูในประเทศญี่ปุ่น ที่ทำการโปรโมทบ่อออนเซนได้ถึงพริกถึงขิงสุดๆ เพราะพวกเขามีการโปรโมทที่เหนือชั้น โดยการใช้พรีเซนเตอร์เป็นหนุ่มหุ่นล่ำ ให้เข้าไปเล่นน้ำในบ่อออนเซน จากนั้นก็ทำเป็นวิดีโอสโลว์โมชั่น ยั่วยวนมากเลยค่ะคุณขา และไม่ได้มีวิดีโอแค่ชุดเดียวนะ แต่ได้ทำออกมาถึง 3 ชุด 3 สถานที่ด้วยกัน นั่นก็คือที่ Isohara Seaside Hotel, Marumitsu Ryokan และ Yu No Sawa Spa โดยแต่ละที่จะให้ความฟีลที่แตกต่างกันอีกด้วย อันนี้ถ่ายทำที่ Isohara Seaside Hotel คอนเซ็ปของการโปรโมทในครั้งนี้คือ แข็งแรง ผ่อนคลาย สวยงาม…
-
โมเม้นน่ารัก เมื่อเจ้าตูบแสนรู้บริการส่งทิชชู่ให้เจ้านายถึงที่ จนต้องหลงรักซ้ำแล้วซ้ำอีก
การมีสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้านเนี่ยมันดีต่อใจนะ เพราะพวกมันชอบทำตัวน่ารักและทำให้เรามีความสุขอยู่เรื่อยเลย นอกจากนี้พวกมันยังช่วยเหลือเราในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้ด้วยนะ ดูอย่าง Ozzy เจ้าหมาแสนรู้ตัวนี้สิ จริงๆ มันก็เหมือนสุนัขทั่วไปนี่แหละ อาจจะมีเล่นซนบ้าง ทำลายข้าวของบ้าง แต่หลังจากที่มันทำความดีให้เจ้าของเพียงครั้งเดียว ความผิดเหล่านั้นก็ถูกลืมทันที เจ้าของเจ้าตูบตัวนี้ชื่อ Sabina ที่อยู่บ้านกับแฟนหนุ่ม ในวันนั้นทั้งคู่เกิดปวดท้องขึ้นมาพร้อมกัน แต่โชคดีนะ ที่มีห้องน้ำสองห้อง พวกเขาจึงแยกกันไปทำธุระส่วนตัวคนละห้อง แต่ปัญหาคือ Sabina ลืมดูว่าห้องน้ำที่เธอเข้านั้น ไม่กระดาษทิชชู่ กว่าจะรู้ตัวก็ทำธุระเสร็จซะแล้ว จะทำยังไงดีละเนี่ย แฟนก็อยู่ในห้องซะด้วย หญิงสาวเล่าว่า “ตอนที่ทำธุระเสร็จ ก็หากระดาษทิชชู่ แต่ไม่มีค่ะ ฉันก็เลยตะโกนเรียกแฟนให้เอาทิชชูมาให้ แต่เขาเองก็ยังทำธุระไม่เสร็จ” “ดังนั้นเขาจึงเรียก Ozzy ให้ไปหาในห้องน้ำ สักพักเขาก็ตะโกนมาบอกฉันว่า ‘เรียก Ozzy ให้ไปหาสิ’ ครั้งแรกฉันก็งงนะว่าให้เรียกทำไม แต่ก็ลองเรียกดู” เธอบอก และเมื่อ Ozzy มาถึงห้องน้ำที่หญิงอยู่ ดูสิ เจ้าหมาแสนรู้มาพร้อมกับทิชชูก้อนโต ที่แฟนของหญิงสาวใช้สายชาร์จโทรศัพท์คล้องไว้กับคอของมัน ถ้าเป็นสุนัขทั่วไป ป่านนี้ทิชชู่คงถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดีแล้ว แต่ Ozzy ไม่ทำเช่นนั้น มันคล้องทิชชู่แล้วเดินไปตามเสียงเรียกอย่างว่านอนสอนง่าย Sabina บอกว่า…
-
‘แข่งควบม้าปลอม’ กีฬาสุดฮิตในหมู่วัยรุ่นฟินแลนด์ คล้ายกับขี่ม้าก้านกล้วยในบ้านเรา!!
ตอนเด็กๆ หลายคนคงจะเคยเล่นม้าก้านกล้วย แหม่ ตอนนั้นควบก้านกล้วยทีไรรู้สึกเหมือนได้ควบม้าจริงๆ เลย วิ่งไปร้องฮี่ๆ ไป แต่พอโตขึ้นเราก็เลิกเล่นไปเสีย สำหรับเรามันอาจจะเป็นการละเล่นแบบเด็กๆ สมัยก่อน แต่ชาวฟินแลนด์นั้นโดยเฉพาะผู้หญิง มองการขี่ม้าปลอมเป็นมากกว่าการละเล่นธรรมดา แต่มันคือกีฬาที่เรียกว่า Hobbyhorsing ดังนั้นพวกเขาจึงต้องฝึกฝนวันละ 1-2 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันขี่ม้าปลอมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในฟินแลน์ ม้าปลอมของชาวฟินแลนด์ไม่ได้ทำจากก้านกล้วยเหมือนบ้านเรานะ แต่เป็นการเอาหัวตุ๊กตาม้ามาเสียบกับไม้ แล้วก็จินตนาการว่ามันเป็นม้าจริงๆ ในการแข่งขั้นนั้นพวกเขาจะควบม้าปลอม แล้วกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ โดยผู้เข้าแข่งขันต้องสรรหาท่ากระโดดที่น่าประทับใจที่สุดเพื่อเรียกคะแนนจากคณะกรรมการ สำหรับกีฬาแข่งขี่ม้าปลอมนี้ได้กลายเป็นกีฬาที่ได้รับความสนใจ ในประเทศฟินแลนด์มานานกว่า 10 ปี แล้ว แต่เพิ่งจะได้รับความสนใจจากต่างชาติเมื่อไม่นาน หลังจากผู้กำกับ Selma Vilhunen ที่โพสต์ภาพกีฬาแปลกๆ นี้ลงในอิสตาแกรม เธอรู้สึกทึ่งกับกีฬานี้มาก ถึงกับเอาไปทำเป็นหนังเรื่อง Hobbyhorsing Revolution จนทำให้มีการแข่งขันขี่ม้าปลอมเกิดขึ้นทั่วโลก ในขณะที่ฟินแลนด์เองก็มีบทความเกี่ยวกับ Hobbyhorsing ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2017 ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ไม่ใช่แค่ฟินแลนด์เท่านั้น การแข่งขันขี่ม้าปลอมก็เริ่มได้รับความนิยมในประเทศรอบข้างด้วย เช่น สวีเดน นอร์เวย์ เยอรมนีและฝรั่งเศส…
-
สุดยอด 22 ผลงานสร้างสรรค์จากนักคิดทั่วโลก กับรางวัลชนะเลิศบนเวทีการออกแบบแห่งปี!!
การผลิตอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อวางขายในตลาด นอกจากเพื่อการนำไปใช้ประโยชน์แล้ว ยังจต้องมีการออกแบบให้มีความน่าสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้าอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ในแต่ละปีจึงได้มีการจัดแข่งขันออกแบบผลิตภัณฑ์ภายใต้งาน A’ Design Award & Competition ซึ่งเป็นการประกวดการออกแบบในเชิงสร้างสรรค์ ดังนั้นในทุกๆ ปี งานนี้จะเป็นที่สนใจของบรรดานักออกแบบ นักประดิษฐ์ และนักคิดจากทั่วโลก สำหรับการผลการประกวดระหว่างปี 2016-2017 ก็เพิ่งจะประกาศไปเมื่อไม่นานนี้เองเหมือนกัน ต้องบอกได้เลยว่า แต่ละผลงานที่ได้รับรางวัลนั้น เป็นนวัตกรรมสุดล้ำที่อาจจะเปลี่ยนโลกที่เรารู้จักกันก็เป็นได้ และในการประกวดครั้งนี้ มีผลงานเจ๋งๆ กว่า 1,200 ผลงานเลยล่ะ มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ บรรจุภัณฑ์ งานกราฟิก และสถาปัตยกรรม ผลงานที่ส่งประกวดนี้อยู่ภายใต้พื้นฐานของการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นรางวัลที่ได้จึงไม่ใช้แค่เงินเท่านั้น แต่ผลงานของผู้ชนะจะได้รับการนำไปใช้ในตลาดจริงๆ ด้วย และนี่คือผลงานส่วนหนึ่งที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ดูสิว่าแต่ละชิ้นจะสร้างสรรค์และน่าสนใจแค่ไหน… ผู้ชนะรางวัลการออกแบบบรรจุภัณฑ์ 1. Little Pocket นี่คือกล่องเฟรนช์ฟราย ที่มาพร้อมช่องด้านข้างสำหรับใส่ซอส ซึ่งเป็นบรรุภันฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคด้วย 2. บรรจุภัณฑ์ของ Marais Piano Cake ไม่บอกก็รู้ว่าบรรจุภัณฑ์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเปียโน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่มีตัวโน๊ตเรียงกันอยู่ และแต่ละตัวนั้นก็มีเสียงที่แตกต่างกัน แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว …
-
‘Monster’ แมวจรมีดวงตาเป็นอาวุธ ใครจ้องเป็นต้องหลงรัก ใช้สะกดจิตจนได้บ้านมาแล้ว
ทุกวันนี้มีแมวจรจัดอยู่มากมาย และแม้ว่าเราจะรักสัตว์มากแค่ไหน เราก็คงไม่เก็บพวกมันมาเลี้ยงทุกตัวหรอกใช่มั้ย แต่สำหรับตัวที่เราตัดสินใจรับมาเลี้ยงนั้น แสดงว่ามันต้องเกิดมาเพื่อเราจริงๆ และคงจะมีบางอย่างบอกให้เราเก็บมันมาเลี้ยง อย่างลูกแมวตัวนี้ที่เรียกร้องความจากมนุษย์ด้วยการร้องไห้ สุดท้ายมนุษย์ก็ต้องใจอ่อน เลยต้องรับมันมาอยู่บ้านด้วยเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว lilbitpink ผู้ใช้จากเว็บไซต์ reddit เล่าให้ฟังว่า “ตอนที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงลูกแมวตัวหนึ่งร้อง ผมก็เลยตามหาเจ้าของเสียงนั้น” และแล้วเขาก็เจอลูกแมวตัวหนึ่งติดอยู่ในท่อน้ำ มันกำลังนั่งร้องไห้ขอความช่วย เพื่อให้ใครสักคนพามันออกไป จากนั้นเขาก็พยายามนำลูกแมวออกมาด้วยความระมัดระวัง เพราะมันตัวเล็กมากๆ หลังจากที่นำเจ้าเหมียวออกมาได้ เขาก็จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ และเมื่อมองหน้ามันแล้ว เหมือนมันต้องการจะบอกว่า “ขอบคุณนะมนุษย์” แทนที่เขาจะให้เอาไปส่งให้ศูนย์พักพิงสัตว์ แต่ lilbitpink ตัดสินในจะเลี้ยงไว้ในบ้านของตัวเอง และตั้งชื่อให้มันว่า Monster แล้ววันหนึ่งเขาก็สังเกตว่า Monster นั้นมีดวงตาแปลก ไม่เหมือนกับแมวทั่วไป ลักษณะตาของมันเหมือนตาสไปเดอร์แมนเลย เขาเลยไปมันไปหาหมอ จึงได้รู้ว่าลูกแมวตัวนี้มีความบกพร่องมาตั้งแต่เกิดจนทำให้มีลักษณะตาแบบนี้ แต่โชคดีนะที่ความบกพร่องนี้ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับมัน อย่างไรก็ตามเจ้า Monster ยังคงมีร่างกายที่อ่อนแอมาก เพราะมันเคยใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนมาก่อน lilbitpink จึงป้อนข้าว ป้อนน้ำ เช็ดตัวให้ทุกวัน จนร่างกายมันค่อยๆ แข็งแรงขึ้น เมื่อได้อยู่ด้วยกันทุกวัน ดูแลกันทุกวัน…
-
รวม 11 หมู่บ้านและเกาะที่ถูกสัตว์น่ารักเข้าครอบครอง และพร้อมต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตร
สวรรค์ของคนรักสัตว์ก็คงจะหนีไม่พ้นการได้อยู่ท่ามกลางสัตว์ผู้น่ารักมากมาย แต่นี่จะไม่ใช่แค่ความฝันนะ เพราะมันมีแหล่งที่สัตว์รวมตัวกันเพื่อมอบความฟินให้คนรักสัตว์อยู่บนโลกนี้จริงๆ และไม่ใช่แค่ที่เดียวที่เป็นเช่นนั้น มีอยู่หลากหลายที่ทั่วโลกรอให้คุณเข้าไปสัมผัส จะมีที่ไหนบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ 1. หมู่บ้านหมาจิ้งจอก ประเทศญี่ปุ่น หมู่บ้านหมาจิ้งจอกตั้งอยู่ในจังหวัดมิยากิของญี่ปุ่น มีสุนัขจิ้งจอกอาศัยอยู่มากกว่า 100 ตัว ที่ประกอบไปด้วย 6 สายพันธุ์ โดยทั้งหมดนี้อยู่อย่างอิสระในป่าใหญ่ คนที่จะเข้าไปหาแก๊งหมาจิ้งจอกเหล่านี้ต้องจ่ายค่าเข้า 200 บาท และคุณยังสามารถให้อาหารพวกมันได้อีกด้วย สำหรับคนญี่ปุ่นนั้นถือว่า สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่มีพลังความลึกลับและจะนำความโชคดีมาให้ 2. เกาะกระต่าย เกาะกระต่ายรู้จักกันในชื่อ Okunoshima ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ อยู่นอกชายฝั่งของจังหวัดฮิโระชิมะ ซึ่งเป็นที่อยู่ของสัตว์กว่า 100 ชนิด แต่มีเพียงกระต่ายเท่านั้นที่มักจะเข้าไปรุมล้อมนักท่องเที่ยวเพื่อแย่งอาหาร จริงๆ ไม่มีใครรู้ว่า เกาะแห่งถูกกระต่ายยึดได้อย่างไร แต่ในช่วงปี 1930 ถึง 1945 เกาะแห่งนี้ถูกใช้เป็นพื้นที่ทดสอบยาพิษ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการจับกระต่ายมาเป็นหนูทดลองด้วย ใครที่มาเกาะกระต่ายพร้อมอาหาร ก็จะถูกกระต่ายไล่ตามเป็นฝูงแบบนี้แหละ 3. เกาะปู บนเกาะคริสต์มาสคาดว่ามีปูมากกว่า…
-
มหาเศรษฐีสาว อายุน้อยที่สุดในโลกด้วยวัยเพียง 20 ปี เที่ยวรอบโลกด้วยวงเงินไม่จำกัด!!
การจะเป็นเศรษฐี ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ อย่างที่คิด กว่าจะไปถึงจุดนั้นก็ต้องทำงาน ต้องใช้ความพยายามถึงจะเป็นได้ บางคนกว่าจะได้เป็นเศรษฐีก็อายุมากแล้ว เลยเหลือเวลาเผาผลาญสมบัติไม่มากนัก แล้วจะดีแค่ไหนถ้าคุณได้เป็นเศรษฐีตั้งแต่อายุยังน้อย อื้อหือ ถ้าเป็น #เหมียวขี้ส่อง นะ จะไม่ทำอะไรเลย วันๆ จะใช้เงินอย่างเดียว มีความคิดอยากจะทำอะไรก็จะทำให้หมด!! สำหรับคนที่ขี้เพ้อฝันแบบนี้ คงต้องอิจฉาเธอคนนี้แน่ๆ เลย เพราะเธอคือเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น Alexandra Andresen วัย 20 ปี เป็นแชมป์ขี่ม้าเยาวชน 3 สมัย และเธอยังเป็นที่รู้จักในฐานะมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลกด้วย โดยมีสมบัติมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท การเป็นเศรษฐีในวัยเท่านี้ ทำให้ Alexandra มีทางเลือกมากมายในชีวิต ไม่ว่าเธออยากทำอะไร หรือไปที่ไหน เธอก็จะสามารถทำมันได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็มีเงินเหลือเฟือเหลือใช้แทบจะทั้งชีวิตแล้ว และสิ่งที่มหาเศรษฐีสาวคนนี้อยากทำก็เป็นสิ่งที่วัยรุ่นทุกคนอยากทำนั้นแหละ นั่นคือการไปเที่ยวรอบโลก โอ้ยยย น่าอิจฉาไปไหน หลายคนคงสงสัยว่าทำไมหญิงสาวอายุ 20 คนนี้ถึงกลายเป็นเศรษฐีได้ นั้นเป็นเพราะครอบครัวของเธอเป็นเจ้าของแบรนด์ยาสูบที่ชื่อ Tiedemanns ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในประเทศนอร์เวย์ …
-
ภาพบรรยากาศของ ‘โตเกียวในยามค่ำคืน’ ที่เหลือเพียงแสงสีและความเหงาที่คุณก็สัมผัสได้
โตเกียวนับเมืองที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก ที่นี่จึงมักจะเต็มไปด้วยผู้คนตลอดทั้งวัน สำหรับในตอนกลางคืนนั้นก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน เพราะจะมีแสงสีสว่างไสวตลอดคืน แต่น้อยคนที่จะได้เห็น ภาพเหล่านี้ถ่ายโดย Masashi Wakui ซึ่งเป็นภาพบรรยากาศโตเกียวตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืน มีผู้คนบางตา เนื่องจากรถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายจะออกเวลา 00.30 น. หลังจากนั้นโตเกียวก็เหลือเพียงแค่แสงจากไฟนีออนกับความเหงาที่คุณเองก็สัมผัสได้ Wakui ได้ตามเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบของโตเกียว เพื่อให้เห็นถึงการสิ้นสุดของกิจกรรมต่างๆ ในวันนั้น และเพื่อให้เห็นสภาพของโตเกียวในแบบที่คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย สามารถติดตามผลงานของ Wakui ได้ที่เว็บไซต์ Flickr นะคะ . . . . . . . . . . . . . . ที่มา sobadsogood
-
Knops ชุดอุดหูที่กันเสียงทุกอย่างให้เงียบสงบ จะดังมากแค่ไหนก็ตาม ก็กั้นได้หมด…
การต้องอยู่ในสังคมเมืองแบบนี้ เป็นธรรมดาที่คุณต้องยินเสียงรบกวนบ้าง ทั้งเสียงคน เสียงรถ เสียงการก่อสร้าง เสียงผู้คนทะเลาะถกเถียงกัน หรือในห้องสมุดบางครั้งยังมีเสียงเข้ามารบกวนการอ่านหนังสือของเราเลย แต่จะดีแค่ไหน หากมีตัวช่วยทำให้คุณไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้น ต้องนี่เลย Knops ชุดอุดหูที่สามารถกันเสียงทุกอย่างให้เกิดความเงียบสงบ จะดังแค่ไหนก็ไม่ได้ยิน!! Knops มีรูปทรงคล้ายหีบเสียงที่มีการติดตั้งแผ่นเงินและทอง โดยขอบของชุดเก็บเสียงนี้สามารถหมุนได้ ใช้สำหรับการปรับโหมดการเก็บเสียง ที่มีให้เลือกถึง 4 โหมดด้วยกัน นั่นก็คือ โหมดกำจัดเสียง ปิดเสียงรบกวนจากสังคมเมือง ปิดเสียงดนตรี และปิดเสียงทั้งหมด นอกจากช่วยในการปิดเสียงแล้ว ชุดเก็บเสียงตัวนี้ยังช่วยถนอมหูของผู้ใช้อีกด้วย เพราะในแต่ละวันคุณต้องเจอกับเสียงที่มีความหลากหลาย แต่เมื่อคุณมาใช้ชุดเก็บเสียงนี้ มันจะช่วยปรับเสียงที่เหมาะสมกับหูของคุณ สำหรับผู้คิดค้น Knops คือ หัวหน้าวิศวกร Arjen De Jong โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Koen Brouwer และ Quinten Huigen ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Thunderplugs เป็นแบรนด์ปลั๊กอุดหูซิลิโคนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ปัจจุบัน Knops อยู่ระหว่างการระดมทุนเพื่อนำไปสู่การผลิตภายใต้แคมเปญในเว็บไซต์ Kickstarter ซึ่งตอนนี้มียอดสบทบทุนมากถึง 5.3 ล้านบาทแล้ว ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการระดมทุน อาจจะมีการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในอนาคต แฟนเก่าขี้บ่น ไม่อยากจะฟัง…
-
ตำรวจจับแพะจริงๆ!! ลูกแพะเดินซนจนหลง คุณตำรวจต้องคุมตัว พาไปส่งบ้านอย่างปลอดภัย
แค่ได้ยินว่าตำรวจจับแพะก็รู้สึกโมโหแล้ว เป็นตำรวจทำแบบนั้นยังไง ห๊า!! เดี๋ยวๆ ใจเย็น เจอแบบนี้อาจจะทำให้เข้าใจผิดว่า ตำรวจไปจับคนบริสุทธิ์มารับโทษแทนคนร้ายตัวจริง แต่กรณีนี้ก็คือ ตำรวจจับแพะ แพะจริงๆ ที่ร้องแบ๊ะ!! เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมือง Maine ใน Sergeant Daniel Fitzpatrick เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงคนหนึ่งว่าพบลูกแพะสองตัวอยู่ในโรงรถ กำลังกินอาหารแมวที่เธอวางเอาไว้ให้แมว จริงๆ แล้วก่อนที่เธอจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ เธอพบลูกแพะสองตัวนี้บนถนนแห่งหนึ่ง ลักษณะเหมือนมันหลงทางมา เธอจึงพาพวกมันมาอยู่ที่โรงรถโดยปิดประตูเอาไว้ ก่อนที่จะโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Belfast Police Department ในเวลาต่อมา สำหรับกรมตำรวจ Belfast Police Department นอกจากดูแลเรื่องทุกข์สุขของประชาชนแล้ว พวกเขายังเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ในเมือง Belfast ด้วย เมื่อ Fitzpatrick หนึ่งในแจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงโรงรถ พวกเขาก็เห็นลูกแพะสองตัวกำลังกินอาหารแมว และกระโดดไปมาอย่างมีความสุข ต่อมาตำรวจก็ได้ทำการพาลูกแพะทั้งสองตัวออกจากโรงรถหญิงคนดังกล่าวได้สำเร็จ และรู้ว่าพวกมันทั้งสองตัวชื่อ Louis กับ Mowgli ตำรวจพาทั้งสองตัวขึ้นรถ แต่ยังไม่ทันปิดประตู หนึ่งในลูกแพะก็กระโดดลงจากรถและวิ่งหายไป งานเข้าตำรวจอีกครั้ง เพราะตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่ามันวิ่งไปหนีหายไปทางไหนแล้ว Fitzpatrick ต้องใช้เวลากว่า…
-
‘ดอกมังกร’ พืชธรรมชาติสุดแปลก ที่มีลักษณะเหมือนหัวกะโหลก เมื่อแห้งเหี่ยวเฉาตามกาลเวลา
ผู้หญิงสวยมักจะถูกเปรียบเทียบกับดอกไม้ ที่มีทั้งความสวย ทั้งกลิ่นหอมและน่าสัมผัส ยิ่งถ้าชายหนุ่มได้มีโอกาสเด็ดมาดมนะ คงจะฟินสุดๆ ไปเลยล่ะ แต่ช้าก่อน เพราะดอกไม้มันไม่ได้มีความสวยงาม น่าสัมผัสเสมอไป มันออกจะน่ากลัวปนสยองเสียด้วยซ้ำ จนสาวๆ ไม่อยากถูกเปรียบเป็นดอกไม้อีกแล้วก็เป็นได้ ดอก Snapdragon หรือ ดอกมังกร เป็นหนึ่งในพืชที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสวนทั่วยุโรป อเมริกา และแอฟริกาเหนือ การที่ดอกชนิดนี้ถูกตั้งชื่อว่า ดอกมังกร ก็เพราะมันมีลักษณะเหมือนปากมังกรที่มีการเปิดและปิด และหากคุณลองบีบดอกนี้เบาๆ คุณก็จะได้เห็นด้านมืดของมันอีกระดับหนึ่ง ดอกมังกรนี้มีที่มาที่ไปที่เป็นตำนานด้วยนะ ตามความเชื่อโบราณบอกว่า มันมีพลังเหนือธรรมชาติแฝงอยู่หากปลูกไว้ในบ้าน จะช่วยป้องกันคำสาป และขจัดปัดเป่าโรคร้าย หรือถ้าเอาไปให้ผู้หญิงกิน จะทำให้ไม่แก่ ไม่เฒ่า เป็นสาวตลอดกาล ต่อมาในยุควิคตอเรีย ดอกมังกรถูกตั้งให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการหลอกลวง ความสงสัย ความลึกลับ เพราะมันมีรูปร่างที่แปลกประหลาด แต่หากใครที่ซ่อนดอกชนิดนี้ไว้ในเสื้อผ้า จะทำให้บุคคลนั้นมีเสน่ห์และน่าหลงใหล ว่าแต่ทำไม้ดอกที่ทำให้มีเสน่ห์และมีความสง่างามถึงมีรูปลักษณะเหมือนกะโหลกเช่นนี้ล่ะ? Johanna L. Roose นักชีวเคมีบอกว่า “รูปร่างที่คล้ายกะโหลกนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ดอกไม้ได้รับการผสมเกสร และกลีบที่ค่อยๆ เหี่ยวไปตามกาลเวลา และการที่มันมีรูปร่างเปลี่ยนไปคล้ายกะโหลกเป็นเพราะว่า เกสรตัวเมียมีละอองเรณูและรูปร่างที่เกิดจากช่องรังไข่ เมื่อมันถูกทิ้งไว้จนตายก็จะเกิดช่องโหว่ที่มีลักษณะคล้ายเบ้าตาและช่องปาก …
-
เจ้าหมาถูกจับถ่ายรูปทั้งที่ไม่เต็มใจ ชักสีหน้างอแงแรง ตรูกำลังเห่อสนามหญ้าใหม่อยู่!!
ความคาดหวังของคนเลี้ยงสุนัขก็คงอยากจะถ่ายรูปสวยๆ คู่กับหมาตัวโปรดสักรูปแหละ แต่จะรูปที่ออกมาดีตามคาดหรือไม่นั้น คงต้องดูที่เจ้าตูบของเราด้วยว่ามันจะให้ความร่วมมือหรือเปล่า… Kaycee Marie เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากถ่ายรูปคู่กับ Doobie น้องหมาตัวโปรดวัยสองเดือนครึ่งของเธอ แล้วดูสิน้องหมาจะให้ความร่วมมือมั้ย? ปกติแล้วหญิงสาวก็ถ่ายรูปกับ Doobie บ่อยๆ นะ และมันก็จะให้ความร่วมมือด้วยการยิ้มหวานอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะพิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะน้องหมาแสดงอาการเหมือนไม่อยากถ่ายรูปด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว ฮร่า ภาพนี้เป็นวันที่ Marie เพิ่งจะกลับจากงานพรอม แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนชุด เธอก็อยากถ่ายรูปสวยๆ กับน้องหมาตัวโปรดสักรูปหนึ่ง ว่าแล้วหญิงสาวก็จับน้องหมาขึ้นมา แล้วทำท่าเหมือนจูบ พลางคิดในใจรูปนี้ต้องออกมาสวยมากแน่ๆ ภาพแรกผ่านไป ออกมาดูดีใช้ได้นะ ภาพสอง ภาพสาม ค่อยๆ ผ่านไป… แต่พอจะถ่ายอีก มันก็ทำการหักหลังเจ้าของทันที ด้วยการทำหน้าแปลกๆ และแสดงทีท่าต่อต้านทันที หญิงสาวเองยังงงเลยว่าทำไมมันถึงแสดงอาการเช่นนี้ และแล้วเธอก็ได้รู้ว่าที่มันไม่ยอมถ่ายรูปสวยๆ ด้วย ก็เพราะมันกำลังตื่นเต้นกับสนามหญ้าใหม่ มันต้องการจะวิ่งเล่นมากกว่าจะมาถ่ายรูปตอนนี้ ก็หมามันพูดไม่ได้นี่หว่า อยากจะบอกความรู้สึกยังไงก็บอกไม่ได้ เลยต่อต้านด้วยการแสดงออกทางสีหน้านี่แหละ ได้ผลทันตาเห็น เจ้าของปล่อยตัวปุ๊บมันรีบวิ่งไปเล่นทันที ดู๊ดูมันทำหน้า แต่ต่อให้มันจะแสดงอาการต่อต้านขนาดนี้ มันก็ยังคงเป็นสุนัขที่น่ารักที่สุดอยู่ดี…
-
Lilium Jet รถยนต์ไฟฟ้าบินได้ ไม่ต้องใช้รันเวย์ขึ้น-ลง แค่ใช้แรงดันเจ็ทก็ลอยขึ้นแล้ว!!
โดยปกติแล้วการนำเครื่องบินขึ้นสู่ฟากฟ้าหรือลงจอดได้นั้นจำเป็นต้องรันเวย์เสมอ ส่วนระยะทางนั้นขึ้นอยู่กับตัวเครื่องบินอีกที และแนวคิดในอนาคตที่ว่าจะมีรถยนต์บินได้มาทดแทนเครื่องบินนั้นยังคงเป็นเรื่องที่ดูห่างไกลอยู่ แต่ตอนนี้ Lilium Aviation ได้เผยคลิปวิดีโอ ความสำเร็จของการทดสอบนำรถยนต์บินขึ้น-ลง โดยไม่ใช้ต้องใช้รันเวย์ แต่สามารถขึ้นและลงจอดได้ทันที สำหรับรถยนต์บินดังกล่าวนี้ จะมีการติดตั้งเจ็ทไฟฟ้าถึง 36 ตัวไว้ที่บริเวณปีก และเมื่อจะนำเครื่องออก จะเกิดแรงดันจากเจ็ทไฟฟ้า ซึ่งแรงพอที่จะทำให้เครื่องลอยขึ้นได้เหมือนเฮลิคอปเตอร์ ในขณะที่เรื่องบินลอยขึ้นสู่อากาศ แรงดันจากปีกทั้งสองข้างจะเปลี่ยนทิศทางเป็นแนวนอน ทำให้เครื่องสามารถลอยอยู่กลางอากาศได้ดี และเมื่อถึงเวลาที่จะเอาเครื่องลง แรงดันจากปีกก็จะเปลี่ยนเป็นแนวตั้งเหมือนตอนนำขึ้น ทำให้เครื่องสามารถลงจอดได้ตรงๆ โดยไม่ต้องร่อนเหมือนเครื่องบินทั่วไป Lilium บอกว่า รถยนต์บินดังกล่าวนี้สามารถบรรทุกคนได้ 2 คน และบินได้ประมาณ 300 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง . ที่มา theverge
-
คุณยายวัย 70 ปีหาเงินเพื่อรักษาลูกสาวบุญธรรม ภายใต้มาสคอตมินนี่ผู้ร่าเริง…
ปกติแล้วเวลาไปเที่ยวสวนสนุกเรามักจะเห็นมาสคอตตัวการ์ตูนมาสร้างสีสัน สร้างรอยยิ้มให้เด็กๆ รวมทั้งให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมถ่ายรูปเก็บไว้ แต่เราเคยสงสัยมั้ยว่า ภายใต้มาสคอตหน้ายิ้มนั้น พวกเขากำลังคิดอะไรหรือกำลังทำหน้ายังไงอยู่ พวกเค้าจะมีความความสุขเหมือนมาสคอตที่แต่งมั้ย? และนี่คือเรื่องราวของคุณยายวัย 70 ปี ที่สวมชุดมาสคอตมินนี่เม้าส์ผู้น่ารัก คอยให้ความสนุกกับทุกคน แต่แท้จริงแล้วเธอคือมินนี่ที่เศร้าที่สุด คุณยาย Yin Pizhi แม้จะอายุมากแล้ว แต่เธอก็ยังมาทำงานเป็นมาสคอตในสวนสนุก ไม่ใช่เพราะชอบ แต่จำเป็นต้องทำเพื่อหาค่ารักษาพยาบาลให้ลูกบุญธรรม People’s Daily Online รายงานว่า ลูกสาวบุญธรรมของ Pizhi ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากจนครอบครัวไม่อาจจ่ายได้ ด้วยเหตุนี้ Pizhi จึงตัดสินใจมาทำงานในสวนสนุกด้วยการแต่งชุดมาสคอตเป็นมินนี่เม้าส์ทุกวัน ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปด้วย แลกกับเงิน 5-25 บาทต่อรูป โดยจะรวบรวมเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนชุดมินนี่เม้าส์นี้เธอก็ไม่ได้ซื้อเอง แต่ยืมมาจากลูกชายของเพื่อนอีกที และมันไม่ใช่งานง่ายเลยสำหรับผู้หญิงสูงวัยอย่างเธอ เพราะต้องทนอยู่กับความร้อนอบอ้าวภายในชุด แต่ก็ต้องอดทนไว้เพื่อลูกสาว การแต่งเป็นมินนี่ทำให้คุณยายต้องทำตัวร่าเริงตลอดเวลา ต้องก้มลงไปคุยหรือถ่ายรูปกับเด็กๆ บ่อยๆ เมื่อทำงานเป็นเวลานานๆ บวกกับอากาศที่ร้อนมากๆ เธอจึงต้องพักบ่อยกว่าคนอื่นๆ เพราะอายุมากแล้วจึงเหนื่อยง่าย ตอนนี้ Wang Hai-mei ลูกสาวของเธอนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล Ningjin…
-
เด็กหญิงผิวเผือก ผู้มีความงามที่โดดเด่น จนได้รับเชิญให้เป็นนางแบบจากหน่วยงานทั่วโลก
โรคผิวเผือกนั้นเกิดจากความผิดปกติทางพันธุ์กรรม ซึ่งควบคุมโดยยีนด้อย ทำให้คนที่เป็นโรคดังกล่าวนี้มีความผิดปกติทางร่างกายภายนอก รวมทั้งปัญหาสุขภาพภายในที่มองไม่เห็น และถ้าหากมีอาการมากๆ พวกเขาก็อาจจะสูญเสียโอกาสทางสังคมไปด้วย แต่สำหรับหนูน้อย Nariyana วัย 8 ขวบ คนนี้ แม้จะเป็นโรคผิวเผือก แต่ก็ได้รับข้อเสนอให้เป็นนางแบบมากมายจนมีฉายาว่า ‘สโนว์ไวท์’ Nariyana เกิดที่ Yakutia ในไซบีเรีย โดยสมาชิกในครอบครัวทั้งหมดมีผมสีดำ ส่วนเธอนั้นเกิดมาพร้อมผมสีบลอนด์ และมีผิวพรรณที่เงางามไม่เหมือนใคร เพราะความโดดเด่นเหล่านี้ทำให้มีหน่วยงานในวงการแฟชั่นต่างเสนอให้เธอมาร่วมงานด้วย แต่คุณแม่ของเด็กหญิงยังไม่อยากให้ลูกสาวทำงานหน้ากล้องในขณะนี้ Albert และ Elena พ่อแม่ของเด็กหญิงบอกว่า Nariyana เป็นคนแรกในครอบครัวที่เป็นโรคผิวเผือก เธอชอบเต้นและวาดรูป คุณแม่บอกกับสำนักข่าว Siberian Times ว่า “เราได้รับการติดต่อจากวงการแฟชั่นและหน่วยงานโฆษณาเยอะมาก แต่ฉันยังไม่อยากให้ลูกทำตอนนี้ค่ะ แต่ถ้าโตขึ้นฉันจะให้เลือกทำในสิ่งที่เธออยากทำแน่นอนค่ะ” Nariyana และพี่สาววัย 14 ปี “ปกติแล้วเธอจะชอบเต้นและวาดรูปในเวลาว่างค่ะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอเริ่มหวั่นไหวกับคำเชิญชวนแล้ว เพราะเมื่อถามว่าอยากเป็นอะไร เธอมักจะตอบว่าอยากเป็นนางแบบค่ะ” คุณแม่บอก แต่ครั้งหนึ่ง ช่างภาพ Vadim Rufov ได้มีโอกาสถ่ายรูปเด็กหญิงผิวเผือกคนนี้ เขาเล่าให้ฟังว่า “เธอเป็นเด็กหญิงที่ไม่ธรรมดาที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นเลยครับ” “เธอเป็นเด็กหญิงผิวเผือกที่มีความตั้งใจสูงมาก…
-
สองลูกหมาคิดว่าแมวเป็นแม่ ติดอกติดใจตามตลอด จนย้อมตัวขอสมัครเป็นลูกแมวด้วย!!
โดยปกติแล้วสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มักจะกินนมจากเต้าแม่ของตัวเอง ในขณะที่สัตว์ตัวแม่ก็จะให้นมเฉพาะกับลูกตัวเองด้วย เราจึงไม่ค่อยเห็นพวกมันมันกินนมจากสัตว์ต่างสายพันธุ์สักเท่าไร แต่เจ้าลูกหมาสองตัวนี้มันได้ฉีกกฏที่ธรรมชาติที่เราคาดหวังไว้ ด้วยการมากินนมแมวแทนอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนแม่แมวเองแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็อดสงสารพวกมันไมได้ เลยจำใจให้ลูกหมาดูดนมไปโดยปริยาย ลูกหมาสองตัวนี้อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ ตอนแรกพวกมันก็อยู่กับแม่หมาเนี่ยแหละ แต่จู่ๆ ชีวิตของพวกมันก็ได้ย้ายเข้าอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเลี้ยงแมวเอาไว้ด้วย ในช่วงที่ลูกหมาทั้งสองย้ายเข้ามานั้น เป็นช่วงที่แมวในบ้านเพิ่งคลอดลูกพอดี และมันก็อยู่ในช่วงให้นมลูก แล้วคิดดูว่า ลูกหมาที่ยังไม่หย่านมจริงๆ กับแม่แมวที่เพิ่งคลอดลูกมาเจอกัน จะเกิดอะไรขึ้น!? แน่นอน เมื่อมันเห็นเต้าอันเต่งตึงของแม่แมว ทำให้ทั้งสองคิดถึงเต้านมของแม่หมา พวกมันเลยตัดสินใจเข้าไปหาแม่แมวแล้วดูดนมจากเต้าทันที เจอแบบนี้แม่แมวก็งงสิ แม่แมวพยายามจะวิ่งหนีลูกหมาสองตัวนี้ แต่ดูเหมือนทั้งสองตัวจะหิวมาก มันก็เลยนอนให้ทั้งสองดูดนมจนอิ่ม ประเด็นคือมันไม่จบแค่นั้นสิ ดูเหมือนลูกหมาทั้งสองจะติดใจในรสชาตินมแมวมาก มันเลยเดินตามแม่แมวต้อยๆ เพื่อขอดื่มนมอีก นี่กะจะไม่เหลือไว้ให้ลูกแมวบ้างหรอ ห๊ะ!! คุณป้าเจ้าของบ้านบอกว่า “ฉันรับทั้งสองตัวมาอยู่ในบ้าน ทั้งๆ ที่คิดว่าพวกมันหย่านมแล้ว แต่พอมาเจอแม่แมวที่บ้านพวกมันก็เริ่มดื่มนมอีก ครั้งแรกฉันก็คิดว่ามันจะดื่มอีกแค่อาทิตย์เดียวนะ ที่ไหนได้ ถึงตอนนี้มันยังไม่เลิกเลยค่ะ” จริงๆ แล้ว เจ้าของก็มีนมสำหรับทั้งสองตัวนะ เธอใช้นมผงชงให้แล้วใส่อาหารเม็ดลงไป และดูเหมือนพวกมันก็ชอบนะ…
-
23 ทักษะการแอคติ้งของแมว ตัวแม่ออกอาการเวอร์เกินจริง นิดๆ หน่อยๆ ทำมาเป็น…
หลายคนชอบเลี้ยงแมว เพราะมันมีนิสัยขี้อ้อน ชอบมาคอลเคลีย และชอบอยู่นิ่งๆ แต่รู้มั้ย จริงๆ แล้วแมวเนี่ยเป็นพวกที่แสดงละครได้สุดยอดเลย จะทำอะไรก็แอคติ้งให้เวอร์ตลอด เหมือนแมวต่อไปนี้ 1. เมื่อเจ้าของเล่นกับหมา อิจฉาออกหน้าออกตาเลยนะ 2. ก็แค่การเดินทางธรรมดาป่ะ ทำไมต้องทำหน้าตื่นเต้นขนาดนั้น 3. อุ๊ตะ!! ลั่นแตะน้ำ ถึงกับไปไม่เป็นเลย 4. โอ้ววว ม่ายยย อย่าไปนะ 5. นี่หลับหรือซ้อมตาย 6. มันฟินอ่า มันฟินนนน 7. อย่าไปนะ อย่าจากฉันไป 8. สีหน้าตอนเป็นอิสระ vs ตอนถูกจับใส่กระเป๋า 9. กลัวแล้วๆ อย่าทำอะไรเก๊าเบย 10. อยู่ดีๆ ก็มีเด็กน้อยมาอยู่ในบ้าน ทั้งตกใจทั้งงงไปหมด 11. หืม นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ตัวฉันล่ะ…
-
32 ภาพความวุ่นวายปนฮา เมื่อปล่อยชะตากรรมสัตว์เลี้ยง ให้อยู่ในกำมือของเด็กน้อย
เด็กกับสัตว์เลี้ยงเนี่ย จะมีอะไรบางอย่างทำให้พวกเขาเข้ากันได้ดีจนน่าแปลกใจ พวกเขาสามารถสื่อสารกันด้วยภาษาของพวกเขาเอง และเป็นเพื่อนกันได้อย่างน่าแปลกใจ แต่ไม่ว่าจะสนิทกันมากแค่ไหน ผู้ปกครองก็ไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพังนะ เพราะมันบางทีพวกเขาอาจจะสร้างเรื่องปวดหัวให้ก็เป็นได้… 1. เห็นน้องหมามีแค่สองสี เลยแต่งแต้มความสดใสให้ 2. ก็คนมันรักสัตว์อ่า รักมาก อยากอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา 3. ทำนมหก ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันนะ!! 4. เอิ่มมมม เจ้าหมาเป็นคนทำครับ 5. เปลี่ยนแมวหน้าจืดให้เป็นแมวหน้าสวย 6. ปล่อยเจ้าหมาไว้กับลูกแค่ 20 นาที ดูสิ่งที่ได้ ปาร์ตี้น้ำชากันหรอ 7. จะเล่นไร ดูหน้าแมวเหมียวซะก่อน 8. ช่างภาพน้อยวัย 6 ขวบ จับน้องหมามาถ่ายแบบ จัดเต็มกันไปเลย 9. นึกอยากทำอะไรกับสัตว์เลี้ยงก็ทำ เห้อออ 10. เมื่อหมาตัวจริงเข้าบ้านไม่ได้ หนูน้อยเลยให้อาหารกับตุ๊กตาหมาแทน …
-
น้องหมาหัวติดขวดโหลนาน 3 วันเต็ม เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ และมอบชีวิตที่ดีขึ้นให้กับมัน
ใครที่เลี้ยงหมาคงจะรู้ดีว่า ปกติแล้วพวกมันมักจะไม่อยู่นิ่งๆ แต่ชอบไปเล่นซนที่นั่นที่นี่ จนบางทีก็หาเรื่องมาให้เราซะงั้น ทำตัวเป็นเด็กน้อยที่จะต้องคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาเลย แล้วถ้าเป็นหมาจรจัดไม่มีเจ้าของล่ะ ใครจะช่วยพวกมันได้เมื่อเจอปัญหา เหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ที่ไม่รู้ไปทำท่าไหน จนทำให้หัวมันเข้าไปติดในขวดโหลพลาสติกจนไม่อาจเอาออกไปได้ มันเดินไปเดินมาอยู่บนถนน พร้อมขวดโหลที่ติดอยู่บนหัว แต่โชคดีที่คนแถวนั้นสังเกตเห็นมันเข้า พวกเขาจึงได้ติดต่อไปยัง Fort Worth Animal Control ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ให้มาช่วยเหลือ พวกเขาบอกว่าหมาตัวนี้ชื่อ Pickle และมันก็อยู่ในสภาพแบบนี้มาประมาณ 3 วันแล้ว แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยได้ เพราะมันกลัวทุกคนเลยไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ เมื่อได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ 2 คนของศูนย์ก็เดินทางไปยังพื้นที่นั้นแล้วก็พบ Pickle กำลังนั่งหลบอยู่ในพุ่มไม้ โดยที่ยังมีโหลพลาสติกติดอยู่บนหัว แต่ด้วยเหตุความกลัวข้างต้น จึงทำให้ยากต่อเข้าหา เจ้าหน้าที่ก็พยายามทำให้มันรู้ว่าพวกเขามาเพื่อช่วย ไม่ได้มาทำร้ายมันแน่นอน Diane Covey เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์บอกว่า “เจ้าหน้าที่ต้องเดินย่องๆ เข้าไปใกล้ตัวมัน เพื่อไม่ให้มันตื่นกลัว จนในที่สุดพวกเขาก็ได้เข้าไปนั่งข้างๆ ตัวมันได้สำเร็จค่ะ” หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ใช้อุปกรณ์เข้าล็อคตัวมัน ส่วนอีกคนก็พยายามดึงขวดพลาสติกออก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดึงพรวดเดียวหลุด เพราะ Pickle ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมันบ้าง มันก็เลยทำการดิ้นตอบโต้ สุดท้ายแล้วสุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถดึงขวดโหลออกจากหัวมันได้สำเร็จ ขวดโหลพลาสติกใบนี้…
-
กลุ่มผู้รักศิลปะ เสกลายบนถนนไปโผล่บนเสื้อ เพื่อกระตุ้นเทคนิคภาพพิมพ์ให้หลากหลาย!!
ปกติแล้วการจะสกรีนลวดลายลงบนเสื้อผ้าเนี่ย คุณจะต้องมีทั้งบล๊อก สี ยางปัด ไหนจะต้องวาดแบบอีกด้วย เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่ามันหลากหลายขั้นตอนเหลือเกิน แล้วจะทำให้มันยุ่งยากไปทำไมล่ะ ทำไมไม่หาวิธีสกรีนเสื้อด้วยวิธีการง่ายๆ อย่าง Raubdruckerin กลุ่มศิลปินในเบอร์ลิน ที่สร้างลวดลายบนเสื้อด้วยลายบนถนน!! ส่วนขั้นตอนการทำนั้นไม่ยากเลย แค่นำสีสกรีนไปทาบนพื้นถนนที่คุณชื่นชอบ เช่น ท่อระบายน้ำ สัญลักษณ์บนถนน ซึ่งมีความนูนอยู่แล้ว จากนั้นก็เอาเสื้อหรือกระเป๋าไปวางทับบนสีนั้น คุณก็ได้ลายอาร์ทๆ ติดขึ้นมาทันที ที่เหลือก็แค่รอให้แห้ง… ปัจจุบันการทำลวดลายด้วยเทคนิคนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่รักงานศิลปะ จึงทำให้สมาชิก Raubdruckerin กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ เช่น อัมสเตอ์ดัม, เอเธนส์, ปารีส, ลิสบอน และเบอร์ลิน พวกเขาเหล่านี้จะสร้างลวดลายจากท้องถนนที่พวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่ละที่นั้นก็จะมีความแตกต่างกันไป และนอกจากจะสกรีนไว้ใส่เองแล้ว พวกเขายังได้เปิดขายอีกด้วย เป็นช่องทางการหารายได้ที่สร้างสรรค์มากๆ นี่ไม่ใช่แค่งานศิลปะเท่านั้น แต่มันเป็นการบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของถนนในเมืองที่พวกเขาอยู่ด้วย ซึ่งปกติแล้วสิ่งเหล่านี้มักจะถูกมองข้ามและไม่มีใครพูดถึง พวกเขาจึงถ่ายทอดลวดลายบนท้องถนนผ่านงานศิลปะแบบนี้แหละ ส่วนแรงจูงใจที่ทำให้เกิดผลงานเหล่านี้ มันเกิดจากการที่พวกเขาต้องการกระตุ้นให้เกิดเทคนิคใหม่ๆ ในวงการศิลปะ ต้องการนำเสนอกิจวัตรประจำวันให้เกิดประโยชน์ และเป็นการส่งเสริมภาพพิมพ์ให้มีความยั่งยืนอีกด้วย แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะเน้นความสวยงามอย่างเดียวนะ เพราะสีที่ใช้นั้น ต้องเลือกสีติดผ้าได้นาน ส่วนเสื้อก็จะเลือกเป็นผ้าฝ้ายธรรมชาติ สวมใส่ได้สบายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม…
-
นักออกแบบสร้างสรรค์ “โคมไฟป๊อบอัพ” งานจากกระดาษล้วนๆ แต่อลังและดูแพงมาก!!
อยากได้โคมไฟสวยๆ มาแต่งห้องสักอัน แต่ทำไมมันแพงเหลือเกิน อันที่ไม่แพงก็ดันไม่ถูกใจอีก แล้วจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย จะหาแบบที่สวยถูกใจและราคาถูกได้จากที่ไหนกันหนอ หรือว่าของแบบนั้นจะไม่มีจริง!? แต่เดี๋ยวก่อน!! ของดีที่ราคาไม่แพงนั้นยังคงมีอยู่จริง ต้องนี่เลยโคมสุดสวยตามใจฉัน ทำเองได้ง่ายๆ ด้วยวัสดุเพียงแค่กระดาษ ลงทุนนิดเดียวแต่ได้โคมไฟที่สวยงาม ปังเวอร์ โคมไฟกระดาษนี้ออกแบบโดย Chen Bikovski นักออกแบบจาก Tel Aviv โดยตั้งชื่อให้ผลงานตัวเองว่า Popup Lighting เพราะมันมีลักษณะเหมือนหนังสือป๊อปอัพที่มีแสงส่องสว่างไปทั่วห้องคุณ ที่สำคัญคือมันไม่ใช่แค่กระดาษทรงสี่เหลี่ยมธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นการพับกระดาษเป็นรูปต่างๆ เช่น กวาง หรือ นกยูง ดังนั้นเมื่อเปิดไฟ มันก็จะฉายแสงและเงาออกมาตามแบบที่คุณทำไว้ สวยงามไม่ซ้ำใครแน่นอน Bikovski บอกว่า “ฉันเป็นคนที่สนใจหนังสือป๊อบอัพมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันก็เลยทำให้ความชอบของฉันออกมาเป็นผลงานที่สวยงาม ซี่งมันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้เผยโลกใบใหม่เลยล่ะ” “และเมื่อนำไฟเข้ามาใส่ไว้ใต้กระดาษเหล่านี้ มันจะยิ่งทำให้คุณได้ใส่จินตนาการลงไป จนทำให้กระดาษธรรมดาๆ ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น” นอกจากนี้ โคมไฟป๊อปอัพนี้เกิดจากการที่เธอต้องการสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกให้อยู่ในทุกหนแห่งของบ้าน ด้วยการสร้างแสงให้เกิดเป็นมิติที่งดงาม และที่สำคัญคือเป็นการจุดประกายจินตนาการของตัวเธอเองด้วย . . . . .…
-
สลด!! หมีขั้วโลกวัย 21 ปี ตรอมใจตาย หลังคู่ของมันถูกแยกตัวไปเพื่อทำการผสมพันธุ์
ความเป็นเพื่อนนั้นไม่ใช่จะสร้างกันง่ายๆ และการจะเจอเพื่อนแท้สักคนมันก็ต้องใช้เวลา ต้องสร้างความผูกพัน และต้องผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะแยะมากมาย จึงจะรู้ว่าได้ว่าใครคือเพื่อนแท้ของเรา และหากมีเพื่อนแท้อยู่เคียงข้างสักคน คุณก็คงไม่อยากจากกันไปไหน เช่นเดียวกับเจ้าหมีขั้วโลกตัวนี้ ที่มีเพื่อนเพียงตัวเดียว แต่แล้วมันก็ถูกจับแยก จนทำให้มันต้องตรอมใจตาย Szenja เป็นหมีขั้วโลกวัย 21 ปี อยู่ใน San Diego SeaWorld มันอยู่ที่นี่กับเพื่อนหมีขั้วโลกตัวเมียที่ชื่อว่า Snowflake ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ปี 1997 แล้ว ทำให้ทั้งสองมีความผูกพันกันมากเป็นพิเศษ แต่แล้วหมีตัวเมียก็ถูกส่งตัวไปที่สวนสัตว์ Pittsburgh เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์เพื่อการขยายพันธุ์ ซึ่งก่อนหน้านั้น มันก็เคยถูกส่งตัวไปแล้วครั้งหนึ่งในปี 2014 โดยที่มีเจ้า Szenja เดินทางไปด้วยกัน แต่สำหรับครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้พาเจ้า Snowflake ไปเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น เนื่องจากไม่สะดวกต่อการเดินทาง ด้วยเหตุนี้ทำให้ Szenja รู้สึกว่าตัวเองถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง จริงๆ แล้วก่อนที่จะตัวเมียจะถูกส่งตัวไป ได้มีผู้ลงชื่อคัดค้านกว่าพันรายชื่อ พวกเขาอ้างว่ามันเป็นการกระทำที่โหดร้ายต่อสัตว์ และไม่มีความจำเป็น โดยเสริมอีกว่า ทุกวันนี้หมีขั้วโลกกว่า 60% ต้องตายเพราะถูกมนุษย์เข้ามาคุกคาม แต่ทาง SeaWorld ก็ยังยืนยันที่จะส่งตัวมันไปในที่สุด…
-
อะจึ๋ย!! คนงานจีนยัดปลาไหลเข้าทวารหนัก หวังรักษาอาการท้องผูก จนหมอต้องผ่าออกให้
ทุกวันนี้มีทั้งโรงพยาบาล คลินิกและร้านขายยาเต็มไปหมด แต่หลายคนก็เลือกที่จะไม่พึ่งสิ่งเหล่านั้น เมื่อเป็นอะไรขึ้นมาก็พยายามรักษาด้วยวิธีการของตัวเอง แต่หารู้ไม่มันเป็นสิ่งที่เสี่ยงต่อชีวิตมากเลยนะ เหมือนชายคนหนึ่งนี้ที่พยายามรักษาอาการเจ็บป่วยของตัวเองด้วยวิธีการสุดพิสดาร แต่จนแล้วจนรอด ก็ต้องไปหาหมอเพื่อขอความช่วยเหลือแทน… เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ Liu วัย 49 ปี คนงานโรงงานในประเทศจีน เขาได้ยัดปลาไหลที่มีความยาวประมาณครึ่งเมตรเข้าไปในช่องทวารหนักเพื่อรักษาอาการท้องผูก!! คือตอนแรกก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดปวดท้องขึ้นมา จึงได้ไปหาหมอในโรงพบาบาลท้องถิ่น และเมื่อคุณหมอได้ตรวจดูก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปลาไหลอยู่ในท้องของเขา จากการรายงานของ Guangdong Television บอกว่า ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ Liu ได้ไปโรงพยาบาลแล้วบอกหมอว่าเขามีปัญหาท้องผูก จากการตรวจเบื้องต้นคุณหมอวินิจฉัยว่าเขาเป็นมะเร็งลำไส้ และแนะนำให้เขาแอดมิทเพื่อรับการรักษาต่อไป แต่ Liu ปฏิเสธคำแนะนำของหมอและตัดสินใจที่จะรักษาด้วยวิถีโบราณ นั่นก็คือการยัดปลาไหลเข้าไปในทวารหนักเพื่อที่จะทำให้สิ่งที่อุดตันในลำใส้ไหลเวียนได้ง่ายขึ้น แต่หารู้มั้ยว่า นอกจากปลาไหลจะไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว ยังทำให้เขาปวดท้องอย่างรุนแรงด้วย จนต้องรีบไปหาหมอที่โรงพยาบาล Guangzhou Dongren เมื่อคุณหมอได้ตรวจบริเวณช่องท้องของ Liu ก็ต้องตกใจหนักมาก เพราะเห็นปลาไหลอยู่ในลำไส้ของเขา คุณหมอจึงต้องผ่าตัดเพื่อนำปลาไหลตัวนั้นออกมา สำหรับปลาไหลตัวนี้เป็นปลาไหลนาเอเชีย มีความยาวประมาณครึ่งเมตร น้ำหนัก 250 กรัม และมีหัวกว้าง 3-5 เซนติเมตร และยังพบเศษอาหารและอุจจาระในตัวปลาไหลตัวนี้ด้วย Zhao Zhirong ศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาลดังกล่าวบอกว่า “ตอนที่คนไข้เข้ามาบอกว่าปวดท้องนั้น เขาไม่ได้บอกถึงสาเหตุเลย แต่เมื่อเราพบปลาไหลในช่องท้องของเขา…
-
เด็กชายวัย 5 ขวบ ช่วยชีวิตแม่จากการเป็นลมชัก จนได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ตัวน้อย!!
จำได้มั้ย ตอนอายุ 5 ขวบ เราทำอะไรได้บ้าง แน่นอนว่าเราอาจจะช่วยเหลือตัวเองได้เล็กๆ น้อยๆ เช่น กินข้าวเอง ล้างหน้า แปรงฟันเอง หรือแต่งตัวเองได้ สำหรับเด็กชาย Salvatore Cicalese แม้จะอายุแค่ 5 ขวบ แต่ก็สามารถทำได้มากกว่าที่เราคิด เพราะเขาได้ช่วย Katelyn Cicalese ผู้เป็นแม่ให้รอดจากการเป็นลมชัก จนได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโรตัวน้อยเลย เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ณ บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน San Tan รัฐแอริโซนา เมื่อแม่ของ Salvatore เป็นลมชักขณะอาบน้ำ ทำให้ล้มหัวฟาดพื้นจนหัวแตก เมื่อลูกชายมาเห็น จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จนทำให้คุณแม่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลาและรอดมาได้อย่างปลอดภัย หลังจากที่เหตุการณ์นี้ผ่านพ้นไปด้วยดี คุณแม่ได้เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นว่า มันเกิดขึ้นเมื่อเวลา 2 ทุ่ม ของวันที่ 14 มีนาคม เธอได้กอดลูกชายที่กำลังนั่งเล่นในห้อง แล้วก็พาลูกสาววัย 2 เดือน ไปนอน จากนั้นก็ไปอาบน้ำ แต่ระหว่างที่อาบน้ำคุณแม่ก็เกิดเป็นลมชักขึ้นมากระทันหัน…
-
ช่างแต่งหน้าชื่อดัง ชวนสาวๆ มาแต่งหน้าตามราศีเกิด สวยเริ่ดเชิดปัง ไม่ซ้ำใครแน่นอน!!
มาแล้วๆ เทรนด์แต่งหน้าเก๋ๆ แบบไม่ซ้ำใคร… จริงๆ แล้วการแต่งหน้าไม่จำเป็นต้องแต่งให้สวยอย่างเดียวนะ แต่สาวๆ สามารถใส่ไอเดียตัวเองลงไปในการแต่งหน้าแต่ละครั้งได้ด้วย เหมือนกับช่างแต่งหน้าชื่อดังคนนี้ ที่ทำให้วงการเสริมสวยมีความน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นด้วยการแต่งหน้าตามราศีต่างๆ ทั้ง 12 ราศี สวยสะพรึงจนน่าลองทำตามเป็นอย่างยิ่ง Setareh Hosseini เป็นช่างแต่งหน้าที่โด่งดังในโลกโซเชียล และเรามักจะได้เห็นผลของเธอผ่านอินสตาแกรม starlit_makeup ที่รวมการแต่งหน้าทุกรูปแบบของเธอไว้ที่นี่ ปกติฝีมือการแต่งหน้าของเธอนั้นก็ได้รับการชื่นชมจากชาวเน็ตมากมายอยู่แล้ว แต่เมื่อเธอปล่อยภาพชุดแต่งหน้าตามราศีชุดนี้ ทำให้ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ จนทำให้ยอดฟอลโล่วพุ่งสูงถึง 90,000 คนแล้ว 1. ราศีธนู 2. ราศีพฤษภ 3. ราศีสิงห์ 4. ราศีเมถุน 5. ราศีพิจิก 6. ราศีกันย์ 7. ราศีกรกฎ 8. ราศีตุลย์ 9. ราศีกุมภ์ 10. ราศีมีน 11. ราศีมังกร 12. ราศีเมษ ใครเกิดราศีไหนก็ดูเอาไว้นะ แล้วจะแต่งตามก็ไม่ว่ากันนะจ๊ะ ที่มา boredpanda
-
ศิลปินใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางป่าใหญ่ จัดปาร์ตี้น้ำชาร่วมกับสัตว์ป่าแบบกันเอ๊ง กันเอง…
ความเรียบง่ายมักจะพบได้ในธรรมชาติ ดังนั้นหากใครต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ ลองเข้าไปอยู่ป่าสิ แล้วคุณจะพบว่า ชีวิตที่เรียบง่ายก็มีความสุขได้ Jay Rainey ศิลปินผู้หลงใหลในธรรมชาติ ตัดสินใจเข้าไปอยู่ในกระท่อมกลางป่าในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เพื่อใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างจริงจัง แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าเธอจะรู้สึกเหงานะ เพราะอยู่ที่นี่เธอมีเพื่อนเป็นสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด และเธอก็มักจะจัดปาร์ตี้น้ำชากับพวกมันบ่อยๆ ด้วย แม้จะเป็นศิลปิน แต่ก็ชอบทำงานหลายๆ อย่าง เช่น การถ่ายรูป การเป็นนักเขียน และงานอื่นๆ ที่เธอสนใจ พร้อมทั้งรักในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ดังนั้น การมาใช้ชีวิตอยู่ในป่านับเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง เธอต้องการใช้ชีวิตที่ตัดขาดโลกภายนอก พร้อมกับศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ท่ามกลางป่าใหญ่ ในขณะที่สัตว์ป่าก็ให้ความร่วมมือกับ Rainey เป็นอย่างดี พวกมันไม่เคยทำร้ายเธอเลย แถมยังให้ความร่วมมือในการถ่ายรูปด้วย เธอจึงตอบแทนด้วยการจัดปาร์ตี้เลี้ยงชาพวกมันอย่างเป็นมิตร . . . . . . ความสุขท่ามกลางธรรมชาติ ที่เพียบพร้อมไปด้วยความเรียบง่าย ที่มา raineyroost l boredpanda
-
ศิลปินทั่วโลกร่วมพัฒนา “สีดำระดับ 2.0” ความดำสนิทที่ทุกคนเข้าถึงได้ ในราคาไม่แพง!!
เมื่อพูดถึงสีดำแล้ว เราก็คงจะนึกว่ายังไงมันก็ดำเหมือนกันหมดนั่นแหละ ว่าแต่เพื่อนๆ คิดถึงสีดำระดับไหนล่ะ เพราะแม้จะเป็นสีดำเหมือนกัน แต่ระดับความดำของมันมีความแตกต่างกันนะ ก็อย่างว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า ดังนั้นเหนือดำก็ยังมีดำหม่นเข้าไปอีก และสีดำที่ว่านี้ มันเป็นสีดำที่เรียกได้ว่าอภิมหาดำ หรือเป็นสุดยอดแห่งความดำ!! ไหนดูสิจะมีความดำมากสักแค่ไหนเชียว สุดยอดสีดำนี้พัฒนาขึ้นโดยศิลปินชาวอังกฤษ Stuart Semple ที่ตั้งราคาไว้ไม่แพงมากนัก เพื่อให้ศิลปินทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และนำไปใช้งานศิลปะต่อไป สำหรับสุดยอดสีดำนั้นปกติแล้วทำขึ้นจากเม็ดสี Vantablack ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มีความดำมากที่สุดในโลก แต่ราคามันค่อนข้างจะแพงมากๆ เลยล่ะ แต่ก็ใช่ว่าคนมีเงินจะหามาครอบครองได้ทุกคน เพราะสำหรับคนที่อยู่นอกสหราชอาณาจักรจะต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลเสียก่อน จึงจะนำไปใช้ได้ เนื่องจากสีตัวนี้มีกลิ่นคล้ายกับสารเคมี ดังนั้น Stuart จึงได้พัฒนาสีดำของตัวเองขึ้นมา โดยร่วมมือกับศิลปินนับพันคนทั่วโลก เพื่อยกระดับให้เป็น สีดำเวอร์ชั่น 2.0 อันเป็นสีอะคริลิคที่มืดสนิท มีกลิ่นคล้ายเชอร์รี่และสามารถนำไปใช้ได้ในทุกที่โดยไม่ต้องขออนุญาตจากทางการอีกต่อไป สุดยอดสีดำมีกาวอะคริลิคช่วยยึดเกาะ ทำให้มันมีความดำมากกว่าสีดำทั่วไป Stuart บอกว่า “มันเป็นสีดำที่แสงไม่สามารถส่องผ่านได้ หากคุณต้องการใช้สีดำสนิทจริงๆ สีตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ ที่สำคัญมันไม่เป็นพิษต่อผู้ใช้แน่นอนครับ” และทุกคนสามารถหาซื้อได้ในราคาประมาณ 515 บาท (15 ดอลลาร์) ต่อ 150…
-
สองหนุ่มปิ๊งไอเดีย ผลิต “กาแฟใส” รสชาติและกลิ่นยังจัดเต็ม เพียงแต่สีเหมือนน้ำเปล่าเลย!?
โดยทั่วไปแล้วเรารู้จักกาแฟที่มีสีน้ำตาล รสขม หรือบางทีก็มีการปรุงให้มันมีรสชาติต่างๆ ที่สำคัญคือ หากใครที่เสพติดกาแฟมากๆ ก็อาจจะมีปัญหาฟันมีคราบเหลืองตามมาเป็นของแถมได้ แต่ปัญหาฟันเหลืองจะหมดไป ถ้ากาแฟนั้นไม่มีสี แต่เอ๊ะ…บ้าหรือเปล่า กาแฟที่ไหนไม่มีสี ก็เพราะปัญหาเรื่องฟันเนี่ยแหละ สองหนุ่มจึงคิดค้นกาแฟไร้สีขึ้นมา เพื่อให้คุณยิ้มอย่างมั่นใจแม้จะเสพติดกาแฟก็ตาม กาแฟ Clr Cff หรือกาแฟใส เกิดจากการคิดค้นร่วมกันของ Adam และ David Nagy แต่ก็น่าเสียดายนะที่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยวิธีการทำให้ใครรู้ แต่ไม่เป็นไร เรามาดูที่ตัวกาแฟสีใสนี่กันดีกว่า พวกเขาบอกว่า กาแฟตัวนี้มีรสชาติอ่อนๆ มีสารให้ความหวานและไม่มีสารกันบูดแน่นอน ส่วนส่วนผสมของกาแฟตัวนี้ ก็อย่างที่บอกแหละค่ะว่าพวกเขาไม่ยอมเปิดเผยให้ใครรู้ แต่บอกเพียงแค่ว่า มันมีน้ำเปล่า กาแฟอาราบิก้า แล้วก็สารคาเฟอีน ปัจจุบัน Clr Cff มีวางจำหน่ายเฉพาะในสหราชอาณาจักรและสโลวะเกียเท่านั้น แต่ก็ไม่แน่ ในอนาคตอาจจะมีการวางขายทั่วโลกก็ได้ . กาแฟสีที่จะช่วยปกป้องฟันของคุณ คอกาแฟว่าไง อยากลองป่ะ? ที่มา thesun l clrcff
-
จีนค้นพบ “สมุดจดโพย” อายุกว่า 100 ปี ที่นักเรียนในอดีต ใช้ทุจริตการสอบข้าราชการ
การทุจริตในห้องสอบนั้นพบว่ามีอยู่ในเกือบทุกสังคม ซึ่งก็มีวิธีที่หลากหลายกันไป ที่สำคัญคือ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งมี มันมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มาตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิดด้วยซ้ำ โดยเฉพาะนักเรียนจีนในปัจจุบันนี้ที่เป็นที่รู้จักกันดีว่า มักจะใช้อุปกรณ์ไอเทคเพื่อการทุจริตในการสอบ Gaokao ประจำปีเสมอ ที่สำคัญนั้นหลักฐานชิ้นใหม่ยังพบว่า บรรพบุรุษชาวจีนบางคนนั้นทุจริตการสอบมามากกว่า 100 ปีแล้ว หลักฐานสำคัญที่ยืนยันเรื่องนี้คือ สมุดเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่งที่ถูกพบใน Changsha เมืองหลวงของหูหนาน ข้างในสมุดเล่มนี้เต็มไปด้วยการจดโพยข้อสอบ ที่เป็นการคัดลอกข้อความจากหนังสือ Four Books and Five Classic ( 四書五經) ทั้งนี้เป็นหนังสือขงจื้อดั้งเดิมที่นักเรียนจีนต้องท่องจำให้ได้ทุกคนเพื่อเอาไปใช้ในการสอบบรรจุเป็นข้าราชาการพลเรือนในสมัยนั้น เจ้าของร้านหนังสือโบราณและหนังสือหายากในประเทศจีนบอกว่า นักวิชาการของราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงสมัยนั้นจะแอบนำสมุดเล็กๆ เหมือนกับสมุดโพยเล่มนี้เข้าห้องสอบด้วย โดยซ่อนไว้ในเสื้อผ้าหรือรองเท้า วิธีการเช่นนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะในสมัยนั้นทุกคนก็อยากเป็นข้าราชการกันทั้งนั้น จึงหวังว่าการจดโพยเข้าไปจะช่วยพวกเขาเขาได้บ้าง แต่ก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ผู้คุมสอบในสมัยนั้นใช้วิธีการอย่างไรในการจัดการและป้องกันการทุจริตในห้องสอบ… สำหรับปัจจุบันนี้ โรงเรียนหลายๆ แห่งในประเทศจีน ได้ออกมาตรการให้นักเรียนสอบกลางแจ้งหรือนอกอาคาร โดยจะถูกจับตาดูด้วยกล้องส่องทางไกล และยังมีผู้คุมสอบที่เดินคุมในสนามสอบอีกด้วย นอกจากนี้บางโรงเรียนจะให้นักเรียนหากระดาษครอบหัวเอาไว้ เพื่อป้องกันการลอกข้อสอบ รวมทั้งการแยกนักเรียนให้อยู่ห่างกันมากๆ ราวกับทำข้อสอบคนเดียว…
-
คุณตาเปิดศึกไฟท์หน้าบ้านพักคนชรา เพราะงอนอีกฝ่ายไม่มีเวลาให้ จบด้วย.. การคลำหาแว่น -*-!!
โดยปกติแล้วคนเฒ่าคนแก่นั้นมักจะเป็นคนใจเย็น มีการเคลื่อนไหวเชื่องช้า เพราะภาพร่างกายที่เสื่อมไปตามกาลเวลา ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยได้เห็นพวกเขาทำอะไรแบบหุนหันพลันแล่นสักเท่าไร แต่คุณตาสองคนได้ฉีกกฏเหล่านี้ไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการเปิดศึกชกต่อยสุดมันส์ แถมยังต่อยกันตรงบริเวณบ้านพักคนชราที่พวกเขาอาศัยอยู่อีกด้วย… เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ Hebburn (เมืองเล็กๆ ใกล้กับ Newcastle ในประเทศอังกฤษ) ขอแทนชื่อด้วยคุณตาเสื้อดำ และคุณตาคนเสื้อแดงนะคะ ทั้งคู่อยู่ในบ้านพักคนชราด้วยกัน แต่ไม่รู้ไปไงมาไงเกิดศึกไฟท์กันซะได้ การปะทะของพวกขาเกิดขึ้นเมื่อมีคนไปพบคุณตาทั้งสองวางถุงพลาสติกลงแล้วมีปากเสียงกัน… เริ่มด้วยคุณตาเสื้อดำพูดจาด่าทอด้วยความโมโห พร้อมทั้งชี้หน้าด้วย ทำให้คุณตาเสื้อแดงไม่พอใจเลยกระโดดต่อยคุณตาเสื้อดำทันที กำปั้นคุณตาเสื้อแดงคงจะหนักไม่ใช่เล่น ทำให้แว่นคุณตาเสื้อดำถึงกับกระเด็นออกจากหน้า จนมองอะไรพร่ามัวไปหมด ทำไงล่ะทีนี้ เมื่อไม่มีแว่นพวกเขาก็ตัดสินใจหยุดศึก แล้วช่วยกันหาแว่นของคุณตาเสื้อดำ และกว่าจะหาเจอทั้งคู่ก็หายโกรธกันพอดี ก่อนจะหันมายิ้มให้กันและแล้วเดินกลับบ้านพักคนชราด้วยกัน ต่อมาคนที่เห็นเหตุการณ์นี้บอกว่า คุณตาสองคนทะเลาะกันเพราะหนึ่งในคุณตางอนอีกฝ่ายที่ปล่อยให้เขาต้องอยู่คนเดียวมาหลายเดือนแล้ว เกิดเลยนำสู่การปะทะกันเนี่ยแหละ แต่ตอนนี้ดีกันแล้วนะ และเย็นนี้พวกเขาคงจะมีปาร์ตี้เล็กๆ ด้วยกันแน่ๆ ก็ไม่รู้จะทะเลาะกันไปทำไมเนาะ แต่จะว่าไปก็น่ารักดีนะ คนแก่งอนกัน เอ๊ะ เป็นเรื่องของคนทะเลาะกัน… ทำไมดูแล้วยิ้มละ ฮ่าาา ที่มา dailymail
-
หญิงสาว ใช้ “พาวเวอร์พอยท์” บอกรักชายหนุ่มในฝัน ได้ผลหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ มันเจ๋งอ่า
หากคุณแอบชอบใครสักคน คุณจะมีวิธีบอกเค้ายังไง!? แต่ก็อย่างที่รู้กันแหละ ว่าหลายคนไม่กล้าบอก เพราะกลัวโดนปฏิเสธ สุดท้ายก็ต้องมานั่งเศร้าอยู่คนเดียว (อ๊ะ เหมือนชีวิตตัวเองเบยยยยยย) แต่ถ้าไม่อยากถูกปฏิเสธก็ลองให้วิธีบอกรักแบบเจ๋งๆ สิ หรือวิธีที่ทำให้ใครคนนั้นประทับใจได้ เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่ตัดสินใจบอกรักด้วยการทำพาวเวอร์พ้อยสุดครีเอท เธอคนนี้คือ Lizzy Fenton นักศึกษาคณะพันธุศาสตร์ สาขาชีววิทยาและการพัฒนาเซลล์ มหาวิทยาลัย University of Minnesota สไลด์เธอใส่รูปตัวเองกับข้อความ “รู้มั้ย ทำไมคุณควรจะเดทกับฉัน?” โปรแกรมพาวเวอร์พอยท์นั้น หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี รวมทั้งหญิงสาวคนนี้ด้วยที่มักจะนำเสนองานทางวิทยาศาสตร์ด้วยโปรแกรมนี้บ่อยๆ และตอนนี้เธอกำลังแอบชอบพ่อหนุ่ม Carter Blochwitz อยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะบอกเขายังไงดี ในที่สุดเเธอก็ตัดสินใช้พาวเวอร์พอยท์นี่แหละเป็นตัวช่วย ว่าแล้ว Lizzy จึงได้ทำผลงานจำนวน 6 สไลด์ ที่เกิดจากความตั้งใจล้วนๆ ส่งให้ชายหนุ่มดู โดยหวังว่าเขาจะประทับใจกับสิ่งที่เธอตั้งใจทำนี้ รายละเอียดของสไลด์นั้น เป็นการให้เหตุผลว่าทำไม Carter ควรเดทกับเธอ รวมทั้งบอกเธอว่าจะพาไปรู้จักครอบครัว หรือแม้กระทั่งการทำทรงผมต่างๆ ที่น่าสนใจด้วย เธอยังบอกถึงข้อดีตัวเองอีกว่า เธอเป็นคนพูดเก่ง มีอารมณ์ขัน รับรองว่าแม่ของชายหนุ่มต้องชอบแน่ๆ นอกจากนี้เธอจะแต่งตัวสวยๆ ในทุกๆ เทศกาลไม่ให้น้อยหน้าใครแน่นอน สไลด์ต่อมาเป็นภาพหญิงสาวกับเพื่อน และด้านล่างเป็นภาพหญิงสาวกับทรงผมที่แตกต่างกัน 3 ทรง …
-
ครอบครัวจีนบังเอิญพบ “ระเบิด” สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นับสิบลูกอยู่ใต้พื้นบ้าน อะเฮ้ยยย!?
เคยคิดมั้ยว่าบ้านที่เราอยู่ทุกวันนี้ มันอาจจะมีบางสิ่งอย่างซ่อนอยู่ที่เราไม่เคยรู้ก็ได้ จนเมื่อคุณรื้อบ้านหรือลองจัดเก็บข้าวของนั่นแหละ แล้วจึงจะได้เห็น เหมือนกับครอบครัวหนึ่งมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่พบวัตถุโบราณอยู่ในบ้านระหว่างที่ทำการปรับปรุงบ้านบางส่วนของพวกเขา ผ่าม พาม ผ๊ามมมม…. สำหรับชาวจีนนั้นจะรู้ดีว่า เมือง Daye ในมณฑลหูเป่ยนั้นเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมสำริดโบราณของจีน ที่อยู่ภายใต้อำนาจของราชวงศ์โจวตะวันตกและราชวศ์ซ้ง และภายใต้เมืองแห่งนี้ นักโบราณคดีได้ค้นพบอุโมงค์ ที่มีเหมืองแร่ทองแดงหลายร้อยแห่ง รวมถึงซากปรักหักพังของเตาเผาขนาดใหญ่ด้วย ในตอนแรกนั้น ครอบครัวที่ค้นพบวัตถุโบราณนี้เข้าใจว่ามันคือสิ่งประดิษฐ์โบราณที่มีค่า พวกเขาจึงห้ามไม่ให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ขอหมายค้นจากศาลสำเร็จในที่สุด และเข้าไปตรวจสอบทันที แล้วก็พบว่ามันไม่ใช่สมบัติอย่างที่ครอบครัวนี้เข้าใจ แต่มันคือระเบิดเก่านับสิบลูก ที่คาดว่าน่าถูกใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สื่อจีนยังรายงานอีกว่า สำหรับเมือง Daye นี้ มันยังเคยเป็นที่ตั้งของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนนี้วัตถุระเบิดทั้งหมดอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่แล้ว โดยจะส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการพิสูจน์ต่อไป บางทีการค้นพบอะไรบังเอิญ มันอาจจะไม่ใช่โชคดีเสมอไป และไม่อยากคิดเลยว่าหากมีการผ่าพิสูจน์หรือตรวจสอบเองโดยพลการ มันจะกลายเป็นความเสียหายได้ขนาดไหน -*- ที่มา shanghaiist
-
ลูกสาวมุสลิม อับอายจนคิดจะถอด “ฮิญาบ” คุณพ่อจึงให้กำลังใจซึ้งๆ จนถูกใจชาวเน็ตทั่วโลก!!
ความเชื่อทางศาสนานั้นอยู่คู่กับมนุษย์มานานแล้ว โดยถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่นั้นมักจะนับถือศาสนาตามพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด หรือใครอาจจะไม่เชื่อก็ตาม เราก็ไม่ควรลบหลู่ดูหมิ่นความเชื่อที่แตกต่างจนเกินไป… แต่สำหรับเด็กปัจจุบันนี้มีแนวโน้มที่จะออกห่างจากศาสนามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อโตพอที่จะคิดเองได้ พวกเขามักเลือกทุกอย่างด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจสร้างความไม่พอใจให้กับพ่อแม่บางคนได้ เหมือนอย่างเรื่องราวของ Lamyaa วัย 17 ปี ชาวอาหรับและเป็นมุสลิมจากรัฐเพนซิลวาเนีย ปัจจุบันอาศัยอยู่ในซาอุดิอาราเบีย เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ Lamyaa ได้เข้าร่วมกลุ่มที่เริ่มโดยเพื่อนคนหนึ่งของเธอ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาเพื่อวิจารณ์ประธานธิบดีทรัมป์โดยเฉพาะ และไม่ใช่แค่กลุ่มเพื่อน แต่ยังมีคนที่เธอไม่เคยรู้จักมากมายเข้าร่วมกลุ่มนี้ด้วย เธอบอกว่า “การที่ทรัมป์ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีมันส่งผลกระทบกับฉันมากเลยค่ะ เพราะฉันเป็นคนอาหรับและเป็นชาวมุสลิม” หากเราได้ติดตามเรื่องราวทางการเมือง จะเห็นว่า ทรัมป์ได้ประกาศไม่ให้คนมุสลิมเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน แน่นอนว่ามันส่งผลกับชาวมุสลิมไม่น้อยเลย จนทำให้ผู้หญิงมุสลิมหลายคนอยากถอดฮิญาบออก ในกลุ่มนั้นหญิงสาวได้บอกทุกคนว่าเธอเป็นผู้หญิงมุสลิม และเธอก็ได้วิจารณ์นโยบายของทรัมป์ที่มีต่อศาสนาอิสลามด้วย จนทำให้หนึ่งในสมาชิกกลุ่มแชทไม่พอใจกับคำวิจารณ์ของเธอ ชายคนนั้นบอกว่า “เธอควรจะหยุดเข้าข้างศาสนาตัวเองได้แล้วนะ เพราะมันเป็นศาสนาที่ทำให้เธอต้องใส่ฮิญาบอยู่ตลอดเวลา หรือพ่อเธอบังคับให้ใส่หรือเปล่า?” ส่วนตัว Lamyaa เองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมต้องใส่ฮิญาบด้วย ทั้งที่เธอก็ไม่ได้อยากใส่ตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งมาเจอสถานการณ์กดดันแบบนี้มันยิ่งคิดหนักเข้าไปใหญ่ และอยากถอดญิหาบออก แต่ก็ไม่ลืมที่จะนำเรื่องนี้ไปบอกพ่อก่อน บทสนทนาดังกล่าว…. Lamyaa: พ่อหนู่มีอะไรจะบอก พ่อ: ว่ามาเลยลูก Lamyaa:…
-
ศิลปินผู้หลงไหล “เจ้าหญิงดิสนีย์” นำภาพพวกเธอมาวาดใหม่ ให้สวยสมจริงจนร้องว๊าววววววว!!
การวาดการ์ตูนนั้นนอกจากจะเน้นความสวยงามแล้ว ศิลปินยังต้องการความสมจริงเพื่อสื่ออารมณ์ไปยังผู้ชมด้วย หรือเรียกว่าทำให้ภาพวาดดูมีชีวิตมากขึ้นนั่นเอง หนึ่งในศิลปินผู้ทำให้ภาพดูสมจริงนั้นคือ Isabelle Staub ซึ่งหลายคนคงรู้จักกันไปบ้างแล้ว เธอเป็นคนชอบวาดการ์ตูนดิสนีย์ จนผลงานหลายชิ้นก็ถูกนำไปใช้ทำโปสเตอร์การ์ตูนชื่อดัง สร้างรายได้ให้เธอมากมาย… 1. โพคาฮอนทัส จากเรื่องโพคาฮอนทัส ศิลปินคนนี้เป็นคนที่ไม่หยุดอยู่กับที่ แต่เธอชอบที่จะพัฒนาฝีมือตัวเองไปเรื่อยๆ ดังนั้นสิ่งที่เธอชอบทำคือ การนำภาพเดิมของการ์ตูนดิสนีย์มาวาดใหม่อีกครั้งเพื่อให้ดูสมจริงยิ่งขึ้นอีกระดับหนึ่ง Isabelle บอกว่า “ฉันชื่นชอบการ์ตูนดิสนีย์มาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ฉันก็เลยวาดรูปเจ้าหญิงดิสนีย์ในแบบของตัวเองแม้จะเป็นการวาดรูปเพื่อความสนุกเท่านั้น แต่รู้มั้ยว่าแต่ละภาพนั้นใช้เวลา 8-12 ชั่วโมงเชียวล่ะ” 2. แอเรียล จากเรื่องเงือกน้อยผจญภัย โดยหลังจากที่เธอวาดรูปด้วยเทคนิค Corel Painter เสร็จแล้ว เธอก็จะนำไปทำต่อให้สมบูรณ์ด้วยโปรแกรม Photoshop และใส่ใจในทุกรายละเอียดเสมอ ปัจจุบันนอกจากวาดการ์ตูนแล้ว เธอยังตั้งใจจะทำหนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กด้วยนะ หากใครสนสามารถติดตามได้ที่อินสตาแกรม isabelle_staub และเว็บไซต์ Etsy 3. เบลล์ จากเรื่องบิวตี้แอนด์เดอะบิสท์ 4. เอสเมรันด้า จากคนค่อมแห่งน็อทร์-ดาม 5. เทียน่า จากมหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ 6. ออโรร่า จากเจ้าหญิงนิทรา 7.…
-
โจรขโมยโทรศัพท์กว่า 100 เครื่องในคืนเดียว แต่หนีไม่พ้น ถูกเหยื่อล่าด้วยแอพหาโทรศัพท์
ปัญหาโทรศัพท์มือถือหายนั้นเกิดขึ้นแทบทุกวัน ในทุกๆ สังคม จนกลายเป็นเรื่องที่เราเห็นกันได้ทั่วไปซะแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนที่ได้คืนบ้าง และคนที่ต้องอำลาโทรศัพท์ตัวเองไปตลอดกาล (น่าเศร้าเนอะ T_T) แต่กรณีนี้ดูจะเป็นข่าวการขโมยโทรศัพท์ที่ออกจะแปลกสักหน่อย เพราะคนร้ายได้ขโมยโทรศัพท์มากถึง 100 เครื่องในครั้งเดียว เรื่องนี้เกิดในงานเทศกาลดนตรี Coachella เมืองอินดิโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีผู้เสียหายจำนวนมากโพสต์ลงโซเชียลว่าโทรศัพท์มือถือหายไปในงานนี้ โฉมหน้าของคนร้าย ที่ต้องถามเลยว่า ทำได้อย่างไรกัน!? หลังจากที่โทรศัพท์หาย บรรดาเหยื่อจึงออกตามหาโทรศัพท์ด้วยแอพ Find My iPhone และแล้วก็พบว่า โทรศัพท์ของพวกเขากำลังรวมกันอยู่คนคนเดียว เมื่อรู้ตัวแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของงานดนตรี Coachella จึงเข้าไปจับตัวคนร้ายทันที และรอให้ตำรวจเข้ามาจัดการต่อ ต่อมาทราบชื่อว่าคนร้ายคนนี้ชื่อ Reinaldo De Jesus Henao ชายชาวนิวยอร์กวัย 36 ปี ตำรวจพบหลักฐานเป็นโทรศัพท์มือถืออยู่ในกระเป๋าของเขามากถึง 100 เครื่องด้วยกัน ตอนนี้โทรศัพท์ประมาณ 20 เครื่องก็ถูกคืนเจ้าของไป ส่วนเครื่องที่เหลืออีกกว่า 80 เครื่องนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการตามหาเจ้าของ ว่าเป็นของใครกันแน่ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า Henao มักจะเข้าไปในงานต่างๆ ที่มีคนจำนวนมากแล้วก็จะก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือเหมือนกับครั้งนี้…
-
28 หมา-แมวสายพันธุ์แปลกๆ ที่หาดูได้ยากขึ้น เพราะใกล้จะสูญพันธุ์แล้วในปัจจุบัน
เพื่อนๆ คิดว่าเคยเห็นหมา-แมวทุกสายพันธุ์บนโลกนี้แล้วหรือยัง!? หมา แมว เป็นสัตว์เลี้ยงที่มนุษย์คุ้นเคยเป็นอย่างดี และอาจจะเคยเห็นมาแล้วหลายสายพันธุ์ แต่เชื่อหรือไม่ว่าที่เห็นอาจจะเป็นส่วนน้อยด้วยซ้ำ คือ จริงๆ แล้วในโลกนี้ยังมีหมา แมว อีกหลายสายพันธุ์ที่หายากมากๆ จนคนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นมาก่อน ลองมารู้จักพวกมันเหล่านี้ ว่าเราเคยเห็นพวกมันบ้างหรือเปล่า 1. แมวพันธุ์นอร์เวเจียนฟอเรสท์ แมวสายพันธุ์นี้พบได้ที่นอร์เวย์ และเป็นสายพันธุ์เดียวบนโลกที่อยู่ท่ามกลางอากาศหนาวจัดในนอร์เวย์ได้ 2. แมวป่ามาร์เกย์ แมวมาร์เกย์สามารถพบได้ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ แต่ปัจจุบันมีจำนวนน้อยลงมาก เนื่องจากถูกคุกคามที่อยู่อาศัย 3. แมวปัมปัส ปัมปัสเป็นพันธุ์ที่หาได้ยากมาก ทำให้เราไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับมันที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนที่เหลืออยู่บนโลก นิสัย อาหาร ที่อยู่อาศัย และข้อมูลอื่นๆ 4. หมาป่าพันธุ์ Darwin’s Fox หมาป่า Darwin’s Fox พบได้ในประเทศชิลี และปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 300 ตัวบนโลก 5. แมวพัลลัส แมวพันธุ์นี้พบมากที่สุดในยุโรปตะวันออก เป็นที่เชื่อกันว่า พวกมันเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่อยู่มานานที่สุดในโลก 6. แมวตีนดำ แมวตีนดำเป็นพันธุ์ที่เล็กที่สุดในบรรดาแมวในแอฟริกา ส่วนใหญ่แล้วจะออกหากินในเวลากลางคืน พวกมันจึงหายากและยากต่อการศึกษาวิจัย…
-
แคมเปญสุดเจ๋ง “เติมเต็มความรักในช่องว่าง” เพื่อกระตุ้นให้รับเลี้ยงสัตว์ถูกทิ้ง แทนการซื้อมา…
ทุกวันนี้มีสัตว์มากมายที่ต้องการบ้าน ทางด้านกลุ่มที่ช่วยเหลือสัตว์เองก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้พวกมันมีบ้านโดยเร็วเช่นกัน เช่นกัน บางทีเราอาจจะเห็นการรณรงค์ต่างๆ เช่น ให้ซื้อน้อยลง รับเลี้ยงมากขึ้น หรือบางพื้นที่ถึงกับมีกฎหมายเพื่อบังคับไม่ให้มีร้านขายสัตว์ จะเลี้ยงก็ต้องรับเลี้ยงเท่านั้น ในวิธีการต่างๆ เหล่านั้นก็คงจะแตกต่างกันไป อย่างเช่น วิธีการโปรโมทของกลุ่ม World For All ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้ World For All ตั้งอยู่ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ตอนนี้พวกเขากำลังทำเคมเปญสำคัญ เพื่อกระตุ้นให้มนุษย์รับเลี้ยงสัตว์ในศูนย์พักพิงมากขึ้น ความน่าสนใจของแคมเปญนี้คือ การทำภาพลวงตา ที่ทำโดยมนุษย์นี่แหละ แล้วให้ช่องว่างระห่างมนุษย์นั้นออกเป็นรูปสัตว์ชนิดต่างๆ พร้อมสโลแกนที่ว่า “ช่องว่างมีอยู่เสมอสำหรับการรับเลี้ยง” สำหรับความคิดสร้างสรรค์นี้เกิดจาก Amol Jadhav และทีม McCann Worldgroup ในอินเดีย แคมเปญดังกล่าวนี้ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ หลังจากได้ทำแคมเปญนี้พบกว่า สัตว์ในศูนย์พักพิงถูกรับเลี้ยงเพิ่มขึ้นเป็น 150% จากปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยนะ Ruchi Nadkarni ผู้ก่อตั้ง World For All บอกว่า “แคมเปญของเราได้รับความสนใจวงกว้างมากขึ้น และทำให้เกิดกลุ่มรณรงค์ส่งเสริมการรับเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนหนึ่งนั้นก็มาจากภาพลวงตาที่เราสร้างขึ้นเนี่ยแหละ” เธอยังบอกอีกว่า “เราอยากจะจัดมันขึ้นมาทุกๆ…
-
พบกับ Maro เหมียวที่แต่งตัวเข้ากับอาหารทุกมื้อ แถมนั่งนิ่งให้คุณถ่ายรูปได้ทุกเมื่อ…
การเลี้ยงแมวเนี่ย มีอะไรให้ทำเยอะแยะเลยนะ คือปกติแล้วจะเห็นพวกมันเอาแต่นอนกับกินใช่มั้ย เพื่อนๆ ลองหากิจกรรมสนุกๆ ทำกับมันสิ แล้วจะรู้ว่าการเลี้ยงแมวนี่มันคุ้มจริงๆ และนี่คือ Maro วัย 3 ขวบ ที่อยู่กับ Rie Matsui เจ้าของหรือคนที่มันรักเหมือนแม่นั่นแหละ มันเป็นแมวที่มีนิสัยน่ารัก และทำกิจกรรมต่างกับมนุษย์ แถมที่พิเศษกว่าคือ มันเป็นนายแบบที่พร้อมจะถ่ายรูปได้ทุกเมื่อ Maro ได้มาอยู่กับเธอมาแล้วถึง 7 เดือน พออยู่ด้วยกันนานๆ เข้า Matsui ก็ได้เห็นถึงความสามารถและความน่ารักของมัน ความสามารถนี้ก็คือ การนั่งและการถ่ายรูปนั่นเอง ดังนั้นในทุกๆ วัน เธอจะแต่งตัวในมันในธีมต่างๆ แล้วให้นั่งอยู่หน้าอาหาร แล้วก็ถ่ายรูป ซึ่งมันก็ให้ความร่วมมือเสมอ จนออกมาเป็นภาพที่ “น่ารักอะ!!” อาแปะ ซาลาเปานี่ขายไงอะ!? เจ้าของบอกว่า “แมวตัวนี้มีนิสัยรักสงบ เรียบง่าย และชอบอยู่นิ่งๆ เหมือนที่เห็นเนี่ยแหละค่ะ” ในการทำอาหารทุกครั้ง Matsui จะจัดเรียงถ้วยชามอาหารไว้เป็นอย่างดี จากนั้นก็แต่งตัวให้น้องเหมียว แล้วเอาไปนั่งฝั่งตรงข้าม และไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ทุกครั้ง …
-
กลุ่มศิลปิน ร่วมทำแบบจำลองเมืองจิ๋ว 50 ประเทศทั่วโลก รายละเอียดสวยงามด้วยงบ 1,600 ล้าน
ในโลกศิลปะนั้นอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ เรียกได้ว่าเป็นการรังสรรค์จินตาการให้ให้ออกมาเป็นรูปธรรม เพื่อถ่ายทอดให้ผู้คนได้เห็นได้รับรู้ เหมือนกับนิทรรศการนี้ที่กลุ่มศิลปินได้ทุ่มเงินกว่า 1,680 ล้านบาท และใช้พื้นที่กว่า 4.5 ไร่ ในการจำลองเมืองต่างๆ จาก 50 ประเทศทั่วโลก ไทม์สแควร์ในนิวยอร์ก นิทรรศการนี้มีชื่อว่า Gulliver’s Gate เป็นการจำลองสถานที่และเมืองต่างๆ ทั่วโลก โดยย่อขนาดให้เล็กลง ซึ่งในแต่ละสถานที่นั้นก็จะมีการใส่รายละเอียดที่เหมือนของจริงมากๆ ดังนั้นเมื่อคุณได้เข้าชมงานนี้ คุณจะรู้เหมือนได้เข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นจริง และคุณยังสามารถเที่ยวมชมสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ พีระมิดและสฟิงซ์ในอียิปต์ นิทรรศการนี้จัดแสดงที่นิวยอร์ค ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน ไปจนถึง 30 ธันวาคม 2017 นี้ หากใครมีโอกาสก็ลองไปชมดูนะคะ แล้วอย่าลืมกลับมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังด้วยล่ะ Chichen Itza ในเม็กซิโก สะพานบรูคลินในนิวยอร์ก สโตนเฮนจ์ การสร้างเมืองจิ๋วในปารีส ประเทศฝรั่งเศส Arc de Triomphe…
-
หนุ่มจีนสุดทน ห้องข้างบนชอบทำตึงตังเสียงดัง ลงทุนซื้อ “เครื่องเขย่าตึก” มาเอาคืนเต็มที่!!
การเช่าที่พักนั้น ถ้าเจอเพื่อนบ้านดีก็โชคดีไปเนอะ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้นล่ะก็… เราต้องเจอกับปัญหามากมาย โดยเฉพาะปัญหากับเพื่อนบ้านที่อาจจะมีการทำเสียงรบกวนบ้างจนทำให้เรารำคาญใจ สำหรับคนที่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ก็อาจจะแก้ป้ญหาที่แตกต่างกันไป เช่น เข้าไปบอกเพื่อนบ้านตรงๆ หาอะไรอุดหู หรือถ้ายังไม่ดีขึ้นอีกก็คงต้องย้ายออกสินะ แต่สำหรับพ่อหนุ่มคนนี้ เมื่อถูกเพื่อนบ้านทำเสียงรบกวนบ่อยๆ เข้า เขาได้ทำการเอาคืนด้วยการซื้อเครื่องเขย่าตึกมา เพื่อให้เพื่อนบ้านห้องข้างบนได้รับรู้ถึงรสชาติการถูกรบกวน เรื่องนี้เกิดขึ้นกับหนุ่ม Zhao จากมณฑล Shaanxi ของจีน เขาได้ไปเช่าห้องพักแห่งหนึ่ง และมักจะถูกรบกวนจากห้องที่อยู่ชั้นบนอยู่เป็นประจำ ในวันหยุดของ Zhao แทนที่จะได้นอนพักผ่อนสบายๆ แต่ลูกชายของห้องชั้นบนมักจะวิ่งเล่นรอบห้อง บางทีก็กระโดดเสียงดัง จนทำให้เขาต้องตื่น สร้างความรำคาญไม่น้อยเลย แรกๆ ที่ถูกรบกวนแบบนี้ ชายหนุ่มพยายามจะหาเหตุผลดีๆ ไปคุยกับห้องชั้นบน และได้ขอให้พวกเขาเบาเสียงในบางช่วงเวลา แต่ทางห้องชั้นบนก็ไม่เคยทำตาม พวกเขายังคงทำเสียงรบกวนอย่างต่อเนื่อง และแล้วความอดทนของ Zhao ก็มาถึงจุดสิ้นสุด เขาตัดสินใจที่จะเอาคืนครอบครัวนี้อย่างจริงจัง ด้วยการสั่งซื้อ ‘เครื่องเขย่าตึก’ จากร้านค้าออนไลน์ ในราคา 2,000 บาท นอกจากนี้ เครื่องเขย่าตึกยังสามารถบังคับได้ด้วยสมาร์ทโฟน เพื่อให้การใช้งานนั้นง่ายยิ่งขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ Zhao ทำ เขาตั้งเวลาให้เครื่องทำงานในวันศุกร์ตั้งแต่ 2 ทุ่มเป็นต้นไป…
-
เด็กหญิงวัย 3 ขวบ อยากจัดปาร์ตี้วันเกิดในธีม “อึ” ฟังดูแปล๊กแปลก แต่พ่อแม่ก็จัดให้!!
ในงานวันเกิดของเรานั้น เราก็คงจะอยากจัดในธีมที่ตัวเองชอบ อย่างเช่นธีมเจ้าหญิง-เจ้าชาย ธีมปีศาจ ธีมผลไม้ ธีดอกไม้ หรืออื่นๆ แล้วแต่ใครชอบแบบไหน หนูน้อย Audrey วัย 3 ขวบ คนนี้ก็อยากจัดวันเกิดในธีมที่ตัวเองชอบเช่นกัน นั่นคือ ธีมอึ!! เอ่อ.. เดี๋ยวนะ นี่หนูคิดดีแล้วใช่มั้ย นี่คือความชอบของหนูจริงๆ หรอลูก? ปกติในงานมงคลแบบนี้เราคงไม่อยากพูดถึงเรื่องอึด้วยซ้ำ แต่เด็กหญิงคนนี้กลับเนรมิตทุกอย่างในวันเกิดให้มีแต่อี อึ แล้วก็อึ ก่อนจะถึงวันเกิดนั้น Audrey ได้ขอให้คุณแม่จัดวันเกิดในเธอด้วยธีมอึ ตอนแรกคุณแม่ก็พยายามจะให้เธอเปลี่ยนธีมนะ แต่หนูน้อยก็ยังยืนยันว่าอยากได้แค่ธีมอึเท่านั้น เธออยากให้งานของเธอเต็มด้วยอึ ดังนั้นเด็กน้อยจึงขอลูกโป่งอึ เค้กอึ ในที่สุด ปาร์ตี้วันเกิดธีมอึก็ถูกจัดขึ้น นี่มันคงจะเป็นปาร์ตี้วันเกิดที่แปลกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินละมั้ง ในงานวันเกิดนั้น Audrey ใส่ชุดเดรสที่มีรูปอึอยู่ตรงหน้าอก ส่วนคุณแม่ก็แต่งมาสคอร์ดเป็นรูปอึเช่นกัน บรรยากาศในงานจึงเต็มไปด้วยอึ แต่ทุกคนก็มีความสุขกับปาร์ตี้ในครั้งนี้มากๆ มันอาจจะเป็นธีมงานที่แปลก แต่ครอบครัวของสนับสนุนเธอ เพราะมันเป็นวันของเธอ และคงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขของเธออีกแล้ว Rebecca คุณแม่ของเด็กหญิงบอกว่า “Audrey มีความเป็นตัวเองค่ะ เธอมั่นใจในตัวเองเสมอ และฉันก็อยากให้เธอเป็นแบบไปนานๆ…
-
มนุษย์ตกใจ เจ้าเหมียวไม่ยอมนั่งในวงกลม-สี่เหลี่ยม แต่นั่งใน “ดาวห้าแฉก” เอ็งเป็นปีศาจใช่มั้ย!?
ใครที่เลี้ยงแมวอยู่ อย่าชะล่าใจไปล่ะ เพราะเห็นน่ารักๆ แบบนี้ บางทีพวกมันอาจจะเป็นปีศาจแฝงตัวมาก็ได้ ไม่เชื่อลองทดสอบแมวของคุณดูสิ อย่างเช่น เจ้าของแมวคนนี้ที่ลองทดสอบว่า แมวจะเป็นปีศาจอย่างที่ใครๆ ว่ากันหรือเปล่า เขาเริ่มด้วยการวาดวงกลมบนพื้น แล้วดูว่าแมวจะตอบสนองอย่างไร… และก็จริงด้วย ปรากฏว่ามันไม่ตอบสนองอะไรเลย เจ้าเหมียวไม่ตอบสนองกับวงกลมเลย เมื่อเห็นแมวยังนอนนิ่ง เขาก็เลยลบวงกลมออกแล้วเปลี่ยนเป็นสี่เหลี่ยมแทน แต่เจ้าเหมียวตัวดีก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ อีกเช่นกัน ไม่แคร์สี่เหลี่ยมด้วย เช๊อะะะะ สุดท้ายเขาก็วาดรูปดาวห้าแฉก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจ หลังจากวาดเสร็จก็รอดูปฏิริริยาของแมวตัวเดิม… ปรากฏว่าเจ้าเหมียวมันตอบสนองต่อสัญลักษณ์นี้ทันที ด้วยการเข้าไปนั่งในตรงกลางของดาวห้าแฉกนี้ งั้นที่ใครๆ ว่าแมวเป็นปีศาจก็เป็นความจริงสิ โอ้วววม่ายยย!! แต่… อันนี้มันนั่ง แหม่ นี่มันอาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้ ถ้าอยากมั่นใจ ทดสอบกับแมวของคุณดูสิ ที่มา boredpanda
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ 25 ภาพพัฒนาการฝีมือวาดรูป ตอกย้ำว่าไม่มีใคร “เก่งมาตั้งแต่เกิด”
ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นล้วนต้องอาศัยการเรียนรู้ ฝึกฝน และอดทน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งนั้น ซึ่งมันอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่มันก็คุ้มค่านะ เช่นเดียวกับภาพวาดเหล่านี้ ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของการวาดรูป แน่นอนว่าการวาดภาพครั้งแรกนั้นมันอาจจะออกมาธรรมดามาก แต่เมื่อฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ จะพบกับความสำเร็จที่เหลือเชื่อเลยล่ะ 1. ฝีมือของ Jade Mere 2005 vs 2017 2. Miles กับพัฒนาการในระยะเวลา 10 ปี 3. พัฒนาการภายใน 11 เดือนของ Itsmehoswa 4. พัฒนาการของ Abigail Diaz 5. ฝีมือของ Laura Brouwers ในเวลา 9 ปี 6. 1 ปี ของ Zary 7. ฝีมือของ Isvoc ใน 3 ปี 8. พัฒนาการของ Sara…
-
ร้านเหล้าหัวหมอ ทำเขาวงกตเพื่อเลี่ยงกฎหมายที่ว่า ต้องห่างจากถนนหลวง 500 เมตร!!
ที่ไหนมีสุรา ที่นั่นย่อมต้องมีกฎหมายควบคุมอยู่ อย่างบ้านเราก็เช่น ห้ามตั้งร้านเหล้าใกล้สถานศึกษา หรือกำหนดเวลาการซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น เราบินไปที่อินเดียบ้าง ที่นี่ก็มีกฎหมายเกี่ยวกับการตั้งร้านเหล้าเช่นกัน นั่นก็คือ ร้านเหล้าต้องอยู่ห่างจากถนนหลวงไม่ต่ำกว่า 500 เมตร ซึ่งเป็นกฎที่เพิ่งบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2017 ที่ผ่านมา ผลกระทบจากกฎหมายดังกล่าว ทำให้ร้านเหล้าหลายแห่งต้องปิดตัวลง เนื่องจากอยู่ใกล้ถนนต่ำกว่า 500 เมตร แต่ก็มีบางคนไม่ยอมปิดกิจการ แต่เลือกที่จะสรรหาวิธีรับมือกับกฎหมายใหม่แทน ร้าน Aishwarya Bar ใน Kerala ก็ถูกสั่งให้ปิดกิจการเช่นกัน แต่แทนที่จะปิด ทางร้านกลับหลีกเลี่ยงกฎหมายด้วยการล้อมร้านด้วยเขาวงกตที่มีความคดเคี้ยว เพื่อให้ระยะทางจากถนนถึงร้านเหล้านั้นห่างออกไปอีกหน่อย เจ้าของร้านได้จ้างคนงานให้มาทำอิฐบล็อกให้เป็นเขาวงกตล้อมรอบร้าน โดยใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน จนทำให้ร้าน Aishwarya Bar อยู่ห่างจากถนนหลวงด้วยระยะ 520 เมตร (แหนะ!! มีเกินมา 20 เมตรเลยนะ) โดยเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้สามารถเปิดบริการต่อไปได้อย่างถูกต้อง Shiju P. ผู้จัดการร้านบอกว่า “เราไม่ได้ทำผิดกฎหมายนะครับ เพราะเราได้ทำให้ร้านอยู่ห่างจากถนนหลวงมากขึ้น…
-
เกือบไปแล้ว… หนุ่มแชร์ประสบการณ์ จะเกิดอะไรขึ้น หากคุณไม่ได้จ้างช่างภาพในงานแต่ง!?
งานแต่งงานนั้นนับว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตวันหนึ่ง ดังนั้นหลายคนจึงทุ่มเทกับงานนี้มาก ตั้งแต่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ชุดแต่งงาน ธีมงาน รวมถึงการช่างภาพในงาน สำหรับการเก็บภาพในงานนั้น หลายคนอาจไม่อยากจ้างช่างภาพ ด้วยนานาหลายเหตุผล เดี๋ยวขอภาพจากแขกในงานแทนก็ได้ แต่… จะบอกว่า ภาพที่ได้จากแขกที่มาร่วมงาน มันจะไม่เหมือนกับฝีมือช่างภาพมืออาชีพน่ะสิ!! รูปที่ได้จากแขกในงาน แล้วมันจะเป็นยังไงน่ะเหรอ? วันนี้ Eirik Halvorsen จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงให้ได้รู้กัน เพื่อแสดงให้เห็นว่า ควรจะมีช่างภาพมืออาชีพในงานแต่งนะ!! Eirik เล่าว่า “ก่อนแต่งงานผมได้เข้ากลุ่มแต่งงานใน Facebook เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับงานแต่งงาน โดยได้บอกพวกเขาว่า ผมต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย จะมีช่องทางไหนที่ผมจะทำได้บ้างครับ?” คู่รักได้ไอเดียนี้จากกลุ่ม Facebook ทางด้านคนในกลุ่มแนะนำว่า “ไม่ต้องจ้างช่างภาพน่าจะช่วยได้เยอะนะ เพราะภาพในงานเราปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแขกที่มาร่วมงานก็ได้ หลังจากนั้นคุณก็แค่รวบรวมภาพจากพวกเขาแล้วรวมเป็นอัลบั้มของคุณเอง” แต่เมื่อถึงเวลาจริง Eirik ตัดสินใจที่จะไม่ทำตามคำแนะนำนั้น เขาได้จ้างช่างภาพในงานแต่ง เพื่อเก็บภาพบรรยากาศทั้งหมดเอาไว้ กันเหนียวไว้ก่อนนนนนนน หากจะประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยการไม่จ้างช่างภาพในงานแต่งล่ะ!? ปัจจุบันงานแต่งของเขาผ่านไปเกือบ 4 ปีแล้ว พวกเขาจึงได้นำภาพบรรยากาศในงานมาเปิดดูอีกครั้ง แล้วก็เห็นถึงความแตกต่างระหว่างฝีมือแขกกับฝีมือช่างภาพ… และนี่คือภาพที่ได้จากแขกในงาน …
-
การขับรถฝ่าดงน้ำแข็งเพื่อนำอาหาร 12 ตัน ไปส่งมอบให้ชาวบ้าน อันห่างไกลในไซบีเรีย…
เมื่อพูดถึงไซบีเรีย เราคงจะนึกถึงพื้นที่กว้างใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ น้ำแข็ง และธรรมชาติอันขาวโพลน สถานที่ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะไปอยู่อาศัยนอกจากนักโทษที่ถูกเนรเทศเท่านั้น แต่เชื่อมั้ยว่ายังมีคนกลุ่มหนึ่งตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ทั้งที่การเดินทางนั้นลำบากมากๆ แถมยังอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจนทำให้ความเจริญเข้าไปไม่ถึงด้วย ยังดีที่มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กลัวความลำบากเหล่านี้ พวกเขาตัดสินใจที่จะได้ออกเดินทางท่ามกลางความลำบากเพื่อนำอาหาร 12 ตันไปยังบริจาคให้คนในเมือง Belaya Gora ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอาร์กติกไซบีเรีย Ruslan ผู้ที่จะนำอาหารไปให้ชาวไซบีเรีย ในการเดินทางนั้น นอกจากต้องใช้เส้นทางที่มีแต่หิมะแล้ว ยังต้องข้ามแม่น้ำที่ถูกแช่งแข็ง และไม่รู้ด้วยว่ามันจะจะยุบลงเมื่อไหร่ ด้วยน้ำหนักของอาหารที่ขนไปบวกกับน้ำหนักของรถบรรทุก และเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางยาวนานร่วมกว่า 10 วัน ซึ่งนับว่าเป็นเส้นทางที่อันตรายมากๆ แต่ทุกคนก็ยังยืนยันที่จะไปอยู่ดี ส่วนนี่คือรถบรรทุกของเขา Ruslan ออกเดินทางพร้อมเพื่อนจำนวนหนึ่ง เพื่อนำอาหารให้คนในเมือง Belaya Gora ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอาร์กติกไซบีเรีย พวกเขาออกเดินทางจาก Yakutsk และเส้นทางที่จะไปยังเมือง Belaya Gora นั้น เริ่มต้นด้วยถนนเส้นสีแดง จากนั้นก็ต้องผ่านแม่น้ำแช่แข็งเส้นสีฟ้าเกือบครึ่งทางเลย การเดินทางในช่วงแรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากบนเส้นทางหลวง Kolyma แต่ถนนค่อนข้างจะลื่นพอสมควร พวกเขาต้องนอนพักผ่อนแออัดกันในรถ และผลัดกันนอนเป็นพักๆ พวกเขากินอาหารแช่แข็งและอาหารกระป๋อง แต่โชคดีที่นำเตาแก๊สพกพามาด้วย จึงสามารถปรุงอาหารได้ในระดับหนึ่ง ตลอดการเดินทาง…
-
เด็กดาวน์ซินโดรม ขอของขวัญวันเกิดเป็นของเล่นสุนัข เพื่อมอบให้กับเจ้าตูบในศูนย์พักพิง
เด็กๆ มักจะจำวันเกิดตัวเองได้เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นวันพิเศษที่จะได้เป่าเค้ก ได้รับของขวัญมากมาย และยังเป็นวันที่พวกเขาจะได้ขอพรอีกด้วย แต่สำหรับ Nico Barillas จากเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เขาเป็นดาวน์ซินโดรมจนเกือบจะพูดไม่ได้ ต้องสื่อสารผ่านไอแพด แต่เขาก็มีใจอยากช่วยสุนัขในวันเกิดของเขา ในวันเกิดของ Nico ต่างไปจากเด็กทั่วไป เพราะของขวัญในงานนั้นล้วนเป็นของใช้และของกินของสุนัขทั้งนั้น ไม่มีของเล่นสำหรับเขาเลย ซึ่งทั้งหมดก็เป็นความต้องการของเด็กชายนั่นแหละ ตอนแรกพ่อแม่ก็แปลกใจเหมือนกันนะ พวกเขาถามเด็กชายว่า “ลูกอยากได้อะไรในวันเกิดนี้มั้ย?” เด็กชายตอบว่า “ของเล่นสุนัขครับ” แต่ตอนนั้นพวกเขาก็มีของเล่นมากมายสำหรับสุนัขของพวกเขาอยู่แล้ว ก็ไม่รู้ว่าทำไมลูกถึงขอแบบนี้ แต่ลูกชายได้บอกว่า “ไม่ใช่เพื่อสุนัขของเรา แต่เพื่อสุนัขทุกตัว” แม่จึงถามเขาต่อว่า “ลูกอยากให้ของเล่นกับสุนัขที่ไม่มีบ้านใช่มั้ย?” เด็กชายตอบในไอแพดว่า “ใช่ ใช่ ใช่” พ่อแม่จึงนำไอเดียของ Nico ไปเชิญชวนเพื่อนๆ ของเด็กชายด้วย ซึ่งทุกคนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จนเด็กๆหลายคนบอกว่า พวกเขาก็อยากทำเหมือนกับ Nico ด้วย เรื่องนี้ได้สร้างความภูมิใจให้กับพ่อแม่ของเด็กชายเป็นอย่างมาก และรู้สึกดีที่ได้เห็นเด็กหลายคนมีใจที่อยากช่วยเหลือสัตว์ขนาดนี้ พวกเขาทำให้ในสิ่งที่ต่างไปจากเด็กทั่วไป และมันก็เป็นเรื่องดีด้วย เมื่อเด็กชายเห็นว่ามีของขวัญเต็มโต๊ะ เขาดีใจมาก และเมื่อเห็นว่าทุกชิ้นเป็นของสำหรับสุนัขทั้งนั้น เขายิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เขาดูมีความสุขมากกว่าวันคริสต์มาสซะอีก …
-
หมาปั๊กทำหน้าเศร้าขณะตัดเล็บ ชาวเน็ตไม่พลาดเอาไปตัดต่อ จนกลายเป็นเรื่องฮาเลย
หมาปั๊กเป็นสุนัขสายพันธุ์หนึ่งที่ทีใบหน้าเป็นเอกลักษณ์อย่างโดดเด่น พวกมันมักจะมีใบหน้าย่นที่ดูเหมือนเศร้าตลอดเวลา แต่ต่อพวกมันมีความสุข หน้าก็ไม่ต่างจากนี้หรอกค่ะ ที่สำคัญคือพวกมันเป็นสุนัขที่มีนิสัยอ่อนโยนและน่ารักมาก ไม่เชื่อลองดูจากวิดีโอนี้สิ ซ้อนเก่งขนาดนี้ รู้เลยว่าต้องเป็นปั๊กสายแว๊นแน่ๆ… อ่ะ มาดูที่ตัวนี้กันดีกว่า คือเจ้าหน้าที่กำลังตัดเล็บให้หมาปั๊ก แล้วดูมันทำหน้าสิ อย่างกับจะถูกจับฉีดยา อะไรจะเศร้าก็ขนาดน๊านนนน หน้าแบบนี้แหละที่ชาวเน็ตชอบ เพราะพวกเขาจะหาความสนุกจากใบหน้าของมันด้วยการนำตัดต่อให้อยู่เหตุการณ์ต่างๆ จากหน้าเศร้ากลายเป็นหน้าฮาเลย เมื่อคุณเปิดตู้เย็นแล้วพบว่า ไม่มีอะไรให้กินเลย เมื่อคุณลุ้นไม่ให้คู่แข่งยิงประตูเข้า เมื่อคุณพาสาวมาทานข้าวแล้วเจอบิลที่แพงเกิดคาด ชีวิตในตารางมันช่างเศร้าเหลือเกิน แม้แต่โปสเตอร์หนังดังอย่าง Get Out ก็เหมาะแก่การตัดต่อซะเหลือเกิน ไม่รู้ทำผิดไรมา แต่ขอหนีไว้ก่อน คอนเสิร์ตไรแว๊ น่าเบื่อจุง สุดท้ายนี้ เพื่อนๆ ช่วยตัดต่อให้ทีนะ เอาแบบฮาๆ ที่มา ladbible
-
แม่แมวช่วยเลี้ยงลูกแมว 14 ตัว ดูแลเหมือนลูกตัวเอง ทำให้พวกมันรอดพ้นจากความหิวโหย
เมื่อคุณได้กลายเป็นแม่คนแล้ว คุณจะมีสัญชาตญาณแห่งความเป็นแม่อย่างเต็มเปี่ยม และเมื่อนั้นคุณจะกลายเป็นคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก แม้แต่สัตว์เลี้ยงอย่างแมวเองมันก็มีสัญชาตญาณแห่งความเป็นแม่เช่นกัน ที่สำคัญคือมันไม่เกี่ยงว่าลูกแมวจะเป็นลูกของมันหรือไม่ แต่มันก็พร้อมจะดูแลเหมือนดั่งเป็นลูกแท้ๆ ของมันเอง Izabelle แม่แมวที่อยู่ใน Animal Care Centers of NYC (ACC) พร้อมด้วยลูกๆ ถึง 14 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่ลูกของมันหรอก แต่ลูกของแมวอีก 2 ตัว ก่อนหน้านี้มันอยู่ในบ้านหลังหนึ่งกับเพื่อนอีก 2 ตัว แล้วทั้ง 3 ตัวก็เกิดลูกในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่แมวอีก 2 ตัว ไม่สามารถดูแลลูกได้ จนลูกๆ ของพวกมันต้องทรมานจากความหิว Izabelle ไม่สามารถทนเห็นลูกแมวในสภาพนั้นได้อีก มันเลยตัดสินใจรับเลี้ยงลูกแมวทั้งหมดนั้นไว้ และดูแลพวกมันเหมือนลูกของมันเอง เมื่อมีแมวจำนวนมากมาอยู่ในบ้านขนาดนี้ ทำให้เจ้าของไม่สามารถเลี้ยงทั้งหมดไว้ได้ พวกเขาจึงได้ตัดสินนำแมวเหล่านี้ไปไว้ในศูนย์พักพิง แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะแม่แมวไม่ยอมให้ใครแยกลูกไปจากมัน ในที่สุดศูนย์พักพิง Best Friends Animal Society (NYC) จึงไดัรับแมวทั้ง…
-
สุนัขใกล้ตายยอมฝืนร่ายกาย เพื่อรอเจอหน้าเจ้านายตัวน้อย ก่อนจากไปในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
เมื่อสุนัขแก่ตัวลงไป พวกมันจะเหนื่อยง่าย เคลื่อนไหวตัวได้ช้าลงและอาจทำให้เจ้าของต้องเหนื่อยกว่าเดิมมากๆ แต่ยังไงพวกมันก็อยากอยู่เคียงข้างเจ้าของจนวินาสุดท้าย Rocky สุนัขวัย 17 ปี ที่ถูกเจ้าของเดิมทิ้งและไล่ออกจากบ้าน เพราะมันแก่จนกลายเป็นภาระ แต่ก็โชคดีที่ทางศูนย์พักพิง Anne Arundel County Animal Control (AACAC) ไปเจอมันเข้า และได้ช่วยมัเอาไว้ ดังนั้นตั้งแต่ Rocky ได้เข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงแห่งนี้ในปี 2015 มันก็รู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่ เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลมันตลอดแม้ว่าเป็นภาระให้พวกเขาบ้างก็ตาม ในขณะเดียวกันคู่รัก Beth และ Michael Clark ก็เพิ่งจะนำเงินมาบริจาคให้ศูนย์พักพิงแห่งนี้ และได้ถามเจ้าหน้าที่ว่า ‘ขอรับเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่งได้มั้ย?’ และแล้วพวกเขาก็ได้พบกับ Rocky ทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถออกจากที่นี่ได้หากไม่พาสุนัขตัวนี้ไปด้วย Beth บอกว่า “ตอนนั้น Rocky ดูเศร้ามากเลยค่ะ ฉันสงสารมันจับใจเลย” แต่สุนัขแก่ตัวนี้ก็เศร้าได้เพียงไม่นาน เพราะ Beth และ Michael ตัดสินใจรับเลี้ยงมัน และพามันกลับไปฉลองคริสต์มาสที่บ้านด้วย ทำให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวทันที Chris Collins จาก AACAC บอกว่า “ทุกคนต่างชอบเรื่องราวของ Beth…
-
29 ภาพของคนที่ตั้งใจทำผิวสีแทน แต่เกิดความผิดพลาด ได้ลายผิวแปลกๆ มางี้เลย!?
ร้อนๆ แบบนี้ ต้องหาที่คลายร้อนกันสักหน่อยแล้ว แต่ชุดที่จะใส่ก็สำคัญเหมือนกันนะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนแดดเผาจนผิวไหม้กันหมด หรือใครตั้งใจจะอาบแดดเพื่อทำผิวสีแทน ต้องดูดีๆ นะว่า จะให้ส่วนไหนแทนบ้าง หรือจะป้องกันส่วนไหนไว้บ้าง มิฉะนั้นผิวคุณจะเกิดลายประหลาดจนไม่กล้าโชว์ผิวไปอีกนาน เหมือนพวกเขาเหล่านี้ 1. เป็นตารางมาเชียว 2. แค่ไม่ได้ใส่เสื้อแขนยาวเอง โดดแดดเผาไปขนาดนี้เลยหรอ 3. กะจะทำผิวแทนสวยๆ สักหน่อย แต่สิ่งที่ได้มาคือ… 4. ปิดทุกส่วนแล้ว แต่ลืมปิดหน้า มันเลยออกมาเป็นแบบนี้ 5. นี่ตั้งใจใช่มั้ย 6. ทาครีมกันแดดไม่ทั่วถึงก็ผิวลายได้นะ 7. เมื่อใส่หมวกแก๊ปออกแดด 8. นึกว่าใส่เลคกี้ง 9. นี่ก็เช่นกัน เป็นแบบนี้ ถุ่งน่องก็ไม่จำเป็นแล้ว 10. นอบอาบแดด เอามือวางแบบท้อง ได้ลายนี้มาเลย 11. ตั้งใจทำผิวสีแทนแหละ แต่ดูสิ่งที่ได้สิ…
-
มาถึงขั้นนี้แล้ว!? สาวมะกันวัย 23 ปี กระทำอุกอาจปล้นและข่มขืน แท็กซี่หนุ่มผู้โชคร้าย…
ปัญหาการข่มขืนนั้นนับวันก็ยิ่งจะมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่เพียงผู้หญิงและเด็กเท่านั้นที่จะตกเป็นเหยื่อ ผู้ชายก็เป็นเหยื่อของการข่มขืนได้เช่นกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นในรัฐโอไฮโอ เมื่อหญิงสาว Brittany Carter วัย 23 ปี ถูกจับกุมในข้อหาข่มขืนคนขับแท็กซี่หนุ่ม โดยมี Cory Jackson วัย 20 ปี และชายหนุ่มอีกคน เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 28 มกราคม โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ Carter กับ Jackson และชายอีกคนหนึ่งได้เรียกใช้บริการแท็กซี่จาก Trinity Express Cab Service Brittany Carter และ Cory Jackson ในระหว่างที่รถกำลังแล่นนั้น Jackson ก็ได้เอามีดจี้คอคนขับแท็กซี่วัย 29 ปี ทำให้เขาต้องรีบจอดรถกระทันหัน จากนั้น Carter ก็เริ่มทำอนาจารกับคนขับแท็กซี่ทันที โดยคนขับแท็กซี่เองก็พยายามขัดขืนอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมีมีดจี้คออยู่ หลังจากทำการข่มขืนเสร็จแล้ว Carter และ Jackson ก็ได้รีบหนีไปทันที โดยเหยื่อบอกว่า พวกเขาขโมยเงินจำนวน 3,500 บาทติดตัวไปด้วย…
-
เด็กหญิงป่วยเป็นโรคผมร่วง คุณแม่จึงจัดทรงผมที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกๆ วัน
ทรงผมก็เหมือนอีกหนึ่งความมั่นใจของคนเรา ดังนั้นก่อนจะเลือกตัดผมทรงอะไรหรือทำสีผมก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เพื่อไม่ให้สูญเสียความมั่นใจในส่วนนั้นไป จะเหมาะกับเรามั้ย ทำแล้วจะเข้ากับหน้าเรารึเปล่า? แต่สำหรับเด็กหญิงคนนี้ เธอไม่สามารถเลือกได้ว่าจะทำทรงอะไร เพราะผมเธอเป็นโรคผมร่วง (Alopecia Areata) และไม่มีทางรักษาได้ด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสุขหายไปจากชีวิตเลย เด็กหญิง Gianessa Wride วัย 7 ขวบ จากยูทาห์ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคผมร่วงเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และมันก็ไม่มีทางไหนที่จะช่วยให้ผมของเธอกลับมาได้เลย ในขณะที่ทางหมอก็แนะนำให้เธอกินยาสเตียรอยด์ ซึ่งก็ช่วยได้บ้าง แต่พอหยุดกินไป ผมของเด็กหญิงก็ร่วงไปอีก ดังนั้น Daniella แม่ของเธอจึงไม่ให้เด็กหญิงทานยาอีกต่อไป และแน่นอนว่าเธอคงไม่ปล่อยให้ลูกต้องไปโรงเรียนด้วยหัวโล้นๆ แบบนี้ คุณแม่ได้ปิ้งไอเดียด้วยการตกแต่งหัวให้ลูกสาว เพื่อสร้างความมั่นใจให้ คุณแม่ได้นำสติกเกอร์มาติดบนหัว Gianessa เป็นรูปดอกไม้บ้าง รูปสัตว์บ้าง โดยใช้สติกเกอร์ที่มีสีสันสดใส ซึ่งทำให้เด็กหญิงถูกใจมากๆ กับทรงผมที่คุณแม่จัดให้ คุณแม่พยายามเปลี่ยนทรงไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลูกสาวไม่รู้สึกเบื่อ และที่สำคัญก็คือ เป็นการช่วยทำให้เด็กหญิงได้ไปโรงเรียนด้วยความมั่นใจ และไม่ถูกเพื่อนๆ ล้อด้วย ในทุกๆ วัน Gianessa จะมีแต่ความสนุกสนาน เพราะเธอจะรอลุ้นว่า แม่จะทำทรงอะไรให้ และไม่ว่าแม่จะทำทรงไหนให้…
-
เม้าท์ให้แซ่ด!! ‘Mariah Carey’ เปย์แฟนหนุ่มเดือนละ 8 แสน เพื่อให้ซื้อของขวัญสุดหรูให้
เมื่อพูดถึง Mariah Carey หลายคนคงคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี เพราะเธอเป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์เพลงที่มีผลงานคุณภาพมากมาย นอกจากผลงานที่โดดเด่นแล้ว เรื่องความรักของเธอนั้นก็สุดโต่งไม่เหมือนใครเช่นกัน โดยนิตยสาร Life & Style ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบัน Mariah ในอายุ 47 ปีกำลังคบอยู่กับ Bryan Tanaka วัย 33 ปี แต่ก่อนหน้านี้เธอได้แต่งงานไปแล้วกับ Nick Cannon จนทั้งคู่ได้เลิกรากันไป แต่นั่นไม่ได้มีผลอะไรกับเธอมาก เพราะหลังจากนั้นไม่นานเธอก็หันไปคบกับ James Packer จนกระทั่งหมั้นกันไปที่เรียบร้อย โดยตลอดระยะเวลาที่คบกันนั้น James ก็คอยปรนนิบัติเธอเป็นอย่างดี มักจะซื้อของขวัญมาเซอร์ไพรส์ให้อยู่เสมอ แล้วก็ไม่รู้ไปทำอีท่าไหน ทำให้เธอต้องเลิกกับคู่หมั้นคนนี้อีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่เลิกกัน Bryan ก็เดินหน้าตามจีบ Mariah เมื่อช่วงเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นเขาเป็นแค่นักเต้นที่มีรายได้เดือนละ 50,000 เท่านั้น ไม่นานหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตกลงเป็นแฟนกัน ซึ่งทางนิตยสาร Life & Style บอกว่า ชายหนุ่มคนนี้ได้รับเงินจากศิลปินสาวสูงถึง 860,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว …
-
รวมภาพ 22 ของผู้รักความท้าทายกับ “การผจญภัยสุดหวาดเสียว” จนหายใจไม่ทั่วท้อง
ใครที่ชอบความเสียว ควมสูง ความท้าทาย คุณมาถูกทางแล้ว แต่สำหรับใครที่กลัวความสูง จะเข้ามาดูก็ได้นะ เพราะนี่คือความเสียวที่แบบเสียวสุดๆ แน่นอนว่า คนที่ชอบความท้าทายนั้น มักจะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่ชอบออกไปผจญภัยที่โน่นนี่นั่นเสมอ และแต่ละอย่างที่ทำนั้นบอกได้เลยว่า ใจไม่แข็งจริงทำไม่ได้นะจ๊ะ มันอาจจะเป็นความสนุกสำหรับพวกเขาเหล่านี้นะ แต่เป็นความสนุกท่ามกลางความเสี่ยงที่อาจจะต้องแลกมาด้วยชีวิต แต่ก็อย่างว่าแหละ ความชอบกับสักครั้งหนึ่งที่ได้สัมผัสประสบการณ์สุดท้าทายเหล่านี้ Eskil Ronningsbakken นักแสดงโลดโผนจากนอร์เวย์ ผู้ออกทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายภาพความเสี่ยงเช่นนี้มาให้ชาวโลกได้ดู Kayakers Steve Fisher วัย 37 ปี Dale Jardine วัย 33 ปี จากแอฟริกาใต้ และ Sam Drevo จากอเมริกา กำลังอยู่บนขอบน้ำตก Zambia’s Victoria Falls ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักปีนเขากำลังพักผ่อนชิลๆ อยู่บนหน้าผา El Captain Rock ในอุทยานแห่งชาติ Yosemite ของรัฐแคลิฟอร์เนีย หน้าผา Moher ในไอร์แลนด์ สูง 200 เมตร เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นเส้นทางจักรยานที่อันตรายที่สุดในโลก…
-
ชายหนุ่มตามเสียงปริศนา พบหนุ่มใหญ่ที่หายตัวไปนานนับเดือน ใกล้สิ้นใจอยู่ในหลุมลึก!!
ทุกวันนี้รายชื่อคนหายตัวไปนั้นมีอยู่ในทุกประเทศ ซึ่งก็มีสาเหตุที่แตกต่างกัน และสิ่งที่ทุกคนสงสัยคือ พวกเขาเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน ยังมีชีวิตอยู่มั้ย? เหมือนกับ James Thompson วัย 51 ปี คนนี้ที่หายตัวไปกว่า 1 เดือนแล้ว หลายคนเชื่อว่าเขาหนีไปอยู่ในป่า แต่บางคนก็บอกว่าเขาเจ็บข้อเท้าจนต้องเข้าไปพักในหลุมแล้วก็ออกมาไม่ได้ ในขณะที่ทางตำรวจเองคาดว่า เขาคงเสียชีวิตตั้งแต่วันแรกที่หายตัวออกจากไปบ้านแล้ว แต่ก็ไม่มีหลักฐานมายืนยันคำเหล่านี้ เพราะฉะนั้นการหายตัวไปของ James ยังคงเป็นปริศนาต่อไป James Thompson ผู้หายตัวไปนานนับเดือน จนกระทั่งวันหนึ่ง Izaak Eglington-Watts วัย 19 ปี และเพื่อนสาว Emily Thompson วัย 18 ปี ได้ไปพบกับ James ในระหว่างที่พวกเขาเดินเข้าไปในป่า พวกเขาหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาจากหลุมใต้สะพานแห่งหนึ่ง จากนั้น Izaak ก็ส่งเสียงตะโกนออกไป และมีเสียงของ James ตอบกลับมา แต่เป็นเสียงสะท้อนที่ฟังไม่ค่อยชัดนัก แต่ชายหนุ่มมั่นใจว่าต้องมีคนอยู่ในนี้แน่ๆ Izaak จึงตัดสินใจที่จะปีนลงไปดู แต่ก็ได้หันมาถาม Emily ก่อนว่าจะลงไปด้วยมั้ย เธอตอบไม่ ชายหนุ่มจึงปีนลงไปคนเดียวอย่างระมัดระวัง ในขณะเดียวกันเขาก็ตะโกนเรียกคนที่อยู่ข้างล่างเรื่อยๆ และเขาก็ตอบกลับมาด้วย แต่มองไม่เห็นอะไรเลย เพราะมันมืดมากจนต้องใช้แฟลชโทรศัพท์ช่วยส่องทาง…
-
คุณแม่ถ่ายรูปลูกสาวกับสุนัขตัวโปรด บันทึกมิตรภาพอันสวยงามและน่ารักของทั้งคู่
เพื่อน ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีความเหมือนกันหรือต่างกันสุดขั้ว แต่ขอแค่ใครสักคนที่เข้าใจ ร่วมทุกข์ร่วมสุขและพร้อมจะเรียนรู้ไปด้วยกัน เหมือนกับเด็กหญิงคนนี้ที่มีเพื่อนเล่นเป็นสุนับผู้ซื่อสัตย์ และไม่ว่าทั้งคู่จะทำอะไรก็หรือไปไหน ทั้งคู่มักจะอยู่ด้วยกันและมอบความสุขให้กันและกันเสมอ Mustang เป็นสุนัขถูกรับเลี้ยงโดยแม่ของเด็กหญิง Aayat ตั้งแต่มันเข้ามามันก็เปรียบเสมือนลูกชายของบ้านนี้ และมันยังทำหน้าที่เป็นพี่ชายให้เด็กหญิงด้วย ดังนั้นคุณแม่จึงตัดสินใจที่จะเก็บความทรงจำของทั้งคู่ไว้ ด้วยการถ่ายรูปพวกเขาเวลาเล่นด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน รวมทั้งกิจกรรมอื่นที่ทำร่วมกัน แต่ถ้าทำคนเดียวคงจะทำได้ยาก คุณแม่จึงขอให้สามีช่วย แต่ดูเหมือนสามีไม่ค่อยอยากทำสักเท่าไร ทำให้ทั้งสองเกิดทะเลาะกันจนเกือบจะบานปลายถึงขั้นหย่าร้างกัน แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วยที่คุณแม่ได้ถ่ายรูปแล้วบ้างนั้น ผู้เป็นพ่อก็ได้เห็นถึงความน่ารักและความสัมพันธ์ของลูกกับสุนัข เขาจึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการถ่ายภาพครั้งนี้ด้วย แม้จะไม่ได้เข้ามาช่วยโดยตรง แต่คุณพ่อก็คอยบอกลูกสาวว่าควรทำอะไรบ้าง อย่างไร ทั้งยังคอยดูแลเธอระหว่างที่คุณแม่ถ่ายรูปด้วย และทั้งหมดนี้ก็ทำให้เกิดภาพที่สวยงามสมบูรณ์แบบและน่ารักที่สุด . . . . . . . . . . . . เป็นชุดภาพที่น่ารักมากๆ ค่ะ ที่มา boredpanda l butnaturalphotography
-
มนุษย์เลี้ยงลูกชิมแปนซีไว้ในบ้าน ซนจนทำข้าวของพังเพียบ แต่เพราะน่ารักจึงให้อภัยได้!!
“ซนเหมือนลิงเลย” เราคงจะเคยได้ยินคำนี้กันบ่อยๆ ในวัยเด็ก แล้วเราเคยสงสัยมั้ยว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงชอบเปรียบเทียบกับลิงนะ มันซนขนาดนั้นเลยเหรอ!? ก็ไม่รู้ว่าจะซนจริงเหมือนกับลิงมั้ย แต่สำหรับ Marta Llanes ก็ขอยืนยันแล้วว่า ลิงเป็นสัตว์ที่มีความซนจริงจริ๊ง ถึงขนาดทำลายข้าวของในบ้านไม่เว้นแต่ละวัน แต่เธอก็โกรธพวกมันไม่ลงเลยซักครั้ง Llanes เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านชีวิตวิทยา วัย 62 ปี จากประเทศคิวบา เธอทำงานอยู่ในสวนสัตว์มาตั้งแต่ปี 1983 แล้ว และนั่นก็ทำให้เธอมีความคุ้นเคยกับสัตว์เป็นอย่างดี แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ต้องพลิกบทบาท มาเป็นแม่ของลูกชิมแปนซี 2 ตัว นั่นก็คือเจ้า Ada วัย 13 เดือน และเจ้า Anuma วัย 15 เดือน เนื่องจากแม่ของพวกมันอายุน้อยเกินไปที่จะดูแลมันได้ Llanes พาทั้งสองตัวเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอ และเลี้ยงพวกมันเหมือนลูกเลย แต่เพราะความเป็นลิงเนี่ยแหละ จึงได้สร้างเรื่องปวดหัวให้ไม่เว้นในแต่ละวัน พวกมันทำลายข้าวของ ทำทีวีแตก ทำบ้านเลอะเทอะ และหาภาระอื่นๆ มาให้อีกเพียบ ถ้าเป็นคนอื่นคนก็คงจะเอาไปปล่อยสวนสัตว์หรือปล่อยป่าไปแล้ว แต่ Llanes ไม่เคยโกรธพวกมันเลย และเลือกที่จะเก็บพวกมันไว้ เพราะเธออยากทำหน้าที่แม่ที่ดีที่สุดให้ทั้งสองตัวนั่นเอง…
-
สองหนุ่มปลอมตัวเป็นคนจรจัด เพื่อตามหาคนที่เหมาะสม กับรางวัลบ้านถังขยะสุดล้ำไปครอง!!
ในขณะที่เราส่วนใหญ่ได้อยู่อาศัยในบ้านอันแสนอบอุ่น มีเครื่องอำนวยความสะดวกเยอะแยะมากมาย แต่ยังมีคนอื่นกลุ่มหนึ่งต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน ไม่มีบ้าน ไม่มีที่นอน จะหนาวหรือร้อนก็ต้องอดทน Damian ‘Dean’ Cummings เป็นคนจรจัดที่ต้องนอนอยู่ข้างถนนในนิวยอร์กเป็นเวลานาน แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเขาได้พบกับชายหนุ่ม 2 คน ก็ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป Damian ‘Dean’ Cummings ชายจรจัดผู้โชคดี เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ Shane Duffy วัย 37 ปี และ Phil Sullivan นายแบบจาก America’s Next Top วัย 28 ปี ได้พบกับ Cummings ชายจรจัดที่นั่งขอทานอยู่ข้างถนนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 ตอนนั้นทั้ง 2 คนปลอมตัวเป็นขอทานเช่นกัน เพื่อเฟ้นหาคนที่สมควรจะได้รับของขวัญอันล้ำค่าจากพวกเขา เมื่อเวลาผ่านไป 4 วัน พวกเขาก็ได้เจอกับ Cummings โดยเขาแสดงน้ำใจให้กับทั้งสองคนได้เห็น ทั้งแบ่งที่นอน อาหาร และผ้าห่มให้ หลังจากเหตุการณ์นั้น พวกเขาจึงตกลงที่จะมอบรางวัลให้กับชายจรจัดคนนี้ เพราะเขามีน้ำใจ ขนาดตัวเองไม่มีอันจะกิน ก็ยังอุตส่าห์แบ่งปันในสิ่งที่มีให้กับคนอื่นๆ…
-
ลูกค้ากรีดร้อง มีงูมาจ๊ะเอ๋ในชั้นแช่เย็นซุปเปอร์มาร์เก็ต หลบร้อนมาหาอะไรกินเหรอลู๊กกกก!?
ทุกวันนี้หลายคนเลือกที่จะซื้อของในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต เพราะมีความกว้างขวาง แอร์เย็น ข้าวของถูกจัดเป็นระบบระเบียบ และดูสะอาดสะอ้านด้วย ว่าแต่เพื่อนๆ เคยเจอเหตุการณ์แปลกๆ ในซุปเปอร์มาร์เก็ตกันบ้างมั้ยคะ? แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแปลกและสะพรึงเท่าเหตุการณ์นี้หรือเปล่า เพราะทำเอาคนแตกตื่นกันทั้งห้างเลยทีเดียว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ห้างเทสโก้แห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้ เมื่อลูกค้าคนหนึ่งเลือกสินค้าจากชั้นแช่เย็นกะจะหยิบสินค้าที่ต้องการมา ในระหว่างที่กำลังเลือกสินค้าอยู่นั้น ก็เจอเจ้างูนอนแช่อยู่บนชั้นอย่างสบายใจ!! ลูกค้าเจอแบบนี้ก็กรี๊ดลั่นสิ จนทางด้าน Martie Esnouf ผู้จัดการของห้างต้องวิ่งไปดู แล้วลูกค้าคนนั้นก็บอกด้วยเสียงสั่นว่า “งูค่ะงู งูอยู่ในนั้นค่ะ!!” ส่วนเจ้างูนั้นเมื่อถูกจับได้ มันรีบเลื้อยเข้าไปหลบในกล่องนม กล่องโยเกิร์ตอย่างรวดเร็ว ผู้จัดการจึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่ให้มาจัดการทันที ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่จับงูของท้องถิ่นมาถึง ก็พบว่ามันคืองูหลามแอฟริกา (African Rock Python) ที่มีความยาวสูงสุดถึง 6 เมตร และสามารถฆ่าคนตายได้ เจ้าหน้าที่ต้องขอให้พนักงานและลูกค้าออกจากพื้นที่ใกล้เพื่อที่จะทำการนำงูตัวนี้ออกมา แต่เมื่อเอาออกมาได้แล้วปรากฏว่ามันแทบจะไม่ขยับเลย คงจะเป็นเพราะความเย็นจากชั้นแช่สินค้า พวกเขาจึงได้นำงูตัวนี้ไปไว้ที่ Kruger National Park โดยให้ความอบอุ่นและเฝ้าสังเกตอาการกว่า 48 ชั่วโมง จนในที่สุดมันก็กลับมาขยับได้เหมือนเดิม ก่อนที่จะปล่อยมันคืนสู่ธรรมชาติต่อไป ทางด้านผู้จัดการ Martie บอกว่า “ฉันไม่รู้ว่ามันเข้าไปอยู่ในนั้นยังไง มันอาจจะเข้ามาทางใต้หลังคา…
-
สูงจนเสียว!! สระว่ายน้ำใสบนชั้นดาดฟ้า มองเห็นพื้นข้างล่าง 150 เมตร หัวใจจะวายก่อนว่าย
เวลาเครียด หรือรู้สึกเหนื่อยมากๆ หลายคนมักจะเลือกระบายด้วยการนอนแช่ในน้ำหรือไปว่ายน้ำ ดังนั้นสระว่ายน้ำในแต่ละที่มักจะมีการออกแบบเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้ เช่นเดียวกับสระน้ำ Sky Pool ซึ่งอยู่บนชั้น 42 ของอพาร์เม้นต์สุดหรู Market Square Tower ที่จะทำให้คุณลืมทุกเรื่องเมื่อมาว่ายน้ำที่นี่ สระว่ายน้ำ Sky Pool อยู่ที่ความสูง 152 เมตร เป็นสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า ที่มีความพิเศษมากกว่าที่อื่นนั่นก็คือ การออกแบบให้สระน้ำบางส่วนนั้นยื่นออกจากตัวอาคารถึง 3 เมตร และส่วนของ 3 เมตรนั้นก็เป็นกระจกใสที่มีความหนา 8 นิ้ว นั่นเท่ากับว่า เมื่อคุณก้าวเท้ามายังส่วนที่เป็นกระจกใส คุณจะได้เห็นวิวที่เสียวไส้จนลืมทุกอย่างไปเลย เพราะคุณจะเห็นวิวข้างล่างได้อย่างชัดเจน นี่ถ้าใครกลัวความสูงมีหวังเป็นลมแน่ แต่สำหรับคนที่ใจไม่แข็งพอ ก็ลงไปเล่นสระว่ายน้ำชั้น 4 ของอพาร์ทเมนต์ก็ได้นะ ดังนั้นใครที่กำลังมองหาสระว่ายน้ำที่ไม่ทำให้หัวใจวายก่อนลงว่ายน้ำ ก็น่าจะตอบโจทย์ได้บ้างนะคะ ในแต่ละห้องของ Market Square Tower มีพื้นที่ 564 ตารางฟุต มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคา 200,000 บาทต่อเดือน แต่ถ้ารวมค่าอาหารเข้าไปด้วยแล้วก็ประมาณ 2 ล้านบาทต่อเดือนค่ะ …
-
ช่างภาพเผยชีวิตใน “ทรานส์นีสเตรีย” ประเทศที่ไม่มีตัวตน เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากชาติอื่น
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน เราก็ต่างต้องการการยอมรับจากสังคมทั้งนั้น เพราะในโลกนี้ไม่มีใครอยู่ตัวคนเดียวได้ เช่นเดียวกับประเทศหนึ่งบนโลกนี้ ที่กำลังต้องการการยอมรับจากประเทศอื่นๆ เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991 ยังคงมีอีกหนึ่งภูมิภาคทางตะวันออกของประเทศมอลโดวา ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์คอมมิวนิสต์อย่างแรงกล้า และกล่าวประกาศแยกตัวออกมาเป็นประเทศทรานส์นีสเตรีย เรื่องราวนี้ทำให้ช่างภาพอย่าง Julia Autz เกิดความสนใจมาก เธอจึงได้ตัดสินใจลงไปสำรวจพื้นที่นี้ด้วยตัวเอง เพื่อไปสัมผัสดูว่าชีวิตของผู้คนที่นี่จะเป็นอย่างไร ที่ต้องอาศัยอยู่ในประเทศที่ไม่มีความแน่นอนเช่นนี้ และเมื่อได้เข้าไปยังประเทศนี้ก็พบว่า พวกเขามีความเป็นชาตินิยมสูงมาก พวกเขาใช้สกุลเงินของตัวเอง ควบคุมการออกนอกประเทศ มีรัฐสภา มีเพลงชาติ และมีสัญชาติเป็นของตัวเอง แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่ได้รับการยอมรับจากโลกภายนอก หรือแม้กระทั่งรัสเซียเองก็ถูกมองว่าประเทศแห่งความหวังสำหรับพวกเขา เนื่องจากอยู่เหนือประเทศทรานส์นีสเตรีย และเป็นผู้ที่จะนำพาประเทศสู่อนาคตที่ดีกว่า ในขณะที่เดียวกันก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ต้องการอยู่ภายใต้ประเทศทรานส์นีสเตรีย พวกเขาคือกลุ่มเยาวชนของประเทศที่ไม่มีตัวตนแห่งนี้ ช่างภาพบอกว่า “เยาวชนหลายคนต้องการออกจากทรานส์นีสเตรีย เพราะมันยากต่อการหางานที่จะได้รายได้ที่เพียงพอ แต่ต่อให้พวกเขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยทรานส์นีสเตรีย ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากประเทศอื่นๆ อยู่ดี” ดังนั้นเด็กๆ หลายคนจึงมีความฝันว่าอยากเรียนต่อต่างประเทศหรือในประเทศรัสเซีย เพราะพวกเขาอยากมีตัวตนและอยากได้รับการยอมรับจากชาติอื่นๆ แต่ทุกวันนี้เท่ากับว่าประเทศดังกล่าวแทบจะไม่มีตัวตนอยู่จริงในโลกนี้เลย แม้พวกเขาจะมีชาติเป็นของตัวเอง มีประชากร แต่ก็ยังคงเป็นประเทศที่ไม่ได้รับการยอมรับถึงตัวตนที่มีอยู่บนโลกใบนี้เลย . . . . .…
-
จงทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง บินตามไปดูเทศกาลดอกไม้ในญี่ปุ่น แล้วคุณจะไม่รู้สึกผิดหวังที่ได้เห็น…
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเช่นนี้ เราคงจะได้เห็นต้นไม้ ดอกไม้เบ่งบานมากมาย แล้วถ้าพูดถึงต้นไม้ในบ้านเราเพื่อนๆ ชอบต้นอะไรกันบ้างคะ? แต่สำหรับวันนี้เราจะพาดูต้นไม้ในญี่ปุ่นกันค่ะ ในฤดูใบไม้ผลินี้นอกจากความสวยงามของต้นซากุระแล้ว ญี่ปุ่นยังมีเทศกาล Great Wisteria Festival ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี Great Wisteria Festival จะจัดขึ้นที่สวนดอกไม้ Ashikaga ซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดโทะชิงิ ประมาณ 2 ชั่วโมง ภายในงานจะเต็มไปด้วยต้นวิสทีเรียมากกว่า 350 ต้น ต้นวิสทีเรียเป็นสายพันธุ์ไม้เถาวัลย์ มีหลากหลายสี เช่น สีขาว ชมพู ม่วง และโทนสีที่ใกล้เคียงกัน โดยมีถิ่นกำเนิดทั้งในสหรัฐอเมริกา จีน เกาหลี และญี่ปุ่น และบางต้นใน Ashikaga ก็มีอายุมากกว่า 150 ปีแล้ว จนได้รับการประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นด้วย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกๆ จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น เพื่อชมความงามของต้นวิสทีเรียที่ไม่ว่าจะดูกี่ครั้ง กี่หน ก็ไม่รู้สึกเบื่อเลย เมื่อคุณเดินเข้ามาในสวนดอกไม้แห่งนี้ คุณจะได้เดินผ่านอุโมงค์ดอกไม้ที่มีความยาวถึง 80 เมตรเลยทีเดียว มันเป็นดอกไม้ที่มีความหอมหวาน งดงามจนรู้สึกว่ากำลังถูกสะกดให้หลงอยู่ในโลกแห่งดอกไม้เหล่านี้ …
-
พบกับ ‘Richard’ แมวเซเลปผู้มีท่านั่งเป็นเอกลักษณ์ กับความน่ารักตาสองสี พรั่งพรูไม่มีหมด
คนเลี้ยงแมวฟังทางนี้ หากคุณมีแมวที่น่ารักโดดเด่น ต่างจากแมวทั่วไป ได้โปรดอย่าอุบอิบ ถ่ายรูปแล้วแบ่งให้เราดูด้วย เพราะเราก็อยากเห็นความน่ารักของแมวคุณเหมือนกัน อิอิ เหมือนกับ Richard วัย 2 ขวบ จากเมือง LA อันเป็นแมวที่มีความแตกต่างจากแมวทั่วไปมากๆ เป็นเพราะด้วยท่านั่งเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครจนผู้คนทั่วโลกต้องให้ความสนใจ กลายเป็นแมวโด่งดังไปแว้ววววว นอกจากท่านั่งแล้ว ดูที่ตาของมันสิ มันมีตาข้างละสีอย่างโดดเด่น ฟ้าข้าง เหลืองข้าง ความสามารถพิเศษคือ สรรหาท่านั่งใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำใครได้เรื่อยๆ ก็คนมันรวยอะ นอนเล่นบนกองเงินชิลๆ โอ้ยยย ดูหน้าสิ น่าลูบ น่าไล้ม๊วกกก เพราะน่ารักแบบนี้ไง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมียอดฟอลโล่วในอินสตาแกรมถึง 1 แสนกว่าคนแล้ว คือจะบอกว่าความน่ารักไม่ได้มีแค่ที่บอกนะ แต่ยังมีอีกเยอะ ลองตามเข้าไปดูสิ แล้วคุณจะต้องหลงรักมันแน่นอน!! กำลังทำความสะอาดอยู่ อย่าขัดอารมณ์สิ ติดตามเหมียวเซเล็ปได้ที่อินสตาแกรม richard_kitty นะคะ น่ารักอ่ะ ต้องติตตามซะแล้ว ที่มา buzzfeed
-
ชุบชีวิตภาพขาว-ดำในประวัติศาสตร์ แต่งแต้มสีสันเพิ่มเข้าไป เพื่อสื่ออารมณ์ในแบบสมัยใหม่
ในยุคที่เทคโนโลยีการถ่ายภาพยังเป็นเพียงแค่ภาพขาวดำ ความทรงจำในอดีตเหล่านั้นเมื่อลองนึกย้อนกลับไปแล้วมันจะมีสีเป็นยังไงบ้าง ซึ่งบางทีมันก็ทำให้เราเข้าไม่ถึงอารมณ์ที่ช่างภาพต้องการถ่ายทอดด้วย ด้วยเหตุนี้ Jordan Lloyd จาก Dynamichrome จึงได้นำภาพถ่ายขาวดำในอดีตบางส่วน มาแต่งเติมสี ให้ภาพดูมีชีวิตและสื่ออารมณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยผ่านการคัดสรรจาก Retronaut ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Wolfgang Wild 1. เขื่อน Hoover ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 1935 เจ้าหน้าที่นั่งในท่อสำรวจขนาดใหญ่ เพื่อสำรวจการสร้างเขื่อน Hoover ในรัฐแอริโซนา โครงการนี้มีชื่อว่า The Paper Time Machine พร้อมกันนั้นพวกเขายังได้เปิดแคมเปญ crowdfunding เพื่อที่จะนำภาพเหล่านี้เผยแพร่สู่สายตาชาวโลก พวกเขาได้เลือกรูปภาพในประวัติศาสตร์กว่า 130 รูป โดยแต่ละรูปจะมีคำอธิบายกำกับไว้ด้วย ทั้งยังให้เหตุผลว่าทำไม Jordan ถึงเลือกรูปเหล่านี้มาแต่งเติมสี 2. หอไอเฟล กรุงปารีส กรกฎาคม ปี 1888 ระหว่างการก่อสร้างหอไอเฟลในปารีส 3. ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย ปี 1942 เป็นอนุสรณ์สถาน ตั้งอยู่ในเมืองอัครา ประเทศอินเดีย นับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในภาพคือ John C.…