Category: News Update

ในยุคสมัยนี้ไม่ว่าทำอะไรก็ต้องรวดเร็วว่องไวเหมือนจรวด เพราะตลาดการค้าในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงมากๆ ชัยชนะจึงตกเป็นของคนที่สามารถย่นเวลาให้ได้มากที่สุดนั้นเอง ด้วยเหตุนี้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบาจึงเกิดไอเดียสุดล้ำที่จะมาบริการความรวดเร็วให้กับลูกค้าทุกๆ ท่าน ปกติเร็วเรามักจะเห็นการขนส่งสินค้าโดยใช้รถยนต์ จักรยานยนต์หรือเครื่องบิน แต่อาลีบาบาขอโชว์เหนือด้วยการใช้ “โดรน” บรรทุกพัสดุเพื่อบินเหนือน้ำ     โดรน 3 ลำ บรรจุหีบห่อพัสดุจำนวน 6 กล่อง โดยมีน้ำหนักรวมประมาณ 12 กิโลกรัม บินจากเมืองฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน ไปยังเกาะเหมยโจว ในวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา โดรนเหล่านี้สามารถฝ่าลมแรงไปได้อย่างสบายๆ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 9 นาทีในการเดินทาง 5 กิโลเมตร และโดรนแต่ละตัวสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 7 กิโลกรัม     โดรนส่งพัสดุนี้ได้รับการพัฒนาร่วมกันโดยบริษัทพาร์ทเนอร์รับจัดส่งของ Cainiao Network ของอาลีบาบาซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Taobao Zeng Jinmei เจ้าของร้านออนไลน์บนเกาะเหมยโจว กล่าวว่าบริการจัดส่งพัสดุแบบโดรนนี้ จะต้องบูมสุดๆ ในอนาคตข้างหน้าแน่ๆ เพราะว่ามันย่นเวลาการจัดส่งได้ถึงครึ่งหนึ่งและยังประหยัดค่าขนส่งอีกด้วย     โดยทางบริษัมอาลีบาบาก็ได้เตรียมโดรนเหล่านี้เพื่อต้อนรับเทศกาลชอปปิงที่ชื่อว่า “Singles ‘Day” ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ อีกทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะใช้โดรนจัดส่งผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นอีก เช่น อาหารสดและเวชภัณฑ์ในอนาคต…

นอกจากใบหน้าและรูปร่างที่สาวๆ นั้นต้องดูแลแล้ว ริมฝีปากก็เป็นอีกบริเวณหนึ่ง ที่จะทำให้คุณดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ยิ่งถ้ามีเรียวปากที่อวบอิ่มเนียนนุ่ม มันก็น่าจุ๊บไม่ใช่น้อยใช่ไหมล่ะ!! ดังนั้นสาวๆ ควรที่จะอ่านบทความนี้ เพื่อสร้างเสน่ห์มหานิยมให้กับริมฝีปาก ที่ไม่ว่าหนุ่มน้อยใหญ่ก็ต้องมองกับจนตาเหลือกเลยทีเดียวเชียวล่ะ   1. ผลัดเซลล์ผิวริมฝีปากของคุณ ส่วนผสม – น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนชา – น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ – น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ – น้ำมันมะพร้าว เชียบัตเตอร์ หรือวาสลิน 1 ช้อนชา วิธีทำ เทส่วนผสมทั้งหมดในอัตราส่วนลงไปในถ้วยเล็กๆ คนให้ส่วนผสมทั้งหมดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นก็นำมาสครับที่ริมฝีปาก 2-3 นาที แล้วล้างออก แค่นี้ก็ได้ริมฝีปากเนียนนุ่มแล้วล่ะ อ่อส่วนผสมที่เหลือยังเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้อีกนะ   2. สครับริมฝีปากง่ายๆ ด้วยแปรงสีฟัน ใช้แปรงสีฟันขนนิ่ม มาแปรงๆ ที่ริมฝีปาก ก็จะช่วยให้ปากเนียนนุ่ม เมื่อทาลิปสติกก็จะช่วยให้ไม่ตกร่องระหว่างวันได้นะจ๊ะ   3. การกำหนดเส้นขอบริมฝีปาก หากคุณไม่ต้องการที่จะศัลยกรรม ก็มีวิธีง่ายๆ ในการแก้ไขปัญหารูปปากด้วยการใช้คอนซีลเลอร์มาโปะๆ แล้วค่อยร่างเส้นขอบปากใหม่ อยากจะปากเรียวหรือปากอวบอิ่มก็ไม่ใช่ปัญหา   4.…

กรี๊ดดดดดด ดีใจสุดที่ในตอนนี้เมืองไทยของเราได้เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว สาวๆ แต่ละคนก็ต้องไปค้นตู้เสื้อผ้าหาแฟชั่นของหน้าหนาวปีที่แล้วมาใส่กันให้วุ่นแต่เอ๊ะ! มันจะไม่ดูเชยไปหน่อยเหรอ คนคูลๆ อย่างเราหน้าหนาวปีนี้ต้องชิค ต้องเฟี๊ยช เท่านั้นถึงจะปัง เอาจริงๆ แล้วบ้านเรามันก็ไม่ได้หนาวเหน็บจนหิมะตกหรอกนะ แต่นานๆ ทีจะมีอากาศหนาวกับเขาบ้างก็ขอเอาซักหน่อยละกัน ครั้งนี้เราเลยขอจัดชุดธีมวินเทอร์แบบบอยๆ ที่สาวๆ ใส่แล้วดูเท่และทันสมัยไม่แพ้ผู้ชาย แถมแต่ละลุคยังโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัดอีกด้วย   แน่นอนว่าขาดเสื้อไหมพรมเท่ๆ ไม่หรอก ยิ่งแมทช์กับกางเกงขาบานมันดูมินิมอลสุดๆ   วันที่อากาศเย็นก็ลองเสื้อเชิ๊ตและกางเกงยีนส์พับขาดูสิ   ใส่เสื้อคลุมบางเบาพริ้วๆ สไตล์กิโมโนทับกับเสื้อไหมพรมรัดรูปก็ดูเข้ากันได้ดีทีเดียว   เดรสยาวๆ กับเสื้อแจ๊คเก็ตก็ชิคไม่ใช่น้อย   ลุคบอยๆ แบบนี้สาวๆ ก็แต่งได้นะ   สาวคนไหนที่อยากใส่กระโปรงก็ลองลุคนี้ดูสิ   เสื้อไหมพรมตัวใหญ่ดูเหมือนจะเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้เลย   เพิ่มความเก๋ด้วยหมวกและถุงเท้า   ผ้าผูกคอก็สามารถสร้างลุควินเทจได้ดีเลยล่ะ .   หรือจะมาเป็นลุค Street หน่อยๆ ก็เท่ไม่เบา .   ใครว่าหน้าหนาวใส่กระโปรงสั้นไม่ได้ คิดใหม่นะจ๊ะ   เดรสลายสวยใส่กับเสื้อยีนส์ก็ดูน่ารัก   แจ็คเก็ตพองก็เป็นอีกไอเทมที่สาวลุคบอยๆ ควรมี  …

ในยุคที่เทคโนโลยีล้ำหน้าแบบยุคปัจจุบัน การสร้างสื่อโฆษณาต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และไม่ว่าใครก็สามารถที่จะเป็นดาวได้ แต่หากย้อนไปในสมัยที่เทคโนโลยีเพิ่งเริ่มต้น การถ่ายภาพเพื่อสร้างงานโฆษณานั้นเป็นเรื่องที่ใหม่มาก และแน่นอนว่าในภาพวินเทจเหล่านั้นมันสะท้อนให้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง Tyne and Wear Archives เว็บไซต์ที่นำเสนอเกี่ยวกับศิลปะและประวัติศาสตร์ ได้นำเสนอภาพถ่ายจากอดีต ในช่วงกลางยุค 60 ซึ่งถ่ายโดยบริษัท Turners จากเมืองนิวคาสเซิลเขาได้ถ่ายภาพของนางแบบเหล่านี้ไว้ เพื่อนำไปสร้างแคมเปญโฆษณาในสมัยนั้น   Turners  นั้นถือว่าเป็นความคลาสสิคของยุค 60 เลยล่ะ โดยพวกเขาได้จ้างนางแบบมาถ่ายแบบโปรโมตสินค้าให้กับร้านค้าต่างๆ   ภาพที่น่าสนใจเหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นถึง แฟชั่น ทัศนคติ และเทคโนโลยีในยุคนั้น แม้ว่ามันจะดูแปลกๆ ไปหน่อย หากเทียบกับยุคปัจจุบัน   ฮัลโหลววววว . . ทานแอปเปิ้ลไหมคะ??? . . .   ได้ฟิลประมงสุดๆ   น่ารักดีเหมือนกันนะ . . . . . . . . . .   ยุค…

สาวเอเชียอย่างเราๆ นอกจากที่จะอยากมีใบหน้าที่เรียวเล็กน่ารักแล้ว เรียวขาเล็กๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่สาวๆ หลายคนปรารถนา แต่มีสาวคนหนึ่งที่เธอไม่ได้มีรูปร่างที่เพรียวเป็นกระดาษ แต่เธอกลับมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและสวยงาม โดยเฉพาะกล้ามเนื้อต้นขาที่เธอภูมิใจจะนำเสนอ   Carriejune Anne Bowlby เทรนเนอร์สาวที่มีรูปร่างสุดฟิต ดูๆ แล้วเธอต้องเป็นผู้หญิงที่รักสุขภาพอย่างแน่นอน ก็ดูกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แบนราบและกล้ามแขนสุดแข็งแรงสิ ใครจะมีกล้ามเนื้อแบบเธอ   แต่ส่วนที่โดดเด่นและเตะตาที่สุดของเธอก็คงจะหนีไม่พ้นช่วงล่างในส่วนสะโพกและต้นขาของเธอ ที่มันช่างมีลายกล้ามเนื้อที่แน่นหนา ดูแข็งแรง แตกต่างจากใบหน้าของเธอที่ดูน่ารักเรียบร้อย   ช่วงล่างที่โดดเด่นของ Carriejune ทำให้ชาวเน็ตอยากรู้ถึงเรื่องราวการใช้ชีวิตประจำวันของเธอ   เชื่่อเลยว่าคุณก็ต้องสงสัยอยู่เหมือนกันใช่ไหมว่า “เธอนั้นใส่กางเกงยีนส์ยังไง??” เพราะขนาดมาตรฐานของผู้หญิง ดูจะเล็กกว่าขนาดต้นขาของเธอทั้งหมด ชาวเน็ตจึงออกมาแสดงความเห็นกันต่างๆ นาๆ “ตั้งแต่ฉันเกิดมา ไม่เคยคิดว่าการมีต้นขาใหญ่มันดูดีเลยนะ” “เธอใส่กางเกงยีนส์จากหัวรึเปล่า??” “เป็นไม่ได้ที่เธอจะใส่ยีนส์ธรรมดา ยกเว้นแต่เป็นยีนส์ผ้ายืดเท่านั้น” “ยีนส์ที่เธอใส่ควรมีซิปยาวไปถึงด้านหลัง”     ถึงแม้จะมีเสียงจากชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์มากเพียงใด แต่เมื่อเข้าไปส่องในอินสตาแกรมของเธอแล้ว misscarriejune การแต่งตัวสวยๆ หรือใส่กางเกงยีนส์ก็ดูจะไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่   เธอเป็นสาวอีกคนที่ก้าวผ่านคำว่าความสวยในอุดมคติ และเลือกที่จะสวยในแบบที่ตัวเองเป็น และรูปร่างแบบเธอมันทั้งดูแข็งแรงและสุขภาพดี แบบนี้สาวๆ จะไม่ออกกำลังกายกันหน่อยเหรอ!??   ที่มา rocketnews24

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยภาพช่วงเวลาอันแสนประทับใจภายในงานแต่งงาน ที่ถูกจัดขึ้น ณ เมือง Xinfa มณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยพิธีวิวาห์ดังกล่าวไม่ได้มาในแบบคู่รักหนุ่มสาวทั่วๆ ไป แต่เป็นงานแต่งของคุณแม่ และ Baobao ลูกชายวัย 4 ขวบของเธอ ผู้ที่กำลังต่อสู้อยู่กับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว     จากภาพปรากฏให้เห็นว่า หนูน้อย Baobao ได้ยืนอยู่ตรงกลางเวทีโดยมีพ่อและแม่ยืนอยู่เคียงข้าง ซึ่งพิธีแต่งงานสุดพิเศษนี้ ได้ถูกจัดขึ้นสองหลังจากที่ทางครอบครัวได้จัดฉลองวันเกิดครบครอบ 4 ปีให้กับเขา ทางด้านหนูน้อย Baobao ได้ออกมาเผยว่า “แม่ของผมเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก และผมก็อยากจะอยู่กับเธอตลอดไป”     การรายงานระบุว่า เมื่อสองปีก่อน Baobao ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (ALL) และมันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะตั้งแต่เดือนเมษายนหนูน้อย BaoBao ดูเหมือนว่าจะมีอาการแย่ลงเรื่อยๆ     มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน ถือเป็นมะเร็งเม็ดเลือดชนิดหนึ่งที่มีผลต่อเซลล์เม็ดเลือดขาวในไขกระดูก จากนั้นมันก็จะลามเข้าไปในกระแสเลือด และแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ…

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ Alaska Department of Transportation & Public Facilities ได้โพสต์ภาพพร้อมคลิปวีดีโอของเจ้าแมวน้ำขนาดยักษ์หนักกว่า 200 กิโลกรัมตัวหนึ่ง ที่สร้างความฮาและเสียงหัวเราะให้กับบรรดาชาวเน็ตทั่วโลกออนไลน์ ภายหลังจากที่มันได้โผล่มาเซอร์ไพรส์เหล่ามนุษย์ ด้วยการมานอนอาบน้ำอย่างชิวๆ ณ ท่าอากาศยานวิลลีย์ โพสต์-วิลล์ โรเจอร์ เมมโมเรียล (Wiley Post-Will Rogers Memorial) ในแบร์โรว์, รัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา งานนี้บอกเลยว่าการปรากฏตัวแบบไม่ได้บอกไม่ได้กล่าวของมันได้สร้างความวุ่นวาย แถมยังไปขัดขวางการขึ้นลงจอดของเครื่องบินให้กับทางสนามบินเป็นอย่างมาก     ด้าน Scott Babcock หัวหน้าสนามบินดังกล่าวได้ออกมาเผยว่า “มันแปลกมากที่ได้เห็นเจ้าแมวน้ำ ผมเคยเห็นสิ่งต่างๆ มากมายบนรันเวย์ แต่สำหรับแมวน้ำแล้วกลับไม่เคยเจอเลย” อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานวิลลีย์ โพสต์-วิลล์ โรเจอร์ เมมโมเรียล อยู่ห่างจากทะเลไม่ถึง 200 เมตร ดังนั้น จึงคาดว่าสถานที่แห่งนี้อาจกลายเป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมที่เจ้าแมวน้ำตัวอ้วนจะได้ขึ้นมานอนอาบแดดอย่างชิวๆ แถมยังทำให้มันยังไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปหาที่อาบแดดอีกด้วย  …

เพื่อนๆ เคยสังเกตกันไหมว่า เวลาที่มีคู่รักที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหน้าตาดีกว่า สังคมมักจะมีอคติที่ว่า “นี่เป็นแฟนกันจริงๆ เหรอ!!!?” ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ไม่ได้เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาเลย อย่างคู่รักชาวเวียดนามคู่หนึ่ง ที่ได้รับคำครหาจากชาวเน็ตว่าไม่เหมาะกันเอาซะเลย แต่พวกเขาก็ไม่แคร์สิ่งเหล่านั้น   สื่อสังคมออนไลน์อาจเป็นสถานที่ที่โหดร้ายที่สุดสำหรับคู่รักที่มีความต่างทางด้านรูปลักษณ์ภายนอก   เช่นกรณี Linh Nguyen และ Hai Nguyen คู่รักจากประเทศเวียดนามที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทางออนไลน์เนื่องจากรูปลักษณ์อวบอ้วนของแฟนหนุ่ม   ทุกครั้งที่ Linh โพสต์ภาพของตัวเองกับแฟนหนุ่มของเธอ Hai ความคิดเห็นส่วนใหญ่ใน Facebook ของเธอ มักเต็มไปด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต ที่กล่าวถึงแฟนหนุ่มที่มีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป   Linh ดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากในโลกออนไลน์มีผู้ติดตามเธอมากกว่า 39,000 คน ในขณะที่แฟนหนุ่มของเธอก็ได้รับคำติจากชาวเน็ตเสมอ ตรงกันข้ามกับแฟนสาวที่ชาวเน็ตชื่นชมในความงามของเธอ   “คุณดูสวยมากๆ ผิดกับแฟนของคุณที่ดูน่าเกลียด” ชาวเน็ตคนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็น   บางคนก็ให้ฉายาพวกเขาว่าเป็น “Beauty and the Beast” และก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคู่รักคู่นี้เป็นแฟนกันจริงๆ หรือไม่???   พวกเขาเปิดเผยความสัมพันธ์ต่อสาธารณะชนมาเกือบ 2 ปีแล้ว และแน่นอนว่าความคิดเห็นด้านลบของชาวเน็ตก็มีมาอย่างเรื่อยๆ   แต่ความคิดเห็นเชิงลบเหล่านั้นก็ไม่ได้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่บาดหมาง…

ด้วยความที่ไทยเราเป็นประเทศเขตร้อน จะให้เราจินตนาการถึงชีวิตที่แสนยากลำบากท่ามกลางความหนาวสุดขั้วก็ดูจะเป็นอะไรที่ไกลตัว แต่ถ้าให้บรรยายความร้อนของแดดล่ะก็… เล่า 3 วันก็คงไม่จบ ด้วยเหตุนี้เราจะพาไปชม 22 ภาพพร้อมเรื่องราวซึ่งเป็นผลงานของ Amos Chapple ที่จะบอกเล่าถึงชีวิตการเป็นอยู่ของผู้คนจากหมู่บ้าน Oymyakon และ Yakutsk ในประเทศรัสเซีย ที่ๆ ครั้งหนึ่งเคยมีอุณหภูมิต่ำสุดถึง -71.45 เซลเซียส!!   โดยตัว Amos Chapple เองได้เริ่มต้นทริปนี้ที่เมือง Yakutsk ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งชาวรัสเซียต่างรู้ดีว่า นี่คือเขตที่หนาวมากที่สุด   Yakutsk เป็นเมืองที่มีประชากรเพียง 300,000 คน และโดยปกติแล้วในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิจะลดต่ำอยู่ที่ประมาณ -34.5 องศาเซลเซียส   แม้จะเป็นเมืองที่หนาวสุดๆ แต่เจ้าของเรื่องราวก็ได้เล่าว่าผู้คนที่นี่กลับเต็มไปด้วยมิตรไมตรี ยิ้มแย้ม และให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นกันเองมากๆ   แล้วชาวรัสเซียรับมือกับความหนาวยังไงน่ะเหรอ? ชาวรัสเซียจะมีเครื่องดื่มที่เรียกว่า ‘Russki Chai’ อันที่จริงมันแปลว่าชารัสเซียนั่นแหละ แต่สิ่งที่บางคนเค้าดื่มแก้หนาวกันคือวอดก้านะ..!!   สภาพอากาศของเมืองนี้มันหนาวถึงขนาดที่ว่า ตัวช่างภาพเองพยายามที่จะทำอาหารตอบแทนคนท้องถิ่น แต่เขามือชาเกินกว่าที่จะหั่นผักผลไม้ได้   แต่ด้วยอุตสาหกรรมเพชรพลอย ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งเศรษฐกิจที่มีเงินหมุนมากมาย…

สำหรับสาวๆ คนไหนที่ชอบแฟชั่นเอามากๆ และอดไม่ไหวที่ต้องตามกระแสเสมอก็ต้องเหนื่อยหน่อยนะ เพราะว่าในตอนนี้มีเทรนดืใหม่มาให้สาวๆ ได้ปวดหัว เอ้ย!! ได้ชื่นชมอยู่เสมอ อย่างแฟชั่นสุดฮิตที่จะให้สาวๆ ได้ชมกันในวันนี้ มันเป็นเทรนด์สุดแปลกที่ไม่รู้ไปได้แรงบันดาลใจมาจากไหน จนเกิดมาเป็นภาพสุดแปลกเหล่านี้ ใครที่รอไม่ไหวแล้ว เราไปชมกันเลย!!!   อุ๊ปส์!!! ไม่รู้เลยนะว่าตอนนี้เขามีแฟชั่นขนจมูกด้วย!! เพียงแค่คุณใช้คนตาปลอมนี้แหละมาบรรจงติดรอบรูจมูกก็จะได้เทรนด์สุดชิคนี่แล้ว แต่อย่าเผลอจามเชียวล่ะ   หากใส่ความคิดสร้างสรรค์อีกหน่อยก็ลองมาใส่ที่ริมฝีปากก็ดูเท่ไม่เบา…   หรือถ้าใครที่เบื่อกับอายไลน์เนอร์แบบเดิมๆ ก็ลองแบบสายฟ้าผ่าแบบนี้ดูก็แปลกใหม่ไม่เบานะ   ดูมีความเป็นแฮรี่พอตเตอร์เบาๆ   ใครที่อยากไปฟิวแบบสดใสไปทะเล ก็ลองเขียนคิ้วแบบคลื่นที่มองยังไงก็ดูโดดเด่นแบบสุดๆ   หรือจะเป็นเทรนด์การสร้าง “กระ” ปลอมที่ฮิตกันมากช่วงหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังไม่เลิกฮิตนะจ๊ะ   ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสาวฝรั่งชิคๆ ที่มีรอยกระสวยๆ อยู่บนใบหน้า   เปลี่ยนจากเทรนด์การแต่งหน้ามาเป็นการทำเล็บที่ให้พืชจากธรรมชาติจริงๆ มาทำ บอกเลยว่าธรรมชาติมากๆๆๆ   แม้แต่เล็บแบบขนสัตว์ก็ยังได้รับความนิยมอย่างมาก   แบบนี้สาวๆ คนไหนไม่อยากตกเทรนด์ก็ต้องลองทำกันดูบ้างแล้วล่ะนะ   ย้ายมาที่ริมฝีปากกันบ้าง แหม่.. มีความหรูหราเป็นหินเลยทีเดียว ว่าแต่จะจุ๊บได้ไหมละเนี้ยเธอ!!   รู้แบบนี้แล้วสาวๆ ก็ต้องตามเทรนด์กันหน่อยนะจ๊ะ ทีี่มา indy100

โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะรับประทานอาหารเพียง 3 มื้อต่อวัน แต่อย่างไรก็ตามทางผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเผยว่า หากคุณเปลี่ยนการรับประทานอาหารวันละ 3 มื้อ เพิ่มเป็น 5-6 มือต่อวัน จะสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้ หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าการรับประทานอาหารหลายมื้อแบบนี้จะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร ลำพังเพียงกินแค่ 3 มื้อตัวเลขบนตราชั่งก็พุ่งพรวดอยู่แล้ว นั่นคือสิ่งที่เราต้องการจะบอก เพราะมันมีเหตุผลที่น่าสนใจซ่อนอยู่ และนี่คือ 5 เหตุผลที่ว่าทำไมการรับประทานอาหาร 5-6 มื้อต่อวัน ถึงช่วยลดน้ำหนักได้…     1. ควบคุมความอยากอาหาร ลองถามตัวเองดูสิว่าในแต่ละวันเรากินของจุกจิกหลังมื้ออาหารบ่อยแค่ไหน นั่นเป็นเพราะว่าคุณหิวใช่หรือไม่? ซึ่งมันก็จะส่งผลให้น้ำหนักของคุณขึ้นโดยไม่รู้ตัว แถมยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เราอ้วนง่ายอีกด้วย แต่ถ้าหากคุณเปลี่ยนมากิน 5-6 มื้อต่อวัน มันสามารถช่วยหลีกเลี่ยงความหิวที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ได้โดยการเน้นรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น เปลี่ยนจากการทานข้าวขาวมาเป็นข้าวกล้องและทานผักให้มากขึ้น   2. ช่วยรักษาระดับพลังงาน เวลาที่กินอาหารมือใหญ่ๆ เข้าไปมันก็ทำให้เราใช้พลังงานในการเผาผลาญเยอะ นั่นอาจเป็นเหตุที่ทำให้หลายคนชอบหยิบขนมขบเคี้ยวมาทานเล่นในระหว่างวันบ่อยๆ เพื่อเติมพลังงานให้แก่ร่างกาย และมันก็อาจจะส่งผลให้ตัวเลขบนตราชั่งเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการแบ่งมารับประทานอาหารในมื้อเล็กๆ อาจจะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถหลุดพ้นจากพฤติกรรมดังกล่าวได้ แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณทานอาหารว่างบ่อยอีกด้วย อย่างไรก็ตามการทานอาหารมื้อใหญ่จะทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานอย่างหนัก และมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกง่วงนอนอยู่ตลอด หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน รวมถึงอาหารมื้อใหญ่เสร็จ แต่การแบ่งมารับประทานอาหารมื้อย่อยนี้ จะช่วยให้คุณไม่ประสบกับปัญหาดังกล่าวอย่างแน่นอน…

เรื่องราวของ Harsukh Bhai Dobariya ชายจากรัฐคุชราต ประเทศอินเดียคนนี้ อาจจะมาทำให้คนรักสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายรู้สึกประทับใจไปตามๆ กัน เพราะเขานั้นเป็นผู้ที่ชื่นชอบและรักสัตว์ปีกตัวน้อยอย่างนกมาก ถึงขนาดคอยให้อาหารและดูแลฝูงนกแก้วนกกระจอกมากถึง 2,500 ถึง 3,000 ตัวในทุกๆ วัน แถมยังทำติดต่อกันประจำเป็นเวลานานกว่า 17 ปีแล้ว โอ้ววว น้ำใจท่านช่างยิ่งใหญ่มากเลยจ่ะนายจ๋า!!     เรื่องราวดีๆ ของ Harsukh ถูกหยิบมานำเสนอผ่านทางเว็บไซต์ Odditycentral โดยระบุว่าสิ่งที่นาย Harsukh ทำอยู่จนถึงทุกวันนี้ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 2000 เมื่อเขาประสบอุบัติเหตุขาหักและได้แต่นั่งๆ นอนๆ ไปวันๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนบ้านได้แวะมาหาเขาและนำเมล็ดข้าวฟ่างมาให้ ซึ่งทางคุณลุง Harsukh ก็ได้นำไปโปรยบริเวณหน้าระเบียงห้องนอน ปรากฏว่ามีนกแก้วตัวหนึ่งบินเข้ามากิน ในวันต่อมาก็มีนกแก้วอีก 2 ตัว มาจิกกินเมล็ดข้าวที่เขาโปรยเอาไว้ด้วย และภายในระยะเวลา 1 เดือน ก็มีนกแก้ว รวมถึงนกกระจอกแวะมากินอาหารที่บ้านของเขาทุกวันเป็นจำนวนมากถึง 100-150 ตัว     คุณอาจจะรู้สึกรำคาญหากมีนกนับร้อยตัวมาส่งเสียงร้องจิ๊บๆ บริเวณบ้าน แต่สำหรับคุณลุง…

เป็นอีกหนึ่งละครเรื่องราวรักวายป่วงของสาวหล่อกลับใจ และหนุ่มกุู้ภัยมาดเซอร์ที่แฟนละครหลายคนกำลังรอรับชมกันอย่างใจจดใจจอ สำหรับเรื่อง “รักกันพัลวัล” ของทางช่อง 3 ที่นำแสดงโดยหนุ่มสุดฮอตอย่างน้อง นาย ณภัทร เสียงสมบุญ และนางเอกสาวหน้าหวาน ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ร่วมด้วย น้ำชา ชีรณัฐ, เดี่ยว สุริยนต์ และนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย แต่ทว่าละครยังไม่ทันจะออนแอร์ก็เกิดกระแสดราม่าสนั่นโลกโซเชียลซะแล้ว เพราะล่าสุด (30 กันยายน 2560) ทางแฟนเพจเฟสบุ๊ก “ละครสะท้อนอะไร” ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับพล๊อตเรื่องการเหยียดเพศของละครรักกันพัลวัล โดยระบุว่ามีบางประโยคที่ทำให้สะดุดเช่น “ทอมอย่างเธอต้องเจอผู้ชายอย่างฉัน” และ “จะเป็นอะไรกันแน่ ทอม ผู้หญิง กระเทย เลือกซักเพศได้ไหม”     ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ซึ่งหลายๆ คนก็ได้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์หลังได้รับชมทีเซอร์ละครเรื่องนี้กันอย่างมากมาย     และนี่คือความเห็นบางส่วนของชาวเน็ต หลังได้ชมตัวอย่างละครเรื่องนี้… คุณ Fang Sarinya S “เขาจะเป็นเพศอะไรก็ได้ แต่ถ้าเขาไม่ชอบผู้ชายก็คือไม่ชอบผู้ชาย เห็นทีเซอร์แล้วเครียดเลย เสียดายความหล่อของนาย” คุณ Chutimon Pllou…

การได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เป็นการไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ยิ่งถ้าได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี และบรรยากาศดีๆ ก็ถือว่าเป็นการชาร์จพลังให้กับตัวเองอย่างหนึ่งเลยล่ะ และใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ เชื่อว่าก็คงจะต้องเซฟสถานที่ท่องเที่ยวนี้ไว้ในลิสต์ เมื่ออุทยาน Glisselfeld Kloster ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างทางเดินเหนือนเรือนยอดไม้ให้คุณสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด   สุดยอดสถาปัตยกรรมนี้ถูกออกแบบโดยสตูดิโอ EFFEKT โดยที่สร้างมาเพื่อเอาใจคนที่ชื่นชอบธรรมชาติและเหล่าคนรักการถ่ายรูปทั้งหลาย โดยทางเดินเหนือเรือนยอดไม้ที่สร้างขึ้นมีลักษณะที่ไม่เหมือนใคร แถมไม่รบกวนสิ่งแวดล้อมด้วย โดยทางเดินที่ออกแบบจะเป็นหอคอยสูง 45 เมตร ตัวหอคอยก็จะทำเป็นทางเดินหมุนเกลียวขึ้นไปรวมระยะทาง 600 เมตร สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศารอบทิศทาง     เมื่อขึ้นไปยังจุดสูงสุดหอหอคอยก็จะเห็นวิวที่แสนสวยงาม อากาศสดชื่นๆ ที่รอให้ได้สูดลมเหายใจเข้าอย่างเต็มปอด   ทางเดินสะดวกสบาย แม้กระทั่งคนพิการก็สามารถนั่งวีลแชร์ขึ้นไปชมความงามจากธรรมชาติได้   เมื่อขึ้นไปแล้วก็จะสามารถเห็นทิวทัศน์รอบๆ ได้ไกลถึง 25 กิโลเมตร   โครงสร้างเก๋ไก๋ ชักชวนให้ไปถ่ายรูปแบบปังๆ   ระหว่างทางเดินไปหอคอยก็ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ แบบเอ็กคลูซีฟ   อยากจะสูดลมหายใจให้เต็มปอด   น่าไปสัมผัสดูสักครั้งจริงๆ   แผนที่ชื่นชมธรรมชาติภายในอุทยาน   โดยโครงการทางเดินเหนือเรือนยอดไม้นี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2018 และเปิดให้เป็นแแหล่งท่องเที่ยวในเดนมาร์กต่อไป ที่มา boredpanda

อีกหนึ่งความน่ารักที่ใครเห็นเป็นต้องยิ้มตาม เมื่อเจ้าชายแฮร์รี่แห่งราชวงศ์อังกฤษทรงไปนั่งชมการแข่งขันกีฬาที่เมืองโตรอนโต แต่กลับถูกหนูน้อยคนข้างๆ แอบขโมยป็อปคอร์นซะงั้น!? เป็นวินาทีที่กล้องสามารถหันไปจับภาพได้แบบพอดีเป๊ะ ในขณะที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงนั่งชมการแข่งขัน Invictus Game ซึ่งเป็นรายการแข่งขันกีฬาคนพิการที่พระองค์ทรงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงอยู่นั้น… จู่ๆ สาวน้อยที่สืบทราบมาว่าชื่อ Emily Henson ก็เอื้อมมือไปหยิบป็อปคอร์นของพระองค์มากินเฉ๊ยย   สังเกตที่หนูน้อยเสื้อเหลืองดีๆ เห็นแบบนี้มือไวมากเลยนะจะบอกให้   ทันทีที่พระองค์เผลอ Emily ก็แอบเอื้อมไปจิ๊กป็อปคอร์นทันที.. ขอซักอันนึงน๊าา   และดูเหมือนว่ารสชาติป็อปคอร์นจะถูกใจ รอบแรกยังไม่หนำใจเห็นว่าอร่อยดี… ขออีกทีละกันนะ   คราวนี้พระองค์จับไต๋ได้แล้ว อ๊ะ..!! งานนี้พระองค์สั่งลงโทษด้วยการป้อนให้ซะเลย อ๊ามมม   นอกจากนั้นพระองค์ทรงหยอกเหย้าเล่นกับหนูน้อยอย่างเป็นกันเอง กลายเป็นภาพน่ารักๆ ที่ถูกใจชาวเน็ตไปทั่วโลกเลยล่ะ   ไม่เชื่อก็ต้องลองดูเอง… เป็นการตอบกลับของพระองค์ที่ทรงน่ารักมากๆ พะยะค่ะ   ชาวเน็ตก็ออกมาชื่นชมว่าพระองค์ทรงไม่ถือตัวได้ๆ จนกระทั่งป็อปคอร์นใกล้จะหมดนั่นแหละ ฮ่าๆๆ   บางคนก็แซวว่าหนูน้อย Emily ต้องได้เป็นผู้สืบบัลลังก์คนต่อไปแน่ๆ   บ้างก็ว่าเป็นเรื่องราวที่ล้ำค่าสุดๆ พระองค์ทรงเป็นกันเองกับเด็กๆ มาก   แหม๊… เด็กยังไงก็เป็นเด็กละน๊อออ   แน่นอนว่าปฏิกริยาความน่ารักของพระองค์ ได้ทำให้ใครหลายคนคิดว่า……

อีกหนึ่งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันน่าสนใจเกี่ยวกับการทำเส้นทางเชื่อมระหว่างอ่าวซาโรนิค และอ่าวคอรินทร์ ที่ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 2,000 ปี ถึงจะแล้วเสร็จ..!! ย้อนกลับไปในช่วง 602 ปี ก่อนคริสตกาล ผู้ปกครองเมืองคอรินทร์ตอนนั้นนามว่า ‘Periander’ มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเอาชนะธรรมชาติด้วยการเชื่อมเส้นทางจากทั้ง 2 อ่าวเข้าด้วยกัน ทว่าด้วยยุคสมัยที่ไม่มีเทคโนโลยี หรือเครื่องมืออำนวยความสะดวกอะไรเท่าสมัยนี้ ทำให้โปรเจคดังกล่าวดูจะใหญ่เกินความสามารถของมนุษย์ และถูกล้มเลิกไปในที่สุด…   บริเวณช่องคลองคอรินธ์   จนกระทั่งเมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์ Dimitrios Poliorkitis แห่งมาซีโดเนีย ก็ได้ริเริ่มโครงการที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายร้อยปีอีกครั้ง ทว่าท้ายที่สุดก็กลับไม่สำเร็จด้วยเหตุผลความเชื่อทางศาสนาของผู้คนที่เชื่อว่าการทำให้ทะเลทั้งสองฝั่งเชื่อมกัน อาจทำให้เทพโพไซดอนโกรธได้     แผนการณ์ทุกอย่างถูกล้มเลิก จนกระทั่งมาถึงยุคการปกครองของจักรพรรดิแนโรแห่งโรมัน ที่มีการสั่งให้สร้างจุดเชื่อมต่อดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง ทว่าน่าเสียดายที่ในที่สุดกษัตริย์แนโรได้ถูกลอบปลงพระชนม์ และคำสั่งการสร้างทางเชื่อมก็ถูกยกเลิกตามไปด้วย     ดูเหมือนว่าเรื่องราวทุกอย่างจะถูกลืมและไม่ได้มีการเล่าต่อ กระทั่งเมื่อปี 1830 ผู้ว่าการรัฐคนแรกของกรีซ ได้ริเริ่มโครงการขุดคลองคอรินธ์อีกครั้ง ทว่าด้วยปัญหาด้านการเงินทำให้ในที่สุดโครงการนี้ก็ตกเป็นของบริษัทเอกชนอย่าง Austrian General Etiene Tyrr ในปี 1869 ใช่ว่าเมื่อได้เป็นบริษัทเอกชนเข้ามารับช่วงต่อแล้ว เมกะโปรเจคต่างๆ จะสามารถเสร็จสิ้นได้โดยง่าย เพราะต่อมาในช่วงปี 1890…

เมื่อเดินเข้าไปในห้องครัวแล้วลองมองไปรอบๆ จะเห็นอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ ที่เหมือนกันอยู่เต็มไปหมด ซึ่งบางทีเราก็อยากจะมีของใช้ในครัวเจ๋งๆ ที่สามารถช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับห้องครัวบ้าง ดังนั้น เราจึงได้รวบรวม 16 อุปกรณ์ในครัวน่ารักๆ มาฝาก ซึ่งแต่ละอย่างนั้นถูกออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์ สวยงาม และน่าใช้มาก รับรองว่าจะต้องถูกใจพ่อบ้านแม่บ้านอย่างแน่นอน   1.ที่วางไข่ที่มาในรูปอัศวินในชุดเกราะ สามารถเข้าไปซื้อได้ที่ Amazon ในราคา 330 บาท   2.ที่ใส่ไม้จิ้มฟันรูปปลาสุดคิ้วท์ สามารถเข้าไปซื้อได้ที่ Amazon ในราคา 430 บาท   3.ที่วางฟองน้ำรูปเตียง สามารถเข้าไปซื้อได้ที่ Amazon ในราคา 390 บาท   4.ทัพพีตักซุป สามารถเข้าไปซื้อได้ที่ Amazon ในราคา 660 บาท   5.ขวดใส่เกลือและพริกไทยสุดน่ารัก สามารถเข้าไปซื้อได้ที่ ModCloth ในราคา 700 บาท   6.เครื่องตัดขนมปัง ที่จะทำให้แซนวิชของคุณมีรอยยิ้ม สามารถเข้าไปซื้อได้ที่ Amazon ในราคา 460 บาท   7.แก้วน้ำที่ประดับไปด้วยตุ๊กตารูปสัตว์อยู่ด้านใน สามารถเข้าไปซื้อได้ที่…

การนอนหลับไม่เพียงพออาจจะเป็นเรื่องปรกติสำหรับใครหลายๆ คน แต่รู้หรือไม่ว่ามันกำลังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณอยู่ แถมยังอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ อย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย!! ศาสตราจารย์ Matthew Walker จากมหาวิทยาลัย University of California และผู้เชี่ยวชาญทางด้านการนอนหลับได้ออกมาเปิดเผยว่าการนอนหลับไม่เพียงพอนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก และเป็นสาเหตุของโรคเสื่อมต่างๆ อย่างเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน และมะเร็ง      ศาสตราจารย์ Matthew ได้เปิดเผยว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอหรือประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก “ร่างกายของเรานั้นจะถูกทำลายด้วยการพักผ่อนไม่เพียงพอไปทีละนิด“  เขาได้ทำการศึกษาในเรื่องของการนอนและสิ่งที่จะตามมาจากการนอนหลับไม่เพียงพอมาเป็นเวลานานกว่า 2 ทศวรรษ โดยเขากล่าวว่าการเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุสาหกรรมและการทำงานที่หนักขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์มีระยะเวลาการนอนที่น้อยลง     จากการศึกษาพบว่ามีประชากรมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ที่นอนหลับเพียงแค่ 6 ชั่วโมงต่อคืนหรือน้อยกว่านั้นซึ่งมากกว่าในปี 1942 ที่มีเพียงแค่ 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้ส่งผลกระทบต่อการปล่อยกระแสไฟฟ้าเวลานอนหลับ และเป็นผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย     นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าความเครียด ความกังวล และพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระยะเวลาในการนอนหลับของเราสั้นลงเช่นเดียวกัน   และท้ายที่สุด ศาสตราจารย์ Matthew ได้ให้คำแนะนำสำหรับทุกคนว่า ควรพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงหรือมากกว่า นอกจากนี้การอดนอนเพื่อทำงานหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอีกด้วย     ที่มา news-medical, theguardian

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า HIV ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่าปีละหลายล้านคน เช่นเดียวกับการพัฒนาในด้านการแพทย์ ที่เหล่านักวิจัยพยายามค้นหาแอนติบอดี้เพื่อฆ่าเชื้อ HIV ที่ได้ผลมากที่สุด ล่าสุดดูเหมือนว่าการแพทย์ใกล้จะเอาชนะเชื้อ HIV ได้แล้ว เมื่อทีมนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ร่วมมือกับทีมวิจัยจากบริษัท Sanofi และได้ค้นพบแอนติบอดี้ที่สามารถต้านเชื้อไวรัสได้สูงถึง 99% เลยทีเดียว   โดยทีมวิจัยเชื่อว่าการทดลองกับลิงในครั้งนี้ จะนำไปการพัฒนายาต้าน HIV ให้แก่มนุษย์ได้   ก่อนหน้านี้ทีมวิจัยได้ทดสอบกับลิง 24 ตัว ด้วยการฉีดไวรัส HIV เข้าสู่ร่างกายของพวกมัน และเมื่อนักวิจัยได้ทำการฉีดแอนติบอดี้ตัวใหม่เข้าไป ก็พบว่าไม่มีเชื้อ HIV ในลิงเหล่านั้น ที่สามารถเกิดการกลายพันธุ์ต่อไปได้ สำหรับระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ในปัจจุบัน คือจะไม่สามารถรับมือกับคุณสมบัติการกลายพันธุ์ของเชื้อ HIV ได้ ทำให้หลังจากนั้นภูมิคุ้มกันเราจึงเต็มไปด้วยเชื้อไวรัสในเวลาต่อมา ทว่ามีเพียงผู้ป่วยจำนวน 1% เท่านั้น ที่ร่างกายมีคุณสมบัติสามารถพัฒนาเชื้อจุลินทรีย์ในร่างกายที่เรียกว่า ‘Spikes’ ได้ ซึ่ง Spikes (หรือ broadly neutralising antibodies) มีคุณสมบัติที่ไม่สามารถกลายพันธุ์ ทีมนักวิจัยจึงชี้ว่าอาจนำส่วนนี้มาใช้ในการพัฒนาแอนติบอดี้ได้ต่อไป…     จากการวิจัยทั้งหมดทำให้ทีมวิทยาศาสตร์ ได้ค้นพบวิธีการที่จะนำเอาแอนติบอดี้ทั้ง…

วันนี้เราจะขอพาไปเยี่ยมชมโปรเจคที่กำลังจะเกิดขึ้นที่จังหวัดขอนแก่นกันบ้าง โดยโปรเจคทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาจังหวัดซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน ‘Smart City’ คือโครงการที่รัฐบาลต้องการกระจายความเจริญไปตามหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ และด้วยความร่วมมือกันกับกลุ่ม KKTT (ขอนแก่นพัฒนาเมือง) ทำให้ตอนนี้ขอนแก่นกลายเป็นอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   นับว่าตอนนี้ขอนแก่นเป็นเมืองที่มีความน่าลงทุนสูงที่สุด ไม่ว่าจะด้วยความพร้อมทางด้านสาธารณสุข การขนส่ง การแพทย์ และรวมไปถึงการศึกษา   ขอนแก่นพัฒนาเมือง (KKT) มีความสำคัญอย่างไร? จากจุดเริ่มต้นของปัญหาความเจริญที่กระจุกตัวอยู่ในเฉพาะเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครฯ ทำให้การเบิกงบประมาณเพื่อนำมาพัฒนาจังหวัดเป็นไปได้ยาก ทางเมืองเลยแก้ปัญหากันเอง ด้วยการรวมกลุ่มนักธุรกิจชั้นแนวหน้าจากพื้นที่ขอนแก่นกว่า 20 บริษัท ร่วมกันจัดตั้งเป็นบริษัทเพื่อการพัฒนาเมืองอย่างจริงจังโดยใช้นามว่า ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด   และทั้งหมดนี้คือ 5 โปรเจคยักษ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในขอนแก่น เพื่อการพัฒนาเข้าสู่การเป็น Smart City   5. โครงการขยายถนนเพิ่ม   โครงการขยายถนนที่จะช่วยให้การเดินทางและการขนส่งในตัวจังหวัดขอนแก่นเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น โดยกรมทางหลวงชนบทได้บรรจุเข้าแผนงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 แล้ว อีกทั้งยังรวมถึงแผนการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางรถไฟ และบริเวณจุดตัดทางรถไฟที่บ้านหนองไผ่ ด้วยงบประมาณทั้งหมด 411 ล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน พ.ศ. 2560 นี้เช่นกัน  …

นับว่าปัญหาขยะพลาสติกเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คอยทำลายทรัพยากรโลกมาแล้วหลายสิบปี อีกทั้งมันยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตของสัตว์โลก รวมทั้งระบบนิเวศน์ต่างๆ เช่นเดียวกับภาพที่เราเห็นตอนไปเที่ยวทะเล… ทว่าล่าสุด ‘ชิลี’ ได้ออกมาประกาศเป็นประเทศแรกในทวีปอเมริกา ถึงนโยบายที่จะยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกอย่างเด็ดขาดโดยจะมุ่งเน้นไปที่เมืองที่ติดชายหาดต่างๆ     โดยเมื่อวันที่ 20 กันยายน ประธานาธิบดีแห่งชิลี Michelle Bachelet ได้ออกมาแถลงนโยบายแบนการใช้ถุงพลาสติกทุกชนิด ผ่านที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ครั้งที่ 72 ที่เมืองนิวยอร์ก “ภายใน 12 เดือนต่อจากนี้ เราจะมุ่งเน้นผลักดันให้มีกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติกอย่างจริงจัง โดยจุดประสงค์ก็เพื่อปกป้องระบบนิเวศน์และทรัพยากรทางทะเลที่กำลังถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง…” Michelle Bachelet กล่าวผ่านที่ประชุม     อ้างอิงข้อมูลจากการรายงานของกระทรวงสิ่งแวดล้อมประเทศชิลี พบว่ากว่า 90% ของนกทะเลมีถุงพลาสติกติดค้างอยู่ในร่างกายของพวกมัน ซึ่งถ้าหากไม่มีการแก้ปัญนี้เกิดขึ้นพวกเขาคาดว่าภายในปี 2050 สิ่งมีชีวิตและขยะในท้องทะเลอาจมีจำนวนไล่เลี่ยกัน รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม Marcelo Mena ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมี 60 เมืองในประเทศชิลีที่เริ่มหันมาใช้นโยบายดังกล่าวอย่างจริงจัง ซึ่งตอนนี้กฎหมายยังอยู่ในขั้นตอนการส่งเข้าสภาเพื่อพิจารณาภายในเดือนตุลาคม “ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการป้องกันไม่ให้ระบบนิเวศทางทะเลถูกทำลายไปมากกว่านี้ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการควบคุมขยะที่ถือเป็นปัญหาระยะสั้นที่รัฐฯ ต้องคอยรับมืออยู่บ่อยๆ และเราก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงเอาขยะพลาสติกมาทดแทนความหลากหลายทางชีวภาพของธรรมชาติได้แน่นอน” Marcelo Mena กล่าว     ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนโยบายรักษ์โลก…

Breaking News!! อีกหนึ่งสถานการณ์ที่ทั่วโลกต้องจับตามองด้วยความเป็นห่วง หลังเกิดเหตุแผนดินไหวรุนแรง 7.1 แมกนิจูด ที่ประเทศเม็กซิโก สำนักข่าวต่างชาติได้รายงานว่า เมื่อเวลา 12.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 19 กันยายน ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวมีความรุนแรงขนาด 7.1 แมกนิจูด และส่งผลให้ตึกอาคารและบ้านพักต่างๆ พังถล่มลงมา โดยเฉพาะที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ ได้รับผลกระทบมากที่สุด     จากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมดกว่า 140 คน โดยแบ่งเป็นจากรัฐโมเรลอส 54 ราย รัฐปวยบลา 26 ราย และที่เม็กซิโก ซิตี้ อีก 30 ราย   จากความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างออกไปกว่า 120 กิโลเมตร ทำให้อาคารหลายหลังพังถล่มลงมาในชั่วพริบตาเดียว .   ภัยพิบัติในครั้งนี้ทำให้สนามบินนานาชาติฮัวเรสเบนีเดซ ณ กรุงเม็กซิโกซิตี้ ต้องปิดให้บริการชั่วคราว มีการประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนเดินทางโดยเรือ หรือรวมกลุ่มกันอยู่บนท้องถนน อีกทั้งสายไฟฟ้าและเสาสัญญาณโทรศัพท์หลายจุดในเมืองก็ได้รับความเสียหาย ทำให้ตอนนี้มีประชาชนกว่า…

มีผู้หญิงหลายคนที่ไม่คิดว่าการลดน้ำหนักจะทำให้พวกเธอมีความสุขมากขึ้น แต่ถ้าหากเราทำให้มันอยู่ในความพอดี มันก็จะช่วยทำให้มีความมั่นใจ ดูดี และมีสุขภาพที่ดีขึ้น แถมยังไม่เป็นการทรมานร่างกาย และจิตใจอีกด้วย Khrysty Ana นางแบบสาวคนนี้ เธอก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่อยากมีรูปร่างดีเหมือนกับหญิงสาวทั่วๆ ไป แต่ทว่าหลังจากที่ผ่านการลดน้ำหนักมาอย่างหนักหน่วง นั่นทำให้เธอได้ค้นพบว่า ชีวิตในช่วงนั้นต้องทุกข์ทรมานมากขนาดไหน     ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 KhrystyAna เคยออกมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการลดน้ำหนักของตัวเองว่า รูปร่างของเธอไม่ได้ดีพอที่จะไปเป็นนางแบบได้ และนั่นจึงทำให้เธอเริ่มหันมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการพยายามลดน้ำหนัก แต่ทว่าเธอกลับต้องมาทุกข์ทรมานจากการควบคุมอาหาร รวมถึงการใช้เวลาอยู่ในยิมเป็นเวลานาน ซึ่งเธอก็ได้แต่ถามกับตัวเองว่า ฉันมีความสุขหรือไม่?     นอกจากนี้ KhrystyAna ยังได้เผยอีกว่า ในตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจความสุข และสุขภาพจิตใจของตัวเองเลย เมื่อน้ำหนักของเธอมากขึ้น เธอกลับรู้สึกว่าเธอเกลียดตัวเองเป็นอย่างมาก จนในที่สุดเธอก็ค้นพบว่า ตัวเองกำลังได้รับความทุกข์ทรมานจากความเหน็ดเหนื่อยอย่างรุนแรง     “การได้สัมผัสความงดงามของตัวเอง เป็นการเดินทางที่น่าอัศจรรย์ คุณจำได้ไหมว่าความรู้สึกที่ดีของคุณได้เลือนหายไปตอนไหน ดังนั้น ฉันจึงอยากจะให้ทุกคนยอมรับในสิ่งที่เป็น ลองไปยืนอยู่หน้ากระจก และมองไปที่ท้อง และขาของคุณสิ ถ้าหากคุณไม่พอใจมัน เพียงแค่ออกไปว่ายน้ำ แล้วคุณก็จะได้พบกับความสุขเอง” KhrystyAna กล่าว  …

ปกติแล้วเวลาเราเอาของแช่ตู้เย็นนั้นนั้นก็มักจะยัดๆ เข้าไปโดยไม่คิดอะไร ไม่ได้คิดถึงพื้นที่ในการจัดการภายในสักเท่าไหร่ และแน่นอนว่ามันก็จะเต็มง่ายสุดๆ ด้วยเหตุนี้ทางญี่ปุ่นก็เลยออกอุุปกรณ์เสริมเล็กๆ ไว้ใช้ในตู้เย็นออกมา ซึ่งมันเป็นตัวเสริมที่ไว้ใช้ในการจัดเรียงสิ่งต่างๆ ภายในตู้เย็นให้มีพื้นที่ใช้งานได้เยอะมากขึ้น     เชื่อเถอะว่าอุปกรณ์เสริมพวกนี้ จะช่วยเพิ่มสเปซตู้เย็นของเรา และทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นมากๆ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูกันเลยดีกว่า   อุปกรณ์วางหลอดซอสต่างๆ ที่ใช้พื้นว่างตรงมุมประตูตู้เย็น สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ yahoo   สำหรับคอเบียร์กระป๋องจะต้องรักอุปกรณ์นี้แน่ๆ เพราะมันจะทำให้มีพื้นที่เยอะขึ้นมากๆ แล้ยังใช้งานง่ายสุดๆ   เห็นไหมใช้ง่ายจริงๆ นะ ถ้าถูกใจก็ลองเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ yahoo   ตัวเสริมที่ไว้เก็บของตรงใต้ชั้นตู้เย็น ที่บางครั้งเราก็ไม่ได้วางของที่ยาวๆ เท่าไหร่   เห็นภาพเลยใช่ไหมล่ะ? สนใจเข้าไปดูได้ที่ yahoo   อุปกรณ์เสริมสำหรับของกินที่เป็นถุงๆ ทำงานง่ายๆ เหมือนที่วางหนังสือ   เห็นภาพไหมล่ะ แต่ถ้าวางไว้ข้างใต้ วางซ้อนกันอาจจะเยอะกว่าก็ได้นะ สนใจสั่งได้ที่ shopping   เป็นไงล่ะ เล็กน้อยแต่น่าสนใจใช่ไหมล่ะ เอาเงินเราไปเลยดีกว่าแบบนี้ ที่มา buzzfeed

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า Amika Witt หญิงสาวจากรัฐมิสซูรี วัย 20 ปี ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติด ขณะที่กำลังขับรถอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ ในช่วงเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ผ่านมา จากการรายงานระบุว่า เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมหญิงรายดังกล่าวได้ พวกเขาก็เข้าทำการตรวจค้นและพบว่า เธอได้แอบซ่อนยาเสพติดเอาไว้ในชุดชั้นใน     นอกจากนี้ ยังได้พบนาย Clinton McDonald หนุ่มวัย 29 ปี อยู่ภายในรถคันเดียวกับ Amika อีกด้วย ซึ่งเขาก็ได้ถูกตั้งข้อหาครอบครองยาเสพติดที่ผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน     ภายหลังจากที่นำตัวของหญิงรายดังกล่าวไปคุมขังที่คุกใน McLean County รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางเจ้าหน้าที่หญิงก็ได้ทำการตรวจสอบเธออีกครั้ง โดยในครั้งนี้เจ้าหน้าที่พบว่า Amika ได้แอบซุกซ่อนปืนlสั้น Kimber ขนาด 380 มม. ที่มีกระสุนอยู่เต็มแม็กอยู่ในช่องคลอด เย้ย!!     ทางด้าน Amika ได้สารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ว่า เธอและ…

ในทุกๆ วัน ปัญหาขยะถือว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในธรรมชาติ แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยก็เริ่มมองเห็นถึงปัญหาดังกล่าว และหันมาอนุษรักษ์โลกกันมากขึ้น Richard Eckersley วัย 28 และ Nicola วัย 27 สองสามีภรรยาก็มองเห็นปัญหาดังกล่าวเช่นกัน ทั้งคู่จึงจัดการเปิดร้านมินิมาร์ทที่ขายสินค้าจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นธัญพืชต่างๆ หรือเครื่องดื่มก็ตาม และสินค้าทั้งหมดก็จัดเก็บอยู่ในภาชนะรักษ์โลก ไม่มีการใช้ตู้เย็นแต่อย่างใด   โฉมหน้าของ Richard Eckersley ผู้เป็นเจ้าของร้านดังกล่าว   เขาจะเน้นการใช้ขวดแก้วในการเก็บและจำหน่ายให้ลูกค้า   ส่วนเครื่องดื่มก็จะให้ลูกค้าเอาภาชนะต่างๆ มากใส่เองโดยขายตามจำนวน   ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ทางร้านไม่ใช้แพ็กเกจใดๆ ในการใส่สินค้า ทั้งถุงพลาสติก ถุงกระดาษ หรืออะไรก็ตามที่พวกเขามองเห็นว่ามันจะกลายเป็นขยะ ฉะนั้นลูกค้าต้องเป็นคนนำภาชนะมาใส่กันเอง ร้านดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า Earth.Food.Love โดยตั้งอยู่ในเมืองเดวอน ประเทศอังกฤษ โดย Richard ได้เล่าถึงที่มาของสินค้าในร้านว่า นอกจากสินค้าจะเป็นสินค้าจากธรรมชาติแล้ว สินค้าบางส่วนก็เป็นสินค้าที่มาจากเกษตรกรท้องถิ่นด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันและกันไปในตัว   ถ้าใครชื่นชอบในธัญพืช รับรองว่าร้านนี้คือจุดมุ่งหมายของคุณแน่นอน   สินค้าทุกอย่างเป็นออแกนนิค   ไม่มีถุงพลาสติกหรือขยะ   ครบสูตรช่วยโลก   ร้านก็ตกแต่งได้สวยงาม ภายนอกก็ดูเรียบง่ายมากๆ  …

กำลังกลายเป็นข่าวที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลก หลังจากที่ล่าสุดรัฐบาลอังกฤษได้ออกมาประกาศนโยบายที่จะยกเลิกรถใช้น้ำมันเพื่อลดปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์อย่างจริงจัง โดยเมื่อเช้าวันพุธ ที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Independent ได้รายงานว่า รัฐบาลอังกฤษมีนโยบายที่จะจัดการกับปัญหามลพิษทางอากาศที่สั่งสมมานาน และหนึ่งในวิธีการนั้นก็คือ การยกเลิกเชื้อเพลิงน้ำมันให้หมดไปจากท้องถนนของประเทศ     ทางรัฐบาลได้วางแผนออกมาตรการให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น โดยปัจจุบันมีหลายบริษัทที่เริ่มนำรถพลังงานไฟฟ้ามาตีตลาดในประเทศอังกฤษ และได้รับความนิยม ซึ่งเป้าหมายแรกนั้น ภายในปี 2020 รัฐบาลจะเริ่มให้สภาท้องถิ่นจัดเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับผู้ที่ยังใช้รถพลังงานน้ำมันและดีเซล และเพิ่มส่วนลดให้กับผู้ที่หันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยเช่นกัน เป็นการทำให้คนใช้รถน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง รัฐบาลอังกฤษคาดหวังว่าการเริ่มต้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน จะทำให้ภายในปี 2040 ประเทศอังกฤษจะไม่มีรถยนต์พลังงานน้ำมัน และหันมาใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ (รวมถึงมีการออกกฎหมายควบคุมการใช้พลังงานน้ำมันอย่างจริงจัง)     “หนึ่งในแผนการณ์ลดการปล่อยก๊าซพิษ และลดการใช้พลังงานดีเซล ก็คือการเปลี่ยนไปใช้พลังงานที่สะอาดกว่า และนอกเหนือไปจากนั้นรัฐบาลมีแผนที่จะทุ่มงบกว่า 3,000 ล้านปอนด์ ในการสร้างระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเดิม” โฆษกรัฐบาลให้สัมภาษณ์     ในขณะที่ราคาน้ำมันค่อยๆ ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเข้ามาเป็นความหวังใหม่ของอนาคตชาวโลกที่เกิดขึ้นได้จริง เพราะก่อนหน้านี้หลายๆ บริษัทอุตสาหกรรมรถยนต์ ก็ได้เริ่มหันมาวิจัยและพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น เฉกเช่นเดียวกับบริษัทด้านพลังงานไฟฟ้าของ Elon Musk ที่พึ่งได้สัมปทานให้เข้ามาลงทุนบนเกาะอังกฤษเมื่อไม่นานมานี้     อีกหน่อยก็คงหันมาใช้พลังงานไฟฟ้ากันหมดแล้ว ถึงตอนนั้นเราจะมีโอกาสได้ใช้กับเค้าบ้างมั้ยน้อ……

กลายเป็นกระแสดราม่าร้อนฉ่าไปทั่วโลกโซเชียล หลังจากที่ผู้ขับแท็กซี่ผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า Oun Chatchai ได้นำคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาเผยแพร่บนโลกโซเชียล โดยในคลิปวิดีโอเป็นเรื่องราวของคนขับแท็กซี่ ที่ดันไปเจอรถวีออสปาดหน้าก่อนขึ้นสะพานจนเกือบนำไปสู่อุบัติเหตุ แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น… เพราะคนขับวีออสได้เลือกที่จะขับตามหลังมาหาเรื่องต่อ!? เจ้าตัวเล่าว่าตนกำลังขับขึ้นสะพานข้ามแยกสาธุประดิษฐ์ เพื่อมุ่งหน้าจะไปทางสวนพลู   คนขับแท็กซี่เล่าต่อว่า จังหวะที่กำลังจะขึ้นสะพาน ก็ได้มีรถเก๋งวีออสคันหนึ่งที่กำลังจอดอยู่ตรงคอสะพาน ขับเบี่ยงออกมาทางขวาโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว วิเคราะห์: ถึงแม้จะเปิดไฟเลี้ยว แต่บริเวณดังกล่าวก็เป็นเส้นทึบ ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถเปลี่ยนเลนได้   แน่นอนว่าในจังหวะอันตรายบนท้องถนน การบีบแตรรถก็เป็นอีกสัญญาณเตือนเพื่อความระมัดระวัง เขาจึงบีบแตรเสียงดังลั่น และขับออกมา แต่หลังจากที่แท็กซี่ขับรถต่อไปเรื่อยๆ รถเก๋งวีออสคันเดิมก็ขับตามมาปาดหน้าเอาเรื่องอีก   โดยคนขับแท็กซี่เล่าว่า ผู้ขับขี่รถเก๋งได้ขับรถตามมาพร้อมทั้งตะโกนบอกว่า ‘เป็นคนไทยรึเปล่า? ทำไมไม่มีน้ำใจ?’   จู่ๆ วีออสก็มาปาดขวาและจอดขวางรถแท็กซี่ไว้ โดยมีพฤติกรรมเหมือนตั้งใจจะตามมาหาเรื่อง   หลังจากที่ปาดหน้าไม่ยอมให้แท็กซี่ไปต่อแล้ว เจ้าของรถทั้งสองคนก็ได้ลงมาจากรถเพื่อพยายามถามไถ่น้ำใจจากคนขับแท็กซี่ รับชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์เต็มๆ คลิกที่ลิงค์นี้เลยครับ   เรื่องราวทั้งหมดถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยฝ่ายชาวเน็ตได้กล่าวว่าตนต้องการแค่ทำมาหากิน และไม่ได้อยากมีปัญหากับใคร จึงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาหาเรื่องกันด้วย ชาวเน็ตที่ได้รับชมคลิปดังกล่าวต่างก็ออกมาสนับสนุนในการกระทำของแท็กซี่ว่าเป็นฝ่ายถูก และดีที่ไม่ได้หาเรื่องกลับไปด้วย   Packy K. Yarana เส้นทึบนะทางที่เขาปาดมาหนะ น้ำใจคือไร เขาขับมาของเขาดีๆ…

สำหรับใครที่ชอบเรื่องเร้นลับหรือเรื่องหลอนๆ แล้วละก็คงจะไม่พลาดหนังแนวสยองขวัญแน่นอนเลยใช่ไหมละ?? ถึงแม้ว่าบางคนจะกลั๊วกลัว แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่ามันจะเป็นยังไง ก็คงยากเกินที่จะห้ามใจไหว และหนึ่งในสิ่งที่ทำให้หนังสยองขวัญน่ากลัวสมชื่อ ก็คงจะหนีไม่พ้นเหล่าปีศาจ สัตว์ประหลาดหรือพวกผีที่อยู่ในหนังเหล่านั้น และ #เหมียวเวจจี้ ก็ได้รวบรวมเหล่าปีศาจที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้คุณต้องอุทานว่า “ขวัญเอ๊ยขวัญมา” มาฝากกัน จะมีตัวไหนบ้างนั้นไปชมกันได้เลย…   15. ฉลามยักษ์ Jaw จาก Jaw ฉลามยักษ์ที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้หลายๆ คนไม่กล้าลงน้ำทะเล ด้วยร่างกายที่ใหญ่และนิสัยกินไม่เลือกของพี่แก ชวนให้ขวัญผวาอยู่ทุกครั้งที่ดูเรื่อง Jaw   14. แมงกุดจี่ Scarab จาก The Mummy ถึงแม้จะไม่ได้มีหน้าตาที่น่ากลัวหรือมีฉากปรากฏตัวที่ทำให้ตกใจ แต่การชอนไชเข้าไปในร่างกายของเจ้าแมลง Scarab ก็ทำให้เราต้องผวาทุกครั้งที่ได้เห็นแมงกุดจี่กันเลยทีเดียว   13. Xenomorph จาก Alien สัตวประหลาดจอมเขมือบจากภาพยนตร์ Alien ทั้งความโหดร้ายและความขยะแขยงของพี่แกนั้นคงไม่ต้องสาธยายกันให้ยืดยาว พูดสั้นๆ ก็คือ “สยอง” นั่นเอง   12. Penny Wise จาก It ตัวตลกจากนรกที่คอยจ้องเล่นงานเหล่าเด็กๆ หนึ่งในนวนิยายสยองขัวญของสตีเฟน คิง…

กลายเป็นประเด็นดราม่าพร้อมเสิร์ฟร้อนๆ บนโลกออนไลน์ให้ โดยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน เฟซบุ๊กของคุณ Mai Anuphab ได้โพสต์ภาพและข้อความถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเผยให้เห็นภาพจากหน้าวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช ซึ่งมีนักศึกษามายืนรอหน้าประตูอยู่หลายคน ทว่าคุณครูไม่ให้เข้าโดยให้เหตุผลว่าเด็กๆ มาสาย   ภาพจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   มีการเล่าว่าภายในวันนั้น มีเด็กเทคนิคคนหนึ่งให้เหตุผลถึงการมาสาย แต่อาจารย์คนดังกล่าวกลับแสดงพฤติกรรมอารมณ์ร้อน และพูดจาหยาบคาย แถมยังมีการกระชากคอเสื้อนักเรียนคนหนึ่ง และพูดกับนักเรียนว่า “มึงเก๋าเหรอ มึงสดนักเหรอมาเจอกับกูนี่มา…”    ภาพกลุ่มเด็กนักเรียนที่ไม่สามารถเข้าโรงเรียนได้   ทางเจ้าของโพสต์ก็ได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า.. “เราควรจะมีกฎที่ดีนะครับ ถ้าคุณจะมาทำกันแบบนี้ก็ควรตั้งกฎหรือข้อตกลงร่วมกัน ไม่ใช่มาทำตามอารมณ์ตามอำเภอใจแบบนี้ ทุกคนควรมีเหตุผลมากกว่านี้นะ ทุกคนที่มาสายต่างก็มีธุระของตัวเองทั้งนั้น คุณก็มีธุระของคุณเช่นกัน ฝากท่านผอ. ช่วยตรวจสอบดูหน่อยนะครับว่าพวกเขาทำถูกแล้วหรือยัง”     หลังจากที่เรื่องนี้ถูกแชร์ลงบนเฟซบุ๊ก ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นาๆ บ้างก็มองว่าการกระทำของคุณครูไม่เหมาะสมและรุนแรงเกินไป บ้างก็มองว่าเป็นความผิดของตัวเด็กเองที่มาเรียนสาย หรือบ้างก็อาจจะมองว่าอย่าเพิ่งฟังความข้างเดียว รอฝั่งคุณครูออกมาชี้แจงก่อนดีกว่า   เราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะออกมาเป็นยังไง หรือ.. มันจะเงียบหายไปอย่างไร้ร่องรอยกันนะ!? ที่มา: Mai Anuphab 

เพราะดวงตาเปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจที่แสดงถึงอารมณ์สดใสของผู้หญิง สาวๆ ทั้งหลายจึงต้องให้ความสำคัญในการดูแลรักษาดวงตาและผิวรอบดวงตาให้ดูสุขภาพดีไม่หมองคล้ำอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากการบำรุงด้วยอายครีม และการพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว การใส่ใจกับการเมคอัพดวงตาก็เป็นสิ่งที่สาวๆ จะลืมไม่ได้ วันนี้เลยมีไอเดียการแต่งตาสำหรับสาวเอเชียโดยเฉพาะมาฝาก..     เพิ่มสกิลการเขียนขอบตาอีกนิด ลงอายไลน์เนอร์สีดำบริเวณรอยพับของหางตา และหัวตาเล็กน้อย แล้วเบลนด์เพิ่มมิติให้ดวงตาสดใสเป็นธรรมชาติ   ดับเบิลอายไลน์เนอร์ เมื่อกรีดอายไลน์เนอร์สีดำลงไปแล้ว ลองเพิ่มสีสันด้วยอายไลน์เนอร์สีแจ่มลงไปอีกชั้นสิจ๊ะ .   ไล่เฉดโกลว์ๆ ไว้ไปเจิดในปาร์ตี้ ใช้อายแชโดว์กลิตเตอร์ไล่เฉดกับสโมคกี้อายจากหัวตาไปที่หางตา รับรองเจิดและเกิด   วิงหางเบาๆ ด้วยอายไลน์เนอร์สีเจ็บ เติมเต็มความเป็นสาวขี้เล่นด้วยอายไลน์เนอร์สีเจ็บที่หางตาซักเล็กน้อย   จัดเต็มดวงตาด้วยอายไลน์เนอร์ชนิดครีม เพื่อความอยู่ยงคงกระพันของเมคอัพดวงตา เหมียวแนะนำเลยว่าต้องใช้อายไลน์เนอร์แบบครีมลงก่อนแล้วตามด้วยอายไลน์เนอร์แบบเจลจ้า   เพิ่มมิติที่ติดทนทาน ด้วยเทคนิคเส้นไขว้ เพียงแค่ใช้อายไลน์เนอร์ชนิดเจลขีดเป็นเส้นไขว้แบบนี้ แล้วเบลนด์ให้เนียนๆ แบบนี้   สาวมั่นทันสมัย ต้องลองใช้โทนสีฟ้าเจิดๆ เพียงแค่เติมโทนสีฟ้าเจิดที่ขอบตาล่าง ก็จะได้ลุคสาวมั่นขึ้นมาทันทีเลยหละตัวเธอ   เทคนิคปลาวาฬตาหวานฉ่ำ ถ้าใช้อายแชโดว์สีดำลงที่เปลือกตาเป็นรูปปลาวาฬแบบนี้ สาวๆก็จะมีตาหวานฉ่ำน่าหลงใหลทันที   เฉดไหนไม่สน ขอเพียงอยู่ในโทน เข้ม กลาง อ่อน การลงสีเปลือกตาแบบเป็นธรรมชาติที่สุด สาวๆ…

ทุกวันนี้มนุษย์ได้สร้างนวัตกรรมขึ้นมากมาย ทั้งนวัตกรรมใหม่และการพัฒนานวัตกรรมเก่าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวัน และปฏิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่มีสิ่งเหล่านี้ การใช้ชีวิตของเราก็สะดวกสบายขึ้นจริงๆ และนี่คือนวัตกรรมส่วนหนึ่งที่ได้ออกแบบมาเพื่อทำให้เรื่องยุ่งยากกลายเป็นเรื่องง่าย ทั้งเจ๋งและมีประโยชน์จนอยากได้มาครอบครองทุกชิ้นเลย   1. ภาชนะสำหรับใส่เครื่องเทศและน้ำมัน   2. เครื่องคว้านสับปะรด   3. เยลลี่สำหรับทำความสะอาดพื้นที่ ที่เข้าถึงยาก   4. แถบบน USB ที่แสดงพื้นที่ ที่ถูกใช้งานและพื้นที่ว่าง   5. จักรยานตัดแบ่งพิซซ่า   6. สลิปเปอร์พร้อมไฟส่อง LED   7. จักรยานพร้อมรถเข็นเด็ก   8. แท่นวางอาหารทรงจิ๊กซอว์   9. แก้วกาแฟกันเลอะเทอะ   10. กระถางดอกไม้ป้องกันตกหล่น .   11. ที่นั่งสาธารณะ หมุนบิดเปลี่ยนพื้นผิวได้ ทำให้แห้งตลอดเวลา   12. ฐานวางแก้ว ที่ให้พลังงานชาร์จแบตฯ โทรศัพท์ได้   13.…

หลายๆ คนอาจจะเกิดอาการรำคาญ เมื่อได้ยินเสียงโหยหวนของเจ้าของเล่นไก่ที่ทำจากยางสีเหลือง แต่บางคนอาจจะสนุกและเพลิดเพลินกับเสียงร้องแบบนั้นก็ได้นะ เหมือนเจ้าม้าตัวนี้ยังไงล่ะ เจ้า Kruzah ม้าจากออสเตเรียดูเหมือนจะชอบเจ้าไก่ยางตัวนี้อย่างมาก หลังจากที่มีคนโยนเจ้าของเล่นเสียงบาดใจนี้ให้กับมัน     เจ้าม้ากับของเล่นกำลังเป็นที่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ต หลังจากที่เจ้าของมันได้อัดคลิปวิดีโอของมันและอัพเดทลงในยูทูป ลีลาการสร้างเสียงเพลงจากไก่ยางของมันนั้นช่างน่ารักและสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมอย่างมาก คุณ Debbie Barber เจ้านายของมันบอกว่า เจ้าม้าตัวนี้เกิดมาจากแม่พันธุ์ที่ไม่แข็งแรง และสภาพร่างกายตอนเกิดนั้นไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่ ในตอนช่วงที่ยังเป็นลูกม้า เจ้า Kruzah ต้องเข้ารับการถ่ายเลือดเนื่องจากมีอาการสมองบวม     โชคดีที่มันสามารถเอาชีวิตรอดจากเหตุการ์เลวร้ายในครั้งนั้นมาได้ และตอนนี้มันกำลังฉลองวันเกิดพร้อมกับของเล่นไก่ยางของมัน   ไปชมโมเม้นต์น่ารักๆ ของมันในคลิปวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย… ดูเหมือนกับว่า Kruzah จะชอบเสียงของไก่ยางเอามากๆ เลยนะเนี่ย แหม่ เล่นไม่ยอมปล่อยเลยนะเจ้าม้า ที่มา boredpanda

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในการสัก ก็ต้องเคยเห็นรอยสักที่มาลวดลายต่างๆ มาแล้วมากมายและในครั้งนี้เราก็มีลวดลายของรอยสักของศิลปินคนหนึ่งที่กล่าวว่า “Everything here comes from the same energy” ทุกอย่างที่ตั้งอยู่ล้วนมาจากพลังงานเดียวกัน เขาจึงเลือกที่จะสร้างสรรค์รอยสักที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ออกมา ศิลปะรอยสักของเขานั้นจะออกมาในรูปแบบไหน จะสวยงามถูกใจคุณหรือเปล่า เราไปดูกันเลย   Mo Ganji ช่างสักหนุ่มชาวเบอร์ลินที่ได้ผสานปรัชญาเข้ากับการวาดเส้นรอยสักได้อย่างลงตัว   เขาเพิ่งเริ่มทำอาชีพช่างสักเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมานี้เอง เขาเกิดในอิหร่านและพยายามสร้างศิลปะที่เรียบง่ายในแบบที่เป็นตัวของเขาเอง โดยมีปรัชญาที่ว่าทุกสิ่งล้วนเกินจากพลังงานเดียวกัน   ศิลปะรอยสักของเขามีลักษณะที่เป็นเส้นเดียวที่วาดเป็นภาพต่างๆ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิดที่ว่า  “Everyone is one” หรือ ทุกคนล้วนเป็นหนึ่งเดียว   Mo Ganji อาศัยและทำงานศิลปะของเขาอยู่ในเมืองหลวงของเยอรมัน และผลงานที่มีแรงบันดาลใจของเขาได้โด่งดังและแพร่หลายไปทั่วโลก โดยในอินสตาแกรมของเขามีผู้ติดตามกว่า 2,8900 คนแล้ว   เป็นลายที่ดูมีพลังจริงๆ   คลื่นทะเลที่เหมือนมีชีวิตจริงๆ   แม้แต่สัตว์ก็ก็สามารถสร้างสรรค์ได้ด้วยเส้นเดียว   ภาพภูเขาก็ดูแข็งแกร่ง   รูปสัตว์ก็ดูอ่อนช้อย   แม้แต่รูปผู้หญิงก็ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีมาก   เรียกได้ว่าช่างสักคนนี้สามารถ่ายทอดอารมณ์ออกมาบนลายเส้นเพียงเส้นเดียวได้ดีจริงๆ เชื่อว่าหลายๆ คนต้องจากชมรอยสักสวยๆ จากเขาอีกแน่ๆ ตามไปดูได้ที่อินสตาแกรมนี้เลย moganji ที่มา boredpanda

ข่าวดีสำหรับครอบครัวที่มีเจ้าตัวเล็กและต้องการที่จะเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศ เสียงร้องของพวกเด็กๆ ระหว่างที่เครื่องบินกำลังบินอยู่นั้นคงจะเป็นสิ่งที่กวนใจคุณพ่อคุณแม่และผู้โดยสารคนอื่นๆ อย่างมาก หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลที่สุดก็คือให้พวกเด็กๆ นอนหลับนั่นเอง แต่ว่าการจะนอนหลับในที่นั่งชั้นประหยัดก็ดูจะเป็นเรื่องยุ่งยากเพราะเบาะนั้นมันช่างแคบซะเหลือเกิน ถ้าอย่างนั้นลองใช้เจ้า The Fly LegsUp หมอนรองขาที่จะเปลี่ยนที่นั่งแคบๆ ให้กลายเป็นเปลนุ่ม สำหรับให้เจ้าตัวเล็กได้นอนหลับและไม่ร้องไห้งอแง     The Fly LegsUp นวตกรรมสุดเจ๋งจากประเทศออสเตียเรียที่จะช่วยแก้ปัญหาเด็กน้อยที่ชอบงอแงระหว่างการเดินทางที่ยาวนานบนเครื่องบิน ในหนึ่งชุดสำหรับเด็กจะประกอบด้วย หมอนเป่าลมใบเล็ก 1 ใบ ใบใหญ่ 2 ใบ และถึงสำหรับทำเป็นที่นอนอีก 1 ถุง ซึ่งทั้งหมดนี้มีน้ำหนักแค่ 500 กรัมเท่านั้น ส่วนการทำงานนั้นก็แสนจะง่ายดาย เพียงแค่แขวนถุงไว้กับที่นั่งด้านล่าง และยัดหมอนลงไปแค่นี้ก็จะได้ที่นอนสุดแสนสบายแล้ว   ชมการสาธิตวิธีใช้งานของ The Fly LegsUp ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย   สนนราคาของอุปกรณ์สำหรับเด็กนั้นอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท และนอกจากนี้ยังมีแบบสำหรับผู้ใหญ่อีกด้วย แต่ของผู้ใหญ่นั้นจะมีอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะประกอบด้วยหมอนใบเล็กเพียงแค่ใบเดียวเท่านั้นและราคาอยู่ที่ประมาณ 2,600 บาท คุณ Brionee หนึ่งในผู้ที่เคยได้สัมผัสกับ The Fly LegsUp เล่าถึงความประทับใจของเธอผ่านทางแฟนเพจของผู้ผลิตว่า “ฉันได้ใช้มันระหว่างเดินทางจากออสเตรเลียไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลูกๆ…

กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างล้นหลามภายในสังคมของทั้งชาวเน็ตจีนและชาวเน็ตญี่ปุ่น หลังจากที่ได้เห็นภาพโปสเตอร์รณรงค์ให้ชาวญี่ปุ่นภูมิใจในชาติตัวเอง แต่ทว่าการโปรโมทดังกล่าวกลับมีข้อผิดพลาดที่ซ่อนอยู่ภายใน โปสเตอร์ดังกล่าวเป็นรูปหญิงสาวคนหนึ่งกับธงชาติญี่ปุ่น พร้อมด้วยข้อความ “ฉันดีใจที่เกิดเป็นคนญี่ปุ่น จงโบกธงชาติในใจคุณอย่างภูมิใจ” ถูกติดไว้ทั่วกรุงเกียวโตเมื่อไม่นานมานี้ และกลายเป็นว่าถูกชาวเน็ตจับได้จากการที่พวกเขาได้นำภาพของนางแบบที่ซื้อมาจากเว็บไซต์ขายภาพ Gettyimages โดยรายละเอียดในภาพนั้นบอกว่าเธอเป็นชาวจีน…     ทางเว็บไซต์ Gettyimages ก็ได้ออกมายืนยันกับสำนักข่าว BBC ว่าภาพนี้เป็นภาพที่จำหน่ายในเว็บไซต์จริงๆ และถูกถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 2009 แล้ว ซึ่งหลังจากที่ความจริงปรากฏก็มีหลายคนออกมาแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างดุเดือด แต่ฝั่งที่ดูจะเป็นคนที่เดือดร้อนกับเรื่องนี้สุดๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นชาวญี่ปุ่นผู้รักชาติเนื่องจากประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าจดจำระหว่างจีนกับญี่ปุ่นนั้นยังคงฝังอยู่ในใจของพวกเขานั่นเอง     เว็บไซต์ Sora News 24 ได้รวบรวมความคิดเห็นของชาวญี่ปุ่นต่อภาพในโปสเตอร์รณรงค์ความรักชาตินี้ ซึ่งนี่คือส่วนหนึ่งของความเห็นของพวกเขา   “ผมเป็นชาวเกียวโต สำหรับเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของแหล่งท่องเที่ยวแล้ว การกระทำแบบนี้ผมว่ามันน่าอับอายอย่างมาก” หนึ่งในความคิดเห็นของชาวเกียวโตต่อโปสเตอร์ดังกล่าว     “ฉันอาศัยอยู่ในเกียวโต และได้เห็นโปสเตอร์เหล่านั้นทั่วเมือง ในฐานะของชาวเกียวโตแล้ว เป็นอะไรที่น่าสมเพชมากๆ ถ้าใครเห็นโปสเตอร์นั้นอีก กรุณาบอกให้ฉันได้ทราบด้วย”   “น่ารังเกียจมากๆ พวกเขาคิดว่าติดโปสเตอร์แล้วจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเกียวโตงั้นหรือ? กลับกลายเป็นว่าพวกเขาทำลายชื่อเสียงของเมืองที่สั่งสมมาต่างหากล่ะ”   โปสเตอร์นี้ถูกจัดทำขึ้นโดยคุณ Jinja Honcho จากสมาคมรักชาติของศาลเจ้าชินโต เขาอธิบายถึงเรืองดังกล่าวว่า “โปสเตอร์นี้ถูกใช้โปรโมทถึงความภูมิใจในความเป็นญี่ปุ่นเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ผมอยากจะสื่อให้ผู้คนตระหนักถึงความรักชาติจึงได้จัดทำโปสเตอร์นี้” และเมื่อถูกถามถึงข้อผิดพลาดดังกล่าวทางผู้ผลิตโปสเตอร์ได้บอกว่าพวกเขาไม่ได้มีความกังวลกับเรื่องนี้แต่อย่างใด พร้อมทั้งยังให้เหตุผลอีกด้วยว่า…

Private Jet หรือเครื่องบินส่วนตัว เป็นหนึ่งในการให้บริการสุดหรูที่หลายๆ คนคงจะเคยเห็นจากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในภาพยนต์หรือข่าวกันมาแล้วบ้างแน่นอน ด้วยการให้บริการที่สุดหรูและแสนจะสะดวกสบายทำให้ค่าบริการของมันนั้นแพงมากๆ และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Dreamliner B787 Dreamjet การให้บริการเครื่องบินเจ็ทสุดหรูระดับ VVIP     เครื่องบินเจ็ทสุดหรูลำที่ว่านี้เป็นการดัดแปลงเครื่องบินโบอิง 787 ดรีมไลเนอร์ ให้กลายเป็นเครื่องบินส่วนตัวที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้ โดยราคาในการสร้างนั้นอยู่ที่ 230 ล้านยูโร หรือประมาณ 8,700 ล้านบาท!! ทางบริษัท Deer Jet ได้มีการเปิดตัวการให้บริการสุดหรูบนเครื่องบินลำนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่อยากจะสัมผัสประสบการณ์บินส่วนตัวหรูแบบนี้จะต้องเช่าเหมาลำเท่านั้น สนนราคาค่าบริการของเที่ยวบินนี้อยู่ที่ 20,000 ยูโรต่อชั่วโมงหรือประมาณ 750,000 บาท นั่นหมายความว่าถ้าหากคุณอยากจะเดินทางจากลอนดอนไปนิวยอร์กด้วยเครื่องบินลำนี้ จะต้องจ่ายเงินถึง 6 ล้านบาทเลยทีเดียว     โดยทั่วไปเครื่องบินโบอิ้ง 787 นี้สามารถที่จะบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 335 คนบนพื้นที่กว่า 200 ตารางเมตร แต่ทางผู้ให้บริการได้เนรมิตรให้กลายเป็นเครื่องบินเจ็ทสุดหรูขนาด 30 ที่นั่ง หน้าต่างขนาดใหญ่หลายบานที่อยู่รอบๆ ทำให้แขกได้สัมผัสกับภาพวิวที่สวยงาม นอกจากนี้บนเครื่องยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายอย่างเช่น เตียงนอนสุดหรูถึง 18 เตียง ห้องโถงขนาดใหญ่สำหรับการประชุมและพักผ่อน…

คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สุนัขคือหนึ่งในเพื่อที่ซื่อสัตย์ของมนุษย์ แต่นอกเหนือจากนิสัยของความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนต้องหลงรักมัน นั่นก็คือนิสัยขี้เล่นและความซุกซนที่เหมือนเด็ก บ่อยครั้งที่พวกมันชอบทำตัวแปลกหรือทำหน้าตาแปลก จนบางครั้งเจ้าของอย่างพวกเรายังงงเลยว่านี่แกทำอะไรน่ะเจ้าหมา!! แต่ว่าเรื่องแปลกๆ เหล่านั้นบางทีก็สร้างรอยยิ้มให้เราได้เหมือนกันนะว่าไหม ฮ่า   1. แม่หมาที่หนีลูกๆ มาแอบอยู่ที่อ่างอาบน้ำ อา.. เหนื่อยนักก็พักหน่อย   2. เจ้าหมาทำหน้าฟินๆ อยู่หน้ากระจก หลังจากที่มันเพิ่งเคยส่องกระจกเป็นครั้งแรก   3. ทำไมทำหน้าแบนั้นล่ะ โอย…ไม่รู้จะฮาหรือช่วยก่อนดีเนี่ย   4. สาวน้อยสีขาว มาเยี่ยมเจ้าหนุ่มสีน้ำตาล และส่งจูบให้กันทุกวัน เห็นแล้วเขิ้นเขิน!!   5. กวางน้อยกับอ้อมกอดอันอบอุ่นของเจ้าตูบ   6. แหม่ ยิ้มใหญ่เลยน้า คุณพ่อคุณแม่มือใหม่   7. โอเคพวก ขอรูปหน้าตรงหนึ่งรูปนะ กว่าจะได้ -*-   8. สงสัยว่าจะมีหนุ่มให้มาสินะ ดูดิคาบไปยิ้มไป ฟินเลยใช่ไหมล่ะเจ้าหมาน้อย   9. ง่าา… เค้าอยากออกไปเล่นกับเพื่อนๆ อ่ะ  …

พูดถึงการถูกวิ่งราวหรือชิงทรัพย์ ถ้าหากเกิดขึ้นกับใครแล้วย่อมไม่ใช่เรื่องตลกแน่นอน นอกจากจะเสียทรัพย์แล้วยังต้องมาเสียขวัญอีกด้วย แต่ไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์การชิงทรัพย์นี้จะเป็นเรื่องตลกขึ้นมาได้ เมื่อพี่โจรท่านหนึ่งได้ขโมยโทรศัพท์ของหญิงสาว และกำลังวิ่งสุดชีวิตเพื่อที่จะหนีให้รอดจากการถูกจับ แต่บังเอิญไม่รู้ว่าพี่แกรีบหรืออย่างไร ดันวิ่งมาผิดทางซะนี่ งานนี้คุณตำรวจแทบจะไม่ต้องออกแรงเลย   วินาทีที่หญิงสาวถูกกระชากมือถือ   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ชายคนหนึ่งได้มองหาเหยื่อเพื่อที่จะทำการขโมยโทรศัพท์ เมื่อพบเหยื่อแล้ว โจรใจกล้าไม่รอช้าวิ่งเข้าไปและกระชากโทรศัพท์จากมือหญิงสาวทันที เมื่อถูกขโมยมือถือไป หญิงสาวก็วิ่งตามหัวขโมยด้วยสัญชาตญาณ แต่ก็ยังไม่ทันจะเหนื่อย การตามล่าก็จบลงภายในไม่ถึง 10 วินาที เพราะด้วยความเซ่อหรือความมือใหม่ก็ไม่รู้ พี่โจรแกดันวิ่งเข้าไปในสถานีตำรวจซะนี่ งานนี้พี่ตำรวจเลยแทบไม่ต้องออกแรงเลย   ลองไปชมการจับกุมได้โดยละม่อมของจริง กันเลย   และเมื่อคลิปวีดีโอนี้ถูกเผยแพร่ไปชาวเน็ตก็ได้เข้ามาคอมเม้นต์ ชื่นชมความดีของพี่โจรคนนี้กันยกใหญ่ และนี่คือคอมเม้นบางส่วนของชาวเน็ตหลังจากได้ชมคลิปดังกล่าว “เจ้าโจรโง่ ตำรวจแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยนะเนี่ยแค่อยู่เฉยๆ รอ ฮ่าๆ” “เขาน่าจะวิ่งเข้าห้องขังด้วยเลยนะ ฮ่าๆ” “เขาน่าจะรู้สึกผิดไปนานเลยนะเนี่ย”   นี่ก็อีกคน ก็คงความรู้สึกไม่ต่างกัน ฮ่าๆ ไม่รู้ว่าจะมอบคำไหนให้กับพี่โจรคนนี้จริงๆ จะขำหรือสงสารดีเนี่ย ที่มา shanghaiist 

การใช้ชีวิตคู่เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การจะทำให้ความรักมั่นคงตลอดรอดฝั่งต้องใช้ความเข้าใจและความพยามของคนทั้งสองคน แต่ถ้าหากเมื่อใดที่ความรักจืดจางลงไป อาจเพราะความไม่เข้าใจหรือเรื่องเล็กน้อยที่สะสมมาอย่างยาวนาน อาจจะทำให้คู่รักที่ถึงแม้จะแต่งงานกันแล้วสามารถที่จะหย่าร้างกันได้ เหมือนเช่นคู่รัก Victoria Baldwin และ Adam Dyson ที่ต้องเลิกรากันไป แต่ถึงแม้ว่าความรักที่มีต่อกันจะหมดลงไปแล้ว หน้าที่ของความเป็นพ่อและแม่นั้นไม่ได้จบไปพร้อมกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่…     ถึงแม้ว่าตอนนี้ทั้งคู่จะหย่ากันไปแล้ว แต่ในทุกๆ ปีพวกเขาจะมาพบกันและจ้างช่างภาพ เพื่อถ่ายรูปคู่กันพร้อมกับลูกน้อยที่น่ารักของพวกเขา ทั้งคู่ทิ้งเรื่องราวแย่ๆ ไว้ข้างหลังและทำหน้าที่ของพ่อแม่ร่วมกับลูกน้อยของพวกเขา เธอแบ่งบันเรื่องราวดีๆ นี้ผ่านทางเฟสบุ๊คโดยใช้ชื่อว่า Love What Matters และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีผู้แชร์เรื่องราวของเธอกว่า 1,500 ครั้งและถูกใจอีกถึง 15,000 คน   รูปและข้อความที่เธอแชร์ 2 รูปด้านบนคือตอนที่ทั้งคู่แต่งงานกันใหม่ๆ ส่วนสองภาพด้านล่างคือภาพหลังจากที่หย่ากันแล้วประมาณ 1-2 ปี   เธอเล่าถึงสิ่งที่ทำในทุกๆ ปีกับอดีตสามีและลูกน้อยของเธอว่า “พวกเราอาจจะไม่ได้รักกันแล้ว เรื่องนั้นเราทั้งคู่รู้ดี และบางครั้งพวกเราก็ไม่ใช่เพื่อนที่ดีต่อกันด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เรายังไม่ลืมก็คือ เราทั้งคู่มีลูกตัวเล็กน่ารัก เค้ายังเด็กมากและเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส ชีวิตคู่ของเราทั้งสองอาจไม่สมบูรณ์แบบนัก แต่ลูกของเราไม่ควรเป็นคนที่ต้องมารับความไม่สมบูรณ์แบบนั้นด้วย เค้าควรที่จะได้รับการดูแลที่อบอุ่นและความรักจากพ่อและแม่ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราทั้งคู่มาพบกันปีละครั้งและจ้างช่างถ่ายภาพเก็บภาพแห่งช่วงเวลาดีๆ นี้ไว้ นอกจากนี้เรายังนำภาพครอบครัวของเราไปติดยังห้องนอนของลูกด้วย ลูกของเราอาจจะไม่ได้เติบโตมาในบ้านที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่ด้วยกัน แต่เขาจะเติบโตด้วยความรักและการเอาใจใส่ที่ดีที่สุดจากพ่อและแม่ของเขา และวันหนึ่งเค้าจะเข้าใจว่าคนเราสามารถที่จะเลิกรากันได้ แต่ไม่สามารถที่จะเลิกบทบาทที่สำคัญอย่างความเป็นพ่อและแม่ได้”   …

หลอดดูเหมือนว่าตอนนี้เทคโนโลยีของมนุษยชาติจะล้ำไปอีกขั้น เพราะล่าสุดได้มีการรายงานว่า ทีมนักวิทย์ฯ จากเยอรมัน สามารถสร้างพระอาทิตย์จำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้สำเร็จ หรือที่เรียกว่า ‘Synlight’ ซึ่งพลังงานความร้อนของมัน มากพอที่จะแผดเผาทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากองได้ภายในพริบตา แต่โชคดีที่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของการสร้าง เพราะพวกเขาต้องการที่จะนำมาใช้ในการศึกษาด้านพลังงานทดแทนต่างหากล่ะ   Synlight   พระอาทิตย์จำลองดังกล่าวถูกสร้างขึ้นจากหลอดไฟซีน่อนแบบ Short Arc Lamps (ชนิดเดียวกับไฟหน้ารถ) ทั้งหมด 149 หลอด แต่ละหลอดมีขนาดประมาณ 20×20 ซม. ที่สำคัญมันสามารถผลิตพลังงานความร้อนได้มากกว่าที่แสงอาทิตย์ส่องมายังโลกถึง 1,000 เท่า พูดง่ายๆ ว่ามันสามารถสร้างความร้อนได้สูงถึง 3,000 เซลเซียส เผาเหล็กกล้าให้หลอมละลายได้เลย     หลอดไฟชนิดนี้ยังเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในโรงหนัง ซึ่งโรงหนังขนาดใหญ่ก็ต้องการหลอดไฟแบบนี้แค่ดวงเดียวเท่านั้น ลองคิดดูสิว่านี่เล่นเอามารวมกันตั้ง 149 หลอด มันจะร้อนแรงขนาดไหน… โดยทีมนักวิทยศาสตร์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ‘ไฮโดรเจนคือธาตุที่สำคัญที่สุดในจักรวาล แต่ธาตุไฮโดรเจนแท้ช่างหายากเหลือเกินบนโลกเรา และเราก็หวังว่าพระอาทิตย์จำลองนี้จะช่วยให้เราผลิตพลังงานดังกล่าวให้เราได้มากขึ้น’     โครงการพระอาทิตย์จำลองนี้ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 2 ปี และใช้งบประมาณไปทั้งหมด 129 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จครั้งแรกของมนุษย์ ที่สามารถสร้างเครื่องมือช่วยผลิตไฮโดรเจนบริสุทธิ์ได้…

ตอนนี้ใครที่กำลังว่างๆ เตะฝุ่นเล่นๆ หรือรู้สึกอยากจะนอนหลับอย่างเดียวไม่อยากลุกไปไหน เรามีข่าวดีมาประกาศจากทีมวิจัยประจำสถาบันการแพทย์อวกาศ ประจำประเทศฝรั่งเศส โดยตอนนี้ทีมวิจัยกำลังประกาศรับสมัคร อาสาสมัครที่จะมาดำรงตำแหน่งมาเป็นผู้นอนหลับแบบยาวๆ 2 เดือน รับเงินตอบแทนเป็นมูลค่า 590,000 บาทกันเลยทีเดียว!!     สถาบันดังกล่าวมีชื่อเต็มว่า Institute for Space Medicine and Physiology โดยคุณสมบัติของผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 22 – 27 ปี ไม่มีประวัติสูบบุหรี่ ไม่มีประวัติอาการแพ้ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และต้องผ่านการทดสอบทั้งก่อนและหลังจากหลับยาวทั้ง 2 เดือน Dr. Arnaud Beck หนึ่งในหัวหน้าทีมวิจัยให้สัมภาษณ์ว่า ‘จุดประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้ ก็เพื่อศึกษาสภาวะไร้น้ำหนักในสถานีอวกาศ โดยช่วง 2 อาทิตย์แรกนักวิทยาศาสตร์จะทำการตรวจวัด และทดสอบ สภาพร่างกายของอาสาสมัครก่อน หลังจากนั้นตลอดระยะเวลาทั้ง 60 วัน อาสาสมัครจะต้องนอนอยู่บนเตียงเพียงอย่างเดียว และศรีษะต้องเอียงลงต่ำกว่า 60 องศา ตลอดทั้ง 2 เดือน’     บางคนอาจจะงงว่าแล้วตลอด 60 วัน ไม่ต้องกินข้าว…

หากการใส่เสื้อผ้ารัดรูปให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเรื่อนร่างไม่ใช่ทางของคุณ แสดงว่าคุณมาถูกทางแล้ว ก็การใส่เสื้อหลวมๆ มันทั้งสบายแถมยังเท่อีกด้วย สาวๆ ต้องมีไอเทมนี้ติดห้องไว้บ้างแหละ ในบทความนี้เราจะพาสาวๆ ไปชม 37 ไอเดียในการใส่เสื้อยืดโคร่งๆ ใส่สบายแถมยังเท่ไม่เบาอีกด้วย จะเท่สะดุดตาขนาดไหนไปชมกันเลย 1. การใส่เสื้อยืดตัวโคร่งสกรีนลายวินเทจและถุงเท้าคู่ใจ การแต่งตัวแนวสปอร์ตดูสบายและเรียบง่ายนี้เป็นอีกทางเลือกที่แต่งได้ง่ายแต่เท่สุดๆ   2. เสื้อสกรีนตัวเลขกับกางเกงลายสัตว์ ดูมีความสปอร์ตผสมกับแฟชั่นดูเข้ากันได้ดีเลยทีเดียว   3. เสื้อตัวใหญ่ใส่กับกระโปรงสั้น ลองเก็บชายเสื้อเข้าในกระโปรงก็ทำให้ดูขาเรียวยาวขึ้นนะ   4. เสื้อตัวใหญ่สกรีนตัวเลขใส่กับกางเกงดำขายาว ดูเป็นสาวทะมัดทะแมงขึ้นมาเลย   5. เสื้อคอกว้างเปิดไหล่คู่กับกระโปรงยาวดูเรียบหรูดีนะ   6. เสื้อคว้านคอวีดูเซ็กซี่กับกระโปรงหนังสั้นๆ ดูดีเข้ากันสุดๆ   7. ลองใส่คาดิแกนทับเสื้อด้านในก็ดูเรียบๆ เหมาะกับวันสบายๆดีนะ   8. เสื้อตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์ตัดสั้น เซ็กซี่สุดๆ กับการใส่กางเกงยีนส์ตัดขาแบบนี้   9. ลองใส่กระโปรงสไตล์เมทัลลิคคู่กับเสื้อยืดตัวโปรดก็เพิ่มสีสัน ให้ดูไม่จืดได้นะ   10. ใส่เสื้อสูทเก๋ๆ ดูเป็นชุดใส่ทำงานที่เท่และเก๋กว่าสาวๆ คนไหนในออฟฟิตแน่นอน   11. ใส่เสื้อกับกระโปรงพลีทสั้น อย่างกับสาวไฮสคูลเลยล่ะ   12.…

เวลาดูหนังไซไฟ หลายคนอาจเคยเห็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถตอบคำถามผู้ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว แถมยังมีหน้าตาเป็นของตัวเองเหมือนกับคนจริงๆ ซึ่งมันอาจดูเป็นเรื่องล้ำยุค แต่เชื่อหรือไม่ในยุคปัจจุบัน เราก็มี “แชทบอท” ที่สามารถตอบคำถามและมีหน้าตาของตนเอง แม้จะไม่เหมือนในหนังซะทีเดียว แต่ใกล้เคียงกันพอสมควรเลยล่ะ     แชทบอทดังกล่าวเป็นผลงานของบริษัท Soul Machines ของศาสตราจารย์ Mark Sagar ผู้อยู่เบื้องหลังแอนิเมชั่นเลียนแบบมนุษย์ในหนังเรื่อง Avatar และ King Kong พวกเขาได้พัฒนาแอนิเมชั่นที่สามารถแสดงอารมณ์บนใบหน้าได้ซึ่งจะนำไปใช้กับแชทบอทบริการลูกค้า Sagar กล่าวว่า การที่เราสามารถสื่อสารกับแชทบอทที่มีหน้าตาเหมือนมนุษย์แบบนี้ จะทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพเหมือนกับการคุยกับคนจริงๆ ซึ่งมันดีกว่าการคุยตอบโต้กับด้วยข้อความธรรมดาๆ     ผลงานที่ผ่านมาของบริษัท Soul Machines ก็อย่างเช่น Nadia ซึ่งเป็นแชทบอทของรัฐบาลออสเตรเลีย ให้เสียงโดยนักแสดงสาวชื่อดัง Cate Blanchett และประมวลผลโดยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ Watson จากบริษัท IBM และตอนนี้พวกเขากำลังพัฒนาแชทบอทอีกตัวในชื่อว่า Rachel ซึ่งจะนำไปใช้งานในธนาคารในอนาคต     สำหรับการแสดงอารมณ์บนใบหน้า คอมพิวเตอร์จะจำลองการเคลื่อนไหวอวัยวะ กล้ามเนื้อ และเนื่อเยื่อบนใบหน้าของ จากนั้นมันก็จะทำการวิเคราะห์อารมณ์ของคู่สนทนาก่อนจะแสดงสีหน้าออกมาให้เหมาะสมกับอารมณ์ของคู่สนทนาในขณะนั้น   ลองไปชมคลิปเรื่องราวของ Nadia กันดีกว่า   ไม่แน่นะว่า ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นคอมพิวเตอร์มาทำงานบริการลูกค้าได้จริงๆ ที่มา technologyreview

ในเวลาที่เร่งรีบแบบนี้ ไม่ว่าจะตื่นสาย รถติดหรือติดงานจนไม่มีเวลาแม้แต่จะกินข้าว เพื่อนๆ น่าจะมีอาหารที่พกพาไปที่ไหนก็ได้และสะดวกต่อการกินนะ ครั้งนี้เราจะพาเข้าครัวไปทำอาหารง่ายๆ ที่ไม่ใช้แม้แต่เตาอบแถมอร่อยอยู่ท้อง จะง่ายแค่ไหนไปดูส่วนผสมกันดีกว่าจ้า     ส่วนผสม (สำหรับ 8 แท่ง) น้ำผึ้ง ½ ถ้วยตวง เนยถั่ว ½ ถ้วยตวง ซีเรียลข้าวโอ๊ต 3 ถ้วยตวง โยเกิร์ตชิป 1 ถ้วยตวง (เหลือไว้ ½ ถ้วยตวง สำหรับทำละลาย) (ถ้าหาไม่ได้ใช่ ไวท์ช็อกโกแลตแทนก็ได้นะ) อัลมอนด์สับ ½ ถ้วยตวง แครนเบอร์รี่อบแห้ง 1 ถ้วยตวง น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชา   วีธีทำก็แสนง่ายมากๆ ไปทำกันเลยจ้า อย่างแรกเรามาผสมน้ำผึ้งและพีนัทบัตเตอร์ให้เข้ากันก่อนนะ   ส่วนอีกชามเราจะผสมซีเรียลข้าวโอ๊ต โยเกิร์ตชิปแค่ ½ ถ้วยตวง อัลมอนด์สับและแครนเบอร์รี่อบแห้ง คนๆ ให้เข้ากัน   จากนั้นนำส่วนผสมทั้งสองชามมาคนให้เข้ากัน จะหนืดๆ หน่อยนะ…

Luu Cong Huyen ชายวัย 58 ปีจากเวียดนามเวียดนามคนนี้ ภายนอกเขาอาจดูเหมือนกับคนทั่วไป ตราบเท่าที่ท่านยังไม่ได้เห็นเล็บของเขา เพราะมันยาวถึง 55 เซนติเมตร ซึ่งเขาไว้มาแล้วกว่า 35 ปี หลายคนอาจสงสัยว่า Luu Cong Huyen ไว้เล็บไปทำไม ถ้าคุณกำลังคาดหวังคำตอบแบบที่ซาบซึ้งกินใจ ขอบอกว่าไม่มีทำนองนั้นเลยแหละ “ก็เหมือนกับที่คนอื่นเลี้ยงนก ปลูกต้นไม้ สะสมรถเก่า ส่วนผมก็แค่ชอบไว้เล็บยาว จริงๆ การไว้เล็บนี่ยากกว่าเลี้ยงลูกอีกนะ ผมต้องระวังมากๆๆๆ เลย เวลาจะทำอะไรแต่ละอย่าง”     ที่บอกว่าดูแลยากนั้นเขาไม่ได้พูดเล่น แม้มันจะดูหนา แต่จริงๆ มันแตกหักง่ายมาก โดยเฉพาะเวลาที่มันเปียก เขาจึงพยายามเลี่ยงการโดนน้ำไม่ว่าจะกรณีใดๆ (รวมถึงการอาบน้ำ เอ่อ..) เวลาออกนอกบ้านแล้วฝนตก เขาก็จะเอาถุงพลาสติกครอบมือไว้     เมื่อเป็นดังนั้น ทำให้ภรรยาของเขา Nguyen Thi Thuan ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเสมอๆ ทั้งป้อนข้าว สวมเสื้อผ้า และอื่นๆ อีกมากมาย    …

ปกติถ้าเราไปซื้อฟืนมาก่อไฟ เราก็จะเจอฟืนลักษณะเป็นแท่งๆ หรือไม่ก็เป็นก้อนเล็กๆ ซึ่งมันก็ไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจอะไร แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ “หัวกะโหลกก่อไฟ” ที่จะมาทำให้การก่อไฟของเพื่อนๆ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป หัวกะโหลกก่อไฟดังกล่าวเป็นผลงานของ  “Formation Creations” โดยตัวกะโหลกจะทำมาจากเซรามิก ทำให้ไม่ติดไฟ วิธีการใช้งานก็แค่คุณนำไปวางบนกองไฟที่คุณก่อไว้ เท่านี้คุณก็จะได้กองไฟที่เจ๋งราวกับหลุดออกมาจากหนังแฟนตาซีเลยทีเดียว     เหมาะกับบ้านไหนที่ต้องการจัดปาร์ตี้ในธีมวันฮาโลวีน   เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ Amazon ในราคา 65 ดอลลาร์หรือราว 2,200 บาทต่อชิ้น มีให้เลือก 4 สีได้แก่ ดำ ขาว เทา และ น้ำตาล   น่าหามาใช้ซักอันมั้ยล่ะเพื่อนๆ . . . . .   รับรองว่างานปาร์ตี้ของเพื่อนๆ จะสนุกขึ้นอย่างแน่นอน ที่มา Formation Creation Inc., Boredpanda

เคยสงสัยมั้ยว่าถ้าเอาเจ้าหญิงดิสนีย์ทุกคนมารวมในเรื่องเดียวกันมันจะเป็นยังไง? เราว่ามันต้องตบแย่งผู้ชายกันแน่เลยแกร๊!! แต่ดูมีเค้าจะกลายเป็นความจริงซะแล้วสิ เพราะล่าสุดทางเว็บไซต์ TrackingBoard ได้ออกมาเผยว่า ดิสนีย์มีแพลนที่จะเอาเหล่าเจ้าหญิงผู้เลอโฉมมารวมทีมกัน ให้เหมือนกับว่าเป็น อเวนเจอร์เวอร์ชั่นเจ้าหญิง   ลองนึกภาพนะว่ากลุ่มสาวงามที่ยืนเรียงอย่างกับมาประกวดเดอะเฟซแบบนี้   จะมารวมจักรวาลเดียวกัน และอาจจะกลายมาเป็นแบบนี้(เฮ้ย! อะไรว๊าาา)   โดยทางเว็บไซต์ต้นฉบับอ้างว่า ตอนนี้มือเขียนบท Nir Paniry ได้เขียนบทหนังของเรื่องนี้เก็บไว้นานแล้ว โดยใช้ชื่อโปรเจคนี้ว่า ‘Princesses’ และบทหนังเรื่องนี้ก็ได้ถูกส่งไปให้ค่ายหนังดังต่างๆ พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าถ้าหากทาง วอลต์ ดิสนีย์ ได้ซื้อบทหนังเรื่องนี้ไป ตามสัญญาได้ระบุว่าพวกเขาจะได้ Joachim Ronning ผู้กำกับหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean: Dead Men Tall No Tales มาเป็นคนกำกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีข้อมูลว่าหนังจะออกมาประมาณไหน มีเจ้าหญิงคนไหนมาร่วมจักรวาล ตัวร้ายจะเป็นใคร พวกเธอจะมารวมตัวกันเพื่ออะไร แต่ก็ดูเหมือนว่าความฝันของแฟนๆ ดิสนีย์ที่จะได้เห็นพวกเธอมารวมกันจะกลายเป็นความจริงเข้ามาทุกทีแล้วละ   มู่หลานนี้ต้องมาแนวฮอว์คอายแน่เลยแกร๊!!   จะว่าไปแล้วในเชร็คภาค 3 ก็มีการรวมตัวของเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้ง 5 คนมาแล้วเหมือนกันนะ  …

ถ้าพูดถึงดราก้อนบอลตัวละครที่หลายคนคิดถึงเป็นอย่างแรกก็คงจะไม่พ้นโกคู เบจิต้า หรือ พิโกโร่ อะไรทำนองนี้เป็นต้น แต่เราจะรู้กันไหมว่าวันที่ 20 มีนามคม เป็นวันคล้ายวันเกิดของอีกหนึ่งตัวละครสุดสำคัญที่มีบทบาทมาตั้งแต่เริ่มเรื่อง เขาคนนั้นก็คือ ท่านหยำฉา ยังไงล่ะ ด้วยเหตุนี้เราจึงจะมาแสดงความคิดถึงและความรู้สึกที่ดีต่อตัวละครตัวนี้กัน โดยเราจะไปดูท่านหยำฉาในอิริยาถที่เป็นเอกลักษณ์ของเขากัน นั่นก็คือท่า “นอนตาย” ซึ่งถ้าใครไม่รุ้ว่าท่านหยำฉาทำไมถึงนอนตายแบบนี้ และทำไมเขาถึงสำคัญนัก สามารถกดได้ที่ลิ้งนี้เลย หยำฉากลายเป็นตัวเอก     และด้วยท่าประจำตัวของเขา ก็ได้มีคนเกิดไอเดียและชื่นชอบในตัวท่านหยำฉาสร้างแอคเคาท์อินสตาแกรมขึ้นมาชื่อว่า yamchaisdead ซึ่งภาพของเขาก็จะเป็นการนำตุ๊กตาฟิกเกอร์ของท่านหยำฉาในท่าประจำตัว ไปนอนตายอยู่ทั่วจุดต่างๆ ในเมืองนิวยอร์ก ว่าแต่เขาจะไปนอนตายที่ไหนบ้างนั้นมาดูกันเลยดีกว่า   Times Square   ในอีกมุมหนึ่งของ Times Square     Hell’s Kitchen   ย่าน Dumbo   East Harlem   Marcy Avenue สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในนครนิวยอร์ก   บริเวณ Korean Town   สถานี Spring St…

สาวๆแต่ละคนก็ต่างมีสเปกที่แต่งต่างกันออกไป บ้างก็ชอบหนุ่มผมยาว บ้างๆก็ชอบหนุ่มผมสั้น แต่ทรงที่กำลังมาแรงที่สุดตอนนี้ของหนุ่มๆ คงหนีไม่พ้นทรงบันที่น่ารักน่าชัง ทำเอาสาวๆขาอ่อนกันไปตามๆกัน วันนี้ #เหมียวหน่า ได้สืบเสาะหาหนุ่มๆ ทรงบันน่าฟัด จนได้ไปเจอกับอินสตาแกรมรายหนึ่งที่รวบรวมหนุ่มๆ ทรงบันไว้เยอะแยะเลยทีเดียว พูดมากน้ำลายไหลเราไปชมกันเลยดีกว่าจ้าาา   โอยยยยยอะไรจะกล้ามแน่นขนาดนั้น เห็นแล้วอยากให้เข็นเราบ้าง   อยากเป็นแมว   ต่ำอีกนิดได้มั้ยล่ะ   หล่อแล้วยังทำอาหารเก่งอีก พ่อของลูกเลย   ขนหนวดแน่นมาก เซ็กซี่สุดๆ   หล่ออบอุ่นมากเลยจ้า โดนใจ   หล่อเท่ห์สุดๆ อะ   คราวนี้อยากเป็นหมาแทนแล้วละ   อยากไปเที่ยวกับเธอจังเลย   หนุ่มทรงบันนี่น่ารักสุดๆ   ถอดเลย!! ถอดเลย!! ถอดเลย!!    ห้องน้ำสวยมากๆเลยอยากไปเยี่ยมชม   โอ้ยยยยยหนุ่มผิวสีจ้าา เข้มดีแท้   ชอบคนมีรอยสักครับ   อยากเป็นหมาให้เธอจูง   กางเกงดูท่าจะคับเกินไปนะ   Ourdoor…

เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้าหมาเผือกตัวจิ๋วที่ชื่อว่า Lucky น้องเล็กสุดของครอบครัวเพียงตัวเดียวที่รอดชีวิตมาได้จากความลำบากข้างถนน แม้แต่คนที่เข้าไปช่วยเหลือก็แทบจะไม่เชื่อว่ามันจะรอดชีวิตมาได้ ด้วยขนาดร่างกายที่เล็กผิดปกติ และโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้มันกลายเป็นหมาเผือกตัวจิ๋ว แถมสายตายังแพ้แสงอีกต่างหาก   โฉมหน้าของเจ้า Lucky ตอนที่มันถูกช่วยมาครั้งแรก   หลังจากที่ Clanay Reza ได้ช่วยเหลือมันมา เธอก็ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลฟูมฟักมันด้วยความห่วงใยและความรัก แต่เมื่อมันเริ่มโตขึ้นเธอจึงสังเกตเห็นความผิดปกติ นอกจากมันเป็นเผือกแล้วยังมีอาการไม่สู้แสงแดด หลังจากไปให้คุณหมอตรววจ ก็ว่าดวงตาของเจ้า Lucky นั้นแพ้แสง ซึ่งเกิดมาจากโรคผิวเผือกในสุนัข ทำให้มันกลายเป็นหมาน้อยที่มีขนาดตัวเล็กเหมือนแมว และต้องการความรักเหมือนลูก   ‘เจ้าลัคกี้มันไม่ต้องการอะไรไปมากเท่าการได้เล่น ทุกวันมันจะวิ่งวนไปวนมาแถวบ้านและดูมันมีความสุขมากๆ เลยค่ะ’   หลังจากที่เธอรู้ว่าเจ้าตูบตาแพ้แสง เธอก็รีบจัดการสั่งตัดแว่นกันแดดที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อมันโดยเฉพาะ   ‘ฉันพยายามที่จะควบคุมไม่ให้มันออกไปเล่นนอกบ้านบ่อยเกินไป เพราะคุณหมอบอกว่ามันเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังมากกว่าสุนัขตัวอื่นๆ แต่ดูเหมือนมันจะชื่นชอบการออกไปเล่นนอกบ้านเป็นชีวิตจิตใจ ฉันเลยตัดแว่นกันแดดให้มันซะเลย’ Clanay เล่า   ถึงแม้ว่าดวงตาของมันจะไม่ค่อยดี แต่นั่นก็ไม่สำคัญเพราะตอนนี้มันมีทั้งแว่นกันแดดที่ทำออกมาจากใจ และเจ้านายที่คอยดูแลมันอย่างใกล้ชิด   ทุกวันนี้เวลาออกไปไหนละแวกบ้าน คนแถวนั้นก็มักจะออกมาทักทาย และเล่นกับมันเสมอ ก็แหม่… น่ารักซะขนาดนี้ใครจะอดใจไหว   ตอนใส่แว่นดำนี่โคตรเฟี้ยวไปเลยครับลูกเพ่!! ที่มา: TheDodo

นับว่าเป็นอีกเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญเป็นอย่างยิิ่ง โดยเมื่อวัน 4 มีนาคม สำนักข่าว Metro และ Coventry Telegraph รายงานว่า ตำรวจได้เข้าจับกุมคุณพ่อวัย 54 ปี (ไม่สามารถบอกนามได้) ข่มขืนลูกสาววัย 16 ปี หลังเธอมาปรึกษาเรื่องรสนิยมทางเพศ     โดยเหตุการณ์เริ่มหลังจากที่ลูกสาวเข้ามาขอคำปรึกษาพ่อ เกี่ยวกับเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเธอเอง แต่แล้วเมื่อพ่อพบว่าลูกเป็นเลสเบี้ยน จึงบันดาลโทสะทำการข่มขืนเธอ โดยอ้างว่า ‘ต้องการสอนให้รู้ว่ามีเซ็กส์กับผู้ชายยังไงก็ดีกว่า’ หลังเกิดเหตุลูกสาวได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้คนร้ายถูกจับกุมทันที เมื่อตำรวจสืบประวัติพบว่าก่อนหน้านี้ คนร้ายเคยข่มขืนลูกสาวของตนมานานหลายปีแล้ว   ล่าสุดศาลได้ตัดสินให้คนร้ายจำคุก 21 ปี ฐานก่อเหตุข่มขืนมาแล้วมากถึง 3 ครั้ง   ผู้พิพากษา Andrew Lockhart ได้ให้การในชั้นศาลว่า ‘ลูกสาววัย 16 ปี พบว่าตนเองเป็นเลสเบี้ยน และสับสนกับการค้นหาตัวตนของเธอเหมือนหลายๆ คนในช่วงวัยนี้ เธอเลือกที่จะมาขอคำปรึกษาคุณ แต่คุณกลับใช้บันดาลโทสะข่มขืนเธอ โดยอ้างว่าจะสอนให้เธอเข้าใจว่าทำไมถึงควรมีเซ็กส์กับผู้ชาย การกระทำครั้งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่เลวทราม และเป็นความอัปยศอดสู ศาลจึงขอตัดสินให้ชดใช้โทษเป็นเวลา 21 ปีเต็ม’  …

อุตสาหกรรมด้านพลังงานก็จัดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการเป็นอยู่ของมนุษย์เราเหมือนกัน โดยเฉพาะในยุคโพสต์โมเดิร์นแบบนี้ ดูเหมือนหลายประเทศที่พัฒนาแล้วต่างก็เร่งพัฒนาหาพลังงานทดแทนจากธรรมชาติกันยกใหญ่ และล่าสุดประเทศเนเธอร์แลนด์ เค้าก็ได้พัฒนาไปไกลอีกขั้น หลังจากมีการประกาศใช้ ‘พลังงานลม’ สำหรับขับเคลื่อนรถไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ โอ้ววโหวว!!   ‘นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป ทุกระบบรถไฟฟ้าของเราจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานลมครับ’ โฆษกการรถไฟ Ton Boon ให้สัมภาษณ์   โดยโครงการดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่างการรถไฟของภาครัฐ และบริษัทผู้ผลิตพลังงานเอกชนรายใหญ่ Eneco ทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมกันปรับเปลี่ยนพลังงานการเดินรถจากเชื้อเพลิงดีเซล มาเป็นการใช้พลังจากกังหันลมแทน ซึ่งในขั้นตอนการผลิตไฟฟ้านั้นกังหันลม 1 ตัวจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 1.2 พันล้านวัตต์/ชั่วโมง และนั่นมันก็มากพอสำหรับที่จะให้รถไฟฟ้าวิ่งเดินทางได้ไกลถึง 190 กิโลเมตรเลยล่ะ อีกทั้งตอนนี้พวกเขายังได้วางแผนพัฒนาระบบการผลิตพลังงานลม เพื่อนำไปใช้กับระบบไฟฟ้ารูปแบบอื่นๆ เช่น สำหรับสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น   และที่สำคัญเนเธอร์แลนด์จะกลายเป็นประเทศแรกในโลก ที่สามารถเปลี่ยนมาใช้พลังงานกังหันลมกับรถไฟฟ้าได้สำเร็จ อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วยนะ   นอกจากจะมีระบบขนส่งที่ดี (กว่าบ้านเรา) แล้ว ยังไม่ก่อมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมอีก ประชากรเค้าชีวิตดี๊ดีเนาะ ที่มา: TheGuardian

ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมถูกทำลายโดยน้ำมือมนุษย์ นับว่าเป็นปัญหาที่ยังคงแก้กันไม่ตกจริงๆ ไม่ใช่แค่คนที่ทำอาชีพเป็นนายพรานล่าสัตว์ หรือผู้รับจ้างตัดไม้เพื่อนายทุนเท่านั้น เพราะแม้แต่พวกเราเองที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองก็มีส่วนในการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทางอ้อมเหมือนกัน วันนี้เราจะพาไปชมหนังสั้นแบบสต๊อปโมชั่นที่สร้างขึ้นโดยกลุ่ม ‘DDB New York’ เพื่อนำไปฉายที่งาน ‘Wildlife Conservative Film Festival’ โดยเนื้อหาจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวการถูกล่าของสัตว์ 3 สายพันธุ์ ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ขึ้นทุกที่ นอกจากจะเป็นหนังสั้นที่มาในรูปแบบสต๊อปโมชั่นแล้ว เรียกได้ว่าอาจจะทำให้แฟนๆ ที่ชอบติดตามผลงานของ ‘Les Misérables’ ถึงกับกรี๊ดแตกได้เลย เพราะหนังสั้นเรื่องนี้ได้นำเพลง ‘I Dreamed a Dream’ มาใช้เล่าเรื่องด้วย เอาเป็นว่าเราไปชมผลงานหนังสั้นที่จะช่วยทำให้เราตระหนักถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติมากยิ่งขึ้น กันเลยดีกว่า…     เราตามไปดูปฏิกริยาของชาวเน็ตทั่วโลก หลังจากได้ชมหนังสั้นเรื่องนี้กันบ้าง…   ‘มนุษย์เรานี่เป็นสปีชีส์ที่แย่ที่สุด พวกเราเป็นคนทำลายทุกสิ่งอย่าง!!’   ‘ปกติไม่มีอะไรที่ทำให้ฉันร้องไห้ได้หรอกนะ ยกเว้นก็แต่อันนี้แหละ…’   ‘ฉันถึงกับร้องไห้ นี่เป็นเรื่องเศร้าเพราะมนุษย์เราแย่ที่สุด’   ‘นับว่าเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยดูมาเลยล่ะ’   ‘ฉันร้องไห้ให้กับแรด แมวน้ำ และนก’   เป็นเรื่องจริงนั่นแหละที่เราทุกคนคือส่วนหนึ่งของการทำลายธรรมชาติ และมันก็เป็นหน้าที่ของเราทุกคนเช่นกัน ที่จะช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ให้โลกนี้น่าอยู่…

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยเรื่องราวสุดสลดที่เกิดขึ้น ณ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ Jeremy Rainsford และ Emma Granger ผู้เป็นพ่อแม่จากเมืองเพิร์ธกำลังอยู่ในช่วงที่ใจสลาย หลังได้สูญเสียลูกชายวัยเพียง 3 เดือนไป เหตุเพราะปล่อยลูกไว้ที่เปลชิงช้า หลังเดินไปเข้าห้องน้ำเพียงนาทีเดียว     ทางด้าน Jeremy ได้ออกมาเผยว่า เขาได้วาง Kayden ผู้เป็นลูกชายไว้ที่เปลชิงช้า เพื่อไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อกลับมาก็พบว่าหนูน้อยหมดสติ ซึ่งเขาก็ได้พยายามที่จะช่วยชีวิตของลูกโดยการทำ CPR แต่ก็ไม่สำเร็จ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องส่งตัวของ Kayden ไปยังโรงพยาบาล Princess Margaret แต่ภายหลังกลับได้รับข่าวร้ายว่า Kayden ได้เสียชีวิตไปซะแล้ว ส่วน Emma Granger ก็ได้ออกมาเผยว่า “Kayden เริ่มที่จะยิ้ม และหัวเราะได้แล้ว แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ดังนั้น อย่าปล่อยให้ลูกหลานของคุณนอนในเปลชิงช้าเพียงลำพัง”     จากเหตุการณ์ที่หนูน้อย…

เชื่อว่าแทบทุกเมืองบนโลก โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ทั้งในประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศด้อยพัฒนาก็ตาม อย่างน้อยๆ เราจะต้องเห็น “ขอทาน” อยู่ภายในเมืองบ้างไม่มากก็น้อย พวกเขาต่างจับจองสถานที่ไม่มุมใดก็มุมหนึ่งของเมือง แล้ววิงวอนขอความเมตตาและน้ำใจจากผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา นั่นทำให้บ่อยครั้งที่เราก็จำใจให้เงินพวกเขาไป เพราะหวังว่าจะได้มีชีวิตรอดต่อไปวันต่อวัน…   แต่ล่าสุด…. มีการจับโป๊ะขอทานกลุ่มหนึ่งในประเทศอังกฤษได้ เมื่อมีคนพบว่าขอทานเหล่านี้ นั่งรถเก๋งมาด้วยกัน ก่อนแยกย้ายกันไปจับจองที่นั่งตามมุมต่างๆ ของเมืองเคมบริดจ์     นอกจากนี้ หนึ่งในแก๊งขอทาน ยังเอารถไปจอดที่ที่จอดรถสาธารณะแบบเก็บเงินและจอดตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็น (ชั่วโมงละ 4 ปอนด์หรือราว 200 บาท) ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานที่สุดเท่าที่พวกเขาจะจอดได้ นั่นแปลว่าเขาต้องจ่ายค่าจอดรถจำนวนมหาศาลประมาณวันละ 200×9 ก็ราวๆ 1,800 บาทเลยล่ะ ในส่วนของเฉพาะค่าจอดรถในแต่ละวัน (อ้าว ไม่จนนี่น่า)     ภาพของหนึ่งในขอทาน สมาชิกกลุ่มดังกล่าว   ชาวเมืองท่านหนึ่งได้กล่าวว่า “ผมเห็นพวกเขาพากันออกมาจากรถเมื่อเช้านี้ เอาจริงๆ ก็เห็นแทบทุกวันนั่นแหละ มีชายแก่เดินถือไม้ค้ำออกมา ผมไม่คิดว่าพวกเขาเป็นคนไร้บ้านอะไรงี้หรอกนะ” นอกจากนี้ชาวเมืองยังบอกอีกว่า กลุ่มเป้าหมายของขอทานกลุ่มนี้คือเหล่าเด็กนักเรียนที่มักมีเงินเหรียญเหลือติดตัวกลับมาจากโรงเรียน โดยพวกเขาจะตะโกนใส่เด็กๆ ที่เดินผ่านไปมา…

เมื่อวันคริส๖ืมาสที่ผ่านมา ได้มีพนักงานที่โรงพยาบาลสัตว์ Williamson Animal Hospital ได้เจอกับเรื่องราวที่ไม่คาดคิด เมื่อเธอได้ไปเจอกับแมวตัวหนึ่งถูกทิ้งไว้ Dorella Tuckwiller ผู้ก่อตั้งเล่าเหตุการณ์ว่า “ที่หน้าประตู ได้มีกล่องลังนมอยู่สองกล่องมัดติดกันไว้ พร้อมกับกระดาษที่เขียนข้อความติดมาด้วย พร้อมกับแมวอันสวยๆ อยู่ข้างในกล่องนั้น”     ในกล่องนั้นมีแมวอายุ 2 ขวบพร้อมกับขาที่มีบาดแปล เห็นดังนั้นก็เลยรีบพาไปรักษา โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงกว่าจะไปโรงพยาบาลที่สามารถรักษาได้ และตั้งชื่อให้มันว่า Mia Noel และนี่คือโน้ตที่ทิ้งไว้ เขียนว่า “แมวที่เป็นมิตรตัวนี้ขาหลังของมันหัก ฉันเจอมันแล้วจับมาได้ หวังว่าจะมีคนจิตใจดีช่วยเหลือมันนะ”     ไม่รู้ว่าแมวตัวนี้จะผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง แต่มันก็ยังคงเป็นมิตรกับผู้คนเสมอ หลังจากตรวจดูที่ขามันแล้วพบว่ามันมีอาการบาดเจ็บที่น่าเป็นห่วง แต่มันต้องดีขึ้นและหายอย่างแน่นอน หลังจากผ่านตัดเสร็จ Tuckwiller ก็ได้มาดูอาการ พยายามไม่ให้มันขยับมาก แต่ดูเหมือนแมวจะไม่ยอมฟังเธอเท่าไหร่ มันตื่นเต้นที่ได้เจอคนที่ช่วยเหลือมัน มันพยายามเดินทั้งๆ ที่ขาก็ยังไม่หายดี มันเขาหาคนที่ช่วยเหลือมัน เอาหัวมาดัน มองตา และพยายามขอบคุณ     แม้จะเดินลำบาก แต่มันก็ยังคงมีความซนอยู่   หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ขามันก็หายดี คราวนี้ก็ถึงเวลาเล่นเต็มที่แล้ว…

ปัจจุบันปัญหาการกำจัดขยะของเสีย นับว่าเป็นปัญหาที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ โดยเฉพาะขยะที่ทำมาจากพลาสติค จะให้รอมันย่อยสลายก็นานนับล้านปี จะเผาทำลายก็กลายเป็นควันเสียทำลายชั้นบรรยากาศอีก โอ๊ยยยเอาไงดีน้อ ขึ้นชื่อว่าคนไทยถ้าตั้งใจทำอะไร ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกอย่างแน่นอน เพราะล่าสุดสำนักข่าว CNN ได้ยกย่อง บริษัทสัญชาติไทย ‘Universal Biopack’ ผู้ผลิตแพ็คเกจแปรรูปจากไม้ไผ่ ซึ่งมันจะกลายเป็นหนึ่งในทางออกที่ทุกคนเข้าถึงได้ เพื่อช่วยลดปัญหาขยะเน่าเสียทั้งหลาย   ตัวอย่างแพ็คเกจอาหารจากไม้ไผ่   แพ็คเกจดังกล่าวถูกทำขึ้นมาจากส่วนผสมของ ไม้ไผ่ มันสำปะหลัง และพืชผลอื่นๆ ที่สามารถหาได้จากทั่วประเทศไทย เห็นส่วนผสมแค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่กลายเป็นสารพิษตกค้างแน่นอน นอกจากนั้นแล้วบริษัทยังได้ร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ เพื่อให้ได้มาซึ่งแพ็คเกจที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้อีก โดยผู้ผลิตได้คาดการณ์ไว้ว่า ภายในระยะเวลา 5 ปี แพ็คเกจจากธรรมชาตินี้จะเข้ามาแทนที่การใช้ถุงพลาสติก อีกทั้งยังวางแพลนที่จะผลิตแพ็คเกจสำหรับโทรศัพท์มือถือ เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ เพื่อลดปัญหาขยะที่มีมากถึงปีละนับล้านตัน     ทว่าปัญหาหนึ่งที่ผู้ผลิตกำลังเผชิญอยู่ ก็คือการที่เสนอให้พ่อค้า แม่ค้า หันมาใช้แพ็คเกจจากไม้ไผ่ซึ่งมีราคาที่สูงกว่า ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุผลทางด้านต้นทุนการค้าขาย ‘ปัจจุบันการจัดการขยะของเสีย นับว่าเป็นปัญหาใหญ่แทบจะทุกที่ทั่วโลก และปัญหาของแพ็คเกจที่เราเจอตอนนี้ก็คือ พ่อค้าแม่ค้าทั่วไปในระดับจุลภาค ยังไม่ให้ความสนับสนุนแพ็คเกจตัวใหม่ของเรา แต่ผมมั่นใจว่าในอนาคตผู้คนจะตระหนักถึงปัญหานี้มากขึ้น และแพ็คเกจจากไม้ไผ่ที่บริษัทเราคิดค้นขึ้นมานั้นจะกลายเป็นหนึ่งในทางออกที่ดีต่อธรรมชาติอย่างแน่นอน’ คุณสุเทพ วิจักษณ์โยธิน ให้สัมภาษณ์กับ CNN…

เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นดราม่ากันอย่างร้อนแรงบนโลกโซเชียลในตอนนี้ หลังจากที่มีการปล่อยภาพโฆษณาของรองเท้ายี่ห้อหนึ่ง ที่การันตีว่าใส่ดำน้ำทะเลได้ ไม่ต้องกลัวของแหลมคมใต้ทะเลปักเท้า!?     อ้างอิงจากโฆษณารองเท้ารุ่นดังกล่าว มีการชี้นำว่าเป็นรองเท้าที่สามารถใส่ดำน้ำได้ มีตะแกรงป้องกันสิ่งแหลมคมทำให้ผู้สวมใส่ไม่ต้องกลัวว่า ระหว่างดำน้ำเท้าของตัวเองจะโดนปะการัง หรือหินใต้น้ำปักเท้าอีกต่อไป โดยภาพโฆษณาที่ปล่อยออกมา เป็นภาพเท้าคนสวมใส่รองเท้ารุ่นดังกล่าวพร้อมกับเหยียบย่ำอยู่บนปะการังใต้ทะเล ซึ่งแน่นอนว่าภาพดังกล่าวสร้างความไม่สบายใจให้แก่กลุ่มนักอนุรักษ์ท้องทะเลเป็นอย่างยิ่ง!!   ภาพโฆษณาดังกล่าว   ผศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณะบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ได้แชร์ภาพดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมทั้งระบุว่า “เป็นภาพโฆษณาที่บาดใจอย่างมาก และปะการังเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฏหมายครับ” ทางด้านของ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวว่า “ผมจะให้ทีมงานประสานไปยังผู้ทำภาพโฆษณาภาพนี้ เพื่อแจ้งให้เขาทราบว่าการทำลายปะการังในท้องทะเล ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฏหมาย และภาพโฆษณาที่สื่อออกมาก็กำลังทำผิดกฏหมายอย่างเห็นได้ชัด”   เราไปชมความเห็นของชาวเน็ต หลังจากที่มีการปล่อยภาพนี้กันออกมาบ้างดีกว่า…   บางคนก็บอกว่าควรให้มีการลงโทษตามกฏหมาย   บางคนก็ออกมาชี้แจงว่า เวลาดำน้ำเค้าไม่เหยียบพื้นกันนะ   คิดไม่ออกเลยว่างานนี้ต้องโทษใครดี?   ถ้าเลือกไปถ่ายตามโขดหิน ก็คงไม่กลายเป็นประเด็นดราม่าแบบนี้แน่ๆ   แต่ก็มีชาวเน็ตคนหนึ่งออกมาอ้างว่า เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่เธอทำงานอยู่ พร้อมทั้งชี้แจงว่า ภาพดังกล่าวน่าจะเกิดจากพ่อค้า แม่ค้ารายย่อย ที่ไปหาภาพโฆษณามากันเอง และบริษัทมีนโยบายไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม……

ปกติถ้าเราพูดถึงนายแบบนางแบบจากประเทศเกาหลี เราอาจนึกถึงหนุ่มสาวขาวตี๋อย่างที่เราเห็นตามสื่อต่างๆ แต่รู้หรือไม่ ตอนนี้มีนายแบบคนหนึ่งกำลังมาแรงอย่างมากในประเทศเกาหลี และที่น่าตกใจคือเขาเป็นหนุ่มผิวสีด้วย!! นายแบบคนนี้มีชื่อว่า “Han Hyun Min” วัย 16 ปี เขาเป็นลูกครึ่งชาวเกาหลีไนจีเรีย โดยมีแม่เป็นชาวเกาหลี พ่อเป็นชาวไนจีเรีย แม้จะเป็นลูกครึ่งแต่เขาก็เกิดและเติบโตในประเทศเกาหลีมาตั้งแต่เด็กๆ     เขาเล่าว่า เขาใฝ่ฝันว่าจะเป็นนายแบบมาโดยตลอด เขาจึงฝึกฝนตนเองมาตั้งแต่เด็กๆ รวมทั้งฝึกเดินด้วยรองเท้าส้นสูงอีกด้วย แม้จะฝึกฝนมาอย่างหนักขนาดไหน แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนผิวสีซึ่งขัดกับค่านิยมส่วนใหญ่ของคนในประเทศ ทำให้โมเดลลิ่งต่างมองข้ามเขาไปจนหมด แต่ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ในที่สุดก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่ดึงตัวเขาให้ไปเป็นนายแบบในที่สุด     และงานแรกที่เขาได้ไปเปิดตัวคือ Seoul Fashion Week ซึ่งทันที่เขาก้าวขึ้นบนเวที ด้วยหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์และฝีมืออันโดดเด่น ทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองของสื่อและคนทั่วไปในทันที และเหล่าแบรนด์ดังๆ ก็ร่วมกันจับจองตัวเขาไปถ่ายแบบผลิตภัณฑ์ แต่เห็นหน้าตาค่อนไปทางยุโรปแบบนี้ เขากลับพูดภาษาเกาหลีเป็นหลัก และพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะเขาเกิดและเติบโตในเกาหลีนั่นเอง   . . . . . .   อื้อหือ หล่อคมเข้มไม่เหมือนใครจริงๆ ใครชื่นชอบผลงานของเขา ก็กดเข้าไปชมได้ที่ไอจีด้านล่างได้เลยนะฮะ…

กิจกรรมการร้องเพลงคาราโอเกะ ถือว่าเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในหมู่ชาวญี่ปุ่น เห็นได้จากร้านคาราโอเกะที่มีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ขอเพียงแค่คุณอยากร้องเพลง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหาร้านคาราโอเกะสักร้าน แต่ถ้าการร้องเฉยๆ ยังไม่เร้าใจพอล่ะก็ ลองไปคาราโอเกะแห่งนี้กันดูดีกว่า เพราะหากคุณสามารถร้องได้ดี ไม่ผิดเพี้ยน เจ้าเครื่องคาราโอเกะเครื่องนี้จะตอบแทนคุณด้วยภาพหวิวสาวสวยที่คุณเห็นแล้วจะต้องปึ๋งปั๋ง แต่อย่าเพิ่งดีใจไป ถ้าสกิลการร้องเพลงของท่านไม่ถึงขั้น ท่านอาจเจอบทลงโทษที่ทำให้ตะลึงงันได้เลยทีเดียว!!     เจ้าคาราโอเกะเครื่องนี้มีชื่อว่า  Joysound fR ทางผู้ผลิตได้ติดตั้งระบบให้คะแนนสำหรับผู้ใหญ่เอาไว้ โดยหากผู้ร้องสามารถร้องได้คะแนนดี เมื่อจบเพลงทางเครื่องจะเปิดภาพหวิวของนางแบบสาวสุดเซ็กซี่ออกมา เพื่อเป็นรางวัลแห่งความพยายาม   นี่คือตัวอย่างรางวัลที่คุณจะได้รับถ้าได้ 91 คะแนน   เป็นยังไงล่ะ ชวนเลือดกำเดาพุ่งไหมล่ะครับ!?   ช้าก่อน… มันไม่ได้จบแค่นั้น แต่อย่าไปคิดว่าชีวิตมันจะง่ายแบบนั้น เพราะหากท่านไม่สามารถทำคะแนนได้ดี ร้องเพี้ยนซะจนเครื่องรำคาญ เครื่องดังกล่าวก็จะลงโทษท่านทันที โดยแทนที่จะเปิดรูปสาวๆ เซ็กซี่ มันจะซุ่มภาพหนุ่มหล่อล่ำขึ้นมาแทน ที่รับรองว่าเห็นแล้วถึงกับห่อเหี่ยวเลยทีเดียว   ม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย   ไม่เอาแบบเน๊   อย่างไรก็ตามเครื่องดังกล่าวออกแบบมาสำหรับคุณผู้ชายเท่านั้น ดังนั้นท่านไหนอยากชมภาพหนุ่มๆ หล่อล่ำแทน ก็ลองพยายามอย่าร้องให้ออกมาดีนัก เครื่องจะได้สุ่มภาพหนุ่มหล่อขึ้นมายังไงล่ะ ฮาาาา     ที่มา rocketnews24

เชื่อว่าหลังจากที่หลายๆ คนดูการ์ตูนเรื่อง Tom and Jerry มา พวกเขาจะคิดว่าหนูกับแมวจะต้องเป็นศัตรูตามธรรมชาติของกันและกัน และหนทางที่พวกมันจะกลายเป็นเพื่อนซี้กัน คงยากพอๆ กับการเจอมนุษย์ต่างดาวในสวนหลังบ้านนั่นแหละ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะถ้าเพื่อนๆ ได้รู้เรื่องราวของ “Ranj” และ “Peanut” แล้วล่ะก็ เพื่อนๆ จะรู้ทันทีว่า ไม่มีสิ่งใดที่สามารถขวางกั้นมิตรภาพของพวกเขาได้อย่างแน่นอน แม้พวกเขาจะเป็น “แมว” และ “หนู” ก็ตาม!!     Maggie Szpot เจ้าของแมวและหนูทั้งสองเล่าว่า เธอเจอเจ้า Ranj  โดยบังเอิญ หลังพบมันอาศัยอยู่ข้างถนนโดยไม่มีคนดูแล ด้วยความสงสารเธอจึงเก็บมันมาเลี้ยง หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พาหนูอีกสองตัวเข้ามาอยู่ด้วย และหนึ่งในนั้นคือเจ้า Peanut “ตอน Ranj ได้เจอเจ้า Peanut ครั้งแรก มันยังเป็นแค่ทารกอยู่เลย ฉันก็แอบกลัวเหมือนกันว่ามันจะทำอะไรรุนแรงกันเลยรึเปล่า แต่เปล่าเลย พวกมันกลับกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และไม่ว่าจะไปที่ไหน พวกมันก็จะไปด้วยกันเสมอ” Maggie  กล่าว     “วันไหนถ้าเกิด Ranj กินข้าวในโถไม่หมด เจ้า Peanut…

สำหรับคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แล้วการออกไปไหนมาไหนข้างนอกพบเจอกับผู้คนมากมายย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยถูกใจซักเท่าไหร่ วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอมาแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับเสื้อกันหนาว ‘อย่ามายุ่งกับตรู’ ที่สามารถสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใส่ได้เป็นอย่างดี เท่านั้นยังไม่พอความเจ๋งของมันยังไม่ใช่แค่การสร้างพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถเปลี่ยนแบบเสื้อออกมาได้เป็นสามแบบสามสไตล์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อคอเต่า เสื้อเปิดไหล่ และ…   เสื้อ ‘อย่ามายุ่งกับตรู’   โดยคนทำมันขึ้นมานั้นก็คือสมาชิกเว็บไซต์ Instrucables ชื่อว่า ruthgrace ได้ทำการแนะวิธีการทำเจ้าเสื้อตัวนี้ลงบนบล็อคของตัวเอง เธอเล่าว่า “ฉันไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลยเมื่ออยู่ในโหมด ‘อย่ามายุ่งกับตรู’ หากคุณจะทำเองล่ะก็ขอแนะนำให้เจาะช่องสำหรับมองเห็นไว้ด้วยนะ”     และอุปกรณ์ในการทำเจ้าเสื้อกันหนาว ‘อย่ามายุ่งกับตรู’ ก็มีดังนี้ – เสื้อกันหนาวที่มีขนาดเหมาะกับตัว – ผ้าทรงกระบอกที่มีความยาวประมาณ 2 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดพอดีกับขนาดตัวของเรา – ซิปที่มีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร – จักรเย็บผ้า – ตีนผีสำหรับเย็บซิป – เข็มเย็บผ้า     ในส่วนของวิธีทำนั้นก็ไม่ยากเลย นำเศษผ้าทรงกระบอก นั้นมาวัดความยาวเพื่อเป็นส่วนคอเต่าแล้วก็ตัดออกมา เย็บติดกับคอเสื้อเดิมไปได้เลยโดยใช้เครื่องจักรเย็บผ้า (อย่าลืมเก็บรายละเอียดส่วนปลาของผ้าด้วยการพับเข้าไป 1 ตลบ แล้วก็เย็บเก็บด้วยนะ)…

ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเราเท่านั้น ที่กำลังเผชิญปัญหายาเสพติด ยิ่งนับวันยิ่งดูเหมือนว่ามันจะระบาดมากขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าแบบแผนการจับทุกคนที่ยุ่งเกี่ยว โยนเข้าไปในเรือนจำ จะเป็นวิธีที่ไม่ได้ผลซักเท่าไหร่ คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับ ‘ห้องเสพยา’ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า ‘Fix Room’ ซึ่งเป็นห้องที่เปิดโอกาสให้ผู้ติดสารเสพติดชนิดรุนแรง สามารถเข้ามาใช้บริการกันได้ตลอด 24 ชม. และไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตำรวจจับอีกด้วย   มีอุปกรณ์ทุกอย่างให้ สำหรับการเสพยาทุกรูปแบบ ทั้งฉีด ดม และสูบ เรียกได้ว่าครบวงจร   ซึ่งอันที่จริง ‘ห้องเสพยา’ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อต้องการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากการใช้สารเสพติดมากเกินขนาด (โอเวอร์โดส) และได้เปิดให้บริการหลายแห่งในแถบยุโรป ห้องนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ยาเสพติด สามารถเข้ามาเสพยาได้อย่างเต็มที่ โดยมีทีมแพทย์ และพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ทว่าที่นี่เขาไม่ได้มียาเสพติดให้นะจ๊ะ ถ้าใครอยากเสพก็ต้องไปหากันมาเองเท่านั้น   Ivan Christensen ผู้ดูแล ‘ห้องเสพยา’ ประจำเมืองโคเปนเฮเกน   สำหรับ ‘ห้องเสพยา’ ที่กรุงโคเปนเฮเกนนั้น จะทำการเปิดให้บริการตลอด 24 ชม. โดยในแต่ละวันจะปิดบริการเพื่อทำความสะอาดเพียงแค่ 1 ชม. เท่านั้น ผู้เข้าใช้บริการทุกคนจะมีเวลาเพียงแค่ 45 นาที…

ช่างสักแต่ละคนก็มักจะมีวิธีการสร้างสรรค์ผลงาน หรือแนวทางของตัวเองที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าใครจะถนัดรูปแบบไหนเป็นหลัก เช่นเดียวกับช่างสักชาวแคนาดาคนนี้ ‘Tedd Hucks’ เขาได้เปลี่ยนสิ่งที่รายล้อมอยู่รอบตัวเราอย่าง ‘เงาจากต้นไม้’ ให้กลายเป็นรอยสักที่แปลกไม่ซ้ำใคร แถมยังคงความสวยงามในตัวมันเองได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย   โดยผลงานส่วนใหญ่จะได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘เงาของต้นไม้’   “ผมชอบที่จะทุ่มความสนใจไปกับบางสิ่งบางอย่าง ที่ไม่เคยเรียกร้องการมีอยู่ของมัน อย่างเช่นต้นไม้พวกนี้ ทุกต้นที่ผมเอามาเป็นแบบจะไม่ถูกเด็ด หรือตัดออกมาโดยเด็ดขาด” ช่างสักหนุ่มกล่าว     ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญไปในส่วนของต้นไม้ แต่เขาเลือกที่จะเพ่งความสนใจไปที่เงาของต้นไม้มากกว่า   และกว่าจะได้แบบแต่ละอย่างมาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเช่นกัน   เพราะเขาต้องรอให้ถึงช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์ส่องลงมาอย่างเหมาะเจาะ และต้องเป็นช่วงเวลาที่เงามีความคมเข้ม ชัดละเอียดมากที่สุด   “ทั้งหมดนี้ช่วยทำให้ผมใจเย็น รู้จักที่จะรับฟัง และให้ความสนใจกับสิ่งเล็กๆรอบกายเรามากขึ้น”   หลายคนอาจจะลืมความสำคัญของสิ่งที่เรียกว่า ‘เงา’ ไปบ้าง แต่อันที่จริงมันคือสิ่งที่ตามติดตัวเรามาตลอด และไม่เคยเรียกร้องถึงการมีอยู่ของตัวมันเอง   ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพเงาของดอกขนาดเล็ก ด้วยฝีมือการสักเขาก็สามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว   ตัวอย่างการเก็บภาพต้นแบบ ก่อนที่จะนำไปสักจริงให้ลูกค้า   และนี่ก็เป็นตัวอย่างภาพที่ได้ออกมา   ถ้าใครสนใจชมผลงานศิลปะบนเรือนร่างในแบบของช่างสักคนนี้เพิ่มละก็ เข้าไปชมได้ที่ Instagram   ใครที่กำลังมองหาไอเดียการสักลายใหม่ๆ จะเอาแบบนี้ไปประยุกต์ใช้ก็เท่ไม่เบานะ……

สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวๆ สายลับ คงเคยเห็นฉากที่เหล่าบุคคลสำคัญต่างๆ ต้องออกเดินทางโดยการโดยสารรถยนต์กันมาบ้างแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีกฏระเบียบมากมายเพื่อการอารักขาความปลอดภัย ต้องมีรถบอดี้การ์ดประมาณ 4 – 5 คันขับนำหน้า และปิดท้าย มีการปิดถนน เปิดสัญญาณไปเขียวตลอดการเดินทางเพื่อให้สัญจรได้อย่างสะดวก แถมยังต้องมีการจำกัดความเร็วไว้ไม่ต่ำกว่า 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อจับสังเกตเหล่าผู้ก่อการร้ายหรือตัวโกงที่จะเข้ามาลอบทำร้าย เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าในชีวิตจริงเพื่อนๆ ก็คงจะเคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ด้วยเช่นกัน   แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมขบวนรถของท่านนายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ของประเทศญี่ปุ่น ขณะที่กำลังเดินทางโดยสารรถยนต์ ต้องขอบอกเลยว่ามันช่างน่ารัก ดูไม่จริงจังเหมือนกับในหนังเอาซะเลย   ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันก่อนเลยดีกว่า…   จากในคลิปเราจะเห็นได้ว่าขบวนรถอารักขาจะมีเจ้าหน้าที่ชุดดำ พร้อมกับสวมถุงมือสีขาวที่เห็นได้ชัด โผล่ออกมาจากกระจกด้านข้างเพื่อทำการโบกรถ ซึ่งดูแล้วจะเข้าใจได้ว่าพวกเขามีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีว่าจะต้องมีการโบกรถแบบนี้   เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่โบกรถได้ทำการคำนับหัวลงอย่างนอบน้อม ราวกับเป็นการขออนุญาตให้ขบวนรถแทรกเข้าไปในเลนถนน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ เป็นอย่างดี จึงทำให้การแทรกเข้ามาในเลนใช้เวลาไม่มาก เพียงแค่ไม่ถึง 20 วินาทีเท่านั้น   ทำให้ส่งผลกับการจราจรเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับตำแหน่งใหญ่โตของท่านนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ถึงจะดูน่ารักน่าชังแต่การอารักขาของเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้หย่อนยานลงไปแต่อย่างใด เพราะที่เห็นจากการเดินทางโดยรถไฟของจักรพรรดิ Akihito และภรรยาที่เดินทางจากสถานีรถไฟ Tokyo Station ไปยังพระราชวังหลวง ก็มีบอดี้การ์ดอารักขามากถึง…

ปัญหาอย่างหนึ่งของการส่งต่อข้อมูลข่าวสารบนโลกอินเตอร์เน็ต ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง ‘ข่าวลวง’ ที่ถูกสร้างขึ้นมาแบบลวงๆ โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าคนทำ จะทำไปทำไม หรือเค้ามีความสุขกับการได้อำชาวเน็ตกันนะ? และแน่นอนว่าในช่วงตลอดทั้งปี 2016 ที่ผ่านมา ก็เกิดกระแสข่าวมากมายขึ้นบนโลกอินเตอร์เน็ต บ้างก็จริง บ้างก็เป้นข่าวลวง และด้วยเหตุนี้แหละ #เหมียวบ็อบ และ #เหมียวสามสี ได้ช่วยกันฟีทเจอริ่งคัดเลือก 12 ข่าวลวงแห่งปี 2016 พร้อมกับข้อมูลที่แท้จริงของมัน!!   1. ภาพจิงโจ้ที่กำลังโอบกอดเพื่อนที่จากไป หลังจากที่ภาพนี้ถูกปล่อยลงมาในสื่อประเทศออสเตรเลีย หลายคนอาจคิดว่ามันช่างเป็นภาพที่ชวนเศร้า กับการจากไปของเพื่อนจิงโจ้ซะเหลือเกิน แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะ Dr.Mark Eldridge นักวิจัยจากออสเตรเลียได้ออกมาแถลงความจริงว่า “อันที่จริงมันไม่ได้โศกเศร้ากับการจากไป แต่สิ่งที่มันทำอยู่ก็คือการพยายามสอดใส่อวัยวะเพศ เข้าไปในศพของจิงโจ้ตัวเมียที่เสียชีวิตไปแล้วต่างหาก ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าสาเหตุการตายของจิงโจ้ตัวเมีย เกิดจากการพยายามข่มขืนครั้งนี้หรือไม่”   2. ภาพถ่ายเซลฟี่แห่งปีจากบราซิล หลังจากที่มีภาพนี้หลุดออกมา มีหลายคนบอกว่านี่เป็นภาพถ่ายเซลฟี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดประจำปี 2016 แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น เพราะภาพต้นฉบับมาจากอินสตาแกรมของ ‘Luiz Amaral‘ (ภาพขวา) ส่วนคนที่อยู่ด้านหน้าน่ะเหรอ คือการตัดต่อจ้า…   ภาพ GIF ที่ชาวเน็ตคนหนึ่งทำขึ้นมา แสดงให้เห็นว่าการตัดต่อภาพ…

น้ำดีหมีถือว่าเป็นยาอายุวัฒนะที่ชาวจีนใช้ในการบำรุงร่างกายมาอย่างยาวนาน แม้ในปัจจุบันจะมียาแผนปัจจุบันที่สามารถใช้แทนน้ำดีหมีได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่ายังมีหลายคนเชื่อในสรรพคุณของยาแผนโบราณชนิดนี้อยู่ จนทำให้เกิดลักลอบทำฟาร์มน้ำดีหมีในหลายๆ ประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการซื้อเหล่านั้น อย่างเช่นเรื่องราวอันน่าเศร้าของเจ้าหมีตัวนี้ ที่ตกเป็นเหยื่อของการค้าน้ำดีหมี จนต้องใช้ชีวิตอย่างไม่เห็นเดือนเห็นตะวันมานับสิบปี     เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อองค์กร Animals Asia ได้รับแจ้งว่า มีการลักลอบทำฟาร์มน้ำดีหมีที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองบวนมาถ็วต ประเทศเวียดนาม พวกเขาจึงได้ลงพื้นที่สำรวจ เมื่อไปถึงก็ต้องพบกับภาพอันน่าสะเทือนใจ เมื่อพวกเขาหมีควายตัวหนึ่งถูกขังอยู่ที่ห้องที่ก่อด้วยกำแพงคอนกรีตทั้งสี่ด้าน ที่มีเพียงลูกกรงแคบๆ ให้มันสามารถเห็นโลกภายนอกเท่านั้น     “พวกเราเคยเห็นภาพแย่ๆ มาเยอะมาก แต่บอกตรงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เราเคยเห็นอะไรที่แย่ขนาดนี้ พวกมันแทบไม่ได้เห็นโลกภายนอกด้วยซ้ำ” Bendixsen ประธานของ Animals Asia สาขาเวียดนามกล่าว ที่น่าเศร้าคือโอกาสเดียวที่มันจะได้ออกไปยังโลกภายนอก คือตอนที่มันถูกนำไปสกัดน้ำดีจากตับ     วิธีการสกัดน้ำดีก็ต้องบอกว่าโหดร้ายทารุนมาก พวกเขาจะใช้ท่อแทงเข้าไปในตับของหมี จากนั้นก็ดูดน้ำดีออกมา พอเสร็จแล้วก็จะพามันกลับเข้ากรงให้รักษาตัวเอง และรอจนกว่าจะมีการสกัดครั้งต่อไป แน่นอนว่าตลอด 10 ปีที่เจ้าหมีตัวนี้ถูกขังไว้ บนร่างกายของมันมีร่องรอยการถูกท่อแทงนับไม่ถ้วน     จริงๆ แล้วการทำฟาร์มน้ำดีหมีถูกแบนจากรัฐบาลเวียดนามตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 แต่ด้วยอุปสงค์ที่มากมาย ทำให้มีหลายคนยังลักลอบสกัดน้ำดีหมีอยู่เรื่อยๆ ว่ากันว่ามีหมีประมาณ…

หลังจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา เหล่าคนดังและนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง ต่างได้เข้าพบและพูดคุยกับโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงแนวทางการบริหารประเทศในอนาคต และล่าสุดก็เป็นคิวของ บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์     ล่าสุดทาง บิล เกตส์ ได้เปิดเผยกับทางสำนักข่าว CNBC ว่า เขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และดูเหมือนว่าการสนทนาจะเป็นไปด้วยดีซะด้วย “ใช่ ผมมีโอกาสพูดคุยกับเกี่ยวกับนวัตกรรมต่างๆ เขาบอกว่ายังมีอีกหลายสิ่งในประเทศที่เขายังไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา โรคระบาด ปัญหาสุขภาพ แม้กระทั่งปัญหาโปลิโอ”     “และภายใต้การบริหารของเขา ผมเชื่อว่าเขาจะสามารถกำจัดอุปสรรคไปได้ และจะกลายเป็นผู้ที่นำชาติพัฒนาไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ” “ผู้คนในอนาคตจะพูดถึงเขาเหมือนกับที่เราพูดถึงประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคเนดี้ ที่เป็นผู้ผลักดันความยิ่งใหญ่ทางด้านอวกาศของสหรัฐฯ” บิล เกตส์ กล่าว     บิล เกตส์ยังบอกอีกว่าหัวข้อหลักที่พวกเขาพูดคุยกันคือเรื่องราวของนวัตกรรมต่างๆ “แน่นอนสิ ตลอดชีวิตของผมก็เกี่ยวข้องเรื่องนี้เสมอ และดูเหมือนว่าเขาจะสนใจเรื่องราวเหล่านี้ด้วยนะ ผมเชื่อว่าต้องการมีพูดคุยครั้งต่อไปในเร็วๆ นี้แน่”     ล่าสุด…

กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจบนโลกอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว หลังจากคุณลุงคนขับรถแสนใจดีคนหนึ่ง เห็นเด็กนักเรียนที่นั่งมาในรถกำลังร้องไห้จากอากาศหนาว เขาจึงซื้อถุงมือและหมวกให้กับเด็กคนนนั้น จนเป็นที่ชื่นชมของชาวเน็ตทั่วโลก เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองเคนเนวิค รัฐวอร์ชิงตัน เมื่อคุณลุงจอห์น ลันซ์ฟอร์ดวัย 52 ปี พนักงานขับรถบัสของโรงเรียนสังเกตุเห็นเด็กชายคนหนึ่งวัย 6 ปีกำลังร้องไห้ด้วยความสั่นเทาบนรถ เมื่อเขาเข้าไปถามจึงทราบว่าเด็กคนนั้นไม่ได้ใส่ถุงมือและหมวกมาจึงรู้สึกหนาวมากจนทนไม่ไหว     เมื่อรถบัสไปถึงโรงเรียน ลันซ์ฟอร์ดได้ออกไปหาซื้อถุงเท้าและถุงมือมาอย่างละ 10 คู่ จากนั้นเขาก็เดินทางกลับไปที่โรงเรียน แล้วก็นำไปมอบให้กับเด็กชายคนนั้นที่กำลังนั่งเรียนอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังบอกอีกว่า ถ้าเด็กๆ คนไหนได้นั่งรถของเขาแล้วต้องการถุงมือหรือหมวก ก็สามารถมาขอจากเขาได้เลย เขาพร้อมให้ยืมเสมอ     ลันซ์ฟอร์ด กล่าวว่า “ผมก็ไม่น่าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่มีหมวกหรือถุงมือ แต่ผมเองก็เป็นปู่คนเหมือนกันนะ เชื่อผมเถอะ ไม่มีใครอยากให้เด็กต้องทุขทรมานแบบนั้นหรอก “ตอนหลังมีเด็กหญิงบอกมาผมว่าเธอไม่มีหมวก ผมเลยบอกเธอว่า ‘ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะจัดการให้เอง’”     ต้องเขาใจอย่างหนึ่งก่อนว่า ตอนนี้ที่สหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในช่วงฤดูหนาว ทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงเป็นอย่างมาก (ชนิดที่ในเมืองไทยหนาวแบบจิ๊บๆ) อย่างรัฐวอชิงตันที่จอห์นอาศัยอยู่ มีอุณหภูมิเฉลี่ยตอนกลางวันอยู่แค่ 45 องศาฟาเรนไฮต์หรือราว 7 องศาเซลเซียสเท่านั้น ฉะนั้นคงเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมเด็กคนนั้นถึงหนาวจนร้องไห้ออกมา   ภายหลัง…

สำหรับใครที่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารด้านการโคลนนิ่งสัตว์ คงจำกันได้แค่ว่า เมื่อก่อนมีข่าวที่มนุษย์สามารถโคลนนิ่งแกะได้สำเร็จ แต่ด้วยปัญหาด้านจริยธรรม หรืออะไรอีกหลายๆอย่าง จึงดูเหมือนว่าข่าวคราวการโคลนนิ่งดูจะซบเซาลงไป (หรือเราไม่ได้ติดตามเองหว่าา?) แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เว็บไซต์สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่า ประเทศเกาหลีใต้ ได้ทำการทดลองโคลนนิ่งสุนัขเพื่อใช้สำหรับการสงครามสำเร็จ และข่าวรายงานว่า พวกเขาได้ส่งมอบให้กับรัสเซียเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งพวกมันจะได้รับตำแหน่งปฏิบัตการอยู่ในกองทัพพิเศษของ ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ อีกด้วย!!   สุนัขทั้งหมดที่ได้รับการโคลนขึ้นมา เป็นสายพันธุ์ ‘เบลเยี่ยม มาลีนอยส์’ เห็นแบบนี้ราคาอยู่ที่ตัวละ 3 ล้านบาทเลยล่ะ   หลังจากที่ทำการโคลนนิ่ง และให้กำเนิดได้แล้ว หมาทุกตัวจะได้รับการฝึกฝนอย่างพิเศษ ให้ปฏิบัติหน้าที่กับทหาร และตำรวจ ได้อย่างชาญฉลาด เช่นเดียวกัน   สุนัขทั้งหมด ถูกโคลนขึ้นมาจากศูนย์ทดลอง ‘Sooam Biotech’ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์แรกของโลกที่มีการโคลนนิ่งสัตว์ได้สำเร็จ   Semyon Grigoryev หัวหน้าศูนย์วิจัยกล่าวว่า “สุนัขทุกตัวได้รับการคัดเลือกเอาเซลล์ต้นแบบมาจากสุนัขดมกลิ่นที่ดีที่สุดในเกาหลี และทุกตัวจะกลายเป็นสุนัขโคลนนิ่งชุดแรก ที่ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในรัสเซีย ร่วมกับกองทัพของปูติน”  …

เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นที่ร้อนระอุ มาแรงสุดๆ ในบ้านเรา กับเรื่องราวกรณีของการ์ดประจำผับดังแถวหน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ กับคดีรุมทำร้ายร่างกายหนุ่มเชียงใหม่ลูกนายพลทหาร สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าเรื่องราวเหตุการณ์ทั้งหมด มันมีที่มาที่ไปอย่างไร #เหมียวฟิ้น เค้าได้รวบรวมไทม์ไลน์เหตุการณ์ทั้งหมดไว้แล้ว แบบเข้าใจง่าย แถมยังละเอียดยิบ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจกันง่ายยิ่งขึ้น ตามลิ้งค์นี้ >> การ์ดผับดังรุมทำร้ายหนุ่มเชียงใหม่ เวลาผ่านไปเกือบสัปดาห์ ดูเหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดจะยังไม่คลี่คลาย มีทั้งฝ่ายที่เชียร์ดารา และฝ่ายเชียร์หนุ่มเชียงใหม่ จนเกิดปรากฏการณ์แฮชแท็ก ‘#ลูกนายพล’ และมีการรีทวีตต่อกันไปมากกว่า 350,000 ครั้งเลยทีเดียว!!   เราลองไปติดตามแฮชแท็กนี้ดูกันว่าชาวเน็ตมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไรกันบ้าง   ว่ากันว่าความเห็นนี้จากพันทิปกำลังมาแรงสุดๆ เพื่อนๆ ลองตามไปอ่านกันดู… (1)   เค้าว่ากันว่าคนก่อเหตุ เป็นมาเฟียที่ย้ายมาฟอกเงินที่เชียงใหม่แหละเธอ แถมยังเปิดร้านช่วงวันที่ 21 ตุลาคม อีกต่างหาก (ถ้าเป็นจริงนี้ พีคสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย) (2)   มีการแถลงตอนไปเยี่ยมคนเจ็บว่า ชายที่เป็นแฟนดาราไม่ได้เกี่ยวข้องกับร้าน แต่เอ๊ะ..!! ดูเหมือนว่าไม่นานมานี้เพิ่งจะมีคลิปที่เจ้าตัวออกมาพูดเองว่า ร้านนั้นเป็นหนึ่งในกิจการของเค้านี่นา เรื่องนี้ชักมีเงื่อนงำแฮะ (3)   ตั้งแต่ที่เห็นข่าวออกมา ก็ยังไม่เห็นคุณพ่อของน้องที่ถูกทำร้าย ออกมาโวยวาย หรือใช้อำนาจไปในทางที่ผิดเลย….…

ถ้านึกถึงประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความแปลกใหม่ นำวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศมาผสมผสานกับความเป็นสมัยใหม่แล้วโปรโมทไปให้ทั่วโลกได้เห็นกันล่ะก็ เชื่อได้ว่าชื่อ ‘ประเทศญี่ปุ่น’ คงผุดขึ้นมาในความคิดของเพื่อนๆ เป็นอันดับแรกๆ เลยใช่มั้ยล่ะ?   ชุดซามูไรพร้อมกับการเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม   อย่างล่าสุดโฆษณาของบะหมี่นิชชินของประเทศญี่ปุ่น ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า ‘ความบ้า กล้าที่จะสร้างอนาคต’ กับการนำนักแสดงมาสวมชุดเกราะซามูไร สัญลักษณ์ของเหล่านักรบโบราณของประเทศ มาเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมของยุคสมัยใหม่ จนเหมือนกับว่าคนหลงยุคมาทำอะไรแปลกๆ แต่ทว่ามองในอีกแง่นึงก็คือการไม่แช่แข็งวัฒนธรรม สามารถนำมาประยุกต์เข้ากันได้ ให้มีความร่วมสมัยนั่นเอง   หรือจะเป็นการโต้คลื่น เหล่านักรบก็ไม่เคยจะหวั่น   ลองมาชมคลิปกันได้ที่นี่เลย   ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ยแต่นักรบแต่ละท่าน   เล่นสกี   โชว์ออฟกันแบบเต็มๆ   มีนินจาแถมมานิดๆ ด้วยนะ อิอิ   แทนที่พวกเขาจะทิ้งให้วัฒนธรรมกลายเป็นแค่สิ่งที่ค่อยๆ ถูกลืมเลือน กลับนำมาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างลงตัวแถมทำออกมาได้เจ๋งสุดๆ ไปเลย   ที่มา: rocketnews24

แบทแมนเคยถามซุปเปอร์แมนว่า “นายเลือดออกได้ไหม” คำตอบก็น่าจะเป็นที่ทราบกันดีว่าถ้าไม่ใช่เพราะคริปโตไนต์ก็คงทำอะไรซุปเปอร์แมนไม่ได้ แต่ถ้าแบทแมนมาถามต้นไม้ต้นนี้บ้าง มันก็คงตอบได้ว่า “ไหลประจำ” ต้นไม้ต้นนี้มีชื่อเรียกว่า Bloodwood จริงๆ มันก็ไม่ได้มีเครื่องในอะไรแบบเราหรอก แต่มันเป็นต้นไม้สูงที่มีเลือดไหลออกมาได้เหมือนกับเรา แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลือดหรอก มันคือยางไม้ที่มีสีแดง ข้อมูลจากสถาบัน Institute for Applied Physics at the University of Bonn ในเยอรมนีกล่าวว่าต้นไม้จะปล่อยยางออกมาตอนที่ต้นมันโดนตัด คล้ายๆ กับว่าร้องไห้เพราะว่าเจ็บ นอกจากนี้นักวิจัย Frank Kühnemann ยังได้ทดลองเกี่ยวกับเสียงที่ต้นไม้นี้ปล่อยออกมาโดยใช้ไมโครโฟนเลเซอร์ พบว่ามันมีเสียงของความเจ็บและตึง ซึ่งเป็นคลื่นเสียงที่ดังมากที่ไมโครโฟนจับได้   ต้นนี้จะพบได้ในแอฟริกาเป็นส่วนมาก โดยตัวต้นนั้นจะสูงถึง 15 ฟุตเลยทีเดียว   และเมื่อโดนตัด มันก็จะปล่อยยางออกมาสีเหมือนเลือดแบบนี้   ส่วนมากคนก็จะนำไม้ชนิดนี้ไปทำเฟอร์นิเจอร์   นอกจากนี้ยางของมันยังเอาไปใช้ในทางการแพทย์ เพื่อเป็นยาอีกด้วย ทั้งโรคงูสวัด ไข้ และช่วยปั้มนมให้แม่ได้   แต่พอดูแบบนี้มันก็หลอนพิลึก   ช่างเหมาะกับช่วงเทศกาลฮาโลวีนแบบนี้จริงๆ   ที่มา lifebuzz

ปกติแล้วตุ๊กตาที่เราเห็นตามร้านต่างๆ ก็ทำออกมาในรูปแบบที่น่ารัก แต่สำหรับศิลปินที่ชื่อว่า Lee Cross เธอได้สร้างตุ๊กตาอีกรูปแบบหนึ่งขึ้นมา ซึ่งมีความสมจริงกว่าตุ๊กตาทั่วไป เดิมทีแล้วเธอเริ่มทำงานเกี่ยวกับตุ๊กตามาตั้งแต่อายุได้ 12 ปี ซึ่งผลงานตอนนี้เธอก็พัฒนาขึ้นไป โดยเฉพาะขนที่ใช้เป็นขนที่เหมือนจริง เมื่อลูบแล้วเหมือนสัตว์จริงๆ ซึ่งเหตุผลที่เขาทำขึ้นมาก็เพื่อให้คนมารับพวกมันไปเลี้ยงนั่นเอง เธอได้ทำระบบประมูลขึ้นใน eBay โดยสัปดาห์หนึ่งจะทำขึ้นมา 2 ตัวเพื่อนำไปประมูลโดยราคาเริ่มที่ประมาณ 500 บาท และนอกจากนี้เธอยังทำสัตว์ที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกด้วย เช่น มังกร หรือสัตว์จากเทพนิยาย เราไปชมผลงานของเธอกันเลย   1. จิ้งจอกน้อย   3. เม่นน้อย   4. ยูนิคอร์น   5. แอกโซลอเติล   6. หมาป่า   7. สลอธน้อย   8. แมวฟรุ้งฟริ้ง   9. กวางสายฟ้า   10. แพนด้าน้อย   11. มังกร  …

เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณแม่จะอุ้มลูกน้อยไปเดินช็อปตามห้ามสรรพสินค้าด้วย เพราะคงทิ้งไว้เองที่บ้านไม่ไหวเนื่องจากไม่มีคนดูแล กรณีคุณแม่มือใหม่ชาวโคโลราโดแห่งสหรัฐอเมริกาคนนี้ก็เช่นกัน… เธอไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งตามปกติ แต่ใครจะไปนึกว่าอยู่ดีๆ เธอจะหมดเรี่ยวแรงและล้มพับหมดสติทั้งๆ ที่อุ้มลูกอยู่ โชคดีที่แคชเชียร์สาวสังเกตเห็นอาหารผิดปกติของคุณแม่และได้อุ้มลูกของเธอไว้อย่างทันท่วงที   ‘ฉันเป็นแม่คน และตอนนี้ฉันก็เป็นคุณยายแล้วด้วย มันคือสัญชาตญานของผู้เป็นแม่อยู่แล้วที่จะมีความห่วงใยเด็กๆ ซึ่งฉันก็สามารถสังเกตเห็นได้ว่าใบหน้าของเธอนั้นมีอะไรที่ผิดสังเกตอยู่’ Rebecca Montano แคชเชียร์หญิงกล่าว   ชมคลิปจากกล้องวงจรปิดกันได้ที่นี่   หลังจากนั้นเธอก็โทรเรียกรถพยาบาลทันที ระหว่างนั้น Rebecca ก็เลยยื่นเด็กให้ลูกค้ารายอื่นอุ้มไว้และทำการปฐมพยาบาลคุณแม่ในเบื้องต้น แต่ตอนนี้เธอก็ได้รับการรักษาแล้วและปลอดภัยทั้งแม่และลูก ซึ่งต้องขอบคุณแคชเชียร์หญิงฮีโร่ของเราคนนี้แหละ!! หลังจากเหตุการณ์นั้นผู้คนในละแวกต่างเรียกเธอว่า ‘ฮีโร่’ ซึ่งเธอก็ไม่เห็นด้วย เธออธิบายว่ามันเป็นการกระทำที่สมควรทำและถ้าเป็นคนอื่น ก็คงทำเหมือนเธอในสถานการณ์แบบนี้ ‘เพราะมีคนแบบเธอนี่แหละโลกนี้ถึงน่าอยู่’ หนึ่งในลูกค้ากล่าวชื่นชมเธอ   ลำดับภาพเหตุการณ์ เมื่อคุณแม่ามาซื้อน้ำอัดลมหนึ่งขวด   คุยกันนิดๆ หน่อยๆ ตามปกติ   เจ้าหนูน่ารักจังเลย อายุเท่าไหร่แล้วคะเนี่ยยย??   ทันใดนั้นแคชเชียร์ก็เริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติของคุณแม่ ว่าเธอกำลังเป็นอะไรสักอย่าง..   เธอทำท่าจะหมดสติ แคชเชียร์จึงอาสาอุ้มลูกให้เธอก่อน   ภายในไม่กี่อึดใจคุณแม่ของเราก็เข้าสู่สภาวะทิ้งตัวเรียบร้อย เธอพยายามจะพยุงทั้งแม่และเด็ก แต่ไม่มีแรงพอจะยื้อ   หนุ่มพลเมืองดีที่รีบมาช่วยในทันที   ต้องขอชื่นชมแคชเชียร์หญิงคนนี้จริงๆ อย่างน้อยก็ยังช่วยเซฟชีวิตแม้คุณแม่จะยังล้มลงไป…

การถ่ายภาพธรรมชาตินั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เพราะธรรมชาติไม่เคยนิ่งให้เราได้เก็บภาพที่สวยๆ ดังนั้นช่างภาพต้องมีความอดทนในการรอ ถ้าใครเคยดูสารคดี จะเห็นได้เลยว่าช่างภาพสายธรรมชาตินั้นต้องไปนั่งรอเป็นเวลานาน กว่าจะได้ภาพที่ต้องการมาเพียงแค่ภาพเดียว และวันนี้ #เหมียวสามสี จะนำเอาภาพจากการประกวด British Wildlife Photography Awards ซึ่งเป็นภาพถ่ายสายธรรมชาติ แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของสัตว์ป่าที่ได้รางวัลชนะเลิศประจำปี 2016 นี้ โดยการจัดประกวดนี้จัดขึ้นตั้งแต่ปี 2009 เพื่อให้ช่างภาพในสหราชอาณาจักรได้มีผลงาน อีกทั้งอยากให้ทุกคนได้เห็นเหล่าสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ในอังกฤษด้วย   ภาพชนะเลิศการประกวดในครั้งนี้   George Stoyle ผู้ชนะการประกวดเจ้าของภาพแมงกระพรุนอันนี้คือภาพที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเล่าว่าเขาไปเจอแมงกะพรุนตัวนี้ขณะดำน้ำกลับไปยังเรือ พอเข้าไปใกล้ๆ มันก็พบว่ามันมีปลาตัวน้อยๆ กำลังเกาะอยู่ที่หนวดของมันด้วย   และนี่ก็คือภาพที่ได้เข้าประกวด เราไปชมความงดงามเหล่านี้กันเลย   ถือเป็นภาพที่ไม่ได้หาชมกันได้ง่ายๆ แต่มันยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สามารถไปชมต่อได้ที่เว็บไซต์ทางการ หรือจะเป็น Facebook และ Twitter ก็มีเช่นเดียวกัน ที่มา thisiscolossal

กลายเป็นเรื่องเศร้าใจอย่างมาก เมื่อคุณแม่โพสต์ภาพลูกแฝดที่ได้กอดกันครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา ใบหน้าของทารกน้อยเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงแบบที่ใครก็ไม่อยากให้เกิด ทารกแฝดคู่นี้คือ ฮอว์ก และ เมสัน จากฟอร์ตเพียร์ซ รัฐฟลอริดา ผู้กอดลากันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ฮอร์กจะจากไปด้วยโรคร้ายที่เรียกว่า CDH – Congenital Diaphragmatic Hernia (ไส้เลื่อนกระบังลมแต่กำเนิด)     แน่นอนว่าเมื่อภาพถูกแชร์ออกไปบนเพจของทั้งคู่ มีชาวเน็ตมาร่วมแสดงความเสียใจ แต่ก็ประทับใจในความรักที่มีให้กันตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยเช่นกัน มีการแชร์ส่งต่อไปเกือบ 30,000 ครั้ง เพื่อช่วยเผยแพร่ให้เห็นถึงความรัก และพิษภัยของโรคร้ายนี้ ไส้เลื่อนกระบังลมคือการเคลื่อนที่ของอวัยวะในช่องท้องในช่องอกผ่านข้อบกพร่องในไดอะแฟรมหรือในการปรากฏตัวของพื้นที่ที่อ่อนแอของเด็ก โดยมีโอกาสเกิด 1 ใน 1,700 คนของทารกแรกเกิด อาการของโรคนี้คือ ทารกจะมีความล้มเหลวของระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง รวมทั้งการหายใจอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการขาดออกซิเจน แต่หากแพทย์ตรวจพบโรคนี้ก่อนคลอด ก็อาจทำให้มีโอกาสในการรักษามากขึ้น     โดยก่อนหน้านี้ หมอก็พยายามผ่าตัดและรักษาโรคร้ายดังกล่าวให้กับฮอร์ก ในขณะพ่อแม่เองก็ขอให้ผู้คนอธิษฐานให้ลูกของเขา แม้จะรู้ว่ามีโอกาสรอดน้อยมากก็ตาม ส่วนเมสันเอง ดูท่าจะอยากได้รับความอบอุ่นอยู่และอยากให้กำลังใจพี่ชาย พยาบาลจึงแนะนำพ่อแม่ว่า ‘ให้พวกเขานอนข้างกันสิ’ คุณแม่จึงให้เมสันไปนอนใกล้ๆ กับฮอว์ก แล้วก็เกิดภาพที่ทำเอาหลายๆ คนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อเมสันเอามือไปกอดฮอว์กด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น เพื่อสื่อว่าพวกเขายังคงมีกันและกัน    …

เป็นคุณจะทำยังไง ถ้าเกิดว่าไปเจอนกตัวหนึ่งที่กำลังได้รับบาดเจ็บที่ขาจนเดินไม่ได้ บินไม่ไหว วันนี้จะมานำเสนอทางออกที่แสนจะง่าย เพียงแค่มีกระดาษลังและเทปกาว คุณก็สามารถสร้างเท้าใหม่ให้มันได้แล้ว ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า California Wildlife Center (CWC) ได้เข้าช่วยเหลือนกมอกกิ้งเบิร์ดตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บที่ขาจนเดินไม่ได้ ไม่รู้ว่าเจ้านกไปโดนอะไรมาถึงได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนี้มันกำลังจะกลับมาเดินได้อีกครั้งแล้ว     ผู้ช่วยชีวิตได้สร้างสิ่งที่เหมือนกับ “รองเท้าลุยหิมะ” ขึ้นมา แต่เป็นขนาดจิ๋วที่ทำมาจากกระดาษลังและเทปกาวแบบง่ายๆ ซึ่งเขาคิดมาแล้วว่ามันจะไม่เป็นอันตรายกับนก และสามารถรักษาขาให้หายไปด้วยในตัว คล้ายๆ กับการเข้าเฝือกนั่นเอง เจ้านกตัวนี้ต้องใส่ร้องเท้าใหม่ไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์เพื่อรอดูอาการ ถ้าขาหายดีแล้วก็จะนำเอารองเท้าออกเพื่อให้มันกลับไปเดินได้ตามปกติอีกครั้ง     ซึ่งหลังจากการทดลองใส่รองเท้าให้มันก็พบว่ามันได้ผลเป็นอย่างดี นกสามารถเดินได้ขณะที่เท้ายังเจ็บและสามารถรักษาอาการเจ็บให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ถือเป็นไอเดียที่เจ๋งและน่ารักเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ที่มา  California Wildlife Center, (h/t: thedodo)

นี่คือผลงานภาพถ่ายจากช่างภาพมืออาชีพ Amy D Herrman ที่ได้รวบรวมทำมาเป็นโฟโต้บุ๊กใช้ชื่อว่า Underneath We Are Women ซึ่งเป็นการถ่ายภาพในหัวข้อ “ผู้หญิง 100 คน 100 รูปร่าง 100 เรื่องราว” แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของกันและกัน ช่างภาพวัย 26 ปี ใช้เวลา 12 เดือนในการถ่ายภาพผู้หญิงทั้งหมดเพื่อให้เห็นความงามของแต่ละคนได้อย่างชัดเจน โดยโปรเจกต์นี้เริ่มมาจากการที่เธอให้เพื่อนโพสเป็นแบบให้ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มตามหาผู้หญิงคนอื่นๆ จากในเฟซบุ๊ก จนกระทั่งได้มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก ผู้ที่เข้าร่วมแต่ละคนก็ได้แชร์เรื่องราวที่แตกต่างกันซึ่งเชื่อมโยงกับรูปร่างของพวกเธอ   “ในแต่ละวันที่ถ่ายภาพ คนที่มาถ่ายเป็นกังวลอย่างมาก แต่เมื่อพวกเธอได้เดินออกไปก็เปลี่ยนมุมมองอะไรไปเยอะมาก” และนี่ก็คือภาพบางส่วนจากโปรเจกต์นี้ ไปชมกันเลย   . . . . . . . . .   ที่มา designyoutrust

ปกติแล้วรอยสักนั้นเป็นสิ่งที่ต้องฝังลงในผิวหนังของเรา แต่วันนี้ต้องขอบคุณ MIT Media Lab ที่ทำให้รอยสักก้าวไปอีกขั้น ต้องเรียกว่า “สมาร์ทแทททู” เลย เจ้าสิ่งนี้มีชื่อจริงๆ ว่า Duoskin เป็นโปรเจกต์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้คนที่ติดรอยสัก (จริงๆ ก็ไม่เชิงรอยสักเท่าไร แต่ลักษณะเดียวกับแทททูนี่แหละ) นี้เข้าไปสามารถควบคุมกระแสไฟฟ้าได้ด้วยมือของคุณเองเหมือนกับเราใช้เม้าส์แพดที่ติดมากับโน๊ตบุ๊กทุกเครื่อง สิ่งที่ใช้ก็คือทองคำเปลว ซึ่งราคาถูกและเป็นมิตรกับผิวหนังของเราในการนำกระแสไฟฟ้า รวมทั้งเป็นตัวเซ็นเซอร์เวลาเราแตะมันให้ทำตามคำสั่งเราด้วย     พูดอีกแง่หนึ่งก็คือ DuoSkin เหมือนเป็นเครื่องประดับบนผิวหนังที่สามารถให้เราควบคุมเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้จากผิวหนังของตัวเราเอง ซึ่งในอนาคตอาจมีการพัฒนาให้รองรับอุปกรณ์ได้มากยิ่งขึ้น   . . . . .   ถ้านึกไม่ออกว่ามันใช้งานยังไง ไปดูในคลิปนี้กันเลย แล้วจะรู้ว่ามันเจ๋งแค่ไหน   ที่มา sobadsogood

กลายเป็นดราม่าร้อนๆ ในโลกออนไลน์อยู่ตอนนี้เลย สำหรับกรณีของละคร สงครามคอนแวนต์ ที่เตรียมจะออกฉายทางช่อง 9 เร็วๆ นี้ แต่เนื่องจากมีคำว่า “คอนแวนต์” อยู่ในชื่อเรื่องด้วย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าอาจทำให้ภาพลักกษณ์ของโรงเรียนเสื่อมเสียได้…     ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้ชื่อว่าคุณ NPTanawat ได้เข้ามาตั้งกระทู้ #สงครามคอนแวนต์ เดี๋ยวนี้ช่อง 9 เรตติ้งต่ำมากถึงขนาดทำละครแบบนี้เรียกเรตติ้งแล้วเหรอครับ?     ภายในกระทู้ได้มีการกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างตัวละครและในชีวิตจริง อย่างเช่นมาเซอร์หรือซิสเตอร์ที่ปกติแล้วมักใส่ชุดสีขาวหรือเทา แต่ในละครกลับใส่ชุดสีดำ หรือเครื่องแบบของนักเรียนหญิงที่กระโปรงดูสั้นมากกว่าปกติ บวกกับเนื้อเรื่องที่เหล่าตัวละครหญิงพยายามแย่งผู้ชายกัน ทำให้ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของโรงเรียน     ล่าสุดละครเรื่องนี้ได้กลายเป็นกระแสดราม่าในทวิตเตอร์ไปแล้ว โดยความเห็นบางส่วนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับตัวละครที่ไม่ตรงตามความจริง ในขณะที่อีกส่วนมองว่าละครมีความรุนแรงเกินไปจนน่าจะเปลี่ยนชื่อละครไปเลย   . . . . . .   ลองชมตัวอย่างแบบเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย   นอกจากนี้ยังมีความเห็นที่น่าสนใจจากชาวพันทิปอีกมากมาย เช่น jily “เห็นในทวิตเตอร์เหมือนกัน น้องๆคอนเเวนต์ตัวจริงค่อนข้างซีเรียส ซึ่งเราเข้าใจนะ เพราะโรงเรียนคอนเเวนต์ในไทยเอง ก็ไม่ได้มีเยอะและเเน่นอนต้องอยู่ในระเบียบ…

ว่ากันว่าสาวไทยเป็นหนึ่งในสาวๆ ที่สวยที่สุดในโลก เห็นทีคงจะเป็นเรื่องจริง เพาะวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับพยาบาลสาวเน็ตไอดอลคนหนึ่ง ที่โด่งดังไปไกลถึงเมืองนอก เธอจะน่ารักกระชากใจขนาดไหน เราไปชมกันเลยดีกว่า   เธอคนนี้มีชื่อว่า “น้ำขิง กัญญาภัค” วัย 21 ปี ด้วยความน่ารักของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างในทันที   ปัจจุบันเธอเป็นนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 4   เสน่ห์ที่ทำให้คนอื่นๆ หลงรัก คือรอยยิ้มอันอ่อนหวานและเป็นมิตรของเธอนั่นเอง   จนตอนนี้เธอมีผู้ติดตามในเฟสบุ๊กกว่า 13,000 คนแล้ว   แน่นอน ด้วยความสวยน่ารักขนาดนี้ ทำให้เธอมีงานถ่ายแบบเข้ามาในบางครั้ง . . . . . . .   เห็นแล้ว รู้สึกอยากป่วยกันขึ้นมาบ้างมั้ยล่ะเพื่อนๆ อิอิ   ล่าสุดทางเว็บไซต์ 9gag ได้นำภาพของเธอไปลงเช่นกัน และดูเหมือนเธอจะได้รับความนิยมพอสมควรเลยนะเนี่ย   อย่างไรก็ตามมีหลายคนคอมเมนต์แซวว่า เธออาจเป็นผู้ชายก็ได้นะ แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่มีต่อหญิงไทยของชาวต่างชาติเลยนะเนี่ย .…

และถ้าหากพูดถึงการ์ตูนดังอย่าง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้ง 7, โฉมงามกับเจ้าชายอสูร หรือแม้แต่อลาดินกับยักษ์ในตะเกียงวิเศษจากค่าย Disney ละก็แฟนๆเตรียมเฮกันได้เลย เพราะถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ทางค่ายจะประสบความสำเร็จไปแล้วกับ “Maleficent” และ “Cinderella”  แต่แค่นี้มันยังไม่พอเพราะทางค่ายได้ออกมาเปิดเผยถึงรายชื่อการ์ตูนดังที่จะนำมาสร้างใหม่อย่างแน่นอน เริ่มจากที่กำลังจะเข้าฉายในปีนี้และปีหน้า…   “Pete’s Dragon” หนังเรื่องแรกที่จะถูกนำมาสร้างใหม่จากของเดิมเมื่อปี 1977 โดยได้นักแสดงรุ่นจิ๋วอย่าง Oakes Fegley มารับบทเป็น Pete เด็กหนุ่มผู้เติบโตอยู่ในป่าพร้อมกับมังกรคู่ใจที่ชื่อ Elliot   แถมงานนี้ยังได้นักแสดงอย่าง Bryce Dallas Howard และ Robert Redford มาร่วมแจมอีกด้วย   และคาดว่าจะเข้าโรงประมาณช่วงสิงหาคมปีนี้นั่นเอง   การ์ตูนดังอย่าง “Beauty and the Beast” ในภาคคนแสดงก็คาดว่าจะเข้าโรงในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่อเมริกาเช่นกัน นำแสดงโดย Emma Watson ในบท Belle   แถมงานนี้ยังได้นักแสดงหนุ่มหล่ออย่าง Luke Evans มารับบท Gaston อีกด้วย   และคาดว่าจะเข้าโรงในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า   ใครยังจำเจ้า Dumbo ช้างน้อยที่มักจะถูกแกล้งอยู่เป็นประจำเพราะขนาดหูที่ใหญ่ผิดปกติของมันได้บ้าง? เพราะงานนี้ได้ผู้กำกับอย่าง Tim Burton ที่จะนำของเก่ามาเล่าใหม่ให้เราได้ชมกัน…

การที่คู่รักจะได้จัดงานแต่งในสถานที่สวยๆ นั้นถือเป็นความฝันหนึ่งของใครหลายๆ คนเลย เพราะมันทำให้คนที่มาร่วมงานและคู่รักรู้สึกราวกับว่าตัวเองอยู่ในเทพนิยาย และนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่ดี แต่หากงานแต่งไม่เป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้ สถานที่สวยงามกลับกลายเป็นความสกปรก มันก็คงทำให้ว่าที่บ่าวสาวรู้สึกแย่กับการเริ่มต้นชีวิตคู่ได้เช่นกัน…     เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เปิดเผยเรื่องราวของคู่รักชาวอังกฤษ Kirstie วัย 26 ปี และ James Willett วัย 28 ปีที่กำลังมองหาสถานที่ในการจัดงานแต่งสวยๆ สักที่หนึ่ง จากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจเลือกที่จะจัดงานแต่งในรีสอร์ท Sandals Halcyon Beach บนเกาะเซนต์ลูเซีย หลังจากที่เห็นโบรชัวร์ชวนฝัน พร้อมกับคำโฆษณา “สวนแห่งอีเดนริมทะเลของแท้”     ตามคำบอกเล่าของทั้งคู่บอกว่าแพ็คเกจที่พวกเขาจองเอาไว้นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 230,450 บาท แต่เมื่อพวกเขาเดินทางมาเห็นสถานที่จริง ความฝันก็พังทลายลงไปในพริบตา เพราะห้องพักของรีสอร์ทแห่งนี้สกปรกมาก ส่วนชายหาดนั้นเต็มไปด้วยเศษขยะ วันแต่งของพวกเขาก็ถูกเลื่อนออกไปอีก ฉะนั้นพวกเขาเลยต้องเลื่อนวันไปฮันนีมูนออกไป ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามมาอีกราวๆ 46,100 บาท “ตั้งแต่ฉันเป็นเด็กๆ ฉันฝันเอาไว้ตลอดว่าอยากจะแต่งงานบนชายหาดขาว แต่ไม่มีอะไรเหมือนในโฆษณาเลย” Kirstie กล่าว     แม้ทั้งคู่จะขอคืนเงินจากทางรีสอร์ท เนื่องจากสถานที่ไม่เหมือนกับที่โฆษณาเอาไว้ แต่ทางรีสอร์ทก็ชี้แจงว่าที่สถานที่ไม่เหมือนกับในโฆษณาก็เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถควบคุมสภาพอากาศได้ และวันที่พวกเขามาถึงก็มีคลื่นทะเลพัดเอาสาหร่ายขึ้นมาเอง แต่พวกเขาก็มีพนักงานสำหรับทำความสะอาดชายหาดอยู่แล้ว ส่วนที่ท้องฟ้าไม่สวยนั้นก็ขึ้นอยู่กับดวงอาทิตย์เอง ที่มา mirror

เช้าที่ผ่านมาหลายๆ คนคงตื่นอกตื่นใจกับเหตุการณ์รัฐประหารที่เกิดขึ้นในประเทศตุรกีอย่างกระทันหัน #เหมียวบ๊อบ ก็จะขอพาไปชมภาพเหตุการณ์ต่อสู้กันระหว่างฝ่ายทหาร และ ประชาชนที่ต่างลุกฮือกันขึ้นมาปกป้องระบอบประชาธิปไตยของตนเองไว้ เรื่องราวเกิดขึ้นในกรุงอังการา และ อิสตันบูล ซึ่งจู่ๆ ทหารก็ออกมาประกาศยึดอำนาจจากรัฐบาลในระหว่างที่ ประธานาธิบดี เรเซป เทยิบ เออร์โดแกน กำลังเดินทางอยู่ในช่วงพักร้อน มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลทหาร รถถัง ไปไว้ตามจุดสำคัญต่างๆรอบเมือง ก่อให้เกิดความวุ่นวายและความตื่นตระหนกของชาวเมืองขึ้น โดยอ้างว่าเป็นการคืนประชาธิปไตย (แต่ด้วยวิธียึดอำนาจ ทำรัฐประหาร) เราไปชมภาพเหตุการณ์ต่างๆกันเลยดีกว่า ว่าในอีกซีกโลกหนึ่งเค้าได้เกิดเรื่องราวอะไรขึ้นกันบ้าง…   ภาพของรถถังที่กำลังเคลื่อนย้ายสู่จุดยุทธศาสตร์ต่างๆ .   การจราจรบางแห่งก็ถูกปิดล้อมไว้เรียบร้อย .   ถึงแม้ว่าคณะทหารจะสามารถประกาศว่าควบคุมอำนาจไว้ได้แล้ว มีการประกาศเคอร์ฟิวและใช้กฏอัยการศึกแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เพราะประชาชนกลับออกมารวมกลุ่มประท้วงกันเป็นจำนวนมาก   มีการปะทะกันเกิดขึ้นระหว่างประชาชนและทหาร (ต้องขอแสดงความเสียใจต่อบุคคลที่สูญเสียในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย)   ภาพของประชาชนส่วนหนึ่งที่สามารถยึดรถถังได้   ชายผู้หนึ่งที่ยอมนอนขวางรถถังเพื่อไม่ให้เข้าไปยึดสนามบินได้   กลุ่มประชาชนที่กำลังก้มหลบกระสุน   ประชาชนส่วนใหญ่พยายามที่จะยึดอาวุธมาจากทหารให้ได้ด้วยมือเปล่าของพวกเขาเอง .   กลุ่มผู้ประท้วงที่อยู่รอบๆกองกำลังทหาร   มีการโฟนอินเข้ามาจากประธานธิบดี ที่ประกาศถึงความไม่ยอมจำนนต่อการรัฐประหารพร้อมทั้งประกาศไว้ด้วยว่า ผู้ที่ก่อเหตุการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะต้องชดใช้ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น   ทหารบางส่วนถูกจับกุมด้วยพลังของประชาชน…

ด้วยเทคโยโนลีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกเล็กๆ น้อยๆ หรือแม้กระทั่งตึกที่สูงใหญ่ สถาปัตยกรรมสมัยใหม่นั้นได้นำเอาเทคโนโลยีและการออกแบบแบบสมัยใหม่มาผสมผสาน ทำให้เกิดเป็นตึกที่รูปร่างสวยงามและแปลกใหม่เป็นอย่างมาก ซึ่งวันนี้ #เหมียวสามสี ก็จะพาทุกท่านไปดูกันว่าแต่ละตึกที่กำลังจะสร้างในแต่ละประเทศนั้นจะอลังการงานสร้างมากขนาดไหน   Lakhta Center, Saint Petersburg ตึกระฟ้าสูง 87 ชั้นตั้งอยู่ที่ริมน้ำในประเทศฟินแลนด์ จะกลายเป็นศูนย์กลางแห่ง Gazprom Neft และตึกแห่งนี้ยังจะเป็นตึกที่สูงที่สุดในยุโรปอีกด้วย สูงกว่าตึก Federation ในมอสโคว์ และใช้พื้นที่ถึง 400,000 ตารางเมตร   Dubai Towers — The Lagoons โปรเจกต์นี้เป็นของทีม Thompson, Ventulett, Stainback & Associates ได้ออกแบบเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่แห่งนี้จะกลายเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหม่ รวมไปถึงการเดินทางทางน้ำ ท่าเรือ วิวที่สวยงาม   Scaly Tower, Zhuhai ระหว่างรอยต่อของสองแม่น้ำใน Zhuhai ประเทศจีน ตึกรูปร่างเกลียวนั้นจะตั้งอยู่อย่างสง่างาม ถือเป็นตึกที่รุปร่างแปลกตาดีไม่น้อยเลยทีเดียว   The Dancing Dragons, Seoul ตึกมังกรเต้นระบำนี้เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นที่…

ว่ากันว่ามนุษย์จะไม่ตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งของใดๆ หากไม่สูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป นั่นก็อาจเป็นเรื่องจริง อย่างเช่นเรื่องราวของหนุ่มคนนี้ที่เสียพ่อไปอย่างไม่ทันตั้งตัวตั้งแต่ยังหนุ่ม เขาจึงหันมาออกกำลังกายอย่างหนัก จนหล่อล่ำ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับพ่อ หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Dan Wells เมื่อช่วงที่เขาอายุยี่สิบปลายๆ เขาโหมทำงานหนักจนไม่สนใจสุขภาพตัวเอง กินอาหารไม่มีประโยชน์รวมทั้งดื่มแอลกอฮอล์ จนตัวเองน้ำหนักพุ่งพรวดๆ   จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาสูญเสียพ่อแท้ๆ ของตนเองไปในวัยเพียง 52 ปีด้วยโรคหัวใจ ตอนนั้นเขาตระหนักรู้ได้ในทันทีว่า “ความตาย” เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว และง่ายดายขนาดไหน หากเขาไม่ดูแลสุขภาพตัวเอง เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่พ่อของเขาเคยประสบมาแล้ว   นับจากวันนั้น เขาเริ่มควบคุมอาหาร นับแคลอรี่ที่กินไปในแต่ละวัน รวมถึงออกกำลังกายอย่างหนัก เขาบอกว่าช่วงแรกๆ เขารู้ท้อแท้มาก เพราะการที่เขาลองผิดลองถูกเอง ทำให้ร่างกายถูกใช้งานอย่างหนักและได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ   แต่ต่อมา เขาได้เริ่มศึกษาหาความรู้ทางด้านการออกกำลังกายที่ถูกต้อง รวมทั้งได้เพื่อนนักเพาะกายจากในยิมคอยให้คำแนะนำและความรู้ต่างๆ เส้นทางสุขภาพดีของเขาก็เริ่มต้นขึ้นอย่างมั่นคงแข็งแรง   ทุกวันนี้เขาลาออกจากงานประจำในธนาคาร และมาเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวแทน และตอนนี้เขาอายุ 42 ปีแล้ว ดูไม่แก่เลยใช่มั้ยล่ะ   และนี่คืออาหารที่เขาทานในแต่ละวัน .   เห็นแบบนี้แล้ว มาออกกำลังกายกันเถอะครับ เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง ^^   น่ากินมากเลย……

สมัยนี้ไม่ว่าจะทำอะไรไปที่ไหนโทรศัพท์มือถือก็กลายมาเป็นเหมือนอีกปัจจัยหลักของเราไปซะแล้ว แต่ก็เพราะมันสะดวกและช่วยงานได้มากขึ้นจริงๆนั่นแหละเราจึงปฏิเสธที่จะใช้มันไม่ลงเลย วันนี้ ขอพาไปแนะนำให้รู้จักกับ 6 แอพฯ ที่เว็บไซต์ sheknows ได้รวบรวมมาให้ ทีนี้ละขอแค่มีมือถือซักเครื่องก็ช่วยได้ทุกเรื่องจริงๆ   1. Minube เมื่อไหร่ที่เพื่อนๆไปถึงจุดหมายแต่ไม่รู้ว่าที่ต่อไปควรไปที่ไหนดีขอแนะนำแอพฯที่รวบรวมเรื่องราวจากนักท่องเที่ยวคนอื่นๆกว่า 500,000 คนทั่วโลกที่แชร์เรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองที่เราไปและยังสามารถแชร์เรื่องราวของเราเองได้อีกด้วยต่างคนต่างรสนิยมมาแชร์เรื่องราวในที่เดียวกันแบบนี้ อาจจะทำให้เกิดอาการเลือกไม่ถูกว่าไปเที่ยวไหนต่อดีก็ได้นะ   2. Gogobot แอพฯที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนมีเพื่อนในทุกที่ๆเราไปไม่ว่าเราจะไปขึ้นเหนือหรือลงใต้ แอพฯจะช่วยเราค้นหาสถานที่น่าสนใจอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารเด็ดๆรือจองที่พักถูกๆ ไม่สำคัญว่าเราจะชอบท่องเที่ยวแบบไหนแอพฯนี้จะช่วยให้เราค้นหาสถานที่เด็ดๆในเมืองที่เราอยู่แน่นอน   3. Packing Pro นอกเหนือจากการจองตั๋วแล้ว การแพ็คของใส่กระเป๋าก็เป็นอีกเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับบางคนเช่นกัน แต่ไม่ต้องห่วงเจ้าแอพฯมันถูกออกแบบมาให้รองรับต่อการวางแผนการจัดกระเป๋าที่จะทำให้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเที่ยวหาเพื่อน 1 สัปดาห์ หรือจะไปยุโรป 1 เดือน แอพจะช่วยคำนวนว่าคุณควรเอาอะไรใส่กระเป๋าไปบ้าง   4. Tripit มันคงจะง่ายขึ้นมากๆถ้าเราสามารถเก็บข้อมูลสำคัญต่างๆไว้ในที่เดียวได้ เช่น เวลาออกเดินทางต่างๆที่ชอบทำให้เกิดอาการสับสนได้ง่ายๆหรือจะเตือนความจำตั๋วที่จองไว้ต่างๆก็ทำได้ทั้งนั้นต่อไปไม่ว่าคุณจะต้องบินต่อเนื่องสักกี่ที่หรือจองโรงแรมไว้กี่เมืองแอพฯนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องมาเสียเวลานั่งจำมันอีกต่อไป   5. Vayable แอพฯที่จะช่วยให้การท่องเที่ยวของเราเป็นไปในแบบที่เราชอบมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะชอบออกไปผจญภัยหรือเที่ยวแบบสงบๆชิลๆแอพฯนี้ได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจากทั่วโลกไม่1ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ชื่อดังไปจนถึงร้านอาหารอันเลื่องชื่อของเมืองเมื่อมีแอพฯนี้มันจะช่วยให้คุณจองได้ง่ายขึ้นและไม่ต้องไปยืนต่อแถวให้เสียเวลาอีกต่อไป   6. mTrip Travel Guides เบื่อกับการที่ต้องถือหนังสือเล่มหนาเตอะและแผนที่ท่องเที่ยวแผ่นเท่าฝาบ้านมั้ย? แอพฯนี้จะช่วยให้การเดินทางไปในที่ต่างๆของคุณสะดวกสบายและง่ายมากขึ้น เจ้าmTripมีระบบอัลกอริธึ่มที่จะช่วยให้เข้าใจไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของเรามากขึ้น ทีนี้ละโหลดแอพฯนี้ไว้อันเดียวก็ไม่ต้องหิ้วของพะรุงพะรังกันอีกต่อไปแล้ว   แต่ละแอพฯนับว่าเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ได้เดินทางมากเลยจริงๆ แบบนี้เวลาจะไปเที่ยวทีช่วยให้หายกังวลไปได้อีกเยอะเลยทีนี้ละจะได้สนุกเต็มที่กับการเที่ยวอย่างเดียวซักที ฮ่าๆๆๆ  …

“บ้าน” คือที่อยู่อาศัยที่พวกเราขาดไม่ได้… ยิ่งถ้าเป็นบ้านที่เราสร้างเองนั้นก็จะพบกับความจริงที่ว่า ‘ไม่มีที่ใดสุขใจเท่าบ้านเรา’ โดยปัจจุบันการเลือกทำบ้านที่แปลกแหวกแนว… หาได้น้อยมาก เพราะต้องคำนึกถึงต้นทุน การบำรุงรักษา หรือแม้แต่ว่ามันจะมั่นคงพอที่พวกเราจะฝากชีวิตไว้กับพวกมันในเวลาหลับนอนหรือไม่??? วันนี้ #เหมียวฟูๆ จะพาทุกคนไปดูบ้านที่แปลกแหวกแนวจากทั่วทุกมุมโลกกัน ตามกันมาเลยครับ!!!   1. บ้านกลับหัว… ทางเข้าอยู่ไหน!!! (รัสเซีย) บ้านหลังนี้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่อยากให้เหมือนกัน แต่ทว่าตอนนี้มันกลับกลายมาเป็นสถานที่ท่องเทียว… ถ้าคุณไปเยือนรัสเซีย คุณคงจะไม่พลาดเพื่อไปชมอยู่จริงว่ามันเจ๋งขนาดไหน (ของในบ้านไม่ได้กลับหัว… เหมือนตัวบ้านนะ)   2. บ้านโปร่งใส… ถ้าทำที่ประเทศไทยบอกได้คำเดียวว่า ไหม้พะยะค่ะ!!! (ญี่ปุ่น) บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นโดย “Sou Fujimoto” นี้พืนที่ 914 ตารางฟุต โดยมีแรงบันดาลใจจากการเปิดเผยตัวตนที่ไม่ซ่อนความลับอะไร!! นอกจากนี้บ้านหลังนี้ยังมีชื่อว่า “House NA”   3. บ้านกลางน้ำ (เซอร์เบีย) บ้านเดี่ยวหลังนี้เริ่มเป็นที่รู้จัก จากที่ภาพถูกตีพิมพ์ใน “National Geographic” บ้านถูกสร้างขึ้นในปี 1968 โดยคนกลุ่มหนึ่งเพื่อไว้เป็นสถานที่อาบแดด บ้านหลังนี้เกือบทุกทำลายหลายต่อหลายครั้งจากน้ำท่วม!!!   4. บ้านตาข่ายพลังงานแสงอาทิตย์ (ฝรั่งเศส)…

เด็กเหล่านี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหล่าคนดังแม้แต่นิดเดียวเลย แต่พวกเขาดันโชคดีหรือโชคร้ายเนี่ย… ที่ดันมีลักษณะใบหน้าของพวกเขาเหมือนกับเหล่าคนดังในภาคเด็กทารก อาจจะตัดต่อรึเปล่า?? ตอนเด็กๆละมั่ง?? …. ไม่มีการตัดการต่ออะไรทั้งสิ้นนะครับนี่คือเด็กทารกหน้าเหมือนคนดังจริงๆ พวกเราไปดูดีกว่าจะเหมือนขนาดไหน???  555+   1. lan McKellen (Gandalf)   2. Jay Z   3. Elvis Presley   4. John Legend   5. Chris Farley   6. Chris Farley (Girlie!!!)   7. Brian Baumgartner   8. Bill Maher   9. Michael Cera   10. Wallace Shawn   11. Robin Williams (Mrs.…

เบนซ์ หรือในอีกชื่อว่า “Mercedes-Benz” อาจจะมีแนวโน้วในอนาคตที่จะผลิตรถยนต์รุ่น “Mercedes F015” ที่ออกแบบอย่างหรูหราแล้วล้ำมาก… อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะทำให้ รถยนต์รุ่น F015 สามารถขับเคลื่อนได้แบบอัตโนมัติโดยควบคุมรถจากการใช้ท่าทางด้วยมือและลดข้อจำกัดในการทำกิจกรรมต่างๆในเวลาขับรถ เพื่อเพิ่มคุณค่าของเวลา!!!     สามารถขับเคลือนแบบปลอดภัยและผ่อนคลาย….   และมีผนังแบบดิจิตอลด้วยยย!!!   ด้านหลังยังสามารถแสดงสัญญาณมีทั้งข้อความและเสียง…   ที่ล้ำไปกว่านั้น สามารถฉายเลเซอร์เป็นทางม้าลายหรือสัญลักษณ์ต่างๆได้…   อีกทั้งยังสามารถควบคุณรถด้วยท่าทาง…   นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่และเชื้อเพลิงไฮโดรเจน   เราไปชมคลิปความล้ำหน้าในนวัตกรรมยานพาหนะในอนาคตกันเลยครับ…   ล้ำขนาดนี้ชักอยากให้พัฒนาและผลิตออกมาเร็วๆ เลยละครับ แถมยังสามารถช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้อีกด้วย… #เหมียวฟูๆ ว่าพวกเราอย่ามัวเสียเวลา รีบนั่งไทม์แมชชีน…ข้ามกาลเวลาไปกันเลยดีกว่า  Go!!!   ที่มา : Mercedes-Benz  

สวัสดีเพื่อนๆ เป็นที่รู้กันดีของผู้ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นว่า “ภูเขาไฟฟูจิ” เป็นอีกหนึ่งสถานที่แลนด์มาร์คสำคัญของญี่ปุ่น ที่ต้องไปชมให้ได้สักครั้งถ้ามีโอกาส แต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่ามีอีก 9 สถานที่ ที่เราสามารถไปชมวิวของ ภูเขาไฟอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ได้เช่นกัน #เหมียวบ็อบ ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า ถ้าใครได้ไปชมแล้ว รับรองจะไม่อยากกลับมาอีกเลย….   1.ทะเลสาบ Kawaguchiko . เป็น 1 ใน บริเวณทะเลสาบฟูจิทั้ง 5 ที่ว่ากันว่ามีวิวดีที่สุดแถมยังเป็นกระจกสะท้อนของ “ภูเขาไฟฟูจิ” บนทะเลสาบอีกต่างหาก แหม…มันช่างสวยงามซะจิงๆ ทั้งบรรยากาศอันเงียบสงบผสมกับภาพของภูเขาไฟที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ไม่ไปไม่ได้แล้วววว   2. เมืองฮะโกะเนะ . เมืองฮะโกะเนะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่เชิงดอยของภูเขาไฟฟูจิ และเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรีสอร์ทในสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมและการแช่ออนเซ็นอุ่นๆ เพราะมันตั้งอยู่ที่เชิงดอยนี้แหละจึงทำให้มันเป็นอีกสถานที่ๆเราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์กันแบบ Full HD เลยทีเดียว   3.เมืองคามาคูระ . เมืองที่ติดอยู่กับชายฝั่งทะเลของญี่ปุ่นใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง ที่เมืองนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอีกด้วย เช่น พระพุทธรูปขนาดมหึมาสัญลักษณ์ประจำเมือง หรือจะมานั่งกินลมชมวิวริมชายหาดแถมยังได้มองเห็นภูเขาไฟอีกด้วย เป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คสุดๆ   4.เทศกาล Fuji Shibazakura . เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นในช่วงเดือน เมษายน – ปลายเดือนพฤษภาคม ของทุกปี…

ในหนังไซไฟหลายๆ เรื่องจะมีการแสดงเทคโนโลยีต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งหน้าจอโฮโลแกรมที่เราสามารถโต้ตอบกับมันได้ รถบินได้ หรือการเดินทางที่สะดวกสบายบนยานยนต์แบบไม่ต้องขับด้วยตัวเอง   เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่า Rolls-Royce (บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่ถูก BMW เข้าซื้อกิจการเมื่อปี 1998) ได้เปิดตัวรถหรูรุ่นล่าสุด ที่สามารถขับเคลื่อนได้เองโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย   รถที่ว่านี้มีชื่อรุ่นว่า 103EX ขนาด 2 ที่นั่ง เมื่อเปิดประตูออกมาคุณจะพบกับโซฟาที่ทำด้วยผ้าไหม และภายในจะโล่งมาก เพราะไม่มีชุดเกียร์ พวงมาลัย หรือหน้าปัดให้วุ่นวาย   รถคันนี้ขับเคลื่อนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ฉัจฉริยะ ที่จะรับคำสั่งจากคุณ และพาคุณไปส่งยังที่หมายที่ต้องการ และเหมือนกับในรถบางรุ่น เครื่องยนต์ต่างๆ จะถูกออกแบบให้อยู่ด้านหลังล้อหน้า ทั้งนี้ก็เพื่อให้งานออกแบบออกมาดูล้ำสุดๆ   แน่นอนว่ามันยังคงเป็นเพียงคอนเซปท์คาร์เท่านั้น ไม่ได้ออกมาจำหน่ายในเร็ววันนี้แน่นอน เพราะทางผ้บริหารได้ออกมาบอกว่ารถรุ่นนี้ยังต้องใช้เวลาในการพัฒนากันอีกนาน ทางผู้พัฒนาบอกว่าต้องใช้เวลาอีกราวๆ 30 ปี ถึงจะสามารถวางขายได้จริง คุณพระ!! . . . .   นี่คือหน้าตาภายในรถแบบชัดๆ   ไม่มีอะไรเลย  …

ในส่วนของเกลือ ไอเท็มสามัญประจำบ้านนั้น นอกจากจะสามารถนำไปปรุงเพื่อเพิ่มรสชาติของอาหารแล้ว ก็ยังใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีกมากมายเลยนะเออ และวันนี้เราก็จะมาบอกเกี่ยวกับวิธีเหล่านั้นให้เพื่อนๆ ได้ชมกันล่ะ!!!   ถ้าเกิดปัญหาท่อน้ำอุดตันล่ะก็ เกลือสามารถช่วยคุณได้!!! โดยการผสมเกลือ 1/4 ถ้วยกับเบคกิ้งโซดา 1/4 ถ้วย แล้วเทลงไปในท่อระบายน้ำ ต่อไปก็เทน้ำส้มสายชุครึ่งถ้วยตามลงไป รอประมาณ 15 นาทีก็เทน้ำร้อนตามลงไปอีกรอบ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วล่ะ   ช่วยให้แจกันดอกไม้ของคุณอยู่ได้นานขึ้น แค่ใส่เกลือลงไปในน้ำประมาณ 1 หยิบนิ้วแค่นั้นเอง   จัดการกับไข่ที่ตกลงพื้นกันได้ง่ายๆ เทเกลือลงไปให้ทั่ว (ไม่ต้องเว่อร์นะจ๊ะ -*-) แล้ว 15 นาทีต่อมาก็ใช้กระดาษชำระมาเช็ด เอี่ยมอ่องเหมือนใหม่เลยล่ะทีนี้   ขจัดคราบไขมันสะสมตามกระทะหรือหม้อ เทเกลือลงไปให้ทั่ว แล้วเติมน้ำลงไป รอ 10 นาทีแล้วนำฟองน้ำมาถูกคราบมันสะสมเหล่านั้นออกซะ!!!   ฟองน้ำเก่าเหรอ?? อย่าทิ้งเชียว ใส่เกลือลงไป 1/4 ถ้วย และใส่น้ำตามลงไป 2 ถ้วย มิกซ์ให้เข้ากันในภาชนะแล้วเอาฟองน้ำลงไปแช่สปาไว้สัก 1 คืน เช้ามาฟองน้ำของคุณจะออกมาเหมือนใหม่เลยล่ะ…

ใครๆ ก็รู้ว่าการหลับในที่ทำงานน่ะ ถือเป็นความผิดอย่างหนึ่ง ซึ่งนอกจะผิดต่อหน้าที่แล้ว ยังเป็นการเปิดช่องโหว่ให้เหล่าเพื่อนร่วมงานทำร้ายคุณได้ด้วยล่ะ T^T และนี่คือภาพตัวอย่างของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ถ้าคุณดันมีเพื่อนร่วมงานสุดแสบ!!!   ภาพการนอนแบบออริจินัลในที่ทำงาน   ล่องลอยไปเลยละกัน   ไปอยู่ในงานศิลปะชิ้นเอก   หรือหลับในห้องซาวน์น่า   หรือถูกส่งไปยังดาวอังคารกันเลย   จับเหวี่ยงซะเลย   เป็นแบบในไททานิคซะเลย   หรือเป็นดีเจซะเลย   เจ้าหญิงนิทรา   เป็น Hip Hop   อยู่ในงานศิลป์อีกแล้ว อิอิ   และเป็นถ้วยรางวัลของการล่า…   เห็นอย่างนี้แล้วใครอยากจะนอนในที่ทำงานอีกมั้ยล่ะจ๊ะ ฮ่าๆๆๆ ที่มา: Distractify

ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มีชื่อขึ้นหน้าหนึ่งสำนักข่าวในหลายๆ ประเทศ เมื่อนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ Lewis และ Rosemary Owen รวมทั้งลูกชายของพวกเขา ถูกวัยรุ่นรุมทำร้ายท่ามกลางงานสงกรานต์ จนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก บริเวณเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์     ซึ่งหลังจากนั้นทางตำรวจก็ได้จับกุมผู้กระทำผิดทั้งสี่ซึ่งประกอบไปด้วย นายสุภัททา ใบทอง อายุ 32 ปี นายยิ่งใหญ่ แสงคำอินทร์ อายุ 32 ปี นายศิวะ นกศรี วัย 20 ปี และนายไชยา ใจบุญ อายุ 20 ปี มาดำเนินคดี     ล่าสุดศาลได้ตัดสินโทษจำเลยทั้งสี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยศาลได้ตัดสินจำคุก 4 ปี แต่เนื่องจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ทำให้โทษลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 2 ปี ซึ่งดูเหมือนหลังจากข่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวต่างชาติได้แสดงคิดเห็นต่อผลการตัดสินครั้งนี้ เราลองไปชมกันดีกว่า ว่าพวกเขาคิดอย่างไรกันบ้าง   “สองปีเองเหรอ? เป็นไปได้มั้ยที่รัฐบาลเราจะติดต่อไปให้ลงโทษให้นานกว่านี้”   “สองปี.. ถ้ามาทำแบบนี้ในอังกฤษนะ…