Author:

  • นักวิจัยพบจระเข้สีส้มอาศัยอยู่ในถ้ำ คาดว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดจากการกลายพันธุ์

    นักวิจัยพบจระเข้สีส้มอาศัยอยู่ในถ้ำ คาดว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดจากการกลายพันธุ์

    จระเข้ที่เราเห็นกันทั่วไป มักจะมีผิวหนังเป็นสีดำ สีน้ำตาลเข้ม หรือสีที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังมีจระเข้สีขาวซึ่งเป็นจระเข้เผือก แต่เมื่อปี 2008 นักวิจัยได้ค้นพบกลุ่มจระเข้สีส้มความยาว 1.5 เมตร อยู่ในถ้ำในพื้นที่ห่างไกลของประเทศกาบอง ในแอฟริกาตะวันตก     ในช่วงแรกของการค้นพบ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันคือสายพันธุ์จระเข้แคระแอฟริกา อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยใหม่เผยว่ามันอาจจะเป็นจระเข้สายพันธุ์ใหม่ นักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยทีมวิจัย Institute of Research for Development ในเมืองมาร์แซย์ ประเทศฝรั่งเศส ได้พบจระเข้ในถ้ำแห่งนี้กว่า 30 ตัว โดย 10 ตัว มีผิวสีส้ม     พวกมันมักจะซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของถ้ำที่เต็มไปด้วยน้ำ โดยจะกินเฉพาะค้างคาวและจิ้งหรีดเท่านั้น และมักจะออกหากินในเวลากลางคืน นั่นหมายความว่ามันสามารถมองเห็นได้ดีในที่มืด ต่อมาในปี 2015 ทีมนักวิจัยไปย้อนกลับไปยังถ้ำเดิมอีกครั้ง แล้วพบว่าพวกมันยังคงอาศัยอยู่ในถ้ำเช่นเดิม ทั้งนี้ได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมโดยผู้เชี่ยวชาญ พบกว่ามันมีลักษณะของยีนที่แตกต่างออกไปจากจระเข้แคระแอฟริกา     Richard Oslisly ผู้นำการวิจัยบอกว่า “เราสามารถพูดได้ว่ามันเป็นจระเข้สายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ เนื่องจากมันมียีนที่แตกต่างกัน อาหารที่กินก็ต่าง และยังเป็นสายพันธุ์ที่ปรับตัวเข้ากับโลกใต้ดินอีกด้วย” ทีมวิจัยยังบอกอีกว่าจระเข้ที่มีอายุน้อยสามารถออกไปนอกถ้ำได้ ผ่านช่องเล็กๆ เพราะขนาดตัวมันพอดี…

  • เมื่อรูปถ่ายไอจีของสาวๆ โดนหนุ่มๆ เลียนแบบ มันก็จะฮาแบบนี่ล่ะ พยายามเกิ๊น!!

    เมื่อรูปถ่ายไอจีของสาวๆ โดนหนุ่มๆ เลียนแบบ มันก็จะฮาแบบนี่ล่ะ พยายามเกิ๊น!!

    เวลาที่สาวๆ ถ่ายรูปเนี่ย มีน้อยมากที่จะทำหน้าไม่แสดงอารมณ์ หรือไม่โพสต์ท่าเลย แต่ส่วนใหญ่จะเล่นหน้าเล่นตา เอียงคอ บิดเนื้อบิดตัว รวมทั้งสรรหาท่าโพสต์ต่างๆ ในแบบคิดว่าจะออกมาดูดีที่สุด ในขณะที่ผู้ชาย มักจะถ่ายรูปหน้าเคร่งขรึม ยืนนิ่งๆ ไม่ค่อยโพสต์ท่าอะไรมากนัก แต่เอ๊ะ จะเป็นยังไงนะ ถ้าหนุ่มๆ เลียนแบบท่าโพสต์ของสาวๆ บ้าง? จะเซ็กซี่ สวยหวาน สวยแบ๊ว หรือน่าหลงใหลเหมือนผู้หญิงหรือเปล่า?   1. เซ็กซี่น้อยกว่าชะนีตรงไหน พูด!   2. เมื่อเราเหนื่อยล้า จงลงแช่อ่าง   3. เป็นผู้หญิง? ก็แข็งแกร่งได้   4. ปาร์ตี้เม้าท์มอยกับเพื่อนสาว ต้องมีไวน์ด้วย ลงตัวสุด   5. ท่าเท้าคางนี่แหละ ผู้หญิงช๊อบชอบ   6. ขนาดนั่งอ่านหนังสือเฉยๆ ยังต้องจัดท่าเล็กน้อยเพื่อเพิ่มเสน่ห์   7. นี่คือสิ่งที่สาวๆ ทำก่อนปาร์ตี้คริสต์มาส   8. เป็นผู้หญิง นอกจากสวยแล้ว…

  • คอนเทนท์ที่ไม่มีอะไร นอกจากแมว 23 ตัว กับพฤติกรรมแปลกๆ ที่เติมพลังให้คุณได้

    คอนเทนท์ที่ไม่มีอะไร นอกจากแมว 23 ตัว กับพฤติกรรมแปลกๆ ที่เติมพลังให้คุณได้

    เคยเป็นมั้ย ไม่ว่าจะว่างหรือไม่ว่าง เรามักจะเปิดดูรูปดูคลิปเจ้าพวกแมวเหมียว บางตัวน่ารัก น่าหลงใหลซะจนต้องไปติดตามต่อในเพจหรือไอจีของมัน ก็รู้นะว่ามันไม่ได้มีสาระอะไรเล้ยยย แต่อดใจไม่ไหวจริงๆ ทาสแมวเป็นกันเยอะแน่นอนเนอะ บทความนี้ก็เช่นกัน ไม่ได้มีสาระอะไรหรอก มีแต่ภาพแมวและพฤติกรรมสุดแปลกของพวกมันล้วนๆ บางตัวแถมไอจีให้ด้วย เผื่อใครอยากสมัครเป็นติ่ง   1. ทำไมต้องยืนกินเหรอ? ก็เพราะจะได้เพิ่มอาหารเข้าไปในร่างกายให้ได้เยอะขึ้นไง IG: goyanggy   2. นางกำลังงอนน่ะ เลยไม่ยอมหันหน้ามา IG: komakotakoyukote   3. หน้าหนาวแบบนี้ ต้องผิงไฟซะหน่อย IG: tanryug   4. อยู่กับคนมากไป พฤติกรรมมันก็จะคล้อยตามหน่อยๆ อะนะ IG: junjun_jjj   5. เมื่อถามว่าใครขโมยไส้กรอกไป? เจ้าเหมียวตอบว่า “เค้าเปล่านะ เค้านั่งตรงนี้มา 3 ชั่วโมงแย้ว” IG: yayoi89   6. “ใครตื่นเช้าสุดในเช้าวันที่ 25 ธันวาคม มานั่งตรงนี้” IG: meow_york_kitties   7. ข้าพร้อมแล้วสำหรับกีฬาโอลิมปิกหน้าหนาวนี้ หน้าร้อนก็เช่นกัน  …

  • ความน่ารักของคู่หู “ลิตเติลอปป้า” กับ “เจ้าโกลเด้นน้อย” ส่วนผสมที่ลงตัวพร้อมยั่วยวนหัวใจ

    ความน่ารักของคู่หู “ลิตเติลอปป้า” กับ “เจ้าโกลเด้นน้อย” ส่วนผสมที่ลงตัวพร้อมยั่วยวนหัวใจ

    เด็กน้อยกับสุนัขมักจะมีอะไรที่คล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นความไร้เดียงสา ความอยากรู้อยากเห็น และความน่ารักเหมือนๆ กัน ถ้าให้พวกเขามาอยู่ด้วยกัน ต้องเป็นคู่หูที่คิวต์มากแน่ๆ ดูอย่าง Molly สุนัขโกลเด้นวัย 3 ขวบ ผู้รักในการผจญภัยกับพี่ชายตัวน้อย Aithan วัย 3 ขวบ มาอยู่ด้วยกันแล้วยิ่งเพิ่มดีกรีความน่ารักให้ทั้งคู่ไปอีก     ทั้งน้องหมาแสนรู้และหนูน้อยผู้น่ารัก มาจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ พวกเค้าเป็นคู่หูที่รักกันมาก ตัวติดกันตลอด และมักจะอยู่ด้วยกันเสมอในทุกๆ ที่ และที่สำคัญ แม้จะอายุแค่ 3 ขวบ แต่หนูน้อย Aithan ก็ทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีให้น้องหมา Molly อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง   แม่ของทั้งคู่คือ Joo Ah-min ที่เป็นทั้งนักแสดง นางแบบ แถมยังเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ ส่วนสามีของเธอเป็นชาวเกาหลี-อเมริกัน     ความรักของทั้งคู่เป็นรักอันบริสุทธิ์ที่ไม่มีเงื่อนไข   นอกจากเป็นพี่น้องแล้ว พวกเขายังเป็นเพื่อนที่เล่นหิมะด้วยกัน   เป็นคู่เล่นปาก้อนหิมะให้กัน   พี่ชายกำลังเช็กหลังคาให้น้องว่ามีรอยรั่วหรือเปล่า   พาน้องไปเดินเล่นในห้าง พบปะเพื่อนใหม่ๆ   อ้อมกอดอันอบอุ่นจากพี่ชาย…

  • บริษัทออกแบบลองทำตามใจลูกค้าทุกอย่าง และนี่คือผลงานที่ได้ออกมา โดนใจเอ็งมั้ยล่ะ!?

    บริษัทออกแบบลองทำตามใจลูกค้าทุกอย่าง และนี่คือผลงานที่ได้ออกมา โดนใจเอ็งมั้ยล่ะ!?

    โฆษณาที่เราเห็นตามหน้าจอทีวีหรือโปสเตอร์ข้างถนนของผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น มักจะมาจากนักออกแบบ เอเจนซี่ หรือถ้าใครกลัวไม่ถูกใจ ก็อาจจะออกแบบด้วยตัวเอง แต่การที่ลูกค้าให้นักออกแบบหรือเอเจนซี่ออกแบบให้ นั่นหมายความพวกเขาต้องเชื่อมั่นในไอเดียและฝีมือของคนคนนั้น เพราะไม่อย่างนั้น อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างลูกค้ากับผู้ออกไปแบบได้ อย่างทวิตล่าสุดของสินค้า Nissin Cup Noodles ในประเทศญี่ปุ่น ที่เผยให้เห็นความวิบัติของภาพโฆษณา เมื่อนักออกแบบยอมทำตามทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ   นี่คือภาพโฆษณาที่นักออกแบบทำให้กับบริษัท Nissin Cup Noodles ในญี่ปุ่น   ในทวิตดังกล่าว ทางนักออกแบบได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า “เราพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดบางอย่างที่ลูกค้าติมา แต่พวกเขาบอกว่ามันยังไม่เจ๋งพอ” จากภาพต้นฉบับที่นักออกแบบส่งให้ลูกค้าครั้ง ถูกลูกค้าติอย่างละเอียดแทบทุกจุด แน่นอนนักออกแบบไม่มีทางเลือก สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือ ทำตามความต้องการของลูกค้า แล้วดูสิ๊ ผลจะออกมาเป็นยังไง?   สิ่งที่ทางบริษัทตอบกลับมาหลังเห็นภาพที่นักออกแบบส่งมาให้   ส่งไปรอบแรก Nissin Cup Noodles ติดมาหลายอย่างเลย เช่น ผมดำมันให้ความรู้สึกเหมือนหมึกสีดำทั่วไป เปลี่ยนให้มันมีความรู้สึกเข้าถึงชีสหน่อย ให้นางแบบยิ้มมากกว่านี้หน่อย ทำพื้นหลังที่ให้ความรู้สึกแบบฟาร์มหน่อย หรือ โชว์สินค้าให้เด่นกว่านี้ เป็นต้น   .   และนี่คือการแก้ไขครั้งแรก หลังจากที่โดนติมา…

  • ญี่ปุ่นเสนอ ‘โทรศัพท์ฟรี’ สำหรับนักท่องเที่ยว โทรและเล่นเน็ตฟรี มีข้อมูลครบครันอีก!!

    ญี่ปุ่นเสนอ ‘โทรศัพท์ฟรี’ สำหรับนักท่องเที่ยว โทรและเล่นเน็ตฟรี มีข้อมูลครบครันอีก!!

    ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำที่น่าสนใจมากมาย และแต่ละที่ก็จะมีจุดเด่นที่น่าดึงดูดแตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นคือจังหวัดคะนะงะวะ ที่ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟเพียง 30 นาทีจากตัวเมืองโตเกียว เหตุผลที่คุณไม่ควรมองข้ามจังหวัดคะนะงะวะเมื่อไปเยือนประเทศญี่ปุ่น เพราะในจังหวัดนี้มีทั้งวัดและพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของเมืองคะมะกุระ แถมยังมีล้อมรอบด้วยภูเขาที่สวยงามอีกด้วย นอกจากนี้คุณจะเห็นทิวทัศย์ของภูเขาไฟฟูจิ น้ำพุร้อนออนเซนของรีสอร์ตฮาโกเน่ มีพิพิธภัณฑ์ราเมง 2 ที่ในเมืองโยโกฮาม่า มีท่าเรืออันงดงาม และขบวนพาเหรดปิกาจูที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี     ที่กล่าวมาก็ถือว่าน่าสนใจมากๆ แล้ว แต่นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 นี้ ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดไปคะนะงะวะ หากไปญี่ปุ่น เหตุผลที่ว่านี้คือ จังหวัดคะนะงะวะเสนอสมาร์ตโฟนให้กับนักท่องเที่ยวฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น!!     รัฐบาลจังหวัดคะนะงะวะและบริษัทโทรคมนาคม Handy ได้ร่วมมือกัน จัดหาสมาร์ตโฟนจำนวน 300 เครื่อง สำหรับให้นักเที่ยวยืมใช้ระหว่างท่องเที่ยว ทั้ง 300 เครื่องนี้จะให้บริการอยู่ที่เคาน์เตอร์ข้อมูลการท่องเที่ยว 5 จุด ที่เมืองโยโกฮามา 3 จุด ที่เมืองคะมะกุระ 1 จุด และที่เมืองฮาโกเน่ อีก 1 จุด  …

  • ศิลปินเกาหลีสร้างผลงานบอกเล่าถึงโมเมนต์แห่งความสุขที่ ‘ความรัก’ เป็นตัวขับเคลื่อน

    ศิลปินเกาหลีสร้างผลงานบอกเล่าถึงโมเมนต์แห่งความสุขที่ ‘ความรัก’ เป็นตัวขับเคลื่อน

    ความรักเอาชนะทุกอย่างได้เสมอ…เพราะความรักมักเป็นตัวขับเคลื่อนให้เราทำสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการมอบสิ่งดีๆ ให้คนอื่น การให้อภัย หรือแม้แต่การทำตามความฝัน ทุกอย่างเหล่านี้ล้วนมีพื้นฐานจากความรัก เช่นเดียวกับศิลปินเกาหลี Puuung ที่ใช้ความรักเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างผลงานศิลปะอันงดงามของเธอขึ้นมา ในผลงานภาพวาดของ Puuung เธอพยายามถ่ายทอดความคิดที่เรียบง่ายแต่มีความสำคัญ เป็นการบอกเล่าความรู้สึกอันยิ่งใหญ่ที่มีสิ่งเล็กๆ มาเติมเต็ม ซึ่งบางทีเราไม่ทันสังเกตเห็น สิ่งนั้นเรียกว่า ‘ความรัก’   รักคือการใช้ช่วงเวลาช่วงเย็นๆ ที่แสนอบอุ่นด้วยกัน   ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการเซอร์ไพรส์ที่น่ารัก   ฉลองวันหยุดด้วยกัน   ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุด   มอบความอบอุ่นให้กันและกัน   รับความอบอุ่นภายใต้ผ้าห่มพร้อมช็อกโกแลตร้อนๆ   นอนกอดกันและกัน   พูดคุยกันในเช้าวันใหม่   เดินเล่นบนถนนเส้นโปรดด้วยกัน   มีความสุขกับการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน   ฉลองวันเกิดให้กันและกัน   ดูหนังเรื่องโปรดด้วยกัน   อย่าปล่อยมือจากกัน   ยินดีกับความสำเร็จของกันและกัน   เริ่มชีวิตใหม่ด้วยกัน   อยู่ด้วยกันในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าพระอาทิตย์จะตกหรือขึ้น   ความรักของคุณล่ะ เป็นแบบไหน? ที่มา brightside

  • สุดยอดงานสร้างจากญี่ปุ่น โต๊ะอุ่นสำหรับวีลแชร์ ออกไปนอกบ้านก็ยังอุ่นได้เหมือนอยู่ในบ้าน

    สุดยอดงานสร้างจากญี่ปุ่น โต๊ะอุ่นสำหรับวีลแชร์ ออกไปนอกบ้านก็ยังอุ่นได้เหมือนอยู่ในบ้าน

    ในช่วงฤดูหนาวเช่นนี้ หลายคนคงไม่อยากออกจากบ้านสักเท่าไหร่เพราะอากาศข้างนอกมันช่างหนาวเหลือเกิน แต่จะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถพกความอบอุ่นในบ้านออกไปข้างนอกได้ด้วย ความอุ่นในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเสื้อกันหนาวหรือผ้าห่มนะ แต่มันคือวีลแชร์พร้อมโต๊ะโคทัตสึอุ่นๆ จากประเทศญี่ปุ่นที่มีผ้าห่มหนาๆ คลุมอยู่ สามารถเอาออกไปข้างนอกได้ ให้ความรู้สึกอุ๊นอุ่นเหมือนอยู่ในบ้านเลย วีลแชร์พิเศษตัวนี้เป็นไอเดียของ Ory Yoshifuji ผู้ร่วมต่อตั้งและ CEO ของ Ory Laboratory ผู้ผลิตหุ่นยนต์เพื่อช่วยผู้พิการ     หลังจากที่ Ory ใช้ปัญญาอันหลักแหลมของเขาสร้างผลงานชั้นยอดชิ้นนี้ขึ้นมา มันได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์ Ory บอกว่า “มันหนาวเกินไปที่จะออกไปข้างนอกด้วยรถเข็นคนพิการ ดังนั้นผมจึงออกแบบวีลแชร์สุดอบอุ่น ที่แม้แต่คนเดินเท้ายังต้องอิจฉา” “นอกจากนี้ รถเข็นตัวนี้ยังสามารถเอ็นหลังได้ด้วย ดังนั้นคุณจะนอนหรือใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพาได้อย่างเต็มที่เท่าที่คุณต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องลูกออกจากเก้าอี้เลย” ช่วงเริ่มต้นของการทำวีลแชร์อุ่นนี้ Ory บอกว่า มีคนมากมายหัวเราะเยาะเขา แต่เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ตรงข้าม เขาเดินหน้าและมุ่งทำให้มันจนสำเร็จ   車椅子での外出はあまりに寒いので、歩行者も羨む車イス、車コタツを作ってみた。 ベースの車椅子はリクライニングとティルトが可能で、そのままフラットに寝れる。 ポータブル電源を搭載しPCも使いたい放題だ。 人類はついにコタツから出ずに外出する術を手に入れたのだ。 pic.twitter.com/hH8CyibTfc — 吉藤オリィ(オリィ研究所 所長) (@origamicat) 23 มกราคม 2561   แน่นอนว่ามีคนจำนวนมากชื่นชมผลงานชิ้นนี้ และยกให้เป็นสุดยอดงานสร้าง และนี่คือความคิดเห็นส่วนหนึ่งของชาวเน็ตญี่ปุ่น “มันเจ๋งมาก…

  • เจ้าแมวอ้วนไปเดินวนเวียนอยู่แถวบ้านพักคนชราบ่อยๆ ในที่สุดก็ได้บ้าน แถมมีงานทำด้วย

    เจ้าแมวอ้วนไปเดินวนเวียนอยู่แถวบ้านพักคนชราบ่อยๆ ในที่สุดก็ได้บ้าน แถมมีงานทำด้วย

    สัตว์ก็เหมือนคนนี่แหละ ต่อให้พวกมันเป็นสัตว์จรจัดที่เดินไปเดินมาอย่างไร้จุดหมาย แต่ถ้าวันหนึ่งเราหยิบยื่นโอกาสให้ รับรองมันจะรีบคว้าไว้และทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด สมกับที่ได้รับโอกาสนั้น เช่นเดียวกับเรื่องของ Oreo เจ้าเหมียวจรจัดที่ชอบเดินเตรดเตร่อยู่ในแถวบ้านพักคนชรา กระทั่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่น     ก่อนหน้านี้ Oreo มักจะปรากฏตัวอยู่ด้านนอกของบ้านพักคนชรา St. Augustine Health Ministries ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา Carmen Delgado พนักงานต้อนรับของ St. Augustine Health Ministries กล่าวว่า “มันมาที่นี่บ่อยจนเหมือนเป็นหนึ่งในครอบครัวของเรา มันช่วยผู้คนที่อาศัยอยู่ในนี้ และยังช่วยพนักงานทำงานด้วย เราเลยรักมันมาก”     ทุกคนในบ้านพักคนชรารัก Oreo มาก เพราะมันทำตัวน่ารักอยู่เสมอ   Dana Carns ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาของ St. Augustine Health Ministries กล่าวว่า “ผู้คนส่วนใหญ่ที่เราดูแลที่นี่มีสัตว์เลี้ยง ดังนั้นเราจึงให้ Oreo อยู่ที่นี่ด้วยเพื่อให้ผู้คนออกมาเล่นกับมัน และสิ่งที่เราเห็นเจ้าเหมียวทำคือ มันทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน”     เธอบอกอีกว่า “พนักงานมักจะถ่ายรูปของ Oreo มาให้ฉันดูเสมอ ทั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์และเวลากลางคืน มีภาพที่มันนั่งอยู่ที่แผนกต้อนรับ รวมทั้งรับโทรศัพท์เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ทำงาน”…

  • ชีวิตนักสู้ของสาวไอดอลใต้ดินแห่งญี่ปุ่น ออกตามฝันตัวเอง ไม่ยอมแพ้แม้ไร้บ้านอยู่…

    ชีวิตนักสู้ของสาวไอดอลใต้ดินแห่งญี่ปุ่น ออกตามฝันตัวเอง ไม่ยอมแพ้แม้ไร้บ้านอยู่…

    การมีความฝันนับเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันเป็นแรงผลักดันให้เราทำในสิ่งที่ชอบ และไม่ว่าเส้นทางจะมีอุปสรรคหรือยากลำบากแค่ไหน เราก็พร้อมจะสู้เพื่อให้บรรลุฝันที่ตั้งไว้ อิวามิ มาเรียโรส คือตัวอย่างของนักล่าฝัน เพราะแม้ว่าเธอจะเป็นคนไร้บ้าน แต่ก็ดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อที่ทำความฝันที่อยากเป็นนักร้องไอดอลเกิร์ลให้เป็นจริง     นักร้องไอดอลเกิร์ลคือสิ่งที่อิวามิใฝ่ฝันมาตลอดทั้งชีวิต ดังนั้นหลังจากที่เรียนจบมัธยมต้น เธอรวบรวมเงินที่ได้จากการทำงานพาร์ทไทม์ แล้วออกเดินทางจากต่างจังหวัดไปยังมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียว เพื่อทำตามความฝัน แน่นอนว่านี่เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์ หญิงสาวเริ่มจากการหาอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ขนย้ายได้อย่างสะดวก ก่อนจะร้องเพลงตามข้างถนนในย่านอาคิฮาบาระ ชิบุย่า และฮาราจุกุ     การร้องเพลงตามข้างถนนทำให้หญิงสาวได้รับเงินบริจาคเล็กๆ น้อยๆ จากคนที่ผ่านไปผ่านมา แต่นั่นไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของเธอ เป้าหมายของเธอคือการเปิดตัวและหาโอกาสให้ตัวเองเป็นที่สะดุดตาแมวมองของค่ายเพลงและกลุ่มบริษัทผู้ให้การสนับสนุนไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปต่างๆ     หลังจากที่ใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ในกรุงโตเกียวในฐานะไอดอลใต้ดินมาเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดเธอก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นและมีแฟนคลับเป็นของตัวเองด้วย แฟนๆ หลายคนติดตามผลงานของเธอจากการแสดงตามสถานที่ต่างๆ แบบศิลปินไร้สังกัด ในขณะที่บางส่วนติดตามเธอจากทวิตเตอร์และยูทูบ แม้จะมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าสังกัดเป็นนักร้องหรือไอดอลอาชีพอย่างเต็มตัวสักที     เวลาผ่านไป อายุเธอเริ่มมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นอิวามิก็ไม่หยุดวิ่งไล่ตามความฝัน เธอยังคงใช้ชีวิตแบบคนเร่ร่อนไร้บ้าน ลากกระเป๋าเท่าที่จำเป็นต้องใช้ ส่วนสัมภาระชิ้นใหญ่เธอฝากไว้ที่บ้านเพื่อนซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง พอตกค่ำ ถ้าพอมีเงินบ้าง อิวามิจะอาศัยหลับนอนตามอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ซาวน่าสำหรับผู้หญิง และโรงแรมแคปซูล แต่ส่วนใหญ่เธอจะนอนตามสวนสาธารณะและสถานีรถไฟใต้ดินมากกว่า     แน่นอนว่านี่เป็นการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งหากกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดเธอจะได้อยู่อย่างสบายเหมือนคนทั่วไป แต่เพื่อความฝันแล้วเธอทนได้แม้จะลำบากแค่ไหน การมีเงินติดตัว 800…

  • ‘Mike McGee’ เจ้าของมีมหน้าอั้นตด อธิบายที่มาว่าจริงๆ แล้วมันเป็นยังไง ไม่ได้อั้นตดนะ

    ‘Mike McGee’ เจ้าของมีมหน้าอั้นตด อธิบายที่มาว่าจริงๆ แล้วมันเป็นยังไง ไม่ได้อั้นตดนะ

    ภาพด้านล่างนี้หลายคนคงจะเคยเห็นและคุ้นเคยเป็นอย่างดีในโลกออนไลน์ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาพของนักเรียนหนุ่มที่มีสีหน้าอมทุกข์อย่างหนัก ไม่ใช่เพราะเจ็บปวดหรือเสียใจนะ แต่ดูเหมือนเขากำลังอั้นตดหรืออั้นอึซะมากกว่า ไม่มีใครรู้เลยว่าความจริงที่อยู่เบื้องหลังภาพนี้มันเป็นยังไงกันแน่? แต่ที่แน่ๆ ภาพนี้ถูกชาวเน็ตนำไปล้อเลียน นำไปแชร์ต่อพร้อมแคปชันตลกๆ และโด่งดังในโลกออนไลน์จนถึงทุกวันนี้ หารู้ไม่นั่นคือฝันร้ายทุกวันของ Mike McGee นับตั้งแต่มีการเผยแพร่ภาพของเขาออกไป     ใช่แล้ว คนในภาพคือ McGee ในวัย 16 ปี ปัจจุบันเขาอายุ 20 ปี เป็นศิษย์เก่าโรงเรียน Northwest High School ในจัสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความอยากรู้ว่าเบื้องหลังของภาพมันเป็นอย่างไงกันแน่ ทีมข่าว UNILAD เลยติดต่อขอสัมภาษณ์เขาโดยตรง คำถามแรกคือ ‘ที่หน้าคุณเป็นแบบนั้นเพราะอั้นตดใช่หรือไม่?’ คำตอบของ McGee คือ “ไม่ ผมไม่ได้อั้นตด มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลย”     เขาบอกอีกว่า “มันค่อนข้างแปลก ที่อยู่ดีๆ รูปของผมก็ปรากฏในโลกอินเตอร์เน็ตและมีคนคิดว่าผมอั้นตด ทั้งที่ไม่เป็นความจริงเลย แต่ผมแฮปปี้กับกระแสตอบรับส่วนใหญ่นะ” เมื่อถามชายหนุ่มว่า “คุณทำหน้าแบบนั้นได้ทุกเมื่อที่ต้องการได้อย่างไร?” เขาบอกว่า “มันค่อนข้างเป็นความสามารถส่วนบุคคลนะ ผมแค่กลั้นหายใจและเกรงหัว” นอกจากนี้เขายังอัดวิดีโอเพื่อทำให้ดูอีกครั้งว่าตอนนั้นเขาทำยังไง ทำไมใบหน้าถึงออกมาเป็นแบบนั้น ดูจากวิดีโอด้านล้างนี้  …

  • หนุ่มถูกแฟนจับได้ขณะเล่นชู้ เลยให้ชู้แกล้งทำตัวเป็นตุ๊กตายาง เพื่อตบตา!?

    หนุ่มถูกแฟนจับได้ขณะเล่นชู้ เลยให้ชู้แกล้งทำตัวเป็นตุ๊กตายาง เพื่อตบตา!?

    เป็นใครก็คงทำตัวไม่ถูกทั้งนั้น หากถูกจับได้คาหนังคาเขาขณะแอบเล่นชู้ บางคนพยายามหาคำอธิบายต่างๆ นานา เพื่อแก้ตัว ในขณะที่บางคนได้แต่อยู่นิ่งเผื่ออีกฝ่ายจะยกโทษให้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีบางคนใช้วิธีแปลกๆ แบบนี้… นี่เป็นคลิปการแอบถ่ายที่ถูกโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเล่นชู้กันอย่างเมามัน จนถูกจับได้ และทั้งคู่พยายามหนีความผิดในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ๆ     ตามโพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่าผู้ชายในคลิปถูกแฟนสาวจับได้ขณะที่เขากำลังเล่นชู้กับผู้หญิงอื่น เมื่อทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวที่เป็นชู้เลยแกล้งทำตัวเป็น ‘ตุ๊กตายาง’ เพื่อหนีความผิด ใครที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ จะรู้ดีว่าการถูกคนที่รักหักหลังนั้นมันรู้สึกยังไง แน่นอนคุณอาจจะรู้สึกชาไปทั้งตัว แต่ดูเหตุการณ์นี้สิ มันก็น่าโมโหนะแต่ก็อดขำไม่ได้ เพราะนอกจากจะไม่เนียนแล้ว มันยังเป็นอะไรที่ตลกมากๆ ด้วย ตอนแรกที่แฟนสาวพรวดพราดเข้าไป เธอตะโกด้วยความโมโห “มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่!? แล้วนังนี่มันเป็นใคร!?” แฟนหนุ่มที่กำลังอยู่ในชุดแปลกๆ ตอบว่า “มันเป็นแค่ตุ๊กตายาง” แถมยังหยิบใบเสร็จซื้อตุ๊กตายางออกมาให้แฟนสาวดูอีกต่างหาก     ส่วนผู้หญิงที่เป็นชู้ เธอพยายามอย่างหนักที่จะทำตัวนิ่งๆ เหมือนตุ๊กตายาง แน่นอนว่าฝั่งแฟนสาวไม่เชื่อเลยสักนิด และเริ่มผลักเธอ เมื่อถูกผลักจนเซ หญิงที่เป็นชู้เลยบอกให้เธอหยุด โดยทำเสียงเหมือนหุ่นยนต์ แต่แฟนสาวของชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดผลัก ในที่สุดเธอก็หมดความอดทน และเลิกแกล้งทำเป็นตุ๊กตายาง ก่อนจะเก็บข้าวเก็บของแล้วเดินออกไป     แทนที่จะยอมรับความผิดซะตอนนั้น ชายหนุ่มกลับแถต่อไปอีกว่า “ผมมีใบเสร็จนะที่รัก มันเสียและผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงขยับได้ มันเป็นตุ๊กตายางที่มาพร้อมกับปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้า”…

  • รู้จัก Frank Praytor ผู้อยู่ในภาพ ‘ป้อนอาหารแมวน้อยกลางสงคราม’ เสียชีวิตแล้วในวัย 90 ปี

    รู้จัก Frank Praytor ผู้อยู่ในภาพ ‘ป้อนอาหารแมวน้อยกลางสงคราม’ เสียชีวิตแล้วในวัย 90 ปี

    เมื่ออ่านบทความที่พูดถึง ‘ภาพที่ทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์‘ หรือ ‘ภาพที่ทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้น‘ ภาพทหารป้อนอาหารแมวน้อยท่ามกลางสงครามเกาหลี มักจะเป็นหนึ่งในนั้นเสมอ นั่นเป็นภาพของ Frank Praytor ทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ที่ถูกถ่ายขณะที่เขาป้อนอาหารให้ลูกแมวตัวหนึ่งจนมันกลับมาแข็งแรงอีกครั้งในช่วงครามเกาหลี แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องบอกทุกคนคนว่าชายในภาพนี้ได้เสียชีวิตแล้วในวัย 90 ปี สมาชิกครอบครัวของ Praytor ออกมายืนยันว่าเขาเสียชีวิตภายในบ้านที่เมืองแอลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 มกราคม ปี 2018 หลังจากที่ต่อสู้กับปัญหาสุขภาพมาเป็นเวลาหลายปี     สื่อรายงานว่า Praytor ได้เข้าร่วมกับกองทัพ 1st Marine Division ในปี 1952 ก่อนจะกลายเป็นบุคคลที่โด่งดังทั่วโลก หลังจากมีการเผยแพร่ภาพของเขาขณะป้อนอาหารให้ลูกแมวด้วยหลอดฉีดยา โดยภาพดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กว่า 1,700 ฉบับ ทั่วสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2009 Praytor ได้ให้สัมภาษณ์กับ U.S. Naval Institute “หลังจากที่ภาพนั้นถูกแพร่ออกไป ผมก็ได้รับจดหมายจากสาวๆ ทั่วประเทศ พวกเขาบอกว่าอยากแต่งงานกับผม แม้แต่ผู้ชายก็บอกผมแบบนั้นเหมือนกัน” เขาพูดติดตลก ส่วนแมวน้อยตัวนั้น เขาพามันกลับมาจากสนามรบและตั้งชื่อให้มันว่า Mis Hap    …

  • น้องหมาผู้มีฟันเหมือนคน และพูดไม่หยุด ใช้ความเป็นมิตรช่วยเจ้านายหาเพื่อนใหม่

    น้องหมาผู้มีฟันเหมือนคน และพูดไม่หยุด ใช้ความเป็นมิตรช่วยเจ้านายหาเพื่อนใหม่

    หากใครเลี้ยงสุนัขอยู่คงจะเข้าใจดีว่ามันไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่เป็นฝ่ายรอความช่วยเหลือจากเราเท่านั้น แต่น้องหมาบางตัวเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง มันเป็นทั้งเพื่อน พี่น้อง ครอบครัว และยังเติมเต็มในส่วนที่ขาดให้กับเราด้วย เหมือนกับ Salty สุนัขพันธุ์เกรย์ฮาวด์ ที่ชอบไปอยู่ในร้านกาแฟเป็นประจำ บางทีก็ไปเที่ยวผับทั่วเมืองเมลเบิร์นของประเทศออสเตรเลีย โดยมี Lucy Percival แม่ผู้ใจดีคอยสนับสนุนมันเสมอ     Percival บอกว่า “เราอยู่ในเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในด้านบาร์และคาเฟ่ แน่นอน Salty เป็นชาวเมลเบิร์นและมันก็รักที่นี่มากๆ” เธอบอกอีกว่า “สิ่งที่น้องหมาชอบที่สุดคือ การโบกรถไปบาร์ หรือการเดินไปยังร้านกาแฟในท้องถิ่นเพื่อสั่งเครื่องดื่ม Puppuccino และถ้ามันได้เลือกทางเดินเอง มันเลือกที่จะไปสถานีรถไฟ” “ปกติสุนัขส่วนใหญ่มักจะมุ่งหน้าไปที่สวนสัตว์แทนที่จะเป็นบาร์ แต่ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ทำให้ Salty ไม่เหมือนหมาทั่วไป”     เมื่อไหร่ก็ตามที่ Salty อยู่ในที่ที่มันชอบ มันจะเผยให้เห็นฟันหน้าอันโดดเด่นของมัน จากนั้นมันก็เริ่มพูดคุยกับผู้คนแถวนั้นอย่างเป็นมิตร ด้วยพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติของสุนัขนี้ ทำให้น้องหมาได้รับความสนใจจากผู้ที่พบเห็นเสมอ โดยเฉพาะเวลาไปนั่งในร้านกาแฟ สายตาแทบทุกคู่จะจ้องมองมาที่มันด้วยความสนใจ     นิสัยการพูดไม่หยุดของ Salty ทำให้มันเป็นสุนัขที่พิเศษ เพราะเวลาพูดฟันของมันจะกระทบกันจนตัวสั่น นั่นเป็นสัญญาณของความสุขหรือความพึงพอใจที่คล้ายกับแมวเวลาทำเสียงครืดคราด Percival บอกว่า “Salty ชอบอยู่ในที่ที่มีคนเยอะๆ ดังนั้นมันจึงชอบคุยกับคนอื่นเวลาที่เราอยูในบาร์…

  • หนุ่มป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย อยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์ ขอแฟนสาวแต่งงาน ก่อนหมดลมหายใจ..

    หนุ่มป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย อยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์ ขอแฟนสาวแต่งงาน ก่อนหมดลมหายใจ..

    หลายคนมีความใฝ่ฝันที่อยากแต่งงานกับคนรักเมื่อถึงวัยอันควร หรือเมื่อถึงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายพร้อม แต่ในความเป็นจริงเราไม่มีทางรู้เลยว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่และเราจะอยู่ถึงวันที่รอคอยนั่นไหม… เหมือนกับชายหนุ่มวัย 19 ปีคนนี้ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจขอแฟนสาววัยมัธยมแต่งงานก่อนที่จะหมดลมหายใจ สื่อต่างประเทศรายงานว่า Dustin Snyder วัย 19 ปี กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับ Sierra Siverio ในเมือง Plant City รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยมีครอบครัวและเพื่อนๆ ช่วยจัดงานแต่งให้     หลังจากที่ชายหนุ่มต่อสู้กับมะเร็งเป็นระยะเวลาหนึ่ง เขาก็ได้รับข่าวร้ายเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนว่าทางแพทย์ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้อีกแล้ว และเขาจะมีเวลาอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น เมื่อรู้ดังนั้น Dustin กับแฟนสาวจึงตัดสินใจที่จะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด หลังจากที่คบกันมา 2 ปี ด้าน Sierra บอกว่า “ฉันจะจดจำและขอบคุณช่วงเวลานี้ตลอดไป มันเป็นพรสำหรับฉัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก”     ไม่ใช่ว่าหญิงสาวไม่รู้สึกเสียใจที่แฟนหนุ่มกำลังจะจากไป แต่เพราะเธอมองโลกในแง่ดี โดยได้วางแผนที่จะใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะสามีภรรยาให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เธอเล่าว่าได้พบกับ Dustin ครั้งแรกตอนอยู่ชั้นป. 6 เมื่อทั้งคู่เข้ามาเรียนในโรงเรียนเดียวกัน กระทั่งหลายปีผ่านไป พวกเขาได้กลับมาคุยกันอีกครั้งเมื่อหญิงสาวเดินเข้าไปในร้าน Steak ‘n Shake เพื่อสมัครงาน แล้วก็บังเอิญพบว่า Dustin ก็ทำงานอยู่ที่นั่นด้วย…

  • ศิลปินสรรค์สร้าง “ดวงดาว” จากอุปกรณ์ใกล้ตัว ทั้งกระทะเอย หม้อเอย สนิมเอย ทำได้ไง!?

    ศิลปินสรรค์สร้าง “ดวงดาว” จากอุปกรณ์ใกล้ตัว ทั้งกระทะเอย หม้อเอย สนิมเอย ทำได้ไง!?

    การทำงานศิลปะที่ต้องใช้ความประณีตสูง อย่างเช่นการทำภาพดวงดาวที่ต้องใส่รายละเอียดยิบย่อย หลายคนอาจจะคิดว่าศิลปินต้องทุ่มเทเวลาและใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้ภาพออกมาดูสมจริง แต่ Christopher Jonassen ศิลปินชาวนอร์เวย์คนนี้ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเขาสามารถสร้างดวงดาวอันงดงามเสมือนจริงจากอุปกรณ์ที่หาได้รอบตัว     อุปกรณ์ที่ว่าก็มีหลายอย่าง เช่น หม้อเก่าๆ ที่มีรอยยุบ กระทะที่มีรอยขีดข่วนจนไม่อยากนำมาใช้ทำอาหารแล้ว หรือแม้แต่ของใช้ที่ขึ้นสนิม… มันอาจจะฟังดูตลกนะ แต่ Jonassen สามารถเปลี่ยนให้มันกลายเป็นสิ่งสวยงามได้อย่างน่าทึ่ง ชุดดวงดาวเหล่านี้ Jonassen เรียกมันว่า Devour เขาบอกว่า “ตอนนี้ผมเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย ผมอาศัยอยู่ในบ้านเช่าราคาถูกกับเพื่อนๆ และเรามีอุปกรณ์ปรุงอาหารที่สภาพแย่มาก”     ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เริ่มจัดการทำความสะอาดอุปกรณ์เหล่านั้น ทั้งขัด ทั้งถูก เพื่อให้มันถูกสะอาดและน่าใช้ แต่สิ่งที่เขาสังเกตเห็นระหว่างนั้นคือ รอยขัดถูบนก้นหม้อ ก้นกระทะ มันช่างดูคล้ายกับลายดวงดาวซะเหลือเกิน… นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ไอเดียเจ๋งๆ นี้ ผุดขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว ก่อนจะกลายมาเป็นผลงานดวงดาว Devour อย่างที่เห็นอยู่นี้     Jonassen บอกว่า “ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องสังเกตความงามของสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่รอบตัวเราทุกวัน” นอกจากนี้ยังติดตามผลงานเพิ่มเติมของเขาได้ที่เว็บไซต์ Christopherjonassen    . . . . .…

  • นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหาก ‘ประตูเครื่องบิน’ ถูกเปิดออกกลางอากาศ แต่โอกาสเกิดมีน้อยมาก

    นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหาก ‘ประตูเครื่องบิน’ ถูกเปิดออกกลางอากาศ แต่โอกาสเกิดมีน้อยมาก

    ไม่ว่าคุณจะเป็นคนกลัวการนั่งเครื่องบินหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนมักจะคิดคืออยากเปิดหน้าต่างขณะที่เครื่องบินอยู่กลางอากาศ เพื่อที่จะเห็นทิวทัศน์อันงดงามภายนอก จริงๆ แล้ว โอกาสที่ประตูหรือหน้าต่างจะเปิดออกระหว่างบินนั้นมีน้อยมาก แต่ถ้ามันเปิดออกจริงๆ นั่นหมายความว่าคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย… หากใครสงสัย ดูรายละเอียดที่ AsapSCIENCE จะชี้ให้เห็นต่อไปนี้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น     พวกเขาอธิบายว่า ความดันจะเกิดขึ้นที่ประตูเครื่องบิน เมื่อเครื่องอยู่ที่ระดับความสุูง 8,000-10,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล หรือแม้แต่ 30,000-45,0000 ฟุต ยิ่งเครื่องบินบินขึ้นสูงเท่าไหร่ความดันอากาศก็จะยิ่งต่ำ แต่แรงดันที่ประตูจะอยู่ในระดับคงที่ตลอดการบิน… เมื่อไหร่ก็ตามที่ประตูเครื่องบินเปิดออกกลางอากาศ ห้องโดยสารจะลดความดันอากาศลงภายใน 0.5 วินาที และสิ่งของภายในเครื่องที่ไม่ได้ถูกยึดเอาไว้จะถูกดูดไปยังประตูที่เปิดอยู่ทันที เน่ื่องจากความดันอากาศต่างกัน     และแน่นอนว่าเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์นี้ หมายความว่าความตายกำลังจะมาเยือนทุกคนในเครื่อง เช่นเดียวกับเครื่องบินที่จะเริ่มแตกออกเป็นชิ้นๆ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดภาวะขาดออกซิเจน เนื่องจากการขาดออกซิเจนในอากาศ และหากคุณไม่ได้หน้ากากออกซิเจนในช่วงเวลาที่ขาดออกซิเจน จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ หมดสติ และอาจเสียชีิวิตในที่สุด     ส่วนออกซิเจนมีแนวโน้มที่จะอยู่ได้เพียง 10 นาที ขณะที่นักบินกำลังพยายามลดระดับเคร่ื่องอยู่ที่  8,000-10,000 เพื่อให้มีแรงดันทั้งภายในและภายนอกเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกไปกว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มีน้อยมาก ดังนั้นอย่างกังวลเลย แต่หากคุณยังกังวลอยู่ ขอแนะนำให้ดูวิดีโอของ AsapSCIENCE ด้านล่างนี้เลย    …

  • การลื่นล้มที่งดงามของชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย ล้มซ้ำแล้วซ้ำอีก จนชาวเน็ตลุ้นจะตั้งหลักได้เมื่อไหร่!?

    การลื่นล้มที่งดงามของชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย ล้มซ้ำแล้วซ้ำอีก จนชาวเน็ตลุ้นจะตั้งหลักได้เมื่อไหร่!?

    ว่ากันว่าฤดูหนาวเป็นเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษ เพราะมันทำให้เราได้กอดคนที่รักนานขึ้น ได้จับมือกันบ่อยขึ้น และอาจจะได้ตื่นสายกว่าเดิมด้วย แต่ไม่ว่ามันจะพิเศษแค่ไหนก็คงสู้ช่วงฤดูหนาวในมอนทรีออล ประเทศแคนาดาไม่ได้ โดยเฉพาะสุดยอดผลงานโชว์สุดงดงามชิ้นนี้ที่ถ่ายทอดผ่านคลิปวิดีโอสั้นๆ 21 วินาที     สุดยอดผลงานที่ว่านี้คือการลื่นล้มที่ดูเหมือนการเต้นรำท่ามกลางอากาศหนาว ถ้าเปรียบกับบทกวี มันก็คงเป็นบทกวีที่เคลื่อนที่ได้ นี่ไม่ใช่การล้มแล้วลุกธรรมดาอย่างที่เราเคยประสบมา แต่มันคือการล้มแล้วล้มอีก แถมท่าสวยตั้งแต่ท่าล้มยันท่าสไลด์จนดูเหมือนกำลังเต้นรำบนแผ่นน้ำแข็งมากกว่าการลื่นล้มซะอีก   เริ่มจากการไถลลงมา แล้วก็ลุกขึ้นมาแบบสวยๆ   แต่แล้วก็ล้มลงพร้อมสไลด์ไปกับพื้นอีกรอบ   และแล้วก็ลุกขึ้นมาได้ แต่ดูเหมือนพื้นเจ้าปัญหาจะไม่เป็นใจเอาซะเล้ย ตั้งตัวไม่ได้สักที สุดท้ายเลยร่วงลงไปอีกรอบ…   มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับชายในคลิป แต่อย่างน้อยในช่วงเวลาสั้นๆ นี้เขาก็ได้มอบเสียงหัวเราะให้กับคนดู และก็หวังว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโชว์เต้น เอ้ย!! จากการลื่นล้มครั้งนี้นะ จากคลิปนี้มีชาวเน็ตมาคอมเมนต์ว่านี่เป็นความจริงของชีวิตในมอนทรีออล… หืม คนที่นั่นเค้าคงชอบฤดูหนาวกันน่าดูเลยเนาะ อิอิ   ที่มา buzzfeed

  • สวนสัตว์ใหญ่ในปารีสต้องปิดกะทันหัน หลังพบว่าลิงบาบูนกว่า 50 ตัวหนีออกมาจากกรง!!

    สวนสัตว์ใหญ่ในปารีสต้องปิดกะทันหัน หลังพบว่าลิงบาบูนกว่า 50 ตัวหนีออกมาจากกรง!!

    สวนสัตว์ส่วนใหญ่มักจะมีระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกบุกเข้ามา และกันไม่ให้สัตว์หลุดออกไป อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในปารีส ที่พบว่ามีลิงบาบูนหนีออกจากกรงไปถึง 52 ตัว จนสวนสัตว์ต้องปิดตัวลง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อมีการพบว่าลิงบาบูนจำนวนมากหนีออกจากสวนสัตว์ Zoological Park ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1943 ในบริเวณป่า Vincennes ของประเทศฝรั่งเศส     เจ้าหน้าที่เล่าว่าสัญญาณเตือนภัยได้ดังขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ ขณะที่สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์สังเกตเห็นลิงบาบูนอยู่บนทางเดินบริการ ขณะนี้ยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากรวมทั้งเด็กเล็กอยู่ในสวนสัตว์ ทีมงานในแผนกฉุกเฉินจึงรีบตรวจสอบความเรียบร้อยเพ่ื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกลิงทำร้าย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ออกตามหาลิงบาบูนที่หนีออกไป จนสามารพาตัวลิงบาบูนกลับมาได้ 48 ตัว ในเที่ยงวันถัดมา และยังมีอีก 4 ตัวที่หาไม่เจอ     เจ้าหน้าที่สวนสัตว์บอกว่า “เรายังไม่ทราบว่าพวกมันออกไปได้อย่างไร และสิ่งที่เราทำได้คือ พยายามทำให้พวกมันอยู่ภายใต้การควบคุม” “ตอนนี้เราได้ปิดพื้นที่ทุกส่วนในสวนสัตว์ และและเพื่อความปลอดภัย จะมีเพียงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะสามารถเข้าออกได้” ในบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหมดนี้ มี 3 คน ที่จะพกปืนไรเฟิลเพื่อยิงสัตว์ในกรณีที่จำเป็น นอกจากนี้ยังมีตำรวจและสัตวแพทย์จำนวนมากเข้าช่วยเหลือ เนื่องจากลิงบาบูนมีขนาดตัวใหญ่และอาจมีนิสัยก้าวร้าวด้วย     ธรรมชาติของลิงบาบูน ไม่ใช่สัตว์ที่อันตราย แต่พวกมันสามารถโจมตีมนุษย์และทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงได้ หากพวกมันรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคาม ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับการแจ้งเตือนว่าจำเป็นต้องอพยพออกไปชั่วคราว…

  • คุณตาคุณยาย ถ่ายรูปโพสต์เวดดิ้งสุดแนวร่วมกันอีกครั้ง หลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานาน 60 ปี

    คุณตาคุณยาย ถ่ายรูปโพสต์เวดดิ้งสุดแนวร่วมกันอีกครั้ง หลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานาน 60 ปี

    ปกติแล้วเรามักจะเห็นคู่รักถ่ายรูปพรีเวดดิ้งก่อนแต่งงาน แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าคุณจะแต่งงานไปแล้วกี่ปี หรือไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ทุกคนล้วนถ่ายรูปพรีเวดดิ้งได้ถ้าอยากทำ เหมือนกับคู่ของคุณตาอุดและคุณยายยวงที่หวนกลับมาถ่ายรูปโพสต์เวดดิ้งสุดเฟี้ยวด้วยกันอีกครั้ง หลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานานถึง 60 ปี     ช่างภาพบอกว่าทั้งคุณตาอุดและคุณยายยวงใจดีมาก ถ่ายรูปท่ามกลางแสงแดดอ่อนโดยไม่บ่นสักคำ ตรงข้ามทั้งคู่มีแต่รอยยิ้ม ความน่ารักและความอบอุ่น จนช่างภาพยังต้องอิจฉา ที่สำคัญไปกว่านั้น ทั้งคู่บอกว่าอยากเป็นตัวอย่างและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับท่านว่าหากอยากทำอะไรก็ลงมือทำทันที อย่ารอให้เวลามันผ่านไปอย่างไม่มีประโยชน์     สำหรับภาพอันงดงามของคุณตาอุดและคุณยายยวง ถ่ายโดยช่างภาพ แก้วลำจัง จากสตูดิโอ PreWedding Studio โดยมีคุณวราวุธ ปัญญาเนาว์ เป็นผู้เนรมิตความสวยความหล่อให้กับทั้งคู่     เก๋ากว่าคุณตามีอีกไหม?   อยู่กับเค้าตลอดไปนะตัวเธอ   อยากรู้จังเลยว่าตอนเป็นวัยรุ่น คุณตากับคุณยายเป็นคนยังไง   สบตาให้รู้ว่ารักนะจ๊ะยายจ๋า   ชาวร๊อกว่าไง   แค่ดูรูปยังสัมผัสได้ถึงความรักของทั้งสองเลย   หน้าตาอาจจะเปลี่ยน แต่รักไม่เคยเปลี่ยนแปลง   จะมีสักกี่คนที่ยังรักกันเหมือนวันแรกที่จีบกัน แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน   อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลย โดยที่คุณยังไม่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ… แต่ก็จำไว้เสมอว่า ถึงจะรู้สึกว่ามันสายไปแล้ว มันก็ยังไม่สายเกินไปจริงๆ และคุณก็ยังสามารถทำอะไรที่สวยงามได้เสมอโดยไม่ต้องแคร์อายุหรอก…  …

  • เจ้าเหมียวถูกเลี้ยงดูอย่างละเลยมาตลอด 17 ปี ได้เจอทาสใหม่ มันเลยอ้อนซะน่าเอ็นดู >

    เจ้าเหมียวถูกเลี้ยงดูอย่างละเลยมาตลอด 17 ปี ได้เจอทาสใหม่ มันเลยอ้อนซะน่าเอ็นดู ><

    แมวส่วนใหญ่จะมีนิสัยขี้อ้อน พวกมันมักจะเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์เสมอ นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องสนใจมันตลอดเวลาจนไม่ทำอะไรเลย แค่เล่นกับมันบ้างในบางเวลา เจ้าเหมียวก็แฮปปี้แล้ว แต่สำหรับเจ้าเหมียว Mila มันถูกเลี้ยงอย่างละเลย และไม่ได้รับความสนใจเลยตลอด 17 ปี นั่นทำให้มันโหยหาความรักมาทั้งชีวิต     Mila อาศัยอยู่ในโรงรถเป็นเวลา 17 ปี ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้มันเข้ามาและจากไปหลายครั้ง บางครั้งมันก็หายไปเป็นเวลานานกว่าจะกลับมา แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามันอยู่ในโรงรถตลอดและไม่ออกไปข้างนอกเลย ไม่ใช่แค่สภาพที่อยู่อาศััยที่เลวร้าย และมันยังถูกละเลยจากการเลี้ยงดูแมวที่เหมาะสมด้วย กระทั่งผู้หญิงคนหนึ่งผ่านมาเห็นและอดเห็นใจมันไม่ได้ จึงได้ติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือ     ผู้หญิงคนนั้นได้ติดไปยัง Here Kitty Kitty Rescue ที่ตั้งอยู่ในเมืองเอลก์ รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหวังว่ามันจะได้บ้านใหม่ที่ดีกว่าเดิม Jennifer Gillispie จาก Here Kitty Kitty Rescue บอกว่า “หลังจากที่ตรวจร่างกายแล้ว เราพบว่ามันผอมมาก ตามตัวของมันเต็มไปด้วยหมัด ขนของมันจับกันเป็นก้อน และมีเล็บยาวจนทิ่มอุ้งเท้าของมัน”     “ตอนที่เราอาบน้ำให้มันแล้วน้ำไหลกระทบร่างกายผอมๆ ของมันจนกลายเป็นสีแดงเข้ม และตอนที่เราเอาขนเป็นก้อนๆ ออกให้พร้อมตัดเล็บให้ มันคงจะรู้สึกซึ้งใจเลยเอาหน้ามาถูแขนพนักงานที่ตัดขนให้” หลังจากที่ทำความสะอาดตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว Mila ก็ถูกห่อด้วยผ่าหนานุ่มเพื่อให้ร่างกายมันอบอุ่น และนี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเหมียวรู้สึกปลอดภัยจากความเจ็บปวด…

  • หญิงสาวผู้เป็นต้นแบบของภาพวาดหญิงแกร่ง สัญลักษณ์แห่งสิทธิสตรี เสียชีวิตด้วยวัย 96 ปี

    หญิงสาวผู้เป็นต้นแบบของภาพวาดหญิงแกร่ง สัญลักษณ์แห่งสิทธิสตรี เสียชีวิตด้วยวัย 96 ปี

      ภาพที่เห็นอยู่ด้านบนนี้ หลายคนคงจะรู้จักและคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นภาพของหญิงสาวโรงงานคนหนึ่งขณะที่พับแขนเสื้อขึ้นก่อนจะลงมือทำงาน ถูกถ่ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับตัวจริงของผู้หญิงในภาพคือ Naomi Parker Fraley เธอเป็นหญิงสาวที่มีภาพลักษณ์โดดเด่น จนถูกใช้เป็นต้นแบบของภาพวาดหญิงแกร่งและเป็นสัญลักษณ์แห่งสิทธิสตรี แต่น่าเศร้าที่ต้องบอกข่าวร้ายว่าเธอได้จากโลกนี้ไปแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อน…     Fraley ในวัย 96 ปี จากรัฐโอคลาโฮมา ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 20 มกราคม ปี 2018 ที่เมือง Longview รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปตอนที่หญิงสาวอายุ 20 ปี เมื่อช่างภาพคนหนึ่งเดินทางไปยัง Naval Air Station และได้ถ่ายรูป Fraley ขณะที่ทำงานในร้านเครื่องจักร เธอโพกหัวด้วยผ้าลายจุดและสวมชุดสีฟ้า     ภาพเพียงภาพเดียว ทำให้หญิงสาวตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลกจนทุกวันนี้ และเมื่อเธอจากไปผู้คนจึงโพสต์ข้อความเพื่อไว้อาลัยให้กับเธอ อย่างเช่นโพสต์นี้   ขอให้เขาไปสู่สุขคตินะ ฉันมีโปสเตอร์ภาพของเธออยู่ในออฟฟิศด้วย   ผู้หญิงบางคนบอกว่าต้องขอบคุณเธอที่เป็นแรงบันดาลในในการเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียมกันทางเพศ   บางคนโพสต์โปสเตอร์ ‘We Can Do It’…

  • คุณแม่ใช้ ‘หัวใจ’ ดวงเล็กๆ กับความหมายอันแสนล้ำค่า เพื่อช่วยลูกให้พ้นจากโรคซึมเศร้า

    คุณแม่ใช้ ‘หัวใจ’ ดวงเล็กๆ กับความหมายอันแสนล้ำค่า เพื่อช่วยลูกให้พ้นจากโรคซึมเศร้า

    ด้วยสภาพสังคม ปัญหาชีวิต และความเจ็บป่วย อาจทำให้หลายคนกลายเป็นโรคซึมเศร้า และจะยิ่งมีอาการแย่ลงหากไม่มีใครเข้าใจ ดังนั้นบุคคลรอบข้างจึงถือเป็นกำลังใจสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยต่อสู้และผ่านภาวะนี้ไปได้ เหมือนกับที่ Liz Petrone ทำเพื่อลูกของเธอ     Liz เป็นเจ้าของ Lizpetrone.com ซึ่งเป็นบล็อกที่เธอใช้เขียนบอกเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของตัวเองที่อาศัยอยู่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอไม่เคยอายที่จะแบ่งปันเรื่องราวของตัวเอง เธอมักจะพูดถึงครอบครัวบ่อยๆ โดยเฉพาะลูกๆ ของเธอ แต่โพสต์ล่าสุดนี้ดูเหมือนจะได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก     Liz สร้างบล็อกขึ้นมาเพื่อแบ่งปันชีวิตของตัวเองและครอบครัวอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเธอเริ่มโพสต์เกี่ยวกับลูกชายของเธอ Luca เมื่อผู้อ่านได้อ่านโพสต์ล่าสุดของเธอ พวกเขาจึงได้เข้าใจว่าทำไมเธอถึงวาดหัวใจดวงเล็กๆ ที่มือของลูกชาย และมันเป็นสิ่งที่ไม่อาจพาความรู้สึกออกจากจุดนั้นได้     มันคือเรื่องของการต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิต Liz เผยว่าเธอเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอดลูกคนที่ 3 ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวเธอมักจะพูดถึงธรรมชาติของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด     Liz บอกว่า “เราจำเป็นต้องพูดแม้ว่าเราจะไม่ต้องการ แม้ว่ามันจะไม่น่าดู หรือแม้ว่ามันเรื่องน่าอับอายและอึดอัดก็ตาม เพราะ 1 ใน 8 ของผู้หญิงต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้าความวิตกกังวลหลังคลอด” และเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงวาดหัวใจดวงน้อยที่มือของลูก เพราะคนที่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้านั้นไม่ใช่เธอแต่เป็นลูกน้อยของเธอ Luca     ในฐานะผู้ที่เขียนบอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาทางจิตเป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ทำให้ Liz สังเกตเห็นความผิดปกติของ Luca…

  • ศิลปินชาวอินเดียใช้ผมของมนุษย์ สร้างภาพวาดสุดงดงามออกมา ราวกับวาดด้วยดินสอ

    ศิลปินชาวอินเดียใช้ผมของมนุษย์ สร้างภาพวาดสุดงดงามออกมา ราวกับวาดด้วยดินสอ

    เราอาจจะเคยเห็นศิลปินบางคนสร้างงานศิลปะจากเส้นผม แต่รู้มั้ยว่าเบื้องหลังของการทำไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะการนำเส้นผมมาเรียงร้อยเป็นภาพคนหรือสัตว์ที่มีความละเอียดสูง อย่างไรก็ตามศิลปินหนุ่มชาวอินเดีย Midhun R.R ได้พัฒนาเทคนิคที่ช่วยให้เขาจัดการกับเส้นผมนับพันเส้นในการสร้างงานศิลปะ จนออกมาน่าประทับใจมาก     วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับ Midhun ในการสร้างงานศิลปะจากเส้นผมคือ เส้นผมจำนวนหนึ่ง เข็มด้ามยาวเพื่อใช้สำหรับจัดเรียงเส้นผม และแน่นอนต้องใช้กระดาษสีขาวเพื่อที่จะมองเห็นได้ชัดเจน     จากคลิปวิดีโอข้างบนที่ถูกโพสต์ลงในยูทูบ อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ Midhun ยอมรับว่าการจัดเรียงเส้นผมตามรูปที่ต้องการนั้น มันยากกว่าที่คิดไว้มาก เขาบอกว่าเพื่อให้การจัดการเส้นผมง่ายมากขึ้น เขาต้องตัดเส้นผมให้มีความยาว-สั้นที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับภาพที่เขาต้องการสร้างและขนาดของกระดาษ     เมื่อศิลปินสร้างงานจนเสร็จและพอใจกับงานชิ้นนั้นแล้ว เขาจะเอากระจก 2 แผ่นมาประกบทับไว้ เพื่อที่จะสามารถเก็บรักษาได้ในระยะยาว โดยไม่ทำลายรายละเอียดของภาพ     Midhun เขียนในบล็อกของเขาว่า “ผมได้พัฒนารูปแบบศิลปะของตัวเอง ซึ่งเป็นงานที่มีเส้นผมเป็นองค์ประกอบเพียงอย่างเดียว” “จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมว่าการจัดการเส้นผมให้เกิดเป็นภาพที่เราต้องการนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างไรก็ตาม ผมพยายามหาเทคนิคใหม่ๆ “ “ผมที่ถูกนำมาใช้งานศิลปะนี้เป็นผมที่ใช้สำหรับการบำบัดทางเคมี ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการติดเชื้อบนผิวหนังและเกิดภูมิแพ้ ดังนั้นสิ่งสำคัญคัญต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง”     อย่างไรก็ตาม Midhun เขามีประสบการณ์และคลุกคลีอยู่กับเส้นผมมานานหลายปีแล้ว ดังนั้นจึงไม่เกิดอาการขั้นต้น แต่หากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเราๆ คิดจะลองทำบ้างควรสวมถุงมือป้องกันอย่างที่ศิลปินแนะนำไปนะคะ   ที่มา odditycentral

  • 22 สัตว์เลี้ยงผู้มีความสามารถในการหาที่อบอุ่นอยู่ ดูแล้วช่วยคลายหนาวได้ดียิ่งนัก

    22 สัตว์เลี้ยงผู้มีความสามารถในการหาที่อบอุ่นอยู่ ดูแล้วช่วยคลายหนาวได้ดียิ่งนัก

    ใครที่เลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะหมาหรือแมว จะรู้ดีว่าพวกมันมีความสามารถในการหาที่อบอุ่นให้ตัวเองอยู่ แล้วมันก็ไม่สนด้วยนะว่าที่ตรงนั้นจะเป็นของใคร ถ้ามันคิดจะอยู่มันจะยึดครองมาให้ได้ เพราะแบบนั้นเลยทำให้คนเลี้ยงสัตว์รู้สึกว่าตัวเองถูกรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวในบางครั้ง แต่ก็โกรธไม่ลงหรอก เพราะภาพที่เห็นมันทำให้รู้สึกอบอุ่นไปกับมันด้วย   1. มนุษย์…เราต้องการเสื้อผ้า รองเท้า และมอเตอร์ไซค์ของคุณ ส่งมันมาให้เราเดี๋ยวนี้   2. นี่มันเปลชั้นดีเลยนะเนี่ย   3. สนใจเค้าหน่อยสิตะเอง   4. อยู่ในนี้นานไปแล้วนะ ไหวป่าว?   5. ไม่มีที่ไหนอุ่นไปกว่าการซุกตัวในถุงเท้าอีกแล้ว   6. โทษนะ ช่วยเข็นเค้าไปหน่อยจิ   7. มนุษย์ต้องทำช่องนี้ไว้ให้เราแน่ๆ พอดีเป๊ะอะ   8. เฮ้ ขอเข้าไปด้วยหน่อยนะ   9. ทุกอย่างยังโอเคดี ไม่มีอะไรให้ต้องช่วยหรอก จริงจริ๊ง!!   10. เค้าอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะ   11. จ๊ะเอ๋! ว่าแล้วเชียว ทำไมคอมฯ มันทำงานผิดปกติ ที่แท้เจ้าขนปุยนี่เอง…

  • ศิลปินถ่ายภาพ “หน้าต่าง” บานเดิมมาตลอด 12 ปี เห็นการเปลี่ยนแปลงจนถึงวาระสุดท้าย

    ศิลปินถ่ายภาพ “หน้าต่าง” บานเดิมมาตลอด 12 ปี เห็นการเปลี่ยนแปลงจนถึงวาระสุดท้าย

    ในโลกนี้นั้นไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากความเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างย่อมเหี่ยวแห้ง โรยรา และเสื่อมสลายไป ด้วยเหตุนี้ Alper Yesiltas นักกฎหมายและช่างภาพจึงถ่ายทอดความเปลี่ยนของสรรพสิ่งผ่านหน้าต่างใบเดิม ตลอด 12 ปี จนกระทั่งวาระสุดท้ายของมัน     Alper อาศัยอยู่ในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นเวลา 24 ปี และเห็นหน้าต่างใบหนึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องของเขาในมุมเดิมๆ ทุกวัน หากหน้าต่างบานนี้เป็นคน มันก็คือคนที่ Alper เห็นทุกวันและอาจจะกลายเป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงเริ่มถ่ายรูปหน้าต่างบานนี้ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันของแต่ละปี     ในช่วงเวลานั้นเขาได้นำภาพบางส่วนที่ถ่ายโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ตด้วย จนได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก บางสำนักพิมพ์ได้นำภาพของเขาไปขึ้นปกหนังสือ และมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกถูกจัดแสดงในงานนิทรรศการ กระทั่งวันหนึ่ง เจ้าของอาคารตัดสินใจจะรื้อถอนอาคารเพื่อสร้างใหม่ และในระหว่างการรื้อถอนนั้น Alper ได้มีโอกาสถ่ายภาพสุดท้ายของหน้าต่างบานนั้นด้วย นั่นคือภาพสุดท้ายของหน้าต่างที่เขาเห็นทุกวัน… ติดตามผลงานภาพถ่ายอื่นๆ ของ Alper ได้ที่อินสตาแกรม alperyesiltas     ศิลปินได้เห็นหน้าต่างบานเดิมมา 24 ปี และได้ถ่ายรูปมันตลอด 12 ปี . . . . . . .…

  • 6 ดาราเกาหลี กับเหตุผลส่วนตัวที่ว่า ‘ปฏิเสธการใช้สื่อโซเชียล’ ไม่ใช่กลัวแม่ว่าแต่มากกว่านั้น

    6 ดาราเกาหลี กับเหตุผลส่วนตัวที่ว่า ‘ปฏิเสธการใช้สื่อโซเชียล’ ไม่ใช่กลัวแม่ว่าแต่มากกว่านั้น

    เวลาที่เราปลื้มศิลปินคนไหนมากๆ เรามักจะติดตามชีวิตส่วนตัวของพวกเขาผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และช่องอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้รู้จักและใกล้ชิดให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งทางศิลปินเองก็สามารถใช้ช่องทางนี้ในการโปรโมตผลงานและกระชับความสัมพันธ์กับแฟนคลับได้ตลอดเวลา แต่สังเกตมั้ยว่าดาราบางคนโดยเฉพาะศิลปินเกาหลีมักจะปฏิเสธการใช้สื่อโซเชียล แน่นอนว่าพวกเขาคงจะมีเหตุผลส่วนตัว ว่าแต่เหตุผลนั้นจะเป็นอะไรนะ?   1. Kang Dong Won เขาให้เหตุผลว่า “ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพูดอะไรมากกับคนที่ไม่รู้จัก ทุกคนมีบุคลิกที่แตกต่างกัน ผมเลยไม่รู้ว่าจะสามารถสื่อสารกับพวกเขาได้ดีผ่านทางโซเชียลหรือเปล่า”   2. Gong Yoo คุณสามีแห่งชาติคนนี้บอกว่า “ถ้าคุณเปิดเผยชีวิตส่วนตัวผ่านโซเชียลมีเดีย คุณอาจจะได้บางสิ่งกลับมาจากมัน แต่คุณก็จะสูญเสียบางอย่างไปเช่นกัน ดังนั้นผมก็เลยพยายามที่จะไม่เปิดเผยชีวิตส่วนตัวของตัวเอง”   3. Ha Jung Woo โอปป้าพูดเพียงสั้นๆ ว่า “ผมไม่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้” อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่า อาจจะเริ่มใช้สื่อโซเชียลเมื่ออายุ 50 ปี   4. Song Joong Ki สามี (ของคนอื่น) บอกว่า “เรื่องเทคโนโลยีของผมค่อนข้างแย่ ผมใช้ไม่ค่อยเป็น ก็เลยไม่ใช้มันซะเลยจะดีกว่า ผมแค่ใช้ไม่เป็นจริงๆ นะ” ….โถๆ มามะ จะสอนให้  …

  • ปฏิกิริยาของเหล่าชาวเน็ตเมื่อ ‘เต๋อ ฉันทวิชช์’ ออกมายอมรับแบบแมนๆ ‘ก็ชอบอ่ะครับ’ แอร๊ยยย!!

    ปฏิกิริยาของเหล่าชาวเน็ตเมื่อ ‘เต๋อ ฉันทวิชช์’ ออกมายอมรับแบบแมนๆ ‘ก็ชอบอ่ะครับ’ แอร๊ยยย!!

    ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แฟนๆ ถึงกับฟินไม่หยุดเมื่อข่าวกุ๊กกิ๊กกันระหว่างเต๋อ ฉันทวิชช์ และใหม่ ดาวิกา จนมีข่าวออกมาว่าทั้งคู่ซุ่มคบกันมา 3-4 เดือนแล้ว แน่นอนว่ามีชาวเน็ตมากมายหลายคนเรียกว่าจนเกือบทั่วฟ้าเมืองไทยเลยทีเดียวได้ออกมาเสนอความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา และส่วนใหญ่เองก็มโนขอพรให้มันเป็นความจริง     ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา หนุ่มเต๋อได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ เคลียร์ทุกประเด็น โดยบอกว่าเรื่องที่ว่าแอบคบกัน 3-4 เดือนนั้นไม่เป็นความเป็นจริง แต่ประเด็นหลังจากนั้นทำเอาแฟนคลับฟินหนักกว่าเดิมอีก… ในสัมภาษณ์นั้น หนุ่มเต๋อเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า “ผมชอบอ่ะครับ ประมาณนั้น แต่จริงๆ ก็ไม่เชิงจีบนะ ผมคิดว่ามันเป็นการพูดคุยศึกษาตัวตนเพื่อให้รู้จักกันไปเรื่อยๆ มากกว่า” และยังบอกอีกว่าได้เริ่มคุยกับสาวใหม่ดาวิกาเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมนี้เอง โดยเริ่มจากการขอไลน์ของเธอตอนปิดกล้องละครเรื่อง ชายไม่จริงหญิงแท้ เพื่อที่จะส่งรูปให้     โอ้โห เป็นการให้สัมภาษณ์ที่ทั้งฟินและเซอร์ไพรส์มาก โดยเฉพาะแฟนคลับที่จิกหมอนรอลุ้นกันอยู่แล้ว ฟังสัมภาษณ์จบคือเหมือนฝันเป็นจริงอะ และนี่คือปฏิกิริยาของชาวเน็ต   สาวแก้มเองก็เขิลไปกับเค้าด้วย   ขุ่นแม่พี่เกล้าพร้อมดันจ้า   เต๋อคือผู้ชายในฝันเลยอะ   ตอบได้โคตรแมน แบบนี้แหละที่สาวๆ ต้องการ   จากสัมภาษณ์ของเต๋อ ทำให้ชาวเน็ตมองสาวใหม่เปลี่ยนไปเลย  …

  • ‘Jung Hye In’ ลงทุนเปลี่ยนลุค หั่นผมสั้นรับบทบาทในซีรีส์ ดูยังไงก็ผู้ช๊ายย ผู้ชายย…

    ‘Jung Hye In’ ลงทุนเปลี่ยนลุค หั่นผมสั้นรับบทบาทในซีรีส์ ดูยังไงก็ผู้ช๊ายย ผู้ชายย…

    ใครที่ชอบดูซีรีส์เกาหลีหรือชอบติดตามวิถี K-Pop คงจะชื่นชอบศิลปินเป็นพิเศษหลายคน แต่มีอยู่คนหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในตอนนี้ เพราะมีหน้าตาที่สวยเด่นเป็นเอกลักษณ์ เธอคนนี้คือ Jung Hye In นักแสดงสาววัย 27 ปี ที่รับบทเป็นเพื่อนนางเอกในซีรีส์เรื่อง Jugglers ของช่อง KBS ที่เพิ่งจบไปไม่นาน     หลายคนอาจจะคิดว่าเธอเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่จริงๆ แล้ว เธอเคยมีผลงานการแสดงมาแล้วหลายเรื่อง เช่น Save The Family, Healer และ Doctor Stranger     แต่การที่ Hye In ได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากเล่นเรื่อง Jugglers อาจเป็นเพราะเธอเปลี่ยนลุคด้วยการหั่นผมสั้นเพื่อสวมบทเป็น Park Kyung Rye ผู้จัดการร้านกาแฟที่มีบุคลิกแมนๆ หน่อย     Hye In ตอนไว้ผมยาว   เธอดูเป็นสาวหวาน น่ารักใสๆ   และนี่คือตอนเธอตัดผมสั้นเพื่อปรับลุคให้เข้ากับบทบาทที่ได้รับ   ใครที่ไม่เคยติดตามผลงานเธอมาก่อน อาจจะคิดว่าเธอเป็นทอม ไม่ก็หนุ่มน้อยหน้าหวานไปเลยก็ได้   มันก็จะแมนๆ หน่อยอะนะ   แม้จะตัดผมเพื่อแสดงละครโดยเฉพาะ…

  • จีนประสบความสำเร็จ ‘โคลนนิ่งลิง’ 2 ตัวแรกของโลก ทำให้โลกเข้าใกล้การโคลนมนุษย์มากขึ้น

    จีนประสบความสำเร็จ ‘โคลนนิ่งลิง’ 2 ตัวแรกของโลก ทำให้โลกเข้าใกล้การโคลนมนุษย์มากขึ้น

    คงไม่ต้องบอกว่าทุกวันนี้โลกเรามีความก้าวหน้าในเรื่องเทคโนโลยีมากแค่ไหน เห็นได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำที่บางอย่างก็ล้ำซะจนตามไม่ทัน และข่าวดีล่าสุดคือ จีนประสบความสำเร็จในการโคลนนิ่งลิง 2 ตัวแรกของโลก โดยใช้เทคนิคเดียวกับที่สร้างแกะโคลนนิ่ง Dolly     ทั้ง 2 ตัวเป็นลิงแสมหางยาว มีชื่อว่า Zhong Zhong และ Hua Hua พวกมันเกิดเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนในห้องทดลองในประเทศจีน นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าประชากรลิงมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิจัยโรคในมนุษย์อีกด้วย     ทางด้าน Qiang Sun จากสถาบัน Chinese Academy of Sciences Institute of Neuroscience บอกว่าลิงโคลนจะเป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาโรคทางพันธุกรรม ได้แก่ โรคมะเร็งบางชนิด ระบบย่อยอาหาร และความผิดปกติทางภูมิคุ้มกัน เขาเสริมอีกว่า “ทุกวันนี้เรามีคำถามมากมายเกี่ยวกับวานรวิทยา ซึ่งคำตอบของคำถามเหล่านี้สามารถศึกษาได้จากแบบจำลองนี้”     นักวิจัยของจีนระบุด้วยว่าลิงทั้งสองตัวนี้ยังต้องได้รับอาหารผ่านทางขวด และกำลังเติบโตในอัตราปกติ โดยพวกเขาคาดว่าจะมีลิงแสมโคลนนิ่งเกิดขึ้นอีกหลายตัว แม้ว่านี่จะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของจีน แต่นักวิจารณ์ได้ออกมาบอกว่าการทดลองนี้ก่อให้เกิดความกังวลในด้านจริยธรรม เพราะมันเป็นสัญญาณว่าโลกขยับเข้าใกล้การโคลนนิ่งมนุษย์มากขึ้น     ขณะเดียวกัน ศาสตราจารย์ Robin Lovell-Badge จากสถาบัน The Francis Crick Institute ในลอนดอนก็ออมายืนยันว่าเทคนิคการโคลน Zhong Zhong…

  • สถานีตำรวจจีนถูกแมวยึดจนล้นโรงพัก งานนี้ต้องขอความช่วยเหลือจากประชาชน ให้รับไปเลี้ยงหน่อย

    สถานีตำรวจจีนถูกแมวยึดจนล้นโรงพัก งานนี้ต้องขอความช่วยเหลือจากประชาชน ให้รับไปเลี้ยงหน่อย

    เวลาเห็นหมาแมวตกอยู่ในอันตราย เรามักจะขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำตรวจ พอช่วยเสร็จ ตัวที่มีเจ้าของก็กลับบ้านไป แล้วตัวที่ไม่มีเจ้าของล่ะ ตำรวจจะทำยังไงกับพวกมัน? แรกๆ ตำรวจอาจจะเอาไปไว้ที่โรงพักก่อนแล้วค่อยหาบ้านใหม่ให้พวกมัน แต่การหาบ้านให้สัตว์เลี้ยงมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ยิ่งมีหลายตัวยิ่งต้องใช้เวลานาน เช่นเดียวกับสถานีตำรวจใจมณฑลเจียงซู ประเทศจีนที่ถูกแมวเหมียวยึดจนล้นโรงพัก หลังจากตำรวจช่วยพวกมันมาจากโรงฆ่าสัตว์     ย้อนไปก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงกลางดึกคืนหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ Changshu ได้เรียกรถบรรทุกต้องสงสัยคันหนึ่งให้จอดเพื่อทำการตรวจสอบ เมื่อตรวจค้นภายในก็พบกรงแมวมากมายพร้อมกับแมวที่ถูกขโมยมา 69 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าพวกมันกำลังจะกลายเป็นอาหารเย็นของใครบางคน หลังจากที่ช่วยเหล่าแมวเหมียวจากรถบรรทุกคันนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปยังศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อให้รับพวกมันไปดูแลต่อไป     แต่ทางศูนย์พักพิงตอบมาว่าพวกเขาไม่มีที่พอสำหรับแมวมากมายขนาดนั้น… เมื่อรู้แบบนั้น ตำรวจไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพามันกลับไปอยู่ในโรงพักและดูแลพวกมันที่นั่น แน่นอนว่าสถานีตำรวจไม่ได้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆ ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงแมว ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องของบประมาณเพิ่ม รวมทั้งควักเงินจากกระเป๋าตัวเองออกมาเพื่อซื้ออาหารให้แมวและลูกมิ้วน้อยอีกหลายสิบตัว     พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านทางโซเชียลเพื่อให้ผู้คนช่วยรับเลี้ยงน้องแมวเหล่านี้ และโพสต์นี้ได้ถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว เว็บไซต์ข่าว Btime.com รายงานว่าตั้งแต่นั้นมา ผู้คนจำนวนมากได้บริจาคสิ่งของจำเป็นเข้ามาให้ ไม่เพียงเท่านั้นบางคนยังรับน้องแแมวกลับไปดูแลที่บ้านด้วย   ที่มา medium

  • น้องหมาเนียนขึ้นรถไฟใต้ดิน ตามจับวุ่นวาย เจ้าของแฉ นิสัยเปลี่ยนตั้งแต่คบ “ไซบีเรียน”!?

    น้องหมาเนียนขึ้นรถไฟใต้ดิน ตามจับวุ่นวาย เจ้าของแฉ นิสัยเปลี่ยนตั้งแต่คบ “ไซบีเรียน”!?

    มันจะไม่ผิดอะไรเลยถ้าสัตว์เลี้ยงทำตัวเหมือนสัตว์ทั่วไป แต่บางตัวเนี่ยสิอยู่กับมนุษย์จนเคยชิน เห็นมนุษย์ทำอะไรก็อยากทำกับเค้าหมด แบบนี้ก็วุ่นวายสิหนู นี่ไม่ได้ว่าสัตว์เลี้ยงทุกตัวหรอกนะ กำลังบ่นเจ้าสุนัขจอมซนที่แอบขึ้นรถไฟใต้ดิน ทำเอาเจ้าหน้าที่ต้องตามจับวุ่นวายกันไปหมด     เรื่องนี้เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ในเมืองต้าเหลียน ประเทศจีน โดยมีสุนัขพันธุ์ซามอยด์ตัวหนึ่ง แอบหนีออกจากบ้านโดยที่เจ้าของไม่รู้ และมันก็แอบเข้ามาในสถานีรถไฟใต้ดินแบบเนียนๆ ไม่ใช่แค่เข้ามาในสถานี แต่มันยังรอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้อย่างง่ายดายก่อนจะลงบันไดผ่านด่านและเข้าไปนั่งในรถไฟจนได้ เรื่องตั๋วนะหรอ อย่าถามเลย ไม่มี ไม่ซื้อ ไม่สนด้วย     กระทั่งรถไฟออกจากชานชาลา น้องหมาคงคิดว่ารอดแล้วมั้ง ที่ไหนได้ หลังจากนั่งไปได้แค่สองป้าย มันก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้ามารวบตัวไว้ได้สำเร็จ ส่วนเจ้าของน้องหมานั้นกว่าจะรู้ว่ามันหายไปจากบ้านเวลาก็ล่วงเลยไปถึง 2 ชั่วโมงแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ในสถานีรถไฟทันที     เจ้าของบอกว่าปกติแล้วเจ้าซามอยด์ตัวนี้มันไม่ได้มีนิสัยหนีเที่ยวแบบนี้หรอก แต่ช่วงนี้มันสนิทกับไซบีเรียนฮัสกี้อีกตัวที่เลี้ยงไว้ นิสัยเลยเปลี่ยนไป เผลอไม่ได้ชอบแอบออกไปเที่ยวเป็นประจำ นี่ถ้าเจ้าไซบีเรียตัวนี้ได้ยิน มันคงจะพูดว่า ‘ตรูเป็นเด็กดีอยู่บ้าน ก็หาความผิดมาโยนให้จนได้’ ขนาดชาวเน็ตจีนยังมาแซวเลยว่าโยนความผิดให้ไซบีเรียนแบบนี้ก็ได้เหรอ     บางคนบอกว่ามันอาจจะเป็นแผนของเจ้าหมาไซบีเรียที่อยากครอบครองเจ้าของไว้คนเดียว มันเลยสอนให้ซามอยด์หนีออกจากบ้าน แหม๊ มันร้ายจริงๆ แต่ก็มีอีกหลายคนคอมเมนท์บอกว่าใครที่เลี้ยงสุนัขซามอยด์จะรู้ว่ามันเป็นหมาที่เอ๋อมากจริงๆ นะ มันเลยหนีออกมาแบบไม่กลัวอะไรแบบนี้ไง…

  • คู่รักพักน้ำหนัก พบรักครั้งเยาว์วัย หมั้นกันแล้วแต่ถ้าไม่ได้ลงแข่งเพาะกาย ยังไงก็ไม่แต่ง!!

    คู่รักพักน้ำหนัก พบรักครั้งเยาว์วัย หมั้นกันแล้วแต่ถ้าไม่ได้ลงแข่งเพาะกาย ยังไงก็ไม่แต่ง!!

    คู่รักหลายๆ คู่ อาจมีเงื่อนไขบางอย่างก่อนตัดสินใจแต่งงาน เช่น การหาเงินสินสอดให้ได้ตามที่อีกฝ่ายเรียก หรือการเลิกทำบางอย่างที่อีกฝ่ายไม่ชอบ เช่น สูบบุหรี่ ติดเที่ยว หรือเจ้าชู้ เป็นต้น แต่สำหรับคู่รัก Dennis และ Melissa Hong พวกเขามุ่งมั่นที่จะลดน้ำหนักตามเป้าหมาย และหากว่าทำไม่ได้ก็จะไม่มีงานแต่ง…     Melissa เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายด้านการทำธุรกิจ ขณะที่ Dennis เปลี่ยนอาชีพไปเรื่อยๆ นักชีววิทยาวิวัฒนาการ นักวิชาการของ SeaWorld นักเล่นไพ่โป๊กเกอร์มืออาชีพ และตอนนี้กำลังศึกษาที่จะเป็นนักบำบัดคู่สมรสและครอบครัว ในระหว่างที่ผลักดันงานบริการเป็นโค้ชให้คำแนะนำการออกเดทของตัวเอง ทั้งคู่เจอกันในแอพหาคู่ออนไลน์ eHarmony เมื่อปี 2011 และได้หมั้นกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2014… เช่นเดียวกับคู่รักทั่วไปที่อยากมีรูปร่างดีก่อนวันสำคัญของพวกเขาจะมาถึง แต่พวกเขาตระหนักว่าเป้าหมายแค่นั้นคงจะไม่พอ ดังนั้นแทนจะไปยิมเพื่อลดน้ำหนักเท่าที่จะทำได้ ทั้งคู่กลับตั้งเป้าหมายที่จะฝึกซ้อมเพื่อเข้าแข่งขันเพาะกาย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้งานแต่งของพวกเขาเกิดขึ้นได้     Dennis บอกว่า “เมื่อเราเริ่มวางแผนจัดงานแต่งและได้มีการพูดถึงเรื่องรูปร่างของเรา อยู่ดีๆ ไอเดียก็ผุดขึ้นในหัว สักพัก Melissa พูดขึ้นว่าเธออยากเข้าแข่งขันเพาะกายก่อนแต่งงาน ผมมองหน้าเธอแล้วพูดว่า “จริงดิ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ทางด้าน Melissa บอกว่า “ปัญหาของฉันคือ ฉันไม่เคยควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างจริงจังเลย อย่างไรก็ตาม…

  • สาวอาสาอุ้มท้องให้เพื่อนสนิท แต่ ‘ความตาย’ กลับพรากเพื่อนรักไปก่อนจะได้เห็นหน้าลูก

    สาวอาสาอุ้มท้องให้เพื่อนสนิท แต่ ‘ความตาย’ กลับพรากเพื่อนรักไปก่อนจะได้เห็นหน้าลูก

    เพื่อนแท้ไม่ใช่คนที่จะอยู่กับเราเฉพาะช่วงเวลาแห่งความสุขหรือเฉพาะตอนมีความทุกข์ แต่คือคนที่จะอยู่เคียงข้างเราในทุกช่วงเวลาและไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหนความเป็นเพื่อนก็จะไม่จางหายไปตามกาลเวลา เหมือนกับคู่เพื่อนรัก Bec Arena และ Jes Brockie ที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ชั้นประถม พวกเขาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานานกว่า 20 ปี กระทั่งปีที่แล้ว ทั้งคู่สนิทกันมากกว่าที่เคยเป็น เมื่อ Jes ตกลงที่จะตั้งครรภ์แทน Bec Bec ป่วยเป็น Cystic fibrosis (CF) โรคเรื้อรังที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เป็นภาวะที่ทำให้เกิดอันตรายได้ถึงชีวิต แต่เธอก็ยังอยากที่จะมีลูกกับสามี Gareth แม้จะมีความเสี่ยงมากก็ตาม     เมื่อ Jes ทราบความทุกข์ของเพื่อน เธอกับสามี Jeremy เลยตัดสินใจจะมอบของขวัญที่ดีที่สุดในโลกให้กับเพื่อนสนิทที่เธอรัก ด้วยการอาสาตั้งท้องแทนเธอ สำหรับ Jeremy นั้น เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในแอฟริกาใต้ที่เล่นให้กับ Mamelodi Sundowns FC และ New Zealand All White ทั้งคู่รู้สึกยินดีมากที่จะได้มอบความสุขให้เพื่อนที่กำลังเป็นทุกข์ ดังนั้นทั้ง 2 คู่ จึงแบ่งปันความสุขนี้ด้วยการทำวิดีโอประกาศเรื่องการตั้งครรภ์     ในวิดีโอ มีข้อความเขียนว่า “ไม่มีความลับใดๆ ที่โรค Cystic fibrosis จะทำให้หนทางการเป็นพ่อแม่ของเราเป็นเรื่องยากและวุ่นวาย ดังนั้นความคาดหวังสำหรับทารกน้อย Arena อีกไม่เกิน 6 เดือนก็ยังทำให้พวกเรารู้สึกเหมือนฝันอยู่เลย”…

  • ดาวโป๊ลูกครึ่งลาว-อเมริกัน อยากได้พระเอกเอเชียมาเล่นด้วย งานนี้ชายไทยสนใจกันมั้ย!?

    ดาวโป๊ลูกครึ่งลาว-อเมริกัน อยากได้พระเอกเอเชียมาเล่นด้วย งานนี้ชายไทยสนใจกันมั้ย!?

    หนุ่มๆ ที่ชอบดูหนังผู้ใหญ่ เวลาเห็นนางเอกคนไหนสวยๆ อึ๋มๆ และลีลาเด็ด คงคิดในใจว่าอยากมีโอกาสแอ้มเธอคนนั้นสักครั้ง แหน่ะ อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิด รู้หรอกน่า ถ้าใครเคยคิดแบบนั้นก็เชิญพบกับหนึ่งในนักแสดงหนังผู้ใหญ่ที่เป็นที่จับตามองมากที่สุดคือ Brenna Sparks สาวลูกครึ่งลาว-อเมริกัน วัย 25 ปี ที่เล่นหนังโป๊มานานกว่า 1 ปีแล้ว และมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว     ล่าสุด Sparks ทำให้หนุ่มๆ ในแถบเอเชียเซอร์ไพรส์ ดีใจ และตื่นเต้นแบบสุด เมื่อเธอโพสต์ทวิตบอกว่าวงการหนังโป๊ในสหรัฐอเมริกาต้องการผู้ชายเอเชียมากขึ้น     สื่อนอกรายงานว่าผู้ชายเอเชียในแวดวงหนังโป๊ไม่ว่าที่ไหนก็ตามเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก ยกเว้นประเทศในแถบเอเชีย อย่างญี่ปุ่น ทางด้าน Sparks ในฐานะผู้หญิงที่มีเชื้อสายลาว เธอแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีผู้ชายเอเชียอยู่ในวงการนี้ด้วย เพราะเธอไม่เคยได้เล่นหนังกับผู้ชายเอเชียเลย     นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกประหลาดในมาก เมื่อฟอลโลเวอร์บางคนของเธอในทวิตเตอร์บอกว่าจริงๆ แล้วผู้ชายเอเชียนั้นเก่งกาจในเรื่องนี้มากและตอนนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยที่โลดแล่นอยู่ในแวดวงหนังโป๊     อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หลายคนพยายามแนะนำผู้ชายเอเชียให้ กลับมีคนกลุ่มหนึ่งกลับมาเล่นมุขล้อเลียนซะงั้น โดยกล่าวหาว่า เป็นเพราะเจ้าโลกของผู้ชายเอเชียนั้นเล็กกว่ามาตรฐานไงล่ะ   ของผู้ชายเอเชียเล็กกว่ามาตรฐาน แบบนี้เล่นหนังโป๊ไม่ได้หรอก   ปัญหาเดียวคือจู๋ของผู้ชายเอเชียส่วนใหญ่เล็ก   แม้จะมีผลวิจัยที่พิสูจน์แล้วว่า…

  • สารคดีอาชญากรรม ฆาตกรผู้สังหารหญิงขายบริการ 49 ราย ก่อนที่จะบดร่างละเอียดปกปิดหลักฐาน…

    สารคดีอาชญากรรม ฆาตกรผู้สังหารหญิงขายบริการ 49 ราย ก่อนที่จะบดร่างละเอียดปกปิดหลักฐาน…

    ปกติแล้ว ฆาตกรเวลาลงมือฆ่าคนเสร็จ พวกเขามักจะทำลายหลักฐานด้วยกรนำศพไปถ่วงน้ำบ้าง เผาทิ้งบ้าง แต่สำหรับเขาคนนี้เลือกที่จะบดศพให้เละละเอียด นี่คือสารคดีเรื่องราวของ Robert Pickton วัย 49 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู่ในประเทศแคนาดา ที่ลงมือฆ่าหญิงขายบริการกว่า 49 ราย ร่างของหญิงขายบริการเหล่านั้นถูกบดจนเละก่อนจะนำไปให้หมูในฟาร์มกินและบางส่วนขายให้กับลูกค้า ซึ่งบางคนเป็นตำรวจท้องถิ่น ในที่สุดเขาจึงถูกจับในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2002 ปัจจุบันเขาอายุ 68 ปี และยังคงอยู่ในคุกที่รัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา     อย่างไรก็ตามได้มีการเผยแพร่ตอนใหม่ของสารคดี Voice of A Serial Killer ที่ออกอากาศผ่านช่อง British network CBS Reality ในสหราชอาณาจักรเมื่อคืนวันพุธ ซึ่งเป็นข้อมูลเพิ่มเติมจากการตรวจสอบ รวมทั้งคำสารภาพของ Pickton ที่เล่าให้เพื่อนร่วมห้องขังฟัง ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมห้องขังคนนั้นคือสายลับจาก Royal Canadian Mounted  เขาจึงพูดกับเพื่อนคนนั้นว่าเป้าหมายของเขาคือต้องการสังหารผู้หญิง 50 ราย… ย้อนกลับไปเมื่อปี 2002 ตอนที่ Pickton ถูกจับ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเจอข้าวของของผู้หญิงหลายรายที่หายไปในฟาร์มของเขา     หลังจากที่ถูกจับกุม ตำรวจพบร่องรอย DNA ของผู้หญิงที่หายไป…

  • เมื่อหิมะตกหนักในโตเกียว ชาวญี่ปุ่นก็เลยออกมาปั้น ‘ตุ๊กตาหิมะ’ แบบขั้นเทพ ไม่เหมือนที่ไหนๆ!!

    เมื่อหิมะตกหนักในโตเกียว ชาวญี่ปุ่นก็เลยออกมาปั้น ‘ตุ๊กตาหิมะ’ แบบขั้นเทพ ไม่เหมือนที่ไหนๆ!!

    เมื่อไม่กี่วันก่อน เราได้นำเสนอสภาพอากาศในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นที่กำลังประสบภัยหนาวและพายุหิมะ ที่ว่ากันว่าหนาวและรุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว ส่งผลให้เที่ยวบินระหว่างประเทศต้องถูกยกเลิกไปกว่า 250 เที่ยว ด้วยกัน อ่านข่าวเก่า หนาวสะท้าน!! โตเกียวเผชิญหิมะถล่มหนัก รุนแรงสุดในรอบ 4 ปี นักท่องเที่ยวติดค้างเพียบ     ชาวญี่ปุ่นจะทำอย่างไรเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้? แน่นอน พวกเขาแทบจะไม่เป็นอันทำอะไรเลย แต่สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ ‘การปั้นตุ๊กตาหิมะ’ และนี่ไม่ใช่การปั้นตุ๊กตาหิมะทั่วไปแบบที่เราเคยเห็น แต่มันคือการโชว์ฝีมือศิลปะขั้นเทพผ่านแฮชแท็ก #雪だるま เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศที่เคร่งเครียดให้ดูผ่อนคลายลง และแน่นอน มันกลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก     การปั้นตุ๊กตาหิมะ ไม่ใช่การโชว์ฝีมือด้านประติมากรรมเท่านั้น แต่บางคนปั้นหิมะเพราะอยากทำความสะอาดหน้าบ้านหรือหน้าสำนักงาน แม้จะเอาหิมะออกไม่ได้ในตอนนี้ อย่างน้อยก็ทำให้มันน่าดูยิ่งขึ้น     ก๊อดซิลาบุกโตเกียว   ถือโอกาสตกแต่งหน้าบ้านซะเลย   แก๊งมินเนี่ยนก็มา   งือออ มันก็จะแบ๊วๆ หน่อย . .   เจ้าหมีแพนด้าของนั่งพักแป๊บ   แมวกวัก แต่คงไม่กวักเรียกหิมะเพิ่มหรอกนะ .   นี่แค่ปั้นเล่นๆ…

  • คุณหมอใจกล้าหน้าตาดี เดินตาม “รอยเลือดปริศนา” กลางห้าง จนสามารถช่วยเหลือได้ถึง 2 ชีวิต!!

    คุณหมอใจกล้าหน้าตาดี เดินตาม “รอยเลือดปริศนา” กลางห้าง จนสามารถช่วยเหลือได้ถึง 2 ชีวิต!!

    เมื่อเห็นคนทะเลาะวิวาทกันถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน หลายคนอาจจะเพิกเฉยหรือกลัวและวิ่งหนีไป เพราะทุกคนต่างก็ห่วงชีวิตตัวเองทั้งนั้น คุณหมอคนนี้ก็รักชีวิตตัวเองเช่นกัน แต่เมื่อเห็นการทะเลาะวิวาท เขาไม่ได้นิ่งเฉยหรือวิ่งหนีไป แต่เลือกที่จะเดินเข้าไปช่วยเหลือคนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นั้น     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน Luton สหราชอาณาจักร เมื่อช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยทางโฆษกของห้างบอกว่าความรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อวัยรุ่นชาย 2 คนทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรง ถึงขั้นคว้ามีดขึ้นมาแทงกัน ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตื่นตระหนกกับสิ่งที่เห็น บางคนร้องโวยวายด้วยความกลัว ในขณะที่บางคนวิ่งหนีออกจากตรงนั้นทันที     ต่อมาเวลาประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาถึงห้าง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่คุณหมอ Yasin Fatine วัย 29 ปี กลับมาเอารถที่ห้างดังกล่าวพอดี และเมื่อเห็นตำรวจวิ่งหน้าตื่น Fatine รู้ว่าต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะมีอะไรร้ายแรงจนกระทั่งเห็นรอยเลือดบนพื้น     ด้วยความเป็นหมอ ทำให้คุณหมอตระหนักได้ว่าเขาอาจจะต้องช่วยเจ้าของเลือดคนนี้ เพราะการที่มีรอยเลือดกลางห้างมันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ ดังนั้นเขาจึงเดินตามรอยเท้าเปื้อนเลือดนั้นไปเรื่อยๆ จนไปเจอที่ที่ผู้คนกำลังมุงดูและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกประมาณ 4 คน ภาพต่อมาที่เห็นคือมีวัยรุ่นชาย 2 คน นอนบาดเจ็บอยู่บนพื้นในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง โดยมีเลือดกระจายทั่วบริเวณนั้น     หนึ่งในสองคนนั้น มีเลือดไหลจากแขนของเขา ส่วนอีกคนมีเลือดไหลจากหัวเข่าข้างขวา “บาดแผลของเด็กหนุ่มดูไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่เพราะแผลถูกปิดไว้แล้ว แต่คนที่ถูกแทงที่ขาเสียเลือดมากและตัวเขาเริ่มซีด” คุณหมอกล่าว คุณหมอเลยเข้าไปตรวจดู…

  • ทำความรู้จัก “โรคกลัวการอยู่เดียว” ภัยเงียบที่อาจทำให้คุณเป็นกลายเป็น “โรคซึมเศร้า”

    ทำความรู้จัก “โรคกลัวการอยู่เดียว” ภัยเงียบที่อาจทำให้คุณเป็นกลายเป็น “โรคซึมเศร้า”

    เพื่อนๆ เคยกลัวการอยู่คนเดียวมั้ย? เราไม่ได้หมายถึงการอยู่ในคนในที่มืด ที่ร้าง หรือแค่ที่ใดที่หนึ่ง แต่เราหมายความรู้สึกกลัวที่จะอยู่คนเดียวในทุกๆ ที่จนทำให้การใช้ชีวิตประจำวันมีปัญหาไปด้วย ความรู้สึกที่ว่านี้ในทางจิตวิทยามีชื่อว่า Autophobia Isolaphobia และ Monophobia หรือโรคกลัวการอยู่คนเดียว โดยอาการของโรคนี้คือคุณจะรู้สึกกังวล หดหู่ และไม่มั่นใจเมื่อต้องอยู่คนเดียว สาเหตุของโรคกลัวการอยู่คนเดียว มักจะมาจากความรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งในบางช่วงเวลา ทั้งจากเพื่อน ครอบครัว รวมไปถึงคนรัก จนทำให้ความมั่นใจลดลงและกังวลเมื่อต้องอยู่คนเดียว   เพื่อให้เพื่อนๆ เห็นภาพของโรคกลัวการอยู่คนเดียวชัดขึ้น #เหมียวขี้ส่อง ขอแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเองที่เคยประสบมา และคิดว่าหลายๆ คนน่าจะเป็นเหมือนกัน   1. ไม่ชอบอยู่หรือทำอะไรคนเดียว ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง กินข้าว เดินเล่นในห้าง หรือแม้แต่ไปซื้อของในตลาด สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกกลัวที่จะทำคนเดียวลำพัง แต่ในอีกทางหนึ่ง คุณจะรู้สึกมีความสุขกับการใช้เวลาเงียบๆ อยู่คนเดียว   2. สูญเสียความมั่นใจเมื่อต้องอยู่คนเดียวในที่สาธารณะ เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องอยู่ในที่สาธารณะตามลำพัง คุณจะมีความกังวล หวาดระแวงเพราะคิดว่าคนอื่นกำลังจับจ้องมาที่คุณ แล้วก็จะเกิดความคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นานา จนอยากหนีออกจากตรงนั้น   3. พยายามแสร้งทำว่ามั่นใจ คุณจะพยายามทำตัวมั่นใจเสมอ เช่น พยายามเดินหลังตรง ไม่วอกแวก ทำตัวเหมือนเก่ง…

  • เจ้าเหมียวรักทาสมากเลยพิสูจน์ความรักนั้นด้วยการคาบ ‘ใบไม้แห้ง’ มาฝากทุกเช้า ไม่เคยขาด

    เจ้าเหมียวรักทาสมากเลยพิสูจน์ความรักนั้นด้วยการคาบ ‘ใบไม้แห้ง’ มาฝากทุกเช้า ไม่เคยขาด

    ต่อให้ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยง แต่สามัญสำนึกของพวกมันไม่ต่างจากมนุษย์เราเท่าไหร่หรอก พวกมันรู้จักรักคนที่รักมัน รู้จักตอบแทนคนที่ดูแลมัน และซื่อสัตย์กับคนที่จริงใจกับมัน เหมือนกับ Baloo เจ้าเหมียวที่รักเจ้าของตัวเองมากๆ และพิสูจน์ความรักนั้นด้วยการคาบใบไม้แห้งที่เพิ่งร่วงในวันนั้นมาให้เขาทุกๆ เช้า Baloo เข้ามาในชีวิตของ Ben ครั้งแรกที่เขาอยู่กับอดีตแฟนสาว โดยแฟนเก่าเป็นคนพาเจ้าเหมียวตัวนี้มาเซอร์ไพรส์ แต่ชายหนุ่มไม่พร้อมที่จะดูแล เลยส่งมันคืนไปให้เจ้าของเดิม     แต่หลังจากที่ส่งมันกลับ ทั้งคู่ก็รู้สึกว่าได้ทำผิดพลาดอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไปรับมันกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่แฟนสาวจะบอกเลิก Ben ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวได้พา Baloo ไปอยู่ด้วย แต่แล้วเธอก็ต้องประกาศให้คนรับเลี้ยงมัน เพราะเธอจะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกับครอบครัว ขณะนั้น Ben ไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาเลยตัดสินใจรับ Baloo มาอยู่ด้วยพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนร่วมที่พักของเขา     นับจากวันนั้นมา เจ้าเหมียวก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านที่มีผู้ชาย 6 คน และแฟนสาวของพวกเขาอีก 4 คน มีเสียงดังรบกวนจากปาร์ตี้ของพวกเขาบ่อยมาก แต่ Ben บอกว่าโชคดีที่เจ้า Baloo ดูจะไม่สนใจสักเท่าไหร่ ชายหนุ่มบอกว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่สักเท่าไหร่ แม้แต่มนุษย์เอง แต่ดูเหมือน Baloo จะชอบทุกสภาพสังคมโดยเฉพาะที่ที่มีอาหาร เวลามีปาร์ตี้มันก็จะเดินไปดูรอบๆ และได้รับความสนใจจากทุกคน” “มันเป็นแมวที่น่ารักมาก ทุกคนในอพาร์ทเมนต์นี้ดูเหมือนจะรู้จักชื่อของมัน เพราะมันชอบออกไปเที่ยวตามแฟลตอื่นๆ ด้วย”   …

  • 20 ภาพโฟโตชอปสุดเฟลของคนหัดตัดต่อ ไม่เนียนจนชาวเน็ตต้องบอกให้ไปเรียนมาใหม่

    20 ภาพโฟโตชอปสุดเฟลของคนหัดตัดต่อ ไม่เนียนจนชาวเน็ตต้องบอกให้ไปเรียนมาใหม่

    สังเกตมั้ยว่าทำไมบางคนในรูปดูดีกว่าตัวจริง? ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเดี๋ยวนี้มีแอปเยอะแยะ ใช้ไปสิ ไหนจะโฟโตชอปอีก แต่ถ้าแต่งหรือตัดต่อรูปไม่เนียน กลายอาจจะเป็นเรื่องฮาไปเลยนะ อย่างผู้คนเหล่านี้ที่ตัดต่อรูปลงโซเชียล แต่เพราะการตัดต่อที่ผิดพลาดและไม่เนียนพอ เลยถูกชาวเน็ตจับได้ จนกลายเป็นเรื่องฮาๆ ซะงั้น นี่คงจะเป็นมือใหม่หัดแต่งสินะ   1. อื้อหือ ซิกซ์แพ็กส์แน่นมาก สาวๆ อยากลองสัมผัสดูมั้ยละ?   2. ดูผิวหน้าพวกเค้าสิ อะไรจะเนียนปานน้านนน   3. พ่อหนุ่มกล้ามโต เบ่งกล้ามอวดสาวๆ   4. คอของ Alicia Vikander จากโปสเตอร์ Tomb Raider รอยต่อชัดเกิ๊นนน   5. หรือนี่จะเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ มีมือขวา 2 ข้าง   6. กะทำเอวบางด้วยโฟโตชอปซะหน่อย แต่ดันจัดตำแหน่งพลาดไปนิสสส   7. ที่กระเป๋ากางเกงมันขยายไปขนาดนั้น คงไม่ใช่เพราะก้นเธอใช่มั้ย?   8. โอ้ววไม่นะ คางเธอหายไปไหน   9. ที่เห็นนั่นคือผ้าขนหนูรองเอวใช่มั้ย  …

  • เผยโฉม ‘ท่านลอร์ด’ ผู้ผดุงประชากรแมวยักษ์ลายจุด ให้รอดพ้นจากการสูญสิ้นตัวตนบนโลก

    เผยโฉม ‘ท่านลอร์ด’ ผู้ผดุงประชากรแมวยักษ์ลายจุด ให้รอดพ้นจากการสูญสิ้นตัวตนบนโลก

    ช่วงนี้พูดคำว่า ‘ท่านลอร์ด’ ปุ๊บหลายคนคงจะนึกถึงแต่หนุ่มที่ว่ากันว่าเป็นมือที่ 3 ของขวัญกับกอล์ฟ แต่ท่านลอร์ดที่เราจะแนะนำให้รู้จักต่อไปนี้ ไม่ใช่มือที่ 3 ของใครอย่างแน่นอน นี่คือ ลอร์ด เสือดาวตัวผู้ที่ติดพันธุ์กับเสือดาวตัวเมียถึง 3 ตัวในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่เพราะมันเจ้าชู้นะ แต่เป็นผู้ผดุงประชากรแมวยักษ์ให้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์     รู้มั้ยว่ามีประชากรเสือดาวเหลืออยู่ในป่าเพียง 80 ตัวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เจ้าลอร์ดจึงต้องใช้ความเป็นชายของตัวเองช่วยเผ่าพันธุ์ให้อยู่รอดต่อไปบนโลกใบนี้ เรื่องราวของลอร์ดถูกบันทึกผ่านกล้องที่ติดตั้งไว้ใน Land of the Leopard Nature Reserve ทางตะวันออกของรัสเซีย ซึ่งเผยให้เห็นว่าเจ้าลอร์ดนั้นยุ่งมากแค่ไหนกับการทำภารกิจป่ามป๊าม     เจ้าลอร์ดถูกพบว่าอยู่กับเสือดาวตัวเมีย 3 ตัว คือ Amur, Pamela และ Nerussa ในอุทยานที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อนเพื่อช่วยอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ การที่ท่านลอร์ดตัวนี้ทำหน้าที่ไม่เคยขาดตกบกพร่อง แต่หมั่นป่ามป๊ามตัวเมียสม่ำเสมอ นั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่เฝ้าดูรู้สึกชื่นใจเป็นอย่างมาก     Amur เป็นเสือดาวไซบีเรีย ซึ่งเป็นพันธุ์เสือดาวที่ถูกคุกคามอย่างหนักในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขล่าสุดระบุว่ามีเสือดาวเหลือในป่าเพียง 80 ตัวเท่านั้น จริงๆ แล้ว นักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามให้การช่วยและปกป้องเผ่าพันธุ์เสือดาวมาตลอดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แต่จำนวนประชากรของพวกมันก็ยังคงลดลงเรื่อยๆ…

  • เปิดประวัติของ ‘ท่านลอร์ด’ บุรุษผู้รักหมาสุดใจ พร้อมเปย์มูลนิธิสัตว์แบบไม่แคร์ตังค์

    เปิดประวัติของ ‘ท่านลอร์ด’ บุรุษผู้รักหมาสุดใจ พร้อมเปย์มูลนิธิสัตว์แบบไม่แคร์ตังค์

    อื้อหือ พูดถึงข่าวเด่นประเด็นร้อน ณ วินาทีนี้คงไม่มีเรื่องไหนร้อนแรงไปกว่าเรื่องราวการยุติความรักอันหวานชื่นของนางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ และหนุ่ม กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล อีกแล้ว โดยหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ออกมาชี้แจงความจริงในฝ่ายของตนเอง ดูเหมือนเร่ื่องราวยิ่งบานปลายไปกันใหญ่ เพราะทั้งนางเอกสาวและหนุ่มกอล์ฟต่างก็พูดพาดพิงถึงครอบครัวอีกฝ่าย เท่านั้นยังไม่พอมีการโยงไปถึงเรื่องมือที่ 3 อีกด้วย เนื่องจากมีภาพที่ขวัญและครอบครัวไปนั่งทานข้าวกับหนุ่มคนนั้นในช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา     เมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้ สื่อต่างๆ จึงพุ่งประเด็นไปที่หนุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่ 3 คนนี้ ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และทำอะไร? แน่นอน เราชาวเหมียวเองก็ไม่พลาดเช่นกัน… ชายผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่ 3 ระหว่างขวัญกับกอล์ฟคนนี้คือ James Rudolph Palumbo เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ปี 1963 ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันอายุ 54 ปี มีลูกชาย 1 คน ชื่อ Alessandro Palumbo อายุ 27 ปี…

  • “K-Pop ทำให้วัยรุ่นเสพติดสุขนิยม” คำสัมภาษณ์นักการเมืองมาเลย์ ทำให้แฟนๆ ไม่พอใจอย่างมาก

    “K-Pop ทำให้วัยรุ่นเสพติดสุขนิยม” คำสัมภาษณ์นักการเมืองมาเลย์ ทำให้แฟนๆ ไม่พอใจอย่างมาก

    ทุกวันนี้วัยรุ่นแทบทุกซอกทุกมุมของโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชีย ต่างชื่นชอบและคลั่งไคล้ศิลปิน K-Pop กันอย่างมาก นอกจากเพลงที่ฟังและร้องตามได้แล้ว หลายๆ คนก็ฝึกเต้นตามศิลปินที่ตนชื่นชอบ ไปเรียนภาษา และเรียนรู้วัฒนธรรมของเกาหลี เห็นได้จากในบ้านเราที่ตอนนี้มีร้านอาหารเกาหลีเปิดอยู่มากมายทั่วทั้งประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มอนุรักษ์นิยมมองว่าศิลปินเกาหลีกำลังทำให้คนหนุ่มสาวมอมเมากับภาพลักษณ์ที่พวกเขาสร้างขึ้น ล่าสุดกลุ่มอนุรักษ์นิยม Gamis Youth Group ในประเทศมาเลเซียได้ออกมาบอกว่า K-Pop เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้จิตใจของวัยรุ่นเกิดความสับสน     Faizuddin Mohd Zai นักการเมืองและผู้นำกลุ่มอนุรักษ์นิยม อ้างว่า K-Pop ส่งเสริมให้วัยรุ่นเสพติดสุขนิยมและเป็นตัวขัดขวางพัฒนาการด้านความรู้ความเข้าใจของพวกเขา เขายังบอกอีกว่าแฟนคลับของ K-Pop อาจต้องจบด้วยการทำอาชีพที่มีรายได้น้อย เมื่อเทียบกับเยาวชนที่ไม่ทำตามวัฒนธรรมเกาหลี เขาอ้างอีกว่าอิสรภาพและการแสดงออกอย่างเต็มที่ในวัฒนธรรม K-Pop ทำให้วินัยของวัยรุ่นมุสลิมอ่อนแอลง เพราะพวกเขาส่งเสริมเสรีภาพมากเกินไป     “เยาวชนของเราจะเติบโตมาอย่างมีคุณภาพได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่สุขนิยม อย่างเช่น K-Pop ที่มีอยู่ในทุกที่  มันทำให้พวกเขาไม่แยแสต่อสังคมและมีความเป็นปัจเจกสูง พวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน และที่แย่ที่สุดคือพ่อแม่ชาวมุสลิมในมาเลย์เองก็สนับสนุนลูกหลานในเรื่องวัฒนธรรมแบบสุขนิยมด้วย” -Faizuddin Mohd Zai ผู้นำกลุ่ม Gamis Youth Group- สำหรับแหล่งข้อมูลที่ Faizuddin กล่าวอ้างมานี้ เขาไม่ได้เปิดเผยแหล่งที่มา แต่เขามั่นใจด้วยข้อสรุปของตัวเองว่าการส่งเสริมเสรีและการหล่อหลอมวัฒนธรรม K-Pop ทำให้เยาวชนมุสลิมกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่สมบูรณ์…

  • ภาพหายากของของเหล่าเลสเบี้ยนในยุคศตวรรษที่ 19-20 กับความรักที่ต้องปกปิด…

    ภาพหายากของของเหล่าเลสเบี้ยนในยุคศตวรรษที่ 19-20 กับความรักที่ต้องปกปิด…

    ในอดีตการรักร่วมเพศถือเป็นเรื่องต้องห้าม ไม่เว้นแม้กระทั่งสังคมตะวันตก นั่นทำให้คนรักร่วมเพศส่วนใหญ่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ และไม่กล้าแสดงความรักต่อคนที่รักเท่ากับปัจจุบันนี้ อย่างไรก็ตาม ภาพสีขาวดำเหล่านี้เผยให้เห็นความน่าทึ่งของผู้หญิงที่กล้าแสดงออกถึงความรักในรูปแบบของตัวเอง ทั้งจูบ กอด และนอนด้วยกันแบบแนบชิด ในช่วงปี 1800 และช่วงต้นปี 1900 บางภาพอาจไม่มีข้อมูลประกอบเลย แต่มันดูเหมือนว่าพวกเขาเป็นคู่รักเลสเบี้ยน ในขณะที่บางภาพมีข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของพวกเขา อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่ภาพเท่านั้นที่ยังหลงเหลืออยู่ เพราะภาพส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะถูกทำลายโดยครอบครัวพวกเขาแล้ว   ผู้หญิง 2 คนกำลังกอดและจูบกัน ถูกถ่ายในช่วงปี 1940 พวกเขากล้าที่จะถ่ายรูปนี้ด้วยกัน ทั้งๆ ที่เวลานั้นการรักร่วมเพศเป็นเรื่องต้องห้าม   ภาพหญิงสาวในชุดว่ายน้ำยืนกอดกัน ถูกถ่ายในช่วงปี 1910 – ก่อนที่การรักร่วมเพศจะได้รับการยอมรับในสหราชอาณาจักร   ผู้หญิง 2 คนกำลังแสดงความรักต่อกัน ถูกถ่ายเมื่อประมาณปี 1890 ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าผู้หญิงในภาพเป็นคู่รักเลสเบี้ยนหรือแค่เพื่อนกัน   นักแสดงสาวชาวอเมริกัน Charlotte Cushman (ซ้าย) และนักเขียนชาวอังกฤษ Matilda Hays (ขวา) ถ่ายรูปนี้ด้วยกันในปี 1858 ทั้งคู่คบกันนานถึง 10 ปี โดยที่ Cushman มีชื่อเสียงโด่งดังมากในประเทศบ้านเกิดของเธอ   ภาพซ้าย…

  • กลุ่มนักเลงจอมกร่าง ได้บทเรียนแสนเจ็บแสบจากคนที่เขาจะรังแก เพราะอีกฝ่ายเรียนมวยมา

    กลุ่มนักเลงจอมกร่าง ได้บทเรียนแสนเจ็บแสบจากคนที่เขาจะรังแก เพราะอีกฝ่ายเรียนมวยมา

    นักเลงบางคนเนี่ยชอบอวดเก่งกับคนที่อ่อนแอกว่า บางคนอาศัยความที่ตัวใหญ่กว่า หรือมีพวกเยอะกว่า เลยทำตัวกร่าง ไล่ข่มคนอื่น และท้าต่อยกับเค้าไปทั่ว ใครเจอคนประเภทนี้เลี่ยงได้เลี่ยงไปเถอะ เพราะเดี๋ยวเขาก็ได้รับบทเรียนเองแหละ…อย่างเช่นนักเลงวัยรุ่นกลุ่มนี้ที่พากันไปขู่เด็กชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่สู้คน เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้เป็นคลิปวิดีโอ โดยมีกลุ่มวัยรุ่นที่คาดว่าน่าจะเป็นนักเรียนมัธยมปลายชาวอเมริกัน กำลังเดินเข้าไปหาเด็กชายเสื้อลายสก๊อตคนหนึ่งที่ถอยหนีจากพวกเขา     ในระหว่างนั้น วัยรุ่นชายที่ใส่เสื้อสีขาวพยายามพูดยั่วโมโหหนุ่มเสื้อลายสก๊อต ทั้งด่าทอ ล้อเลียน ก่อนทำท่าเหมือนจะเข้าไปทำร้ายเขา แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร หนุ่มเสื้อลายสก๊อตก็เตะเข้าที่ขาซ้ายของหนุ่มนักเลง และรัวหมัดใส่หน้าเขาไม่ยั้ง จนเขาล้มลงไปกับพื้น ช็อตนั้นทำเอาวัยรุ่นคนอื่นๆ ต่างพากันอึ้ง… อย่างไรก็ตาม หนุ่มเสื้อลายสก๊อตยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เข้าได้ใช้ท่าเหมือนนักมวยปล้ำล็อกคอหนุ่มนักเลงคนนั้นจนเขาถึงกับสำลักและหน้าแดงอย่างกับลูกโป่งใกล้แตก     เมื่อเห็นท่าทางไม่ดี คนที่เหลือเลยขอให้เขาปล่อยนักเลงคนนั้น พร้อมตะโกนว่า “เขาเลือดออก! เขาเลือดออก!” ชายหนุ่มเลยปล่อยเขาไป ต่อมา มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเด็กหนุ่มเสื้อลายสก๊อตคนนี้เคยเรียนมวย MMA มาก่อนนั่นเอง (ศิลปะการต่อสู้ที่ผสานมวยหลากรูปแบบไว้ด้วยกัน เช่น มวยไทย มวยสากล ยูโด มวยปล้ำ คาราเต้ แซมโบ บราซิลเลี่ยน ยูยิตสู) …มิน่าล่ะ ออกลายซะจนนักเลงกร่างไม่ออกเลย   เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ‘ถ้าใจกาก อย่าปากเก่ง’ นะจ๊ะ ที่มา unilad

  • พ่อใจร้ายนำลูกที่คลอดก่อนกำหนดไปทิ้งในถังขยะ เพราะคิดว่าไม่รอด โชคดีมีคนช่วยไว้ทัน

    พ่อใจร้ายนำลูกที่คลอดก่อนกำหนดไปทิ้งในถังขยะ เพราะคิดว่าไม่รอด โชคดีมีคนช่วยไว้ทัน

    การมีลูกในช่วงวัยที่ยังไม่พร้อม สภาพเศรษกิจของครอบครัวไม่เอื้อ หรือไม่ได้ตั้งใจมีตั้งแต่แรก สุดท้ายแล้วปัญหามักจะไปตกอยู่กับทารกน้อยที่ไม่รู้สีรู้สาอะไรด้วย เหมือนกับเรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้ เมื่อคุณพ่อคนหนึ่งจากเมืองซวนวี ประเทศจีน นำลูกไปทิ้งไว้ในถังขยะทั้งที่เด็กน้อยเพิ่งเกิดได้ไม่นาน     ในรายงานบอกว่าภรรยาของชายคนดังกล่าวได้คลอดก่อนกำหนด (8 เดือน) ภายในบ้านของตัวเอง แต่แทนที่ผู้เป็นพ่อจะดูแลลูก เขากลับวางลูกไว้บนเตียงแล้วไปดูแลภรรยา คือปกติการคลอดก่อนกำหนดก็อันตรายมากพออยู่แล้ว แต่นี่ยังเป็นการคลอดในบ้านที่ไม่มีหมอดูแลเลย ยิ่งจะเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก     ตามรายงานของตำรวจบอกว่าหลังจากที่วางลูกไว้บนเตียง เขาไม่ได้กลับมาดูลูกเลย กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ผู้เป็นพ่อได้กลับมาดูลูก แต่ปรากฏว่าตัวลูกกลายเป็นสีม่วงแล้ว พวกเขาเลยคิดว่าทารกคงไม่รอดแล้วแน่ๆ แทนที่พ่อแม่จะรีบไปโรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือจากแพทย์ แต่ผู้เป็นพ่อกลับห่อเด็กไว้ในถุงกระดาษ ก่อนจะนำไปทิ้งในถังขยะข้างนอก ภายใต้อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส     อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งผ่านไปเห็นเด็กน้อยพอดี จึงช่วยเหลือเธอเอาไว้ทัน และทำให้ร่างกายเธออุ่นขึ้น หลังจากการช่วยเหลือของหญิงชรา ทารกที่เพิ่งเกิดไม่กี่ชั่วโมงก็ถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาล…เมื่อตรวจร่างกายเสร็จ พบว่าทารกมีสุขภาพที่แข็งแรงดี ซึ่งตรงข้ามกับข้อสันนิษฐานของพ่อของเธอก่อนหน้านี้     คุณหมอบอกว่าจริงๆ แล้วการที่ทารกมีร่างกายเป็นสีม่วง เกิดจากการอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็นเป็นเวลานาน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พ่อแม่ของทารกถูกจับกุม ส่วนเด็กหญิงถูกนำตัวไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ต่อจากนี้ไป หวังว่าทางสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะหาบ้านใหม่ที่อบอุ่นให้กับเธอได้ เพื่อให้เธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติและลบล้างความเจ็บปวดในวัยแรกเกิดได้บ้าง     ที่มา unilad

  • 22 ภาพที่ถ่ายได้ในจังหวะสุดเป๊ะ ก่อนความวายวอดจะมาเยือน หือออ เจ็บปวดน่าดู

    22 ภาพที่ถ่ายได้ในจังหวะสุดเป๊ะ ก่อนความวายวอดจะมาเยือน หือออ เจ็บปวดน่าดู

    เราทุกคนเคยผ่านช่วงเวลาแห่งหายนะกันมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการหกล้มในวัยเด็ก ขับรถล้ม หรือประสบการณ์อื่นๆ ที่สร้างความเจ็บปวดให้จนลืมไม่ได้ลง เหมือนกับภาพเหตุการณ์เหล่านี้ที่ถูกถ่ายในจังหวะที่พอดีเป๊ะ มันคือช่วงก่อนที่ความซวยจะบรรลุ บางภาพอาจดูตลกนะ แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นขำไม่ออกแน่นอน   1. ก่อนที่เขาจะเอาหน้าไปจูบถนน   2. เห้ย!! เดินบนน้ำได้ด้วย เจ๋งอะ   3. เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน ว่าแต่เจ้าเหมียวจะทำยังไงกับจุดแดงๆ นี่นะ?   4. คลื่นสูงแค่ไหนก็ไม่หวั่น…   5. เป็นไง สดชื่นเลยละสิ   6. ล้อๆๆๆ กลับมาก่อน   7. จับผิดแล้ว ลูกบาสอยู่บนนุ่นนนน   8. ภาพนาทีระทึก ก่อนจะลงเอยด้วยขนอกเกรียม   9. จับหลานชายไว้ให้ได้นะยาย   10. อ้าว…ชน!?   11. ประสบการณ์ใหม่ของการบิน   12. เมื่อพ่อรับปากว่าจะดูแลลูกเอง…   13.…

  • ภาพการ์ตูนวัยเด็กแสนหดหู่ของ Oprah Winfrey จากเด็กโดนข่มขืน สู่ความสำเร็จในวันนี้

    ภาพการ์ตูนวัยเด็กแสนหดหู่ของ Oprah Winfrey จากเด็กโดนข่มขืน สู่ความสำเร็จในวันนี้

    ในวัยเด็กเราอาจจะมีประสบการณ์ที่น่าจดจำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวันที่ได้ไปเที่ยวสวนสนุกครั้งแรก ตอนได้ของขวัญชิ้นโปรด หรือการเติบโตมาในสังคมที่อบอุ่น แต่สำหรับเด็กผู้หญิงคนนี้ เธอต้องเติบโตมากับความทรงจำอันเลวร้าย มันไม่ใช่เรื่องน่าจดจำแต่เธอกลับลืมมันไม่ลงและยังคงฝังใจอยู่จนทุกวันนี้ นี่คือผลงานภาพวาดที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งที่ต้องตกเป็นทาสเซ็กส์ตั้งแต่ตอนอายุ 9 ขวบเท่านั้น และเธอไม่สามารถเล่าความเจ็บปวดนี้ให้ใครฟังได้…   เด็กหญิงถูกข่มขืนตอนอายุ 9 ขวบ   จากนั้นเขาได้พาเธอร้านไอติม ทั้งที่เลือดไหลเต็มขาของเธอ   ตอนอายุ 10 เธอต้องทนรองรับอารมณ์ของญาติสนิท 2 คน   ตอนอายุ 14 ปี เธอตั้งท้อง แต่ได้เก็บเป็นความลับจนกระทั่งวันคลอด   เธอคลอดก่อนกำหนด และลูกน้อยได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากภาวะแทรกซ้อน   แม่ยกน้องสาวของเธอให้คนอื่นรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ส่วนพี่ชายของเธอเสียชีวิตเพราะโรคเอดส์   ตั้งแต่นั้นมา เธอพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากสถานการณ์เหล่านั้น   ตอนอายุ 23 ปี เรื่องราวในอดีตกลับเข้ามาในความคิดเธออีกครั้ง และเธอก็จมอยู่กับมัน   นั่นส่งผลให้เธอถูกไล่ออกจากงานแรกของเธอ   แต่การสูญเสียในครั้งนั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเริ่มทำอาชีพในวงการโทรทัศน์   ในปี 1984 เธอได้เป็นเจ้าของรายการ…

  • ฮีโร่หญิงกระโดดคว้าตัวผู้ชายที่พุ่งเข้าหารถไฟฟ้าความเร็วสูง จนรอดพ้นจากการฆ่าตัวตาย

    ฮีโร่หญิงกระโดดคว้าตัวผู้ชายที่พุ่งเข้าหารถไฟฟ้าความเร็วสูง จนรอดพ้นจากการฆ่าตัวตาย

    เมื่อออกไปอยู่ในที่สาธารณะ แทนที่จะก้มหน้าที่เล่นโทรศัพท์ เราควรสังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัวอยู่เสมอ เพราะมันจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราปลอดภัยและยังสามารถช่วยเหลือคนรอบข้างได้ด้วย อย่างกรณีของหญิงสาวผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นฮีโร่ หลังจากที่เธอใช้ไหวพริบและความว่องไวจนสามารถช่วยชีวิตคนจากการฆ่าตัวตายได้     เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @invisibleman_17 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2018 ที่บริเวณชานชาลารถไฟ ซึ่งถูกบันทึกโดยกล้องวงจรปิดบริเวณนั้น ในช่วงแรกของคลิปจะเห็นชายคนหนึ่งกำลังคุยโทรศัพท์บนชานชาลารถไฟด้วยอารมณ์โมโห ก่อนจะมีมีคู่รักเข็นรถเด็กเดินผ่านมา ในคลิปอาจจะเห็นภาพไม่ชัด แต่ด้วยท่าทางของเขา เห็นได้ชัดว่าชายที่คุยโทรศัพท์คนนั้นกำลังอยู่ในสภาวะที่ตึงเครียด   If you take the time to care, you might save a life ? pic.twitter.com/2eZWZ5MgDY — The Invisible Man (@invisibleman_17) 17 มกราคม 2561   สักพักชายคนนั้นก็ขว้างโทรศัพท์ลงกับพื้น ก่อนจะนั่งลงกุมหัวตัวเองเหมือนคนที่กำลังเครียดอย่างหนัก นั่นเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงที่เดินผ่านมาก่อนหน้านี้เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ จากท่าทางของผู้หญิงคนนั้น ดูเหมือนเธอกำลังลังเลว่าควรจะเข้าไปหาชายคนนั้นดีหรือไม่ แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาเขา เพราะไม่อยากเมินเฉยต่อคนที่กำลังอยู่ในความทุกข์  …

  • คู่รักตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกับ “เจ้าแพะ” และ “น้องหมา” สนุกสุดๆ ไปเล้ยยย

    คู่รักตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกับ “เจ้าแพะ” และ “น้องหมา” สนุกสุดๆ ไปเล้ยยย

    ถ้าคุณอยากเดินทางด้วยความสนุก และมีความสุขกับการท่องเที่ยวในทุกๆ ที่ที่ไป คุณจะต้องออกเดินไปกับคนที่คุณรัก เหมือนกับ Cate และ Chad Battles ทำอยู่ตอนนี้ ในตอนที่ Cate และ Chad โตขึ้นพวกเขาต่างก็ได้ย้ายไปอยู่ในหลายๆ ที่ จนในที่สุดพวกเขาก็โคจรมาเจอกันและได้แต่งงานกันใน Asheville รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้ปักหลักอยู่ที่นั่น หลังจากแต่งงาน การเดินทางดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยาก เพราะพวกเขาต้องดูแลจัดการบาร์ของตัวเอง ไหนจะต้องเลี้ยงดูลูกๆ อีก     แต่ตอนนี้ลูกๆ อยู่ในช่วงเจริญเติบโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว ส่วนธุรกิจบาร์และบ้าน ทั้งคู่ก็ตัดสินใจขายไปแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรมาขัดขวางการเดินทางของพวกเขาอีก จริงๆ พวกเขามีสัตว์เลี้ยงที่น่ารักอีก 2 ตัวคือ เจ้าแพะที่ชื่อ Frankie และน้องหมา Maggi แต่แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้ 2 ตัวมาขัดขวางการเดินทางเป็นครั้งที่สองแน่ๆ     ดังนั้น Cate และ Chad จึงพาสัตว์เลี้ยงทั้ง 2 ตัวออกไปท่องโลกด้วย โดยในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา Cate Chad Frankie และ Maggie ได้นั่งรถ Airstream ไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ…

  • พ่อรดน้ำต้นไม้ทุกวันตามคำสั่งเสียของภรรยาผู้ล่วงลับ แต่มารู้ทีหลังว่าเป็นต้นไม้ปลอม!?

    พ่อรดน้ำต้นไม้ทุกวันตามคำสั่งเสียของภรรยาผู้ล่วงลับ แต่มารู้ทีหลังว่าเป็นต้นไม้ปลอม!?

    เมื่อคนใกล้ตายมีโอกาสได้สั่งเสีย พวกเขามักจะขอให้คนที่ยังอยู่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หรือไม่ก็ช่วยดูทรัพย์สมบัติให้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง สัตว์เลี้ยง หรือบ้าน เช่นเดียวกับภรรยาแสนขี้เล่นคนนี้ที่ไม่ได้ต้องการอะไรมาก ดังนั้นก่อนจากไปเธอจึงสั่งเสียสามีแค่ว่าให้ช่วยรดน้ำต้นไม้ที่เธอรัก ภรรยาจอมป่วนคนนี้คือ Phedre Nicol เธอพ่ายแพ้ต่อโรคมะเร็งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2013 โดยก่อนจากไปเธอให้สามีสัญญาว่าเขาจะรดน้ำต้นไม้ในห้องน้ำให้ทุกวัน     ทางด้าน Nigel สามีวัย 79 ปี ได้รักษาคำมั่นสัญญานั้นเป็นอย่างดี เขาหมั่นรดน้ำต้นไม้ในห้องน้ำทุกวันเพื่อไม่มันเหี่ยวแห้งหรือตาย ก่อนจะมารู้ภายหลังว่ามันคือ ‘ต้นไม่พลาสติก’ เรื่องราวนี้ถูกแชร์โดย Antonia Nicol นักดับเพลิงวัย 46 ปีจากลอนดอน ซึ่งเป็นลูกของ Phedre และ Nigel เธอบอกในทวิตเตอร์ว่า ‘ฉันยังคงได้ยินเสียงหัวเราะของแม่จนถึงตอนนี้’ หญิงสาวได้แชร์ภาพต้นไม้ที่ยังดู เปล่งปลั่ง พร้อมคำบรรยายว่าพ่อของเธอได้ดูแลต้นไม้ต้นนี้อย่างดีเยี่ยมมาเสมอ ตั้งแต่รับปากแม่ตอนนั้น     Nicol บอกว่า “พ่อได้ดูแลต้นไม้ตามสัญญามาประมาณสองสามปี กระทั่งตอนที่เขาขายบ้านและกำลังจะย้ายออกหลังเกษียณอายุ ที่ผ่านมาพ่อได้ดูแลต้นไม้ของแม่อย่างดี เพื่อไม่ให้มันตาย ดังนั้นเมื่อถึงเวลาย้ายบ้านเขาจึงอยากเอามันไปอยู่บ้านใหม่ด้วย แต่ระหว่างที่ย้ายของนั้นพ่อเพิ่งมารู้ว่ามันคือต้นไม้พลาสติก”     หญิงสาวบอกอีกว่า “ตอนที่พ่อรู้ความจริง แม่คงจะหัวเราะอยู่แน่ๆ… มันกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เราหัวเราะทุกครั้งพูดถึง ดังนั้นแม้ว่าแม่จะหลอกพ่อ แต่สุดท้ายแล้วมันกลายเป็นเรื่องที่ดีสำหรับครอบครัวเรา” โพสต์ของ Nicol ทำให้ชาวเน็ตขำไปตามๆ จนถูกรีทวิตมากกว่า…

  • เด็กหญิงชาวจีนแบกพี่ชายผู้พิการไปโรงเรียนทุกวัน เพราะอยากให้พี่ได้เรียนหนังสือด้วยกัน

    เด็กหญิงชาวจีนแบกพี่ชายผู้พิการไปโรงเรียนทุกวัน เพราะอยากให้พี่ได้เรียนหนังสือด้วยกัน

    นอกจากพ่อแม่ที่รักเรามากที่สุดแล้ว พี่น้องสายเลือดเดียวกันเป็นอีกคนที่ไม่อยากเห็นเราเจ็บ ไม่อยากเห็นเราลำบาก แต่อยากเห็นเรามีความสุขในทุกๆ วัน เหมือนกับ Zhou Dingshuang เด็กหญิงวัย 9 ขวบจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ที่คอยเป็นมือเป็นเท้าให้กับพี่ชายผู้พิการที่มีปัญหาในการใช้มือใช้ขาตั้งแต่เกิด     น้องสาวแสนดีคนนี้ไม่เพียงแค่ป้อนข้าว ป้อนน้ำ หรืออาบน้ำให้น้อง แต่เธอยังแบกพี่ชาย Zhou Dingfu วัย 12 ปี ไปโรงเรียนทุกวัน ไม่เว้นแม้กระทั่งวันที่ฝนตก แดดออก หิมะตก หรือวันที่ลูกเห็บตก เธอบอกกับผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น Wenshan ว่า “หนูจะไม่ปล่อยพี่ไว้ตามลำพังค่ะ และหนูจะเป็นไม้เท้าให้พี่ตลอดไป”     Dingshuang และ Dingfu เรียนอยู่ชั้นเดียวกันที่โรงเรียน Central School of Heizhiguo County ดังนั้นเธอจึงเป็นคนเดียวที่ดูแลพี่ชายตลอดเกือบ 24 ชั่วโมง ทุกๆ เช้า เด็กหญิงจะล้างมือล้างหน้าให้พี่ชาย ช่วยเขาแต่งตัว ก่อนจะแบกเขาขึ้นหลังและพาไปโรงเรียนด้วยกัน     ระหว่างทางไปโรงเรียน พวกเขาต้องข้ามถนนและขึ้นบันไดเพื่อจะไปยังห้องเรียน ที่สำคัญน้องสาวไม่เคยทำให้พี่ชายไปเรียนสายเลย แม้การเดินทางจะลำบากหรือสภาพอากาศจะเลวร้ายแค่ไหน หลังจากเลิกเรียนแล้ว Dingshuang จะแบกพี่ชายกลับบ้าน ช่วยเขาทำการบ้านจนเสร็จก่อนจะไปช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านต่อ    …

  • ช่างภาพพาน้องหมาออกมาจากสถานสงเคราะห์ แล้วเปลี่ยนโลกทั้งใบให้สดใสกว่าเดิม

    ช่างภาพพาน้องหมาออกมาจากสถานสงเคราะห์ แล้วเปลี่ยนโลกทั้งใบให้สดใสกว่าเดิม

    ทุกวันนี้มีสุนัขจรจัดมากมายที่ต้องเผชิญชีวิตท่ามกลางอันตรายรอบตัว และหากไม่ได้รับการช่วยเหลือพวกมันอาจจะต้องอดตายหรือไม่ก็ถูกรถชนได้ ด้วยเหตุนี้ศูนย์พักพิงสุนัข Penkta Koja ในลิทัวเนียจึงได้รับสุนัขเข้ามาใหม่ทุกวัน บางตัวหลงทาง บางตัวถูกรถชน และบางตัวถูกทิ้งเพราะเจ้าของไม่สามารถเลี้ยงต่อได้     เมื่อเข้าไปในศูนย์พักพิงวันแรก พวกมันจะเห่าเสียงดังตลอดเพราะไม่คุ้นกับสิ่งแวดล้อมใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ดูแลจะคอยอยู่ข้างๆ พวกมัน ทำให้มันใจเย็นลงและทำให้มันไว้ใจมนุษย์อีกครั้ง หลังจากนั้นก็เป็นช่วงเวลาแห่งการรอ รอที่จะมีเจ้าของใหม่ รอที่จะได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่มีทั้งความรักและความอบอุ่นจากมนุษย์ที่ไว้ใจได้ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ เราจึงได้แค่รอ…     และเมื่อวันที่เหล่าน้องหมาได้บ้านใหม่ อาสาสมัครของ Penkta koja และช่างภาพ Ausra Kel (หนึ่งในคนที่พาสุนัขจรจัดมาอยู่ในศูนย์พักพิงและพยายามหาบ้านใหม่ให้) ก็จะเปลี่ยนโลกใบใหม่ให้สุนัขเหล่านี้ สำหรับ Ausra เธอเป็นศิลปินดิจิตอล นักตกแต่ง และบรรณาธิการภาพถ่าย เธอมักจะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ในภาพถ่ายเสมอราวกับเธอสามารถสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมาได้ ดังนั้นเธอจึงถูกขอให้ทำแบบนั้นกับสุนัขในศูนย์พักพิงและเจ้าของใหม่ของพวกมันด้วย     สุนัขทุกตัวที่ถูกถ่ายภาพคือตัวที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับครอบครัวใหม่…ก่อนหน้านี้พวกมันต้องอยู่ในศูนย์พักพิงเป็นเวลาหลายปี แต่ภาพชุดนี้เผยให้เห็นถึงชีวิตใหม่ของพวกมันกับเจ้านายและบ้านที่มันจะได้มีความสุขตลอดไป ทั้งเจ้าของและน้องหมาต่างยกให้อีกฝ่ายเป็นฮีโร่และเป็นเพื่อน พวกเขาไม่ได้ใช้ชีวิตดีไปกว่าคนอื่นเลย แต่มันแค่มีความแตกต่างเพราะพวกเขามองเห็นคุณค่าของกันและกัน     หลายคนสงสัยว่าการซื้อสุนัขมาเลี้ยงกับการรับสุนัขจากศูนย์พักพิงมาเลี้ยงแตกต่างกันอย่างไร? คำตอบคือ มันเหมือนกันนั่นแหละ แต่มันแค่ต่างตรงที่ความรู้สึกของคุณที่มีต่อสุนัข การซื้อสุนัขคือการที่คุณเป็นฝ่ายเลือกสุนัข แต่การรับเลี้ยงสุนัขในศูนย์พักพิงคือ คุณเป็นฝ่ายที่ถูกเลือกจากน้องหมา นี่แหละความแตกต่าง…

  • แฮกเกอร์จากกลุ่ม “Anonymous” เข้าถล่ม ปิดเว็บโป๊เด็กไปกว่า 10,000 เว็บ

    แฮกเกอร์จากกลุ่ม “Anonymous” เข้าถล่ม ปิดเว็บโป๊เด็กไปกว่า 10,000 เว็บ

    ทุกวันนี้มีสื่อลามกอนาจารเต็มไปหมด โดยเฉพาะเว็บโป๊เด็กที่มีผู้เข้าชมจำนวนมากๆ และเข้าถึงง่ายมาก สะท้อนให้เห็นว่ามีคนจำนวนมากที่อาจจะเป็น “โรคใคร่เด็ก” ในหลายๆ เว็บนั้นก็มีบางส่วนที่ล่วงละเมิดหรือล่อลวงเด็กมาถ่ายทำจริงๆ ไม่ได้ใช้นักแสดงผู้ใหญ่ที่ดูเด็กกว่าอายุจริงอย่างที่หนังโป๊ถูกกฎหมายทำกัน ซึ่งถือเป็นการค้ามนุษย์ นอกจากนี้สื่อลามกเด็กเองก็ผิดกม.ในแทบทุกประเทศอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าหนึ่งในแฮกเกอร์จากกลุ่ม Anonymous ได้เข้าไปยังเว็บไซต์สายมืดกว่า 10,000 เว็บ และได้ทำการปิดเว็บโป๊เด็กไปเป็นจำนวนมาก     แฮกเกอร์คนดังกล่าวได้เจาะระบบของ Freedom Hosting II ซึ่งเป็นโฮสต์สำหรับเว็บไซต์ด้านมืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเข้าไปในเครือข่ายแบบไม่ระบุตัวตนที่เรียกว่า Tor เพื่อป้องกันการถูกติดตาม แฮกเกอร์นิรนามที่อ้างตัวว่าเป็นคนเจาะระบบของ Freedom Hosting II ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Vice ว่านี่เป็นครั้งแรกของเขา ซึ่งตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจจะปิดโฮสต์ แต่เมื่อเห็นว่าในเว็บไซต์มีภาพโป๊เด็กจำนวนมาก เขาจึงตัดสินใจปิดเว็บไซต์เหล่านั้นทันที     ดังนั้นหลังจากนี้หากใครที่พยายามเข้าไปในเว็บไซต์เหล่านี้ จะเห็นข้อความที่เขียนว่า “สวัสดี Freedom Hosting II ตอนนี้คุณถูกแฮกเรียบร้อยแล้ว” “เรารู้สึกผิดหวังกับพวกคุณจริงๆ บนหน้าเว็บไซต์ของคุณเขียนไว้ว่า ‘เรามีนโยบายต่อต้านสื่อลามกอนาจารเด็ก’ แต่เมื่อเราเข้าไปค้นในเซิร์ฟเวอร์กลับพบว่า เกิน 50% เป็นภาพโป๊ของเด็ก” “ยิ่งไปกว่านั้น พวกคุณยังเป็นโฮสต์ให้กับเว็บไซต์เถื่อนและเว็บไซต์หลอกลวงอีกจำนวนมาก ซึ่งบางเว็บไซต์พวกคุณเป็นคนเปิดเอง เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเซิร์ฟเวอร์” “ไฟล์ทั้งหมดของพวกคุณถูกก๊อปปี้เก็บไว้แล้ว ส่วนไฟล์ต้นฉบับ 74GB…

  • พฤติกรรมสุดป่วนของคุณ ‘ภรรเมีย’ ที่จะทำให้คุณซะมีทั้งหลายต้องปวดหัว นี่แหละสีสันชีวิตคู่

    พฤติกรรมสุดป่วนของคุณ ‘ภรรเมีย’ ที่จะทำให้คุณซะมีทั้งหลายต้องปวดหัว นี่แหละสีสันชีวิตคู่

    หลายคนอาจจะคิดว่าชีวิตหลังแต่งงานเป็นเรื่องน่าเบื่อ ไหนจะต้องมาทนฟังภรรยาบ่นนู่นนี่นั่น บ่นทุกเรื่องที่คิดได้ ส่วนภรรยาต้องทำทุกอย่าง ทั้งงานบ้าน งานตัวเอง ไหนจะธุระของสามีอีก มีสามีก็เหมือนมีลูก แต่ดูเหมือนคู่รักเหล่านี้จะไม่คิดแบบนั้น ทำไมนะหรอ? ก็เพราะพวกเขาคือผู้ชายที่โชคดีได้ภรรยาที่มีพฤติกรรมสุดป่วน อาจจะปวดหัวในบางครั้งแต่นี่แหละสีสันของชีวิตคู่   1. นี่คือวิธีซ่อนขนมของภรรยาผม เพราะไม่อยากแบ่งเพื่อนร่วมงาน นางเลยเอาไปซ่อนในกล่องผ้าอนามัยซะเลย   2. นี่คือสิ่งที่ภรรยาทำให้สามี “ฉันต้องทนอยู่กับคุณ” แล้วคิดว่าสามีควรจะรู้สึกยังไงกับเค้กก้อนนี้?   3. เมื่อภรรยาจะไม่อยู่บ้าน 2-3 เดือน แล้วดูสิ่งเธอทำเช้านี้ก่อนออกจากห้อง   4. นี่ภรรยาคงคิดว่าผมโง่มากสินะ (ซ้าย: ไม่เหมาะจะใส่ไปทำงาน ขวา: ใส่ไปทำงานได้)   5. ภรรยาผมเป็นนักธรณีวิทยา และนี่คือของขวัญวันเกิดที่ผมได้จากเธอ   6. ภรรยาผมปลุกให้ตื่นแต่เช้า เพื่อให้มาซ่อมรูรั่ว (ต้นหอม) ในอ่างอาบน้ำ (คำพ้องเสียง leak = รูรั่ว / leek = ต้นหอม)   7. สามีคิดว่าฉันไม่สามารถโกนขนเท้าของเขาโดยที่เขาไม่ตื่นได้ และนี่คือสิ่งที่เขาตื่นขึ้นมาเห็นในตอนเช้า…

  • กลายเป็นเทรนด์โลกออนไลน์ ชาวเน็ตแชร์ภาพเหล่าแขกที่มาเยี่ยมถึงริมหน้าต่าง

    กลายเป็นเทรนด์โลกออนไลน์ ชาวเน็ตแชร์ภาพเหล่าแขกที่มาเยี่ยมถึงริมหน้าต่าง

    ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ ทั้งในเมือง ชนบท พื้นที่ห่างไกล หรือแม้กระทั่งบนตึกสูง คุณจะไม่โดดเดี่ยวอย่างแน่นอน เพราะเหล่านกน้อยนกใหญ่จะแวะไปทักทายคุณถึงที่ ไม่เชื่อลองมองไปที่กระจกสิ ใครที่มีนกมาหาบ่อยๆ ถ้าวันหนึ่งนกตัวนั้นไม่มาคงคิดถึงแย่แน่ๆ เพราะแบบนี้ชาวเน็ตจึงร่วมแชร์ภาพเหล่านกที่มาเยี่ยมเยียน ในฐานะเพื่อนแปลกหน้าที่เคยไม่ปล่อยให้เราต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว   1. นก 4 ตัวนี้จะมาเกาะอยู่ที่หน้าต่างทุกเช้าเพื่อขออาหาร   2. ฉันทำงานอยู่บนชั้น 10 แต่มีเพื่อนตัวหนึ่งแวะมาเยี่ยมฉันเป็นประจำทุกวันเลย   3. สงสัยอยู่นานว่าทำไมวันนี้น้องหมาของฉันถึงไม่ออกไปวิ่งเล่นเหมือนทุกวัน   4. ฉันทำงานอยู่ชั้น 10 และนี่คือแขกที่มาหาฉันทุกวัน   5. นี่เพื่อร่วมงานเค้าเอง มากันเป็นคู่เลย   6. ปกติจะเห็นนกบินมาทักทาย แต่วันนี้ทำไมเป็นแรคคูนล่ะ   7. ตอนนี้มีนกมาเกาะอยู่ที่หน้าต่างในที่ทำงานของฉัน คงจะแวะมาทักทายละมั้ง   8. นี่เพื่อนใหม่ มาหาตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลกเลย   9. มาทุกวันจนจะเป็นเพื่อนสนิทอยู่ละ   10. จ้องขนาดนี้ เข้ามาเลยมั้ยล่ะ?   11.…

  • คุณตากอดแมวร้องไห้ หลังบ้านถูกไฟไหม้ทั้งหลัง เกิดเป็นคลิปที่ชวนน้ำตาซึม…

    คุณตากอดแมวร้องไห้ หลังบ้านถูกไฟไหม้ทั้งหลัง เกิดเป็นคลิปที่ชวนน้ำตาซึม…

    ของมีค่าสำหรับแต่ละคนอาจต่างกัน บางคนให้ความสำคัญกับเงินทอง บางคนชอบรถ บางคนชอบของแบรนด์เนม ในขณะที่บางคนขอแค่มีสัตว์คู่ใจอยู่ด้วยก็เพียงพอแล้ว เหมือนกับคุณตา Ali Meşe วัย 83 ปี จาก Ordu Province ประเทศตุรกี ที่นั่งกอดแมวน้อยร้องไห้ หลังบ้านถูกไฟไหม้จนไม่เหลืออะไร     ตามรายงานข่าวระบุว่าบ้านของคุณตาลุกไหม้เพราะเขาพยายามจะจุดไฟในเตา โดยใช้น้ำมันเบนซิน แต่เกิดความผิดพลาดจนทำให้ไฟลุกลามขึ้น     ในคลิปจะเห็นว่าขณะที่นักดับเพลิงกำลังระดมดับไฟ และพยายามกู้ซากสิ่งของเท่าที่จะทำได้ แต่คุณตากลับอุ้มน้องแมวไว้ในอ้อมกอด เพราะมันคือสิ่งเดียวที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา     ต่อมาได้มีการนำภาพเหตุการณ์ตอนที่คุณตากอดน้องแมวไปโพสต์ลงในอินสตาแกรม Theellenshow พร้อมคำบรรยายว่า “ความรักคือทุกอย่าง…แม้ว่าบ้านของเขาจะถูกไฟไหม้ไปทั้งหลัง แต่เขาก็ยังสามารถรักษาสมบัติที่มีค่าที่สุดไว้ได้” โพสต์ดังกล่าวนี้มีคนกดไลก์เกือบ 800,000 ครั้ง และแสดงความคิดเห็นอีกนับพัน     ในข่าวยังบอกอีกว่าเพื่อนบ้านได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลังจากที่เห็นเปลวไฟมาจากบ้านของ Meşe แต่โชคดีที่คุณตากับครอบครัวหนีออกมาได้ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ มีคนบอกว่าคุณตารักแมวมาก เขาเลี้ยงแมวไว้หลายตัว แต่น่าเศร้าที่น้องแมวรอดมาได้แค่ตัวเดียว…     ต่อมา Meşe ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อทำแผลที่ถูกไฟไหม้เล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะกลับบ้านในวันต่อมา และแน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้น้องแมวอยู่ห่างจากตัวเลย     ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสัญญาว่าจะให้การช่วยเหลือ Meşe และครอบครัวเท่าที่จะทำได้…

  • ‘ให้ทุกอย่างมันจบในวันนี้’ ย้อนดูโศกนาฏกรรม ลูกวัย 15 และเพื่อนวัย 12 วางแผนฆ่าพ่อเลี้ยง

    ‘ให้ทุกอย่างมันจบในวันนี้’ ย้อนดูโศกนาฏกรรม ลูกวัย 15 และเพื่อนวัย 12 วางแผนฆ่าพ่อเลี้ยง

    เมื่อพูดถึงคดีฆาตกรรมในประวัติศาสตร์ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของ Colt Lundy และ Paul Gingerich มาบ้าง เพราะพวกเขาเป็นเด็กที่กลายเป็นฆาตกรขณะที่มีอายุเพียง 15 และ 12 ปีเท่านั้น การก่อเหตุครั้งนี้ส่งผลให้ Lundy ต้องติดคุกนานถึง 25 ปี และถูกคุมประพฤติอีก 5 ปี ด้วยข้อหาฆ่า Phillip Danner ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงเขาเมื่อปี 2010     ส่วน Gingerich และคนดูต้นทาง Chase Williams วัย 12 ปี ถูกขังสถานพินิจเด็กและเยาวชน หลังทั้งคู่รับสารภาพว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆ่าพ่อเลี้ยงของ Lundy เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนเกือบทั่วโลก ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ อะไรเป็นเหตุจูงใจให้เด็กอายุแค่นี้ลงมือฆ่าคนได้ และมันเกิดขึ้นได้อย่างไร? และต่อไปนี้คือลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดของเรื่องนี้   Phillip Danner   วันที่ 20 เมษายน ปี 2010 Danner วัย 49 ปี ถูกฆาตกรรมในบ้านของเขาที่ Doswell Boulevard เมืองครอมเวลล์ วันที่ 21…

  • โซเชียลระอุ!! เมื่อแม่ชาวจีนจับลูกมัดข้อมือติดกับมอเตอร์ไซค์ขับลากไปตามทางเพราะซนเกิน!?

    โซเชียลระอุ!! เมื่อแม่ชาวจีนจับลูกมัดข้อมือติดกับมอเตอร์ไซค์ขับลากไปตามทางเพราะซนเกิน!?

    ในแต่ละครอบครัวจะมีวิธีการเลี้ยงลูกที่ต่างกัน บางครอบครัวสอนลูกด้วยเหตุผล ในขณะพ่อแม่บางคนอาจทำโทษเล็กๆ น้อยเพื่อเป็นบทเรียนกับลูก แต่คุณแม่ชาวจีนคนนี้เลือกที่จะใช้ความรุนแรงกับลูก ด้วยการมัดเด็กน้อยติดกับรถมอเตอร์ไซค์และลากไปตามทาง โดยอ้างว่าลูกซนเกินไป หลังจากที่แม่คนนี้ลากลูกไปตามถนนสักพัก ก็มีคนมาเห็นและพยายามบอกให้เธอหยุดใช้ความรุนแรงกับลูก แต่เธอตอกกลับไปว่าได้ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว     สำนักข่าว Youku ระบุว่าแม่ลูกคู่นี้ถูกพบบนถนน Zhaotong ของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน สภาพที่เห็นคือเด็กน้อยนอนลงกับพื้น โดยมือทั้งสองข้างถูกผูกติดกับท้ายมอเตอร์ไซค์ ขณะที่ถูกแม่ลากไปตามท้องถนนนั้น เด็กชายร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด จนคนที่พบเห็นพยายามเข้าไปห้ามแต่คุณแม่ก็ไม่ยอมหยุด ในคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ คุณแม่คนนี้บอกว่า “ลูกชายของฉันซนเกินไป ฉันกำลังสอนบนเรียนให้กับเขา” และเธอยังบอกอีกว่าทำแบบนี้มาสองสามวันแล้ว     หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงวิธีการทำโทษที่ไม่เหมาะสม บางคนบอกว่า ‘นี่มันโหดร้ายเกินไป’ ‘ถ้าเราแจ้งให้ตำรวจทราบ จะสามารถทำให้แม่คนนี้หมดสิทธิในการเลี้ยงดูได้หรือไม่?’ และมีิอีกหลายคนบอกว่า ‘กังวลว่าเด็กคนนี้จะกลายเป็นคนมีปมปัญหาทางจิต’     อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่าคุณแม่คนนี้ทำอย่างไรต่อไปหลังถูกชาวเน็ตโจมตี และไม่มีใครรู้ว่าสภาพของเด็กชายเป็นอย่างไร แต่คาดว่าตำรวจคงไม่ปล่อยให้แม่ทำกับลูกแบบนี้ต่อไปอีกแน่   ที่มา dailymail

  • หญิงสาวผู้เกิดมาเป็นโรคหายาก 1 ใน 5 ล้านคนจะเป็น แต่ก็ยังยิ้มได้ในทุกๆ วันของชีวิต

    หญิงสาวผู้เกิดมาเป็นโรคหายาก 1 ใน 5 ล้านคนจะเป็น แต่ก็ยังยิ้มได้ในทุกๆ วันของชีวิต

    ไม่สำคัญว่าคุณจะเกิดมารวยหรือจน ไม่สำคัญว่าคุณจะเกิดมาด้วยร่างกายที่สมบูรณ์หรือไม่แต่สำคัญที่ว่าวันนี้คุณใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับสิ่งที่เป็นหรือเปล่า เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่เกิดมาพร้อมโรคทางพันธุกรรมที่หายาก ทำให้มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างจากคนทั่วไปแต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเธอก็เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มเสมอ Michelle Kish วัย 20 ปี จากรัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเกิดมาพร้อมกับโรค Hallermann-Streiff ซึ่งเป็นโรคที่หาได้ยากมากๆ โดยตอนที่เธอเกิดมีคนเป็นโรคนี้เพียง 250 คนจากทั่วโลก     ด้วยโรคที่หายากนี้ ทำให้ลักษณะใบหน้าของ Kish ดูเหมือนเด็ก ขณะที่สภาพร่างกายก็ดูแคระแกร็น และมีความสูงที่สูงกว่าเอวของพี่สาวเพียงเล็กน้อย เธอต้องได้รับการรักษาพยาบาลตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน โดยมีพยาบาลส่วนตัวที่ไปโรงเรียนกับเธอและต้องพาเธอไปโรงพยาบาลเป็นประจำ การได้ไปพบแพทย์บ่อยๆ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ Kish มีความสุขมากที่สุด เพราะเธอมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นกุมารแพทย์     ตอนนี้เธอมีฝันอีกอย่างหนึ่งคือ อยากเดินตามรอยเท้าพี่สาว Sarah ในการหาแฟนหนุ่มที่มีผมยาวและรักเธอด้วยหัวใจ Kish บอกว่า “ผู้คนมักจะคิดว่าฉันดูเด็กกว่าอายุจริงมาก พวกเขามักจะแสดงอาการแบบนั้นออกมาเมื่อถามอายุของฉัน เพียงแต่ไม่พูดออกมาเท่านั้นเอง”     Mary ผู้เป็นแม่และเป็นผู้ดูแลหลักของหญิงสาวบอกว่า “ตอนที่ฉันอุ้มท้อง Kish ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ ไม่มีปัญหาอะไรเลยตลอดช่วงตั้งครรภ์รวมทั้งตอนคลอดด้วย” “แต่แล้วแพทย์ก็พบความผิดปกติบางอย่างกับ Kish แต่มันเป็นสภาพที่หายากมากๆ พวกเขาจึงต้องหาตัวอย่างจากโรงพยาบาลอื่น” “ไม่มีใครเคยเห็นโรคนี้มาก่อนในโรงพยาบาล Children’s Memorial Hospital ที่ Kish เกิดมา และเมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรค Hallermann-Streiff…

  • คู่รักเดือด หลังช่างภาพถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง เอาภาพไปตัดต่อให้ดูผอมลงแล้วโพสต์ลงพอร์ท

    คู่รักเดือด หลังช่างภาพถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง เอาภาพไปตัดต่อให้ดูผอมลงแล้วโพสต์ลงพอร์ท

    ปกติเวลาจ้างช่างภาพมาถ่ายรูปให้ ไม่ว่าจะงานแต่ง งานรับปริญญา หรืองานสำคัญต่างๆ พอถ่ายเสร็จช่างภาพจะเอารูปเหล่านั้นไปปรับแต่งให้สวยงาม ก่อนจะมอบให้ลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะพอใจกับภาพที่ถูกรีทัชแล้วเหล่านั้นเพราะมันทำให้พวกเขาดูดีกว่าตัวจริง แต่นั่นไม่ใช่กับบ่าวสาวคู่นี้ที่ไม่พอใจอย่างหนักหลังพบว่าช่างภาพตัดต่อรูปทำให้พวกเขาดูผอมลง Katie Liepold จากรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าเธอต้องพบเจอกับประสบการณ์ที่อับอาย เมื่อช่างภาพที่จ้างมารูปพรีเวดดิ้งทำให้เธอกับคู่หมั้น Jon Kistler ดูผอมลงจากตัวจริง     ทั้งคู่ได้จ้างช่างภาพ Linda Silvestri จากสตูดิโอ Tower Photography ซึ่งตอนถ่ายทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งได้เห็นภาพนั่นแหละ Liepold บอกว่าครั้งแรกเธอสังเกตเห็นมีการเบลอภาพแปลกๆ ตรงมุม แล้วพอดูดีๆ ก็พบว่ารูปที่ถ่ายนั้นถูกทำให้ผอมลง ต่อมาว่าที่เจ้าสาวจึงได้ติดต่อไปยังช่างภาพ Silvestri และบอกกับเธอว่า “มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ มันทำให้ฉันรู้สึกน้อยใจและภาพที่ออกมามันก็ยังไม่ดีพอ”     เมื่อได้ยินดังนั้นช่างภาพจึงเสนอให้ยกเลิกสัญญา แต่ทว่าความเจ็บปวดของ Liepold ไม่ได้จบลงแค่นั้น เพราะช่างภาพบอกว่าจะไม่คืนเงินค่ามัดจำ 4,700 บาทให้ ถือเป็นค่าเสียเวลาและภาพที่ถ่ายไปแล้ว วันถัดมา Liepold เห็น Silvestri โพสต์ภาพของเธอกับคู่หมั้นลงในเพจ Northeast Ohio…

  • ศิลปินเปลี่ยนน้ำหกเลอะเทอะให้กลายเป็นงานศิลปะ สร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์

    ศิลปินเปลี่ยนน้ำหกเลอะเทอะให้กลายเป็นงานศิลปะ สร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์

    ปกติเวลาเราทำน้ำหก ในบ้านหรือเห็นแอ่งน้ำตามที่ต่างๆ เราจะรู้สึกว่ามันเป็นความเลอะเทอะที่ต้องรีบเช็ดออก หรือไม่ก็เดินเลี่ยงมันซะ แต่สำหรับ Jeffrey Michael Austin ศิลปินจากชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปลี่ยนแอ่งน้ำที่สกปรกให้กลายเป็นงานศิลปะที่น่ามอง     ในขณะที่คนส่วนใหญ่เดินเลี่ยงแอ่งน้ำ แต่ Austin กลับเกิดความสนใจและมองว่ามันเป็นสิ่งสวยงาม โดยเฉพาะเวลาที่มีเงาสะท้อนของดวงอาทิตย์ตกกระทบ จากความสนใจเล็กๆ นี้ ทำให้เขาตัดสินใจทำแอ่งน้ำปลอมให้กลายเป็นงานประติมากรรมที่มีลวดลายที่น่าหลงใหลอย่างเช่นลายกาแล็กซี     Austin ได้ตั้งชื่อผลงานชิ้นนี้ว่า The Puddles ซึ่งเป็นความต้องการของเขาที่อยากให้ผู้คนสัมผัสถึงความเป็นศิลปะในโลกใบนี้ เขาบอกว่า “ผมหวังว่าผู้คนจะได้เห็นรายละเอียดที่อ่อนโยนของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และเกิดความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อต้องเห็นภาพที่ไม่ชวนมอง”     นี่เป็นเพียงผลงานส่วนหนึ่งเท่านั้น หากใครชื่นชอบในความแตกต่างที่สร้างสรรค์นี้ เพ่ื่อนๆ สามารถติดตามได้ที่อินสตาแกรม jeffreymichaelaustin     น้ำหกที่ใครๆ ก็สนใจและอยากเข้าไปสัมผัส   ศิลปะน้ำหก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการศิลปะ   แอ่งน้ำที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนได้เห็นอีกด้านของศิลปะ   เห็นแว่บแรก หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นน้ำหกจริงๆ   แต่จริงๆ แล้ว มันคือน้ำหกหลอกๆ ที่ถูกตกแต่งด้วยลวดลายอันงดงาม   ไม้ถูพื้นที่เห็นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานชิ้นนี้นะ .  …

  • หญิงสาวที่โยนหมาลงมาจากชั้น 6 ถูกคุกคามหนักจากประชาชน ถึงขั้นบุกไปถึงหน้าประตูบ้าน

    หญิงสาวที่โยนหมาลงมาจากชั้น 6 ถูกคุกคามหนักจากประชาชน ถึงขั้นบุกไปถึงหน้าประตูบ้าน

    จากประเด็น ‘สาวจีนขอเงินเพื่อแลกกับการคืนหมาแก่เจ้าของ แต่เงินไม่มากพอ เธอเลยโยนหมาลงมาจากตึกชั้น 6’ ที่ได้นำเสนอไปเมื่อไม่นานนี้ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่พร้อมจะให้อภัย ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า He Li คนที่โยนน้องหมาลงมาจากชั้น 6 ได้เผยแพร่คลิปสั้นๆ ของตัวเองขณะร้องไห้และขอโทษต่อสิ่งที่ได้ทำลงไป แต่ผู้คนจำนวนมากกล่าวว่าเธอทำวีดีโอนี้ขึ้นมาเพื่อหลบหนีความผิดเท่านั้น     เช่นเดียวกับ Xiao Wu เจ้าของน้องหมาที่ออกมาบอกต่อสื่ออย่างชัดเจนว่าเธอจะไม่มีทางยอมรับคำขอโทษของ He Li อย่างเด็ดขาดและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน นอกจากรอรับโทษทางกฎหมายแล้ว ชาวจีนจำนวนมากได้สืบหาข้อมูลของ He Li และสามีของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ที่ทำงาน ข้อมูลประกันสังคม ทะเบียนรถ รวมไปถึงข้อมูลจากทางโรงพยาบาลที่เธอฝากครรภ์     หลังจากได้ข้อมูลเหล่านี้มา ชาวจีนบางคนได้โทรไปข่มขู่เธอ ส่งข้อความน่ากลัวไปให้เธอ บางคนส่งพวงหรีดไปให้ ในขณะที่บางคนส่งธนบัตรปลอมที่สำหรับเผาให้คนตายไปให้ ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมามีคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปหาถึงประตูหน้าบ้านและตะโกนข่มขู่สามีของ He Li ว่าพวกเขาไม่รับประกันความปลอดภัยของลูกสาวของเขา     ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ไม่ได้จบลงแค่นั้น เพราะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีคนกลุ่มคน 6 คน ได้บุกเข้าไปถึงบ้านของ He Li และเรียกร้องให้เธอออกมาขอโทษประชาชน แต่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุการณ์นี้…

  • ตำรวจมึน หลังเจอรถจอดผิดที่ กำลังจะให้ใบสั่ง อ้าว นี่มันหิมะนี่หว่า!!

    ตำรวจมึน หลังเจอรถจอดผิดที่ กำลังจะให้ใบสั่ง อ้าว นี่มันหิมะนี่หว่า!!

    ในต่างประเทศเวลามีหิมะตก เด็กๆ มักจะปั้นหิมะเล่น ซึ่งบางทีผู้ใหญ่บางคนก็ปั้นเล่นเหมือนกันนะ และแน่นอนว่าฝีมือผู้ใหญ่มันก็ต้องยิ่งใหญ่และดูสมจริงกว่าอยู่แล้ว เหมือนกับผลงานรถหิมะคันนี้ที่ถูกปั้นให้ดูเหมือนรถที่โดนหิมะเกาะ แถมยังอยู่ในที่ห้ามจอดด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าเขาแค่ปั้นเล่นหรือตั้งใจแกล้งคนอื่นกันแน่ แต่มันเนียนซะจนหลอกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อยู่หมัดเลยหละ     นี่คือรถหิมะที่ทำขึ้นโดย Montrealer Simon Laprise ช่างเครื่องและช่างไม้วัย 33 ปี เขาบอกว่า “ผมเป็นคนที่หลงใหลในการสร้างและออกแบบสิ่งต่างๆ”     เขาบอกอีกว่า “ผมได้ใช้ความคิดอันสร้างสรรค์สร้างรถสุดเจ๋งขึ้นมาในวันที่สวยงามเช่นนี้” แต่ประเด็นคือเขาไปสร้างรถหิมะอยู่ในที่ห้ามจอด จนกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ     ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบรถคันกล่าวที่จอดอยู่ในพื้นที่ห้ามจอด โดยไม่รู้ว่ามันทำมาจากหิมะเลยตั้งใจจะออกใบสั่งให้     แต่ในเมื่อพวกเขารู้ว่าตัวเองโดนหิมะต้มซะเปื่อย ในเมื่อไม่สามารถออกใบสั่งรถหิมะได้ พวกเขาก็ทิ้งโน้ตเล็กๆ เอาไว้แทนซึ่งมีข้อความระบุว่า “คุณทำให้วันนี้เป็นวันที่พิเศษของเรา” พร้อมกับใส่หน้ายิ้ม   ต่อมาภาพนี้ได้ถูกแชร์ใน Reddit และตามสื่่อออนไลน์อื่นๆ อีกมากมาย จนกระทั่งเจ้าของถึงกับต้องออกมาบอกเหตุผลที่ทำรถนี้ขึ้นมา… “ผมก็แค่อยากจะทำรถเพื่อไว้แกล้งคนเก็บกวาดหิมะ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเกือบได้ทั้งใบสั่ง แถมยังดังไปทั่วเน็ตอีกนะเนี่ย!!”     โถๆๆ หลอกกันซะได้ ที่มา buzzfeed 

  • เพื่อนกันคนละพันธุ์ “กระรอก” ตกต้นไม้ในวันนั้น เป็นเพื่อนซี้ “พี่เหมียว” ติดกันไม่ห่าง

    เพื่อนกันคนละพันธุ์ “กระรอก” ตกต้นไม้ในวันนั้น เป็นเพื่อนซี้ “พี่เหมียว” ติดกันไม่ห่าง

    โดยปกติแล้ว สัตว์ต่างสายพันธุ์มักจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ พวกมันจะหวงแหนพื้นที่ของตัวเองและจะคอยป้องกันถิ่นตนเองเมื่อถูกสัตว์ชนิดอื่นเข้ามารุกราน แต่สำหรับกระรอกแดงที่ชื่อ Tin-Tin กับเจ้าเหมียว Tiger วัย 13 ปี พวกมันกลายเป็นเพื่อนรักที่แยกจากกันไม่ได้ นับตั้งแต่กระรอกน้อยได้รับการช่วยเหลือเมื่อยังเล็ก     ย้อนกลับไปตอนนั้น Decan Andersen วัย 38 ปี จากประเทศเดนมาร์ก ได้ช่วยเหลือเจ้ากระน้อยที่ตกลงมาจากต้นไม้สูงและร่วงไปอยู่ที่สวนหลังบ้านของเขา ซึ่งตอนนั้นมันอายุแค่ 1 เดือนเอง Tin-Tin ได้รับบาดเจ็บสาหัส มันมีแผลลึกที่บริเวณหน้าอกเนื่องจากโดนกิ่งไม้ขีดข่วนตอนร่วงลงมา Decan เลยตัดสินใจออกห่างจากกระรอกน้อยเพื่อรอให้แม่ของมันมาช่วยเหลือ     แต่หลังจากที่แม่กระรอกลงมาดูลูกน้อย สักพักมันก็วิ่งจากไป น่าจะเป็นเพราะลูกอยู่ในขั้นวิกฤติจนมันไม่สามารถช่วยเหลือได้ ดังนั้น Decan จึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ Tin-Tin ตั้งแต่นั้นมา และหลังจากที่มันได้รับรักษาจนหายดีแล้ว เขาก็พามันเข้าบ้านและเลี้ยงรวมกับเจ้าเหมียว Tiger และ Coco (น้องสาวของ Tiger ที่ตอนนี้ตายไปแล้ว)     เจ้าของบอกว่า “ทันทีที่ผมพา Tin-Tin เข้ามาในบ้าน Coco ก็พุ่งเข้าไปหามันทั้งกอดทั้งเลียด้วยความเอ็นดู แต่ตอนนั้น Tiger ออกไปข้างนอกยังไม่กลับมา” เมื่อ Tiger กลับมา มันรู้เลยว่าน้องของมันชอบเจ้ากระรอกตัวนี้ และไม่อยากให้มันทำอะไรเพื่อนใหม่ตัวนี้ด้วย ดังนั้นมันจึงปล่อยให้น้องอยู่กับเพื่อนใหม่โดยที่มันไม่เข้าไปยุ่งเลย…

  • หนุ่มเดินตามมาจับก้นคุณแม่ลูกสองถึง 5 ครั้ง แถมบอกว่า ‘โทษทีนะ ผมต้องทำ เพราะคุณเด็ดจริงๆ’

    หนุ่มเดินตามมาจับก้นคุณแม่ลูกสองถึง 5 ครั้ง แถมบอกว่า ‘โทษทีนะ ผมต้องทำ เพราะคุณเด็ดจริงๆ’

    ปัจจุบัันนี้มีโรคจิตหลายรูปแบบที่พยายามแต๊ะอั๋งผู้หญิง บางคนเลือกที่ที่มีคนพลุกพล่าน บางคนเลือกที่ที่ลับตาคน เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ หรือแม้ว่าเหยื่อจะร้องโวยวายในที่เกิดเหตุ โรคจิตก็มักจะไม่ยอมรับความผิดและหาวิธีหนีไปได้ในที่สุด แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ มันแตกต่างออกไป เพราะโรคจิตคนนี้ได้ตามจับก้นผู้หญิงคนเดียวถึง 5 ครั้ง ในที่โจ่งแจ้ง แถมยังหันไปยิ้มให้กล้องวงจรปิดด้วย Jesse Ratu คุณแม่ลูกสองวัย 24 ปี ผู้ตกเป็นเหยื่อเล่าว่าระหว่างทางที่กลับจาก Gold Coast มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินตามหลังมาติดๆ     ชายคนนั้นเดินตามมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงหน้าอพาร์ทเมนต์ Southport ของเธอ ระหว่างที่ Jesse กำลังยืนปลดล็อคประตู จู่ๆ ชายคนหนึ่งก็เข้ามาจับก้นเธอถึง 5 ครั้งด้วยกัน ภาพจากกล้องวงจรปิดของอพาร์ทเมนต์ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่ตอนเดินตาม จนถึงจับก้น แถมชายคนนั้นยังหันไปยิ้มให้กล้องด้วย     คุณแม่ลูกสองบอกอีกว่า “หลังจากที่โดนจับก้น ฉันหันไปมองหน้าเขาแล้วบอกกับเขาว่า ‘อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ’ แต่เขากลับตอบมาว่า ‘โทษทีนะ ผมต้องทำเพราะคุณเด็ดจริงๆ’” จากนั้นเธอก็วิ่งเข้าไปข้างในและเล่าเรื่องทุกอย่างให้สามีของเธอ Brendan Wilson ฟัง เขาโกรธมากและวิ่งออกไปข้างนอกเพื่อไปจัดการชายโรคจิตคนนั้น แต่ปรากฏว่าเขาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว     Jesse…

  • ชาวจีนลั่น ‘ไม่อยากมาไทยแล้ว’ หลังเห็นราคาอาหารฟันหัวแบะ แม่ค้าเพิ่งจะยอมปรับเหลือ 80 บาท!?

    ชาวจีนลั่น ‘ไม่อยากมาไทยแล้ว’ หลังเห็นราคาอาหารฟันหัวแบะ แม่ค้าเพิ่งจะยอมปรับเหลือ 80 บาท!?

    ว่าด้วยเรื่องราคาอาหารในบ้านเราที่กลายเป็นประเด็นเด่นในโซเชียลหลายต่อหลายครั้ง เพราะบางร้านโดยเฉพาะร้านที่อยู่ในย่านท่องเที่ยว มักจะตั้งราคาที่แพงเกินไปจนผู้คนรับไม่ได้ ล่าสุดเกิดประเด็นดราม่าอีกแล้วและไม่ใช่แค่ในไทย เพราะข่าวนี้ดังไกลไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศจีน จนทำให้ชาวจีนบางคนถึงกับลั่น ‘ไม่อยากมาไทยแล้ว’ เรื่องของเรื่องเกิดจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านประตูน้ำ ได้ขายข้าวกะเพราหมูกรอบ-ไข่ดาว จานละ 150 บาทให้กับลูกค้า จนลูกค้าคนดังกล่าวรู้สึกว่าราคานี้แพงเกินไปและได้ถ่ายรูปไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก     ต่อมามีชาวเน็ตแห่คอมเมนต์กันว่าราคากะเพราหมูกรอบ-ไข่ดาว จานละ 150 บาทสำหรับคนไทยนั้นแพงเกินไปจริงๆ ก่อนจะกลายประเด็นดังที่สื่อต่างๆ นำไปวิพากษ์วิจารณ์     ในที่สุดเมื่อเรื่องนี้ถึงหูเจ้าของร้าน ทางแม่ค้าจึงได้ออมาชี้แจงว่าที่ขายราคา 150 บาท นั้นเพราะคิดว่าเป็นคนจีน หากรู้ว่าเป็นคนไทยจะขายให้ในราคา 80 บาท แต่แล้วคำชี้แจงนี้ก็ล่วงรู้ไปถึงหูนักท่องเที่ยวชาวจีน และแน่นอนว่าพวกเขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่แม่ค้าคนไทยจงใจตั้งราคาสูงสำหรับคนจีน ประเด็นนี้ถูกนำไปโพสต์ในเพจในเว็บไซต์ weibo ซึ่งเป็นเพจที่นำเสนอเรื่องราวของเมืองไทยให้คนจีนได้เข้าใจคนไทย จนได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเป็นจำนวนมาก     ทางเพจได้เผยแพร่ข่าว “แม่ค้าขายอาหารที่ประตูน้ำ ขายราคาแพง แบ่งเรทราคา ราคาคนจีน (ต่างชาติ) และคนไทย” โดยต้องการบอกให้คนจีนรู้ว่าชาวไทยเองก็ไม่พอใจกับเหตุการณ์นี้เหมือนกัน ชาวเน็ตจีนหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยอารมณ์โมโหว่า ‘ไม่อยากมาไทยอีกแล้ว’ ‘ไม่กล้าไปไทยแล้ว’ บ้างก็บอกว่า ‘รู้แล้วว่าทำไมตอนไปเกาะสมุยถึงรู้สึกว่าราคาอาหารแพงมาก ที่แท้แบ่งแยกราคาคนจีนกับคนไทยนี่เอง’ อย่างไรก็ตาม มีชาวจีนอีกจำนวนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นกลางว่า ‘ทุกที่มีทั้งคนดีและไม่ดี สถานที่ท่องเที่ยวของจีนเองก็ขายราคาแพงแบบนี้ให้คนต่างชาติเหมือนกัน’ บางคนบอกว่า ‘ไปเที่ยวไทยมา…

  • เจ้าหมีขั้วโลกขอเซลฟี อวดให้มนุษย์ได้รู้ซะบ้างว่า ‘ข้าน่ะ มีท่าเซลฟี เจ๋งที่สุดแว้ว’

    เจ้าหมีขั้วโลกขอเซลฟี อวดให้มนุษย์ได้รู้ซะบ้างว่า ‘ข้าน่ะ มีท่าเซลฟี เจ๋งที่สุดแว้ว’

    มนุษย์เราอาจจะคุ้นชินกับการใช้กล้อง บางคนติดการเซลฟีมากๆ ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นต้องแชะภาพตลอด ที่สำคัญรู้ด้วยว่าถ่ายยังไง มุมไหน หรือท่าไหนให้ตัวเองดูดีสุด สำหรับสัตว์ พวกมันไม่มีรู้จักหรอก เซลฟงเซลฟีอะไรเนี่ย… แต่ก็ไม่แน่นะถ้าเราลองทิ้งกล้องไว้กับสัตว์ มันอาจจะเกิดสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็ได้ เหมือนกับเจ้าหมีขั้วโลกตัวนี้ที่มีความสนอกสนใจ อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับกล้องที่เจ้าหน้าที่ไปติดตั้งเอาไว้ สุดท้ายได้ภาพเซลฟีสุดคูลของมันมา ชนิดที่ว่ามนุษย์ก็ทำไม่ได้หร๊อก     เมื่อไม่นามานี้เจ้าหน้าที่จากเขตอนุรักษ์ธรรมชาติของเกาะ Wrangel ได้นำกล้องพร้อมกับอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิบนเกาะไปติดตั้งไว้บนเกาะที่อยู่ระหว่างทะเลตะวันออกของไซบีเรียกับทะเลชุกชี เพื่อสำรวจอาณาเขตของหมีขั้วโลก ทั้งนี้จากการสำรวจครั้งล่าสุดพบว่าบนเกาะแห่งนี้มีหมีขั้วโลกอยู่ 600 ตัว…แต่การสำรวจในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่คิดเลยว่าจะได้ของแถมมาด้วย     ของแถมที่ว่านี้เป็นภาพเซลฟีของเจ้าหมีขั้วโลกผู้มีความอยากรู้อยากเห็นและเข้าไปเล่นกับกล้องสำรวจที่ถูกติดตั้งเอาไว้บนเกาะ หนึ่งในภาพเซลฟีที่ดูไม่ธรรมดา คือภาพที่ถ่ายจากด้านล่าง เผยให้เห็นคาง ปากและจมูกของมัน โดยมีพื้นหลังเป็นท้องฟ้าสดใส อย่างกับภาพของชาวฮิปสเตอร์แหนะ     คูลกว่านี้หาไม่ได้แล้ว   ฮิปสเตอร์เค้าไม่ถ่ายรูปหน้าเต็มหรอก   นี่ มีการโฟกัสที่ภูมิทัศน์ซะด้วย   และเมื่อดูจากกล้องอีกตัวที่ติดตั้งในบริเวณก็ได้พบว่าเจ้าหมีขั้วโลกตัวนี้ทำอะไรกับกล้องบ้าง ซึ่งจากที่เห็น ดูเหมือนมันจะมีอุปสรรคในการถ่ายรูปนิดหน่อย เพราะกล้องมันอยู่สูงเกินไป แต่อย่างน้อยก็รู้ว่ามันคงสนุกที่ได้เล่นอะไรใหม่ๆ   ภาพจากกล้องอีกตัว   ที่มา siberiantimes

  • เหล่าบุคคลที่ไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น กฎเกณฑ์ทุกอย่างพังทลาย ก็ใครจะทำไมล่ะ!?

    เหล่าบุคคลที่ไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น กฎเกณฑ์ทุกอย่างพังทลาย ก็ใครจะทำไมล่ะ!?

    ธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะปรับตัวให้เข้าสังคม สิ่งแวดล้อม กฎหมาย กฎธรรมชาติ จารีตประเพณี ศีลธรรม หรือที่อย่างที่คนโบราณบอกว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เพื่อจะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติเค้า แต่มันจะมีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่มีความเป็นตัวเองสูงถึงสูงมาก ไม่สนใจอะไรเลย คนอื่นจะเป็นยังก็ช่าง กฏเกณฑ์อะไร ข้าไม่รู้จัก ก็ตรูแฮปปี้ที่จะเป็นแบบนี้อ่ะ แล้วไงอ่ะ!?   1. นี่คือคนที่อายุจะย่างเข้า 99 ปีจริงๆ เหรอ? ออกกำลังแล้วจิบแอลกฮอล์ไปพลางก็ได้เหรอฮะ?   2. เมื่อปล่อยให้พ่อสอนลูกยิงธนู… แล้วดูทำหน้า ชิลมาก   3. โอ้ยยย สะกิดอะไรนักหนา คนจะถ่ายรูป   4. วันนี้วันหยุดอะ ขอนอนดูหนังยาวๆ ละกัน…นี่คุณพี่คงไม่เข้าไปซื้อป๊อบคอร์นในสภาพนี้ด้วยใช่มั้ย?   5. กฎมีไว้แหก แหกให้หมดทุกข้อ   6. ขออยู่แบบนี้แป๊บ ข้างล่างมันเย็นดี   7. สาวๆเล่นโยคะกันตามสบายเลย ผมไม่สนหรอก ผมจะนอน จริงจริ๊ง   8. ก็ยายไม่รีบไง เอ้อออ  …

  • นักเรียนมาสายเพราะฝนตกรถติด โวยวายครูล็อกห้องไม่ให้เข้า ชาวเน็ตร่วมสั่งสอนให้รู้สึก!!

    นักเรียนมาสายเพราะฝนตกรถติด โวยวายครูล็อกห้องไม่ให้เข้า ชาวเน็ตร่วมสั่งสอนให้รู้สึก!!

    ในวัยเรียน หลายคนอาจมีข้ออ้างสำหรับการมาเรียนสาย ไม่ว่าจะฝนตก รถติด ตื่นสาย แต่จริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่ต้องหาวิธีจัดการเอง ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะเจอเรื่องอย่างนักเรียนกลุ่มนี้ ที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกคุณครูล็อกห้องไม่ให้เข้าเรียกเพราะพวกเขามาสายเกินเวลาที่กำหนด กลุ่มนักเรียนชายจากโรงเรียนสารพัดช่างแห่งหนึ่งในสิงคโปร์พร้อมเพื่อนอีก 4 คน ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุว่าพวกเขามาสาย 15 นาที เพราะฝนตกและรถติด แต่กลับถูกครูล็อกประตูไม่ให้เข้า และอ้างว่าครูไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น     กลุ่มนักเรียนที่อยู่ข้างนอกได้ถ่ายรูปของคุณครูที่สอนอยู่ข้างใน ซึ่งเป็นคนที่ล็อกประตูพวกเขาลงในเฟซบุ๊กด้วย   และถ่ายรูปตัวเองที่อยู่นอกห้องเรียนเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม   โพสต์ดังกล่าวนี้ถูกแชร์ต่อๆ กันในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วและได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเกิดเป็นประเด็นถกเถียง เพราะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนบอกว่าครูคนนี้ ‘เข้มงวดเกินไป’ และนักเรียนเองก็เป็นแค่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ นักเรียนไม่ควรต้องถูกลงโทษ เพราะวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักมากจริงๆ     อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตส่วนใหญ่มีความเห็นว่าสิ่งที่ครูทำนั้นถูกต้องแล้ว เธอต้องสอนบทเรียนให้เด็กที่มาสายและเพื่อให้ความเป็นธรรมกับนักเรียนที่มาตรงเวลาด้วย และเพราะเวลาที่คุณไปทำงาน ไม่มีใครมาสนใจหรอกว่าคุณมาสายเพราะอะไร     บางคนบอกว่าแทนที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมในสังคมออนไลน์ นักเรียนกลุ่มนี้ควรจะแก้ไขปัญหาของตัวเองและควรจะขอโทษสำหรับการมาสายดีกว่า เพราะการมาสายเป็นกลุ่มไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างได้ ทุกๆ คนควรให้ความสำคัญไปที่ความรับผิดชอบส่วนบุคคลมากกว่า     หลังจากที่มีกระแสโจมตีอย่างหนัก นักเรียนกลุ่มนั้นเลยตัดสินใจลบโพสต์ต้นเรื่องไป แต่ก็ยังคงยืนยันว่าพวกเขาสมควรได้รับความเป็นธรรม…

  • เหล่าสัตว์เลี้ยงกับการได้เห็นหิมะเป็นครั้งแรก โอ้ววว้าวววววว มันน่าตื่นเต้นจริงจริ๊งงงง!!

    เหล่าสัตว์เลี้ยงกับการได้เห็นหิมะเป็นครั้งแรก โอ้ววว้าวววววว มันน่าตื่นเต้นจริงจริ๊งงงง!!

    การได้เห็นอะไรเป็นครั้งแรก เรามักจะรู้สึกตื่นเต้นเสมอ อย่างเช่น หิมะ เพราะมันคือสิ่งที่บ้านเราไม่มี ดังนั้นเมื่อไปต่างประเทศในช่วงที่หิมะตก อื้อหือ คงจะฟินน่าดู ไม่ใช่แค่เรานะรู้สึกแบบนั้น เหล่าสัตว์เลี้ยงเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน แหม่ บางตัวนี้พอได้สัมผัสกับหิมะเท่านั้นแหละ ติดหนึบไม่ยอมไปไหน   1. ปฏิกิริยาของน้องหมีขั้วโลกน้อยเมื่อเจอหิมะครั้งแรก   2. โอ้ววว สีขาวนี่มันอะไร ห๊า!! หิมะ หิมะ หิม้าาาาาา   3. ได้เห็นหิมะทั้งที ขอเอาหน้าซุกอยู่ในนี้สักพักนะ   4. สุขไหนเล่าจะเท่าการได้เล่นหิมะ ยี้ฮ้าาาา   5. เล่นหิมะครั้งแรก มันก็จะเงอะงะหน่อยๆ อะนะ   6. อู้ววว หิมะมันเป็นแบบนี้หรอเนี่ย   7. น้องหมาวิ่งฝ่าหิมะ เรียกยังไงก็ไม่ยอมกลับ   8. โดนหิมะเกาะเต็มตัวเลย   9. นี่คงจะยังงงๆ อยู่   10. ทำหน้าแบบนี้เดาไม่ถูกเลยว่าน้องเหมียวรู้สึกยังไงกับหิมะกันแน่  …

  • นางแบบสาวต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไป เพราะติดเชื้อจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด

    นางแบบสาวต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไป เพราะติดเชื้อจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด

    ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้หญิงเมื่ออยู่ในวันนั้นของเดือน โดยเฉพาะคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะมันใช้ง่ายและสะดวกต่อการพกพา อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้มีแค่ด้านดีอย่างเดียว เพราะไม่นานมานี้ นางแบบสาว Lauren Wasser วัย 29 ปี ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้าง หลังติดเชื้อจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด นางแบบสาวได้ทราบอาการติดเชื้อของตัวเองเมื่อปี 2012 ก่อนจะถูกตัดขาทั้งสองข้างเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ โดยมีนักกีฬาพาราลิมปิก Amy Purdy ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในเหยื่อของผ้าอนามัยแบบเข้าไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลด้วย     แน่นอนว่านี่เป็นการสูญเสียที่เลวร้ายมากสำหรับเธอในฐานะนางแบบ เธอยังรู้สึกเสียใจทุกวันที่ตื่นมาพบว่าไม่มีขาเหมือนเดิมแล้ว แต่ในเมื่อทุกอย่างมันแก้ไขไม่ได้แล้ว เธอจึงต้องพยายามใช้ขาเทียมให้ชิน ที่สำคัญเธอพยายามขับเคลื่อนเพื่อช่วยให้คนอื่นไม่ต้องมาตกเป็นเหยื่อเพิ่มอีก ปัจจุบัน Wasser เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนและผลักดันให้ทางสถาบันสุขภาพแห่งชาติช่วยตรวจสอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยของผู้หญิงอย่างเคร่งครัด และรับรองความปลอดภัยก่อนวางจำหน่าย     นางแบบสาวได้ร้องเรียนเรื่องนี้ภายใต้ชื่อ Robin Danielson Act ซึ่งเป็นชื่อของผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียชีวิตจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด เมื่อปี 1998 โดยต้องการให้ทางสถาบันสุขภาพแห่งชาติทำวิจัยเพื่อศึกษาความเสี่ยงผลิตภัณฑ์อนามัยสำหรับผู้หญิงที่อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ Wasser เคยยื่นเรื่องในทางการพิจารณาถึง 10 ครั้ง แต่มันไม่เคยได้รับการอนุมัติ จนกระทั่งเธอได้มีโอกาสเล่าประสบการณ์อันเลวร้ายของตัวเองผ่านเวที TED Talk ซึ่งเป็นเวเทีแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ หญิงสาวเล่าว่าเธออายุ 24 ปี ตอนที่ล้มป่วยจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด โดยหลังจากที่แม่ของเธอสงสัยว่าลูกสาวเงียบหายไป จึงได้โทรตามตำรวจให้มาตรวจสอบ…

  • เหมียวหูหนวกขาวจั๊วะสองพี่น้อง กอดกันราวจะสิงร่าง นอกจากสิงกันเองแล้วก็พยายามจะสิงร่างมนุษย์ด้วย

    เหมียวหูหนวกขาวจั๊วะสองพี่น้อง กอดกันราวจะสิงร่าง นอกจากสิงกันเองแล้วก็พยายามจะสิงร่างมนุษย์ด้วย

    ต่อให้เกิดมามีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ ต่อให้ชีวิตต้องพบเจอกับอุปสรรคปัญหามากมาย ต่อให้ต้องล้มอีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีถ้าเพียงมีความรัก เหมือนกับแมวเหมียวสองพี่น้อง Moo และ Goo ที่แม้จะเกิดมาหูหนวกทั้งคู่ แต่พวกมันมีความรักให้กันเสมอและไม่ว่าอะไรก็สามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้ สมาชิก reddit ที่ใช้ชื่อว่า Rundmcc ได้เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวทั้งสองตัวว่าเมื่อครอบครัวเขาเดินเข้าไปในศูนย์พักพิงเพื่อรับเลี้ยงแมว พวกเขาได้ตกหลุมรัก Moo กับ Goo ตั้งแต่แรกเห็นและตัดสินใจรับเลี้ยงทั้ง 2 ตัวพร้อมกัน     แมวสองพี่น้องนี้มีขนสีขาวจั๊วะ และหูหนวก แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิตของพวกมัน ที่น่าแปลกใจคือพวกมันส่งเสียงได้ทั้งที่ไม่ได้ยินเสียง Rundmcc บอกว่า “มันเป็นแมวที่น่ารักและอบอุ่นที่สุดเท่าที่เราเคยเลี้ยงมาก และด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้มันชอบเดินตามฉันไปทุกที่ทั่วบ้าน” “ถ้าฉันออกจากบ้านไป พวกมันจะร้องเรียกอยู่ที่ประตูหรือไม่ก็เฝ้ามองอยู่ที่หน้าต่างเพื่อรอการกลับมาของฉัน พวกมันทั้งคู่มีดวงตาสีทอง แต่ตัวที่เล็กกว่ามีสีฟ้าผสมอยู่เล็กน้อย”     ตอนแรกครอบครัวไม่สามารถแยกพวกมันออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหนกันแน่ เพราะมันเหมือนกันทุกส่วน แต่หลังจากที่คลุกคลีอยู่กับมันสักพักก็เริ่มเห็นบุคลิกที่แตกต่างของมันจนแยกออกได้อย่างง่ายดาย “ฉันใช้เวลาอยู่กับพวกมันเกือบตลอดเวลา แต่มันน่าเศร้าในตอนแรกเมื่อฉันคิดว่าพวกมันคงไม่ได้ยินที่ฉันบอกว่า ‘ฉันรักพวกเธอนะ’” Rundmcc บอก “อย่างไรก็ตาม พวกมันคงจะสัมผัสได้ถึงการสั่นของเสียงฉันเวลาบอกรักพวกมัน มันเลยตอบสนองด้วยการโผเข้ากอดฉัน ตั้งแต่นั้นมาฉันจึงเริ่มคุยกับพวกมันและเชื่อว่า Moo กับ Goo คงเข้าใจสิ่งที่ฉันต้องการบอกให้มันรู้”     เธอบอกอีกว่า “เราโชคดีที่มีโอกาสได้ดูแลพวกมัน ทั้ง 2 ตัวน่ารักมากๆ”…

  • แม่หมาเศร้ากับการสูญเสียลูกน้อย จนกระทั่งมิ้วกำพร้าทั้งสอง มาทำให้มันรู้สึกมีกำลังใจอีกครั้ง

    แม่หมาเศร้ากับการสูญเสียลูกน้อย จนกระทั่งมิ้วกำพร้าทั้งสอง มาทำให้มันรู้สึกมีกำลังใจอีกครั้ง

    ปกติแล้วแมวกับหมามักจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ เจอกันที่ไหนเป็นต้องทะเลาะกันตลอด แต่ในบางครั้งบางตัว พวกมันกลับเป็นมิตรรักใคร่กลมเกลียวกันดีอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะแม่หมาตัวนี้ที่มีความเอ็นดูลูกแมวน้อยเป็นพิเศษ เพราะพวกมันเข้ามามอบความอบอุ่นใจให้ นับตั้งแต่มันสูญเสียลูกน้อยไป น้องแมวทั้ง 2 ตัวกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่แม่หมากำลังอยู่ในอารมณ์ซึมเศร้าหลังจากสูญเสียลูกไป ดังนั้นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์จึงพาพวกมันมาพบกันเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กันและกัน     เรื่องราวสุดประทับใจนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Rebecca Hetherington จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Wanna-Be Pet Rescue ได้ช่วยเหลือลูกแมวกำพร้า 2 ตัวจากศูนย์พักพิงหลังจากที่เกิดมาไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Mommy and Me Rescue ก็มี Dorothy แม่สุนัขที่ตกอยู่ในภาวะโศกเศร้า เพราะเสียลูกจากภาวะตั้งครรภ์ติดเชื้อ คุณหมอจึงจำเป็นต้องหยุดการเจริญเติบโตของครรภ์เพื่อช่วยชีวิตมันไว้ แม่หมาถูกส่งตัวไปรักษาและพักฟื้นที่โรงพยาบาล และในช่วงเวลานี้มันเอาแต่เดินและเรียกหาลูกๆ ตลอดเวลาอย่างน่าสงสาร     Carol Kalinowski จาก Mommy and Me Rescue บอกว่า “เมื่อเราพา Dorothy กลับบ้าน มันรีบตรงไปยังจุดที่มันเคยอยู่เพื่อดูว่าลูกๆ อยู่ที่นั่นหรือเปล่า” “จากนั้นมันก็ออกค้นหาทุกซอกทุกมุมของบ้านและตะโกนเรียกเรื่อยๆ เป็นเวลากว่าหลายชั่วโมง เราสงสารมันมากแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เลยเอาตุ๊กตาเล็กๆ ให้ เพื่อเป็นตัวแทนของลูกๆ หวังให้มันอบอุ่นใจขึ้นได้บ้าง” แต่ Dorothy ยังคงค้นหาและร้องเรียกลูกต่อไปเรื่อยๆ…  …

  • สืบต้นตอจากภาพเซลฟี นำไปสู่การไขคดีฆาตกรรม และทำให้ผู้กระทำผิดต้องรับสารภาพ

    สืบต้นตอจากภาพเซลฟี นำไปสู่การไขคดีฆาตกรรม และทำให้ผู้กระทำผิดต้องรับสารภาพ

    บ่อยครั้งที่เราเห็นผู้คนมีปัญหาจากการเซลฟี เช่น เผลอมีของลับติดมาในภาพ หรือเซลฟีในพิพิธภัณฑ์จนเผลอไปชนกับผลงานศิลปะ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนบางส่วนมองการเซลฟีเป็นเรื่องไร้สาระและไม่จำเป็น แต่จริงๆ แล้ว การเซลฟีไม่ได้มีแค่ข้อเสียหรือเป็นเรื่องไร้สาระเสมอไป เพราะบางครั้งมันสามารถใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการคลี่คลายคดีได้ และด้วยภาพเซลฟีนี้เองที่ทำให้ Cheyenne Rose Antoine หญิงสาววัย 23 ปี จากรัฐซัสแคตเชวัน ประเทศแคนาดา ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี หลังมีหลักฐานว่าเธอฆาตกรรม Brittney Gargol ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเธอ     ย้อนกลับไปในปี 2015 มีการพบศพของ Brittney วัย 18 ปี ถูกฝังอยู่ใกล้กับเมืองซาซคาทูน โดยมีรอยรัดคอปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจอ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเธอถูกฆาตกรรมโดย Antoine หลังจากที่พบภาพการเซลฟีที่ถูกโพสต์ลงในสื่อออนไลน์     ในภาพดังกล่าวนั้น Antoine ใส่สร้อยสีทองและได้โพสต์ภาพนี้ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการพบศพ Brittney โดยข้างศพมีสร้อยที่ Antoine ใส่ตกอยู่ นั่นจึงกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการไขคดีนี้ ในชั้นศาล อัยการสูงสุด  Robin Ritter ได้ให้ความสนใจกับวิธีการไขคดีของตำรวจที่นำภาพเซลฟีมาเชื่่อมโยงกับสร้อยคอที่เจอ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก     อย่างไรก็ตามคดีนี้ก็ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี…

  • 26 ภาพการออกแบบผลิตภัณฑ์สุดโกง เพื่อล่อผู้คนให้มาซื้อ แบบนี้มันหลอกลวงผู้บริโภคชัดๆ !!

    26 ภาพการออกแบบผลิตภัณฑ์สุดโกง เพื่อล่อผู้คนให้มาซื้อ แบบนี้มันหลอกลวงผู้บริโภคชัดๆ !!

    เป็นธรรมดาในวงการการตลาดที่จะออกแบบบรรจุภัณฑ์รวมทั้งตัวสินค้าให้ดูน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า แต่ในบางครั้งเราพบว่าสิ่งที่เห็นกับความเป็นจริงนั้นช่างแตกต่างกันเหลือเกิน หรือเรียกง่ายๆ ว่าไม่ตรงปกนั่นแหละ เหมือนอย่างสินค้าเหล่านี้ ที่ดูจากบรรจุภัณฑ์แล้วน่าซื้อมากๆ ดูเต็ม ดูน่าใช้ ดูคุ้ม แต่พอเปิดออกมามันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด นี่มันหลอกกันชัดๆ   1. หืมมม กัมมี่แบร์เต็มแก้วเลย…   2. ฮอตดอกซื้อ 1 แพ็ค แถมฟรี 2 ชิ้น ที่ไหนได้ หลอกกันชัดๆ   3. หูววว ได้ตั้ง 12 ชิ้นแหน่แต่…เมื่อหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นะ   4. เดี๋ยวนะ ในภาพเข้าใจว่าเป็นเชือกสำหรับปีนเขา แต่กลับมีคำเตือนว่าไม่เหมาะสำหรับปีนป่าย   5. โอ้ยยย นี่เล็กๆ น้อยๆ ก็จะเอาเนาะ   6. บรรจุภัณฑ์ทำให้เห็นสินค้าครึ่งซีก เลยโรยหน้าแค่ครึ่งเดียว อืม ยังไงดี   7. 30% กับ 40% ไม่ได้มีความต่างเล้ยยย…

  • หนุ่มอัดคลิปบ่นแม่ ยาวเหยียดเป็นหางว่าว อยู่กันแค่สองคนแต่ซื้อของมาวางไว้เต็มบ้านไปหมด!!

    หนุ่มอัดคลิปบ่นแม่ ยาวเหยียดเป็นหางว่าว อยู่กันแค่สองคนแต่ซื้อของมาวางไว้เต็มบ้านไปหมด!!

    มีใครเป็นมั้ย? แบบว่าชอบซื้อของเข้าบ้าน เห็นอะไรก็ซื้อหมด ใช้ไม่ใช้ค่อยว่ากันทีหลัง จนบางทีข้าวของเต็มบ้านจนแทบไม่มีที่ให้คนอยู่แล้ว คุณไม่เป็น แต่พ่อแม่ของคุณอาจจะเป็นก็ได้ อย่างชายหนุ่มผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า ภูมิพัฒน์ อัจศจรรย์วิริยะตระกูล ที่ออกมาอัดคลิปบ่นคุณแม่ที่ชอบซื้อของเข้าบ้านเกินความจำเป็น จนแทบจะไม่มีที่ให้เดินแล้ว     คุณภูมิพัฒน์บอกว่าทั้งบ้านเนี่ยมีกันอยู่สองคนคือแม่และตัวเขา เออ กับเจ้าเหมียวอีก 1 ตัว แต่ดูจากข้าวของที่อยู่ในบ้านและนอกบ้านแล้ว มันมากกว่าบ้านที่มีคนอยู่ 10 คนซะอีก ของบางชิ้นดูเหมือนยังไม่ได้แกะออกจากกล่องด้วยซ้ำ แต่คุณแม่ก็ยังซื้อใหม่มาอีกเรื่อยๆ เพราะแบบนี้ลูกชายเลยต้องออกอัดคลิปบ่นยาวๆ เผื่อคุณแม่จะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป     นี่คือคุณแม่พลอย ผู้เสพติดการซื้อของเข้าบ้าน   ส่วนนี่คือลูกชายผู้ได้รับความอบอุ่นจากข้าวของในบ้านที่คุณแม่ซื้อมามากเกินไปจนทนไหม่ไหว   ว่าด้วยเรื่องหลอดไฟ บ้านนี้ไม่มีความมืดแน่นอน   ของใช้ในครัวมีครบหมด แต่ถามว่ามีคนทำกับข้าวมั้ย? ไม่   แล้วนี่คุณแม่จะออกไปไหนอีก อย่าบอกนะว่าไปซื้อของมาเพิ่มหนะ   ต้นไม้นี่แม่ก็ชุบแลี้ยงมา   แม่บ้านนี้อยู่ดีกินดี ไม่อดตายแน่นอน   โต๊ะอาหารซื้อไว้แต่ไม่เคยได้ใช้   ออกไปข้างนอกแต่ล็อคข้างใน หวงบ้านมากจนลืมไปว่าลูกชายอยู่ข้างใน   แก้วนี่ก็จะเยอะไปไหน นึกว่าจะมีงานเลี้ยงใหญ่  …

  • 21 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘รุ่นพ่อแม่’ กับ ‘รุ่นลูก’ นั้นแทบไม่ต่างกันเลย เหมือนอย่างกับแกะ!?

    21 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘รุ่นพ่อแม่’ กับ ‘รุ่นลูก’ นั้นแทบไม่ต่างกันเลย เหมือนอย่างกับแกะ!?

    ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูกๆ จะมีใบหน้าคล้ายพ่อแม่หรือบรรพบุรุษ แต่สำหรับบางคนหน้าเหมื๊อนเหมือนราวกับเป็นคนคนเดียวกัน ยิ่งเทียบใบหน้าตอนอายุใกล้เคียงกันยิ่งเหมือนเข้าไปอีก เช่นเดียวกับบุคคลเหล่านี้ที่นำภาพปัจจุบันของตัวเองเทียบกับภาพบรรพบุรุษที่อยู่ในวัยเดียวกัน โอ้โห เหมือนกันอย่างกับแกะ   1. นี่ไม่ใช่คนเดียวกันนะ   2. ทายซิ๊ คนไหนคือลูก คนไหนคือพ่อ?   3. ลูกในวันนั้นคือพ่อในวันนี้   4. เหมือนแค่ไหนถามใจเธอดู   5. หน้าเป็นเอกลักษณ์ พ่อเป็นยังไงลูกก็เป็นอย่างนั้น   6. หน้าตาของแม่ลูกเมื่ออยู่ในวัยเดียว   7. สำเนาถูกต้องเด๊ะ   8. งือ นี่ไม่ใช่รูปหนู แต่เป็นหนูเองค่ะ   9. เหมือนกันทุกส่วน รวมไปถึงเส้นผม   10. ไม่ใช่แค่หน้าเหมือน ทรงผมทรงเคราก็เหมือนด้วย   11. เมื่อฉันไปเที่ยวที่เดียวกับแม่ในตอนนั้น คิดว่าแม่ข้ามเวลามาจากอดีตซะอีก   12. สายเลือดมันเข้มข้นอะ ทำไงได้ ออกมาซะเหมือนเป๊ะเลย   13.…

  • เมืองลึกลับในประเทศออสเตรเลีย ที่ประชากรกว่า 1,675 คนอาศัยอยู่ ‘ใต้ดิน’ กันหมด!?

    เมืองลึกลับในประเทศออสเตรเลีย ที่ประชากรกว่า 1,675 คนอาศัยอยู่ ‘ใต้ดิน’ กันหมด!?

    ในขณะที่เราส่วนใหญ่สร้างบ้านเรือนอยู่บนดิน มองขึ้นก็จะเห็นท้องฟ้าในเวลากลางวันและเห็นดวงดาวในเวลากลางคืน แต่รู้มั้ยว่าในโลกนี้มีคนอีกกลุ่มที่หนึ่งอาศัยอยู่ใต้ดิน? กลุ่มคนที่ว่านี้คือชาวเมือง Coober Pedy พวกเขาอาศัยอยู่ในทะเลทรายทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ซึ่งมีอุณภูมิเฉลี่ย 51 องศาเซลเซียสในที่ร่ม จนชาวบ้านกว่า 1,675 คน ต้องสร้างบ้านใต้ดินเพื่อหนีความร้อน พื้นที่ตั้งของเมือง Coober Pedy เป็นหนึ่งในแหล่งทำเหมืองแร่โอปอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งที่นี่จะมีปล่องไฟผุดขึ้นจากพื้นดินเต็มไปหมดและมีหลุมที่เป็นทางเข้าบ้านของพวกเขาด้วย     Coober Pedy เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ “เมืองหลวงโอปอลของโลก” ซึ่งถูกค้นพบเมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เนื่องจากมีการค้นพบแร่โอปอลที่นี่ ก่อนที่การทำเหมืองแร่โอปอล์จะกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในปัจจุบันนี้ สำหรับประวัติความเป็นมาของ Coober Pedy อาจต้องย้อนกลับไปในปี 1915 โดยในช่วงต้นของปีนั้น New Colorado Prospecting Syndicate ได้ทำการตรวจหาแร่ทองคำทางตอนใต้ของ Coober Pedy สมาชิกของกลุ่มคนดังกล่าวประกอบด้วย Jim Hutchison ลูกชายของเขา William Hutchison วัย 14 ปี และเพื่อนร่วมทางอีก 2 คน โดยหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการสำรวจ พวกเขาก็ได้ตั้งแคมป์อยู่ที่นั่น     กระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ของปีนั้น ขณะที่ William…

  • พ่อชาวอินเดียลงทุนสร้างถนนยาว 8 กิโลเมตร ด้วยเหตุผลเดียวคือ “อยากให้ลูกกลับมาหาบ่อยๆ”

    พ่อชาวอินเดียลงทุนสร้างถนนยาว 8 กิโลเมตร ด้วยเหตุผลเดียวคือ “อยากให้ลูกกลับมาหาบ่อยๆ”

    เด็กๆ จากพื้นที่ห่างไกลหลายๆ คนต้องจากบ้านมาไกลเพื่อไปเรียนหนังสือ นานๆ ทีถึงจะได้กลับมา จนพ่อแม่ทนคิดถึงไม่ไหว และการที่ลูกๆ ไม่ค่อยได้กลับบ้าน ไม่ใช่เพราะติดความสะดวกสบายในเมือง แต่เป็นเพราะการเดินทางไป-กลับค่อนข้างลำบาก ซึ่งบางหมู่บ้านไม่มีถนนด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของรัฐโอริศา ประเทศอินเดีย จึงตัดสินใจสร้างถนนระยะ 8 กิโลเมตร ด้วยขวานและชะแลง เพื่อให้ลูกกลับมาหาบ่อยๆ     Jalandhar Nayak ชายวัย 45 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากโรงเรียนของลูกชายทั้ง 3 คน ประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งในการเดินทางแต่ละครั้ง ลูกๆ ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง เพราะต้องเดินข้ามภูเขาถึง 5 ลูก ในช่วง 2 ปีที่่ผ่านมา Nayak จะออกเดินทางทุกเช้าพร้อมด้วยเครื่องมือของเขา จากนั้นก็จะใช้เวลา 8 ชั่วโมงต่อวันในการขุดหินและขนมันออกไปทิ้ง เขาบอกกับผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่าเมื่อถนนนี้ถูกสร้างเสร็จแล้ว เขาหวังว่าลูกชายทั้ง 3 คน จะกลับบ้านบ่อยขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือหรือวันหยุดอื่นๆ     ถนนที่ทอดยาว 15…

  • “เครื่องดื่มชูกำลังฆ่าลูกผม” คุณพ่อเล่าด้วยความเศร้าหลังจากลูกชายดื่มเครื่องดื่มนี้วันละ 15 กระป๋อง

    “เครื่องดื่มชูกำลังฆ่าลูกผม” คุณพ่อเล่าด้วยความเศร้าหลังจากลูกชายดื่มเครื่องดื่มนี้วันละ 15 กระป๋อง

    สำหรับคนที่ทำงานหนัก นอนดึก หรือสูญเสียพลังงานร่างกายไปมากๆ เครื่องดื่มชูกำลังช่วยคุณได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรดื่มเกินปริมาณที่กำหนดซึ่งมีระบุไว้ในฉลากของเครื่องดื่ม อย่างกรณีของคุณพ่อคนนี้ที่ออกมาเผยว่าลูกชายของเขาดื่่มเครื่องดื่มชูกำลัง 15 กระป๋องต่อวัน จนเป็นเหตุให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลายสัปดาห์ก่อนที่จะเกิดเหตุน่าสลดนี้ Justin Bartholomew วัย 25 ปี จากนิวเฮเวน อีสต์ซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ ได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงและเครื่องที่มีรสหวานในปริมาณมหาศาล ซึ่งผู้เป็นพ่อเชื่อว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาตาย     Bartholomew คุณพ่อวัย 64 ปี บอกว่า “เราเห็นเขาดื่มเครื่องดื่มเหล่านั้นวันละ 15 กระป๋อง ซึ่งผมเคยพูดกับเขาว่า ‘ลูกต้องบังคับตัวเองให้เลิกดื่มแบบนีี้ได้แล้ว’ เขาตอบกลับมาว่า ‘ผมเลิกไม่ได้จริงๆ พ่อ ผมพยายามมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ มันเหมือนการเลิกสูบบุหรี่ที่ผมก็ทำไม่ได้เช่นกัน’”  สำหรับเครื่องดื่มชูกำลังนั้น 1 กระป๋องจะมีคาเฟอีนมากถึง 160 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่าเอสเปรสโซถึง 2 เท่า และมีน้ำตาลมากถึง 14 ช้อนชา บวกกับการที่ชายหนุ่มมีภาวะซึมเศร้าอยู่ด้วย ผู้เป็นพ่อเลยปักใจเชื่อว่ามันน่าจะเป็นเหตุให้ลูกชายของเขาตัดสินใจฆ่าตัวตายเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว     จากการเสียชีวิตของ Justin สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Maria Caulfield ได้นำประเด็นดังกล่าวไปพูดในสภาว่าควรจะมีการจำกัดปริมาณการจำหน่ายเครื่องดื่ม เธอบอกว่า “ครอบครัวของ Justin เชื่อว่าการที่ลูกชายดื่มเครื่องดื่มชูกำลังวันละ 15…

  • ตำรวจพบเจ้าเหมียวน้อยถูกทิ้งไว้กลางทาง เลยลงทุนปิดถนนเพื่อช่วยเหลือมันจนปลอดภัย

    ตำรวจพบเจ้าเหมียวน้อยถูกทิ้งไว้กลางทาง เลยลงทุนปิดถนนเพื่อช่วยเหลือมันจนปลอดภัย

    เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นนอกจากจะทำหน้าที่ดูแลความสงบสุขของประชาชนแล้ว พวกเขายังให้การช่วยเหลือชีวิตอื่นๆ ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากด้วย อย่างกรณีของตำรวจในโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ที่รีบไปยังที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งว่ามีกล่องสีส้มถูกทิ้งไว้บนถนนมอเตอร์เวย์ทางตะวันตกเฉียงใต้ จนทำให้รถติดวุ่นวายไปหมด เมื่อตำรวจไปถึงก็พบสาเหตุของการจราจรที่วุ่นวายครั้งนี้ มันคือเจ้าเหมียวตัวน้อยที่กำลังขดตัวคุดคู้กับคอนกรีตกั้นถนน     เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า “แย่หน่อยที่เจ้าเหมียวกลัวเจ้าหน้าที่ ดังนั้นเมื่อเราเข้าไปใกล้มัน มันรีบวิ่งข้ามไปยังถนนอีกเลนหนึ่ง นั่นยิ่งทำให้มันเสี่ยงที่จะถูกรถชน” ตอนนี้มิ้วน้อยติดอยู่กลางถนนที่มีรถวิ่งพลุกพล่าน ทางตำรวจไม่มีทางเลือกอื่นจึงตัดสินใจปิดถนนชั่วคราว เพื่อจะพาเจ้าเหมียวออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย     อย่างที่บอกไปว่าแมวน้อยไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ดังนั้นตำรวจจึงต้องพยายามกันเป็นพิเศษ และทำทุกอย่างเพื่อที่จะเข้าถึงตัวมันได้ จนในที่สุดพวกเขาก็ช่วยเจ้าเหมียวออกมาได้สำเร็จ Shelley Nahr ผู้ประสานงานฝ่ายสื่อของกรมตำรวจบอกว่า “ภารกิจนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง กว่าจะพาตัวมันออกมาจากถนนได้” แต่ปัญหาไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เพราะหลังจากที่ตำรวจพามันเข้าไปอยู่ในรถลาดตระเวนและได้ละสายตาจากมันเพียงแป๊บเดียวขณะที่คุยโทรศัพท์ พอหันมาดูอีกที เจ้าเหมียวก็หายไปซะแล้ว     เจ้าหน้าที่คนนั้นพยายามหามันทุกซอกทุกมุมในรถแต่ก็ไม่เจอ จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงร้องเบาๆ ดังมาจากแผงหน้าปัดของรถ แผงหน้าปัดรถยนต์เป็นช่องที่เล็กมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องไปตามช่างในละแวกนั้นให้มาช่วยอีกแรง หลังจากที่ถอดแผงหน้ารถทั้งหมดออก พวกเขาก็พบมิ้วน้อยกำลังนั่งขดตัวอยู่ในนั้น นี่ถือเป็นความโชคดีรอบที่สองของวันที่แมวเหมียวตัวนี้ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย     ต่อด้วยความโชคดีครั้งที่สามในรอบสัปดาห์ เพราะหลังจากที่ได้รับการช่วยได้ไม่กี่วัน แมวน้อยก็สามารถพาตัวเองเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว คนที่พาเจ้าเหมียวไปอยู่ด้วยคือ Glenda ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่โทรแจ้งตำรวจในตอนแรกที่พบเจ้าเหมียวอยู่กลางถนน เธอบอกว่าอยากดูแลแมวตัวนี้และอยากให้มันมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว     Nahr…

  • 12 สถานที่ “ลวงตา” รอบโลก ใครไปก็คงอดใจไม่ไหว ต้องถ่ายรูปกลับมาสักหนึ่งแชะ!!

    12 สถานที่ “ลวงตา” รอบโลก ใครไปก็คงอดใจไม่ไหว ต้องถ่ายรูปกลับมาสักหนึ่งแชะ!!

    “มันก็เป็นเพียงแค่เพียงภาพลวงหลอกตา ที่เธอสร้างขึ้นมาให้ฉันตายใจ” เจอภาพลวงตาในความรัก เป็นใครก็ไม่ชอบทั้งนั้น แต่ถ้าภาพลวงตานั้นมันเป็นงานศิลปะ หรือเป็นสถานที่ที่ให้ความบันเทิง ใครก็ชอบทั้งนั้น เหมือนกับภาพลวงตาเหล่านี้ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ดูเหมือนจริงมากๆ จนบางครั้งเราก็แยกไม่ออกว่าอันไหนจริง อันไหนหลอกกันแน่   1. Yangzhou Zhongshuge เมืองหยางโจว ประเทศจีน นี่คือห้องสมุดในประเทศจีีน มีการการจัดเรียงหนังสือบนชั้นวางที่ทอดยาวขึ้นไป โดยด้านล่างจะทำเป็นพื้นสีดำเมื่อม เพื่สะท้อนภาพด้านบนและทำให้เหมือนอยู่ในอุโมงค์   2. Camera Obscura and World of Illusions เมืองเอดินบะระ ประเทศสก็อตแลนด์ นี่เป็นห้องที่มีชื่อว่า Ames Room เมื่อมองจากด้านหน้าจะดูเหมือนเป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก แต่ที่จริงแล้วเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู และด้านที่ลึกกว่าจะสร้างให้มีขนาดใหญ่กว่า   3. Pedra do Telégrafo ริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล ในภาพดูเหมือนนักท่องเที่ยวคนนี้กำลังทำอะไรที่เสี่ยงมาก แต่จริงๆ แล้ว จุดที่เขายืนอยู่นั้นสูงจากพื้นดินไม่ถึง 1 เมตรด้วยซ้ำ   4. ทะเลสาบ Lake Sørvágsvatn ในหมู่เกาะแฟโร ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ดูจากภาพแล้วอาจจะเห็นว่าทะเลสาบอยู่สูงเหนือน้ำทะเลมาก ในความเป็นจริงแล้วเมื่อรวมกับความลึกทะเลสาบอยู่สูงเหนือผืนน้ำทะเลเพียง 30 เมตร แต่หน้าผาที่อยู่ริมทะเลที่หันเข้ากล้องมีความสูง…

  • ไอเดียชุดไหมพรมสุดเจ๋ง ที่ทำออกมาให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมภายนอก เอามาใส่เฉยๆ ก็เจ๋งแล้ว

    ไอเดียชุดไหมพรมสุดเจ๋ง ที่ทำออกมาให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมภายนอก เอามาใส่เฉยๆ ก็เจ๋งแล้ว

    ปกติแล้วการถ่ายแบบนั้น ช่างภาพมักจะโฟกัสไปที่ตัวนางแบบ นายแบบ หรือถึงเสื้อผ้าหน้าผม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการนำเสนอ แต่ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ช่างภาพ Joseph Ford ได้ร่วมมือกับเพื่อนที่เป็นช่างถัก Nina Dodd สร้างโปรเจกต์ Knitted Camouflage ที่ทำให้นางแบบ นายแบบกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม แทนที่จะทำให้พวกเขาโดดเด่นเหมือนการถ่ายแบบทั่วไป     ในการถ่ายภาพแต่ละครั้ง ช่างภาพจะให้นางแบบและนายแบบใส่เสื้อผ้าไหมพรมที่ถักโดย Dodd ซึ่งลวดลายและสีของเสื้อผ้าจะถูกออกแบบมาให้เหมือนสิ่งแวดล้อมรอบตัว บางส่วนของเสื้อผ้าเหล่านั้น เช่น กางเกงและเสื้อลายตารางที่เหมือนกับพื้นผิวของบันไดและผนัง เสื้อลายลู่วิ่ง หรือเสื้อน้องหมาที่กลมกลืนกับพุ่มไม้     นอกจากนี้พวกเขายังร่วมมือกับศิลปินข้างถนนชาวฝรั่งเศสอย่าง Monsieur Chat ผู้ที่วาดภาพแมวบนผนังโรงงานที่ถูกทิ้งร้าง รวมทั้งทำให้ตัวเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของภาพนั้นด้วย สำหรับเบื้องหลังการทำงานและผลงานทั้งหมดของ Ford เพื่อนสามารถเข้าไปดูได้ที่เฟซบุ๊ก Joseph Ford  Photography และอินสตาแกรม Josephfordphotography   . . . .   ที่มา thisiscolossal

  • หญิงสาวถูกคนที่เป็นวีแกนด่าเสียหาย เพียงเพราะเธอไม่ได้เป็นวีแกน แค่ไม่ชอบกินเนื้อ

    หญิงสาวถูกคนที่เป็นวีแกนด่าเสียหาย เพียงเพราะเธอไม่ได้เป็นวีแกน แค่ไม่ชอบกินเนื้อ

    มีเหตุผลมากมายสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อ อาจจะเป็นเพราะรสชาติมันไม่ถูกปากหรือเหตุผลอื่นๆ แต่คนภายนอกมักจะคิดเอาเองว่าคนที่ไม่กินเนื้อคือคนที่เป็นมังสวิรัติ เพราะความคิดแบบนี้นี่เองจึงทำให้หญิงสาวคนหนึ่งโดนชาววีแกนด่าอย่างเสียๆ หายๆ เพียงเพราะเธอไม่ชอบกินเนื้อและเธอก็ไม่ได้เป็นวีแกนด้วย Anna Del Rey วัย 17 ปี จากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกกล่าวหาว่าเป็น ‘วีแกนปลอม’ หลังจากที่เธอโพสต์สูตรการทำโทเฟอร์กี้ (ไก่งวงเจทำจากเต้าหู้ หมี่กึง เครื่องปรุงรสผัก และเครื่องเทศ) บนหน้าเพจเฟซบุ๊กของกลุ่มวีแกน     ตอนแรกโพสต์ของเธอได้รับการชื่นชมจากชาววีแกนมากมาย จนกระทั่งต่อมาเมื่อหญิงสาวเปิดเผยว่าจริงๆ แล้วเธอทานเนื้อสัตว์เหมือนกัน และเมื่อชาววีแกนมาเห็นโพสต์ของหญิงสาว พวกเขารู้สึกโกรธมากและได้พากันต่อว่า Anna ด้วยถ้อยคำเสียๆ หายๆ     ชาวเน็ตคนหนึ่งที่เคร่งในการเป็นวีแกนมากๆ ได้ทักแชตไปหาเธอ ก่อนจะต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง… “เธอแสร้งทำเป็นมังสวิรัติ เพราะคิดว่ามันดูดีใช่มั้ย? ฉันเป็นวีแกนมา 3 ปี จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็น ฉันคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิต ไม่ใช่เพราะมันฮิตหรือดูดี แต่มันเป็นสิ่งสำคัญ” “ชาววีแกนและมังสวิรัติจะเคร่งครัดเกี่ยวกับเต้าหู้มาก เธอทำตัวเหมือนเป็นพวกเขาแต่สุดท้ายเธอแค่มาขโมยในสิ่งที่ต้องการเพื่อประโยชน์ของเธอเอง”     ต่อมา Anna ได้นำข้อความที่ถูกชาววีแกนด่าเหล่านี้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก จนมีคนแชร์ต่อมากกว่า 8,000 ครั้ง โดยในโพสต์นี้หญิงสาวบอกว่าขอโทษที่ไม่ได้เป็นมังสวิรัติ…

  • 26 ภาพที่เหล่าชาวเน็ตร่วมกันแชร์บอกเล่าประสบการณ์ได้พบกับคู่รัก และ ‘พรหมลิขิต’ ที่มีอยู่จริง

    26 ภาพที่เหล่าชาวเน็ตร่วมกันแชร์บอกเล่าประสบการณ์ได้พบกับคู่รัก และ ‘พรหมลิขิต’ ที่มีอยู่จริง

    หลายคนอาจไม่เชื่อในเรื่องโชคชะตาหรือพรหมลิขิต แต่ในบางครั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นถูกที่ ถูกเวลาราวกับว่ามันถูกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว อย่างผู้คนเหล่านี้ที่มาบอกเล่าประสบการณ์การได้พบกับคู่รักของตัวเอง โดยเชื่อว่าไม่ได้เกิดจากความบังเอิญแต่เพราะพรหมลิขิตต่างหากที่พาให้พวกเขาเดินทางมาพบกัน   1. ลูกพี่ลูกน้องของฉัน (คนที่ยืนโดดๆ อยู่ซ้ายมือ) อยู่ในภาพครอบครัวของภรรยาในอนาคตของเขา ซึ่งเป็นภาพ 7 ปีก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกัน   2. เรามักจะอยู่ด้วยกันตอนอยู่อนุบาล แต่พอโตขึ้นเราก็ต้องแยกจากกัน จนกระทั่ง 20 ปีต่อมา เรากลับมาพบกันอีกครั้งและตัดสินใจเดตกัน   3. ผมและภรรยาตอนอายุ 10 ขวบ เราถ่ายรูปในที่เดียวกัน เราไม่เคยเจอกันมาก่อน จนกระทั่งอายุ 30 ปี   4. หลังจากแต่งงาน Aimee และ Nick ได้เปิดภาพเก่าๆ มาดู แล้วก็พบว่าพวกเขาเคยเจอกันมาก่อนในสวนสนุก   5. เด็กสาวไม่ค่อยพอใจ เมื่อถูกเพื่อนชายชวนไปเต้นรำในงานปาร์ตี้ของโรงเรียน แต่หลายปีต่อมาพวกเขาได้กลับมาเต้นรำด้วยกันอีกครั้งในงานแต่งของตัวเอง   6. ภาพคู่รักที่ปรากฏบนปก Woodstock ตอนนี้ทั้งคู่ยังคงอยู่ด้วยกันมานานกว่า 48 ปีแล้ว   7. ฉันตกหลุมรักเขาตอนเจอเขาบนม้าหมุน แต่ฉันบอกความรู้สึกที่มีต่อเขาตอนเรียนมัธยม…

  • โปรดระวังไว้ให้ดี “น้ำมันหอมระเหย” อาจจะเป็นอันตรายต่อเจ้าเหมียวของคุณก็เป็นได้

    โปรดระวังไว้ให้ดี “น้ำมันหอมระเหย” อาจจะเป็นอันตรายต่อเจ้าเหมียวของคุณก็เป็นได้

    ปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีการขายน้ำมันหอมระเหยกันมากมาย พร้อมบรรยายสรรพคุณที่ทำให้คนอยากซื้อ เช่น บรรเทาความเครียด ใช้เพื่อความสวยความงามหรือดูแลรักษาผิว รวมทั้งรักษาอาการเจ็บป่วยบางอย่างด้วย สองบริษัทน้ำมันหอมระเหยที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้คือ Young Living Essential Oils ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1994 และ DoTerra ที่มีตัวแทนขายมากกว่า 3 ล้านราย นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2008 และยังมีของบริษัทอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดชาวเน็ตจำนวนมากเกิดความรู้สึกไม่พอใจ หลังจากที่คุณแม่คนหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่าเธอเผลอวางยาพิษให้แมวของเธอ โดยใช้เครื่องกระจายน้ำมันหอมระเหย     ผู้โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าวคือ Sue Murray จากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีแมวน้อยที่รักเหมือนลูกสาวชื่อ Ernie วัย 16 ปี แต่แล้วเธอสังเกตเห็นความผิดปกติหลังจากที่ใช้เครื่องกระจายน้ำมันหอมระเหยที่ซื้อมาจาก Amazon แล้วน้องแมวก็เริ่มแสดงอาการเหมือนกำลังป่วย Murray อ้างว่าเธอใช้เครื่องกระจายกับน้ำมันยูคาลิปตัส โดยตั้งไว้ข้างเตียง เพราะมันจะช่วยระบายความแออัดในห้องได้ “ในสองสามวันแรก Ernie ไม่ได้แสดงอาการปกติแต่อย่างใด แต่ในวันที่สี่มันเริ่มเซื่องซึม เดินเซ และดูหมดแรงอย่างเห็นได้ชัด” แม่ของน้องแมวกล่าว     ด้วยความเป็นห่วง สามีของเธอเลยค้นข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันยูคาลิปตัส แล้วก็พบว่ามันอาจเป็นอันตรายกับแมวได้ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบพา Ernie ไปหาสัตวแพทย์ทันที เมื่อไปถึงคุณหมอได้ให้ยาปฏิชีวนะและวิตามินอีก 1 ช็อต…

  • แมวในศูนย์พักพิงหายไปกว่า 10 ตัว หลังโดน ‘หมาล่าเนื้อ’ บุก จนเจ้าเหมียววิ่งหนีกระเจิง

    แมวในศูนย์พักพิงหายไปกว่า 10 ตัว หลังโดน ‘หมาล่าเนื้อ’ บุก จนเจ้าเหมียววิ่งหนีกระเจิง

    ปกติแล้วศูนย์พักพิงสัตว์คือที่ที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์ พวกมันจะได้กินอาหารครบทุกมื้อ และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดเวลา แต่ในบางครั้งก็มีอันตรายเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน อย่างกรณีนี้ ที่แมวนับสิบตัวหายตัวไปจากศูนย์พักพิงแมว Greenacres Animal Sanctuary ใกล้กับเมืองอีสต์ซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ หลังจากมีสุนัขล่าเนื้อบุกเข้าไปข้างในเมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร ทำให้พวกมันวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่ผู้ดูแลกำลังให้อาหารเหมียว 130 ตัว ทาง The Celia Hammond Animal Trust เจ้าของศูนย์พักพิงบอกว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์อันน่ากลัวนี้ มีแมวหายไป 60 ตัว แต่ส่วนใหญ่ของพวกมันได้กลับมาในวันพุธและวันพฤหัสบดี The East Sussex & Romney Marsh Hunt เป็นเส้นทางล่าสัตว์ของสัตว์นักล่า แต่ก่อนหน้านี้เส้นทางของพวกมันถูกรบกวนจนทำให้มันหลงไปในพื้นที่ของศูนย์พักพิง อดีตนางแบบและผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิง Celia Hammond บอกว่า “มีสุนัขล่าเนื้อวิ่งเข้ามาในศูนย์พักพิงและวิ่งไปทั่วทุกพื้นที่ ทำให้เหล่าแมวที่อยู่ข้างในพากันวิ่งกระเจิง”     ตอนนั้นพนักงานและอาสาสมัครพยายามต้อนสุนัขออกไปและตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเร่งด่วน ทางด้านโฆษกหญิงของกลุ่มนักล่าสัตว์กล่าวว่า “ต่อให้ไม่มีใครเข้าไปในเขตล่าสัตว์ แต่ก็มีเหตุอื่นทำให้พวกมันออกนอกเส้นทางล่าสัตว์อยู่ดี เราสงสัยสุนัขล่าเนื้อบางตัวน่าจะได้กลิ่นเหยื่อ เลยทำให้มันออกนอกเส้นทางจนหลงเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า” อย่างก็ตาม เมื่อรู้ว่ามีสุนัขล่าสัตว์หลุดเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทางเจ้าหน้าที่ของกลุ่มล่าสัตว์ก็รีบเข้าไปช่วยเหลือพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถพาสุนัขล่าสัตว์ออกมาได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง และได้ขอโทษสำหรับสิ่ิงที่เกิดขึ้น  …

  • ชมการคัฟเวอร์ MV “As If It Your Last” – BLACKPINK โดย เด็กเซาะกราว เป๊ะจนต้องยอมให้เลย

    ชมการคัฟเวอร์ MV “As If It Your Last” – BLACKPINK โดย เด็กเซาะกราว เป๊ะจนต้องยอมให้เลย

    เพิ่งผ่านวันเด็กแห่งชาติมาหมาดๆ และ #เหมียวขี้ส่องเองก็มีโอกาสไปร่วมงานด้วย ได้เห็นน้องๆ หนูๆ พกความสามารถมาโชว์ด้วย บอกได้เลยว่าเด็กสมัยนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ไหนๆ ก็พูดถีึงเด็ก ไม่พูดถึงแก๊ง “เด็กเซาะกราว” คงไม่ได้ เพราะพวกเขาคือกลุ่มเด็กหญิงที่โด่งดังในโซเชียลจากผลงานการคัฟเวอร์ร้อง เต้น และเล่น MV ที่มีความเป๊ะเวอร์จนศิลปินเจ้าของผลงานยังต้องยอม สำหรับผลงานการคัฟเวอร์ที่่ผ่านมาไม่ได้มีแค่เพลงไทยนะ แต่มีของศิลปินต่างประเทศด้วย และที่กำลังโด่งดังในขนาดนี้คือการคัฟเวอร์ MV “As If It Your Last” ของ BLACKPINK    นี่คือ MV As If It Your Last ต้นฉบับของสาวๆ วง BLACKPINK   เห็นท่าเต้นแล้วบอกเลยว่ามันไม่ง่ายที่จะคัฟเวอร์ แต่สำหรับเด็กสาวทั้ง 4 คนนี้ มันคงไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา เลยถอดออกมาซะเหมือนเป๊ะทุกท่วงท่า   และนี่คือการคัฟเวอร์เพลง As If It Your Last ของเหล่าเด็กเซาะกราว   อะ เปรียบเทียบกันให้เห็นชัดๆ ไปเลย…

  • ชาวประชาร่วมใจปรบมือตะโกนเรียกชื่อแม่ของเจ้าหนู ที่พลัดหลงกันบนชายหาด จนในที่สุดก็พบกัน

    ชาวประชาร่วมใจปรบมือตะโกนเรียกชื่อแม่ของเจ้าหนู ที่พลัดหลงกันบนชายหาด จนในที่สุดก็พบกัน

    การพาเด็กไปเที่ยวในแหล่งที่เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านนั้น มีความเสี่ยงสูงมากที่เด็กจะพลัดหลงกับผู้ปกครอง และการจะตามหาพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย อย่างไรก็ตาม ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอหนึ่งในเว็บไซต์ Rumble ซึ่งเหตุการณ์ที่ผู้คนช่วยกันตามหาแม่ของเด็กน้อยที่พลัดหลงกัน ด้วยวิธีที่เจ๋ง สร้างสรรค์ และได้ผลในเวลาอันสั้น     คลิปวิดีโอนี้บันทึกที่ชายหาดแห่งหนึ่งในบราซิล ท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังวุ่ยวายอยู่กับการเล่นน้ำ การอาบแดด และวิ่งเล่น มีเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังเดินตามหาพ่อแม่ของตัวเองที่ไม่รู้ว่าอยู่ไหน เมื่อผู้คนพบเห็นเด็กชายกำลังเดินตามหากใครสักคนอยู่ พวกเขารู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้อาจจะพลัดหลงกับผู้ปกครอง เลยเข้าไปถามชื่อพ่อแม่ของเขา     หลังจากที่ทราบชื่อแม่ของเด็กน้อยแล้ว ผู้คนนับสิบพร้อมใจกันตะโกนเรียกชื่อแม่ของเขา พร้อมกับขอให้นักท่องเที่ยวคนอื่นช่วยกันปรบมือส่งเสียง และเพียงเวลาสั้นๆ ผู้คนแทบทั้งหมดบนชายหาดก็พากันปรบมือรัวๆ คนที่ถ่ายคลิปนี้บอกว่า “ตอนแรกที่เราได้ยินเสียงปรบมือ เราคิดว่ามันคงเป็นวันเกิดของใครสักคนบนชายหาด แต่แล้วผมก็สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่กับเด็กน้อย และส่งสัญญาณว่าเขากำลังหลงทาง”     ผู้คนบนชายหาดยังคงปรบมือพร้อมตะโกนเรียกชื่อแม่ของเด็กชายต่อไปอีกประมาณ 10 นาที สักพักก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งมาจากอีกส่วนหนึ่งของชายหาด พวกเขาคือครอบครัวของเด็กชายที่พลัดหลง… เมื่อเห็นผู้คนรวมตัวและตะโกนเรียกชื่อ พวกเขาก็วิ่งไปยังคนกลุ่มนั้นแล้วก็เห็นเด็กชายตัวเล็กๆ อยู่ตรงกลางของวง     จากนั้นผู้เป็นแม่ก็เข้าไปสวมกอดลูกชายท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงเฮของผู้คนบนชายหาด แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณวิธีการอันแสนฉลาดและสร้างสรรค์นี้ ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นต้นคิด แต่บอกเลยว่ามันสุดยอดมากและน่าเอาไปทำตามอย่างยิ่ง     อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณผู้คนบนชายหาดด้วยที่ไม่นิ่งเฉย แต่ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ได้สอนแค่วิธีการช่วยเหลือคนพลัดหลง แต่ยังกระตุ้นให้เราไม่นิ่งเฉยเมื่อเห็นคนอื่นเดือดร้อนอีกด้วย   ที่มา inspiremore

  • ดีไซเนอร์ญี่ปุ่นออกแบบดินสอสีรูปร่างดอกไม้ เมื่อเหลา มันจะออกมาคล้ายดอกไม้ญี่ปุ่นด้วย

    ดีไซเนอร์ญี่ปุ่นออกแบบดินสอสีรูปร่างดอกไม้ เมื่อเหลา มันจะออกมาคล้ายดอกไม้ญี่ปุ่นด้วย

    ปกติเวลาเหลาดินสอเสร็จแล้ว เราก็จะเอาเศษซากของมันทิ้งไป เออ ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์ เอาไปทำอะไรก็ไม่ได้จะเก็บไว้ทำไมละเนาะ เหลาทิ้งเหลาขว้างยังได้เลย แต่ถ้าคุณได้ครอบครองดินสอสีของญี่ปุ่นที่เพิ่งออกมาใหม่นี้ คุณจะต้องไม่อยากทิ้งมันแม้แต่นิดเดียวแน่นอน ต่อให้มันเป็นเศษซากจากการเหลาก็เถอะ     นักออกแบบชาวญี่ปุ่น Toshihiro Otomo ได้ออกแบบชุดดินสอสีรูปทรงดอกไม้ เมื่อคุณเหลามันอย่างประณีต มันจะออกมาเป็นกลีบดอกไม้อันงดงาม เครื่องเขียนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปร่างและสีของพืชที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งดอกแดนดิไลออน ดอกบอลลูน เชอร์รี่บลอสซัม และพลัมบลอสซัม     ดินสอดอกไม้ถูกผลิตขึ้นในโรงงานที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และผลิตจากเยื่อกระดาษรีไซเคิล ใน 1 เซตประกอบด้วยดินสอ 4 แท่ง ซึ่งบรรจุอยู่ในกล่องห้าเหลี่ยมที่ออกแบบมาอย่างลงตัว งดงามและน่าหลงใหลขนาดนี้ คนชอบเครื่องเขียนพลาดไม่ได้ซะแล้ว ใครที่อยากได้สามารถสั่งซื้อได้ที่ร้านออนไลน์ของ Spoon & Tamago ได้เลยค่ะ     เป็นดินสอที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริงๆ ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ กระบวนการผลิต แถมซากของมันยังเก็บไว้ใช้ตกแต่งได้อีกด้วย   บรรจุอยู่ในกล่อง 5 เหลี่ยม ลงตั๊วววลงตัว   ซื้อมาแล้ว เกรงว่าจะไม่กล้าใช้น่ะสิ สวยเกิ๊น ที่มา thisiscolossal

  • เด็กชายวัย 9 ขวบ อดทนต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อรอตั้งชื่อให้น้องสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลก

    เด็กชายวัย 9 ขวบ อดทนต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อรอตั้งชื่อให้น้องสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลก

    ผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่พยายามเอาชนะโรคร้ายเพราะอยากมีชีวิตอยู่ต่อให้นานขึ้น แต่สำหรับเด็กชายคนหนึ่ง เขาอดทนต่อสู้กับมะเร็งร้าย หวังจะได้พบกับน้องสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลก Brave Bailey เด็กชายวัย 9 ขวบ บอกกับพ่อแม่หลังจากที่น้องสาวของเขาเกิดมาว่า “ถึงเวลาแล้วที่ผมจะไปเป็นเทพผู้พิทักษ์ของเธอ” กระทั่งตอนเที่ยงของวันคริสต์มาสอีฟ พ่อแม่ได้จับมือลูกชายเอาไว้แน่น พร้อมหลั่งน้ำตาออกมาและเฝ้าดูลูกจนลมหายใจสุดท้าย…     พ่อแม่ของเด็กชาย Lee และ Rachel ได้เปิดเรื่องราวสุดสะเทือนใจของลูกชายเมื่อตอนที่กำลังจะตายว่าเขาได้อดทนต่อสู้กับมะเร็งเวลานาน เพื่อรอเจอน้องสาวที่กำลังจะเกิดมาและขอเป็นคนตั้งชื่อให้เธอด้วย ทางด้านคุณหมอที่ให้การรักษาบอกว่า Bailey จะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่วันหรือไม่กี่เดือนเท่านั้น เพราะมะเร็งได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าเด็กชายจะอดทนได้ถึง 15 เดือน ผ่านการรักษานับครั้งไม่ถ้วน เขายิ้มให้ทุกความเจ็บปวด จนในที่เขาก็ได้เจอกับน้องสาวตัวน้อย ก่อนจะตั้งชื่อให้เธอว่า Millie       สำหรับโรคร้ายของ Bailey มันได้เริ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปี 2016 เมื่อเด็กชายรู้สึกไม่สบายและได้ไปโรงพยาบาลในเดือนกันยายน ตอนแรกคุณหมอคิดว่าเขาอาจจะติดเชื้อไวรัส แต่หลังจากที่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ อาการของเขาก็ยังไม่ดีขึ้น กลับแย่ลงกว่าเดิมอีก เด็กชายเริ่มปวดท้องอย่างรุนแรง คุณหมอจึงเจาะเลือดไปตรวจอีกครั้ง และผลที่ออกมาคือเขาเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด Non-Hodgkin’s Lymphoma (NHL) ซึ่งตอนที่ตรวจพบ มะเร็งได้ก่อตัวอยู่ในระยะที่สามแล้ว Lee บอกว่า “ก่อนที่จะพาเขาไปโรงพยาบาล เราไม่รู้อะไรเลย เราคิดว่าอีกเดี๋ยวก็คงหาย แต่ก็รู้สึกเอะใจอยู่นิดหน่อย แต่อาการของเขาแย่ลงเรื่อยๆ จนคุณหมอบอกว่าเขาต้องเข้ารับการรักษาแล้ว”      นั่นทำให้เด็กชายเริ่มต้นรับการรักษาด้วยเคมีบำบัดทันที…

  • ดราม่ารุนแรง… มนุษย์ใจทรามนำซากโคอาล่าไร้วิญญาณ มาเกาะเสาเล่นเพื่อความบันเทิง!!

    ดราม่ารุนแรง… มนุษย์ใจทรามนำซากโคอาล่าไร้วิญญาณ มาเกาะเสาเล่นเพื่อความบันเทิง!!

    มนุษย์เรียกตัวเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐที่อยู่เหนือสัตว์ทั้งปวงในโลกนี้ แต่บางครั้งการกระทำของมนุษย์ช่างโหดร้ายไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานเลย อย่างกรณีที่กำลังดราม่าในโลกออนไลน์ขณะนี้ เมื่อมีการโพสต์ภาพคนนำซากศพโคอาล่าไร้วิญญาณมาเกาะเสาในออสเตรเลีย ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไร แต่มันสร้างความโกรธเคืองให้ผู้คนจำนวนมาก Koala Rescue Queensland (KRQ) รายงายว่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมามีการพบโคอาล่าตัวหนึ่งอยู่ในท่าปีนเสาที่ Brooloo Park Lookout ใกล้กับ Gympie ทางตอนเหนือของเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย     ต่อมามีการเข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ พบว่ามันคือโคอาล่าที่ตายแล้วแต่มีคนใช้สกรูตอกมือมันติดกับเสาเพื่อจัดฉากให้มันดูเหมือนกำลังปีนเสาอยู่ เพจเฟซบุ๊กที่นำภาพนี้ไปโพสต์ เขียนไว้ว่า “โคอาล่าที่น่าสงสารตัวนี้ ถูกตอกด้วยสกรูให้ยึดติดกับเสา มันตายแล้วแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรนำร่างไร้วิญญาณของมันมาทำแบบนี้” Murray Chambers ประธาน KRQ กล่าวว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่เราเห็นคนใจทรามทำกับซากศพสัตว์แบบนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมเรากันแน่?” มันทำให้เราไม่สบายใจและรู้สึกแย่เมื่อมาเห็นภาพนี้”   ตอนนี้มีชาวเน็ตนับร้อยแสดงความคิดเห็นในเชิงไม่พอใจต่อการกระทำนี้ โดย Tim Siggs บอกว่า “มันยากที่จะจินตนาการว่าคนที่ทำมีจิตใจต่ำแค่ไหน” ขณะที่ Elly Bunting บอกว่า “มันน่ากลัวมาก ฉันหวังว่าคนที่ทำแบบนี้จะถูกจับได้ในเร็วๆ นี้ และได้รับการลงโทษอย่างสาสม” ทั้งนี้มีรายงานว่าโคอาล่าถูกคุกคามอย่างหนักในออสเตรเลียช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย โรคระบาด โดนโจมตีจากสุนัข และไฟป่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โคอาล่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม โดยในเดือนพฤศจิกายนมีการพบโคอาล่าเสียชีวิตตัวหนึ่ง แต่สภาพที่เห็นคือมันถูกตัดหูทั้ง 2 ข้าง     ไม่ใช่โคอาล่าเท่านั้นแต่ยังมีสัตว์ชนิดอ่ื่นๆ…

  • ครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงเจ้าหมาต่อได้เลยพาไปอยู่กับคนอื่น แต่มันก็หนีกลับมาหาถึง 2 ครั้ง!?

    ครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงเจ้าหมาต่อได้เลยพาไปอยู่กับคนอื่น แต่มันก็หนีกลับมาหาถึง 2 ครั้ง!?

    ก่อนที่คุณจะตัดสินใจรับเลี้ยงสุนัขควรคิดให้รอบคอบ คิดถึงอนาคตระยะไกล ไม่ใช่ความสุขในระยะสั้น เพราะสำหรับน้องหมาแล้วเมื่อมันได้อยู่กับใคร ต่อให้แค่วันเดียวก็ตาม มันจะผูกพันกับคนคนนั้นและไม่อยากจากไปไหน เหมือนอย่าง Cathleen น้องหมาแสนรู้และแสนดีมากๆ ที่ถูกครอบครัวนำไปไว้ในสถานสงเคราะห์เพราะไม่สามารถเลี้ยงมันได้อีกต่อไป สถานสงเคราะห์สัตว์ The Seminole Humane Society เขียนในเฟซบุ๊กว่าเจ้าของได้พา Cathleen วัย 6 ขวบ พันธุ์ผสมเกรทไพรีนีส ย้ายไปอยู่ในบ้านที่ไม่มีรั้วในย่าน Seminole รัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อหลายเดือนนก่อน     การที่เลี้ยงสุนัขในบ้านที่ไม่มีรั้วทำให้ยากต่อการควบคุมดูแล ดังนั้นครอบครัวจึงตัดสินใจพามันไปอยู่กับคนอื่นที่ย่านปราก รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเดิมประมาณ 32 กิโลเมตร แต่ Cathleen มีความผูกพันกับเจ้าของคนเดิมมาก มันเลยเดินจากบ้านใหม่ในปรากกลับไปยังย่าน Seminole ที่เก่าที่มันอยู่ เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นอกจากการเดินระยะไกลกว่า 32 กิโลเมตรแล้ว สภาพอากาศในช่วงเดือนธันวาคมของเส้นทางที่น้องหมาเดินกลับมานั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 4 องศาเซลเซียส แน่นอนว่ามันหนาวมากๆ     ผู้จัดการศูนย์พักพิงสัตว์ Rebecca Acker บอกว่า “Cathleen หนีออกจากกรง เพื่อเดินกลับไปหาครอบครัวของมัน ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นสุนัขที่เดินทางมากที่สุดในบรรดาน้องหมาของเรา” ต่อมาเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ได้ช่วยเหลือ Cathleen และให้มันอยู่ศูนย์พักพิงสัตว์ในย่าน…

  • ศิลปินนิรนามในเบอร์ลินเปลี่ยนเครื่องหมาย “สวัสดิกะ” ตามกำแพง ให้กลายเป็นภาพวาดน่ารักๆ

    ศิลปินนิรนามในเบอร์ลินเปลี่ยนเครื่องหมาย “สวัสดิกะ” ตามกำแพง ให้กลายเป็นภาพวาดน่ารักๆ

    การพ่นสีตามกำแพงถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งนะ แต่ถ้าเขียนอะไรที่มันดูไม่เป็นรูปเป็นร่างหรือสัญลักษณ์ที่คนไม่ชอบ นอกจากไม่ชวนมองแล้ว มันยังสร้างความรำคาญใจให้ผู้ที่พบเห็นด้วย เพราะแบบนี้จึงมีคนบางกลุ่มพยายามเปลี่ยนสัญลักษณ์เหล่านั้นให้กลายเป็นภาพที่สวยงามและสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้คนได้เห็นอีกด้านของงานกราฟฟิตี้บนกำแพง     Ibo Omari คือหนึ่งในผู้คนเหล่านั้น เขาได้สร้างเพจ Die kulturellen Erben พร้อมเคมเปญ Paintback เพื่อเปลี่ยนรอยขีดเขียนบนกำแพงตามท้องถนนให้กลายเป็นศิลปะที่ให้ความบันเทิงมากกว่าความขุ่นเคืองใจ     แคมเปญ Paintback ได้เริ่มขึ้นโดยคนฝ่ายขวาของเยอรมนี พวกเขาต้องการเปลี่ยนเครื่องหมายสวัสดิกะที่มีอยู่ตามกำแพงต่างๆ ทั่วเมืองในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันให้กลายเป็นภาพที่สร้างสรรค์     สำหรับเครื่องหมายสวัสดิกะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายนาซี ดังนั้นเมื่อสัญลักษณ์นี้ปรากฏอยู่ตามกำแพงต่างๆ มันจึงสร้างความไม่สบายใจให้ผู้คนในเมืองอย่างมาก     กลุ่มคนฝ่ายขวาได้สร้างลวดลายกราฟฟิตี้แบบเรียบง่ายแต่สร้างสรรค์ภายใต้แคมเปญ Paintback โดยหวังว่าจะทำให้ผู้คนเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อสัญลักษณ์อันน่าเกลียดชังนั้นและทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่สวยงามขึ้น     นอกจากนี้พวกเขายังได้เผยแพร่วิดีโอสั้นๆ ผ่านสื่อโซเชียลในเยอรมนี ทำให้แคมเปญนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก โดยมีชาวเน็ตหลายคนเปลี่ยนสัญลักษณ์สวัสติกะด้วยศิลปะในแบบของตนเอง ภายใต้แฮชแท็ก #Paintback     บางคนกลบสัญลักษณ์ที่น่าเกลียดชังด้วยการพ่นสเปรย์สีสันใสทับ   หลายคนเปลี่ยนให้มันเป็นรูปภาพน่ารักๆ   ทำให้เป็นกระดานเกมตัวเลข .   มันอาจจะเป็นแค่สัญลักษณ์เล็กๆ แต่มันทำให้ผู้คนเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก   ไม่จำเป็นต้องทำให้มันออกมาสวยมากมาย ขอแค่ไม่มีใครสังเกตเห็นสัญลักษณ์นั้นก็พอ   บางคนอาจไม่ชอบลวดลายบนกำแพง แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าต้องมาเห็นสัญลักษณ์สวัสดิกะ…

  • หัวใจพังทลาย… คุณพ่อเชิญทุกคนที่เคยกลั่นแกล้งลูกสาวมาร่วมงานศพ เพื่อให้เห็นถึงสิ่งที่ได้ทำลงไป

    หัวใจพังทลาย… คุณพ่อเชิญทุกคนที่เคยกลั่นแกล้งลูกสาวมาร่วมงานศพ เพื่อให้เห็นถึงสิ่งที่ได้ทำลงไป

    “เธอมักจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา นั่นทำให้ไม่มีใครรู้ว่าภายใน เธอนั้นเจ็บปวดมากเพียงใด…”     การกลั่นแกล้งในหมู่เด็กๆ หรือวัยรุ่น ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เพราะผู้ที่ตกเป็นเหยื่อไม่เคยสนุกกับการกระทำเหล่านี้ และสุดท้ายอาจจบานปลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สายเกินแก้ อย่างกรณีของ Amy ‘Dolly’ Everett เด็กสาววัย 14 ปีที่ถูกกลั่นแกล้งทางสื่อออนไลน์ สุดท้ายเธอตัดสินใจจบปัญหาทั้งหมดด้วยการจบชีวิตตัวเอง ท่ามกลางความเศร้าโศกของครอบครัว     เรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นโด่งดังในโลกออนไลน์ หลังจากที่ผู้เป็นพ่อได้เชิญคนที่มีพฤติกรรมกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์มาร่วมงานศพของลูกสาว เพื่อให้พวกเขามาดูสิ่งที่ได้ทำลงไป สำหรับ Dolly เธอเคยเล่นโฆษณาให้กับบริษัท Akubra ของออสเตรเลียเมื่อตอนเป็นเด็ก โดยคนรอบข้างมักจะบอกเสมอว่าเธอเป็นเด็กสาวที่ใจดี เป็นบุคคลที่ใส่ใจคนอื่นและมีจิตใจที่งดงาม     ขณะนี้พ่อแม่ของเด็กสาวที่อาศัยอยู่ในเมือง Katherine ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ได้เปิดแคมเปญต่อต้านการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ โดยกล่าวว่าการฆ่าตัวตายของลูกสาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้โลกของพวกเขาพังทลายลงไปด้วย Tick Everett พ่อของ Dolly ให้ความสำคัญกับแคมเปญนี้มากๆ เพราะเขาไม่อยากให้ชีวิตที่ล้ำค่าอื่นๆ ต้องมาพบกับจุดจบเหมือนลูกสาวของเขา     คุณพ่อเขียนในเฟซบุ๊กว่า “ถ้าเราสามารถช่วยชีวิตคนอื่นๆ ไม่ให้พบกับความสูญเสียและความทรมานได้ การจากไปของ Dolly ก็จะไม่สูญเปล่า”  “ถ้าคนที่คิดว่าการกลั่นแกล้งเป็นเรื่องตลกและทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นจากการข่มเหงคนอื่น ได้มาเห็นโพสต์นี้แล้ว ผมขอเชิญให้คุณมาร่วมงานศพของลูกสาวของผม เพื่อเป็นพยานถึงหายนะที่คุณได้ทำเอาไว้”  …

  • หนุ่มอ้างพบหมาอีกครั้งในรอบ 10 ปี โดนแฉเพราะอยากดัง จริงๆ แล้วเป็นคนทิ้งไปเอง!?

    หนุ่มอ้างพบหมาอีกครั้งในรอบ 10 ปี โดนแฉเพราะอยากดัง จริงๆ แล้วเป็นคนทิ้งไปเอง!?

    วันก่อนเราได้นำเสนอเร่ื่องราวสุดประทับใจของชายหนุ่มที่ได้เจอกับน้องหมาตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบ 10 ปี จนทำให้ชาวเน็ตแห่ชื่นชมและให้กำลังใจเพียบ อ่านข่าวเก่า ชายหนุ่มพลัดหลงกับหมา นานกว่า 10 ปี บังเอิญได้พบกันอีกครั้ง แล้วมันยังจำเขาได้!! ตอนแรกชายหนุ่มที่ใช้ชื่อ หนึ่ง วัณภูมิ ได้โพสต์ภาพ วิดีโอ พร้อมระบุข้อความเขาได้เจอสุนัขที่หายไปเมื่อ 10 ปีก่อน และจากนี้ไปจะดูและมันอย่างดี     โพสต์จากเฟซบุ๊ก หนึ่ง วัณภูมิ   จากโพสต์สั้นๆ ของเขาทำให้หลายเพจ หลายสื่อ รวมทั้งเพจของเราเอง นำไปเขียนเป็นข่าว จนทำชายคนนี้ได้รับการชื่นชมจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก     แต่แล้วก็มีชาวเน็ตคนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะรู้จักกับคุณหนึ่ง วัณภูมิ และน้องหมาปุ๊กกี้ เธอได้มาโพสต์ในเพจ รักหมา ว่าสิ่งคุณหนึ่ง วัณภูมิ ได้โพสต์ไปก่อนหน้านี้ไม่เป็นความจริงเลย  นั่นทำให้ชาวเน็ตที่ติดตามเรื่องนี้ และให้กำลังใจไปก่อนหน้านี้รู้สึกเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก และอยากรู้ความจริงของเรื่องนี้ว่ามันเป็นยังไงกันแน่     ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กชื่อดังอย่าง God Of War V.3 ได้ออกมาเผยความจริงทั้งหมดที่ทุกคนอยากรู้ ซึ่งตรงข้ามกับข่าวก่อนหน้านี้ทั้งหมด      ความจริงที่เพจ God Of War V.3 ออกมาเปิดเผยเป็นข้อมูลที่ได้มาจากอดีตภรรยาของหนึ่ง…

  • พบชายน่าสงสัย ยืนถือถุงใบหนึ่งอยู่หน้าบ้าน จนได้รู้ว่าเขาแจกอาหารให้เพื่อนมนุษย์

    พบชายน่าสงสัย ยืนถือถุงใบหนึ่งอยู่หน้าบ้าน จนได้รู้ว่าเขาแจกอาหารให้เพื่อนมนุษย์

    หลายคนอาจจะมองว่ายิ่งโลกมีการพัฒนาไปมากเท่าไหร่ ผู้คนก็จะยิ่งเห็นแก่ตัวมากขึ้นเท่านั้น มันก็จริงนะแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะหากลองสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่ารอบตัวเรายังมีคนอีกมากมายที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น เหมือนกับเร่ื่องราวอันน่าประทับใจที่คู่รักชาวอเมริกัน Stephanie St. James กับสามีได้พบเจอขณะพักผ่อนอยู่ในอพาร์ทเมนต์ในเมือง Cuenca ประเทศเอกวาดอร์ ทั้งคู่เพิ่งย้ายไปอเมริกาใต้เพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมใหม่ๆ และเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตในต่างแดน จนได้เจอกับเหตุการณ์บางอย่างที่ละลายหัวใจของพวกเขา     ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เอกวาดอร์เป็นประเทศโลกที่สาม ที่เต็มไปด้วยความยากจนและเหตุอาชญากรรม แต่ภายใต้สถานการณ์อันเลวร้ายนี้ จิิตวิญญาณของผู้คนกลับงดงามจนเอาชนะทุกความเลวร้ายได้ คู่รักเล่าว่าในเช้าวันหนึ่งของเดือนมกราคม ขณะที่พวกเขากำลังยืนชมวิวอยู่ในที่ระเบียง ก็มีเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นบนถนนด้านล่างของอพาร์ตเมนต์ที่พวกเขาพักอยู่ มีชายคนหนึ่งยื่นอยู่บนถนนตรงข้ามกับฝั่งที่ Stephanie อยู่ ตอนแรกคู่รักไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งชายคนนั้นหยิบถุงขึ้นมาใบหนึ่งและเริ่มแจกอาหารให้กับผู้คนที่เดินผ่านมา     ผู้คนมาต่อแถวเอาหารจากเขาด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน บางคนเอาอาหารเสร็จก็สวมกอดชายคนนั้นเพ่ื่อเป็นการขอบคุณ ขณะที่บางคนพูดกับเขาอย่างนุ่มนวล โดยมี Stephanie ยืนมองด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม สักพักต่อมา ดูเหมือนอาหารของชายคนนั้นจะหมด ทั้งๆ คนยังมาต่อแถวอยู่เพียบ แต่ชายคนนั้นยังไม่หยุดช่วยเหลือเพื่อนบ้านเพียงเท่านี้ เขาเดินเข้าไปในบ้านและออกพร้อมกับถุงขนาดใหญ่ จากนั้นก็เริ่มแจกจ่ายให้กับทุกคนที่เข้ามาหาเขา มีผู้คนนับสิบปรากฏตัวขึ้นที่นั่นและรับน้ำใจจากเขา     Stephanie รู้ว่าต้องแบ่งปันเรื่องนี้ให้ชาวโลกรู้ เพื่อให้พวกเขาได้เห็นถึงความเมตตาและการเสียสละของมนุษย์ ดังนั้นเธอจึงโพสต์วิดีโอพร้อมข้อความสุดซึ้งว่า “เราหลายคนมักจะบ่นเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองไม่มี บ่นว่าทำไมโลกถึงเป็นแบบนี้แบบนั้น นั่นเป็นเพราะเราอยู่กับโลกออนไลน์ อยู่กับสื่อโซเชียลมีเดียมากเกินไป จนมองข้ามสิ่งที่อยู่รอบตัวไป” นับว่าเป็นเร่ื่องที่น่าประทับใจมากที่ได้เห็นใครบางคนลงมือทำอะไรสักอย่างด้วยวิธีนี้……

  • อดีตอันขมขื่นของสาวที่เติบโตมาในลัทธิ Children of God กับความเชื่อที่ว่าเซ็กส์คือหนทางสู่พระเจ้า

    อดีตอันขมขื่นของสาวที่เติบโตมาในลัทธิ Children of God กับความเชื่อที่ว่าเซ็กส์คือหนทางสู่พระเจ้า

    มนุษย์เป็นคนสร้างระบบความเชื่อขึ้นมา แต่สุดท้ายแล้วความเชื่อกลับกลายเป็นสิ่งกำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะสังคมในอดีต ผู้คนจะปฏิบัติตามสิ่งที่ตนเชื่อหรือนับถืออย่างเคร่งครัดและปฏิเสธไม่ได้ ด้วยความเชื่อนี้เองทำให้หญิงสาวคนหนึ่งต้องมีชีวิตในวัยเด็กที่แสนขมขื่น เพราะเธอเติบโตมากับความเชื่อที่ว่าเซ็กส์คือหนทางสู่พระเจ้า Dawn Watson วัย 29 ปี เกิดในครอบครัวที่นับถือลัทธิ Children Of God และได้รับการเลี้ยงดูตามหลักความเชื่่อมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ก่อนจะตัดสินใจหนีออกจากบ้านในวัย 13 ปี     ลัทธินี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1968 ในชื่อ Teens For Christ by David Berg ก่อนจะเปลี่ยนเป็น The Children Of God ในเวลาต่อมา มีผู้นับถือลัทธิดังกล่าวหลายพันคนทั่วโลกที่กลายเป็นคนมีชื่อเสียงในเรื่องอื้อฉาว เพราะความเชื่อหลักของพวกเขาคือการใช้เซ็กส์ในการแสดงออกถึงความรักและความเมตตาของพระเจ้า สำหรับ Dawn เธอเติบโตมาในบราซิล ซึ่งเป็น 1 ใน 30 ประเทศที่นับถือลัทธิ The Children Of God ซึ่งการทารุณกรรมทางเพศเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน     หญิงสาวเล่าว่า “ในขณะที่คุณเรียนรู้ที่จะแปรงฟันเองเหมือนเด็กทั่วไป แต่เราได้เรียนรู้ที่จะมีเซ็กส์ นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น’”…

  • สองพี่น้องพากันถ่ายรูปย้อนวัย เพื่อมอบเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงาน 30 ปีของพ่อแม่

    สองพี่น้องพากันถ่ายรูปย้อนวัย เพื่อมอบเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงาน 30 ปีของพ่อแม่

    ตอนเป็นเด็กทำอะไรก็น่ารักไปหมดแหละ ต่อให้นั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง น้ำลายยืด ก็ยังน่ารักอยู่ดี แต่ลองทำแบบนั้นตอนโตสิ แทนที่จะน่ารักมันจะกลายเป็นฮาแทน เพราะแบบนี้ Maria Warnes จึงชวนน้องชายย้อนวัยอีกครั้ง ด้วยการถ่ายรูปโคฟเวอร์วัยเด็ก เพื่อมอบเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงาน 30 ปีของพ่อกับแม่ อาจจะไม่ใช่ของขวัญชิ้นพิเศษ แต่เห็นแล้วพวกเขาต้องยิ้มแน่นอน   เฮ้ น้องชาย นายว่าตอนเด็กกับตอนโตแบบไหนน่ารักกว่า?   พี่อยากรู้มานานละว่าทำไมตอนนั้นน้องมองพี่แบบนั้น   ต่อให้โตแล้ว เราก็ยังเป็นเด็กน้อยสำหรับพ่อแม่อยู่ดี   จำได้มั้ย ตอนเด็กๆ เราชอบเล่นซ่อนแอบในตะกร้าด้วยกัน   พี่บอกผมทีว่าตอนนี้ผมยังน่ารักเหมือนตอนนั้น   ไม่บอกก็รู้ว่าเราเป็นพี่น้องที่รักการอ่านมากแค่ไหน   ตีเนียนมาแย่งที่นอนผมตั้งแต่เด็กจนโตเลยนะ   ไม่มีเพื่อนคนไหนดีกว่าพี่น้องของตัวเองอีกแล้ว   พี่คิดว่าทำแบบนี้แล้ว พ่อแม่จะคิดถึงเราในวัยเด็กจริงๆ หรอ?   เชื่อสิว่าพ่อกับแม่เห็นแล้วต้องมีความสุขแน่ๆ   จริงๆ แล้ว ต่อให้เราไม่ถ่ายรูปย้อนวัยเหมือนตอนเด็กๆ พ่อแม่ก็ยังเห็นเราเป็นเด็กน้อยในวันนั้นอยู่ดี นั่นเป็นเหตุผลพวกเขาทะนุถนอมเราตลอดยังไงล่ะ   ใครคิดไม่ออกว่าจะให้อะไรกับพ่อแม่ในวันครบรอบ ลองเอาไอเดียนี้ไปใช้สิ น่ารักดีนะ ที่มา boredpanda  

  • ภาพสุดสะเทือนใจ คุณแม่โพสต์ภาพ ‘คุณตานอนร่ำไห้’ ข้างๆ หลานสาวที่กำลังจะพ่ายแพ้ต่อโรคมะเร็ง

    ภาพสุดสะเทือนใจ คุณแม่โพสต์ภาพ ‘คุณตานอนร่ำไห้’ ข้างๆ หลานสาวที่กำลังจะพ่ายแพ้ต่อโรคมะเร็ง

    ภาพบางภาพไม่จำเป็นต้องมีคำบรรยายใดๆ คุณก็สามารถเข้าใจและสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนที่อยู่ในภาพได้เป็นอย่างดี และมันยิ่งสะเทือนใจหากคุณได้รู้เรื่องราวที่อยู่ในภาพนั้น เช่นเดียวกับภาพคุณตาที่นอนร้องไห้อยู่ข้างเตียงของหลานสาว เมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะจากไปในไม่ช้าเพราะไม่อาจต้านทานมะเร็งร้ายได้ Ally Parker มีลูกสาววัย 5 ขวบ ที่กำลังจะพ่ายแพ้ต่อโรคมะเร็งสมอง ขณะที่พ่อของเธอ Sean Peterson ก็กำลังป่วยหนักด้วยโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม และอาจจะจากไปในไม่ช้านี้เช่นกัน     นั่นเท่ากับกับว่า Ally กำลังเผชิญหน้ากับความกลัวที่จะต้องสูญเสียทั้งลูกสาวและคุณพ่อในเวลาไล่เลี่ยกัน หรืออาจจะห่างกันไม่กี่สัปดาห์ด้วยซ้ำ ดังนั้นคุณแม่จึงตัดสินใจโพสต์ภาพลูกสาวลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมี Sean พ่อของเธอนอนร้องไห้อยู่ข้างๆ เตียงของลูกสาว ใบหน้าของ Sean เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน เมื่อรู้หลานสาวผู้เป็นที่รักต้องจากไปก่อนวัยอันควร เช่นเดียวกับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ที่ทรมานใจไม่แพ้กัน แต่พวกเขาต้องอดทนไว้เพื่อปลอบใจกันและกัน     สำหรับเด็กน้อย Braylynn Lawhon เธอได้รับการวินิจฉัยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ปีที่ผ่านมาว่าเป็น Diffuse Intrinsic Pontine Glioma ซึ่งเป็นมะเร็งสมองชนิดร้ายแรง ไม่มีวิธีรักษาและไม่มีอัตราการรอดชีวิต ตอนนี้อาการของเธอแย่ลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คุณหมอเองก็พยายามอย่างหนักในการบรรเทาความเจ็บปวดให้กับเธอเท่าที่จะทำได้ แน่นอนว่าคนที่เจ็บปวดจนไม่รู้จะหาคำใดมาบรรยายคือ Parker แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังรวบรวมความกล้าในการแบ่งปันประสบการณ์อันเจ็บปวดในเฟซบุ๊กเพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงโรคร้ายนี้มากขึ้น     “เราทุกคนคิดว่าพวกเขาจะมีอายุยืนกว่าเรา และเราไม่คิดเลยว่า Braylynn ลูกสาวที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฉันจะเป็นคนแรกที่จากไป…” Parker เขียนในเฟซบุ๊ก เธอบอกอีกว่า “ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับเรา…

  • คู่รักถึงกับหัวเสีย ส่งภาพงานแต่งคืนช่าง พร้อมคอมเพลนกว่า 30 หน้า ชี้ทุกเม็ดเช็กทุกจุด!!

    คู่รักถึงกับหัวเสีย ส่งภาพงานแต่งคืนช่าง พร้อมคอมเพลนกว่า 30 หน้า ชี้ทุกเม็ดเช็กทุกจุด!!

    เราสามารถแต่งงานได้ครั้งเดียวในชีวิต ดังนั้นหลายๆ คู่จึงมักจะให้ความสำคัญและทุ่มเทกับวันนี้เป็นพิเศษ ทั้งในเรื่องสถานที่ ลำดับพิธีการ รวมไปถึงการบันทึกภาพและวิธีโอตลอดงาน เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ในบางครั้ง แม้คู่บ่าวสาวจะวางแผนมาดีแค่ไหนก็ต้องพบกับความผิดพลาดอยู่ดี อย่างกรณีของสามีภรรยาจากฮ่องกงคู่นี้ที่ผิดหวังอย่างแรง เมื่อภาพถ่ายงานแต่งของพวกเขาออกมาไม่ตรงตามที่คาดหวังไว้     ต่อมาสำนักข่าว DCFever รายงานว่าคู่รักได้ใช้เวลาในการพิจารณารูปภาพทั้งหมดอย่างละเอียด พร้อมกับเขียนเส้น ทำตาราง และเพิ่มความคิดเห็นของตัวเองลงไป เพื่อชี้ให้เห็นจุดที่มีความบกพร่องทางเทคนิคและองค์ประกอบของภาพ มีหลายภาพที่คู่รักเขียนทับด้วยกฎ 3 ส่วน (ไม่ว่าภาพจะอยู่แนวตั้งหรือแนวนอน หากแบ่งภาพนั้นออกเป็นสามส่วน ทั้งตามแนวตั้งและแนวนอน แล้วลากเส้นแบ่งภาพทั้งสามเส่น จะเกิดจุดตัดกันทั้งหมด 4 จุด)     หนึ่งในภาพที่คู่รักเห็นว่ามีความผิดพลาดร้ายแรงและไม่สามารถยอมรับได้คือภาพที่หัวของเพื่อนเจ้าสาวถูกตัดออกจากเฟรม     อีกรูปคือภาพที่คู่บ่าวยืนข้างกัน แต่ประเด็นคือพื้นหลังถูกแต่งให้สว่างจ้าเกินไป จนมองไม่เห็นรายละเอียดของพื้นหลังที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างดี     คู่รักได้รวบรวมข้อบกพร่องทั้งหมดเหล่านี้ได้ 30 หน้า ก่อนจะส่งมันให้กับช่างภาพที่รับผิดชอบเพื่อให้เขาได้เห็นความผิดพลาดของตัวเอง ต่อมาภาพเหล่านี้ถูกแชร์ในเฟซบุ๊ก จนได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเป็นจำนวนมาก โดยนักวิจารณ์บางคนเห็นว่าสิ่งที่คู่รักทำนั้นเหมาะสมแล้ว เพราะพวกเขายอมจ่ายเงินจำนวนมากและคาดหวังที่จะได้ภาพที่สวยงาม ขณะที่หลายๆ คนออกมาปกป้องฝ่ายช่างภาพ โดยบางคนอ้างว่าภาพอาจจะยังปรับแต่งไม่เสร็จก็เป็นได้   ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ทางตากล้องจะออกมาชี้แจงอย่างไรบ้างกับประเด็นนี้ ที่มา petapixel

  • เจ้าเหมียวตัดสินใจเสนอตัวเองเป็น ‘บอดี้การ์ดบ๊อง’ ให้เจ้าทาสที่ช่วยเหลือมันจากข้างถนน

    เจ้าเหมียวตัดสินใจเสนอตัวเองเป็น ‘บอดี้การ์ดบ๊อง’ ให้เจ้าทาสที่ช่วยเหลือมันจากข้างถนน

    ปกติแล้วบอดี้การ์ดต้องมีมาดเข้มขรึม ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูนิ่งและเป๊ะไปซะทุกท่วงท่า แต่ดูเหมือนใครบางคนจะตีความหมายของบอดี้การ์ดผิดเพี้ยนไปนะ เลยออกมาซะบ๊องเชียว แหงละสิ ก็นี่มันบอดี้การ์ดเหมียวนี่ แล้วใครจะกลัวละเนี่ย? เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักมันซะหน่อยดีกว่า นี่คือ Larry แมวจรจัดที่ได้รับการช่วยเหลือจนทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไปตลอดกาล     กว่าปีที่ผ่านมา Larry ใช้ชีวิตเป็นแมวจรจัดอยู่ข้างถนน จนกระทั่งวันหนึ่ง Theresa จากรัฐเดลาแวร์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเดินไปพบกับมันที่กำลังกระโดดไปมาอย่างปวกเปียก เมื่อสังเกตดูก็พบว่ามันขาหักข้างหนึ่ง ทั้งยังมีรอยแผลเป็นจากการต่อสู้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนมันพร้อมที่จะสู้ตลอดเวลาเพื่อปกป้องตัวเอง เมื่อ Theresa เดินเข้าไปใกล้ เจ้าเหมียวก็เตรียมพร้อมที่จะสู้ทันที เห็นได้ชัดว่ามันใช่ชีวิตด้วยความยากลำบากและพยายามอย่างหนักเพื่อความอยู่รอด     อย่างไรก็ตาม หญิงสาวเองก็ไม่ยอมละความพยายามเช่นกัน เธอตัดสินใจกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าเหมียวอีกครั้ง และครั้งนี้เธอทำให้มันไว้ใจได้สำเร็จ แม้ว่า Larry จะไม่ได้ต้องการอะไรจากมนุษย์ แต่มันไม่สามารถต้านทานอาหารและความรักที่มนุษย์เสนอมาให้ได้ ทางด้านหญิงสาวเองพยายามใช้เวลาอยู่กับมันให้มากที่สุด พยายามสร้างความเป็นมิตรกับมันจนในที่สุดท่าทีของเจ้าเหมียวเริ่มเปลี่ยนแปลงไป     ตั้งแต่มี Theresa เข้ามาในชีวิต เจ้าเหมียวเริ่มตระหนักว่ามันไม่ต้องทนอยู่กับความหิวอีกแล้ว ที่สำคัญมันสัมผัสได้ถึงความรักจากมนุษย์ ซึ่งไม่ได้เคยได้รับมาก่อนในชีวิต อยู่มาวันหนึ่ง Larry ก็ส่งเสียงครืดๆ และอ้อนให้ Theresa กอด นั่นแสดงว่ามันมีความสุขมากๆ และไว้ใจเธออย่างเต็มหัวใจแล้ว พวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกันตั้งแต่วันนั้นมา     หญิงสาวบอกว่า “หลังจากที่ได้รับความไว้วางใจ ฉันก็ช่วยเหลือมันได้ง่ายขึ้น มันดูมีความสุขที่ได้อยู่กับฉัน…

  • หนุ่มไทยพาสาวญี่ปุ่นที่ไม่เคยออกนอกประเทศ เที่ยวเชียงใหม่เป็นครั้งแรก และนี่คือสิ่งที่พวกเธอได้เรียนรู้

    หนุ่มไทยพาสาวญี่ปุ่นที่ไม่เคยออกนอกประเทศ เที่ยวเชียงใหม่เป็นครั้งแรก และนี่คือสิ่งที่พวกเธอได้เรียนรู้

    ในแต่ละประเทศหรือแต่ละท้องถิ่นล้วนมีวัฒนธรรมและความน่าสนใจที่ต่างกัน และความแตกต่างนี่แหละที่จะทำให้เราได้เห็นถึงความงดงามบนโลกใบนี้ เหมือนอย่างสองสาวชาวญี่ปุ่นที่ตัดสินใจออกนอกประเทศตัวเองครั้งแรก เพื่อไปยังที่ที่พวกเขาไม่เคยไป ด้วยเหตุนี้ทำให้ทั้งคู่ได้สัมผัสกับประสบการณ์อันแปลกใหม่มากมายที่ไม่เคยเจอมาก่อน นี่เป็นเรื่องราวจากสมาชิกเว็บพันทิปที่ใช้ชื่อว่า ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่อาสาพาสองสาวชาวญี่ปุ่นทัวร์ทุกซอกทุกมุมในเมืองเชียงใหม่   คุณที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง เล่าว่าเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เขาได้มีโอกาสพาเพื่อนชาวญี่ปุ่น 2 คน มาเที่ยวเชียงใหม่ และนี่ก็เป็นครั้งแรกสำหรับสองสาวด้วยที่ได้ออกนอกประเทศ หรือเรียกว่าไปต่างประเทศครั้งแรกนั่นแหละ โดยเหตุผลที่สองสาวตัดสินใจตามหนุ่มไทยมาเชียงใหม่คือ ‘อยากรู้ว่าสถานที่ที่คุณ ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง เติบโตมานั้นเป็นอย่างไร’ การทัวร์เชียงใหม่ครั้งนี้ ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 1 วัน แต่สำหรับสองสาวแล้วอาจจะรู้สึกเหมือน 1 ปี เพราะพวกเขาได้เห็นได้และทำในสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต     และแล้วประสบการณ์แรกก็เริ่มต้นขึ้น นั่นก็คือการเข็นรถ…มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเรานะ แต่ที่ญี่ปุ่นไม่มีการจอดรถแบบจอดนอกซอง ถ้าที่จอดในซองเต็มก็จะถือว่าเต็ม ต้องไปจอดที่อื่น ถ้าต้องการจอดให้ได้ก็ต้องขับวนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอคนออก นอกจากนี้การจอดรถโดยไม่ใส่เบรคมือเอาไว้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะรถอาจจะไหลไปชนคันอื่นได้ และการไปแตะต้องรถคนอื่น (เช่นการเข็นรถ) อาจมีความผิดทางกฎหมายได้ แต่บ้านเราสามารถจอดนอกซองกันชิลๆ ปลดเกียร์ว่างไว้เข็นกันสนุกเลย และบังเอิญวันที่พาสองสาวเที่ยวเป็นวันสิ้นปีพอดี ทำให้ในห้างมีรถเยอะเป็นพิเศษ หน้าที่เข็นรถเลยตกเป็นของสองสาวแบบงงๆ คือเข็นไปก็งงว่าไปว่าแบบนี้มีด้วยเหรอ??     ประสบการณ์ต่อมาคือการกินปังเย็นหิมะ อาจจะไม่แปลกหรอกสำหรับคนญี่ปุ่น แต่ที่ทั้งคู่ต้องทึ่งคือมีการใส่ขนมปังลงไปในน้ำแข็งไสด้วย?…

  • ชาวเน็ตถึงกับติดสตั๊นท์หลังเห็น ‘กางเกงยีนส์’ สุดล้ำ มีรอยขาดตรงที่ไม่เหมือนใคร เอ็งจะใส่มั้ย!?

    ชาวเน็ตถึงกับติดสตั๊นท์หลังเห็น ‘กางเกงยีนส์’ สุดล้ำ มีรอยขาดตรงที่ไม่เหมือนใคร เอ็งจะใส่มั้ย!?

    ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเราเป็นคนตามแฟชั่นไม่ทัน เพราะมีแฟชั่นเกิดใหม่ทุกวัน และมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ บ้างก็ล้ำหลุดโลกซะจนไม่คิดว่าจะมีคนกล้าใส่ อย่างล่าสุดเว็บไซต์ขายเสื้อผ้าออนไลน์อย่าง Asos ได้ทำให้ผู้คนตื่นตาตื่นใจกับกางเกงยีนส์รุ่นใหม่ ล้ำชนิดที่แบบว่าไม่แนวจริงไม่กล้าใส่แน่นอน     นี่คือ Chaps กางเกงยีนส์จากแบรนด์แฟชั่นของอังกฤษที่ชื่อ The Ragged Priest’s Black Label Chaps ราคาอยู่ที่ 3,800 บาท และกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายในทวิตเตอร์ หลังชาวเน็ตคนหนึ่งเลื่อนไปเจอขณะที่ท่องโลกออนไลน์ ลักษณะเด่นของกางเกงยีนส์ดังกล่าวนี้คือมันถูกตัดขาดตรงช่วงบริเวณขาหนีบทั้ง 2 ข้าง โดยมีห่วงโซ่คล้องส่วนขากับสะโพกไว้ เผยให้เห็นต้นขาอย่างชัดเจน     ทางผู้ออกแบบกางเกงสุดล้ำนี้บอกว่าใครก็ตามที่สวมกางเกงยีนส์นี้มันจะทำให้คุณดูมีสไตล์ และจะยิ่งดูดีถ้าใส่กับเสื้อยืดและหมวก ด้วยสไตล์ที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้มันกลายเป็นแฟชั่นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก บางส่วนอยากซื้อมาใส่ แต่บางคนงงว่ามีคนยอมจ่ายเงินเกือบ 4,000 บาท เพื่อกางเกงตัวนี้ด้วยเหรอ?     สำหรับคำว่า Chaps เป็นคำย่อของภาษาสเปน Chaparreras เดิมจะเป็นสำหรับผู้ชายที่ขี่ม้า โดยจะทำช่องว่างตรงเป้าเอาไว้ มันถูกใส่ครั้งแรกโดยคนขี่วัวในสเปนและเม็กซิโก   เมื่อคุณเข้าไปใน Asos เพื่อหาซื้อกางเกงยีนส์สักตัวแล้วพบว่ามียีนส์ตัวนี้อยู่ด้วย ถ้าเป็นฉัน ฉันขอผ่านดีกว่า   ฉันเป็นคนชอบยีนส์มากๆ แต่แบบนี้ไม่ไหวนะ…

  • ภรรยารั้งรถไฟไว้ไม่ให้ออก เพื่อรอสามีที่กำลังมา ทำเอาทั้งขบวนเดือดร้อนเพราะคนๆ เดียว

    ภรรยารั้งรถไฟไว้ไม่ให้ออก เพื่อรอสามีที่กำลังมา ทำเอาทั้งขบวนเดือดร้อนเพราะคนๆ เดียว

    เรารู้กันอยู่แล้วว่าเครื่องบิน รถโดยสาร รถไฟ รวมทั้งการขนส่งสารธารณะอื่นๆ ต้องออกจากสถานีตามเวลาที่กำหนดและไม่มีข้อยกเว้นใดๆ สำหรับคนที่มาสาย ดังนั้นผู้โดยสารส่วนใหญ่จึงมักจะมารอก่อนเวลาเสมอ แต่ล่าสุดได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในสื่อโซเชียลของจีน เป็นเหตุการณ์ที่หญิงคนหนึ่งเข้าไปขัดขวางไม่ให้รถไฟฟ้าออกจากสถานี เพื่อให้รอสามีของเธอที่กำลังเดินทางมา วิดีโอดังกล่าวนี้ถูกถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีความยาว 4 นาที โดยมีหญิงคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตูทางเข้ารถไฟความเร็วสูงในสถานี Hefei Railway Station มณฑลอานฮุย พร้อมถือโทรศัพท์คุยกับสามี     เมื่อเจ้าหน้าที่ของสถานีมาถึง เขาพยายามบอกผู้หญิงคนนั้นให้ขึ้นไปนั่งในที่ของตัวเอง หรือไม่ก็ออกไปจากตรงนี้เพราะถึงเวลาที่รถไฟต้องออกจากสถานีแล้ว แทนที่จะออกไปตามที่เจ้าหน้าที่บอก แต่เธอกลับบอกให้รอต่อไปอีกหน่อยจนกว่าสามีของเธอจะมาถึง โดยอ้างว่าเขาอยู่ที่ประตูแล้วและจะมาถึงที่นี่ในเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่พยายามอธิบายด้วยเหตุผลต่างๆ ให้เธอฟังว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ทั้งผลักเธอออกไป แต่ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี เธอยังเกาะราวประตูไว้แน่นเหมือนเดิม     ในที่สุด เจ้าหน้าต้องออกแรงผลักมากขึ้นจนเธอล้มลงไปกับพื้น และแทนที่จะยอมแพ้ เธอกลับลุกขึ้นแล้วเอาเท้าไปพาดไว้ตรงประตู เพื่อไม่ไห้ประตูปิด ระหว่างนั้นผู้หญิงคนนี้ได้โต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ตลอด ขณะที่ผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่อยู่ในรถไฟได้ตะโกนใส่เธอว่าควรทำตามกฎและปล่อยให้รถไฟออกสักที ที่น่าสนใจคือ ตลอดเวลาที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายนี้มีเด็กหญิงในเสื้อสีชมพู เฝ้าดูแม่ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่โดยไม่สามารถทำอะไรได้ และแม่ของเธอก็ไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ด้วย     ตอนท้ายของคลิป เจ้าหน้าที่ได้ดึงหญิงคนดังกล่าวออกมาได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้รถไฟที่มุ่งหน้าไปยังกวางโจวดีเลย์ไป 2-3 นาทีอยู่ดี ต่อมา สื่อจีนระบุว่าหญิงที่ก่อเหตุชื่อ Luo…

  • ช่างภาพตามเก็บภาพความงดงามของ ‘ชุมชนแออัด’ ในฮ่องกง เหมือนหลุดออกมาในฉากภาพยนตร์ไซไฟ

    ช่างภาพตามเก็บภาพความงดงามของ ‘ชุมชนแออัด’ ในฮ่องกง เหมือนหลุดออกมาในฉากภาพยนตร์ไซไฟ

    เมื่อพูดถึงชุมชนแออัด หลายคนอาจจะนึกถึงสภาพชุมชนที่เต็มไปด้วยความเสื่อมโทรม และมักจะเป็นที่มั่วสุมของพวกเล่นยาเสพติด จนกลายเป็นสถานที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากเฉียดเข้าไปใกล้ แต่ช่างภาพชาวโปรตุเกส Nuno Assis ได้นำเสนออีกมุมหนึ่งของชุมชนแออัด ที่ดูราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์ไซไฟจนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่สำหรับนักเดินทาง     Assis ได้ตั้งชื่อภาพเซตนี้ว่า Memories of the Future ซึ่งเป็นภาพของชุมชนแออัดในฮ่องกง ที่นั่นเต็มไปด้วยอพาร์ทเมนต์ ตึกที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสลับซับซ้อนและสายไฟระโยงระยาง นอกจากความสับสนวุ่นวายที่เป็นเสน่ห์ของชุมชนแออัดแห่งนี้แล้ว อาคารที่ถูกสร้างด้วยทรงเรขาคณิตก็นับว่าเป็นประติมากรรมที่น่าสนใจไม่น้อยเลยเช่นกัน     ช่างภาพหนุ่มบอกว่า “การเห็นเมืองผ่านภาพถ่ายจะทำให้ผู้คนเกิดจินตนาการที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น และนี่จะกลายเป็นแรงบันดาลใจของการเดินทางด้วย” สำหรับ Assis เขามักจะออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ พร้อมกับเพื่อนๆ เขาเป็นคนชอบเข้าสังคม และดูเหมือนฮ่องกงจะเป็นที่ที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ ถึงขั้นตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่นั่น     เขาเขียนในอินสตาแกรมว่า “ผมได้ไปเที่ยวในวันหยุดเมื่อเร็วๆ นี้ และเลือกเมืองที่จะทำให้ผมได้เห็นผู้คนอยู่รอบๆ ความเป็นชุมชนคือแรงจูงใจที่เข็มแข็งสำหรับผม ซึ่งทำให้ผมไม่อยากท่องเที่ยวคนเดียว” สำหรับสถานที่ในฮ่องกงที่ Assis ชอบถ่ายรูปมากที่สุดคือ Hac Sa Wan (Areia Preta) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮ่องกง     ภาพที่เห็นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากใครอยากติดตามผลงานเพิ่มเติมและการผจญภัยของ Assis สามารถเข้าไปดูได้ที่อินสตาแกรม Nunoassis   . . . .…

  • หนุ่มนั่งเครื่องข้ามทวีปไปเจอแฟนสาวครั้งแรก พร้อมบันทึกความรู้สึกด้วยภาพการ์ตูนสุดโรแมนติก

    หนุ่มนั่งเครื่องข้ามทวีปไปเจอแฟนสาวครั้งแรก พร้อมบันทึกความรู้สึกด้วยภาพการ์ตูนสุดโรแมนติก

    เราเคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า “รักแท้แพ้ระยะทาง” แต่ในบางครั้งหากคนสองคนมีความรู้สึกต่อกันมากพอ แม้ทางจะไกลแค่ไหน รักก็ยังงอกงามได้ เหมือนกับ Simone “Simz” Ferriero ศิลปินชาวอิตาลีที่ตกหลุมรักหญิงสาวที่ไม่เคยเจอหน้ามาก่อน และตัดสินใจบินข้ามทวีปเพื่อไปหาเธอ   ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี   ตลอดการเดินทางไปพบกับแฟนสาว Ferriero ได้บันทึกประสบการณ์ทุกช่วงเวลาด้วยภาพวาดการ์ตูน ซึ่งดูสวยงามและโรแมนติกยิ่งกว่าหนังรักซะอีก ศิลปินหนุ่มบอกว่า “ผมชอบวาดรูปตั้งแต่เด็ก ผมได้พัฒนาฝีมือตัวเองมาหลายปี กระทั่งอายุ 20 ปี ผมจึงตัดสินใจไปเรียนด้านนี้อย่างจริงจังที่สถาบันวิจิตรศิลป์”   กำลังบินไปหานะ   หลังจากสำเร็จการศึกษา ชายหนุ่มก็เริ่มรับทำงานศิลปะเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งร่วมงานกับบางบริษัทในฐานะนักออกแบบกราฟิก ก่อนที่จะผันตัวเองมาทำงานฟรีแลนซ์อย่างเต็มตัว และนี่คือเรื่องราวและประสบการณ์ผ่านภาพวาดของ Ferriero ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม ขณะที่อยู่ในประเทศแคนาดา   ปีกเครื่องบิน   เทือกเขาแอลป์   ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ในเยอรมนี   สิ่งแรกที่เห็น   จูบแรก   ออกจากที่จอดรถในสนามบิน   ถึงแล้ว   คืนแรกของเรา  …

  • ชายหนุ่มพลัดหลงกับหมา นานกว่า 10 ปี บังเอิญได้พบกันอีกครั้ง แล้วมันยังจำเขาได้!!

    ชายหนุ่มพลัดหลงกับหมา นานกว่า 10 ปี บังเอิญได้พบกันอีกครั้ง แล้วมันยังจำเขาได้!!

    สุนัขคือเพืื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์และมีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดหรือเวลาผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ไม่เคยคิดจะทิ้งเจ้าของมันไปเลย เช่นเดียวกับเจ้าหมาปุ๊กกี้ ที่พลัดหลงกับเจ้าของเป็นเวลาหลายปีจนกลายเป็นสุนัขจรจัดที่ผอมโซ แต่มันก็ยังคงจำหน้าเจ้าของได้อย่างแม่นยำ     นี่เป็นเรื่องราวที่คุณ หนึ่ง วัณภูมิ โพสต์ในเฟซบุ๊กของเขา โดยระบุว่าน้องหมาปุ๊กกี้ได้หายไปและไม่ได้เจอกันมาเกือบ 10 ปี จนเขาคิดว่ามันตายไปแล้ว กระทั่งวันที่ 8 มกราคมของปี 2018 คุณหนึ่ง วัณภูมิ ได้มีโอกาสกลับไปย่านที่เคยพัก (สายไหม) อีกครั้ง และได้พบกับสุนัขจรจัดตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างถนน     ด้วยความสงสัยว่ามันจะใช้เจ้าปุ๊กกี้ที่หายตัวไปหรือเปล่า ชายหนุ่มเลยลองเรียกชื่อ “ปุ๊กกี้” ขึ้นมา ปรากฏว่าน้องหมาตัวนั้นค่อยๆ ชะโงกหน้าขึ้นมาดู ก่อนจะเดินมาหาคุณหนึ่ง วัณภูมิ ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่านี่คือสุนัขของเขา มันคือเจ้าปุ๊กกี้ที่เขาไม่ได้เจอมาเกือบ 10 ปี วินาทีนั้นเขาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจสุดขีด     และต้องขอบคุณเจ้าปุ๊กกี้เช่นกันที่แม้เวลาผ่านไปมันก็ยังจำเจ้าของได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญมันไม่ยอมไปไหน แต่กลับรอเจ้าของอยู่ที่เดิมทุกวัน หลังจากนั้นคุณหนึ่ง วัณภูมิและคุณแม่ก็ได้พาเจ้าปุ๊กกี้ไปรักษาตัวที่คลีนิค และให้สัญญาว่านับจากนี้เขาจะดูและมันจนกว่าจะหมดลมหายใจ     ที่มา หนึ่ง วัณภูมิ

  • ไอเดียเลิศ!! สีสันการเมืองโรงเรียนไทย โปสเตอร์หาเสียงประธานสภาเจ๋งๆ ทั้งเดือดและปั่นสุดๆ

    ไอเดียเลิศ!! สีสันการเมืองโรงเรียนไทย โปสเตอร์หาเสียงประธานสภาเจ๋งๆ ทั้งเดือดและปั่นสุดๆ

    แม้ว่าบรรยากาศการเลือกตั้งจะห่างหายไปจากบ้านเราเป็นเวลาหลายปีจนหลายคนรู้สึกคิดถึง แต่ไม่ได้หมายความว่าระบบประชาธิปไตยจะหายไปจากสยามนะ ซึ่งเห็นได้จากการเลือกประธานนักเรียนของโรงเรียนต่างๆ อย่างล่าสุดมีการแชร์โพสต์จากเพจ สภานักเรียนเฉลิมขวัญสตรี – Sapa Chalermkwansatree ซึ่งเป็นศึกการเลือกตั้งที่ดุเดือดไม่แพ้วงการการเมืองเลยหละ นี่เป็นการเลือกตั้งประธานประธานสภานักเรียน ปีการศึกษา 2561 ของนักเรียนโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จังหวัดพิษณุโลก โดยมีการทำภาพโปสเตอร์หาเสียงที่สร้างสรรค์จนชาวเน็ตแห่ชื่นชม     ในเพจได้มีการโพสต์ภาพโปสเตอร์พร้อมนโยบายของแต่ละพรรค โดยระบุข้อความว่า “เอาละค่ะน้องๆ!! ถึงคราวใกล้วันเลือกตั้ง พี่สภาก็เอาป้ายหาเสียงเล็กๆ น้อยๆ พร้อมกับสโลแกนและชื่อพรรคของผู้ที่ลงสมัครประธานสภานักเรียนในปีนี้!!! พร้อมแล้ว กดเข้าไปดู กดแชร์บอกความรู้สึกได้!! แล้วอาทิตย์หน้าเตรียมตัวดูการหาเสียงครั้งยิ่งใหญ่กันด้วยนะจ้ะ #ด้วยรักอันยิ่งใหญ่จากพี่สภา“   เริ่มที่พรรคแรก “พรรคเพื่อรบ พบเพื่อพัฒนา” แค่ชื่อพรรคก็กินขาดแล้ว   พรรคที่ 2 นี่ต้องเป็นขวัญใจของนักเรียนหญิงแน่ๆ เลย เอาสิ๊ ให้รู้กันไปเลยว่าผู้หญิงก็เป็นผู้นำที่ดีได้   นักเรียนสายบุญ อย่าลืมเลือกเบอร์ 3 นะคะ โปร่งใส ไม่มีโกงแน่นอน   พรรคสุดท้าย แค่นโยบายก็รู้แล้วว่าพร้อมที่จะทำเพื่อคนอื่นมากแค่ไหน ถึงกับต้องจุดไฟเผาตัวเองเพื่อให้คนอื่นได้รับความอบอุ่น สุดยอดไปเลย   ด้วยโปสเตอร์ ชื่อพรรค นโยบายการหาเสียงที่ไม่ธรรมดาของน้องๆ นักเรียน…

  • เจ้าเหมียวนอนยืดเหยียดตัวในอ่างอาบน้ำ โดนชาวเน็ตยำตัดต่อซะเสียความมั่นใจเลยทีเดียว

    เจ้าเหมียวนอนยืดเหยียดตัวในอ่างอาบน้ำ โดนชาวเน็ตยำตัดต่อซะเสียความมั่นใจเลยทีเดียว

    ใครที่เลี้ยงแมวคงจะรู้ดีกว่าเจ้าเหมียวจอมแสบเนี่ยมันจะไม่นอนในที่ที่เราจัดไว้ให้ ต่อให้ซื้อมาแพงและดีแค่ไหน สุดท้ายพวกมันก็จะหาที่นอนของตัวเองอยู่ดี บางตัวนอนไม่ซ้ำที่ด้วย อย่างเจ้าแมวดำตัวนี้ ไม่รู้ว่าร้อนหรืออยู่ในอารมณ์ไหน อยู่ๆ ก็ไปนอนในอ่างอาบน้ำ แถมยืดเหยียดแบบสุดตัวราวกับจะบอกว่ามันยึดพื้นที่ในอ่างไว้หมดแล้ว     แต่เพราะท่าเหยียดตัวที่ดูไม่คุ้นตาของมันนี่แหละ ทำเอาชาวเน็ตถูกอกถูกใจและพากันตัดต่อและดัดแปลงภาพมันซะฮาหนักกว่าเดิมอีก   เหมียวย้อนเวลาผ่านแสงทะลุมิติ   หนวดทรงเหมียวเหยียด   เสื้อตราแมวคอส   ถ้าเปิดน้ำใส่อ่าง มันคงอยู่ในสภาพนี้แน่ๆ   นี่ก็แต่งซะหลอนเลย   เข้าป่าอย่าไว้ใจแมว   แมวหมึก เอ๊ะ หรือหมึกแมว?   จระเข้หรือแมวกันแน่   พอกลับหัว ยิ่งดูเป็นท่ายากไปอีก   นี่แหละถ่านแมว 9 ชีวิตที่แท้ทรู   เข้าป่าแล้วเจอแบบนี้คงช็อคอะ   โอ้ย นี่ก็ยาวป๊ายยย   จับฉันไว้ แม่สาวน้อย   ถ่ายรูปกับหอเอนเมืองปิซามันต้องแบบนี้นะมนุษย์ จำไว้   อ๋อ รอยดำๆ บนหน้าของรอชาร์ด จาก…

  • ชาวลอนดอนถึงกับอึ้ง หลังรู้ว่ารั้วเหล็กโค้งงอที่อยู่ตามจุดต่างๆ แท้จริงเคยเป็น ‘เตียงฉุกเฉิน’ มาก่อน

    ชาวลอนดอนถึงกับอึ้ง หลังรู้ว่ารั้วเหล็กโค้งงอที่อยู่ตามจุดต่างๆ แท้จริงเคยเป็น ‘เตียงฉุกเฉิน’ มาก่อน

    ในแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้นมักมีที่มาและประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่ ซึ่งบางอย่างอาจไม่เคยได้รับการเปิดเผย จนบางทีแม้แต่คนในพื้นที่เองก็ยังไม่รู้เลย อย่างในลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะมีรั้วเหล็กที่ถูกทำให้งอในบางจุด แน่นอนว่าหลายคนอาจจะสังเกตเห็น แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้เลยว่าทำไมมันถูกทำให้เป็นแบบนี้ จนเมื่อ Jim Wheble จากสำนักข่าว BBC London News เดินทางไปยังถนนที่มีรั้วเหล็กงอดังกล่าว และได้บอกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของรั้วลักษณะนี้     Wheble อธิบายว่ารั้วดังกล่าวนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นรั้วทั้งหมดซะทีเดียว แต่มันสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้เป็นเตียงฉุกเฉิน โดยรั้วส่วนที่มีลักษณะทรงโค้งงอตามแนวเสานั้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นเปลหามคนเจ็บ ซึ่งอยู่สูงจากพื้นประมาณ 2-3 นิ้ว และถูกนำมาใช้เป็นรั้วบนถนนหลังสิิ้นสุดสงคราม นอกจากนี้ Wheble ยังได้พาผู้ชมโฟกัสที่ส่วนเล็กๆ ของรั้ว และตั้งข้อสังเกตว่ามันถูกใช้พาเด็กๆ ที่ได้รับบาเจ็บออกจากเศษหินหรืออิฐในช่วงสงคราม     แล้วเชื่อว่ามั้ยว่าเมื่อผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมารู้ความจริงนี้จาก Wheble ทุกคนถึงกับร้อง ‘ว้าว’ เพราะพวกเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แม้แต่คนในพื้นที่เองก็ตาม พิธีกรรายพูดต่อไปว่าในช่วงที่เกิดสงคราม ผู้เชี่ยวชาญในทีมรัฐบาลของสหราชอาณาจักรได้คาดการณ์ถึงสถานการณ์หรือหายนะที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องสร้างเตียงฉุกเฉินนับพันเตียง เพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันและทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ     Wheble ได้สัมภาษณ์ Ian Kikuchi นักประวัติศาสตร์ที่ Imperial War Museum เขาบอกว่าผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้บาดเจ็บประมาณ 100,000 รายในช่วง…

  • เหล่ามะหมากำลังถูกพาไปขายที่ตลาดเนื้อ แต่ถูกช่วยเหลือเอาไว้ทัน พร้อมมีชีวิตใหม่แล้ว

    เหล่ามะหมากำลังถูกพาไปขายที่ตลาดเนื้อ แต่ถูกช่วยเหลือเอาไว้ทัน พร้อมมีชีวิตใหม่แล้ว

    ในขณะที่เราหลายคนเห็นสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง เป็นเพื่อน เป็นครอบครัวที่ได้ต้องได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรัก แต่กลับมีคนกลุ่มหนึ่งที่มองต่างออกไปและนำพวกมันไปทำเป็นอาหาร!! อย่างเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ สุนัขกว่า 30 ตัว ในฟาร์มที่กำลังจะถูกนำไปแปรรูปเป็นเนื้อในเกาหลีใต้ ได้รับการช่วยเหลือจากทีมงาน Humane Society International ก่อนจะถูกส่งตัวไปยังสหราชอาณาจักรอย่างปลอดภัย     นักแสดงหนุ่ม Pete Wicks เป็นหนึ่งผู้เข้าร่วมภารกิจนี้ เขาอยู่ที่ท่าอากาศยาน Heath­­row เพื่อต้อนรับเหล่าน้องหมาที่จะมาหาบ้านใหม่ที่นี่ เขาบอกว่า “ไม่ได้เตรียมใจรับความน่ากลัวของฟาร์มพวกนี้เลย ผมเห็นเหล่าน้องหมานั่งสั่นอยู่ในกรงเหล็ก และจ้องมองมาด้วยสายตาแห่งความสิ้นหวัง” “ดังนั้นการทำให้สถานที่อันน่ากลัวนี้ปิดตัวลง จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าภาคภูมิใจที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของผม” ดาราหนุ่มกล่าว จากภารกิจในครั้งนี้ ทำให้ Pete ได้เจอกับน้องหมา Henry Jack Lucie George Tory Rocky Bella Chris Adam Mocha Abbie Lucy และ Leila     พวกมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งจากสุนัข 170 ตัว ส่วนที่เหลือจะถูกส่งตัวไปยังแคนาดาและสหรัฐอเมริกา โดยอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ที่ให้การช่วยเหลือสัตว์ สำหรับเหล่าสุนัขผู้น่าสงสารเหล่านี้เคยถูกขังในกรงแคบๆ และสกปรกในเมืองนามยางจู ซึ่งห่างออกไปประมาณ 2 ชั่วโมงจากสถานที่ที่เกาหลีใต้กำลังจะจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในฐานะเจ้าภาพ แต่ที่น่าตกใจคือ มันเป็นเพียงหนึ่งในฟาร์มจากทั้งหมด 17,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีการเพาะพันธุ์สุนัขมากกว่า 2.5 ล้านตัวต่อปีเพื่อนำไปเป็นอาหาร  …

  • ไต้หวันเตรียมเพิ่ม “เพศที่สาม” ระบุลงในพาสปอร์ตและบัตรประชาชน ยื่นเรื่องรอการอนุมัติ

    ไต้หวันเตรียมเพิ่ม “เพศที่สาม” ระบุลงในพาสปอร์ตและบัตรประชาชน ยื่นเรื่องรอการอนุมัติ

    ในยุคที่ประชาธิปไตยกำลังเบ่งบาน การเรียกร้องสิทธิในด้านต่างๆ ก็เข้มข้นขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะด้านความเท่าเทียมทางเพศ ที่ไม่ใช่แค่เพศหญิงหรือเพศชาย แต่รวมไปถึงเพศที่สามด้วย ในบางประเทศทางยุโรป เพศที่สามอาจได้รับการยอมรับและมีเสรีภาพเท่าเทียมกับเพศหญิงหรือเพศชายโดยมีกฎหมายมารองรับ แต่ในเอเชียยังไม่มีประเทศไหนที่ประกาศรองรับเรื่องนี้แบบ 100%     อย่างไรก็ตาม ไต้หวันเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่เรียกร้องสิทธิให้ชาว LGBTQ มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งวันที่ 24 พฤษภาคม 2017 ทางการไต้หวันได้ประกาศให้มีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งงานของเพศเดียวกัน โดยจะเตรียมประกาศใช้ภายใน 2 ปีนี้ อ่านข่าวเก่า ไต้หวันเตรียมร่างกฎหมาย เพื่อรับรองการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน     ไม่มีเพียงแค่กฎหมายเกี่ยวกับการแต่งงานของเพศเดียวกันเท่านั้น แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการความเท่าเทียมทางเพศของไต้หวัน (Gender Equality Committee of the Taiwan) ได้ประกาศเตรียมเพิ่ม “เพศที่สาม” ระบุลงในพาสปอร์ตและบัตรประชาชนด้วย ทางการไต้หวันกล่าวว่าการระบุเพศที่สามในบัตรประชาชนและหนังสือเดินทางเป็นการช่วยปกป้องสิทธิของคนแปลงเพศ คนข้ามเพศ และเพศทางเลือกอื่นๆ     ดังที่กล่าวมาแล้วว่าก่อนหน้านี้ไต้หวันเตรียมอนุมัติการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องมีการระบุเพศที่สามในบัตรประชาชนด้วยเพื่อเป็นการส่งเสริมสิทธิของ LGBTQ ในเอเชีย ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศที่ให้ระบุเพศที่สามในบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง โดยประเทศที่อนุมัติเมื่อปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย ประเทศแคนาดาออสเตรเลีย เดนมาร์ก เยอรมนี มอลตา นิวซีแลนด์…

  • สายการบิน Alitalia ทำเครื่องดนตรีวิโอล่าเก่าแก่จากศตวรรษที่ 17 พังยับ ทั้งที่รับปากจะดูแลให้

    สายการบิน Alitalia ทำเครื่องดนตรีวิโอล่าเก่าแก่จากศตวรรษที่ 17 พังยับ ทั้งที่รับปากจะดูแลให้

    ทุกๆ การเดินทาง ไม่ว่ากับสายการบินไหนก็ตาม เราก็คงคาดหวังที่จะได้รับบริการดีๆ จากพนักงาน รวมทั้งการคุ้มครองทรัพย์สินให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่บางครั้งความผิดพลาดก็เกินขึ้นจนได้ เมื่อสายบินทำทรัพย์สินเสียหาย อย่างกรณีล่าสุดที่ทางสายการบิน Alitalia ทำเครื่องดนตรีวิโอล่าเก่าแก่จากศตวรรษที่ 17 พัง สร้างความไม่พอให้เจ้าของเป็นอย่างมาก เมื่อไม่กี่วันก่อน Myrna Herzog ชาวอิสราเอลที่เกิดในบราซิลได้โพสต์ภาพเครื่องดนตรีของเธอลงในเฟซบุ๊ก เผยให้เห็นสภาพของวิโลล่าที่พังยับเยิน     สำหรับวิโอล่าตัวนี้เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่หายากที่สุดในโลก ซึ่งถูกทำขึ้นในปี 1708 และมีราคาประมูลอยู่ที่ 6.8 ล้านบาท Herzog วัย 66 ปี ได้ร่วมงานกับวงดนตรีอิสราเอลและวงดนตรีที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ทั่วโลก เธอกำลังเดินทางจากริโอเดจาเนโรไปยัง Tel Aviv ประเทศอิสราเอลผ่านกรุงโรม แต่แล้วเครื่องดนตรีของเธอก็ได้รับความเสียหายระหว่างเดินทาง เธอจึงเรียกร้องให้สายการบิน Alitalia ออกมารับผิดชอบ     เธอเขียนเฟซบุ๊กว่า “สายการบิน Alitalia เกลียดนักดนตรี! นี่คือสิิ่งที่ Alitalia ทำกับเครื่องดนตรีวิโอล่าเก่าแก่จากศตวรรษที่ 17 ของฉัน หลังจากที่ฉันไว้ใจสายการบินให้ทำการขนส่งให้ แต่พอได้กลับมา มันพังยับเยิบเหมือนโดนรถทับมา จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากทางสายการบิน Alitalia”     Herzog บอกว่าอีกว่าตอนแรกเธอพยายามจ่ายค่าตั๋วสำหรับเครื่องดนตรีของเธอ เพราะไม่อยากโหลด แต่ทางสายการบินแจ้งมาว่าที่นั่งเต็มหมดแล้ว เธอจึงยื่นวิโอล่าให้กับพนักงานด้วยมือของตนเอง…

  • ศิลปินสร้างผู้คนในหมู่บ้านด้วย “กระดาษลัง” บันทึกเรื่องราวของผู้คนผ่านโมเดลสุดสร้างสรรค์

    ศิลปินสร้างผู้คนในหมู่บ้านด้วย “กระดาษลัง” บันทึกเรื่องราวของผู้คนผ่านโมเดลสุดสร้างสรรค์

    เป็นที่รู้กันว่าวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในวงการศิลปะนั้น มันมีราคาที่ค่อนข้างสูงและต้องใช้มันเป็นจำนวนมากด้วยเพื่อให้ได้ผลงานศิลปะที่สมบูรณ์แบบ แต่ Warren King ศิลปินชาวอเมริกันพิสูจน์ให้เห็นว่าสุดยอดผลงานศิลปะที่มีความสร้างสรรค์นั้น ไม่จำเป็นต้องลงทุนแพงเสมอ ขอแค่รู้จักใช้สิ่งที่มีอยู่รอบตัวให้เป็นประโยชน์     King ได้สร้างผู้คนในหมู่บ้านของจีนด้วย “กระดาษลัง” โดยตั้งชื่อผลงานว่า Shaoxing Villagers ซึ่งเป็นประติมากรรมคนเฒ่าคนแก่ชาวจีน เขาได้รับแรงบันดาลใจจากการเริ่มต้นโปรเจกต์นี้เมื่อ 6 ปีก่อน เมื่อเขามีโอกาสได้ไปประเทศจีนครั้งแรก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตายายของเขา     เมื่อมาถึงศิลปินรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ได้รับการทักทายจากคนแปลกหน้าบนถนน จนมารู้ทีหลังว่าพวกเขารู้จักกับตายายของเขาเลยให้การต้อนรับในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว การปฏิบัติเหล่านี้ทำให้ King ประทับใจในวัฒนธรรมของบรรพบุรุษมากๆ เขาไม่เคยเจอคนพวกนี้มาก่อนและอาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยก็ได้     เขาเล่าว่าตัวเองได้แยกกับตายายเมื่อ 50 ปีก่อน และถูกเลี้ยงดูในสหรัฐฯ ดังนั้นความผูกพันเส้นบางๆ นี้เหมือนกับกระดาษลังที่นำมาต่อกัน ปกติแล้วกระดาษลังเมื่อใช้งานแล้วมันจะถูกทิ้งเป็นขยะ แต่ King ตัดสินใจนำมากลับมาต่อกันใหม่อย่างสร้างสรรค์ด้วยการทำเป็นรูปของตากับยายที่อยู่ในหมู่บ้านจีน     ไม่เพียงแค่ตายายเท่านั้น และเขายังสร้างตัวละครอื่นๆ ที่เขาได้พบเจอตอนที่ไปเยือนหมู่บ้านด้วย และแน่นอนว่ารูปปั้นจากกระดาษลังเหล่านี้บอกเล่าเร่ื่องราวและสิ่งแวดล้อมที่เขาเจอมาเป็นอย่างดีเลยล่ะ เพื่อนๆ สามารถติดตามผลงานเพิ่มเติมของ King ได้ที่เว็บไซต์ Wrnking    . . .…

  • นางแบบเปลี่ยนสาวอินเดียให้กลายเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ ความงามที่แปลกใหม่ที่น่าหลงใหลเหลือเกิน

    นางแบบเปลี่ยนสาวอินเดียให้กลายเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ ความงามที่แปลกใหม่ที่น่าหลงใหลเหลือเกิน

    ปกติแล้วเราจะไม่ค่อยได้เห็นผู้หญิงอินเดียในบล็อกความงามหรือวงการแฟชั่นมากเท่าไหร่ เพราะพวกเขาถูกจำกัดสิทธิด้วยจารีตประเพณีต่างๆ จึงไม่สามารถแสดงออกได้อย่างเสรีเหมือนผู้หญิงทั่วไปได้ อย่างไรก็ตาม Hamel Patel นางแบบและช่างแต่งหน้าจากรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เผยความงามของสาวอินเดียในลุคเจ้าหญิงดิสนีย์ ที่มีความน่าหลงไหลไม่แพ้เจ้าหญิงจริงๆ   สโนไวท์   Petal อธิบายว่าแรงบันดาลใจในการสร้างซีรี่ย์ชุดนี้มาจากการที่ไม่มีตัวแทนของ Desi ในชุมชนดิสนีย์ (Desi หมายถึงชนชาติและวัฒนธรรมของอนุทวีปอินเดีย) “ตอนเด็กๆ ฉันอยากให้มีเจ้าหญิง Desi เพื่อที่จะได้ชื่นชมเธอบ้าง” หญิงสาวกล่าว แต่ก็อย่างที่เห็น ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีเจ้าหญิงในฝันของเธออยู่ในกลุ่มเจ้าหญิงดิสนีย์ จึงกลายเป็นที่มาของเจ้าหญิงดิสนีย์แบบสาวอินเดีย   ซินเดอเรลล่า   แม้จะเป็นการแปลงโฉมให้เหมือนเจ้าหญิงดิสนีย์ แต่ Petal ก็ยังคงรักษาความคมเข้มแบบอินเดียไว้ เพื่อให้ความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา และไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นสาวอินเดียในลุคแบบนี้   เบลล์   แอเรียล   ออโรร่า   โพคาฮอนทัส   จัสมิน   มู่หลาน   ที่มา designtaxi

  • ทางการปฏิเสธสร้างบันไดให้คนแก่มูลค่า 2 ล้าน คุณตาเลยควักเงิน 18,000 บาทสร้างเองซะเลย

    ทางการปฏิเสธสร้างบันไดให้คนแก่มูลค่า 2 ล้าน คุณตาเลยควักเงิน 18,000 บาทสร้างเองซะเลย

    บางครั้งชุมชนจำเป็นต้องช่วยเหลือกันเองแทนที่จะรอความช่วยเหลือจากทางการ เพราะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ มากมายและใช้เวลานาน ดีไม่ดีสุดท้ายอาจไม่ได้รับการอนุมัติด้วยซ้ำ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้คนในย่านโทรอนโต ประเทศแคนาดา พวกเขาพากันตื่นเต้นหลังจากที่สภาท้องถิ่นประกาศจะสร้างสวนสาธารณะในชุมชนให้ แต่ตื่นเต้นได้แค่ไม่นาน ชุมชนก็พบว่าไม่มีทางสำหรับเดินลงไปยังสวนสาธารณะนั้นได้ นอกจากทางเดินลูกรังแคบๆ ที่ค่อนเดินลำบาก     ต่อมาทางเมืองได้นำเชือกผูกไว้ตามทางเดิน เพื่อให้ผู้คนจับไว้เพื่อประคองตัวขณะเดินลงไปยังสวนสาธารณะ แต่หารู้ไม่เส้นทางนี้สร้างความลำบากให้กับผู้สูงอายุเป็นอย่างมากกว่าจะเดินไปลงไปถึงที่หมาย แม้จะลำบากผู้คนก็ยังจำใจใช้ถนนเส้นนี้ กระทั่งมีผู้หญิงคนหกล้มจนข้อมือหัก Adi Astl วัย 73 ปี หนึ่งในชาวชุมชนโทรอนโตจึงติดต่อไปยังผู้นำของเมือง เพื่อขอให้จัดสรรงบประมาณในการสร้างบันไดให้ แต่คำตอบที่รับคือทางการไม่สามารถอนุมัติคำขอนี้ได้ โดยบ่ายเบี่ยงว่าได้นำเงินบางส่วนใช้ไปกับโครงการที่คล้ายกันนี้ และยังบอกอีกว่าถ้าสร้างบันไดให้อาจต้องใช้งบอย่างน้อย 2 ล้านบาท     นั่นทำให้ Adi ตระหนักได้ว่าการสู้ร่วมกับคนในชุมชนน่าจะเห็นผลมากกว่ารอการช่วยเหลือจากทางการ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสร้างบันไดลงไปยังสวนสาธารณะด้วยตัวเอง เขาได้ซื้อไม้สักมาจำนวนหนึ่งและอาศัยกำลังแรงจากผู้คนในชุมชนคนละนิดคนละหน่อย ในที่สุดก็สามารถสร้างบันไดเสร็จภายใน 14 ชั่วโมง ด้วยงบเพียง 18,000 บาท อย่างไรก็ตาม รูปแบบบันไดที่เขาสร้างขึ้นมาเองนั้นขาดคุณสมบัติด้านความปลอดภัยตามที่เมืองกำหนดและละเมิดกฎการสร้างอาคารในเมือง ส่งผลให้บันไดที่เขาอุตส่าห์สร้างขึ้นมานั้นถูกรื้อถอนทันทีและมีการนำเทปมากั้นไว้     แต่นับว่าโชคดีที่โครงการสร้างบันไดด้วยตัวเองของ Adi ได้รับความสนใจจากนายกเทศมนตรี ทางการจึงได้ติดต่อไปหาเขาและแจ้งว่าจะให้การสนับสนุนด้วยงบ 320,000 บาท นอกจากนี้นายกเทศมนตรียังกล่าวขอบคุณ Adi สำหรับความเพียรและความพยายามในการทุ่มเทเพื่อความปลอดภัยของชุมชน ภายในไม่กี่วันหลังจากนั้น ชุมชนก็ได้เห็นบันไดคอนกรีตที่ทางการสร้างให้…

  • 23 ภาพที่เห็นแล้วคุณคงไม่อยากเข้าใกล้มหาสมุทรแน่ๆ เจ้าพวกนี้มันคือตัวอะไรกันเนี่ย?!

    23 ภาพที่เห็นแล้วคุณคงไม่อยากเข้าใกล้มหาสมุทรแน่ๆ เจ้าพวกนี้มันคือตัวอะไรกันเนี่ย?!

    หลายๆ คนอาจชอบล่องเรือหรือไปว่ายน้ำตามมหาสมุทร เพราะนอกจากจะได้ดื่มด่ำไปทิวทัศน์เหนือพื้นน้ำที่แสนงดงามแล้ว บางทีอาจมีสัตว์ทะเลน่ารักๆ โผล่ขึ้นมาทักทายเป็นช่วงๆ ด้วย แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างย่อมมี 2 ด้าน เสมอ มหาสมุทรก็เช่นกัน ในเมื่อมันมีความงามได้ มันก็มีความน่ากลัวได้ในเวลาเดียวกัน และภาพต่อไปนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมไม่ควรเข้าใกล้มหาสมุทรเด็ดขาด   1. เพราะมันเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตที่มีหน้าตาแบบนี้   2. แบบนี้   3. และแบบนี้!!   4. คุณอาจไม่รู้ว่ากำลังว่ายน้ำพร้อมกับสิ่งมีชีวิตตัวนี้ในมหาสมุทร   5. พักหายใจสักแป๊บกับเจ้าตัวนี้   6. ขณะที่คุณลอยตัวในน้ำ อาจจะมีสิ่งนี้ลอยอยู่ข้างๆ คุณ   7. เพราะในมหาสมุทรเต็มไปด้วยน้ำ จึงไม่แปลกที่คุณจะไม่เห็นสิ่งนี้ แม้จะมันจะว่ายมาอยู่ใกล้ๆ ก็ตาม   8. ถ้าว่ายน้ำอยู่ดีๆ เจอเจ้าตัวนี้คุณจะทำยังไง?   9. นี่ก็อีกตัว ถ้าเจอคงทำอะไม่ถูก   10. ถ้าว่ายน้ำอยู่ดีๆ แล้วมีบางอย่างมาสัมผัสกับเท้าของคุณ มันอาจจะเป็นสิ่งนี้ก็ได้   11.…

  • 15 ประเทศที่มีหนุ่มหล่อที่สุดในโลกอาศัยอยู่ นี่แหละเป้าหมายที่สาวโสดควรพุ่งเข้าหา

    15 ประเทศที่มีหนุ่มหล่อที่สุดในโลกอาศัยอยู่ นี่แหละเป้าหมายที่สาวโสดควรพุ่งเข้าหา

    บางประเทศนอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจชวนให้ไปเที่ยวแล้ว ยังมีประชากรหนุ่มสาวในประเทศที่หน้าตาดีและน่ากินซะจนอยากหิ้วกลับบ้านด้วย ด้วยเหตุนี้นิตยสารออนไลน์อย่าง Insider Monkey จึงจัดอันดับประเทศที่มีผู้ชายหล่อที่สุดในโลกอาศัยอยู่ เผื่อจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับสาวโสดที่กำลังมองหาคนรู้ใจ ส่วนเกณฑ์ในการจัดอันดับคือดูตามรางวัลต่างๆ ที่ชายหนุ่มแต่ละประเทศได้ครอบครอง เช่น Manhunt International Mister Global Mister International และ Mr. World   15. ประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้อาจไม่ค่อยได้รับรางวัลบนเวลาประกวดความงาม แต่พวกเขามักได้รับรางวัล “Mr. Congeniality” “Best Physique” และ “Best Model” . .   14. ประเทศฝรั่งเศส ชายชาวฝรั่งเศสได้ครองตำแหน่ง Manhunt International ปี 2002 และ Mister World 2015 นอกจากนี้ยังได้รางวัล Mr. Congeniality ด้วย . .   13. ประเทศตุรกี ชายหนุ่มจากตุรกีได้รับชัยชนะจากการประกวด Mr. World ปี 1996 และ Manhunt International ปี 2005 และครองตำแหน่ง Best…

  • โรงแรมลอยน้ำในญี่ปุ่น ถูกยกย่องให้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการ ‘อ่านหนังสือ’ มากที่สุดในโลก

    โรงแรมลอยน้ำในญี่ปุ่น ถูกยกย่องให้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการ ‘อ่านหนังสือ’ มากที่สุดในโลก

    หากพูดสถานที่อ่านหนังสือที่ดีที่สุดหลายคนคงจะนึกถึงห้องสมุด เพราะนอกจากมีหนังสือหลากหลายให้เลือกอ่านแล้ว ยังเป็นที่ปลอดเสียงรบกวนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Guntû โรงแรมสไตล์บูติคอันเรียบง่ายที่ลอยอยู่กลางทะเล Seto Inland Sea ในประเทศญี่ปุ่น ได้รับการยกย่องว่าเป็นที่ที่เหมาะกับการอ่านหนังสือมากที่สุดในโลก     ภายในโรงแรมดังกล่าวนี้มีห้องพักเพียง 19 ห้อง โดยแขกที่มาพักจะได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์บนหมู่เกาะเล็กๆ ที่ทอดยาวไปสู่ทะเล     Guntû ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Yasushi Horibe และได้มีการตั้งชื่อตามปูสีน้ำเงินที่พบได้ในภูมิภาคนี้…มันคือปูที่ได้รับความนิยมในท้องถิ่นสำหรับทำซุปมิโซะ และนักออกแบบเองก็คาดหวังว่าโรงแรมลอยน้ำนี้จะได้รับความนิยมเหมือนกับปูสีน้ำเงินเช่นเดียวกัน     ใครก็ตามที่จองห้องพักในโรงแรม Guntû สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยเลยคืออาหารที่นักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มรสตลอดการเข้ามาใช้บริการ เพราะอาหารในแต่ละมื้อแต่ละเมนูนั้นถูกรังสรรค์ตามอารมณ์ของผู้โดยสาร สภาพอาการ และแน่นอนพวกเขาจะใช้วัตถุดิบหรือส่วนผสมตามฤดูกาลของท้องถิ่น     ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ทานอาหารสดใหม่ทุกมื้อ นอกจากนี้พ่อครัวยังได้เตรียมอาหารกลางวันกล่องเล็กๆ สำหรับใครที่ต้องการใช้เวลาช่วงบ่ายในการออกไปสำรวจบนบก ว่ากันว่าดาดฟ้าน่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดสำหรับโรงแรมลอยน้ำนี้ เพราะทำด้วยไม้ธรรมชาติทั้งหมด ทั้งพื้น เพดาน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วนพร้อมกับพรมทอแบบธรรมชาติ     ตลอดการล่องเรือ ผู้โดยสารจะได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของภูเขา ซึ่งบรรยกาศโดยรวมเหมาะกับการใช้เวลาอ่านหนังสือหรือพูดคุยกับเพื่อนๆ หรือหากใครต้องการเบียร์หรือชาก็สามารถสั่งได้จากบาร์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ… มาถึงตรงนี้ มีเหตุผลอะไรที่คุณไม่อยากไปใช้บริการของ Guntû มั้ย? อย่ามัวแต่รอช้า คลิกเข้าไปจองก่อนจะเต็มได้ในเว็บไซต์ Guntu     บรรยากาศชวนฝัน…

  • พิธีกรรายการดังออกมาวิจารณ์ “แบร์ กริลส์” เรื่องที่เขาออกมาฆ่าสัตว์ออกทีวีอยู่บ่อยครั้ง

    พิธีกรรายการดังออกมาวิจารณ์ “แบร์ กริลส์” เรื่องที่เขาออกมาฆ่าสัตว์ออกทีวีอยู่บ่อยครั้ง

    หากใครชอบดูสารคดีเกี่ยวกับการผจญภัยในป่าคงจะรู้จักชายหนุ่มที่ชื่อ Bear Grylls เขาคือผู้ที่สอนทักษะการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือใดๆ ในทุกๆ ครั้งที่ Grylls ถ่ายทำการเอาตัวรอดนั้น เขามักจะสอนวิธีการฆ่าสัตว์ด้วย ทั้งฆ่าเพื่อเป็นอาหารและฆ่าเพื่อป้องกันตัว จนกลายเป็นไอดอลของใครหลายๆ คน แต่ล่าสุดพิธีกรรายการชื่อดังอย่าง David Attenborough ได้ออกมาวิจารณ์ Grylls ว่าเขาฆ่าสัตว์เพื่อให้รายการของเขาได้รับความสนใจจากผู้ชมเท่านั้น     David วัย 91 ปี บอกว่านักผจญภัยหนุ่มต้องคำตอบตัวเองให้ได้ว่าทำไมถึงฆ่าสัตว์? หลังจากที่เขาทำการสังหารสัตว์มากมายผ่านรายการช่อง Channel 4 ของเขา ซึ่งเป็นภารกิจการเอาตัวรอดบนเกาะ ในบรรดาสัตว์ที่ถูกสังหารออกรายการได้แก่ จระเข้ หมู และไก่งวง สร้างความไม่พอใจให้องค์กรการกุศลสัตว์ PETA และผู้ชมบางส่วนเป็นอย่างมาก David พิธีกรชื่อดังของ BBC ผู้ที่กำลังจะซีรีส์เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติบน Netflix ในเร็วๆ นี้ กล่าวว่า “เราไม่เคยฆ่าสัตว์เลย Grylls จะต้องตอบตัวเองให้ได้ แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่อยากฆ่าสัตว์เพื่อถ่ายทำรายการ”     ทั้งนี้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังจากที่นักกีฬาโอลิมปิก Iwan Thomas และอดีตนักแสดง Ryan Thomas ได้ลงมือฆ่าจระเข้ด้วยมีดปลายแหลมบนเกาะชื่อดังแห่งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจต่อผู้ชมเป็นอย่างมาก จนมีการเรียกร้องให้องค์กรการกุศลสัตว์ PETA UK ลงโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งเหล่าคนดังและผู้ผลิตรายการ…

  • ช่างแต่งหน้า ช่วยแต่งหน้าให้กับหญิงผู้สูงวัย เพื่อมอบความอ่อนเยาว์ให้พวกเธออีกครั้ง

    ช่างแต่งหน้า ช่วยแต่งหน้าให้กับหญิงผู้สูงวัย เพื่อมอบความอ่อนเยาว์ให้พวกเธออีกครั้ง

    การแต่งหน้าอาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นอะไรสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุมากแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายๆ คนมีความมั่นใจมากขึ้นก็ด้วยการแต่งหน้าเนี่ยแหละ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่เครื่องสำอางเท่านั้นที่จะแปลงโฉมให้สาวๆ ทุกรุ่นทุกวัยได้ แต่ฝีมือในการแต่งหน้าก็เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กัน     หนึ่งในผู้ที่สามารถละเลงเครื่องสำอางบนใบหน้าให้ออกมาสวยงามไร้ที่ติคือ Anar Agakishiev วัย 32 ปี ช่างแต่งหน้าจากสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ที่มาพร้อมกับพรสวรรค์อันน่าทึ่ง แบบว่าสามารถแต่งหน้าให้คนอายุ 80 ปี ดูเด็กกว่าอายุไปครึ่งหนึ่งเลย     Agakishiev มีสตูดิโออยู่ที่เมืองบากู ที่นั่นเขาได้สร้างผลงานอันเย้ายวนใจทุกวัน โดยจุดเด่นของเขาคือการแต่งหน้าที่ดูเป็นธรรมชาติให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แต่ผลงานที่น่าทึ่งที่สุดของเขาคือเปลี่ยนใบหน้าของผู้หญิงสูงวัยให้ดูอ่อนลง โดยใช้ทักษะในการปกปิดริ้วรอย ถุงใต้ตา การเปลี่ยนโทนสีของหน้า และเทคนิคอื่นๆ ที่ทำให้หน้าดูเด็กกว่าวัย     Agakishiev มีประสบการณ์ในการแต่งหน้ามากกว่า 10 ปี และตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเรียนรู้ที่จะพัฒนาฝีมือตัวเองให้น่าทึ่งขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นช่างแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงในวันนี้     ไม่ใช่แค่แต่งหน้าให้สาวๆ สวยขึ้น หรืออ่อนกว่าวัย แต่บางครั้งเขาสามารถทำให้ผู้หญิงดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้เลย ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแบบนี้ได้นะ     ใครที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือใฝ่ฝันอยากเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ สามารถเรียนรู้หรือติดตามได้ผลงานของ Agakishiev ได้ที่เฟซบุ๊ก Anar Agakishiev และเว็บไซต์ Stilistanar  …

  • เจ้าของเอาหมามาให้สัตวแพทย์ฆ่า อ้างว่ามัน “ป่วย” และ “โง่” แต่คุณหมอตัดสินใจให้มันอยู่ต่อ

    เจ้าของเอาหมามาให้สัตวแพทย์ฆ่า อ้างว่ามัน “ป่วย” และ “โง่” แต่คุณหมอตัดสินใจให้มันอยู่ต่อ

    สำหรับคนที่ไม่ได้มีรักสุนัขจริงๆ พวกเขาอาจจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อรับน้องหมามาเลี้ยงใหม่ๆ แต่พอเวลาผ่านไป เมื่อพวกเขาเริ่มรู้สึกเบื่อหรือมันไม่ได้เป็นตามที่คาดหวัง ก็มักจะจบลงด้วยการพยายามหาข้ออ้างในการกำจัดมันทิ้ง เหมือน Figgy น้องหมาวัย 18 ปี ที่เริ่มประสบอุบัติเหตุภายในบ้านบ่อยๆ จนครอบครัวไม่สามารถจัดการกับมันได้ เลยตัดสินใจที่จะปล่อยมันไป พวกเขาพาน้องหมาไปหาสัตวแพทย์ และขอให้ทำการการุณยฆาตมัน จากนั้นพวกเขาก็กลับบ้านไปโดยทิ้งเจ้า Figgy ไว้ที่นั่น     ตอนที่ให้ทำการุณยฆาต ครอบครัวให้เหตุผลกับพนักงานว่าเพราะมัน “โง่” เลยเป็นเหตุผลให้พวกเขาตัดสินใจปล่อยมันไป แต่พนักงานในคลีนิกกลับตกหลุมรักเจ้าสุนัขแก่ตัวนี้ตั้งแต่แรกเห็น และตัดสินใจว่าจะไม่มีทางฆ่ามันอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้หลังจากที่ตรวจร่างกาย คุณหมอพบว่า Figgy ตาบอดและป่วยเป็นโรคข้ออักเสบ มันมีฟันพุเต็มปาก แต่เมื่อเทียบกับหมาอายุ 18 ปีแล้ว มันยังมีสุขภาพแข็งแรงดี จึงไม่มีเหตุผลต้องจบชีวิตมัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ติดต่อไปยัง Muttville Senior Dog Rescue เพื่อดูว่ามีที่ว่างสำหรับ Figgy หรือเปล่า แล้วก็ได้คำตอบรับอย่างรวดเร็ว น้องหมาจึงถูกส่งตัวไปที่นั่นเพื่ออยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญต่อไป     เมื่อไปถึง แทนที่ Sherri Franklin ผู้ก่อตั้ง Muttville Senior Dog Rescue จะให้น้องหมาอยู่ในศูนย์พักพิง แต่เธอตัดสินใจพามันกลับบ้านพร้อมเธอ เพื่อให้มันอยู่ในที่ที่อบอุ่นและเงียบสงบ Franklin บอกว่า “มันเป็นหมาที่น่ารักมากๆ มันชอบนอนกับฉันและขดตัวอยู่ตรงจั๊กกะแร้ของฉัน…

  • เจ้าเหมียวขนปุย ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ แต่เดี๋ยวก็ใจอ่อน….นั่นไง ว่าแล้วเชียวววว!!

    เจ้าเหมียวขนปุย ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ แต่เดี๋ยวก็ใจอ่อน….นั่นไง ว่าแล้วเชียวววว!!

    แมวบางตัวเนี่ยเข้ากับคนง๊ายง่าย ยังไม่ทันเรียกก็วิ่งเข้ามาหาแล้ว ตรงข้ามแมวอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้เลย เอ๊ะ! หรืออาจเป็นเพราะเราเข้าหามันผิดวิธีนะ?? อย่างเจ้าเหมียว Cendrillon ที่ใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนมาหลายเดือน แม้จะมีครอบครัวหนึ่งที่เข้าหามันอย่างเป็นมิตร แต่มันก็ยังคงรักษาระยะห่างไว้เหมือนเดิม     ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เจ้าเหมียวมักจะเดินขึ้นมาที่ระเบียงบ้านของครอบครัว Montreal เพื่อมากินอาหารที่ทางเจ้าของบ้านเตรียมไว้ให้ แต่แปลกที่มันไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลย Celine Crom จาก Chatons Orphelins Montréal บอกว่า “มันหิวและกำลังหาอะไรกิน ทางครอบครัว Montreal พยายามทำให้มันไว้ใจทุกวิถีทาง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันเห็นพวกเขา มันจะวิ่งหนีทันที” “มันไม่ยอมให้มนุษย์เข้าใกล้แม้แต่นิดเดียว ดังนั้นตลอดเดือนสองเดือนที่แวะเวียนมา มันจะขึ้นไปกินอาหารบนระเบียงต่อเมื่อไม่มีใครอยู่แถวนั้น” Celine กล่าว     ในที่สุดทางครอบครัว Montreal ก็ตัดสินใจทำกับดักให้มันเข้ามาในกรงจนสำเร็จ ก่อนจะพามันไปหาสัตวแพทย์และหาที่ปลอดภัยให้อยู่ ผู้ช่วยเหลือบอกว่าครั้งแรกที่มอง พวกเขาคิดว่าน้องแมวไม่น่าจะเกิดมาเป็นแมวจรจัดตั้งแรกแรก และนับว่าโชคดีที่มันถูกช่วยเหลือจากข้างถนนก่อนที่จะหน้าหนาวนี้จะมาถึง     หลังจากที่พา Cendrillon ไปหาสัตวแพทย์พบว่ามันอายุประมาณ 2 ขวบ มันยังไม่ถูกทำหมัน จึงคาดว่ามันน่าจะถูกใช้เป็นแมวพันธุ์มาก่อน อันดับแรก เจ้าหน้าที่เริ่มโกนขนที่รุนรังบางส่วนออก กำจัดเห็บหมัดให้ จนทำให้น้องแมวรู้สึกดีขึ้นและเริ่มสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของมนุษย์     หลังจากที่รับการรักษาที่จำเป็นเสร็จ เจ้าเหมียวก็ถูกพาตัวไปพักฟื้นในบ้านอุปถัมภ์พร้อมผู้ดูแลใจดี…

  • ช่างภาพชาวจีนออกตระเวนทั่วชนบทเพื่อถ่ายรูปครอบครัวให้ฟรี และมอบเป็นที่ระลึก

    ช่างภาพชาวจีนออกตระเวนทั่วชนบทเพื่อถ่ายรูปครอบครัวให้ฟรี และมอบเป็นที่ระลึก

    หลายครอบครัวลงทุนหาเสื้อผ้าสวยๆ เช่าสตูดิโอหรูๆ หรือจ้างช่างภาพมืออาชีพ เพื่อให้ถ่ายรูปครอบครัวสำหรับเก็บไว้เป็นที่ระลึก ในขณะที่หลายครอบครัวโดยเฉพาะในชนบท ไม่มีโอกาสนั้นเพราะอย่างที่รู้ว่าค่าจ้างช่างภาพนั้นราคาค่อนข้างสูง ซึ่งบางทีอาจมากกว่าเงินเดือนทั้งเดือนของใครบางคนซะอีก     ด้วยเหตุนี้่ช่างภาพหนุ่ม Yang Dongqing จากมณฑลยูนนานจึงอาสาถ่ายภาพให้ครอบครัวในชนบทแบบฟรีๆ เพื่อมอบเป็นที่ระลึกให้พวกเขา นอกจากจะเสนอถ่ายรูปให้ฟรีแล้ว Yang ยังไปหาพวกเขาถึงที่ เขาออกตระเวนไปทั่วหมู่บ้านในชนบทที่อยู่ล้อมรอบบ้านเกิดของเขา โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว     ช่างภาพหนุ่มบอกว่าจนถึงตอนนี้เขาได้ถ่ายภาพครอบครัวมากกว่า 200 ครัวเรือนแล้ว และถ่ายให้ชาวบ้านอีกหลายพันคน ที่น่าประทับใจคือชาวบ้านบางคนไม่เคยถ่ายรูปด้วยซ้ำในชีวิต ดังนั้น Yang จึงหวังว่าภาพถ่ายเหล่านี้จะทำให้พวกเขามีความสุขได้     ภารกิจของ Yang ทำให้นึกถึง Ma Hongjie ช่างภาพชาวจีนที่อุทิศเวลามากกว่า 10 ปี ในการถ่ายภาพทรัพย์สินครอบครัวทั่วประเทศจีน ทั้ง 2 ภารกิจที่แตกต่างกันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การถ่ายรูปเท่านั้น แต่เป็นการสื่อให้เห็นถึงเรื่องราวที่แฝงอยู่ในภาพถ่ายด้วย จึงหวังว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีความสุขที่ได้รับภาพถ่ายครอบครัวเป็นที่ระลึก     ทีมที่มามอบความสุขให้ครอบครัวในชนบท   ช่างภาพหนุ่มผู้รับรอยยิ้มของชาวบ้านแทนเงินค่าจ้าง   ด้านล่างนี้เป็นภาพฝีมือของ Ma ที่ถ่ายภาพทรัพย์สินของครอบครัวชาวจีน . . .   ที่มา medium

  • วิศกรหนุ่มชาวอินเดียถูกครอบครัวฝ่ายหญิงฉุดลากให้แต่งงานกับลูกสาว ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน

    วิศกรหนุ่มชาวอินเดียถูกครอบครัวฝ่ายหญิงฉุดลากให้แต่งงานกับลูกสาว ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน

    ปัจจุบันนี้การคลุมถุงชนแทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว เพราะถูกคัดค้านจากคนส่วนใหญ่ในสังคม อีกอย่าง ต่อให้ได้กายไปแต่ก็ไม่ได้ใจเขามาอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ธรรมเนียมนี้ยังคงมีคนบางกลุ่มสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน ที่สำคัญไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็นฝ่ายถูกบังคับ แต่ในบางคู่ฝ่ายชายกลับตกเป็นเหยื่อได้เช่นกัน นี่เป็นเรื่องราวของ Vinod Kumar วิศวกรชาวอินเดียที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวในเขต Nalanda ใกล้ Patna รัฐ Bihar ทางตอนเหนือของอินเดีย     ครอบครัวของฝ่ายหญิงได้ระดมคนไปลาก กระชาก ตี และใช้ปืนจ่อหัววิศวกรหนุ่มเพื่อให้ไปเข้าพิธีแต่งงานกับลูกสาวของตน ทั้งๆ ที่ชายหนุ่มไม่เคยเห็นหรือรู้จักเธอมาก่อน ตามสำนักข่าว Gulf News รายงานว่ามีเสียงญาติของฝ่ายหญิงตะโกนขึ้นมาท่ามกลางความวุ่นวายว่า ‘เราแค่จะจัดพิธีแต่งงานให้ ไม่ได้แขวนคอคุณสักหน่อย ทำไมต้องร้องเสียงดังขนาดนั้น หุบปากเดี๋ยวนี้!!’ ขณะที่ทำพิธี(บังคับ)แต่งงานนั้น Kumar พยายามขัดขืนอย่างสุดแรงและร้องห่มร้องไห้ตลอดเวลา โดยมีกลุ่มคนที่คอยที่จับเขาไว้คอยเช็ดน้ำตาให้     ที่เป็นเช่นนี้ เพราะในวัฒนธรรมในอินเดียนั้น ครอบครัวของผู้หญิงต้องหาสินสอดไปสู่ขอผู้ชายที่หมายปอง หรือที่ครอบครัวจับจองไว้ให้ โดยครอบครัวฝ่ายชายจะเรียกร้องเท่าไหร่ก็ได้ หลังจากพูดคุยตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ฝ่ายหญิงต้องจ่ายค่าสินสอดตามที่เจรจาต่อรองกัน มิเช่นนั้น ครอบครัวผู้ชายก็จะไม่ยอมรับหรือเธออาจจะถูกรังเกียจไปเลยก็ได้ กรณีของ Kumar เป็นพิธีกรรมที่เรียกว่า Pakadua Vivah (การบังคับแต่งงาน) มันอาจจะดูรุนแรงในสายตาคนทั่วไป แต่มันเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับคนใน Bihar และพื้นที่โดยรอบ โดยเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อครอบครัวผู้หญิงที่กำลังมองหาผู้ชายให้ลูกสาว แต่ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าสินสอดได้ ก็เลยใช้วิธีบังคับหรือลักพาตัวมาแต่งงานแทน…

  • ชาวเน็ตร่วมแชร์ภาพการท่องเที่ยวด้วยรถแวน เผยความสุขที่หาไม่ได้จากการอยู่บ้านเฉยๆ

    ชาวเน็ตร่วมแชร์ภาพการท่องเที่ยวด้วยรถแวน เผยความสุขที่หาไม่ได้จากการอยู่บ้านเฉยๆ

    หลายคนอาจจะคิดว่าความสุขในวันหยุดคือการนอนอยู่บ้านเฉยๆ ดูทีวีหรือดูซีรี่ส์ แต่เชื่อสิ หากได้ทำแบบนี้จริงๆ เพียงแค่ไม่นานก็คงรู้สึกเบื่อแน่นอน เพราะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ เห็นแต่อะไรเดิมๆ ไม่เบื่อก็ไม่รู้จะว่าไงละ แต่ลองดูชาวเน็ตเหล่านี้สิ พวกเขาออกไปท่องเที่ยวพร้อมรถแวน ภายใต้แฮชแท็ก #VanLife พร้อมภาพหลักฐานที่ทำให้รู้ว่าความสุขเหล่านี้หาไม่ได้จากการอยู่บ้านเฉยๆ เหล่านี้เป็นภาพสิ่งแวดล้อมอันงดงาม ที่รวบรวมไว้ในอินสตาแกรม @project.vanlife ดูน่าตื่นตาตื่นใจซะจนคุณอยากซื้อรถแวนสักคันแล้วออกไปท่องโลกเหมือนกับเค้าบ้าง     เส้นทางที่โอบล้อมด้วยต้นไม้สูง ให้บรรยากาศอันเยือกเย็นและงดงาม   แทนที่จะนอนอยู่ในบ้าน ลองไปนอนในที่แปลกตาดูบ้างสิ   อย่าลืมพาเพื่อนแสนรู้ไปด้วยนะ   ยึดที่มนุษย์เลยนะ   ราวกับข้ามไปอีกโลกหนึ่ง   ยิ่งมีคนรู้ใจไปด้วย ยิ่งฟินเลย   สัมผัสประสบการณ์ในแบบที่ไม่เคยมาก่อน   ระหว่างทางอาจจะมีเพื่อนแปลกหน้าแวะมาทักทายไปบ้าง   ร้องเพลงเบาๆ กลางหุบเขา   พาเจ้าตูบมาสัมผัสธรรมชาติด้วยกัน   หนทางยิ่งลำบากเท่าไหร่ ปลายทางจะยิ่งงดงามมากเท่านั้น   นอนในที่ท้าทายดูบ้าง   ไปทุกที่ที่มีเรา   น้องคงจะตื่นเต้นมากสินะ ไม่ยอมนอนเลย   ไม่มีที่ดริ๊งค์ที่ไหน อบอุ่นเท่านี้อีกแล้ว   เหมือนกับหลุดไปอยู่ในโลกเทพนิยายยังไงอย่างนั้น…

  • เหล่าสาวๆ ชาวอิหร่านออกมาเรียกร้องสิทธิสตรี ด้วยการถ่ายภาพสลัดฮิญาบแบบเก๋ๆ

    เหล่าสาวๆ ชาวอิหร่านออกมาเรียกร้องสิทธิสตรี ด้วยการถ่ายภาพสลัดฮิญาบแบบเก๋ๆ

    อิหร่านเป็นประเทศที่ผู้หญิงยังคงถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการห้ามไม่ให้สวมเสื้อผ้ารัดรูป ห้ามดูกีฬาที่มีผู้เล่นเป็นผู้ชาย ห้ามให้เห็นเส้นผม ไม่มีสิทธิขอหย่ากับฝ่ายชาย และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยเหตุนี้ Marinka Masséus ช่างภาพชาวดัตช์ จึงเดินทางไปยังอิหร่าน เพื่อสร้างโปรเจกต์ถ่ายภาพ My Stealthy Freedom ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่จะช่วยให้ผู้หญิงอิหร่านต่อสู้เพื่ออิสรภาพได้มากยิ่งขึ้น     ผู้หญิงอิหร่านหลายๆ คนเกลียดที่ต้องใส่ฮิญาบ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่ ทำให้พวกเธอไม่มีสิทธิในการเลือกหรือทำในสิ่งที่ต้องการ ดังนั้นฮิญาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความไม่เท่าเทียม และการเลือกปฏิบัติสำหรับผู้หญิงอิหร่าน พวกเธอไม่ได้ทำผิดอะไร แค่เกิดมาเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง     ทุกวันนี้ผู้หญิงอิหร่านไม่ได้นิ่งเฉย แต่พวกเธอพยายามเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านกฎหมายเหล่านี้อย่างกล้าหาญ ทั้งใส่ฮิญาบที่สีสันสดใส สวมกางเกงรัดรูปหรือกางเกงขาสั้น     การเคลื่อนไหวเช่นนี้แม้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงช้าแต่มันก็เห็นผลค่อนข้างชัดเจน แต่ขณะเดียวกันทางรัฐบาลก็พยายามปราบปรามการต่อต้านเหล่านี้อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ผู้หญิงอิหร่านหลายคนถูกจับกุมและถูกคุกคาม รวมทั้งออกกฎหมายใหม่ อย่างเช่น การห้ามไม่ให้ผู้หญิงปั่นจักรยาน     นั่นหมายความ Marinka ต้องระมัดระวังในการทำโปรเจกต์ของเธอเป็นอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้ผู้หญิงอิหร่านที่เข้าร่วมได้รับความเดือดร้อนในภายหลัง     ช่างภาพให้ผู้หญิงอิหร่านเข้ามาถ่ายรูปในอพาร์ทเมนต์ โดยทำการปิดหน้าต่างทุกบานไว้อย่างดี เพื่อไม่ให้แสงแฟลชเล็ดลอดออกไปข้างนอก สาวๆ จะได้ปลอดภัย และใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปในการถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่่ด้วย    …

  • ครอบครัวลูกโด๊กดก มีอยู่แล้ว 20 คน แต่ไม่พอ ยังมีแพลนจะปั๊มเพิ่มอีกแบบอันลิมิตเต็ด

    ครอบครัวลูกโด๊กดก มีอยู่แล้ว 20 คน แต่ไม่พอ ยังมีแพลนจะปั๊มเพิ่มอีกแบบอันลิมิตเต็ด

    ปัจจุบันนี้คู่รักส่วนใหญ่ไม่นิยมมีลูกหลายคนเหมือนในอดีต เพราะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย ค่าเลี้ยงดู และเวลาสำหรับในการอยู่กับลูก ที่สำคัญการคุมกำเนิดก็มีหลายวิธีให้เลือกด้วย แต่สำหรับครอบครัว Radford จาก Morecambe ในแลงคาสเชอร์ สหราชอาณาจักร มีลูกจำนวนมากพอที่จะตั้งทีมฟุตบอลได้เกือบ 2 ทีมเลยล่ะ     ตอนนี้พวกเขามีลูก 18 คน เรียงจากอายุมากไปหาน้อย ดังนี้ Chris อายุ 28 ปี  Sophie 24 ปี  Chloe 22 ปี Jack 20 ปี Daniel 18 ปี Luke 17 ปี Millie 16 ปี Katie 15 ปี James 14 ปี Ellie 12 ปี Aimee 11 ปี Josh 10 ปี Max…

  • สภาพของเหล่าสัตว์เลี้ยง หลังจากที่ไปเผชิญประสบการณ์ที่คลีนิคสัตว์… จำไว้เลยพวกมนุษย์!!

    สภาพของเหล่าสัตว์เลี้ยง หลังจากที่ไปเผชิญประสบการณ์ที่คลีนิคสัตว์… จำไว้เลยพวกมนุษย์!!

    อาการของสัตว์เลี้ยงเมื่อต้องไปพบสัตวแพทย์มันก็ไม่ต่างอะไรจากอาการของคนเราเวลาที่ต้องไปพบหมอฟันหรอก จริงมั้ย? ทั้งกลัวและทั้งเกร็ง ก็มันน่ากลัวนี่นา อย่างสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ที่แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจนว่าสัตวแพทย์คือศัตรูเบอร์หนึ่งของพวกมัน บางตัวแสดงสีหน้าแปลกๆ หลังจากไปหาหมอมา บางตัวถึงกับงอนเจ้าของไปเลย   1. ไปหาหมอว่าแย่แล้ว นี่ยังต้องมาใส่ลำโพงที่ไซส์ไม่เข้ากับตัวอีก โธ่ววว นี่มันวันอะไรเนี่ย   2. หลังเข้ารับการผ่าตัดในวันนี้ ดูหน้ามัน แบบว่า “ทำแบบนี้กับตรูทำไม!!”   3. หลังจากผ่าตัดเสร็จ น้องยังอยู่ในอาการเมายาสลบ มันก็จะเคลิ้มๆ หน่อยอะนะ   4. หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ หน้ามันก็เป็นแบบนี้ทันที   5. หลังจากพบหมอเสร็จแล้ว ไม่ หนูไม่เป็นไรจริงๆ…   6. น้องพยายามจะพูด หลังจากยาชาหมดฤทธิ์   7. สีหน้าน้องแมวก่อนและหลังไปหาหมอ   8. เมื่อคุณไปรับน้องหมาที่คลีนิค หลังทิ้งมันอยู่กับคุณหมอ   9. ไหน อาการมันเป็นยังไงบอกหมอสิ๊?   10. ไม่ได้ตาเหล่นะ หนูแค่เมายาสลบหนะ  …

  • สองหนุ่มผู้อุทิศตนช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียว ที่ติดอยู่บนต้นไม้สูง ให้กลับลงมาอย่างปลอดภัย

    สองหนุ่มผู้อุทิศตนช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียว ที่ติดอยู่บนต้นไม้สูง ให้กลับลงมาอย่างปลอดภัย

    เรารู้กันอยู่แล้วว่าแมวมีนิสัยซุกซน อยากรู้อยากเห็นไปซะหมด และบางครั้งนิสัยแบบนี้ที่พาให้มันไปอยู่ในอันตราย อย่างเช่น ปีนขึ้นต้นไม้แล้วลงไม่ได้ และถ้ามีไม่มีคนมาช่วยมันคงต้องค้างเติ่งบนต้นไม้อยู่อย่างนั้น ด้วยเหตุนี้ Tom Otto และ Shaun Sears ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการปีนต้นไม้ จึงใช้ความสามารถนี้ในการตามหาแมวที่ติดอยู่บนต้นไม้ เพื่อช่วยให้พวกมันลงมาอย่างปลอดภัย     แน่นอนว่าเราไม่สามารถห้ามพวกแมวเหมียวให้ขึ้นต้นไม้ และเราก็ไม่สามารถตัดต้นไม้ได้ด้วย ดังนั้นทั้งคู่จึงอาสาคอยช่วยเหลือเจ้าเหมียวจอมซนเหล่านี้ และส่งมันคืนสู่อ้อมกอดของเจ้าของ     Tom และ Shaun อาศ้ัยอยู่ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาเป็นคนที่รักแมวมากและอยากเห็นแมวได้อยู่ในที่ที่เหมาะสม มีน้อยคนมากที่จะทุ่มเทเวลาอันมีค่าให้กับสัตว์ แต่ทั้งคู่กลับทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับแมวที่ต้องการความช่วยเหลือ จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากบริจาคเงินมาเพื่อให้การสนับสนุนพวกเขาในการทำหน้าที่สำคัญนี้     สีหน้าไม่มีการสำนึกผิดเล้ยยย   ฉันมาหาแกแล้วเจ้าเหมียว กลับบ้านกันเถอะ   ขึ้นมาซะสูงเลย ว่าแต่ขึ้นมายังไงล่ะเนี่ย?   อยากซน ซนเต็มที่ ถ้ามีปัญหาเราจะช่วยเอง   นี่แหละ ฮีโร่ของน้องแมว ที่มา greatbigstory

  • เด็กหญิงถึงกับเดินไม่ตรง แถมเมาค้าง หลังพนักงานเสิร์ฟผิด เอาค็อกเทลมาเสิร์ฟแทนน้ำผลไม้

    เด็กหญิงถึงกับเดินไม่ตรง แถมเมาค้าง หลังพนักงานเสิร์ฟผิด เอาค็อกเทลมาเสิร์ฟแทนน้ำผลไม้

    ค็อกเทลกับน้ำผลไม้มีลักษณะภายนอกที่ใกล้เคียงกันมากๆ จนทำให้หลายๆ คนแยกไม่ออกหากไม่ได้ดมกลิ่นหรือลิ้มรสซะก่อน อย่าว่าแต่เราเลยที่ดูไม่ออก ขนาดคนที่ทำงานคลุกคลีกับเครื่องดื่มเหล่านี้ยังสับสนในบางครั้งเลย อย่างกรณีของพนักงานคนนี้ที่เสิร์ฟค็อกเทลให้เด็กน้อย เพราะคิดว่าเป็นน้ำผลไม้ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม Mark Thomas วัย 33 ปี และคู่หมั้นของเขา Kathryn Wilson วัย 29 ปี ได้พาลูกสาวคนเล็ก Evelyn ไปทานอาหารที่ร้าน Frankie & Benny’s ใน Warrington ประเทศอังกฤษ     ภายในร้าน พ่อแม่สั่งน้ำผลไม้ที่มีชื่อว่า Fruity Sunrise ให้เด็กหญิง Evelyn วัย 4 ขวบ แต่เกิดความผิดทำให้เธอดื่มค็อกเทลที่มีชื่อว่า F&B On The Beach เข้าไป ทั้งๆ ที่ไม่ได้สั่ง การที่เด็กหญิงก็ดื่มค็อกเทลโดยไม่เอะใจ เพราะมันมีสีและกลิ่นเหมือนน้ำผลไม้ แถมยังมีมาเป็นวุ้นแบบน่ากินอีก แต่เมื่อดื่มเข้าไปปริมาณ 1 ใน 3 ของเครื่องดื่มแล้ว เธอก็ผลักเครื่องดื่มแก้วนี้ออก ครั้งแรกพ่อแม่คิดว่าลูกสาวแค่งอแงเท่านั้นเอง เพราะปกติเธอชอบน้ำผลไม้มากๆ เลยกล่อมให้เธอดื่มต่อไปอีก…ขณะนั้นเองพนักงานคนที่นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟรู้ตัวพอดีว่าเสิร์ฟผิด เลยวิ่งมาที่โต๊ะของ…

  • ช่างแต่งหน้าระดับโลกแปลงโฉมให้สาวๆ เพื่อให้พวกเขามีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง

    ช่างแต่งหน้าระดับโลกแปลงโฉมให้สาวๆ เพื่อให้พวกเขามีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง

    การแต่งหน้าอาจจะไม่ได้มีความสำคัญเหมือนปัจจัยสี่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแต่งหน้าช่วยให้ผู้หญิงหลายๆ คนมีความมั่นใจมาก รวมทั้งได้รับโอกาสในชีวิตมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ความมั่นใจในที่นี้ขึ้นอยู่กับฝีมือในการละเลงเครื่องสำอางด้วยว่าจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน และหนึ่งในช่างแต่งหน้าที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดคือ Goar Avetisyan Goar เป็นช่างแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก เพราะผลงานของเธอที่ผ่านมานั้นสมบูรณ์แบบอย่างไม่น่าเชื่อ จนบางสื่อบอกว่าเธอสามารถเปลี่ยนให้คนๆ หนึ่งกลายเป็นคนอีกคนได้เลยทีเดียว อย่างที่บอกไปแล้วว่าผู้หญิงหลายๆ คนไม่มีความมั่นใจในใบหน้าตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพึ่งการแต่งหน้าและ Goar เปรียบเสมือนหมอที่จะทำให้สาวๆ หายจากการขาดความมั่นใจ ด้านล่างนี้คือผลงานส่วนหนึ่งช่างแต่งหน้ามืออาชีพคนนี้ ดูและตัดสินด้วยตัวเองเลยว่าทำไมเธอถึงได้รับการยอมรับจากทั่วโลก   1. Julia สูญเสียผมเพราะต้องต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่มั่นใจขึ้นได้ด้วยการแต่งหน้า   2. ภาพของ Hürrem Sultan จากอินสตาแกรมของ Goar Avetisyan   3. Goar บอกว่า “ผู้หญิงทุกคนสามารถสวยเหมือนดาราฮอลีวู้ดได้”   4. Vlada ผ่านการผ่าตัดตามาแล้ว 15 ครั้ง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอสวยเท่ากับการแต่งหน้าครั้งเดียว   5. Goar เห็นผู้หญิงคนนี้ในร้านตัดเย็บเสื้อผ้า เลยมอบของขวัญให้เธอด้วยการแต่งหน้าให้   6. ครั้งแรกในรอบ 9 ปี ที่ Goar ขอแต่งหน้าให้คุณยายของเธอเอง   7. Anastasia…

  • ชาวเน็ตร่วมกันแชร์สถานที่ลับ ที่พวกเขาซ่อนของมีค่าเอาไว้จากโจร หรือจากเมียก็ได้นะ…

    ชาวเน็ตร่วมกันแชร์สถานที่ลับ ที่พวกเขาซ่อนของมีค่าเอาไว้จากโจร หรือจากเมียก็ได้นะ…

    หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องของรักของคุณ หรือกลัวว่าโจรจะขึ้นบ้านมาขโมยของมีค่าไป คุณควรจะเก็บของสิ่งนั้นให้ลับที่สุด ชนิดที่แบบว่าใครก็หาไม่เจอ นอกจากคุณเอง แล้วจะต้องซ่อนยังไงดีหละถึงจะทำให้คนอื่นหาไม่เจอ? วันนี้เราก็เลยหยิบเอาไอเดียสุดเจ๋งที่ชาวเน็ตร่วมกันแชร์มาให้ทุกคนได้ดูกัน รับประกันได้ว่าของมีค่าของคุณจะไม่ไปตกอยู่ในมือศัตรูอย่างแน่นอน   1. ทำห้องลับหลังชั้นวางหนังสือ   2. ลิ้นชักลับใต้หน้าต่าง   3. กล่องลับในบ้านนก   4. ลิ้นชักใต้ชั้นวางหนังสือ   5. ซ่อนในผ้าอ้อมเด็กเมื่อออกไปเที่ยวข้างนอก   6. ห้องลับใต้พื้นบ้าน   7. เจาะรูบนขอบประตู   8. ช่องลับใต้เก้าอี้   9. ขวดโหลที่เหมือนเต็มไปด้วยธัญพืช   10. ช่องลับในผนัง   11. ชั้นวางหนังสือซ้อนกล   12. เก็บของโปรดไว้ในถุงที่คิดว่าคนอื่นไม่อยากเปิดแน่ๆ   13. ใต้บันไดนี่แหละ ที่ซ่อนที่ดีที่สุด   14. ช่องในผนัง ปิดทับด้วยช่องเสียบปลั๊ก   15. ซ่อนในกรอบรูปก็ไม่เลวนะ…

  • คุณพ่อนั่งวาดภาพลูกสาววันละ 10 ชั่วโมงทุกๆ วัน เพื่อเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำที่แสนงดงาม

    คุณพ่อนั่งวาดภาพลูกสาววันละ 10 ชั่วโมงทุกๆ วัน เพื่อเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำที่แสนงดงาม

    พ่อแม่ปัจจุบันมักจะถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอลูกๆ ในทุกวันหรือทุกโอกาสเพื่อที่จะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก เอาไว้ดูตอนคิดถึง หรือเอาไว้ให้พวกเขาดูตอนโต แต่สำหรับ Wan Li คุณพ่อชาวจีนวัย 32 ปี ผู้มีพรสวรรค์ในด้านศิลปะ มีความสุขที่ได้ใช้เวลาไปกับการวาดภาพลูกสาวของเขาเป็นประจำทุกวัน จนกลายเป็นผลงานที่โด่งดังในโลกออนไลน์     สำนักข่าว People’s Daily รายงานว่า Wan ใช้รูปแบบการวาดภาพสีน้ำมันที่รับมาจากตะวันตก ผสมกับเทคนิคการวาดภาพแบบจีนดั้งเดิมในการสร้างสรรค์งานของเขา เขาทุ่มเทอย่างหนักในการทำงาน โดยทุกๆ วัน เขาจะใช้เวลา 8-10 ชั่วโมงในการวาดรูป และต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้ออกมาหนึ่งภาพ     แต่นั่นไม่ได้ทำให้ Wan รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใด เพราะเขารู้สึกในขณะที่วาดรูปลูกสาวนั้น เหมือนเป็นการได้พูดคุยกับพวกเขาไปด้วย ปัจจุบันเขามีภาพวาดของลูกสาวที่งดงามทั้งหมด 15 ภาพ ซึ่งใช้เวลาไป 3 ปี และเน่ื่องจากลูกๆ ยังเด็กเกินไปที่จะเป็นแบบที่ยืนนิ่งๆ ได้ ดังนั้นเขาจึงรูปถ่ายของพวกเขาเป็นแบบแทน     ที่เลือกวาดรูปเพราะ Wan เชื่อว่าภาพวาดนั้นดีกว่ารูปถ่าย เนื่องจากมันมีความน่าสนใจและยังสามารถเก็บเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย คุณพ่อบอกว่าเขาไม่อยากเห็นลูกๆ โตขึ้นเลย อยากหยุดเวลาไว้แค่นี้ แต่ความจริงมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นหวังว่าภาพวาดเหล่านี้จะทำให้พวกเขาคิดถึงพ่อแม่เมื่อโตขึ้น    …

  • อัปเดตอาการของคุณแม่โดนสามีจามขวานใส่มือ กลับไปเจอลูกๆ อีกครั้ง แต่ปฏิเสธที่จะบอกความจริง

    อัปเดตอาการของคุณแม่โดนสามีจามขวานใส่มือ กลับไปเจอลูกๆ อีกครั้ง แต่ปฏิเสธที่จะบอกความจริง

    [บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหารุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม] พ่อแม่หลายๆ คู่ แม้จะทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่บอกความจริงกับลูกๆ เพราะคิดว่าลูกไม่ควรต้องมารับรู้ด้านที่โหดร้ายของชีวิตคู่ เหมือนอย่างหญิงชาวรัสเซียที่ถูกสามีจอมขี้หึงจามขวานใส่มือจนขาดทั้ง 2 ข้าง แต่จนถึงตอนนี้เธอก็เลือกที่จะไม่บอกความจริงกับลูกว่าเกิดอะไรขึ้น อ่านข่าวเก่า สามีหึงโหด จามขวานใส่มือภรรยาจนขาด หลังพบข้อความที่ชายอื่นส่งให้และเคยถูกขอหย่า     หลังจากที่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลากว่าสองสัปดาห์ครึ่ง ในที่สุด Margarita Grachyova วัย 25 ปี ก็ได้กลับมากอดลูกชายทั้ง 2 คนอีกครั้ง แม้จะกลับมาในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ก็ตาม คุณหมอได้ช่วยเย็บมือข้างหนึ่งของ Margarita ให้กลับมาเข้าที่เหมือนเดิม แต่อีกข้างหนึ่งไม่สามารถต่อเข้าที่ได้ เนื่องจากได้รับความเสียหายมากเกินไป     แน่นอนว่าเมื่อกลับถึงบ้าน ลูกน้อยทั้ง 2 คนก็เกิดความสงสัยว่ามือของแม่หายไปไหนข้างหนึ่ง เพื่อเลี่ยงความจริงอันโหดร้าย เธอจึงบอกพวกเขาว่า ‘มืออีกข้างของแม่จะกลายเป็นมือหุ่นยนต์’ สำหรับสามีของเธอ Dmitry Grachyov วัย 26 ปี ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 15 ปี ในข้อหาทำร้ายร่างกายภรรยา     Margarita บอกว่า “ลูกชายของฉัน Dmitry อายุ 5 ขวบ และ Danil…

  • มุ้งลวดพังจนแมลงเข้าบ้าน โชคดีแมงมุมมาชักใยพอดี พ่อหนุ่มก็เลยร่วมมือกับมันซะ!!

    มุ้งลวดพังจนแมลงเข้าบ้าน โชคดีแมงมุมมาชักใยพอดี พ่อหนุ่มก็เลยร่วมมือกับมันซะ!!

    ปกติแล้วใยแมงมุมที่อยู่ในบ้านคือสิ่งที่ต้องถูกกำจัดทิ้ง ไม่งั้นมันจะกักเก็บเศษขยะหรือสิ่งสกปรกเต็มไปหมด แต่บางทีบางครั้งการเก็บไว้มีประโยชน์กว่าการกำจัดทิ้งนะ อย่างบ้านของผู้ใช้ Reddit ที่ใช้ชื่อว่า Pezmonstah มีมุ้งลวดครอบหน้าต่างไว้ เพื่อกันไม่ให้แมลงบินเข้ามาได้เวลาที่เปิดหน้าต่าง แต่เมื่อไม่นานนี้เขาพบว่ามุ้งลวดข้างหนึ่งหลุดออกมา ทำให้มีแมลงบินเข้ามาในบ้านเยอะแยะไปหมด แต่ดูเหมือนเขาจะเจอความโชคดี เมื่อมีฮีโร่ตัวน้อยโผล่มาช่วยแบบไม่ได้ตั้งใจ     ฮีโร่ที่ว่านี้คือ ‘เจ้าแมงมุม’ นั่นเอง เพราะมันมาชักใยอยู่ตรงที่มุ้งลวดหลุดเป๊ะๆ นั่นเป็นการช่วยดักจับพวกมันแมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยหละ เจ้าของบ้านบอกว่า “ตอนแรกผมตั้งใจที่จะซ่อมมุ้งลวดนะ แต่บังเอิญมีเจ้าแมงมุมมาชักใยตรงนั้นพอดี ผมเลยปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้นโดยไม่เอาออก วิน-วินกันทั้งคู่ ผมให้ที่อยู่มััน มันช่วยดักจับแมลง แถมยังเป็นอาหารให้มันได้ด้วย” “จริงๆ ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าต้องเก็บแมงมุมไว้ในบ้าน แต่ในเมื่อสิ่งที่มันทำเป็นประโยชน์มากกว่า จึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องกำจัดทิ้ง” เจ้าของบ้านกล่าว     อย่างที่รู้กันแหละว่าแมงมุมไม่ได้อยู่ในจำพวกสัตว์น่ารักจนต้องเก็บไว้เลี้ยง ที่สำคัญใยของมันยังสร้างความรำคาญใจให้กับเจ้าของบ้านด้วย แต่อย่าลืมนะว่าพวกมันกินแมลง เช่น ยุง ดังนั้นต่อไปนี้ถ้ามีแมงมุมมาสร้างบ้านอยู่ในบ้านของคุณ ให้คิดเสมอว่ามันมาช่วยดักจับแมลงในบ้านให้และคุณควรจะปล่อยมันใว้แบบนั้นแหละ ดีแล้ว (เหรอ)   ที่มา thedodo

  • เผย 16 ขุมทรัพย์ที่คุณหมอพบใน ‘จิมมี่’ ของสาวๆ ตลอดปี ตั้งแต่ไฟท้ายจักรยาน ลามไปถึงหูฟัง!?

    เผย 16 ขุมทรัพย์ที่คุณหมอพบใน ‘จิมมี่’ ของสาวๆ ตลอดปี ตั้งแต่ไฟท้ายจักรยาน ลามไปถึงหูฟัง!?

    นี่ก็ใกล้จะสิ้นปี 2017 แล้ว และตลอดทั้งปีที่ผ่านมาหลายคนอาจเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องร้าย เรื่องดี เรื่องแปลก เรื่องสุดประทับใจและเรื่องฮาๆ ผสมปนเปกันไป… แต่คนที่ต้องเจอเรื่องแปลกๆ ไม่เว้นแต่ละวันก็คงจะเป็นคุณหมอนี่แหละ เพราะนอกจากคนป่วยแล้ว บางวันพวกเขายังคนไข้ที่มาพร้อมกับสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด หรือในบางกรณีก็พบภายในอวัยวะเพศชายด้วย!?     โดยสิ่งของพบในช่องคลอดผู้หญิงนั้น ถูกเก็บข้อมูลโดย US Consumer Product Safety Commission (คณะกรรมาธิการความปลอดภัยสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐฯ) จากการตรวจสอบห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลหลายๆ แห่งภายในประเทศสหรัฐอเมริกา   โดย 16 สิ่งที่พบบ่อยที่สุดในช่องคลอด ในปี 2017 มีดังต่อไปนี้ 1. สบู่ 2. ฝาขวดระงับกลิ่นกาย 3. ฝาขวด 4. วงแหวนครอบอวัยวะเพศชาย 5. ลูกบอกซิลิโคน 6. ลูกบอล 7. ไฟท้ายจักรยาน 8. ฟองน้ำ 9. หูฟัง 10. ผ้าเย็น 11. โทรศัพท์และเงิน…

  • ชายหนุ่มอัดคลิป โชว์ความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง ‘ทุกวัน’ เป็นระยะเวลาร่วมกว่า 10 ปีเต็ม…

    ชายหนุ่มอัดคลิป โชว์ความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง ‘ทุกวัน’ เป็นระยะเวลาร่วมกว่า 10 ปีเต็ม…

    มันคงจะดีนะถ้าเราได้เห็นพัฒนาการของตัวเองตั้งแต่เด็กจนโต จะได้รู้ว่าเรามาไกลแค่ไหน ในแต่ละปีมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง!? เหมือนกับยูทูบเบอร์หนุ่ม Jordan Wilson ที่ได้ทำโปรเจกต์อัดคลิปความเปลี่ยนแปลงของตัวเองทุกวันในช่วงระยะเวลา 10 ปี ซึ่งอาจจะทำให้เราได้รู้ว่าร่างกายของเรานั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพียงแต่ว่าเราอาจไม่ได้สังเกตตัวเองกันเลย…     Jordan Wilson เริ่มอัดคลิปครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปี 2007 และได้ถ่ายภาพตัวเองมาเรื่อยๆ ตอนนั้นเขาอายุแค่ 13 ปีเท่านั้น จะเห็นได้ว่าหน้าของเขาดูกลมและเด็กมากๆ     แต่หลังจากที่ทำโปรเจกต์มาได้ครึ่งทางหรือประมาณ 5 ปี ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปจนเริ่มสังเกตเห็นได้ชัด โดยที่ร่างกายของเขาเริ่มจะผอมลง และดูคมเข้ม เหมือนชายหนุ่มที่โตเข้าสู่ช่วงผู้ใหญ่     ในวิดีโอที่เขาเผยแพร่ในยูทูบ ชาวเน็ตจะได้เห็นการเติบของเขาตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม ปี 2007 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคมปี 2017 ขณะที่มีอายุ 23 ปี และสิ่งที่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคือทรงผม… ความเปลี่ยนแปลงตลอด 10 ปี ภายในคลิปวิดีโอความยาวเพียงแค่ 4 นาที   ตอนเด็กมันจะบวมๆ…

  • คุณแม่ชาวจีนใจสู้ เอาชนะโรคมะเร็งร้ายได้ เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ดูลูกแฝดทั้ง 3 คนเติบโตขึ้น…

    คุณแม่ชาวจีนใจสู้ เอาชนะโรคมะเร็งร้ายได้ เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ดูลูกแฝดทั้ง 3 คนเติบโตขึ้น…

    ความรักในโลกนี้คงไม่มีรักไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักของแม่ที่มีต่อลูกอีกแล้ว เพราะแม่คือคนเดียวที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก ยอมทุกข์เพื่อให้ลูกสุข ยอมอดเพื่อให้ลูกได้กิน และแม้กระทั่งยอมเจ็บเพื่อให้ลูกสบาย… เหมือนอย่าง Li Shu คุณชาวจีนแม่วัย 34 ปี ที่พยายามเอาชนะโรคมะเร็งร้าย เพื่อที่จะได้ดูแลและเฝ้าดูการเติบโตของลูกแฝดทั้ง 3 คน     เรื่องราวของ Li โด่งดังในโลกโซเชียลเมื่อปี 2013 หลังจากที่เธออัดคลิปแสดงความยินล่วงหน้าให้กับลูกแฝดทั้ง 3 สำหรับงานแต่งงานในอนาคต โดยเหตุผลที่เธอต้องทำแบบนั้นเพราะว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง จึงทำให้คิดว่าจะจากไปโลกไปในเร็วๆ นี้ และคงไม่มีโอกาสอยู่แสดงความยินดีในงานสำคัญของลูกสาวทั้ง 3 คน ตามสำนักข่าว CGTN ระบุว่า 4 ปีต่อมา Li ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นข่าวดี เพราะเธอสามารถเอาชนะโรคมะเร็งได้สำเร็จ และกลับไปทำงานที่คลินิกของชุมชนอีกครั้ง     ย้อนกลับไปปี 2013 คุณแม่ท่านนี้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร แต่โชคดีที่การผ่าตัดเนื้องอกประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้เธอยังต้องไปรับการตรวจประจำปีที่โรงพยาบาลในเมือง Chongqing ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เธอบอกว่า “ฉันไม่สามารถนอนหลับได้ในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปฉันเริ่มทำใจได้และพยายามออกไปเที่ยวชมทิวทัศน์อันงดงามภายในย่าน Shapingba     ทางนายแพทย์ผู้ให้การรักษาคุณแม่ Li ให้การยืนยันว่ามะเร็งของเธอจะไม่กลับอีกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เขาแนะนำให้เธอกินยาและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง…

  • ภรรยารู้สึกตื่นเต้นเกินไป เลยเผลอกัดลูกป๋องแป๋งสามีจนขาดวิ่น ในจังหวะบรรเลงรัก…

    ภรรยารู้สึกตื่นเต้นเกินไป เลยเผลอกัดลูกป๋องแป๋งสามีจนขาดวิ่น ในจังหวะบรรเลงรัก…

    ในต่างประเทศจะมี Boxing Day (วันเปิดกล่องของขวัญ) ซึ่งเป็นวันแห่งการให้และการรับ ซึ่งจะตรงกับวันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี เป็นอีกหนึ่งวันพิเศษถัดจากวันคริสมาสต์หนึ่งวัน นั่นหมายความคุณจะให้อะไรกับใครก็ได้ในวันนี้ แต่ไม่รู้ว่าคู่รักชาวไต้หวันคู่นี้มอบอะไรให้กัน ทำเอาฝ่ายชายถูกหามส่งโรงพยาบาลในวัน Boxing Day หลังถูกภรรยากัด ‘ลูกป๋องแป๋ง’ จนขาดระหว่างมีเซ็กส์สุดเร่าร้อน… ตอนแรกที่แพทย์ฉุกเฉินมาถึงแฟลตของพวกเขา ก็เห็นพวกเขารออยู่ข้างในด้วยอาการตื่นตระหนก โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Taichung ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของไต้หวัน     ชายแซ่ Wang วัย 51 ปี ยืนสวมเสื้อคลุมและถือลูกอัณฑะไว้ในมือ ในขณะที่ภรรยาแซ่ Hsieh วัย 49 ปี เอาแต่พูดซ้ำๆ ว่า “ฉันเผลอกัดมันจนขาด!!” ทางด้าน Apple Daily เว็บไซต์ข่าวไต้หวันรายงานว่า ลูกอัณฑะของนาย Wang ถูกกัดจนขาดโดยภรรยาของเขา ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุเธอก็รีบโทรเรียกรถพยาบาลให้มาที่บ้านในเวลาประมาณ 02.00 นาฬิกา ของวันที่ 26 ธันวาคม 2017   คลิปจำลองเหตุการณ์ดังกล่าว…   สามีถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล Tungs’ Taichung MetroHarbor Hospital…

  • คุณพ่อเซอร์ไพรส์ลูกชาย ด้วยตุ๊กตาที่อัดเสียงของแม่ผู้ล่วงลับไว้ ทำเอาชาวเน็ตน้ำตาซึม…

    คุณพ่อเซอร์ไพรส์ลูกชาย ด้วยตุ๊กตาที่อัดเสียงของแม่ผู้ล่วงลับไว้ ทำเอาชาวเน็ตน้ำตาซึม…

    ในวันคริสต์มาสที่ผ่านมา นอกจากหลายคนจะได้รับของขวัญแล้ว บางคนยังได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาด้วย มันจึงเป็นช่วงเวลาที่วิเศษสุดๆ แต่น่าเศร้าที่ลูกชายของ Antonio Vargas Sr. ต้องฉลองคริสต์มาสโดยไม่มีแม่ผู้เป็นที่รักอยู่เคียงข้างเหมือนอย่างเช่นทุกปี… ด้วยเหตุนี้พ่อจึงเซอร์ไพรส์ลูกชาย Antonio Jr. ด้วยการมอบของขวัญคริสต์มาสสุดพิเศษ ซึ่งเป็นเสียงบันทึกของแม่ผู้ล่วงลับเก็บเอาไว้ภายในตุ๊กตาลิงของลูก     และทันทีที่เด็กชายได้ยินเสียงบันทึกของแม่จากตุ๊กตาลิง เขากอดตุ๊กตาตัวนั้นไว้แน่นพร้อมหลั่งน้ำตาแห่งความซาบซึ้งออกมา คุณแม่ของเด็กชายได้จากไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2017 และแน่นอนว่าตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เขายังคงทำใจไม่ได้กับการไม่มีคุณแม่คอยอยู่เคียงข้าง ผู้เป็นพ่อเข้าใจถึงความเจ็บปวดของลูกเป็นอย่างดี เพราะเขาเองก็รู้สึกเสียใจไม่แพ้กัน แม้จะไม่สามารถพาแม่คนเดิมกลับมาได้ แต่เขาก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ลูกชายสุดที่รักใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทางด้านคุณพ่อ Vargas Sr. ได้โพตส์คลิปช่วงเวลาที่มอบของขวัญให้ลูกลงในเฟซบุ๊กของเขา พร้อมระบุข้อความว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่สุด ในฐานะพ่อที่ได้มอบเสียงบันทึกของแม่ให้ลูกชาย” “ภรรยาผม เธอเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 4 เดือนกรกฎาคม 2017 ลูกชายผมคิดถึงแม่ทุกวัน ดังนั้นผมจึงมอบสิ่งนี้ให้เพื่อให้เขาได้ฟังเสียงแม่อีกครั้ง” “ผมกับภรรยามักจะเรียกลูกชายว่าเจ้าลิงน้อย และในวันคริสต์มาสนี้ผมได้ทำให้ฝันของเขาเป็นจริง ผมรักลูกชายของผมด้วยทั้งหมดของหัวใจ พ่อรักลูกนะ”     ทุกครั้งที่ Antonio Jr. กดมือ เท้า และท้องของตุ๊กตาลิง จะมีเสียงคุณแม่พูดขึ้นว่า “แม่รักลูกมาก” “มาให้กอดหน่อย แม่รักลูก” “แม่รักลูกมากและรักจะรักเสมอ” และ “บอกเขาด้วยว่าแม่รักเขามาก” หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ไป ชาวเน็ตหลายคนถึงกับน้ำตามซึมตามเด็กชาย บางคนที่สูญเสียแม่บอกว่าอยากได้ยินเสียงแม่อีกสักครั้งเหมือนกับ Antonio Jr.…

  • พนักงานร้านตัดผมฉุนจัด ปาดปัตตาเลี่ยนเป็นทางยาวและตัดหูลูกค้า ถึงขั้นถูกฟ้องติดคุก!!

    พนักงานร้านตัดผมฉุนจัด ปาดปัตตาเลี่ยนเป็นทางยาวและตัดหูลูกค้า ถึงขั้นถูกฟ้องติดคุก!!

    ก่อนจะเข้าไปใช้บริการร้านตัดผมสักร้าน นอกจากเราต้องดูรีวิวผลงานของร้านแล้ว ยังต้องดูช่างตัดผมด้วยว่าเขาเป็นใคร เป็นคนยังไง หรือเป็นคนที่เคยมีปัญหาอะไรกับเราหรือเปล่า จะได้ไม่รู้สึกผิดหวังในภายหลัง อย่างเช่นในกรณีนี้ เมื่อช่างตัดผมเกิดอาการโมโหและนำอารมณ์มาลงกับลูกค้าวัย 22 ปี ด้วยการปาดปัตตาเลี่ยนกลางหัว แถมยังใช้กรรไกรตัดหูของเขาจนเลือดอาบอีก!!     ตามรายงานข่าวบอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ปี 2017 โดยตำรวจได้จับกุม Khaled A. Shabani ช่างตัดผมวัย 46 ที่ร้าน Ruby’s Salon ในเมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาก่อเหตุทำร้ายลูกค้า ทางด้านลูกค้าวัย 22 ปี ผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้ให้การกับทางกรมตำรวจ Madison Police Department ว่าเขาได้เข้าไปใช้บริการในร้าน Ruby’s Salon เพื่อที่จะตัดผม… “เขาบอกช่างว่าขอใช้ปัตตาเลียนเบอร์ 2 สำหรับตัดผมด้านข้าง และให้ใช้กรรไกรตัดผมด้านบนออก 1 นิ้ว” โฆษกตำรวจ Joel Despain กล่าว     อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ออกมากลับตรงข้ามกับที่ต้องการ เขาอ้างว่าช่างเริ่มบ่นพึมพำด้วยอารมณ์หงุดหงิด พร้อมขยับหัวเขาไปมาแถมยังบิดหูของเขาด้วย จากนั้น Shabani ก็คว้ากรรไกรตัดหูของเขา ตามด้วยการใช้ปัตตาเลียนเบอร์…

  • เมื่อเหล่าผู้ใหญ่ลองกลับมาแต่งแต้มสมุดวาดเขียนของเด็ก เนื้อหามันก็จะดูหม่นๆ แบบนี้แหละ…

    เมื่อเหล่าผู้ใหญ่ลองกลับมาแต่งแต้มสมุดวาดเขียนของเด็ก เนื้อหามันก็จะดูหม่นๆ แบบนี้แหละ…

    สมุดภาพระบายสีมักจะออกแบบและสร้างสรรค์มาเพื่อเด็กๆ เพื่อพวกเขาจะได้ระบายสีหรือเติมแต่งจินตนาการอันสดใสแบบเด็กๆ ลงไปในภาพ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้ใหญ่บางคน อยากลองย้อนวัยเป็นเด็กอีกครั้ง และเมื่อนั้นความสดใสจะหายไปทันที เพราะสิ่งที่ออกมาจะดูดาร์คๆ หน่อย ตามแบบจินตนาการของผู้ใหญ่… อาจจะเป็นเพราะเมื่อเจอโลกที่กว้างมากขึ้น ความคิดก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงน่ะสิ   ผู้ใหญ่คนนี้คงมีปมบางอย่างเกี่ยวกับไอศกรีมในวัยเด็ก แต่งเติมซะน่ากลัวเลย   แล้วดูมินเนียนนี่สิ ถูกผู้ใหญ่แต่งเติมซะเสียเลย   ตัวการ์ตูนสุดแบ๊ว ถูกเปลี่ยนให้เป็น Cersei ผู้ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี   เจ้าหญิงเอเรียลที่มาพร้อมกับรอยสักเล็กๆ   อวสานเจ้าหญิงผู้มีจิตใจอ่อนโยน   เรื่องราวแสนโรแมนติกของเจ้าหญิงเบลล์ กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกวง Kiss ไปซะแล้ว!?   เปลี่ยนโฉมเจ้าหญิงซินเดอเรลล่าแล้ว ยังเปลี่ยนเนื่อเรื่องเค้าอีก   นั่นมันเจ้าชายซะทีไหน โจ๊กเกอร์ต่างหาก… เดี๋ยว!! นี่เรากำลังอ่านเรื่องอะไรอยู่หรอ?   การเปลี่ยนเนื้อเรื่อง คืองานถนัดของผู้ใหญ่เลยล่ะ   เมื่อโจ๊กเกอร์อยากเป็นเจ้าหญิงกับเค้าบ้าง   ซินเดอเรลล่าได้รับการยอมรับให้เข้าไปอยู่ในฮอกวอตส์ ถ้าใช้เวทมนตร์แล้วทุกอย่างต้องง่ายขึ้นแน่ๆ   ในที่สุดพวกเขาก็ได้เต้นรำกัน แต่ชุดนี่มัน…   สโนว์ไวท์ถูกแวมไพร์กัดเข้าซะแล้ว ทีนี้เธอคงต้องกลายเป็นครึ่งคนครึ่งแวมไพร์แน่ๆ   อู้ววว นี่แหละ…

  • 13 สิ่งที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวัน เมื่อคุณรับน้องหมามาในชีวิต แต่อาจไม่เคยมีใครบอกคุณ…

    13 สิ่งที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวัน เมื่อคุณรับน้องหมามาในชีวิต แต่อาจไม่เคยมีใครบอกคุณ…

    เวลาเห็นคนเลี้ยงหมาพาน้องหมาเดินเล่น สอนมันทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อนๆ ก็คงจะได้เห็นถึงความน่ารักและความฉลาดของพวกมัน บางทีมันก็ทำให้เรารู้สึกอยากเลี้ยงสุนัขกับเขาบ้างเหมือนกันนะ แต่จะบอกว่าสิ่งที่คุณเห็นนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะหากรับน้องหมามาเลี้ยงจริงๆ โดยเฉพาะการรับมามากกว่า 1 ตัว คุณจะได้สัมผัสกับหลายสิ่งที่อาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับสุนัข   1. พื้นที่ส่วนตัวของคุณจะหายไปทันที เมื่อพาน้องหมาเข้าบ้าน   2. สักพักคุณจะพบว่า มีขนสุนัขกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ของบ้าน   3. ถ้าเลี้ยงน้องหมามากกว่าหนึ่งตัว พวกมันจะพยายามทำร้ายตัวอื่นในแบบที่คุณคาดไม่ถึง   4. แต่เมื่อโดนดุหรือโดนตี พวกมันจะคอยปกป้องกันและกันเสมอ   5. น้องหมาจะเปลี่ยนไปทันทีที่ถูกจับอาบน้ำ และมันจะไม่ยอมให้คุณเป่าแห้งให้ด้วย ทำให้ทั้งเต็มไปด้วยกลิ่นสุนัขเปียก   6. คุณจะรู้สึกลำบากใจทุกครั้ง เมื่อต้องออกไปข้างนอกบ้าน   7. เมื่อคุณมีอาหารอยู่ในมือ คุณจะถูกจับจ้องจากน้องหมาเหล่านี้จนต้องยอมแบ่งให้พวกมัน   8. มันจะทำตัวติดเจ้าของตลอดเวลา แม้แต่เวลานอนมันก็อยากนอนให้ใกล้ชิดคุณมากที่สุด   9. คุณมักจะตามใจน้องหมาแบบไม่รู้ตัว   10. คุณต้องให้ความรักกับน้องหมาแบบหมดใจ   11. มันจะนอนต่อเมื่อคุณนอน   12.…

  • รายการแปล๊กแปลกของญี่ปุ่น พาไปกำจัดสัตว์ต่างถิ่นออกจากแหล่งน้ำ มีคนดูเยอะเวอร์!!

    รายการแปล๊กแปลกของญี่ปุ่น พาไปกำจัดสัตว์ต่างถิ่นออกจากแหล่งน้ำ มีคนดูเยอะเวอร์!!

    โดยปกติแล้วรายการทีวีทั่วไปที่เราดูผ่านหน้าจอทีวี มักจะมีความน่าสนใจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางรายการอาจจะมีความสนุกสนาน บางรายการนำเสนอสาระน่ารู้ หรือบางรายการอาจจะมีโชว์เด็ดๆ มานำเสนอ เพื่อช่วยให้ผู้คนอยากดู แต่ในญี่ปุ่นมีรายการหนึ่งชื่อว่า Ike no Mizu wo Zenbu Nuku Daisakusen หรือ The Great Plan to Drain All the Water from Ponds มีจุดเด่นที่การนำชนิดพันธุ์ต่างถิ่นออกจากแหล่งน้ำ จุดมุ่งหมายของรายการนี้คือการทำความสะอาดแหล่งน้ำให้ดูน่ามองยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือเพื่อกำจัดชนิดพันธุ์ต่างถิ่นออกไปจากถิ่นที่อยู่เหล่าสัตว์น้ำดั้งเดิมด้วย   บ่อแห่งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยเต่าจากจีน จนทำลายสัตว์ท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในนี้   ที่ต้องริเริ่มกิจกรรมนี้ เพราะตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นประสบปัญหากับชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่เข้ามารุกรานที่อยู่ของสัตว์ในพื้นที่ โดยการนำเข้ามาของนักท่องเที่ยว ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ญี่ปุ่นเริ่มตระหนักถึงปัญหานี้หลังจากค่านิยมของทางยุโรปเข้ามามีอิทธิพลในประเทศ จนทำให้สัตว์ต่างถิ่นมีอัตราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย เพราะมีการนำสัตว์ต่างถิ่นมาเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแรคคูนหรือเต่า ตามรายงานบอกว่าหลังจากที่เลี้ยงไว้สักพัก สัตว์เลี้ยงเหล่าจะถูกปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพราะเจ้าของไม่ต้องการเลี้ยงแล้วหรือบางตัวอาจจะหนีออกไปเอง   เต่าทะเลแดงเป็นสายพันธุ์สัตว์ที่คุกตามสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศญี่ปุ่น   หลังจากนั้นพวกมันก็จะเริ่มสร้างปัญหาในสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น เช่น ทำลายพันธุ์สัตว์พื้นเมือง ทำลายพืชพรรณไม้ ตลอดจนความปลอดภัยของมนุษย์ ทางรายการ Ike no Mizu…

  • เหล่าบุคคลกับ ‘ของขวัญ’ ที่พวกเขาได้รับ จนสร้างความประทับใจได้ไม่รู้ลืม (เหรอ!?)

    เหล่าบุคคลกับ ‘ของขวัญ’ ที่พวกเขาได้รับ จนสร้างความประทับใจได้ไม่รู้ลืม (เหรอ!?)

    ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมาหลายคนคงจะได้ของขวัญจากคนพิเศษ หรือจากการแลกของขวัญ แล้วเป็นยังไง ถูกใจของขวัญนั้นมั้ยเอ่ย? บุคคลผู้โชคดีเหล่านี้มาเหมือนกัน พวกเขาได้รับของขวัญสุดพิเศษ พิเศษจริงจริ๊ง ทั้งแปลก ทั้งฮา แบบว่าสร้างความประทับใจให้ไม่รู้ลืม   1 “ผมอายุ 31 ปีแล้ว และนี่คือขวัญที่ผมได้จากปู่กับย่า”   2. “ของขวัญที่ผมได้จากพี่ชายทุกๆ ปี และตอนนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว”   3. ของขวัญพิเศษจากพ่อ… 130 บาท จำเป็นต้องมอบอลังการขนาดนี้มั้ย?   4. “ผมซื้อสร้อยคอให้ภรรยาในวันคริสต์มาส แล้วบอกทางร้านไว้ว่าห่อให้มันดูน่ากลัวหน่อย เขาเลยเอาสก๊อตเทปมาพันๆ แล้ว พูด ‘ตามที่คุณลูกค้าต้องการเลยครับ’”   5. “ฉันเลี้ยงแมวอยู่ตัวหนึ่ง นี่คือของขวัญคริสต์มาสฉันที่ได้”   6. “ของขวัญที่ผมได้จากพี่สาว มันช่างพิเศษกว่าของขวัญชิ้นไหนๆ ที่ผ่านมา”   7. “ของขวัญวันเกิดจากยาย อืม ถ้าใส่ไปให้ยายดู หวังว่าแกคงไม่ตาลายซะก่อนนะ”   8. หญ้าแห้งใส่กล่องพร้อมแมงมุมอีกฝูง…

  • มิ้วน้อยวิ่งตัดหน้ารถไปรษณีย์เพื่อขอความช่วยเหลือ แล้วมันก็รับชีวิตใหม่สมดังใจหวัง…

    มิ้วน้อยวิ่งตัดหน้ารถไปรษณีย์เพื่อขอความช่วยเหลือ แล้วมันก็รับชีวิตใหม่สมดังใจหวัง…

    ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ ต่างก็ล้วนอยากมีชีวิตที่ดีทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ทุกคนที่จะเลือกเป็นแบบนั้นได้ นอกจากจะโชคดีได้รับโอกาสจากใครสักคน เหมือนกับมิ้วน้อย Charli ที่วิ่งตัดหน้ารถของพนักงานไปรษณีย์เพื่อขอความช่วยเหลือ และนั่นทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไปตลอดกาล     เมื่อเดือนที่ผ่านมา พนักงานไปรษณีย์พบแมวเหมียวตัวหนึ่งระหว่างทางไปส่งของ มันอยู่ในสภาพที่น่าสงสารและจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ เมื่อเห็นดังนั้น คนขับจึงจอดรถทันทีก่อนจะลงไปอุ้มน้องแมวขึ้นมา แล้ววางมันไว้ในกล่อง จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังสถานรับเลี้ยง Flatbush Cats ในเมืองบรุกลิน ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพราะคิดว่าพวกเขาอาจจะช่วยมันได้     เมื่อไปถึง พนักงานได้ช่วยกันอาบน้ำ กำจัดเห็บหมัดของน้องแมว ให้มันกินอาหารจนอิ่ม และกับเตรียมที่นอนอุ่นๆ พร้อมแผ่นทำความร้อนไว้ให้ แต่ดูเหมือนเจ้าเหมียวจะไม่สนใจอะไรเลย นอกจากอาหารในจาน “เราตั้งชื่อให้มันว่า Charli เพราะมันมีนิสัยที่ร่างเริงตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามา” ทาง Flatbush Cats กล่าว     เกือบ 2 สัปดาห์ต่อมา ผู้ดูแลก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง เมื่อพวกเขาไปเจอกับพี่ชายของ Charli อยู่ใกล้กับบริเวณที่ไปเจอเจ้ามิ้วน้อยในตอนแรก พวกเขาตั้งชื่อให้พี่ชายของมัน Wallace จากนั้นก็พามันไปอาบน้ำ กินข้าว และพักผ่อน ก่อนจะพามันไปอยู่กับ Charli ตั้งแต่นั้นมาทั้งคู่ก็เติบโตมาเคียงข้างกัน และมีสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆ     ผู้ดูแลบอกว่า “ปกติแล้ว แมวต้องการมีเพื่อนเล่น ฉันจึงรู้สึกดีมากๆ ที่ Charli ได้เจอกับพี่ชายตัวเองอีกครั้ง เพราะพวกมันไม่ใช่แค่พี่น้องแต่ยังเป็นเพื่อนเล่นให้กันและกันด้วย”   …

  • โรคร้ายพรากแขนขาของเด็กหญิงไป แต่ก็ไม่ได้หยุดยั้งเธอให้มีความสุขในวันคริสต์มาสได้

    โรคร้ายพรากแขนขาของเด็กหญิงไป แต่ก็ไม่ได้หยุดยั้งเธอให้มีความสุขในวันคริสต์มาสได้

    ไม่มีใครรู้เลยว่าพรุ่งนี้ต้องเจอกับอะไรบ้าง แม้จะวางแผนชีวิตหรือมีเป้าหมายไว้แล้ว แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นอย่างหวังเสมอไป เหมือนกับ Harmonie-Rose Allen เด็กหญิงที่เสียแขนกับขาไปด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ตอนนี้เธอกลับมีช่วงเวลาอันแสนสุขในวันคริสต์สมาส     มันเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจและน่าจดจำมากที่ได้เห็นเด็กหญิง Harmonie เล่นสเกตน้ำแข็งกับครอบครัวของเธอที่ Avon Valley Adventure and Wildlife Park ในซัมเมอร์เซตของสหราชอาณาจักร เด็กหญิงป่วยด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเมื่อเดือนกันยายนปี 2015 ซึ่งเป็นเคสที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่คุณหมอเคยเห็น ก่อนจะสูญเสียแขนและขาไปเพื่อยื้อชีวิต ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเธออายุเพียง 9 เดือนเท่านั้น     การที่เด็กน้อยสามารถเคลื่อนไหวบนลานน้ำแข็งได้นั้น คุณพ่อ Freya และคุณแม่ Ross บอกว่าเธอใช้ขาเทียมในการเคลื่อนตัว ตอนแรกคุณหมอบอกกับครอบครัวว่า อาจจะเป็นเรื่องยากที่ Harmonie จะเคลื่อนไหวบนลานน้ำแข็ง แต่พอไปถึงสนามจริงๆ เธอกลับเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ จนสร้างความประหลาดใจให้ครอบครัวไม่น้อย     นอกจากนี้เสื้อตัวชั้นในที่เธอสวมอยู่นั้นมีช่องระบายอากาศแบบพิเศษ ช่วยให้เธอไม่ลื่นล้ม “ตอนนี้ Harmonie ไม่ชอบใส่ขาเทียมเพราะเธอไม่ชิน ดังนั้นเราจึงให้เธอยืนด้วยขาของเธอเอง เพื่อให้เธอรู้สึกสบายใจ” คุณแม่กล่าว     พ่อแม่ซื้อขาเทียมคู่แรกให้ตั้งแต่ที่เด็กน้อยถูกตัดแขนกับขาออก แต่เมื่อเธอไม่ชอบ ครอบครัวจึงให้เธอมีอิสระในการยืนด้วยขาของตัวเอง เพราะการไม่ใส่ขาเทียม จะช่วยให้เธอมีพัฒนาการในการยืนและสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น     อย่างไรก็ตาม ขาเทียมก็ยังจำเป็นสำหรับ Harmonie…

  • ช่างภาพตามถ่ายภาพ “สัตว์ใกล้สูญพันธุ์” ที่จะหายไปจากโลกภายในระยะเวลาอันใกล้นี้

    ช่างภาพตามถ่ายภาพ “สัตว์ใกล้สูญพันธุ์” ที่จะหายไปจากโลกภายในระยะเวลาอันใกล้นี้

    ในโลกนี้มีสัตว์ป่าหายากหลายชนิด แต่น่าเสียดายที่บางชนิดใกล้จะสูญพันธุ์เต็มทีแล้ว ทั้งๆ ที่เรายังไม่มีโอกาสได้เห็นมันด้วยซ้ำ อย่างในหนังสือ Endangered ของช่างภาพ Tim Flach ซึ่งเป็นการบันทึกภาพสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์เนื่องจากการถูกคุกคาม Tim ได้ออกเดินทางไปทั่วโลก ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งในป่า ทุ่งหญ้าสะวันนา ทะเลขั้วโลก เพื่อสร้างภาพอันทรงพลังของสัตว์ป่าและระบบนิเวศของพวกมันที่กำลังเผชิญกับปัญหาอย่างรุนแรง และนี่คือภาพส่วนหนึ่งของสัตว์ป่าหายากที่คาดว่าจะศูนย์พันธุ์ในอีก 10 ข้างหน้า พวกมันมีความโดดเด่นและน่าสนใจเกินที่จะหายไปจากโลก…   1. ลิ่นต้นไม้ สัตว์ที่มีรูปร่างแปลกๆ นี้อาศัยในป่าดิบชื้นของแอฟริกันสะวันนาจากเซเนกัลไปยังเคนยาและแซมเบียตอนใต้ ลิ่นต้นไม้มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ตั้งแต่ปี 2008 และมีความรุนแรงมากที่สุดในปี 2014 นั่นหมายความว่าหากไม่มีการคุ้มครองพิเศษ ลิ่นต้นไม้มีโอกาสที่จะลดลงถึง 30-50% ภายใน 10-20 ข้างหน้า   2. ลีเมอร์หางแหวน ลีเมอร์หางแหวนสามารถพบได้ในดินแดนที่แห้งแล้งและในป่าทางตอนใต้ของมาดากัสการ์ ทาง The International Union for Conservation of Nature (IUCN) ได้กำหนดให้สัตว์ชนิดนี้ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากจำนวนประชากรของพวกมันลดลงไป 2,000 – 2,400 ตัว ซึ่งมากถึง 95% นับตั้งแต่ปี 2000 ปัจจัยที่ทำให้จำนวนประชากรลีเมอร์หางแหวนลดลง ได้แก่…

  • มารู้จักกับเจ้ากอริลล่าที่ถ่ายรูปขึ้นสุดๆ เท่านั้นไม่พอชอบเก๊กใส่กล้องแบบคูลๆ อีกด้วย!?

    มารู้จักกับเจ้ากอริลล่าที่ถ่ายรูปขึ้นสุดๆ เท่านั้นไม่พอชอบเก๊กใส่กล้องแบบคูลๆ อีกด้วย!?

    ว่ากันว่าวิวัฒนาการของมนุษย์นั้นเริ่มต้นมาจากลิง จึงทำให้ลิงกับมนุษย์มีท่าทาง และการกระทำบางอย่างที่คล้ายกัน แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะก๊อปมาซะเหมือนกันขนาดนี้ หากใครเคยไปที่สวนสัตว์ Higashiyama ในนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น จะเห็นเจ้ากอริลลาตัวหนึ่งที่ชอบเก๊กท่าเหมือนนายแบบ จนถูกนำไปเปรียบเทียบกับ George Clooney     กอริลลาสุดคูลตัวนี้คือ Shabani อายุ 19 ปี แต่คนญี่ปุ่นเรียกมันว่า Ikemen ซึ่งแปลว่า “ผู้ชายที่หล่อเหลา” และคงไม่มีชื่อไหนเหมาะกับมันเท่าชื่อนี้อีกแล้ว เจ้ากอริลลาผู้หล่อเหลาเป็นสัตว์เพียงตัวเดียวในสวนสัตว์ที่ขโมยหัวใจของนักท่องเที่ยวทุกคน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนเข้ามาชม มันจะนั่งเบ่งกล้าม ทำหน้าหล่อ เก๊กท่าเท่ๆ และมองไปที่กล้องของนักท่องเที่ยว อย่างกับนายแบบแหนะ     Shabani เกิดที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และอยู่ในสวนสัตว์ Higashiyama ตั้งแต่ปี 2007 แล้ว แน่นอนว่ามันอาจจะมีเมียมาแล้วอย่างน้อย 2 ตัว และลูกอีกอย่างน้อย 2 ตัว แต่เรื่องนี้อาจไม่หยุดยั้งความหล่อเหลาของมันได้     ด้วยความเท่ที่ไม่เหมือนใครนี้ จึงทำให้เจ้า Shabani ถูกแต่งตั้งให้เป็นโฆษกของ Higashiyama ทั้งยังมีรูปอยู่บนเค้กและขนมของญี่ปุ่นด้วย     คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเป็นตัวผู้ 100%   ต่อให้นักท่องเที่ยวมุงดูมันมากแค่ไหน…

  • ศิลปินถ่ายภาพโดยเอาสัตว์ป่าในประเทศฟินแลนด์มาเป็นแบบ อย่างกับนางแบบมืออาชีพ!!

    ศิลปินถ่ายภาพโดยเอาสัตว์ป่าในประเทศฟินแลนด์มาเป็นแบบ อย่างกับนางแบบมืออาชีพ!!

    หลายคนมักเข้าใจว่าธรรมชาติของสัตว์ป่านั้นมีความดุร้ายหรือเข้าถึงยาก แต่จริงๆ แล้ว พวกมันไม่ได้มีแค่ด้านเดียวนะ ด้านอ่อนโยน น่ารักก็มีเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ Joachim Munter ศิลปินชาวเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ จึงถ่ายภาพสัตว์ป่าของท้องถิ่น ที่มีความงดงามราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย     นี่คือสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ แน่นอนว่าพวกมันไม่คุ้นเคยกับมนุษย์ ดังนั้นช่างภาพจึงหลอกล่อด้วยอาหารก่อนจะแชะภาพของพวกมันมา และไม่น่าเชื่อว่าภาพที่ออกมานั้นกลับดีเกินคาด เพราะพวกมันจ้องมองที่กล้อง พร้อมท่าทางสุดน่ารัก ราวกับถูกเทรนมาให้เป็นนางแบบยังไงอย่างงั้น     สุนัขจิ้งจอกมองมาที่กล้องด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่กระรอกน้อยเข้ามาหาอาหารในมือของศิลปินด้วยความหิวโหย หากเพื่อนๆ หลงใหลภาพสัตว์ธรรมชาติเหล่านี้ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรม jockemunter นะคะ   .   ความงดงามของนกขณะกระพือปีก   สนใจแต่อาหาร ไม่ดูกล้องเล้ยย   ความคูลของกระรอกน้อยท่ามกลางหิมะ .   ดูสายตาของมันสิ ออดอ้อนเชียว   กระรอกที่ขึ้นกล้อง ราวกับนางแบบมืออาชีพแหนะ . . . . . .   ธรรมชาติของกระรอกมีหลายอย่างที่คุณไม่เคยรู้ ว่าแต่ทำอะไรน่ะ? .…

  • นิตยสารชื่อดังจัดอับดับชายหนุ่มที่ ‘เซ็กซี่’ ที่สุดแห่งปี 2017 จนสาวๆ อยากง่ำๆ เงี๊ยวๆ

    นิตยสารชื่อดังจัดอับดับชายหนุ่มที่ ‘เซ็กซี่’ ที่สุดแห่งปี 2017 จนสาวๆ อยากง่ำๆ เงี๊ยวๆ

    ใกล้สิ้นปีแบบนี้ สื่อต่างๆ มักจะนำเสนอข่าวที่เป็นที่สุดแห่งปี ไม่ว่าจะเป็นข่าวเด่นแห่งปี หนุ่มหล่อแห่งปี สาวสวยแห่งปี คนดีแห่งปี งานดีแห่งปี สถานที่ท่องเที่ยวแห่งปี อะไรประมาณนี้ และเน่ื่องในวันใกล้สิ้นปีนี้ เราชาวแก๊งเหมียวเองก็อยากส่งท้ายเพื่อนๆ โดยเฉพาะสาวๆ ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจด้วยหนุ่มหล่อที่เซ็กซี่ที่สุดแห่งปี 2017 ซึ่งจัดอันดับโดยนิตยสาร GLAMOUR… จะมีใครบ้างนะ??   20. Alexander Skarsgard Alexander วัย 41 ปี เคยเดตกับ Alexa Chung ตั้งแต่ปี 2015 และเท่าที่รู้ ตอนนี้พวกเขายังรักกันดีจ้าาา เร็วๆ นี้เขาจะมีผลงานให้เราได้ดูผ่านละครเรื่อง Big Little Lies   19. Tom Hardy Tom วัย 40 ปี ได้แต่งงานกับนักแสดงสาว Charlotte Riley เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2014 ผลงานที่จะออกมาเร็วๆ นี้คือละครเรื่อง Taboo เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่เขียนขึ้นโดยพ่อของเขา ที่สำคัญเราจะเห็น Tom โชว์หุ่นล่ำๆ ในเรื่องนี้ด้วยนะ   18. John Boyega…

  • ตุ๊บตั๊บ!! ชมการต่อสู้สุดดุเดือดของโคอาลาในออสเตรเลีย ศึกนี้ต้องแลกมาด้วยศักดิ์ศรี!!

    ตุ๊บตั๊บ!! ชมการต่อสู้สุดดุเดือดของโคอาลาในออสเตรเลีย ศึกนี้ต้องแลกมาด้วยศักดิ์ศรี!!

    เวลาทะเลาะกัน คนเรามักจะขาดสติและใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ที่สำคัญคือไม่ค่อยสนใจคนรอบข้างสักเท่าไหร่แต่ขอให้เป็นฝ่ายชนะไว้ก่อน อย่าว่าแต่คนเลย สัตว์ก็เป็น ดูอย่างเจ้าโคอาลา 2 ตัวนี่สิ ไม่รู้ไปผิดใจกันเรื่องอะไร จนมาลงเอยด้วยการซัดกันกลางถนนอย่างดุเดือด แม้รถติดก็ไม่สนใจ   เอาวะ วันนี้มรึงกับตรูต้องตายกันไปข้าง!   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Stirling รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย โดย Marguerite Smith ได้ถ่ายคลิปผ่านกระจกหน้ารถของเธอขณะขับรถไปทำงาน   แน่จริงอย่างหนีดิว่ะ!!   Marguerite โพสต์คลิปดังกล่าวในเฟซบุ๊กพร้อมเขียนแคปชั่นว่า “ขณะที่หลายๆ คนกำลังเจอปัญหาจราจรติดขัดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ดูสิ่งที่ฉันเจอวันนี้สิ…”     ในคลิปมีเสียง Marguerite เล็ดลอดออกมาว่า “ไม่เอาหน่า” เพราะเกรงว่าจะไปทำงานไม่ทัน และดูเหมือนเจ้าโคอาลา 2 ตัวนี้จะไม่ยอมหยุดสู้กันง่ายๆ ซะด้วย   เหนื่อยแล้วนะ จะไม่ยอมแพ้จริงๆ ใช่มั้ย?   นี่มันคงกะจะสู้กันให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยสิท่า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่โคอาลาตัวหนึ่งอ่อนแรง อีกตัวเลยถือโอกาสขึ้นคร่อมทันที จนนึกว่าดูมวยปล้ำแหน่ะ อย่างไรก็ตาม สักพักตัวที่ถูกทับก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาและพยายามวิ่งหนี แต่อีกตัวไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เลยวิ่งตามติดเพื่อไปจัดการต่อ… ก็ได้แต่หวังว่าจะจบกันด้วยดีนะ   ไม่ได้ยอมแพ้นะแต่ตรูว่าเราพอเถอะ ทำมนุษย์รถติดหมดแล้ว   โอ้ยยย…

  • เจ้าหมาแสนรู้ หอบผ้าไปนอนที่ประตูเพื่อจะได้ทักทายทุกคน แม้จะเกะกะไปหน่อยก็เถอะ

    เจ้าหมาแสนรู้ หอบผ้าไปนอนที่ประตูเพื่อจะได้ทักทายทุกคน แม้จะเกะกะไปหน่อยก็เถอะ

    นักวิทยาศาสตร์บอกว่าสุนัขมีการเรียนรู้เท่ากับเด็กอายุุ 2 ขวบ ซึ่งก็คงจะจริง เพราะสุนัขบางตัวแทบไม่ต้องสอนอะไร แต่มันสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองในเวลาอันรวดเร็ว เหมือนอย่าง Oscar น้องหมาผู้มีความอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่อง และรักที่จะอยู่ท่ามกลางทุกสิ่งอย่าง โดยเฉพาะกับมนุษย์     Tyler Weathers เจ้าของน้องหมาบอกว่า “มันน่ารักน่ากอดไม่เหมือนสุนัขตัวอื่นๆ ที่ผมเคยรู้จักเลย แม้ว่ามันจะตัวเล็กนิดเดียว แต่มันคอยระมัดระวังเสียงแปลกๆ และแก้ปัญหาเอง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับเรา” เนื่องจาก Oscar เป็นหมาที่เข้ากับผู้คนได้ง่ายและเป็นมิตรกับทุกคน ดังนั้น Weathers จึงตัดสินใจพามันไปออฟฟิศของเขาด้วยในวันหนึ่ง แต่ทันทีที่มาถึงออฟฟิศ ดูเหมือนน้องหมาจะมีปัญหาเล็กน้อย เพราะที่นอนที่เจ้าของเตรียมไว้ให้นั้น ไม่ใช่จุดที่มันอยากนอน     เจ้าของบอกว่า “Oscar เป็นหมาที่ฉลาดมากๆ เพราะทันทีที่มาถึง ผมก็ทำที่นอนให้มันรอบๆ ออฟฟิศ แต่มันตระหนักได้ว่าผู้คนจะต้องเดินเข้าเดินออกทางประตู และมันไม่อยากพลาดที่จะทักทายทุกคนด้วย เลยไปนอนที่ประตูซะอย่างงั้น” การนอนที่ประตูดูจะเกะกะไปหน่อย เจ้าของเลยขอให้น้องหมาไปนอนที่อื่นแต่ทำยังไงมันก็ไม่ยอมลุกไปไหน สุดท้ายเจ้าของเลยต้องเอาที่นอนไปวางให้มันที่นั่น     Weathers บอกว่า “ผมตัดสินใจย้ายเตียงไปไว้ให้มันที่ประตูเพื่อให้มันนอนสบายขึ้น มันยืนยันที่จะนอนที่นั่น เพราะมันชอบพบปะผู้คนใหม่ๆ และทุกครั้งที่ได้ยินเสียงผู้คนมันจะเงยหน้าขึ้นดูเสมอ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงชอบพามันไปด้วยทุกที่” เจ้า Oscar ดูจะชอบเตียงใหม่ตรงประตูนี้มาก จนตอนนี้เตียงตรงนั้นกลายเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของมันทุกครั้งที่เจ้าของพามาออฟฟิศ “เรารัก Oscar มากกว่าสิ่งอื่นใดในโลกนี้ เพราะมันนำความสุขมากมายเข้ามาในชีวิตเรา” เจ้าของกล่าว…

  • ‘The Sarco’ โลงแคปซูลที่จะช่วยให้คนอยากฆ่าตัวตาย จากโลกไปอย่างสงบเพียงแค่กดปุ่ม…

    ‘The Sarco’ โลงแคปซูลที่จะช่วยให้คนอยากฆ่าตัวตาย จากโลกไปอย่างสงบเพียงแค่กดปุ่ม…

    “การฆ่าตัวตาย” เป็นการกระทำที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่สำหรับคนที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแบบนั้น พวกเขาคงมีเห็นผลบางอย่างอยู่ เมื่อการฆ่าตัวตายไม่อาจห้ามได้ จึงได้มีการออกแบบอุปกรณ์ที่ชื่อว่า The Sarco เครื่องที่จะช่วยให้คนฆ่าตัวตายจากไปอย่างรวดเร็วและไม่เจ็บปวดใดๆ     ไม่กี่วันหลังจากที่ผู้บัญญัติกฎหมายในวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ได้ลงมติให้การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย คุณหมอ Philip Nitschke ก็ได้ประกาศเปิดตัว The Sarco ซึ่งเป็นเครื่องที่ช่วยให้ผู้คนยุติชีวิตตัวเองด้วยการกดปุ่ม The Sarco พัฒนาขึ้นโดยองค์กรของคุณหมอ Philip ที่ชื่อ Exit International ซึ่งเป็นแคปซูลที่มีขนาดจุคนได้ 1 คนพอดี     เมื่อผู้ใช้พร้อมจะตาย พวกเขาต้องกดปุ่มที่อยู่ภายในแคปซูล จากนั้นไนโตรเจนเหลวจะถูกพ่นออกมา ซึ่งมันจะทำให้ออกซิเจนภายในลดลงไปประมาณ 5% ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นผู้ใช้จะค่อยๆ หมดสติไปจนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด จากนั้นญาติผู้ตายจะใช้แคปซูลนี้เป็นโลงศพ หรือจะเอาไปใช้ซ้ำต่อก็ได้     สำหรับ Nitschke นั้น เขาให้การสนับสนุนให้การฆ่าตัวตายเป็นเรื่องถูกกฎหมายมานานแล้ว โดยให้เหตุผลว่าทุกคนที่มีอายุเกิน 70 ปี ควรจะมีสิิทธิในการฆ่าตัวตายโดยได้รับการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่าไม่เพียงแค่คนที่อายุเกิน 70 ปี เท่านั้น แต่ทุกคนที่มีเหตุผลในการฆ่าตัวตายควรจะมีสิทธิในการเลือกที่จะตาย     ก่อนที่ผู้คนจะได้รับอนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ Nitschke บอกว่าคนคนนั้นต้องผ่านการกรอกแบบสอบถามออนไลน์เกี่ยวกับสุขภาพจิตก่อน…

  • เด็กน้อยชาวอินเดีย เกิดมาพร้อม “หาง” ชาวบ้านเชื่อ ‘เทพเจ้าลิง’ กลับชาติมาเกิด

    เด็กน้อยชาวอินเดีย เกิดมาพร้อม “หาง” ชาวบ้านเชื่อ ‘เทพเจ้าลิง’ กลับชาติมาเกิด

    ล่าสุดมีพบเด็กชาย Krishna Yadav วัย 3 ขวบ เกิดมาพร้อมกับหางที่ยาวขึ้นตามกาลเวลา จนถูกแต่งตั้งให้เป็นเทพเจ้าประจำหมู่บ้าน เพื่อเชื่อว่าเทพเจ้า Bajrangbali (เทพเจ้าลิงในศาสนาฮินดู) กลับชาติมาเกิด     Ramsundar Yadav พ่อของเด็กชายบอกว่า “ผมคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นพรจากเทพเจ้า ทำให้ลูกชายของผมเกิดมาเป็นเทพเจ้าลิง” “แต่เมื่อไปปรึกษาแพทย์ พวกเขาบอกว่ามันเป็นการเจริญเติบโตที่ไม่พึงประสงค์ และสามารถเอาออกได้ด้วยการผ่าตัด” คุณพ่อบอก     อย่างไรก็ตาม มีผู้คนมากมายยอมเดินทางด้วยระยะทางหลายกิโลเพื่อจะมาดูและขอพรจากเด็กชาย Krishna ใน Kukudi รัฐอุตตรประเทศ ของประเทศอินเดีย จนทำให้หมู่บ้านนี้มีชื่อเสียงไปด้วย พ่อแม่ของเด็กชายได้ขอให้คุณหมอผ่าตัดหางนี้ออกให้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน แต่ Krishna ดันป่วยก่อนวันผ่าตัด ทำให้ต้องเลื่อนออกไป     ทางด้านชาวบ้านเชื่อว่านั่นเป็นการเตือนจากเทพเจ้า และถ้าเด็กชายผ่าตัดหางออก ครอบครัวจะต้องได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงจากเหล่าทวยเทพ Kavita วัย 22 ปี แม่ของเด็กชายบอกว่า “ทุกครั้งที่เราเตรียมจะผ่าตัดหางนี้ออก มักจะมีปัญหาแปลกๆ เข้ามาขัดขวางเสมอ บางครั้งก็เป็นเรื่องเงินที่ไม่พอ หรือบางทีลูกชายจะมีไข้ขึ้นสูงก่อนวันผ่าตัด”     ในทางการแพทย์อธิบายว่าเด็กชายเกิดมาพร้อมโรคที่หายาก และจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดออก เพราะมันมีผลเชิงลบกับร่างกาย     คุณหมอ Vipul Kumar จาก โรงพยาบาล SRN Hospital บอกว่า “ตอนนี้เด็กชายกำลังทุกข์ทนจากปัญหาความไม่สมดุลของฮอร์โมน…

  • ชีวิตคูลๆ ของแมวไซบีเรียขนปุย ที่สามารถอยู่ท่ามกลางอากาศหนาว -15 องศาได้แบบชิลๆ

    ชีวิตคูลๆ ของแมวไซบีเรียขนปุย ที่สามารถอยู่ท่ามกลางอากาศหนาว -15 องศาได้แบบชิลๆ

    อากาศหนาวๆ แบบนี้ ถ้าเลือกได้หลายๆ คนคงอยากจะนอนซุกตัวอยู่แต่ในผ้าห่มอุ่นๆ และไม่ออกไปไหน หรือถ้าจำเป็นต้องออกไปข้างนอกจริงๆ คงไม่พลาดที่จะใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาไปด้วย แต่ดูเหมือนเจ้าเหมียวขนปุยเหล่านี้จะไม่สะทกสะท้านกับความหนาวเลยแม้แต่นิด ถึงขั้นมาทำบ้านอยู่ในที่ดินของ Alla Lebedeva ชาวนาชาวรัสเซีย ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาปรอยๆ     เจ้าของที่ดินอาศัยอยู่ใน Prigorodny ใกลักับ Barnaul ในไซบีเรีย และงานอดิเรกของเธอคือการถ่ายภาพและวิดีโอของเหล่าเจ้าเหมียวขนปุยที่มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ของเขาในช่วงฤดูหนาว Lebedeva ได้สร้างช่องยูทูบของตัวเองภายใต้ชื่อ Alla Lebedeva โดยโพสต์คลิปน้องแมวไซบีเรีย และตอนนี้มีผู้ติดตามกว่า 4,000 คนแล้ว     จากภาพจะเห็นน้องแมวอยู่ท่ามกลางหิมะโดยไม่มีเสื้อหรือผ้าคลุมเลย จนหลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่เจ้าของที่ดินบอกว่าน้องแมวมีขนที่หนามากๆ ซึ่งสามารถต้านทานกับอากาศในระดับ -15 องศาในช่วงฤดูหนาวได้อย่างสบายบรื๋อ อีกอย่างคือพวกมันมาอยู่ที่บ้านของ Lebedeva และสามีของเธอ Sergey มานานกว่า 10 ปีแล้ว นั่นหมายความพวกมันชอบที่นี่เลยไม่ยอมย้ายไปไหนนั่นเอง     เมื่อมีแมวไซบีเรียมาขออาศัยอยู่ด้วยเยอะๆ แบบนี้ เจ้าของที่ดินได้เลยตั้งชื่อบ้านตัวเองว่า ‘Catland’ เพราะทั้งคู่อยากให้พวกมันรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านของตัวเอง ทั้งคู่บอกว่าไม่มีปัญหาที่แมวเหมียวเหล่านี้จะมาอยู่ในบ้านด้วย เพราะพวกมันเป็นมิตรและคอยปกป้องไก่กับกระต่ายของพวกเขาเสมอ     Lebedeva บอกว่า “เจ้าเหมียวเหล่านี้อาศัยอยู่ในเล้าไก่ พวกมันมีห้องเล็กๆ 3 ห้อง และมันสามารถนอนได้ทุกเมื่อที่ต้องการ” สำหรับแมวไซบีเรียนั้น…

  • จีนเปิดบริษัท ‘กำจัดเสี้ยนหนามหัวใจ’ เพ่ื่อช่วยลดอัตราการหย่าร้างที่มาจากมือที่สาม

    จีนเปิดบริษัท ‘กำจัดเสี้ยนหนามหัวใจ’ เพ่ื่อช่วยลดอัตราการหย่าร้างที่มาจากมือที่สาม

    เคยมั้ย รักกับแฟนอยู่ดีๆ ก็มีพวกที่ทำตัวเหมือนเสี้ยนหนามหรือมารหัวใจเข้ามาวุ่นวายในชีวิตคู่ของคุณ จนทำให้คุณกับแฟนต้องทะเลาะกัน และถ้าปรับความเข้าใจกันไม่ได้ก็ต้องเลิกรากันไป? มันช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลยที่เราต้องเลิกกับคนที่รักเพราะพวกมารหัวใจ…ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นธุรกิจใหม่ในประเทศ ที่คอยช่วยเหลือคู่รักในการกำจัดเสี้ยนนามในชีวิต แล้วเชื่อมั้ยว่ามีคนยอมจ่ายเป็นแสนเพื่อให้ชีวิตคู่ราบรื่น?     Ming Li และผู้ร่วมก่อตั้ง Shu Xin ได้เปิดธุรกิจ Weiqing Love Hospital (ซึ่งในเซี่ยงไฮ้จะรู้จักกันดีในชื่อ Mistress Dispeller) มา 17 ปีแล้ว โดยได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่าล้านคน ทั้งคู่มุ่งมั่นที่จะทำให้คู่รักมีชีิิวิตที่ราบรื่นโดยผ่านการให้คำแนะนำ บอกเคล็ดลับในการใช้ชีวิตคู่ที่ยืนยาว รวมทั้งช่วยกำจัดมารหัวใจ     Shu Xin บอกว่า “มี 33 วิธีในการกำจัดปัญหาชีวิตคู่ เพราะชีวิตหลังแต่งงานมักมีปัญหาทุกประเภท และหนึ่งในนั้นคือการมีมือที่สาม มันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่ไม่ดีต่อครอบครัวและสภาพสังคมโดยรวม” ในการกำจัดศัตรูหัวใจนั้นมีหลากหลายวิธีตามความเหมาะสมของแต่ละคู่ อย่างเช่น ทำให้ผู้หญิงที่เป็นชู้ไปตกหลุมรักคนอื่นที่เป็นโสด ให้สามีของลูกค้าย้ายไปอยู่เมืองอื่น หรือพยายามเข้าไปตีสนิทกับหญิงชู้รักแล้วพูดสิ่งที่ไม่ดีหรือโรคร้ายของสามีลูกค้า แม้ว่าบางเรื่องจะไม่เป็นความจริงก็ตาม       ยังมีวิธีอื่นอีกแต่ทั้งหมดนี้เป็นความลับทางธุรกิจที่ทางบริษัทไม่สามารถเปิดเผยผ่านสื่อได้ อย่างไรก็ตามทาง Love Hospital ยืนยันไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายอย่างแน่นอน Dai Peng Jun เป็นอีกหนึ่งคนที่เปิดธุรกิจคล้ายกันนี้ในเซี่ยงไฮ้ เขาเปิดบริษัทนักสืบเอกชนและเดินทางมายังจีนเพื่อจะช่วยผู้หญิงกำจัดมือที่สาม…

  • Tesco ต่างประเทศเอาจริง เตรียมปรับให้มีอาหารเหลือและสินค้าตกค้างน้อยลงภายในมีนาคม 2018

    Tesco ต่างประเทศเอาจริง เตรียมปรับให้มีอาหารเหลือและสินค้าตกค้างน้อยลงภายในมีนาคม 2018

    อาหารหรือสินค้าในห้างเมื่อใกล้หมดอายุแล้ว ทางห้างมักจะเอามาลดราคาแบบถูกมากๆ เพื่อที่จะต้องไม่ทิ้งไปเปล่าๆ แต่หากลดแล้วยังขายไม่หมดอีกก็จำเป็นต้องทิ้งไป แต่ขณะนี้ Tesco ในสหราชอาณาจักรและที่อื่นๆ เตรียมปรับนโยบายอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีอาหารเหลือและสินค้าตกค้างในห้าง ทาง Dave Lewis ประธานบริษัท Tesco ได้ขอความร่วมมือจากซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือให้ปฏิบัติตามแนวทางของ Tesco และยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเริ่มใช้ภายในเดือนมีนาคมปี 2018 นี้     Lewis ให้สัมภาษณ์กับ Telegraph ว่า “อาหารเหลือถูกพูดถึงมานานหลายปีแล้ว แต่ถ้า Tesco ทำสำเร็จ รวมไปถึงร้านค้าทั่วประเทศ แล้วทำไมทุกคนจะทำไม่ได้?” “ตราบเท่าที่อาหารนั้นมนุษย์บริโภคได้ ผมอยากให้มันไปถึงมือผู้คนมากกว่าการฝังกลบหรือทำเป็นอาหารสัตว์ หรือทำเป็นเชื้อเพลิง”     ผู้คนนับพันในสหราอาณาจักรได้ขอรับอาหารจาก Food Banks (ธนาคารอาหารสำหรับผู้ยากไร้) มากขึ้น โดยมีิอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า นับตั้งแต่ปี 2012 อย่างไรก็ตามคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อม อาหารและกิจการชนบทเผยว่าครัวเรือนในสหราชอาณาจักรมีอาหารเหลือทิ้งมากถึง 7.3 ล้านตัน ในปี 2015     ด้วยเหตุนี้ Tesco จึงใช้แอป FoodCloud ที่พัฒนาขึ้นโดยนักศึกษาสองคนที่จบจาก Trinity College…

  • ลูกสาวตัดสินใจกิน “อัฐิ” ของแม่ในวันคริสต์มาส เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับแม่ให้มากที่สุด…

    ลูกสาวตัดสินใจกิน “อัฐิ” ของแม่ในวันคริสต์มาส เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับแม่ให้มากที่สุด…

    ทุกๆ เทศกาลคริสต์มาสเราจะเห็นผู้คนเฉลิมฉลองหรือแสดงความรักต่อกันด้วยการมอบของขวัญให้กัน การช่วยเหลือกัน แต่เธอคนนี้เลือกที่จะกิน “อัฐิ” ของแม่ในวันคริสต์มาส นี่นับว่าเป็นข่าวที่ทำเอาหลายคนตกอกตกใจเมื่อ Debra Parsons วัย 41 ปี ตัดสินใจกินอัฐิของ Doreen Brown ผู้เป็นแม่ที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามันทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับแม่     เธอบอกว่าการที่ต้องฉลองคริสต์มาสโดยไม่มีแม่ มันยิ่งทำให้เธอยากกินอัฐิของแม่มากขึ้น “มันจะทำให้ฉันผ่านคริสต์มาสโดยไม่มีแม่ครั้งแรกนี้ไปได้” Debra บอกอีกว่า“บางคนอาจคิดว่าฉันบ้าหรือทำในสิ่งที่ไม่น่าเคารพเอามากๆ แต่ฉันไม่สามารถหยุดตัวเองได้เลย ตรงกันข้ามฉันเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้แม่อยู่ใกล้กับฉันและฉลองด้วยกันในวันแห่งครอบครัวนี้”     เธอเสริมว่า “ฉันรู้สึกว่าแม่จะมีชีวิตอยู่ได้ภายใจตัวของฉัน เพราะถ้าเธอเป็นส่วนหนึ่งของฉันแล้ว เธอก็สามารถหายใจผ่านร่างกายของฉันได้ ลมหายใจของฉันคือลมหายใจของเธอ” “นี่เป็นคริสต์มาสครั้งแรกของฉันที่ไม่มีแม่อยู่ด้วย ฉันต้องการให้เธออยู่ด้วยเหมือนทุกๆ ปี ดังนั้นมันจึงเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ฉันรู้สึกดี”     สำหรับ Doreen ผู้เป็นแม่ เสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อเดือนพฤษภาคมด้วยภาวะทางเดินหายใจอุดตัน ซึ่งเป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดครั้งที่สองสำรหับ Debra เพราะเมื่อคริสต์มาสปี 1996 เธอก็เคยสูญเสียลูกที่คลอดก่อนกำหนดมาแล้ว จากการสูญเสียลูกในครั้งนั้น เธอต้องสู้กับความโศกเศร้าเป็นเวลาหลายปี และยังไม่ทันทำใจได้ คุณแม่ก็มาจากไปอีก นั่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนลงไปสู่จุดต่ำที่สุดของชีวิต     เธอบอกว่า “ฉันกับแม่ เราสนิทกันมาก เรามีความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกที่แข็งแกร่ง และไม่มีอะไรมาพรากเราจากกันได้…

  • นักเรียนโดนขโมยเครื่องเกม Nintendo 3DS ไป เพื่อนร่วมชั้นเลยรวมตังค์กันซื้ออันใหม่มาให้

    นักเรียนโดนขโมยเครื่องเกม Nintendo 3DS ไป เพื่อนร่วมชั้นเลยรวมตังค์กันซื้ออันใหม่มาให้

    ตอนเด็กๆ เราอาจจะมีของเล่นหลายชิ้น แต่จะมีอยู่ชิ้นหนึ่งที่เราชอบและหวงมากๆ ไปไหนก็จะพกติดตัวเสมอ แต่เราคงจะเสียใจมากๆ ถ้าของเล่นชิ้นนั้นเสียหรือหายไป อย่างเด็กชายจากโรงเรียน Antioch High School ประเทศแคลิฟอร์เนียที่ทำ Nintendo 3DS หาย ซึ่งเป็นของเล่นชิ้นเดียวที่เขารักมากๆ ด้วยความเสียใจเขาเลยเขียนบนกระดานในห้องเรียนว่ามันเป็นของขวัญจากย่าของเขา หากใครเจอให้นำมาคืนด้วย     เมื่อเพื่อนร่วมห้องได้อ่านข้อความนั้น พวกเขารู้สึกเห็นใจเขามากเพราะรู้ดีว่าการสูญเสียของรักไปนั้นมันรู้สึกยังไง ดังนั้น Piper Stowe หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนของเธออีกคน Shawna Cantiliano จึงตัดสินใจที่จะซื้อ Nintendo 3DS อันใหม่ให้กับเขา     ทั้งสองคนรวบรวมเงินมาได้มากกว่า 6,500 บาท จากนั้นก็ไปซื้อ Nintendo 3DS เครื่องใหม่มาและนำมามอบให้เพื่อนผู้น่าสงสารที่หน้าชั้นเรียน Stowe เดินเข้าไปหาเพื่อนที่ของเล่นหายที่หน้าชั้นเรียนแล้วพูดกับเขา “หลังจากที่รู้ว่าเธอทำ Nintendo 3DS หาย เรารู้ว่าเธอรู้สึกยังไง ดังนั้นฉันและเพื่อนๆ ทุกคนเลยรวมเงินกันแล้วซื้ออันใหม่ให้เธอ”   คลิปวิดีโอความประทับใจที่เกิดขึ้นภายในห้องเรียนเล็กๆ   จากนั้นเขาก็โผเข้ากอด Stowe ทั้งน้ำตา พูดขอบคุณเธอซ้ำๆ ท่ามกลางเสียงปรบมือจากคุณครูและเพื่อนร่วมห้อง ช่วงเวลาสุดประทับใจนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อนๆ ในห้องที่น้ำตาไหลตาม แต่คนดูอย่างเราก็ซาบซึ้งด้วยไม่แพ้กัน นับว่าเป็นความโชคดีของเด็กชายที่รู้จักกับเพื่อนๆ ที่แสนดีแบบนี้  …

  • เหล่าช้างมองว่ามนุษย์น่ารัก เหมือนที่เรามองว่าลูกหมาน่ารัก นี่คือสิ่งที่นักวิจัยบอกเรา

    เหล่าช้างมองว่ามนุษย์น่ารัก เหมือนที่เรามองว่าลูกหมาน่ารัก นี่คือสิ่งที่นักวิจัยบอกเรา

    มนุษย์เราชอบเล่นกับสัตว์ชนิดต่างๆ เพราะมองว่ามันน่ารัก น่ากอดและน่าทะนุถนอม แล้วเราเคยสงสัยมั้ยว่าเวลาที่สัตว์เล่นกับเรา มันคิดหรือมองเรายังไง? Julia Hass เขียนในทวิตเตอร์ว่า “ฉันเพิ่งรู้ว่าช้างมองว่ามนุษย์น่ารัก เหมือนที่มนุษย์มองว่าสุนัขน่ารัก นี่คงไม่มีอะไรทำให้รู้สึกดีไปกว่าข่าวนี้อีกแล้ว” จากโพสต์ดังกล่าวนี้ ทำให้ชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะแทบทุกคนไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนและมันทำให้เรารู้สึกว่าช้างเป็นสัตว์ที่น่าทึ่ง     อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยใดๆ ที่ยืนยันสิ่งที่ Julia บอก แต่เธอบอกว่าพบหลักฐานที่สนับสนุนว่าทฤษฎีนี้เป็นความจริง หญิงสาวบอกว่ามีหลักฐานมากมายที่ชี้ให้เห็นว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีระดับสติปัญญาที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ในหมู่สัตว์ เท่าที่รู้คือพวกมันมีสมองที่คล้ายกับสมองมนุษย์ และมีความฉลาดทางอารมณ์มากกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ บนโลก ช้างมีฮิปโปแคมปัส ขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนสูง มันคือส่วนหนึ่งของสมองที่เชื่อมโยงกับอารมณ์และประมวลผลทางอารมณ์     เมื่อช้างได้รับบาดเจ็บหรือมีความเจ็บปวดในร่างกาย มันจะมีระดับความเครียดที่ผิดปกติ นั่นเป็นเพราะสมองส่วนฮิปโปแคมปัสเกิดการขยายตัว ในแง่ของการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม ช้างเป็นที่รู้จักกันดีว่าพวกมันมีโครงสร้างทางสังคมที่ค่อนข้างซับซ้อน มีความสนิทแน่นภายในโขลงเดียวกัน และมันจะแสดงออกทางอารมณ์อย่างชัดเจนเมื่อสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีอีกมากมายยืนยันว่าช้างมีพิธีกรรมบางอย่างที่เกี่ยวกับความตาย โดยนักวิจัยช้าง Martin Meredith บอกว่าเมื่อช้างตัวใดตัวหนึ่งตาย ช้างสูงอายุตัวเมียของครอบครัวจะไปสัมผัสเบาๆ ที่ศพ     จากนั้นช้างตัวอื่นๆ จะส่งเสียงกรีดร้องหรือร้องไห้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอยู่ในความสงบอีกครั้ง ต่อมาพวกมันจะโยนใบไม้ กิ่งไม้ เพื่อคลุมศพ และยืนเฝ้าศพเป็นเวลา 2 วัน ทั้งนี้ช้างยังเป็นที่รู้จักในเรื่องการมีความจริงใจต่อต่อสัตว์อื่นๆ รวมทั้งมนุษย์ด้วย พวกมันจะช่วยช้างตัวอื่นๆ ที่ได้รับบาดเจ็บโดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์…

  • เปิดวาร์ป ‘Anton Tanjung’ คุณหมอหนุ่มชาวอินโดฯ ที่กำลังต้องตาต้องใจสาวๆ ในขณะนี้

    เปิดวาร์ป ‘Anton Tanjung’ คุณหมอหนุ่มชาวอินโดฯ ที่กำลังต้องตาต้องใจสาวๆ ในขณะนี้

    ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวๆ เดี๋ยวนี้ถึงอยากมีแฟนเป็นหมอกันจัง ก็แหมมม คุณหมอบางคนเนี่ยนอกจากจะเก่ง จะรวยแล้ว ยังมีหน้าตาหล่อเหลาพร้อมหุ่นล่ำๆ อีก ใครล่ะจะอดใจไหว เหมือนกับ Anton Tanjung คุณหมอชาวอินโดนีเซีย ที่หลายคนอาจจะรู้สึกคุ้นๆ เพราะก่อนหน้ามีภาพของเขาถูกแชร์ในโลกโซเชียลขณะที่อุ้มเด็กชายที่ว่ากันหล่อโตขึ้นมาแล้วหล่อแน่นอน     นี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของคุณหมอ   จากภาพดังกล่าวนั้นทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า Anton คือพ่อของทารกน้อยคนนั้น แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ เขาคือคุณหมอที่ทำคลอดให้น้องต่างหาก     รู้แบบนี้แล้วสาวๆ อาจจะรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรมากนะคะ เพราะเหมียวแอบไปส่องเฟซบุ๊กคุณหมอ Anton มา ตรงช่องสถานะขึ้นว่า “มีแฟนแล้ว” เห้ออออ รอบนี้แห้วของจริง     เป็นคุณหมอหน้าหล่อ หุ่นล่ำว่าเพอร์เฟกต์แล้วนะ Anton ยังเขียนหนังสือที่มีชื่อว่า ATEK: My Journey of Happiness, Sadness and Stupidity แต่ไม่แน่ใจว่ามีฉบับแปลไทยมั้ยนะ ลองหาอ่านดูค่ะ     Anton จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Fakultas Kedokteran Universitas…

  • รู้จักกับมิ้วน้อย ‘Bettie Bee’ ที่เกิดมามี 2 หน้า แต่มีความน่ารักแบบพิเศษๆ จนคุณต้องหลงรัก

    รู้จักกับมิ้วน้อย ‘Bettie Bee’ ที่เกิดมามี 2 หน้า แต่มีความน่ารักแบบพิเศษๆ จนคุณต้องหลงรัก

    แมวเหมียวแต่ละตัวย่อมมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน บางตัวต่างที่ภายนอก บางตัวต่างที่นิสัย แต่ดูเหมือน Bettie Bee จะต่างจากแมวทั่วไปอย่างสิ้นเชิง Bettie Bee เป็นที่รู้จักในฐานะแมว Janus เพราะมัน 2 หน้า 2 จมูก 2 ปาก และ 3 ตา ความพิเศษนี้เป็นผลมาจากภาวะที่เรียกว่า Craniofacial duplication ทำให้ส่วนหัวของมันเติบโตเป็น 2 เท่าขณะอยู่ครรภ์     หลังจากที่เจ้ามิ้วน้อยเกิดมา เจ้าของรู้ได้ทันทีว่ามันต้องได้รับการรับการดูแลและการช่วยเหลือมากกว่าแมวทั่วไป เธอจึงพามันไปหาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลแมวเป็นพิเศษ เจ้าของ(ไม่ประสงค์ออกนาม)เล่าว่า “Bettie Bee เกิดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ฉันเลยพามันไปหาสัตวแพทย์อย่างเร่งด่วนที่สุดในวันรุ่งขึ้น ซึ่งตอนนั้นเธออายุเพียงแค่ 1 วัน”     ต่อมาผู้ช่วยชีวิตของ Bettie ได้ป้อนให้อาหารให้มันผ่านท่อ แล้วก็พบว่าอาหารที่ถูกป้อนผ่านปากทั้งสองช่องนั้นลงไปสู่ท้องของมันเหมือนกัน การที่น้องแมวเกิดมามี 2 หน้านั้น หมายความว่ามันมีความผิดปกติ แต่มันมีโอกาสที่จะเติบโตมามีสุขภาพที่ดีเหมือนแมวทั่วไปได้ เพราะก่อนหน้านี้แมวที่ชื่อ Frankenlouie ก็เป็นแมว Janus เหมือนกัน และมันสามารถอยู่ได้นานถึง 14…

  • น้องหมาสายโหด วิ่งไล่จระเข้จนมันต้องหนีลงน้ำไป อะไรมันจะกล้าหาญปานน้าาาาน…

    น้องหมาสายโหด วิ่งไล่จระเข้จนมันต้องหนีลงน้ำไป อะไรมันจะกล้าหาญปานน้าาาาน…

    สุนัขบางตัวแม้จะตัวเล็กนิดเดียว แต่ความกล้าหาญของมันกลับยิ่งใหญ่เกินตัว นั่นทำให้เรามักจะเห็นสุนัขทำอะไรที่น่าทึ่งเสมอ แต่ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะกล้าถึงขนาดไล่จระเข้ลงน้ำได้!! Dumb Blonde เป็นสุนัขที่อาศัยอยู่กับเจ้าของที่ Goat Island Lodge บนเกาะ Goat ใกล้กับแม่น้ำ Adelaide ทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย     ก่อนที่จะเกิดภาพแบบใน GiF ข้างบนนี้ น้องหมา Dumb Blonde ยืนเห่าอยู่ห่างออกไปประมาณ 3.3 เมตร ก่อนจะวิ่งพุ่งเข้าไปที่จระเข้ที่ชื่อ Casey จนมันต้องรีบหนีลงน้ำไป สุดท้ายน้องหมายังพยายามกัดหางของมันด้วย น่าแปลกที่ Casey ไม่ทำอะไรสุนัขตัวน้อยนี้เลย ทั้งๆ ที่ตัวใหญ่กว่าหลายเท่า แต่กลับหนีลงน้ำง่ายๆ ซะอย่างนั้น     แขกหลายคนที่อยู่ใน Goat Island Lodge ต่างมองดูนาทีที่น้องหมาเข้าไปใกล้จระเข้ด้วยความหวาดกลัว แต่ Kai Hansen ผู้เป็นเจ้าของเกาะกลับยืนหัวเราะกับเหตุการณ์ระทึกนั่น Hansen บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “Dumb Blonde เป็นสุนัขพันธุ์ผสมเวสต์ ไฮแลนด์ ไวท์ เทอร์เรีย อายุ 10 ปี และมันก็มันทำอย่างนั้นมาหลายปีแล้ว”    …

  • ข่าวลือจากวงใน… คนชนชั้นสูงในเกาหลีเหนือ จะได้รับการฉีดทองคำเข้าสู่ร่างกายตัวเอง

    ข่าวลือจากวงใน… คนชนชั้นสูงในเกาหลีเหนือ จะได้รับการฉีดทองคำเข้าสู่ร่างกายตัวเอง

    ความเป็นเกาหลีเหนือนี่มันเกาหลีเหนือจริงๆ ทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้างชาวช่อง ทั้งล้ำไปบ้าง แปลกไปบ้าง จนเรามักจะได้ยินเรื่องราวอันน่าทึ่งของพวกเขาบ่อยๆ ล่าสุดสื่อท้องถิ่นเผยว่าท่านผู้นำ คิม จอง อึน และคนชนชั้นสูงของเกาหลีเหนือกำลังจะได้รับการฉีดทองคำเข้าสู่ร่างกายโดยนักวิทยาศาสตร์แนวหน้าของประเทศ     สำหรับการดูแลสุขภาพด้วยทองคำนั้นเป็นส่วนหนึ่งของยาตัวใหม่ ที่ทาง Pyongyang วางแผนจะส่งออกในอนาคต ซึ่งปัจจุบันนี้มีเพียงคิม จอง อึน และชนชั้นสูงของประเทศเท่านั้นที่เข้าถึงยาตัวนี้ ข้อมูลจาก MIMS เผยว่าปัจจุบันทองคำถูกนำมาใช้รักษาโรคมะเร็งและโรคข้อรูมาตอยด์ ทั้งยังใช้ในการตรวจหาเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์ และช่วยให้การทดสอบวินิจฉัยโรคสะดวกรวดเร็วมากขึ้น     การฉีด Nano-gold polysaccharide injection ของเกาหลีเหนือ พัฒนาขึ้นโดย Korea Myohyang Trading Corporation ซึ่งช่วยในการรักษาโรคมะเร็ง โรคอ้วน ภาวะสมองเสื่อมในวัยชรา และภาวะอ่ื่นๆ     นักพัฒนายาตัวนี้บอกว่า “มันมีประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันโรคตับอักเสบ ตับแข็ง โรคเบาหวาน โรคนอนไม่หลับ โรคมะเร็ง โรคข้อรูมาตอยด์ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ ริ้วรอย ภาวะสมองเสื่อม รักษาอาการติดยาเสพติดและแอลกอฮอล์ ป้องกันสารเคมีและภาวะแทรกซ้อนในร่างกาย” “นอกจากนี้ยังสามารถใช้รักษาอาการอ่อนเพลียได้ ดังนั้นเราจึงขอให้แนะนำให้ทุกคนใช้ยาตัวนี้ในการบรรเทาอาการเมื่อยล้าของร่างกาย”     ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์จาก Korea Oriental Medicine…

  • หนุ่มผวา!! พบโดรนบินมาใกล้กับเครื่องบินที่กำลังจะลงจอด จนเกือบเกิดโศกนาฏกรรม

    หนุ่มผวา!! พบโดรนบินมาใกล้กับเครื่องบินที่กำลังจะลงจอด จนเกือบเกิดโศกนาฏกรรม

    ตั้งแต่มีโดรน การถ่ายทางอากาศหรือภาพมุมสูงก็มีความสะดวกสบายและง่ายขึ้นเยอะ แถมได้ภาพที่สวยงามตามต้องการด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องระวังในเรื่องพื้นที่และระดับความสูงของการปล่อยโดรนด้วย เพราะหากใช้โดรนในที่ต้องห้ามหรือทำให้มันบินสูงเกินไป อาจเกิดอุบัติที่ไม่คาดคิดได้ เหมือนกับกรณีที่จะนำเสนอนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่เครื่องบินที่ช่างภาพ Simon Pollock นั่ง กำลังจะลงจอดในสนามบิน Los Angeles International Airport     ระหว่างนั้นช่างภาพมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ก็ตกใจอย่างแรงเมื่อเห็นกล้องโดรนลอยอยู่กลางอากาศ ซึ่งห่างจากเครื่องบินที่เขานั่งอยู่เพียงเล็กน้อย Pollock เขียนในเฟซบุ๊กว่า “คุณอาจจะเพลิดเพลินกับการใช้โดรน แต่คุณจะยิ้มไม่ออกถ้านั่งอยู่บนเครื่องแล้วเห็นโดรนลอยอยู่ใกล้ตัวเครื่อง คนที่ทำอะไรแบบนี้ช่างโง่เง่าสิ้นดี” “ตอนแรกที่เห็นไฟกะพริบสีแดงผมคิดว่ามันเป็นเครื่องบินลำอื่น แต่พอลองดูดีๆ เลยรู้ว่ามันไม่ใช่เครื่องบิน และมันก็อยู่ห่างจากเราไม่มากด้วย” “ผมไม่แน่ใจว่าโดรนขนาดเล็กนี้จะมีผลอย่างไรกับเครื่องบิน มันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ แต่ยังไงมันก็น่ากลัวอยู่ดี”     ทั้งนี้ตามกฎหมายแล้ว การปล่อยโดรนขึ้นสูงเกิน 8,000 เมตรจากสนามบินนั้นถือว่ามีความผิด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้เมื่อไม่กี่วันก่อนมีรายงานว่าโดรนบินมาชนกับเครื่องบินที่กำลังจะลงจอดในประเทศอังกฤษและแคนาดา แต่โชคดีที่นักบินสามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หวังว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ใช้โดรนทั้งหลาย เพราะความเพลิดเพลินเพียงชั่ววูบของคุณอาจเป็นอันตรายมากกว่าที่คิด   ที่มา petapixel  

  • สุดสยอง เมื่อหนุ่มขับรถอยู่ดีๆ ก็มีคน ‘ปาหอก’ ทะลุกระจกปักเข้าหลังเต็มๆ โหดเกิ๊น!!

    สุดสยอง เมื่อหนุ่มขับรถอยู่ดีๆ ก็มีคน ‘ปาหอก’ ทะลุกระจกปักเข้าหลังเต็มๆ โหดเกิ๊น!!

    อุบัติเหตุบนท้องถนนมักจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว และมักจะมาในหลากหลายรูปแบบ บางครั้งแม้เราจะระมัดระวังแล้วแต่อันตรายก็ยังมาถึงตัวจนได้ (คำเตือน เนื้อหาและภาพที่เพื่อนๆ จะดูต่อไปนี้ ค่อนข้างมีความรุนแรงและน่ากลัว ดังนั้นสามารถกดปิดไปได้เลยถ้าคิดว่าเรื่องนี้จะกระทบกับใจ) อย่างกรณีของหนุ่มคนนี้ที่ขับรถอยู่ดีๆ ก็มีหอกความยาวกว่า 180 เซนติเมตรพุ่งมาจากข้างหลัง ทะลุกระจกเข้ามาก่อนจะปักลงที่ข้างหลังของเขาแบบเต็มๆ     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ปี 2017  ที่มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ทั้งนี้สำนักข่าว ahwang.cn  บอกว่ามีคนเห็นใครบางคนกว้างหอกไปที่รถคันหนึ่งที่มีเหยื่อนั่งอยู่ข้างใน โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น หนุ่มผู้เคราะห์ร้ายก็ได้ถูกหามส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงทันที เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน เบื้องต้นแพทย์ระบุว่าหัวหอกอยู่บริเวณช่องท้องส่วนบนของเขา      ทั้งนี้หมอไม่สามารถเอาหอกออกได้ทันที เพราะจะทำให้เสียเลือดมาก ดังนั้นพวกเขาจะตัดหอกให้สั้นลงแล้วส่งชายหนุ่มไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งที่มีเครื่องมือรองรับมากกว่า     ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่านี่เป็นเพียงอุบัติเหตุหรือตั้งใจ แต่ตำรวจเชื่อว่าเป็นการลอบสังหาร และจะเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนให้เร็วที่สุด     ที่มา dailymail

  • ยูทูบเบอร์หนุ่มชาวเม็กซิกัน ‘ถูกพบเป็นศพ’ หลังอัดคลิปเยาะเย้ยเจ้าพ่อค้ายาเสพติด

    ยูทูบเบอร์หนุ่มชาวเม็กซิกัน ‘ถูกพบเป็นศพ’ หลังอัดคลิปเยาะเย้ยเจ้าพ่อค้ายาเสพติด

    แก๊งอันธพาลหรือแก๊งค้ายาบางแก๊งนั้นมีอิทธิพลมากจนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่กล้ายุ่ง แล้วคิดเหรอว่าคนธรรมดาอย่างเราๆ จะกล้าเข้าไปเอี่ยว แม้จะว่ารู้ว่าพวกเขาทำผิดก็ตาม แต่สำหรับยูทูบเบอร์ Juan Luis Lagunas Rosales หรือที่รู้กันในชื่อ El Pirata de Culiacan ชาวเม็กซิกัน กลับอัดคลิปเยาะเย้ยเจ้าพ่อค้ายาอย่างไม่เกรงกลัว     บนหน้าเพจเฟซบุ๊ก Guardia Nocturna ของสำนักข่าว Mexican news ระบุว่า Rosales มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 260,000 คน และมีคนถูกใจเพจเฟซบุ๊กของเขาอีกเกือบล้านคน อย่างไรก็ตาม เขาถูกพบว่าถูกยิงเสียชีวิตในบาร์ Menta2 Cantaros หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปที่เขาพูดเยาะเย้ยหัวหน้าพ่อค้ายาเสพติด     ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์น่าสลดนี้ หลังจากที่ Rosales เพิ่งจะโพสต์คลิปเยาะเย้ยนั้นได้ไม่นาน เขาได้อัดคลิปใหม่โดยเชิญชวนแฟนๆ ให้ไปเจอกันที่บาร์ Menta2 Cantaros มันดูเป็นการกระทำที่ไม่ค่อยฉลาดนัก เพราะคนที่เขาเพิ่งเยาะเย้ยไปก่อนหน้านี้คือ El Mencho หรือที่เรียกว่า Nemesio Oseguera Cervantes ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งของ Cártel de Jalisco Nueva Generació ซึ่งเป็นแก๊งค้ายาเสพติดตัวเป้ง     ดูเหมือนยูทูบเบอร์จะไม่รู้ว่าชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะเมื่อเข้าไปในบาร์เขายังดื่มและสนุกสนานกับเพื่อนๆ ตามปกติ แต่แล้วผู้คนก็พากันแตกตื่นเมื่ออยู่ดีๆ เขาก็ล้มลงไปกับพื้นพร้อมเสียงปืนที่ดังลั่น…

  • คนเก็บขยะต้องลุยกองขยะขาดมหึมา เพื่อตามหาแหวนเพชรให้หญิงสาวที่ทำตกลงไป

    คนเก็บขยะต้องลุยกองขยะขาดมหึมา เพื่อตามหาแหวนเพชรให้หญิงสาวที่ทำตกลงไป

    วัตถุหรือสิ่งของนอกกายหลายๆ ชิ้นอาจมีมูลค่าเป็นแสนเป็นล้าน แต่บางครั้งเรากลับพบว่ามันเป็นเพียงสิ่งไร้ค่าเมื่อเทียบกับจิตใจอันงดงามของมนุษย์ อย่างกรณีของหญิงชาวจีนคนนี้ที่ทำแหวนเพชรหล่นหายไป จนเจ้าหน้าที่เก็บขยะต้องระดมคนช่วยตามหาในกองขยะมหึมากว่า 2 ชั่วโมงด้วยกัน ตามสำนักข่าว Beijing Times รายงานว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หญิงสาวแซ่ Xia คนหนึ่งได้ทำความสะอาดบ้านของเธอที่เมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน     แต่ในระหว่างนั้น แหวนเพชรมูลค่า 546,000 บาทของเธอบังเอิญหล่นลงในถังขยะโดยที่เธอไม่รู้ตัว มารู้อีกก็สายเกินไปเสียแล้ว Xia ตัดสินใจไปยังแผนกสุขาภิบาลท้องถิ่นเพื่อเจ้าหน้าที่ช่วยตามหาแหวนของเธอ แต่ทางหัวหน้าสุขาภิบาลแจ้งว่ากลุ่มขยะที่เก็บในบริเวณบ้านของเธอนั้นถูกบดอัดเรียบร้อยแล้ว     อย่างไรก็ตาม หัวหน้าสุขาภิบาล บอกให้ Xia กลับมาที่สำนักงานอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น เพราะมั่นใจว่าขยะที่ถูกบดไปแล้วนั้นจะไม่ถูกส่งไปยังเตาเผา จากนั้นหัวหน้าได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดช่วยกันค้นหาแหวนเพชรของ Xia ในกองขยะขนาดมหึมาก่อนที่มันจะถูกส่งไปเผา และนับว่าโชคดีที่แหวนถูกพบในเช้าวันอังคาร หลังจากที่เจ้าหน้าที่ 8 คน ช่วยกันตามหาในกองขยะขนาด 13,000  กิโลกรัม โดยใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงด้วยกัน     Xia บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “การกระทำของคนเก็บขยะมีค่ามากกว่าแหวนเพชรที่มีราคาแพงนี่ซะอีก ตอนที่พวกเขาบอกว่าเจอแหวน ฉันคิดพวกเขาล้อเล่นซะอีก ฉันรู้สึกขอบคุณทุกคนอย่างสุดซึ้งจริงๆ” เธอบอกอีกว่า “แม้ว่าแหวนนี้จะมีมูลค่ามากกว่า 500,000 บาท แต่จิตใจของพวกเขามีค่ามากกว่านั้น”   ที่มา nextshark

  • พาไปดูเส้นทางรถไฟไต่ภูเขาสุดชันที่สุดในโลก กลางเทือกเขาแอลป์ แค่เห็นก็ขาสั่นผับๆ แล้ว

    พาไปดูเส้นทางรถไฟไต่ภูเขาสุดชันที่สุดในโลก กลางเทือกเขาแอลป์ แค่เห็นก็ขาสั่นผับๆ แล้ว

    หากคุณกำลังมองหาความท้าทาย หรือต้องการทำอะไรที่น่าตื่นเต้น ขอให้แนะนำไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพราะที่นั่นคุณจะได้เส้นทางรถไฟที่มีความสูงชันที่สุดในโลก เส้นทางรถไฟนี้เรียกว่า StoosBahn จะเป็นเส้นทาง Schwyz ไปยัง Stoos หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ที่ระดับความสูง 1,300 เมตร เหนือทะเลสาบลูเซิร์น     StoosBahn ใช้เวลาสร้างกว่า 14 ปี ลักษณะของรถไฟจะมีรูปทรงแปลกตา ถือเป็นการออกแบบที่ทันสมัยมากๆ มีความลาดชันถึง 110% ด้วยกัน     รถไฟนี้ถูกออกแบบให้มีระบบหมุนอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้โดยสารมั่นใจว่ายังอยู่ในระดับที่ปลอดภัย แม้รถไฟจะไต่เขาในระดับลาดชัน ซึ่งในแต่ละเที่ยวนั้นสามารถจุผู้โดยสารมากสุด 136 คน โดยทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามตลอดทาง     ภายในเวลา 2 ปี นับตั้งแต่โปรเจกต์เปิดตัวมา มีค่าใช้จ่ายไปตั้งหมด 1,700 ล้านบาท แต่ StoosBahn ก็ยังคงเป็นความภาคภูมิใจของบริษัททางรถไฟจนทุกวันนี้     ยิ่งสูงยิ่งหนาว ตู้ที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์   มีทิวทัศน์แสนงดงามให้ชมตลอดทาง   นี่คือสิ่งที่คุณจะสัมผัสจาก…

  • ชายหนุ่มโดดขึ้นไปสไลด์บนราวบันไดเลื่อนจน ‘ไข่’ ชนกับของแข็งเต็มๆ ซิ๊ดดดดเลย

    ชายหนุ่มโดดขึ้นไปสไลด์บนราวบันไดเลื่อนจน ‘ไข่’ ชนกับของแข็งเต็มๆ ซิ๊ดดดดเลย

    ที่สาธารณะนั้นมักมีกฎหรือมีข้อปฏิบัติที่ทุกคนรับรู้ร่วมกันเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา หรือความวุ่นวายต่างๆ แต่ก็มีคนจำพวกหนึ่งที่ชอบแหกกฎอยู่เรื่อย อย่างหนุ่มคนนี้ที่ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาขึ้นไปเล่นพิเรนทร์บนราวบันไดเลื่อนในสถานี Moorgate ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ จนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่ต้องจำไปตลอดชีวิต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมีคนถ่ายคลิปชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นไปเล่นบนราวบันไดเลื่อน โดยนอนราบกับพื้นราวแล้วไถลตัวลงมา     ประเด็นคือบนราวมันไม่ใช่ทางเรียบ ซึ่งชายหนุ่มก็คงจะเห็นเหมือนกันว่ามีการเอาวัตถุบางอย่างมาวางกั้นบนราวบันไดเลื่อนเป็นจุดๆ อยู่ แต่ในระหว่างที่เขาไถลตัวลงมา เขาคงไม่ทันดูวัตถุเลยไหลลงมาชนเข้าเต็มๆ ถ้าขาหรือแขนไปจนก็คงจะไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก แต่นี่กลับเป็นน้องชายของเขาที่ปะทะกับวัตถุแข็งๆ นั่นอย่างแรง จากการชนในครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขาคงเจ็บมากๆ แต่เขาไม่สามารถบังคับตัวเองให้หยุดไหลได้ เลยรีบลุกขึ้นมองไปที่สิ่งกีดขวางถัดไป เพื่อที่จะไม่ต้องชนซ้ำอีก     ต่อมา James Gower ได้โพสต์คลิปนี้ในทวิตเตอร์ และมีชาวเน็ตมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็น ชาวเน็ตคนหนึ่งที่อ้างอยู่ในที่เกิดเหตุบอกว่า “ตอนที่น้องชายของเขาชนเข้ากับวัตถุนั้น เพื่อนๆ ของเขา 2 คนยืนอยู่หัวบันไดเลื่อนถึงกับหัวเราะไม่ออก ส่วนหนุ่มคนนั้นเจ็บปวดจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้” “ตอนนั้นคนที่ถ่ายคลิปตะโกนบอกชายหนุ่ม 2 คนนั้นว่า ‘นี่จะไม่เข้าไปช่วยเพื่อนหน่อยหรอ?’ ทั้ง 2 คน จึงรีบเข้าไปพยุงเพื่อนทันที” “เขาดูเจ็บปวดมาก ก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งเข้ามาในสถานีใต้ดิน และร้องเพลงกันอย่างเสียงดังเหมือนคนมีอาการเมาในชุดฟุตบอล ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะเพิ่งกลับจากปาร์ตี้ละมั้ง”     นี่ดูเฉยๆ ยังรู้สึกจุกเลย โธ่วว พ่อหนุ่มเอ๊ยยย…

  • 31 ภาพที่ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ก็สามารถสื่อออกมาเป็นคำพูดนับพัน ล้านความรู้สึก

    31 ภาพที่ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ก็สามารถสื่อออกมาเป็นคำพูดนับพัน ล้านความรู้สึก

    ภาพถ่ายที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้โดยไม่ต้องมีคำบรรยายเป็นการแสดงถึงฝีมืออันยอดเยี่ยมของช่างภาพ อย่างไรก็ตาม มีบางภาพที่ถูกถ่ายอย่างเรียบง่าย แต่มันกลับอธิบายได้หลายคำพูด ล้านความรู้สึก เหมือนอย่างภาพอันน่าประทับใจเหล่านี้ ที่สามารถสะกิดใจคุณได้โดยไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ เพราะเรื่องราวทุกอย่างมันแฝงอยู่ในภาพแล้ว   1. คุณหมอได้ทำการผ่าตัดให้เจ้าเหมียวตัวนี้ที่ถูกรถชนจนเกือบตาย และเมื่อมันฟื้นตัวเต็มที่แล้ว หนึ่งในศัลยแพทย์ที่ทำการรักษาให้ ได้อาสารับมันไปเลี้ยงในบ้านที่แสนอบอุ่น   2. พยาบาลใน NICU ได้เขียนโน้ตไว้ให้พ่อแม่ของทารกแรกเกิดคนนี้   3. คู่รักเจอตู้เซฟในบ้าน ภายในมีเหล้า Bourbon ปี 1960 และเงินสดอีก 1.6 ล้านบาท   4. “ชายชรามอบสิ่งนี้ให้กับผม ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำขึ้นมาด้วยตัวเอง”   5. พนักงานดับเพลิงช่วยชีวิตเจ้าเหมียวจากเหตุไฟไหม้   6. มิตรภาพของเด็กชายกับลูกหมี ที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 10 ปี   7. โมเมนต์ที่เด็กน้อยได้กอดน้องสาวครั้งแรก   8. จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด บางครั้งมันก็มีมุมที่เหมือนกันนะ   9. “อุบัติเหตุเกือบพรากภรรยาไปจากผม ดังนั้นผมจึงแต่งงานกับเธอเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา”   10. ชายคนหนึ่งถอดรองเท้าตัวเองให้กับเด็กที่ยากจน…

  • รวมภาษามือ ที่มีความหมายในเชิงหยาบ แต่อย่าเอาไปทำตามนะเออ เพราะพวกเขาทำเอาฮา!!

    รวมภาษามือ ที่มีความหมายในเชิงหยาบ แต่อย่าเอาไปทำตามนะเออ เพราะพวกเขาทำเอาฮา!!

    เวลาสื่อสารกับคนหูหนวกเราจำเป็นต้องใช้ภาษาท่าทางหรือภาษามือ และคำพื้นฐานที่หลายคนทำอาจจะทำได้ เช่น สวัสดี ขอบคุณ ไปไหน? กินข้าวหรือยัง? เป็นต้น แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นคำที่สุภาพเกินไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามก็คงมีการใช้คำหยาบในชีวิตประจำวันบ้างเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ช่องยูทูบ Cut จึงนำเสนอภาษามือที่มีความหมายในเชิงหยาบ แต่ไม่แนะนำให้ทำตามนะ แค่ให้รู้ไว้เฉยๆ ว่ามันหมายความว่าอะไรบ้าง เผื่อโดนหลอกด่าจะได้รู้ไง     Asshole เป็นคำที่ใช้ด่าคนโง่ หรือคนที่ทำตัวน่ารังเกียจ   Bullshit เป็นคำที่ใช้กับคนโกหกหรือพูดเกินจริง ประมาณว่า “ไร้สาระ” ไรงี้   Shit คำนี้แปลตรงๆ หมายถึง อุจจาระ ถ้าเป็นคำด่าก็มักใช้กับพวกหลอกลวง โกหก คนทำตัวต่ำ ไร้ค่า รวมไปถึงคนเห็นตัวและคนน่ารังเกียจ   Cocksucker ความหมายตรงๆ คืออวัยวะเพศชาย แต่เอาไปด่าจริงๆ คงไม่มีใครพูดคำว่า ‘อวัยวะเพศชาย’ หรอกใช่มั้ย เพราะมันยาวไป   Asshole Asshole ที่เป็นคำที่ใช้ด่าคนโง่ หรือคนที่ทำตัวน่ารังเกียจเหมือนกัน แต่ทำท่าต่างกัน   Bitch คำนี้มักเป็นคำด่าที่ใช้กับเพศหญิงเป็นส่วนใหญ่ อาจบอกว่าเทียบเท่าคำว่า…

  • 19 ภาพอันลึกลับที่ถูกถ่ายในอดีต ที่แม้เวลาจะผ่านไปก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้จนทุกวันนี้!?

    19 ภาพอันลึกลับที่ถูกถ่ายในอดีต ที่แม้เวลาจะผ่านไปก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้จนทุกวันนี้!?

    ภาพถือเป็นหลักฐานสำคัญในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่แปลกที่บางครั้ง บางภาพไม่สามารถคาดเดาเรื่องราวได้ โดยเฉพาะภาพถ่ายในอดีตเหล่านี้ ที่มีสิ่งแปลกๆ และความไม่สมเหตุสมผลแฝงอยู่ในภาพ จนทุกวันนี้ก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้   1. ภาพขาวดำนี้ถ่ายเมื่อปี 1941 ในเงินเปิดตัวสะพาน South Forks Bridge ประเทศแคนาดา แต่ภาพชายใส่แว่นกันแดดยังเป็นปริศนาจนทุกวันนี้ ชายใส่แว่นกันแดดคนนี้แต่งตัวไม่เหมือนคนยุค 40 แถมยังถือกล้องที่ทันสมัย ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักของคนในยุคนั้น   2. ช่างภาพชาวฝรั่งเศส Robert Serrec ถ่ายภาพนี้เมื่อปี 1964 ที่ทะเลนอกชายฝั่งควีนส์แลนด์ ของประเทศออสเตรเลีย บางคนเชื่อว่าเงาดำที่เห็นอยู่ใต้ผิวน้ำนี้เป็นผ้าใบกันน้ำขนาดใหญ่ แต่มันกลับมีลักษณะเหมือนงูทะเลขนาดใหญ่บางชนิด   3. ภาพที่ดูน่ากลัวนี้ถ่ายที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ครอบครัว Cooper เพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านนี้ ในช่วงที่ถ่ายภาพมีสมาชิกครอบครัวเพียง 4 คนเท่านั้น แต่เมื่อมาดูรูปอีกทีกลับมาภาพใครบางคนห้อยลงมาจากเพดาน!!   4. ชายที่ชื่อ Gregor Sporri ถ่ายรูปนี้เมื่อปี 1985 ขณะที่เขากำลังเดินทางไปอียิปต์ ที่นั่นเขาได้พบกับศพมัมมี่ที่มีนิ้วยาว 15 นิ้ว นั่นหมายความว่าคนที่เป็นเจ้าของนิ้วนี้ต้องมีความสูงอย่างน้อย 3 เมตร   5. เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม…

  • นักวิทย์ฯ เผยสาเหตุที่มนุษย์ต้อง ‘ตกหลุมรัก’ ซึ่งกันและกัน เพราะมันเกี่ยวกับวิวัฒนาการเพื่อการอยู่รอด!!

    นักวิทย์ฯ เผยสาเหตุที่มนุษย์ต้อง ‘ตกหลุมรัก’ ซึ่งกันและกัน เพราะมันเกี่ยวกับวิวัฒนาการเพื่อการอยู่รอด!!

    การตกหลุมรักเป็นหนึ่งในความลึกลับอันยิ่งใหญ่ของชีวิต เพราะเราไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงรู้สึกเช่นนั้น ที่สำคัญเป็นความรู้สึกมีให้เฉพาะบางคนเท่านั้น แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้มาให้คำตอบแล้วว่าความรู้สึกของการตกหลุมรักนั้น อาจเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการวิวัฒนาการของเรา นี่ถือเป็นครั้งแรกที่นักวิจัยค้นพบหลักฐานของ “ความรักที่ส่งเสริมวิวัฒนาการของมนุษย์” เพราะมันจะเพิ่มโอกาสในการมีครอบครัวมากขึ้น     นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาการศึกษาวิจัยจากชนเผ่า Hadza ในประเทศแทนซาเนีย ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตตามแบบยุคสมัยใหม่และพบว่าการมีความรู้สึกรักใคร่กันของคู่ครองนั้นมีความเชื่อมโยงถึงความต้องการในการมีบุตรด้วยกันมากขึ้น ผลดังกล่าวนี้สอดคล้องกับการวิจัยก่อนหน้านี้จากมหาวิทยาลัย University College London เมื่อปี 2013 ที่พบว่าความรักอาจมีพัฒนาการในการยับยั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกลิงหรือ Primate (ในที่นี้รวมถึงมนุษย์ด้วย) จากการฆ่าทารก     โดยเฉพาะในกลุ่มของสปีชีส์ที่ฝ่ายเพศผู้และเพศเมียมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันก็จะทำให้เพิ่มโอกาสที่ทายาทของพวกเขาจะรอดชีวิต และจะยิ่งดีไปกว่านั้นหากเพศผู้มาช่วยเลี้ยงดูบุตรด้วยตัวเอง ในสังคมสมัยใหม่ ปัจจัยบางอย่างเช่น ความสัมพันธ์ระหว่างความรักกับจำนวนบุตรนั้นมีแนวโน้มที่จะมีความเชื่อมโยงกันน้อยลง จึงเป็นเหตุผลที่นักวิจัยหันไปหาชนเผ่าที่เป็นนักล่าสัตว์และอยู่ห่างไกลความศิวิไลซ์อย่างเผ่า Hadza ชีวิตของคน Hadza มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในช่วงหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ ‘ความรัก’ ในหมู่บรรพบุรุษยุคก่อนประวัติศาสตร์ของเราได้     นักวิจัยเขียนไว้ว่า “การศึกษาของเราอาจทำให้เกิดความกระจ่างในเรื่องความหมายของความรัก และการวิวัฒนาการในอดีต โดยเฉพาะสังคมแบบดั้งเดิมของ Hadza ที่การเลือกคู่ที่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลไม่ใช่พ่อแม่ของพวกเขา”  งานวิจัยอ้างอิงว่าชนเผ่า Hadza นั้นมีการเลือกคู่ครองตามใจของแต่ละคน มีชื่อว่า Frontiers in Psychology ทั้งนี้มีงานวิจัยที่นำโดย Dr.…

  • เมื่อเจ้ามิ้วน้อยเหลือตัวสุดท้ายในสถานสงเคราะห์ เลยออกมาหามนุษย์เพื่ออ้อนให้รับเลี้ยง

    เมื่อเจ้ามิ้วน้อยเหลือตัวสุดท้ายในสถานสงเคราะห์ เลยออกมาหามนุษย์เพื่ออ้อนให้รับเลี้ยง

    สำหรับสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ อย่างแมวเหมียว มันคงไม่ต้องการอะไรมากมาย นอกจากการมีบ้านที่อบอุ่นและการเลี้ยงดูจากมนุษย์ผู้ใจดี โดยเฉพาะแมวเหมียวที่เติบโตมาในสถานสงเคราะห์สัตว์ เวลามันเห็นเพื่อนๆ ถูกรับเลี้ยง มันก็คงอยากได้รับโอกาสนั้นบ้างเหมือนกัน     อย่างมิ้วน้อย Winnie วัย 2 เดือน ที่พบว่าตัวเองเหลือตัวสุดท้ายในสถานสงเคราะห์สัตว์ Humane Society มันเลยตัดสินใจออกมาหามนุษย์เอง เพื่อให้อ้อนให้พวกเขารับเลี้ยง และเมื่อ Rhiannon แวะเข้าไปใน Humane Society เพื่อบริจาคเงินให้ทางศูนย์ Winnie ไม่รอช้า มันเดินเข้าไปอยู่ในสายตาของหญิงสาว หวังให้เธอพากลับบ้านด้วย       Rhiannon บอกว่า “ฉันเดินเข้าไปในสถานสงเคราะห์ พบว่ากรงว่างหมดเลย ยกเว้นมิ้วน้อยตัวหนึ่งที่อยู่หลังกรง เมื่อฉันเข้าไปหา มันร้องเมี๊ยวๆ และรีบลุกขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น” Winnie เป็นแมวตัวสุดท้ายในสถานสงเคราะห์ที่กำลังมองหาบ้าน แม่ของมันเข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เดือนตุลาคม ก่อนจะคลอดมันออกมาในเวลาต่อมา นั่นหมายความว่ามันอยู่ในนี้ตั้งแต่เกิด     เมื่อถูกน้องแมวจ้องตา Rhiannon รู้สึกตกหลุมรักมันทันที “ฉันรักแมวและอยากรับเลี้ยงแมวมานานหลายปีแล้ว ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจรับเลี้ยง Winnie หลังจากที่ครอบครัวอนุญาต” หญิงสาวบอก ตอนที่ Rhiannon จะเดินออกไปเพื่อไปกรอกข้อมูลการรับเลี้ยง เจ้าเหมียวเอาแต่ร้องเมี๊ยวไม่ยอมให้เธอไป เพราะมันกลัวจะถูกทิ้งไว้ลำพังอีก     Rhiannon บอกว่า “มันยังคงส่งเสียงร้องอย่างต่อเนื่องและดังขึ้นเรื่อยๆ…

  • พรานโพสต์ภาพคู่กับสิงโตภูเขาตัวใหญ่ แม้นักอนุรักษ์สัตว์จะออกมาเตือน แต่ก็ไม่แคร์

    พรานโพสต์ภาพคู่กับสิงโตภูเขาตัวใหญ่ แม้นักอนุรักษ์สัตว์จะออกมาเตือน แต่ก็ไม่แคร์

    ปัจจุบันนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรืออยู่ส่วนไหนของโลก เมื่อคุณลงมือทำร้ายสัตว์เพียงเล็กน้อย จะทำให้คุณถูกประณามจากผู้คนมากมายทันที แต่สำหรับ Steve Ecklund จากอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา กลับภาคภูมิใจที่ได้ฆ่าสิงโตภูเขาในบ้านเกิดของเขา แถมยังโพสต์อวดในเฟซบุ๊กด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม     ที่ผ่านมา Steve และภรรยาของเขา Alison Ecklund ล่าสัตว์ป่านับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นหมูป่า สิงโต หมีดำ และสิงโตในแคนาดาและอเมริกาเหนือ โดยมักจะโพสต์อวดในโซเชียลเสมอ การกระทำของ Steve ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยกลุ่มรณรงค์ที่ใช้ชื่อว่า Hunt Saboteurs Association จากสหราชอาณาจักรเองก็ได้ออกมาประณามว่ามันเป็นกีฬาที่เลวทรามและไร้ศีลธรรมสิ้นดี     แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับการวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ สังเกตได้จากการที่เขายังคงโพสต์ภาพล่าสัตว์อยู่ แถมยังมีชาวเน็ตที่เป็นนักล่าสัตว์เหมือนกันออกมาปกป้องเขาตลอดด้วย ในเว็บไซต์ The EDGE ระบุว่า ‘Steve ล่าสัตว์อย่างเป็นธรรม นั่นหมายความว่าสัตว์ที่เขาฆ่าทุกตัวนั้นถูกต้องตามหลักจริยธรรม เพราะสัตว์ทุกตัวถูกฆ่าตอนที่พวกมันสามารถวิ่งหนีได้อย่างอิสระ ไม่ได้ถูกฆ่าตอนถูกขังแต่อย่างใด’     ทั้งนี้ในอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดานั้น นักล่าต้องมีใบอนุญาตสำหรับการล่าสัตว์เพื่อการสันทนาการ โดยในกฎหมายระบุว่าการล่าสัตว์จะผิดกฎหมายก็ต่อเมื่อคุณยิงสัตว์ป่าขณะว่ายน้ำ หรือให้สุนัขเข้าร่วมการล่าในช่วงฤดูล่าสัตว์ในหน้าหนาว     ทางกลุ่มสิทธิสัตว์ PETA ออกมาบอกว่า Steve มีความเชื่อผิดๆ…

  • การจูบลาของตา-ยายที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 73 ปี ก่อนต้องแยกไปอยู่ในบ้านพักคนชราแห่งใหม่

    การจูบลาของตา-ยายที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 73 ปี ก่อนต้องแยกไปอยู่ในบ้านพักคนชราแห่งใหม่

    หากเราเจอรักแท้ ไม่ว่าจะยากดี มีจน เราก็คงอยากอยู่เคียงข้างเขาไปตลอดชีวิต และดูแลกันไปจนกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะหมดลมหายใจ แต่สำหรับคุณตากับคุณยายที่อยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งชีวิต กลับต้องแยกจากกันก่อนวันคริสต์มาสที่จะมาถึงนี้ เพราะพวกเขาต้องไปอยู่บ้านพักคนชราคนละหลัง     Herbert Goodine มีอาการภาวะสมองเสื่อมได้ถูกย้ายไปอยู่ในบ้านพักคนชราแห่งใหม่ ในขณะที่ภรรยาของเขา Audrey ต้องอยู่ในบ้านพักคนชราเดิม ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 45 นาที ก่อนหน้านี้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในบ้านพักคนชราเป็นเวลา 3 ปี แต่จากการประเมินสุขภาพครั้งล่าสุด พบว่าอาการสมองเสื่อมของคุณแย่ลงกว่าเดิมมาก เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องย้ายเขาไปอยู่อีกที่เพื่อรับการดูแลที่เหมาะสม     ในวันที่ต้องแยกจากกันนั้น คุณตากับคุณยายไม่มีคำบอกลาใดที่สัมผัสใจได้ดีเท่ากับการจูบลาเป็นครั้งสุดท้าย ที่ใครเห็นเป็นต้องน้ำตาซึมตามไปด้วย Dianne Phillips ลูกสาวของพวกเขาบอกว่า “วันที่มีรถตู้มารับพ่อไปจากบ้านที่นิวบรันสวิก ประเทศแคนาดา คุณแม่ยืนดูอยู่ที่หน้าต่างจนลับสายตา”     เธอเขียนในเฟซบุ๊กว่า “เมื่อวานนี้ฉันได้โทรคุยกับพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องที่พ่อต้องย้ายออกไป ฉันได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ โดยมีเสียงพ่อแทรกมาจากข้างหลัง แม่พูดกับฉันว่า ‘ตอนนี้วันคริสต์มาสสิ้นสุดลงแล้วสำหรับเรา และนี่เป็นวันคริสต์มาสที่เลวร้ายที่สุดที่เราเคยมีมา ทำไมพวกเขาไม่รอให้วันหยุดนี้ผ่านไปก่อน แล้วค่อยแยกเราจากกัน’ ตอนนั้นฉันมั่นใจว่าแม่พยายามจะทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันนานขึ้น อย่างน้อยสักวันสองวันก็ยังดี พ่อแม่ของฉันอยู่ด้วยกันมานานถึง 73 ปี ทุกวันนี้พวกเขายังนอนเตียงเดียวกัน ฉันคิดว่าผู้คนจำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ มีเพียงคำสองคำที่ฉันสามารถพูดตอนนี้คือ ‘ไม่ถูกต้อง’ และ ‘โหดร้าย’”     คุณตา Goodine พูดถีงคุณยายว่า “ผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ…

  • แพทย์เตือน ผู้หญิงไม่ควร ‘ปัสสาวะ’ ก่อนมีเซ็กส์ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

    แพทย์เตือน ผู้หญิงไม่ควร ‘ปัสสาวะ’ ก่อนมีเซ็กส์ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

    ในการมีเซ็กส์นั้น คุณจะเริ่มมีเมื่อไหร่ ท่าไหน ที่ไหน หรือนานแค่ไหนก็ได้ แล้วแต่ความชอบของคุณกับคู่นอน แต่อย่าลืมคำนึงถึงอันตรายที่อาจตามมาด้วย หลายคนอาจจะคิดว่าล้างอวัยวะเพศหลังอึ๊บกัน ต้องปัสสาวะหลังมีเซ็กส์ หรือสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง แต่มีอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้คือ คุณไม่ควรปัสสาวะก่อนมีเพศสัมพันธ์     David Kaufman ศัลยแพทย์จากนครนิวยอร์กบอกว่า “การที่ผู้หญิงเข้าใจว่าควรปัสสาวะก่อนมีเซ็กส์นั้น เป็นความคิดที่ผิดมาก” เขาเน้นย้ำว่าการปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่การเข้าห้องน้ำก่อนเซ็กส์นั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่นอน ทั้งนี้ Kaufman เผยกับสำนักข่าว Yahoo News ว่า “การปัสสาวะก่อนมีเซ็กส์เป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ โรคฮันนีมูน”   ทำไมคุณไม่ควรปัสสาวะก่อนมีเซ็กส์ แพทย์อธิบายว่าระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์แบคทีเรียจากช่องคลอดจะถูกผลักเข้าไปในท่อปัสสาวะ แต่หากคุณอั้นปัสสาวะไว้ระยะหนึ่งมันจะเพิ่มโอกาสในการผลักแบคทีเรียออกมา Kaufman อธิบายเพิ่มเติมว่าการอั้นปัสสาวะจะทำให้กระเพาะปัสสาวะของคุณเต็มเพียงพอที่จะสร้างแรงดันที่แข็งแรงพอในการล้างแบคทีเรียในท่อปัสสาวะได้ หากไม่มีปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ แบคทีเรียอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ เช่นเดียวกัน หากคุณไม่ไปเข้าห้องน้ำหลังจากมีเซ็กส์ แบคทีเรียสามารถเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะและพัฒนาไปสู่การติดเชื้อในที่สุด สำหรับโรคฮันนีมูนนี้มีโอกาสเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงแยกต่างหากจากช่องคลอดและทวารหนัก โดยมีระยะห่างเพียงเล็กน้อย ทำให้แบคทีเรียจากช่องคลอดหรือทวารหนักสามารถเข้าถึงท่อปัสสาวะได้ง่าย นอกจากนี้การใช้ยากุมกำเนิดแบบหมวกครอบปากมดลูกเพิ่มความเสี่ยงในการติดในทางเดินปัสสาวะได้เหมือนกัน เพราะกะบังลมจะไปกดกระเพาะปัสสาวะทำให้แบคทีเรียไม่สามารถเล็ดลอดออกมาได้     สำหรับคนที่มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะบ่อย คุณอาจจะแก้ไขด้วยวิธีต่อไปนี้ – หลีกเลี่ยงการอาบน้ำในอ่างที่มีฟองสบู่ หรือการโรยแป้งรอบอวัยวะเพศของคุณ ควรอาบน้ำด้วยฝักบัวมากกว่าการอาบในอ่างอาบน้ำ – เมื่อรู้สึกปวดฉี่ ให้ไปห้องน้ำทันที ไม่ควรอั้นไว้จากกระเพาะปัสสาวะเต็ม – เมื่อล้างก้นหลังจากเสร็จธุระ…

  • เปรียบเทียบ “ค่าครองชีพ” ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในแผนที่เดียวจบ อยากย้ายไปไหนกันบ้าง!?

    เปรียบเทียบ “ค่าครองชีพ” ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในแผนที่เดียวจบ อยากย้ายไปไหนกันบ้าง!?

    หลายคนใฝ่ฝันที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่บางทีเราจำเป็นต้องรู้ด้วยว่าที่เราจะไปนั้นมีค่าครองชีพเป็นอย่างไร? มันจะคุ้มมั้ยถ้าเราไปอยู่ที่นั่น? เพราะฉะนั้นลองมาดูข้อมูลเหล่านี้ ที่เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าครองชีพของทุกประเทศทั่วโลก เผื่อจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น นี่คือแผนที่ที่ทำขึ้นโดย Movehub ซึ่งเป็นบริษัทที่มีบริการช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ต้องการย้ายถิ่นฐาน ในเรื่องราคาร้านของชำ การขนส่ง ร้านอาหาร สาธารณูปโภค และการเช่าพื้นที่ของ 121 ประเทศทั่วโลก โดยวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)     ทั้งนี้ผู้คนในซานฟรานซิสโกและนครนิวยอร์กมักจะบ่นเกี่ยวกับค่าเช่าพื้นที่ที่ค่อนข้างมีราคาแพง อย่างไรก็ตามครองชีพโดยรวมของสหรัฐฯ ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พออยู่ได้ ส่วนเบอร์มิวดาถือเป็นพื้นที่ที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก รองลงมาคือประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และฮ่องกงกับไอซ์แลนด์ที่มีค่าครองชีพไม่ต่างกันมากนัก ในทางตรงข้าม อียิปต์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดในขณะนี้ ซึ่งเลื่อนขึ้นมาเป็น 6 อันดับ ภายใน 2 ปี ตามด้วยประเทศอินเดีย ปากีสถาน และเนปาล   พื้นที่สีแดงเข้มหมายถึงมีค่าครองชีพสูงสุด ขณะที่สีเขียวหมายถึงค่าครองชีพต่ำสุด   ทวีปยุโรป   ทวีปอเมริกาเหนือ   ทวีปอเมริกากลาง   ทวีปอเมริกาใต้   ทวีปแอฟริกา   ทวีปเอเชีย   ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปออสเตรเลีย   ประเทศที่มีค่าครองชีพสูงสุด  …

  • ศิลปินวาดการ์ตูนบอกเล่าความสุขในชีวิตรัก ระหว่างเธอกับแฟนหนุ่ม และแมวเหมียว

    ศิลปินวาดการ์ตูนบอกเล่าความสุขในชีวิตรัก ระหว่างเธอกับแฟนหนุ่ม และแมวเหมียว <3

    คนทั่วไปมักจะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันด้วยถ้อยคำ ด้วยตัวหนังสือ แต่สำหรับศิลปินแล้ว พวกเขามักจะเล่าเรื่องราวผ่านสิ่งที่ถนัด นั่นก็คือภาพวาด เช่นเดียวกับ Mikiko ศิลปินชาวเยอรมัน – ญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในลอนดอน สหราชอาณาจักร เธอได้วาดภาพการ์ตูนเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเธอกับแมวเหมียว Emi ที่เธอรักมากที่สุดเลยก็ว่าได้   1. กว่าจะได้ภาพภาพหนึ่งมา มันไม่ง่ายนะ   Mikiko บอกว่า “ฉันเกิดที่โตเกียว โตที่ฮ่องกง เยอรมัน ญี่ปุ่น และเบลเยียม ดังนั้นภาพวาดของฉันจึงมีความสัมพันธ์กับสถานที่ที่ฉันเคยอยู่” “ฉันมักจะวาดรูปเสมอ แต่เมื่ออายุ 12 ปี ฉันได้อ่านนิตยสาร Shonen Jump ครั้งแรก และนั่นทำให้ฉันคิดขึ้นได้ว่าต้องวาดการ์ตูนเป็นการเป็นงานจริงๆ สักทีแล้วล่ะ” ด้วยเหตุนี้เธอจึงเริ่มวาดรูปเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้คน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวของเธอซะมากกว่า ซึ่งมีทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว กับแฟนหนุ่ม และน้องแมวที่เธอรัก   2. เมื่ออยากเซลฟี่กับแฟนหนุ่ม   3. วันที่ฝนตกกับเจ้าเหมียว   4. เจ้าเหมียวผู้มีท่าเยอะซะเหลือเกิน จนเทียบกับขนมปังทรงต่างๆ ได้เลย   5. ความรู้สึกของเพื่อนที่ตัวสูงเมื่อต้องผ่านสภาพอากาศต่างๆ   6.…

  • พิตบูลตัวน้อย เกิดมามีหน้าตาประหลาด แต่เจ้าของก็ยังคงรักมันเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

    พิตบูลตัวน้อย เกิดมามีหน้าตาประหลาด แต่เจ้าของก็ยังคงรักมันเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

    การเกิดมาแตกต่างจากคนอื่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะถูกจำกัดจากสิทธิในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่จะได้รับความรัก สิทธิที่จะมีความสุข และอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ Marie DeMarco มอบความรักอันบริสุทธิ์ให้กับ Sasha เจ้าพิตบูลตัวน้อยที่เกิดมากับร่างกายที่อ่อนแอ แต่มันก็สู้สุดตัวเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่     Sasha เกิดเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่มันอายุได้เพียง 1 วัน มันก็อยู่ในจุดที่เป็นอันตรายแล้ว เพราะมันเกิดมาพร้อมโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ซึ่งไม่สามารถรักษาได้ น้องหมาจึงถูกส่งตัวไปหา Courtney Bellew ผู้อำนวยการ SNARR Animal Rescue Northeast ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือฉุกเฉินในนิวยอร์กที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลสุนัขที่มีความบกพร่อง     Bellew บอกว่า “เมื่อเจ้าของรู้ว่าน้องหมาเกิดมาพร้อมโรคปากแหว่งเพดานโหว่ เธอต้องการช่วยเหลือ เลยพามันมาหาฉัน มันตัวเล็กและอ่อนแอมาก” Sasha จำเป็นต้องกินอาหารผ่านหลอด ดังนั้น Bellew จึงประสานไปยัง DeMarco ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในการดูแลลูกแมวที่ได้รับบาดเจ็บและป่วยหนัก เพราะคิดว่าพวกเขาน่าจะช่วยลูกสุนัขได้เหมือนกัน     วันแรก Sasha ชั่งน้ำหนักได้เพียง 311 กรัมเท่านั้น ที่แย่กว่านั้นคือโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ทำให้เริ่มมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาด้วย DeMarco สังเกตเห็นว่าหัวของน้องหมามีขนาดใหญ่ผิดปกติเมื่อเทียบกับร่างกายของมัน ซึ่งทางสัตวแพทย์บอกว่ามันมีภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ส่งผลให้เนื้อสมองเกิดบาดเจ็บเสียหายจนถึงขั้นอาจทำให้เนื้อสมองตายได้ นอกจากนี้สมองของมันมีขนาด…

  • หนุ่มรับเจ้ามิ้วน้อยมาเลี้ยง แต่หารู้ไม่ว่ามันจะรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวซะขนาดนี้ ปั๊ดโถ้ววว!!

    หนุ่มรับเจ้ามิ้วน้อยมาเลี้ยง แต่หารู้ไม่ว่ามันจะรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวซะขนาดนี้ ปั๊ดโถ้ววว!!

    หลายคนอาจจะคิดว่าแมวเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย เพราะมันรักความสงบ วันๆ เอาที่หลับไม่ทำอะไรเลย และแน่นอนว่ามันคงไม่สร้างความวุ่นวายให้แน่ๆ เหอะ คิดน้อยไปซะแล้ว เพราะแมวบางตัวนั้นต่อให้คุณทำที่นอนให้มัน หรือแม้แต่ทำห้องส่วนตัวให้ มันก็ยังมารุกล้ำพื้นที่ของคุณอยู่ดี     อย่างเจ้าเหมียว Clarice ผู้ไม่เคยรู้จักพื้นที่ส่วนตัว ไม่ว่า Jesse ผู้เป็นเจ้าของจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร มันจะตามไปอยู่ด้วยทุกที่ ทุกที่จริงๆ นะ ก่อนหน้านี้ แมวของเพื่อนของ Jesse เกิดตั้งท้องขึ้นมา และเมื่อมันคลอดลูกออกมาครอกหนึ่ง เพื่อนคนนี้ของเธอไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด เธอจึงพยายามแจกจ่ายลูกแมวให้กับผู้ที่ต้องการเลี้ยงแมว     Clarice เป็นหนึ่งในมิ้วน้อยที่เกิดพร้อมพี่น้องครอกนี้ และเมื่อมันโตพอที่จะหาบ้าน Jesse กับคู่หมั้นของเขาจึงตัดสินใจเปิดประตูต้อนรับมันเข้ามาอยู่ด้วย นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย ตอนนั้นคู่รักมีแมวอยู่แล้ว 2 ตัวคือ Alice และ Buffy เมื่อรับ Clarice เข้ามา มันจึงกลายเป็นสมาชิกที่ตัวเล็กที่สุดในบ้านและน่ารักที่สุดด้วย     หลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน มิ้วน้อยเริ่มรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของ เริ่มตั้งแต่การเข้าไปอยู่ในเสื้อของ Jesse แล้วงีบหลับอยู่อย่างนั้น นานเข้าๆ มันก็เริ่มจะปีนขึ้นไปบนไหล่บ้าง บนหัวบ้างขณะที่เจ้าของนั่งดูทีวี…ที่ทำแบบนี้เพราะมิ้วน้อยไม่อยากให้เจ้าของต้องอยู่คนเดียว เดี๋ยวจะเหงา มันเลยอาสาอยู่ด้วยทุกที่     ไม่ว่าเจ้าของจะทำอะไร Clarice…

  • สองพี่น้องลื่นล้มพร้อมกันท่ามกลางหิมะ จนเป็นที่ถูกใจชาวเน็ต อะไรจะสามัคคีกันเบอร์นั้น

    สองพี่น้องลื่นล้มพร้อมกันท่ามกลางหิมะ จนเป็นที่ถูกใจชาวเน็ต อะไรจะสามัคคีกันเบอร์นั้น

    การลื่นล้มถือเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่งที่เราไม่อยากให้เกิด โดยเฉพาะในที่น้ำขัง เมื่อล้มลงไปนอกจากเสื้อผ้าจะสกปรกแล้ว อาจได้แผลมาด้วย แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือบังเอิญ สองพี่น้องคู่นี้ลื่นล้มพร้อมกันท่ามกลางหิมะ กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวเน็ตกันยกใหญ่เลย วิดีโอนี้โพสต์โดย @04rr_  ซึ่งเป็นผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่น เป็นเหตุการณ์ที่สองพี่น้องกำลังเดินข้างกันท่ามกลางหิมะ แต่จู่ๆ ทั้งคู่ก็ลื่นล้มพร้อม ราวกับนัดกันไว้   雪も降ってないのに傘さしてる姉と 1回転んでも懲りずにまたコケる妹 同時に転んで足も揃うハイスペック姉妹 pic.twitter.com/KL8Ar96r3h — 佐藤李来 (@04rr__) 6 ธันวาคม 2560 หากดูไม่ได้ คลิกที่นี่   ใต้คลิปมีแคปชั่นว่า “คนพี่คือคนที่ถือร่ม (แม้ว่าหิมะไม่ตกก็เถอะ) แล้วทั้งคู่ก็ลื่นล้มพร้อมกัน แต่คนน้องเหมือนจะไม่ได้รับบทเรียนในครั้ง พอลุกขึ้นได้ก็เซไปอีกรอบ”     ล้มพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมายแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนะ ดังนั้นเมื่อคลิปถูกแชร์ในโซเชียล เลยโดนชาวเน็ตข้าวมาแซวกันเลยใหญ่เลย บางคนบอกว่าลื่นพร้อมกันขนาดนี้ ลองเข้าร่วมที Olympic Synchronized Slipping มั้ย น่าจะไปได้สวยนะ หรือไม่อยากนั้นลองสมัครเข้าแก๊งมิซาโตะกับชินจิ ในเรื่อง Evangelion มั้ย พวกเค้าต้องชอบแน่ๆ เพราะพวกเขาชอบทำอะไรเหมือนกันแบบนี้แหละ     นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตบางส่วนบอกว่า……

  • เด็กน้อยเขียนจดหมายสุดซึ้งถึงลุงซานต้า ขอให้พาหมาของตัวเองที่หายไปกลับคืนมา

    เด็กน้อยเขียนจดหมายสุดซึ้งถึงลุงซานต้า ขอให้พาหมาของตัวเองที่หายไปกลับคืนมา

    เด็กๆ มักจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเทศกาลคริสต์มาสมาถึง เพราะมันเป็นวันที่พวกเขาจะได้ขอของขวัญจากคุณลุงซานต้า ซึ่งสิ่งที่เด็กแต่ละคนอยากได้นั้นมีตั้งแต่ขนม ของเล่น รวมไปถึงเสื้อผ้า แต่สำหรับเด็กชายตัวน้อย Edward Latter เลือกที่จะเขียนจดหมายสุดซึ้งถึงลุงซานต้า เพื่อขอให้เขาพาน้องหมาที่หายไปกลับมาให้ Morse น้องหมาวัย 9 เดือน ผู้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของ Edward ถูกโจรขโมยไปตอนมันออกไปนอกบ้าน พ่อแม่ของเด็กน้อยพยายามตามหามันเกือบ 24 ชั่วโมง จนกระทั่งได้รับแจ้งจากผู้หญิงคนหนึ่งว่าเห็นน้องหมาถูกอุ้มขึ้นรถกระบะ     ครอบครัวของเด็กชายอาศัยอยู่ในเมืองเคนท์ ประเทศอังกฤษ พวกเขาพยายามบอกให้โจรนำ Morse มาคืนในช่วงคริสต์มาสนี้ นอกจากนี้ครอบครัวยังได้แจ้งชื่อและลักษณะของน้องหมาให้กับทางร้านและคลินิกสัตว์ต่างๆ ด้วย เผื่อเจอได้โทรแจ้งให้พวกเขาทราบ ความพยายามของพวกเขาไม่ได้หยุดลงเพียงเท่านั้น ล่าสุด Edward ที่กำลังจะอายุครบ 3 ขวบในเร็วๆ นี้ ได้เขียนจดหมายถึงซานต้า หวังจะให้เขาพาน้องหมากลับให้ในวันคริสต์มาสนี้ Richard วัย 40 ปี ผู้เป็นพ่ออาสาช่วยลูกน้อยเขียนจดหมาย โดยเขียนไว้ว่า “ถึงเจ้าแห่งคริสต์มาส ผมต้องการของขวัญแค่อย่างเดียวในคริสต์มาสนี้ ผมต้องการให้น้องหมา Morse กลับคืนมา ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาผมเป็นเด็กดีนะครับ จาก Edward วัย 2 ขวบ กำลังจะ 3 ขวบเร็วๆ นี้”  …

  • Apple ยอมรับแล้วว่าทำให้ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลง แต่ที่ทำไปก็เพราะหวังดีนะ (เหรอ!?)

    Apple ยอมรับแล้วว่าทำให้ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลง แต่ที่ทำไปก็เพราะหวังดีนะ (เหรอ!?)

    ใครที่ใช้ iPhone อยู่คงจะเจอกับปัญหาเครื่องช้าลงอย่างมาก หลังจากที่ได้อัปเดต iOS 10.2.1 ไป จนมีการตั้งข้อสงสัยว่า Apple จงใจทำให้เครื่องช้าลงเพื่อให้คนอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่หรือเปล่า เพราะปัญหานี้ขึ้นเฉพาะกับไอโฟนรุ่นเก่าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากมีประเด็นในอินเตอร์เน็ต ก็เป็นครั้งแรกที่ทางบริษัท Apple เผยว่าพวกเขามีการใส่ฟีเจอร์ให้เครื่องทำงานช้าลงเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปจริง แต่ที่ทำนั้น เป็นเพราะพยายามหลีกเลี่ยงไม่เกิดปัญหาเครื่องดับไปเองหรือดับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากให้คุณซื้อ iPhone รุ่นใหม่ตามที่ผู้คนเข้าใจ     โดยทั่วไปแล้ว iPhone  จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่สามารถเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หลังจากที่คุณชาร์จโทรศัพท์ไปประมาณ 500 ครั้ง แบตเตอรี่ iPhone เหลือประสิทธิภาพเพียง 80% จากของเดิม ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ คุณอาจจะเริ่มสังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่ของคุณทำงานด้อยลงภายในหนึ่งปีแรกหรือนานกว่านั้น     เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมลง ระบบปฏิบัติการจะลดประสิทธิภาพของ CPU และ GPU ของเครื่องโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณไม่สามารถเล่นเกมหรือแอพต่างได้ดีเท่าที่คุณต้องการ ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ iPhone 6 6S SE และ 7 ทำงานช้าลง     ในแถลงการณ์ ทาง Apple กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า…

  • อินโดฯ รับมือกับปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ ด้วยการสั่งห้ามแต่งตัวเซ็กซี่ออกนอกบ้าน?

    อินโดฯ รับมือกับปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ ด้วยการสั่งห้ามแต่งตัวเซ็กซี่ออกนอกบ้าน?

    การล่วงละเมิดทางเพศเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในทุกประเทศทั่วโลก ส่วนการรับมือหรือการแก้ปัญหาของแต่ละประเทศนั้นก็คงจะแตกต่างกันไป แต่ล่าสุดทางการอินโดนีเซียได้ประกาศมาตรการรับมือกับปัญหาการคุกคามทางเพศ การข่มขู่ และการใช้ความรุนแรงต่อสตรีและเด็กด้วยการสั่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Rakyat Bengkulu รายงานว่า 7 ใน 8 พรรคการเมืองได้ลงเสียงสนับสนุนให้ “เสื้อผ้าเซ็กซี่” เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้ระบุว่าลักษณะของเสื้อผ้าที่จัดอยู่ในหมวดหมู่เซ็กซี่เป็นอย่างไร     อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากฎหมายฉบับนี้จะบังคับใช้กับผู้หญิงทุกคนหรือเปล่า โดยเฉพาะผู้หญิงมุสลิมว่าควรสวมผ้าคลุมศีรษะเฉพาะในที่สาธารณะหรือในพื้นที่ส่วนตัวด้วย ทั้งนี้ด้วยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกรณีการใช้ความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ส่งผลให้ Ir Muharamin ประธานคณะกรรมาธิการ IV ของ DPRD Bengkulu สนับสนุนนโยบายนี้ด้วย ในขณะที่ H Parial หัวหน้าฝ่าย PAN ในเขตปกครองพิเศษของ Bangkulu DPRD กล่าวว่า “ควรจะมีขอบเขตและบทลงโทษที่ชัดเจนสำหรับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย”     หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายอย่างเป็นทางการ ทุกคนที่ถูกจับได้ว่าละเมิดกฎ ไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้ารัดเกินไปหรือสวมเสื้อผ้าชิ้นบางจะต้องได้รับโทษอย่างรุนแรง Parial บอกอีกว่า “สาระสำคัญของการออกกฎหมายนี้ก็เพื่อแก้ไขปัญหาการก่ออาชญากรรมต่อเด็กและสตรี เนื่องจากปัจจุบันจำนวนการข่มขืน ความรุนแรงในครอบครัว และการฆาตกรรมสูงมาก” “นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาเหล่านี้ เช่น ภาพลามกอนาจาร รวมไปถึงการขาดจิตสำนึกในแง่ของศาสนา”  …

  • เมื่อเอานำของสองสิ่งมาเทียบราคา อาจทำให้คุณได้เปลี่ยน “มุมมองการใช้เงิน” ไปตลอดกาล!?

    เมื่อเอานำของสองสิ่งมาเทียบราคา อาจทำให้คุณได้เปลี่ยน “มุมมองการใช้เงิน” ไปตลอดกาล!?

    มีสิ่งของมากมายที่เราอยากได้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ กระเป๋าแบรนด์เนม สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หรือโดรน สิ่งเหล่านี้ราคาไม่น้อยเลยนะ ถ้าเอาไปซื้ออย่างอื่นคงได้หลายอย่างเลยหล่ะ ต่อให้มันเป็นสิ่งที่คุณอยากได้มากแค่ไหน ถ้าลองนำสิ่งของเหล่านั้นไปเทียบกับอย่างอื่นที่มีราคาใกล้เคียงกันหล่ะ คุณจะรู้สึกเสียดายบ้างมั้ย? *ข้อมูลราคาจากเว็บไซต์ BrightSide อ้างอิงราคาสินค้าต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา   1. iPhone X ราคา 44,300 บาท กับ อัลปากา ราคา 42,800 บาท   2. iPhone X ราคา 44,300 บาท กับ ปีกไก่ของ KFC 2,393 ชิ้น ราคา 43,000 บาท   3. นาฬิกา Apple ราคา 13,000 กับ แผ่นกันกระแทก 2 กิโลเมตร ราคา 11,400 บาท   4. MacBook Air ราคา 32,800 บาท…

  • 23 ความไร้เดียงสาของเด็กๆ กับตรรกะแปลก พฤติกรรมสุดป่วง ที่จะทำให้คุณยิ้มตาม

    23 ความไร้เดียงสาของเด็กๆ กับตรรกะแปลก พฤติกรรมสุดป่วง ที่จะทำให้คุณยิ้มตาม

    วัยเด็กเป็นวัยที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา ความอยากรู้อยากลอง ทดลองทำโน่นทำนี่ตามความคิดแบบเด็กๆ และตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ จนบางครั้งผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็ไม่เข้าใจ แต่บางครั้งความไร้เดียงสาและตรรกะแบบแปลกๆ ของพวกเขา รวมทั้งพฤติกรรมบางอย่าง มันก็ทำให้เราอดขำไม่ได้เลยจริงๆ   1. เด็กชาย 2 คนนั้นตัดสินใจตัดผมทรงเดียวกัน เพื่อไม่ให้คนอื่นจำได้…   2. ได้รองเท้าผ้าใหม่ มันก็จะเห่อหน่อยๆ ใส่เต้นโคฟเวอร์ซะเลย   3. ป้าบอกหลายชายทั้ง 2 ว่าให้จับแบงค์ไว้บนผนังด้วยจมูก ใครทำตกก่อนแพ้ แล้วผู้ชนะก็จะได้แบงค์ทั้ง 2 ใบไปครอง… แล้วใครจะคิดละว่าเพื่อชัยชนะ พวกเขาถึงกับยอมอยู่ในท่านี้นานกว่า 3 ชั่วโมง   4. เมื่อลูกชายตัวน้อยเล่นซ่อนแอบ   5. คุณคงไม่เคยเด็ก ถ้าไม่เคยตัดหน้าม้าด้วยตัวเอง   6. พ่อแม่ไม่เคยมีรูปครอบครัวดีๆ เก็บไว้เลย เพราะลูกไม่ยอมเลิกทำท่านินจาสักที   7. คุณแม่ถึงกับกังวลเมื่อเปิดกล่องของเล่นของลูกสาวแล้วเจอเงิน ปืน และมีด ถูกเก็บไว้ด้วยกัน   8.…

  • ชาวเน็ตวิจารณ์ “นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับเสือ” ในไทย แถมบังคับคำราม ชี้เป็นการทารุณกรรม!?

    ชาวเน็ตวิจารณ์ “นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับเสือ” ในไทย แถมบังคับคำราม ชี้เป็นการทารุณกรรม!?

    แชร์กระฉ่อนทั่วโลกออนไลน์ในต่างประเทศเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Edwin Wiek โพสต์คลิปที่ถ่ายจากสวนสัตว์แห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า  “วันนี้ผมเห็นการท่องเที่ยวที่โหดร้ายในพัทยา เสือตัวนี้ถูกทิ่มด้วยไม้นับร้อยครั้งต่อวัน ทำให้มันอ้าปากส่งเสียงคำรามเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ภาพที่สวยงงาม…ถึงเวลาที่กฎหมายควรได้รับการเปลี่ยนแปลงสักที”     สำหรับคลิปดังกล่าวนี้พบว่าถูกถ่ายที่สวนสัตว์ชื่อดังแห่งหนึ่งในพัทยา ส่วนที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติคือการจ่ายเงินเพื่อเข้าไปถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดกับเสือ แต่ประเด็นคือในระหว่างที่นักท่องเที่ยวนั่งถ่ายรูปกับเสือนั้น จะมีเจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลสวนสัตว์ยืนอยู่ข้างๆ คอยใช้ไม้ทิ่มเข้าไปที่แก้มเสือ ทำให้มันร้องคำรามออกมา     นอกถ่ายรูปกับเสือแล้ว นักท่องเที่ยวบางส่วนยังขึ้นไปนั่งบนหลังเสือด้วย   คลิปบันทึกเหตุการณ์ที่เสือโดนไม้ทิ่มแก้มให้ร้องคำราม   จากคลิปดังกล่าวนี้ สร้างความไม่พอใจให้ชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ เพราะเป็นการทารุณกรรมสัตว์เพียงเพื่อแลกกับความสุขของนักท่องเที่ยว และนี่คือความเห็นส่วนหนึ่งของชาวเน็ต…   Edwin Benschop: ไม่กล้าดูเลย! ผมไม่เข้าใจว่านักท่องเที่ยวพวกนี้ภูมิใจกับภาพพวกนี้ได้อย่างไร? มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน!! Zoe Foster: เราจะช่วยเหลือเสือผู้เคราะห์ร้ายตัวนั้นได้ยังไง?   Donna Marie Tichenor:  นี่เป็นการกระทำที่น่าขยะแขยงมาก ฉันอยากเอาไม้ทิ่มชายคนนั้น 100 ครั้งต่อวัน ดูสิ๊จะชอบมั้ย   Natalie Coles : โอ้พระเจ้า นี่มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ เหล่านักท่องเที่ยวเค้าไม่รู้ตัวเลยเหรอว่านี่มันเป็นเรื่องที่ผิดน่ะ! Denise Dawson : ฉันอยากจะตั๊นหน้าผู้ชายคนที่ถือไม้นั่นจริงๆ เจ้าคนใจชั่ว และนักท่องเที่ยวงี่เง่า!!  …

  • หากไม่มีใครรับน้องไป วันสุดท้ายของชีวิตคงต้องมาถึง แต่แล้วแม่ใหม่ก็พาไปอยู่ด้วย…

    หากไม่มีใครรับน้องไป วันสุดท้ายของชีวิตคงต้องมาถึง แต่แล้วแม่ใหม่ก็พาไปอยู่ด้วย…

    ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ เมื่ออยู่ในวัยเตาะแตะ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อประคับประคองชีวิตไม่ให้ตกอยู่อันตรายจนต้องจากโลกไปก่อนวัยอันควร แต่มิ้วน้อย Simon กลับถูกพบอยู่ข้างถนนเพียงลำพัง ไร้ซึ่งเงาของผู้เป็นแม่ แต่โชคดีที่มีคนมาเห็นมันซะก่อน จึงได้พาไปส่งให้ทางคลินิกสัตว์     Babybrobeans พนักงานของคลินิกเล่าว่า “ตอนที่ Simon ถูกพามาที่คลินิกสัตว์ มันอายุแค่ประมาณสัปดาห์ครึ่งเท่านั้น ที่น่าตกใจคือคนที่พามันมาบอกว่า ‘ถ้าไม่มีใครรับเลี้ยงมัน เราจำเป็นต้องให้มันตาย’ เพราะไม่อยากให้มันเผชิญชีวิตตามลำพัง” เมื่อได้ยินแบบนั้น เธอทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้ชะตากรรมมันเป็นอย่างนั้นโดยไม่ทำอะไรเลย ในที่สุดเธอก็เสนอที่จะรับเลี้ยงมิ้วน้อยตัวนี้ “แมววัย 18 ปีของฉันจากไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน และตอนนี้ํฉันก็พร้อมที่จะดูแลเหมียวตัวใหม่แล้ว” เธอบอก     ตอนแรก Simon เข้ามาพร้อมกับหมัดเต็มตัวเลย แต่หลังจากที่จับมันอาบน้ำ ทำความสะอาดตัว มันกลายเป็นมิ้วตัวใหม่ที่ไร้หมัด ทำให้มันรู้สึกสบายตัวมากขึ้น แม่ใหม่ของ Simon เริ่มให้อาหารมันและคอยดูแลมันทุกวันอย่างสม่ำเสมอ “มันทำทุกอย่างด้วยตัวมันเอง มันไม่ได้ร้องเสียงดังเพื่อขออาหารหรือเรียกร้องความสนใจ วันๆ มันเอาแต่นอนในทุกๆ ที่ที่มันต้องการ”     ถึง Simon จะดูแข็งแรงดีแล้ว แต่แม่ใหม่ก็ยังพามันกลับไปตรวจร่างกายที่คลินิกเสมอ และให้กินยาที่จำเป็น เพื่อให้น้ำหนักของมันขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ตอนนี้น้องแมวกำลังอยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต มันเลยเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา แต่ที่มันชอบที่สุดคือเวลาที่แม่เกาพุงให้     พอรู้ว่าแป้นโน๊ตบุ๊กให้ความอุ่นได้ก็นอนทับซะเลยนะ แถมยังหันเหความสนใจของแม่ด้วยการกดใส่ปุ่มกลับด้านหน้าจอ ร้ายแต่เด็กเลยนะ  …

  • รู้หรือไม่ว่ามีเพียง 6 ประเทศบนโลกเท่านั้นที่ไม่มี “สนามบิน” แต่น่าเที่ยวไม่ใช่เล่นเลยนะ!!

    รู้หรือไม่ว่ามีเพียง 6 ประเทศบนโลกเท่านั้นที่ไม่มี “สนามบิน” แต่น่าเที่ยวไม่ใช่เล่นเลยนะ!!

    ปัจจุบันนี้ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเลือกเดินทางด้วยเครื่องบินโดยเฉพาะเวลาไปต่างประเทศ เพราะมันทั้งสะดวกสบายและประหยัดเวลาในการเดินทาง แต่รู้มั้ยว่าสำหรับ 6 ประเทศนี้ คุณไม่สามารถเดินทางไปด้วยทางเครื่องบินได้ เพราะพวกเขาไม่มีสนามบิน ดังนั้นจึงต้องใช้ช่องทางอื่นแทน   1. นครรัฐวาติกัน แม้ว่านครรัฐวาติกันจะได้รับการยอมรับให้เป็นประเทศหนึ่งในโลก แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีสนามบินของตนเอง แต่วิธีการเดินทางไปก็ไม่ยากหรอก แค่นั่งเครื่องบินไปลงกรุงโรม ประเทศอิตาลี แค่นั้นท่านก็ได้พบกับนครรัฐวาติกันแล้ว   2. ประเทศซานมาริโน ซานมาริโนเป็นประเทศขนาดเล็กที่โอบล้อมไปด้วยแผ่นดินอิตาลี มีประชากรประมาณ 33,000 คน และอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติ Federico Fellini ในเมือง Rimini ประเทศอิตาลี เพียง 14 กิโลเมตร   3. ประเทศโมนาโก ประเทศหรือราชรัฐโมนาโก เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มีประชากรเพียง 38,500 คน หากจะไปที่นี่คุณจะต้องเดินทางผ่านสนามบินนานาชาติ Nice Côte d’Azur ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ห่างจากโมนาโกเพียง 25 นาทีโดยรถยนต์   4. ประเทศลิกเตนสไตน์ ประเทศลิกเตนสไตน์มีขนาดเล็กเป็นอันดับที่…

  • โมเมนต์สุดน่ารัก เมื่อเจ้าอุ๋งๆ โอบกอดกับเต่าทะเลอย่างอบอุ่น แหม๊ อะไรจะรักกันปานน๊านน!!

    โมเมนต์สุดน่ารัก เมื่อเจ้าอุ๋งๆ โอบกอดกับเต่าทะเลอย่างอบอุ่น แหม๊ อะไรจะรักกันปานน๊านน!!

    มิตรภาพคือสิ่งที่ไร้ขอบเขต เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเมื่อ และกับทุกสรรพสิ่ง แม้กระทั่งสัตว์ต่างสายพันธุ์ พวกมันก็กลายเป็นเพื่อนกันได้อย่างน่าทึ่ง เช่นเดียวกับเจ้าแมวน้ำและเต่าทะเลคู่นี้ที่โอบกอดกันใต้น้ำอย่างอบอุ่น กลายเป็นภาพสุดน่ารักที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูอย่างเราๆ   โอ๋ๆๆ ไม่เป็นไรนะ อุ๋งๆ   ภาพความสัมพันธ์อันน่ารักนี้ ถูกถ่ายที่ Olowalu Beach รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยช่างภาพ Beat Korner วัย 62 ปี Korner เล่าว่าตอนแรกเต่าทะเลกำลังหากินอาหารจากสาหร่ายและวัชพืชสีเขียว แต่แล้วก็มีสายเบ็ดไปพันอยู่บริเวณครีบและปากของมันจนไม่สามารถขยับหัวได้     ในระหว่างที่มันกำลังทนทุกข์กับสถานการณ์นี้ เจ้าแมวน้ำตัวหนึ่งก็ผ่านมาเห็นพอดี และดูเหมือนมันจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วย มันเลยเข้ามาโอบกอดและปลอบเต่าทะเลกว่า 20 นาที ส่วนเต่าทะเลดูมันจะไม่ค่อยสนใจแมวน้ำสักเท่าไหร่ มันพยายามว่ายหนีไปที่อื่น แต่แมวน้ำก็ยังคงว่ายตามด้วยความห่วงใย   จุ๊บเหม่งเลย นี่ๆๆ   โมเม้นต์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างเงียบสงบ พวกมันไม่มีอาการรีบร้อน เจ้าเต่าเองก็ดูไม่ทุกข์ทรมานอะไร เป็นไปได้ว่าสายเบ็ดอาจจะหลุดไปแล้ว นอกจากกอดแล้ว แมวน้ำยังเลียหัวเจ้าเต่าทะเลอย่างอ่อนโยนด้วย แม้เต่าจะพยายามว่ายหนีแต่ไม่ได้ผลักหรือต่อสู้เมื่อถูกกอดเลย แสดงว่ามันคงชอบการกอดจากเจ้าแมวน้ำเหมือนกันละมั้ง   จะไปไหนอะ นี่เพื่อนเอง   ที่มา dailymail

  • โจรย่องเข้าบาร์ผ่านปล่องไฟ แต่ดันติดไปไหนไม่ได้ จนต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

    โจรย่องเข้าบาร์ผ่านปล่องไฟ แต่ดันติดไปไหนไม่ได้ จนต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

    คนที่ตั้งใจจะขโมยของเนี่ย พวกเขาคงต้องผ่านการวางแผนมาอย่างดี เพื่อกันการถูกจับได้ หรือความผิดพลาดอื่นๆ ระหว่างทำภารกิจ แต่อย่าคิดว่าวางแผนดีแล้วจะไม่มีผิดพลาดนะ ดูอย่างหนุ่มคนนี้สิ ขนาดคิดแผนสูงด้วยการย่องเข้าบาร์ผ่านทางปล่องไฟ สุดท้ายก็ไปไม่ได้รอด Jesse Alan Berube วัย 32 ปี ถูกจับได้เมื่อวันพุธที่ผ่านมาในเมือง Citrus Heights รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะพยายามบุกเข้าไปขโมยของในบาร์แห่งหนึ่ง     ถ้าเป็นโจรทั่วไปคงจะงัดประตูหรือหน้าต่างเข้ามาในช่วงที่เจ้าของไม่อยู่ แต่ Berube เลือกที่จะเข้าทางปล่องไฟ เพราะคิดว่าคงไม่มีใครคาดคิดแน่ๆ ตอนแรกก็เหมือนจะดีนะ ค่อยหย่อนตัวลงไป แต่แล้วพอลงไปครึ่งทางเขาก็พบว่าช่องมันแคบลงจนทำให้ลงไปต่อไม่ได้ จะถอยขึ้นไปก็ไม่ได้ด้วย เลยติดอยู่อย่างนั้น     เมื่อไม่สามารถทำอะไร และเขาไม่อยากให้ชีวิตต้องมาจบในสภาพนี้ด้วย ในที่สุด Berube ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาตำรวจให้มาช่วย ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก  Citrus Heights Police Department และกู้ภัยจาก Sacramento Metro Fire Department ก็มาถึงที่เกิดเหตุ     เจ้าหน้าที่เผยว่าพบ Berube ติดอยู่กลางปล่องไฟของบาร์แห่งหนึ่งในสภาพที่ถูกปกคลุมด้วยเขม่าควัน หน่วยกู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการช่วยเหลือ จนทำให้ขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่ทันทีที่ขึ้นมาได้ ตำรวจก็ใส่กุญแจมือพร้อมตั้งข้อหาพยายามลักทรัพย์…

  • ชาวเน็ตญี่ปุ่นตกหลุมรัก “เม่นทะเล” แย่งกันกินกะหล่ำปลี มันน่ารักหรือยังไงดีเนี่ย??

    ชาวเน็ตญี่ปุ่นตกหลุมรัก “เม่นทะเล” แย่งกันกินกะหล่ำปลี มันน่ารักหรือยังไงดีเนี่ย??

    เป็นธรรมชาติของสัตว์ที่จะแย่งกินอาหารชิ้นเดียวกัน เหมือนกับสุนัขแย่งกระดูกกันนั่นแหละ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นการกระทำนี้จากเม่นทะเลด้วย แหม่ เม่นทะเลก็เป็นสิ่งมีชีวิตนะ มันจำเป็นต้องกินเพื่อความอยู่รอดเหมือนสัตว์ทั่วไปนั่นแหละ แต่ที่แปลกคงเป็นเพราะมนุษย์เห็นพวกมันแย่งใบกะหล่ำปลีกันละมั้ง     ภาพเหล่าเม่นทะเลยื้อแย่งใบกะหล่ำปลีนี้ ถูกถ่ายได้ที่ Aburatsubo Marine Park ในจังหวัดคะนะงะวะ ประเทศญี่ปุ่น โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Cellutane Cellutane เล่าว่า ตอนแรกเม่นทะเลจำนวนหนึ่งอยู่รวมกันในตู้กระจกใส จากนั้นผู้ดูแลก็เอาใบกะหล่ำปลีหย่อนลงไปให้พวกมันกิน     โดยทันทีที่หย่อนลงไป มีเจ้าเม่นทะเลสองตัวต่างจับจ้องไปที่ใบกะหล่ำปลีใบเดียวกัน จากนั้นมันก็พุ่งไปที่เป้าหมายพร้อมกัน จนทำให้เกิดการยื้อแย่งขึ้น ต่อมา Cellutane ได้นำภาพเหล่านี้ไปแชร์ลงในทวิตเตอร์ และไม่น่าเชื่อว่ามันได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก เรื่องที่เม่นทะเลกินกะหล่ำปลีว่าแปลกแล้ว การเห็นพวกมันแย่งกันแปลกกว่าอีก เพราะเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นภาพแบบนี้กันสักเท่าไหร่     มีชาวเน็ตบางคนตัดต่อใส่อีโมชั่นที่หน้ามันด้วย   ชาวเน็ตอีกคนบอกว่า “มันไม่แปลกนะ ตัวนี้ที่เราไปเห็น มันก็กินใบกะหล่ำปลีเหมือนกัน”   เห็นมีแต่ขนแบบนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าปากเม่นทะเลมันอยู่ตรงไหนนะ? แล้วมันมีลักษณะยังไงน้อ? อะ ลองดูวิดีโอด้านล่างนี้ รู้เลย     ที่มา rocketnews24

  • หญิงสาวหวังดีช่วยส่งหลักฐานแฟนนอกใจให้ผู้หญิงด้วยกัน ที่ไหนได้เป็นฝาแฝดซะงั้น

    หญิงสาวหวังดีช่วยส่งหลักฐานแฟนนอกใจให้ผู้หญิงด้วยกัน ที่ไหนได้เป็นฝาแฝดซะงั้น

    เวลาที่เห็นแฟนเพื่อนอยู่กับกิ๊กเนี่ย หลายๆ คนคงทนไม่ได้ที่จะเก็บไว้เป็นความลับ แต่เราส่วนใหญ่มักจะไปบอกเพื่อนทันที เพราะหวังดีไม่อยากให้เพื่อนโดนหลอก อย่างสาว Rebekah ที่เห็นแฟนหนุ่มของ Jasmine Rios อยู่กับสาวอื่นแบบสนิทแนบชิด กะหนุงกะหนิง เธอจึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแล้วส่งให้เธอดู เพราะไม่อยากเห็นผู้หญิงด้วยกันต้องถูกหลอก     จริงๆ แล้ว Jasmine กับ Rebekah ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่รู้เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กเท่านั้น และเมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น Rebekah จึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง เธอส่งรูปพร้อมข้อความให้ Jasmine ว่า “หวัดดี ฉันรู้ว่าเราไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ฉันคิดฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนของเธอกำลังอี๋อ๋อกับผู้หญิงคนอื่นในห้องสมุด พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกันด้วย ตอนแรกฉันไม่รู้ว่าจะบอกเธอดีมั้ย หรือจะบอกยังไงดี แต่ในฐานะผู้หญิงเคยโดนแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเลยคิดว่าเธอควรได้รู้เรื่องนี้” “ฉันหวังว่านี่จะไม่ทำให้คุณกับเขามีปัญหากันใหญ่โตนะ ฉันรู้สึกแย่จริงๆ แต่ฉันคิดว่ามันผิดถ้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและไม่พูดอะไร ถ้าเธออยากให้ฉันจัดการให้บอกนะ ฉันจะอยู่ที่นี่อีกสักพักหนึ่ง”     ลองจินตนาการดูว่าอยู่ดีๆ ก็มีคนแปลกหน้าส่งข้อความบอกว่าแฟนคุณอยู่กับคนอื่น แถมยังเสนอตัวที่จะจัดการให้ด้วย เป็นคุณ คุณจะรู้สึกยังไง? อย่างไรก็ตาม Rebekah ไม่ได้รู้สึกอะไรกับภาพที่หญิงแปลกหน้าส่งมาให้ แถมหลุดขำด้วยซ้ำ เพราะชายในภาพที่หญิงคนนั้นคิดว่าเป็นแฟนของเธอ จริงๆ แล้วเป็นพี่ชายฝาแฝดต่างหาก และพี่ชายฝาแฝดคนนั้นก็กำลังจู๋จี๋กับแฟนของเขาอีกด้วย    So my boyfriend has…

  • เปิด 5 สำนักทางปรัชญา ที่จะทำให้คุณเข้าใจโลกแห่ง ‘ปราชญ์’ มากยิ่งขึ้นอีกนิสสส

    เปิด 5 สำนักทางปรัชญา ที่จะทำให้คุณเข้าใจโลกแห่ง ‘ปราชญ์’ มากยิ่งขึ้นอีกนิสสส

    หากพูดถึงปรัชญาในบ้านเรา หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วปรัชญามันแฝงอยู่ในชีวิตประจำวันของเรานี่แหละ เพียงแค่เราไม่รู้เท่านั้นเอง เพื่อทำความเข้าใจความเป็นปรัชญามากขึ้น #เหมียวขี้ส่อง ขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับปรัชญาจาก 5 สำนัก ที่จะทำให้เห็นว่าโลกของปรัชญานั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง?   1. สุญนิยม แนวคิดหลักของสำนักสุญนิยมคือ การไม่เชื่อหรือไม่ยอมรับระบบคุณค่าใดๆ ในทางปรัชญา ยกตัวอย่างเช่น ไม่เชื่อว่าระบบทางจริยศาสตร์นั้นมีอยู่จริง ไม่เชื่อว่าชีวิตนี้จะมีความหมายหรือคุณค่าอะไร เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ แนวคิดสุญนิยมจึงถูกยกให้เป็นแนวคิดแห่งการทำลายล้าง เพราะคนที่เชื่อในแนวคิดนี้มักจะทำลายชีวิตอื่นเพราะเห็นว่าไม่มีค่า อย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในรัสเซียก็มีแนวคิดนี้หนุนหลังอยู่     2. อัตถิภาวนิยม นักปรัชญาที่เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้คือ เซอเรน เคียร์เคอกอร์ โดยตั้งคำถามว่าจุดประสงค์ของชีวิตคืออะไรหากไม่มีจุดมุ่งหมาย? เราจะหาคุณค่าจากไหน หลังจากที่พระเจ้าตายแล้ว? และเราจะเผชิญหน้ากับความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้ได้อย่างไร? สำหรับคำตอบของคำถามนั้นขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคล เพราะอัตถิภาวนิยมเชื่อว่ามนุษย์ไม่ใช่วัตถุแต่มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก มีความต้องการ ดังนั้นแนวคิดสำคัญของแนวคิดนี้ก็คือ ความมีเสรีภาพ ความรู้สึกรับผิดชอบและการเลือกตัดสินใจ   3. สุขนิยม ลัทธินี้ถือว่าความสุขสบายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรแสวงหา ไม่มีอะไรอีกนอกจากความสุขสบายของชีวิตที่มนุษย์ต้องการ การกระทำทุกอย่างในชีวิตประจำวันก็เพื่อความสุขสบาย นักปรัชญาสุขนิยมส่วนใหญ่บอกว่า คุณควรจะอ่านหนังสือมากกว่าดื่มเหล้า เพราะผลจากการอ่านหนังสือให้ความสุขมากกว่าการเมา เพราะความสุขในที่นี้ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น   4. ลัทธิมาร์กซ์ ลัทธินี้เป็นการรวบรวมแนวคิดของนักปรัชญา คาร์ล…

  • เจ้ากวางน้อยบาดเจ็บจากการถูกรถชน หญิงสาวเลยอาสารับมันมาดูแลที่บ้าน น่ารักงุ้งงิ้งเชียว

    เจ้ากวางน้อยบาดเจ็บจากการถูกรถชน หญิงสาวเลยอาสารับมันมาดูแลที่บ้าน น่ารักงุ้งงิ้งเชียว

    อุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งไม่ใช่แค่กับมนุษย์เท่านั้น สัตว์เองก็ตกเป็นเหยื่อในบางครั้ง น่าเศร้าที่พวกมันมักจะถูกปล่อยให้ทรมานหรือตายอยู่ข้างถนนโดยไม่ได้รับการเหลียวแล แต่สำหรับเจ้ากวางน้อยตัวนี้ นับว่ามีความโชคดีอยู่ในความโชคร้าย เพราะหลังจากที่มันถูกรถชนจนได้รับบาดเจ็บ ก็มีคนมาช่วยเหลือมันได้ทันเวลา     ในวันที่เกิดเหตุนั้น ขณะที่คนขับรถตู้คนหนึ่งขับรถไปตามถนน จู่ๆ เขาก็เห็นกวางน้อยตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างถนนโดยมีเลือดไหลออกจากจมูกของมัน เขาคิดว่ามันคงถูกรถชนมาแน่ๆ เธอลงไปดูอาการมันสักพัก ก่อนจะพามันไปส่งให้กับ Emma Hickey ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า Furrows Wildlife Rescue Centre ในมาล์มสบรี มณฑลวิลท์เชอร์ สหราชอาณาจักร     นับว่าโชคดีที่น้องกวางไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ Emma ก็ยังทำใจไม่ได้ที่ปล่อยมันกลับไปสู่ธรรมชาติ เพราะมันยังเด็กเกินไปที่จะใช้ชีวิตตามลำพัง ดังนั้นเธอจึงตั้งชื่อให้มันว่า Newbie ก่อนพามันกลับไปดูแลต่อที่บ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และตั้งใจจะพามันกลับสู่ป่าหลังจากหมดเทศกาลแล้ว     Emma บอกว่า “มีรถหลายคันที่ขับรถผ่านกวางน้อยตัวนี้โดยไม่สนใจมันเลย แต่มีชายคนหนึ่งตัดสินใจหยุดรถแล้วลงไปช่วยเหลือมันทันที” “ตอนนี้ Newbie ยังดูตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ ฉันคิดว่าไม่ควรปล่อยให้มันอยู่โดยไม่มีแม่ ดังนั้นก็เลยพามันกลับมาอยู่บ้านด้วย”     เธอบอกอีกว่าในหนึ่งวัน Newbie จะกินผัก นมโค 3 ขวด น้ำมันตับปลา และไข่ ที่สำคัญมันไม่ดื้อ ไม่ซน แต่มีความน่ารักเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง  …

  • มนุษย์ช่วยเหลือสองมิ้วขาดแม่ เปลี่ยนชีวิตของมันในทันที ไม่ต้องลำบากอีกต่อไปแล้ว

    มนุษย์ช่วยเหลือสองมิ้วขาดแม่ เปลี่ยนชีวิตของมันในทันที ไม่ต้องลำบากอีกต่อไปแล้ว

    ทารกเป็นวัยที่จำเป็นต้องได้รับความรัก ความอบอุ่น และการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแม่หรือผู้ใหญ่ แต่น่าเศร้าที่มิ้วน้อยสี่พี่น้องถูกทิ้งให้เผชิญชีวิตตามลำพังตั้งแต่แบเบาะ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว Ike Osbun และเพื่อนร่วมงานของเขาเห็นมิ้วน้อยจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่บนถนน Williamsburg บรูคลิน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเห็นแม่ของพวกอันเดินวนเวียนอยู่ใกล้กับที่ทำงานของพวกเขา     แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น Ike สังเกตเห็นว่าแม่ของเหล่ามิ้วน้อยไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว เขาพยายามตามหาแม่แมวแต่ไม่เจอ เลยคิดว่าลูกแมวพวกนี้คงถูกทิ้งแล้วแน่ๆ เมื่อรู้ว่าแม่แมวไม่กลับมาแล้ว Ike และเพื่อนร่วมงานจึงให้การช่วยเหลือลูกแมวด้วยการเอาอาหารให้ คอยเล่นกับพวกมันบ่อยๆ นั่นทำให้มิตรภาพระหว่างคนกับแมวพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มบอกว่า “เม่ื่อเราไปนั่งลงแถวๆ นั้น ลูกแมวก็จะวิ่งมาหาเรา พวกมันไม่มีแม่และมันกำลังต้องการบ้าน”     จากนั้นมีพนักงานคนหนึ่งเสนอตัวที่จะรับแมวไปเลี้ยง แต่เขาสามารถเอาไปได้แค่ 2 ตัว และวันนั้น Ike รู้สึกว่าเขาคงกลับบ้านไปอย่างไม่มีความสุขถ้าไม่ได้ช่วยเหลือลูกแมวอีก 2 ตัวที่เหลือ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงโทรไปถามทางบ้านว่า ‘ขอพาแมวน้อย 2 ตัว ไปอยู่บ้านด้วยได้มั้ย?’ และโชคดีที่สมาชิกครอบครัวก็เห็นด้วยที่จะทำแบบนั้น     วันต่อมาเขาพามิ้วน้อยทั้ง 2 ตัว ไปยัง Delaware ซึ่งเป็นคลินิกสัตว์ที่น้องสาวของเขา Jenny ทำงานอยู่ เพื่อตรวจสุขภาพให้เจ้าเหมียว หลังจากที่ตรวจสุขภาพเสร็จ ก็ทราบผลว่าพวกมันเป็นโรคเลือดจาง เพราะร่างกายพวกมันเต็มไปด้วยเห็บหมัดที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อและมีแผลเต็มไปหมด  …

  • ฉลาดนักนะเจ้าหมา คาบเตียงนอนจากทุกที่ไปไว้ที่เดียวกัน จะได้นอนเตียงใหญ่ๆ

    ฉลาดนักนะเจ้าหมา คาบเตียงนอนจากทุกที่ไปไว้ที่เดียวกัน จะได้นอนเตียงใหญ่ๆ

    ใครๆ ก็อยากนอนบนเตียงใหญ่ๆ กว้างๆ กันทั้งนั้น เพราะมันสบาย จะพลิกตัวยังไงก็ไม่ต้องกลัวตกเตียง แต่ก็ไม่คิดว่าสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขเนี่ย มันจะฉลาดจนคิดได้แบบนี้เหมือนกัน นี่คือความแสนรู้ของคู่หู Eevee และ Finnick ที่ได้รับการช่วยเหลือและได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่แสนอบอุ่นเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว     ทั้งสองตัวรักที่จะเล่นด้วยกัน แม้ว่าพวกมันจะมีลักษณะนิสัยที่ต่างกันก็ตาม Eevee มักจะหมกมุ่นอยู่กับของเล่น ส่วน Finnick จะให้ความสนใจกับเตียงนอนเป็นพิเศษ เนื่องจาก Eevee ชอบของเล่นมากๆ ดังนั้นมันจึงเก็บของเล่นทุกชิ้นไว้ที่ที่นอนของมัน โดยไม่ยอมแบ่งให้ Finnick เล่นเลย     ส่วน Finnick ดูไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่ เพราะมันสนใจแต่ที่นอน นั่นทำให้ในบ้านมีที่นอนสุนัขถึง 5 อัน วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วบ้าน ทั้งๆ ที่มีหมาแค่ 2 ตัว ถามว่าที่นอนทั้ง 5 อันเนี่ยเป็นของตัวไหนบ้าง เจ้าของเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะเจ้า Finnick เล่นครองทุกอันอะ ไม่เว้นแม้กระทั่งที่นอนของ Eevee     Rachel Canfield เจ้าของน้องหมาบอกว่า…

  • ขุ่นแม่สร้างบ้านจิ๋ว เพื่อใช้ชีวิตช่วงหลังวัยเกษียณ แถมยังปล่อยเช่าในราคาเดือนละ 2,400 เอ๊ง!?

    ขุ่นแม่สร้างบ้านจิ๋ว เพื่อใช้ชีวิตช่วงหลังวัยเกษียณ แถมยังปล่อยเช่าในราคาเดือนละ 2,400 เอ๊ง!?

    ขึ้นชื่อว่าบ้านแล้ว มันต้องมีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว หรืออาจจะรวมห้องนั่งเล่นไปด้วยก็ได้ ซึ่งการจะมีครบทั้งหมดนี้ คุณต้องใช้พื้นที่มากพอสมควร หรือหากจะเช่าบ้านที่มีทุกอย่างครบแบบนี้ คงต้องจ่ายไม่ใช่น้อยเลยหละ แต่คุณแม่ Michelle “MJ” Boyle พิสูจน์ให้เห็นว่าการจะอยู่ในบ้านที่มีทุกอย่างที่กล่าวมานั้น มันไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะหรือต้องจ่ายเงินจำนวนมากเสมอไป     Michelle ได้สร้างบ้านขนาดจิ๋ว ตั้งอยู่ที่ชุมชน Pacific Northwest ใน Sherwood รัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปล่อยให้เช่าเพียงเดือนละ 2,400 บาท คุณแม่ตัดสินใจสร้างบ้านจิ๋วหลังนี้ก่อนที่เธอจะเกษียณ เพื่อเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตหลังเกษียณ ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือน และสามารถสร้างเงินออมจากค่าเช่าได้ด้วย     เธอบอกว่าแทนที่จะเช่าบ้านจิ๋ว Tiny House ที่ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ในพื้นที่ 2.5 ไร่ ในราคา 52,000 บาทต่อเดือน สู้สร้างบ้านเองไม่ดีกว่าเหรอ อาจจะเล็กกว่าแต่มันก็ทำให้มีเงินเก็บนะ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจสร้างบ้านจิ๋วสุดน่ารักของตัวเอง ซึ่งกินพื้นที่เพียง 18 ตารางเมตร แต่มีทุกอย่างเหมือนบ้านทั่วไป ที่สำคัญราคาเช่าแค่ 2,400 บาทต่อเดือนเท่านั้น     Michelle…

  • ผู้เชี่ยวชาญด้าน ‘ดาบซามูไร’ ถูกพบเสียชีวิตในห้องพัก เพราะทำพิธีกรรม ‘ฮาราคีรี’!?

    ผู้เชี่ยวชาญด้าน ‘ดาบซามูไร’ ถูกพบเสียชีวิตในห้องพัก เพราะทำพิธีกรรม ‘ฮาราคีรี’!?

    มนุษย์เราเมื่อรักหรือเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ ก็มักจะทุ่มเทชีวิตให้สิ่งนั้น บางคนถึงกับยอมแลกชีวิตตัวเองเพื่อบรรลุเป้าหมายตามสิ่งที่เชื่อ อย่าง Alun Jones ผู้เชี่ยวชาญด้านดาบซามูไรวัย 51 ปี ที่ตัดสินใจจบชีวิตด้วยอาวุธของเขาเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีกรรมของนักรบชาวญี่ปุ่นโบราณ สื่อรายงานว่า Jones ถูกพบเสียชีวิตภายในห้องพักที่เมืองนิวพอร์ต รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในสภาพนองเลือด หลังทำพิธีเซ็ปปุกุ หรือ ฮาราคีรี ซึ่งเป็นการฆ่าตัวตายโดยการคว้านท้องในยุคซามูไร ของประเทศญี่ปุ่น     Jones เริ่มเก็บสะสมใบมีดหลังจากที่ทำงานญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายปี แต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Margaret แม่ของเขากลับพบว่า Jones นอนเสียชีวิตบนดาบโดยมืออยู่เหนือศีรษะ Jones ทำงานอยู่ในร้านขายอาวุธที่ประเทศญี่ปุ่น และเขามักจะกลับมาอยู่กับแม่ที่ประเทศอังกฤษในช่วงวันหยุดของเขาเสมอ แต่ในการไต่สวนเกี่ยวกับการตายของเขา Margaret เผยว่าการกลับบ้านครั้งนี้ดูเหมือน Jones จะไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนไม่ใช่ลูกชายที่เธอคุ้นเคย     Marianne Caulfield น้องสาวของเขาบอกว่า “เขาใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี และเมื่อเขากลับมา เขามักจะออกไปหาเพื่อนๆ เสมอ แต่ครั้งนี้เขาดูผอมลงไปมากและมักจะอยู่แต่ในห้องของตัวเองเกือบตลอดเวลา” “เขามีดาบซามูไรจำนวนหนึ่งที่เก็บสะสมเอาไว้ และดูเหมือน Jones จะให้ความสนใจกับประเพณีของซามูไรญี่ปุ่นมากกว่าเดิมอีก” น้องสาวกล่าว ทั้งนี้ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เขาจะถูกพบว่าเสียชีวิต เพื่อนบ้านคนหนึ่งเห็นเขาหลับอยู่บนโซฟา โดยมีสมุดภาพครอบครัวเปิดอยู่ข้างๆ เขา     ในการไต่สวนระบุอีกว่าสาเหตุที่…

  • น้องหมาจูงเพื่อนม้า เพื่อพาไปกินน้ำเอาชีวิตรอด แม้อากาศจะเย็นจัด -50 องศาก็ตาม…

    น้องหมาจูงเพื่อนม้า เพื่อพาไปกินน้ำเอาชีวิตรอด แม้อากาศจะเย็นจัด -50 องศาก็ตาม…

    แม้อากาศจะหนาวเย็นสักแค่ไหน แต่สัตว์ก็ยังต้องดื่มน้ำเพื่อความอยู่รอด แต่เจ้าม้า Kunduchene กลับไม่ยอมลุกไปไหนเลย จนน้องหมา Umka ต้องอาสาเข้ามาช่วย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Dyupsya ในย่าน Ust-Aldan ของ Yakutia ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใหญ่และหนาวที่สุดในรัสเซียหรือที่เรียกว่าสาธารณรัฐซาฮา     มีคำพูดหนึ่งในภาษาอังกฤษกล่าวไว้ว่า “คุณสามารถจูงม้าไปหาน้ำได้ แต่คุณไม่สามารถทำให้มันดื่มน้ำได้” แต่สำหรับเจ้า Umka แล้ว มันสามารถทำทั้งสองนี้ได้ดีกับเจ้าม้า Kunduchene แม้ว่ามันค่อนข้างดื้อก็ตาม ในแต่ละวัน Umka จะจูง Kunduchene ม้าวัย 6 ขวบ เดินฝ่าหิมะและทะเลน้ำแข็ง เพื่อไปดื่มน้ำในบ่อน้ำท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด     Semen Sivtsev เจ้าของม้าเล่าว่า “Kunduchene เป็นสัตว์ตัวเดียวที่มีปัญหามากที่สุด มันไม่ค่อยเชื่อฟังเลย แต่ตอนนี้ผมมีผู้ช่วยพิเศษที่สามารถพามันไปดื่มน้ำในบ่อน้ำแข็งได้ทุกวัน” ลูกสาวของเขา Maria Zakharova เสริมอีกว่า “ปกติแล้วเราไม่สามารถจูง Kunduchene ไปไหนมาไหนได้เลย มันจะต่อต้านเราเสมอ ดังนั้นเราจึงสอนสุนัขให้มาช่วย และดูเหมือน Umka จะสนุกกับภารกิจใหม่นี้ด้วยสิ” “ตอนแรกๆ ม้าก็ไม่เชื่อฟัง Umka เหมือนกันนั่นแหละ แต่น้องหมาพยายามดึงมันไปจนได้ ตอนนี้กลายเป็นว่าเจ้าม้าเดินตามสุนัขโดยไม่ต้องออกแรงดึงเลย”     แน่นอนว่าถ้าเจ้าม้าไม่เต็มใจไป น้องหมาคงพาไปไม่ได้เหมือนกัน เพราะขณะที่ Umka มีน้ำหนัก 60…

  • หนุ่มแวะไปซื้ออาหาร แต่โดนเจ้าเหมียวกระโจนผ่านกระจก มายึดตักมนุษย์เป็นของตัวเองเฉย…

    หนุ่มแวะไปซื้ออาหาร แต่โดนเจ้าเหมียวกระโจนผ่านกระจก มายึดตักมนุษย์เป็นของตัวเองเฉย…

    ความไร้เดียงสาของแมวเหมียวเนี่ย มีพลังทำลายล้างสูงนะ ทั้งลูกอ้อน ทั้งความน่ารัก รวมๆ กันแล้วมันสามารถยึดทุกอย่างที่มันต้องการได้ง่ายๆ เลยหละ พลังนี้มันไม่ได้ใช้ได้กับเฉพาะทาสแมวเท่านั้นนะ แต่คนทั่วไปก็ต้านทานไม่ไหวเหมือนกัน ดูอย่างพ่อหนุ่มคนนี้สิ จอดรถแวะซื้ออาหารแป๊บเดียว โดนเจ้าเหมียวมายึดรถเฉย     เหตุการณ์ยึดครองในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อชายคนหนึ่งจอดรถไว้หน้าร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ด Taco Bell ในซิลเวสเตอร์ รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อซื้ออาหาร แต่ขณะที่เขาเลื่อนกระจกลงเพื่อนำอาหารเข้ามา จู่ๆ เจ้าเหมียวแปลกหน้าตัวหนึ่งก็กระโดดเข้ามาในรถเฉย แถมยังไปนอนบนตักของชายหนุ่มอย่างสบายใจเฉิบ นั่นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจมากว่าทำไมมันถึงกล้าเข้ามาในรถของคนที่ไม่เคยเจอกันเลย แต่พอจะไล่มันลงจากรถก็กลัวว่ามันจะได้รับอันตรายอีก     ชายหนุ่มเลยเข้าไปถามพนักงาน Taco Bell แต่พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มาจากไหน… ตอนนั้นการจราจรวุ่นวายมาก ทั้งผู้คน ทั้งรถรามีอยู่เต็มถนนเลย ถ้าปล่อยเจ้าเหมียวลงไปคงไม่ปลอดภัยแน่ๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูว่ามันมีเจ้าของหรือเปล่า หลังจากตรวจเสร็จแล้ว สัตวแพทย์ยืนยันว่าไม่มีไมโครชิปฝังอยู่ในตัวมัน และเร็วๆ นี้ก็ไม่ได้รับแจ้งว่ามีแมวหายออกไปจากบ้านด้วย     สุดท้ายชายหนุ่มเลยพามันกลับบ้านด้วย เพื่อให้มันได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย มีอาหารมากมายให้มันกิน และตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวว่า Jose ชายหนุ่มบอกว่า “ที่นี่มีผู้คนละทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเองตลอดเวลา เนื่องจากพื้นที่ที่ไปเจอเจ้าเหมียวนั้น ผู้คนมีรายได้ค่อนข้างต่ำ” “ผมจึงไม่ค่อยแปลกใจว่าทำไมมันถึงถูกทิ้งจนกลายเป็นแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ตามข้างถนน ตอนนี้ผมพยายามทุกวิถีทางเพื่อพามันกลับไปหาเจ้าของ ถ้ามีนะ แต่ถ้าไม่มีผมก็ยินดีที่จะรับเลี้ยงมัน”    …

  • นักกีฬาจากรอบโลกร่วมสลัดผ้า เพื่อหาเงินช่วยนักกีฬาเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

    นักกีฬาจากรอบโลกร่วมสลัดผ้า เพื่อหาเงินช่วยนักกีฬาเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

    องค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร เป็นองค์กรที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้น แต่พวกเขาจะดำเนินการไม่ได้เลยหากขาดแรงสนับสนุนจากสังคม ด้วยเหตุนี้นักกีฬาจากรอบโลกจึงเข้าร่วมโปรเจกต์ถ่ายภาพทำปฏิทิน โดยสลัดผ้าโชว์เรือนร่างอันแข็งแกร่งเพื่อระดมเงินช่วยเหลือองค์กรการกุศล   Jamie Alderton อดีตทหารผ่านศึก เจ้าของยิมและครูฝึก เป็นหนึ่งใน 18 คนที่เข้าร่วมโปรเจกต์สลัดผ้า   ตัวแทนนักกีฬาที่ร่วมโปรเจกต์ครั้งนี้มีทั้งหมด 18 คน ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นการถ่ายภาพตามสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ หนึ่งในนั้นมี Rafal Gil อดีตนักฟุตบอลของสโมสร Ipswich Town กับทหารผ่านศึกและเจ้าของยิม Jamie Alderton เป็นตัวแทนจากประเทศอังกฤษ   Patryk Rybarski รองแชมป์ Pole Dance World   สำหรับปฏิทินปี 2018 นี้ เต็มไปด้วยภาพร่างกายอันงดงามของนักกีฬาที่มีมาพร้อมกับตารางฝึกซ้อมประจำวัน ตารางบันทึกผล ความสำเร็จ และผลลัพธ์ของนักกีฬาแต่ละคน โปรเจกต์นี้เป็นประโยชน์กับ One Year Fund เป็นอย่างมากในการจัดหารองเท้าและอุปกรณ์สำหรับนักกีฬาเยาวชนที่ขาดแคลนเงินทุน   นักธนูโอลิมปิกชาวโปแลนด์ Karina Lipiarska-Palka   Dominika Cuda ช่างภาพผู้ก่อตั้งโปรเจกต์นี้และอดีตนักกีฬา Biathlonist กล่าวว่า “เราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้เยาวชนได้ทำตามความฝันและประสบความสำเร็จในทางที่พวกเขาเลือก” คุณอาจจะไม่ใช่ 1…

  • 16 เสื้อผ้าสวมใส่จากโลกอนาคต ล้ำซะจนไม่อยากให้วันที่ต้องใส่อะไรแบบนี้มาถึง!!

    16 เสื้อผ้าสวมใส่จากโลกอนาคต ล้ำซะจนไม่อยากให้วันที่ต้องใส่อะไรแบบนี้มาถึง!!

    ผู้คนมักสงสัยว่าชีวิตในอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร? ต้องได้กินอาหารแบบไหน? ยานพาหนะจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ?และเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นจะมีหน้าตาแตกต่างจากตอนนี้ยังไง? หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังกังวลเกี่ยวกับอนาคต ลองมาดูสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่ว่ากันว่าจะได้ใส่ในอนาคตที่มีความล้ำซะจนตื่นเต้นแทนคนที่อยู่ถึงวันนั้น   1. เสื้อผ้าไร้รอยต่อ นักออกแบบบางคนเชื่อว่าอนาคตเราจะสวมเสื้อผ้าที่ไร้รอยต่อ เพราะมันง่ายต่อการสวมใส่และการถอดออก แต่มีข้อสงสัยว่าเสื้อผ้าแบบนี้จะรับมือกับสภาพอากาศต่างๆ ได้เหรอ?   2. ชุดแมงมุม ถ้าคุณไม่ชอบอยู่ในพื้นที่แออัดโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน บางทีชุดแมงมุมนี้อาจช่วยคุณได้นะ และผู้ออกแบบชุดนี้ก็มั่นใจว่ามันต้องกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงหลายๆ คนแน่ๆ   3. เสื้อเดินทาง คนที่ชอบเดินทางแต่ไม่ต้องการพกกระเป๋าไปด้วย คุณอาจจะชอบเสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้ก็ได้ เพราะมันออกแบบมาพร้อมกระเป๋าอเนกประสงค์ที่สามารถบรรจุทุกความต้องการของคุณได้ ฟังดูดีเนาะ แค่มีเสื้อตัวเดียวก็สามารถใส่ทุกอย่างที่ต้องการได้…   4. ชุดที่ขับเคลื่อนด้วย Superflex นี่คือบอดี้สูทที่ได้รับการออกแบบด้วยเซนเซอร์และเทคโนโลยีที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาด้วยกายภาพบำบัด กลับมามีร่างกายที่เข้าที่เข้าทางหรือปกติอีกครั้ง ในอนาคตแม้แต่คนไม่ได้เป็นอะไรก็ใส่ได้นะ   5. เสื้อผ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในอนาคตมนุษยชาติคงมีความต้องการพลังงานทางเลือกมากขึ้น และนี่คือเสื้อผ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมันจะกลายเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการชาร์จอุปกรณ์สื่อสารระหว่างเดินทางได้   6. เสื้อผ้า 3 มิติ ผู้ออกแบบเชื่อว่าในอนาคตมนุษย์คงต้องการเสื้อผ้าที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปตามรูปร่างและการเคลื่อนไหวของร่างกาย ดังนั้นเสื้อผ้า 3 มิตินี้น่าจะตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้มากที่สุด   7. ชุด Enflux นี่คือชุดออกกำลังกาย Enflux ที่สามารถวิเคราะห์ร่างกายของมนุษย์ได้ โดยมันจะแสดงภาพ 3…

  • โฆษณา ‘ห้างเฟอร์นิเจอร์’ ในหนังสือพิมพ์แบบโคตรล้ำ ที่คุณต้องไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ๆ!!

    โฆษณา ‘ห้างเฟอร์นิเจอร์’ ในหนังสือพิมพ์แบบโคตรล้ำ ที่คุณต้องไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ๆ!!

    ใครที่อ่านหนังสือพิมพ์เป็นประจำคงจะเห็นการโฆษณาสินค้าแปะอยู่ด้วยเกือบทุกหน้า แต่โฆษณาเหล่านั้นมักถูกมองข้ามเสมอ ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ แต่สำหรับการโฆษณาของห้างเฟอร์นิเจอร์ HIPER CENTRO Corona ที่แฝงอยู่ในหนังสือพิมพ์ มีความสร้างสรรค์ซะจนคุณต้องดูแล้วดูอีก     นี่เป็นการโฆษณาอันสร้างสรรค์ที่แฝงอยู่ในหนังสือพิมพ์ของประเทศโคลอมเบีย ที่ทางผู้อำนวยการ Felipe Salazar เป็นคนคิดขึ้นมา เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า Salazar ตั้งชื่อคอนเซ็ปต์ของเขาว่า Cocinas Corona หรือ Corona Kitchen ซึ่งเป็นการยกห้องครัวมาเป็นโฆษณา     แต่ความพิเศษของมันคือ มันไม่ใช่ภาพห้องครัวแบบจะๆ เหมือนโฆษณาทั่วไป แต่เป็นภาพห้องครัว 3 มิติที่แฝงอยู่ในตัวหนังสือ ซึ่งถ้าไม่สังเกตดีๆ คุณอาจจะไม่รู้เลยว่ามันเป็นห้องครัว     สำหรับ HIPER CENTRO Corona นั้น เป็นห้างที่ขายของใช้และอุปกรณ์ตกแต่งภายในบ้าน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโฮมโปรในบ้านเรานี่แหละ     ที่นี้เวลาอ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารต่างๆ ลองสังเกตดูดีๆ นะ อาจจะพบโฆษณาสุดสร้างสรรค์แบบนี้แฝงอยู่ก็เป็นได้ ที่มา designyoutrust l mymodernmet

  • สามีหึงโหด จามขวานใส่มือภรรยาจนขาด หลังพบข้อความที่ชายอื่นส่งให้และเคยถูกขอหย่า

    สามีหึงโหด จามขวานใส่มือภรรยาจนขาด หลังพบข้อความที่ชายอื่นส่งให้และเคยถูกขอหย่า

    ความรักมักจะมาพร้อมกับความหึงหวงเสมอ ซึ่งไม่ใช่เร่ื่องผิดอะไรเพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น แต่ถ้าความรู้สึกนั้นมันมากไป อาจทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ อย่างกรณีของ Dmitry วัย 26 ปี ที่จามขวานใส่ข้อมือของภรรยาจนขาด Margarita Grachyova วัย 25 ปี หลังพบข้อความที่ชายอื่นส่งมาให้ จนทำให้คิดว่าเธอกำลังนอกจากใจเขาอยู่     ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ Margarita เคยขอหย่ากับสามีเนื่องจากเขาเคยใช้ความรุนแรงกับเธอ และทั้งสองคนก็แยกกันอยู่แล้ว ล่าสุดคุณหมอได้ทำการต่อข้อมือให้เธอข้างหนึ่งแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะสามารถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ส่วนมืออีกข้างหนึ่งได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จนไม่สามารถรักษาได้     Margarita เล่าว่า “ฉันยื่นคำร้องเพื่อขอหย่ากับเขา และเมื่อเขาเห็นข้อความที่ฉันคุยกับเพื่อนร่วมงานชาย ทำให้เขาเชื่อว่าฉันกำลังเดตกับเพื่อนคนนี้ และเคยตามฉันที่โรงหนังด้วย” เธอบอกว่า “เขาหึงหวงฉัน… ขอโทษนะคะตอนนี้ฉันรู้สึกเจ็บปวดเกินที่จะจำเรื่องที่เกิดทั้งหมดได้” ทางด้านฝ่ายชายต้องถูกคุมขังในคุกจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าและต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 15 ปี หากพิจารณาคดีแล้วพบว่าเขามีความผิดจริง     เขาสารภาพกับตำรวจว่าใช้ขวานจามมือภรรยาหลังจากที่ขับรถพาเธอเข้าไปในป่า โดยทิ้งลูกๆ ไว้ที่โรงเรียนอนุบาล จากนั้นก็คงมือบดขยี้นิ้วมือภรรยาด้วยขวานและจามขวานใส่สะโพกของเธอก่อนจะตัดมือทั้งสองข้างของเธอจนขาด หลังจากที่ระบายความโกรธเสร็จ เขาได้พาภรรยาไปโรงพยาบาล ก่อนจะไปมอบตัวกับตำรวจ…เมื่อถามว่ารู้สึกผิดกับสิ่งทำและคิดว่ามันเป็นการกระทำที่โง่เขลามั้ย? เขาตอบว่า “แน่นอน ผมสำนึกผิด และสิ่่งที่ทำลงไปมันโง่มากๆ” เขาบอกอีกว่าก่อนที่จะพาภรรยาเข้าไปในป่า เขาส่งข้อความไปหาแม่และน้องสาวของเขาว่า “ขอโทษนะ ผมไม่สามารถมีชีวิตแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะผมถูกสวมเขา” นอกจากนี้เขายังเคยบอกเพื่อนๆ ด้วยว่า “พวกคุณจะได้ยินข่าวของผมในเร็วๆ…

  • ชายหนุ่มกอดให้กำลังใจเจ้าหมาลาบาดอร์ของเขา ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดเนื้องอกใต้หูออก…..

    ชายหนุ่มกอดให้กำลังใจเจ้าหมาลาบาดอร์ของเขา ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดเนื้องอกใต้หูออก…..

    ในวันที่คุณท้อแท้ ในวันที่คุณเหนื่อยล้า หรือในวันที่คุณรู้สึกเจ็บปวด คงไม่มีการปลอบใจไหนที่ทำให้คุณรู้สึกดีไปกว่าการกอดอีกแล้ว ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงกอดให้กำลังใจเจ้าหมาของเขา หลังจากที่มันเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้องอกเสร็จ ทำเอาหลายคนมีน้ำใสๆ รินไหลออกมาจากตาโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ใน Reddit เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถ่ายภายในบ้านหลังหนึ่งที่เมือง Chennai ประเทศอินเดีย     ในคลิปเผยให้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังกอดเจ้าหมา Jack Daniel ด้วยความรัก เพื่อให้กำลังใจมันหลังจากที่มันเพิิ่งผ่านการผ่าตัดเอาเนื้องอกใต้หูขวาออก     ชายหนุ่มรู้ว่าก่อนหน้านี้ Jack คงจะเจ็บและกลัวมาก แต่มันก็ผ่านมาจนได้ ดังนั้นสิ่งที่เขาจะทำเพื่อปลอบใจมันได้คือการกอดมันด้วยความรัก     ส่วนเจ้าหมาเองดูเหมือนการกอดคือสิ่งเดียวที่มันต้องการมากที่สุดในขณะนี้ มันจึงอยู่นิ่งในอ้อมกอดเจ้าของและวางคางไว้บนไหล่ของเขา ใบหน้าของ Jack เหมือนมีคำถามว่า “มันจบแล้วใช่มั้ย? เราจะไม่กลับไปที่นั่นแล้วใช่มั้ย?”….     ชายหนุ่มเองบอกกับมันว่า “ใช่แล้วเพื่อนรัก มันจบแล้ว ฉันขอโทษที่ให้นายเผชิญความเจ็บปวดนั้น แต่ต่อไปนี้ฉันสัญญาว่าจะอยู่ข้างนายและจะคอยดูแลนายเป็นอย่างดี”     ที่มา inspiremore

  • ภาพการ์ตูน ‘ความรัก’ จากกิจวัตรประจำวัน ที่คนเรามักจะทำ เมื่ออยู่ในที่ลับตาคน…

    ภาพการ์ตูน ‘ความรัก’ จากกิจวัตรประจำวัน ที่คนเรามักจะทำ เมื่ออยู่ในที่ลับตาคน…

    ความรักมักจะซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เล็กๆ และช่วงเวลาอันเงียบสงบ อย่างเช่นการนอนเล่นบนเตียงหลังผ่านวันที่แสนยาวนาน นั่งดูทีวี หรือแม้แต่การบีบสิวให้กันและกัน ด้วยเหตุนี้ ศิลปิน Amanda Oleander จึงได้นำเสนอช่วงเวลาเหล่านั้นด้วยภาพประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจความสัมพันธ์ของเธอกับแฟน ความสัมพันธ์กับครอบครัว และความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิท Oleander บอกว่า “ทุกสถานการณ์เหล่านี้คือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน กับครอบครัวของฉัน และเพื่อนๆ เมื่อฟังพวกเขาเล่าให้ฟัง ฉันจะจดไว้อย่างรวดเร็วกันลืม”     ฉันมักจะร้องไห้ในช่วงเวลานั้นของเดือน ซึ่งบางทีฉันก็สับสนว่ามันเป็นเพราะความเศร้าจริงๆ หรือเป็นเพราะฮอร์โมนเปลี่ยน แล้วสุดท้ายฉันก็รู้ว่ามันเป็นเพราะฮอร์โมน และอาการแบบนี้มักจะเกิดหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ประจำเดือนจะมา   นี่คือภาพพี่สาวของฉันและแฟนของเธอ พี่สาวฉันไม่ชอบโกนหรือถอนขนตามร่างกายและแฟนของเธอก็ชอบที่เธอเป็นแบบนั้น คือฉันอยากบอกว่าคุณควรจะคบกับคนที่รับทุกอย่างที่เป็นคุณได้เพื่อความสัมพันธ์ที่ราบรื่นและยาวนาน   คุณมีหนังสือที่ช่วยในการเปลี่ยนแปลงชีิวิตให้ดีขึ้นมั้ย? สำหรับฉันมีอยู่ 3 เล่ม คือ The Secret (ความลับ), The Seven Minute Solution (วิธีแก้ปัญหาภายใน 7 นาที) และ The Art of Tidying Up (ศิลปะในการจัดเก็บ)   ฉันเติบโตมาในรัฐฟลอริด้า…

  • ช่างภาพญี่ปุ่นถ่ายทอดชีวิต ‘เด็กแฝด’ แห่งไอซ์แลนด์ทุกปี เผยให้การเปลี่ยนแปลงที่แสนงดงาม

    ช่างภาพญี่ปุ่นถ่ายทอดชีวิต ‘เด็กแฝด’ แห่งไอซ์แลนด์ทุกปี เผยให้การเปลี่ยนแปลงที่แสนงดงาม

    เด็กฝาแฝดบางคู่เนี่ยช่างมีความน่าสนใจอย่างบอกไม่ถูก พวกเขามีบางอย่างที่น่าค้นหาจนคุณอดใจไม่ไหวที่จะทำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้น เหมือนกับเด็กสาวฝาแฝดคู่นี้ที่ดูเตะตาช่างภาพชาวญี่ปุ่น Ariko Inaoka เป็นอย่างมาก จนเธอต้องกลับมาถ่ายภาพทั้งคนทุกปีเพื่อดูพัฒนาการของพวกเธอ     ฝาแฝดคู่นี้คือ Erna และ Hrefna จากเมือง Reykjavik ประเทศไอซ์แลนด์ พวกเขาเป็นเด็กสาวที่มีเสน่ห์ น่าค้นหา และมีความลึกลับอย่างบอกไม่ถูก ทั้งคู่ดูน่าสนใจขึ้นไปอีก เมื่อช่างภาพ Ariko ทำให้ภาพของพวกเขาดูสงบเยือกเย็นที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนท่ามกลางหมอกจางๆ     สำหรับช่างภาพ Ariko นั้น เธอเกิดในประเทศญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันเป็นชาวนิวยอร์ก ครั้งหนึ่งเธอเดินทางไปยังไอซ์แลนด์เพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ เพราะที่นั่นทำให้เธอนึกถึงบ้านเกิดที่โตเกียว ขณะที่อยู่ในไอซ์แลนด์ Ariko ก็คิดขึ้นได้ว่าจะทำภาพแคตตาล็อกแฟชั่นที่นั่น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เพื่อนของเธอไปเจอเด็กสาวฝาแฝดกำลังเล่นอยู่ในสระน้ำ เธอจึงได้เชิญทั้งคนมาแคสติ้งสำหรับภาพแคตตาล็อกชุดนี้     แม้ว่าตอนนั้น Erna และ Hrefna จะอายุแค่ 6 ขวบเท่านั้น แต่ทั้งคู่มีความงดงามโดยทำธรรมชาติและผ่านการแคสต์ตั้งแต่ครั้งแรก จนได้ถ่ายภาพแคตตาล็อกแฟชั่นในครั้งนั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ Ariko ก็เดินทางกลับบ้านตัวเอง แต่เธอหยุดคิดถึงสองสาว Erna และ Hrefna ไม่ได้เลย เพราะสำหรับเธอแล้ว ทั้งสองเปรียบเสมือนศูนย์รวมความงดงามของไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้     ต่อมาในปี 2009 ขณะที่เด็กสาวฝาแฝดอายุ 9 ขวบ Ariko ได้เดินทางไปยังเมือง Reykjavik เพื่อถ่ายรูปทั้งสองคนอีกครั้ง…

  • เรียนรู้อวัยวะของเนื้อปลาด้วยเกมต่อชิ้นส่วน ‘ทูน่า 3 มิติ’ กว่า 33 ชิ้น ดูสิ๊จะต่อได้มั้ย??

    เรียนรู้อวัยวะของเนื้อปลาด้วยเกมต่อชิ้นส่วน ‘ทูน่า 3 มิติ’ กว่า 33 ชิ้น ดูสิ๊จะต่อได้มั้ย??

    ปกติแล้วถ้าคุณอยากรู้องค์ประกอบหรือส่วนต่างๆ ของสัตว์ คุณจะต้องเรียนรู้ผ่านสัตว์ตัวเป็นๆ โดยการชำแหละชิ้นส่วนของพวกมัน แต่ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นแล้ว เพราะญี่ปุ่นได้ผลิตโมเดล Maguro หรือ ปลาทูน่า 3 มิติ ให้คุณเรียนรู้อวัยวะภายในของพวกมันโดยไม่ต้องใช้ทูน่าตัวเป็นๆ และกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น     ปลาทูน่า 3 มิติผลิตขึ้นโดย MegaHouse บริษัทในเครือของ Bandai Namco ซึ่งเป็นบริษัทชื่อดังของญี่ปุ่นที่สินค้าจำพวกของเล่น ปลาทูน่า 3 มิติถูกผลิตเป็นของเล่นชิ้นใหม่ภายใต้ชื่อ One Whole Fish Bluefin Tuna Disassembly Puzzle ในลักษณะของเกมตัวต่อ ที่คุณสามารถนำชิ้นส่วนต่างๆ ของมันออกมาศึกษาและใส่กลับเข้าไปเหมือนเดิมได้     ตัวต่อชิ้นนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เพราะมันมีความยาวเพียง 13 เซนติเมตร แต่ภายในประกอบด้วยชิ้นส่วนย่อยที่สามารถถอดออกได้ 33 ชิ้น ความน่าตื่นเต้นของปลาทูน่า 3 มิติคือ เมื่อถอดชิ้นส่วนทั้ง 33 ชิ้นออกแล้ว คุณต้องประกอบกลับเอง เหมือนกับต่อโมเดลกันพลาอย่างไงอย่างงั้น     ในเกมต่อชุดนี้ยังมาพร้อมกับมีดของเล่น และเขียงรองตัด เพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนได้หั่นหรือชำแหละชิ้นส่วนของปลาทูน่าจริงๆ หรือใครจะเล่นเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ…

  • สาวพบ ‘Blue Moth’ สุดหายากอีกครั้งในมาเลเซีย หลังเคยถูกวินิจฉัยว่าสูญพันธุ์ไปเมื่อ 130 ปีก่อน!

    สาวพบ ‘Blue Moth’ สุดหายากอีกครั้งในมาเลเซีย หลังเคยถูกวินิจฉัยว่าสูญพันธุ์ไปเมื่อ 130 ปีก่อน!

    ในโลกเรานี้เคยมีสัตว์มากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ แต่บางชนิดเราแทบไม่เคยได้เห็นเลย เนื่องจากพวกมันสูญพันธุ์ไปก่อนที่เราจะเกิดซะอีก แต่มันก็ไม่เสมอไป อย่างล่าสุดชาวมาเลเซียได้พบกับสัตว์ที่ชื่อว่า ‘Blue Moth’ อีกครั้ง ทั้งๆ ที่นักวิทยาศาสตร์เคยบอกว่ามันสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 130 ปีก่อน Blue Moth ตัวสุดท้ายถูกค้นพบเมื่อปี 1887 หรือ 130 ปีก่อน ซึ่งปัจจุบันได้รับการเก็บรักษาไว้ในโหลแก้วที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย     Blue Moth จัดอยู่ในผีเสื้อวงศ์ Clearwing Moths มันสามารถพัฒนาให้มีลักษณะคล้ายผึ้งหรือที่รู้จักกันว่า Batesian ซึ่งนั่นเป็นข้อดีที่ทำให้สัตว์นักล่าไม่กล้ากินพวกมัน เนื่องจากกลัวเหล็กไนที่ส่วนก้นของมัน อย่างไรก็ตามเมื่อต้นปีที่ผ่านมาขณะที่ Marta Skowron Volponi นักศึกษาปริญญาเอกและนักกีฏวิทยาจากมหาวิทยาลัย Poland’s University of Gdansk เดินผ่านป่าฝนในมาเลเซีย เธอก็ได้พบกับ Blue Moth โดยบังเอิญ     Volponi บอกว่า “พวกมันเป็นสัตว์ที่หายากมากๆ และมักจะอยู่รวมกันในพื้นที่เดียวกันเป็นเวลาหลายนาที นั่นเป็นเห็นผลว่าทำไมนักกีฏวิทยาส่วนใหญ่จับพวกมันด้วยกับดักฟีโรโมนสังเคราะห์ (เป็นฟีโรโมนที่มนุษย์สังเคราะห์เลียนแบบฟีโรโมนของแมลงวันทองเพศเมียเพื่อล่อแมลงวันทองเพศผู้มาติดกับดัก)” ตอนแรก Volponi ตั้งใจค้นหา Heterosphecia Pahangensis…

  • รู้จัก “นกจาบสังคม” ที่สร้างรังขนาดใหญ่มหึมา เพื่อรับมือกับอุณหภูมิและอันตรายจากสัตว์นักล่า

    รู้จัก “นกจาบสังคม” ที่สร้างรังขนาดใหญ่มหึมา เพื่อรับมือกับอุณหภูมิและอันตรายจากสัตว์นักล่า

    ปกติแล้วเราจะเห็นนกส่วนใหญ่ทำรังเล็กๆ ขนาดพออยู่ได้หรือพอเก็บไข่ไว้ได้อย่างปลอดภัย แต่สำหรับนกจาบสังคม (Social Weavers )พวกมันจะสร้างรังขนาดใหญ่จนทำให้ต้นไม้โน้มตัวต่ำลงได้ นกจาบสังคมมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Philetairus socius อาศัยอยู่ทางใต้ของแอฟริกา รังของพวกมันมีความโดดเด่นมาก จนขึ้นว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ รังของพวกมันมีน้ำหนักรวมมากกว่า 1000 กิโลกรัม โดยมีความกว้างประมาณ 6 เมตร และมีความสูง 3 เมตร ซึ่งแยกย่อยเป็นรังเล็กกว่า 100 รัง     เมื่อนกจาบสังคมตาย รังของพวกมันจะไม่ถูกทำลาย แต่จะมีนกรุ่นต่อไปเข้ามาอาศัยแทนพร้อมกับปรับปรุง ซ่อมแซมไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ได้เป็นเวลาหลายปี นกจาบสังคมสร้างรังจากวัตถุธรรมชาติหลายอย่าง โดยเริ่มทำโครงสร้างจากกิ่งไม้ จากนั้นก็ตกแต่งภายในด้วยหญ้าและขนนก นอกจากนี้นกแต่ละตัวจะสร้างห้องส่วนตัวอยู่ ซึ่งมีทางเข้ายาว 10 นิ้ว กว้าง 1 นิ้ว จากนั้นก็จะล้อมด้วยด้ามแหลมของฟางเพื่อป้องกันงูเข้ามา     ทั้งนี้นกที่มีคู่แล้ว พวกมันจะอยู่ในห้องคู่ของตัวเอง ส่วนนกตัวอื่นๆ ที่เหลือจะอยู่รวมกันห้องละ 3-4 ตัว ประโยชน์ของการทำรังแบบนี้คือ เป็นการช่วยให้นกจาบสังคมไม่ต้องย้ายถิ่นฐานบ่อย เนื่องจากอุณหภูมิในทะเลทรายค่อนข้างแปรผันตลอดเวลา Gavin Leighton นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย University of…

  • โรค ‘จิ๋มตายด้าน’ อาการที่เกิดจากการใช้เครื่องสั่นมากเกินไป แต่ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายจนต้องกังวล

    โรค ‘จิ๋มตายด้าน’ อาการที่เกิดจากการใช้เครื่องสั่นมากเกินไป แต่ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายจนต้องกังวล

    เพื่อนๆ มีใครเคยได้ยิน “โรคจิ๋มตาย” บ้าง? นี่ไม่ใช่มุกตลกหรือคำกำกวมแต่อย่างใด แต่มันคือชื่อโรคจริงๆ ที่มีมานานหลายปีแล้ว โรคจิ๋มตาย คือผลกระทบจากการใช้เซ็กส์ทอยชนิดสั่นมากเกินไป เนื่องจากเครื่องสั่นจะสร้างความทนทานต่อการกระตุ้นคลิตอริสและช่องคลอด จนทำให้ผู้หญิงไม่สามารถไปถึงจุดสุดยอดได้ ถ้าไม่ใช่เครื่องสั่น นั่นหมายความว่าหากคุณยังใช้เครื่องสั่นในการสำเร็จความใคร่ต่อไปเรื่อยๆ ช่องคลอดของคุณจะตายด้าน ไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่มาสัมผัสได้ และทนต่อทุกอย่างที่จะทำให้ถึงจุดสุดยอด     มันฟังดูน่ากลัวใช่มั้ย? แต่นี่เป็นเรื่องที่คุณต้องรู้นะ…แน่นอนว่าหากคุณสำเร็จความใคร่ด้วยวิธีใช้เครื่องสั่นมาตลอด มันยากที่จะสำเร็จความใคร่ด้วยวิธีอื่น แต่อย่าเพิ่งกังวลไป สูตินรีแพทย์ Shazia Malik กล่าวว่า “เราไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าภาวะช่องคลอดตายนี้มีอยู่จริง ดังนั้นอย่าเพิ่งกังวลว่าช่องคลอดของคุณจะไม่ตอบสนองในอนาคตถ้าไม่ใช้เครื่องสั่น” Shazia ตั้งข้อสังเกตว่า จริงอยู่ที่ช่องคลอดของผู้หญิงสามารถสูญเสียความรู้สึกได้หลังจากใช้เครื่องสั่นต่อเนื่องกันบ่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากที่คลอดลูก ขณะมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ขณะให้นมบุตร รวมทั้งการทานฮอร์โมนคุมกำเนิด     ทั้งนี้ในเรื่องของการตอบสนองของช่องคลอด มีการวิจัยพบว่า หลังจากการใช้เครื่องสั่น ผลกระทบของมันมักจะหายไปภายใน 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้มีการวิเคราะห์ผลกระทบของการใช้เครื่องสั่นกับมือ ซึ่งปรากฏว่าไม่พบความแตกต่างใดๆ เมื่อใช้กับอวัยวะเพศ การใช้เครื่องสั่น อาจทำให้ร่างกายส่วนที่ถูกสัมผัสมีอาการชาเล็กน้อย แต่อาการนั้นจะหายไปหลังจากที่คุณหยุดใช้เครื่องสั่นสักพัก อาการจะไม่ติดค้างนาน     งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง เผยว่ามีผู้หญิงเพียง 0.5% เท่านั้น…

  • 10 กลยุทธ์ ‘การจีบ’ ให้ได้ผลชะงัดจากนักจิตวิทยา จนคนที่คุณหมายปองต้านทานไม่ได้

    10 กลยุทธ์ ‘การจีบ’ ให้ได้ผลชะงัดจากนักจิตวิทยา จนคนที่คุณหมายปองต้านทานไม่ได้

    หลายๆ คนต้องสูญเสียคนที่หมายปองให้กับหนุ่มอื่นหรือสาวอื่น ทั้งๆ ที่พยายามตามจีบแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะวิธีจีบของคุณอาจจะไม่เจ๋งพอ ด้วยเหตุนี้ทีมนักจิตวิทยาจาก Psych2Go จึงได้แนะนำ 10 กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการจีบ เพื่อให้คุณลงเอยด้วยดีกับคนที่หมายปอง   1. สบตาสื่อรัก การสบตากันที่นานกว่าปกติเป็นวิธีที่จะทำให้คุณได้ล้วงเอาข้อมูลของอีกฝ่ายผ่านสายตาว่าเค้าคิดอะไรอยู่ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมต้องอย่างน้อย 4-5 วินาที แต่คุณต้องอ่านสายตาคู่ให้ออกภายในเวลาสั้นๆ นี้ให้ได้นะ นักจิตวิทยาบอกว่าการมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายจะทำให้คุณค้นพบความสนใจของเขา และเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้คุณคาดเดาสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับเค้าได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น 2. จะถูกจะแพงขอแดงไว้ก่อน สีแดงมักจะถูกใช้ในข้อความสื่อสารเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่สุก ป้ายถนน หรือสร้อยคอ ทั้งนี้นักจิตวิทยา Adam Pazda ชี้ให้เห็นว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณธรรมชาติ เช่น ลิงบาบูนตัวเมียที่จะทำให้ก้นของมันเป็นสีแดงเพื่อสงสารสัญญาณให้ตัวผู้รู้ว่ามันพร้อมจะมีคู่แล้ว นอกจากนี้เพื่อนร่วมงานของ Adam จากมหาวิทยาลัย University of Rochester ยังได้ทำการทดลอง โดยการให้ผู้ชายดูภาพผู้หญิงในชุดสีขาวและชุดสีแดง     จากการทดสอบพบว่าผู้ชายส่วนใหญ่ให้ความใจผู้หญิงในชุดสีแดง เพราะคิดว่าเธอจะเป็นคนเปิดกว้างในเรื่องโรแมนติกมากกว่าผู้หญิงชุดขาว เมื่อนำการทดลองนี้ไปใช้กับผู้หญิง ได้ผลที่คล้ายกันคือ ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงและเสื้อกันหนาวดูน่าสนใจมากขึ้นในสายตาผู้หญิง   3. คนตลกมีชัยไปกว่าครึ่ง ศาสตราจารย์ Geoffrey Miller นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย University of New Mexico…

  • กลับมาอีกครั้งกับผลงานการเรียงสิ่งของขั้นเทพของศิลปิน ที่ดูแล้วเนียนตาดีเหลือเกิน!!

    กลับมาอีกครั้งกับผลงานการเรียงสิ่งของขั้นเทพของศิลปิน ที่ดูแล้วเนียนตาดีเหลือเกิน!!

    การจัดเรียงสิ่งของให้เป็นระเบียบนั้นนอกจากจะง่ายต่อการหยิบใช้แล้ว มันยังทำให้ดูสบายตาด้วย จนเรียกได้ว่าเป็นภาพที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้เลยล่ะ สำหรับ Adam Hillman จากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่เพียงแค่จัดเรียงสิ่งของเท่านั้น แต่เขายังทำให้อาหารที่อยู่ตรงหน้าเรียงกันเป็นระเบียบแถมยังไล่สีให้ดูสดใสยิ่งขึ้นด้วย     การจัดเรียงสิ่งของ นับเป็นกิจวัตรประจำวันของ Adam ที่ต้องทำเป็นประจำ เพราะนอกจากเป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง มันยังเป็นงานศิลปะที่ดูเพลินตาเป็นอย่างยิ่ง     โดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา Adam ได้พัฒนาฝีมือขึ้นจากเดิมมาก มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นภาพอย่างที่เห็นนี้ เขาต้องใช้ทั้งความอดทนและใช้เวลาหลายชั่วโมงในการทำให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด     สิ่งของแต่ชิ้นอาจมีรูปทรงต่างกัน แต่ Adam สามารถทำให้มันเป็นระเบียบได้ด้วยการจัดให้มันอยู่ตามหมวดหมู่ และรู้ด้วยว่าควรวางอะไรไว้ตรงไหน อย่างไร     ผลงานแต่ละชิ้นนั้นต้องใช้เวลาจัดเรียงเป็นชั่วโมงๆ นั่นหมายความว่าแค่ความอดทนหรือฝีมืออย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องมีความคลั่งไคล้อย่างมากอีกด้วย     ความสมบูรณ์แบบในอาหาร   ของปลายแหลมถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ . . .   สี่เหลี่ยมซ้อนสี่เหลี่ยม ว่าแต่มันมีสี่เหลี่ยมทั้งหมดกี่อันนะ?   ต้องว่างแค่ไหนถึงจะทำแบบนี้ได้   ดูแล้วเพลินตาดีเนาะ .…

  • 26 บุคคลตัวอย่างที่ชีวิตเปลี่ยน หลังจากมุ่งมั่น ‘ลดน้ำหนัก’ จนประสบความสำเร็จ

    26 บุคคลตัวอย่างที่ชีวิตเปลี่ยน หลังจากมุ่งมั่น ‘ลดน้ำหนัก’ จนประสบความสำเร็จ

    หากใครเคยผ่านการลดน้ำหนักมาแล้ว คงจะรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะมันต้องใช้ทั้งความอดทน ความพยายาม และความมุ่งมั่น แต่เมื่อทำสำเร็จ คุณจะสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่ากับการทุ่มเทเหล่านั้น และนี่คือบุคคลตัวอย่างของความพยายามในการลดน้ำหนัก พวกเขากลายเป็นที่ดูขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ในการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย   1. หนุ่มที่ลดน้ำหนักได้ 50 กิโล ภายใน 7 ปี จนทำให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย   2. ความเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่มหลังจากที่ลดน้ำหนักไปได้ 31 กิโลกรัม   3. หญิงสาวที่น้ำหนักลดลงไป 30 กิโล เธอบอกว่าสุขภาพแข็งแรงขึ้นและมีความสุขมากขึ้น   4. สาวเอาชนะโรคอ้วนได้หลังจากน้ำหนักลดลงไป 37 กิโลกรัม   5. น้ำหนักหายไป 54 กิโลกรัม กับความเปลี่ยนแปลงที่ต้องร้องว้าว   6. หญิงสาวสามารถลดน้ำหนักได้ครึ่งหนึ่งของน้ำหนักทั้งหมดภายใน 18 เดือน   7. เชื่อมั้ยว่านี่เป็นคนคนเดียวกัน?   8. หญิงสาวที่แทบจำตัวเองไม่ได้ หลังจากย้อนดูรูปในพาสปอร์ตของตัวเอง…

  • คุณพ่อตัดสินใจ ‘โกนหัว’ ตัวเอง หลังลูกสาวผู้ป่วยเป็น ‘โรคผมร่วง’ และเกลียดตัวเองที่ไม่มีผม

    คุณพ่อตัดสินใจ ‘โกนหัว’ ตัวเอง หลังลูกสาวผู้ป่วยเป็น ‘โรคผมร่วง’ และเกลียดตัวเองที่ไม่มีผม

    ความรักในโลกนี้ คงไม่มีรักไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักจากพ่อแม่อีกแล้ว เพราะพวกเขาคือคนที่รักเรามากกว่ารักตัวเองซะอีก และยังเป็นคนที่คอยปกป้องเราทั้งร่างกายและความรู้สึก อย่างเรื่องราวสุดประทับใจของครอบครัวแสนอบอุ่นนี้ ที่เป็นเผยให้เห็นความรักของพ่อที่มีต่อลูก จนคุณเองก็สัมผัสถึงความรักนั้นได้     Chelsea Sylvaria ผู้เป็นแม่เขียนในเฟสบุ๊กว่า ” Riley(ลูกสาว) ถามฉันว่า ‘แม่รักตัวเองมั้ย?’ ฉันตอบไปว่า ‘รักสิ’ แล้วฉันก็ถามเธอกลับว่า ‘แล้วลูกล่ะ รักตัวเองมั้ย?’ เธอตอบว่า ‘ไม่…หนูไม่รักตัวเอง เพราะหนูไม่มีผม’” คำตอบนั้นทำเอาผู้เป็นแม่จุกจนพูดไม่ออก เธอไม่เคยรู้เลยว่านั่นเป็นความรู้สึกจากใจของลูกสาวสุดที่รักที่ป่วยเป็นโรคผมร่วง ต่อมา Sylvaria นำเรื่องนี้ไปบอกกับสามี Dave… เขาจึงมาคุยกับลูกสาวอีกครั้ง เพราะนั่นเป็นความรู้สึกของลูกที่ไม่ควรปล่อยผ่านโดยไม่ทำอะไร     Dave เข้าไปหาลูกสาวและนั่งคุยกับเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เธอเพิ่งบอกกับแม่ไป ซึ่งช่วงเวลาพ่อลูกคุยกันนี้ ผู้เป็นแม่ได้บันทึกวิดีโอเอาไว้ คุณพ่อถามลูกสาวว่า “ลูกรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ หรือแค่พูดไปอย่างนั้น?” เธอตอบว่า “แค่พูดไปอย่างนั้นเอง” แต่เขารู้ดีว่าลูกสาวคงจะรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ไม่มีผม       เขาจึงบอกกับเธอว่า “ลูกเป็นเด็กผู้หญิงที่พิเศษที่สุดในโลกนี้ ผมไม่สำคัญหรอก ใช่มั้ย? พ่อรู้ว่าลูกอยากมีผม แต่ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไงพ่อก็ยังรักหนูเหมือนเดิมนะ” หลังจากคุยเรื่องนี้กันเสร็จ คุณพ่อก็หันไป Riley ว่า “อยากให้พ่อโกนผมด้วยมั้ย?” เด็กสาวยิ้มออกมาทันที แม้จะไม่มีคำตอบ แต่คุณพ่อก็รู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร     แล้วพ่อลูกก็เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน จากนั้น Dave ก็เริ่มโกนผมของตัวเองออก…

  • สองพี่น้องแฝดชาย แต่งงานกับสองพี่น้องแฝดหญิง แถมจัดงานแต่งวันเดียวกัน โอ้โห เป็นไปด๊ายยย!!

    สองพี่น้องแฝดชาย แต่งงานกับสองพี่น้องแฝดหญิง แถมจัดงานแต่งวันเดียวกัน โอ้โห เป็นไปด๊ายยย!!

    ถึงจะเป็นคู่แฝดแต่ก็ไม่ได้หมายความจะมีรสนิยมเหมือนกันเสมอไป และมีน้อยมากที่เราจะเห็นคู่แฝดแต่งงานกับคู่แฝดเหมือนกัน ล่าสุดได้มีงานแต่งที่เมืองต้าชิ่ง มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน เป็นงานแต่งของคู่พี่น้องฝาแฝดกับสองพี่น้องฝาแฝดหญิง จนกลายเป็นที่ฮือฮาทั่วสังคมจีน นี่เป็นงานแต่งของสองพี่น้อง Zheng Dashuang และ Zheng Xiaoshuang ส่วนฝ่ายหญิงเป็นคู่แฝดเหมือนกันคือ Liang Jing และ Liang Qing     ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายได้พบกันเมื่อ 10 ปีก่อน ก่อนจะกลายมาเป็นเพื่อนกัน หลังจากนั้นคุณแม่ของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงก็ได้เริ่มวางแผนที่จะให้ลูกๆ ของพวกเค้าแต่งงานกัน ตอนนี้คู่แฝดชายอายุ 26 ปี ในขณะที่แฝดหญิงอายุ 23 ปี ซึ่งจัดงานแต่งงานพร้อมกันเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา     หลังจากที่งานแต่งนี้กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตหลายคนได้เข้ามาแสดงความยินดีกับทั้งสองคู่ บางคนแซวพวกเขาแบบขำๆ ด้วย “ระวัง อย่าสลับคู่กันตอนฮันนีมูนนะ” การแต่งงานแบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก ดังนั้นจึงได้มีการตั้งชื่อพิเศษสำหรับงานแต่งลักษณะนี้ว่า Quaternary Marriages  ส่วนลูกที่เกิดจากคู่แฝดกับคู่แฝด ในทางเทคนิคจะถือว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาจะมี DNA ที่เกือบจะเหมือนกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ถ้านับแค่ DNA เพียงอย่างเดียว แทบจะระบุไม่ได้เลยว่าใครคือพ่อแม่ของเด็กคนไหนกันแน่…     ครอบครัวของทั้งสองฝ่าย…

  • ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี เธอจะเปลี่ยนพื้นที่มหาวิทยาลัย ให้กลายเป็นงานศิลปะสุดอาร์ต…

    ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี เธอจะเปลี่ยนพื้นที่มหาวิทยาลัย ให้กลายเป็นงานศิลปะสุดอาร์ต…

    ใบไม้เมื่ออยู่บนต้นไม้ มันคอยให้ร่มเงา ให้ที่พักพิงกับสัตว์บางชนิด ซึ่งดูรวมๆ แล้วทำให้เกิดความรู้สึกสบายตาและสบายใจ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ใบไม้ร่วงลงสู่พื้น โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง มันกลายเป็นแค่สิ่งที่ไร้ประโยชน์ หรือเป็นแค่ขยะที่รอการกำจัดทิ้งเท่านั้น     แต่สำหรับ Joanna Hedrick แล้ว เธอไม่ได้คิดแบบนี้ ทุกๆ ฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงเวลาที่เธอชื่นชอบมากที่สุดของปี เพราะมันทำให้เธอได้หาความสุขจากใบไม้ที่ร่วงลงสู่พื้น Hedrick เป็นที่ปรึกษาของศูนย์บริการนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย Sacramento State University รัฐแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา     นับตั้งแต่ปี 2013 ที่ Hedrick รู้สึกสนุกกับการเล่นใบไม้ โดยการเปลี่ยนใบแปะก๊วยสีเหลือทองที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นให้กลายเป็นงานศิลปะที่มีความซับซ้อน เธอบอกว่า “ศิลปะของฉันคือการทำอะไรบางอย่างที่สวยงงามอยู่แล้วให้กลายเป็นบางอย่างที่ดูมีเอกลักษณ์ และบางสิ่งที่คุณไม่ใช่แค่เดินผ่านไป”     จุดเริ่มต้นของการตกแต่งใบไม้ร่วง เกิดจากการที่เธอต้องการฉากหลังสวยๆ เพื่อที่จะรูปลูกๆ ทั้งสองคนคือ Sagan วัย 8 ขวบ และ Emil วัย 4 ขวบ ปรากฏว่าตั้งแต่นั้นมาเธอกลายเป็นคนที่ชื่นชอบการตกแต่งใบไม้ร่วง โดยเฉพาะการทำให้มันเป็นเขาวงกต จนได้รับการชื่นชมจากคนทั้งมหาวิทยาลัยและทั่วโซเชียลมีเดีย     ปัจจุบัน เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง เธอจะสร้างผลงานราวๆ 6 แบบต่อปี…

  • ชาวเน็ตญี่ปุ่นถกเถียงกันเรื่อง “การใช้ส้วมแบบดั้งเดิม”‘ ว่าทำยังไง ถึงจะถูกต้องกันแน่นะ!?

    ชาวเน็ตญี่ปุ่นถกเถียงกันเรื่อง “การใช้ส้วมแบบดั้งเดิม”‘ ว่าทำยังไง ถึงจะถูกต้องกันแน่นะ!?

    ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และนวัฒกรรมใหม่ๆ มักจะมีเกิดมาจากการคิดค้นของคนญี่ปุ่นนี้แหละ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดนี้ อาจจทำให้ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ไม่รู้จักสิ่งของหรือเครื่องใช้ที่เคยมีในอดีตบางอย่าง โดยเฉพาะของใช้ในวงการห้องน้ำ อย่าง ‘ส้วม’     ล่าสุดในโลกออนไลน์ ได้มีการถกเถียงกันแบบขำๆ เกี่ยวกับวิธีการใช้ ‘ส้วมแบบดั้งเดิม’ ว่าจริงๆ แล้วมันต้องใช้แบบไหนกันแน่ถึงจะถูกต้อง?   ไม่แปลกที่ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่จะไม่รู้จักวิธีการใช้ส้วมแบบดั้งเดิม เพราะส้วมที่คนญี่ปุ่นใช้กันอยู่ทุกวันนี้มันทั้งล้ำ สะดวกสบาย แถมมีเสียงเพลงกลบด้วย ส้วมที่เป็นประเด็นนี้คือส้วมแบบญี่ปุ่นที่มีลักษณะคล้ายกับคอห่านบ้านเรานี่แหละ แต่ตรงหัวมีส่วนโค้งที่กันไม่ให้ปัสสาวะกระเด็น เรียกว่า “Kinkakushi”     ที่นี้คนญี่ปุ่นแท้ๆ เนี่ยมาเถียงกันมันต้องนั่งแบบไหนกันนะ? ต้องนั่งหันหน้าเข้าหรือหันหน้าออก!? สมาชิกทวิเตอร์ @mikaduki_neko บอกว่า “ต้นกำเนิดของมันคือ Kinkakushi นั่นหมายความว่าคุณต้องหันหน้าออก เหมือนที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่สอนเอาไว้” ชาวเน็ตคนเดิมอธิบายเพิ่มเติมว่า “จริงๆ แล้ว Kinkakushi แบบดั้งเดิมนี่เป็นแท่นไม้ที่มีไว้เพื่อใช้งานในเรื่องของสุขอนามัยของเหล่าซามูไร โดยจะใช้เป็นแท่นวางเพื่อกันไม่ให้กางเกง Hakama เปื้อนสิ่งสกปรกเวลาที่พวกเขาทำการถ่ายหนัก” “นั่นก็เท่ากับว่าเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่การถ่ายหนักใกล้กับรูระบายน้ำจะทำให้เราสามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น และทำให้เราลดความเสี่ยงในการเปื้อนได้อีกด้วย”     ชาวเน็ตอีกคน ที่ใช้ชื่อว่า @snufkin_p ออกมาโต้แย้งด้วยภาพจาก Toto…

  • แมงมุมพิษร้ายแรงที่สุดในโลก กำลังบุกรุกบ้านเรือนของมนุษย์ เพราะตอนนี้เป็นช่วงผสมพันธุ์!!

    แมงมุมพิษร้ายแรงที่สุดในโลก กำลังบุกรุกบ้านเรือนของมนุษย์ เพราะตอนนี้เป็นช่วงผสมพันธุ์!!

    ทุกวันนี้ภัยอันตรายอยู่รอบด้านและสามารถมาถึงเราได้ในหลากหลายรูปแบบ แม้แต่การอยู่ในบ้านก็อาจตกอยู่ในอันตรายโดยไม่รู้ตัว อันตรายที่ว่านี้มาจากแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแมงมุมที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก ที่กำลังอยู่ในช่วงผสมพันธุ์และมันจะกระจายกันวางไข่ตามบ้านเรือนของมนุษย์ มันคือ Sydney Funnel-web Spider เป็นสายพันธุ์แมงมุมที่มีการแพร่พันธุ์อยู่ในแถบนครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งพิษของมันสามารถทำให้มนุษย์เสียชีิวิตได้ภายในระยะเวลาเพียง 15 นาที     แมงมุมชนิดนี้เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดประมาณ 1-5 เซนติเมตร สีสันนั้นแตกต่างกันออกไปทั้งดำและน้ำตาล ลำตัวเป็นเงางามไม่มีขน ชอบอาศัยอยู่กับพื้นทรายที่มีความชื้น หรือพื้นดินที่เป็นดินเหนียว และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันถูกคุกคามมันจะแสดงความก้าวร้าวออกมา ทุกๆ ปี ในช่วงฤดูร้อนของออสเตรเลีย แมงมุม Sydney funnel-web spider จะบุกเข้าไปในบ้านของมนุษย์ในตอนเย็นเพื่อหาที่ที่มีความชื้นอยู่ Paul Hare ผู้ดูแลสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในสวนสัตว์ Taronga Zoo บอกว่า “ทุกๆ ช่วงนี้ของปี แมงมุมตัวผู้จะออกตามหาตัวเมีย เพราะเป็นฤดูผสมพันธุ์ของพวกมัน”     ส่วนตัวเมียนั้นมักจะพบว่าไปทำรังในบ้านมนุษย์ กรณีที่รังของมันถูกน้ำท่วม ฝนตก หรือถูกทำลาย และมันจะปล่อยให้ตัวผู้เข้ามาหาในฤดูนี้ Hare กล่าวอีกว่าแมงมุมชนิดนี้มีขนาดใหญ่ และแข็งแรงมากๆ ถึงขนาดที่ว่าสามารถเจาะทะลุเล็บมือเล็บเท้าของมนุษย์ได้ นั่นหมายความมันสามารถเจาะร่างกายส่วนอื่นของคุณได้เหมือนกัน อาการเริ่มแรกเมื่อถูกกัดคือจะมีอาการคลื่นไส้อย่างรุนแรง ปวดเกร็งตามกล้ามเนื้อ มีเหงื่อออกมาก และจะรู้สึกชาบริเวณรอบปาก     อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 1981 มีการคิดค้นเซรุ่มต้านพิษ…

  • สาวหายจากโรคคลั่งผอม เผยได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘อินสตาแกรม’ ของคนที่ป่วยเป็นโรคเดียวกัน

    สาวหายจากโรคคลั่งผอม เผยได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘อินสตาแกรม’ ของคนที่ป่วยเป็นโรคเดียวกัน

    ข้อดีของสื่อโซเชียลคือการได้เห็นความหลากหลายบนโลกใบนี้ ทั้งดีและไม่ดี ซึ่งบางสิ่งบางอย่างมันได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง อย่าง Emelle Lewis นักศึกษาจิตวิทยาวัย 22 ปี จากมหาวิทยาลัย Huddersfield ประเทศอังกฤษ ที่หายจากการเป็นโรคคลั่งผอมด้วยแรงผลักดันจากคนในโซเชียล Emelle ป่วยเป็นโรคคลั่งผอมเมื่ออายุเพียง 15 ปีเท่านั้น เธออยากมีแฟน ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าตัวเองอ้วนและดูน่าเกลียดที่สุดในกลุ่มเพื่อน เธอจึงทำตัวให้ผอม ผอม และผอมจนเกินควบคุมได้     อาการของหญิงสาวเริ่มรุนแรงหนักขึ้นเมื่อเธอรู้สึกเบื่ออาหาร แต่กลับเข้ายิมบ่อยมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเธอกลายเป็นคนที่เลือกกินอาหาร โดยจะกินเฉพาะ ซีเรียล เค้กข้าว และสลัด ส่วนการออกกำลังกาย เธอจะพาสุนัขเดินเล่นวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เธอเล่นโยคะ ออกกำลังกายทุกเช้า และจะไม่นั่งลงระหว่างวันถ้ายังไม่ถึงเวลา 16.00 น. น้ำหนักของ Emelle ลดลงอย่างรวดเร็ว จนเหลือแค่ 31 กิโลกรัม เธอต้องใส่เสื้อผ้าไซต์เด็กและพยายามที่จะใช้ชีวิตอย่างปกติ     หญิงสาวเล่าว่า “ฉันเริ่มลดน้ำหนักตอนเรียนมัธยม เพราะรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นตลอดเวลา ตอนนั้นเพื่อนๆ ต่างมีแฟนกันหมดแล้วแต่ฉันคนเดียวที่ไม่มี นั่นคงเป็นเพราะฉันอ้วนและน่าเกลียด” เมื่อ Emelle ผอมจนน่าเป็นห่วง…

  • เมื่อเด็กสาวอยากเลี้ยงแมว ก็เลย “จัดบอร์ด” ร้องขอพ่อกับแม่ น่าสงสารจนต้องยอมใจอ่อน

    เมื่อเด็กสาวอยากเลี้ยงแมว ก็เลย “จัดบอร์ด” ร้องขอพ่อกับแม่ น่าสงสารจนต้องยอมใจอ่อน

    คนรักแมวหลายๆ คน ไม่ได้รับอนุญาตจากครอบครัวให้รับแมวมาเลี้ยง พวกเขาเลยพยายามทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นข้อเสนอต่างๆ เพื่อให้พ่อแม่ใจอ่อน ตัวอย่างเช่น จะล้างรถให้ทุกเดือน จะทำเกรดให้ดีขึ้น หรือถ้ามันไม่ได้ผลจริงๆ บางคนก็ทำกระทั่งแอบเอาเข้าบ้านโดยไม่ให้ใครรู้ แล้วก็ได้เลี้ยงในที่สุด แต่สำหรับเด็กสาวคนนี้ เธอเลือกที่จะจัดบอร์ดบนผนังบ้าน โดยเขียนแมวเหมียวให้ดูน่าสงสารสุดๆ เพื่อให้พ่อแม่รู้สึกผิดที่ไม่รับเลี้ยงพวกมัน     เรื่องราวนี้ถูกโพสต์ในทวิตเตอร์โดย Danielle Grubisic จากเมืองเคลเลอร์ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอบอกว่าน้อยสาวตัวน้อยๆ ของเธอจัดบอร์ดที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า เพื่อทำให้พ่อกับแม่รู้สึกแย่ที่ไม่อนุญาตให้เธอรับแมวมาเลี้ยง     ข้อความแต่ละข้อความที่เด็กสาวเขียนแปะไว้บนผนังล้วนแล้วทำให้สะเทือนใจ เช่น “คุณจะปล่อยให้มันตายโดยไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอ?” “คุณจะฆ่าสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้ลงหรอ?” นอกจากนี้เธอยังนำภาพแมวที่น้ำตาไหลมาแปะพร้อมข้อความว่า “ดูสิ มันกำลังเศร้า” “น้ำตานี่เป็นเพราะคุณนะ” “ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับฉัน”     ยังมีอีกหลายข้อความอีกหลายข้อความที่เด็กสาวเขียนขึ้นมา และเธอก็ย้ำว่าให้พ่อกับแม่อ่านข้อความทั้งหมดเหล่านี้ ซึ่งบอกเลยว่าอ่านแล้วมันช่างน่าสงสารจับใจเหลือเกิน     “พวกมันกำลังจะตายอย่างโดดเดี่ยว ทั้งๆ ที่มันไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ ที่เป็นแบบนี้เพราะไม่มีใครสนใจใยดีพวกมัน” ข้อความของเด็กสาว     “คุณกำลังจะฆ่าชีวิตที่ไร้เดียงสา”   เจอข้อความเศร้าๆ…

  • อธิบาย 5 ลำดับขั้นของ “ความสัมพันธ์” ตามหลักวิทยาศาสตร์ ว่าคุณอยู่ในระดับไหนกัน!?

    อธิบาย 5 ลำดับขั้นของ “ความสัมพันธ์” ตามหลักวิทยาศาสตร์ ว่าคุณอยู่ในระดับไหนกัน!?

    บางครั้งความสัมพันธ์ของเรากับใครสักคนนั้นค่อนข้างซับซ้อน จนบางทีทำให้บางคนสับสนในความสัมพันธ์ว่าอยู่ในขั้นไหนแล้ว และตกลงเราเป็นอะไรกัน? ก่อนที่คุณจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ มาดูงานวิจัยใหม่จากเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ eHarmony ที่เผยให้เห็นถึงความสำคัญของการกระทำตลอดจนความสัมพันธ์ของมนุษย์เรา ในการวิจัยนี้ ทางเว็บไซต์ขอให้ชาวออสเตรเลีย 1,000 คน เปิดความสัมพันธ์ที่สำคัญของพวกเขา ตั้งแต่จูบครั้งแรกไปจนถึงมีอะไรกัน   1. ช่วงเวลาที่เจอกัน จากผลการวิจัยพบว่าส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางกายอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงแรกๆ โดย 1 ใน 4 คู่จะจูบกันตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ในขณะที่ 1 ใน 10 จะรอให้ถึง 3 สัปดาห์ก่อนแล้วค่อนแลกจูบแบบดูดดื่ม นอกจากนี้ผลการวิจัยยังพบอีกว่าคู่เดทไม่เร่งรีบที่จะมีอะไรกับใครสักคน แต่ส่วนใหญ่จะรอให้ถึง 3 เดือนก่อนแล้วค่อยทำแบบนั้น ในขณะเดียวกัน ผู้คน 9% ตัดสินใจที่จะนอนกับคู่เดทตั้งแต่วันแรกหรือสัปดาห์แรกที่เจอกัน ทั้งนี้ผู้ชาย 1 ใน 4 จะมีความกระตือรือร้นที่จะมีอะไรกับคู่เดต เทียบกับผู้หญิงแล้วมีเพียง 1 ใน 10 ที่คิดจะทำสิ่งเดียวกัน โดยทั่วไปผู้หญิง 25% ชอบที่จะรออย่างน้อยหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้นก่อนที่จะตัดสินใจมีอะไรกับคู่เดต   2. ช่วงพัฒนาความสัมพันธ์ คู่เดตหลายๆ คู่มักจะมีความคิดที่แตกต่างในความสัมพันธ์ขั้นตอนนี้จนทำให้พวกเขารู้สึกสับสน เพราะ 1 ใน 3 คิดว่าคุณจำเป็นตองพูดคุยหรือถามก่อนเพื่อจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่พิเศษหรือเริ่มคบกันนั่นเอง ในขณะที่ 2/3 ส่วนที่เหลือเชื่อว่าควรใช้ความรู้สึกมากกว่าที่จะมาพูดคุยกันแบบนั้น การวิจัยพบว่าแม้คู่เดตจะรู้สึกดีต่อกันและตัดสินใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์แล้ว แต่พวกเขาจะรอให้ถึง 3 เดือนก่อนแล้วค่อยปิดการใช้งานแอปหาคู่ออนไลน์…

  • ชาวเน็ตแซว ‘เจ๊เทย์’ ควงหลัวใหม่ดู ‘เอ็ด’ เล่นดนตรี แถมจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันแบบไม่เกรงใจเล้ยยยย!!

    ชาวเน็ตแซว ‘เจ๊เทย์’ ควงหลัวใหม่ดู ‘เอ็ด’ เล่นดนตรี แถมจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันแบบไม่เกรงใจเล้ยยยย!!

    หากเพื่อนๆ ได้ติดตามข่าวคราวในวงการบันเทิงต่างประเทศ คงจะรู้ข่าวที่แฟนๆ จับเจ๊ Taylor Swift มาจิ้นกับ Ed Sheeran ที่ดูแล้วฟินกว่าคู่จริงซะอีก แต่ทั้งคู่ออกมาบอกแล้วนะว่าเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น และ Tay เองก็มีหวานใจตัวจริงแล้ว ล่าสุดเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Taylor Swift ได้เป็นหนึ่งในเซเลบที่ถูกเชิญไปร้องเพลงในงาน Capital’s Jingle Bell Ball ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ     และในคอนเสิร์ตครั้งนี้ Ed คู่จิ้นของเจ๊ก็ได้ขึ้นร้องเพลงด้วย   แต่ที่แฟนสังเกตเห็นคือ หลังจาก Taylor ร้องเพลงเสร็จแล้ว เธอก็ลงมาอยู่กับแฟนหนุ่มตัวจริงอย่าง Joe Alwyn เพื่อดูโชว์ที่เหลือด้วยกัน   ไม่ใช่แค่ยืนดูคอนเสิร์ตด้วยกันเท่านั้น แต่แฟนๆ ยังเห็นเธอและหลัวใหม่เต้นและร้องเพลง Thinking Out Loud ไปพร้อมกับๆ Ed ที่อยู่บนเวทีด้วย Taylor and Joe watching Ed Sheeran perform #CapitalJBB [IG story: stefflondon] pic.twitter.com/yA3QhqEyQt — Taylor Swift News…

  • เด็กสาวจีนวัย 16 ปี โพสต์ภาพโชว์อุ้มท้องให้ชาวเน็ตเห็น ถูกกระแสวิจารณ์ตีกลับอย่างรุนแรง

    เด็กสาวจีนวัย 16 ปี โพสต์ภาพโชว์อุ้มท้องให้ชาวเน็ตเห็น ถูกกระแสวิจารณ์ตีกลับอย่างรุนแรง

    เมื่อวัยรุ่นตั้งท้องก่อนวัยอันควร ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบเสมอ เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าพวกเขายังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่ เหมือนอย่างวัยรุ่นสาวชาวจีนวัย 16 ปี คนนี้ ที่ถูกกระแสวิจารณ์ตีกลับอย่างรุนแรง หลังจากที่เธอโพสต์ภาพขณะทั้งท้องบนโซเชียล     เด็กสาวคนนี้มากจากมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เธอได้โพสต์ภาพตัวเองเพื่อโชว์ให้ชาวเน็ตดูครรภ์ของเธอที่อยู่ในระยะใกล้คลอดเต็มทีแล้ว แทนที่ชาวเน็ตจะร่วมยินดีกับเธอในฐานะคนที่กำลังจะได้กลายเป็นแม่คนในเร็วๆ นี้ แต่ปรากฏว่าพวกเขากลับโฟกัสที่อายุของเธอมากกว่า     สื่อจีนเผยว่าเด็กหญิงคนนี้ อายุ 16 ปี เธอเกิดเมื่อปี 2000 ในขณะที่แฟนหนุ่มของเธอหรือว่าที่คุณพ่อของลูกอายุมากกว่าเพียง 1 ปีเท่านั้น ทั้งนี้หญิงสาวโพสต์ในโปรไฟล์ Weibo ของเธอว่า “เราแต่งงานกันแล้ว! เราแต่งงานกันแล้ว! เราแต่งงานกันแล้ว! แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้รับใบสมรส และนี่ก็ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดด้วย” นอกจากนี้หญิงสาวยังบอกอีกว่าถ้าลูกเป็นผู้ชาย พวกเขาจะตั้งชื่อลูกว่า Li Yunxi…     อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังคงทำให้ชาวเน็ตจีนสับสนและค้างคาใจ เพราะตามกฎหมายจีนแล้วผู้หญิงที่จะแต่งงานได้นั้นต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนผู้ชายต้อง 22 ปีขึ้นไป   ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้รูปภาพของเด็กสาวถูกรีโพสต์ถึง 47,000 ครั้ง และมีการแสดงความคิดเห็นอีกมากกว่า 43,000…

  • คลิปในอดีตของ ซอง เฮ เคียว และ จอน จี ฮยอน กับความสวยใสที่ยังคงไม่จางหายไป…

    คลิปในอดีตของ ซอง เฮ เคียว และ จอน จี ฮยอน กับความสวยใสที่ยังคงไม่จางหายไป…

    เมื่อพูดถึงซุป’ตาร์สาวตัวท็อปของเมืองไทย หลายคนคงนึกถึงขุ่นแม่อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ แล้วถ้าพูดถึงฝั่งเกาหลีบ้างหล่ะ เพื่อนๆ นึกถึงใคร? แน่นอนว่าอาจจะมีหลายคน แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ซอง เฮ เคียว และ จอน จี ฮยอน ที่ถือเป็นนักแสดงหญิงแนวหน้าของเกาหลีใต้ ที่สำคัญ ดูเหมือนว่าเวลาจะทำอะไรพวกเขาเค้าไม่ได้เลย     ที่ต้องนำเสนอ ซอง เฮ เคียว และ จอน จี ฮยอน เพราะทั้งคู่นั้นได้เข้าพิธีสมรสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอายุก็อยู่ในช่วงเลขสามแล้ว แต่ดูความตึง ความสวยบนใบหน้าสิ เหมือนสมัยสาวๆ ไม่มีผิด     สำหรับความงามในปัจจุบัน เพื่อนอาจจะเห็นตามโซเชียลเกือบทุกวันอยู่แล้ว งั้นเราลองย้อนดูทั้งสองคนผ่านวิดีโอที่เคยเผยแพร่ในยุค 90 กันดีกว่า แล้วจะรู้ว่าความสวยในวันนั้นกับวันนี้แทบไม่ต่างกันเลย     เริ่มด้วยคลิปของซอง เฮ เคียว ที่ถ่ายเมื่อปี 1999 ตอนที่เธออายุ 18 ปีเท่านั้น   ตอนนั้นกับตอนนี้เธอดูไม่เปลี่ยนเลย จนชาวเน็ตไม่เชื่อว่าอายุของเธอนั้นแตะเลขสามแล้ว…

  • 17 ตัวอย่างแห่งความตั้งใจ ที่พิสูจน์ว่าหากเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าเสมอ

    17 ตัวอย่างแห่งความตั้งใจ ที่พิสูจน์ว่าหากเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าเสมอ

    ผู้คนมักจะตัดสินเราจากรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งที่จริงแล้วเราอาจจะไม่ใช่คนแบบนั้นก็ได้ ลองลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองดูสิ ไม่ใช่แค่ผู้คนมองคุณเปลี่ยนไป แต่มันจะทำให้คุณได้ค้นพบตัวเองและภาคภูมิใจในตัวเองด้วย เหมือนอย่างพวกเขาเหล่านี้ที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนพบกับผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนด้วย   1. “หลังจากที่รักษาสิวมาเป็นปี ฉันก็กลับมารู้สึกมั่นใจอีกครั้ง ฉันไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าทุกวัน แต่ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาจ้องหน้าด้วย”   2. “ฉันพูดได้เลยว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเองจริงๆ”   3. จากสาวหน้าจืดวันนั้น เปลี่ยนตัวเองสู่นางงามโลก   4. “ฉันมุ่งมั่นลดน้ำหนักตั้งแต่เดือนมีนาคม ทั้งออกกำลัง ควบคุมอาหาร แล้วดูผลที่ได้สิ จากไซส์ 12 เหลือแค่ 6”   5. จากสาวแว่นผมเซอร์ สู่สาวมั่น   6. หญิงสาวที่มุ่งมั่นลดน้ำหนัก จนลดได้มากกว่า 76 กิโลกรัมใน 11 เดือน   7. นี่คือความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลงตัวเอง   8. หลายคนไม่เชื่อว่านี่คือคนคนเดียวกัน   9. พอเปลี่ยนตัวเองแล้ว ดูเหมือนพระเอกในหนังเลย   10. ตัวอย่างคู่รักที่เปลี่ยนแปลงตัวเองไปด้วยกัน…

  • Choi Min Su นายแบบเกาหลีใสๆ ถ่ายรูปคู่กับลูกบ่อยมาก มีความเป็นหลัวตัวอย่างระดับสูง!!

    Choi Min Su นายแบบเกาหลีใสๆ ถ่ายรูปคู่กับลูกบ่อยมาก มีความเป็นหลัวตัวอย่างระดับสูง!!

    เมื่อพูดถึงโอปป้าเกาหลี สาวๆ คงจะนึกถึงพระเอกในซีรีส์อย่าง ซงจุงกิ, ลีมินโฮ, ลีจงซอก, โซจีซบ หรือคนอ่ื่นๆ อีกมากมายตามแต่ใจจะใฝ่ฝัน แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวขี้ส่อง อยากแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับ Choi Min Su นายแบบชาวเกาหลีใต้ที่มีดีกรีความหล่อไม่เป็นรองพระเอกชื่อดังเหล่านั้นแม้แต่น้อย     ก่อนที่สาวๆ จะมโนไปไกล ขอบอกก่อนเลยนะว่า Min Su หนะ ไม่ใช่หนุ่มโสดนะ แต่เขาแต่งงานและมีลูกสาวแสนน่ารักแล้วหนึ่งคน นอกจากจะเป็นนายแบบหน้าหล่อ รูปร่างดีแล้ว Min Su ยังเป็นคนที่รักครอบครัวมากๆ ด้วย สังเกตได้จากภาพที่โพสต์ลงในอินสตาแกรม ซึ่งเต็มไปภาพช่วงเวลาที่เขาอยู่กับภรรยาและลูกสาวตัวน้อย จนถูกยกให้เป็นหลัวตัวอย่าง     แม้จะเป็นนายแบบที่คิวแน่น แต่ Min Su พยายามที่จะใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด เพราะเขาอยากทำหน้าที่พ่อที่ดี ที่สำคัญเขามีความสุขเวลาที่ได้เล่นหรือทำทุกอย่างร่วมกับลูกสาว     อยู่ในเวลางาน ต้องเปิดโหมดเข้มขรึมเข้าไว้   พออยู่กับลูก ก็จะมีความสุขแบบนี้แหละ   โอ้ยยย ณ จุดจุดนี้จะมีใครน่าอิจฉาไปกว่าเด็กน้อยคนนี้อีก   มีพ่อหล่อขนาดนี้ ไม่รักได้ไง  …

  • เจ้าเหมียวยอด “นักพูด” จะไม่ยอมนอนเด็ดขาด ถ้าไม่ได้เม้าท์มอยกับเจ้าทาสก่อนนอน…

    เจ้าเหมียวยอด “นักพูด” จะไม่ยอมนอนเด็ดขาด ถ้าไม่ได้เม้าท์มอยกับเจ้าทาสก่อนนอน…

    ขึ้นชื่อว่าแมว อยู่เฉยๆ ก็มีคนแห่ขอเป็นทาสแล้ว แต่บางตัวยังเพิ่มดีกรีความน่ารักด้วยนิสัยเฉพาะตัว เล่นซะมนุษย์หลงหัวปักหัวปำเลย อย่างเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ชอบการพูดคุยกับเจ้าของ โดยเฉพาะเวลาก่อนนอนมันต้องได้คุยกับเจ้าของ ไม่งั้นมันจะไม่ยอมนอนเด็ดขาด     ไม่ว่าคืนนั้นเจ้าของจะมีเรื่องคุยด้วยหรือไม่ แต่เจ้าเหมียวขอให้ได้คุยไว้ก่อน เพราะการได้คุยกับทาสเปรียบเสมือนอาหารหลักขาดไม่ได้จริงๆ เมื่อได้เริ่มคุยกับเจ้าของแล้ว สักพักความง่วงก็จะเข้ามา ตามันจะเริ่มปรือๆ แล้วค่อยๆ หลับไปในที่สุด นี่แหละคือความสุขเล็กๆ ของแมวเหมียว     ส่วนเจ้าของเองก็เข้าใจในจุดๆ นี้ดี เมื่อให้อาหารมันจนอิ่่มแล้ว เธอก็จะมานอนอยู่ข้างๆ มัน แล้วก็เริ่มคุยกัน แม้จะพูดคุยกันคนละภาษา แต่ความผูกพันที่ผ่านมา ทำให้ทั้งคู่เข้าใจกันเสมอ     วันนี้ทำอะไรมาบ้าง เจ้าทาส?   ง้อววว ง่วงแล้ว ฝันดีนะ   เห็นมั้ยว่าแมวไม่ได้ต้องการอะไรมากมายหรอก มันขอแค่ได้อยู่กับคุณ ได้คุยกับคุณในระยะเวลาสั้นๆ แค่นี้มันก็สุขใจแล้ว ใครที่เลี้ยงแมวอยู่ ลองสังเกตดูน่าเจ้านายของคุณชอบอะไร จะได้ตามใจมันถูกยังไงหล่ะ ที่มา fluffysworld

  • ตำรวจได้รับแจ้งว่าแม่ขโมยของในร้าน พอรู้สาเหตุว่าทำเพื่อลูกที่หิวโหย 3 คน ก็ต้องสะเทือนใจ

    ตำรวจได้รับแจ้งว่าแม่ขโมยของในร้าน พอรู้สาเหตุว่าทำเพื่อลูกที่หิวโหย 3 คน ก็ต้องสะเทือนใจ

    ตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองภายใต้กฎหมายที่ระบุไว้ ดังนั้นเมื่อพบการกระทำผิดก็ต้องนำตัวคนผิดมาลงโทษเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในบางครั้ง บางสถานการณ์ ตำรวจเองคงมีความลำบากใจที่ต้องทำแบบนั้น อย่างกรณีของแม่คนหนึ่งที่ขโมยของจากร้าน Food Lion รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา     เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ Keith Bradshaw และ Candace Spragins ได้รับแจ้งจาก Food Lion ว่าพบผู้หญิงคนหนึ่งขโมยอาหารภายในร้านไป พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านของหญิงคนดังกล่าวทันที แต่เมื่อไปถึงตำรวจก็เจอกับภาพที่ไม่คาดคิด เพราะผู้หญิงคนนั้นอยู่กับลูกบุญธรรม 3 คน และอาหารที่ขโมยมานั้นก็เพื่อลูกๆ อย่างไรก็ตาม คุณแม่คนนั้นได้คืนเงินตามมูลค่าของอาหารที่ขโมยคือ 1,170 บาท พร้อมขอโทษทั้งน้ำตาสำหรับการก่อเหตุในครั้งนี้     จากนั้นตำรวจก็เดินไปเปิดตู้เย็นในบ้านของเธอ แล้วก็ต้องเจอกับภาพสะเทือนใจอีกครั้ง เพราะในนั้นไม่มีอาหารเลยและทราบมาว่าเธอไม่มีอาหารให้ลูกๆ เกือบ 3 วันแล้ว เธอยังบอกอีกว่า “ตลอดเวลาที่ผ่ามาน เราพยายามไปขอความช่วยเหลือจากคริสตจักรและเพื่อนบ้านแต่ไม่มีใครให้อะไรเราเลย” ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจไปขโมยของในร้านขายของ เธอบอกว่ารู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นผิดและเสียใจกับสิ่งที่ทำ แต่เธอทนเห็นลูกทนหิวไม่ได้จริงๆ     จากเรื่องราวต่างๆ บวกกับสภาพความเป็นอยู่ที่เห็น ตำรวจจึงลงความเห็นว่านี่ไม่ใช่การกระทำผิดที่เกิดขึ้นจากความโลภ แต่เป็นเพราะเธอยากจนมากจริงๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อทำผิดแล้วก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย ดังนั้นคุณแม่คนนี้จึงถูกนำตัวไปขังในคุก แต่ไม่นานก็ถูกปล่อยตัวออกมา     ส่วน Keith…

  • เจ้าของเล่าเรื่องสุดฮา เมื่อน้องหมาของเขาแอบเข้าไปนอนในรถส่งของ เลยได้เที่ยวไปทั่ว

    เจ้าของเล่าเรื่องสุดฮา เมื่อน้องหมาของเขาแอบเข้าไปนอนในรถส่งของ เลยได้เที่ยวไปทั่ว

    ว่ากันว่าสุนัขเนี่ยมีความสามารถในรับรู้เฉลี่ยเท่ากับมนุษย์อายุ 2 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่กำลังซนพอดีเลย อยาลอง อยากรู้ไปซะทุกเรื่อง จนบางทีมันก็ได้ประสบการณ์แปลกใหม่กลับมา อย่างเรื่องราวของเจ้าหมาจอมป่วนที่ถูกแชร์ในเว็บไซต์ Reddit โดยระบุว่าน้องหมาตัวหนึ่งแอบเข้าไปนอนในรถส่งของ เลยทำให้มันได้เที่ยวไปทั่ว     Dickfromaccounting ได้โพสต์ภาพน้องหมาโกลเด้นนั่งอยู่กลางหิมะที่กำลังทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก และมีป้ายห้อยที่คอของมัน เขียนไว้ว่า “คนส่งของลืมโยนคุกกี้ให้ผม ผมเลยแอบขึ้นไปอยู่ในรถบรรทุกของเขาจนทำให้ผมได้เที่ยวไปทั่วเลย และสุดท้ายเขาก็มาส่งผมที่บ้าน”     ภาพนี้ทำสร้างความประทับให้ชาวเน็ตกันถ้วนหน้า มีคนนับร้อยเข้ามาแสดงความคิดเห็น ในขณะที่บางคนก็ร่วมแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองด้วย ผู้ใช้ชื่อ Strykrhd เล่าว่า “สุนัขของฉันก็เคยเข้าไปในรถบรรทุกเหมือนกัน เพราะในนั้นมันเงียบสงบ ทำให้มันนอนได้อย่างสบาย แถมได้เที่ยวจนหนำใจเลย”     YesNoMaybe บอกว่า “มีแมวของเพื่อนบ้านตัวหนึ่ง ชอบกระโดดขึ้นรถตอนที่เราเปิดประตูทิ้งไว้ เมื่อเราเจอมัน มันก็จะร้องเมี้ยว เพื่อให้เราลูบตัวให้”     ชาวเน็ตอีกคนบอกว่า “ผมเคยเจอแบบนี้กับแพะครั้งหนึ่ง มันชอบกินกระดาษ กล่อง โดยเฉพาะการเคี้ยวกล่องกระดาษแข็ง เป็นสิ่งที่มันชื่นชอบสุดๆ” “พนักงานขนส่งที่มารับของจากออฟฟิศเรารู้เรื่องเกี่ยวกับเจ้าแพะตัวนี้ดี แต่วันหนึ่งมีพนักงานใหม่มารับของ ขณะที่อยู่ในสำนักงานผมเห็นมันแอบกระโดดขึ้นท้ายรถบรรทุก ก่อนรถจะขับออกไป “โชคดีที่คนขับรถรู้ตัวหลังจากขับไปได้ประมาณ 200 เมตร  ถ้าเขารู้ตัวช้ากว่านี้อีกนิด ฉันไม่อยากนึกเลยว่าข้าวของในรถจะเป็นยังไง”   …

  • บังเอิ๊ญบังเอิญ เมื่อหนุ่มพบตัวเองในวัยเด็กอยู่ในรูปภาพครอบครัวของคู่หมั้นเมื่อ 10 ปีก่อน

    บังเอิ๊ญบังเอิญ เมื่อหนุ่มพบตัวเองในวัยเด็กอยู่ในรูปภาพครอบครัวของคู่หมั้นเมื่อ 10 ปีก่อน

    เราหลายคนสามารถบอกได้ว่าเจอกับแฟนครั้งแรกเมื่อไหร่ ที่ไหน แล้วเคยสงสัยมั้ยว่าบางทีเราอาจจะเจอกันก่อนหน้านั้นแล้วก็ได้ เพียงแค่ตอนนั้นยังไม่รู้จักกัน เหมือนอย่างคู่รักคู่นี้ที่มีภาพมายืนยันว่าจริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้เพิ่งเจอกันตอนหนุ่มสาว แต่เคยอยู่ในที่เดียวกัน เวลาเดียวกันตั้งวัยเด็กแล้ว Verona Koliqi อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่มีพื้นเพอยู่ในสาธารณรัฐคอซอวอ และเคยไปเที่ยวกับครอบครัวที่ชายหาดในประเทศมอนเตเนโกรเมื่อ 10 ปีก่อน     หญิงสาวเล่าว่าเมื่อเธอและแฟนหนุ่ม Mirand Buzaku ย้อนดูรูปภาพของเธอในวัยเด็ก แล้วเธอก็สังเกตเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังลอยบนแพยางอยู่ด้านหลังของเธอและครอบครัว ส่วนชายหนุ่มเองรู้สึกว่าเด็กคนนั้นช่างเหมือนเขาในวัยเด็กซะเหลือเกิน ทั้งเสื้อและกางเกงที่เด็กชายคนนั้นใส่ เหมือนกับของเขาไม่ผิด ทั้งคู่จึงลองไปถามครอบครัวของ Buzaku จนได้รับการยืนยันว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว พวกเขาไปเที่ยวด้วยกันที่นั่นจริงๆ…   ภาพครอบครัวของ Koliqi ที่บังเอิญมี Buzaku คู่หมั้นคนปัจจุบันอยู่ในเฟรมด้วย   ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเคยเจอกันมาก่อนในวัยเด็ก เพราะทั้งคู่จำได้ว่าเจอกันครั้งแรกเมื่อช่วงฤดูร้อนของปี 2016 ในสาธารณรัฐคอซอวอ ก่อนจะตัดสินใจหมั้นกันในปีถัดมา แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากๆ หญิงสาวจึงแชร์เรื่องราวของเธอลงในอินสตาแกรม จนมีคนเข้ามาถูกใจกว่า 30,000 คนและคอมเมนต์อีกเพียบ     นอกจากนี้ยังทำให้ชาวเน็ตบางคนแชร์เรื่องราวความบังเอิญในความรักของพวกเขาด้วย โดยหญิงสาวคนหนึ่งเล่าว่า “ฉันกับแฟนหนุ่มเคยไปคอนเสิร์ตเล็กๆ ที่เดียวกัน แต่นั่นมัน 4 ปีก่อนที่เราจะได้พบกัน”   คู่ไหนเป็นแบบนี้บ้าง เคยอยู่ในที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน…

  • เด็กสาวร่ำไห้เสียใจที่หมาทำร้าย ‘ตุ๊กตาเอลฟ์’ บนชั้นวางของ แม่เลยพาไปโรงบาลซะเลย!!

    เด็กสาวร่ำไห้เสียใจที่หมาทำร้าย ‘ตุ๊กตาเอลฟ์’ บนชั้นวางของ แม่เลยพาไปโรงบาลซะเลย!!

    เด็กๆ เป็นวัยที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่และจริงจังกับทุกอย่าง แม้แต่ตุ๊กตาที่ไม่มีชีวิต พวกเขาก็รักเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง ดังนั้นผู้ใหญ่ควรใส่ใจกับความรู้สึกเด็กให้มากๆ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างหนูน้อยผู้ไร้เดียงสาคนนี้ที่ร้องไห้หนักมากเมื่อพบตุ๊กตาตัวโปรดของเธอที่อยู่บนชั้นวางของแขนหักไปข้างหนึ่งเพราะฝีมือเจ้าหมา     Jenn Thelen คุณแม่ชาวออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เล่าว่าเช้าวันที่ 5 ธันวาคม ปี 2017 เธอตื่นมาเพราะเสียงร้องไห้ของ Aubrie ลูกสาววัย 7 ขวบ เมื่อวิ่งไปดูปรากฏว่าลูกสาวไม่ได้รับบาดเจ็บหรือตกอยู่ในอันตรายเลย แต่เธอร้องไห้เพราะเจ้าหมา Zoey ฉีกเจ้า Sam ตุ๊กตาเอลฟ์ของเธอที่อยู่บนชั้นวางของออกเป็นชิ้นๆ     Jenn รู้ดีว่านั่นเป็นตุ๊กตาที่ลูกสาวหวงและรักมากที่สุด เธอจึงตัดสินใจพาเจ้าตุ๊กตาเอลฟ์ไปยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล Arnold Palmer Hospital for Children ทันที เมื่อ Jenn พา Sam พร้อมชิ้นส่วนของมันมาถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ก็ใส่ใจดูแลมันเป็นอย่างดีด้วยการพา Sam นั่งเตียงฉุกเฉินเพื่อจะทำการช่วยชีวิตต่อไป     ความใส่ใจของเจ้าหน้าที่ถูกบันทึกวิดีโอเอาไว้ ก่อนที่ทางโรงพยาบาลจะแชร์ลงในหน้าเพจเฟซบุ๊กของพวกเขา จนกลายเป็นเรื่องโด่งดังในโซเชียล หวังว่าหนูน้อย Aubrie คงจะได้พา Sam กลับบ้านได้ในเร็วๆ นี้ แต่คราวนี้ต้องเก็บให้ห่างเจ้า Zoey เลยนะ     เคสฉุกเฉินมาแล้ว ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะ…

  • หนูน้อยเข้าใจผิดคิดว่าคุณลุงหนวดเฟิ้มเป็นลุงซานต้า ลุงเลยสวมบทเป็นซานต้าจริงๆ ซะเลย!?

    หนูน้อยเข้าใจผิดคิดว่าคุณลุงหนวดเฟิ้มเป็นลุงซานต้า ลุงเลยสวมบทเป็นซานต้าจริงๆ ซะเลย!?

    เมื่อพูดถึงซานตาคลอส เราคงจะนึกถึงภาพคุณลุงแก่ๆ มีหนวดคราวเฟิ้มสีขาว มีพุง และใส่ชุดสีแดงขาว ใช่แล้ว นั่นแหละคือคุณลุงซานต้า แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว พวกเค้าอาจจะจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้นเมื่อเห็นใครก็ตามที่มีหนวดเฟิ้มสีขาวก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นลุงซานต้าไปซะหมด อย่างหนูน้อย Sophie Jo Riley ที่เดินอยู่ในห้างกับพ่อแม่เมื่อปี 2015 แล้วจู่ๆ เธอก็พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่าเห็นคุณลุงซานต้า     ลุงซานต้าที่เด็กหญิงหมายถึงคือ Saint Nick ซึ่งเขาไม่ได้แต่งตัวด้วยชุดซานตาคลอส ไม่ได้ใส่หมวกสีแดง แต่แต่งตัวด้วยเสื้อสีแดงธรรมดากับกางเกงยีน และบังเอิญไว้หนวดเฟิ้มเท่านั้นเอง เมื่อ Sophie Jo เห็นผู้ชายหนวดสีขาวใส่เสื้อสีแดง เธอไม่นึกถึงอะไรเลยอดจากคุณลุงซานต้าเท่านั้น แล้วเธอก็วิ่งเข้าไปหาเขา   ลองชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่เลย   แน่นอนว่าเมื่อคุณถูกเข้าใจผิดว่าเป็นลุงซานต้า คุณก็แค่บอกเด็กไปว่าไม่ใช่ หรือเข้าใจผิดอะไรก็ว่าไป แต่ Nick ไม่ทำแบบนั้น ไหนๆ เด็กน้อยก็เข้าใจผิดว่าเป็นซานต้าแล้ว Nick เลยตีเนียนแสร้งทำตัวเหมือนซานต้าแล้วนั่งลงคุยกับ Sophie Jo เป็นเรื่องเป็นราวเลย โดยพ่อของเด็กหญิงได้บันทึกช่วงเวลานั้นเอาไว้     Nick ถามเด็กน้อยว่า “หนูพร้อมสำหรับคริสต์มาสนี้หรือยัง?” “ปีนี้หนูจะเป็นเด็กดีมั้ย?” Sophie Jo พยักหน้า แล้วก็เธอก็ตื่นเต้นมากขึ้นอีกเมื่อคุณลุงถามเธอว่าจะเตรียมอะไรให้เขากิน เด็กหญิงตอบว่าเธอจะเตรียมคุกกี้ไว้ให้ลุงซานต้า แล้ว Nick…

  • การถ่ายแบบในธีม ‘ฉันมา ฉันเห็น ฉันรุก!!’ จับหนุ่มล่ำมากอดรัดฟัดเหวี่ยง จนอยากเข้าไปแจมบ้าง

    การถ่ายแบบในธีม ‘ฉันมา ฉันเห็น ฉันรุก!!’ จับหนุ่มล่ำมากอดรัดฟัดเหวี่ยง จนอยากเข้าไปแจมบ้าง

    การที่นิตยสารต่างๆ จับเอานายแบบหุ่นหล่อล่ำมาถ่ายแบบโชว์เนื้อหนังนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งการตลาดที่จะเรียกลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสาวๆ และหากสาวๆ คนไหนที่ชอบแนวนี้ เราขอแนะนำให้ดูภาพจากนิตยสาร Man About Town ที่เรียกได้ว่าร้อนแรงซะจนอยากมีส่วนร่วมด้วย     นี่คือชุดภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ Veni Vidi Vici ของ Man About Town ถ่ายโดย Mario Testino สำหรับงาน Man About Town Fall 2017   เดี๋ยว จะเอาตรงนี้เลยใช่มั้ย?   ส่วนคำว่า Veni Vidi Vici เป็นภาษาละติน แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “I Came I Saw I Conquered” ถ้าเป็นไทยก็ “ฉันมา ฉันเห็น ฉันรุก” เป็นคำที่ทหารของ Julius Caesar ใช้ในขณะที่เดินทัพกลับกรุงโรมในปี 46 ก่อนคริสต์ศักราช เพื่อฉลองชัยชนะที่ทัพของ Caesar มีเหนือคู่แข่ง ที่เมือง Zela…

  • ชาวเน็ตถึงกับตกหลุมรัก เมื่อชายหนุ่มตั้งอกตั้งใจเรียนแบบสุดๆ ในคาบวิชาสัตววิทยา

    ชาวเน็ตถึงกับตกหลุมรัก เมื่อชายหนุ่มตั้งอกตั้งใจเรียนแบบสุดๆ ในคาบวิชาสัตววิทยา

    เป็นธรรมดาที่การเรียนจะมีความน่าเบื่อบ้าง น่าตื่นเต้นบ้างสลับกันไป บางวิชาอาจจะไม่ตรงกับความสนใจของเราเลยทำให้ไม่ตั้งใจเรียนเท่าไหร่ ในขณะที่บางวิชาโคตรตรงกับความชอบของเราเลย จนทำให้เราตั้งใจเรียนเป็นพิเศษก็มี แต่ก็ไม่คิดว่าจะตั้งอกตั้งใจขนาดนี้…เรากำลังพูดถึงความตั้งใจเรียนของพ่อหนุ่ม Jalen Brooks วัย 17 นักเรียนชั้นมัธยมจากริเวอร์ไซด์ รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2016     จริงๆ แล้วใครๆ ก็ตั้งใจเรียนทั้งนั้นแหละ แต่ Jalen ดูจะตั้งใจเกินหน้าเกินตาไปหน่อย และบังเอิญว่ามีเพื่อนที่ชื่อ Jill Lojas แอบถ่ายวิดีโอปฏิกิริยาของเขาขณะที่เรียนวิชาสัตววิทยาไว้ด้วย   ใส่ใจการเรียนขนาดนี้ เอา A ไปเลยมั้ย?   ก่อนที่จะเริ่มเรียนคาบนี้ Jalen รู้อยู่แล้วว่าผู้ชำนาญในเรื่องสัตว์เลื้อยคลานจะนำสัตว์จากการค้าสัตว์ผิดกฎหมายมาโชว์ให้นักศึกษาดู แต่สัตว์ที่ชายหนุ่มคิดว่าไว้กับของจริงมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เค้าคิดว่าคงจะเป็นสัตว์เล็กๆ หรือสัตว์ทั่วไปเท่านั้น แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้หยิบสัตว์ที่เกินความคาดหมายด้วย อย่างพวกสัตว์เลื้อยคลาน โดยเฉพาะตอนที่หยิบงูออกมา ทำเอาชายหนุ่มอ้าปากค้างไปเลย     Jalen เล่าว่า “เจ้าหน้าที่เริ่มจากการนำไก่ตัวเล็กๆ ที่ถูกใช้ในการชนไก่ เห็นแบบนั้นผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร แต่แล้วเขาเริ่มนำสัตว์ขนาดใหญ่ขึ้นมา จนทำให้ผมรู้สึกทึ่งมาก” “เขาหยิบสัตว์จำพวกเลื้อยคลานออกมา ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในหัวของผมคือ ‘นี่มันไดโนเสาร์ชัดๆ’ จากนั้นเขาก็ดึงงูหลามออกมา มันใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นเลยล่ะ ผมนี่โคตรทึ่งเลย”    …

  • เด็กชายตัวน้อยได้เจอกับ ‘ซานตาคลอส’ เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป

    เด็กชายตัวน้อยได้เจอกับ ‘ซานตาคลอส’ เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป

    มนุษย์ทุกคนในโลกนี้ต่างมีความฝันเป็นของตัวเอง และไม่ว่าฝันนั้นจะเล็กหรือใหญ่ เราต่างก็อยากทำมันให้เป็นจริงสักครั้งในชีวิตนี้ ด้วยเหตุนี้ผู้ที่แต่งตัวเป็นซานตาคลอสมักจะทำให้ฝันของหลายๆ คนเป็นจริงในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เช่นเดียวกับที่หนูน้อย Miles Agnew ได้รับ Agnew เด็กชายวัย 2 ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านพักดูแลผู้ป่วยมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพและนับวันยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ     Michelle Agnew คุณแม่ของเด็กชายเล่าว่า “เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ดีๆ ร่างกายของเขาก็เกิดช็อกขึ้นมาและอาการเริ่มทรุดลงอย่างหนัก โดยที่เราเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” Agnews รับเลี้ยง Miles เมื่อตอนเขาอายุ 3 เดือนเท่านั้น เขาเกิดมาพร้อมกับโรค Microcephaly (ศีรษะเล็ก) สมองอัมพาต การมองเห็นไม่ค่อยดี โรคลมชักชนิดที่ไม่สามารถรักษาได้ และแพ้อาหาร ทั้งนี้ Miles ยังมีพี่น้องอีกสองคนรักเขามากๆ คือ Hailey วัย 13 ปี และ Taveon วัย 11 ปี     เรื่องราวและความทุกข์ทรมานของเด็กชายถูกแชร์ไปให้ Secret Sleigh Project ทราบ ซึ่งเป็นองค์ที่ทำงานเพื่อเด็กที่ป่วยเป็นโรคและร่างกายอ่อนแอทั่วสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5…

  • โซฟาที่มีแรงบันดาลใจจาก ‘ก้อนเมฆ’ ช่วยให้คุณนอนหลับฝันกลางวันได้อย่างแจ่มแมวยิ่งขึ้น!!

    โซฟาที่มีแรงบันดาลใจจาก ‘ก้อนเมฆ’ ช่วยให้คุณนอนหลับฝันกลางวันได้อย่างแจ่มแมวยิ่งขึ้น!!

    ปกติโซฟาจะมีรูปทรงเหมือนเก้าอี้ แต่มันจะหนา จะนุ่ม จะเด้งๆ หรือมีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ ที่จะทำให้คนนั่งรู้สึกสบายและใช้เป็นที่พักผ่อนได้ แต่สำหรับ Cheng-Tsung Feng นักออกแบบชาวไต้หวัน ได้คิดค้นโซฟาที่มีรูปทรงแตกต่างออกไป แต่ให้ความสบายไม่ต่างกัน     Tsung Feng ได้ออกแบบ Daydreamer เก้าอี้พักผ่อนหรือโซฟา ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจินตนาการก้อนเมฆในวัยเด็ก นักออกแบบบอกว่า “ตอนเด็กๆ ผมฝันที่อยากมีโอกาสบินเหนือเมฆ เมื่อโตขึ้นเลยอยากสานฝันในวัยเด็กให้เป็นจริง”     สำหรับวัสดุที่ใช้ทำโซฟาก้อนเมฆนั้น นักออกแบบเลือกใช้วัสดุที่ทำให้รูปร่างของโซฟาเปลี่ยนไปตามการเคลื่อนไหวของหรือรูปร่างของผู้นั่ง เพื่อให้รู้สึกสบายเหมือนนั่งอยู่บนก้อนเมฆ ด้วยความสบายและความลงตัวทั้งหมดเหล่านี้ จะช่วยให้หลายๆ คุณรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในวัยเด็กอีกครั้ง เมื่อนั่งหรือนอนบนโซฟาสุดพิเศษนี้     Daydreamer เรียกได้ว่าเป็นโซฟาอเนกประสงค์ เพราะคุณสามารถทำให้มันเป็นเก้าอี้สำหรับพักผ่อน หรือจะเปลี่ยนให้เป็นที่นอนก็ได้ โดยที่ยังสัมผัสได้ถึงความสบายเท่าเดิม   นอนหลายคนก็ได้ ให้ความสบายเท่ากัน   สำหรับใครที่สนใจเฟอร์นิเจอร์สุดสร้างสรรค์แบบนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chengtsung  นั่งอ่านหนังสือด้วยท่วงท่าสบาย จะทำให้มีสมาธิมากขึ้น   หรือจะใช้เป็นที่นอนก็ได้   รองรับทุกท่วงท่าที่คุณเคลื่อนไหว   กึ่งนอนกึ่งนั่งก็ดีนะ   มันก็จะนุ่มๆ หน่อยอะนะ  …

  • หนุ่มวัย 27 ผู้เคยติดเหล้า โชว์ใบหน้าหลังเลิกได้แล้ว 600 วัน ด้วยความรู้สึกที่สดใสกว่าเดิม

    หนุ่มวัย 27 ผู้เคยติดเหล้า โชว์ใบหน้าหลังเลิกได้แล้ว 600 วัน ด้วยความรู้สึกที่สดใสกว่าเดิม

    การติดเหล้านั้นไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อสุขภาพเท่านั้น แต่มันยังส่งผลต่อสภาพร่างกายนอกของคุณอีกด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดจากใบหน้าของคุณ หากใครคิดว่ามันไม่แตกต่าง ลองมาดูใบหน้าของ John DeCaux หนุ่มวัย 27 ปี ที่เผยใบหน้าก่อนและหลังเลิกเหล้าว่ามันต่างกันยังไง     John เคยติดเหล้าอย่างหนัก ถึงขั้นที่ต้องดื่มเหล้าครึ่งขวดต่อวัน แต่แล้ววันหนึ่งเขาตัดสินใจเลิกอย่างเด็ดขาด จนรู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่ในเวลาต่อมา ชายหนุ่มบอกว่าไม่เคยรู้สึกดีเท่ากับการเลิกเหล้าได้แล้วใน 600 วันมาก่อนเลย และเขาก็อยากแบ่งปันความเปลี่ยนแปลงให้กับคนอื่นๆ     “หลังจากที่เลิกเหล้า น้ำหนักผมลดลงไปถึง 17 กิโลกรัม และตอนนี้ผมได้ไปยิมเพื่อออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน” John  กล่าว John เล่าว่า “วันที่ 16 เดือนเมษายนปีที่แล้ว เป็นวันที่ผมตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะเลิกเหล้า เพราะภรรยาเป็นคนทำให้ผมรู้ตัวว่าดื่มไปมากแค่ไหน และผมควรจะพอได้แล้ว”     เขาบอกอีกว่า “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมพยายามเลิกเหล้า แต่มันคือครั้งแรกที่ผมอยากเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง นอกจากนี้มันยังเป็นการทำเพื่อภรรยาด้วย” วันแรกของการเลิกเหล้า John และภรรยาช่วยกันนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และแก้วทุกใบที่เคยรินเหล้าออกจากบ้านจนหมด “ผมคิดว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับการรักษาอาการติดเหล้าของผม เพราะมันทำให้ตระหนักว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ควบคุมชีวิตผม” ชายหนุ่มบอก     หลังจากที่หยุดดื่มได้สักพัก John รู้สึกว่ามีพลังมากขึ้น มีเวลามากขึ้น เขาเรียนรู้ที่จะทำอาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งโชว์การทำอาหารผ่านสื่อออนไลน์ด้วย ที่น่าประทับใจที่สุดคือตอนนี้ John…

  • 29 ภาพแห่งความเพอร์เฟกต์ ทุกอย่างลงล็อกอย่างพอดีเป๊ะ เห็นแล้วมันฟินลูกตาเหลือเกิน

    29 ภาพแห่งความเพอร์เฟกต์ ทุกอย่างลงล็อกอย่างพอดีเป๊ะ เห็นแล้วมันฟินลูกตาเหลือเกิน

    การได้เห็นความเพอร์เฟกต์ ความพอดีหรือความเป๊ะนั้น ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือบังเอิญ มักจะทำให้เรารู้สึกฟินลูกตาและรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เหมือนอย่างภาพต่อไปนี้ที่เผยให้เห็นความลงล็อกอย่างพอดีเป๊ะ จนทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความสมบูรณ์แบบ   1. ดับเบิลเบสเหมือนออกแบบมาเพื่อคุณปู่คนนี้โดยเฉพาะ ดูพุงสิ ลงล็อกพอ   2. มุมของสะพานในนิวซีแลนด์ เหมือนมี 4 สถานที่ ทั้งที่มันคือที่เดียวกัน   3. การจัดเรียงสินค้าที่ทำให้ลูกค้าหาของง่ายขึ้น แถมดูแล้วสบายตาด้วย   4. เป็นการเรียงแผ่นซีดีที่เป๊ะทุกระเบียบนิ้ว   5. ใครที่มีลายมือแบบนี้โดยธรรมชาตินี่ต้องเป็นคนที่มีระเบียบมากแน่ๆ   6. นี่แค่เลคเชอร์นะ นึกว่าทำส่งอาจารย์   7. เสื้อที่มีความลงล็อกกับลายสักเป๊ะๆ   8. นี่ก็เหมือนกัน พอดีเหมือนจับวาง   9. แหม่ ตัวเลขเรียงกันซะสวยเลย เอาไปตีเป็นเลขเด็ดได้เลยนะเนี่ย   10. ความเพอร์เฟกต์แบบไม่ได้ตั้งใจ   11. โอ๊ยยย นี่มันจะเก่งเกินไปแล้ว   12. ภาพจากที่อินสตาแกรมที่ควรค่าแก่การติดตาม  …

  • เจ้าสิงโตผู้เหงาหงอย โผเข้ากอดผู้ช่วยชีวิตในวัยเด็ก หลังไม่ได้พบเจอกันอย่างยาวนาน

    เจ้าสิงโตผู้เหงาหงอย โผเข้ากอดผู้ช่วยชีวิตในวัยเด็ก หลังไม่ได้พบเจอกันอย่างยาวนาน

    เมื่อพูดถึงสิงโต เราคงจะนึกถึงสัตว์เจ้าป่าที่มีความแข็งแกร่ง ดุร้ายและพร้อมเขมือบเหยื่อได้ทุกเมื่อ จนทำให้ใครๆ ไม่อยากเข้าใกล้มัน แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าสัตว์เจ้าป่าก็มีมุมอ่อนโยนเหมือนกัน อยู่ที่ว่ามันเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบไหน และได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างไร     อย่างเจ้า Kiara ที่ถูกตั้งชื่อตามตัวละครใน Lion King มันกระโจนเข้าหาผู้ดูแลในวัยเด็ก หลังจากที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก Adolfo เคยช่วยชีวิต Kiara ตอนที่มันยังเป็นเพียงลูกสิงโตน้อย แต่ไม่นานหลังจากนั้นมันก็ถูกย้ายไปอยู่ที่มูลนิธิ Black Jaguar-White Tiger Foundation โดยอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ     จนเมื่อปี 2015 ทางสถานดูแลได้โพสต์บนเพจเฟซบุ๊ก Black Jaguar-White Tiger Foundation จนมีผู้เข้าชมเกือบ 3 ล้านครั้ง ในวิดีโอนั้นเป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้งของ Kiara และ Adolfo หลังจากที่ต้องอยู่ห่างกันมานานแสนนาน โดยทันทีที่เจ้าสิงโตเห็นผู้มีพระคุณ มันก็พุ่งเขาหาและกระโดดกอดเขาด้วยความดีใจ จนทั้งคู่ล้มลงไปกองกันพื้นด้วยกัน     Kiara ไม่หยุดแค่นั้น มันนัวเนียและกลิ้งไปกลิ้งมาบนตัวของ Adolfo พร้อมทั้งเลียหน้าเขา เพื่อบอกให้รู้ว่ามันดีใจมากแค่ไหนที่ได้เจอชายหนุ่มอีกครั้ง     สำหรับมูลนิธิ Black Jaguar-White Tiger Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยนักธุรกิจชาวเม็กซิกัน…

  • ศิลปินสร้างงานศิลป์ระดับเด็ดดวง วาดลายละเอียดยิบ จนออกมาเหมือนพรมเปอร์เซียเด๊ะๆ

    ศิลปินสร้างงานศิลป์ระดับเด็ดดวง วาดลายละเอียดยิบ จนออกมาเหมือนพรมเปอร์เซียเด๊ะๆ

    การสร้างสรรค์งานศิลปะให้ออกมาดูน่าทึ่งนั้น ศิลปินจำเป็นต้องมีความสามารถในหลากหลายด้าน ไม่ใช่แค่ฝีมือหรือพรสวรรค์ แต่มันไปรวมไปถึงความอดทน ความตั้งใจ และความประณีต ที่สำคัญคือต้องมีแรงบันดาลใจ เหมือนกับ Jason Seife ศิลปินจากเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างสรรค์ผลงานที่มีความละเอียดสูงราวกับลวดลายบนพรมเปอร์เซียจริงๆ Seife เป็นนักวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังและนักออกแบบกราฟิก เขาเริ่มฝึกทำงานศิลปะอันซับซ้อนนี้ตั้งแต่ปี 2015 โดยการแสดงความรู้สึกของตนเองผ่านงานศิลปะ     ผลงานแต่ละชิ้นของเขามีความประณีตและความละเอียดสูงมาก ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้คือหมึก สีอะคริลิค สร้างให้เป็นลวดลายดอกไม้และรูปทรงเรขาคณิตที่เรามักจะเห็นบนพื้นขนาดใหญ่ ส่วนแรงบันดาลใจที่ทำให้ Seife ทำงานแนวนี้มาจากประวัติศาสตร์การออกแบบพรมคลาสสิกของช่างทอบวกสีสันที่บ่งบอกรสนิยมของชนเผ่าของพวกเขา ดังนั้น Seife จึงนำมาสร้างเป็นศิลปะในแบบของเขาด้วยการใส่ความคิดของตัวเองลงไป เขาเลือกสีและรูปแบบที่บ่งบอกถึงความคิดและอารมณ์ของเขาในขณะนั้น     ศิลปินหนุ่มบอกว่าพื้นหลังบางส่วนในงานของจะมีความเป็นตะวันออกกลาง เพราะตอนเด็กๆ เขาเกิดที่นั่นและมีประสบการณ์ที่น่าจดจำอยู่ที่นั่น “การออกแบบพรมแบบดั้งเดิมที่ทำโดยช่างทอมักจะมีเอกลักษณ์ ประเพณี และธรรมเนียมต่างๆ แฝงอยู่ในลวดลายเหล่านั้น นั่นหมายความว่าทุกอย่างมันถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีเหตุผล” Seife บอก     เขาบอกอีกว่า “ไม่ว่าจะเป็นผ้าที่ใช้ สี วิธีทำ ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับสถานที่ เวลา และทำไมพวกเขาถึงสร้างมันขึ้นมา” “ผมเองก็อยากรวมสิ่งเหล่านั้นไว้งานของผม ทั้งวิธีการ ลวดลาย และสี เพื่อสะท้อนอารมณ์ ความรู้สึกที่เฉพาะเจาะจงในเวลาใดเวลาหนึ่งของผม” เขาบอก การจะสร้างสรรค์ผลงานตามที่ตั้งใจไว้นี้อาจต้องใช้เวลาสองถึงสามเดือนต่อชิ้น เพื่อที่จะทำให้มันสมบูรณ์ที่สุด…

  • 27 บุคคลประหลาด ชอบทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน มันก็เลยเกิดเป็นความฮาแบบนี้แหละ

    27 บุคคลประหลาด ชอบทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน มันก็เลยเกิดเป็นความฮาแบบนี้แหละ

    ในโลกนี้จะมีคนบางประเภทหนึ่งที่ชอบทำอะไรแปลกๆ สวนทางกับชาวบ้านชาวช่อง จะเป็นเพราะตั้งใจหรือบังเอิญไม่รู้ แต่บางทีมันกลายเป็นมหกรรมความฮา เหมือนพวกเขาเหล่านี้   1. เตาผิงปกติมันเชยแล้ว สมัยใหม่มันต้องแบบนี้   2. นี่คงจะหิวจัด เห็นไรใกล้มือก็ยัดใส่ปากหมด   3. จาก “Soul mate” พอมาอยู่ด้วยกันแล้วทำให้อ่านเป็น “soma ulte” มันคืออะไรหรอ??   7. คนปกติจะกินจากข้างนอกไปข้างใน แต่คนแปลกจะเริ่มกินจากข้างในก่อน   8. ขอตั้งชื่อทรงว่า “ทรงกลัวไม่เด่น”   9. นี่คือประโยชน์ของซากรถ   10. เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ อาจจะดูแมนๆ หน่อย แต่ดูสีสิ หวานเชียว   11. ทำไมรู้สึกสวยจัง มีแค่คนมอง อิอิ   12. ข้อดีของการเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ต้องใช้บันไดร่วมกับใคร   13. เมื่อพ่อบอกจะเล่นด้วย…   14. ลายสักรอยเท้าน้องหมาตัวโปรด…