Category: สาระรอบตัว

อื้อหือออ หรือในที่สุดแล้ว ความลับของสถานที่แห่งนี้จะถูกเปิดเผยกันซะที!!? สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า หนึ่งในสถานที่ลี้ลับของโลกที่มีการสูญหายของทั้งเรือและเครื่องบินในบริเวณนี้อยู่เป็นประจำ ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ก็ตรวจพบว่าบริเวณนี้มีแอ่งขนาดยักษ์ใต้ทะเลอยู่หลายแห่ง ซึ่งคือเหตุผลของเรื่องนี้ล่ะ!! สำนักข่าว DailyMail ประเทศอังกฤษได้รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ได้พบแอ่งขนาดยักษ์ใต้ทะเล Barents มีความกว้างอยู่ราวๆ 0.8 กิโลเมตร และลึกลงไปราวๆ 46 เมตรด้วยกัน ทำให้เกิดการสะสมของก๊าซมีเทนที่รั่วออกมาจากใต้พิภพจนระเบิดและทำให้ทะเลแถบนั้นปั่นป่วนนั่นเอง   สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าสุดลี้ลับ ทีมนักวิทยาศาสตร์แห่ง Arctic University of Norway ได้ออกมากล่าวเพิ่มเติมด้วยเช่นกันว่า ในแถบนี้มีแอ่งขนาดยักษ์อยู่หลายแห่ง ซึ่งก่อให้เกิดการระเบิดของก๊าซในปริมาณมาก อาจเรียกได้ว่าเป็นแหล่งขุมพลังก๊าซมีเทนตื้นใต้ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรอาร์กติกเลยทีเดียว!!! และแน่นอนว่าด้วยก๊าซที่ระเบิดใต้ทะเลในระดับตื้นๆ อย่างรุนแรงนั้นทำให้อันตรายต่อการเดินทางโดยเรือมาก     สำหรับการค้นพบเหล่าบรรดาแอ่งขนาดยักษ์ใต้สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านี้ นำไปสู่การเชื่อมโยงในเรื่องของเรือเดินสมุทรหลายๆ ลำที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งมีความเป็นไปได้มากจริงๆ หรือว่านี่จะคือเหตุผลที่แท้จริงที่เรือหลายๆ ลำได้มาสูญหายบริเวณนี้กันแน่…หลักๆ แล้วคงไม่ใช่เอเลี่ยนแอบมาลักพาตัวอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจแล้วล่ะเนาะ ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่าเราก็ต้องรอดูงานวิจัยเพิ่มเติมต่อไปนั่นแหละเนาะ ^^ ที่มา: Kapook, Dailymail

เหมียวเชื่อว่าหลายคนคงเคยเล่นเกมแบบนี้มาบ้างแล้วแหละ ที่จะมีสมการมาให้เรา โดยสมการนั้นสร้างด้วยไม้ขีด เรียงกันเป็นตัวเลขแบบดิจิตอล แล้วก็ให้เราย้ายไม้ขีดตามที่โจทย์กำหนด เพื่อให้สมการเป็นจริง วันนี้เหมียวก็เลยเอาโจทย์ข้อหนึ่งมา แต่โจทย์นี้น่าสนใจมากๆ ตรงที่มันมีหลายคำตอบ ซึ่งปกติแล้วเราก็จะเห็นแต่พวกที่มีคำตอบเดียวใช่ป่ะ เราไปดูโจทย์กันเลย   คุณสามารถย้ายไม้ขีดได้เพียง 1 ก้าน เลือกเอาว่าจะเอาก้านไหน เสร็จแล้วก็เอาไปวางตรงตำแหน่งใดก็ได้ เพื่อให้สมการเป็นจริง ถ้าพร้อมแล้วก็เชิญทำเลย เดี๋ยวจะมาเฉลยนะจ๊ะ (ลองไปหาไม้ขีดหรือไม้จิ้มฟันเอามาทำก็ได้) . . . . . . . เฉลย 1 – แบบแรกก็คือ ย้ายตรงกลางเลข 6 ตามภาพ   เสร็จแล้วก็เลื่อนขึ้นไปนิดนึงให้กลายเป็นเลข 0 แค่นี้เอง   เฉลย 2 – ย้ายไม้ขีดตามภาพ เอาไว้ตรงไหนดีนะ?   เอาไปไว้บนเลข 4 ตัวที่ 2 นั่นเอง ก็จะได้สมการเป็น 5+4=9   เฉลย 3 – ย้ายก้านแนวตั้งตรงเครื่องหมายบวกไปตรงไหนดี…

หากใครก็ตามที่ติดตามทั้งสื่อการ์ตูนมังงะและอนิเมะของญี่ปุ่น ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของตัวละครวัยนักเรียน มักจะเห็นได้ว่าชีวิตในโรงเรียนนั้นดูสดใส สมวัยการเรียนรู้ มีความสนุกสนานในห้องเรียน เข้าร่วมกิจกรรมกับชมรม ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนๆ ในก๊วน     แต่ในทางกลับกัน ชีวิตของนักเรียนญี่ปุ่นจริงๆ กลับตรงกันข้าม กิจกรรมต่างๆ ที่มีในการ์ตูนมังงะและอนิเมะ แทบจะไม่มีหรือมีน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนมากกว่า จึงทำให้มีเวลาบันเทิงเริงรมณ์น้อย อีกทั้งยังมีกฏข้อบังคับทั่วไปอีก   1. ห้ามขับรถไปโรงเรียน   ที่ห้ามขับรถไปโรงเรียนก็อันเนื่องมาจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัยของนักเรียน ส่วนใหญ่นักเรียนก็จะขี่จักรยานไปโรงเรียนหรือเดินเท้า ถ้าหากว่าระยะทางจากบ้านไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก หรือถ้าหากว่าไกลๆ หน่อย ก็อาศัยระบบขนส่งมวลชนเช่น รถบัสหรือรถไฟ อีกทั้งโรงเรียนส่วนใหญ่จะมีนโยบายให้นักเรียนยืนอยู่บนขนส่งมวลชน เพื่อเว้นที่ว่างไว้ให้กับผู้อื่นที่ต้องการนั่งมากกว่า   2. ห้ามทำกิจกรรมบางอย่างในที่สาธารณะ   เฉกเช่นเดียวกันกับประเทศไทย เมื่อใส่ชุดนักเรียนแล้วพฤติกรรมที่ไม่สุภาพจะส่งผลร้ายแรงต่อชื่อเสียงของโรงเรียนเป็นอย่างมาก ซึ่งพฤติกรรมที่ไม่สุภาพในญี่ปุ่นนั้นก็จะเป็น การอ่านหนังสือในขณะที่กำลังเดิน การเคี้ยวหมากฝรั่ง เป็นต้น   3. ต้องสวมใส่เครื่องแบบ   เหมือนๆ กับโรงเรียนในประเทศไทย ที่นักเรียนทุกคนจะต้องสวมใส่เครื่องแบบตามที่โรงเรียนกำหนด แต่ของที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีหลายชุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เหมาะสมกับตามสภาพฤดูกาลมีครบ 3 แบบ คือ ชุดฤดูร้อน…

ก็อย่างที่ทราบๆ กันอยู่ว่าสถานการณ์ในเรื่องเกี่ยวกับภัยแล้งของบ้านเรานั้นก็รุนแรงเกือบทุกๆ ปี ทำให้ภาคเกษตรกรรมประสบปัญหากันอย่างมาก เพราะไม่มีน้ำให้เพาะปลูกกันในฤดูร้อนแถมน้ำให้ใช้ก็ต้องใช้สอยอย่างประหยัดอีกต่างหาก สำหรับปีนี้นายกของเรา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ออกมาเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ โดยเสนอแนวคิด ‘ฝายประชารัฐสู้ภัยแล้ง’ ช่วยกันสร้างฝายกักเก็บตามพื้นที่ต่างๆ และยังขอความร่วมมือจากชาวบ้านให้อาบน้ำน้อยลงเพื่อที่จะได้มีน้ำเหลือเยอะขึ้น!!? จากการรายงานของ Posttoday ในกรณีนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็คิดว่ามันสมเหตุสมผลนะ แนวคิดนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร แน่นอนว่าการใช้น้ำที่น้อยลงหมายถึงการประหยัดและทำให้ใช้ทรัพยากรนั้นๆ ได้ยาวนานขึ้น แต่จะว่าไปในฤดูฝนเราก็มีปัญหาเรื่องน้ำท่วมอีกไม่ใช่เหรอ…อ่าวหน้าร้อนก็เพาะปลูกไม่ได้เพราะภัยแล้ง หน้าฝนก็น้ำท่วมจนเสียหายอีก แล้วเกษตรกรจะยืนอยู่จุดไหนละเนี่ย -*-   ภาพจากรายการคืนความสุขให้คนในชาติ   จะว่าไปแล้วภัยพิบัติต่างๆ นั้นก็เกิดขึ้นทุกๆ ปี คนจะถือว่าเป็นโชคร้ายก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้ามีการจัดการที่ดีไม่แน่นะว่าโชคร้ายอาจกลายเป็นโชคดีของเราก็ได้ และแน่นอนปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น อีกหลายๆ ประเทศทั่วโลกก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน ทั้งในประเทศสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ก็ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่ประสบปัญหาน้ำท่วมกันในหน้าฝน แต่หน้าร้อนพวกเขากลับจัดการกับภัยแล้งได้อย่างดี เอ๊ะเขามีวิธีการ-เคล็ดลับอะไรดีๆ กันรึเปล่าเนี่ย?? ทั้งน้ำท่วมซ้ำซากและภัยแล้งซ้ำซาก วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกยอมรับในระดับสากลมากที่สุดวิธีหนึ่งในขณะนี้ก็คือการเก็บเกี่ยวน้ำที่มีมากในฤดูฝน แล้วเติมน้ำเหล่านั้นลงไปในชั้นน้ำบาดาลเพื่อกักเก็บไว้ใช้ในยามแล้ง โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียพบว่าวิธีการนี้น่ะได้ผลมากๆ   การปั้มน้ำอัดลงไปใต้ดิน   สำหรับระบบนี้ในต่างประเทศมีชื่อเรียกอย่างเก๋ไก๋ว่า Aquifer storage recovery-ASR หรือเป็นภาษาไทยก็คือการคืนสภาพกักเก็บของชั้นน้ำบาดาลนั่นเอง ซึ่งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการจัดการปัญหาน้ำท่วมในหน้าฝนและภัยแล้งในหน้าร้อน หลักการง่ายๆ เลยก็คือการอัดน้ำผิวดินลงไปในบ่อบาดาลเลย…

การนอนไม่หลับเป็นอะไรที่ทรมานมากๆ ยิ่งตอนที่เราต้องตื่นเช้าหรือมีเรื่องต้องทำ แล้วต้องการนอน ยิ่งทำให้เรานอนยาก หรือบางคนอาจจะเป็นโรคนอนไม่หลับไปเลยก็ได้ เทคนิคการหลับของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป บางคนต้องอ่านหนังสือก่อนนอนถึงจะหลับสบาย บางคนต้องดูหนัง บางคนต้องดื่มนมอุ่นๆ นอนทับแขนตัวเอง หรือบางคนก็สามารถนับแกะนอนหลับไปได้เลย แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะเอาเทคนิคการนอนหลับดีๆ มาฝากทุกท่าน โดยเทคนิคนี้ใช้การหายใจเป็นหลัก คิดค้นและพัฒนาโดย Dr. Andrew Weil ซึ่งมีเพียงไม่กี่ขั้นตอน ประยุกต์มาจากการเล่นโยคะ ทำให้คนผลอยหลับไปเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง อีกทั้งยังลดความตึงเครียดได้ด้วย เราไปดูขั้นตอนกันเลย     วิธีทำ 1. ก่อนที่จะเริ่ม ให้เอาปลายลิ้นไปแตะที่เพดานปากเหนือฟันไว้ตลอดการทำวิธีนี้ 2. ค่อยๆ หายใจออกทางปากขณะที่ลิ้นยังแตะอยู่เพดาน จนเป็นเสียงหายใจที่ดัง “ซูบบบบ” 3. ปิดปาก แล้วค่อยหายใจเข้าทางจมูก เบาๆ ช้าๆ แล้วนับ 1-4 4. กลั้นหายในแล้วนับ 1-7 5. หลังจากนั้นก็ปล่อยลมหายใจออกทางปากเหมือนอย่างข้อ 2 โดยค่อยๆปล่อยแล้วนับ 1-8 6. แล้วก็หายใจออกอีกครั้ง และทำแบบวันวนอีก 3 รอบ รวมทั้งหมดเป็น…

ถือเป็นข่าวดี(รึเปล่า?) สำหรับผู้หญิงที่รักการนอนหลับเป็นชีวิตจิตใจ (ยกเว้นนอนหลังกินข้าวเสร็จนะ) เพราะว่าตอนนี้ได้มีผลวิจัยออกมาแล้วว่าเหตุผลที่ผู้หญิงนอนเยอะกว่าผู้ชายนั้นเป็นเพราะสมองนั้นซับซ้อนกว่าผู้ชาย เลยต้องการการพักผ่อน     ศาสตราจารณ์ Jim Horne แห่งมหาวิทยาลัย Loughborough University ประเทศอังกฤษได้ออกมาบอกว่า “สำหรับผู้หญิงแล้ว การนอนน้อยนั้นมีผลอย่างมากกับความเครียด และความรู้สึก ทำให้หงุดหงิดและซึมเศร้าได้ ซึ่งเราลองศึกษาจากผู้ชายแล้วไม่พบกรณีดังกล่าว” อย่างที่เราเคยรู้ว่านอนประมาณ 8 ชั่วโมง ก็ไม่ใช่ที่เหมาะสำหรับทุกคนแล้ว โดยที่เขาได้ออกมาเผยอีกว่าผู้หญิงนั้นต้องการนอนเยอะกว่าผู้ชาย เพราะว่าสมองซับซ้อนกว่า การได้นอนหลับเยอะเป็นการจัดระเบียบได้อย่างดี อีกทั้งยังมีข้อมูลด้วยว่าผู้หญิงสามารถทำงานหลายๆสิ่งพร้อมกันได้ดีกว่าผู้ชายด้วย ดังนั้นพวกเธอก็เลยต้องการพักผ่อนสมองให้มากๆ     ผู้หญิงหลายคนที่เห็นข่าวนี้คงยิ้มเยาะแล้วคิดในใจว่า “หึหึ ต่อไปนี้แกจะหาว่าชั้นนอนกินบ้านกินเมืองไม่ได้แล้วนะ เพราะสมองของฉันทำงานหนักไงล่ะ” ที่มา Metro, distractify

สำหรับสาวๆ แล้ว หนึ่งในความฝันสูงสุดที่พวกเธอต้องการ คงเป็นการถูกขอแต่งงานโดยคนรักของพวกเธอ ลองนึกภาพมีผู้ชายมาคุกเข่าขอแต่งงานดูสิ แค่นึกถึงก็ฟินแล้วใช่มั้ยละ วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 19 การขอแต่งงานสุดน่ารัก ที่สาวๆ ทั่วโลกเห็นแล้วจะต้องอิจฉาตาร้อนอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ไปชมกันดีกว่า   บนหน้าผา   ริมทะเล   กลางงานวิ่งสี ถึงกับหายเหนื่อยเลยล่ะสิ   กลางศาลาที่เต็มไปด้วยสายไฟ   ให้น้องหมาช่วย   แต่งงานกับเจ้านายผมนะฮะ   ในถ้ำสวยๆ   กลางสวนสนุก   บนชายหาด   มาในธีม Pride and Prejudice   ใช้ของเล่น Kinder ก็ไม่เลวนะ   หรือจะให้เจ้าโลมาช่วยก็ไม่เลวนะ   ขอแต่งงานท่ามกลางหิมะ   หรือจะบนภูเขา   หรือจะใช้วิธีเหมือนเรื่อง Up   ดอกกุหลาบ ทะเล…

เชื่อว่าในทุกวงการ ต้องมีของชิ้นหนึ่งที่ทุกคนต่างยอมรับว่าเป็นเอกแห่งผลิตภัณฑ์ ที่ไม่ว่าถามใคร ก็ต้องยกให้เป็นตำนานไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน ไม่ว่าจะเป็นวงการพระเครื่อง วงการเครื่องเสียง วงการฟุตบอล และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับวงการเครื่องดนตรี โดยเฉพาะเครื่องดนตรีคลาสสิกนั้น เครื่องดนตรีแต่ละชนิดก็เครื่องดนตรีในตำนานของตนเอง อย่างเครื่องดนตรีไวโอลิน ก็จะมีไวโอลินของ Stradivarius ที่นักไวโอลินทั่วโลกต่างถือว่าเป็นไวโอลินที่ “สมบูรณ์แบบ” ที่สุดในโลก       ไวโอลินตัวนี้ สร้างขึ้นโดย Antonio Stradivari จากตระกูลนักทำเครื่องดนตรีในตำนานจากประเทศอิตาลีในช่วงศตวรรษที่ 17 – 18 ซึ่งในปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น และราคามันก็พุ่งขึ้นไปถึงตัวละ 3.5 ล้านปอนด์หรือราว 150 ล้านบาทเลยทีเดียว… แต่ไวโอลินตัวนี้ ถือว่า “ดี” ที่สุดในโลกจริงๆ หรือ? หากเทียบกับไวโอลินรุ่นท็อปๆ ในยุคปัจจุบัน มันจะดีกว่าจริงๆ หรือ? หรือว่าเป็นเพียงอุปทานของมนุษย์ ที่คิดว่าของเก่ามักจะดีกว่าเสมอหรือเปล่า?     ทาง National Academy of Sciences จึงทำการทดสอบด้วยการทำ Blind Test หรือปิดตาทดสอบในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม Indianapolis  วิธีการของพวกเขาก็ง่ายๆ…

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องราวสุดประทับใจของหนูน้อย Amelia Meyer ที่เธอเป็นผู้โชคดี Make-A-Wish รายการที่จะให้เด็กๆ ขออะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการพบกับดาราคนดังที่เธอชื่นชอบ ไปเที่ยวสถานที่เจ๋งๆ หรือว่าขอขนมเป็นตั้งๆ …ไม่หรอก เธอขออะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เธอขอการดูแลโลก!!! เป็นคำขอที่น่ารักที่สุดที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ Amelia Meyer  หนูน้อยผู้ป่วยโรคมะเร็งสมองวัย 8 ขวบ ขอพรให้เธอสามารถไปช่วยดูแลสวนสาธารณะของเมืองที่เธออาศัย ซึ่งคุณครูของเธอก็บอกเพิ่มเติมว่า เธอรักสวนสารธารณะแห่งนี้มาก และมักจะไปบ่อยๆ กับคุณยายของเธอ   Make-A-Wish ที่จะขออะไรก็ได้   เธอได้ให้สัมภาษณ์กับ CBS News ว่า ‘สวนสาธารณะมันดูไม่ดีเอาซะเลย และเหตุผลอีกข้อหนึ่งก็คือมันอาจทำให้สัตว์ที่เข้ามาในสวนป่วยหรือบาดเจ็บได้ด้วย’  ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่เธอขอ และทางรายการก็จัดให้ได้โดยง่าย แต่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้คนแถบนั้นสุดๆ ไปเลยทีเดียว โดยวันที่เธอไปทำความสะอาดนั้น ทั้งสถานีตำรวจ พนักงานดับเพลิงทุกคน รวมถึงอาสาชาวเมืองอีกนับร้อยๆ คนต่างมาช่วยเธอทำความสะอาดสวนแห่งนี้   ‘หนูคิดว่าจะมีคนมานะ แต่ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้’ Meyer กล่าว   สำหรับตอนนี้หนูน้อยก็เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจและการทำความดีให้กับเมืองแห่งนี้เลยทีเดียว จนนายกเทศมนตรีของเมืองออกมาประกาศให้วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมาเป็นวัน “Amelia Meyer’s Take Care…

เวลานี้ คงไม่มีใครฮอตไปกว่านักแสดงหนุ่มผู้ซึ่งคว้ารางวัลออสการ์ไปหมาดๆ “ลีโอนาโด ดิคาปริโอ้” ซึ่งพระเอกคนนี้ใครๆ ต่างก็มองว่าเขาคือผู้ชายอบอุ่นคนหนึ่ง ขนาดที่ว่าตอนขึ้นไปพูดตอนรับรางวัล ยังไม่พูดเรื่องตัวเองเลย แต่พูดเกี่ยวกับโลกร้อนแทนซะงั้น หลายคนอาจจะมองว่าเค้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ รึเปล่า วันนี้เหมียวมีพยานปากเอกมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับป๋าลีโอมาเล่าให้ฟัง Kasi Brown เธอเคยเป็นผู้ช่วยของป๋าตั้งแต่หนังเรื่อง The Aviator ในปี 2003 นู่นแล้ว เธอให้คำนิยามสั้นๆเกี่ยวกับป๋าว่าหล่อสมาร์ท และอีกด้านหนึ่งก็คือเป็นคนตลกวัวตายควายล้ม เธอเล่าว่าเจอป๋าครั้งแรกโดยการแนะนำจากเพื่อนที่ชื่อ Kayce Brown ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้ช่วยอยู่ที่กองถ่ายทำเรื่อง Catch Me if You Can ในเมือง Montreal และเธอก็ได้กลายมาเป็นผู้ช่วยแทนคนเดิมตอนถ่ายทำเรื่อง The Aviator ซึ่งตอนนั้นอยู่ในช่วงระหว่างย้ายกองถ่ายทำจากแคนาดาไปสู่ลอส แองเจิลลิส หลายคนอาจจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับดาราใช้งานผู้ช่วยหนักๆ ปฏิบัติเยี่ยงทาส แต่เธอคนนี้ได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร “บางทีฉันก็พยายามแกล้งให้ตัวเองเหมือนกับผู้ช่วยดาราทั่วไป อย่างเช่นเวลาเขาสั่งให้ฉันไปทำอะไรบางอย่าง ฉันก็จะตอบประมาณว่า ‘ได้ค่ะท่าน มีอะไรให้ช่วยอีกไหมคะ?’ แล้วป๋าก็จะบอกฉันว่าขอซื้อคำนั้นทิ้งได้ไหม” เธอกล่าว   ลีโอนาโด ดิคาปริโอ้ เป็นที่รู้จักในวงการฮอลลีวู้ดมา 20 ปีแล้ว และความโด่งดังของเขาก็ไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนไปแต่อย่างใดเลย   งานของเธอย่างหนึ่งก็คือการถือร่มให้ป๋า เพื่อป้องกันและบังปาปารัซซี่ไม่ได้แอบถ่ายภาพของเขาได้ (แต่อันนี้ป๋าถือเองเลย เป็นรูปประกอบเฉยๆนะ)  …

เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะได้เห็นมันฝรั่งทอดกรอบรสชาติแปลกๆ ใหม่ๆ จากร้านสะดวกซื้อแถวบ้านมาบ้างแล้ว บางคนอาจจะสงสัยว่า “มันฝรั่งกับรสชาติหวานๆ มันจะเข้ากันได้เหรอ?” #เหมียวฟิ้นเองก็สงสัยเช่นกัน เลยไปซื้อมาลองชิมด้วยตัวเองซะเลย   เหยือ เอ้ย! มันฝรั่งที่เหมียวซื้อมาชิมในวันนี้มี 4 รสชาติ จาก 2 ยี่ห้อด้วยกัน นั่นก็คือ เลย์กลิ่นฮันนี่บัตเตอร์ และ เลย์กลิ่นป็อปคอร์นคาราเมล กับ เทสโตกลิ่นสตรอเบอร์รี่มิลค์เชค และ เทสโตรสช็อคโกแลต แต่ละรสชาติแตกต่างกันยังไง รสไหนเกิดรสไหนดับ เหมียวจะมาชำแหละเอง   1. เลย์กลิ่นฮันนี่บัตเตอร์ น้ำหนัก 65 กรัม ราคาซองละ 25 บาท ให้พลังงาน 340 กิโลแคลรี น้ำตาล 1 กรัม ไขมัน 20 กรัม และโซเดียม 260 กรัม   ความรู้สึกแรกที่เปิดห่อมาเลยคือได้กลิ่นหอมของเนยชัดเจน มีกลิ่นน้ำผึ้งแซมมาบางๆ กัดเข้าไปคำแรกรู้สึกว่ามีความเปรี้ยวบางๆ ลงมาที่ลิ้น จากนั้นก็เป็นรสหวานๆ มันๆ…

หลายคนอาจจะเคยได้ยินเชื่อโรค ‘ดิสเล็กเซีย’ กันมาบ้างแล้ว บางคนอาจจะรู้จักในชื่อโรคอ่านหนังสือไม่ออก ซึ่งความจริงแล้วไม่ถึงกับอ่านไม่ออกหรอก แต่มีความบกพร่องทางการอ่านเท่านั้น ซึ่งคนที่มีอาการมักจะสะกดคำไม่ได้ อ่านไม่ได้ เนื่องจากการมองเห็นตัวอักษรนั้นสลับตำแหน่งไปมาตลอด ความจริงแล้วโรคดิสเล็กเซีย (Dyslexia) ถือเป็นความผิดปกติด้านการเรียนรู้ (Learning Disorder) อย่างหนึ่งเลย อาจทำให้บางคนไม่สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เหมือนคนทั่วไป เด็กหลายคนก็อาจจะประสบปัญหานี้ แต่ผู้ปกครองไม่ทราบ และคิดว่าลูกเราอาจจะไม่เก่งจริงๆ จนบางทีส่งผลให้ลูกเราไม่สามารถเรียนร่วมชั้นกับเพื่อนๆได้ เพราะไม่สามารถทำงาน ทำการบ้าน หรือเรียนแบบเดียวกับเพื่อนได้นั่นเอง     นอกจากนี้ยังส่งผลต่อไปเรื่อยๆ ถึงขั้นว่าทำให้เด็กกลายเป็นเด็กเกเรไปเลย เนื่องจากไม่สามารถรวมกลุ่มกับเพื่อนได้ ดังนั้นหลายที่จึงมีการรณรงค์ให้ผู้ปกครองตรวจสอบเด็กๆ ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการอ่านและการเขียนอยู่รึเปล่า เพราะอาจเข้าข่ายดิสเล็กเซียก็เป็นได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเด็กจะไม่สามารถเรียนรู้อะไรเลยได้ ถ้าเด็กมีความถนัดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และผู้ปกครองสามารถดึงศักยภาพของเด็กคนนั้นขึ้นมาได้ จะทำให้เด็กกลายเป็นอัจฉริยะไปเลยก็ได้นะ     นี่เหมียวไม่ได้พูดเอาเวอร์นะ เพราะมันมีตัวอย่างจริงๆ และบุคคลเหล่านั้นเราก็รู้จักกันเป็นอย่างดี โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ dyslexia.com ได้รวบรวมรายชื่อคนดังที่เป็นโรคนี้ มีตั้งแต่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์, ลีโอนาโด ดวินชี, ปีกัสโซ่, หรือจะเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอย่าง จอร์จ วอร์ชิงตัน ก็เป็นโรคนี้กันทั้งนั้น จากทั้งหมดนี้มีทั้งนักวิทยาศาสตร์ ศิลปิน นักการเมือง ซึ่งถ้าเรามองดูแล้วก็จะรู้ว่าพวกเขานั้นใช้ความพยายามในการเรียนรู้มากกว่าคนปกติ…

หลายคนอาจจะรู้ว่าเวลาแมวมันมองเรา มันรู้สึกอย่างไรกับเรา เอาที่แบบพอรู้สึกได้ก็คือแมวมันเกลียดเราแน่ๆล่ะ (ฮ่าๆ) แต่สำหรับสุนัขล่ะ มันคิดยังไงกับเรากันแน่นะ ทำไมเราดูไม่ค่อยออก วันนี้ #เหมียวสามสี มีการ์ตูนเปรียบเทียบระหว่างสิ่งที่ “คุณมองตัวเอง vs. สุนัขมองคุณ” วาดโดยศิลปิน Kelly Angel ซึ่งเธอก็ได้ประสบมากับตัวเองทั้งนั้น ทำให้เราได้รู้ว่าจงมองตัวเองในแง่ดีบ้าง เพราะอย่างน้อยก็มีอีกหนึ่งที่ชีวิตที่ต้องพึ่งพาคุณอยู่ เราไปดูกันเลยว่าการ์ตูนชุดนี้จะสื่อออกมาได้ดีขนาดไหน   คุณอาจจะจะมองตัวเองว่าเป็นคนล้มเหลว / แต่หมามองคุณในแง่ความสำเร็จ   คุณอาจจะทำอาหารไม่ได้เรื่อง / แต่สุนัขก็ชอบสิ่งที่คุณทำ   คุณอาจจะมองตัวเองเป็นที่พึ่งพาไม่ได้ / แต่หมามองว่าคุณสตรองมากๆ   คุณอาจจะมองว่าหน้ามีแต่สิว / แต่นั่นแหละของโปรดของมันล่ะ   คุณอาจจะมีอารมณ์ที่เศร้าหมอง / แต่สำหรับมันคือความสุข   คุณอาจจะมองตัวเองเป็นแค่คนเลี้ยงหมา / แต่มันมองคุณเป็นผู้มาโปรด   คุณอาจจะมองตัวเองไม่มีค่า / แต่มันมองคุณคือสิ่งที่ดีที่สุด   คุณอาจจะมองตัวเองในแง่ลบเกี่ยวกับความรัก / แต่มันมองว่าคุณคือคู่แท้   คุณอาจจะมองตัวเองเป็นคนธรรมดา / แต่มันมองคุณเป็นเจ้านาย  …

ภาพถ่ายคือสิ่งที่เก็บความทรงจำและช่วงเวลาต่างๆ อันน่าจดจำเอาไว้ แม้การเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ ความทรงจำเหล่านั้นก็ ยังคงแจ่มชัดในจิตใจ และวันนี้ เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชม 16 ภาพประวัติศาสตร์อันทรงพลัง ที่เพื่อนๆ เห็นแล้วจะต้องทึ่ง ว่าเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นด้วยหรือ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย   ภาพการรณรงค์ Provo ในประเทศเนเธอร์แลนด์ช่วงปี 1960 เป็นการกระตุ้นให้ทุกคนเห็นว่า ความเหนื่อยหน่ายและความวิกลจริต คือพลังที่สามารถขับเคลื่อนสังคมได้   ภาพการยื้อแย่งขึ้นเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของชาวอเมริกัน ในช่วงสงครามเวียดนาม   ภาพของทหารออสเตรเลียที่ถูกยิงเข้าที่หน้าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่น่านับถือคือ เขาต้องเดินตัวเปล่าๆมาเกือบ 10 กิโลเมตร ก่อนจะได้รับการรักษาดังภาพ   ภาพของเสือทาสเมเนียนตัวสุดท้ายของโลก (คนละตัวกับทาสเมเนียนเดวิลนะ) โดยเสือทาสเมเนียนเป็นสัตวพื้นเมืองของทวีปออสเตรเลีย ก่อนจะสูญพันธุ์จากการล่าของมนุษย์ในช่วงศตวรรษที่ 20   ภาพระหว่างการถ่ายทำโลโก้บริษัท MGM ของเจ้า Leo สิงโตที่น่าจะมีคนรู้จักมากที่สุดในโลก   ภาพการพักผ่อนระหว่างภารกิจการสำรวจทวีปแอนตาร์กติกาครั้งแรก ของทีมสำรวจจากประเทศฝรั่งเศส   เด็กชาวรัสเซียกำลังยืนล้อมหลอดไฟ UV เพื่อเสริมสร้างวิตตามินดีในร่างกาย   ภาพของไร่กัญชากลางเมืองนิวยอร์คในช่วงปี…

สำหรับการนอนกรนก็เรียกได้ว่าเป็นปัญหาระดับชาติเลยทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องนอนร่วมกับคนกรน เป็นอะไรที่ทรมานมากๆ (ณ จุดๆ นี้ เพื่อนๆ หลายๆ คนที่เคยไปเข้าค่ายพักแรมคงทราบกันดี) หลับทีหลังนี่มีสิทธิ์ตายได้เลยทีเดียว วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ได้ไปเจอ 9 วิธีการดีๆ ที่จะทำให้คุณเลิกเป็นคนนอนกรน มาฝากกันล่ะ อิอิ เพื่อคนที่คุณรัก มาทำกันเถอะ พวกเขาจะได้นอนสบายๆ เสียที ><   1. ใช้เครื่องทำความชื้นสิ   การที่คนนอนกรนส่วนหนึ่งก็เพราะความแห้งของอากาศนั่นแหละ เพราะฉะนั้นถ้าเพิ่มความชื้นขึ้นบ้างเล็กน้อยในอากาศก็อาจช่วยการนอนกรนได้ แต่บ้านเราเป็นเมืองร้อนชื้นอยู่แล้วต้องระวังเรื่องปอดบวมถ้าใช้เครื่องตัวนี้ ทางที่ดีควรใช้ในห้องที่มีอากาศถ่ายเท และที่สำคัญอย่าลืมดื่มน้ำก่อนเข้านอนนะจ๊ะ   2. ลองเปลี่ยนท่านอนดูบ้าง   บางทีการเปลี่ยนท่านอนที่แตกต่างออกไปก็สามารถทำให้อาการกรนลดลงได้ เทคนิคง่ายๆ ลดการนอนกรนที่เบสิกมากๆ เลยก็คือการนอนตะแคงข้าง และท่าที่กระตุ้นการนอนกรนมากที่สุดคือท่านอนหงายนี่แหละ   3. ลดการดื่มแอลกอฮอล์   การดื่มแอลกอฮอล์ 4-5 ชั่วโมงก่อนนอนเป็นเครื่องมือกระตุ้นการกรนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ยิ่งคนที่นอนกรนอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีก   4. ใช้อุปกรณ์ Mouthpiece ใส่เวลานอน  …

เรียกได้ว่าเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ทีเดียว สำหรับกรณีนักข่าวชื่อดังอย่างนาย สรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกในคดี บ.ไร่ส้ม ทุจริตค่าโฆษณา อสมท เป็นเวลา 13 ปี 4 เดือน แต่สุดท้ายก็ขอประกันตัวไปในวงเงิน 2 ล้านบาท   ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 มีนาคมคุณสรยุทธก็ยังคงเดินทางมาจัดรายการเรื่องเล่าเช้านี้เป็นปกติ พร้อมกับอ่านข่าวของตัวเองออกอากาศเป็นข่าวแรกและยืนยันว่าจะขอสู้ในชั้นศาลต่อไป     ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนดูทางบ้านตามมาว่า เหมาะสมหรือไม่ที่สรยุทธยังคงกลับมาจัดรายการตามปกติ? เพราะตนเองมีคดีความอยู่ แต่ทำไมทางผู้บริหารของช่องกลับอนุญาตให้กลับมาจัดรายการได้?   ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ไปในแง่มุมต่างๆ เช่นเพจของอีเจี๊ยบเลียบด่วน ที่มองว่าสรยุทธเองเป็นคนดังและทำรายการต่อเนื่องมาสิบกว่าปี จนมีแฟนรายการรอชมอย่างเหนียวแน่น และแถบจะเป็นนักข่าวคนเดียวในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ที่เราได้เห็นหน้าเขาผ่านทีวีทุกๆ วัน หากขาดสรยุทธไป รายการข่าวของช่อง 3 อาจจะมีปัญหาเอาได้   ไม่ว่าเหตุบ้านการเมืองใดก็ตามที่ถึงมือสรยุทธ มักจะกลายเป็นข่าวใหญ่โต จนเกิดความเคลื่อนไหวในสังคมเสมอ แต่หากมองอีกแง่หนึ่ง บริษัทที่สรยุทธทำงานอยู่นั้นก็ถูกตัดสินให้มีความผิดจริง และหากเจ้าตัวยังคงทำหน้าที่อยู่ในสังคมต่อไปแบบนี้ อาจจะถูกประชาชนตำหนิเอาได้ว่าเกิดความลำเอียงต่อคนรวยและคนมีชื่อเสียง มาๆๆๆ ว่างคุยเรื่องเฮียสอเค้าหน่อย ปรามก่อนเลยว่า ไอ้พวกมาแนวเรื่องการเมืองกีฬาสี เรื่องไปพูดแขวะศาล ประชดศาล เก็บเห็ดซี… Posted by อีเจี๊ยบ…

ก็อย่างที่เราๆ ทราบกันเป็นอย่างดีว่า มนุษย์น่ะไม่ได้เป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ แน่นอนว่ามีสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ อยู่ด้วย และที่สำคัญอันตรายกว่า และทรงพลังกว่ามนุษย์ซะอีก การถูกสัตว์เหล่านี้เข้าทำร้ายก็คงไม่เป็นเรื่องที่พิศมัยนัก ซึ่งหลักๆ แล้วก็เพราะว่าความไม่เข้าใจในพฤติกรรมและธรรมชาติของกันและกันนั่นแหละ วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็อยากจะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ 11 เทคนิคดีๆ ไว้ใช้ป้องกันการถูกจู่โจมโดยสัตว์ต่างๆ อ่านแล้วอย่าลืมจำไปใช้กันในสถานการณ์จริงด้วยนะจ๊ะ   1. ข้อแรกสำคัญมาก อย่าเข้าใกล้สัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ สัตวแพทย์ หรือผู้ฝึกสอนอยู่ด้วยเด็ดขาด ถึงจะดูเชื่องน่ารักขนาดไหนก็ตามที   เพราะหนึ่ง ถ้ามีเจ้าของหรือผู้ดูแลสัตว์ตัวนั้นๆ ถ้าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น พวกเขาก็จะสามารถป้องกันได้อย่างทันท่วงที แต่ถ้าไม่มีล่ะก็ ใครก็มาช่วยเราไม่ทันล่ะทีนี้   2. จงใจเย็นเข้าไว้เวลาเผชิญหน้ากับมัน ยิ่งถ้าคุณกรีดร้องด้วยแล้วล่ะก็ อาจเป็นการไปกระตุ้นให้มันเกิดความเครียดมากขึ้น และเข้าจู่โจมคุณทันที!!!   3. สังเกตุพฤติกรรมของสัตว์ตัวนั้นๆ แบบห่างๆ เสียก่อน ถ้ามันมีพฤติกรรม (ถึงแม้จะเล็กน้อยก็ตาม) แสดงให้เห็นถึงความก้าวร้าวแล้วล่ะก็ อย่าไปเข้าใกล้มันเชียวล่ะ   4. ข้อนี้คงเจอกันได้บ่อยๆ ถ้าเจอสัตว์ที่หลงทางมาล่ะก็ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่หรือหาอุปกรณ์ที่ปลอดภัยมาจับมันดีกว่านะจ๊ะ เพราะเราไม่รู้หรอกว่ามันดุ หรือมีเชื้ออะไรติดตัวมารึเปล่า   5.…

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดประทับใจของการยอมรับในตัวของตัวเองและการที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาแม้จะผ่านเหตุการณ์ที่ร้ายๆ มาก็ตาม #จ่าสิบเหมียว ขอชื่นชมเธอคนนี้จากใจเลยล่ะ   Shalom Nchom สาวน้อยวัย 20 ปีชาวไนจีเรียซึ่งตอนนี้เธอมีอาชีพเป็นช่างแต่งหน้า   ตอน 9 ขวบเธอประสบอุบัติเหตุโดนน้ำมันร้อนๆ เดือดปุดๆ ลวกเข้าที่ใบหน้า ทำให้เกิดแผลแบบนี้เกือบทั่วบริเวณ   ‘ชีวิตหลังจากอุบัติเหตุมันแย่มากๆ เวลาออกไปข้างนอกผู้คนก็ชอบจ้องมองฉัน ฉันรู้สึเหมือนเป็นรูปปั้นอะไรสักอย่างที่มีคนแวะเวียนมาดูกันบ่อยๆ ฉันร้องไห้บ่อยมากๆ จากนั้นมาจึงเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการแต่งหน้าล่ะ’ เธอกล่าว การแต่งหน้าทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก แถมยังช่วยในเรื่องการถูกแกล้งถูกล้อที่โรงเรียนได้เป็นอย่างดี เพราะหลายๆ คนเริ่มนับถือในความสามารถของเธอ ยิ่งทักษะของเธอพัฒนา เพื่อนๆ ผู้หญิงในห้องก็มาขอให้เธอช่วยแต่งหน้า เธอจึงเริ่มเก็บค่าแต่ง ตั้งแต่ราคา 175-900 บาท!!!   นี่คือหนึ่งคลิปที่ทำให้เธอมีชื่อเสียงมากๆ กับการแต่งหน้าเพียงครึ่งหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงพลังของการแต่งหน้า   เธอหวังว่าผู้คนที่เข้ามาดูคลิปของเธอจะไม่ได้แค่เรียนรู้เรื่องการแต่งหน้า แต่ได้แนวทางการต่อสู้ชีวิตของเธอไปด้วย   และที่สำคัญที่สุด การยอมรับในตัวเองและโชคชะตาของตัวเอง   แต่ถึงจะมีชื่อเสียงด้านการแต่งหน้ามากแค่ไหน…   เธอก็ไม่เคยลืมที่จะแสดงตัวตนที่แท้จริงของเธอให้โลกได้รู้และได้เห็น นั่นแหละคือการยอมรับและเห็นคุณค่าในตัวเอง   ‘ไม่ว่าอย่างไรคุณก็ควรรักตัวเอง ทั้งขณะที่แต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้า การแต่งหน้าไม่ได้ทำให้ฉันมีความสุข แต่การรักตัวเองต่างหาก’…

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงสงสัยว่า ทุกครั้งเวลาเรานั่งเครื่องบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะมาบอกให้เราเปิดหน้าต่างด้านข้างเสมอเวลานำเครื่องขึ้นหรือนำเครื่องลง ไม่ว่าแดดจะแรงขนาดไหน รู้หรือไม่ว่าทำไมต้องทำแบบนั้น? แน่นอน ไม่ใช่เพราะเขาอยากให้เราเห็นวิวด้านข้างหรอกนะ แล้วมันเป็นเพราะอะไรกันล่ะ? ไปตามหาความจริงกันเลยดีกว่า!!     เหตุผลแรกเลยคือ การเปิดหน้าต่างไว้ จะทำให้พนักงานสามารถสังเกตุสถานการณ์ด้านนอกได้ดีขึ้นยามเกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะพวกเขามีเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ในการตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง และเวลาหน่วยกู้ภัยมาถึง พวกเขาก็จะสามารถเห็นสถานการณ์ภายในได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เปิดหน้าต่างไว้ จะทำให้ผู้โดยสารสามารถช่วยลูกเรือสังเกตเหตุการณ์ผิดปกติ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับสภาพอากาศ ตัวเครื่องบิน หรืออื่นๆ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น     “ผู้โดยสารหลายคนนั้นขี้สงสัย และมักมีสายตาที่ยอดเยี่ยม ถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น พวกเขามักจะรายงานลูกเรือในทันที” Saran Udayakumar  เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางด้านการบินกล่าว หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น แต่เหตุการณ์ที่ผู้โดยสารสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเครื่องยนต์ แล้วแจ้งไปยังลูกเรือจนสามารถช่วยชีวิตคนนับร้อยได้นั้น เคยเกิดขึ้นจริงๆ หลายต่อหลายครั้งแล้วในหลายๆ ประเทศ   ได้ยินแบบนี้ เวลาลูกเรือบนเครื่องบินบอกให้ทำอะไรก็ทำไปเถอะนะ เพราะทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทั้งนั้น เข้าใจมั้ยเพื่อนๆ อิอิ ที่มา Metro

ในความเข้าใจของคนทั่วไป (รวมถึงเหมียว) คงเข้าใจกันว่ามะเร็งนั้นเกิดจากการสูบบุหรี่ ได้รับสารเคมี หรือกินของไหม้ๆ ทำให้เกิดเป็นมะเร็งในร่างกายของเราได้ แต่ล่าสุดมีการรายงานจากต่างประเทศว่า การสวมถุงยางบางยี่ห้อ ก็อาจทำให้เรากลายเป็นมะเร็งได้เช่นกัน เห้ย มันอะไรกันเนี๊ยะ!!     เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าองค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากยางบางยี่ห้อ ว่าอาจมีส่วนผสมของสารเคมีอันตรายที่ก่อให้เกิดมะเร็งก็เป็นได้   เจ้าสารก่อมะเร็งที่ว่านี้ยังถูกพบในจุกนมเด็ก, ถุงมือยาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มียางเป็นส่วนประกอบ ทางด้านศาสตราจารย์ Hans Kromhout ได้เข้าร่วมการประชุมที่ประเทศฝรั่งเศสได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า “มันถูกค้นพบในถุงมือ ขวดนมเด็กและจุกนมปลอม”     นอกจากนี้เขายังเสริมอีกว่า “มันได้รับการยืนยันเมื่อไม่นานมานี้ ว่าฝุ่นควันบนท้องถนนที่เกิดจากเศษยางเวลารถวิ่งผ่านไปผ่านมา เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง ซึ่งนี่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ลำดับถัดไปจากการสูบบุหรี่นั่นเอง”     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีรายงานว่ายางชนิดไหนกันแน่ที่ทำให้เกิดอันตราย อาจจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวต่อไปล่ะ ที่มา metro

วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ เดินทางไปยังรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นั่นเป็นที่ตั้งของแม่น้ำสายหนึ่งที่มีชื่อว่า “แม่น้ำโคโรลาโด” มันได้ชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่มีความคดเคี้ยวที่สุดในโลก แถมยังได้รับการการันตีด้วยว่าสวยที่สุดในโลกอีกต่างหาก       แม่น้ำโคโรราโดมีความยาวกว่า 2,330 กิโลเมตร ในช่วงฤดูแล้งจะมีน้ำไหลผ่านประมาณ  570 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนฤดูที่น้ำหลากจะมีอัตราการไหลอยู่ที่ 28,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีอุณหภูมิคงที่อยู่ที่ 10 องศาเซลเซียส     สาเหตุหนึ่งที่ทำให้แม่น้ำแห่งนี้มีร่องหินที่สวยงามคดเคี้ยวไปมาอย่างที่เห็นก็เพราะว่าน้ำในแม่น้ำไหลผ่านด้วยความเร็วประมาณ 32 กิโลเมตรต่อชั่วโมง น้ำเลยเซาะกร่อนหินไปวันละหลายล้านตัน จนเกิดเป็นแกรนด์แคนยอน ที่ชาวอเมริกันมักจะพากันไปล่องแก่งนั่นเอง                                     ลองชมคลิปความสวยงามของแม่น้ำสายนี้ได้ที่ด้านล่างเลย   ใครที่ชอบท่องเที่ยวแบบผจญภัย ควรจะไปลองสักครั้งนะ ที่มา National Geographic , ที่สุดในโลก , wikipedia

ใครจะไปรู้ล่ะว่าโลกของเรามีต้นไม้ที่สามารถฆ่าคนได้ ถ้าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละล่ะเพราะมันมีอยู่จริงๆ ต้นไม้นี้มีชื่อว่า “ต้นแมนชินีล” ซึ่งชาวบ้านมักจะเรียกว่า ต้นแอปเปิ้ลพิษ จะถูกพบได้ตามแถบชายฝั่งคาริบเบียน ทางใต้ของฟลอริดาและแถบอเมริกาใต้ ผลของมันอาจจะดูเหมือนแอปเปิ้ลสีเขียวๆธรรมดาๆ แต่หากคุณลองหยิบมันขึ้นมาชิมมันเพียงแค่ลูกเดียวก็สามารถฆ่าคุณได้เลย   ไม่เพียงแต่ผลของมันเท่านั้นที่อันตราย ทุกส่วนของมันก็อันตราย กระทั่งใบ เปลือกของต้นก็ยังอันตราย หากคุณไปสัมผัสกับมันเข้าอาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้เนื่องจากมันมีสารพิษ   หากฝนตก คุณล้มเลิกความคิดที่จะไปหลบฝนใต้ต้นนี้ได้เลย เพราะมันอาจทำให้คุณผิวไหม้ได้   นี่เป็นภาพของคนที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง   “ถ้ามันแย่ขนาดนั้นก็เผามันซะเลยซิ่” แต่เดี๋ยวก่อนน!! หากคุณเผามันควันจากต้นไม้นี้จะทำให้คุณเกิดอาการระคายเคืองตาของคุณอย่างรุนแรง ดีไม่ดีอาจทำให้คุณตาบอดได้เลยนะ และยิ่งถ้าสูดเข้าไปเยอะๆก็ถึงแก่ชีวิตเลยล่ะ   อันตรายขนาดไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆมีป้ายเตือนระวังไว้ ไม่ให้ใครมายุ่งกับมัน   นี่เป็นคลิปวีดีโอเกี่ยวกับเจ้าต้นแมนชินีล หากเพื่อนๆได้พบเจอกับเจ้าต้นนี้เข้าก็อยู่ห่างๆไว้ละกัน อย่าพยายามคิดทำลายมันล่ะเพราะทำลายไปเราก็อาจจะเสียชีวิตเองได้ น่ากลัวจริงๆต้นนี้ ฮ่าๆ ที่มา : mnn

เคยไหม เวลาเราออกไปไหนมาไหนแล้วเจอคนที่ทำพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัว เราเป็นแค่คนเห็นเหตุการณ์ก็ไม่ค่อยจะกล้าไปเตือนเขาเท่าไหร่ เพราะไม่อยากจะมีเรื่อง เราทำได้แค่นั่งเงียบ รอดูพฤติกรรมของเขาไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ปล่อยไป เรื่องแบบนี้เป็นสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะให้รูปภาพมันเรื่องราวแทนด้วยการเสียดสีที่แรงสุดๆไปเลย บริษัทที่ประเทศฝรั่งเศสชื่อว่า RATP ได้ออกแคมเปญมาชุดหนึ่งเพื่อเอาไปติดตามระบบขนส่งมวลชนต่างๆโดยใช้คำว่า “วิธีเป็นมนุษย์” พร้อมทั้งปล่อยตามโซเชียลให้คนพึงตระหนึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมในการทำในที่สาธารณะ จะมีอะไรบ้าง เราไปชมกันเลย   1. การกั้นประตูไม่ให้ปิดทำให้รถไฟออกไม่ได้ ทำเอารถดีเลย์ไปด้วย   2. วิ่งพรวดเข้ามาในรถถือเป็นเรื่องที่เสียมารยาทอย่างหนึ่ง ทำให้คนในรถตกใจด้วย ควรจะรอให้คนเดินออกไปก่อน   3. คุยโทรศัพท์เสียงดังก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ คนอื่นเขารู้เรื่องของคุณหมดแล้ว!!   4. ถุยหมากฝรั่งลงพื้น คนอื่นเขาเดือดร้อนนะรู้มั้ย!!   5. กระโดดข้ามประตูกั้นงี้ โดนปรับแน่นอน (ต้องจ่ายตังนะจ๊ะ)   6. อย่าพยายามกีดขวางทางเดินหรือนั่งกินที่มากเกินไป แบ่งให้คนอื่นบ้าง เพราะเป็นที่สาธารณะ   7. การแบกกระเป๋าใบใหญ่ๆ ก็ควรคำนึงด้วยว่าจะไปเกะกะคนอื่นรึเปล่า   8. อย่ายืนเป็นจระเข้ขวางคลอง ถ้าคุณเป็นขาเข้า ควรเว้นที่ให้คนเดินออกจากรถไปก่อน   9.…

เวลาไปตามงานกินเลี้ยงต่างๆ หรืองานฉลองที่ต้องมีการจัดโต๊ะจัดเก้าอี้ สิ่งหนึ่งที่เรามักจะได้เห็นกันจนชินตานั่นก็คือเก้าอี้พลาสติกสุดคลาสสิคแบบนี้นี่เอง ว่าแต่เพื่อนๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า “รู” ที่อยู่บนเก้าอี้เหล่านั้นมีไว้ทำไม?   ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 2252015 เข้ามาตั้งกระทู้สงสัยในประเด็นเดียวกันนี้ว่า รูบนเก้าอี้มีไว้ทำไม? แน่นอนว่ามันไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงาม แฟชั่น หรือเอาไว้ให้เราแอบตดแบบเนียนๆ แน่นอน     ต่อมาในความคิดเห็นที่ 12 ของคุณ หัวใจจากท้องทะเล ก็ได้เข้ามาอธิบายว่า “จากรูปข้างล่าง เก้าอี้มีรูลายข้าวหลามตัด ก็ยังมีรูกลมๆตรงกลาง ไม่น่าจะมีรูกลมเพื่อกันสุญญากาศ เคยถามเจ้าของโรงงานพลาสติกตรีอรรถบูรณ์ ผู้ชำนาญด้านโมล์ดแม่พิมพ์ระบบงานฉีดพลาสติก การฉีดชิ้นงานด้วยแม่พิมพ์ที่สมมาตรกันต้องมีพิมพ์ตัวผู้และตัวเมียประกบกัน มีตำแหน่งหรือรู”   “ให้เนื้อพลาสติกที่หลอมเหลวด้วยความร้อนสูงกระจายไปทั่วแบบพิมพ์ ตำแหน่งที่เหมาะสม ในการฉีดให้เนื้อพลาสติกกระจายได้ทั่วถึงคือตรงกลาง ส่วนใหญ่ชิ้นงานตำแหน่งฉีดจะมีเศษ พลาสติกแหลมยื่นออกมา ยิ่งรูฉีดกว้างชิ้นงานจะออกมาเร็ว เวลาฉีดพลาสติกออกจากเครื่อง ใหม่ๆจะมีพนักงานคอยใช้มีดตัดแต่งตำแหน่งทางฉีดอีกครั้งหนึ่งครับ”     และนี่คือหน้าตาของแม่พิมพ์เก้าอี้พลาสติก ที่หลายคนสงสัยว่าทำไมเก้าอี้ถึงมีรู ชาวเหมียวจะเห็นว่ามันมีแท่งขึ้นมาตรงกลางบนฐานวงกลมนั้นใช่ไหม นั่นล่ะคือจุดกึ่งกลางของการฉีด หลังจากนั้นก็ต้องใช้การตัดแต่งส่วนนี้ออกให้เหลือแต่ตัวเก้าอี้เป็นฐาน เพราะฉะนั้นก็จะได้รูมา 1 รูนั่นเอง     ตอนนี้หลายคนก็คงจะคลายสงสัยกันแล้วซินะว่าทำไมเก้าอี้ถึงมีรู ไว้เอาไปเล่าให้เพื่อน…

เรียกได้ว่าโด่งดังซะเหลือเกิน สำหรับเมนู “ไก่บอนชอน” เมนูไก่ทอดจากเกาหลี จนชาวบ้านอย่างเราๆ ต้องไปต่อคิวกันให้วุ่นวาย จนทำให้บางคนถึงกับหายอยาก เพราะต้องต่อคิวนาน แถมบางพื้นที่ก็ยังหากินยากอีก แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเพราะว่าวันนี้#เหมียวฟิ้นได้สูตรทำไก่บอนชอนมาแล้ว!!     สูตรไก่บอนชอนที่ว่านี้มาจากสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ชื่อคุณ babyBAY โดยสูตรนี้ทำมาเอาใจสำหรับคนที่ไม่มีเตาอบ มีแต่ไมโครเวฟ (แต่ต้องเป็นไมโครเวฟที่มีตะแกรงย่างนะ) เรามาดูกันดีกว่าว่าต้องเตรียมอะไรกันบ้าง – ปีกไก่บนกับปีกไก่กลาง – เกลือและพริกไทย สำหรับปรุงรส – แป้งข้าวโพด 2 ถ้วย – หอมใหญ่สับ 1/4 ลูก – กระเทียมสับ 4 กลีบ – ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วย – มิริน เหล้าหวานญี่ปุ่น 1/4 ถ้วย – น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ – ผงกระเทียม  1/2 ช้อนชา – แป้งข้าวโพด 1 ช้อนช้า –…

การทำการทดลองทางสังคมหรือ Social Experiment ถือว่าเป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่ทำให้เราได้เห็นถึงแนวคิดและปฏิกิริยาของคนในสังคมต่อเหตุการณ์ต่างๆ และวันนี้อีกครั้งกับการทดสอบปฏิกิริยาของผู้คน ต่อการแต่งงานของ “เด็ก” โดยการทดลองครั้งนี้เป็นผลงานของ Coby Persin วัย 21 ปี เขาต้องการเพิ่มความตื่นตัวให้กับสังคม เกี่ยวกับปัญหาการแต่งงานอย่างไม่ยินยอมของเด็ก ซึ่งในหลายๆประเทศ กฎหมายอนุญาตให้หญิงสาวสามารถแต่งงานได้ตั้งแต่อายุ 12 ปี ซึ่งถือว่าเป็นวัยที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะพวกเธอยังถือว่าเป็น “เด็ก” อยู่เลย และหลายๆ ครั้งการแต่งงานเช่นนี้ เกิดจากความไม่ยินยอมซะเป็นส่วนมาก เขาจึงจัดฉากให้มีการถ่ายรูปแต่งงานระหว่างชายชราวัย 65 ปี กับเด็กหญิงวัยเพียง 12 ปีกลางเมืองนิวยอร์ค รัฐนิวยอร์ค ซึ่งเป็นอีกรัฐหนึ่งในประเทศสหรัฐฯ ที่อนุญาติให้เด็กหญิงอายุตั้งแต่ 12 ปีเป็นต้นไป สามารถจดทะเบียนสมรสได้     ไปชมกันเลยดีกว่า ว่าปฏิกิริยาของผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว จะเป็นอย่างไรบ้าง   ฉันว่าเธอยังเด็กไปนะ เธอเต็มใจกับการแต่งงานครั้งนี้หรือเปล่า??   แกมันตาแก่ตัณหากลับ ปล่อยเธอไปซะ!!!   เธอยังเด็กอยู่เลยนะ คุณจะแต่งงานกับเธอจริงๆ เหรอ?!   ไปชมคลิปกันเลย    …

เรื่องศาสนาดูจะเป็นเรื่องที่ซีเรียสและละเอียดอ่อนพอสมควรสำหรับคนในแต่ละศาสนาเลยทีเดียว จนมีคนบางกลุ่มเริ่มหันเหออกไปและไม่นับถือศาสนาใดเลย ซึ่งคนกลุ่มนี้เองนับวันก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเพราะความขัดแย้งและปัญหาที่เกิดขึ้นมาไม่เว้นแต่ละวันของคนในศาสนาหรือผู้นำศาสนาก็เป็นได้ ล่าสุด#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอเข้ากับประเด็นที่น่าสนใจผ่านเฟซบุ๊กของ ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์ นักวิชาการด้านศาสนวิทยา ศาสนศาสตร์ ปรัชญา มนุษยวิทยาและรัฐศาสตร์ เป็นเรื่องราวของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่แสดงตัวว่าไม่นับถือศาสนาใดเลย แต่กลับโดนคนรอบข้างดูถูก ทั้งนี้เจ้าตัวได้เล่าว่าที่โรงเรียนมักจะมีการสวดมนต์และทำกิจกรรมทางศาสนาพุทธ แต่เนื่องจากเธอไม่นับถือศาสนาใดๆ ทำให้เพื่อนๆ มองว่าเธอเป็นคนประหลาดและดูถูกเธอ และบังคับให้เธอไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์รอบๆ ตัว จนเจ้าตัวทนไม่ได้ จึงมาขอคำปรึกษากับดร.ศิลป์ชัยว่าควรจะแก้ปัญหายังไงดี ทั้งนี้หลังจากที่เรื่องราวของนักเรียนสาวถูกเผยแพร่ไป ก็มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นเข้ามากันอย่างหลากหลายแนวทางทีเดียว อย่างเช่นความเห็นนี้บอกว่าตนเองนับถือศาสนาคริสต์แต่กลับถูกทางโรงเรียนลงโทษและบังคับให้ประนมมือ ส่วนความเห็นนี้มองว่าหากเราไม่นับถือศาสนา ก็ลองทำตามวัฒนธรรมไปก่อน เพราะแต่ละอย่างนั้นมีเหตุมีผลของมัน หากเติบโตและเรียนรู้แล้วว่าสิ่งต่างๆ ทำไปเพื่ออะไร ค่อยตัดสินใจว่าจะนับถือหรือไม่นับถือศาสนาก็ได้ มีบางความเห็นแนะนำเกี่ยวกับการแก้ปัญหาในด้านกฎหมายเข้ามาด้วยเช่นกัน ว่าหากโดนคนรอบข้างคุกคามมากๆ ให้แจ้งความไว้เลย เพราะตนเองเคยใช้วิธีนี้มาแล้ว และได้ผลดีทีเดียว โดยส่วนตัว#เหมียวฟิ้นเองแล้ว เป็นคนที่มีศาสนานะ แต่ก็เริ่มคิดๆ อยู่เหมือนกันว่าในอนาคตเราอาจจะไม่นับถืออะไรเลย ยึดแค่หลักการทำดีก็พอ หรือหากเจอแนวคิดหรือหลักคำสอนของศาสนาหรือลัทธิไหนที่เข้าท่าก็อาจจะนำมาปรับใช้กับตัวเองดูบ้าง เพราะทุกวันนี้ดูเหมือนว่าการนับถือศาสนาใดก็ตาม ดูจะมีปัญหาและเกิดการแบ่งแยกไปซะหมดเลย แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวล่ะ คิดเห็นอย่างไรกันบ้างกับการไม่นับถือศาสนา? ลองแชร์ความคิดเห็นกันเข้ามาได้นะ ที่มา ศาสนวิทยา dr.Sinchai Chaojaroenrat

บ้าไปแล้วกับหนุ่มคนนี้!! สาวๆลองคิดภาพอยู่ดีดีมีหนุ่มที่ไหนไม่รู้เดินมาขอให้คุณถอดกางเกงในให้เขา เป็นคนทั่วไปคงคิดว่าโรคจิตแน่นอนใช่ป่ะล่าาา แต่ใครจะรู้ล่ะว่าการที่ผู้ชายคนนี้เดินไปขอกางเกงในสาวแบบนี้มันเป็นการแลกกับการบริจาคการกุศลเพื่อที่จะช่วยผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกนั่นเอง   หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Vitaly Zdorovetskiy ชาวรัสเซีย วัย 23 ปี เป็นหนุ่มที่ชอบในการถ่ายรายการตลก แน่ล่ะเขาเป็นนักแสดงตลกนั้นเอง   ในวีดีโอคลิปนั้นเขาจะเดินเข้าไปคุยกับผู้หญิงกลางที่สาธารณะ ทำการเข้าไปทักทายสาวๆที่เป็นเป้าหมายและอยู่ดีดีเขาก็ขอกางเกงในสาวๆเหล่านั้น   แน่ล่ะต้องมีคนที่ทั้ง งงและตกใจกับการกระทำของเขา บางคนถึงกับรังเกียจและโมโหก็มีนะ   แต่เขาจะไม่บอกกับพวกเธอว่าจะเอากางเกงในไปทำอะไร จะบอกก็ต่อเมื่อพวกเธอยอมถอดกางเกงในแล้วเอาให้เขา   โดยกางเกงใน 1 ตัวนั้นแลกกับ 100 ดอลลาร์ที่เขาจะบริจาคให้กับผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกนั่นเองง   ลองมาชมว่าเขาทำการขอกางเกงในสาวๆเหล่านั้นยังไง งานนี้บอกเลยมีลุ้น ฮ่าๆ   คลิปนี้ก็สอนให้เรารู้ว่าอย่าพึ่งตัดสินคนที่ภายนอกเพราะสิ่งที่เขาทำคือการช่วยเหลือคน ไม่ใช่เป็นโรคจิตนั้นเอง ฮร่าาาาา ที่มา : youtube

ในช่วงนี้#เหมียวฟิ้นคิดว่าโรงเรียนหลายๆ แห่งก็ใกล้จะปิดเทอมแล้ว (หรือบางที่ก็เริ่มปิดกันแล้ว) แต่คงจะไม่มีใครหนักใจเท่ากับเด็กๆ ชั้มม.6 อีกแล้วล่ะ เพราะว่าต้องพยายามสอบและหาที่เรียนใหม่ ซึ่งถ้ามองจากมุมของเด็กๆ นี่ก็ถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้   และวันนี้เองเหมียวก็ได้จับเอาเด็กๆ ม.ปลายบางคนมานั่งสัมภาษณ์ถึงความห่อเหี่ยว ความเครียด ที่ตัวเองนั้นยังสอบที่ไหนไม่ได้เลย มาคุยกันว่าพวกเขาเบื่อประโยคแบบไหนมากที่สุด หากคุณมีลูกๆ หรือหลานๆ อย่าไปพูดแบบนี้ให้พวกเขาได้ยินเด็ดขาดนะ   1. “แกๆ มีที่เรียนยัง” (อยากตอบคำถามนี้ได้เหลือเกิน)   2. “เข้าคณะนี้จะดีเหรอลูก?” (ดีซิแม่ ถ้าไม่ดีเขาจะเปิดสอนทำไมล่ะ ^^!)   3. “ยังไม่เลือกมหาลัย…อีกเหรอ” (ค่อยๆ ดูไปได้ไหมอะ)   4. “คะแนนแค่นี้จะเอาอะไรไปสู้กับเขา” (น้ำตาจะไหล)   5. “เรียนคณะนี้จบไปจะทำงานอะไร” (ทำงานได้หลายอย่างเลย บางทีเรียนคณะนี้ไม่ต้องไปทำงานตรงสายก็ได้นะ)   6. “รอยื่นแอดมิชชันถ้าไม่ได้จะทำยังไง ทำไมไม่เอาสอบตรงหรือสอบโควต้า” (บางทีมันได้คณะที่ไม่อยากเรียนอะ)   7. “ติดที่ไหนยัง” (ยังไม่ติดสักที่เลยจ้าาาา)   8. “พ่อ/แม่ว่า เรียนคณะนี้ดีกว่านะลูก”…

เชื่อว่าในที่นี้หลายๆคนคิดว่าใบหน้าที่เกลี้ยงใสไม่มีหนวดไม่มีเครานั้นเป็นใบหน้าที่ใสสะอาดกว่าใบหน้าที่มีหนวดเครา แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าคนที่มีหนวดเครานั้นสุขอนามัยจะดีกว่าคนหน้าใส วันนี้ #เหมียวฮานะ ไปเจอข้อมูลดีดีในเว็บไซต์ Independent ที่บอกว่า “หนุ่มไว้หนวดนั้นสุขอนามัยดีกว่าหนุ่มหน้าใส” เอ๊ะ! มันจะจริงรึป่าว เราไปดูกัน!   มีผลการศึกษาจากวารสาร Journal of Hospital Infection ที่ถูกจัดทำขึ้นมาโดยทีมนักวิจัยในโรงพยาบาล Brigham and Women’s Hospital เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกมาว่า “ผู้ชายที่ไม่ไว้หนวดเครานั้นมีเชื้อแบคทีเรียมากกว่าคนไว้หนวดอย่างชัดเจน” ผลวิจัยออกมาว่าหนุ่มหน้าใสพบแบคทีเรีย MRSA บริเวณแก้มมากกว่ากลุ่มหนุ่มไว้หนวดถึง 3 เท่า!!   โดยเขาได้แบ่งอาสาสมัครทั้งหมดเป็น 2 กลุ่มก็คือคนที่มีหนวดเครากับคนไม่มี ผลวิจัยในข้างต้นออกมาว่า กลุ่มหนุ่มหน้าใสนั้นมีเชื้อโรคที่เรียกว่า “Staphylococcus” บนใบหน้ามากกว่ากลุ่มไว้หนวด 10% ซึ่งเจ้าเชื้อโรคนี้สามารถนำไปสู่อาการผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อในทางเดินระบบหายใจและระบบทางเดินอาหารเป็นพิษ   นักวิจัยชี้แนะว่าอาจเป็นเพราะ Micro-abrasians ที่เกิดจากการโกนหนวดโกนเครา ก่อให้เกิดแบคทีเรียและการแพร่กระจาย   นอกจากนี้ยังไม่มียาปฏิชีวนะอันไหนสามารถจัดการกับมันได้ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา แต่ก็มี Dr. Adam Roberts…

#เหมียวสามสี เชื่อว่าทุกคนคงมีสิ่งที่ตัวเองอยากทำก่อนตาย ไม่ว่าเรื่องนั้นจะถูกจารีตประเพณีหรือไม่ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในใจเรา จนแก่จนเฒ่าก็ไม่สามารถหยุดความคิดนี้ได้ อนิเมเตอร์ Angelo Valente และ Sofia Nunez แพทย์โรคชรา จึงตัดสินใจที่จะโปรเจกต์หนึ่งขึ้นมา โดยพวกเขาเดินทางไปยัง ศูนย์คนชรา Gafanha do Carmo ประเทศโปรตุเกส เพื่อตามหาคนแก่มาร่วมโปรเจกต์ โดยให้พวกเขาเขียนสิ่งที่อยากทำก่อนตายลงบนกระดาน คนแก่แต่ละท่านก็เขียนคำตอบออกมาได้แตกต่างกัน เราไปชมคำตอบของพวกท่านกันเลยว่าจะเป็นยังไงกันบ้าง   ก่อนตาย… ผมอยากรู้วิธีบิน   ก่อนตาย… ฉันอยากกลับไปที่บ้านเกิด   ก่อนตาย… ฉันอยากจะมองเห็นอีกครั้ง   ก่อนตาย… ฉันอยากจะร้องเพลงบนเวที   ก่อนตาย… ฉันอยากมีจูบอันดูดดื่ม   ก่อนตาย… ฉันอยากย้อมผมเป็นสีฟ้า   ก่อนตาย… ผมอยากกลับไปบราซิล   ก่อนตาย… ผมอยากมีความรัก   ก่อนตาย… ฉันอยากขับเครื่องบิน   ก่อนตาย… ฉันอยากเห็นหลานๆ ของฉันอีกครั้ง     อ่านแล้วก็อมยิ้มเลย แต่ละท่านมีสิ่งสุดท้ายที่อยากทำทั้งนั้น…

เป็นอีกหนึ่งกรณที่น่าขบคิดจริงๆ เกี่ยวกับการปลูกฝังแนวคิดต่างๆ และสิทธิมนุษยชนในประเทศเกาหลีเหนือ เมื่อล่าสุดได้มีการสัมภาษณ์ประชาชนเกาหลีเหนือคนหนึ่งที่หนีออกมาจากประเทศได้ Jang Yeong-jin ชายเกาหลีวัย 55 ปีที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ได้หลบหนีออกมาจากประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งแน่นอนตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในคนที่เกาหลีเหนือต้องการตัว และถ้ากลับไปได้เขาจะถูกจับไปเป็นนักโทษแน่นอน การหลบหนีของเขาตั้งแต่ปี 1997 จนในที่สุดเขาก็ค้นพบว่า ตัวเองไม่ใช่ผู้ชาย แต่เป็นเพศที่ 3 ซะงั้น!!!   Jang Yeong-jin   ตอนที่เขาหนีมายังประเทศเกาหลีใต้ เขาถูกกักตัวและซักถามเกี่ยวกับเหตุผลที่หนีมาเป็นเดือนๆ เลยทีเดียว แน่นอนว่าในภายหลังเขาก็ได้รับอิสรภาพให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทางสำนักข่าว New York Times ก็ได้เข้าไปสัมภาษณ์เขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘ตอนแรกผมละอายใจมาก ที่ค้นพบและต้องออกมายอมรับว่าตัวเองเป็นเพศที่ 3 แต่อย่างหนึ่งที่ผมรู้มาตลอดก็คือ ผมไม่ได้มีความรู้สึกทางเพศกับภรรยาของผมเลย ผมไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ มันน่ารำคาญใจเอาซะมากๆ ‘ Jang Yeong-jin กล่าว ‘ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าเกย์คืออะไร หรือเพศที่ 3 คืออะไร หรือกระบวนการของมันนั้นเป็นยังไง จนกระทั่งได้มาอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ผมจึงค้นพบว่าแท้จริงแล้วตัวเองเป็นอะไร’ เขากล่าวเสริม   ท่านผู้นำแห่งเกาหลีเหนือ   พอองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในยุโรปได้มาสัมภาษณ์เขาเกี่ยวกับเรื่องเพศที่ 3 ในประเทศเกาหลีเหนือ เขาตอบว่า…

ว่ากันว่าอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายมีส่วนสัมพันธ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของลายนิ้วมือ?   เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Brightside ได้ออกมาเปิดเผยว่าในต่างประเทศได้มีการศึกษารูปแบบของลายนิ้วมือที่เรียกกันว่า Dermatoglyphics เพื่อช่วยให้เราสามารถเข้าใจถึงรูปแบบลายนิ้วมือที่สัมพันธ์กับบุคลิกส่วนตัวของแต่ละคนยังไงบ้าง เราลองมาดูกันไหมว่าลายนิ้วมือแบบไหนมีนิสัยเป็นยังไงบ้าง?   1. ลายบ่วง คนที่มีลายนิ้วมือแบบนี้มักจะมีบุคลิกที่สอดคล้องกับลายนิ้วมือ โดยจะเป็นคนที่มีนิสัยที่สมดุล มีความนิ่งสงบ มักขี้สงสารและพยายามช่วยเหลือคนอื่นอยู่ตลอดเวลา แถมยังหาเพื่อนใหม่ๆ ได้รวดเร็วด้วย นอกจากนี้ยังมีบุคลิกที่เป็นคนขยันและมีความรับผิดชอบ แต่ขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์   2. ลายโค้ง คนที่มีลายนิ้วมือแบบนี้จะเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น มีความมั่นใจ คุณจะสามารถมองเห็นความมั่นใจของพวกเขาได้จากทุกๆ การกระทำเลย ตั้งแต่การเดิน มารยาท การเคลื่อนไหวต่างๆ แต่บางครั้งก็อาจจเป็นคนดื้นรั้นซะหน่อย เพราะหากเชื่ออะไรแล้วก็จะปักใจเชื่อ แถมเปลี่ยนความคิดค่อนข้างยากด้วย   3. ลายก้นหอย คนที่มีลายนิ้วมือแบบนี้มักจะความอดทนต่ำ แต่ไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่ มีนิสัยค่อนข้างกระฉับกระเฉง มักจะทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันแต่ชอบหยุดเอากลางคันเพราะเบื่อซะก่อน มีลักษณะนิสัยที่ซับซ้อนคาดเดาได้ยาก แถมบางครั้งพวกเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเก่งในเรื่องไหนกันแน่?   มีลายนิ้วมือของใครตรงกันบ้างไหม ลองมาเล่าให้#เหมียวฟิ้นฟังได้นะ ที่มา brightside

ข่าวคราวเรื่องสภาพแวดล้อมถึงจะหนาหู แต่แน่นอนว่าผู้คนก็ยังไม่โดนผลกระทบอย่างจริงๆ จังๆ เสียที นั่นทำให้บางคนก็ต่อต้านข่าวสารทางด้านนี้ เพราะคิดว่ามันเป็นโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น Sebastian Copeland ช่างภาพสายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่พึ่งเดินทางไปสำรวจ Canadian Arctic มาหมาดๆ กลับคิดแตกต่างออกไป เพราะพบหลักฐานเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วยตาของตัวเขาเอง!!!   Sebastian Copeland   หนึ่งในภาพสุดสะเทือนใจที่เขาได้ไปเจอมาจากการเดินทางคือภาพของหมีขั้วโลก   ที่ผอมกระหร่องและอดอาหารจนตาย ในแถบเหนือของ Nunavut ระหว่างการเดินทางไปแถบนั้น Copeland เชื่ออย่างสนิทใจเลยล่ะว่าเจ้าเพื่อนตัวขาวของเรานั้นเดินหาอาหารเป็นระยะทางไกลจนอดตายในที่สุด ‘เพราะว่าที่ศพของมันนั้นไม่มีรอยเลือดแม้แต่น้อย มีร่องรอยของโรคท้องร่วง มันมีอายุได้ราวๆ 2 ปีตอนตาย นี่เป็นอีกหนึ่งผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ชาวไอนุแถบนี้ก็บอกกับผมเช่นกันว่าเห็นหมีขั้วโลกอพยพกันยกใหญ่ในช่วงนี้’ Copeland กล่าว   แถมนักวิทยาศาสตร์รายอื่นๆ ก็ออกมาสนับสนุนด้วยว่า เหตุการณ์ที่หมีขั้วโลกต้องอดอาหารจนตายนั้นสามารถพบได้ในหลายๆ พื้นที่เลย ณ ตอนนี้   ศาสตราจารย์ Andrew Derocher แห่ง University of Alberta ผู้เชี่ยวชาญและศึกษาด้านหมีขั้วโลกมาอย่างยาวนานกว่า 32 ปี ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เช่นกัน ‘เรื่องนี้เป็นผลของการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างชัดเจนเลยทีเดียว เพราะเราเริ่มเห็นเหตุการณ์ที่เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องหมีขั้วโลก การรายงานในเคสอดอาหารจนตายนี้ ช่วงนี้สามารถพบเห็นได้บ่อยมากๆ’ เขากล่าว  …

นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับคนที่ชอบฟังเพลง จะสังเกตได้ว่าคนที่ชอบฟังเพลงนั้นมักจะพกหูฟังติดตัวตลอดเสมอ วันนี้ #เหมียวฮานะ เลยอยากจะมาแนะนำหูฟังสุดเฟี้ยวในปี 2016 ที่คนชอบฟังเพลงนั้นจะต้องถูกใจอย่างแน่น๊อนนน   1. Gibson Philips HX5 หูฟังที่ใช้ไดร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ให้เสียงเบสที่นุ่มลึกและทรงพลัง สามารถฟังเพลงแบบไร้สายได้นานถึง 8 ชั่วโมง ราคาตกอยู่ที่ 3,400 บาท   2. Marshall Major II Bluetooth เป็นหูฟังที่อัพเกรดมาใหม่ในรุ่น Major II ที่เป็นระบบไร้สาย มีฟีเจอร์เชื่อมต่อกับ Bluetooth ได้ และยังมีดีไซน์ที่สวยหรูดูดีเช่นกัน ราคาตกอยู่ที่ 5,200 บาท   3. Phiaton BT 460 เป็นหูฟังไร้สายที่สามารถเชื่อมต่อกับ Bluetooth ได้ แต่จุดเด่นของเจ้าตัวนี้คือแผงควบคุมการทำงานแบบสัมผัสได้ มากับฟีเจอร์ Smart Play ซึ่งจะเล่นเพลงเมื่อใส่หูฟังและเพลงจะหยุดก็ต่อเมื่อถอดหูฟังออก ราคาเจ้าตัวนี้อยู่ที่ 8,600 บาท  …

ภาพยนตร์เรื่อง “แฮร์รี่ พอตเตอร์” นั้นมีมานานหลายสิบปีแล้ว ไม่แปลกที่เรื่องนี้จะมีดารามากมายเข้าร่วมแสดงหมุนเปลี่ยนเวียนกันไป แต่จะมีใครได้สังเกตไหมว่าดาราบางคนในตอนนั้นก็ยังไม่ดังมากนะ แต่ตอนนี้พวกเขาดังมาก จนเราลืมไปเลยว่าเขาก็เป็นส่วนหนึ่งในโลกเวทมนตร์ด้วย นอกจาก Daniel Radcliffe, Rupert Grint, และ Emma Watson ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ได้ถูกพูดถึงในสื่อใหญ่ๆ ซึ่งบางคนตอนนี้ก็โด่งดังและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากแล้ว วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะมีรื้อฟื้อความทรงจำของเพื่อนๆ กันว่าจะจำได้รึเปล่าว่าดาราที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้อยู่ในฉากไหนในแฮร์รี่กันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาเลย   Alfred Enoch รับบทเป็น Dean Thomas เพื่อนร่วมบ้านของแฮร์รี่ เราจะเห็นเขาบ่อยๆในเรื่อง แต่ไม่ค่อยมีบทบาทอะไรมากมาย ตอนนี้เขาผันตัวเองเป็นนักเรียนกฎหมายในซีรีส์สุดระทึก “How to Get Away with Murder”   Scarlett Byrne เธอรับบทเป็นแพนซี่ พาร์กินสัน สาวที่ดูเหมือนแอบชอบเดรโก และเธอก็อยู่บ้านสลิธีริน ตอนนี้เธอก็ได้แสดงในซีรีส์แวมไพร์ชื่อดังอย่าง “The Vampire Diaries” ด้วย   Verne Troyer ในเรื่องเขาได้รับบนเป็นนายธนาคารกริ๊บฮุก  แต่หลายคนอาจจะคุ้นมากกว่าในบท Mini-Me จากเรื่อง “Austin…

หากลองนึกย้อนไปในวัย 17 ปี ให้เราลองคิดเล่นๆว่าตอนนั้นเราทำอะไรอยู่ ส่วนตัว #เหมียวฮานะ นั้นคงยังใช้ชีวตวัยรุ่นอย่างสนุกสนาน เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป ใครจะรู้ล่ะว่ามีหนุ่มวัย 17 ปีที่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ โดยหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Temper Thompson ชาวอเมริกาที่กำลังเรียนหรือศึกษาอยู่เกรด 8 (ประมาณ ม.2)   หนุ่มน้อยคนนี้เขาเริ่มต้นที่ว่าไม่อยากจะแบมือขอเงินพ่อแม่แล้ว เลยตัดสินใจทำธุรกิจโดยเขาเริ่มลงมือทำพวก Online Marketing โดยการขายหนังสือออนไลน์ผ่าน Kindle Publishing (เว็บไซต์หารายได้บนโลกออนไลน์ของ Amazon)   #เหมียวฮานะ เลยจะมาแชร์ว่าเขามีวิธีทำและแนวคิดยังไงถึงทำให้เขาประสบความสำเร็จได้มาลองดูกัน!!   1. ลงมือทำ “หากเราไม่ยอมลงมือทำ ความสำเร็จมันก็ไม่เกิดขึ้นได้หรอก” เป็นคำพูดของหนุ่มคนนี้ เราควรสร้างความแตกต่างที่ไม่เหมือนกับคนทั่วไป สิ่งที่คนธรรมดาไม่เข้าใจ หากมีไอเดียแล้วก็ลงมือทำซะ   2. อย่ากลัวความล้มเหลว บทเรียนที่สองคือการสานต่อ ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ตลอด คนส่วนมากพอล้มเหลวก็ยอมแพ้ซะส่วนใหญ่ หนุ่มคนนี้เลยบอกว่า “ไม่แปลกใจเลย ที่คนเหล่านี้ไม่เคยประสบความสำเร็จ” การล้มเหลวนั้นมีประโยชน์คือให้เราได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดต่างๆ และสามารถพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น   3.  มุ่งมั่นและตั้งใจกับสิ่งๆเดียว คนสมัยนี้มักใส่ใจกับอะไรแค่ชั่วคราวเท่านั้น หนุ่มคนนี้กล่าวไว้ว่า “สิ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่คุณสามารถทำได้คือการมุ่งเน้นไปที่สิ่งๆเดียว” คุณจะสามรถเติบโตได้ถ้าคุณควยคุมและโฟกัสกับมันไปเรื่อยๆ   4.…

ในโลกนี้มีแบรนด์อยู่มากมายที่เรารู้จักกันไม่ว่าจะเป็น อาหาร ของใช้ ห้างสรรพสินค้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น แต่ละแบรนด์นั้นมักจะมีตัวย่อที่ให้ผู้คนนั้นได้เรียกกันง่ายๆ จนเรานั้นเรียกกันมาจนติดปากตลอด วันนี้ #เหมียวฮานะ ได้ไปเจอข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ที่ได้มาเฉลยถึงชื่อที่แท้จริงของแบรนด์ต่างๆ 15 ชื่อด้วยกัน…   1. KFC มั่นใจได้เลยว่าไม่มีใครไม่รู้จักไก่ทอดแบรนด์นี้ นับว่าเป็นไก่ทอดที่มีความอร่อยมากถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งชื่อเต็มๆของ KFC นี้ก็มาจาก “Kentucky Fried Chicken” หรือเรียกง่ายๆว่าไก่ทอดเคนตักกี้   2. M & M’s ยี่ห้อนี้ก็เป็นที่นิยมเหมือนกันเพราะเป็นยี่ห้อของขนมช็อคโกแลตเคลือบคาราเมลสุดอร่อยนั้นเอง เจ้า m&m’s นี่ก็ย่อมาจาก “Mars&Murrey” เป็นชื่อเจ้าของกิจการทั้งสองคนที่มารวมตัวกันทำขนมนี้ออกมา   3. Big C มาถึงห้างชื่อดังที่ใครๆต้องรู้จักกันบ้างกับ BigC ที่ย่อมาจาก “Big Central” ก็เป็นชื่อตามเครือแม่อย่าง Central นั้นเอง   4. BMW ยี่ห้อรถสุดหรูอันนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอนกับ BMW นี้มีชื่อย่อมาจาก…

ปกติเรามักได้ยินคนอืนๆ พูดเสมอว่า แม่-ลูกมักจะหน้าตาเหมือนกัน ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะพวกเธอนั้นมีความเชื่อมโยงกันทางสายเลือดและกรรมพันธุ์ แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าที่จริงแล้ว พวกเธอ “เหมือน” กันขนาดไหน ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถนำภาพสองภาพมารวมกันได้อย่างง่ายดาย นั่นทำให้เราได้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าพวกเธอเหมือนกันขนาดไหน ไม่เชื่อลองไปชมภาพของ แม่-ลูก ที่เหมียวนำมาให้ชมวันนี้สิ แล้วจะรู้ว่าเหมียวพูดไม่ผิดเลยล่ะ   Sara Pearson และลูกสาวของเธอ Clemmie   Clemmie กล่าวว่า “ฉันได้ดวงตาและรอยยิ้มของเธอมา แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ฉันได้จากเธอมาก็คือ ทัศนคติดีๆ เกี่ยวกับรูปร่างของฉันต่างหาก”   Rhonda Mackintosh และลูกสาวของเธอ Darcey   Darcey กล่าวว่า “แม้ฉันจะรู้ว่าฉันกับแม่หน้าตาคล้ายกัน แต่ก็ไม่นึกว่าจะคล้ายขนาดนี้ ฉันรู้สึกประหลาดใจมาก ถ้าอีก 30 ปีฉันหน้าตาเหมือนแม่ มันคงจะเยี่ยมไปเลยล่ะ”   Esther Savage และลูกสาวของเธอ Wendy   Esther กล่าวว่า “ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าการมีสุขภาพดีนั้น สำคัญยิ่งกว่าการมีรูปลักษณ์ที่ดีซะอีก และมันยอดเยี่ยมมากที่ Wendy ได้ทัศนคติเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของฉันไป เธอไม่เคยซื้อเครื่องสำอางหรือครีมบำรุงแพงๆเลย”   Josie…

นี่คือเรื่องราวความรักของคุณตาและคุณยายคุโรกิ ทั้งคู่เป็นชาวไร่ที่ญี่ปุ่น อยู่ด้วยกันมาอย่างมีความสุข จนกระทั่งวันหนึ่งก็เกิดเรื่องราวอันโศกเศร้าขึ้น เมื่อคุณยายสูญเสียการมองเห็นไปเนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน เธอจึงเกิดอาการเครียดและพยายามแยกตัวออกมาจากครอบครัว คุณตาจึงพยายามหาวิธีที่จะทำให้คุณยายกลับมามีความสุขให้ได้ เขาจึงตัดสินใจที่จะปลูกดอกไม้ทำเป็นสวนขนาดใหญ่ เพื่อให้คุณยายได้ดมกลิ่นอันหอมหวานจากดอกไม้เหล่านี้ เพราะคุณยายชอบออกมาอยู่นอกบ้านอยู่แล้ว คุณตาใช้เวลานานกว่า 2 ปี สร้างสวนดอกไม้ให้กับคุณยาย เต็มไปด้วยดอกไม้หลายพันต้น ทั้งสวยงามและมีกลิ่นหอม ทำให้หลายคนอยากมาเยี่ยมชมแปลงดอกไม้แห่งนี้   หลังจากที่ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ก็ได้ย้ายมายังฟาร์มแห่งนี้ในปี 1956 และมีลูก 2 คน จนกระทั่งเกิดเรื่องราวที่ไม่คาดฝันดังกล่าวขึ้น   หลังจากที่คุณยายทราบว่ามีแปลงดอกไม้ คุณยายก็เริ่มที่จะกลับมามีความสุขอีกครั้ง   และตอนนี้เธอก็ยิ้มได้ทุกวันแล้ว   ไปชมคลิปเรื่องราวของตายายคู่นี้กันเลย ที่มา rocketnews24

ในโลกนี้มีอยู่หลากหลายอาชีพอยู่ด้วยกัน คนเราก็มีความสามารถและทักษะที่แตกต่างกันออกไปทำให้แต่ละคนประกอบอาชีพที่ไม่เหมือนกัน หากจะพูดถึงอาชีพที่รายได้ดีๆเงินสูงๆหลายคนอาจจะคิดว่า ผู้พิพากษาบ้าง ทำธุรกิจส่วนตัว เจ้าของโรงงานโน่นนี่ หมอ พยาบาล แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าอาชีพดังต่อไปนี้รายได้โครตดีเลยนะเอ้อออ!! คงจะอยากรู้ล่ะสิว่ามีอะไรบ้าง งั้นมาลองตามไปพร้อมๆกันกับ #เหมียวฮานะ เล้ยยยย…   1. Sextoy Testers เรียกง่ายๆก็คนที่ทดลองพวกอุปกรณ์ sex toy ไงล่ะ เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความระมัดระวังและต้องเข้าใจถึงการทำงานของร่างกาย รายได้ตกอยู่ที่ 1,390,000 บาทต่อปี   2. Food Stylish นักออกแบบอาหาร ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ คุณจะต้องทำให้อาหารจานที่คุณทำนั้นออกมาดูน่ากินสุดๆ ซึ่งรายได้ตกอยู่ที่ 1,180,000 บาทต่อปี   3. Roadkill Cleaner เป็นอาชีพที่จัดการทำให้ถนนสะอาดตลอดเวลาจากการเกิดอุบัติเหตุ เช่นมีรถชนกันหรือมีสัตว์ถูกรถชนก็ต้องไปเก็บกวาด รายได้อาชีพนี้ตกอยู่ที่ 711,592 – 2,490,000 บาทต่อปีเลยนะเอ้อออ   4. Dogfood Tester ก็แปลตรงตัวเลยว่าเป็นอาชีพที่ต้องทดสอบกับอาหารสุนัข ซึ่งต้องเช็คว่าอาหารที่จะนำไปให้มันนั้นอร่อยหรือไม่ รานได้ตกอยู่ที่ 1,420,000 บาทต่อปี   5. Professional Snuggler พูดง่ายๆก็คืออาชีพที่ต้องไปเป็นคู่นอนให้กับคนอื่น…

ปกติแล้วร่างกายของคนเราต้องการน้ำเป็นธรรมดา ซึ่งน้ำดื่มที่เรารับประทานกันทุกวันนี้ก็หาได้ไม่ยากและราคาไม่ได้แพงอะไรขนาดนั้น #เหมียวฮานะ ได้ไปเจอข้อมูลจากเว็บไซต์ TheRichest ซึ่งได้ทำการจัดอันดับ 10 น้ำดื่มที่แพงสุด ใครจะไปรู้ล่ะว่ายังมีน้ำดื่มที่มีราคาแพงมากถึงมากที่สุดอยู่บนโลกใบนี้ด้วย บางขวดนี้ราคาเป็นล้านก็มีนะ   10. Fine น้ำดื่มจากญี่ปุ่น เป็นน้ำดื่มบริสุทธิ์และสะอาด ที่ราคาเบาๆตกขวดละ 178.23 บาท   9. Tasmanian Rain น้ำดื่มที่วางขายในรัฐแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย ราคาตกอยู่ขวดละ 178.23 บาท   8. Lauren artes Mineral water เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่สดชื่นและสะอาด มาจากเขาแอนเดส ราคาตกอยู่ที่ขวดละ 213.87 บาท   7. Aqua Deco น้ำดื่มที่มาจากชายฝั่งของแคนนาดาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ราคาก็ตกอยู่ที่ขวดละ 427.75 บาท   6. 10 Thousand BC น้ำดื่มที่ผลิตและบรรจุในช่วงฤดูใบไม้ผลิของแคนนาดา (คงเพราะว่าเป็นฝนลูกใหม่ของปีหลังจากฤดูหนาวอันยาวนาน) เป็นน้ำที่บริสุทธิ์ สดชื่นและสะอาดที่สุดในโลก…

เชื่อว่าเวลาหลายคนซื้อกระเป๋ามาใหม่ เป็นต้องสงสัยทุกทีว่า ป้ายสี่เหลี่ยมเอียงๆ ที่ติดอยู่บนกระเป๋านั้น มีเอาไว้ทำอะไร ตอนแรกก็คิดว่าเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ แต่เอ๊ะ มันก็มีกันหมดทุกยี่ห้อนี่น่า แลัวมันมีเอาไว้ทำอะไรกันหว่า ซึ่งสมาชิกเว็บไซต์พันทิป Prince of Hippolia ก็สงสัยในเรื่องนี้เช่นกัน เขาจึงมาตั้งกระทู้ถามว่า ไอ้ป้ายสี่เหลี่ยมนั้น แท้ที่จริงคืออะไร และใช้ประโยชน์อย่างไรได้บ้าง .   ความจริงแล้ว เจ้าป้ายสี่เหลี่ยมนี้มีชื่อเรียกในวงการเก็บผ้าว่า “ประเก็น” หรือ “Lash Tab” มีเอาไว้เป็นที่ร้อยสายกระเป๋าเพื่อใช้แขวนหรือใส่สิ่งของเพิ่มเติม หรือไม่ก็เอาไว้ห้อยพวกพวงกุญแจก็ได้ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่ามันใช้งานยังไง ลองไปชมภาพดังต่อไปนี้กันเลยดีกว่า   บางยี่ห้อก็จะมีสายมาให้ เมื่อคล้องเข้าไปก็จะสามารถบรรทุกถุงนอน หรือว่าพวกเสื้อผ้าเพิ่มเติมได้   บางยี่ห้ออาจมีเอาไว้ให้ใส่ไฟสัญญาณ สำหรับนักวิ่งหรือนักปั่นจักรยาน     หรือว่าจะเอาไปแขวนหมวกก็เก๋ไม่เบา .     พอจะนึกภาพออกแล้วใช่มั้ยล่ะ ว่าเจ้าแถบสี่เหลี่ยมนี้มีเอาไว้ทำไม ทีหลังเวลาเดินทางไปไหน อย่าลืมประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดล่ะเหมียว อิอิ ที่มา gnostia, สงสัยมาก! เจ้านี้ที่อยู่บนกระเป๋า มันคืออะไรครับ???

เชื่อว่าทุกคนคงรู้สึกเหมือนๆ กันว่าเวลากระเป๋าเงินหาย คือช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดในชีวิต เราต้องไปแจ้งความและทำเอกสารใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน ใบขับขี่ บัตรเครดิต บัตรเช่าวีดีโอ(?) และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับหญิงสาวคนนี้เช่นกัน Taylor Sloan วัย 22 ปีทำกระเป๋าเงินหล่นที่งาน Motocross ในเมือง Oakland รัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกว่าเธอจะรู้ตัว กระเป๋าเงินก็อันตธานหายไปไหนไม่รู้แล้ว     ขณะที่เธอกำลังสิ้นหวัง และกำลังเตรียมตัวจะไปทำเอกสารทั้งหมดใหม่ ก็มีพัสดุส่งมาถึงบ้านของเธอ ในนั้นมีกระเป๋าเงินที่เธอทำหายไปและกระดาษโน๊ตอีกใบหนึ่งแนบมาด้วย ผู้ที่ส่งพัสดุมาคือเด็กชาย Nasim Lawrence วัย 10 ขวบ เขาเล่ าว่าเขาพบกระเป๋าเงินใบนี้ในงาน Motocross เขาจึงเก็บแล้วส่งกลับมาตามที่อยู่บนบัตรประชาชน พร้อมกับแนบกระดาษโน๊ตนี้มาด้วย       “ถึงคุณ Sloan ผมชื่อว่า Nasim Lawrene อายุ 10 ขวบ ผมเจอกระเป๋าเงินของคุณตกอยู่บนพื้นในงาน Motocross ที่ Oakland ผมเข้าใจความรู้สึกดีว่าเวลาของหายนั้นเป็นอยางไร และผมอยากให้คุณได้ของของคุณคืน ผมทำให้คุณยิ้มและมีความสุขที่ได้เงินและบัตรประชาชนคืน…

ในช่วงหนึ่งปีกว่าๆ ที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่ใช้รถส่วนตัวแล้ว ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสันต์กันเลยทีเดียว เพราะว่าราคาน้ำมันในประเทศ ค่อยๆ ปรับตัวลดลงจากราคาลิตรละเกือบ 40 บาท เหลือเพียง 20 บาทเท่านั้น เรียกว่าสบายกระเป๋ากันขึ้นเยอะ   และเมื่อน้ำมันลด หลายท่านสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมของที่เคยมีราคาแพงอยู่ดีๆ ก็ปรับราคาลงมาอย่างรวดเร็วที่เพียงนี้ บางคนบอกเพราะพิษเศรษฐกิจโลกซบเซา  บางคนก็บอกว่าเพราะตุ๊กตาลูกเทพ (?) บางคนก็บอกเพราะว่าลุงตู่  (?!?!) แล้วสาเหตุที่แท้จริงเป็นอย่างไรกันแน่ เราไปติดตามชมกันเลยดีกว่า   เหตุการณ์นี้เราต้องเริ่มที่สาเหตุแรกเลยคือ วิกฤติเศรษฐกิจในยุโรป หลังจากการล้มละลายของประเทศกรีซ ทำให้เศรษฐกิจในยุโรปประสบปัญหาอย่างหนัก รวมถึงภาวะฟองสบู่ที่เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ทั้งสองอย่างได้ส่งผลไปเศรษฐกิจทั่วโลก แน่นอน เมื่อเศรษฐกิจถดถอย ความต้องการใช้น้ำมันก็ต้องลดลง เมื่อความต้องการน้อยลง สิ่งที่ผู้ผลิตควรทำคืออะไร? ใช่แล้ว มันคือลดการผลิตลง เพื่อให้สินค้าที่ออกมามีปริมาณพอใช้ ไม่ล้นตลาดเกินไปจนน้ำมันราคาตก แล้วกลุ่ม OPEC ที่เป็นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ได้ลดกำลังการผลิตน้ำมันลงรึเปล่า….?     คำตอบคือไม่ เพราะการมาของหินน้ำมันหรือ Shale Oil ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อธุรกิจน้ำมันแบบดั้งเดิมของกลุ่ม OPEC ซึ่งถ้าพวกเขาลดกำลังการผลิตลง แปลว่าประเทศที่ส่งออกน้ำมันที่ผลิตจาก Shale Oil…

สำหรับคนรักรองเท้าผ้าใบหรือสนี๊กเกอร์ คงจะพลาดไม่ได้เลยกับการติดตามคอลเลคชั่นใหม่ๆ ที่ทยอยออกมาโกยเงินแฟนๆ ในช่วงนี้ และเหมือนจะเป็นเคราะห์กรรมของคนรักรองเท้า ที่ค่ายต่างๆ โหมกระหน่ำออกมาพร้อมๆ กันจนกระเป๋าแทบแตกเลยทีเดียว   และด้วยความที่มันออกมาเยอะมาก จะมาแนะนำทุกรุ่นเลยก็เกรงว่าจะเล่าไม่หมด วันนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยขอเลือกเอารองเท้าผ้าใบ 3 รุ่น 3 ยี่ห้อ ที่แฟนๆ ควรมีติดบ้านเอาไว้มาแนะนำกัน จะมีรุ่นไหนบ้างมาติดตามกันเลย   1. Nike Roshe One   ถือเป็นรองเท้าผ้าใบที่ได้รับความนิยมแบบถล่มทลายจนมีของก็อบออกมาขายกันตามตลาดนัดแบบไม่ขาดสายทีเดียว สำหรับ Nike Roshe One (ที่ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Roshe Run) เป็นรองเท้าที่ได้รับการออกแบบมาจากแนวคิดแบบเซน     มีการออกแบบที่เรียบง่าย วัสดุของรองเท้าเป็นตาข่ายระบายอากาศ Flyknit ที่มีน้ำหนักเบา พื้นรองเท้าเป็นแบบชิ้นเดียว ใช้พื้นรองเท้าแบบ DRS (Dual Ride System) ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของไนกี้เอง มีความนุ่มทำให้สบายเท้ามากขึ้น ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,100 บาท     2. Vans (LXVI) ISO 1.5+…

หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบในรสชาติของพิซซ่า แต่ไม่อยากจะออกไปนั่งกินที่ร้านหรือสั่งมากินที่บ้านบ่อยๆ เพราะว่าแพงหรือขี้เกียจออกจากบ้าน วันนี้#เหมียวฟิ้นมีวิธีการทำพิซซ่าแบบง่ายๆ มาฝากกัน ซึ่งวัตถุดิบแต่ละอย่างนั้นหาได้ง่ายๆ ตามร้านสะดวกซื้อเลย   เมนูที่เหมียวจะมาแนะนำนั่นก็คือ พิซซ่าถ้วย นั้นเอง โดยเมนูนี้เป็นสูตรของสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้ชื่อว่าคุณ anyabaggyHome วัตถุดิบและขั้นตอนจะเป็นยังไงนั้นไปชมพร้อมๆ กันเลย   วัตถุดิบที่ต้องใช้ 1. เบคอน / แฮม 2. มอสซาเรล่าชี 3. ซอสมะเขือเทศ 4. ผงออริกาโน่ (หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต) 5. ขนมปังแผ่น 6. เนยสด     เรามาเริ่มต้นทำกันเลย ขั้นแรก นำขนมปังไปตัดขอบให้เรียบร้อย แล้วทาเนยลงไปบางๆ   จากนั้นนำไปจัดวางลงในถ้วยให้สวยงามแบบนี้   จากนั้นทาซอสมะเขือเทศลงไปบนขนมปัง และนำเอาเบคอนลงไปวางเรียงกันแล้วโรยผงออริกาโน่ลงไป   นำชีสที่เตรียมไว้ลงไปวาง และราดซอสมะเขือเทศลงไปอีกเล็กน้อย .   หรือใครที่ไม่อยากกินแบบถ้วย แต่อยากกินแบบเป็นแผ่นๆ ก็ซื้อขนมปังแผ่นหนาแบบนี้มาทำ ขั้นตอนก็เหมือนกับทำพิซซ่าถ้วยทุกอย่างเลย   เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็นำเข้าตู้อบได้ ใช้อุณหภูมิที่ 260 องศา ประมาณ 12 นาที  …

ส่วนตัวแล้้ว #จ่าสิบเหมียว เชื่อว่า การที่เราจะทำอะไรให้ใครสักคนหรือส่วนรวมนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับอายุของเราเลยล่ะ เพราะไม่ว่าอายุจะน้อยหรือมากขนาดไหน ถ้ามีความตั้งใจจริง รับรองว่าสามารถประสบความสำเร็จได้เลยล่ะ ซึ่งวันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ ไปพบกับเด็กๆ ที่ถึงแม้จะตัวเล็ก แต่ต้องบอกว่าใจใหญ่มากๆ เลยทีเดียว เพราะพวกเขาช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่เห็นแก่ตนเอง ลองมาทำความรู้จักแต่ละคนดูน้าา ว่าเขาทำอะไรกันบ้าง…   เด็กน้อยที่รับหน้าที่อ่านหนังสือให้กับเหล่าสัตว์ในศูนย์พักพิง   เด็กน้อยเก็บเงินจนได้ 120 เหรียญ แล้วชวนแม่มาทำอาหารกลางวันไปแจกคนไร้บ้าน   เจ้าเหมียวจรที่เจ้าหนูจะเอามานอนด้วยทุกๆ วัน ถึงแม้คนที่บ้านจะไม่ค่อยชอบเพราะแมวอาจสกปรก เจ้าหนูก็ยังยืนยันว่าจะให้มันมาอยู่ด้วย   เพื่อช่วยเหลือสัตว์ เธอเลยนำตุ๊กตาสัตว์สตั๊ฟ ที่บ้านของเธอมาขาย เพื่อระดมทุนไปช่วย   เด็กหนุ่มอดทนไว้ผมยาวโดนเพื่อนล้อถึง 2 ปี เพื่อตัดไปให้กับผู้ป่วยมะเร็ง   สาวน้อยบริจาคผมของเธอหลังเห็นเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันที่เป็นมะเร็งและไม่มีผม   เจ้าหนูที่พยายามช่วยอุ้มกระต่าย อิอิ   เด็กน้อยที่ทำเงินได้กว่า 1,400 เหรียญ จากการขายน้ำมะนาวหน้าโบสถ์ เพื่อนำเงินทั้งหมดไปบริจาคการกุศล   เมื่อน้องของเขาปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ถึง   เจ้าหนูทั้งให้อาหาร ให้ที่พัก และร่วมระดมทุนสำหรับสุนัขจรจัดในละแวกบ้าน…

หากคุณมีอาการคันคอและไอจนทำให้หงุดหงิด ลองหาดาร์กช็อคโกแลตมากินสักหน่อยซิ เพราะงานวิจัยต่างประเทศบอกว่าการกินดาร์กช็อคโกแลตช่วยให้หายไอได้นะ!?     เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Brightside ศาสตราจารย์ Aline Mauric หัวหน้าภาควิชาหัวใจและหลอดเลือดและระบบทางเดินหายใจ จามหาวิทยาลัยฮัลล์ ในประเทศอังกฤษได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับช็อคโกแลตและได้ผลสรุปว่า มันสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและไอแบบแห้งๆ ได้ดีกว่ายาตามใบสั่งแพทย์บางตัวเสียอีก     จากการศึกษาล่าสุดบอกว่าผู้ป่วยที่ทานยาพร้อมกับสารสกัดจากโกโก้นั้นหายเร็วกว่ากว่าผู้ป่วยทั่วๆ ไปที่ใช้ยาแก้ไอธรรมดาๆ     นอกจากนี้ยังมีการศึกษาอื่นๆ ที่มหาวิทยาลัยอิมพีเรียลที่ประเทศอังกฤษ ที่ค้นพบว่าโกโก้นั้นบรรจุสารอัลคาลอยด์ ซึ่งมีผลทำให้การไอนั้นลดลงมากกว่าสารโคเดอีนที่บรรจุอยู่ในยาแก้ไอเสียอีก     นอกจากนี้รายงานยังบอกอีกว่า เนื่องจากช็อคโกแลตมีลักษณะที่เหนียวหนืด ทำให้เวลาที่เรากลืนมันลงไปในคอ มันจะไปเคลือบอยู่ในลำคอ และอุดบริเวณปลายประสาท ช่วยป้องกันการไอแบบไม่หยุดไม่หย่อนของคุณนั่นเอง     แต่ใช่ว่าช็อคโกแลตทุกประเภทจะสามารถกินแก้ไอได้นะ เพราะในช็อคโกแลตทั่วๆ ไปนั้นเติมน้ำตาล ควรจะกินเป็นดาร์กช็อคโกแลตมากกว่า ยังไงแล้วเดี๋ยว #เหมียวฟิ้นของลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูก่อนนะ ถ้าได้ผลหรือไม่อย่างไรจะมาบอกเพื่อนๆ อีกที ที่มา brightside , purewow

เรื่องนี้ถ้าจะให้กล่าวถึง ก็คงเป็นในเรื่องของแรงบันดาลใจและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ที่หล่อหลอมให้เป็นตัวเราอย่างทุกวันนี้ Vijay Thakur อดีตวิศวกรแห่งบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Larsen and Toubro ในประเทศอินเดีย เหมาหมดทั้งด้านวิศวกรรม ก่อสร้าง การผลิต และการเงิน แต่เขา กลับตัดสินใจลาออกจากงานอันสุดแสนจะมั่นคง เพื่อมาเป็นคนขับรถแท็กซี่ ที่ให้คนต้องการจริงๆ นั่งแบบฟรีๆ !!!!?   Vijay Thakur ซึ่งตอนนี้อาจเรียกได้ว่าเขาเป็นคุณปู่แล้วล่ะ   โปรไฟล์ของคุณลุงก็เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา เพราะสามารถพูดได้กว่า 11 ภาษา แถมลูกๆ ของเขาตอนนี้ก็มีตำแหน่งสูงๆ ในบริษัทใหญ่ระดับประเทศ แต่กระนั้น ความสุขที่แท้จริงของเขากลับเป็นการช่วยเหลือผู้คนเวลาที่พวกเขาต้องการเสียมากกว่า เรื่องราวจุดเปลี่ยนของชีวิตคุณลุงนั้นเริ่มจากการที่ภรรยาของคุณลุงปวดท้องคลอดตอนกลางคืน แต่กลับไม่มีรถแท็กซี่ในแถบนั้นเลย จนเธอแท้งลูกในท้ายที่สุด คุณลุงเจ็บปวดกับเรื่องนี้มาก เลยอาสาขับแท็กซี่ให้คนที่ต้องการฟรีๆ และลาออกจากงานนับแต่นั้น ‘ผมเสนอขับให้ผู้โดยสารแบบฟรีๆ แต่กระนั้นผมก็ได้เงินเล็กๆ น้อยๆ จากคนที่ผมไปส่ง เดือนละราวๆ 10,000 รูปี (5,000 บาท) แม้จะโทรมาหาผมตอนตี 3 ตี 4 ถ้าฉุกเฉินจริงๆ ผมก็จะไปเลยทันที’…

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เราคงได้เห็นกันว่าราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากราคาเกือบๆ 40 บาทจนตอนนี้เหลือเพียง 20 บาทต้นๆเท่านั้น หลายคนอาจทราบว่านี่เป็นผลส่วนหนึ่งจากพิษเศรษฐกินโลกตกต่ำ และเชื่อว่าหากวันหนึ่งเศรษฐกิจกลับมาดีเช่นเดิม ราคาน้ำมันก็จะพุ่งสูงขึ้นไปอีกอย่างที่มันเคยเป็น   (ราคาน้ำมันในไทยช่วงต้นปี พ.ศ. 2557)   (ราคาน้ำมันในไทยช่วงต้นปี พ.ศ. 2559)   แต่สำหรับผู้ที่ในวงการค้าน้ำมันอย่าง Ian Taylor ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Vitol Group บริษัทรับขุดเจาะน้ำมันและค้าน้ำมันรายใหญ่ของโลกกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาบอกว่า เราอาจไม่ได้เห็นราคาน้ำมันพุ่งไปแตะ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลอีกต่อไปแล้ว “มันคงยากที่เราจะได้เห็นราคาน้ำมันสูงขนาดนั้น คุณเชื่อเถอะว่ามันเป็นไปได้แน่ๆ ที่มันจะไม่กลับไปถึงจุดๆ นั้น อีกตลอดกาล” Ian กล่าว     จากภาพเราจะได้เห็นว่าราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งไปถึง 140 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงปี 2008 ก่อนจะร่วงลงมาเหลือเพียง 48 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงต้นปี 2009 จากนั้นมาน้ำมันก็ค่อยๆ มีราคาเพิ่มขึ้นจนถึงช่วงปลายปี 2014 น้ำมันดิบก็ปรับตัวลงมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันเหลือเพียง 34 เหรียญต่อบาร์เรลเท่านั้น “ผมพอจะนึกภาพออกเลยว่าราคาของน้ำมันดิบจะอยู่ที่เท่าไหร่ คงจะอยู่ที่ราวๆ 40-60 เหรียญต่อบาร์เรล และจะอยู่ในราคานี้อีก 5-10 ปีเลยล่ะ”…

เชื่อว่าเหล่านักศึกษาในคณะนิเทศนั้น คงจะเป็นที่หมายปองของหนุ่มสาวจากคณะอื่นๆ อยู่ไม่น้อย เพราะพวกเขาทั้งกล้าแสดงออก ดูเป็นมิตร เข้ากับคนง่าย ทำให้หลายๆ คนต่างพากันหลงเสน่ห์เด็กนิเทศศาสตร์ไปตามๆ กัน   แต่ช้าก่อน!! ก่อนที่คุณจะหาญกล้าไปจีบพวกเขามาเป็นแฟนนั้น คุณอาจจะต้องศึกษาและเตรียมตัวให้ดีๆ ซะก่อน วันนี้ #เหมียวฟิ้น เลยไปเซอร์เวย์กับเด็กนิเทศศาสตร์ตัวจริงมา เราลองมาดูกันดีกว่าว่าเราควรจะรู้อะไรบ้างก่อนจะไปจีบพวกเขา?   1. เด็กนิเทศชอบอะไรที่เกี่ยวกับสื่อ (ก็เรียนนิเทศนี่) คุณอาจจะชวนเขาคุยเกี่ยวกับเพลงใหม่ๆ ละครใหม่ๆ หนังใหม่ๆ หนังสือใหม่ๆ (มันต้องโดนสักอันล่ะนะ!) นั่นอาจเป็นการเริ่มบทสนทนาที่ดีก็ได้   2. เด็กนิเทศสายถ่ายภาพมีเยอะ หากเขาชอบถ่ายภาพ คุณลองชวนเขาไปถ่ายภาพที่ไหนสักที่ด้วยกันซิ (กลายเป็นเดทแบบเนียนๆ เลยนะเออ!)   3. เด็กนิเทศน์ไม่ได้ติ๊สไปซะทุกคน คนที่อ่านหนังสือ เป็นเนิร์ด (แบบเหมียว) เองก็มี ฉะนั้นอย่าไปกังวลว่าเขา/เธอ จะคุยไม่รู้เรื่อง   4. เด็กนิเทศเป็นคนลุยๆ บุกป่าฝ่าดงไปถ่ายรูป อดทนกับโลเคชั่นร้อนๆ ก็ทำมาแล้ว ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าพวกเราจะอ่อนแอมากนัก (เราถึกนะเว้ย)   5. เด็กนิเทศจะมีความความคิดสร้างสรรค์ค่อนข้างสูง เพราะต้องใช้คิดงานต่างๆ ส่งอาจารย์ ฉะนั้นการใช้มุกจีบแบบทั่วๆ…

เรียกว่าเป็นขนมคู่บ้านคู่เมืองของคนไทยจริงๆ สำหรับขนมป๊อกกี้ (Pocky) ขนมปังแบบแท่งเคลือบช็อกโกแลตจากบริษัทกูลิโกะ (Glico) ประเทศญี่ปุ่น ที่เชื่อว่า 99 เปอร์เซ็นของคนไทยต้องเคยกินอย่างแน่นอน และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ทุกคน เข้าไปชมกระบวนการผลิตขนม Pocky ถึงในโรงงานในประเทศญี่ปุ่น วันนี้เราจะได้รู้ซักทีนะ ว่ากว่าจะมาเป็นขนมแท่งๆ ให้เรากินเนี่ย มันต้องผ่านอะไรมาบ้าง ว่าแล้วไปชมกันเลย     นี่คือโรงงานผลิตขนมของ Glico ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นฐานการผลิตหลักของบริษัทเลยล่ะ   นี่คือแป้งที่จะนำมาทำเป็นขนมให้เราได้ทานกัน   จากนั้นแป้งจะถูกรีดแล้วทำให้เป็นเส้นเล็กๆ . แล้วก็นำไปอบให้กรอบ ขั้นตอนต่อไปเครื่องจักรก็จะแบ่งแท่งเหล่านั้นให้เป็นแท่งเล็กๆ แล้วก็นำไปเคลือบช็อกโกแลตและบรรจุใส่ห่อ . .   เสร็จเรียบร้อยยยย พร้อมส่งขายทั่วโลกจ้าาาา ไปชมคลิปเต็มๆ กันเลย     โอ้โห เครื่องจักรเจ๋งๆ ทั้งนั้นเลยเนอะ แทบไม่ต้องมีคนทำเลย แต่เห็นแล้วก็อยากกิน ว่าแล้ว #เหมียวอ๊อดโด้ ขอตัวไปซื้อมากินซักกล่องก่อนล่ะ อิอิ ที่มา Glico Japan…

หลายคนคงฝันที่อยากจะมีรูปร่างที่ตามกระแส แต่ยังดีหน่อยที่ปัจจุบันคนนิยมรูปร่างกันหลายแบบมากๆ ทำให้เรารู้สึกได้ว่าไม่ต้องตามมากก็สามารถทันกระแสได้ ซึ่งก็แล้วแต่วัฒนธรรมของที่นั่นด้วย ขนาดว่าตุ๊กตาบาร์บี้ตอนนี้ก็ทำออกมาในรูปแบบคนอวบคนอ้วนกันแล้ว เพื่อให้ทุกคนได้พึงพอใจกับรูปร่างที่ตัวเองมี ไม่ต้องไปเสี่ยงทำนู่นนั่นนี่ให้ตัวเองมีหุ่นเหมือนชาวบ้านเขา แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกคนท่องประวัติศาสตร์ ไปดูกันว่าผู้ชายในสมัยก่อนนั้นเขานิยมหุ่นแบบไหนกันบ้างเพื่อดึงดูดผู้หญิงให้เข้ามา   เริ่มจากยุค 1870 ในสมัยนั้นอาหารอุดมสมบูรณ์มาก ดังนั้นการที่คุณมีรูปร่างที่อ้วนหมายถึงคุณรวยมากๆ   ในปี 1866 มีการก่อตั้ง “Fat Man’s Club” หรือสมาคมผู้ชายอ้วนขึ้น และโด่งดังเป็นอย่างมากในสหรัฐฯ โดยสมาชิกนั้นต้องมีน้ำหนักถึง 90 กิโลกรัมถึงจะผ่าน อย่างภาพนี้ก็มาจากสมาคม แต่เป็นช่วงปี 1894   ถัดมาในยุค 1930 อาหารก็ยังหากินง่าย เริ่มมีดาราถือกำเนิดขึ้นมา และพวกเขาก็ได้นำค่านิยมหุ่นแบบพอดีพองามกล้ามนิดๆเข้ามา   และผู้นำกระแสหุ่นแบบนี้ก็คือนักแสดงที่ชื่อว่า Cary Grant   ถัดมาในปียุค 1960 อเมริกาเริ่มเกิดกระแสฮิปปี้ นั่นก็คือผู้ที่ไม่ตามกระแสหลัก พวกเขาก็เลยต้องสร้างอัตลักษณ์ใหม่ขึ้นมาด้วยหุ่นผอมๆ   พวกเขามักจะมีความคิดที่ไม่เหมือนใคร ไว้ผมยาว เล่นยา และไม่ออกกำลังกาย   ในยุค 1980 ก็ได้เกิดกระแสใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือการที่ผู้ชายหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น…

ใกล้วันวาเลนไทน์เข้ามาแล้ว หลายคนอาจจะมีคู่ไปเที่ยว บางคนก็อาจจะยังไม่มี ก็ไม่ต้องเสียใจไป มันก็แค่วันวันหนึ่งเท่านั้นเอง แล้วหมดวันนั้นไปก็กลับไปทะเลาะกันเหมือนเดิมละ(โลกสวยจริงๆเลยเรา) แต่ก็มีหลายคู่เหมือนกันที่มักจะเลิกกันในช่วงเวลาแบบนี้ เหมียวก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม สงสัยหาเรื่องไปมีคนใหม่รึเปล่า เอ๊ะ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ แต่ไม่เป็นไร วันนี้ #เหมียวสามสี มีวิธีปลอบใจดีๆ มาฝากทุกคนสำหรับคนที่กำลังอกหักในช่วงนี้ เพียงแค่คุณมีแมวอยู่ใกล้ๆ ก็จะทำให้คุณลืมคนนั้นไปได้เลย ไปดูกันว่าจะมีวิธีอย่างไรบ้าง   ในตอนอกหัก แล้วเราเป็นฝ่ายผิด มันก็มักจะให้คำแนะนำดีๆกับเราเสมอ เช่น “ส่งรูปเสียวๆ ไปให้เขาดูสิ”   บางทีของของแฟนเก่าก็ทำให้เรานึกถึงเรื่องเก่าๆ แมวมันก็ช่วยทำลายสิ่งนั้นให้ ขอบใจมากนะเหมียว   ไม่รู้เป็นอะไร เวลาอกหักก็ต้องฟังเพลงอกหัก ดูหนังเศร้าๆ แต่แมวมันก็ค่อยช่วยดึงความสนใจเราไปทุกครั้ง ช่างเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนดีจริงๆ   แน่นอนว่าอกหักใครจะไปหลับลง มันก็ต้องคิดแต่เรื่องเก่าๆ แต่มันก็คอยมาสะกิดเราทุกครั้ง เพื่อให้เราไม่คิดมาก   บางทีมันก็มีฟีลลิ่งแบบอยากโทรไปง้ออะไรแบบนี้ แมวก็จะขัดขวางคุณทุกวิถีทาง   บางครั้งก็บังเอิญไปเห็นรูปแฟนใหม่ของแฟนเก่าเรา แมวก็จะคอยให้กำลังใจเราอยู่เสมอว่าเราหน้าตาดีกว่านะ อิอิ   การร้องไห้อาจทำให้เราระบายความรู้สึกได้ แต่แมวก็จะเปิดมุมมองใหม่ๆ ด้วยการสร้างแผลให้กับเรา แล้วให้เราร้องไห้ให้กับแผลแทน   คนเลิกกันมันก็อดไม่ได้ที่จะไปส่องเฟซเขาอ่ะ…

เรียกว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญจริงๆ สำหรับวงการอาหารของโลก หลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสออกกฎหมายห้ามไม่ให้ห้างสรรพสินค้านำอาหารที่ขายไม่ได้ไปทิ้ง แต่ให้นำไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลแทน อย่างที่เราทราบกันดีกว่า ในแต่ละวันมีอาหารถูกนำไปทิ้งมากมาย เนื่องจากว่าขายไม่หมดในวันเดียว ซึ่งทางห้างไม่ต้องการเก็บอาหารที่ไม่ “สด” ไว้นั่นเอง       ซึ่งถ้าใครเคยทำงานในร้านอาหารฟาสฟู๊ดหรือห้างสรรพสินค้าในยุโรปหรืออเมริกาจะพบว่า มีการทิ้งอาหาร “เหลือ” เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งอาหารเหลือเหล่านั้น ไม่ยังไม่เสียด้วยซ้ำไป เพียงแค่ไม่ “สด” เท่านั้นเอง โดยกฎหมายนี้ผ่านการโหวดจากสมาชิกวุฒิสภาของฝรั่งเศสเมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายจะเริ่มบังคับใช้เฉพาะกับห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดเกิน 400 ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งถ้าห้างร้านไหนไม่ทำตาม อาจโดนปรับสูงสุด 3,750 ยูโรหรือราว 140,000 บาท     Jacques Bailet จากธนาคารอาหารได้กล่าวถึงกฎหมายนี้ว่า “มันเป็นเรื่องที่ดีมาก การที่ห้างต่างๆ นำอาหารมาบริจาคให้เรา แปลว่าเราจะได้รับอาหารที่มีคุณภาพดีและหลากหลายมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งปกติแล้วเราได้จำนวนอาหารประเภทเนื้อเยอะมาก แต่ขาดพวกผักผลไม้” โดยอาหารที่ถูกบริจาคให้กับธนาคารอาหารนี้ จะถูกนำไปแจกจ่ายให้กับพื้นที่ที่ประสบภัยขาดแคลนอาหาร อย่างเช่นในแอฟริกาหรือในเอเชีย     ทางวุฒิสมาชิกของฝรั่งเศสหวังว่า จะมีการผลักดันให้ทุกประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ออกกฎหมายควบคุมการทิ้งอาหารนี้ด้วยเช่นกัน     ถือว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญจริงๆ สำหรับวงการอาหารโลก…

วันนี้ #ประธานเหมียว มีเรื่องน่าสนใจจากต่างแดนมาฝากแฟนเพจทุกคนอีกครั้งหนึ่ง หากพูดถึงอาชีพเด็กเสี่ย หลายคนคงจะพอเข้าใจกับคำศัพท์นี้ดี เพราะในเมืองไทยก็มีให้เห็นอยู่ประปราย หลายคนคงไม่ทราบว่าในประเทศอย่างออสเตรเลีย ก็มีอาชีพลักษณะนี้อยู่ด้วย…. .   Sugar Baby คืออาชีพที่จะคอยดูแลเอาใจเหล่าป๋าผู้มีสตางค์ (ซึ่งเรียกว่า Sugar Daddy อีกทีหนึ่ง) การดูแลนั้นก็รวมไปถึงการไปเที่ยว กินข้าวด้วยกัน คอยเป็นเพื่อนคุย ให้รอยยิ้ม หรืออาจจะถึงขั้นมีเซ็กส์ด้วย แต่สำหรับ Maya สาววัย 18 ปีคนนี้ ซึ่งมาเปิดเผยข้อมูลให้กับทางสำนักข่าว Dailymail Australia ได้รับรู้ถึงเรื่องราวภายในอาชีพเด็กเสี่ยมากขึ้น . เธอเริ่มงานนี้เมื่อหลายเดือนก่อน สาเหตุก็เพราะค่าใช้จ่ายการศึกษาที่สูง นักศึกษาส่วนใหญ่ต้องกู้ยืมเงินเรียน ส่งผลให้จบการศึกษาพร้อมกับหนี้สิน ที่ต้องชดเชยด้วยเงินเดือนหลังจากได้งานทำแล้ว เหล่าป๋าๆที่สนใจเธอ ก็สามารถติดต่อให้เธอบินไปหา หรือจะบินมาหาเธอเองก็ได้ เธอจะสละเวลาไปกินข้าว นั่งรถเล่น หรือเที่ยวด้วยเป็นครั้งคราว   “แต่ฉันไม่เคยเมา ไม่เคยเล่นยา และแน่นอนว่าไม่เคยทำอะไรเรื่องเซ็กส์กับแขกเลย ฉันวางตัวให้เรียบเฉยเสมอ” เธอยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าก็เป็นคนรวย หลายรายที่แต่งงานแล้ว แต่ก็ยังมีความสุขกับการได้บินมาหาและใช้เวลาว่างกับเธอ   .   ถึงแม้ว่าแม่ของเธอจะรับรู้เรื่องนี้…

เราอาจเคยได้ยินประเพณีแปลกๆ จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่เชื่อว่าไม่มีประเพณีไหนน่าสะเทือนใจเท่าประเพณีจากประเทศอินเดียนี้อีกแล้ว เพราะพวกเขามีประเพณี “ฆ่าคนชรา” นั่นเอง ประเพณีฆ่าคนชรา หรือ Thalaikoothal เป็นประเพณีที่มีอยู่จริงในเขตรัฐทมิษนาฑู ในทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย โดยเมื่อถึงวันหนึ่ง เหล่าลูกหลานจะลงมือฆ่าผู้เฒ่าผู้แก่ของบ้านด้วยตัวเอง เหตุผลเพราะ “ความยากจน”     โดยลูกหลานจะอาบน้ำมันให้กับคนชราเหล่านั้น และนำน้ำมันมะพร้าวมาให้ดื่ม ตามด้วยน้ำกะเพรา (Tulsi) และตามด้วยนม เมื่อคนชราได้ดื่มเข้าไป พวกเขาจะเกิดอาการป่วยไข้ขึ้นอย่างหนัก และจะเสียชีวิตในวันสองวันต่อมา แม้การฆ่าคนจะเป็นเรื่องผิด (ทางนิตินัย) แต่ประเพณีนี้ก็เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันสำหรับผู้คนในแถบนี้ เพราะผู้คนในเขตรัฐทมิษนาฑู ต่างเป็นเพียงเกษตรกรยากจน พวกเขาไม่มีทั้งเงินและเวลาที่จะมาดูแลคนแก่ที่เหลือชีวิตอีกไม่นาน     ซึ่งคนชราเหล่านั้นก็เข้าใจเหตุผลและยินยอมที่จะตายด้วยน้ำมือของลูกหลานของตนเอง เพราะพวกเขารู้ว่า นั่นเป็นการกระทำที่เต็มไปด้วยความปราถนาดี และการตายของพวกเขาจะทำให้ชีวิตของลูกหลานสบายยิ่งขึ้น ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวว่า “พวกเราไม่ได้อยากฆ่าพวกเขา พวกเราไม่ได้ทำเพื่อความสะใจ แต่พวกเขามีชีวิตเหลืออีกไม่นานแล้ว ทำไมพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากความยากจนด้วย”     อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันประเพณีค่อยๆ เลือนหายไปจากสังคมทมิษนาฑูแล้ว อาจเป็นเพราะความเจริญที่เริ่มเข้าไปถึงพื้นที่ชนบทต่างๆ พวกเขาเริ่มมีเงิน พวกเขาจึงสามารถดูแลคนแก่คนเฒ่าได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น “ทุกวันนี้ผมดูแลคนแก่สองคนในบ้าน และผมก็จะดูแลไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่พวกเขาอยากจะมีชีวิตอยู่ หรือโชคชะตาจะพาเขาไป” ชายคนหนึ่งกล่าว  …

อุตสาหกรรมหนัง 18+ ถือว่าเป็นอีกอุตสาหกรรมที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านต่อปี โดยเฉพาะทางฝรั่งอเมริกา เรียกว่าทำกันเป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียว     หลายท่านอาจคิดว่าการถ่ายทำหนัง 18+ คงเป็นเรื่องง่ายๆ แค่ตั้งกล้องแล้วก็จับคนสองคน(หรือมากกว่า) มาประกอบกิจกัน แต่ความจริงแล้ว การถ่ายทำหนัง 18+ ต้องใช้ความทุ่มเทระดับเดียวกับการถ่ายหนังปกตินั่นแหละ พวกเขามีทีมงานมากมาย พยายามทำหนังให้ออกมาดูดีที่สุด   วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพเบื้องหลังของกองถ่ายหนัง 18+ เหล่านั้น โดยฝีมือของตากล้องระดับมืออาชีพ Larry Sultan จะเป็นยังไงไปชมกันเลย .   มีทีมงานมากมาย รวมถึงการนัดคิวการแสดงต่างๆ .   ท่าทางยุ่งยากกว่าที่เราคิดนะเนี่ย .   จะออกกล้องก็ต้องมีการแต่งหน้าทำผมซักหน่อย . .   พักเพื่อเตรียมการแสดงฉากต่อไป .   นักแสดงหญิงขอออกไปคุยโทรศัพท์แปป .   ติวเข้มจากผู้กำกับ . .     วุ่นวายใช้ได้เลยนะเนี่ย กับกองถ่ายหนัง 18+ ใครคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ…

หากพูดถึงแนวคิด Free Sex หรือการมีเพศสัมพันธ์แบบเสรี หลายคนอาจคิดว่าแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ขัดกับความเชื่อและค่านิยมของผู้คนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยสิ้นเชิง แต่เชื่อหรือไม่ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีชนเผ่าชนเผ่าหนึ่ง มีแนวคิดแบบ Free Sex แบบสุดๆ ชนิดที่ว่าประเทศแถบตะวันตกยังต้องทึ่งเลยทีเดียว เราไปทำความรู้จักกับชนเผ่านี้กันเลยดีกว่า     นี่คือชนเผ่าเกรือง (Kreung) พวกเขาเป็นชนเผ่าเล็กๆ ที่อาศัยในชนบทอันห่างไกลทางตะวันตกเฉี่ยงเหนือของประเทศกัมพูชา ว่ากันว่าพวกเขาเป็นชนเผ่าที่มีความเสรีในด้านเพศสัมพันธ์อย่างสุดๆ เผ่าหนึ่งของโลก เมื่อไหร่ก็ตามที่หญิงสาวชาวเกรืองเข้าสู่วัยรุ่น พ่อแม่ของพวกเธอจะสร้างกระท่อมเอาไว้ให้พวกเธอพาผู้ชายที่เธอสนใจมาหลับนอนด้วย และพวกเธอสามารถพาชายที่ไหนมานอนด้วยก็ได้ จนกว่าเธอจะเจอคนที่ถูกใจ     พวกเขาเชื่อว่านี่คือ “วิธีที่ดีที่สุด” ที่จะหา “สามีที่ดีที่สุด” ให้กับลูกสาวของพวกเขา แน่นอน หญิงสาวชาวเกรืองก็ต้องมีความมั่นใจในตัวเอง และรู้วิธีจะรับมือกับผู้ชายที่จะเข้ามาในชีวิต พวกเธอรู้ว่าเธอต้องการอะไรจากความสัมพันธ์กับผู้ชายเหล่านั้น     หลายคนอาจรู้สึกช็อคกับวิธีการของพวกเขา แต่เชื่อหรือไม่ หมู่บ้านชาวเกรืองไม่เคยมีประวัติการข่มขืนหรือการหย่าร้างแม้แต่ครั้งเดียว นั่นแปลว่าวิธีนี้อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดอย่างที่พวกเขาว่าจริงๆ ก็ได้ ภายหลังองค์กรอิสระได้เข้าไปให้ความรู้เรื่องการคุมกำเนิด การป้องกันโรคติดต่อ และการใช้ถุงยางแก่พวกเขา และนี่คือ แนงจัน (Nang Chan) หญิงสาวชาวเกรืองวัย 17 ปี เธออาศัยที่กระท่อมบริเวณหลังบ้านพ่อแม่ของเธอ เธอได้ถ่ายทอดความคิดของเธอเกี่ยวกับประเพณีให้เราฟัง…

ในภาพแต่ละภาพล้วนมีประวัติศาสตร์ของตนเองอยู่ มันสามารถเล่าความทุกข์ความสุขของช่วงเวลาเหล่านั้นให้กับผู้ที่ได้รับชม และบางครั้งมันก็เป็นเหมือนเครื่องเตือนความทรงจำ ว่าครั้งหนึ่งเคยเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นบนโลก วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จึงนำ 24 ภาพประวัติศาสตร์หายากสุดแปลก ที่เพื่อนๆ ได้เห็นแล้วจะต้องฉุกคิดว่าโลกเราเคยมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ ลองชมล่ะกัน….   เจ้าหน้าที่คนหนึ่งคาบซิก้าอยู่ แล้วมีนกขมิ้นสองตัวบินมาเกาะ เมื่อปี 1918   หน้าที่สวนสัตว์กำลังรดน้ำให้เพนกวินในปี 1930   Alfred Hitchcock ผู้กำกับชื่อดังชาวอังกฤษ ปลอมตัวเป็น Ringo Starr มือกลองวง The Beatles   นักศึกษา 22 คนพยายามเข้าไปในตู้โทรศัพท์ เพื่อทำสถิติเมื่อปี 1959   Leonid Brezhnev ผู้นำโซเวียตชื่อดังกำลังเยี่ยมชมโรงงาน Pepsi-Cola ในปี 1974   Pablo Picasso แต่งตัวเป็นป๊อปอายในปี 1957   เจ้าหญิงอนาตาเซียกำลังรับบุหรี่จากพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ในปี 1916   สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่…

เหมียวเคยเห็นสาวๆ หลายคนชอบซื้อครีมที่มีส่วนผสมของทองคำ หรือมาสก์หน้าด้วยแผ่นทองคำ บางทีแอดเหมียวก็สงสัยว่ามันสามารถซึมเข้าสู่ผิวของเรา และช่วยให้ใบหน้าเปล่งปลั่งได้จริงหรือเปล่า? วันนี้มีคนมาให้ความกระจ่างแก่เหมียวแล้วล่ะ     คนที่จะมาให้ความรู้แก่เราในวันนี้ก็คือ นักเทคนิกการแพทย์ภาคภูมิ เดชหัสดิน ที่กำลังโด่งดังอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ภาพและข้อความลงในแฟนเพจของตัวเอง บอกว่า “ครีมทองคำมาสก์หน้าทองคำลวงโลก”     โดยเขาได้ระบุว่าเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของทองคำนั้นไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้จริง เพราะอนุภาคทองคำใหญ่เกินกว่าที่จะซึมเข้าสู่ผิวหน้าของเราได้นั่นเอง แต่ใช่ว่าทองคำจะไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เลย แต่ต้องผ่านกระบวนการสังเคราะห์ให้ทองคำมีอนุภาคเล็กลงในระดับนาโนเมตรถึงจะสามารถซึมเข้าสู่เซลล์ผิวได้     ทั้งนี้ทั้งนั้นเคยมีงานวิจัยที่เคยนำเอาทองคำที่เล็กระดับนาโนเมตรมาหยดใส่หลอดทดลองที่มีเซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เอนไซม์ในเลือด อสุจิ และเซลล์เยื่อบุกระพุ้งแก้มมาแล้ว แต่มันกลับทำให้เซลล์บางตัวตายได้     อ่านโพสต์เต็มๆ ของทนพ.ภาคภูมิ ได้ที่ด้านล่างเลยนะจ๊ะ หลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เช่น มาสก์หน้าทองคำ โลชั่นทองคำ เซรั่มทองคำ โฟมล้างหน้า แชมพู สบู่ หรือแม้กระทั… Posted by ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน on 1 กุมภาพันธ์ 2016   นอกจาหนี้แล้วในเฟซบุ๊กของคุณภาคภูมิยังมีเรื่องราวความรู้แบบสนุกๆ มันส์ๆ อีกเพียบเลย ลองไปกดติดตามได้ที่ ทนพ.ภาคภูมิ…

เพิ่งจะผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่มาไม่ทันไร ก็ใกล้เข้ามาถึงเทศกาลวันแห่งความรักกันอีกครั้งแล้วสินะ และสำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาทรงผมสวยๆ เพื่อไปออกเดทกับแฟนหนุ่มในวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้แล้วละก็ วันนี้เรามีไอเดียทรงผมน่ารักๆ ที่เข้ากับช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์มาฝาก งานนี้รับรองว่าจะต้องถูกอกถูกใจสาวๆ อย่างแน่นอน ว่าแต่ทรงไหนจะสวยเข้าตาคุณกันบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า   ทรงแรกก็สวยสะพรึงแล้ว เป็นทรงถักเปียที่ทำเป็นรูปหัวใจ น่ารักมุ้งมิ้งเข้ากับวันวาเลนไทน์เป็นที่สุด   ทรงนี้เพิ่มความโดดเด่นด้วยการผูกโบว์สีแดงเข้าไป บอกเลยว่าแจ่ม!!   เกล้าผมแบบทรงบันมันอาจจะดูน่าเบื่อเกินไป ลองเปลี่ยนมาทำเป็นรูปหัวใจดูสิ…งานนี้เกิดเกิดเกิด     ทรงนี้ดูโรแมนติกมากๆ เลยละ วิธีทำก็ง๊ายง่ายอีกด้วย     ทรงผมมัดรวบครึ่งหัว แต่เพิ่มความเก๋ไก๋ด้วยการถักเปียแล้วทำเป็นรูปหัวใจ แค่นี้ก็สวยกว่าใครๆ แล้ว   เป็นอีกหนึ่งทรงที่เข้ากับเทศกาลแห่งความรักที่สุด   ทรงนี้ดูเหมือนจะทำยาก แต่ไม่ยากอย่างที่คิด แถมยังดูดีมีเสน่ห์เป็นที่สุด   ถักเปียเป็นรูปหัวใจทั้งหัว สวยในแบบที่ไม่เหมือนใคร   ทรงผมรูปหัวใจ เพิ่มลูกเล่นด้วยการดัดลอนอ่อนๆ เข้าไป รับรองโดดเด่นกว่าใครๆ แน่นอน   ทรงนี้ดูแปลกตาออกไป แต่เป็ทรงที่สวยงดงามราวกับเจ้าหญิงมากๆ เลย   มาถึงทรงสุดท้ายอาจจะไม่ใช่รูปหัวใจ แต่ก็เป็นทรงผมที่สามารถทำออกเดทกับหนุ่มๆ ในวันวาเลนไทน์ได้เหมือนกัน…

โรคซึมเศร้า (Depression) อาจเป็นสิ่งที่ยังใหม่สำหรับสังคมไทย ในอดีตหลายคนอาจคิดว่าอาการนี้เป็นเรื่องของสภาพจิตใจและความคิด แต่ที่จริงแล้ว มันเกิดมาจากการหลั่งของสารเคมีในสมอง จนกระทั่งมีคนดังหลายคน เสียชีวิตจากโรคนี้ ทำให้เกิดกระแสการระมัดระวังและตื่นตัวในโรคซึมเศร้าขึ้นในไทย และแม้หลายคนจะมีจิตใจดีอยากช่วยเหลือผู้ป่วยโรคซึมเศร้า แต่หารู้ไม่ บางครั้งการพยายามช่วยเหลือกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจผู้ป่วยยิ่งกว่าเดิม วันนี้เหมียวจึงรวบรวม 10 คำพูดที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพราะนอกจากคำพูดเหล่านั้นจะไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังทำให้สิ่งต่างๆ เลวร้ายลงไปอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย   10. “ลองหยุดพักแล้วไปเที่ยวดูสิ” การไปเที่ยวไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาโรคซึมเศร้า และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าระหว่างที่พวกเขาไปเที่ยวแล้วเจอเหตุการณ์อะไรไม่ดีอีก พวกเขาอาจซึมเศร้าหนักกว่าเดิมก็เป็นได้   9. “ลองคิดบวกสิ”   หลายคนอาจไม่รู้ว่า การเป็นโรคซึมเศร้าและคิดอะไรแต่ในแง่ลบ บางครั้งเกิดจากสารเคมีในสมอง ฉะนั้นจะมาบอกแค่ว่า “ลองคิดบวกสิ” มันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายขนาดนั้นหรอก   8. “ลองออกกำลังกายดูสิ” หลายคนอาจเคยได้ยินว่า การออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียดได้ นั่นก็เป็นเรื่องจริง แต่สำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้านั้น ถ้าอยากให้พวกเขาไปออกกำลังกายจริงๆ พยายามหว่านล้อมให้เขาตัดสินใจไปด้วยตัวเอง อย่าบังคับเด็กขาด ไม่อย่างนั้น เขาอาจรู้สึกเครียดกว่าเดิมก็เป็นได้   7. “หาอะไรทำสิ จะได้ไม่คิดมาก” การหางานทำเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดมาก อาจช่วยได้ในคนที่มีสภาพจิตใจปกติ…

สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว การที่ได้ไปพิชิตแลนด์มาร์คถือเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Business Insider ได้รวบรวมข้อมูลจาก Euromonitor International ที่ปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับ 100 อันดับเมืองที่คนนิยมไปเที่ยวมากที่สุด โดยวัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2014 แต่วันนี้เหมียวจะเอามาให้ดูแค่ 20 ก็พอแล้ว เยอะไปก็เที่ยวไม่หมดหรอก แต่ไม่น่าเชื่อว่าทั้ง 20 อันดับนี้เอเชียก็กินไปเกินครึ่งแล้ว อีกทั้งไทยยังติดตั้ง 3 อันดับ เราไปดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง   20. Shanghai, China: มีนักท่องเที่ยว 6.39 ล้านคน   19. Pattaya, Thailand: มีนักท่องเที่ยว 6.4 ล้านคน   18. Miami, Florida: มีนักท่องเที่ยว 7.3 ล้านคน   17. Phuket, Thailand: มีนักท่องเที่ยว 8.1 ล้านคน…

ถ้าเพื่อนๆ คนไหนคิดว่า บอสของตัวเองนั้นจู้จี้จุกจิกแล้ว พอได้ยินเรื่องนี้แล้วอาจเปลี่ยนความคิดแล้วไปรู้สึกดีกับบอสของตัวเองเลยก็เป็นได้ ฮ่าๆๆๆ เมื่อล่าสุด Bill Gates ได้ออกมาเผยถึงพฤติกรรมสุดจิต ที่เขาเคยทำขณะเป็น CEO ของไมโครซอฟต์ให้สื่ออย่าง BBC ได้ฟังกัน และนั่นเป็นอะไรที่อาจเรียกได้ว่าฝันร้ายมากๆ !!!?   Bill Gates นายจ้างที่ฝันร้ายสุดๆ !!?   เพราะเขาจะจดจำป้ายทะเบียนรถของพนักงานทุกๆ คน และเดินดูที่จอดรถว่าคนๆ นั้นมาทำงานกี่โมง กลับกี่โมง!!?   สำหรับข้อมูลนี้ บิล เกตส์ ก็ได้ออกมายอมรับกับทางสถานีวิทยุของ BBC ว่าเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน และยังกล่าวเพิ่มด้วยว่า ‘ผมต้องระวังมากๆ ที่จะไม่เอามาตรฐานในการทำงานหนักของผม ไปเทียบและใช้กับเหล่าพนักงาน แต่สุดท้ายแล้วผมก็ต้องหยุดทำเรื่องแบบนี้ เพราะว่าบริษัทเริ่มขยายและโตขึ้นเรื่อยๆ ‘ เขากล่าว   ความเคร่งครัดของเขาในฐานะหัวหน้า…   จะว่าไปแล้วช่วงแรกๆ ที่เริ่มก่อตั้ง Microsoft นั้น บริษัทใหญ่ยักษ์ระดับโลกนี้ ไม่ได้มีพนักงานนับพันๆ คนอย่างเช่นปัจจุบัน แต่มีเพียง 11 คนเท่านั้น การจำป้ายทะเบียนรถแล้วเดินดูว่าพวกเขามากันกี่โมงกลับกี่โมงก็คงไม่ยากเท่าไหร่นัก……

สำหรับคนเป็นแม่นั้น สิ่งที่เราจะห่วงหาอาทรณ์ก็ไม่มีอะไรที่จะมากไปกว่าลูกๆ ของเราอีกแล้ว แต่กระนั้นลูกๆ ก็โตขึ้นทุกๆ วัน และแน่นอน วันหนึ่งเขาก็ต้องจากเราไปอยู่ที่ไหนสักที่ไกลๆ จนเราทำได้แต่คิดถึงพวกเขาเท่านั้น เหมือนคุณแม่ชาวญี่ปุ่นคนนี้ที่ทำกับข้าวให้ลูกชายของเธอมาตลอด จนถึงวันสุดท้ายที่เขาจะเรียนในรั้วมัธยมศึกษา หลังจากนี้เขาก็จะต้องไปเรียนมหาวิทยาลัย ซึ้งอาจจะอยู่ต่างจังหวัด และทำให้แม่ของเขาไม่สามารถทำข้าวกล่องเบนโตะให้กับเขาได้อีก…   คุณแม่เลยทำข้าวกล่องสุดท้ายที่มีโอกาสทำให้กับเขา   กับข้อความซึ้งๆ ที่ว่า… “ถึง…ยูกิ นี่คือข้าวกล่องสุดท้ายในชีวิตมัธยมศึกษาตอนปลายของลูกแล้ว ขอบคุณมากๆ ที่ทานข้าวที่แม่เตรียมไว้ให้ทุกๆ ครั้ง ผ่านกล่องข้าวทุกๆ กล่อง ทำให้เราได้เข้าใจกันมากขึ้น มากไปกว่านั้น แม่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ทำข้าวกล่องให้ลูกอีกเมื่อไหร่ แม่หวังว่าลูกจะชอบอาหารในกล่องนี้นะ ชีวิตมัธยมของลูกมันสนุกดีใช่มั้ยล่ะ?? เพราะฉะนั้น ใช้เวลาที่มีค่าของลูกที่เหลืออยู่น้อยนิดให้สนุกกับเพื่อนๆ ซะล่ะ ขอบคุณมาก…จากแม่”   และเขาก็ได้โพสต์รูปโน๊ตกับข้าวกล่องของแม่ลงบนโลกออนไลน์   หลักๆ แล้วพ่อหนุ่มยูกิของเราก็คงจะซาบซึ้งมากๆ เลยล่ะ กับเบนโตะที่คุณแม่ตั้งใจทำให้กล่องนี้…ถึงกับบอกว่าเขาน้ำตาซึมเลยทีเดียว   นี่ล่ะหนอออ ความรักของแม่ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าเรื่องเล็กๆ ที่แม่ๆ ทำให้กับเราในทุกๆ วันนั้น มันสำคัญและมีค่าขนาดไหน เพราะเราชินชากับมันน่ะสิ!! แต่วันไหนลองขาดไปนะ ดิ้นตายอ่ะ -*- ที่มา:…

สำหรับคำว่าปรากฏการณ์ต่างๆ ทางธรรมชาติ นั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยไม่ได้มีมนุษย์เข้าไปยุ่งเกี่ยว แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่หาดูได้เฉพาะที่ เฉพาะเวลา แถมบางครั้งยังทรงพลังกว่าที่มนุษย์สร้างซะอีก วันนี้เหมียวก็อยากพาเพื่อนๆ ไปชม 10 ปรากฏการณ์แปลกๆ จากธรรมชาติ ที่เพื่อนๆ อาจจะไม่เคยเห็นกันมาก่อน!!? ลองมาดูแล้วเปิดหูเปิดตาหาประสบการณ์ใหม่ๆ กันนะจ๊ะ   ปรากฏการณ์ Light Pillars หรือ เสาแสง   เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการสะท้อนของแสง ของผลึกน้ำแข็งเล็กๆ ในอากาศที่สะท้อนแสงเข้าสู่สายตาของเรา โดยแนวกำเนิดแสงนั้นจะอยู่ในแนวราบ เกือบๆ ขนานกับพื้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้จากทั้งแสงอาทิตย์ พระจันทร์ หรือบางครั้งแสงที่มนุษย์สร้างขึ้น     ดูๆ ไปแล้วเหมือนเสาแสงเรียวยาว และที่สำคัญมักพูกใช้เป็นเครื่องมือในการปลอมแปลงภาพถ่ายเกี่ยวกับ UFO อีกด้วยล่ะ!!!   Sailing Stones หรือปรากฎการณ์ก้อนหินเคลื่อนที่   ปรากฎการณ์ทางธรณีวิทยาที่ก้อนหินค่อยๆ เคลื่อนตัวไปในระยะทางยาวๆ โดยไม่มีการกระทำจากมนุษย์หรือสัตว์   Christmas Island’s Red Crabs ปรากฎการณ์ปูวางไข่ที่เกาะคริสมาสต์   ในแต่ละปีปูกว่า…

ยกทรงหรือบรา เป็นสิ่งที่ผู้หญิงขาดไม่ได้เลย เพราะว่ามันคอยอุ้มชูหน้าอกไม่ให้หย่อนตามสภาพแรงโน้มถ่วงขนาด 9.8 เมตรต่อวินาทียกกำลังสอง และช่วยไม่ให้คุณผู้หญิงดูโป๊อีกด้วย ปัจจุบันก้ได้มีบราออกมาหลากหลายรูปแบบ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้หญิง บางรุ่นก็สามารถทำให้คุณดูดูมๆขึ้นมาได้ด้วย แต่วันนี้เหมียวจะพาไปดู 10 สุดยอดบราที่ญี่ปุ่นเขาผลิตขึ้นมา แต่ละอันนี้ดีไซน์ล้ำมากๆ เราไปชมกันเลย   10. The ‘Soft Body’ Bra เป็นบราที่สร้างมาเพื่อโปรโมตการเลือกตั้งในสภาสูงที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2007   9. The ‘Make-the-Putt’  Bra บราสำหรับสาวกกีฬากอล์ฟตัวจริง บราตัวนี้เต็มไปด้วยความอัจฉริยะ มันสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นพื้นสำหรับพัตต์ลูกกอล์ฟได้ อีกทั้งยังมีที่วางลูกกอล์ฟเสียบไว้อยู่ข้างๆ เอามาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ และเมื่อตีลงหลุมก็จะมีเสียงแสดงความยินดีให้ด้วย   8. The ‘Photovoltaic-Powered’ Bra สำหรับคนที่ชอบเล่นมือถือบ่อยๆ บรานี้ตอบโจทย์มากๆ เพราะมีแผงโซลาร์เซลล์ที่เก็บพลังงานเอาไว้เติมแบตมือถือได้ อีกทั้งยังมีถุงน้ำให้ได้ดื่มกินด้วย   7. The ‘Grow-Your-Own-Rice’ bra สำหรับคนชอบทานข้าว บรานี้สามารถให้คุณพกข้าวที่ปลูกไปได้ทุกที่ จะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด มาพร้อมกับเครื่องมือต่างๆ ผลิตในปี 2010   6. The ‘Super Cool’ Bra ในช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับหน้าร้อนที่จะมาถึง ก็ได้มีการผลิตบราอันนี้ขึ้นมา…

“หนึ่งภาพถ่ายสามารถแทนคำพูดได้นับล้านคำ”  ประโยคนี้อาจฟังดูเกินจริงไปซักนิด แต่หากเพื่อนๆ ได้เห็นภาพเหล่านี้แล้วล่ะก็ เพื่อนๆ จะรู้ว่าที่เหมียวบอกนั้น ไม่มีคำว่าเกินจริงเลย โดยภาพถ่ายชุดนี้เป็นภาพถ่ายที่ถูกส่งเข้าประกวดในการประกวดภาพถ่าย CGAP 2015 Photo Contest ซึ่งเป็นการประกวดภาพถ่ายสะท้อนความยากจนทั่วทุกมุมโลก และในปีนี้มีภาพส่งเข้าประกวดถึง 3,300 รูปจาก 77 ประเทศทั่วโลก ซึ่งคณะกรรมการจะตัดสินจากองค์ประกอบและคุณภาพอันน่าประทับใจของภาพถ่ายนั้นๆ   และผู้ชนะการประกวดในปีนี้ได้แก่ภาพ Paddy Cultivation จากผลงานของตากล้องชาวอินเดีย Sujan Sarkar   ส่วนภาพนี้เป็นเจ้าของรางวัล  Smallholder Families  ถ่ายโดยช่างภาพชาวรัสเซีย Tatiana Sharapova   และนี่คือภาพที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งจากฝีมือของตากล้องชาวจีน Liming Cao สะท้อนถึงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวจีน   รางวัลอันดับสาม ได้แก่ภาพ Hands of Freedom โดย Pranab Basak   รางวัลชมเชยได้แก่ M. Yousuf Tushar แสดงถึงลูกจ้างที่กำลังจัดการกับผลหมาก   รางวัลชมเชยอีกภาพได้แก่ช่างภาพ Loc Mai แสดงภาพการซ่อมแหจับปลาของเหล่าแม่บ้านในเวียดนาม   ภาพการทำซอสมะเขือเทศของชาวบ้านในหมู่บ้าน Bursa Aksu ในประเทศตุรกี โดยตากล้อง Blent Suberk   ภาพ…

ความรักเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์อย่างมาก มันทำให้เรามีความสุข บางครั้งก็สามารถเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างในตัวเราได้ และทำให้ชีวิตที่แสนธรรมดาของเราให้น่าสนใจยิ่งกว่าเดิม ศิลปินท่านหนึ่งชื่อว่า Lingvistov เขาเป็นนักวาดการ์ตูนที่ทำผลงานออกมามากมายเกี่ยวกับชีวิตของคนเรา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ทำออกมาในรูปแบบเหตุผลที่ผู้ชายรักผู้หญิง แต่ครั้งนี้เขามาในรูปแบบของ “เหตุผลที่ผู้หญิงรักผู้ชาย” ที่ทำออกมาแล้วน่ารักมากๆ จริงๆแล้วมันก็มีอีกล้านแปดเหตุผล แต่ที่เขาวาดมานั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นมุมมองที่น่ารัก ทั้งเรื่องที่ทำให้ยิ้มได้ เรื่องที่เขาชอบทำตัวตลกๆ จนเราคิดว่านี่หรือแฟนของเรา เราไปดูกันเลยว่าจะน่ารักแค่ไหน     เขาผลักดันให้ฉันกลายเป็นคนที่ดีขึ้น (อ้วนขึ้นนั่นเอง)   จะมาในมาดไหนก็หล่อออออ   เป็นหนูทดลองในการทำอาหารของฉัน (ต้องพูดว่าอร่อยด้วยนะ)   เป็นรถรับส่งตลอด 24 ชั่วโมง (โดยเฉพาะตอนเมา)   ยอมได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งแมว   เป็นเหตุผลที่ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองดูสวย   มักจะได้รับของขวัญดีๆ อยู่เสมอ (เหรอ?)   เป็นช่างประจำบ้าน   เป็นเพื่อนคู่ช็อป (ถามว่าคุณผู้ชายได้ซื้อมั้ย …ไม่)   ชายคนนี้คือผู้ที่ผ่านด่านคุณพ่อมาได้ เจ๋งป่ะล่ะ   ทำให้ฉันได้ขึ้น In a Relationship ในเฟซบุ๊กได้…

เชื่อว่าหนึ่งในความฝันของหนุ่มๆ 90 เปอร์เซ็นทั่วโลกคือการได้ควงนางฟ้าบนเครื่องบินหรือที่เราเรียกกันติดปากว่า แอร์โฮสเทส เพราะใครก็ตามที่มาเป็นนางฟ้าได้ ต้องมีหน้าตาและบุคลิกที่ดี จึงจะสามารถทำงานนี้ได้ แม้ภาพภายนอกของอาชีพนี้ จะดูเหมืออาชีพที่ทำงานสวยๆ ไปวันๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว พวกเธอต้องทำงานหนักและยากลำบากไม่แพ้อาชีพอื่นๆ เลยทีเดียว ฉะนั้น ใครก็ตามที่อยากครอบครองใจของเหล่านางฟ้า จะต้องมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง     และนี่คือ 12 ข้อที่เหล่าหนุ่มๆ ควรจะรู้เอาไว้ หากอยากจะมีแฟนเป็นเหล่านางฟ้า ซึ่งเหมียวบอกเลยว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะจ๊ะ จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย   1. เข้าใจเวลาและตารางงานของพวกเธอ ต้องเข้าใจก่อนว่า เวลางานของเหล่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่ได้เป็นเวลาออฟฟิศเหมือนคนทั่วไป ที่เข้าแปดโมงเช้าออกห้าโมงเย็น บางครั้งเธอต้องออกไปทำงานตอนตีสองของคืนวันเสาร์ และกว่าจะกลับมาก็เช้าวันอังคาร แถมวันหยุดตามเทศกาลก็ไม่มี พยายามเข้าใจพวกเธอหน่อยนะ   2. อย่าเบื่อที่จะฟัง อาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเป็นอาชีพที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนตลอดเวลา และเธอต้องเจอกับเรื่องราวมากมายระหว่างทาง อย่ารู้สึกเบื่อถ้าพวกเธอมีเรื่องเล่ามากมายหลังจากชั่วโมงทำงาน เพราะนั่นคือการระบายความเครียดอย่างหนึ่ง จงเข้าใจและสนุกไปกับเรื่องราวของเธอ รับรองว่าคุณจะได้ยินเรื่องเจ๋งๆ มากมายแน่นอน   3. อย่าอิจฉา อย่ารู้สึกอิจฉาถ้าพวกเธอมักจะปฏิบัติตนหรือสนทนาอย่างสุภาพต่อผู้อื่น เพราะการยิ้มและความสุภาพคือส่วนหนึ่งของงานของพวกเธอ จงยินดีเถอะ เพราะถ้าเธอเลือกคุณแล้ว แปลว่าเธอต้องการใครซักคนที่คอยให้กำลังใจเธอนะ…

โลกเรานั้นเป็นสถานที่อันน่าตื่นตาตื่นใจ หลายคนอาจคิดว่าตนเองเห็นโลกมามาก จนไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นแล้ว แต่ในความเป็นจริง ยังมีอีกหลายสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน และวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชม 28 เรื่องราวสุดเจ๋งจากทั่วโลก ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน จนต้องอุทานว่า มันมีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย! จะเจ๋งขนาดไหน ไปชมกันเลย   เครื่องปูพื้น แค่ใส่อิฐบล็อกลงไป เครื่องจะเรียงลงมาให้เราแบบนี้เลย   รันเวย์ที่วิ่งตัดถนน เครื่องบินลงทีก็ต้องจอดรอ   สะพานขบวนรถไฟ ท่าทางไม่ค่อยน่าปลอดภัยเท่าไหร่นะ   โครงสร้างภายในของกะหล่ำ   กระจกที่ละลายเนื่องจากความร้อนของไฟ   ชั้นสีแต่ละชั้น ถูกเรียงจนกลายเป็นภาพสุดเจ๋ง เมื่อดูจากหน้าตัด   ภาพการปล่อยกระสวยอวกาศแอตแลนติสจากสถานีอวกาศนานาชาติ   การมองเห็นในที่มือของมนุษย์เทียบกับแมว   ขวดพลาสติกก่อนที่จะถูกอัดด้วยอากาศให้กลายเป็นขวดพลาสติกอย่างที่เราเห็นกัน นึกภาพไม่ออก ให้ชมคลิปต่อจากภาพนี้   สนามกอล์ฟที่ถูกฟ้าผ่า    กะโหลกของเด็ก ที่ยังมีฟันอยู่ครบ ทั้งฟันแท้ ฟันน้ำนม    ภาพหน้าตัดของห้องผู้โดยสารเครื่องบิน   ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เหรียญชุดนี้ไม่ได้ใช้กาวแม้แต้หยดเดียว    เมฆทรง UFO…

เรื่องง่ายๆ แค่นี้ก็สามารถทำให้คุณมีความสุขได้แล้ว เช่นการไปยังผับ ยังบาร์เล็กๆ ในย่านชุมชน แล้วสามารถเซย์ฮัลโหลกับเพื่อนๆ ในละแวก ในตอนเย็นหลังเลิกงาน…เพียงแค่นั้น งานวิจัยใหม่แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดประเทศอังกฤษชี้ว่า การที่คุณไปเที่ยวผ่อนคลายตามร้านเหล้าเล็กๆ ในชุมชนทำให้คุณมีความสุขขึ้น จากผลการสำรวจของ Campaign for Real Ale (CAMRA) พบว่าผู้ที่มีพฤติกรรมแบบนี้จะมี เพื่อนมากมาย มีความสุข และความพึงพอใจในชีวิตของตัวเองมากกว่าคนที่ไม่มี   ไปดริ้งทำให้มีความสุขขึ้น!!?   ศาสตราจารย์ Robin Dunbar แห่งมหาวิทยาลัย Oxford ชี้ว่า ‘มิตรภาพและสังคมเป็นสิ่งที่มีผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์อย่างมาก โดยเฉพาะการพบปะผู้คนที่แบบจริงๆ ที่โลกออนไลน์ไม่สามารถให้ได้  ร้านเหล้าก็จัดเป็นหนึ่งในสถานที่พบปะสังสรรค์กัน ทั้งการพบปะกับเพื่อนเก่า และสร้างเพื่อนใหม่’ โดยสังเกตพฤติกรรมของผู้ที่ชอบไปดริ้งกันหลังเลิกเรียนเลิกงานก็พบว่า เหล่าบรรดาขาดริ้งที่ชอบไปตามร้านเหล้าเล็กๆ ในชุมชน (ไม่ใช่ผับใหญ่ๆ ชื่อดังกลางเมือง) จะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม อยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยและผ่อนคลาย เหมาะสมกับการสร้างเพื่อนใหม่และพบปะกับเพื่อนๆ มากกว่า   บางครั้งเราอาจจะอยากแค่ไปสักที่ ที่เรามีพื้นที่ยืนใสังคม และทุกคนรู้จักเรา…   แถมยังมีรายงานเพิ่มเติมด้วยล่ะว่า (เป็นโบนัสนะข้อนี้) คนที่ไปร้านเหล้าที่ตัวเองคุ้นเคยและมีคนรู้จักอยู่มากในสังคมที่เป็นมิตรและคุ้นเคยนั้นจะมีอัตราการป่วยที่น้อยกว่าคนที่ไม่ไปด้วยล่ะ!!!   ชนแก้ว!!!   ถึงว่าเนาะ…

อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ‘แมว’ มีหลากหลายประเภท และหลากหลายสายพันธุ์ ดังนั้นในเรื่องของ ‘นิสัย’ และ ‘พฤติกรรม’ ส่วนตัว ก็ย่อมมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว และถ้าหากใครที่อยากรู้ว่าแมวเหมียวที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกับคุณมีนิสัยแบบไหน ในวันนี้เราได้นำภาพตัวอย่างมาให้ชมกันแล้ว ถ้าอย่างนั้นมาดูกันว่านิสัยของแมวแต่ละคนจะเป็นแบบไหนกันบ้าง   1.แมวตะกละกินทุกอย่างที่ขวางหน้า   2.แมวอันธพาล กร่างไปทั่ว ใครไม่กลัวโดนนนน   3.เหมียวที่ชอบอึไม่เป็นที่เป็นทาง ปวดไหนลงนั่น เฮ้อ…ทาสก็ต้องมาตามเก็บไปสิ   4.เจ้าเหมียวมือกรรไกร เห็นโซฟาเป็นไม่ได้ รับข่วนทันทีเลย   5.เหมียวคาสโนว่า เรื่องสาวๆ ต้องมาเป็นอันดันหนึ่ง   6.ส่วนนี่ก็เหมียววางมาด ชอบนั่งนิ่งๆ แถมยังทำเป็นหยิ่งอีกต่างหาก   7.เหมียวไร้ขน ที่ดูแล้วก็แอบน่ากลัวเบาๆ ส่วนใหญ่จะพบเจอในแมวสายพันธุ์สฟิงค์   8.เหมียวขี้เกียจสันหลังยาว วันๆ ไม่ทำอะไร ได้แต่นั่ง นอน กิน ชีวิตมีแค่นี้จริงๆ นะ   9.แมวชอบปล่อยของ ตดบ๊อยบ่อย   10.ส่วนนี่ก็เหมียวนักล่า เรื่องจับหนูขอให้บอก…

สำหรับชื่อเสียง ก็มีทั้งด้านดีและด้านร้าย เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ถ้าเรานำไปใช้ในทางที่เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะแก่ส่วนรวมแล้วล่ะก็ จะเป็นกระบอกเสียงที่มีคุณค่ามากๆ เลยทีเดียว เหมีอนสาวน้อยคนนี้ Keitra Jane ที่ดันไปมีหน้าตาคล้ายคลึงกับนักร้องคนดังระดับโลกอย่าง Taylor Swift ซะงั้น และนั่นทำให้โซเชียลมีเดียของเธอมีผู้ติดตามนับหมื่นคนเลยทีเดียว   เหมือนไม่เหมือนลองมาดูกัน…Taylor ตัวจริงรึเปล่า??…คนนี้ไม่ใช่จ้าาา   คนนี้ต่างหาก Taylor ตัวจริง แต่ต้องยอมรับว่าเหมือนมากๆ    สำหรับหญิงสาวในภาพก็คือ Keitra จาก University of Utah ประเทศสหรัฐฯ เธอมีหน้าตาเหมือนนักร้องดังมากๆ    ตอนนี้เธอได้เข้าเรียนเป็นนักศึกษาปี 1 ของทางมหาวิทยาลัย ในสาขาวิชาทางด้านจิตวิทยา ซึ่งไม่ว่าจะไปไหนก็มีคนมาขอถ่ายรูปกับเธออยู่ตลอด จนพ่อแม่แนะว่าอย่าบอกความจริงกับคนที่มาขอถ่ายรูป ให้เนียนเป็นเทเลอร์ตัวจริงไปเลย ฮ่าๆๆๆ แถมสาวน้อยวัย 21 ปีคนนี้ก็มีผู้ติดตาม 15,000 คนในอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ แต่ในการที่เธอมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาเพราะหน้าตาดันไปเหมือนคนดังนี้ เธอได้ใช้มันให้เกิดประโยชน์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร   ด้วยเหตุที่เธอมีปัญหาทางด้านสุขภาพเกี่ยวกับการกิน   ‘เป้าหมายในชีวิตของฉันก็คือ ทำงานทางด้านจิตวิทยาและการแพทย์ โดยเฉพาะเหล่าผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับร่างกายของตัวเอง’ เธอกล่าว   ‘โดยเฉพาะเรื่องที่ฉันก็มีความผิดปกติทางด้านนี้ด้วย และการที่มีผู้คนติดตามฉันอยู่มากมาย…

สำหรับวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปทำความสะอาดฟองน้ำสำหรับล้างจานกัน แน่นอนว่ามันเป็นอุปกรณ์สามัญประจำบ้านที่สำคัญมากๆ เลยล่ะ ซึ่งส่วนมากเราก็ไม่ได้ทำความสะอาดมันกันนักหรอก -*- แต่ฟองน้ำนับว่าเป้นอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราเยอะมากกก และควรทำความสะอาดให้ดี เพราะมีสิ่งสกปรกสะสมอยู่ในนั้นเยอะมากเลยทีเดียว!!!   ฟองน้ำสำหรับล้างจานในบ้านของเรานั้นสกปรกมาก!!!   เพราะทั้งเปียก อับ ชิ้น แถมมีเศษอาหารติดด้วยต่างหาก   เต็มไปด้วยเชื้อโรค   ถึงจะล้างด้วยสบู่หรือน้ำยาล้างจาน มันก็ยังไม่สะอาดอยู่ดี   วิธีเดียวที่ทำได้หมดจดก็คือ   นำแกลลอนมา 1 แกลลอน เติมน้ำ 9 ส่วน น้ำยาฟอกขาว เช่นไฮเตอร์ 1 ส่วน   แล้วเทใส่ฟองน้ำ บีบซักทำความสะอาดซะ   ล้างออกด้วยน้ำเปล่า และตากให้แห้ง แค่นี้ก็เสร็จแล้วล่ะ ^^   เก็บน้ำยาไว้ใช้ภายหลังได้ด้วย!!!   ลองมาชมวิดีโอกันได้ที่นี่เลย   และนี่ก็คือเคล็ดวิชาการทำความสะอาดฟองน้ำล้างจ้า ของใช้ภายในบ้านของเราที่สกปรกมากกว่าที่คุณคิดนะจ๊ะ หวังว่าเพื่อนๆ จะเอาไปใช้กันเด้อออ สุขภาพดีแน่นอน อิอิ ที่มา: Tech Insider

เราคงเคยเห็นหลายๆภาพ ที่ช่างภาพมืออาชีพชอบถ่ายกันนั่นก็คือการทำให้ฉากหลังเบลอจนสามารถเห็นไฟเป็นวุ้นลอยอยู่ข้างหลัง เทคนิคนี้เรียกว่าโบเก้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตั้งค่ากล้องของช่างภาพแต่ละคน และฉากหลังต้องมีแสงสะท้อนด้วย     แต่วันนี้เหมียวมีเทคนิคการทำพื้นโบเก้ง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน โดยเทคนิคนี้มีชื่อว่า “El Bokeh Wall” ออกแบบโดย Laya Gerlock เป็นการใช้อุปกรณ์ที่หาได้ง่ายๆ นั่นก็คืออลูมิเนียมฟอยล์ที่เราใช้ทำอาหารนั่นเอง ซึ่งเขาก็ได้อธิบายขั้นตอนการสร้างไว้อย่างครอบถ้วน เราไปดูกันเลย   สิ่งที่ต้องใช้ได้แก่ 1. กล้อง และเลือกเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างหน่อย 2. ไฟ แนะนำให้เป็นไฟแฟลช 3. wireless trigger หรือที่กดชัตเตอร์ไร้สาย 4. ฟิลเตอร์สี 5. อลูมิเนียมฟอยล์ 6. กรรไกรและเทปกาว   ขั้นที่ 1 – ขยำอลูมิเนียมฟอยล์พอประมาณ เพื่อทำเป็นฉากหลัง   ขั้นที่ 2 – คลี่มันออกให้กว้าง ระวังฉีกด้วยล่ะ   ขั้นที่ 3 – เอาไปแปะบนผนังให้ห่างกับวัตถุที่เราจะถ่ายพอประมาณ แล้วก็เอาเทปกาวติดไว้   ขั้นที่ 4…

รหัสผ่านหรือพาสเวิร์ดถือเป็นสิ่งที่เราควรเก็บเป็นความลับเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าเป็นอะไรที่สำคัญแล้วห้ามบอกใครโดยเด็ดขาด และต้องห้ามจดไว้ด้วย คุณต้องมีความจำที่ดีเลิศ บวกกับต้องใช้ตัวอักษรพิเศษและตัวเลขเพื่อให้คนเดารหัสได้ยากขึ้น แต่โลกเรานี้ก็มีคนที่ชอบอะไรง่ายๆ อยู่เหมือนกันแหละ บางคนเขาไม่ได้คิดว่าพาสเวิร์ดเป็นอะไรที่ต้องระวัง ก็เลยเขียนไปแบบส่งๆ บางทีก็ลืมไปเลยก็มีว่าพิมพ์พาสเวิร์ดอะไรไป เดือดร้อนต้องมาเปลี่ยนรหัสใหม่อีก     ทาง SplashData ก็ได้รวบรวมเอาข้อมูลเกี่ยวกับพาสเวิร์ดที่ถูกแฮกมากที่สุดในปี 2015 ที่ผ่านมา ดูแต่ละอันเหมียวถึงกับกุมขมับ เราไปดูกันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง   1. 123456 (คลาสสิก) 2. password 3. 12345678 (ดีกว่าไอ้ 123456 นิดนึง) 4. qwerty 5. 12345 6. 123456789 7. football 8. 1234 9. 1234567 10. baseball 11. welcome 12. 1234567890 13. abc123 14. 111111 15. 1qaz2wsx (ดูเหมือนจะซับซ้อน ลองพิมพ์ดูสิ…

สำหรับคุณแม่ที่กำลังมองหาไอเดียทรงผมน่ารักๆ ให้กับลูกสาวของคุณอยู่ละก็ ในครั้งนี้เหมียวได้รวบรวมไอเดียทรงผมแสนน่ารักฟรุ้งฟริ้งของเด็กผู้หญิงมาฝาก รับรองว่าแต่ละทรงทั้งสวยๆ ทั้งนั้น แถมยังทำตามได้ไม่ยากอีกด้วย ว่าแต่ทรงไหนจะโดนใจคุณแม่มากที่สุด ต้องไปดูเอาเองเลยจ้า   ทรงนี้ทำทุกวันดูยังไงก็ไม่มีวันเบื่อ   ดัดลอนให้เป็นเกลียว เพิ่มความฟรุ้งฟริ้งด้วยโบว์สีชมพู น่ารักมากๆ   ถักเปียให้เป็นที่คาดผม แล้วม้วนเป็นวงกลม แค่นี้ก็กลายเป็นรูปดอกไม้แสนสวยแล้ว   ส่วนทรงนี้ก็น่ารักไม่แพ้กัน   ทรงผมสวยๆ ของลูกสาว   ให้คุณแม่เลือกทำได้ทุกวันไม่มีเบื่อ   ทรงนี้ทั้งน่ารัก และดูทำไม่ยากอีกด้วย   สวยเหมือนเจ้าหญิงองค์น้อยเลย   ส่วนทรงนี้ก็ดูเรียบร้อยดีนะ   น่ารักฟรุ้งฟริ้ง   เป็นทรงผมที่ทำตามได้ไม่ยากเลย   แบบนี้คุณแม่ต้องสนุกไปกับการทำผมของลูกสาวแน่ๆ   น่าทำตามทุกทรงเลย   ดัดลอนเล็กๆ ถักเปียครึ่งหัว แล้วเพิ่มความสดใสด้วยการติดกิ๊บดอกไม้เข้าไป สวยไม่ซ้ำใครเลยละ   แม้บางทรงอาจจะดูยากไปนิด แต่ถ้าหากได้ลองฝึกฝน รับรองว่าไม่ยากอย่างที่คิด งานนี้บรรดาแม่ๆ ทั้งหลาย ก็คงจะมีไอเดียทรงผมน่ารักๆ เอาไว้ทำผมให้ลูกสาวตอนไปโรงเรียน อวดเพื่อนๆ ได้อย่างเก๋ๆ…

ใครๆ ก็อยากจะโชคดีกันทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถรักษาความโชคดีนั้นไว้ได้อย่างยาวนาน และถ้าจะพูดถึงการถูกหวยนั้น ก็ถือเป็นโชคดีอย่างหนึ่งเช่นกัน ยิ่งรางวัลใหญ่ๆ แล้วล่ะก็ ได้พลิกชีวิตกันเลยทีเดียว!!!! แต่บางทีคนเราก็บริหารความโชคดีได้ไม่ดีเพราะความประมาทเลินเล่อ และนี่คือ 12 ภาพของคนที่ถูกหวยรางวัลใหญ่ แต่ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ในทางกลับกัน กลับแย่ลงกว่าเดิมอีกต่างหาก ลองมาดูไว้เป็นอุทาหรณ์กันนะจ๊ะ   Callie Rogers กับรางวัล 2,800,000 เหรียญ (ราวๆ 98 ล้านบาท)   ตอนแรกเธอก็สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะดูแลครอบครัวด้วยเงินจำนวนนี้ แต่ก็ไม่เคยทำตามสัญญาได้ เธอนำเงินไปทุ่มเทกับการแต่งสวย รวมถึงการเสริมอึ๋มถึงสองรอบ แถมยังนำไปซื้อโคเคนอีกจำนวนมาก สุดท้ายเธอพยายามฆ่าตัวตายถึง 4 ครั้ง ตอนนี้เธอเรียนพยาบาล และจบมาทำงานเหมือนคนปกติ   Lara Griffiths กับรางวัล 1.8 ล้านเหรียญ (ราวๆ 63 ล้านบาท)   เธอกับสามีใช้มันไปกับการซื้อบ้าน ซื้อรถ และท่องเที่ยวสุดหรูแต่ดันเกิดเหตุไฟไหม้ทำให้ทรัพย์สอนของเธอเสียหายหมดในปีนั้น แถมตอนนี้เธอก็มีความสัมพันธ์ระหองระแหงกับสามี เพราะสถานะทางการเงินของทั้งคู่   ชายแคลิฟอร์เนียกับเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญ…

เหมียวคิดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักสุดยอดสุนทรพจน์นี้ “I have a dream … “ ของ Martin Luther King Jr. ที่พยายามยกระดับความเท่าทียมในการเป็นพลเมืองให้กับเหล่าคนผิวสี ซึ่งก็ต้องบอกเลยล่ะว่าเป็นหนึ่งในสุนทรพจน์ที่ดี และโด่งดังไปทั่วโลก!!! แต่เหตุการณ์วินาทีสำคัญนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าขาดขาดเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของเขาอีก 5 คน และการเดินขบวนของมวลมหาประชาชนคนผิวดำ และผิวขาวบางส่วน จำนวนกว่า 250,000 คน ไปยังวอชิงตันในวันที่ 28 สิงหาคม 1963…และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดเบื้องหลังของวินาทีนั้น…   เรื่องราวย้อนกลับไปในปี 1963 1963 ที่รัฐอลาบาม่า ได้มีเหตุการณ์ระเบิดโบสถ์ของกลุ่มเหยียดผิว KKK ทำให้เด็กผิวสีทั้ง 4 ราย เสียชีวิต   เรียงจากทางด้านซ้ายมือ…Denise McNair, 11; Carole Robertson, 14; Addie Mae Collins, 14 และ Cynthia Wesley, 14   นั่นทำให้ Martin Luther King, Jr. หันมาใส่ใจในด้านนี้ จัดตั้งองค์กรและกิจกรรมการต่อต้านการเหยียดผิวมากมาย…

ตอนเด็กๆ เราอาจเคยถูกผู้ใหญ่ในตอนนั้นหลายๆ คนถาม “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” ด้วยความเป็นเด็ก เราอาจตอบไปโดยไม่ทันคิด แต่บางครั้ง คำตอบเหล่านั้นอาจสะท้อนความจริงบางอย่างออกมาก็เป็นได้ ล่าสุดทางบริษัท Adecco ได้ทำการสำรวจความเห็นของเด็กๆ อายุ 6-15 ปี ชาย 500 คน หญิง 500 คน จากประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย จนได้ผลลัพธ์อันน่าตกใจอันนี้ออกมา     โดยประเทศญี่ปุ่น อาชีพที่มาเป็นอันดับแรกของเด็กผู้ชายคือ นักธุรกิจ ตามด้วยอันดับสอง นักฟุตบอลอาชีพ ส่วนอันดับสามเป็น ข้าราชการ และอันดับสี่ร่วมเป็นของ หมอและนักเบสบอลอาชีพ     และที่น่าตกใจยิ่งกว่า่คือ แม้แต่กับเด็กผู้หญิง ก็มีคนอยากเป็นนักธุรกิจเหมือนกัน โดยเข้ามาเป็นอันดับสาม ส่วนอันดับหนึ่งและสองเป็นของ นักทำขนมและครูตามลำดับ ส่วนอาชีพหมอนั้น มาในอันดับที่สี่     ซึ่งก็ไม่ใช่ผลสำรวจที่น่าตกใจเท่าไหร่ เพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนักธุรกิจ และญี่ปุ่นเองก็มีบริษัทระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะด้านอุสหกรรมอิเล็กทรอนิกหรือรถยนต์ เมื่อดูของประเทศญีปุ่นกันแล้ว เราไปดูของประเทศอื่นกันบ้าง     นอนมาเลยทีเดียวสำหรับประเทศไทย สำหรับอาชีพหมอ ตามมาด้วยนักกีฬาอาชีพ และเชฟทำอาหาร แต่ที่น่าทึ่งคือ…

เพื่อนๆ หลายๆ คนที่เป็นสิงอมควันก็คงรู้ว่าบุหรี่น่ะเป็นตัวการใหญ่ๆ เลยทีเดียวที่ทำลายสุขภาพของตัวเอง พอตระหนักได้ถึงเรื่องนี้หลายคนก็หันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า และหวังว่ามันจะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ แต่งานวิจัยตัวใหม่ได้ชี้ว่า เหล่าสิงอมควันที่คิดจะเลิกบุหรี่จริงๆ ด้วยบุหรี่ไฟฟ้าล่ะก็ พลาดแล้วล่ะ เพราะโอกาสสำเร็จในการเลิกจะน้อยกว่าผู้ที่ไม่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยถึงร้อยละ 28 เลยทีเดียว!!!   บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยให้เลิกบุหรี่จริงๆ ได้!!!   แถมทาง University of California ยังออกมากล่าวเพิ่มเติมด้วยอีกว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้นไม่ควรถูกมองว่าเป็นทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ เพราะการใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นเหมือนเป็นการ ‘สูบไอ’ เข้าไปในร่างกาย และจากผลงานวิจัยเพิ่มเติมจากวารสารวิทยาศาสตร์ Lancet Respiratory Medicine ก็ได้ชี้ว่า การสูบไอก็ไม่ได้ช่วยให้ผู้ที่ต้องการจะเลิกบุหรี่สามารถเลิกได้ง่ายขึ้นแต่อย่างใด   การสูบไอ!!?   Dr. Sara Kalkhoran อาจารย์แพทย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดก็ได้ออกมากล่าวเพิ่มเติมเช่นกันว่า ‘การใช้บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้มีผลช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้นแต่อย่างใด และสื่อต่างๆ ก็ควรเลิกโปรโมทแบบนั้นได้แล้ว’ ‘และถึงแม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นจะมีอันตรายและผลเสียน้อยกว่าบุหรี่ปกติ แต่อันตรายที่สุดของมันก็คือ การทำให้ผู้สูบบุหรี่ปกติไม่สามารถเลิกได้และหันกลับไปสูบนั่นเอง’ ดร. กล่าวเพิ่มเติม   เลิกบุหรี่…   ถึงจะอันตรายน้อยกว่าก็จริง แต่ไม่ได้ช่วยให้เลิกสูบบุหรี่จริงๆ ได้นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ที่อยากเลิกสูบ หาวิธีอื่นเอาดีกว่าเนาะ มีตั้งหลากหลายวิธีเลยล่ะ…

ชีวิตของเรานั้นมีเหตุการณ์อะไรมากมายที่ต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขเรื่องทุกข์ เรื่องที่ต้องค้นหา เรื่องที่ต้องลาจาก ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอแน่นอน Anton Gudim ศิลปินนักวาดภาพชาวรัสเซีย ได้นำเอาเหตุการณ์เหล่านี้มานำเป็นภาพวาดที่ต้องตีความหลายต่อมากๆ บางภาพดูแล้วก็งงว่ามันหมายความว่าอะไร บางภาพก็เหมือนจะทำออกมาให้ตลก อย่ารอช้า เราไปช่วยกันไขปริศนาภาพวาดของเขากันเลยดีกว่า งงพอๆกับ Joan Cornella!!   1. ภาพวาดอิยิปต์กำลังซื้อขายกัน?   2. ห๊ะ ต่อไม้กันไปเรื่อยๆ?   3.   4. ภาพของแวนโก๊ะ กลายเป็นคนง่วง   5. อันนี้เกี่ยวอะไรกับหงส์แดงป่ะ?   6.   7. อันนี้เข้าใจว่าล้อภาพที่ภรรยาจูงมือสามีเที่ยว   8. คนเราเกิดมาเพื่ออยู่ท่าเดิม   9.   10. เอ๊า!!   11. มนุษย์กล้อง   12. อย่าติดสินคนที่ภายนอก   13.   14.…

การไว้ผมยาวมันก็ดีอยู่หรอก เพราะนอกจากสาวๆ จะสามารถทำทรงผมได้หลากหลายทรงแล้ว ผมยาวยังช่วยจุดประกายความสวย และความโดดเด่นในตัวของคุณได้ แต่ทว่าข้อเสียของการไว้ผมยาวก็มีเช่นกัน ซึ่งเหมียวก็เชื่อว่าคนที่ไว้ผมยาวก็คงเคยเจอกับปัญหาที่น่ากวนใจมากมาย เช่น สระผมแล้วผมแห้งช้าบ้างละ หรือผมไปเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ บ้างละ ซึ่งถ้าหากใครที่ไว้ผมยาว จะต้องเคยประสบพบเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่บ่อยครั้งแน่นอน และนี่ก็คือ 19 ปัญหาของคนผมยาว ที่คนผมสั้นไม่มีวันเข้าใจหรอกเมี๊ยว   1.เมื่อคุณใส่เครื่องประดับ มันอาจจะไปติดผมของคุณได้ทุกเมื่อ   2.เอาออกยาก ก็จำเป็นต้องตัดสินะ >< เฮ้อ…เศร้า   3.ใครที่ไว้ผมยาว ห้องน้ำที่บ้านของคุณจะต้องมีเส้นผมเป็นกระจุกแบบนี้แน่นอน   4.บางทีก็ทำท่อตัน   5.เจอปัญหาได้ทุกที่จริงๆ ไม้เว้นแม้แต่ในรถ   6.รูดซิบทีผมก็ชอบเข้าไปติด   7.ซื้อแชมพูกับครีมนวดมาพร้อมกัน แต่ทำไม๊ทำไม มันไม่เคยหมดพร้อมกันสักที   8.เวลากินอาหารก็ต้องมัดผม ไม่งั้นมันอาจจะติดผมของคุณได้   9.แต่ถ้าใครมือใหม่หัดมัดผมจุก ผลที่ได้ก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็นนี้แหละ   10.และนี่ก็คือสภาพผมตอนปล่อย ที่มัดๆ ไว้นานๆ   11.การถ่ายรูปในขณะที่มีลม มันช่างเป็นอะไรที่ลำบากเหลือเกินนะ   12.จะเปิดหน้าต่างรับลมเย็นๆ ทั้งที…

วัยเรียนเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานที่สุดในชีวิตของเรา มันเป็นช่วงเวลาที่เราจะสร้างความทรงจำดีๆ เราจะได้อยู่กับเพื่อน ได้ทำอะไรบ้าๆ บอๆ มากมายโดยที่ไม่ต้องกังวลถึงภาระอันใด แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เราจะรับรู้ได้ทันทีว่า ช่วงเวลาเหล่านั้นมีค่าแค่ไหน ดั่งเช่นภาพวาดที่ Wittyfeed ได้นำมาเสนอนี้ เพื่อนๆ จะรู้ได้ทันทีว่าความแตกต่างของชีวิต “วัยเรียน” และ “วัยทำงาน” เป็นยังไง เห็นแล้วน้ำตาจะไหลเลยทีเดียว ไม่เชื่อ ไปชมกันเลย   สมัยก่อน ฟ้าไม่สาง ไม่มีคำว่านอน ตอนนี้อยากจะนอนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้เลย   สมัยเรียนสามทุ่มต้องออกเที่ยวแล้ว แต่พอเริ่มทำงาน เที่ยงคืนยังต้องทำงานงกๆ อยู่เลย   ตอนเรียนถึงวันเกิดทีไร คนมารอเซอร์ไพรซ์เพียบ พอทำงานแล้วเหลือกันสองสามคนเท่านั้น   ตอนยังเป็นวัยรุ่น รู้สึกว่าความตายช่างเป็นเรื่องห่างไกล แต่พอเติบโตแล้ว รู้สึกว่าต้องรักษาตัวดีๆ เพราะมีภาระข้างหลังมากขึ้น   เมื่อก่อนปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง ตอนนี้ต้องมาปาร์ตี้กับคนแปลกหน้าซะอย่างงั้น   เมื่อก่อนตู้เสื้อผ้านี่มีแต่ของชิคๆ เดี๋ยวนี้เหลือแต่เสื้อเชิ๊ต รองเท้าหนัง กางเกงสแล็ก     เห็นแบบนี้แล้ว ใครที่ยังเรียนอยู่ก็ขอให้เก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ เอาไว้ให้ได้มากที่สุดละ เพราะเมื่อจบไปแล้ว…

การจากไปของนักแสดงชาวอังกฤษ Alan Rickman ผู้เป็นข้าวของตัวละครมากมาย แต่ที่คนคงจำได้ไม่ลืมก็คงจะเป็นศาสตราจารย์ เซเวอรัส สเนป สุดโหด แต่จิตใจอ่อนโยนและน่าเคารพ Alan Rickman จากไปด้วยโรคมะเร็งในวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ด้วยวัย 69 ปี ซึ่งเมื่อข่าวของเขาได้ถูกประกาศออกไป ก็ได้มีนักแสดงมากมายร่วมไว้อาลัยให้กับเขาผ่านทางโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังมีการแชร์จดหมายฉบับสุดท้ายที่เขาได้เขียนไว้เมื่อตอนที่ “แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต Part 2” ได้จบลงในปี 2011 ซึ่งเป็นจดหมายที่มีเนื้อหาแสนอบอุ่น ถึงแม้จะกลับมาอ่านอีกครั้งก็ยังรู้สึกได้     จดหมายฉบับดังกล่าวได้เขียนไว้ว่า “Empire Magazine 26 เมษายน 2011 ผมเพิ่งกลับจากห้องอัดเสียงซึ่งเป็นที่ที่ผมจะพูดในฐานะตัวละครเซเวอรัส สเนปเป็นครั้งสุดท้าย บนจอภาพทำให้ผมหวนนึกถึงภาพของแดเนียล(แฮร์รี่) รูเพิร์ต(รอน) และเอ็มม่า(เฮอร์ไมโอนี่) เมื่อ 10 ปีก่อน ตอนที่พวกเขาอายุได้ 12 ปี ตอนนี้ผมก็เพิ่งกลับจากนิวยอร์ค และระหว่างที่ผมอยู่ที่นั่น ผมเห็นแดเนียลทั้งร้องทั้งเต้นได้อย่างเก่งกาจบนเวทีบรอดเวย์ ราวกับชีวิตมันผ่านไปไวแค่กระพริบตาเท่านั้นเอง เด็กๆ เหล่านั้นได้กลายเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่ตอนได้รับโทรศัพท์จากเจ.เค. โรว์ลิ่งแล้ว และยังมีคำที่ชักชวนผมว่าบทบาทของสเนปนั้นมันมีอะไรมากกว่าชายที่ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า(ใส่เสื้อตัวเดียวกันทั้งเรื่อง) ซึ่งตอนที่คุยกันนั้นหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์…

หลายคนบอกว่า การทำดีเป็นเรื่องยาก แต่ที่จริงแล้วการทำดีไม่ใช่เรื่องยากเลย และความดีนั้นอาจเปลี่ยนชีวิตของใครบางคนเลยก็เป็นได้ อย่างเช่นสิ่งที่คุณแม่วัยสาวชื่อว่า Casey คนนี้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอได้ไปซื้ออาหารเช้าที่ร้าน Dunkin’ Donuts และเธอสังเกตเห็นมีชายไร้บ้านคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าร้าน ท่าทางของเขาดูอ่อนแรงและสิ้นหวัง     เธอซื้ออาหารและเครื่องดื่ม และตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับชายไร้บ้านคนนั้น เขาชื่อว่า Christ เขาเล่าว่า เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีปัญหา เขาไม่เคยเจอหน้าพ่อมาก่อน และพอแม่ของเขาเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เขาได้หันไปใช้ยาเสพติดจนชีวิตพังอย่างปัจจุบัน เขายังเล่าว่าชีวิตการเป็นคนไร้บ้านนั้นยากลำบากมากๆ ผู้คนจำนวนมากโหดร้ายต่อเขา เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนไร้บ้าน Casey บอกว่าบทสนทนาระหว่างเขากับเธอนั้น เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก     และเมื่อถึงเวลาที่ Casey ต้องไป Christ ได้เขียนอะไรบางอย่างบนเศษกระดาษ และยื่นใส่มือของเธอพร้อมขอโทษที่ลายมือเขาไม่สวยเท่าไหร่ และเขาก็เดินจากไป เมื่อเธอเดินขึ้นรถและเปิดกระดาษนั้นออกมาดู ในนั้นเขียนไว้ว่า “ผมตั้งใจจะฆ่าตัวตายวันนี้ แต่เพราะคุณ ผมไม่ฆ่าตัวตายแล้ว ขอบคุณมาก คุณช่างเป็นคนที่งดงามจริงๆ” ด้วยความใจดีของเธอ เธอได้ช่วยชีวิตคนๆ หนึ่งไปโดยบังเอิญ       น่าประทับใจจริงๆ เลยเนอะเพื่อนๆ บางครั้งแค่น้ำใจและคำพูดเล็กๆ น้อยๆ เราก็อาจช่วยชีวิตใครคนหนึ่งได้แล้ว…

สำหรับปัจจุบันนี้ก็มีคอนเท้นท์ How to? ให้เราได้ดู ได้อ่านกันมากมาย ทั้ง 10 พฤติกรรมอย่างนู้นอย่างนี้ที่เหล่าคนประสบความสำเร็ขเขาทำกัน ตอนเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน หรือตอนกินข้าว… และสิ่งเหล่านั้นส่วนมากก็จะเป็นการรับประทานอาหารชนิดนั้นตอนเช้าบ้าง หรือว่าตื่นขณะเช้าตรู่บ้าง และอาจมีถึงขั้นปรับปรุงและพัฒนาแนวคิดเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทุกๆ ครั้งก่อนทานข้าวเช้าเลยก็มี!!!   การทำตามพฤติกรรมของเหล่าผู้ที่ประสบความสำเร็จ!!?   และจะว่าไปแล้ว คอนเท้นท์เหล่านี้ถ้าเป็นหนังสือก็อาจจะเป็นเรื่อง ใช้ชีวิตอย่าง Bill Gates ตามรอย Steve Jobs หรือ ลงทุนตามหลักการของ Buffet และแน่นอนมันช่างหอมหวนเย้ายวนใจดูน่าใช้งานสำหรับท่านผู้ชมทั้งหลายเสียเหลือเกิน!!! แต่หลายๆ คนมักจะเข้าใจผิดกันว่า ถ้าเราใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมตามหลักของเหล่าผู้ประสบความสำเร็จ เช่น การตื่นมาในตอนเช้าตรู่ แล้วจะทำให้คุณทำเงินได้เป็นแสนเป็นล้านล่ะก็!!!? ต้องบอกไว้เลยว่าแนวคิดแบบนี้มันไม่สามารถเป็นไปได้ในโลกของความเป็นจริงหรอก ถึงปฏิบัติตามพฤติกรรมของเหล่าผู้ความสำเร็จจนทุกระเบียดนิ้ว แต่ที่จริงแล้วลองคิดดูสิ ทำไมพวกเขาถึงมีพฤติกรรมแบบนั้น?? นั่นก็เพราะว่ามันเหมาะกับชีวิตและสภาพการณ์ของพวกเขาน่ะสิ!!!   การปฏิบัติตนตามผู้ประสบความสำเร็จ!!!   เพราะพฤติกรรมในส่วนๆ นั้น เป็นพฤติกรรมที่พวกเขาเลือกสรรค์มาแล้วล่ะว่ามันเหมาะกับชีวิตของพวกเขา และมันได้ให้อะไรบางอย่างกับพวกเขา ‘มันใช้งานได้จริงๆ !!!’ สิ่งเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างจะส่วนตัว มันไม่ใช่อะไรที่จะสามารถลอกเลียนแบบ Copy…

งานวิจัยใหม่อีกแล้วล่ะครับผ๊มมมมมม สำหรับงานนี้ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าไม่ได้โม้มาคุยนะเออ มีการเก็บข้อมูลและสถิติตามระบบวิทยาศาสตร์มาแล้วล่ะ ลองมาฟังดูกัน งานวิจัยใหม่ชี้ว่า การสูบกัญชานั้น ไม่ได้ทำให้ไอคิวของผู้สูบลดลงแต่อย่างใด แต่ในทางตรงกันข้าม การสูบบุหรี่กลับทำให้ไอคิวลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ!!!   ไอคิวลด!!?   สำหรับงานวิจัยนี้ก็เก็บข้อมูลจากประชากรของเด็กจำนวนทั้งหมด 2,235 คน ที่ใช้ทั้งกัญชาและบุหรี่ในวัย 15 ทำการเก็บข้อมูลไว้ และมาเก็บผลการทดสอบไอคิวอีกครั้งในอายุ 16 ปี ในวารสารวิทยาศาสตร์ Psycopharmacology นักวิจัยกล่าวว่า ‘จากการทดลองและเก็บข้อมูลทั้งหมดพบว่า ผู้ที่ใช้กัญชามีโอกาสน้อยกว่าถึง 50 เท่าจากบุหรี่เลยทีเดียว คือแทบจะไม่ต่างจากผู้ไม่สูบเลยล่ะ’ แต่ในขณะที่การสูบบุหรี่ ทำให้ไอคิว และความสามารถในการเรียนลดลง…   กัญชา vs. บุหรี่   แต่จะว่าไปแล้วเหมียวคิดว่าไม่ใช้นะจ๊ะ ดีที่สุดแล้วล่ะ เพราะเสียสุขภาพทั้งสองอันเลย หันมาออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดี รับรองสุขภาพของเราจะดี และเรียนได้อย่างเต็มที่แน่นอนจ้าาา ที่มา: Metro

ก็เรียกได้ว่าสำหรับมือถือและสมาร์ทโฟนต่างๆ ก็เป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีสำหรับการถูกสอดใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าต่างๆ หรือกระทั่งที่อย่าง ‘ร่องนม’ และ ‘ในบรา’ ก็มีสาวๆหลายคนชอบเอาเหน็บไว้ (แม้ว่าสาวไทยบางคนจะเหน็บแล้วร่วงลงไปก็ตามที)   แต่ล่าสุดงานวิจัยใหม่ของทาง Dr. Devra Davis ได้ชี้ให้เห็นว่า การเก็บอุปกรณ์เหล่านี้ใกล้กับผิวหนังของคุณมากเกินไป จะทำให้ผิวดูดซับรังสีจากตัวโทรศัพท์มากขึ้นในอัตราที่น่ากลัวกว่าปกตินั่นเอง   รังสีจากโทรศัพท์งั้นหรือ!?   ตอนเธอไปบรรยายที่ Australia’s National Institute of Environmental Health Sciences ทาง Dr. Devra Davis ก็ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเน้นย้ำประเด็นหลักๆก็คือเหล่าสาวๆ ที่ชอบเก็บไว้ในยกทรงนั้น เป็นการเพิ่มอัตราการเป็นมะเร็งและเนื้องอกในเต้านมอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ และที่สำคัญหลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ในคู่มือการใช้ iPhone 4 ก็เคยระบุถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย โดยข้อความระบุ ‘ไม่ควรนำเข้าใกล้ร่างกายเกิน 15 มิลลิเมตร’   Dr. Devra Davis   นอกจากนี้ ต้นฉบับยังกล่าวไว้ว่ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ระบุรังสีเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับ DNA และความสามารถในการสืบพันธุ์ของท่านชายอีกด้วย!!! (ทีนี้ก็ระวังกันไว้นะจ๊ะเหล่าท่านชาย -*-)   คลิปเต็มๆของเธอความยาวกว่า 1 ชั่วโมง…

สำหรับโลกในปัจจุบันนี้ นับว่าเหล่าผู้หญิงต้องเจอความกดดันจากทั้งภายในและภายนอกเยอะมาก ที่สำคัญ ปัญหาในชีวิตของพวกเธอน่ะก็ดูมีมากมายเสียเหลือเกิน วันนี้เหมียวก็มีผลงานศิลปะเจ๋งๆ ของศิลปินชาวไต้หวันชื่อ Yung Cheng Lin หรือ 3cm ซึ่งเป็นผลงานแบบ Surreal ที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับเพศหญิง ไม่ว่าจะเป็นมุมมอง การตัดสิน หรือขอบเขต และผลของสื่อที่มีอิทธพลต่อเพศหญิงล่ะ แต่งานของชุดนี้ ในแต่ละภาพนั้นไม่มีคำอธิบายใดๆ อยู่เลย เพราะศิลปินต้องการให้การตีความภาพแต่ละภาพเป็นแบบกว้างๆ และตามความเข้าใจของแต่ละคนมากกว่า ทีนี้เราลองมาช่วยกันตีความดีกว่าเนาะ   เทรนด์ที่ต้องผอมมากๆ เห็นไหปลาร้าชัดขนาดไหนก็ยิ่งดี…   คอต้องยาวสวยสมส่วน หน้าก็ต้องได้รูปแบบนี้   เรือนร่างของผู้หญิงถูกมองแค่เรื่องนั้น   ความรักที่เธอเชื่อมั่น   ภาพนี้เหมียวนึกอะไรไม่ออกเลยจริงๆ วานเพื่อนๆ ช่วยที ><   การถูกทำร้าย และการทำร้ายตัวเอง   บราที่สวมใส่ก็ไม่เคยจะมีความสุขเลย   ต้องทำตามค่านิยมของสังคม แม้จะแลกมาด้วยความเจ็บปวด   ค่านิยมความสวย…ต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้   เหมือนถูกสิ่งใดสิ่งหนึ่งชักใยอยู่ แต่ก็ด้วยความเต็มใจของเราเองนี่แหละ   ค่านิยม…เรื่องสีผิว ขาว = ชนะ…

ในอดีต ในสมัยที่วิทยาการยังไม่ก้าวหน้า หลายๆ คนอาจสบประมาทหรือดูถูกเทคโนโลยีหลายๆ อย่างไว้ แต่หารู้ไม่หลายปีต่อมา สิ่งที่พวกเขาดูถูกไว้ กลับกลายเป็นเรื่องจริงแทบทุกอย่างเลย และวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชม 15 คำพูดเงิบๆ ของเหล่าคนดังในประวัติศาสตร์ ที่วันนี้พิสูจน์แล้วว่า พวกเขาก็มั่วเป็น!! จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย   “ท่านจะสร้างเรือที่แล่นฝ่าพายุและกระแสน้ำไปได้ โดยมีเตาไฟอยู่ใต้ท้องเรืองั้นเหรอ ขอให้โชคดีนะ แต่ข้าขอตัวก่อน ข้าไม่มีเวลาฟังเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอก” – Napoleon กล่าวหลังจากได้ยินไอเดียเกี่ยวกับเรือกลไฟ   “เครื่องจักรที่บินได้ มันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น” – ลอร์ดเคลวิน นักวิทยาศาสตร์เจ้าของหน่วยองศาเคลวิน กล่าวถึงความเป็นไปได้ของเครื่องบิน   “กล่องดนตรีไร้สายงั้นเหรอ ช่างเป็นการนำไปใช้ที่ไร้ค่าจริงๆ” – David Sarnoff ผู้บุกเบิกธุรกิจวิทยุและโทรทัศน์ในอเมริกา กล่าวหลังจากมีคนถามถึงการนำคลื่นวิทยุไปเปิดเพลง     “โรงหนังกำลังจะตกยุคแล้วล่ะ” – Charlie Chaplin     “ในทางปฏิบัติแล้ว การนำดาวเทียมสื่อสารไปใช้ในการช่วยส่งสัญญาณโทรทัศน์ โทรศัพท์ หรือวิทยุถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปแทบไม่ได้ในอเมริกาเลย” – T. Craven ข้าหลวงแห่งกสทช. อเมริกากล่าว  …

ดูเหมือนว่าในช่วงนี้ชาวสวนยางจะประสบกับปัญหาราคายางตกต่ำอย่างหนัง เพราะล่าสุดราคายางตกลงไปอยู่ที่สี่โลร้อยแล้ว ทำให้ชาวสวนยางเครียดจัดจนถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตายก็มี แต่ขอบอกเลยว่าอย่างเพิ่งหมดหวังนะเพราะวันนี้เหมียวมีเรื่องราวดีๆ ที่อาจจะทำให้ชาวสวนยางสามารถลืมตาอ้าปากได้ล่ะ     เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กเพจ หมี CNN เป็นภาพของชาวสวนยางขณะนำเอายางพารามาแปรรูปให้กลายเป็นหมอนยางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับพารา และทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว     แม้ว่าปัจจุบันราคายางพาราจะร่วงจนน่าใจหาย แต่ก็ยังคงมีเกษตรกรกลุ่มเล็กๆ ในจังหวัดพัทลุงที่ไม่ยอมแพ้ นำเอาน้ำยางสดมาแปรรูป เติมส่วนผสมต่างๆ กวนให้ฟูและนำไปใส่แบบ ล้างและทำความสะอาดให้เรียบร้อยจนกลายเป็นหมอนยางพาราใบละ 450 บาท ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรโดยไม่ต้องง้อราคายางเลย             ชาวสวนยางอย่างเพิ่งเครียดไปนะ ลองน้ำน้ำยางมาแปรรูปแบบนี้ น่าจะช่วยให้มีรายได้มากกว่าขายแค่น้ำยางธรรมดาๆ นะเออ ที่มา หมี CNN

สำหรับในมุมมองเหมียวเหมียวเข้าใจเขาคนนี้นะเนี่ยกับ  Víctor Enrich สถาปนิกผู้มากฝีมือและมีชื่อเสียงแห่งเมือง Barcelona ประเทศสเปน ที่หลังจากทำงานสถาปนิกที่เค้ารักมากว่า 10 ปี รายได้ดีเลยทีเดียว แต่เขาก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อและจำเจมากๆ เพราะต้องทำในเรื่องเดิมๆ ซึ่งมันจำกัดจินตนาการของเขา!!! สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจลาออก ปิดบริษัท เพราะเกิดขาดแรงบันดาลใจไปซะดื้อๆ และเริ่มเดินทางจากเงินเก็บสะสมที่เขาหามาได้ ทั้งลัทเวีย อิสราเอล และเยอรมนี แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไปในชีวิตของเขาดี…   แต่การเดินทางนั้นราวกับว่าทำให้เขาได้ค้นพบตัวเองอีกครั้ง   ที่จริงแล้วเขาไม่ได้เกลียดการออกแบบหรอก   แต่เขาเกลียดการที่ต้องทำงานให้ลูกค้า   เพราะว่ามันน่าเบื่อจำเจ เหมือนเดิมตลอดๆ   และที่สำคัญมันเป็นการจำกัดความคิดและจินตนาการของเขา   เขาจึงเริ่มออกมาทำงานเพื่อตัวเองโดยแท้จริง โดยไม่สนใจรายได้   ภาพเหล่านี้คือการออกแบบที่ออกมาจากใจและจินตนาการของเขาโดยแท้จริง   ซึ่งไม่ต้องเป็นแบบที่เขาต้องทำเพื่อเอาใจลูกค้าแต่อย่างใด   โดยโปรเจคนี้ของเขามีชื่อว่า ‘City Portraits’   และไอเดียทั้งหมดนี่เกิดขึ้นในขณะที่เขาเดินทาง   รูปแบบและรูปร่างนั้นเกิดจากจินตนาการของเขาล้วนๆ   ถึงจะดูบิดเบี้ยวไปหมดและดูไม่สามารถใช้งานในชีวิตจริงได้   ก็ยังมีคนสนใจงานของเขา   และแน่ล่ะเขามีความสุขกับตอนนี้มากๆ   บิดเบี้ยวไปหมดจริงๆ นะ…

เชื่อว่าหลายคนเคยประสบปัญหานอนไม่พอ (เหมียวก็เป็น) บางทีอาจเป็นเพราะการนอนดึกแล้วต้องตื่นเช้าของเรา แต่บางทีเราก็ว่าเรานอนเยอะแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้สึกเต็มอิ่มซักเท่าไหร่ นั่นแปลว่าอาจมีบางอย่างรบกวนการนอนของคุณอยู่ และวันนี้จะเหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชม 7 สิ่งเล็กๆ ที่อาจรบกวนการนอนหลับของคุณ โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย     เล่นโทรศัพท์ก่อนนอน   การเล่นโทรศัพท์ก่อนนอนถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจากรายงานของเว็บไซต์ Bussiness Insider พบว่า แสงสีฟ้าและขาวที่ออกมาจากจอ จะไปขัดขวางการหลั่งของสารเมลาโทนีนในสมอง ซึ่งเป็นสารที่ทำให้คุณนอนหลับ ฉะนั้น อย่าแปลกใจที่การเช็คอินสตาแกรมก่อนนอน จะทำให้คุณนอนหลับไม่เต็มอิ่ม   เข้านอนเร็วเกินไป   อาจฟังดูตลก แต่การนอนเร็วเกินไปถือว่าเป็นเรื่องที่ซีเรียสพอสมควร ความจริงก็คือไม่ใช่ทุกคนที่ต้องนอน 8 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับบางคน การนอนหลับ 6 ชั่วโมงคือการนอนที่ดีที่สุด อย่าไปสนใจการนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงมาก เพราะถ้าคุณนอนเร็วเกินไป อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาคุณก็ตื่นขึ้นมาเองแล้ว   ดื่มอย่างอื่น ที่นอกเหนือจากน้ำเปล่าหลังจาก 1 ทุ่ม   นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนอาจไม่รู้ หากเราดื่มน้ำอย่างอื่นที่มีส่วนผสมของน้ำตาลหรือคาเฟอีน หลัง 1 ทุ่ม…

กลายเป็นเรื่องที่มึนงงที่สุดไปเสียแล้วสำหรับการแล้วทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทพปกรณัม ทั้งในฝั่งของเทพกรีกและเทพนอร์ส ซึ่งทั้งสองก็มีความคล้ายกันอยู่นิดๆ เพียงแต่ประวัติและความเป็นมาต่างกันอยู่มาก เทพทั้งสองฝั่งนี้เราคงเคยได้เห็นผ่านภาพยนตร์ต่างๆ มาแล้ว อย่างธอร์จากฝั่งนอร์สก็กลายเป็นฮีโร่ไปซะ ส่วนของเทพกรีกก็ถูกนำไปตีความใหม่กลายเป็นหนังอย่างเพอร์ซี่ แจ็กสัน แต่วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านไปดูต้นตระกูลของทั้งสองฝั่งว่ามีความเป็นมาอย่างไรกันบ้าง โดยแผนผังครอบครัวนี้ออกแบบโดยศิลปินที่ชื่อว่า Korwin Briggs ซึ่งทำออกมาได้เข้าใจง่ายมากๆ เราไปดูกันเลย   เทพปกรณัมกรีก แปลลูกศรจากบนลงล่าง -เป็นบุตรของ.. -แต่งงานกับ.. -มีความสัมพันธ์กัน -มาจากฟองทะเล -เกิดจากกระโหลกศีรษะ     เทพปกรณัมนอร์ส แปลลูกศรจากบนลงล่าง -เป็นบุตรของ.. -แต่งงานกับ.. -มีความสัมพันธ์กัน -เกิดจากถูกวัวตัวแรกเลีย -เกิดจากมารดาทั้ง 9     เป็นไงกันบ้าง ดูแล้วเข้าใจง่ายขึ้นเลยใช่ไหมล่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเทพเหล่านี้จะมีครอบครัวที่เกี่ยวข้องกันเต็มไปหมด ที่มา wegointer

ในทุกๆ ความสัมพันธ์ล้วนมีช่วงที่ดีและช่วงที่ไม่ดี สิ่งที่ต้องทำคือ สร้างความเข้าใจและอภัยให้แก่กัน นอกจากนั้นคือต้องหมั่นช่วยกันเติมความรักความห่วงใยให้แก่กัน ไม่เช่นนั้นแล้ว ความสัมพันธ์ก็อาจจะพังทลายลงได้ทุกเวลา และวันนี้จะทำ 7 เคล็ดลับดีๆ ที่สาวๆ ควรทำให้กับแฟนหนุ่ม เพื่อให้ชีวิตรักของพวกเขานั้น ยืนยาวอย่างที่ใจฝัน จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย   1. บอกเขาทุกวัน ว่าเขาสำคัญสำหรับคุณแค่ไหน และเขาเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณอย่างไรบ้าง (เอาเรื่องดีๆ นะ)   2. บอกเขาว่า เขามีจิตใจที่งดงามขนาดไหน โดยเฉพาะวิธีการที่เขาดูแลคุณ หน้าดีๆ น่ะหาง่าย แต่จิตใจดีๆ น่ะ รักษามันไว้ให้ดีนะสาวๆ   3. ให้ความสำคัญกับความคิดของเขา ลองหยุดฟัง แล้วสนใจความคิดหรือไอเดียของเขาหน่อย อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ว่า มีคนๆ หนึ่งที่สนใจเขาอยู่   4. ช่วยเขาทำตามฝัน เวลาเขาอยากทำอะไร จงช่วยเหลือเขา เป็นกำลังใจให้เขา อยู่กับเขาเมื่อเจอช่วงเวลาที่ยากลำบาก   5. เชื่อใจและเคารพเขา มอบพื้นที่ส่วนตัวให้กับเขาบ้าง ยิ่งคุณเชื่อใจและเคารพเขาเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ของคุณก็จะยิ่งมั่นคงขึ้นเท่านั้น  …

แอดเหมียวเองถือเป็นเด็กยุค 90 ที่เติบโตมาและทันได้เห็นได้ใช้เพจเจอร์ ซึ่งในยุคนั้นเป็นอะไรที่ล้ำสมัยมากๆ เพราะตัวเพจเจอร์มีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ จู่ๆ มีข้อความวิ่งเข้ามาที่หน้าจอ อะไรมันจะสะดวกปานนั้น     แต่เทคโนโลยีทุกวันนี้ก็ก้าวไปเร็วจริงๆ เพราะเด็กๆ ยุคใหม่ไม่ต้องโทรไปหาคอลเซ็นเตอร์เพื่อบอกข้อความที่เราอยากส่งให้กับคนที่ต้องการติดต่อ เพราะบางครั้งข้อความที่อยากส่งมันก็ส่วนตั๊วส่วนตัวเหลือเกิน ต้องกระมิดกระเมี้ยนบอกไปทีละคำสองคำ     วันนี้แอดเหมียวเลยอยากจะชวนเพื่อนๆ (วัยเดียวกัน) และเด็กๆ ยุคใหม่ที่ไม่เคยได้ใช้เพจเจอร์มาก่อนได้ลองอ่าน 25 ความจริงเกี่ยวกับ “เพจเจอร์” กัน จะมีอะไรบ้างที่คุณไม่เคยรู้ ลองไปอ่านกันดูนะจ๊ะ   1. เพจเจอร์คืออุปกรณ์อ่าน sms เหมือนมือถือ แต่ส่งข้อความไม่ได้ 2. ถ้าจะส่ง ต้องโทรไป Call Center พูดให้เขาพิมพ์และส่งข้อความแทนเรา 3. แน่นอนว่า ความเป็นส่วนตัวจะหายไป….ความเขินอาย จะเข้ามาแทน     4. เพราะมือถือสมัยนั้น ยังส่ง sms ไม่ได้ 5. มือถือสมัยนั้น มีราคาสูงมาก (ยิ่งกว่าไอโฟนยุคนี้ซะอีก)     6.…

ปกติสนามบินมักจะตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ๆใช่มั้ยล่ะ เวลาเครื่องบินจะลงจอด ผู้โดยสารก็มักจะได้เห็นตึกราบ้านช่องเยอะแยะมากมาย ซึ่งว่ากันตรงๆ มันก็เป็นภาพที่น่าเบื่อพอสมควร แต่วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆไป ชม 10 สนามบินจากมีวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามจากการจัดอันดับของ PrivateFly ที่คุณเห็นแล้วจะต้องร้องว้าวเลยมาให้ชม ซึ่งผู้โดยสารจะได้เห็นทะเลสีฟ้าอันแสนงดงาม ภูเขา และฉากหลังอันน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย   10. Cape Town Airport, South Africa   ถ้าคุณได้ไปเยือนสนามบินนานาชาติ Cape Town คุณจะพบว่าที่นี่มีวิวที่สวยงามมาก คุณจะได้จะได้เห็นเทือกเขา Table อันมีชื่อเสียงโด่งดังของทวีปแอฟริกาอยู่ห่างออกไปไม่ไกล เรียกได้ว่าสวยแบบสุดๆ ไปเลย   9. London City Airport, UK   ถามว่าทำไมสนามบินแห่งนี้ถึงเข้ามาติดอันดับกับเขาด้วย นั่นก็เพราะว่าเวลาเครื่องบินของคุณกำลังแลนดิ้งที่สนามบินแห่งนี้ คุณสามารถเห็นจุดแลนด์มาร์กของลอนดอนได้แทบทั้งหมดเลยทีเดียว   8. Gibraltar Airport, UK   สนามบินแห่งนี้ตั้งห่างจากใจกลางเมืองเพียง 500 เมตรเท่านั้น ซึ่งรันเวย์ของสนามบินแห่งนี้ ก็ตัดผ่านถนนเส้นหลักของเมืองอีกด้วย นั่นแปลว่าทุกครั้งที่เครื่องบินจะลงจอด รถทั้งสองข้างทางต้องจอดให้เครื่องบินลงก่อน…

เชื่อว่าเด็กในยุค 90 หลายๆ คนคงคุ้นเคยกับเกมจับผิดภาพอย่างแน่นอน แม้ว่าในสมัยนี้ความนิยมจะน้อยลงไปมาก แต่ต้องยอมรับว่า มันเป็นอีกเกมหนึ่งที่ฝึกฝนความช่างสังเกตได้เป็นอย่างดี วันนี้เหมียวจึงนำเกม “ตามหาแพนด้า” ของมาให้เพื่อนๆได้เล่นกัน โดยในภาพต่อไปนี้ ทุกภาพจะมีแพนด้าแอบซ่อนอยู่ เพื่อนๆลองมาเล่นกันดีกว่า ว่าจะตามหามันเจอหรือไม่ ไปลองกันเลย!   (เฉลย) ตรงกลางด้านขวา   (เฉลย) ตรงกลางด้านขวา   (เฉลย) มุมซ้ายบน   (เฉลย) แอบอยู่หลังเวเดอร์   (เฉลย) บนหลังคาบ้าน   (เฉลย) ตรงกลางใต้คุณป้าที่คาบซิก้า   (เฉลย) กลางด้านซ้ายของภาพ   (เฉลย) ตรงกลางด้านขวาของภาพ   ส่วนภาพต่อไปนี้ เหมียวบอกตรงๆ หาไม่เจอ ใครตาดีก็ลองเล่นกันนะฮะ     โอ่ยยย เหมียวตาลายแล้วนะเนี่ย เยอะจริงๆ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ เจอแพนด้าครบทุกภาพยัง แต่พอเล่นเกมแบบนี้แล้ว นึกถึงสมัยเด็กเลย แต่เดี๋ยวนี้คงไม่มีอะไรแบบนั้นแล้วล่ะมั้ง T_T…

ความงดงามถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีนิยามแน่นอน เพราะในแต่พื้นที่ก็มีค่านิยมความงามแตกต่างกันออกไป บางแห่งอาจจะชอบผู้หญิงผิวสีแทนรูปร่างผอม บางแห่งอาจชอบผู้หญิงผิวขาวที่มีน้ำมีนวล ซึ่งก็แล้วแต่วัฒนธรรมและผู้คนในพื้นที่นั้นๆ ทางเว็บไซต์ Superdrug จึงนำภาพของหญิงสาวคนหนึ่ง ส่งไปให้นักออกแบบจาก 18 ประเทศทั่วโลก ตัดต่อเพื่อดูค่านิยมความงามในแต่ละประเทศ จนกลายมาเป็นชุดภาพสุดเจ๋งชุดนี้ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย   นี่คือรูปต้นฉบับ   ไปชมกันเลย     แต่ละประเทศนี่ต่างกันพอสมควรเลยนะเนี่ย สังเกตว่าในเอเชียจะชอบผู้หญิงผอมๆมากกว่า แต่ถ้าในยุโรปจะชอบผู้หญิงอวบๆ อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นความเห็นของคนๆหนึ่งนะฮะ คนอื่นอาจไม่ได้มองแบบนี้ ก็ดูเอาเป็นภาพรวมกันไปนะฮะ ที่มา superdrug

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากลดน้ำหนักล่ะก็ อาจต้องเลือกร้าน เลือกผู้เสิร์ฟกันซักนิดนึงแล้วล่ะนะ อิอิ เมื่อมีงานวิจัยล่าสุดชี้ว่า ถ้า ‘ผู้เสิร์ฟอาหาร’ ของคุณเป็นคนอ้วน มีแนวโน้มที่ว่าคุณจะสั่งอาหารและเครื่องดื่มมากกว่าปกติ!!! ไม่แน่นะพอข่าวคราวนี้ออกมาทางร้านอาหารอาจมีเกณฑ์พิจารณาคัดจากหุ่นผู้เสิร์ฟแล้วล่ะ สำหรับเรื่องนี้ก็ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ที่ชื่อว่า Environment and Behavior เลยทีเดียว ไม่ได้โม้เล่นๆ นะจ๊ะ   เราจะซื้ออาหารจากคนอ้วนมากกว่าปกติ!!?   สำหรับงานวิจัยนี้ก็เป็นการสังเกตพฤติกรรมของผู้คนกว่า 497 คน ในร้านอาหารกว่า 60 ร้าน และแน่นอนพฤติกรรมที่ถูกสังเกตก็คือพฤติกรรมการสั่งอาหารระหว่างลูกค้าและพนักงานเสิร์ฟ โดย Döring แห่ง University of Jena และ Wansink จาก Cornell University ทำการสังเกตร่วมกัน หลักๆ แล้วก็คือ ผู้สั่งอาหารมักจะรู้สึกมีความอยากมากขึ้นกว่าปกติ เมื่อเจอเข้ากับผู้ปรุง เสิร์ฟ หรือผู้ขาย ที่เป็นคนอ้วน เพราะว่าพวกเขาเป็นสภาพแวดล้อม และสภาพแวดล้อมนั้นทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ปกติ!!! และข้อสรุปที่ได้ก็ออกมาในทิศทางเดียวกันว่า คนมักจะสั่งอาหารจากคนอ้วนมากกว่าปกติ!!!   เหมียวว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสียนะเนี่ย อย่างแรกเลยคือผู้ประกอบการอาจจ้างงานคนอ้วนเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ลูกค้าสั่งเยอะขึ้น แต่แน่นอน…ทีนี้ลูกค้าอาจเลือกร้านหรือระวังตัวมากขึ้นแล้วล่ะ เพราะพวกเขาก็รู้ข้อมูลนี้เหมือนกัน เอิ๊กๆ ที่มา: Metro

ปกติถ้าเรานึกถึงเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศ เราอาจนึกถึงรั้วลวดหนาม ยามเฝ้า สุนัขดมกลิ่น หน่วยลาดตระเวน อะไรแบบนี้ใช่มั้ยล่ะ แต่ถ้าเพื่อนๆได้เห็นเส้นแบ่งเขตแดน 12 แห่งที่เหมียวนำมาให้ชมวันนี้แล้วล่ะก็ เพื่อนๆจะต้องเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเส้นแบ่งเขตแดนแน่นอน จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย   ที่นี่คือเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศเยอรมันนีกับสาธารณรัฐเช็ก ถ้าได้ไปยืนบนนั้นคงเจ๋งน่าดู   เนินตรงนี้คือเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างนอร์เวย์และสวีเดน   ปลาตัวนี้เป็นชายแดนของประเทศโปแลนด์และยูเครน ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินชาวโปแลนด์ Jarosław Koziara   เส้นแบ่งเขตแดนระหว่างสวีเดนกับฟินแลนด์ที่คุณสามารถเริ่มเล่นกอล์ฟจากฝั่งสวีเดน และไปจบที่ฝั่งฟินแลนด์ได้   แม่น้ำอเมซอนบริเวณนี้ คือเส้นแบ่งเขตแดนระหว่าง อาร์เจนติน่า(ซ้าย) บราซิล(ขวา) ปารากวัย(กลาง)   เกาะกลางถนนนี่คือเส้นแบ่งเขตแดนของประเทศบราซิล(ซ้าย) กับอุรุกวัย (ขวา)   เส้นดำๆตรงกลางมีชื่อเรียกว่า Derby เป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยมีการลากตัดผ่านกลางเมืองและสิ่งปลูกสร้างต่างๆด้วย   เส้นแบ่งเขตแดนระหว่างเบลเยี่ยมกับเนเธอร์แลนด์ คุณสามารถเข้าร้านกาแฟทางเนเธอรแลนด์ แล้วออกทางเบลเยี่ยมได้ด้วย   เทือกเขาเอเวอเรสต์คือพรมแดนระหว่างเนปาลกับจีน   เส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศเยอรมันนีกับเนเธอร์แลนด์ในศูนย์ธุรกิจ Eurode ซึ่งแม้จะตั้งอยู่ข้างๆกัน แต่ถ้าคุณต้องส่งของผ่านไปรษณีย์ละก็ คุณต้องใช้เวลาราวๆสัปดาห์หนึ่งเลยล่ะ   เกาะนี้คือเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างสหรัฐอเมริกากับรัสเซียซึ่งอยู่ห่างจาก Chukotka และ Alaska ฝั่งละ 35 กิโลเมตรเท่านั้น แม้จะใกล้กันขนาดนั้น แต่เวลาของที่นี่ห่างกันตั้ง…

เชื่อว่าคุณผู้หญิงหลายๆคน คงประสบกับปัญหาในการถ่ายภาพอย่างแน่นอน เพราะพวกเธอไม่รู้ว่า เธอควรจะจัดวางร่างกายอย่างไร จะยืนตรงถ่ายรูปติดบัตรก็ใช่ที่ แต่ถ้าโพสท่าผิด ก็อาจจะออกมาดูไม่สวยงาม วันนี้เหมียวจะพาสาวๆ ไปชม 20 วิธีการโพสท่าถ่ายรูปสุดเก๋ไก๋สำหรับคุณผู้หญิง ที่ขอรับรองเลยว่า ถ้าได้ศึกษาแล้ว การถ่ายภาพให้ออกมาสวย จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย   หันหลังแล้วมองผ่านไหล่ ท่าเบสิกที่ใครๆทำก็ดูดี   หาตำแหน่งวางมือให้ดีๆ จำไว้เสมอว่า อย่าให้มือดูเรียบเกินไป พยายามทำมือให้ดูยืดหยุ่น   ใส่เอฟเฟ็คซักนิดเพื่อความสวยงาม   ลองนอนกับพื้นแล้วถ่ายจากระดับเดียวกันดู   แล้วหาตำแหน่งในการวางมือดีๆ   ยกแขนขึ้นมาแตะศีรษะ แล้วบิดเอวเล็กน้อยเพื่อโชว์สัดส่วน   ลองนอนหงายแล้วเอียงหน้าเล็กน้อย ก็สวยเก๋ไม่แพ้ใคร   หรือจะนอนหงาย แล้วถ่ายจากมุมหลังศีรษะดู แบบนี้ใครถ่ายก็ออกมาดูดี   ไม่งั้นลองนอนคว่ำ แล้วเอามือมาวางบังหน้าซักนิด ลองหาฉากสวยๆ เช่นเตียงนอน หรือสนามหญ้า ก็โอเคไม่เบา   นั่งยกขาขั้นมาข้างหนึ่ง ถือว่าเป็นอีกท่าที่เอาไว้โชว์สัดส่วน   ยกขามาไพล่ด้านหน้าก็โอเคนะ   ลองปล่อยผม…

สำหรับแฟนๆ การ์ตูนดิสนีย์ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะในวันนี้เหมียวมีไอเดียในการทำสีผมแนวแฟนซี ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากเหล่าตัวละครดิสนีย์ในอินสตาแกรมมาฝาก รับรองว่าแต่ละสีนั้นทั้งสวยงาม แปลกตา และไม่มีใครเหมือนแน่นอน งานนี้ใครที่คิดว่าเป็นแฟนดิสนีย์ตัวยงต้องรีบจัดซะแล้ว   1.Maleficent   2.The Cheshire Cat   3.Jasmine   4.ปราสาทของ Cinderella   5.Centaur จาก Fantasia   6.Maleficent   7.Aurora   8.Merida   9.Tinkerbell   10.Elsa   11.Flora, Fauna, และ  Merryweather   12.Sully   13.Tinkerbell   14.Pocahontas   15.Elsa   16.Ariel   มีแต่สีสวยๆ ทั้งนั้นเลยนะเหมียว แถมทำแล้วยังเหมือนกับหลุดออกมาจากโลกของการ์ตูนดิสนีย์ยังไงยังงั้นเลยละ ที่มา : popsugar

วันนี้เหมียวก็มีกว่า 27 ภาพที่น่าฉงน หาดูไม่ได้ง่ายๆ แถมดูแล้วได้ความรู้รอบตัวเพิ่มด้วยล่ะ มาฝากเพื่อนๆ กัน หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบกันนะจ๊ะ คัดมาเลยนะเนี่ย อิอิ   ถ้าใครไม่รู้ว่าไข่ของหมึกรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง!!?   เวลาคนดูแลสวนสัตว์จับนกมาชั่งน้ำหนัก   คนจำนวนมากมารวมตัวกันเพื่อให้เกิดภาพของ Audrey Hepburn   ภาพของเซลล์มะเร็งแบบซูม   หุ่นซุปเปอร์แมนสุดหลอน   ภาพสายการบินที่ถูกถ่ายไว้ทุกไฟลท์ในสนามบินเมือง Hannover   ภาพที่ถ่ายได้จังหวะพอดีตอนผึ้งต่อย   เรือลำเดียวลากนักสกีกว่า 145 ชีวิต   ปลากำลังถูกกินและย่อยโดยปลาดาว   นาฬิกาที่หยุดเวลาไว้ที่ 8.15 น. ในวันที่ระเบิดปรมาณูถล่มฮิโรชิม่า   น้ำหนักที่เท่ากันของเนื้อและไขมัน   ม้าน้ำถูกถ่ายภาพได้ตอนที่กำลังมองเงาตัวเองในนาฬิกานักประดาน้ำ   ภาพถ่ายโดยโดรนของสุสานยางนับล้านเส้น   เมื่อแก้วโดนหลอมก็จะมีสภาพเป็นแบบนี้   การสักแทททูปกปิดรอยแผลที่เกิดจากการไหม้   สายรุ้งแบบ 360 องศา   แสงเหนือยามถูกถ่ายได้นอกอวกาศ…

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ยาเสพติดถือว่าเป็นสารอันตรายอย่างหนึ่งที่มอมเมาสังคมมนุษย์มาเนิ่นนาน แม้จะมีการจับกุมและรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนจำนวนของผู้ที่ใช้ยาเสพติด จะไม่ได้น้อยลงเลย แน่นอน ยาเสพติดไม่ได้ให้ประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแต่อย่าง ในทางกลับกัน มันยังให้โทษมากมาย และบางครั้งอาจหมายถึงชีวิตของผู้เสพ ใครที่สามารถเลิกได้ก่อนก็ถือว่าโชคดีไป แต่ใครที่เลิกไม่ได้ ก็ต้องทนอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ และวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆไปชม ความเปลี่ยนแปลงของชายคนหนึ่งหลังจากเลิกใช้ยาเสพติดได้หนึ่งปี เขาจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันเลย       ชายคนนี้มีชื่อว่า Ryan Harder เขาเริ่มใช่ยาเสพติดครั้งแรกเมื่อตอนอายุได้ 14 ปี และเขาเริ่มเสพยาไอซ์เมื่อตอนอายุ 18 ปี ตลอดระยะเวลาที่เขาเสพยา เขาเคยถูกตำรวจจับถึง 5 ครั้ง จนกระทั่งเมื่อปีก่อน เขาได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ว่าจะต้องเลิกยาให้ได้ ด้วยกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง ในที่สุดเขาก็สามารถเลิกยาได้อย่างเด็ดขาดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และนี่คือความเปลี่ยนแปลงของเขาหลังจากเลิกยามาได้ปีกว่าๆ       ว้าว จากชายหนุ่มที่ใต้ตาหมองคล้ำ และมีรอยย่นอยู่เต็มใบหน้า กลับกลายเป็นชายหนุ่มหน้าตาสดใส และดูมีชีวิตชีวิตเป็นอย่างมาก นี่สินะที่เค้าเรียกว่าเลิกยาเปลี่ยนชีวิต     เห็นแบบนี้แล้ว ใครที่คิดจะลอง ก็อย่าลองเลยนะ มันไม่มีอะไรดีหรอก ส่วนใครที่ยังเสพอยู่และอยากเลิก เหมียวขอเป็นกำลังใจให้นะฮะ…

อื้อหือออ นี่เป็นการไขคำตอบของมวลมนุษยชาติเลยนะเนี่ย!!! เพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่าเวลาไหนเหมาะสำหรับทำกิจกรรมจ้ำจี้กันมากที่สุด วันนี้เหมียวก็มีงานวิจัยมาให้เพื่อนๆ ดูชมกันแหละ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านฮอร์โมน Alisa Vitti กล่าวว่า เวลาที่เหมาะที่สุดในการทำกิจกรรมแห่งความสุขสันต์นั้น ทั้งชายและหญิงไม่มีกรณียกเว้น คือเวลา 15.00 น. จะว่าไปตอนนั้นเรียนหรือทำงานกันอยู่เลยนะนั่นน่ะ -*-   บ่าย 3 โมงคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด!!?   เพราะช่วงเวลาบ่ายๆ นั้นผู้หญิงจะรู้สึกอะเลิทและมีพลังที่สุด เพราะการเพิ่มขึ้นของ Cortisol ในช่วงนั้นของผู้หญิง และในผู้ชาย ฮอร์โมน Oestrogen ก็จะเพิ่มขึ้นสูงสุดเช่นกัน นั่นทำให้อารมณ์พุ่งพล่านขึ้นถึงจุดสุดยอด!!! เพราะฉะนั้นเวลา 15.00 น. เป็นเวลาที่ทั้งสองเพศจะสุขสมอารมณ์หมายได้ดีที่สุด…   ช่วงเวลาที่เหมาะสม!!?   ถ้าจะพูดกันตามตรงแล้ว ปกติช่วงเวลาที่ผู้ชายควรมีเซ็กส์ที่สุดคือช่วงเช้า เพราะฮอร์โมน Testosterone จะเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุด แต่ผู้หญิงจะรู้สึกวูบวาบมากกว่าในช่วงกลางวัน เพราะฉะนั้นการรอฮอร์โมน Oestrogen สักหน่อย ก็คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เอาเป็นว่ายังไงก็ตกลงกันดีๆ อ่ะเนาะ จะได้ฟินๆ กันทั้งสองฝ่าย แต่นี่เป็นเพียงข้อเสนอแนะถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นนะจ๊ะ เป็นแค่แนวทาง ไม่ได้เป็นข้อบังคับหรอกนะ…

เขาว่ากันว่า การดูรูปภาพเหมือนกับการได้ย้อนไปในอดีตอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งปกติแล้ว เราจะได้มองอดีตแบบขาว-ดำ เนื่องจากภาพที่บันทึกในสมัยนั้น ยังใช้ระบบขาวดำกันอยู่แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น มนุษย์เราสามารถทำให้ภาพขาวดำเหล่านั้นกลายมาเป็นภาพสีได้ นั่นทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับอดีตมากขึ้น และนี่คือผลงานที่ถูกนำมาทำใหม่ของเหล่าตากล้องนามว่า Leon Gimpel, Stephane Passet, Georges Chevalier, และ Auguste Leon ที่ถ่ายไว้เมื่อปี 1914 จะเจ๋งขนาดไหน ไปชมกันเลย       ว้าว เจ๋งดีนะเนี่ย เหมือนได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นด้วยเลย เหมียวว่าน่าจะมีคนเอาภาพถ่ายเก่าๆในไทยไปทำสีบ้างนะ มันคงจะเยี่ยมไปเลยแน่นอน ที่มา Viralnova

แม้เพศชายกับเพศหญิงจะถูกสร้างมาคู่กัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า พวกเขาเหมือนกันไปซะทั้งหมด ในบางเรื่อง พวกเขานั้นแตกต่างกันชนิดที่ว่าคนละโลกกันเลยทีเดียว และนั่นอาจทำให้เกิดปัญหาในความสัมพันธ์ได้ วันนี้เหมียวจึงพาเพื่อนๆไปชมการ์ตูนแสดงความแตกต่างระหว่างชายและหญิงจากเว็บไซต์ Arteide ที่เพื่อนๆเห็นแล้ว จะต้องเข้าใจเพศตรงข้ามมากขึ้นอย่างแน่นอน จะเป็นไง ไปชมกันเลย   นี่คือสาเหตุที่พวกเธอบ่นว่าอ้วนบ่อยๆสินะ   เค้าเรียกว่ามองคนละมุม   สิบนาทีรู้เรื่อง   ความแตกต่างบนโลกโซเชียล   การแบ่งที่นอนบนเตียง   เวลาเข้าห้องน้ำ   เวลาเลิกกัน   ความแตกต่างบนหน้าจอคอมพิวเตอร์   ความแตกต่างเรื่องการรับรู้เรื่องสี (อันนี้เหมียวรับประกัน)   ผู้หญิงมักบอกว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าใส่ ส่วนผู้ชายชุดเดียวใส่ได้ทั้งเดือน   การเลือกซื้อยาสระผม ผู้หญิงจะละเอียดมาก ส่วนผู้ชาย เห็นแค่คำว่า “ยาสระผม” บนฉลากก็หยิบมาแระ   เวลาตัดผม ผู้หญิงมักจะจ่ายเงินมากกว่า เพื่อความแตกต่างที่มีแต่ตัวเธอที่มองออก     ฮ่าๆ เหมียวว่านี่มันเรื่องจริงเลยนะ แล้วเพื่อนๆล่ะ คิดเหมือนกันรึเปล่า ลองแสดงความเห็นกันเข้ามาดูนะฮะ ที่มา Arteide

ในประเทศฟินแลนด์ จะว่าไปแล้วมีประเพณีที่ค่อนข้างแปลกเลยทีเดียว โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่า แท้จริงแล้วซานต้า ลุงอ้วนชุดแดงที่มักจะมาแจกของขวัญให้กับเหล่าเด็กๆ นั้น เป็นปีศาจชื่อว่า Christmas Bock ต่างหาก!!! ตามตำนานและนิทานของประเทศฟินแลนด์นั้น Christmas Bock คือปีศาจที่มีรูปร่างคล้ายๆ แพะ เหมือนกับปีศาจ Krampus ที่หนังพึ่งฉายไปเมื่อไม่นานมานี้นี่แหละ   Christmas Bock ปีศาจที่มีเขาคล้ายแพะ แถมชอบทำร้ายทรมานเด็กๆ ที่ดื้อและซนอีกด้วย   ปีศาจ Krampus ซานต้าด้านมืด มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก   เจ้าปีศาจ Christmas Bock เป็นตัวการสำคัญในการทำลายความสุขในวันคริสมาสต์ แถมภาพขวายังเป็นการสะสมอาหารไว้กินในฤดูหนาวของมัน   สิ่งที่ชอบกินก็คือ กวางเรนเดียร์กับเด็กๆ (นี่มันด้านมืดซานต้าแบบสมบูรณ์เลยนะเนี่ย!!!)   และนี่คือภาพการฉลองวัน St. Knut ในสมัยก่อน ตามประเพณีของฟินแลนด์ เอิ่มมม น่ากลัวไปอีก -*-   สำหรับ St. Knut’s Day ในฟินแลนด์นั้นคือวันที่ 15 เดือนมกราคมของทุกๆ ปี ชาวเมืองจะแต่งตัวเป็นปีศาจแพะ เดินไปยังบ้านใกล้เคียง ร้อนตะโกนหลอกและขอให้ส่งอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้…

ถือว่าเป็นประเพณีและความเชื่อที่ค่อนข้างแปลกเลยทีเดียว แต่ก็เป็นสิ่งที่ผู้คนในสมัยนั้นเชื่อกัน สำหรับประเพณีการฝังเคียว ไว้กับศพ ของผู้คนในยุโรปสมัยยุคกลาง ที่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์และปีศาจกัน ล่าสุดก็มีการขุดค้นพบโครงกระดูกที่ถูกฝัง แต่ที่น่าแปลกคือ โครงกระดูกเหล่านั้นไม่ได้มีเพชรพลอยหรือเครื่องประดับอยู่ด้วย แต่กลับเป็นเคียวโบราณที่ถูกฝังร่วมกับศพของพวกเขาในสมัยก่อน   สถานที่ๆ ขุดค้นพบคือสุสาน Drawsko ในประเทศโปแลนด์   โดยลักษณะของเคียวที่พบกลับถูกปักยึดไว้ที่คอของศพ!!!   มีโครงกระดูกหนึ่งที่เหมือนใช้เคียวเพื่อเป็นอุปกรณ์สำหรับยึดศพไว้   นักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบได้สันนิษฐานว่า สาเหตุที่ทำแบบนี้ก็เพราะเป็นความเชื่อเรื่องการฟื้นขึ้นมาจากชีวิตหลังความตาย หรือ ‘การกลายเป็นแวมไพร์’   พอศึกษาลงลึกไปอีกก็พบว่า นอกจากจะเป็นประเพณีสำหรับป้องกันผู้ที่ตายฟิ้นคืนชีพกลับมาเป็นแวมไพร์แล้ว เคียวยังช่วยปัดเป่าวิญญาณร้าย เพราะมีความเชื่อกันว่า ‘เหล็ก’ สามารถไล่วิญญาณร้ายได้ เพราะว่าเหล็กนั้นถูกหลอมขึ้นมาโดยไฟ ซึ่งในยุโรปโบราณเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านจากความตายสู่การกลับมามีชีวิต และการมีชีวิตกลับไปสู่ความตายเช่นกัน   ถึงนี่จะเป็นข้อสันนิษฐานแรกและการศึกษาเบื้องต้น แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นประเพณีที่แปลกตาและน่าขนลุกนิดๆ เหมือนกันนะเนี่ย   เป็นประเพณีที่แปลกมาก ในสายตาของคนสมัยนี้ โดยเฉพาะคนต่างชาติต่างถิ่นอย่างเราๆ แต่เหมียวเชื่อว่าประเพณีบ้านเราก็แปลกสำหรับชาวต่างชาติเช่นกันนั่นแหละ ^^ ที่มา: Viralnova

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทรงผมที่ฮิตตลอดกาลในหมู่สาวๆ จริงๆ สำหรับทรงผมบัน หรือทรงผมดังโงะ ซึ่งนอกจากจะเป็นทรงที่ทำง่ายแล้ว ยังสามารถทำได้ทุกวัน แถมยังเข้ากับเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ทุกสไตล์อีกด้วย ในครั้งนี้เราจึงได้รวมวิธีการทำทรงบันง่ายๆ มาฝาก สำหรับสาวๆ ที่กำลังมองหาไอเดียการทำทรงผมง่ายๆ สำหรับไปเที่ยว ไปทำงาน หรือไปเรียน ถ้าอย่างนั้นมาดูกันเลยว่าแต่ละทรงจะสวยสักแค่ไหน   1.ทรงผมมวยมัดสูงไว้กลางหัว แล้วเอียงไปทางด้านหลัง เพียงแค่มัดให้เป็นบัน แล้วดึงผมหรือจัดให้มีลูกผมนิดหน่อย เพียงแค่นี้ผมของคุณก็ดูไม่เรียบจนเกินไปแล้ว   2.ทรงผมแสกกลาง ก่อนมัดให้เป็นมวย สาวๆ รู้หรือไม่ว่าการแสกกลางนอกจากจะช่วยเพิ่มความเก๋แล้ว ยังทำให้ผมของเราดูเรียบหรูขึ้นด้วยนะ   3.ทรงนี้สำหรับสาวๆ ที่มีผมหยักศกเลยจ้า เรียกได้ว่าเป็นทรงที่สามารถทำได้ในทุกๆ โอกาสจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นออกงาน ไปเที่ยวชิลๆ บอกเลยว่าทำทรงนี้รับรองเอาอยู่   4.ยีผมให้ฟูก่อนมัดรวบให้เป็นมวย การยีผมให้ฟูๆ ก่อนมัดรวบเป็นบันจะช่วยทำให้ก้อนดังโงะของคุณดูหนาขึ้น ทรงนี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผมยาวนะจ๊ะ   5.ผมทรงทรงบัน เสริมเครื่องประดับ เพื่อช่วยดึงความโดดเด่น หากมีเวลาเร่งรีบ คุณก็สามารถทำทรงผมบันได้ เพียงแค่ใช้นิ้วสางๆ แล้วมัดรวบขึ้นไป เสริมด้วยเครื่องประดับชิ้นเก๋สักชิ้น แค่นี้ก็เรียบร้อย   6.มัดปลายผมแซมออกมานิดๆ หน่อยๆ สาวผมยาวมักเจอปัญหากับผมทรงนี้มากที่สุด…

ขาดื่มก็มาเตรียมเฮกันได้เลยจ้า เมื่อมีงานวิจัยตัวใหม่ชี้ว่า การดื่มไวน์นั้น ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์เทียบเท่ากับการไปออกกำลังกายในยิมเลยทีเดียว!!! ฟังดูแล้วเหมือนชวนฝันเลยนะเนี่ย แต่ต้องขอบคุณพระเจ้าจริงๆ มันเป็นเรื่องจริง!! อิอิ อ้างอิงจากงานวิจัยใน University of Alberta ประเทศแคนาดา การดื่ม ‘ไวน์แดง’ วันละหนึ่งแก้วนั้น ช่วยเสริมสร้างความฟิตของร่างกาย การทำงานของระบบหัวใจ และเสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย!!!   ไวน์แดง = การออกกำลังกาย     Jason Dyck หัวหน้าทีมงานวิจัยได้กล่าวว่า ‘ด้วยการวิจัยกับเหล่าหนู ทำให้เราสามารถรู้ว่าสารในไวน์แดงนั้น มีผลต่อร่างกายเหมือนที่ได้รับจากการออกกำลังกาย แต่ในปริมาณที่เหมาะสมวันละ 1 แก้ว เท่านั้น และจะมีประโยชน์มากๆ ถ้าหากออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย’ แต่ยังไงก็ดีการดื่มไวน์วันละแก้ว ไม่ได้ช่วยให้คุณมีกล้ามใหญ่โต หรือมีหน้าท้อง 6-packs ได้นะจ๊ะ และดื่มได้เพียง 1 แก้วต่อวันเท่านั้น อย่าลืมเชียว!!! ไม่งั้นจะเป็นผลเสียแทนเด้ออออ   ไวน์แดงช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย     ซึ่งจะว่าไปแล้ว ไวน์ก็มีแคลอรี่อยู่เหมือนกันนะ ไม่ใช่ 0 แคลไปซะเลยทีเดียว…

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ทัศนคติของผู้คนในสังคมเริ่มเปลี่ยนไป การหย่าร้างถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่ใครๆก็ทำกัน พ่อเลี้ยงเดี่ยวหรือแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องดีแต่อย่างใด ใครๆก็อยากจะมีครอบครัวที่ครบสมบูรณ์ใช่มั้ยล่ะ วันนี้เหมียวจึงพาเพื่อนๆไปชม 36 คู่รักที่รักกันมาอย่างยาวนาน สวนกระแสสังคม และท่าทางรักของพวกเขา ก็ยังไม่เก่าลงง่ายๆด้วย จะน่ารักขนาดไหน ไปชมกันเลย   50 ปีผ่านไป พวกเขาก็ยังคงชอบเที่ยวทะเลเหมือนเดิม   Rick และ Amy Wise แต่งงานกันมา 19 ปีแล้ว แต่พวกเขายังดูหนุ่มสาวอยู่เลยนะ   Hugh Jackman แต่งงานกับภรรยามาแล้ว 19 ปี และพวกเขาก็ยังคงรักกันดีจนถึงปัจจุบัน   Burt Bakman และ Paula Rudelir Bakman แต่งงานกันมา 20 ปีแล้วและความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงแข็งแกร่ง!   Dan และ Chris Nitzsche แต่งงานกันเมื่อ 20 ปีก่อน และยังคงรักกันเหมือนเดิม  …

ก็เหมือนที่เรารู้ๆ กันทั่วไปทั้งโลกว่า ถุงยางอนามัยเป็นอุปกรณ์ป้องกันโรค โดยเฉพาะ HIV/AIDS ที่เกิดจากการกระทำกิจกรรมสอดใส่แล้วเข้าจังหวะ แต่กระนั้นก็ยังมีความเสี่ยงที่จะติดโรค หรือการพลาดทำให้ท้องอยู่นิดหน่อย… ล่าสุดทางทีมวิจัยของ Texas A&M University Health Science Center ได้ประดิษฐ์ ‘สุดยอดถุงยาง’ ที่ทั้งป้องกันโรคติดต่อแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แถมทำให้สุขสมอารมณ์หมายได้มากกว่าเดิมซะอีก!!!   ซุปเปอร์ถุงยาง!!!   ด้วยลักษณะของถุง ที่เป็นเจลคล้ายๆ น้ำ บางและเบา แต่ประสิทธิภาพสุดยอดคือเคลือบสารที่ช่วยฆ่าเชื้อไวรัส HIV แม้ในสถานการณ์ที่ถุงขาด แถมยังเติมสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้สุขสมอารมณ์หมายในกีฬาในร่มก้มแล้วแทงของคุณได้มากขึ้น!!!   สุดยอดถุงยาง…   Mahua Choudhury หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า ‘คนไม่ชอบใช้ถุงยางเพราะมันไม่เหมือนการมีอะไรกันแบบธรรมชาติ เหมือนการใส่เสื้อกันฝนลงไปว่ายน้ำ แต่ถุงยางชนิดใหม่ของเรานี้ นอกจากความพิเศษในการต้านเชื้อ HIV แล้ว ยังช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกราวกับว่าไม่ได้ใส่เลยทีเดียว!!!’   น่าสนใจนะเนี่ยสรรพคุณ…   แต่สำหรับสุดยอดถุงยางนี้ก็ยังอยู่ในช่วงทดลองเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี มีหลายบริษัทเตรียมขอลิขสิทธิ์เพื่อไปทำแล้วล่ะ ซึ่งทางศาสตราจารย์เชื่อว่าอีกราวๆ 1 ปีจะมีวางขายตามท้องตลาดทั่วไปและราคาถูกเพียง 1 เหรียญ…

ขาดื่มคงจะเชี่ยวชาญและหลงไหลในรสชาติของวอดกาเป็นอย่างดีล่ะนะ เพราะมันเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับปาร์ตี้ของคุณได้เป็นอย่างดี แต่พวกคุณรู้หรือไม่ว่า วอดกานั้นนอกจากจะทำให้คุณเมาแล้ว มันยังสามารถนำมาใช้กับข้าวของเครื่องใช้ทั่วๆ ไปได้ด้วยนะ   วันนี้เหมียวจะมานำเสนอ 7 คุณประโยชน์จากวอดกา ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ขอบอกว่ามีประโยชน์กับคุณแม่บ้านมากเลยนะ พร้อมแล้วไปชมกันเลย   1. เทวอดกาเล็กน้อยใส่ผ้าขนหนู จากนั้นนำไปเช็ดแว่น รับรองว่าสะอาดเหมือนใหม่   2. นำมีดไปแช่ในวอดกา ช่วยป้องกันการเกิดสนิมได้นะเออ   3. เทวอดกาลงไปในแจกันเล็กน้อย ช่วยยืดอายุให้กับดอกไม้ให้สดอยู่เสมอได้นะ   4. ใช้วอดกาเช็ดหน้าแทนโทนเนอร์ ช่วยลดการเกิดสิวและกระชับรูขุมขนได้   5. เติมวอดกาลงในแชมพูของคุณเล็กน้อย ช่วยให้ผมเปล่งประกายเงางามขึ้น   6. หากคุณมีปัญหาเรื่องกลิ่นเท้า ลองนำสำลีจุ่มวอดกาและนำมาเช็ดเท้า มันจะช่วยลดกลิ่นเหม็นลงได้ (แต่อย่าใช้มากไปนะ เพราะเท้าจะกลายเป็นกลิ่นวอดกาแทน)   7. เทน้ำเปล่าและวอดกาในปริมาณที่เท่ากันลงไปในถุงซิปล็อค และนำไปแช่ตู้เย็น จากนั้นนำมาประคบตามร่างกาย ช่วยให้คุณสดชื่นขึ้นได้นะ   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   โอ้โห ไม่คิดเลยว่าวอดกาที่ดื่มกันจะมีประโยชน์ได้ขนาดนี้ เหล่าขาดื่ม ก็ลองนำเอาไปใช้ดูนะจ๊ะ ที่มา viralnova

ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน บางครั้งเรื่องร้ายๆก็ถาโถมเข้ามาจนคุณไม่ทันตั้งตัว แม้จะพยายามเข้มแข็งแค่ไหน แต่ก็ไม่เป็นผล อย่างเช่นเรื่องราวที่คุณแม่ผู้โชคร้ายคนนี้ได้ประสบ รับรองว่าคุณจะต้องสะเทือนใจกับชะตากรรมของเธออย่างแน่นอน คุณแม่คนนี้มีชื่อว่า Heidi Loughlin วัย 32 ปี ขณะเธอตั้งท้องได้ 6 เดือน เธอพบว่ามีเนื้อร้ายขั้นรุนแรงอยู่ในหน้าอก คุณหมอแนะนำให้เธอเข้ารับการรักษาด้วยการคีโมระดับรุนแรงในทันที     ณ ตอนนั้นเธอมีทางเลือกอยู่สองทางเลือก หนึ่งคือทำแท้งเด็กในท้องเสียก่อนแล้วค่อยเข้ารับการรักษา หรือจะทำคลอดก่อนกำหนดและค่อยเข้ารับการรักษาซึ่งวิธีที่สองนี้ มีความเสี่ยงสูงมากที่เด็กจะไม่รอดชีวิต..เธอเลือกทางที่สอง คุณหมอได้ทำการผ่าตัดคลอดก่อนกำหนด เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เด็กเกิดมาด้วยน้ำหนักเพียง 1.1 กิโลกรัมเท่านั้น เธอถูกตั้งชื่อว่า Ally Louise Smith     หากเหตุการณ์นี้เป็นหนังหรือละคร เด็กคนนี้จะต้องเติบโตมาอย่างแข็งแรงและ Heidi จะต้องได้รับการรักษามะเร็งจนหายดี แต่โลกแห่งความจริงไม่ได้สวยงามเช่นนั้น Ally มีอายุได้เพียงแค่ 8 วันเท่านั้น เธอก็เสียชีวิตลงไป.. สุดท้ายแล้ว Heidi ก็ไม่สามารถรักษาลูกน้อยของเธอไว้ได้ และเธอก็ต้องเข้ารับการรักษามะเร็งต่อไป แม้ความหวังจะมีเพียงเล็กน้อย แต่เธอก็ต้องสู้ต่อไป เพื่อลูกชายทั้งสองของเธอที่ยังมีชีวิตอยู่     ชีวิตบางครั้งเราก็ต้องเจอกับเรื่องไม่สมหวังแบบนี้ล่ะนะ เหมียวขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่สู้ต่อไปนะฮะ เหมียวเชื่อว่าคุณแม่ต้องเอาชนะโรคมะเร็งได้อย่างแน่นอน…

หลายคนอาจบอกว่า ในทุกวันนี้ ทุกๆคนมีความเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าจะจนหรือรวย แต่ในความเป็นจริง มันเป็นแบบนั้นจริงๆหรือ? หรือว่าคนจนอาจได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมจากผู้อื่นกันแน่ ผู้ใช้งานเว็ปไซต์ Youtube ชื่อว่า NorniTUBE จึงได้ทำการทดลองถึงความมีน้ำใจของผู้คน ด้วยการแต่งกายด้วยลุคแบบนักธุรกิจและแบบคนธรรมดา แล้วแกล้งเป็นลมในที่สาธารณะ ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา จะมีปฏิกิริยาอย่างไร ไปชมกันเลย   เริ่มจากแต่งแบบคนธรรมดาๆก่อน   ไม่ไหวแล้ว เป็นลมดีกว่า   มองแล้วก็ผ่านไป    ทุกคนผ่านไปโดยไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก   สรุปคือนอนไปเกือบ 10 นาที ไม่มีคนสนใจเลย   งั้นลองเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ คราวนี้มาในมาดของนักธุรกิจ   พอล้มปุ๊บ มีคนสามสี่คน เข้ามาถามไถ่อาการในทันที   เขายังไม่เชื่อเท่าไหร่ จึงทดลองเป็นลมอีกอีกครั้ง สุดท้ายก็มีคนเข้ามาช่วยในทันทีเหมือนเดิม   ลองไปชมคลิปกันดู   ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ เหมียวว่าถ้าเราเห็นคนกำลังอยู่ในความเดือดร้อน ไม่ว่าจะรวยหรือจน ก็ควรเข้าไปช่วยนะ อย่าเลือกปฏิบัติกันเลย เพราะพวกเขายังไงพวกเราก็คือมนุษย์เหมือนกันหมดนะครับ ^^ ที่มา NorniTUBE

เป้าหมายในการใช้ชีวิคู่ของหลายๆ คน แน่นอนว่าก็คือรักแท้ อยู่ด้วยกัน แต่งงานกัน เข้าใจกันในทุกๆ เรื่องเสมือนเป็นสิ่งที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน… วันนี้เหมียวเลยมีผลงานของศิลปินสหราชอาณาจักร Philippa Rice ที่จะมาแสดงให้เพื่อนๆ ทุกคนเห็นว่า ‘รักแท้’ ที่แท้แล้วคืออะไร จากผลงานหนังสือชื่อ Soppy ของเธอ!!!   หน้าปกหนังสือของเธอ   แทนที่จะโฟกัสในเรื่องวันพิเศษ หรือการให้ของขวัญต่างๆ เธอกลับโฟกัสชีวิตในวันธรรมดาๆ ของคู่รัก   ความรักไม่ใช่การพากันไปทานอาหารเย็นร้านหรูๆ แค่ทำงานมาเหนื่อยๆ แล้วมีกันและกันที่โซฟาหน้าที่วี ก็พอแล้วล่ะ   ความรักคือการอยู่ร่วมกัน อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย และแน่นอนมีที่ว่างระหว่างกันบ้าง   แต่แน่นอนบางครั้งก็ต้องมีโมเม้นท์หวานๆ บ้างนะจ๊ะ    ความรักบางทีก็สามารถแสดงออกได้ระหว่างการไปช็อปปิ้งซื้อของกลับบ้าน    บางครั้งเรื่องอะไรที่ไร้สาระๆ ก็ดูน่ารักเนาะ ^^    บางครั้งก็เจอเรื่องแย่ๆ แต่ความผูกพันของคุณสามารถทำให้วันแย่ๆ ดีขึ้นได้   บางครั้งคำพูดหวานๆ ก็ไม่จำเป็น แต่แน่นอน มีบ้างก็ดีนะ     ที่สำคัญที่สุดคือ การยอมรับในข้อเสียของกันและกัน   และที่สำคัญคือการเปิดใจยอมรับความแปลกนั้น…

ไม่ใช่ทุกวันหรอกนะ ที่เราจะสามารถยิ้มแย้มร่าเริงได้ทุกวัน มันจะต้องมีวันที่เรารู้สึกแย่ รู้สึกเครียด รู้สึกจิตตกกันบ้าง บางคนอาจจะหาวิธีแก้ด้วยการทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้ตัวเองลืม แต่กับบางคนมันกลับเป็นเรื่องที่ยากมาก   หากคุณรู้สึกแย่และไม่รู้จะหาทางออกยังไง วันนี้แอดเหมียวมี 15 วิธีดีๆ ในการฟื้นฟูตัวเองมาให้ได้อ่านกัน ขอบอกว่าง่ายมากๆ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย   1. ดื่มน้ำเยอะๆ ในน้ำมีออกซิเจน ช่วยให้สมองปลอดโปร่งมากขึ้น   2. จัดที่นอนใหม่ เพราะเตียงนอนคือที่พักผ่อนสำหรับคุณ หากมีสิ่งสกปรกหรือเตียงยับยู่ยี่ ก็อาจทำให้คุณหงุดหงิดได้   3. อาบน้ำ ชำระล้างร่างกาย ถูสบู่สระผมให้เรียบร้อย เมื่อคุณเนื้อตัวสะอาด ร่างกายผ่อนคลาย อะไรๆ มันก็จะดีเอง   4. หาของว่างกิน (แต่ไม่ใช่อาหารขยะนะ) เติมพลังให้ตัวเองสักนิดจะได้สดชื่น (แต่อย่ากินเยอะไปนะ)   5. ออกไปเดินเล่น สูดอากาศภายนอก ให้สายตาได้พักผ่อน    6. เปลี่ยนเสื้อผ้า การสวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ สามารถช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้นได้นะ   7. เปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง…

เชื่อเถอะว่า ตุ๊กตาบาร์บี้ คือของเล่นคลาสสิคของเด็กผู้หญิงทุกยุคทุกสมัย และทุกประเทศทั่วทั้งโลกอีกด้วย ทำให้เหล่าบาร์บี้กลายเป็นไอดอลขวัญใจสาวๆได้อย่างไม่ยากนัก แต่ก็มีหลายคนที่ไม่จบลงเพียงการเล่น แต่งตัวตุ๊กตาเท่านั้น แต่มีความฝันที่อยากจะทำให้ตัวเองเป็นเหมือนเหล่าบาร์บี้ซะด้วย…. และนี่ก็คือ 6 มนุษย์โลก(เพศหญิง) ที่ว๊อนนาบีอยากจะเป็นบาร์บี้ในชีวิตจริง เหมียวจะพาไปรู้จักกันฮะ   1. Valeria Lukyanova เห็นชื่อแบบนี้ต้องเป็นคนแถบรัสเซียหรือยุโรปตะวันออกแน่ๆ เธอเป็นสาวมอลโดวานั่นเอง นอกจากดวงตาอันกลมโตแล้ว สิ่งที่โตกว่าก็คือหน้าอกหน้าใจของเธอนี่แหละ เธอยอมรับนะ ว่าหน้าอกน่ะไปศัลยกรรมมา แต่ส่วนอื่นของร่างกายเป็นธรรมชาติทั้งนั้นค่ะ และอาศัยการออกกำลังกายบ่อยๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ตามโภชนาการ บวกกับการแต่งองค์ทรงเครื่อง ก็กลายเป็นบาร์บี้มีชีวิตแบบนี้แล้วฮ๊าาาา   2. Alina Kovalevskaya ชื่อสไตล์ยุโรปตะวันออกอีกแล้ว และคราวนี้เธอมาจากยูเครนฮะ แม้หลายคนจะวิจารณ์ว่าเธอน่ะแต่งเยอะมาก และคงจะศัลย์มาหลายตังค์สินะ แต่เธอก็บอกว่าทั้งหมดนี่อ่ะ ธรรมชาติให้มาทั้งนั้นเลยนะยะ เธอมีแฟนคลับทั้งในยูเครนและบนโลกออนไลน์อีกเยอะมาก แถมยังทำชานแนลยูทูปของตัวเองให้เหล่าแฟนคลับได้ติดตามชมอีกด้วย   3. Olga ‘Dominica’ Oleynik แม่สาวโอลก้า เธอเป็นเพื่อนกับสาววาเลเรียในข้อ 1 ด้วยนะ เราเลยได้เห็นภาพเธอถ่ายคู่กันอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ไม่ได้มาจากมอลโดวาหรอก เพราะสาวโอลก้าหล่อนเป็นชาวโดมินิก้าจ๊ะ   4. Blondie Bennett ดูท่าทางจะเป็นสาวบาร์บี้รุ่นดึกซักหน่อย แหม่ก็วัยล่วงเลยเข้าสู่เลข 40 แล้วเนอะ…

ใครจะไปนึกล่ะว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นบนโลก เมื่อมีรายงานว่าอดีตผู้นำพรรคนาซีอันโด่งดัง Adolf Hitler นั้น มีสัญลักษณ์ความเป็นชายเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น!!? สำหรับเรื่องนี้เป็นการค้นพบโดยศาสตราจารย์ทางด้านประวัติศาสตร์  Peter Fleischman แห่ง University of Erlangen โดยเขาได้ศึกษาโอยอ้างอิงจากบันทึกทางการแพทย์ที่ถูกพบในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี   ฮิตเลอร์มีไข่ข้างเดียว!!?     จากหลักฐานทางการแพทย์ชิ้นนั้นได้ระบุว่า ฮิตเลอร์ถูกจับในปี 1923 ในเหตุการณ์ Beer Hall Putsch หรือกบฎโรงเบียร์ ซึ่งฮิตเลอร์และพรรคพวกพยายามจะยึดอำนาจประเทศเยอรมนีในตอนนั้น… พอถูกนำไปตรวจร่างกายโดย Dr Josef Brinsteiner ระหว่างถูกจับ ก็พบว่า เขามีไข่ หรือลูกอัณฑะเพียงข้างเดียวเท่านั้น จากอาการ Chryptorchidism หลายคนอาจจะสงสัยนะว่า Chryptorchidism คืออะไร อธิบายง่ายๆก็คือหรือเรียกง่ายๆ คือ ลูกอัณฑะข้างหนึ่งไม่ลงถุงอัณฑะมาตั้งแต่กำเนิดนั่นเอง โถๆๆๆ พ่อฮิตเลอร์ -*- ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีบทเพลงชวนเชื่อเพลงหนึ่งที่ร้องว่า ‘ฮิตเลอร์นั้นมีไข่ข้างเดียว’ ซึ่งถูกแต่งไว้โดยนายพล Bogey เพราะมีข่าวลือว่าฮิตเลอร์นั้นถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ลูกอัณฑะข้างหนึ่งของเขา ระหว่างศึกแห่ง Somme แต่ก็ไม่ได้มีอะไรยืนยันแน่ชัดนัก   อ่ามมมม…

อย่างที่หลายๆ คนมักจะได้เห็นคนโรคจิตผ่านจอภาพยนตร์ (หรือบางคนอาจจะเคยสัมผัสด้วยตัวเอง) เหมียวขอบอกเลยว่าพวกเขานั้นมักจะมีลักษณะเด่นๆ บางอย่าง เช่นมีเสน่ห์ ฉลาดหลักแหลมและโน้มน้าวใจเก่ง คนโรคจิตเหล่านี้อาศัยปะปนอยู่กับพวกเราในสังคม จนเรามองไม่ออกว่าพวกเขาคือคนโรคจิต   บทความที่เหมียวจะพาไปอ่านในวันนี้ ถูกเขียนขึ้นโดยนาย Jacob Wells หนึ่งในผู้ที่มีอาการทางจิต เขาได้ยกเอา 5 คุณสมบัติ เกี่ยวกับคนโรคจิตมาเตือนให้ทุกคนได้รับทราบกัน หากใครมีบุคคลเหล่านี้อยู่ใกล้ตัวล่ะก็ ระวังไว้ให้ดีๆ หน่อยนะ   1. เป็นบุคคลที่สมบูรณ์แบบเกินไป “ในตอนแรกผมมักจะแสดงออกแบบปกติ ยกเว้นบางกรณีที่มีการทดสอบทางวิชาการ ผมจะพยายามแสดงออกให้เป็นนักเรียนดีเด่นหรืออัจฉริยะ (ที่ตอนแรกผมไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย)”    “ทำให้ผมเลือกที่จะเปลี่ยนการแสดงออกของตัวเองให้ออกมาสมบูรณ์แบบ (แบบหลอกๆ) ภายนอกผมอาจจะดูเหมือนอ่อนน้อม แต่ข้างในผมกำลังข่มขู่อยู่”   2. เป็นบุคคลที่น่าสนใจมากๆๆๆ “ผมจะแสดงให้เห็นความฉลาดเฉลียวแบบละเอียด ผมจะแกล้งทำเป็นสติสตางค์ไม่สมประกอบ เพื่อเพิ่มความสบายใจมากขึ้น และผมจะพยายามทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่น่าสนใจ โดยการเล่าเรื่องจริงเกี่ยวกับตัวผมให้เขาฟัง”   3. สามารถชักจูงใจของคุณได้ง่ายๆ “ภายนอก ผมจะพยายามทำให้คุณคิดว่าผมเป็นคนยังไงถ้าผมต้องการ หรือถ้าผมเบื่อ ผมสามารถแกล้งทำตัวเป็นอัจฉริยะ หรืออะไรก็ตามที่ทำให้คุณมีปฏิกิริยาโต้ตอบ หรือจุดประกายความสนใจในตัวผม แต่ภายในผมแตกต่างไป ผมต้องการควบคุมคุณ”   4. เป็นบุคคลที่ทำให้คุณรู้สึกชื่นชอบเขามากๆ “ผมเสนอที่จะแก้ปัญหาให้กับผู้คนในทุกรูปแบบที่จะเป็นไปได้ และผมจะถามพวกเขาว่าปัญหานั้นมันเกิดขึ้นมานานเท่าไหร่แล้ว…

“Wake Me Up At HappyLand” เป็นการ์ตูนสั้นๆ ที่เปี่ยมไปด้วยความประทับใจ เป็นการ์ตูนที่ไม่ต้องมีบทพูด แต่ก็สามารถสิ่งต่อเรื่องราวดีๆ ให้กับเราได้ ในการ์ตูนเล่าถึงชายแก่คนหนึ่ง ที่ได้เดินทางท่องโลกเพื่อตามหาแฮปปี้แลนด์ ดินแดนแห่งความสุข แต่เขากลัวว่าขณะเดินทางเขาจะพลาดดินแดนแห่งนั้น ก็เลยเขียนป้านติดตัวไว้ว่า “ปลุกฉันด้วยนะ ถ้าถึงแฮปปี้แลนด์” แต่แล้วก็ไม่มีใครปลุกเขาเลย แต่เขาก็พยายามที่จะหามันต่อไป   ในการ์ตูนนี้เราจะได้เห็นเขาเดินทางด้วยหลากหลายวิธี แต่แล้วก็มีเรื่องราวให้หักมุมเล็กๆ เกี่ยวกับความสุขที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเขา เราไปชมการ์ตูนชุดนี้กันเลยดีกว่า     จู่ๆ ก็มีหนูน้อยมาสะกิดชายชราให้ตื่น   เรากำลังจะไปที่แฮปปี้แลนด์กันเหรอคะ?   พ่อจ๋า แม่จ๋า เรากำลังจะได้ไปแฮปปี้แลนด์แล้ว!!   ถึง นักช่างฝัน นักท่องเที่ยว และคนที่กำลังหาแฮปปี้แลนด์   จงจดจำทุกหยาดที่แสงที่ส่องเข้ามา เพื่อฉายแววให้กับจักรวาลของคุณ   เบื้องหลังน้ำตา… จะมีรอยยิ้มให้เราได้ค้นหา   และในทุกสิ่งเล็กๆ เหล่านี้ มักจะมีดินแดนแห่งความสุขรอเราอยู่   ผู้เขียนการ์ตูนชุดนี้ชื่อว่า Josef Lee และเขายังมีการ์ตูนดีๆ อีกหลายเรื่องให้คุณได้ชมกัน ตามไปได้เลยที่ joseflee.wordpress.com ที่มา boredpanda

มาถึงปัจจุบันนี้ ยุคไฮเทคยุคไอที ใครจะไปคิดล่ะว่าสัตว์ทั้ง 9 ชนิดนี้ เคยถูกใช้ในสงครามด้วยล่ะคุณเอ้ยยยยย ไม่บอกนี่เหมียวจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ ถ้าจะโด่งดังที่สุดในเรื่องสัตว์สงคราม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคงไม่พ้น ‘ม้า’ สัตว์สงครามที่เจงกิสข่านใช้ปราบมาแล้วทั่วทุกสารทิศจนสร้างอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จักมา ซึ่งวันนี้เหมียวจะพาไปรู้จักสัตว์ทั้ง 9 อื่นๆ อ้างอิงจากหนังสือ “Beasts of War: The Militarization of Animals“ ของ Jared Eglan แหละ ลองมาชมกัน!!!   ช้างศึก   คือเชยมาก ช้างศึกมันเป็นอะไรที่ โค-ตะ-ระ ธรรมดาสำหรับบ้านเรา แต่อย่าลืม ชาวต่างชาติเขาอะเมซิ่งกันนะจ๊ะ ในอดีตเหล่านายทัพชั้นยอดของตะวันตกทั้ง Pyrrhus of Epirus, Hannibal หรือ Alexander the Great ต่างเห็นความสำคัญของข้อนี้ และใช้มันในการถล่มแนวกองทัพข้าศึก เพราะช้างนั้นไม่กลัวแนวทหารเหมือนม้า ทำให้กองทัพที่ถูกฝึกมาไม่ดีหนีกระเจิดกระเจิงกันเลยทีเดียวเมื่อโดนช้างพุ่งเข้าใส่ ด้วยความเร็วราวๆ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมมากันหลายตัวเป็นแนวร้องแปร๋นๆ อีก ทำให้ทหารราบหนีกันหัวซุกหัวซุน หอกดาบก็ไม่ค่อยระคายผิวช้างเท่าไหร่นัก แม้แต่ปืนไฟก็ไม่ค่อยได้ผลเมื่อเจอกับเจ้าสัตว์ยักษ์ตัวนี้ แต่พอการเข้ามาของปืนใหญ่ ทำให้ช้างถูกลดความน่ากลัวลง…

เราทุกคนล้วนเคยผ่านเหตุการณ์นี้กันมาทั้งนั้น นั่นก็คือการกินนมจากอกของคุณแม่นั่นเอง ถึงเราจะจำมันไม่ได้ก็ตามเพราะว่าสมัยนั้นมันเด็กเกินไป แต่วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ มารู้ซึ้งถึงค่าน้ำนม และย้อนความจำกันซักหน่อย…   แม่นมในวันนี้คือ Ochi ซึ่งกำลังเป็นคุณแม่มือใหม่เลยทีเดียว ลูกๆ ของเธอมีถึง 2 คน และวันนี้เธอก็ให้เกียรติมาในรายการของเรา!!!   ตอนแรกหลายๆ คนก็คิดไปต่างๆ นานา ว่าจะมีรสชาติเป็นยังไง จะหอมหวานมั้ย…   เราคงรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งแหละ ><   เหมือนเป็นพิธีกรรม -*-   แต่พอดื่มลงไปจิบแรกเท่านั้นแหละ ชอบกันเลยทีเดียว!!!   แต่กระนั้น ของแบบนี้มันมี After Shock ฮร่าาาาา   เอาภาพให้ดูเฉยๆ มันไม่ได้อารมณ์ มาดูคลิปเต็มๆ กันเลยจ้า   ฮ่าๆๆๆ รีแอคชั่นแต่ละคนนี่ล้ำค่าจริงๆ แถมสุดท้ายได้เจอคนที่ให้นมเรากินด้วยแหละ เซอร์ไพร้ส์มากๆ ลองดูกันนะเมี๊ยววว ที่มา: Distractify

ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวน้อย สาวใหญ่ หรือเก้งกวางทั้งหลาย ถ้าหากได้ชมภาพของหนุ่มมาดนักธุรกิจสุดเนี๊ยบที่เราได้นำมาให้ชมในวันนี้ละก็ รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกชดชื่นขึ้นมาทันที เพราะแต่ละคนที่เราได้คัดมาทั้งหล่อ และเท่ที่สุดเลยก็ว่าได้ เอาละ!! เพื่อไม่ให้หนุ่มๆ เขารอนาน ถึงเวลาที่สาวๆ จะไปดื่มด่ำ และสูบความฟินให้เต็มปอดกันได้เลยยยยย   หล่อเท่แบบนี้ ใครไม่หลงรักก็บ้าแล้ว .   เห็นแล้วใจละลายกันเป็นแถวเลยใช่ไหมละ .   เท่ซะไม่มี   รู้นะว่าคุณตกหลุมรักพ่อหนุ่มนักธุรกิจกันเข้าเต็มเปาซะแล้ว   สะกดทุกสายตาจริงๆ   มันใช่อะ .   นักธุรกิจมาดเซอร์ เอาใจสาวๆ ที่ชอบหนุ่มเซอร์กันสักหน่อย   แค่ทรงผมก็กินขาดแล้วฮะ   ส่วนคนนี้ก็ดูเซ็กซี่ไม่เบา   เนี๊ยบมาก . .   มาดคุณชายมาเอง   เอาใจไปเลย   แบบนี้สเปคใครบ้าง .   แต่ละคนพกเอาความหล่อกันมาแบบจัดหนักจัดเต็มกันทั้งนั้น เห็นแล้วก็รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาทันที ที่มา : stylishwifel

นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนาพลาสเตอร์แปะแผลสุดไฮเทค ที่สามารถบอกคุณได้ว่า แผลของคุณกำลังติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสอันตรายหรือไม่ เวลาเรามีแผลเกิดขึ้นตามร่างกาย แพทย์จะแนะนำให้เราปิดแผลเอาไว้ด้วยพลาสเตอร์ปิดแผล เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส แต่บางครั้ง แผลได้ติดเชื้อไปแล้ว ซึ่งกว่าเจ้าของแผลจะรู้ตัว ก็อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ (ติดเชื้อในกระแสเลือดนั่นแหละ) ทางนักวิทยาศาสตร์จึงคิดค้นพลาสเตอร์อัจฉริยะขึ้นมา ที่เมื่อมันเจอกับแบคทีเรียอันตราย มันจะเรืองแสงขึ้นมาในทันที     โดยทาง Keith Harding หัวหน้าทีมวิจัยจาก Cardiff University School of Medicine กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่ง และถ้าพวกเขาทำสำเร็จล่ะก็ มันจะเป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ทางการแพทย์เลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบัน มีผู้ป่วยจำนวนมาก เสียชีวิตหลังจากการผ่าตัดเนื่องจากเกิดการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด ซึ่งกว่าทีมแพทย์จะรู้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อ ก็แทบจะไม่ทันการแล้ว รวมถึงผู้ที่มีแผลไฟไหม้ด้วยเช่นกัน     อย่างไรก็ตาม พลาสเตอร์นี้ยังคงอยู่ในช่วงการทดลอง และจะมีการใช้ในมนุษย์จริงๆช่วงปี 2018 โน่น เหมียวก็ได้แต่หวังว่า พวกเขาจะสร้างมันได้สำเร็จนะ จะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติมากๆ     แต่ถ้าเป็นการติดเชื้อในกระแสเลือดในประเทศแห่งหนึ่งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เหมียวว่าพลาสเตอร์อะไรก็เอาไม่อยู่ เพราะเชื้อเค้าแรงจริงๆ อิอิ ที่มา Metro  

สำหรับโลกออนไลน์ ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ๆ ค่อนข้างส่วนตัว ที่เราจะสามารถโพสต์ หรือแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ (จริงเหร๊ออออ ><) ในระดับหนึ่ง อิอิ ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่นิยมกันมากที่สุดก็คือการโพสต์ภาพต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตดี๊ดี ที่ไปเจอกันมานั่นเอง แต่ชาวเวียดนามคนหนึ่ง Hồ Anh Đức ก็ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเบื้องหลังของภาพเหล่านั้น ว่าที่จริงแล้วพวกเขาไม่ได้มีชีวิตแบบนั้นจริงๆ แต่สร้างภาพ หรือ Fake เอาแหละ ดูกันไว้ฮาๆ ถ้าตรงก็ขออภัยนะเมี๊ยววว   เขาได้นำเสนอเบื้องหลังสุดฮา ว่ากว่าจะได้ภาพโพสต์ลงโซเชียลแต่ละภาพนั้น…   แทบจะแลกเอามาด้วยเลือด และเนื้อเลยทีเดียว   ‘ผมต้องการจะแสดงให้เห็นว่า อะไรคือเบื้องหลังของเหล่าบรรดาภาพในโลกโซเชียล ซึ่งแน่นอนมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด’ Hồ Anh Đức กล่าว   ผู้คนอาจจะรู้สึกดีขึ้น แต่ไม่ได้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมหรอก…   ลองมาชมวิดีโอที่เขาอยากนำเสนอกันได้ที่นี่เลย   อื้อหือออ จะว่าไปเขาเอาความจริงมาล้อเล่นเลยนะเนี่ย ก็นั่นล่ะเนาะ คนเราก็ไม่ได้มีชีวิตเหมือนที่เราพยายามจะนำเสนอในโลกออนไลน์เสมอไปหรอกนะ   เพราะฉะนั้นเวลาดู เวลาเห็นอะไรมา ก็คิดใน ‘ฐานะมนุษย์’ ด้วยนะจ๊ะ ไม่ใช่ชีวิตเพอร์เฟ็คต์เหมือนที่เขาพยายามแสดงให้เห็นนนน เพราะมันไม่ได้จริงไปทั้งหมด ><…

เชื่อว่าความรู้สึกเหงา เป็นความรู้สึกที่ใครก็ไม่อยากเจออย่างแน่นอน ลองนึกภาพคุณตื่นมาแล้วไม่รู้จะคุยกับใครหรือไปหาใคร สุดท้ายก็ได้นั่งดูทีวีแบบเปล่าเปลี่ยวคนเดียวในบ้านสิ มันน่าทรมานขนาดไหน และยิ่งถ้านั่นเป็นความผิดปกติของสมองแล้วล่ะก็ ความอันตรายก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปอีก วันนี้เหมียวจึงจะพาเพื่อนๆไปดู 11 วิธีเอาตัวรอดในวันที่ “ความเหงา” เข้ามาเล่นงานคุณ จงอย่าประมาท เพราะนั่นอาจหมายถึงชีวิตของคุณ!   1. หาหนังสือมาอ่าน   บางครั้งเวลาชีวิตเราเจอกับความยากลำบาก ลองหนีโลกแห่งความจริงไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการดูสิ รับรองว่าช่วยได้อย่างแน่นอน ถ้านึกไม่ออก ลองเดินเข้าไปในร้านหนังสือ แล้วให้พนักงานแนะนำดู รับรองว่าคุณจะได้หนังสือดีๆมาเป็นกะตั๊กแน่นอน วิธีนี้เหมียวคอนเฟิร์ม เพราะเคยทำมาแล้ว อิอิ   2. ลองไปเล่นกับสัตว์ต่างๆ   มีงานวิจัยที่เชื่อถือได้งานหนึ่งบอกว่า การมีปฏิสัมพันกับสัตว์ช่วยทำให้เกิดสุขภาพจิตที่ดีได้ ดังนั้นลองไปแวะเยี่ยมสถานรับเลี้ยงสัตว์แถวบ้านดู หรือถ้าไม่มี ลองไปตามวัดหรือคาเฟ่หมาแมวอะไรก็ได้ รับรองว่ามีสัตว์เลี้ยงให้คุณได้เล่นด้วยเพียบเลยล่ะ   3. เข้าเว็บไซต์ที่มีคนประสบปัญหาเดียวกับคุณ   เชื่อหรือไม่ การได้คุยกับคนที่มีปัญหาเดียวกับคุณ สามารถช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นได้ เพราะอย่างน้อยคุณก็ไม่ใช่คนเดียวในโลก ที่ต้องเจอกับปัญหานี้   4. ลองหากลุ่มคนที่สามารถช่วยเหลือได้   ถ้าการเข้าเว็บไซต์ยังไม่ทำให้คุณรู้สึกดีเท่าไหร่นัก ลองหากลุ่มคนที่ประสบปัญหาเดียวกับแถวๆบ้านคุณสิ การได้คุยจริงๆจังๆกับคนที่มีปัญหาเดียวกัน จะช่วยคุณได้มากเลยล่ะ…

ใครที่กำลังมองหาวิธีทำเทียนกลิ่นหอมทำเองแบบง่ายๆ อยู่ละก็ คิดถูกแล้วละที่คลิกเข้ามา เพราะเราก็มีวิธีการทำเทียนกลิ่นหอมแบบง่ายๆ ที่ทำจากผลไม้อย่าง ‘ส้ม’ มาฝากเหมือนกัน รับรองว่าใครทำแล้วจะต้องได้สัมผัสกลิ่นหอมๆ ของส้ม แถมยังช่วยผ่อนคลายไปในตัวด้วยนะ อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าทำยังไง ตามมาชมเลย!!   อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1.ส้ม 2.มีด 3.ไฟแช็ก 4.น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันปรุงอาหารอื่นๆ   มาเริ่มประดิษฐ์เทียนกลิ่นส้มกันเลยจ้า ขั้นแรกนำส้มมาผ่าแค่เปลือกด้านนอกตามภาพเลย   แล้วค่อยๆ ปอกเปลือกออก ระวังอย่าให้ขาดน้า   ต่อไปก็ทำการเจาะรูเปลือกส่วนล่าง สามารถทำเป็นรูปที่ต้องการได้ตามใจชอบเลยจ้า   เสร็จแล้วก็เติมน้ำมันลงไปบนส่วนหัว ที่ยังมีขั้วติดอยู่ อย่าให้ล้นขั้วนะ เราจะใช้ขั้วเป็นไส้เทียน   จุดไฟเลยยยยย   ว้าวๆๆ นำเปลือกส่วนที่เราเจาะรูทำเป็นรูปต่างๆ มาประกบกัน ก็จะออกมาเป็นแบบนี้   เห็นหรือยังละว่า เทียนกลิ่นส้มหอมๆ นั้นทำได้ไม่ยากเลย แถมเรายังจะได้สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ของส้มอีกด้วย แบบนี้ต้องสดชื่นไปทั้งวันแน่นอน อย่าลืมลองไปทำตามกันดูนะจ๊ะ ที่มา : instructables

มีหลายๆ ครั้งที่เราไม่สามารถทำงานที่เราได้รับมอบหมายได้ดี แม้กระทั่งถูกสิ่งเร้าอื่นๆ ดึงความสนใจของเราออกไปจากการทำงานบ้างก็มี แต่โชคยังดี วันนี้เหมียวมีเรื่องราวเกี่ยวกับเสียงดนตรี ที่จะมาช่วยให้เพื่อนๆ ทำงานได้ดีขึ้น!!! จากผลงานวิจัยของทาง University of Birmingham ในประเทศอังกฤษพบว่า ดนตรีสามารถทำให้เพื่อนๆ ทำงานได้ดีขึ้น ทีนี้ ถ้าเพื่อนๆ สมองตัน ไม่สนใจทำงาน หรือทำงานได้ไม่ค่อยดี รู้นะว่าอะไรช่วยได้ อิอิ   แล้วแนวเพลงที่ช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นล่ะ!!?   เสียงดนตรีที่มีเสียงของธรรมชาติ สามารถช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้นได้!!!   นักวิจัยแห่ง Rensselaer Polytechnic Institute ได้รายงานมาเมื่อไม่นานนี้ว่า เสียงของธรรมชาติสามารถช่วยเพิ่มอารมณ์ในการทำงาน รวมถึงสมาธิของผู้ทำงานได้ เพระเสียงของธรรมชาตินั้นสามารถช่วยในด้านการทำงานของสมอง การเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถในการมีสมาธิ และที่สำคัญที่สุดอารมณ์ในการทำงานของเหล่าผู้ที่ทำงานนั้นๆ แถมเสียงเหล่านี้จะไม่เป็นการรบกวนสมาธิของพวกเขาอีกด้วยล่ะ!!!   เสียงดนตรีที่คุณชอบจะช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น!!!   ในส่วนของเพลงที่คุณชอบ ก็เป็นสิ่งที่สามารถช่วยทำให้คุณทำงานได้ดีขึ้นเช่นกัน Teresa Lesiuk ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่ง University of Miami ที่ทำงานสายตรงในด้านดนตรีบำบัดแนะว่า การเลือกแนวเพลงนั้นสำคัญมาก ในคลาสวิจัยของเธอ เหล่าคนที่ได้ฟังเพลงที่พวกเขาชอบ จะทำงานได้เร็วกว่าเหล่าผู้ที่ไม่ได้ฟัง…

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ จะว่าไปแล้วตามภาพยนตร์อวกาศต่างๆ ยานอวกาศก็เรียกได้ว่าจะมีการเดินทางด้วยระบบไฮเปอร์ไดรฟ์ ที่เร็วกว่าแสงเสียอีก เพราะกาแล็กซี่ของเรานั้นกว้างใหญ่มากๆ ระดับแสนปีแสงเลยทีเดียว หนังอวกาศต่างๆ เลยต้องคิดระบบเหล่านี้มาใช้กัน!!! แต่วันนี้เราจะมาลองจินตนาการกันดูเล่นๆ ว่า ถ้ามนุษย์เราสามารถเดินทางได้ในระดับความเร็วเท่ากับแสง หรือราวๆ 297,600 กิโลเมตรต่อวินาทีแล้วล่ะก็ เราจะสามารถเดินทางไปดาวต่างๆ ในระบบสุริยะได้ด้วยเวลาเท่าไหร่!!? วันนี้เหมียวก็มีแผนผังการเดินทางมาฝากกัน   ถ้ามนุษย์เดินทางได้เท่ากับความเร็วแสง จะใช้เวลาเท่าไหร่ไปตามจุดต่างๆ ของระบบสุริยะ!!?   สำหรับการเดินทางที่ใกล้ที่สุด คือการเดินทางไปยังดวงจันทร์ ที่ใช้เวลาเพียง 1.3 วินาทีเท่านั้น ต่อมาด้วยดาวศุกร์ ราวๆ 2.3 นาที และดาวอังคาร 5.1 นาที ส่วนดวงอาทิตย์ก็ใช้เวลาเพียง 8.32 นาทีเท่านั้นเอง!!! ส่วนการเดินทางไปยังดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลๆ เช่น ดาวเนปจูน ก็ใช้เวลาราวๆ 4 ชั่วโมง และดาวพลูโตก็ประมาณ 4.6 ชั่วโมงเท่านั้น อื้อหือออ สุดยอดไปเลย นี่มันเร็วกว่าเที่ยวบินไปต่างประเทศอีกนะเนี่ย!!!   เหมียวว่าเรื่องนี้น่าสนใจเหมือนกันนะ เพราะความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีต่างๆ ในอนาคตก็มาจากจินตนาการของเรากันทั้งนั้น เหมือนที่ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ ‘จินตนาการสำคัญกว่าความรู้’…

ในอดีตยุคโบราณยังไม่มีการผลิตอาวุธปืนขึ้นมาใช้งาน การออกรบของนักรบนั้นก็จะต้องพึ่งพาดาบและธนูในการปรามข้าศึก แต่พอมาถึงยุคสมัยที่การรบเริ่มเปลี่ยนแปลง อาวุธปืนก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่มีทหารผู้หนึ่งเลือกที่จะไม่ใช้ปืน เขากลับเลือกใช้ดาบและธนูแทน!!   การนำหน่วยในระหว่างฝึกด้วยการพกดาบและภาพการยิงธนูในการแข่งขันยิงธนู   ทหารผู้นั้นมีนามว่า Jack Churchill หรือในนาม Fighting Jack Churchill และ Mad Jack เขาเกิดที่เมือง Surrey ประเทศอังกฤษ จบการศึกษาจากโรงเรียนนายทหาร Sandhurst Military Academy ในปีค.ศ. 1926   ดาบยาวของ Jack Churchill ที่พกติดตัว   โดยหลังจากที่เขาจบการศึกษาก็ได้เข้าประจำการในกองทัพอังกฤษ ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศพม่า ภายหลังในปีค.ศ. 1936 เขาก็ปลดประจำการและเข้าทำงานในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์แทน     แต่แล้วเขาก็กลับเข้ามารับใช้กองทัพอังกฤษอีกครั้งในปีค.ศ. 1940 หลังจากที่หลังโปเเลนด์ถูกเยอรมันรุกราน และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วก็คือ การที่เขาเลือกจะพกดาบยาวและธนูเข้าสู้ศึก!!     Jack Churchill เป็นทหารเพียงคนเดียวที่ใช้ดาบกับธนู ในช่วงที่หน่วยของเขาซุ่มโจมตีหน่วยลาดตระเวนของเยอรมัน เขาใช้สัญญาณการโจมตีด้วยลูกธนูพิฆาตปักที่หน้าอกของศัตรู แทนที่จะใช้เสียงจากนกหวีดหรือการตะโกน    …