Author:
-
ยูทูบเบอร์เล่นพิเรนทร์เอาหัวยัดใส่ไมโครเวฟแถมเทปูนทับอีกที จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหล่าคนดังหลายๆ คน มันโด่งดังจากการทำอะไรแปลก แผลงๆ หรือพิเรนทร์ ซึ่งอย่างมันก็พอดูมีความสร้างสรรค์นะ แต่บางอย่างนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้วยังอันตรายกับชีวิตอีกด้วย เหมือนอย่างยูทูบเบอร์วัย 22 ปี ชาวอังกฤษคนนี้ที่เกือบตาย หลังจากที่ตัดสินใจถ่ายคลิปเอาหัวยัดเข้าไปในไมโครเวฟ ความพิเรนทร์นี้เกิดจาก Jay Swingler เจ้าของช่องยูทูบ TGFbro ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้านคน พร้อมด้วยเพื่อนของเขา Romell Henry ทั้งสองคนโพสต์วิดีโอที่ทั้งตลกและเสี่ยงตายในเวลาเดียวกัน โดย Swingler บอกว่านี่คือความเป็นความผิดพลาดของเขาที่เอาหัวไปใส่ในไมโครเวฟจนเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเข้ามาช่วย …มันทำให้เขาเกือบตาย วิดีโอนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านครั้ง ในวิดีโอ Swingler บอกว่าเขากลัวมากเพราะเขาเป็นโรคกลัวที่ปิดทึบ (Claustrophobia) มันไม่ใช่แค่เอายัดใส่ในไมโครเวฟ แต่ก่อนหน้านั้นเขาใส่ปูนปลาสเตอร์เข้าไปด้วย ปรากฏว่าหลังจากนั้นเขากลับดึงหัวออกมาไม่ได้ เพื่อนอีกคนพยายามช่วยก็ไม่ได้ผล กระทั่งผ่าน 90 นาที ทั้งคู่จึงตัดสินใจเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก West Midlands Fire Service ให้มาช่วยเหลือ ต่อมาทางหัวหน้าทีมกู้ภัย Simon Woodward ได้เขียนในทวิตเตอร์ว่าพวกเขาไม่ชอบการกระทำเช่นนี้เลย…
-
เจ้าแห่งงูเห่าชาวฟิลิปปินส์ เสียชีวิตหลังจากดื่มเลือดงูพิษ ตัวเดียวกันกับที่กัดเขา…
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแต่ไม่ได้หมายความว่าจะผิดพลาดไม่ได้ อย่างกรณีของผู้เชี่ยวชาญด้านงูเห่าคนนี้ที่เพิ่งเสียชีวิตไปด้วยพิษของงู!? Elies ‘Peter’ Lenturio หรือที่รู้จักในนาม ‘เจ้าแห่งงูเห่าชาวฟิลิปปินส์’ ถูกงูเห่ากัดเข้า เขาเลยแก้แค้นด้วยการตัดหัวและดื่มเลือดของมัน แต่ดูเหมือน Elies จะทำพลาดที่ดื่มเลือดของมัน เพราะปกติแล้วงูเห่าถือเป็นงูที่พิษร้ายแรงมาก และเมื่อถูกมันกัดอาจตายได้ทันทีถ้าไม่รักษาภายในเวลา สำหรับ Elies นั้น เขาค้นพบความสามารถนี้ตอนอายุ 15 ปี ก่อนจะถูกยกให้เป็นเจ้าแห่งงูเห่าในเวลาต่อมา นับตั้งแต่นั้นมาหากบ้านไหนหรือชุมชนไหนเจองูเห่าก็จะเรียกเขาไปช่วยจัดการให้ และนี่ไม่ใช่การถูกงูกัดครั้งแรก แต่เขาเคยโดนกัดมาหลายครั้งแล้วในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา จนรู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อถูกงูกัด อย่างครั้งล่าสุดนี้ เมื่อเจ้าแห่งงูเห่าถูกงูกัด เขาตัดสินใจที่จะไม่ไปโรงพยาบาลแต่เลือกที่จะดื่มเลือดงูตัวนั้นแทน จากนั้นก็กลับไปบ้านไปพักผ่อน กลับกลายเป็นว่านั่นเป็นคืนสุดท้ายของเขาบนโลก…มีฟองออกจากปากของเขาจนสร้างความตกใจให้ครอบครัวเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงพา Elies ไปโรงพยาบาลในคืนนั้น แต่น่าเศร้าที่เขาเสียชีวิตลงเมื่อไปถึง จากการเสียชีวิตของ Elies ทำให้ผู้คนสงสัยว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเชี่ยวชาญเรื่องงูได้อย่างไร? สื่อเล่าว่าปกติเจ้าแห่งงูเห่าจะเก็บงูเห่าของเขาไว้ในกล่องบนรถมอเตอร์ไซค์ จนในวันที่เกิดเหตุ Elies เขาเปิดกล่องใบนั้นตามปกติ แต่กลับถูกงูกัดเข้าที่มือซ้ายของเขา แม้จะเขาจะเลี้ยงงูเห่าตัวนี้ให้เป็นสัตว์เลี้ยงมาตลอด แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้ว่ามันประกาศเป็นศัตรูกับเขา ซึ่งอาจเป็นเพราะส่วนหางของมันถูกขังเบียดเสียดอยู่ในกล่อง ไม่ว่าเจ้างูจะกัดด้วยเหตุผลอะไร แต่นั่นทำให้ Elies โกรธมาก เขาก็เลยตัดหัวของมันและดื่มเลือดของมันแบบสดๆ… เรื่องนี้สร้างความตกใจให้ชาวฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครอบครัวของเขาที่ยังทำใจไม่ได้ ที่ทำให้หลายคนประหลาดใจคือในหลายประเทศอย่างจีน มาเลเซีย และไทย…
-
27 ภาพประทับใจ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าโลกจะน่าอยู่แค่ไหน หากสังคมขับเคลื่อนด้วยความรัก
เราอาจจะพบกับความผิดหวัง ความขัดแย้ง หรือปัญหาต่างๆ มากมายที่อยู่รอบตัว จนทำให้รู้สึกว่าโลกนี้ช่างไม่น่าอยู่เอาซะเลย แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้คนได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักเป็นสิ่งที่ทำให้โลกน่าอยู่มากขึ้น เราอาจจะไม่ใช่คนที่ได้รับความรักนั้น แต่การเห็นคนอื่นแสดงความรักต่อกันมันทำให้โลกดูสดใสยิ่งขึ้น 1. ยี่สิบปีแห่งรัก “ในปี 1995 คุณป้าเอาตุ๊กตาแมวให้ฉัน ฉันชอบมันมากและนอนกอดมันทุกคืนในช่วงวัยเด็ก เมื่อเธอจากไปแล้ว เราพบว่าเธอซื้อตุ๊กตาแมวอีกตัวที่เหมือนกันและเก็บมันไว้กว่า 20 ปี ทุกวันนี้ทั้งสองตัวกลายเป็นร่องรอยแห่งความรักของป้าและฉัน” 2. ทุกๆ ปี ชายคนนี้จะซื้อของเล่นแล้วแต่งตัวเป็นซานตาคลอส เพื่อไปแจกของพวกนี้ให้เด็กๆ ในโรงพยาบาล 3. คุณยายวัย 93 ปี และพี่สาวของเธอวัย 96 ปี จูงมือกันไปที่ชายหาดในวันหยุดสุดสัปดาห์ 4. คำทักทายจากอดีต “พ่อของฉันในยุค 70 เขาจากไปตั้งแต่ตอนที่ฉันอายุประมาณ 20 ปี เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนสนิทของเขาได้ติดต่อมาหาฉัน และส่งรูปของพ่อกับแม่ฉันมาให้” 5. ช่วงแรกๆ ที่พ่อกับแม่ได้พบกัน เมื่อ 35 ปีก่อน พวกเขาชนกันตอนที่เล่นวอลเลย์บอลด้วยกัน…
-
ชายช่วยมิ้วน้อยที่ถูกแม่มันทิ้ง ออดอ้อนเกาะขาในวันนั้น จนกระทั่งได้ดีในวันนี้
“โอกาส” เป็นคำสั้นๆ ที่ใครๆ ก็อยากได้ เพราะโอกาสมักจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้น และแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนที่ได้รับโอกาส แต่เราสามารถมอบมันให้กับคนอื่นได้ อย่างหนุ่มใจดีคนนี้ที่ตัดสินใจมอบโอกาสให้เจ้ามิ้วน้อยได้มีชีวิตอยู่ต่อ หลังจากที่มันถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่เกิด สุดท้ายเขาก็ได้พบว่ามันคุ้มค่าที่ทำแบบนั้น เจ้ามิ้วน้อย Sansa ถูกทิ้งให้อยู่ลำพังตั้งแต่เกิด ทำให้มันแทบไม่กินอะไรเลย จนร่างกายของมันเหลือแต่หนังและกระดูก ส่วนแม่ของมันนั้น คาดว่ามันคงคิดว่า Sansa ไม่น่ารอด เพราะมันเกิดมาอ่อนแอกว่าพี่น้องตัวอื่นๆ เลยถูกทิ้งไปตั้งแต่นั้นมา แต่โชคดีที่ Alan มาเจอเจ้าเหมียวพอดี เขาเลยตัดสินใจพามันกลับบ้านด้วย… Sansa มีขนาดเล็กกว่าฝ่าเท้าซะอีก แต่พลังในการมีชีวิตของมันนั้นน่ามหัศจรรย์มาก หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือมา เจ้า Sansa ก็เอาแต่กอด Alan ไม่ยอมปล่อยเลย แถมยังนอนหลับในอ้อมแขนของเขาด้วย และนั่นเป็นครั้งแรกที่มิ้วน้อยได้สัมผัสถึงความรัก ส่วน Alan แม้จะเป็นผู้ชาย แต่เขาทำหน้าที่แม่ให้กับเจ้าเหมียวโดยไม่มีขาดตกบกพร่องเลย นอกจากนี้ Alan ยังพามันไปเดินดูรอบๆ บ้าน เพื่อให้มันทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ ส่วนเจ้าเหมียวก็เดินตามต้อยๆ อย่างน่ารักเชียว ชายหนุ่มซื้อที่นอนนุ่มๆ ให้มันได้หลับสบาย และยังซื้อของเล่นให้อีกหลากหลายชิ้น เพื่อทำให้มันไม่รู้สึกเบื่อและมีความสุขในทุกๆ…
-
ครอบครัวถึงกับช็อกเมื่อเห็น ‘สิงโตภูเขา’ มานอนสบายใจเฉิบอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน
ถ้ามีหมาหรือแมวมานอนอยู่หน้าบ้านทั้งๆ ที่ไม่ได้เลี้ยง จะไม่แปลกใจหรือเดือดร้อนอะไรเลย ตรงกันข้ามจะเอาข้าว เอาน้ำให้มันกินด้วยซ้ำ แต่นี่ มันคือ ‘สิงโตภูเขา’ ตัวเป็นๆ ที่ยังหายใจอยู่ มานอนไม่รู้สีไม่รู้สาอยู่หน้าบ้าน เป็นใครก็ช็อกทั้งนั้น แล้วจะออกบ้านยังไงล่ะที่นี้? เจ้าสิงโตภูเขาตัวนี้แหละ ที่มานอนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งในรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คาดว่ามันน่าจะอายุประมาณ 2 ขวบ ก่อนหน้านี้มันคงจะออกไปวิ่งเล่นที่ไหนสักที่ พอเหนื่อยก็หาที่พักเพื่อจะงีบให้หายเหนื่อย แล้วไม่รู้อะไรดลใจให้มันเลือกไปนอนอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง เพื่อนบ้านเล่าว่าเมื่อเห็นสิงโตมานอนอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว พวกเขาก็รีบโทรหาผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อให้มาจัดการก่อนที่มันจะตื่น แต่ปรากฏว่าเจ้าสิงโตดูเหมือนจะรู้ตัว มันเลยเผ่นหนีออกไปก่อน นั่นยิ่งทำให้ผู้คนมีความเสี่ยงตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น แต่โชคดีที่ผู้เชี่ยวชาญตามหาจนเจอภายในหนึ่งชั่วโมงและจับตัวมันไว้ได้ นอนเฉยๆ คนก็ตื่นกลัวแล้ว ทำได้ไง? วันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ก็พามันไปปล่อยบนภูเขาซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของมัน และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไม่กลับไปทำให้ผู้คนตื่นตระหนกอีก ขวัญเอ๊ยขวัญมา… ดีนะไม่มีใครได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่มา iizcat
-
18 ภาพที่คนโพสต์ไม่ได้เช็ก ‘ฉากหลัง’ ภาพว่ามีอะไร ก็เลยกลายเป็นความ EPIC แบบนี้แหละ
เวลาถ่ายรูปเรามักจะโพสท่าแบบตั้งใจเพื่อให้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด จะได้เก็บไว้ที่ระลึกเอาไว้ดูเมื่อโตขึ้นหรือตอนอยู่ในวัยชรา แต่ก็นั่นแหละต่อให้ตั้งใจมากแค่ไหน บางครั้งมันก็มีหลุดออกมาบ้าง เช่น ดันหลับตาตอนกดชัตเตอร์พอดี โฟกัสผิดที่ รวมทั้งมีอะไรแปลกเข้ามาร่วมเฟรม เหมือนอย่างภาพเหล่านี้ที่ออกมาฮาซะจนกลั้นหัวเราะไม่ได้ 1. อยากรู้ว่าหลังจากถ่ายภาพนี้เสร็จ หนูน้อยหน้าคว่ำคนนั้นหนะ ยังโอเคมั้ย? 2. เดี๋ยวๆ นั่นพวกคุณกำลังทำอะไรกับลูกหนะ ไม่ได้หมายถึงสองคนหน้านี่นะ หมายถึงกลุ่มข้างหลังอะ 3. เห็นเงาในตาฉันไหม เห็นเธออยู่ในนั้นไหม 4. บอกทีว่าข้างหลังนั่นพ่อแค่เล่นกับลูก ไม่ใช่พลาดทำลูกตกแน่นะ? 5. อุ่ย นึกว่ามีชายจิ๋วขี่หลังหญิงคนนี้อยู่ 6. เกือบสวยแล้ว แต่ดูหน้าเธอที่กระจกอันล่างเนี่ยสิ… 7. “ขอบคุณคุณยายที่ช่วยถ่ายรูปให้ จนผมสามารถเอาไปอวดสาวๆ ได้” 8. โธ่ว กะถ่ายรูปสวยๆ คนเดียว โดนแย่งซีนซะงั้น 9. “ถ่ายไปเถอะเจ้ามนุษย์ เราแค่จะมีจิบน้ำเบาๆ เท่านั้นเอง” 10. แล้วทำไมต้องมาทำรถคว่ำตอนโพสท่าเท่ๆ เนี่ย…
-
ลูกชายเซอร์ไพรส์คุณพ่อหลังสอบวิชาคณิตฯ ผ่าน ทำเอาพ่อดีใจสุดๆ จนต้องร้องไห้ออกมา
เวลาที่เราได้รางวัล ชนะการแข่งขัน ประสบความสำเร็จหรือทำเกรดได้ดี แน่นอนว่ามันทำให้เราดีใจสุดๆ แต่คนที่ดีใจและภูมิใจไม่น้อยกว่าเราคือพ่อกับแม่นั่นเอง อย่างคุณพ่อท่านนี้ที่ถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มไว้ไม่อยู่ เมื่อถูกลูกชายเซอร์ไพรส์ด้วยผลสอบคณิตศาสตร์ของเขา… Aria คือเด็กชายที่สอบคณิตศาสตร์ผ่าน และอยากบอกให้พ่อรู้ว่าเขาทำสำเร็จแล้ว เขาจึงตัดสินใจตั้งกล้องเอาไว้เพื่อดูปฏิกิริยาของพ่อต้องรู้ข่าวดี จากคลิปจะเห็นว่าหลังจากที่ตั้งกล้องเสร็จ เด็กชายได้เรียกพ่อเข้าไปที่ห้องครัว ส่วนพ่อเมื่อได้ยินเสียงลูกเรียกเลยถามไปว่า “มีอะไรเกิดขึ้นเหรอลูก?” Aria จึงตอบไปว่า “ใช่แล้วพ่อ มีบางอย่างเกิดขึ้น และมันสำคัญมากๆ” ขณะที่พ่อมองเขาด้วยความงงงวย เด็กชายจึงพูดกับเขาว่า “มาเถอะพ่อ มาคุยกับผมหน่อย แค่เข้ามาแล้วอ่านบางอย่างเท่านั้นเอง” ว่าแล้วเด็กชายก็ยื่นกระดาษเล็กๆ ใบหนึ่งให้พ่อ เมื่อคุณพ่อคลี่กระดาษใบหน้า เขาก็เงยหน้ามาถามลูกชายเพื่อความแน่ใจว่า ‘นี่เป็นผลสอบของลูกจริงๆ เหรอ?’ เด็กชายตอบว่า ‘ใช่’ เท่านั้นแหละ คุณพ่อถึงกับตะโกน ‘โอ้มายก๊อด’ ดังลั่นบ้านพร้อมร้องไห้ด้วยความดีใจสุดขีด แล้วพ่อลูกก็โผเข้ากอดกัน กลายเป็นโมเมนต์ที่น่าประทับใจสุดๆ เด็กชายบอกว่า “คนส่วนใหญ่คาดหวังที่จะได้ A แต่สำหรับผมการทำให้ได้เกรด C นั้นก็จัดว่าเป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว นั่นทำให้ทั้งผม…
-
คุณพ่อยอมใช้ชีวิตเหมือน ‘คนไร้บ้าน’ เพื่อช่วยเหลือลูกสาวที่ติดยาให้เริ่มต้นชีวิตใหม่
ในโลกนี้คงไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ทนเห็นลูกเจ็บปวดได้โดยไม่รู้สึกอะไร และอะไรก็ตามที่พอจะบรรเทาความทุกข์ให้ลูกได้ พวกเขาก็พร้อมที่จะทำทั้งนั้น เพราะรักของพ่อแม่นั้นเป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไข เหมือนอย่างคุณพ่อ Paul DiGiacomo ที่ยอมทำทุกทาง เพื่อช่วยลูกสาว Meghan ให้เลิกยาเสพติดและเริ่มต้นชีวิตใหม่ Meghan ติดยาเสพติดอย่างหนักและอาศัยอยู่ถามถนนในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ในสหรัฐอเมริกา ที่พักของเธออยู่ใกล้กับคลินิกเมทาโด(บำบัดป่วยติดยาเสพติด) จริงๆ แล้ว หากหญิงสาวเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือในคลินิกดังกล่าว เธอสามารถเอาชนะยาเสพติดได้ แต่ทว่าเธอขาดแรงจูงใจที่จะทำแบบนั้น แฟนหนุ่มของ Meghan เสียชีวิตเมื่อปีแล้ว เนื่องจากใช้ยาเกินขนาด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้กระทบกระเทือนใจมากพอให้หญิงสาวเลิกยา จนวันหนึ่ง พ่อของหญิงสาวตัดสินใจที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เขาไม่ได้บังคับเธอ ไม่ได้มาตรการรุนแรงใดๆ กับเธอ แต่เขานำเต็นท์มาตั้งอยู่ข้างๆ เธอเท่านั้น Paul บอกว่าเขานำเต็นท์มาตั้งใกล้กับเต็นท์ของลูกสาว เพื่อที่จะใช้ชีวิตข้างถนนกับเธอ คอยปกป้อง ให้การสนับสนุน และคอยดูแลเธอ ก่อนหน้านี้ Paul อาศัยอยู่ในบ้านกับภรรยา Julie Chandler โดยที่ไม่รู้ว่าลูกสาวไปอยู่ที่ไหน ยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว กระทั่งคืนหนึ่ง ขณะที่พ่อแม่กับดูรายการ Anderson Cooper 360 ที่กำลังรายงานเกี่ยวกับโรคระบาด และตอนนี้นักข่าวได้สัมภาษณ์กลุ่มคนจรจัด หนึ่งในนั้นคือ Meghan ลูกสาวอันเป็นที่รักของพวกเขา …
-
เรื่องเล่าแปลกๆ ของ ‘สัตว์ในตำนาน’ จากความเชื่อปรัมปราทั่วโลก หลอนจนฉี่แทบเล็ด!!
ในโลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องแปลกๆ โดยเฉพาะเรื่องราวอันลี้ลับที่ถูกกล่าวขานผ่านตัวละครที่เป็นสัตว์ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่บางเรื่องกลายเป็นตำนานที่มีการพูดถึงจนทุกวันนี้ และนี่คือเรื่องเล่าแปลกๆ เกี่ยวกับสัตว์ เป็นความเชื่อของผู้คนจากทั่วโลก ที่ไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งมันก็ยังทำให้เราขนลุกได้เสมอ 1. Kelpie Kelpie เป็นสัตว์ในตำนานของชาวสก็อต มันมีรูปลักษณ์คล้ายกับม้าแต่อยู่ในน้ำ มันจะล่อคนลงไปในน้ำด้วยการส่งเสียงเหมือนชายหนุ่มหรือเด็กชายที่กำลังจะจมน้ำ เมื่อเหยื่อเข้ามาใกล้พอสมควร Kelpie ก็จะคว้าตัวเหยื่อแล้วลากลงไปในน้ำลึก นั่นทำให้หลายคนกลายเป็นศพใต้น้ำไปตลอดกาล 2. Redcap Redcap มาจากตำนานของชาวสกอตเช่นกัน เล่ากันว่ามันเป็นผีที่สวมหมวกสีแดง ซ่อนตัวอยู่ในกำแพงของปราสาทโบราณ และมันจะฆ่าทุกคนที่เจอ 3. Blackannis นี่คือจอมวายร้ายที่เป็นตำนานของอังกฤษ ว่ากันว่าเธอหรือมันเป็นแม่มดที่มีผิวสีน้ำเงินซีด อาหารที่เธอโปรดปรานที่สุดคือมนุษย์ โดยเฉพาะมนุษย์เด็ก นอกจากนี้เล็บของมันเหมือนเหล็กมากกว่าเล็บคนทั่วไปซะอีก 4. Cerberus Cerberus มาจากตำนานเทพเจ้ากรีกโบราณ เป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่มีสามหัว เล่ากันว่ามันทำหน้าที่เฝ้าประตูนรกเพื่อไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไป และป้องกันไม่ให้ผู้ที่อยู่ข้างในออกมา 5. Lou Carcolh ชาวฝรั่งเศสเชื่อว่าสัตว์ประหลาดนี้จะล่อให้ผู้คนเข้าไปในถ้ำมืดและลึก ว่ากันว่ามันเป็นหอยยักษ์ใต้ดินที่กลืนกินคนทั้งตัว 6. Wendigo นี่คือสัตว์ร้ายจากตำนานของชาวอเมริกันพื้นเมืองบางกลุ่ม เล่ากันว่าจริงๆ แล้วมันเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่ความหิวกระตุ้นให้มันบ้าคลั่งจนถึงกับจับมนุษย์มากิน 7. Yee Naaldooshiit Yee…
-
นิตยสาร TIME เผยโฉมหน้าปกฉบับประจำปี ที่มีนางแบบคนหนึ่งถูกตัดออกไปเหลือแต่แขน!?
การจะมีภาพแปะอยู่บนปกนิตยสาร TIME นั้น ไม่ใช่จะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางสังคมมากในระดับหนึ่ง และล่าสุดนิตยสาร TIME ได้ให้เกียรติกับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษที่เคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศและการทำร้ายร่างกายภายใต้ชื่อ #MeToo ให้เป็นบุคคลแห่งปี 2017 โดย TIME ได้นำภาพผู้หญิงที่มีการเคลื่อนไหวอย่างโดดเด่นมาขึ้นปกนิตยสาร ซึ่งประกอบด้วย : Ashley Judd, Taylor Swift, Susan Fowler, Adama Iwu และ Isabel Pascual ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลที่นำการเปลี่ยนแปลงในด้านการปกป้องตัวเอง อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดูดีๆ บนภาพปกดังกล่าวจะเห็นแขนใครคนหนึ่งโผล่มาด้วย ทำให้หลายคนสงสัยว่าเกิดจากความผิดพลาดหรือเปล่า แต่ทางนิตยสารยืนยันแล้วนั่นไม่ใช่ความผิดพลาด ในการให้สัมภาษณ์ Edward Felsenthal หัวหน้าบรรณาธิการของ TIME บอกว่า “หญิงสาวที่โผล่มาแค่แขนแต่ไม่เห็นหน้า เธอคือสัญลักษณ์ของทุกคนที่ยังไม่เปิดเผยตัวเองหรือไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพราะกลัวผลกระทบที่จะตามมา” Felsenthal บอกอีกว่า “นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนเหล่านี้ที่จะเข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว มันคือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา” “การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มาจากความกล้าหาญของผู้หญิงหลายร้อยคนและผู้ชายบางคนที่ออกมาเคลื่อนไหว โดยการบอกเล่าเรื่องราวของตนเอง” ในนิตยสาร TIME เขียนไว้ว่าหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อเลือกที่จะเก็บคนเดียวอย่างเงียบๆ บางคนอาจเก็บไว้นานเป็นเดือนๆ ปีๆ แต่ในที่สุดความโกรธแค้นที่สะสมมาเรื่อยๆ จะเป็นตัวกระตุ้นให้พวกเขาเปิดเผยมันออกมา…
-
สาวพนันว่าหากภาพเธอถูกรีทวีตมากกว่าพันครั้ง จะใส่ชุดต้นคริสต์มาสทั้งเทอม แล้วก็ทำมันจริงๆ
วัยเรียนคือวันที่สนุกที่สุดแล้วว่ามั้ย? เพราะวันๆ หนึ่งเราไม่ใช่แค่ไปนั่งเรียนแล้วกลับบ้าน แต่มันคือการไปพบปะกับเพื่อนๆ ได้ทำกิจกรรมหลายๆ อย่างด้วย แต่สำหรับเพื่อนบางคนแค่นั้นอาจจะยังไม่พอ ก็เลยหาอะไรแปลกๆ ทำด้วยกัน อย่างหญิงสาว Kelsey Hall ที่พนันกับเพื่อนไว้ว่าหากทวีตของใครถูกทวีตมากกว่า 1,000 ครั้ง ต้องใส่ชุดต้นคริสต์มาสมาเรียนตลอดทั้งเทอม การพนันเริ่มขึ้นเมื่อหญิงสาวโพสต์ภาพตัวเองขณะใส่ชุดต้นคริสต์มาสพร้อมแคปชั่นว่า “ถ้ารูปนี้ถูกรีทวีตมากกว่า 1,000 ครั้ง ฉันจะใส่ชุดนี้ไปเรียนตลอดทั้งเทอม” ตอนแรกเธอค่อนข้างมั่นใจนะว่าตรูไม่ได้ใส่แน่ๆ แต่พอเวลาผ่านไปรีทวีตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยจนน่าใจหาย จนเธอต้องอออกมาทวีตว่า ‘เฮ้ เพื่อนๆ ฉันไม่ได้อยากใส่นะ เพราะฉะนั้นหยุดรีทวีตเถอะ’ แต่เหมือนชาวเน็ตจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ทวิตเตอร์ของเธอยังคงถูกรีทวีตไปอย่างต่อเนื่อง แม้แต่คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักก็ช่วยรีทวีตเพราะอยากเห็นเธอใส่ชุดนี้จริงๆ…และแล้วทวิตของเธอก็ถูกรีทวีตกว่า 4,600 ครั้ง เมื่อผลออกมาเป็นดแบบนี้แล้ว ก็คงต้องทำตามที่บอกไว้สินะ เพื่อเป็นการรักษาคำพูด และเพื่อเห็นแค่คนที่รีทวีตนับพันคนด้วย และนี่คือวันที่แรกที่มาเรียนด้วยชุดต้คริสต์มาส Thank you to everyone who helped my friend reach her goal!! You have…
-
โมเมนต์แสนเศร้าปนประทับใจ เมื่อสองพี่น้องมาเยี่ยม ‘หลุมศพ’ ของพ่อตัวเองเป็นครั้งแรก
เราหลายๆ คน แม้จะโตจนมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว แต่เราก็ยังอยากได้รับความรักจากพ่อแม่ อยากใช้เวลาอยู่กับพวกเขา พูดคุยกัน และแบ่งปันความรักให้กันและกัน แต่สำหรับสองพี่น้อง Mason และ Mylan วัย 8 ขวบ กับ 5 ขวบ พวกเขาไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้น เพราะพ่อผู้เป็นที่รักได้จากลาทั้งคู่เร็วเกินไป Alfred Brazel คุณพ่อของเด็กชายทั้งสอง ได้จากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2017 ในวัยเพียง 37 ปี…นั่นคือวันสุดท้ายที่ลูกๆ ได้เห็นหน้าพ่อ จนเมื่อเดือนที่ผ่านมา คุณแม่ Kait วัย 29 ปี ได้พา Mason และ Mylan ไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อครั้งแรกที่สุสาน Arlington National Cemetery รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณแม่บอกว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ มาเยี่ยมหลุมศพของพ่อ ตั้งแต่ที่เขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง… Mylan บอกว่าเขาสัมผัสได้ว่าคุณพ่ออยู่ข้างๆ เขา และเขาอยากนอนกับพ่อที่นี่” นั่นทำให้เด็กชายทั้งสองปูผ้าห่มที่หน้าหลุมศพของพ่อ แล้วก็นอนคุยกับพ่อ โดยบอกเขาว่าพวกเขาเป็นยังไง เกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงที่พ่อไม่อยู่ Mylan เล่าให้พ่อฟังว่าเขาได้รับเครื่องแบบและเข็มกลัดจากวิชาศิลปะการป้องกันตัว…
-
เจ้าเหมียวโดนห้ามไม่ให้เข้าไปในห้องสมุด ชาวเน็ตก็เลยช่วยกันทำบัตรห้องสมุดให้ซะเลย
หลายๆ สถานที่ อย่างโรงพยาบาล ร้านอาหาร ห้องสมุด และอื่นๆ อีกหลายแห่งมักจะห้ามไม่ให้พาสัตว์เลี้ยงเข้าไปเพื่อป้องกันไม่เกิดปัญหาตามมา แต่บางสถานที่อย่างห้องสมุดเนี่ย หลายคนมองว่าไม่มีเหตุผลที่จะห้ามแมวเข้าไป เพราะมันคงไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไร นอกจากจะรบกวนการอ่านหนังสือนิดหน่อย และบางคนเต็มใจให้มันทำแบบนั้นด้วย เจ้าเหมียว Max เป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปใช้บริการของห้องสมุดในมหาวิทยาลัย ทำให้มันต้องเดินเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกเพียงลำพัง ก่อนหน้านี้ Max เป็นแมวจรจัดที่ใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน จนวันหนึ่งมันก็รับการช่วยเหลือจากกลุ่มคนรักแมว และถูก Connie Lipton รับไปอยู่ด้วยที่บ้านในเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา Connie เป็นครูอยู่ที่วิทยาลัย Macalester College ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านของเขาเท่าไหร่นัก และเมื่อไปทำงาน เจ้าเหมียวก็จะขอตามไปด้วยทุกวัน Max เป็นแมวที่ชอบพบปะผู้คนแล้ว เจ้าของจึงปล่อยให้มันเดินเล่นในวิทยาลัยและให้อิสระมันเดินไปทักทายทุกคนที่มันอยากเจอ ภายในระยะเวลาสั้นๆ Max ก็มีเพื่อนทั่ววิทยาลัยแล้ว มันเดินเล่นกับนักเรียนในสนามหญ้า บางครั้งมันจะโผล่ไปที่หอพักของพวกเขาแล้วส่งเสียงเมี๊ยวๆ เป็นการทักทาย นั่นทำให้นักเรียนรักราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แม้มันจะไปอยู่นักเรียนในทุกๆ ที่ของวิทยาลัย แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่ Max ไม่สามารถเข้าไปได้ นั่นคือห้องสมุด เพราะเจ้าหน้าที่กลัวว่าจะเผลอขังมันไว้ในห้อง กรณีที่หามันไม่เจอ อีกเหตุผลหนึ่งคือมีพนักงานที่แพ้ขนแมวอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงต้องทำให้ห้องสมุดเป็นพื้นที่ปลอดแมว แต่ถึงอย่างนั้น…
-
ไอซ์แลนด์ลดโอกาสเกิด “ดาวน์ซินโดรม” เกือบเท่ากับศูนย์ จนเกิดประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์
ในบางประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร พบว่าอันตรายของผู้ที่เกิดมาพร้อมกับโรคดาวน์ซินโดรมนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี ในทางกลับกัน ที่ประเทศไอซ์แลนด์พบว่าโอกาสที่เด็กจะเกิดมาเป็นดาวน์ซินโดรมนั้นเกือบเท่ากับศูนย์ จากข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดยสำนักข่าว CBS News ระบุว่าในไอซ์แลนด์มีเด็กเกิดมาเป็นดาวน์ซินโดรม เฉลี่ยปีละแค่ 2 คนเท่านั้น จนทำให้มีการถกเถียงถึงประเด็นนี้ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง Landspítali หรือ National University Hospital of Iceland ได้ทำการทดสอบคัดกรองก่อนคลอดกับหญิงตั้งครรภ์ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการตรวจหาปัญหาของพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมไปถึงโรคดาวน์ซินโดรมด้วย ปกติแล้วหญิงตั้งครรภ์ในสหรัฐอเมริกา 67% จะตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ เมื่อมีการตรวจพบความผิดปกติหรือโรคดาวน์ซินโดรมในทารกที่อยู่ในครรภ์ แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์ในไอซ์แลนด์เกือบ 100% จะยุติการตั้งครรภ์ทันทีเมื่อได้รับการวินิจฉัยแบบนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แทบไม่พบกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมในไอซ์แลนด์เลย นักพันธุศาสตร์ Kari Stefansson บอกกับสำนักข่าว CBS ว่า “ความเข้าใจของฉันคือการกำจัดกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมให้หายไปจากสังคมของเรา” แม้ไอซ์แลนด์จะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ แต่ทว่าในโลกออนไลน์นั้นได้เกิดประเด็นถูกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรมและจริยธรรม พวกเขาบอกว่ามันเหมือนการบีบบังคับคุณแม่ในไอซ์ทำแท้งเพื่อแลกกับการกวาดล้างกลุ่มดาวน์ซินโดรมให้หายไปจากสังคม แม้คุณแม่บางคนจะเต็มใจแต่มันก็ล้วนมาจากการคำพูดหว่านล้อมทั้งนั้น ทางหัวหน้าแผนก Prenatal Diagnosis Unit Hulda Hjartardottir ของ Landspítali ออกมาโต้แย้งว่า “เราพยายามจะให้คำปรึกษาที่เป็นกลางที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่บางคนกล่าวหาว่าเราชี้นำให้คุณแม่ทำแท้ง” …
-
รวมคนเบื่อแห่งปี 2017 สงสัยจะว่างมาก เลยสร้างสรรค์งานศิลปะระดับเทพขึ้นมา!?
บางคนอาจคิดว่าการตกอยู่ในภาวะที่น่าเบื่อนั้นเป็นอะไรที่ไม่ดีและไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเอาซะเลย แต่ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าอาการเบื่อหน่ายนั้นมักเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดการค้นพบสิ่งใหม่ๆ และทำให้เรามีความสุขได้ ความคิดสร้างสรรค์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสิ่งที่มีหรือเป็นประโยชน์เสมอไป แต่มันหมายถึงความตลก ความฮา อย่างภาพด้านล่างนี้ มันอาจจะดูไร้สาระแต่ก็เอาชนะความน่าเบื่อได้นะ 1. กินโอริโอ้แบบเดิมๆ ทุกวันอาจจะเบื่อ งั้นลองแบบนี้มั้ย? 2. ไหนๆ ก็โดนหิมะทับถมแล้ว ตกแต่งให้มันเป็นงานศิลปะเลยละกัน 3. นี่คือคุณค่าของลิควิดเทปที่แท้ทรู 4. เรียงกระป๋องแบบธรรมดามันซ้ำซาก มันต้องเรียงให้เป็นรูปเป็นร่างแบบนี้ 5. แปลงโฉมเจ้าแมลงสาบให้เป็นเจ้าหน้าที่รับคำร้องเรียน 6. ฤดูกาลแห่งสตาร์ วอร์ส หุ่นยนต์ต้องมา 7. นี่ไม่ใช่แค่เบื่อ แต่ต้องว่างมากๆ ด้วย 8. ระหว่างนั่งทำธุระในห้องน้ำ อย่าปล่อยให้มืออยู่ว่างๆ 9. การเข้าครัวจะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป…ว่าแต่วันนี้จะได้กินมั้ย? 10. เป็นไง มากันเป็นทีมเลย 11. เมื่อมนุษย์ออฟฟิศอยากทำลายความน่าเบื่อ… 12.…
-
จากเด็กหนุ่มที่เติบโตมาในย่านสลัมของอังกฤษ สู่ผู้ชนะเลิศได้ทุนไปเรียนใน Eton College
ในบรรดาสถาบันการศึกษาทั่วโลก มีหนึ่งโรงเรียนหนึ่งที่เป็นดุจโรงเรียนในฝันของใครหลายๆ คน นั่นคือ Eton College ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนในฝันของหนุ่มๆ ทั่วโลก สำหรับความพิเศษของสถาบัน Eton College หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าใครก็ตามที่จบจากที่นี่มักจะกลายเป็นผู้โด่งดังในสังคม เป็นผู้นำประเทศ และผู้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ศิษย์เก่าของ Eton College ที่เป็นที่รู้จักกันดี เช่น เจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าชายแฮร์รี่ นักแสดงชาย Dominic West และอดีตนายกรัฐมนตรีเดวิด แคเมอรอน นั่นหมายความว่าการจะได้เข้าเรียนในสถาบันแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และนับว่าเป็นความโชคดีของ Stephen Geddes ที่ได้รับทุนมาเรียนใน Eton College Stephen หนุ่มวัย 16 ปี ชนะการสอบชิงทุนจนได้รับคัดเลือกเข้าเรียนในหลักสูตร A-Levels (คือช่วงชั้นการเรียน 2 ปีสุดท้ายของระดับมัธยมในสหราชอาณาจักร) โดยได้รับทุนค่าเล่าเรียนเป็นเงิน 1.6 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะได้เรียนคณิตศาสตร์ ชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ สำหรับหนุ่ม Stephen นั้นมีพ่อเป็นพนักงานในเทสโก้ คุณแม่มีอาชีพเป็นผู้ดูแลผู้ป่วย ก่อนหน้านี้เขาเคยเรียนที่โรงเรียน King’s Leadership Academy ซึ่งเป็นย่านคนจนของเมืองลิเวอร์พูล…
-
สาวที่ถูกรับเลี้ยง ตามหาพ่อแม่แท้ๆ จนเจอใน 20 ปี จากการแกะรอยจดหมายที่ถูกทิ้งไว้ให้
ในโลกนี้คงไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักหรือไม่อยากอยู่กับลูก แต่ด้วยสถานการณ์ ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้พ่อแม่บางคนจำเป็นต้องทอดทิ้งลูกไป จนสร้างความโกรธเคืองให้ลูกเมื่อมารู้ความจริงในภายหลัง สำหรับ Kati Pohler แม้จะถูกพ่อแม่แท้ๆ ทอดทิ้ง แต่เธอไม่เคยโกรธพวกเขาเลย ตรงกันข้ามเธอทุ่มเทเวลาตามหาพวกเขาอย่างสุดความสามารถ Kati เป็นหญิงสาวเชื้อสายจีนที่เติบโตมาในฮัดสันวิลล์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการรับเลี้ยงของ Ken กับ Ruth Pohler และเธอยังมีพี่ชายอีกสองคนคือ Steven กับ Jeff ส่วนพ่อแม่แท้ๆ ของหญิงสาว คือ Qian Fenxiang และ Xu Lida ที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนกับลูกสาวคนโตของพวกเขา ย้อนกลับตอนที่ Kati เกิด ตอนนั้นจีนมีนโยบายให้แต่ละคู่สามีภรรยามีลูกได้คนเดียวเพื่อเป็นการควบคุมจำนวนประชากรภายในประเทศ ก่อนจะมี Kati พ่อกับแม่แท้ๆ ของเธอมีลูกสาวอยู่แล้วหนึ่งคน แต่แล้วคุณแม่ก็ตั้งท้องลูกสาวอีกคนขึ้นมา นั่นทำให้ครอบครัวต้องเก็บไว้เป็นความลับ และเตรียมหาคนรับเลี้ยงหลังจากที่เด็กน้อยลืมตาดูโลก ต่อมาคุณแม่ให้กำเนิด Kati อย่างเงียบๆ ภายในบ้าน จากนั้นก็พาเธอไปยังตลาดในวันต่อมา และทิ้งเธอพร้อมข้อความว่า… “ลูกสาวของเรา Jingzhi เกิดเมื่อเวลา 10:00 น. ในวันที่ 24 ของเดือนที่ 7 ตามปฏิทินจันทรคติ ปี 1995 ความยากจนบีบบังคับให้เราต้องทิ้งเธอไป” …
-
ว่าที่เจ้าสาวตัดสินใจ ‘ถ่ายรูปแต่งงาน’ ต่อไป แม้ความตายจะพรากเจ้าบ่าวไปแล้วก็ตาม
การแต่งงานคือความใฝ่ฝันของผู้หญิงหลายๆ คน ไม่ใช่เพราะจะได้ใส่ชุดแต่งงานสวยๆ ไม่ใช่เพราะจะได้จัดงานยิ่งใหญ่อลังการ แต่เป็นเพราะจะได้เริ่มต้นชีวิตคู่กับผู้ชายที่รักมากที่สุด เหมือนกับ Nikki Salgot ที่ดีใจจนพูดไม่ออกเมื่อแฟนหนุ่ม Collin Rose คุกเข่าขอแต่งงาน และวางแผนจะจัดงานแต่งในวันที่ 14 ตุลาคม ปี 2017 Nikki กับแฟนหนุ่ม Collin ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานด้วยกัน ภาพตอนที่ Collin คุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงาน และเธอก็ตอบตกลงทันที สำหรับ Collin นั้น เป็นตำรวจอยู่ในกรมตำรวจ Wayne State University Police Department ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา 14 ตุลาคม ปี 2017 คือวันที่ทั้งคู่จะได้เริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยา และพวกเขาก็รอคอยให้วันนั้นมาถึงโดยเร็วที่สุด แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน ทั้งความหวัง ความฝัน และความสุขทั้งหมดก็พังสลาย เมื่อว่าที่เจ้าบ่าวของเธอถูกยิงขณะปฏิบัติหน้าที่และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในวันที่ 23 พฤศจิกายน ปี 2016 ด้วยวัย 29…
-
เจ้าเหมียววัย 20 ปีผู้ป่วยเป็นโรคลมชัก และความจำไม่ดี แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้
โดยปกติแล้วแมวเหมียวที่มีอายุมาก เป็นโรค หรือร่างกายไม่แข็งแรง มักจะถูกมองข้าม ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วพวกมันสมควรได้รับการเอาใจใส่มากที่สุด เหมือนกับ Britches เจ้าแมวอ้วนวัย 20 ปี ที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่ในสภาพอันเลวร้าย และคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าคงไม่คุ้มค่าที่จะช่วยเหลือมัน อย่างไรก็ตาม Karyn Poplin ไม่ได้คิดเหมือนคนส่วนใหญ่ เธอเป็นคนเดียวที่ตัดสินใจให้โอกาสมัน และพามันกลับไปอยู่บ้านด้วย วันแรกที่เข้ามาอยู่ในบ้าน Britches ทำตัวน่ารักมาก มันจะอ้อนให้อุ้มตลอดเวลาและไม่ยอมอยู่ห่างจาก Karyn เลย จนกลายเป็นเหมือนเงาเล็กๆ ที่คอยตามเธอไปทุกที่ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร แต่จริงๆ แล้ว Britches มาพร้อมกับปัญหาสุขภาพมากมาย มันเป็นโรคลมชัก ฟันบางส่วนหายไป และมีความจำที่ไม่ค่อยดีนัก แต่มันไม่เคยยอมแพ้ที่จะมีชีวิตอยู่ Karyn บอกว่า “มันทำได้แค่หันไปทางซ้ายแล้วอยู่อย่างนั้น และทุกๆ เช้ามันจะตื่นมาในที่ที่แตกต่างกัน เพราะความจำไม่ดี มันเลยจำที่นอนเดิมไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นแมวที่สมบูรณ์แบบสำหรับฉัน” “Britches ดูอารมณ์ดีอยู่เสมอ มันรักการผจญภัยและตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ แม้บางทีจะเห็นอะไรเดิมๆ แต่มันก็ยังตื่นเต้นเพราะมันจำไม่ได้ นั่นชีวิตของมันมีแต่เรื่องสนุกทุกวัน” หญิงสาวบอก เจ้าเหมียวแก่รักการกอดมากๆ บางทีแม้ไม่ได้อยู่ในอ้อมกอด แต่ถ้าเอาผ้าห่มไปคลุมให้ มันก็จะงีบหลับอยู่อย่างนั้นสักพักหนึ่ง เพราะมันสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น …
-
เมื่อนักร้องประกวดเวที X-Factor ร้องเพลงตอนทำอาหาร แหม๊ นึกว่าเปิดเวทีคอนเสิร์ต
เป็นเรื่องปกติที่เราจะฮัมเพลงไปพร้อมกับอาบน้ำ ทำอาหาร ตัดหญ้า ขับรถ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ แน่นอนว่าเสียงคงไม่เพราะเท่าไหร่หรอก ก็ไม่ได้ตั้งใจร้องหนิ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับหญิงสาวที่ชื่อ Chloe Paige ที่แค่ร้องเพลงขณะทำอาหารในครัว มันก็เพราะจับใจซะจนนึกว่าเธอกำลังร้องอยู่บนเวที นี่เป็นคลิปขณะที่ Chloe ทำอาหารอยู่ในครัว โดยมีใครคนหนึ่งเริ่มเล่นเปียโน จากนั้นหญิงสาวก็ร้องเพลงตามปกติเหมือนทุกครั้ง โดยไม่รู้ตัวว่าโดนแอบถ่ายอยู่ ต้องบอกเลยว่าเสียงของ Chloe นั้นไพเราะมากๆ เพราะในระดับที่เรียกได้ว่าเทียบกับนักร้องระดับเทพเลย นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจร้องนะ คลิปดังกล่าวมีคนเข้าไปชมกว่า 2 ล้านครั้ง บางคนถึงกับฟังซ้ำๆ หลายรอบ ก็มันเพราะจริงๆ หนิ เสียงสดยังขนาดนี้ แล้วถ้าเข้าห้องอัดจะขนาดไหน ด้วยเสียงอันไพเราะและมีพลังนี้ ทำให้ชาวเน็ตตามสืบว่าเธอคือใครกันแน่ๆ หรือเป็นนักร้องสังกัดไหน? และแล้วก็ได้รู้ว่าเธอเป็นผู้ที่หลงใหลในการร้องเพลงและเคยขึ้นโชว์พลังเสียงในเวที The X Factor UK มาแล้ว ย้อนกลับไปในปี 2015 Chloe ได้ขึ้นประกวดร้องเพลงในรายการ The X Factor UK ซีซั่น 2 และได้เข้ารอบ 6 สุดท้าย ก่อนจะตกรอบอย่างน่าเสียดาย…
-
ภาพอันโหดร้ายจากสารคดีที่ทำให้เห็นถึงผลกระทบจากการทิ้ง ‘ขยะพลาสติก’ ลงทะเล
ทุกวันนี้โลกได้รับผลเสียมากมายจากการกระทำของมนุษย์ แม้จะมีหลายหน่วยงานออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการรักษ์ โลกแต่ปัญหาก็ไม่มีท่าทีจะลดลง โดยเฉพาะปัญหาจากการทิ้งขยะพลาสติกลงแม่น้ำหรือทะเล เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ทาง BBC ได้เผยแพร่คลิปจากรายการ Blue Planet II ซึ่งเผยให้เห็นภาพของสัตว์ที่ต้องอยู่ร่วมกับขยะที่มนุษย์ทิ้งลงทะเล คลิปดังกล่าวนี้มีผู้เข้าชมนับล้าน โดยผู้อยู่เบื้องหลังหวังว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาการทิ้งพลาสติกลงทะเล อันจะนำไปสู่การหาทางออกต่อไป จากคลิปที่ได้ดูไปจะเห็นวาฬสเปิร์มตัวหนึ่งพยายามกินเศษถังพลาสติกเข้าไป เพราะเข้าใจว่าเป็นอาหาร เศษถังพลาสติกไปติดอยู่ในปากของวาฬจนทำให้มันไม่สามารถกินอาหารได้ อย่างไรก็ตามคลิปที่เราได้ดูไปนั้นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของปัญหาเท่านั้น เพราะไม่ได้มีแค่ปลาแต่ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกมากมายที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำแล้วได้รับผลกระทบซากขยะพลาสติก Lucy Quinn จากทีมสำรวจ British Antarctic Survey Team เผยว่าจำนวนประชากรนกใน South Georgia ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากขยะที่ถูกทิ้งในทะเล นกอัลบาทรอสที่เสียชีวิตจากการถูกไม้จิ้มฟันพลาสติกเจาะเข้าที่ลำไส้ พลาสติกส่วนหนึ่งที่เก็บมาจากท้องมหาสมุทร David Attenborough ผู้ดำเนินรายการ Blue Planet II ได้เดินไปตามชายหาดและเก็บขยะพลาสติกที่ถูกนำมาทิ้งไว้เพื่อชี้ให้เห็นความรุนแรงของปัญหา เต่าตัวนี้กำลังว่ายน้ำไปพร้อมกับพลาสติก ใกล้กับพื้นผิวของมหาสมุทร สัตว์จำนวนมากกลืนพลาสติกลักษณะนี้ลงไป แน่นอนว่ามันย่อยไม่ได้ สุดท้ายก็จะส่งผลเสียกับร่างกายของพวกมัน …
-
ตายายถึงกับเซ็ง หลังโดนเพื่อนบ้านสร้างรั้วบังหน้าต่างซะมิด ทำให้ทั้งคู่ต้องอยู่ในความมืดมิด
การอยู่ร่วมกันในสังคม จำเป็นต้องคิดถึงคนอื่นให้มากๆ บางอย่างทำแล้วเราอาจจะมีความสุข แต่ต้องแน่ใจว่าความสุขของเราไม่ได้อยู่บนความทุกข์ของคนอื่น อย่างกรณีของตายายคู่นี้ที่ต้องอยู่ในบ้านที่มีแต่ความมืดมิด หลังถูกเพื่อสร้างรั้วบังหน้าต่างของพวกเขาและบดบังแสงที่จะเข้ามา Arthur และ Eva Evans ตายายที่มีอายุอยู่ในช่วง 80 ปี ได้ย้ายไปอยู่ในบ้านที่ชนบทใน Ashton with Stodday ใกล้กับแลงคาสเตอร์ ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เกษียณเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ทั้งคู่หวังจะใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายอย่างแสนสุขด้วยกันที่นั่น แต่แล้วเพื่อนบ้านก็มาทำลายความสุขนั้นด้วยการสร้างรั้วโดยไม่บอกตายายเลยสักคำ ตายายอ้างว่าเพื่อนบ้าน Roger Clark สร้างกำแพงอิฐขึ้นมาเมื่อ 14 เดือนก่อน ซึ่งติดกับบ้านของพวกเขาไม่ถึงก้าว ยิ่งไปกว่านั้นกำแพงดังกล่าวยังบดยังหน้าต่างทั้ง 5 บานของพวกเขาด้วย ทั้งคู่ยังบอกอีกว่ารู้สึกเครียดมากและไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ Clark ทำมาตั้งแต่แรก แต่ขัดไม่ได้เพราะเขาเป็นเจ้าของบริษัท Stodday Land Ltd ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินส่วนใหญ่ของที่นี่ ตอนแรกนาย Clark บอกกับ Arthur และ Eva ว่าจะสร้างกำแพงนี้แค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ทว่าเวลาล่วงเลยไปกว่าหนึ่งปีแล้ว กำแพงก็ยังอยู่เช่นเดิม เท่านั้นยังไม่พอ Clark ยังวางถึงอึหมาไว้ที่นอกหน้าต่างพวกเขาด้วย จึงจำเป็นต้องปิดหน้าต่างตลอดเวลา เพราะมันส่งกลิ่นเหม็น เมื่อนักข่าวติดต่อไปยังนาย Clark เขาบอกว่าไม่ได้รับการร้องเรียนใดๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ทำ ดังนั้นจึงถือว่าบริษัทของเขาไม่มีความผิดอะไรในขณะนี้…
-
ย้อนร้อยอุบัติเหตุ TG311 กับความสูญเสียครั้งใหญ่ของไทย ที่ยากจะลืมเลือน…
การบินไทยถือเป็นหนึ่งในสายการบินที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในประเทศไทย แต่การที่เราเห็นการบินไทยบินเฉิดฉายอยู่กลางอากาศอย่างสง่างามอย่างทุกวันนี้ ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เคยเกิดความผิดพลาดมาก่อน ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ. 2535 ได้เกิดเห็นเครื่องบินของการบินไทยชนเข้ากับภูเขา ส่งผลให้ผู้โดยสารพร้อมลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิต และกลายเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ได้รับการพูดถึงทั่วโลก ภาพถ่ายเครื่องบินลำที่เกิดเหตุ บนรันเวย์สนามบินดอนเมืองเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2535 เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 โดยการบินไทย เที่ยวบินที่ TG311 ได้เดินทางจากประเทศไทยไปยังท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวัน กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ในวันดังกล่าวสภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวนเนื่องจากมีลมมรสุมที่พัดกระหน่ำ ดังนั้นในขณะที่นักบินจึงพยายามลดระดับลงเพื่อลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวันก็เกิดความผิดพลาดขึ้น โดยขณะที่เครื่องบินอยู่ห่างออกไป 12 ไมล์ ได้เกิดปัญหาแฟลปไม่กาง แต่นักบินพยายามแก้ไขจนแฟลปทำงานได้ปกติ แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาเครื่องลดระดับช้าเกินไป และไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะลงจอดได้ สารคดีเหตุการณ์ TG311 ที่เพิ่งทำออกมา สำหรับผู้ที่สนใจลองชมได้ในคลิปด้านล่างนี้ค่ะ ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือในเวลานั้นสนามบินยังไม่มีเรดาร์ ทำให้ต้องสื่อสารกันผ่านวิทยุ โดยหอควบคุมการบินได้มีคำสั่งให้ TG311 บินวนแล้วเลี้ยวกลับมาลงจอดอีกครั้ง แต่ความพยายามนั้นก็ยังไม่ได้ผลอีก นักบินจึงขอบินวนอีกครั้ง แต่ด้วยการสื่อสารคลาดเคลื่อนระห่างนักบินกับหอควบคุม บวกกับการต้องรอให้เครื่องบินของเนปาลลงจอดก่อน จึงทำให้การบินวนของ TG311 ในครั้งนี้เกิดความผิดพลาด แทนที่จะบินวนไปทางใต้ซึ่งเป็นที่ราบ แต่เที่ยวบิน TG311 กลับมุ่งหน้าไปทางเหนือของสนามบินตรีภูวัน ซึ่งเป็นเขตภูเขาสูง อนุสรณ์สถานที่อุทิศแด่ผู้เสียชีวิตทั้ง 113 คน…
-
ชมบรรยากาศหุบเขาใน Los Angeles ที่กำลังเผชิญปัญหา ‘ไฟป่า’ ดูราวกับวันมหาวิปโยค
ราวกับวันมหาวิปโยคไม่มีผิด เมื่อเวลา 17:20 ของวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่าขณะนี้ที่ นครลอสแอนเจลิส และหลายพื้นที่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังเผชิญกับเหตุไฟป่าที่ลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว ไฟป่าอันน่ากลัวนี้ถูกตั้งชื่อว่า Skirball Fire ซึ่งกินพื้นที่กว่า 120 ไร่ และลุกลามไปถึงพื้นที่ใกล้เคียงของ Bel Air UCLA และศูนย์ศิลปะ Getty Center เลียบไปตามถนนสาย I-405 ขณะนี้ถนนดังกล่าวถูกปิดเรียบร้อยแล้ว โดยมีนักดับเพลิงจำนวน 125 คน และเฮลิคอปเตอร์อีกหลายลำกำลังควบคุมไฟป่าไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ ทั้งนี้ไฟป่า Skirball Fire เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เวลา 04:52 น. บริเวณทางหลวง Sepulveda Pass ส่งผลให้บ้านหลายหลังในบริเวณใกล้เคียงถูกไฟเผาจนไม่เหลือซาก ทางการได้มีการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ และหยุดกิจกรรมที่ทุกอย่างที่จะมีขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อป้องกันในกรณีที่ไฟป่าลุกลามกว้างขึ้น ส่วนสาเหตุของไฟป่าในครั้งนี้คาดว่าเกิดจากแรงลมที่พัดด้วยความเร็ว 25 ไมล์ต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดประกายไฟ และลุกลามไปยังแหล่งชุมชนในเวลาอันรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ และหากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบให้ภายหลัง… …
-
ทหารผ่านศึก แบ่งบุหรี่ให้ “คนไร้บ้าน” ก่อนจะรู้ว่าเขาคือ “น้องชาย” ที่พรากจากกันเมื่อ 30 ปีก่อน
ทุกวันนี้เราเดินผ่านผู้คนมากหน้าหลายตา โดยไม่ใส่ใจว่าพวกเขาเป็นใคร มาจากไหน มีความเกี่ยวข้องกับเราหรือเปล่า? แต่หากลองหยุดคุยกับใครบางคนสักนิด อาจเจอกับความเซอร์ไพรส์ก็ได้ เช่นเดียวกับทหารผ่านศึกใน Queens Lancashire Regiment ของประเทศอังกฤษได้พบกับน้องชายที่พรากจากกันเมื่อ 30 ปีก่อนโดยบังเอิญ ขณะที่ Roy Aspinall วัย 36 ปี ออกมาจากโบสถ์ เขาก็เห็นชายจรจัดคนหนึ่งนั่งอยู่บนอิฐของลานโบสถ์ ด้วยความสนใจจึงเดินเข้าไปหาและยื่นบุหรี่ให้ ตามสำนักข่าว Wigan Today ระบุว่า Roy บอกว่ามีบางอย่างที่ทำให้เขาอยากเดินไปหาชายจรจัดคนนั้น อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร และอยากพูดคุยกับเขา Roy กับ Billy หลังจากคุยกันสักพัก Roy ก็ตระหนักได้ว่ากำลังคุยอยู่กับน้องชายที่หายไปนานมาก และไม่เคยเห็นเขาตั้งแต่ที่แยกจากกันในวัยเด็ก Roy เห็นน้องชาย Billy White ครั้งสุดท้ายตอนที่เขาเป็นทารกเพิ่งเกิดใหม่ หลังจากนั้นไม่นานครอบครัวก็ประสบปัญหา ทำให้พวกเขาต้องแยกจากกันและไม่เคยติดต่อกันอีกเลย ทั้งคู่เป็นลูกของคุณแม่ Lorraine White แต่ Roy ได้รับการเลี้ยงดูโดยป้าของเขา ส่วน Billy อยู่กับแม่ ก่อนจะถูกส่งไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กตอนอายุ 10 ขวบ หลังจากที่แม่เสียชีวิตลง…
-
หญิงสาวที่โดนเหยียดเชื้อชาติ ตัดสินใจเข้าร่วม ISIS เพื่อแก้แค้น ก่อนจะหนีออกมาในภายหลัง…
ใครก็ตามที่โดนดูถูกเหยียดหยามบ่อยๆ มักจะกลายเป็นคนที่มีปมในใจ เขาอาจจะกลายเป็นคนได้สองรูปแบบ ถ้าไม่เป็นคนขี้กลัว ก็อาจจะกลายเป็นคนหัวรุนแรงไปเลย… Tania Georgelas วัย 33 ปี ชาวอังกฤษ-บังคลาเทศ เป็นหนึ่งในคนที่โดนเหยียดเชื้อชาติ จนทำให้เธอกลายเป็นคนหัวรุนแรง และอยากให้ลูกๆ ของเธอป็นผู้ก่อการร้ายในอนาคตด้วย แต่ปัจจุบัน Tania ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเขตชานเมืองทางตอนเหนือของเมืองดัลลัส โดยอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของอดีตสามี และสามีใหม่ของเธอ ลองไปรับรู้เรื่องราวของเธอ ผ่านบทความที่ #เหมียวขี้ส่อง จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ค่ะ… กว่าจะมาถึงวันนี้ หญิงสาวต้องผ่านอะไรมาเยอะ รวมทั้งการเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุผลและปัจจัยอยู่เบื้องหลัง Tania ได้เผยเรืื่องราวชีวิตของเธอระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อ The Atlantic ตั้งแต่ออกจากอังกฤษแล้วไปใช้ชีวิตในซีเรีย ก่อนจะกลับมาอยู่ในสหรัฐอเมริกา Tania เป็นหนึ่งในเด็กทั้ง 5 คนที่เกิดในลอนดอน โดยเป็นลูกของคู่รักชาวอังกฤษ-บังคลาเทศ Nural และ Jahanara Choudhury เธอใช้ชีวิตวัยเด็กใน Harrow ซึ่งที่นั่นเธอต้องเจอกับปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ แม้แต่เพื่อนบ้านเองก็มักจะเอาก้อนหินปาใส่หน้าต่างบ้านของเธอ จนทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นคนนอก รู้สึกแปลกแยกกับสถานที่แห่งนั้น เมื่อการดูถูกเหยียดหยามทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด Tania ก็คิดหาทางที่จะแก้แค้นคนเหล่านั้น… กระทั่งหญิงสาวอายุ 17 ปี…
-
หนุ่มไทยเจ้าเดิม สร้างเอ็มวีเพลง “แสงสุดท้าย” แบบเกม GTA V ที่มี “พี่ตูน” เป็นพระเอก!!
บุคคลที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ผู้ที่ได้รับการยกย่องจากชาวไทยทั้งประเทศ หลังจากที่ออกวิ่งเพื่อระดมทุนให้กับโรงพยาบาลต่างๆ และล่าสุดทางแชแนลยูทูบ Official Shredder ที่มักจะนำเอาคลิปวิดีโอจากเกม GTA V มาทำให้กลายเป็นหนังสั้น เรื่องราว หรือ MV ต่างๆ ก็ได้ปล่อย MV ตัวใหม่ในเพลง แสงสุดท้าย ซึ่งเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของตูน บอดี้สแลมกับภารกิจการวิ่งเพื่อชาติ MV ‘แสงสุดท้าย’ ที่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของตูน บอดี้สแลม MV เพลงแสงสุดท้ายได้มีการนำเสนอเรื่องราวของพี่ตูนตั้งแต่อยู่ในวงการในฐานะนักร้องนำของวงวงร็อคชื่อดังอย่างบอดี้สแลม แต่วันหนึ่งพี่ตูนได้เดินผ่านโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้วเกิดสะดุดตาเพราะสภาพของโรงพยาบาลค่อนข้างเก่า ทรุดโทรม ราวกับไม่เคยได้รับการบูรณะเลย ในระหว่างที่พี่ตูนยืนสำรวจสภาพของโรงพยาบาล ก็พลันคิดในใจว่าคงปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้วแต่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อนำการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นมาให้กับโรงพยาบาล แม้จะเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง แต่การจะเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลนั้นจำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาล แน่นอนว่าเงินที่เขามีคงไม่เพียงพอแน่ๆ เมื่อกำลังทรัพย์สู้ไม่ได้ พี่ตูนจึงตัดสินใจใช้กำลังกายแทน นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาออกวิ่งเพื่อระดมช่วยเหลือโรงพยาบาล ในช่วงแรกพี่ตูนเริ่มวิ่งเพียงลำพัง โดยตั้งเป้าว่าจะวิ่งจนกว่าจะได้เงินพอที่จะสามารถช่วยเหลือโรงพยาบาลได้ และไม่รู้ว่าต้องวิ่งไปไกลแค่ไหนถึงจะมีวันนั้น แต่พี่ตูนก็มุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จให้ได้ …
-
ศิลปินสร้าง ‘ความรู้สึก’ ให้กับของที่ถูกทิ้งอยู่ข้างถนน ด้วยการวาดหน้าเศร้าใส่ให้พวกมัน
เวลาที่เราได้สิ่งของหรือของใช้ใหม่ๆ มา เรามักจะรู้สึกตื่นเต้นและทะนุถนอมมันเป็นอย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะรู้สึกเบื่อและทิ้งมันไป จนกลายเป็นขยะไร้ค่าชิ้นหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ ศิลปินคนหนึ่งจากลอสแองเจลิส ในสหรัฐอเมริกา จึงนำศิลปะไปใส่ลงในสิ่งของที่ถูกทิ้งเหล่านั้น เพื่อให้ผู้คนเห็นว่าสิ่งของมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อถูกเปลี่ยนสถานะกลายเป็นแค่ขยะ แน่นอนว่าคงไม่มีใครรู้สึกดีเมื่อถูกทิ้ง พวกสิ่งของเองก็เช่นกัน ครั้งหนึ่งพวกมันเคยอยู่สบายๆ ในบ้าน แต่วันหนึ่งมันถูกโยนออกไปข้างนอก รอรถขยะมาเก็บ…เจอแบบนี้ใครเล่าจะยิ้มออก ศิลปินจึงทำหน้าเศร้าให้กับสิ่งของทุกชิ้นที่เขาเจออยู่ข้างถนน ที่นอกจากจะสะท้อนความรู้สึกสิ่งของแล้ว ยังเป็นการสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนเมื่อมองขยะข้างถนนด้วย ใช่สิ๊ เรามันหมดประโยชน์แล้วนี่ ไม่มีอีกแล้ว บ้านที่แสนอบอุ่น น้องหมาไม่ได้ถูกทิ้ง แต่มันหายตัวไปและตอนนี้คงนั่งร้องไห้อยู่ที่ไหนสักที่ เดี๋ยวนี้เค้าหันไปใช้คอมพิวเตอร์จอแบนกันหมดแล้ว . . . . ไม่มีใครสนใจฉันเลย . . . อยากกลับบ้านนนน รู้สึกเหงาเหลือเกิน . ถึงจะเป็นสิ่งของสวยงามแค่ไหน สุดท้ายก็โดนทิ้งอยู่ดี . อย่าทิ้งฉันไว้กลางทาง…
-
นาทีแสนเศร้าเมื่อเด็กสาววัย 14 บอกพ่อแม่ให้หยุดรักษาเธอ หลังพวกเขาหมดตัวเพราะค่ารักษา
ในโลกนี้คงไม่มีใครอยากจากเสียชีวิตทั้งๆ ยังอายุน้อย แต่ด้วยข้อจำกัดในชีวิต ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะไปมากกว่าการมีอยู่ชีวิต เหมือนกับ Li Xiaoqing เด็กสาววัย 14 ปี จากประเทศจีนคนนี้ที่ตัดสินใจบอกพ่อแม่ให้หยุดรักษาเธอ หลังทั้งคู่นำเงินเก็บมารักษาเธอจนหมดตัวแถมยังเป็นหนี้ด้วย เด็กสาวบอกกับพ่อแม่ผู้น่าสงสารที่กำลังร้องไห้ว่า “ปล่อยหนูไปเถอะ หนูไม่อยากเป็นภาระให้พ่อกับแม่อีกแล้ว” ตามรายงานจากสื่อจีนระบุว่า Xiaoqing ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับชนิดหายากเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2014 ที่สำคัญมะเร็งของเธออยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว เด็กสาวมีพื้นเพมาจาก Nanle County มณฑลเหอหนานของประเทศจีนตอนกลาง เธออาศัยอยู่กับพ่อแม่ พี่ชาย น้องสาว และย่าของเธอในฟาร์ม อย่างไรก็ตามแพทย์จากโรงพยาบาลใน Puyang ที่อยู่ใกล้ Nanle County ที่สุด แจ้งกับทางครอบครัวว่าไม่สามารถรักษาโรคให้เด็กสาวได้ เนื่องจากมีเครื่องมือที่ไม่เพียงพอ และแนะนำให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลในกรุงปักกิ่งแทน พ่อแม่ของ Xiaoqing จึงตัดสินใจพาเธอไปยังเมืองหลวงของประเทศที่อยู่ห่างออกไปถึง 510 กิโลเมตร หรือขับรถไปประมาณ 5 ชั่วโมง หลังจากที่ตรวจประเมินโรคของ Xiaoqing แล้ว คุณหมอได้แนะนำให้เธอเข้ารับการทำเคมีบำบัดเป็นอันดับแรก เนื่องจากเนื้องอกของเธอโตเกินไป และจะทำการผ่าตัดได้ต่อเมื่อเนื้องอกเล็กลงเท่านั้น พ่อกับแม่ยอมรับข้อเสนอนั้นทันทีโดยไม่ลังเล…
-
คุณยายผู้มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง ตอนนี้ก็เลยได้ดังสมใจจากคลิปร้องคาราโอเกะ
การได้ทำตามความฝัน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วเราก็คงรู้สึกมีความสุขไปกับมัน แม้บางครั้งเราจะได้อยู่ในจุดจุดนั้นแค่ในเวลาสั้นๆ ก็ตาม แต่มันก็เหมือนการประสบความสำเร็จชั่วขณะหนึ่ง อย่างคุณยาย Sylvia Jeneanne Weibel วัย 78 ปี ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีคำว่าสายเกินไปที่คุณจะทำตามความฝัน คุณยาย Sylvia อาศัยอยู่ในรัฐเคนทักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีความฝันที่อยากเป็นนักร้องแนวคันทรี่ แต่เธอพลาดโอกาสที่ได้ทำตามความฝันในวัยสาวจนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ อย่างไรก็ตาม Pam Kingberger ลูกสาวของคุณยายรู้มาตลอดว่าแม่อยากเป็นน้องร้อง เธอจึงช่วยทำให้ฝันของแม่เป็นจริงด้วยการซื้อเครื่องเล่นคาราโอเกะตัวใหม่มาให้ และนั่นทำให้ Sylvia ได้ทำตามความฝันในที่สุด เพลงแรกที่คุณยายร้องคือ “Blue Moon of Kentucky” และถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 ซึ่งถูกใจชาวเน็ตอย่างมาก จนมีคนเข้าไปดูกว่าล้านครั้งในเวลาไม่กี่วัน ตั้งแต่นั้นมา Sylvia ก็สร้างเพจเฟซบุ๊กของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า Sylvia Jeneanne GrandmaSings เพื่อแบ่งปันเพลงแนวคันทรี่ที่เธอชอบให้กับแฟนๆ ที่ติดตามเธอจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้เธอยังชอบไลฟ์ทักทายแฟนๆ และโพสต์โชว์สุดเจ๋งของตัวเองให้ผู้คนได้ดูด้วย เฟซบุ๊กไลฟ์ล่าสุดบนหน้าเพจ Sylvia ได้โชว์ร้องเพลงที่มีการผสมผสานระหว่างแนวคลาสสิกกับคันทรี่ อย่างเช่นเพลง “The Rose” “Blanket on the Ground” และ…
-
ภาพน่ารักของน้องหมากับรอยยิ้มฉีกกว้าง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเอ็งน่ะกำลังมีความสุขอยู่แน่ๆ
พวกเจ้าหมาที่ได้คลุกคลีอยู่กับมนุษย์มากๆ เนี่ย พวกมันจะทำกลมกลืนกับเราโดยปริยาย ทั้งท่าทาง ลักษณะนิสัย ร่วมการแสดงสีหน้า ดูอย่างเจ้าตูบพวกนี้สิ ทำหน้ายิ้มแป้นแล้นเชียว นี่มันคงจะจำมนุษย์แน่ๆ เลยว่าเวลามีความสุขจะต้องทำหน้าประมาณนี้ โอ๊ยย แต่เวลาหมายิ้มเนี่ย เห็นแล้วใจละลายเบย 1. เกาอกให้หน่อยทำหน้าฟินเลยนะ 2. ทำหน้าแบบนี้ต้องการไรจ๊ะหนู 3. ยิ้มเบาๆ แต่กระชากใจแรง 4. งุ้ยยย เจ้าหมาแก้ปุ้มปุ้ย 5. ทั้งท่าทาง ทั้งสีหน้า ถอดแบบมาได้เป๊ะมาก 6. เวลามีความสุข หน้าตาก็จะประมาณนี้แหละ 7. ยิ้มโชว์ฟันเบาๆ แค่นี้มนุษย์ก็หลงแล้ว 8. ได้ไปล่องเรือด้วยแหละ สุขกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว 9. ยิ้มแบบนี้ คงจะหาเรื่องอ้อนแน่ๆ 10. เออ เกาตรงนั้นแหละ ชอบๆ 11.…
-
บริษัทในนิวยอร์กเสนอให้สร้างอพาร์ตเมนต์รังผึ้ง กลายเป็นความหวังใหม่ของคนไร้บ้าน
การไม่มีที่พักถือเป็นปัญหาระดับโลก โดยเฉพาะในเมืองหลวงอย่างนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีสถิติคนไร้บ้านเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1955 ตอนนี้มีประมาณ 61,000 คน ที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงสำหรับคนจรจัดของนิวยอร์ก และอีกหลายคนอาศัยอยู่ตามท้องถนน ปัญหาดังกล่าวนี้จะไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้นๆ บริษัทด้านครีเอทีฟเอเจนซีอย่าง Framlab จึงได้เสนอโครงการ Homed เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาคนไร้บ้าน ทางบริษัทเสนอให้ใช้ผนังด้านนอกของอาคารซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ดัดแปลงเป็นที่พักใหม่สำหรับคนไร้บ้าน โดยมีลักษณะเป็นกล่องทรงหกเหลี่ยมแบบรังผึ้งที่สร้างขึ้นด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ และสามารถนำเอาไปติดตั้งกับเฟรมเหล็กข้างตึกที่มีอยู่แล้วได้ในทันที สำหรับตัวกล่อง Homed ถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศในนิวยอร์กตลอดทั้งปี โดยเปลือกนอกจะเป็น Oxidized Aluminum Cladding ส่วนด้านในรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จะเป็น 3D Print ด้วยวัสดุ Bioplastic ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย ในส่วนของกระจกด้านหน้ากล่อง Homed จะเป็นกระจก PMMA Smart Glass ที่สามารถใช้ฉายเนื้อหาดิจิตอลต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นอาร์ตเวิร์กหรือแม้แต่โฆษณา อย่างไรก็ตาม ขณะที่โครงการดังกล่าวดูเหมือนจะไปได้ด้วยดีและน่าประทับใจ ผู้สร้างได้ออกมาบอกว่าการติดตั้งกล่องรังผึ้งเหล่านี้ไม่สามารถแก้ปัญหาที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ เขาบอกว่า “ขนาดที่ใหญ่โตและความซับซ้อนของสถานที่จำเป็นต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายและควรจะมีนโยบายมารองรับ ที่สำคัญคือการออกแบบของชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้” …
-
สาวน้อยถึงกับร่ำไห้ หลังถูกเซอร์ไพรส์ด้วยเจ้าเหมียว ที่หน้าเหมือนอดีตเจ้านายที่เพิ่งจากไป
หากคุณเป็นคนที่คลุกคลีอยู่กับแมวเหมียวจะรู้ว่าแต่ละตัวมีนิสัยต่างกัน ดังนั้นเมื่อคุณสูญเสียแมวอันเป็นที่รักไป ต่อให้หาตัวใหม่ที่หน้าตาเหมือนกันมาก็ไม่สามารถทดแทนกันได้ แต่สำหรับ Marley เด็กสาววัย 9 ขวบ ถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อเห็นแมวน้อยที่เหมือนเจ้านายตัวเก่าที่จากไป เพราะมันทำให้เธอนึกถึงมัน เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา Marley อายุครบ 9 ขวบ คุณแม่ Nikki Frost จึงนำแมวดำมาให้เป็นของขวัญ เพื่อทดแทนเจ้า Simon แมวดำที่จากเธอไปเมื่อปีที่แล้ว คุณแม่เล่าว่า “Marley เป็นคนที่รักสัตว์มาก เธอมักจะนำอาหารกระป๋องไปให้สัตว์เลี้ยงในร้านขายสัตว์บ่อยๆ ทั้งที่ตอนนี้เรามีหมาสองตัว แมวสองตัว และหนูตะเภาอีกหนึ่งตัวอยู่กับครอบครัวแล้ว” “Simon เป็นแมวชราที่อยู่กับเรามานานและได้จากไปเมื่อปีที่แล้ว ตั้งแต่นั้นมา Marley ก็เฝ้าบอกฉันซ้ำๆ ว่าเธออยากเลี้ยงลูกแมว” แต่ด้วยความที่ครอบครัวมีแมวอยู่แล้ว 2 ตัว จึงไม่มีแผนที่จะหาแมวมาเลี้ยงเพิ่มอีก กระทั่งวันหนึ่งพวกเขาไปเจอเข้ากับ Ella แมวน้อยสีดำที่มีหน้าเหมือน Simon ไม่มีผิด คุณแม่บอกว่าเจ้ามิ้วน้อยถูกพบอยู่ที่ระเบียงบ้านของเพื่อนพร้อมพี่น้องตัวอื่นๆ และคาดว่าแม่ของพวกมันคงถูกรถชนตายบนท้องถนนไปแล้ว ยังโชคดีที่มีคนใจดีพยายามดูแลมันด้วยการให้กินขนมและนม จนกระทั่งโตพอสำหรับการรับเลี้ยง และวันนั้น Frost ได้ไปเจอเจ้าเหมียวพวกนี้พอดี เธอบอกว่า “เราไม่เคยคิดที่จะพาแมวตัวอื่นเข้าบ้านเลย แต่บางสถานการณ์มันทำให้เราเปลี่ยนความคิดได้ภายในพริบตา” เธอพามิ้วน้อย Ella กลับบ้าน แล้วนำไปวางไว้ในห้องของ Marley และรอให้เธอกลับมา… …
-
พี่น้องทั้งหมด 8 คน ร่วมกันเต้นคัฟเวอร์เพลงทุกครั้งในช่วงคริสต์มาส จนชาวเน็ตหลงใหล
ในเทศกาลคริสต์มาส นอกจากจะเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองแล้ว ยังเป็นวันหยุดที่ทำให้ครอบครัวได้กลับมาอยู่รวมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาด้วย การได้กลับมารวมกันในรอบหนึ่งปี หลายครอบครัวคงทำกิจกรรมด้วยกันมากมาย เช่นเดียวกับกลุ่มพี่น้องในรัฐยูทาห์ที่ทำกิจกรรมสนุกๆ ด้วยกัน สร้างความประทับใจให้ชาวเน็ตเป็นอย่างมาก พี่น้องกลุ่มนี้มีทั้งหมด 8 คน พวกเขาร่วมกันเต้นคัฟเวอร์เพลงทุกครั้งในช่วงคริสต์มาส โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2012 จนตอนนี้กลายมาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติประจำปีของครอบครัวไปแล้ว ช่วงเวลานี้ของแต่ละปี พวกเขาจะมารวมตัวกันและฝึกซ้อมเต้นไปด้วย แต่ปีนี้พิเศษกว่าปีที่ผ่านมา เพราะมีพ่อแม่สามี หลานสาว 3 คนและน้องหมาอีก 3 ตัวมาร่วมด้วย Ammon Orgill หัวโจกของพี่น้องทั้งหมดได้โพสต์คลิปการเต้นคัฟเวอร์สำหรับปีนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บนหน้าเฟซบุ๊กของเขา ในคลิปจะเห็นว่าพี่น้องทุกคนสวมเสื้อผ้าในธีมคริสต์มาส และเต้นเพลง Santa Tell Me ของ Ariana Grande ที่มีความยาวมากกว่า 3 นาที นับตั้งแต่วิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีขาวเน็ตจำนวนมากหลงใหลกับสิ่งที่พวกเขาทำ แถมรอติดตามคลิปใหม่ๆ จากครอบครัวนี้ทุกๆ ปีด้วย นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับครอบครัวอื่นๆ ด้วย โดยชาวเน็ตคนหนึ่งบอกว่า “ครอบครัวของเรามีพี่น้องทั้งหมดเกือบ 30…
-
มิตรภาพของเพื่อนรักต่างสายพันธุ์ หมา 2 แมว 1 ถ้าขาดใครไปก็คงจะเหงาแย่เลยเนอะ
ณ ตอนนี้คงไม่มีหมาแมวแก๊งไหนน่ารักไปกว่ากลุ่มนี้อีกแล้ว มีกันอยู่ 3 ตัว หมา 2 แมว 1 กับมิตรภาพอันแสนอบอุ่นที่หาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว พบกับพวกเค้า Watson และ Kiko เจ้าหมาโกลเด้นสีน้ำตาลกับสีขาว และ Harry แมวเหมียวสุดน่ารักที่ไม่อาจอยู่ได้โดยไม่มีเพื่อนหมาทั้งสองตัว ปกติแล้วหมากับแมวเจอกันทีไร มักจะทะเลาะกันทุกที แต่สำหรับ Watson Kiko และ Harry พวกมันอยู่ด้วยกันด้วยความรัก ความสามัคคี ทำทุกอย่างด้วยกันเสมอ ไม่ว่าเล่น นอน หรือออกไปผจญภัยข้างนอก เจ้าของวัย 23 ปี รู้สึกโชคดีมากๆ ที่รับทั้งสามตัวมาเลี้ยงและเหมือนเป็นกำไรของชีวิตที่ได้เห็นมิตรภาพอันน่ารักของพวกมันในแต่ละวัน ด้วยเหตุนี้เจ้าของจึงถ่ายรูปช่วงเวลาที่พวกมันอยู่ด้วยกัน แล้วโพสต์ลงในอินสตาแกรม wat.ki เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสถึงความน่ารักของพวกมัน รักสามสุขของเราสามตัว มันก็จะน่ารัก มุ้งมิ้งหน่อยๆ อะนะ ถึงแมวจะไม่ชอบอาบน้ำ แต่มันก็ไม่เคยทิ้งให้เพื่อนหมาอาบเพียงลำพัง อบอุ่นจริงๆ . รักกันๆ …
-
19 ภาพวาดการ์ตูน ที่ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของโลก และเราอาจไม่เคยรู้สึกถึงมันมาก่อน
ทุกๆ วัน ทุกๆ ปี มนุษย์เราคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ส่งผลให้ความก้าวหน้าไม่เคยหยุดอยู่กับที่ อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งคุณจะเห็นปัญหามากมายเติบโตไปพร้อมๆ กับการพัฒนาเหล่านั้น และนี่คือภาพวาดการ์ตูนที่ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอีกมุมหนึ่งของโลก ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยตระหนักถึงมันมาก่อน 1. “ห้ามรบกวน” 2. อาหาร 3. ตะกร้าสินค้า 4. สุขภาพ 5. เสรีภาพในสื่อสังคมออนไลน์ 6. เด็กและผู้ปกครอง 7. ความน่ากลัวของฤดูใบไม้ร่วง 8. เวลาสำหรับครอบครัว 9. วงวารชีวิต 10. ความงาม 11. แฟชั่น 12. ระหว่างเดิน 13. เสมือนกล้องจุลทรรศน์ 14. สุขสันต์วันวาเลนไทน์ . …
-
เรื่องจริงจากฉากกอดของคู่รักสูงวัย ‘ไททานิก’ ที่มีความเศร้าไม่แพ้คู่แจ็กกับโรสเลย!!
‘ไททานิก’ เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีผู้ชมมากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจริงในปี 1912 โดยเล่าผ่านตัวละครแจ็กกับโรสที่มาพบรักกันบนเรือสำราญที่มีชื่อว่าไททานิก และฉากจบก็อย่างที่ทุกคนเห็น คือมันช่างน่าเศร้าเหลือเกินเพราะพระ-นางต้องแยกจากกันตลอดกาล แต่ใครจะรู้เล่าว่ามีอีกคู่หนึ่งที่พบกับจุดจบที่เศร้าไม่แพ้กัน ยิ่งไปกว่านั้นมันสร้างมาจากเรื่องจริง นี่คือคู่รักวัยชราที่พบกับจุดจบอันแสนเศร้าในตอนท้ายของหนังไททานิก พวกเขาใช้เวลาในช่วงสุดท้ายของชีวิตกอดกันอยู่บนเตียง ขณะที่มีน้ำอันเยือกเย็นไหลทะลักเข้ามาในห้องที่พวกเขาอยู่ ที่เศร้ากว่านั้นคือ ฉากนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของคนสองคนที่เลือกจะอยู่ด้วยกันในขณะที่เรือค่อยๆ จมลงสู่ก้นมหาสมุทร พวกเขาคือ Isidor และ Ida Straus ซึ่งเป็นผู้โดยสารชั้นหนึ่งบนเรือไททานิก Isidor เป็นเจ้าของร่วมของ Macy’s และยังเป็นสมาชิกสภาของอเมริกา สังกัดพรรค Democratic เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีพร้อมในทุกด้านและเป็นผู้ชายที่นิสัยดีมากๆ คนหนึ่ง Isidor และ Ida Straus แต่งงานกันในปี 1871 และเป็นหนึ่งในคู่รักที่ร่ำรวยที่สุดที่ขึ้นเรือไททานิก เพื่อเดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกาหลังไปใช้วันหยุดด้วยกันในประเทศฝรั่งเศส เมื่อเรือไททานิกชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง พวกเขารู้ทันทีว่าเรือคงจะจมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยความที่ Ida เป็นผู้หญิงและเป็นผู้โดยสารชั้นหนึ่งด้วย เธอจึงถูกนำตัวไปขึ้นเรือชูชีพทันที โดยมี Isidor เดินไปส่ง แต่เมื่อไปถึงเรือชูชีพ Ida กลับปฏิเสธที่จะขึ้นเรือและให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากทิ้งสามีไว้บนเรือที่กำลังจะจมนี่คนเดียว เมื่อได้ฟังดังนั้น หัวหน้าเรือจึงอนุญาตให้…
-
ชายอินเดียตีเนียนเช็กอินในโรงแรม แอบขโมยทีวีไปได้กว่า 120 เครื่องภายในเวลา 4 เดือน
โรงแรมส่วนใหญ่มักจะให้บริการลูกค้าทุกคนอย่างสุภาพและเท่าเทียม ไม่ว่าภายนอกพวกเขาจะดูเป็นคนยังไงก็ตาม แต่พวกเขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกค้า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายอินเดียคนหนึ่งฉวยโอกาสด้วยการตีเนียนเป็นลูกค้า และขโมยทีวีของโรงแรมไปกว่า 120 เครื่อง ภายในเวลา 4 เดือน Vasudev Nanaiah วัย 37 ปี ถูกจับกุมเมื่อเดือนที่แล้ว และถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์ 21 ครั้ง หลังจากที่ทำการเช็กอินตามโรงแรมราคาประหยัด ก่อนจะขโมยทีวีในห้องที่เขาจองไว้ นาย Nanaiah จะทำการจองห้องพักทางโทรศัพท์และจ่ายเงินล่วงหน้าส่วนหนึ่ง โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเขาจะอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายวันเพื่อป้องกันการถูกสงสัย เวลาที่เข้ามาในโรงแรม เขามักจะมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ แต่ในกรณีที่พบว่ากระเป๋าเล็กกว่าทีวีเป้าหมาย เขาก็จะออกไปซื้อใบใหม่มา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล Chetan Singh Ratho บอกว่าเขาจะทำให้พนักงานโรงแรมสับสนด้วยการเดินเข้าเดินออกโรงแรมพร้อมกระเป๋าเดินทางซ้ำๆ ด้วยข้ออ้างต่างๆ นานา นั่นทำให้พนักงานไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะออกไปและไม่กลับมาอีก ไม่เคยมีพนักงานโรงแรมคนไหนสงสัยนาย Nanaiah เลย ซึ่งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เขาเป็นคนสุภาพและมีมารยาทดี” ที่น่าสนใจคือ เขาเคยถูกจับมาแล้วในเดือนตุลาคม 2017 แต่ได้รับการประกันตัวออกมา และแทนที่จะเลิกทำแบบนั้น เขากลับไปขโมยของเหมือนเดิมอีก หลังจากที่ถูกปล่อยตัวไม่กี่วัน แต่ครั้งนี้ตำตรวจได้จับตาดูมาสักพักหนึ่งแล้ว จึงทำให้เขาถูกจับได้ขณะพยายามขายทีวีที่ขโมยมาให้กับร้านที่รับซื้อ ตำรวจ Bangalore บอกว่า “เราจับกุมเขาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา…
-
พ่อแม่อุตริ จับลูกน้อยเข้าไมโครเวฟและเปิดอบไว้ ด้วยสาเหตุแสนสุดพิเรนท์!!
ในโลกนี้คงไม่มีใครรักเรามากไปกว่าพ่อแม่อีกแล้ว เพราะพวกเขาเป็นพ่อมอบความรักความอบอุ่นให้เรา ทั้งยังเป็นที่พึ่ง เป็นผู้ดูแล และคอยปกป้องลูกๆ จากอันตรายทั้งหมด แม้แต่เสี่ยงชีวิต พ่อแม่ก็ยอมได้เพื่อลูก แต่สำหรับ Derick และ Mikala Boyce-Slezak แล้ว ดูเหมือนจะเป็นพ่อแม่ที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านั้น เพราะนอกจากไม่ถนอมแล้วพวกเขายังทำร้ายลูกน้อยอย่างโหดเหีี้ยมอีกด้วย Derick และ Mikala อายุ 22 ปีเท่ากัน อาศัยอยู่ในรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่ได้ก่อเหตุทำร้ายลูกชายตัวน้อยด้วยการจับเขาเข้าไปในไมโครเวฟแล้วเปิดอบไว้ โดยอ้างว่าเลียนแบบโฆษณาในทีวี ตามเอกสารที่ศาลได้รับจาก St Louis Post-Dispatch ระบุว่าเด็กน้อยอายุต่ำกว่า 4 เดือน ถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล Cardinal-Glennon Hospital เมื่อเดือนเมษายน เนื่องจากมีผื่นขึ้นบนใบหน้าจนกลายเป็นแผลขนาดใหญ่ จากการตรวจสอบ คุณหมอยืนยันว่าบาดแผลของเด็กน้อยเป็นแผลไฟไหม้ระดับแรก (First-degree burn) ซึ่งแผลจะมีลักษณะสีแดงแต่ไม่มีตุ่มพอง และที่เหลือเป็นแผลไฟไหม้ระดับสอง (Second-degree burn) ซึ่งผิวจะมีสีแดง มีตุ่มพอง และมีอาการปวดแสบปวดร้อน นอกจากนี้ยังพบแผลไหม้ระดับสองที่บริเวณศีรษะส่วนหน้าของเด็กน้อย กะโหลกศีรษะแตก มีภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง (Subdural hematoma) และอาจมีอาการบวมในสมองด้วย ข้อมูลจาก St…
-
สวนสัตว์จีนโฆษณาโชว์ ‘สัตว์จากแดนใต้’ แท้จริงกลับมีแต่สัตว์บ้านๆ แถมเก็บค่าชม 40 บาท!!
เมื่อซื้อบัตรเข้าชมสวนสัตว์ สิ่งที่เราส่วนใหญ่คาดหวังคือการได้เห็นสัตว์แปลกๆ สัตว์หายาก หรือสัตว์ที่ไม่สามารถพบได้ทั่วไป รวมทั้งชมโชวการแสดงต่างๆ ของสัตว์ด้วย แต่สวนสัตว์ในประเทศจีนแห่งนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวังหนักมาก เมื่อพบว่าในนั้นมีแต่สัตว์บ้านๆ ที่พบได้ทั่วไป แถมยังมีเพนกวินลมยางอีก เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสวนสัตว์กุ้ยฉาน ได้ทำการโปรโมทว่าจะมีการจัดกิจกรรมสุดพิเศษชื่อว่า ‘สัตว์จากแดนใต้’ ในเมืองยู่หลิน เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วง ทางตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก พวกเขาบอกว่านักท่องเที่ยวจะได้เห็นสัตว์มากมาย หนึ่งในนั้นคือเพนกวินอาร์กติก ที่สำคัญมีค่าเข้าชมแค่ 40 บาทเท่านั้น แต่พอเข้าไปในสวนสัตว์ นักท่องเที่ยวถึงกับงงและรู้สึกโกรธมาก เพราะเพนกวินที่ทางส่วนสัตว์จัดแสดงนั้น เป็นเพียงเพนกวินลมยางเท่านั้น หลายคนคิดว่าทดแทนควมผิดหวังนี้ด้วยสัตว์ชนิดอื่นก็ได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินดูรอบๆ กลับมีแค่ไก่ เป็ด และเต่า แถมยังเป็นพันธุ์บ้านๆ ที่เห็นได้ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเต่าที่ถูกจับไปใว้ในตู้กระจก พร้อมเขียนข้อความว่า “เต่านำโชค” เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการขอพรใส่เงินลงไปในนั้น แน่นอนว่านักท่องเที่ยวที่หลงเข้าไปรู้สึกว่าพวกเขาถูกหลอกมา จึงได้มีการถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงในโซเชียล จนตอนนี้กลายเป็นประเด็นดราม่าที่มีการพูดถึงทั่วสังคมออนไลน์ของจีน หลายคนพยายามไปขอเงินคืนกับทางสวนสัตว์ แต่พวกเขากลับปฏิเสธที่จะคืนให้ จึงทำให้นักท่องเที่ยวต้องกลับบ้านไปพร้อมกับความผิดหวัง ช่างทำกันได้ลงเนาะ ที่มา mirror
-
คนแปลกหน้าสองคนคุยกันผ่านจดหมายมานานกว่า 51 ปี ในที่สุดก็ได้มาพบกันสักที
ในยุคที่มีเทคโนโลยีการสื่อสารสะดวกสบายเช่นนี้ เราแทบจะไม่เห็นใครติดต่อกันผ่านการเขียนจดหมายเลย หรือถึงมี พวกเขาก็ทำได้แค่ไม่กี่เดือนแล้วเลิกไปใช้วิธีอื่นแทน แต่สำหรับความสัมพันธ์ของ Yvonne Betowt และ Mary Richardson ที่ติดต่อกันผ่านจดหมาย ไม่เคยจางหายไปแม้จะผ่านไปกว่า 51 ปี Yvonne อาศัยอยู่ในแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วน Mary อาศัยอยู่ในประเทศแคนาดา ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกันผ่านจดหมายตอนอายุ 12 ปี หรือเมื่อ 51 ปีก่อน ตอนระยะกว่า 50 ปีนี้ พวกเขาผ่านการแต่งงาน มีครอบครัว และสูญเสียสามีไปเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันผ่านจดหมายเสมอ โดยที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย อย่างที่เรารู้กันว่าการมีเพื่อนที่ไว้ใจที่ได้ทุกเรื่องและพร้อมจะอยู่เคียงข้างเราไปตลอดนั้นหาได้ยากมากๆ และมันก็เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดในชีวิต ดังนั้นนับว่าเรื่องมหัศจรรย์ที่ Yvonne และ Mary สามารถเป็นเพื่อนแท้ของกันและกันได้ ทั้งที่ติดต่อกันผ่านจดหมายเท่านั้น แต่แล้วในที่สุด ทั้งคู่ก็ได้เจอกันครั้งแรกในวัย 60 ปี โดย Mary ได้เดินทางมาจากแคนาดามายังแนชวิลล์เพื่อมาหาเพื่อนที่อยู่เคียงข้างเธอมานานหลายสิบปี Yvonne บอกว่า “การเขียนจดหมายหากันตลอดตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ มันทำให้รู้สึกว่าเราโตมาด้วยกัน ดังนั้นการพบกันครั้งแรกของเรา มันทำให้รู้สึกเหมือนฝันเป็นจริง” …
-
เจ้าหมาเฝ้าร่างไร้วิญญาณเจ้าของนานนับเดือน จนร่างกายซูบผอม ในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือ
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง เมื่อสูญเสียคนที่รักมากที่สุดไป คงยากที่จะจินตนาการได้ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร หรือเจ็บปวดมากแค่ไหน เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่ Dory สุนัขวัย 9 ปีตัวนี้ต้องเผชิญ โดยหลังจากที่เจ้าของผู้เป็นที่รักล่วงลับไป มันไม่เคยทำใจได้ เลยยืนเฝ้าร่างไร้วิญญาณนั้นนานนับเดือน น้องหมายืนเฝ้าร่างไร้วิญญาณของเจ้าของภายในบ้านที่ฮูสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐฯ โดยไม่ยอมกินอะไรจนร่างกายซูบผอม เหลือแต่หนังติดกระดูก กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือน จึงมีคนเข้ามาเจอ หลังจากวันที่มีคนมาเจอ Dory ก็ถูกส่งไปอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Harris County Animal Shelter โดยที่น้องหมาก็ยังดูสับสนและจมอยู่กับความเศร้าเช่นเดิม เพจเฟซบุ๊ก Harris County Animal Shelter Pets In Need ได้โพสต์วิดีโอเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ระบุข้อความว่า “สุนัขตัวนี้อยู่กับร่างไร้วิญญาณของเจ้าของนานนับเดือน และศพก็เพิ่งถูกพบวันนี้ เจ้าหมาจึงถูกพามาที่ศูนย์พักพิง” Dory ได้รับการดูแลในศูนย์พักพิงเป็นเวลาหลายวัน เพื่อรอให้สมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ มารับมันไปดูแลต่อ แต่วันแล้ววันเล่าก็ไม่มีใครมาเลย อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน Greyhound Pets of America (GPA Houston)…
-
นักดำน้ำลงไปทักทาย “ฉลามสีน้ำเงิน” ใต้ท้องทะเล ถูกเซอร์ไพรส์ด้วยการจุ๊บเบาๆ หนึ่งที
คนส่วนใหญ่มักจะหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ฉลาม เพราะพวกมันขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์อันตรายและเชื่อว่ามันพร้อมจะเขมือบเหยื่อได้ทุกเมื่อ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับนักดำน้ำคนนี้ เขาลงไปใต้น้ำที่เต็มไปด้วยฝูงฉลาม เพื่อบอกเล่าเรื่องราวอันน่าทึ่งของฉลามว่ามันไม่ได้มีแค่มุมน่ากลัวเสมอไป นักดำน้ำอาชีพ Stefano Ulivi ได้เผยคลิปวิดีโอขณะที่ลงไปอยู่ใต้น้ำพร้อมกลุ่มนักดำน้ำคนอื่นๆ บนเกาะ Pico ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ในคลิปเราจะเห็นฝูงฉลามสีน้ำเงินมากมายล้อมรอบพวกเขาอยู่ ซึ่งปกติแล้ว ฉลามสีฟ้านั้นนับว่าหาดูได้ยากมากๆ ในพื้นที่ดังกล่าว การปรากฏตัวของ Stefano ทำให้ฉลามสีน้ำเงินตัวหนึ่งเกิดความสนใจมากๆ เพราะมันว่ายอยู่รอบๆ ตัวเขา แต่แปลกที่นักดำน้ำดูไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด และในเวลาสั้นๆ ฉลามตัวนั้นก็ว่ายเข้ามาใกล้นักดำน้ำ ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา แล้วมันก็จุ๊บที่หน้า Stefano ทีหนึ่งอย่างนุ่มนวล Stefano บอกว่า “มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลย แถมยังแสดงพฤติกรรมน่ารักกับผมด้วย ปกติแล้วฉลามสีน้ำเงินจะมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น และมันมักจะเข้ามาใกล้นักดำน้ำแบบใกล้ชิดอย่างนี้อยู่แล้ว” ฉลามสีน้ำเงินอาจไม่ได้จัดอยู่ในชนิดสัตว์ที่คุณเรียกว่าน่ารัก แต่ดูจากสิ่งที่มันทำกับ Stefano เรียกได้ว่าเป็นโมเมนต์ที่ดีไม่น้อยเลยล่ะ อย่างไรก็ตามทาง International Shark Attack File เขียนไว้บนเว็บไซต์ว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าฉลามสีน้ำเงินมีนิสัยก้าวร้าวหรือไม่ นั่นหมายความว่าความน่ารักและความอ่อนโยนของฉลามสีน้ำเงินในเวลาสั้นๆ นี้ ไม่สามารถการันตีได้ว่าจริงๆ แล้วพวกมันมีนิสัยยังไงกันแน่ แต่เชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับฉลามคงจะหาคำตอบได้ในไม่ช้านี้ …
-
นี่คือ 9 ประเภท “แม่นาง” ที่ผู้ชายส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงและไม่อยากได้มาเป็นคู่ชีวิต…
สำหรับผู้หญิงเรา ไม่จำเป็นต้องสวย รวย เก่ง หรือดีไปซะทุกอย่าง เพื่อที่จะได้แต่งงานกับชายในฝัน ขอแค่คุณไม่มีนิสัยไม่ดีบางอย่างที่ผู้ชายไม่ชอบก็พอ และนี่คือสาวงาม 9 ประเภทที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่อยากใช้ชีวิตคู่ด้วย ลองดูซิ๊ตรงกับเราบ้างมั้ย ถ้ามันไม่โอเคยังไงจะได้ปรับปรุงถูกจุด 1. แม่นางจู้จี้จุกจิก ผู้หญิงที่ขี้จุกจิกมักจะเป็นคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และเธอจะมีนิสัยแบบนี้อยู่ในสายเลือด เมื่อผู้ชายพบเธอครั้งแรกจะคิดว่าเธอเป็นคนน่ารัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ชายจะรู้สึกว่าตัวเองถูกทำให้เหมือนเด็กประถมที่มีคุณครูคอยจู้จี้ว่าต้องทำอะไร ยังไง จนเริ่มรู้สึกรำคาญในที่สุด 2. แม่นางจอมบงการ ผู้หญิงประเภทนี้คือคนที่ถูกผู้ชายปฏิเสธมากที่สุด แต่ก็มีบางคนที่ชอบแบบนี้ นั่นเป็นเพราะเขาเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองพอ ผู้หญิงจอมบงการมักจะอ้างว่าเธอรักผู้ชายในแบบที่เขาเป็น แต่เมื่อคบกันไปเธอจะเริ่มบ่นทีละเล็กทีละน้อย เริ่มตั้งแต่การแต่งตัว จากนั้นก็เป็นเพลงที่เขาชอบ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้หญิงประเภทนี้อยู่กับเพื่อนหรืออยู่กับงานอดิเรกที่ชอบ ผู้ชายจะกลายเป็นคนไร้ค่าสำหรับเธอไปเลยทันที 3. แม่นางหึงหวง ผู้หญิงประเภทนี้จะมีอารมณ์ฉุนเฉียวตลอดเวลา เพราะเธอไม่ไว้ใจคู่รักตัวเอง หลายๆ ครั้งเธอจะเอาอดีตขึ้นมาพูด และมักจะคอยจับผิดทุกอย่าง ครั้งแรกที่เจอผู้หญิงแบบนี้ ผู้ชายจะรู้สึกว่าเธอเป็นคนน่าสงสาร ขาดความมั่นใจ และอยากพิสูจน์ตัวเองว่าเขาไม่ได้เป็นเหมือนผู้ชายในอดีตของเธอ อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ชายถูกผู้หญิงหาเรื่องเพราะการหึงหวงบ่อยครั้ง เขาคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปล่อยเธอไป ไม่งั้นเขาคงจะกลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนแน่ๆ 4. แม่นางติดหนึบ ผู้หญิงประเภทนี้จะเป็นคนที่ทำตัวติดกับแฟนตลอดเวลา แรกๆ…
-
10 ไอเดียที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์รักของคุณหวานชื่นมื่น ครองคู่กันยาวนานมากยิ่งขึ้น
การเจอรักแท้ว่ายากแล้ว การรักษารักแท้ให้อยู่กับเราตลอดไปเป็นสิ่งที่ยากกว่าอีก เพราะในความสัมพันธ์มักจะมีปัญหาบ้างในบางครั้ง หากไม่มีความอดทน ไม่แก้ไข ปรับปรุง อาจทำให้รักจบลงในระยะเวลาสั้นๆ ได้ ดังนั้นหากอยากให้ความสัมพันธ์รักของคุณหวานชื่นมื่น 10 ไอเดียต่อไปนี้ช่วยคุณได้ ทั้งยังทำให้ความรักของคุณยืนยาวขึ้นด้วย 1. อย่าเก็บปัญหาเอาไว้คนเดียว เมื่อมีปัญหาหรือมีคำถามอย่ากลัวที่จะพูดกับคู่รักของคุณ แต่อย่าเพิ่งพูดอะไรออกไปถ้าคุณยังไม่แน่ใจ ลองให้เวลากับตัวเองในการคิดทบทวน แล้วดูว่ายังรู้สึกเหมือนเดิมหรือเปล่า หากยังรู้สึกเช่นเดิม คุณจะรู้ว่าความรู้สึกเชิงลบนั้นจะมาและหายไปเองโดยไม่มีเหตุผล 2. เผชิญหน้ากับความกลัวและความกังวล เวลาเกิดปัญหาในความสัมพันธ์รัก อย่าแก้ปัญหาด้วยการโทรคุย หรือพิมพ์คุยกันในแชท และควรจะอยู่ในห้องเดียวกันแล้วปรับความเข้าใจกับด้วยเหตุผล 3. เรียนรู้และทำความเข้าใจพฤติกรรมที่ขัดแย้งของกันและกัน เมื่อความสัมพันธ์อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดหรือมีความขัดแย้งกัน ให้คุณพูดถึงความรู้สึกของตัวเองออกมาให้อีกฝ่ายรับรู้เพื่อที่เขาจะเข้าใจพฤติกรรมของคุณ คู่รักควรจะได้รู้ว่าอีกฝ่ายมีพฤติกรรมอย่างไรเมื่ออารมณ์ไม่ดี การทำความเข้าใจจะทำให้ทั้งสองฝ่ายหาวิธีแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4. มีความคิดสร้างสรรค์ ความสัมพันธ์ของคุณจะเต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและความโรแมนติก เมื่อคุณทำอะไรมากกว่าการโทรคุย แชทคุย ส่งจดหมายหรืออีเมล ยกตัวอย่างเช่นกัน การให้ของขวัญกันแม้จะไม่ใช่วันสำคัญก็ตาม หรือการออกไปผ่อนคลายด้วยกัน 5. เคารพพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน อย่าคาดหวังหรือบังคับให้คู่รักของคุณตอบทุกข้อความที่คุณส่งไปทันที แต่คุณต้องเข้าใจว่าแต่ละคนย่อมมีหน้าที่ มีความฝัน และมีงานอดิเรกเป็นของตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา คุณควรจะปรึกษาว่ากันว่าจะคุยออนไลน์กันบ่อยแค่ไหน และเวลาไหนที่จะสามารถตอบข้อความของกันและกันได้ 6. เรียนรู้ที่จะมีความสุขเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเขา…
-
อดีตวิศวกรค้นพบวิธีการทำ “สระทราย” ที่มีลักษณะเหมือนของเหลวและกระเพื่อมได้ด้วย
ตามธรรมชาติแล้วทรายเกิดจากหินที่ถูกย่อยเป็นเม็ดเล็กๆ ที่เราสามารถพบได้ทั่วไปตามชายหาดนั่นแหละ นั่นหมายความว่ามันไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่ Mark Rober อดีตวิศวกรของนาซ่าได้ค้นพบวิธีหาความสุขจากทรายด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่นเดียวกับที่ Bill Nye ทำ นั่นก็คือการทำให้ทรายมีลักษณะเหมือนน้ำ Mark ได้เติมน้ำเข้าไปในสระที่เต็มไปด้วยทราย จากนั้นก็เข้าไปว่ายเล่นอย่างสนุกสนานราวกับว่ามันเป็นสระว่ายน้ำยังไงอย่างงั้นแหละ แน่นอนว่าหลายคนเห็นแล้วถึงกับอึ้ง และอาจสงสัยว่าทรายมันทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ? แล้วมันทำยังไงอะ? ถ้าอยากทำบ้างจะทำได้มั้ย? คำตอบคือทุกคนสามารถทำเองได้ เพราะ Mark ได้สอนขั้นตอนการทำทรายที่เหมือนน้ำพร้อมอธิบายแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกคนได้สนุกไปกับสระทราย ในคลิปจะเห็น Mark พูดถึงสิ่งที่เรียกว่าฟลูอิไดซ์เบด (Fluidized Beds) ซึ่งเป็นการทำแห้ง (Dehydration) ที่ใช้ลมร้อนเป่าผ่านชั้นวัสดุ ทำให้วัสดุลอยตัวเป็นอิสระ เกิดการคลุกเคล้าและสัมผัสกับลมร้อนอย่างสม่ำเสมอ มีอัตราการถ่ายเทความร้อนและมวลสูง จากนั้น Mark ใช้อากาศในการทำให้ทรายกระเพื่อมเหมือนน้ำ โดยการเป่าอากาศเข้าไปใต้ก้นสระที่บรรจุทรายเพื่อเพิ่มช่องว่างระหว่างอนุภาคของทรายแต่ละเม็ด ลดแรงเสียดทานภายใน และเป็นการช่วยให้อนุภาคเคลื่อนที่อย่างอิสระเหมือนของเหลว เขาอธิบายในวิดีโอว่า “นี่คือสิ่งที่ผมอยากทำมานานแล้ว แต่เมื่อลองค้นข้อมูลตามอินเตอร์เน็ต กลับไม่มีเว็บไหนบอกวิธีการทำให้เลย” “ดังนั้นผมจึงเริ่มด้วยการนำต้นแบบหลายๆ อย่างมาผสมผสานกัน เพื่อสร้างเครื่องทำแห้งขนาดใหญ่ แล้วผมก็สังเกตเห็นว่าแทนที่รูระบายอากาศขนาดใหญ่รูเดียว เราควรใช้รูเล็กๆ รูเพื่อการระบายอากาศที่ดีกว่า” …
-
Mary Ellen เด็กสาวผู้ถูกกดขี่ จนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดกฎหมายการคุ้มครองเด็กจากครอบครัว
กฎหมายบ้านเมืองที่บังคับใช้กันในทุกวันนี้ย่อมมีที่มาที่ไปเสมอ บางกฎตั้งขึ้นเพื่อจัดระเบียบในสังคม ในขณะที่บางกฎตั้งขึ้นหลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว นั่นก็เพื่อไม่ได้เกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำอีก เหมือนอย่างกฎหมายการคุ้มครองเด็กจากการทารุณกรรมที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ถูกตั้งขึ้นและบังคับใช้หลังจากที่มีการกดขี่เด็กหญิงคนหนึ่ง นี่คือคำบอกเล่าจาก Mary Ellen Wilson เด็กหญิงผู้ถูกกดขี่ “ฉันชื่อ Mary Ellen Wilson ฉันไม่รู้ว่าตัวเองอายุเท่าไหร่ ฉันโดนแม่ตีและเฆี่ยนด้วยแส้เกือบทุกวัน ฉันไม่เคยได้รับการจูบด้วยความรัก” “ฉันไม่เคยได้รับอนุญาตให้เล่นกับเด็กคนอื่นๆ ฉันไม่กล้าพูดกับใคร เพราะถ้าฉันทำ ฉันจะโดนเฆี่ยน…เมื่อแม่ออกไปข้างนอก เธอจะล็อกประตูขังฉันไว้ในห้อง ฉันจึงไม่มีโอกาสได้ออกไปข้างนอกเลย…” ไม่ใช่แค่ Mary Ellen คนเดียว แต่มีเด็กๆ นับไม่ถ้วนที่ถูกทารุณกรรมเช่นเดียวกับเธอ และเรื่องราวของพวกเขามักจะถูกรายงานผ่านสื่อบ่อยมาก ตามข้อมูลจาก Army Community Service Family Advocacy Group ระบุว่า ทุกๆ วันจะมีเด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ซึ่งเป็นผลมาจากการทารุณกรรม โดยสามในสี่มีอายุต่ำกว่า 4 ขวบ ย้อนกลับไปในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ไม่มีกฎหมายสำหรับคุ้มครองเด็กๆ จากการถูกทำร้ายร่างกายโดยพ่อแม่ของพวกเขา นั่นทำให้พ่อแม่มักจะลงโทษลูกตัวเองอย่างหนักเมื่อไม่เชื่อฟังคำสั่ง กรณีของ Mary Ellen เกิดขึ้นเมื่อปี 1874 และเรื่องราวของเธอนี้เองที่เปลี่ยนความเข้าใจของสาธารณชนเกี่ยวกับการล่วงละเมิดต่อเด็กอย่างสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้นสังคมยังให้ความร่วมมือในการป้องกันและยุติการทารุณกรรมต่อเด็กด้วย…
-
สองพี่น้องเขียนจดหมายส่งให้พ่อที่อยู่บนสวรรค์ ได้รับของขวัญตอบกลับมาจากนางฟ้าผู้แสนดี
เด็กๆ หลายคนมักจะเรียกร้องความรักและความสนใจจากพ่อแม่ บางคนต้องอยู่ด้วยตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่พ่อแม่ไม่อยู่ก็จะงอแงทันที แต่สำหรับพี่น้อง Kollin และ Keegan Cass การได้เขียนจดหมายถึงพ่อผู้ล่วงลับและส่งขึ้นไปกับลูกโป่งหลากสีสัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว คุณพ่อ Kyle เสียชีวิตด้วยมะเร็งสมอง ตอนที่ Kollin อายุ 5 ขวบ และ Keegan อายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น ทำให้ครอบครัวต้องอยู่กับความโศกเศร้าตลอดเวลา ที่น่าเศร้ากว่าคือเมื่อเด็กๆ เรียกหาพ่อ พวกเขาจะไม่ได้ยินเสียงตอบกลับเหมือนที่เคย เพื่อช่วยให้ครอบครัวออกจากภาวะโศกเศร้าและมีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป พวกเขาจึงได้ทำกิจกรรมส่งจดหมายถึงพ่อที่อยู่บนสวรรค์ จดหมายที่เขียนโดยแม่และลูกน้อยทั้งสองคนถูกส่งขึ้นไปกับลูกโป่งที่ลอยขึ้นไปเหนือบ้านของพวกเขาใน Detroit รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่สิ่งที่ครอบครัวไม่รู้คือจดหมายของครอบครัว Cass ได้ลอยไปตกอยู่ที่บ้านของคู่หมั้น Heather และ Tim Wilcox และพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะทำบางอย่างให้กับเด็กทั้งสองคน Heather กับ Tim บอกว่า “เราพบจดหมายที่ส่งโดยครอบครัว Cass ตกอยู่ที่สนามหลังบ้าน เรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องติดต่อกับครอบครัวนี้ เพราะพวกเขากำลังอยู่ในภาวะเสียใจ” หลังจากนั้นคู่รักก็ได้ติดต่อไปหา Samantha แม่ของเด็กๆ…
-
อย่างเป็นทางการ!! เซเลน่า โกเมซ ให้สัมภาษณ์ว่ากลับมาคบกับ จัสติน บีเบอร์ แล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่าง Selena Gomez และ Justin Bieber ถือเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ถูกสื่อทั่วโลกจับตามองมากที่สุด เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก งงไปหมด อย่างที่รู้กันว่าทั้งสองเคยคบกันมาก่อนเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่แล้วทั้งคู่ได้เลิกรากันไป และต่างไปฝ่ายก็มีคนใหม่เป็นที่เรียบร้อย แต่เมื่อไม่นานนี้เอง มีสื่อตาดีแชะภาพ Selena กับ Justin ออกมาปั่นจักรยานเล่นกันกะหนุงกะหนิงเหมือนซีรีส์เกาหลี แบบนี้ก็ไม่รู้สินะว่าจะมีลุ้นรีเทิร์นหรือเปล่า!!!?? แค่นั้นยังไม่พอ ปาปารัสซี่ยังได้แอบแชะภาพอันสุดสวีทหวานของทั้งคู่ขณะกำลังจุ๊บปากกันแบบไม่แคร์สื่อ บอกเลยว่าเมื่อก่อนหวานยังไงตอนนี้ก็ยังหวานไม่มีเปลี่ยนแปลง แม้ภาพจะฟ้องว่าทั้งสองคนกลับมาคบกันแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงการตัดสินจากภาพ โดยไม่ได้มีการยืนยันจากทั้งสองคนว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่ ล่าสุดวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Selena ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Billbord ว่า เธอกลับมาคบกับ Justin อีกครั้งจริงๆ ตามที่เป็นข่าว นักร้องสาวบอกว่าเธอจบความสัมพันธ์กับ The Weeknd หลังจากที่คบหาดูใจกันมา 10 เดือน จนตอนนี้กลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกันไปแล้ว เธอบอกว่า “ตอนนี้ฉันอายุ 25 ปีแล้ว ไม่ใช่ 18 19 หรือ 20 ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะรักคนที่มีความหมายกับชีวิตของฉัน ก่อนนี้เราอาจจะฝืนความรู้สึกกับคนที่ไม่ใช่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะหยุดเทคแคร์เขา หลังจากที่เลิกกันไปแล้ว” …
-
พ่อสร้างเตียงนอนธีม ‘ยานอวกาศ’ จาก Star Wars ให้ลูก แหม่มันน่านอนซะจริงเชียว
Star Wars ถือเป็นหนังไซไฟที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกเรื่องหนึ่ง และแน่นอนว่าแฟนๆ ของหนังเรื่องนี้มีตั้งแต่รุ่นจิ๋วไปยันรุ่นใหญ่เลยทีเดียว แต่ ณ จุดจุดนี้คงไม่มีใครน่าอิจฉาไปกว่าเด็กน้อยสองคนนี้อีกแล้ว เพราะพ่อของพวกเขาได้สร้างเตียงนอนยานอวกาศให้ เหมือนหลุดมาจาก Star Wars ยังไงอย่างนั้น Mike Ramsay ได้สร้างเตียงนอน Star Wars ให้กับลูกน้อยทั้งสองคน ที่ดูแล้วเหมือนกับยานอวกาศในเรื่องเลยทีเดียว แม้จะเป็นการสร้างเลียนแบบและสร้างให้เด็กอยู่ แต่ Mike ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อให้มันออกมาเหมือนมากที่สุด ที่สำคัญลูกๆ ก็จะได้นอนแบบฟินๆ ด้วย ภายในของห้องนอน Star Wars มีเก้าอี้ 2 ตัว มีพวงมาลัย และแผงควบคุมเพื่อให้ลูกๆ รู้สึกเหมือนได้อยู่ในยานจริงๆ . นอกจากนี้ยังมีที่เก็บดาบเรืองแสงด้วย เพื่อให้เด็กน้อยใช้ในยามฉุกเฉินหรือเวลาที่ต้องต่อสู้กับเหล่ามารร้ายเมื่อยานลงจอด ฟังแค่นี้ก็รู้สึกตื่นเต้นจนอยากไปสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วคิดดู เด็กๆ ทั้งสองคนที่ได้มีโอกาสใช้ห้องนอนยานอวกาศนี้จริงๆ คงจะแฮปปี้ทุกค่ำคืนเลยล่ะมั้ง นอกจากสร้างขึ้นมาเพื่อทำฝันของลูกๆ…
-
สาวนำ ‘ชุดแต่งงานของแม่’ กลับมาทำให้มันมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งในวันครบรอบของเธอ
ความชอบของคนเรามักจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย โดยเฉพาะในเรื่องของแฟชั่นที่มีสิ่งใหม่ๆ มาทดแทนอยู่เสมอ จึงทำให้หลายๆ อย่างดูเชยเมื่อเวลาผ่านไป แต่บางทีบางอย่างที่แม้จะเก่าและถูกมองว่าเชยไปแล้ว ก็ยังสามารถนำมาทำให้น่าสนใจอีกครั้งได้ และอยู่ร่วมกับแฟชั่นปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน เช่นเดียวกับ Louise ที่นำเอาชุดแต่งงานของแม่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว กลับมาทำให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งในวันครบรอบแต่งงานของพ่อกับแม่ พ่อแม่ของ Louise แต่งงานกันเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปี 1977 กระทั่ง 40 ต่อมา ในวันที่ 24 มิถุนายน ปี 2017 เธอจึงตัดสินใจนำชุดของแม่มาถ่ายรูปอีกครั้ง เพื่อเป็นการฉลองวันครบรอบแต่งงานให้กับเธอ ในปี 1997 แม่ของหญิงสาวเข้าพิธีแต่งงานในชุดเดรสสีขาว แขนบาน ดูสง่างามไร้ที่ติ ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เผยให้เห็นถึงความสุขที่ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้ . เมื่อเวลาผ่านไป ชุดแต่งงานของแม่อาจจะดูเชยสำหรับคนปัจจุบันส่วนใหญ่ แต่สำหรับ Louise แล้ว เธอมองว่ามันยังสวยงามอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้เมื่อถึงวันครบรอบแต่งงานของพ่อแม่ เธอจึงหยิบชุดดังกล่าวมาสวมแล้วถ่ายรูปท่ามกลางสถานที่ที่ทำให้ชุดแต่งงานในปี 1977 ดูสง่างามขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ …
-
หนุ่มปารากวัยหึงโหด ทำร้ายร่างกายภรรยาทุกครั้งที่มีคนมา ‘กดไลค์’ ภาพเธอบนเฟซบุ๊ก
ในความสัมพันธ์รักของหนุ่มสาวย่อมมีความหึงหวงอยู่ด้วยเสมอ โดยคนที่ขี้หึงมักจะอ้างว่าเป็นเพราะรักนั่นแหละจึงทำให้หึง แต่ในบางครั้งการหึงหวงมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาในความสัมพันธ์ได้ อย่างเช่นหนุ่มปารากวัยคนนี้ ที่หึงหวงภรรยาอย่างหนัก ถึงขั้นทำร้ายร่างกายเมื่อมีคนมากดไลค์รูปของเธอบนเฟซบุ๊ก ตำรวจได้รับแจ้งว่า Adolfina Camelli Ortigoza วัย 21 ปี จากเมือง Nemby ใกล้กับกรุงอาซุนซิออง ประเทศปารากวัย ถูกทำร้ายร่างกายภายในบ้านนับครั้งไม่ถ้วนโดย Pedro Heriberto Galeano สามีวัย 32 ปีของเธอ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบ Ortigoza อยู่ในสภาพที่แย่มากๆ ตาและใบหน้าบวมจากการทุบตี ปากแตก และมีรอยช้ำทั่วร่างกาย ต่อมา Arnaldo Martinez ทนายของฝ่ายหญิง เผยสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังของความรุนแรงนี้ว่า Galeano มักจะลงมือทุบตีภรรยาทุกครั้งที่มีคนเข้ามากดไลค์รูปภาพของเธอบนเฟซบุ๊ก ภายหลัง Galeano จึงตัดสินใจควบคุมดูแลเฟซบุ๊กของภรรยา และยังเป็นคนที่โพสต์รูปเธอลงในเฟซฯ เองด้วย แต่เมื่อมีคนมากดไลค์รูปภาพเหล่านั้น เขาก็จะทำการทุบตีเธอเหมือนเช่นเคย แม้ฝ่ายชายจะเป็นคนดูแลเฟซบุ๊กและโพสต์รูปภาพของภรรยาเอง แต่เมื่อมีคนมากดไลค์เขาจะกล่าวหาว่าเธอแอบมีความสัมพันธ์กับคนคนนั้น ทั้งๆ ที่ภรรยาไม่ได้แตะต้องเฟซบุ๊กของตัวเองเลย Martinez กล่าวอีกว่า “Ortigoza ไม่กล้าบอกใครว่าเธอถูกทุบตีทุกครั้งที่มีคนมาคนไลค์รูปหรือมาคอมเมนต์ ทางเพื่อนๆ…
-
เมื่อสาวถ่ายภาพครอบครัวในคริสต์มาสการ์ด แต่แอบโปรโมทตัวเองเนียนๆ จนชาวเน็ตชอบใจ
เทศกาลคริสต์มาส นอกจากจะเป็นวันหยุดเพื่อฉลองวันคล้ายวันประสูติของพระเยซูแล้ว ยังเป็นวันที่ทำให้ครอบครัวได้กลับมาอยู่รวมกันด้วย และเมื่อนานๆ ทีจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ครอบครัวจึงมักจะถ่ายรูปด้วยกันไว้เป็นที่ระลึก เหมือนกับครอบครัวของ Emily Seawright ที่ถ่ายรูปในธีมบอกสถานะของแต่ละคนผ่านแผ่นป้าย ในขณะที่ทุกคนถือแผ่นป้ายตามสถานะ เช่น หมั้นแล้ว กำลังตั้งท้อง หรือความสัมพันธ์แบบเร่าร้อน แต่ Emily ที่อยู่ในสถานะโสด แทนที่จะเขียนว่า “Single” แต่เธอกลับเขียนเป็นชื่อตัวเองซะงั้น ประมาณว่า ‘ชื่อ Emily นะ โสดอยู่เด้อ’ เราสองคนอยู่ในความสัมพันธ์แบบเร่าร้อนนะ ยืนคนเดียวโดดๆ กับสถานะ “Emily” เอ๊ะ มันยังไง? จะอะไรหล่ะ ก็โสดไง ไม่รู้ตั้งใจโปรโมทตัวเองหรือแค่เอาฮา แต่ที่แน่ๆ ภาพของเธอกลายเป็นความขบขันในโซเชียล จนมีชาวเน็ตแห่ทำตามเพียบ แหม่ นี่มันเป็นการโปรโมทตัวเองชัดๆ เหมือนชีวิตเราเลยแฮะ และแล้วก็ถูกชาวเน็ตนำไปเลียนแบบ แต่ไม่ได้เขียนชื่อนะ เป็นคำพ้องเสียงแทน “มีความสัมพันธ์ขึ้นต้นด้วยตัว E กันหมดใช่มั้ย…
-
รมต.หญิงคีร์กีซสถานกับการแก้ปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิง แต่ถูกผู้ชายปฏิเสธให้ความร่วมมือ
เป็นเวลาหลายสิบปีที่ผู้หญิงคีร์กีซสถานได้รับความเดือดร้อนจากการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว พวกเขาถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่เด็ก การลักพาตัวเจ้าสาว ที่สำคัญคือถูกละเว้นไม่ให้มีบทบาทในรัฐสภา ด้วยเหตุนี้ Aida Kasymalieva วัย 33 ปี สมาชิกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในคีร์กีซสถานจึงได้ออกมาพูดถึงปัญหาที่ผู้หญิงต้องเผชิญ เพื่อทำให้เกิดความเท่าเทียมโดยไม่แบ่งแยกเพศ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอได้พูดถึงปัญหาต่างๆ ของผู้หญิงในประเทศไปแล้ว เพื่อนร่วมงานชายทั้งหลายกลับปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ Kasymalieva เคยรายงานปัญหาเรื่องเดิมๆ ของผู้หญิงมานานกว่า 10 ปี และเธอมักจะตั้งประเด็นให้ผู้คนคิดถึงผลกระทบที่ผู้หญิงได้รับ ทั้งการถูกบังคับแต่งงานและการลักพาตัว เธอบอกว่า “เวลาถกปัญหาเรื่องงาน เรื่องทุน เรื่องถนน สมาชิกสภาผู้ชายจะนั่งอยู่ในห้องปกติ แต่พอเราเริ่มเข้าประเด็นความเท่าเทียมทางเพศพวกเขาจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องประชุมไป เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่นึกถึงความรุนแรงภายในประเทศและการลักพาตัว” ตราบใดที่สมาชิกสภาชายยังคงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ การแก้ปัญหาเรื่องการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงก็คงต้องมีให้เห็นต่อไป เพราะการเพิกเฉยเท่ากับเป็นการส่งเสริมอย่างหนึ่ง Kasymalieva เข้าใจดีว่าความไม่แยแสของผู้ชายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน แต่เธอย้ำว่าในฐานะที่เป็นนักการเมืองหญิงของคีร์กีซสถาน เธอจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ได้ นอกจากนี้ Kasymalieva ยังหวังว่าเธอกับเพื่อนร่วมงานหญิงจะทำงานร่วมกันได้ เพื่อให้บรรลุผลตามที่ต้องการ ปัจจุบันคีร์กีซสถานมีสมาชิกสภาหญิง 23 คน จากทั้งหมด 120 คน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสภาเมื่อปี 2005 หลังจากมีการเรียกร้องให้ผู้หญิงเข้ามามีบทบาททางการเมือง อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้หญิงได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ผ่านระบบการเลือกตั้งแล้ว…
-
เจ้าเหมียวสภาพย่ำแย่ ตาบอด หูหนวก สมองได้รับความเสียหาย แต่ก็ยังได้สัมผัสถึงความรัก
สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เกิดมาพร้อมความบกพร่องทางร่างกาย พวกมันจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และมันคงจะดีหากเราหยิบยื่นโอกาสนั้นให้มัน นี่คือเรื่องราวของ Bonnie แมวน้อยที่มีความบกพร่องทางร่างกายทั้งตาบอด หูหนวก และสมองได้รับความเสียหาย หลังจากที่ถูกรถชนจนเกือบตาย Kitty Adventure Rescue League เล่าว่า “Bonnie ถูกรถชนและถูกทิ้งให้ทรมานอยู่อย่างนั้น โดยไม่ได้รับการเหลียวแลมองเลย” ไม่กี่วันหลังจากนั้นเจ้าของก็พามันไปหาสัตวแพทย์ แต่กลับถูกปฏิเสธเพราะร่างกายของมันได้รับความเสียหายมากเกินไป ทั้งกะโหลกแตก กระดูกหัก และสูญเสียการมองเห็น เมื่อทำอะไรไม่ได้ เจ้าของเลยปล่อยมันทิ้งไว้ที่ระเบียงบ้าน จนหนอนค่อยๆ ชอนไชบนตัวและสภาพแผลของมันก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ กระทั่งต่อมามีคนมาเห็นเข้าจึงได้พา Bonnie ไปหาหมออีกครั้ง ซึ่งคุณหมอชุดนี้ได้ให้การรักษามันเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะส่งมอบให้อยู่ในการดูแลของศูนย์พักพิงสัตว์ต่อไป อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์บอกว่าถ้าน้องแมวโดนมาขนาดนี้ควรให้การรักษาตั้งแรกเลย แต่นี่ปล่อยเอาไว้จนทำให้แผลติดเชื้อ ดังนั้นแม้จะรักษาแล้วแต่มันก็ยังต้องอยู่กับสมองที่ได้รับความเสียหาย หูหนวก และตาบอดไปตลอดชีวิต ต่อมาเรื่องราวของ Bonnie ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ reddit โดย Kitty Adventure Rescue League เพื่อขอความช่วยเหลือ เป็นของขวัญคริสต์มาสให้กับมัน เพียงไม่นานเรื่องราวของมันก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมากและได้รับความช่วยเหลืออย่างล้นหลาม ซึ่งมีทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และของจำเป็นอื่นๆ ความรักจากชาวเน็ตยังคงหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย นั่นทำให้เจ้าเหมียวสัมผัสถึงความรักเหล่านั้น…
-
คลิปการอพยพของ ‘ปูแมงมุม’ นับแสนตัวใต้ท้องทะเล ให้อารมณ์เหมือนเอเลี่ยนยังไงยังงั้นเลย
สรรพสิ่งในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสิ่งมีชีวิตต่างต้องทำทุกทางเพื่อความอยู่รอด และกระบวนการเอาตัวรอดเหล่านั้นมักก่อให้เกิดความมหัศจรรย์ในธรรมชาติ เหมือนอย่างคลิปวิดีโอด้านล่างนี้ ที่ถ่ายโดยทีมงานของ BBC เผยให้เห็นปรากฏการณ์ ‘ปูแมงมุม’ นับแสนตัวกำลังพากันอพยพในน่านน้ำใกล้กับเมืองเมลเบิร์น ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย คลิปนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Blue Planet II ซึ่งเป็นชุดสารคดีจากสำนักข่าว BBC และเป็นคลิปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2011 ดูภาพเคลื่อนไหวอย่างเดียวอาจไม่อินเท่าไหร่ ขอแนะนำให้เปิดเสียงด้วย เพราะ David Attenborough ได้พากย์เสียงประกอบวิดีโอ ทำให้การเคลื่อนไหวของปูแมงมุมดูขลังยิ่งขึ้น ในช่วง 0.50 นาทีแรก จะเห็นปูแมงมุมอพยพตามปกติ แต่แล้วหลังจากนั้นมันก็เริ่มจะก่อตัวกัน จนมีความสูงกว่า 100 เมตร ซึ่งดูแล้วเหมือนกลุ่มเอเลี่ยนมากกว่าสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ ทั้งนี้ในรายงานระบุว่า พฤติกรรมดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร แต่คาดว่าอาจจะเป็นการรวมตัวขณะลอกคราบ เพื่อป้องกันตัวจากสัตว์นักล่าในทะเล ส่วนการปีนป่ายต่อตัวกันขึ้นไปนั้นก็เป็นวิธีการอำพรางตัวของปูแมงมุม เพื่อตัวที่อยู่ด้านในจะได้รับการปกป้องจากสัตว์นักล่าทั้งหลาย เนื่องจากหลังการลอกคราบในช่วงแรกนั้น กระดองจะยังแข็งไม่เต็มที่นั่นเอง จึงอาจถูกทำร้ายได้ง่าย Alex Vail ผู้ถ่ายทำคลิปวิดีโอนี้เล่าว่า “การรวมตัวของปูแมงมุม ทำให้พวกมันไม่เกรงกลัวสัตว์นักล่าที่จะมาทำร้าย เพราะขนาดฉันเข้าไปถ่ายใกล้ๆ มันยังไม่มีทีท่าว่าจะหนีเลย” …
-
นักวิทย์ฯ เผย นี่คือ 7 สิ่งของผู้หญิงที่สามารถดึงดูดความสนใจจากชายหนุ่มมากที่สุด!!
สาวๆ ที่ยังโสดอยู่ เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมไม่มีหนุ่มๆ มาจีบบ้างเลย ทั้งๆ ที่เราก็สวย หุ่นดี และเก่งประมาณหนึ่ง? เอ๊ะ หรือสิ่งเหล่านี้มันไม่น่าดึงดูดพอ? ที่เราคิดก็อาจจะมีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่นักวิทยาศาสตร์ได้เผยเสน่ห์ที่แท้จริงของผู้หญิงว่าลักษณะแบบไหนถึงจะเป็นที่สนใจของผู้ชายมากที่สุด 1. กลิ่นเหงื่อ เวลาออกกำลังกายแล้วเหงื่อออก หลายคนอาจจะรู้สึกอายเพราะกลัวใครจะได้กลิ่นตัว แต่จริงๆ มนุษย์มีกลิ่นที่แตกต่างกันมากกว่า 1 ล้านแบบ แน่นอนว่ากลิ่นเหงื่อนั้นมักมีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของผู้ที่ได้กลิ่น แต่นักวิทยาศาสตร์เผยว่า “กลิ่นแห่งความสุข” สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและอาจทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นนั้นมีความรู้สึกในเชิงบวก 2. เสียงหัวเราะ นักจิตวิทยาบอกว่าถ้าพบใครที่ทำให้เราหัวเราะได้อย่างจริงจัง มีแนวโน้มสูงที่ความสัมพันธ์ของคุณจะเป็นได้ด้วยดีถ้าคบกับเธอ เพราะชีวิตของคุณจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและอารมณ์ดีเกือบตลอดเวลา 3. ใส่แว่นตา ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตาเพื่ออ่านหนังสือเท่านั้นหรือเพียงเพราะมีปัญหาทางสายตา เพราะผลการวิจัยพบว่าผู้ชายจะรู้สึกว่าผู้หญิงที่ใส่แว่นดูน่าสนใจและเซ็กซี่มากขึ้น 4. รอยอาบแดด ส่วนของร่างกายที่เป็นรอยอาบแดด เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชายและทำให้พวกเขาอยากสัมผัสผิวส่วนนั้น 5. ผมยุ่ง การมีผมยุ่งหรือผมหยิกธรรมชาตินั้น ทำให้ผู้ชายรู้ไม่รู้สึกกังวลว่าจะทำผมของหญิงสาวพังเวลาที่กอดเธอ ยิ่งไปกว่านั้นผมยุ่งจะทำให้ผู้หญิงดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการเซตผม 6. ไม่แต่งหน้า จากการวิจัยและทำแบบสอบถามพบว่า ผู้คน 40 % บอกว่าพวกเขาชอบผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้ามากกว่าผู้หญิงที่แต่งหน้า…
-
34 สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนมหัศจรรย์จากรอบโลก ที่คุณควรไปให้ได้สักครั้งตอนยังมีชีวิตอยู่
ในโลกนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันแสนมหัศจรรย์มากมายรอให้เราไปสัมผัส และแม้ว่าเราจะไม่ใช่นักเดินทาง แต่บางสถานที่นั้น เห็นแล้วไม่ไปไม่ได้จริงๆ เหมือนกับภาพสถานที่อันงดงามเหล่านี้ ที่เหมือนอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายแต่มันมีอยู่จริงๆ ในโลกใบนี้ และคุณควรจะไปเห็นด้วยตาสักครั้งในชีวิต 1. Dark Hedges สหราชอาณาจักร 2. อุทยานแห่งชาติ Tasman ประเทศออสเตรเลีย 3. สะพานปีศาจ ใน Gablenz ประเทศเยอรมนี 4. อัลบาร์ราซิน ประเทศสเปน 5. Canyon Fjaðrárgljúfur ประเทศไอซ์แลนด์ 6. มณฑลกานซู่ ประเทศจีน 7. ถ้ำคริสตัลยักษ์ Naica Mine ประเทศเม็กซิโก 8. เขาโรไรมา ประเทศเวเนซุเอลา 9. ทะเลสาบ Moraine Lake ประเทศแคนาดา 10. Antelope Canyon ประเทศสหรัฐอเมริกา 11. ทะเลสาบใน Patagonia ประเทศอาร์เจนตินา…
-
27 ภาพพิสูจน์ว่าเด็กๆ คือเครื่องจักรแห่งการทำลายล้างที่แสนบริสุทธิ์ เห็นแล้วก็โกรธไม่ลง
สำหรับหลายๆ คน การมีลูกน้อยเปรียบเสมือนกำไรของชีวิต เพราะเด็กๆ จะมีความน่ารักโดยธรรมชาติ และสร้างความวุ่นวายใน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกสิ่งที่พวกเขาทำมักทำลายความเงียบเหงาได้เสมอ เหมือนกับเด็กๆ เหล่านี้ ที่มีทั้งความซน ความน่ารัก ความไร้เดียงสา และความฮา จนทำให้ผู้ใหญ่อย่างเรามองแล้วต้องยิ้มตาม 1. เป็นการบอกรักพ่อแม่ที่น่าตีมือซะจริงๆ 2. เด็กน้อยขอเล่นก่อนอาบน้ำ…และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังผ่านไป 5 นาที 3. นี่คงจะเล่นรถคว่ำกันอยู่สินะ 4. ลูกชายวัย 6 ขวบ วาดรูปเซอร์ไพรส์พ่อแม่ในห้องน้ำ 5. ระบายบนกระดาษไม่สะใจ มันต้องบนใบหน้าแบบนี้ 6. เนยที่ดูเหมือนไอศกรีม ลูกเลยทดลองกัดแม่มทุกอันเลย 7. เมื่อลูกอยากเสริมสวยให้น้องหมา ถักเปียมาเชียว 8. กิจกรรมยามว่างของลูกเมื่อถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง 9. เค้าว่ายิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์ จัดเต็มไปเลยสิ รอไร 10. แกะอมยิ้มทุกอันที่มี แต่กินไม่หมดสักอัน…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นหลงรักแอปฯ นำทางโฉมใหม่ ที่มีคุณลุงอ้วนพลุ้ยใส่กางเกงในนำทางไปทุกที่
ทุกวันนี้จะไปที่ไหนก็ไม่ต้องกลัวหลงทางแล้วเพราะมีเทคโนโลยีนำทางที่สามารถพาคุณไปได้ทุกที่ที่อยากไป แค่คุณมีสมาร์ทโฟนดีๆ สักเครื่องเท่านั้น ล่าสุดมีแอปฯ นำทางโฉมใหม่ ที่ไม่ได้วาดเป็นแผนที่มาให้ แต่มาในรูปแบบ AR ที่มีคุณลุงอ้วนพลุ้ยใส่กางเกงในตัวเดียว แล้วคอยนำทางเราไปยังที่ต่างๆ ขอแนะนำให้รู้จักกับ HotStepper แอปนำทางสุดเก๋ที่กำลังฮิตในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรองรับระบบ iOS โดยใช้เทคโนโลยีคล้ายกับที่ใช้ใน Pokémon GO HotStepper สามารถใช้งานผ่านกล้องสมาร์ทโฟน โดยให้พิมพ์ชื่อสถานที่ลงไป จากนั้นลุง Uncle AR ก็จะออกมาแล้วนำคุณไปยังที่ที่ต้องการ ความน่าสนใจของคุณลุง Uncle AR คือเขาจะปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมที่คุณเดินไป เช่น หากเดินผ่านร้านตัดผม ลุงก็จะเปลี่ยนทรงผม เพื่อทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเบื่อกับการเห็นหน้าคุณลุงแบบเดิมๆ นอกจากนี้มันยังสามารถใช้ได้กับแว่นตา AR เพื่อจะให้คุณมองทางมากกว่าการมองจอโทรศัพท์ขณะที่เดินอยู่ ป้องกันการเดินชนหรือหกล้ม ตอนนี้ชาวญี่ปุ่นหลงรักแอปฯ HotStepper มากๆ และแห่กันดาวน์โหลดมาใช้แล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่ยังคงมีความกังวลที่จะใช้แอปฯ นี้ ทั้งนี้ชาวเน็ตญี่ปุ่นได้แสดงความคิดเห็นว่า… “เดินแบบนี้ ไม่ต้องดูสัญญาไฟจราจรหรอ?” “มันดีมากๆ สำหรับคนที่ไม่รู้ทาง” “เขาดูอ้วนไปหน่อยนะ สำหรับคนที่เดินตลอดเวลาแบบนี้” “นี่จะทำให้การเดินสนุกยิ่งขึ้น แม้คุณจะเดินคนเดียวก็ตาม” “แหม่…
-
“หลิวอวี้เฟย” ได้รับคัดเลือกให้แสดงเป็น ‘มู่หลาน’ ในหนังคนแสดงจริงเวอร์ชั่นใหม่ของดิสนี่ย์
หลังจากดิสนีย์ได้ประกาศว่าจะนำแอนิเมชั่นชื่อดังของพวกเขาอย่าง Mulan มาสร้างเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงจริง เหล่าแฟนๆ ก็ต่างรอคอยประกาศว่า ใครจะได้มารับบท “มู่หลาน” ล่าสุดทางดิสนีย์ได้ประกาศชื่อนักแสดงออกมาแล้ว บอกเลยว่าคอหนังจีนชาวไทยต้องคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างดีแน่นอน และผู้ที่ถูกเลือกให้รับบทมู่หลานภาคคนแสดงคือ หลิว อวี้เฟย หรือที่รู้จักในชื่อ Crystal Liu เป็นนักแสดงชาวจีนที่มีหน้าตาสะสวยพร้อมคุณสมบัติที่เหมาะกับบทนี้มากๆ Hollywood Reporter รายงานว่า “ในการค้นหานักแสดงที่จะมารับบทตัวละครหลักของเรื่องนี้ ทางดิสนีย์ยืนยันว่าต้องเป็นนักแสดงหญิงเชื้อสายจีน ที่มีความสามารถทางด้านศิลปะการต่อสู้และสามารถพูดภาษาอังกฤษได้” ทั้งนี้ผู้ที่ทำหน้าที่แคสนักแสดงได้ทำการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมกว่า 1,000 คน จาก 5 ทวีปทั่วโลก จนในที่สุดก็ได้หลิวอวี้เฟยในวัย 30 ปี มารับบทมู่หลาน สำหรับหลิวมีชื่อเรียกในวงการว่า Fairy Sister เธอเป็นนักแสดงเชื้อสายจีนที่โด่งดังมากในช่วงกลางปี 2000-2009 จากการเล่นซีรีส์จีน ขณะที่เรียนอยู่ใน Beijing Film Academy เป็นโรงเรียนสอนการแสดงชื่อดังของจีน สำหรับในไทย เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จัก หลิวอวี้เฟย จากบทบาท “เซียวเล่งนึ้ง” ในซีรีส์ มังกรหยก…
-
เมืองนิวยอร์กนำตู้รถไฟที่ไม่ใช้แล้วลงสู่ก้นทะเล เพื่อช่วยซ่อมแซมระบบนิเวศให้ดีขึ้น
มีไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นการกำจัดหรือทิ้งขยะอุตสาหกรรมแบบจะจะ เพราะส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะทำกันแบบลับๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกร้องเรียน แต่ช่างภาพ Stephen Mallon ได้พยายามตามถ่ายการกำจัดขยะเหล่านั้นเป็นเวลา 3 ปีด้วยกัน จนได้เห็นว่าตู้รถไฟใต้ดินในนิวยอร์กนั้นถูกนำไปทิ้งที่ไหนเมื่อไม่ใช้งานแล้ว มหานครนิวยอร์กได้สร้างทางพิเศษขึ้นมาเอง เพื่อใช้ในการกำจัดตู้รถไฟใต้ดินที่ไม่ใช้แล้ว มีเรือบรรทุกสินค้าที่เต็มไปด้วยตู้รถไฟใต้ดินกำลังแล่นไปยังกลางมหาสมุทร จากนั้นพวกเขาก็จะใช้อุปกรณ์ก่อสร้างในการผลักตู้รถไฟใต้ดินลงไปในน้ำ ตู้รถไฟใต้ดินถูกโยนลงไปทีละตู้ๆ มันอาจจะดูเหมือนเป็นการกำจัดมลพิษแบบสิ้นคิด แต่จริงๆ แล้วพวกเขามีจุดประสงค์บางอย่างที่อยู่เบื้องหลังการทำแบบนี้ พวกเขาบอกว่าการทิ้งรถไฟใต้ดินลงไปอยู่ใต้พื้นมหาสมุทรนั้นก็เพื่อให้มันผสานกับระบบนิเวศใต้น้ำ เมื่อเวลาผ่านไปตู้รถไฟใต้ดินจะปกคลุมไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ซึ่งเป็นการสร้างระบบแนวปะการังเทียมอย่างหนึ่ง ทุกส่วนของซากรถเหมาะสำหรับการสร้างระบบนิเวศปะการัง ทั้งนี้ การสร้างระบบแนวปะการังเทียมนั้นจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการฟื้นฟูความเสียหายในธรรมชาติที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ นี่คือสิ่งที่เกิด หลังจากที่ทิ้งซากรถไปแล้ว 5 ปี แม้แต่ทางวิศวกรเองก็เห็นด้วยกับการผลักตู้รถไฟใต้ดินลงน้ำ พวกเขาบอกว่าแม้ตอนแรกเราจะไม่ได้มีเจตนาเพื่อจัดการความเสียหายของพื้นมหาสมุทร แต่พอเวลาผ่านไปเราพบว่ามันช่วยซ่อมแซมธรรมชาติที่ถูกทำลายไป และนี่คือสภาพเมื่อผ่านไปแล้วประมาณ 10 ปี ตอนแรกที่ Mallon เผยแพร่ภาพเหล่านี้ มีแต่คนบอกว่ามันเป็นการสร้างมลภาวะ แต่เมื่อได้อ่านทั้งหมดจึงรู้มันเป็นการคืนความสวยงามให้ธรรมชาติมากกว่า ที่มา viralforest
-
คู่รักเที่ยวรอบโลกด้วยกันแบบประหยัดใช้เงินวันละไม่เกิน 260 บาท ไปมาแล้ว 50 ประเทศ
การท่องเที่ยวรอบโลกนับเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ โดยเฉพาะเรื่องเงิน ทำให้บางคนไม่ได้ทำอย่างที่ฝันเอาไว้ อย่างไรก็ตาม คู่รัก Karol Charlie Lewandowski และ Aleksandra Ślusarczyk ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการทำตามความฝันที่จะเที่ยวรอบโลกนั้น มันไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายอย่างที่คิด Charlie และ Aleksandra เป็นคนที่รักการเดินทาง แต่ในอีกทางหนึ่งพวกเขาเป็นเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่มีเงินไม่มากพอที่จะทำแบบนั้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทั้งสองไม่เหมือนคนทั่วไปคือ การที่คิดว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกเขาจะต้องทำในสิ่งที่ต้องการให้ได้ หนึ่งในอุปสรรคของการท่องเที่ยวคือการเดินทาง เพราะนอกจากมีค่าใช้จ่ายสูงแล้ว บางทีมันอาจจะไม่สะดวกตามที่เราต้องการก็ได้ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงซื้อรถเก่ารุ่น VW T3 ปี 1989 ในราคาราวๆ 20,000 บาท แล้วเอามาทาสีใหม่ ก่อนจะออกไปผจญภัยทั่วโลกด้วยกัน แม้จะทาสีใหม่แต่มันก็คือรถเก่าอยู่ดี นั่นทำให้รถมีปัญหาระหว่างทางบ่อยครั้งมาก แต่ทั้งคู่ได้เรียนรู้ที่จะซ่อมด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการประหยัดเงิน ตอนนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าพวกเขาเอาเงินที่ไหนมาใช้ หรือใช้เงินยังไง ในเมื่อก่อนหน้านี้พวกเขายังบอกอยู่เลยว่ามีปัญหาด้านการเงิน …
-
ชายผู้ให้เสียงกับตัวละคร Arnold เด็กชายหัวรักบี้ โคตรหล่อเลย แอร๊ยยย อิชั้นใจละลาย
การ์ตูนมักเป็นสื่อที่สร้างความบันเทิงให้กับเรา ไม่ว่าจะอยู่ในวัยเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มีการ์ตูนเรื่องใหม่มาแทน เรื่องเก่าๆ ก็จะถูกลืมไป แต่สำหรับเรื่อง Hey Arnold การ์ตูนที่ได้รับความนิยมในยุค 90 ได้กลับมาอยู่ในกระแสโซเชียลอีกครั้ง เมื่อผู้คนรู้ว่าใครเป็นผู้พากย์เสียง Arnold แน่นอนว่า หลายๆ คนคงจำเรื่อง Hey Arnold ได้ดี โดยเฉพาะ Arnold ตัวเอกของเรื่องที่มีผมสีเหลืองแสกกลาง แต่ถ้าสังเกตดีๆ นั้นไม่ใช่การแสกผมนั้น แต่เป็นเพราะเขาสวมหมวกต่างหากล่ะ ย้อนความหลังกันพอหอมปากหอมคอ ตอนนี้มาชมสิ่งที่น่าสนใจในการ์ตูนเรื่องนี้กันดีกว่า นั่นก็คือชายหนุ่มผู้อยู่เบื้องหลังเสียงของ Arnold ทั้ง 41 ตอน เขาคือ Lane Toran หนุ่มหล่อล่ำ ผู้ควรค่าแก่จับตามอง ตาม IMDb ระบุว่า Toran เป็นทั้งนักแสดงและนักแต่งเพลงที่พากย์เสียงให้กับตัวละครในการ์ตูนเรื่อง Recess ของดิสนีย์ Nickelodeon และ Rocket Power ตอนที่เขาทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจจะไม่ได้รับความสนใจมากจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่มาตอนนี้ไม่พูดถึง เห็นทีจะไม่ได้ซะละ ก็แหม พี่แกหล่อระเบิดซะขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว …
-
คุณแม่พาลูกๆ ลาออกจากโรงเรียน แล้วไปเที่ยวรอบโลก เพื่อหาประสบการณ์นอกห้องเรียน
พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะพยายามให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนดีๆ มหาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศหรือของโลก หวังจะให้ลูกมีคุณภาพชีวิตดีในอนาคต แต่ในทางกลับกัน พ่อแม่จำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะคนหัวสมัยใหม่เชื่อว่าความรู้ไม่จำเป็นต้องหาจากห้องเรียนเท่านั้น แต่ประสบการณ์จากโลกภายนอกก็เป็นบทเรียนที่ควรค่าแก่การแสวงหาเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ Barbara Bryan คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 50 ปี จึงตัดสินใจพาลูกสาวทั้งสองคนคือ Brooke วัย 12 ปี กับ Samantha วัย 10 ขวบ ลาออกจากโรงเรียนแล้วพาไปหาประสบการณ์รอบโลก โดยหลังจากที่ให้ลูกลาออกจากโรงเรียนแล้วเธอก็พาพวกเขาย้ายไปอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ใน Collector ใกล้กับแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย และได้ออกไปผจญภัยด้วยกันนับครั้งไม่ถ้วน Bryan บอกว่า “กว่า 4 ปีแล้วที่เราไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่งลูกสาวทั้งสองคนของฉันยังคงตื่นเต้นเสมอเมื่อเจอสิ่งใหม่ๆ ที่สำคัญพวกเขาชอบทุกที่ที่ไป” ทั้งนี้คุณแม่จะให้ลูกได้ทำอะไรเต็มที่ทุกครั้งที่ไปเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเช่าที่พักดีๆ เล่นเครื่องเล่นที่อยากเล่น และทำทุกอย่างที่ลูกต้องการ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้มากที่สุด สาวๆ ในชุดเจ้าหญิงดิสนีย์ พากันอาบแดดที่โกลด์โคสต์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ภาพนี้ถ่ายที่ Great Ocean Road รัฐวิกตอเรีย…
-
คุณแม่กับโปรเจกต์การถ่ายภาพลูกสาว ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูแล้วช่างสดใสเหลือเกิน
เมื่อลูกๆ อยู่กับพ่อแม่ พวกเขามักจะถูกสอนให้ทำโน่นทำนี่ รวมทั้งการช่วยทำงานบ้าน จนทำให้เด็กรู้สึกเบื่อและอาจจะอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวไปเลยก็ได้ แต่คุณแม่รายนี้ได้ทำสิ่งที่แตกต่างออกไป ด้วยการทำกิจกรรมสนุกๆ กับลูกสาว ที่นอกจากจะมีแต่ความสุขแล้ว ยังเป็นการบันทึกช่วงเวลาแห่งความทรงจำระหว่างแม่กับลูกด้วย Coco Amardeil ช่างภาพชาวแคนาดา ปัจจุบันอาศัยอยู่ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส เธอกำลังทำโปรเจกต์กับลูกสาว Zhansaya วัย 10 ขวบ ภายใต้ชื่อ Crazy Mummy Crazy Mummy เป็นการถ่ายรูปเชิงสร้างสรรค์ที่ Coco และลูกสาวได้ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2014 “คอนเซปต์คือการทำให้ภาพของ Zhan ออกมาดูแตกต่างและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน” คุณแม่กล่าว Amardeil บอกว่า “ฉันพูดได้เลยว่าเราทั้งสองคนช่วยกันทำโปรเจกต์นี้ เราช่วยกันคิด ช่วยกันทำในทุกๆ ขั้นตอน และเราก็สนุกไปด้วยกัน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฉันอยากแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสร้างสรรค์กับลูกสาว” เธอบอกอีกว่าอยากเปิดมุมมองที่แตกต่างของความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก ทั้งความรักที่แม่มีต่อลูก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมภาพของ Zhan จึงมีแต่รอยยิ้มและดูเป็นธรรมชาติสุดๆ ใครที่ชื่นชอบแม่ลูกคู่นี้ สามารถติดตามผลงานของพวกเขาได้ที่อินสตาแกรม cocoamardeil . . . . .…
-
ได้อีกค่ะ!! คู่รักทหารอปป้าเกาหลีกับคุณหญิงรัสเซีย เห็นแล้วก็รู้สึกอิจฉ๊าอิจฉาเหลือเกิน
คู่รักที่น่าอิจฉาไม่ใช่คู่ที่หน้าตาสวยหล่อ ไม่ใช่คู่ที่คบกันมานาน ไม่ใช่คู่ที่ร่ำรวยเงินทอง แต่เป็นคู่ที่มั่งคั่งในเรื่องความรักโดยไม่มีเงื่อนไข อย่างคู่รัก Jay Song Alexandra และ Sasha Podberezskaja ที่ได้แบ่งปันชีวิตการผจญภัยของพวกเขาในยูทูบ จนทำให้ชาวเน็ตอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน Sasha เป็นชาวรัสเซียที่เกิดในประเทศเบลารุส ปัจจุบันอาศัยอยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ทำงานเป็นนักแสดงและนางแบบอิสระ ส่วน Jay เกิดที่กรุงโซล ปัจจุบันเป็นทหารรับใช้ชาติของกองทัพเกาหลีใต้ ทั้งคู่คบกันตั้งแต่ปี 2013 และได้เริ่มทำช่องยูทูบเมื่อ 2 ปีก่อน เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความรักและการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในแต่ละวันของพวกเขา ด้วยความที่เป็นคู่รักที่หน้าตาจัดว่าค่อนข้างสวยหล่อ จึงทำให้มีแฟนๆ ติดตามจำนวนมาก แต่คลิปที่โพสต์จะมีคนเข้ามาดูมากกว่า 3 ล้านครั้ง และมีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ Jay ต้องไปเกณฑ์ทหาร แฟนๆ ห่วงว่าพวกเขาจะหยุดทำวิดีโอ แต่ Sasha ได้ออกมาบอกว่า “อย่ากังวลเลย เราจะพยายามทำวิดีโอให้เพื่อนๆ ได้ดูกันต่อไป เพราะ Jay จะออกมาจากค่ายบ่อยๆ” อย่างไม่นานนี้ ทั้งคู่เพิ่งจะได้พบกัน และ Sasha ได้โพสต์วิดีโอสั้นๆ ในอินสตาแกรม ระบุว่า “Jay…
-
น้องเหมียวอยากใกล้ชิดกับหมา แต่กลับถูกเมินซะงั้น ถ้าวันใดที่หายไปจะคิดถึงเรามั้ย?
ปกติแล้วหมากับแมวจะไม่ค่อยถูกกันหรอก อยู่ด้วยกันทีไรเป็นต้องทะเลาะกันทู๊กกกกที แต่มันก็ไม่เสมอไปหรอกนะ เพราะบางเข้ากันได้ดี๊ดี จนแทบจะแยกจากกันไม่ได้ก็มี เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ ที่หมั่นไปเล่นกับเจ้าสุนัขที่อยู่ในกรงทุกวัน แม้สุนัขจะทำท่าเหมือนไม่ค่อยสนใจ แต่มันก็ยังพยายามเรียกร้องความสนใจจนได้ ความสัมพันธ์สุดน่ารักของหมาแมวคู่นี้ถูกบันทึกเป็นวิดีโอที่โพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊ก SBS TV동물농장x애니멀봐 ในคลิปวิดีโอจะเห็นเจ้าเหมียวตัวหนึ่งพยายามจะเข้ามาเล่นกับสุนัขที่อยู่ในกรง มันพยายามเขี่ยหาง เลียนแบบท่าทางสุนัขเพื่อเรียกร้องความสนใจ เฮ้ เจ้าหมา เล่นกับเค้าหน่อย เมื่อเพื่อนหมาทำท่าไม่สนใจ แมวเหมียวเลยตัดสินใจลอดเข้าไปในกรงเพื่อไปหามันถึงที่ ดูซิ๊ จะเมินกันอีกมั้ย… ปรากฏว่าน้องหมายังไม่สนใจอยู่ดี เจ้าเหมียวไม่ละความพยายาม มันคอยเขี่ย คอยอยู่ใกล้ๆ เดินทางไปทุกที่ จนสุนัขรู้สึกรำคาญ อยากเล่นมากใช่มั้ย จัดให้…ว่าแล้วมันก็คาบเจ้าเหมียวเหวี่ยงไป เหวี่ยงมาอย่างแรง อาจจะดูหวาดเสียวไปนิสสส แต่นี่แหละคือการเล่นสนุกสไตล์คู่หูหมาแมว และพวกมันก็ทำแบบนี้กันจนชินแล้ว อีกอย่างคือทั้งคู่ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บแต่อย่างใด เมื่อถึงเวลาที่เจ้าของพาสุนัขออกไปเล่นข้างนอก เจัาเหมียวก็จะคอยมองหา “เจ้าหมาไปไหนนะ??” ส่วนสุนัขไม่ได้สนใจเหมียวเล้ยยย เพราะมันคิดว่าสามารถเล่นสนุกได้โดยไม่ต้องมีแมวก็ได้ ว่าแต่น้องหมาจะรู้มั้ยนะว่าเหมียวรออยู่ “หายไปไหนนะ??” หลังจากที่ออกไปเล่นเสร็จ มันก็ถูกพาเข้ามาอยู่ในกรงเหมือนเดิม พอหายเหนื่อยมันก็เริ่มรู้สึกว่าขาดอะไรไป…
-
การทดลองกับเจ้าหมา เพื่อระบุว่าพวกมันสามารถแยกแยะคนดีกับไม่ดีได้หรือไม่!?
สุนัขขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาด เรียนรู้ได้เร็ว และที่สำคัญมันมีความซื่อสัตย์ รู้จักการตอบแทนคุณคนที่ดูแลหรือให้การช่วยเหลือมัน ไม่เพียงแค่นั้น งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Neuroscience และ Biobehavioural Reviews ยังได้ระบุอีกว่าสุนัขสามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นคนดีหรือไม่ดี ส่งผลต่อวิธีการที่สุนัขตอบสนองต่อมนุษย์แต่ละคน ในการทดสอบความสามารถนี้ นักวิจัยได้ขอให้เจ้าของสุนัขแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างกัน แล้วให้สุนัขของพวกเขานั่งดูการกระทำเหล่านั้น นักวิจัยได้จำลองเหตุการณ์โดยให้อาสาสมัครแสร้งทำเป็นเปิดประตูไม่ได้ แล้วขอความความช่วยเหลือจากนักวิจัยสองคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ในสถานการณ์แรก นักวิจัยคนหนึ่งได้เข้าไปช่วยอาสาสมัครเปิดประตู และอีกคนกลับยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่สนใจที่ให้การช่วยเหลือใดๆ สถานการณ์ที่สอง นักวิจัยคนเดิมยังปฏิเสธที่จะเข้าไปช่วยเหลือเช่นเดิม ขณะที่นักวิจัยอีกคนก็ทำเหมือนกัน คือไม่เข้าไปช่วยอาสาสมัคร หลังจากทั้งสองสถานการณ์จบลง นักวิจัยทั้งสองคนก่อนหน้านี้ก็ได้หันไปหาสุนัขแล้วยื่นขนมให้พวกมัน ปรากฏว่าในสถานการณ์แรก สุนัขได้ตอบสนองด้วยการรับขนมจากทั้งสองคน แต่ในสถานการณ์ที่สอง สุนัขได้ปฏิเสธที่จะรับขนมจากทั้งสองคน จากการตอบสนองดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์จึงสรุปว่าถ้าสุนัขเห็นใครบางคนทำบางอย่างไม่ดี มันก็จะตัดสินจากการกระทำนั้นและจะไม่ไว้ใจคนคนนั้น ดังนั้นต่อไปนี้ถ้าสุนัขปฏิเสธคุณ แสดงว่าคุณคงไปทำไม่ดีบางอย่างให้มันเห็นแน่ๆ ที่มา esquire
-
ชายหนุ่มต่อยนายทหารจนเสียชีวิตใน 1 หมัด อ้างเพราะหมั่นไส้ที่เขาเต้นกวนทรีน!?
ความโกรธมักทำให้เราขาดสติ และทำอะไรโดยขาดการยั้งคิด ซึ่งแน่นอนว่าการตัดสินใจทั้งที่ยังโกรธนั้นมีโอกาสผิดพลาดสูง เพราะมันเป็นการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล Jake Davies วัย 29 ปี คือตัวอย่างของคนที่เคยทำพลาดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ส่งผลให้ชีวิตที่เหลือของเขาต้องพังไปด้วย… ภาพของนาย Jake Davies เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไนท์คลับ The Warehouse ใน Stroud มณฑลกลอสเตอร์เชอร์ สหราชอาณาจักร โดยที่นาย Davies ได้มีการโต้เถียงกับ Jack Mitchell ทหารหนุ่มวัย 24 ปี ความบาดหมางเกิดขึ้นเมื่อ Davies รู้สึกไม่พอใจกับท่าเต้นของ Mitchell นำไปสู่การทะเลาะกันและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความโกรธถึงขีดสุด Davies ก็ชกเข้าไปที่หัวของนายทหารหนึ่งทีอย่างแรง นั่นทำให้ Mitchell มีเลือดออกในสมอง จนเสียชีวิตคาไนท์คลับ The Warehouse ทันที Jack Mitchell ในการพิจารณาคดี อัยการบอกว่า Mitchell เป็นทหารสังกัดหน่วย 32 Regiment Royal Artillery แต่ตอนที่เกิดเหตุเขาอยู่ระหว่างลาพักเป็นเวลา 1 เดือน และเขาก็ชอบไปปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนในเวลากลางคืนจนถูกทำร้ายและเสียชีวิตตามที่เป็นข่าว ด้าน Davies…
-
เจ้าช้างน้อยคิดว่าหน้าของนักท่องเที่ยวเป็น ‘จุกนม’ ดูดอยู่นั่นแหละ มันไม่มีอะไรออกมาหร๊อก!!
ช้างเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ จนทำให้มันดูน่ากลัวสำหรับหลายๆ คน แต่หากคุณได้ดูวิดีโอสุดน่ารักของช้างน้อยตัวนี้ ต้องใจละลายอย่างแน่นอน ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าวิดีโอนี้ถูกถ่ายที่ไหน แต่ในคลิปจะเห็นเจ้าช้างน้อยตัวหนึ่งกอดรัดฟัดเหวี่ยงนักท่องเที่ยว และพยายามจะดูดหน้าของเขา มันคงคิดว่าเป็นจุกนมล่ะมั้ง ปกติแล้วเราจะไม่ค่อยเห็นใครนอนลงไปให้ช้างกลิ้งไปกลิ้งมาบนตัวแบบนี้หรอก แต่ในสถานการณ์นี้คาดว่าเจ้าช้างน่าจะไม่ทำอันตรายใคร บวกกับการที่มีเจ้าหน้าดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักท่องเที่ยวหนุ่มลงไปนอนเล่นกับเจ้าช้างน้อย ยอมให้มันกอด ยอมให้มันเลียหน้า เป็นภาพที่ทำให้คนดูใจละลายเลยล่ะ วิดีโอดังกล่าวนี้ถูกเผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2016 จนทำให้หลายคนเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อช้าง จากที่เคยกลัวก็กลายเป็นรัก บางคนบอกว่า “ฉันรักช้างน้อยตัวนี้ แล้วดูขนประปรายที่หัวของมันสิ ยิ่งทำให้ดูน่ารักมากขึ้น” ในขณะที่หลายๆ คนยกให้คลิปนี้เป็นคลิปเรียกยิ้มไปเลย เพราะดูกี่ทีๆ ก็ยิ้มตามตลอด ช่างเป็นโมเมนต์ที่อบอุ่นใจเหลือเกิน ดูกี่ครั้งก็ยิ้ม ที่มา inspiremore
-
ส.ส. หญิงชาวญี่ปุ่น อุ้มลูกเข้าประชุมด้วยแต่ทางสภาไม่อนุญาต จึงต้องแยกลูกของเธอออกมา…
เกิดประเด็นถกเถียงในญี่ปุ่น เมื่อคุณแม่ท่านหนึ่งพาลูกน้อยเข้าไปประชุมในสภาด้วย จนทำให้การประชุมเกิดความล่าช้า เมื่อเช้าวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 2017 สภาเมืองคุมาโมโต้มีการจัดประชุม โดยมีสมาชิกสภาทยอยกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับสมาชิกสภาพหญิง Yuka Ogata Ogata วัย 46 ปีได้เดินเข้ามาในอาคารสภาพร้อมด้วยคนรู้จักที่เข็นรถเข็นเด็กมาให้ โดยมีลูกชายวัย 7 เดือนของเธอนั่งอยู่ในนั้น ทำให้กลุ่มนักข่าวต่างพุ่งความสนใจไปที่เธอ เมื่อเข้าไปในห้องประชุม เธอก็เข้าไปนั่งในที่ของตัวเองตามปกติ โดยอุ้มลูกชายไว้บนตัก แต่การทำเช่นนั้นทำให้เธอได้รับความสนใจจากสมาชิกสภาคนอื่นๆ จนประธานสภา Shosaku Sawada ต้องประกาศให้เลื่อนการเริ่มประชุมออกไปอีกหน่อย หลังจากนั้น Sawada ได้เข้าไปคุยกับ Ogata เพื่อให้เธอฝากลูกไว้กับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างนอก กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที Ogata ก็ยินยอมที่ให้ผู้ดูแลพาลูกออกไป เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การประชุมเริ่มต้นล่าช้าไป 40 นาที และ Sawada ได้กล่าวเปิดประชุมด้วยการขอโทษสมาชิกที่ทำให้เกิดความล่าช้า แต่มีสมาชิกสภาคนหนึ่งแย้งขึ้นมาว่า “คุณไม่ใช่คนที่ต้องกล่าวขอโทษ” สำหรับ Ogata นั้น เธอได้ตั้งครรภ์เมื่อเดือนเมษายนของปีที่ผ่านมาและเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองคุมาโมโต้คนแรกที่คลอดบุตรในขณะที่อยู่ในตำแหน่ง เธอบอกว่าก่อนหน้านี้ได้ปรึกษาสำนักเลขาธิการของสภาเพื่อพาลูกเข้าไปในห้องประชุมด้วยแต่ถูกปฏิเสธ อย่างไรก็ตามเธอยังดึงดันพาลูกเข้าที่ประชุมจนได้ โดยไม่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ในกฎหมายระบุไว้ว่า ทุกคนที่เข้าห้องประชุมสภาแต่ไม่ใช่สมาชิกสภาจะถูกจัดให้เป็นผู้สังเกตการณ์…
-
ความเห็นอีกด้านของ “อดีตนักเรียนเตรียมทหาร” กับเหตุการณ์น้องเมย ที่ชาวเน็ตต่างชื่นชม
จากประเด็นการเสียชีวิตของ “น้องเมย” ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วประเทศ จนศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าโรงเรียนดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ปกป้องสถานบันของตัวเองกันอย่างต่อเนื่อง แต่การปกป้องสถานบันที่เราเห็นในโซเชียลมักจะออกไปแนวทางที่ว่ารักสถาบัน จนเห็นการตายเป็นเรื่องปกติของคนที่จะเรียนสายนี้ อย่างเช่นโพสต์นี้ “เก่ง หล่อ แข็งแรง สุภาพบุรุษ” อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ออกมาปกป้องสถานบันโดยไม่คำนึงถึงคุณค่าชีวิตมนุษย์ เพราะศิษย์เก่าหลายๆ คนได้ออกมาเตือนสติเพื่อนๆ ร่วมสถาบันให้รักสถาบันอย่างมีสติ และนี่น่าจะเป็นความเห็นที่ดีสุดจาก “อดีตนักเรียนเตรียมทหาร” เกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องเมย โดยคุณ Thatpon Srisupunbut ระบุว่า… “อดทนต่อความเจ็บใจ”เป็นสิ่งที่พวกคุณควรจะมีมากที่สุดในตอนนี้ ก่อนที่คุณจะให้คนอื่นมีสติคุณควรจะมีสติเสียก่อน คุณต้องคิดก่อนว่าตอนนี้คุณกำลังคลั่งสถาบันรึเปล่า คุณกำลังนำเกียรติยศและศักดิ์ศรีในอาชีพมาข่มศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์หรือไม่ คุณกำลังดูหมิ่นอาชีพอื่นและคนธรรมดาอยู่รึเปล่า …คุณแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าคุณกำลังปกป้องโรงเรียน ?… ผมก็คืออดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่56 ผมก็รักโรงเรียนเตรียมทหารไม่แพ้กับคุณ ผมได้skillต่างๆในการดำรงชีวิตให้ผมอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้ก็มาจากเตรียมทหาร ที่นี่เป็นสถานที่ที่ผมรักและเคารพเหมือนบ้านหลังที่สอง ผมอาจจะถือว่าโชคดีที่พี่ 54 และพี่ 55 และนายทหารนายตำรวจปกครองในสมัยนั้นไม่เคยซ้อมผม ถึงแม้ว่าผมจะมึนๆกว่าเพื่อนหน่อยก็เหอะ ถึงพวกพี่ๆจะโหดแค่ไหนยังไงพี่ก็เห็นผมเป็นน้อง ไม่เคยทำให้ผมต้องมีกระดูกหักหรือบาดเจ็บสาหัสเลยพวกพี่ๆมีมาตรฐานในการสอนดีผมขอนับถือครับ แต่มาวันนี้ทำไมมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มาตรฐานของระบบมันต่ำลงหรืออย่างไร… ? และการแสดงออกต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ของนักเรียนเตรียมทหารมันแสดงให้เห็นถึงอะไร..? พวกคุณถูกสอนมาให้อดทนไม่ใช่เหรอครับ พวกคุณอดทนกันได้ทุกอย่าง แต่กลับอดทนไม่ได้แม้แต่คำพูดของใครก็ไม่รู้ การที่คุณจะเป็น “ผู้นำ” ได้นั่นหมายความว่าคุณต้องรับทั้งดอกไม้และก้อนหิน หากคุณคิดว่าคนอื่นจะให้แต่ดอกไม้ คุณคงไม่เหมาะกับการที่จะเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะมีคนด่ามีคนว่าให้โรงเรียนเตรียมทหารอย่างไรมันก็ไม่สำคัญ…
-
20 ภาพที่แสดงให้เห็นความน่าอัศจรรย์ใจของ ‘ธรรมชาติ’ ที่อยู่เหนือการคาดเดาของมนุษย์
ธรรมชาติเป็นสิ่งเดียวที่เกินการควบคุมและเกินการคาดเดาของมนุษย์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมธรรมชาติจึงเต็มไปด้วยสิ่งน่าอัศจรรย์ใจ เหมือนกับภาพปรากฏการณ์แปลกๆ เหล่านี้ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เผยให้เห็นความน่าทึ่งของโลกที่ไม่ได้มาจากการปรุงแต่ง 1. สภาพสวนแอปเปิลในไอร์แลนด์ หลังเกิดพายุเฮอริเคนโอฟีเลีย 2. ประตูสำนักงานที่ปกคลุมด้วยหิมะ 3. เมื่อประกันภัยไม่ครอบคลุมถึงอุทกภัย…เราก็คงต้องทำด้วยตัวเอง 4. น้ำตกน้ำแข็ง 5. หิมะใต้ทะเลทรายแอลจีเรีย 6. สภาพท้องฟ้าหลังเกิดพายุเฮอริเคนโอฟีเลีย 7. เซอร์ไพรส์ไปอีกเมื่อเปิดประตูแล้วพบว่าทางออกถูกทับถมด้วยหิมะ 8. Xavier พายุที่มีความรุนแรงถึงขั้นทำให้ต้นไม้ล้มระนาบกับพื้น 9. สีขาวที่เห็นคือหิมะที่ตกในบางจุดของรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา 10. สายรุ้งเกิดขึ้นพร้อมกันสองเส้น 11. ฝนทำให้บริเวณส่วนนี้ดูคล้ายกับภาพวาดของแวนโก๊ะ 12. ฝนที่ตกเพียงเล็กน้อยในไอร์แลนด์ แต่สามารถทำให้น้ำท่วมสูงได้ขนาดนี้ 13. โดมสายรุ้งบนท้องฟ้าในออสเตรเลีย 14. ก้อนเมฆรูปทรงประหลาดในคาบสมุทรคัมชัตกาแห่งไซบีเรีย 15. ผลกระทบจากพายุเฮอริเคนแมทธิว 16. แม้อยู่ในอาคาร แต่อย่าคิดว่าหนีฝนพ้น…
-
ศิลปินชาวญี่ปุ่นสร้างงานศิลป์แฮนด์เมดระดับมินิ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นน้อยสำหรับตกแต่งบ้านตุ๊กตา
เวลาว่างๆ เรามักจะหยิบงานอดิเรกขึ้นมาทำ ซึ่งแต่ละคนก็คงจะทำในสิ่งที่แตกต่างกันไป ทั้งมีสาระบ้างและไม่มีสาระบ้าง แต่รู้อยู่อย่างหนึ่งคือมันเป็นสิ่งที่เราชอบ เหมือนกับ Kiyomi ศิลปินชาวญี่ปุ่นและเป็นคุณแม่ลูกสอง ผู้ซึ่งมีงานอดิเรกที่ต้องอาศัยทั้งความอดทนและการทุ่มเท แต่เธอก็รักที่จะทำมัน งานอดิเรกของ Kiyomi คือการทำสิ่งของต่างๆ ให้เป็นไซส์มินิ ตั้งแต่ของใช้ ของกิน และเฟอร์นิเจอร์ โดยถอดแบบมาจากของจริงที่เห็นในชีวิตประจำวัน ผลงานส่วนใหญ่ของเธอดูจะออกไปทางวินเทจหน่อยๆ นั่นเป็นเพราะเธอได้รับแรงบันดาลใจศิลปะยุคอุตสาหกรรมตอนต้น แม้จะเป็นสิ่งของไซต์มินิ แต่ Kiyomi ก็พยายามทำให้เหมือนจริงมากที่สุด โดยการใส่ทุกรายละเอียด ซึ่งต้องใช้ทั้งความอดทน ความประณีต และต้องทุ่มเทเวลาให้มันด้วย สำหรับสิ่งของไซส์นิเหล่านี้ Kiyomi ได้นำมาตกแต่งบ้านตัวเองบ้าง ทำเป็นบ้านตุ๊กตาบ้าง ซึ่งดูแล้วน่ารัก จนอยากทำตามบ้าง สำหรับใครที่อยากดูไว้เป็นแรงบันดาลใจ สามารถเข้าไปติดตามศิลปินชาวญี่ปุ่นคนนี้ได้ที่อินสตาแกรม chiisanashiawase2015 และเว็บไซต์ petipetit . . ชุดเค้กไซส์มินิ น่ากินไปอีก . . ลิปจิ๋ว แท่งเดียวคงไม่พอ รองเท้าที่เหมือนของจริงเด๊ะๆ . .…
-
ครอบครัวเล่าประสบการณ์ขนหัวลุก กับการต่อสู้กับผีที่สิงอยู่ในบ้านตลอด 20 ปี!!
การเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับผีสาง หรือสิ่งลี้ลับให้ใครสักคนฟังนั้น มักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องตลก ไร้สาระ หากคนๆ นั้นไม่เคยประสบกับเรื่องพวกนี้ อย่างไรก็ตามอดีตนักการเมืองรัฐเพนซิลเวเนีย Bob Cranmer และครอบครัวยืนยันว่าพวกเขาถูกผีหลอกมาเป็นเวลา 20 ปี ตั้งแต่ที่ตัดสินใจซื้อเก่าๆ ราคาถูกหลังหนึ่ง นี่อาจฟังดูตลก แต่พวกเขาเล่าว่าเจอเหตุการณ์น่าขนลุกนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งหน้าต่างสั่นเอง ประตูปิดเอง จนทำให้การใช้ชีวิตในบ้านหลังใหญ่นี้กลายเป็นฝันร้ายที่ไม่อาจลืม บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ที่มุมถนนของ Sceneridge และ Brownsville เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา มันเป็นบ้านที่มีรูปทรงแปลกๆ ที่ Bob ชื่นชอบตอนเด็กๆ หลังจากที่เขาทำงานและเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง Bob ก็ติดต่อซื้อบ้านหลังดังกล่าว แต่แปลกที่ผู้ขายตกลงขายทันทีโดยไม่ถามอะไรเลย ที่สำคัญมันมีราคาต่ำกว่าราคาตลาดด้วย มองจากภายนอกก็ทำให้ Bob ภรรยาของเขา และลูกสาว Lisa รู้สึกว่ามันเป็นบ้านที่น่าอยู่มากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสีของบ้านและระเบียงขนาดใหญ่ นอกจากนี้มันยังเป็นบ้าน 3 ชั่นที่เหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว ทั้งยังสามารถรองรับเพื่อนๆ หรือครอบครัวที่จะมาเยี่ยมได้อีกด้วย แต่หลังจากที่ซื้อไปได้ไม่นาน กลับกลายเป็นว่ามันคือการตัดสินใจที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของ Bob… เจ้าของบ้านคนใหม่เพิ่งจะรู้ประวัติที่น่ากลัวของบ้านหลังนี้ หลังจากที่ย้ายเข้าไปอยู่แล้วเรียบร้อย ตามประวัติเล่าว่าในช่วงปี 1700 ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันถูกสังหารหมู่โดยคนผิวขาวในพื้นที่แห่งนี้ ต่อมาในปี 1909 มีการเล่าต่อกันว่าผู้ที่สร้างบ้านผู้เกรี้ยวกราดหลังนี้ได้ทำการสาปแช่งบ้านทั้งหลังด้วย นี่ยังไม่ใช่เรื่องแปลกที่สุดของประวัติบ้านหลังนี้ …
-
นักวิทย์ทดลองเปิด “กระป๋องโค้ก” ในเรือดำน้ำที่พื้นมหาสมุทร เพื่อดูผลลัพธ์ว่าจะเป็นยังไง!?
ปกติแล้วเวลาเปิดโค้ก ไม่ว่าจะเป็นกระป๋องหรือแบบขวด มันมักจะมีความซ่าขึ้นมาด้วยเสมอ นั่นเป็นเพราะแก๊สในกระป๋องถูกดันขึ้นมาปะทะกับความกดอากาศภายนอก แต่จะเป็นอย่างไรถ้ากระป๋องโค้กถูกเปิดที่พื้นในมหาสมุทร? เราคงไม่ลงทุนลงไปพื้นมหาสมุทรเพื่อหาคำตอบของเรื่องนี้หรอกใช่มั้ย? ดีแล้ว เพราะนักบินอวกาศและวิศวกร Chris Hadfield ได้มาทดลองให้ดูแล้วในฐานะผู้ที่รู้เรื่องฟิสิกส์ดีกว่าเรา จริงๆ แล้ว Hadfield เป็นที่รู้จักในฐานะยูทูบเบอร์ที่ชอบอยู่ในพื้นที่ที่คนไม่ค่อยอยู่กัน เช่น ในพื้นที่อวกาศ และพื้นมหาสมุทร ช่วงที่อยู่ในอวกาศ Hadfield มักจะทดลองอะไรแปลกๆ ให้ผู้คนได้เรียนรู้ และเมื่อเกษียณ เขาก็ไม่หยุดที่จะศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ถึงกับลงไปอยู่ในเรือดำน้ำเพื่อทำการทำลองใหม่ๆ ให้เราได้ดูกันอีกเช่นเคย ล่าสุด Hadfield ได้ทำการทดลองเปิดกระป๋องโค้กที่เขย่าแล้วใต้พื้นมหาสมุทร และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราทึ่งไม่ใช่น้อย ลองดูจากคลิปด้านล่างนี้ ในช่วงเริ่มต้นของคลิป เขาได้พูดถึงโค้ก ซึ่งเป็นน้ำอัดลมที่เราพบได้ในชีวิตประจำวันนี่แหละ และหากเขย่าก่อนเปิด คุณรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขณะนี้ Hadfield อยู่ที่พื้นมหาสมุทร เขาก็เลยเขย่าโค้กกระป๋องนั้น เพื่อทดสอบว่าหากเปิดในนี้มันจะต่างจากการเปิดในพื้นที่ทั่วไปอย่างไร ขณะที่เขาเขย่ากระป๋องโค้ก หลายคนคิดว่าแก๊สที่ถูกอัดในนั้นต้องพุ่งขึ้นแน่ๆ เมื่อถูกเปิด แต่อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น รอดูจนกว่าเขาจะเปิด… ปรากฏว่าเมื่อเปิดกระป๋องแล้ว น้ำโค้กกลับไม่พุ่งอย่างที่คิด นั่นเป็นเพราะมันเป็นกฎฟิสิกส์ คือภายในเรือดำน้ำที่อยู่ใต้มหาสมุทรจะมีความกดอากาศสูงมาก นั่นทำให้ไม่มีแรงดันมากพอที่จะดันแก๊สในกระป๋องโค้กออกมา…
-
ครอบครัวรับน้องจิ้งจอกเพิ่มมาเป็นหนึ่งในสมาชิกสี่ขา หลังจากที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไป…
สัตว์ทุกตัว ไม่ว่าจะมีความดุร้ายหรือดูน่ากลัวมากแค่ไหน แต่หากลองสัมผัสกับพวกมันด้วยใจ จะรู้ว่าทุกตัวย่อมมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น เหมือนกับลูกสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่เกิด ทำให้มันไม่ได้สัมผัสความรัก ความอบอุ่นจากแม่เลย อย่างไรก็ตาม Natalie Reynolds คุณแม่ลูกสอง เข้าใจดีว่าการขาดความรักนั้นเป็นยังไง เธอจึงเสนอที่จะเติมเต็มในเจ้าหมาจิ้งจอกตัวนี้ ครอบครัวของ Natalie อาศัยอยู่ใน Sarratt มณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับหมา 3 ตัว แมวกลุ่มหนึ่งและม้าอีก 1 ตัว แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังรับเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกอีก 1 ตัว และตั้งชื่อให้มันว่า Jasper Natalie ได้รับเลี้ยง Jasper เมื่อ 7 เดือนก่อนจากสัตวแพทย์คนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของเธอเอง ขณะนั้นเจ้าหมาจิ้งจอกเพิ่งลืมตาดูโลกได้แค่ 2 วันเท่านั้น เธอเล่าว่า “เพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์โทรมาหาฉัน แล้วบอกว่ามีคนนำลูกสนัขจิ้งจอกมาให้รักษา มันตัวเล็กมากๆ และต้องการที่จะดื่มนมทุกๆ สองถึงสามชั่วโมง” “เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉันจึงรีบขับรถไปหา Jasper ทันที และพามันกลับบ้านด้วยในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าได้ลูกน้อยเพิ่มมาอีกคน” เมื่อเข้ามาอยู่ในบ้าน Jasper…
-
เปิดโลกใต้พื้นผิวน้ำแข็ง กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำงานอะไร สิ่งที่คุณทำอยู่มักจะทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อ เมื่อเทียบกับนักวิจัยที่ต้องดำน้ำลงไปสำรวจสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลแอนตาร์กติกา เพราะที่นั่นทำให้พวกเขาได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในแบบที่ไม่ซ้ำกันเลย นักวิทยาศาสตร์จากนิวซีแลนด์และฟินแลนด์ ที่เรียกตัวเองว่า Science Under the Ice ได้ออกสำรวจระบบนิเวศใต้ทะเลแอนตาร์กติกาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง การจะทำเช่นนั้นได้ พวกเขาต้องไปยังที่ที่สามารถสำรวจระบบนิเวศได้อย่างทั่วถึงรอบด้าน นั่นคือใต้พื้นผิวน้ำแข็ง Ross Ice Shelf ของแอนตาร์กติกา ย้อนกลับในปี 2009 พวกเขาเคยมาสำรวจปะการังที่ Ross Ice Shelf แล้ว ต่อมาปี 2017 ก็พบว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด Joanna Norkko หนึ่งในสมาชิกของทีมสำรวจบอกว่า “การค้นพบที่น่าสนใจที่สุดคือ การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศใต้ทะเลแอนตาร์กติกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและคาดไม่ถึง” “นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหาร เพราะสายพันธุ์และความหนาแน่นของสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” การสำรวจแค่วันสองวัน สามารถทำให้เข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ นักวิจัยจึงต้องใช้เวลากว่า 6 สัปดาห์ในการดำน้ำสำรวจบริเวณ New Harbour และ Cape Evans โดยเก็บตัวอย่างตะกอน ตัวอย่างน้ำ ตัวอย่างเนื้อเยื่อ และทำการบันทึกวิดีโอที่ก้นทะเล วิธีการทำงานดังกล่าวจะทำให้นักวิจัยรู้ว่ามีสัตว์กี่ชนิดที่อาศัยอยู่ที่ก้นทะเล และเพื่อที่จะประเมินได้ว่าพวกมันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้พวกเขายังทำตู้ขนาด 50×50 เซนติเมตร…
-
แพทย์ฉุกเฉินช่วยเติมเต็มคำขอให้กับผู้ป่วยในช่วงเวลาสุดท้าย ก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป
ผู้ที่ทำงานในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือผู้ช่วย ต่างเคยเห็นคนเจ็บ คนตายจนชินตาแล้ว แต่นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลทุกคนจึงพยายามอย่างสุดความสามารถในการช่วยเหลือผู้ป่วย แม้แต่กรณีที่ไม่สามารถรักษาได้ พวกเขาก็ยังให้การดูแลจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต เหมือนกับช่วงเวลาแห่งความประทับใจนี้ เมื่อผู้ป่วยใกล้ตายที่นอนอยู่บนเตียง ถูกพาไปยังริมชายหาด ตามคำขอสุดท้ายของเธอ ภาพของช่วงเวลาดังกล่าวถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กโดย Queensland Ambulance Service ระบุว่า นายแพทย์ Graeme ยืนอยู่ข้างๆ ผู้ป่วยใกล้ตาย ที่ริมทะเลใน Hervey Bay รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ Helen Donaldson กล่าวว่าผู้ป่วยที่เห็นในภาพกำลังจะจากโลกนี้ไปในอีกไม่นานนี้ เธอจึงอยากไปเห็นชายหาดเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อได้ยินดังนั้น ทีมงานจาก Queensland Ambulance Service รวมทั้งทีมแพทย์ที่ให้การดูแลมาตลอด จึงได้พาเธอไปยังชายหาดใน Hervey Bay เพื่อทำตามคำขอสุดท้ายของผู้ป่วย แม้ผู้จะนอนอยู่บนเตียง แต่ทันทีที่มาถึงชายหาด เธอก็ร้องไห้ด้วยความดีใจที่ได้มาเห็นชายหาดอีกครั้ง จนทำให้เจ้าที่ที่ไปส่งเธอถึงกับน้ำตาไหลตามไปด้วย Donaldson บอกว่าเธอรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่นายแพทย์ Graeme และ Danielle ทำ เพราะพวกเขาไม่เพียงแต่รักษาตามหน้าที่ แต่มันแสดงถึงการเอาใจใส่ผู้ป่วยจนวินาทีสุดท้าย โพสต์ดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก โดยมีการกดไลก์มากกว่า 18,000 ครั้ง และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกกว่า…
-
กลุ่มหัวหมอ ใช้แค่ ‘เทปกาว’ ม้วนเดียวก็สามารถแก้ปัญหารถติดบนทางจักรยานได้แล้ว!!
ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะประเทศไหนก็มักจะประสบกับปัญหาจราจรติดขัด จนผู้คนบางส่วนหลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์แล้วหันไปใช้จักรยานหรือการเดินเท้าแทน แต่ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะแม้แต่ทางจักรยานก็มีปัญหารถติดเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้จึงมีคนกลุ่มหนึ่งออกมาทำบางอย่างเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว พวกเขาคือ Shift กลุ่มนักคิดด้านพฤติกรรมศาสตร์ชาวดัตช์ พวกเขาได้ทำโปรเจกต์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหาการจราจรในชั่วโมงเร่งรีบ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีคนจำนวนมากใช้รถใช้ถนน ปัญหาหลักคือ ในชั่วโมงเร่งรีบคนปั่นจักรยานทั้งหลายมักจะต่อแถวกันยาวเหยียดเพื่อรอข้ามถนน และมันยิ่งจะยาวออกไปอีก เมื่อมีคนปั่นจักรยานบางคนที่ต้องการเลี้ยวขวาหรือซ้าย ทีม Shift ได้เลือกทดสอบการแก้ปัญหากับ Keizer Karelplein Nijmegen ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นที่แรก เพราะที่นั่นมักจะมีรถติดจนสร้างความรำคาญใจให้ผู้คน ตัวแทนทีม Shift กล่าวว่า “เราสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของคนปั่นจักรยาน ด้วยการใช้เทปกาวเท่านั้น” จากนั้นทางทีมงานก็ได้ใช้เทปกาวแบ่งช่องทางการสัญจรให้ผู้ใช้จักรยาน โดยกั้นระหว่างผู้ที่ต้องการข้ามถนน กับผู้ที่ต้องการเลี้ยวขวา การแบ่งช่องทางแบบนี้จะทำให้ผู้ใช้จักรยานรู้ว่าควรจะต่อแถวที่ช่องทางไหน ทั้งยังทำให้แถวสั้นลงและดูเป็นระเบียบมากขึ้น นี่เป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายมากๆ และทุกคนสามารถทำได้ เพราะแทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายที่มีน้อยคนนักที่จะเสียสละเพื่อส่วนรวมเช่นนี้ แค่เทปกาวม้วนเดียวก็สามารถแก้ปัญหารถติดได้แล้ว ถ้าเราลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหา อาจจะไม่ต้องเผชิญกับรถติดเหมือนอย่างทุกวันนี้ก็ได้ . ที่มา sobadsogood
-
คู่รักเมกัน-ปินส์ ห่างไกลกว่า 12,800 กิโล นัดเจอกันครึ่งทางตลอด 3 ปี ในที่สุดก็ลงเอยซักที
เคยได้ยินเค้าพูดกันว่า “รักแท้แพ้ระยะทาง” มันก็อาจจะจริงสำหรับบางคู่นะ แต่ก็มีอีกหลายคู่เหมือนกันที่ระยะไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อของความรักของพวกเขา เหมือนกับ Rob และ Joli ที่อยู่ห่างไกลกันกว่า 12,800 กิโลเมตร แต่ด้วยพลังแห่งรัก ทำให้พวกเขาหากันจนเจอในที่สุด โดยมีเบื้องหลังของความรักที่น่าสนใจมากๆ มิลาน ประเทศอิตาลี Rob อยู่ในอเมริกา ส่วน Joli มาจากประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งคู่เป็นคนที่รักการเดินทาง และพวกเขาก็เจอกันครั้งแรกตอนเดินทางนี่แหละ การเจอกันครั้งแรก แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทั้งคู่ก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน และหลังจากที่แยกย้ายกัน พวกเขาก็คุยกันผ่านเฟซบุ๊กมาตลอด อุทยานแห่งชาติ Joshua Tree National Park รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา การคุยกันสม่ำเสมอ ทำให้ความสัมพันธ์ของ Rob กับ Joli พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะนัดพบกันอีกครั้ง ด้วยความที่พวกเขาอยู่ไกลกันและรักการเดินทางเหมือนกัน Rob กับ Joli จึงตกลงที่จะมาเจอกันครึ่งทางในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ช็อกโกแลตฮิลส์ เกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ในช่วงที่ได้มาเจอกัน เป็นช่วงเวลาที่มีแต่ความสุข พวกเขาจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด ที่สำคัญคือทั้งคู่จะถ่ายรูปจูบกันท่ามกลางสถานที่ท่องเที่ยวเสมอ…
-
13 สายพันธุ์แมลงแปลกๆ แต่งดงาม ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นมา จนเรายังหลงรัก…
ในโลกนี้เต็มไปด้วยสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งงดงาม ทั้งแปลก และน่าหลงใหล ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการสร้างสรรค์ขึ้นตามธรรมชาติ อย่างแมลงแปลกๆ เหล่านี้ที่มีควางดงาม และถือเป็นสัตว์หายากที่เราหลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตนี้ 1. หนอนแก้ว อัญมณี หนอนแก้ว อัญมณีมีรูปร่างกึ่งโปร่งแสง มีปุ่มเป็นกรวยแหลมเรียงรายทั่วทั้งร่าง แต่ละปุ่มจะมีจุดสีส้มอยู่ภายใน ที่ดูคล้ายกับเครื่องประดับอัญมณี พบได้ในอเมริกากลาง อเมริกาใต้ และแคริบเบียน 2. ผีเสื้อปีกแก้ว ผีเสื้อปีกแก้วอาศัยอยู่ในอเมริกากลางและใต้เช่นกัน ปีกของมันจะไม่มีสีสันสดใสเหมือนที่พบในผีเสื้อทั่วไป ลักษณะดังกล่าวนี้ช่วยให้มันได้เปรียบในเรื่องการพรางตัว 3. ไหม ไหมเป็นหนึ่งในแมลงที่มีความสำคัญอย่างมากและเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผีเสื้อ เนื่องจากตัวอ่อนของไหมถูกนำมาผลิตเป็นผ้าไหมมานานนับพันปีแล้ว ไหมไม่สามารถบินหรือกินได้ แต่มันจะพึ่งพาและเอาตัวรอดจากสิ่งที่ตัวอ่อนกิน สามารถพบได้ในประเทศจีน เอเชียตะวันออก และทางใต้ของเขตปกครอง Primorsky ในประเทศรัสเซีย 4. ด้วงเต่าทอง ด้วงเต่าทอง จะเป็นสีแดงอมน้ำตาลและมีจุดดำอยู่ตามตัวและปีก ส่วนใหญ่แล้วมันจะกินใบมันฝรั่งเป็นอาหาร มันสามารถพบได้ทั่วไปในอเมริกา แต่ยังเป็นที่สงสัยว่าสีสันที่สวยงามของมันนั้นมาจากไหน 5. ตั๊กแตนกล้วยไม้สีชมพู ตั๊กแตนกล้วยไม้สีชมพูถือเป็นสัตว์ที่มีความเป็นเลิศในด้านการพรางตัว ซึ่งสามารถพบได้ในป่าเขตร้อนของอินโดนีเซียและอินเดีย มันเป็นแมลงที่สามารถเปลี่ยนสีตัวเองให้กลมกลืนกับดอกกล้วยไม้จนคุณแทบแยกไม่ออกเลยหล่ะ ส่วนอาหารของมันคือแมลงชนิดอื่นๆ และคาดว่าน่าจะกินเกสรดอกไม้ด้วย…
-
ชมความงดงามของไก่ฟ้าสีทอง ซึ่งเป็นหนึ่งใน ‘นก’ ที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในโลก
เราอาจจะเคยเห็นนกสวยงามมาแล้วมากมาย แต่จะบอกว่าที่เห็นน่ะ สวยได้ไม่เท่าไก่ฟ้าสีทองหรอก เพราะว่ากันว่ามันเป็นนกที่งดงามที่สุดในโลก ไก่ฟ้าสีทอง หรือ Red Golden เป็นนกชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกูล Galliformes และตระกูล Phasianidae หรือไก่ฟ้านั่นเอง ไก่ฟ้าสีทองมีถิ่นกำเนิดเนิดดั้งเดิมบนภูเขาสูง พบมากทางตะวันตกของประเทศจีน รวมถึงบางส่วนในปากีสถาน อินเดีย และศรีลังกา มันเป็นนกที่มีความสวยงามและทนทานต่ออากาศหนาวได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ตัวผู้จะมีขนหลายสี แต่ถ้าเป็นสีทองส่วนของอกจะมีสีแดง ส่วนหลังมีสีเหลืองและปีกมีสีน้ำเงิน นัยน์ตาจะเป็นวงแหวนสีน้ำเงิน ในขณะที่ตัวเมียจะมีสีน้ำตาลพื้นธรรมดา นัยน์ตาไม่มีวงแหวน เมื่อเจริญเติบโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักตัวประมาณ 500-700 กรัม มีรูปร่างป้อมและไม่มีหงอน ความพิเศษของไก่ฟ้าสีทองคือ สามารถแยกแยะเพศออกได้เมื่อมีอายุ 3 เดือน โดยดูความแตกต่างที่วงแหวนรอบดวงตาของมัน ส่วนสีขนจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งโตเต็มวัย หรือเฉลี่ยอายุประมาณ 1.5-2 ปี และมันจะมีสีขนเหมือนกับไก่โตเต็มวัย ไก่ฟ้าสีทองออกลูกในช่วงฤดูร้อนเพียงปีละครั้ง คือช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม โดยจะออกไข่ครั้งละ 5-6 ฟอง ใช้เวลาฟักประมาณ 21-23 วัน ปัจจุบัน ในประเทศไทย ก็ได้มีการเพาะเลี้ยงไก่ฟ้าสีทองเหมือนกัน ซึ่งสามารถเพาะเลี้ยงได้อย่างเสรี เนื่องจากสัตว์ชนิดนี้ไม่จัดอยู่ในสถานะสัตว์คุ้มครอง แม้ว่าสีของมันจะโดดเด่นเป็นพิเศษ และมันมองเห็นได้ยากเมื่ออยู่ในธรรมชาติ เพราะในป่าเต็มไปด้วยต้นไม้หลากสี…
-
15 ภาพสุดฮา เมื่อทิ้งลูกน้อยไว้กับพ่อเพียงลำพัง ความบันเทิงในครอบครัวได้เริ่มขึ้นแล้ว
เมื่อลูกน้อยอยู่ในการดูแลของแม่ พวกเขาจะถูกจับตามองทุกฝีก้าว เพื่อไม่ให้เล่นซนจนอาจเป็นอันตราย และจะได้รับการทนุถนอมเป็นอย่างดี แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ปล่อยให้ลูกอยู่กับพ่อ มันจะตรงข้ามกับตอนอยู่กับแม่เลย เพราะคุณพ่อเหล่านี้จะคอยหาเรื่องสนุกๆ ทำเมื่ออยู่กับลูก ทั้งเล่นแผลงๆ บ้าง พาลูกผจญภัยบ้าง รวมทั้งการปล่อยให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระ เห็นแล้วจะหัวเราะหรือสงสารเด็กดี? 1. เมื่อรถเข็นลูกพัง พ่อเลยจัดการทำให้มันใช้งานต่อได้ แต่จะดีกว่าถ้าแม่ไม่มาเห็นภาพนี้ 2. เกมก็อยากเล่น ลูกก็ต้องเลี้ยง เป็นที่รองเมาส์ให้ป๊าหน่อยละกัน 3. ลูกน้อย 3 คน ขึ้นรถทีไรทะเลาะกันทุกที พ่อเลยทำที่กั้นให้ซะเลย 4. ลูกขีดเขียนพื้นบ้าน พ่อเลยจับลูกใส่กล่อง อะ เต็มที่เลยลูก 5. เมื่อลูกสาวต้องอยู่กับพ่อในวันฮาโลวีน มันก็จะฮาร์ดคอร์หน่อยๆ 6. พ่อพยายามจะทำให้ลูกตื่นระหว่างไปเดินเล่นข้างนอก… ดูเหมือนจะไม่เวิร์คนะ นี่ก็ไม่ตื่น พอถึงบ้าน… 7. ต่างคนต่างมีพื้นที่เล่นเกมเป็นของตัวเอง แบ่งเขตกันแล้ว อย่าล้ำเส้นนะ 8.…
-
ภาพถ่ายอดีตขบวนการค้าขายทาสในอเมริกา ที่ให้ค่ามนุษย์ไม่ต่างจากสัตว์ตัวหนึ่ง…
ไฟไม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคระบาด… สิ่งเหล่านี้บางครั้งก็สร้างความเสียหายน้อยกว่าสิ่งที่มนุษย์กระทำต่อกัน ย้อนกลับในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 การเพาะปลูกฝ้ายทางภาคใต้ตอนล่างของสหรัฐฯ มีการเติบโตขึ้นมาก ส่งผลให้ความต้องการแรงงานทาสเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะปี 1815 การค้าทาสภายในประเทศกลายเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญในสหรัฐอเมริกา โดยมีกลุ่มนักธุรกิจผู้มีหน้ามีตาของสังคมได้มารวมตัวกันในจัตุรัสกลางเมือง ด้วยความตื่นเต้นที่จะซื้อมนุษย์เอาไปเป็นแรงงานทาส ด้านบนเป็นภาพของทาสชาวอเมริกันที่หนีออกมาจากการถูกขัง หลังจากรอดมาได้พวกเขาก็ได้รวมตัวกัน ก่อนจะเข้าร่วมการชุมนุมใน Cumberland Landing รัฐเวอร์จิเนียในปี 1861 และในปีเดียวกันนี้ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ส่วนด้านล่างนี้เป็นภาพการประมูลทาสที่จัดขึ้นก่อนจะเกิดสงครามกลางเมือง ใน Easton รัฐแมริแลนด์ ราวๆ ปี 1850 อาคารที่มีป้ายโฆษณาการขายทาส “Auction and Negro sales” ตั้งอยู่บนถนน Whitehall ในเมืองแอตแลนตา เมื่อปี 1864 ก่อนที่ภาคใต้จะถูกโจมตีโดยฝ่ายเหนือและมีการปลดปล่อยทาสในปีถัดมา ในยุคของการขายทาส รัฐเคนทักกี เทนเนสซี จอร์เจีย อลาบามา มิสซิสซิปปี้ หลุยเซียนา และเท็กซัส กลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักในการเดินทางไปค้าทาส โดยมีทาสมากกว่า 250,000 คนที่ถูกขนส่งไปยังรัฐต่างๆ ก่อนจะเปิดประมูลทาส ได้มีการทำโปสเตอร์โฆษณาเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเรือทาสจะมาถึงเมื่อไหร่…
-
เหล่าคู่รักร่วมแชร์ประสบการณ์ความฮาของคู่ตัวเอง ชีวิตพวกนายคงเจอแต่เรื่องบันเทิงสินะ
ว่ากันว่าใครที่มีแฟนเป็นคนขี้เล่นหรือคนตลกเนี่ยรับรองว่าชีวิตคู่ไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน เพราะเขาจะทำให้คุณหัวเราะได้และทำให้ความสัมพันธ์ของคุณเต็มไปด้วยสีสัน เหมือนกับคู่รักสายบันเทิงเหล่านี้ที่ได้แชร์ประสบการณ์ความฮาของคู่รักตัวเอง ทำให้รู้ว่าการมีคนรักเป็นคนตลกนั้นมันดีอย่างนี้นี่เอง 1. แฟนหนุ่มกลับมาในสภาพที่เมาไม่มีสติ แฟนสาวเลยเขียนโน๊ตเตือนสติให้ คนหนึ่งอ้วก อีกตัวก็จัดการกินอ้วกให้ 2. แฟนสาวตั้งใจถ่ายภาพเจ้าเหมียวนอนบนขาแฟนหนุ่ม แต่ภาพที่ได้… 3. หญิงสาวงอแงที่ช่วงหลังมานี้แฟนหนุ่มไม่ค่อยกอดเธอเลย และนี่คือการแก้ปัญหาของเขา 4. แฟนหนุ่มต้องทำงานที่บ้าน แต่เจ้าเหมียวก็อ้อนให้กอดไม่หยุด จนเขาต้องใช้วิธีนี้ถึงจะทำงานต่อได้ 5. เมื่อขอให้แฟนสาวเติมฟืนให้หน่อย ออกไปดูอีกที ก็เจอแบบนี้เลย 6. เมื่อคืนแฟนหนุ่มกลับมาเมาหนักมาก แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะชาร์ตแบตโทรศัพท์ นอกจะไม่เต็มแล้ว ยังเสี่ยงตายอีก 7. เมื่อบอกแฟนว่าหิวจนจะกินม้าได้ทั้งตัวอยู่แล้ว เธอเลยจัดแบบนี้ให้ซะเลย 8. รู้ว่าแมวแกล้ง แต่ก็ยอมให้แกล้ง 9. แฟนหนุ่มบอกว่าเธอไม่มีวันดังในโซเชียลหรอก ถ้าไม่โชว์นม… อะ จัดไป 10. แฟนชอบทักว่าใส่เสื้อสีเดิมตลอด หนุ่มเลยงัดหลักฐานว่าไม่ใช่สีเดิมเฟ้ย แต่มันแค่โทนคล้ายกัน 11.…
-
เจ้าเหมียวกระโดดดึ๋งๆ มาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ นึกว่าเป็นจิงโจ้ สุดท้ายเลยมีบ้านอยู่
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ที่เกิดมาผิดปกตินั้น ไม่ได้แปลเราต้องมีใช้ชีวิตต่างจากคนอื่น แต่เราต่างต้องการความรักและการเอาใจใส่เหมือนๆ กัน เช่นเดียวกับ Roo แมวน้อยที่มีความผิดปกติทางร่างกาย มันไม่สามารถเหยียดแขนได้เหมือนแมวทั่วไป เลยทำให้ต้องเดินสองเหมือนจิงโจ้ Roo เป็นแมวจรจัดที่อยู่กับเพื่อนซี้อีกตัวชื่อ Marigold ซึ่งเป็นแมวที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันเสมอในทุกๆ ที่ กระทั่งวันหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือแมวมาเห็น Roo พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงความพิเศษของมัน ที่ไม่ใช่แค่สภาพร่างกาย แต่มันยังเป็นมิตรกับมนุษย์อย่างเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนมันจะผูกพันกับที่ที่มันอยู่ ก็เลยไม่ยอมตามเจ้าหน้าไปยังศูนย์พักพิง ด้วยเหตุนี้ผู้ดูแลจึงได้ทำที่พักชั่วคราวให้ วางน้ำ อาหาร และเข้ามาเช็กดูมันทุกวัน เจ้าหน้าที่บอกว่าจำเป็นต้องพามันไปตรวจร่างกายก่อนเพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติ จะได้ดูแลถูกวิธี หลังจากนั้นก็ช่วยหาบ้านให้มัน เมื่อพา Roo ไปเอ็กซ์เรย์ ก็พบว่าที่ขาหน้างอนั้น เป็นความผิดปกติตั้งแต่เกิด โดยขาขวาของมันไม่มีกระดูกข้อต่อ ส่วนข้างซ้ายขากรรไกรล่างงอและสั้น “Roo สามารถเดินและวิ่งได้เหมือนแมวปกติ แต่อาจจะช้ากว่าหน่อย และเมื่อมันนั่ง มันจะดูเหมือนจิงโจ้ไม่มีผิด” ผู้ดูแลกล่าว ตอนนี้เจ้าเหมียวน่าจะอายุประมาณ 2 ปี แม้ตัวมันจะเล็กกว่าอายุ แต่มันก็เป็นแมวที่อารมณ์ดี อยากรู้อยากเห็น กินอาหารได้ปกติ และมีการตอบสนองกับมนุษย์ได้ดี…
-
ย้อนเหตุการณ์ เมื่อเกาหลีใต้มีคดีทำร้ายทหารเกณฑ์จนเสียชีวิต รู้ไหมลงโทษกันอย่างไรบ้าง!?
ขณะนี้ได้เกิดกระแสที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อนักเรียนทหารนายหนึ่งเสียชีวิตระหว่างอยู่ในค่ายและพบว่าก่อนหน้าที่เขาถูกซ้อมหลายครั้ง จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเรา แต่หากกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ จะเป็นอย่างไร? ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2014 สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่าศาลทหารเกาหลีใต้ได้ตัดสินลงจำคุกนายทหาร 4 นาย เป็นเวลา 25-45 ในปี ในข้อห้ากลั่นแกล้งทหารเกณฑ์จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต พลทหาร Yoon Seung-joo วัย 20 ปี เสียชีวิตเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2014 หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายร่างกายทุกวันเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ประเด็นดังกล่าวนี้สร้างความตระหนกตกใจให้กับชาวเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก เพราะในประเทศมีทหารมากกว่า 630,000 คน และบางคนก็รับใช้ชาตินานกว่า 2 ปี ในที่สุดผู้นำกองทัพก็ได้ประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ทั้งนี้อัยการได้เสนอให้ลงโทษผู้กระทำผิดหลักด้วยการประหารชีวิต อย่างไรก็ตามคณะผู้พิพากษา 3 คน ไม่เห็นด้วย และได้ตัดสินจำคุกเขาเป็นเวลา 45 ปี ในการพิจารณาคดีนายทหารทั้ง 4 คนไม่ได้พูดอะไรในชั้นศาล และทนายของพวกเขาก็ไม่มีข้อแก้ต่างใดๆ ให้ด้วย แต่หลังจากการคำตัดสินออกมาแล้ว จำเลยคนหนึ่งกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจทำให้พลทหาร Yoon เสียชีวิต ด้านพยานยืนยันว่าพลทหาร Yoon…
-
หมู่บ้านกลางหุบเขาในสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศรับสมัครให้ย้ายเข้าไปอยู่ แถมเงิน 2 ล้านบาท
หากเพื่อนๆ กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติสักที่ คงจะต้องใช้เงินไม่น้อยในการซื้อที่ดิน ไหนจะต้องสร้างบ้านอีก แต่มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โอบล้อมไปด้วยภูเขาและทิวทัศน์อันงดงาม ที่นอกจากจะไม่ต้องเสียเงินซื้อแล้ว ยังมีเงินค่าจ้างอยู่ให้อีกด้วย หมู่บ้าน Albinen ตั้งอยู่ในรัฐวาเล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ มีสภาพอากาศสุดโรแมนติก และมีประชากรเพียง 240 คนเท่านั้น ส่งผลให้โรงเรียนประจำหมู่บ้านต้องปิดตัวลง ทุกวันนี้จำนวนประชากรในหมู่บ้านได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กลุ่มเยาวชนของหมู่บ้านยื่นคำร้องต่อรัฐบาลให้เสนอแรงจูงใจทำให้ผู้คนเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว เพื่อที่ Albinen จะไม่กลายเป็นหมู่บ้านร้าง ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงได้วางแผนเสนอเงินให้กับคนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใน Albinen พร้อมให้การช่วยเหลือด้านการเงินอย่างถาวร สิทธิประโยชน์นี้เหมาะสำหรับทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี ที่ต้องการสร้าง ซื้อ หรือรีโนเวทบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว แผนดังกล่าวนี้จะได้รับการพิจารณาในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ หากเทศบาลเมืองยอมรับ ผู้ใหญ่ที่ย้ายเข้าไปอยู่ก็จะได้รับเงินคนละ 820,000 บาท ในขณะที่เด็กจะได้รับคนละ 320,000 บาท สูงสุดคือได้กันทุกคนในครอบครัว 4 คนด้วย นั่นหมายความว่าหากคู่สามีภรรยาย้ายเข้าไปอยู่ในหมู่บ้าน Albinen พร้อมลูก 2 คน พวกเขาจะได้รับเงินรวมทั้งสิ้น 2,300,000 บาท…
-
เจ้าหมาอลาสกันพ้นจากข้อกล่าวหา ‘ทำร้าย’ คนปั่นจักรยาน เพราะมันอ้วนเกิ๊นนน!!
เมื่อพาน้องหมาออกไปเดินเล่นข้างนอก แล้วเจ้าสุนัขของเราดันไปปะทะกับสุนัขตัวอื่นที่พบเจอกันระหว่างทางก็ถือเป็นเรื่องปกติและเข้าใจได้ ตราบใดที่มันไม่ทำอันตรายใครหรือสร้างความเสียหายอะไร แต่ไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้น เพราะบางคนจะรักแค่สัตว์เลี้ยงของตัวเอง และไม่ได้รู้สึกเอ็นดูสัตว์ของคนอื่น จนทำให้เกิดเรื่องบานปลายได้ เมื่อสัตว์เลี้ยงเกิดปะทะกัน เหมือนกับคุณ Francis Thorley วัย 84 ปี ที่พาเจ้า Mishka สุนัขพันธุ์อลาสกันมาลามิวท์ วัย 11 ปี ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ แต่แล้วมันก็ดันไปทะเลาะกับสุนัขอีกตัว จนทำให้เกิดเรื่องบานปลาย Andrea Ostholt เจ้าของสุนัขอีกตัวอ้างว่า Mishka ได้วิ่งเข้ามาหาเธอที่กำลังปั่นจักรยานพาน้องหมาเดินเล่น แล้วมันก็แยกเขี้ยวใส่ ก่อนทำท่าเหมือนจะทำร้ายสุนัขของเธอ เธอบอกว่าได้ลงจากรถจักรยานเพื่อปกป้องน้องหมาของตัวเอง แต่ยังไม่ทันไร Mishka ก็กัดเข้าที่น่องขาขวาของเธอและวิ่งหนีไป จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เจ้าของสุนัขทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ จึงนำไปสู่การพิจารณาดีในชั้นศาล โดย Thorley ถูกกล่าวหาว่าสุนัขของเขาเป็นสุนัขอันตรายเกินการควบคุม อย่างไรก็ตาม ศาลได้ตัดสินให้ Mishka ไม่มีความผิด เนื่องจากมันมีน้ำหนักมากถึง 47 กิโลกรัม และนักสัตวแพทย์ก็ยืนยันว่ามันเป็นโรคอ้วน แถมยังมีการเคลื่อนไหวช้าเกินกว่าจะทำร้ายใครได้ นั่นทำให้ทั้งคุณตาและสุนัขของเขาพ้นข้อกล่าวหาไป Thorley บอกว่า Mishka ไม่ใช่สุนัขที่ก้าวร้าว มันรักความสงบ รักผู้คน และเข้ากับสุนัขตัวอื่นได้ดี…
-
ศิลปินเปลี่ยน “ภาพโปรไฟล์” ให้กลายเป็นภาพวาดสไตล์ “มังงะ” สุดจ๊าบ
คนธรรมดาอย่างเราๆ มองอะไรก็เป็นอย่างนั้น แต่สำหรับศิลปินแล้ว ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ พวกเขาจะมองเป็นศิลปะไปซะหมด เหมือนกับศิลปินที่ไม่ได้ระบุชื่อคนนี้ เธอได้เปลี่ยนทุกอย่างที่เห็นให้อยู่ในรูปของการ์ตูน ที่มีลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างผลงานชุดนี้ที่ได้เปลี่ยนรูปคนจริงๆ ให้กลายเป็นการ์ตูน โดยยังคงรายละเอียดของภาพไว้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้าผม และเครื่องประกับ แต่ได้เพิ่มในส่วนของสีสันเข้าไป อย่างไรก็ตาม ศิลปินได้เผยบนหน้าเพจ patreon ว่างานของเธอคงไม่โด่งดังเหมือนอย่างทุกวันนี ถ้าไม่ได้รับกำลังใจและการสนับสนุนจากแฟนๆ ทุกคนนี้ ด้วยเหตุนี้ในทุกๆ เดือน เราจะได้เห็นภาพวาดใหม่ๆ บนเพจ patreon และอินสตาแกรม toonimated_draws ที่วาดตามความชอบส่วนและที่แฟนๆ ขอมา เธอบอกว่า เธอมีความสุขกับสิ่งที่ทำ และมันยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่ามีหลายคนที่ชื่นชอบผลงานของเธอ และเป็นแรงบันดาลใจให้เธอสร้างสรรค์ผลงานต่อไป เมื่อเปลี่ยนสาวสวยให้กลายเป็นตัวการ์ตูน บางทีก็ตัดสินไม่ได้นะว่าตัวจริงกับการ์ตูน แบบไหนน่ารักกว่า . เซกซี่แบบสวยๆ สาวลุคคูลๆ . . แม้จะเป็นภาพการ์ตูน แต่ความรู้สึกและอารมณ์ที่ถ่ายทอดผ่านสีหน้า ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนเดิม รักกันให้ทำปากจู๋ น่ารัก…
-
ช่างภาพตามถ่ายชีวิตประจำวันของทหารหญิงใน ‘อิสราเอล’ เมื่อว่างจากการปฏิบัติหน้าที่
เราอาจจะเคยเห็นวิถีชีวิตของทหารในค่ายกันมาบ้างแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นทหารชายซะมากกว่า ทำให้หลายๆ คน โดยเฉพาะหนุ่มๆ อยากรู้ว่าเวลาอยู่ในค่าย ทหารหญิงเค้าทำอะไรกันบ้างนะ ด้วยเหตุนี้ ช่างภาพชาวนิวยอร์กที่เกิดในอิสราเอล Mayan Toledano จึงได้ตามถ่ายภาพชีิวิตประจำวันของทหารหญิงอิสราเอลมาให้เราได้ชมกัน ภาพที่เห็นนี้ไม่ได้เป็นการจัดฉากแต่อย่างใด เพราะ Mayan ก็เคยเป็นหนึ่งในทหารหญิงอิสราเอลเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงถ่ายทอดประสบการณ์ในค่ายทหารออกมาเป็นรูปภาพ Mayan บอกว่า “การเกิดและโตในอิสราเอลแต่ต้องไปอยู่ที่นิวยอร์ก ทำให้ฉันอยากย้อนกลับไปและถ่ายทอดความเป็นจริงของวัยรุ่นอิสราเอลที่อาสาไปรับใช้ชาติโดยไม่คำนึงถึงมุมมองทางการเมือง” เวลาสื่อนำเสนอภาพทหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ทุกคนจะดูเหมือนกันหมด Mayan จึงต้องการเผยให้เห็นอีกมุมหนึ่ง เมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ในช่วงปฏิบัติหน้าที่ และที่เลือกผู้หญิง เพราะช่างภาพเองก็เคยมีประสบการณ์ช่นนี้มาก่อน ที่สำคัญ เบื้องหลังของทหารหญิงนั้นไม่ค่อยได้รับการเผยแพร่สักเท่าไหร่ อิสราเอลเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศบนโลกที่มีการเกณฑ์ทหารทั้งชายและหญิง เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ (เพราะอิสราเอลดันไปตั้งอยู่กลางดงชาติอาหรับที่เกลียดชาวยิวอย่างกับอะไรดี) โดยพวกเขาจะถูกเกณฑ์เมื่ออายุ 18 ปี และจะประจำการเป็นเวลา 2 ปี ทหารหญิงอิสราเอลในวันพักผ่อน ความคูลที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นในกลุ่มทหาร . อื้มมม นี่มันสมบัติชั้นเลิศของชาติชัดๆ ที่นอนในค่ายทหาร …
-
คนดังร่วมขอความเป็นธรรมให้เด็กสาวที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต เพราะฆ่าคนล่วงละเมิดทางเพศเธอ
ปกติแล้วเราจะไม่ค่อยเห็นเซเลบหรือคนดังเข้าไปยุ่งเร่ื่องของคนอื่นสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะคดีความต่างๆ เพราะอาจทำให้พลอยเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ แต่ดูเหมือนคดีนี้คนดังจะทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งถูกศาลของสหรัฐอเมริกาตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เพราะเธอก่อเหตุฆาตกรรมคนที่่ล่วงละเมิดทางเพศเธอ Cyntoia Brown หญิงสาววัย 29 ปี ถูกหลอกไปค้าประเวณีโดยชายที่ชื่อว่า Kutthroat ทั้งทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนจะขายเธอให้กับนายหน้า Johnny Allen วัย 43 ปี Brown เล่าในระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อปี 2004 ว่า Allen มีแผนที่จะฆ่าเธอ แต่เธอพยายามแย่งปืนมาจากเขาได้สำเร็จ และตัดสินใจยิงเขาจนเสียชีวิตในทันที อย่างไรก็ตาม เมื่อคดีนี้ได้รับการพิจารณาในชั่นศาล Brown กลับถูกศาลตัดสินให้เธอจำคุกตลอดชีวิต และเธอจะไม่มีสิทธิ์ยื่นขอรับทัณฑ์บนเป็นเวลาอย่างน้อย 51 ปี จากการตัดสินดังกล่าวนี้ ทำให้คดีของ Brown ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมและได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอ พร้อมตั้งแฮชแท็ก #FreeCyntoiaBrown จนถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปเท่านั้น แต่เซเลบและคนดังจำนวนมากก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีนี้ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ Brown อย่าง Kim Kardashian West ก็ได้โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า “ระบบความยุติธรรมล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง มันเป็นอะไรที่แย่มากเมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งต้องตกเป็นเหยื่อกระบวนการค้าประเวณี แต่เมื่อเธอมีความกล้าที่จะต่อสู้กับมันกลับถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต!” “เราต้องทำสิ่งที่ดีกว่านี้และทำให้ถูกต้อง ฉันได้โทรหาทีมกฎหมายของฉันไปแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อปรึกษาว่าพวกเราพอจะทำอะไรได้บ้างกับเรื่องนี้”…
-
สื่อญี่ปุ่นงง คนกทม. อยู่ได้ไง แม้จะมีปัญหาน้ำท่วม แต่ยังใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
เมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วม สร้างความลำบากให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จนแทบไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เพราะแค่ลำพังหนีน้ำก็ลำบากพอแล้ว อย่างไรก็ตามหากพื้นที่ไหนมีน้ำท่วมบ่อยๆ อาจจะกลายเป็นความเคยชินและใช้ชีวิตท่ามกลางน้ำท่วมได้อย่างปกติ เหมือนกับกรุงเทพฯ ในบ้านเรา ที่ต้องเจอกับภาวะน้ำท่วมขังทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก จึงทำให้พวกเขาเกิดความเคยชินและใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรื่องนี้สร้างความประหลาดให้กับชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ถึงกับงงว่าคนกรุงเทพฯ ใช้ชีวิตอยู่กับน้ำท่วมได้อย่างไร? เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ ANNnewsCH ของญี่ปุ่นรายงานว่า “เมื่อมีฝนตกหนักในกรุงเทพฯ หลายพื้นที่จะมีน้ำท่วมขัง เช่น ย่านพร้อมพงษ์ที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มาก การระบายน้ำที่ท่วมขังต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง แต่ชาวกรุงเทพฯ ยังใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” สื่อญี่ปุ่นยังบอกอีกว่าเมื่อเกิดน้ำท่วม ชาวกรุงเทพฯ จะใส่กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะเพื่อลุยน้ำไปทำงาน มีบางคนขี่จักรยาน หรือใช้มอเตอร์ไซต์รับจ้างฝ่าสายน้ำไป แม้แต่ร้านอาหารข้างถนนก็ยังคงเปิดขายได้ตามปกติ ส่วนสาเหตุของน้ำท่วมขังนั้น ทางสื่อญี่ปุ่นรายงานว่าเกิดจากสำนักงานเขตต่างๆ บวกกับการที่กรุงเทพฯ มีระบบการระบายน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ อีกหนึ่งสาเหตุหลักคือขยะจำนวนมหาศาลขัดขวางระบบระบายน้ำก็ ทั้งขวดพลาสติก ถุงพลาสติก กิ่งไม้ เสื้อผ้า แม้แต่ฟูกและที่นอนขนาดใหญ่ที่ถูกกวาดไปกับน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นชาวกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่รู้ดีว่าขยะเป็นตัวการที่ทำให้เกิดน้ำท่วม แต่ดูเหมือนไม่มีใครตระหนัก และไม่มีมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพ และทั้งหมดนี้คือข่าวที่สื่อญี่ปุ่นได้รายงานไป… ทางด้านเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพฯ ระบุว่า มีขยะที่ขัดขวางการระบายน้ำมากถึง 10-15 ตันต่อวัน…
-
วิธีการพูดคำว่า ‘สวัสดี’ ในแต่ละประเทศ เพื่อเป็นการทักทายก่อนเริ่มบทสนทนา
คุณไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาทั้งหมดเมื่อไปต่างไปประเทศ เพราะคำพื้นฐานเพียงไม่กี่คำก็สามารถทำให้คุณสื่อสารกับคนในพื้นดีได้ อาจจะพูดได้ไม่ดีพอ แต่มันก็ทำให้เขารู้ว่าคุณพยายามที่จะสื่อสาร หนึ่งในคำพื้นฐานเหล่านั้นคือ “สวัสดี” เพราะมันเป็นการทักทายแรกที่ไม่ว่าประเทศไหนก็ใช้กัน ดังนั้นเราจึงนำคำสวัสดีของ 25 ประเทศที่นักท่องเที่ยวชอบไปเย่ือนมาฝากกัน เผื่อใครไปต่างประเทศจะได้ใช้ถูก 1. ประเทศโปแลนด์ – “Czesc” การออกเสียง Czesc 2. ประเทศเยอรมนี – “Guten Tag” การออกเสียง Guten Tag 3. ประเทศสวีเดน – “Hej” การออกเสียง Hej 4. ประเทศไทย – “สวัสดี” 5. ประเทศอิสราเอล – “Shalom” การออกเสียง Shalom 6. ประเทศญี่ปุ่น – “Konnichiwa” การออกเสียง Konnichiwa 7. ประเทศอียีปต์ – “Merhaba” การออกเสียง Merhaba …
-
ชายจีนใช้เวลากว่า 36 ปีขุดลอกคูคลองข้ามภูเขา 3 ลูก เพื่อให้น้ำไหลไปถึงหมู่บ้านของเขา
น้ำนับเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งมนุษย์ ดังนั้นในการตั้งถิ่นฐานหรือตั้งเมืองต่างๆ มักจะหาทำเลที่ใกล้กับแหล่งน้ำ เพราะหากต้องใช้ชีวิตที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำ คุณก็จะพบกับความลำบากที่ไม่จบไม่สิ้น เหมือนกับหมู่บ้าน Caowangba ที่มีปัญหาเรื่องการลำเลียงน้ำเข้าหมู่บ้าน หมู่บ้าน Caowangba เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่กลางหุบเขาในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกล มีการเดินทางที่ยากลำบากจนทำให้ความเจริญเข้าไม่ถึง แม้จะมีความลำบากแต่พวกเขาก็ไม่ได้ย้ายออกไปไหน จนในที่สุด Huang Dafa ผู้นำหมู่บ้านตัดสินใจที่จะขุดคลองเพื่อเป็นเส้นทางในการลำเลียงน้ำเข้าสู่หมู่บ้าน ในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่คิดว่าเขากำลังจะทำในสิ่งที่เป็นไม่ได้ แต่ Dafa ก็ยืนยันที่จะทำให้ได้ เพราะเขาคิดว่า ภูเขามันไม่ได้ใหญ่ไปกว่านี้แล้ว ถ้าขุดทุกวัน สักวันหนึ่งเขาต้องทำสำเร็จแน่ๆ เขาไม่ได้มีอุปกรณ์พิเศษหรือตัวช่วยใดๆ มีเพียงความมุ่งมั่นและพละกำลังของเขาเท่านั้น และจะทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด แม้คนอื่นจะมองว่าเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ ก็ตาม Dafa เริ่มต้นขุดเมื่อปี 1959 และต้องใช้เวลากว่า 36 ปี ถึงจะสำเร็จ จนทำให้ทุกวันนี้หมู่บ้านของมีความเจริญมากขึ้นเนื่องจากมีน้ำไหลเข้าสู่หมู่บ้านแล้ว แต่รู้มั้ยว่าก่อนที่จะมีน้ำใช้ทุกวันนี้ หมู่บ้าน Caowangba มีความแห้งแล้งมากรวมทั้งพื้นที่รอบๆ ด้วย ทำให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำดื่มอย่างหนัก พวกเขามีบ่อน้ำแค่บ่อเดียวเท่านั้น ส่วนบ่ออื่นๆ ก็แห้งไปหมดแล้ว ชาวบ้านต้องแบ่งกันใช้น้ำให้ทั่วถึง เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ก็จะมีคนเอาเปรียบแล้วทำให้คนอื่นไม่มีน้ำกิน แล้วมันไม่ใช่แค่น้ำกินนะ แต่มันหมายถึงน้ำที่จะเอาไปใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ…
-
คุณพ่อทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถถึงในบ้าน แต่ตำรวจกลับจะจับเขาเข้าคุกซะงั้น!?
ตามที่เราหลายคนเข้าใจคือ เราสามารถใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นได้โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย ในกรณีที่เป็นการป้องกันตัว เหมือนกับ Carl Sinclair ที่เข้าใจแบบนั้น จึงได้ทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถในบ้าน แต่สุดท้ายเขากลับถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย!? ในวันที่เกิดเหตุนั้น Carl เห็นคนร้ายกำลังจะเข้ามาขโมยรถของเขาที่จอดไว้ ขณะนั้นภรรยาและลูกๆ สามคนกำลังนอนอยู่ในบ้าน ด้วยความเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการปกป้องครอบครัวและทรัพย์สิน เขาจึงคว้าค้อนวิ่งออกไปข้างนอก ปะทะกับโจร ก่อนจะกดหัวเขาไว้กับพื้น จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ แต่แทนที่จะจับคนโจรไปดำเนินคดี กลับจับ Carl ในข้อหาทำร้ายร่างกายซะงั้น เมื่อไปขึ้นศาล คณะลูกขุนได้ทำการพิจารณาคดีเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแล้วตัดสินให้เขามีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย นั่นทำให้เขาต้องเสียหน้าที่การงานไปทันที แน่นอนว่า Carl ไม่เข้าใจกับการตัดสินในครั้งนี้ และเขามองว่าระบบความยุติธรรมช่างเป็นอะไรที่ตลกสิ้นดี “ผมไม่ใช่คนร้าย แต่ชีวิตผมกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเพราะคำตัดสินที่ไม่ยุติธรรมนี้ ผมเป็นพ่อ เป็นสามีธรรมดาคนหนึ่งที่แค่อยากทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าครอบครรัวที่คอยปกป้องครอบครัวที่ผมรัก” แม้จะพยายามบอกเหตุผลให้ศาลฟังยังไงก็ไม่ได้ผล สุดท้ายเขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 11 เดือน ตลอดเวลาที่เขาอยู่ในคุกนั้น ภรรยาและลูกต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนที่หารายได้ให้ครอบครัวใช้จ่ายในด้านต่างๆ นั่นทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียบ้านไปเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน แม้ว่าปัจจุบันจะออกจากคุกแล้ว แต่ Carl ยังเจ็บใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาบอกว่า “อะไรคือความยุติธรรม? ผมสู้กับโจรที่จะเข้าขโมยและจับเขาไว้ได้ แต่สุดท้ายคนที่ได้รับโทษกลับเป็นผม” “ที่สำคัญคนร้ายที่พยายามจะเข้ามาในบ้านของผมนั้น ถูกจำคุกเพียง 8 สัปดาห์ ทั้งๆ ที่ ถ้าเขาเข้ามาโดยที่ผมไม่รู้…
-
ไอจีศิลปะแห่งอาหารเช้า คว้า “ไข่ดาว” มาทำเป็นรูปภาพแหวกแนว สุนทรีย์ไปอีก
สำหรับคนที่ทำอาหารเป็น อาจจะรู้สึกกับสนุกกับการทำอาหาร แต่คนที่ทำอาหารไม่เนี่ยสิ หิวเมื่อไหร่ไม่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้ม วนกันอยู่แค่เนี๊ยะ จนรู้สึกว่าการเข้าครัวช่างเป็นอะไรที่น่าเบื่อซะจริงๆ ถ้าคุณกำลังคิดแบบนี้อยู่ เราจะบอกว่าแค่ทำไข่ดาวเป็น มันก็มากเพียงพอแล้วสำหรับการเข้าครัวในแต่ละครั้ง เพราะเมนูไข่ดาวจะทำให้คุณสนุกกับการทำอาหารแบบไม่มีสิ้นสุด เหมือนผู้ใช้อินสตาแกรม @the_eggshibit ที่ได้โพสต์ภาพไข่ดาวในรูปร่างต่างๆ ทำให้รู้ว่าไข่ดาวไม่จำเป็นต้องมีไข่แดงอยู่ข้างในแล้วล้อมด้วยไข่ขาวเสมอไป แต่มันสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามใจชอบ เคยเห็นเค้าทำลาเต้อาร์ตมั้ย แบบว่าวาดลวดลายบนกาแฟน่ะ นี่ก็เหมือนกัน แค่เปลี่ยนกาแฟเป็นไข่เท่านั้นเอง แล้วจะเรียกว่าไข่อาร์ตก็ได้นะ สำหรับเจ้าของไอเดียไข่ดาวนี้เป็นศิลปินที่อาศัยอยู่ในเม็กซิโก แต่เขาไม่ได้ระบุชื่อเอาไว้ อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นผู้จุดประกายให้ผู้คนอยากเข้าครัวมากขึ้น เพื่อทำเมนูไข่ดาวตามใจฉัน ส่วนแรงบันดาลใจในการทำไข่ดาวให้เป็นรูปร่างต่างๆ นั้น ไม่ต้องไปมองไกล เอาสิ่งที่เห็นรอบๆ ตัวนี่แหละ ไม่ว่าทำเป็นตัวละครจากหนัง สถานที่ท่องเที่ยว หรือสัญลักษณ์ต่างๆ มาปรับใช้ หากลองเข้าไปดูในไอจี @the_eggshibit จะเห็นว่ามีแต่ไข่ดาวล้วนๆ แต่ถูกทำให้รูปร่างต่างกัน จนตอนนี้มีคนเข้าไปติดตามแล้ว 2,200 คน ใครอยากได้ไอเดียทำไข่ดาว ก็เข้าไปติดตามได้นะ เกม Pac-Man ก็มา รูปโลก อาจจะต้องมีศิปละในการแยกไข่แดงกับไข่ขาวนิดนึง …
-
ควีนอลิซาเบธและเจ้าชายฟิลิป ถ่ายภาพฉลองชีวิตคู่ที่ยืนยาวที่สุดในราชวงศ์อังกฤษ
สร้างความประทับใจให้ผู้คนจำนวนมาก เมื่อสื่อนอกเผยภาพขณะที่ควีนอลิซาเบธและเจ้าชายฟิลิปถ่ายรูปครบรอบการแต่งงาน 70 ปี ที่ถือเป็นความสำเร็จด้านชีวิตคู่ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ ภาพดังกล่าวถ่ายที่ White Drawing Room ใน Windsor Castle เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม โดยช่างภาพชาวอังกฤษ Matt Holyoak เผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นของทั้งสองพระองค์ ควีนอลิซาเบธในวัย 91 ปี สวมชุดสีครีมจากห้องเสื้อ Angela Kelly พร้อมกับเครื่องประดับและแหวนเพชรที่เป็นเครื่องหมายครบรอบแต่งงานของเธอ นอกจากนี้ที่อกด้านซ้าย เธอได้ติดเข็มกลัดสีเหลืองทองที่ประกอบด้วยทับทิมและเพชร ซึ่งออกแบบโดย Andrew Grima และเป็นของที่เจ้าชายฟิลิปได้มอบให้เธอเป็นของขวัญส่วนตัวเมื่อปี 1966 ข้างๆ ของควีนอลิซาเบธคือเจ้าชายฟิลิปในวัย 96 ปี สวมแจ็คเก็ตผ้าสักหลาด ส่วนกางเกงเป็นผ้าสักหลาดอ่อนสีเทาไม่มีลาย โดยยืนในท่าทางที่ดูผ่อนคลายและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน สำหรับวันครบรอบปีนี้ ควีนอลิซาเบธรู้สึกตื่นเต้นมาก โดยต้องการที่จะจัดงานครบรอบให้เป็นส่วนตัวและพิเศษกว่าที่ครั้งที่ผ่านมา พร้อมเชิญเพื่อนสนิทมาร่วมทานมื้อคำด้วยกันที่ State Apartments ใน Windsor Castle แน่นอนว่าการจัดงานนี้ที่มีลักษณะตรงข้ามงานแต่งงานของพวกเขาที่จัดขึ้นที่ Westminster Abbey เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1947 เพราะครั้งนั้นได้มีการจัดให้เฉลิมฉลองกันทั่วโลก อย่างไรก็ถาม ทั้งโลกก็คงร่วมยินดีกับทั้งคู่ เพราะนอกจากจะเป็นการฉลองครบรอบแต่งงาน…
-
ตามชมชีวิตชนเผ่าในอินโดฯ ที่ผู้หญิงต้องตัดข้อนิ้วออกเมื่อมีคนในครอบครัวเสียชีวิต
ตามชนบทนั้นมักจะมีความเชื่อหรือวัฒนธรรมโบราณที่สืบทอดกันหลายชั่วอายุคน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยุคสมัยมีการเปลี่ยนแปลง บางวัฒนธรรมก็ค่อยๆ เลือนหายไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้มีหลายวัฒนธรรมที่ยังคงได้รับการปฏิบัติและสืบทอดอย่างเคร่งครัด หนึ่งนั้นคือวัฒนธรรมตัดข้อนิ้วมือของคนชนเผ่า Dani ในประเทศอินโดนีเซีย ชนเผ่า Dani อยู่ในหมู่บ้าน Baliem Valley ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลของประเทศอินโดนีเซีย ถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อปี 1938 จากการค้นพบในครั้งนั้น ทำให้หมู่บ้านดังกล่าวได้รับความสนใจจากคนภายนอกจนถึงปัจจุบันนี้ หนึ่งในนั้นคือช่างภาพที่ชื่อว่านาย Markus Roth ที่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขานานถึงหนึ่งสัปดาห์ ตลอดระยะเวลาที่ได้อยู่กับชนเผ่า Dani ช่างภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับอาหารของพวกเขา ทักษะชีวิตพื้นฐาน และพิธีกรรมต่างๆ นอกจากนี้ Markus ยังได้เห็น Pig festival ซึ่งเป็นเทศกาลที่ชาวบ้านจะทำการฆ่าสัตว์พร้อมนำเสนอให้ทุกคนเห็นอย่างภาคภูมิใจ Markus จาก Pulheim ประเทศเยอรมนี กล่าวว่าหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของชนเผ่า Dani คือมัมมี่ของ Kurulu ซึ่งมีอายุอย่างต่ำ 370 ปี “มันเป็นศพมัมมี่ของนักรบที่ประสบความสำเร็จและน่าเกรงกลัว ซึ่งถูกเก็บไว้ในบ้านของผู้ชายในหมู่บ้าน และจะเอาออกมาให้ผู้มาเยือนดูอย่างภาคภูมิใจ” ช่างภาพกล่าว ชาวบ้านบอกกับเขาว่า “ทุกครั้งที่นักรบฆ่าเหยื่อได้ เขาจะสวมสร้อยคอเพิ่มมา 1 เส้น นั่นหมายความยิ่งนักรบสวมสร้อยคอมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นคนที่น่ากลัวมากเท่านั้น และเมื่อเขาตายไป ชนเผ่า Danis จะเก็บรักษาศพเขาไว้เป็นมัมมี่” …
-
13 สิ่งประดิษฐ์สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากปัญหาโลกร้อน
ทุกวันนี้มนุษย์เราต่างทำทุกอย่างเพื่อความสะดวกสบาย ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้มักเป็นการทำร้ายโลกให้เสื่อมโทรมลงอย่างช้าๆ แต่น้อยคนนักที่หันมาดูแลโลกอย่างจริงจัง ด้วยเหตุนี้นักประดิษฐ์สีเขียวหรือนักประดิษฐ์รักษ์โลก จึงได้สร้างสิ่งประดิษฐ์ช่วยโลกขึ้นมา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้โดยไม่ทำร้ายโลก ในทางตรงข้าม มันยังเป็นการช่วยโลกได้อีกด้วย 1. สร้างสเก็ตบอร์ดจากตาข่ายจับปลาที่ไม่ใช้แล้ว บริษัท BUREO ในชิลี ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มเพื่อน 3 คน พวกเขาได้ผลิตสเก็ตบอร์ดจากตาข่ายจับปลาที่ติดอยู่ตามชายฝั่งในชิลี เพื่อเป็นการไม่เพิ่มพลาสติกให้โลก ทั้งยังเป็นการเก็บกวาดขยะพลาสติกที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลด้วย นอกจากสเก็ตบอร์ดแล้ว พวกเขายังนำพลาสติกมาทำเป็นแว่นกันแดด เสื้อผ้า และสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย…สำหรับภาพด้านบนนั้น ชายคนหนึ่งนอนอยู่กลางขยะที่เก็บได้จากทะเล เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักก่อนจะทิ้งขยะลงน้ำ 2. ม่านอาบน้ำถาวร ม่านอาบน้ำนี้มีชื่อว่า Spiky ทำขึ้นโดยนักประดิษฐ์สีเขียว มันเป็นม่านที่จะพองตัวขึ้นเมื่อครบเวลาที่กำหนด คือเมื่อคุณอาบน้ำไป 4 นาที ม่าน Spiky จะพองตัวขึ้น เพื่อผลักคุณออกไป เป็นการช่วยไม่ให้เราใช้น้ำมากเกินไป 3. หม้อพลังงานแสงอาทิตย์ นี่คือ Solar Cookers International ที่สามารถหุงข้าว หรือทำอาหารโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีต้นทุนต่ำและทำเองได้ 4. อุปกรณ์ทำความสะอาดมหาสมุทร โปรเจกต์ Seabin…
-
หนุ่มเอาแผ่นอุ่นไปไว้ข้างบ้านให้แมวจร เดินออกมาดูเจอแขกแปลกหน้ามานั่งกันสลอนเชียว
เข้าสู่หน้าหนาวแล้ว หลายคนคงเตรียมอุปกรณ์รับมือกับความหนาวพร้อมหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันหนาว ผ้านวม ถุงมือ และเครื่องทำน้ำอุ่น นั่นสำหรับมนุษย์ แล้วพวกสัตว์จรจัดอย่าง หมา แมวที่ต้องอยู่ข้างนอกล่ะ พวกมันจะหาความอบอุ่นได้จากที่ไหน? ขนพวกมันอาจจะหนาก็จริง แต่นั่นคงอุ่นไม่พอ เห็นได้ชัดจากภาพด้านล่างนี้ เมื่อหนุ่มเสียบแผ่นทำความร้อนไว้นอกบ้าน สักพักออกมาดูก็พบแก๊งแมวนั่งรับความอบอุ่น พร้อมทำหน้าสลอนเชียว ภาพนี้ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Reddit โดยคุณ whatisAlabama บอกว่า “เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่ผมทำแบบนี้ให้พวกแมวจรจัด” “ตัวสีดำที่อยู่ริมสุด มักจะกระโดดขึ้นมานั่งบนตักของผมเมื่อผมเอาอาหารออกมาด้วย แค่นั้นยังไม่พอ มันยังชอบให้ผมลูบไล้ให้ด้วย ดูเหมือนมันจะรู้สึกสบายใจเมื่อผมอยู่กับมัน อาจจะฟังดูไร้สาระนะ แต่ผมกลับรู้สึกว่าประสบความสำเร็จ ที่ทำให้พวกมันไว้ใจได้” เขาบอกอีกว่า แมวเหมียวเหล่านี้กำลังต้องการบ้าน แต่ตัวเขาเองไม่สามารถรับเลี้ยงได้ เลยช่วยพวกมันเท่าที่จะทำได้ ด้วยการนำแผ่นมาวางไว้ข้างนอกให้พวกมันทุกคืนในช่วงหน้าหนาว สำหรับแผ่นทำความร้อนนี้ สามารถซื้อได้ที่ Amazon ในราคา 400 บาท จะเอาไว้ใช้เอง หรือจะเอาไว้ช่วยเหลือสัตว์จรจัดเหมือนหนุ่มคนนี้ก็ได้นะ ที่มา iizcat
-
ตำนานแมวมัมมี่ในอียิปต์ นำไปสู่การฆ่าแมวหลายพันตัว หวังหารายได้จากความเชื่อ!!
ในวัฒนธรรมอียิปต์นั้นมีระบบความเชื่อที่ซับซ้อนหลากหลายรูปแบบ และหนึ่งในนั้นคือ “ตำนานมัมมี่” ที่ทำเพื่อรักษาสภาพศพเพื่อรอวันฟื้นคืนชีพ นอกจากศพคนที่ถูกทำเป็นมัมมี่แล้ว ศพแมวก็ถูกทำเช่นเดียวกัน เนื่องจากคนอียิปต์ให้การนับถือแมวในฐานะเทพบาเตส (Bastet) หรือเทพเจ้าแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นหากแมวมาเกิดที่บ้านไหน คนอียิปต์จะถือว่ามันจะนำความมั่งคั่งมาให้ และใครก็ตามที่ทำร้ายแมว จะถือเป็นความผิดร้ายแรง ซึ่งอาจถูกเทพเจ้าลงโทษสถานหนักจนถึงตายได้ จากความเชื่อเหล่านี้ทำให้คนอียิปต์จัดการกับศพของแมวเหมือนกับศพมนุษย์ นั่นคือการฝังศพของพวกมันเป็นมัมมี่ โดยใส่เพชรพลอย เครื่องประดับ หรือของมีค่าลงไปด้วย โดยแมวมัมมี่จำนวนมากจะถูกฝังไว้ตามศาสนสถานต่างๆ ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ได้มีคนบางกลุ่มฉวยโอกาสนี้หาประโยชน์จากความเชื่อดังกล่าว ด้วยการเลี้ยงแมวไว้เพื่อฆ่า เมื่อแมวอยู่ในวัยที่กำหนด พวกเขาก็จะฆ่าและขายให้กับนักบวชผู้แสวงบุญหรือคนอื่นๆ ที่ต้องการนำไปประดับศาสนสถานของตน ทั้งนี้เชื่อกันว่ากลุ่มคนดังกล่าวนี้น่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการฝังศพแมวมัมมี่จำนวนมหาศาลที่ถูกเคยค้นพบในปี 1888 ในปี 1888 ขณะที่ชาวนาคนหนึ่งกำลังขุดบ่อน้ำในทะเลทรายที่อยู่นอกเมือง Beni Hasan ห่างจากกรุงไคโร ของอียิปต์ประมาณ 160 กิโลเมตร เขาได้ขุดเจอศพแมวมัมมี่ แค่ตัวแรกก็ประหลาดใจแล้ว แต่ปรากฏว่ายังเจอตัวที่สอง ที่สาม เขาจึงขุดต่อไปเรื่อยๆ จนทำให้พบศพแมวกว่า 80,000 ตัว ที่ถูกฝังอยู่ที่นั่น การค้นพบในครั้งนี้ ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก และในไม่ช้าที่นั่นก็เต็มไปด้วยชาวบ้านที่มาหาของมีค่าที่ถูกฝังไว้กับแมว จากการค้นคว้าคาดว่าแมวเหล่านี้ถูกฝังในช่วง 2,000 ปีก่อนคริสตกาล …
-
ทหารผ่านศึกวัย 83 ปี ยืนเฝ้าโลงศพเพื่อนรัก เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้ตอนสมัยร่วมรบด้วยกัน
เพื่อนคือคนที่จะคอยอยู่ข้างคุณในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะทุกข์หรือทุกข์ และเพื่อนแท้ต้องไม่ผิดคำสัญญา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เหมือนกับคุณตาทหารผ่านศึกวัย 83 ปีคนนี้ ที่ได้ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนรักตอนเป็นหนุ่มๆ เมื่อครั้งร่วมรบด้วยกันในสงครามเวียดนาม นี่เป็นเรื่องราวของ William H. Cox และ James ‘Hollie’ Hollingsworth ที่รอดจากการสู้รบในวันคริสต์มาสอีฟ ณ สมรภูมิภูเขาหินอ่อน ในประเทศเวียดนาม เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปี 1968 ในช่วงวันคริสมาสต์อีฟ เมื่ออดีตนาวิกโยธินทั้งสองกำลังร่วมรบในสงครามเวียดนาม ในวันนั้นกองทหารของพวกเขาถูกข้าศึกโจมตีอย่างหนัก ทั้งสองซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ต้องพยายามเอาชีวิตรอดจากทั้งปืนใหญ่และระเบิด พวกเขาคุยกันเล่นๆ ว่า ถ้าพวกเขารอดไปได้ พวกเขาจะนัดเจอกันทุกๆ ปีในวันนี้ แน่นอนว่าพวกเขารอดออกมาได้ นับตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนสนิท และต้องนัดเจอกันทุกปีตามคำสัญญา และเมื่อปีก่อน Cox ก็ได้เดินทางจากรัฐเซาท์แคโรไลนาไปยังรัฐจอร์เจีย เพื่อไปหาเพื่อนรัก Hollingsworth ในวัย 80 ที่กำลังป่วยหนัก ในระหว่างการพบปะกันครั้งนี้ Hollingsworth ได้ขอให้เพื่อนรักให้สัญญากับเขาอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งเป็นคำสัญญาครั้งสุดท้ายของทั้งสองคน เขาได้ขอให้เพื่อนรักยืนเฝ้าโลงศพของเขาและเป็นคนกล่าวคำสรรเสริญในงานศพของเขา ซึ่ง Cox ก็ตกลง และสัญญาว่าจะทำตามที่เขาขอ แม้จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่ไปอยู่ในสถานการณ์นั้นก็ตาม จากนั้นทั้งคู่ก็ได้นั่งคุยกัน…
-
หนุ่มตัดสินใจเสี่ยงชีวิตกระโดดลงไปช่วยเหลือ ‘เจ้าหมี’ ที่กำลังจะจมน้ำ โดยไม่ห่วงตัวเอง
เป็นที่รู้กันดีว่าหมีเป็นหนึ่งในสัตว์นักล่าที่อันตรายที่สุดในป่า และมันพร้อมที่จะโจมตีเหยื่อทุกเมื่อ แม้จะอยู่ในระยะไกลก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงมัน อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์หมีอาจตกอยู่ในอันตรายและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง หากคุณเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์นั้น จะทำอย่างไร? แน่นอนว่าเราต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าสัตว์ป่าให้มาช่วยเหลือและส่งมันกลับสู่ธรรมชาติ แต่สำหรับนักชีววิทยา Adam Warwick ไม่อาจรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าสัตว์ป่าได้ เพราะกลัวว่าหมีจะตายซะก่อน ในที่สุดเขาตัดสินใจเข้าไปช่วยหมีที่กำลังจะจมน้ำด้วยตัวเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2008 เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าได้รับแจ้งจาก Florida Fish and Wildlife Conservation Commission ว่าพบหมีมาเดินใกล้กับย่านชุมชน ในเขตฟลอริด้า เมื่อได้ยินดังนั้น เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าจึงได้รีบไปยังที่รับแจ้งทันที เพื่อหยุดยั้งหมีก่อนที่มันจะทำอันตรายกับผู้คนในชุมชนดังกล่าว พวกเขาจัดการกับหมีด้วยวิธีที่คุ้นเคย นั่นคือการยิงลูกดอกยาสลบให้มัน แต่เกิดความผิดพลาดเมื่อหมีตื่นตระหนกจนวิ่งหนีลงไปในทะเล เจ้าหมีได้ว่ายห่างออกไปเรื่อยๆ พร้อมกำลังที่ค่อยๆ อ่อนแรงลง เพราะฤทธิ์ลูกดอกยาสลบ นั่นทำให้มันมีโอกาสจมน้ำสูงมาก ขณะนั้นทุกคนต่างเฝ้าดูด้วยความเป็นห่วงและคิดหาวิธีที่จะพามันขึ้นฝั่ง แต่ Adam ที่เฝ้าดูอยู่ เกรงว่าหมีจะจมน้ำตายซะก่อน เขาจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเจ้าหมีขึ้นฝั่งให้ทันเวลา ว่าแล้วเขาก็ถอดเสื้อ ถอดรองเท้า แล้วกระโดนลงไปในน้ำ เพื่อไปช่วยเจ้าหมีตัวนั้นที แม้ว่ามันจะมีน้ำหนักมากถึง 170 กิโลกรัม แต่ในที่สุด Adam…
-
เรื่องราวของ Markie Pasternak ผู้มีความจำเป็นเลิศ มีเพียง 60 คนบนโลกที่มีความสามารถนี้!!
เราทุกคนในโลกต่างก็อยากมีความจำดี เพราะการจดจำรายละเอียดต่างได้ดีจะนั้นส่งผลต่อการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการงาน แต่ความเป็นจริงแล้ว มีน้อยคนนักที่จะมีความจำเป็นเลิศ เห็นอะไรจำได้หมด เหมือนกับ Markie Pasternak ที่ค้นพบความสามารถด้านการจำของตัวเองเมื่อปี 2014 ระหว่างเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Marquette University รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา หญิงสาวได้ค้นพบความสามารถของตัวเองขณะที่นั่งเรียนวิชา Learning and Memory ของสาขาจิตวิทยาที่ทดสอบความสามารถของผู้เรียนเกี่ยวกับความจำในด้านต่างๆ ในการทดสอบนี้ อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละคนนึกย้อนไปถึงอดีตของตัวเอง แล้วให้เขียนลงไปว่าจำอะไรได้บ้าง ในขณะที่นักศึกษาส่วนใหญ่จำได้แต่ภาพรวม ไม่สามารถจำรายละเอียดยิบย่อยได้ แต่ Pasternak กลับจำได้ทุกรายเอียด วันที่ เดือน และปี หลังจากจบคลาสในวันนั้น อาจารย์ได้แนะนำให้เธอไปทดสอบความสามารถด้านการจำ ผลปรากฏว่าความสามารถด้านการจำของเธอนั้นอยู่ในเกณฑ์เดียวกับคนที่เกิดมาพร้อมกับ Highly Superior Autobiographical Memory (HSAM) หรือก็คือความสามารถด้านการจดจำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นเลิศ ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษที่ว่านี้หายากมากๆ ในคนทั่วไป มีเพียงแค่ 60 คนจากทั่วโลกเท่านั้นที่มีความสามารถแบบนี้ ด้วยความพิเศษนี้ทำให้หญิงสาวสามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอตั้งแต่ปี 2005 จนถึงได้ปัจจุบันได้อย่างละเอียดโดยไม่มีผิดพลาดเลย หญิงสาวบอกว่าเมื่อต้องนึกถึงวันที่ผ่านมา…
-
สาวใหญ่นักธุรกิจวัย 55 ตัดสินใจ ‘ลดพุง’ ของตัวเอง จนมีหุ่นเช้งกระเด๊ะ เหมือนสาววัยแรกรุ่น
เมื่ออายุมากขึ้น รูปร่างก็จะเปลี่ยนไปตามวัย ผิวหนังที่เคยกระชับก็จะหย่อนยานขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้มีการบำรุงหรือดูแลอย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับ Angela Middleton นักธุรกิจหญิงวัย 55 ปี ที่ต้องอยู่กับผิวที่เหี่ยว หน้าท้องหย่อนคล้อย หลังจากที่คลอดลูกไปแล้ว 6 คน อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งเธอตัดสินใจลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนพบว่ามันเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า เพราะนอกจากหุ่นจะกลับมาเช้งกระเด๊ะแล้ว ยังทำให้มีสุขภาพแข็งแรงด้วย สำหรับการเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้ Angela ใช้เวลาไปเพียง 1 ปี เท่านั้น โดยลดน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัม และมีหุ่นเหมือนยี่สิบอีกครั้ง จนใครๆ ก็พากันอิจฉา เธอบอกว่า “ฉันได้มุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง โดยพยายามรักษาเวลาที่กำหนดเอาไว้ และถ้าฉันทำได้ คนอื่นก็ทำได้เช่นกัน” นอกจากความสำเร็จเรื่องรูปร่างแล้ว เธอยังบอกอีกว่าการออกกำลังกายยังช่วยให้เธอจัดการกับงานที่ยุ่งเหยิงได้ดีขึ้นด้วย เพราะการออกกำลังกายสอนให้คุณมีระเบียบในเรื่องเวลา และมันก็สามารถนำไปใช้กับเรื่องอื่นๆ ได้ ส่วนวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้น เธอบอกว่าได้ไปลงชื่อกับ UP Fitness ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่จัดโปรแกรมลดความอ้วนสำหรับผู้หญิง Angela เริ่มด้วยการยกน้ำเป็นเวลา 1 ชั่วโมงต่อวัน และทำ 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและเลือกทานแต่อาหารเพื่อสุขภาพ…
-
คุณตาฝังรถโรงเรียนกว่า 42 คันไว้ใต้ดิน เพื่อทำเป็นบังเกอร์หลบภัยรองรับวันสิ้นโลก
ทางตอนเหนือของโตรอนโต ประเทศแคนาดา จะมีหมู่บ้าน Horning’s Mills ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบของชาวแคนาดา ที่น่าสนใจคือที่นั่นมีพื้นที่รกร้างเนื้อที่ 12.5 เอเคอร์ (ราวๆ 31 ไร่) Bruce และ Jean Beach ไว้สำหรับทำบังเกอร์หลบภัยรองรับวันสิ้นโลก หากใครที่ไม่รู้จะมองว่าในพื้นที่ดังกล่าวนั้นไม่ได้ต่างอะไรจากพื้นที่ทั่วไป แต่จริงๆ แล้ว ภายใต้พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหญ้าเขียวๆ นั้นมี The Ark Two ซึ่งเป็นที่หลบภัยขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ ที่หลบภัยของ Bruce วัย 83 ปี เป็นอุโมงค์คอนกรีต ภายใต้ความลึก 4.2 เมตร ซึ่งประกอบด้วยรถโรงเรียนเก่าๆ กว่า 42 คัน The Ark Two ถูกออกแบบให้รองรับผู้คนได้ 500 คน และสามารถอยู่ได้เป็นเวลาหลายเดือน เพราะในนั้นมีทุกอย่างที่จำเป็นต่อความอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ห้องน้ำ ระบบประปา ไฟสำรอง รวมไปถึงยารักษาโรค สำหรับอุโมงค์หลบภัยดังกล่าวนี้ Bruce ได้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 1980 ระหว่างที่เกิดสงครามเย็น…
-
แม่มัดลูกน้อยไว้กับราวบันได เหตุจากอดีตสามีจ่ายค่าเลี้ยงดูน้อยกว่าที่ตกลงกันไว้!?
ทุกวันนี้การที่คู่สามีภรรยาทะเลาะกัน เลิกกัน หย่ากัน กลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมเสียแล้ว และผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการตัดสินใจเหล่านี้ก็มักจะเป็นลูกของพวกเขา เหมือนกับเด็กชายคนนี้ที่ถูกแม่มัดติดไว้กับราวบันได โดยอ้างว่าอดีตสามีขาดการจ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นเงิน 5,000 บาท เลยตัดสินใจทำร้ายลูกเพื่อเป็นการประชด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองเล่ยหยาง มณฑลหูหนาน ของประเทศจีน โดยผู้เป็นแม่ได้ถ่ายภาพลูกขณะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะส่งไปให้อดีตสามีดู เพื่อเรียกร้องเงินจากเขา เมื่อผู้เป็นพ่อเห็นภาพดังกล่าว เขาตัดสินใจที่จะไปช่วยลูก แต่ถ้าไปเองต้องใช้เวลาอย่างต่ำถึง 4 ชั่วโมง เขาจึงส่งรูปนี้ไปให้ปู่กับย่าของลูกดูเพื่อขอความช่วยเหลือเพราะทั้งคู่อยู่ใกล้กว่า ภายใน 20 นาที ปู่กับย่าก็มาถึงที่เกิดเหตุ และช่วยแก้มัดให้หลานชายตัวน้อย และอยู่ปลอบใจเขาให้หายกลัว… ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า “ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนกระทั่งถึงวันที่อดีตภรรยาของผมมัดลูกไว้กับราวบันได ผมได้ส่งเงินให้เธอไปแล้ว 65,000 บาท” “แต่เหตุผลที่เธอทำร้ายลูกแบบนั้น เพราะวันนั้นผมให้เธอแค่ 4,900 บาท แทนที่จะเป็น 9,900 บาท เหมือนทุกครั้ง” ต่อมาภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปทั่วสังคมออนไลน์ของจีน โดยตามรายงานบอกว่าพ่อแม่ของเด็กชายหย่าร้างกันเมื่อปี 2016 ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอยู่กับแม่ ส่วนคนน้องลูกกับพ่อ และนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ผู้เป็นพ่อได้ขอให้อดีตภรรยาช่วยดูแลลูกคนเล็กเป็นเวลา 1 ภาคการศึกษา โดยเขาจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ 9,900 บาท ต่อเดือน…
-
คุณแม่หน้าเด็กวัย 40 ปี โพสต์ภาพคู่กับลูกสาว ทำเอาชาวเน็ตคิดว่าเป็นพี่สาวของลูกๆ ซะอีก
อายุของคนเรามักจะบ่งบอกออกมาทางใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ความเหี่ยวย่น ระดับความหยาบกร้าน แต่กับบางคนกลับมีหน้าตาที่สวนทางกับอายุซะเหลือเกิน เหมือนกับ Kienya Booker วัย 40 ปี ที่หน้าเด็กซะจนใครๆ ก็คิดว่าเธอเป็นเพื่อนกับลูกสาวทั้งสองคนของเธอ ทั้งๆ ที่คนพี่ K’Lienya ก็อายุ 18 ปีแล้ว ในขณะที่คนน้อง Kolieya อายุ 16 ปี ความหน้าเด็กของ Kienya ถูกแชร์ไปทั่วโซเชียลเมื่อเธอโพสต์รูปภาพที่เคยถ่ายกับลูกสาวตอนพวกเขาอายุ 13 และ 12 ปี กับอีกรูปเป็นภาพถ่ายล่าสุดของพวกเขา สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตสะดุดตาคือ ลูกสาวทั้งสองได้มีการเปลี่ยนแปลงตามวัย แต่ Kienya กลับดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ที่สำคัญเธอดูเหมือนพี่สาวของลูกๆ ซะมากกว่า หน้าตาที่ดูเหมือนอยู่วัยเดียวกับลูกสาว ทำให้กลายคนเข้าใจว่าเธอเป็นคุณแม่วัยใส หรือคนที่มีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นหมายความตอนนี้เธอก็คงอายุห่างจากลูกๆ ไม่มากนัก แต่เปล่าเลย Kienya เผยว่าเธอนั้นอายุ 40 ปีแล้ว นั่นยิ่งทำให้ชาวเน็ตทึ่งหนักไปอีก เพราะดูในภาพแล้ว แยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าใครเป็นแม่ หลังจากที่ภาพของเธอถูกแชร์ไปทั่วโซเชียล…
-
20 การโฆษณาสุดสร้างสรรค์ ที่น่าสนใจจนต้องต้องยอมซูฮกให้กับครีเอทีฟจริงๆ
การโฆษณาถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการค้า จึงทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะทำการโฆษณาให้ออกมาน่าสนใจที่สุด เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คน ในโฆษณาแต่ละชิ้นจึงเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความตลก รวมทั้งการประชดประชัน เหมือนกับการโฆษณาต่อไปนี้ ที่จะทำให้ใครๆ ก็ต้องหันมามอง 1. การโฆษณาเปิดตัวหนัง Alice in Wonderland 2. เป็นการโฆษณาไวน์ที่น่าลิ้มลองซะจริงๆ… ใช่มั้ยหนุ่มๆ? 3. โฆษณากินเนสส์ 4. รณรงค์ต่อต้านการทุจริตทางสังคม หมายความว่าเมื่อมีการทุจริต ยังไงก็ปกปิดไม่มิด 5. กระตุ้นให้ตระหนักถึงอันตรายเมื่อฝนตก 6. ป่ายโฆษณาของ McDonald เรียบแต่เก๋ 7. โฆษณาถุงยางอนามัย 8. โฆษณาสเปรย์พริกไทย ใครโดนเข้าไปนี่ เตรียมหาลูกตาใหม่ได้เลย 9. โฆษณา Ambi Pur 10. โฆษณาหูฟัง JBL ดังแค่ไหนก็ไม่หวั่น 11. โฆษณา Pedigree 12. ต่อต้านการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ …
-
ภาพถ่ายเพื่อนเมื่อปี 2000 ถูกนำมาถ่ายอีกครั้งในปี 2017 เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคน…
บางครั้งเวลาผ่านไปไว้เหมือนโกหกเลยนะ กระพริบตาแป๊บๆ ก็ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว หรือบางทีเวลาผ่านไปแล้วเป็นปี 5 ปี 10 ปี เรายังไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเลย ช่างภาพ Josephine Sittenfeld ก็มีประสบการณ์เช่นนั้นเหมือนกัน เธอเคยถ่ายรูปเพื่อนร่วมชั้นตอนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Princeton University เมื่อปี 2000 Sophie หลังจากที่เรียนจบ Josephine ก็เก็บรูปเพื่อนๆ เอาไว้โดยไม่ได้เอาออกมาดูเลย กระทั่งหลายปีผ่านไป เมื่อทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าของพ่อแม่ เธอก็ได้เจอกับรูปภาพเหล่านี้ และเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ทางมหาลัยกำลังจะมีงานมีทติ้งศิษย์เก่าปี 15 ทำให้เธอนึกถึงรูปภาพที่เคยถ่ายเมื่อปี 2000 และตัดสินใจที่จะสร้างรูปภาพเหล่านั้นอีกครั้ง Ellie Kemper ในที่สุดหญิงสาวก็ได้สร้างชุดภาพที่มีชื่อว่า Reunion เป็นการนำภาพเพื่อนร่วมชั้นเมื่อปี 2000 กับปี 2017 มาเทียบกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าแต่ละคนเปลี่ยนไปยังไงบ้าง เพื่อนคนหนึ่งของ Sittenfeld บอกว่า “เมื่อ 20 ปีก่อน ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตบ้าง แต่ตอนนี้ ฉันสามารถบอกได้ว่าตัวเองมาไกลแค่ไหน และมันยังไม่จบลงแค่นี้ แต่ยังมีหลายสิ่งรอเราอยู่ในวันข้างหน้า” Larry …
-
ภาพวาดของ Da Vinci ที่เคยขายไป 2,000 บาท ถูกประมูลขายอีกครั้งได้ราคา 15,000 ล้านบาท!!
เมื่อกล่าวถึงชื่อ Leonardo Da Vinci หลายคนอาจจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะเขาคืออัจฉริยบุคคลที่มีความสามารถหลากหลาย โดยเฉพาะผลงานด้านศิลปะที่โด่งดัง จนมีมูลค่ามหาศาลและมีผลจนถึงปัจจุบันนี้ ล่าสุดภาพวาด Salvator Mundi ของ Da Vinci ที่เคยขายในราคา 2,000 บาท ได้ถูกนำมากลับมาประมูลอีกครั้งและขายไปที่ราคา 15,000 ล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นราคาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะเลยก็ว่าได้ “Salvator Mundi” หรือ “พระผู้ช่วยให้รอดของโลก” เป็นภาพพระเยซูคริสต์ที่ยกพระหัตถ์ขวาขึ้น ส่วนพระหัตถ์ซ้ายได้ถือโลกเอาไว้ ในปี 1958 ทาง Auctioneers Sotheby ได้ขายภาพวาดดังกล่าวในราคาเพียง 2,000 บาท เนื่องจากในตอนแรกผู้คนเข้าใจว่าภาพดังกล่าวเป็นผลงานของลูกศิษย์ของ Da Vinci เท่านั้น และนับตั้งแต่นั้นมาภาพนี้ก็มีการเปลี่ยนมือหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะหายสาปสูญไป กระทั่งเมื่อปี 2005 ถาพเขียนดังกล่าวได้ถูกค้นพบอีกครั้ง และในคราวนี้ กลุ่มศิลปินที่ติดตามผลงานของ Da Vinci ได้ทำการประเมินภาพดังกล่าวอีกครั้ง และพวกเขาก็ได้รู้ว่า จริงๆ แล้วภาพดังกล่าวเป็นผลงานของ Da Vinci โดยตรง มิใช่ของลูกศิษย์แต่อย่างใด…
-
เจ้างูสุดจ๊าบ เกิดมาพร้อมลวดลายเหมือนกับใส่แว่นตาและหนวด นี่มันงูฮิปสเตอร์ชัดๆ
งูอาจเป็นแค่สัตว์เลื้อยคลานธรรมดาตัวหนึ่งที่มีลวดลายแตกต่างกันไป แต่หากลองสังเกตดูดีๆ งูบางตัวอาจมีความเฟี้ยวแฝงอยู่ในลวดลายก็ได้ เหมือนกับเจ้างูตัวนี้ที่ถูกเรียกว่าเป็นงูฮิปสเตอร์ เพราะลายที่หน้าของมันเหมือนกำลังใส่แว่นดำอยู่ แถมยังดูเหมือนกำลังยิ้มอ่อนด้วย เมื่อไม่นานนี้ Texas Parks and Wildlife ได้แชร์ภาพที่ถ่ายโดย Karlie Gray ผู้ที่ไปเจองูเวสเทิร์นแรทสเนค (Western rat snake) กำลังเลื้อยอยู่ในป่าแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติ รัฐเท็กซัส แต่ดูจากหน้าตาแล้ว คาดว่ามันน่าจะกำลังไปร้านกาแฟที่ไหนสักที่ นอกจากใบหน้าที่ดูเหมือนใสแว่นกันแดดสีดำแล้ว เลื่อนลงมาอีกนิด จะเห็นสิ่งที่ดูเหมือนหนวดด้วย ลักษณะแบบนี้มันฮิปสเตอร์ชัดๆ สำหรับงูเวสเทิร์นแรทสเนคนั้น มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Pantherophis obsoletus ซึ่งเป็นกลุ่มชนิดงูที่อยู่กระจาย ตามพื้นที่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทาง เอเชีย อเมริกา และยุโรป นั่นหมายความว่าบ้านก็อาจมีงูชนิดนี้อยู่เหมือนกันนะ ทั้งนี้งูแรทสเนคมีคุณสมบัติคล้ายๆ กับงู Corn Snake ที่มีนิสัยไม่ดุร้าย ไม่มีพิษ เกล็ดแข็งและเรียบ มีรูปร่างที่เปรียวบาง ส่วนสีสันและลวดลายขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ ที่มา thedodo
-
ญี่ปุ่นสร้างบ้านโดมที่ทำจากโฟม น้ำหนักเบา แต่สามารถต้านแรงแผ่นดินไหวได้อย่างเหลือเชื่อ
เมื่อเกิดเหตุแผ่นเดินไหวในแต่ละครั้ง มักจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล ไม่เว้นแม้กระทั่งบ้านเรือนหรืออาคารที่คิดว่าโครงสร้างแข็งแรงแล้ว ก็ยังพังลงได้ ด้วยเหตุนี้ญี่ปุ่นจึงได้สร้างโดมที่ทนต่อแรงสั่นสะเทือน เพื่อรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นทุกเมื่อ จนตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศ บ้านพักโดมที่ทนต่อแรงสั่นสะเทือนกว่า 450 หลัง ถูกสร้างเป็นรีสอร์ทที่มีชื่อว่า Aso Farm Land ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ที่นั่นมีทั้งสวนดอกไม้และรูปปั้นไดโนเสาร์ จนกลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วเอเชีย บ้านโดมถูกสร้างจากชิ้นส่วนของโฟมที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ โดยใช้กาวติดเพื่อสร้างเป็นรูปโดม ดังนั้นบ้านทั้งหลังจึงมีน้ำหนักรวมประมาณ 80 กิโลกรัมเท่านั้น แม้จะมีน้ำหนักเบา แต่โครงสร้างของบ้านทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานสูงมาก ซึ่งสามารถรับมือกับแผ่นที่ไหวที่รุนแรงได้ ในเดือนเมษายนปี 2016 จังหวัดคุมะโมะโตะได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.0 แมกนิจูด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 49 รายและบาดเจ็บอีก 3,000 คน แต่บ้านโดมที่ทำจากโฟมจากโฟมดังกล่าวนี้ กลับไม่ได้รับผลกระทบเลย Katsuyuki Kitagawa หัวหน้ารีสอร์ท Aso Farm Land ได้ออกแบบบ้านให้เป็นรูปทรงเป็นโดม เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากงานของเขาในอุตสาหกรรมขนมญี่ปุ่น …
-
เปิดท้ายขายของในตลาด ‘ถ่านไฟเก่า’ ในเวียดนาม เปลี่ยนเศษซากความรักให้กลายเป็นเงิน
เมื่อครั้งรักยังหวานชื่น หนุ่มสาวมักจะซื้อของขวัญให้กันและเพื่อเป็นสิ่งแทนใจหรือเอาไว้ดูต่างหน้าเมื่อต้องไกลกัน แต่เมื่อรักขมขื่นจนต้องเลิกรากันไป ของขวัญเหล่านั้นก็กลายเป็นแค่เศษขยะที่ไม่ค่าต่อใจอีกต่อไป แต่หากคุณคิดที่จะนำของขวัญเหล่านั้นไปทิ้งหรือทำลาย ได้โปรดคิดให้ดีก่อน เพราะคุณอาจหาประโยชน์จากมันได้ เหมือนกับ Dinh Thang วัยรุ่นชาวเวียดนาม ที่ได้ผุดไอเดียสุดบรรเจิดสำหรับจัดการกับของที่แฟนเก่าเคยให้ แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับความรักที่พังทลาย อยู่กับของที่แฟนเก่าเคยให้อย่างอาลัยอาวร Thang เลือกที่จะนำสิ่งของเหล่านั้นไปขายเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 เขาเริ่มที่จะก่อตั้งตลาด “ถ่านไฟเก่า” ในเวียดนาม ให้คนที่เลิกกับแฟนนำของของอดีตแฟนมาขายให้กับคนที่สนใจ Thang บอกว่า “นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ไอเดียที่ผมกับเพื่อนๆ คิดขึ้นมา หลังจากที่ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับอดีตแฟนและสิ่งของต่างๆ ที่เคยรับตอนที่ยังคบกัน” “หลังจากที่เลิกกัน เราพบว่ามีของหลายสิ่งที่เคยได้รับจากแฟนเก่าและเราก็ไม่อยากเห็นมันอีกต่อไปแล้ว เพราะมันทำให้เราคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด อย่างไรก็ตาม สิ่งของเหล่านั้นยังอยู่ในสภาพดี ถ้าเราทิ้งไป มันอาจจะเป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเราจึงคิดว่าควรจะนำมันไปแลกเปลี่ยนกับคนอื่นดีกว่า” “สิ่งของได้ไปอยู่กับเจ้าของใหม่ ผู้คนได้ซื้อของใหม่ๆ ที่สำคัญคือเป็นวิธีที่ดีในการปกป้องสิ่งแวดล้อม ส่วนเราก็ได้เงินจากการขาย มันวินวินด้วยกันทุกฝ่าย” สองครั้งแรกที่เปิดตลาดถ่านไฟเก่า มีคนนำของแฟนเก่ามาขายเพียง 10 คนเท่านั้น แต่ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ก็มีคนมาขายเพิ่มมากจนพื้นที่ไม่เพียงพอ ปัจจุบัน Thang ให้ทุกคนที่ต้องการขายของแฟนเก่าเข้ามาเปิดขายฟรี ผู้ซื้อหรือคนทั่วไปก็สามารถเข้ามาชมฟรี แต่ใครที่นำของใหม่ที่ไม่ใช่ของแฟนเก่า…
-
19 สิ่งที่ผู้หญิงทำแล้วจะรู้สึกผิดมากๆ เมื่ออยู่ในช่วงที่มี “ประจำเดือน” นี่เราทำอะไรลงไป!?
เป็นผู้หญิงนี่มันไม่ง่ายเลยนะ กว่าจะออกจากบ้านได้แต่ละวัน ต้องแต่งหน้าแต่งตัวเป็นชั่วโมงๆ แหนะ แต่สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เมื่อถึงวันนั้นของเดือน ใช่ค่ะ เรากำลังพูดถึงวันที่ผู้หญิงมีประจำเดือน มันเป็นช่วงที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกหงุดหงิดในเวลา เพราะสาวๆ ต้องคอยรับมือกับความรู้สึกผิดต่างๆ อย่างเช่น 19 ข้อนี้ 1. คุณจะรู้สึกไม่อยากไปค้างบ้านเพื่อนในช่วงแดงเดือดเด็ดขาด เพราะมันจะแย่ถ้านอนเตียงคนอื่นแล้วทำให้ผ้าปูเตียงเปื้อนเลือด ซึ่งคุณจะรู้สึกผิดมากๆ 2. แม้ประจำเดือนจะเลอะที่นอน คุณก็ทำได้แค่ซักผ้าปูให้สะอาด และต้องทนใช้ที่นอนนั้นต่อไป เพราะคงไม่มีใครอยากซื้อที่นอนใหม่ทุกเดือนหรอก 3. สมัยใช้ผ้าอนามัยใหม่ๆ คุณต้องเคยเผลอทิ้งมันลงชักโครก แล้วมารู้ทีหลังว่ามันเป็นพฤติกรรมที่แย่ม๊ากมากกกกกก 4. หรือทิ้งมันลงในถังขยะโดยลืมห่อให้ดี และคนที่มาเปิดก็จะเจอกับภาพอันสยองงงง 5. การใช้ส้วมในช่วงนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องโคตรระมัดระวัง คุณมักจะพลาดทำประจำเดือนเลอะใต้ฝาครอบชักโครกเสมอ 6. หรือทำเปื้อนบนพื้น แล้วคุณก็ต้องเสียเวลาทำความสะอาด… หนักไปกว่านั้นคือมันเปื้อนผนังด้วย (เปื้อนไปได้ยังไง) 7. เวลาทิ้งผ้าอนามัยในถังขยะห้องน้ำสาธารณะที่เต็มมากๆ คุณจะรู้สึกผิดต่อคนที่มาทำความสะอาด 8. หรือแม้แต่ถังขยะคุณเองก็จะเต็มภายในเวลาอันรวดเร็ว แถมยังส่งกลิ่นเหม็นด้วย …
-
ภาพอันเจ็บปวด เมื่อเด็กมือบอนทำลายเครื่องสำอางร้าน Sephora มูลค่ารวม 42,000 บาท!!
รู้มั้ย อะไรที่ผู้หญิงหวงยิ่งกว่าชีวิต? ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่บ้าน ไม่ใช่รถ ไม่ใช่เงิน แต่มันคือเครื่องสำอาง หวงแบบว่าถ้าหายหรือพัง คนทำคือได้ไปเกิดใหม่แน่นอน ผู้ชายอาจจะคิดว่าทำไมต้องหวงอะไรเบอร์นั้น คำตอบนั้นผู้หญิงจะทราบกันดี เพราะเครื่องสำอางแต่ละชิ้นนั้นราคาไม่ใช่น้อยๆ กว่าจะได้มาครอบรองต้องเก็บตังตั้งนานแหนะ นั่นกลายเป็นเหตุผลว่าทำไมสาวๆ ผู้รักเครื่องสำอางถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อรู้ว่ามีเด็กคนหนึ่งทำลายเครื่องสำอางมูลค่ากว่า 42,000 บาท ของชอปชื่อดังอย่าง Sephora สำหรับเครื่องสำอางที่ถูกทำลายนั้นเป็นอายแชโดว์ Make Up Forever ทั้งแผง ที่ตั้งเอาไว้ให้สาวๆ เทสก่อนซื้อ ถึงจะเป็นสินค้าทดลอง แต่ราคารวมทั้งแผงก็เกือบ 50,000 เลยนะ คนที่ไปเจอภาพสุดปวดร้าวดังกล่าวคือช่างแต่งหน้า Brittney Nelson ซึ่งเธอมั่นใจว่าเป็นฝีมือเด็ก เพราะเขาหรือเธอคนนั้นคงคิดว่ามันเป็นสีทาเล็บ เลยเอานิ้วจิ้มซะอายแชโดว์เละหมดเลย ต่อมา Nelson ได้ถ่ายรูปและโพสต์ในเฟสบุ๊กว่า “อายแชโดว์ Make Up Forever มูลค่ากว่า 42,000 บาท ใน Sephora ถูกทำลายโดยเด็กมือบอนคนหนึ่ง” “แน่นอนว่าคนที่ไปชอปที่ Sephora วันนั้นต่างก็ไม่สบายใจกับสิ่งที่เห็น ดังนั้นฉันอยากขอร้องผู้ปกครองของเด็กๆ ว่ากรุณาอย่าพาลูกๆ ของคุณเข้าไปในร้านเครื่องสำอาง เพราะมันอาจจะไม่ดีต่อตัวคุณเอง คนอื่น…
-
ย้อนชมการแต่งตัวของวัยรุ่นในอดีต ที่เทียบกับปัจจุบันแล้ว มันเฟี้ยวฟ้าวแตกต่างกันซะจริงๆ
วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะแต่งตัวเลียนแบบเซเลบหรือคนดัง จะเข้ากับตัวเองหรือเปล่าไม่รู้แต่ขอให้ได้แต่งตามไว้ก่อน จะได้ไม่ตกเทรนด์ ตอนเป็นวัยรุ่นมันก็รู้สึกมั่นใจกับการแต่งตัวของตัวเองในระดับหนึ่งนะ แต่พอเวลาผ่าน ลองมองย้อนไป นี่เราทำอะไรลงไปฟะ คิดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ แต่ใครยังไม่รู้ตัว ภาพเหล่านี้อาจบอกได้ว่าสมัยวัยรุ่นคุณแต่งตัวยังไง? 1. ครั้งหนึ่ง วัยรุ่นนิยมใส่หมวกตาข่ายกันมาก ไม่ว่าจะสวมชุดอะไร ต้องมีหมวกอยู่เสมอ 2. ฮิตใส่กระโปรงชายระบาย ที่ดูยังไงก็เหมือนผ้าปูโต๊ะ 3. อย่าปฏิเสธว่าคุณไม่เคยสวมหมวกผ้ายีนส์กับแว่นกันแดด ตอนนั้นแบบมั่นใจมากอะ 4. นอกจากนี้ คุณยังจะพยายามใส่หมวกที่เข้ากับเสื้อผ้าของคุณ ไม่ว่าเป็นสีหรือลวดลาย และคิดว่านี่แหละคูลสุดๆ แล้ว 5. ที่ขาดไม่ได้คือ เข็มขัดที่มีปุ่มเหล็กอยู่รอบๆ แล้วต้องโชว์ให้เห็นด้วยนะ 6. เสื้อเปิดไหล่กับกางเกงคาปรี ก็ใส่ออกงานได้ 7. และที่ผู้ชายขาดไม่ได้คือการโชว์ลิ้นรองเท้า ใครใส่แบบนั้นคือเท่อะ 8. ครั้งหนึ่งเรามักคิดว่ากางเกงยีนส์ใส่กับอะไรก็ดูดี มาค่ะ จัดเต็มมาเลย ตัดภาพไป 9. แล้วมาดูวัยรุ่นวันนี้สิ มันช่างแตกต่างกันซะจริงๆ…
-
25 ภาพคู่รักจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังอยู่เคียงข้างกันเหมือนเดิม แสดงให้เห็นว่ารักแท้มีอยู่จริง
เชื่อมั้ยว่าในโลกนี้จะมีคนอยู่คนหนึ่งที่ทำให้เราใจเต้นแรงตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน และเขาคือคนที่เราอยากใช้ชีวิตด้วยตลอดชีวิต เหมือนกับคู่รักเหล่านี้ที่ครองรักกันมาอย่างยาวนาน แม้ต้องเจอความลำบาก อุปสรรคมากมายแค่ไหนแต่พวกเขาก็ไม่เคยปล่อยมือจากกัน นั่นแหละคือรักแท้ที่หลายคนใฝ่หา 1. หญิงสาวที่รอดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และทหารที่ช่วยชีวิตเธอเอา ใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่า 70 ปี 2. คู่รักเกย์ที่โดนดูถูกว่าเป็นแค่ความลุ่มหลงชั่วคราว แต่จนถึงตอนนี้พวกเขารักกันมา 25 ปีแล้ว 3. คู่รักที่อยู่บนปกอัลบั้ม The Woodstock(เทศกาลดนตรี) ยังคงอยู่ด้วยกันแม้จะผ่านมาแล้วถึง 46 ปี 4. หนุ่มที่หมายปองเพื่อนสาวตั้งแต่เด็ก ในที่สุดก็ได้แต่งงานกันจริงๆ 5. พ่อแม่ที่แต่งงานกันมา 60 ปีแล้ว แต่รักยังหวานชื่นอยู่เสมอ 6. คู่รักที่จัดงานแต่งขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากอยู่ด้วยกันมาถึง 70 ปี 7. คู่รักเลสเบี้ยนที่คบกันตั้งแต่ปี 1970 ในที่สุดพวกเขาก็ได้แต่งงานกันในวันครบรอบ 44 ปี 8. เพื่อนสาวที่เคยเต้นรำด้วยสมัยเด็กๆ วันนี้เธอกลายเป็นเจ้าสาวในชีวิตจริงของเขา 9.…
-
ส่องโอปป้า ‘จอง แฮ อิน’ ว่าที่หลัวแห่งชาติคนใหม่ ดีกรีพระรองแต่ไม่เป็นรองพระเอก อิแม่ไค่ได้!!
หลังจากที่ล่าสุดหลัวแห่งชาติคนล่าสุดอย่าง ซง จุง กิ เพิ่งประกาศแต่งงานกับ ซง เฮ เคียว ไปเมื่อไม่นานมานี้ จนทำให้สาวๆ กว่าครึ่งค่อนโลกอกหักไปตามๆ กัน แต่ไม่ต้องเสียใจไป เพราะ #เหมียวขี้ส่อง มีหลัวแห่งชาติคนใหม่มาแนะนำให้ทุุกคนรู้จัก บอกเลยว่า ณ จุดๆ นี้ วินาทีนี้ คงไม่มีใครฮอตไปกว่าหนุ่มน่ากิน เอ้ย หนุ่มหน้าหล่ออย่าง จองแฮอิน อีกแล้ว สำหรับโอปป้าจองแฮอินนั้น แม้ว่าจะได้รับบทเป็นพระรองซะส่วนใหญ่ แต่ออร่าความหล่อของเขาได้แซงหน้าพระเอกมาแล้วหลายคนนะจ๊ะ โดยเฉพาะซีรีส์เรื่อง You Were Sleeping หรือจะเถียง!? เรียกได้ว่าเป็นอีกคนที่ขโมยใจสาวๆ ไปแล้วครึ่งโลก (มั้ง!?) ดังนั้น เรามาทำความรู้จักเขาให้มากขึ้นอีกสักนิดละกัน จะได้สมกับเป็นแฟนตัวจริง จองแฮอิน หรือ Jung Hae In เป็นนักแสดงเกาหลีในค่าย FNC Entertainment เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี 2531 ตอนนี้อายุ 29 ปี ส่วนสัดส่วนนั้น บอกได้เลยว่าเหมาะกับสาวเอเชียอย่างเรามากๆ…
-
เทรนด์ใหม่ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจับแมวเหมียวของตัวเองวางไว้บนหัวแล้วเซลฟี่
ว่ากันด้วยเทรนในโลกออนไลน์ มันก็คงจะมีเยอะแยะเต็มไปหมดจนเราตามไม่ทัน แต่ตอนนี้มีเทรนหนึ่งที่กำลังมาแรงและคนเลี้ยงแมวไม่ควรพลาด แทน แท่น แท๊นนน มันคือเทรนการเซลฟี่ที่ชาวเน็ตจับแมวเหมียวของตัวเองมาวางไว้บนหัวแล้วรูปด้วยกัน แม้ว่าน้องแมวบางตัวจะทำหน้าไม่เต็มใจก็ตาม เพิ่มความน่ารักให้ผู้หญิงไปอีก เมื่อเอาแมวมาเซลฟี่ด้วย ต้นตอของเทรนนี้มาจากการที่ Dr. Seuss ได้สร้างตัวละครเด็กผู้น่ารักในเรื่อง Cat in the Hat โดยการวางแมวไว้บนหมวกของตัวละคร จริงๆ เรื่องนี้ก็ถูกฉายมานานแล้วนะ แต่ไม่รู้ชาวเน็ตไปสะดุดกับอะไรเข้า จู่ๆ พวกเขาก็จับแมวเหมียวของตัวมาทำเป็นหมวกบ้าง จนกลายเป็นเทรนฮิตในขณะนี้ เป็นผู้ชายมีหนวดก็แบ๊วได้ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างก็ไม่อยากพลาดเทรนนี้ แมวตัวน้อยกับเจ้าของกล้ามโต เป็นความลงตัวที่น่ารัก มุ้งมิ้งฝุดๆ นี่หน้ากากแมวดำเอง สาวอยากตามเทรน แต่ดูเหมือนน้องแมวไม่ค่อยเต็มใจเซลฟี่ด้วยนะ มนุษย์นี่ก็มนุษย์เนาะ แมวไม่เล่นด้วยก็ยังจะถ่ายให้ได้ ขนฟูฟ่องดีนัก จับทำหมวกซะเลย ดูจากสายตาเหมียวแล้ว มนุษย์ทั้งสองคนนี้คงไม่รอดแน่ๆ เจ้าเหมียวทำหน้าโกรธ เมื่อถูกเจ้าของจับวางไว้บนหัว ของจริงมันต้องแบบนี้ ยืนเอง ไม่ต้องให้จับ…
-
11 ประเภทบุคคลที่คุณควรหลีกเลี่ยง หากต้องการมีความสัมพันธ์รักที่ราบรื่น
หากคุณคิดจะใช้ชีวิตอยู่กับใครสักคน รักอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่คุณควรจะพิจารณาลักษณะนิสัย และทัศนคติของเขาคนนั้นด้วย เพราะบางคนอาจไม่เหมาะที่สานสัมพันธ์ด้วยและมันยากที่จะอยู่ด้วยกัน ดังนั้นถ้าคุณต้องการมีความสัมพันธ์ในความรักที่มีความสุข คุณควรจะหลีกเลี่ยงประเภทของบุคคลต่อไปนี้ 1. คนขี้วิจารณ์ คนขี้วิจารณ์จะไม่ชอบอะไรในตัวคุณเลย พวกเขาจะวิจารณ์ทุกอย่างทั้งเรื่องมารยาท การแต่งตัวของคุณ พวกเขาพยายามจะบอกความไม่สมบูรณ์แบบในตัวและเปลี่ยนคุณให้เป็นในสิ่งที่เขาต้องการ สำหรับคนที่ขี้วิจารณ์นั้น พวกเขามักจะคิดว่าทำไปเพราะหวังดีกับคนรัก แต่ตามกฎแล้วการคบกับคนขี้วิจารณ์ ไม่ดีต่อความสัมพันธ์รักแน่นอน 2. คนขี้หึง การคบกับคนขี้หึงดูเหมือนจะดีนะ แต่ลองคิดดูดีๆ นะ ถ้าคนรักของคุณหึงเวลาที่คุณให้ความสำคัญกับเพื่อน ครอบครัว หรือแฟนเก่า เขาคงจะกลายเป็นคนบ้าเพราะหึงแน่ๆ 3. คนขี้โกหก ถ้าคนรักของคุณโกหกตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน หลังจากนั้นเขาก็จะโกหกคุณอีก พวกเขาไม่ใช่แค่ปกปิดบางส่วนในชีวิต แต่ยังพยายามสร้างตัวตนใหม่ที่ไม่ใช่ตัวของตัวเองด้วย และแน่นอนว่าคนขี้โกหกจะไม่ไว้ใจคุณเด็ดขาด แล้วคิดหรอว่าความสัมพันธ์ที่ขาดความไว้ใจนั้นมันจะราบรื่น? 4. คนที่ชอบคิดมากไปเอง คนแบบนี้มักจะคิดว่าผู้คนทั้งโลกต่อต้านเขา ทั้งเพื่อนร่วมงาน คนรัก รวมทั้งครอบครัวของพวกเขา และมักจะเรียกร้องความสนใจ ถ้าคุณคบคนแบบนี้คุณจะต้องคอยปลอบเขา คอยอธิบายให้เขาฟังทุกอย่างตลอดเวลา คุณคิดว่าจะทำได้มั้ย? 5. คนที่ไม่รู้จักโต คนที่มีนิสัยเหมือนเด็กมักจะไม่เคยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง แต่จะให้คนอื่นตัดสินใจแทน รับผิดชอบแทน ก่อนจะทำอะไร…
-
หนุ่มเปลี่ยนสิ่งของต่างๆ ให้กลายเป็นตัวการ์ตูน หน้าตามันก็จะเป็นแบบนี้แหละ อิอิ
หากเราต้องอยู่ในสังคมเดิมๆ สิ่งแวดล้อมเดิมๆ ต้องเจออะไรซ้ำซากทุกวัน อาจทำให้เรารู้สึกเบื่อได้ แต่ถ้าคุณลองคิดต่างอีกนิด คุณสามารถทำลายความน่าเบื่อนั้นได้อย่างง่ายดายเลยหละ เหมือนกับ Keith Larsen ที่ลองเปลี่ยนสิ่งที่เจอในชีวิตประจำวันให้อยู่ในรูปของการ์ตูน พร้อมกับแต่งเรื่องให้พวกมันด้วย ดูสิ น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลย ที่แขวนสิ่งของกลายเป็นปลาหมึกใส่นวม ที่เปิดกระป๋อง ไฟสำรองกลายเป็นกบอ๊บๆ ท่อดับเพลิงมินเนี่ยน กระเป๋าสะพาย เครื่องเก็บเงินค่าจอดรถ คราดที่มีสนิมเกาะ ไฟแช็ก ลายไม้แกะสลัก หัวที่ดูดฝุ่น ฝาแก้วพลาสติก สลักกลอนประตู มันฝรั่ง เสาไม้ ที่แขวนสิ่งของกลายเป็นเจ้าช้างน้อย เครื่องสื่อสารกับคนนอกบ้าน กระปุกใส่เกลือผู้มีหน้าตาเบื่อหน่าย ที่ทิ้งก้นบุหรี่ ซิงค์น้ำที่อ้าปากรอรับน้ำ โซฟาที่มีหน้าตาคล้ายคุณยายใจดี ถ้าชีวิตมันน่าเบื่อนัก ก็ลองหาอะไรสนุกทำสิ…
-
ถ่ายภาพสไตล์บาโรก ที่ใช้เด็กผิวสีมาเป็นแบบ เพื่อให้เห็นความงามภายใต้สีผิวที่แตกต่าง
โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร ผิวสีอะไร เด็ก หรือผู้ใหญ่ ล้วนมีความงดงามอยู่ในตัวกันทั้งนั้น เราแค่ต้องเผยมันออกมา ด้วยเหตุนี้ สองสามีภรรยา Regis และ Kahran ผู้อยู่เบื้องหลัง CreativeSoul จึงได้เลือกเด็กหญิงผิวสีมาเป็นแบบให้โดยมุ่งเน้นไปที่ทรงผมของพวกเขา ทั้งคู่ได้สร้าง Afro Art ซึ่งเป็นชุดภาพที่เผยให้เห็นความงดงามของเด็กสาวผิวสีจนสะกดทุกสายตา จุดเด่นของชุดภาพดังกล่าวนี้ประกอบด้วยเสื้อผ้าที่เนี๊ยบทุกระเบียบนิ้วและทรงผมที่มีความเก๋ไก๋ในสไตล์ยุคบาโรก สำหรับ บาโรก นั้นเป็นสมัยหนึ่งของศิลปะตะวันตกซึ่งเริ่มประมาณต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี บาโรกจะเน้นความเป็นนาฏกรรม ศิลปะจะแสดงความขัดแย้งและความหรูหรา โอ่อ่า Kahran กล่าวว่า “เราคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กที่จะมองความหลากหลายของสีผิวในเชิงบวก แต่น่าเสียดายที่ค่านิยมในสังคมมักจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอจนทำให้กลายเป็นคนขาดความนับถือในตัวเอง” “ดังนั้น เราจึงหวังว่าภาพชุดนี้จะทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความงามและเอกลักษณ์ของทรงผมแอฟโฟร์ และเราก็หวังว่ามันจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กหญิงทั่วโลกในการรักความแตกต่างและความงามที่ไม่ซ้ำใครภายในตัวของพวกเขาเอง” สำหรับชุดภาพนี้ Regis และ Kahran ได้ไปถ่ายรูปของเด็กๆ ผิวสีตามรัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ โดยให้เด็กๆ สวมเสื้อผ้าที่เตรียมไปให้ ทำทรงผมแอฟโฟร์ แต่ถึงอย่างนั้นคู่รักก็ยังรักษาความเป็นธรรมชาติของเด็กๆ ไว้ได้อย่างดี เพราะนั่นคือจุดประสงค์หลักของภาพถ่าย เราไม่จำเป็นต้องพยายามสร้างความงามให้ตัวเองเพื่อให้ได้รับการยอมรักจากคนอื่น แต่แค่ภูมิใจในสิ่งที่เป็น นับถือในตัวเอง เพราะนั่นคือความงามที่หาจากไหนไม่ได้ . . . . .…
-
ปฏิกิริยาของสาวเมื่อเจอตำรวจหล่อเรียกให้จอดรถ ไม่โกรธ แต่รู้สึกเป็นเกียรติสุดๆ
ผู้หญิงเราเนี่ยมักจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองเวลาเจอผู้ชายหล่อๆ บางคนมือไม้สั่น บางคนเดินเซ บางคนพูดไม่ออก บางคนถึงกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย เหมือนกับนักแสดงตลก Jennifer Jermany ที่เปลี่ยนไปในทันใด เมื่อถูกตำรวจหล่อนายหนึ่งเรียกให้จอดรถ แทนที่จะโกรธ แต่เธอกลับรู้สึกเป็นเกียรติซะงั้น จากนั้นช่วงเวลาแห่งความขำขันก็เกิดขึ้น โดยมี Brandy Adams เพื่อนของ Jennifer ที่อยู่ในรถบันทึกวิดีโอเอาไว้ โดยหลังจากตอบคำถามเล็กๆ น้อยๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสุดหล่อเรียบร้อย Jennifer ก็ตัดสินใจลงจากรถ เพื่อไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มที่ให้เกียรติเรียกให้เธอจอดรถ เมื่อเดินไปยืนหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่ม เธอก็พบว่าเขาช่างหล่ออะไรปานน้านนน แล้วเธอก็ได้รัวความในใจกับเขาแบบไม่ห่วงภาพพจน์ว่า… “คุณเป็นตำตรวจที่ร้อนแรงและน่าดึงดูดมาก ต้องขอบคุณนะคะที่ให้เกียรติดิฉันด้วยการเรียกให้จอดรถ มันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆ ค่ะ” “ถ้ารู้ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหล่อขนาดนี้ รับรองไม่มีใครขัดขืนแน่นอน เพราะสิ่งที่คุณทำคือให้เราหยุดรถแล้วพูดว่า ‘ขอดูใบขับขี่และบัตรประชาชนหน่อยครับ’ แค่นี้ก็ทำให้ผู้หญิงอย่างฉันยิ้มได้ทั้งวันแล้ว” “นี่บอกเลยนะ ฉันจะดูคุณเดินกลับไปที่รถแบบไม่ละสายตาเลยล่ะ แล้วฉันก็อยากให้คุณรู้ไว้ว่าคุณทำหน้าที่ได้ดีมาก คุณทำให้ฉันดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่ถูกคุณเรียกให้จอดรถ” จากนั้นตำรวจหนุ่มหัวเราะเบาๆ แล้วพูดกับเธอว่า “ขอบคุณที่ชมครับ ผมก็ยินดีที่ได้พบคุณเช่นกัน” เท่านั้นยังไม่พอ Jennifer ยังพยายามสื่อไปถึงภรรยาของตำรวจคนนี้เพื่อแสดงความยินดีกับเธอว่า “คุณเป็นคนที่โคตรโชคดีเลยที่ได้เขาไป” อาการของผู้หญิงเมื่อเจอผู้ชายหล่อๆ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ เจอปุ๊บพุ่งเข้าใส่เลย…
-
หนุ่มสั่งซื้อไม้ถูพื้นออนไลน์ แต่สภาพที่ได้มาไม่ตรงปก ทำไมมันอันเล็กแบบนี้ล่ะเนี่ย!?
เดี๋ยวนี้จะซื้อของสักชิ้นไม่จำเป็นต้องไปถึงร้านแล้ว เพราะคุณสามารถสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้เลย ง่าย สะดวก และประหยัดเวลาแบบสุดๆ แต่ข้อเสียคือคุณจะไม่ได้เห็นสินค้าจริงก่อนซื้อ จะเห็นแค่รูปภาพเท่านั้น หากคุณไม่สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ่ม สิ่งที่ได้มาอาจไม่ตรงกับที่คุณคิดไว้ก็ได้ เหมือนกับ Wallace Kennedy จากสก็อตแลนด์ที่ได้สั่งซื้อไม้ถูพื้นพร้อมถังซับน้ำผ่านเว็บไซต์ eBay ให้แฟนสาว โดยไม่ได้บอกเธอก่อน แต่พอของมาส่ง มันกลับมีขนาดเล็กเหมือนกับของเล่นเด็กยังไงอย่างงั้น การสั่งซื้อครั้งนี้นับว่าเป็นบทเรียนสำหรับ Wallace ในการสั่งซื้อของออนไลน์ เนื่องจากตอนที่ตัดสินใจซื้อนั้น เขาเห็นว่ามันราคา 700 บาท เลยคิดว่าถ้าแพงขนาดนี้มันต้องมีคุณภาพแน่ๆ จึงกดซื้อโดยไม่ได้เช็กรายละเอียดหรือข้อมูลเพิ่มเติมก่อน แต่ก็มีความโชคดีอยู่บ้างที่ Rebecca ผู้เป็นแฟนสาวไม่โกรธ ตรงข้าม เธอเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลก แถมยังหัวเราะตอนที่เห็นแฟนหนุ่มพยายามลองใช้งานไม้ถูพื้นดังกล่าว Rebecca เล่าว่า “มันถูกส่งมาในกล่องขนาดใหญ่ เราเลยไม่คิดว่ามันจะเป็นของเล่น จนกระทั่งได้เปิดกล่องนั่นแหละจึงได้รู้ขนาดที่แท้จริงของมัน” “ที่ตลกคือ ตอนที่เขาเปิดกล่องออก ฉันรู้เลยว่ามีบางอย่างผิดพลาด เพราะ Wallace ทำหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนเค้าตกใจมากเลยนะ นั่นแหละทำให้ฉันหัวเราะออกมาแบบกลั้นไม่อยู่จริงๆ” จริงๆ พวกเขาเลือกที่จะคืนของชิ้นนี้ได้ แต่ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะเก็บไม้ถูพื้นของเล่นนี้ไว้ เพื่อเป็นบทเรียนและยังเป็นสิ่งเตือนใจให้ Wallace ว่าไม่ควรซื้อของโดยไม่ปรึกษาแฟนสาวก่อน…
-
โมเม้นต์สะเทือนใจ เมื่อแม่วัววิ่งตามลูกๆ ที่ถูกจับแยกไปไว้ที่อื่นด้วยเหตุผลด้านปศุสัตว์
ขึ้นชื่อว่าแม่ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ต่างก็รักและหวงลูกยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งนั้น นั่นหมายความว่าแม่จะปกป้องและไม่ยอมให้ใครพาลูกไปจากอ้อมอก เหมือนกับแม่วัวตัวนี้ที่ถูกจับแยกกับลูกด้วยเหตุผลทางด้านสุขภาพ มันจึงวิ่งไล่ตามรถคันที่กำลังพาลูกๆ ของมันไปไว้ที่อื่น คลิปขณะที่แม่วัววิ่งตามลูก จากคลิปข้างต้นนี้จะเห็นว่าแม่วัวได้วิ่งตามลูกๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เห็นได้ชัดว่ามันทำตามสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่ไม่อยากให้ใครมาพรากลูกไปจากมัน ส่วนสาเหตุที่ต้องจับแม่ลูกแยกกันนั้น ทาง RSPCA ระบุว่าลูกวัวที่เกิดใหม่มักจะถูกแยกจากแม่เพื่อลดความเสี่ยงการติดโรคที่อาจมาจากแม่ นอกจากนี้ยังต้องควบคุมปริมาณอาหารและนมที่เพียงพอด้วย การแยกแม่ลูกออกจากกันเช่นนี้มักจะสร้างความเครียดให้กับทั้งแม่และลูก ดังนั้นเวลาจะแยกผู้ดูแลจะต้องรอให้ถึงเวลาและจังหวะที่เหมาะสม เพื่อลดความทุกข์ใจให้พวกมัน วัวนมที่เลี้ยงเพื่อจุดประสงค์ทางอุตสาหกรรมจะต้องถูกจับแยกภายใน 12 ชั่วโมงหลังเกิด ยิ่งแยกเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีต่อแม่และลูกๆ เพราะหากปล่อยให้พวกมันอยู่ด้วยกันนานๆ จะยิ่งเกิดความผูกพัน จนแยกจากกันได้ยากหรือเจ็บปวดมากกว่า อย่างไรก็ตาม นักวิจัยบอกว่าลูกวัวที่เติบโตกับแม่นั้นจะแสดงพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงการมีความสุขมากกว่า เข้าสังคมได้ง่าย นอกจากนี้พวกมันจะมีน้ำหนักมากกว่า มีสุขภาพที่ดีกว่า โดยมีอัตราการป่วยและการตายต่ำกว่าด้วย แน่นอนว่าสิ่งที่คนเลี้ยงวัวทำนั้นตรงข้ามกับผลวิจัย แต่เพราะพวกเขาเลี้ยงเพื่อการปศุสัตว์ การจับแยกจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเจ้าของฟาร์ม ที่มา dailymail
-
บริษัทรถไฟญี่ปุ่นแถลงขอโทษ หลังรถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานี เร็วกว่ากำหนด 20 วินาที!!
รถไฟในประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเคร่งครัดในเรื่องเวลามาก ดังนั้นบางคนที่ต้องสัญจรด้วยรถไฟเป็นประจำถึงกับตั้งนาฬิกาให้ตรงกับเวลาของรถไฟเลย ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เกิดความผิดพลาดกับผู้ให้บริการรถไฟ Tsukuba Express ทำให้รถไฟออกจากสถานีเร็วกว่ากำหนด 20 วินาที จนทำให้หลายคนพลาดรถไฟขบวนดังกล่าวไป ตามรายงานข่าวบอกว่า ตามกำหนดรถไฟสายนี้ต้องออกจากสถานี Minami Nagareyama ในเวลา 9:44 น. แต่กลับออกในเวลา 9:43:40 ซึ่งเร็วกว่ากำหนด 20 วินาที แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล็กเลยสำหรับประเทศที่ตรงต่อเวลาเช่นนี้ ทาง Tsukuba Express จึงได้ออกมาแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ในคำแถลงการณ์ มีใจความดังนี้… เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 9:44 น. ทางรถไฟของเราได้ออกจากสถานี Minami Nagareyama ก่อนเวลาในตารางเดินรถถึง 20 วินาที เราขออภัยอย่างสุดซึ้งสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดกับผู้ใช้บริการทุกท่าน เป็นที่ทราบกันดีกว่ารถไฟในประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความตรงต่อเวลาและแม่นยำที่สุด มากกว่าหลายๆประเทศ นั่นทำให้หลายต้องคนวางแผนการนั่งรถไฟไว้เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ จึงทำให้บางคนพลาดขึ้นรถไฟขบวนดังกล่าวที่ออกเร็วกว่าปกติ 20 วินาที ซึ่งรถไฟขบวนต่อไปจะถึงสถานีใน 4 นาที ใน 4 นาทีนี้ อาจทำให้บางคนพลาดการขนส่งอื่นๆ…
-
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน กับลีลาสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินสุดเซ็กซี่ สร้างรอยยิ้มถ้วนหน้า
ทุกครั้งที่ขึ้นเครื่อง เราจะเห็นพนักงานต้อนรับแจ้งข้อปฏิบัติพร้อมสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน ซึ่งการดูครั้งแรกก็น่าตื่นเต้นนะ แต่ใครที่ต้องเดินทางบ่อยๆ คงจะรู้สึกเบื่อจนไม่อยากดูแล้วแน่ๆ ด้วยเหตุนี้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน Southwest Airlines คนหนึ่ง จึงตัดสินใจสร้างความบรรเทิงให้ผู้โดยสารด้วยการสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินในรูปแบบที่เซ็กซี่และเร้าใจสุดๆ Nicholas Demore เป็นลูกเรือที่ให้บริการบนเที่ยวบิน 1597 จากดัลลัสไปยังลาสเวกัส เขาคือผู้ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารจนทำให้ตลอดการเดินทางเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ในระหว่างที่เขาสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินนั้น Samantha Lynch Kintner หนึ่งในผู้โดยสารได้ถ่ายคลิปเอาไว้ ก่อนจะนำไปแชร์ในโซเชียล ทำเอาชาวเน็ตติดอกติดใจเพียบ พนักงานต้อนรับกับลีลาการสาธิตที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน ในคลิปด้านนี้จะเห็น Demore ทำการสาธิตพร้อมกับวาดลวดลายสุดเซ็กซี่ในแบบที่คุณไม่เคยเห็นพนักงานต้อนรับคนไหนทำมาก่อน ในช่วงแรกของคลิปจะเห็นว่าเขาเอาเข็มขัดนิรภัยพาดไว้ข้างหลัง จากนั้นก็โยกย้ายสะโพกไปมา เป็นความเซ็กซี่ปนฮาที่ใครเห็นเป็นต้องยิ้ม อย่าว่าแต่ผู้โดยสารเลย ขนาดพนักงานต้อนรับด้วยกันเองก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่ ขำหนักถึงขั้นเข่าอ่อนนั่งลงไปกองกับพื้นเลยเดียว ตอนนี้คลิปดังกล่าวมีคนเข้าไปดูแล้วกว่า 30,000 คน และถูกแชร์ไปทั่วโซเชียล โดย Kintner บอกว่า Demore ไม่ได้สร้างความประทับใจเฉพาะตอนสาธิต แต่เขาทำให้ทุกคนหัวเราะตลอดการเดินทางเลย ต่อมา ทางสายการบินได้ออกมาพูดว่า “เขารู้ว่าต้องทำยังไงเพื่อสร้างความสนุกให้กับตัวเขาเองและผู้โดยสาร และเราเองก็ต้องชื่นชมเขาที่สร้างประสบการณ์อันน่าจดจำให้กับทุกคน” ยิ่งไปกว่านั้นคือ ชาวเน็ตหลายๆ คนถึงกับอยากไปใช้บริการเที่ยวบินดังกล่าว เพื่อที่จะได้เจอพนักงานคนนี้โดยเฉพาะ …
-
17 น้องหมาที่อยากใกล้ชิดเจ้าของแบบมากๆ ตามติดเหมือนเงา จนไม่เหลือความเป็นส่วนตัว
รู้กันอยู่แล้วว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ไปไหน ทำอะไร ก็ทำด้วยกันหมด แต่ในความเป็นเพื่อนนี้ บางทีมันก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวบ้างนะ แต่ก็นั่นแหละ เมื่อสุนัขได้สนิทกับมนุษย์แล้ว มันก็อยากอยู่ใกล้ชิดตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่บนเตียง โซฟา หรือแม้แต่ในห้องน้ำ มันก็จะคอยตามคุณไปทุกที่เหมือนกับเงา พื้นที่ส่วนตัวนะเหรอ…มันไม่เปิดโอกาสให้คุณมีหรอก 1. ให้นั่งในรถแล้ว มันยังไปนั่งบนตัวเด็กอีก คงคิดว่าสบายกว่ามั้ง 2. เมื่อน้องหมาไซศ์ยักษ์อยากมานั่งดูหนังกับครอบครัวด้วย 3. เจ้าของล้ม แทนที่จะช่วย ดันมานั่งทับซะงั้น สบายมั้ยล่ะ? 4. แลดูมีความสุขกับการเอาเล็บข่วนหน้ามนุษย์นะ 5. รู้ว่ารัก แต่ไม่ต้องใกล้ชิดขนาดนี้ก็ได้มั้ง 6. ที่นั่งมีเยอะ มันก็นั่งตรงที่เด็กนี่แหละ 7. นี่หัวนะ ไม่ใช่หมอน 8. เจอแบบนี้ ไม่ต้องทำการทำงานละ 9. แม้แต่ตอนหลับ มันก็อยากอยู่ใกล้เจ้าของให้มากที่สุด 10. ส่วนใครที่เลี้ยงแมว ก็ต้องเจอความเกรียนแบบนี้แหละ…
-
หนุ่มถ่ายภาพด้วยกล้องสมาร์ทโฟน โอ้โห!! มันงดงามจริงๆ นึกว่าหยิบกล้องโปรมาเอง
เคยถามตัวเองมมั้ยว่าเสียไปเท่าไหร่แล้วเพื่อให้รูปภาพสวยๆ อวดโซเชียล บางคนลงทุนซื้อกล้องแพงๆ บางคนจ้างช่างภาพมืออาชีพ หรือแม้แต่การใช้โฟโต้ชอปเข้ามาช่วย แต่สำหรับ Mounir Belmokhtar หนุ่มวัย 19 ปี จากแอจีเรีย ผู้มีภาพสวยเกินคาดเหมือนถ่ายจากกล้องโปร ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเขาใช้แค่กล้องสมาร์ทโฟนเท่านั้น เราส่วนใหญ่มีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือแต่น้อยคนนักจะใช้มันอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะการบันทึกภาพในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะถ่ายรูปออกมาได้สวยเหมือนกันหมด Mounir เองก็เช่นกัน แม้ตอนแรกภาพที่ได้จากสมาร์ทโฟนจะไม่ได้แตกต่างจากของคนอื่น แต่เขาไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ตรงข้ามเขาได้พัฒนาสกิลการใช้กล้อง แสง สี จนทำให้ภาพออกมาได้งดงามราวกับใช้กล้องโปร สกิลการถ่ายภาพแสงในตอนกลางคืน ภาพถนนที่ปราศจากผู้คน ให้ความรู้สึกเหงาๆ ชอบกล Mounir บอกว่าทุกคนสามารถสร้างภาพที่สวยงามด้วยสมาร์ทโฟนได้ แต่ต้องอาศัยการเรียนรู้ การฝึกฝนบ่อยๆ แล้วคุณจะรู้เองว่าควรจะทำยังไงให้ได้ภาพตามต้องการ . . . . . . . . . . . . . . บางครั้งคุณต้องรู้ว่าควรเล่นกับกล้องยังไง…
-
ศิลปินวาดภาพ “เสียดสีสังคม” สะท้อนปัญหาของมนุษย์ที่อยู่ภายใต้ค่านิยมของยุคปัจจุบัน
ทุกวันนี้มีปัญหาเกิดขึ้นในสังคมมากมายและเราต่างก็รู้อยู่แก่ใจ แต่หลายคนไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านั้น จนกลายเป็นคนทุกคนอยู่กับปัญหาสังคมด้วยความเคยชิน ด้วยเหตุนี้ศิลปิน Gunduz Aghayev จึงได้วาดภาพที่มุ่งเน้นให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาสังคมอย่างจริงจัง และแสดงให้เห็นถึงความจริงของสังคมที่เราปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะการตกอยู่ภายใต้ค่านิยมของสังคม!! Attractive TV The last Oasis Miracle travel Hate Terror order Applause Rescue Destroying alternative Execution of Sofia For The International Day of the Girl Child Trump’s toy Wall Modern Human Policitial Prisoners Happy…
-
คุณพ่อสร้างไอจีเลียนแบบลูกสาว แต่ดั๊นมีคนนิยมและติดตามมากกว่าลูกสาวซะอีก!!
ในยุคที่ใครก็ใช้โซเชียลในชีวิตประจำวันนั้น ทำให้หลายๆ คนอยากมีตัวตนในโซเชียล ด้วยการพยายามอัพรูปให้น่าดึงดูด เพื่อจะได้มีคนกดไลค์ กดแชร์ และกลายเป็นคนดังในที่สุด ในขณะที่หลายๆ คนพยายามสร้างผู้ติดตามในโซเชียลอย่างยากลำบากนั้น คุณพ่อคนหนึ่งกลับมีผู้ติดตามจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย ด้วยการเลียนแบบลูกสาว Cassie Martin หญิงสาวที่มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 70,000 คน ซึ่งเธออ้างว่าได้มาจากการโพสต์รูปขณะดื่มไวน์เท่านั้นเอง 70,000 คนนี่ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะสำหรับคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่นี่ยังไม่มากเท่ายอดผู้ติดตามของพ่อของเธอ Chris Burr Martin ที่มียอดฟอลโลว์มากกว่า 151,000 คนเลยทีเดียว เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อปกติพ่อแม่ไม่ค่อยเล่นโซเชียลนี่ บางคนยังไม่รู้จักอินสตาแกรมเลยด้วยซ้ำ แต่คุณพ่อคนนี้กลับมาผู้ติดตามมากกว่าลูกสาวซะงั้น นั่นคงไม่ใช่กับ Chris เพราะเขาชอบที่จะอัพรูปลงอินสตาแกรม แล้วทำไมเขาถึงดังนะหรอ ก็เพราะเขาโพสต์ท่าเซลฟี่เลียนแบบลูกสาวยังไงล่ะ ไม่ว่าลูกสาวจะถ่ายภาพแบบไหน ยังไง Chris ก็จะเลียนแบบไปซะทุกท่า ทั้งเซลฟี่หน้ากระจกในห้องน้ำ ถ่ายรูปฮาโลวีน รวมทั้งการเพิ่มฟิลเตอร์ในรูปภาพ Chris บอกว่า “ผมอยากรู้ว่าถ้าลองโพสต์ท่าแบบวัยรุ่นมันจะเป็นยังไง แล้วผมก็เริ่มโพสต์รูปเลียนแบบเป็นประจำ ปรากฏว่าผู้คนมากมายชอบรูปภาพเหล่านั้น นั่นทำให้ผมมีความสุขไปด้วย” ส่วนลูกสาว Cassie บอกว่า “ฉันชอบในความพยายามของพ่อที่โพสต์รูปเลียนแบบฉัน เขามักจะวาดเครื่องประดับ วาดรอยสัก รวมทั้งแต่งหน้าแต่งตาให้ดูเหมือนฉันมากที่สุด” …
-
สวนสัตว์เดือด หลังเจ้าหน้าที่รัฐสั่งให้ฆ่าแมวป่าที่หลุดออกไป เพราะกลัวมันไปทำร้ายมนุษย์
สัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติจะไม่ทำร้ายมนุษย์ หากมันไม่เป็นฝ่ายโดนคุกคามก่อน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มนุษย์เข้าไปแทรกแซง มันก็ย่อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณของสัตว์ป่า ดังนั้นมันจึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงขึ้นมาทันทีเมื่อสภาเมืองได้สั่งให้นาย Andrew Venables ซึ่งเป็นนักแม่นปืนไปฆ่า Lillith แมวป่าที่หลุดออกจาก Wild Animal Kingdom ในเวลส์ เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน โดยอ้างว่ากลัวมันจะไปทำร้ายมนุษย์ Lillith ในวัย 1 ปีครึ่ง ถูกยิงตายหลังจากที่มันถูกพบว่านอนอยู่ในที่จอดรถใกล้กับสวนสัตว์ สร้างความไม่พอใจให้เจ้าของสวนสัตว์ Tracy Turn เป็นอย่างมาก เธอบอกว่ามันเป็นการกระทำที่โหดร้ายและเกินความจำเป็น Andrew บอกว่า “มันถูกพบอยู่ใต้รถ ซึ่งที่นั่นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และมีความเป็นไปได้สูงที่มันจะทำร้ายมนุษย์ อีกอย่างตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลากลางคืน จึงยากที่จะจับตัวมัน เราก็เลยตัดสินใจยิงมันก่อนจะมีใครได้รับบาดเจ็บเพราะมัน” ในขณะเดียวกัน George Turner ช่างภาพสัตว์ป่าได้ออกมาตั้งแง่เกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “จำเป็นต้องฆ่ามันด้วยเหรอ? ดูเหมือนคุณแค่อยากยิงมันมากกว่าเหตุผลอื่น… คุณควรจะหาข้อมูลเกี่ยวกับแมวป่ามาอ่านซะบ้างนะ” หลังจากที่ยิงมันจนตายแล้ว นาง Tweedy วัย 47 ปี ผู้ที่บริจาคเงินให้ทางสวนสัตว์ อ้างว่าสภาไม่ยอมให้ทางสวนสัตว์เอาศพกลับไปด้วย เธอบอกว่า “ฉันรู้สึกโกรธมาก พวกเขาเรียกตัวเองว่ามนุษย์แต่กลับฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างเลือดเย็น” “มันหลุดออกไปจากส่วนสัตว์ก็จริง แต่ถ้าคุณได้อ่านเกี่ยวกับแมวป่าบ้างจะรู้ว่ามันไม่ใช่สัตว์อันตราย ตั้งแต่ที่หลุดออกไป มันก็พยายามหลีกเลี่ยงผู้คนตลอด”…
-
รวมโฉมหน้า 83 ผู้เข้าประกวด Miss Universe ประจำปี 2017 แต่ละชาติจะปังขนาดไหน ตามไปชม…
กลับมาอีกครั้งกับการประกวด Miss Universe ที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างเกาะกระแสและร่วมลุ้นกันทุกปี และสำหรับปี 2017 นี้ แต่ละประเทศก็ได้ทำการคัดเลือกตัวแทนแล้วเรียบร้อย แฟนๆ นางงามคนอยากเห็นกันแล้วล่ะสิว่าตัวแทนจากแต่ละประเทศนั้นจะมีหน้าตาเป็นยังไงบ้าง ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก Miss Universe ก็ได้เผยโฉมนางงามทั้ง 83 คน จาก 83 ประเทศให้ทุกคนได้ชมกัน แต่ละคนจะเป็นยังไงบ้าง เชิญชมเด้อค่ะ 1. ตัวแทนจากประเทศแอลเบเนีย 2. ตัวแทนจากประเทศแองโกลา 3. ตัวแทนจากประเทศอาร์เจนตินา 4. ตัวแทนจากประเทศอารูบา 5. ตัวแทนจากประเทศออสเตรเลีย 6. ตัวแทนจากประเทศออสเตรีย 7. ตัวแทนจากประเทศบาฮามาส 8. ตัวแทนจากประเทศบาร์เบโดส 9. ตัวแทนจากประเทศเบลเยียม 10. ตัวแทนจากประเทศโบลิเวีย 11. ตัวแทนจากประเทศบราซิล 12. ตัวแทนจากประเทศบัลแกเรีย…
-
คุณแม่เสนอวิธีเอา ‘เสี้ยน’ ที่ตำมือออกแบบง่ายๆ จนนึกไม่ถึง ชาวเน็ตถูกใจแชร์ไปเป็นแสน
ปัญหาเสี้ยนตำมือ โดยเฉพาะกับเด็กๆ ถือเป็นปัญหาระดับชาติ เพราะถึงมันจะเป็นแค่เศษไม้เล็กๆ แต่พลังทำลายล้างสูงมาก ทั้งเจ็บ ทั้งแสบ แถมยังเอาออกยากอีกต่างหาก แต่ปัญหาเสี้ยนตำมือจะไม่ใช้เรื่องใหญ่อีกต่อไป เพราะ Claire Bullen-Jones คุณแม่จากสหราชอาณาจักรได้แนะวิธีการเอาเสี้ยนออกแบบง่ายๆ และไม่เจ็บอย่างที่คิด Bullen-Jones ได้แชร์บนเฟซบุ๊กของเธอว่า “เมื่อลูกของคุณหรือแม้แต่ตัวคุณเองโดนเสี้ยนตำมือ ให้นำหลอดดูดยา (Syringe) ขนาดที่พอเหมาะกับเสี้ยนนั้นมาช่วยในการเอาออก” “เอาหลอดดูดยาครอบลงไปตรงบริเวณที่ถูกเสี้ยนตำ โดยกดลงไปให้แน่น และอย่าลืมเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างให้ลมภายนอกเข้าไปในกระบอกเข็มฉีดยาได้” “ขั้นตอนต่อไปคือการดึง ให้ดึงออกอย่างเร็วที่สุด แล้วจะพบว่าเสี้ยนนั้นหลุดออกมาพร้อมหลอดดูดยา แต่หากไม่ออกในรอบแรกให้ทำต่อไปอีก 2-3 ครั้ง รับรองว่ามันออกมาแน่นอน” “วิธีนี้นอกจากช่วยประหยัดเวลาแล้ว จะทำให้ลูกน้อยไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดนานอีกด้วย หากคิดว่านี่เป็นประโยชน์ อย่าลืมส่งต่อให้พ่อแม่คนอื่นๆ ด้วยนะคะ” รู้แบบนี้แล้ว พ่อแม่คงไม่ทรมานลูกด้วยการใช้เข็มทิ่มแทงเพื่อให้เสี้ยนออกอีกแล้วนะ ที่สำคัญนี่เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ เสี้ยนหรอ ไม่กลัวหรอก หึหึ ที่มา didyouknowfacts
-
สถานสงเคราะห์สัตว์แบ่งหมาให้อยู่เป็นบ้านต่างๆ ตามบุคลิกภาพ เหมือนใน “ฮอกวอตส์” เลย
ทุกคนที่เคยดู Harry Potter ต่างก็หลงรักโลกแห่งเวทมนตร์ บางคนถึงกับอยากเข้าไปอยู่ในฮอกวอตส์จริงๆ แต่ต้องผ่านการคัดกรองก่อนว่าคุณจะเหมาะกับบ้านหลังไหน ไอเดียการแยกคนให้เหมาะสมกับบ้านในเรื่อง Harry Potter ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้สถานสงเคราะห์สัตว์ Pet Alliance of Greater Orlando ไปใช้กับสุนัขของพวกเขาด้วย สถานสงเคราะห์สัตว์ Pet Alliance of Greater Orlando ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขามีวิธีจัดการกับสัตว์เลี้ยงการคัดแยกกลุ่มสุนัขจากบุคลิกภาพของพวกมัน สาเหตุที่ต้องแบ่งแยกสัตว์เลี้ยง เพราะเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าคนที่ต้องการรับเลี้ยงสุนัขนั้นมักจะมุ่งเน้นไปที่สายพันธุ์มากกว่าบุคลิกภาพจริงๆ ของพวกมัน ในการคัดแยกนั้น พวกเขาจะใช้ของเล่นที่ออกแบบโดย Diane Andersen ซึ่งเป็นนักศึกษาพฤติกรรมสัตว์และแฟนตัวยงของหนังสือ Harry Potter จากนั้นก็ให้สัตว์เลี้ยงสวมหมวกเพื่อคัดสรรเลือกบ้านเหมือนนักเรียนในโรงเรียนฮอกวอตส์ แต่ของสถานสงเคราะห์ได้ตั้งชื่อล้อเลียนว่า Pawgwarts สำหรับบุคลิกภาพของสุนัขนั้นจะแยกออกเป็น 4 แบบ โดยถอดความหมายจากหนังสือต้นฉบับ ได้แก่ บ้าน Gryffindors ความกล้าหาญและเป็นวีรบุรุษ บ้าน Slytherins มีความมุ่งมั่นและเจ้าปัญญา บ้าน Hufflepuffs ความใจดีและซื่อสัตย์ และบ้าน…
-
นักวิจัยเผย… คุณจะลดน้ำได้มากแค่ไหน ถ้าเอา “อึหรือตด” ออกจากร่างกาย!?
เราเคยคิดกันเล่นๆ มั้ยว่าถ้ากำจัดอึทั้งหมดออกจากร่างกาย เราจะเหลือน้ำหนักเท่าไหร่? หรือแม้แต่การผายลมเนี่ยจะช่วยลดน้ำหนักด้วยมั้ย? วันนี้ความสงสัยเหล่านั้นได้รับคำตอบทางวิทยาศาสตร์แล้ว… นักวิจัยเผยว่า อึมีน้ำหนักตั้งแต่ 70-450 กรัมโดยเฉลี่ย แต่คนตะวันตกส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักอึที่เบากว่านั้น เพราะเขาชอบกินอาหารไม่มีเส้นใยอาหาร ในการทดสอบน้ำหนักของตด นักวิจัยได้ใช้ท่อสอดเข้าไปในทวารหนักประมาณ 24 ชั่วโมง พบว่าตดเพิ่มขึ้นถึง 450 กรัม ถึง 1.4 กิโลกรัมต่อวัน นักโภชนาการ Adina Pearson กล่าวว่าการบริโภคอาหารที่มีเส้นใยและน้ำมากขึ้น จะทำให้คุณเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะช่วยในการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ประเภทของอาหารที่คุณทานเข้าไปก็มีผลต่อน้ำหนักอึ โดยผัก 450 กรัม ที่คุณทานเข้าไปจะย่อยสลายกลายเป็นอึในที่สุด แต่อาหารบางชนิดจะกลายเป็นไขมันสะสมในร่างกายของคุณ นักวิจัยยังบอกอีกว่าในการขับถ่ายแต่ละครั้ง ร่างกายสามารขับอึออกมาได้ 400-900 กรัม แต่อย่าคิดที่จะลดน้ำหนักด้วยการกินยาระบายเพื่อที่จะได้อึมากขึ้นเชียวหล่ะ เพราะยิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งจะรู้สึกว่าอ้วนขึ้น ใครที่คิดจะลดน้ำหนักด้วยการอึ นั่นไม่ใช่สิ่งที่นักวิจัยแนะนำ เพราะวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการลดน้ำหนักคือการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกายนั่นเอง ที่มา didyouknowfacts
-
คุณพ่ออุ้มลูกน้อยที่เกิดมาไม่สมบูรณ์ เต้นรำด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป
ของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับคนเป็นพ่อแม่ก็คือลูก และแน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนก็คงอยากใช้ชีวิตร่วมกับลูกให้นานที่สุดในชีวิต แต่น่าเศร้าที่หนูน้อย Millie เกิดมาในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ต้องลาโลกก่อนวัยอันควร Kevin McGuire ผู้เป็นพ่อจึงอุ้มเธอเต้นรำเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อบันทึกช่วงเวลาแห่งความทรงจำกับเธอ Millie เกิดมาพร้อมความเสียหายทางสมองและต้องทนทุกข์ทรมานกับสภาวะที่กระดูกโตผิดรูป… เธอกำลังจะอายุครบ 2 ขวบในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม McGuire และภรรยาก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำให้เธอมีความสุขมากที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ และสร้างความทรงจำร่วมกันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ McGuire ได้จัดกิจกรรมส่วนตัวขึ้น โดยจ้างวงดนตรี Stone Foundation มาบรรเลงเพลง เพื่อที่จะได้เต้นรำกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะจากไปตลอดกาล ในขณะที่พ่ออุ้มลูกน้อยเต้นรำนั้น สมาชิกวง Stone Foundation แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พวกเขาเห็นถึงความรักของพ่อ เห็นช่วงเวลาที่งดงามของพ่อลูก และการจากลาที่จะมาถึงในไม่ช้านี้ McGuire บอกว่า “เราทำใจยอมรับได้ที่ Millie จะจากไป แต่เราจะไม่ยอมปล่อยให้เวลาที่เหลืออยู่สูญเปล่า ดังนั้นเราจึงได้สร้างความทรงที่แสนพิเศษกับเธอ” “สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมได้เรียนรู้คือ ผมจะไม่มีโอกาสได้เต้นรำกับเธอในวันเกิดหรือในวันแต่งงานของเธอ และเมื่อผมเห็นวิดีโอที่พ่อเต้นรำกับลูกสาวในงานต่างๆ ทำให้ผมตระหนักได้ว่ามันเป็นกิจกรรมที่ผมกับลูกสาวไม่ควรพลาด” ส่วนเพลงที่ McGuire เลือกเต้นรำกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายนั้น เป็นเพลงที่เขาร้องให้เธอฟังเป็นประจำ และเขาก็เชื่อว่ามันเป็นเพลงที่ลูกน้อยจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟัง “Millie ตื่นขึ้นมาตอนที่ผมเปิดเพลงนี้ เธอมองมาที่ผมแล้วทำเสียงเล็กๆ น่ารักๆ นั่นเป็นเสียงที่ผมจะจดจำไปตลอดชีวิต” คุณพ่อกล่าว สำหรับหนูน้อย Millie…
-
หญิงสาวตามหาพ่อแม่บุญธรรมที่ดูแลเธอในวัยเด็ก เพื่อขอบคุณพวกเขาแม้จะผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี
ใครก็ตามที่มีพระคุณต่อเรา ทำให้เราเติบโตจนมีทุกวันนี้ได้ แม้จะไม่ใช่พ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่แท้จริง แต่เขาคนนั้นก็สมควรได้รับการตอบแทน เหมือนกับหญิงสาวกำพร้าชาวไต้หวันคนนี้ ที่ตามหาพ่อแม่บุญธรรมที่เคยดูแลเธอตอนเป็นเด็ก เพื่อขอบคุณพวกเขาที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้ Lin Ching-Mei วัย 29 ปี ได้ออกตามหาพ่อแม่บุญธรรมของเธอเป็นเวลาหลายปี เธอเดินทางไปยังเทศมณฑลผิงตงในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่อยู่เดิมในวัยเด็กที่เคยอยู่กับพ่อแม่บุญธรรม ถึงสามครั้งเพื่อดูว่าพวกเขายังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า แต่ก็ไม่เคยพบพวกเขาที่นั่นเลยสักครั้ง ทำให้หญิงสาวต้องกลับไปพร้อมน้ำตา… อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้ยินคนพูดถึงสถานสงเคราะห์ ทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน หญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนวิธีการตามหาพ่อแม่บุญธรรมของเธอ Lin ได้เดินทางกลับไปยังผิงตงอีกครั้ง คราวนี้เธอได้ติดต่อกับ Taiwan Fund for Children and Families ซึ่งเป็นหน่วยงานช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในไต้หวัน เพื่อให้ช่วยตามหาพ่อแม่อุปถัมภ์ของเธอ ที่นั่นเธอได้พบกับนักสังคมสงเคราะห์ Huang Shu-Ling ที่ทำหน้าที่เก็บบันทึกข้อมูลของผู้อุปการะเด็กทุกคน เขาได้ให้ชื่อของคนที่น่าจะตรงกับที่ Lin ตามหา สองชื่อคือ Chang Hung-Chi และ Kuo Chin-Chin จนกระทั่งวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา Huang ก็พาหญิงสาวไปที่บ้านของบุคคลดังกล่าว… เมื่อไปถึงเธอก็พบกับ Chang กับ Kuo และจำได้แม่นยำว่าทั้งคู่คือคนที่เธอตามหา…
-
คู่รักช่วยเหลือแมวจรฟันผุที่เอาแต่หลบมนุษย์ จนกลายเป็นเหมียวที่ติดการลูบไล้ตลอดเวลา
ดูภายนอก แมวอาจจะเป็นแค่สัตว์ขนปุยเหมือนกันหมด แต่หากคุณได้คลุกคลีอยู่กับมัน จะรู้ว่าแมวแต่ละตัวมีความน่ารักที่แตกต่างกัน เหมือนกับ Panda Bear แมวที่ชอบแลบลิ้นเป็นประจำ จนทำให้ใครๆ ต่างก็พากันหลงรักมัน เจ้า Panda ถูกพบครั้งแรกบนถนนในเมือง Flint รัฐมิชิแกน และได้มีคนนำเรื่องราวของมันไปโพสต์ลงในโซเชียลเพื่อหาคนใจดีรับไปเลี้ยง กระทั่งช่วงต้นเดือนมีนาคม 2017 Cassandra Claxton และแฟนหนุ่ม Blake ได้เห็นโพสต์ดังกล่าว ทั้งคู่จึงตัดสินใจไปช่วยเหลือมันทันที เมื่อไปถึง ทั้งคู่ค่อยๆ เข้าหามัน แต่เจ้าเหมียวหวาดระแวงมาก มันพยายามจะหนี แต่ด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนแอ ทำให้มันหนีไปไหนไม่ได้ Claxton และ Blake จึงอุ้มน้องแมวกลับบ้าน อาบน้ำให้มัน และปล่อยให้มันนอนพักใต้ผ้าห่มอุ่นๆ สักพัก ก่อนจะพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คร่างกาย จริงๆ วันนั้นมันค่อนข้างดึกแล้ว แต่คู่รักไม่อยากปล่อยให้เจ้าเหมียวต้องรอนานกว่านี้ เพราะดูจากสภาพร่างกายแล้ว มันจำเป็นต้องไปหาหมอโดยด่วนที่สุด จากการตรวจร่างกายเบื้องต้น คุณหมอบอกว่า Panda น่าจะอายุประมาณ 1 ปีครึ่ง แต่ดันมีน้ำหนักแค่ 1 กิโลนิดๆ เท่านั้น …
-
ชายหนุ่มโดนปฏิเสธงานกว่า 30 ครั้งเพราะรอยสักที่สักไว้เพื่อระลึกถึงคุณตาที่เสียไป
การสักลายบนเรือนร่างนั้นไม่ใช่แค่เพื่อความงามเท่านั้น แต่รอยสักสำหรับบางคนมันแฝงไปด้วยความหมายสำคัญและความทรงจำดีๆ ในชีวิต อย่างไรก็ตาม คนมีรอยสักนั้นมักถูกมองในเชิงลบ จนทำให้โอกาสทางสังคมสำหรับพวกเขามีน้อยลงไปด้วย เหมือนกับหนุ่มคนนี้ที่โดนปฏิเสธงานเพราะมีรอยสักที่คอ Joe Parsons วัย 21 ปี ได้สักลายที่คอเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2016 เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณตาที่เสียไป ขณะที่ทำงานอยู่ในโรงงาน แต่เพราะลายสักนี้ทำให้เขาถูกปฏิเสธงานกว่า 30 ครั้ง… แม้ว่าชายหนุ่มจะใส่เสื้อคอเต่าเพื่อปิดรอยสัก แต่ลายสักส่วนที่เป็นปีกอยู่สูงเกินจะปิดได้มิด Joe บอกว่า “ตอนที่ผมสักลายนี้ใหม่ๆ ผู้คนคิดว่าผมมีความสุขและมีความมั่นใจในตัวเอง แต่สำหรับผมแล้ว ผมเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องมีงานดีๆ ทำ” “ผมรู้สึกว่ามันเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะผมมีทักษะและมีคุณสมบัติทุกอย่างตามที่พวกเขาต้องการ แต่ผมกลับถูกปฏิเสธเพียงเพราะลายสักที่คอ” ชายหนุ่มบอก อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มก็ไม่ได้เสียใจและไม่อยากลบรอยสักนี้ออก เพราะมันมีความหมายสำหรับเขามาก แต่ที่เขาเสียใจคือทัศนคติของคนอื่นที่มีต่อรอยสัก Joe เคยทำงานอยู่ที่ McVites แต่แล้วก็ต้องลาออก เพื่อกลับไปดูแลแม่ที่ประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ลาออกจากงานได้ไม่นาน ชายหนุ่มก็ตระหนักว่าเขาต้องทำงานเพื่อหาค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้าน เขาจึงเริ่มสมัครงานในเดือนมกราคม แต่กลับถูกปฏิเสธงานถึง 30 ครั้ง แม้แต่งานที่เขาเคยทำก่อนสัก ก็ไม่ยอมรับเขาเช่นกัน นับว่าเป็นความโชคร้ายของ Joe เพราะเขาเคยมีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว 4 ปี…
-
ศิลปินสร้างประติมากรรมของใช้ในชีวิตประจำวัน ที่ดูบางเบา แต่ทำมาจากหินอ่อนล้วนๆ
ประติมากรรมหรือรูปปั้นส่วนใหญ่มักจะทำมาจากหินอ่อน ซึ่งไม่ต้องเข้าไปลองยกหรือสัมผัสเราก็รู้อยู่แล้วมันต้องหนักมากแน่ๆ แต่ศิลปินผู้มีนามว่า Alasdair Thomson ได้สร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมของใช้ในชีวิตประจำวัน ที่ทำด้วยหินอ่อนล้วนๆ และมันกลับอ่อนโยนและบางเบาอย่างบอกไม่ถูก ปกติเราจะเห็นประติมากรรมหินอ่อนในรูปแบบรูปปั้น โต๊ะ หรือเก้าอี้ แต่ Thomson ได้นำหินอ่อนมาทำเป็นเสื้อผ้า รองเท้า แถมยังแขวนบนไม้แขวนเสื้อ จนคิดไม่ถึงว่ามันทำจากหินอ่อน Thomson อาศัยและทำงานอยู่ที่ Edinburgh ประเทศสก็อตแลนด์ แต่เราได้เรียนรู้เทคนิคประติมากรรมจากประติมากรชาวอิตาลี จากนั้นเขาก็ฝึกฝนด้วยตัวเองจนสร้างผลงานมากมาย แล้วตั้งมันไว้ทั่วสก็อตแลนด์และต่างประเทศ ผลงานที่โดดเด่นของ Thomson คือผลงานชุดนี้แหละ ที่ได้นำหินอ่อนมาทำเป็นเสื้อผ้าที่ดูมีน้ำหนักเบา และเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร แม้จะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานประติมากรรมต่อไปเรื่อยๆ โดยเรียนรู้ที่จะสร้างความแตกต่างจากหินอ่อน และแน่นอนว่าผลงานของเขาทำให้เราหลงใหลได้ไม่มีวันจบ . . . . . . . . . . . . . ที่มา boredpanda
-
เด็กหญิงชาวรัสเซียวัย 12 ปี ถูกลักพาตัวไปข่มขืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสตรีมมิ่งสดหนังโป๊เด็ก…
ทุกวันนี้ได้มีการทำคลิปโป๊ขึ้นมากมายเพื่อหารายได้ผ่านสื่อออนไลน์ ยิ่งคลิปมีความดึงดูดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะทำเงินได้มากเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคลิปโป๊เหล่านี้พยายามนำเสนอคลิปที่ดูแตกต่าง ตื่นเต้น เร้าใจ มาเผยแพร่ และหนึ่งในนั้นคือการข่มขืน เหมือนอย่างคดีนี้ที่เด็กนักเรียนชาวรัสเซียวัย 12 ปี ที่ถูกลักพาตัวไปข่มขืน เพื่อถ่ายคลิปและเอาไปลงเว็บโป๊เด็ก… เด็กหญิงคนดังกล่าวนี้ถูกลักพาตัวโดยชายสองคน ขณะที่เดินกลับบ้าน หลังจากเรียนดนตรีเสร็จ ใน Ekaterinburg ทางตะวันออกของเทือกเขาอูราล ประเทศรัสเซีย ตำรวจเผยว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ที่เด็กหญิงรอดชีวิตมาได้ เพราะเธอถูกข่มขืนหลายครั้ง ระหว่างที่ถูกลักพาตัวนานกว่า 9 ชั่วโมงครึ่ง เด็กหญิงเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าขณะที่เดินกลับบ้านตามปกติ ก็มีคนนำถุงมาคลุมหัวของเธอ ก่อนจะลากขึ้นรถแล้วพาไปยังที่พักของพวกเขา เมื่อไปถึง คนร้ายทั้งสองคนก็ผลัดกันข่มขืนเธอ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง สร้างความเจ็บปวดให้เธอเป็นอย่างมาก แต่ที่เจ็บกว่านั้นคือพวกเขาได้ถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย จากนั้นคนร้ายก็บังคับเธอถือป้ายโฆษณาเว็บโป๊เด็กแล้วโชว์ไปที่กล้อง เพื่อเป็นการโปรโมทเว็บไซต์นั่นเอง หลังจากที่คนร้ายได้สิ่งต้องการแล้ว พวกเขาก็จับเด็กหญิงยัดใส่กระเป๋าแล้วขับรถไปที่ชานเมือง ก่อนจะทิ้งเธอไว้ข้างทางในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน เด็กหญิงใช้เวลาหลายชั่วโมงในการพาตัวเองออกจากกระเป๋าใบนั้น กระทั่งตี 3 เธอก็ทำสำเร็จ ต่อมามีมอเตอร์ไซค์ขับผ่านและสังเกตเห็นเด็กหญิงเข้า จึงได้โทรแจ้งตำรวจทันที เบื้องต้นเด็กหญิงให้การว่าหนึ่งในคนร้ายที่ข่มขืนเธอสวมกางเกงหนังสัตว์อายุประมาณ 50 ปี … ด้านโฆษกตำรวจ Valery Gorelykh กล่าวว่า “ขณะนี้เรากำลังกระจายเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200…
-
หญิงชาวอียิปต์หย่ากับสามี หลังแต่งงานได้สองอาทิตย์ เพราะแย่งทำงานบ้านหมดเลย!?
แม้ว่าปัจจุบันนี้ผู้ชายและผู้หญิงจะมีความเท่าเทียมกันในสังคม แต่จะสังเกตเห็นว่างานบ้านมักจะตกเป็นหน้าที่ของผู้หญิงส่วนใหญ่อยู่ดี จนบางทีพวกเธอก็อยากให้สามีช่วยทำงานบ้านบ้าง แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนความพอดี เพราะถ้ามากไปอาจเกิดเรื่องเหมือนภรรยาคนนี้ที่ตัดสินใจหย่ากับสามี เพราะเขาแย่งทำงานบ้านทุกอย่าง!? หญิงชาวอียีปต์วัย 28 ปี ได้แต่งงานกับแฟนหนุ่มวัย 31 ปี แต่แล้วสองสัปดาห์หลังแต่งเธอก็ขอหย่ากับเขา เพราะสามีเปิดร้านขายเสื้อผ้า โดยจ้างพนักงานไว้หลายคน ทำให้เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านและเขาก็ว่างพอที่จะทำงานบ้านทั้งหมด Samar M. ผู้เป็นภรรยาอ้างว่า “เวลาที่อยู่บ้านเขามักจะทำความสะอาดบ้านเสมอ รวมทั้งจัดเฟอร์นิเจอร์ใหม่ และฉันก็ไม่สามารถจะทำอะไรกับพฤติกรรมของเขาได้” เธอยังบอกอีกว่า Mohammad S. สามีของเธอทำตัวเหมือนแม่บ้าน จนเธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่เห็นเขาเป็นแบบนี้ และไม่ใช่แค่ทำงานบ้านทุกอย่างนะ แต่เขายังไม่ยอมให้เธอช่วยทำอะไรด้วย ตลอด 2 สัปดาห์ที่แต่งงานกันมา Samar ต้องทนอยู่กับความเบื่อหน่ายนี้ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเปิดใจคุยกับเขา แต่คำตอบที่ได้มาคือ “ถ้าคุณอยากอยู่ในบ้านของผม คุณต้องปฏิบัติตามกฎของผม” ฝ่ายหญิงเผยว่า “ฉันคบกับเขาด้วยความรักมามากกว่า 2 ปี แต่ภายในเวลา 2 สัปดาห์ที่แต่งงานกันมา ทำให้ฉันรู้สึกเกลียดที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกับเขา” “สามีของฉันทำตัวเหมือนแม่บ้าน เขาไม่ให้ฉันสัมผัสอะไรในบ้านของเราเลย ทั้งทำอาหาร ทำความสะอาด และงานบ้านทั่วไป เขาจะจัดการเองทั้งหมด” “เขาควบคุมทุกอย่างในบ้าน โดยที่ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้ แม้แต่เรื่องเล็กน้อยๆ อย่างการวางตำแหน่งทีวี ฉันยังไม่มีสิทธิ์พูดเลย”…
-
ผู้ปกครองรุมตีครูเนอสเซอรี่ หลังจากที่เธอใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า 2 ขวบ
กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียล เมื่อมีการเผยแพร่คลิปกลุ่มพ่อแม่ชาวจีนที่รุมทำร้ายครูจากเนอสเซอรี่ เพราะเธอตีลูกๆ ของพวกเขาระหว่างอยู่ในห้องเรียน สำหรับการกระทำของครูสาวคนดังกล่าวนี้มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นขณะที่เธอใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียน โดยบังคับให้กินอาหารที่มีวาซาบิและให้กินยานอนหลับ สื่อจีน The Paper รายงานว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เนอสเซอรี่ Ctrip โดยพบว่ามีการทารุณกรรมเด็กหญิงคนหนึ่งในห้องเรียนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 จากกล้องวงจรปิดพบผู้ดูแลหญิงคนหนึ่งได้นำกระเป๋าเด็กหญิงคว้างลงกับพื้น ก่อนจะผลักเด็กอย่างแรง จนทำให้เธอสะดุดและหัวไปจนกับขอบโต๊ะ นอกจากนี้ยังมีอีกคลิปหนึ่งถูกบันทึกเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน เผยให้เห็นกลุ่มนักเรียนประมาณ 18 คน นั่งเรียงกันในห้อง โดยมีผู้ดูแลบังคับให้กินวาซาบิทีละคน ทำให้เด็กๆ พากันร้องไห้และพยายามปิดปาก หลังจากคลิปเหล่านี้ถูกเผยแพร่ไป ทางเนอสเซอรี่ Ctrip ได้ออกมายอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเนอสเซอรี่จริง ทำให้เนอสเซอรี่ถูกแจ้งความดำเนินคดีทันที ส่วนเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้าย ได้รับการยืนยันแล้วว่ามาจากคลาส Rainbow Class ซึ่งทุกคนในนั้นอายุต่ำกว่า 2 ขวบ จนเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ครูผู้ก่อเหตุได้คุกเข่าบนเวที เพื่อขอโทษผู้ปกครองของนักเรียน ระหว่างการประชุมผู้ปกครอง เธอบอกว่า…
-
หนึ่งวันในหนึ่งปี ณ เวลา 11.11 น. จะเกิดความมหัศจรรย์ที่อนุสาวรีย์ในแอริโซนา
ในโลกนี้มีสถานที่มหัศจรรย์หลายแห่ง ทั้งสถานที่ทางธรรมชาติ แหล่งที่มนุษย์สร้างขึ้น และการผสมผสานระหว่างทั้งสองอย่าง เหมือนกับ Anthem Veterans Memorial (AVM) ใน Anthem รัฐแอริโซนา ที่เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การรับใช้และการเสียสละของกองทัพสหรัฐอเมริกา อนุสาวรีย์ดังกล่าวนี้จะอยู่ในสภาพสมบูรณ์แค่ปีละครั้งเท่านั้น เพราะมันต้องอยู่ในเวลาที่พอดีกับแสงอาทิตย์ตกกระทบ นั่นก็คือเวลา 11:11 น. ของวันทหารผ่านศึกที่ตรงกับวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนของแต่ละปี ทุกๆ ปี เมื่อถึงเวลา 11:11 น. ของวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายน แสงจากดวงอาทิตย์จะส่องผ่านวงกลมของเสา Armed Services ทั้ง 5 แล้วจะตกกระทบลงที่พื้นกระเบื้องโมเสคที่มีตรามหาสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาอยู่ สำหรับเสาหลักทั้ง 5 นี้ เป็นตัวแทนของความสามัคคีใน 5 สาขาของกองทัพสหรัฐให้คำมั่นสัญญาร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วย นาวิกโยธินสหรัฐ กองทัพเรือสหรัฐ กองทัพอากาศสหรัฐ และหน่วยยามฝั่งสหรัฐ ทั้งนี้เสาแต่ละต้นจะมีความสูงที่แตกต่างกัน โดยเรียงตามตำแหน่งตราสัญลักษณ์ที่ทางกระทรวงกลาโหมกำหนดไว้ก่อนหน้านี้ เพราะความมหัศจรรย์นี้ ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปชมเป็นจำนวนมากเมื่อถึงวันทหารผ่านศึก Jim Martin หัวหน้าวิศวกรผู้ออกแบบ AVM กล่าวว่า “ในแต่ละปี ศูนย์กลางดวงอาทิตย์จะมีการหักเหเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม…
-
เมื่อลูกสาว “สอนพ่อเซลฟี่” แต่ไม่คิดเลยว่าพ่อจะเอามาใช้กับเจ้าตูบ แหม… น่ารักเชียว
ปัจจุบันนี้ลูกๆ มักจะเป็นฝ่ายสอนพ่อแม่ใช้สื่อเทคโนโลยีโดยเฉพาะการสมาร์ทโฟน ที่นอกจากสอนโทรเข้า โทรออกแล้ว ยังต้องสอนการเซลฟี่ให้ด้วย เพื่อให้ท่านได้บันทึกภาพช่วงเวลาแห่งความทรงจำเอาไว้ ถึงจะเป็นผู้ใหญ่ แต่เวลาที่พวกเขาได้เรียนรู้หรือลองสิ่งใหม่ๆ ก็คงตื่นเต้นไม่ต่างจากเด็กๆ หรอก เหมือนกับคุณพ่อคนนี้ที่ได้เรียนรู้การเซลฟี่จากลูกสาวจนทำให้เขากลายเป็นคนที่สนุกกับการถ่ายรูปซะงั้น นี่เป็นชุดภาพน่ารักๆ ที่ถูกโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊ก Cool Dog Group เป็นภาพของคุณพ่อคนหนึ่งใน Walcha ประเทศออสเตรเลีย ที่เซลฟี่กับสุนัขและแกะของเขา แน่นอนว่าทุกคนที่ได้เห็นภาพต่างพากันยิ้มไม่หุบเลย เพราะมันเป็นภาพที่น่าประทับใจสุดๆ ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าคนเป็นพ่อจะมีโมเมนต์ที่น่ารักแบบนี้กับเค้าด้วย ทั้งพ่อทั้งน้องหมา น่ารักแบบชนะเลิศไปเลย คุณพ่อเซลฟี่ว่าน่ารักแล้ว แต่ดูสัตว์เลี้ยงของเขาแต่ละตัวสิ โดยเฉพาะน้องหมาที่ให้ความร่วมมือกับถ่ายรูป ขึ้นกล้องยิ่งกว่าเราบางคนซะอีก ข้อมูลที่โพสต์ในเพจบอกแค่ว่าลูกสาวเป็นคนสอนให้พ่อเซลฟี่ ซึ่งเธอไม่เคยคาดคิดว่าจะออกมาเป็นแบบนี้ น่ารักซะจนชาวเน็ตอยากรู้จักตัวตนของเขามากขึ้น ดูหน้าน้องหมาสิ แบ๊วเชียว อย่างไรก็ตาม หากเรารู้ข้อมูลหรือมีภาพของคุณพ่อคนนี้อีกจะมาอัพเดตให้นะ ตอนนี้ชมภาพสุดคูลชุดนี้ไปก่อน แล้วอย่าลืมส่งต่อให้เพื่อนๆ ได้ดูด้วยเด้อ ที่มา boredpanda
-
โลกสดใสขึ้นเมื่อหญิงสาวรับเลี้ยงสุขในวันเกิดตัวเอง กลายเป็นของขวัญที่ล้ำค่าในชีวิต
เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิด หลายๆ คนมักจะรอของขวัญจากคนอื่น ซึ่งสิ่งที่ได้มาอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดก็ได้ แต่ถ้าเราเลือกของขวัญด้วยตัวเอง มันหมายความว่าสิ่งนั้นมีความหมายกับชีวิตเรา เหมือนกับสมาชิก Imgur ที่ใช้ชื่อว่า Jekyllandclyde ที่เพิ่งจะอายุครบ 25 ปี เธอตัดสินใจหาของขวัญให้ด้วยเองด้วยการรับเพื่อนใหม่เข้ามาในชีวิต หญิงสาวได้รับเลี้ยง Teddy สุนัขพันธุ์ผสมระหว่าง Australian Cattle Dog กับโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ มันมีนัยตาสีฟ้าและรอยยิ้มที่ทำให้ใจละลาย Jekyllandclyde บอกว่า “มันเป็นสุนัขที่น่ารักมากๆ มันชอบที่จะอยู่กับมนุษย์ ฉันก็เลยตัดสินใจพามันกลับบ้านด้วย เพื่อให้สิ่งที่มันสมควรได้รับ” นับว่าเป็นความโชคดีของ Teddy ที่ถูกรับเลี้ยงในช่วงหน้าหนาวพอดี มันไม่ต้องอยู่อย่างเดียวดายในค่ำคืนที่เหน็บหนาวอีกแล้ว น้องหมาแสดงออกทางสีหน้าชัดเจนว่ามันมีความสุขขนาดไหน ตอนที่อยู่ศูนย์พักพิง มันดูเหมือนหมาทั่วไปตัวหนึ่ง แต่พอได้บ้านใหม่แล้วมันแทบจะไม่หุบยิ้มเลย ไม่ใช่แค่น้องหมาเท่านั้นที่แฮปปี้กับชีวิตใหม่ แต่ Jekyllandclyde ก็เช่นกัน เธอบอกว่าตั้งแต่ Teddy เข้ามาในชีวิต เธอเหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัย 25 ปี พร้อมกับสหายที่ทำให้เธอมีความสุขได้เสมอ ทั้งสุนัขและเจ้าของใหม่ต่างกลายเป็นของขวัญที่ล้ำค่าของกันและกัน พวกเขาไปด้วยในทุกๆ ที่ และทำให้หญิงสาวรู้ว่ามันดีแค่ไหนที่ตัดสินใจเลือกของขวัญวันเกิดด้วยตัวเอง เรื่องราวของหญิงสาวทำให้หลายๆ คน…
-
ชาวเน็ตถึงกับลั่น เมื่อทหารหนุ่มนั่งคั่นระหว่างทรัมป์กับนายกฯ เกาหลีใต้ ขณะทานอาหาร
กลายเป็นประเด็นขำๆ ในโซเชียล เมื่อชาวเน็ตเห็นคลิปนายทหารผู้น่าสงสารคนหนึ่งที่ต้องนั่งตรงกลางระหว่างทรัมป์ กับนายกฯ เกาหลีใต้ ขณะรับประทานอาหาร… คิดดูว่าถ้าเป็นเราจะรู้สึกยังไง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ จากสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับทหารและมูนแจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ระหว่างการไปเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ ด้วยความที่ผู้จัดการงานต้องให้บรรยากาศเป็นกันเอง จึงจัดให้ทรัมป์กับมูแจอินนั่งร่วมโต๊ะกับทหาร แทนที่จะจัดให้ทั้งสองคนนั่งติดกัน แต่กลับให้ทหารนั่งคั่นกลางระหว่างทั้งสองคนซะงั้น แน่นอนว่าทหารผู้โชคร้าย (หรือโชคดี) ที่นั่งตรงกลางระหว่างผู้นำทั้งสองคนนั้นต้องอึดอัดมากแน่ๆ เมื่อทรัมป์กับมูนแจอินพูดคุยกันผ่านหน้าเขา ทหารหนุ่มจะก้มกินข้าว เดี๋ยวก็กลัวเป็นการขัดขวางการสนทนาของทั้งสองคน จะนั่งฟังพวกเขาคุยกันก็กลัวจะหาว่าอยากมีส่วนร่วม คือเขาทำอะไรไม่ได้จริงๆ นอกจากยิ้มกลบเกลื่อน ประหนึ่งว่า ‘ฉันมาทำอะไรที่นี่…’ ต่อมาคลิปดังกล่าวถูกแชร์ไปทั่วโซเชียลเกาหลีใต้ ชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านั่งอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ใครมันจะไปกินลง บางคนบอกว่า “ดีนะที่ไม่ใช่ปูติน ไม่งั้นทหารคนนี้คงพบกับความอัปยศตลอดชีวิตแน่ๆ” “ดูเขาสิ ไม่กล้าขยับเลย” “นี่ช่างเป็นการประชุมที่ยอดเยี่ยมจริงๆ จะเป็นยังไงนะ ถ้าเราเป็นทหารหนุ่มคนนั้น?” สำหรับอาหารมื้อนั้น ได้ทำเมนูพิเศษเพื่อทหารอเมริกา ทหารเกาหลีใต้ และผู้นำของทั้งสองประเทศ มีทั้งทาโก้ บาร์ริโต และ curly fries (เฟรนช์ฟรายด์ที่มีลักษณะโค้งบิดเป็นเกลียว) แต่ชาวเน็ตสงสัยว่าทหารหนุ่มคนนั้นจะได้กินอาหารพวกนี้บ้างมั้ยนะ?…
-
หนุ่มอังกฤษพัฒนาชุด ‘เจ็ตสูท’ ที่บินได้เร็วขึ้นและนานขึ้น เท่อย่างกะ Iron Man
เวลาเราดูหนังเรื่อง Iron Man เราต่างรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็น Tony Stark เหาะเหินเดินอากาศด้วยชุดสูทสุดล้ำ แม้เราจะรู้ว่ามันเป็นเพียงเทคนิคพิเศษ แต่หลายๆ คนก็คาดหวังที่จะบินได้แบบนั้นในชีวิตจริง และด้วยความสามารถของมนุษย์ ความหวังนี้ดูเหมือนจะเข้าใกล้ความจริงแล้วทุกที ก่อนหน้านี้ Richard Browning ผู้เป็นนักบินและนักประดิษฐ์ได้พยายามพัฒนาชุดเกราะที่สามารถบินได้แบบ Iron Man และดูเหมือนว่าชุดสูทของเขาก็ประสบความสำเร็จประมาณหนึ่ง อ่านข่าวเก่า ชายหนุ่มผู้ตามฝัน สร้างชุด “Iron Man” ฝ่าฟันล้มลุกคลุกคลาน ตอนนี้มันเริ่มบินได้แล้วด้วย!! ล่าสุด Browning ได้เผยคลิปวิดีโอที่เขาใส่ชุดเจ็ตสูทแล้วบินไปรอบๆ สวนสาธารณะในเมืองเรดดิ้ง ในสหราชอาณาจักร ด้วยความเร็วสูงสุด 32 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 51.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วและนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ สำหรับชุดดังกล่าวนี้ ชายหนุ่มได้สร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยต้องผ่านการทดสอบ ลองผิดลองถูก และล้มลุกคลุกคลานนับไม่ถ้วน ในที่สุด วันนี้เขาก็ประสบความสำเร็จจนได้รับการบันทึกใน Guinness World Record ในตอนแรกเขาใช้ Micro Gas Turbine (คล้ายๆ เครื่องยนต์ของเครื่องบินแต่มีขนาดเล็กกว่า) ติดอยู่ที่แขนทั้งสองข้าง จากนั้นก็ติดเพิ่มที่เท้าและพยายามจะขึ้นบินให้ได้ เขารู้ดีว่าความหวังนี้มันเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝัน…
-
โจรกลับใจ ตัดสินใจนำลูกหมาที่ขโมยไป กลับมาคืนให้หนูน้องผู้เป็นเจ้าของ
คนส่วนใหญ่ที่เลี้ยงสุนัข จะให้ความสำคัญกับน้องหมาเทียบเท่ากับสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง ชนิดที่ว่าเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม เหมือนกับครอบครัวหนึ่งในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ที่รู้สึกเศร้าใจเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าสุนัขของพวกเขาถูกขโมยไปพร้อมกับคอมพิวเตอร์แลปท็อป, iPad, และเครื่องเพชร Sasha เป็นสุนัขลาบราดอร์ที่ถูกขโมยไปเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวรวมทั้ง Maia วัย 4 ขวบ ต่างเศร้าใจสำหรับการสูญเสียในครั้งนี้ ในบรรดาสิ่งที่โดนขโมยไปนั้น ทางครอบครัวบอกว่าเสียดายน้องหมามากที่สุด พวกเขาจึงได้ออกตามหาพร้อมประกาศหาบนสื่อโซเชียลด้วย และไม่รู้ว่าโจรที่ขโมยเห็นโพสต์ดังกล่าวหรือเปล่า แต่เมื่อวานนี้ Sasha ถูกนำมาคืนที่บ้านอย่างปลอดภัย สร้างความประแปลกใจให้ทุกคนไม่น้อยเลย สำหรับ Sasha นั้นถูกรับเลี้ยงตอนอายุประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น เจ้าของบอกว่าสุขภาพมันไม่ค่อยดี เลยต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ นับตั้งแต่วันที่มันหายไป หนูน้อย Maia ก็ร้องไห้ไม่หยุดเลย เพราะเธอรักน้องหมาตัวนี้เหมือนน้องชายคนหนึ่ง และพวกเขามักจะเล่นด้วยกันเสมอ อย่างไรก็ตาม เมื่อเร่ื่องนี้โด่งดังไปทั่วโซเชียล โจรที่ขโมยน้องหมาก็ตัดสินใจนำมันมาคืนที่เดิม และโชคดีที่ Sasha ไม่ได้เป็นอะไร Ryan Hood พ่อของ Maia บอกว่า “เราคิดว่าคนที่ขโมยน่าจะรู้สึกผิดก็เลยพา Sasha มาคืนที่หน้าบ้าน ไม่ว่าคนๆ นั้นจะสำนึกหรือไม่ เราก็ดีใจที่ได้น้องหมากลับคืนมา โดยเฉพาะลูกสาวตัวน้อยของเราที่กลับมายิ้มได้อีกคร้ั้ง” ทั้งนี้ตำรวจเผยว่าของมีค่าอ่ื่นที่ถูกขโมยไปพร้อมสุนัขไม่ได้ถูกนำมาคืน…
-
รวม 17 ภาพ ‘อุ้งตรีนแมว’ นี่เราเป็นอะไรกันเนี่ย แค่เห็นอุ้งตีนก็ฟินแล้ว บ้าจริงเชียว
รู้มั้ยว่าทำไมคนถึงยอมเป็นทาสแมว หลงจนหัวปักหัวปำและยอมทำให้มันทุกอย่าง ไม่ใช่เพราะความขี้อ้อน ไม่ใช่เพราะขนปุกปุย ไม่ใช่เพราะความน่ารัก แต่เป็นเพราะอุ้งเท้าของเจ้าเหมียว ที่มีความตะมุตะมิจนไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาบรรยาย คุณอาจจะไม่รู้ว่าอุ้งเท้าแมวนั้นมีพลังทำลายสูงมากแค่ไหน แต่สำหรับทาสแมวแล้ว พวกเค้าเข้าใจดี ไม่เชื่อลองดูภาพเหล่านี้สิ แล้วจะรู้ว่าใจละลายเป็นยังไง 1. มันก็จะกลมๆ ป้อมๆ หน่อยๆ 2. อุ้งเท้าที่ควรค่าแก่การทนุถนอม 3. ส่วนนี้สินะที่ทำให้คนยอมเป็นทาส 4. แค่เห็นก็ใจละลายแล้ว 5. ฉันยอมแพ้ให้กับความอมชมพูนี้ 6. แค่ได้มองก็สุขใจแล้ว 7. จะสรรหาคำไหนมาบรรยายอุ้งเท้านี้ดี 8. อาวุธเด็ดที่เจ้าเหมียวใช้มัดใจคน 9. ใครที่ได้จับอุ้งเท้านี้แล้ว อย่าหวังว่าจะปล่อยมันได้ง่ายๆ 10. งุ้งงิ้งๆ 11. ง่อวววว 12. ขอได้มั้ย ขยับมาใกล้นิดนึง 13. อุ้งเท้าที่ทำให้มนุษย์ต้องยอมสยบ…
-
ยูทูบเบอร์วัย 10 ขวบอัดคลิปร่ำไห้ หลังไม่มีแฟนๆ มางานมีทติ้ง ทั้งๆ ที่รับปากไว้แล้ว…
ปัจจุบันโซเชียลได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของเราในหลายๆ ด้าน จนทำให้บางคนสร้างตัวตนขึ้นในโลกโซเชียลและให้ความสำคัญมากกว่าโลกแห่งความจริงซะอีก อย่างไรก็ตาม โซเชียลนั้นเปรียบเหมือนดาบสองคมที่ให้ความสุขเราได้ มันก็ทำร้ายเราได้เหมือนกัน จึงไม่ควรไปยึดติดกับมันมาก เหมือนกับเด็กหญิงคนนี้ที่ออกมาร่ำไห้ด้วยความไร้เดียงสา หลังจากที่แฟนๆ ไม่มางานมีทติ้งที่เธอจัดขึ้น ทั้งๆ ที่พวกเขารับปากแล้วว่าจะมา Alina เป็นยูทูบเบอร์ชาวรัสเซียวัย 10 ขวบ เธอได้วางแผนที่จะจัดงานมีทติ้ง โดยคาดหวังแฟนๆ กว่า 3,000 คนจะมาร่วมงานนี้ ในจำนวน 3,000 คนนี้ มี 20 คนที่รับปากว่าจะมาอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วเมื่อถึงวันงาน กลับไม่มีใครมาสักคน ทำให้ Alina เสียใจมากจนต้องหลั่งน้ำตาออกมา เด็กหญิงจึงตัดสินใจอัดคลิปวิดีโอเพื่อพูดถึงความรู้สึกหลังจากที่แฟนๆ ผิดสัญญากับเธอ Alina ได้ขอร้องผู้ติดตามว่าอย่าโกหกเธอ เพราะมันทำให้เสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก ในคลิปที่ Alina พูดความในใจนั้น เธอบอกว่า “ฉันเพิ่งกลับจากงานมีทติ้งที่จัดขึ้นเพื่อแฟนทุกคน แต่น่าเศร้าที่ไม่มีใครมาเลย” “ฉันอารมณ์เสียมาก เพราะในคอมเมนต์มีมากกว่า 20 คนที่รับปากว่าจะมาแน่นอน ฉันรออยู่ที่นั่น 30 นาที แล้วก็เดินดูรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นใครอยู่ดี” “ขอร้อง อย่าโกหกฉันอีก ฉันรู้สึกผิดหวังมากจริงๆ…
-
หญิงสาวชาวเอเชียผันตัวเองจาก “คนไร้บ้าน” สู่ “สมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์” ที่อายุน้อยที่สุด
มีโอกาสน้อยมากที่คนไร้บ้านจะกลายเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญทางสังคม โดยเฉพาะในแวดวงการเมือง แต่ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ หากเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง Nadya Okamoto นักศึกษาวัย 19 ปี จากที่เคยเป็นเพียงคนไร้บ้าน เธอได้ผลักดันตัวเองจนกระทั่งมีโอกาสได้เป็นสมาชิกสภาที่อายุน้อยที่สุด Okamoto เป็นผู้ก่อตั้ง PERIOD องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพให้กับผู้หญิงที่มีรายได้ต่ำ ตอนนั้นเธอเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลายเท่านั้น ปัจจุบันเธอได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ในรัฐแมสซาชูเซตส์ และกำลังรับมือกับสิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิต นั่นคือการถูกเสนอชื่อให้เป็นสมาชิกสภาพเมืองเคมบริดจ์ที่อายุน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม กว่าหญิงสาวจะประสบความสำเร็จในวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย Okamoto เติบโตขึ้นในสังคมที่มีคนผิวขาว ในพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ทำให้ถูกคนรอบข้างรังแกตั้งแต่เด็กเพราะเธอเป็นคนเอเชียซึ่งเป็นคนส่วนน้อยในสังคม หญิงสาวเล่าว่า “ตอนนั้นฉันเป็นเด็กเอเชียตัวเล็กคนหนึ่ง แต่ผู้คนมักจะมองมาที่ฉันสายตาแปลกๆ นั่นทำให้ฉันต่อต้านทุกอย่างที่เป็นการบ่งบอกว่าเป็นคนเอเชีย” “ฉันบอกคนอื่นๆ ว่าเกลียดคณิตศาสตร์ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วฉันเก่งคณิตศาสตร์และฉันก็ชอบคณิตมากด้วย” นอกจากนี้หญิงสาวยังต้องเผชิญกับปัญหาภายในครอบครัวด้วย ทั้งการใช้ความรุนแรงและการเหยียดผิวภายในครอบครัวของตัวเอง พ่อของเธอเป็นคนญี่ปุ่น-อเมริกัน ส่วนแม่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวันที่เกิดในอินเดีย นั่นทำให้ครอบครัวของเธอมีความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติอย่างต่อเนื่อง เท่านั้นยังไม่พอ Okamoto เติบมากับตายายที่เป็นชาวไต้หวัน ซึ่งเกลียดคนญี่ปุ่นมากๆ เพราะพวกเขาเคยอยู่ในบ้านที่ถูกยึดครองโดยทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ตายายของหญิงสาวยังรังเกียจและดูถูกคนจีนด้วย เวลาที่เดินผ่านย่านไชน่าทาวน์…
-
คุณตายอมเดินเป็นพันๆ กิโล เพื่อขอรับบริจาคไตให้ภรรยา หวังจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันให้นานขึ้น
หากคนที่คุณรักตกอยู่ในภาวะวิกฤตหรืออยู่ในภาวะอันตราย คุณจะทุ่มเทมากแค่ไหนเพื่อช่วยเขาหรือเธอให้ผ่านพ้นสิ่งเหล่านั้นและมีชีวิตที่ขึ้น? สำหรับคุณตา Wayne Winters วัย 74 ปี จาก Farr West รัฐยูทาห์ ได้ใช้เวลาหลายเดือนในการเดินทางด้วยเท้าเพื่อขอรับบริจาคไตให้ภรรยาผู้เป็นที่รัก Deanne ภรรยาของคุณตาป่วยเป็นโรคไตระยะที่ 5 เธอจำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนไตเพื่อความอยู่รอด คุณตาจึงต้องทำทุกทางเพื่อหาไตมาให้เธอ ในระหว่างที่รอการบริจาคไตนั้น Deanne ได้เข้ารับการฟอกเลือดมานานกว่า 2 ปี เขาบอกว่า “การต้องเฝ้าดูคนที่รักฟอกเลือด มันช่างเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดสำหรับผม ผมช่วยอะไรเธอไม่ได้ นอกจากจับมือเธอเอาไว้” สำหรับ Wayne และ Deanne พวกเขาแต่งงานกันมา 26 ปีแล้ว และทั้งคู่ก็หวังว่าจะมีเวลาได้อยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้ ดังนั้น เมื่อภรรยาป่วยจนอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ คุณตาจึงนำป้ายที่เขียนว่า “Need A Kidney 4 Wife” ห้อยไว้ที่คอแล้วก็เดินไปตามที่ต่างๆ เพื่อขอรับบริจาคไตให้ภรรยา หลังจากที่เรื่องราวของคุณตาถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ ก็มีคนใจบุญโทรเข้ามาไม่ขาดสาย เพื่อให้การช่วยเหลือเขาและภรรยา จนกระทั่ง 3 สัปดาห์ต่อมาความหวังของ Wayne ก็เป็นจริง เขาได้รับโทรศัพท์จากคนที่บอกว่ามีไตที่จะบริจาคให้ และโชคดีที่ไตนั้นเข้ากับอวัยวะของ Deanne พอดี ปัจจุบัน Deanne…
-
บริษัทญี่ปุ่นทำโฆษณาหูฟังบลูทูธ โดยเอาทรัมป์กับคิมจองอึนมาเป็นเพื่อนรักกัน มุ้งมิ้งสุดๆ
ใครๆ ก็รู้ดีว่าคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือกับทรัมป์จากสหรัฐอเมริกานั้นต่างเป็นคู่เวรคู่กรรมที่ไม่ลงรอยกัน และคงจะเป็นเรื่องยากที่จะเห็นทั้งสองคนเผชิญหน้ากันอย่างเป็นมิตร ท่ามกลางความบาดหมางนี้ บริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นจึงผุดไอเดียการโฆษณา โดยเอาคนมาสวมบทเป็นทรัมป์กับคิมจองอึนให้เป็นเพื่อนรักกัน แบบว่ามุ้งมิ้งสุดๆ Bonx หรือที่รู้จักในชื่อ Bonx Grip เป็นอุปกรณ์สื่อสารของญี่ปุ่น ที่ทำงานร่วมกับโทรศัพท์มือถือและเครื่องรับส่งวิทยุด้วยระบบบลูทูธ หนึ่งอุปกรณ์ที่ขึ้นชื่อคือหูฟังบลูทูธที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างหมดจด โดยอุปกรณ์ดังกล่าวนี้ได้รับการพัฒนาครั้งแรกเพื่อกลุ่มคนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา ปีนเขา หรือแม้กระทั่งไปตกปลา จริงๆ แล้ว มันไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะกับกลุ่มคนข้างต้น แต่มันเป็นประโยชน์กับทุกคนที่ต้องการสื่อสารกับแบบใกล้ชิดกับคนที่อยู่ห่างไกล เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพการใช้งานอุปกรณ์นี้ นักแสดงหนังผู้ใหญ่ Mana Sakura จึงได้เปิดตัวโฆษณาชุดแรกที่เธอเป็นคนกำกับเอง ในโฆษณาชุดนี้ เธอให้คนสวมบทเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ และคิมจองอึน โดยให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันผ่านทาง Bonx ช่วงแรกของโฆษณา เราจะเห็นผู้นำคิมล่องเรือกลางทะเล พร้อมตกปลาอย่างสบายอารมณ์ โดยมีลูกน้องในเครื่องแบบขนาบข้างเขาด้วยใบหน้าระรื่น ขณะที่อยู่บนเรือนั้น คิมก็ได้คุยกับทรัมป์ที่อยู่ในอเมริกาผ่านหูฟังบลูทูธ โดยเรียกเขาว่า Tra อย่างสนิทสนมพร้อมชวนทรัมป์มาร่วมตกปลาด้วย แต่ทรัมป์ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่ค่อยดี จึงอยากพักผ่อนอยู่ที่บ้านมากกว่า อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ได้คุยกันผ่าน Bonx ซึ่งได้ยินเสียงกันชัดแจ๋วเหมือนอยู่ใกล้กันเลย ส่วนคำสำคัญที่ปรากฏในโฆษณาชุดนี้คือคำบรรยายด้านล่างที่บอกว่า “แม้เรามีความเห็นต่างกัน ไม่ได้แปลว่าเราจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้” ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้นำที่มีความขัดแย้งกัน กลายเป็นเพื่อนสนิทที่สามารถเม้ามอยกันได้ตลอด โดยทรัมป์ได้เรียกคิมอย่างเป็นมิตรว่า…
-
น้ำตาท่วมศาล เมื่อคุณพ่อสวมกอด ‘ฆาตกร’ ที่ฆ่าลูกชายของตัวเอง และเลือกที่จะให้อภัยเขา
การให้อภัยใครสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนต้องใช้เวลานานเป็นปีๆ ในขณะที่บางคนเลือกที่จะไม่ให้อภัยเลยตลอดชีวิต แต่สำหรับคุณพ่อคนนี้กลับสวมกอดฆาตกรที่ฆ่าลูกชายของเขา ในระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล และให้อภัยเขาอย่างหมดใจ จนทำให้ศาลท่วมไปด้วยความน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ในวันอังคารที่ผ่านมานาย Trey Relford วัย 24 ปี ถูกตัดสินจำคุก 31 ปี ข้อหาฆาตกรรม นายสาลาฮูดิน จิตต์หมวด ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างที่ส่งพิชซ่าในรัฐเคนทักกี เมื่อวันที่ 19 เมษายน ปี 2015 โดยในวันนั้น นายสาลาฮูดิน ได้ออกไปส่งพิซซ่า แต่ในระหว่างทางเขาถูกแก๊งวัยรุ่นสามคนดักปล้น และถูกแทงด้วยมีดพกจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในวันไต่สวนคดี ดร. สมบัติ จิตต์หมวด ผู้เป็นพ่อได้พูดถึงลูกชายที่เสียชีวิตว่า “เขาเป็นคนอ่อนโยน ใจกว้าง และขี้อาย ในคือนั้นลูกชายของผม ต้องไปส่งพิชซ่าอีกแค่เที่ยวเดียวก็จะได้กลับบ้านแล้ว แต่เขากลับถูกสังหารไปซะก่อน” ในตอนท้าย คำพูดของ ดร. สมบัติ ทำให้ทุกคนในศาลต้องทึ่ง เมื่อเขาหันไปพูดกับฆาตกรที่ฆ่าลูกชายของเขาว่า “ผมไม่โทษคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมโกรธปีศาจที่ทำให้คุณหลงทำผิด” คุณพ่อยังบอกอีกว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาเลือกที่จะให้อภัยฆาตกร เพราะการให้อภัยเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในศาสนาอิสลาม ท่าน ดร. สมบัติ จิตต์หมวด คุณพ่อของนายสาลาฮูดิน เป็นชาวไทยมุสลิมที่ไปแต่งงานและอยู่อาศัยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ท่านยังเป็นนักการศึกษาและนักกิจกรรมทางสังคมที่แข็งขันอีกด้วย แน่นอนว่าคำพูดของ ดร. สมบัติ…
-
ใยแมงมุมขนาดยักษ์ปกคลุมทั่วผืนป่าในนครเยรูซาเล็ม ความอัศจรรย์ใจของธรรมชาติ
แมงมุมที่มาชักใยอยู่ในบ้าน มักจะสร้างความรำคาญใจให้กับเรา เพราะใยของมันจะกักเก็บเศษขยะจนทำให้พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกและมีความยุ่งยากในการทำความสะอาด แต่เมื่อแมงมุมชักใยตามแหล่งธรรมชาติ มันกลับกลายเป็นความงดงามที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้มันถูกทำลาย นอกจากจะนี้มันยังเป็นที่อยู่อาศัยและกับดักล่อเหยื่อของแมงมุมด้วย จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเข้าไปแทรกแซง ล่าสุดมีการค้บพบใยแมงมุมขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นโดยแมงมุมเขี้ยวยาว (Tetragnatha) ปกคลุมทั่วผืนป่าข้างลำห้วย Soreq ใกล้กับกรุงเยรูซาเล็ม แน่นอนว่านี่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ค่อนข้างแปลกที่แมงมุมจำนวนมากมาชักใยอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทั้งๆ ที่ปกติพวกมันจะชักใยแยกกันและเป็นหย่อมเล็กๆ เท่านั้น มีคำอธิบายทางด้านวิทยาศาสตร์ว่าลำห้วย Soreq และบริเวณใกล้เคียงนั้น มีสารอาหารที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการแพร่พันธุ์ของยุง ส่วนยุงนั้นถือเป็นแหล่งอาหารสำคัญของแมงมุม ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมข้างลำห้วย Soreq จึงเต็มไปด้วยใยแมงมุมขนาดยักษ์ สำหรับใยของแมงมุมนั้นแม้จะมีขาดเล็กและบาง แต่มันมีคุณสมบัติเหนียวเป็นพิเศษแถมยืดหยุ่นได้ดีและสามารถรับน้ำหนักได้ดีอย่างเหลือเชื่อ พื้นที่ไหนที่มีความอุดมสมบูรณ์ แมงมุมจะยิ่งชักใยเป็นวงกว้างขึ้น เพราะจะทำให้เหยื่อมาติดใยได้ง่ายนั่นเอง . ใยแมงที่ดูบางเบา แต่มันกลับยืดหยุ่นและแข็งแรงอย่างเหลือเชื่อ . . . ที่มา designyoutrust
-
ช่างภาพเผยเบื้องหลังการถ่ายภาพ ที่ต้องทุ่มทั้งร่างกายและความคิด เพื่อความสมบูรณ์แบบ
เราอาจจะเคยเห็นภาพถ่ายที่สวยงามไร้ที่ติ ทั้งแสง สี มุมกล้อง รวมทั้งองค์ประกอบอื่นๆ แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่ากว่าจะได้ภาพแบบนั้นมาช่างภาพต้องทำอะไรบ้าง? Gilmar Silva ช่างภาพชาวอิตาเลียนจึงได้รวบรวมเบื้องหลังของการถ่ายภาพ ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ ทุ่มเททั้งร่างกายและความคิดในการครีเอทภาพ โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมใด สำหรับโปรเจกต์นี้มีชื่อว่า LUGARxPHOTO (สถานที่และภาพถ่าย) ซึ่งเป็นภาพที่ต้องอาศัยทั้งสิ่งแวดล้อมรอบตัวและความคิดสร้างสรรค์ของช่างภาพในการทำให้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบ ในการถ่ายรูปนั้น คนส่วนใหญ่จะหาสถานที่ ฉากหลังที่สวยงามเพื่อให้ภาพออกมาตามที่ต้องการ แต่สำหรับช่างภาพมืออาชีพนั้น พวกเขาสามารถเปลี่ยนสถานที่ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่พิเศษได้ . . บางครั้งจำเป็นต้องพึ่งโฟโต้ชอปเหมือนกัน . แม้แต่หญ้าแห้งข้างทาง ช่างภาพก็สามารถเนรมิตรให้กลายเป็นทุ่งหญ้าที่สว่างสดใสได้ บางครั้งการถ่ายภาพต้องทำงานเป็นทีม ไมว่าจะเป็นช่างภาพ ผู้ช่วย และตัวนางแบบหรือนายแบบเอง . . น้ำโคลนที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นสถานที่ถ่ายรูปได้ แต่ช่างภาพทำได้ . ทีมเวิร์คคือสิ่งสำคัญในการถ่ายภาพนอกสถานที่ ไม่ต้องไปไกลถึงทะเล ก็มีภาพคู่สุดโรแมนติกได้ . . . . .…
-
11 ทริคเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับร่างกาย ที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น ทำไมไม่รู้ให้เร็วกว่านี้ฟร๊ะ!?
ร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำอะไรได้หลายอย่าง ยิ่งเรารู้จักร่างกายมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่มนุษย์ส่วนใหญ่มักจะไม่รู้จักกลไกบางอย่างภายในร่างกาย ที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น โดยเฉพาะ 13 ทริคต่อไปนี้ 1. คุณสามารถหยุดการจามได้โดยการใช้นิ้วกดลงบนบริเวณเหนือริมฝีปากบน การจามเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่อาจห้ามได้ แต่หากคุณอยู่ต่อหน้าคนที่คุณแอบปลื้มหรืออยู่ในสถานการณ์สำคัญ การไม่จามน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า วิธีทำให้หยุดจามคือ ใช้นิ้วใดนิ้วหนึ่งกดลงบนบริเวณเหนือริมฝีปากบน แล้วจะทำให้คุณหายจากการอยากจามทันที แต่ในกรณีที่ไม่ได้ผล ให้คุณเอามือปิดปากและจมูกระหว่างจาม หรือจะยกแขนขึ้นแล้วจามใส่ข้อพับศอกก็ได้ 2. เมื่อร่างกายได้รับความเย็นมากเกินไป จนรู้สึกว่าสมองแข็งทื่อไปด้วย ให้ดันลิ้นขึ้นไปที่เพดานปาก มันคือวิธีแก้ฉุกเฉิน ก่อนที่คุณจะได้ดื่มน้ำอุ่น หรือคุณหาน้ำดื่มตรงนั้นไม่ได้แล้วจริงๆ สำหรับสาเหตุของอาการสมองตึงและเทคนิคอื่นในการคลายความตึง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ npr 3. หากอยู่ในห้องที่เสียงดังมากๆ แล้วอยากได้ยินเสียงของคนข้างๆ ที่คุยกับคุณ ให้ค่อยๆ ดึงหูทั้งสองข้างไปด้านหลัง จากนั้นก็ดันหูทั้งสองข้างเข้าหากัน ที่หูของเราจะมีส่วนที่เรียกว่า “tragus” เป็นส่วนที่ป้องกันไม่ได้ให้เสียงรอบนอกเข้ามารบกวนการฟังเสียงและทำให้คุณได้ยินคนข้างๆ ได้ชัดขึ้น 4 การนอนตะแคงซ้ายจะช่วยทำให้ไม่เกิดอาการเสียดท้อง หลังจากที่คุณเพิ่งจัดมื้อหนักไป เราเคยได้ยินว่า หลังจากที่กินไม่ควรจะเข้านอนทันที แต่ควรรอสัก 3-4 ชั่วโมงก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียดท้อง แต่จริงๆ คุณไม่จำเป็นต้องรอนานขนาดนั้น เพราะการนอนตะแคงซ้ายช่วยคุณได้ 5 ห้ามเลือดกำเดาด้วยการเอียงศีรษะไปข้างหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็บีบจมูกไว้ประมาณ…
-
หญิงสาวที่เคยอ้วนจนต้องนั่งรถเข็น ลดน้ำหนักได้เกือบ 200 กิโล จนกลับมีชีวิตที่มีแฮปปี้อีกครั้ง
การลดน้ำหนักนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนจึงยอมแพ้และยอมอยู่กับความอ้วนอย่างภาคภูมิใจ แต่คุณจะรู้สึกภูมิใจกว่าเมื่อสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จ Amber Rachdi จาก Troutdale รัฐออริกอน เป็นหนึ่งในตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกในการลดความอ้วน เพราะเธอเคยมีน้ำหนักมากถึง 298 กิโลกรัม ตอนอายุ 23 ปี การต้องใช้ชีวิตกับน้ำหนักเกือบ 300 กิโลนั้น ทำให้หญิงสาวไม่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เธอไม่สามารถขับรถได้(แทบจะนั่งในรถไม่ได้ด้วยซ้ำ) เธอไม่สามารถอาบน้ำเองได้ และแทบจะไม่สามารถออกจากบ้านเพื่อซื้อาหารได้ เวลาไปไหนมาไหน Amber ต้องใช้สกู๊ตเตอร์หรือมอเตอร์ไซต์ ที่สำคัญเธอต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ เพราะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต่อมาหญิงสาวได้ไปออกรายการ TLC… ตอนนั้นเองที่เธอตระหนักได้ว่าชีวิตมันไม่ควรเป็นแค่การอยู่รอดไปวันๆ เท่านั้น Amber ตัดสินใจทำในสิ่งที่เธอคิดมาตลอดว่าไม่สามารถทำได้ นั่นคือการลดน้ำหนัก และเธอก็ได้เริ่มลงมือทำ ณ ตอนนั้นเลย สิ่งแรกที่ทำคือการเดินเพื่อลดน้ำหนัก โดยอยู่ภายใต้การดูแลของ Dr. Younan Nowzardian ขณะที่ทางครอบครัวก็ย้ายไปอยู่ในฮูสตัส รัฐเท็กซัส เพื่อที่จะได้อยู่ชิดกับลูกในระหว่างที่เธอต่อสู้กับลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ “คุณต้องทุ่มเทที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีและยั่งยืน มันไม่สายเกินไปเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” Amber กล่าว จากนั้นเธอก็เริ่มลดปริมาณแคลอรี่…
-
เด็กหญิง 9 ขวบ จองทริปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ มูลค่า 35,000 บาท เพราะเดารหัสผ่าน Paypal พ่อถูก
เมื่อก่อนผู้ใหญ่จะเป็นคนสอนเด็กๆ ให้ใช้สื่อเทคโนโลยีต่างๆ แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีเข้าถึงง่าย เด็กสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เผลอๆ เด็กจะสอนผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ เหมือนอย่างกรณี เมื่อเด็กหญิงวัยเพียง 9 ขวบ ได้ทำการซื้อบัตรดิสนีย์แลนด์ด้วยตัวเอง ในราคา 35,000 บาทผ่าน PayPal โดยการเดารหัสผ่านของพ่อ วันนั้น Ian Wilson ผู้เป็นพ่อกำลังนอนกลับ โดยที่ Susan ลูกสาววัย 9 ได้เอาโทรศัพท์พ่อไปเล่น ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร Susan จึงได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินในราคา 17,000 บาท จองโรงแรม 9,000 บาท และตั๋วเข้าดิสนีย์แลนด์อีก ประมาณ 17,000 บาท โดยเธอได้เลือกวันถัดไปสำหรับทริปนี้ เธอได้เข้าไปจองตั๋วผ่านเว็บไซต์ Getyourguide ส่วนโรงแรมกับตั๋วเครื่องบินได้จองผ่านเว็บไซต์ Bravofly… ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอบังเอิญเดารหัสผ่าน Paypal ของพ่อถูก ทางด้าน Ian ไม่รู้เรื่องเลยว่าลูกสาวได้ทำอะไรไปบ้าง จนกระทั่ง 3 วันต่อมา เขาเห็นข้อความแจ้งเตือนว่ามีเงินออกจากบัญชีของเขา เมื่อรู้ว่าเงินที่หายไปนั้น เป็นเพราะลูกสาวได้ทำการจองตั๋วต่างๆ เขาจึงตัดสินใจโทรไปหา Yorkshire Bank Paypal และบริษัทท่องเที่ยว เพื่อยกเลิกการจองและขอรับเงินคืน …
-
นายพรานถูกกวางป่าฆ่าตาย หลังจากที่ต้อนให้มันจนมุม ทำให้มันหันมาสู้แทนการหนี…
ธรรมชาติของสัตว์ส่วนใหญ่มักจะไม่ทำร้ายใครก่อน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกทำร้าย จู่โจม หรือถูกทำให้กลัว มันก็จะสู้ไม่ถอยเพื่อปกป้องตัวเองเช่นกัน อย่างกรณีนี้ เมื่อนายพรานคนหนึ่งเข้าไปล่ากวางในป่า แต่สุดท้ายเขากลับถูกกวางป่าจู่โจมจนเสียชีวิต… เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Regis Levasseur นายพรานวัย 62 ปี ได้เข้าไปล่าสัตว์ในป่า France’s Compiegne ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีสประมาณ 80 กิโลเมตร ขณะนั้นเขาได้เจอกับกวางป่าตัวหนึ่ง และแน่นอนว่าเขาอยู่ในสถานะที่เหนือกว่า เพราะมีอาวุธติดตัวด้วย จากนั้นเขาก็พยายามไล่ต้อนให้เจ้ากวางจนมุม เมื่อกวางป่าอ่อนแรงจากการหนี มันจึงตัดสินใจที่จะหันหน้ามาต่อสู้มากแทนที่จะวิ่งหนี เพื่อปกป้องตัวเองจากความตาย สำนักข่าว The Local รายงานว่า Levasseur ถูกกวางป่าโจมตีโดยการใช้เขาแทงเข้าไปที่ด้านหลังของเขา ส่งผลให้มีเลือดออกภายในอย่างรุนแรง และเสียชีวิตก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะมาถึง สื่อยังบอกอีกว่า Levasseur กำลังจะแต่งงานในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ ด้านทาง Guy Harlé ประธานสหพันธ์ล่าสัตว์ในท้องถิ่นเผยว่า “สำหรับ Levasseur แล้ว การล่าสัตว์เป็นมากกว่างานอดิเรก แต่มันคือชีวิตของเขา” “โดยปกติแล้ว เวลาที่สัตว์โดนล่า มันจะวิ่งหนีจนวินาทีสุดท้าย แต่กวางตัวนี้เลือกที่จะสู้แล้วก็ใช้เขาแทงไปที่ด้านหลังของ Levasseur” “สำหรับเขากวางนั้น มันเหมือนมีดหลายๆ ใบที่เจาะเข้าร่างกายของคุณ แล้วคุณจะไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากต้องยอมจำนนต่อความตาย”…
-
23 ไอเดียในการประหยัดพื้นที่ ให้ห้องเล็กๆ ของคุณยังเหลือพื้นที่ให้ใช้สอยอีกเยอะ!!
การอยู่หอหรืออยู่บ้านที่มีพื้นที่ไม่มากหรือคับแคบ อาจกลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้เราไม่สามารถทำหรือซื้อทุกอย่างที่ต้องการได้ แต่จริงๆ แล้ว หากคุณรู้จักจัดการพื้นที่อย่างสร้างสรรค์ จะพบว่าแม้จะอยู่ในพื้นที่แคบๆ แต่คุณก็สามารถมีทุกอย่างที่ต้องการได้ เหมือนกับไอเดียต่อไปนี้ 1. โต๊ะพับเก็บได้ โต๊ะที่คุณสามารถเอามากางทุกเมื่อที่ต้องการใช้ และสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน โดยที่ไม่ต้องลำบากยกไปไว้ที่อื่น ทั้งยังสามารถใช้พื้นเดียวกันวางหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อีก 2. ชั้นวางรองเท้า เป็นการเก็บรองเท้าหลายๆ คู่ ในพื้นที่เล็ก แถมยังดึงเข้าดึงออกได้สะดวกด้วย 3. เก้าอี้นวมแบบปรับนอน จะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถมีที่นั่งกับที่นอนเป็นอันเดียวกัน ไม่ต้องซื้อมาทั้งสองอย่าง เพราะนอกจากเปลืองเงินแล้ว มันยังกินที่อีกด้วย . 4. แผ่นรองรีดผ้าแบบแม่เหล็ก แทนที่จะซื้อโต๊ะรีดผ้ามา คุณแค่ซื้อแผ่นรองรีดผ้าแล้วเอาไปปูบนเครื่องซักผ้าหรือพื้นผิวที่เป็นโลหะ เมื่อใช้งานเสร็จจะพับเก็บหรือปูไว้แบบนั้นก็ได้ ไม่เกะกะแน่นอน 5. ตู้หนังสือแบบขั้นบันได สำหรับคนที่ชอบสะสมหนังสือ นี่อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คุณเก็บหนังสือได้อย่างเป็นที่เป็นทาง หาง่าย และเป็นการใช้พื้นได้อย่างคุ้มค่า 6. เก้าอี้ซ้อนพร้อมโต๊ะ เก้าอี้พร้อมโต๊ะที่สามารถจัดเก็บไว้ได้อย่างเป็นระเบียบเมื่อไม่ใช้งาน จะไว้ในบ้านหรือตามที่สาธารณะก็ไม่ต้องห่วงว่าจะกินพื้นที่แต่อย่างใด . 7. เก้าอี้…
-
ซากเรือสวีเดนโบราณอายุกว่า 350 ปี ถูกค้บพบพร้อมกับความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้น้ำลึก
ใต้ท้องทะเล นอกจากจะมีสิ่งมีชีวิต พืช และสิ่งธรรมชาติอื่นๆ แล้ว ยังมีซากสิ่งของของมนุษย์จมอยู่ ทั้งที่ตั้งใจให้จมและไม่ตั้งใจ หนึ่งในสิ่งที่มักถูกค้นใต้ทะเลคือ “เรือ” ซึ่งบางลำจมอยู่ใต้ท้องทะเลนานนับร้อยๆ ปีกว่าจะถูกค้นพบ เหมือนกับเรือ Bodekull ที่อยู่ใต้ทะเลบอลติกมานานถึง 350 ปี เรือดังกล่าวนี้ถูกพบเมื่อปี 2003 ที่หมู่เกาะสตอกโฮล์ม ทางตอนใต้ของประเทศฟินแลนด์ แต่ที่น่าสนใจคือเรือลำนี้มีความลี้ลับซ่อนอยู่ ทั้งขนาดและสิ่งที่อยู่ภายในต่างสร้างความประหลาดใจให้ผู้ค้นพบไม่น้อยเลยทีเดียว ตั้งแต่มีการค้นพบ นักโบราณคดีได้ดำน้ำลงไปสำรวจเป็นระยะๆ โดยใช้อุปกรณ์สมัยใหม่เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือที่จมอยู่ใต้ทะเล เรือ Bodekull ได้รับการระบุโดยดอกเตอร์ Niklas Eriksson จากศูนย์การศึกษาทางทะเลและภาควิชาโบราณคดีและการศึกษาคลาสสิกของมหาวิทยาลัยสตอกโฮล์ม จากการสำรวจพบว่ามันเป็นเรือสมุทรของสวีเดนที่จมลงใต้ทะเลในช่วงสงคราม Scanian เมื่อปี ค.ศ. 1678… Eriksson กล่าวว่า “เรือ Bodekull เป็นเรือขนาดเล็ก และรายละเอียดสัดส่วนต่างๆ ถูกสร้างขึ้นให้เหมือนเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่” ภายในเรือ Bodekull มีหลายสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ อาวุธปืน ดาบ กระสุนปืน ปืนใหญ่ กระจก ภาชนะเครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือ และรองเท้า นอกจากนี้ยังทีมงานยังพบว่ามีปืนใหญ่ติดตั้งอยู่ทางด้านข้างของเรือ มีรูปสิงโตแกะสลักบนคันธนู แต่มีส่วนที่หายไปคือสัญลักษณ์ของอาณาจักรสวีเดน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เรือรบสมัยนั้นทุกลำต้องมี…
-
วิถีชีวิตคนเลี้ยงแกะในที่สูงสุดแห่งยุโรป ต้อนแกะย้ายถิ่นฐานจากที่สูงสู่ที่ต่ำ เป็นประจำทุกปี…
ปกติเรามักจะเห็นแกะถูกเลี้ยงในทุ่งหญ้าเขียวๆ ดูแล้วสบายหู สบายตา จนอยากลองไปเป็นเด็กเลี้ยงแกะสักครั้ง แต่การเลี้ยงแกะในชีวิตจริง มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปนะขอบอก วันนี้เราจะพาไปดูอีกมุมของการเลี้ยงแกะของผู้คนที่ภูเขา Tusheti ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจอร์เจีย ที่มีแกะมากกว่ามนุษย์ และชีวิตแบบสมัยใหม่แทบจะไม่ได้เห็นจากที่นี่ ภูเขา Tusheti มีถนนที่อันตรายที่สุดในยุโรป มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยมากที่สุด แต่พวกเขามีการอพยพสัตว์ที่น่าทึ่งที่สุดในทวีปเลยก็ว่าได้ ทุกๆ เดือนตุลาคม คนเลี้ยงแกะจะออกเดินทางพร้อมเหล้าของท้องถิ่นที่เรียกกันว่า Chaca และเสี่ยงชีวิตเพื่ออพยพแกะนับร้อยๆ ตัวจากยอดภูเขาไปยังที่ราบของ Kakheti สำหรับภาพการเดินทางในปีนี้ได้รับการบันทึกโดย Amos Chapple ช่างภาพจาก Radio Free Europe โดยได้ถ่ายภาพไว้ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจนกระทั่งสิ้นสุดการเดินทาง นั่นหมายความว่าเขาได้ออกเดินทางพร้อมคนเลี้ยงแกะด้วย นี่คือภูมิทัศน์ของพื้นที่ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ซึ่งคนภายนอกไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น . Dato Chkhareuli เป็นหนึ่งคนเลี้ยงแกะจาก 6 คน ที่พาฝูงแกะกว่า 1,000 ตัวเดินทางผ่านภูมิประเทศที่ยากลำบากในครั้งนี้ สำหรับไอเดียในการมาตามถ่ายภาพคนเลี้ยงแกะในครั้งนี้ Chapple คิดขึ้นได้ขณะที่ถ่ายภาพด้วยกล้องโดรน เขาได้มาอยู่ในภูเขา Tusheti เป็นเวลา 2 วัน และได้รับมอบหมายให้ถ่ายภูมิประเทศทั้งหมดด้วยโดรน แม้ว่าจะมีเวลาอยู่ที่นี่จำกัด แต่เมื่อเขาได้ยินว่ามีการอพยพแกะผ่านหนทางที่สุดจะอันตราย Chapple ก็คิดขึ้นได้ว่าถ้าไปที่นั่นได้ ต้องได้ภาพเจ๋งๆ…
-
หญิงน้ำใจงามก่อตั้ง “Cleaning for a Reason” คุณรักษามะเร็งไป เราดูแลบ้านให้อย่างดี!!
ผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่มักจะไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิต เพราะนอกจากต้องทำเคมีบำบัดและฉายรังสีเป็นประจำแล้ว พวกเขายังต้องทำงานในชีวิตประจำวันด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยหญิงที่ต้องห่วงเรื่องงานบ้าน ด้วยเหตุนี้ Debbie Sardone จึงได้ก่อตั้ง Cleaning for a Reason องค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อทำความสะอาดบ้านฟรีให้กับผู้หญิงที่กำลังต่อสู่กับโรคมะเร็ง เดิมทีนั้น Sardone มีธุรกิจทำความสะอาดอยู่แล้ว กระทั่งวันหนึ่งมีผู้ป่วยมะเร็งคนหนึ่งโทรมาเรียกใช้บริการจาก Sardone แต่เมื่อสอบถามค่าบริการแล้ว เธอบอกว่ามีเงินไม่พอและจะโทรหาอีกครั้งเมื่อมีเงินพอ เมื่อได้ยินดังนั้น Sardone จึงได้รวมทีมงานส่วนหนึ่งแล้วไปที่บ้านของผู้ป่วยคนนั้น และช่วยกันทำความสะอาดบ้านอย่างดี โดยไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว ประสบการณ์ในครั้งนั้น ทำให้หญิงสาวเกิดแรงบันดาลใจในการต่อตั้งมูลนิธิเพื่อทำความสะอาดบ้านให้ผู้ป่วยมะเร็งฟรี และเธอก็คิดถึงผู้ป่วยคนนั้นมาตลอด หลายปีต่อมา Sardone ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวในที่ชุมของผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด สร้างความสนใจให้ผู้คนเป็นจำนวนมาก และหลายคนอยากร่วมทำงานกับเธอ ในที่สุดเธอจึงได้ก่อตั้ง Cleaning for a Reason ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อทำความสะอาดบ้านฟรีให้กับผู้ป่วยมะเร็งหญิง มีทั้งบริษัทใหญ่ เล็ก และบุคคลทั่วไปที่อยากทำงานร่วมกับเธอ เพราะทุกคนคิดเหมือนกันว่าผู้ป่วยมะเร็งเจ็บปวดจากการรักษาแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่ควรต้องมาห่วงเรื่องงานบ้านอีก ปัจจุบัน Cleaning for a Reason ครอบรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เธอได้ทำความสะอาดบ้านฟรีให้ผู้ป่วยมะเร็งมากกว่า 19,000 คนแล้ว คิดเป็นมูลค่า 182…
-
เปิดตำนาน “ต้นไม้ฆาตกร” ผู้ล่อลวงนกน้อยมากินอาหาร จากนั้นก็สังหารพวกมันให้ตายช้าๆ
ปกติแล้ว ต้นไม้จะทำหน้าที่เป็นที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ โดยเฉพาะนกที่ชอบทำรังบนอยู่บนนั้น แต่สำหรับ Pisonia Brunoniana มันคือต้นไม้ที่ฆ่านกมาแล้วนับไม่ถ้วน Pisonia Brunoniana เป็นพรรณไม้ดอกขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดในแถบเขตร้อนจากฮาวายไปจนถึงนิวซีแลนด์และทางตะวันตกของอินเดีย ต้นพีโซเนียจะมีเนื้ออ่อนนุ่ม มีใบขนาดใหญ่ มันวาว และมีความลี้ลับบางอย่างแฝงอยู่…หากขุดลงไปยังส่วนราก คุณจะพบซากกระดูกเต็มไปหมด จนทำให้มันถูกเรียกว่า “ต้นไม้ฆาตรกร” ต้นพีโซเนียจะผลิตฝักเมล็ดที่ปกคลุมไปด้วยของเหลวที่มีความเหนียว หากนกหรือแมลงไม่ทันระวังหรือไม่รู้แล้วบินมาเกาะเมล็ด ยิ่งขนของพวกมันไปติดบนเมล็ดหลายๆ ลูก ก็จะยิ่งบินออกยาก และอาจตายอยู่ตรงนั้น หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว นกที่มาติดกับดักของต้นพีโซเนีย มักจะหนีออกมาไม่ได้ ทำให้มันตายและกลายเป็นศพแห้งบนต้นไม้ แล้วห้อยลงมาเหมือนสิ่งประดับต้นคริสต์มาสยังไงอย่างงั้น ย่ิงไปกว่านั้น นกที่ติดอยู่บนต้นไม้ ทั้งมีชีวิตอยู่และตายไปแล้ว มักจะเป็นเหยื่อล่อให้นกตัวอื่นๆ สนใจ และมาติดกับดักด้วยในที่สุด ต่อมาเมื่อ Alan Burger นักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับต้นไม้ที่คร่าชีวิตนกนับไม่ถ้วน เขาเกิดความสงสัยว่ามันเหตุผลอยู่เบื้องหลังกลไกการดักจับหรือมันอาจจะเป็นแค่วิวัฒนาการของต้นไม้เท่านั้น ดังนั้นในต้นเดือนพฤษภาคม ปี 1999 Burger จึงเดินทางไปยังหมู่เกาะเซเชลส์ในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อทำการศึกษาต้นพีโซเนีย และอยู่ที่นั่นนานถึง 10 เดือน Burger กล่าวว่า “จากการทดลองของผมพบว่า…
-
เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ผู้เกิดมาพร้อมหัวใจเพียงครึ่งดวง ขอแต่งงานกับรักแท้ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด
การที่เราเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะขาดหรือเกินไปบ้าง ไม่ได้แปลว่าเราจะมีชีวิตต่างจากคนอื่น แต่เราสามารถมีทุกอย่างได้เหมือนคนทั่วไป ทั้งความสุข ความรัก และความสำเร็จ เหมือนกับ Sophia Chiappalone เด็กหญิงที่แม้จะเกิดมาพร้อมหัวใจเพียงครึ่งเดียว แต่เธอรู้จักความรักและขอแต่งงานกับรักแท้ด้วยวัยเพียง 5 ขวบ เด็กหญิงตัวเล็กๆ คนนี้ เกิดมาพร้อมความบกพร่องทางพันธุกรรม ส่งผลให้เธอมีหัวใจเพียงครึ่งเดียว และจะต้องเข้ารับการผ่าตัดไปตลอดชีวิต นั่นทำให้เธอเข้าออกโรงพยาบาลตั้งแต่เกิด ตอนแรกคุณหมอคิดว่าเด็กหญิงน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 1 ขวบ แต่การคาดการณ์นั้นผิดพลาด เพราะ Sophia พยายามต่อสู้กับความบกพร่อง จนตอนนี้เธอมีอายุได้ 5 ขวบแล้ว เด็กหญิงจะต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่ก่อนที่วันนั้นมาถึง Sophia บอกกับ Kristy Somerset-Chiappalone ผู้เป็นแม่ว่าเธออยากแต่งงานกับหนุ่มน้อยในฝันของเธอ นั่นก็คือเพื่อนชายที่เรียนด้วยกันนั่นเอง มันอาจจะเป็นคำขอที่ดูเป็นเด็ก แต่คุณแม่รู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่มีความหมายกับลูกมาก เธอจึงได้จัดให้ตามคำขอและถ่ายรูปแต่งงานให้พวกเขาด้วย สำหรับความบกพร่องที่ Sophia เผชิญอยู่นี้ คุณหมอได้บอกว่ารายละเอียดว่า เธอเกิดมาโดยไม่มีอวัยวะที่เชื่อมต่อระหว่างหัวใจและหลอดเลือดแดงในปอด แพทย์คิดว่าเธอเป็นโรค DiGeorge ซึ่งเป็นความผิดปกติของโครโมโซม เธอมีหัวใจแค่ครึ่งซ้าย โอกาสที่จะรอดมีน้อยมาก และแทบจะไม่มีเหตุผลอะไรทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ แต่เด็กน้อยกลับมีวันนี้ได้อย่างเหลือเชื่อ จนกลายเป็นเด็กน้อยมหัศจรรย์สำหรับผู้เป็นแม่…
-
ภาพนางแบบสาวบนเก้าอี้ไม้ ที่คนแชร์กันทั่วโลก ที่แท้ไม่ใช่คน แต่เป็นจินตนาการของศิลปินญี่ปุ่น!!
การที่ศิลปินจะวาดภาพให้สมจริงนั้น จำเป็นต้องมีแบบหรือคนต้นแบบ เพื่อให้ภาพที่ออกมาไม่ผิดเพี้ยน แต่ได้มีศิลปินญี่ปุ่นคนหนึ่งได้วาดภาพเหมือนจริงที่ออกมาจากจินตนาการของเขา Osamu OBI เป็นศิลปินชาวญี่ปุ่นที่มีทักษะในการวาดรูปเหมือนจริงที่น่าทึ่งมาก โดยล่าสุดเขาได้เผยแพร่ภาพนางแบบสาวบนเก้าอี้ไม้ จนมีคนแชร์กันทั่วโลก แต่แล้วทุกคนก็ต้องเซอร์ไพรส์ เมื่อรู้ว่าภาพนางแบบที่เห็นในภาพนั้นเป็นภาพวาดไม่ใช่คนจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ใช่คนที่ตัวตนอยู่จริง แต่เป็นผู้หญิงที่มาจากจินตนาการของ Osamu ล้วนๆ สำหรับใครที่อยากไปดูภาพนี้แบบใกล้ชิด สามารถเข้าชมได้ที่พิพิธภัณฑ์ Hoki ในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2017 โดยจะจัดแสดงที่นั่นเป็นเวลา 3 ปีเลยทีเดียว เนื่องจากมีหลายคนสนใจผลงานของ Osamu ชิ้นนี้มาก เขาจึงได้เผยเบื้องหลังของการวาดภาพดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
คลิปสาธิตการผลิตอาหารปลอมจากญี่ปุ่น ที่เอาไว้โชว์ตามตู้หน้าร้านอาหารต่างๆ
ตามร้านอาหารเรามักเห็นมีการนำผัก ผลไม้ หรืออาหารปลอมมาตั้งโชว์แทนของจริง เพราะมันอยู่ได้นานโดยไม่เหี่ยวหรือเสีย หลายๆ คนอาจสงสัยว่าอาหารปลอมเหล่านั้นมันทำยังไงกันนะ ทำไมถึงเนียนและเหมือนของจริงเป๊ะเลย วันนี้เราจะพาไปดูเบื้องหลังการทำอาหารปลอมภายในเวลาไม่กี่นาที นี่เป็นการสาธิตการอาหารปลอมในญี่ปุ่น ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นบางคนยังต้องแปลกใจ เพราะมันเป็นการเปลี่ยนของเหลวให้กลายเป็นอาหารรูปร่างต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง คลิปการทำอาหารปลอมที่ถ่ายใน Gujo Town จังหวัดกิฟุ ของญี่ปุ่น คลิปข้างต้นนี้ถ่ายใน Gujo Town ในจังหวัดกิฟุ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดอุตสาหกรรมการทำอาหารพลาสติกของญี่ปุ่น โดยเป็นการทำอาหารปลอมจากขี้ผึ้งแล้วเทลงในน้ำอุ่น หากต้องการให้อาหารออกมาเป็นสีแบบไหน ก็เทสีนั้นลงไป อย่างในคลิปนี้เป็นการทำกะหล่ำ คนทำก็จะเทขี้ผึ้งสีขาวกับสีเขียวลงไป แน่นอนว่ากะหล่ำไม่ได้มีผิวเรียบ ดังนั้นคนทำจึงค่อยๆ ใช้มือขยับแผ่นขี้ผึ้งเบาๆ เพื่อให้มีผิวหยาบและบางลง เสร็จแล้วก็ทำการม้วนแผ่นขี้ผึ้งนั้นให้เป็นก้อนกลมๆ คล้ายกับรูปทรงกะหล่ำ . . หลังจากที่ทำเป็นก้อนกลมๆ แล้ว ก็นำไปแช่ไว้ในน้ำเย็น เพื่อทำให้มันอยู่ทรงและเก็บรักษาไว้ได้นาน . เมื่อผ่าครึ่ง มันก็ดูเหมือนกะหล่ำจริงๆ นอกจากนี้เขายังสาธิตการทำกุ้งเทมปุระปลอมด้วย โดยทำจากขี้ผึ้งเหมือนกัน เคล็ดลับอย่างหนึ่งของการทำอาหารปลอมคือ ต้องรักษาอุณภูมิของน้ำให้พอดีและคงที่…
-
คุณแม่ไว้ผมทรงเดิมตลอด 37 ปี ลูกๆ เลยพาไปออกรายการ แปลงโฉมให้สวยเช้งเลย
ผู้หญิงหลายๆ คนมักจะเสริมสร้างความมั่นใจจากการตัด แต่ง ทรงผม โดยจะเปลี่ยนทรงผมที่แตกต่างกันตามสถานการณ์ ความชอบ ยุคสมัย และแฟชั่นในช่วงเวลานั้นๆ แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่า Joan Irvine เป็นคุณแม่ที่ทำผมทรงเดิมมาตลอด 37 ปี โดยที่ไม่รู้สึกเบื่อ จนลูกๆ และคนรอบข้างพากันเบื่อแทน Cindy และ Christine ลูกสาวของ Joan ไม่เคยเห็นแม่เปลี่ยนทรงผมเลย เพราะเธอทำทรงเดิมตั้งแต่ก่อนที่ลูกๆ จะจำความได้ซะอีก ที่สำคัญทรงที่ทำอยู่นี้ก็ดูแก่กว่าวัยด้วย ครั้งแรกลูกๆ คิดว่าแม่คงไม่อยากทำอะไรซับซ้อน เลยไม่ได้เปลี่ยนทรงผม แต่ที่ไหนได้ ทรงที่แม่ทำอยู่นี้ต้องทำสัปดาห์ละครั้ง ครั้งหนึ่งใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง ทั้งสระ ดัด เป่าแห้ง และย้อมให้เป็นสีเทาทั้งหัว เท่านั้นยังไม่พอ Joan ต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือทำผมต่างๆ ทำให้ผมอยู่ทรงได้นานที่สุดด้วย และทุกครั้งที่ไปว่ายน้ำ เธอจะไม่ยอมให้ผมเปียกเด็ดขาด นอกจากทรงผมแล้ว เสื้อผ้า และเครื่องสำอางของแม่ก็กำลังจะหมดแล้วเหมือนกัน ดังนั้น Cindy และ Christine จึงได้ขอความช่วยเหลือจาก Oprah Winfrey พิธีกรรายการชื่อดัง The Oprah Winfrey Show …
-
เฮ้ยยย!!? จริงดิ คู่รักหนุ่มสาวเกาหลี หน้าละอ่อนเหมือนวัยมัธยม มีลูกสองแล้วนะจ๊ะ!?
ขณะนี้ได้มีกระแสหนึ่งที่เป็นที่ถกเถียงกันในโลกออนไลน์ เป็นเรื่องคู่รักวัยรุ่นชาวเกาหลีที่ท้องก่อนแต่ง โดยประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดคือ “พวกเขายังเด็กเกินไปที่จะเลี้ยงลูกได้” จริงๆ แล้ว พ่อแม่วัยใสนั้นแทบจะเป็นเรื่องที่พบบ่อยในสังคมปัจจุบัน แต่การที่คู่รักคู่นี้ถูกยกมาเป็นประเด็นถกเถียง นั่นก็เพราะว่าพวกเขายังดูเป็นเด็กอยู่นั่นเอง ฝ่ายหญิงคือ Hong Yingqi เกิดเมื่อปี 1992 ตอนนี้อายุ 25 ปี เธอสูงเพียง 148 ซม. เธอทั้งตัวเล็กและหน้าเด็กจนถูกเข้าใจว่าเป็นเด็กประถมตลอดเวลา ส่วนแฟนหนุ่มคือ Li Shirong เกิดปี 1995 อายุ 22 ปี เขาเป็นคนที่หน้าเด็กมากเช่นกัน ทั้งคู่เดทกันเมื่อปี 2011 โดยฝ่ายชายเป็นคนสารภาพรักก่อน ภาพของพวกเขามักถูกนำไปแชร์ในเฟซบุ๊กบ่อยๆ จนกระทั่งปลายเดือนมีนาคมของปี 2014 Yingqi ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่าเธอมีลูกกับ Shirong และตั้งชื่อให้ลูกว่า Sejong แน่นอนว่านั่นกลายเป็นประเด็นร้อนที่ถกเถียงกันในโลกออนไลน์ มีแต่คนบอกว่าพวกเขาจะไปไม่รอด พวกเขาเด็กเกินไปที่จะเลี้ยงลูกได้ และคำดูถูกอื่นๆ อีกมากมาย ท่ามกลางกระแสโจมตีนั้น ยังโชคดีที่ทั้งคู่ไม่ต้องฝ่าฟันปัญหาตามลำพัง แต่ได้รับกำลังใจและการสนับสนุนจากพ่อแม่ จนในที่สุดทั้งคู่ก็ให้กำเนิดลูกน้อย Sejong ต่อมา…
-
หมีสีน้ำตาลที่ถูกร้านอาหารขังไว้ในอาร์มีเนีย ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว
เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม เราได้นำเสนอเรื่องราวของหมีสีน้ำตาลผู้น่าสงสารสองตัว ที่ถูกกักขังไว้ภายในกรงเหล็กขนาดเล็ก เพื่อให้เป็นจุดสนใจสำหรับดึงลูกค้าเข้ามารับประทานอาหาร อ่านข่าวเก่า ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังพบร้านอาหารใน ‘อาร์มีเนีย’ ขังหมีไว้ให้ลูกค้าดูเล่น..!? หมีทั้งสองตัวคือ Misha และ Dasha พวกมันถูกขังไว้ที่ริมน้ำของร้านอาหารในอาร์มีเนีย ตามรายงานบอกว่ามันมีชีวิตอยู่ได้ด้วยเศษอาหารเหลือของลูกค้า และอยู่ในกรงเหล็กแคบๆ นี้มาเป็นเวลา 10 ปี แล้ว แต่โชคดี หลังจากที่ข่าวดังกล่าวถูกนำเสนอไป และมีการแชร์ต่อในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เข้าไปช่วยเหลือมันออกมา เมื่อทีมช่วยเหลือไปถึง พวกเขาได้ใช้เครื่องมือไฟฟ้าทำลายกรงเหล็ก ก่อนจะย้ายหมีทั้งสองตัวไปอยู่ในกรงใหม่ที่มีขนาดใหญ่และอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เชื่อกันว่า Misha และ Dasha เป็นหมีสีน้ำตาลสองตัวแรกใน 80 ตัว ที่ได้รับการปลดปล่อยมาจากอาร์เมเนียโดยองค์กร International Animal Rescue (IAR) และ Federation for the Preservation of Wildlife and Cultural Assets ทั้งสององค์กรนี้ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้หมีหลุดพ้นจากสภาพที่โหดร้ายพร้อมพาพวกมันไปอยู่ในที่ปลอดภัย นอกจากนี้เว็บไซต์ IAR ยังเผยอีกว่ามีหมีจำนวนมากที่ถูกขังไว้ในกรงแคบๆ เช่นนี้ โดยมีน้ำหรืออาหาร…
-
คุณรู้รึยัง.. งานวิจัยเผยว่า ชายหนุ่ม “จู๋คด” จะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งสูงกว่าคนทั่วไป
ผู้ชายหลายๆ คนอาจไม่ค่อยใส่ใจเรื่องขนาดหรือรูปร่างของอวัยวะเพศ แต่รู้มั้ยว่ารูปร่างของอวัยวะเพศเนี่ยสามารถบอกโรคได้นะ… จากการศึกษาใหม่ล่าสุดค้นพบว่าผู้ชายที่มีอวัยวะเพศคดงอ มีความเสี่ยงมากที่จะเป็นโรคมะเร็งชนิดต่างๆ โดยมีโอกาสเป็นมะเร็งเร็งอัณฑะ 40% มะเร็งผิวหนัง 29% และมะเร็งกระเพาะอาหาร 40% โรคดังกล่าวนี้มีชื่อเรียกว่า โรคอวัยวะเพศชายโค้งงอ (Peyronie’s disease) ซึ่งคาดว่าผู้ชายน่าจะมีโอกาสเป็นได้ถึง 7% เลยทีเดียว ผลการวิจัยดังกล่าวถูกนำเสนอใน American Society for Reproductive Medicine หลังจากที่วิทยาลัย Baylor College ในฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ได้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ป่วยมากกว่า 1.5 ล้านคน ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังการวิจัยกล่าวว่าผู้ชายที่มีอวัยวะเพศโค้งงอ ควรได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ในขณะที่อังกฤษได้เพิ่มเติมว่าควรมีการตรวจคัดกรองเป็นประจำ เพื่อที่จะได้พบมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและทำการรักษาอย่างทันท่วงที ทางด้าน Alexander Pastuszak ผู้นำการวิจัยบอกว่า “เราได้วิเคราะห์พันธุกรรมของพ่อลูกคู่หนึ่งที่เป็นโรคอวัยวะเพศชายโค้งงอเหมือนกันพบว่าพวกเขามีชุดของยีนที่เหมือนกัน และอาจนำไปสู่มะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะได้” Pastuszak ยังบอกอีกว่า “โรคนี้มีลักษณะคล้ายกับโรค Dupuytren ซึ่งเป็นภาวะที่นิ้วมือ 1 นิ้วหรือมากกว่านั้นงออย่างถาวร นอกจากนี้มันยังมีความเกี่ยวข้องกับโรคพังผืดที่ฝ่าเท้าด้วย” สำหรับโรคอวัยวะเพศชายโค้งงอนี้ ผู้ชายมีโอกาสเป็นตั้งแต่ 3.7-7.1 เปอร์เซนต์ แต่อาจมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งมากกว่านี้หากผู้ป่วยไม่ยอมบอกความจริงกับแพทย์ เนื่องจากเรื่องนี้ค่อนข้างสร้างความอับอายให้กับผู้ชายพอสมควร ในขณะที่โฆษกของสถาบันวิจัย Cancer…
-
25 ภาพก่อน-หลังการลดน้ำหนัก ที่เปลี่ยนไป จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนเดียวกัน…
การลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ยิ่งยากเท่าไหร่มันก็ยิ่งมีความท้าทายให้เราอยากเอาชนะ และหากเรามีความพยายาม มีความมุ่งมั่นพอ มันจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ที่มุ่งมันจนเอาชนะความอ้วนได้ ไม่เพียงแต่จะมีรูปร่างที่ดีขึ้น แต่ยังได้สุขภาพที่ดีกลับมาและเป็นแรงบันดาลให้คนอื่นๆ อีกด้วย 1. จากที่เคยมีน้ำหนักมากถึง 270 กิโลกรัม วันนี้รูปร่างเธอเปลี่ยนไป จนกลับมามั่นใจอีกครั้ง 2. การลดน้ำอาจใช้เวลาเป็นปีๆ ที่สุดท้ายแล้วคุณจะมีความสุขเมื่อทำสำเร็จ 3. ภายใน 1 ปี ลดไปถึง 20 กิโลกรัม 4. จากที่เคยหนัก 101 กิโลกรัม ลดเหลือ 65 กิโลกรัม ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี 5. หลังจากที่ลดน้ำหนักไป 133 กิโลกรัม เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย 6. รูปร่างเปลี่ยน หลังเลิกดื่มเป็นเวลา 1 ปี 7. คู่รักที่ลดน้ำหนักไปพร้อมกัน แต่พวกเขาบอกว่านี่ยังไม่พอและจะทำต่อไป…
-
สร้างศูนย์ Apple ปลอมๆ ขึ้นมา พร้อมหน้าม้ารอซื้อ iPhone อีก 50 คน จนมีคนหลงเชื่อจริงๆ
ไอโฟนถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทุกครั้งมีการวางจำหน่ายไอโฟนรุ่นใหม่จะมีคนนับร้อย นับพัน มาต่อแถวรอซื้อ หวังจะได้ครอบครองเป็นคนแรกๆ ของประเทศ และเพื่อทดสอบปฏิกิริยาของผู้คนที่มีต่อไอโฟน ผู้คนกลุ่มหนึ่งจึงได้ทำภารกิจสร้างศูนย์ Apple ปลอม โดยการดัดแปลงจากลิฟท์โดยสารสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในนิวยอร์ก จากนั้นพวกก็ได้ติดตั้งโลโก้ Apple ปลอมที่ด้านข้างของลิฟท์ พร้อมหน้าม้าอีก 50 คน ให้ทำเหมือนกำลังรอต่อแถวซื้อไอโฟน X ที่เพิ่งออกใหม่ ไอเดียนี้เป็นความคิดของ Deanna Director, Maggie McClurken และ Josh Berger พวกเขาได้เลือกลิฟท์ที่สถานีรถไฟฟ้า 23rd Street เพราะมันเป็นตู้กระจกที่ดูเหมือนกับศูนย์ Apple จริงๆ Deanna และทีมงานได้ทำภารกิจปลอมๆ นี้ ภายใต้ชื่อ Improv Everywhere โดยได้ขอความร่วมมือจากผู้คนอยู่ใน Madison Square Park เพื่อให้มาเป็นหน้าม้าต่อแถวรอซื้อไอโฟน ตัวแทน Improv Everywhere ได้รับความสนใจจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาตั้งแต่ตอนติดตั้ง เตรียมการ จนกระทั่งเปิดศูนย์ Apple จริงๆ แล้วโปรเจกต์นี้ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จ หลังจากที่ติดตั้งเสร็จ ทีมงานก็ได้มีการพูดคุยกับหน้าม้า จากนั้นแผนก็เริ่มขึ้น ส่วนทีมงานของ Apple ปลอมนั้น…
-
บริษัทญี่ปุ่น เริ่มนโยบายรณรงค์ลดสูบบุหรี่ ด้วยการเพิ่มวันหยุดพิเศษให้พนักงานที่ไม่สูบบุหรี่
ใครๆ ก็รู้ว่าการสูบบุหรี่นั้นไม่ดีต่อสุขภาพทั้งยังส่งผลต่อคนรอบข้างด้วย แต่เมื่อติดไปแล้วก็ยากที่จะเลิก แม้แต่การขึ้นราคาบุหรี่ก็ไม่อาจหยุดยั้งพวกเขาได้ ด้วยเหตุนี้ Piala Inc บริษัทการตลาดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น จึงได้ออกนโยบายรณรงค์ลดการสูบหรี่ ด้วยการเพิ่มวันลาพักร้อนให้กับพนักงานที่ไม่สูบบุหรี่ Hirotaka Matsushima โฆษกของ Piala Inc เผยว่า “เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีพนักงานที่ไม่สูบบุหรี่คนหนึ่งได้เขียนข้อความลงในกล่องแนะนำของบริษัท โดยบอกว่าการพักไปสูบบุหรี่ทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน” สำหรับสำนักงานใหญ่ของ Piala Inc ตั้งอยู่บนชั้นที่ 29 ของอาคารสำนักงานในเขต Ebisu ของโตเกียว เวลาที่ต้องการสูบบุหรี่ พนักงานต้องลงไปที่ใช้ใต้ดิน ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดอย่างต่ำ 15 นาที ในการออกไปสูบบุหรี่แต่ละครั้ง ต่อมาเมื่อ CEO ก็เห็นข้อความนั้น เขาก็เห็นด้วย และตัดสินใจจะชดเชยให้กับพนักงานที่ไม่สูบบุหรี่ โดยออกนโยบายเพิ่มวันหยุดพิเศษให้เป็น 6 วันต่อปี หลังจากที่ประกาศใช้นโยบายนี้มีพนักงาน 30 คนจาก 120 คน ได้ใช้สิทธิดังกล่าวในการหยุดงานเพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Matsushima บอกว่า “นโยบายนี้เริ่มใช้ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน จนถีงตอนนี้มีพนักงานเลิกสูบบุหรี่แล้ว 4…
-
25 ภาพ ที่ทำให้กระจ่างว่าทำไมผู้หญิงถึงมีอายุยืนกว่าผู้ชาย รอดมาได้ถือว่าโชคช่วย…
ธรรมชาติของผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชอบความท้าทาย ทำเรื่องเสี่ยงๆ เป็นว่าเล่น กล้าได้กล้าเสียในทุกเรื่อง และสิ่งเหล่านี้ที่กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงมีอายุยืนกว่าผู้ชาย 1. ถ้าตัดต้นไม้จนล้ม ผู้ชายในภาพนี้จะเป็นยังไงนะ 2. เขตอันตราย ห้ามสูบ ห้ามกิน ห้ามดื่ม แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่แคร์ป้ายเตือนเอาซะเลย 3. เช็ดกระจกจำเป็นต้องเสี่ยงขนาดนี้เลยหรอ 4. เป็นการเข้าอาคารที่อันตรายเกินจะบรรยาย 5. ชำนาญแล้ว แว่นตงแว่นตาไม่ต้อง 6. ต้องเอาใจช่วยพวกเขานะคะ ไม่ว่ารู้ว่าจะตกลงมาก่อนหรือโดนไฟช็อตก่อน 7. เป็นการต่อบันไดที่กล้าหาญมาก 8. ถ้าคนขับเลี้ยวแบบไม่ทันระวัง จะเกิดอะไรขึ้นนะ… 9. บันไดดีกว่ามั้ยพี่ 10. นี่ถ้าคนในบ้านไม่รู้ เผลอเปิดหรือปิดประตู…ไม่อยากคิดภาพต่อจากนั้นเลย 11. ห่วงความปลอดภัยคนอื่น แล้วอย่าลืมห่วงความปลอดภัยตัวเองนะ 12. เดี๋ยวๆ ข้างล่างนั่นทำไรอะ 13. พลาดท่าขึ้นมาละก็……
-
สาวญี่ปุ่นร่วมกันเปิดเผย ‘เสน่ห์’ ของผู้ชาย ที่ทำให้พวกเธอหลงใหลได้มากที่สุด!?
ในสังคมญี่ปุ่นนั้น หน้าที่ของพ่อกับแม่จะถูกแบ่งไว้ค่อนข้างชัดเจน คือพ่อจะทำงานนอกบ้านและทุ่มเทให้กับอาชีพของตัวเอง โดยไม่ต้องสนใจเรื่องในบ้านใดๆ ทั้งสิ้น (ง่ายๆ คือเป็นกระเป๋าเงินก็พอ) ในขณะที่ผู้เป็นแม่จะเลิกไปทำงานนอกบ้าน แล้วหันมาดูแลทุกอย่างในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลลูก ทำอาหาร และทำงานบ้านทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 ที่ผ่านมา หน้าที่ของผู้ชายและผู้หญิงได้มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก โดยผู้หญิงที่มีการศึกษาเริ่มทำงานนอกบ้านมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงนี้อยู่ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงควรจะช่วยกันทำมาหากิน และควรจะแบ่งความผิดชอบภายในบ้านอย่างเท่าเทียมกัน แต่บรรทัดฐานทางสังคมที่มีมานาน ไม่ได้หายไปอย่างรวดเร็วอย่างที่คิด ทำให้ชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเผยถึงเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ ดังนี้ “การให้ภรรยาทำทุกอย่างในบ้านนั้นจะทำให้คู่รักอยู่กันไม่ยืนยาว แต่ถ้าให้สามีทำงานบ้านอย่างจริงจัง ภรรยาก็จะมองว่าความสุภาพบุรุษของสามีมีน้อยลง มีภรรยาคนไหนที่ชื่นชมเวลาที่เห็นสามีซักผ้า พับผ้า หรือรีดผ้า พวกเธอคงจะคิดว่ามีเพื่อนชายช่วยทำงานบ้านมากกว่า” จากความเห็นข้างต้นนี้ ดูเหมือนผู้ชายจะไม่ค่อยเข้าใจความต้องการของผู้หญิงสักเท่าไหร่ ดังนั้นผู้หญิงญี่ปุ่นจึงออกมาเผยว่าการที่ผู้ชายช่วยทำงานและดูแลลูกนั้น ทำให้ผู้ชายมีเสน่ห์มากขึ้นต่างหาก โดยแม่บ้านได้ร่วมกันแชร์ภาพของผู้ชายที่มีเสน่ห์ บางคนแชร์ภาพสามีตัวเอง บางคนแชร์ภาพเซเลบชายในบทบาทพ่อบ้าน รวมทั้งผู้ชายญี่ปุ่นคนอื่นๆ ผ่านทางแฮชแท็ก #หากผู้ชายทำงานบ้านและดูแลลูก หลังจากที่มีการแชร์ภาพของสามีที่เสน่ห์ ก็มีผู้หญิงอีกมามายเข้ามาแสดงความเห็น บางคนบอกว่า “สามีที่ซักผ้า พับผ้า น่าสนใจมากกว่าผู้ชายที่ประสบความสำเร็จจากการทำงานนอกบ้านซะอีก”…
-
หญิงสาวถูกจับกุม หลังก่อเหตุฆาตกรรมว่าที่สามีและครอบครัวของเขา เพราะไม่อยากแต่งงานด้วย
ปัจจุบันนี้ในบางประเทศยังมีการคลุมถุงชนให้เห็นกันอย่างเปิดเผย และผู้หญิงมักจะตกเป็นเหยื่อการกระทำเช่นนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับ Aasia Bibi หญิงสาววัย 20 จากปากีสถานที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่รัก เธอจึงตัดสินใจฆ่าว่าที่สามีพร้อมครอบครัว หวังจะหลุดพ้นจากการคลุมถุงชน Bibi อาศัยอยู่ในเมือง Muzaffargarh ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศปากีสถาน เธอเพิ่งจะกลับมาหาพ่อแม่ แต่แล้วเธอก็ถูกบังคับให้กลับไปยังบ้านของว่าที่สามีทั้งๆ ที่เธอเองก็มีคนรักอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงวางแผนฆ่า Amjad ว่าที่สามีของเธอ ด้วยการวางยาพิษในภาชนะที่บรรจุนม ตอนแรกเธอหวังจะให้เขาดื่มแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาด ทำให้ครอบครัวของฝ่ายชายทุกคนดื่มนมที่มียาพิษนั้นเข้าไป ยกเว้น Amjad คนเดียวที่ไม่ได้ดื่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจ Awais Ahmad Malik บอกว่า Bibi ได้วางยาพิษในภาชนะที่บรรจุนม และให้ว่าที่สามีกับครอบครัวของเขาดื่มเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย และกำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 11 คน ต่อมาตำรวจพบว่าเหยื่อทุกคนได้รับสารพิษชนิดเดียวกัน และยังมีหลักฐานด้วยว่าเป็นฝีมือของ Bibi ดังนั้นเธอจึงถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม ร่วมกับคนรักของเธอ Shahid และป้าของเขา Zarina Mai ทั้งสามคนถูกจับภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ Malik บอกว่า “เพื่อยับยั้งคนในท้องถิ่นไม่ให้ก่ออาชญากรรม” ทางด่าน Bibi ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด…
-
เมื่อพนักงานถูกบังคับให้ไปทำงานในวันหยุดฮาโลวีนที่ผ่านมา ก็เลยประชดเจ้านายซะเลย
การต้องไปทำงานในวันหยุดนี่มันนรกชัดๆ เพราะนอกจากจะไม่ได้พักผ่อนแล้ว คุณยังอดปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนๆ ด้วย โดยเฉพาะวันฮาโลวีน วันฮาโลวีนตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี และถือเป็นวันหยุดประจำปีของหลายๆ ประเทศ เนื่องจากเป็นวันที่ชาวคริสเตียนจะเฉลิมฉลองกันก่อนถึงวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย (All Saints’ Day) ซึ่งถือว่าเป็นวันสำคัญทางศาสนาของพวกเขา โดยปกติในวันฮาโลวีนจะมีการแต่งตัวแฟนซีไปร่วมงานปาร์ตี้ และทำกิจกรรมสนุกๆ กับเพื่อนหรือครอบครัว เช่น เล่นเกมทดสอบความกล้า เล่นรอบกองไฟ เล่นพิเรน และชมภาพยนต์สยองขวัญ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายๆ คนจึงไม่อยากพลาดวันแห่งความสนุกนี้ แต่ก็มีอีกหลายๆ หน่วยงาน ที่ไม่ให้พนักงานหยุดงานในวันดังกล่าว ทำให้พนักงานรู้สึกเบื่อบ้างที่ต้องมาทำงานในวันที่ควรจะได้ไปปาร์ตี้ เหมือนหนึ่งในพนักงานของกรมการขนส่งทางบกในเขตซานดิเอโกที่ต้องมาทำงานในวันฮาโลวีน เขาคงจะรู้สึกเซ็ง เลยตัดสินใจคอสเพลย์เป็น Flash Slothmore ตัวละครจากเรื่อง Zootopia ซะเลย ใครที่เคยดูการ์ตูนเรื่อง Zootopia คงจะนึกภาพเจ้า Flash Slothmore ออก มันคือตัวสล๊อต ที่ทำหน้าเหมือนเบื่อทุกอย่างตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนยิ้ม นั่นแหละที่ทำให้พนักงานของกรมการขนส่งทางบกหยิบหน้ากาก Flash Slothmore ใส่มาทำงานในวันฮาโลวีน เป็นการประชดแบบเบาๆ แต่รู้เรื่อง…
-
ช่างภาพใช้โดรนเก็บภาพลาวาทางอากาศ เผยให้เห็นความร้อนแรงที่งดงามซะเหลือเกิน
ด้วยอุณหภูมินับพันองศาเซลเซียส ลาวาจากภูเขาไฟจึงเป็นสิ่งที่อันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก แต่มันก็มีความงดงามอย่างล้ำลึก อย่างไรก็ตามควรมองด้วยตาเท่านั้นอย่าสัมผัสหรือเข้าใกล้เป็นอันขาด เพื่อเผยให้เห็นความงามของลาวาภูเขาไฟ ช่างภาพ Erez Marom จึงเดินทางไปยังฮาวายเมื่อเดือนตุลาคมปี 2017 และใช้เวลาอยู่ที่นั่น 2 สัปดาห์ด้วยกัน Erez กับเพื่อนได้ไปเก็บภาพที่ Big Island เป็นจุดแรก ที่นั่นมีการไหลของลาวาจากภูเขาไฟ Kilauea พวกเขาเห็นสีแดงจากความร้อนและสีดำจากการเผาไหม้ อยู่รวมกันได้อย่างงดงามยิ่ง แต่กว่าจะเห็นลาวาเหล่านี้มันไม่ง่ายเลย พวกเขาต้องเดินทางขึ้นเขาเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร โดยพบว่ามีลาวาบางส่วนที่ไหลออกนอกอุทยานแห่งชาติด้วย ดังนั้นเพื่อให้เห็นลาวาได้ทั่วทุกมุม ช่างภาพจึงใช้กล้องโดรนบินเก็บภาพตามทิศทางต่างๆ รวมทั้งส่วนที่เข้าถึงได้ยาก ช่างภาพบอกว่า “ลาวาไหลลงมาจากเนินเขาอย่างช้าๆ สร้างความประทับใจไม่น้อยเลย เราได้ใช้เวลาในการเก็บภาพประมาณ 3 ชั่วโมง ทั้งตอนกลางวัน ตอนพระอาทิตย์ตก และตอนพลบค่ำ” เมื่อแน่ใจว่าได้ภาพครบทุกมุมตามต้องการแล้ว Erez และเพื่อนๆ จึงได้เดินทางกลับที่พัก และเมื่อเขาเช็คสภาพของโดรนที่ส่งไปถ่ายภาพ เขาก็ถึงกับเซอร์ไพรซ์เลยทีเดียว เพราะความร้อนได้ทำลายส่วนที่เป็นพลาสติกทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดดูภาพ เขากลับรู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไป เพราะสิ่งที่ได้คือภาพการไหลของลาวาที่งดงามตระการตายิ่งนัก…
-
ทนายอียิปต์กล่าว ‘ผู้หญิงที่สวมกางเกงยีนส์ขาด ควรถูกข่มขืน’ และผู้ชายทุกคนควรทำแบบนั้น
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อทนายความชาวอียีปต์คนหนึ่งได้พูดออกรายการว่า ผู้หญิงที่สวมกางเกงยีนส์ขาด ควรถูกข่มขืน และเป็นหน้าที่ของผู้ชายทุกคนที่ควรทำแบบนั้น นี่คือคำพูดของทนาย Nabih al-Wahsh ที่พูดผ่านรายการโทรทัศน์ของช่อง Al-Assema ในระหว่างที่ทางรายการให้แขกรับเชิญมาพูดภายใต้หัวข้อสิ่งผิดกฎหมายร้ายแรง เขาบอกว่าการที่ผู้หญิงสวมกางเกงยีนส์ขาดแล้วเผยให้เห็นเนื้อหนัง ไม่ว่าจะส่วนไหนก็ตาม มันคือการยั่วยวนให้ผู้ชายเกิดอารมณ์ทางเพศ เขายังบอกอีกว่า การข่มขืนผู้ที่สวมกางเกงยีนส์ขาดคือหน้าที่ระดับชาติ นั่นหมายความว่าไม่ใช่แค่สิ่งผู้หญิงเหล่านั้นสมควรถูกกระทำ แต่มันคือหน้าที่ของผู้ชายอียีปต์ทุกคนที่ต้องทำแบบนั้น เพื่อให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะเคารพในตัวเอง “ผู้หญิงต้องเคารพตัวเองก่อนที่จะให้คนอื่นมาเคารพ เหมือนกับการปกป้องศีลธรรมที่สำคัญกว่าการปกป้องชายแดน” al-Wahsh กล่าว เขาบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของชายชาวอียีปต์ทุกคนที่ควรข่มขืนผู้หญิงที่สวมกางเกงยีนส์ขาด แน่นอนว่าหลังจากที่เขาพูดแบบนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศเสรี และกลุ่มสตรีนิยม จนนำไปสู่การถกเถียงในสื่อออนไลน์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทนาย Al-Wahsh พูดจาแบบนี้ผ่านรายการโทรทัศน์ เมื่อปีที่แล้วเขาได้ไปร่วมรายการทอล์คโชว์ในประเทศออสเตรเลีย เขาบอกว่าการใส่ฮิญาบเป็นเพียงทางเลือกของผู้หญิง ไม่ใช่ความต้องการทางศาสนาตามที่หลายคนเข้าใจ… ที่มา dailymail
-
17 สายตาพิฆาตจากเหล่าแมวเหมียว ที่มีความออดอ้อนอย่างรุนแรง ทนไม่ไหวก็แพ้ปายยย
เรารู้กันอยู่แล้วว่าแมวเป็นสัตว์สายขี้อ้อน อยากได้อะไรก็จะมาคลอเคลีย นัวเนียมนุษย์ จนเราต้องสนองความต้องการของมันแบบปฏิเสธไม่ลง นอกจากคลอเคลียแล้ว บางทีมันยังใช้สายตาพิฆาตเป็นลูกอ้อน จนเราต้องใจอ่อนอีกคนได้ ดังนั้นใครที่ใจไม่แข็งพออย่าจ้องตาพวกมันเชียวล่ะ ไม่งั้นคุณตกเป็นทาสของมันอย่างแน่นอน และนี่คือตัวอย่างเจ้าเหมียวผู้มีสายตาพิฆาต ที่เกินจะต้านทานไว้ 1. เจอสายตาแบบนี้ ใครจะเมินลง 2. อ้ออ๊อย หนู อยากได้ไรหยอ 3. ใครได้เลี้ยงแมวตัวนี้ คงหมดเนื้อหมดตัวแน่ 4. งุ้ย อย่าทำสายตาแบบนี้ 5. อย่าหลงกลมันเชียวล่ะ 6. สายตาน่าเอ็นดู๊วววน่าเอ็นดู 7. จองตาปุ๊บได้เป็นทาสเลย 8. แววตาที่สดใสคู่นี้ แฝงไปด้วยพลังพิฆาต 9. มาพร้อมท่าซะด้วย 10. สายตาที่ไม่ว่าใครก็ปฏิเสธไม่ลง 11. ตามันก็จะใสหน่อยๆ 12. เง้อออ มีความแบ๊ว …
-
ชีวิตอันแสนเศร้าของเจ้าช้าง ที่เปลี่ยนเจ้าของมากกว่า 27 ครั้ง และถูกขังมานานกว่า 50 ปี
ช้างเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่มักจะถูกมนุษย์ใช้งานด้วยการให้ขนสัมภาระที่มีน้ำหนักมาก เช่น ลากไม้ แบกของ และอื่นๆ ที่มนุษย์ไม่สามารถทำด้วยพละกำลังของตัวเองได้ เท่านั้นยังไม่พอ สัตว์ยังถูกซื้อขายในฐานะสัตว์ใช้งานอีกด้วย พวกมันต้องทำตามที่ควาญช้างสั่งทุกอย่าง หากไม่ทำก็จะถูกทำโทษอย่างรุนแรง Raju คือหนึ่งในช้างที่ถูกมนุษย์ทารุณและกักมานานกว่า 50 ปี เพื่อใช้งาน แต่ในที่สุดองค์กรเพื่อสัตว์ Wildlife SOS-UK ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือมันจากทางตอนเหนือของ Uttar Pradesh ประเทศอินเดีย ก่อนจะย้ายไปที่ Elephant Conservation and Care Centre ในเมือง Mathura และนี่คือข้อมูลจาก Mirror และ Wildlife SOS เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตอันแสนเศร้าของ Raju ที่ทำให้รู้ว่าก่อนจะได้รับการช่วยเหลือมันเคยผ่านอะไรมาบ้าง ก่อนที่ Wildlife SOS-UK จะเข้าไปช่วยเหลือ Raju เคยมีเจ้าของมาแล้วกว่า 27 คน และแน่นอนว่าการช่วยครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ด้วยเหตุนี้ Wildlife SOS-UK จึงต้องเข้าไปช่วยเหลือพร้อมทีมสัตวแพทย์กว่า 10 คน ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์จากองค์กรการกุศล คนที่ทำงานใน Palmers Green…
-
22 ภาพที่จะมาบอกว่าเหล่าแฟนๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ คือคนที่ทำให้ฮาโลวีนมีสีสันมากที่สุด
ในเทศกาลฮาโลวีนของทุกๆ ปี เราจะเห็นผู้คนแต่งตัวแปลกๆ ด้วยการแต่งให้น่ากลัว น่ารักบ้าง รวมทั้งการคอสเพลย์ตัวละครจากภาพยนต์ต่างๆ และแน่นอนว่าเหล่าแฟนๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ก็ไม่พลาดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างจัดเต็มในธีมแฮร์รี่ พอตเตอร์ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างสีสันให้ฮาโลวีนไม่น้อยเลย 1. ลูน่า เลิฟกู๊ด ผู้มองเห็นคนตาย 2. นี่ก็แต่งเป็น ลูน่า เลิฟกู๊ด เหมือนกัน 3. แฮร์รี่ พอตเตอร์ตัวน้อยขี่มังกร 4. หนูน้อยแมนเดรก 5. นี่ก็ถูกจับแต่งเป็นแมนดดรกเช่นกัน แต่ดูเหมือนเจ้าหนูไม่เต็มใจเลยนะ 6. แต่งเป็น Hogwarts Express รถไฟด่วนประจำโรงเรียนเวทมนตร์ 7. เฮ็ดวิก นกฮูกผู้ซื่อสัตย์ 8. เฮ็ดวิกสไตล์น้องหมา 9. Patronus ผู้พิทักษ์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ 10. ส่วนนี่คือทรีลอว์นีย์ 11.…
-
หนุ่มคอสเพลย์แบบโลวคอสสไตล์รัสเซีย โหดจริงๆ อาจไม่เหมือน แต่รับประกันความฮา
ในการแต่งคอสเพลย์แต่ละครั้งนั้น มักจะมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม ยิ่งอยากให้เหมือนต้นแบบมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องลงทุนมากเท่านั้น ดังนั้นเราจึงมักจะแต่งเฉพาะเวลาไปงานที่มีการกำหนดธีม หรือแต่กันเล่นๆ ขำๆ ในบางเวลาเท่านั้น แต่สำหรับ Alexander Kravets การแต่งคอสเพลย์ดูเหมือนจะเป็นมากกว่างานอดิเรกซะอีก เพราะไม่เพียงแต่งเพื่อความสนุก แต่เขายังแบ่งปันความฮาให้แฟนๆ ที่ติดตามเขาในอินสตาแกรมด้วย Alexander ตกหลุมรักการคอสเพลย์เมื่อปี 2015 ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เร่ิมแต่งคอสเพลย์ในแบบฉบับของตัวเอง คือไม่เน้นเหมือนแต่เน้นฮา ที่สำคัญไม่ต้องซื้ออุปกรณ์หรือเสื้อผ้าเพิ่มด้วย แต่ใช้สิ่งที่มีอยู่รอบตัวมาประดับบนเรือนร่างได้อย่างลงตัว ทุกๆ ครั้งที่ Alexander แต่งคอสเพลย์ เขาไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย นั่นทำให้หน้าอินสตาแกรมของเขาเต็มไปด้วยรูปการคอสเพลย์ที่ไม่ซ้ำกัน นอกจากนี้ ชายหนุ่มยังเรียกชื่อการคอสเพลย์ในแบบของเขาว่า “suitable cosplay” ซึ่งเป็นการคอสเพลย์ที่ทุกคนสามารถทำได้ เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างหาได้จากในบ้านนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นหม้อ กระทะ ไดร์เป่าผม หรือแม้แต่อาหารต่างๆ ในหนึ่งสัปดาห์ Alexander จะโพสต์ภาพคอสเพลย์ 3-4 ครั้ง มีทั้งถ่ายในบ้านบ้าง นอกบ้านบ้าง อาจจะไม่เหมือนมาก แต่รับประกันความฮาทุกรูป และเพราะการคอสเพลย์ที่แตกต่างนี้เอง ทำให้เขามีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากเทียบเท่ากับกับดาราดังคนหนึ่งเลย…
-
25 ภาพความเฟลที่เกิดจากพ่อแม่ แต่ความซวยตกไปอยู่ที่ลูก แหม่ ทำไปได้…
การเลี้ยงดูลูกน้อยไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะพ่อแม่มือใหม่ หรือแม้แต่คนที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนก็อาจมีผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ได้ และความผิดนั้นแหละที่ทำให้ความน่าสงสารตกไปอยู่ที่ตัวเด็ก เหมือนกับภาพเหล่านี้ที่พ่อแม่ร่วมกันแชร์ความผิดพลาดของพวกเขา ซึ่งกลายเป็นโมเม้นต์ตลก แม้ลูกน้อยจะไม่ได้รู้สึกตลกด้วยก็ตาม 1. เมื่อลูกหลับระหว่างไปเที่ยวสวนสัตว์ แทนที่พ่อแม่จะเจ้าสัตว์ตัวนี้ออกไป กลับถ่ายรูปเก็บไว้ซะงั้น 2. นี่คงจะเป็นการถ่ายรูปครอบครัวที่ปวดร้าวสุดๆ สำหรับเด็กน้อยคนนี้ 3. แม่ให้ลูกใส่เสื้อตัวนี้ไปโรงเรียน เพื่อให้เข้ากับเทศกาลคริสต์มาส เอ๊ะ แต่แม่คงจะลืมดูภาพบนเสื้อ… ลุงซานต้ากำลังทำอะไรนะ?? 4. เมื่อพ่อไม่ว่างเลยให้ลูกดื่มน้ำเอง 5. จับดีๆ นะลูก… อะ อ้าว ไปไหนซะแล้ว 6. แม่ทิ้งเปลือกเมล็ดทานทะวันระหว่างนั่งรถกลับบ้าน หันไปดูอีกที ลูกก็อยู่ในสภาพนี้แล้ว 7. เมื่อให้พ่อพาลูกสาวไปซื้อชุดใหม่ คิดถูกมั้ยเนี่ย 8. พี่ชายที่ต้องทำหน้าที่ดูแลน้องชายตัวเล็กในร้านอาหาร ช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำจริงๆ 9. แม่ให้ลูกๆ ทำท่าเป็นตัวหนังสือ L O V E…
-
24 ภาพ Bofore-After ของเหล่านักล่าในวัยเด็ก ก่อนจะโตมาแข็งแกร่ง ก็เคยใสๆ ไร้เดียงสา
วัยเด็กเป็นช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้น เต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะ และไม่มีอะไรให้ต้องกังวล รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกทางสีหน้า นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเด็กจึงน่ารัก น่าทะนุถนอม ทั้งหมดที่บอกมานี้ไม่ใช่แค่มนุษย์ แต่หมายถึงสิ่งมีชีวิตทั่วโลก โดยเฉพาะสัตว์นักล่าที่อาจจะน่ากลัวเมื่อโตขึ้น แต่ตอนที่พวกมันเป็นเบบี๋ มันน่ารักจนคุณต้องหลงรักเลยหละ 1. เสือดาว เสือดาวเป็นที่รู้จักในฐานะสัตว์ที่ปีนต้นไม้เก่งมาก บ่อยครั้งที่เราจะเห็นมันนั่งพักบนต้นไม้เพื่องีบหลับ แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่มันใช้ต้นไม้เป็นที่ซ่อน เพื่อรอจังหวะจับเหยื่ออย่างลิง อย่างไรก็ตามเขตล่าสัตว์หลักของพวกมันคือพื้นดิน เพราะการล่าเหยื่อบนพื้นจะทำให้มันเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ทั้งยังกระโดดในระยะไกลได้ด้วย 2. หมี โดยทั่วไปแล้วลูกหมีแรกเกิดนั้นจะมีน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม แต่เมื่ออายุได้ 6 เดือน น้ำหนักของมันจะพุ่งไปอยู่ 20 กิโลกรัม กระทั่ง 3 เดือน ฟันของมันจะขึ้นมาครบทุกซี่ และนั่นคือเวลาที่พวกมันเริ่มกินผลเบอรี่ พืช และแมลงได้แล้ว 3. หมาป่า นักวิทยาศาสตร์บอกว่าหมาป่าเป็นสัตว์ที่สามารถแสดงสีหน้าได้ชัดเจนถึง 10 ลักษณะด้วยกัน เช่น โมโห โกรธ เชื่อฟัง…
-
รวมไอเดียชุดเดรสออกงาน ในคอนเซปท์ธรรมชาติเวอร์วัง ราวกับหลุดจากโลกเทพนิยาย!!
ทุกวันนี้เครื่องแต่งกายได้รับการออกแบบขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งเสื่อผ้าที่เน้นความแตกต่าง เน้นความทันสมัย เน้นแฟชั่นย้อนยุค หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่มีความเวอร์วังอลังการ และนี่คืออีกหนึ่งคอสตูมที่จะมาสร้างความแตกต่างให้โลกของแฟชั่น ด้วยชุดเสื้อผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติราวกับหลุดมาจากโลกแห่งเทพนิยายยังไงอย่างนั้น ชุดเสื้อผ้าอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้ได้รับการออกแบบและผลิตโดย Rachel Sigmon ซึ่งเป็นการแสดงให็เห็นถึงศิลปะบนเครื่องแต่งกายในแบบที่ไม่ซ้ำใคร Rachel ไม่ได้ทำเสื่อผ้าลักษณะนี้เป็นงานอดิเรก แต่นี่คืองานหรืออาชีพหลักของเธอ โดยได้จำหน่ายผ่านเว็บไซต์ Etsy ภายใต้ชื่อร้าน Posh Fairytale Couture สำหรับความโดดเด่นของเสื้อผ้าเหล่านี้มักจะเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ ทั้งสี ลวดลาย และสิ่งที่มาประดับบนเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ กิ่งไม้ขนาดเล็ก และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เธอบอกว่าต้องใช้ความละเอียดและความประณีตสูงมาก สำหรับสาวๆ คนไหนที่ได้ใส่ชุดเหล่านี้คงจะมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉมที่มีความลึกลับในโลกแห่งจินตนาการ แต่เวลาจะใส่ต้องเลือกสถานที่และเวลาด้วยนะ Rachel เป็นคนที่มีความหลงใหลในเรื่องเสื้อผ้ามาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งปี 2009 เธอเริ่มทำผ้าคลุมศีรษะ ก่อนจะพัฒนามาทำเป็นคอสตูมเต็มตัวจนทุกวันนี้ ปกติเราจะเห็นเสื้อผ้าลักษณะนี้ให้เช่ามากกว่าขาย แต่สำหรับ Rachel เธอรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมและไม่สุภาพสำหรับผู้ออกแบบและผู้ขาย เพราะคุณได้ใส่ชุดนั้นไปแล้ว เมื่อใส่จนพอใจก็นำมาคืน เธอจึงตัดสินใจขายตั้งแต่แรกแทนที่จะให้เช่าเหมือนคนอื่นๆ . . .…
-
หนุ่มติดอยู่ในตู้เบียร์ เพราะประตูล็อคอัตโนมัติหลังเที่ยงคืน ไหนๆ ก็ออกไม่ได้ ซัดเบียร์ซะเลย
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้จะไม่ผิดกฏหมาย แต่ก็ต้องดื่มหรือซื้อในเวลาที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งบางประเทศเคร่งครัดในเรื่องนี้มาก ถึงกับปิดตู้เครื่องดื่มตามเวลาเป๊ะๆ เหมือนกับเมือง Marshfield ในสหรัฐอเมริกาที่มีกฏห้ามขายเหล้าเบียร์หลังเวลาเที่ยงคืน ดังนั้นเมื่อเที่ยงคืนปุ๊บ ตู้เครื่องดื่มจะทำการปิดอย่างอัตโนมัติ แต่แล้วก็เกิดเหตุบังเอิญ เมื่อ Jeremy Van Ert วัย 38 ปี ติดอยู่ในตู้เบียร์ของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง เพราะเข้าไปในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันพอดี เมื่อทำอะไรไม่ได้เขาจึงกินเบียร์ในนั้นก่อนจะหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ Rick Gramza บอกว่า Van Ert ได้เดินเข้าไปในร้าน Marshfield Kwik Trip เมื่อคืนวันอังคารก่อนเวลาเที่ยงคืน แต่พอถึงเวลาเที่ยงคืนปุ๊บประตู้เบียร์ล็อคทันที จึงทำให้เขาติดอยู่ในนั้น เมื่อรู้ว่าตัวเองติดอยู่ในตู้เบียร์และรู้ว่าทางร้านไม่ขายเบียร์หลังเที่ยงคืน Van Ert จึงตัดสินใจอยู่ในนั้นทั้งคืนโดยไม่ขอความช่วยเหลือ พร้อมดื่มเบียร์ในตู้อย่างเต็มที่ กระทั่งเวลา 6 โมงเช้า มีลูกค้าเข้ามาซื้อเบียร์ และเห็นเขาถูกขังอยู่ในตู้ จึงทำให้เขาออกมาได้ ก่อนจะหนีไปโดยไม่ได้จ่ายค่าเครื่องดื่มที่เขากินไป ตามรายงานของตำรวจบอกว่านาย Van Ert ดื่มเบียร์ Icehouse Beer ขนาด 18 ออนซ์ 1 ขวด…
-
ผู้เชี่ยวชาญแนะให้หลีกเลี่ยง “ทิชชูเช็ดก้น” ไม่สะอาด-เกิดแผล ควรหันใช้สายฉีดน้ำ
เวลาเข้าห้องน้ำ เราหลายๆ คนเคยชินกับการใช้สายฉีดก้นก่อนแล้วค่อยเช็ดด้วยทิชชู่ แต่ห้องน้ำบางแห่งไม่มีสายฉีดก้น มีแค่ทิชชู่ แล้วเวลาใช้ทิชชู่อย่างเดียวเนี่ย เคยรู้สึกมั้ยว่ามันไม่สะอาดพอ? ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้น คุณมาถูกทางแล้วล่ะ เพราะผู้เชี่ยวชาญเผยว่าการใช้ทิชชู่เพียงอย่างเดียวนั้น นอกจากไม่ช่วยทำความสะอาดแล้ว อาจทำให้เกิดแผลบริเวณทวารหนักได้ด้วย Rose George ผู้เขียนเรื่อง The Big Necessity: The Unmentionable World of Human Waste และ Why It Matters ได้ให้เหตุผลว่าทำไมการใช้กระดาษชำระจึงไม่สามารถทำความสะอาดได้เท่าที่ควร เขาบอกว่า “กระดาษชำระแค่ย้ายที่สิ่งสกปรก (อุจจาระ) มันไม่ได้ช่วยในการเช็ดล้างอย่างที่เราเข้าใจ หรือต่อให้เช็ดกี่รอบ มันก็ออกไม่หมดอยู่ดี” ทางด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า “การใช้กระดาษชำระนั้น ช่วยทำความสะอาดเพียงเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้นมันอาจทำให้เกิดแผลได้ง่าย เนื่องจากกระดาษชำระเป็นของแห้ง เมื่อมันเสียดสีกับทวารหนักของเราที่แห้งอยู่แล้ว ก็จะทำให้เกิดแผลตามมา ดังนั้นเราควรใช้ผ้าเช็ดก้นเด็กแทนจะดีกว่า” ปัจจุบันในบางประเทศอย่างญี่ปุ่น จะมีโถสุขภัณฑ์ที่มาพร้อมกับเครื่องทำความสะอาดอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก ในขณะที่อีกหลายๆ ประเทศยังคงใช้วิธีเดิมๆ อยู่ ส่วนการใช้สายฉีดเพียงอย่างเดียวโดยไม่เช็ดให้แห้งนั้นจะทำให้เกิดการอับชื้นและทำให้เกิดเชื้อราในร่มผ้าได้ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ใช้ทิชชู่เปียก เพราะมันทั้งสะอาดและปลอดภัยต่อทวารหนักของเรา …
-
หญิงสาวเขียนจดหมายใส่ขวดเอาไปลอยทะเล… 30 ปีผ่านไป มันกลับมาหาเธอแบบไม่น่าเชื่อ
คนสมัยก่อนมักจะเขียนข้อความสำคัญ อย่างเช่น ข้อความช่วยเหลือ การค้นพบสิ่งใหม่ๆ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ แล้วใส่ขวดก่อนจะเอาไปลอยน้ำ หวังจะให้ข้อความไปถึงบุคคลตามเป้าหมาย แต่หญิงสาวจากเซาท์แคโรไลนาคนนี้กลับมีประสบการณ์ในการลอยข้อความใส่ขวดที่แปลกออกไป เพราะหลังนำจดหมายไปลอยทะเลแล้ว มันดันกลับมาหาเธอในอีก 30 ปีต่อมา ย้อนกลับไปเมื่อ Miranda Chavez อายุเพียง 8 ขวบ เธอได้ไปเที่ยวในช่วงวันหยุดกับพ่อแม่ที่ชายหาด Edisto Beach ในเซาท์แคโรไลนา ขณะที่เด็กหญิงเดินเล่นตามชายฝั่ง เธอก็นึกสนุกขึ้นมา จึงได้เขียนจดหมายใส่ขวด ก่อนจะนำไปลอยทะเล แต่ Chavez จำได้ว่าคุณแม่ให้เขียนวันที่ลงไปด้วย เผื่อจะมีคนเจอในภายหลัง ดังนั้นเธอจึงระบุวันที่วันนั้นเอาไว้ด้วยคือ วันที่ 26 กันยายน ปี 1988… เธอลอยมันไปโดยไม่รู้ว่าใครจะพบมัน หรือจะมีใครเจอมันหรือเปล่า จนกระทั่งเกือบ 30 ปีต่อมา ขณะที่ Linda Humphries และสามี David กำลังเดินทางไปที่เกาะ Sapelo นอกชายฝั่งจอร์เจีย เพื่อทำความสะอาดขยะและเศษซากต่างๆ หลังจากเกิดพายุเฮอริเคนเออร์ม่า ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังทำความสะอาด พวกเขาก็สังเกตเห็นบางอย่าง เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่ามันเป็นขวดที่มีจดหมายอยู่ข้างใน แม้จดหมายเปียกไปบ้าง…
-
ตายายครองรักกันมานาน 72 ปี แม้จะเป็นมะเร็งร้าย แต่ก็ต่อสู้เพื่อให้ได้มีชีวิตอยู่ด้วยกัน
คนที่รักด้วยหัวใจ ต่อให้วันเวลาผ่านไปนานแค่ไหนความรักของพวกเขาก็จะไม่จืดจาง และแม้ว่าต้องเจออุปสรรคมากมายแค่ไหน พวกเค้าก็จะไม่ทิ้งกันแต่จะจับมือกันไปจนถึงวันสุดท้าย เหมือนกับตายายคู่นี้ ที่แม้จะแต่งงานกันมานานถึง 72 ปีแล้ว แต่ความรักของทั้งคู่ก็ยังหวานชื่นเหมือนกับสมัยตอนที่จีบกันใหม่ๆ พวกเขาคือ Zhang Hongye และ Wu Biqing คู่รักชาวจีนที่เกิดในปีเดียวกัน ดังนั้นปัจจุบันทั้งคู่จึงมีอายุ 93 ปีเท่ากัน และอยู่ด้วยกันในศูนย์สวัสดิการสังคม Nanchang Lake Qingshan ทั้งสองได้พบกันครั้งแรกที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 1960 ตั้งแต่นั้นมาทั้งคู่ก็ศึกษาดูใจกัน จนกระทั่งตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน คุณตากับคุณยายและลูกๆ ของพวกเขาบางส่วนที่ทำงานใน Nanchang Lake Qingshan ต่อมาพวกเขาได้ย้ายไปทำงานด้วยกันที่โรงงานวิทยุในเมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี และอยู่ที่นั่นจนกระทั่งเกษียณอายุการทำงาน ตลอดชีวิตแต่งงาน 72 ปี พวกเขาได้ผ่านความยากลำบากมาด้วยมากมาย รวมทั้งการที่คุณตาเป็นมะเร็งด้วย แต่พวกเขาก็ยังคงดูแลกันอย่างดี และไม่เคยมีสักครั้งที่ทั้งสองจะทอดทิ้งกัน ตายายใช้เวลาด้วยกันในห้องอ่านหนังสือ ปัจจุบันทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันที่ศูนย์สวัสดิการสังคม Nanchang Lake Qingshan ซึ่งลูกๆ มักจะมาเยี่ยม มาสร้างความสุขให้เสมอ คุณยาย Wu Biqing…
-
เจ้าหมาที่ชอบรับบทเป็นแม่ เลี้ยงดูสัตว์น้อยทุกตัวที่มนุษย์เอามาให้ ลูกแมวก็ไม่เว้น
หากเพื่อนๆ เป็นคนที่ชอบคลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยง จะสังเกตเห็นว่าพวกมันมักจะมีลักษณะนิสัย ความชอบ และความน่ารักที่แตกต่างกัน เหมือนกับ Pirate เจ้าหมาวัย 5 ปี ที่มีนิสัยชอบรับเลี้ยงลูกหมาที่พลัดพรากกับแม่ มันจะกอดและดูแลพวกมันเหมือนลูกตัวเอง ที่สำคัญมันยังผลิตน้ำนมเพื่อลูกหมาเหล่านี้ด้วย แม้เจ้าหมาจะชอบทำหน้าที่แม่ แต่ Gabi Vannini เจ้าของของ Pirate ก็ไม่เคยคิดว่ามันจะรับลูกแมวน้อยเป็นลูกด้วย… สำหรับตัว Pirate นั้น มันได้รับการช่วยเหลือเมื่อปีที่แล้วในบ้านของนักสะสมหมาที่มิชิแกน ที่นั่นมีสุนัขทั้งหมด 98 ตัว และแมวอีก 3 ตัว พวกมันอยู่ในที่สกปรกที่มีทั้งอุจจาระและปัสสาวะ ตอนนั้น Pirate มีลูกน้อย 2 ตัว Vannini จึงรับเลี้ยงทั้ง 3 ตัวมาอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกๆ ของ Pirate โตขึ้น เจ้าของก็ได้ช่วยหาบ้านใหม่ที่อบอุ่นให้กับพวกมัน เหลือแต่ตัวแม่ตัวเดียว แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นานมันก็ได้ทำหน้าที่แม่อีกครั้ง Pirate อาสาเป็นแม่ให้กับลูกหมาตัวน้อยที่ Vannini นำมาจากศูนย์บริการสัตว์ Dallas Animal Services and Adoption Center Vannini ทำงานเป็นผู้ประสานงานให้กับ…
-
เจ้าเหมียวทำหน้าเหวอ เมื่อเล่นอยู่ดีๆ ก็โดนเตียงดูดซะงั้น แล้วดูสีหน้าของมันสิ…
แมวนอกจากจะเป็นสัตว์มุ้งมิ้ง ขี้อ้อน ขี้เซา น่ารัก น่ากอดแล้ว มันยังเป็นสิ่งเล็กๆ ที่มีความฮาและสร้างเสียหัวเราะให้กับเราได้ด้วยนะ อย่างเจ้าเหมียวตัวนี้ กับโมเม้นต์โดนเตียงดูด ดูกี่รอบก็อดขำไม่ได้ ตอนแรกมันก็แค่นอนอยู่ขอบเตียงธรรดานี่แหละ และเล่นกับเชือกเส้นหนึ่งกับเจ้าของ เล่นไปเล่นมา เหมือนบางอย่างจะผิดปตกิ เพราะร่างเจ้าเหมียวเริ่มตกจากขอบเตียง มันตกใจจนมันทำหน้าเหวอออกมา “เฮ้!! เดี๋ยวๆ เกิดอะไรขึ้น!?” “โอ้ว ไม่นะ” “มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ” “นี่เราต้องลาโลก เพราะโดนเตียงดูดจริงๆ หรอ…” “ลาก่อนนะ มนุษย์” “ได้โปรด อย่าลืมช้านนนนนน” และแล้วมันก็โดนเตียงดูดหายไปทั้งตัว เจ้าเหมียวจะรู้มั้ยนะว่าในระหว่างที่มันใจหายใจคว่ำกับเหตุการณ์นี้ เจ้าของของมันกำลังหัวเราจนแทบจะฉี่ราด มาดูคลิปเต็มกันดีกว่า เจ้าเหมียวไม่ได้หายไปไหนหรอก แค่ตกลงไปในซอกเตียงเท่านั้นเอง เดี๋ยวเจ้าของก็พามันขึ้นมาแล้ว…ใครก็ตามที่เลี้ยงแมว คงต้องพบเจอโมเม้นต์ขำๆ แบบนี้บ้างแหละ ที่มา iizcat
-
เกิดปรากฏการณ์แปลกๆ แสงทรงกลมลอยว่อนบนท้องฟ้าในรัสเซีย งดงามตระการตายิ่งนัก
ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก มนุษย์เรามักจะได้พบเจอกับปรากฏการณ์ธรรมชาติแปลกๆ ในบางครั้ง ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ล่าสุดในรัสเซียเมื่อไม่กี่คืนก่อน ก็เกิดปรากฏการณ์แสงที่ก่อตัวเป็นลักษณะกลมๆ ขนาดใหญ่ ลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือไซบีเรีย แน่นอนว่าผู้คนที่พบเห็นต่างพากันถ่ายรูปแสงดังกล่าวแล้วเอาไปลงโซเชียล จนชาวเน็ตจำนวนมากบอกว่าเป็นการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาว ขณะเดียวกันชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลก็อ้างว่าเกิดแรงสั่นสะเทือนด้วย อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันถึงสาเหตุของการเกิดแสงกลมๆ นี้ มีบางคนบอกว่ามันเป็นร่องรอยของจรวดทั้ง 4 ตัวที่ทหารรัสเซียได้เปิดตัวก่อนหน้านี้ จนทำให้เกิดปรากฏการณ์พิเศษนี้ในเวลากลางคืน ทั้งนี้มีหลักฐานที่ช่วยยืนยันการสันนิษฐานดังกล่าว เพราะเมื่อปี 2009 ได้เกิดแสงที่คล้ายกันนี้บนท้องฟ้าเหนือนอร์เวย์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากขีปนาวุธที่ผิดพลาด โดยในช่วงที่เกิดแสงกลมๆ เหนือท้องฟ้านั้น เป็นช่วงที่แสงจากดวงอาทิตย์สะท้อนกับน้ำมันเชื้อเพลิงของขีปนาวุธที่รั่วไหลออกมา Vasily Zubkov คนที่เห็นแสงทรงกลมเป็นคนแรกๆ บอกว่า “ผมเห็นมันตอนที่ออกไปสูบบุหรี่ข้างนอก ตอนนั้นผมคิดว่ามันมาถึงวันสิ้นโลกแล้วแน่ๆ แต่ไม่นานหลังจากนั้น แสงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นทรงโค้ง ก่อนจะเลือนหายไป” ในขณะที่หลายฝ่ายกำลังถกเถียงกันถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ มีทฤษฎีหนึ่งที่น่าจะเป็นได้มากที่สุดคือ ผู้นำรัสเซีย Vladimir Putin พยายามทำให้ประเทศในแถบตะวันตกรู้สึกหวาดกลัว โดยแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกองกำลังนิวเคลียร์ของเขา Putin ได้ดูแลการเปิดตัวจรวดขีปนาวุธนิวเคลียร์จำนวน 4 ลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมรบของกองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซีย จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าแสงดังกล่าวคือร่องรอยของขีปนาวุธนิวเคลียร์ ตามที่มีการสันนิษฐานไว้ก่อนหน้านี้…
-
หนุ่มใส่ลำโพงเป็นเพื่อนเจ้าเหมียว เพื่อช่วยให้มันรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น หลังผ่าตัดทำหมัน
เวลาสัตว์เลี้ยงของเราไม่สบายหรือมีแผลจนต้องใส่ลำโพง พวกมันอาจจะรู้สึกรำคาญและอยากเอาออก แต่ก็นั่นแหละ เพื่อป้องกันไม่ให้มันเลียแผล เลยต้องบังคับมันใส่ แต่สัตว์เลี้ยงคงจะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ถ้าเจ้าของทำอะไรให้มันรู้สึกสบายใจและไม่แตกต่าง แม้ต้องใส่ลำโพง เหมือนหนุ่มคนนี้ที่ยอมใส่ลำโพงเป็นเพื่อนเจ้าเหมียวของเขา นี่คือมิ้วน้อย Rengar Rengar และเจ้าของมักจะทำอะไรด้วยกันเสมอนับตั้งแต่วันแรกที่มันถูกรับมาเลี้ยง จนกระทั่งถึงวัยที่ Rengar ต้องผ่าตัดทำหมัน แน่นอนว่ามันกลับมาพร้อมกับลำโพงหุ้มคอ เพื่อป้องกันไม่ให้มันเลียแผลตัวเอง เหมือนกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป เจ้าเหมียวรู้สึกรำคาญกรวยนี้มาก และพยายามเอามันออกตลอดเวลา จนเจ้าของคิดขึ้นได้ว่าต้องทำอะไรบางอย่างซะแล้ว เขาตัดสินใจทำลำโพงให้ตัวเอง เพื่อใส่เป็นเพื่อนเจ้าเหมียว และไม่น่าเชื่อว่า เมื่อเห็นเจ้าของใส่ลำโพงเหมือนกัน Rengar ก็ไม่เคยพยายามเอาลำโพงออกอีกเลย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทำอะไรด้วยกันทุกอย่างจริงๆ เจ้าของไม่จำเป็นต้องใส่ลำโพง แต่เพื่อทำให้เจ้าเหมียวไม่รู้สึกแตกต่าง เขาจึงยอมใส่ด้วย และการใส่ลำโพงด้วยกันในครั้งนั้น ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนคู่ซี้ที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ น่ารักทั้งเหมียวทั้งเจ้าของเลย อิอิ ที่มา iizcat
-
ช่วงเวลาแห่งความประทับใจ เมื่อพยาบาลสาวร้องเพลงโปรดให้คนไข้ฟังในวาระสุดท้าย
แพทย์หรือพยาบาลหลายๆ คนไม่ได้ดูแลคนไข้ตามหน้าที่หรือตามคำสั่งเท่านั้น แต่พวกเขาใส่ใจคนไข้เสมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง เหมือนกับพยาบาลคนนี้ที่อยู่เคียงข้างคุณยายที่กำลังจะหมดลมหายใจ เพื่อร้องเพลงโปรดให้เธอฟัง และคุณยายยังต้องการให้บรรเลงนี้ในงานศพด้วย Margaret Smith วัย 63 ปี มีปัญหาเกี่ยวกับตับ แต่เธอป่วยหนักจนไม่สามารถรอการปลูกถ่ายตับได้ นั่นหมายความว่าเธอไม่สามารถรับการผ่าตัดได้ด้วย เพื่อทำให้คุณยายรู้สึกดีขึ้นและไม่กลัวต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น พยาบาล Olivia Neufelder จาก Vanderbilt University Medical Center จึงได้อาสามาร้องเพลงโปรดของยายให้ฟังทุกวัน และแล้วช่วงเวลาแห่งการจากลาก็มาถึง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม คุณหมอบอกว่าคุณยายจะอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่วันข้างหน้า แต่ถึงอย่างนั้น Olivia ก็ยังทำในสิ่งที่เคยทำเสมอมานั่นคือการร้องเพลงให้คุณยายฟัง แต่นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณยายจะได้ฟังเพลงโปรดจาก Olivia ครอบครัวของคุณยายจึงได้บันทึกวิดีโอขณะที่พยาบาลร้องเพลง Dancing In The Sky พร้อมจับมือคุณยายและพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ตลอด คุณยายฟังเพลงโปรดของตัวเองด้วยรอยยิ้ม บ่งบอกว่าเธอมีความสุขมากแค่ไหน จน Olivia เกือบหลั่งน้ำตาหลายครั้ง แต่เธอพยายามจะกลั้นมันเอาไว้ เพราะนี่คือช่วงเวลาเธออยากให้ผู้ป่วยมีแต่ความสุข ต่อมา Megan Smith ลูกสาวของ Margaret ได้โพสต์ช่วงเวลาแห่งความประทับใจลงในเฟซบุ๊กพร้อมคำอธิบายว่า “พยาบาลคนนี้นั่งอยู่กับแม่ฉันเป็นเวลาหลายชั่วโมง เธอร้องเพลงโปรดของแม่ให้ฟัง เพื่อทำให้แม่รู้สึกสบายใจ” “เราไม่สามารถหาคำพูดไหนมาอธิบายความรักความห่วงใจของพยาบาล Olivia ที่มีต่อแม่ของฉัน และแม่ยังเรียกเธอว่านางฟ้าด้วย”…
-
คุณแม่สุดแกร่งเผยภาพความเจ็บปวดในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อความหวังในการมีชีวิต
โรคร้ายที่ยากต่อการรักษามักจะเป็นปัจจัยพรากความหวังไปจากผู้คน ทำให้คนที่เข้มแข็งกลายเป็นคนอ่อนแอ ทำให้คนมั่นใจกลายเป็นคนขี้กลัว จนแทบไม่อยากทำอะไรกับชีวิตที่เหลือ ตรงข้ามกับหญิงสาวคนนี้ ที่แม้ต้องเผชิญกับมะเร็งที่สร้างแต่ความเจ็บปวดให้ แต่เธอกลับถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยคนอื่นๆ Ruth Naylor วัย 32 ปี เป็นคุณแม่ลูกสอง ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin ซึ่งเป็นมะเร็งที่เกี่ยวกับระบบน้ำเหลือง เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนจะไปเป็นมะเร็ง Naylor มีอาการเหมือนไข้หวัด เธอจึงไปหาหมอ และเมื่อเอ็กซ์เรย์ก็พบสิ่งที่ดูเหมือนก้อนเนื้ออยู่ที่ปอดข้างขวา และผลเลือดก็ผิดปกติ ซึ่งคุณหมอคาดเดาว่าน่าจะเป็นมะเร็ง จึงได้นัดมาทำ CT สแกนอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น เธอบอกว่า “นั่นคือตอนที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันสำหรับฉัน โลกทั้งใบของฉันเหมือนจะหยุดหมุนในทันที” Naylor กำลังต่อสู่กับความเจ็บปวด ขณะทำเคมีบำบัด ข่าวร้ายในครั้งนี้ ทำให้ Naylor หวนคิดถึงคุณแม่ที่จากไปด้วยมะเร็งตอนอายุ 47 ปี ส่วนเธอตอนนั้นอายุ 21 ปี ดังนั้นเธอจึงคิดถึงลูกๆ ว่าพวกเขาจะรับมือไหวได้อย่างไรถ้าไม่มีแม่ เพราะพวกเขายังเด็กมาก พอวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เข้ารับการตรวจด้วย CT สแกน หมอก็พบเนื้องอกอยู่ระหว่างปอดและหัวใจ เธอรู้สึกความมันคือความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ลูกๆ ของเธอ Eva วัย…
-
ป๊าดด…ลูกพลับระดับพรีเมี่ยมในญี่ปุ่นถูกประมูลในราคาโคตรแพง!? คู่ละ 150,000 บาท
ลูกพลับเป็นผลไม้ที่เราคุ้นเคยกันดี และสามารถหาซื้อได้ทั่วไปเมื่อถึงฤดูของมัน ราคาก็ไม่แพง เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ แต่ล่าสุดมีลูกพลับระดับพรีเมี่ยม 2 ลูก ที่เก็บมาจากทางภาคกลางของญี่ปุ่น ได้รับการประมูลในราคาสูงถึง 150,000 บาท ในการประมูลครั้งแรกของฤดูกาลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา การที่ลูกพลับถูกประมูลในราคาสูงขนาดนี้ เพราะมันเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นโดยรัฐบาลของกิฟู ซึ่งปลูกอยู่ในภาคกลางของญี่ปุ่น และจำหน่ายในตลาดขายส่งในท้องถิ่น ทั้งนี้ รัฐบาลของกิฟู ได้ใช้เวลาในการพัฒนาพลับสายพันธ์นี้นานถึง 10 ปี และวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว โดย 2 ลูกแรกที่ถูกประมูลไปมีมูลค่าสูงถึง 94,000 บาท ลูกพลับชนิดนี้มีความพิเศษที่หลากหลาย ทั้งกรอบ และมีปริมาณน้ำตาลอย่างน้อย 18% เทียบกับสายพันธ์อื่นจะมีน้ำตาล 16% สำหรับลูกพลับที่ถูกเก็บเกี่ยวในปีนี้ ได้แก่ลูกพลับที่มีปริมาณน้ำตาลมากกว่า 25% ซึ่งจะวางขายในห้างสรรพสินค้า Matsuzakaya ในนาโกย่า ส่วนลูกพลับแบบพรีเมี่ยม คาดว่าน่าจะมีอยู่ทั้งหมด 2,000 ลูก ซึ่งจะวางขายช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน และมีราคาขายปลีกอยู่ที่ลูกละ 290 บาท ในขณะที่ลูกพลับระดับไฮเอนด์จะมีราคาสูงกว่า 3,000…
-
คลิปซิ๊ดๆ สาธิตการตัดจมูกเล็บออกแบบฟินๆ สำหรับคนที่เสพติดความเจ็บปวด…
อู้ววว ซิ๊ดดด จิ๊ดดด… ใครที่ชอบดูคลิปความเจ็บปวดที่เกิดกับร่างกาย คุณมาถูกทางแล้ว แต่หาคุณเป็นคนจิตใจอ่อนไหวง่าย ไม่ชอบความรุนแรง คุณสามารถข้ามบทความนี้ไปเลยนะ ความเจ็บปวดอย่างหนึ่งที่ผู้คนชอบนำมาแชร์ในโซเชียลคือ “การตัดจมูกเล็บ” ไม่ใช่เพื่อนำเสนอความเจ็บปวดนะ แต่เป็นการสอนตัดจมูกเล็บด้วยวิธีต่างๆ ใครที่เคยเป็นคงจะเข้าใจดีว่าทำไมต้องสอนเรื่องพวกนี้ ว่ากันด้วยเรื่องจมูกเล็บหรือเล็บขบ ที่เป็นพื้นผิวเล็กๆ ห้อยออกจากเนื้อบริเวณเหนือเล็บ เมื่อขาดการดูแลที่ถูกต้องมักจะเกิดความความแห้ง เจ็บปวดและอาจติดเชื้อจนทำให้เกิดอาการบวมและแดงขึ้นมา และเมื่อเข้าสู่ระยะที่บวมแล้ว ทางเดียวที่พ้นจากความเจ็บปวดนั้นคือ การตัดจมูกเล็บออกซะ พูดเหมือนง่ายแต่ทำยากเด้อ เพราะหลายคนมักจะทำให้จมูกเล็บฉีกระหว่างตัดออก เพราะใช้วิธีที่ไม่ถูก แถมยังเป็นการเพิ่มเลเวลความเจ็บปวดขึ้นไปอีก เว็บไซต์ Mayo Clinic ได้แนะนำว่าวิธีการรักษาเล็บขบอยู่สองวิธีคือ การใช้ไหมขัดฟันค่อยยกเล็บส่วนที่เป็นเล็บขบขึ้นจากเนื้อหนัง แล้วก็ตัดออก อีกวิธีหนึ่งคือให้หมอถอดเล็บออกหมดเลย เพื่อป้องกันการงอกของเล็บขบ ในกรณีที่ตัดออกไม่หมด แต่ก็มีอีกหลายคนที่มีวิธีรักษาเล็บขบในแบบฉบับของตัวเอง และได้นำวิธีเหล่านั้นมาแชร์ลงโซเชียล เผื่อจะเป็นความรู้ให้คนอื่นๆ ด้วย สำหรับใครที่อยากดูคลิปการตัดจมูกเล็บ ไม่ต้องเสียเวลาหา เพราะยูทูบช่อง IngrownLife ได้รวบรวมมาให้ส่วนหนึ่งแล้ว รับรองว่าฟินได้ใจแน่ๆ หลังจากตัดส่วนที่เป็นเล็บออกไปแล้ว ต้องดึงส่วนหนังที่เหลือออกด้วยนะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเล็บขบซ้ำอีก อื้มม มันก็จะซิ๊ดๆ หน่อยอะนะ สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะเลือกกำจัดเล็บขบด้วยตัวเอง…
-
เด็กหญิงชาวปากีสถานวัย 9 ขวบ ป่วยเป็นโรคประหลาด ส่งผลทำให้คองอ 90 องศา!?
ทุกวันนี้แม้เทคโนโลยีจะพัฒนามากขึ้น มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาทุกโรคที่มีอยู่บนโลกนี้ได้ เนื่องจากมีบางโรคที่เพิ่งถูกค้นพบและไม่สามารถระบุได้ว่ามันเกิดจากอะไร เหมือนกับโรคที่ Afhseen Qumbar เด็กหญิงวัย 9 ขวบคนนี้เผชิญอยู่ในตอนนี้ เป็นสภาพความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ทำให้คอของเธองอ 90 องศา และไม่สามารถยืนหรือเดินได้ปกติ นอกจากต้องนั่งเพียงอย่างเดียว เด็กหญิงคนนี้อาศัยอยู่ใน Mithi จังหวัด Singh ของปากีสถาน โดยต้องมีคนคอยช่วยเหลือเธอในเรื่องการกินและการเข้าห้องน้ำ พ่อของเด็กหญิง Allah Jurio วัย 55 ปี และแม่ Jameelan วัย 50 ปี เผยว่าพวกเขาได้ปรึกษาแพทย์มาแล้วหลายคน แต่ได้คำตอบว่าความผิดปกตินี้ไม่สามารถรักษาได้ใน Mithi Jameelan บอกว่า “มันเป็นความเจ็บปวดที่ต้องเห็นลูกมีชีวิตในสภาพแบบนั้น ฉันไม่อยากเห็นเธอต้องอยู่อย่างทรมานอีกต่อไป แต่ไม่มีหมอคนไหนวินิจฉัยความผิดปกตินี้ได้เลย” “มีคนแนะนำให้พาเธอไปที่ Jinnah Post Graduate Medical Centre ใน Karachi แต่เราไม่มีเงินพอสำหรับโรงพยาบาลขนาดใหญ่แบบนั้น” ผู้เป็นแม่บอก ย้อนกลับไปตอนที่ Afsheen เกิด เธอเป็นทารกปกติเหมือนพี่น้องอีก 6 คน แต่แล้วสภาพร่างกายของเธอก็เปลี่ยนไปเมื่ออายุได้ 8 เดือน มันเกิดขึ้นที่ตอนที่เด็กน้อยเล่นอยู่นอกบ้านแล้วเกิดหกล้ม จนทำให้เธอปวดคอ ตอนแรกพ่อแม่ไม่คิดว่าจะเป็นอะไรร้ายแรงเลยปล่อยไว้แบบนั้น…
-
วัยรุ่นสังหารเพื่อนตัวเอง เพราะลวนลามแฟนสาว หลังขอปั่มป๊ามแล้วเธอไม่ยอม!!
เพื่อนแท้คือคนที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ช่วยเหลือกัน แบ่งปันทุกอย่างให้กันและ แต่ไม่ว่าจะสนิทกันมากแค่ไหน บางอย่างย่อมต้องมีขอบเขต โดยเฉพาะแฟนที่เพื่อนไม่สามารถใช่ร่วมกันได้… และหากคุณคิดว่าสามารถใช้แฟนร่วมกับเพื่อนได้ มันอาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมเหมือนกรณีนี้ เมื่อชายคนหนึ่งขอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนเพื่อน จนทำให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียในที่สุด นาย Nikita Rasskazov อายุ 16 ปี ได้ลงมือสังหารนาย Artyom Shustov วัย 19 หลังจากที่แฟนสาวของเขามาบอกว่าถูกนาย Shustov ขืนใจในงานปาร์ตี้ เพราะเธอไม่ยอมมีเซ็กส์กับเขา Olena Matsneva วัย 17 ปี แฟนสาวของ Rasskazov ได้เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นว่า Shustov และเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆ ได้จับหน้าอกและอวัยวะเพศของเธอ โดยมีเพื่อนผู้หญิงคอยช่วยล็อคตัวเธอเอาไว้ เหตุการณ์นี้ทำให้ Matsneva ทั้งอับอายและเจ็บใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่กล้าไปแจ้งตำรวจว่าตัวเองถูกข่มขืน… ทางด้าน Rasskazov อ้างว่าเขาไม่ได้ตั้งใจฆ่าหรือตัดหัวของเพื่อน แต่เขาแค่อยากให้เพื่อนคนนั้นขอโทษแฟนสาวตอนที่พวกเขามาเจอกันในวันที่ 28 ตุลาคม ปี 2016 แต่แล้วระหว่างที่พูดคุยกันดูเหมือนต่างฝ่ายต่างไม่ยอม จนเกิดการทะเลาะวิวาทและลงไม้ลงมือกัน ในที่สุด Rasskazov ในวัย 16 ปีก็ก่อเหตุแทงเพื่อนของเขาจนเสียชีวิตในสวนสาธารณะที่ Komsomolsk-on-Amur…
-
ช่างภาพตามถ่ายใบหน้าของลูกครึ่งญี่ปุ่นจาก 192 ประเทศ หน้าตาจะเป็นแบบไหนกันนะ??
มนุษย์แต่ละเชื้อชาตินั้นมักจะมีหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ จนทำให้เราสามารถเดาเชื้อสายคนจากใบหน้าได้ เว้นแต่คนที่เป็นลูกครึ่ง ที่อาจจะเดายากสักหน่อย ด้วยเหตุนี้ช่างภาพลูกครึ่งเบลเยียม-ญี่ปุ่น จึงได้ตามถ่ายภาพใบหน้าของผู้ที่มีเชื้อสายญี่ปุ่นในโตเกียว เพื่อแสดงให้เห็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนเป็นลูกครึ่ง นี่คือโปรเจกต์ Hafu2Hafu ของ Tetsuro Miyazaki ที่ได้สัมภาษณ์ผู้มี่เชื่อสายญี่ปุ่น และเรียนรู้เกี่ยวกับอัตลักษณ์ของพวกเขา Miyazaki บอกว่า “ผมต้องการให้ผู้คนเข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความซับซ้อนของตัวตน เมื่อพ่อแม่ของพวกเขาไม่ใช่คนเชื้อสายเดียวกัน” ส่วนตัวช่างภาพเองนั้น อายุ 39 ปี พ่อเป็นชาวญี่ปุ่น แม่เป็นชาวเบลเยี่ยม ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และล่าสุดโครงการของเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากองค์ไม่แสวงหาผลกำไรหลายแห่งในสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ด้วย ภาพถ่ายของ Miyazaki ถูกอัพโหลดบนหน้าเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย โดยมีคำบรรยายว่าโปรเจกต์นี้ต้องการนำเสนอภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์ของการเป็นลูกครึ่ง เขาได้จัดทำเป็นภาพพร้อมคำถามเกี่ยวกับลูกครึ่งในช่วงวัยที่แตกต่างกันทั้งเพศ ที่อยู่อาศัย และเป็นการรวบรวมลูกครึ่งเชื้อสายญี่ปุ่นจาก 192 ประเทศทั่วโลก หลังจากที่โปรเจกต์ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับการยกย่องจาก The New York Times เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยเขียนไว้ในบทความเรื่อง Hapa Japan Festival ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองสำหรับเชื้อสายผสม เชื่อสายผสมญี่ปุ่นและวัฒนธรรม Miyazaki ใช้เวลาในการทำโปรเจกต์ Hafu2Hafu ยาวนานถึง 2 ปีด้วยกัน เขาได้ทำการสัมภาษณ์ไปแล้ว…
-
หนุ่มโสดวัย 37 ปี เปิดเว็บไซต์เพื่อตามหาหญิงสาวในฝัน พร้อมบอกคุณสมบัติที่ไปกันได้
เราหลายๆ คนอยากพบรักกับคนในฝันหรือคนในอุดมคติกันทั้งนั้น แต่ในความจริงแล้วแทบจะเป็นไม่ได้เลยที่เราจะได้ลงเอยกับคนในฝัน อาจจะเพราะหาไม่เจอบ้าง เจอแล้วเค้าไม่ชอบเราบ้าง แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้ไม่ยอมละความพยายาม เขาอยากพบกับสาวในฝัน ถึงกับสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อตามหาสาวคนนั้น เอาล่ะสาวโสดทุกคน ตอนนี้เราขอแนะนำให้รู้จะกับ Alan หนุ่มโสดวัย 37 ปี จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ขณะนี้เขากำลังอยู่ในช่วยตามหารักแท้ที่จะมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขา แต่ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ เพราะ Alan กำลังตามหาผู้หญิงในฝัน และเพื่อเพิ่มโอกาสในการหาหญิงสาวคนนั้น เขาจึงได้สร้างเว็บไวต์ขึ้นมา เพื่อบอกให้ผู้ที่สนใจว่าต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง Alan อธิบายเกี่ยวกับตัวเองว่าเขาเป็นชาวยุโรป เกิดเมื่อปี 1980 สูง 189 เซนติเมตร เป็นคนรูปร่างดี ผอมและแข็งแรง เขาไม่ชอบการแบ่งประเภทพฤติกรรมของคนตาม INFJ (เป็นคนที่อ่อนโยน สุภาพเรียบร้อย และซับซ้อน เป็นคนที่ใช้สัญชาตญาณหรือลางสังหรณ์เข้าช่วยบ่อยมาก มีความเป็นศิลปินและมีความคิดสร้างสรรค์) ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังหาทางออกจากการแข่งขันกันในสังคมและต้องการหาผู้หญิงที่เหมาะสำหรับเขา เพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่ไปด้วย คุณสนใจหรือเปล่า? Alan บอกว่า “ตอนที่ผมอายุ 30 ปีต้นๆ ผมเคยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับหญิงสาวคนหนึ่ง และเป็นช่วงที่ผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิต ผมก็เลยบอกตัวเองว่าให้เริ่มจากจุดเริ่มต้น และตัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกไปจากชีวิต” ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มเขียนสิ่งที่ไม่ชอบและคอยอัพเดตข้อมูลเหล่านั้นทุกๆ ปี และเมื่อตัดสิ่งที่ไม่ชอบออกไปก็ทำให้เขาได้ค้นพบผู้หญิงในฝัน และนี่คือลักษณะผู้หญิงที่ Alan…
-
ครอบครัวในอินเดีย ข่มขืนลูกหลานตัวเองที่เป็น “เกย์” เพื่อให้หายจากอาการรักร่วมเพศ!!
ในประเทศอินเดียนั้น พ่อแม่ส่วนใหญ่จะต่อต้านเพศที่สาม หากรู้ว่าลูกตัวเองเป็นเกย์หรือเลสเบี้ย พวกเขาก็จะให้ญาติ พี่ชาย น้องชาย หรือพ่อแม่เอง ลงมือข่มขืนลูก เพื่อให้ลูกกลับคืนเพศสภาพ โดยไม่ผิดกฏหมาย ทั้งนี้ในอินเดีย การที่คนเพศเดียวกันมีเพศสัมพันธ์กันนั้นจะต้องถูกลงโทษ สูงสุดจำคุก 10 ปี จนทำให้หลาย ครอบครัวรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีทางเลือก นอกจากการข่มขืนเพื่อให้ลูกหลานของตัวเองเปลี่ยนใจมาชอบคนต่างเพศ หนึ่งในผู้ตกเป็นเหยื่อคือ Mvuleni Fana… วันที่เกิดเหตุนั้น เธอกำลังเดินกลับบ้านหลังจากซ้อมฟุตบอลเสร็จ แต่ระหว่างทางก็มีชายสี่คนมารุมข่มขืนเธอ โดยอ้างว่าจะทำให้เธอกลับมาเป็นผู้หญิงจริงๆ ที่รักเพศตรงข้าม สุดท้ายพวกเขาได้เตะ ตี และปล่อยให้เธอนอนตายอยู่ตรงนั้น นอกจากนี้ยังมีเหยื่ออีกหลายคนที่ถูกฆาตกรรมในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งผู้หญิงสองคนที่ถูกมัด ทรมาณ และสุดท้ายถูกยิงที่หัวในแอฟริกาใต้เมื่อปี 2007 ที่น่าตกใจคือไม่มีสถิติที่แน่นอนเกี่ยวการข่มขืน ซึ่งนักรณรงค์เชื่อว่าที่มีอยู่นี้เป็นตัวเลขที่น้อยกว่าความเป็นจริงมาก ทั้งนี้เป็นเพราะส่วนใหญ่แล้วครอบครัวของเหยื่อเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและมีส่วนร่วมในการข่มขืนนั่นเอง อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ถูกเรียกว่า LGBT Collective ในรัฐทางใต้ของรัฐเตกานี ได้ทำการบันทึกการข่มขืนกระทำชำเราในช่วงห้าปีที่ผ่านมา Vyjayanti Mogli กล่าวว่า “เรามั่นใจว่ามีกรณีการข่มขืนที่มากกว่านี้ แต่แค่ไม่มีการเปิดเผย บางครั้งเราก็เจอกับกรณีที่เหยื่อเดินทางมาร้องเรียนกับเรา ไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากแจ้งความ แต่พวกเขาอยากจะหนีไปจากครอบครัว” ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ พ่อแม่รู้ดีเกี่ยวกับเรื่องการข่มขืนและยังเป็นคนขอให้คนในครอบครัว โดยเฉพาะญาติที่เป็นพี่น้อง พ่อ…
-
นางแบบสาวยูเครนสักลายให้แมวตัวเอง ถูกชาวเน็ตวิจารณ์หนักว่าเป็นการทรมานสัตว์…
กลายเป็นประเด็นดราม่า เมื่อนางแบบสาวชาวยูเครนจับแมวตัวเองสักเพื่อให้มันมีเสน่ห์ดึงดูดเหมือนเธอ แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยมองว่านั่นคือการทารุณกรรมสัตว์ Elena Ivanickaya จาก Chernihiv ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศยูเครน ได้ตัดสินใจจับเจ้าแมวสฟิงซ์ของเธอมาสักลายรูปปีกของชาวอียีปต์บนหน้าอกของมัน ภาพที่ถูกเผยแพร่เป็นตอนที่เจ้าเหมียวกำลังถูกสักลาย และดูเหมือนมันจะหมดสติเนื่องจากถูกวางยาชา จากนั้นช่างสักก็ได้ลงมือสัก โดยมีนางแบบเจ้าของแมวช่วยจับแมวเอาไว้ หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำเอาชาวเน็ตไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสัตว์ พวกเขาได้ประณามการกระทำของ Ivanickaya ว่าเป็นการทรมานแมว Inna Milovanova หนึ่งในชาวเน็ตได้บอกว่า “มันจะดีกว่านะถ้าจะสักบนหน้าผากของเธอ แล้วเขียนคำว่า ‘งี่เง่า’ และควรจะหักนิ้วของเธอด้วย โทษฐานทรมานสัตว์ แมวน่าสงสารมาก” ชาวเน็ตอีกคนบอกว่า “คุณไม่ควรทรมานผู้ที่อ่อนแอกว่า แล้วนั่นก็ไม่ใช่ของเล่น แต่มันคือสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกเหมือนกับเรา และมันก็คงไม่ต้องการรอยสักบนหน้าอกหรอก” หลังจากที่โดนถล่มยับ Ivanickaya ก็ได้ออกมาโต้กลับว่า “ฉันเลี้ยงแมวตัวนี้แบบตามใจทุกอย่าง มันมีเพจอินสตาแกรมของตัวเอง มันกินหอยนางรมสดเป็นอาหาร แน่นอนว่ามันมีชีวิตที่ดีกว่าคนที่บ่นเหล่านี้ซะอีก” นางแบบสาวยังได้พูดปกป้องการกระทำของตัวเองอีกว่าในการสักนี้มันไม่ได้เป็นอันตรายกับแมวแต่อย่างใด…เธอจึงมั่นใจว่าไม่ได้ทรมานสัตว์ตามที่ถูกกล่าวหา หญิงสาวย้ำอีกครั้งว่า “แมวตัวนี้มีชีวิตที่ดีกว่าพวกคุณ การสักอาจเป็นเรื่องที่พวกคุณรับไม่ได้ แต่สำหรับเจ้าเหมียวตัวนี้มันรู้สึกดี มันไม่ได้ถูกทำร้าย และจะไม่มีวันถูกทำร้ายด้วย” “ก่อนที่จะสักให้มัน ฉันได้สอบถามกับสัตวแพทย์แล้ว ซึ่งหมอก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนที่สัก แพทย์ก็อยู่ที่นั่นด้วย ดังนั้นทุกอย่างจึงอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลเป็นอย่างดี” “ฉันดูรักษามันด้วยความรักและความห่วงใย” Ivanickaya บอก “มันเป็นแมวที่ฉลาดและมีความสุขกับชีวิตของมัน…
-
15 ภาพข่าวทรงพลังที่สุดในรอบสัปดาห์นี้ จากเหตุการณ์ต่างประเทศ ที่คุณไม่ควรพลาด…
ในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือน และแต่ละปี มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งเศร้าบ้าง หดหู่บ้าง ดีบ้าง ร้ายบ้าง รวมทั้งเหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนทั้งโลก เหมือนภาพต่อไปนี้ได้มาจากการรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบโลก ซึ่งเป็นภาพที่ทรงพลังที่สุดในสัปดาห์นี้ ซึ่งคุณอาจจะพลาดไปหรือไม่ได้รับชมมากนัก เพราะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่บอกให้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง 1. ชายเสื้อขาวถูกชกโดยโดยชายนิรนามท่ามกลางฝูงชน ใกล้กับที่ Richard Spencer ผู้เผยแพร่แนวคิดคนขาวเป็นใหญ่ (White Nationalist) กำลังขึ้นปราศรัยนโยบายของเขาที่มหาวิทยาลัย University of Florida เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2. กลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรคุกเข่าอยู่นอกโรงแรมที่มีการจัดประชุมลีก NFL ในวันที่ 17 ตุลาคม ที่เมืองนิวยอร์ก เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกต่อต้านการเหยียดผิวในอเมริกา 3. ป้ายที่มีข้อความเชิงบวก หลังเกิดเหตุการณ์ไฟป่าลุกลามและเกิดความเสียหายมหาศาล ถูกติดตั้งอยู่ที่ไร่ไวน์ Cline Cellars ในวันที่ 13 ตุลาคม ในโซโนมา รัฐแคลิฟอร์เนีย 4. นักดับเพลิงกำลังดับไฟที่โรงแรม Kandawgyi Palace ในย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อวันที่…
-
รู้จักความสัมพันธ์สุดฮิต “เฟรนด์โซน” ที่ดูเหมือนซับซ้อน สับสน มีอยู่จริงหรือเราสร้างมันขึ้นมาเอง?
เฟรนด์โซน (Friend zone) เป็นคำที่หลายคนอาจรู้จักกันบ้างแล้ว ซึ่งเป็นชุดความสัมพันธ์ที่หลายคนคงไม่อยากให้เกิดกับตัวเองสักเท่าไหร่ แน่นอนว่าบางคนอาจจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเฟรนด์โซน ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคำนี้กันให้มากขึ้นว่า แท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ มันอยู่จริงไหม หรือเราแค่มโนกันไปเอง? เฟรนด์โซนคืออะไร? ดิชชันนารีของเคมบริดจ์ได้ให้ความหมายของคำว่า เฟรนด์โซน ว่าคือการที่คุณต้องการเป็นเพื่อนกับใครสักคน โดยไม่หวังความโรแมนติกหรือการมีเพศสัมพันธ์กับเขาหรือเธอ ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่อยากพัฒนาความสัมพันธ์นี้มากกว่าการเป็นเพื่อน เฟรนด์โซนเกิดขึ้นได้อย่างไร? เฟรนด์โซนเกิดขึ้นเมื่อใครคนหนึ่งแอบรักคนๆ หนึ่งและต้องการให้ความสัมพันธ์ของเขาและเธอเป็นมากกว่าเพื่อน แต่กลับถูกคนที่แอบชอบมองแค่เพื่อนเท่านั้น จะเรียกว่าเป็นการปฏิเสธก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น นาย A เข้าหานางสาว B โดยหวังจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอมากกว่าความเป็นเพื่อน แต่ในทางตรงกันข้าม นางสาว B คิดกับนาย A แค่เพื่อน และขีดเส้นไว้แล้วว่าเขาเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น สิ่งที่บ่งบอกว่าตอนนี้คุณอยู่ในเฟรนด์โซนแล้ว นี่เป็นภาวะที่สำคัญเพราะหลายคนไม่รู้ตัวว่าอยู่ในเฟรนด์โซนแล้ว สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะว่าเวลาที่คุณแอบรักใครสักคน คุณจะเข้าหาเขาหรือเธอในฐานะคนรักตั้งแต่แรก โดยพยายามใช้ทั้งคำพูดและการกระทำที่บ่งบอกว่าคุณคิดกับใครคนนั้นมากกว่าเพื่อน โดยปกติแล้วหากคุณพูดดีทำดีกับใครสักคน คุณก็จะได้รับคำพูดและการกระทำเช่นเดียวกันนั้นกลับมา ด้วยเหตุนี้ทำให้คุณจะคิดเสมอว่าใครคงนั้นคงจะคิดกับคุณเหมือนกับคุณ เพียงแต่ต้องรอเวลาในการเผยความรู้สึกนั้นออกมา แต่แล้วเมื่อมาถึงจุดที่คุณเผยความรู้สึกให้อีกฝ่ายรู้ ปรากฏว่าเขาหรือเธอคนนั้นกลับไม่ได้คิดกับคุณมากกว่าเพื่อน ที่เขาพูดดีหรือทำดีด้วยก็เพราะเห็นคุณเป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น จริงๆ แล้วคนที่คุณแอบชอบอาจจะพยายามบอกคุณมาตลอดว่า เขาหรือเธอคิดกับคุณแค่เพื่อนเท่านั้น เพียงแต่คุณคิดเข้าข้างตัวเองจนไม่ทันได้สังเกต…
-
เมื่อพาเจ้าเหมียวไปหาหมอครั้งแรก นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น… พากันซ่อนตัวในซิงค์ไม่ให้หมอเห็น
เพื่อนๆ จำได้มั้ยว่า ตอนเด็กเวลาพ่อแม่พาไปโรงพยาบาลเรามีปฏิกิริยาอย่างไร บางคนร้องห่มร้องไห้ โวยวาย เพราะกลัวจะถูกหมอฉีดยาให้ แล้วมาดูกันสิ๊ว่าถ้าพาเจ้าเหมียวไปโรงพยาบาล พวกมันเป็นอย่างไร จะมีอาการเหมือนเราตอนเด็กมั้ยนะ?? นี่เป็นแมวของชายหนุ่มคนหนึ่ง และเขาได้พาพวกมันไปหาหมอเป็นครั้งแรก ทันที่ไปถึงเจ้า Oscar ก็รีบวิ่งไปเก็บตัวที่อ่างล้างมือทันที มันคงจะคิดว่า… “อยู่ในนี้ปลอดภัยแน่นอน” ส่วนเจ้า Whiskey กำลังนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ แต่ดูมันค่อนข้างจะรู้สึกเหงาหน่อยๆ “รู้สึกไม่ปลอดภัยเลยแฮะ แล้วนี่พี่ชายไปไหนอะ?” ต่อมา Whiskey ก็เลยเดินไปหา Oscar “โห พี่หาที่ซ่อนได้เจ๋งมากอะ แต่ช่วยขยับก้นเข้าไปหน่อยได้มั้ย?” ดูเหมือน Oscar ไม่ค่อยขยับให้มันสักเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่านี่มันพอดีสำหรับหนึ่งตัวนั้น แต่ยังไม่ทันทำอะไร เจ้า Whiskey ก็พยายามยัดเยียดตัวเองเข้ามาแล้ว “Whiskey นี่มันพอดีสำหรับเราแค่ตัวเดียวนะ นายไปหาที่ซ่อนที่อื่นดีกว่ามั้ย” แต่ Whiskey มั่นใจว่ามันสามารถยัดตัวเองลงไปอยู่ในซิงค์นี้ได้อีกตัว และมันก็พยายามจนสำเร็จ “นี่มันพอดีแล้วสำหรัับเราสองตัว หมอทำอะไรเราสองตัวไม่ได้แน่นอน” Oscar เริ่มทำหน้าไม่พอใจ “ดู!! นี่เราจะปลอดภัยจริงหรอ เล่นเบียดซะขนาดนี้” …
-
จากคลิปดัง “กระรอกกินหนู” แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่สัตว์กินพืช ตามที่เราเข้าใจงั้นหรือ!?
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน] โดยปกติแล้ว เราเข้าใจว่ากระรอกเป็นสัตว์กินพืช โดยเฉพาะเมล็ดถั่่วที่ถือเป็นอาหารโปรดของพวกมัน แต่รู้มมั้ยว่าจริงๆ แล้ว กระรอกไม่ได้กินแค่พืชนะ แต่มันยังกินสัตว์เป็นอาหารด้วย และนี่คือคลิปที่ยืนยันว่ากระรอกกินแค่พืชแต่ยังกินสัตว์เป็นอาหารด้วยเช่นกัน เนื่องจากร่างกายกระรอกไม่สามารถย่อยเซลลูโลสได้ ดังนั้นพวกมันจึงต้องพึ่งพาอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของปีสำหรับกระรอก เพราะถั่วที่ถูกฝังจะเริ่มงอกออกเป็นต้น ซึ่งนั่นทำให้กระรอกไม่สามารถกินได้ และแหล่งอาหารใหม่ๆ ก็ยังไม่สามารถกินได้ ในช่วงเวลานี้พวกมันจึงต้องพึ่งพาตาต้นไม้แทน แม้ว่ากระรอกจะกินพืชหลากหลายชนิดเป็นอาหารหลัก แต่สำหรับกระรอกบางตัวมันยังกินสัตว์เป็นอาหารด้วย โดยเฉพาะเวลาที่พวกมันต้องเผชิญกับความหิว สัตว์ที่กระรอกกินก็จะมีหลายชนิดเช่นกัน อย่างแมลง ไข่ นกขนาดเล็ก งูขนาดเล็ก และหนูที่มีขนาดเล็ก ในขณะที่กระรอกเขตร้อนบางสายพันธุ์ได้กินแมลงทุกชนิดเป็นอาหาร สำหรับพฤติกรรมการล่าสัตว์นั้น นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตจากพฤติกรรมของกระรอกดินสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะ Thirteen-lined ground squirrel ยกตัวอย่างเช่น Bailey ในช่วงปี 1920 นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตเห็นกระรอกดิน Thirteen-lined กินไก่ตัวเล็กๆ เป็นอาหาร นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ากระรอกชนิดเดียวกันนี้ได้กินซากงูขนาดเล็กด้วย ต่อมาได้มีการตรวจภายในของกระรอกที่ตายแล้ว 139 ตัว พบชิ้นส่วนของนกอยู่ในท้องของกระรอก 4 ตัว และพบเนื้อหนูหางสั้นในพวกมันอีกหนึ่งตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการค้นพบอีกว่า…
-
19 คนว่าง 2017 นิ่งเป็นต้องขยับ กับผลงานสุดล้ำ ที่บอกได้เลยว่าไม่ว่างจริงทำไม่ได้นะเนี่ย
ในโลกนี้มีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่ว่างเป็นไม่ได้ ต้องหาเรื่องทำโน่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา เหมือนกับภาพเหล่านี้ที่ทำให้รู้ว่าว่าคนทำนั้นคงจะว่างมาก จนต้องยกให้เป็นคนว่าง 2017 1. รถติดนานเกิน ถึงกับสร้างนำอิโมจิบนแป้นพิมพ์มาสร้างเป็นรูปแบบนี้ได้ 2. เดทครั้งแรก และนี่คือถ้วยไอติมของชายหนุ่มที่ทำให้หญิงสาวรู้จักเขามากขึ้น 3. เมื่อสตาร์ฟสวนสัตว์มีเวลาว่าง เลยชวนกันคอสเพลย์แมวน้ำ 4. สตาร์ฟสวนสัตว์อีกแล้ว คราวนี้คอสเพลย์เต่า 5. เมื่อคุณครูว่างมากๆ จนสามารถสร้างศิลปะบนกระดานอันงดงามแบบนี้ได้ 6. การทำอาหารแบบมีศิลปะ 7. ทำครีมให้เป็นหน้าอัมบราฮัม ลินคอล์น ว่างอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีฝีมือด้วย 8. เมื่อคุณยายมีเวลาว่าง… 9. ระหว่างปลดทุกข์ อย่าปล่อยให้มือว่าง 10. เมื่อปิ้งไอเดียสร้างสรรค์ตอนมีเวลาว่าง 11. ป๊าดดด ทำแบบนี้ได้ต้องว่างแค่ไหน ถามใจเธอดู 12. อาหารเดิมๆ จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แค่เปลี่ยนรูปทรง …
-
ลูกสาวสุดช้ำเมื่อรู้ความจริงว่า “แม่แท้ๆ” ที่เพิ่งเสียไป เป็นผู้ทำลายชีวิตของเธอจนพัง
สำหรับลูกๆ แล้ว แม่คือโลกทั้งใบพวกเขา เพราะแม่เป็นทั้งที่พักพิง ที่กำบัง ที่ปลอดภัย ที่ให้ความอบอุ่น นั่นทำให้ลูกส่วนใหญ่ไว้ใจแม่มากที่สุดชีวิต แต่สำหรับ Axton Betz-Hamilton เธอกลับถูกแม้แท้ๆ ทรยศต่อความไว้ใจที่มีให้ โดยแอบทำลายชีวิตเธออย่างลับๆ และเธอเพิ่งมารู้ความจริงตอนที่แม่ได้จากไปแล้ว เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Axton อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาปีที่สองในปี 2001 และเธอกำลังจะมีอพาร์ทเมนต์หลังแรกเป็นของตัวเอง ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาลัย ในระหว่างที่หญิงสาวได้ดำเนินการตามขั้นตอนนั้น เธอก็พบบางอย่างผิดปกติ เมื่อเธอได้รับจดหมายจากบริษัทไฟฟ้า โดยอธิบายว่าจำเป็นต้องมีเงินฝากในบัญชีตามเงื่อนไข เนื่องจากระดับเครดิตของเธอไม่ค่อยดีนัก Axton รู้สึกงงกับจดหมายฉบับนั้นมาก เพราะเธอไม่เคยยืมเงินใคร แต่ด้วยความอยากรู้ เธอจึงได้ทำการสำเนาเอกสารประวัติการใช้งานของบัตรเครดิตของเธอทั้งหมด Axton ในวัย 35 ปี เล่าว่า “6 เดือนต่อมา ฉันก็ได้รับจดหมายที่มีความยาว 10 หน้า ในนั้นระบุคะแนนบัตรเครดิต อยู่ที่ 380 แต่ฉันจำได้ว่าเคยทดสอบใช้ไปตอนอยู่โรงเรียนเพียง 100 ครั้งเท่านั้น ต้องมีบางอย่างผิดปกติแล้วหล่ะ” ต่อมาเธอก็สังเกตเห็นบัตรเครดิตหลายร้อยใบเป็นชื่อของฉัน และทุกใบล้วนมีหนี้ติดมาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เธอพบว่ามีเพียง…
-
แม่ที่สูญเสียลูกน้อยทำรูปภาพใบสุดท้ายของลูกหาย แต่แล้วก็มีแม่อีกคนเก็บมาคืนให้…
บางครั้งโชคชะตาก็อาจมีวิธีแปลกๆ ในการทำให้คนแปลกหน้าสองคนมาเจอกัน… เหมือนกับ Monica Taylor ที่พบรูปถ่ายตกอยู่บนพื้นที่ถูกเหยียบย่ำโดยฝูงชน ขณะที่เธอเดินออกมาจากงานคอนเสิร์ตใน Royal Melbourne Show ประเทศออสเตรเลีย Monica จึงหยิบรูปนั้นขึ้นมาดูแล้วก็พบว่าเป็นรูปทารกที่เหมือนโดนขยำมา… ภาพนี้ทำให้เธอนึกถึงประสบการณ์เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ลูกของเธอหายตัวไป เหลือเพียงแค่รูปถ่ายของเขาที่เธอหวงแหนมากกว่าอะไรในชีวิต นั่นทำให้ Monica รู้ทันทีว่ารูปที่เธอบังเอิญเจอนี้ มันคงไม่ใช่แค่รูปถ่ายธรรมดา แต่อาจจะเป็นสิ่งล้ำค่าเพียงชิ้นเดียวเกี่ยวกับลูกที่แม่คนนั้นเหลืออยู่ ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้าน เธอจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ คือการโพสต์รูปนี้ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อตามหาเจ้าของภาพนี้ เธอบอกว่า “นี่เป็นรูปลูกของใครบางคน ฉันหวังว่าจะตามหาเจ้าของรูปนี้เจอ” เพียงไม่นาน ภาพที่เธอโพสต์ก็ถูกแชร์ไปกว่า 7,000 ครั้ง และแล้วโชคชะตาก็ทำให้แม่ของทารกในรูปผู้เป็นเจ้าของภาพได้เห็นรูปนั้นในเฟซบุ๊ก คุณแม่คนนั้นจึงติดต่อไปหา Monica ทันที เธอรู้สึกซาบซึ้งมากที่มีคนเก็บรูปใบนั้นให้ และทั้งคู่ก็ได้นัดคืนรูปให้กันในวันรุ่งขึ้น Monica บอกว่าแม่ของทารกไม่ต้องการให้เปิดเผยชื่อ แต่เธอเล่าว่าได้เก็บรูปลูกน้อยไว้ในกระเป๋าเสื้อตลอดเวลา ตั้งแต่ที่ลูกน้อยเสียขีวิตไปในปี 2008 มันเป็นภาพเดียวที่เธอเหลืออยู่ และไม่มีวันไหนที่เธอจะไม่เปิดดูรูปของลูก การคิดถึงลูกคือแรงผลักดันที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้ แต่วันหนึ่ง ภาพลูกน้อยก็หล่นจากกระเป๋าเสื้อ เธอพยายามหาทุกซอกทุกมุม ทุกที่ที่ไปแต่ก็ไม่เจอ จนคิดว่ามันคงจะหายไปแล้วแน่ๆ กระทั่ง Monica เก็บรูปนี้ขึ้นมาจากท่ามกลางฝูงชนตามที่กล่าวมา เพื่อเป็นการขอบคุณ…
-
เจ้าโจรโดนจับจากการช่วยเหลือของตำรวจหญิงเกษียณวัย 90 ปี ถึงจะแก่แต่ยังฟิตปั๋งอยู่นะจ๊ะ
ขึ้นชื่อว่าเป็นตำรวจแล้ว เมื่อคุณตัดสินใจเริ่มอาชีพนี้ จะไม่สามารถเลิกเป็นได้ เพราะแม้คุณจะเกษียณไปแล้ว แต่สัญชาตญาณการเป็นตำรวจก็ยังคงมีอยู่ในตัวเสมอ เหมือนกับ Barbara McArthur อดีตตำรวจหญิงวัยเกษียณ ที่แม้จะอายุ 90 ปีแล้ว แต่ก็ยังช่วยตำรวจจับผู้ร้าย Jonathan Tawse วัย 28 ปีได้อย่างเหลือเชื่อ Barbara เริ่มทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่ออายุ 25 ปี และผลงานล่าสุดคือการจัดการกับ Tawse ได้อย่างอยู่หมัด สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนเป็นอย่างมาก เหตุการนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Tawse ได้มาเสนอทำความสะอาดกระจกบ้านให้ Barbara โดยคิดราคา 200 บาท แต่พอทำไปสักพัก เขาก็อ้างว่าได้ทำการซ่อมแซมรอยร้าวบนประตูให้ด้วย จึงคิดราคาเพิ่มอีก 2,000 บาท ซึ่งเธอรู้ดีว่านั่นเป็นการหลอกลวง แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นเธอจำเป็นต้องทำเหมือนไม่รู้ว่าโดนหลอก ก่อนจากไป Tawse ได้ให้ใบปลิวกับเจ้าของบ้าน และบอกว่าเธอว่าจะกลับมาทำให้อีก หากมีอะไรต้องวซ่อมเรียกเขาได้เลย และใบปลิวใบนั้นที่ Barbara เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อมัดตัวเขา ต่อมา Barbara ได้เข้าพบตำรวจและแจ้งความเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็รู้ข้อมูลเกี่ยวกับ Tawse และพ่อของเขา Michael วัย 51 ปีว่าทั้งคู่เป็นนักต้มตุ๋น …
-
เชียร์ลีดเดอร์สาวผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ก้าวข้ามความพิการ จนเป็นนักกีฬาระดับชาติ
กิจกรรมบางชนิด อย่างเชียร์ลีดเดอร์ จำเป็นต้องอาศัยไหวพริบ การเคลื่อนไหวที่กระฉับกระเฉง และสายตาที่ว่องไว แต่มีหญิงสาวอยู่คนหนึ่งที่ได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ระดับนานาชาติ ทั้งๆ ที่มีปัญหาทางสายตา Steph เป็นส่วนหนึ่งของทีม England ParaCheer ที่แม้จะมีบางส่วนของร่างกายบกพร่อง แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของเธอ การแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ 2017 World Cheerleading Championships ในฟลอริด้า เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ ที่ทีม England ParaCheer จะได้เข้าร่วมเป็นครั้งแรก แม้ในทีมจะมีคนที่มีความบกพร่องทางร่างกายอยู่ แต่พวกเขาก็ทำได้ดีและประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้ทีมอื่นๆ… Steph บอกว่าการมีปัญหาทางสายตั้งแต่กำเนิดทำให้เธอไม่สามารถรับรู้ถึงความลึกหรือความสูงได้ แต่เธอสามารถมองเห็นได้ลางๆ ด้วยตาข้างขวา อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถบอกรายละเอียดของสิ่งที่เห็นได้ แต่ Steph จะเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีม เพราะเธอมองไม่เห็น เพื่อนๆ จึงต้องทำสัญลักษณะเป็นสีเพื่อให้เธอรู้ว่าควรเคลื่อนไหวไปในทิศทางไหน เมื่ออยู่ในสนามแข่ง หญิงสาวได้แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ตามที่ซ้อมมา และเธอก็ทำได้ดีจนไม่มีใครดูออกว่าเธอมีปัญหาทางสายตา เธอยังบอกอีกว่าในการแข่งขันแต่ละครั้ง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เธอก็รู้สึกภูมิใจเพราะได้ทำมันอย่างเต็มที่ทุกครั้ง การเป็นนักกีฬาทั้งๆ ที่ร่างกายบกพร่อง เป็นสิ่งที่ท้าทายไม่น้อย แต่เราแค่ต้องก้าวข้ามมันไป และแสดงศักยภาพของตัวเองออกมา …
-
งานภาพถ่ายคุณตาคุณยายที่แต่งงานกันมา 68 ปี แต่ความรักก็ยังคงชื่นมื่นไม่มีเปลี่ยนแปลง
การตามหารักแท้ว่ายากแล้ว แต่การรักษารักแท้นั้นให้หวานชื่นอยู่เสมอเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า เพราะหลายๆ คู่เมื่ออยู่กันไปนานๆ ก็เริ่มจะรู้สึกเบื่อ ไม่ได้เติมความรักให้แก่กัน จนทำให้ความรักเริ่มจืดจางลงตามกาลเวลา แต่สำหรับตายายคู่นี้ วันเวลาไม่อาจทำลายความรักของพวกเขาได้ แม้แต่งงานกันมานานถึง 68 ปีแล้ว แต่รักก็ยังคงชื่นมื่นเหมือนตอนจีบกันใหม่ๆ นี่คือการถ่ายรูปคู่ของตายาย ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก เพื่อฉลองครอบรอบวันแต่งงานปีที่ 68 ที่หวานซะจนวัยรุ่นอย่างเรายังต้องอิจฉา ช่างภาพที่ได้ถ่ายภาพให้กับตายายคู่นี้ บอกว่าเธอรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับหน้าที่เก็บภาพความทรงจำให้กับทั้งคู่ และตลอดการทำงานเธอสัมผัสได้ถึงความรักที่พวกเขามีให้กัน ช่างภาพยังรู้มาอีกว่า ตายายยังเคยไปท่องเที่ยวมาด้วยกันในรัฐต่างๆ กว่า 50 รัฐ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมความรักของพวกเขาถึงไม่จืดจางเลย เวลาที่พวกเขาจูบกัน มันไม่ใช่แค่การจูบแต่เป็นการสื่ออารมณ์ความรู้สึกภายในให้แก่กันและกัน… พวกอธิษฐานก่อนนอนด้วยกันทุกคืน จับมือกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนนั่งดูทีวีบนโซฟา ในโบสถ์ บนถนน และในทุกๆ ที่ไม่เคยปล่อยมือกัน คุณยายเป็นรักเดียวและรักแท้ของคุณตา สายตาที่เขามองภรรยาไม่ต่างอะไรจากตอนที่วัยรุ่นมองคนที่แอบชอบเลย จนทุกวันนี้ พวกเขาก็ยังขยันมอบความรักให้กันอยู่เสมอ สำหรับใครที่เจอรักแล้ว อยากให้รักษามันไว้ให้ดี เพราะคงมีไม่กี่คนที่จะอยู่เคียงข้างคุณไม่ว่าทุกข์หรือสุขและตลอดไปเหมือนกับตายายคู่นี้ . . . . .…
-
22 ไอเดียการออกแบบสุดเฟล ความผิดพลาดที่ทำให้เกิดเป็น “ความฮา” ขึ้นมาได้
ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์หรือเครื่องหมายต่างๆ มักจะมีการครีเอทด้วยไอเดียที่สร้างสรรค์ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ที่พบเห็น แต่บางทีในความสร้างสรรค์นั้น ก็อาจจะทำให้หลายคนมองได้มากกว่านั้น มันอาจจะดูสร้างสรรค์ก็จริง แต่ดูดีๆ เหมือนทำมาพลาดยังไงไม่รู้ เหมือนภาพต่อไปนี้ 1. บรรจุภัณฑ์ลักษณะนี้คิดมาดีแล้วใช่มั้ย?? 2. บริษัทตั้งใจทำน้ำพุสีชมพูเพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงมะเร็งเต้านม เอิ่ม…มันจะได้ผลจริงหรอ? 3. ป้ายห้องที่ชวนงงที่สุด เราควรจะเชื่ออะไรดี 4. ติดตั้งกระดาษชำระให้อยู่เหนือซิงค์ 5. หรือนี่จะเป็นการใช้เสื่อที่ถูกต้อง แล้วจะเอามาเพื่อ… 6. คนวาดคงจะเพลินไปหน่อย เพิ่มกล้วยมาให้อีกลูก เด็กๆ ไม่สับสนนะลูก 7. มิติใหม่ของการกินไอติม 8. ป้ายบอกทางไป McDonald’s แต่หมุนแบบนี้ จะรู้มั้ยว่าอยู่ทางไหนกันแน่ 9. เดี๋ยวนะ ที่หนูๆ จับอยู่คือไรอะ 10. ปราสาทโจรสลัด แต่ทางออกมันดูคุ้นๆ นะ 11. หมุนตั้งนานไม่ออกสักหยด พอออกมาเท่านั้นแหละ…
-
ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนแอบเข้าไปเล่นบาสในยิม แทนที่จะไล่ออกไป กลับออกค่ายิมให้แทน
ปกติแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะทำตามกฏหมาย ผิดว่าไปตามผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ก็มีเจ้าหน้าที่บางคนยอมฟังรับฟังเหตุผล ลดโทษ รวมทั้งไม่เอาโทษ ในกรณีที่เป็นการกระทำผิดที่ไม่ร้ายแรง เหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ที่ไม่ใช่แค่ไม่ทำโทษ แต่ยังช่วยเหลือผู้กระทำผิดจนได้รับการชื่นชมจากผู้คนจำนวนมาก เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Vincent Gonzales เด็กหนุ่มวัย 15 ปี จาก Skokie ได้แอบเข้าไปเล่นบาสในโรงยิมท้องถิ่น X-Sport Fitness และโดนเจ้าหน้าที่โรงยิมเตือนไปหลายครั้งแต่เขาก็ยังทำอยู่เหมือนเดิม จริงๆ แล้วเด็กหนุ่มเคยเป็นสมาชิกของโรงยิมนี้ แต่หลังจากบัตรสมาชิกหมดอายุ ครอบครัวของเขาไม่ได้จ่ายค่าสมาชิกให้โรงยิม จึงทำให้เขาหมดสิทธิ์เข้ามาใช้ ด้วยความเป็นคนชอบเล่นบาส เด็กหนุ่มเลยแอบเข้ามาเล่นตอนที่เจ้าหน้าที่ไม่อยู่ แต่ก็มักจะถูกจับได้ทุกครั้ง จนครั้งล่าสุด เมื่อปลายเดือนสิงหาคมเขาถูกจับได้อีก เจ้าหน้าโรงยิมทนไม่ได้จึงได้โทรแจ้งตำรวจท้องถิ่นทันที ผู้ที่รับเรื่องนี้คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ Mario Valenti ที่สังกัดในกรมตำรวจ Skokie Police Department เขาจึงไปยังโรงยิมทันทีหลังจากที่วางสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามเด็กหนุ่มว่าทำไมถึงแอบเข้าไปเล่นในนั้น? และได้คำตอบว่า Vincent กำลังฝึกซ้อมเพื่อเตรียมคัดตัวเป็นนักกีฬาของโรงเรียน Uplift Community High School Vincent บอกว่า “ผมอยากเล่นกีฬามากกว่าใช้ชีิวิตอยู่ข้างถนน เพราะนั่นอาจทำให้เกิดปัญหาสังคมได้” หลังจากได้ยินเขาพูด เจ้าหน้าที่ตำรวจ Mario…
-
หมู่บ้าน ‘สุนัขจิ้งจอก’ ในญี่ปุ่น มีแต่เหล่าสุนัขจิ้งจอกหน้าตาน่ารัก คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว
ในนิทานพื้้นบ้านของญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกมักจะได้รับบทเป็นตัวโกงหรือตัวที่นิสัยไม่ดี จนทำให้พวกมันมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการหลอกลวง สำหรับคนที่เชื่อแบบนั้น ก็มักจะไม่สังเกตว่าจริงๆ แล้ว สุนัขจิ้งจอกนั้นน่ารักแค่ไหน ทั้งขนปุกปุยของมัน ทั้งนิสัยขี้เล่นที่แทบไม่ต่างจากหมาบ้านตัวหนึ่งเลย ดูพวกมันสิ น่ารักมั้ย? อย่างไรก็ตาม ใครที่กลัวสุนัขจิ้งจอกและมองว่ามันเป็นสัตว์อันตราย คุณต้องลองไปหมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกสะโอ อยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิ จังหวัดมิยางิในญี่ปุ่น แล้วคุณจะเปลี่ยนความคิดแบบนั้นแน่นอน หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยสุนัขจิ้งจอกนับไม่ถ้วน และใครที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมที่นี่จะกลายเป็นคนรักสุนัขจิ้งจอกไปเลย จนไม่อยากกลับเลยแหละ ลองเดาสิ๊ พวกมันกำลังมองอะไรอยู่? ยิ่งอยู่ท่ามกลางหิมะ ก็ยิ่งทำให้พวกมันดูคูลสุดๆ มีจิ้งจอกสีดำด้วย โดดเด่นกว่าเพื่อนเลย อย่าเผลอจ้องตามันเชียวล่ะ เพราะเวลาเห็นมันกระพริบตามิบๆ คุณต้องไม่อยากกลับแน่ๆ ม้วนตัวแล้วงีบหลับภายใต้แดดอ่อนๆ สุนัขจิ้งจอกในหมู่บ้าน Zao Village ไม่ทำร้ายมนุษย์นะ ถ้าคุณได้ไปญี่ปุ่น หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกคือแลนด์มาร์คที่คุณไม่ควรพลาด สุนัขจิ้งจอกน้อยกำลังเล่นด้วยกัน น่ารักเชียว มาออดอ้อนถึงเนื้อถึงตัวเลย พากลับบ้านดีมั้ย? นักท่องเที่ยวที่เจอสายแบบนี้ มักอยากจะขอรับเลี้ยงพวกมันทั้งนั้น มาถึงจุดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมทุกคนถึงหลังรักสุนัขจิ้งจอกที่นี่ …
-
จิตใจทำด้วยอะไร!? วัยรุ่นใจโหด “ทำร้ายแมวอย่างรุนแรง” จนมีการเรียกร้องให้นำตัวมาลงโทษ
สัตว์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่รกโลก แต่มันคือเพื่อนร่วมโลกที่ทำให้โลกเป็นโลกอย่างทุกวันนั้น ดังนั้นเราควรจะดูแลและปฏิบัติกับมันเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง สำหรับคนที่ไม่ชอบสัตว์ ไม่เห็นความสำคัญของพวกมัน คุณไม่ต้องดูแลหรือเลี้ยงมันก็ได้ แค่ไม่ทำร้ายมันเหมือนอย่างที่ชายใจโหดคนนี้ทำก็พอ ก่อนอื่นขอเตือนคนรักสัตว์หรือคนที่มีจิตใจอ่อนไหวง่ายก่อนว่า คุณสามารถข้ามคลิปนี้ไปได้เลย เพราะมีภาพที่มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงและอาจกระทบกระเทือนจิตใจได้ คลิปวิดีโอด้านนี้เป็นภาพชายแปลกหน้าจับแมวดำผู้เคราะห์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาแล้วเตะมันอย่างแรง จนถูกชาวเน็ตประณามว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าแมวตัวนี้เป็นของชายคนที่เตะหรือเป็นของคนอื่น แต่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ในบัญชีอินสตาแกรมที่ชื่อ The Street Blogs จนมีคนแจ้งไปยังสมาคมสงเคราะห์สัตว์ (RSPCA) ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ส่วนสาเหตุก็ยังระบุไม่ได้เช่นกัน แต่ทางองค์กรการกุศลด้านสวัสดิภาพสัตว์เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ มีวิดีโอเกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์ที่ถูกแชร์ใน Snapchat เพิ่มขึ้นถึง 340% ต่อมา RSPCA ได้ออกมาประณามการกระทำของชายที่อยู่ในคลิป โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นที่อายุไม่เกิน 18 ปี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบและเปิดเผยข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด Dermot Murphy จาก RSPCA กล่าวว่า “นี่เป็นการกระทำที่ทารุณเกินจะรับได้ และดูจากแรงเตะแล้ว น่าจะทำให้แมวตัวนั้นบาดเจ็บไม่น้อยเลย” “ไม่ว่าเขาจะทำเพราะสาเหตุอะไร เราอยากขอความร่วมมือจากคนที่เห็นเหตุการณ์ หรือผู้คนบริเวณนั้นแจ้งข้อมูลที่พอจะรู้มาให้เราทราบด้วย เพื่อจะได้ดำเนินการกับชายคนนั้นให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำ” ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ ผู้คนที่มาคอมเม้นต์ใต้คลิปนี้ต่างมองว่าเป็นเรื่องตลก ซึ่งทัศนคติแบบนี้มักจะนำไปสู่การทำร้ายสัตว์ตัวอื่นๆ อีก RSPCA ได้ย้ำอีกว่า “เราไม่สามารถทนต่อกระทำเหล่านี้ได้ เราอยากให้เยาวชนทำความเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องตลก…
-
15 ของเหลวที่มีราคาแพงที่สุดในโลก กับส่วนประกอบพิเศษ ที่คุณอาจคิดว่าใส่มาด้วยเหรอ!?
ของเหลวอย่างเช่น น้ำหอมที่เป็นแบรนด์ดัง หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วมันมีราคาค่อนข้างแพง แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่ามีของเหลวอีกหลายชนิดที่ราคาแพงจนคิดไม่ถึง เว็บไซต์ Bright Side จึงได้จัดทำรายชื่อของเหลวที่ขึ้นชื่อว่าราคาแพงที่สุดในโลก ดูสิ๊จะมีอะไรบ้าง… 15. น้ำยาลบคำผิด ราคา 4,900 บาทต่อแกลลอน น้ำยาลบคำผิดมีส่วนผสมของแนฟทา ตัวทำละลาย สารขจัดคราบน้ำมัน และน้ำหอม ซึ่งทำให้มันมีราคาแพงแม้จะแค่ขวดเล็กๆ ก็ตาม 14. เพนิซิลลิน ราคา 7,500 บาทต่อแกลลอน เพนิซิลลินเป็นกลุ่มยาปฏิชีวนะที่มีเพนิซิลลิน V เพนิซิลลิน G เบนซาทีน เพนิซิลลิน และโปรเคนเพนิซิลลิน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในการรักษาโรคที่เกิดจากแบคทีเรียชนิดต่างๆ 13. น้ำมันหอมระเหย แพทชูรี่ ราคา 20,000 บาทต่อแกลลลอน น้ำมันหอมระเหยที่มีราคาแพงชนิดนี้ ผลิตจากส่วนใบทั้งสดและแห้งของพืชที่เรียกว่า Pogostemon สรรพคุณของน้ำมันใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ ช่วยในการรักษาไข้ รักษาเชื้อราและนิ่วในไต และยังมีกลิ่นหอมที่ช่วยดับกลิ่นตัวได้ 12. เลือดมนุษย์ ราคา 44,000 บาทต่อแกลลอน ในร่างกายมนุษย์แต่ละคนจะมีเลือดอยู่ 1.3 แกลลอน ซึ่งประกอบด้วยพลาสมาและเซลล์ และร่างกายจะไม่สามารถทำงานได้ถ้าปราศจากเลือด…
-
หญิงสาวใช้แอป Tinder ตามหาเจ้าเหมียวที่หายไป ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็เจอตัวจนได้
โดยปกติแล้วแอป Tinder จะเป็นที่รู้จักในฐานะแอปหาคู่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แล้วเราเคยคิดว่ามั้ยนอกจากหาคู่แล้ว เราจะหาประโยชน์อะไรได้จากแอปนี้อีก? Katie หญิงสาวจาก Northampton ประเทศอังกฤษ ปิ๊งไอเดียในการใช้แอป Tinder ได้อย่างสร้างสรรค์ ด้วยการใช้มันตามหาแมวที่หายไป นี่คือ Peanut น้องเหมียวที่หายไป Peanut เป็นแมวที่ซนมากและมันได้หนีออกจากบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่ง Katie ไม่รู้ว่ามันออกไปได้ยังไง แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของมันมากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะมีข่าวการฆ่าแมวออกมาให้ได้ยินบ่อยๆ ตั้งแต่ที่มันหายไป หญิงสาวไม่เคยได้อยู่อย่างสบายใจเลย เธอคิดถึงมันตลอดเวลา เธอจึงประกาศตามหามันในเพจเฟซบุ๊ก Lost Pets ขณะเดียวกันก็พยายามคิดหาหนทางอื่นไปด้วย และแล้วก็มีเหมือนมีอะไรมาดลใจทำให้นึกถึงแอป Tinder ซึ่งเป็นแอปหาคู่ที่สามารถระบุระยะของคนที่ต้องการคุยได้ เพื่อได้คู่ตามต้องการ ตอนนั้นหญิงสาวรู้ว่า Peanut คงอยู่ไม่ไกลจากแถวบ้านแน่ๆ เธอก็เลยใช้แอป Tinder เพื่อให้คนที่อยู่บริเวณใกล้กันนี้ช่วยตามหา หญิงสาวเล่าว่า “ฉันใช้รูป Peanut เป็นภาพโปรไฟล์ โดยทำให้เป็นโปสเตอร์ที่มีข้อความว่า ‘มีรางวัลสำหรับผู้พามันกลับมาอย่างปลอดภัย’ และเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงก็มีคนบอกฉันว่ามันอยู่ที่ไหน” เจ้าของได้ออกไปหาเจ้าเหมียวตามที่มีคนแจ้งมา แล้วก็พบมันอยู่ที่นั่น ซึ่งไม่ไกลจากบ้านเลย แต่เธอกลับไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมาอยู่ที่นี่ ครั้งแรกที่เข้าไปหา น้องเหมียวตกใจจนวิ่งหนีไป ดังนั้น Katie จึงต้องใช้กลิ่นที่เจ้าเหมียวชอบ จนล่อมันกลับบ้านได้ในที่สุด…
-
หญิงสาวเผย เพียงแค่โพสต์รูปภาพ ‘เท้า’ ของตัวเอง ก็ทำเงินได้ปีละเป็นล้านแล้ว!!
ในวัฒนธรรมบ้านเรา เท้าถือเป็นของต่ำที่ไม่ควรไว้บนที่สูง เช่น บนโต๊ะ บนหัวนอน หรือแม้กระทั่งบางสถานที่อย่างวัด คุณจะต้องระวังไม่ให้เท้าชี้ไปทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะอาจถือเป็นการลบหลู่ได้ นอกจากนี้ในทางโซเชียล รูปเท้ายังถือเป็นสัญลักษณ์ที่หยาบคายและเปรียบเสมือนการด่าที่รุนแรงมาก แต่ในขณะเดียวกันกลับมีหญิงสาวบางคนที่สามารถทำรายได้ปีละเป็นล้าน เพียงแค่ ‘โพสต์รูปเท้า’ ลงในโลกออนไลน์เท่านั้น Jessica Gould วัย 32 ปี อาศัยอยู่ในรัฐออนตาริโอ มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 100,000 คน หลังจากที่เธอโพสต์รูปเท้าลงไอจีทุกวัน แถมยังสร้างรายมากกว่าล้านบาทต่อปีด้วย หญิงสาวใช้นามแฝงว่า Scarlett Vixen เธอโพสต์รูปเท่าเพราะรู้ว่ามีคนบางกลุ่มที่เกิดอารมณ์ทางเพศเพียงแค่ได้มองเท้าของเธอ ผู้คนเหล่านั้นมักจะเรียกร้องให้เธอถ่ายรูปตั้งแต่ข้อเท้าลงไป แต่หญิงสาวไม่ได้ถ่ายแค่รูปเท้าเฉยๆ เธอยังหาพร็อพมาตกแต่งเท้าให้ดูเซ็กซี่ขึ้นเพื่อเอาใจแฟนๆ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้ฟรีๆ นะ แฟนๆ ที่ต้องการให้ Jessica ถ่ายรูปเท้าตามคำขอ ต้องจ่ายเงินให้ผ่านเพจ Paypal ของเธอด้วย ลูกค้าที่ใช้บริการเป็นประจำจะรู้จักเพจของเธอในชื่อ ‘pay pigs’ ซึ่งก็จะมีรูปเท้าให้ดูมากมาย แม้จะเคยมีคนเสนอให้เธอแก้ผ้าซะเลย แต่เธอก็ปฏิเสธข้อเสนอนั้น ในการโพสต์ภาพเท้าแต่ละครั้ง Jessica มักจะทำให้เท้าดูสะอาดที่สุด แต่บางครั้งเธอก็ทำให้สกปรกบ้าง รวมทั้งทำให้เปื้อนด้วยอาหารตามคำขอของลูกค้า …
-
สุนัขที่มีน้ำหนักเกินปกติถึง 4 เท่า ลดน้ำหนักจนกลับมาหุ่นเฟิร์ม เหมือนได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง
สัตว์ที่มีรูปร่างอ้วนๆ กลมๆ อาจจะดูน่ารักน่ารักน่ากอด แต่รู้มั้ยว่าในความน่ารักนั้นมีความเสี่ยงอยู่ ก็เหมือนกับเรานี่แหละ หากอ้วนเกินไป มักจะมีปัญหาสุขภาพตามมา เพราะแบบนี้จึงจำเป็นต้องกำจัดน้ำหนักส่วนเกินนั้นออก เหมือนกับน้องหมา Buddy ที่พอลดความอ้วนได้ ก็เหมือนมีชีวิตใหม่เลย Buddy เป็นสุนัขพันธ์ุ Australian-shepherd มีน้ำหนักมากถึง 81 กิโลกรัม จนทำให้มันแทบเดินไม่ได้ และยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวายเฉียบพลันด้วย ทีมช่วยเหลือ Hull’s Haven Border Collie Rescue อธิบายว่า Buddy ถูกช่วยเหลือมาจากประเทศแคนาดา ในสภาพที่อ้วนจ้ำม่ำจนเหมือนจะระเบิดออกยังไงอย่างงั้น เพราะมันมีน้ำมากกว่าสุนัขทั่วๆ ไปถึง 4 เท่าเลยทีเดียว สัตวแพทย์บอกว่าหากน้องหมายังอยู่ในสภาพนี้ต่อมันจะอยู่ได้อีกแค่ 6 เดือนเท่านั้น Angela Hand และ Samantha Gagnon ผู้ดูแลจากทีมช่วยเหลือจึงพยายามช่วยเหลือมันด้วยการลดปริมาณอาหารในแต่มื้อ จนกระทั่งมันสามารถออกกำลังกายได้ ตอนนี้น้องหมาสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 50 กิโลกรัม ที่ดีไปกว่านั้นคือมันได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่กับเจ้าของที่ใจดีอย่าง Alex และ Valerie Dewar Buddy กลายเป็นหมาที่โด่งดังในท้องถิ่น ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนในชุมชนในเรื่องการลดน้ำหนักด้วย สัตวแพทย์ Angela กล่าวว่า “ครั้งแรกที่เห็น…
-
เมื่อเราต้องโตขึ้น… เปรียบเทียบชีวิตตัวเองเป็นหมา ตั้งแต่เกิดจนโต กับสิ่งที่ต้องพบเจอ
ในแต่ละช่วงของวัย ตั้งแต่เกิดจนโต ชีวิตมนุษย์เราต้องพบเจอกับสถานการณ์หลากหลายรูปแบบ มีทั้งความสุข ความทุกข์ ความลำบาก ความสบาย ปะปนกันไป และหากเราลองพิจารณาดูดีๆ การเติบโตในแต่ละวัยของเรามันไม่ได้ต่างอะไรจากชีวิตน้องหมาเลย ลองดูภาพต่อไปนี้ แล้วจะรู้ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่? ตอนเกิดมามีแต่คนต้อนรับคนเห่อเต็มไปหมด ช่วงวัยเด็กไปที่ไหนมีแต่คนรักคนเอ็นดู คุณมีช่วงวัยแห่งการเจริญเติบโต วันหนึ่ง เริ่มอยากออกไปใช้ชีวิตข้างนอก ตอนแรกก็คิดว่าไหวนะ… แต่มาคิดอีกที ขอเป็นเด็กต่อไปดีกว่า การเป็นผู้ใหญ่ ฟังดูเหมือนง่ายนะ แต่คุณจะไม่รู้เลยจนกว่าคุณจะเข้าสู่วัยทำงานจริงๆ คุณพยายามลองอะไรใหม่ๆ หลังจากนั้นคุณก็จะได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบ และจะโฟกัสอยู่กับสิ่งนั้น แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องไล่ตามความฝัน ระหว่างนั้นคุณอาจจะเจอทั้งคนที่ไม่ชอบ และคนที่ไม่น่านับถือ พวกเขามักจะข่มขู่คุณ แต่คุณก็แค่ต้องทำให้สิ่งตัวเองทำต่อไป บางวันคุณอาจจะรู้สึกเหนื่อย รู้สึกว่าชีวิตมันช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย จนคิดว่ามันยากที่จะผ่านไปได้ แล้วคุณก็จะหาเวลาดูแลตัวเอง…
-
ศิลปินเกาหลีวาดภาพการ์ตูนบอกเล่าเรื่องราวชีวิตอันแสนสนุก ที่ได้เติบโตมากับพี่สาว
ความผูกพันระหว่างพี่น้องเป็นเป็นอะไรที่วิเศษมากๆ เพราะมันเป็นความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ เป็นมิตรภาพที่งดงาม ทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและเสียงหัวเราะ เหมือนกับศิลปินคนนี้ที่จำได้การเติบโตมากับพี่สาวนั้นมีความสุขและงดงามแค่ไหน เธอจึงได้บรรยายประสบการณ์เหล่านั้นออกมาในรูปแบบการ์ตูน ศิลปินผู้ใช้นามปากกา Paper fly เป็นนักวาดการณ์ตูนชาวเกาหลี เธอได้วาดความทรงจำในวัยเด็กของตัวเอง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สดใสในระหว่างที่เธอเติบโตมากับพี่สาว เธอจำได้ว่าได้ทำกิจกรรมกับพี่สาวมากมาย ทั้งงีบหลับด้วยกันนอกบ้าน ทำความสะอาด เล่นเกม และแบ่งปันความรักเล็กๆ น้อยๆ ให้กันและกัน หากบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือหรือคำพูดคงจะสื่อประสบการณ์ในวัยเด็กได้ไม่ชัดเจนพอ เธอจึงใช้การวาดรูปเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายและสัมผัสถึงความงดงามเหล่านั้นได้อย่างลึกซึ้ง ใครที่ชื่นชอบผลงานแนวนี้ สามารถติดตามเธอได้ที่เว็บไซต์ grafolio และอินสตาแกรม paper_fly07 . วันวานที่เรามีความสุขกับการละเลงสีแบบง่ายๆ . แอบเอาเครื่องสำอางของแม่มาเล่น . มีของกินก็แบ่งกัน . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
หญิงที่รอดชีวิตจากการถูกแม่ทิ้งตั้งแต่เกิด ใช้เวลา17 ปี ตามหาแม่จนเจอ…และเรียนรู้ที่จะให้อภัย
หลายคนที่ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เกิด มักจะกลายเป็นความโกรธแค้นจนไม่อยากเจอหน้าผู้ให้กำเนิดอีก แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่อยากเจอหน้าบุพการีสักครั้ง แม้จะรู้ว่าถูกพวกเขาทิ้ง เหมือนกับ Melissa Ohden วัย 40 ปี ที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งลงถังขยะตั้งแต่เกิด แต่เธอก็ยังออกตามหาแม่จนเจอ และยังได้ให้อภัยเธอด้วย Melissa เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ปี 1977 ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม ทีี่ร้ายกว่านั้นเธอถูกพบอยู่ในถังขยะโดยมีสายไฟพันรอบตัว แต่ไม่มีแม้แต่เงาผู้ให้กำเนิด จริงๆ แล้ว แม่ของ Melissa พยายามจะทำแท้งตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ 8 เดือน แต่ไม่สำเร็จ จนในที่สุดแม่ก็คลอดลูกออกที่โรงพยาบาลในรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากคลอดแล้วแม่ของ Melissa ก็หนีออกจากโรงพยาบาล พร้อมนำลูกน้อยไปทิ้งในขยะ และเธอก็คิดไม่ถึงว่าลูกจะรอดจากการถูกทิ้้ง เมื่อโตขึ้น Melissa ก็ได้รับรู้เกี่ยวกับการเริ่มต้นชีวิตที่แสนเจ็บปวดของเธอ เธอจึงใช้เวลาเกือบ 20 ปี ในการหาคำตอบว่าทำไมแม่ถึงทำกับเธอเช่นนั้น แล้วก็ได้รู้ว่าเธอเกิดจากความไม่ตั้งใจและแม่ก็ไม่อยากให้เธอเกิดมาด้วย Melissa ยังรู้อีกว่าที่ยังมีชีวิตมาจนทุกวันนี้ เป็นเพราะพยาบาลได้ยินเสียงร้องของเธอดังมาจากถังขยะ พวกเขาได้ช่วยเหลือเธอเอาไว้จนได้รับการรักษาฉุกเฉิน ความเจ็บปวดที่เธอรู้อีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อถูกช่วยเหลือแล้วกลับมีพยาบาลคนหนึ่งบอกกับคนอื่นๆ ว่า ‘ปล่อยให้เด็กคนนี้ตายดีกว่า’ ที่ร้ายไปกว่านั้นคือเธอมารู้ที่หลังว่าพยาบาลคนนั้นคือยายแท้ๆ…
-
เต่าแก่ที่สุดในโลก ถูกพบว่าเป็นเกย์ เยกับเต่าตัวผู้ 26 ปี เพราะเจ้าหน้าที่เอามาผิดตัว!?
แค่รู้ว่าเต่ามีอายุขัยประมาณ 250 ปีก็ทำให้เราทึ่งแล้ว แต่คุณจะต้องประหลาดยิ่งกว่าถ้ารู้ว่าเต่าที่อายุมากที่สุดในโลกขณะนี้ถูกพบว่าเป็นเกย์!? และนี่คือเรื่องราวของ Jonathan เต่าที่อายุมากที่สุดในโลก ที่เพิ่งถูกค้นพบว่าเป็นเกย์ หลังได้อยู่กับคู่รักและผสมพันธุ์กันมานานถึง 26 ปี Jonathan ในวัย 186 ปี ได้เข้ามาอยู่ที่ St Helena ดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ ตอนอายุ 30 ปี ในฐานะของขวัญของผู้ปกครองรัฐในขณะนั้น เจ้าเต่าตัวนี้มีชีวิตอยู่หลายชั่วอายุคน ครั้งหนึ่งมันเคยถ่ายรูปร่วมเฟรมกับนักโทษที่ถูกคุมขังบนเกาะในระหว่างสงครามโบเออร์ด้วย แต่แล้วในช่วงปลายอายุ 80 ปี Jonathan เริ่มหงุดหงิดง่ายและชอบขัดขวางการเล่นกีฬาคริกเก็ตของผู้คนบนสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์จอร์เจียของผู้ปกครองรัฐ ในที่สุดสัตวแพทย์ก็ตัดสินใจหาเพื่อนสาวให้มันในปี 1991 เต่าตัวเมียนี้ชื่อว่า Frederica ตั้งแต่นั้นมา Jonathan ก็เพลิดเพลินกับช่วงเวลาสุดโรแมนติกกับตัวเมีย โดยจะผสมพันธุ์กันทุกๆ เช้าวันอาทิตย์ แต่น่าแปลกใจตรงที่ว่าทั้งคู่ไม่เคยมีลูกเลย ทำให้หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น กระทั่งตอนนี้ก็เกือบ 30 ปีที่มันได้พบกับคู่รัก จนในที่สุดข้อสงสัยก็ถูกไขให้กระจ่าง ข้อสงสัยถูกเปิดเผยเมื่อสัตวแพทย์ได้เข้าไปทำการรักษากระดองให้เจ้า Frederica แล้วก็ต้องทึ่งเมื่อรู้ว่ามันเป็นตัวผู้ไม่ใช่ตัวเมีย!! และแม้ว่าพวกมันจะรู้ว่าเป็นเพศเดียวกัน แต่ก็ยังมีอะไรกันทุกๆ เช้าวันอาทิตย์ สัตวแพทย์ Catherine Man กล่าวว่า “ทั้งคู่ชอบกินและนอนเป็นเวลา…
-
พายุ Ophelia พัดรุนแรงจนทำให้พบ ‘โครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณ’ ที่มีค่าทางประวัติศาสตร์
หลายๆ ครั้ง หลักฐานทางประวัติศาสตร์มักจะถูกพบหลังจากที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง เช่น พายุ น้ำท่วม และแผ่นดินไหว ครั้งนี้ก็เช่นกัน หลังจากเกิดพายุ Ophelia ที่มีความรุนแรงจนทำให้โครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณโผล่ออกมาให้เห็น ซึ่งนับว่าเป็นหลักฐานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่ง โครงกระดูกดังกล่าวนี้คาดว่าน่าจะมีอายุถึงพันปี ถูกค้นพบโดยนักเดินทางหลังจากเกิดพายุพัดอย่างรุนแรงและทำให้น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งไอริช ประเทศไอร์แลนด์ สำหรับพายุ Ophelia ได้พัดผ่านประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีความเร็วลมอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนเผยให้เห็นสถานที่ที่เหมือนหลุมฝังศพโบราณ นักพยาธิวิทยา Marie Cassidy ได้เดินทางมาถึงสถานที่ดังกล่าวเมื่อวานนี้ และได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหลักฐานชิ้นนี้น่าจะมาจากยุคเหล็กที่ถูกสร้างเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว ตอนนี้โครงกระดูกที่พบถูกนำไปไว้ที่ Dublin เพื่อตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์หาสาเหตุการตายและอายุที่แท้จริง หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้วก็จะนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Ireland’s National ใน Dublin นักโบราณคดี Maeve Sikora ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติและเป็นผู้ช่วยขุดโครงกระดูกขึ้นมา กล่าวว่า “จากสถานที่ที่โครงกระดูกถูกพบ เราสามารถบอกได้อย่างมั่นใจว่ามันไม่ใช่ศพที่เพิ่งถูกฝัง” “ศพดังกล่าวอาจจะถูกวางไว้ในโลงศพและถูกปิดด้วยหินหลายๆ ชั้น แต่หินเหล่านั้นถูกทำลายโดยการกัดกร่อนจากน้ำทะเลเป็นเวลาหลายปี” Sikora กล่าว เขายังบอกอีกว่า “ศพถูกฝังเป็นอย่างดี โดยการจัดให้แขนศพวางอยู่ข้างลำตัว ซึ่งเราสามารถบอกได้จากตำแหน่งที่ศพถูกพบ” “ศพอาจจะมีอายุมากกว่า 1,000 ปี แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถระบุปีได้ชัดเจน จนกว่าจะทำการ Radiocarbon (กัมมันตภาพรังสีในรูปของคาร์บอนที่ใช้คำนวณอายุของอินทรีย์วัตถุ)” …
-
นักวิทย์เผยแล้วว่า สุนัขสามารถแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้า เพื่อสื่อให้มนุษย์รับรู้ได้
โดยปกติแล้วสุนัขมักจะสื่อสารกับมนุษย์ผ่านเสียงหรือท่าทาง แต่ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์เผยแล้วว่าสุนัขสามารถแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้าได้ นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องใบหน้าของสุนัขบอกว่า เมื่อมนุษย์ให้ความสนใจน้องหมามันจะมีการเคลื่อนไหวใบหน้ามากกว่าปกติ รวมทั้งการยกคิ้วและมันจะเปิดตาให้กว้างกว่าตอนถูกละเลยหรือตอนถูกล่อด้วยอาหาร การวิจัยยังได้โต้แย้งความเชื่อที่ว่าการแสดงออกผ่านใบหน้าของสุนัขนั้นเป็นการสะท้อนความรู้สึกภายใน ไม่ใช่วิธีการสื่อสารของมัน Bridget Waller ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาวิวัฒนาการจากมหาวิทยาลัย University of Portsmouth ในประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “การแสดงออกทางสีหน้าของสุนัขมักถูกมองว่าเกิดจากอารมณ์ความรู้สึกที่คงที่ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งสามารถเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้” แต่จากการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขพบว่า สุนัขสามารถเข้าใจทั้งคำพูดและโทนเสียงของมนุษย์ ทั้งนี้มีงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports เป็นการใช้กล้องบันทึกความเคลื่อนไหวใบหน้าของสุนัข 24 ตัว โดยให้มนุษย์ให้ความสนใจมัน ละเลยมัน รวมทั้งเอาอาหารที่น่ากินให้และไม่ให้มันเลย แล้วสังเกตสีหน้าของพวกมันในแต่ละสถานการณ์ ผลการวิจัยพบกว่าเมื่อมนุษย์มองไปที่สุนัข มันจะแสดงออกทางสีหน้ามากกว่าตอนที่ถูกละเลย ที่เห็นได้ชัดคือมันจะแลบลิ้นและยกคิ้วขึ้น ในส่วนของการใช้อาหารล่อนั้น ไม่ได้มีผลต่อการแสดงออกของพวกมัน… จากผลวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าการแสดงออกของสุนัขไม่ได้เป็นเพียงแค่ความตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังทำให้เราสงสัยว่าสุนัขใช้การแสดงออกผ่านสีหน้าเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของหรือไม่? Waller กล่าวว่า “เราอยากรู้ว่าสุนัขจะแสดงสีหน้าออกมาได้เต็มที่หรือไม่เมื่อได้รับความสนใจและอาหาร เพราะนั่นอาจบอกเราได้ว่าพวกมันกำลังเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์เพื่อจะได้รับอาหาร” ด้วยเหตุนี้ทีมวิจัยจึงตั้งข้อสงสัยว่าการแสดงออกของสุนัขไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงอารมณ์ แต่อาจเป็นกลไกในการสื่อสารกับมนุษย์ด้วย ทั้งนี้วิธีการฝึกสุนัขจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกมันสื่อสารกับมนุษย์ได้มากขึ้น… อย่างไรก็ตาม นักวิจัยได้เน้นย้ำว่างานวิจัยนี้ไม่ได้ชี้ชัดถึงสิ่งที่สุนัขต้องการสื่อสารหรือเจตนาในการแสดงออกของสีหน้าว่า แท้จริงแล้วมันต้องการบอกอะไรกันแน่? Juliane…
-
ลูกน้อยน้ำตาคลอ หลังได้ยินเสียงคุณแม่เป็นครั้งแรกจากการช่วยเหลือของเครื่องช่วยฟัง
เสียงที่มนุษย์ได้ยินเป็นครั้งแรกในชีวิตเมื่อลืมตาดูโลกมักจะเป็นเสียงของแม่ ซึ่งเป็นเสียงที่เปล่งออกมาด้วยความรักและมักทำให้ลูกน้อยรู้สึกอุ่นใจเสมอ อย่างหนูน้อย Charly ที่ได้ยินเสียงแม่เป็นครั้งแรก แม้จะช้ากว่าปกติ แต่เธอก็ได้แสดงความรู้สึกนั้นออกมาผ่านใบหน้า ที่ทำให้รู้ว่าเธอดีใจมากแค่ไหน โมเม้นต์ตอนที่เด็กน้อยได้ยินเสียงแม่ครั้งแรก Charly ลูกสาวของ Christy Keane เกิดเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2017 เธอเป็นเด็กที่น่ารักมากๆ แต่น่าเศร้าเธอหูหนวกตั้งแต่เกิด อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองของเด็กน้อยก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกน้อยได้ยินเสียง ในที่สุดพวกเขาก็หาเครื่องช่วยฟังให้เด็กน้อยสำเร็จ จากคลิปข้างบนเมื่อ Charly ได้ยินเสียงแม่พูดว่า “สวัสดีจ้า” ซึ่งเป็นเสียงแรกที่เธอได้ยินในชีวิต เด็กน้อยก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แม้ Charly ยังเป็นแค่ทารกที่เพิ่งเกิดไม่กี่เดือน แต่เธอก็สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และรู้ว่าควรจะแสดงออกมายังไง โดยปกติแล้ว เมื่อเด็กดีใจ พวกเขาจะยิ้มหรือหัวเราะออกมา และเมื่อเสียใจ พวกเขาจะหน้าเศร้าหรือร้องไห้ แต่สำหรับ Charly แม้ดีใจจนอยากร้องไห้แต่เธอก็กลั้นน้ำตาแห่งความสุขนั้นไว้ สักพักคุณแม่ก็พูดกับเธออีกว่า “แม่รักลูกนะ” เด็กน้อยก็เผยรอยยิ้มที่สดใสอีกครั้ง… คุณแม่ Keane บอกว่า “มันเป็นช่วงเวลามหัศจรรย์ของเราแม่ลูก เราไม่คิดว่าเธอจะได้ยินเสียงอีกแล้วในชีวิตนี้ แต่แล้วเราก็ได้เครื่องช่วยฟัง จนทำให้เธอได้ยินเสียงเป็นครั้งแรกในวันนี้” นี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ซึ่งต่อไปนี้ทางครอบครัวจะทำทุกทางเพื่อให้หนูน้อยได้ยินพร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษาต่อไป…
-
‘ผู้นำหญิง’ ที่อายุน้อยที่สุดในโลก!! Jacinda Ardern ขึ้นแท่นนายกฯ คนล่าสุดของนิวซีแลนด์
โดยปกติแล้วผู้นำประเทศมักจะเป็นผู้ชายและมีอายุพอสมควร มีน้อยมากที่จะเป็นผู้หญิง แต่ล่าสุดนิวซีแลนด์ได้ผู้นำเป็นผู้หญิงที่มีอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตอนนี้นิวซีแลนด์กำลังจะมีรัฐบาลชุดใหม่ โดยมีผู้นำเป็น Jacinda Ardern จากพรรค Labour ที่เคยเป็นฝ่ายค้านในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา Ardern ในวัย 37 ปี ได้กลายเป็นผู้นำหญิงที่มีน้อยที่สุดในโประเทศ นับตั้งแต่ปี 1856 โดยพรรค Labour ของเธอมีคะแนนมาเป็นอันดับสองในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ 26 วัน หลังจากการเจรจา พรรค New Zealand First ที่ชนะการเลือกตั้งประกาศร่วมมือกับพรรค Labour ในการเป็นรัฐบาล โดยรัฐบาลชุดใหม่นี้ได้รับการสนับสนุนจากพรรค Green แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมา Ardern ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอสามารถทำงานในด้านการเมืองได้ แต่ที่สำคัญคือหลังจากนี้ เพราะเธอต้องเผชิญกับบทบาทและหน้าที่ท้าทาย อันดับแรกคือชาวนิวซีแลนด์ส่วนใหญ่ไม่ได้ลงคะแนนเสียงให้เธอ (นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพรรคของเธอจึงมีคะแนนเป็นอันดับสองในการเลือกตั้ง) แต่หลังจากนี้ เธอจะต้องทำหน้าที่ให้ประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจให้ได้ และที่สำคัญ เธอต้องนำไปรัฐบาลผสมชุดใหม่นี้ ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างราบรื่นตลอดลอดฝั่ง รัฐบาลชุดนี้ประกอบด้วยสมาชิกพรรค New Zealand First จำนวน 9 ที่นั่ง พรรค Labour…
-
“ความยากจน-ยาเสพติด-เซ็กส์” ชีวิตของคนจรจัดในสถานีรถไฟ Kamalapur แห่งบังกลาเทศ
Kamalapur เป็นสถานีรถไฟที่ใหญที่สุดในบังกลาเทศ และยังเป็นสถานีขนส่งทางรถไฟที่สำคัญที่เชื่อมระหว่างกรุงธากา เมืองหลวงของประเทศและส่วนที่เหลือของบังกลาเทศด้วย เด็กข้างถนนจำนวกมากมาอาศัยอยู่ที่สถานีแห่งนี้ และส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน ที่สำคัญที่นี่เป็นทั้งสถานที่เกิดและสถานที่ตายสำหรับพวกเขาบางคน ช่างภาพถ่ายรูปขณะที่เด็กชายคนนี้สูบบุหรี่ที่รางรถไฟ แม้ว่าเด็กจะรู้ว่าช่างภาพมองอยู่แต่เขาก็ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป ช่างภาพพยายามถามชื่อเขาหลายครั้ง แต่เขาไม่ยอมบอก ที่รู้ๆ คือเขาอายุแค่ 9 ขวบเท่านั้น สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ ถูกทิ้งตั้งแต่เกิดเพราะพวกเขาเป็นลูกนอกสมรสบ้าง เกิดมาในครอบครัวที่ยากจนบ้าง จนทำให้ถูกนำตัวมาทิ้งไว้ที่นี่ เด็กหลายคนโตมาเป็นขโมย วิ่งราวสัมภาระของผู้โดยสารในสถานี แต่ก็มีอีกหลายคนที่ช่วยเหลือตัวเองด้วยการเก็บขวดพลาสติกไปขาย ช่างพยายามถามชื่อเด็กชายที่มีแขนข้างเดียวนี้ แต่เขาก็ไม่ยอมบอกอีกเหมือนกัน เขาอายุ 9 ขวบ ที่น่าตกใจคือ เขาบอกว่ายอมให้เพื่อนๆ ตัดแขนออกข้างหนึ่ง เพื่อที่จะได้กลายเป็นขอทานข้างถนน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เด็กผู้หญิงที่โตขึ้นต้องทำอาชีพโสเภณีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนเด็กผู้ชายโตก็จะอยู่ในแวดวงยาเสพติด แม้จะมีองค์พัฒนาสังคมหลายแห่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอสำหรับจำนวนคนจรจัดในสถานี Kamalapur ภาพเหล่าและเรื่องราวเหล่านี้บันทึกโดย Nasif Imtiaz เด็กชายคนนี้ชื่อ Nishad เป็นหนึ่งในคนจรจัดที่สถานี Kamalapur เด็กชายพยายามกระโดดลงมาจากหลังคารถไฟ ขอทานผู้ไม่มีขากำลังสูบกัญชา เขากำลังผสมบุหรี่กับกัญชา …
-
ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สร้างชุดเดรสจากน้ำ ใช้ความอดทนและความพยายาม จนสำเร็จในที่สุด
ในการถ่ายภาพคนให้ออกมาสวยงามสมบูรณ์แบบนั้นจำเป็นต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น เสื้อผ้าหน้าผม มุมกล้อง แสงเงา ที่สำคัญต้องมีความคิดสร้างสรรค์และความอดทนด้วย เหมือนกับ Kappa Ryu กับโปรเจกต์ล่าสุดของเขาที่แหวกแนวโดยการนำน้ำมาทำเป็นชุดเดรส จนออกมาเป็นภาพที่สวยงามอย่างน่าทึ่ง โดยปกติแล้วชุดนางแบบหรือนายแบบต้องทำจากผ้าหรือสิ่งของที่จับต้องได้ เพื่อจัดให้อยู่ในทรงที่ต้องการ แต่สิ่งที่ Kappa Ryu ต้องการคือการเครื่องแต่งกายจากน้ำ ในการถ่ายนั้นนางแบบ Eri ต้องกระโดดให้ลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้น Souya ก็จะนำน้ำจากถังน้ำสาดไปที่ตัวเธอ ส่วน Kappa Ryu หาจังหวะ หามุม เพื่อให้ถ่ายภาพให้ออกมาเหมือนนางแบบสวมชุดน้ำอยู่ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้งสามคนต้องใช้ทั้งความอดทนและความพยายามหลายครั้งมาก กว่าจะได้ภาพตามที่วางแผนเอาไว้ จนในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ทีมงานรู้สึกภูมิใจเท่านั้น แต่ยังได้รับคำชื่นชมจากผู้คนไม่ขาดสายเลย “มันเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก ฉันไม่รู้จะพูดว่าไงดี แต่มันสมบูรณ์แบบ” “เหมือนน้ำมีชีวิตเลย” “นี่เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก เขาทำได้ยังไง?” “มันต้องยากมากแน่ๆ กว่าจะได้ภาพนี้มา” ภายหลัง Kappa Ryu ได้มากล่าวเพิ่มเติมว่า “กว่าผมจะได้ภาพนี้มา เราต้องถ่ายรูปมากกว่า 100 ครั้ง แต่มันจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มี Eri นางแบบที่มีความสามารถในการโพสต์ท่า และทักษะการสาดน้ำของ Souya”…
-
ภาพของสาวๆ ก่อน ระหว่าง และหลัง “ถึงจุดสุดยอด” กับความรู้สึกที่ไม่ควรถูกซ่อน…
มนุษย์เรามักจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกผ่านใบหน้า โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ มนุษย์จะแสดงสีหน้าหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับขณะนั้นพวกเขาอยู่ในขั้นตอนไหน และเพื่อนำเสนอความรู้สึกขณะมีเพศสัมพันธ์ ช่างภาพ Marcos Alberti จึงได้ถ่ายภาพผู้หญิงก่อน ระหว่าง และหลังถึงจุดสุดยอด ว่าพวกเขาจะทำหน้ายังไงกันบ้าง สำหรับชุดเหล่านี้อยู่ภายใต้โปรเจกต์ The O Project ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องเพศของผู้หญิงในแบบที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก Alberti ได้ถ่ายใบหน้าของผู้หญิงมากกว่า 20 คน โดยไม่ระบุชื่อ ซึ่งเป็นการแสดงออกก่อน ระหว่าง และหลังถึงจุดสุดยอด โดยใช้เซ็กส์ทอย โปรเจกต์นี้ได้ทำร่วมกับ Smile Makers ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยเผยให้เห็นใบหน้าของผู้หญิงในแต่ชั่วขณะอย่างชัดเจน แม้จะเป็นการถ่ายใบหน้า แต่หญิงสาวแต่ละคนจะอยู่ในมุมที่ลับตาคน แล้วช่วยตัวเองด้วยเครื่องสั่น แม้แต่ช่างภาพเองก็ไม่เห็นเช่นกัน อีกหนึ่งความโดดเด่นของโปรเจกต์คือ ช่างภาพได้เลือกผู้หญิงจากหลายๆ เชื้อชาติเท่าที่จะหามาได้ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีน และสิงคโปร์ Fan Yang ผู้จัดการแบรนด์ระดับโลกของ Smile Makers กล่าวว่า “ผู้หญิงมักจะซ่อนสีหน้าขณะมีเพศสัมพันธ์ เพราะรู้สึกอาย แต่ในภาพชุดนี้เราได้เผยให้สังคมเห็นถึงสีหน้าที่ถูกซ่อนเอาไว้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้หญิงได้แสดงสีหน้าแห่งความสุขโดยไม่ต้องรู้สึกอาย”…
-
หญิงสาวจำใจต้องทิ้งเจ้าเหมียวไปเพราะไฟป่า แต่โชคชะตาก็พาให้กลับมาพบกันอีกครั้ง
เหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาสร้างความเสียหายมหาศาล ผู้คนต้องจำใจทิ้งของมีของทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดจากเปลวไฟนรกที่พร้อมเผาผลาญทุกอย่าง รวมทั้งสัตว์เลี้ยงของพวกเขา เช่นเดียวกับ Laura Ringenberger ขณะที่เธออยู่ในบ้านกับสามีพร้อมลูกอีก 2 คน จู่ๆ เธอก็ได้รับแจ้งให้อพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากไฟป่าได้ลามมาถึงเขตบ้านเรือนแล้ว ตอนแรกที่ได้รับโทรศัพท์ พวกเขาคิดว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรงมาก แต่เมื่อเดินออกไปดูนอกบ้าน ก็เห็นทุกอย่างเป็นสีส้มพร้อมไฟป่าที่ลุกลามอย่างน่ากลัว Ringenberge และสามีจึงพาลูกๆ หนีออกจากบ้านและส่งพวกเขาไปอยู่กับญาติในที่ปลอดภัย แม้ทุกอย่างจะกะทันหันและวุ่นวาย แต่เธอก็ไม่ลืมเจ้าเหมียว Kitty Kitty Star ผู้เปรียบเสมือนคนในครอบครัว สามีวิ่งไปเคาะประตูเพื่อนบ้าน เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าพวกเขาออกจากไปแล้ว ทางด้าน Ringenberge เดินร้องเรียกแมวของเธอ ผ่านไปประมาณ 15-20 นาที ก็ไม่มีวี่แววของ Kitty Kitty Star เลย ขณะที่ไฟก็ลุกลามเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที หญิงสาวบอกว่า “ฉันไม่อยากทิ้งมันไว้ที่นั่น แต่สถานการณ์ตอนนั้นเราต้องเลือกระหว่างชีวิตหรือความตาย ที่สำคัญมีผู้คนมากมายตายในกองเพลิงนั่น” ในที่สุดเธอก็ต้องหนีออกมาด้วยความจำใจ แม้จะรู้ดีว่า Kitty Kitty Star เป็นแมวที่เข้มแข็งและฉลาด แต่เธอก็อดเป็นห่วงมันไม่ได้ และคิดว่าคงจะไม่ได้เจอมันอีกแล้ว วันรุ่งขึ้น Ringenberger พร้อมด้วยครอบครัวและผู้อพยพคนอื่นๆ ต่างอยู่ในอาการซึมเศร้าและรอฟังข่าวจากเจ้าหน้าที่ จนวันต่อมา ทุกคนก็ได้รับแจ้งว่าบ้านเรือนของพวกเขาถูกไฟไหม้จนหมด…
-
นักวิทย์เผยเหตุผลสำคัญ อะไรคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์ “งมงาย” เชื่อแต่เรื่องเหนือธรรมชาติ??
เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมปัจจุบันยังมีผู้ที่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ทั้งๆ มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ ตาม Merriam-Webster ระบุว่า ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเป็นความเชื่อที่ไร้สาระ เพราะมันคือความงมงาย กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น และให้ความศรัทธาต่อเวทมนตร์ “กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความเชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติคือการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์” Stuart Vyse นักจิตวิทยาและศาสตราจารย์จาก Connecticut College กล่าว แม้วิทยาศาสตร์จะได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งจริงสูงสุดในขณะนี้ แต่จำนวนผู้ที่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติก็ยังคงมีมากอย่างน่าแปลกใจ ยกตัวอย่างเช่น มีชาวอเมริกันมากถึง 17-21 ล้านคนเชื่อเรื่องวันศุกร์ที่ 13 และมีชาวสหราชอาณาจักรร้อยละ 74 ทำพิธีเคาะไม้เพื่อเป็นการปัดเป่าความโชคร้าย และชาวอเมริกัน 13% ให้แมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย ทั้งนี้ผลสำรวจล่าสุดของ Gallop พบว่า ได้ตอบคำถามว่าทำไมผู้คนมากกว่า 50% จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงเชื่อเรื่องโชคลาง? แล้วคนที่ไม่เชื่อล่ะ โชคลางจะส่งผลกระทบต่อชีวิตพวกเขาหรือไม่? Vyse นักเขียนเรื่อง Believing in Magic : The Psychology of Superstition กล่าวว่า “เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะผู้คนถูกปลูกฝังให้เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และเป็นกระบวนการพื้นฐานของการขัดเกลาทางสังคม” “ประการที่สองคือ เราอยู่ในโลกที่ควบคุมผลลัพธ์ไม่ได้ แต่ดูเหมือนความเชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติอยู่เหนือกฎเกณฑ์…
-
เจ้าของร้านเสริมสวยสุนัข ต้องเปิดร้านกลางดึกเพื่อแต่งสวยให้กับเจ้าหมาจรจัดขนพะรุงพะรัง
โดยปกติแล้วร้านเสริมสวย ทั้งสำหรับคนและสำหรับสัตว์ มักจะเปิดในช่วงเวลากลางวัน แต่เจ้าของร้านเสริมสวยสุนัขคนนี้ยอมตื่นมาเปิดร้านกลางดึก เพื่อน้องหมาจรจัดตัวหนึ่งเท่านั้น ทุกอย่างเริ่มขึ้นในกลางดึกคืนหนึ่งเมื่อคู่รักคู่ขับรถผ่านเมืองโอเวียโด้ รัฐฟลอริด้า แล้วพวกเขาก็สังเกตเห็นสุนัขถูกทิ้งไว้บนถนนในสภาพมอมแมม ขนของน้องหมาทั้งยาวและสกปรก ที่สำคัญมันเกาะกันเป็นก้อนแข็งๆ ทั่วร่างกาย จากสภาพนี้พอเดาได้ว่ามันไม่เคยได้รับการดูแลมานานมาก แน่นอนว่าช่วงกลางดึกแบบนี้คงไม่มีร้านตัดขนสุนัขที่ไหนเปิดแล้ว ทั้งคู่จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียล เพราะพวกเขาไม่อยากให้น้องหมารอนานกว่านี้อีกแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับการตอบรับจากช่างเสริมสวยสุนัข Kari Falla แม้ว่าเวลานั้นร้านของเธอจะปิดไปนานแล้วก็ตาม ดังนั้นคู่รักจึงได้พาสุนัขผู้น่าสงสารไปส่งที่นั่นทันที Falla บอกว่า “การที่ขนสุนัขเกาะกันเป็นก้อนแข็งขนาดนี้ อาจทำให้เลือดไม่ไหลเวียนได้ และอาจทำให้มันมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย” หลังจากที่เห็นภาพแล้ว Falla คิดว่าสุนัขจรจัดตัวนี้ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน เธอจึงรีบไปยังร้านเสริมสวยของเธอ BGE Grooming และเปิดร้านกลางดึกเพื่อน้องหมาตัวนั้น “ฉันรู้ว่ามันแย่มาก ฉันไม่ได้เตรียมใจว่าต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ มันมีกลิ่นเหม็นเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว ที่แย่กว่านั้นคือมันไม่สามารถเดินได้” ช่างเสริมสวยบอก แต่ไม่ว่าสภาพของมันจะเลวร้ายแค่ไหน Falla ก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้มันพ้นจากความทรมานนี้ให้เร็วที่สุด และแล้วเธอก็โกนขนให้มันจนเสร็จในเวลาประมาณตี 3 ก่อนจะอาบน้ำให้และพาไปหาสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อไปถึงแพทย์พบว่ามันหูหนวกและตาบอด อย่างไรก็ตามมันก็ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด ได้ชื่อใหม่คือ Lucky และตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ เพื่อนๆ สามารถติดตามเจ้า Lucky ได้ที่เพจ BGE Grooming …
-
22 ภาพที่บังเอิญเหมือนอะไรบางอย่าง จนต้องมองซ้ำอีกรอบ เห้ย!! แบบนี้ก็ได้เหรอ?
วัตถุหรือสิ่งของที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน บางทีมันก็ดูแปลกหูแปลกตา เท่านั้นยังไม่พอมันดันไปเหมือนบางอย่างที่เราก็รู้จักดี จนต้องหันไปดูอีกรอบว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ เหมือนกับสิ่งของต่อไปนี้ ที่เรารู้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร แต่ความผิดปกติที่เกิดจากการจัดวางบ้าง มุมกล้องบ้าง จนทำให้มันดูเป็นสิ่งที่แปลกไปเลย 1. แตงกวาที่ไม่รู้ไปรู้อะไรมา เลยทำหน้าหวาดกลัวกันซะอย่างนั้น 2. ราวกับว่าสองอาคารนี้กำลังกอดกันเลย 3. แสงไฟสะท้อนเก้าอี้ ที่ดูเหมือนมีการเกิดดวงดาวใหม่ 4. เป็นการจัดวางสิ่งของจนออกมาเหมือนตัวการ์ตูนที่เราคุ้นเคย 5. ลายไม้ที่บังเอิ๊ญบังเอิญเหมือนหน้าสุนัข 6. กลัวจะโดนเสียบขนาดเลยหรอ? 7. ก๊อกน้ำที่ดูเหมือนคนหน้าตื่น 8. มองแว๊บแรกนึกว่านกแก้วสีเขียว 9. นี่กระรอกจาก Ice Age ไง 10. มีคนตาดีเห็นหัวเข่าเหมือนหน้าเด็ก 11. มาเป็นทรงรองเท้าเชียว 12. พุงที่ย้อยทับกันซะจนเหมือนหน้าคน 13. มาแยกนี้ทีไร เหมือนโดนจ้องอยู่ตลอดเวลา …
-
“Azuki” เม่นน้อยจากญี่ปุ่น ผู้รักการออกไปแคมป์ปิ้งนอกบ้าน จะทำให้คุณยิ้มตามแน่ๆ
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าหรือสัตว์เลี้ยง หากมันถูกเลี้ยงหรือเติบโตมากับมนุษย์ พวกมันก็คงมีการเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ รวมทั้งชอบทำอะไรเหมือนมนุษย์ด้วย เหมือนกับเม่นน้อยจากญี่ปุ่น ผู้รักการผจญภัยเป็นชีวิตจิตใจ จนล่าสุดมันได้ออกไปตั้งแคมป์ด้วยตัวเองแล้ว นี่คงเป็นเพราะเจ้าของเคยทำให้ดูแน่ๆ Azuki เป็นเม่นที่มีใบหูแหลม จมูกมนๆ ดูรวมๆ แล้วมันช่างน่ารักจนลืมไม่ลงจริงๆ มันได้ออกไปตั้งแคมป์นอกบ้านพร้อมอุปกรณ์ตั้งแคมป์ขนาดจิ๋ว ที่ออกแบบมาเพื่อมันโดยเฉพาะ ในบรรดาอุปกรณ์จิ๋วเหล่านั้นมีทั้งเต็นท์ส่วนตัว เรือคายัค และเซ็ตย่างบาร์บีคิว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์พักผ่อนอื่นๆ อย่างครบครัน เรียกได้ว่าชีวิตดีสุดๆ ไปเลย แล้วลองดูภาพพวกนี้สิ มันชวนให้เราอยากไปตั้งแคมป์บ้าง ที่สำคัญหลายคนถึงกับอยากรับเม่นมาเลี้ยงเป็นของตัวเองซะเลย พายเรือเล่นกันป่าว? เต็นท์สำหรับแคมป์นี้ มันก็จะมินิๆ หน่อยอะนะ อย่าลืมหาฟืนสำหรับก่อไฟคืนนี้นะ เกิดเป็นเม่นน่ารัก ชีวิตมันก็ดีแบบนี้แหละ ติดตามชีวิตของเจ้าเม่นน้อยได้ที่อินสตาแกรม hedgehog_azuki ที่มา boredpanda
-
สามีมาดเข้มสลัดผ้า ถ่ายรูปในธีมฟักทอง เพื่อแสดงความรักต่อภรรยาที่เป็นช่างภาพ
การจะให้ความรักยืนยาว ไม่เพียงแต่บอกรักกันไปวันๆ แต่คู่รักควรจะหากิจกรรมทำด้วยกันบ้าง เช่น ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว แคมป์ปิ้ง หรือแม้แต่ทำสวนด้วยกันในวันหยุด แต่ดูเหมือนคู่รักคู่นี้จะทำกิจกรรมที่แหวกแนวนิดนึง นั่นคือ การถ่ายรูป ถ้าถ่ายรูปปกติคงไม่แปลกหรอก แต่นี่คุณสามีถึงกับทิ้งคราบหนุ่มมาดเข้ม แล้วผันตัวหนุ่มสายฮาเพื่อเอาใจภรรยาโดยเฉพาะ จริงๆ แล้วนี่เป็นแนวคิดของคุณสามีที่อยากแสดงความรักต่อภรรยาในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการถ่ายรูปในธีมฟักทอง ส่วนคนถ่ายน่ะหรอ ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือภรรยาของเขาเองนั่นเอง Gayla Thompson เป็นช่างภาพที่ GT Photography แม้จะมีประสบการณ์การถ่ายรูปมานาน แต่การได้ถ่ายภาพสามีถือเป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันของเธอ ภรรยาอาจจะเคยถ่ายภาพสามีมาบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการถ่ายเล่นๆ ไม่เป็นทางการ กระทั่งปลายเดือนกันยายน ทั้งคู่ก็ได้คุยกันเพื่อถ่ายรูปเป็นจริงเป็นจังสักที ที่ทำให้ภรรยาประทับใจคือ สามียอมเปลือยทั้งตัวเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวและโพสต์ตามที่ภรรยาบอกด้วยความเต็มใจ นี่สิถึงจะเรียกว่ารักแท้ แล้วดูภาพของสามีแต่ละรูปสิ คงมีผู้ชายไม่กี่คนหรอกที่จะยอมให้ผู้หญิงถึงขนาดนี้ แต่การที่คุณไม่ทำแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่รักภรรยา เพราะแต่ละคนแต่ละคู่ย่อมมีวิธีแสดงความรักต่างกัน ภรรยาคงอยากบอกเป็นนัยๆ ว่า ‘สามีฉันนี่แหละ เซ็กซี่ที่สุด’ ดูสิ พ่อคุณทูนหัว หล่อระเบิดระเบ้ออะไรเบอร์นั้น ถึงไม่มีซิกแพ็ค แต่พุงหมีๆ…
-
ครอบครัวจะพาสุนัขหนีไฟป่า แต่เจ้าหมาไม่ยอมไป เพราะไม่อยากทิ้งเพื่อนแพะไว้ลำพัง
เพื่อนแท้คือคนที่จะอยู่เคียงข้างคุณในวันที่เลวร้ายที่สุด และจะไม่ยอมทิ้งคุณไว้ลำพังจนกว่าคุณจะผ่านวันเวลาอันโหดร้ายนั้นไปได้ นั่นคือมิตรภาพที่แท้จริง ซึ่งไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้น สัตว์เลี้ยงก็แสดงความรักต่อเพื่อนของมันในลักษณะนั้นเช่นกัน เหมือนสุนัขตัวนี้ที่ไม่ยอมทิ้งเพื่อนแพะไป แม้รู้ดีว่าอาจจะถูกไฟคลอกตายก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ เกิดไฟไหม้ป่าที่รัฐแคลิฟอร์เนียและลามไปถึงบ้านเรือนของประชาชนในละแวกนั้น มีการประกาศให้ทุกคนอพยพออกมาให้ด่วนที่สุด จึงทำให้หลายคคนต้องทิ้งสิ่งมีค่าไว้ที่นั่น ครอบครัวของ Roland Tembo Hendel เป็นหนึ่งในคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ พวกเขาจึงได้หนีออกมาและตั้งใจจะพาสุนัขทั้งสองไปด้วยคือ Odin และ Tessa แต่มันไม่ยอมตามมา เพราะไม่ต้องการทอดทิ้งฝูงแพะไว้ที่นั่น Tembol เขียนเล่าเหตุการณ์นี้ในเฟซบุ๊กว่า “เมื่อเวลาประมาณ 11.11 น. เราเห็นเปลวไฟที่ภูเขา อีก 5 นาทีต่อมามันก็ลุกเป็นไฟขนาดใหญ่ ก่อนจะถูกลมพัดมายังที่พักอาศัยอย่างรวดเร็ว” “เราได้พาสุนัขและแมวเพื่ออพยพออกจากพื้นที่ แต่ Odin ปฏิเสธที่จะตามเรามา มันไปอยู่เคียงข้างฝูงแพะโดยไม่กลัวไฟที่กำลังใกล้เข้ามาทุกที” หลังจากที่พยายามโน้มน้าวมันทุกวิถีทาง แต่ไม่สำเร็จ พวกเขาเลยจำเป็นหนีออกมาและทิ้งมันไว้ที่นั่น เพราะตอนนั้นไฟได้เผาทำลายบ้านเรือนและรถไปหลายคันแล้ว หากไม่หนีคงไม่รอดแล้วแน่ๆ วันรุ่งขึ้น แม้ครอบครัวจะอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว แต่ Tembo กลับนั่งร้องไห้ เพราะคิดว่า Odin และฝูงแพะที่เขาเลี้ยงมาคงตายหมดแล้วแน่ๆ ในที่สุด ครอบครัว Hendel ก็ตัดสินใจกลับไปที่นั่น…
-
หนุ่มโสดถูกยกให้เป็นยอดคุณพ่อ หลังรับเลี้ยงเด็กผู้พิการเป็นลูกถึง 4 คนด้วยกัน
การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากต้องทุ่มเทดูแลพวกเขาตั้งแต่ตื่นจนกระทั่งเข้านอนแล้ว คุณยังต้องมีเงินจำนวนหนึ่งสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวันด้วย เลี้ยงลูกคนเดียวว่าเหนื่อยแล้ว แต่หนุ่มโสดคนนี้กลับรับเด็กมาเป็นลูกถึง 4 ยิ่งไปกว่านั้นคือทั้งหมดนี้เป็นเด็กพิการ ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ Ben Carpenter วัย 33 ปี ได้รับเลี้ยง Jack วัย 10 ขวบ Ruby 7 ขวบ Lily 5 ขวบ และ Joseph วัย 2 ขวบ ทั้งหมดนี้เป็นเด็กพิการ จนทำให้เขาได้รับรางวัลสุดยอดผู้รับเลี้ยงแห่งปี Ben เริ่มรับเลี้ยงเด็กคนแรกเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เมื่อเขากลายเป็นเกย์ที่อายุน้อยที่สุดในยอร์กเชียร์ที่รับเลี้ยงเด็ก แต่การที่ชายโสดจะรับเลี้ยงเด็กนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาต้องใช้เวลาถึง 3 ปี ในการโน้มน้าวเจ้าหน้าที่ว่าเขามีความจริงใจที่จะรับเลี้ยงเด็กจริงๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นเขามีทักษะในการเลี้ยงและพร้อมที่จะเป็นพ่อที่ดี ก่อนที่ตัดสินใจรับเลี้ยงเด็ก Ben เคยทำงานกับหน่วยงานที่ให้การดูแลผู้ใหญ่และเด็กหลายรูปแบบ เขาบอกว่า “ครั้งแรกผมตั้งใจรับเลี้ยงแค่คนเดียว ผมเป็นคนที่เชื่อในโชคชะตา และนี่คือสิ่งที่ผมต้องการ” หลังจากที่มุ่งมั่นต่อสู้มาเป็นเวลาหลายปี ในที่สุด ไม่เพียงแต่จะได้รับเลี้ยงเด็กคนเดียวตามที่ตั้งแต่ใจแต่แรก แต่ตอนนี้เขาได้กลายเป็นพ่อของเด็กๆ ถึง 4 คน…
-
พ่อแม่ที่มีแต่ลูกสาว จับลูกสาวของเพื่อนบ้านมาทำพิธีบูชายัญ ให้พวกเขาได้ลูกชาย
ปัจจุบันนี้หลายประเทศในโลกเขาเรายังมีวัฒนธรรมที่เชื่อว่าการมีลูกผู้ชายนั้นดีว่ามีลูกผู้หญิง เพราะพวกเขาคิดว่าเพศชายสามารถทำประโยชน์ได้มากกว่า รวมทั้งมีโอกาสทางสังคมมากกว่าผู้หญิง แม้ปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่จะเปิดโอกาสให้เพศหญิงมีบทบาทเท่าเทียมผู้ชายแล้ว แต่ที่ประเทศอินเดีย ประชากรบางส่วนยังคงยืดติดกับความเชื่อดั้งเดิม ด้วยความเชื่อนี้ทำให้สามีภรรยาคู่หนึ่งถึงกับจับลูกสาวของเพื่อนบ้านมาฆ่าเพื่อเป็นการบูชายัญ เพราะเชื่อว่าการเสียสละของเธอจะทำให้พวกเขาได้ลูกชาย สามีภรรยาคู่นี้คือ Satish Singh วัย 35 ปี และภรรยาของเขา Namita วัย 30 ปี มาจาก Sahranpur รัฐ Uttar Pradesh ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 4 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด จริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขามีลูกชายคนหนึ่ง แต่ก็เสียชีวิตไปในวัยเพียง 18 เดือนเท่านั้น ทั้งคู่จึงได้ไปปรึกษาหมอผี ทราบชื่อคือ Vriksh Pal วัย 50 ปี จนได้รับคำแนะนำให้ฆ่าเด็กผู้หญิงมาทำพิธีบูชายัญ เพื่อที่จะได้ลูกชาย ด้วยความอยากมีลูกชายมาก พวกเขาจึึงยอมเชื่อคำแนะนำของหมอผีแล้วจับตัวลูกสาวเพื่อนบ้านวัย 4 ขวบ มาตัดแขน ตัดขา ตัดหู ก่อนจะตัดคอของเธอ!! ในการลงมือก่อเหตุครั้งนี้ ไม่ได้ทำแค่สองคนสามีภรรยาเท่านั้น แต่ Kabool Singh วัย…