Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
ตรงปกแล้ว! ตุ๊กตาเขี้ยวกุดและผองเพื่อน พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
คราวที่แล้ว #เหมียวหมายเลข24 ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าเขี้ยวกุด ในรูปแบบของไอศกรีมหน้าตา น่ารัก และน่าชังในเวลาเดียวกันไปแล้ว ข่าวเก่า: ตรงปกมั้ย? ไอศกรีม ‘เขี้ยวกุด’ วางขายแล้ว มีทั้งคนดีใจและเสียใจในคราวเดียวกัน ด้วยกระแสตอบรับที่มาแรงมาก! หากใครที่ได้ไปชมภาคล่าสุดกันเรียบร้อยแล้ว แล้วอยากได้เจ้าเขี้ยวกุดมากอด ฝันของคุณเป็นจริงได้ เมื่อทาง Build-A-Bear Workshop สาขาสิงคโปร์ เปิดตัวตุ๊กตาเขี้ยวกุดพร้อมผองเพื่อนแล้วจ้า ตุ๊กตา ‘เขี้ยวกุด’ มีการวางจำหน่ายแล้วที่สาขา Hamley’s Marina Bay Sands ประเทศสิงคโปร์ โดยทางร้านได้แชร์ลงเฟสบุ๊คเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2019 พร้อมประกาศจำหน่ายตุ๊กตาจากภาพยนตร์เรื่อง How to Train Your Dragon: The Hidden World ในวันที่ 31 มกราคม 2019 (ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป) โดยตุ๊กตาเซ็ทนี้วางจำหน่ายในราคาตัวละ 45 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ ราวๆ 1,045 บาท! เห็นแล้ว บอกเลยว่าเหล่าแฟนๆ ต้องตาลุกวาว…
-
วิบวับแวววาว!! ชาวญี่ปุ่นสุดเจ๋ง ทำ ‘แอร์’ มีแสงส่องอย่างกับโฆษณาทีวี เปลี่ยนสีได้ด้วย
เคยกันบ้างไหมกับการดูโฆษณา ‘แอร์’ ในจอทีวีหรือสื่อต่างๆ แล้วเห็นว่ามันมีเอฟเฟกต์ไฟวิบวับแวววาวเรืองแสงออกมาจากช่องแอร์อย่างสวยงาม เราก็รู้สึกว่าอยากจะให้มันมีจริงๆ เหมือนอย่างในโฆษณาว่ามันจะเป็นเยี่ยงไรกัน แต่ว่าความคิดนี้จะไม่เป็นเพียงความคิดอีกต่อไป เพราะรู้หรือไม่ว่ามีคนสามารถทำให้มันเป็นความจริงได้แล้ว ว้าวววว อะไรกันนี่!! ทวิตเตอร์นักออกแบบ CG ชาวญีปุ่นชื่อว่า @mojon1 ได้เป็นผู้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเขามีหลักฐานมายืนยันนั่นคือคลิปของตู้แอร์ของเขาเอง ที่มันสามารถเปลี่ยนสีได้หลายสีอย่างเหลือเชื่อในเวลาที่แอร์มันปล่อยลมไปมา พระเจ้ามันอย่างกับหลุดออกมาจากในทีวีเลยล่ะ!! (ดูไม่ได้คลิกที่นี่) うちのエアコンをCMでよく見るアレにしてみた。仕組みは簡単だけど物凄くエアコン効いてる感じで良いぞw pic.twitter.com/iXcp6ocwWJ — モジョン (@mojon1) January 29, 2019 เห็นกันแล้วใช่ไหมล่ะว่ามันเจ๋งขนาดไหน แล้วพอมาถึงตรงนี้หลายๆ คนก็อาจจะสงสัยกันว่าเขาสามารถทำอย่างนี้ได้อย่างไรกัน มันมีเคล็ดลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่ คำตอบของคำถามนี้ก็คือสิ่งของที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง เพราะมันคือการผสมผสานการทำงานกันระหว่าง ‘โปรเจคเตอร์ และลำโพง Google Home (อุปกรณ์อัจฉริยะที่สามารถทำงานได้ด้วยคำสั่งเสียง)’ นั่นเอง ดั่งเช่นตัวอย่างคลิปข้างต้นนี้ที่ทางเจ้าของสั่งการผ่านเสียงว่า “Okay Google ลองเปิดระบบทำความร้อนดูซิ” (เป็นภาษาญี่ปุ่น) แสงที่ส่องออกมาจากช่องแอร์ก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มทันที!! คลิปนี้ได้กลายเป็นไวรัลเอามากๆ ในโซเชียลของญี่ปุ่น และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย แต่ที่ดูจะเป็นไฮไลท์กว่าใครเพื่อนก็คงจะเป็นการที่ Sharp บริษัทเครื่องใช้ยักษ์ใหญ่เข้ามาคอมเมนต์ในคลิปนี้ว่า…
-
สาวหลงรักเข้ากับ ‘ตุ๊กตาบาร์บี้’ เปลี่ยนบ้านของตัวเองให้กลายเป็นโลกแห่งความชมพู!!
เวลาที่เราชอบบางสิ่งเอามากๆ จนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าหลงรัก เราก็อาจจะอยากเห็นเจ้าสิ่งที่ว่านี้ในทุกครั้งที่ตื่นนอน เห็นมันอยู่รอบๆ ตัวตลอดเวลา ถ้าอย่างนั้นลองมาทำแบบสาวคนนี้ดูอาจจะตอบโจทย์ความต้องการในข้อนี้สำหรับคุณได้ เพราะมีสาวคนหนึ่งเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้กลายเป็นโลกแห่งตัวการ์ตูนที่เธอรัก นั่นคือ ‘ตุ๊กตาบาร์บี้’ แสนสวยสดใส จนตอนนี้บ้านของเธอมีสีชมพูแทบจะทั้งบ้านไปแล้วเรียบร้อย… ยินดีต้อนรับสู่โลกของบาร์บี้ Azusa Sakamoto เจ้าของแอคเคานท์ IG: Azusabarbie เป็นหญิงสาวที่ชื่นชอบตุ๊กตาบาร์บี้เอามากๆ จนเรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับพันธุ์แท้ของตุ๊กตาต่างๆ ในซีรีส์นี้ เธอเล่าให้ฟังว่าเมื่อสมัยยังเด็กๆ ที่เธออยู่ในประเทศญี่ปุ่น เธอไม่ได้มีความรู้จักกับตุ๊กตานี้แต่อย่างใด เพราะว่ามันยังไม่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นมากนักในสมัยนั้น https://www.instagram.com/p/Bh1kcMMHVEq/?utm_source=ig_embed แต่ว่าพอเริ่มเข้าสู่ช่วงมัธยม โลกที่เปลี่ยนไปก็พัดพาเธอให้ได้รู้จักกับไอเทมที่เกี่ยวกับบาร์บี้เป็นครั้งแรกนั่นคือ ‘กล่องข้าวอาหารกลางวัน’ ที่เธอพบในร้านขายของนำเข้าจากสหรัฐฯ และนั่นเป็นครั้งแรกที่เธอพบเจอกับสิ่งที่รู้สึกรักตั้งแต่ครั้งแรกเห็น https://www.instagram.com/p/Bl0kmKDHvpY/?utm_source=ig_embed ตั้งแต่นั้นเป็นมาต้นมาเธอจึงค่อยๆ เก็บสะสมคอลเลคชั่นของบาร์บี้มาเรื่อยๆ จนในปัจจุบันเธอได้เปลี่ยนบ้านในลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นโลกแห่งบาร์บี้ ด้วยจำนวนเงินกว่า 80,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 2.49 ล้านบาท) ของที่ว่านี้ก็มีทั้งข้าวของประจำวันที่เธอใช้ในทุกๆ วันอย่างแก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว เสื้อยืดที่ใส่และอื่นๆ อีกมายมายรวมถึงตุ๊กตา ลองดูคอลเลคชั่นต่างๆ ของเธอกันดีกว่า…
-
เขินเลย… Ariana Grande โชว์รอยสักซิงเกิลใหม่ ‘7 Rings’ แต่ชาวเน็ตบอกนั่นแปลว่าปิ้งย่างนะ
ก่อนหน้านี้นักร้องสาวสวย เสียงดี มากความสามารถอย่าง Ariana Grande ได้เผยว่าเธอนั้นชอบการ์ตูนอย่าง “Pokemon” อย่างมากและก็ตัดสินใจที่จะสักรูป “อีวุย” โปเกมอนสุดรักของเธอลงบนร่างกายเสียด้วย ข่าวเก่า: Ariana Grande เผยรอยสัก ‘อีวุย’ ที่เธอชื่นชอบมากๆ ถึงกับต้องสักน้องลงบนแขน และล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2019 นี้ เธอได้ปล่อยซิงเกิลใหม่อย่าง “7 Rings” ออกมาให้แฟนๆ ได้รับชม ซึ่งเธอก็ไม่พลาดที่จะสักคำว่า 7 Rings ในภาษาญี่ปุ่นลงฝ่ามือและภาพลงอินสตาแกรมด้วย . โดยเธอสักตัวอักษร 七 (nana) ที่แปลว่าเลข 7 กับตัวอักษร 輪 (Rin) ที่แปลว่าแหวน ซึ่งเมื่อจับมารวมกันโดยเผินๆ ก็อาจจะเข้าใจได้ว่าหมายถึง 7 Rings แต่เจ้ากรรม ภาษาญี่ปุ่นดิ้นได้ พอตัวอักษรทั้งสองมารวมกันมันดันกลายเป็นคำว่า 七輪 ที่แปลว่าปิ้งย่างเตาถ่านสไตล์ญี่ปุ่นต่างหาก และเมื่อชาวเน็ตเห็นข่าวดังกล่าว ก็เข้ามาแซว Ariana Grande…
-
จากนักเรียนกับคุณครูชั้นม.ต้น ในปี 2011 เปลี่ยนสถานะกลายมาเป็นคนรู้ใจในปี 2018
เรื่องความรักเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร เหมือนกับเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นระหว่างคุณครู กับนักเรียน ชาวอินโดนีเซียคู่หนึ่ง โดยสาวชื่อ Vinda Virginia ได้เล่าเรื่องราวของเธอสมัยเป็นนักเรียนมัธยมต้น และเหตุการณ์ที่ทำให้เธอมาพบกับคุณครู Erwin Pangaila กระทั่งกลายมาเป็นคนรู้ใจ และแต่งงานกันในที่สุดเมื่อปี 5 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา ความรักของทั้งสองคนต้องฝ่าด่านจากกระแสสังคมมากมาย เพราะอะไรพวกเขาถึงยังยืนยันในรักครั้งนี้? ภาพเมื่อเจ็ดปีก่อนสมัย Vinda ยังเป็นนักเรียน Vinda พบกับ Erwin คุณครูหนุ่มอายุ 27 ปี ครั้งแรกตอนเธอยังเป็นนักเรียนมัธยมต้นอายุ 13 ปี ในตอนนั้นเธอได้เห็น Erwin กำลังสอนหนังสือที่ห้องถัดไป… เขาเป็นคุณครูหนุ่มที่ดูดีคนหนึ่ง จึงทำให้ดึงความสนใจจากเธอไปได้ แต่ตัว Vinda เองก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้คุยกับเขา เพราะคุณครูหนุ่มยังต้องสอนหนังสือประจำที่ห้องหนึ่ง ไม่นานนัก พวกเขาได้มีโอกาสเจอกันอีกครั้งในคาบกิจกรรมที่ทางโรงเรียนได้จัดไว้ ซึ่งระหว่างนั้นคุณครูหนุ่มกำลังตั้งใจทำงาน ส่วน Vinda เอง ได้มองชื่นชมเขาอยู่ห่างๆ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เธอตกหลุมรักคุณครูคนนี้ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นความรักของพวกเขา… หลังจากที่เริ่มคบหาดูใจกัน ในขณะนั้นคุณครูหนุ่มยังคงสอนที่ห้องอื่นอยู่ ส่วน…
-
สื่อเกาหลีแฉ ผอ. โรงเรียนการแสดงโซล ใช้งบจัดงานส่วนตัว-บังคับนักเรียนร่วมแสดงโชว์
เมื่อปีที่ 2018 ผ่านมา ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ผู้อำนวยการโรงเรียน School of Performing Arts (SOPA) พร้อมภรรยา ได้ถูกกล่าวหาว่าได้บังคับให้นักเรียนของโรงเรียนทำการแสดงในงานส่วนตัวที่เขาจัดขึ้น โรงเรียน School of Performing Arts (SOPA) คนมักเรียกว่า ‘โรงเรียนไอดอล’ ซึ่งเป็นโรงเรียนด้านการแสดงชื่อดัง ที่มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง ทั้ง Suzy, Hyeri จาก Girls’ Day, Jungkook จาก BTS, Joy จากวง Red Velvet, Kai จากวง EXO รวมไปถึง Park Ji Hoon และศิลปินอื่นๆ อีกหลายคน หลังการตรวจสอบ ฝ่ายด้านการศึกษา Seoul Office of Education ได้ออกมายืนยันว่าทาง ผู้อำนวยการได้ใช้ให้นักเรียนแสดงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวจริง โดยที่นักเรียนต่างไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ ในการฝึกซ้อม รวมถึงค่าชุดสำหรับการแสดง การรายงานข่าวเรื่องอื้อฉาวของทางโรงเรียน โดย SBS News จากการรายงานข่าวของ SBS News นักเรียนที่โดนบังคับให้แสดงงานส่วนตัวของผู้อำนวยการ ที่จัดทั้งงานเลี้ยงอาหารเย็น, คืนสู่เหย้า…
-
เด็กน้อยแสนซนเอาตัวไปติดใน ‘ของเล่น’ เดือดร้อนตำรวจต้องมาช่วยเอาออก เอ็นดูน้องจริมๆ!!
ว่ากันว่าเด็กซนคือเด็กฉลาด แต่ว่าบางทีหากซนจนเกินไปก็อาจจะหาอะไรพิเรนทร์ๆ เล่น แล้วด้วยความไม่รู้ตามประสาเด็กๆ อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนกับในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ เมื่อหนูน้อยสุดน่ารักคนหนึ่งดันเอาตัวเข้าไปติดกับของเล่นซะอย่างนั้น ทางด้านแม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงต้องโทรหาตำรวจให้มาช่วยเอาของเล่นออกให้ จนกลายเป็นเรื่องขำๆ บนโลกอินเทอร์เน็ตไปโดยปริยาย ดูหน้าน้องซะก่อน ฮ่าๆ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับสายแจ้งเหตุว่ามีเด็กติดอยู่ใน ‘ของเล่น’ สำหรับเด็กๆ ที่เอาไว้เรียนรู้เรื่องรูปทรงต่างๆ เจ้าหน้าที่จึงไปบ้านที่มีสายแจ้งเข้ามาแล้วก็พบตัวเข้ากับ Luca หนูน้อยวัย 20 เดือนติดอยู่ในของเล่นจริงๆ อย่างที่ได้รับแจ้ง “มันเป็นอะไรที่ดูตลกจริงๆ นะเรื่องนี้เนี่ย เขาเข้าไปได้แต่ว่าออกมาไม่ได้ซะอย่างงั้น” Soona Choe คุณแม่ของน้องกล่าว ในที่สุดแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจว่า ต้องพังกล่องของเล่นเพื่อเอาตัวน้อง Luca ออกมาเนื่องจากว่ากล่องของเล่นถูกออกแบบมาแบบไม่มีที่ขันน็อตเข้า-ออกนั่นเอง และสุดท้ายพวกเขาก็สามารถช่วยน้องออกมาได้อย่างปลอดภัย ซนจริงๆ เลยนะเราเนี่ย หลังจากผ่านอุบัติเหตุครั้งนี้มาได้คุณแม่ได้ขอถ่ายรูปคุณตำรวจคู่กับหนูน้อยคนนี้เอาไว้เป็นที่ระลึก เพราะคุณแม่บอกว่าจะเอารูปนี้เก็บไว้ให้เขาดูตอนที่โตแล้ว ว่าในตอนเด็กๆ เขาซนได้ถึงขนาดไหนกัน ทางด้านชาวเน็ตเมื่อได้เห็นถึงปฏิกิริยาและหน้าตาอันไร้เดียงสาของหนูน้อยคนนี้ ก็พากันขำกันเป็นการใหญ่ พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยที่สามารถช่วยเหลือเขาออกมาจากกล่องของเล่นได้อย่างปลอดภัย เด็กคนนี้จะต้องชอบรูปนี้แน่ๆ เมื่อเขาโตขึ้นน่ะ น่ารักมากจริงๆ…
-
เรื่องราวของ ‘แพทย์หญิงผู้ไร้ขา’ อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้คนในชนบทมานานกว่า 17ปี!!
บางครั้งเรื่องของ ‘โชคชะตา’ ก็อาจจะเป็นอะไรที่ไม่แน่ไม่นอน คนทำดีอาจจะถูกโชคชะตาเล่นตลกก็มีให้เห็นกันถมไป เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้… ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับคุณหมอหญิง หลี่ จวี๋หง วัย 37 ปี ที่อุทิศตัวเองทำงานอยู่ในหมู่บ้านชนบทของเมืองฉงชิ่ง มาตลอด 17 ปี แม้ว่าร่างกายของเธอจะไม่สมบูรณ์เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม คุณหมอหลี่ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไปตั้งแต่อายุ 4 ขวบจากอุบัติเหตุรถบรรทุกชน แม้โชคชะตาชีวิตจะนำพาเรื่องร้ายๆ มาให้เธอ แต่เธอก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนจบมาและกลายเป็นหมอได้ในที่สุด เธอตั้งใจเอาไว้ว่า ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่เธอจะทำความดีให้ความช่วยเหลือกับผู้คนที่อยู่ห่างไกลความเจริญด้วยความรู้ทางการแพทย์ที่เธอมี และคุณหมอหลี่ก็ทำแบบนั้นมาตลอด 17 ปี รักษาคนไข้ไปแล้วกว่า 6,000 เคส ซึ่งในระหว่างนั้นเธอต้องใช้เก้าอี้ 2 ตัวแทนไม้ค้ำยันเพื่อเดินทางไปไหนมาไหนตลอดเวลา “17 ปีมานี้ ฉันเดินจนเก้าอี้พังไปทั้งหมด 24 ตัวแล้วล่ะ” คุณหมอหลี่กล่าว แม้ว่าความดีที่เธอสั่งสมมาโดยตลอด 17 ปี สุดท้ายแล้วโชคชะตาก็ดันเล่นตลกกับเธออีกครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาคุณหมอหลี่ ได้รับการวินิจฉัยว่า ‘ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง’…
-
ตั้งเป้าดีมีชัยไปกว่าครึ่ง! เผย 21 ภารกิจที่เว็บนอกแนะนำให้ไปลองสักครั้งก่อนอายุ 35
เราเชื่อว่าทุกคนต่างก็มีเป้าหมายในชีวิตที่อยากจะทำให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป้าหมายเล็กๆ ที่ทำให้เป็นจริงได้ในทุกๆวัน หรือจะเป็นเป้าหมายใหญ่ที่ต้องใช้เวลากว่าจะเดินทางไปถึง ถ้าหากใครยังไม่มีเป้าหมายว่าวันนี้อยากจะทำอะไร เราจะชวนคุณมาดูลิสต์ภารกิจดีๆ ที่อยากให้คุณได้ลองทำก่อนอายุ 35 จัดลำดับโดยเว็บไซต์ Brightside ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปเริ่มกันเลยยย!! 1. นอนดูดาวในวันฟ้าเปิด 2. ไปเยือน 7 ทวีปทั่วโลก โดยเฉพาะทวีปแอนตาร์กติกา https://www.instagram.com/p/BsZ4Oy9HcWn/?utm_source=ig_embed 3. ปรับปรุงบ้าน https://www.instagram.com/p/BsGSKmWFnjZ/?utm_source=ig_embed 4. งดเล่นมือถือ 1 อาทิตย์ 5. ลองทำเรื่องตลกๆ สร้างสีสันในชีวิต https://www.instagram.com/p/Bs1Dd5fndi9/?utm_source=ig_embed 6. วิ่งมาราธอน 7. ไปคอนเสิร์ตศิลปินที่ชื่นชอบ https://www.instagram.com/p/BsW65GrgAgj/?utm_source=ig_embed 8. แบ่งอาหารให้คนไร้บ้าน 9. เฉลิมฉลองให้กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บ้าง 10. เลี้ยงสัตว์ที่ถูกทิ้ง …
-
สุดซึ้งใจ คลิปวิดีโอคุณพ่อหูหนวก สื่อสารกับลูกที่เกิดมาพิการเหมือนกันด้วยภาษามือ
ถ้าหากคนเราเลือกเกิดได้ เราคงเลือกที่จะเกิดมามีอวัยวะครบ 32 ประการ เพื่อจะดำรงชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้โดยไม่ลำบาก แต่ในความเป็นจริงนั้น เราไม่สามรถกำหนดทุกอย่างในชีวิตได้ เหมือนเรื่องราวของหนูน้อย Arrow คนนี้ที่คลอดก่อนกำหนดด้วยวัยเพียง 25 สัปดาห์ ด้วยน้ำหนัก 1.15 ปอนด์ (0.8 กิโลกรัม) ทำให้หนูน้อยคนนี้ต้องอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาล เพื่อเฝ้าดูการเจริญเติบโตของเธอ ที่โชคร้ายไปกว่านั้นคือ ทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่า หนูน้อย Arrow พิการทางการได้ยิน แต่อย่างไรก็ตามถือว่าเธอยังโชคดีที่มีครอบครัวที่ใช้ภาษามือ (American Sign Language) ในการสื่อสาร https://www.instagram.com/p/Br_kL18hdR4/ ซึ่งคุณพ่อของหนูน้อยคนนี้ก็เป็นผู้พิการทางการได้ยิน และเขาก็เริ่มฝึกให้ลูกสาวเรียนรู้ภาษามือ โดยทางครอบครัวได้โพสต์วิดิโอสุดน่ารักของคุณพ่อ ที่พยายามสื่อสารกับคนเป็นลูกในความเงียบ แม้วิดิโอดังกล่าวจะไม่มีแม้แต่เสียงของทั้งคู่เล็ดลอดออกมา แต่ผู้ชมก็รู้สึกได้ถึงความรัก ความห่วงใยของคุณพ่อที่มีให้แก่ลูกตัวน้อย ซึ่งหนูน้อย Arrow ได้จ้องมองพอของเขา ยามที่พ่อส่งสัญญาณบอกรักเธอ https://www.instagram.com/p/BspZ0H-A9ub/ เรื่องราวสุดประทับใจดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว โดยมีคนดูวิดิโอของพ่อลูกคู่นี้หลายพันครั้ง ซึ่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนนึงได้แปลภาษามือที่คุณพ่อคุยกับลูกสาวออกมาเป็นคำพูดว่า “นี่พ่อเอง พ่อของลูกไง ลูกสาวคนสวย ตาสีเขียวของพ่อ…
-
จากหนุ่มขี้โรค ผอมแห้งจนเห็นกระดูก ใช้เวลา 8 เดือนกลายเป็นนักยกน้ำหนักกล้ามแน่น!!
‘ความสำเร็จ มักจะมาอยู่ในมือของผู้ที่ไม่หมดความพยายาม’ นี่คือเรื่องราวของ Manny Singh Tura วัย 27 ปี ที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายที่มีชื่อว่า Crohn’s ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ ทำให้เกิดการระคายเคืองและทางเดินอาหารบวม จัดอยู่ในกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับลำไส้อักเสบเรื้อรัง ทำให้เขามีร่างกายที่ผ่ายผอม จนเห็นรอยกระดูกตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนที่เขาจะป่วยเป็นโรคนี้เขามีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม แต่พอป่วยปุ๊บ น้ำหนักก็ลดฮวบจนเหลือแค่ 29 กิโลกรัมเท่านั้น!! จากโรคที่เขาเป็นส่งผลให้ลำไส้เสียหาย นาย Manny ต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง และสวมใส่ถุงไอลีออสโตมี เพื่อระบายของเสียออกมาอยู่ตลอดเวลา และเมื่อถอดเจ้าถุงนั้นออก คุณหมอก็บอกกับเขาว่า ถ้ายังไม่อยากพ่ายแพ้ให้กับโรคนี้ เขาต้องหาทางเพิ่มน้ำหนักของตัวเองให้ได้ Manny จึงตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องต่อสู้และเอาชนะมันให้ได้ จากที่ผอมจนเห็นหนังหุ้มกระดูก เขาตัดสินใจที่จะเพิ่มน้ำหนักของตัวเอง และกลายเป็นนักยกน้ำหนักให้ได้!! วันเวลาผ่านไป 8 เดือน Manny กลับมาดูแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง และที่พิเศษก็คือเขาเข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนัก และได้รับรางวัลชนะเลิศ พร้อมทั้งทำลายสถิติของแคว้นที่ตัวเองอยู่อีกด้วย!! “มันดูแย่มากที่ได้เห็นสภาพร่างกายของตัวเองหลังจากหายป่วย ผมไม่เคยผอมขนาดนี้มาก่อนเลย”…
-
เมื่อเฮีย Gordon Ramsey โพสต์ภาพสเต็กเนื้อสุดเพอร์เฟกต์ แต่ชาวเน็ตแซวว่ามันดิบชัดๆ!!
สำหรับหลายๆ คนแล้ว ภาพของ Gordon Ramsey ที่ติดอยู่ในหัวคงจะเป็นเชฟคนหนึ่งที่มีสกิลในการ ‘ด่าผู้เข้าแข่งขัน’ ในรายการต่างๆ ได้อย่างเจ็บแสบเหลือเกิน!! ทั้งคำพูดที่หยาบคายจนแสนบรรยาย โดยเฉพาะการเปรียบเทียบให้ผู้เข้าแข่งขันหญิงคนหนึ่งกลายเป็น ‘แซนด์วิชโง่ๆ’ แต่ล่าสุดดูเหมือนกับว่าพี่แกจะโดนบรรดาชาวเน็ตเอาคืนบ้างแล้ว จากโพสต์ในทวิตเตอร์ของเฮีย Gordon ที่ได้ทำการโพสต์ภาพสเต็ก Chateaubriand สุดหรู พร้อมกับแคปชั่นว่า “นี่คือ Chateaubriand ที่ยอดเยี่ยมที่สุด!!” หลายๆ คนอาจจะไม่เข้าใจว่า Chateaubriand นั้นคืออะไร มันเป็นเนื้อส่วนตรงกลางของเนื้อสันในที่หาได้ยากมากๆ ในวัว 1 ตัว เรียกได้ว่าเป็นเนื้อระดับท็อปที่มีราคาแพงมากๆ เลยทีเดียว กลับมาที่ภาพเนื้อ Chateaubriand สเต็กของเฮีย Gordon อีกรอบครับ ทีนี้ชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็มองว่า ไอ้เนื้อที่เฮียบอกว่ามันยอดเยี่ยมน่ะ มันยังไม่สุกเลยนะเฟร้ย!! มันยังดิบอยู่เลยอ่ะจารย์!! นี่ถ้าคุณโทรหาสัตวแพทย์นะ พวกเขาอาจจะทำให้มันกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่งได้เลย เนื้อมันยังหายใจได้อยู่เลย รีบทำอาหารจานนี้ให้เสร็จซะ ผมยังได้ยินมันร้อง มออออ…
-
คุณแม่งง…ใช้ ‘พาสปอร์ต’ ของลูกสาว เดินทางข้ามประเทศ โดยไม่โดน ตม. จับได้!?
อย่างที่รู้กันดีว่าการเข้าออกประเทศต่างๆ นั้น เราจำเป็นจะต้องมี ‘พาสปอร์ต’ หรือหนังสือเดินทาง ที่เป็นของตัวเอง หากไม่มีล่ะก็อย่าหวังว่าจะได้เดินทางออกจากประเทศกันเลยทีเดียว!! แต่สำหรับคุณแม่กลับเป็นข้อยกเว้น Anita Turner วัย 58 ปี ใช้หนังสือเดินทางของ Rebecca Turner ลูกสาววัย 30 ปี ของตัวเอง เดินทางข้ามด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศเบลเยียม โดยที่ไม่ถูกจับได้เลย หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมเจ้าหน้าที่ในด่านตรวจคนเข้าเมืองของเบลเยียมถึงทำงานกันหละหลวมถึงขนาดนั้น? ลองไปชมภาพของสองแม่ลูกดูครับ ผ่าม!! เหมือนกันเด๊ะ คุณแม่ Anita เล่าว่าในครั้งแรกเธอเดินทางไปกับเพื่อนๆ 5 คนด้วยกัน และเพิ่งมารู้ตัวตอนอยู่ที่ท่าเรือ Port of Denver ในเมือง Kent ประเทศอังกฤษ ว่าเธอหยิบหนังสือเดินทางมาผิดเล่ม ซึ่งมันเป็นของลูกสาวเธอ แต่เธอตัดสินใจที่จะไม่ยอมกลับไปเอามาเพราะกลัวว่าจะขึ้นเรือไม่ทัน เลยเดินทางออกนอกประเทศไปด้วยพาสปอร์ตนั้น และปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เองก็ไม่สามารถจับได้!? จนกระทั่งเดินทางไปถึง Adinkerke ในประเทศเบลเยียม เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองก็จับไม่ได้อีก จนเดินทางกลับมาที่ท่าเรือ Port of…
-
คุณลุงวัย 65 ปี เผยวิธีการรับมือภาวะซึมเศร้า มี “จระเข้เพื่อนรัก” เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวหัวใจ
ในวันที่เป็นเหมือนจุดตกต่ำที่สุดในชีวิต มนุษย์แต่ละคนย่อมต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวหรือเป็นที่พึ่งพาทางใจ ซึ่งแต่ละคนก็ย่อมมีสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเป็นสิ่งของ บางคนอาจจะเป็นครอบครัว หรือสัตว์เลี้ยง เช่นเดียวกับ Joie Henney ชายจากเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกาวัย 65 ปีคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันนี้ เขาเผยว่าเขามี “จระเข้” เป็นที่พึ่งทางใจ ทำให้เขารับมือและต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าได้ โดยนาย Henney ได้เผยประสบการณ์ที่ต้องสูญเสียเพื่อนสนิท 3 คนไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้เราทุกข์ใจและประสบกับภาวะซึมเศร้า ซึ่งเขาต้องเผชิญกับมันอย่างยากลำบาก จนกระทั่งได้เจอกับเจ้า Wally ลูกจระเข้วัย 14 ปีที่ถูกช่วยเหลือจากเมืองออร์แลนโดและเขาก็รู้สึกอารมณ์และความรู้สึกของตัวเขาเองจะดีขึ้นเสมอเวลาที่อยู่กับเจ้า Wally เขาจึงนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับแพทย์ผู้ที่ดูแลอาการของเขา และก็ได้รับอนุญาตให้สามารถเลี้ยงเจ้า Wally ได้ “ผมมีเจ้า Wally และเมื่อใดก็ตามที่ผมกลับมาบ้านและอยู่ด้วยกันกับมันทุกอย่างมันจะโอเค คุณหมอก็รู้เกี่ยวกับ Wally เหมือนกัน ดังนั้นทำไมผมจะเลี้ยงมันไม่ได้ล่ะ?” Henney กล่าว ปกติแล้ว Henney จะใช้เวลาขณะอยู่บ้านด้วยกันกับเจ้า Wally ไม่ว่าจะเป็นการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันประจำหรือพาไปห้องนั่งเล่นและดูทีวีด้วยกัน…
-
สตรีมเมอร์เผลอหลับขณะไลฟ์ แต่กลายเป็นว่าแฟนคลับถูกใจ แห่เข้ามาชมพร้อมเปย์ตังค์
มันดีจะขนาดไหนกันนะ หากเพื่อนๆ นอนอยู่เฉยๆ ที่บ้าน แต่ก็มีเงินโอนเข้ามาให้เรื่อยๆ ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับ #เหมียวโคบี้ แล้วล่ะก็ จะไม่ขออะไรมากมายไปกว่านี้อีกแล้ว ที่พูดมาดูเหมือนจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ แล้วกับสตรีมเมอร์นามว่า Jesse เมื่อนเขาเผลอหลับไปขณะที่กำลังสตรีมมิ่งอยู่ แต่การเผลอหลับครั้งนั้นดันถูกใจผู้ที่ติดตามอยู่ยิ่งนัก โดยก่อนหน้านี้ Jesse เป็นสตรีมเมอร์ที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงสักเท่าไหร่ ช่องของเขามีผู้ติดตามไม่ถึง 1,000 คนด้วยซ้ำไป แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2019 เขาดันเผลอหลับกลางไลฟ์ ซึ่งแทนที่คนที่ดูเขาสตรีมอยู่นั้นจะปิดช่องของเขาไป กลับมีคนเข้ามาดูเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังบริจาคเงินให้เขาเสียด้วย!! คร่อกกกกกก หลังจากนั้นชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์กันอย่างมากมาย “ดูเงินที่เขาได้รับดิ มากกว่าฉันทั้งชีวิตอีก”, “ตำนาน” Jesse ยังคงหลับต่อไป “ฉันอยากมีผู้ติดตามสัก 53 คน จากการงีบหลับมั่งจัง” “ถ้านี่มีสคริปต์นะ พระเจ้าก็ต้องให้รางวัลออสการ์แก่เขาละ” “นี่เขาแกล้งหลับป่ะเนี่ย?” “ในวันพีคๆ ของฉันยังได้ผู้ชมเกือบไม่ถึง 3 คนและดูตำนานคนนี้สิ” “เฮ้ย ตื่น…
-
สาวไม่อยากทำ AirPods หาย เลยทำเป็นตุ้มหูเก๋ๆ แถมขายได้อีกต่างหาก
ถ้าใครมีหูฟัง AirPods ใช้เป็นของตัวเอง คงเข้าใจความรู้สึกกลัวว่าจะทำมันหายได้ตลอด เพราะขนาดของมัน และด้วยความที่มันไร้สายเนี่ยแหละ… แต่ไม่ต้องห่วง เมื่อสาวรายนึงชื่อ Gabrielle Reilly จากรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา ด้วยการนำ AirPods มาทำเป็นตุ้มหู งานนี้ชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมถึงความคิดสร้างสรรค์ของเธอ ที่สำคัญเธอทำมันขายได้ด้วย! โดยสาวรายนี้ใช้บัญชีอินสตาแกรม @deadanimemom ในการขายที่ห้อยตุ้มหู AirPods ในราคา 20 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 628.95 บาท Gabrielle Reilly เจ้าของไอเดียสุดเจ๋งนี้ “ฉันอยากจะออกแบบตุ้มหูให้สามารถทั้งสวม และถอด AirPods ได้ด้วย โดยฉันประกอบมันเข้าด้วยกันกับโซ่เส้นเล็กๆ ซึ่งใช้เวลาประมาณชั่วโมงหนึ่ง เพราะต้องทำชิ้นต่อชิ้น” Gabrielle Reilly บอก ตุ้มหูของเธอสามารถใส่และถอด AirPods ออกได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่ามันจะติดแน่นตลอด เธอให้เหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้คิดไอเดียนี้ขึ้นมา เพราะเมื่อก่อนแมวของเธอ ชอบกัดสายหูฟังขาดจนพังไปหลายคู่แล้ว หรือเอาคาบไปซ่อนบ้าง ถึงแม้รอบนี้เจ้าแมวจะพังสายหูฟังไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ยอมให้หูฟังหายแน่นอน… เมื่อชาวเน็ตเห็นสินค้าดังกล่าวก็เข้ามาคอมเมนต์มากมายเช่น นี่เรากำลังอยู่ในปี 2019 แต่เธอคนนี้ไปไกลถึงปี 3920 แล้ว เธอมาจากปี…
-
คุณแม่พาลูกชายตาบอด มาดูบอลในสนามแข่ง พร้อมอธิบายให้ฟังตลอดทั้งเกม
กลายเป็นข่าวดังที่ต่างประเทศ เมื่อคุณแม่ชาวบราซิล ชื่อว่า Silvia Grecco วัย 56 ปี และ Nickollas ลูกชายอายุ 12 ขวบ ที่ต่างชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล ทั้งสองคนได้สร้างความประทับใจให้คนบราซิล และชาวเน็ต แม่ลูกคู่นี้ มาสนามกีฬาเพื่อดูการแข่งขันทีมโปรดของพวกเขา อย่าง Palmerias ที่ เมืองเซาเปาลู ประเทศบราซิล คุณแม่คนนี้ ได้ช่วยบรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม ให้ลูกชายเห็นภาพตามตลอดการแข่งขัน เพราะลูกชายของเธอนั้น ตามองไม่เห็น และเป็นโรคออทิซึม ทั้งคู่ได้กลายเป็นที่โด่งดังหลังจากทางสนามกีฬา ได้จับมุมกล้องไปที่พวกเขา และภาพเหล่านั้นก็ได้ลงสู่โลกโซเขียล สร้างความประทับใจให้ทั้งกับผู้พบเห็น และคนบนโลกออนไลน์… คุณแม่พยายามอธิบายให้ลูกชายฟัง โดยทั้งคู่ได้ใส่เสื้อสีเขียว ทีมโปรดของพวกเขา คุณแม่ได้บอกกับสื่อว่า “ฉันก็อธิบายรายละเอียดต่างๆ ของนักฟุตบอลค่ะ เช่น ผู้เล่นคนนี้ใส่เสื้อแขนสั้นนะ หรือเขาใส่ร้องเท้าเตะสีอะไร ผมของเขาเป็นทรงไหน หรือลูกก็จะได้ยินฉันบ่นกรรมการตัดสินด้วยค่ะ” “การบรรยายของฉันไม่ได้ดีเท่ามืออาชีพหรอกค่ะ ฉันใช้ความรู้สึกล้วนๆ ในการอธิบายให้ลูกฟัง” คุณแม่ และลูกระหว่างเดินทางไปดูทีมโปรด คุณแม่ Silvia Grecco กับ Nickollas เคยได้ออกรายการทีวีของบราซิล อีกทั้งยังเคยได้เข้าไปดูการฝึกซ้อมของทีม Palmeiras ด้วย! ตัวคุณแม่เองนั้นเป็นแฟนพันธุ์แท้ของทีมนี้ และลูกชายของเธอก็ชอบทีมนี้ เพราะเขาชื่นชอบนักเตะชื่อดังของ บราซิล อย่าง Neymar ตั้งแต่ตอนที่เขายังค้าแข้งให้กับทีมบาเซโลนา…
-
Etude X Kitkat การฟีเจอริ่งครั้งยิ่งใหญ่ สะเทือนทั้งวงการขนมหวานและเครื่องสำอาง
ว่ากันว่าผู้หญิงกับเครื่องสำอางเป็นของคู่กัน เพราะจะออกไปไหนแต่ละที สาวๆ ก็ต้องแต่งหน้า เสริมสวย เพิ่มความมั่นใจกันหน่อย ดังนั้นผู้หญิงแบบเราๆ ก็มักจะเสียเงินค่าเครื่องสำอางเยอะเป็นพิเศษ แบบว่า ของมันต้องมีอ่ะนะ อีกหนึ่งสิ่งที่เหล่าสตรีทั้งหลายขาดกันไปไม่ได้เลยก็คือ ขนมหวาน อาหารเพิ่มน้ำตาลให้กับร่างกายที่สาวๆ โปรดปรานกันมาก ซึ่งอันนี้ก็หมดไปกันเยอะกับคำว่า “ของมันต้องกินค่ะคุณ” ซึ่งถ้าให้เลือกระหว่างเครื่องสำอาง กับขนมหวาน สาวๆ หลายคนคงลังเล ไม่รู้ว่าจะเลือกอันไหน มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเครื่องสำอางกับขนมหวานมารวมกันได้ เหมือนการร่วมมือกันของสองแบรนด์นี้นั่นคือ Etude แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีขวัญใจวัยรุ่น และแบรนด์ขนมหวานสุดโปรดอย่าง Kitkat Etude X Kitkat ได้เปิดตัวอายแชโดว์รุ่นใหม่สีสันสดใสเอาใจสาวๆ ที่รักการแต่งหน้าและชื่นชอบขนมหวาน โดยอายแชโดว์รุ่นดังกล่าวมาเป็นพาเลทท์ 2 แบบ 2 รสชาติยอดนิยมจาก Kitkat ซึ่งได้แก่ โทนสีช็อคโกแลตและโทนสีไวท์ช็อกโกแลตสตรอว์เบอรี่ มาดูกันว่า Etude X Kitkat คอลเลคชั่นนี้จะน่ากิน เอ้ย! น่าตามไปตำขนาดไหน ตามเรามาเลย! พาเลทท์โทนช็อคโกแลต น่ากินนนน เป็นโทนที่ใช้ได้ในทุกๆ วัน อยู่บ้านเฉยๆ…
-
ไอ้หนุ่มไวรัลเผย ไม่ได้หาแฟนได้เพราะความฮาอย่างเดียว แต่มี ‘ชาไข่มุก’ เป็นตัวช่วย!!
นอกจากความอารมณ์ขันของหนุ่มไวรัลนามว่า Timstar ที่โพสต์คลิปสุดฮาจนสามารถคว้าใจสาวคนหนึ่งมาเป็นแฟนได้แล้ว เชื่อหรือไม่ว่าเขายังมีตัวช่วยอื่นๆ อีกในการมัดใจสาวคนนี้ และสิ่งที่ว่านั้นก็คือ ‘ชาไข่มุก’ นั่นเอง เผื่อว่าใครยังไม่รู้จักกับเขาคนนี้ ไปทำความรู้จักเบื้องต้นได้ที่ >> หนุ่มโพสต์คลิป ‘ตามหาสาวข้างกาย’ สุดฮา ไม่น่าเชื่อว่าสุดท้ายก็ได้แฟนสุดน่ารัก!! คลิปที่กลายเป็นไวรัลบนอินเทอร์เน็ตเมื่อช่วงก่อน โดยในเรื่องนี้เขาได้เผยในโพสต์ล่าสุด ซึ่งระบุว่าที่เขาสามารถคว้าใจของสาว Sijia Wang มาครอบครองได้นั้นส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตไปที่ชาไข่มุกด้วย “ที่ผมได้ครองรักกับแฟนสาวคนนี้ไม่ใช่เพียงเพราะด้วยวิดีโอตามหาแฟนของผมอย่างเดียวหรอกนะ แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรามาอยู่ด้วยกันและอยู่กันได้นานขนาดนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอชอบชาไข่มุกแบบหวานน้อยน้ำแข็งน้อย เหมือนผมนี่แหละ” Timstar เขียนไว้ดังนี้ โพสต์ที่ว่านี้ เท่านั้นยังไม่พอพ่อหนุ่มคนนี้ยังบอกอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาชอบในตัวของผู้หญิงคนนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่ารูปร่างหน้าตาของเธอมันดูเหมือนกับชาไข่มุกยังไงยังงั้นเลยทีเดียว “จริงๆ นะเธอรูปลักษณ์ของเธอเหมือนกับชาไข่มุกที่ผมชอบเลย” Timstar บรรยายเพิ่ม และการเข้ามาของผู้หญิงคนนี้ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อก่อนเขาจะมีสโลแกนประจำตัวว่า “No Chest, No Sex” (ไม่มีอก ไม่มีเซ็กส์) แต่เดี๋ยวนี้เขาบอกว่าคำประจำตัวนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว เป็น “No Boba Tea, No Sex.” (ไม่มีชาไข่มุก ไม่มีเซ็กส์) แทนซะอย่างงั้น …
-
ชายไอริชเดินเข้าร้านจิวเวลรี่ กลืน ‘แหวนเพชร’ มูลค่า 1.2 ล้าน อ้างเคลิ้มจัดจนคุมตัวเองไม่อยู่!!
บางครั้งคนเราก็อาจมีอาการหลง อาการเคลิ้มได้แบบที่เราไม่รู้ตัว เหมือนกับชายชาวไอริชคนหนึ่งที่กลืนแหวนเพชรมูลค่าแพงระยับลงไป แต่พอต่อมาเขาก็อ้างว่าที่ทำลงไปทำด้วยความไม่รู้ตัว จากความเคลิบเคลิ้มเมื่อเห็นความงามของแหวน!? Ian Campbell ชายวัย 54 ปีถูกจับกุมตัวระหว่างทริปการไปเที่ยวรีสอร์ทริมทะเลแห่งหนึ่งในชายฝั่งประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา ในครั้งนั้นเขาแวะเข้าไปในร้านจิวเวลรี่แห่งหนึ่งในท้องถิ่น จากนั้นก็กลืนแหวนเพชรมูลค่า 40,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 1.2 ล้านบาท) เข้าไปอย่างหน้าตาเฉย ทางร้านจิวเวลรี่เมื่อเห็นดังนั้นจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในทันที แล้วทางเจ้าหน้าที่ก็พาตัวเขาไปยังโรงพยาบาลด้วยความพยายามว่าจะนำแหวนเพชรวงนั้นออกมาให้ได้ ทางโรงพยาบาลได้เลือกวิธีการให้เขากินยาถ่ายเพื่อขับมันออกมา แต่จนแล้วจนรอดเจ้าแหวนเพชรเจ้าปัญหานี้ก็ไม่สามารถออกมาได้สักที แม้ว่าจะใช้เวลากว่า 36 ชั่วโมงก็ตาม ในที่สุดแล้วทางโรงพยาบาลจึงจำต้องใช้วิธีผ่าตัดนำแหวนออกมา ซึ่งทั้งนี้ก็ได้รับการยินยอมจากเจ้าตัวเป็นที่เรียบร้อย นาย Ian ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ถึงวินาทีที่กลืนแหวนเพชรวงนี้ลงไป โดยเขาบอกว่าเขารู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวเองทันทีในวินาทีที่เจอกับแหวนเพชรวงนี้… “ผมตกอยู่ในภวังค์ทันทีที่เห็นแหวนเพชรวงนี้ ตอนนั้นคนขายบอกอะไรกับผมสักอย่างแต่ผมก็ไม่ได้ยิน ผมคิดว่าผมต้องมนต์อยู่นะตอนนั้น กว่าจะรู้ตัวอีกทีผมพบว่าตัวเองมีแหวนเพชรวงนี้อยู่ในกระเป๋าแล้วกลืนมันไปซะอย่างงั้น” Ian กล่าว วินาทีที่เขากลืนแหวนลงไป ทว่านอกจากนี้เขายังอธิบายด้วยว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามีอาการเป็นเช่นนี้น่าจะมาจากการสูญเสียภรรยาของเขา เพราะในตอนนั้นเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต และแหวนแต่งงานของเธอก็หายไปด้วย ในตอนที่เขาเห็นแหวนครั้งนั้นเขาจึงรู้สึกว่า อย่างไรก็จะต้องนำมันมาครอบครองให้ได้……
-
คุณพ่อสู้สุดใจเห็นลูกชายถูกจระเข้งับอยู่ เลย “กัดขาจระเข้” ให้มันปล่อย แล้วก็ได้ผลจริงๆ!!
สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่แล้ว มันคงเป็นเรื่องอะไรที่ยอมไม่ได้จริงๆ ถ้าหากเห็นว่าลูกของตนตกอยู่ในอันตราย ซึ่งก็แน่นอนว่าถ้าหากมีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อช่วยลูกๆ ให้ปลอดภัย พวกเขาย่อมทำโดยไม่ลังเล และในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ก็เช่นเดียวกัน เพราะคุณพ่อคนหนึ่งลงทุนใช้ปากกัด ‘จระเข้’ เพื่อที่จะให้มันอ้าปากปล่อยลูกชายที่กำลังโดนงับอยู่ แล้วในที่สุดมันก็ได้ผลจริงๆ!! เรื่องนี้มีอยู่ว่า Diego Abulhasan เด็กชายชาวฟิลิปปินส์วัย 12 ขวบกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่กับพี่ๆ น้องๆ ในแม่น้ำสายหนึ่งใกล้ๆ กับบ้านของเขาที่ตั้งอยู่ในเขตเกาะ Palawan ประเทศฟิลิปปินส์ แต่แล้วก็มีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อมีจระเข้ตัวหนึ่งเข้ามาจู่โจมเด็กชายคนนี้ พร้อมๆ กับพยายามลากเขาลงไปใต้น้ำ คนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ดึงร้องโหวกเหวกขอความช่วยเหลือ ในทันใดนั้นเองคุณพ่อชื่อว่า Tejada Abulhasan ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งไปตามเสียงพร้อมๆ กับคว้าท่อนไม้ติดมือไปด้วย เขารีบกระโจนลงน้ำในทันทีแล้วพยายามใช้ไม้ในมือตีจระเข้ตัวนั้น พร้อมๆ กับการใช้มือต่อย หวังให้เจ้าจระเข้อ้าปากปล่อยลูกชายของเขาให้ได้ แต่ดูเหมือนวิธีการนี้จะใช้ไม่ได้ผล นาย Tejada จึงต้องหาวิธีใหม่ในการช่วยลูก แล้วก็ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาคิดถึง ‘การกัด’ ขึ้นมา เขาจึงได้ลงมือคว้าขาของเจ้าจระเข้แล้วจัดการฝังเขี้ยวลงไปอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปรากฏว่ามันได้ผล!! เจ้าจระเข้ปล่อยเด็กชายคนนี้แล้วรีบว่ายหนีไปในทันที ทางคุณพ่อจึงรีบนำตัวลูกชายขึ้นมาจากน้ำแล้วส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ทางคุณพ่อบอกกับตำรวจว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาไม่มีความลังเลใจแม้แต่น้อยกับการกระโจนลงไปในแม่น้ำแล้วจัดการต่อสู้กับเจ้าจระเข้ “มันเหมือนกับว่ามีอะดรีนาลีนมากมายพรั่งพรูอยู่ในตัวผม ตอนนั้นผมไม่มีเวลาจะมาคิดแล้ว ผมตีจระเข้ไปหลายครั้งมากแต่มันก็ไม่ปล่อยลูกผมสักที…
-
ครูสาวโดนจับ เหตุส่งรูปโป๊ให้นักเรียน พร้อมชวนมาเล่นซ่อนหาแบบเปลือยด้วยกัน!?
เรื่องราวของคุณครูสาวรายหนึ่ง ที่ส่ง ‘ภาพโป๊’ ไปให้นักเรียนหนุ่ม พร้อมกับเชิญชวนมาเล่น ‘ซ่อนหา’ แบบเปลื้องผ้าด้วยกัน จนเป็นเหตุทำให้เธอต้องถูกจับกุมตัว!! เรื่องมีอยู่ว่า Kelsie Schmidt คุณครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ วัย 22 ปี ของโรงเรียนไฮสคูล Beulah ในรัฐนอร์ทดาโคตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการส่งรูปภาพโป๊ของตัวเองไปให้เด็กนักเรียนวัย 17 ปี ตามรายงานระบุเอาไว้ว่า ภาพที่เธอส่งไปทั้งหมดนั้นมีจำนวน 3-4 ภาพด้วยกัน หนึ่งในนั้นเป็นภาพโป๊เปลือยเผยให้เห็นร่างกายท่อนบนทั้งหมด และภาพอื่นๆ ก็เผยให้เห็นบริเวณต้นขา พร้อมกับข้อความว่า ‘ไปชวนเพื่อนๆ มาเล่นซ่อนหาแบบเปลื้องผ้าด้วยกันเถอะ’ จากหลักฐานที่มัดตัวขนาดนี้ ทำให้คุณครู Kelsie ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งถูกพักงานสอนในโรงเรียนไฮสคูล Beulah ไว้ก่อน ซึ่งทางโรงเรียนจะทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าความผิดของเธอนั้นมันหนักหนาสาหัสเพียงใด เพราะเธอเพิ่งจะมาทำงานได้ยังไม่ถึงปี อย่างไรก็ตามคุณครู Kelsie จะต้องมารับฟังคำพิพากษาความผิดในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562…
-
พนักงาน Sony ตีลูกกอล์ฟโดนหัวแคดดี้สาว เลยส่งชุดเครื่องเกม PS4 ให้เพื่อไถ่โทษ!!
บางครั้ง ‘โชค’ มันก็จะตกมาหล่นทับเราในวันที่ไม่คาดคิด… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่อยู่ก็ถูก ‘โชค’ พัดพาเข้าสู่ตัวเองอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน!? เรื่องมีอยู่ว่าหญิงสาวผู้ใช้งานเว็บไซต์ Reddit นามว่า shakasandchakras ได้ทำการโพสต์เล่าเหตุการณ์ตอนที่เธอไปทำงานเป็นแคดดี้ให้กับบรรดาพนักงานบริษัท Sony ที่ทำการจัดการแข่งขัน ‘ตีกอล์ฟ’ กันภายในบริษัท ขณะที่เธอกำลังเดินไปเข้าห้องน้ำอยู่นั้น จู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังหวดลูกกอล์ฟเสร็จ แล้วก็มีเสียงตะโกนตามมาว่า ‘ระวังหัว!!’ แล้วก็ผั๊วะ เข้าที่หน้าผากของเธอเต็มๆ!! กลุ่มพนักงาน Sony ต่างก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน แต่ขอบอกเลยว่าแผลที่หน้าผากที่โดนลูกกอล์ฟกระแทกนั้นเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก เพราะมันแตกจนเลือดสาดกันเลยทีเดียว ลองไปชมภาพกันสักหน่อยครับ (ภาพอาจดูน่ากลัวไปสักนิดนะครับ ต้องขออภัยด้วย ) ด้วยเหตุนี้เองพนักงานปริศนาผู้ไม่เปิดเผยตัวเองจากบริษัท Sony ก็ได้ทำการมอบของสมนาคุณ เพื่อเป็นการไถ่โทษให้กับเธอ เป็นชุดเครื่องเกม อุปกรณ์ และเกมต่างๆ มากมาย ประกอบไปด้วย PS4 Pro, ชุดหูฟังแบบไร้สาย, จอยแบบพิเศษ. และเกม Detroit:Become Human, Horizon Zero Dawn, Marvel’s…
-
หนุ่มใช้รถบังคับขุดชั้นใต้ดินในบ้าน พร้อมบันทึกขั้นตอนมาตลอด 14 ปี เผยเป็นกิจกรรมแก้เบื่อ
มีคำกล่าวคำหนึ่งว่า “ไปให้สุด ขุดให้ถึง” หมายความว่า เมื่อเริ่มต้นทำอะไร ก็ต้องสานต่อมันให้เสร็จ เช่นเดียวกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่ชายคนหนึ่ง ขุดดินในชั้นใต้ดินของบ้านเขาเองมาหลายปี แต่สิ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้กับพวกเรา… เขาใช้เพียงแค่รถบังคับเท่านั้น! ชื่อของเขา คือ Joe Murray โดยหนุ่มคนนี้เป็นเกษตรกรชาวแคนาดา ได้เริ่มคิดที่จะหาทางขุดดินของชั้นใต้ดิน ด้วยการใช้รถบังคับตัก ตั้งแต่ปี 2005! ตัวเขาเองได้บอกว่า “แค่งานอดิเรกที่ผมสนุกกับมันเฉยๆ ครับ ไม่มีอะไรมากเลย” เขาได้ถ่ายวิดีโอตลอดระยะเวลา 14 ปี ที่เขาขุดดิน และมียอดชมถึง 6.4 ล้านวิว บนยูทูบ! รถบังคับคู่ใจที่ไว้ใช้ขุดดิน Murray ได้บอกกับทาง News.com.au ว่า “ผมมีความสามารถพิเศษในการการกะระยะอย่างแม่นยำ ด้วยมือ และตาของผม อีกทั้งผมสามารถจินตนาการภาพในหัว ถึงผลลัพธ์หลายๆ แบบได้ ซึ่งมันช่วยลดข้อผิดพลาดได้เยอะเลยครับ” ลูกชายของ Murray โดยเจ้ารถตักดินของเล่นคันนี้ สามารถยกดินออกได้ราวๆ สามลูกบาศก์เมตรต่อปี เมื่อตอนปลายปี 2010 Murray ได้เคยทดลองเรียนรู้การใช้เครื่องมือขุดดินที่หนักราว 40 กิโลกรัม พร้อมกับตัวอัดไฮโดรลิคที่มีแรงอัดราว 400 ปอนด์ต่อตารางนิ้วมาแล้ว…
-
ศิลปินสาวสุดเจ๋ง เปลี่ยน ‘เหรียญ’ ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นผลงานศิลปะด้วยปลายพู่กัน!!
Bryanna ‘Bry” Marie คือชื่อของศิลปินสาวพรสวรรค์สูงคนหนึ่งแห่งรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และผลงานเด่นที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวของเธอไปเลยก็คือ การวาดภาพลงบน ‘เหรียญ’ ธรรมดาๆ… เธอกล่าวว่าการวาดภาพลงสี เป็นสิ่งที่เธอรักมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กๆ แล้ว แต่ว่าการวาดภาพลงบนเหรียญเช่นนี้ได้เข้ามาอยู่ในความคิดของเธอเมื่อประมาณสี่ปีก่อนหน้านี้ เนื่องมาจากว่าในตอนนั้นเธออยากจะหาอะไรมาชาเลนจ์ตัวเอง https://www.instagram.com/p/BtELlVEFJvQ/ เธอจึงได้ฝึกฝนการลงรายละเอียดบนพื้นที่เล็กๆ อย่างเช่นเหรียญเพนนี จนกลายออกมาเป็นงานที่ไม่เหมือนใครดั่งเช่นภาพที่เห็นอยู่เช่นนี้ ผลงานของเธอได้ออกสู่สายตาของชาวโลกผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค และครั้งหนึ่งก็เคยเป็นไวรัลที่มีผู้กดไลก์ใน Reddit กว่า 39,000 ครั้งเลยทีเดียว รวมทั้งยังทำให้อินสตาแกรมของเธอมีผู้ติดตามมากกว่าเดิมถึง 3 เท่าในช่วงเวลาเพียงไม่ถึงปีเท่านั้น… เนียนตาแบบสุดๆ https://www.instagram.com/p/BtBZJo_lOSO/ ส่วนเคล็ดลับในการวาดภาพของเธอ ที่แง้มเผยออกมาใบ้ให้นิดๆ เผื่อคนที่อยากจะทำตามบ้างก็คือให้ทำมือให้นิ่งที่สุดและเลือกใช้สีโทนสว่างนั่นเอง สำหรับใครที่อยากติดตามชมผลงานของเธอต่อล่ะก็ สามารถเข้าไปติดตามได้ใน IG: bry.marie.arts กันได้เลยนะ!! เหมือนภาพสามมิติยังไงยังงั้น https://www.instagram.com/p/BsgOrkEF5b2/ เหรียญเพนนีทีมีค่าขึ้นมากกว่าเดิม https://www.instagram.com/p/BsbVbFdlK5Y/ พื้นที่เล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยรายละเอียดต่างๆ มากมาย https://www.instagram.com/p/Br5SQKAFcC4/ ดูการลงสีแบบฟินๆ https://www.instagram.com/p/BpXb1QMD7ex/ น้องหมาก็มากับเขาด้วย https://www.instagram.com/p/BoJ1fMvjJm9/…
-
แพทย์ชาวเยอรมันถูกจับ หลังโรยโคเคนบนองคชาต ก่อนให้คู่รักออรอล จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
บนโลกใบนี้มีรสนิยมทางเพศอยู่หลายแบบ ซึ่งมนุษย์แต่ละคนก็ย่อมจะมีรสนิยมทางเพศไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบเซ็กส์แบบนุ่มนวล บางคนอาจจะชอบเซ็กส์แบบรุนแรงถึงลูกถึงคน แต่สำหรับชายที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้ ดูเหมือนว่ารสนิยมทางเพศของเขาจะแตกต่างไปเสียหน่อย เมื่อเขาโรยโคเคนลงบนอวัยวะเพศ ก่อนให้แฟนออรอล เป็นเหตุถึงแก่ความตายเพราะเสพยาเกินขนาด ชายคนดังกล่าวคือ Dr. Andreas David Niederbichler นายแพทย์วัย 43 ปี ที่เพิ่งถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย Yvonne M. คนรักวัย 38 ปีให้เสพยาจนเกินขนาด โดยก่อนเกิดเหตุคุณหมอ Niederbichler กำลังร่วมรักอยู่กับผู้ตาย ก่อนที่จะแอบนำโคเคนมาโรยที่องคชาต และให้ผู้ตายอมอวัยวะเพศของเขา โดยที่เธอไม่รู้ และเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นทันใด คู่รักของเขาเกิดอาการช็อก เขาจึงรีบนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลในเมือง Halberstadt ประเทศเยอรมนีทันที แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการ เธอเสียชีวิตหลังจากถึงโรงพยาบาลไม่นาน Yvonne M. ทางเพื่อนของ Yvonne M. ได้ให้ความกับศาลว่าทั้งคู่พบกันผ่านอินเตอร์เน็ต และแม้ว่า Yvonne จะมีสามีอยู่แล้ว แต่ก็ทิ้งสามีไปหา Dr. Niederbichler เพราะว่าเขาเป็นเหมือน Christian Grey ตัวเอกจาก Fifty Shades of…
-
ส่องความเห็นต่างชาติ เมื่อได้เห็นไทยฉีด “น้ำผสมน้ำตาล” เพื่อดักจับฝุ่น PM 2.5
เรียกได้ว่าขณะนี้ในหลายๆ พื้นที่ของประเทศไทยนั้นต้องเผชิญกับวิกฤตฝุ่นละออกขนาดเล็ก PM 2.5 ทางรัฐบาลและภาคเอกชนจึงต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 มกราคม 2019) ทางรัฐและภาคเอกชน ก็ใช้วิธีใหม่ในการลดค่าฝุ่นละออง โดยการใช้โดรนพ่นน้ำผสมการน้ำตาลเพื่อเพิ่มความหนืดดักจับฝุ่น ทางรศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมากล่าวถึงวิธีดังกล่าวว่าการฉีดน้ำผสมน้ำตาลอาจได้ผลไม่ต่างจากน้ำธรรมดา เนื่องจากละอองน้ำที่ฉีดไปเพื่อทำการดับจับฝุ่นพิษ PM 2.5 ต้องมีแรงดันน้ำอยู่ที่ 70-200 บาร์และฉีดขึ้นสูงไป 100 เมตร แต่อุปกรณ์ที่ไทยใช้อยู่มีแรงดันน้ำสูงสุด 50 เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิธีดังกล่าวอาจจะได้ผลไม่ต่างจากการฉีดน้ำปกติมากนัก แต่ก็เป็นวิธีที่แปลกใหม่ จนสื่อต่างประเทศหลายสื่อหยิบนำไปเล่าต่อๆ กัน . หลังจากที่หลายๆ สื่อได้นำเรื่องราววิธีลดค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 ไปลงในโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตต่างประเทศเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย มีคนในรัฐบาลที่เป็นเจ้าของโรงงานน้ำตาลใช่มะ ? พวกเขาควรลองใช้พริกป่นผสมลงในน้ำแล้วพ่นมันนะ หากคุณไม่มีความสามารถมากพอจะแก้ปัญหาที่ต้นตอ อย่างน้อยก็ทำดูให้เหมือนคุณกำลังยุ่งๆ อยู่ก็ดีนะ …
-
โลโก้ใหม่ ZARA เพิ่มเส้นโค้งและเชื่อมตัวอักษร มันดูดีที่สุดเลยเว้ยแกรร!!
เมื่อพูดถึงร้านขายเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้า เราคงจากนึกถึง ZARA เป็นแบรนด์แรกๆ เพราะนอกจากเราจะเดินเข้าเดินออกร้านนี้จนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว หลายคนยังต้องเสียเงินไม่รู้เท่าไรไปกับคำว่า ‘SALE’ ที่แปะอยู่หน้าร้าน เมื่อช่วงไม่นานมานี้ หลายคนอาจจะไม่ทันได้สังเกตว่าทาง ZARA แบรนด์แฟชั่นสัญชาติสเปน ได้มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้บนหน้าเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งนับเป็นครั้งที่สอง ในระยะเวลากว่า 45 ปีของแบรนด์นี้ เมื่อก่อนหน้านี้ Inditex บริษัทเสื้อผ้าค้าปลีกเจ้าของแบรนด์ ได้เปลี่ยนโลโก้ครั้งแรกในปี 2010 โดยเพิ่มพื้นที่ระหว่างตัวอักษรภาษาอังกฤษสีดำบนพื้นสีขาวในสัญลักษณ์ของแบรนด์ แต่โลโก้ที่ถูกเปลี่ยนโดยครั้งที่สองนี้ออกแบบโดย Fabien Baron ผู้ก่อตั้งบริษัทโฆษณา Baron & Baron ซึ่งได้เชื่อมตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่คำว่า ZARA เข้าด้วยกัน และเพิ่มเส้นโค้งในตัวอักษร Z และ R โลโก้ก่อนการเปลี่ยนแปลง โลโก้หลังจากเปลี่ยนแปลง เมื่อเปรียบเทียบโลโก้แบบเก่ากับโลโก้แบบใหม่ของแบรนด์ ZARA แล้ว คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ชอบหรือไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ อย่าลืมแวะมาแสดงความคิดเห็นบอกเรานะฮะ ที่มา: thisisinsider
-
เมื่อพยาบาลไม่พูดอังกฤษ ต้องสื่อสารกับนศ. ต่างชาติที่ต้องแอดมิท ชาวเน็ตร่วมกันถอดรหัส
บางครั้งเวลาคุณเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ การเข้าใจความหมายผิด หรือใช้คำภาษาต่างประเทศแบบงูๆ ปลาๆ อาจสร้างความมึนงง และ เสียงหัวเราะได้ทั้งเขา และเราเอง แต่มันจะไม่ตลกเลยถ้าคุณต้องไปโรงพยาบาล หรือสถานที่ราชการ แล้วสื่อสารกับเขาไม่รู้เรื่อง… ชาวเน็ตบน Reddit ชื่อบัญชีว่า WaspDog ได้แชร์ภาพข้อความหนึ่ง ที่เขียนโดยพยาบาลชาวจีน เนื่องจากมีนักศึกษาต่างชาติที่ต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งได้รับการดูแลโดยพยาบาลชาวจีนที่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ต้องบอกว่าหลังจากที่ได้มีการแชร์ลงบนโลกโซเชียล ก็เกิดเสียงฮาไปทั่ว เพราะชาวเน็ตต่างช่วยกัน ถอดรหัสไปในแบบต่างๆ… นี่คือข้อความที่พยาบาลชาวจีนฝากไว้ให้คนไข้นักศึกษารายนี้ โดยจากข้อความที่เธอได้ให้นักศึกษาคนไข้คนนี้ สื่อได้ว่า ห้ามกินข้าว กินน้ำ หลังสี่ทุ่มเป็นต้นไป เพราะพรุ่งนี้ตอนแปดโมงเช้า ต้องมีนัดผ่าตัด ส่วนถัดไปจะเป็นสิ่งที่ชาวเน็ตช่วยกันตีความ ซึ่งบอกได้เลยว่า แต่ละคนหัวครีเอตกันสุดๆ คืนนี้หลังสี่ทุ่ม ห้ามกิน ห้ามดื่ม ส่วนพรุ่งนี้แปดโมงเช้ารอเตรียมตัวโดนฆ่าได้เลย ถ้าคืนนี้กินแล้วไม่ล้างล่ะก็… เตรียมตัวเป็นศพพรุ่งนี้ได้เลย… หลังสี่ทุ่มอดท้องรอไว้เลย เพราะพรุ่งนี้แปดโมงต้องกินเค้กแยมสตรอเบอร์รี่นะ เดี๋ยวจะไม่อยากกินซะก่อน ห้ามข้าว ห้ามน้ำ เพราะพรุ่งนี้พวกเราจะกินแก ตอนแปดโมง …
-
มนุษย์ต้นไม้แห่งอุตตราขัณฑ์ ปลูกต้นไม้กว่า 5 ล้านต้นจนสิ้นชีวา เพื่อปกปิดความเจ็บปวดของตนเอง
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2019 ชายแก่คนหนึ่งที่ รัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย ที่ได้รับขนานนามว่า “มนุษย์ต้นไม้” ได้เสียชีวิตลงแล้วในวัย 96 ปี โดยตลอดทั้งชีวิต เขาได้ปลูกต้นไม้ไปกว่า 5 ล้านต้น เรื่องราวของเขาได้กลายเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนถึงความสำคัญของป่าไม้ เพราะเหตุใดคนจึงเรียกเขาว่า “มนุษย์ต้นไม้” และอะไรที่ทำให้เขาถึงอุทิศตัวเพื่อป่าไม้ขนาดนี้? คุณลุง Saklani กับผืนป่าที่เขาได้ปลูกไว้ จุดเริ่มต้นต้องย้อนกลับไปในวัยเด็ก ของคุณลุง Vishweshwar Dutt Saklani Saklani เขาได้เริ่มปลูกต้นอ่อนไว้ตั้งแต่อายุราว 8 ขวบ ตามคำแนะนำของคุณลุงเขา ในช่วงเวลานั้น หมู่บ้าน Pujargaon ได้เป็นที่รู้จักถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ และเมื่อเวลาผ่านไปตัวคุณลุง Saklani เองก็ได้เป็นที่รู้จักถึงความรักที่เขามีให้ป่าไม้ ซึ่งเปรียบเสมือนลูกของเขา เช่นกัน ต่อมาคุณลุง Saklani ได้รับการติดต่อจากญาติของเขา และได้ทราบว่า พี่ชาย Nagendra Dutt Saklani ของเขาได้จากไปแล้ว เมื่อทราบข่าวเช่นนั้น เขาก็เริ่มหายเข้าไปในป่าทุกเช้า และใช้เวลาไปกับการปลูกต้นอ่อนทั้งวัน จนกระทั่งในปี 1958 คุณลุง Saklani ได้สูญเสียคนที่เขารักไปอีกคน นั่นคือ ภรรยาคนแรก…
-
20 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวในปี 2019 ชวนคุณแพ็คกระเป๋าออกไปท่องโลก
เขาว่ากันว่า “ชีวิตคือการเดินทาง” จึงเป็นเรื่องที่ไม่แปลกใจว่าทำไมคนเราถึงโหยหาวันหยุด เพื่อที่จะได้เดินทางไปท่องเที่ยว เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในต่างแดน หลายครั้งที่เราตั้งเป้าหมายแล้วไม่เป็นไปตามคาดหวัง ในปี 2019 นี้เราเลยอยากชวนทุกคนให้ออกเดินทางไปพร้อมๆ กับเรา ในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต 20 แห่งที่จัดอันดับโดยเว็บไซต์ muvtravel ว่าแต่จะมีสถานที่ไหนน่าสนใจ จนเราอยากกางปฏิทิน หาวันหยุด แล้วแพ็คกระเป๋าออกไปท่องเที่ยวบ้าง ไปดูกันเลย! 20. ภูเขาไฟอารีนัล ประเทศคอสตาริกา 19. ภูมิภาคปาตาโกเนีย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในประเทศอาร์เจนตินาและชิลี 18. เมืองคลูช-นาโปกา ประเทศโรมาเนีย 17. แคว้นอ็อกซีตานีทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส 16. เมืองหลวงลูบลิยานา ประเทศสโลวีเนีย 15. ทิวเขาไวท์ ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ สหรัฐอเมริกา 14. กุสโก ประเทศเปรู 13. ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น 12. แซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา 11. นครเปตรา ประเทศจอร์แดน 10. เซบิยา…
-
ความพร้อมของนักดับเพลิงต่างประเทศ อาบน้ำยังไม่ทันเสร็จ วิ่งแจ้นประจำการเมื่อเกิดเหตุด่วน
เวลาเกิดเหตุการณ์อย่างไฟไหม้ หรือเบาสุดอย่างน้องแมวติดต้นไม้ เรามักจะนึกถึงเหล่าบุรุษพร้อมชุดสีแดงกับรถดับเพลิงเป็นอันดับแรกกันใช่ไหม? วันนี้มีเรื่องราวสุดฮาแต่ก็น่าประทับใจของฮีโร่เหล่านี้ ที่หน้าที่มาก่อนสิ่งอื่นใดแม้พวกเขาจะกำลังอาบน้ำอยู่ก็ตาม!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อมีผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ Syaqirin Haqimi (@syaqirin323) ได้โพสต์คลิปวิดีโอการเตรียมตัวก่อนการปฎิบัติหน้าที่ของพวกเขา โดยหน่วยดับเพลิงที่มาเลเซียจะเรียกว่า bomba ซึ่งเบื้องหน้าของฮีโร่เราพอจะรู้แล้ว แล้วเบื้องหลังจะเป็นอย่างไรไปดูกัน… เหล่าฮีโร่ที่ต่างกำลังรีบแต่งตัว เรามักรู้ดีว่าเหล่านักผจญเพลิงต่างต้องทำงาน และเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆตลอด 24 ขั่วโมง จากในคลิปวิดีโอนักดับเพลิงเหล่านี้เพิ่งกลับมาจากการซ้อมกีฬา และทุกคนกำลังมุ่งหน้าเพื่อที่จะเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว… แต่แล้ว.. เมื่อสัญญาณเตือนดังทุกคนต่างหยุดกิจกรรมทุกอย่างที่ทำทันที! และบางคนก็เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเท่านั้น! แต่เมื่อหน้าที่มาเหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาต่างกุลีกุจอแต่งตัว และบางคนยังไม่ได้แต่งตัวด้วยอีกต่างหาก… Baru je sudah bersukan . Nak mandi . Tiba2 ad kecemasan . Be like 🏃🏻♂️ pic.twitter.com/OZx15c5MP7 — Syaqirin Haqimi (@syaqirin323) January 25, 2019 เสื้อผ้ายังไม่ทันใส่ ก็ต้องรีบไปช่วยประชนชนแล้ว… …
-
ชาวมุสลิมร่วมลงชื่อเรียกร้องให้ Nike เปลี่ยนโลโก้ Air Max 270 หลังออกมาคล้ายชื่อ “อัลเลาะห์”
วันที่ 28 มกราคม 2019 สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานประเด็นร้อนของแบรนด์รองเท้ายักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง “Nike” เมื่อชาวมุสลิมนับพันลงความเห็นไม่พอใจ “Air Max 270” รองเท้ารุ่นใหม่ของ Nike หลังจากเห็นว่าที่พื้นรองเท้ามีลวดลายคล้ายกับคำว่า “อัลเลาะห์” พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา โดย Nike Air Max 270 เป็นรองเท้าที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งรองเท้าก็มีโลโก้ของ Air Max อยู่ในส่วนของพื้นรองเท้า แต่ประเด็นครั้งนี้อยู่ที่เมื่อนำสัญลักษณ์ดังกล่าวกลับหัวแล้วจะมีความคล้ายกับคำว่า “อัลเลาะห์” ในภาษาอาหรับ ทำให้ชาวมุสลิมจำนวนมากเกิดความไม่พอใจและระดมล่ารายชื่อบนโลกออนไลน์เพื่อให้ Nike เปลี่ยนโลโก้ สัญลักษณ์ดูมองแล้วคล้ายกับคำว่าอัลเลาะห์ในภาษาอาหรับ โลโก้ Air Man ตามปกติ Saiqa Noreen แกนนำการล่ารายชื่อได้กล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องอุกอาจและน่าตกใจอย่างมาก ที่ Nike นำชื่อของพระผู้เป็นเจ้ามาไว้ที่รองเท้า นี่ถือเป็นการดูหมิ่นและลบหลู่ต่อศาสนาอิสลามและชาวมุสลิมเป็นอย่างยิ่ง ศาสนาอิสลามสอนให้เรารู้จักความเมตตา กรุณาและยุติธรรม เราจึงขอเรียกร้องให้ Nike…
-
โรงแรมในสวีเดนยื่นข้อเสนอ “ให้พักฟรี!!” เพียงละจากหน้าจอ ออกไปเจอโลกกว้าง
ในปัจจุบันแทบจะเรียกได้ว่า โทรศัพท์มือถือเป็นปัจจัยที่ห้าของมนุษย์เลยก็ว่าได้ เนื่องจากความต้องการที่จะเชื่อมต่อกับผู้อื่นในทุกที่ ทุกเวลาทางออนไลน์ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เรามีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างน้อยลง จากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นหลักฐานแล้วว่าผู้คนยึดติดกับมันขนาดไหน จึงทำให้โรงแรม The Check Out Suite in Hotel Bellora ในเมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ได้ถูกออกแบบให้แขกผู้เข้าพักได้พักผ่อนโดยละจากหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งทางโรงแรมมีจุดประสงค์ให้ผู้เข้าพักได้ใช้เวลากับคนที่รักและออกไปสัมผัสโลกกว้าง แทนการจ้องมือถือหรือใช้เวลาในโลกออนไลน์มากเกินไป ซึ่งโดยปกติแล้ว ทางโรงแรมอื่นๆ อาจจะสนับสนุนการใช้โซเชียลเพื่อเป็นการโปรโมทให้แขกเข้ามาพักในโรงแรม แต่ที่ The Check Out Suite แห่งนี้มีโคมไฟอัจฉริยะ (Screen-free) ไว้วัดเวลาการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของแขกแต่ละห้อง ซึ่งราคาที่พักของโรงแรมแห่งนี้จึงขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่แขกใช้งานโทรศัพท์มือถือ ‘ยิ่งใช้เวลาในโลกออนไลน์น้อยเท่าไร ค่าที่พักก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น’ เมื่อแขกผู้เข้าพักเริ่มเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตภายในห้อง โคมไฟจะมีแสงสีขาว ถ้าหากผู้เข้าพักใช้อินเตอร์เน็ตนานเกิน 30 นาทีล่ะก็โคมไฟจะเป็นสีแดง ซึ่งจากการศึกษาโดยกลุ่ม Hotel Designs ผู้ออกแบบโรงแรม พบว่าระยะเวลาที่เหมาะสมในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์มีเพียงแค่ 30 นาที ดังนั้นจึงได้กำหนดระยะเวลาเอาไว้ตามนั้น การเปลี่ยนสีของโคมไฟเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผู้เข้าพักจะต้องจ่ายค่าที่พักแบบเต็มจำนวน ซึ่งถ้าหากแขกคนใดไม่ใช้โทรศัพท์เลย จะถือว่าได้เข้าพักฟรีในโรงแรมแห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่มีความน่าสนใจมากๆ เลยนะเนี่ย ที่มา: thisisinsider
-
หนุ่มดูแลสาวคนรักที่ “ไม่รับรู้สิ่งใด” นาน 2 ปี จนเธอกลับมามีสติ และพูดชื่อเขาเป็นคำแรก!!
เรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจนี้ได้สร้างความซาบซึ้งใจให้กับทุกคน หลังจากที่นาย Zhang Jiafeng ชายชาวจีนได้รับรางวัลจากทางภาครัฐ ในการที่เขา “อุทิศตน” ให้กับคนที่เขารัก Jiafeng และ Zhang Xiaoyu ภรรยาของเขา เรื่องราวของทั้งสองคนนั้น เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันในโรงเรียนมัธยมต้น แล้วจากคำว่าเพื่อนก็แปรเปลี่ยนไป เมื่อทั้งสองตกหลุมรักกันในปี 2007 ตอนที่พวกเขาทั้งคู่อายุได้ 19 ปี แต่แล้วในปี 2008 Xiaoyu ล้มป่วยกะทันหัน ทำให้เธอถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเป็นการด่วน ซึ่งหมอก็ได้วินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็น “ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ” จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดสมอง ทว่าการผ่าตัดที่เกิดขึ้นนั้นกลับผิดพลาด และทำให้หญิงสาววัย 20 ปีต้องตกอยู่ใน “สภาพผัก” เป็นภาวะที่สมองสูญเสียความสามารถในการรับรู้ ความเข้าใจ และการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ หญิงสาวในตอนนั้น แม้ว่าหญิงสาวจะต้องตกอยู่ในสภาพที่ไม่รับรู้สิ่งใดๆ และหมอก็บอกกับทางครอบครัวว่าโอกาสที่เธอจะกลับมามีสติได้นั้นมีน้อยมากๆ แต่ถึงอย่างนั้น Jiafeng ก็ตัดสินใจที่จะอยู่เคียงข้างเธอไม่เปลี่ยนแปลง ในตอนแรก Zhu Jianmei แม่ของ Xiaoyu ไม่ยอมให้ชายหนุ่มมาคอยดูแลลูกสาวของเธอ พยายามกีดกันและแนะนำให้เขาไปหาแฟนใหม่ซะดีกว่า คุณแม่เล่าว่า…
-
หนุ่มจีนช็อกน้ำตาตก หลังพบว่าแฟนสาวบอกว่าไปเรียนตปท กลายเป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่
วันที่ 28 มกราคม 2019 สำนักข่าว World of Buzz ได้รายงานว่าหนุ่มจีนคนหนึ่งต้องน้ำตาตกใน หลังพบว่าแฟนสาวที่ไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น ปรากฏตัวมาให้เขาเห็นอยู่ในหนังผู้ใหญ่ ที่เขาดูพร้อมกับเพื่อนๆ หลังจากที่เห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาไปปรากฏตัวอยู่บนหนังผู้ใหญ่ ทางฝ่ายชายก็ได้ส่งข้อความเพื่อไปถามเรื่องราวดังกล่าว ก่อนจะนำเรื่องราวนั้นมาโพสต์ลง WeChat โซเชียลมีเดียของจีน ในโพสต์ดังกล่าว เขากล่าวว่าเขาถึงกับหลั่งน้ำตาและเสียใจที่ยอมให้ Xiao Nan ผู้เป็นแฟนสาวไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น เขากล่าวเพิ่มว่าปกติแล้วแฟนสาวของเขาเป็นคนกตัญญูและคอยติดต่อกับพ่อแม่อยู่เสมอผ่านทางวิดีโอคอล แถมยังส่งรูปมาให้ดูอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่พ่อแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ค่าครองชีพที่ญี่ปุ่นนั้นสูงกว่าประเทศจีน ดังนั้น Xiao Nan จึงตัดสินใจที่จะทำงานพาร์ทไทม์เพื่อลดภาระการเงินของที่บ้าน ในตอนแรกเธอรับงานพาร์ทไทม์ในผับ ซึ่งจะจ่ายให้เธอ 1,000 เยน (289 บาท) ต่อชั่วโมง แต่ผ่านมาหนึ่งเดือน เนื่องจากไม่ค่อยชอบบรรยากาศที่ทำงาน เธอตัดสินใจที่จะลาออกและหันมาทำงานเป็นนางแบบแทน เธอบอกกับแฟนหนุ่มว่างานที่เธอได้รับมานั้นถูกแนะนำมาจากเพื่อนและก็บอกแฟนหนุ่มว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ทุกๆ อย่างเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งวันหนึ่งแฟนหนุ่มของเธอได้ไปดูหนังผู้ใหญ่กับเพื่อนของเขาและพบว่า…
-
การวิจัยเผย โลกเคยเกือบเสียสนามพลังแม่เหล็กในอดีต โชคดีที่แกนโลกแข็งตัวทันพอดี
เป็นเรื่องที่ทราบกันว่าสนามพลังแม่เหล็กของโลกนอกจากจะทำให้เข็มทิศสามารถหันไปทางเหนือได้อย่างถูกต้องแล้วมันยังช่วยป้องกันโลกของเราจากลมสุริยะและรังสีคอสมิก จนเรียกได้ว่าสนามพลังแม่เหล็กเป็นดั่งโล่ที่คอยปกป้องโลกจากภัยอันตรายจากอวกาศเลยก็ไม่ผิดนัก สนามพลังแม่เหล็กอาจจะฟังดูเหมือนเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลกของเรามาเป็นเวลานานแล้ว แต่จากการวิจัยใหม่ของเหล่านักดาราศาสตร์ ดูเหมือนว่าโล่ที่คอยปกป้องโลกในปัจจุบัน จะเพิ่งเกิดขึ้นมาได้ราวๆ 565 ล้านปีเท่านั้นเอง นักดาราศาสตร์ได้ออกมาบอกว่าเมื่อราวๆ 565 ล้านปีก่อน สนามพลังแม่เหล็กของโลกกำลังอยู่ในช่วงที่มีความหนาแน่นต่ำที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเหนี่ยวนำทางไฟฟ้าหรือ “ไดนาโม” ของโลกอยู่ในสภาพที่แย่สุดๆ ผลการวิจัยนี้ออกมาหลังจากที่ John Tarduno นักธรณีฟิสิกส์มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ ได้ตรวจสอบการรวมตัวของแม่เหล็กในผลึกเดี่ยวของแร่กลุ่ม Plagioclase และ Clinopyroxene ที่เกิดขึ้นราวๆ 565 ล้านปีก่อน เพื่อหาลักษณะของสนามพลังแม่เหล็กโลกในเวลานั้น พวกเขาพบว่าโลกในช่วงที่แร่เหล่านี้เกิดขึ้นมีความหนาแน่นของสนามแม่เหล็กต่ำอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จนถึงขั้นที่พวกเขาสามารถกล่าวได้ว่าสนามแม่เหล็กเกือบจะพังทลายไปในเวลาอันใกล้ แม้เราจะไม่รู้ว่าสาเหตุที่ความหนาแน่นนี้ของโลกต่ำเกิดจากอะไร แต่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการหมุนรอบตัวเองของโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่โลกมีการเหนี่ยวนำทางไฟฟ้าตามทฤษฎีไดนาโม แต่โชคดีมากที่ในช่วงเวลานั้น แกนด้านในของโลกเกิดการแข็งตัวขึ้นมาในระดับที่เหมาะสมพอดี เพราะการที่โลหะเหลวส่วนหนึ่งของแกนโลกแข็งตัวนี้เองได้ช่วยให้สนามพลังแม่เหล็กของโลกที่เคยกระจายออกไปทั่วทุกทิศ เปลี่ยนไปเป็นรูปคล้ายเครื่องหมาย ∞ แบบในปัจจุบัน และช่วยเหลือโลกเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที จริงอยู่ที่ว่าการแข็งตัวของแกนโลกในเวลานั้นจะยังไม่ถือว่าสมบูรณ์จริงๆ แต่ก็มากพอที่จะทำให้สนามพลังแม่เหล็กคืนสภาพกลับมาได้ และเมื่อแกนโลกเริ่มแข็งตัวมากขึ้นสนามแม่เหล็กก็มีสภาพที่ดีขึ้นไปด้วย และอยู่รอดมาคอยปกป้องพวกเราแบบในปัจจุบันนั่นเอง ที่มา zmescience และ sciencenews
-
ช่างภาพโรมาเนีย เผยสภาพของนครบูคาเรสต์ ในคืน ‘ฝนน้ำแข็ง’ ปกคลุมทั่วทั้งเมือง
นึกสภาพดูว่าถ้าคุณตื่นขึ้นมาแล้วทั้งเมืองอยู่ในสภาพเป็นน้ำแข็งหมดจะเป็นไรอย่างไร… โดยเรื่องราวนี้เล่าโดยช่างภาพจาก กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ชื่อ Rauta Andrei ที่ตื่นขึ้นมากลางดึกวันเสาร์ และก็ต้องพบกับสภาพเมืองทั้งเมืองที่โดนพายุฝนน้ำแข็งถล่ม… ช่างภาพรายนี้ได้เล่าเรื่องราวผ่านรูปภาพของเขา และภาพที่ได้ออกมานั้นราวกับในหนังภัยพิบัติ โดยช่างภาพได้บันทึกรูปถ่ายที่เกิดปรากฏการณ์ Freezing rain ซึ่งเป็นปรากฏการณ์หิมะละลายเป็นฝน ตกลงมากระทบพื้นหรือพื้นผิวที่เย็นจัดจนกลายเป็นน้ำแข็ง แตกต่างจากลูกเห็บก่อตัวมาจากละอองฝุ่นในเมฆ แล้วตกลงมาคล้ายฝน โดยตามภูมิศาสตร์แล้วประเทศ โรมาเนีย เป็นประเทศในทวีปยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ สภาพอากาศของประเทศนี้ค่อนข้างที่จะหนาวจัด และฝนตกชุกมาก ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซากกิ่งไม้ที่หักลงมาบนถนน สภาพราวกับในหนังแนวหายนะ . สภาพรถที่ถูกทำลายโดยพายุฝนนี้ เมืองทั้งเมืองเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยน้ำค้างที่แข็ง . . ในช่วงฤดูหนาวต่างประเทศแถบยุโรปปรากฏการณ์เหล่านี้มักเกิดขึ้นบ่อย และมักจะมีข่าวแบบนี้ให้เห็นเสมอ แต่ถ้าเป็นบ้านเราก็คงจะเป็นข่าวช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนจนแทบทนไม่ได้กันทีเดียว… ที่มา: boredpanda
-
Gucci เปิดตัวคอลเลคชั่น Cruise 2019 หมวกชาวไร่สไตล์เกษตร ราคาใบละหมื่นกว่าบาท
แบรนด์หรูดังจากอิตาลีได้รังสรรค์งานออกแบบคอลเลคชั่น หมวกกับผ้าคลุมหัวที่คลับคล้ายคลับคลากับหมวกพี่น้องชาวเกษตรกรบ้านเราเหลือเกิน… เห็นว่าคุ้นๆแล้ว แต่ราคาไม่ใกล้เคียงกับหมวกจักสานบ้านเราเลยแฮะ!! ซึ่งคอลเลคชั่นนี้มีชื่อว่า Cruise 2019 ที่มีการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2018 โดยแบรนด์ Gucci และจะจำหน่ายภายในปีนี้นั่นเอง โดยราคาของหมวกใบนี้อยู่ที่ 450 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,214.83 บาท! และเท่านั้นยังไม่พอ หมวกใบนี้ยังมาคู่กับคอลเลคชั่นผ้าคลุมหัวในราคา 12,319.51 บาทอีกด้วย Wide brim หรือหมวกชาวไร่ที่ชาวเน็ตพูดถึงกัน Nylon hood with Flora print ฮูดผ้าไนล่อนกันแดดลายดอกไม้ มาพร้อมกับราคา 12,319.51 บาท . หมวกพร้อมผ้าคลุมหัว ลุคนี้ได้เลยถ้าไปเดินแถวสวนบ้านเรา… โดยงานเปิดตัวของคอลเลคชั่นนี้ ทางกุชชี่ได้ใช้ธีมงานเดินแบบโกธิค และเอาร็อคแอนด์โรลผสมด้วย . เป็นยังไงกันบ้างกับคอลเลคชั่นนี้ เห็นถึงความใกล้เคียงกับหมวกจักสานบ้านเราแล้ว แสดงให้เห็นถึงงานออกแบบที่ไม่มีพรมแดนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ประเทศไหนก็ตาม ส่วนเรื่องราคาก็ว่ากันอีกทีนะ… ที่มา: gucci
-
หนุ่มตี๋เป็ดขี้เหร่ โดนเหยียบย่ำจิตใจ ขัดเกลาความหล่อด้วยการลดน้ำหนัก-เรียนแต่งหน้าสไตล์เกาหลี!!
เคยได้ยินคำว่า “ลูกเป็ดขี้เหร่” มั้ย? ชายหนุ่มชาวจีนวัย 18 คนนี้ได้เล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเองของเขา และมันได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนหันมาดูแลตัวเอง… สมัยอยู่มัธยมชายหนุ่มคนนี้ได้เผชิญกับความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองมาโดยตลอด ด้วยลุคที่ไม่ได้หล่อเหลามากมายนัก มันทำให้เขาไม่กล้าที่จะสู้หน้าคนที่ชอบ หรือสาวน่ารัก อีกทั้งยังได้รับการปฏิบัติจากสาวๆ ที่เรียกว่าแทบจะเห็นเขาเป็นธาตุอากาศด้วยซ้ำ… รูปภาพของเขาสมัยมัธยมปลาย เขาได้เล่าเรื่องราวที่ทำให้เจ็บช้ำใจในสมัยมัธยมปลายว่า “มีครั้งหนึ่งที่ผมเห็นเพื่อนผู้หญิงในชั้นทำกระเป๋าตก และผมกำลังจะก้มลงไปหยิบให้ แต่เขากลับตอกกลับมาว่า…” “เธอทำให้ฉันรู้สึกอับอายอยู่นะ เธอมันไอ่คนไม่หล่อ!” จากคำพูดของเพื่อนผู้หญิงทำให้ตัวเขารู้สึกโกรธ และรู้สึกต้องขายหน้าในครั้งนั้น มันกลับเป็นจุดที่ทำให้เขาสัญญากับตัวเองว่าเขาจะต้องเปลี่ยนแปลงให้ได้ การเปลี่ยนแปลงทีละนิดหลังจากได้รับคำพูดจากเพื่อนผู้หญิง เมื่อจบชั้นมัธยมปลาย เขาได้บอกกับตัวเองจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกแน่ที่มหาลัย เพื่อที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หนุ่มจีนคนนี้จึงเริ่มหันมาควบคุมอาหารการกิน อีกทั้งยังเริ่มตามแฟชั่นให้เข้ากับลุคตัวเอง และซื้อเสื้อผ้าดีๆมาใส่ นอกจากนั้นเขายังใช้เวลาไปกับการเรียนรู้ที่จะแต่งหน้าด้วยตนเอง และศึกษาการแต่งหน้าสไตล์เกาหลีบนยูทูบ เช่น หัดใช้คอนซีลเลอร์ รองพื้น หลังจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งนั้นเขาก็ได้รับคำชมจากคนรอบตัวเขา และกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ . หลังจากที่เขาได้เข้ามหาวิทยาลัย เขาได้พูดถึงคนที่เคยดูถูกไว้ “ถึงผู้ชายหลายๆคนที่ดูถูก และหัวเราะเรื่องหน้าตา หรือรูปลักษณ์ภายนอก… มันไม่มีใครที่น่าเกลียดจริงๆหรอก ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการพัฒนาตัวเองทั้งนั้น เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกแย่ก็หันมาดูแลตัวเองบ้าง” เขายังฝากอีกว่า “ผู้ชายไม่ต้องกลัวการแต่งหน้าหรอก เครื่องสำอางไม่ได้มีไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น! ทุกคนสามารถใช้มันได้จริงๆ…
-
มีดยาวแค่ไหนก็ไม่หวั่น!! ลุงนักพนันใจกล้า ปล่อยฮุคขวาเข้าหน้าโจร ล้มพับในหมัดเดียว!!
นี่ไม่ใช่การ์ตูนหรือการถ่ายทำหนัง แต่มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในบ่อนคาสิโน เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างที่เหล่านักพนันทั้งหลายกำลังสนุกอยู่กับการเสี่ยงโชค จู่ๆ ก็มีชายสองคนบุกเข้ามาพร้อมด้วยอาวุธมีดสปาต้าเล่มยาวเฟื้อย และท่อเหล็ก รอสังเกตคุณลุงสวมแว่นเอาไว้ให้ดี ชายสองคนนั้นพยายามขู่เอาเงินจากคนในบ่อนคาสิโน มีการใช้มีดฟันใบหน้าของคุณลุงคนหนึ่ง แต่งานนี้ดูเหมือนว่าพวกพี่แกจะเลือกสถานที่และเหยื่อผิดไปหน่อยล่ะนะ ที่พวกพี่แกพลาด เพราะดันไม่รู้ว่าคุณลุงคนนั้นแกคือหนุ่มใจกล้า ผู้ดูเหมือนว่าจะไม่กลัวสิ่งใด ต่อให้มีดยาวแค่ไหนก็ไม่หวั่นเกรง เดินดุ่มๆ เข้าหาโจรถือมีด ก่อนที่จะง้างหมัดจากสุไหง โก-ลก ฮุคเข้ากรามขวาอย่างแรง หมัดเดียว เสียงดัง แต๊บ!! มิต้องสืบเลยว่าหมัดหนักขนาดไหน เพราะเพียงหมัดเดียวก็ทำเอาโจรถึงกับล้มลงกองกับพื้น ตกอยู่ในสภาพมึนงงไปชั่วอึดใจ ไม่ทันไรก็เหลือบไปเจอเข้ากับบาทาจากรองเท้าบาจาเบอร์ 11 จูบเข้าแก้มอย่างจัง ยังไม่ทันได้ยืนเลย (รองเท้าบาจานี่มาจากอินเนอร์ของ #เหมียวตะปู ล้วนๆ นะ แหะๆ) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ช่วยยื้อเวลาและทำให้โจรทั้งสองคนเสียท่า จำเป็นต้องหนีออกไปจากบ่อนคาสิโน โดยที่ไม่ได้เงินกลับไปเลยแม้แต่แดงเดียว คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2018 แต่คลิปนี้ก็ได้ถูกนำมาเผยแพร่ในต้นปี 2019 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้เทคโนโลยีร่างภาพใบหน้าของคนร้ายได้แล้ว…
-
นักวิทย์เตรียมสำรวจเรือของ Ernest Shackleton หลังจมอยู่ที่ทะเลเวดเดลล์มากกว่า 100 ปี
ย้อนกลับไปในปี 1915 เรือสำรวจ The Endurance ของนักเดินเรือชื่อดัง Ernest Shackleton ผู้มีชื่อเสียงจากการออกสำรวจทวีปแอนตาร์กติกา ได้ชนเข้ากับก้อนน้ำแข็งจนทำให้ Ernest และลูกเรือจำเป็นต้องสละเรือไป ภาพของเรือ The Endurance ซึ่งติดในน้ำแข็งเมื่อปี 1915 แบบผ่านการลงสี จริงอยู่ว่าการสละเรือในครั้งนั้นทำให้ตัว Ernest สามารถรอดจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาได้ แต่เรือ The Endurance กลับต้องจมลงไปในน้ำที่เย็นยะเยือกของทะเลเวดเดลล์ และไม่มีใครพบเห็นมันอีกเลยตลอดเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา แต่แล้วเมื่อปี 2017 ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ขั้วโลกก็เกิดการแยกตัวออกจากกัน และไหลเข้าไปสู่ทะเลเวดเดลล์ ดังนั้นทีมนักวิทยาศาสตร์จึงได้โอกาสเดินทางมายังทะเลแห่งนี้ด้วยเรือ Agulhas II เพื่อการตรวจสอบน้ำแข็งก้อนดังกล่าว และเมื่อล่าสุดนี้เอง หลังจากการตรวจสอบน้ำแข็งที่เป็นหน้าที่หลักจบลง ทีมนักวิทยาศาสตร์บนเรือ Agulhas II ก็ได้เดินทางไปยังจุดที่มีการรายงานว่าเรือของ Ernest จมเพื่อดำเนินการสำรวจเรือที่หายไป ซึ่งเป็นโปรเจกต์รองของพวกเขา โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าตำแหน่งของเรือโบราณที่พวกเขาตามหาน่าจะเปลี่ยนไปจากในอดีตเล็กน้อยจากกระแสน้ำ และอาจจะยังสภาพค่อนข้างสมบูรณ์แม้เวลาผ่านมานาน อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่แน่ใจว่าเรือที่อยู่ใต้น้ำนั้นจะถูกน้ำแข็งปกคลุมไปแล้วหรือไม่ หากโชคดี นักวิทยาศาสตร์หวังว่าพวกเขาจะสามารถใช้บันทึกของ Ernest และยานพาหนะใต้น้ำแบบไร้คนขับ (AUV) ในการตามหาเรือลำดังกล่าวได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการสำรวจอื่นๆ เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำนั้นไม่เหมาะสมสำหรับการให้มนุษย์ดำลงไปสำรวจด้วยตัวเอง ในปัจจุบันทีมนักวิทยาศาสตร์ยังไม่อาจฟันธงได้ว่าการค้นหาในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่พวกเขาก็บอกว่าอย่างน้อยๆ ภารกิจหลักของพวกเขาก็สำเร็จลงไปด้วยดี โดยที่ไม่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้ายจนต้องยกเลิกโปรเจกต์เหมือนกับในปี…
-
คุณหมอลาออก เพราะภรรยาไม่ให้ทำงานร่วมกับ “พยาบาลผู้หญิง” คนไข้เดือดเลยทีนี้?!
นี่อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลในการลาออกที่แปลกที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมา เมื่อ “คุณหมอ” คนหนึ่งจำเป็นต้องลาออกจากสถานพยาบาลตามความต้องการของภรรยา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ศูนย์พยาบาลในรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อมีคนไข้สาวคนหนึ่งได้ถ่ายภาพป้ายประกาศที่ติดไว้บริเวณหน้าห้องประชาสัมพันธ์ และนำมันโพสต์ลงโลกโซเชียล ใบประกาศนั้นบอกว่า… “ดอกเตอร์ Lupardus ได้ลาออกจากสถานพยาบาลของเราไปเมื่อวันศุกร์ 18 มกราคม 2019” “เหตุผลที่เขาลาออกก็เพราะว่าภรรยาของเขานั้นไม่อนุญาตให้เขาทำงานที่นี่ ตั้งแต่ที่เราได้เริ่มจ้างพยาบาลฝึกหัดที่เป็นผู้หญิง” “เรารู้สึกเสียใจมากๆ ต่อความไม่สะดวกนี้ที่ส่งผลกระทบต่อพวกคุณทุกคน” “เขาจะไม่กลับมาที่สถานพยาบาลแห่งนี้อีกแล้ว” ป้ายประกาศดังกล่าว งานนี้ทำเอาเหล่าคนไข้ถึงกับอึ้ง โดยเฉพาะกับหญิงสาวเจ้าของโพสต์ในเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Susan Whitsell Rolens ซึ่งมองว่านี่คือพฤติกรรมที่ “ไม่มีความเป็นมืออาชีพ” และนำเรื่องนี้มาแชร์ในโซเชียล หลังจากที่เห็นประกาศดังกล่าว เธอก็ไปบอกกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ว่าเหตุการณ์นี้คือความไม่เป็นมืออาชีพมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา การที่เธอเข้าไปโวยกับบุคลากร ทำให้หญิงสาวไม่ได้เข้าพบหมออีกคนอย่างที่ควรจะเป็น แถมยังถูกยกเลิกนัดและเชิญให้เธอออกไปจากสถานพยาบาลเสียแทน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการออกมาชี้แจงเพิ่มเติมจากทางฝั่งของสถานพยาบาลแห่งนี้ แต่ที่แน่ๆ คือเราคงรู้แล้วว่าคุณหมอที่ลาออกไปนั้น เป็นคน “เกรงใจภรรยา” มากขนาดไหน…. ที่มา: news.au , mirror
-
สาวเล่าประสบการณ์ “ออกเดตยอดแย่” กับผู้ชาย 40 คน ในช่วงเวลาเพียง 9 เดือน!!
เพื่อนๆ เคยเจอกับการ “ออกเดต” ไหนที่ทำให้รู้สึกว่ามันเลวร้ายเอามากๆ หรือเปล่า? ถ้าใครคิดออกแล้วก็เก็บไว้ในใจ ก่อนที่จะลองมาอ่านเรื่องราวของเธอคนนี้ เรากำลังพูดถึง Natalie Palmer หญิงสาววัย 23 ปี นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ชีวภาพ จากเมือง Caerphilly สหราชอาณาจักร ผู้ต้องพานพบกับการ “ออกเดตยอดแย่” กว่า 40 ครั้ง ในช่วงเวลาเพียง 9 เดือน Natalie สาวผู้ผ่านเดตยอดแย่มามากมาย เธอเริ่มที่จะมองหาคู่ครองผ่านแอปฯ หาคู่ชื่อดังอย่าง Tinder และเว็บไซต์ Plenty of Fish ซึ่งเธอก็พยายามทำให้โปรไฟล์ของตัวเองมีเอกลักษณ์ ดูตลก และน่าสนใจ หวังจะได้เจอกับเจ้าชายในฝัน นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2018 ที่เธอเริ่มเล่นแอปฯ เหล่านั้นครั้งแรก สิ่งที่เธอวาดฝันเอาไว้กลับพังทลายลงไปอย่างน่าเศร้า เพราะเธอบอกว่าผู้ชายแต่ละคนที่ไปเจอมานั้นเป็นพวกที่แย่เอามากๆ เธอได้ออกมาเล่าถึงผู้ชายบางคนให้สื่อได้ฟัง มีตั้งแต่คนที่ชวนคุยในเรื่องของ “เซ็กส์ทอย” ที่เขาอยากให้เธอได้ลองใช้ มีคนที่พูดคุยกับเธอด้วยคำหยาบคาย และเมื่อเธอบล็อกเขาไปแล้ว ชายคนเดียวกันนั้นก็สร้างโปรไฟล์ปลอม…
-
ภรรยาเพิ่งรู้ความจริง ชายผู้บริจาคเลือดช่วยชีวิตเมื่อ 11 ปีก่อน คือสามีที่อยู่เคียงข้างเธอนั่นเอง
หนุ่มชาวไต้หวันจิตใจบุญที่ชอบบริจาคเลือดให้กับผู้คน กับเส้นทางความรักที่ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งจะได้แต่งงานกับภรรยาและมารู้ในภายหลังว่าเขาคือชายที่ได้ช่วยบริจาคเลือดให้กับเธอเมื่อ 11 ปีก่อน… เรื่องเกิดขึ้นกับภรรยาที่มีนามสกุลว่า “ลิม“ ราว 11 ปีก่อน เธอได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง ร่างกายของเธอไม่สามารถที่จะหยุดเลือดตัวเองให้ไหลได้ และทำให้เสียเลือดไปจำนวนมาก แต่โชคดีที่เธอนั้นได้รับเลือดจากการบริจาคจำนวน 10 ถุง และเกล็ดเลือดอีกจำนวน 2 ถุง ซึ่งทำให้ร่างกายเธอกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง รูปคู่ของสามี ภรรยา หลังจาก 7 ปีให้หลัง “ลิม” ได้กลับไปที่เมืองบ้านเกิดที่ไต้หวันอีกครั้ง เพื่อช่วยกิจการของครอบครัว และนั่นก็คือเรื่องราวที่เธอได้พบชายผู้บริจาคเลือดให้เธอ ซึ่งก็คือ “เลียน” เป็นเจ้าของกิจการเกี๊ยวที่กำลังไปได้ ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาต่างก็ตกหลุมรักกัน อยู่มาวันหนึ่งทั้งคู่ต่างก็แชร์ประสบการณ์เสี่ยงตายที่เคยเกิดขึ้น และจากการเล่าเรื่องให้กันฟังนั้น “ลิม” ทำให้เธอกลับมาค้นข้อมูลผู้บริจาคเลือดให้เธออีกครั้ง หลังทั้งคู่ได้คบหาดูใจกัน หลังจากที่เธอค้นหาอยู่นาน เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่ค่อยอยากเปิดเผยข้อมูลของผู้บริจาค เธอจึงขอร้องว่าอยากรู้แค่ชื่อของผู้มีพระคุณของเธอจริงๆ การขอร้องของเธอเป็นผล และนั่นก็ทำให้เธอได้รู้ว่าคนที่บริจาคก็คือแฟนคนที่กำลังคบหาดูใจกับเธออยู่นั่นเอง ทั้งคู่ได้คบกันมาเป็นเวลา 2 ปีตั้งแต่รู้เรื่องราว และหลังจากนั้นได้เข้าสู่ประตูวิวาห์ ช่างเป็นเรื่องราวที่หวานจริงๆของทั้งคู่ เปรียบเหมือนกับละคร แต่เป็นชีวิตจริงที่เหมือนมีชายขี่ม้าขาวมาช่วยทั้งๆที่ยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เรื่องราวนี้คงจะได้เล่าให้ลูกให้หลานฟังต่อไปอีกยาวนานอย่างแน่นอน… ที่มา: chinatimes, worldofbuzz
-
ตรงปกมั้ย? ไอศกรีม ‘เขี้ยวกุด’ วางขายแล้ว มีทั้งคนดีใจและเสียใจในคราวเดียวกัน
จากภาพยนตร์อนิเมชั่นสุดฮิตอย่าง How to Train Your Dragon ได้เอาใจเหล่าบรรดาแฟนๆ ด้วยการนำเจ้ามังกรสุดน่ารักอย่าง “เขี้ยวกุด” มาทำเป็นไอศกรีม แต่ไหงงานนี้กลับมีทั้งคนดีใจ และผิดหวังล่ะ? ไอศกรีมนี้มีจำหน่ายอยู่สองแบบ คือ Toothless หรือเจ้าเขียวกุด ในรสชาติขององุ่น และ Light Fury ที่มาในรสชาติของลิ้นจี่ผสมองุ่น รสชาติว่าน่ากินแล้วมาดูหน้าตาของมันกัน… โฆษณาไอศกรีมจากทางเนสเล่ โฉมหน้าซองไอศกรีมเขี้ยวกุด ซองสวยมาเชียวแต่ทำไมตัวไอศกรีมมัน… เมื่อแกะซองออกมาแล้วชาวเน็ตต่างต้องพบเจอกับความผิดหวัง มาดูความคิดเห็นของพวกเขากัน มันเหมือนเขี้ยวกุดตรงไหนเนี๊ยะ… เมื่อความคาดหวังต้องมาเจอกับความจริง… ตอนซื้อมาก็ตื่นเต้นอยู่นะ แต่พอเปิดมาแล้วแบบ…งงเลย ไอศกรีมเขี้ยวกุดที่ไม่เหมือนเขี้ยวกุดสักนิด แต่ก็โอเคนะ รสองุ่น ถึงแม้จะมีคนบ่นๆบ้างถึงรูปร่างที่ไม่เหมือนซองสักนิด แต่ก็มีคนคอนเฟิร์มว่าอร่อยใช้ได้เลยล่ะ! ไอศกรีมจากอนิเมชั่นสุดฮิตนี้เพิ่งมีการวางจำหน่ายที่มาเลเซีย ในราคา 1.50 ริงกิตมาเลเซีย หรือราวๆ 12 บาทนั่นเอง ถึงแม้จะมีรูปร่างไม่เหมือนที่ฝันไว้ แต่การจำหน่ายไอศกรีมก็น่าจะพอให้แฟนๆ How to Train Your Dragon ได้พอหายคิดถึงบ้าง… เป็นยังไงกันบ้าง…
-
ลุงงง การบ้านคณิตหลานทำไมได้คะแนนน้อย ชาวเน็ตก็ยิ่งงง แค่ลากไม่เป๊ะเนี่ยนะ?
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าประเทศญี่ปุ่นนั้น มีความเป็นระเบียบมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง คุณลองจินตนาการดูว่าเด็กญี่ปุ่นต้องฝึกความมีระเบียบตั้งแต่ชั้นอนุบาล และหากว่าเด็กๆเริ่มโตขึ้น คุณครูก็ต้องมีความเข้มงวดตามไปด้วยใช่ไหมล่ะ? เรื่องที่เป็นประเด็นในทวิตเตอร์ที่ญี่ปุ่นขณะนี้ เป็นเรื่องราวของโอจิซัง (ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า คุณลุง) โดยบัญชีทวิตเตอร์ @r_yukitok ได้โพสต์การบ้านของหลานป.2 ลงในทวิตเตอร์ และชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์กันมากมาย ถึงคุณครูผู้ตรวจ พวกเราลองมาดูการบ้านของเด็กญี่ปุ่นป.2 กัน โจทย์ข้อนี้บอกให้วาดรูปสามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยม โดยลากเส้นตรงเท่านั้น ลงในช่องคำตอบ จากโจทย์ด้านบน จะแสดงให้เห็นว่าดูไม่เห็นจะผิดตรงไหนแต่อย่างใด แต่คุณครูผู้ตรวจก็ยังทำเครื่องหมาย ว่ายังไม่ถูกลงไป (เครื่องหมายสี่เหลี่ยมล้อมรอบข้อย่อยของข้อ 4) เช่นเดียวกับข้อ 5 โจทย์ได้สั่งให้วาดรูปทรงลงไปทั้งแนวตั้ง และแนวยาว เป็น 3*6 เซนติเมตร หลังจากที่ได้ดูการบ้านของหลานแล้ว น้องสาวของคุณลุงท่านนี้จึงได้เข้าไปถามคุณครูที่โรงเรียน และหลังจากได้รับคำตอบก็ยิ่งสร้างความงุนงงเข้าไปใหญ่ ซึ่งคุณครูท่านนี้ได้อธิบายว่า “เส้นที่วาดไม่เป็นเส้นตรงมากพอค่ะ” จากโจทย์ให้ลองสังเกตมุมขวาล่างที่คุณครูมาร์กสามเหลี่ยมไว้ เพราะเส้นไม่บรรจบกันจนสุด ผู้คนในทวิตเตอร์ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “เด็กป.2…
-
หนังสือไกด์เฉดสีเขียนด้วยมือ จากศตวรรษที่ 19 บรรพบุรุษแห่ง PANTONE
ในยุคปัจจุบันการเลือกใช้สีต่างๆทั้งในงานออกแบบ งานศิลปะ และสถาปัตยกรรม เรามักจะนึกถึงแพนโทนกันเป็นอันดับแรก แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการใช้สีจากแพนโทนเองก็มีประวัติศาสตร์ของมันมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 19 ชื่อของหนังสือแพนโทนยุคนั้น คือ Nomenclature of Colours เป็นหนังสือที่เขียน และวาดด้วยลายมือทั้งหมดในปี 1814 โดย Abraham Gottlob Werner นักวิเคราะห์แร่ชาวเยอรมนี Patrick Syme นักวาดและ Robert Jameson นักธรรมชาติวิทยาชาวสกอตแลนด์ สิ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ได้เป็นที่รู้จักนั้น เกิดจากการเขียนบรรยายลักษณะของสีที่นำมาจากธรรมชาติ ทั้งจากสัตว์หลายชนิด และพืชพรรณทั้งหมด แม้แต่นักธรรมชาติวิทยาอย่าง Charles Darwin เองยังใช้หนังสือนี้ในทางวิทยาศาสตร์ รายชื่อของสีแต่ละชนิด ที่ใช้ชื่อของสัตว์แต่ละสายพันธุ์ ในการบอกลักษณะของสี เฉดสีฟ้า ลักษณะของพาแลทสีของสีส้มแบบต่างๆ โทนสีเขียวที่มีตั้งแต่ชื่อของแมลงไปจนถึงชื่อของแร่ต่างๆ เฉดสีต่างๆ ที่ได้วาดระบายเป็นแถบแต่ละอัน และใช้ชื่อที่ทำให้นึกถึงสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติได้ทันที แม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะดูโบราณและเก่าแก่ ทาง Smithsonian Books ได้มีการนำมาพิมพ์เผยแพร่ใหม่อีกครั้ง และทุกคนสามารถเป็นเจ้าของมันได้ด้วยในขนาดพกพาอีกด้วย หากใครสนใจสามารถหาซื้อได้ที่เว็บไซต์ Amazon …
-
หนุ่มใช้เวลา 6 ปี เก็บเงิน 6 ล้านบาท มอบให้โรงบาลที่รักษาเขาจนหายจาก “โรคมะเร็ง” !!
ระบบบริการสุขแห่งชาติ (National Health Service) ในสหราชอาณาจักร ถือว่าเป็นระบบที่พวกเขาภาคภูมิใจกันอย่างมาก เพราะมันช่วยให้ประชากรราวๆ 70 เปอร์เซ็นต์ สามารถรับการรักษาได้ฟรีในหลายๆ เงื่อนไข เช่นเดียวกันกับ Andrew Davies เด็กหนุ่มชาวอังกฤษ หนึ่งในผู้ที่มีสิทธิ์รักษาฟรีตามระบบดังกล่าว หลังจากที่ตอนอายุ 13 ปี เขาถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรค “มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอีลอยด์” ในปี 2012 ตอนที่เขาถูกวินิจฉัยว่ามีอาการของโรคมะเร็ง ทำให้เขาต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล Sheffield Children’s Hospital Andrew ต้องเข้ารับการเยียวยาด้วยเคมีบำบัด (หรือที่เราเรียกกันว่า “คีโม”) ซึ่งมันต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา บวกกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส หลังจากนั้นจึงตามด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก จากตอนแรกที่เขาเริ่มเข้ารับการรักษานั้น เขาก็รู้สึกได้ว่าแม้จะได้สิทธิ์รักษาฟรี แต่เขาก็มีความต้องการที่จะคืนค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลต้องเสียไปทุกบาททุกสตางค์ เมื่อเขาถามบุคลากรว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นมันเท่าไหร่ คำตอบที่ได้ก็คือ 150,000 ปอนด์ หรือราวๆ 6.2 ล้านบาท!! Andrew บอกว่า “เธอบอกกับผมว่าการผ่าตัดทั้งหมดนั้นระบบ NHS…
-
เด็กหนุ่มวัย 20 ปี เสียชีวิตลง จากการกิน “พาสต้า” เหลือทิ้งค้างไว้นอกตู้เย็นนาน 5 วัน!!
เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆ คน เมื่อเด็กหนุ่มวัย 20 ปีที่รู้จักกันในชื่อ AJ จากเมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เสียชีวิตลง หลังจากที่เขาได้กิน “พาสต้า” ที่เหลือทิ้งค้างไว้นอกตู้เย็นมานานถึง 5 วัน จากการรายงานกล่าวว่า พาสต้า (ที่ทำการปรุงสุกแล้ว) ถูกวางทิ้งไว้บริเวณโต๊ะในห้องครัว โดยที่ไม่มีการเก็บไว้ในตู้เย็นแต่อย่างใด จนกระทั่งผ่านไป 5 วัน AJ ก็ได้ตัดสินใจหยิบมันมาอุ่นกิน เขาเอาเข้าไมโครเวฟแล้วกินเข้าไปตามปกติ ก่อนที่จะออกไปเล่นกีฬานอกบ้านสักครึ่งชั่วโมง พอกลับบ้านมาเขาก็รู้สึกถึงอาการปวดหัวรุนแรง ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน พยายามดื่มน้ำเข้าไปเยอะๆ AJ อ้วกออกมาเรื่อยๆ นานหลายชั่วโมง จนช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน เขาก็ตัดสินใจที่จะกลับเตียงพยายามข่มตาหลับ หลังจากผ่านไปได้ประมาณ 11 ชั่วโมง พ่อแม่ของเขาเห็นว่า AJ ไม่ยอมตื่นไปเรียนสักที จึงขึ้นไปปลุกแล้วพบว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว ผลชันสูตรเผยว่า เขามีอาการของโรค “อาหารเป็นพิษ” จากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus Cereus ซึ่งมีความสามารถในการผลิตสปอร์ และสร้างสารพิษ จากการกินพาสต้าที่เก็บไว้นอกตู้เย็นนานหลายวัน…
-
นักวิทย์พบ หลอดเลือดชนิดใหม่ซ่อนอยู่ภายในกระดูก เชื่อช่วยขนเซลล์ออกจากไขกระดูก
เมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ 2019 นิตยสาร “Nature Metabolism” ได้ทำการตีพิมพ์งานวิจัยของมหาวิทยาลัยดูสบูร์ก ซึ่งได้ออกมาประกาศการค้นพบหลอดเลือดชนิดใหม่ที่ซ่อนอยู่ภายในกระดูก และไม่เคยมีการค้นพบมาก่อนในอดีต โดยจากข้อมูลที่ระบุไว้ในงานวิจัย นักวิทยาศาสตร์พบกับหลอดเลือดชิ้นใหม่ที่ว่านี้ครั้งแรกในกระดูกขาของหนูขนาดเล็ก ด้วยการฉีดสารเคมีที่ทำให้กระดูกของหนูมีสภาพโปร่งใส่ก่อนที่จะพบว่าภายในนั้นมีหลอดเลือดขนาดเล็กๆ กระจายอยู่เป็นจำนวนมาก ภาพของหลอดเลือดชนิดใหม่ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าในกระดูกที่โปร่งใสของหนูมีเส้นกระจายออกมาอยู่ จริงอยู่ว่าตามปกติการค้นพบอะไรในกระดูกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะไม่ได้หมายความว่าในกระดูกมนุษย์จะต้องมีสิ่งที่พบอยู่เช่นกันเสมอไป แต่หลังจากที่พบหลอดเลือดชนิดใหม่ที่ว่านี้ หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ก็ตัดสินอาสาตรวจเอ็มอาร์ไอกับขาตัวเองทันที และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่ามีโอกาสสูงที่กระดูกของมนุษย์เองก็อาจจะมีหลอดเลือดชนิดใหม่นี้อยู่เหมือนกัน แม้เรื่องที่ว่าไขกระดูกเป็นสถานที่ซึ่งรับหน้าที่ผลิตเซลล์เม็ดเลือด และภูมิคุ้มกันจะเป็นเรื่องที่ทราบกันเป็นอย่างดีในวงการแพทย์ก็ตาม แต่ในปัจจุบันพวกเรากลับยังไม่ทราบว่าเซลล์เม็ดเลือดและเซลล์ภูมิคุ้มกันเหล่านี้ เดินทางออกจากกระดูกไปยังระบบไหลเวียนโลหิตได้อย่างไร ดังนั้นหลอดเลือดที่พบนี้จึงถูกสันนิษฐานว่ามีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการขนย้ายเซลล์เม็ดเลือด และเซลล์ภูมิคุ้มกันจากในกระดูกออกไปสู่ในร่างกายไปนั่นเอง และหากหลอดเลือดเหล่านี้ได้รับการยืนยันว่าทำหน้าที่ขนส่งโลหิตจริงๆ มันก็จะหมายความว่าในที่สุดนักวิทยาศาสตร์ก็สามารถไขหนึ่งในปริศนาที่สำคัญที่สุดของร่างกายมนุษย์เลยทีเดียว Matthias Gunzer ผู้นำทีมนักวิทยาศาสตร์ในการทดลองครั้งนี้บอกว่านี่เป็นการค้นพบที่น่าเหลือเชื่อมากๆ เพราะพวกเขานั้นไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าการทดลองของพวกตนเองจะทำให้โลกได้รู้จักกับสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่มีการระบุไว้ในหนังสือเล่มใดๆ มาก่อนในศตวรรษที่ 21 หากเพื่อนๆ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของการค้นพบในครั้งนี้ เพื่อนก็สามารถเข้าไปชมกันได้ที่ ช่อง nature video หรือคลิก ที่นี่ ไม่แน่เหมือนกันว่าการค้นพบของพวกเขาในครั้งนี้ก็อาจจะมีประโยชน์เป็นอย่างมากกับวงการแพทย์ต่อไปในอนาคตเลยก็เป็นได้ ที่มา livescience, newscientist และ sciencealert
-
ความต้องการสุดท้ายของผู้ป่วย ICU ร้องอยากแต่งงานกับภรรยา ทาง รพ. เลยบันดาลให้เป็นจริง
“การแต่งงาน” ถือว่าเป็นความฝันสูงสุดของคู่รักหลายๆ คู่ และไม่ว่าจะแต่งงานเวลาใดก็ตาม มันก็ยังถือว่าเป็นการแต่งงานที่สำคัญอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ในเวลาที่ “ใกล้จะเสียชีวิต” ก็ตาม เหมือนเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นเรื่องการขอแต่งงานครั้งสำคัญของผู้ป่วย ICU ที่รู้ว่าชีวิตของตนอาจเหลือไม่มากแล้ว จึงทำการร้องขอให้ทางโรงพยาบาลจัดงานแต่งงานให้แก่คน โดยผู้ป่วยคนดังกล่าวคือ Steve ที่รักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ณ ศูนย์การแพทย์ในเมือง Willits รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขากับ Shilynne คู่รักของเขา นั้นอยู่ด้วยกันมานานถึง 23 ปี ทั้งคู่นั้นอยากจะแต่งงานกันมากเหลือเกิน แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำดังที่หวังสักที จนอยู่มาวันหนึ่ง Steve พบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคร้ายและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และหลังจากได้รับข่าวร้ายเกี่ยวกับอาการของตัวเอง เขากลัวว่าเวลาที่จะทำให้ความหวังของเขาให้เป็นจริงนั้นเหลืออีกไม่มาก ในเช้าวันรุ่งขึ้น Steve จึงได้ทำการบอกกับพนักงานในศูนย์การแพทย์และทำการขอร้องช่วยให้เขาได้แต่งงาน ก่อนที่พนักงานคนดังกล่าวจะนำเรื่องไปบอกกับ Dennis Long บาทหลวงที่ทำงานร่วมกับที่ศูนย์การแพทย์ เมื่อ Dennis ได้ทราบเรื่องดังกล่าว จึงรีบไปยังอำเภอเพื่อเดินเรื่องทำการขอทะเบียนสมรสให้แก่คู่บ่าวสาว ซึ่งปกติแล้วต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะได้ทะเบียนสมรสมาจริงๆ แต่หลังจากที่พนักงานอำเภอหลายๆ คนรู้เรื่องราวของ Steve ก็พยายามช่วยเหลืออย่างสุดกำไร จนในที่สุดก็ได้ทะเบียนสมรสมาในเวลาไม่กี่ชั่วโมง …
-
หนุ่มจะลาออกจากแบงก์ เมื่อถึงวันสุดท้ายของการทำงานจึงแต่งเป็น “Spider-Man” มาเสียเลย
หากเพื่อนๆ ตัดสินใจที่จะลาออกจากงานที่ทำงานอยู่ แน่นอนว่าสำหรับหลายๆ คนคงอยากทำให้วันที่เราได้ทำงานวันสุดท้ายกลายเป็นความทรงจำที่สุดยอด สนุกสนานและไม่ซ้ำซากจำเจเหมือนการทำงานอย่างปกติ เช่นเดียวกับชายคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากสร้างความทรงจำที่สนุกสนานในวันสุดท้ายของการทำงาน เขาจึงตัดสินใจที่จะแต่งตัวเป็น “Spider-Man” มาทำงานเสียเลย โดยเรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในธนาคารสาขาหนึ่งในเมืองเซาเปาลู รัฐเซาเปาลู ประเทศบราซิล เมื่อพนักงานคนหนึ่งที่ตัดสินใจลาออกจากธนาคารไปแล้ว แต่งตัวเป็น Spider-Man เข้ามาทำงานวันสุดท้ายของเขา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชุดไอ้แมงมุมหรือเปล่า แต่ในวันดังกล่าวพ่อพนักงานของเรามีพนักงานอย่างล้นเหลือ ทำงานอย่างคล่องแคล่วและกระตือรือร้นอย่างมาก นอกจากจะขยันขันแข็งเป็นอย่างมากในวันสุดท้ายของการทำงานแล้ว เขายังกระตือรือร้นที่จะสอนงานให้แก่เพื่อนร่วมงานต่างๆ อีกด้วยนะ สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าข้างในชุดไอ้แมงมุมคนนี้จะเป็นใครกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ก็คือการที่เขาแต่งชุดฮีโร่มาดังวันนี้ ช่วยเพิ่มพลังในการทำงานให้แก่เขา พร้อมกับได้มอบความสุขให้แก่คนรอบๆ ตัวของเขาด้วย เฮ้ นาย ตรงนั้นมันผิดนะ นายต้องแก้เป็นแบบนี้ๆ บลาๆๆ ฮีโร่โดนแอบถ่ายมาลงอินสตาแกรม มาชมวันสุดท้ายของการทำงานของไอ้แมงมุมกันดีกว่า ที่มา 9gag, Ladbible, Cheezburger, Imgur
-
แฟนๆ ฟินตรึม!! คู่พระนางรีเทิร์น เมื่อ Bradley Cooper ปรากฏตัวกลางโชว์ของ Lady Gaga
เรียกได้ว่าเป็นปีทองของ Bradley Cooper กับ Lady Gaga หลังภาพยนตร์ที่พวกเขาแสดงอย่าง A Star Is Born เข้าฉายและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี แถมภาพยนตร์ดังกล่าวยังการันตีมีรายชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม, นักแสดงชายยอดเยี่ยม, ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและอื่นๆ อีกหลายสาขา ล่าสุด Bradley Cooper ก็ทำให้แฟนๆ A Star Is Born เซอร์ไพรส์อีกครั้ง เมื่อภาพยนตร์จบ แต่พระนางยังไม่จบ มาปรากฏตัวให้แฟนๆ ได้เห็นในโชว์ของ Lady Gaga ที่ลาสเวกัสเสียด้วย โดย Bradley Cooper ได้มาปรากฏตัวตามคำเชิญของ Lady Gaga และสร้างเสียงฮือฮาให้กับแฟนๆ ที่เข้ามาชมอย่างล้นหลาม ก่อนที่ทั้งคู่จะร้องเพลง Shallow เพลงประกอบภาพยนตร์ A Star Is Bron ไปด้วยกัน และเมื่อชาวเน็ตได้เห็นคู่พระนางของเรื่องได้กลับมาร้องเพลงคู่กันอีกรอบ…
-
ชายผู้ไม่เคยฝึกการทำ CPR มาก่อน แต่ใช้วิธีการนั้นช่วยชีวิตคนไว้ได้ “เพราะจำมาจากซีรีส์” !!
CPR คือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อช่วยเหลือผู้ที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น ให้กลับมาหายใจได้อีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะรู้จักหรือได้ฝึกฝนวิธีการช่วยเหลือดังกล่าวมาแล้ว แต่สำหรับ Cross Scott ช่างซ่อมรถวัย 21 ปีจากรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เขาไม่เคยฝึกฝนวิธีดังกล่าวเลย แต่เขากลับสามารถใช้การ CPR นั้นช่วยชีวิตหญิงสาวคนหนึ่งเอาไว้ได้ เพราะบังเอิญไปจำมาจากใน “ซีรีส์”!! Cross ชายผู้ไม่เคยฝึก CPR แต่สามารถใช้วิธีการนั้นช่วยชีวิตสาวคนหนึ่งไว้ได้ เรื่องราวเกิดขึ้นในวันที่ 11 มกราคม 2019 ขณะที่ Cross กำลังนำรถของลูกค้าไปทดลองขับอยู่นั้น เขาก็ได้เหลือบไปเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถยนต์สีขาวที่กำลังไหลไปด้านหน้า หากแต่ว่าเธอกลับฟุบหมดสติไปแล้ว เขาไม่รอช้ารีบขับเข้าไปใกล้เพื่อดูอาการของเธอคนนั้น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมา แถมปากก็เริ่มซีด เขาจึงลงจากรถเพื่อเข้าช่วยเหลือเธอในทันที Cross นำหินก้อนใหญ่มาขวางล้อหน้าของรถคันนั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้ไหลไปมากกว่านี้ ก่อนที่จะนำหินอีกก้อนทุบให้กระจกตรงฝั่งคนขับแตกเพื่อเข้าไปช่วยเหลือเธอ ระหว่างนั้นก็มีผู้หญิงอีก 2 คนที่เห็นเหตุการณ์โทรเรียกรถพยาบาลเป็นการด่วน ส่วน Cross ก็ค่อยๆ อุ้มหญิงสาวที่หมดสติไปออกมาจากรถ แล้วจึงลองเช็กชีพจรของเธอดู ซึ่งเขาคิดว่าไม่รู้สึกถึงมันเลย เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจทำ CPR ให้กับหญิงสาวคนนี้…
-
อายุเท่าไหร่ก็ยังห่วง!! คุณแม่วัย 70 ขับรถซาเล้งฝ่าลมหนาวรอลูกที่สถานีรถไฟ พบหน้าน้ำตาก็ไหล…
นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นถึงความรัก ความห่วงใยของผู้เป็น ‘แม่’ ที่มีต่อลูกได้เป็นอย่างดีจริงๆ และเป็นหนึ่งเรื่องที่จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่าความใส่ใจที่มีนั้นไม่ได้ลดน้อยลงแต่ใดเลย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปขนาดไหน โดยนี่คือเรื่องราวน่ารักๆ ของคุณแม่วัยชราคนหนึ่ง ที่ขี่รถออกมารับลูกชายในวันตรุษจีนที่ผ่านมา และพอได้เจอหน้าลูกปุ๊บน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาในทันที… รถซาเล้งคันน้อยของคุณแม่ ในวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาแห่งการกลับบ้านของชาวจีนส่วนใหญ่เนื่องในเทศกาลตรุษจีน เพื่อกลับไปยังอ้อมกอดอันอบอุ่นและร่วมฉลองวันปีใหม่กับครอบครัวของพวกเขา เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง แน่นอนว่าที่สถานีรถไฟนั้นเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่กลับมาจากเมืองใหญ่ เช่นเดียวกับสถานีรถไฟแห่งหนึ่งในเมืองโฮ่วหม่า มณฑลซานซี แต่ที่นี่ก็ต่างจากที่อื่นตรงที่มีหญิงชราวัย 70 ปีคนหนึ่งขับรถซาเล้งมาจอดเอาไว้ ผู้คนที่อยู่ในละแวกนั้นจึงได้เข้าไปถามเธอว่าอายุก็มากแล้ว ทำไมถึงยังขับรถฝ่าลมหนาวออกมาเช่นนี้ เธอก็ตอบกลับมาว่ามารอรับลูกชาย รอเจอหน้าลูกชายอีกครั้ง เธอเล่าให้ฟังว่าตัวเองขับรถสามล้อออกจากบ้านมาไกลกว่า 5 กิโลเมตรเพื่อมารอลูกชายผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินที่สถานีรถไฟแห่งนี้ หลังจากเขาย้ายไปทำงานต่างเมืองมานาน 6 เดือนและยังไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเลย น้ำตาไหลเลยทีเดียว ในวินาทีที่ลูกชายเดินออกมาจากสถานี เธอรีบเข้าไปช่วยหยิบยกกระเป๋าของเขาแทบจะทันที แถมยังแสดงความดีใจที่ได้เจอหน้าลูกอีกครั้งผ่านทางน้ำตาที่ซึมออกมา ทั้งยังบอกว่าสงสารลูก เป็นห่วงเขาและคิดถึงเอามากๆ ช่วยลูกถือข้าวของ เรื่องราวประทับใจนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในรูปแบบของคลิปวิดีโอ และมีการอัพผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คของประเทศจีน ซึ่งก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ดั่งเช่นคอมเมนต์หนึ่งที่กล่าวว่า “ไม่ว่าจะโตแค่ไหน…
-
พ่อเลี้ยงขายรถคันโปรด เอาเงินจุนเจือครอบครัว ผ่านไป 40 ปี ลูกเลี้ยงตอบแทนด้วยรถคันเดิม!!
สำหรับการที่จะเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้โตขึ้นมาได้ พ่อแม่บางคนอาจต้องเสียสละสิ่งต่างๆ มากมายทั้งเวลา แรงกายรวมถึงของรักของหวงบางอย่าง ที่เมื่อถึงคราววิกฤติก็ต้องเอาสิ่งนั้นออกมาขายเพื่อนำเงินจำนวนนั้นมาใช้จุนเจือครอบครัว และเมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาจนพอเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ลูกๆ หลายคนก็อยากจะตอบแทนความเสียสละของพ่อแม่ด้วยการปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นอย่างดี และบางทีอาจจะตอบแทนด้วยของรักที่หายไปเมื่อวันวาน เหมือนดั่งเหตุการณ์นี้… เรื่องราวนี้ได้เริ่มขึ้นในสมัยที่หญิงสาวชื่อว่า Janis Higgins ยังคงอยู่ในวัยเด็ก ในเวลานั้นเธอได้พบกับชายคนหนึ่งที่กลายเป็นพ่อเลี้ยงของเธอในเวลาต่อมาจากการเข้าพิธีวิวาห์กับแม่ของเธอ แต่ว่าก่อนที่เขาจะขอแม่ของ Janis แต่งงานไม่กี่สัปดาห์ เขาได้แสดงความพร้อมที่จะเป็นพ่อที่ดีให้กับครอบครัวด้วยการขายรถ Corvette Stingray ปี 1973 ซึ่งเป็นของรักของเขา รถคันนั้นคุ้นๆ นะเนี่ย เพื่อที่จะนำเงินก้อนนี้มาใช้เลี้ยงดูภรรยาและลูกเลี้ยงทั้งสอง เนื่องจากในเวลานั้นฐานะของครอบครัวค่อนข้างจะไม่สู้ดีนัก อีก 40 ปีต่อมา Janis ได้กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และเธอก็คิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่จะตอบแทนความเสียสละของพ่อเลี้ยงที่ขายรถในฝันของเขาไปเมื่อครั้งเธอยังเยาว์วัย และสิ่งที่เธอจะตอบแทนเขาก็คือรถคันเดิมของเขานั่นเอง… ลองทายดูสิว่านี่อะไร ทางครอบครัวได้รวมตัวกันเซอร์ไพรส์พ่อเลี้ยงพร้อมกับอัดวิดีโอคลิปเอาไว้ โดยในวิดีโอนี้จะเป็นภาพของ Janis กับพ่อเลี้ยงของเธอขณะกำลังอยู่ในลานจอดรถแห่งหนึ่งหลังจากไปกินอาหารเช้าด้วยกันมา แล้วจู่ๆ พ่อเลี้ยงคนนี้ก็สังเกตเห็นว่าที่ลานจอดรถมีรถคันมัสเซิลคันสีเขียว เหมือนกับที่เขาเคยมีจอดไว้อยู่ จึงเดินไปยังรถคันนั้นแล้วมองเพ่งพิจารณาอยู่ด้วยความสนใจ แต่ว่าหลังจากใช้เวลาตรงนั้นอยู่สักพักหนึ่ง Janis ก็เรียกให้เขามาที่ท้ายรถคนนั้นจากนั้นก็มอบกุญแจให้ ซึ่งถึงตรงนี้เขาก็รู้ในทันทีว่ามันหมายความว่าอย่างไร……
-
บริษัทอินเดียสุดครีเอท เปลี่ยน ‘ควันเขม่าจากท่อไอเสีย’ เป็นน้ำหมึกสร้างเงินได้เป็นกอบเป็นกำ
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถยนต์ในประเทศของเรานั้นมันมีมากมายซะเหลือเกิน มากซะจนขนาดที่ว่าทำให้ถนนหลายสายในเมืองใหญ่เป็นอัมพาตแทบจะสัญจรไปมาไม่ได้ และด้วยความที่มันมีจำนวนมหาศาลเช่นนี้ จะดีแค่ไหนถ้าหากเราสามารถสร้างเม็ดเงินได้จากมลพิษที่รถยนต์เหล่านี้ปล่อยออกมาทางท่อไอเสีย เหมือนกับบริษัทจากอินเดียแห่งนี้ที่สามารถเปลี่ยนควันเขม่าเป็นน้ำหมึกสร้างรายได้อย่างมหาศาล!! ประเทศอินเดียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีปัญหาเรื่องควันพิษ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้เครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์หรือในอุตสาหกรรมอื่นๆ จนทำให้เมืองบางเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันสีขุ่น ด้วยการเห็นปัญหานี้เกิดขึ้นบริษัทสตาร์ทอัพชื่อว่า Chakr Innovations จึงเกิดความคิดอยากจะช่วยลดปัญหานี้และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ คลิปอธิบายที่มาของสิ่งสิ่งนี้ พวกเขาทำการรวบรวมทีมวิศวกรช่วยกันคิดเพื่อหาทางแก้ไขเรื่องนี้ จนในที่สุดแล้วพวกเขาก็สามารถประดิษฐ์เครื่องมือที่มีชื่อว่า ‘เครื่องดักจับไอเสีย’ ขึ้นมา เจ้าเครื่องดักจับไอเสียที่ว่านี้ วิธีการทำงานของมันก็คือดักจับควันเขม่าที่เครื่องยนต์ไอเสียปล่อยออกมา จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเขม่าคาร์บอนที่เผาไหม้ไม่หมดให้กลายเป็นน้ำหมึกดำเพื่อใช้พิมพ์ใช้ปริ๊นท์สิ่งต่างๆ ซึ่งในเบื้องต้นได้ติดตั้งเครื่องนี้ในเมืองคุร์เคาน์ เมืองที่อยู่ใกล้ๆ กับกรุงนิวเดลี ก่อนที่กระจายไปยังเมืองอื่นๆ ตามลำดับ… สำหรับน้ำหมึกที่ได้มานั้นผ่านการทดสอบในเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากบริษัท Dell เป็นที่เรียบร้อยจึงมั่นใจได้เลยว่าสามารถใช้งานได้จริงๆ ทั้งนี้ข้อมูลจากทาง ThaiPBS ได้เผยว่าน้ำหมึกนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้มากถึง 5,200,000 บาท (ข้อมูลเมื่อเดือนกันยายน 2018) และสามารถผลิตเป็นน้ำหมึกสีดำได้ถึง 20,000 ลิตรเลยทีเดียว คลิปวิดีโอจากทาง ThaiPBS ที่มา: chakr, fastcompany, thaipbs
-
หัวขโมยนินจา ก่อคดีมา 27 ครั้ง พอโดนจับก็คุยโวกับตำรวจว่า “ตรูยกน้ำหนักได้ 120 กิโลฯ”!!
บางคนอาจคิดว่าหัวขโมยที่มีทักษะการบุกเข้าโจรกรรมแบบเหนือชั้นนั้นอาจไม่มีอยู่จริง แต่ตัวอย่างของหัวขโมยยอดฝีมือผู้ถูกขนานนามว่า “หัวขโมยนินจา” ก็คือชายคนนี้นี่เอง… Kazuki Nishimura หนุ่มวัย 42 ปีจากจังหวัดโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เขาคือหนึ่งในอาชญากรที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุด ด้วยสถิติ 18 เดือน ก่อคดีมาแล้วกว่า 27 ครั้ง!! นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2017 จนถึงเดือนตุลาคม 2018 Kazuki ก่อคดีลักทรัพย์มาแล้วถึง 27 ครั้ง มีทั้งที่สำเร็จและพยายามแต่ไม่สำเร็จก็มี ถึงอย่างนั้นเมื่อรวมค่าเสียหายจากสิ่งที่เขาขโมยไป ไม่ว่าจะเป็นของมีค่าหรือเงินสด รวมทั้งหมดแล้วมากกว่า 9.45 ล้านเยน หรือประมาณ 2.7 ล้านบาทเลยทีเดียว!! นอกจากนั้น ชายคนนี้ยังไม่ใช่หัวขโมยธรรมดาที่สามารถจับกุมตัวได้อย่างง่ายดาย เพราะจากการรายงานของตำรวจกล่าวว่าเขามีทักษะระดับพระกาฬในการย่องเบา จนเจ้าหน้าที่เรียกขานเขาว่าเป็น “หัวขโมยนินจา” ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการปีนป่ายขึ้นตึกสูงอย่างรวดเร็ว ไต่ขึ้นบันไดหนีไฟอย่างคล่องแคล่ว คลานหลบในช่องระบายอากาศ บุกเข้าอาคารทั้งทางหน้าตาหรืองัดประตู โดยที่แทบไม่มีใครได้เห็นหน้าเขามาก่อนเลย แต่แล้วเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ระบุตัวได้เพราะความผิดพลาดในการก่อคดีเมื่อเดือนสิงหาคม 2017 เขาดันทำกุญแจห้องบ้านหล่นทิ้งไว้ในสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงบอกได้ว่าเขาคือผู้ก่อคดี อย่างไรก็ตาม…
-
8 “การแต่งงาน” ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนสองคน แต่เกิดขึ้นระหว่างคน กับอะไรก็ไม่รู้สินะ…
“การแต่งงาน” เป็นเหมือนสิ่งที่ยืนยันความรักระหว่างคนสองคน ว่าทั้งคู่นั้นจะอยู่ด้วยกัน รักและดูแลกันและกันไปจนตราบนิจนิรันดร์กาล แต่จะเป็นอย่างไร เมื่อการแต่งงานไม่ได้เกิดขึ้นกับคนสองคน แต่เกิดขึ้นระหว่างคนหนึ่งคน กับบางสิ่งที่ไม่ใช่คนเสมอไป เหมือนอย่างพวกเขาเหล่านี้ 1. Noorul Mahjabeen Hassan แต่งงานกับ “เกม Tetris” Objectum Sexual คือความรู้สึกมีแรงดึงดูดทางเพศกับสิ่งของไม่มีชีวิต และหญิงสาววัย 20 ปีคนนี้ก็คือตัวอย่างของคนที่มีอาการดังกล่าวนั่นเอง เธอบอกว่าตัวเองมีความสัมพันธ์กับเครื่องคิดเลข (ที่เธอตั้งชื่อว่า Pierre), iPods หรือแม้แต่ระบบ GPS แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรักมากที่สุดก็คือวิดีโอเกม Tetris ซึ่งเธอตั้งใจจะแต่งงานกับมันหลังเรียนจบมหาวิทยาลัย 2. Pascale Sellick แต่งงานกับ “ผ้านวม” สำหรับศิลปินวัย 49 ปีคนนี้ การแต่งงานระหว่างเธอและผ้านวมนั้นไม่ได้ถูกจัดขึ้นมาแบบขำๆ เลยแม้แต่น้อย เพราะเธอถึงขั้นจ้างทีมออร์แกไนซ์วางแผนจัดงานแต่งขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ เธอบอกว่า “กับผ้านวมของฉัน มันคือความสัมพันธ์ที่ยาวนาน มั่นคง ลึกซึ้ง และวางใจได้มากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา นั่นเพราะว่ามันจะอยู่กับฉันทุกครั้งที่ต้องการ และมอบอ้อมกอดที่ดีที่สุดให้กัน” 3.…
-
ชาวเน็ตตกใจ The Mountain จาก GOT ถือแก้วกาแฟ ทำไมมันเหมือนถือของเล่นเลยฟร๊ะ!?
สำหรับแฟนๆ ซีรีส์เรื่อง GOT แล้ว จะรู้กันดีว่าบท The Mountain ผู้ชายตัวใหญ่ยักษ์ผู้แข็งแกร่งนั้น เขาไม่ได้ใช้ CG แต่อย่างใด แต่คนที่มารับบทเป็น The Mountain เนี่ยเค้าตัวใหญ่อย่างนั้นจริงๆ เลย!! ใหญ่แบบชนิดที่ว่าถือแก้วกาแฟแล้วดูเหมือนกับถือของเล่นยังไงอย่างงั้นเลยทีเดียว ขอแนะนำให้รู้จักกับ Hafþór Björnsson วัย 30 ปี หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Thor ชายผู้มีส่วนสูง 2.06 เมตร หนัก 181 กิโลกรัม เขาเป็นชาวไอซ์แลนด์แต่โดยกำเนิด ล่าสุด Thor ได้ทำการโพสต์รูปของตัวเองคู่กับภรรยา ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บถือถ้วยกาแฟเอาไว้ในมือ โดยปกติแล้วมันก็คือรูปภาพแบบธรรมดา ไม่เห็นแปลกอะไรเลยใช่ไหมล่ะ? ใครๆ เขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น แต่ทว่า คุณลองจินตนาการถึงร่างกายที่ใหญ่มหึมาของเขา ถือ ‘แก้วกาแฟ’ เล็กๆ ดูสิ มันเหมือนกับว่าเป็นแก้วของเล่นเด็กยังไงอย่างงั้นเลย!! ชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็ตกใจไปตามๆ กัน “นะ…
-
ถึงกับวุ่น…จู่ๆ ‘กิ๊ก’ เจ้าบ่าว ก็โผล่มาร่วมงานแต่ง แถมสวม ‘ชุดเจ้าสาว’ มาด้วย!?
เรื่องราวอันน่าเจ็บช้ำน้ำใจของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่กำลังจะกลายเป็นเจ้าสาว แต่ทว่างานแต่งในฝันของเธอต้องพังทลายลง เพราะมือที่สาม!? เรื่องราวดังต่อไปนี้เกิดขึ้นในประเทศแอฟริกาเมื่อฤดูร้อนในปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งชื่อว่า @Nkokhi ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโองานแต่ง ที่ในคลิปนั้นมีคนสวมชุดเจ้าสาวถึงสองคน!? พร้อมกับแคปชันว่า “กิ๊กของเจ้าบ่าวโผล่มาที่งานแต่งงาน พร้อมกับสวมชุดเจ้าสาวมาด้วย เจ้าบ่าวพยายามที่จะทำให้สถานการณ์สงบลง” ลองไปชมคลิปวิดีโอกันครับ จากในคลิปจะเห็นว่าเจ้าสาวกำลังยืนรอเพื่อเข้าทำพิธี ขณะที่ผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่สวมชุดเจ้าสาวเช่นกัน พยายามจะป่วนงานแต่ง และเจ้าบ่าวเองก็พยายามที่จะจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่แขกที่มาร่วมงานก็ส่งเสียงโห่ร้องอยู่ด้านหลัง คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนรีทวีตไปกว่า 7,000 ครั้ง และเข้ามาชมวิดีโอมากถึง 675,000 ครั้งเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานว่าเจตนาของหญิงสาวที่สวมชุดเจ้าสาวอีกคนหนึ่งนั้นคืออะไร จะเข้ามาห้ามไม่ให้เกิดงานแต่งขึ้นหรือไม่ หรืออาจจะแค่มาทำให้เจ้าบ่าวอับอายขายขี้หน้าแต่เพียงอย่างเดียวกันแน่? ชาวเน็ตทั้งหลายพอเห็นคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันไปต่างๆ นานา “ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ชายที่นอกใจทุกคน จะมีกิ๊กนิสัยแบบนี้กันหมดนะ ฮร่าๆ” “เมื่อคุณไม่ซื่อสัตย์กับคู่รักของคุณ ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจที่จะต้องเผชิญกับเหตุดราม่าแบบนี้แหละ” “ถ้าตรูเป็นเจ้าสาวนะ ตรูจะไม่เสียเวลาอยู่ที่งานนั้นแล้ว ถอดชุดแล้วเดินออกจากงานไปเลยจ้า” ที่มา : ladbible, mirror
-
สาวนักกฎหมายพบรักชาวต่างชาติ หวังมีชีวิตที่ดีงาม แต่ถูกหลอกจับไปเป็นทาสกามารมณ์!!
‘การมีบ้าน มีรถ มีครอบครัวที่แสนดี’ ถือเป็นเป้าหมายในชีวิตที่หลายๆ คนต้องการ เท่านี้ก็เพียงพอและดีที่สุดเท่าที่ชีวิตของคนคนหนึ่งจะมีได้แล้ว เช่นเดียวกันกับ Lara Hall สาวนักกฎหมายวัย 30 ปี จากประเทศออสเตรเลีย เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีหน้าที่การงานดี มีเงินเหลือใช้ แต่สิ่งที่เธอยังขาดไปก็คือ ‘ความรัก และชีวิตครอบครัว’ นั่นเอง อยู่มาวันหนึ่งเมื่อราวๆ ปี 2556 หรือเมื่อราวๆ 5 ปีที่แล้ว โชคชะตาก็ได้นำพาเธอไปพบกับผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อว่า Sajjad ซึ่งเป็นชาวปากีสถาน เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจ เป็นหญิงสาวชาวปากีสถานที่มาท่องเที่ยวที่ออสเตรเลีย ชื่อว่า Rhianna เป็นแม่สื่อที่ทำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกัน Lara และ Sajjad สานสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเรื่อยมาเป็นเวลาหลายปีผ่านทางโซเชียล ทั้งคุยแชทและวิดีโอคอล นาย Sajjad อ้างว่าตัวเองนั้นเป็นนักกฎหมายเช่นเดียวกัน และนั่นเป็นสาเหตุให้เขาสนใจในตัวของ Lara เขาเสนอให้บินมาอยู่กับเขาที่ปากีนิสถาน เพราะที่นั่นมีทั้งบ้านสุดหรู และเงินทองให้ใช้มากมาย และที่สำคัญคือ เขาต้องการที่จะสร้างครอบครัวอันแสนสุขร่วมกันกับเธอ “ฉันเป็นผู้ป่วยที่ต่อสู้กับโรค…
-
หนุ่มสร้างสไลด์โปรไฟล์ ‘Tinder’ สุดเทพ นำเสนอตัวเองแบบไม่เหมือนใคร หวังมีสาวออกเดทด้วย!!
การจะทำความรู้จักกับใครสักคนหนึ่งในโลกออนไลน์ เรื่องของ ‘โปรไฟล์’ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องให้สวยให้ดูดีเอาไว้ก่อน เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของคนที่เราอยากคุยด้วย ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่หลายคนอาจจะอัพภาพสวยๆ หล่อๆ เอาไว้ในโปรไฟล์ แต่ว่ามีหนุ่มอยู่คนหนึ่งที่เทพไปกว่านั้น เพราะนอกรูปภาพเหมือนๆ กับทั่วไปแล้วเขายังมีการใช้คะแนนรีวิวที่มาจากครอบครัว เพื่อนๆ รวมถึงแฟนเก่าด้วย… https://www.instagram.com/p/BoZ_ZHXBhI0/ เรื่องมีอยู่ว่านาย Rizal ชาวเมืองเซาแธมป์ตันวัย 22 ปี อยากจะทำให้หน้าโปรไฟล์แอพฯ นัดออกเดทชื่อว่า Tinder ของเขามีความพิเศษกว่าชาวบ้านเวลาสาวๆ เห็นจะได้ปัดขวา (กดไลก์) เลือกเขาไปออกเดทได้อย่างง่ายๆ เขาเลยจัดเต็มทั้งรูปภาพต่างๆ รวมถึงเขียนเหตุผลว่าทำไมสาวๆ ควรไปออกเดทกับเขา จุดเด่นและทักษะที่ตัวเขามี รวมทั้งมีคะแนนรีวิวจากเพื่อนๆ ครอบครัวและแฟนเก่าประกอบการตัดสินใจด้วย ซึ่งนี่คือการสไลด์การพรีเซนต์ตัวเองในเบบที่ไม่มีใครเหมือนแน่ๆ สไลด์นี้มีชื่อเรียกว่า ‘ทำไมคุณถึงตัองปัดขวาล่ะ’ บอกถึงคุณลักษณะและบริการต่างๆ ที่เขามีให้ อย่างเช่นกำลังเรียนวิศวะอยู่ เป็นคนอบอุ่น เคยได้รับรีทวีตถึง 17,000 ครั้ง ทำอาหารเป็นแถมมีเน็ตฟลิกให้ดู รีวิวจากผู้เคยใช้งาน: เขาไม่เคยขโมยอาหารกินเลยนะ จากเพื่อนร่วมห้อง// เขาเป็นหนึ่งในเด็กคนโปรดของฉันเลย จากแม่// ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนักสำหรับแฟนคนแรกของฉัน แนะนำคนนี้เลย จากแฟนเก่า …
-
เปิดหูเปิดตาพาทัวร์ ‘ถ้ำแมลงสาบ’ ในประเทศมาเลฯ เดินกันยั้วเยี้ยเต็มไปทั้งถ้ำ!!
คำเตือน: ในบทความนี้อาจมีภาพหรือหาเกี่ยวกับน้อง ‘ปีเตอร์’ ดังนั้นโปรดทำใจให้แข็งๆ ไว้ขณะที่อ่านนะจ๊ะ เพราะโลกใบนี้เต็มไปด้วยสรรพสัตว์อย่างมากมาย และบางสถานที่ก็เป็นบ้านสำหรับสัตว์บางจำพวกเพราะด้วยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม อย่างอาหาร สภาพอากาศ หรืออื่นๆ แต่ในวันนี้เราจะเอาใจคนรักน้องหนวดหน้าตาน่ารักอย่างน้อง ‘แมลงสาบ’ กัน เพราะในวันนี้ #เหมียวจิวยี่ จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวสถานที่แปลกๆ ในประเทศมาเลเซีย นั่นคือถ้ำแมลงสาบ!! ณ เกาะบอร์เนีย รัฐซาบะฮ์ ประเทศมาเลเซีย มีถ้ำชื่อว่า Gomantong ซ่อนตัวเอาไว้อยู่ โดยถ้ำนี้เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐแห่งนี้เลยก็ว่าได้ แต่ว่านอกจากความมหึมาของขนาดถ้ำแล้ว ถ้ำแห่งนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นบ้านสำหรับสัตว์ที่หลายๆ คนกลัวอย่างมากมาย ทั้ง ค้างคาว หนู ด้วงต่างๆ รวมถึงสัตว์ที่หลายคนขยาดอย่างแมลงสาบ… และแน่นอนว่าถ้ำที่ไหนๆ ก็อาจจะมีแมลงสาบได้ แต่ว่าที่นี่ไม่เหมือนกับที่อื่นแน่ๆ เพราะมันมีเยอะมาก!! เยอะจนขนาดที่ว่าแค่เดินเข้าไปก็จะเห็นมันเกาะอยู่เต็มผนังถ้ำเลยทีเดียว ลองดูความเยอะของพวกมันเสียก่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่อาจทำให้มีแมลงสาบมากขนาดนี้ ก็อาจเป็นเพราะว่าถ้ำแห่งนี้มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับพวกมันอย่างเช่นเรื่องของความชื้น รวมถึงอาหารที่ได้มาจากมูลสัตว์ต่างๆ นั่นเอง …
-
ข่างซ่อมถึงกับเหวอ จู่ๆ มือถือลูกค้าก็ “ไฟลุกท่วม” ซะอย่างนั้น!! ยังไม่ทันทำอะไรเลย
“สมาร์ทโฟน” คือสิ่งที่ไม่ว่าใครในยุคนี้ก็มักจะต้องมีเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น และแน่นอนว่าเมื่อมันเกิดปัญหาใช้การไม่ได้ตามปกติ ทางออกหนึ่งที่เราเลือกกันก็คือการนำมันไปร้านซ่อมนั่นเอง เช่นเดียวกันกับลูกค้าคนนี้ เมื่อเขานำมือถือสมาร์ทโฟนของตัวเองมาที่ร้านซ่อมแห่งหนึ่งในเมือง Basiskele ประเทศตุรกี เพื่อต้องการจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น… ยังไม่ทันได้ทำอะไร อยู่ดีๆ ไฟก็ลุกท่วมโทรศัพท์ซะอย่างนั้น!! คลิปจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นขณะที่นาย Hulusi Ayman ช่างซ่อมโทรศัพท์กำลังตรวจสภาพโดยรอบมือถือของลูกค้าคนดังกล่าวอยู่ (ไม่มีการระบุชื่อรุ่นหรือยี่ห้อของโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว) แต่แล้วแค่หยิบมาดูยังไม่ทันได้ทำอะไร จู่ๆ ก็เกิดไฟลุกท่วมโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำเอาทั้งลูกค้าและช่างซ่อมถึงกับตกใจกันไปตามๆ กัน Hulusi ปล่อยมือถือเครื่องนั้นในทันที ก่อนที่จะปัดมันตกลงมาจากตู้กระจก ซึ่งในตอนนั้นไฟก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะดับแต่อย่างใด ท้ายที่สุดแล้ว พนักงานร้านอีกคนจึงเอาน้ำมาดับไฟได้สำเร็จ สร้างความโล่งใจให้กับทุกคน จากการรายงานของสำนักข่าวในตุรกี วันที่ 26 มกราคม 2019 บอกว่าเหตุการณ์ไฟลุกครั้งนี้เป็นผลมาจาก “ความร้อนนอกเหนือการควบคุม” โดยมันอาจเป็นผลมาจากการที่เราชาร์จแบตเข้ามากจนเกินไป, เครื่องมีความร้อนเกินกว่าปกติ, ได้รับความเสียหายทางกายภาพ, หรืออาจเป็นความผิดพลาดในกระบวนการการผลิตก็เป็นได้ กลายเป็นว่าจากตอนแรกตั้งใจจะเปลี่ยนแค่แบต งานนี้คงต้องเปลี่ยนมือถือแทนแล้วล่ะนะ …
-
ชายผู้หลงใหลในแมลง เล่าว่าเคยคบหาดูใจกับ “แมลงสาบ” และอยากมีอะไรกับมัน?!
Entomophagy คือชื่อของ “พฤติกรรมการกินแมลง” ซึ่งหากถามว่าในบ้านเราการกินแมลงถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมั้ย?? ก็ลองคิดถึงพวกรถด่วน ตั๊กแตนทอดในตลาด หรือที่เป็นกับแกล้มมาขายตามร้านเหล้ากันดูนะ แต่แม้ว่าเราจะเป็นคนที่ชอบกินแมลงอยู่บ้าง ก็คงไม่สามารถเทียบเท่าได้กับชายที่ชื่อว่า Yuta Shinohara หนุ่มชาวญี่ปุ่นผู้ชื่นชอบการกินแมลง และมีความหลงใหลในธรรมชาติ รวมถึงสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เอามากๆ Yuta ชายผู้หลงใหลในแมลงเอามากๆ ย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นเด็ก เขาเริ่มจับแมลงกลับมาบ้านครั้งแรกตั้งแต่ตอนอายุ 2 ขวบ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความหลงใหลในสิ่งที่ได้พบ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็เริ่มรู้สึกเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติและเหล่าแมลงนานาชนิด จนกระทั่งความหลงใหลนั้นได้แปรเปลี่ยนไปเป็นการนำพวกมันมาประกอบอาหาร อย่างไรก็ตาม การที่เด็กคนหนึ่งจะออกมาเปิดตัวให้คนรอบข้างหรือเพื่อนๆ ได้ฟังว่า “ตรูเป็นคนชอบกินแมลงโว้ยยย!!” อย่างนั้นก็คงจะไม่ได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนในตอนนั้นที่จะยอมรับในความชอบของชายคนนี้ จนกระทั่งตอนที่เขาอายุได้ 19 ปี ทาง องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้ออกมารายงานถึงผลการศึกษา เกี่ยวกับข้อดีของการกินแมลงว่าพวกมันคือแหล่งโปรตีนชั้นยอด ดีต่อมนุษย์เรา ด้วยเหตุนั้น Yuta จึงกล้าที่จะออกมาเปิดตัวกับทุกคนว่าเขาคือคนหนึ่งที่คลั่งไคล้ไปกับการกินแมลงเอามากๆ ตั้งแต่ปี 2014 เขาก็เริ่มที่จะแชร์ความหลงใหลของตัวเองออกไปในรูปแบบของอาหารให้ทุกคนที่สนใจได้ทานกัน ชายหนุ่มสร้างรายได้จากความชอบของตัวเอง สร้างเมนูอาหาร ราเมน ที่มีแมลงจำนวนมากหลากหลายชนิดเป็นส่วนประกอบในทุกๆ จาน…
-
คุณพ่อเปลี่ยนภาพวาดของลูกชายวัย 7 ขวบ ด้วยสกิลโฟโต้ช็อป ให้ดูสมจริงจนน่าขนลุก!!
อย่างที่รู้กันดีว่าวัยเด็กนั้นเป็นวัยแห่ง ‘จินตนาการ’ และพวกเขาก็มักจะถ่ายทอดจินตนาการเหล่านั้นออกมาเป็น ‘ภาพวาด’ ที่ดูแปลกตา จนบางครั้งผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็อาจจะงงว่ามันคืออะไร แต่คุณพ่อท่านนี้ได้นำภาพวาดของลูกชายตัวเอง มาเข้าโปรแกรมโฟโต้ชอป เพื่อทำให้มันดูสมจริงมากยิ่งขึ้น!? จะเป็นอย่างไรลองไปชมพร้อมๆ กันครับ จะ เจ้าหมา!? นี่คือเรื่องราวของเด็กชาย Dom วัย 7 ปี ที่ชื่นชอบการวาดภาพเอาซะมากๆ แต่สกิลการวาดภาพของเขานั้นมันช่างล้ำเหลือเกิน จนบางครั้งก็อาจจะทำให้คนสับสนว่าเขาตั้งใจจะวาดอะไรกันแน่ ด้วยเหตุนี้คุณพ่อของเขาก็เลยใช้สกิลทางด้านกราฟิกขั้นเทพ เปลี่ยนภาพวาดของ Dom ให้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น และมันดูสมจริงจนน่าขนลุกเลยทีเดียว!! ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แอนดี้ เมอร์เร่ย์ เหรอนี่ย!? คงเป็นสิงโตสินะ นกแก้ว มั้งนะ หล่อไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย รถสุดเฟี้ยว ยูนิคอร์น เจ้าหมี เจอหมาแบบนี้ขอบอกเลยว่าวิ่งไม่คิดชีวิตแน่นอน เสือน่าร๊ากกก …
-
อาจเป็นครั้งสุดท้าย!? คุณปู่วัย 93 ควักเงิน 40,000 บาท มอบเป็นทุนการศึกษาแม้อาการทรุด
สักวันหนึ่งเราก็ต้องตายจากไป แต่ความดีที่เราเคยสร้างเอาไว้จะคงอยู่ไปอีกแสนนาน… นี่คือเรื่องราวสุดประทับใจของคุณปู่ท่านหนึ่ง ที่ทำการบริจาคทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ แม้ว่าตัวเองจะอายุมากและมีร่างกายที่อ่อนแอแล้วก็ตาม ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับคุณปู่หลัว หรงเย่ว์ วัย 93 ปี ที่ตัดสินใจบริจาคเงินเป็นมูลค่า 10,000 หยวน (46,700 บาท) เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนในบ้านเกิดของตัวเอง แม้ว่าตัวเองกำลังเข้ารับรักษาอาการป่วยอยู่ในโรงพยาบาล จริงๆ แล้วคุณปู่หลัว ทำแบบนี้มาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว โดย 6 ปีหลังสุดคุณปู่บริจาคเงินไปทั้งหมด 7 ครั้ง รวมแล้วเป็นมูลค่ากว่า 40,000 หยวน (187,000 บาท) ทำให้มีนักเรียนที่ได้รับโอกาสในการศึกษาจากเงินของคุณปู่ไปมากกว่า 300 คนเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามในการบริจาคครั้งล่าสุดนี้ คุณปู่หลัวกล่าวว่า “นี่อาจจะเป็นการบริจาคครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะต่อจากนี้ไปผมต้องเก็บเงินเอาไว้เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับตัวเอง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีโอกาสได้บริจาคอีกหรือไม่” เรื่องราวของคุณปู่ถูกเผยแพร่ออกไปทางสื่อออนไลน์ของประเทศจีน ชาวเน็ตหลายคนต่างก็ชื่นชมในการกระทำของเขา พร้อมกับอวยพรให้คุณปู่กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงในเร็ววัน นับเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจจริงๆ ชายชราคนหนึ่งที่อยู่ในช่วงบั้นปลายของตัวเอง ได้มอบ ‘โอกาส’ ในการมีชีวิตที่ดีให้กับบรรดาเด็กๆ…
-
เด็กชายวัย 3 ขวบ หายตัวไปนานกว่า 2 วัน รอดมาได้ เล่าว่าไปเที่ยวเล่นอยู่กับ “หมี”?!
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างความโล่งใจให้กับหลายๆ คน หลังจากเจ้าหน้าที่พบเด็กชายวัย 3 ขวบ ผู้หายตัวไปในป่าอยู่นานกว่า 2 วัน Casey Lynn Hathaway คือชื่อของเด็กชายที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ เขาได้หายตัวไปในวันที่ 22 มกราคม 2019 บริเวณป่าหลังบ้านของคุณยายทวด เขต Craven County รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา Casey เด็กชายผู้หายตัวไปในป่านานกว่า 2 วัน . ยายทวดของเขาเล่าว่า Casey ออกไปเล่นกับพี่สาวและลูกพี่ลูกน้องของเขาอยู่ตรงบริเวณสวนหลังบ้าน แต่กลับมีแค่พี่สาวและลูกพี่ลูกน้องที่กลับเข้ามาภายในบ้าน คุณยายทวดจึงรีบออกไปตามหาเขาที่บริเวณป่าใหญ่ที่อยู่ติดกับสวนหลังบ้าน เธอใช้เวลาตามหานานกว่า 45 นาที แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ เธอจึงโทรแจ้งตำรวจ เมื่อการตามหาตัวเด็กชายไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากที่ยังไม่มีใครหาพบจนต้องเกณฑ์คนมาเกือบ 600 คน ไม่ว่าจะเป็น อาสาสมัคร, เอฟบีไอ, เจ้าหน้าที่รัฐ และอื่นๆ พวกเขาใช้เวลาตามหาเด็กชายอยู่นานกว่า 48 ชั่วโมง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานฉุกเฉิน Shane…
-
สาวนัดสัมภาษณ์งานกับ ‘ไมโครซอฟต์’ แต่ไม่มีการติดต่อสักทีจึงเมลไปถาม ที่แท้ดูผิดเดือน!!
คนเราบางครั้งนอกจากโหมดที่จริงจังแล้ว ก็อาจมีมุมเปิ่นๆ โก๊ะๆ อย่างเช่นทักคนผิด จำวันผิดจนใส่เสื้อผ้าไม่เหมือนชาวบ้านเค้าอะไรอย่างนี้เกิดขึ้นได้ และแน่นอนว่ามันอาจจะเป็นโมเมนต์ขำๆ ที่เล่นเอาเราอายจนหน้าแดงเลยทีเดียว แต่ว่าเราจะปล่อยไก่ในช่วงเวลาไหนก็ได้ แต่ทางที่ดีอย่าพลาดเหมือนกับเธอคนนี้จะดีกว่าไม่อย่างงั้นชีวิตอาจเปลี่ยนไปได้เลย เพราะเธอดันไปปล่อยไก่ตัวเบอเร้อตอนที่สัมภาษณ์งานกับ ‘ไมโครซอฟต์’!! เรื่องนี้ได้กลายเป็นไวรัลสุดฮาในต่างประเทศที่มีคนรีทวีตกว่า 35,000 ครั้งและกดไลก์อีกกว่า 180,000 ครั้งเลยทีเดียว สำหรับโพสต์ของสาวชื่อว่า Laura Maclean เหตุการณ์นี้ได้เริ่มขึ้นจากความที่สาว Laura ได้ยื่นสัมภาษณ์งานกับทางบริษัทไมโครซอฟต์ แล้วทีนี้ก็จะมีการสัมภาษณ์ผ่านทางโปรแกรมสไกป์ ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นไปดูแชทที่เธอแคปมาโพสต์ดีกว่า สาว Lauren ได้ส่งเมลไปถามทางไมโครซอฟต์ว่า เธอยังไม่ได้รับการสัมภาษณ์เลย มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ทางไมโครซอฟท์ก็เมลตอบกลับมาว่า การนัดสัมภาษณ์สำหรับคุณจะมีขึ้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ทางเราก็หวังว่าจะได้คุยกับคุณเหมือนกัน ขอสวัสดีอีกครั้งค่ะ นี่ก็วันที่ 18 กุมภาพันธ์ตามที่นัดแล้วนะ แต่ฉันยังไม่ได้รับสายจากใครเลย ขอโทษอีกทีที่รบกวนฉันแค่สับสนหน่อยๆ อ่ะค่ะ หวังว่าจะได้รับการติดต่อกลับนะคะ สวัสดีอีกครั้งคุณ Lauren ขอบคุณสำหรับอีเมล แต่วันนี้คือวันที่ 18 มกราคมนะ กุมภาพันธ์มันคือเดือนหน้าน่ะ …
-
คนขับรถบรรทุกถูกหวยกว่าพันล้าน ตะโกนลั่น ‘ตูรวยแล้ว ไม่ทำงานแล้วโว้ย’ ลาออกงานทันที!!
คนดวงเฮงไม่ว่าจะหยิบจะจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด แต่ว่าจะมีใครดวงดีสู้เขาคนนี้ได้อีกหรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้ ทว่าที่แน่ๆ คนขับรถบรรทุกคนหนึ่งถูกแจ็คพอตเป็นร้อยล้านดอลลาร์จากหวยมูลค่าแค่ 5 ดอลลาร์ (ราวๆ 160 บาท) แล้วมันก็เปลี่ยนชีวิตเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย!! แบร่ คนมันรวยโว้ย นาย Dave Johnson เป็นคนขับรถบรรทุกชาวจาไมกาวัย 56 ปีที่ทำงานอยู่ในย่านบรุกลิน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเล่าให้ฟังว่าจุดเริ่มต้นของโชคครั้งใหญ่นี้ ได้เริ่มขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคมปี 2018 ที่ผ่านมา ในวันนั้นเขามีอาการป่วยแต่ยังต้องฝืนตัวเองไปทำงานขับรถบรรทุกเพื่อรับเงินค่าจ้าง จัดว่ายิ้มแป้น ทุกๆ อย่างเป็นไปด้วยความปกติ เขาแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันประจำที่เคยเติมทุกวัน แต่ว่าครั้งนี้ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาควักเงินในกระเป๋าจำนวน 5 ดอลลาร์ซื้อลอตเตอรี่ Powerball ที่ขายอยู่ในปั๊ม แล้วจากนั้นก็ขับรถออกไป ในคืนนั้นอาการป่วยของเขากำเริบขึ้นอีกครั้ง เขาเลยนอนพักผ่อนโดยไม่ได้ลุ้นการประกาศรางวัลลอตเตอรี่ รวมทั้งขาดงานในวันต่อมาด้วย แอ่แฮ้ และในสัปดาห์นั้นเอง เพื่อนร่วมงานของเขาได้บอกกับเขาว่า ลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลใหญ่ถูกซื้อไปขายต่อโดยปั๊ม Arnold Service Station ที่เขาซื้อลอตเตอรี่มา ทว่าเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นเขาจริงๆ หรือที่ถูกรางวัลใหญ่นี้ อีก 2 -3…
-
งานวิจัยใหม่บอก ตลอดช่วงเวลา 1 ล้านปีที่ผ่านมา มนุษย์มีการวิวัฒนาการช้ากว่าลิงเสียอีก
ในปัจจุบันมนุษย์อยู่ในจุดที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกสายพันธุ์หนึ่งเลยก็ว่าได้ พวกเราสามารถสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แถมยังแพร่พันธุ์ไปแทบจะทั่วโลกอีกด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ความประสบความสำเร็จของมนุษย์เองก็ทำให้มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากเริ่มตั้งข้อสงสัยว่ามนุษย์อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาจจะไม่มีวิวัฒนาการอีกต่อไปแล้วในเร็วๆ นี้ แต่เรื่องที่น่าสนใจคือ เมื่อล่าสุดนี้เองในงานวิจัยร่วมของมหาวิทยาลัยอาร์ฮุส และสวนสัตว์โคเปนเฮเกนพวกเขากลับพบว่า มนุษย์นั้นเรามีอัตราการวิวัฒนาการที่ช้ามาตั้งแต่ในสมัยก่อนแล้ว นั่นเพราะหากนำจีโนมของมนุษย์ในสกุล Homo ตลอดช่วงหนึ่งล้านปีที่ผ่านมา ไปเทียบกับสัตว์ที่มีรูปร่างใกล้เคียงอย่าง ลิงชิมแปนซี กอริลลา และลิงอุรังอุตังแล้ว เราจะพบว่ามนุษย์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางจีโนมที่น้อยมากๆ เลย Carl หนึ่งในลิงที่ถูกใช้ในงานวิจัยครั้งนี้ การวิจัยในครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การหาจีโนมชนิดใหม่ของในกลุ่มครอบครัว ซึ่งสังเกตได้จากการเปรียบเทียบจีโนมของพ่อแม่กับลูกๆ โดยหากลูกๆ มีจีโนมที่ไม่ปรากฏในรุ่นก่อนๆ มันก็จะหมายความว่ารุ่นลูกมีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นนั่นเอง โดยเมื่อดูจากผลการทดลองแล้ว นักวิทยาศาสตร์ก็พบว่ามนุษย์นั้นมีอัตราการกลายพันธุ์น้อยกว่าลิงถึงราวๆ 33% แถมยังมีวี่แววที่จะลดลงไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่อาจฟันธงได้แน่ชัดว่าเพราะอะไรก็ตาม อย่างไรก็ตามการที่เราพบว่ามนุษย์มีการวิวัฒนาการที่ช้าลงตั้งแต่ช่วงหนึ่งล้านปีที่ผ่านมานั้นก็นับว่าเป็นการค้นพบที่น่าสนใจมากๆ เพราะนอกจากงานวิจัยนี้จะบอกว่ามนุษย์เราแทบจะไม่มีการวิวัฒนาการเลยแล้ว มันยังสามารถหมายความว่าช่วงเวลาที่มนุษย์สายพันธุ์นีเอนเดอร์ธัลแยกออกไปจากสายพันธุ์มนุษย์นั้นจริงๆ แล้วอาจเกิดขึ้นช้ากว่าที่เราคิดก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามข้อสังเกตที่ว่านี้ยังคงต้องมีการพิสูจน์กันต่อไปในอนาคต โครงกระดูกของมนุษย์สายพันธุ์นีเอนเดอร์ธัล ที่มา scitech, newsweek และ sciencedaily
-
สถิติล่าสุด เกือบ 1 ใน 50 ของ “วัยรุ่นอเมริกัน” ยอมรับว่าตนเองเป็น “บุคคลข้ามเพศ”!!
“บุคคลข้ามเพศ” หมายถึงคนที่มีเพศภาวะไม่ตรงกับเพศสภาพของตัวเอง เกิดมาเป็นหญิงแต่มีจิตใจเป็นชาย หรืออาจเกิดมาเป็นชายหรือมีจิตใจเป็นหญิงก็ได้ แน่นอนว่าในปัจจุบันเริ่มมีการยอมรับและเปิดกว้างเกี่ยวกับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น ทำให้บุคคลข้ามเพศกล้าที่จะเปิดเผยตัวเองอย่างเต็มที่ แต่เราอาจไม่รู้เลยว่ามีคนกลุ่มนี้อยู่มากขนาดไหน บุคคลข้ามเพศ ก็คือส่วนหนึ่งของ “กลุ่มบุคคลเพศทางเลือก” (LGBTQ) ล่าสุดในวันที่ 24 มกราคม 2019 จากการรายงานสถิติของ ศูนย์ควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) กล่าวว่า “วัยรุ่นระดับชั้นมัธยม” ทั่วประเทศนั้นมีคนยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลข้ามเพศมากถึง 1.8 เปอร์เซ็นต์ กล่าวคือคิดเป็นจำนวนเกือบ 1 ใน 50 ของวัยรุ่นทั้งหมดนั้น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ในขณะที่มี 1.6 เปอร์เซ็นต์ที่บอกว่า “ยังไม่แน่ใจ” ว่าใช่บุคคลข้ามเพศหรือเปล่า สถิติการศึกษาล่าสุดนี้ ทำให้รัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาเริ่มกังวลและใส่ใจที่จะดูแลกลุ่มบุคคลข้ามเพศมากยิ่งขึ้น ปัญหาใหญ่ที่สุดที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงก็คือเรื่องของ “การใช้ห้องน้ำ” เพราะยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า “ควรให้คนเหล่านั้นใช้ห้องน้ำตามเพศสภาพจริงตั้งแต่เกิด หรือเพศภาวะกันแน่” การศึกษาในครั้งนี้ยังพบอีกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ของวัยรุ่นที่ยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลข้ามเพศ “เคยพยายามฆ่าตัวตาย” ในปี 2018 ที่ผ่านมา นั่นเป็นเพราะว่ายังคงมีการกลั่นแกล้งกลุ่มบุคคลข้ามเพศภายในโรงเรียนอยู่เสมอ…
-
งานวิจัยใหม่เผย ก้อนหินที่นักบินอวกาศเก็บมาจากดวงจันทร์ จริงๆ แล้วอาจเคยเป็นของโลก
ในตอนที่นักบินของอะพอลโล 14 บินขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ในปี 1971 พวกเขาได้หยิบหินจากดวงจันทร์กลับมายังโลกก้อนหนึ่ง ซึ่งในแม้ว่าหินก้อนนี้จะมีคนสนใจอยู่มาก แต่สุดท้ายมันก็ถูกมองเป็นเพียงก้อนหินจากดวงจันทร์ธรรมดาๆ เท่านั้น แต่จากการตรวจสอบครั้งล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ ก้อนหินก้อนดังกล่าวจะไม่ใช่แค่ก้อนหินจากดวงจันทร์เฉยๆ แต่มีชิ้นส่วนของก้อนหินจากโลกที่ปลิวขึ้นไปบนดวงจันทร์ เมื่อราวๆ 4 พันล้านปีก่อนอยู่ด้วย จุดที่ลูกศรชี้คือชิ้นส่วนที่เชื่อกันว่ามาจากโลก นั่นเพราะในก้อนหินที่พบนั้นมีปริมาณของควอตซ์ เฟลด์สปาร์ และเพทาย ผสมอยู่ถึง 2 กรัม ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับดวงจันทร์ที่ไม่ค่อยมีแร่ทั้งสามชนิดนี้ แถมจากการทดลองทางเคมีการตกผลึกของหินก้อนนี้ยังเกิดขึ้นในสถานที่ที่มีกระบวนการออกซิไดซ์อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้บนดวงจันทร์ที่ไม่มีออกซิเจน นั่นทำให้แทนที่จะบอกว่าก้อนหินก้อนนี้อยู่บนดวงจันทร์มาตั้งแต่ต้น มันมีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะบอกว่าก้อนหินนี้เคยอยู่ใต้ผืนโลกมาก่อน และปลิวออกไปยังดวงจันทร์ด้วยแรงกระแทกจากอะไรบางอย่าง (อาจเป็นอุกกาบาต) เมื่อ 4 พันปีก่อน ด้วยความที่ในสมัยนั้นดวงจันทร์จะอยู่ใกล้โลกกว่าในปัจจุบันถึง 3 เท่า ชิ้นส่วนชิ้นนี้จึงพุ่งไปถึงพื้นผิวของดวงจันทร์ได้ไม่ยาก มันละลายและฝังลงไปในพื้นผิวดวงจันทร์นานหลายพันปี ส่วนหนึ่งของก้อนหินดังกล่าวถูกขุดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อราวๆ 26 ล้านปีก่อนจากการที่พื้นที่ใกล้ๆ ถูกชนด้วยอะไรบางอย่าง (อาจจะเป็นหินจากโลกอีกก้อน) จนเป็นหลุมขนาด 340 เมตร และถูกเก็บกลับมาบนโลกในที่สุดเมื่อ 47 ปีที่แล้ว หลุมขนาด 340 เมตร…
-
รูปสลักอายุ 1,300 ปี ที่ถูกขโมยไปในปี 2004 ถูกพบใช้ “ประดับสวน” โดยชาวอังกฤษ
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2004 รูปสลักหินปูนของนักบุญคาทอลิกที่มีถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 สองชิ้น ได้ถูกขโมยออกไปจากโบสถ์ยุคกลางในเมืองบูร์โกส ประเทศสเปน มันเป็นประติมากรรมนูนต่ำที่มีน้ำหนักราวๆ 50 กิโลกรัม และอาจจะมีมูลค่าได้สูงถึงหลายสิบล้านบาท อย่างไรก็ตามการที่รูปสลักเหล่านี้นับเป็นหนึ่งในมรดกที่เก่าแก่ของโลกก็ทำให้พวกมันแอบขายได้ยากขึ้นตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้เองเหล่าโจรจึงได้ตัดสินใจขายรูปสลักทั้งสองในฐานะของ “อุปกรณ์ประดับสวน” ก่อนที่จะถูกซื้อขายต่อไปเป็นทอดๆ จนถึงมือชาวอังกฤษคนหนึ่ง ที่ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองซื้อของโจรอยู่ และนำสลักทั้งสองไปใช้งานในฐานะของประดับสวนจริงๆ กว่าที่ Arthur Brand นักสืบสวนและติดตามผลงานศิลปะมืออาชีพจะสืบหาผลงานทั้งสองไปจนเจอตัวชาวอังกฤษคนดังกล่าวที่ลอนดอน เวลาก็ผ่านไปนานหลายปีเลยทีเดียว (Arthur บอกว่าเขาใช้เวลา 8 ปีในการตามหาผลงาน 2 ชิ้นนี้) Arthur Brand ได้ฉายาว่า “อินเดียนา โจนส์แห่งโลกศิลปะ” จากผลงานการค้นหาผลงานศิลปะที่ถูกขโมยไปจำนวนมากในอดีต ดูเหมือนว่าชาวอังกฤษคนนี้จะซื้อรูปสลักมาในราคาราวๆ 2 ล้านบาท ก่อนที่จะปล่อยให้ผลงานอายุ 1,300 ปีทั้งสอง ตากแดดตากฝนโดยที่ไม่ได้ทราบเลยว่ามูลค่าจริงๆ ของมันนั้นมากมายเพียงใด นับว่าโชคดีมากที่ชายอังกฤษคนดังกล่าวยอมที่จะคืน ของประดับสวนของเขาให้แก่สถานทูตสเปนในลอนดอนเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา และแน่นอนว่ารูปสลักทั้งสองรูปนี้ จะถูกส่งกลับไปยังโบสถ์ Santa Maria…
-
ผลซีทีสแกนพบ มัมมี่ชาวเอสกิโม มีภาวะหลอดเลือดแข็งทั้งที่ทานอาหารดีต่อสุขภาพ
ในช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา ทีมแพทย์จากบริคแฮม รัฐแมสซาชูเซต สหรัฐอเมริกา ได้ให้ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในการตรวจสอบมัมมี่จำนวนห้าร่างจากกรีนแลนด์ในศตวรรษที่ 16 และพบมัมมี่บางส่วนที่มีร่องรอยการเป็นโรคทางหัวใจและหลอดเลือดในตอนที่ยังมีชีวิต นี่เป็นการค้นพบที่เกิดขึ้นหลังจากทีมแพทย์ที่นำทีมโดย Dr. Ron Blankstein ได้ทำซีทีสแกนมัมมี่ชาวอินูอิต หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ “ชาวเอสกิโม” ที่มีอายุร่วม 500 ปี และประกอบไปด้วยผู้ใหญ่ 4 คน และเด็กอีก 1 คน พวกเขาพบว่าพบว่า 3 ใน 5 ของมัมมี่ทั้งหมด มีไขมันจับที่ผนังของหลอดเลือด หรือที่เรียกกันว่า “พลาค” (Plaque) ทั้งในเส้นเลือดใหญ่ และหลอดเลือดแดงบริเวณคอ ซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีของภาวะหลอดเลือดแข็ง จริงอยู่ว่าที่อาจจะไม่ใช่การทำซีทีสแกนหรือการค้นพบภาวะหลอดเลือดแข็งในมัมมี่ครั้งแรกของโลกก็ตามที แต่นี่ก็ถือว่าเป็นการค้นพบภาวะหลอดเลือดแข็งเป็นครั้งแรก และครั้งสำคัญในมัมมี่ของกรีนแลนด์เลย นั่นเพราะตามปกติแล้วภาวะหลอดเลือดแข็งมักจะมีความเกี่ยวข้องกับการทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง อย่างเนื้อวัว เนื้อหมู หรือของมัน ดังนั้นการที่ชาวเอสกิโมซึ่งมีอาหารหลักเป็นปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด มีอาการภาวะหลอดเลือดแข็งเสียเองจึงนับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากสำหรับทีมนักวิทยาศาสตร์เลย เท่านั้นยังไม่พอเพราะมัมมี่ของชาวเอสกิโมที่นำมาตรวจสอบยังมีอายุที่ค่อนข้างต่ำอีกด้วย ทำให้การค้นพบภาวะหลอดเลือดแข็งในมัมมี่เหล่านี้จึงยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ…
-
หนุ่มจีนใจเด็ด ปีนขึ้นตึก 6 ชั้นด้วย ‘มือเปล่า’ ช่วยเด็กที่ติดกับลูกกรง!!
เรื่องราวอันน่าประทับใจที่เกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งตัดสินใจ ‘ปีนตึก 6 ชั้นด้วยมือเปล่า’ เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ติดรั้วลูกกรง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองหวายหัว มณฑลหูหนาน ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศจีน เมื่อไม่นานมานี้เอง สำนักข่าว China Xinhua News ของประเทศจีนได้ทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายโดยคนที่เดินผ่านมาพอดี ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ กันก่อนครับ https://www.facebook.com/XinhuaNewsAgency.th/videos/371052857010897/ คลิปดังกล่าวเผยให้เห็นว่ามีเด็กคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ น่าจะเกิดจากการเล่นซุกซนจนตัวติดห้อยต่องแต่งลงมาจากลูกกรงหน้าต่างด้านนอกของอพาร์ตเมนต์ที่อยู่สูงขึ้นไปถึงชั้น 6 แต่แล้วจู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งปีนขึ้นไปบนตึกด้วย ‘มือเปล่า’ เพื่อขึ้นไปช่วยเหลือเด็กคนนั้น!! เขาค่อยๆ ปีนขึ้นไปจนถึงที่หมาย แล้วก็ใช้มือดันเท้าของเด็กที่ห้อยลงมา ให้สามารถปีนกลับเข้าห้องไปได้อย่างปลอดภัย หลังจากช่วยเหลือได้สำเร็จชายหนุ่มก็ปีนกลับลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัย ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย!? แน่นอนว่าเหตุดังกล่าวสร้างความตกใจ และแปลกใจให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก แต่พอทราบเบื้องหลังของชายหนุ่มคนนี้แล้วขอบอกเลยว่าการทำอะไรแบบนี้คงเป็นอะไรที่ธรรมดาสำหรับพี่แกอย่างแน่นอน ชายหนุ่มมีชื่อว่านายจาง ซิน เป็นอดีตทหารผ่านศึกของประเทศจีน ที่เคยผ่านการฝึกอันทรหดมาแล้วนั่นเอง ทำให้เขามีร่างกายที่แข็งแรง และมีความคล่องแคล่วมากกว่าคนธรรมดาทั่วๆ ไป ฉะนั้นการปีนขึ้นไปบนตึกชั้น 6 ด้วยมือเปล่า ก็คงเป็นเรื่องง่ายๆ ราวกับการปอกกล้วยเข้าปากเลยล่ะนะ …
-
หนุ่มเล่นใหญ่ โทร ‘กุข่าวปลอม’ มีระเบิดอยู่บนเครื่องบิน เพราะไม่อยากให้พ่อแม่มาเที่ยวหา!!
สำหรับชีวิตเด็กหอแล้ว มันก็ต้องมีบ้างแหละที่ไม่อยากให้พ่อแม่มาเยี่ยม ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป เช่น มีนัดเดตกับสาว ขี้เกียจอยากนอนอยู่ห้องเฉยๆ ไม่อยากเก็บห้อง เป็นต้น หลายๆ คนจึงหาข้ออ้างบอกกับพ่อแม่ไป.. เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของชายหนุ่มคนนี้ แต่ดูเหมือนกับว่าพี่แกจะเล่นแรงไปหน่อย ถึงขั้นโทรไปขู่ ‘วางระเบิด’ เครื่องบินลำที่พ่อแม่นั่งมา เพื่อที่จะมาเที่ยวหา จนเป็นเหตุให้ไฟลต์บินต้องวกกลับไปลงจอดที่สนามบินเดิมอย่างรวดเร็ว!! สำนักข่าว Independent ของประเทศอังกฤษรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา มีชายหนุ่มคนหนึ่งวัย 23 ปี ไม่เปิดเผยชื่อ ได้ทำการโทรไปกุข่าวว่ามีระเบิดอยู่บนเครื่องบินของสายการบิน Easy Jet ไฟลต์ EZY4319 ซึ่งไฟลต์บินดังกล่าวเดินทางจากเมืองลียง ไปยังเมืองแรนส์ ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งชายหนุ่มเป็นนักศึกษาและกำลังเรียนอยู่ที่นั่น จนเป็นเหตุให้กัปตันตัดสินใจวกเครื่อง พาผู้โดยสารทั้งหมด 159 ชีวิต รวมไปถึงพ่อแม่ของชายหนุ่มกลับไปจอดที่สนามบินลียงเหมือนเดิมหลังจากที่เทคออฟไปได้ไม่นาน จากการกระทำดังกล่าวทำให้ชายหนุ่มตกที่นั่งลำบาก เพราะการกุข่าววางระเบิดบนเครื่องบินถือเป็นความผิดที่ร้ายแรงมากๆ แม้เขาจะสารภาพแล้วว่าเป็นการโกหกเพราะ ‘ไม่อยากให้พ่อแม่ที่โดยสารมาบนเครื่องบินลำนั้น มาเยี่ยมหาเขาที่เมืองแรนส์’ ชายหนุ่มถูกจับกุมตัวและจะต้องขึ้นศาลอาชญากรรมในวันที่…
-
คุณยายวัย 81 ปี ได้พบกับแม่แท้ๆ ของตัวเองที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังตามหามาตลอด 60 ปี!!
หากเรามีความหวังว่าจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จจงได้โดยที่ไม่ยอมแพ้ ก็อาจจะสำเร็จขึ้นมาสักวันหนึ่งก็ได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้… คุณยาย Eileen Macken วัย 81 ปี ชีวิตในวัยเด็กของเธอนั้นค่อนข้างเป็นอะไรที่น่าเศร้า เพราะแม่ของเธอทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็กๆ ทำให้ต้องอาศัยอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า Kirwan House ที่อยู่ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ จนกระทั่งคุณยาย Eileen อายุได้ 19 ปี ก็ตัดสินใจที่จะตามหาแม่แท้ๆ ของตัวเอง ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หรือว่าไปอยู่ที่ไหนแล้ว แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่มีโอกาสได้เจอ จนเวลาผ่านพ้นไปคุณยาย Eileen เกือบจะยอมแพ้และยอมรับว่าแม่แท้ๆ ของตัวเองไม่น่าจะมีชีวิตอยู่แล้ว แต่แล้วไฟในใจของคุณยายก็ไม่ได้มอดดับไปเสียทีเดียว เธอมีโอกาสได้ร่วมมือกับ ‘ผู้ศึกษาเกี่ยวกับวงศ์ตระกูล’ ที่ได้ยินเรื่องราวของเธอผ่านทางวิทยุเพื่อช่วยตามหาแม่ที่แท้จริง จนกระทั่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังจากการพยายามตามหาคุณแม่แท้ๆ ของตัวเองมาตลอด 60 ปีด้วยการช่วยเหลือของเทคโนโลยีการตรวจ DNA ในยุคปัจจุบัน ในที่สุดเธอก็ได้พบกับคุณแม่ของตัวเอง และเธอยังคงมีชีวิตอยู่ตอนนี้อายุปาเข้าไป 103 ปีแล้ว “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันได้รู้ข่าวว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่ฉันต้องการก็คือได้พบกับเธอ”…
-
ลุงชาวพุทธ แข่งโปกเกอร์ได้รางวัล 21 ล้านบาท มอบให้องค์กรการกุศลทั้งหมดเพื่อทำบุญ!!
สำหรับชาวพุทธอย่างเราๆ แล้ว คงจะได้รับการปลูกฝังเรื่องบาปบุญกันมาตั้งแต่เด็กๆ จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันไปโดยปริยาย นั่นก็คือการช่วยเหลือผู้อื่นก็จะทำให้เราได้ ‘บุญ’ ส่วนหากเราทำร้าย หรือทำสิ่งไม่ดีก็จะทำให้เราได้ ‘บาป’ นั่นเอง จึงไม่แปลกเลยว่านักเล่นโปกเกอร์ชาวต่างชาติที่นับถือพุทธท่านนี้ จะนำเงินรางวัลที่ได้มาจากการแข่งโปกเกอร์ทั้งหมดไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลทั้งหมดเลย!! ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับคุณลุง Scott Wellenbach วัย 67 ปี ชาวแคนาดาที่ทำหน้าที่เป็นนักแปลอักษรภาษาทิเบต และสันสกฤต ในพระไตรปิฎก ให้กับองค์กรทางศาสนาแบบไม่แสวงหาผลกำไร และที่สำคัญคือเขานับถือพระพุทธศาสนาเฉกเช่นเดียวกันกับคนไทยเรานี่เอง ซึ่งล่าสุดลุง Scott แกไปเข้าร่วมการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ PokerStars Caribbean Adventure ผ่านทางออนไลน์ ที่จัดโดยคาสิโนที่มีชื่อว่า Atlantis ตั้งอยู่บนหมู่เกาะบาฮามัส แล้วที่พีคไปกว่านั้นคือเขาเข้ารอบไปได้เรื่อยๆ เลย จนสามารถไปคว้าอันดับที่ 3 ของทัวร์นาเมนต์ได้ในที่สุด กวาดเงินรางวัลไปกว่า 671,240 เหรียญสหรัฐ (21 ล้านบาท) แน่นอนว่าสำหรับหลายๆ คนแล้วการได้เงินรางวัลที่มากมายขนาดนั้นมา ก็ต้องนำมาปรนเปรอความสุขทางวัตถุให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรถ บ้าน หรือท่องเที่ยว เป็นต้น …
-
Crocs ร่วมมือกับ Chinatown Market เปิดตัว ‘รองเท้าหญ้าเทียม’ คนสั่งเยอะจนของหมด!!
เพื่อนๆ เคยลองจินตนาการกันไหมว่าหากรองเท้า Crocs มารวมร่างกับ ‘หญ้าเทียม’ มันจะเป็นอย่างไร? เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ #เหมียวหง่าว ได้นำเสนอรองเท้าตัวใหม่ของ Nike Air Max รุ่นใหม่ที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าเทียม และมันก็โดนใจบรรดาแฟนๆ รองเท้าสนีกเกอร์มากมาย คราวนี้ Crocs ก็เอากับเค้าบ้าง ล่าสุดได้เปิดตัวรองเท้าใหม่ล่าสุดที่ปกคลุมไปด้วย ‘หญ้าเทียม’ เช่นเดียวกัน!! ด้วยความร่วมมือของ Chinatown Market แบรนด์เสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงของอเมริกา จนกลายมาเป็นรองเท้าทรง Crocs ที่ดูแปลกตาไม่เหมือนใคร ในส่วนของทรงรองเท้านั้นทำมาจากยางที่มีคุณภาพ ทำออกมาเป็นทรงของรองเท้า Crocs ที่เราเห็นกันมาจนชินตา แต่ความแปลกของมันก็คือไม่มีรูนั่นเองเพราะถูกคลุมไปด้วยหญ้าเทียมทั้งหมด!! ส่วนเรื่องของราคานั้นจะอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐ (1,900 บาท) และตอนนี้ขอบอกเลยว่ามันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนชนิดที่ว่าเปิดตัวไปได้ไม่นานก็มียอดสั่งซื้อเข้ามามากมายจนของหมดสต็อกกันเลยทีเดียว!! . . . . บรรดาชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันไปต่างๆ นานา “ว้าววววว พวกนายเห็นไหม…
-
“สุดยอดอึ” สิ่งที่สามารถช่วย “เยียวยาผู้ป่วย” ในหลายๆ โรคได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!!
พวกเราส่วนใหญ่อาจมองแค่ว่า “อึ” หรือ “อุจจาระ” นั้นเป็นเพียงแค่ของเสียที่ถูกขับออกมาจากร่างกาย แต่สำหรับทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์แล้วมันคือสิ่งที่มีประโยชน์ในแบบที่เราอาจไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน นี่จึงเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับอึ จากปากของ “ผู้บริจาคอึ” อย่าง Claudia Campanella เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนักศึกษาวัย 31 ปี มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร Claudia ผู้บริจาคอึเพื่องานวิจัย ในครั้งแรกนั้น เธอบังเอิญได้ไปเจอกับบทความงานวิจัยที่บอกว่า “การกินอาหารแบบวีแกน” เป็นกลุ่มที่เหมาะที่สุดในการบริจาคอึ อันเกิดมาจากสุขภาพภายในท้องที่ดีกว่าการกินอาหารแบบอื่น การขยับของลำไส้ที่ดีกว่า และอื่นๆ เธอยังได้เห็นบทความสารคดีงานวิจัยเกี่ยวกับการ “ปลูกถ่ายอุจจาระ” เพื่อช่วยเยียวยารักษาอาการของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ออทิสซึ่ม โรคอ้วน และอาการป่วยภายในลำไส้อื่นๆ อีกมากมาย เมื่อเธอรู้ว่าการที่เธอเป็นวีแกนนั้นจะสามารถทำประโยชน์ให้กับงานวิจัยนี้เหล่าได้ดีที่สุด โดยอึของเธอนั้นจะถูกเรียกว่า “สุดยอดอึ” (Super Poo) เธอจึงตัดสินใจที่จะเป็นผู้บริจาคอึนับตั้งแต่ตอนนั้น ปัจจุบัน Claudia เป็นส่วนหนึ่งขอการศึกษาวิจัยด้าน ระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเจาะจงไปยังการใช้อึเยียวยาโรคตับแข็ง สำหรับเรื่องของ “การใช้อึรักษาผู้ป่วย” นั้น ดอกเตอร์ Justin O’Sullivan…
-
ญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวขบวนรถไฟ Hello Kitty สุดน่ารัก เริ่มให้บริการปลายเดือนนี้
อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่นมีระบบขนสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ อย่างระบบรถไฟ ที่มีหลากหลายประเภทและมีเส้นทางเชื่อมต่อครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ นอกจากระบบรถไฟของญี่ปุ่นจะสร้างความสะดวกสบายให้แก่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวแล้ว รถไฟแต่ละขบวนยังมีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นรถไฟคิตตี้ขบวนนี้ ที่ให้บริการไปกลับจากสนามบินคันไซถึงเกียวโต ผู้ให้บริการรถไฟ JR West ที่ให้บริการรถไฟสายด่วนของญี่ปุ่น Haruka ในภูมิภาคคันไซ ได้นำตัวการ์ตูนดัง ขวัญใจคุณหนูๆ อย่าง Hello Kitty มาตกแต่งขบวนให้น่ารัก สดใส สร้างความประทับใจให้ผู้โดยสารมากขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ได้มีการตกแต่งรถไฟความเร็วสูงแบบชิงกันเซ็งด้วยตัวการ์ตูน Hello Kitty มาก่อนแล้ว แต่ความแตกต่างของรถไฟ Haruka ขบวนนี้คือ Hello Kitty ในชุดกิโมโนท่ามกลางดอกไม้ และผีเสื้อสีสันสดใส ที่ผสมผสานความเป็นภูมิภาคคันไซซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและความทันสมัยได้อย่างลงตัว รถไฟคิตตี้เพียงขบวนเดียว ขบวนนี้จะเริ่มให้บริการตั้งแต่ 29 มกราคม 2019 ซึ่งตารางการเดินรถจะแตกต่างกันทุกวัน เพื่อเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวโดยสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทางในประเทศญี่ปุ่น ที่มา: soranews
-
หญิงสาวเกิดอุบัติเหตุมีความทรงจำเพียง ‘วันเดียว’ แต่คนรักก็พยายามจีบเธอใหม่อีกครั้งในทุกๆ วัน!!
บางครั้งชีวิตของเราก็เล่นตลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ และที่เหนือกว่าความคาดคิดคือใครจะคิดว่าชีวิตของใครคนบางคนจะไปตรงกับภาพยนตร์บางเรื่องได้ ราวกับว่าได้วางพล็อตเรื่องมาแล้วก่อนหน้านี้… แต่ว่ามีเรื่องรักอบอุ่นหัวใจเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งประสบกับภาวะความจำเสื่อมจึงทำให้ชายหนุ่มต้องทำให้เธอตกหลุมรักกับเขาใหม่ในทุกๆ วันที่ลืมตาตื่นขึ้นมา ใช่แล้วหลายคงจำพล็อตเรื่องนี้จากเรื่อง “50 First Dates” ก่อนอื่นไปทำความรู้จักกับภาพยนตร์เรื่องนี้กันก่อนดีกว่า “50 First Dates” เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ที่นำแสดงโดย Adam Sandler และ Drew Barrymore เนื้อเรื่องคร่าวๆ ของเรื่องนี้ก็คือ หญิงสาวประสบกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้สมองของเธอได้รับการกระทบกระเทือน สามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้เพียงวันเดียวเท่านั้น และความจำในวันก่อนๆ จะหายไปทันทีที่ตื่นขึ้นมาในวันใหม่ ทว่าด้วยความที่พระเอกของเรื่องหลงรักเข้ากับสาวคนนี้อย่างสุดหัวใจ เขาจึงพยายามจีบเธอทุกๆ วันแม้ว่าเธอจะลืมเขาในทุกๆ วันก็ตาม และนั่นเองจึงได้กลายเป็นเรื่องราวความรักที่งดงามซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ แต่คงไม่มีใครคิดแน่ๆ ว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดขึ้นในชีวิตของคนเราจริงๆ … แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วเมื่อทางสื่อโทรทัศน์ของญี่ปุ่นได้เปิดเผยเรื่องราวของ Maruyama สาววัย 24 ปี ที่ตกอยู่ในภาวะสูญเสียความทรงจำ (Amnesia) กับ Li Huayu คู่หมั้นที่พยายามทำให้เธอตกหลุมรักเขาอีกครั้งในทุกๆ วัน เรื่องนี้ได้เริ่มขึ้นจากความที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลาสองปีครึ่ง และกำลังวางแผนจะเข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน ทว่าเมื่อ 9 เดือนก่อนก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับหญิงสาวคนนี้ซึ่งมันได้เปลี่ยนชีวิตเธอไปอย่างสิ้นเชิง โดยในวันนั้นขณะที่เธอกำลังขี่จักรยานอยู่ ก็ถูกรถยนต์พุ่งชนเข้าเต็มๆ จนเธอถูกส่งไปรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการโคม่า และพอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่สามารถจำใครในชีวิตได้สักคนแม้กระทั่งพ่อแม่หรือคนรักคนนี้ …
-
โจรหนุ่มย่องขโมยของห้องข้างๆ แล้วนำไปขายใน eBay คนที่ซื้อไปก็คือ “เจ้าของตัวจริง”?!
บางครั้งความคิดที่ว่า “ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด” ก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์โจรกรรมที่เกิดขึ้นนี้ James Longden ชายหนุ่มวัย 30 ปี ถูกจับในข้อหา “ลักทรัพย์” หลังจากที่เขาเข้าไปขโมยของภายในบ้านห้องข้างๆ ขณะที่เพื่อนบ้านออกไปข้างนอก จากนั้นก็นำสิ่งของเหล่านั้นไปตั้งประมูลใน eBay Jame ชายผู้อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ ในเมืองเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา James ได้แอบย่องเข้าไปในห้องข้างๆ จากนั้นก็ได้ขโมยโน๊ตบุ๊ก เครื่องเพชร และเสื้อผ้า เมื่อเพื่อนบ้านของเขากลับมาแล้วพบว่ามีข้าวของหายไป เขาจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในทันที ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้นเขาจะเห็นว่านาฬิกา และเสื้อหนังที่หายไปถูกตั้งประมูลใน eBay เมื่อเห็นอย่างนั้น เขาจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและสามารถระบุตัวได้ว่าเจ้าของชื่อผู้ใช้นั้นแท้จริงแล้วก็คือคนที่พักอยู่ห้องข้างๆ นี่เอง เขาทำตีเนียนเข้าไปร่วมประมูลจนชนะ ทำให้ James ถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด ระหว่างที่เขากำลังเอาของที่ขโมยไปมามอบให้กับลูกค้า ซึ่งก็คือเจ้าของตัวจริงนั่นเอง Nicky Edgell เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมตัว James กล่าวว่า “โจรหนุ่มนั้นคิดแต่เพียงว่าที่ไหนที่จะทำให้เขารู้สึกปลอดภัยมากที่สุด” เพราะอย่างนั้นเลยกลายเป็นว่าการขโมยของห้องข้างๆ แล้วเอาไปขายในเว็บไซต์ eBay…
-
หนุ่มลากสาวเข้าพุ่มไม้หมายข่มขืน ถูก ‘ฝูงมด’ รุมกัด ช่วยสาวให้หนีรอดเงื้อมมือคนร้าย!!
มดตัวน้อยตัวนิดแต่มีฤทธิ์มากมาย หลายคนอาจจะยังไม่รู้ฤทธิ์เดชของมดดีในเวลาที่มันรวมพลังกัน แต่มาดูเหตุการณ์ที่มดกลายเป็นฮีโร่นี้ดูแล้วคุณอาจจะรู้ก็ได้ โดยกรณีที่ว่านี้คือเหตุการณ์ของหนุ่มคนหนึ่งที่ฉุดสาวเข้าพุ่มไม้หวังจะข่มขืน แต่ระหว่างที่ทำการขืนใจอยู่นั้นก็ถูกฝูงมดรุมกัด จนทำให้ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อสามารถวิ่งหนีออกไปขอความช่วยเหลือได้!! Toni Irawan ผู้ก่อเหตุ เรื่องราวที่ว่านี้เกิดขึ้นที่จังหวัดซูลาเวซีใต้ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 ม.ค.) ซึ่งเริ่มขึ้นจากความที่นาย Toni Irawan หนุ่มวัย 29 ปีทำทีเป็นโทรชวนสาววัย 16 ปีนามสมมุติว่า A.S. ไปนั่งรถเล่น สาวคนนี้ตอบตกลง Toni ก็ไปรับเธอที่บ้านในทันที แต่ว่าระหว่างทางที่นั่งรถไปด้วยกันนั้นเองเขาได้ขอเซ็กส์กับหญิงสาว แต่เธอปฏิเสธและพยายามวิ่งหนี ทว่าเขาก็สามารถวิ่งตามเธอได้ทันพร้อมกับจับตัวกลับมาที่รถบอกว่าจะไปส่งที่บ้าน ระหว่างทางกลับบ้านนั้นเองเขาได้ทำทีเป็นว่าขอลงรถไปทำความสะอาดรถสักหน่อย และอาศัยจังหวะนี้ลากตัวเธอลงมาจากรถไปยังพุ่มไม้แห่งหนึ่ง แล้วเหวี่ยงตัวเธอลงนอนกับพื้นพร้อมกับลงมือข่มขืน แต่ว่าระหว่างการก่อการขืนใจนั้นเอง ทั้งคู่ก็ถูกฝูงมดดำแทบทั้งรังรุมกัดจนต้องเอามือปัดป้องตัวเอง ซึ่งนั่นได้ทำให้เกิดช่องว่างที่หญิงสาวสามารถหนีออกจากเหตุการณ์นี้ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ได้นั่นเอง หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานเรื่องนี้ก็สามารถจับกุมนาย Toni ได้ในวันถัดมา และตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และหากพบว่าผิดจริงเขาก็อาจถูกตัดสินจำคุก 3 – 15 ปีเลยทีเดียว… ที่มา: dailymail, worldofbuzz,…
-
ถึงกับร้อง!! สาวนั่งปลดทุกข์ที่ชักโครกจู่ๆ ถูก ‘งูกัด’ ที่ก้น พบนอนขดตัวเขื่องอยู่ในคอห่าน!!
บางครั้งบางคราเราก็อาจพบกับเหตุการณ์ที่ว่าสัตว์มันเข้าไปอยู่ในที่ที่ไม่ควรจะอยู่ และสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ที่พบเห็น แต่ว่าคงไม่มีใครเจอแจ็คพอตไปยิ่งกว่าผู้หญิงคนนี้อีกแล้วจากเหตุการณ์ทำนองนี้ เพราะใครจะไปคิดว่าขณะที่เธอกำลังไปปลดทุกข์อยู่ในห้องน้ำ จะถูกงูตัวหนึ่งที่นอนอยู่ในชักโครกพุ่งขึ้นมากัดก้นซะอย่างงั้น!! เรื่องราวสุดช็อกที่ว่านี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงวัย 59 ปีชื่อว่า Helen Richards ซึ่งได้ถ่ายทอดประสบการณ์ชวนขนหัวลุกนี้ให้กับชาวโลกได้ระวังเอาไว้ เธอเล่าว่าในวันนั้นเธอไปบ้านของน้องสะใภ้ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย แล้วขอเข้าห้องน้ำ ซึ่งทุกๆ อย่างก็เป็นไปตามปกติทุกอย่าง เธอจึงได้หย่อนก้นนั่งชักโครกอย่างสบายใจ แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น “ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าถูกของแหลมอะไรสักอย่างมาแตะที่ก้นเบาๆ แล้วมันก็รู้สึกเจ็บนิดๆ ตอนแรกฉันคิดว่าเป็นกบเป็นเขียดธรรมดาๆ แต่ก็มาฉุกคิดได้ว่าเขียดมันไม่มีพวกมันนี่หว่า” “ฉันเลยกระโดดจนตัวลอยทั้งๆ ที่กางเกงยังกองอยู่ตรงขาแล้วหันกลับมาดูว่ามันคือสิ่งใดกัน สิ่งที่ฉันเห็นตอนนั้นมันเหมือนกับเต่าคองูกำลังนอนขดเลย” Helen กล่าว แต่แล้วเธอก็ได้รู้ความจริงว่ามันคืองูเหลือมที่มีความยาวมากถึง 1.6 เมตร ซึ่งได้กัดเธอจนก้นมีเลือดซึมออกมาเลยทีเดียว ทว่าก็ยังมีความโชคดีอยู่ที่ว่างูชนิดนี้ไม่มีพิษนั่นเอง จากนั้นเมื่อรู้แล้วว่าเป็นงูเธอก็ทำการปิดวาล์วน้ำ ปิดฝาชักโครกแล้วเอากระถางต้นไม้มาวางทับไว้กันมันหนีออกมา แล้วจัดการโทรเรียกหน่วยงานจับงูในทันที แล้วก็สามารถจับมันออกมาได้สำเร็จ “ในฐานะที่ทำงานเป็นนักจับงูมา 25 ปีเต็มๆ ฉันยังไม่เคยเห็นใครโดนงูกัดก้นขณะที่ใช้ห้องน้ำอย่างนี้มาก่อนเลย มันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ” Jasmine Zeleny ผู้เชี่ยวชาญด้านการจับงูกล่าว Jasmine Zeleny ผู้เชี่ยวชาญด้านการจับงู สำหรับงูตัวนี้ Jasmine ก็กล่าวว่าจะนำไปปล่อยที่ลำห้วยใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ และเตือนด้วยว่าควรจะตรวจดูที่ชักโครกทุกครั้งก่อนการใช้งาน…
-
สาวโดนไล่ออกจากฟิตเนส ถูกบอกว่า “ห้ามใส่สปอร์ตบรา” มันทำหนุ่มๆ เสียสมาธิ?!
การแต่งกายให้เหมาะสมต่อสถานที่นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนพึงทำ แต่สิ่งที่ Marny หญิงสาวชาวเยอรมันวัย 22 ปี ยังคงไม่เข้าใจมาถึงตอนนี้เลยก็คือ นี่เธอแต่งตัวไม่เหมาะสมจริงๆ หรือ? Marny ได้โพสต์ภาพลงทวิตเตอร์พร้อมกับแคปชั่นที่ว่า… “เพิ่งถูกไล่ออกมาจากฟิตเนส เพราะเสื้อผ้าของฉันมัน “โป๊เกินไป” (ดูจากในรูป) และมันทำให้หนุ่มๆ ที่นั่นเสียสมาธิ นี่เราอยู่ในศตวรรษที่เท่าไหร่กันแล้ว? ช่างน่าเศร้าเสียจริง” ชุดที่เธอถูกไล่ออกมาจากฟิตเนส (22 ม.ค. 2019) เรื่องมีอยู่ว่า Marny อาศัยอยู่ในเมือง Constance ประเทศเยอรมนี และเธอก็เป็นสมาชิกกับฟิตเนสท้องถิ่นแห่งหนึ่งมานานกว่า 2 ปีแล้ว ตามปกติแล้วก่อนหน้านี้เธอมักจะสวมเสื้อยืดกับกางเกงวอร์มเข้ามาใช้บริการอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งหลังช่วงปีใหม่ 2019 นี้เธอก็ตัดสินใจที่จะซื้อชุดกีฬาที่ดูเหมาะสมต่อการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น เพื่อความสะดวกสบาย แล้วในวันหนึ่ง เธอก็ได้สวมชุดอย่างที่เราเห็นในภาพเข้าไปใช้บริการฟิตเนสตามปกติกับแฟนหนุ่มของเธอ ระหว่างที่กำลังวิ่งอยู่บนลู่ จู่ๆ ก็มีเทรนเนอร์สาวเดินเข้ามาบอกกับเธอว่า “คุณไม่สามารถเข้ามาใช้บริการในชุดนี้ได้” เทรนเนอร์สาวคนดังกล่าวให้เหตุผลกับเธอว่า “คุณไม่สามารถสวมสปอร์ตบรามาใช้บริการได้” และเหตุผลนั้นก็ทำเอา Marny ถึงกับตกใจและสงสัยว่า “ที่ใส่อยู่นี่มันไม่ใช่สปอร์ตบราสักหน่อย แล้วถ้าใช่ ทำไมถึงใส่ไม่ได้กัน?” ก่อนหน้านี้เธอก็เคยเห็นผู้หญิงคนอื่นๆ…
-
แฟนคลับเกาหลีทุ่มให้ไอดอล เปย์ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท กระทบชีวิตจนการเรียนแย่…
ศิลปินจะอยู่ได้ก็เพราะมีฐานแฟนคลับที่หนาแน่น ด้วยการจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับตัวศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งญี่ปุ่นหรือเกาหลี สินค้าเหล่านี้คือสิ่งที่แฟนคลับยอมจ่ายเงินซื้อเพื่อสนับสนุนศิลปินที่ตนเองรัก แต่อะไรที่ให้มากจนเกินตัว คงไม่ใช่การสนับสนุนที่ดีนัก ตัวอย่างจากแฟนคลับสาววัย 17 ปี ที่ติดตามวง Seventeen จนเพื่อนๆ ที่รู้จักเธอกังวลใน ‘ความชอบ’ ที่มีมากจนเกินไป เรื่องราวดังกล่าวเปิดเผยจากรายการ ‘มีปัญหาปรึกษาไอดอล’ (Hello Counselor) ของประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2019 โดยที่มีผู้ชมในห้องส่งได้เล่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับชีวิตตัวเอง เมื่อเป็นแฟนคลับวง Seventeen มาตั้งแต่ปี 2016 เธอระบุว่าไว้ว่า ได้ทุ่มทั้งชีวิตให้กับวงไอดอล Seventeen จนครอบครัวแทบจะปล่อยไปแบบตามมีตามเกิด และมักจะมาโรงเรียนสายสัปดาห์ละ 2 ถึง 3 ครั้ง อีกทั้งเมื่อมาสายก็จะมาหลับในคาบเรียนอีก ครูก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะแทบจะยอมแพ้ไปแล้ว ทั้งนี้ แฟนคลับตัวยงเคยบอกไว้ว่า เมื่อชอบศิลปินนักร้องแล้ว ก็อยากจะตามไปทุกที่ เริ่มติดตามตั้งแต่ดูคลิปจากแฟนแคมและกลายมาเป็นแฟนคลับในปี 2016 สาเหตุที่ทำให้ต้องมานั่งหลับใครคาบเรียนบ่อยๆ เป็นเพราะว่าจะเปิดคลิปดูจนถึงดึกดื่น หากศิลปินไปออกรายการเพลงก็จะตามไปด้วย กลับมาอีกทีก็สว่าง กว่าจะกินข้าวเช้าเสร็จก็ไปโรงเรียนสายอีก เพราะไม่อยากนั่งแท็กซี่ไป…
-
สุนัขดมกลิ่น “ทำงานดีจัด” จนเหล่าอาชญากรต้อง “ตั้งค่าหัว” สูงกว่า 1 ล้านบาท!!
หากโจรผู้ร้ายก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้มากมาย สร้างคดีมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ไม่สามารถจับกุมตัวมาได้สักที ไม่แปลกที่จะมีการตั้งค่าหัวรางวัลนำจับคนคนนั้น การตั้งค่าหัวโจรผู้ร้ายอาจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การตั้งค่าหัว “สุนัข” นี่อาจไม่ใช่เรื่องที่พวกเราพบเห็นกันได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน เจ้าสุนัขที่โดนตั้งค่าหัว เรากำลังพูดถึง Scamp น้องหมาพันธุ์ “อิงลิช สปริงเกอร์ สเปเนียล” ที่ถูกตั้งค่าหัวเอาไว้ โดยไม่ได้เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากแต่เป็นการตั้งค่าหัวโดยฝีมือของเหล่าอาชญากรต่างหากล่ะ เหตุผลที่น้องหมาตัวนี้ต้องตกอยู่ในอันตรายก็เพราะว่า “มันดันทำหน้าที่ได้ดีเกิ๊นนน” ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มันได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร B.W.Y Canine ในสหราชอาณาจักร องค์กรที่จะจ้างสุนัขให้ช่วยในการดมกลิ่นหาสิ่งต่างๆ เช่น ยาเสพติด ระเบิด ของผิดกฎหมายอื่นๆ ไม่เว้นแม้แต่ดมหาศพหรือคน เจ้า Scamp ทำผลงานเอาไว้ดีมากๆ เพราะใน 5 ปีมันสามารถใช้ทักษะการดมกลิ่น ดมหา “ยาสูบผิดกฎหมาย” ได้รวมแล้วเป็นมูลค่ามากกว่า 6 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 248 ล้านบาท!! แน่นอนว่าผลงานของมันได้กลายเป็นที่ชื่นชมของเหล่าเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหลาย แต่กลับกันมันก็กลายเป็นตัวน่ารำคาญที่เหล่าอาชญากรหมายมั่นตั้งใจอยากจะปลิดชีวิตมันเหลือเกิน จากการที่เจ้าหมาคอยมาขัดแข้งขัดขาการทำธุรกิจในตลาดมืดนี้…
-
สาวชวนเพื่อนมาร่วมยำหนุ่มมื้อเที่ยง นัดบอดแล้วบอกเข้ากันไม่ได้ พอขอหารโดนสาดน้ำใส่!
ในการเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครสักคน ควรจะมีใครเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดตแรกที่เจอกัน และจุดจบของเหตุการณ์ทั้งหมด ก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่ใครๆ คงวาดฝันเอาไว้ ในอดีตที่ผ่านมา ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือกันในการออกเดต ฝ่ายชายจะต้องเป็นคนจ่ายทั้งหมดด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ แต่ในปัจจุบันแนวคิดการหารค่าอาหาร ระหว่างสองฝ่ายก็เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เหตุการณ์ที่แย่ที่สุดของการนัดบอดในครั้งนี้ เกิดขึ้นที่ประเทศจีน โดยสำนักข่าว The Paper ของจีนระบุว่านาย Xiao Wang วัย 29 ปี เดินทางกลับบ้านเกิดที่มณฑลหูเป่ย์ เพื่อไปออกเดตกับหญิงสาวที่ชื่อว่า Xiao Shu เนื่องจากทางครอบครัวรบเร้าให้เขารีบแต่งงานไวๆ เขาก็จึงเลือกวิธีนัดบอดกับสาวคนนี้ ทั้งคู่มาเจอกันในวันที่ 15 มกราคม 2019 อาศัยช่วงวันหยุดที่ตรงกัน และนัดเจอกันที่สวนสาธารณะในช่วงเช้า ในขณะที่เริ่มพูดคุยเพื่อทำความรู้จักกันและกัน ซึ่งฝ่ายชายรู้สึกว่าไม่น่าจะไปด้วยกันได้ จนกระทั่งเมื่อใกล้สู่ช่วงมื้อเที่ยง เขาจึงเอ่ยปากชวนเธอไปทานอาหารประเภทหม้อต้มในร้านใกล้เคียง ตามมารยาทที่ควรทำ แต่ก่อนจะเริ่มรับประทาน ฝ่ายชายบอกกับฝ่ายหญิงไปตรงๆ ว่า เราคงเข้ากันไม่ได้ และดันเป็นสิ่งที่ฝ่ายหญิงคิดเหมือนกันด้วย หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มทานอาหารด้วยกัน แต่ทว่าฝ่ายหญิง Xiao Shu มีเพื่อนโทรศัพท์เข้ามาพอดี เธอจึงชวนเพื่อนมาร่วมทานอาหารด้วยกัน เพราะอยู่ใกล้ๆ…
-
หนุ่มอังกฤษโชว์คอลเลกชันพิเศษ แต่งห้องทั้งห้องเป็นรูป ‘Cheryl’ นักร้องสาวไอดอลในดวงใจ!!
เชื่อเลยว่าไม่ว่าใครๆ ต่างก็ต้องมีดารา นักร้องหรือว่าใครสักคนที่เรายกให้เป็น ‘ไอดอล’ ประจำใจ และมันคงไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรใช่ไหมล่ะถ้าหากว่าเราจะมีรูปไอดอลคนที่ว่านี้อยู่ในห้องนอน… แต่เชื่อเถอะว่าคงไม่มีใครเหมือนกับชายคนนี้อีกแล้วที่นำรูปภาพของ Cheryl Ann Tweedy หรือที่รู้จักกันในนาม Cheryl นักร้องสาวคนสวยขวัญใจของเขามาตกแต่งเต็มห้อง ซึ่งรวมๆ แล้วมีมูลค่าสูงถึง 7,000 ปอนด์ (ประมาณ 290,000 บาท) เลยทีเดียว!! โดยคนที่ว่านี้คือชาวเมือง Basildon ประเทศอังกฤษชื่อว่า Shaun Smith ซึ่งเขาบอกว่าเขานี่แหละคือแฟนคลับชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นซูเปอร์แฟนของสาว Cheryl อดีตนักร้องแห่งเกิร์ลกรุ๊ป Girls Aloud อันโด่งดัง และเราคงจะต้องเชื่อเขาจริงๆ หากดูจากสภาพห้องของเขาที่ตกแต่งไปด้วยรูปภาพของสาวคนนี้แทบจะทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง ผนังห้อง อีกทั้งยังมีสแตนดี้เต็มตัวของเธออีกด้วย “นอกจากสแตนดี้ขนาดใหญ่ของเธอแล้วยังมีพรมเป็นรูปเธออีกเยอะเลยนะ ผมมีคอลเลกชันของเธอเยอะมากแม้กระทั่งกับที่นอนน้องหมา ผมหมดกับเธอไปเยอะมากเพราะผมรักเธอไงล่ะ” Smith กล่าว ชายวัย 51 ปีคนนี้เล่าว่าจุดเริ่มต้นในการเริ่มตกแต่งห้องด้วยรูปภาพของเธอเริ่มขึ้นในฤดูร้อนปี 2018 ที่ผ่านมา แต่ว่าจริงๆ พบรักเข้ากับเธอมาตั้งนานแล้ว “ผมดูยูทูบแล้วดูวง Girls Aloud ผมร้องออกมาเลยนี่ Cheryl…
-
‘Prada’ วางขาย ‘เสื้อยืดคอกลม’ สีขาวล้วน แต่ถูกชาวเน็ตรุมถล่มเพราะราคาแพงมหาโหด!!
กลายเป็นที่พูดถึงอีกแล้วสำหรับกรณีของเสื้อผ้าแบรนด์เนม ซึ่งในครั้งนี้เป็นประเด็นของแบรนด์ Prada ที่ออกเสื้อคอกลมสีขาวเรียบๆ มาขาย แต่กลับถูกชาวเน็ตโจมตีซะเละว่านี่มันใช่ราคาของเสื้อคอกลมจริงๆ เหรอ!! โดยเสื้อคอกลมสีขาวที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า ‘logo piqué T-shirt’ และได้มีการจัดจำหน่ายบนเว็บไซต์ Farfetch เว็บไซต์แฟชั่นชื่อดัง ซึ่งเสื้อตัวนี้ไม่มีได้ลวดลายใดๆ มีเพียงโลโก้เล็กๆ อยู่บริเวณอกเท่านั้น จากภาพจะเห็นว่าราคาของมันอยู่ที่ 270 ปอนด์หรือราวๆ 11,000 บาท “ก่อนตั้งขึ้นในปี 1913 โดยนาย Mario Prada แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักกันในเรื่องของการผลิตสินค้าที่ไม่เคยตกยุคด้วยการใช้งานฝีมือแบบดั้งเดิมของเมืองมิลาน โดยเสื้อตัวนี้ผลิตมาจากคอตต้อนล้วนๆ มีคอที่กลม แขนสั้นพอดีตัวและมีโลโก้อยู่ที่หน้าอก” คำบรรยายสินค้าเขียนเอาไว้ แต่แล้วเมื่อมีการแชร์ภาพของเสื้อตัวนี้ออกไปในโลกอินเทอร์เน็ต ก็มีผู้คนมากมายรู้สึกไม่พอใจกับการตั้งราคาของแบรนด์นี้มากๆ เพราะมันเหมือนกับเป็นเสื้อยืดคอกลมธรรมดาๆ แต่ราคาเป็นหมื่นซึ่งมันให้ความรู้สึกที่ไม่คุ้มค่านั่นเอง “เสื้อตัวนี้อาจถูกซื้อโดยคนที่รู้ราคาของทุกสิ่งอย่างบนโลก แต่ไม่รู้คุณค่าของอะไรสักอย่าง “ขยะ นี่มันผิดในแทบทุกๆ อย่างเลยนะเนี่ย นี่ฉันพูดอะไรที่ฟังดูแรงไปเหรอ ก็เปล่านะ” ตัวอย่างความเห็นจากชาวเน็ต ขณะเดียวกันสื่อต่างประเทศก็ได้ทำการเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า ขณะที่เสื้อคอกลมของ Prada ขายอยู่ที่เกือบๆ 300 ปอนด์ แต่ว่าเสื้อผ้าแบรนด์อื่นๆ ที่ดูคล้ายๆ…
-
เด็กหญิงวัย 14 ตกตึกจากชั้น 8 เพื่อนใกล้ตัวระบุว่าเป็นเหยื่อเกมล้างสมอง ‘วาฬสีน้ำเงิน’
ยังคงเป็นเหตุการณ์น่าสลดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กับเกมแห่งความตาย ‘วาฬสีน้ำเงิน’ (Blue Whale) เกมยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นของประเทศรัสเซีย อันเป็นเกมที่จะมอบหมายภารกิจบางอย่างให้ผู้เล่นได้ทำตาม เมื่อผ่านไปจนถึงด่านสุดท้าย จะลงเอยที่ ‘การฆ่าตัวตาย’ ข่าวที่เกี่ยวข้อง: รู้จัก “วาฬสีน้ำเงิน” เกมลึกลับ ที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นรัสเซียกว่า 130 คน Angelina Bessmertnaya สื่อต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2019 ระบุว่า นักสืบรัสเซียกำลังเร่งสืบสวนหาสาเหตุและแรงจูงใจที่ทำให้เด็กหญิงวัย 14 ปี ดับชีวิตของตนเอง ซึ่งอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มเกมล้างสมอง ‘วาฬสีน้ำเงิน’ ในประเทศรัสเซีย เด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อทราบชื่อคือ Angelina Bessmertnaya ตกลงมาจากอพาร์ตเมนต์ชั้น 8 ในเมืองนิจนีนอฟโกรอด ทางตะวันตกของรัสเซีย ทั้งนี้ ร่างของเธอถูกพบอยู่ในกองหิมะเมื่อช่วงเวลาประมาณ 8.00 น. ของเช้าวันอังคารที่ 22 มกราคม 2019 ในขณะที่ชาวเมืองในท้องถิ่นเพิ่งเริ่มออกไปทำงาน เด็กหญิงคนดังกล่าว ไม่ได้อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์อันเป็นจุดเกิดเหตุที่ทำให้เธอตกลงมา และทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบหาเบาะแสว่า เธอมาที่นี่เพียงลำพังหรือมีใครบางคนคอยบงการอยู่เบื้องหลัง…
-
แม่ยกชอบใจ ‘พ่อค้าขายหมูแผ่น’ ในมาเลเซีย ถอดเสื้อขายของ โชว์กล้ามแน่นๆ!!
การทำธุรกิจมันก็ต้องมีจุดขาย บางครั้งมันอาจจะไม่เกี่ยวกับตัวสินค้าเลยแม้แต่น้อย!! เช่นเดียวกันกับร้านขายหมูแผ่นในเมือง Peninsular ประเทศมาเลเซียร้านนี้ ที่จู่ๆ ก็โด่งดังชั่วข้ามคืน… แต่ไม่ใช่ว่าภาพของหมูแผ่นนั้นน่ากิน หรืออะไรหรอกนะ เพราะจุดที่ต้องโฟกัสน่ะคือ ‘พ่อค้า’ เพราะพี่แกเล่นถอดเสื้อโชว์กล้ามเป็นมัดๆ มาปิ้งหมูแผ่นขายกันเลยทีเดียว พ่อค้าหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Siuhau Neo เดิมทีเขาเป็นคนที่เกิดในเมือง Kuatan รัฐ Pahang แต่ย้ายมาเปิดร้านขายอาหารทะเลร่วมกับครอบครัวที่เมือง Peninsular มาได้หลายปีแล้ว นอกจากปู หอยนางรม และกุ้ง แล้วพวกเขายังขายอาหารอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารทะเลอีกด้วย เช่นไก่ หรือเจ้าหมูแผ่นนี้เองก็ด้วย!! เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2562 ที่ผ่านมาจู่ๆ ภาพของนาย Neo ที่กำลังยืนย่างหมูแผ่นอยู่ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมาเลเซียมากมาย จากการโพสต์ภาพตัวเองกำลังย่างหมูแผ่นลงเฟซบุ๊ก Siuhau Neo . ชาวเน็ตหลายคนเห็นดังนั้นแล้วต่างก็คอมเมนต์แซวกันไปต่างๆ นานา “เนื้อนี่มันน่าอร่อยจริงๆ”…
-
อดีตนักสู้ UFC ถูกยกให้เป็นฮีโร่ หลังช่วย ‘ผู้หญิง’ ถูกชายขี้เมาทำร้ายหน้าไนท์คลับ!!
เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นหน้าไนท์คลับในเมือง Sarajevo ประเทศบอสเนีย เมื่อผู้ชายคนหนึ่งจิกผม และทำร้ายร่างกายของผู้หญิง ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นโดนอดีตนักสู้ UFC จัดการซะอยู่หมัด!! เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกเอาไว้โดยกล้องวงจรปิดของไนท์คลับที่มีชื่อว่า Dorian Gray เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าของก็คือ Dennos Stojnic หรือที่รู้จักกันในฉายา The Menace วัย 38 ปี เป็นอดีตนักสู้มวยกรง UFC รุ่นเฮฟวี่เวต ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันก่อนครับ ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าหญิงสาวคนหนึ่งออกมาจากไนท์คลับ และกำลังเดินผ่านที่จอดรถไป แต่จู่ๆ ก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งวิ่งตามมาแล้วก็ดึงผมของเธออย่างรุนแรงก่อนที่จะผลักตัวเธอไปที่หลังรถคันหนึ่ง ก่อนที่นาย Dennos ที่เป็นเจ้าของร้านวิ่งตามออกมาเพื่อให้การช่วยเหลือ แม้จะร้างเวทีไปตั้งแต่ปี 2016 แต่สเต็ปของพี่แกก็ยังเฟี้ยวฟ้าวอยู่ เขาต่อยเข้าที่หน้าของชายแปลกหน้าแล้วก็เหวี่ยงลงกับพื้นจนควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ในที่สุด “ผมเห็นเหตุการณ์ผ่านทางกล้องวงจรปิดจากในร้าน มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังทำร้ายผู้หญิง ผมก็เลยรีบวิ่งออกไปเพื่อช่วยเหลือเธอ” “ผมจับเขาเอาไว้ก่อน แล้วค่อยให้ทีมรักษาความปลอดภัยในร้านผมจัดการ หลังจากที่ควบคุมเหตุการณ์ได้แล้วผมก็ถามผู้หญิงคนนั้นว่าเธออยากจะแจ้งความไหม? แต่เธอปฏิเสธ ก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งเธอที่บ้าน” “หน้าที่ของผมในฐานะเจ้าของร้าน และพลเมืองผู้ชายคนหนึ่ง ก็คือการรักษาความปลอดภัยให้กับทุกคนที่เป็นลูกค้าของผม โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะพวกเธออาจจะเป็นลูก…
-
Justin Timberlake เซอร์ไพรส์เด็กป่วย หลังน้องอัดวิดีโอเชิญมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล
สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงสากลคงจะคุ้นเคยกับชื่อของ Justin Timberlake เป็นอย่างดี ด้วยเสียงที่ไพเราะ บวกกับแนวเพลงที่โดนใจคนทุกเพศทุกวัยทำให้ผลงานของเขาโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อเร็วๆ นี้ Justin ได้เดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตที่รัฐเท็กซัส เพื่อโปรโมทอัลบั้ม “Man of the Woods” ทางโรงพยาบาล Methodist Children’s Hospital จึงได้ทำวิดีโอน่ารักๆ ขึ้นมาเพื่อเชิญชวนนักร้องดังอย่าง Justin ให้มาเยี่ยมเด็กๆ ที่โรงพยาบาล https://www.youtube.com/watch?v=Kxikuu5pjsQ&feature=youtu.be วิดีโอดังกล่าวแสดงภาพของเด็กๆ ซึ่งเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลถือป้ายที่เขียนว่า “JT See Me” โดยมีเพลงดังอย่าง “Can’t Stop The Feeling” ของ Justin เป็นเพลงประกอบ หลังจากวิดีโอถูกอัพโหลดลงบน YouTube พร้อมกับแฮชแท็ก #JTSeeMe ได้มีผู้ชมถึง 47,000 ครั้ง จึงทำให้คนที่ถูกกล่าวถึงอย่าง Justin แวะมาให้กำลังใจเด็กๆ และครอบครัวที่โรงพยาบาล โดยใช้เวลาที่นั่นหลายชั่วโมงเพื่อพูดคุย ถ่ายรูป พร้อมกับแจกลายเซ็นให้แก่พวกเขา Annabella Lugosi ผู้เป็นแม่ของเด็กชายวัย…
-
ศาลจีนเปิดตัวแอป ‘ลูกหนี้ขี้เบี้ยว’ เปิดเผยและระบุตัวบนแผนที่ ตามตัวไปทวงนี้ได้ทันที!!
เป็นข่าวคราวที่ได้ยินกันบ่อยเหลือเกินกับปัญหาของลูกหนี้ ไม่มี ไม่หนี และไม่จ่าย ในประเทศจีน โดยทางการจีนได้เข้ามาจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ไหนจะมีการประจานผ่านป้ายสาธารณะต่างๆ ล่าสุดก็มีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ที่จะทำให้เจ้าหนี้สามารถเข้าถึงตัวลูกหนี้ได้ง่ายขึ้นไปอีก ศาลประชาชนชั้นสูงมณฑลเหอเป่ย์ ได้เปิดตัวแอปฯ ใหม่ เพื่อใช้ในการระบุตำแหน่งของลูกหนี้ ที่หนีหนี้ไม่ยอมจ่าย เพื่อเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมบีบบังคับ เพื่อปรับคะแนนความประพฤติทางสังคมขึ้นมาใหม่ โดยแอปฯ ดังกล่าวจะทำการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของลูกหนี้ที่อยู่ในระบบ และเปิดเผยตำแหน่งระบุไว้ในแผนที่ หากเพื่อนบ้านคนใดที่เป็นลูกหนี้คงค้างกับรัฐอยู่ สามารถตรวจสอบได้ทันทีและแจ้งรายงานให้ทางการทราบได้ผ่านแอปฯ บริการดังกล่าวจัดการและบริหารโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน หลังจากที่มีนโยบายเก็บคะแนนความประพฤติทางสังคมขึ้นมา โดยข้อมูลจะถูกเชื่อมโยงในฐานข้อมูลของแอปฯ ซึ่งจะเปิดเผยให้รู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง หากใครที่เครดิตไม่ดีอยู่ใกล้คุณในระยะ 500 เมตร สามารถแจ้งให้ทางการทราบเพื่อตามไปทวงได้ คลิปวิดีโอการทดลองใช้งานแอปฯ https://twitter.com/evazhengll/status/1087997461258555399?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1087997461258555399&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.rt.com%2Fnews%2F449498-china-app-shame-debtors%2F “มันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่ถูกนำมาบังคับใช้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับคะแนนความประพฤติและเครดิตความน่าเชื่อถือในสังคม” โฆษกศาลอธิบายปิดท้าย ที่มา: chinadaily, rt, technode, trunews
-
เจ้าสาวแบนไม่เชิญ “คนในครอบครัว” มาร่วมงานแต่ง เหตุเพราะพวกเขา “ไม่ใช่วีแกน”?!
สำหรับ “งานแต่งงาน” นั้น ทางฝั่งคู่บ่าวสาวก็มีสิทธิ์ที่จะสามารถส่งการ์ดเชิญแขกผู้มีเกียรติได้ด้วยตัวเอง สามารถเลือกที่จะชวนหรือไม่ชวนใครก็ได้ เช่นเดียวกันกับเจ้าสาวคนหนึ่ง เมื่อเธอเลือกที่จะไม่ชวนคนในครอบครัว ญาติผู้ใหญ่หลายๆ คนของเธอมาร่วมงาน จากเหตุผลที่ว่า “พวกเขาไม่ใช่วีแกน”?! เธอได้โพสต์เรื่องราวของตัวเองลงในเฟซบุ๊กของกลุ่มคนที่เป็น “วีแกน” เหมือนๆ กันกับเธอ หญิงสาวนิรนามคนนั้นเล่าว่าเธอจะจัดงานแต่งงานให้เป็นไปในลักษณะของวีแกนโดยสมบูรณ์ จึงเลือกที่จะไม่เชิญญาติผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่วีแกน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่กินได้ทั้งผักและเนื้อสัตว์ก็ตาม เธอให้เหตุผลว่า การที่ไม่ชวนคนในครอบครัวบางคนมาร่วมงานนั้นก็เพราะไม่อยากเป็นเจ้าภาพที่มี “ฆาตกร” มาร่วมอยู่ในงานแต่งงาน หนึ่งในงานที่ควรจะมีความสุขมากที่สุดในชีวิต โพสต์ของเธอ หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้คนในกลุ่มเฟซบุ๊กที่เป็นวีแกนเหมือนกันต่างมองว่านั่นเป็นเรื่องที่ “ไร้เหตุผลจนเกินไป” มีคอมเมนต์บอกว่า “ในฐานะที่เป็นวีแกน ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันไร้สาระ คุณจะมาเรียกคนในครอบครัวว่าฆาตกรมันก็ไม่ถูก” อีกคอมเมนต์บอกว่า “เธอบ้าไปแล้ว ถ้าเป็นผมนะการตัดเธอออกไปจากชีวิตยังจะมีความสุขกว่าซะอีก” หลังจากที่หลายๆ คนไม่เห็นด้วย หญิงสาวเจ้าของโพสต์ก็ได้ออกมาอธิบายถึงเหตุผลที่ไม่โอเคกับญาติๆ ของเธอเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้ตนเองและแฟนหนุ่มเคยโดยคนเหล่านั้นโจมตีในสิ่งที่เธอเป็น เธอบอกว่าเคยถูกญาติๆ ต่อว่าเพียงเพราะเธอและแฟนเป็นวีแกน แต่พอพวกเขารู้ว่าเธอจะจัดงานแต่งงาน จู่ๆ ก็ดันมาทำดีอยากเป็นเพื่อนด้วยซะอย่างนั้น เธอไม่ต้องการที่จะให้มี “คนที่คร่าชีวิตสัตว์” มาอยู่ในงานแต่ง และนำเรื่องนี้มาแชร์ในกลุ่มโดยหวังว่าจะมีคนที่คิดเหมือนกัน ได้รับความเข้าใจจากคนที่ทำเหมือนๆ กันกับเธอ…
-
เด็กสาวปลอมตัวเป็นผู้ชาย เปิดร้านตัดผมแทนพ่อที่ป่วยเป็นอัมพาต เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว!!
ชีวิตของคนเราบางครั้งก็เป็นเรื่องที่ยาก เพราะด้วยสถานการณ์บังคับหรือเหตุผลอื่นๆ ทำให้สิ่งต่างๆ ที่แม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำแต่ก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอด… อย่างเช่นในกรณีของเด็กสาวสองคนนี้ที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อรับช่วงร้านตัดผมจากพ่อที่นอนป่วย ซึ่งเหตุผลเดียวที่ทำให้พวกเธอยอมทำก็คือการหาเงินมาจุนเจือครอบครัว เรื่องราวนี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2014 เมื่อคุณพ่อของ Jyoti Kumari เด็กหญิงวัย 13 ปีและน้องสาว Neha วัย 11 ปี (อายุในขณะนั้น) เกิดล้มป่วยลงด้วยอาการอัมพาตและไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ อาการเจ็บป่วยที่เข้ามาทำให้เสาหลักของครอบครัวไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป และแหล่งเดียวที่ทำเงินได้ของทั้งครอบครัวก็คือ ‘ร้านบาร์เบอร์’ ในเขตรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวนี้ แน่นอนว่าร้านบาร์เบอร์จะไม่สามารถเปิดให้บริการได้ถ้าหากไร้ซึ่ง ‘ช่างตัดผม’ แต่ในเมื่อคุณพ่อทำงานไม่ได้อีกต่อไป เด็กสาวทั้งสองจึงจำต้องรับช่วงต่อ เปิดร้านเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ เลยที่พวกเธอจะกลายมาเป็นช่างตัดผมได้ เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ในอินเดียมักจะไม่ค่อยเชื่อใจให้เด็กสาวอย่างพวกเธอมาตัดผมโกนหนวดให้ พวกเธอจึงหาวิธีมาแก้ไขปัญหาตรงนี้นั่นคือการปลอมตัวเป็นผู้ชาย “มันเป็นงานที่ยากจริงๆ นะแต่พวกเราก็ไม่มีทางเลือกมากนัก ดังนั้นพวกเราจึงแปลงโฉมตัวเองให้ดูคล้ายๆ กับเด็กผู้ชายทั้งการเปลี่ยนชื่อให้เหมือน แต่งตัวให้เหมือนรวมทั้งตัดผมสั้นด้วย ซึ่งถ้าไม่ทำอย่างนี้ครอบครัวของเราอาจอดตายได้” Jyoti กล่าว และแล้วเด็กสาวทั้งสองก็ไว้ผมทรงสั้น สวมกำไลสเตนเลสที่ผู้ชายใส่กัน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น Deepak และ Raju แต่อย่างไรก็ตามผู้คนในหมู่บ้านต่างก็รู้ดีว่าตัวตนของพวกเธอจริงๆ เป็นเช่นไร…
-
สื่อเกาหลีเผย “เจนนี่ BLACKPINK” เลิกกับ “ไค EXO” หลังออกข่าวคบกันได้ไม่ถึงเดือน!!
จากเมื่อต้นปี 2019 กับข่าวบันเทิงในประเทศเกาหลีใต้ที่ได้กลายเป็นกระแสโด่งดังอย่างมากกับเหล่าแฟนคลับ K-Pop ทั่วทุกมุมโลก ในเรื่องที่ว่า ไค จากวง EXO กำลังคบหาดูใจอยู่กับ เจนนี่ จากวง BLACKPINK เจนนี่ วง Blackpink ไค วง EXO ล่าสุดในวันนี้ (25 ธ.ค. 2019) สื่อบันเทิงจำนวนมากในเกาหลี ก็ได้ออกมาบอกแล้วว่าทั้งสองตัดสินใจ “จบความสัมพันธ์” นั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!! เวลาเพียงไม่ถึงเดือน นับจากวันที่ 1 มกราคม ที่มีการเผยภาพทั้งสองออกไปเดตกันสู่สายตาแฟนคลับเป็นครั้งแรก มาจนวันนี้ที่ทางค่าย SM Entertainment ต้นสังกัดของวง EXO ให้สัมภาษณ์ว่า… “ไค และ เจนนี่ เพิ่งแยกทางกันไปเมื่อไม่นานมานี้” ขณะเดียวกัน ทางฝั่ง YG Entertainment ต้นสังกัดของวง BLACKPINK ยังคงไม่ออกมาพูดอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย โดยจากสื่อวงในของทางด้านหนุ่ม Kai…
-
“นักบำบัดคนรักร่วมเพศ” เปิดเผยตัว ยุติชีวิตแต่งงานกับภรรยา คบหาดูใจอยู่กับ “ผู้ชาย”?!
กลายเป็นประเด็นสุดช็อกในช่วงวันที่ 23-24 มกราคม 2019 ที่ผ่านมา เมื่อ “นักบำบัดคนรักร่วมเพศ” ชื่อดังออกมาบอกกับทุกคนว่าตอนนี้เขาได้กลายเป็น “เกย์” ออกเดตกับผู้ชายด้วยกัน David Matheson คือนักบำบัดในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ผู้มีชื่อเสียงจากการคิดค้นคอร์สบำบัดจำนวนมากที่บอกว่าสามารถเปลี่ยน “คนรักร่วมเพศ” ให้กลายเป็น “รักเพศตรงข้าม” ได้ David นักบำบัดชื่อดังชาวอเมริกัน แต่ล่าสุดเขาได้ออกมายอมรับกับทุกคนแล้วว่าตนเองเป็น “เกย์” ที่กำลังเดตกับผู้ชายอยู่ ณ ตอนนี้?! จากการรายงานกล่าวว่า David ให้สัมภาษณ์กับสื่อ บอกว่าเขาไม่สามารถโกหกอีกต่อไปได้แล้ว มันถึงเวลาที่ต้องยอมรับตัวเองเสียทีว่าเป็นเกย์ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงมีความเชื่อมั่นและแรงศรัทธาในงานที่ทำ ซึ่งเขาบอกว่าจะยังไม่ล้มเลิกในการเป็นนักบำบัดเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม การออกมายอมรับและเปิดเผยความจริงในสิ่งที่เป็นของเขาก็ได้กระทบไปในหลายๆ ฝ่าย หนึ่งคือภรรยาสาวที่สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็จำเป็นต้องยุติชีวิตแต่งงานนานกว่า 34 ปีลง ก่อนที่นักบำบัดหนุ่มจะหันไปคบหาดูใจกับชายหนุ่มอย่างเปิดเผย ต่อมาคือการถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยเพื่อนร่วมลัทธิมอร์มอน (Mormon) ลัทธิทางศาสนาที่เขานับถือ ซึ่งเขาถูกคนเหล่านั้นมองว่าเป็นเรื่องที่น่าละอายใจในสิ่งที่เขาเปิดเผยออกมาตอนนี้ David ถูกนักบำบัดคนอื่นๆ มองว่าเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอีกต่อไปแล้ว (คาดว่าหมายถึงกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อ “คนรักเพศตรงข้าม”) …
-
ชาวสเปนร่วมใจปฏิบัติการกู้ชีพ ขุดอุโมงค์ช่วยเหลือเด็ก 2 ขวบ ตกหลุมลึกเกือบร้อยเมตร!
เป็นอีกหนึ่งข่าวที่เกิดขึ้นทางตอนใต้ของประเทศสเปน หลังจากที่เกิดเหตุเด็กวัย 2 ขวบ ตกลงไปในหลุมบ่อน้ำบาดาลลึกกว่า 100 เมตร ทั้งภาครัฐและเอกชนจึงร่วมมือกันปฏิบัติภารกิจกู้ชีพครั้งใหญ่ เพื่อช่วยชีวิตเด็กคนนี้ให้รอดปลอดภัยอย่างมีความหวัง เด็กวัย 2 ขวบทราบชื่อว่า Julen ตกลงไปในปากหลุมความกว้าง 25 เซนติเมตร หลังจากที่พลัดหลงกับครอบครัวจากการเดินเล่นในที่ดินส่วนบุคคลของญาติในเมือง Totalán แคว้นมาลากา ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2019 ที่ผ่านมา ด้านทีมกู้ภัยเฉพาะกิจเริ่มทำการปฏิบัติการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ทราบว่าเด็กหายตัวไป และเมื่อช่วงวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา ทีมวิศวกรได้วางแผนขุดเจาะหลุมคู่ขนานให้มีขนาดกว้างมากขึ้น ก่อนจะเจาะลงแนวดิ่งเป็นอุโมงค์ลงไปเพื่อเข้าไปถึงตัวเด็กให้ได้ . ทีมคนงานเหมืองจึงเร่งทำการขุดเจาะทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อขุดเจาะอุโมงค์คู่ขนานให้มีความลึก 60 เมตร และเริ่มวางโครงท่อเหล็กหนาค้ำอุโมงค์ ซึ่งหวังว่าจะสามารถขุดเจาะจากทางด้านข้าง เพื่อเข้าถึงตำแหน่งของเด็กผ่านอุโมงค์ที่เจาะขึ้นมา โดยไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน แต่ปฏิบัติการจะต้องเริ่มในทันที เนื่องจากเด็กไม่มีการตอบสนองใดๆ กับทางทีมกู้ภัยเลย ภาพจากดาวเทียมระบุจุดเกิดเหตุ . …
-
คุณแม่ท้องแฝดสาม ที่ทำเอาคนดูหายใจไม่ทั่วท้อง ล่าสุดคลอดแล้ว เด็กๆ น่ารักแบบสุด!!
เมื่อช่วงปลายปีก่อน #เหมียวหง่าว ได้นำเสนอเรื่องราวของคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่เผยให้เห็นถึงภาพพัฒนาการการตั้งท้อง ‘แฝดสาม’ ที่ดูแล้วรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ : คุณแม่ถ่ายภาพเผยให้เห็นถึงพัฒนาการ ‘ตั้งท้องแฝดสาม’ ดูแล้วรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง!! หลังจากภาพเซ็ตการตั้งครรภ์ของคุณแม่ Maria Nordø Jørstad จากกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ถูกเผยแพร่ลงในโลกโซเชียล ก็กลายเป็นกระแสไวรัล ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย พร้อมขนาดท้องของคุณแม่นั้นใหญ่มากๆ จนหลายๆ คนก็กลัวว่ามันจะแตกออกมารึเปล่า? เธอจะปลอดภัยไหม? ลูกๆ ในท้องจะเป็นอย่างไรบ้าง? “ตอนแรกมันเริ่มมาจากการที่ฉันอยากจะถ่ายภาพบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างทาง เพื่อเก็บเอาไว้เป็นสมบัติของครอบครัวของเรา และการท้องลูกแฝดสามก็เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ ฉันคิดว่าหลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันน่าสนใจ” คุณแม่ Maria กล่าว ซึ่งล่าสุดเด็กๆ ทั้งสามคนที่อยู่ในท้องของคุณแม่ก็คลอดออกมาเรียบร้อยแล้วจ้า ปลอดภัยทั้งเด็กและคุณแม่ แถมยังหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักแบบสุดๆ เธอเขียนโพสต์ลงอินสตาแกรมว่า “ในวันนี้เราได้ทำการต้อนรับลูกๆ ที่น่ารักสู่โลก ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี และเราเองก็มีความสุขมากๆ” ลูกแฝดทั้งสามคนหน้าตาแสนน่ารัก ประกอบไปด้วยเพศหญิง 2 คน และเพศชาย 1 คน…
-
บริษัทจักรยานทำกล่อง TV หลอกบริษัทส่งของ ลดความเสียหายได้ชะงักนัก!!
บางครั้งการหลอกคนอื่นมันก็อาจจะเป็นสิ่งที่สร้างความปลอดภัยให้กับเราได้เช่นกัน!! นี่คือเรื่องราวของบริษัทจักรยานในประเทศเยอรมนี ที่ทำการสร้างกล่องที่บอกว่าข้างในเป็นทีวี เพื่อหลอกบริษัทส่งของให้ค่อยๆ ขนกล่องอย่างระมัดระวัง จะได้ไม่ทำให้จักรยานที่อยู่ข้างในเกิดความเสียหาย บริษัทจักรยาน VanMoof ต้องเผชิญกับการเสียเงินโดยใช่เหตุ จากความเสียหายที่เกิดจากการจัดส่งของมาได้ระยะหนึ่งแล้ว หลายๆ บริษัท หรือหลายๆ คนที่เจอปัญหานี้ ก็อาจจะหาวิธีที่จะใส่โฟม หรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเซฟตี้สินค้าไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้น แต่สำหรับบริษัท VanMoof กับปิ๊งไอเดียที่สุดยอดยิ่งกว่านั้น พวกเขาเลือกที่จะเปลี่ยน ‘กล่อง’ บรรจุจักรยาน ให้เป็นรูปทีวีจอ LCD ขนาดใหญ่ เพื่อให้พนักงานส่งของค่อยๆ ส่งอย่างเบามือ “เราคิดหาทางแก้ไขปัญหากันอย่างหนักมาก และในที่สุดก็ได้ข้อสรุปที่เปลี่ยนกล่องของเราให้คล้ายกับกล่องที่มีทีวีอยู่ข้างใน เพราะกล่องทีวีมันมีขนาดพอๆ กับจักรยานของเราแบบพอดิบพอดี” หลังจากที่ลองเปลี่ยนมาใช้กล่องทีวีแล้ว ก็ปรากฏว่าพวกเขาสามารถลดอัตราความเสียหายของสินค้าได้มากถึง 80% เลยทีเดียว!! “จริงๆ เราต้องการที่จะเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ เพื่อให้มันเกิดผลดีมากที่สุด จนกระทั่งนักข่าวคนหนึ่งที่เป็นลูกค้าของเราทวีตเรื่องนี้ออกมา ก็เลยกลายเป็นว่าทั่วโลกได้รับรู้ไปเสียแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นความโชคดีที่อัตราความเสียหายมันไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด” ผู้ก่อตั้งบริษัท VanMoof กล่าว เราตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ…
-
ขี้เมาขนหินมาขวางรถ หารู้ไม่เธอคือนักธรณี เลยจัดเครื่องเจาะหินให้ตอน 7 โมงเช้า!!
บางครั้งการเจอเพื่อนบ้านแย่ๆ มันก็สามารถสร้างความปวดหัวให้กับเราได้ไม่น้อยเช่นกัน หลายๆ คนก็อาจจะมีวิธีในการรับมือที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับสาวนักธรณีวิทยาคนนี้ขอบอกเลยว่า เธอใช้วิธี ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ ทำตัวแย่ๆ มา เธอก็จัดแบบแย่ยิ่งกว่าเพื่อเอาคืนแบบไม่โกง แถมดอกเบี้ยให้อีกด้วย!! เรื่องมีอยู่ว่า Melissa Scruggs จากแคลิฟอร์เนีย ที่กำลังเรียนใบปริญญาเอกในสาขาวิชาธรณีวิทยา ในเช้าวันหนึ่งเธอตื่นมาก็พบว่ามีคนเอาก้อนหินขนาดใหญ่มาวางขวางทางรถของเธอ Melissa เล่าเรื่องราวในวันเกิดเหตุว่า “ฉันและนักศึกษาคนอื่นๆ อาศัยอยู่ในบ้านพักมานานกว่า 3 ปี และเพื่อนบ้านของเราก็เป็นพวกนักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 และ ชั้นปีที่ 2” “เมื่อปีก่อนหน้านี้จู่ๆ พวกเขาก็ย้ายข้าวของต่างๆ มาวางไว้บนถนนทางเข้าออกของบ้านพัก เพื่อจัดเป็นโซนปาร์ตี้ ฉันรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักเพราะทุกครั้งที่จัดปาร์ตี้กัน พวกเขามักจะส่งเสียงดังจนน่ารำคาญ แถมยังพยายามกันไม่ให้รถหรือคนผ่านทางนั้นอีกต่างหาก” “แต่ถึงอย่างไรก็ตามฉันก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรแบบจริงๆ จังๆ กับเรื่องพวกนี้เลย จนกระทั่งเมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง” “จู่ๆ ก็มีคนเอาก้อนหินขนาดใหญ่มาวางขวางหน้ารถของฉันที่จอดอยู่ เป็นฝีมือของพวกที่ชอบจัดงานปาร์ตี้กันนั่นแหละ ตอนแรกฉันพยายามเรียกให้พวกเขาลงมาช่วยยกมันออกไป แต่พวกเขาก็เงียบ” “ผ่านไปหลายวันเหมือนกันพวกเขาถึงมาช่วยฉันยกออกไป จนกระทั่งในคืนวันศุกร์ พวกเขาจัดงานปาร์ตี้อีกครั้งหนึ่ง…
-
อียิปต์ประกาศ การบูรณะสุสานฟาโรห์ตุตันคาเมนเสร็จสิ้นแล้ว หลังดำเนินการมาร่วม 10 ปี
ตั้งแต่ที่มีการค้นพบ “KV62” สุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน (หรือ ตุตันคามุน) ในปี 1922 สถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของอียิปต์ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากในแต่ละปี ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะในขณะที่สุสานอื่นๆ ที่เคยมีการพบมามักจะอยู่ในสภาพที่เสียหายอย่างหนัก สุสาน KV62 กลับอยู่ในสภาพที่ดีมากจนถึงขนาดที่ว่าภาพฝาผนังภายในยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แม้ผ่านกาลเวลามากว่า 3,000 ปี แต่แม้ว่าสุสาน KV62 จะมีสภาพดีแค่ไหนก็ตาม การที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาในที่แห่งนี้อยู่เสมอก็ทำให้สุสาน KV62 เริ่มที่จะเกิดความเสียหายอยู่ดี ดังนั้นในช่วงปี 2008 สุสานแห่งนี้ก็ต้องเข้าสู่การบูรณะครั้งใหญ่จนได้ โปรเจกต์ที่ว่านี้จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือของกระทรวงโบราณวัตถุอียิปต์ และสถาบันอนุรักษ์เก็ตตี้ (GCI) แห่งลอสแองเจลิส พวกเขามีเป้าหมายหลักอยู่ที่การซ่อมแซมภาพฝาผนัง การติดตั้งระบบระบายอากาศใหม่ และการหาต้นต่อของรอยจุดสีน้ำตาลที่อยู่บนภาพ ซึ่งเคยถูกเชื่อกันว่าอาจจะเป็นเชื้อราจากในอดีต หลังจากที่การบูรณะดำเนินการไปได้นานกว่า 10 ปี ในที่สุดเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ทางกระทรวงโบราณวัตถุอียิปต์ก็ได้ออกมาประกาศว่าการบูรณะสุสาน KV62 ได้เสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยทาง GCI ได้ออกมาเปิดเผยว่าจุดสีน้ำตาลที่อยู่บนภาพของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั้นได้ เป็นจุลินทรีย์จากสมัยก่อนจริงๆ แต่ก็ตายไปเป็นเวลานานมากแล้ว โดยจะสังเกตได้จากการที่มันไม่ได้เติบโตขึ้นเลยตั้งแต่เมื่อปี 1922 ที่มีการค้นพบ อย่างไรก็ตามก่อนที่จะตายไปจุลินทรีย์เหล่านี้ก็ได้กระจายลงไปยังตัวภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ทีมบูรณะสุสานไม่สามารถกำจัดจุลินทรีย์เหล่านี้ได้โดยไม่ทำลายตัวภาพ โปรเจกต์บูรณะสุสานในครั้งนี้นับว่าเป็นโปรเจกต์ที่ค่อนข้างแปลกมากเลยก็ว่าได้ เพราะตลอดช่วงเวลาที่มีการบูรณะตัวสุสานเองก็ไม่ได้มีการปิดรับนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด แถมหากนักท่องเที่ยวสนใจในการทำงานของทีมงานพวกเขายังได้รับอนุญาตให้ตอบคำถามของนักท่องเที่ยวอย่างอิสระด้วย และแน่นอนว่าเมื่อการบูรณะสุสานจบลงไปได้ด้วยดีเช่นนี้…
-
พบโครงกระดูกเด็ก 269 คน และลามะ 466 ตัว ถูกบูชายัญในเปรูเมื่อ 500 ปีก่อน และยังไม่ทราบว่าเพราะอะไร
เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าการบูชายัญเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมโบราณหลากหลายแห่งในโลกไม่ว่าจะเป็นเผ่ามายา แอซเท็ก หรือแม้กระทั่งชาวอียิปต์โบราณ จนทำให้การค้นพบร่องรอยเหยื่อบูชายัญในอดีตอาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรในสายตาของหลายๆ คน แต่เมื่อล่าสุดนี้เอง ทางนิตยสาร National Geographic ก็ได้ออกมาเปิดเผยการค้นพบที่น่าสนใจเกี่ยวกับการบูชายัญในอดีตอีกครั้ง นั่นเพราะทีมนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติตรูฮีโยได้ค้นพบโครงกระดูกของเด็ก 269 คน ผู้ใหญ่ 3 คน และลามะอีก 466 ตัวซึ่งถูกสังหารในพิธีบูชายัญ ถูกฝังไว้ใต้หาดทรายทางตอนเหนือของประเทศเปรู โครงกระดูกเหล่านี้ถูกพบเป็นครั้งแรกในปี 2011 โดยเด็กๆ ที่เข้ามาเล่นทรายในพื้นที่โดยบังเอิญ และคาดกันว่ามีอายุอยู่ที่ราวๆ 550 ปี ก่อนที่ทีมนักโบราณคดีจะถูกเชิญเข้ามาสำรวจในปี 2016 นี่นับว่าเป็นการบูชายัญเด็กที่ใหญ่ที่สุดของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะที่ผ่านๆ มาหลักฐานการบูชายัญเด็กที่ใหญ่ที่สุดของโลกนั้นอยู่ที่เมืองโบราณของแอซเท็กและมีเหยื่ออยู่แค่ 42 รายเท่านั้น โครงกระดูกส่วนใหญ่ที่ถูกฝังที่นี่จะมีร่องรอยการถูกของมีคมตัดผ่านกระดูกสันอกและซี่โครงซึ่งพบได้ในพิธีการบูชายัญ แถมร่างของเด็กๆ ยังมักถูกฝังด้วยท่าทางแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝังคว่ำหน้าหรือนอนขดตะแคงข้าง ที่ผ่านๆ มาการบูชายัญครั้งใหญ่ในอดีตมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างฝนตกหนักจนน้ำท่วม อย่างไรก็ตามในพื้นที่การทำพิธีในครั้งนี้กลับไม่มีร่องรอยว่าเคยถูกน้ำท่วมหรือฝนตกอย่างต่อเนื่องในอดีตปรากฏให้เห็นเลย นั่นทำให้ในปัจจุบันทีมนักโบราณคดีจึงไม่อาจบอกได้ว่าการบูชายัญเด็กและตัวลามะจำนวนมากมายขนาดนี้เกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่ หรือแม้กระทั่งเรื่องที่ว่าคนกลุ่มไหนกันที่บูชายัญเด็กมากขนาดนี้ ศาสตราจารย์มานุษยวิทยา John Verano ผู้เป็นหนึ่งในทีมงานสำรวจบอกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการวิจัยครั้งนี้นั้นอยู่ที่เวลา เพราะพวกเขาจะต้องรีบบันทึกข้อมูลที่พบทั้งหมดอย่างละเอียด ก่อนที่ความเจริญของเมืองจะมาทำลายแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ในอนาคต ที่มา nola, nationalgeographic…
-
หนุ่มทุ่มเงินศัลยกรรม เปลี่ยนตัวเองให้หน้าเหมือนราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับ ‘Michael Jackson’ !!
เรื่องของการ ‘ศัลยกรรม’ สามารถทำให้เราออกแบบใบหน้าของเราได้ ว่าอยากมีหน้าเป็นอย่างไร หรือคล้ายๆ กับใครที่เราชอบ และนี่เองจึงได้ทำให้หนุ่มคนหนึ่งเปลี่ยนใบหน้าของตัวเองให้เหมือนกับ Michael Jackson ไอดอลที่เขาชื่นชอบ ซึ่งต้องบอกว่าถึงไม่เหมือนแต่ก็มาทรงเดียวกันจริงๆ Leo Blanco หนุ่มวัย 22 ปีชาวอาร์เจนตินาทุ่มเงินเป็นเงินกว่า 22,000 ปอนด์ (ราวๆ 910,000 บาท) เปลี่ยนตัวเองให้ดูเหมือนกับ Michael Jackson ราชาเพลงป๊อปไอดอลในดวงใจของเขา ชายผู้นี้เล่าว่าตัวเขาเองเป็นหนุ่มที่มาจากบัวโนสไอเรส และผ่านมีดหมอมาแล้วถึง 11 ครั้งด้วยกัน รวมทั้งยังมีการทำกรรมวิธีต่างๆ ด้านความงามอีกอย่างเช่นการฉีดโบท็อกซ์และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนเงินที่เขานำมาศัลยกรรมนั้นเป็นเงินที่ได้จากงานแสดงเป็น Michael นั่นเอง ซึ่งเขาบอกว่าตอนนี้ยังเหมือนไม่พอและมีแผนว่าจะศัลยกรรมต่ออีกในอนาคต “ถ้าหากครั้งหนึ่งคุณมีโอกาสได้ศัลยกรรมแล้วล่ะก็มันไม่มีจะหยุดได้แน่ๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะหยุดแค่ 1 – 2 ครั้ง เชื่อผมเถอะคุณต้องการมันอีกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” Leo กล่าว โดยรายการศัลยกรรมคร่าวๆ ของ Leo ก็มีการผ่าตัดเปลี่ยนทรงหู 2…
-
สรุปเหตุการณ์ “หนุ่มรัสเซีย” เมาจี้เครื่องบิน จะให้ไปอัฟกานิสถาน เกือบเป็นเรื่องใหญ่แล้ว!!
เหตุการณ์ระทึกขวัญที่เพิ่งเกิดขึ้นกับสายการบิน Aeroflot ของทางรัสเซีย ถึงการจี้เครื่องบินบนน่านฟ้าของดินแดนหมีขาว และบังคับให้ไปยังประเทศอัฟกานิสถาน เกิดอะไรขึ้นบ้างนั้น ทีมข่าวแคทดั๊มบ์สรุปเหตุการณ์ตามลำดับดังนี้ครับ… https://twitter.com/AviationFigure/status/1087779447674028032 – เที่ยวบิน SU1515 มีแผนการเดินทางจากเมือง Surgut ทางตะวันตกของไซบีเรีย ไปยังกรุง Moscow เมืองหลวงรัสเซีย – แต่หลังจากขึ้นบินได้ 10-15 นาที มีชายคนหนึ่งพยายามบุกไปที่ห้องนักบิน เพื่อบังคับให้เปลี่ยนเส้นทางบินไปยังประเทศอัฟกานิสถาน – รายงานข่าวระบุว่า ชายดังกล่าวอยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก – ขณะที่สื่อบางแห่ง รายงานโดยอ้างอิงจากคนบนเครื่องบิน ระบุว่าชายผู้ก่อเหตุนั้นมีอาวุธ ซึ่งไม่มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นมีด ปืน หรืออาวุธชนิดอื่น – นักบินเห็นท่าไม่ดี จึงตัดสินใจนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน ด้วยการเลี้ยวหัวกลับไปยังสนามบิน Khanty-Mansiysk ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด (ภาพเส้นทางการบิน) Aeroflot flight #SU1515 from Surgut to Moscow is diverting to Khanty-Mansiysk with squawk…
-
ภาพครอบครัวสุดน่ารัก เมื่อพ่อเลี้ยงเข้ากันดีกับพ่อแท้ๆ และช่วยกันเลี้ยงดูลูกสาวให้มีความสุข
การเริ่มต้นครอบครัวใหม่หลังจากการเลิกรากับคนรักเก่าเป็นเรื่องธรรมดาที่พบในสังคมเราทุกวันนี้ จะเห็นได้ว่าบางครอบครัว ถึงแม้จะแยกทางกันไปแล้ว แต่ก็ยังมีลูกคอยสายสัมพันธ์ที่ดีของพ่อกับแม่ไว้ ยกตัวอย่างดังเรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องของชายผู้มีชื่อว่า Dylan Lenox ที่ได้โพสต์ภาพน่ารักๆ ของเขา และ Willow (ลูกเลี้ยง) กับ David Lewis (พ่อแท้ๆ ของ Willow) เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณพ่อทั้งสอง พร้อมกับแคปชั่นว่า “หนูอาจจะไม่รู้ว่า ความรักของหนูได้เปลี่ยนแปลงพวกเราไปมากขนาดไหน” ก่อนที่ Dylan จะหมั้นกับ Sarah Mengon ทั้งคู่ต่างก็มีลูกติดฝ่ายละคน หลังจากย้ายมาอยู่ด้วยกัน Dylan และ Sarah ก็มีลูกด้วยกันอีก 1 คน รวมแล้วครอบครัวของเขามีเด็ก 3 คนในบ้านหลังเล็กๆ ในรัฐแท็กซัส Willow เด็กหญิงวัย 5 ขวบลูกติดของ Sarah เติบโตมาด้วยความรักความเอาใจใส่ของ David ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ และ Dylan ผู้เป็นพ่อเลี้ยง David ผู้ให้กำเนิดหนูน้อย Willow อาศัยอยู่ที่รัฐนิวเม็กซิโก แม้จะเลิกรากันไปแล้ว แต่เขาก็ได้เดินทางมายังที่บ้านใหม่ของลูกสาวบ่อยๆ โดยพักอยู่ที่นั่นเป็นครั้งคราว จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ไปแล้ว เมื่อเร็วๆ…
-
การแข่งขัน อี-สปอร์ต ‘เกมทำฟาร์ม’ มีเงินรางวัลสนับสนุนรวมกว่า 8 ล้านบาท!!
ใครเล่าจะคิดว่าเกมแนว ‘ทำสวนทำฟาร์ม’ จะกลายมาเป็นเกมที่ใช้ในการแข่งขัน E-Sport และมีเงินรางวัลหมุนเวียนในการแข่งขันนี้รวมกว่า 250,000 ยูโร (8 ล้านบาท)!? เกมที่ว่านั้นก็คือ Farming Simulator เป็นเกมจำลองการทำฟาร์มแบบเสมือนจริง ชนิดที่ว่าสมจริงแบบสุดๆ ทั้งการขับรถแทร็กเตอร์ การปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ จัดการทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจฟาร์มให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด ซึ่งตอนนี้ทางด้านบริษัท Giants Software ผู้พัฒนาเกม ก็กำลังจะนำเกม Farming Simulator เข้ามาแข่งขันแบบ E-Sport และขอบอกเลยว่าไม่ได้มาเล่นๆ เพราะตอนนี้ พวกเขาวางแผนที่จะจัดทัวร์นาเมนต์มากกว่า 10 รายการทั่วยุโรป แถมยังจะมีการแข่งขันแบบสดๆ ที่งาน Gamescom ในเยอรมนี และ Paris Game Week ที่ฝรั่งเศสอีกด้วย รวมไปถึงทัวร์นาเมนต์ที่จัดขึ้นทางออนไลน์ เพื่อคัดเลือกหาผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุด มาแข่งกันที่งาน FarmCon ในช่วงฤดูร้อนปี 2020 พร้อมตั้งเงินรางวัลไว้สูงถึง 100,000 ยูโร (3.6 ล้านบาท) เลยทีเดียว!!…
-
คุณยายวัย 96 จากสายลับในสงครามโลก ตอนนี้กลายเป็นนักร้องนำวงเฮฟวี่เมทัล!!
บางครั้ง ชีวิตของคนเราก็อาจจะเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน และทำให้เราเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับในอดีตเลยก็เป็นได้… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของคุณยายวัย 96 ปีคนนี้ ที่ในอดีตก็เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เมื่อ 3 ปีที่แล้วเธอได้พบกับจุดเปลี่ยนของชีวิตทำให้เธอหันหน้าเข้าสู่วงการเพลงเฮฟวี่เมทัลอย่างเต็มตัว!! ขอแนะนำให้รู้จักกับคุณยายวัย 96 ปี ชาวออสเตรียชื่อว่า Inge Ginsberg เธอเพิ่งจะกลายมาเป็นนักร้องนำของวงเฮฟวี่เมทัลแห่งความตายที่ชื่อว่า TritoneKings เมื่อราวๆ 3 ปีก่อนหน้านี้ “ฉันร้องเพลงไม่เป็น และไม่สามารถร้องให้เป็นทำนองได้ และเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงร้องเพลงเฮฟวี่เมทัลได้ ก็เพราะว่าฉันแค่ต้องพูดออกไปเป็นคำก็เท่านั้นเอง” คุณยาย Inge กล่าว จุดเริ่มต้นของการเป็นนักร้องนำวงเฮฟวี่เมทัลแห่งความตายของคุณยาย Inge นั้นมาจากการที่เธอคิดว่าโดยปกติแล้ว ในสังคมเสียงของผู้สูงอายุนั้นมักจะไม่ดัง และสื่อไปไม่ถึงผู้คนได้มากเท่าที่ควร เธอต้องการที่จะส่งสาร ของตัวเองไปให้กับสังคม และเครื่องมือที่เธอใช้ก็คือ ‘ดนตรีเฮฟวี่เมทัล’ นี่แหละครับ โดยเนื้อหาของเพลงนั้นจะเป็นทั้งภาษาอังกฤษ และเยอรมัน ซึ่งคุณยายเป็นคนแต่งขึ้นมาเองทั้งสิ้น โดยเนื้อหาเพลงจะเกี่ยวกับ ความรัก, สิ่งแวดล้อม, ความเกลียดชัง, และการอยู่กับความเป็นจริง “เฮฟวี่เมทัลมันไม่ใช่กลอนหรอกนะ แต่มันคือ ‘สาร’ ที่ส่งต่อไปให้คนอื่นต่างหากล่ะ” คุณยายกล่าว …
-
จากลูกค้าขาประจำ กลายมาเป็นคู่ชีวิตของแม่ค้า อาหารน่ะถูกปาก ส่วนเธออ่ะถูกใจ!
พรหมลิขิตในเรื่องของชีวิตคู่ ไม่มีใครรู้ได้ว่าจะเจอกับคนที่ใช่ในเวลาไหน รูปแบบของความรักที่ก่อตัวขึ้น อาจจะแทรกซึมเข้ามาหาคุณได้ทุกเวลา เพียงแต่ต้องอาศัยจังหวะที่ใช่และเหมาะสม อย่างเช่นเรื่องราวของนาย Zhang Junhao วัย 31 ปี และนาง Huang Shiya วัย 31 ปี เจ้าของร้านอาหาร Wow Wow West สาขาตลาด ABC Brickworks จากประเทศสิงคโปร์คู่นี้ แต่ก่อนจะมาเป็นทั้งคู่ชีวิตและเจ้าของกิจการร่วมกัน ฝ่ายชายเคยเป็นลูกค้าขาประจำของร้านมาก่อน… นาง Huang ได้เล่าย้อนกลับไปในช่วงปี 2011 ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีแฟนด้วยกันทั้งคู่ และความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่ได้เกินเลยไปกว่าเจ้าของร้านกับลูกค้า “เขามักจะพาแฟนสาวมาทานอาหารที่นี่บ่อยๆ และตอนนั้นฉันเองก็มีแฟนหนุ่มเช่นเดียวกัน ฉันก็ปฏิบัติกับเขาเหมือนดั่งลูกค้าขาประจำทั่วไป จนกระทั่งวันหนึ่ง เขามาทานอาหารที่ร้านเพียงลำพัง” “ด้วยความที่ฉันเป็นคนชอบชวนคุยอยู่แล้ว ฉันจึงถามเขาด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงมาคนเดียว จนรู้ว่าตอนนั้นทั้งสองเลิกกันแล้ว” ฝ่ายหญิงจึงมอบนามบัตรให้กับเขาไว้ ทั้งคู่จึงเริ่มติดต่อกันผ่านการแชตมากขึ้นและถี่ขึ้น นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่นาย Zhang ได้เปลี่ยนสถานะจากลูกค้าขาประจำ มาเป็นคนรู้ใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว “ความสัมพันธ์ของเราเกิดขึ้นเร็วมากๆ เราคบกันอย่างจริงจังในเดือนมกราคม 2012 หมั้นหมายกันในเดือนมีนาคม…
-
นักเคลื่อนไหวองค์กรพิทักษ์สัตว์นำ ‘บาร์บีคิวหมาปลอม’ ตั้งไว้กลางซิดนีย์ หวังรณรงค์งดกินเนื้อ!!
คำเตือน: บทความนี้อาจมีเนื้อหาหรือภาพที่ดูรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม ในวันนี้ (24 มกราคม 2019) ได้เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อผู้คนที่เดินผ่านไปมาบริเวณย่านธุรกิจใจกลางเมือง ได้พบกับ ‘บาร์บีคิวสุนัขปลอม’ ตั้งอยู่ โดยเจ้าบาร์บีคิวปลอมที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่นี้ เป็นผลงานจากองค์กรพิทักษ์สัตว์ People for the Ethical Treatment of Animals (PETA) ที่นำมาตั้งไว้ย่านศูนย์การค้า Pitt Street Mall ส่วนจุดประสงค์ของการทำเช่นนี้ก็เพื่ออยากรณรงค์ให้ชาวออสเตรเลีย งดกินเนื้อสัตว์ในวันชาติที่กำลังมาจะมาถึงในวันเสาร์ที่ 26 มกราคมนี้นั่นเอง การตกแต่งแท่นของบาร์บีคิวสุนัขปลอม มีการใช้ทั้งข้าวโพด หัวหอมและเห็ด เป็นส่วนในการตกแต่ง และนอกจากนี้ยังมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า “ถ้าคุณไม่กินเนื้อสุนัข ทำไมถึงกินเนื้อแกะล่ะ มาเป็นวีแกนกันเถอะ” “แน่นอนว่าไอเดียการทำ ‘บาร์บีคิวสุนัข’ นี้ อาจเป็นเรื่องที่ทำให้ชาวออสเตรเลียรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก… แต่ขณะเดียวกันสัตว์จำนวนหลายล้านตัวก็ต้องทนต่อความโหดร้าย และทุกข์ทรมานกับการถูกเพาะพันธุ์ เลี้ยงดู และถูกฆ่าตามระบบอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์” “ใครก็ตามที่ผลักไสเรื่องการนำเนื้อสุนัขมาเป็นอาหาร ก็ควรจะตั้งคำถามกับตัวเองถึงความเท่าเทียมต่อสัตว์ที่น่าเวทนาประเภทอื่นๆ ด้วย”…
-
หนุ่มพาสาวออกเดต ทานมื้อแรกในร้านหรู เกรงว่าจะจ่ายไม่ไหว บ๋อยเลยช่วยแบบสุดตัว!!
เดตแรกคือเดตที่สำคัญที่สุด หากสร้างความประทับใจให้กับอีกฝ่ายได้ นั่นหมายความว่า ‘คุณได้ไปต่อ’ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดได้อย่างดีเลยทีเดียวว่า คุณมีความสามารถในการรับมือมากแค่ไหน และจะเอาใจใส่ดูแลกันในอนาคตต่อไปอย่างไร แน่นอนว่าด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ ฝ่ายชายมักจะออกตัวจ่ายให้อยู่เสมอ (แม้ในปัจจุบันจะเริ่มมีแนวคิดหารแชร์ได้ก็ตาม) แต่หากเป็นร้านอาหารหรูเมนูราคาแพงล่ะ? หากไม่มีเงินพอจ่ายตรงนั้น แล้วฝ่ายหญิงรู้ขึ้นมาจะเป็นยังไง… เรื่องราวน่ารักๆ ของชาวเน็ตนามว่า Tim ชื่อบัญชี่ @forwardnotback ได้เล่าประสบการณ์ที่เขาพบเจอมา ของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่พากันมาทานอาหารในร้านช่วงดินเนอร์วันอาทิตย์ แน่นอนว่าหนุ่มรายนี้ต้องการสร้างความประทับใจให้กับคู่เดตของเขา… ผมได้เห็นอะไรน่ารักๆ ในขณะที่กำลังทานมื้อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คู่รักหนุ่มสาวคู่หนึ่งนั่งโต๊ะถัดไปจากผม พวกเขาดูเหมือนเพิ่งจะคบกันได้ไม่นาน และน่าจะเป็นมื้อแรกที่ออกมาทานด้วยกัน เขาออกตัวยืนยันว่าเธอจะสั่งอะไรก็ได้ที่อยากทาน และเขาก็จะเป็นฝ่ายจ่ายเอง เธอเขินหน้าแดงเล็กน้อยและถามว่า “คุณแน่ใจเหรอ” เขาตอบกลับไปว่า “แน่นอนสิ” จนกระทั่งเมนูมาถึง รอยยิ้มของเธอก็ปรากฎออกมาอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่เขาอ่านเมนูอยู่ สีหน้าของเขาเริ่มซีดเล็กน้อย แต่ผมเดาว่านั่นอาจจะเป็นเพราะแสงในร้าน เขา: เราจะสั่งเมนูเรียกน้ำย่อยก่อนมั้ย เธอ: คุณแน่ใจเหรอ เรามาหารกันดีกว่า เขา: อยากสั่งอะไรก็สั่งเลย จากนั้นเขาก็เอื้อมไปกุมมือของเธอเอาไว้ มันเป็นอะไรที่น่ารักจริงๆ …
-
สาวตัดต่อรูปตัวเองกับดารา หลอกพ่อแม่ว่าเป็นแฟนจะได้หมดห่วง สุดท้ายเฉลยเพราะพ่อจริงจังเกิ๊น
เมื่อถึงวัยเหมาะสมที่จะออกเรือน พ่อแม่หลายคน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน) ก็อยากจะให้ลูกสาวของตัวเองนั้นมีแฟนเป็นตัวเป็นตน จะได้หมดห่วงว่าจะไม่มีใครดูแลในภายภาคหน้า แต่บางครั้งสาวๆ ที่ยังหาแฟนไม่ได้หรืออยากอยู่เป็นโสดก็จะรู้สึกถึงแรงกดดันนี้จากทางพ่อแม่ ทำให้ต้องหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้พวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องนี้ด้วยวิธีต่างๆ และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ได้ผลเหมือนกัน ถ้าหากสุดท้ายไม่ใจอ่อนเฉลยซะก่อน เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งตัดต่อรูปตัวเองไปคู่กับดารา แล้วเอาไปหลอกพ่อแม่ว่าเป็นแฟน ซึ่งพวกเขาก็เชื่ออย่างสนิทใจ… เรื่องนี้ได้เปิดเผยโดยผู้ใช้เวยป๋อ (โซเชียลมีเดียหนึ่งในประเทศจีน) ชื่อว่า @是盐亭阿 ซึ่งได้เล่าว่าเธอเป็นผู้หญิงวัย 25 ปีคนหนึ่งที่ไปทำงานในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง แต่ว่าด้วยเทศกาลตรุษจีนต้องกลับบ้านไปหาพ่อแม่ แล้วทีนี้เธอไม่อยากจะโดนพ่อแม่เร่งรัดให้หาแฟนหรือให้พวกเขาหาคู่ให้ เลยนำรูปของดาราชายชื่อว่า “หลิวฮ่าวหราน” มาตัดต่อในภาพของตัวเอง แล้วส่งให้พวกเขาดูพร้อมกับบอกว่านี่แหละคือแฟนของตนเอง ซึ่งใช้เวลาเป็นเดือนๆ ก่อนหน้าเทศกาลทยอยส่งภาพให้เรื่อยๆ เพื่อความแนบเนียน ทางด้านคุณแม่เมื่อรู้ว่าลูกมีแฟน ก็พลอยดีใจพร้อมกับบอกว่าอยากทดสอบว่าที่ลูกเขยหน่อยว่าเป็นเช่นไร ซ้ำยังบอกอีกด้วยว่าใจหายเบาๆ ที่ลูกสาวขายออกแล้ว ส่วนคุณพ่อเมื่อรู้ข่าวดีก็โพสต์ข้อความในไทม์ไลน์ของตนว่า ฝันเห็นลูกสาวแต่งงาน ตัวเองร้องไห้น้ำตาไหลพราก จนตื่นขึ้นมากลางดึกอยู่หลายที พร้อมบอกว่าช่วงนี้กำลังเริ่มฝึกซ้อมสุนทรพจน์ในวันแต่งงานของลูกอยู่ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าลูกสาวแต่งออกไปแล้ววันนั้นจะรู้สึกอย่างไรกัน แต่ทันทีที่ลูกสาวคนนี้รู้ว่าพ่อแม่จริงจังกับสิ่งนี้เอามากๆ ก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา และจำยอมบอกความจริงที่ว่าตัวเองนั้นยังไม่มีแฟน รูปที่ผ่านมาทั้งหมดคือรูปที่ตัดต่อเอาทั้งนั้น ทั้งนี้ในการสัมภาษณ์ทางโทรศัพทืกับสื่อ เธอบอกว่าพ่อแม่ไม่ได้แสดงอาการผิดหวังใดๆ ที่รู้ความจริงที่เกิดขึ้น แต่บอกเพียงว่าถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวกับการนัดบอดต่อไปแล้วกัน!!…
-
บริษัททัวร์ในกรุงโรมเปิดบริการ “แฟนหนุ่มรับจ้าง” โปรเหมาๆ จ่ายแค่ 39,000 ก็ได้ผู้ไปครองสมใจ
การท่องเที่ยวเป็นจุดเริ่มต้นของหลายโอกาส นอกจากความสุขที่เกิดจากการผ่อนคลายแล้ว การออกเดินทางทำให้เราพบเจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น การเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง ซึ่งในการเดินทางแต่ละครั้ง เราจึงต้องการใครสักคนที่สามารถถ่ายรูปสวยๆ ให้เราได้ แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องเดินทางคนเดียว การถ่ายรูปกลับเป็นปัญหาที่สร้างความลำบากใจให้กับบางคนไม่น้อย จะถ่ายรูปสวยของตัวเองลงโซเชียลแต่ละทีมันช่างยากเย็นเหลือเกิน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เมื่อสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแบบกรุงโรม ประเทศอิตาลี ได้ให้บริการแฟนหนุ่มรับจ้าง ให้สาวๆ ได้ถ่ายรูปคู่ รูปเดี่ยวแบบไม่อั้น บริษัททัวร์ในอิตาลี ได้จัดทำโปรแกรมท่องเที่ยวแบบใหม่ ที่มีบริการแฟนหนุ่มรับจ้าง ซึ่งเป็นช่างภาพมืออาชีพ เพื่อตอบสนองเหล่านักเดินทางที่รักการถ่ายรูปตามจุดท่องเที่ยวใหญ่ๆ ในกรุงโรม ซึ่งโดยปกติแล้ว บริษัททัวร์จะมีโปรแกรมท่องเที่ยวภายในหนึ่งวันสำหรับนักท่องเที่ยวในราคา 835 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 26,500 บาท) แต่ถ้าหากใครสนใจใช้บริการแฟนหนุ่มรับจ้างด้วยจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 398 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 12,630 บาท) รวมแล้วเป็นเงิน 1,233 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 39,000 บาท และบริษัททัวร์ดังกล่าวไม่ได้มีบริการแค่แฟนหนุ่มรับจ้างเท่านั้น แฟนสาวรับจ้างก็มีเช่นกัน แต่สำหรับใครที่อยากได้รูปถ่ายเยอะๆ คงต้องรีบโพสท่ากันหน่อย เพราะหนุ่มสาวเหล่านี้จะให้บริการเพียงแค่สามชั่วโมงต่อวันเท่านั้น โปรแกรมท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบใหม่ของประเทศอิตาลี โดยใช้ภาพถ่ายเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ให้คนเดินทางมาท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น ที่มา: thisisinsider
-
คนส่งของขออภัย ขัดจังหวะงานแต่ง ให้เจ้าสาวช่วยเซ็นรับ และได้เป็นสักขีพยานแบบเขินๆ
คงจะเป็นช่วงจังหวะที่ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี หากต้องปฏิบัติงานภายในงานพิธีสำคัญต่างๆ อย่างเรื่องของการส่งพัสดุที่จำเป็นต้องทำงานแข่งกับเวลา หากส่งช้าไม่ทันการอาจจะโดนลูกค้าแจ้งรายงานก็เป็นได้ ยกตัวอย่างจากเหตุการณ์งานแต่งคู่บ่าวสาวชาวมาเลเซีย โดยในคลิปเป็นเจ้าสาวนามว่า Peny กำลังอยู่ในช่วงพิธีแต่งาน แต่แล้วแขกไม่ได้รับเชิญแต่จำเป็นก็ปรากฏตัว เพราะเขาต้องส่งของให้เจ้าสาวเซ็นรับพัสดุ… https://twitter.com/penyp3n/status/1087706438728744960 กลายมาเป็นช่วงจังหวะที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทั้งเจ้าสาวที่สั่งของ และเจ้าหน้าที่ส่งพัสดุที่ต้องทำงานทำการ เมื่อมาถึงหน้าบ้าน ก็ต้องให้เจ้าสาวเป็นคนเซ็นรับ กลายมาเป็นอีกหนึ่งสีสันตลกขบขันในงานแต่งกันไป https://twitter.com/penyp3n/status/1087949847649501185 ดูจากสีหน้าและท่าทางของพนักงานส่งพัสดุแล้ว คงจะเขินและทำตัวไม่ถูกอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ดีในเมื่อมาร่วมงานแล้ว เขาถูกเชิญถ่ายรูปคู่กับบ่าวสาวสักเล็กน้อย พร้อมกับร่วมมอบของขวัญเป็นสักขีพยานในงานแต่งไปโดยปริยาย ฮร่าาาา เซ็นให้ผมหน่อยครับ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ไปแล้ว เขินเลย ร่วมถ่ายภาพด้วยกันสักเล็กน้อย จากอินสตาแกรมของเจ้าสาว ดูสีหน้าเจ้าบ่าวอิจฉาเล็กๆ มาขอลายเซ็นเมียเราเฉย https://www.instagram.com/p/Bs9nrn7AAnu/ ชาวเน็ตบางส่วนที่ได้เห็น ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงตลกขบขัน ยกตัวอย่างเช่น “เมื่อคุณต้องแต่งงาน แต่ Lazada ดันมีของลดราคา” “ได้เชิญบุรุษไปรษณีย์ร่วมทานงานเลี้ยงด้วยมั้ยน่ะ?” และ “สีหน้าบุรุษไปรษณีย์ดูตลกมากๆ เขาคงจะคิดในใจว่า นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่ รีบเซ็นเร็วววว”…
-
คุณพ่อจับ ‘เบบี๋น้อย’ มาสร้างชุดภาพถ่าย ทำกิจกรรมของผู้ใหญ่ แบบว่าสมจริงสุดๆ!!
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Ryan เบบี๋น้อยที่คลอดก่อนกำหนดเป็นเวลา 9 สัปดาห์ น้ำหนักแรกเกิดของเขาน้อยมากๆ แค่ 1.36 กิโลกรัมเท่านั้นเอง ทำให้ต้องพักรักษาตัวอยู่ในตู้อบเป็นเวลานานกว่า 6 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามเมื่อออกจากโรงพยาบาลมาได้ คุณพ่อ Matt Mac ก็เลยตั้งใจที่จะพา Ryan ไปถ่ายภาพขณะที่เขากำลังทำสิ่งต่างๆ ที่ผู้ใหญ่ทำ เพื่อเป็นเหมือนกับเป้าหมายที่จะเลี้ยงดูให้เขาไปถึงวันที่ทำแบบนั้นให้ได้ เจ้าหนู Ryan ตอนอายุ 1 เดือนกับ 6 เดือน คุณพ่อ Matt เล่าว่า แต่ละภาพใช้เวลาในการถ่ายประมาณ 15-20 นาที สิ่งที่ยากที่สุดคือการเซ็ตอัป และตกแต่งภาพด้วยโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็นการจัดพร็อพ การสวมชุด และอุปกรณ์ต่างๆ จัดท่าทางของเบบี๋ ซึ่งต้องให้คุณภรรยามาช่วย และพบว่า Ryan ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ ราวกับว่าเขากำลังทำกิจกรรมเหล่านั้นอยู่จริงๆ เลยทีเดียว!! อย่างไรก็ตามหลังจากภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ลงไปในโลกโซเชียลก็พบว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบ แต่ขณะเดียวกันหลายๆ คนก็ผิดหวัง เพราะห่วงถึงความปลอดภัยของเบบี๋น้อย Ryan คุณพ่อ Matt…
-
15 สุดยอดสถาปัตยกรรมล้ำโลกจาก Frank Gehry สุดยอดสถาปนิกชาวอเมริกัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อวันเวลาผ่านไป สิ่งรอบข้างรวมถึงตัวเราก็เกิดความเปลี่ยนแปลงไปด้วย สถาปัตยกรรมแบบเดิมๆ ที่เราเคยเห็น ถูกแทรมซึมด้วยสิ่งก่อสร้างรูปแบบใหม่ๆ ที่มีความสวยงาม และโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ยุค 1960 เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่โดยมี Frank Gehry สถาปนิกสัญชาติแคนาดา-อเมริกันเป็นผู้ผลักดัน โดยหลังจากที่ Gehry ย้ายไปอยู่ที่อเมริกา เขาได้เริ่มต้นทำเฟอร์นิเจอร์ขายเพื่อเก็บสะสมเงินสำหรับสร้างบ้าน เมื่อบ้านของเขาเสร็จสมบูรณ์ Gehry ก็เริ่มเป็นที่รู้จัก การออกแบบบ้านแบบ Gehry มีสไตล์ที่โดดเด่น แตกต่างจากเดิม และเขายังทำให้การเปลี่ยนแปลงด้านสถาปัตยกรรม ที่ไม่เพียงแต่ลบภาพสิ่งก่อสร้างแบบเก่าๆ ที่จืดชืดและน่าเบื่อ แต่เป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่สะดุดตามากขึ้น วันนี้เรามาดูกันว่าสถาปัตยกรรมในยุคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงโดย Frank Gehry มีอะไรบ้าง Fred And Ginger กรุงปราก สาธารณรัฐเซ็ก Museum Of Pop Culture ซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน Lou Ruvo Center ลาสเวกัส รัฐเนวาดา โรงแรม Marqués De Riscal เอลเซียโก สเปน Walt Disney Concert Hall ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย …
-
หนุ่มบินข้ามรัฐ 4,000 กม. ร่วมปาร์ตี้สละโสดของเจ้าบ่าวแปลกหน้า หลังถูกเชิญโดยบังเอิญ
อยากให้ลองคิดดูว่า หากจู่ๆ มีคนแปลหน้าส่งเมลผิด เชิญคุณไปร่วมงานปาร์ตี้ ที่อยู่ห่างออกไปกว่า 4,000 กิโลเมตรโดยไม่ตั้งใจ คุณจะไปร่วมงานนั้นหรือไม่? แน่นอนว่าหลายๆ คนคงจะตอบปฏิเสธไม่ไป เพราะไม่รู้จักใคร แถมยังต้องเสียเงินซื้อตั๋วเครื่องบินแพงอีกด้วย แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้เขากลับไม่ทำแบบนั้นครับ เขาเลือกที่จะไปร่วมงานปาร์ตี้สละโสด ที่เต็มไปด้วย ‘คนแปลกหน้า’ เพราะถูกเชิญไปโดยบังเอิญ!? ขอแนะนำให้รู้จักกับ Will Novak หนุ่มวัย 35 ปี จากเมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา จู่ๆ ก็ได้รับอีเมลประหลาดเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้สละโสดให้กับเจ้าบ่าวชื่อว่า Angelo ซึ่งเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่แทนที่พี่แกจะเลื่อนผ่านอีเมลแปลกนั้นไป แต่กลับกลายเป็นว่าเขาตัดสินใจที่จะ ‘เดินทางไปร่วมงานปาร์ตี้’ นั้นแทน!? ด้วยเหตุนี้พี่แกก็เลยเอาเรื่องราวที่ว่านี้ไปโพสต์ลงเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อระดมทุนค่าเดินทาง เขาเขียนไว้ในเว็บว่า “ถึงทุกคน ผมไม่รู้จักกับ Angelo ผมชื่อว่า Will Novak ที่อาศัยอยู่ในรัฐแอริโซน่า ซึ่งรัฐเวอร์มอนต์ก็เป็นเมืองที่อยู่ไกลจากบ้านผมมากๆ แต่ผมอยากจะเดินทางไปร่วมงานปาร์ตี้ของเขา” “ผมอาศัยอยู่กับทะเลทรายมาตลอด เคยเล่นสกีแค่ครั้งเดียวในชีวิต และมันแย่มากๆ ผมเลยอยากจะลองมันอีกครั้งหนึ่ง”…
-
เฉลยมีม ‘ไอ้หนุ่มกับข้าวผัดสึนามิ’ แท้จริงเป็นกระทะปลอมที่ยูทูบเบอร์เอาไปแกล้งเพื่อน!!
เมื่อไม่นานมานี้มีภาพๆ หนึ่งที่กลายเป็นไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตไปทั่วโลก ซึ่งนั่นคือภาพของไอ้หนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ กระทะผัดข้าว แล้วทำตัวสุดโปรด้วยการควงกระทะทำข้าวลอยละลิ่วเป็นลูกคลื่น หลายๆ คนอาจจะคิดว่าภาพนี้ต้องเป็นภาพตัดต่อแน่ๆ เพราะอะไรมันจะเป๊ะได้ถึงขนาดนั้น แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดอย่างนี้ล่ะก็ต้องบอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะนี่มันคือกระทะแบบปลอมๆ ต่างหาก!! ภาพหนุ่มข้าวผัดสึนามิสุดฮา โดยนี่เป็นฝีมือของเจ้าของทวิตเตอร์ชื่อ @ kanamizutamari หรือชื่อในยูทูบว่า 水溜りボンド ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกหลักๆ สองคนคือกับ Kanta กับ Tommy เพื่อนของเขา แผนการนี้มีอยู่ว่า Kanta ได้ซื้อกระทะปลอมๆ มาเพื่อหลอกเพื่อนว่าเขาผัดข้าวได้ขั้นเทพขนาดไหน และแผนการนี้ก็ดำเนินไปในขั้นตอนแรกด้วยการผัดข้าวจริงๆ ให้เพื่อนกินก่อนประมาณ 2-3 รอบ ก่อนที่จะนำกระทะปลอมนี้มาทำเนียนนั่นเอง คลิปวิดีโอเฉลยเรื่องนี้ ทั้งหมดคือคอนเซ็ปต์คร่าวๆ ของการแกล้งเพื่อนในครั้งนี้ แต่ว่าภายในเวลาต่อมาภาพนี้มันกลับกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างไม่น่าเชื่อ และกลายเป็นมีมต่างๆ อย่างมากมาย อย่าง ซาสึเกะก็ไม่พลาดแน่นอน กับการโดนข้าวผัดบีบคอ คลื่นยักษ์มาแว้ว โดนอีกแล้วสำหรับเขาคนนี้ อยู่กลางทะเลมีน้ำกับทราย มีฟันกับเขาด้วยเอ้า ชาวเน็ตนี่ช่างสร้างสรรค์ดีซะจริง ตือดือดึด ตื่อดือดึด …
-
ส่องความเห็นชาวเน็ตต่างชาติเถียงกันมันส์ เรื่องตัวอักษร ‘X’ เขียนยังไงกันแน่ เอ้า!!
บางครั้งโลกอินเทอร์เน็ตก็มีบางเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นประเด็นให้เถียงกันขึ้นมาได้ แต่ว่าก็มีให้เห็นมาแล้วหลายครั้งหลายคราในกรณีต่างๆ และล่าสุดก็มีอีกเรื่องที่หลายคนคิดไม่ถึงกำเนิดขึ้นมาใหม่อีกแล้ว เมื่อทางชาวเน็ตต่างชาติได้ถกเถียงแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันว่า ตัวอักษร ‘X’ ในภาษาอังกฤษนั้นมีวิธีเขียนยังไงกันแน่… โดยเรื่องมีอยู่ว่าทวิตเตอร์ของศิลปินชาวฟิลาเดลเฟียนามว่า Sixers Smasey ได้วาดไดอะล็อกวิธีการเขียนตัว X ขึ้นมา ซึ่งทำให้เห็นว่าอย่างน้อยๆ เราสามารถที่จะเขียนตัว X ได้ถึง 8 แบบเลยทีเดียว “นี่เป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับฉันเลยทีเดียวว่า X ว่าคุณมีวิธีเขียนตัว X ยังไงกันแน่ โดยบรรทัดที่เป็น ‘สี’ คือเส้นแรกที่ขีดนะ” แคปชั่นเขียนไว้ดังนี้ วิธีการวาดตัว X ทั้ง 8 แบบ จากนั้นโพสต์นี้ก็ได้รับรีทวีตไปเกือบๆ 20,000 ครั้ง แถมยังมีคนกดไลก์กว่า 76,000 คน รวมทั้งมีคอมเมนต์เข้ามาพูดคุยต่างๆ ถึงวิธีเขียนตัว X ของพวกเขาเอง แถมยังมีการบัฟกันเล็กๆ ด้วย มันต้อง 8 อยู่แล้ว สำหรับใครที่เขียนจากล่างขึ้นบน เขาคนนั้นคงต้องเป็นคนที่วางกระดาษชำระไว้กับแกนแบบผิดทางแน่ๆ อย่างนี้น่ะเหรอ…
-
หมอสงสัยพบ ‘แผงยา’ ติดอยู่ในลำคอผู้หญิงกว่า 17 วัน เธอจะกินเข้าไปทำไมเล๊า!!
คำเตือน: บทความนี้อาจมีภาพที่ดูน่ากลัวไปบ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม สำหรับใครที่เคยสัมผัสกับประสบการณ์มีอะไรบางอย่างติดค้างอยู่ในลำคอ อย่างก้างปลาหรือกระดูกสักอย่าง คงจะรู้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน แต่เชื่อหรือว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่มี ‘แผงยา’ ติดอยู่ในลำคอถึง 17 วันเต็มๆ โดยที่เธอไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน… เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงไม่ประสงค์จะออกนามวัย 40 ปีคนหนึ่งในประเทศไอร์แลนด์เหนือในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และได้รับการบันทึกลงในวารสารทางการแพทย์ BMJ Case Reports เธอกล่าวว่าหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมากินยากลางดึกของวันดังกล่าว เช้าวันต่อมาเธอก็เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ที่บริเวณลำคอ ด้วยความสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้ เธอจึงรีบเข้าโรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ซึ่งเธอได้บอกอาการกับคุณหมอแผนก หู คอ จมูกไปว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายตัวรวมถึงมีการกลืนอาหารที่ยากกว่าเดิม แต่ทางคุณหมอเมื่อตรวจอาการเสร็จก็บอกว่าเธอปกติดีไม่มีอะไร เพราะไม่มีอาการหายใจติดขัดและสามารถเคลื่อนไหวคอในทิศทางต่างๆ ได้อย่างไม่มีความเจ็บปวด รวมทั้งไม่เจอสิ่งแปลกปลอมใดๆ จากการเอกซเรย์ เอกซเรย์ไม่พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆ มีแต่แผลเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าก็แพทย์พบความผิดปกติเล็กน้อยจากผลการเอกซเรย์ เนื่องจากว่ามีรอยขีดข่วนบางอย่างที่ช่องคอของเธอ แต่ทางคุณหมอก็เชื่อว่าเป็นแผลจากการกินยาทั่วๆ ไป จึงได้ปล่อยตัวกลับบ้านและบอกว่าถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นใน 2 วันให้กลับมาอีกที แน่นอนว่าอาการของเธอยังคงไม่ดึขึ้น 3 วันให้หลังเธอจึงกลับไปพบคุณหมออีกครั้ง ซึ่งคราวนี้คุณหมอได้รักษาอาการด้วยการใช้สเตียรอยด์และยาแก้ปวด อาการของเธอก็ดีขึ้นและกลับบ้านไป หลังจากนั้น 5 วันต่อมาเธอก็กลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งด้วยอาการเดียวกับครั้งก่อนๆ ซึ่งในคราวนี้ทางแพทย์ได้ใช้การเอกซเรย์แบบพิเศษตรวจหาดู…
-
บริษัทอินเดียรับมือฝุ่น PM2.5 ด้วย Nasofilters แผ่นกรองขนาดเล็ก ในราคาย่อมเยา!
สืบเนื่องจากปัญหามลพิษฝุ่น PM2.5 ที่ปกคลุมไปทั่วกรุงเทพมหานคร ผู้คนต่างตื่นตัวกับปัญหามากขึ้น โดยหาวิธีป้องกันตนเองเพื่อไม่ให้รับอันตรายจากฝุ่นขนาดเล็กนี้ ด้วยการหาซื้อหน้ากากอนามัยมาสวมใส่ จนถึงขนาดที่ว่าหน้ากาก N95 เกิดปรากฏการณ์ขาดตลาด… ทว่าปัญหาในเรื่องของมลพิษทางอากาศนั้น หลายๆ ประเทศต่างประสบเช่นเดียวกัน และยังไม่สามารถแก้ไขให้หายขาดได้ ยกตัวอย่างจากประเทศอินเดียที่มีฝุ่นควันเกิดขึ้นทุกปี ทางบริษัทเอกชนจึงเร่งพัฒนาแผ่นกรองที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันมากกว่าหน้ากากทั่วไปขึ้นมาแทนที่ ย้อนกลับไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 นาย Prateek Sharma ตำแหน่ง CEO ของบริษัทสตาร์ทอัพ Nanoclean Global ขึ้นนำเสนอนวัตกรรมบนเวที TED Talk โดยพูดถึงปัญหามลพิษในอากาศ ตัวอย่างเทียบจากหัวเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กและลอนดอนยังอยู่ในเกณฑ์สะอาด แต่ในส่วนของประเทศอินเดียอย่างเมืองมุมไบและนิวเดลี กลับอยู่ในขั้นอันตรายจากฝุ่น PM2.5 ฝุ่น PM2.5 มีขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอน ท่ามกลางเมืองที่วุ่นวายทุกวัน อีกทั้งยังก่อมลพิษอย่างต่อเนื่องจากทั้งการก่อสร้าง โรงงาน การเผาต่างๆ และการจราจรที่หนาแน่น ทำให้คุณแม่และผู้คนรอบข้างของเขา มีอาการป่วยหนักเนื่องจากสาเหตุดังกล่าว นาย Prateek และทีมนักวิจัยจากสถาบัน IIT…
-
รวบแล้ว!! บุรุษพยาบาลหื่น ข่มขืนหญิงสาวป่วยใน ‘ภาวะผัก’ จนตั้งท้องและคลอดลูก
หลังจากเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เกิดเรื่องราวที่ไม่คาดฝันขึ้น กับกรณีของหญิงสาวผู้ป่วยภาวะผักรายหนึ่ง นอนรักษาตัวอยู่ในศูนย์ดูแลผู้ป่วยมานานนับ 10 ปี จู่ๆ ก็ท้องและคลอดลูกชายออกมา!? เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา หญิงสาวคนหนึ่งป่วยอยู่ในภาวะผัก นอนรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยเอกชน Hacienda HealthCare ในเมืองฟินิกซ์มานานกว่า 14 ปี แต่แล้วจู่ๆ เธอก็เกิดตั้งท้องและคลอดลูกชายออกมา ซึ่งตอนนี้ทั้งแม่และเด็กก็ได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัยดีแล้ว จากเหตุดังกล่าวทำให้ครอบครัวของหญิงสาวไม่พอใจเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็เข้ามาทำการสืบสวนเรื่องดังกล่าว โดยตั้งเป้าไปที่การทารุณกรรมทางเพศ และได้ทำการตรวจเทียบ DNA ของเด็กกับพนักงานชายทุกคนที่อยู่ในสถานพยาบาล ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายได้แล้ว เป็นเจ้าหน้าที่บุรุษพยาบาลวัย 36 ปี ชื่อว่า Nathan Sutherland ที่ทำงานอยู่ในสถานพยาบาลที่เกิดเรื่องนั้นเอง นาย Nathan Sutherland เขาทำงานอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วย Hacienda Healthcare มาตั้งแต่ปี 2011 ก่อนหน้านี้เขาทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อ จนกระทั่งเกิดเรื่องนี้ขึ้น…
-
โอรีโอ้เผยโฉมใหม่ เพิ่มครีมแบบเน้นๆ เอาใจลูกค้า ได้ขนาดนี้พอใจไหมเบบี๋!?
ปกติแล้วคุณเป็นทานโอรีโอ้แบบไหน!? ทานเป็นทั้งหมดพร้อมกัน หรือแกะด้านที่มีเฉพาะคุ้กกี้สีดำทานก่อน แล้วตามด้วยด้านที่มีครีม ไม่ว่าคำตอบของคุณจะเป็นแบบไหน จะเห็นว่าคนส่วนใหญ่ก็ชอบทานครีมเยอะๆ นั่นเอง อย่างที่รู้กันดีกว่าปริมาณครีมในโอรีโอ้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคบางคน ทำให้ Nabisco บริษัทผู้ผลิตคุ้กกี้โอรีโอ้ได้เปิดขาย “The Most Stuf Oreos” หรือเวอร์ชั่นครีมเยอะ เอาใจกันเป็นพิเศษเลยทีเดียว คุ้กกี้โอรีโอ้แบบใหม่มีจำนวนจำกัด และมีปริมาณครีมเยอะขึ้น หนาขึ้นตามรูปภาพที่ปรากฏด้านซอง นอกเหนือจากรสชาติที่คุ้นเคยกันแล้ว หลายคนคงไม่เชื่อว่าครีมจะเยอะตามที่โฆษณาไว้ แต่เมื่อได้เห็นรูปภาพที่สังคมออนไลน์แชร์กันมาก็ทราบแล้วว่า “ครีมทะลัก” อย่างคำที่เขาโฆษณาที่เขาให้ไว้จริงๆ!! https://www.instagram.com/p/BsvZHo1A8Lx/ ปริมาณครีมแน่นๆ เน้นๆ https://www.instagram.com/p/Bs80XFnlAYO/ เมื่อเปรียบเทียบโอรีโอ้แบบธรรมดากับโอรีโอ้แบบใหม่ โอ้โห เยอะกว่าสองเท่า https://www.instagram.com/p/Bs4EKtOA6Np/ ภายในซองของ The Most Stuf Oreos บรรจุคุ้กกี้ 18 ชิ้น ราคาอยู่ที่ประมาณ 2.98 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 95 บาท ภาพของคุ้กกี้โอรีโอ้ที่แชร์กันในโลกออนไลน์ ทำให้คุ้กกี้โอรีโอ้ดังกล่าวเป็นที่ต้องการของตลาด โดยผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ที่ Walmart (ซึ่งตอนนี้ยังไม่เปิดให้ซื้อทางออนไลน์ แต่มีเฉพาะที่ห้างเท่านั้น) ส่วนใครที่เป็นลูกค้าของเว็บไซต์ซื้อ-ขายของออนไลน์…
-
ก้าวสู่ยุคใหม่!! มหาลัยสหรัฐฯ นำหนังสือออกจากห้องสมุด เพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่
ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแวดวงต่างๆ โดยเฉพาะแวดวงการศึกษาที่เหล่าผู้ให้ความรู้พยายามใช้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้สำหรับการเรียนการสอนของนักเรียน เช่นเดียวกับ สถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย (จอร์เจียเทค) ในสหรัฐอเมริกาที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยการนำหนังสือเกือบทั้งหมดออกจากหอสมุดของมหาวิทยาลัย ห้องสมุดไม่ได้มีแต่หนังสืออีกต่อไป จอร์เจียเทคได้วางแผนโครงการ “Library Next” เพื่อปรับปรุงหอสมุดไว้ถึง 4 ปี โดยโครงการดังกล่าวจะเปลี่ยนหอสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือ เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้แบบใหม่ที่มีความทันสมัยตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของนักศึกษามากขึ้น เพิ่มพื้นที่สำหรับอ่านหนังสือ ค้นคว้าข้อมูล และการทำงานแบบกลุ่ม หอสมุดแบบใหม่จะเพิ่มพื้นที่นั่งอ่านหนังสือ ห้องขนาดเล็กสำหรับนักศึกษาที่ต้องการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่างๆ ห้องสื่อการเรียนรู้ รวมถึงห้องคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้จะมีการนำหนังสือจากห้องสมุดกว่า 95% ไปไว้ยังพื้นที่จัดเก็บที่มหาลัยจัดเตรียมไว้เพื่อเพิ่มพื้นที่ดังกล่าว มีโต๊ะและเก้าอี้เพียงพอต่อจำนวนนักศึกษาที่มาใช้บริการ ในขณะที่มีการปรับปรุงห้องสมุดของจอร์เจียเทค นักศึกษาจะสามารถยืมหนังสือได้ตามปกติ โดยค้นหาจากแคตตาล็อกทางออนไลน์ แสกนบัตรสำหรับใช้บริการห้องสมุด จากนั้นหนังสือดังกล่าวจะถูกส่งจากพื้นที่จัดเก็บถึงมือนักเรียน การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้หลายสถาบันต้องพิจารณาห้องสมุดของตนว่าเหมาะสมกับการเรียนรู้ปัจจุบันหรือยัง โดยโครงการ “Library Next” คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2020 ซึ่งถึงตอนนั้นโลกคงเดินหน้าเข้าสู่ยุคดิจิตัลมากขึ้นกว่าเดิม และเทคโนโลยีน่าจะมีผลกับชีวิตมากกว่าปัจจุบันแน่ๆ ที่มา: businessinsider
-
เติมเต็มความฝันในวัยเด็กด้วย ‘Mermaiding’ คอร์สเรียนว่ายน้ำในแบบ “นางเงือกน้อย”
หากลองมองย้อนไปเมื่อวัยเด็ก เวลาผู้ใหญ่ถามว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” คำตอบที่ได้อาจจะไม่ได้มีเพียงแค่ แพทย์ พยาบาล ทหาร ตำรวจ หรือนักการฑูต ซึ่งเด็กเล็กๆ บางคนอาจจะตอบว่า อยากเป็น เจ้าหญิง อัศวิน นักรบ หรือพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ อีกหนึ่งความฝันของเด็กผู้หญิงที่ได้ยินกันบ่อยๆ คงจะเป็นนางเงือกน้อย ที่ได้รับอิทธิพลมาจากนิทาน “Little Mermaid” ถึงแม้ความฝันดังกล่าวอาจจะดูเกินจริงไปหน่อย แต่ที่ฟินแลนด์ได้ทำความฝันในวัยเด็กของหลายคนให้เป็นจริงแล้ว ที่เมืองเอสโป ประเทศฟินแลนด์ ได้มีการเปิดสอนว่ายน้ำแบบนางเงือกสำหรับผู้ใหญ่ ที่เปลี่ยนการออกกำลังกายแบบเดิมๆ ให้มีความสร้างสรรค์เหนือจินตนาการมากขึ้น คุณครู Maija Mottonen อนุบาลที่ผันตัวมาเป็นคุณครูสอนว่ายน้ำในคลาสนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว มีผู้หญิงว่า 200 คนสมัครเข้าเรียน “ความฝันในวัยเด็กของฉันเป็นจริงแล้ว เมื่อฉันยังเด็ก ฉันอยากเป็นนางเงือก ไม่ก็ปลาโลมา แต่ฉันก็คิดว่าเป็นนางเงือกน่าจะง่ายกว่า เพราะอย่างน้อยก็เป็นครึ่งมนุษย์” นักเรียนวัย 28 ปีที่เรียนคลาสนี้กล่าว นางเงือกฝึกหัด หรือนักเรียนในคลาสจะสวมหางเหงือกที่ประกอบไปด้วยโมโนฟิน (ตีบกบคู่สำหรับดำน้ำ) และผ้า ตั้งแต่เอวลงมาเหมือนนางเงือก …
-
3 นักแสดงดัง บริจาคเงินค่าตัวให้กับลูกสาว Heath Ledger ไว้อาลัยในเรื่องสุดท้ายของเขา
ปฏิเสธไม่ได้ว่า Heath Ledger คือหนึ่งในนักแสดงฮอลลิวูดผู้มากฝีมือที่สุดแห่งยุค จากการแจ้งเกิดผ่านบทบาท Ennis Del Mar ในเรื่อง Brokeback Mountain (2005) และ Joker ตัวร้ายเฉือนคมกับ Batman ในภาพยนตร์ The Dark Knight (2008) แต่ทว่าทั้งโลกก็ได้ทราบข่าวถึงการสูญเสียนักแสดงผู้มากฝีมือคนนี้ไปเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2008 ด้วยวัยเพียง 28 ปี ด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นจากการใช้ยาเกินขนาด จนส่งผลทำให้ร่างกายได้รับสารพิษเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 11 ปี แล้ว ที่ Heath Ledger กลายมาเป็นตำนานที่ยังคงถูกกล่าวถึง ในช่วงก่อนที่เขาจะเสียชีวิต กำลังอยู่ในช่วงถ่ายทำภาพยนตร์ดราม่าคอมเมดี้แฟนตาซี The Imaginarium of Doctor Parnassus (ดร.พาร์นาซัส ศึกข้ามพิภพสยบซาตาน) จนกระทั่งเขาเสียชีวิตกลางคัน ตัวละคร Tony บทบาทสุดท้ายในชีวิต…
-
ภาพความงดงามของ ‘หมู่บ้าน’ ในอิตาลี ราวกับหลุดมาจากเทพนิยายเลยทีเดียว!!
ว่ากันว่าเรื่องราวที่อยู่ในนิทาน หรือนวนิยายทั้งหลายนั้นถูกดัดแปลงมาจากเรื่องจริงแทบทั้งนั้น เพราะไม่ว่ามันจะแฟนตาซีหลุดโลกไปแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ต้องอิงกับ ‘ความเป็นจริง’ อยู่ดี และนี่คือ ‘หมู่บ้าน’ ที่แสนงดงามในประเทศอิตาลี ราวกับว่าเป็นต้นแบบในเทพนิยายแนวแฟนตาซีเลยทีเดียว!! หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในแคว้น Apulia มีชื่อว่า Alberobello (อัลเบโรเบลโล่) ความเป็นเอกลักษณ์ของมันก็คือการใช้บรรดาหินมากมายมาสร้างเป็นกำแพงและหลังคาบ้านทรงกรวยแหลมดูงดงามแปลกตา ซึ่งสถาปัตยกรรมเหล่านี้เป็นเทคนิคที่คงไว้ตั้งแต่ยุคคริสต์ศตวรรษที่ 15 แล้ว และยังคงรักษาเอาไว้ได้จนมาถึงปัจจุบัน นอกจากความสวยงามในตัวของหมู่บ้านเองอยู่แล้ว ก็ยังมีเทคนิคการถ่ายภาพสวยๆ ที่ทำให้มันออกมาดูสวยงามน่าค้นหามากยิ่งขึ้นไปอีก ของช่างภาพชาวอิตาลีชื่อว่า Tania Depascalis “เพื่อเก็บภาพ และแสดงให้เห็นถึงวิญญาณของหมู่บ้าน Alberobello เราต้องใช้เวลาถึง 4 วันในการพักอยู่ที่นี่ เพื่อที่จะรอแสงสีแดงของพระอาทิตย์ในช่วงตกดิน คาบเกี่ยวกับตอนกลางคืนพอดี มันจะเป็นแสดงที่ทำให้เราถ่ายภาพออกมาได้งดงามมากที่สุด” “ก่อนที่เราจะเดินทางมายังหมู่บ้านแห่งนี้เราต้องทำการบ้านกันหนักพอควร ทั้งนั่งอ่านรีวิว ว่ามีที่ไหนถ่ายรูปได้สวยๆ บ้าง รวมไปถึงเที่ยวเมืองนี้ผ่าน ‘Google Street View’ เพื่อดูที่ทางต่างๆ” และนี่คือผลงานอันแสนงดงามที่ช่างภาพเก็บมาฝากทุกคน จะเป็นอย่างไรลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… . .…
-
พ่อโพสต์ทวีตแซวลูกที่เข้าร่วมการแข่ง ‘หุ่นยนต์ Lego’ แบบขำๆ แต่ชาวเน็ตกลับไม่ขำตาม!!
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในต่างประเทศ ณ ขณะนี้เลย เมื่อจู่ๆ คุณพ่อท่านหนึ่งโพสต์ทวิตเตอร์แซะลูกของตัวเองแบบขำๆ แต่ทว่าชาวเน็ตกลับไม่ขำด้วย กลายเป็นเรื่องดราม่าซะงั้น!? เรื่องมีอยู่ว่าคุณพ่อท่านหนึ่งชื่อว่า Jesse Kelly ดีเจประจำคลื่น KPRC-AM 950 ในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการโพสต์ทวิตเตอร์แซะลูกชายขำๆ ขณะไปส่งเขาในงานแข่งขันหุ่นยนต์ Lego “ตอนนี้ผมมาส่งลูกชายคนโตของผมที่งานแข่งหุ่นยนต์ Lego และคุณคงไม่เคยเห็นเหล่าบรรดาคุณพ่อมากมายที่รู้สึกผิดหวังมารวมตัวในที่ที่เดียวกันขนาดนี้แน่ๆ พวกเราแต่ละคนคิดกันว่า ‘ในขณะที่เด็กคนอื่นๆ เล่นฟุตบอล…’” “พวกเขามีคนพากย์แบบเป็นจริงเป็นจังด้วย เห้ย นี่ตรูไม่ได้โม้นะเฟร้ย!!” . “โอ้ให้ตายเถอะ พวกเขากำลังจัดเรียมเวทีเพื่อมอบรางวัลให้กับผู้ชนะ” “มีทีมมนึงชื่อว่า ‘The Shockers’ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลายๆ คนคิดว่ามันเป็นชื่อที่ดีน่ะ” . “ลูกชายของผมได้ถ้วยรางวัลมาด้วยแหละ ผมเลยบอกให้เขาเอามันไปไว้ในห้องของผม เพราะเขาได้มันสมองมาจากผมเอง ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอก” “พวกเขาเพิ่งจะประกาศรางวัลให้กับผู้ชนะ และสถานที่นี้ก็ลุกเป็นไฟราวกับว่าเป็นช่วง Super Bowl เลย ผมคิดว่าผมไม่เหมาะกับที่นี่แล้วล่ะ” …
-
คนงานเดือด ทำลายทางเข้าโรงแรมเพราะไม่ได้ค่าจ้าง ที่จริงเขาโอนให้ผ่านบัญชีธนาคาร!!
บางครั้งการ ‘โมโห’ ก็อาจจะทำให้เราทำเรื่องที่ร้ายแรงลงไปโดยไม่คิดก็ได้ ฉะนั้นควรจะตั้งสติเอาไว้ให้ดี คิดให้รอบคอบก่อนที่จะทำอะไร จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง เหมือนกับเรื่องราวต่อไปนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา นาย John พนักงานก่อสร้าง ที่ถูกจ้างไปสร้างโรงแรม Travelodge ในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ แต่ทว่าหลังจากทำงานไปแล้ว กลับไม่ได้รับค่าแรงสักที พี่แกก็เลยฉุนจัด ขับรถแบ็กโฮไปทำลายทางเข้าของโรงแรมซะเลย!! คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล ในคลิปจะมีเสียงของนาย John ตะโกนด่าว่า “ถ้าพวกเอ็งยอมจ่ายค่าแรง 600 ปอนด์ (24,650 บาท) ให้ตรู เรื่องมันก็จบไปแล้วแท้ๆ!!” ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยครับ https://www.facebook.com/bryan.mappin/videos/10213987486066512/ อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา เพื่อนร่วมงานของนาย John ก็ออกมาเล่าว่า “จริงๆ แล้วพวกเขาจ่ายเงินค่าแรงให้กับพวกเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” “พวกเขาโอนเงินให้พวกเราทางบัญชีธนาคาร แต่เกิดปัญหาล่าช้าเล็กน้อย…
-
สาวจัดภาพพรีเซนต์ตัวเองอย่างจริงจังใน Tinder หลังเดตล่มมาแล้วเกือบ 40 ครั้ง
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การเดตออนไลน์’ เป็นการพบเจอกันระหว่างสองคนแปลกหน้า ฉะนั้นมันจึงมีโอกาสที่จะล้มเหลวสูงมากๆ เพราะเมื่อได้รู้จักกันมากขึ้นแล้ว คู่เดตอาจจะรับนิสัยที่เป็นตัวของตัวเองไม่ได้จนเป็นเหตุให้ตัดสินใจเลิกติดต่อกันไป นี่คือเรื่องราวของ Natalie Palmer หญิงสาววัย 23 ปี ผู้ผิดหวังกับการเดตออนไลน์ผ่านแอปฯ Tinder มาแล้วกว่า 40 ครั้ง ในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 9 เดือน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอรู้สึกเบื่อหน่ายเหลือเกิน เพราะมันทำให้เธอเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้เจอคนที่ใช่สักที ก็เลยปิ๊งไอเดียสุดเจ๋งขึ้นมา ด้วยการทำภาพพรีเซนต์ตัวเองขึ้นมาในหัวข้อที่ว่า “นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงควรปัดแรงๆ เพื่อเลือกฉัน” พร้อมทั้งระบุข้อดีข้อเสียของตัวเองเสร็จสรรพ เพื่อให้หนุ่มๆ ทั้งหลายตัดสินใจ ณ ตอนนั้นเลยว่า จะรับได้หรือไม่ได้ จะได้ปัดซ้ายเลื่อนผ่านไป หรือถ้าสนใจจริงๆ ก็ปัดขวาเพื่อที่จะทำความรู้จักกับเธอจริงๆ จะได้ไม่ต้องเป็นการเสียเวลา “การเดต 40 ครั้งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มันทำให้ฉันรู้สึกเสียดายเวลามากๆ ฉันเลยกลับมานอนบนเตียงที่บ้านแล้วคิดว่าจะทำอะไรกับโปรไฟล์ Tinder ของฉัน เพื่อทำให้การเดตมันได้ผลมากกว่าเดิม” “ฉันใช้เวลากว่าชั่วโมงเพื่อคิดข้อดีข้อเสียของตัวเอง และนำทุกอย่างไปใส่ในภาพที่มีจำนวนจำกัด” “ข้อดีของฉันก็คือ เป็นแม่บ้านที่ดี…
-
พาส่องเกาะส่วนตัวอันเงียบสงบพร้อมคฤหาสน์หรู ใกล้เมืองนิวยอร์ก ราคาจิ๊บๆ แค่ 416 ล้านเอง
สำหรับใครที่กำลังเบื่อสังคมรอบบ้าน เบื่อเพื่อนบ้าน เบื่อเสียงรถยนต์อันจอแจ เบื่อทุกสิ่งทุกอย่าง เบื่อๆ และมีเงินเหลือมากมาย นี่อาจเป็นสถานที่ในฝันของคุณในการหลีกหนีความวุ่นวายต่างๆ สถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า Petre Island หรือ Petra Island หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่า เกาะเพทรา เกาะดังกล่าวตั้งอยู่ในเมืองคาร์เมล รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ห่างจากเมืองนิวยอร์กซิตี้เพียงขับรถหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น บนเกาะมีคฤหาสน์หรูสองหลัง พร้อมกับท่าเรือ และลานจอดเฮลิคอปเตอร์สำหรับเจ้าของบ้านในการเดินทางมาพักผ่อน ซึ่งตอนนี้เกาะกำลังถูกประกาศขายโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง Douglas Elliman ในราคา 12.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราวๆ 416 ล้านบาทไทย ตั้งอยู่ห่างจากนิวยอร์กเพียงขับรถหนึ่งชั่วโมง เมื่อปี 2017 มีการประกาศขายเกาะดังกล่าวในราคา 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (480 ล้านบาท) บ้านหลังแรกเป็นบ้านที่ตั้งใจสร้างไว้รับรองแขก ส่วนบ้านอีกหลังเป็นคฤหาสน์หรูขนาด 4 ห้องนอน บนหลังคาบ้านมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ด้านล่างมีท่าเรือ ภายในบ้านสร้างทับลงบนก้อนหินขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยเฟอนิเจอร์สีโทนอุ่นสบายตา มีการสลักหินเพื่อใช้เป็นเฟอนิเจอร์ในห้องครัว …
-
นึกไม่ออกว่า ‘แสง’ เดินทางเร็วแค่ไหน แอนิเมชั่นจาก NASA ระบุ วนรอบโลกได้ 7.5 รอบ/วินาที
คุณเคยคิดสงสัยมั้ยว่า แสงสว่างที่เดินทางมาจากดวงอาทิตย์นั้น เดินทางข้ามสุญญากาศมาจนถึงพื้นผิวโลกด้วยความเร็วเท่าไหร่? ซึ่งโดยนิยามแล้วจะอยู่ที่ 299,792,458 เมตร/วินาที หรือ 1,080,000,000 กิโลเมตร/ชั่วโมง อีกทั้งด้วยระยะห่างของโลกกับดวงอาทิตย์วัดด้วยระยะห่างปีแสง ก็ยิ่งทำให้คิดว่ามันไกลเหลือเกิน แต่แสงสามารถเดินทางมาถึงผิวโลกได้อย่างรวดเร็วจากอัตรานิยามข้างต้น แค่ขับรถเกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็ว่าเร็วแล้วนะ… แต่ถ้าคุณอยากจะเห็นภาพว่าแสงเดินทางด้วยความเร็วแสงเนี่ย มันจะเป็นแบบไหนด้วยอัตราเฉลี่ย 300 ล้านเมตรต่อวินาที แอนิเมชั่นชุดล่าสุดโดย James O’Donoghue นักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์จาก NASA จะมาเฉลยให้หายคาใจกัน James O’Donoghue คลิปวิดีโอแรก เป็นคลิปที่ให้ความกระจ่างในเรื่องของความเร็วแสง เมื่อนำแสงมาวิ่งวนรอบโลก ด้วยอัตราความเร็วตามทฤษฎี แสงจะสามารถวิ่งวนรอบโลกได้ 7.5 รอบ ภายใน 1 วินาที (เจ็ดรอบครึ่งต่อวินาที) เมื่อแสงเดินทางวนรอบโลก ทั้งนี้ จากคลิปก็ถูกนำมาใช้อธิบายในเรื่องของการส่งสัญญาณติดต่อสื่อสารกับหุ่นยนต์สำรวจบนดาวอังคาร กว่าจะส่งสัญญาณไปถึงและส่งสัญญาณกลับมา ทำไมถึงต้องรอเป็นระยะเวลานาน เพราะสัญญาณคลื่นไม่ได้มีความเร็วเท่าแสง อีกทั้งยังเป็นการยากที่จะส่งคลื่นติดต่อสื่อสารกับดาวเคราะห์อื่นๆ ที่อยู่นอกระบบสุริยะ …
-
สาวขัดสนเงิน ยื่นเรื่องกู้ไม่ผ่าน ยอมถอดผ้าต่อหน้านายธนาคาร-รับมือได้ ไม่หลงกล
อีกหนึ่งตัวอย่างเหตุการณ์แบบสุดขั้ว อันเป็นตัวตัดสินทั้งทางด้านคุณธรรมและจริยธรรมกันเลยทีเดียว เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งต้องการกู้เงิน แต่ไม่ได้รับการอนุมัติจากทางธนาคาร เธอจึงหาทางหว่านล้อมนายธนาคาร เพื่อให้ได้เงินกู้ในส่วนนี้มา เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในประเทศรัสเซีย ฝ่ายหญิงทราบชื่อว่านาง Yulia Kuzmina อยู่ในช่วงวัย 20 ปี ทำการถอดเสื้อเปลือยหน้าอกต่อหน้านายธนาคาร หลังจากที่ทราบผลอนุมัติขอกู้เงินไม่ผ่าน จากการรายงานของสื่อนอก ระบุว่านาง Kuzmina พยายามยื่นหลักทรัพย์ที่มีเพื่อขอกู้เงิน โดยเงินกู้ส่วนนี้จะนำไปซื้อรถยนต์ส่วนตัว ทว่าผู้จัดการธนาคารคนดังกล่าว (ไม่เปิดเผยนาม) ได้แจ้งผลปฏิเสธอนุมัติเงินกู้ของเธอ เนื่องจากไม่มีความน่าเชื่อถือทางด้านการเงินที่มากพอ เมื่อได้ยินผลเช่นนี้ นาง Kuzmina จึงใช้วิธีแบบสุดโต่ง ด้วยการเริ่มถอดเสื้อกันหนาวก่อน โดยที่ฝ่ายนายธนาคารทำได้เพียงส่ายหัว ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเธอ พอเสื้อนอกยังไม่ได้ เธอจึงถอดบราออก เหลือเพียงหน้าอกเปลือยเปล่า หวังจะให้นายธนาคารเปลี่ยนใจอนุมัติให้ผ่าน แต่สิ่งเหล่านี้ทำอะไรเขาไม่ได้ และเขาก็รับมือด้วยการลุกมาหยิบเสื้อโค้ทคลุมปกปิดให้เธอ พร้อมกับเชิญออกไปจากห้อง แน่นอนว่ายังไงก็ไม่ให้ผ่าน… ภายหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ของทางฝั่งรัสเซีย ก็กลายมาเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วประเทศ บางส่วนก็มองว่าการที่นายธนาคารไม่สนใจข้อเสนอของเธอนั้น อาจะเป็นเพราะเขาไม่สนใจผู้หญิงหรือพวกไม่เอาอ่าว ในขณะที่ชาวเน็ตอีกส่วนชื่นชมกับวิธีการรับมือของนายธนาคาร คุมสติและคุมสถานการณ์ได้ดีเลยทีเดียว คลิปถอดผ้าต่อหน้านายธนาคาร…
-
นักวิทย์เผย เด็กตัดต่อพันธุกรรมรุ่นใหม่ กำลังจะถึงกำหนดคลอดในอีก 6 เดือน
ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ในความพยายามเอาชนะธรรมชาติของมนุษย์ จากผลงานการตัดต่อพันธุกรรมเด็กทารกของนาย He Jiankui นักวิทยาศาสตร์ชาวจีน ที่ออกมาเปิดเผยให้โลกได้รับรู้กับการทดลองของเขา เมื่อช่วงปลายปี 2018 เขาได้ประกาศว่าสามารถตัดต่อพันธุกรรมทารกในหญิงสองคนได้สำเร็จ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อ HIV, โรคฝีดาษ และอหิวาตกโรคในมนุษย์แบบเบ็ดเสร็จ ผ่านกระบวนการตัดต่อจีโนม CRISPR (CRISPR-edited) ข่าวเก่า: สื่อนอกรายงาน นักวิทย์จีนผู้ตัดต่อพันธุกรรมทารกคนแรกของโลก ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ หลังจากที่เขาได้ประกาศผ่านโลกออนไลน์ไปแล้ว มีข่าวระลอกหลังแพร่สะพัดมาจากทางการจีนว่านาย He Jiankui ถูกรัฐบาลอุ้มหายตัวไป ซึ่งคาดกันว่าถูกกักตัวให้อยู่แต่ภายในบริเวณบ้านพักของตัวเอง และทางมหาวิทยาลัยที่เขาสังกัดอยู่ไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้ โดยล่าสุดนี้ นาย William Hurlbut นักฟิสิกส์และนักชีวจริยธรรมจากมหาวิทยาลัย Stanford หนึ่งในผู้ที่ติดต่อกับ He Jiankui เป็นประจำ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลกับทางแหล่งข่าวประเทศฝรั่งเศส ผลงานการตัดต่อพันธุกรรมชิ้นนี้ กำลังอยู่ในขั้นตอนอุ้มท้อง โดยผู้หญิงที่อุ้มท้องเด็กทารกคนที่สอง (ที่ได้รับการแต่งพันธุกรรม) กำลังอยู่ในช่วงอุ้มท้องระหว่างสัปดาห์ที่ 12 และ 14 นั่นจึงหมายความว่าเด็กที่ได้รับการแต่งตกพันธุกรรม ใกล้จะถึงเวลากำหนดคลอดในอีกระยะ…
-
สาวโสดวัยสามสิบมีเฮ! บริษัทจีนเพิ่มวันหยุดให้พนักงานสาวโสด กระตุ้นให้ไปออกเดต
นอกจากวันหยุดนักขัตฤกษ์แล้ว มีไม่กี่เหตุผลที่บริษัทจะอนุญาตให้พนักงานหยุด ในกรณีลากิจ ลาป่วย หรือลาพักร้อน พนักงานจะต้องมีเหตุผลเพียงพอบริษัทจึงจะพิจารณาให้หยุดงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา บริษัทในประเทศจีนสองบริษัท ผู้อยู่เบื้องหลังจุดท่องเที่ยว Song Dynasty Town เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ได้ประกาศวันหยุดตรุษจีนเพิ่มจาก 7 วัน เป็น 8 วันให้กับพนักงานหญิงวัยสามสิบที่ยังไม่แต่งงาน เพื่อให้พนักงานไปออกเดต ตามความเชื่อแบบจีนดั้งเดิมแล้ว ผู้หญิงวัยสามสิบที่ยังโสดถือว่าเป็น “ผู้หญิงของเหลือ” เพราะเมื่อผ่านวัยยี่สิบปลายๆ มาแล้ว ผู้หญิงจะเป็นที่ต้องการของฝ่ายชายน้อยลง ด้วยเหตุผลทางหน้าที่การงาน ทำให้ผู้หญิงหลายคนไม่มีเวลาในการหาคู่ครอง จึงทำให้บางคนตัดสินใจที่จะไม่แต่งงาน จากข้อมูลของกระทรวงกิจการพลเรือนประเทศจีน เมื่อปี 2015 มีผู้ใหญ่ที่ยังโสดถึง 200 ล้านคน และอัตราการแต่งงานลดลงตั้งแต่ปี 2013 ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ทำงานในจุดท่องเที่ยว Song Dynasty Town จะทำหน้าที่ประสานงานภายใน ซึ่งบางคนก็ประกอบอาชีพเป็นนักแสดง ทำให้ดูเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ทางบริษัทจึงให้วันหยุดเพิ่มเพื่อให้พนักงานมีโอกาสได้มีโอกาสพบเจอ และสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นบ้าง โดยเฉพาะเพศตรงข้าม Huang…
-
หญิงสาวผู้ตกหลุมรัก ‘ผ้าห่ม’ ของตัวเอง วางแผน ‘จัดงานแต่งงาน’ อยู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต!!
เรื่องราวความรักของหญิงสาวคนหนึ่งที่เกิดขึ้นกับ ‘ผ้าห่ม’ ของตัวเอง จนถึงขั้นที่ว่าจะ ‘แต่งงาน’ อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตเลย!! Pascale Sellick ศิลปินหญิงวัย 48 ปี ผู้ตกหลุมรักกับ ‘ผ้าห่ม’ ของตัวเอง เธอบอกว่า “ผ้าห่มของฉัน เป็นผ้าห่มที่ยาวที่สุด แข็งแรงที่สุด” “ความสัมพันธ์หว่างฉันกับผ้าห่มนี้เป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือได้มากที่สุด เท่าที่ฉันเคยมีมาเลยทีเดียว เพราะมันมักจะอยู่กับฉันในทุกช่วงเวลาของชีวิต คอยกอดให้กำลังใจฉันมาโดยตลอด” “ฉันรักผ้าห่มของฉันมากๆ ฉันอยากจะเชิญชวนทุกคนทั้งครอบครัว และเพื่อนๆ มาร่วมงานแต่งงานของฉัน กับผ้าห่ม ในงานจะมีทั้งการเฉลิมฉลอง ดนตรี และความสนุกที่ทุกคนอาจไม่เคยได้เจอจากที่ไหนมาก่อน” Pascale วางแผนจัดงานวันแต่งงานในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 ที่จะถึงนี่ ณ เมือง Exeter ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นงานที่จัดฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยธีมงานแต่งจะเป็นธีม ‘ชุดนอน’ แขกทุกคนที่มาจะต้องสวมชุดนอน รองเท้าสลิปเปอร์ และเอาตุ๊กตาที่กอดตอนนอนมาร่วมงานด้วย รวมไปถึงผ้าห่ม และขวดน้ำร้อน…
-
Rami Malek และ Bohemian Rhapsody ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์!!
ใกล้เข้าไปทุกทีแล้วกับการประกาศรางวัลเวทีออสการ์ ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการประกาศรายชื่อของนักแสดง และภาพยนตร์ ที่เข้าชิงรางวัลในสาขาต่างๆ แน่นอนว่าในปีที่ผ่านมามีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะเรื่อง Bohemian Rhapsody ที่มาแรงเกินคาดเลยทีเดียว Bohemian Rhapsody เป็นหนังสารคดีบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ Freddie Mercury ฟรอนต์แมนวง Queen จากจุดเริ่มต้นสู่จุดสูงสุดในชีวิตนักดนตรีของเขา โดยเฉพาะการแสดงของ Rami Malek ที่รับบทเป็น Freddie และทำออกมาได้ดีสุดๆ จนคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวที Golden Globe Awards ไปครองเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และล่าสุดจากการประกาศชื่อภาพยนตร์ และดารานักแสดง ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ซึ่งถือเป็นรางวัลในวงการภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยจะจัดงานประกาศรางวัลขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ที่จะถึงนี้ Rami Malek ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และภาพยนตร์เรื่อง Bohemian Rhapsody เองก็ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน!! ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมนอกจาก Rami Malek แล้วก็มีนักแสดงอีกมากมายที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน Christian Bale…
-
เจ้า ‘ทัพพี’ Samson มีไอจีเป็นของตัวเองแล้ว ไปติดตามเรื่องราวน่ารักๆ ของมันได้เลย!!
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทีมงานเหมียวของเราได้นำเสนอเรื่องราวของ เจ้า ‘Samson’ ทัพพีตักซุบ กับชีวิตอันแสนสุขให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน อ่านข่าวเก่าได้ที่ : “1 วัน กับ Samson” เรื่องราวการใช้ชีวิตของ “ทัพพี” เกิดมาเป็นเครื่องครัวนี่ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน ในตอนนั้นมันเป็นเรื่องคล้ายกับเรื่องไวรัลสั้นๆ ที่เกิดขึ้นมาแล้วก็จบไป แต่ทว่า จากคำเรียกร้องของแฟนๆ ที่อยากชมเรื่องราวชีวิตของมันเพิ่มเติม ก็ทำให้คุณ Margaret เจ้าของของเจ้า Samson ตัดสินใจเปิดแอคเคานท์อินสตาแกรมขึ้นมา เพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของมันในแต่ละวันให้แฟนๆ ได้ติดตาม และตอนนี้ก็มีคนติดตามเข้าไปกว่า 74,000 คนแล้ว!! นี่คือเจ้า Samson “ฉันไม่คิดว่าเรื่องราวของเจ้า Samson มันจะกลายเป็นกระแสไวรัล และโด่งดังได้ขนาดนี้ จริงๆ ตอนแรกมันเริ่มจากการถ่ายภาพลงสแนปแชต ฉันทำเพราะคิดว่ามันน่ารัก แต่ไม่คิดว่ามันจะได้รับความสนใจมากมายถึงเพียงนี้เลยจริงๆ” “จนตอนนี้ฉันตัดสินใจที่จะเปิดแอคเคานท์อินสตาแกรมขึ้นมาให้เจ้า Samson ฉันรู้สึกมีความสุขมากๆ ที่เจ้า Samson กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉัน ราวกับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ฉันต้องพกมันไปในทุกๆ ที่แล้วก็ถ่ายรูปมันมาด้วย” “แถมยังต้องเปลี่ยนสรรพนามจากที่ต้องเรียกแบบ ‘สิ่งของ’…
-
ภัยร้ายจากแมงมุมแม่หม้าย หนุ่มเผยประสบการณ์ โดนกัดนิดเดียว ลามเหวอะเกือบต้องตัดนิ้ว
* ภาพประกอบเนื้อหาอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจ โปรดทำใจก่อนรับชม * หากคุณยังอินกับจักรวาลสไปดี้อยู่ คงจะนึกในแง่บวกว่าหากโดนแมงมุมกัดแล้ว จะได้พลังพิเศษในการยิงใย ปีนป่ายตึก ความรู้สึกฉับไว ซึ่งในโลกของความเป็นจริง แมงมุมไม่ได้มอบอะไรไว้ให้นอกจาก ‘ความเจ็บปวด’ ในต่างประเทศมีข่าวออกมาหลายต่อหลายครั้ง กับกรณีมนุษย์ที่ถูกแมงมุมกัด ส่งผลร้ายแรงมากๆ ถึงขั้นต้องตัดมือตัดขาออกกันเลยทีเดียว เนื่องจากพิษของแมงมุมรุนแรงเกินกว่าจะคาดเดาได้ เช่นเดียวกับนาย Gary Armstrong วัย 37 ปีคนนี้ นาย Gary ระบุว่าในจังหวะที่เพิ่งจะรู้ตัวและเห็นแมงมุมตัวต้นเหตุเกาะอยู่บนนิ้ว เขาได้ทำการสะบัดมันออกไปข้างนอกหน้าต่าง แต่ทว่าเพิ่งจะรู้ภายหลังว่าตัวเองถูกกัดเข้าที่นิ้วชี้ “ตอนที่ผมตื่นขึ้นมาในช่วงตี 3 ผมจำได้ว่านั่งดูซีรีส์ใน Netflix จนเผลอหลับ จนขึ้นหน้าจอถามว่าจะดูตอนต่อไปรึเปล่า ผมก็สังเกตเห็นแมงมุมเกาะอยู่บนนิ้ว ก่อนที่จะสะบัดมันออกไป” Gary ให้สัมภาษณ์ถึงวันเกิดเหตุ แมงมุมที่กัดคือสายพันธุ์ Noble false widow ภายหลังจากที่โดนกัด เขาเดินทางไปทำงานตามปกติ โดยไม่คิดว่าจะมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น แต่ไม่นานนักนิ้วก็เริ่มปวดเป่งแสดงอาการอักเสบอย่างรุนแรง “มือของผมย่ำแย่มากหลังจากที่โดนกัดในวันถัดมา ทำอะไรแทบไม่ได้เลย รู้สึกเหมือนมือกำลังจะระเบิด และมันทำให้ผมรู้สึกช็อคไม่น้อย…
-
เพจ Tasty โชว์ทำบะหมี่กึ่งยังไงให้อร่อย ชาวเน็ตดราม่าทันที ใส่ของแบบนั้นลงไปได้ยังไง!?
ทุกวันนี้การทำอาหารให้อร่อยอาจไม่ใช่เรื่องยาก เพราะบนโลกอินเตอร์เน็ตแหล่งความรู้มากมายให้เราได้ศึกษา เรียกว่าอยากได้เคล็ดลับในการทำอะไร แค่คลิกเดียว สูตรการทำอาหารแบบดีๆ ก็มาปรากฏตรงหน้าแล้ว ล่าสุดวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา Tasty เพจทำอาหารจากสหรัฐอเมริกาปล่อยวีดีโอแนะนำสูตรการทำ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” อาหารคู่บ้านของใครหลายๆ คนยังไงให้ออกมาอร่อย และน่ากินกว่าเดิม ซึ่งคลิปดังกล่าวน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนที่ชอบทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่ทันทีที่คลิปวีดีโอถูกปล่อยออกมา ก็เกิดดราม่าขึ้นในทันที สาเหตุก็เพราะ “วัตถุดิบ” ที่ทางทีมงานแต่งเติมเสริมเข้าไป อย่างเช่นในเมนูแรกที่ทางเพจเรียกว่า “Thai Coconut Curry Ramen” ทางเพจได้ใส่วัตถุดิบอย่างเช่น เนย กะทิ พริกแกงเขียวหวาน และอื่นๆ ลงไปในน้ำซุป . . และในอีกเมนูที่ชื่อว่า “Spicy Peanut Ramen” ทีมงานได้ใส่วัตถุดิบอย่าง เนยถั่ว และ ซอสพริกศรีราชาลงไปเพื่อแต่งเติมรสชาติ . รวมถึงการใส่เกลือและพริกไทยลงไปในน้ำซุปบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกด้วย . ซึ่งหลังจากเห็นคลิปดังกล่าว ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความเห็นอย่างมากมาย…
-
ลุงเป็นโรคไต เชื่อกินผลไม้เยอะดีต่อสุขภาพ ซัดกล้วยส้มทั้งสัปดาห์ ถึงขั้นเป็นอัมพาต
ผักและผลไม้ตามหลักของโภชนาการแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งนี้ทั้งนั้นควรรับประทานให้เหมาะสมกับสุขภาพร่างกายของตนเอง หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป จะเป็นการทำร้ายร่างกายได้เช่นกัน คุณลุงชาวจีนแซ่ Wang ในวัย 60 ปี มีความเชื่อว่าการทานผลไม้เยอะๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะดีต่อกับสุขภาพของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องถูกหามส่งเข้าโรงพยาบาลหลังจากมีอาการปวดชา จนแทบขยับร่างกายไม่ได้ จากการรายงานของเว็บไซต์ ET Today ระบุว่า คุณลุง Wang ชาวเมืองซีอาน ประเทศจีน ถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน หลังจากที่ประสบกับอาการเหน็บชาเฉียบพลัน ถึงขั้นแขนขาเป็นอัมพาตขยับไม่ได้ แพทย์ผู้รับเคสกล่าวว่า อาการของคุณลุงนั้นอยู่ในขั้นรุนแรง และแจ้งให้คนในครอบครัวรับทราบในเบื้องต้น จนกระทั่งทำการวินิจฉัยอย่างต่อเนื่อง พบว่าอาการอัมพาตของคุณลุงนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทานผลไม้ที่มากเกินไป โดยในช่วงสัปดาห์ก่อนถูกหามส่งโรงพยาบาล คุณลุง Wang มีความเชื่อว่าการทานผลไม้นั้นดีต่อสุขภาพ จึงทานกล้วยไปจำนวน 2.5 กิโลกรัม และส้มอีก 3 กิโลกรัม ภายในสัปดาห์เดียว ทั้งนี้ คุณลุงประสบกับปัญหาโรคไตมาก่อนแล้ว และการทานกล้วยกับส้มที่มีโพแทสเซียมสูง ไตของลุงจึงไม่สามารถกำจัดโพแทสเซียมส่วนเกินออกไปได้ทัน จนกลายเป็นภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง โดยในกรณีของอาการที่รุนแรงมากๆ…
-
จับตาให้ดี.. สหรัฐอาจขอตัวผู้บริหาร Huawei จากแคนาดา – จีนบอกถ้าส่งให้ก็พร้อมตอบโต้!!
จากประเด็นการจับกุมตัว Meng Wanzhou ลูกสาวของผู้ก่อตั้ง Huawei ที่สนามบินประเทศแคนาดา เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา แม้เธอจะได้รับการประกันตัว แต่ยังคงถูกยึดพาสปอร์ต กักบริเวณ ใส่เครื่องติดตามตลอดเวลา และรายงานตัวกับทางศาลเป็นระยะๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอเดินทางออกไปไหนไม่ได้เช่นกัน แม้จะมีข่าวว่าทางสหรัฐอเมริกาเตรียมยื่นขอตัวเธอในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน แต่จนกระทั่งถึงวันนี้ ยังไม่มีการยื่นคำขอมา หลายคนมองว่านี่คือเกมทางการเมือง และเกมนี้ใกล้จะเดินมาจนถึงที่สิ้นสุด เพราะอะไร!? เพราะตามข้อกฎหมายแล้ว สหรัฐฯ มีระยะเวลาถึงวันที่ 30 มกราคม 2019 ที่จะทำเรื่องขอให้แคนาดาส่งตัว Meng Wanzhou ไปพิจารณาโทษในดินแดนอเมริกัน แน่นอนว่าเรื่องนี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นผู้ดำเนินการ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งมีอำนาจสั่งการว่าให้ยื่นขอตัวไปทันที หรือชะลอการยื่นเอาไว้ก่อน สื่อคาดการณ์ว่าอาจจะมีการเจรจาลับหลัง เพื่อหาผลประโยชน์ที่ลงตัวที่สุด เรื่องนี้ซับซ้อนขึ้นไปอีกขั้น เพราะถ้าสหรัฐฯ ยื่นขอตัวมาภายในสิ้นเดือนมกราคม ทางแคนาดาก็จะมีเวลาอีก 30 วันในการพิจารณาว่าจะส่งตัวให้หรือไม่ เท่ากับว่าเรื่องนี้อาจจะจบลงอย่างช้าที่สุดก็น่าจะเป็นวันที่ 2 มีนาคม 2019 (เพราะเดือนกุมภาพันธ์มีแค่ 28 วันนั่นเอง)…
-
ดีเจโซดาแฉเพื่อนร่วมวงการชาวฝรั่งเศส พูดจาล่วงเกินเรือนร่าง ‘บอกอยากได้’ แต่แค่อำเล่น
คงไม่มีใครไม่รู้จัก DJ Soda ดีเจสาวชาวเกาหลีใต้สุดร้อนแรงคนนี้ ผู้มาพร้อมกับสไตล์อันโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเปิดเพลงและการแต่งตัวของเธอ สำหรับ DJ Soda นั้นไม่ค่อยมีข่าวคราวในด้านที่เสียหายโผล่ออกมาบ่อยนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี โดยไม่นานมานี้ เธอกลับต้องเจอคำพูดจาอันหยาบคายของเพื่อนร่วมอาชีพชาวฝรั่งเศส เอ่ยไปในทางลามก จนถึงขนาดที่ตัวเธอเองรับไม่ได้และต้องแฉผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง… https://www.instagram.com/p/Bsh5to2AUjy/ ภาพที่ DJ Soda โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2018 เป็นภาพหลักฐานการแชตผ่านระบบ Direct Message กับ DJ Hugel เพื่อนร่วมอาชีพชาวฝรั่งเศส https://www.instagram.com/p/Bs5X_7cgbLr/ โดยไม่ได้ทำการเปิดเผยข้อความด้านบน เพียงแต่เผยให้เห็นว่า ‘อยากได้’ ซึ่งเป็นการใช้คำพูดคำจาที่ไร้มารยาท หยาบโลนและล่วงเกินทางเพศ แม้ทาง DJ Hugel จะแก้ตัวว่าเป็นเพียงการเล่นตลก พูดจาขำๆ อย่าไปซีเรียสอะไร แต่ทว่าเธอไม่ตลกด้วยกับสิ่งที่เขาพูดออกมา https://www.instagram.com/p/BsYOhT1Ajvl/ “ฉันถูกล่วงเกินโดยดีเจชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในลอนดอน เขาเป็นคนที่ฉันเคยช่วยโปรโมทงานในอดีตที่ผ่านมา แต่เขากลับใช้คำที่ต่ำช้าเกี่ยวเนื่องกับบางส่วนบนเรือนร่างของฉัน เขาพูดว่ามันเป็นมุกตลกขำๆ แต่ฉันตอบกลับไปว่าฉันไม่ตลกกับสิ่งที่เขาพูดเลย”…
-
อดีตชาวแก๊งหันมาทำความดี ยกผู้พิการขึ้นถ้ำบาตูกว่า 20 ปี ‘ไม่อยากให้พ่อผิดหวังซ้ำสอง’
ประสบการณ์ในชีวิตของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนอาจเคยผ่านเรื่องเลวร้ายมาตลอดชีวิต จนกระทั่งความหลงผิดได้ส่งตัวเขาไปจองจำอยู่ในคุก อันเป็นแหล่งรวมของอาชญากร โดยที่สังคมภายนอกคาดหวังว่า เมื่อพวกเขาออกมาจากคุกได้แล้วจะกลับตัวกลับใจได้ และสังคมก็พร้อมให้โอกาสพวกเขาอยู่เสมอ หลักการง่ายๆ ของชีวิต หากเราเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่น หรือคอยพูดคอยให้กำลังใจ ให้พลังบวกกับคนอื่น สิ่งดีๆ ก็จะตามมาอย่างการพลิกชีวิตของอดีตชาวแก๊งคนนี้ ที่สร้างปรากฎการณ์ให้กับตัวเองและคนรอบข้างในมาเลเซีย นาย Muraly หนึ่งในชาวแก๊งนักเลง Ketua Samseng ตั้งแต่ปี 1993 เขาถูกจับเข้าคุกเป็นเวลา 6 ปี ในฐานก่อเหตุอาชญากรรมหลายต่อหลายครั้ง และต้องถูกแยกออกมาขังเดี่ยว Muraly ต่างรู้ดีว่าความทุกข์ทรมานที่ถูกขังอยู่ในคุกเป็นอย่างไร นอกเหนือจากจะได้รับบทเรียนแล้ว เขาก็ได้รับแรงผลักดันที่จะต้องเปลี่ยนชีวิตของตัวเองให้ได้ เมื่อเขาพ้นโทษออกมาสู่สังคมภายนอกอีกครั้ง สิ่งที่เขาต้องเจอก็คือ ไม่มีงานทำ ถังแตก และไร้ซึ่งความเชื่อใจจากคนในครอบครัว ไม่ต่างไปจากการถูกขังเดี่ยวอยู่ภายในคุกเลย… “ผมรู้สึกละอายใจกับตัวเอง ความยากลำบากที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ไม่เพียงแม้แต่ครอบครัวของผมที่ผิดหวัง แต่รวมไปถึงคนทั้งเชื้อชาติของผมด้วย” Muraly เปิดใจกับสื่อ ทั้งนี้สื่อของมาเลเซียได้มีโอกาสสัมภาษณ์เขา เกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตและปัจจุบันที่กำลังเป็นอยู่ โดยย้อนไปเมื่อช่วงก่อนจะถึงวันเกิดของคุณพ่อเขาในเดือนมกราคมปี…
-
ข้อสอบฟังภาษาอังกฤษของญี่ปุ่น ‘ผักติดปีก’ หน้าตาเป็นแบบไหน กับช้อยส์ที่ต้องเลือก!!
ในประเทศญี่ปุ่นจะมีการสอบวัดผลของทางส่วนกลางอยู่ มีชื่อเรียกว่า Center Test โดยจะนำไปใช้เป็นคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลายแห่ง ซึ่งในข้อสอบส่วนกลางนี้จะเป็นการวัดระดับในหลายๆ วิชา และ Center Test จะจัดสอบในเดือนมกราคมของทุกปี ในปีนี้เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2019 ในขณะที่วิชาอื่นๆ ผู้เข้าสอบไม่ติดขัดติดใจอะไรมากนัก… ยกแว้นแต่ข้อสอบข้อหนึ่งในวิชาภาษาอังกฤษ ที่เป็นตัวเลือกช้อยส์ 4 ข้อ ให้เลือกว่าตัวละครไหนคือตัวละครที่ถูกเอ่ยถึงในบทสนทนา ภายในโจทย์ข้อนี้ถามสั้นๆ ว่า ตัวละครที่ถูกเอ่ยถึงจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน? https://twitter.com/hatocircle/status/1086570676259966977 โจทย์คำถามข้อนี้ เป็นข้อแรกๆ ของวิชาภาษาอังกฤษในส่วนของพาร์ทฟัง เป็นการยกบทสนทนาระหว่างสองบุคคล ตามบทต่อไปนี้ A: เราต้องการไอเดียสำหรับตัวการ์ตูนตัวใหม่ B: เห็นด้วยนะ เอาเป็นผักดีมั้ยล่ะ? A: ก็ฟังดูโอเคนะ แต่เพื่อให้มีอิมแพคหนักแน่นหน่อย ใส่ปีกเพิ่มเข้าไปด้วยสิ B: แจ๋วไปเลยยยย แม้จะไม่ได้เป็นโจทย์คำถามที่ยากมากนัก แต่ด้วยความแปลกของโจทย์ข้อสอบ ถึงขั้นออกสถานีโทรทัศน์กันเลยทีเดียว https://twitter.com/l_ekw1/status/1087125308136816641 สำหรับบทสนทนาภายในโจทย์ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด คำศัพท์ใช้แบบพื้นฐานทั่วไป…
-
แม่ลูกจบชีวิตพร้อมกัน จากเหตุถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก โรงเรียนรับรู้แต่แก้ไขอะไรไม่ได้…
กลายเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ที่มาพร้อมกับความสลดของครอบครัวชาวเมืองเซ็นได หลังจากที่ปัญหาถูกบ่มเพาะมาอย่างยาวนาน แต่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย แม้จะร้องเรียนให้ทางโรงเรียนรับทราบแล้วก็ตาม… สองแม่ลูกชาวเมืองเซ็นได เลือกจบชีวิตพร้อมกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2018 โดยเป็นคุณแม่วัย 46 ปี กับลูกสาวอายุ 8 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เนื่องจากลูกสาวถูกเพื่อนร่วมชั้นกลั่นแกล้งอย่างหนัก แต่กลับถูกโรงเรียนเพิกเฉยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ต้นเหตุในครั้งนี้ มาจากการที่ลูกสาวถูกเพื่อนร่วมชั้นกลั่นแกล้งด้วยสารพัดวิธี ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2018 เช่น ทิ้งไว้กลางทางให้เดินคนเดียว ไม่ยอมให้เดินไปด้วย ใช้ไม้ไล่ตีระหว่างเดินไปโรงเรียน และอื่นๆ จนกระทั่งในปลายเดือนมิถุนายน ลูกสาววัย 8 ปี มีอาการปวดหัวและปวดท้องไม่อยากไปโรงเรียน ทางพ่อกับแม่ทำได้เพียงปลอบและพาไปโรงพยาบาล จนถึงขั้นพาไปส่งถึงห้องเรียนและเข้าพบครูใหญ่ เพื่อทำการร้องเรียนถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ทว่ายิ่งกลายเป็นการราดน้ำมันลงกองไฟ ทำให้เด็กนักเรียนเพื่อนร่วมชั้นกลั่นแกล้งลูกสาวหนักมากขึ้น เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนสิงหาคม เด็กหญิงได้ทำการเขียนจดหมายระบายความในใจที่มีต่อพ่อแม่ โดยระบุใจความเอาไว้ว่า “อยากหายไปให้พ้นจากโลกนี้ ไม่มีอะไรดีสำหรับตัวหนูเลย มีแต่ถูกแกล้งในโรงเรียน” เดือนกันยายน 2018 ลูกสาวเริ่มขาดเรียนบ่อยขึ้น ส่งผลทำให้ผู้เป็นแม่มีภาวะเครียดตามไปด้วยจนถึงขั้นป่วยหนัก ทางด้านคุณพ่อพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากโรงเรียนไม่ต่ำกว่า…
-
ของขวัญสำหรับมอบให้หนุ่มๆ ใน “วันวาเลนไทน์” กับเซ็ต “กางเกงใน” และ “ขนมปังก้อน”?!
อีกไม่นานเกินรอก็จะถึง “วันวาเลนไทน์” กันแล้ว หลายๆ คนอาจกำลังมองหาของขวัญที่อยากจะมอบให้กับคนที่เรารักอยู่ใช่มั้ยล่ะ วันนี้ #เหมียวตะปู จึงอยากนำเสนอให้ทุกคนได้พบกับของขวัญสุดพิเศษที่คู่ควรแก่การมอบให้แฟนหนุ่มของเหล่าสาวๆ เป็นอย่างมาก มันก็คือ “กางเกงในลายน่ารักๆ” ที่มาคู่กับ “ขนมปังก้อน” นั่นเอง!! ขนมปังก้อนโต กับกางเกงในลายหัวใจสุดคาวาอี้ นี่คือคอมโบเซตที่ถูกผลิตมาเพื่อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์โดยเฉพาะ เป็นการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์เสื้อผ้า TOOT และร้านเบเกอรี่ Cube The Bakery ในประเทศญี่ปุ่น หากใครเลือกกางเกงในสีขาวสะอาดตาแล้วล่ะก็ คุณก็จะได้จับคู่กับขนมปังก้อน “แบบจืด” ที่ทำมาจากแป้งของจังหวัดฮอกไกโด ส่วนใครที่เลือกกางเกงในสีแดง ขนมปังที่ได้ก็จะทำมาจากแป้งออร์แกนิกของฝั่งทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งจะมีความนุ่มและหวานกว่าขนมปังก้อนแบบจืด สำหรับไอเดียของการจับคู่ 2 สิ่งนี้ให้กลายมาเป็นของขวัญนั้น พวกเขาก็บอกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากคำว่า Pan ในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าขนมปัง แต่ทว่ามันมีการออกเสียงคล้ายๆ กับคำว่า Pantsu ที่แปลกว่ากางเกงใน สุดท้ายจึงกลายมาเป็นการเข้าคู่กันของทั้งสองสิ่งนี้นั่นเอง . แม้มันอาจดูแปลกๆ สำหรับบางคน หากต้องนำเจ้าสองสิ่งนี้มาเป็นของขวัญให้แก่ชายหนุ่มที่เรารัก แต่ใครจะไปคิดว่ามันขายดีมากๆ…
-
พบกับ Annie นางแบบสาวน้อยผู้เดินแคทวอล์กจนไฟแทบลุก อินเนอร์ได้มากค่ะลูกสาว
ในวงการบันเทิงที่เราเห็นทุกวันนี้ ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้แต่ผู้ใหญ่ได้แสดงความสามารถ หากแต่เด็กเล็กๆ ก็ได้โอกาสเช่นกัน ทั้งงานแสดง โฆษณา หรือเดินแบบ เรามักจะเห็นเด็กๆ มาร่วมสร้างสีสันอยู่เสมอ https://www.facebook.com/nguyen.h.phuc.315/videos/vb.646476031/10156332478756032/?type=2&video_source=user_video_tab เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้มีการแชร์รูปภาพและวิดีโอของโมเดลรุ่นเล็กคนหนึ่งในงาน Asian Kids Fashion Week 2019 ที่ได้สร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้เข้าร่วมงานในวันนั้น ด้วยชุดที่โดดเด่น และโพสท่าและการเดินแบบมั่นใจ ทำให้หลายคนตามสืบว่าน้องคนนี้เป็นใคร ไอจีน้อง annie.khanhan2011 มีภาพสวยๆจากโชว์และงานของน้องด้วย แซ่บมากกกกกก pic.twitter.com/HXJPklcsq4 — 𝒉𝒐𝒃𝒆𝒊𝒌𝒂 🎐 (@couturegalaxy) January 21, 2019 วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักน้อง Annie หนูน้อยชาวเวียดนามวัย 7 ขวบเพิ่มเติม ผ่านผลงานที่ความโดดเด่นทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ไม่แพ้นางแบบรุ่นใหญ่อย่างแน่นอน มาดูผลงานเบาๆ ของน้องกัน อินเนอร์แรง แซงคุณพี่ไปอีกค่ะน้องงงง https://www.instagram.com/p/Br4U6WAggK_/ ใครไม่ไหวก็แพ้ไปนะคะ https://www.instagram.com/p/Bh4TjNzlZ–/ โพสไหนหนูก็เอาอยู่…
-
Masazo Nonaka ชายผู้มีอายุยืนที่สุดในโลกเสียชีวิตแล้ว ด้วยสถิติ 113 ปี
เราเชื่อว่าหลายคนอยากมีอายุที่ยืนยาว เห็นได้จากการที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทั้งการเลือกทานอาหารดีๆ ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนให้เพียงพอ ล้วนมีส่วนช่วยให้อายุขัยของเราเพิ่มขึ้น Masazo Nonaka คุณตาที่มีอายุมากที่สุดในโลกจากไปอย่างสงบแล้วด้วยวัย 113 ปีที่บ้านเกิดของเขาซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ทางครอบครัวให้สัมภาษณ์ว่าคุณตาเสียชีวิตด้วยโรคชราในระหว่างการนอนหลับ คุณตา Nonaka เกิดเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 1905 โดยครอบครัวของคุณตาเป็นเจ้าของกิจการโรงแรม Hot Springs Inn ซึ่งปัจจุบันได้มีการสืบต่อกิจการจนมาถึงรุ่นหลาน สำนักข่าวญี่ปุ่นเผยเคล็ดลับอายุยืนของคุณตา Nonaka ไว้ว่า เมื่อตอนคุณตามีชีวิตอยู่ คุณตาชอบทานของหวาน ดูแข่งซูโม่ อ่านหนังสือพิมพ์ และแช่น้ำร้อนอาทิตย์ละครั้ง ทางครอบครัวของคุณตายังเผยอีกว่าที่คุณตาอายุยืนเป็นเพราะว่าคุณตาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวโดยไม่มีความเครียด จึงทำให้คุณตามีอายุยืนที่สุดกว่าพี่น้องทั้งเจ็ดคน รวมถึงภรรยา และลูกอีกสามคนที่เสียชีวิตก่อนคุณตา คุณตา Nonaka ได้รับการยืนยันจาก Guinness World Records ในเดือนเมษายน เมื่อปีที่แล้วว่าเป็นบุคคลที่อายุมากที่สุดในโลกด้วยอายุ 112 ปี 259 วัน และจากกการศึกษาที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ Lancet ญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่ประชากรมีอายุขัยสูงที่สุดในโลก โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 85.8 ปี …
-
โมเมนท์สุดน่ารัก เจ้าบ่าวยกผ้าคลุมผมเจ้าสาว พอเห็นหน้าแล้วถึงกับเก็บอาการไม่อยู่
หลังจากคู่รักผ่านการคบหาดูใจ ศึกษาซึ่งกันและกัน จนตกลงปลงใจกันแล้ว งานแต่งงานเป็นอีกวันหนึ่งวันสำคัญที่จะยืนยันว่าทั้งคู่จะใช้ชีวิตร่วมกันต่อจากนี้ ทุกครั้งที่เราไปงานแต่ง เราจะสัมผัสได้ถึงความสุข ความยินดี ที่แสดงออกมาเป็นรอยยิ้มและน้ำตาของคู่บ่าวสาว เช่นเดียวกับ งานแต่งของ Damilola Ajayi และ Seun Ajayi ในปี 2017 https://www.instagram.com/p/Bg-yHNXnG3I/?utm_source=ig_embed เรื่องราวเกิดขึ้นในระหว่างที่พิธีกรได้บอกให้เจ้าบ่าว Seun เปิดผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาว เขาค่อยเปิดผ้าคลุมทีละนิดท่ามกลางเสียงเชียร์จากแขกที่มางาน จนเห็นใบหน้าอันงดงามของเจ้าสาว เขาก็ออกอาการดีใจอย่างเก็บไม่อยู่ ท่าทางของ Seun หลังเห็นเจ้าสาวเรียกเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้าง โดยเขาเองเป็นคนบอกว่า “ท่าทางของเขาตอบสนองกับสิ่งที่หัวใจต้องการ” หลังจากงานแต่งงานได้มีการแชร์คลิปวิดิโอในงานแต่งของ Seun เขายิ้มกว้างด้วยความดีใจหลังจากพบเจอสาว เขาหมุนตัวไปมาเหมือนเด็กๆ ตอนได้รับของขวัญ จนทำให้หลายคนอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มและหัวเราะกับท่าทางน่ารักๆของเขา หลังจากงานแต่งงานผ่านไปแล้ว 1 ปี ความปิติยินดีของ Seun ไม่ได้ลดน้อยลงเลย เขาจึงแชร์ความทรงจำในครั้งนั้นอีกครั้งในอินตราแกรมส่วนตัวพร้อมกับคำบรรยายว่า “ราวกับว่าผมได้รางวัลใหญ่ การแต่งงานกับ Dami เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเลย” https://www.instagram.com/p/Bnfx0HLngmr/ ตอนนี้ทั้งคู่กำลังจะมีลูกคนแรกด้วยกัน และหลายคนต่างคอยเป็นกำลังใจให้กับพวกเขา…
-
“แอร์สาว” โดน “ผู้โดยสารชาย” เรียกร้องให้ช่วย “ถอดกางเกง-เช็ดก้น” ตอนเข้าส้วม?!
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ หลังจากที่มีการแถลงข่าวของสายการบิน EVA Air เกี่ยวกับกรณีของผู้โดยสารชายคนหนึ่งเรียกร้องให้แอร์โฮสเตสสาวช่วยเรื่องในสิ่งที่ดูจะไม่เหมาะสมอย่างมาก ชายผู้ร้องขอในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 19 มกราคม 2019 บนเครื่องบินที่กำลังเดินทางจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ไปยังกรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน และนั่นก็เป็นเที่ยวบินที่ลูกเรือทุกคนเป็นผู้หญิง ในเที่ยวบินนั้น มีผู้โดยสารชาวผิวขาวคนหนึ่ง (ไม่ระบุชื่อ) น้ำหนักตัวเกือบ 200 กิโลกรัม ต้องนั่งวีลแชร์ ชายคนดังกล่าวได้ร้องขอกับทางแอร์โฮสเตสสาวที่ชื่อว่า Kuo ซึ่งเป็นหัวหน้าลูกเรือของเที่ยวบินนั้น โดยอ้างว่า ตนเองไม่สามารถใช้ห้องน้ำบนชั้นประหยัดได้เพราะว่าเล็กเกินไป ขอเข้าไปใช้ห้องน้ำของชั้นธุรกิจแทน แอร์ฯ สาวได้ช่วยพาเขาไปยังห้องน้ำชั้นธุรกิจตามที่ได้ร้องขอเอาไว้ และบอกให้เธอเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ขณะที่เขากำลังถ่ายหนัก เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น แน่นอนว่าแอร์ฯ สาวไม่อาจยอมให้เปิดประตูขณะอุจจาระได้ สุดท้ายผู้โดยสารคนนั้นจึงต้องยอมปิดประตูไป ก่อนที่จะกดปุ่มช่วยเหลือฉุกเฉินในช่วงเวลาแทบจะทันที จนลูกเรือต้องเข้าไปดู เปิดประตูเข้าไปจึงพบว่าชายคนดังกล่าวอยู่ในสภาพที่กางเกงของเขาถูกถอดลงไปได้ครึ่งนึง และเขาก็บอกให้แอร์ฯสาวคนเดิมเข้าไปช่วยเขาถอดกางเกงเพื่อจะได้ขับถ่ายอย่างสะดวก Kuo เล่าว่า “ฉันบอกกับเขาไปว่าเราไม่สามารถช่วยได้จริงๆ แต่เขากลับโวยวายขึ้นมา บอกกับฉันให้เข้าไปข้างในทันทีและขู่ว่าไม่อย่างนั้นจะขับถ่ายลงบนพื้น” “เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของฉันได้นำผ้าขนหนูมาเพื่อปกปิดอวัยวะเพศของผู้โดยสารชายคนดังกล่าว แต่เขากลับตีมือฉันด้วยความโมโห บอกว่าไม่ต้องการผ้านั่น ต้องการให้ฉันถอดกางเกงในให้เขาเท่านั้นพอ” …
-
หนุ่มซื้อยาไอซ์กับพ่อค้า ถูกหลอกส่งลูกกวาดมาแทน โร่แจ้งตำรวจอยากได้เงินคืน!!
การครอบครองยาเสพติดไม่ว่าจะชนิดใดๆ ก็ตาม นับว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง แต่เมื่อการซื้อยาเสพติดกับพ่อค้ายา กลับถูกฉ้อโกงขึ้นมา ริจะไปเรียกร้องหาความยุติธรรมก็คงไม่เข้าท่า แต่กลับมีคนทำจริงๆ ทั้งซื้อทั้งเสพ และไปแจ้งกับตำรวจว่าโดนโกง!! คดีเด็ดนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมปี 2019 หลังจากที่ชายหนุ่มแซ่ Wong ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เดินตบเท้าเข้าสถานีตำรวจในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ด้วยอาการฉุนจัด เหตุที่ทำให้เขาโมโหขนาดนี้ เนื่องจากว่าก่อนหน้านั้น เขาได้นัดแนะซื้อยาไอซ์กับพ่อค้ารายหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่าพ่อค้าใจทรามดันส่งลูกกวาดผลึกมาให้เขาแทน… ภาพจากกล้องวงจรปิด ในระหว่างที่นาย Wong เข้าแจ้งความกับตำรวจ จากการรายงานของสื่อจีนระบุว่า นาย Wong จ่ายเงินค่ายาไอซ์ไป 1,400 หยวน (ประมาณ 6,550 บาท) ให้กับพ่อค้ายาแซ่ Zhou และทำการแจ้งความเมื่อคืนวันอังคารที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา พอได้ของมาแล้วและกำลังจะเสพ นาย Wong รู้สึกถึงความผิดปกติของยาไอซ์ที่ได้มา แทนที่จะเป็นยาเสพติดกลับกลายเป็นลูกกวาดผลึกที่ดูคล้ายยาไอซ์ซะงั้น ด้วยความโมโหถึงขีดสุด นาย Wong คิดอะไรไม่ได้นอกจากเดินเข้าไปแจ้งความกับตำรวจ เพราะอยากจะได้เงินคืน…
-
คาเฟ่ในอังกฤษว่าจ้าง “ผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม” เพื่อให้พวกเขาได้มีประสบการณ์การทำงานที่ดี
ผู้ที่ป่วยเป็น “ดาวน์ซินโดรม” มักจะไม่ได้รับโอกาสในการทำงานได้อย่างคนทั่วๆ ไป เนื่องจากความบกพร่องที่พวกเขามีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด แต่นั่นไม่ใช่สำหรับคาเฟ่แห่งนี้ เพราะที่นี่ตั้งใจที่จะว่าจ้างผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม เพื่อให้พวกเขาได้มีประสบการณ์การทำงานจริงๆ และยังได้มีรายได้ตามอัตราค่าจ้างเหมือนอย่างคนทั่วๆ ไปอีกด้วย คาเฟ่ที่ตั้งใจว่าจ้างผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม ร้าน Café 21 เป็นคาเฟ่ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาภายใต้โปรเจคต์ที่ชื่อว่า Sunshine and Smiles โดยได้รับเงินสนับสนุนจากองค์กรการกุศล 2 แห่ง ได้แก่ The Seedbed Trust และ The Wesleyan Foundation คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมอายุตั้งแต่ 18-24 ได้มีโอกาสในการทำงานจริง และฝึกการสร้างรายได้ด้วยตัวเองจริงๆ บรรยากาศการสอนงาน ให้ได้ลองทำหลากหลายหน้าที่ งานที่พวกเขาจะได้ทำก็มีตั้งแต่ งานในครัวต่างๆ หรืองานบริการ เช่น เสิร์ฟเค้กโฮมเมดให้กับลูกค้า เสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่มร้อนเย็น เป็นต้น ในตอนแรก คาเฟ่แห่งนี้เคยอยู่ในช่วงทดลองเพียงแค่ 1 สัปดาห์ ในเดือนมีนาคม 2018…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจส่ง “ทีมกองกำลังติดอาวุธ” เข้าช่วยเหลือ “หนู” ที่กำลังหิวโซ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือที่เราอาจเรียกว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ คอยดูแลความสงบของบ้านเมือง และให้การช่วยเหลือดูแลประชาชน แต่สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจของเขตดาร์บิเชอร์ ประเทศอังกฤษนั้น นอกเหนือจากที่พวกเขาจะคอยดูแลผู้คนแล้ว พวกเขายังให้การช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์อีกด้วย และเป็นการทำภารกิจที่เต็มที่เอามากๆ จากการรายงานในวันที่ 21 มกราคม 2019 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเขตดังกล่าวได้ทำการจับกุมตัวชายคนหนึ่งเอาไว้ ซึ่งชายคนนั้นก็ติดคุกมาได้ราวๆ เกือบ 1 สัปดาห์แล้ว ปัญหาอยู่ที่ว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าวนั้นดันไม่ยินยอมให้องค์กรอนุรักษ์สัตว์ RSPCA เข้าไปในบ้านเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงของเขา ทำให้ตลอดระยะเวลาที่เขาถูกขังเอาไว้ เจ้าสัตว์เลี้ยงนั้นก็ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง เจ้าสัตว์เลี้ยงที่เรากำลังพูดถึงนั้นก็คือ “หนูเจอร์บิล” เมื่อองค์กรอนุรักษ์สัตว์ไม่ได้รับสิทธิ์การเข้าถึงในส่วนนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการขอความช่วยเหลือนั้น ตำรวจจึงยกทีมไปยังบ้านของผู้ต้องหา พร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ครบมือจากความช่วยเหลือของทีมกองกำลังติดอาวุธ… ช่างเป็นการช่วยเหลือเจ้าหนูเจอร์บิลที่ยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า พวกเขาพบเจ้าหนูเจอร์บิล สัตว์เลี้ยงของผู้ต้องหาที่กำลังอยู่ในสภาพหิวโซ หลังจากที่ไม่ได้กินอาหารมานานเกือบสัปดาห์ พวกเขาจึงตัดสินใจรีบพามันไปยังคลินิกใกล้ๆ เพื่อเข้ารับการรักษาตัว และหลังจากนี้มันจะได้อยู่ในความดูแลขององค์กรอนุรักษ์สัตว์ต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตดาร์บิเชอร์ได้แชร์เรื่องราวการช่วยเหลือสุดทุ่มเท พากองกำลังติดอาวุธบุกช่วยชีวิตสัตว์เลี้ยงอย่างหนูเจอร์บิล พร้อมประโยคทิ้งท้ายแบบหล่อๆ ว่า… “เราไม่ได้แค่จับคนเลวแล้วโพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊ก บางครั้งเราก็ค่อนข้างเป็นคนนิ่มนวลและห่วงใยต่อทุกชีวิต” ยังไง…
-
ลูกชายตัวแสบแอบพาสาวเข้าบ้าน พ่อเลี้ยงทวีตรายงานสด ชาวเน็ตตามลุ้น ‘จะพาหนีแม่ยังไง’
บนโลกอินเทอร์เน็ตมักจะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด ทั้งเรื่องชวนเศร้าเคล้าน้ำตา หรือเรื่องตลกโปกฮาในชีวิต ต่างก็เกิดขึ้นมาจากโซเชียลมีเดียด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่กระทั่งเรื่องในครอบครัวของตัวเอง ที่ฝ่ายพ่อเลี้ยงเป็นคนเอามาเล่าให้ชาวเน็ตฟัง โดยเริ่มจากที่คุณพ่อ Tricky-D ชื่อบัญชี @DropsNoPanties เผยให้ทั้งโลกได้รู้ว่า เจ้าลูกชายแอบพาสาวเข้าบ้าน แต่แม่ยังไม่รู้ ทีนี้จะพาออกจากบ้านได้ยังไง ไม่ให้โดนจับได้!! https://twitter.com/DropsNoPanties/status/1086654353530863627 ว่ากันด้วยเรื่องของวัยรุ่น การพาสาวเข้าบ้านแบบนี้ อาจจะเป็นเรื่องที่ดูไม่เหมาะสม แต่ก็อย่างว่าวัยรุ่นมักจะชอบทำอะไรเสี่ยงๆ กันอยู่แล้ว และชาวเน็ตต่างให้ความสนใจกับกรณีนี้เป็นพิเศษ ถึงกับถามไถ่คุณพ่อให้คอยอัพเดตอยู่ตลอด มีแต่คนถามไถ่อัพเดต นางยังอยู่ในบ้าน เมียผมกำลังทำงานบ้านอยู่ แต่ยังไม่สังเกตเห็นรองเท้าสีขาวน่ารักที่ถอดอยู่หน้าบ้านหรอก น่าจะเป็นโอกาสอันดีพาหนีได้อยู่นะ https://twitter.com/DropsNoPanties/status/1086661618610647040 แต่บอกเลยว่าบ้านนี้ ไม่มีใครใส่รองเท้าสีขาวสักคน… https://twitter.com/DropsNoPanties/status/1086663389894660099 จริงๆ แล้วมีประตูบ้านอีกบานที่ติดกับห้องครัว อยู่ตรงข้างล่างของบันไดเลย แต่รองเท้านี่สิ ถอดทิ้งไว้อีกฝั่งของบ้านเลย… https://twitter.com/DropsNoPanties/status/1086667227858984960 เวลา 11.00 น. ตามเวลามาตรฐานกลาง เมียผมง่วนอยู่กับงานบ้านอย่างฮาร์ดคอร์ เธอแทบจะไม่รู้ตัวเลยว่าผมถ่ายรูปอยู่ข้างหลัง ดันเปิดเพลงซะสนั่น นี่แหละโอกาสทองมาแล้ว เจ้าลูกชายจะคว้ามันไว้มั้ย? https://twitter.com/DropsNoPanties/status/1086670043474219008 …
-
หนุ่มถูกหวยขูด ‘หนึ่งดอล’ เล่นใหญ่เหมือนถูกหนึ่งล้าน ขอเช็คแผ่นโตๆ อวดชาวบ้าน!!
ในประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีวิธีเสี่ยงโชคแบบถูกกฎหมายเช่นเดียวกับบ้านเรา แต่ทว่าจะเป็นในรูปแบบของ ‘หวยขูด’ ที่จะต้องซื้อมาขูดเพื่อดูเลขในแต่ละงวด สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ดีกับชีวิตกับควรจะเฉลิมฉลองให้กับมัน อย่างนาย Tyler Heep ชายชาวรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้มากับดวงถูกหวยขูดที่แวะซื้อข้างทาง ด้วยมูลค่ารางวัล 1 ดอลลาร์สหรัฐ!! ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว แทนที่จะไปขึ้นเงินเงียบๆ จากตัวแทนจำหน่าย หรือนำไปซื้อหวยขูดเพิ่ม เขากลับดิ่งตรงไปถึงสำนักใหญ่ในเมืองดิมอยน์ เพื่อทำการขึ้นเงินรางวัล พร้อมกับร้องขอให้สำนักงานหวยรัฐไอโอวา ถ่ายรูปเขาพร้อมกับป้ายเช็คขึ้นเงินใหญ่ๆ ให้เหมือนกับคนถูกรางวัลแจ็คพอต!! “ผมเดินทางไปยังสำนักงานหวยของรัฐ พร้อมกับหวยขูดที่ถูกรางวัล ผมบอกกับพวกเขาว่าอยากได้เช็คใบใหญ่ๆ เพื่อเอาไปขึ้นได้ ผมมองว่าน่าจะคุ้มกับสิ่งที่ทำลงไป และพวกเขาก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่ตลกดี ผมเซอร์ไพรส์มากๆ ที่ไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อนเลย” Tyler กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเอง ยังจะขอให้เขียนคำว่า Stinking Rich เหม็นกลิ่นความรวยอีก!! แม้มูลค่าเงินรางวัลอาจจะดูน้อยนิด แต่ด้วยการเล่นใหญ่ของเขาที่มาถึงที่ เพื่อขอป้ายเช็คขึ้นเงินใบโต เงินรางวัลมูลค่า 1 ดอลลาร์ก็กลายมาเป็นค่าน้ำมันรถขับไปรับเช็คนั่นแหละ… “พวกเขาตัดสินใจดูแลผมอย่างดีเหมือนกับเศรษฐีเงินล้าน พอหลังจากที่ผมขอไป…
-
ช็อตประทับใจ ‘Jennie Blackpink’ ยื่นกิ๊บให้บลิ๊งค์อินโดฯ ที่นั่งวีลแชร์มาดูคอนเสิร์ต
Blackpink สุดยอดเกิร์ลกรุ๊ปจากประเทศเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและกำลังกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์สุดๆ ณ เวลานี้ ซึ่งไม่นานมานี้สาวๆ ก็ได้มาทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศไทยด้วย หลังจากที่สาวๆ ได้มาทัวร์คอนเสิร์ตก็ได้สร้างปรากฏการณ์ที่เป็นกระแสโด่งดังแบบฉุดไม่อยู่ ทั้งในหมู่แฟนคลับ เซเลปเมืองไทย หรือประชาชนทั่วไปคงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อ Blackpink เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2019 ที่ผ่านมาก็ถึงคิวของเหล่าบลิ๊งค์ (BLINK ชื่อของกลุ่มแฟนคลับ Blackpink) อินโดนีเซียที่ได้มีโอกาสชมคอนเสิร์ตของสาวๆ BLACKPINK นอกจากการแสดงที่สามารถสร้างรอยยิ้มให้เหล่าแฟนคลับแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างความประทับใจให้แก่ ผู้ที่ได้มารับชมคอนเสิร์ต https://twitter.com/yepimagurl/status/1087010154086682625 เรื่องราวน่ารักๆ ของเกิร์ลกรุ๊ปวงนี้ถูกเผยแพร่มาจากบลิ๊งก์ที่ได้ไปร่วมคอนเสิร์ต เป็นเรื่องของ เจนนี่ (Jennie) หนึ่งในสมาชิกวงที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เธอนั้นใส่ใจชาวบลิ๊งก์ที่ได้มาดูคอนเสิร์ตของเธอมากแค่ไหน บลิ๊งก์ได้เล่าว่าเมื่อการแสดงจบลง ผู้คนก็ทยอยออกจากที่จัดคอนเสิร์ต นักร้องนำอย่างสาวเจนนี่ได้สังเกตเห็นแฟนคลับคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นใกล้ๆ เวที เธอจึงดึงกิ๊บที่ติดผมของเธอฝากทีมงานไปมอบให้ผู้หญิงคนนั้นและส่งรอยยิ้มให้กำลังใจ ทำเอาเหล่าแฟนคลับที่เห็นเหตุการณ์ซาบซึ้งใจไปตามๆ กัน https://www.instagram.com/p/Bs3jRURAv2j/?utm_source=ig_embed&utm_medium=loading กิ๊บติดผมรูปมินิฮาร์ทพร้อทรอยยิ้มหวานๆ ของเจนนี่ ทำเอาแฟนคลับที่ได้ไปนั้นออกอาการตื้นตันใจสุดๆ ที่เมมเบอร์ให้ความใส่ใจผู้ที่มารับชมคอนเสิร์ตของเธอ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่เจนนี่ส่งกิ๊บติดผมให้แฟนคลับ https://twitter.com/yepimagurl/status/1087016992266018817 นอกเหนือจากความสามารถและหน้าตาที่น่ารัก สาวเจนนี่ยังมีจิตใจที่ดีงาม มีความอ่อนโยนและเอาใจใส่ที่เหล่าแฟนคลับต่างชื่นชมในการกระทำของเธอ…
-
สาวผิวขาวไป “ฉีดผิวสีแทน” บอกตอนนี้ตัวเองคือ “คนดำ” ถ้ามีลูกก็จะคลอดมาเป็นเด็กผิวสี?!
เราสามารถเปลี่ยนหรือมีหลายสัญชาติได้ แต่การจะเปลี่ยน “เชื้อชาติ” ของตัวเอง จากคนเอเชียกลายเป็นคนขาว หรือจากคนขาวกลายเป็นคนผิวสี ฟังดูแล้วคงบอกได้ว่ามันไม่น่าเกิดขึ้นมาได้เลย แต่ว่าสำหรับนางแบบสาว “ผิวขาว” ชาวเยอรมัน Martina Big เธอกลับเชื่อว่าตอนนี้ตนเองได้เปลี่ยนเชื้อชาติมาเป็นคนผิวสีเต็มตัว ไม่เหลือความเป็นคนขาวแต่อย่างใด นางแบบ Martina ก่อนการฉีดสีผิว เธอในปัจจุบัน Martina ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ This Morning ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2019 ที่ผ่านมา บอกว่าหลังจากที่เธอได้ “ฉีดผิวสีแทน” เมื่อ 2 ปีก่อนจนทำให้ตอนนี้เธอกลายเป็นคนผิวสี เปลี่ยนเชื้อชาติไปเรียบร้อยแล้ว เธอบอกว่า “ผิวของฉันเริ่มดำขึ้นเรื่อยๆ และผมที่ยาวออกมาก็มีความหยิกงอและเริ่มกลายเป็นสีดำ แม้แต่คิ้วของฉันก็ยังดำขึ้น รวมถึงสีของตาที่เปลี่ยนไป” ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะเธอยังเล่าว่าก่อนหน้านี้ได้ปรึกษาและเข้ารับการตรวจกับแพทย์ประจำตัว โดยคุณหมอยังบอกเธอว่าถ้าเธอมีลูกกับ Michael ผู้เป็นสามี ลูกของเธอก็จะเป็นคนผิวสีอีกด้วย หรือไม่อย่างนั้นเธอก็เชื่อว่าเด็กที่คลอดออกมาอาจไม่ได้มีสีผิวดำแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นไปได้ที่จะมีผิวสีแทนเพราะสามีของเธอเป็นคนผิวขาว เธอและสามี จากความเชื่อที่ว่าตนเองกลายเป็นคนผิวสี…
-
ผอ. คนเฟี้ยว นำเด็กนักเรียนเต้นกายบริหาร สับเท้าฉึบฉึบ ออกสเต็ปดีเกินคาด!!
หากเอ่ยถึงตำแหน่งใหญ่โตประจำโรงเรียน แน่นอนว่าผู้มีอำนาจสูงสุดจะต้องเป็นครูใหญ่หรือผู้อำนวยการโรงเรียน นานๆ ทีจะได้เห็นออกมาพูดคุยทำกิจกรรมร่วมกับนักเรียน โดยส่วนใหญ่แล้วจะให้ครูชั้นผู้น้อยเป็นผู้ดำเนินการแทน แต่สำหรับโรงเรียนประถม Xi Guan ในเมืองหลินหยี มณฑลชานซี ประเทศจีน กลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามทั้งหมด ด้วยการให้ ผอ. โรงเรียนมานำเต้น!! แถมไม่ใช่การเต้นแบบธรรมดา เนื่องจากเป็นการเต้น Shuffle (เต้นลากเท้าสับเท้า) ที่ต้องอาศัยความชำนาญพอสมควร เต้นได้ท่าสวยอีกต่างหากแหนะ นาย Zhang Pengfei ผู้อำนวยการโรงเรียนในวัย 40 ปี เป็นผู้ริเริ่มนำแนวคิดการเต้น Shuffle มาให้นักเรียนได้ฝึกทำตามกัน เนื่องจากเล็งเห็นว่าทั้งครูและนักเรียน ไม่ค่อยใส่ใจการออกกำลังกายกันมากนัก ผอ. จึงหาวิธีที่จะทำให้ทั้งครูและนักเรียนมีความสนุกและความสุขในการออกกำลังกายควบคู่กันไปได้ ก็เลยเสนอไอเดียการเต้น Shuffle ในตอนเช้าแทน ด้านคณะครูคัดค้านอย่างหนักในตอนแรก แต่ทว่าภายในไม่กี่สัปดาห์ต่อมา พวกเขาก็ร่วมจอยตี้เต้นไปกับ ผอ. เพราะได้ลองแล้วรู้สึกว่าเต้นแล้วมีพลัง และแนวเพลงที่เลือกมาใช้ประกอบการเต้น ก็ช่วยเสริมสร้างความสนุกให้เพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่า ผอ. ก็เป็นคนเลือกเอง …
-
ศิลปินสาวเปลี่ยน ‘เปลือกหอยเชลล์’ ที่เคยเป็นแค่ขยะ ให้เป็นงานศิลป์เหมือนสมบัติยุคโบราณ!!
ในปัจจุบันนี้ ‘เรื่องของศิลปะ’ มันจะทำให้ดูล้ำยุคอยู่เสมอ แต่น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นอะไรแบบคลาสสิก ซึ่งมันก็ดูสวยงามไปอีกแบบเช่นเดียวกัน สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมผลงานศิลปะบน ‘เปลือกหอย’ ที่มีการวาดภาพแนวย้อนยุคลงไป ทำให้กลายเป็น ‘สมบัติ’ อันล้ำค่าที่มาจากยุคอดีตเลยทีเดียว ผลงานเหล่านี้เป็นของ Mary Kenyon จากแคลิฟอร์เนีย เธอใช้เปลือกหอยเชลล์ ‘ของจริง’ ที่หลังจากกินหอย เราก็มักจะทิ้งเปลือกเหล่านั้นไป บวกกับเครื่องประดับที่ทำด้วยมือมาตกแต่ง กลายเป็นผลงานศิลปะสวยๆ ที่ดูคล้ายกับสมบัติจากยุคโบราณที่ค้นพบในซากเรือที่อับปางเลยทีเดียว Mary เล่าว่าเธอได้รับแรงบันดาลใจมาจากพ่อของเธอ ซึ่งเขาเป็นคนที่มีความสามารถในงานศิลปะที่ใช้สีน้ำมันมากๆ เธอเลยคิดหาวิธีที่จะใช้ความสามารถในการวาดภาพสีน้ำมันที่เรียนมา มาสร้างผลงานของตัวเอง และเลือกหอยเชลล์ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่เบา เธอค่อยๆ นำสีน้ำมันวาดลงไปบนเปลือกหอยอย่างบรรจงแต่ละอัน โดยผลงานภาพวาดแต่ละภาพนั้นจะคงคอนเซปต์งานศิลป์ในช่วงยุควิกตอเรีย ที่จะมีลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ เอาล่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงมา ลองไปชมผลงานสวยๆ ของ Mary แบบเต็มๆ กันได้เลยครับ . . . . . . . . . .…
-
ส่อง 14 ไอเดียชุดเพื่อนเจ้าสาวชุดชิค มิกซ์แอนด์แมทช์แบบนี้ ก็เกร๋ดีนะแกรรรร!!
นอกเหนือจากเจ้าบ่าว เจ้าสาว และความยิ่งใหญ่อลังการของพิธีวิวาห์แล้ว สิ่งที่สร้างสีสันและขาดไม่ได้เลยคือขบวนเพื่อนเจ้าสาว ที่ยกโขยงกันมาร่วมอวยพรและเป็นสักขีพยานของงานมงคลในวันนี้ ในอดีตเราอาจจะเคยเห็นเพื่อนเจ้าสาวสวมกระโปรงหรือชุดเดรสสวยๆ สีสันสดใส เรียกความสนใจให้แก่แขกที่มากร่วมงานไม่แพ้คู่บ่าวสาว จึงไม่บ่อยนักที่จะเห็นเพื่อนเจ้าสาวใส่สูท หรือสวมกางเกง ซึ่งความจริงแล้วจับมามิกซ์แอนด์แมทช์กันแบบนี้ ก็เท่ไปอีกแบบนะ มาดูกันว่ามีชุดสไตล์ไหนบ้าง จัมพ์สูทสีน้ำตาลแบบเรียบร้อย หรือสีขาวบริสุทธิ์ดูอ่อนโยน ชุดขาวดำแบบเท่ๆ ชุดสูทแบบเรียบหรู หูววว ดูแพงไปอี้ก ใส่สายเอี๊ยมแบบน่ารัก ชุดสีขาวนวลๆ มองแล้วสบายตาดีนะ ทักซิโด้สีน้ำเงินเพิ่มความจริงจังขึ้นอีกนิด สวมเสื้อลายลูกไม้ข้างในก็เพิ่มดีเทลให้เก๋ไปอีกแบบ งานแต่งงานแบบเรียบง่ายสไตล์เป็นกันเอง ใส่กางเกงลายดอก ตั้ลล้ากกกกกก ชุดสวยแบบเริ่ดๆ เชิดใส่หนุ่มๆ ในงานก็ได้จ้า หรือจะเป็นสูทดำดูเซ็กซี่น่าค้นหา มิกซ์แอนด์แมทช์กับหมวกปีกกว้าง ดูสบายๆ กางเกงเอวสูงแค่ไหนก็ดูไม่เอ้าท์ ชุดเพื่อนเจ้าสาวแบบพลิ้วๆ ใส่สบาย ที่มา: HuffPost
-
โจรร้ายริอาจซ้อนสาม ควบมอเตอร์ไซค์ประกบ ปล้นรถบรรทุกเหมือนในหนัง จบที่เกม โอเวอร์!
หากคุณกำลังคิดว่าฉากระห่ำในหนังแอคชั่นนั้น มีความใกล้เคียงกับชีวิตจริงนั้น อาจจะเป็นเรื่องที่ผิดคาดเสียหน่อย เพราะการกระทำอันสุ่มเสี่ยงอันตราย ยังไงโอกาสที่จะเป็นไปตามที่คิดเหมือนในหนังแทบจะเป็นศูนย์ ยกตัวอย่างเช่นฉากหนังแอคชั่นฮอลลีวูด ที่มักจะมีฉากการปล้นระหว่างทาง ยกให้เป็นฉากที่มีรถบรรทุกและมีตัวร้ายหรือตัวเอก ขี่มอเตอร์ไซค์ประกบพร้อมกับกระโดดเกาะหลังรถ สะเดาะหรือตัดกุญแจเข้าไปขโมยของและออกมาได้โดยที่ไม่โดนจับหรือมีอุบัติเหตุอะไร เมื่อคุณลองนึกภาพตามแล้ว นั่นเป็นฉากในภาพยนตร์ ลองมาดูของจริงกันบ้างกับสามเกลอสามหน่อสุดเฟี้ยว ริจะทำตัวเป็นอาชญากรเหมือนในหนังแอคชั่น บอกได้เลยว่าทั้ง 3 มาพร้อมกับ อุปกรณ์พร็อพประกอบฉากถูกต้อง คือมอเตอร์ไซค์คันเดียวอันไป 3 คน ขี่ไล่ตามรถบรรทุกเป้าหมาย ฮั่นแหน่ เริ่มเร้าใจแล้วล่ะสิ ไหนจะปีนข้ามหัวกัน พร้อมกับคว้าเครื่องตัดสลักเกลียว ตัดกุญแจเพื่อขึ้นไปขโมยของ แต่สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ไม่อาจประสบความสำเร็จได้เหมือนหนังแอคชั่น เพราะเมื่อเพื่อนอีก 2 ราย ที่ขับมอเตอร์ไซค์ตามเกิดเสียหลักกลางทาง ลงไปนอนกับพื้น คนที่เหลือจะทำอย่างไรต่อจากนั้นล่ะ? อ่าวเฮ้ย! ค้นหาคำตอบได้ในคลิปนี้ เป็นคลิประบุปี 2017 (ต้องเปิดเสียงเพื่อความเร้าใจ) ที่มา: mothership
-
นักวิทยาศาสตร์ตัดต่อ DNA สร้าง “ไฮดราหลายหัว” เชื่ออาจมีประโยชน์ต่อวงการแพทย์
ยังจำตัว “ไฮดรา” ที่เราส่องดูกันในคาบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ได้อยู่ไหม? มันเป็นสัตว์น้ำขนาดเล็กที่พบได้ในแหล่งน้ำ ได้รับชื่อมาจากสัตว์ในตำนานของชาวกรีก และมีการสืบพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ เดิมทีแล้วไฮดรามีความสามารถในการงอกตัวเองขึ้นมาใหม่ได้จากชิ้นส่วนเพียงชิ้นเดียวของร่างกาย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่มันจะถูกมองว่าเป็นอมตะในสายตาของนักชีววิทยาหลายๆ คน ไฮดราโดยทั่วไป ว่าแต่เคยสงสัยกันไหมว่าอะไรกันที่ทำให้เจ้าสัตว์น้ำตัวเล็กๆ นี้สามารถงอกอวัยวะออกมาใหม่ได้แบบมีจำนวนเท่าเดิมไม่ขาดไม่เกินกัน นั่นเป็นข้อสงสัยที่ นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเจนีวาพยายามที่จะไข ในตอนที่พวกเขาทดลองตัดต่อ DNA ของไฮดรา และพบว่าหนึ่งในตัวอย่างทดลองของพวกเขาเกิดการงอกหัวจำนวนมากขึ้นมา จนมีสภาพราวกับสัตว์ประหลาดไป ไฮดราที่ถูกตัดต่อ DNA เดิมทีแล้วนักวิทยาศาสตร์ทราบว่าไฮดรานั้นอาศัยยีน “Wnt3” ในการงอกหัวใหม่ ถึงอย่างนั้นก็ตามพวกเขาก็เชื่อว่าไฮดราน่าจะมียีนอีกอย่างน้อยๆ หนึ่งตัวที่ใช้ควบคุมไม่ให้อวัยวะของมันงอกออกมามากกว่าที่ควรจะเป็น และหากมองจากที่ นักวิทยาศาสตร์พบว่ายีนที่มีการทำงานมากที่สุดในระหว่างการซ่อมแซมตัวเองของไฮดรา คือยีน Wnt3, Wnt5 และ Sp5 แล้วนักวิทยาศาสตร์ก็ให้ความสนใจยีนที่ชื่อว่า Sp5 เป็นอย่างมาก นั่นเพราะเมื่อพวกเขาลองหยุดการทำงานของยีน Sp5 ในตัวไฮดราดู เจ้าสัตว์น้ำตัวนี้ก็จะงอกหัวออกมาอย่างไม่สิ้นสุดทันทีที่หัวมันถูกตัด ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงลงความเห็นกันว่ายีน Sp5 น่าจะเป็นยีนที่ค่อยส่งสัญญาณหยุดการงอกของอวัยวะในตัวของสิ่งมีชีวิตนั่นเอง การงอกตัวของไฮดรา จริงอยู่ว่านี่อาจจะเหมือนกับการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ที่ดูคลั่งๆ ในหนังไม่มีผิด แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่เรารู้ว่ายีน Sp5 สามารถหยุดการงอกของอวัยวะได้นั้นนับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เลย เพราะนี่หมายความว่ายีน Sp5 อาจจะมีความสามารถในการหยุดการงอกของมะเร็งได้ และอาจส่งผลโดยตรงกับงานวิจัยทางการแพทย์ในอนาคตเลยก็เป็นได้…
-
แม่วัย 17 ตีลูกจนช้ำ เหตุไม่ยอมกินนม-ทำเครื่องสำอางตก ก่อนหอบลูกที่สิ้นใจไปร้องเพลงต่อ
* เนื้อหาภายในมีความรุนแรง อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจได้ * ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้แต่กระทั่งบุคคลที่เป็นแม่ หากไม่มีความเมตตาและเข้าใจธรรมชาติของลูกวัยแบเบาะ ก็อาจนำไปสู่เหตุความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น ข่าวดังกล่าวมาจากไต้หวัน หลังจากที่เด็กหญิงวัยเพียง 18 เดือน ถูกผู้เป็นแม่วัย 17 ปี ลงมือทุบตีอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากไม่ยอมดื่มนมและทำเครื่องสำอางของผู้เป็นแม่ตกกระจาย จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ ระบุว่าเหตุเกิดในวันที่ 15 มกราคม 2019 โดยเด็กกำเนิดขึ้นมาในช่วงที่ผู้เป็นพ่ออายุเพียง 20 ปี และผู้เป็นแม่มีอายุเพียง 16 ปี เท่านั้น อย่างไรก็ตาม พ่อกับแม่ก็แยกทางกันในช่วงปีที่ผ่านมา และผู้เป็นแม่ก็คือผู้เลี้ยงดูเด็กหลังจากนั้น จนกระทั่งแม่ได้ย้ายมาอยู่กับญาติพี่น้องผู้หญิงอีก 3 คน ที่อยู่ในช่วงวัย 20 เท่ากันหมด และมีชายวัย 27 ปี คนขับแท็กซี่ที่อาศัยร่วมด้วยกันอีก 1 คน รวมเป็นทั้งหมด 5 คน ในคืนวันเกิดเหตุสลด ผู้เป็นแม่ได้ลงมือทุบตีลูกน้อย ด้วยไม้เกาหลัง…
-
ของเล่นหรรษา “เซ็กส์ทอย” โมเดลแปลกใหม่ ชวนให้คิดถึงซีรีส์ Game of Thrones!!
Game of Thrones คือชื่อของท็อปซีรีส์สัญชาติอเมริกันที่มีผู้ชื่นชอบติดตามกันเป็นจำนวนมาก แม้แต่ในบ้านเราเองก็มีแฟนคลับอยู่ไม่ใช่น้อยกันเลยทีเดียว ในระหว่างที่หลายๆ คนต่างตั้งตารอคอยกับซีซั่น 8 ที่คาดว่าจะออกมาให้รับชมกันในปี 2019 นี้ #เหมียวตะปู ก็อยากจะแนะนำของเล่นคลายเหงาที่จะทำให้เรานึกถึงซีรีส์เรื่องนี้อยู่เสมอ ของเล่นที่ว่านั้นก็คือเหล่า “เซ็กส์ทอย” สุดอัศจรรย์ เสริมสร้างความหฤหรรษ์ให้กับชีวิต เป็นของเล่นที่จะชวนให้เราหวนคิดถึงเรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้ได้อย่างแจ่มชัด ทำเอาทนรอติดตามซีซั่นต่อไปแทบไม่ไหวกันเลย งั้นเราลองไปดูกันดีกว่าว่ามันมีอะไรกันบ้าง 1. Game of Moans – Long Shaft ให้อารมณ์เหมือนดาบของ Jon Snow หนึ่งในตัวละครหลักของเรื่อง แม้รูปร่างและขนาดของมันอาจเปลี่ยนไปจากที่เราเห็นกันสักเล็กน้อย แต่ต้องบอกเลยว่าประสิทธิภาพในการตีรันฟัน “แทง” นั้นยังคงอยู่ครบถ้วนกระบวนความ ราคาของดาบเล่มนี้อยู่ที่ 149 ดอลลาร์ฯ (ราว 4,730 บาท) สนใจรับชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ geekysextoys.com 2. Dragon Egg Bullet Vibrator Container พูดง่ายๆ…
-
ครูชาวสหรัฐฯ เข้าร่วมกับกลุ่ม ISIS สอนภาษาอังกฤษให้ ด้วยความใคร่รู้ว่าจะเป็นยังไง
กลายเป็นเรื่องที่ชวนช็อคสำหรับชาวสหรัฐฯ อยู่ไม่น้อย หลังจากที่มีการเปิดเผยออกมาว่า หนึ่งในกลุ่มก่อการร้ายแห่งยุคอย่าง ISIS จะมีบุคลากรทางการศึกษาชาวอเมริกันเข้าร่วมด้วย… คุณครูชาวเท็กซัสนามว่า Warren Christopher Clark วัย 34 ปี ผู้ถูกจับกุมตัวโดยกลุ่มนักรบชาวเคิร์ตที่มีสหรัฐฯ หนุนหลัง กล่าวว่าได้ทำงานให้กับกลุ่มรัฐอิสลามในฐานะครูสอนภาษาอังกฤษ และได้เห็นการประหารชีวิต การตรึงกางเขน ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี ที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับกลุ่มรัฐอิสลาม โดยล่าสุดนี้ Warren Clark ที่อยู่ภายใต้การจับกุมตัวของชาวเคิร์ต ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว NBC ว่า ไม่เคยเสียใจเลยที่ได้เข้าร่วมกับกลุ่ม ISIS โดยในระหว่างสัมภาษณ์ไม่มีเจ้าหน้าที่ชาวเคิร์ตอยู่ด้วย “ผมอยากจะเข้าไปเห็นกับตาว่ากลุ่มนี้มันเป็นยังไง และอยากจะรู้ว่าพวกเขาทำอะไร แน่นอน ผมได้เห็นคลิปวิดีโอมาบ้าง อย่างการตัดหัว นั่นคือการประหารชีวิต ผมมาจากสหรัฐอเมริกา จากรัฐเท็กซัส คนที่นี่ชอบประหารคนเช่นกัน ฉะนั้นแล้วผมจึงมองว่าไม่แตกต่างกันเลย พวกเขาอาจจะไม่ทำต่อหน้ากล้อง แต่มันก็เหมือนๆ กัน” Clark ให้สัมภาษณ์ …
-
หนุ่มเซ็งจัด ย้ายออฟฟิศมาใหม่ ไม่มีใครจัดการรูบนผนัง จัดเป็นนิทรรศการแดกดันแสบๆ
ในเรื่องของสถานที่ต่างๆ เมื่อย้ายมาใหม่แล้วก็ควรจะจัดการตกแต่งอะไรให้เสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้รับเหมาหรือเจ้าของตึกจะจัดการให้ได้ดีมากน้อยแค่ไหน… ตัวอย่างสุดแสบจากนาย Padraig Murphy ทำงานด้านกราฟิกดีไซเนอร์ สังเกตเห็นว่ามีรูว่างเปล่าเปลือยถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ในออฟฟิศใหม่ เขาก็เลยจัดการปั่นที่ทำงานด้วยทักษะด้านศิลปะที่เขามี เราเพิ่งย้ายมาออฟฟิศใหม่ แต่ปล่อยผนังเปลือยเปล่ามาหลายสัปดาห์แล้ว ผมรู้แล้วว่าควรจะจัดการยังไง . ทั้งนี้ วิธีการของเขาก็คือการจัดนิทรรศการศิลปะแบบง่ายๆ ข้างกับผนังอันเปลือยเปล่า โดยตั้งชื่อว่า ‘Exposed Wiring & Controls’ สายไฟและแผงควบคุมแบบเปลือยๆ อีกทั้งยังเป็นการแดกดันบริษัทของตัวเอง ที่ทำงานด้านสิ่งพิมพ์และการออกแบบอย่างแยบยล ชื่องานศิลป์ Exposed Wiring & Controls โดยผู้รับเหมาไม่ประสงค์ออกนาม ประกอบไปด้วยทองแดง และพลาสติกบนกำแพงอิฐ ผ่านไปเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาทำลงไปจึงเกิดผล ปิ๊ง!! แน่นอนว่างานเก่าถูกปิดไปแล้ว เขาก็ต้องอัพเดตชื่องานตามไปด้วย Blatant Patch Job งานปกปิดแบบบาดใจ ด้วยบอร์ด PVC กับกาว เมื่อเวลาผ่านไปนานหลายเดือน งานศิลป์สุดวิเศษชิ้นนี้เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง เขาบอกได้แค่ว่า เราก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ…
-
พบสิ่งมีชีวิตในทะเลสาบใต้น้ำแข็งหนา 1 ก.ม. ที่แอนตาร์กติกา เป็นครัสเตเชียและหมีน้ำ
ทะเลสาบเมอร์เซอร์ เป็นทะเลสาบในทวีปแอนตาร์กติกาที่มีจุดเด่นอยู่ที่การที่ตัวทะเลสาบถูกฝังอยู่ใต้น้ำแข็งหนา 1 กิโลเมตร ซึ่งหากคิดกันตามปกติแล้ว ไม่น่าที่จะมีสิ่งมีชีวิตใดๆ ไปอาศัยอยู่ได้ และแทบจะไม่เคยมีการสำรวจมาก่อน แต่แล้วเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมปี ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมา ทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ได้รับทุนจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกาในการนำสว่านน้ำแรงดันสูงเจาะลงไปใต้พื้นน้ำแข็ง เจาะเอาตัวอย่างโคลนใต้น้ำแข็งขึ้นมาตรวจสอบ มันเป็นโคลนที่เก็บเอาต้นไม้ เห็ดรา และตะไคร่น้ำ จากเมื่อราวๆ หนึ่งล้านปีก่อนในสมัยที่แอนตาร์กติกายังคงอบอุ่นเอาไว้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่การตรวจสอบดำเนินไปสักพักนักวิทยาศาสตร์ก็พบกลับเรื่องน่าสนใจเขาจนได้ นั่นเพราะที่ใต้น้ำแข็งหนากว่า 1 กิโลเมตรนั้น พวกเขากลับพบ “ครัสเตเชีย” สัตว์น้ำที่มีรูปร่างคล้ายกุ้ง และ “หมีน้ำ” (ชื่อทางวิทยาศาสตร์ “ทาร์ดิเกรด”) สัตว์ 8 ขาขนาดเล็ก ที่มีขนาดตัวเพียงราวๆ 1 มิลลิเมตรอยู่ที่นั่น สำหรับทีมนักสำรวจแล้ว การค้นพบในครั้งนี้นับว่าเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงมาก เพราะแม้ว่าสัตว์อย่างหมีน้ำจะได้ชื่อว่ามีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมสูงก็ตาม แต่สถานที่ที่ใกล้เคียงที่สุดที่เป็นแหล่งอาศัยที่เหมาะสมของมันก็อยู่ห่างจากที่แห่งนี้ถึง 80 กิโลเมตรเลยทีเดียว ความแปลกประหลาดนี้ นั่นทำให้เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2019 ที่ผ่านมา ทางนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการส่งสัตว์นำที่พบไปทำการตรวจสอบ DNA…
-
นักชีววิทยาพบยีน “หมาป่าแดง” ที่สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติแล้ว ในสุนัขป่าที่รัฐเท็กซัส
หมาป่าแดง (ไม่ใช่ยี่ห้อไวอากร้า) เดิมทีแล้วเป็นสัตว์ท้องถิ่นในรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา มีโดยมีลักษณะคล้ายหมาป่าสีเทา แต่มีความโดดเด่นอยู่ที่ลายสีน้ำตาลแดงที่หูศีรษะและขา ในช่วงปี 1967 พวกมันถูกประกาศให้เป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์โดยสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ IUCN หลังจากที่พวกมันถูกล่า และสูญเสียที่อยู่ตามธรรมชาติไปจากการกระทำของมนุษย์ แต่ถึงแม้จะมีการพยายามช่วยเหลือสายพันธุ์หมาป่าแดงอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้นก็ตาม ในช่วงยุค 1980 พวกมันก็ถูกประกาศให้เป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในที่สุด เหลือไว้เพียงกลุ่มที่ถูกเลี้ยงดูโดยมนุษย์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ยีนของหมาป่าแดงที่ถูกระบุว่าสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ กลับถูกค้นพบอีกครั้งในฝูงสุนัขป่าในรัฐเท็กซัสสร้างดีใจแก่นักชีววิทยาเป็นอย่างมาก สุนัขป่าที่มีการพบยีนหมาป่าแดงที่เชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้วในอดีต นี่เป็นการค้นพบที่เกิดขึ้นเมื่อนักชีววิทยาอย่าง Ron Wooten พบว่าสุนัขป่าที่ถูกรถชนในพื้นที่รัฐเท็กซัสมีลักษณะคล้ายหมาป่าแดงที่สูญพันธุ์ไป ดังนั้นเขาจึงส่ง DNA ของมันไปตรวจสอบและพบว่าสุนัขเหล่านี้มียีนของหมาป่าแดงอยู่ในตัวจริงๆ นี่นับว่าเป็นการค้นพบที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว เพราะในพื้นที่ใกล้เคียงกับที่มีการพบสุนัขซึ่งถูกรถชน ก็มีรายงานการพบเห็นหมาป่าแดงมาก่อนแล้วด้วย ดังนั้นจึงมีความเป็นได้สูงมากที่หมาป่าแดงตามธรรมชาติ จะยังไม่ได้สูญพันธุ์ไปอย่างที่เราคิดจริงๆ ภาพเปรียบเทียบหมาป่าสีแดง หมาป่าไคโยตี และสุนัขที่กัลเวสตัน จริงอยู่ที่ว่าหมาป่าแดงตามธรรมชาติที่พบนี้อาจจะไม่ใช่หมาป่าแดงสายเลือดบริสุทธิ์ก็ตาม แต่การค้นพบนี้ก็มากเพียงพอที่จะทำให้สถานะของหมาป่าแดงเปลี่ยนจาก “สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ” เป็น “เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ขั้นวิกฤติ” อีกครั้ง และแม้ว่านี้จะเป็นข่าวที่ค่อนข้างดีของทางนักชีววิทยาก็ตาม แต่กว่าที่สถานะของหมาป่าแดงจะกลับมาเป็นปกติได้จริงๆ ก็คงจะต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรเลยอยู่ดี ที่มา allthatsinteresting
-
ผู้ปกครอง “โดนปรับ” กว่า 40,000 บาท หาก “ให้ลูกขาดเรียน” ไปเที่ยวช่วงเปิดเทอม
ในวัยเด็ก เพื่อนๆ อาจเคยต้องลาเรียนเพื่อเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกับครอบครัวผู้ปกครอง แต่หากใครทำอย่างนั้นในเขต Lancashire ประเทศอังกฤษล่ะก็ คนเป็นพ่อเป็นแม่จะต้องเสียค่าปรับการหลายหมื่นบาทเลยนะ!! จากการรายงานในวันที่ 20 มกราคม 2019 เผยว่าทางสภาเขต Lancashire ได้ออกมาตรการ “ปรับเงินผู้ปกครอง” ถ้าหากว่าพวกเขาให้ลูกขาดเรียนเพื่อไปเที่ยวกันในช่วงเปิดเทอม สำหรับจำนวนเงินค่าปรับนั้นก็ถือว่าสูงไม่เบาเลยทีเดียว สูงสุดอยู่ที่ 1,000 ปอนด์ (ราวๆ 40,882 บาท) ต่อเด็กหนึ่งคนกับผู้ปกครองหนึ่งคน ง่ายๆ เลยก็คือ สมมุติมีลูกคนเดียว คนเป็นพ่อก็ต้องเสีย 1,000 คนเป็นแม่เสียอีก 1,000 รวมเป็น 2,000 ปอนด์ แต่หากพาลูก 2 คนไปเที่ยวพร้อมกัน คนเป็นพ่อก็ต้องจ่าย 2,000 ส่วนคนเป็นแม่ก็ต้องจ่ายอีก 2,000 รวมแล้วเป็น 4,000 ปอนด์ หรือกว่า 163,000 บาท!! นี่ถือว่าเป็นการเพิ่มค่าปรับขึ้นมาให้สูงกว่าเดิมมาก จากตอนแรกที่ผู้ปกครองจะโดนปรับในกรณีดังกล่าวสูงสุดเพียงแค่ 120 ปอนด์…
-
Inayat Kassam อีกหนึ่งฮีโร่ที่ควรยกย่อง พลเรือนช่วยชีวิตตัวประกัน จากโรงแรมดุสิต D2
หลังจากสื่อต่างๆ ได้นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มผู้ก่อการร้าย ทำการบุกเข้าโรงแรมดุสิต D2 ประเทศเคนยา ไปเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายแหล่งข่าวระบุว่ามีกองกำลังเข้าบุกกู้สถานการณ์หลายฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ของเคนยา และครูฝึกหนึ่งในหน่วยรบพิเศษ SAS ของอังกฤษ ข่าวเก่า: สื่อนอกตีข่าว หน่วยรบพิเศษอังกฤษลุยเดี่ยวต่อสู้ผู้ก่อการร้าย/ช่วยตัวประกัน ในเคนยา!! ซึ่งนอกเหนือจากเจ้าหน้าที่แล้ว หนึ่งในฮีโร่ที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่เป็นพลเรือนที่ทำงานทางด้านการรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นครูฝึกสอนการป้องกันตัว ทั้งการใช้มือเปล่าและอาวุธปืน เขามีชื่อว่านาย Inayat Kassam ชายวัย 52 ปี ผู้มาถึงจุดเกิดเหตุเป็นคนแรกๆ พร้อมกับอาวุธปืนพกติดตัวเพียงกระบอกเดียว . ด้วยสัญชาตญาณของเขา เขาไม่ได้ขึ้นตรงกับหน่วยงานใดๆ มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขาอยู่ตรงนั้น นั่นก็คือการช่วยเหลือตัวประกันที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ภายในโรงแรม นำตัวออกมาสู่พื้นที่ปลอดภัยให้สำเร็จและให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หนึ่งในตัวประกันที่กำลังอยู่ในอาการตื่นตระหนก เขากำชับกับเธอไว้ว่า ‘วันนี้ไม่ใช่วันของคุณ คุณจะไม่ตายในวันนี้’ เขากล่าวกับเธอในขณะที่นำตัวออกมาจากจุดเกิดเหตุสู่พื้นที่ปลอดภัย . จากภาพเหตุการณ์ทั้งหมด จะเห็นชายสวมใส่เสื้อสีเหลือง ใส่แว่นกันแดดคนนี้ รอคอยอยู่ด้านนอกโรงแรมและคุ้มกันตัวประกันออกมาในช่วงแรก ก่อนจะวิ่งเข้าไปรับตัวประกันออกมาทีละชุดๆ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ตามมาสมทบในภายหลัง …
-
อากาศร้อนจัด… “ประเทศออสเตรเลีย” พุ่งทะยาน 48 องศาฯ !! ถนนถึงกับละลาย?!
เพื่อนๆ หลายคนอาจได้ยินข่าวของพนักงานคาเฟ่ในออสเตรเลียทิ้ง “เนื้อดิบ” เอาไว้ในรถ แต่พอกลับมาอีกทีมันกลับสุกชนิดที่ว่าอยู่ในระดับ Well-Done ไปแล้ว?! อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: พนักงานคาเฟ่ออสเตรเลีย ทิ้งเนื้อดิบเอาไว้ในรถ ผ่านไป 4 ชม. เนื้อสุก ชาวเน็ตสงสัยปลอมรึเปล่า!! แม้เรื่องดังกล่าวยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือ ณ ตอนนี้ประเทศออสเตรเลียถือว่ามีอุณหภูมิความร้อนที่สูงเกินค่าเฉลี่ยเอามากๆ พุ่งสูงถึง 48 องศาเซลเซียสเข้าไปแล้ว!! จากการรายงานทางด้านภูมิอากาศในออสเตรเลียล่าสุด เผยให้เห็นภาพแผนที่สภาพอากาศที่มีบางที่ถึงกับเป็นสีดำ นั่นหมายความว่ามีอุณหภูมิความร้อนที่สูงมากนั่นเอง ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ อุณหภูมิได้พุ่งขึ้นไปสูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (1939-1945) ขึ้นไปแตะ 41 องศาฯ ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2019 ที่ผ่านมานี้ วันที่ 17 มกราคม อุณหภูมิในเมืองพอร์ทออกัสตา ทางตอนใต้ของประเทศ อุณหภูมิก็พุ่งสูงถึง 46 องศาฯ ในขณะที่วันก่อนหน้านั้น เมือง White Cliffs ก็ร้อนถึง 48.2 องศาฯ สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติมาเลย…
-
เชฟแดนปลาดิบโชว์สกิลสุดเจ๋ง จัดจานซูชิเป็นธีม ‘สตาวอร์ส’ ไม่น่าเชื่อว่าจะสวยขนาดนี้!!
เรื่องของอาหาร นอกจากจะต้องใช้เสน่ห์ปลายจวักทำให้อร่อยแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่มีส่วนเอามากๆ กับความสุนทรีย์ในการกินก็คือเรื่องของหน้าตาอาหาร ที่สามารถใช้ศิลปะตกแต่งให้ดูสวยงามเพิ่มคุณค่าให้กับมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ และในวันนี้ #เหมียวจิวยี่ จะพาเพื่อนๆ ไปดูศิลปะการแต่งจานซูชิ ที่ไม่ใช่มาเล่นๆ แต่ว่าในในธีม ‘สตาวอร์ส’ แล้วมันก็ดูงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ… สวยไหมล่ะ Okitsugu Kado เชฟพรสวรรค์จากแดนปลาดิบ คือคนที่จัดเรียงจานซูชิเหล่านี้ เขาทั้งแกะสลักผักต่างๆ ด้วยฝีมืออันเยี่ยมยอด และจัดเรียงสิ่งต่างๆ ได้อย่างลงตัวจนบางคนแทบจะไม่กล้าแตะอาหารเหล่านี้เลย (ก็มันสวยนี่เนาะ) เอาเป็นว่าอย่าเสียเวลา ไปดูศิลปะบนจานอาหารจากฝีมือของเขากันเลยดีกว่า แล้วคุณจะทึ่งจนอยากจับมีดมาลองแกะสลักบ้างแน่ๆ บอกทีว่านี่แตงกวาใช่ไหม น่ากินจริงๆ เล้ย ฝีมือเค้าเยี่ยมยอดจริมๆ ซามูไรมาเยือนเจ้าแล้ว ไม่กล้าตักกินเลยทีเดียว อย่างงามอ่ะ เจ้าฆ่าพ่อข้า เอ้าโทษๆ ผิดเรื่อง ดาร์ธเวเดอร์ แล้วนั่นตัวอะไรล่ะนี่ ทหารสตรอมทรูปเปอร์มาเข้าเวรแล้ว มีดในมือนี่มันสั่นไปหมด ที่มา: designyoutrust, grapee
-
โรงแรมในญี่ปุ่นไล่พนักงาน ‘หุ่นยนต์’ ออกครึ่งหนี่ง หลังสร้างปัญหามากกว่าช่วยงาน
ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีถูกพัฒนามาไกลมากๆ จนถึงขนาดที่ว่ามีโรงแรมที่จ้าง ‘หุ่นยนต์’ มาทำหน้าที่แทนมนุษย์กันแล้ว!? เรื่องมีอยู่ว่าโรงแรม Henn-na Hotel ของประเทศญี่ปุ่นได้สร้างความฮือฮาให้กับผู้คนทั่วโลกไปเมื่อปี 2015 ซึ่งพวกเขาได้ออกมาทำการประกาศว่าที่โรงแรมของพวกเขาได้ทำการจ้าง ‘หุ่นยนต์’ มากกว่า 243 ตัวเข้ามาทำงาน กลายเป็นโรงแรมแห่งแรกของโลกที่มีแต่พนักงานที่เป็นหุ่นยนต์ล้วนๆ ไม่มีคนผสม เมื่อวันเวลาผ่านไป กลับกลายเป็นว่า ‘ผลงาน’ ของบรรดาหุ่นยนต์นั้นช่างย่ำแย่เสียเหลือเกิน ด้วยความคาดหวังที่ว่า ‘หุ่นยนต์’ จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระงานของมนุษย์ แต่กลับกลายเป็นว่าสร้างปัญหาหนักยิ่งกว่าเดิมซะอีก ล่าสุดทางโรงแรมก็ได้ทำการ ‘ปลด’ หุ่นยนต์ออกไปจากโรงแรมแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง และทำการจ้าง ‘มนุษย์’ เข้ามาทำงานแทน และนี่คือตัวอย่างของปัญหาที่บรรดาหุ่นยนต์ได้สร้างขึ้นครับ เจ้าหุ่นยนต์ชื่อว่า Churi จะถูกติดตั้งไว้ในทุกๆ ห้อง คอยทำหน้าที่คล้ายกับผู้ช่วยเหลือ ที่จะคอยตอบคำถามที่บรรดาแขกผู้เข้าพักสงสัยและคอยบริการจุกจิกทั่วไป (คล้ายๆ กับ Siri หรือ Google Assistant ประมาณนี้) แต่กลายเป็นว่ามันไม่สามารถตอบคำถามได้ทั้งหมด บางอย่างก็เป็นข้อมูลที่ผิดพลาดซะงั้น ไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก ขณะเดียวกันที่โต๊ะฟรอนท์ของโรงแรม…
-
อยู่ๆ ทหารผ่านศึกผู้เป็น ‘อัมพาต’ ก็กลับมาเดินได้อีกครั้ง หลังได้บ้านฟรีจากองค์กรช่วยเหลือ!?
อาชีพ ‘ทหาร’ ถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก นั่นทำให้ในหลายๆ ประเทศจะมีองค์กรหรือหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือกับบรรดาทหารผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็มีทหารบางคนที่ใช้ช่องโหว่ของสวัสดิการดังกล่าวเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ดังเช่นเรื่องราวต่อไปนี้ครับ… Justin Perez-Gorda ทหารผ่านศึก ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวจากการไปประจำการที่อัฟกานิสถานเมื่อปี 2011 จนทำให้เขาต้องป่วยเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต ภรรยาของเขาอ้างว่าจากการบาดเจ็บในครั้งนั้นทำให้ร่างกายครึ่งล่างของเขาตั้งแต่ท้องลงไป ไม่สามารถใช้งานได้ปกติอีกครั้ง และต้องนั่งรถเข็นอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เององค์กร Homes for Our Troops จึงจัดระดมทุนเพื่อซื้อบ้านในเขตชนบท Hays County รัฐเท็กซัส ให้กับเขาและครอบครัวมูลค่ากว่า 380,000 เหรียญสหรัฐ (12 ล้านบาท) หลังจากที่พวกเขาย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวได้ไม่นาน ช่วงปลายปี 2013 ก็มีคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เผยให้เห็นว่านาย Justin เดินปร๋อออกมาจากบ้านซะงั้น!? ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยครับ หลังจากนั้นไม่นานเมื่อข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดไปทั่ว Bill Ivey ผู้อำนวยการขององค์กร Homes for Our Troops ก็รีบเดินทางไปที่บ้านของเขาทันที และปรากฏว่านาย Justin มัวแต่หลบอยู่ในห้องนอนและไม่ยอมออกมาพบ…
-
ชาวเน็ตตื่นเต้น ‘ภาพไข่’ ที่มียอดไลก์มากที่สุดในอินสตาแกรม จู่ๆ ก็มีรอยแตก!?
ใครเล่าจะคิดว่า ‘ภาพไข่’ ธรรมดาๆ มันจะกลายเป็น ‘ภาพที่มียอดไลก์มากที่สุดในอินสตาแกรม’ ไปซะได้!? ขอแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับแอคเคาทน์อินสตาแกรมที่มีชื่อว่า world_record_egg เป็นไอจีธรรมดาๆ นี่แหละ ที่มีเพียงภาพไข่ไก่ภาพเดียว แต่ความพิเศษของมันอยู่ที่ ‘จำนวนยอดไลก์’ ภาพไข่ ที่กลายเป็นสถิติภาพในอินสตาแกรมที่มียอดไลก์มากที่สุด เป็นจำนวนทั้งสิ้น 49,521,148 ไลก์ด้วยกัน!! ภาพดังกล่าวถูกโพสต์ไว้เหมือนกับการตั้งเป็นแคมเปญสร้างสถิติโลก โดยมีแคปชันภาพว่า “เรามาช่วยกันสร้างสถิติโลกด้วยกัน ทำให้ภาพนี้กลายเป็นภาพที่มียอดไลก์มากที่สุดในอินสตาแกรม แทนที่ภาพของ Kylie Jenner ที่มียอดไลก์ 18 ล้านครั้งกันเถอะ” ภาพไข่ดังกล่าวถูกโพสต์ไปเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา ผ่านไปแค่ 2 อาทิตย์ ก็มีคนแห่เข้ามากดไลก์กันมากมายจนแซงหน้าภาพของ Kylie Jenner เจ้าของสถิติเดิมไปแล้วเกือบ 3 เท่าด้วยกัน ภาพไข่ดังกล่าวที่เป็นสถิติโลกอยู่ ณ ตอนนี้ https://www.instagram.com/p/BsOGulcndj-/?utm_source=ig_embed แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2562 ที่ผ่านมาก็เกิดเรื่องน่าตกใจขึ้น…
-
สาวประกาศขาย Xbox ของอดีตสามี หาเงินไปซื้อ ‘มีดทำครัว’ เพราะอันเก่าปักคายางรถของเขา!!
เรียกได้ว่าเจ็บแสบจริงๆ กับการกระทำของภรรยาที่ถูกสามีนอกใจ เอา Xbox เครื่องโปรดของเขาไปลงโฆษณาขายในราคาแค่ 3 ปอนด์ เพื่อนำเงินที่ได้มาไปซื้อ ‘มีดทำครัวอันใหม่’ เพราะอันเก่ามันปักคาอยู่ที่ยางรถยนต์ของเขา!! Georgia Jackson หญิงสาววัย 24 ปี จากเมือง Newbiggin เขต Northumberland ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ จับได้ว่าสามีของตัวเองนอกใจ แถมยังทำมานานแล้วด้วย ก็เลยเกิดอาการปรี๊ดสุดๆ คุณแม่ลูกหนึ่งเล่าว่าเธอแต่งงานกับสามีคนนี้มา 4 ปีแล้ว และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอจับได้ว่าเขานอกใจ ย้อนกลับไปในปี 2016 1 ครั้ง และอีกครั้งก็คือเมื่อปีก่อน ซึ่งเป็นปีที่เธอตั้งท้องอยู่ เมื่อความอดทนมาถึงขีดสุด จึงทำให้เธอเลือกที่จะไม่ทนอีกต่อไป ด้วยความโมโหคุณแม่ก็เลยเอาเครื่อง Xbox พร้อมกับหูฟังเกมมิ่งระดับเทพ รวมๆ แล้วราคา 230 ปอนด์ (9,400 บาท) ไปลงโฆษณาขายผ่านทางออนไลน์ ในราคาแค่ 3 ปอนด์ (123 บาท) เท่านั้นเอง!!…
-
‘จอช โบรลิน’ ผู้แสดงเป็น ‘ธานอส’ โพสต์ภาพ 10 Year Challenge สมัยธานอสยังมีผมสุดฮา
เมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมามีชาเลนจ์หนึ่งที่ฮอตฮิตแบบสุดๆ ไม่ว่าจะในโซเชียลมีเดียไหนๆ ต่างก็มีคนเล่นตามกันอย่างมากมายสำหรับ ’10 Year Challenge’ ชาเลนจ์ที่คุณจะต้องเลือกรูปเมื่อ 10 ปีที่แล้วมาเปรียบเทียบกับ 10 ปีต่อมา แต่คงไม่มีใครเคยเห็นแน่ๆ กับภาพของ ‘ธานอส’ ตัวละครม่วงๆ แห่งจักรวาลมาร์เวล ว่าสมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้วว่าเป็นยังไง แล้วมันจะฮาได้ขนาดไหนกันนะ… โดยคนที่โพสต์ภาพฮาๆ ของธานอสสมัย 10 ปีที่แล้วลงในโซเชียล ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือ ‘จอช โบรลิน’ ผู้รับบทเล่นเป็นธานอสนั่นเอง ซึ่งเขาได้เผยภาพลงใน IG: joshbrolin ของเขาเอง… มีผมด้วยเท่ปะล่ะ https://www.instagram.com/p/BsyEIZ6FqEp/ “ว้าว มันก็ผ่านมา 10 ปีแล้วสินะ ผมลองมองดูตัวเองในอดีตแล้วก็แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองจริงๆ ทั้งไม่มีระเบียบอะไรในชีวิต แต่ยังดีที่มีผมอยู่นะ แถมยังใส่สร้อยคออีกด้วยฮ่าๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่” “แต่ก็นั่นแหละหัวของผมเริ่มเปลี่ยนไปแล้วตอนนี้ เหมือนๆ กับคนกว่า 50% ที่ผมเจอนั่นแหละ ฮ่าๆ (หมายถึงหัวเริ่มล้านนั่นเอง)” คำแปลคร่าวๆ จากแคปชั่น ส่วนภาพนี้ต้นแบบก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเพราะเขาคือพ่อหนุ่มหุ่นล่ำกล้ามโตนามว่า Dwayne ‘The…
-
สาวส่งข้อความสุดทรงพลัง ตอกกลับคนที่ชอบหัวเราะเยาะคนอื่นเรื่อง ‘รูปร่าง’ จนเป็นไวรัล!!
ในโลกทุกวันนี้เรื่องของ ‘รูปร่างหน้าตา’ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นเรื่องที่ผู้คนมักจะนำมาพูดวิจารณ์กันไปต่างๆ นานาอย่างคนนั้นผอม คนนี้อ้วน คนนั้นดำ คนนี้ขาว หรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่ว่าเอาเข้าจริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องความพึงพอใจของแต่ละคนเสียซะมากกว่า ที่พอใจว่าตัวเองจะมีรูปร่างเป็นเช่นไร และถ้าหากลองมาดูคำพูดของผู้หญิงคนนี้แล้ว บางทีเราอาจจะมองเห็นถึงมุมมองอีกด้านหนึ่งมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้… เมื่อไม่นานมานี้มีอยู่วันหนึ่งที่สาวชาวนิวซีแลนด์ชื่อว่า Shelly Proebstel ไปเที่ยวทะเล แล้วเธอใส่บิกินี่เดินอยู่บริเวณริมหาด Mt Maunganui Beach ในประเทศนิวซีแลนด์ แต่ว่าเธอกลับถูกกลุ่มชายหนุ่มจ้องมองและหัวเราะเยาะใส่ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘หุ่นอย่างเธอกล้าใส่บิกินี่มาเดินในที่สาธารณะอย่างนี้ได้อย่างไรกันนี่’ ทว่าแทนที่เธอจะยอมให้คำพูดเหยียดหยาดเหล่านั้นมาทำร้ายจิตใจ เธอกลับลุกขึ้นสู้ด้วยการส่งข้อความสุดพีคที่แสนจะถูกใจชาวเน็ตซะเหลือเกิน จนได้รับการแชร์ต่อไปกว่า 8,000 ครั้งเลยทีเดียว และนี่คือข้อความที่เธออยากจะส่งให้กับคนที่ชอบวิจารณ์ผู้อื่นเรื่องรูปร่าง ได้อ่าน… “ถึงผู้ชายที่จ้องมองแล้วหัวเราะเยาะฉัน ตอนที่ฉันไปพักผ่อนที่หาดแล้วใส่ชุดบิกินี่อวดสายตาชาวโลก ฉันอยากจะบอกว่า (ขอโทษเรื่องการใช้คำนะ แต่…) Fuck You!!” “เพราะมีพวกไอ้บื้ออย่างพวกคุณ เลยทำให้มีผู้คนมากมายต้องมาไม่มั่นใจในภาพลักษณ์ของตัวเอง” “เพราะพวกไอ้บื้ออย่างพวกคุณถึงทำให้ผู้หญิงรู้สึกไม่ปลอดภัย และมีความมั่นใจลดลงเวลาที่ใส่ชุดต่างๆ อย่างบิกินี่ ชุดเอวลอย หรือเดรสสั้นในโอกาสต่างๆ” “เพราะพวกคนอย่างคุณ ทำให้หลายคนต้องอดอาหารแล้วทำให้ตัวเองให้ดูป่วยๆ เพื่อที่จะได้มีรูปร่างเหมือน ‘นางแบบ’ และเพราะคนอย่างพวกคุณอีกนั่นแหละ…
-
กองทัพอังกฤษทดสอบเครื่องไอพ่น พร้อมเผยคลิปพลทหาร “บินได้” คนแรกของโลก
ถ้าหากคุณมีโอกาสทันใช้ iPhone 4 ล่ะก็ (อ่า… รู้เลยว่าอายุเท่าไหร่ ฮ่าๆ) อาจจะคุ้นเคยกับเกมมือถือยอดฮิตอย่าง Jetpack joyride ที่ให้เราสวมบทบาทของหน่วยรบพิเศษผู้มาพร้อมกับเครื่องไอพ่น วิ่งตะลุยสะสมเหรียญให้ได้มากที่สุด เครื่องยนต์ของตัวเอกในเกมสุดฮิตนั้น ดูเหมือนว่าจะถูกทำให้มันสามารถใช้งานได้จริงแล้ว หลังจากที่มีการเผยคลิปทดสอบการใช้งานเครื่องไอพ่น ของกองทัพอังกฤษ อืม… คล้ายๆ อยู่นะว่าไหม เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2019 สื่อต่างประเทศได้รายงานการทดสอบดังกล่าว พร้อมเผยแพร่คลิปวิดีโอการทดสอบเครื่องไอพ่นนี้ ตามรายงานเผยว่านายทหาร Richard Browning ผู้คิดค้นเครื่องไอพ่นสุดล้ำเครื่องนี้ ได้ทำการทดสอบสิ่งประดิษฐ์ของเขา โดยสวมเครื่องไอพ่นไว้ที่แขนทั้งสองข้างก่อนที่จะลอยขึ้นไปเหนือพื้นราวๆ 2 เมตร ซึ่งเครื่องยนต์ที่ Richard สวมใส่นั้นให้กำลังมากถึง 1,000 แรงม้า และมันสามารถทำให้เขาเคลื่อนที่ไปด้านหน้าด้วยความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. ด้วยกัน นายทหารคนดังกล่าวสาธิตการทำงานของเครื่องโดยการกระโดดเบาๆ ก่อนที่เครื่องไอพ่นที่มือของเขาจะทำงานและส่งให้ตัวเขาลอยขึ้นเหนือพื้น และนอกจากนี้เขายังแสดงทักษะการลงจอดอย่างนิ่มนวลให้ได้ชมอีกด้วย เครื่องไอพ่นชิ้นนี้ได้ทำการทดสอบที่ศูนย์ฝึก Commando Training Centre Royal Marines ในเมือง Lympstone ประเทศอังกฤษ Richard ให้สัมภาษณ์ว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาสามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยรบพิเศษได้ และมันจะช่วยให้ทหารสามารถเข้าไปในพื้นที่ที่เข้าถึงยากได้…
-
ขนมไข่ช็อกโกแลตอายุมากกว่า 50 ปี ไม่เคยถูกแกะออกมาเลย เพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจ
หากย้อนกลับไปในช่วงยุคอดีต หนึ่งในขนมที่เพื่อนๆ ชอบมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ‘ขนมไข่ช็อกโกแลต’ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะไอ้ยี่ห้อที่มีฟอยล์ห่อด้วยนะ การแกะมันออกมาได้เห็นผิวอันเรียบเนียนของช็อกโกแลตทั้งลูก มันเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ บางครั้งก็ถึงขนาดว่าแค่ซื้อมาลอกฟอยล์ออกอย่างเดียว เอาช็อกโกแลตทิ้งไปก็มี แต่สำหรับหญิงสาวคนนี้แล้ว เธอกลับแสดงให้เห็นถึงความอดทนอดกลั้นได้เป็นอย่างดี เพราะเธอมีขนมช็อกโกแลตไข่ห่อฟอยล์แบบนี้อยู่ลูกหนึ่ง และมัมมีอายุมากกว่า 50 ปี!! Ainslie Peters หญิงสาววัย 48 ปี ผู้เป็นเจ้าของเจ้าขนมช็อกโกแลตไข่ห่อฟอยล์ยี่ห้อ Cadbury Creme Egg ลูกนี้ จริงๆ แล้วที่เธอไม่ยอมแกะมันออกมาจากฟอยล์เลย ก็เพราะว่าเจ้าไข่ลูกนี้มันมีเบื้องหลังอยู่นั่นเองครับ ซึ่งเจ้าไข่ลูกนี้จริงๆ แล้วเป็นของ Jean Peters คุณย่าของเธอ คุณย่า Jean ได้รับไข่ลูกนี้มาจากการเดตครั้งแรกของเธอตั้งแต่ปี 1973 จากนั้นในปีต่อมา คุณย่าก็ตัดสินใจแต่งงานกับคู่เดตคนนั้น และเธอก็เก็บเจ้าของขวัญชิ้นนั้นมาโดยตลอด 50 กว่าปี เคียงคู่กับชายที่มอบมันให้กับเธอ แต่น่าเศร้าที่เขาจากไปก่อนในปี 1981 ทำให้เธอต้องเป็นหม้ายนับแต่นั้นมา …
-
ชายหนุ่มอ้าง เด็กหญิง 11 ขวบแอบนำ “อสุจิ” ของตนไปผสมเทียม จนทำให้ตั้งครรภ์
กลายเป็นคดีความที่สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อชายคนหนึ่งถูกจับกุมตัว หลังจากที่เด็กหญิง (ไม่ระบุชื่อ) วัย 11 ปีที่รู้จักกับเขาตั้งครรภ์และคลอดลูกออกมา และพบว่าพ่อของเด็กก็คือชายคนนี้ ผลจากการตรวจ DNA ทำให้ Robert Cronin ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าตนเองคือพ่อของเด็ก ซึ่งเขาก็ยอมรับในเรื่องนั้น เพียงแค่บอกว่าตนเองไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงเลยแม้แต่น้อย?! นาย Robert ผู้ต้องหาของคดีดังกล่าว จากการรายงานในวันที่ 18 มกราคม 2019 กล่าวว่า Robert ยอมรับว่าตนเองเป็นพ่อเด็กจริงตามผลตรวจ DNA แต่เขายืนยันว่า “ไม่ได้ทำการล่วงละเมิดทางเพศหรือกระทำชำเรา” เด็กหญิงอย่างที่คนอื่นๆ เข้าใจ เขาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เด็กหญิงได้ใช้ “อสุจิ” ของเขาจากเศษเสื้อผ้าที่เขาเคยใช้ในการช่วยตัวเอง ก่อนที่จะ “ผสมเทียม” หรือก็คือการเอาอสุจิของเขาฉีดเข้าไปในช่องคลอดของตัวเองจนตั้งครรภ์ กล่าวคือ Robert ต้องการจะสื่อว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิดใดๆ เด็กหญิงเป็นคนทำทุกอย่างด้วยตัวเองจนตั้งครรภ์ แน่นอนว่ามันฟังดูเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเอามากๆ ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามประมาณว่า “คุณรู้ใช่มั้ยว่าผู้คนจะทำใจได้ยากขนาดไหนถึงจะเชื่อในสิ่งที่คุณพูดได้?” คำตอบจากปากของเขาก็คือ “ผมรู้” แม้ Robert จะทราบดีว่าสิ่งที่เขาต้องการจะให้ทุกคนเชื่อนั้นมันฟังดูไม่เป็นไปตามครรลองคลองธรรมของอะไรหลายๆ…
-
มีมแรกแห่งปี 2019 ‘ซาสึเกะโดนบีบคอ’ สุดฮาชาวเน็ตปั่นกันเละซะแทบไม่เหลือเค้านินจา!!
สำหรับโลกอินเทอร์เน็ตนั้น Meme หรือ ‘มีม’ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เรียกเสียงฮาได้ไม่แพ้อย่างอื่นเลยจริงๆ ดังเช่นในอดีตที่มีมีมตลกๆ มากมายออกมาได้ไปตัดต่อเล่นกันขำๆ และเมื่อก้าวสู่ปี 2019 นี้ลองเดาสิว่ามีมแรกของปีจะเป็นเช่นไรกัน ติ๊กต่อกๆ คิดกันไม่ออกใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็เฉลยแล้วกัน มีมนั้นคือตัวละครชื่อว่าซาสึเกะ จากการ์ตูนเรื่อง ‘นารูโตะ’ นั่นเอง โดยที่มาของเรื่องนี้คือฉากหนึ่งใน Naruto Shippuden ตอนที่ 259 ซึ่งเป็นฉากที่อุจิวะ อิทาจิ บีบคอซาสึเกะเพื่อพูดถึงเรื่องความอ่อนแอของเขานั่นเอง ฉากการบีบคอที่ว่านี้ จากนั้นเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ชื่อว่า @mazarenai ก็เห็นว่าฉากนี้มันน่าจะเอาไปทำอะไรฮาๆ ได้เขาเลยตัดต่อเป็นภาพแมวกำลังบีบคอซาสึเกะซะอย่างงั้น ต่อมาโพสต์นี้ก็ฮิตแบบกระจุยกระจายมีการรีทวีตไปกว่า 10,000 ครั้งแล้วก็มีคนทำตามอย่างมากมายด้วยภาพต้นฉบับที่มีคนตัดมาแจก ภาพต้นฉบับที่ว่านี้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นคงไม่ต้องถาม ชาวเน็ตเล่นกันเละซิครับงานนี้ เลยกลายเป็นความฮาไปโดยปริยาย ไหนว่าไม่ทำร้ายใครไง น้องสไปเดอร์ นายมันอ่อนน่ะ ซาสึเกะ เอ๋ ผิดเรื่องรึเปล่านะ เปล่านะไม่ใช่ผม …
-
เจ้าบู หมาที่น่ารักที่สุดในโลกขวัญใจชาวเน็ต จากโลกใบนี้ไปด้วยวัย 12 ปี
สุนัข สัตว์ที่มนุษย์ยกย่องให้ว่ามันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา พวกมันจะคอยมอบความสุข ความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์และความจริงใจให้แก่ผู้เป็นเจ้านาย จนกระทั่งวันที่ลมหายใจสุดท้ายของมันมาถึง เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวสุดเศร้าของสุนัขตัวหนึ่ง สุนัขที่ได้รับสมญานามว่า เป็นสุนัขที่น่ารักที่สุดในโลก ชื่อว่า เจ้าบู (Boo) เจ้าบู เป็นสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนที่ได้รับการชื่นชมจากโลกออนไลน์และยกให้เป็นสุนัขที่น่ารักที่สุดในโลกเมื่อหลายปีก่อน ด้วยหน้าที่กลมบ๊อก บวกกับตาแป๋วๆ ของมันที่สะกดให้ชาวเน็ตต่างหลงรักมันสุดหัวใจ . เจ้าบู มีผู้ติดตามทางเฟซบุ๊กถึง 16 ล้านคนเนื่องมาจากความน่ารักของมัน คุณ Irene เจ้าของของเจ้าบูมักจะอัปภาพความน่ารักของมันให้ชาวเน็ตให้ได้รับชมอยู่เสมอตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา แต่เรื่องสุดเศร้าเริ่มขึ้นหลังจากที่เจ้าบัดดี้ หมาน้อยเพื่อนรักของบูจากโลกไปนี้ไป จากนั้นมาเจ้าของก็สังเกตเห็นความซึมเศร้าของบูที่ดูเสียใจกับการจากไปของเพื่อนรักของมัน มันเริ่มป่วย เจ้าของจึงคิดว่ามันอาจจะเสียใจและตรอมใจที่เพื่อนรักของมันจากไปตลอดกาล…. หนึ่งปีหลังจากที่เจ้าบัดดี้เสียชีวิตไป บูก็อยู่ในอาการซึมเศร้าและป่วย จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตมันมาถึง เจ้าบูหลับไปตลอดกาลโดยที่ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย มันจากโลกนี้ไปอย่างสงบด้วยวัย 12 ปี และเวลานี้ เพื่อนรักทั้งสองคงจะได้พบกันและวิ่งเล่นบนสวรรค์แล้ว ขอบคุณที่มอบความสุขให้กับมนุษย์กว่า 16 ล้านคนบนโลกนี้นะ …
-
เด็กนักเรียนร่วมวาดภาพ และนำไปแปะที่ ‘โลงศพ’ ของคุณครู เพื่อเป็นการส่งครั้งสุดท้าย
วาระสุดท้ายของคุณครูผู้อุทิศตนเพื่อการสอนให้กับบรรดาเด็กนักเรียนมาตลอดเกือบค่อนชีวิตของเธอ กลายเป็นเรื่องน่าประทับใจที่จะติดอยู่ในความทรงจำของใครต่อใครไปอีกแสนนาน คุณครู Sue East วัย 58 ปี ได้ลาจากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้าเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา หลังจากที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายมาได้สักระยะแล้ว ก่อนจะเสียไปคุณครูได้เขียนจดหมายส่งไปให้กับเด็กๆ ในโรงเรียน เพื่อขอบคุณสำหรับ ‘มิตรภาพ และความสนุก’ ที่เด็กๆ มอบให้เธอมาโดยตลอด ใจความในจดหมายมีท่อนหนึ่งที่ถูกยกมาจากงานเขียนของ C.S Lewis เมื่อปี 1952 เรื่อง The Voyage of the Dawn Treader มาไว้ด้วย ใจความว่า “จงอย่าลืมว่าเราจะสามารถพบกับ ‘ละอองปีกของนางฟ้า’ ได้ในทุกๆ สถานการณ์ ไม่ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม” โดยปกติแล้วในนวนิยายต่างๆ ‘ละอองปีกของนางฟ้า’ จะมีฤทธิ์ที่ช่วยเยียวยาอาการบาดเจ็บได้ หรือในบางเรื่องก็สามารถทำให้คนตายฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้เลยทีเดียว สิ่งที่คุณครูจะสื่อก็คือไม่ว่าชีวิตมันจะยากแค่ไหน แต่ชีวิตมันก็ต้องมีทางออกอยู่เสมอ แต่ที่ยกเรื่องของนางฟ้าขึ้นมาก็เพราะว่ามันเป็นหนึ่งในตัวละครเอกที่อยู่ในนิทานที่เธอมักจะเล่าให้บรรดาเด็กๆ ฟังอยู่บ่อยๆ ในวันที่ 17 มกราคม…
-
เจ้าหมาสุดฟิต ร่วมวิ่ง 400 เมตรชายในการแข่งขันกรีฑาระดับชาติ สุดท้ายเอาชนะได้ซะด้วย!!
กลายเป็นการแข่งขันกีฬาสุดน่ารักไปโดยปริยาย ในการแข่งขันกรีฑาแห่งชาติที่ประเทศชิลี เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ในการแข่งวิ่ง 400 เมตรชาย สองนั่งวิ่งขับเคี่ยวกันมาอย่างคู่คี่สูสี ต่างคนต่างก็ไม่ยอมกัน แต่การแข่งขันย่อมต้องมีแพ้มีชนะ หนึ่งในสองคนนี้จะต้องมีคนหนึ่งที่กลายเป็นผู้ชนะ และอีกคนหนึ่งต้องกลายเป็นผู้แพ้ แต่ใครเล่าจะคิดว่าจู่ๆ นักกีฬาทั้งสองคนจะกลายเป็น ‘ผู้แพ้’ ไปทั้งคู่ซะได้!? เพราะจู่ๆ ก็มีเจ้าหมาตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาร่วมการแข่งขัน และดูท่ามันจะเอาจริงเอาจังไม่น้อย วิ่งควบคู่ไปกับนักกีฬาชายทั้งสองคน ในช่วงสุดท้ายการแข่งขันคู่คี่สูสีมากๆ ฝ่ายมนุษย์เองก็ไม่ยอมแพ้ แต่ทว่าด้วยความเหนื่อยล้า นักกีฬาคนหนึ่งก็ล้มลงไป และในที่สุด คนที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่หนึ่ง ก็ไม่ใช่นักกีฬา แต่เป็น ‘เจ้าหมา’ ไปซะได้!! ตามรายงานระบุเอาไว้ว่าไม่ทราบว่าเจ้าหมาตัวนี้มาจากไหน แต่จากคำบรรยายใต้คลิปวิดีโอได้เขียนกำกับเอาไว้ว่าเจ้าหมาตัวนี้พยายามที่จะเข้ามาร่วมการแข่งขันก่อนหน้านี้แล้วหลายครั้ง แต่โดนเจ้าหน้าที่จับตัวออกไปได้ก่อน (แหม่ จะกระสันอะไรเบอร์นั้นล่ะเจ้าหมา) และเมื่อมาถึงการแข่งขันวิ่งชาย 400 เมตร เจ้าหน้าที่เผลอแว๊บเดียว มันก็วิ่งเข้ามาในลู่วิ่งเพื่อทำการแข่งขันเพื่อมาวัดความเร็วกับนักกีฬาอย่างหน้าตาเฉย แถมยังวิ่งบนลู่วิ่งราวกับว่ารู้กติกาการแข่งขันเป็นอย่างดี ลองไปชมคลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แหม่ ขอบอกเลยว่าเร็วจริงๆ แถมยังวิ่งอึดอีกต่างหาก…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจกลายเป็นเซเลบชั่วข้ามคืน เพราะมีชื่อว่า Rob Banks (ปล้น ธนาคาร)!!
บางครั้งเรื่องตลกๆ มันก็มักจะมาโดยไม่บอกไม่กล่าวเราได้เหมือนกัน เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่จู่ๆ ก็มีเรื่องฮาๆ เกิดขึ้นในรายการทีวี ทั้งๆ ที่มันก็เป็นการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจแบบธรรมดาๆ ผ่านทางช่อง ITV News West Country เมื่อคืนวันที่ 17 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา แต่จู่ๆ ชาวเน็ตก็ไปสังเกตเห็นชื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้น ที่ขึ้นมาบนหน้าจอ…ใครเล่าจะคิดว่าเขาจะมีชื่อว่า Rob Banks (ปล้น ธนาคาร) กันล่ะเนี่ย!? แม้ว่าไอ้แถบชื่อนั้นจะโผล่ขึ้นมาแค่แวบเดียว แต่ชาวเน็ตก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเก็บเอาไว้ได้ทัน!! จากนั้นก็เอามาโพสต์ต่อในโซเชียลกันรัวๆ!! “รางวัลชื่อตำรวจที่ดีที่สุดได้แก่…” “รางวัลชื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดีที่สุดในปี 2019 ได้แก่…” “เชื่อเลยว่าอาชีพที่เขาเลือกทำในตอนนี้ น่าจะมาจากการที่ตอนใกล้เรียนจบเขามักจะถูกถามอยู่บ่อยๆ แบบว่า ‘นายจะทำอาชีพอะไรหลังจากเรียนจบไปเหรอ Rob Banks? (ปล้นธนาคารเหรอ?)’” “ให้ตายเถอะเขาดูหล่อนะ ขอบคุณที่แนะนำให้ฉันได้รู้จักกับชายที่จะกลายมาเป็นสามีในอนาคตของฉัน” ทวีตเกี่ยวกับชื่อของตำรวจนายนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดไลก์กดแชร์กันไปรวมๆ แล้วกว่า 100,000 ครั้ง แม้แต่ทวิตเตอร์ของทางช่อง …
-
ชาวนิวซีแลนด์เจอ ‘นักท่องเที่ยวจากนรก’ ทิ้งขยะเรี่ยราด/ขโมยของ แม้แต่เด็กก็ยังห้าว!!
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวพฤติกรรมแย่ๆ ของบรรดานักท่องเที่ยวมาบ้าง แต่เชื่อเลยว่าที่ไหนคงไม่แย่เท่านี้อย่างแน่นอน!! เรื่องมีอยู่ว่าครอบครัวชาวอังกฤษครอบครัวหนึ่งไปเที่ยวช่วงวันหยุดฮอลิเดย์ที่ประเทศนิวซีแลนด์ และปรากฏว่าไปสร้างวีรกรรมแย่ๆ ไว้มากมายจนทำเอาชาวนิวซีแลนด์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก!! เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์โดยชาวเน็ตรายหนึ่งชื่อว่า gayquicksilver เขาเล่าว่า “ตอนนี้ที่นิวซีแลนด์กำลังมีเรื่องดราม่าอยู่ มีครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษมาเที่ยวที่นี่ และทำนิสัยแย่ๆ แบบชนิดที่ไม่ควรให้อภัย จนทำเอาคนครึ่งประเทศไม่พอใจ” “พวกเขามาเที่ยวที่นี่เป็นเวลา 5 วันยังไม่ถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำ ผู้คนได้ทำการแชร์พฤติกรรมแย่ๆ ของพวกเขา ทั้งการทิ้งขยะเรี่ยราดบนหาด Takapuna (เป็นหนึ่งในหาดที่ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้) พอมีคนไปเตือนก็ทำพฤติกรรมก้าวร้าวใส่” “รวมไปถึงเด็กอายุ 5 ขวบ ที่พูดกับคนเตือนว่า ‘กรูจะตบหัวของเอ็งให้กระจุยเลย’ พร้อมกับชูนิ้วกลางใส่ ดูท่าทางเขาจะเมาด้วยนะนั่น” “ล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมาตำรวจได้รับแจ้งให้ไปที่ร้าน Burger King สาขา Hamilton ซึ่งเป็นไอ้ครอบครัวเจ้าปัญหานี้แหละกำลังด่าพนักงานอยู่เพื่อขออาหารฟรี” “หลังจากนั้นไม่นานผู้หญิงที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่ถูกตำรวจจับเพราะไปขโมยแว่นกันแดดและเครื่องดื่มจากร้านสะดวกซื้อที่ปั๊มน้ำมัน” ชาวนิวซีแลนด์หลายคนถ่ายคลิปพฤติกรรมแย่ๆ ของครอบครัวนี้เอาไว้และเอามาแชร์ในโลกออนไลน์ พฤติกรรมก้าวร้าวของเด็ก ทิ้งขยะเรี่ยราด อย่างไรก็ตามตอนนี้ครอบครัวดังกล่าวทั้งหมด 5 คนถูกเจ้าหน้าที่กักตัวเอาไว้แล้ว และตอนนี้กำลังเข้าสู่กระบวนการส่งตัวกลับประเทศอย่างเร่งด่วน …
-
Nike เตรียมวางขาย Air Max Golf Grass สนีกเกอร์สุดล้ำที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าเทียม!!
นับวันแฟชั่นก็ยิ่งพัฒนาไปเรื่อยๆ จนบางครั้งทำเอามนุษย์ในยุคปัจจุบันตามไม่ทันซะแล้ว!! ล่าสุดแบรนด์ชื่อดังอย่าง Nike ก็กำลังวางแผนที่จะเปิดตัวรองเท้ารุ่น Air Max รุ่นใหม่ ที่ขอบอกเลยว่ามันล้ำมากๆ เลยทีเดียว เพราะมันมาในรูปแบบของ ‘หญ้าเทียม’ ที่ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งรองเท้า แต่ถึงยังไงก็เถอะ มันดูน่าซื้อเอามาใส่ชะมัด!! ซึ่งทาง Nike ระบุเอาไว้ว่าพวกเขาวางแผนที่จะเปิดตัวรองเท้ารุ่นใหม่ Air Max 1 Golf Grass ภายในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ เป็นรุ่นที่ออกแบบโดย Tinker Hatfield คอนเซ็ปต์ของมันก็คือ ‘หญ้าบนสนามกอล์ฟ’ ตามชื่อนั่นเอง ตัวรองเท้าจะถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าสีเขียวขจี ดูสวยสดงดงามตา เรื่องของวันวางจำหน่ายนั้นยังไม่เปิดเผยออกมาแต่อย่างใด ส่วนเรื่องของราคา คาดว่าน่าจะตกอยู่ที่คู่ละ 140 เหรียญสหรัฐ (4,450 บาท) . บรรดาแฟนๆ รองเท้าสนีกเกอร์ทั้งหลาย ต่างก็คอมเมนต์กันไปต่างๆ นานาเมื่อได้เห็นข่าวนี้ “ให้ตายเหอะ…
-
ท่อน้ำมันรั่วในเม็กซิโก ชาวบ้านแห่ตักน้ำมันฟรี สุดท้ายเกิดระเบิด เสียหายยับเยิน!!
กลายเป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจในต่างประเทศ เมื่อท่อส่งน้ำมันแห่งหนึ่งในเมือง Tlahuelilpan (ตลาเวลิลปัน) ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเม็กซิโกซิตี้ ของประเทศเม็กซิโก เกิดรั่วขึ้นมา เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา จากเหตุดังกล่าว บรรดาชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นต่างก็ขนแกลลอน และภาชนะต่างๆ เข้ามาแย่งกันตักตวงน้ำมันกันชุลมุน La Silla Rota สื่อของประเทศเม็กซิโก เผยคลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่ชาวบ้านกำลังแย่งกันตักน้ำมัน "Mi garrafón, wey" circula en redes video de la fuga en #Tlahuelilpan, Hidalgo antes de la explosión https://t.co/LoGFExj8cH pic.twitter.com/wCOP5XQv4a — La Silla Rota (@lasillarota) January 19, 2019 แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อจู่ๆ ท่อส่งน้ำมันก็เกิดระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง …
-
ชาวเน็ตแชร์ภาพด่าครอบครัว ให้คนใช้นั่งรอระหว่างทานอาหาร ที่ไหนได้เค้ากินเสร็จแล้วนั่งรอ!!
บางครั้งการตัดสินอะไรจากสิ่งที่เราเห็นในทันที อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เราเงิบก็เป็นได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้… เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง แชร์ภาพของครอบครัวครอบครัวหนึ่ง ซึ่งสมาชิกกำลังทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย ขณะที่มีหญิงสาวคนหนึ่งเข้าใจว่าเป็นคนรับใช้ นั่งดูพวกเขาทานอาหาร พร้อมกับแคปชันที่รุนแรงอยู่พอสมควร ใจความว่าดังนี้ “บอกตรงๆ ว่าฉันเกลียดคนที่ทำแบบนี้มาก คุณพาคนรับใช้ของคุณมาทานอาหารที่ร้าน แต่ไม่สั่งอาหารให้กับเธอ เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วก็มองพวกคุณทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย หัวใจของพวกคุณทำด้วยอะไร? หรือเพียงเพราะเธอเป็นแค่คนรับใช้อย่างนั้นเหรอ? ถึงไม่ยอมให้เธอร่วมรับประทานอาหารบนโต๊ะเดียวกันกับพวกคุณ ขอให้พวกคุณอาหารเป็นพิษกันถ้วนหน้า” เท่านั้นยังไม่พอ ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนดังกล่าวยังเล่าต่ออีกว่า ตนเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น และพ่อแม่ก็สอนเรื่องความเคารพในตัวของผู้อื่นมาเสมอ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในอาชีพอะไร หรือเป็นชนชาติไหนก็ตาม ทวีตนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมากมีคนรีทวีตไปกว่า 10,000 ครั้งเลยทีเดียว!! แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีชาวเน็ตคนหนึ่งออกมาเล่าความจริงที่อยู่เบื้องหลัง ว่าแท้จริงแล้วเหตุการณ์ในภาพมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!? ซึ่งมันไม่ตรงตามที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ผู้เดือดดาลเข้าใจเลยซักกะตี๊ดดด!! Lin ลูกสาวของครอบครัวที่อยู่ในภาพนั้นได้เล่าเรื่องราวให้กับเพื่อนของเธอชื่อว่า Meera Samanther เพราะว่า Lin ไม่ได้เล่นทวิตเตอร์ ก็เลยฝากให้เธอมาแก้ข่าว เรื่องจริงก็คือหญิงคนในภาพนั้นชื่อว่า Melissa (ไม่ใช่ชื่อจริงๆ ของเธอ แต่เป็นการสมมติขึ้นมาเพื่อความเป็นส่วนตัว)…
-
คุณครูจีนถูกไล่ออก จากการลงโทษนักเรียนที่มาโรงเรียนสายด้วยการจับ ‘โกนหัว’!!
สำหรับเด็กๆ แล้วการมาโรงเรียนสายก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่คุณครูพยายามแก้ไขให้ได้ไม่ว่าจะต้องใช้มาตรการหรือการลงโทษ ซึ่งคุณครูแต่ละคนก็จะมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าในประเทศจีนมีการลงโทษแปลกๆ เกิดขึ้นอยู่กรณีหนึ่ง เมื่อคุณครูลงโทษนักเรียนที่มาโรงเรียนสายด้วยการ ‘โกนผม’ ทว่าในท้ายที่สุดเธอก็กลับถูกลงโทษซะเอง… เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขต Yongnian มณฑลเหอเป่ย เมื่อคุณครูท่านหนึ่งสั่งลงโทษนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวนหนึ่งที่มาโรงเรียนสายด้วยการ ‘โกนผม’ (แต่ยังเหลือผมอยู่นิดหน่อย) เพื่อให้นักเรียนจดจำเป็นบทเรียน แต่ก็แน่นอนว่าในเรื่องนี้มีพ่อแม่ของเด็กบางคนที่ไม่พอใจกับการลงโทษเช่นนี้ จึงได้นำเรื่องไปร้องเรียนกับทางโรงเรียนในเวลาต่อมา และในท้ายที่สุดนั่นก็ทำให้คุณครูท่านนี้ถูกไล่ออกมาจากโรงเรียนไปโดยปริยาย ซึ่งการไล่ออกนี้อาจจะหมายถึงความที่เธออาจจะหางานในการเป็น ‘คุณครู’ ให้กับที่อื่นได้ยากอีกด้วย… วิดีโอในเรื่องนี้ ที่มา: shanghaiist, miaopai
-
เด็กหนุ่มเดินเท้าเปล่า จูงจักรยานที่บรรทุกศพ ‘แม่’ ไปฝังในป่า หลังไม่มีใครช่วยพิธีศพสักคน!!
โลกของเราเต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ มากมาย บางครั้งก็เป็นสิ่งที่สวยงาม และในทางกลับกันบางมุมก็มีความโหดร้ายชนิดที่ว่าไม่มีใครสามารถคาดถึงได้ ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมอีกหนึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นจริงบนโลกอันบูดเบี้ยวใบนี้… โดยเป็นเหตุการณ์ของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องสูญเสียแม่ไป แต่เมื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้ช่วยทำศพแม่ ก็ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขาสักคน ทำให้เขาจำต้องนำศพแม่ใส่ท้ายรถจักรยาน แล้วเดินจูงไปฝังในป่าเพียงลำพังโดยไม่มีพิธีรีตองใดๆ ทั้งสิ้น… Saroj เด็กหนุ่มชาวอินเดียวัย 17 ปีได้รับการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต จากความที่ Janki แม่วัย 45 ปีของเขาเป็นลมแล้วเสียชีวิตขณะที่กำลังเดินไปตักน้ำจากบ่อมาใช้ในครอบครัว การเสียชีวิตของ ‘แม่’ ทำให้วันนี้ Saroj ต้องเผชิญกับโลกใบใหญ่เพียงลำพัง เพราะพ่อของเขาก็เสียชีวิตไปแล้วเช่นเดียวกัน ขณะที่เขาอายุได้เพียง 7 ขวบเท่านั้น เขาอยากจะจัดพิธีศพให้กับแม่เพื่อแสดงถึงความรักและความเคารพเป็นครั้งสุดท้าย จึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านในละแวก Karlabahali รัฐโอริศา ให้ช่วยทำพิธีเผาศพแม่ตามความเชื่อทางศาสนา ทว่าก็ไม่มีใครสักคนที่ช่วยเหลือเขาในการทำพิธี ด้วยเหตุผลที่ว่าเขามาจากวรรณะที่ ‘ต่ำกว่า’ วิดีโอหนึ่งได้เผยให้เห็นขณะที่ Saroj กำลังจูงจักรยานโดยเท้าเปล่า และมีบางอย่างอยู่ท้ายรถจักรยานคันนั้น ซึ่งชายคนหนึ่งก็เกิดความสงสัยและถามเขาว่าที่เขาบรรทุกมาท้ายรถคันนี้คือสิ่งใดกัน เขาก็ตอบกลับด้วยเสียงโทนต่ำและฟังดูเศร้าสร้อยว่า ‘นี่คือแม่ของผมเอง’ วิดีโอขณะ Saroj จูงจักรยานพาแม่ไปฝังในป่า …
-
เปิดตัว “นางแบบเสมือนจริง” ผมชมพูดูเก๋ไก๋ ครองใจหนุ่มๆ เพียงแต่ว่าเธอ “ไม่ใช่คน” เท่านั้นเอง!!
หากเราเลื่อนอินสตาแกรมไปเจอภาพของสาวน้อยเอวบาง คิ้วโก่ง ตาโต ผมสั้น ต้องตาอะโฮ้ ดูโก้จริงๆ แถมยิ้มมีเสน่ห์เก๋เกินมองข้าม ถามใครดูได้ เธอสวยไปทุกสิ่งแบบนี้ เราก็คงมิวายจะต้องกดติดตามเอาไว้อย่างแน่นอน เจอแบบนี้เข้าไป #เหมียวตะปู ไม่มีทางปล่อยผ่านอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่หลายๆ คนอาจดูไม่รู้ก็คือ นางแบบสาวผมสีชมพูคนนี้แท้จริงแล้วเธอคือ “นางแบบเสมือนจริง” หรือก็คือเป็นนางแบบที่ใช้ภาพกราฟิกสร้างขึ้นมานั่นเอง!! นี่ไม่ใช่คนจริงๆ นะเออ!! แม่นางช่างงามแท้ จะเหมือนคนจริงๆ อะไรขนาดน๊านนน นางแบบสาวเสมือนจริงที่เราเห็นกันอยู่นี้มีชื่อว่า Imma ซึ่งมาจากคำว่า 今 (ima) ที่แปลว่า “ในตอนนี้“ อำนวยการสร้างโดยทีมงานที่ใช้ชื่อว่า Producer M ประเทศญี่ปุ่น Imma ถูกออกแบบและรังสรรค์โดยบริษัทกราฟิกดีไซน์ ModelingCafe Inc. พวกเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจจนทำให้เธอมีความสมจริงชนิดที่ว่ามองผ่านๆ ยังไงนี่มันก็คนชัดๆ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะนางแบบเสมือนจริงคนนี้ยังจะคอยอัปเดตเรื่องราวต่างๆ โพสต์ภาพเท่ๆ กับแฟชั่นคูลๆ ลงในอินสตาแกรมและทวิตเตอร์อยู่เสมอ… ยังไงนี่มันก็คนชัดช๊าดดด ลุคแบบเท่ๆ…
-
บริษัทญี่ปุ่นปล่อยดาวเทียมสร้าง “ฝนดาวตกเทียม” ขึ้นสู่อวกาศ เชื่อพร้อมใช้งานในปี 2020
ในช่วงปี 2016 บริษัทของประเทศญี่ปุ่นชื่อ Astro Live Experiences (ALE) ได้วางแผนยิงดาวเทียมขนาดเล็กขึ้นไปบนอวกาศ มันเป็นดาวเทียมที่ประกอบไปด้วยเม็ดทองแดง แบเรียม โพแทสเซียม รูบิเดียม และซีเซียม ที่เมื่อปล่อยให้เผาไหม้ผ่านชั้นบรรยากาศจะลุกเป็นสีต่างๆ ซึ่งหากมองจากบนโลกจะมีลักษณะไม่ต่างอะไรกับฝนดาวตกเลย เพียงแค่ทำได้ทุกเมื่อที่ต้องการก็เท่านั้น ว่าง่ายๆ ว่าโปรเจกต์ของบริษัท ALE นั้น มีเป้าหมายที่จะขายฝนดาวตกเทียมให้แก่ใครก็ตามที่มีทรัพย์สินมากพอนั่นเอง ในเวลานั้นพวกเขาวางแผนว่าโปรเจกต์จะแล้วเสร็จ และสามารถยิงฝนดาวตกเทียมครั้งแรกได้ภายในกลางปี 2019 ที่เมืองฮิโรชิมา ก่อนที่จะนำ “ออกจำหน่าย” ให้กับคนทั่วไปหลังจากนั้น อย่างไรก็ตามหลังจากการดำเนินการเริ่มขึ้นได้ช่วงหนึ่ง บริษัท ALE ก็ได้ออกมาประกาศเลื่อนกำหนดการปล่อยฝนดาวตกครั้งแรกออกไปเป็นฤดูใบไม้ผลิปี 2020 แทน แถมยังมีการลดปริมาณเม็ดสารเคมีที่ใช้ลงจาก 1,000 เม็ดลงเหลือเพียง 400 เม็ดอีกด้วย (แต่ก็ยังทำฝนดาวตกได้ราวๆ 20-30 ชุดอยู่ดี) แต่ถึงแม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกำหนดการอยู่บ้างก็ตาม ทางบริษัท ALE ก็ได้ประสบความสำเร็จในการยิงดาวเทียมออกไปจริงๆ แล้วเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2019 ที่ผ่านมา จากการรายงานของ ALE พวกเขาจะต้องใช้เงินราวๆ 9,500 ล้านบาท ต่อการยิงดาวเทียมหนึ่งลูก ดังนั้นราคาการว่าจ้างทำฝนดาวตกต่อครั้งจึงมีแนวโน้มที่ราคาจะสูงเอามากๆ เลยทีเดียว …
-
หมอผงะตรวจผู้หญิงพบ ‘นิ่วในถุงน้ำดี’ กว่า 2,000 ก้อน อาจเกิดจาก ‘ไม่กินข้าวเช้า-ดื่มน้ำน้อย’
‘นิ่ว’ เป็นอีกภัยหนึ่งที่เราไม่ควรจะละเลย เพราะว่าถ้าเกิดขึ้นมาแล้วมันอาจจะทำให้การทำงานของร่างกายเราเปลี่ยนแปลงไป และอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดทรมานได้ด้วย เพราะฉะนั้นแล้วทางที่ดีอย่าทำตัวเองให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นจะดีกว่า และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งเคสอุทาหรณ์ให้เราได้ชมกันถึงความน่ากลัว เมื่อคุณหมอได้พบนิ่วกว่า 2,000 ก้อนในตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง!! เรื่องราวสุดช็อกนี้เกิดขึ้นกับหญิงแซ่ Wang วัย 39 ปีชาวมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน โดยเธอได้ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้วเธอไปหาหมอแล้วได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ‘แผลในกระเพาะอาหาร’ แต่ก็ไม่ได้รับการรักษาอะไรให้หายขาด แค่เพียงกินยาบรรเทาอาการเท่านั้นแล้วอาการก็ดีขึ้น เธอจึงนึกว่าไม่ได้เป็นอะไรมากนัก แต่ว่ามีอยู่วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เธอมีอาการปวดท้องอย่างชนิดที่ว่าไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จึงรีบรุดไปยังโรงพยาบาลในทันที ซึ่งทางแพทย์ก็พบว่าเธอมีนิ่วในถุงน้ำดีอยู่ ทว่าเมื่อทางแพทย์ได้ตรวจอย่างละเอียดแล้วก็พบว่าในถุงน้ำดีของเธอมีนิ่วกว่า 2,000 ก้อนด้วยกัน และทางแพทย์ต้องใช้วิธีการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถนำมันออกมาได้ทั้งหมด โดยขนาดที่ใหญ่ที่สุดของนิ่วคือมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 1 เซนติเมตร ขณะที่ก้อนที่เล็กที่สุดจะมีขนาดอยู่ที่ 0.2 เซนติเมตร จริงอยู่ที่ว่านิ่วในถุงน้ำดีสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่จากการสันนิษฐานจากคุณหมอแล้ว นิ่วที่เกิดขึ้นในร่างกายของผู้หญิงคนนี้น่าจะเกิดจากการไม่กินอาหารเช้ารวมถึงการดื่มน้ำน้อย ซึ่งก็จริงอย่างที่คุณหมอสันนิษฐานเอาไว้ เพราะ Wang เล่าว่าเธอไม่มีงานทำจึงมักจะตื่นสายอยู่บ่อยๆ แล้วก็ข้ามอาหารเช้าไปเลย อีกทั้งเมื่อได้ทานอาหาร เธอชอบที่จะกินอาหารมันๆ…
-
เปิดตัวอพาร์ตเมนต์ฮ่องกงที่เล็กที่สุด เล็กกว่า ‘ที่จอดรถ’ แต่ราคานับสิบล้านบาท!!
หากเราว่าที่ดินที่ประเทศไทยแพงแล้ว ถ้าหากเราไปเจอราคา ‘ที่ดิน’ ที่แพงติดอันดับต้นๆ อย่างในฮ่องกงแล้วล่ะก็ บางทีอาจจะช็อกตาตั้งไปเลยก็ได้ เพราะเคยมีข่าวว่าที่นี่ห้องขนาดเพียงรูหนูก็ยังต้องใช้เงินนับล้าน!! แต่ว่าเมื่อเร็วๆ มานี้ มีอพาร์ตเมนต์อยู่แห่งหนึ่งที่กลายเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วทั้งโลก เพราะห้องที่ว่านี้มันมีขนาดเล็กกว่าที่จอดรถซะอีก!! ลองดูชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาได้ที่ >> ชีวิตอีกมุมของชาวฮ่องกง กับอพาร์ตเมนต์รูหนูแต่ค่าเช่าแสนแพง เพราะประชากรล้นเมือง โดยเจ้าห้องที่นี่มีชื่อว่า T-Plus หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกง่ายๆ ว่า ‘แฟลตกล่องรองเท้า’ ซึ่งขนาดของมันก็เล็กจ้อยร่อยเพียงแค่ 128 ตารางฟุต (ราวๆ 11 ตารางเมตร) ซึ่งเล็กกว่าขนาดที่จอดรถเฉลี่ยในฮ่องกงที่มีขนาดอยู่ราวๆ 130 ตารางฟุต (ราวๆ 12 ตารางเมตร) เสียอีก!! แต่ถึงว่ามันจะมีขนาดที่กะทัดรัดเพียงแค่นี้ ทว่ามันก็มาพร้อมกับข้าวของเครื่องใช้มากมายราวกับเป็นคอนโดย่อมๆ เลย เพราะในพื้นที่นี้มีทั้งห้องครัว ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ตู้เย็น เตียงนอนและโต๊ะอาหาร แล้วก็ไม่แน่เหมือนกันว่าห้องนี้อาจเป็นที่ถูกใจสำหรับคนขี้เกียจเดินเสียจริงๆ เพราะเชื่อหรือไม่ว่าแค่ก้าวขาแค่ 5 ก้าว ก็สามารถเดินจนสุดห้องได้แล้ว… แรงบันดาลใจจากห้องนี้มีที่มาจากหอพักที่เหล่านักเรียนมักจะใช้กัน ซึ่งมักจะมีขนาดที่เล็กแต่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ และนับได้ว่าเป็นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง สำหรับห้อง…
-
ผู้เชี่ยวชาญเผย ควรเริ่ม “สอนการช่วยตัวเอง” ให้กับเด็กๆ ระดับชั้นประถมศึกษา
เรื่องของการ “ช่วยตัวเอง” เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมทางเพศที่เชื่อว่าแทบทุกคนรู้จักกับสิ่งนี้ด้วยตนเอง เรียนรู้จากสื่อที่เห็น หรือคำบอกเล่าจากเพื่อนๆ มากกว่าที่จะเป็นการเรียนการสอนภายในโรงเรียน แต่ล่าสุดในรายการ This Morning จากสหราชอาณาจักร พวกเขาได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมทางเพศ และหนึ่งในความคิดเห็นที่ได้ก็คือ “ควรสอนการช่วยตัวเองให้กับเด็กประถม” เทปรายการ This Morning Kate Dawson ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมทางเพศ โดยปกติแล้วเธอจะทำงานร่วมกับเด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น แต่ก็จะได้ทำงานร่วมกับเด็กชั้นประถมอายุประมาณ 8 ขวบอยู่บ้าง Kate บอกว่า “มันเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่เราควรจะพูดเรื่องนั้นกันเป็นปกติ ให้พวกเขาได้สำรวจร่างกายของตัวเองในบริเวณจุดซ่อนเร้น ถ้ามันคือสิ่งที่พวกเขาให้ความสนใจและทำให้รู้สึกดีได้” ส่วนสำคัญที่ทำให้เธอคิดอย่างนั้นก็เพราะว่า เธอมีโอกาสได้พบกับเด็กผู้หญิงหลายๆ คนที่รู้สึกขยะแขยงอวัยวะเพศของตัวเอง Kate ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมทางเพศ เธอเล่าถึงกิจกรรมหนึ่งที่นำภาพจำลองอวัยวะเพศฉายให้เด็กๆ ได้ชม พอเปิดภาพของอวัยวะเพศชายออกมาก็จะได้รับเสียงหัวเราะกัน แต่พอเป็นภาพของอวัยวะเพศหญิง กลับมีเด็กหญิงบางคนบอกว่า “น่าขยะแขยงจังเลย” เธอจึงมีความต้องการที่จะให้เด็กๆ ไม่ว่าเพศใดก็ควรมองและรู้จักกับอวัยวะเพศของตัวเองได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม Kate ยังบอกอีกว่า “หนังผู้ใหญ่” ที่มีให้เห็นนั้นเป็นการส่งเสริมความเข้าใจในเรื่องของอวัยวะเพศที่เกินจริง เพราะเหล่าดาราที่เห็นเหล่านั้นต่างมีลักษณะร่างกายในอุดมคติ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องมีสัดส่วน อวัยวะเพศแบบนั้นเสมอไป …
-
หนุ่มอัดคลิป “ปาลูกดอก” หมายปลิดชีวิต “แมงมุม” กลายเป็นกระแส ถูกมองว่าป่าเถื่อน
แน่นอนว่า “แมงมุม” คงเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่หลายๆ คนต่างพากันรู้สึกหวาดหวั่นวิตกกังวลอยู่เสมอ บางคนอาจเลือกที่จะปลิดชีวิตมันด้วยหนังสือเล่มหนา ไม้กวาดดอกหญ้า หรืออาจเป็นไม้ตีแมลงวัน แต่สำหรับชายที่กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียลคนนี้ วิธีการที่เขาใช้พรากชีวิตเจ้าแมงมุมก็คือการ “ปาลูกดอก” จนกลายเป็นคลิปที่มีคนพูดถึงเป็นอย่างมาก และถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ “ป่าเถื่อน” คลิปที่เรากำลังจะได้เห็นกันนี้ แสดงถึงชายคนหนึ่งที่กำลังเล็งเป้าไปที่แมงมุมซึ่งกำลังไต่อยู่บนกำแพงภายในบ้านของเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นนักกีฬาปาลูกดอกมืออาชีพหรืออย่างไร แต่ที่แน่ๆ คือเขาสามารถปาลูกดอกเข้าเป้า ปักแมงมุมคากำแพงไว้ในบัดดลปนความทุรนทุรายที่เราอาจเห็นว่ามันยังคงดิ้นด้วยความเจ็บปวด คลิปสังหารแมงมุมด้วยการปาลูกดอก (คาดว่ามาจากประเทศสกอตแลนด์) เราจะเห็นว่าเขาตะโกนโห่ร้องออกมาด้วยความยินดี ในขณะที่เสียงผู้หญิงด้านหลังกล้องนั้นกลับมองว่ามันเป็นอะไรที่ดูป่าเถื่อน โหดร้าย และเธอไม่ใช่คนเดียวที่คิดอย่างนั้น จากการรายงานในวันที่ 18 มกราคม 2019 คลิปที่ได้กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันกับที่ผู้หญิงหลังกล้องคนนั้นพูดเอาไว้ หลายๆ คนมองว่ามันดูป่าเถื่อนจริงๆ “เห็นคลิปที่มีคนปาลูกดอกปักเจ้าแมงมุมคากำแพงจนไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ ฉันพูดจากใจจริงเลยว่าฉันเกลียดคนแบบนี้มากๆ เขามีสิทธิ์อะไรที่ทำกับสิ่งมีชีวิตอย่างนั้น แมงมุมไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่” “คุณกำลังทำให้ชีวิตตัวเองแย่ลง แมงมุมคือสิ่งที่ช่วยกำจัดพวกแมลงตัวเล็กๆ ที่มาพร้อมกับแบคทีเรียทั้งหลาย ยังไงก็ขอให้คุณโชคดีละกันนะ!” ขณะเดียวกัน ก็มีชาวเน็ตบางคนที่มองว่าเขาคือฮีโร่ตัวจริง “ฮีโร่ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีผ้าคลุม ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคุณ” “คุณพระ นายแม่นมาก!” …
-
คุณพ่อริบมือถือลูกสาว เนื่องจากมีความลับกับพ่อแม่ ลูกสาวไม่พอใจ จึงโทรแจ้งตำรวจจับ
ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ณ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกาได้เกิดเหตุการณ์สุดแปลกเกิดขึ้น เมื่อลูกสาววัย 16 ปีโทรศัพท์แจ้งจับคนเป็นพ่อ เนื่องจากถูกคุณพ่อยึดโทรศัพท์มือถือของตัวเองไป โดยคุณพ่อของเธอยึดโทรศัพท์มือถือไปเพื่อเป็นการลงโทษ เพราะเธอมีความลับปิดบังกับพ่อและทำล็อคโทรศัพท์กันไม่ให้พ่อเข้าไปดู “พ่อของหนูเอาของของหนูไป มันเป็นโทรศัพท์ราคา 800 เหรียญสหรัฐ (25,000 บาท) ซึ่งไม่ใช่ของเขา เขาไม่ได้ซื้อมันมา” เด็กสาวพูดกับเจ้าหน้าที่ที่รับสายระหว่างกำลังโทรแจ้งความ ซึ่งหลังจากที่เด็กสาวคนดังกล่าวโทรแจ้งตำรวจแล้ว ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจก็โผล่มายังบ้านของพ่อของเธอ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้ยินเสียงของเด็กสาวขอโทรศัพท์ของตัวเองคืนจากคุณพ่อของเธอพอดิบพอดี เจ้าหน้าที่เลยรีบเข้าไปพูดไกล่เกลี่ยว่า “หนูรู้มั้ย? ทุกอย่างที่หนูเป็นครอบครอง มันก็เป็นของพ่อแม่หนูด้วย” ก่อนที่จะเตือนเด็กสาวไปว่าไม่ควรเรียกตำรวจมาในสถานการณ์ไม่ฉุกเฉิน ส่วนทางคุณพ่อได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนที่ตำรวจโผล่มา ผมก็ตกใจนะ แบบ…โอ้ พระเจ้าช่วย ผมริบมือถือของเพราะเธอยังเป็นเยาวชนอยู่ ผมยังไม่อยากให้เธอมีมือถือ เพราะผมตรวจสอบอะไรไม่ได้ พวกเธอใส่พาสเวิร์ดกันไว้” พร้อมกับเขายังส่งข้อความถึงผู้ปกครองทุกคนด้วยว่า “เฝ้ามองพวกเขาให้ดีๆ พวกเขามีแอปฯ ลับมากมายและมีวิธีหรือช่องทางที่จะปิดบังว่าเขาทำอะไรผ่านโทรศัพท์พวกนี้ ซึ่งหลายๆ อย่างมันไร้สาระมากๆ” สรุปแล้วการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ของเด็กสาว ไม่มีการจับกุมใดๆ เกิดขึ้น…
-
ช่างสักช่วย ‘สักเล็บมือ’ ของชายที่เสียนิ้วมือ ให้กลับมาดูเหมือนปกติอีกครั้งหนึ่ง!!
บางครั้ง ‘รอยสัก’ มันก็เป็นอะไรที่มากกว่าศิลปะบนเรื่องร่างของมนุษย์… นี่คือเรื่องราวอันแสนประทับใจ ของช่างสักที่ทำการ ‘ฟื้นคืนปลายนิ้วมือ’ ที่ขาดไปของชายคนหนึ่ง ให้กลับมามีเล็บอีกครั้งหนึ่งด้วย ‘รอยสัก’!? ผลงานอันแสนมหัศจรรย์นี้เป็นของช่างสักชื่อว่า Eric Catalano ของร้าน Eternal Ink ที่ตั้งอยู่ในเมือง Hecker รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางร้านจะมีนโยบายว่า ‘จะสักให้กับคนที่มีชีวิตรอดจากโรคมะเร็ง และผู้พิการแบบฟรีๆ!!’ และนี่คือผลงานบางส่วนของทางร้าน ที่เคยทำให้เหล่าผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมครับ . . เอาเท่านี้ก็แล้วกันนะครับ แต่ที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เขาสามารถสัก ‘เล็บ’ ที่ดูสมจริง บนนิ้วของชายที่เสียปลายนิ้วไป ทำให้นิ้วมือของเขาดูเหมือนกับว่ามันกลับมาเป็นปกติอีกครั้งได้เลยทำเดียว!! ลองไปชมภาพดูครับ Eric เล่าว่า “คุณผู้ชายคนนี้มาหาผมเมื่อสัปดาห์ก่อน เขาบอกให้ผมสักเล็บมือให้ และผมก็จัดให้เขาตามคำขอ” “มันเป็นอะไรที่ยากมากๆ เพราะเราต้องใช้เทคนิคการสักแบบ 3 มิติ และพอมันเสร็จแล้วมันดูเหมือนจริงจนทำให้เขารู้สึกตกใจ” “ผมรู้สึกภาคภูมิใจมากๆ ที่เห็นรีแอคชั่นเขาแบบนั้น ผมตั้งใจที่จะช่วยเหล่าผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง และคนที่สูญเสียอวัยวะต่อไป เพื่อให้พวกเขามีความมั่นใจที่จะกลับไปใช้ชีวิตในสังคมอีกครั้งหนึ่ง” …
-
นักดำน้ำพบ ‘ฉลามขาวที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ กำลังกิน ‘ซากวาฬ’ อยู่ใกล้เกาะฮาวาย!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ฉลามขาว’ เป็นสายพันธุ์นักล่าที่ตัวใหญ่ที่สุดในท้องทะเล แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า ตัวที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เราเคยพบนั้น มันมีขนาดเท่าไหร่กันแน่!? สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้าฉลามขาวตัวนี้กันครับ เพราะล่าสุดมีนักดำน้ำพบมันห่างออกไปจากเกาะ Oahu ที่อยู่ในหมู่เกาะฮาวาย ราวๆ 14 กิโลเมตร มีนักดำน้ำสองคนคือ Mark Mohler และ Kimberly Jeffries พบกับมันเข้าโดยบังเอิญตอนที่กำลังกินซากวาฬอยู่ ทั้งสองคนก็ไม่รอช้า รีบกระโดดลงไปในน้ำเพื่อถ่ายรูปร่วมกับมัน โดยไร้ซึ่งความกลัวใดๆ โดยปกติแล้วการถ่ายรูปร่วมกับฉลามขาวนั้น จะมีข้อห้ามมากมาย เพื่อความปลอดภัยของนักดำน้ำ และตัวของฉลามขาวเอง แต่ทว่านักดำน้ำทั้งสองคนนั้นตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อข้อห้ามเหล่านั้น เพราะมันคือประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว และไม่แน่ว่านี่จะเป็นโอกาสครั้งแรก และครั้งเดียวในชีวิตของพวกเขา Mohler ได้นำคลิปวิดีโอตอนถ่ายร่วมกับเจ้าฉลามขาวโพสต์ลงเฟซบุ๊กพร้อมกับแคปชันว่า “Deep Blue ฉลามขาวที่เชื่อว่าน่าจะใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยพบเจอ ขนาดตัวของมันมีความยาวมากกว่า 7 เมตร และครั้งล่าสุดที่มีคนพบมันคือเมื่อ 4 ปีก่อน” ลองไปชมคลิปวิดีโอกันครับ เจ้าฉลามขาวเพศเมียตัวนี้มีชื่อว่า Deep Blue จากข้อมูลของ International Shark…
-
“ปราสาทในฝัน” โครงการที่ไปไม่ถึงฝั่ง ถูกทิ้งร้างจากหนี้สิน จนคล้ายเป็นบ้านผีสิง…
เมื่อเดินทางออกไปแถบชานเมืองเรามักจะเห็นโครงการบ้านจัดสรรมากมาย ทั้งที่สร้างเสร็จแล้ว อยู่ในระหว่างการซื้อ-ขาย หรือหมู่บ้านที่ถูกทิ้งร้างไว้ เนื่องจากเหตุผลทางเศรษฐกิจ ในเมือง Bolu ทางตอนเหนือของตุรกี มีปราสาทแบบกอธิกกว่าร้อยหลังถูกทิ้งร้างไว้ โดยโครงการ The Burj Al Babas นี้ ถูกสร้างขึ้นในปี 2014 เดิมทีมีจุดประสงค์เพื่อรองรับเหล่านักลงทุนผู้มั่งคั่ง แต่ด้วยเหตุผลทางด้านการเงิน ทำให้ต้องปิดปราสาทเหล่านี้ไป The Sarot Group เจ้าของโครงการล้มละลายด้วยหนี้กว่า 27 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 850 ล้านบาท โดยโครงการนี้ประกอบไปด้วยปราสาท 732 หลัง สระว่ายน้ำ อ่างอาบน้ำแบบตุรกี ศูนย์สุขภาพและความงาม รวมทั้งห้างสรรพสินค้าและมัสยิด ถึงแม้ว่าจะมีลูกค้าจากหลายประเทศ ยกตัวอย่างเช่น การ์ต้า บาเรน คูเวท สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบียได้ซื้อปราสาท 350 หลังจากปราสาทที่สร้างแล้ว 587 หลัง ก็ยังไม่มีทุนมากเพียงพอที่จะดำเนินโครงการนี้ต่อ Mehmet Emin Yerdelen ประธานบริษัทเจ้าของโครงการได้ให้สัมภาษณ์ว่า…
-
อู้หูวววว!! ชาวบ้านอเมริกันแห่ชม “แผ่นน้ำแข็งยักษ์หมุนได้” จนผู้เชี่ยวชาญต้องมาอธิบาย
หากเราลองมองไปยังธรรมชาติรอบตัว ไม่ว่าจะภูเขา แม่น้ำ ท้องทะเล หรือฟ้าอันกว้างใหญ่ เราอาจจะพบความงดงามไม่แพ้สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ดังเช่นแผ่นน้ำแข็งรูปวงกลมปริศนาที่หมุนช้าๆ ที่แม่น้ำ Presumpscot ในสหรัฐอเมริกาที่ได้สร้างความฮือฮาแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่รูปวงกลม (frozen crop circle) พระจันทร์แช่แข็ง (frozen moon) หรือยานของเอเลี่ยน (alien ship) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาดูได้ยาก ซึ่งไม่เคยพบแผ่น้ำแข็งที่มีขนาดกว้างกว่า 91 เมตรแบบนี้มาก่อน การหมุนทวนเข็มนาฬิกาในของแผ่นน้ำแข็งดังกล่าวยังคงเป็นปริศนา โดยผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่าปรากฏการณ์นี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในแม่น้ำ และเกิดการเปลี่ยนสถานะขณะที่ก่อตัวเป็นน้ำวน การเคลื่อนไหวของน้ำแข็งทำให้เกิดการเสียดสีจนแตกหัก และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปวงกลมในที่สุด Mark Battle นักฟิสิกส์ที่วิทยาลัย Bowdoin ได้กล่าวว่า เขาไม่เคยพบสิ่งนี้มากก่อน ปรากฏการณ์ที่พบเป็นเรื่องน่าพิศวงและสวยงาม นอกจากนี้ Dr. Kenneth G. Libbrecht นักฟิสิกส์แห่งวิทยาลัย California Institute of Technology ยังบอกอีกว่า แผ่นน้ำแข็งนี้น่าจะถูกบันทึกไว้ในสถิติโลก ถ้ามีการมาติดตามวัดกันจริงๆ จังๆ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติข้างต้นมีความสวยงามและน่าอัศจรรย์…
-
ครอบครัวเผยความรู้สึกสุดซาบซึ้ง หลังได้รับจดหมายแจ้งการบริจาคอวัยวะของลูกชาย
เชื่อว่าหลายคนคงเคยพบกับประสบการณ์สุดเศร้า ดังเช่นการสูญเสียคนที่เรารักไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียแบบไม่คาดคิดเหมือนครอบครัวในรัฐ New Jersey ครอบครัวนี้ การจากไปของ Daniel Bassillo ด้วยโรคหืดหอบ ในวัยเพียง 28 ปี เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2018 ได้สร้างความสะเทือนใจแก่คนในครอบครัว Bassillo เป็นอย่างยิ่ง แต่ทั้งนี้ทางครอบครัวมีความตั้งใจที่จะบริจาคอวัยวะของเขา น้องสาว Alexa Bassillo ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราเชื่อว่าการจากไปของเขาจะทำให้อีกหนึ่งชีวิตรอด อย่างน้อยเขาควรตายอย่างมีคุณค่า และฉันแน่ใจว่าพ่อกับแม่คงตื้นตันใจ ที่อย่างน้อยเขาก็ได้ยินเสียงหัวใจของลูกชายเต้นในร่างของเด็กหกขวบที่ได้รับการบริจาคอวัยวะ” นอกจากนั้น Alexa ได้เขียนถึงพี่ชายของเธอไว้ว่า “พี่ชายวัย 28 ปีของฉันจากไปแล้วเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นเราก็ได้รับจดหมายแสดงรายชื่อผู้เข้ารับการบริจาคอวัยวะของเขา ทำให้ทราบว่ามีคนเสียชีวิตเพียงร้อยละ 1 เท่านั้นที่จะบริจาคอวัยวะ ตอนนี้ Dan ไม่ได้เป็นเพียงพี่ชายที่เหมือนเพื่อนสนิทของฉันเท่านั้น แต่เขายังเป็นฮีโร่ของคนเหล่านี้ หลับให้สบายนะ” หลังจากเหตุสูญเสียในครั้งได้มีการเปิดเผยว่า มีคนว่า มีผู้ป่วยกว่า 114,000 คนที่รอรับการบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี…
-
ตำรวจจีนทำงานติดต่อกัน 24 ชั่วโมง ต่อมาพบเสียชีวิต ทำชาวเน็ตเรียกร้องให้ปรับปรุงกฎหมาย!!
หนึ่งในสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์เรานอกจากการกินแล้ว ก็คือ ‘การพักผ่อน’ เพราะธรรมชาติของคนเราไม่ใช่เครื่องจักรที่สามารถทำงานได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนอย่างไม่หยุดพัก และถ้าเราฝืนร่างกายของเราโดยไม่พักผ่อนเลย ก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แล้วก็ไม่แน่เหมือนกันว่าอาจเกิดความรุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตเหมือนกับในกรณีนี้ เมื่อตำรวจจราจรจีนท่านหนึ่ง ต้องเสียชีวิตหลังจากเขาทำงานติดต่อกันเป็นเวลาถึง 24 ชั่วโมง ก่อนที่เพื่อนร่วมงานจะไปพบเข้าและรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทันการณ์แต่อย่างใด… นายตำรวจผู้เสียชีวิต ในเช้าวันพุธที่ผ่านมา (16 ม.ค.) นายตำรวจวัย 55 ปีแห่งนครฉงชิ่งชื่อว่า Jiang Ruihua ถูกนำตัวส่งพยาบาลในท้องถิ่นด้วยภาวะเลือดออกในสมองอย่างฉับพลัน ซึ่งในเวลาต่อมาเขาถูกประกาศว่าเสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อย แหล่งข่าวท้องถิ่นรายงานว่านายตำรวจ Jiang ทำงานติดต่อกันเป็นระยะเวลา 24 โมงเต็มๆ ก่อนที่เพื่อนร่วมงานของเขาชื่อว่า Dai Jun จะไปพบตัวขณะนอนสลบคาชุดเครื่องแบบอยู่ในออฟฟิศ จึงได้เรียกรถพยาบาลมารับตัวไป สำหรับนายตำรวจ Jiang ผู้เสียชีวิตนั้น เป็นผู้ที่เข้าร่วมกับทีมตำรวจตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 1986 และเคยได้รับรางวัล ‘จราจรดีเด่น’ ถึงสองครั้งด้วยกัน “หลังจากทำงานเป็นเวลา 24 ชั่วโมงติดต่อกัน เจ้าหน้าที่ Jiang กำลังจะก้าวขาออกไปจากออฟฟิศเพื่อทำหน้าที่จราจรในชั่วโมงเร่งด่วน แต่เขาก็ประสบกับอาการเลือดออกในสมองอย่างฉับพลันและทรุดตัวลงไปเสียก่อน และแม้ว่าจะพยายามช่วยชีวิตเขาไว้ แต่ก็ไม่เป็นผล เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมาในวัย 55…
-
คุณป้ากิน ‘สามชั้น x มันหมู’ ทุกมื้อ ทำเป็นนิ่วในถุงน้ำดี 806 ก้อน บางก้อนเท่าลูกกอล์ฟ!!
เรื่องของ ‘การกิน’ เป็นสิ่งเล็กๆ ที่เราไม่ควรจะมองข้าม เพราะมันเป็นเรื่องสามารถส่งผลต่อสุขภาพของเราได้โดยตรงว่าจะทำให้มีสุขภาพดี หรือมีโรคภัยไข้เจ็บมาเยือนก็มีความเป็นไปได้ และบางทีถ้าลองดูกรณีนี้แล้วเราอาจจะใส่ใจกับเรื่องของการกินมากยิ่งขึ้น เมื่อคุณป้าคนหนึ่งถูกส่งเข้าโรงพยาบาลแล้วคุณหมอก็พบว่า เธอมีนิ่วกว่า 806 ก้อนอยู่ในถุงน้ำดี ซึ่งเป็นผลมาจากการกินอาหารมันๆ ทุกมื้อ!! เรื่องนี้มีอยู่ว่าเมื่อ 19 ปีที่แล้วคุณป้าแซ่ Fan วัย 66 ปีผู้อาศัยอยู่ในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ไปหาคุณหมอแล้วได้รับการวินิจฉัยว่ามี ‘นิ่วในถุงน้ำดี’ (Gallstone) อยู่จำนวนหนึ่ง แต่แล้วเธอก็ปฏิเสธการผ่าตัดออก และใช้ชีวิตตามปกติด้วยการใช้ยาแก้ปวดระงับอาการ จากนั้นก็ไม่มีเกิดขึ้นจนกระทั่งเมื่อเร็วๆ มานี้ เมื่อคุณป้าเริ่มมีอาการชัดขึ้นอย่างเช่นการเป็นกรดไหลย้อน รวมทั้งอาการปวดที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนในท้ายที่สุดแล้วเธอไม่สามารถทนรับความเจ็บปวดในอีกต่อไป ลูกสาวของเธอจึงพาตัวไปส่งที่โรงพยาบาล ซึ่งทางแพทย์ได้ตรวจดูเพื่อหาสาเหตุแล้วก็ต้องทึ่งเมื่อพบว่า เธอมีนิ่วในถุงน้ำดีอยู่ถึง 806 ก้อน ซึ่งบางก้อนมีขนาดใหญ่จนเกือบเท่าขนาดลูกกอล์ฟเลยทีเดียว!! นิ่วที่ตรวจพบ คุณหมอได้นำก้อนนิ่วที่น่าตกตะลึงเหล่านี้ไปทำการทดสอบ แล้วก็พบว่าส่วนประกอบหลักๆ ของก้อนนิ่วเหล่านี้ประกอบด้วย ‘คอเลสเตอรอล’ ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมการกินอาหารของเธอ โดยคุณป้า Fan เล่าให้ฟังว่า เธอชอบกินอาหารที่มันๆ อย่างมาก โดยในทุกๆ มื้อเธอจะต้องมีอาหารมันๆ…
-
หนุ่มหาว่า “คนงานทาสี” ทำเสื้อที่ตากไว้เปื้อน เลยใช้คัตเตอร์ตัดเชือกสลิงจากชั้น 16 !!
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 10 มกราคม 2019 ที่ผ่านมา เมื่อการทาสีอาคารที่อยู่อาศัย นำไปสู่การกระทำที่อาจกลายเป็นเหตุฆาตกรรมขึ้นมาได้ จากการรายงานกล่าวว่า ชายแซ่ โจว คนงานทาสีพร้อมด้วยเพื่อนร่วมงานกำลังทำงานอยู่ที่ด้านนอกอาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน ตอนช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 โมงของวันนั้น เชือกที่ใช้ในการโรยตัวทาสีบนตึกสูง ระหว่างที่พวกเขากำลังทาสีกันอยู่บริเวณชั้น 16 ด้านนอกอาคาร จู่ๆ ก็มีชายซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของโครงการ เดินออกมาต่อว่านายโจวที่บริเวณระเบียง บอกว่านายโจวทำเสื้อของเขาที่ตากไว้นอกห้องสกปรก และเรียกร้องค่าชดใช้ นายโจวมองเห็นว่าเสื้อดังกล่าวนั้นมีรอยเท้าอยู่จริง หากแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นรอยเท้าของพวกตนหรือไม่ คนงานหนุ่มจึงกล่าวขอโทษไปก่อนและขอให้ลงไปคุยกันด้านล่างเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น และตนจะติดต่อกับเจ้านายจากทางบริษัทให้มาพูดคุยด้วย คู่กรณีที่มีปากเสียงกับนายโจว เมื่อได้ยินอย่างนั้น คู่กรณีก็โวยวายกลับมาด้วยความเดือดดาลว่า “จะเรียกเจ้านายมาคุย นี่คือจะทำเป็นลีลาใช่มั้ย สรุปจะจ่ายหรือไม่จ่าย ถ้าไม่จ่ายมางั้นเดี๋ยวจะตัดเชือกสลิงซะตอนนี้เลย” นายโจวไม่สะดวกที่จะพูดคุยกับคู่กรณีในตอนที่กำลังปฏิบัติงานอยู่สักเท่าไหร่ ด้วยลักษณะท่าทางที่กำลังห้อยตัวอยู่กับเชือกสลิง เขาจึงไม่ได้สนใจอะไรกับคำพูดนั้นมากนักและไล่ทาสีลงไปที่ชั้นล่างต่อ จนกระทั่งเมื่อเขามองขึ้นไปก็เห็นว่าชายที่มีปากเสียงใส่เขาเมื่อกี้ กำลังใช้มีดคัตเตอร์ตัดเชือกสลิงของเขาอยู่จริงๆ ด้วยความตกใจ นายโจวจึงรีบโรยตัวลงไปด้านล่างให้เร็วที่สุด มีดคัตเตอร์ที่ใช้ก่อเหตุ โชคดีที่นายโจวสามารถลงไปถึงพื้นได้ก่อน ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรร้ายแรง หากแต่มีแผลถลอกที่บริเวณข้อศอก อันเกิดมาจากการที่เขารีบโรยตัวลงมา นายโจวตัดสินใจติดต่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ…
-
เรื่องราวชีวิตของชายฮิปปี้ ‘ไม่ใส่รองเท้า’ ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา จนเป็นตำนานแห่งเมือง!!
‘รองเท้า’ อีกหนึ่งเครื่องแต่งกายตามปัจจัยสี่ ที่จะช่วยให้เท้าของเราไม่โดนสิ่งสกปรก หรือถูกของแหลมคมทิ่มแทงใส่ และบางครั้งมันก็แปรเปลี่ยนเป็นเครื่องบ่งบอกแฟชั่นตามสไตล์ที่เราชอบได้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามที มีชายคนหนึ่งที่ปฏิเสธอุปกรณ์ชิ้นนี้อย่างไม่ไยดี ด้วยการเลิกใส่รองเท้ามาแล้วถึง 50 ปีด้วยกัน ซึ่งนั่นเองทำให้เขากลายเป็นที่จดจำ และเป็นตำนานแห่งเมืองเบอร์มิงแฮมไปโดยปริยาย!! Pete McKenzie เจ้าของตำนาน Pete McKenzie ชายสุดฮิปปี้เจ้าของฉายา ‘Pete the Feet’ ย้ายจากมณฑลคัมเบรีย มาใช้ชีวิตที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ในช่วงยุค 1960s และที่นี่เองที่เขาตัดสินใจเลิกสวมใส่รองเท้าไปตลอดกาล เพราะเหตุผลง่ายๆ นั่นคือรองเท้าหรือสิ่งอื่นใดที่ห่อหุ้มเท้ามันทำให้เท้าของเขา ‘มีเหงื่อ‘ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ… “ผมไม่ชอบรองเท้า แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็คืออะไรที่มันอยู่บนเท้าผมก็ไม่ชอบหมดแหละ แม้แต่ตอนแต่งงานผมยังไม่ใส่รองเท้าไปโบสถ์เลย” “เมียของผมเคยเห็นผมใส่รองเท้าแค่ครั้งเดียวหรือสองครั้งเองแหละมั้ง แต่ลูกสาวหรือหลานๆ ของผมไม่เคยเห็นผมใส่มันแน่ๆ” “มันไม่เหมาะกับผมน่ะ เจ้าสิ่งสิ่งนั้น มันไม่เหมาะกับเท้าของผม ตั้งแต่ได้ถอดมันผมเลยตัดสินใจถอดมันไปทั้งชีวิตเลยละกัน ซึ่งนั่นทำให้ผมได้ฉายานี้มา และผมจะไม่กลับไปใส่รองเท้าอีกเป็นอันขาดในชีวิตนี้” Pete ให้สัมภาษณ์ในปี 2014 ภาพงานแต่งงานของเขาในปี 1970 Pete มักจะมาปรากฏตัวด้วยลุคฮิปปี้แบบเท่ๆ…
-
ชาวมาเล ตั้งชื่อลูกว่า “AA” เพราะอยากให้ลูกถูกเรียกชื่อเป็นคนแรกเวลาเข้าเรียน
การตั้งชื่อลูกนับเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่จะติดตัวลูกไปตลอดชีวิต นอกจากเหตุผลทางด้านความเป็นสิริมงคลแล้ว ชื่อก็ต้องมีความทันสมัย มีเอกลักษณ์ เป็นที่จดจำของใครหลายๆคน พ่อแม่หลายคู่จึงมีการตั้งชื่อลูกตั้งแต่ยังไม่เกิด เหมือนกับคุณพ่อชาวมาเลเซียคนนี้ที่เปิดโหวตให้คน เข้ามาตั้งชื่อลูกของเขาในทวิตเตอร์ มีมาร่วมแสดงความเห็นมากมาย รวมถึงคุณพ่อ Mohd Arif M. Kasim คนนี้ด้วย https://twitter.com/arepkasim/status/1080839181377536001 Arif ได้แบ่งปันเบื้องหลังการตั้งชื่อลูกสาวว่า Airis Aurora หรือ A.A. โดยตั้งใจว่าลูกของเขาจะถูกเรียกชื่อเป็นคนแรกตอนเข้าเรียน หลายคนอาจจะคิดว่าเขาตั้งชื่อลูกจากความหมาย ซึ่ง Airis มีความหมายว่า ดอกไม้ ส่วนคำว่า Aurora มาจากตัวละครในเกม Mobile Legends ที่คุณพ่อชื่นชอบ แต่เรื่องราวมีมากกว่านั้น คุณพ่อได้ให้เหตุผลในการตั้งชื่อนี้ว่า “เมื่อถึงวันสอบ เธอจะได้นั่งข้างหน้า ใกล้กับผู้คุมสอบ ดังเธอจะต้องมีความซื่อสัตย์” และเนื่องจาก Arif เคยทำงานเป็นนายช่างที่โรงเรียน เขามักจะเห็นว่าโรงเรียนประกาศผลสอบโดยเรียงตามตัวอักษร A-Z ดังนั้นเวลาที่ลูกของเขาเข้าเรียนจะสามารถมองเห็นคะแนนของเธอง่ายขึ้น นอกจากนั้นเวลาที่เขาไปรับรายงานผลการศึกษาของลูก เขาจะได้รับมันเป็นคนแรกๆ ทำให้ใช้เวลาน้อยกว่าคนอื่น ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวสร้างความฮือฮาให้กับชาวเน็ตเป็นอย่างยิ่ง จนหลายคนลงความเห็นว่า “ในขณะที่เรากำลังใช้ชีวิตในปี 2019 Arif เหมือนอยู่ในปี 3019” ที่มา: worldofbuzz
-
วิถีชีวิตของ ‘คนงานเหมือง’ ในแคเมอรูน กับงาน ‘ดำน้ำ’ โดยไม่ใช้อุปกรณ์เซฟตี้ใดๆ!!
นี่คือเรื่องราวชีวิตการทำงานอันแสนทรหดของ ‘คนงานเหมือง’ ในประเทศแคเมอรูน ที่ต้อง ‘ดำน้ำ’ ลงไปในแม่น้ำเพื่อตัก ‘ทราย’ ขึ้นมา โดยไม่มีอุปกรณ์เซฟตี้ใดๆ ทั้งสิ้น!? ไม่มีทั้งแว่นตาดำน้ำ ไม่มีตีนเป็ด ไม่มีถังออกซิเจน แต่ต้องดำน้ำลึกลงไป 6 เมตร (ราวๆ ตึก 3 ชั้น) ในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากเป็นประจำทุกวัน ซึ่งบรรดานักดำน้ำทั้งหลาย จะต้องถือ ‘ถัง’ ลงไปด้วย เพื่อที่จะไปตักทรายที่อยู่ด้านใต้ของแม่น้ำ Wouri ขึ้นมา ทำให้พวกเขาต้องแบบรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น นับเป็นหนึ่งในงานที่ยาก และอันตรายมากที่สุดในโลกเลยทีเดียวเชียว!! และนี่คือภาพของเหล่าคนงาน ที่ดูเหมือนกับว่าพวกเขาทำงานเหล่านี้ราวกับเป็นอะไรที่ชิลๆ ไม่ได้สะทกสะท้านแม้แต่น้อย กับร่างกายอันแข็งแกร่งของพวกเขา ภาพเหล่านี้ถูกบันทึกไว้โดยช่างภาพ Hugh Brown . . ช่างภาพเล่าว่าบรรดาคนงานเหล่านี้ ไม่ใช่คนงานเหมืองที่ได้รับการจ้างจากบริษัท แต่เป็นกลุ่มคนงานเหมืองที่ทำงานกันอย่างอิสระ พวกเขามีความเป็นมืออาชีพในการทำงานที่สูงมากๆ เลยทีเดียว และการดำน้ำลงไปตักทรายขึ้นมานั้นก็เป็นการนำทรายเหล่านั้นไปขาย เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างนั่นเอง นอกจากนี้เขายังเล่าอีกว่า คนงานแต่ละคนจะต้องแบกทรายที่มีน้ำหนักมากถึง…
-
ออสเตรเลียอุณหภูมิสูงสุดทะลุ 50 °C ร้อนหนักมากจนถนนละลาย-เกิดไฟป่านับสิบครั้ง
ปัจจุบันอากาศในประเทศออสเตรเลียกำลังร้อนอบอ้าวเป็นอย่างมาก และเนื่องจากต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน ทำให้อุณหภูมิในออสเตรเลียพุ่งทะลุ 50 องศาเซลเซียสไปเสียแล้ว!! ซึ่งในนครซิดนีย์ มีการคาดการณ์กันว่าอุณหภูมิจะไม่ต่ำกว่า 40 องศาเซลเซียสติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน และการที่อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นขนาดนี้ถือว่าเป็นอุณหภูมิที่สูงสุดที่นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองเลยทีเดียว ถ้าถามว่า ณ เวลานี้ ออสเตรเลียร้อนขนาดไหน ก็ต้องบอกร้อนขนาดที่ “ถนนยางมะตอย” ถึงกับ “ละลาย” เลยเชียวล่ะ สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่าจากการที่อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นในเมือง Wauchope ทำให้ทางหลวง Oxley ละลาย ซึ่งผู้ขับขี่รถผ่านเส้นทางดังกล่าวก็ได้ถ่ายภาพถนนละลายมาเพื่อเตือนให้ผู้ที่จะผ่านมายังเส้นทางนี้ระมัดระวังตัวกันให้มากขึ้น ทั้งนี้แล้วทางรัฐบาล Walcha ที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขาทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และพวกเขาก็ทำการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยการฉีดน้ำเพื่อทำให้ถนนเย็นลง . สุดท้ายนี้จากการที่อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้น ปัญหาที่ประเทศออสเตรเลียต้องประสบ ไม่ใช่เพียงแค่ถนนยางมะตอยละลายเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาไฟป่านับสิบที่เกิดขึ้นในหลายๆ รัฐอีกด้วย โดยจากพื้นที่ Kosciuszko National Park เพียงที่เดียว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็รายงานว่าต้องผจญเพลิงไปแล้วกว่า 8 ครั้ง เรียกได้ว่าปัญหาคลื่นความร้อนครั้งนี้ก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ของออสเตรเลียที่เราคงต้องจับตาดูกันต่อไปครับ ที่มา Dailymail (1) (2), The Macleay Argus
-
เมื่อ ‘บิล เกตส์’ ต่อคิวซื้อเบอร์เกอร์ ชาวเน็ตแห่ชมรวยติดอันดับโลก ยังมาเข้าแถวเหมือนคนอื่น!!
เชื่อเลยว่าหลายคนคงรู้จักกับชื่อของนาย ‘บิล เกตส์’ พระบิดาผู้ให้กำเนิดบริษัท ‘ไมโครซอฟท์’ กัน และรู้ด้วยว่าเขาร่ำรวยจนถึงขั้นที่ว่าติดอันดับโลกมาแล้วหลายต่อหลายปี แต่ว่าเมื่อเร็วๆ นี้มีภาพของเขาที่ยืนต่อแถวซื้อเบอร์เกอร์ของร้านฟาสต์ฟู้ดร้านหนึ่ง แล้วภาพนี้เองก็ได้ทำให้เป็นที่พูดถึงกันในโลกอินเทอร์เน็ต ถึงความเรียบง่ายในการใช้ชีวิตและเคารพกฎสังคมของเขา แม้จะร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม!! ต่อคิวแป๊บ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 ม.ค.) คุณลุงบิล เกตส์ถูกเก็บภาพได้ขณะที่เขากำลังยืนต่อแถวซื้อเบอร์เกอร์ของร้าน Dick’s Drive-In ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ในมื้อนั้นมหาเศรษฐีมาในลุคสบายๆ ด้วยเสื้อสเวตเตอร์สีแดง กางเกงสีเทากับรองเท้าผ้าใบง่ายๆ และทำการจบมื้ออาหารมื้อนั้นไปด้วยเงินจำนวน 7.68 ดอลลาร์ (ราวๆ 240 บาท) ด้วยกัน เวลาต่อมาภาพที่ว่านี้ได้รับการโพสต์ลงในโลกโซเชียล โดยนาย Mike Galos อดีตพนักงานของบริษัทไมโครซอฟท์ แล้วจากนั้นมันก็มันก็ได้รับการแชร์ต่อไปอย่างรวดเร็ว โพสต์ของ Mike “เมื่อคุณร่ำรวยมีเงินมหาศาล แถมยังเป็นผู้ดำเนินการองค์กรการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่มาต่อคิวซื้ออาหารฟาสต์ฟู้ด นี่สิเป็นสิ่งที่คนรวยจริงๆ เขาทำกันไม่เหมือนกับเหล่าวอนนาบีในทำเนียบขาวหรอก” แคปชั่นโพสต์เขียนไว้ดังนี้ ทางด้านชาวเน็ตต่างก็เห็นด้วยกับ Mike ในเรื่องของความติดดินของนายบิล ที่แม้ร่ำรวยขนาดไหนก็ยังปฏิบัติตามกฎของสังคม และวางตัวอย่างง่ายๆ “ไม่มีใครสังเกตว่าเป็นเขาจริงๆ นะเนี่ย”…
-
เจ้าหน้าที่สนามบินสงสัย อะไรตุงๆ อยู่ในกางเกงของชายคนหนึ่ง ค้นเจอ ‘งู’ เป็นๆ ใส่ถุงไว้!!
สนามบินเป็นสถานที่ที่ผู้คนมากหน้าหลายตามาใช้บริการร่วมกัน เพราะว่าเป็นการเดินทางที่นับว่ารวดเร็วที่สุดในปัจจุบันในการเดินไปไหนมาไหน อย่างเช่นไปต่างจังหวัด ต่างรัฐหรือต่างประเทศ และด้วยความที่มันสะดวกเช่นนี้เอง จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มักมีคนลักลอบเอาสิ่งต่างๆ ผิดกฎหมายเข้าออกอยู่เสมอๆ ดั่งที่เราเห็นข่าวกันอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมามีการค้นพบที่ต้องเรียกว่าทึ่งจริงๆ เพราะเจ้าหน้าที่สนามบินแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนีได้พบว่า มีชายลักลอบจะเอางูออกนอกประเทศด้วยการยัดมันเอาไว้ในกางเกงที่เขาสวมอยู่!! สนามบิน Berlin-Schönefeld Airport ประเทศเยอรมนี เรื่องราวแปลกๆ นี้เกิดขึ้นเมื่อวันคริสต์มาสอีฟปีที่ผ่านมา (25 ธ.ค. 2018) ที่สนามบิน Berlin-Schönefeld Airport ประเทศเยอรมนี ในเวลานั้นเจ้าหน้าที่ได้สังเกตว่ามีชายคนหนึ่งที่มีกางเกงตุงๆ ผิดปกติ จึงได้ขอทำการเข้าตรวจค้น แล้วสิ่งที่พวกเขาค้นพบก็ทำต้องถึงกับตะลึงงัน ใส่ถุงไว้อย่างดี เพราะมันคืองูตัวยาวกว่า 40 เซนติเมตรถูกใส่ไว้ในกระสอบมัดไว้อย่างดี แล้วซ่อนเอาไว้ในกางเกงอีกทีหนึ่ง ซึ่งในที่สุดเขาก็สารภาพว่าพยายามจะลักลอบนำเจ้างูตัวนี้ไปยังประเทศอิสราเอลนั่นเอง ในภายหลังได้ตรวจสอบว่าเจ้างูตัวนี้คืองูสายพันธุ์โบอา งูไม่มีพิษที่มีขนาดใหญ่คล้ายๆ กับงูเหลือม แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ยึดงูตัวนี้เอาไว้เป็นที่เรียบร้อย และส่งมันไปที่ศูนย์ช่วยเหลือในรัฐบรันเดินบวร์ค ส่วนทางชายคนที่ลักลอบกำลังเข้าสู่กระบวนการตัดสินความผิดอยู่… แอ่แฮร้ คำแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบิน กล่าวว่า นี่เป็นการค้นพบที่แปลกประหลาดในปี 2018 ที่ผ่านมาเลยทีเดียว เพราะคงไม่ใช่ใครก็ได้แน่ๆ ที่กล้าเอางูใส่ไว้ในกางเกงเช่นนี้ ที่มา: dailymail, Berliner Zeitung
-
แพทย์หญิงขอบคุณเพื่อนร่วมงาน หลังมีคนไข้บอกว่า “จะไม่รักษากับหมอชาวเอเชีย”
อีกหนึ่งโพสต์ที่กลายเป็นกระแสอย่างมากในโลกทวิตเตอร์ หลังจากที่แพทย์หญิงคนหนึ่งได้แชร์เรื่องราวไว้ในวันที่ 15 มกราคม 2019 เมื่อมีคนไข้รายหนึ่งบอกว่า “ไม่ต้องการรักษากับหมอชาวเอเชีย” แพทย์หญิง Punam Krishan ได้เล่าถึงสิ่งที่เพื่อนร่วมงานของเธอได้ทำ หลังจากที่ได้เจอกับคนไข้ “เหยียดเชื้อชาติ” ไม่ต้องการจะเข้ารับการรักษากับเธอเพียงเพราะว่าเธอมีเชื้อสายเอเชีย แพทย์หญิง Punam แพทย์ทั่วไปในโรงพยาบาลเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ โพสต์ของเธอเล่าว่า… คนไข้: “ฉันไม่ต้องการจะรักษากับหมอชาวเอเชีย” เจ้าหน้าที่ต้อนรับ: “เธอคือชาวสกอตแลนด์นะคะ” คนไข้: “เธอดูไม่เห็นเหมือนชาวสกอตแลนด์เลย” เจ้าหน้าที่ต้อนรับ: “แล้วคนสกอตแลนด์ต้องหน้าตาเป็นอย่างไรล่ะคะ?” (เงียบ แล้วคนไข้ก็ดึงเอาบัตรนัดหมายกลับไป ฉันรู้สึกภูมิใจในเพื่อนร่วมงานจริงๆ) โพสต์ดังกล่าวของเธอ ถูกรีทวีตไปกว่า 16,000 ครั้ง อธิบายก่อนว่า ตั้งแต่ปี 2011 ประเทศสกอตแลนด์ได้ยอมรับผู้มีเชื้อสายชาวเอเชียที่อพยพเข้ามาในประเทศ ให้สามารถใช้สัญชาติสกอตแลนด์ได้ เป็นชาวสกอตแลนด์เต็มตัวโดยถูกต้องตามกฎหมาย หากแต่ยังมีชาวสกอตแลนด์จำนวนไม่น้อยที่มองว่าคนเหล่านั้นเป็นคนเอเชีย ไม่ใช่สกอตแลนด์ และมีพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติในลักษณะเดียวกันกับที่เราเห็นนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้แพทย์หญิง Punam รู้สึกประทับใจและขอบคุณในสิ่งที่เพื่อนร่วมงานของเธอได้ทำ อีกทั้งนี่ยังไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องเจอกับการเหยียดเชื้อชาติภายในประเทศที่เธอมองว่ามันคือบ้าน เธอเล่าว่าก่อนหน้านี้ตนเองต้องเคยรู้สึกแย่กับการถูกเลือกปฏิบัติ การเป็นแพทย์นั้นคือความใฝ่ฝันของเธอ…
-
หนุ่มใจกล้ากระโดดจากระเบียงชั้น 11 ของ ‘เรือสำราญ’ ถูกแบนไม่ให้ขึ้นเรืออีกตลอดชีวิต!!
สำหรับวัยรุ่นแล้วการได้เล่นอะไรที่มันโลดโผนโจนทะยาน ถือเป็นสิ่งที่สร้างความตื่นเต้นในชีวิตได้เป็นอย่างดี แต่บางครั้งหากกิจกรรมเหล่านั้นมันสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นล่ะก็ อาจจะนำมาซึ่งปัญหาใหญ่เลยก็ได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้… มีชายหนุ่มคนหนึ่งร่วมทริปออกเดินทางไปกับ ‘เรือสำราญ’ จุดหมายปลายทางก็คือหมู่เกาะบาฮามัส อันแสนงดงาม แต่แล้วจู่ๆ พี่แกก็นึกสนุก กระโดดลงมาจากระเบียงชั้นที่ 11 ของเรือสำราญเฉยเลย!? ชายหนุ่มคนดังกล่าวทราบภายหลังว่าชื่อ Nick Naydev วัย 27 ปี จากเมืองแวนคูเวอร์ ที่เดินทางมากับเพื่อนๆ ของพวกเขา แต่แล้วก็นึกสนุกถ่ายคลิปวิดีโอเล่นกัน พร้อมกับยุให้เขากระโดดลงน้ำ นาย Nick ค่อยๆ ปีนข้ามระเบียงชั้นที่ 11 ของเรือสำราญ Royal Caribbean จากนั้นก็กระโดดลงไปยังน้ำทะเลที่อยู่ด้านล่างเฉยเลย!? คลิปดังกล่าวถูกนำไปแชร์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นกระแสไวรัลภายในเวลาไม่นาน อย่างไรก็ตาม จากการกระทำดังกล่าว ส่งผลให้นาย Nick ถูกทางบริษัทเรือสำราญไล่กลับขึ้นฝั่งในทันที และแบนไม่ให้เขามาใช้บริการอีกตลอดชีวิต รวมไปถึงอาการบาดเจ็บที่ได้รับจากการกระโดดจากที่สูงอีกด้วย “หลังจากที่ลงน้ำไป ผมรู้สึกเจ็บที่หลังมากๆ ก่อนที่เรือกู้ชีพจะมารับผมขึ้นไป พนักงานบอกกับผมว่า ‘ให้ผมเก็บของ’ และลงไปจากเรือให้เร็วที่สุด” “ตอนแรกมันก็ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ แต่พอผ่านไปได้สักพักมันก็ปวดเอามากๆ…
-
‘กางเกงมวยไทย’ สู่เวทีแฟชั่นโชว์ Versace แบรนด์ดังระดับโลก คอลเลคชั่นล่าสุด!
อีกหนึ่งระดับของความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลก เมื่อแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอย่าง Versace นำเอกลักษณ์ของ ‘กางเกงมวยไทย’ ไปสู่เวทีแฟชั่นระดับโลก!! โดยทางแบรนด์ Versace ได้เปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ Fall Einter 2019 และได้จัดแสดงโชว์ไปเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในเสื้อผ้าคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ มีอยู่ชิ้นหนึ่งที่คนไทยคุ้นหน้าคุ้นตามันสุดๆ เลย นั่นก็คือ กางเกงสไตล์กางเกงมวยไทยตัวนี้ กางเกงมวยไทยสู่เวทีแบรนด์ดังระดับโลก ไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ใส่ได้ดูดี ไฮแฟชั่นสุดๆ มีให้เลือกหลากสีสันไม่ว่าจะสีดำ สีเหลือง สีบานเย็นสดใส อีกหน่อยแฟชั่นกางเกงมวยไทยแบบนี้จะต้องดังไปทั่วโลกอย่างแน่นอน ต้องไปหาซื้อกางเกงมวยแถวนี้สักตัวแล้ว ยืนคู่กับ Emily Ratajkowski นางแบบระดับโลก เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าดีใจที่กางเกงมวยไทยของเราได้ไปสู่เวทีแฟชั่นระดับโลกแบบนี้ ว่าแต่เราคงต้องไปหาซื้อกางเกงมวยสักตัวแล้วล่ะ เดี๋ยวตกเทรนด์ ที่มา versace
-
‘แซมบูก้า’ เมืองแห่งหุบเขาใน ‘อิตาลี’ ที่คุณสามารถเป็นเจ้าบ้านที่นั่นได้ด้วยเงิน 35 บาท!!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความฝันว่าอยากจะบ้านพักสวยๆ ได้นั่งจิบไวน์กินพิซซ่ารสดั้งเดิมตามแบบฉบับชาว ‘อิตาลี’ พร้อมๆ กับการได้ขี่รถเวสป้าเท่ๆ คุยกับชาวบ้านชนบทในแดนมักกะโรนี ในตอนนี้ความฝันอันสวยหรูนี้อาจจะไม่ใช่เพียงแค่สิ่งในจินตนาการอีกต่อไป เพราะมีเขตชุมชนแห่งหนึ่งในประเทศอิตาลี บอกว่าคุณสามารถซื้อบ้านในชุมชนแห่งนี้ได้ด้วยเงินเพียงแค่ 1 ยูโร (ราวๆ 35 บาท) เพียงเท่านั้น!! โดยเหล่าบ้านที่ว่านี้ตั้งอยู่ที่เมืองแซมบูก้า แคว้นปกครองตนเองซิซิลี ดินแดนที่ตั้งอยู่บนภูเขา และสามารถมองเห็นเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พร้อมกับวิวชายหาดต่างๆ ได้อย่างมากมาย ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ออกมาจากปากของนาย Giuseppe Cacioppo นายกเทศมนตรีเองเลยว่า ภายในเมืองแห่งนี้มีบ้านราคาแค่ 35 บาทวางขายอยู่จริงๆ โดยเป็นผลจากแคมเปญที่ทางจังหวัด ต้องการจะให้ผู้คนย้ายมาอยู่ที่นี่มากขึ้นนั่นเอง หลังจากที่เมืองนี้ประสบปัญหาเดียวกับชุมชนอื่นๆ นั่นคือผู้คนต่างก็ย้ายไปอยู่ในเมืองใหญ่ๆ มากยิ่งขึ้นนั่นเอง “บ้านราคาต่ำที่สุดในเมืองนี้มีราคาแค่ 1 ยูโรเท่านั้น เราไม่ได้เป็นตัวกลางสำหรับการซื้อขายระหว่างเจ้าของเก่าและเจ้าของใหม่หรอก แต่ถ้าคุณอยากได้บ้านที่นี่ล่ะก็ คุณจะได้รับมันในเวลาเพียงอึดใจเดียวแน่ๆ” “แซมบูก้าเป็นที่รู้จักกันในนามของ ‘เมืองแห่งความงดงาม’ มันเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์จนถึงขนาดถูกยกให้เป็นสวรรค์บนโลกเลยล่ะ” นาย Giuseppe Cacioppo นายกเทศมนตรีของเมืองและสมาชิกสภาการท่องเที่ยวกล่าว ส่วนวิธีการที่คุณจะได้บ้านมาครอบครองได้ในราคานี้ จะมีข้อแม้อยู่ว่าคุณจะต้องตกแต่งบ้านหลังนั้นๆ ให้ดูสวยสดงดงามภายใน 3…
-
หนุ่มกิน “กบเป็นๆ” ตั้งแต่สมัยเด็ก ผ่านไป 17 ปีเพิ่งป่วยหนัก เจอพยาธิในสมองด้วย!!
ตอนเด็กๆ เราอาจได้รับความเชื่อหรือมีความคิดแปลกๆ ขึ้นมา โดยที่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เราทำในตอนนั้นจะสามารถส่งผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกายเราได้ในอนาคต เช่นเดียวกันกับกรณีของชายหนุ่มแซ่ Wu วัย 26 ปี หลังจากที่เขาพบว่าตนเองมี “พยาธิในสมอง” เพราะเมื่อ 17 ปีก่อนเขาดันเคยกิน “กบเป็นๆ” เข้าไป?! พยาธิที่ถูกพบ Wu เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล Changsha Central Hospital มณฑลหูหนาน ประเทศจีน หลังจากที่เขามีอาการป่วยหลายๆ อย่าง ดอกเตอร์ He Guohua บอกว่าในตอนแรกหลังจากที่คนไข้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2018 ทีมแพทย์คิดว่าเขามีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง โดยนาย Wu มีอาการปวดหัวขั้นรุนแรง เดินเหินลำบาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง กลืนอะไรไม่ค่อยลง และพูดจาติดๆ ขัดๆ ในเวลาต่อมา แพทย์ตัดสินใจใช้วิธีการ MRI (ตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) เพื่อสแกนสมองของคนไข้รายนี้ พวกเขาจึงได้พบกับ “พยาธิในสมอง” สาเหตุของอาการป่วยทั้งหมด พยาธิที่พบนั้นคือพยาธิ…
-
Gillette เปิดตัวโฆษณาใหม่ หันมาให้ความสนใจกับ ‘ปัญหาสังคม’ แต่โดนดราม่าซะงั้น!?
หลังจากที่ Gillette เพิ่งจะปล่อยคลิปวิดีโอโฆษณาตัวใหม่ออกมาได้ไม่นาน กลับกลายเป็นว่าโดนกระแสดราม่าไปซะได้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!? วันนี้ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันครับ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา Gillette บริษัทผลิตที่โกนหนวดของผู้ชายชื่อดังระดับโลก ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโฆษณาตัวใหม่ลงบนเว็บไซต์ยูทูบ แต่ทว่าผลตอบรับที่ได้นั้นกลับย่ำแย่ซะเหลือเกิน มียอดดิสไลก์ถึง 930,000 ครั้ง สูงกว่ายอดไลก์ของคลิปวิดีโอจำนวน 492,000 ครั้ง ซึ่งมากกว่าเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว แถมยังมีคนเข้ามาคอมเมนต์ด่ากันไปต่างๆ นานา ลองไปชมคลิปวิดีโอกันก่อนครับ จากคลิปวิดีโอเราจะเห็นว่าในคลิปนี้ Gillette ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การโฆษณา ‘การโกนหนวด’ ของผู้ชายเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่กลับมาเล่นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ‘ปัญหาสังคม’ มากกว่า โดยในคลิปโฆษณานี้จะเผยให้เห็นถึงพฤติกรรมแย่ๆ ของเหล่า ‘ผู้ชาย’ ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งผู้อื่น การจับเนื้อต้องตัวผู้หญิงโดยไม่ได้รับอนุญาต การพูดยกยอแต่ตัวเอง หรือแม้แต่การมองว่าผู้หญิงเป็นเพียงวัตถุทางเพศ เป็นต้น พร้อมกับมีเสียงพากย์บอกว่ามีแคมเปญ MeToo ซึ่งเป็นการต่อต้านพฤติกรรมที่กล่าวไปข้างต้นของผู้ชาย และแคมเปญแบบนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผู้ชายควรได้รับแล้วหรือ? จากนั้นคนพากย์เสียงในคลิปก็จะบอกว่าแนวๆ ว่า…
-
คู่รักตายายตามฝัน ไปเที่ยวกว่า 23 ประเทศ ในวัยปลาย 70 ด้วยการขายชากาแฟเลี้ยงชีพ
มีไม่กี่เหตุผลที่คนเราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า นอกจากความรักจะเข้าใจกันแล้ว ความฝันที่มีร่วมกันนับเป็นแรงบันดาลใจให้คู่รักหลายคู่ฝ่าฟันอุปสรรคไปยังจุดหมายที่วางไว้ได้ เช่นเดียวกับสองตายายคู่นี้ Anand Mahindra ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ ได้แบ่งปันเรื่องราวของคุณตา Vijayan และคุณยาย Mohana สองตายายเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ ชื่อ Sree Balaji ในเมือง Kochi ประเทศอินเดีย ได้เดินทางไปเที่ยวกว่า 23 ประเทศด้วยเงินเก็บที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของทั้งคู่… หลายคนอาจจะสงสัยว่าการออกไปเที่ยวต่างประเทศ พร้อมกับมีกิจการเล็กๆ ที่ต้องดูแล หากไปเที่ยวก็ต้องปิดร้าน แล้วเงินเก็บจะต้องมากขนาดไหน? นอกจากพลังกายแล้ว พลังใจอันสำคัญของคุณตาก็มาจากคุณยาย ออกไปดูโลกด้วยกัน Mahindra ได้ชื่นชมคู่รักตายายว่า “พวกเขาไม่ได้มีเงินทองมากมาย แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะร่ำรวยความสุขกว่าคนทั้งประเทศ ในแง่ของทัศนคติของการใช้ชีวิต แน่นอนว่าถ้าฉันได้ผ่านไปแถวนั้น ฉันจะแวะจิบกาแฟที่ร้านของพวกเขา” ผมอยากออกไปดูโลกข้างนอก มันเป็นความปรารถนาของผม ความปรารถนาเพียงสิ่งเดียว เริ่มแรกสองตายายเปิดร้านโดยไม่มีพนักงานสักคนเพื่อเป็นการประหยัดต้นทุน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะเก็บเงินไปเที่ยว พวกเขาจึงกู้เงินบางส่วนมาจากธนาคาร โดยหลังจากการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง จะต้องใช้เวลาประมาณสามปี ในการจ่ายเงินคืน แต่พวกเขาก็จ่ายคืนจนครบ…
-
คุณแม่ท้องในวัยเรียน เปิดใจกับสิ่งที่ต้องเจอ-ถูกสังคมกดต่ำ แต่ยังสู้เลี้ยงเพราะรักลูก
การตั้งครรภ์ในวัยเรียนเป็นปัญหาที่พบในหลายสังคม และก่อให้เกิดอาจปัญหาอื่นๆ ตามมาในอนาคตได้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว คุณแม่วัยใสหลายคนก็ต้องเตรียมรับมือและรับผิดชอบลูกตัวเองอย่างดีที่สุด Shermaine Chngy ชาวสิงคโปร์เปิดใจถึงปัญหาที่ต้องเผชิญ เมื่อตั้งท้องในวัยเพียง 20 ปี เธอเล่าว่าตอนนั้นเธอเป็นนักศึกษาในสาขาวิชาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีและยังเรียนไม่จบ เธอตกใจมากเมื่อพบว่าตัวเองตั้งท้องทั้งๆ ที่ทานยาคุมกำเนิด ตอนแรกเธอมีความคิดที่จะทำแท้ง แต่เมื่อได้รับสัมผัสจากลูก เธอก็เปลี่ยนความคิดและตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูเขา แม้จะมองเห็นอุปสรรคมากมาย และมักได้ยินคำเหล่านี้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น “เด็กคนนั้นอาจจะเป็นน้องสาวของเธอก็ได้” “พ่อแม่ของเธอคงไม่สั่งสอน” “เธอคงแรดไปทั่ว” เป็นความจริงแสนเศร้าที่เหล่าคุณแม่วัยใสต้องเผชิญ หลายครั้งที่พวกเธอรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดจากสังคมเพราะเธอมีลูก ตอนนี้ Chngy อายุ 25 ปีและลูกสาวของเธอ Everleigh อายุได้ 4 ขวบแล้ว เธอถูกเหยียด และดูหมิ่นจากคนในสังคม โดยเพื่อนของเธอบอกว่าเธอทำลายชีวิตตัวเองตั้งแต่เลือกที่จะเก็บลูกไว้ บางคนก็บอกว่าเธอโง่ที่ไม่ทำแท้ง เธอเล่าต่ออีกว่า ตอนที่ท้องได้ 6 เดือน ไม่มีแม้สักคนที่สละที่นั่งให้เธอขณะขึ้นรถประจำทาง แถมมองเธอด้วยสายตาดูถูกดูแคลน บางคนพูดกับเธอว่า “ท้องเองก็ต้องรับผิดชอบเองสิ ยืนแค่นี้ไม่เห็นจะเป็นไร” “นั่นลูกของเธอเหรอ” “พวกไม่ได้รับการศึกษา”…
-
มือถือจอพับ Motorola กำลังจะกลับมาอีกครั้ง พร้อมโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม!!
หากย้อนกลับไปในช่วงยุคที่ ‘สมาร์ตโฟน’ ยังไม่กลายเป็นที่นิยมล่ะก็ ขอบอกเลยว่าโทรศัพท์มือถือแบบ ‘พับหน้าจอ’ เป็นอะไรที่โคตรจะฮิตแบบสุดๆ เลยล่ะ โดยเฉพาะค่าย M หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ Motorola ที่ใช้กันทั่วบ้าวทั่วเมืองไม่แพ้ Nokia หรือ Sony Ericsson กันเลยทีเดียว คุณลองนึกย้อนกลับไปดูสิ โทรศัพท์มือถือแบบพับหน้าจอได้ จะรับโทรศัพท์ก็แค่หยิบขึ้นมาแล้วเปิดง้างมันออกมาเอาแนบหูแล้วพูดว่า ‘ฮัลโหล สวัสดีครับ’ โอ้โห มาดนักธุรกิจชัดๆ!! กับตอนเปิดเครื่องออกมาแล้วมีเสียงดังขึ้นว่า “เฮลโล โมโต๋!!” แหม๊ มันเป็นเสียงที่คุ้นหูดีจริงๆ ย้อนกลับไปในช่วงปี 2005 เจ้าโทรศัพท์ Motorola ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือรุ่น Razr นี่เองนิยมแบบชนิดที่ว่า สามารถขายไปได้ทั้งหมดกว่า 140 ล้านเครื่องทั่วโลก!! ซึ่งล่าสุดก็มีข่าวแว่วๆ มาว่า ตอนนี้พวกเขากำลังวางแผนที่จะนำโทรศัพท์จอพับในตำนานกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เว็บไซต์ Wall Street Journal รายงานว่าทางบริษัท Lenovo ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Motorola ได้ร่วมมือกับบริษัท…
-
หญิงลอยนวล 17 ปี จากเหตุฆาตกรรมแฟนหนุ่ม แต่สุดท้ายถูกจับได้ ด้วยระบบตรวจสอบใบหน้า
ในยุคสมัยใหม่มีการนำเทคโนโลยีการระบุตัวตน โดยแสกนลายนิ้วมือหรือตรวจสอบใบหน้ามาใช้ในหลายๆ ด้าน เพื่อความแม่นยำและรวดเร็วในกระบวนการต่างๆ รวมถึงการสอบสวนและติดตามคนร้าย อย่างเช่นในกรณีนี้ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศจีนจับกุมคนร้ายหญิงรายนี้ได้ด้วยระบบจดจำใบหน้าที่จุดตรวจตรงทางด่วน หลังจากที่เธอหลบหนีจากคดีฆาตรกรรมแฟนหนุ่มเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ในมลฑลยูนาน ซึ่งห่างออกไปจากจุดที่ถูกจับกุมตัวถึง 2,600 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2562 เวลา 15.20 น. ผู้ร้ายหญิงรายนี้ได้ร่วมเดินทางกับเพื่อนร่วมงานของเธอ โดยหยุดตรงจุดตรวจตรงทางด่วน Huchang เพื่อถามทาง แต่เมื่อเดินเข้าไปในจุดตรวจ ระบบตรวจสอบใบหน้าก็เริ่มทำงานและแจ้งเตือนแก่เจ้าหน้าที่ ในระหว่างการสอบถาม เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติอีกอย่างคือ เธอแจ้งว่าไม่ได้นำหลักฐานที่ใช้ระบุตัวตนติดตัวมาด้วย เพียงแต่แจ้งว่านามสกุล Zhang ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลในระบบ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเป็นคนร้าย Lu Chunhui ตำรวจจราจรจึงวางแผนการจับกุม โดยสั่งให้เพื่อนร่วมงานที่เดินทางมาด้วย เรียกเธอด้วยชื่อจริง Li Lineng และเธอก็ตอบรับทันใด หลังจากนั้นก็ทราบความจริงว่าตลอดระยะเวลาที่หลบหนี เธอได้เปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ ด้วยความแม่นยำของระบบตรวจสอบใบหน้า ทำให้เธอไม่สามารถหลบหนีการจับกุมในครั้งนี้ได้ โดยคนร้ายได้รับสารภาพและถูกส่งตัวไปสืบสวนที่มณฑลยูนนานที่ก่อเหตุ เหตุการณ์ในครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จของการใช้ระบบตรวจสอบใบหน้าในการจับกุมคนร้าย หลังจากที่ประเทศจีนได้ติดตั้งเครื่องตรวจสอบดังกล่าวว่า 40 ตัวบนทางด่วน Huchang นอกจากนั้นยังได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดกว่า 170 ล้านตัวทั่วประเทศ ซึ่งเป็นที่ยืนยันแล้วว่าประเทศจีนกำลังจะก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในการพัฒนาระบบตรวจสอบหรือจดจำใบหน้าในโลก ที่มา: dailymail
-
หญิงชาวอินโดเผาสามีทั้งเป็น หลังทะเลาะกันอย่างหนัก เพราะสามีไม่บอกรหัสเข้าไอโฟน
เมื่อคู่รักตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว ในบางครั้งต้องพบเจอปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน โดยอาศัยการเรียนรู้และความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างครอบครัวที่มีความสุข แม้ในบางครั้งจะเกิดการกระทบกระทั่งกันบางเป็นเรื่องธรรมดา หากแต่เรื่องที่หลายคนมองว่าเป็นเล็กๆ น้อยๆ อาจลุกลามใหญ่โตจนเป็นข่าวได้ ดังเช่นสองสามีภรรยาคู่นี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2019 มีรายงานพบว่าหญิงชาวอินโดนีเซียได้จุดไฟเผาสามีทั้งเป็น เนื่องจากสามีไม่ยอมบอกรหัสผ่านไอโฟน พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ในระหว่างที่ Dedi ผู้เป็นสามีกำลังทำงานบ้านอยู่ ภรรยาก็ถามหารหัสไอโฟน แต่สามีไม่ยอมให้ จึงเกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจจนทะเลาะกันใหญ่โต หลังจากนั้นฝ่ายชายก็เริ่มทุบตีภรรยาของเขา ทำให้เธอยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ และด้วยความฉุนเฉียว เธอจึงราดเชื้อเพลิง จุดไฟเผาสามีทั้งเป็น ก่อนที่ชาวบ้านจะนำเหยื่อส่งโรงพยาบาล แต่โชคร้ายที่สามีผู้เป็นเหยื่อของเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่สามารถทนทรมานต่ออาการเจ็บปวดจากแผลไหม้ได้ เขาเสียชีวิตในวันเดียวกัน ส่วนฝ่ายภรรยาก็ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มา: Tribun Jambi, Serambi News, worldofbuzz
-
หนุ่มเดือดจัด แทงเพื่อนร่วมห้องตายคาหอพัก เหตุเถียงกันเรื่อง ‘เปิดเพลงดัง’!!
เป็นธรรมดาที่คนอยู่ด้วยกัน อาจมีบางเรื่องที่เข้าใจผิดกันหรือต้องทะเลาะเป็นบางครั้งบางคราว แต่ถึงอย่างไรแล้ววิธีที่แก้ไขหาทางออกในปัญหาที่มีต่อกันได้ ก็น่าจะเป็นการพูดคุยกันเพื่อปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง แต่ว่าบางครั้งเวลาที่คนเราโมโหเอามากๆ ก็อาจจะมีอารมณ์ชั่ววูบจนทำให้เกิดสิ่งรุนแรงตามมาได้ อย่างเช่นในเหตุการณ์น่าเศร้านี้ที่เพื่อนร่วมห้องทะเลาะกัน และลงเอยด้วยการใช้มีดแทงอีกฝั่งหนึ่งตาย จากเหตุผล ‘เปิดเพลงเสียงดัง’!? กลางดึกวันที่ 12 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองตงซาน มณฑลกวางตุ้ง ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บภายในหอพักของบริษัทแห่งหนึ่ง จึงได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน และที่นั่นเองพวกเขาได้ทำการจับกุมตัวชายวัย 31 ปีแซ่ Chen ขณะที่อีกคนหนึ่งคือชายแซ่ Li วัย 29 ปีถูกส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งในคืนเดียวกันนั้นเองเขาทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อย อาวุธที่ใช้ จากการสอบคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยออกมาว่า นาย Chen กับนาย Li มีปากเสียงกันในเรื่อง ‘ความดัง’ ของเสียงเพลง เลยทำให้นาย Chen เกิดโมโหชักมีดปลายแหลมแทงเพื่อนร่วมห้องจนเสียชีวิต สำหรับโทษที่ชายคนนี้จะได้รับยังไม่มีการเผยออกมา แต่เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล เพราะชาวเน็ตบางคนมองว่าเหตุผลในการฆ่ากันตายมันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยเอามากๆ นั่นเอง ทำยังไงถึงจะเนียนๆ แชร์ข่าวนี้ให้รูมเมทเห็นดี เราแค่ใส่หูฟังก็จะไม่เป็นการรบกวนคนอื่นแล้วล่ะ ที่มา: shanghaiist, weibo,…
-
ความพระคูลของเจ้าชาย Fazza มกุฎราชกุมารแห่งนครดูไบ เจ้าชายที่ฮอตที่สุดในโลก
เจ้าชาย Hamdan bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum หรือเจ้าชาย Fazza มกุฎราชกุมารแห่งนครดูไบ ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าชายแห่งอินสตาแกรม และมีรูปโฉมที่งดงามเป็นอันดับต้นๆ ของโลกด้วย และในวันนี้ #เหมียวบู้บี้ ก็จะพาไปรับชมความหล่อของเจ้าชายที่เขาล่ำลือกัน…. เจ้าชาย Fazza ได้รับสมญานามว่าเป็นเจ้าชายแห่งอินสตาแกรมเนื่องมาจากที่เจ้าชายนั้นมีบัญชีอินสตาแกรมชื่อว่า @faz3 ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 7.1 ล้านคน โดยแต่ละวันเจ้าชายก็คอยอัปเดตวิถีชีวิตกิจกรรมในแต่ละวันให้ผู้ติดตามได้รับชมกัน ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นการท่องเที่ยว ภาพถ่ายเซลฟี่ ซึ่งดูแล้วมีความน่าติดตามสุดๆ บนตึกสูงในนครดูไบ ม้าสีขาวคู่ใจ วิถีชีวิตแบบเจ้าชายสุดๆ จับปลาตัวใหญ่ ถ่ายกับเจ้าม้าทุกครั้ง เดาว่ากีฬาที่ทรงโปรดคือขี่ม้าแน่นอน ทรงออกงาน วิวข้างหลังสวยมากเลยเพคะ ยีราฟ ทรงโปรดปรานการท่องเที่ยวและการถ่ายภาพ หล่อมากจริงๆ เจ้าค่ะ ที่มา faz3
-
เริ่มแล้ว!! จีนสั่งปรับเงิน ‘คนที่เล่นโทรศัพท์ขณะข้ามถนน’ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ถนน!!
ช่วงเวลาที่เราใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนน ‘ความปลอดภัย’ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ดังนั้นแล้วความรอบคอบในเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเอามากๆ เพื่อให้เราปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ด้วยเหตุนี้แล้วทางการของเมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง จึงได้ออกกฎหมายสั่งปรับ ‘คนที่เล่นโทรศัพท์ขณะข้ามถนน’ ไว้เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา และล่าสุดก็มีผู้ถูกปรับเงินเป็นรายแรกจากกฎหมายข้อนี้แล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 ม.ค.) คนเดินเท้าคนหนึ่งถูกปรับเงินเป็นจำนวน 10 หยวน (ราวๆ 46 บาท) จากสาเหตุใช้โทรศัพท์มือถือขณะข้ามทางม้าลาย ซึ่งนับเป็นรายแรกที่มีคนถูกปรับจากกฎหมายข้อนี้ ใบปรับเงิน การตั้งกฎข้อนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการเพิ่มความระมัดระวังให้กับคนเดินเท้ามากยิ่งขึ้น เพราะบางทีขณะที่มองจอโทรศัพท์อาจไม่ได้มองรอบข้างหรือไปขวางกั้นการเดินของคนอื่นๆ รวมถึงเป็นการประหยัดเวลาให้กับรถที่หยุดให้ผู้คนได้ข้ามถนนด้วย ด้วยจุดประสงค์เช่นนี้ ความมุ่งหมายที่ทางการท้องถิ่นหวังเอาไว้ก็คือ ให้คนเดินเท้าข้ามถนนในเวลาอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งนอกจากการปรับเงินเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้แล้ว ก็ยังมีแคมเปญอื่นๆ อีก มาสคอตมาแจกตุ๊กตารณรงค์ให้ข้ามถนนด้วยความปลอดภัย อย่างเช่นการนำมาสคอตมาแจกตุ๊กตามอบเป็นรางวัลให้กับผู้ที่ปฏิบัติตามกฎได้เป็นอย่างดี อาทิมาสคอต ‘แกะผู้เชื่องช้า’ ก็จะมาแจกตุ๊กตาแกะน่ารักๆ ให้กับคนที่เดินช้าเพื่อหวังว่าครั้งหน้าจะมีการเดินที่เร็วยิ่งขึ้น มาสคอต ‘เดอะ แฟลช’ มาแจกตุ๊กตาให้กับเด็กๆ…
-
BLINK ทั่วโลกร่วมสร้างแฮชแท็ก #RespectJisoo เพื่อปกป้อง ‘จีซู’ หลังถูกแฟนคลับจีนโจมตี
เรียกได้ว่าปัจจุบันนี้วงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง Blackpink นี่ได้ความนิยมอย่างล้นหลามจริงๆ มีกระแสมาให้เราได้เห็นทุกๆ วัน รวมถึงดราม่าก็เช่นกัน ล่าสุดได้เกิดราม่าขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพี่สาวคนโตของวงอย่าง Kim Ji-soo หรือ JISOO ถูกแฟนคลับประเทศจีนเหยียดใน Weibo https://twitter.com/redhoodiesoo/status/1085576208283258880 โดยเรื่องเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เริ่มจากมีการตั้งกระทู้เปรียบเทียบระหว่าง Jisoo และ Jennie ขึ้นมา Weibo ซึ่งแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายก็เข้ามาถกเถียงกัน โดยจากรายงานแฟนคลับของ Jisoo พยายามจะสื่อว่าไม่อยากให้เปรียบเทียบกันสักเท่าไหร่ ทั้งสองคนเป็นคนเก่งกันทั้งคู่ ก่อนที่แฟนคลับ Jennie จะเริ่มใช้คำพูดไม่ดีต่อว่า Jisoo เรื่องราวดังกล่าวเริ่มควบคุมไม่อยู่และบานปลายสู่โซเชียลมีเดียทั่วโลก แฟนคลับ Jisoo รวมถึง Blink (แฟนคลับของวง BLACKPINK) ทั่วโลกจึงออกมาสร้างแฮชแท็ก #RespectJisoo เพื่อปกป้องศิลปินที่ตนรัก ทั้งแฟนคลับในต่างประเทศ ซึ่งออกมาปกป้องจีซูโดยเฉพาะ don't touch my jisoo 💘#RespectJisoo pic.twitter.com/jHjERULzdn — ˚…
-
สื่อนอกตีข่าว หน่วยรบพิเศษอังกฤษลุยเดี่ยวต่อสู้ผู้ก่อการร้าย/ช่วยตัวประกัน ในเคนยา!!
จากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่โรงแรมดุสิตดีทู (Dusit D2) ในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยาเมื่อช่วงกลางวันแสกๆ ของวันอังคารที่ 15 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับ 10 คน และได้รับบาดเจ็บอีกมากมาย และสุดท้ายก็เป็นฝ่ายกองกำลังของเคนยาที่สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ แต่ในเหตุการณ์นั้นมีเรื่องราวที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบอยู่ด้วย สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่ามีทหารหน่วยรบพิเศษของอังกฤษรายหนึ่ง ที่เข้าร่วมปฏิบัติการแบบ ‘ลุยเดี่ยว’ เข้าไปคร่าชีวิตของผู้ก่อการร้ายได้มากมาย และช่วยเหลือตัวประกันได้อีกหลายคน!! นายทหารรายนี้ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อแต่อย่างใด สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก รายงานว่าเขาเป็นหน่วยรบพิเศษของอังกฤษ (SAS) และเดินทางไปที่เคนยาเพื่อทำภารกิจช่วยฝึกพิเศษให้กับกองกำลังหน่วยรบพิเศษของเคนยา มีการบันทึกภาพเหตุการณ์ของทหารหน่วยรบพิเศษคนนี้เอาไว้ได้ และพบว่าเขาสวมเสื้อเกราะและอุปกรณ์การรบต่างๆ ทับไปบนเสื้อเชิ้ตสีม่วง และกางเกงยีน!! ตามรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่หน่วย SAS คนดังกล่าวกำลังออกไปชอปปิงซื้อของ ก่อนได้รับแจ้งว่ามีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น และขอความช่วยเหลือ เขาจึงรีบเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุในทันที ทั้งๆ ที่ยังสวมชุดลำลองอยู่ จากปากคำของผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า “หน่วยรบพิเศษมักจะวิ่งไปในทิศทางที่เสียงปืนดังขึ้น เขายิงโดนเป้าหมายแทบจะทุกครั้งไป เขาไม่พลาดเป้าหมายแม้แต่ครั้งเดียว ไม่แปลกเลยที่จะช่วยเหลือชีวิตผู้คนได้มากขนาดนี้” นอกจากนี้อดีตเจ้าหน้าที่หน่วย…
-
แม้แต่กบก็ไม่นก!! เจ้า Romeo กบที่อยู่เดียวดายมา 10 ปี กำลังจะมีคู่ครองแล้ว
“แม้แต่กบที่ขึ้นชื่อว่าเหงาที่สุดในโลกยังมีคู่ได้ ถึงจะต้องรอ 10 ปีก็ไม่สาย ยังไงเราก็ต้องเจอคนที่ใช่สักวันแหละ” คำพูดปลอบใจตัวเองจากสาวออฟฟิศแมวเหมียวคนหนึ่งที่มีแนวโน้มว่าจะต้องอาศัยอยู่บนคานต่อไปแบบไม่มีกำหนด เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของเจ้า Romeo (โรมิโอ) กบผู้ได้รับสมญานามว่า เป็น ‘กบที่เหงาที่สุดในโลก’ ที่มันต้องทนเดียวดายอยู่ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในโบลิเวียมานานถึง 10 ปี เจ้าโรมิโอเป็นกบสายพันธุ์ Sehuencas Water Frog ซึ่งนักวิจัยได้คาดการณ์เอาไว้ว่า มันอาจเป็นกบตัวสุดท้ายของสายพันธุ์นี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงได้เลี้ยงดูมันไว้ในพิพิธภัณฑ์เพื่อศึกษาวิจัยมากว่า 10 ปี ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่มันต้องอยู่อย่างเดียวดายนั้น ทีมนักวิจัยก็ไม่ได้ละความพยายามในการที่จะค้นหากบสายพันธุ์ Sehuencas เพราะเชื่อว่าวันหนึ่งจะต้องเจอกับเพื่อนๆ ของมันอย่างแน่นอน ในที่สุดความพยายามของทีมนักวิจัยก็ไม่ได้สูญเปล่า เมื่อนักวิจัยได้ค้นพบกบสายพันธุ์เดียวกันกับเจ้าโรมิโอในป่าที่ประเทศโบลิเวีย และเจ้าโรมิโอจะไม่ต้องเป็นกบที่เหงาที่สุดในโลกอีกต่อไป เมื่อเขาจะได้พบกับจูเลียตที่เขารอคอย กบสาบพันธุ์ Sehuencas ที่ได้มีการค้นพบล่าสุดนั้นมีจำนวนถึง 5 ตัว แบ่งออกเป็นกบตัวผู้ 3 ตัวเมีย 2 ตัว ซึ่งทีมนักวิจัยจะต้องตรวจสุขภาพของพวกมันก่อน หากว่าทั้งหมดแข็งแรงปลอดภัยดี ทีมนักวิจัยก็จะทำการเลือกน้องจูเลียตจาก…
-
ชายไร้บ้านช่วยเหลือ ‘นักอเมริกันฟุตบอล’ ที่รถติดหิมะ ทำให้เขาไปแข่งได้ทันเวลา!!
อีกหนึ่งเรื่องราวความประทับใจ ที่จะทำให้โลกของเพื่อนในวันที่อากาศหนาวๆ แบบนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นหัวใจ… เมื่อนักอเมริกันฟุตบอลชื่อดังคนหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจาก ‘โฮมเลส’ ทำให้เขาสามารถไปร่วมการแข่งขันนัดสำคัญได้ทันเวลา เรื่องราวแสนประทับใจนี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา เนื่องจากว่า Jeff Allen ผู้เล่นตำแหน่งไลน์แมนคนสำคัญของทีม Kansas City Chiefs เกิดปัญหา ‘รถติดอยู่ในหิมะ’ ทำให้เขาไม่สามารถเดินทางไปสนามแข่ง ซึ่งนัดนั้นเป็นนัดที่สำคัญมากๆ อีกด้วย ขณะที่ Jeff กำลังนั่งอยู่ในรถและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี นาย Dave Cochran ชายโฮมเลสขับรถผ่านมาเห็นพอดี ก็เลยตัดสินใจที่จะให้การช่วยเหลือ โดยที่ไม่รู้ว่าตัวจริงของ Allen เป็นใครกันแน่!? “ผมขับไปบนทางด่วนสาย 40 และเห็นรถหลายคันจอดอยู่ไปไหนไม่ได้ เพราะติดอยู่กับหิมะ ผมเห็นชายคนหนึ่งติดอยู่ในรถและพยายามที่จะขับออกไปทั้งๆ ที่หิมะเกาะอยู่เต็มไปหมด ผมก็เลยพูดกับแฟนสาวของผมว่า ‘เราต้องช่วยเขาแล้วล่ะ’” Dave เล่า หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าเขาเป็นโฮมเลส แต่มีรถใช้ได้ไง? สำนักข่าว KSHB ระบุเอาไว้ว่านาย Dave เป็นโฮมเลสที่อาศัยอยู่แต่ในรถเพียงอย่างเดียว กล่าวคือใช้รถเป็นเสมือนบ้านนั่นเอง …
-
Donald Trump ปิดทำเนียบขาวเลี้ยง ‘อาหารฟาสต์ฟู้ด’ นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลแบบจัดเต็ม!!
คุณลองจินตนาการภาพดูสิ ว่าถ้าหากวันหนึ่งได้รับเชิญไปที่ ‘ทำเนียบขาว’ ของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อ ‘เลี้ยงอาหารกลางวัน’ หลายๆ คนคงจะคิดถึงมื้ออาหารสุดหรูระดับไฮเอนด์ ที่สั่งตรงมาจากร้านชื่อดัง หรือไม่ก็จ้างพ่อครัวระดับมิชลินสตาร์มาทำให้ถึงที่ใช่มั้ยล่ะ? แต่ขอโทษที่ต้องทำให้ทุกคนผิดหวังเพราะล่าสุด Donald Trump ได้ทำการเชิญชวนบรรดานักศึกษาจากทีมอเมริกันฟุตบอลมหาวิทยาลัย Clemson Tigers ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันระดับประเทศ มาร่วมทานอาหารที่ทำเนียบขาว และอาหารที่พวกเขาเลี้ยงไม่ใช่อาหารสุดหรูแบบที่ทุกคนคิดไว้ แต่เป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่าง McDonald’s, Burger King, Wendy’s และ Pizza แบบจัดเต็ม!! “พวกเราสั่งอาหารอเมริกันฟาสต์ฟู้ด เต็มไปด้วยแฮมเบอร์เกอร์ และพิซซ่า ทั้งหมดนี้ผมจ่ายเอง ผมคิดว่าพวกคุณคงจะชอบนะ โดยปกติแล้วบรรดานักกีฬาทั้งหลายจะทานอาหารกันเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และผมคิดว่าทุกคนคงจะสนุกกันแน่ๆ” ท่านประธานาธิบดีกล่าวเปิดงานเลี้ยง นอกจากนี้ก็ยังกล่าวแบบติดตลกอีกว่า “จริงๆ ผมมีทางเลือกนะ ภรรยาของผม สุภาพสตรีหมายเลข 1 เสนอว่าเราอาจจะทำสลัดเลี้ยงพวกคุณ แต่ผมสวนกลับไปว่า นักกีฬาที่ไหนเค้ากินผักกัน!?” จัดเต็มไปสิคร๊าบบบบ 555 “ตอนนี้เรามีทุกอย่างที่ผมชอบ…
-
หนุ่มฉีด ‘อสุจิ’ เข้าร่างกาย เชื่อว่าจะรักษาอาการปวดหลังได้ สุดท้ายได้นอนโรงพยาบาล
ในสมัยที่การแพทย์ยังไม่พัฒนาและแพร่หลายอย่างทุกวันนี้ หากได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยเป็นไข้ ผู้คนก็ต้องพยายามหาทางรักษาตัวเอง และแม้ว่าปัจจุบันการแพทย์จะเข้าถึงกลุ่มคนได้ค่อนข้างครอบคลุมแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังเชื่อในวิธีรักษาของตัวเองอยู่ เหมือนอย่างหนุ่มคนที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันนี้ เมื่อเขาใช้วิธีรักษาอาการบาดเจ็บด้วยการฉีด “อสุจิ” เข้าร่างกาย!! เมื่อไม่นานมานี้หนุ่มชาวไอร์แลนด์วัย 33 ปีคนดังกล่าว ต้องเข้าโรงพยาบาลในเมืองดับลินอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีอาการปวดหลังเป็นอย่างมาก และแพทย์ก็พบว่าแขนข้างหนึ่งของเขามีผื่นแดงและมีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อทำการตรวจสอบร่างกายของเขา แพทย์ก็พบกับอสุจิที่ตกค้างอยู่ในแขน เนื่องจากเขาฉีดเข้าไปเพื่อหวังรักษาอาการปวดหลัง แต่มันกลับทำให้เขาติดเชื้อจากเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ Dr. Lisa Dunne ได้เขียนรายงานเรื่องของเขาลงในนิตยสาร Irish Medical Journal ว่า “เขาคิดค้นวิธีรักษาดังกล่าวขึ้นมาโดยไม่ได้รับคำปรึกษาทางการแพทย์ใดๆ เขาจะฉีดอสุจิเข้าร่างกายเดือนละ 1 ครั้ง เขาทำติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา 18 เดือนแล้ว โดยใช้เข็มที่สั่งออนไลน์มา” สุดท้ายนี้การฉีดอสุจิที่เขาคิดเป็นการรักษา ไม่ได้ช่วยให้เขาหายปวดหลังแต่อย่างใด แต่หลังจากเข้ามาพักในโรงพยาบาลไม่นาน อาการก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และแม้ว่าอาการปวดหลังจะดีขึ้นแล้ว แต่เขากลับขอออกจากโรงพยาบาลไปก่อนที่ทางแพทย์จะทำการดูดและรักษาอสุจิที่ตกค้างอยู่ในแขนของเขาเสียอย่างนั้น ที่มา Ladbible, Metro
-
เผยชีวิต ‘คนขับรถบรรทุกที่สวยที่สุด’ ในญี่ปุ่น ชาวเน็ตแห่กดไลก์ อยากจะไปนั่งด้วยซะจริง!!
ด้วยความที่เป็นงานที่ต้องขับรถเป็นเวลานาน และต้องมีความทรหดประมา่ณนึง จึงทำให้อาชีพ ‘คนขับรถบรรทุก’ ดูเหมือนจะกลายเป็นอาชีพสำหรับผู้ชายไปโดยปริยาย แต่ว่าที่ประเทศญี่ปุ่นมีผู้หญิงคนหนึ่งที่หันเหกลายมาเป็นคนขับรถบรรทุก แต่เธอไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ เท่านั้น เพราะว่าชาวเน็ตของที่นั่นยกให้เธอเป็นคนขับรถบรรทุกที่สวยที่สุดในประเทศเลยทีเดียว https://www.instagram.com/p/Brje97Tjnkb/ Rino Sasaki สาวชาวจังหวัดโคงิ เป็นลูกสาวของพนักงานขับรถบรรทุกระยะไกลคนหนึ่ง ซึ่งในตอนแรกนั้นเธอเล่าว่าอาชีพคนขับรถบรรทุกไม่เคยจะมีอยู่ในหัวเลย คุณพ่อของเธอ https://www.instagram.com/p/Bd7V4vynAj3/ จนกระทั่งเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว พ่อของเธอมีอาการป่วยแต่ก็ยังคงดึงดันทำงานอยู่ ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้เห็นถึงความลำบากของเขา และเกิดความสงสารคุณพ่อที่ต้องขับรถไกลเป็นพันๆ กิโลเมตรอย่างเดียวดายและไร้คนดูแล https://www.instagram.com/p/BqUfBkvjn7V/ สาววัย 21 ปีคนนี้จึงหันเหจากอาชีพคุณครูสอนเต้นมาจับพวงมาลัยแทน จนในที่สุดเธอสามารถสอบได้ใบขับขี่รถบรรทุกและร่วมเดินทางไปกับคุณพ่อ แต่แม้ถึงจะออกทริปร่วมกับคุณพ่อในเวลานั้น แต่เธอก็ยังคงอยากที่จะสอนเต้นต่อไป ทว่าในที่สุดก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะการออกเดินทางไปทั่วประเทศเช่นนี้ไม่สามารถกลับบ้านได้ตรงกับตารางที่วางเอาไว้ ในที่สุดเธอจึงยุติอาชีพสอนเต้นอย่างเด็ดขาด และกลายมาเป็นนักขับรถบรรทุกมืออาชีพแทน!! https://www.instagram.com/p/BpMd3ljDLtv/ อย่างไรก็ตามเธอกล่าวว่าไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจเช่นนี้เลย เพราะเธอได้ใช้เวลาร่วมกับคุณพ่อได้ดูแลเขาเป็นอย่างดี อีกทั้งคุณพ่อก็ได้สอนสกิลใหม่ๆ ในการขับรถบรรทุกให้ทุกวันๆ https://www.instagram.com/p/BgYbDPkngW0/ จนในตอนนี้เธอได้กลายเป็นหนึ่งในจำนวน ‘Tragirl’ (ผู้หญิงคนขับรถบรรทุก) ที่มีอยู่จำนวนน้อยมากๆ ในประเทศ และยังได้รับความสนใจจากสังคมโซเชียลเป็นอย่างมาก…
-
นักท่องเที่ยววิ่งหนีกันกระเจิง เดินบนหาดอยู่ดีๆ มี ‘จระเข้’ ออกมาจากพุ่มไม้หน้าตาเฉย!!
ในเวลาที่เราไปนอนกินลมท้าแดดอยู่แถวๆ ริมทะเล มันช่างเป็นเวลาที่แสนจะมีความสุขจริงๆ ที่ได้อยู่กับตัวเอง และธรรมชาติอันแสนงดงาม แต่ว่าบางทีเราก็คงต้องระวังตัวเองอยู่เหมือนกันเพราะว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดมักจะเกิดขึ้นมาได้อยู่เสมอ เหมือนดั่งเหตุการณ์นี้ที่เหล่าคนรักทะเลต้องหนีกันกระเจิง เพราะขณะที่กำลังเดินอยู่บนหาดทรายสีสะอาดริมทะเล จู่ๆ ก็มีจระเข้ที่ไหนโผล่มาก็ไม่รู้!! คลิปขณะคนหนีจระเข้กันกระเจิง https://www.instagram.com/p/BsmNF21hdE1/ คลิปจากวิดีโอหนึ่งได้เผยถึงเหตุการณ์นี้ ขณะที่ทุกคนกำลังเพลิดเพลินเดินนวยนาดอยู่ริมหาดในอุทยาน Parque Nacional Natural Tayrona ทางตอนเหนือของประเทศโคลอมเบีย จู่ๆ ก็มีเจ้าสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำแอบโผล่พรวดออกมาจากพุ่มไม้ซะอย่างนั้น เกือบชะตาขาดแล้วไหมล่ะตู เมื่อนักท่องเที่ยวสังเกตเห็นว่าบนหาดมีแขกไม่ได้รับเชิญปรากฎขึ้นมา พวกเขาก็วิ่งหนีกันจ้าล่ะหวั่น เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกมากล่าวเตือนนักท่องเที่ยวว่า ให้ระวังตัวเอาไว้ให้ดีเพราะอุทยานแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่ดูแลสัตว์ป่า รวมถึงเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับผู้คนด้วย ดังนั้นแล้วการที่เจอสัตว์อย่างจระเข้ในพื้นที่แห่งนี้จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้… ให้มันรู้นี่ถิ่นใคร ในภายหลังเจ้าหน้าที่ได้แยกหาดนี้ให้เป็นสัดส่วนระหว่างที่อยู่อาศัยของสัตว์และพื้นที่สำหรับคนได้ใช้ประโยชน์ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ เอ๋ วิ่งเร็ววิ่งง!! “มันสำคัญมากนะที่ต้องตระหนักเอาไว้ว่าพื้นที่แห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับคนเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ปกป้องสัตว์ทั้งหลายด้วย” Luz Elvira Angarita ผู้ดูแลอุทยานแห่งชาติกล่าว ที่มา: mirror, notimerica
-
เหมียวดำซนจนได้เรื่อง ติดกับดักหนูเกือบตาย เขามีเอาไว้ดักหนู ไม่ได้ดักแมวนะลูก
ความอยากรู้อยากเห็นเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ละครเรื่องไหนกำลังดัง ดาราคนไหนกำลังเป็นข่าว กระทู้ไหนกำลังมาแรง ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปติดตาม กลัวว่าพรุ่งนี้จะพูดกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง หากความขี้สงสัยของคนคือการเกาะติดกระแสบนหน้าจอ ความอยากรู้อยากเห็นของสัตว์คงเป็นการสำรวจสิ่งต่างๆ ด้วยการดมกลิ่น เลีย หรือสัมผัสสิ่งเหล่านั้น ยกตัวอย่างเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ซนจนได้เรื่อง เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561 ตอนเช้ามืด มีรายงานพบแมวสีดำ ซึ่งส่วนหัวติดกับดักหนูใกล้กับโรงแรม Langstone’s Premier Inn ในเมืองนิวพอร์ต รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย โดยองค์กรพิทักษ์สัตว์ออสเตรเลีย (RSPCA) ได้ใช้เวลาร่วมชั่วโมงในการช่วยเหลือ และนำเจ้าเหมียวส่งสัตวแพทย์เพื่อนำหัวแมวออกจากกับดักหนูอย่างถูกวิธี ยังดีที่เจ้าเหมียวเพียงแค่หัวไปติดเท่านั้น มันไม่ได้เผลอไปกินอาหารพิษที่วางล่อไว้ ทำให้ทีมงานไม่ต้องกังวลว่ามันจะโดนวางยา พอแกะกล่องช่วยมันได้ พวกเขาพบว่ามันเป็นเพศผู้ มีอาการอิดโรยเพราะขาดน้ำ นอกจากนี้ยังไม่มีไมโครชิป จึงไม่สามารถระบุเจ้าของมันได้ น่ารักน่าชังขนาดนี้ ขวัญเอ๋ย ขวัญมานะเจ้าเหมียว ทางด้าน Sophie Daniels ผู้ตรวจสอบจากองค์กรพิทักษ์สัตว์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ส่วนหัวของเจ้าเหมียวถูกกดด้วยแรงบีบกับดักหนู แต่โชคดีที่มีคนไปเจอมันเข้า เพราะมันดูท่าทางอิดโรย และไม่สามารถออกมาด้วยตนเองได้” “ฉันดีใจที่องค์กรของเราทำงาน 24 ชั่วโมง…
-
คุณแม่คนแกร่ง! เข็นลูกสองวิ่งทำลายสถิติโลก 10 กิโลเมตรด้วยความเร็วที่สุด
แม่บ้านส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการทำงานบ้าน และเลี้ยงลูก จนบางทีไม่มีเวลาดูแลตัวเองหรือแม้กระทั่งการออกกำลังกาย หลายครั้งที่ต้องต้องหากิจกรรมเรียกเหงื่อไม่เพื่อไม่ให้ร่ายกายอ่อนแอ หรือเจ็บป่วยได้ง่าย เช่นเดียวกับคุณแม่ลูกสองรายนี้ คุณแม่คนนี้ชื่อว่า Rachel Bowling ผู้ทำลายสถิติ Guinness World Record ด้วยการพาลูกใส่รถเข็นออกวิ่งเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตรในงานแข่งขัน LowCountry Habitat for Humanity Resolution Run บนเกาะ Dataw รัฐ South Carolina เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2019 ที่ผ่านมา โดยเธอให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันหวังว่ามันจะเป็นกำลังใจให้กับคุณแม่หลายคนและทำให้เห็นว่าเราสามารถทำหลายสิ่งที่ผู้ชายทำได้ เราอาจจะวิ่งไม่ได้เร็วมาก แต่ฉันก็สามารถทำลายสถิติได้ ดังนั้นคุณแม่ทั้งหลายต้องตั้งเป้าหมายและเชื่อว่าเราทำได้” ความสำเร็จของเธอในครั้งนี้ยังต้องรอการยืนยันจาก Guinness แต่อย่างไรก็ตามได้มีการตรวจสอบแล้วว่าเธอสามารถทำลายสถิติของ Jocelyn Armitage จากประเทศอังกฤษด้วยเวลาที่น้อยกว่า 2 นาที 11 วินาที Armitage ได้ทำสถิติในการวิ่ง 10 กิโลเมตรในเวลา 44 นาที 45…
-
หนุ่มทำความสะอาดห้องน้ำในอุทยานฯ แล้วเรียกเก็บเงินกับ ‘ประธานาธิบดี’ จากเหตุชัตดาวน์
หลังจากที่เป็นปัญหาอีรุงตุงนังกันในทำเนียบรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา กับกรณีของการเพิ่มงบประมาณสำหรับ ‘รั้วกั้นแดน’ เป็นจำนวนเงิน 185,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากว่ารัฐบาลฝ่ายค้านกลับไม่ยอม และนำไปสู่การยกเลิกการอนุมัติงบประมาณ จนเป็นเหตุให้มีการ ‘ชัตดาวน์’ หน่วยงานรัฐบางส่วนไป จนถึงตอนนี้ผ่านมากว่า 24 วันแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ และจากการชัตดาวน์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ยาวนานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เลยทีเดียวเชียว!! แน่นอนว่าชาวอเมริกาเองก็เดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก เพราะบรรดาพนักงานรัฐทั้งหลายต่างก็ถูกบังคับให้อยู่ที่บ้าน การใช้บริการต่างๆ ก็เลยเกิดปัญหาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไปต่อวีซ่า ทำพาสปอร์ต หรือตามห้องน้ำในอุทยานแห่งชาติถูกทิ้งเอาไว้ไม่มีใครดูแล ประชาชนทั้งหลายต่างก็เฝ้ารอคอยให้ประกาศยกเลิกการชัตดาวน์นี้เสียที เพราะไม่เช่นนั้นอาจนำไปสู่ความหายนะก็เป็นได้ โดยเฉพาะ ‘ห้องน้ำ’ ของอุทยานแห่งชาติ Mt. Hood National Forest ที่ถูกทิ้งไว้จนมีสภาพย่ำแย่แบบสุดขีด เพราะไม่ได้รับการดูแล สภาพก่อนทำความสะอาด ก็เลยมีชายคนหนึ่งชื่อว่านาย Dan Little ออกมาทำความสะอาดห้องน้ำเหล่านั้น พร้อมทั้ง ‘เรียกเก็บเงิน’ จาก Donald Trump ซะเลย!! เรื่องราวดังกล่าวนี้ถูกแชร์โดยสมาชิสภาของรัฐ Oregon ชื่อว่า…
-
นักธุรกิจสุดประทับใจในบริการของพนักงาน เลยตัดสินใจ ‘ซื้อรถ’ มอบให้เป็นของขวัญ!!
เรื่องราวแห่งความประทับใจ เมื่อลูกค้าแมคโดนัลด์รายหนึ่งรู้สึกประทับใจในการบริการของพนักงานเอามากๆ ก็เลยตัดสินใจเซอร์ไพรส์เธอด้วยการซื้อ ‘รถยนต์’ เป็นของขวัญให้แบบฟรีๆ!! เรื่องมีอยู่ว่านักธุรกิจชื่อว่า Chris Ellis ได้พบกับ Vicki Anderson พนักงานหญิงในร้าน McDonald’s สาขาเซาท์ ฮัทชินสัน รัฐแคนซัสประเทศสหรัฐอเมริกา ปกติแล้วนาย Chris จะแวะมาซื้อแมคฯ ที่สาขานี้เป็นประจำ และมักจะได้รับการบริการที่ดีจาก Vicki อยู่ทุกครั้งไป จนก่อเกิดเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน มีอยู่วันหนึ่งทั้งสองคนก็พูดคุยกันตอนเจอกันที่ร้าน Vicki ก็เล่าว่ารถเก่ายี่ห้อ Cutlass Sierra รุ่นปี 1994 นั้นเกิดพังจนใช้งานไม่ได้ และค่าซ่อมก็แพงกว่าราคารถเสียอีก เธอก็เลยมองหารถคันใหม่เพื่อที่จะซื้อมาแทน ช่างประจวบเหมาะกันพอดีกับลูกชายของ Chris ที่บังเอิญซื้อรถคันใหม่มาได้พอดี ก็เลยวางแผนที่จะขายรถคันเก่ายี่ห้อ Pontiac GS รุ่นปี 2009 ซึ่ง Chris เองก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าอยากจะตอบแทน Vicki กับการบริการที่แสนดีเสมอมา เขาตัดสินใจขอซื้อรถรุ่น Pontiac GS รุ่นปี 2009 ต่อจากลูกชาย ซึ่งลูกชายเองก็บอกว่า “ถ้าหากพ่อจะเอามันไปทำเรื่องดีๆ ล่ะก็ จะขายให้ในราคาที่ลดแบบพิเศษเลย”…
-
สาวซาอุฯ ผู้ลี้ภัยไปแคนาดา โพสต์สแนปแชทปลื้มใจ ‘ได้ลองกินเบคอน’ เป็นครั้งแรก!!
จากประเด็นของ Rahaf Mohammed Al-Qunun ซึ่งเป็นข่าวดังในประเทศไทย หลังเธอพยายามหนีจากครอบครัวในประเทศซาอุฯ เพื่อขอเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศออสเตรเลีย แม้จะไม่สามารถไปยังออสเตรเลียได้ตามที่คิด แต่ทางประเทศแคนาดา ซึ่งมีนโยบายรับผู้ลี้ภัยจากทั่วโลก ก็ออกมายืนยันว่าพร้อมอ้าแขนรับเธอให้มาเป็นพลเมืองอยู่ในประเทศ หลังจากข่าวล่าสุดที่เธอเดินทางไปถึงสนามบินในประเทศแคนาดาเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา พร้อมกับการต้อนรับอันอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ของทางแคนาดาอย่างคับคั่ง ทางด้าน Chrystia Freelan รัฐมนตรีต่างประเทศของแคนาดาก็ได้กล่าวต้อนรับ โดยเรียกเธอว่า “พลเมืองแคนาดาผู้กล้าหาญ” “เธอคือสาววัยรุ่นผู้มีความกล้า และเผชิญกับเรื่องต่างๆ ที่หนักหนามามากมาย ตอนนี้ถึงเวลาที่เธอจะได้มาอยู่ในบ้านหลังใหม่แล้ว” และตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์แล้วที่ Rahaf ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศแคนาดา ได้ลิ้มรสอิสรภาพในการใช้ชีวิต ทำในหลายๆ สิ่งที่เธอไม่สามารถทำได้ ทั้งการซื้อสิ่งของต่างๆ ให้กับตัวเองไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 15 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา เธอได้ทำการอัปเดตเรื่องราวบนแอปฯ สแนปแชท ว่าเธอกำลังทานอาหารเช้าแบบชาวแคนาดาเป็นไข่ดาวและ ‘เบคอน’!? เธอเขียนแคปชันภาพเอาไว้ว่า ‘OMG เบคอน’ พร้อมทั้งอีโมจิรูปหัวใจ…
-
พนักงานคาเฟ่ออสเตรเลีย ทิ้งเนื้อดิบเอาไว้ในรถ ผ่านไป 4 ชม. เนื้อสุก ชาวเน็ตสงสัยปลอมรึเปล่า!!
คิดถึงกันบ้างไหมกับ ‘ฤดูร้อน’ ของประเทศไทยเราที่มันร้อนจนตับแทบจะแลบออกมา ร้อนจนพาลให้หงุดหงิดโมโหจนอยากจะให้กระโดดน้ำแล้วนอนแช่ทั้งวันให้รู้แล้วรู้รอด แตุ่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีประเทศอื่นๆ อีกที่ประสบปัญหาเดียวกัน อย่างเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลียนี้ เมื่อพบว่าเนื้อดิบที่ถูกทิ้งเอาไว้ในรถมันกลับสุกขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ!! เนื้อตอนแรก เรื่องนี้มีอยู่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 ม.ค.) พนักงานร้านคาเฟ่ชื่อว่า Mildura Dockside Café รัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลียทิ้งเนื้อสเต็กเอาไว้ในรถที่จอดในร่มเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. แต่แล้วเวลาราวๆ 16.00 น. พนักงานคนนี้ก็กลับไปที่รถอีกครั้งแล้วก็ต้องพบกับเรื่องประหลาดใจ เพราะว่าเนื้อที่ถูกทิ้งเอาไว้มันสุกจนแทบจะไหม้เลยก็ว่าได้ ไม่น่าเชื่อนี่อาจเป็นอีกหนึ่งวิธีใหม่ในการปรุงอาหารหรือนี่!! สุกเฉยเลยง่ะ โดยรายงานจากสำนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริเวณแถบเมือง Mildura และ Swan Hill ทางตอนเหนือของรัฐวิคตอเรีย มีอุณหภูมิที่สูงมากๆ ถึง 45.8 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว “ด้วยคลื่นความร้อนขนาดนี้ โปรดพึ่งระลึกไว้เสมอว่าอย่าทิ้งเด็ก คนแก่หรือสัตว์เลี้ยงเอาไว้ในรถอย่างเด็ดขนาด” พนักงานผับคนนี้โพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ได้กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจเป็นภาพที่จัดฉากเอาไว้หรือว่าภาพปลอมหรือเปล่า เพราะมันไม่มีทางเลยที่เนื้อจะสุกได้ถึงขนาด สุกมาก (Well-Done) เช่นนี้ ไม่เหลือเนื้อแดงๆ สักนิด …
-
ตำรวจทลายแก๊งค์ค้ามนุษย์ พบวัยรุ่นชายถูกล่อลวงตกเป็น ‘ทาสเซ็กส์’ หลายเดือน!!
‘การค้ามนุษย์’ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในแทบจะทุกๆ ประเทศบนโลก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเกิดขึ้นอยู่ในโลกปัจจุบัน ซึ่งในบางกรณีก็เกิดจากความสมัครใจ บางกรณีก็เกิดจากความบังคับ และบางรายก็ถูกล่อลวงมาจากความไม่รู้ และนี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้เห็นถึงความโหดร้าย เมื่อวัยรุ่นชายคนหนึ่งถูกล่อลวงโดยแก๊งค์ค้ามนุษย์ และตกเป็นทาสเซ็กส์ข้ามประเทศเป็นเวลาหลายเดือนด้วยกัน!! ทีมตำรวจแถลงข่าว ความเป็นมาของเรื่องนี้ได้เริ่มขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2018 เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัฐฟลอริด้า ได้รับข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐหลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า มีวัยรุ่นชายอายุ 17 ปีคนหนึ่งหายตัวไป และข้อมูลที่ได้สืบมาล่าสุดก็ระบุว่าเขาอยู่ใน ‘รถพ่วง’ คันหนึ่งที่เขตเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนี้เอง… ทางเจ้าหน้าที่เชื่อกันว่าเหยื่อผู้หายตัวไปนี้ ถูกล่อลวงผ่านโปรแกรมสื่อสารที่ชื่อว่า Discord ซึ่งเป็นโปรแกรมคุยกันผ่านโลกอินเทอร์เน็ตที่เหล่าเกมเมอร์มักจะใช้กัน จากข้อมูลดังกล่าวจึงทำให้ตำรวจเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กบุกไปยังพิกัดที่ระบุทันที แล้วพวกเขาก็พบตัววัยรุ่นคนที่หายตัวไปพร้อมกับวัยรุ่นชายวัย 16 ปีอีกคนหนึ่งอยู่ในรถพ่วงคันเดียวกันนั้นเอง พร้อมกันนี้ยังพบผู้ใหญ่อีก 4 คนนั่นคือ นาย Mark Earl Dennis, นาย Andrew Barry Dennis, นาย Curtis Lee Gruwell, และ นาย Michael Wayne Schwartz ซึ่งในเวลานั้นนาย Mark…
-
หนุ่มไต้หวันโชว์ของ ให้ตะขาบยักษ์ยาว 17 นิ้วไต่ตามเนื้อตัวไปมา เลี้ยงดีเหมือนลูก!!
คำเตือน: บทความนี้อาจมีภาพของ ‘ตะขาบ’ ซึ่งอาจทำให้เพื่อนๆ ขนลุกสยองพองเกล้าได้ ทางที่ดีควรเตรียมตัวเตรียมใจสักนิดก่อนอ่านนะจ๊ะ สำหรับสัตว์เลี้ยงที่คนส่วนมากนิยมกันก็อาจเป็นหมาหรือแมว หรือถ้าใครที่ชอบอะไรแปลกๆ กันสักหน่อยก็อาจเลี้ยงหนู เลี้ยงหมู เลี้ยงงูสวยงามกันไปตามประสา แต่ว่านี่คงเป็นสัตว์เลี้ยงที่แปลกจริงๆ เมื่อมีหนุ่มคนหนึ่งเลี้ยง ‘ตะขาบยักษ์’ ยาวกว่า 17 นิ้วเอาไว้ แล้วเขาก็ปล่อยคลิปอันน่าสยดสยองระหว่างมันเลื้อยไปมาบนตัว!! Neil Cheng Le นักศึกษาชีววิทยาชาวไต้หวันวัย 26 ปีเป็นเจ้าของตะขาบตัวเขื่องที่ว่านี้ิ เขาเล่าว่ามันเป็นตะขาบเพศเมียสายพันธุ์ ‘ขาเหลืองเปรู’ โดยที่เขาซื้อมาในปี 2014 ตอนที่มันยังมีตัวนิดเดียวเพียงเท่านั้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็หลงรักเจ้าสัตว์ชนิดนี้ และดูแลมันมาโดยตลอด… และนี่คือภาพอันน่าสยองขวัญ เมื่อเขาได้ปล่อยคลิปมันไต่อยู่บนเนื้อตัวไปๆ มาๆ อย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อยนิดว่าจะถูกมันทำร้ายเข้าให้ (บอกเลยว่ามีขนลุก!!) วิดีโอของน้องขณะเดินไปมา แต่ถึงแม้เขาจะเลี้ยงเจ้าตะขาบตัวนี้เอาไว้ก็จริง แต่เขาก็ขอออกปากเตือนคนอื่นๆ ที่อยากทำตามด้วยว่ามันมีอันตรายเอามากๆ และคนที่เลี้ยงควรจะต้องมีความเชี่ยวชาญในการรับมือกับสัตว์มีพิษนี้ในระดับหนึ่งด้วย “แน่นอนว่าการเลี้ยงสัตว์มีพิษอย่างนี้มันย่อมมีความเสี่ยงเกิดขึ้น ซึ่งก็ขอแนะนำว่าให้อยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญจะเป็นการดีที่สุด” “การกัดของพวกมันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก แต่ผมไม่เคยรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยเพราะผมเคยมีประสบการณ์กับงานอดิเรกศึกษาพวกสัตว์จำพวกนี้มาก่อน ผมไม่ค่อยมีปัญหากับการที่มันไต่บนตัวผมหรอก รวมถึงให้อาหารพวกมันด้วยมือด้วย” Neil…