Author:

เมื่อปลายปี 2016 ครอบครัวของ Pablo สุนัขชิวาวา พามันไปฝากไว้กับคนรับดูแลสัตว์เลี้ยง แต่สุดท้ายพวกเขาไม่เคยกลับมาหามันอีก Pablo รู้สึกกลัวและสับสนเมื่อต้องอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย มันไม่ทำอะไรนอกจากเห่า และเป็นอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์นับตั้งแต่มันได้เห็นครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย     หลังจากผ่านไปเป็นเดือน เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ไม่สามารถทนฟังเสียงของมันได้อีกต่อไป พวกเขาจึงโพสต์รูปของมันในโซเชียล เพื่อหาศูนย์พักพิงหรือไม่ก็ขายมันผ่าน Craigslist (เว็บหางาน ที่อยู่ และขายของออนไลน์) Michele Walsh ประสานงานด้านการช่วยเหลือสัตว์ของ AMA Animal Rescue บอกว่า “เรารู้มาว่า Pablo ถูกขังอยู่ในตู้เสื้อผ้าที่นั่น เพราะมันเห่ามากเกินไป เราเลยไปพามันออกมาทันที”     แม้ว่าน้องหมาจะปลอดภัยแล้ว แต่ความกลัวของมันยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ มันกลัวทุกสิ่งทุกอย่าง เลยเห่าไม่หยุด และแทบจะไม่ยอมให้ใครเข้าไปใกล้ Walsh บอกว่า “มันกลัวทุกคน โดยเฉพาะผู้ชาย เราไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตมัน แต่สิ่งที่เราเห็น เรารู้สึกเสียใจกับมันอย่างมาก และคาดเดาว่าคงต้องมีชายคนหนึ่งที่ทำเรื่องไม่ดีไว้กับมัน” หลังจากที่ตรวจสุขภาพแล้ว Pablo ถูกย้ายไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ของ Alexia Perimone ที่นั่นทำให้ความกลัวของมันลดลง และทำให้มันเห่าน้อยลงด้วย     ตอนแรกผู้ดูแลรู้สึกกังวลว่าน้องหมาจะไม่ยอมอยู่กับใคร แต่ปรากฏว่าทันทีที่เจอ Alexia พวกเขากลับเข้ากันได้ทันทีอย่างไม่น่าเชื่อ กระทั่งเดือนธันวาคม ปี 2017…

ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ เราไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่ทุกคนทุกตัวย่อมอยากมีชีวิตที่ดี ได้อยู่ในที่ดีๆ อย่างน้อยแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ยังดี เพราะแบบนี้ มนุษย์จึงช่วยเจ้าหมา Trigger ออกมาจากศูนย์พักพิงที่แออัดในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ของสหรัฐอเมริกา เมื่อตอนมันอายุประมาณ 1 ปีครึ่ง มันถูกย้ายไปอยู่ในศูนย์พักพิงในเพนซิลเวเนีย ที่นั่นโอกาสที่จะถูกรับเลี้ยงมีมากกว่า และแล้วมันก็ถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวใหม่ในวันต่อมา     ดูเหมือน Trigger จะได้พบกับความสุขในชีวิตตลอดไป แต่แล้ว สุขภาพของมันก็แย่ลงเรื่อยๆ… เพียงไม่กี่สัปดาห์ Trigger ก็ถูกส่งกลับไปยังศูนย์พักพิง เพราะมันฉี่ไปทั่ว ทางศูนย์พักพิงจึงทำการทดสอบร่างกายของมัน พบว่ามันมีอาการไตวายเรื้อรัง คุณหมอบอกว่าสุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 6 เดือนเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ศูนย์รู้ว่าการจะหาครอบครัวให้สุนัขป่วยแบบนี้ เป็นเรื่องที่เป็นได้ยากมาก     แม้จะป่วยหนัก แต่ Trigger ควรจะได้รู้ว่าการได้อยู่กับครอบครัวที่รักนั้นเป็นยังไง และมันควรได้ใช้ชีวิตในช่วง 6 เดือนสุดท้ายในบ้าน ไม่ใช่ศูนย์พักพิง โชคดีที่มีคนใจดีคนหนึ่งเข้าใจสถานการณ์ของ Trigger และรู้ว่ามันต้องการความช่วยเหลือ Kristen Peralta เป็นผู้ก่อตั้ง Vintage Pet Rescue ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือสัตว์อายุมากที่ไม่สามารถหาบ้านได้ เพราะอายุและสุขภาพของพวกมัน     Kristen และสามีได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ของ Trigger และแม้ว่ามันจะไม่ใช่สุนัขอายุมาก…

ตามธรรมชาติแล้ว หมีควรได้อยู่ในป่าอันกว้างใหญ่ ที่ที่มันมีอิสระในการหากิน วิ่งเล่น นอน ว่ายน้ำ โดยไม่ถูกคุกคามจากมนุษย์ แต่สำหรับเจ้าหมี Balu แล้ว มันถูกทำร้ายด้วยการถูกมนุษย์ขังไว้ในกรงแคบๆ และสกปรก นานถึง 2 ปี Balu เป็นหมีวัย 2 ปี มันถูกขังไว้ในกรงใน Artashat ประเทศประเทศอาร์เมเนีย โดยคนที่ชอบเก็บหมีเป็นระลึกและเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง     Lis Key จากฝ่ายประชาสัมพันธ์และผู้จัดการด้านการสื่อสารของ  International Animal Rescue (IAR) บอกว่า “กรงที่มันถูกขังมีความกว้างไม่เกิน 4 หรือ 5 ตารางเมตร ในนั้นไม่มีที่พักพิง มันมีแต่สิ่งสกปรก เหมือนไม่เคยทำความสะอาด Balu จึงต้องอยู่กับปัสสาวะและอุจจาระของตัวเอง แน่นอน กลิ่นมันแย่มากๆ” นอกจากต้องอยู่ในกรงที่สกปรกแล้ว คอของมันยังถูกคล้องด้วยโซ่ที่มีน้ำหนักมากในระดับหนึ่ง และไม่ได้กินอาหารครบทุกมื้อ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นเจ้าของให้อาหารหมี เธอเอาลูกอมและเครื่องดื่มผสมให้มัน International Animal Rescue ไม่สามารถยืนดูเจ้าหมีในสภาพนี้ได้ พวกเขาจึงพยายามจะช่วยมันออกมา     แต่การช่วยเหลือครั้งนี้ค่อนข้างซับซ้อน…

เป็นธรรมดาของสัตว์ป่าบางชนิดที่ชอบปีนป่าย เรียกได้ว่าอะไรที่ปีนได้คือปีนหมด ถ้าเป็นต้นไม้หรือที่ที่พวกมันคุ้นเคย มันอาจจะขึ้นลงได้ง่าย แต่ถ้าเป็นที่ที่ไม่คุ้นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น? มันก็คงจะเป็นอย่างเจ้าโคอาล่าตัวนี้ที่ดันไปปีนเสาไฟฟ้าเข้า แล้วเป็นไงล่ะ สุดท้ายลงมาไม่ได้ จนมนุษย์ต้องปีนขึ้นไปช่วยเหลือ     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Toowoomba รัฐควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย โดยมีโคอาล่าตัวหนึ่งติดอยู่บนเสาไฟฟ้าสูง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ ไม่มีใครรู้ว่ามันปีนขึ้นไปบนนั้นทำไม หรือมันอาจจะคิดว่าเป็นต้นยูคาลิปตัสละมั้ง แต่มันติดอยู่บนนั้นนานถึง 2 วัน และระหว่างที่ติดอยู่บนนั้น ข้างล่างมีการจราจรที่วุ่นวาย บวกกับการโดนหมาเห่า จนทำให้โคอาล่าน้อยกลัวไปหมด     ต่อเมื่อมีคนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ  Clare Gover นักฟื้นฟูสัตว์ป่าและผู้ก่อตั้ง Return to the Wild พร้อมกับช่างไฟฟ้าจึงลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือทันที เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่ได้ขึ้นไปหาเจ้าโคอาล่าพร้อมตาข่ายเพื่อจับมัน และเกลี้ยกล่อมมันอยู่สักพัก ในที่สุดก็สามารถพามันลงมาได้อย่างปลอดภัย     เมื่อลงมาถึง Gover พบว่าโคอาล่ามีอาการขาดน้ำอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต พวกเขาจึงเอาน้ำกับใบไม้สดให้มันกิน และให้มันนอนค้างภายใต้การดูแลของมนุษย์ 1 คืน เพื่อให้ร่างกายกลับมาสู่ภาวะปกติ วันรุ่งขึ้น ดูเหมือนเจ้าโคอาล่าจะกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง ดังนั้น Gover จึงตัดสินใจปล่อยมันกลับสู่ป่าตามที่ตั้งใจไว้  …

สำหรับสุนัขแล้ว ทันทีที่ได้เข้าไปอยู่ในบ้านของมนุษย์ มันจะคิดว่าคนในบ้านคือครอบครัว มันจึงรัก ซื่อสัตย์ และพร้อมปกป้องมนุษย์คนนั้นเท่าชีวิต แต่ดูเหมือนว่ามนุษย์บางคนไม่ได้คิดว่าสุนัขเป็นครอบครัวเสมอไป เลยทำให้น้องหมาตัวหนึ่งถูกทิ้งอย่างโดดเดี่ยว หลังจากเจ้าของย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ไม่พามันไปด้วย นี่เป็นเรื่องราวสุดเศร้าของ Rubble สุนัขอเมริกันบูลล์ด็อก มันถูกซื้อมาเพื่อเพาะพันธุ์ แต่สุดท้าย เจ้าของกลับพบว่าสุนัขวัย 4 ขวบตัวนี้ ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้     ที่น่าเศร้าที่สุดคือ เจ้าของตัดสินใจที่จะไม่ดูแลมันอีกต่อไป ดังนั้นเมื่อพวกเขาย้ายไปอยู่แคลิฟอเนีย Rubble จึงถูกทิ้งให้อยู่ลำพังในเท็กซัส เพื่อนบ้านที่เห็น Rubble ถูกทิ้ง พยายามโทรติดต่อเจ้าของที่ทิ้งมัน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ พวกเขาเลยตัดสินใจโทรไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ เพื่อขอความช่วยเหลือ     หญิงสาวที่ชื่อ Alyssa Aguilar เป็นคนเข้ามาช่วยเหลือสุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้ และเธอแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเห็นว่าสภาพของมันนั้นดูแย่แค่ไหน เจ้าหมามีแต่หนังหุ้มกระดูก มีแผลติดเชื้อ และดูเหมือนตาของมันจะมีปัญหาด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม สิ่งที่ Alyssa รู้คือต้องพามันไปหาสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด     Alyssa บอกว่า “ตอนฉันเห็นมันครั้งแรก ฉันตกใจและโกรธคนที่ทำกับมันแบบนี้ ฉันแค่อยากกอดมันไว้ และทำให้มันรู้สึกดีขึ้น” ต่อมาหญิงสาวได้ติดต่อ A Chance to…

สัตว์บางชนิดบนโลกใบนี้มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ใช่แค่พฤติกรรม แต่ยังรวมไปถึงลักษณะภายนอกของพวกมันด้วย ดูอย่างสัตว์พวกนี้สิ ทำตัวกลมกลืนกับธรรมชาติซะจนเกือบมองไม่เห็นว่ามีสัตว์อยู่ในนั้น นี่เรียกได้ว่าเป็นสิิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้เลยนะ   1. ตุ๊กแกหางใบไม้   2. แมงมุม Wrap-Around Spider   3. กบต้นไม้สีเทา   4. ตั๊กแตนใบไม้   5. มอธสีน้ำตาล   6. นกฮูกยักษ์   7. ปลา Stone Flounder   8. งูคอปเปอร์เฮด   9. อิมพาลา   10. ผีเสื้อ   11. มังกรทะเลใบไม้   12. เสือดาว   13. ตุ๊กแกหางใบไม้   14. นกปูตูยักษ์   15. ตุ๊กแก Uroplatus   16. คางคก   17. หนอนผีเสื้อบารอน   18. ตั๊กแตนกิ่งไม้  …

สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเลี้ยงลูกด้วยนมที่เรียกว่า Hispid hare อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวในขณะนี้ที่ห่างหายไปจากการค้นพบนานที่สุดในโลก มันเป็นสัตว์พื้นเมืองที่มีอาสัยอยู่บริเวณแม่น้ำคงคา ในเอเชียใต้ ตามรายงานระบุว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ไม่ถูกพบในอุทยานแห่งชาติ Chitwan National Park ของเนปาล ตั้งแต่ปี 1984 แล้ว     ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นักอนุรักษ์เชื่อว่าพวกมันสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว แต่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ นักอนุรักษ์จับภาพ Hispid hare ได้ นั่นเป็นสัญญาณที่น่าอัศจรรย์ที่พิสูจน์ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้ยังอยู่บนโลก Bed Khadka หนึ่งในเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ บอกว่า “จากการค้นพบ Hispid hare ตัวนี้ เห็นได้ชัดว่ามันยังอายุน้อย จึงเป็นไปได้ว่ามันอาจจะมีพ่อแม่ และมีตัวผู้กับตัวเมียตัวอื่นๆ อยู่อีก”     ปกติตัวเมียจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัม และมีขนสั้น โดยก่อนที่สัตว์ชนิดนี้จะหายไป ประชากรของพวกมันลดลงอย่างมากเนื่องจากน้ำท่วมจากการทำการเกษตรและการเพิ่มขึ้นประชากรมนุษย์ พวกมันถูกจัดให้อยู่กลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เมื่อปี 1986 แต่ปัจจุบันนี้ มีการค้นพบว่า Hispid hare ยังมีชีวิตอยู่  ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์พอสมควร     ตอนนี้ Khadka รู้ว่า Hispid hare…

นักผจญเพลิงถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีความกล้าหาญและเสียสละมากที่สุด เพราะพวกเขาต้องพร้อมรับมือกับเหตุการต่างๆ ตลอดเวลา พวกเขาไม่ได้เสี่ยงชีวิตเพื่อความปลอดภัยของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเผื่อแผ่ความช่วยเหลือไปยังสัตว์โลกด้วย เพราะทุกชีวิตมีค่าเท่าเทียมกัน และต่อไปนี้เป็นภาพความประทับใจของเหล่านักผจญเพลิงที่เข้าช่วยเหลือเหล่าสัตว์ ทำให้เห็นว่าโลกนี้น่าอยู่เพียงใดเมื่อมีพวกเขาเหล่านี้   เจ้าหน้าที่พาน้องแมวออกมาจากบ้านที่เกิดไฟไหม้   ช่วยชีวิตสุนัขจากเหตุน้ำท่วม   นักผจญฯ ป้อนน้ำให้โคอาล่า หลังจากเกิดไฟป่าทั่วประเทศออสเตรเลีย   Brett Cunniff พนักงานดับเพลิงของ Missoula ช่วยลูกแมวจากบ้านที่ถูกไฟไหม้ พร้อมให้ใส่หน้ากากออกซิเจน   เจ้าของหมาทุกข์ใจมากเมื่อหมาของเธอติดอยู่ในบ้านที่กำลังไฟไหม้ โชคดีที่นักผจญเพลิง Ben Lawson ช่วยมันไว้ได้   เมื่อได้ยินว่ากวางติดอยู่ในท่อระบายน้ำ เจ้าหน้าที่จากดับเพลิง Austin Fire Department จึงลงพื้นที่ไปหาทันที และช่วยมันไว้ได้สำเร็จ   สุนัขขอบคุณฮีโร่คนนี้ที่ช่วยมันไว้ ด้วยการเลียใบหน้าเขาอย่างอ่อนโยน   มิ้วน้อยซาบซึ้ง หลังนักดับเพลิงเข้ามาช่วยชีวิตมันจากเหตุไฟไหม้   ลูกเป็ดกลุ่มหนึ่งติดอยู่ในท่อระบายน้ำ นักผจญเพลิง Cody Knecht จึงกระโดดลงไปช่วย   เขาใช้เสียงจากโทรศัพท์มือถือในการกล่อมลูกเป็ดน้อย ในที่สุดก็พาพวกมันขึ้นมาได้สำเร็จ   นักดับเพลิงชาวอังกฤษทำงานอย่างหนักเพื่อปลดปล่อยตัวเมียที่ตกลงไปในบึง   นักผจญเพลิง John Cusco…

เราอาจจะไม่ได้เกิดมาพร้อมกับใคร เราอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับใคร แต่เชื่อสิว่าคงไม่มีใครอยากอยู่อย่างโดดเดี่ยว โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก สัตว์เลี้ยงก็เช่นกัน พวกมันอาจจะไม่ได้ต้องการชีวิตที่ดีมากมาย แต่ขอแค่มีใครสักคนอยู่เคียงข้างในวันที่เหนื่อยล้า เหมือนกับ Watson สุนัขใกล้ตายตัวนี้     Janine Guido ผู้ก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Speranza Animal Rescue ครั้งแรกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สิ่งแรกที่เธอสังเกตเห็นคือสายตาของมัน “มันดูเหนื่อยล้า เหมือนกับว่ามันพร้อมที่จะยอมแพ้ให้กับการต่อสู้แล้ว…” Guido กล่าว สำหรับเจ้าหมา Watson นั้น มันถูกพบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในสวนสาธารณะ Philadelphia ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเด็กนักเรียน ก่อนจะถูกพามาไปคลินิกสัตว์และอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยแพทย์ฉุกเฉินตลอดเวลา     นอกจากร่างกายที่ผอมแห้งแล้ว เนื้อตัวของมันก็ยังเต็มไปด้วยแผลที่ติดเชื้อ และยังมีเนื้องอกที่เป็นมะเร็งอยู่บริเวณขาหลัง แต่เนื้องอกนั้นถูกผ่าออกแล้ว ต่อมา Watson ถูกย้ายไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันต้องการใครสักคนมาอยู่เคียงข้าง ดังนั้น สิ่งเดียวที่ผู้ดูแลทำได้ในเวลานั้นคือทำให้มันรู้สึกสบายใจ     Guido “ฉันมีความรู้สึกว่าอาการของมันจะไม่ดีขึ้นในวันรุ่งขึ้น ฉันไม่ต้องการทิ้งมันไว้ตามลำพัง โดยเฉพาะตอนที่มันต้องการฉันมากที่สุด” ในคืนวันพุธ Guido นำผ้าห่ม เตียงสุนัขไปวางไว้ในห้องซักรีดของศูนย์ช่วยเหลือ และให้น้องหมานอนลงที่นั่น จากนั้นเธอก็นอนลงข้างๆ มัน โอบกอดมันไว้ด้วยสองมือ และพูดคุยกับมันด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล สักพัก Watson ผลอยหลับไปในอ้อมกอดของเธอ…

เวลาที่ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ คุณอาจจะได้ขอแถมเป็นของใช้เก่าๆ ของเจ้าของเดิม หรือไม่ก็ร่องรอยต่างๆ ที่เจ้าของเดิมได้ทำไว้ แต่สำหรับหนุ่มคนนี้ เขาได้เจอของแถมที่ทำเอาพูดไม่ออก เพราะมันคือสุนัขผู้น่าสงสารที่ถูกล่ามโซ่ไว้ในห้องใต้ดิน… เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อพนักงานของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Stray Rescue of St. Louis ได้รับแจ้งจากชายคนหนึ่งที่กำลังจะย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่เมื่อต้นเดือนที่แล้ว     ชายคนนั้นบอกว่า “ผมเพิ่งซื้อบ้าน และที่นั่นมีสุนัขพิตบูลถูกล่ามโซ่อยู่ในห้องใต้ดิน ผมไม่แน่ใจว่ามันอยู่ที่นั่นมานานแค่ไหนแล้ว” เมื่อพนักงานของศูนย์ช่วยเหลือไปถึง พวกเขาได้รับแจ้งว่าสุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้อยู่ที่นี่มาสักพักแล้ว มันถูกทิ้งให้อยู่กับขยะ ของเสีย และอยู่ลำพังในที่มืดและเย็น โชคดีที่มีคนมาเจอน้องหมาก่อนและช่วยเหลือมันไว้ได้ทันเวลา เห็นได้ชัดว่าสำหรับมันแล้ว คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการถูกช่วยเหลือในครั้งนี้แล้ว     Natalie Thomson ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของกลุ่มช่วยเหลือบอกว่า “เมื่อเราเปิดประตูห้องใต้ดิน และใช้ไฟฉายส่องลงไป เราเห็นสุนัขส่ายหาง” เธอบอกว่าอีกว่า “มันเกือบจะสำลักเพราะมันตื่นเต้นมากที่ได้เห็นเรา ทันทีที่เราปลดปล่อยโซ่ออกให้ มันกระโดดด้วยความดีใจและกอดไม่หยุดเลย” ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนทิ้งหมาไว้ตรงนี้ และทิ้งทำไม แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้กินอะไรมานานแล้ว เพราะที่นั่นไม่มีชามอาหารหรือน้ำเลย มันไม่ได้ถูกทำหมันและไม่มีไมโครชิป     แต่อย่างน้อยตอนนี้มันรู้ว่ามันปลอดภัยแล้ว และเพราะความตื่นเต้นที่ล้นเกินของมัน ทางเจ้าหน้าที่จึงตั้งชื่อให้มันว่า Jumping Bean จากที่เคยอยู่ในที่แคบๆ มืดๆ ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร ตอนนี้มันได้รับอิสระ…

เมื่อ 2 ปีก่อน ในวันที่ฝนตกหนัก Kathryn van Beek สังเกตเห็นสัตว์ตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง อยู่ในสภาพเปียกปอนกลางสายฝน บนถนนในเมือง Auckland ประเทศนิวซีแลนด์ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตัวเล็กมากๆ จนแทบจะมองไม่เห็น เธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันใช่แมวหรือเปล่า เพราะมันดูเหมือนหนูมากกว่า     แต่พอเพ่งจนแน่ใจ van Beek ก็รู้ว่ามันเป็นลูกแมวตัวน้อยที่เพิ่งเกิดใหม่ๆ และมันน่าจะมีอายุได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น หญิงสาวพยายามมองเห็นแม่ของมิ้วน้อยอยู่สักพัก แต่ก็ไม่เจอ เธอจึงตัดสินใจพามันกลับบ้าน และตั้งชื่อให้มันว่า Bruce      van Beek บอกว่า “ตอนแรกฉันคิดว่ามันจะรอดชีวิตได้ดี แต่ไม่กี่วันต่อมา มันเริ่มป่วยหนักขึ้น หนักขึ้นเรื่อยๆ ฉันเลยค้นหาข้อมูล พบว่า สัตว์ที่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่รอด” อย่างไรก็ตาม หญิงสาวไม่ยอมแพ้ เธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้มันมีชีวิตรอด เริ่มจากการให้อาหารมันตามที่สัตวแพทย์แนะนำ และคอยเฝ้าดูอาการมันตลอดเวลา     หลังจาก Bruce ไปหาหมอตลอด 6 สัปดาห์ และให้อาหารที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดมันก็เริ่มฟื้นตัว ขนของมันเริ่มเปลี่ยนจากสีเทาเป็นสีดำ มิ้วน้อยมีอาการที่เรียกว่า Fever Coat ซึ่งจะเกิดกับลูกแมวที่เกิดจากแม่แมวที่ป่วยหรือเครียด ส่งผลให้ขนของแมวเปลี่ยนเป็นสีเทา…

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ในเมือง Tijuana ประเทศเม็กซิโก เจ้าหมา Sophie ถูกพบขณะที่มันนอนอยู่ในกองขยะพร้อมผ้าห่มเก่าๆ ผืนหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่าสุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้ถูกทิ้งไว้ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว แต่บนตัวของมันเต็มไปด้วยบาดแผล หูของมันมีเลือดออก และท้องของมันก็ดูหย่อนคล้อยจากการมีลูก     การพบน้องหมาครั้งแรกในสภาพเช่นนั้น ทำเอา Nikki Audet ผู้ก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือสุนัข The Mutt Scouts แทบไม่อยากเชื่อสายตัวเอง Audet บอกว่า “มันถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำอีก อดีตของมันคือฝันร้ายอันยาวนาน”     ต่อมากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ได้พา Sophie ไปยังโรงพยายาบาลทันที และได้คำตอบจากคุณหมอว่าสุนัขตัวนี้ถูกละเลยมานาน และยังถูกใช้เป็นเหยื่อล่อในการประลองสุนัขด้วย มันมีรอยแผลอยู่ทั่วร่างกาย มีรอยกัด มีเลือดออก ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่ามันถูกทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า     สัตวแพทย์บอกว่าก่อนหน้านี้มีสุนัขอีกตัวที่ถูกพาเข้ามาที่นี่ มันถูกโจมตีและมีบาดแผลคล้ายกับของ Sophie ฟันของมันหักทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถสู้กลับได้ สำหรับ Sophie วัย 5 ขวบ มันมีทั้งเห็บและหมัด แต่เจ้าหน้าที่ได้อาบน้ำให้ และช่วยรักษารอยแผลต่างๆ หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์อาการของมันก็ดีขึ้น มันจึงถูกส่งตัวไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อทำการรักษาต่อ     ด้วยความรักจากคนรอบตัว ทำให้ดวงตาของ Sophie กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง และไม่นานหลังจากนั้นมันก็โผเข้ากอดผู้ดูแล เพื่อแสดงความขอบคุณ…

คนมากมายอาจจะคิดว่าเด็กๆ คงทำอะไรได้ไม่มาก เพราะพวกเขายังเด็กเกินไปที่จะสามารถทำอะไรที่มีผลกระทบต่อโลกได้ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะเด็กบางคนมีความคิดสร้างสรรค์และงดงาม จนสามารถทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่บางคนอาจไม่เคยทำด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเด็กชายคนนี้ Ken เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่หายออกจากบ้านเป็นประจำทุกวัน ตอนแรกพ่อแม่ก็ไม่ได้คิดอะไร พอนานเข้าๆ คุณพ่อเกิดความสงสัย เลยแอบตามเขาไปดูว่าเขาไปที่ไหน ทำอะไรกันแน่     หัวใจของผู้เป็นพ่อแทบจะละลาย เมื่อตามไปจนเจอว่าลูกไปทำอะไร ภาพที่เห็นคือ  Ken กำลังให้อาหารและเล่นกับสุนัขจรจัดกลุ่มหนึ่ง มิตรภาพของเด็กชายกับสุนัขจรจัดเริ่มขึ้นเมื่อเขาพาสุนัขตัวเองไปเดินเล่น แล้วบังเอิญไปเจอกันสุนัขจรจัด เขาเลยคิดจะทำบางอย่างเพื่อพวกมัน     ขณะที่ Ken กำลังให้อาหารและเล่นกับสุนัขจรจัด ผู้เป็นพ่อได้แอบถ่ายรูปเขาไว้ ก่อนจะนำไปโพสต์ในโซเชียล จนได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ชายเน็ตบางคนรู้สึกปลาบปลื้มกับสิ่งที่ Ken ทำ พวกเขาจึงเริ่มบริจาคเงินมาให้เขาเพื่อสนับสนุนในสิ่งที่เขาทำ…     เด็กชายบอกว่า “บางคนใจดีมาก พวกเขาบริจาคเงินให้เพื่อช่วยผมในการดูแลสุนัขเหล่านี้ ตอนนี้เรามีเงินมากมายสำหรับเลี้ยงดูสุนัขข้างถนน เราซื้ออาหารอย่างดีให้และพาพวกมันไปหาสัตวแพทย์ด้วย” เขาบอกอีกว่า “บางตัวมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น บางตัวจากที่เคยมีแผลสด ตอนนี้ก็หายสนิท ในขณะที่อีกหลายตัวมีขนขึ้นตามปกติอีกครั้ง”     ในที่สุด ความฝันของ Ken…

สำหรับคนรักสัตว์แล้ว ต่อให้ตัวเองจะลำบากแค่ไหน พวกเขาก็นิ่งเฉยไม่ได้เมื่อเห็นสัตว์ตกอยู่ในความยากลำบาก และจะทำทุกวิถีทางเพื่อพาพวกมันพ้นจากความทุกข์ เหมือนกับผู้หญิงคนนี้ที่อาศัยอยู่ในค่าย Blikkiesdorp ใน Cape Town ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งย่านมีคนจนอาศัยอยู่เยอะที่สุดในประเทศ ใน Blikkiesdorp ซึ่งเป็นเขตชุมชนแออัด ผู้คนจะอาศัยอยู่ในกระท่อมหลังเล็กๆ ที่ทำจากแผ่นเหล็ก เศษไม้ และยางเก่าๆ     นอกจากคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้จะมีชีวิตที่ยากลำบากแล้ว เหล่าหมาแมวก็ได้รับอาหารไม่เพียงพอเช่นกัน แม้พวกมันบางตัวจะมีเจ้าของก็ตาม ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักถึงการให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยง ในการพาพวกมันไปหาสัตวแพทย์ หรือบางคนรู้ แต่ไม่มีเงินพอสำหรับทำแบบนั้นได้     อย่างไรก็ตาม เมื่อ 6 ปี ก่อน กลุ่มรักสัตว์ Tin Can Town ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือหมาแมวที่นั่นทุกๆ วันอาทิตย์ ทั้งกำจัดหมัด ให้อาหาร และยังเปิดให้โทรหาได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรณีที่มีสัตว์ต้องการความช่วยทางการแพทย์ด่วน     เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Tarryn Martin ช่างภาพอาสาของ Tin Can Town ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาพร้อมกับรถของเล่นที่มีสุนัขอยู่ข้างใน หญิงสาวคนนั้นยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะประชาสัมพันธ์ของ Tin Can Town เพื่อรอให้อาสาสมัครเข้าไปดูสุนัขตัวน้อยๆ ของเธอ…

สุนัขที่ถูกละเลย หรือไม่มีเจ้าของ มักจะตกเป็นเหยื่อของมนุษย์ในบางครั้ง บางตัวถูกทำร้าย บางตัวถูกฆ่า ในขณะที่หลายๆ ตัว กลายเป็นเพียงของเล่นของมนุษย์ อย่างสุนัขจากฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาตัวหนึ่ง ที่ถูกพบว่ามีคนฉีดโคเคนใส่ร่างกายมันและปล่อยให้มันนอนตายอยู่ข้างถนนอย่างโดดเดี่ยว     นี่เป็นเรื่องราวของ Peanut สุนัขวัย 1 ขวบ มันถูกพบขณะนอนหมดสติอยู่บนทางเท้าเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา และหลังจากที่กรมควบคุมสัตว์เข้าไปช่วยเหลือ พวกเขาบอกว่ามันนอนนิ่งอยู่ท่าเดิมเป็นเวลากว่า 2 วัน ตามรายงานของ Faithful Friends Animal Society ศูนย์พักพิงที่ให้การช่วยเหลือ Peanut ระบุว่าสุนัขตัวนี้ถูกพบนอนหมดสติอยู่หน้าบ้านของคนที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าติดยา     ในขณะที่ผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเป็นคนฉีดโคเคนใส่น้องหมาผู้น่าสงสารตัวนี้ และเมื่อเจ้าหน้าที่นำไปทดสอบ พบว่ามีโคเคนปนเปื้อนอยู่ในร่างกายของ Peanut จริง Faithful Friends Animal Society บอกว่า “เมื่อน้องหมามาถึงศูนย์ครั้งแรก มันดูไม่มีแรงและแทบจะไม่ตอบสนองใดๆ เลย”     สิ่งแรกที่เจ้าหน้าที่ทำคือ ขับสารโคเคนออกจากร่างกายของมัน พร้อมกับคอยปลอบโยนมันตลอดเวลา เพื่อให้มันรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง แม้ว่าอาการของ Peanut จะยังไม่หายเป็นปกติ แต่หลังจากที่ได้รับการเยียวยามาสักระยะ มันก็สามารถเดิน…

สุนัขไม่ได้อยู่เพื่อรอความช่วยเหลือหรือรอความรักจากมนุษย์ไปวันๆ แต่บางตัวได้ตอบแทนมนุษย์และสังคมด้วยการทำตัวให้เป็นประโยชน์ เหมือนกับน้องหมาตัวนี้ที่ทำงานร่วมกับนักดับเพลิง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในอันตราย แต่น่าเศร้า… มันได้จากไปอย่างสงบแล้วในสัปดาห์นี้     สุนัขตัวนี้คือ Negro มันทำงานเคียงข้างเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก Iquique Fire Department มานานกว่า 10 ปี Negro จะอยู่ประจำที่สถานีในฐานะนับดับเพลิงที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และจะคอยต้อนรับเจ้าหน้าที่ด้วยการกระดิกหางเมื่อพวกเขากลับมาจากปฏิบัติหน้าที่     ในแต่ละวันนั้น แม้ว่านักดับเพลิงจะเจอสถานการณ์ที่เลวร้ายหรือตึงเครียดแค่ไหน เมื่อกลับมาเจอน้องหมาในสถานี พวกเขาจะลืมความทุกข์เหล่านั้นไปชั่วขณะหนึ่ง และมีความสุขกับการได้เล่นกับ Negro จนกระทั่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีประกาศจากทางสถานีดับเพลิงว่าสุนัขแสนรู้ได้จากไปแล้วในวัย 14 ปี เนื่องจากปัญหาสุขภาพ     ทางสถานีดับเพลิงบอกว่า “บ่ายวันนี้ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของเราได้ลาโลกไปแล้ว มันคือนักดับเพลิง 4 ขาของเรา ขอบคุณสำหรับหลายปีที่อยู่กับเรา เราจะจดจำเธอตลอดไป”     และเพื่อเป็นเกียรติกับ Negro ที่ได้ทำนหน้าที่อย่างดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา คณะกรรมการของสถานีดับเพลิง Iquique Fire Department จึงตัดสินแต่งตั้งให้มันเป็นนักผจญเพลิงกิตติมศักดิ์ และร่วมไว้อาลัยให้มันเป็นครั้งสุดท้าย     พวกเขาได้จัดงานศพให้น้องหมาในสถานีดับเพลิง เพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง Jorge Tapia…

เมื่อสัปดาห์ก่อน หญิงสาวน้ำใจงามคนหนึ่งจากลาสเวกัส ได้พบเข้ากับลูกแมว 3 ตัวที่เพิ่งเกิด อยู่ในพุ่มไม้ โดยไม่มีแมวของพวกมันอยู่ข้างๆ ต่อมาหญิงสาวจึงได้ติดต่อไปยัง Nikki Martinez นักช่วยเหลือและผู้อุปถัมภ์แมวตัวยง เพื่อขอความช่วยเหลือ     Nikki เล่าว่า “วันนั้น Marti พาสุนัขของเธอไปเดินเล่น แต่แล้วเจ้าหมาก็เดินเข้าไปในพุ่มไม้ เธอจึงเดินตาม ก่อนจะพบแมวน้อย 3 ตัวที่สายสะดือยังติดตัวอยู่” ตอนที่มีคนโทรขอความช่วยเหลือ Nikki ออกไปทำธุระนอกเมือง แต่เธอได้แนะนำหญิงสาวคนนั้นว่าให้ดูแลมันจนกว่าเธอจะกลับมา     Marti จึงรีบไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้ออาหารแมวและอุปกรณ์ต่างๆ ของแมวมา จากนั้นก็เริ่มให้การดูแลมิ้วน้อยทั้ง 3 ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง แค่นั้นยังไม่พอ เธอยังพามันไปทำงานด้วย เพื่อที่จะได้ดูแลมันต่อได้ หญิงสาวบอกว่า “คืนที่ฉันเจอพวกมัน มันตัวแข็งและเย็นไปหมด เพราะมันถูกทิ้งให้อยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น”     หลังจากที่ลูกแมวได้อยู่ในมือ Nikki แล้ว เธอก็ได้วางกับดักไว้ตรงที่ลูกแมวถูกทิ้ง โดยหวังว่าแม่แมวจะกลับมาหา แต่ก็ไร้วี่แวว ลูกแมวอายุ 24 ชั่วโมง พวกมันอ่อนแอมาก เพราะไม่ได้กินนมแม่ซึ่งมีแอนติบอดีที่จำเป็น และไม่ได้รับความอบอุ่นตั้งแต่แรกเกิดด้วย…

ทุกการช่วยเหลือย่อมส่งผลดีเสมอ ไม่เกิดกับผู้รับก็เกิดกับผู้ให้ และแน่นอน มันคุ้มค่า…เพราะแบบนี้ ชายหนุ่มคนหนึ่งจึงตัดสินใจที่จะไม่มองข้ามแมวจรจัดตัวหนึ่งไป ขณะที่ Davy Gallant จากเมืองคิวเบค ประเทศแคนาดา อยู่ระหว่างทางกลับบ้านกับลูกชาย Toby พวกเขาก็สังเกตเห็นแมวจรจัดตัวหนึ่งเดินอยู่ใกล้ริมถนน     Davy บอกว่า “มันเป็นแมวตัวเล็ก มีแต่หนังหุ้มกระดูก เราเลยตัดสินใจหยุดรถ เหมือนกับทุกครั้งที่เรามักจะทำเสมอเมื่อเห็นสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ” นั่นหมายความนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Davy หยุดรถเพื่อสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเคยช่วยเหลือแมวและสุนัขนับไม่ถ้วน รวมทั้ง CousCous แมวที่อยู่กับเขามานานถึง 14 ปี ก่อนจะล่วงลับไป     ปกติเมื่อเจอสัตว์ถูกทิ้ง Davy จะทำให้พวกมันใจเย็นลง ถ้ามันวิ่งเข้ามาหา เขาก็จะหาบ้านให้ แต่ถ้ามันวิ่งหนีไป เขาก็จะติดต่อศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่นให้มาช่วย สำหรับเจ้าเหมียวที่เขาเพิ่งเจอล่าสุดนี้ มันวิ่งมาหาเขา พร้อมทั้งเรียกร้องความสนใจและขอให้ลูบตัวมัน มันน่ารักมากและอ้อนไม่หยุดเลย โดนเจ้าเหมียวอ้อนซะขนาดนั้น เขาจึงตัดสินใจพามันกลับบ้านด้วย ก่อนจะตั้งชื่อให้มันว่า Barley     คาดว่าเจ้าเหมียวน่าจะไม่ได้กินอาหารแมวมานานแล้ว มันเลยกินอะไรไม่ลง Davy จึงต้องทำให้อาหารนุ่มลงเพื่อให้มันกินได้ง่ายขึ้น เนื้อตัวของ Barley มีแต่หมัดเต็มไปหมด ครอบครัวจึงใช้น้ำอุ่นอาบน้ำให้มัน ทำให้หมัดของมันหายไปจนหมดในหลายวันต่อมา    …

ใครก็ตามที่รับสุนัขมาเลี้ยงแล้ว จะรู้สึกผูกพันกับมันจนไม่อยากแยกจากกัน แต่ด้วยเหตุผลหรือเงื่อนไขบางอย่างทำให้เจ้าของสุนัขหลายๆ คนต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเลย เช่นเดียวกับ Lewis Jimenez ที่ต้องทำให้สิ่งที่ยากที่สุดเมื่อ 4 เดือนก่อน เพราะเขาต้องพาน้องหมาพิตบูล Titus กลับไปอยู่ในศูนย์พักพิง ที่ที่เขาเคยรับเลี้ยงมันมา แต่ต่างจากคนทั่วไป ที่นำสัตว์เลี้ยงมาทิ้งแล้วไม่เคยกลับไปหาพวกมันอีก Jimenez กลับไปหา Titus อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยมันไว้ลำพังอีก     ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 Jimenez รับเลี้ยง Titus ตอนที่มันอายุได้ 2 ปี ที่ Austin Animal Center ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงในเขตเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจรับเลี้ยงพิตบูล แต่เมื่อเห็นอาสาสมัครพา Titus เดินเล่นในสนาม เขาตกหลุมรักมันทันที Jimenez บอกว่า “ผมเห็นมันกระโดดและดูมีความสุขมากๆ ผมคิดผมต้องการสุนัขตัวนี้” กระทั่ง 5 ปีต่อมา Jimenez และ Titus กลายเป็นเจ้าของและสัตว์เลี้ยงที่แยกจากกันไม่ได้ “มันเปรียบเหมือนลูกชายคนโตของผม และมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม” เจ้าของกล่าว     แต่เมื่อปีที่แล้ว มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นและบีบให้พวกเขาต้องแยกออกจากกัน Lewis บอกว่าไม่สามารถดูแล Titus ได้อีกแล้ว Jennifer Olohan ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารและสื่อของศูนย์พักพิงบอกว่า…

บางทีการให้ความช่วยเหลือกับใครเพียงเล็กน้อยมันอาจจะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนที่ถูกช่วยเหลือก็เป็นได้ เหมือนกับพลเมืองดีในเมืองซาซคาทูน ประเทศแคนาดา ที่ได้ยินเสียงร้องเมี๊ยวม๊าวใกล้กับโรงรถของเขา เมื่อไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นลูกแมวน้อย 8 ตัว ลูกแมวทั้งหมดถูกจับวางอยู่ในกล่อง พวกมันกำลังพยายามไขว่คว้าหาความอบอุ่น ชายคนนั้นเลยพาพวกมันเข้าบ้านก่อนมองหาช่องทางเพื่อช่วยเหลือพวกมันต่อไป     ต่อมาศูนย์ช่วยเหลือแมวข้างถนน SCAT Street Cat Rescue ได้รับแจ้งเกี่ยวกับแมวน้อยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พวกเขาจึงรีบไปหามิ้วน้อยพวกนั้นทันที SCAT “คืนนั้นเป็นคืนที่อากาศติดลบ 20 องศาเซลเซียส มีลมกระโชกแรงเนื่องจากพายุหิมะในฤดูหนาวพัดเข้ามา” “ลูกแมวทั้งหมดอยู่ในภาวะตัวเย็นเกินไปและเซื่องซึม หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป จะเป็นอันตรายกับแมวได้ ดังนั้นจึงต้องทำให้ร่างกายพวกมันอบอุ่นอย่างรวดเร็ว”     แม้จะอยู่ในกล่องเดียวกัน แต่พวกมันเกิดจาก 2 ครอก กลุ่มหนึ่งอายุประมาณ 5 สัปดาห์ ในขณะที่อีกกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากลูกแมวมีถึง 8 ตัว ทาง SCAT จึงต้องให้พวกมันแยกกันอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ต่างๆ โดยจะมีคนคอยดูแลพวกมันตลอดเวลา     หลังจากที่ได้รับการดูแลสักพัก ลูกแมวส่วนใหญ่กลับมาแข็งแรงอีกครั้งและสามารถกินอาหารได้ดี แต่ 2 ในนั้นต้องใช้เวลามากขึ้นในการปรับตัว ต่อมาผู้ดีแลได้ตั้งชื่อให้มิ้วน้อย 4 ตัวที่โตกว่า Ingrid Bergman  Isaac…

หลายครั้งที่เราเห็นลูกสัตว์ป่าตัวน้อยถูกทิ้งให้อยู่ลำพังไร้เงาแม่ ซึ่งเหตุผลมักจะมาจากการที่ลูกตัวนั้นอาจจะอ่อนแอเกินไป เช่นเดียวกับเรืื่องราวที่ถูกแชร์ในเพจเฟซบุ๊ก Town of Carroll Police Department ที่มีการพบแม่หมีดำทิ้งลูกน้อยไว้กลางถนน เพราะมันอ่อนแอเกินไป     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Bretton Woods รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อแม่หมีและลูกๆ 4 ตัวกำลังข้ามถนน จนรถที่กำลังขับมารวมทั้งรถตำรวจต้องจอดให้พวกมันเดินข้าม แต่ทันใดนั้นลูกหมีตัวหนึ่งก็หยุดเดินและนั่งลงกลางถนน ขณะที่ลูกหมีตัวอื่นๆ ยังคงเดินตามแม่ต่อไป…     แม่หมีพยายามเดินกลับมาตามลูกน้อยที่นั่งอยู่กลางถนน แต่มันไม่ยอมลุกขึ้นเลย ดูเหมือนว่ามันอ่อนแอและเหนื่อยเกินไปที่จะเดินต่อ ในที่สุดแม่หมีก็ตัดสินใจทิ้งลูกที่อ่อนแอตัวไว้กลางถนนอย่างนั้น ก่อนจะพาลูกๆ อีก 3 ตัวที่เหลือเดินหายเข้าไปในป่า     แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นในสังคมของสัตว์ป่า แต่มันก็สร้างความสะเทือนใจให้ผู้ที่พบเห็นไม่ใช่น้อย แน่นอนว่าตำรวจที่เห็นเหตุการณ์ไม่สามารถทิ้งหมีน้อยไว้ตรงนั้นได้ เขาจึงพามันขึ้นรถและเอากลับไปดูแลที่สถานีตำรวจเป็นการชั่วคราว     จริงๆ แล้ว แม่หมีตัวนั้นมีลูกถึง 5 ตัว แต่ก่อนหน้านี้มันได้ทิ้งลูกตัวหนึ่งไว้ใกล้กับถังขยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ช่วยเหลือมันเหมือนกัน ลูกหมีทั้งสองตัวจะได้รับการฟื้นฟูภายใต้การดูแลของ Fish and Game และหากสภาพร่างกายพร้อมแล้ว พวกมันจะถูกส่งกลับไปอยู่ในป่าต่อไป     อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เตือนว่าถ้าคุณเห็นสัตว์ป่าถูกทิ้งเช่นนี้อย่าเข้าไปรับพวกมันมาเองเด็ดขาด…

ความหวังของสัตว์เลี้ยงในศูนย์พักพิงคือการถูกรับเลี้ยง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข และมีอิสระในการวิ่งเล่น รวมทั้งแสดงความรักต่อครอบครัว แต่มีหลายเหตุผลที่ทำให้สัตว์หลายตัวถูกละเลย เช่น เป็นโรค อายุมาก ลักษณะนิสัย จนต้องใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เป็นเวลาหลายปี บางตัวถึงกับหมดหวัง เหมือนกับ Cesara ที่ถูกส่งไปอยู่ในที่พักพิงสาธารณะขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ก่อนจะถูกจัดอยู่กลุ่มรอการุณยาฆาต เพราะมันป่วยเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจ     อย่างไรก็ตามองค์ก่อนช่วยเหลือสุนัข Dog Star Rescue ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข พร้อมมอบชีวิตใหม่ให้ ตัดสินใจที่จะให้โอกาสนั้นกับ Cesara หลังจากที่ได้รับการรักษา ในไม่ช้าน้องหมาก็ถูกส่งไปอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐเซาท์แคโรไลนา เพื่อที่จะหาบ้านใหม่     เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี Cesara ผู้น่าสงสารก็ยังคงรอครอบครัวใหม่ที่นั่นเหมือนเดิม ขณะที่  Dog Star Rescue ก็ทำงานกันอย่างไม่รู้จักเหนื่อย เพื่อหาบ้านให้มัน แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าเอาเสียเลย Megan Casagrande จาก Dog Star Rescue บอกว่า “เรื่องราวของ Cesara ถูกโพสต์ในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เว็บไซต์ และช่องทางอื่นๆ แต่มันไม่เคยได้รับโอกาสเลย”  …

ทุกการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ มันอาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและอาจเปลี่ยนโลกทั้งใบของใครสักคนไปเลยก็ได้ ด้วยเหตุนี้ คุณครูคนหนึ่งจึงหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เจ้ามิ้วน้อยที่ร้องขอความเห็นใจ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตของมันตลอดกาล     ขณะที่ Kimberly คุณครูจาก Maui รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังเดินไปสนามหญ้า อยู่ดีๆ เธอก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้อง จึงมองหาต้นเสียงนั้น แล้วก็พบมิ้วน้อยตัวหนึ่งที่มีอาการติดเชื้อบริเวณตาอย่างรุนแรง คุณครูไม่สามารถทิ้งแมวไว้ตรงนั้นได้ เพราะดูจากอาการแล้วมันไม่น่าจะเอาตัวรอดได้ด้วยตัวเอง     Kimberly บอกว่า “ลูกแมวอายุประมาณ 4 สัปดาห์ ฉันเห็นมันอยู่ตัวคนเดียว ฉันจึงอุ้มมันขึ้นมาแล้วเอาผ้าห่อไว้ ก่อนจะให้มันนอนลงในกล่อง” คุณครูได้ตั้งชื่อให้มิ้วน้อยว่า Pretzel และพามันกลับบ้าน เพื่อที่จะหาคนดูแลมันต่อไป…เมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็ได้เช็ดทำความสะอาดตาให้ ป้อนน้ำ ป้อนอาหาร รวมทั้งให้ยา และดูแลมันตลอดทั้งคืน     หลังจากนั้นไม่นาน Morty สุนัขของ Kimberly ก็ได้เข้าไปทักทายมิ้วน้อย “ตอนแรกฉันค่อนข้างกังวลว่าสุนัขจะทำอย่างไรกับ Pretzel” คุณครูกล่าว Morty มีความเป็นมิตรกับน้องแมว มันเข้าไปเลียหน้ามิ้วและเดินตามน้องไปทั่วบ้าน ทั้งสองตัวจึงกลายเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่ตอนนั้น     มิ้วน้อยเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและเป็นตัวของตัวเอง มันชอบเดินสำรวจสิ่งต่างๆ ภายในบ้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น บางทีทั้งแมวและแมวจะเล่นต่อสู้กัน…

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ชอบเล่นซุกซน ชอบปีนขึ้นไปบนที่สูง บางตัวอาจจะเก่งจนลงมาเองได้ แต่บางตัวเนี่ยสิ ขึ้นได้แต่ลงมาไม่ได้ พาตัวเองไปลำบากแท้ๆ เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ไปติดอยู่บนต้นไม้สูงในย่าน Buffalo ของนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ทาสของมันกำลังหาคนมาช่วย แต่ไม่มีใครสนใจเลย     แมวตัวนั้นมีชื่อว่า Alice มันหนีออกจากบ้านเพราะครอบครัวนำสุนัขมาเลี้ยงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มันปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้สูง และไม่สามารถลงมาได้ เมื่อ Jessica Williams เจ้าของของ Alice พบแมวตัวเองอยู่บนต้นไม้สูง เธอได้ขอความช่วยเหลือจากผู้คนและหน่วยงานที่น่าจะช่วยได้     Alice บอกว่า “มีศูนย์ดับเพลิงอยู่ใกล้บ้าน เราไปที่นั่น 2 ครั้ง แต่ไม่มีใครสนใจเราเลย เรายังโทรไปหาหน่วยงานอื่นๆ ร่วมทั้งกรมควบคุมสัตว์ และทุกคนที่เราพอจะนึกได้” ขณะเดียวกัน Jessica และแฟนหนุ่มของเธอ Daniel Pilarski พร้อมกับครอบครัวพยายามเกลี้ยกล่อมเจ้าเหมียวให้ลงมา โดยการวางอาหารแมวไว้ข้างล่าง   พวกเขามีบันไดสูง แต่ขาดแค่คนที่จะปีนขึ้นไปและพาเจ้าเหมียวลงมา   ผ่านไปกว่า 9 วัน ที่ครอบครัวพยายามขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานท้องถิ่นและองค์กรต่างๆ แต่ไม่เป็นประโยชน์ Tammy Hanna แม่ของ Daniel จึงตัดสินใจเผยแพร่เรื่องนี้ในเฟซบุ๊ก เมื่อ Tristan Lambright…

คววมหวังของสุนัขในที่พักพิงคืออยากมีคนรับเลี้ยง อยากมีบ้านของตัวเอง อยากมีครอบครัว อยากมีคนให้รัก และอยากมีคนที่วิ่งเล่นไปด้วยกัน ด้วยเหตุนี้ ศูนย์พักพิง Knox County Humane Society ในรัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงสร้างบรรยากาศให้น้องหมารู้สึกเหมือนได้อยู่บ้าน     เจ้าหน้าที่ใน Knox County Humane Society ไมว่าจะเป็นแผนกจัดเอกสารหรือรับโทรศัพท์ เก้าอี้ที่พวกเขานั่งมักจะมีเจ้าพิทบูล Buster มานั่งด้วยเสมอ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าหน้าที่ลุกจากเก้าอี้ น้องหมาจะยึดเก้าอี้ตัวนั้นเป็นของตัวเองทันที Erin Buckmaster ผู้อำนวยการศูนย์พักพิงบอกว่า “มันชอบที่จะอยู่กับเราในออฟฟิศ จนมาวันหนึ่ง ช่างในท้องถิ่นได้บริจาคเก้าอี้มาให้ เราเลยตัดสินใจมอบมันให้กับ Buster ตั้งแต่วันนั้น มันก็ไม่มานั่งกับเราเลย”     Buster มีความสุขกับเก้าอี้ของมันมาก Buckmaster จึงคิดว่าสุนัขตัวอื่นๆ ก็น่าจะมีความสุขเช่นกัน ถ้าพวกมันมีเก้าอี้เป็นของตัวเอง เธอบอกว่า “ผู้คนมักจะทิ้งเก้าอี้เก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้ว ดังนั้นมันน่าจะเป็นเรื่องง่ายที่เราจะจัดหาเก้าอี้เหล่านั้นมาให้สุนัขที่นี่”     หลังจากนั้น ทางศูนย์พักพิงก็เลยประกาศรับบริจาคเก้าอี้เก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้ว ทำให้มีคนบริจาคทั้งเก้าอี้เข้ามา จนตอนนี้ สุนัขกว่า 10…

แมวแก่มักจะถูกมองข้ามจากการช่วยเหลือหรือการรับเลี้ยง อาจจะเพราะผู้คนกลัวว่าพวกมันให้ความสุขได้ไม่เต็มที่  อีกไม่นานมันก็จากไป หรือกลัวต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ เพราะยิ่งแก่ก็ยิ่งมีโรคภัยไข้เจ็บมาก เช่นเดียวกับ Charlie แมววัย 13 ปี ที่สูญเสียการเคลื่อนไหวด้วยขาหลัง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลสัตว์มันจึงพยายามลากขาหลังของตัวเองเพื่อที่จะเดิน     Charlie ถูกนำตัวไปยัง The Cat Doctor ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสำหรับแมวโดยเฉพาะ ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่มันไม่สามารถใช้ขาหลังได้ สัตวแพทย์ Miriam บอกว่า “ครั้งแรกเราคิดว่ามันเป็นภาวะเลือดแข็งในเส้นเลือดจนเส้นเลือดอุดตัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น มันจะเลวร้ายมาก”     แต่หลังจากที่ทำการเอ็กซเรย์แล้ว พบว่า Charlie เป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลัง ถึงจะไม่ร้ายแรงเท่าที่คิดไว้ แต่อาการของโรคก็อยู่ในขั้นร้ายแรงจนมันไม่สามารถเคลื่อนไหวขาหลังได้ และมันก็ยังพอมีทางรักษา ทีมแพทย์ไม่แน่ใจว่าเจ้าเหมียวจะตอบสนองต่อการรักษาอย่างไร เพราะเจ้าของคนเดิมของมันก็มีอายุมากและมีปัญหาในการเคลื่อนไหวเหมือน ที่สำคัญ เธอไม่รู้ว่าจะดูแลมันได้ดีเท่าที่ควรหรือเปล่า     ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเหมียวอาศัยอยู่ในบ้านที่มีบันไดหลายขั้น ดังนั้นหากรักษาไปแล้วปล่อยมันกลับบ้าน ก็กลัวว่ามันจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บหนักว่าเดิมอีก อย่างไรก็ตาม The Cat Doctor ยินดีจะทำการรักษาให้ และหวังจะทำให้แมวตัวหนึ่งมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขและได้รับการดูแลเท่าที่มันควรจะได้รับ     Charlie…

สุนัขคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ เพราะมันพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าของมีความสุข แม้บางครั้งจะต้องเสี่ยงด้วยชีวิตตัวเองก็ตาม เหมือนกับ Rex สุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด วัย 2 ปี ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าสุนัขนั้นรักมนุษย์ของมันมากกว่าตัวเองจริงๆ     ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี 2018 ได้เกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าบ้าน Javier Mercado วัย 16 ปี ใน  Des Moines ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะนั้นเด็กหนุ่มอยู่บ้านคนเดียว กับสุนัข Rex เท่านั้น เมื่อ Javier ได้ยินเสียงจากนอกบ้าน เขาจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วก็เห็นรถที่เขาไม่รู้จักจอดอยู่     Javier บอกว่า “จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงประตูเลื่อนแตก เพราะมันทำจากกระจก Rex วิ่งลงบันไดไปและเริ่มเห่า ก่อนจะได้ยินเสียงชายคนหนึ่งร้องว่า ‘หมากัดฉัน!! เอามันออกหน่อย’” เด็กหนุ่มรวบรวมสติ โทรหา 911 แล้วรีบไปหลบในตู้เสื้อผ้า… สักพัก Rex เดินขึ้นมาที่ห้องในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีเลือดไหลเต็มพื้น     ไม่นานหลังจากนั้น โจรที่อยู่ชั้นล่างก็ตามสุนัขขึ้นมาและเริ่มค้นห้องนอนทุกห้อง จนกระทั่งมาถึงห้องที่ Javier…

เรามักจะคิดว่าสิ่งที่สุนัขในศูนย์พักพิงต้องการมากที่สุดคือบ้านและเจ้าของ แต่แท้จริงแล้วมันต้องการคนที่ไว้ใจได้และพร้อมใจะเข้าใจในสิ่งที่มันเป็น เจ้า Cloudy ก็เช่นกัน มันถูกช่วยเหลือจากการเป็นหมาจรจัดตั้งแต่เด็ก และเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงขนาดใหญ่ของรัฐแอละแบมา ประเทศสหรัฐอเมริกา     แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ หลังจากที่เข้ามาในศูนย์พักพิงได้ไม่นาน มันก็ถูกรับเลี้ยง และดูเหมือนมันจะพบกับความสุขตลอดไปในบ้านหลังใหม่นี้ แต่น่าเศร้า…มันถูกส่งกลับมาในศูนย์เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ได้ออกไป ต่อมา มีอีกครอบครัวหนึ่งที่สนใจ Cloudy ทำให้มันถูกรับเลี้ยงไปอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนคาดหวังว่าครอบครัวที่สองนี้จะทำให้มันมีความสุขได้ แต่น่าเสียดาย…น้องหมาถูกส่งกลับมายังศูนย์เป็นครั้งที่สอง     Cloudy ถือเป็นหนึ่งสุนัขที่น่ารักมากที่สุดก็ว่าได้ แต่การที่ถูกส่งกลับมาถึง 2 ครั้ง เป็นเพราะมันกลัวคนแปลกหน้า เป็นไปได้ว่าก่อนที่น้องหมาจะมาอยู่ในศูนย์พักพิง มันคงจะเคยเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายและมีความวิตกกังวลอย่างรุนแรงเกี่ยวกับการเจอคนแปลกหน้า นั่นทำให้สองครอบครัวของมันไม่สามารถรับมือในเรื่องนี้ได้     ถึงจะกลัวคนแปลกหน้า แต่ Cloudy สามารถกลับมาไว้ใจมนุษย์ได้ มันแค่ต้องการเวลาสักพักและคนที่จะอดทนกับมันจนกว่าจะถึงจุดนั้น Stacey Lambert แม่อุปถัมภ์ของ Cloudy บอกว่า “เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมันมาก่อน แต่เรารู้ว่ามันต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายมากและไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าเลยสักนิด”     เธอบอกอีกว่า “อย่างไรก็ตาม เมื่อมันรู้สึกสบายใจกับใครบางคน มันจะรักคนคนนั้นด้วยทั้งหมดของหัวใจ มันมีความรักที่ยิ่งใหญ่ มีความซื่อสัตย์ และจะเป็นแค่จะเจ้าตูบที่จะมานอนแอ้งแม้งบนตักของเรา” Cloudy จะรู้สึกสบายใจและมั่นใจตลอดเวลาเมื่ออยู่ในบางสถานที่ มันชอบไปวิ่งเล่นในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ และดูเหมือนมันจะลืมว่าโลกนี้น่ากลัวไปชั่วขณะหนึ่ง  …

สำหรับคนรักแมวอย่างเราๆ คงไม่มีอะไรทำให้เราฟินได้เท่ากับการได้กอดแมวอีกแล้ว จริงๆ อยากกอดทั้งวันทั้งคืนแหละ แต่ก็กลัวจะเสียการเสียงาน เลยต้องรอให้ว่างก่อนถึงจะได้กอด ใครที่มีอาการหลงแมวหนักขนาดนี้โอกาสของคุณมาถึงแล้ว เพราะที่ดูไบ คุณสามารถสร้างรายได้ด้วยการเป็น ‘นักกอดแมวมืออาชีพ’     ในดูไบมีคลินิกสัตว์ที่ชื่อว่า Just Cats ซึ่งเป็นคลินิกแห่งเดียวของเมือง Clonsilla ที่ทุ่มเทดูแลเฉพาะแมวเท่านั้น พวกเขาเขียนในเว็บไซต์ justcats ว่า “ที่นี่ไม่มีสุนัข เราทุกคนมีโอกาสเป็นเจ้านายอย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตามเราปฏิเสธที่จะให้สุนัขเข้ามาในนี้ในฐานะผู้ป่วย”     สำหรับคนที่อยากมาทำงานกับ Just Cats คุณต้องเป็นคนรักแมว บ้าแมวมากๆ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนรักแมวมากกว่าคนอาจมีโอกาสได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ส่วนรายละเอียดของงานระบุไว้ว่าผู้สมัครจะต้องมีมือที่่่่อ่อนโยนสำหรับลูบและนวดให้พวกแมวเหมียวเป็นระยะเวลานานๆ ได้     นอกจากนี้ผู้สมัครจะต้องมีเสียงอันแผ่วเบา สามารถกระซิบคุยกับแมวได้เพื่อบรรเทาความเครียดให้กับพวกมันบางตัวที่ป่วย ใครก็ตามที่มีความสามารถในการแยกความแตกต่างของชนิดเสียงของแมวได้ นั่นเป็นข้อได้เปรียบที่จะทำให้คุณได้ทำงานนี้     อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณจะผ่านการสัมภาษณ์ เพราะคุณต้องผ่านการรับรองคุณสมบัติจากสภาสัตวแพทย์แห่งไอร์แลนด์ก่อนถึงจะสามารถทำงานตำแหน่งนี้ได้     ใครที่คิดว่าคุณสมบัติผ่าน ลองติดตามรายละเอียดในเว็บไซต์ justcats นะคะ งานง่ายๆ ได้อยู่กับสิ่งที่รัก อื้มม คงจะฟินน่าดู   ที่มา independent

ทุกวันนี้ประชากรสัตว์บางชนิดมีน้อยลงไปทุกที ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากกระทำของมนุษย์นี่แหละที่เข้าไปคุกคามพวกมันในลักษณะของกิจกรรมต่างๆ ด้วยเหตุนี้กลุ่มนักอนุรักษ์สัตว์จากหลายๆ หน่วยงานจึงพยายามออกมาเคลื่อนไหว เพื่อให้ผู้คนตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้น อย่าง Remembering Elephants และ Remembering Rhinos ซึ่งเป็นหนังสือภาพที่ทำขึ้นเพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับมนุษย์ที่มีต่อสัตว์ป่า รวมทั้งระดมทุนเพื่อปกป้องพวกมัน หนังสือดังกล่าวนี้เป็นการรวบรวมผลงานของช่างภาพจากทั่วโลก และด้านนี้เป็นภาพของลิงสายพันธุ์ต่างๆ จากหนังสือเล่มล่าสุดของ Remembering ในชื่อ Remembering Great Apes เผยให้เห็นธรรมชาติของพวกมันที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้   ลูกลิงอุรังอุตังแตะริมฝีปากแม่ด้วยนิ้วมือเล็กๆ ของมัน ขณะที่ผู้เป็นแม่จับนิ้วของมันเอาไว้ ภาพนี้ถ่ายในบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซีย   แม่กอริลลากำลังให้นมลูกน้อย   กอริลลาท่ามกลางหญ้าเขียวขจี รายล้อมไปด้วยภูเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้   ลูกอุรังอุตังสุมาตราอายุครึ่งปีกำลังนอนกอดแม่ในสุมาตราเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย   ลิงชิมแปนซีนั่งอยู่บนกิ่งไม้และกำลังร้องเรียกเพื่อนฝูงของมัน   ภาพของลิงชิมแปนซีที่กำลังนอนเล่นอยู่ในป่าของเขตอนุรักษ์ Mahale Mountains Game Reserve ในประเทศแทนซาเนีย   ลูกลิงชิมแปนซีนั่งจับเถาวัลย์ ขณะที่สายตากำลังจับจ้องอยู่ที่บางอย่าง   กอริลลาน้อยในอ้อมกอดของแม่ มันกำลังอยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต   ภาพอุรังอุตังสุมาตรา ถ่ายโดย Art Wolfe   ลิงโบโนโบน้อยกำลังเล่นอะไรนะ?  …

สุนัขถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความซื่อสัตย์ต่อมนุษย์มากที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน หรือถูกกระทำมาอย่างไร มันไม่เคยคิดจะทอดทิ้งเจ้าของเลย เช่นเดียวกับคลิปวิดีโอสุดสะเทือนใจนี้ เผยให้เห็นสุนัขตัวหนึ่งเฝ้าจับจ้องไปที่ขบวนรถไฟทุกคืน ราวกับรอให้ใครบางคนที่มันคุ้นเคยปรากฏตัวขึ้น ทุกคืน เวลา 5 ทุ่มโดยประมาณ จะมีสุนัขตัวเมียตัวหนึ่งยืนอยู่ที่ชานชลา 1 ของสถานี Kanjurmarg Station ในนครมุมไบ ประเทศอินเดีย มันจ้องเขม็งไปที่รถไฟที่มุ่งหน้าไปยัง Kalyan     ไม่มีใครรู้ว่าสุนัขตัวนี้มาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว แต่มีคนสังเกตเห็นในกล้องวงจรปิดของสถานีเมื่อวันที่ 2 มกราคม ปี 2018 ซึ่งเป็นไปได้ว่ามันกำลังมองหาเจ้าของที่พามันมาทิ้งที่สถานีนี้ ต่อมา Sameer Thorat ซึ่งเป็นคนในละแวกสถานี Kanjurmarg Station ได้ถ่ายคลิปสุนัขที่กำลังเฝ้ารอเจ้าของตัวนี้ และโพสต์ลงในโซเชียล จนได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก     การที่น้องหมามารอเจ้าของที่นี่ทุกคืน ทำให้มันกลายเป็นภาพชินตาของผู้คนที่เข้าออกสถานีแห่งนี้ พวกเขาจึงให้อาหารมันพร้อมด้วยลูกๆ อีก 4 ตัว     บางคนเชื่อว่าเจ้าของเดิมของมันเป็นผู้หญิงที่ไม่สามารถดูแลมันได้อีกต่อไป แต่ก็มีบางคนคิดว่ามันแค่มารอนักเดินทางที่จะให้อาหารมัน     Thorat คนถ่ายคลิปบอกว่า “ผมเห็นสุนัขตัวนี้ขณะกลับจากที่ทำงาน มันจะออกไปรอที่ข้างรถไฟในช่วงกลางดึก แล้วมองหาผู้หญิงที่ใส่เสื้อโค้ท…

บางชีวิตอาจเกิดมาพร้อมความโชคร้าย ถูกย่ำยี ไม่มีใครเหลียวแลจนสูญเสียความเป็นตัวเอง แต่ควมเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ หากมีใครสักคนยื่นมาเข้าไปช่วยเหลือชีวิตนั้น เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตประหลาดผิวสีชมพูตัวนี้ ที่ถูกพบบนถนนราโมนา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้คนแถวนั้นไม่ใครเคยเห็นสิ่งมีชีวิตลักษณะแบบนี้ พวกเขาเลยพากันกลัวมัน     สิ่งมีชีวิตประหลาดตัวนี้ถูกพบในช่วงกลางดึกคืนหนึ่งในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่มันกำลังคุ้ยหาเศษอาหารในถังขยะ ตอนแรกคนที่ได้ยินแต่เสียงสันนิษฐานว่าเป็นแรคคูน แต่คนที่ได้เห็นตัวเป็นๆ ของมันแย้งว่าไม่ใช่แรคคูนแน่นอน เพราะตัวมันเป็นสีชมพูและไม่มีขน     ต่อมา Angel Willoughby เจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กับจุดที่มีการพบสิ่งมีชีวิตสีชมพู รู้ว่ามันต้องการความช่วยเหลือ เขาและครอบครัวจึงแจ้งผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าให้มาตรวจสอบ     ระหว่างนั้นครอบครัว Willoughby พยายามต้อนให้สิ่งมีชีวิตสีชมพูมาติดกับเพื่อให้การช่วยเหลือมัน ก่อนจะส่งรูปไปให้เจ้าหน้าที่ใน California Department of Fish and Wildlife (CDFW) จนได้คำตอบว่ามันคือตัวอะไรกันแน่ จริงๆ แล้ว ทาง CDFW เพิ่งจะได้รับรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนพบที่คุ้ยขยะเหมือนกัน ขนาดตัวเท่ากัน แต่ลักษณะต่างกันใน Butte County อย่างไรก็ตาม หากมันเป็นตัวเดียวกัน นี่จะถือเป็นปัญหาใหญ่เลย     เจ้าหน้าที่ของ CDFW…

แม้ระบบการขนส่งจะมีเครื่องตรวจจับสิ่งแปลกปลอม แต่ที่ผ่านมาเรามักจะเห็นบางคนพยายามที่จะส่งของแปลกๆ อยู่เสมอ อย่างเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 2018 ตำรวจในเม็กซิโกได้แชร์ภาพในเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยสุนัขดมกลิ่น ตรวจพบกล่องที่บรรจุลูกเสือที่ยังมีชีวิตอยู่”     ตาม New York Post รายงานว่ามีคนนำลูกเสือบรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกสีฟ้า แต่ถูกจับได้โดยสุนัขดมกลิ่นที่ทำหน้าที่ตรวจจับสิ่งแปลกปลอมในที่ทำการไปรษณีย์ ลูกเสือตัวนี้กำลังจะถูกส่งทางไปรษณีย์จากรัฐฮาลิสโก ทางตะวันตกของเม็กซิโก ไปยังเมืองซานเตียโกเดเกเรตาโร ซึ่งอยู่ในภาคกลางของเม็กซิโก     เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดกล่องออกมาพบเสือโคร่งอายุประมาณ 2 เดือน ถูกล้อมด้วยเศษกระดาษหนังสือพิมพ์ที่เหมือนคนส่งต้องการจะทำเป็นที่รองนอนให้ลูกเสือ คนส่งได้ทำการจัดส่งแบบจัดส่งด่วน โดยเจาะรูข้างกล่องเพื่อให้อากาศเข้าถึงได้ แต่เขาไม่ได้ให้น้ำหรืออาหารมันเลย     ปัจจุบันลูกเสือตัวนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกรมทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนที่มาที่ไปของการขนส่งในครั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นับว่าเป็นความโชคดีของน้องเสือที่ถูกพบก่อนการส่งตัว มิฉะนั้นมันคงต้องทรมานไปอีกนานและไม่รู้ว่าปลายทางนั้นต้องไปเจอกับอะไรบ้าง     ที่มา dailymail l littlethings

เป็นธรรมดาของสุนัขที่จะแอบออกไปวิ่งเล่นข้างนอกบ้าง เมื่อถึงเวลาพวกมันก็จะกลับมาเอง แต่โชคร้ายที่บางตัวไปไกลเกินจนไม่สามารถจำทางกลับบ้านได้ และอาจต้องพรากกับครอบครัวในที่สุด คล้ายกับกรณีของ Meredith Hanks จากรัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ครั้งหนึ่งเคยเลี้ยงสุนัขชื่อ Colonel แต่มันหนีออกจากบ้านเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2014 และไม่กลับมาอีกเลย     การหายไปของน้องหมา ทำให้ Meredith และลูกๆ เสียใจมาก พวกเขาพยายามออกตามหามันตลอดหลายเดือนแต่ก็ได้ไร้วี่แวว จนทุกคนถึงกับหมดหวัง     หลังจาก 3 ปีของการหายไป เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอ เมื่อเจ้าหน้าที่จาก Jonesboro humane society โทรมาแจ้งว่าพวกเขาเจอสุนัข และเมื่อสแกนชิปก็พบว่าข้อมูลตรงกับที่ Meredith ได้จดทะเบียนไว้     ทันทีที่ทราบข่าว Meredith รีบไปยังศูนย์ Jonesboro Humane Society ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 400 กิโลเมตรและก็พบว่าสุนัขตัวนั้นเป็น Colonel จริงๆ Meredith เล่าให้ฟังว่า “Colonel เป็นสุนัขตัวแรกของครอบครัวเรา ดังนั้นเมื่อมันหายไป ทำให้ทุกคนรู้สึกเศร้ามาก”     ในช่วงเวลาที่น้องหมาหายไปนั้น…

การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์หรือสัตว์ร่วมโลกที่ตกอยู่ในอันตรายนั้นไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนควรจะช่วยกันทำในส่วนที่ทำได้ บางกรณีเราอาจจะไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือโดยตรงได้ แต่เราสามารถขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ ดีกว่าปล่อยให้หนึ่งชีวิตต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากเพียงลำพัง     อย่าง Denis Malafeyev ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Tseglovka ประเทศยูเครน เขาเป็นที่รู้จักในฐานะคนรักสัตว์และบ่อยครั้งที่ผู้คนติดต่อเขาเมื่อพบสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ     เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2016 Denis ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนคนหนึ่งว่ามีสุนัข 2 ตัว ติดอยู่บนรางรถไฟเป็นเวลสองวันแล้ว ชายหนุ่มจึงมุ่งหน้าไปยังที่นั่นทันที อย่างที่รู้กันว่าในประเทศยูเครนนั้น เมื่อถึงฤดูหนาวอุณหภูมิจะลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ดังนั้นถ้าต้องการให้สุนัขทั้ง 2 รอดชีวิต Denis จะต้องพาพวกมันออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด     ขณะที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้สุนัขทั้ง เขาพบว่าสุนัขตัวเมียได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่ตอนที่เขาพยายามเข้าไปช่วยเหลือมัน กลับมาสุนัขอีกตัวโผล่ขึ้นมาขัดขวางเขาไว้ สุนัขที่โผล่มาอีกตัวดูเหมือนจะเป็นพี่ชายของสุนัขที่บาดเจ็บ ทุกครั้งที่ Denis จะเข้าไปช่วยสุนัขตัวเมีย มันจะแยกเขี้ยวและทำเสียงขู่เขา เพราะมันไม่รู้ว่าชายหนุ่มมีเจตนาดี     ถึงแม้สุนัขตัวพี่จะคอยเฝ้าน้องที่บาดเจ็บตลอดเวลาและไม่ยอมให้ใครเข้ามาใกล้ แต่ชายหนุ่มไม่ยอมแพ้ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน แต่ขณะที่เขานั่งรอให้สุนัขตัวพี่ใจเย็นลงนั้น จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงรถไฟที่กำลังมุ่งหน้ามาทางที่เขาอยู่ และเห็นสุนัขตัวพี่วิ่งไปอยู่ข้างๆ น้องสาวที่กำลังบาดเจ็บ     แทนที่มันจะวิ่งหนีไป มันกลับไปนั่งข้างๆ น้องสาวและเมื่อรถไฟเข้ามาใกล้มันก็เอาหัวแนบติดกับพื้น นั่นเป็นภาพที่ทำให้ Denis…

ในวันที่โลกของคุณมืดมน คุณคงไม่ต้องการอะไรนอกจากคนที่สามารถไว้ใจได้ มีความจริงใจ และไม่ทอดทิ้งให้คุณต้องเผชิญกับความมืดมิดเพียงลำพัง ด้วยเหตุนี้คุณยายชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งจึงทำหน้าที่ดูแลน้องหมาตาบอดเหมือนลูกของตัวเอง เพราะเธอคือความหวังเดียวของมัน     น้องหมาตัวนี้มีชื่อว่า Pome มันจะขี่หลังคุณยายตลอดเวลา ทั้งอยู่ในบ้านและตอนออกไปข้างนอก ไม่ใช่แค่เพราะว่ามันตาบอด แต่มันกลัวว่าใครจะมาพรากคุณยายไปจากมัน เมื่อถามคุณยายว่าทำไมยอมให้เจ้า Pome ขี่หลังตลอดเวลา ไม่ปวดหลังบ้างหรอ? เธอตอบว่า “เพราะมันขี่หลังนี่แหละ เลยทำให้ฉันไม่รู้สึกปวดหลัง”      คุณยายบอกว่าตั้งแต่น้องหมาตาบอด ทุกที่ก็กลายเป็นที่อันตรายสำหรับมัน ดังนั้นเธอจึงต้องคอยดูแลมัน ให้มันได้กินอิ่ม นอนอุ่น และไม่ตกอยู่ในอันตราย เวลาปล่อยเจ้า Pome ลงจากหลัง มันจะเดินชนนั่น ชนนี่ไปทั่ว เพราะมันไม่รู้ว่าคุณยายอยู่ตรงไหน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ยินเสียงคุณยาย มันจะวิ่งไปหาทันที เพราะเธอคือคนเดียวที่มันไว้ใจและอยากอยู่ใกล้ชิดตลอดเวลา     แม้จะตาบอดแต่น้องหมาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเลย เพราะไม่ว่าคุณยายจะทำอะไร หรือไปไหน มันจะไปด้วยทุกที่ ถึงเวลากินก็กินด้วยกัน ไปข้างนอกก็ไปด้วยกัน ขนาดคุณยายแวะดมดอกไม้ข้างทางยังแบ่งมันดมเลย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Pome ถึงกลัวว่าใครจะมาพรากคุณยายไปจากมัน     ที่มา SBS TV동물농장x애니멀봐

สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ พวกมันสามารถออกหากินได้ทุกเมื่อที่หิว แต่สำหรับสัตว์ที่ถูกจับมาไว้ในสวนสัตว์ พวกมันจะกินได้ก็ต่อเมื่อมีคนเอาอาหารมาให้เท่านั้น ดูเหมือนว่าการอยู่ในสวนสัตว์จะเป็นเรื่องดีสำหรับสัตว์ เพราะมีทั้งผู้ดูแลอาหารครบทุกมื้อ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับสวนสัตว์ Taiyuan Zoo ในมณฑลชานซี ประเทศจีน     เมื่อไม่นานมีนี้มีนักท่องเที่ยวเข้าไปชมสัตว์ในสวนสัตว์ Taiyuan Zoo แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสิงโต 2 ตัว เดินไปเดินมาอยู่ในกรงด้วยสภาพที่ผอมแห้ง และหนึ่งในนั้นส่วนหางหายไปครึ่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวคนนั้นจึงได้ถ่ายคลิปเอาไว้และโพสต์ลงในสื่อโซเชียล ก่อนจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตและมีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องออกมาอธิบายถึงภาพที่เห็น     ต่อมาทางสวนสัตว์ได้ออกมาชี้แจงว่า ‘สิงโตตัวนั้นนอนหลับไปโดยที่เอาหางจุ่มลงไปในบ่อน้ำ ทำให้หางของมันถูกแช่แข็งอยู่ในนั้นทั้งคืน เมื่อมันตื่นขึ้นมาและพบว่าหางตัวเองติดอยู่ในน้ำแข็งจนไม่สามารถออกมาได้ มันเลยกัดหางส่วนนั้นทิ้งเพื่อปลดปล่อยตัวเอง’     เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ยังบอกอีกว่าขณะนี้พวกเขาอยู่ระหว่างรักษาแผลให้มัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ตอบคำถามที่ว่าทำไมปล่อยให้สิงโตอยู่ในสภาพผอมแห้งเช่นนั้น?     ทั้งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสวนสัตว์หลายแห่งของจีนถูกกล่าวหาในเรื่องการทารุณกรรมสัตว์ ทั้งเรื่องการทำกรงแคบเกินไป สิงโตผอมเกินไป และเสือที่อ้วนมากเกินไป     ที่มา medium

การการุณยฆาตสัตว์นั้นถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากทำ แต่ในบางสถานการณ์ การปล่อยให้สัตว์จากไปดีกว่าให้มันอยู่ต่อ โดยเฉพาะสัตว์ที่เป็นโรคร้ายหรือสัตว์ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมาน เช่นเดียวกับ Coldilocks หมีขั้วโลกที่อายุมากที่สุดของอเมริกาถูกการุณยฆาตด้วยวัย 37 ปี ในสวนสัตว์ Philadelphia Zoo หลังจากที่มันประสบปัญหาปัญหาเกี่ยวกับไตและตับ     ทางสวนสัตว์ดังกล่าวได้ออกมาพูดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปี 2018 ว่าหมีขั้วโลกวัย 37 Coldilocks ถูกการุณยฆาตเนื่องจากปัญหาสุขภาพที่ย่ำแย่ ทางด้านนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมถึงกับพูดไม่ออก เพราะในช่วงเช้าของวันที่น้องหมีจากไป พวกเขายังเห็นมันเล่นกับของเล่นอย่างสนุกสนานอยู่เลย     Dr. Keith Hinshaw ผู้อำนวยการด้านสุขภาพสัตว์ในสวนสัตว์ Philadelphia Zoo กล่าวว่า “Coldilocks เป็นสัตว์ที่น่าทึ่งมาก เพราะมันอยู่ได้นานกว่าหมีขั้วโลกทั่วไปที่มีอายุเฉลี่ยเพียง 23 ปีเท่านั้น” เขาบอกอีกว่า Coldilocks มีการเปลี่ยนอย่างกะทันหันเมื่อประมาณสัปดาห์ก่อนที่มันจะถูกฆ่า มันไม่ยอมกินอาหารและไม่ค่อยเล่นเหมือนที่ผ่านมา     ก่อนที่น้องหมีจะถูกการุณยฆาต ทางทีมงานได้มีการทดสอบทางการแพทย์ พบว่ามันมีปัญหาเกี่ยวกับตับและกระดูกสันหลัง ขณะเดียวกัน Dr. Andy Baker ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของสวนสัตว์บอกว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อหมีขั้วโลกได้เช่นกัน ซึ่งนั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีปัญหาสุขภาพ     สำหรับเจ้าหมีขั้วโลก Coldilocks นั้น มันเกิดเมื่อวันที่ 13…

่การที่ใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัวล้มป่วย ก็เท่ากับคนทั้งครอบครัวป่วยไปด้วย เพราะคงไม่มีใครมีความสุขได้ในขณะที่คนที่รักกำลังเป็นทุกข์  เหมือนกับหนูน้อย Aoife O’Sullivan วัย 4 ขวบ และครอบครัวที่ภาวนาให้ใครสักคนบริจาคหัวใจให้กับเธอเพื่อปลูกถ่าย และเธอจะได้มีชีวิตบนโลกกว้างใบนี้ให้นานขึ้น     แต่น่าเศร้าที่ความหวังนั้นไม่ได้เกิดขึ้น หัวใจของ Aoife หยุดเต้นขณะที่เธออยู่ในรายชื่อรอรับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ และการผ่าตัดฉุกเฉินไม่สามารถยื้อชีวิตเธอไว้ได้ เพื่อไม่ให้การจากไปของลูกน้อยสูญเปล่า คุณแม่ Michelle และ คุณพ่อ Neil ของเด็กหญิงจึงได้ปรึกษากันเพื่อที่จะทำบางอย่าง พ่อแม่ของเด็กหญิงบอกกับคุณหมอว่าพวกเขาต้องการบริจาคอวัยวะของลูกสาว และนั่น ทำให้ไตของเธอได้ช่วยชีวิตชายหนุ่มคนหนึ่งไว้     Michelle บอกว่า “ชีวิตเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก การบริจาคอวัยวะไม่ใช่แค่ช่วยชีวิตคนคนเดียว แต่มันช่วยคนรอบข้างของคนนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมงาน” คุณแม่เล่าให้ฟังว่า Aoife เป็นเด็กสาวที่สดใสร่าเริงอยู่เสมอ เธอเรียนอยู่ที่โรงเรียนใน Leigh-on-Sea เขตเอสเซ็กซ์ ประเทศอังกฤษ ตอนอยู่ในโรงเรียนเด็กหญิงมักจะไอเป็นประจำ และโรคหอบหืดของเธอก็แย่ลงเรื่อยๆ กระทั่งวันหนึ่งเธอไอออกมาเป็นเลือดและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Southend Hospital ทันที หลังจากตรวจอย่างละเอียดแล้ว คุณหมอวินิจฉัยว่าเด็กหญิงป่วยเป็นวัณโรคและโรคปอดบวม…     Michelle อธิบายถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า “มันน่ากลัวมาก แต่ฉันคิดว่าอย่างน้อยเราก็รู้ว่าเธอเป็นอะไรและเธอก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้” อย่างไรก็ตาม…

ใครที่เลี้ยงสุนัขจะเข้าใจดีว่าพวกมันไม่ต่างจากเด็กน้อยคนหนึ่ง บางครั้งมันชอบทำลายข้าวของในบ้าน บางครั้งชอบทำตัวเลอะเทอะ และที่มันชอบที่สุดคือการไปออกไปวิ่งเล่นอย่างอิสระ แต่ดูเหมือนว่าครอบครัวของน้องหมา Ty จะไม่เข้าใจในสิ่งที่มันเป็น เพราะหลังจากมันเริ่มทำลายข้าวข้องในบ้าน ทางครอบครัวเลยตัดสินใจขังมันไว้ในกรงทั้งกลางวันและกลางคืน     ครอบครัวรู้ดีกว่าการปล่อยให้ Ty อยู่แต่ในกรงตลอดเวลานั้นไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับน้องหมา ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจส่งมันให้กับ RSPCA โดยหวังพวกเขาจะหาบ้านใหม่ที่ดีกว่านี้ให้ ต่อมา Cara Gibbon เจ้าหน้าที่รับสัตว์จึงไปยังบ้านของ Ty เพื่อพามันไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ RSPCA’s Coventry, Nuneaton and District Branch     เมื่อมาถึง Gibbon สังเกตเห็นว่า Ty เป็นสุนัขที่พลังเยอะเหลือเกิน และดูมันคลุ้มคลั่งเล็กน้อย เพราะถูกขังไว้ในกรงเป็นเวลานาน ดังนั้นแทนที่จะขังมันไว้ในกรงสักพักก่อน หญิงสาวตัดสินใจปล่อยให้มันออกมาวิ่งข้างนอกอย่างอิสระ เธอบอกว่า “น้องหมาที่น่าสงสารตัวนี้ถูกขังไว้ในกรงตลอด 24 ชั่วโมง ฉันเลยปล่อยลงในสนามวิ่งของศูนย์ฝึกสุนัข ทำให้มันได้วิ่งเล่นอย่างอิสระ”     ทันที่ที่น้องหมาถูกปล่อยตัวออกมาจากกรง Ty ก็วิ่งออกมาด้วยความตื่นเต้น มันวิ่งไปทุกที่ที่อยากไป แม้จะอยู่ในพื้นที่จำกัดก็ตาม Gibbon บอกว่า “มันดูมีความสุขมากๆ และส่ายหางไปมาตลอดเวลา มันเป็นภาพที่สวยงามเมื่อได้เห็นมันเพลิดเพลินกับอิสรภาพและสูดอากาศบริสุทธิ์”     น้องหมาใช้เวลาอยู่ข้างนอกอย่างคุ้มค่ามาก คงเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ออกมาเล่นแบบนี้…

การที่สัตว์จรจัดทำตัวก้าวร้าวหรือกลัวคนแปลกหน้านั้นไม่ใช่เร่ื่องแปลก โดยเฉพาะสััตว์ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ทั้งจากสัตว์ด้วยกันและมนุษย์ เหมือนกับเจ้าเหมียวที่ถูกพบอยู่ในไซต์ก่อสร้าง ที่ทำตัวน่ากลัวกับทุกคนที่เจอและไม่รู้จักความรักความอบอุ่น เพราะนั่นคือสิ่งที่มันไม่เคยได้รับ     แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อคนงานก่อสร้างคนหนึ่งตัดสินใจช่วยเหลือมัน ก่อนที่ Sellecca Berg และสามีจะมอบบ้านอันแสนอบอุ่นให้กับแมวจรจัดตัวนี้… Sellecca บอกว่า “ญาติของเราคนหนึ่งพาแมวกลับมาในไว้ในบ้าน ซึ่งบ้านของเขามีแมวอยู่แล้วหลายตัว ทำให้เจ้าเหมียวตัวใหม่ที่นิสัยขี้อายต้องอยู่ในบ้านนั้นด้วยความเครียด ก่อนที่จะเราจะได้มาเจอมันในอีกสองสามวันต่อมา”     เมื่อทั้งคู่รู้ว่าเจ้าเหมียวผ่านอะไรมาบ้าง และกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ในที่สุดสองสามีภรรยาก็ตัดสินใจรับเลี้ยงมันและตั้งชื่อให้มันว่า Gravy ตอนที่คู่รักอุ้ม Gravy ครั้งแรก มันตัวสั่นด้วยความกลัว จากนั้นพวกเขาก็พามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและรักษาในสิ่งที่จำเป็น     หลังจากกลับจากหาหมอ คู่รักได้เตรียมห้องที่เงียบสงบให้กับ Gravy เพื่อให้มันได้อยู่ในที่ผ่อนคลายและนอนพักได้อย่างเต็มที่ ภายใน 10 นาที หลังจากที่เจ้าเหมียวเข้ามาอยู่บ้านใหม่ มันก็เริ่มสร้างความสนิทสนมและให้ความอบอุ่นกับมนุษย์ผู้เป็นเจ้าของ     Sellecca บอกว่า “มันมาคลอเคลียเรา กอดเรา และทำบางอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจ มันน่ารักมากๆ ทั้งๆ ก่อนจะมาอยู่กับเรามันผ่านอะไรมามากมาย” ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าเหมียวเริ่มมีความคุ้นชินกับบ้านหลังใหม่ มันรู้ว่ามุมไหนที่นอนแล้วสบายและจะหลับอยู่ตรงนั้นเกือบทั้งวัน    …

นอกจากอาหารหมาแล้ว หลายคนคงให้สุนัขกินหมูดิบ เนื้อดิบ หรือไก่ดิบ แต่ล่าสุด นักวิจัยจากเมลเบิร์น ออกมาเผยว่าการให้สุนัขกินไก่ดิบนั้นอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพวกมันได้ จากการวิจัยในโรงพยาบาลสัตว์ Werribee Animal Hospital เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เผยว่าการให้สุนัขบริโภคไก่ดิบเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอัมพาตเฉียบพลัน (APM) ก่อนหน้านี้สาเหตุการเกิดภาวะอัมพาตเฉียบพลันในสุนัข ยังเป็นที่คลุมเครือในวงการสัตวแพทย์ จนกระทั่งผลการวิจัยใหม่ออกมาระบุว่ามันมีสาเหตุจากไก่ดิบ โดยเฉพาะส่วนคอของไก่ เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ     ทีมวิจัยบอกว่าการเลี้ยงสุนัขด้วยไก่ดิบมีความเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงของภาวะดังกล่าว 70% เพราะในไก่ดิบมีเชื้อแบคทีเรีย Campylobacter (เป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในลำไส้) ที่เป็นตัวนำ 40% ที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เรในมนุษย์ ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่สอดคล้องกับภาวะอัมพาตเฉียบพลันในสัตว์ ในระหว่างการศึกษา ผู้นำการวิจัย ดอกเตอร์ Matthias le Chevoir และทีมจาก U-Vet Werribee Animal Hospital ของมหาวิทยาลัย University of Melbourne ได้ตรวจสอบอาหารของสุนัข 27 ตัว ที่มีอาการ AMP     เมื่อเปรียบเทียบกับสุนัขกลุ่มที่ไม่มีอาการ AMP พวกเขาได้ข้อสรุปว่า Campylobacter อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องและเป็นอัมพาต AMP อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตของสุนัข…

มีหลายสถานที่ทั่วโลกที่ถูกมนุษย์ทิ้งให้รกร้างและที่ที่ถูกย่ำยีโดยธรรมชาติจนดูราวกับว่ามันหลุดมาจากโลกของเทพนิยายหรือจากฉากหนังสยองขวัญ บางสถานที่เหล่านั้นเคยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับความสนใจจากมนุษย์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันกลายเป็นเพียงสถานที่รกร้างและถูกหลงลืม อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม แต่มันก็ยังมีความงามในความเสื่อมโทรม และกลายเป็นแหล่งดึงดูดให้ช่างภาพหรือนักเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมอยู่เสมอ   1. ที่ลี้ภัยที่ถูกทิ้งร้างในประเทศอิตาลี   2. โบสถ์ร้างในประเทศฝรั่งเศส   3. ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์   4. รถรางร้างในเมือง Cape Charles รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา   5. ที่นี่เคยเป็นโรงหนังในทะเลทรายอียิปต์ แต่ตอนนี้เหลือแค่เก้าอี้เท่านั้น   6. โรงเก็บเครื่องบิน Yugoslavian Aircraft Hangar ใน Mostar ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา   7. ห้องเต้นรำที่อยู่ภายในโรงแรมที่ถูกทิ้งร้าง   8. โบสถ์ที่ถูกทิ้งร้าง เหลือเพียงบรรยากาศที่ดูวังเวง   9. ห้องที่ถูกทิ้งร้างจนค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยตะไคร่น้ำ   10. หลังจากที่ผู้คนต้องอพยพเพราะภัยพิบัติเชอร์โนบิล เมืองพริเพียต ของยูเครน ก็กลายเป็นเมืองร้างจนทุกวันนี้   11. โรงภาพยนตร์ที่ถูกไฟไหม้จนไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป   12. นี่คือที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ในบัลแกเรีย  …

ในวันสำคัญของชีวิต เช่น วันรับปริญญา หรือวันแต่งงาน เราหลายๆ คนคงอยากให้คนที่เรารักร่วมเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลานั้นด้วย คนที่เรารักในที่นี่อาจจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เพื่อน ญาติๆ หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง เหมือนกับบัณฑิตสาวคนนี้ที่เลือกถ่ายรูปกับน้องหมาสุดที่รักในวันที่เธอสำเร็จการศึกษา     เรื่องราวนี้ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Tle Bloom เป็นภาพบัณฑิตสาวกับน้องหมาพร้อมข้อความระบุว่า “เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาโดนจ้างไปถ่ายรูปนอกรอบ บัณฑิตบอกรับปีหน้า แต่อยากถ่ายไว้ก่อน อยากจะถ่ายคู่กับหมามันชื่อ เต่า บัณฑิตบอกเจ้าเต่า อยู่มา 15-16 ปี มันแก่มากแล้ว ไม่กินข้าว แม้จะเดินยังทำไม่ไหว มันก็เป็นเช่นนั้นจริง บัณฑิตกลัวว่ามันจะไม่อยู่รอวันรับจริง ก็อยากมีภาพเก็บไว้ก่อน หลังจากถ่ายเสร็จแค่ 1-2 วัน มันก็จากไป เหลือเพียงความรักและความทรงจำ ขอบคุณที่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ เสียใจด้วยครับ”     เรื่องราวนี้สร้างความประทับใจให้ผู้อ่านเป็นจำนวนมาก เราจึงได้ติดต่อไปหาบัณฑิตเจ้าของน้องเต่าน้อย เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม บัณฑิตคนนี้คือคุณแป้ง เธอได้เรื่องราวของเต่าน้อยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า น้องเต่าได้เข้ามาในชีวิตช่วงที่เรียนระดับมัธยม กระทั่งเรียนจบปริญญาตรีในปี 2560 และจะรับใบปริญญาในปี 2562 โดยตั้งใจว่าจะให้น้องหมาที่เลี้ยงไว้นับ 10 ตัว ไปถ่ายรูปด้วย  …

อย่างที่หลายคนรู้กันอยู่แล้วว่าประชากรผึ้งบนโลกนี้มีน้อยลงไปทุกที สาเหตุหลักมาจากวิธีการทำฟาร์มอุตสาหกรรมสมัยใหม่และการสูญเสียที่อยู่อาศัย นั่นถือเป็นข่าวร้ายสำหรับเราทุกคน เนื่องจากผึ้งทำหน้าที่สำคัญในการผสมเกสรของพืชหลายชนิด อันเป็นแหล่งอาหารสำคัญของมนุษย์   BEEcosystem วิธีใหม่ที่จะช่วยประชากรผึ้งไม่ให้ลดลง   ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผึ้งหมดไปจากโลก เราในฐานะมนุษย์จึงต้องช่วยกันแก้ปัญหานี้ แต่อย่างที่เรารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำแบบนั้น อย่างไรก็ตาม BEEcosystem มากับไอเดียการสร้างกล้องติดผนังบ้าน ซึ่งเป็นรูปรังผึ้งหกเหลี่ยม เป็นการช่วยให้ผึ้งเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับมนุษย์ได้   ผึ้งทำหน้าที่สำคัญในการผสมเกสรของพืช อันเป็นแหล่งอาหารของเรา   แนวคิดนี้ทำให้ผึ้งได้ใกล้ชิดกับมนุษย์ในสิ่งแวดล้อมแบบสังคมเมือง ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อประชากรผึ้งแล้ว ยังทำให้มนุษย์ได้เข้าใจความสำคัญของผึ้ง บทบาทของมัน และทำให้เราได้เรียนรู้ทีจะอยู่เคียงข้างมันอย่างเป็นมิตร กล่องรังผึ้งดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เพื่อให้ทุกคนรวมทั้งผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับผึ้งได้อยู่ร่วมกับมันอย่างสบายใจ และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกผึ้งต่อย เพราะจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน   ดังนั้นการให้ผึ้งอยู่ใกล้เรามากขึ้นและให้พื้นที่กับมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องตระหนัก   การติดตั้งกล่องรังผึ้งในบ้าน จะทำให้คุณได้เห็นการทำงานของผึ้งอย่างใกล้ชิด ได้เห็นการสร้างรัง รวมทั้งการผลิตน้ำผึ้งที่อาจทำให้คุณน้ำลายหกได้   กล่องรังผึ้งหกเหลี่ยมที่เราสามารถติดตั้งในบ้านได้   หรือจะติดบนผนังนอกบ้านก็ได้   เราสามารถเฝ้าดูการทำงานของมันได้อย่างชัดเจน   กล่องนี้ง่ายต่อการสร้างรังของผึ้ง   ผึ้งจะเข้ามาในกล่องผ่านท่อใสๆ ที่มีความปลอดภัย และเป็นท่อที่เหมาะกับหน้าต่างทุกรูปแบบ   การติดตั้งกล่องแบบนี้ มันก็เหมือนกับคุณทำช่องด้านล่างประตูให้หมาแมวเข้าออกนั่นแหละ   อยู่ในบ้าน คุณก็สามารถเฝ้าดูการทำงานของผึ้งได้   การที่จำนวนประชากรผึ้งเติบโตขึ้น…

ลองจินตนาการดูว่ามันจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถกิน นอน ทำงาน และเที่ยวไปพร้อมๆ กัน ทั้งที่อยู่ในบ้าน มันดูเหมือนเป็นการเพ้อฝันใช่มั้ย? แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฝันนั้นจะไม่ได้อยู่แค่ในจินตนาการอีกต่อไปแล้วสำหรับศิลปินชาวเยอรมัน Maciej Markowicz และ Claudius Schulze  ทั้งสองคนเดินทางไปทั่วยุโรปด้วยโปรเจกต์ 2Boats ซึ่งเป็นทั้งเรือและบ้าน พวกเขาเพลิดเพลินไปกับการอยู่ในห้องที่สว่างไสวด้วยแสงไฟ ภายใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พร้อมชมความงามของทิวทัศน์ข้างนอกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขณะลอยอยู่บนน้ำ     เรือลำนี้ดูเหมือนจะเป็นที่ที่เจ๋งที่สุดในการใช้ชีวิตและการท่องเที่ยว เพราะมันจะพาคุณไปเปิดประสบการณ์สุดมหัศจรรย์ที่คุณอาจไม่เคยได้รับมาก่อน ส่วนที่น่าสนใจของเรือลำนี้คือมันไม่เหมือนเรือทั่วไป เพราะมันถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนบ้านหลังเล็กๆ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน Maciej และ Schulze เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ และทั้งคู่ก็ได้ระดมความคิดกัน จนออกมาเป็นโปรเจกต์ 2boats ที่ทำให้พวกเขาและคนอื่นๆ ได้สัมผัสกับเมืองที่สวยที่สุดทั่วยุโรป     การที่เรือลำนี้ล่องลอยอยู่บนน้ำ ทำให้ Schulze ผู้เป็นเจ้าของรู้สึกเป็นอิสระ…จริงๆ แล้วเขาอาศัยอยู่บนเรือนี้ก่อนที่เขากับ Maciej จะเริ่มทำโปรเจกต์ด้วยกัน     เรือของ Schulze มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่บ้านควรจะมี นอกจากนี้ยังสิ่งตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ตามที่คุณคาดหวังเช่น ต้นไม้ โคมไฟสวยๆ และแน่นอน ที่นอนอันแสนสบาย คุณสามารถมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อเพลิดเพลินไปกับสายน้ำและชมความงามของเมืองทั่วทุกทิศ โอ้วว พวกเขาพาน้องแมวมาด้วยนะ     เมื่อไหร่ก็ตามที่เรือหยุดจอด…

เพราะคิ้วคือมงกุฎของหน้า จึงไม่แปลกใจว่าทำไมสาวๆ ถึงยอมลงทุนเป็นพันเป็นหมื่นเพื่อคิ้วที่สวยเป๊ะเป็นธรรมชาติ แถมยังใช้เวลาน๊านนานในการตกแต่งก่อนออกจากบ้านทุกเช้า แต่สำหรับนางแบบ Sophia Hadjipanteli เรื่องคิ้วไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอเกิดมาพร้อมกับคิ้วที่ดกเป็นธรรมชาติ     Sophia วัย 21 ปี เติบโตมาในรัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณพ่อเป็นชาวไซปรัส และคุณแม่เป็นชาวอังกฤษ แต่รู้มั้ยว่ากว่าหญิงสาวจะประสบความสำเร็จในวันนี้ได้เธอต้องผ่านอะไรมามากมาย เธอเคยถูกเพื่อนแกล้งในโรงเรียน และได้รับประสบการณ์ที่เลวร้ายเป็นประจำ แต่การหัวเราะทีหลังดังกว่าเสมอ…     Hadjipanteli ปรากฏตัวในเว็บไซต์ของ Vogue ครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี และอีกครั้งหนึ่งใน 3 ปีถัดจากนั้น ตอนนี้เธอกลายเป็นนางแบบผู้โด่งดังในโลกออนไลน์และมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 152,000 ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าแม้เธอจะถูกรังแกในวัยเด็กจนเกือบจะยอมแพ้ และสุดท้ายเธอเลือกที่จะเติบโตขึ้นด้วยการเป็นตัวของตัวเอง     หญิงสาวบอกว่า “ตั้งแต่โตมา ฉันเป็นคนที่ดูแตกต่างเสมอ ฉันเป็นที่รู้จักเพราะมีรูปลักษณ์แปลกๆ และนั่นมันทำให้ฉันถูกกลั่นแกล้ง” “ฉันเกลียดทุกอย่างเกี่ยวกับการกลั่นแกล้ง เพราะแม้ว่ามันจะไม่ค่อยเกิดขึ้นกับฉันในวันนี้แล้ว แต่มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวเสมอในโรงเรียนมัธยม” “แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังอยากอยู่กับรูปลักษณ์แปลกๆ นี้ เพราะมันทำให้ฉันมีวันนี้ได้ ฉันตัดสินใจปล่อยให้คิ้วเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น แล้วฉันก็ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้”     Hadjipanteli ปล่อยให้คิ้วเป็นไปอย่างธรรมชาติเมื่อ 2…

การเสียชีวิตของใครสักคนไม่ใช่เรื่องแปลก แตมีเพียงไม่กี่คนที่การเสียชีวิตของพวกเขากลายเป็นเหตุการณ์เขย่าโลก และทุกคนให้ความสนใจ บุคคลเหล่านั้นมักจะเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อโลกไม่ทางก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางสังคม รวมไปถึงศิลปินที่มีชื่อเสียง มากไปกว่านั้น การตายของพวกเขาบางคนไม่ได้มาจากสาเหตุธรรมชาติ แต่เป็นการฆาตกรรม โดยมีบทบาททางสังคมของพวกเขาอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิต   1. John Lennon “ลองจินตนาการดูว่าทุกคนมีชีวิตอย่างสงบ คุณอาจจะพูดว่าผมเป็นคนช่างฝัน แต่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว…” บทเพลงที่มีเนื้อหางดงามนี้คงจะเขียนโดยใครไปไม่ได้นอกจาก John Lennon จากวง The Beatles ซึ่งอุดมการณ์ของเขาเกี่ยวกับความสงบสุขคือสิ่งที่ยังคงเป็นที่นับถือจนทุกวันนี้ แต่แล้ว เขาก็ถูกสังหารโดย Mark David Chapman   Chapman เป็นแฟนคลับของ The Beatles และมี Lennon เป็นไอดอล แต่เขารู้สึกโกรธที่ไอดอลของเขามีชื่อเสียงมากกว่าพระเยซู ดังนั้นเขาจึงวางแผนเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อจะฆ่านักร้องคนนี้ เขามีหนังสือ The Catcher in the Rye ที่เขียนโดย J.D. Salinger ในครอบครอง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการคำแถลงของเขา สุดท้ายการตายของ Lennon กลายเป็นเหตุการณ์ช็อกโลกที่ทุกคนไม่มีวันลืม   Mark David Chapman   2. Martin…

เมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อนๆ คงจะได้อ่านข่าวเด็กร้องเส่ียงดังบนเครื่องบินตลอดการเดินทาง ทำให้ผู้โดยสารต้องทนฟังด้วยความรำคาญนานถึง 8 ชั่วโมง (อ่านข่าวเก่า ผู้โดยสารหัวเสีย หลังต้องทนฟังเด็กร้องเสียงดังบนเครื่องบินนาน 8 ชั่วโมง) แม้เหตุการณ์นั้นจะสร้างความรำคาญให้แก่ผู้โดยสาร แต่ทุกคนก็อดทนอย่างเงียบๆ จนถึงปลายทาง แต่ดูเหมือนเหตุการณ์ต่อไปนี้จะเกินความอดทน จนทำให้ผู้โดยสารก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบนเครื่องบิน การทะเลาะวิวาทบนเครื่องบินระหว่างผู้โดยสารเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้โดยสารคนหนึ่ง ‘ตดเสียงดังไม่หยุด’ ทำให้สายการบิน Transavia Airlines เที่ยวบิน HV690 ต้องลงจอดฉุกเฉินระหว่างเดินทางจากนครดูไบไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัม     ตามรายงานระบุว่าเที่ยวบินดังกล่าวต้องลงจอดที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังผู้โดยสารชายสองคนทะเลาะวิวาทกัน โดยเหตุเกิดจากผู้โดยสารคนหนึ่งตดเสียงไม่ยอมหยุด ด้วยเหตุนี้ นักบินจึงตัดสินใจลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา จากนั้นตำรวจได้ขึ้นมาเชิญผู้โดยสาร 4 คนลงจากเครื่อง     โฆษกตำรวจยืนยันว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้โดยสารคนหนึ่งตดเสียงดังบนเครื่องโดยไม่พยายามควบคุมตัวเอง ซึ่งสร้างความรำคาญให้ผู้โดยสารอีกคนจนกลายเป็นการทะเลาะวิวาท ตำรวจได้เชิญตัวผู้โดยสารทั้งสองคนลงจากเครื่อง พร้อมด้วยผู้โดยสารหญิงอีก 2 คน Nora L วัย 25 ปี หนึ่งหญิงสาวที่ถูกเชิญลงกล่าวว่า “มันไม่ยุติธรรม มันบ้ามากที่เราถูกเหมารวมกับชาย 2 คนนั้น เราไม่รู้จักพวกเขา เราแค่นั่งแถวเดียวกับพวกเขาและเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”     ในขณะที่ทางโฆษกสายการบิน Transavia Airlines…

คู่แฝดนั้นแม้จะมีลักษณะภายนอกเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก แต่ด้านความคิด พฤติกรรม รวมไปถึงค่านิยมของพวกเขาไม่ได้เหมือนกันเสมอไป อย่างไรก็ตาม คู่แฝดชายและคู่แฝดหญิง 2 คู่นี้ ดูเหมือนพวกเขาจะมีรสนิยมเหมือนกัน และลงเอยด้วยการขอแต่งงาน แถมยังใช้แหวนเหมือนกันเป๊ะด้วย     Josh และ Jeremy Salyers พี่น้องฝาแฝดวัย 34 ปี จากรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พบกับคู่หมั้นของพวกเขา Brittany และ Briana Deane วัย 31 ปี ซึ่งเป็นฝาแฝดเหมือนกัน ที่เทศกาล Twins Days Festival ในรัฐโอไฮโอ เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2017     ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็พัฒนาความสัมพันธ์อย่างรวดเร็วก่อนจะที่ฝ่ายชายจะขอแฟนสาวแต่งงานพร้อมกัน พร้อมทั้งวางแผนที่จะงานแต่งร่วมกันและอยู่บ้านหลังเดียวกันทั้ง 4 คน ฝาแฝดสาวบอกว่า “เราเป็นพี่น้องฝาแฝดที่โชคดีที่สุดในโลก”     Brittany แฝดหญิงคนพี่เป็นคนแรกที่เจอสองพี่น้องฝาแฝดในงาน Twins Days Festival เมื่อปีที่แล้ว จากนั้นก็ได้พูดคุยกับพวกเขาในแรมของพวกเขาในวันถัดมา Josh แฝดชายคนน้อง…

เส้นทางสู่การเป็นไอดอลว่ายากแล้ว แต่การใช้ชีวิตในฐานะไอดอลนั้นดูเหมือนจะยากกว่าซะอีก เพราะคุณอาจจะต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ที่อยากทำก็ทำไม่ได้ ไหนจะต้องรับมือกับแฟนคลับรูปแบบต่างๆ ด้วย อย่างล่าสุด วงไอดอลชายของญี่ปุ่นถูกติดตามด้วยของขวัญตุ๊กตาหมีสอดไส้ที่แฟนคลับให้มา…     วง Anatashia ไม่ได้เป็นนักร้อง แต่เป็นหนุ่มหล่อ 6 คนที่มารวมกันเพื่อเต้นและมีการวางตลาดคล้ายๆ กับนักร้องไอดอล สิ่งที่พวกเขาทำคือออกแบบท่าเต้น เป็นผู้นำแฟชั่น และหน้าตาดี เรียกได้ว่าการดูดีและหล่ออย่างไร้ที่ติคือจุดขายที่สำคัญของพวกเขา แม้จะไม่ใช่นักร้อง แต่พวกเขาได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่านักร้องหรือดาราดังในประเทศ และบางครั้งแฟนคลับก็จะส่งของขวัญมาให้ รวมตั้งตุ๊กตาสัตว์น่ารักๆ แต่มีของขวัญชิ้นหนึ่งที่ไม่ได้เป็นแค่การมอบให้เพื่อแสดงความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อไอดอล เพราะภายในของของชิ้นนั้นมีเครื่องติดตามอยู่ด้วย     จากเหตุการ์นี้ ทวิตเตอร์ของวงได้ออกมาแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า ‘ขอบคุณทุกคนที่ส่งของขวัญมาให้เรา แต่เราเสียใจที่ต้องบอกว่าภายในตุ๊กตาสัตว์ตัวหนึ่งที่เราได้มา มีสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นเครื่องติดตาม มันดูเป็นการประสงค์ร้ายและอันตราย ดังนั้น จากนี้เราขอให้แฟนๆ อย่าเอาตุ๊กตาสัตว์มาให้เราอีก ขอบคุณที่เข้าใจ’ สื่อรายงานว่าตุ๊กตาที่ดูเหมือนจะมีใครเจตนาใส่เครื่องติดตามนั้น น่าจะถูกเก็บในสตูดิโอซ้อมของวง หรือที่บ้านของสมาชิกคนใดคนหนึ่ง นั่นทำให้แฟนๆ สามารถหารู้ตำแหน่งของไอดอลและสร้างความประหลาดใจให้สมาชิก  Anatashia     ความคืบหน้าล่าสุด เผยว่าแฟนคลับของวง Anatashia ที่รู้เรื่องนี้ออกมาพูดว่าใครก็ตามที่ใส่ GPS ในตุ๊กตา คนนั้นควรถูกแบล็กลิสต์ไม่ให้ชมการแสดงของไอดอลรวมทั้งห้ามเข้าร่วมแฟนมีตในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตาม…

งานก่อสร้างถือเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูง แม้ว่าช่างหลายๆ คนจะระมัดระวังอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้เสมอ แล้วช่างเหล่านี้ล่ะ คิดว่าพวกเขาจะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุกี่เปอร์เซนต์? เพราะจากปกติที่มีความเสี่ยงอยู่แล้ว พวกเขายังทำในสิ่งที่โคตรอันตรายมากขึ้นอีก นี่ขนาดแค่ดูยังเสียวแทนเลย   1. หวังว่าคนค้ำจะไม่อ่อนแรงซะก่อนนะ   2. ขอใครสักคนมาช่วยมั้ย   3. หวิวๆ   4. ฝนตกน้ำท่วมขนาดนี้ ยังตั้งใจทำงานได้อีก แล้วนั่นเอาไม้ทำอะไรกับสายไฟหนะ ช่างไม่กลัวอะไรบ้างเลย   5. นี่คงจะเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ชายอายุสั้นกว่าผู้หญิง   6. หวังว่าจะไม่มีเหตุให้รถต้องเบรคกะทันหันนะ   7. เพื่อนร่วมงานแบบนี้จะหาที่ไหนได้อีก   8. ต่อบันไดไม่พอ ทำคนเดียวด้วย   9. เมื่อช่างอยากอู้งานบ้าง   10. ความปลอดภัยไว้ทีหลัง งานต้องมาก่อนเสมอ   11. สงสัยอยากสัมผัสอากาศข้างบน   12. ทำแบบนี้ คิดดีแล้วใช่มั้ยคุณพี่?   13. ไม่รู้ใครเสี่ยงกว่ากัน ระหว่างคนจับกับคนปีน…

โดยทั่วไปแล้ว การจะเปิดร้านหรือทำธุรกิจอะไรสักอย่าง คุณจำเป็นต้องมีใบอนุญาตซะก่อน ไม่เช่นนั้นจะถือเป็นเป็นการทำธุรกิจอย่างผิดกฎหมายทันที อย่างร้านกาแฟชื่อดังที่เพิ่งจะไปเปิดสาขาใหม่ในประเทศจีน แต่เพียงแค่ 5 ชั่วโมงหลังจากเปิด ร้านก็ต้องปิดตัวลงเพราะไม่ได้ทำตามกฎหมาย ร้านดังกล่าวนี้คือสาขาย่อยของ % Arabica ซึ่งเป็นร้านกาแฟชื่อดังของญี่ปุ่นที่ไปเปิดสาขาในจีนเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ปี 2018 บนถนน Wukang โดยมีผู้คนมาต่อแถวซื้อกันแต่เช้า     ช่องทีวี ICS ของจีนรายงานว่าเจ้าหน้าที่จากเขต Xuhui ปรากฏตัวที่ร้าน % Arabica สาขาดังกล่าวในเวลา 15.00 น. และไม่นานหลังจากนั้นทางร้านก็ต้องหยุดให้บริการ โดยอ้างว่าดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาต ทางด้านตัวแทนของร้านได้โพสต์ลงในอินสตาแกรมว่า “เราไม่สามารถให้บริการกาแฟได้อีกต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ไม่คาดฝัน”     แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาเผยว่า % Arabica ดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาติที่จดทะเบียนเป็นร้านอาหาร ความจริงแล้วทางร้านอยู่ระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ   Crazy start. Thank you all for coming and so sorry for the long…

การสักเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่จะประทับบนเรือนร่างของเราไปตลอดกาล บางคนอาจจะสักเพราะความสวยงาม หรือบางคนอาจจะสักเพื่อปกปิดรอยแผลเป็น แต่รอยสักของบุคคลเหล่านี้มีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น มันมีเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันทรงพลัง มีทั้งการสักเพื่อระลึกถึงสมาชิกครอบครัวผู้ล่วงลับ สักเพื่อย้ำเตือนในเรื่องสำคัญในชีวิตที่ผ่านมา และแรงบันดาลใจที่ทำให้ชีวิตขับเคลื่อน   1. หญิงสาวตัดสินใจสักรูปพ่อแม่ น้องหมา และบ้านที่เธอเติบโตมา หลังจากที่เกิดไฟไหม้เมื่อ 7 เดือนก่อน ที่พรากทั้งพ่อแม่และน้องหมาไปจากเธอ   2. หญิงสาวสักรูปแว่นและหนวดของเพื่อระลึกถึงพ่อที่จากไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ปี 2016   3. สามีสักรูปนี้เพื่อเพื่อเป็นกำลังใจให้ภรรยาในการต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า   4. พ่อสักเป็นรูปเครื่องช่วยฟัง เพื่อทำให้ลูกน้อยไม่รู้สึกแตกต่าง   5. ลูกชายมีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดมะเร็ง คุณพ่อเลยสักรอยแผลเป็นแบบเดียวกันเพื่อให้ลูกชายมีความมั่นใจขึ้น   6. คุณแม่จากไปไม่กี่เดือนก่อนและได้ทิ้งโน๊ตเล็กๆ เอาไว้ ลูกสาวเลยก๊อปปี้โน๊ตนั้นบนร่างกายของตัวเอง   7. แผนภูมิแบบเรียบง่ายที่คุณตาวาดให้เพื่อชี้ให้เห็นว่าบ้านของชายหนุ่มตั้งอยู่ส่วนไหนของโลก   8. ลูกชายของเขาเสียชีวิตเมื่อปีก่อน เขาเลยสักเป็นคลื่นเสียงหัวเราะของลูก   9. พ่อจากไปเมื่อปี 2009 และนี่คือข้อความที่เขาเขียนไว้ในสมุดพกของลูก ตอนป.2   10.…

สังเกตมั้ยว่าเดี๋ยวนี้สาวๆ หันมาให้ความสนใจกับเรื่องกีฬามากพอๆ กับผู้ชายเลย เหตุผลน่ะหรอ? ก็เพราะกีฬาเป็นยาวิเศษยังไงล่ะ อิอิ กีฬาเป็นยาวิเศษจริงๆ นะ ขนาดนั่งดูเฉยๆ ยังทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยเลย โดยเฉพาะกีฬาสเกตในโอลิมปิกฤดูหนาว ปี 2018 นี้ อื้อหือ เจอยาดีเข้าให้แล้ว     ยาดีที่ว่านี้คือ Shaolin “Sándor” Liu นักกีฬาสเกตหนุ่มลูกครึ่งจีน-ฮังการี วัย 23 ปี คุณพ่อเป็นชาวจีน แม่เป็นชาวฮังการี Liu เกิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ปี 1995 เขาเป็นนักกีฬาสปีดสเกตติง สัญชาติฮังการี ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง แถมสไลด์เก๊งงงเก่ง ดีต่อใจมากค่ะขุ่นแม่ขาาาา     สามี เฮ้ย!! หนุ่ม Liu เริ่มเข้าสู่วงการกีฬาสปีดสเกตติงเมื่อปี 2006 และได้ฝึกซ้อมในประเทศจีนเป็นเวลา 1 ปี ก่อนจะได้เป็นตัวแทนของฮังการีในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปี 2014 ที่ผ่านมา เขาได้รับรางวัลชนะเลิศหลายครั้งจากการแข่งขัน World Junior Short…

ในวันวาเลนไทน์ของทุกปี คู่รักที่คบกันมานานคงจะวุ่นวายกับการหาของขวัญใหม่ๆ มาเซอร์ไพรส์คนรัก เพราะที่ผ่านมาก็ให้ทุกอย่างที่คิดได้แล้ว ครั้นจะให้ซ้ำก็กลัวคนรักจะเบื่ออีก ใครที่กลัวแฟนจะเบื่อละก็ คุณตาวัย 77 ปีคนนี้จะบอกเคล็ดลับให้ นั่นคือการมอบการ์ดวาเลนไทนเหมือนเดิมให้ภรรยาทุกปี แต่เปลี่ยนข้อความข้างในนะ Ken Myers คุณตาวัย 77 ปี ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่โรแมนติกมากๆ คนหนึ่ง เพราะนับตั้งแต่ปี 1979 หรือ 6 ปีหลังแต่งงาน เขาได้มอบการ์ดวาเลนไทน์ใบแรกให้ภรรยา Valeria ผ่านไป 39 ปี เขาก็ยังทำเหมือนเดิม     ลักษณะ รูปภาพ รูปทรงทุกอย่างของการ์ดที่เขามอบให้ภรรยานั้นเหมือนเดิมเป๊ะทุกปี แต่ข้อความที่เขียนในการ์ดไม่เคยซ้ำกัันเลย นี่ก็ว่าโรแมนติกแล้ว แต่คุณตายังเพิ่มความโรแมนติกได้อีก ด้วยการทำการ์ดด้วยตัวเอง ในฐานะที่เคยเป็นนักออกแบบการ์ดในช่วงปี 1970 คุณตา Ken บอกว่า “ผมทำงานในวงการนี้ประมาณ 20 ปี ตลอดเวลานั้นผมได้ออกแบบการ์ดนับร้อยแผ่นให้กับบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Hallmark” “ผมส่งการ์ดให้ Valerie ในปี 1979 และอีกครั้งในปี 1980 จากนั้นก็ส่งให้เธอเป็นประจำทุกปีในวันแห่งรัก เพราะคิดว่ามันเป็นอะไรที่แปลกดี” “ผมชอบคิดว่าตัวเองเป็นสามีที่โคตรโรแมนติก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผมเป็นสมาชิกของสมาคมนักเขียนนวนิยายโรแมนติกด้วยละมั้ง มันเลยทำให้ผมมีคุณสมบัติในเรื่องนี้”  …

การเป็นคนใฝ่ในธรรม เข้าวัด เข้าโบสถ์ เทศน์สั่งสอนคนอื่นด้วยหลักธรรมทางศาสนา ไม่ได้หมายความคนคนนั้นจะเป็นคนดีเสมอไป อย่างกรณีของบาทหลวงชาวอเมริกัน ที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนเด็กนักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะในโรงแรม Vanllee Hotel เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บาทหลวงคนดังกล่าวคือ Douglas Rivera จากโบสถ์  God’s Gypsy Christian Church ในเกล็นเดล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา     ตามรายงานของ CBS News บอกว่า Rivera ถูกพบในห้องสูทของโรงแรม Vanllee Hotel ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่เด็กหญิงชาวจีนวัย 10 ขวบ และ 12 ขวบ เข้าไปพักระหว่างมาทัศนศึกษาในช่วงวันพุธที่ผ่านมา Rivera ได้เฝ้ามองเด็กหญิงสองคนพร้อมกับสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง!! ทางด้านตำรวจบอกว่าบาทหลวงคนดังกล่าวได้เข้าไปในโรงแรมที่มีเด็กชาวจีนพักอยู่ และเหยื่อก็เปิดประตูให้เขาเข้ามาเพราะคิดว่าเป็นพี่เลี้ยง จากนั้น Rivera ก็ลงมือข่มขืนเด็กสาวคนหนึ่งในห้องนั้น ก่อนจะหนีออกมาจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว     กรมตำรวจ Covina Police Department บอกว่าได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายนอกของโรงแรม และพบ Rivera เดินวนเวียนอยู่แถวนั้นในวันเกิดเหตุ ในระหว่างที่ตำรวจอยู่ระหว่างการหาตัว Rivera มาสอบสวน เขาได้โพสต์คลิปในอินสตาแกรมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาบอกว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมแค่ดันไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา…

ธรรมชาติของมนุษย์เรา ไม่ว่าจะอยู่ในสังคมแบบไหน หรือสิ่งแวดล้อมแบบไหนก็จะปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมนั้นๆ เพื่อความอยู่รอดจนกลายเป็นความเคยชิน เหมือนกับคุณยาย Lyubov วัย 79 ปีที่ใช้ชีวิตคนเดียวท่ามกลางบรรยากาศอันเหน็บหนาวบนทะเลสาบน้ำแข็งที่ลึกที่สุดในโลก และโลดแล่นไปมาด้วยรองเท้าสเกตที่ทำขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2     คุณยายจำเป็นต้องใช้รองเท้าสเกตเพราะต้องออกไปดูแลวัวเมื่อพวกมันไปหากินในพื้นที่ห่างไกลจากบ้าของเธอที่อาศัยอยู่คนเดียว สำหรับรองเท้าสเกตของคุณยายนั้นผลิตขึ้นในปี 1943 ซึ่งยังมีความแข็งแกร่งและคงทนมาก ก่อนหน้านี้คุณยายใช้ชีวิตคนเดียวและไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ กระทั่งเพื่อนของเธอ Alexey Vaskov ถ่ายคลิปวิดีโอสั้นๆ ของเธอและโพสต์ลงในสื่ออินเตอร์เน็ต นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นความโด่งดังของคุณยาย Lyubov     ไม่กี่วันหลังจากที่คลิปของเธอถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้สื่อข่าวหลายสำนักเชิญให้เธอไปออกรายการโทรทัศน์ แต่ดูเหมือนว่านั่นไม่ใช่เส้นทางของคุณยาย ดังนั้น Olga Igosheva และ Boris Slepnyov จากหนังสือพิมพ์ Kopeyka จึงตัดสินใจเดินทางไปเยี่ยม Lyubov ที่กระท่อมของเธอบนทะเลสาบ Baikal ในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย     Bailkal เป็นสถานที่ที่คุณยายรักมากที่สุด เธอเกิดที่นี่ ใน Shara-Togot ulus บนชายฝั่งของทะเลสาบอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ พ่อของเธอ Nikolay เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ส่วนแม่ Fiona เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยในบ้านและเลี้ยงดูลูกๆ อีกทั้งหมด 7 คน คุณยาย Lyubov…

ปัญหาที่คนเลี้ยงสุนัขมักจะประสบคือการถูกเพื่อนบ้านร้องเรียน หากว่าน้องหมาเห่าเสียงดังรบกวน หรืออึไม่เป็นที่เป็นทางจนทำให้คนอื่นเหยียบใส่และส่งกลิ่นเหม็น เหมือนกับ Eleanor Gramby วัย 67 ปี จากอังเกลเซย์ ประเทศเวลส์ ที่อ้างว่าเธอถูกหน่วยงานการรักษาความปลอดภัย Kingdom Security และสภา Anglesey ข่มขู่ หลังจากที่ถูกปรับขณะที่พาสุนัขของเพื่อนบ้านเดินเล่นเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2017     Gramby เป็นเจ้าของสุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซลล์ เธอบอกว่าได้รับจดหมายข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องเป็นจำนวนมาก และด้วยความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อศาล เธอจึงเก็บอึน้องมากลับมาแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อให้ศาลเห็นว่าเธอเก็บอึหมาทุกครั้งที่มันถ่าย เธอเล่าให้ฟังว่า “เมื่อเดือนกรกฎาคม ฉันพาสุนัขของเพื่อนบ้านเดินเล่นแล้วมันก็ขี้ ขี้มันเหลว แต่ฉันก็พยายามเก็บขี้มันจากพื้นเท่าที่จะทำได้” “แต่เจ้าหน้าที่ Kingdom ได้เดินเข้ามาหาฉันในที่จอดรถบนถนน Bay View Road ใน Benllech แล้วบอกว่าฉันต้องเสียค่าปรับ”     เธอเล่าต่อว่า “ฉันบอกเขาว่า ‘ฉันเก็บเท่าที่เก็บได้แล้วนะ’ แล้ฉันก็เสนอที่จะทำความสะอาดใบไม้ตรงนั้น แต่เขาบอกว่า ‘ขี้ก็คือขี้!’ แล้วก็เขียนไปสั่งให้ฉัน” “ฉันเอาถุงที่ใส่ขี้น้องหมากลับบ้านแล้วแช่ไว้ในช่องฟรีซ เพื่อเอาไว้เป็นหลักฐานว่าฉันได้หยิบมันขึ้นมาแล้ว แต่ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ฉันถูกบริษัท Kingdom ทวงถามตลอดเวลาว่าให้ไปเสียค่าปรับซะ” “ฉันได้รับจดหมายประมาณ…

อย่างที่เรารู้ว่าพ่อค้ายาเสพติดหลายๆ คนมักจะซุกซ่อนยาไว้ในอวัยวะตัวเอง รวมทั้งการกลืนเข้าไปเป็นถุงๆ เพื่อไม่ให้ตำรวจตรวจเจอ แต่สุดท้ายก็มักจะถูกจับได้อยู่ดี แน่นอนว่าหลังจากที่จับกุมพ่อค้ายาเสพติดลักษณะนี้ได้ ตำรวจจะบังคับให้พวกเขาถ่ายออกมา ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเอาออกมาหมด แต่ดูเหมือนว่าพ่อค้ายาเสพติดคนนี้จะทำลายสถิิติในประเทศอังกฤษ ด้วยการปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรอเขาถ่ายยาออกมานานถึง 24 วัน ย้ำนะ 24 วัน ไม่ใช่ 24 ชั่วโมง     สื่อรายงานว่า Lamarr Chambers วัย 24 ปี ถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 17 มกราคม ปี 2018 ในเอสเซ็กซ์ ประเทศอังกฤษ หลังพบว่าเขาเป็นตัวกลางในการจัดหายาให้ผู้เสพ นับตั้งแต่ที่จับกุมได้ ตำรวจต้องควบคุมตัวเขานานกว่า 23 วันตั้งแต่ถูกจับ เพราะต้องรอจนกว่าเขาจะถ่ายยาที่กลืนเข้าไปออกมาจนหมด ตำรวจเอสเซ็กซ์กล่าวว่า “เรายังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาชิกแก็งของผู้ต้องสงสัยรายนี้ ขณะที่เขาเองเข้าสู่วันที่ 24 ของการขับถ่ายยาออกภายใต้การดูแลของตำรวจอย่างต่อเนื่อง”     ทางด้านผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะทำให้ช่องทวารของเขาฉีกขาด ส่วนทางโฆษกตำรวจปฏิเสธที่จะอัปเดตเกี่ยวกับการขับถ่ายของผู้ต้องสงสัยเป็นรายวัน โดยให้เหตุผลว่า ‘จะไม่รายงานสภาพของผู้ต้องสงสัย จนกว่าเขาจะทำในสิ่งที่ตำรวจต้องการให้เขาทำ’ ทีมตำรวจ Operation Raptor West ที่ทำการจับกุม Chambers เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า…

ตอนเด็กๆ เราหลายคนคงเคยเล่นพับกระดาษเป็นรูปต่างๆ เช่น เครื่องบิน เรือ กบ และอื่นๆ ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกมากเลยหละ ว่ามั้ย? การพับกระดาษนอกจากจะทำให้เราสนุกเพลิดเพลินไปกับกระดาษแล้ว ยังสามารถนำมาสร้างเป็นงานศิลปะที่สวยงามได้อีกด้วย     เหมือนกับศิลปิน Ross Symons จากแอฟริกาใต้ที่ท้าทายตัวเองด้วยการพับกระดาษ ซึ่งเป็นศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่นทุกวันเป็นเวลา 1 ปี แต่ละงานทั้งจิ๋วและไม่ซ้ำกันด้วยนะ     การพับกระดาษของ Symons เริ่มขึ้นในปี 2014 ภายใต้โปรเจกต์ชื่อ White on Rice โดยโพสต์ลงในอินสตาแกรมทุกวัน จนมีผู้ติดตามมากกว่า 100,000 คน ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี ก่อนจะหันมาทำเป็นอาชีพอย่างจริงจังในปัจจุบันนี้     Symons เขียนไว้ในเว็บไซต์ White-onrice ว่า “เราได้ทำงานร่วมกับลูกค้าทั่วโลก พร้อมทั้งแชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดีย แอนิเมชันภาพนิ่ง รวมทั้งจัดแสดงนิทรรศการการพับกระดาษในสถานที่ต่างๆ” “ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ เราคิดและออกแบบศิลปะการพับการดาษด้วยตัวเอง เราร่วมมือกับบริษัทโฆษณาและศิลปินเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน “เป้าหมายหลักของเราคือการสร้างคอนเทนต์สังคมออนไลน์ในรูปแบบวีดีโอภาพเคลื่อนไหว และการถ่ายภาพนิ่งตลอดจนการติดตั้งการพับกระดาษ พร้อมทั้งผสมผสานเนื้อหาดิจิทัลให้เข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง”…

แต่ละประเทศบนโลกใบนี้เผชิญกับปัญหาที่ต่างกัน บางประเทศมีปัญหาทางการเมือง ในขณะที่บางประเทศประสบกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจจนทำให้ประชาชนต้องอยู่กับความหิวโหย หนึ่งในนั้นคือประเทศเวเนซุเอลา ที่กำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาอาชญากรรมที่นับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเร่ื่อยๆ จนประชาชนต้องหนีไปอยู่ที่อื่น     ทั้งนี้มีการเผยแพร่ภาพสุดสะเทือนใจ ขณะที่ชาวเวเนซุเอลานับพันกำลังอพยพข้ามสะพาน Simon Bolivar เพื่อเข้าไปยังประเทศโคลอมเบีย ทางด้านโคลอมเบียพร้อมประเทศเพื่อนบ้านอย่างบราซิล ได้ส่งกองกำลังพิเศษไปประจำการอยู่ที่แนวเขตชายแดน หลังจากที่มีผู้อพยพกว่าครึ่งล้านคนในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปี 2017 ขณะเดียวกับโคลอมเบียได้ดำเนินการควบคุมบริเวณชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อลดการอพยพเข้ามาของชาวเวเนซูเอลา     สำหรับประเทศเวเนซุเอลานั้น นับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนในส่วนของ Caracas ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศก็เริ่มไม่เคารพกฎหมาย และได้ใช้ความรุนแรงเมื่อมีรถบรรทุกอาหารมา ตามการรายงานข่าวของ Reuters เผยว่าภายในเดือนมกราคมมีการปล้นมากกว่า 162 ครั้งทั่วประเทศ และมีการโจรกรรมรถบรรทุกถึง 42 คัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้นมีการปล้นแค่ 8 ครั้ง โจรกรรมรถบรรทุกเพียง 12 คัน และมีผู้เสียชีวิต 8 คน     เวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฆาตกรรมสูงสุดของโลก ผู้คนมักจะแย่งอาหารกัน ดังนั้นการขนส่งอาหารในประเทศนี้จึงมีความเสี่ยงสูง สำหรับคนขัับรถบรรทุกส่งอาหารนั้น พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พกปืน ดังนั้นจึงต้องมีการจัดตั้งเป็นขบวนเพื่อป้องกันตัวเอง นอกจากนี้พวกเขาจะส่งข้อความให้กันในกรณีที่เจอปัญหาในบางพื้นที่ และจะย้ายไปที่อื่นให้เร็วที่สุด  …

หญิงสาวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งออกมาเผยผ่านทวิตเตอร์ว่าเธอรอดพ้นจากการถูกทารุณกรรมในครอบครัวมานานหลายสิบปีโดยปู่ของเธอ จนมีน้ำหนักเหลือเพียง 16 กิโลกรัม     หญิงสาวจากเกียวโตเล่าผ่านทวิตเตอร์ว่า ปู่ของเธอไม่ยอมให้กินอาหารเลย และเขาจะทำร้ายร่างกายของเธอเมื่อได้จับได้ว่าหญิงสาวแอบกินอาหาร ภาพที่โพสต์ในทวิตเตอร์นั้น ถูกถ่ายก่อนที่เธอจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อ 10 ปีก่อน เผยให้เห็นหญิงสาวในสภาพเปลือย เห็นโครงกระดูกชัดเจน และเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น     หญิงสาวบอกอีกว่าเธออยู่ในความดูแลของปู่มานานกว่า 10 ปี แล้วเขามักจะให้เธออดอาหารบ่อยๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกจับได้ว่าแอบกิน ปู่จะเตะท้องของเธอและบังคับให้คายอาหารออกมา หลังจากที่ถูกทำร้ายร่างกายแล้ว เธอก็จะอาเจียนออกมา ในที่สุดเธอก็จบลงด้วยการมีน้ำหนักเหลือเพียง 16.8 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้เธอยังแนะนำคนอื่นๆ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายกันหรือไม่ได้กินอาหารตามปกติว่าควรจะขอความช่วยเหลือก่อนจะสายเกินไป เธอปิดท้ายว่า หลังจากที่เธอได้รับความช่วยเหลือ ผู้เชี่ยวชาญบอกกับเธอว่าถ้ามาช้ากว่านี้อีกเพียง 10 นาที เธออาจจะเสียชีวิตได้     แต่ เรื่องนี้จริงหรือปลอม มีชาวเน็ตมาร่วมจับผิด!? อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตบางส่วนบอกว่าภาพที่เธอโพสต์นี้เป็นภาพปลอม เธอโพสต์ภาพที่ถูกถ่ายในโรงพยาบาล สังเกตจากรอยช้ำที่หน้าอกและคอของเธอ Meena Sarrach-Pollard บอกว่า “สิ่งแรกที่ฉันเห็นคือ เธอกำลังจะตาย แต่กลับมีโทรศัพท์ที่ใช้เซลฟี่?? ถ้าปู่ของเธอทำให้เธออดตายจริงๆ ทำไมเธอไม่ใช้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ” Jessica Andrew บอกว่า…

บางครั้งชีวิตอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการ ทางที่เราเดินอาจไม่ได้ราบเรียบเสมอไป แต่เราจะผ่านมันไปได้ หากมีใครสักคนพร้อมจะอยู่เคียงข้างเราในสถานการณ์เหล่านั้น เช่นเดียวกับ Sara Page วัย 54 ปี กับสุนัขของเธอ Freyja อายุ 9 ปี ที่ป่วยเป็นมะเร็งในเวลาเดียวกัน และทั้งคู่ยืนยันที่จะสู้มันไปด้วยกัน เจ้าหมา Freyja ถูกวินิจฉันว่าเป็นมะเร็งชนิดที่รักษาไม่หาย และในอีก 9 เดือนต่อมา Page ได้ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมด้านซ้าย     สำหรับน้องหมานั้น คุณหมอบอกว่ามันมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 6 เดือนเท่านั้น แต่มันคือกำลังใจสำคัญสำหรับเจ้าของในการเอาชนะโรคร้ายนี้ เพราะมันทำให้เธอหัวเราะได้แม้จะสูญเสียผมระหว่างทำคีโม อย่างไรก็ตามดูเหมือน Freyja จะสู้ชีวิตมากกว่าที่ทุกคนคิด เพราะต่อนี้มันต่อสู้กับโรคมะเร็งมานานถึง 4 ปี หลังจากที่หมอบอกว่ามันจะอยู่ได้อีกไม่นาน เจ้าของบอกว่า “เราไม่รู้ว่าอนาคตของ Freyja จะเป็นอย่างไร เพราะมันเป็นมะเร็ง แต่มันไม่เคยแสดงอาการใดๆ ที่บ่งบอกว่าป่วยเลย”     ก่อนหน้าที่ Page จะรู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง เธอเล่าให้ฟังว่า “ตอนที่เรากำลังนั่งดูทีวี แล้วมีแมวปรากฏขึ้นบนจอ Freyja ดูลุกลี้ลุกลนใหญ่เลย มันกระโดดและเห่าอย่างบ้าคลั่ง” “ในระหว่างนั้นมันเอามือแตะที่หน้าอกซ้ายของฉัน นั่นทำให้ฉันตระหนักได้ว่าต้องไปตรวจเต้านม เพราะเดือนก่อนหน้านั้นฉันเคยถามหมอว่ามีโอกาสจะเป็นมะเร็งหรือไม่”  …

ทุกวันนี้การที่เรามีความรู้สึกคุ้นชินกับอวัยวะในร่างกายตัวเอง หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว จนไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือเห็นความแตกต่าง นั่นอาจเป็นเพราะเรามองสรรพสิ่งเพียงด้านเดียว แต่หากเราลองมองให้ลึกลงอีกนิด ใส่ใจรายละเอียดอีกหน่อย คุณอาจจะเห็นถึงความแตกต่าง ความแปลกใหม่ จนทำให้มุมมองของคุณที่มีต่อโลกนี้เปลี่ยนไป   1. ลวดลายของลูกตาที่ผ่านการผ่าตัด แฟนสาวของผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งเพิ่งได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา และนี่คือรอยเย็บของเธอ   2. ภายในของการกีตาร์ที่ดูเหมือนอพาร์ตเมนต์หรู ภาพนี้ได้จากการถ่ายโดยกล้อง GoPro ที่ช่างภาพหย่อนลงไป   3. ด้านหลังเวทีของโรงละคร Cuvillé ถ่ายโดย Klaus Frahm   4. ภายในของไข่มุก Atrina vexillum ถ่ายโดย Alain.R.Truong   5. คุณเคยสงสัยหรือไหมว่าพวกเขาติดตั้งเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่เหล่านี้อย่างไร?   6. โครงสร้างภายในของเต่า ถ่ายโดย Colin Keates สำหรับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ   7. ขาของนักปั่นจักรยาน หลังเข้าร่วมปั่นใน Tour de France   8. นี่คือด้านล่างของเรือรบ USS Independence (LCS-2)   9. ภายในของเครื่อง Redbox 10. ภายในของลูกโบว์ลิ่ง 11. นี่คือเบื้องหลังความงดงามของดอกไม้ไฟที่เราเคยเห็น 12. ภายในของระเบิดมือ…

บางครั้งเราอาจจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตท่ามกลางเพื่อนฝูง หรือท่ามกลางสังคมที่เต็มไปด้วยแสงสี จนลืมไปว่าการอยู่คนเดียวและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายก็มีความสุขได้เช่นกัน ความเรียบง่ายที่ว่านี้ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ Aeppol ศิลปินชาวเกาหลีวาดภาพอันน่ารักเพื่อถ่ายทอดความเงียบสงบ ความงามของธรรมชาติ และความสุขที่สามารถหาได้ง่ายๆ จากการอยู่คนเดียว     ภาพวาดของ Aeppol เผยให้เห็นความฝันของเราหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่ต้องการหนีจากสังคมอันวุ่นวายและอยากใกล้ชิดกับธรรมชาติ บางคนยุ่งอยู่กับการทำงานตลอดทั้งวันหรือทั้งสัปดาห์ จนไม่มีเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อน แต่ภาพเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายจนอยากปล่อยวางทุกอย่างไว้สักพัก     ปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปกับจินตนาการที่ไม่มีสิ้นสุด   ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่เร่งรีบ   ชื่นชมความงามของธรรมชาติ   คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา   ธรรมชาติชะล้างใจได้ดีเสมอ   อย่าลืมดูแลตัวเอง   ความสุขจากการนั่งรับลมเย็นๆ   นั่งฟังเสียงฝนกระทบหลังคา   สัมผัสธรรมชาติในยามค่ำคืน   จินตนาการก่อนนอนสู่ฝันที่สวยงาม   จิบชาร้อนๆ ยามบ่าย ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ   หากิจกรรมให้ร่างกายได้ขยับบ้าง   ลองถามใจตัวเองดู ว่าแท้จริงแล้วเราต้องการชีวิตแบบไหน?   ไม่จำเป็นต้องทานอาหารหรู ราคาแพง แต่ลองชิมฝีมือตัวเองดูบ้าง…

การโฆษณาถือเป็นเครื่องมือสื่อสารทางการตลาดเพื่อบอกกล่าวให้ผู้บริโภครู้สึกถึงคุณค่าและความแตกต่างของสินค้านั้นๆ แต่ถ้าโฆษณาแบบทั่วไปก็เกรงว่าโลกจะไม่จำ ด้วยเหตุนี้ บริษัทต่างๆ จึงมักจะออกการโฆษณาสินค้าให้มีความสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และต้องตาต้องใจผู้บริโภคมากที่สุด หนึ่งในสถานที่ที่มีการติดป้ายโฆษณามากที่สุดคือ บันไดเลื่อน แต่ถ้าเอาป้ายไปติดไว้เฉยๆ คนอาจจะไม่สนใจหรือไม่มองด้วยซ้ำ ดังนั้นบางบริษัทต่อไปนี้จึงงัดไม้เด็ด ชนิดที่ว่าไม่มีใครไม่สนใจแน่นอน   1. จะกลับแล้วหรอ ซื้อโดนัทยัง?   2. พร้อมจะไปผจญภัยในป่าบราซิลกับเรามั้ย?   3. มานวดกับเราสิ   4. ผมสวย ตรงทุกเส้น ต้องแพนทีน   5. ปากกาไฮไลต์ สีชัด ติดนาน ต้องสตาร์บีโล บอส   6. คิดจะพักคิดถึงคิทแคท   7. เพลิดเพลินไปกับแอปที่ไม่สิ้นสุด   8. เห็นภาพก็รู้เลยว่า Hubba Bubba เค้ายาวจริงๆ   9. ถ่านหมดอย่าลืมนึกถึงเรา ดูราเซล   10. ห้องสมุดไร้ขีดจำกัด   11. ความหนืดของชีส แค่ไหนก็ไม่พอ…

สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฉลาด น่ารัก และซื่อสัตย์กับมนุษย์เสมอ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบางคนถึงรักน้องหมามากเท่ากับคนในครอบครัว อย่างไรก็ตาม มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เห็นสุนัขเป็นเพียงแค่สัตว์ทั่วไปเท่านั้น และพยายามจะหาประโยชน์จากพวกมัน พร้อมทั้งทารุณมันสารพัดเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการ     การต่อสู้สุนัข (Dogfighting) เป็นหนึ่งในวิธีที่มนุษย์ทำกับสุนัข เพื่อความบันเทิงและแสวงหากำไรจากผู้เข้าชม ทั้งๆ ที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายและไร้มนุษยธรรม การฝึกสุนัขเพื่อต่อสู้ ไม่เพียงแต่ทารุณกรรมพวกมันเท่านั้นแต่หลายตัวถูกฆ่าตายด้วย     บางคนเรียกกิจกรรมประเภทนี้ว่า “กีฬา” ซึ่งเป็นการบังคับให้สุนัขต่อสู้กันเอง Oogy เป็นหนึ่งในสุนัขเหล่านั้น ที่ผ่านการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน Oogy เป็นหมาพันธุ์โดโกอาร์เจนติโน มันได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจด้วยสภาพที่ค่อนข้างแย่ เพราะมันถูกทิ้งในกรงที่ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร และมีเลือดออก น้องหมาถูกกัดและถูกจู่โจมจนทำให้หูซ้ายของมันฉีดขาด แลเพื่อที่จะช่วยชีวิตมัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพา Oogy ไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษา     ต่อมาในระหว่างที่น้องหมาพักฟื้น ครอบครัว Levin อยู่ที่นั่นพอดี เพราะพาน้องแมวที่รักของพวกเขามาเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย แต่แล้ว เมื่อครอบครัวได้พบกับ Oogy ขณะที่มันถูกพาไปเดินเล่นเพื่อบำบัดหลังการผ่าตัด พวกเขารู้สึกเศร้าและหดหู่อย่างเห็นได้ชัด     ด้วยอดีตที่เลวร้ายของมัน พวกเขาไม่แน่ใจว่าน้องหมาจะก้าวร้าวหรือเปล่า แต่ครอบครัว Levin คิดว่าไว้แล้วว่าไม่ว่ามันจะเป็นยังไง พวกเขาก็จะรักมัน พวกเขาได้ปรึกษาสัตวแพทย์ในเครื่องนี้ และได้คำตอบว่า…

ธุรกิจร้านอาหารเดี๋ยวนี้ นอกจากจะถึงดูดลูกค้าด้วยรสชาติอาหาร บรรยากาศของร้าน และราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว การให้บริการก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน สำหรับเรื่องการบริการนั้น แต่ละร้านอาจมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างร้านชาบูแห่งหนึ่งในเมืองเหอเฟย มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ที่มาพร้อมกับสาวเสิร์ฟนุ่งบิกินี่ และพนักงานชายที่โชว์เรือนร่างส่วนบน     เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่คลิปที่ถ่ายในร้านชาบูแห่งหนึ่ง เผยให้เห็นภาพพนักงานสาวในชุดบิกินี่กำลังเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทั่วสื่อสังคมออนไลน์ของจีน วันต่อมา พนักงานของร้านดังกล่าวออกมาเปิดเผยว่าหญิงสาวที่นุ่งบิกินี่กับหนุ่มๆ โชว์ท่อนบนที่เห็นในคลิปนั้นไม่ใช่พนักงานประจำของทางร้าน แต่เป็นคนที่ทางร้านจ้างมาให้บริการลูกค้าประจำ และตอนนี้บริการนั้นก็ไม่มีแล้ว   ไปกินอาหารแล้วมีผู้ชายกล้ามโตแบบนี้มายืนข้างๆ กลัวจะงับผิดที่เหลือเกิน   อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่าน ร้านอาหารทั่วประเทศจีนมักจะจัดให้มีบริการแบบนี้ โดยจ้างผู้หญิงนุ่งบิกินี่และให้ผู้ชายโชว์กล้ามมาเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร แน่นอนว่าไม่ใช่แค่การเพิ่มอรรถรสในการทานอาหารเท่านั้น แต่ร้านอาหารส่วนใหญ่มียอดขายพุ่งขึ้นหลายเท่าหลังจากให้บริการแบบนี้   เจอแบบนี้แล้ว ผู้ชายจะยังสนใจอาหารบนโต๊ะอยู่อีกหรือ?   อาหารเอาไว้ก่อน ขอดูเด็กเสิร์ฟแป๊บ   อื้มมม อร่อยจริงๆ ไม่ใช่อาหารนะ หมายถึงผู้น่ะ   ที่มา medium

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ Deepfakes โปรแกรมจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถสลับใบหน้าของดาราหนังโป๊กับดาราที่มีชื่อเสียงและคนดังคนอื่นๆ ได้ จนสร้างความเดือดร้อนให้กับเหล่าดาราดังทั้งหลาย อ่านข่าวเก่า Deepfakes ภัยเงียบที่เปลี่ยนหน้าดาราหนังโป๊ให้กลายเป็นหน้าดาราดังได้แนบเนียน ล่าสุด Pornhub หนึ่งในเว็บไซต์ที่เผยแพร่วิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ก็ไม่ได้นิ่งเฉย แต่เริ่มเคลื่อนไหวด้วยการแบนคลิปโป๊ที่สร้างมาจากโปรแกรม Deepfake     แม้จะเป็นเว็บไซต์ที่เผยแพร่หนังโป๊ แต่ Pornhub ไม่เห็นด้วยกับการสลับใบหน้าของนักแสดงหนังโป๊กับดาราดัง เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไร้ศีลธรรม Corey Price รองประธานของ Pornhub กล่าวว่า “หากเราพบยูเซอร์ไหนสร้างหนังโป๊จาก Deepfake เราจะทำการลบออกทันที คลิปไหนก็ตามที่มีเนื้อหาขัดแย้ง หรือละเมิดข้อกำหนดในการให้บริการของเรา รวมทั้งคลิปที่ไม่ได้รับความยินยอม เราจะนำออกจากแพลตฟอร์มโดยเร็วที่สุด” “เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยของลูกเพจทุกคน เราจำเป็นต้องต่อต้านสื่อลามกที่เราเชื่อว่าเป็นรูปแบบของการคุกคามทางเพศ และจะลบออกทันทีโดยไม่ต้องรอการยินยอมจากเจ้าของคลิป”     ขณะเดียวกัน หนึ่งในผู้สร้างคลิปจาก Deepfakes ได้อธิบายไว้ใน Reddit ว่าทำไมต้องนำใบหน้าดารามาสลับกับใบหน้าของนักแสดงหนังโป๊ว่า “คนดังมีความความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติกับผู้ชม ผู้คนดูหนังของพวกเขาและฟังเพลงของพวกเขา แม้จะเป็นความรู้สึกคุ้นเคยเพียงด้านเดียว และเกิดเป็นสถานะ ‘สาวข้างห้อง’ ขึ้น (เป็นคำเปรียบเทียบว่าเป็นสาวที่ชายหนุ่มแอบชอบอยู่ห่างๆ และไม่กล้าเข้าไปพูดคุยหรือทำความรู้จัก) ซึ่งทำให้เกิดความคิดขึ้นว่าพวกเขาคงไม่เล่นหนังโป๊หรอก แล้วเราก็จะเกิดคำถามอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิตเวลาดูหนังหรือฟังเพลงของคนดังว่า ‘พวกเขาจะเป็นอย่างไรนะ ถ้าอยู่ในสภาพเปลือย?’ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเทคโนโลยีตัวนี้จึงมีประโยชน์กับพวกเขา”     ทางด้านรัฐบาลได้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับสื่อลามกว่า “การแบ่งปันข้อมูลส่วนตัว…

บางครั้งการคิดทำอะไรที่ยิ่งใหญ่หรือดูไกลตัว อาจทำให้คนภายนอกมองว่าเราเพ้อฟัน ไร้สาระ ซึ่งนั่นก็เป็นสิทธิของเขาที่จะคิดแบบนี้ แต่เราอย่าไปหวั่นไหวกับคำพูดนั้นก็พอ เหมือนกับ Wayne Martin ที่ขุดหลุมทั้งลึกและกว้างไว้ที่หลังบ้านของเขา เพื่อจะทำเป็นห้องเก็บของใต้ดิน แต่เพื่อบ้านกลับคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว     อย่างไรก็ตาม Wayne ยังคงมุ่งมั่นทำตามสิ่งที่ต้องการต่อไป เขาสั่งซื้อตู้คอนเทนเนอร์มือสองทางออนไลน์ ขนาด 6 เมตร ในราคาประมาณ 60,000 บาท จากนั้นก็ได้จ้างบริษัทผลิตภัณฑ์ถังบำบัดน้ำเสียของท้องถิ่นมาทำให้ เพราะถูกกว่าจ้างคนทำ และปลอดภัยกว่าเช่ารถเครนมาทำเอง ให้ใช้รถยกนำตู้คอนเทนเนอร์หย่อนลงในหลุมที่ขุดเอาไว้ และก่อนที่จะทำการถมดินกลบ เขาได้ตรวจสอบภายในอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรูรั่วให้น้ำซึมเข้ามาได้     ต่อมาเขาได้สร้างบันไดคอนกรีตตรงกับประตูตู้คอนเทนเนอร์เพื่อใช้สำหรับขนส่งของ แต่การทำบันไดในสภาพเช่นนี้ต้องอาศัยโครงสร้างที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง Wayne จึงจ้างคนอื่นมาทำให้แทนที่จะลงมือทำด้วยตัวเอง     ขั้นต่อถัดไปคือการวางคาน ซึ่งต้องให้อยู่ในระดับเดียวกับด้านบนของตู้คอนเทนเนอร์และหัวบันได ในระหว่างที่เขาดำเนินการไปเรื่อย เพื่อนบ้านต่างสงสัยว่าเขาจะทำอะไรกันแน่ ทำเป็นที่หลบภัย เอ๊ะ หรือจะเป็นทำเป็นถ้ำ…     มาถึงจุดนี้ ทุกอย่างเริ่มดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น Wayne ได้นำโครงเหล็กไว้บนหลังคาของตู้คอนเทนเนอร์เพื่อเตรียมเทปูน ก่อนจะเทปูนสูงขึ้นไป 6 นิ้ว ให้ครอบคลุมทุกส่วน ด้านบนของตู้คอนเทนเนอร์จะเห็นท่อพีวีซีขนาด 12 นิ้ว 2 อัน…

ในโลกเรานี้เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม แต่น่าเสียดายที่หลายๆ สถานที่เราไม่มีโอกาสได้ไปเห็น หรือได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง และมีทางเลือกสัมผัสภาพถ่ายมุมสูงจากสมาคมถ่ายภาพจากโดรนแทน SkyPixel หนึ่งในสมาคมคนรักโดรนที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ได้แบ่งปันผลงานของพวกเขาให้คนทั่วโลกได้ชื่นชมความงดงามในมุมใหม่ๆ และเมื่อเร็วๆ นี้ พวกเขาได้จัดประกวดภาพทางอากาศที่ดีที่สุดแห่งปี 2017 ซึ่งผลงานของผู้ชนะในแต่ละสาขานั้น ช่างงดงามซะเหลือเกิน การประกวดในครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้บุคคล 2 กลุ่มส่งเข้าประกวด คือ ช่างภาพมืออาชีพ และ มือสมัครเล่นที่รักในการถ่ายภาพ โดยแบ่งรางวัลออกเป็น 3 สาชา คือ ภูมิทัศน์ พอร์ตเทรต และภาพบอกเล่าเรื่องราว โดยไม่รวมเข้ากับ Grand Prize ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่   Above The Polar Bear โดย Florian Ledoux ผู้ชนะ Grand Prize   Santa Maddalena Village In Front Of The Geisler โดย Valentin Valkov รางวัลที่ 3 สาขาภูมิทัศน์ จากกลุ่มช่างภาพมืออาชีพ…

หากเราชื่นชอบหรือคลั่งอะไรสักอย่าง ไม่สำคัญว่ามันจะใหญ่หรือเล็ก อย่าปล่อยให้มันอยู่แค่ในความคิด แต่จงลงมือทำ แล้วจะรู้ว่าการทำความคิดให้ออกมาเป็นสิ่งที่จับต้องได้นั้นมันให้ความรู้สึกภูมิใจแค่ไหน เหมือนกับ Zhu Yue เกษตรกรชาวจีนผู้มีความคลั่งไคล้เครื่องบินมาตั้งแต่เด็ก และใฝ่ฝันที่อยากมีเครื่องบินเป็นของตนเองในสักวันหนึ่ง     อาจจะดูเหมือนเป็นอะไรที่ค่อนข้างออกแนวเพ้อฝันและไกลตัวมากๆ แต่ Zhu ไม่ให้สิ่งเหล่านี้มาเป็นอุปสรรคในการทำสิ่งที่รัก ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจลงมือสร้างเครื่องบินเจ็ท Airbus A320 ด้วยตัวเอง ที่โรงงานแห่งหนึ่งในเขตอุตสาหกรรมของเมืองไคหยวน ในมณฑลเหลียวหนิงในตอนเหนือของจีน     Airbus A320 เป็นเครื่องบินจำลองที่มีความยาว 37.84 เมตร กว้าง 36 เมตร และสูง 12 เมตร เขาใช้เหล็ก 40,000 กิโลกรัม และทุ่มเงินไปแล้วประมาณกว่า 4,000,000 บาท เครื่องบินจำลองดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤษภาคมปีนี้… แม้ว่านี่จะเป็นเพียงเครื่องบินจำลอง แต่อย่างน้อย Zhu ก็ไม่ได้ปล่อยให้ความฝันอยู่แค่ในความคิด   . .   ความคิดจะสำเร็จได้ ก็ด้วยการลงมือทำ ที่มา designyoutrust

สำหรับคนที่รักความสงบ รักธรรมชาติ หรือแม้แต่คนที่เหนื่อยจากการทำงาน มันจะดีแค่ไหนถ้ามีสถานที่อันเงียบสงบให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มโดยไม่มีใครมารบกวน John “JT” Tredgold รองประธานฝ่ายการผลิตเบเกอรี่ที่ Semifreddi’s ใน Oakland รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศนสหรัฐอเมริกา เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการสถานที่แบบนั้น JT เป็นคนที่รักงานตัวเอง แต่เขารู้สึกเหนื่อยและไม่มีที่ไหนที่จะทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้ตามที่ต้องการเลย ดังนั้นเขาจึงเริ่มออกเดินทางตลอด 6 เดือนเพื่อหาสถานที่ที่สมบูรณ์แบบนั้น     เขาคิดถึงสถานที่หลายแห่งที่น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของเขา แต่แล้ว JT ก็ไปหยุดลงที่กระท่อมเล็กๆ ในชนบทแห่งหนึ่ง กระท่อมนี้อยู่นอกเมือง ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 ชั่วโมง และแน่นอน มันเหมาะสำหรับ JT มาก “มันเป็นกระท่อมที่ดูเรียบง่าย แต่ผมสนใจที่การออกแบบและสัดส่วนของมัน แล้วผมก็ชอบมันมาก” JT กล่าว     กระท่อมดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1959 มีเนื้อที่เพียง 30 ตารางเมตรเท่านั้น มันอาจจะเป็นกระท่อมเล็กๆ แต่มันไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน เพราะภายในมีทุกอย่างที่คุณต้องการ     ชั้นบนของกระท่อมมีห้องนอนที่สวยงามน่าอัศจรรย์ใจ ภานในห้องมีสกายไลท์ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติที่อยู่ล้อมรอบกระท่อม     JT บอกว่า “เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า จะเห็นแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านต้นไม้…

เราทุกคนต่างมีความฝันที่อยากให้มันเป็นจริงสักครั้งในชีวิต แต่ด้วยเงื่อนไข อุปสรรค และภาระหน้าที่ ทำให้หลายๆ คนไม่สามารถบรรลุฝันของตัวเองได้ เช่นเดียวกับคุณพ่อของ Logan Dodds ผู้มีความฝันอยากเดินทางรอบโลก แต่เขาต้องจากโลกนี้ไป ทั้งที่ยังไม่ได้ทำความฝันนั้น     Dodds วัย 26 ปี บอกว่าเขารู้สึกเหมือนโลกหยุดอยู่ที่เดิม หลังจากที่พ่อซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาจากไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เขาบอกว่าคุณพ่อทำงานอย่างหนักทั้งชีวิตเพื่อครอบครัวที่เขารัก จนกระทั่งล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง และเสียชีวิตในที่สุด     ชายหนุ่มเล่าว่า “ผมไม่ค่อยพูดหรอกว่าทำไมผมถึงออกเดินทาง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงตัดสินใจทำวิดีโอนี้เพื่อพ่อของผม” “เมื่อผู้คนเห็นการเดินทางของผม พวกเขาคงจะคิดว่ามันเป็นแค่การเดินทางทั่วไปและผมต้องการโชว์ให้โลกเห็นเท่านั้น แต่จริงๆ มันมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น” “พ่อของผมล่วงลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วด้วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง และเขายังไม่เคยออกเดินทางตามที่เขาวาดฝันเอาไว้” “เขาเสียสละทำงานเพื่อให้ครอบครัวอยู่ดีกินดี และวางแผนที่จะเดินทางทั่วโลกกับคุณแม่ที่รักของผม แต่แล้วโรคร้ายก็มาพรากคุณพ่อไปจากเรา”     เขาบอกอีกว่าการจากไปของพ่อทำให้ชีวิตเขาพลิกผันอย่างมาก เขาเลยตัดสินเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เพื่อทำบางอย่างกับชีวิต ตลอดการเดินทางนั้นเขาพบว่ามันช่างเต็มไปด้วยความรู้สึกอิสระและสดชื่น ที่สำคัญที่สุดคือเขารู้สึกเหมือนมีคุณพ่อเดินทางไปเคียงข้างเขา     “ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตผมก็เปลี่ยนไป ตอนนี้ผมมีความสุขกับทุกลมหายใจ พ่อของผมไม่เคยได้สำรวจโลกกว้าง ดังนั้นผมจึงออกเดินทางต่อไปเพื่อเราสองคน” ชายหนุ่มกล่าว…

พี่ตูน หรือ ตูน บอดี้สแลม กลายเป็นฮีโร่ของพวกเราชาวไทย หลังจากที่เขามุ่งมั่นวิ่งจากใต้สุดไปยังเหนือสุดของประเทศเพื่อระดมเงินสร้างโรงพยาบาล เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่โลกนี้ยังมีคนเหมือนพี่ตูนอีกหลายคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำเพื่อผู้อ่ื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน หนึ่งในนั้นคือ Yuan Jianglei     ด้วยความที่อยากช่วยเหลือชุมชนที่ยากจนในประเทศเบนินในแอฟริกาตะวันตก Yuan จึงระดมเงินด้วยการขี่จักรยานจากแอฟริกาไปยังบ้านเกิดของเขาในประเทศจีน ร่วมระยะทางกว่า 16,000 กิโลเมตร และต้องใช้เวลาเกือบปี ตามกำหนดการของ Yuan วันที่ 26 เดือนนี้ เขาต้องเดินทางกลับไปยังประเทศเบนิน เพื่อทำตามคำสัญญาที่จะติดตั้งสถานีพลังงานแสงอาทิตย์และสร้างบ่อน้ำที่นั่น     ตามรายงานของ Youth Daily บอกว่า Yuan เดินทางไปเบนินครั้งแรกเมื่อปี 2014 หลังจากที่เขาสำเร็จการศึกษาด้านการสื่อสารมวลชน ที่นั่นเขาใช้เวลากว่า 2 ปี ในการสอนภาษาจีนในสถาบันขงจื้อในเบนิน ซึ่งเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนามากที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกา ในเดือนกันยายนปี 2016 Yuan ได้เริ่มปั่นจักรยานข้าม 16 ประเทศ ภายในเวลา 360 วัน เพื่อกลับไปยังบ้านเกิดของเขา     ชายหนุ่มบอกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมากๆ เพราะเขาอยากเห็นโลกที่ถ่ายทอดเรื่องราวและบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง ระหว่างทางที่เขาเดินทาง เขาได้เห็นธรรมชาติที่สวยงาม และได้เจอผู้คนที่เป็นมิตรกับเขา Yuan บอกว่ามันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทำเขาได้คิดทบทวนหลายๆ อย่างที่ผ่านมา ขณะที่เขาปั่นจักรยานไปถึงมอริเตเนีย เหลือเวลาอีกแค่…

หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นดาราดังอย่าง Natalie Portman, Emma Watson, Taylor Swift และคนอื่นๆ โผล่ในเว็บไซต์หนังโป๊อย่างโจ่งแจ้ง บางคนอาจจะคิดว่าเป็นคลิปหลุดที่ได้จากการการแฮ็กบัญชีโซเชียล โทรศัพท์ถูกขโมย หรือเพราะนักแสดงคนนั้นเต็มใจที่จะเล่นหนังโป๊เอง… แต่จริงๆ แล้ว คลิปโป๊เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถสลับใบหน้าของดาราหนังโป๊กับดาราที่มีชื่อเสียงและคนดังคนอื่นๆ ได้     เทคโนโลยีดังกล่าวนี้เป็นแอปที่เรียกว่า Deepfakes ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่าง ‘ของปลอม’ กับ ‘การเรียนรู้เชิงลึก’ ซึ่งปรากฏในสื่อออนไลน์ครั้งแรกในเดือนธันวาคม ปี 2017 เมื่อผู้ใช่ Reddit เริ่มโพสต์วิดีโอที่เห็นใบหน้าดาราดังอย่างชัดเจน ยูเซอร์ดังกล่าวจึงลองเสิร์ชภาพหน้าดาราดังนั้นใน Google และหาคลิปในยูทูบ พร้อมกับฝึกใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อที่จะได้รู้ว่าใบหน้าของดาราดังจะเป็นยังไงเมื่ออยู่ในสถานการณ์ต่างๆ     จากนั้นเขาก็นำรูปที่ได้ไปสลับกับใบหน้าของดาราหนังโป๊ในวิดีโอ ผลที่ได้คือใบหน้าของดาราดังมีความคล้ายกับดาราหนังโป๊ ในเดือนมกราคม ปรากฏการณ์นี้เปลี่ยนไปอย่างไม่คาดฝันเมื่อผู้ใช้ Reddit รายอื่นๆ ได้เผยแพร่แอปพลิเคชันที่ช่วยให้คนไม่มีความรู้ด้านเทคนิค สร้างวิดีโอ Deepfake ของตนเองขึ้นมา     ผู้สร้างบอกว่า นับตั้งแต่มีการเปิดให้ดาวน์โหลดแอปดังกล่าว พบว่ามีการดาวน์โหลดไปมากกว่า 100,000 ครั้ง และมีคลิปใหม่ๆ ที่ถูกอัปโหลดอีกนับสิบ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ Deepfakes ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม…

แม่คือคนเดียวที่ทำเพื่อลูกได้ทุกอย่าง แม้จะอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายแค่ไหน หรือร่างกายอ่อนล้าเพียงใด แต่พวกเขาก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบให้ลูก เหมือนกับภาพของ Laura Corrigan คุณแม่ลูกสองที่อยู่ในสภาพหมดแรงและหลับคากองเลโก้ โดยที่ยังมีของเล่นอยู่ในมือเธอ ภาพสุดสะเทือนใจนี้ถ่ายโดย Max ลูกชายวัย 6 ขวบของเธอ หลังจากที่ฝืนร่างกายมาเล่นเลโก้กับลูก ทั้งที่กำลังต่อสู้กับมะเร็งร้าย เมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่ผ่านมา     การเป็นพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกน้อยมันก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว แต่นี่เธอเป็นแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งแล้วยังต้องดูแลลูกอีก นั่นทำให้เธอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าระหว่างเล่นกับลูกชายทั้งสองคน (อีกคนคือ Finn วัย 19 เดือน) Laura บอกว่า “ลูกชายของฉันเป็นคนถ่ายภาพนั้น มันคืออาการของความเหนื่อยล้า เพราะตอนนั้นฉันอยู่ในช่วงที่รักษาด้วยการรังสีบำบัดและเคมีบำบัด” คุณแม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2017 หลังจากที่เพิ่งคลอดลูกชายคนที่ 2 ได้เพียง 9 เดือน     ก่อนหน้านี้เธอทรมานจากการถ่ายเป็นเลือด ปวดลำไส้ และเข้าห้องน้ำบ่อยผิดปกติ… ทางคุณหมอบอกว่าโรคนี้หาได้ยากมากในคนวัยเดียวกับเธอ เกือบ 1 ปี หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัย Laura เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด เพื่อจะลดขนาดเนื้องอกหลักและส่วนอ่ื่นในปอดของเธอ พร้อมกันนั้นเธอยังต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คนที่กำลังอยู่ในวัยซุกซนด้วย เธอบอกว่า…

สำหรับหลายๆ คน การขอคนรักแต่งงานคือหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของชีวิต และมันเป็นวันที่คุณจะไม่มีวันลืม ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบที่สุด รวมไปถึงแหวนขอแต่งงาน บางคนอาจจะซื้อแหวนมาใหม่ ในขณะที่บางคนอาจจะใช้แหวนมรดกของตระกูล เหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ที่จะใช้แหวนหมั้นของครอบครัวขอแฟนสาวแต่งงาน แต่โชคร้าย เขาดันทำมันหาย… Nico Bellamy วัย 27 ปี กำลังวางแผนจะขอแฟนสาว Caitie Schlisserman แต่งงาน หลังจากที่คบหาดูใจกันมานานแล้ว     ในระหว่างที่วางแผนอย่างลับๆ Stuart Schlisserman พ่อของแฟนสาว ก็ได้เซอร์ไพรส์ Nico ด้วยการเอาแหวนหมั้นของยายของ Caitie ให้เขา Nico บอกว่า “ผมคิดว่าเขาคาดหวังว่าสักวันผมจะขอลูกสาวเขาแต่งงาน หลังจากที่เราคบกันมา 7 ปี และเขาอยากให้ลูกสาวได้รับสมบัติที่เป็นมรดกสืบทอดของครอบครัว” จากนั้นชายหนุ่มก็นำแหวนดังกล่าวเก็บไว้ในตู้นิรภัย และรอเวลาที่เหมาะสมในการขอแต่งงาน ตอนนี้เขายังไม่พร้อม เพราะต้องการรอให้มีการวางแผนทริปวันหยุดในฝันของพวกเค้าก่อน     เมื่อเวลาผ่านไป ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ โดยจ้างคนขับรถมาช่วยขนของ และเพื่อให้แน่ใจว่าแหวนจะอยู่ใกล้ๆ เขา ชายหนุ่มจึงเอาแหวนออกมาจากตู้นิรภัย เขาเอาแหวนใส่ในถุงพลาสติก แล้วใส่ไว้ในกล่องอีกที ก่อนจะเอาใส่เป้สะพายหลัง เมื่อถึงเวลาที่เขาจะเอาแหวนออกมา Nico ตกใจมากเมื่อพบว่ากระเป๋าเป้ที่เขาสะพายแหวนนั้นซิปเปิดออก และแหวนก็หายไป!!     ชายหนุ่มเททุกอย่างออกจากกระเป๋า…

สร้อยทอง จิวเวลรี่ และของที่ส่องประกาย แบบที่ชาวฮิปฮอปเรียกว่า “บลิงบลิง” นอกจากจะเป็นเครื่องประดับที่สร้างความมั่นใจแล้ว ยังถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกฐานะของผู้สวมใส่ด้วย พูดเคร่ื่องประดับแล้ว ทำให้นึกถึง A$AP Eva หรือ Chiokva “Eva” Sam เจ้าของร้านเครื่องประดับอันโด่งดังในหมู่ชาวฮิปฮอป จนแทบไม่มีใครไม่รู้จัก น่าสนใจขนาดนี้ เรามาเจาะลึกเบื้องหลังของร้านนี้กันดีกว่าว่าเริ่มขึ้นมาเมื่อไหร่ อย่างไร และกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง     ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ปี 1988 Eva ได้เปิดร้านเครื่องประดับครั้งแรก จากการยืมเงินพี่ชายกว่า 3 ล้านบาท โดยใช้ชื่อว่า Popular Jewelry Inc. สำหรับตัว Eva นั้น ครอบครัวของเธอหนีไปยังบ้านเกิดในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ทำให้เธอเกิดในมาเก๊าและอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาจนทุกวันนี้ ภายในผนังของร้านเต็มไปด้วยรูปภาพโพลารอยด์ของศิลปินที่เข้ามาเลือกซื้อจิวเวลรี่ ซึ่งวัฒนธรรมการแปะรูปภาพคนดังเหล่านี้เป็นที่นิยมในหมู่วัฒนธรรมคนจีน ที่มักจะให้ความสำคัญกับเหล่าเซเลบริตี้มากกว่าชาวตะวันตก     Cappadonna สมาชิกวงฮิปฮอปในตำนาน Wu Tang Clan คือผู้ที่เผอิญเดินเข้ามาในร้าน และถูกอกถูกใจงานจิวเวลรี่เหล่านี้เป็นอย่างมาก และเขายังได้ชักจูงให้สมาชิกคนอื่นๆ ในวง มาเลือกซื้อจิวเวลรี่ที่ร้านนี้อีกด้วย ต่อมา เมื่อยุคทองของฮิปฮอปผ่านพ้นไป กิจการของร้านก็ซบเซาลง เธอก็ยังคงประคองตัวเองมาได้ จนกระทั่งยุค…

ใกล้วันวาเลนไทน์ทีไร หนุ่มๆ สาวๆ มักจะหาซื้อช่อดอกไม้หรือไม่ก็ช็อกโกแลตมามอบให้คนที่รักหรือคนที่แอบชอบเพื่อบอกความในใจ แต่ปีนี้ดูเหมือนว่า ช็อกโกแลตน่าจะได้รับความนิยมน้อยลงในประเทศญี่ปุ่น เพราะมีการโฆษณาให้ผู้หญิงญี่ปุ่นเลิกซื้อช็อกโกแลตให้ผู้ชายในวันวาเลนไทน์     ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม Asahi Shuzo ผู้ผลิต Dassai ซึ่งเป็นสาเกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น บริษัทลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ ใจความว่าให้ลูกค้าเลิกจ่ายเงินเยอะๆ ไปกับการซื้อสาเกของเราสักที และตอนนี้ Godiva ผู้ผลิตช็อกโกแลตของญี่ปุ่น ดูเหมือนจะยืมลูกเล่นของ Asahi Shuzo เพื่อโฆษณาขอให้ผู้คนในญี่ปุ่นซื้อช็อกโกแลตน้อยลงในวันวาเลนไทน์ปีนี้ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า ในญี่ปุ่นนั้นการที่ผู้หญิงให้ของขวัญผู้ชายด้วยช็อกโกแลตถือเป็นเรื่องธรรมดามาก และเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ (ส่วนผู้ชายจะให้คืนในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกว่า White Day)     นอกจากให้ช็อกโกแลตกับแฟนหรือสามีแล้ว ผู้หญิงยังให้สิ่งที่เรียกว่า Giri Choco ที่หมายถึง ช็อกโกแลตตามมารยาท ให้กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้า เพื่อขอบคุณพวกเขาสำหรับมิตรภาพ การสนับสนุน ความร่วมมือ และการทุ่มเททำงานตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา แต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา Godiva ได้ทำการโฆษณาในหนังสือพิมพ์ Nihon Keizaki…

การใช้รถใช้ถนน ไม่ว่าจะบนถนนรถวิ่งหรือบนทางเท้า อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นเสมอ และบางครั้งไม่ใช่แค่อุบัติเหตุ แต่รวมไปถึงเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ที่ไม่ได้เกิดจากยานพาหนะเสมอไป แต่เกิดจากความอารมณร้อนของผู้คนมากกว่า อย่างกรณีนี้ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในสื่อโซเชียลของจีน เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งถูกชายแปลกหน้าชกเข้าที่หน้าอย่างแรง จากรายงานของ Pear Video ระบุว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อ Liang เธอกำลังพยายามหาที่จอดรถหน้าร้านแห่งหนึ่งในเมืองฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน     Liang ขับรถช้าๆ บนทางเท้าพร้อมกับมองหาที่จอดรถ แต่ขณะนั้นมีชายคนหนึ่งเดินขวางทางอยู่ หญิงสาวเลยบีบแตรใส่เขาเพื่อให้เขาหลบทางให้หน่อย (เธออ้างว่าได้ทำมันอย่างสุภาพ) แต่ดูเหมือนชายคนนั้นจะไม่สนใจเธอเลย หญิงสาวเลยตะโกนบอกเขาอีกครั้งเพื่อให้เขาช่วยหลีกทางหน่อย แต่ชายคนนั้นกลับจงใจเดินไปตรงกลางทางเท้า เพื่อไม่ให้เธอผ่านไปได้ หญิงสาวเริ่มรู้สึกรำคาญ เธอเลยบีบแตรใส่เขาอีก 2 ครั้ง (ครั้งนี้เธอบอกว่าได้ลดความสุภาพลง) ชายคนนั้นจึงหันมาพร้อมตะโกนด่าเธอ แถมยังเตะหน้ารถเธอด้วย     อย่างไรก็ตาม ในที่สุด Liang ก็สามารถขับผ่านชายคนนั้นมาได้ แต่ก็ยังหาที่จอดรถไม่ได้อยู่ดี และขณะที่เธอพยายามจะออกจากตรงนั้น ชายคนเดิมก็เข้ามาหาและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า “ไม่ได้กำลังหาที่จอดรถอยู่หรอกเหรอ!?” จากนั้นการโต้เถียงก็เกิดขึ้น โดยที่ชายคนนั้นได้เตะรถหญิงสาวอีก 3 ครั้ง จนเธอต้องลงจากรถ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกัน Liang ได้จับเสื้อชายคนนั้นไว้ เพื่อไม่ให้เขาหนีไป นั่นทำให้ผู้ชายคนนั้นหันมาชกหน้า จนเธอต้องปล่อยมือ และที่เขาก็วิ่งหนีไปทันที    …

สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราๆ ต่อให้ง่วงแค่ไหน บางสถานการณ์เราก็ต้องฝืนเอาไว้  อย่างเช่นเวลาทำงาน เวลาเรียน หรือเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว พวกเขายังไม่โตพอที่จะฝืนความง่วงได้ ดังนั้นเมื่อรู้สึกง่วงที่ไหน หรือเวลาไหน พวกเขาก็นอนตามที่ใจสั่งมาโดยไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งนั้น นี่แหละ ความไร้เดียงสาของเด็กน้อย   1. ตัดผมง่วงเกิ๊น นอนเลยละกัน   2. เมื่อพาลูกน้อยไปเล่นสกีครั้งแรก ดันหลับขณะสไลด์ลงเขาซะงั้น   3. ที่ไหนก็ได้ ขอให้ได้หลับ   4. เมื่อพาลูกน้อยไปปิกนิก เธอขอยืมแว่นเพื่อบังแดด ผ่านสักพัก หลับลึกเลย   5. งอแงอยากไปเดินเล่นในห้าง พอพาไป…ไหงเป็นงี้ละลูก   6. บอกให้ขึ้นไปนอนบนห้อง ผ่านไป 2 ชั่วโมง… ถึงว่าล่ะ ไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู   7. ระหว่างรอขึ้นเครื่อง นอนวนไปค่ะ   8. นอนแป๊บนะ เดี๋ยวตื่นมาเล่นต่อ   9. โถ…

เราอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าการที่ผู้คนบางส่วนไม่นิยมเลี้ยงแมวดำนั้น เป็นเพราะมีความเชื่อว่าแมวดำจะนำความโชคร้ายมาให้ ซึ่งนั่นเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่เราไม่สามารถบอกได้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ล่าสุดสถานสงเคราะห์สัตว์ The Moggery ในบริสตอล ประเทศอังกฤษ มีแมวทั้งหมด 40 ตัว และทุกตัวเป็นสีดำ แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ โชคลาง หรือเรื่องลี้ลับแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะพวกมัน “ถ่ายเซลฟี่ด้วยแล้วไม่สวย” !?     Christine Bayka วัย 67 ปี ผู้ก่อตั้ง The Moggery กล่าวว่า “แมวดำเหล่านี้ถูกเจ้าของปฏิเสธ เพราะพวกมันมีสีเข้ม ทำให้ถ่ายรูปไม่ขึ้นและดูไม่สวยเมื่อถ่ายเซลฟี่” สำหรับสถานสงเคราะห์สัตว์แห่งนี้ Christine ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 21 ปีที่แล้ว และสถานการณ์ที่เจออยู่ตอนนี้มันเลวร้ายกว่าทุกเรื่องที่เธอเคยเจอมา     เธอบอกอีกว่า “มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก เพียงเพราะแมวดำไม่สามารถถ่ายเซลฟี่ให้สวยได้ และตอนนี้ผู้คนต่างหลงใหลในโลกโซเชียล พวกเขาแค่อยากถ่ายเซลฟี่แล้วเอาไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก เพื่อเรียกยอดไลก์ ยอดแชร์” “ทุกครั้งที่มีคนมาดูแมว ฉันมักจะถามคำถามและได้ยินคำตอบแบบเดิมๆ เสมอ ฉันถาม ‘ไม่ว่าแมวสีอะไร คุณก็สะดวกเลี้ยงใช่มั้ย? พวกเขาจะพูดว่า ‘แน่นอน ตราบใดที่มันไม่ใช่สีดำนะ’” “เมื่อ 20 ปี ก่อน…

เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลายที่แตกต่างของมนุษย์ ทั้งเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ภาษา และลักษณะรูปลักษณ์ภายนอก แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้โลกมีสีสันและน่าอยู่มากขึ้น หนึ่งในความแตกต่างเหล่านั้นคือเพื่อนมนุษย์ “ผิวเผือก” หรือ Albinos ซึ่งเป็นคนที่มีผิวขาว ผมสีขาว ตาสีขาว ม่านตาสีเทาและโปร่งแสง รูม่านตาสะท้อนแสงออกมาเป็นสีแดง และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา     นอกจากสีผิวแล้ว พวกเขาอาจจะดูไม่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่ในความเป็นจริง พวกเขาต้องหลีกเลี่ยงการยืนกลางแดดเป็นเวลานาน เพราะผิวของคนเผือกนั้นไว้ต่อแสงมาก อาจทำให้ผิวหนังแดงหรือเกิดอาการแพ้ถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้ และปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้     อย่างไรก็ตาม คนเผือกสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออื่นๆ ที่อันเป็นอันตรายกับร่างกายได้ ที่สำคัญต้องอาศัยความเข้าใจจากคนรอบข้างด้วย เพื่อช่วยให้พวกเขาไม่รู้สึกแปลกแยก เช่นเดียวกับคนเผือกที่เราเห็นอยู่นี้ พวกเขามีความงดงามที่โดดเด่นและมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้พวกเขาถูกมองว่าแตกต่าง   Diandra Forrest จากสหรัฐอเมริกา   David Guerrero จากประเทศโคลอมเบีย .   Maschall จากประเทศเยอรมนี   Chihiro จากประเทศญี่ปุ่น .   Azfar Firdaus จากประเทศมาเลเซีย  …