Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
เด็กเสิร์ฟ “เอาเค้กกระแทกหน้า” ลูกค้า ผู้จัดการร้านมองว่า “พวกเธอสมควรโดนแล้ว”!!
เพื่อนๆ คงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถแสดงกิริยามารยาทหยาบคายใส่เหล่าพนักงานผู้ให้บริการเราได้หรอกนะ เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านอาหาร Guramma ร้านอาหารอิตาลีในเมืองเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อ 2 บริกรหนุ่มต้องเจอกับ 2 ลูกค้าสาวที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ภาพจากคลิปที่เป็นกระแสในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2018 พยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร้านเอาไว้ เผยให้เห็นว่า 1 ในลูกค้าสาวโต๊ะดังกล่าวโวยวายออกมาด้วยคำหยาบคายว่า “ทำไมพวกฉันถึงจะต้องไปกินเค้กสั่วๆ ของแกด้วย?!” แม้ไม่รู้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีปากเสียงกันด้วยเรื่องอะไร แต่ก็เหมือนกับว่าทางฝั่งบริกรหนุ่มนั้นคงสุดจะทนกับพฤติกรรมของลูกค้าโต๊ะนี้เอามากๆ แล้ว และนั่นเป็นเหตุที่ทำให้เขาเอาเค้กที่อยู่ในมือกระแทกเข้าไปที่หน้าของลูกค้าคนนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ลูกค้าทั้ง 2 คนลุกจากเก้าอี้ในทันที หญิงสาวอีกคนสาดน้ำในแก้วใส่บริกรคนดังกล่าว ก่อนที่เธอจะโดนพนักงานชายอีกคนยกเค้กขึ้นมาโยนใส่เธอ คลิปจบลงในตอนที่พนักงานทั้ง 2 คนเดินจากไป พร้อมกับที่ลูกค้าสาวโวยวายออกมาว่า “ร้านนี้มันเป็นเหี้ยอะไรกันวะเนี่ย?!” หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีการรายงานว่าทางฝั่งลูกค้าได้มีการพูดคุยกับผู้จัดการร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการร้านก็ได้ออกมาพูดในลักษณะที่ว่า “ลูกค้าสาวทั้งสองคนนั้นสมควรโดนแบบนี้แล้ว” ผู้จัดการร้านกล่าวว่า “ลูกค้าทั้งสองคนนั้นหยาบคายเป็นอย่างมาก พนักงานของเราไม่อาจทนรับกับน้ำเสียงและคำพูดของพวกเธอได้อีกต่อไป จึงเกิดเป็นคลิปดังกล่าว” “ถึงอย่างนั้น เราก็มองว่าสถานการณ์ที่เห็นคือพนักงานของเราโดนลูกค้ายั่วโมโห…
-
คุณป้าเอา “เท้าเปล่าพาดโต๊ะพับ” บนเครื่องบิน ขอให้เอาลงก็ไม่ยอม เลยรวมตัวกันร้องเรียน!!
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของพฤติกรรมที่คนส่วนใหญ่มองว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เมื่อหญิงสาววัยกลางคนยกเท้าของตัวเองขึ้นมาพาดวางไว้กับโต๊ะพับบนเครื่องบิน ใครมาขอให้เอาลงแกก็ไม่ยอม นี่เป็นภาพของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคม 2018 เมื่อคุณป้าผู้โดยสารรายหนึ่งและเพื่อนอีกคน ยกเอาเท้าเปล่าขึ้นมาพาดวางไว้กับโต๊ะพับด้านหน้า ทำท่าทางเหมือนไม่แคร์เลยว่าผู้โดยสารคนอื่นๆ จะรู้สึกอย่างไร ภาพที่เห็นนั้นถูกถ่ายโดยผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้างๆ ระหว่างการเดินทางของสายการบิน China Southern Airlines ที่เดินทางจากเมืองหนานหนิง ไปยังเมืองฮาร์บิน ประเทศจีน ระหว่างทาง คุณป้ารายนี้ก็ได้ทำพฤติกรรมอย่างที่เราเห็น ซึ่งผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่นักกับสิ่งที่เธอทำ และได้ไปขอให้เธอเอาเท้าลงมานั่งตามปกติ ไม่ใช่แค่ผู้โดยสารด้วยกันเพียงอย่างเดียว เพราะแม้แต่แอร์โฮสเตสบนเครื่องเองก็ได้เดินเข้าไปขอให้เธอเอาเท้าลงมาเหมือนกัน แต่ว่าคุณป้าก็ตอบกลับมาแต่เพียงว่า “ฉันรู้สึกเจ็บเท้า จากการซ้อมบัลเลต์อย่างหนัก” คำพูดที่เธอบอกว่าตนเองไม่สามารถเปลี่ยนท่านั่งได้ ก็ยังคงทำให้หลายๆ คนมองว่ามันเป็นแค่ข้ออ้างของคนขี้เกียจที่อยากนั่งสบายๆ โดยที่ไม่มีความเกรงใจคนอื่น ทำให้ผู้โดยสารทุกคนต้องทนกับสิ่งนี้ไปตลอดการเดินทาง เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้ขณะอยู่บนเครื่อง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากทิ้งข้อมูลเอาไว้ให้กับทางสายการบินในตอนที่ไปถึงที่หมายแล้ว เพื่อต้องการที่จะร้องเรียนในพฤติกรรมที่เกิดขึ้นนี้ หลังจากที่เรื่องนี้กลายเป็นกระแสออกไป ทางสายการบิน China Southern Airlines ก็ได้ออกมาบอกกับทุกคนว่าพวกเขากำลังดำเนินการตรวจสอบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่ การรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวเน็ตจีนหลายๆ คนเองก็แสดงความคิดเห็น มองว่านี่คือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก…
-
Eminem เหมาโรงหนังให้แฟนๆ ได้ดูหนังเรื่อง Bodied ที่เขาอำนวยการสร้างแบบ “ฟรีๆ”
นอกจากเจ้าพ่อแรปเปอร์อย่าง Eminem จะเป็นนักร้องเพลงแรปที่โด่งดัง ฉลาด ปราดเปรื่อง และมีฝีมือแล้ว เขายังเป็นผู้อำนวยผลิตภาพยนตร์ออกมาให้เราได้ชมกันอีกด้วย ภาพยนตร์เรื่อง Bodied เป็นหนังเกี่ยวกับการแบทเทิลของเหล่าแรปเปอร์ที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้การอำนวยการของ Eminem และผู้จัดการของเขา ภาพยนตร์เรื่อง Bodied นี้ได้ผู้กำกับเป็น Joseph Kahn และได้ Alex Larsen มาเป็นผู้เขียนบท โดยเนื้อหาของภาพยนตร์จะเกี่ยวกับนักศึกษาคนหนึ่งที่ต้องเข้าไปพัวพันกับการแบทเทิลเพลงแรป Calum Worthy เข้ามารับบท Adam ตัวเอกของเรื่อง นักศึกษาหนุ่มที่ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการแข่งขันเพลงแรป โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองค่อยๆ คืนคลานเข้าสู่การแข่งขันที่จริงจังจนทำให้เขายากจะถอนตัว ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Bodied และวันที่ 2 ตุลาคม 2018 นี้เองก็เป็นวันแรกที่หนังเรื่องนี้ออกฉายในประเทศสหรัฐอเมริกา Eminem จึงขอเอาใจแฟนๆ ด้วยการ เหมาโรงภาพยนตร์ทั้งโรง เพื่อให้แฟนๆ ได้ชมหนังเรื่องนี้กันแบบ “ฟรีๆ” โดยพ่อหนุ่ม Eminem ได้โพสต์เชิญชวนเหล่าแฟนคลับบนอินสตาแกรมว่า “ชาวดีทรอยต์ มาดูเรื่อง Bodied กันเร็ว ผมเหมาโรงหนังไว้ให้แล้ว และตั๋วก็อยู่กับผมนี่แหละ วันศุกร์กับเสาร์เวลา 18.40 น.…
-
เจ้าบ่าวงานงอก ใช้เงินกับ ‘ปาร์ตี้สละโสด’ เกินงบ จนไม่เหลือจ่ายค่าชุดแต่งงานให้เจ้าสาว!!
‘งานแต่งงาน’ ถือเป็นงานสำคัญที่อาจจะเกิดได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต หลายๆ คนจึงอยากจะให้งานมันออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แน่นอนว่าสิ่งที่คิดไว้กับความเป็นจริงย่อมไม่เหมือนกัน เพราะในความจริงแล้วความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้แทบจะตลอดเวลา จนอาจนำมาซึ่งความหายนะแบบงานแต่งของคู่บ่าวสาวคู่นี้ก็เป็นได้… เรื่องมีอยู่ว่าบ่าวสาวไปออกรายการชื่อดังของต่างประเทศที่มีชื่อว่า Don’t Tell The Bride ซึ่งทางรายการจะมอบเงินเป็นจำนวนหนึ่งเป็นงบในการแต่งงานให้กับ ‘เจ้าบ่าว’ เพื่อจัดงานแต่งงานในฝัน และจะกำหนดเวลาให้ 3 สัปดาห์ในการดำเนินภารกิจจัดงานแต่งงานตามที่ตัวเองต้องการ แต่กลับกลายเป็นว่า พ่อหนุ่มเจ้าบ่าวคนนี้ ดันเอาเงินที่ได้จากรายการไปใช้ในงาน ‘ปาร์ตี้สละโสด’ ซะเกือบหมด จนทำให้ไม่มีเงินเหลือจ่ายในส่วนอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย!? นาย Nathan เจ้าบ่าวได้รับงบสำหรับงานแต่งงานจากรายการเป็นจำนวนทั้งหมด 14,000 ปอนด์ หรือราวๆ 600,000 บาท ธีมงานแต่งที่เจ้าคิดขึ้นมาคือ ‘Day of the Dead’ หรือก็คือวันแห่งความตายนั่นเอง โดยเช่าบาร์แห่งหนึ่งในเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษเป็นสถานที่จัดงาน หลังจากที่จัดสรรงบทุกอย่างหมด เขาก็ตัดสินใจที่จะจัดปาร์ตี้สละโสดที่เมือง Magaluf ประเทศสเปน แต่ไปๆ มาๆ ปาร์ตี้มันสนุกสุดเหวี่ยงเหลือเกินจนทำให้เกินงบไปมากโข สรุปแล้วเขาใช้งบไปกับปาร์ตี้สละโสดถึง 2,000 ปอนด์…
-
คนขับรถบัสกลายเป็น ‘ฮีโร่’ หลังไล่ผู้โดยสารลงทั้งคัน เพราะไม่ยอมขยับที่ว่างให้ผู้พิการ
บางครั้งสถานการณ์ธรรมดาๆ ก็สามารถสร้าง ‘ฮีโร่’ ได้ โดยที่ไม่ต้องใช้พลังวิเศษอะไรเลยแม้แต่น้อย… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อพนักงานขับรถบัสถูกยกย่องให้กลายเป็น ‘ฮีโร่’ หลังจากที่เขาสั่งให้ผู้โดยสารทุกคนลงจากรถ เพราะพวกเขาไม่ยอมขยับเว้นที่ว่างให้ ‘คนนั่งวีลแชร์’ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นาย Francois Le Berre เป็นผู้พิการต้องนั่งรถเข็นวีลแชร์ ขณะที่เขาเรียกรถบัสแต่กลับกลายเป็นว่าขึ้นไปบนรถไม่ได้เพราะไม่มีใครขยับตัวเปิดทางให้กับเขาเลย จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พนักงานรถบัสที่เห็นเหตุการณ์รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เขาจึงตัดสินใจไล่ผู้โดยสารทุกคนลงจากรถ ก่อนที่จะช่วยเหลือนาย Francois ขึ้นไปบนรถและขับออกไป ราวกับว่าเป็นผู้โดยสาร VIP ยังไงยังงั้นเลย เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้ถูกแชร์ลงโซเชียลมีเดียโดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Accessible Pour Tours (Accessible For All) ที่ดูแลโดยนาย Francois พร้อมกับแคปชันว่า “เมื่อวานนี้ขณะที่กำลังรอรถบัสอยู่ในปารีส ไม่มีใครต้องการที่จะขยับตัวเอง เพื่อสร้างช่องว่างให้ผมขึ้นไปบนรถบัสได้ ก่อนที่คนขับรถจะลุกขึ้นแล้วสั่งให้ผู้โดยสารทุกคนลงจากรถ จากนั้นเขาก็เดินมาหาผมแล้วบอกว่า ‘ผมจะช่วยให้คุณขึ้นไปบนรถเอง ส่วนคนอื่นรอคันต่อไปก็แล้วกันนะ’” โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 12,200 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า…
-
ชาวประมงเห็น ‘วาฬ’ ติดข่ายดักปลา โทรหายามชายฝั่งก็ไม่มา เลยโดดลงทะเลไปช่วยเองซะเลย
ถ้าเราเห็นว่าสัตว์ที่น่าสงสารตกอยู่ในอันตราย เป็นใครก็คงจะอดหยิบยื่นน้ำใจช่วยเหลือมันไม่ได้ และเหตุการณ์นี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีชาวประมงคนหนึ่งเห็นว่ามีวาฬติดข่ายดักปลาอยู่ เขาเลยตัดสินใจดำน้ำลงไปในทะเลเพื่อช่วยเหลือมันออกมา กลายเป็นภาพสุดคูลที่อบอุ่นหัวใจแบบสุดๆ ไปเลย วิดีโอของเหตุการณ์นี้ โดยเรื่องมีอยู่ว่าขณะกำลังกลับจากการหาปลาในท้องทะเลอันกว้างใหญ่แถบชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ชาวประมงชื่อว่า Sam กับเพื่อนร่วมงานของเขา ดันไปเห็นว่ามีวาฬหลังค่อมตัวหนึ่งไปติดเข้ากับข่ายดักปลาเข้าให้ “พวกเรากำลังกลับมาจากการหาปลา แล้วเห็นหางของวาฬตัวนี้ติดอยู่กับตาข่าย มันดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนผิวน้ำอยู่อย่างนั้นโดยที่ทำอะไรไม่ได้” Nicholas เพื่อนชาวประมงกล่าว มานี่สิเจ้าวาฬ ฉันจะช่วยแกเอง ในเรื่องนี้ทั้งคู่ได้โทรศัพท์ไปแจ้งยามชายฝั่งเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ แต่ว่าหลังจากรออยู่สักพักใหญ่ๆ พวกเขาก็โทรมาบอกว่าพวกเขาคงทำอะไรไม่ได้และไม่มาแล้ว จากการที่เห็นดังนั้น พวกเขาก็คิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะช่วยเหลือมันให้เป็นอิสระให้ได้ ในที่สุด Sam จึงตัดสินใจกระโจนลงไปในทะเล แล้วใช้มีดที่พกไปด้วยตัดตาข่ายปล่อยวาฬกลับสู่ธรรมชาติได้สำเร็จ นิ่งๆ ลูกนิ่งๆ “มันเป็นอะไรที่โคตรบ้าเลยเชื่อไหม ตอนที่ยามชายฝั่งโทรมาบอกเราว่าไม่สามารถทำอะไรได้แล้วให้ปล่อยมันไปตามยถากรรม ผมเลยเร่งเสียงให้เจ้าวาฬได้ยินว่าไม่มีใครมาช่วยเอ็งแล้ว มีแต่พวกเรานี่แหละที่เป็นความหวังของเอ็ง แล้วเราก็ทำมัน” Nicholas กล่าว ฮึบเข้าไว้ เหตุการณ์นี้ได้สร้างเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตมากมายถึงความมีจิตใจดี และไม่ยอมทิ้งวาฬของพวกเขาเหล่านี้ซึ่งเห็นแล้วมันก็อบอุ่นหัวใจดีเหลือเกินใช่ไหมล่ะ!? ที่มา: ladbible, newsflare
-
หนุ่มโดนจับ เพราะดันไปข่มขืน “แพะกำลังตั้งครรภ์” ที่ไปขโมยเพื่อนบ้านมา!!
เราอาจเคยเห็นคดี “การทารุณกรรมสัตว์” ในหลายๆ พื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ หรือการ “ข่มขืนสัตว์” เป็นต้น และสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มันถูกเรียกว่าเป็น “การทารุณกรรมสัตว์ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเจอมา” เมื่อชายคนหนึ่งได้กระทำการข่มขืน “แพะที่กำลังตั้งครรภ์” เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในเมือง Winterveldt ประเทศแอฟริกาใต้ นาย Knowloedge Khumalo มีฟาร์มเล็กๆ ตั้งอยู่ในเมือง และเขาก็ได้เลี้ยงแพะเอาไว้ ซึ่งขณะนั้นมีตัวหนึ่งที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มของวันที่ 8 สิงหาคม 2018 เขาได้ยินเสียงแพะของตัวเองร้องออกมาในตอนกลางคืน โดยที่ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะมองว่ามันอาจคลอดลูกออกมาในตอนนั้น กะว่าพรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวค่อยออกไปดู แต่ในเช้าวันต่อมา เขาก็พบว่าแพะตัวนั้นของเขาได้หายไปแล้ว ออกไปหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนกระทั่งพอเขากลับมาถึงบ้าน เขาก็พบว่าแพะตัวเดิมที่เลี้ยงไว้ได้กลับมาแล้ว ทว่ามันกลับอยู่ในสภาพที่อิดโรย ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ หลังจากนั้นจู่ๆ ก็มีคนเดินมาถามเขาว่า “นั่นคือแพะของคุณหรือ?” เมื่อ Khumalo ตอบว่าใช่ ชายคนนั้นก็เล่าให้ฟังว่าเขาเห็นแพะตัวนี้ไปนอนอยู่ในกระท่อมของนาย Feselani Mcube เพื่อนบ้านวัย 33 ปี…
-
ฮาโลวีนโหด หนูน้อยชาวอังกฤษ 2 ราย “ถูกยิง” หลังออกไป Trick-or-treat นอกบ้าน
คืนฮาโลวีนแสนหรรษากลับกลายเป็นความหวาดผวาสำหรับเด็กสองคนที่ ถูกยิง เพราะเดินไปเล่นในที่ลับตาคน คุณแม่คนหนึ่งปล่อยให้ลูกรักทั้งสองออกไปเล่นฮาโลวีนยามค่ำคืน ลูกสาวคนโตนามว่า Makiya Williams วัย 14 ปีจึงพาน้องชายวัย 5 ขวบนามว่า Mael Howel ออกไปขอขนมกันตามประเพณี แล้วในคืนเดียวกันนั้นเอง คุณแม่นามว่า Dominique Wise ก็ได้รับสายแจ้งว่า ลูกๆ ทั้งสองของเธอถูกลูกหลงและได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันของผู้ครอบครองอาวุธปืน Dominique Wise เด็กทั้งสองคนพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางการปะทะกันของมือปืน 2 ฝ่าย ในเวลาราว 18.20 น. ของวันดังกล่าว พวกเขาเล่าว่ามีการยิงตอบโต้กันไปมาราว 6 นัดได้ เหตุการณ์นี้ทำให้ฝ่ายผู้เป็นแม่เกิดความตื่นตกใจอย่างมาก เธอกล่าวว่า “มันไม่สมเหตุสมผลเลย ที่คุณจะปล่อยให้ลูกออกไปเล่นนอกบ้านในวันฮาโลวีนแล้วถูกยิงกลับมา” ขณะเดียวผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งก็กล่าวว่า เขาเองก็ได้ยินเสียงดังแต่คิดว่าเป็นเสียงของ “พลุ” ที่จุดเฉลิมฉลองในเทศกาลฮาโลวีน ไม่ได้คิดว่าเป็นเสียงปืน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง พบหนูน้อย Mael บาดเจ็บพร้อมตะกร้าใส่ขนมหวานกระจายเกลื่อนพื้น เขาถูกยิงเข้าที่ขาและขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรอการผ่าตัดนำกระสุนออก Mael ขณะก่อนออกไปเที่ยวนอกบ้านในวันฮาโลวีน เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ ย่าน Olney…
-
หญิงชาวอินโดถูกตัดสิน “ประหาร” ในซาอุฯ เพราะฆ่านายจ้างที่พยายาม ‘ข่มขืน’ เธอ
ชาวอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตาได้เกิดความไม่พอใจกับทางประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างมาก หลังหญิงชาวอินโดนีเซีย ถูกตัดสินประหารชีวิต โดยไม่มีการแจ้งรัฐบาลอินโดฯ Tuti Tursilawati ผู้ใช้แรงงานหญิงชาวอินโดนีเซียที่อพยพเข้ามายังประเทศซาอุดีอาระเบียได้ถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 2011 ด้วยคดีฆาตกรรมนายจ้างของตน แต่ถึงอย่างนั้นเธอยังไม่ได้รับโทษ กระทั่งวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา เธอถูกประหารชีวิตเป็นที่เรียบร้อยในเมืองอัฏฏออิฟ ประเทศซาอุดีอาระเบีย Tuti Tursilawati การตัดสินคดีในครั้งนี้ทำให้เกิดความไม่พอใจแก่ชาวอินโดนีเซียอย่างยิ่ง Joko Widodo นายกรัฐมนตรีของอินโดนีเซียได้ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย ถึงสาเหตุที่ไม่แจ้งข่าวการประหารชีวิต Tuti Tursilawati ให้ทางการอินโดนีเซียได้ทราบ ประกอบกับการให้ปากคำของ Tuti ที่กล่าวว่าเป็นการกระทำเพื่อ ป้องกันตนเอง หลังจากถูกนายจ้างของเธอลวนลามและคุกคามทางเพศ ยิ่งทำให้ชาวอินโดนีเซียยิ่งไม่พอใจ ภายหลังทราบว่า ทางซาอุดีอาระเบียไม่สนใจเรื่องของการร้องขอสิทธิมนุษยชนและสิทธิการรักษาชีวิตของตน (ผู้กระทำผิด) สุดท้าย นายกรัฐมนตรีของอินโดนีเซียจึงได้พยายามร่างข้อตกลงจริงจังกับประเทศซาอุดีอาระเบียเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ทางการประเทศซาอุดีอาระเบียมีกาประหารชีวิตชาวอินโดนีเซียโดยไม่มีการแจ้งกลับมายังประเทศบ้านเกิด ที่มา: migrantcare, nextshark และ Daily Mail
-
นักโทษประหารเลือก ‘หางหมู – อุ้งเท้าหมู’ เป็นมื้อสุดท้ายในชีวิต ก่อนลาจากโลกนี้ไป
คงจะดีไม่น้อยถ้าหากว่าเราสามารถสามารถกำหนดได้ว่า ‘มื้อสุดท้าย’ ในชีวิตของเราอยากจะกินอะไร แต่ก็อย่างว่าชีวิตเป็นเรื่องไม่แน่นอนและเราอาจจะไม่มีโอกาสได้เลือกด้วยซ้ำว่ามื้อสุดท้ายในชีวิตจะกินอะไรดี แต่สำหรับ ‘นักโทษประหาร’ แล้ว พวกเขามีกำหนดเวลาชีวิตที่แน่นอน และสามารถเลือกกินอาหารมื้อสุดท้ายบนโลกนี้ได้ ทว่าก็มีนักโทษอยู่คนหนึ่งที่เลือกกินอาหารแปลกๆ เป็นมื้อสุดท้ายซะอย่างงั้น!! อย่างที่รู้ๆ กันว่าในประเทศสหรัฐอเมริกายังคงมีโทษประหารชีวิตอยู่ ดังนั้นแล้วนักโทษที่ต้องคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรง ก็อาจจะได้รับการตัดสินโทษขั้นสูงสุดนี้ และชายนามว่า Edmund Zagorski ก็คือหนึ่งในบุคคลเหล่านี้ ความผิดของเขาคือฆาตกรรมเหยื่อ 2 รายและศาลได้ตัดสินประหารชีวิตไปตั้งแต่ปี 1984 ซึ่งในตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องรับโทษกับสิ่งที่ก่อไปแล้ว ฆาตกรคนนี้สามารถเลือกทางจบชีวิตของตัวเองได้สองทาง นั่นคือการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าหรือฉีดยาเข้าสู่กระแสเลือดตามที่กฎหมายกำหนด ในที่สุดแล้วเขาเลือกที่จะใช้การนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า เพราะเขาบอกว่ามันคงเป็นอะไรที่รวดเร็วดีใช้เวลาเพียงแค่ 35 วินาทีเท่านั้นก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว ซึ่งจะต่างจากการฉีดยาที่อาจต้องทุกข์ทรมานนานถึง 18 นาที และอาหารที่เขาเลือกเป็นมื้อสุดท้ายในชีวิตก่อนที่จะขึ้นนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าก็คือ ‘หางหมู – อุ้งเท้าหมู’ ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงเลือกอาหารที่แปลกๆ เช่นนี้ (สำหรับต่างประเทศนี่อาจเป็นอาหารที่แปลกมาก) และกำหนดการประหารชีวิตของเขาก็คือวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั่นเอง จึงหมายความว่าในตอนที่เราอ่านเรื่องนี้อยู่เขาคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว… คลิปการรายงานเรื่องนี้ นี่อาจเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวแปลกๆ ที่เกี่ยวกับการประหารชีวิตที่เกิดขึ้นบนโลก แต่ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจมีเรื่องอะไรที่เหนือความคาดหมายอย่างนี้เกิดขึ้นอีก…
-
ช่างทำกระดาษไม้ไผ่ เก็บรวบรวม “ฉี่เด็กผู้ชาย” ส่วนสำคัญที่ทำให้ผลงานออกมาดีที่สุด?!
Guanggun Jie หรือวัน Single’s Day คือเทศกาลหนึ่งในประเทศจีนที่จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 11 พฤศจิกายน (11/11) ของทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองให้กับ “ความโสด” และแน่นอนว่าเทศกาลวันหยุดอะไรทำนองนี้ หลายๆ คนก็เลือกที่จะพากันออกไปชอปปิงหรือไม่ก็อาจจะจับจ่ายใช้สอยกันผ่านแอปโทรศัพท์ มันจึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพ่อค้าแม่ขายในการสร้างรายได้ เช่นเดียวกับชายคนนี้ ช่างทำกระดาษผู้มีความตั้งใจจะกอบโกยรายได้ในช่วงวันหยุดของทุกปี พ่อหนุ่มแซ่ Li คนนี้คือ “ช่างทำกระดาษไม้ไผ่” ผู้ได้รับสืบทอดวัฒนธรรมพื้นบ้านที่ส่งต่อกันมานับร้อยๆ ปี ซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละปีเขาก็จะพยายามทำกระดาษไม้ไผ่ออกมาขายให้ได้มากที่สุดในช่วงวันหยุดนี้ แต่เขาบอกว่าปีนี้มันดันติดปัญหาอยู่นิดหน่อย เพราะเขาดันขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญไป และนั่นก็คือ “ฉี่ของเด็กผู้ชาย”?! Li บอกว่าเขาต้องเอากระดาษไม้ไผ่ แช่ลงไปใน “ฉี่ของเด็กผู้ชาย”?! ร้อยวันพันปีเราอาจไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าการทำกระดาษจากไม้ไผ่นั้นจำเป็นต้องใช้ “ฉี่ของเด็กผู้ชาย” ด้วย โดย Li บอกว่ามันคือส่วนประกอบที่สำคัญเพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด เขาบอกว่าในปี 2017 เขาจำเป็นต้องใช้ฉี่ของเด็กผู้ชายมากถึง 1,500 ลิตร แต่ในปีนี้ฉี่ที่เขามีอยู่กลับน้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้ถึง 250 ลิตร มันจึงเป็นเหตุผลที่เขากำลังพยายามรวบรวมหามาให้ได้มากที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยเสนอให้ราคาเพียงแค่ถังละ…
-
การทดลองในตำนาน ‘คืนชีพศพด้วยกระแสไฟฟ้า’ ต้นแบบของแฟรงเกนสไตน์
หนึ่งในตัวละครชื่อดังจากนวนิยายสยองขวัญแนววิทยาศาสตร์ร่วมสมัย ต้องยกให้ ‘แฟรงเกนสไตน์’ มาเป็นอันดับต้นๆ ด้วยการนำแนวคิดคืนชีพให้กับซากศพ จากการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน ด้วยวิวัฒนาการทางด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ แต่ก่อนที่คุณจะคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องนวนิยายสยองขวัญ ตามจินตานาการเพียงเท่านั้น เอาเข้าจริงๆ แล้ว พอจะมีเค้าโครงมาจากความเป็นจริงอยู่บ้าง จากการทดลองของนักฟิสิกส์นามว่า Giovanni Aldini Giovanni Aldini ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 มกราคม 1803 ชายหนุ่มนาม George Forster ถูกประหารชีวิตจากความผิดฐานฆาตกรรม ด้วยวิธีการแขวนคอภายในคุกนิวเกท ณ กรุงลอนดอน และหลังจากการประหารชีวิต ศพของเขาถูกนำไปประจานทั่วเมือง ก่อนที่จะถูกนำร่างไร้วิญญาณมากระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าอีกทีหนึ่ง โดยศพที่ถูกนำมาส่งนั้นมีจุดประสงค์เพื่อการทดลอง และจะทำการทดลองโดยนักปรัชญาธรรมชาติ และนักฟิสิกส์ชาวอิตาเลียน Giovanni Aldini ผู้มีศักดิ์เป็นหลานของ Luigi Galvani ผู้ค้นพบการกระตุ้นศพให้ขยับได้ในสัตว์ ด้วยกระแสไฟฟ้า ภาพวาดจำลองการทดลองของ Giovanni Aldini บันทึกจากการรายงานผ่านหนังสือพิมพ์ The Times ระบุว่า…
-
หนุ่มนอนในเต็นท์ใสกับพืช 200 ต้น เกือบไม่รอดชีวิต จากปริมาณคาร์บอนฯ ไม่ถ่ายเท…
ถือว่าเป็นการทดลองแปลกๆ ที่อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้กันเลยล่ะ เมื่อชายหนุ่มรายหนึ่งเกิดอยากจะลองอะไรแปลกๆ อย่างการขังตัวเอง ภายในเต็นท์เล็กๆ กับพืชจำนวน 200 ต้น เพื่อพิสูจน์ว่าพืชเหล่านี้ จะสามารถเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นออกซิเจนเพียงพอต่อการมีชีวิตรอดของเขาหรือไม่… https://www.instagram.com/p/BpIqliOAVh3/ โดยเบื้องต้นแล้ว ตามธรรมชาติของต้นไม้จะดูดออกซิเจน และคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงเวลากลางคืน ส่วนในช่วงกลางวันก็จะดูดคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป และคายออกมาเป็นออกซิเจน อันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สิ่งมีชีวิตบนโลกดำรงอยู่ต่อไปได้ และด้วยข้อจำกัดในเรื่องนี้ นาย Kurtis Baute จากประเทศแคนาดา จึงตัดสินใจขังตัวเอง ภายในเต็นท์ไบโอโดมขนาด 3×3 เมตร อันเป็นหนึ่งภารกิจที่ท้าทายถึงชีวิต ด้วยทฤษฏีที่ว่าการที่เขาหายใจออกเป็นคาร์บอนฯ พืชสีเขียวในนั้นจะสามารถเปลี่ยนเป็นออกซิเจนได้มากพอ ที่จะทำให้เขาหายใจต่อไปได้ภายในระยะ 3 วันหรือไม่ แต่โชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หลังจากที่เข้าไปอยู่ในนั้นได้ประมาณ 15 ชั่วโมง ปริมาณก๊าซคาร์บอนฯ สูงเกินจนถึงขีดอันตราย มีความเสี่ยงที่จะทำให้สมองได้รับความเสียหาย หรือถึงขั้นโคม่ากันได้เลย… “ผมอาจจะอยู่รอดภายในนั้นได้ 3 วัน โดยเป้าหมายของผมคือต้องไม่ตาย เป้าหมายที่จะต้องบรรลุโปรเจกต์นี้ให้ได้…
-
สาวประสบเหตุ ‘อกระเบิด’ ระหว่างขึ้นเครื่อง แพทย์ปัดรับผิดชอบ ชี้เลือกซิลิโคนคุณภาพต่ำ…
การทำศัลยกรรมพลาสติกคือหนึ่งในทางเลือกความสวยงาม ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในช่วงที่ผ่านมา และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีความน่าเชื่อถือ เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา อาจจะส่งผลเสียร้ายแรงต่อร่างกายได้ กรณีตัวอย่างจากนาง Mai Tuong Vi หญิงสาวนักร้องชาวเวียดนาม ในขณะที่กำลังจะเดินทางกลับไต้หวัน จู่ๆ ในระหว่างเที่ยวบินวันที่ 22 ตุลาคม 2018 เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบ และได้ยินเสียงระเบิดจากบริเวณหน้าอกด้านซ้ายของตนเอง เบื้องต้น เธอคิดว่าอาจจะเป็นเพราะร่างกายพยายามปรับตัว ให้เข้ากับสภาพความดันอากาศภายในเครื่องบิน แต่ทว่าอาการของเธอกลับแย่ลง แม้จะรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการแล้ว ในที่สุด เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปหาแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง และแล้วก็พบว่าซิลิโคนที่เสริมหน้าอกนั้นเกิดระเบิดอยู่ภายในนั่นเอง สืบไปสืบมา พบว่าซิลิโคนตัวนี้ เธอเลือกที่จะใช้เสริมหน้าอกเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ซึ่งแพทย์ได้ระบุไว้ว่าเป็นซิลิโคนคุณภาพต่ำในราคาประมาณ 60,000 บาท มีความเสี่ยงที่จะแตกหรือระเบิดได้ แต่ด้วยการโปรโมชั่นรับประกันตลอดชีพที่พ่วงมาด้วย เธอจึงตัดสินใจเลือกที่จะเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนตัวนี้ อย่างไรก็ตาม เธอพยายามโทรศัพท์หาแพทย์ที่เคยเสริมหน้าอกให้กับเธอ เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่าเขาปฏิเสธว่าเลิกทำไปแล้ว และไม่สามารถติดต่อได้อีกหลังจากนั้น ในเมื่อไม่มีทางเลือกใดๆ จึงจำเป็นจะต้องหาศัลยแพทย์คนอื่นแทน…
-
จับโป๊ะศิษย์เส้าหลินชนะน็อค ‘แชมป์แอฟริกัน’ ใน 43 วินาที จ้างนศ. ต่างชาติมาขึ้นชก!?
เมื่อไม่นานมานี้ ประเทศจีนมีการจัดศึกวันทรงชัยครั้งใหญ่ โดยเป็นคู่ชกระหว่าง นักมวยศิษย์เส้าหลิน พบกับ แชมป์นักชกชาวแอฟริกัน โดยมีชื่อเสียงของสำนักการต่อสู้เป็นเดิมพัน… การชกในครั้งนี้ จัดขึ้นที่เมืองเติงเฟิง มณฑลเหอหนาน อันเป็นเมืองที่มีสำนักวัดเส้าหลินในตำนานตั้งอยู่ด้วย ท่ามกลางผู้ชมกว่า 30,000 คน ที่เข้ามาชมลีลาการชกของศิษย์เส้าหลินเจ้าถิ่น Shi Yanxi อายุ 51 ปี ศิษย์เจ้าอาวาส Shi Yongxin โดยมีคู่ชกก็คือ Gabriel ชาวแทนซาเนีย แชมป์มวยที่ถูกอ้างว่ามีสถิติชนะ 14 แพ้ 1 เกือบไร้พ่าย แต่ทว่าก็ยังมีดีกรีนักสู้ที่น่าเกรงขามเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการขึ้นชกที่โชว์หมัดชนะน็อคกันไปได้เพียง 43 วินาที ชาวเน็ตเริ่มตั้งข้อสงสัย ว่าคู่ชกชาวแอฟริกันนั้นเป็นแชมป์มวยจริงๆ เนื่องจากไม่มีเชิงมวยเลย จึงทำการขุดคุ้ยสืบหาประวัติของ Gabriel กันยกใหญ่ และแล้วก็พบว่านาย Gabriel นั้นไม่ได้เป็นแชมป์มวยอย่างที่เข้าใจกัน แต่กลับกลายเป็นนักศึกษาชาวต่างชาติ ที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย Shenyang Aerospace University …
-
6 ข้อแก้ตัวสุดแปลกจากนักเรียนผู้มาสาย ที่คุณครูต้องขอเอามาแชร์สักหน่อยล่ะ
ในชีวิตการเรียน เพื่อนๆ เคยไปเข้าเรียนไม่ทันกันบ้างมั้ย ซึ่งบางคนก็อาจจะมีเหตุบังเอิญให้สายจริงๆ บางคนก็อาจจะตื่นสายหรือบางคนก็อาจจะแค่ขี้เกียจก็ตาม แต่เรามักจะมีข้อแก้ตัวในการมาสายไว้ตอบคุณครูอยู่เสมอ แต่ข้อแก้ตัวที่เพื่อนๆ เคยใช้มาจะกลายเป็นข้ออ้างธรรมดาไปเลย เมื่อมาเจอกับข้ออ้างของนักเรียนมาสายที่ #เหมียวโคบี้ รวบรวมมาจากประสบการณ์ตรงของเหล่าคุณครู นักเรียนแต่ละคนจะมีข้ออ้างอย่างไรนั้น เอามาชมกันเล้ย!! เคยมีนักเรียนถือซุ้มล้อรถยนตร์เข้ามาในห้องเรียน (จะไม่อยากแก้ตัวเยอะ เลยเอาหลักฐานมาให้จารย์ดูว่ารถหนูพัง) อาจารย์ก็พยักหน้าตอบและสอนต่อโดนไม่ได้พูดอะไร 2. มีนักเรียนคนหนึ่งที่อยู่ชั้น ม.ปลาย มีเรียนสายเพราะเขาลืมไปว่าตัวเองเรียน ม.ปลาย และไปเข้าเรียนชั้น ม.ต้น แทน แถมยังนั่งรอเรียนเรียบร้อยก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมาเรียนผิดที่ 3. ฉันสอนอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ มีนักเรียนชั้น ป.5 มาสายเพราะว่าเขาไป “จับปลาวาฬ” มา ซึ่งจริงๆ จับปลาวาฬในที่นี้คือคำศัพท์ท้องถิ่นที่มีความหมายว่า “ไปขลิบอวัยเพศ” 4. ใน ม.ปลาย มีนักเรียนหญิง 2 คนขอไปเข้าห้องน้ำตอนเริ่มเรียนการแสดงคาบ 45 นาที คุณครูก็ให้ไป ซึ่งพวกเธอกลับมาตอนที่เหลือเวลาอีก 5 นาทีแถมถือถุงแมคโดนัลด์มาด้วย คุณครูยักคิ้วและถามว่าทำไมถึงไปห้องน้ำนานจัง หนึ่งในนักเรียนหญิงก็ตอบกลับมาว่า “มีคนต่อแถวเข้าห้องน้ำยาวไปหน่อยค่ะ” 3.…
-
สองหนุ่มอ้าง ‘เป็นคนเดียวกัน’ เดินทางมาจาก ‘โลกอนาคต’ ที่ห่างกันถึง 40 ปี!!
เราคงจะเคยเห็นพล็อตหนังแนวแแบบว่า ‘พระเอกเดินทางจากโลกอนาคต แล้วมาพบกับตัวเองในอดีต’ มาก่อนกันอย่างแน่นอน…แต่ใครเล่าจะคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ!? นี่คือเรื่องราวของสองหนุ่มที่ ‘อ้าง’ ว่าเป็นคนเดียวกัน ทั้งคู่ล้วนแล้วแต่เดินทางท่องเวลามาจากโลกอนาคต โดยที่คนหนึ่งอยู่ในปี 2030 เดินทางไปยังโลกอนาคตในปี 2070 และได้พบเจอกัน ก่อนจะเดินทางจากโลกอนาคตกลับมายังปัจจุบันด้วยกัน ทั้งสองคนถูกเชิญมาพบปะกันและให้สัมภาษณ์ผ่านทางแชแนลยูทูบ ApexTV โดยที่พวกเขาอ้างตัวเองว่าเป็นชายที่ชื่อว่า Noah Novak และเป็นคนเดียวกันแต่มาจากโลกอนาคตในปีที่แตกต่างกัน คนสวมเสื้อแดงมาจากปี 2030 ส่วนคนสวมเสื้อลายมาจากปี 2070 อย่างไรก็ตามในคลิปวิดีโอเขาเล่าว่าให้ข้อมูลที่สำคัญได้ไม่มากนัก เพราะต้องการความมั่นใจว่าพวกเขาจะปลอดภัยจาก ‘รัฐบาล’ นาย Noah ที่มาจากปี 2030 เล่าว่า “เขาแสดงให้ผมเห็นถึงข้อมูลส่วนตัว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเคยทำ ซึ่งบางเรื่องมันเป็นความลับมากๆ แต่เขาก็ยังรู้” “มันยากมากๆ เลยนะที่เขาจะรู้เรื่องพวกนี้ได้ และไม่มีทางที่เขาจะแอบตามผมไปไหนมาไหนเพื่อสืบเรื่องพวกนี้หรอก แต่ถ้าเขาเป็นตัวของผมเองจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยใช่มั้ยล่ะ?” นอกจากนี้นาย Noah จากปี 2070 ก็เล่าเรื่องราวของโลกอนาคตเพิ่มเติม ว่าในอนาคตนั้นรถความเร็วสูงจะถูกนำมาใช้งาน มีการใช้โปรแกรมต่างๆ เพื่อควบคุมรถและถนน (คล้ายกับรถที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง) การเดินทางออกไปยังนอกอวกาศถือเป็นเรื่องที่ปกติ นอกจากนี้ยังมี ‘สงคราม’ เกิดขึ้นอีกด้วย มีการใช้ดาวเทียมเพื่อทำสงคราม…
-
ฟิลิปปินส์หลอน ชาวเน็ตพบ “รอยเท้าเด็ก” ปริศนาปรากฏทั่วห้างอย่างน่าพิศวง…
ในเทศกาลวันฮาโลวีนของที่อื่นๆ แม้จะมีแต่ ผี ออกมาเดินเพ่นพ่านกันเต็มถนน แต่บรรยากาศโดยรวมก็ยังคงเป็นไปอย่างสนุกสนาน แต่ในประเทศฟิลิปปินส์กลับเกินเลยความสนุกสนานกลายเป็นความหลอนไปแล้วเมื่อชาวเน็ตหลายคนพบว่ามี รอยเท้าเด็ก ปริศนาปรากฏขึ้นอยู่ทั่วห้างสรรพสินค้าอย่างน่าพิศวง ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @kyuriiie ได้โพสต์เล่าเรื่องราวนี้ให้ชาวเน็ตได้รับรู้ว่ามีรอยเท้าดังกล่าวปรากฏขึ้นอย่างสุ่มๆ ในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งทั่วเมือง Balanga ในประเทศฟิลิปปินส์มาเป็นเวลานับปีแล้ว หลายคนอาจคิดว่าเป็นรอยเท้าเด็กจริงๆ ที่เปื้อนดินและเข้ามาเดินในห้าง แต่เจ้าของทวิตเตอร์ก็อธิบายว่าบางครั้งก็พบรอยเท้าดำๆ มันๆ ปรากฏอยู่เพียงข้างเดียว และปรากฏขึ้นหลายจุดในห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้บางครั้งยังมาพร้อมกับรอยเท้าของผู้ใหญ่ด้วย เห็นรอยเท้าที่ปรากฏเพียงข้างเดียวแล้วเช็ดออกจะทำให้รอยเท้าอีกข้างหนึ่งปรากฏขึ้นตามมา ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @mark_estavillo ก็เข้ามาเผยว่าเขาเองก็พบเห็นรอยเท้าปริศนาในห้างสรรพสินค้าเช่นกัน แต่ที่แปลกก็คือ รอยเท้าที่เขาพบเป็นรอยเท้าที่มีนิ้วถึง 6 นิ้วด้วยกัน ผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @ryanx2fer ก็เข้ามาเล่าเสริมเหตุการณ์นี้ว่า… “น้องสาวผมเป็นผู้จัดการในห้างดังกล่าวอยู่ราว 10 ปีแล้ว เธอรู้เรื่องรอยเท้าปริศนานี้มาตลอด มีลูกค้าบางรายเคยพบตัวของเด็กคนนี้จริงๆ ด้วย เรื่องราวมีอยู่ว่า ลูกค้าคนหนึ่งพูดคุยกับ เก้าอี้ที่ว่างเปล่า ว่า ‘หนูมาทำอะไรตรงนี้?’ โดยลูกค้าคนดังกล่าวเล่าว่ามีเด็กมานั่งข้างๆ เขาแล้วก็โน้มตัวด้วยท่าทางประหลาดๆ เข้าหาเขาอีกด้วย” อย่างไรก็ตาม @kyuriiie เจ้าของทวิตเตอร์ก็ยืนกรานว่าห้างสรรพสินค้ามักจะมี รปภ. คอยห้ามไม่ให้ ‘เด็กข้างถนน’ เข้ามาป้วนเปี้ยนในห้างอย่างแน่นอน …
-
นายพรานกำลังขับรถไปล่าสัตว์ บังเอิญโดนหมาที่อยู่ในรถยิง ‘ลูกซอง’ ใส่ แทบม้วยมรณา!!
‘สุนัข’ สัตว์ที่ขึ้นว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ พวกมันเป็นสัตว์ดุ๊กดิ๊กแสนน่ารักและชอบจะมาเคล้าเคลียมอบความสุขให้กับเจ้าของอยู่เสมอ แต่ว่าบางครั้งมันก็อาจนำความทุกข์มาให้บ้างเป็นบางครั้งอย่างเช่น การพังข้าวของบ้าน เห่าอะไรก็ไม่รู้เสียงดังลั่น หรือบางทีมันก็อาจยิงปืนใส่เจ้าของมันก็เป็นได้เหมือนอย่างในเหตุการณ์นี้!? คุณลุง Sonny ผู้โชคร้าย ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยผู้โชคร้ายคือนาย Sonny Gilligan นายพรานวัย 74 ปีแห่งรัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาได้เล่าเหตุการณ์แสนซวยในครั้งนั้นให้ฟังว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังจะขับรถไปล่าสัตว์ทางตะวันตกของเมืองลาสครูเซสด้วยรถกระบะคันเก่ง ซึ่งก็เหมือนเช่นทุกครั้งเขาได้พาเจ้า Charlie หมาพันธุ์ผสมร็อตไวเลอร์ไปด้วย เจ้า Charlie มือยิง “ตอนนั้นผมกำลังขับรถอยู่ แล้วก็ไม่รู้อีท่าไหนเจ้า Charlie มันกระโดดไปที่เบาะหลังแล้วเท้าของมันก็ไปลั่นไกปืนเข้าให้ มันอาจเป็นอุบัติเหตุที่ประหลาดๆ ไปซะหน่อย แต่ทำไงได้ล่ะมันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น” Sonny กล่าว ปรากฏว่าปืนที่เจ้าหมายิงมันคือปืนลูกซอง แล้วจุดที่มันยิงก็ทะลุเบาะมาโดนแผ่นหลัง กระดูกซี่โครง และกระดูกไหปลาร้าเต็มๆ จนทำให้เขาต้องหยุดรถในทันที และถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บหนักแต่เขาก็บอกว่าเป็นโชคดีแล้วที่รอดมาได้ คลิปการรายงานข่าวเรื่องนี้ “บอกตรงๆ ผมแม่งโคตรโชคดีเลยที่ยังสามารถกดโทรศัพท์ได้ ผมกดโทรไปหา 911 หาหน่วยงานของเขตและเขาก็ช่วยชีวิตผมได้จริงๆ บอกเลยว่าถ้ารออีกสัก…
-
หัวขโมยไร้หัวใจ… ขโมยเสื้อ ‘เลสเตอร์’ ที่มีคนนำมาไว้อาลัยให้กับคุณวิชัยหน้าสถานฑูต
ข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ และเจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้สร้างความโศกเศร้าให้กับชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างมากมาย แต่ถึงอย่างนั้น ในช่วงเวลาแบบนี้ก็ยังมีคนฉวยโอกาส ขโมยของที่นำไปวางไว้อาลัยให้กับผู้ที่เสียชีวิตซะอย่างงั้น… คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเรื่องที่ว่านี้เกิดขึ้นที่สถานฑูตไทย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อภาพจากกล้องวงจรปิดได้จับภาพของชายคนหนึ่งบริเวณหน้าทางเข้าเอาไว้ได้ เสื้อที่วางเอาไว้ ในคลิปวิดีโอจะเห็นว่าชายคนนี้ทำท่าทางลับๆ ล่อๆ อยู่บริเวณหน้าประตู ก่อนที่จะฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีใครสังเกต ขโมยเสื้อทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีผู้มาวางไว้อาลัยให้กับคุณวิชัย ใส่กระเป๋าสะพายก่อนจะเดินจากไป โน๊ตที่เขียนเอาไว้ จากการรายงานของสื่อ The Sun เสื้อตัวดังกล่าวได้ถูกวางไว้คู่กับผ้าพันคออีกผืนหนึ่ง และมีโน๊ตเขียนเอาไว้ว่า “ขอให้ไปสู่สุคตินะคุณวิชัย คุณทำให้แฟนๆ ทีมเลสเตอร์ทุกคนได้มีฝันที่เป็นจริง” คุณวิชัย ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าจับตัวหัวขโมยนี้ได้หรือยัง แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยจริงๆ และก็หวังว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้โดยเร็ว… ที่มา: metro, the sun
-
ศิลปินสาวกับ ‘เส้นผม’ ของเธอ…ชุดภาพถ่ายที่บอกเล่าถึงความงดงามของมัน
‘ผู้หญิง’ กับ ‘เส้นผม’ นั้นเป็นอะไรที่แยกกันไม่ออกจริงๆ หากจะเปรียบว่าเส้นผมนั้นคือชีวิตของหญิงสาวก็ไม่ใช่เรื่องที่กล่าวเกินจริงเลยแม้แต่น้อย… ฉะนั้นการใส่ใจดูแลสุขภาพผมให้ดูสวยเรียบเนียน ดูเงางาม และแข็งแรงไม่หลุดร่วง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่สาวๆ ต่างก็ยกให้เป็นอันดับแรกๆ ของร่างกายเลยทีเดียว สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชม ‘ผู้หญิง’ ที่มีเส้นผมแสนงดงาม และเธอก็นำเส้นผมของเธอมาถ่ายภาพ เสริมสร้างเป็นเรื่องราว ที่ทำให้ดูงดงามยิ่งขึ้นไปอีก!! หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Krissy Elisabeth เธอเป็นศิลปินชาวเนเธอร์แลนด์ ที่มีผมยาวสลวย ราวกับเป็นเจ้าหญิงที่หลุดมาจากเทพนิยาย และด้วยเหตุนี้เอง เธอก็เลยใช้ ‘เส้นผม’ ของตัวเองสร้างผลงานการถ่ายภาพสุดงดงามขึ้นมา โดยใช้เส้นผมเป็นนางแบบ และมีการตกแต่งภาพเล็กๆ น้อยๆ โดยใช้ดอกไม้ ใบไม้ ตามฤดูกาลต่างๆ เพื่อทำให้ผมของเธอดูโดดเด่นขึ้นมา เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็สาดภาพไปยาวๆ เลยจ้า… . ดอกกุหลาบ กับเส้นผมที่ยาวสลวย งดงามจริงๆ . กลีบดอกไม้ หัวใจ…
-
พยาบาลสาว ‘ผิวขาว’ นึกสนุก แต่งเป็น ‘บียอนเซ่’ ไปร่วมงานฮาโลวีน สุดท้ายโดนไล่ออก!!
อย่างที่รู้กันดีว่าในวันฮาโลวีนนั้น เพื่อเฉลิมฉลองกับเทศกาลหลายๆ คนก็จะออกมาแต่งตัวคอสเพลย์ให้สุดแปลกแหวกแนว บ้างก็แต่งเป็นผี บ้างก็แต่งเป็นตัวละครจากหนังหรือการ์ตูน บ้างก็ออกมาแต่งเป็นคนดัง แต่จากการแต่งตัวดังกล่าว หากมันเป็นอะไรที่เลยเถิดเกินความพอดี ก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ภายหลังได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่พยาบาลสาวและสามีที่เป็นคน ‘ผิวขาว’ แต่งคอสเพลย์เป็น ‘บียอนเซ่และเจย์ ซี’ ด้วยการใช้สีมาทาตามร่างกาย จนเป็นเหตุให้เธอถูกไล่ออกจากงานในที่สุด!! Elliott-Heenan พยาบาลสาวจากโรงพยาบาล St. Luke เมืองแคนซัสซิตี้ รัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปกติแล้วเธอและสามีเป็นคนผิวขาว แต่เนื่องจากว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเธอไปร่วมปาร์ตี้ฮาโลวีนเล็กๆ กับเพื่อนๆ แต่มันพลาดตรงที่ว่าเธอดันแต่งตัวคอสเพลย์เป็น ‘บียอนเซ่’ และให้สามีแต่งเป็น ‘เจย์ซี’ ไปร่วมงานปาร์ตี้ดังกล่าว แต่การที่เธอเป็นคนผิวขาวแล้วจะแต่งเป็นบียอนเซ่ได้อย่างไร? Elliot ตัดสินใจที่จะใช้ ‘สีน้ำตาล’ ทาทั่วตัว เพื่อทำให้เธอดูคล้ายกับคนผิวสี พร้อมกับสวมชุดเลกกิงทั้งตัว ที่งานก็มีการโพสต์ท่าถ่ายภาพแล้วก็เอาไปโพสต์ลงโซเชียล แน่นอนว่าเหล่าชาวเน็ตต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว เพราะมันไม่ให้เกียรติคนผิวสีอย่างแรง!! “มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ เธอควรจะถูกไล่ออก” “ไม่รู้ว่าจะโกรธประเด็นไหนดี ที่เธอทาตัวเป็นสีดำ หรือที่ทั้งสองคนแต่งมามันไม่ได้ใกล้เคัยงกับเจย์ ซี หรือบียอนเซ่เลยแม้แต่น้อย”…
-
กำเนิดใหม่ ‘สบู่จากไขมันมนุษย์’ ใช้ไขมันของลูกค้า มาเติมแต่งกลายเป็นผลิตภัณฑ์สุดเฟี้ยว
หากใครที่เคยดูภาพยนตร์ระดับตำนานอย่าง ‘Fight Club’ คงจะจำกันได้ดีว่ามีฉากหนึ่งในเรื่อง มีการนำไขมันของมนุษย์เรามาทำเป็นสบู่ขาย แล้วใครจะไปคิดว่าในวันนี้มันได้กลายมาเป็นเรื่องจริงซะแล้ว!! หน้าตาของสบู่ที่ว่านี้ โดยเจ้าสบู่ที่ว่านี้เป็นผลงานของ Julian Hetzel ศิลปินนักประดิษฐ์คิดค้นชาวเนเธอแลนด์ ที่เมื่อไม่นานมานี้เขาได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสบู่กับโปรเจกต์ชื่อว่า Schuldfabrik ด้วยการนำไขมันของผู้ป่วยที่บริจาคให้ มาทำเป็นสบู่และตั้งชื่อมันว่า Self!! เจ้าสบู่ที่ว่านี้มีกำหนดไว้ว่าจะมีการเผยโฉมในงาน Adelaide Festival 2019 ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมงานจะได้รับโอกาสที่ไม่ใครมีใครสัมผัสมาก่อน นั่นคือการได้ถูสบู่ที่ทำมาจากไขมันของมนุษย์!! “พวกเราตัดสินใจที่จะนำไขมันมาเป็นวัตถุดิบ เพื่อจะแสดงให้เห็นว่ามันสามารถเอามาทำอะไรได้บ้าง เราจะแปรเปลี่ยนมันเป็นผลิตภัณฑ์อะไรได้บ้าง เราจะหาเงินอย่างไรจากเจ้าของเสียนี้ได้บ้าง” Julian กล่าว ทั้งนี้ไขมันที่ได้นี้ล้วนเป็นไขมันที่ได้รับมาจากการบริจาคของลูกค้าที่ดูดออก ซึ่งตอนนี้เขาบอกว่ามีไขมันเพียงพอที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ได้ถึง 300 กิโลกรัม แต่เขาก็ยืนยันว่าสบู่นี้จะไม่ใช่สบู่จากไขมัน 100% แน่ๆ เพราะว่านอกจากไขมันมนุษย์แล้ว เขาก็ยังใส่น้ำมันและไขมันอื่นๆ ลงไปเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับสบู่ โดยสบู่ก้อนหนึ่งที่มีน้ำหนัก 125 กรัมจะมีไขมันมนุษย์อยู่ไม่ถึง 10% เพียงเท่านั้น วิดีโอคร่าวๆ ของโปรเจกต์นี้ นอกจากนี้เขายังบอกอีกด้วยว่าก่อนที่จะเอาไขมันมาทำเป็นสบู่ ก็จะต้องเก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิที่สูงเพื่อที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่างๆ และทำให้สบู่ถูกสุขอนามัยนั่นเอง…
-
Justin Bieber สลัดลุคผมยาว กลับมาหล่อใส แต่ไม่วายถูกแซวเหมือนเจ๊ Britney เลย
Justin Bieber ถือว่าเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยหน้าตาอันหล่อเหลาบวกกับฝีมือทางดนตรี ทำให้เขามีแฟนคลับอยู่อยู่ทั้งโลก แต่ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนว่า จะถูกคนล้อเรื่องทรงผมอยู่บ่อยๆ เนื่องจากตัวเขาไว้ผมเผ้ารุงรัง จนหลายๆ คนอดใจคิดว่านี่ Justin Bieber หรือคนจรจัดกันแน่!? แต่ล่าสุดเมื่อวัน 31 ตุลาคม 2018 Justin Bieber ได้ตัดผมแล้วจ้า!! โดยเขาอัปโหลดภาพตัวเองพร้อมทรงผม Buzz Cut ลงในทวิตเตอร์ และการโพสต์รอบนี้หนุ่ม Justin ทำเอาแม่ยกหลายคนถึงกับตาลุกวาว ปลาบปลื้มที่ศิลปินในดวงใจไม่เป็นคนจรจัดอีกต่อไป แถมกลับมาหล่อใสอีกครั้งแล้ว pic.twitter.com/Ehx7cDu0Nw — Justin Bieber (@justinbieber) October 31, 2018 ในที่สุดก็ยอมตัดผม FINALLY 🤙🏼❤️ — MR⁷ (@Mr1472000) October 31, 2018 ฉันแค่อยากจะบอกว่าขอบคุณ…
-
KFC มอบทุนการศึกษากว่า 350,000 บาทให้กับเด็กน้อยที่ถูกตั้งชื่อตามผู้พันแซนเดอส์
หากพูดถึงไก่ทอดแล้ว หลายๆ คงนึกถึง KFC หรือ Kentucky Fried Chicken ร้านฟาสต์ฟู๊ดชื่อดังจากอเมริกาเป็นชื่อแรกอย่างแน่นอน วันนี้เราก็จะนำเรื่องของ KFC มาให้ได้ชมกันครับ เมื่อ KFC ได้ประกาศมอบทุนการศึกษามากกว่า 350,000 บาทให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้งบริษัท!! เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทาง KFC ได้จัดการแข่งตั้งชื่อทารกตามผู้พันแซนเดอส์ โดยมีเงื่อนไขคือผู้ชนะจะต้องเกิดวันที่ 9 กันยายนและได้รับการตั้งชื่อว่า Harland คนแรกของวัน ล่าสุดในวันนี้ เราก็ได้ผู้ชนะกันแล้ว โดยเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักนามว่า Harland Rose ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งตามผู้พัน Sanders หรือ Harland David Sanders ผู้ก่อตั้งร้านไก่ทอดชื่อดังนั่นเอง KFC ได้ประกาศลงทวิตเตอร์ว่าหนูน้อย Harland Rose คนนี้ ชนะการประกวดการตั้งชื่อตามผู้พันและเจ้าหนูคนนี้จะนำ Harland เข้าสู่ยุคใหม่ https://twitter.com/kfc/status/1057260730209189888?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1057260730209189888&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.unilad.co.uk%2Fgrub%2Fkfc-give-huge-prize-to-parents-who-named-their-daughter-after-colonel-sanders%2F แน่นอนว่าเจ้าหนูน้อย Harland Rose ต้องเกิดมาในวันที่ 9 กันยายน 2018…
-
ตุรกีเผย ‘นักข่าวซาอุฯ’ โดนรัดคอทันทีที่เข้า ‘กงศุล’ ก่อนถูกหั่นศพเป็นชิ้นๆ
จากที่กลายเป็นข่าวใหญ่ที่มีคนติดตามกันทั่วโลก กับกรณีของ ‘นักข่าวซาอุฯ’ หายไปตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากที่เข้าไปยังสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในประเทศตุรกี ก่อนหน้านี้ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่าสรุปแล้วนาย Jamal Khashoggi ถูกฆาตกรรมไปแล้วหรือไม่อย่างไร แต่มีการคาดการณ์กันไปต่างๆ นานาว่าเขาถูกฆ่าหั่นศพไปแล้วเรียบร้อย โดยมีการตั้งสาเหตุหรือแรงจูงใจมาจากการที่เขาเป็นนักข่าวฝีปากกล้า ชอบเขียนข่าววิจารณ์มกุฎราชกุมารของซาอุดีอาระเบียอยู่บ่อยครั้ง จนถูกฆ่าปิดปากก็เป็นได้ อ่านข่าวสรุปไทม์ไลน์การหายตัวไปของนาย Jamal Khashoggi ได้ที่นี่ : สรุปไทม์ไลน์ ‘นักข่าวซาอุฯ’ หายตัว ก่อนถูก ‘สังหารโหด’ ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?? ล่าสุดทางการของตุรกีได้ออกมาแถลงแล้วว่า นาย Jamal ถูกฆาตกรรมในกงสุลจริง พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจเพิ่มเติม!! จากคำแถลงการณ์ของหัวหน้าอัยการของอิสตันบูล Ifran Fiden ระบุว่า นาย Jamal ถูก ‘รัดคอ’ ทันที่ที่เข้าไปในสถานกงสุล ก่อนที่จะถูกหั่นศพเป็นชิ้น นอกจากนี้ยังกดดันทางซาอุฯ ให้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย จากคดีนี้ไปดำเนินคดีที่ประเทศตุรกี ถือเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกโดยรัฐบาลตุรกีแล้วว่า นาย Jamal ถูกฆ่าหั่นศพจริงๆ!! นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เปิดเผยอีกว่าชิ้นส่วนศพต่างๆ ถูกทำลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ร่างของเหยื่อถูกทำลาย…
-
หญิงสาวเพิ่งมารู้ตัวว่าตัวเอง ‘ชอบแต่งหน้า’ เมื่อปีที่แล้ว และนี่คือผลงานที่เธอฝึกปรือฝีมือมา!!
ไม่มีสิ่งไหนที่ยากเกินความสามารถของเรา หากเราตั้งใจฝึกฝน ไม่ละความพยายาม ก็สามารถเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของ Monika Falcik วัย 23 ปีจากกรุงวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย ที่เพิ่งจะหันมาให้ความสนใจกับ ‘การแต่งหน้า’ เมื่อปีที่ผ่านมานี้เอง เธอเล่าว่า “ฉันเพิ่งมารู้ตัวเองว่ามีความต้องการอยากจะเป็น ‘ช่างแต่งหน้า’ เมื่อปีก่อน ฉันหลงใหลมัน และการทำงานแบบนี้มันทำให้ฉันมีความสุข” เธอใช้เวลาแค่ 1 ปีในการฝึกฝน ‘การแต่งหน้า’ จนกระทั่งในช่วงวันฮาโลวีนนี้ เธอก็ใช้ความสามารถที่ตัวเองสั่งสมมาโดยตลอด 1 ปีมาแต่งหน้าของตัวเองให้ดูสวยงามและสร้างสรรค์ จะเป็นอย่างไรลองไปชมได้เลยจ้า… ปาดเข้าให้ มะ…มือทะลุ!? ครึ่งชายครึ่งหญิง . หน้าฉีกไปครึ่งหนึ่ง เห็นแล้วรู้สึกเสียว ถึงจะรู้ว่าจริงๆ เธอไม่ได้เอาเข็มฉีดยาเจาะทะลุปากจริงๆ ก็เถอะ . เลิศ!! . . . . สวยยย >< แม่นางกินกบ …
-
คุณยายวัย 79 มาขอทานที่สถานีรถไฟฟ้าทุกวัน จริงๆ โคตรรวย อยู่บ้านหลังโต – เจ้าของอสังหาฯ เพียบ
บางครั้งเมื่อเราเห็นคนมาขอทาน เราก็อาจเกิดความสงสารที่ว่าเขา/เธออาจจะประสบกับความลำบากยากแค้น ไม่มีเงินติดตัวจริงๆ ถึงต้องมาเร่ขอเศษเงินจากผู้ที่ผ่านไปมา แต่ว่าบางครั้งมันก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป อย่างเช่นในเหตุการณ์ต่อไปนี้!! เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องนี้ได้กลายเป็นพาดหัวหนังสือพิมพ์หลายสำนักของประเทศจีน เมื่อพนักงานของสถานีรถไฟฟ้าในเมืองหางโจว ประกาศเตือนออกเสียงตามสายในสถานีว่า ให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการรถไฟฟ้า อย่าไปหลงเล่ห์กลของหญิงชราคนหนึ่งที่เข้ามาขอทานอยู่ภายในสถานี เพราะว่าจริงๆ แล้วเธอไม่ได้มีฐานะซอมซ่ออย่างที่ตาเห็น หนำซ้ำยังรวยมาจนถึงขั้นที่ว่ามีบ้านหลังโต ในเรื่องนี้ทางลูกชายของหญิงชราขอทานคนนั้นได้ออกมากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จริงๆ แล้วครอบครัวของเขาค่อนข้างที่จะมีฐานะกว่าครอบครัวทั่วๆ ไปในประเทศจีนซะอีก พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังโต เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งและมีบางส่วนก็มีการปล่อยให้เช่า เป็นเจ้าของร้านค้าปลีกมากมาย รวมถึงตัวเขาก็เป็นผู้บริหารโรงงานของครอบครัวด้วย ลูกชายคนนี้กล่าวว่าเขาได้ห้ามแม่ไม่ให้มาขอทานเช่นนี้หลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเธอถึงดื้อรั้นไม่ยอมเชื่อฟังคำของเขา… “ผมบอกเธอแล้วว่ามันไม่เป็นอะไรหรอกถ้าเธอจะไม่แคร์เรื่องชื่อเสียง แต่สำหรับพวกเรามันเป็น ผมจัดเตรียมมื้ออาหารแสนอร่อยให้เธอทุกวัน แต่เธอก็ยังยืนยันว่าจะออกไปขอทานอยู่ ถ้าจะให้พูดในเรื่องของเงินล่ะก็ บอกเลยว่าเธอรวยกว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่นั่นอีก” ลูกชายของขอทานกล่าว ในรายงานกล่าวว่าหญิงวัย 79 ปีคนนี้เริ่มต้นใช้ชีวิตในสถานีรถไฟฟ้าด้วยการเริ่มขายแผนที่ก่อน แต่ว่าเธอก็ถูกฝ่ายบริหารเข้าขัดขวาง เธอเลยเริ่มต้นอาชีพขอทานทาน หญิงแก่คนนี้จะมาที่สถานีรถไฟฟ้าในเวลาประมาณ 10 โมงเช้าของทุกๆ วันแล้วจะอยู่ที่นั่นจนถึงเวลา 2 ทุ่มจึงจะกลับบ้าน โดยรายงานบางที่บอกว่าเธอสามารถทำเงินได้ประมาณ 300 หยวน (ประมาณ 1,400 บาท)…
-
คู่รักชาวอินเดีย ตกลงมาเสียชีวิตหลัง “เซลฟี” บนหน้าผาในอุทยานแห่งชาติ Yosemite
ไปเที่ยวในสถานที่อันตรายโปรดอย่าชะล่าใจ แม้สถานที่นั้นจะสวยงามน่าถ่าย “เซลฟี่” ก็ตาม คู่รักชาวอินเดียคู่หนึ่งมีรายงานว่าตกจากหน้าผาของภูเขา Sierra Nevada ในอุทยานแห่งชาติ Yosemite ในแคลิฟอร์เนีย จากรายงานคาดว่าทั้งคู่ ไปยืนยังริมหน้าผาแล้วกำลังจะถ่ายเซลฟี่ด้วยกัน นั่นทำให้ทั้งคู่สูญเสียการทรงตัวและพลาดตกลงจากหน้าผาความสูง 244 เมตรในที่สุด ร่างของนาย Vishnu Viswanath วัย 29 ปี และนาง Meenakshi Moorthy วัย 30 ปี ถูกพบอยู่ที่พื้นด้านล่างของหน้าผาเมื่อวันพฤหัสที่ 25 ตุลาคม 2018 โดยผู้ลาดตระเวนในอุทยาน Jishnu Viswanath พี่ชายของ Vishnu กล่าวว่าทาง Moorthy ได้ใฝ่ฝันเอาไว้ว่าอยากเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวแบบเต็มเวลา Meenakshi Moorthy และ Vishnu Viswanath ทั้งคู่มักออกท่องเที่ยวผจญภัยค้นหาความตื่นเต้นให้กับชีวิต โดนในอินสตาแกรมของพวกเขาจะมีภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งสวยงามและอันตรายหลายแห่ง โดยทางพี่ชายของ Vishnu ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ศพของทั้งคู่จะถูกฝังในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากสภาพศพไม่อำนวยให้ส่งกลับไปยังประเทศอินเดีย… https://www.instagram.com/p/BXDP6tvBLrP/?utm_source=ig_embed การท่องเที่ยวนั้นทำให้เกิดความสุขความบันเทิงได้ก็จริง แต่ก็ควรจะปลอดภัยไว้ก่อนนะจ๊ะทุกคน! ที่มา: nextshark, holidaysandhappilyeverafters, Mercury News และ National…
-
ปาร์ตี้ฮาโลวีนชิบูย่า เละเทะเกินควบคุม คึกคะนองคว่ำรถ คนลามก แอบถ่ายใต้กระโปรง
ในช่วงฮาโลวีนที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่เหล่าฝูงชนจะออกมารวมตัวกันตามท้องถนน แต่งตัวคอสเพลย์เป็นผีและอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในค่ำคืนวันปล่อยผี ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่ร่วมฉลอลงในครั้งนี้ด้วย แต่ทว่ากลับกันแล้วย่านชิบูย่า ในกรุงโตเกียวกลับเกิดความโกลาหลเกินการควบคุม จากเหตุความคึกคะนองของทั้งกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ずっとパンツ撮ってるおじいちゃんを見つけて草 #渋谷ハロウィン pic.twitter.com/D0CM6Ky2CZ — ゆるふわ怪電波☆埼玉 (@yuruhuwa_kdenpa) October 27, 2018 เหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27 ตุลาคม 2018 อีเว้นท์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ จากการมารวมตัวกันของฝูงชนวันปล่อยผี โดยในปีนี้ทางด้านนายกเทศมนตรีท้องถิ่นประจำชิบูย่า Ken Hasebe ได้ทำการประกาศร้องขอให้ร้านค้าหยุดขายเครื่องดื่มมึนเมาในรูปแบบขวดแก้วระหว่างเทศกาล รวมทั้งร้องขอให้นักท่องเที่ยวประพฤติตัวตามครรลองคลองธรรม และขอให้เดินทางกลับที่พักด้วยรถไฟเที่ยวสุดท้ายแทนการขับขี่ยานพาหนะส่วนตัว https://twitter.com/asawq2615/status/1056185045524738048 แต่ทว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นไปตามที่หวังเอาไว้ ฝูงชนแห่กันมาเฉลิมฉลองเทศกาลวันฮาโลวีนเป็นจำนวนมหาศาล พร้อมกับอาการมึนเมาอย่างหนัก โดยรวมแล้วมีผู้คนเข้ามาร่วมงานภายในคืนนั้นไม่ต่ำกว่า 70,000 คน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านหลายครั้ง จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยว เช่น การคว่ำรถยนต์ ลวนลาม การถอดเสื้อผ้ากลางสาธารณะ และการแอบถ่ายใต้กระโปรง https://twitter.com/hid_shin/status/1056269194944102400 ทั้งนี้…
-
CEO เกาหลี “ตบหน้า” พนักงาน ลงโทษที่ ‘แอบอ้าง’ เป็นผู้บริหารแล้วไปตอบคอมเมนต์
การทำงานในบริษัท หลายครั้งก็ต้องเสี่ยงต่อการถูกลงโทษหากเรามีพฤติกรรมที่ไม่ดี เช่น ตัดเงินเดือน พักงาน หรือกระทั่ง ถูกตบหน้า อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริษัทไอที K-Technology และ WeDisk ในประเทศเกาหลี เมื่ออดีตลูกจ้างคนหนึ่งได้เข้าไปตอบคอมเมนต์ออนไลน์โดยแอบอ้างตนว่าเป็น CEO หรือผู้บริหารบริษัท และด้วยความที่เป็นบริษัทไอที การจะหาว่าใครเป็นทำเรื่องนี้นั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่แกะรอยจาก IP Address เท่านั้น และเมื่อพบตัวผู้กระทำผิด ผู้บริหารบริษัท Yang Jin-ho จึงเรียกตัวเขามาที่บริษัท และลงโทษลูกจ้างคนดังกล่าวด้วยการ ชกต่อย และ ตบหน้า ท่ามกลางสายตาพนักงานคนอื่นๆ พร้อมถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว ลงโทษจนกระทั่งชายผู้กระทำผิดยอมคุกเข่าขอโทษกับ CEO ของบริษัท แม้ว่าต้นเหตุของเรื่องจะเป็นความผิดของพนักงานคนนี้ แต่ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเรื่องนี้ก็กล่าวว่า Yang นั้นเคยมีประวัติบังคับให้พนักงานชายไปย้อมผมสีแดงและเขียวเพื่อให้ตนเองหัวเราะ และยังเคยมีการบังคับให้พนักงานดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากโดยไม่อนุญาตให้ไปเข้าห้องน้ำ ทำให้หลายคนต้องอาเจียนออกมาบนโต๊ะ นอกจากนี้ Yang ยังชอบทารุณกรรมสัตว์อีกด้วย มีรายงานว่าเขาเคยใช้ธนูยิงไก่ และใช้ดาบซามูไรฟันคอพวกมันอีกด้วย ปัจจุบันอดีตพนักงานรายดังกล่าวต้องย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่เกาะห่างไกล เนื่องจากกลัวอิทธพลของ Yang และบริษัทที่มีมากในเมืองหลวง…
-
หญิงวัย 39 ปี บุกเข้าไปแทงเด็กอนุบาล บาดเจ็บ 14 ราย รวบตัวได้แต่ยังไม่ทราบแรงจูงใจ
* คำเตือน เนื้อหาภายในข่าวมีความรุนแรง กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน * เรื่องของความปลอดภัยในชีวิตคนเรานั้น จะต้องดูแลกันทุกย่างก้าวเลยทีเดียว เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าจะมีภัยบุกเข้ามาถึงตัวได้เมื่อไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่มีลูกมีหลาน แม้แต่ในโรงเรียนอนุบาลก็ยังมีภัยอันตรายได้ เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2018 ณ เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน เกิดเหตุหญิงวัย 39 ปี บุกเข้าไปในโรงเรียนอนุบาล Yudong New Century Kindergarten พร้อมกับอาวุธมีด จากรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เธอเข้าไปในโรงเรียนเวลาประมาณ 9.30 น. ในขณะที่เด็กๆ กำลังอยู่ในช่วงออกกำลังกายตอนเช้า บริเวณสนามเด็กเล่น ภาพบันทึกเหตุการณ์จากคลิปวิดีโอมือถือ ที่ถ่ายไว้โดยชาวบ้าน ถูกนำมาเผยแพร่ต่อโดยสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น เผยให้เห็นว่า ผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวออกมา ในขณะที่เด็กๆ นั้นถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาบาดแผลเป็นการด่วน โดยมีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บจำนวนทั้งสิ้น 14 ราย ภายใต้ความชุลมุนต่างๆ ณ จุดเกิดเหตุ ถูกห้อมล้อมไปด้วยชาวบ้าน ผู้ปกครองที่ตื่นตระหนก…
-
พ่อแอบขโมยลูกสาววัยทารกออกจากรพ. แล้วไปโยนทิ้งหน้าผา สารภาพอยากได้ลูกชายมากกว่า!
อย่างที่รู้ๆ กันว่าสำหรับชาวจีนบางคนบางกลุ่ม จะมีค่านิยมที่ชื่นชอบ ‘ลูกชาย’ มากกว่าลูกสาว เพราะลูกชายสามารถสืบสกุลได้ แต่ถึงอย่างนั้น ใครจะไปคิดว่าลูกสาวจะไม่เป็นที่ต้องการถึงขั้นที่ว่าคุณพ่อคนหนึ่งไม่ยอมเลี้ยงดูเธอทั้งๆ ที่เพิ่งจะเกิดมา และนำตัวไปโยนทิ้งลงหน้าผาให้ตายอย่างน่าเวทนาเช่นในเรื่องนี้… เหตุการณ์สุดหดหู่หัวใจนี้ เริ่มขึ้นในเช้าวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้งพบว่ามีทารกเพศหญิงคนหนึ่งหายตัวไป จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้สืบเสาะเรื่องราวนี้ในทุกๆ ทางที่เป็นไปได้ และพวกเขาก็สามารถจับสังเกตได้ว่าชายแซ่ Li ผู้เป็นพ่อของเด็กที่หายไปมีพิรุธอะไรบางอย่าง จึงได้เริ่มกระบวนการขอปากคำและเค้นความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ปรากฏว่าชายคนนี้ให้รับการสารภาพแต่โดยดีกับสิ่งที่ทำลงไป โดยเขาบอกว่าในเวลาประมาณตี 1 ของเช้าวันดังกล่าว เขาได้ขโมยตัวลูกสาวของเขาใส่กระเป๋า แล้วแอบเอาเธอออกจากโรงพยาบาลโดยที่ไม่มีใครจับได้ จากนั้นก็เอาตัวเธอไปโยนทิ้งหน้าผาแถวๆ นอกเมือง!! เมื่อได้ยินดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบให้นาย Li พาไปยังจุดที่ทิ้งทารกผู้น่าสงสารในเวลาประมาณ 11 โมงและเริ่มค้นหาตัวของเด็ก ทั้งนี้ก็มีชาวบ้านอาสาสมัครมาช่วยหาด้วยหลังจากได้ยินเรื่องราวนี้ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่หลายคนจะเชื่อว่านี่อาจจะสายเกินไปสำหรับการช่วยเหลือเด็กทารกคนนี้ แต่แล้วจู่ๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียงเด็กร้องกระจองงองแงดังขึ้น จึงได้รีบไปยังพุ่มไม้ต้นกำเนิดเสียงนั้นและพบตัวเจอในที่สุด!! การช่วยชีวิตในครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาบ่ายโมงของวันเดียวกัน นั่นจึงหมายความว่าเด็กคนนี้ต้องออกมาตากลมตามฝนถึง 12 ชั่วโมงเต็มๆ โดยที่ไม่มีใครดูแลเลย… และถึงแม้ว่าจุดที่พบเจอตัวเด็กคนนี้จะอยู่ลึกจากหน้าผาไปถึง 30…
-
ตะลึงพบคู่พ่อลูก ‘มนุษย์กินคน’ ฆ่าอดีตนายตำรวจเฉือนเนื้อมาต้มกิน เจ้าหน้าที่รวบเรียบร้อย!!
แน่นอนว่าเรื่องของ ‘การกินคน’ ไม่ใช่เรื่องปกติในโลกยุคปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข่าวเรื่องนี้มาให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ และในครั้งนี้อีกก็เช่นเดียวกัน เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศยูเครนได้จับตัวสองพ่อลูกเอาไว้ได้ หลังพบว่าพวกเขาฆ่าตำรวจแล้วเฉือนเนื้อไปกิน!! จุดที่พบศพ เรื่องราวสุดสยองขวัญนี้เกิดขึ้นที่ย่าน Saltivka เมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน หลังมีชาวเมืองไปพบกับศพไร้หัวของชายคนหนึ่งเข้าบริเวณหลุมทางเข้าห้องใต้ดินของตึกอาคารหลังหนึ่ง โดยนอกจากศีรษะที่หายไปแล้ว จากการดูสภาพศพยังพบว่ามีบางส่วนของร่างกายที่มีร่องรอยมีดเฉือนเนื้อออกไปด้วย… ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ เมื่อได้รับทราบเรื่องดังกล่าวและมีการสืบเรื่องราวต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบอพาร์ตเมนต์ของผู้เป็นพ่อกับลูกชายคู่หนึ่งที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับที่พบศพนั้น แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อได้พบกับศีรษะที่หายไปของศพร่างนั้น ถูกซ่อนอยู่ที่กล่องใบหนึ่งตั้งอยู่บริเวณระเบียงห้อง ซึ่งปรากฏว่าชายผู้โชคร้ายคนนี้คืออดีตนายตำรวจอายุ 45 ปีที่หายไปตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมนั่นเอง “ตอนแรกฉันมองดูร่างที่นอนนิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่มีหัว และพอฉันมองอีกทีก็แอบช็อกเพราะหัวของเขาหายไปจริงๆ” Alexandra Grabeynik ชาวเมืองละแวกนั้นกล่าว ผู้ต้องหาทั้งสองพ่อลูกนี้ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อแต่อย่างใด แต่ว่าทางลูกชายวัย 20 ปีได้ให้ปากคำกับตำรวจเอาไว้ ซึ่งหากฟังดูมันเป็นอะไรที่สะเทือนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เขาสารภาพว่าพ่อของเขาได้ฆ่าและหั่นเนื้อของนายตำรวจคนดังกล่าวบริเวณขาและซี่โครงเพื่อนำไปต้มกิน หลังจากนั้นทั้งสองก็กินเนื้อมนุษย์ร่วมกันด้วย ส่วนสาเหตุที่ต้องนำหัวเอาไปซ่อนในกล่องก็เพราะเมื่อไม่นานมานี้ มีญาติๆ มาอยู่อาศัยด้วย และนี่เองที่เป็นสาเหตุเดียวกับที่ต้องนำร่างไร้วิญญาณไปทิ้งเอาไว้นอกบ้าน คลิปการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ทางด้านนาย Oleg Bekh นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แห่งเมืองคาร์คิฟก็กล่าวกับเหตุการณ์นี้ว่า “ในขณะนี้ทั้งสองถูกคุมตัวเอาไว้แล้ว และกำลังดำเนินการสืบสวนเรื่องราวหาหลักฐานต่างๆ…
-
หวั่นทั่วเยอรมนี ‘อดีตบุรุษพยาบาล’ สารภาพผิด ลงมือฆาตกรรมคนไข้กว่า 100 ราย!!
ใครเล่าจะคิดว่า ‘บุรุษพยาบาล’ ผู้มีหน้าที่ในการช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย จะกลายเป็น ‘ฆาตกร’ ที่ลงมือฆ่าผู้ป่วยซะเอง!? นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในประเทศเยอรมนี อดีตบุรุษพยาบาลวัย 41 ปี ชื่อว่า Niels Hoegel ได้ลงมือฆาตกรรมผู้ป่วยกว่า 100 รายเลยทีเดียว!! เหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นขณะที่เขายังทำงานอยู่ในโรงพยาบาลในเมือง Oldenburg ในปี 1999 ถึง 2002 ก่อนที่จะย้ายไปก่อเหตุที่โรงพยาบาลใกล้กับเมือง Delmenhorst อีกในปี 2003 ถึง 2005 จากรายงานพบว่าผู้เสียชีวิตอยู่ในช่วงวัย 34 ถึง 96 ปี ตามรายงานระบุเอาไว้ว่านาย Niels ใช่ ‘ยาหลากหลายชนิด’ ในการลงมือฆ่าเหยื่อ ซึ่งเหยื่อทุกคนที่เสียชีวิตนั้นล่วนแล้วมาจากผลของยาทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีสถิติที่น่าสนใจระหว่างที่นาย Niels ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล Odenberg อยู่นั้น พบว่ามีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการกู้ชีพเพิ่มขึ่นอย่างน่าสงสัย แต่คลินิกเมือง Odenberg กลับไม่ยอมแจ้งกับสถานที่ทำงานแห่งใหม่ของเขาเลยแม้แต่น้อย จนทำให้สมาคมพิทักษ์ผู้ป่วยของเยอรมนี ออกมาวิจารณ์ว่ากรณีดังกล่าวนี้ถือเป็นความล้มเหลวอย่างยิ่งใหญ่ของวงการสาธารณสุขเยอรมนี เพราะมันเกิดจากความหละหลวมของกลไกในการตรวจสอบอย่างเห็นได้ชัด…
-
วิศวกรสถานีวิจัยขั้วโลกใต้ แทงเพื่อนร่วมงานยับ เหตุสปอยล์ตอนจบหนังสือที่กำลังอ่าน
นับว่าเป็นการก่อเหตุในดินแดนอันห่างไกลโพ้น ให้ชาวโลกได้รับรู้ว่าจากเหตุของการ ‘สปอลย์’ สามารถบันดาลให้เกิดโทสะถึงขั้นหวังเอาชีวิตกันเลยทีเดียว… โดยเรื่องดังกล่าว มีนาย Sergei Savitsky วิศวกรไฟฟ้า วัย 54 ปี ผู้อยู่ประจำสถานีวิจัยขั้วโลกใต้ Bellingshausen ณ หมู่เกาะ South Shetland Islands ได้ก่อเหตุคว้ามีดแทงเพื่อนร่วมงาน Oleg Beloguzov ช่างเชื่อมวัย 52 ปี กลางโรงอาหาร ในวันที่ 4 ตุลาคม 2018 จากเหตุสปอยล์ตอนจบของหนังสือที่เขากำลังอ่านอยู่… Sergei Savitsky (ซ้าย) Oleg Beloguzov (ขวา) จากรายงานของสื่อต่างประเทศ ระบุว่าทั้ง 2 ได้กลายมาเป็นนักอ่านตัวยง หลังจากที่ต้องมาประจำการอยู่ในสถานีวิจัยระยะเวลานานหลายเดือน ซึ่งในช่วงที่เกิดเรื่องก็อยู่ที่นี้มานาน 6 เดือนแล้ว ด้าน Savitsky กำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ที่อยู่ในห้องสมุดของสถานีวิจัย แต่แล้วดันมาเจอ Beloguzov…
-
หญิงเดินหน้าฟ้อง ‘IKEA’ เพราะ ‘แก้วระเบิดใส่หน้า’ เรียกเงิน 4.7 ล้าน แต่ศาลสั่งจ่ายแค่แสนเดียว!!
นี่อาจเป็นอีกหนึ่งกรณีแปลกๆ ที่เกิดขึ้นจริงๆ บนโลกใบนี้ เมื่อทาง IKEA ร้านขายอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ถูกศาลสั่งฟ้องให้ชดใช้เงินจำนวน 40,000 หยวน (ประมาณ 1.9 แสนบาท) ให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากที่เธออ้างว่าถูกแก้วน้ำของทางร้านระเบิดใส่หน้า!! บาดแผลที่เกิดขึ้น เรื่องราวที่ว่านี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2017 จากความที่หญิงแซ่ Wang กล่าวว่าเธอได้เทน้ำร้อนใส่แก้วรุ่น Stelna ของทาง IKEA แล้วปรากฏว่ามันเกิดระเบิดขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด แรงระเบิดในครั้งนั้นมันทำให้เธอถึงขั้นหมดสติ มีฟันหักหนึ่งซี่ รวมถึงทำให้เธอต้องเข้าไปเย็บแผลที่ริมฝีปากถึง 4 เข็มด้วยกัน และนอกจากนี้เธอยังต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอีกถึง 12 ครั้งเพื่อรักษาอาการทั้งหมด หญิงคนที่ฟ้องร้องต่อ IKEA มากไปกว่านั้นนอกจากการบาดเจ็บตามร่างกายแล้ว แรงระเบิดในครั้งนั้นยังได้ส่งผลต่อจิตใจของเธอด้วย โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเอาไว้ว่า “ฉันรู้สึกเสียขวัญทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังจากอะไรก็ตาม ฉันต้องตื่นขึ้นมากลางดึกและไม่สามารถที่จะนอนต่อได้อีกเลย และในเวลากลางวันฉันจะรู้สึกหดหู่เอามากๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มันส่งผลต่อการทำงานของฉันด้วย” จากความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในนี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาหญิงคนนี้จึงได้ยื่นฟ้องต่อทาง IKEA เรียกค่าทำขวัญจากบริษัทเป็นเงิน 1 ล้านหยวน (ประมาณ 4.7 ล้านบาท)…
-
นักเรียนนายร้อยอากาศจีน ขว้างระเบิดไม่พ้นกำแพง “เด้งกลับ” เกือบระเบิดโดนตัวเอง
ว่ากันว่าการเข้าเรียนเป็นนักเรียนนายร้อยนั้นไม่ง่ายเอาเสียเลย เพราะต้องผ่านการฝึกฝนอันหฤโหดเพื่อเฟ้นหานายทหาร/ตำรวจที่แข็งแกร่ง การฝึกโหดขนาดไหนลองไปชมจากตัวอย่างเหตุการณ์ที่จะนำมาเสนอในวันนี้ นักเรียนนายร้อยอากาศของประเทศจีนเกือบระเบิดตัวเองหลัง ขว้างลูกระเบิดไม่พ้นกำแพง ทำให้ระเบิดเด้งกลับมาหาตัวเอง คลิปเหตุการณ์ คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยรายการ China Central Television ของประเทศจีน แสดงให้เห็นว่านักเรียนนายร้อยอากาศคนหนึ่งถูกดึงตัวลงหลุมหลบระเบิดเพียงเสี้ยววินาทีก่อนเกิดระเบิด เหตุเกิด ณ โรงเรียน People’s Liberation Army Air Force Harbin Flight Academy ในเมืองฮาร์บิน เมืองหลวงของมณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน ขณะที่ครูฝึกนามว่า Xu Hao กำลังสอนนักเรียนใหม่ถึงวิธีการขว้างระเบิดมือ ก็เกิดเหตุผิดพลาดขึ้นเมื่อนักเรียนคนหนึ่งไม่ประสงค์ออกนามขว้างระเบิดพลาด เขาขว้างไปชนกับกำแพงและกระดอนกลับมาใกล้ๆ กับบริเวณที่ผู้ขว้างยืนอยู่ เมื่อเห็นเช่นนั้น Hao จึงรีบคว้าตัวนักคนเรียนดังกล่าวลงหลุมหลบระเบิดอย่างรวดเร็วก่อนแรงระเบิดจะปะทุออกมา ครูฝีก Hao บอกว่า “เขาขว้างด้วยองศาของข้อมือที่ไม่ถูกต้อง จึงทำให้ลูกระเบิดที่ขว้างออกไปนั้นชนเข้ากับขอบกำแพง” ระเบิดชนิดดังกล่าวมีแรงระเบิดเป็นวงกว้างสามารถก่ออันตรายถึงชีวิตได้ในระยะ 6 เมตรเลยทีเดียว ทางการจึงเชยชมว่าเป็นเพราะ Hao ทั้งคู่ถึงได้รอดจากแรงระเบิดครั้งนี้ได้ เห็นไหมล่ะว่า การฝึกในโรงเรียนนายร้อยนั้นไม่ง่ายเลย…
-
นักท่องเที่ยวบ่นอุบ ฝักบัวในเวียดนามใช้ลำบาก เจ้าถิ่นอธิบาย ‘นั่นมันสายฉีดตูด’ ครับพี่!
ความแตกต่างทางด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ของคนในแต่ละท้องถิ่น เป็นสิ่งที่ต้องคอยเรียนรู้กันไป หากผู้มาเยือนไม่เข้าใจก็ควรจะชี้แจงแถลงไขให้ได้ทราบว่า สิ่งของเหล่านี้มีไว้ใช้ทำอะไร… เรื่องราวฮาๆ นี้เกิดขึ้นในกลุ่ม Hanoi Massive Community แหล่งรวมชาวต่างชาติและเจ้าบ้านที่อาศัยอยู่ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม รวมไปถึงนักท่องเที่ยวขาจรที่เข้ามาหาข้อมูลการท่องเที่ยวด้วย ด้านนาย Hamish Carruthers ได้ออกมาโพสต์แนวบ่นๆ ว่า การอาบน้ำที่นี่ช่างยากลำบากเสียเหลือเกิน พร้อมกับสอบถามความรู้สึกจากคนอื่นๆ ว่า คิดยังไงกับฝักบัวอาบน้ำประเภทนี้บ้าง? ใจความจากโพสต์ของนาย Hamish “เอาล่ะทุกท่าน ผมอยู่ในกรุงฮานอยมาเกือบสัปดาห์นึงแล้ว และผมก็ชอบมากๆ แต่สิ่งเดียวที่ผมอยากจะบ่นก็คือ ‘ฝักบัว’ ผมเป็นพวกประหยัดน้ำนะ แต่จะให้มาถือสายฟักบัวกับกดปุ่มยิงน้ำออกมา ดูเหมือนจะเกินไปหน่อย อุณหภูมิหนาวๆ ไม่ได้รบกวนผมมากเท่าไหร่ แต่ทำไมต้องตั้งไว้ต่ำขนาดนี้? จำเป็นตัวก้มหัวเพื่อสระผมสระหัวเนี่ย คนเวียดนามก็ไม่ได้เตี้ยขนาดนั้นนะ… ผมลองมา 2 โอสเทลแล้ว และทั้ง 2 ที่ก็มีแต่ฝักบัวแบบนี้ คนอื่นๆ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับฝักบัวเวียดนามแบบนี้?” และภาพฝักบัวเวียดนาม ที่เขาแนบมาด้วยนั้นก็คืออออออ… ภาพที่เห็นแน่นอนว่ามันคือ สายฉีดชำระ…
-
เมื่อกัญชาถูกกฎหมายในอเมริกา สาวๆ ก็ถ่ายภาพ “โชว์ของ” กันร่าเริงเลยเชียว!
หลายประเทศก็ได้มีการทำให้ กัญชา เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย เช่น แคนาดา เป็นต้น โดยบางแห่งอาจมีเงื่อนไขว่าต้องใช้ในเชิงการแพทย์ ขณะที่บางแห่งก็ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ประเทศสหรัฐอเมริกาเองล่าสุดก็ได้ทำให้ กัญชา เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายแล้วใน 9 รัฐโดย “ไม่มีเงื่อนไข” ว่าต้องใช้ในเชิงการแพทย์เท่านั้น งานนี้สาวสวยทั้งหลายก็ออกโพสต์ภาพคู่กับกัญชาอย่างรื่นเริงทั่วอินสตาแกรมเพราะสามารถสูบกัญชากันได้อย่างสบายใจเฉิบ มันจะดูรื่นเริงขนาดไหนไปชมกันเลย!! #1 มาพร้อมชุดเลยแฮะ IG: krissy.420 #2 ควันขโมงกันเลยงานนี้! IG: msblowsmoke #3 ดูใบหน้าอันโอ้อวดนั่นสิ!! IG: lifteddladies #4 ดูมีความสุขจริงจริ๊งงงง IG: blazinbee420 #5 สมใจสายเขียวเลยใช่ไหมล่ะ!? IG: bongbeauties #6 เจอแบบนี้ไม่ว่าจะสายเขียวหรือสายอะไรก็ชอบทั้งนั้นแหละจ้าาา IG: women.weed #7 เฮ้ย ใส่ในพิซซ่าเลยเหรอ!!? IG: summersativaofficial #8 ไม่อยากเชื่อเลยว่ากัญชาที่ถูกกฎหมายจะทำให้คนเซ็กซี่ได้ขนาดนี้… IG: sexyganjagirls #9 อื้อหืม…ของดี!! IG: ms.allyrose…
-
ภาพถ่ายของ ‘ป่าอเมซอน’ เผยให้เห็นทั้งความสวยงาม และหายนะที่กำลังเกิดขึ้น!!
‘ป่าอเมซอน’ ถือเป็นป่าฝนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก…แต่ช่วง 40 ปีที่ผ่านมานี้กว่า 20% ของผืนป่าทั้งหมดถูกทำลายไปโดยน้ำมือของ ‘มนุษย์’ พื้นที่ของป่าอเมซอนนั้นมีขนาดใหญ่จนชนิดที่ว่าครอบคลุมไปถึงกว่า 9 ประเทศด้วยกัน ซึ่งพื้นที่ 60% อยู่ในประเทศบราซิล แน่นอนว่าส่วนที่เสียหายมากที่สุดก็อยู่ในฝั่งของประเทศบราซิลนี้เอง ซึ่งช่างภาพนามว่านาย Rodrigo Baleia ใช้เวลากว่าทศวรรษ ในการตามถ่ายภาพผืนป่าอเมซอน เผยให้เห็นถึงมุมที่สวยงามในอดีต และปัจจุบันที่ผืนป่าถูกทำลายไปมากมาย จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า.. ถนนที่พาดผ่านป่าอเมซอน ที่อยู่ในเขตของรัฐ Mato Grosso ทางตะวันตกของบราซิล (อดีต) นี่คือต้นไม้ที่หลงเหลืออยู่หลังจากเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐ Mato Grosso เมื่อปี 2008 ผืนป่าในรัฐ Mato Grosso เริ่มถูกรุกล้ำ เพื่อทำพื้นที่มาปลูกไร่ ‘ถั่วเหลือง’ ฟาร์มปศุสัตว์ที่อยู่ใต้ต้นไม้ 1 ต้น ในรัฐ Mato Grosso ทั้งๆ ที่ในอดีตมันเคยมีแต่ ‘สีเขียว’ เต็มไปหมด…
-
พนักงานแจกตั๋วให้นักท่องเที่ยว ‘ฟรี’ เพราะ ‘พูดอังกฤษไม่เป็น’ เสียหายกว่า 7 ล้านบาท!!
‘ภาษาอังกฤษ’ ถือเป็นเรื่องสำคัญมากในปัจจุบัน เพราะมันจะทำให้เราสามารถสื่อสารได้กับผู้คน ‘ส่วนใหญ่’ บนโลกใบนี้ได้ โดยเฉพาะกับประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว ที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับเหล่าพนักงาน หรือคนในประเทศให้มีความสามารถภาษาอังกฤษ เพื่อใช้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา เหมือนกับเรื่องราวดังต่อไปนี้ก็เป็นได้… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสวน Shinjuku Gyoen เป็นสวนที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวเลยก็เป็นได้ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมมากมาย สวนแห่งนี้ได้รับการดูแลโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น โดยมีการกำหนดเอาไว้ว่าหากใครที่ต้องการจะเข้าชมสวนแห่งนี้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 200 เยน หรือราวๆ 60 บาทไทย สำหรับผู้ใหญ่ แต่ล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมามีการค้นพบว่า มีพนักงานตรวจตั๋ววัย 70 ปีรายหนึ่งปล่อยให้ ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ เข้าชมสวนแบบไม่เสียค่าเข้า มานานกว่า 2 ปี!? ด้วยเหตุผลว่าเขาไม่กล้าที่จะสื่อสารกับชาวต่างชาติ เพราะ ‘พูดภาษาอังกฤษไม่เป็น’ ภาพของตั๋วเข้าชมสวน จากการสำรวจข้อมูล และได้ข่อสรุปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าการกระทำดังกล่าวส่งผลให้สวนเสียรายได้ไปมากกว่า 25 ล้านเยน หรือราวๆ 7.3 ล้านบาทเลยทีเดียว!! นอกจากนี้ยังพบว่าเขาเคยถูกนักท่องเที่ยวต่างชาติตะโกนใส่เมื่อหลายปีก่อน ทำให้รู้สึกระมัดระวังตัว และอึดอัดใจทุกครั้งเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับชาวต่างชาติจนไม่กล้าเก็บเงินและยื่นตั๋วให้ไปแบบฟรีๆ ซึ่งหลังจากที่ยื่นตั๋วให้ไปแล้ว เขาก็ขอให้เพื่อนร่วมงานลบข้อมูลการออกตั๋วเพื่อไม่ให้มีใครจับได้ อย่างไรก็ตามพนักงานวัย…
-
Jon Bon Jovi จวก Kim Kardashian ออกรายการทีวี ‘ที่ดังได้ ก็เพราะคลิปหลุดล่ะว๊าาา’!!
เมื่อกล่าวถึงตระกูล Kardashian แล้ว คนที่หลายๆ คนอาจจะรู้จัก Kim Kardashian มากที่สุด เพราะก่อนหน้าที่เธอจะมีครอบครัวที่น่ารักอบอุ่น แบบที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ขอบอกเลยว่ามีเรื่องฉาวให้พูดถึงกันแบบไม่เว้นวันกันเลยทีเดียว!! ซึ่งล่าสุดทางด้านร็อกสตาร์อย่าง Jon Bon Jovi ก็ออกมาพูดถึง Kim Kardashion กับ Sunday Project แบบสุดจี๊ดว่า “ที่เธอมีชื่อเสียงมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะคลิปหลุดของเธอ ในปี 2003” เขากล่าวกับ The Sunday Project ในออสเตรเลีย ขณะที่พูดถึงวัฒนธรรมเพลงป็อปอยู่ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เอ่ยชื่อออกมา แต่ใช้วิธีใบ้ จนใครๆ ก็รู้ว่าพี่ลุง Jon น่ะพูดถึง Kim Kardashian ชัดๆ “แล้วอะไรจะอยู่ในชีวประวัติบ้างน่ะ? ‘อ๋อ ฉันทำหนังโป๊น่ะค่ะ แล้วรู้อะไรมั้ย? จู่ๆ ก็ดังขึ้นมาเลยค่ะ’ ไอ้แม่เยส!! เอาล่ะ ขอโทษนะ ข้ามไปละกัน เอาล่ะผมจะไปเขียนหนังสือ วาดภาพ…
-
หญิงอินเดียทะเลาะกับรปภ. ตัดสินใจ “แก้ผ้า” เพราะไม่ต้องการให้ตำรวจพาไปโรงพัก
เมื่อพบเจอกับความอยุติธรรมหรือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าใครก็ต้องโมโหกันทั้งนั้น อย่างเช่นหญิงสาวชาวอินเดียคนหนึ่งที่บังเอิญมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในอะพาร์ตเมนต์ที่เธอพัก จนเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็เชิญให้ทั้งสองคนไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ แต่หญิงสาวกลับไม่ยอมไป เธอบอกว่าหากจะเชิญไปที่สถานีต้องมีตำรวจหญิงมาด้วย เธอจึงตัดสินใจจะขึ้นลิฟต์และกลับห้อง แต่ก็ถูกขัดขวางเอาไว้ จากนั้นเรื่องราวก็เข้มข้นขึ้น ต่างฝ่ายต่างปฏิเสธกันและกัน กระทั่งหญิงสาวโมโหกับความไม่ยุติธรรม ระเบิดอารมณ์ออกมาพร้อมถอดเสื้อผ้าออกและตะโกนด่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราวตี 3 ของวันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา หญิงสาวชาวอินเดียดังกล่าวผู้เป็นทั้งนางแบบและนักเขียนคอลัมน์ ได้มีปากเสียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขณะที่กลับมายังที่พัก หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์จึงเชิญเธอและคู่กรณีไปที่สถานีตำรวจแต่เธอกลับยืนยันว่าต้องมีตำรวจหญิงมาด้วยเธอถึงจะยอมไป หรือไม่ก็ให้รอคุยกับทนายความของเธอ . หลังจากที่ตกลงกันไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจที่จะขึ้นลิฟต์กลับไปยังห้องพักของตน แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขัดขวางเอาไว้ เธอจึงเกิดอารมณ์โมโหและเริ่มถอดเสื้อผ้าออกเพื่อประชด ตามกฎหมายของประเทศอินเดียแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีสิทธิ์เชิญสตรีไปยังสถานีตำรวจ หากเป็นกรณีที่จำเป็นจริงๆ ควรมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงมาด้วย เหตุการณ์ในครั้งนี้ใหญ่โตกระทั่งผู้บังคับการตำรวจพร้อมด้วยรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีต้องออกมามีส่วนร่วมด้วย แต่อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนนี้ก็ต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากพฤติกรรมไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ ที่มา: ck101 และ Facebook@sudeshmalikchd
-
วัยรุ่นโผล่เอาตัวออกไปรับลมทางช่อง ‘ซันรูฟ’ ถูกป้ายจราจรฟาดศีรษะเสียชีวิต…
บางครั้งความประมาทหรือว่าการเล่นอะไรโดยอย่างไม่ยั้งคิด ก็อาจจะสร้างความบาดเจ็บกับตัวเราจนถึงขั้นร้ายแรงจนเสียชีวิตได้ เหมือนกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่มีวัยรุ่นวัย 13 ปีคนหนึ่งต้องเสียชีวิตจากการที่เขาขึ้นไปยืนเล่นลมทางช่องซันรูฟของรถ จนไปชนเข้ากับป้ายจำกัดความสูงซะอย่างงั้น!! โดยเหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (28 ต.ค.) ที่ผ่านมา และได้กลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากบนโลกโซเชียลมีเดียของประเทศจีน เมื่อมีคลิปของวัยรุ่นคนนี้ถูกเผยแพร่ลงสู่โลกอินเทอร์เน็ต จากในคลิปจะเห็นได้ว่าคนถ่ายเป็นผู้ที่อยู่ในรถคันที่ตามหลังอยู่ ซึ่งในตอนเริ่มจะเห็นว่าวัยรุ่นคนนี้ยืดตัวออกไปนอกรถประมาณครึ่งตัวผ่านทางซันลูฟขณะที่รถกำลังแล่นอยู่ที่ทางด่วนใกล้ๆ กับเมืองซินยู มณฑลเจียงซี เขายืนตากลมอยู่อย่างนั้นอย่างไม่มีท่าทีว่าจะกลับไปในรถแต่อย่างใด ในขณะเดียวกันในรถของคนที่ถ่ายคลิปก็มีการหัวเราะและพูดกันเล่นๆ ว่าบางทีหนุ่มน้อยคนนี้อาจจะถูกป้ายอะไรสักอย่างตีเข้าหน้าก็เป็นได้ แล้วใครจะคิดว่าอีกเพียงไม่กี่วินาทีต่อมาจะเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นจริง… เพราะว่ารถคันที่หนุ่มน้อยที่ยืนถลาแล่นลมอยู่ในช่องซันรูฟคันนั้น ได้วิ่งฉิวไปตามทางอย่างหน้าตาเฉยและเขาก็ยืนอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหลบหลีกแต่อย่างใด แม้จะเห็นว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้า จนในที่สุดแล้วรถคันนี้ก็วิ่งผ่านป้ายกำกับดังกล่าวและทำให้ศีรษะของวัยรุ่นคนนี้พุ่งชนเข้ากับป้ายเต็มๆ จนล้มพับไป จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่าเด็กหนุ่มคนนี้เสียชีวิตในทันที และไม่เป็นที่แน่ชัดด้วยว่าทำไมเขาถึงไม่กลับเข้าไปในรถทั้งๆ ที่เห็นป้ายอยู่ข้างหน้า รวมถึงทำไมพ่อแม่ที่อยู่ในรถถึงไม่ดึงตัวเขาลงหรือชะลอความเร็วรถแต่อย่างใดด้วย นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้ระวังตัวเองกันมากขึ้น เพราะไม่มีใครรู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นตอนไหนและทางที่ดีเราควรจะทำตัวเองให้อยู่ในจุดที่ปลอดภัยเอาไว้น่าจะเป็นการดีที่สุด… ที่มา: shanghaiist, btimes
-
คอสตูมดีเด่น 2018 ของน้อง Maya แม่จับแต่งชุด ‘ผีถือหัว’ ถูกอกถูกใจชาวเน็ตกันถ้วนหน้า!
เป็นประจำกันทุกปีๆ ด้วยตีมการแต่งตัวให้เข้ากับเทศกาลฮาโลวีน ความเป็นผีน่ารักๆ ของเด็กๆ นี่แหละ สามารถมัดใจผู้ใหญ่มานักต่อนักแล้ว โดยที่ผ่านมาในปี 2016 และ 2017 คงจะจำหนูน้อย MengMeng จากไต้หวัน ในชุดผีไร้หน้ากับยมทูตลุคกันได้ (ข่าวเก่า) แต่ปีนี้ต้องหลีกทางให้กับน้อง Maya จากฟิลิปปินส์แทนซะแล้ว น้อง Maya กับชุดผีถือหัว ผีหัวขาด เอ๊ะ จะผีอะไรก็ช่าง แต่มันดูล้ำเกินไปแล้วววว! ชุดของน้อง Maya นั้นเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวเน็ตไปทั่วโลกออนไลน์กันเลยทีเดียว จากจำนวนยอดวิวคลิปวิดีโอข้างต้นก็ปาเข้าไป 17 ล้านวิวแล้ว!! นอกเหนือจากการแต่งตัวเป็นผีของน้อง Maya แล้ว คุณแม่ Krystel Hwang ได้โพสต์รูปภาพของน้อง Maya คู่กับพี่สาว Charlie ในระหว่างการเข้าร่วมงานเทศกาลฮาโลวีนประจำหมู่บ้าน South Bay Village อีกด้วย จะรู้สึกน่ารักหรือน่ากลัวดีล่ะเนี่ย . . ถ่ายรูปคู่กับคุณแม่ …
-
สาวเจ้าซื้อวิกมาใหม่ กะใส่ฮาโลวีนนี้เต็มที่ พอแกะซองลองใส่ น้ำตาไหลจางกับใจบางๆ
การซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นประเภทใดๆ ก็ตาม เมื่อเราตัดสินใจซื้อไปแล้ว ก็ต้องคาดหวังว่ามันจะต้องออกมาดี จะต้องออกมาคุ้ม เหมาะสมกับที่เงินที่ควักซื้อไป แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว โลกนี้มันช่างโหดร้ายนัก เพราะบางสิ่งบางอย่าง อาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่เราหวังเอาไว้เสมอไป และความผิดหวังในครั้งนี้ ก็แสดงออกมาได้อย่างชัดเจน สาววัย 21 ปี Leekeasha Venius รายนี้ ตัดสินใจซื้อวิกผมบ็อบสีขาวในวินาทีสุดท้าย เพื่อจะเอามาสวมใส่คู่กับคอสตูมชุดแมวดำของเธอ จากการลองใส่ ลองส่องผ่านหน้ากระจกอยู่นานสองนาน ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะออกจากบ้าน เธอมีความคิดตีอยู่ในหัวเพียงแค่ว่า ‘ไม่เวิร์คเลย’ พร้อมกับถ่ายวิดีโอคลิป เผยความรู้สึกอันสุดแสนประทับใจ ทวีตให้ชาวเน็ตได้ดู วิกมันไม่เป๊ะเหมือนในรูปในซองเลยแว้!? Y'all I'm upset I really thought I was gonna fuck em up with this one pic.twitter.com/hXjTM2SaEk — Keasha Did…
-
พ่อตาตีลูกเขย เผยตัวตนที่แท้จริง สยบคำลือเป็นมาเฟีย ที่ทำไปเพราะรักลูกกับหลาน
หากคุณได้อ่านข่าวเกี่ยวกับพ่อตาที่ลงไม้ลงมือสั่งสอนลูกเขย เนื่องจากทำร้ายลูกสาวของเขาอยู่บ่อยครั้ง แม้จะเตือนแล้วแต่ไม่หลาบจำ โดยหลังจากที่คลิปถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างตั้งข้อสงสัยว่า ผู้เป็นพ่อตาน่าจะเป็นถึงมาเฟียใหญ่ เนื่องจากมีรอยสักยาวถึงปลายแขน… ข่าวเก่า: พ่อตาสั่งสอนลูกเขย ‘ข้าเลี้ยงลูกสาวมากับมือ ไม่ได้ให้เอ็งมาข่มเหง’ เตือนแล้วแต่ไม่เข็ด ทั้งนี้แหล่งข่าวจาก China Press ได้ทำการเปิดเผยว่า ฝ่ายพ่อตาที่ปรากฎตัวอยู่ในคลิปนั้นมีอายุ 48 ปี แซ่ Wong มีอาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง อีกทั้งยังเป็นนายแบบด้านการสักด้วย โดยที่นาย Wong ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาได้รับความไม่เป็นธรรมจากการตัดสินของชาวเน็ต ที่มองเขาเพียงผิวเผินจากรอยสัก เพราะที่ผ่านมานั้นเขาเคยมีส่วนร่วมกับทางสมาคมช่างสัก แถมยังเคยเข้าร่วมงานประกวดรอยสักระดับนานาชาติมาแล้ว เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นาย Wong กล่าวว่าอดีตลูกเขยรายนี้ ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมจะเป็นสามีที่ดีได้ เพราะที่ผ่านมาเขาขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่ แม้จะแต่งงานแล้วก็ตาม ลูกเขยไม่เคยสนใจลูกสาววัยแบเบาะของตนเอง อีกทั้งยังลงมือทำร้ายภรรยา (ลูกสาวของนาย Wong) ในปีที่ผ่านมาด้วย ด้วยสาเหตุดังกล่าวทำให้ลูกเขยและลูกสาวของนาย Wong ตัดความสัมพันธ์ด้วยการหย่า และไม่ได้เจอหน้ากันอีกจนกระทั่งวันที่ 24 ตุลาคม 2018…
-
ทำเรื่องเล่นให้จริงจัง!! ชม 20 การประกวดแกะสลักฟักทองจาก NASA จะธรรมดาได้ยังไง
เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าวันนี้ (31 ตุลาคม 2018) เป็นวันอะไร? มันคือวันปล่อยผีหรือฮาโลวีนอย่างไงล่ะ!! โดยปกติแล้วในเทศกาลฮาโลวีนนี้เราก็จะเห็นผู้คนแต่งตัวในธีมภูติ ผี ปิศาจออกมาสนุกกับเทศกาลหรือไม่ก็แกะสลักเจ้าฟักและจุดเทียนข้างในหรือที่เราเรียกกันว่า Jack O’Lantern ซึ่งในองค์การขนาดใหญ๋อย่าง NASA ก็มีการมีการแกะสลักฟักทองเช่นกัน แต่สำหรับองค์การที่มีคนเก่งเต็มไปหมดแบบนี้ จะให้แกะสลักธรรมดาคงไม่ได้ เลยจัดการแข่งขันความสร้างสรรค์ในการแกะสลักเสียเลย การแข่งนี้มีกฎอยู่ 3 ข้อคือห้ามวางแผน ห้ามแกะสลักและห้ามแข่งกันในเวลางาน ให้ไปใช้เวลาว่างในการจัดการแกะสลักเอาเอง และแม้ว่าจะไม่มีรางวัลให้สำหรับการแข่งขันนี้ แต่ก็ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าแข่งขันเป็นอย่างดี เราไปดูกันดีกว่าครับว่าพวกเขาจะแกะสลักฟักทองเป็นอย่างไรกันบ้าง การันตีเลยว่าไม่ธรรมดาแน่นอน!! 1. มาเป็น Mike Wazowski เลย 2. มาเป็นแบบไฟวิบๆ วับๆ เหมือนอยู่ในผับ 3. ส่วนคนนี้จากฟักทองก็กลายมาเป็น UFO!! 4. E.T. เพื่อนรักกก 5. จะเอาฟักทองไปลอยทะเลลล 6. โคตรล้ำ!! 7. เครื่องเล่นจากสวนสนุกก็มานะเออ…
-
ร้านพิซซ่าในเมืองเวนิสยังคงเปิดขาย แม้จะต้องเผชิญกับน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 10 ปี
“เวนิส” เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ด้วยความสวยงามของเมืองและจุดเด่นที่มีลำคลองตัดผ่านไปทั่ว ทำให้เวนิสได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำ (City of Water) โดยปกติแล้วเราก็จะเห็นประชากรในเมืองเวนิสที่ใช้ชีวิตอยู่กับน้ำตลอดเวลาอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อไม่นานมานี้ระดับน้ำได้สูงขึ้น จนเกิดเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ทำให้พื้นที่กว่า 70% ของเมืองต้องจมอยู่ใต้น้ำ!! (ข่าวเก่า) นี่เรียกว่าเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีของเวนิส นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 และคงเป็นภาพที่เราไม่ได้เห็นบ่อยนักจากเมืองที่ถูกเรียกว่าเมืองแห่งสายน้ำ ซึ่งในขณะนี้ไม่ใช่เพียงแค่ที่เมืองเวนิสเท่านั้นที่ประสบกับปัญหาอุทกภัย แต่ทั่วทั้งประเทศอิตาลีต่างก็ต้องจับตาเฝ้าระวังอุทกภัยกันทั้งนั้น เนื่องจากพายุเข้าโหมกระหน่ำ ทำให้ฝนตกหนักติดต่อกัน หากถามว่าน้ำท่วมเวนิสครั้งนี้รุนแรงขนาดไหนแล้วล่ะก็ คงต้องบอกว่ารุนแรงขนาดที่ James Ball นักข่าวบอกว่า “ไม่ปกติ” ในช่วงแรกน้ำท่วมสูงถึง 120 เซนติเมตรและในปัจจุบันระดับน้ำน่าจะสูงขึ้นถึง 150 เซนติเมตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว https://twitter.com/jamesrbuk/status/1056674376685416448?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1056674376685416448&ref_url=http%3A%2F%2Fwww.ladbible.com%2Fnews%2Fnews-venice-suffers-from-worse-flooding-in-years-because-of-high-tides-20181029 แน่นอนว่าอุทกภัยครั้งนี้ ต้องทำให้ประชากรของเวนิสไม่ว่าจะเป็นชาวหรือนักท่องเที่ยวต้องประสบปัญหาทั้งเรื่องของอาหารการกินและการเดินทางเพราะเรือขนส่ง (Vaporetti) ก็ถูกงดให้บริการ แต่บางทีฮีโร่ก็ไม่ได้สวมผ้าคลุมและเหาะลงมาจากฟ้า เพราะว่าพวกเขามาในคราบของร้านพิซซ่า!! ใช่แล้วพิซซ่าถือว่าเป็นความภูมิใจของอิตาลี ดังนั้นกับแค่น้ำท่วม ไม่สามารถหยุดพวกเขาไม่ให้เสิร์ฟอาหารขึ้นชื่อนี้ได้หรอก โดยร้านพิซซ่าร้านนั้นคือ Simons Bar Line แม้ว่าน้ำจะท่วมเข้าร้านในระดับเหนือข้อเท้าและมีความยุ่งยากในการให้บริการ แต่เจ้าของร้านและพนักงานก็ยังคงเปิดร้านและเสิร์ฟฟิซซ่าให้ลูกค้าทุกคน…
-
เปิดใจหญิงสาวที่ฝึกตนเป็น “แม่ชี” กว่า 8 ปี แต่ลงเอยด้วยอาชีพ “ดาราหนังโป๊”
ชีวิตของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงได้แทบทุกวินาที เพราะทุกการตัดสินใจนั้นจะเปลี่ยนแปลงผลที่ตามมาเสมอ… อย่างเช่นหญิงคนหนึ่งที่ทุ่มเทเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษของชีวิตเธอ ฝึกตนอย่างหนักเพื่อเป็น แม่ชี อย่างเต็มตัว แต่ปัจจุบันเธอได้กลายเป็น ดาราหนังโป๊มืออาชีพ ไปเสียแล้ว Yudi Pineda หญิงสาวจากเมือง Ituango ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโคลอมเบีย ได้ยุติการฝึกตนเป็นแม่ชี และหันมาสร้างผลงานหนังผู้ใหญ่อย่างเต็มความสามารถ Yudi กล่าวกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เธอนั้นเข้าโบสถ์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กอายุราวๆ 10 ขวบ และฝึกปฎิบัติตนที่นั่นเป็นเวลาถึง 8 ปี เธอกล่าวว่าขณะที่ฝึกตนเป็นแม่ชีอยู่ในโบสถ์เธอมีความสุขมากๆ แต่เมื่อเธอเริ่มโตขึ้นเธอกลับรู้สึก หลงรัก ครูสอนศาสนาของเธอเข้า เธอจึงตัดสินใจออกจากโบสถ์และไปหางานทำ Yudi Pineda ครั้งแรกเธอทำงานเป็นพนักงานในบริษัท Nestlé และทำให้มีโอกาสได้พบกับ Juan Bustos ผู้ที่มองหานางแบบเว็บแคมสำหรับหนังผู้ใหญ่ นั่นทำให้เธอตัดสินใจจะเปลี่ยนงาน Yudi กล่าวว่า… “ทีแรกฉันรู้สึกแย่มาก แต่ตอนนี้โอเคขึ้นแล้ว ฉันรู้สึกดีมากเวลาที่ไปเข้าโบสถ์ ฉันไม่เคยพลาดสักครั้งเลยไม่ว่าจะวันศุกร์ เสาร์ หรืออาทิตย์” เธอบอกว่าเธอมักเลี่ยงที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับอาชีพของเธอ ขณะเข้าไปสารภาพบาปในโบสถ์ แม้ว่าเธอเองจะคิดว่างานของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ “เหมาะสม” และ “เป็นศิลปะ”…
-
ไอดอลของหนู!! เด็กหญิงวัย 9 ขวบอาศัยเทศกาลฮัลโลวีน แต่งตัวเป็น ‘ซาลาห์’ แห่งหงส์แดง
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบใครบางคนมากๆ แน่นอนว่าเมื่อเทศกาลสุดแฟนซีอย่าง ‘ฮัลโลวีน’ ที่ทุกคนสามารถแต่งุชุดเป็นอะไรก็ได้มาถึง คุณคงไม่ปล่อยให้โอกาสดีๆ อย่างนี้หลุดลอยไปอย่างหน้าตาเฉยหรอกใช่ไหมล่ะ และเด็กหญิงวัย 9 ขวบคนนี้ก็ไม่ยอมที่จะพลาดการแต่งตัวเป็นนักฟุตบอลไอดอลของเธอเช่นเดียวกัน!! หนูน้อย Madison Mcguane Madison Mcguane เด็กหญิงสุดน่ารักจากเมืองลิเมอริค ประเทศไอร์แลนด์ เป็นคนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเอามากๆ และมีไอดอลประจำใจคือ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกหัวหยิกหยอยของทีมลิเวอร์พูล ในฮัลโลวีนปีนี้เธอก็เลยก็อปปี้เป็นเขาซะเลย โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ไอดอลของเธอ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเขียนหนวดเคราปลอมๆ แถวๆ ปากหรือว่าเอาวิกหัวหยิกมาใส่เพื่อความแนบเนียนมากที่สุด แต่ว่ายังไม่หมดเพียงแค่นั้นเพราะมีอีกไฮไลก์หนึ่งก็คือการ ‘ทำผิวสีแทน’ ด้วย โดยทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของ Marion คุณแม่และช่างแต่งหน้าชื่อว่า Tammy Meehan ที่คิดเห็นตรงกันว่าไหนๆ เด็กคนนี้ก็ชอบซาลาห์มากขนาดนี้ จะเป็นอะไรไปถ้าจัดเต็มให้เธอได้มีความสุขในวันสนุกๆ เช่นนี้ และแน่นอนว่าการทำผิวสีแทน อาจมีบางคนว่านี่เป็นเหมือนกับการเหยียดผิวหรือว่าอะไรหรือเปล่า แต่ทางคุณแม่ก็ยืนยันว่าเธอและลูกไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้นจริงๆ เท่ใช่ป่ะล่ะ “ซาลาห์เป็นไอดอลของ Malison เลย แถมเธอยังยืนกรานด้วยว่าในปีฮัลโลวีนนี้จะแต่งตัวเป็นเขาให้ได้” “และสิ่งที่ฉันเป็นกังวลก็คือสิ่งที่คนอื่นๆ คิดว่านี่จะเป็นการกระทำที่ไม่ควรหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่เราต้องแคร์จริงๆ เพราะมันอาจทำให้เรื่องตลกๆ นี้กลายเป็นเรื่องร้ายแรงก็เป็นได้” กับทางขุ่นแม่ …
-
คุณแม่ถูกวิจารณ์ยับ หลังให้ลูกแต่งตัวเป็น ‘ทาส’ ไปร่วมงานปาร์ตี้ฮาโลวีนที่โรงเรียน!!
โลกของเราพัฒนาไปเรื่อยๆ จากสังคมที่เคยปิดกั้น ก็กลายมาเป็นสังคมที่เปิดกว้าง ทั้งด้านเชื้อชาติ เพศ สีผิว ความคิด ศาสนา เป็นต้น แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยังยึดติดกับอะไรเดิมๆ ซึ่งในปัจจุบันมันกลายเป็นเรื่องที่ ‘สังคม’ รับไม่ได้ไปเสียแล้ว… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่คุณแม่รายหนึ่งจับลูกชายวัย 9 ขวบ ของตัวเองมาแต่งคอสเพลย์เป็น ‘ทาส’ ผิวสี ที่ถูกล่ามโซ่ที่คอ มือ และข้อเท้า แถมยังตกแต่งรอยเฆี่ยนตีจากแส้ได้อย่างแนบเนียน รวมไปถึงทาสีผิวให้เป็นสีน้ำตาล จนทำให้ชาวเน็ตดราม่าไปตามๆ กัน เป็นการแต่งชุดเพื่อไปร่วมงานปาร์ตี้ฮาโลวีนของโรงเรียนในเมือง Natal รัฐ Rio Grande do Norte ประเทศบราซิล ผู้เป็นแม่ได้ทำการโพสต์ภาพดักล่าวลงอินสตาแกรม โดยใช้ชื่อสมาชิกว่า sabrinaflor พร้อมกับแคปชัน “เมื่อลูกชายของคุณตีบทแตก มาเป็นทาสชาวบราซิลกันเถอะ! #ทาส” แน่นอนว่าหลังจากที่ภาพถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็เข้ามาดราม่ากันรัวๆ “หญิงสาวคนนี้คือปิศาจชัดๆ เธอแต่งตัวลูกชายของตัวเองให้กลายเป็นทาส” “เราไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ ความเกลียดชังมันควรจะจบลงได้แล้ว!!” “ปิศาจแห่งการเหยียด” หลังจากนั้นคุณแม่ก็ออกมาตอบโต้ชาวเน็ตทั้งหลาย…
-
ว่าที่เจ้าสาวห้ามเพื่อนเจ้าสาวใส่ชุดเดรสในงานแต่ง เพราะกลัวสวยเกินหน้าเกินตา
งานแต่งงานถือว่าเป็นสิ่งที่คู่รักหลายคู่ปรารถนามากที่สุด ซึ่งเขาว่ากันว่าในวันแต่งงาน จะเป็นวันที่ฝ่ายเจ้าสาวสวยที่สุดในชีวิตของเธอ และแน่นอนว่าเธอคงไม่อยากให้ใครสวยเกินจนแย่งความโดดเด่นไปจากเธอ เช่นเดียวกับสาวที่เราจะนำมากล่าวให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เธอจึงได้ห้ามไม่ให้เพื่อนเจ้าสาวใส่ชุดเดรส แต่ให้ใส่เป็นชุดสุภาพและต้องหาอะไรมาคลุมด้วย เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะสวยจนเกินหน้าเกินตาฝ่ายเจ้าสาวได้ ในวันที่ 29 ตุลาคม 2018 ได้มีว่าที่เจ้าสาวคนหนึ่งที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อ ได้โพสต์ข้อความปรึกษาเรื่องงานแต่งของเธอลงในเพจเฟซบุ๊กที่ให้คำปรึกษาเรื่องแต่งงานด้วยความว่า “คงเป็นความคิดที่แปลกสักหน่อย แต่ฉันคงไม่ใช่คนเดียวแน่ๆ ที่อยากให้เพื่อนเจ้าสาวสวย แต่ไม่สวยจนเกินไป เพราะแบบนั่นความมั่นใจในตัวฉันเองคงหายไปหมดแน่ๆ ฉันอยากจะให้ตัวเองกลายเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดในวันนั้น ขอแค่วันนั้นวันเดียวเท่านั้น” เมื่อเธอโพสต์ดังกล่าวลงในเพจ ก็มีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งบางคนก็เห็นด้วยและเข้าใจความรู้สึกเธอ “เพื่อนเจ้าสาวของฉันต้องใส่ชุดสุภาพ ส่วนหัวหน้าเพื่อนเจ้าสาวให้ใส่เดรสได้ แต่พวกเธอต้องคลุมชุดเอาไว้ หรือไม่งั้นฉันจะไปคลุมให้ตั้งแต่หัวถึงข้อเท้า (ไม่ได้ล้อเล่น)” “ฉันอยากให้เพื่อนเจ้าสาวและหัวหน้าเพื่อนเจ้าสาวแต่งชุดอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ แต่ฉันจะพูดคำทิ้งท้ายว่า พวกเขาสามารถดูสวยได้เท่าที่ต้องการ แต่ในวันนั้นขอให้ฉันเป็นคนที่สวยที่สุดในโลกก็พอ” แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าว “นี่มันหยาบคายเลยนะ ถ้าเป็นฉัน ฉันจะเลือกชุดให้พวกเธอเลย ฉันรักเพื่อนเจ้าสาวของฉัน เพราะว่าพวกเธอสวยและสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และฉันก็จะจ่ายเงินจ้างช่างมาแต่งหน้าทำผมพวกเธอด้วย เพราะฉันอยากให้พวกเธอสวยจนคนอื่นต้องตะลึง ไม่งั้นคุณจะเลือกเพื่อนเจ้าสาวมาทำไมล่ะหากคุณอยากทำให้พวกเธอดูแย่?” ก็เรียกว่าต่างคนต่างความคิด แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องที่เจ้าสาวสมควรสวยที่สุดในงาน?…
-
นักข่าวสื่ออังกฤษน้อมรับผิด หลังกล่าวหาคุณจุ๋ม นุสรา มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับคุณวิชัย
เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกนำมาเปิดเผย เกี่ยวกับความไม่เหมาะสมของผู้ทำงานด้านสื่อ อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นสื่อที่มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษด้วย โดยสื่อต่างประเทศระบุว่า นาย Dan Roan บรรณาธิการข่าวด้านกีฬาจากสำนัก BBC ได้ทำการพูดเปิดประเด็นหลังกล้อง วิจารณ์กับกลุ่มเพื่อนโดยที่เขากล่าวว่า… “มีภรรยาน้อยที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกด้วยงั้นเหรอ หรือที่รู้กันดีว่าเป็นหนึ่งในทีมงาน ชื่อตำแหน่งภรรยาน้อย” อันเป็นคำพูดระหว่างที่อยู่ภายในงานรำลึกถึงคุณวิชัย Dan Roan นอกจากนั้นแล้วยังพูดประโยคประชดชันอย่าง “ช่างเป็นคนที่รักครอบครัวมากๆ” กับ “ถ้าเป็นเศรษฐีก็คงจะทำแบบนี้กันอยู่แล้ว เดาไว้ได้เลย แต่เราก็ไม่ควรไปด่วนตัดสินขนาดนั้น” ภายหลังจากที่เขาพูดไปนั้น กลับไม่รู้ตัวเลยว่ากล้องของทางฝั่งสำนัก Sky News นั้นเปิดอยู่ และกำลังทำการถ่ายทอดสดด้วย จึงทำให้สิ่งที่เขาพูดออกไปถูกเผยแพร่ออกมา… เมื่อเกิดเป็นเรื่องที่ไม่สมควรพูดออกมา แต่กลับถูกเปิดเผยโดยไม่รู้ตัว ด้านสำนักข่าว BBC ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า ให้นาย Dan Roan แสดงความคิดเห็นที่เป็นการให้เกียรติแก่ผู้ล่วงลับ แต่ยังคงประพฤติตนแบบเสียมารยาท เนื่องจากเขาเป็นบุคคลประเภทพูดจาฉะฉาน ตรงไปตรงมา แม้จะพยายามกำชับเจ้าตัวแล้วแต่ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ ทั้งนี้ ข้อมูลของคุณจุ๋ม นุสรา นั้น…
-
Gwyneth Paltrow ถูกปรับบาน หลังแนะนำหญิงสาวให้สอดใส่ “ไข่หยก” เข้าไปในจิ๊มิ…
นักแสดงสาวสวยหุ่นนางแบบ Gwyneth Paltrow ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นเจ้าของนิตยสารและเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Goop ล่าสุดออกมาเผยว่าหญิงสาวสามารถเพิ่มพลังทางเพศได้โดยการ สอดของบางอย่างเข้าไปในอวัยวะเพศ… รายการ Jimmy Kimmel Live! Gwyneth Paltrow หรือที่หลายคนรู้จักกันในบทบาทของ Pepper Potts จากภาพยนตร์ Iron Man ชีวิตจริงเธอเป็นผู้ที่มีไลฟ์สไตล์สุดโต่งมาก โดยเฉพาะเรื่อง “เซ็กส์” ในรายการ Jimmy Kimmel Live! เธอออกมาเผยว่าการสอดใส่ ไข่หยก เข้าไปในอวัยวะเพศหญิงจะช่วยให้หญิงสาว มีฮอร์โมนที่สมดุล ประจำเดือนมาปกติ ป้องกันมดลูกหย่อน และเสริมการควบคุมการขับถ่าย มีการยืนยันจากราชวงศ์ของจักรพรรดิชาวจีนด้วยว่า “ไข่หยก” ดังกล่าวเป็นหนึ่งในกรรมวิธีโบราณสำหรับรักษาหญิงที่มีปัญหาทางเพศ ซึ่งใช้กันมาราว 2,000 ปีแล้ว ไข่หยก Gwyneth จึงนำไข่หยกมาวางจำหน่ายโดย ไข่โรสควอตซ์ มีราคา 1,830 บาท และ ไข่หยก ราคา 2,200 บาท นั่นเป็นเหตุให้ Gwyneth ถูกสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 4.8 ล้านบาทโดย คณะกรรมการควบคุมอาหารและยาแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากการจัดจำหน่ายของใช้เชิงการแพทย์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและไม่ลงทะเบียน …
-
ศิลปินวาดภาพ ‘กลุ่มอาการป่วยทางจิต’ เพื่อให้ความดาร์กชัดเจน ที่ผู้ป่วยต้องสู้กับมัน
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว (2017) ศิลปินในนาม Shawn Cross ได้นำอาการความกลัวต่างๆ ในกลุ่มโฟเบีย มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานชุด Feartober ขึ้นมา ถ่ายทอดเป็นภาพแห่งความกลัวได้อย่างชัดเจน (ข่าวเก่า) และจะกลายมาเป็นประเพณีส่วนตัวประจำทุกปีของเขา เมื่อถึงช่วงปลายเดือนตุลาคม เขาจะปล่อยภาพชุดใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับอาการป่วยทางจิต หลังจากที่สังคมเริ่มมีการเปิดกว้างและใส่ใจในเรื่องนี้มากขึ้น แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ป่วยที่ประสบกับโรคประเภทนี้ มักจะถูกมองว่า ‘เป็นบ้า’ โดยที่คนปกติทั่วไปนั้น อาจจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่า อาการของผู้ป่วยในแต่ละโรคจะเป็นเช่นไร ซึ่งจะบอกเล่าได้จากภาพวาดดังต่อไปนี้ Attention Deficit Hyperactive Disorder (ADHD โรคสมาธิสั้น) Antisocial Personality Disorder โรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม Anxiety Disorder โรควิตกกังวล Avoidant Personality Disorder ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลีกเลี่ยง Bipolar Disorder โรคไบโพล่าร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว Body Dysmorphia…
-
ส่องคอสตูม “วันฮาโลวีน” สุดจัดจ้าน ของวัยรุ่นญี่ปุ่นในย่าน Ikebukuro แหล่งรวมโอตาคุ!!
เทศกาลวันฮาโลวีน จากที่เคยเป็นที่นิยมในประเทศฝั่งตะวันตกในอดีต ปัจจุบันได้กลายเป็นที่นิยมกันทั่วโลกเสียแล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศแถบเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น เมื่อวันฮาโลวีนมาถึง สิ่งที่ทุกคนต้องทำก็คือการแต่งกายเป็นอะไรก็ได้ที่คิดว่าดูน่ากลัวมากที่สุด ซึ่งนั่นเรียกได้ว่า “เข้าทาง” ชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะวัยรุ่นที่ชอบแต่งคอสเพลย์แบบสุดๆ เลยล่ะ ย่าน Ikebukuro ประเทศญี่ปุ่น ยิ่งในย่านที่เป็นศูนย์รวมเหล่าโอตาคุอย่าง Ikebukuro แล้วด้วย ฮาโลวีนปีนี้จึงเต็มไปด้วยสีสันและความจัดจ้านของหนุ่มๆ สาวๆ ในเมืองที่งัดคอสตูมมาประชันกันอย่างเต็มที่ ถ้าหากว่าอยากเห็นภาพบรรยากาศของวันฮาโลวีนในประเทศญี่ปุ่นย่าน Ikebukuro แล้วล่ะก็ เชิญไปชมความเด็ดดวงของวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นกันได้เลยจ้า 1. Kaname Madoka จาก Puella Magi Madoka Magica เปิดมาก็น่าสนใจแล้ววววว 2. Licker จาก Resident Evil อันนี้น่ากลัวแฮะ 3. Leon Kennedy จาก Resident Evil 4. Totoro จาก My Neighbor Totoro น่าร้ากกก 5. Goblin Slayer …
-
สถาบันศิลปะแห่งชิคาโก ปล่อยภาพคอลเลคชั่นกว่า 52,000 ชิ้น มีคุณภาพสูงและใช้ได้ฟรี!!
หากใครที่ชื่นชอบและหลงใหลในการเสพงานศิลปะ ยินดีด้วยคุณมาถูกที่แล้ว เพราะในข่าวนี้ #เหมียวเลเซอร์ ได้หยิบเรื่องราวดีๆ ของฟรีมีคุณภาพมาให้ท่านถึงที่… The Collection จากสถาบันศิลปะแห่งชิคาโก แยกเป็นหมวดหมู่ตามความสนใจประเภทงานศิลปะ โดยเมื่อไม่นานมานี้ทางสถาบันศิลปะแห่งชิคาโก (Art Institute of Chicago) ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ได้ทำการปล่อยคอลเลคชั่นศิลปะให้แก่ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมและนำไปใช้งานได้แบบฟรีๆ ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น The Bedroom โดยที่ภาพผลงานศิลปะแต่ละชิ้นนั้น เป็นภาพที่มีรายละเอียดในระดับสูง ยกตัวอย่างเช่นผลงาน “The Bedroom” ของแวน โก๊ะ “The Girl by The Window” โดยเอ็ดเวิร์ด มุงค์ หรืองานเด่นจากฌอร์ฌ-ปีแยร์ เซอรา “A Sunday on La Grande Jatte — 1884” และผลงานศิลปะชิ้นเอกอื่นๆ อีกมากมาย The Girl by…
-
เจ้าของร้านไปต่อว่า “เด็กชายที่มายืนฉี่” อยู่หน้าร้าน สักพักเจอคน “ยกพวกมารุมตี”!!
นี่คือคลิปจากกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเขตกว่างซีจ้วง ประเทศจีน เผยให้เห็นภาพของเด็กชายคนหนึ่งกำลังยืนฉี่อยู่ตรงต้นไม้หน้าร้านตอนกลางวันแสกๆ ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 25 ตุลาคม 2018 ภาพที่เห็นนั้นคงไม่แปลกที่เจ้าของร้านสะดวกซื้อดังกล่าวจะรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของเด็ก เขาจึงเดินเข้าไปใช้เท้ายันใส่เด็กคนนั้น พร้อมกับพูดกล่าวตักเตือนในการกระทำที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเด็กชายคนนั้นได้พูดอะไรกับเขาบ้าง เขาถึงตัดสินใจเอากล้องมือถือถ่ายภาพของเด็กคนนั้นเอาไว้ ก่อนที่เด็กชายและเพื่อนๆ จะเดินจากไป โดยที่ชายเจ้าของร้านอาจไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเกิดเหตุการณ์ที่บานปลายกว่าเดิม เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง เด็กชายกลับมาที่ร้านพร้อมกับชายหนุ่มประมาณ 5-6 คน โดยที่บางคนถืออาวุธเป็นท่อนเหล็กติดตัวมาด้วย ชายหนุ่มกลุ่มดังกล่าวเดินเข้ามาเหมือนกับจะถามว่า “มึงถีบตูดน้องกูเหรอวะ?!” ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าของร้านเองก็ไม่พอใจกับท่าทีของคนกลุ่มนี้สักเท่าไหร่เหมือนกัน แล้วจังหวะชุลมุนก็เริ่มต้นขึ้นในตอนที่ชายคนหนึ่งในกลุ่มตบเข้าที่ศีรษะของเจ้าของร้าน กลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาทกันอย่างหนักหน่วง มีผู้หญิงมาห้ามก็ห้ามไม่อยู่ เรื่องราวใหญ่โตจนถึงขนาดที่เจ้าของร้านโดนลากออกไปตีที่บริเวณทางเท้าหน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนที่จะกลายเป็นจีนมุงไปตามระเบียบ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์เอาไว้ในภายหลัง คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการรายงานยังไม่ได้บอกถึงสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น รู้แต่เพียงว่ายังคงอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนหาสาเหตุต่อไป (ซึ่งเราก็น่าจะเห็นได้จากภาพในกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว)เจอ ที่มา: shanghai , miaopai
-
ชายรอดหวุดหวิด จากเหตุเครื่องบิน Lion Air ตก มาช้า 10 นาที รถติดขึ้นเครื่องไม่ทัน
กลายเป็นประเด็นที่ทั่วทั้งโลกให้ความสนใจอย่างยิ่ง กับเหตุการณ์ความสูญเสียของเที่ยวบิน JT 610 เส้นทางกรุงจากาตาร์-ปังกาลปีนัง จากสายการบิน Lion Air เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้โดยสารทั้งหมด 189 ชีวิตในเที่ยวบินนั้น และสื่อต่างๆ ระบุไว้ว่าเครื่องบินตกลงสู่ทะเล พบเศษซากของเครื่องบินและสัมภาระของผู้โดยสาร กระจายอยู่บนผิวน้ำ Sony Setiawan หนึ่งในผู้โดยสารที่พลาดเที่ยวบิน JT 610 ซึ่งในความโชคร้ายที่ปนมาด้วยความโชคดี เกิดขึ้นกับหนึ่งในผู้โดยสารที่ตกเครื่องในเที่ยวบินนี้ นั่นก็คือนาย Sony Setiawan เขารอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด จากการที่พยายามไปให้ถึงสนามบินเพื่อไม่ให้พลาดเที่ยวบินนี้ แต่ในระหว่างการเดินทางมายังสนามบิน เกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนัก ทำให้เขามาถึงอาคารสนามบินช้าไปถึง 10 นาที และเครื่องบินก็ได้เทคออฟออกไปแล้ว https://twitter.com/Malaysia1news/status/1056846532584980481?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1056846532584980481&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.unilad.co.uk%2Flife%2Fpassenger-missed-doomed-lion-air-flight-because-he-was-stuck-in-traffic%2F “บ้านของผมอยู่ในเมืองบันดุง และผมจะเดินทางกลับทุกสัปดาห์ และผมเลือกที่จะเดินทางกลับด้วยสายการบิน Lion Air ทุกวันจันทร์ ด้วยเที่ยวบินเวลา 6.10 น. ปกติแล้วผมจะออกจากบ้านประมาณ 23.00 น. และจะเดินทางถึงอาคารผู้โดยสาร 1B…
-
อินเดียทุ่ม 19,000 ล้าน สร้าง “อนุสาวรีย์สูงที่สุดในโลก” แห่งใหม่ ปชช. วิจารณ์เปลืองงบ
ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ประเทศอินเดียได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้งโดยการเผย อนุสาวรีย์ที่สูงที่สุดในโลก สูงกว่าอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพถึง 2 เท่า! อนุสาวรีย์แห่งนี้มีชื่อว่า Statue of Unity หรืออนุสาวรีย์แห่งเอกภาพ ซึ่งอุทิศให้กับ Vallabhbhai Patel ผู้นำนักเคลื่อนไหวสังคมในประเทศ อนุสาวรีย์แห่งเอกภาพ มีความสูงโดยประมาณ 182 เมตร ซึ่งสูงเกือบเป็นสองเท่าของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพในนครนิวยอร์กเลยทีเดียว ชมคลิปวิดีโอ Narendra Modi นายกรัฐมนตรีของอินเดียจะเป็นผู้นำในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของอนุสาวรีย์นี้ ในวันที่ 31 ตุลาคม 2018 ซึ่งวันดังกล่าวถือได้ว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดของ Vallabhbhai Patel ผู้ที่รวมชาวอินเดียให้เป็นหนึ่งอย่างพอดิบพอดี อนุสาวรีย์แห่งเอกภาพตั้งอยู่บนเกาะสาธุทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย เกาะแห่งนี้ถูกล้อมรอบโดยแม่น้ำ Narmada งบประมาณสำหรับการสร้างอนุสาวรีย์นี้อยู่ที่ประมาณ 19,000 ล้านบาท โดยใช้เวลาในการก่อสร้างเกือบ 5 ปีเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเปิดตัวออกมาจะกลายเป็น “อนุสาวรีย์ที่สูงที่สุดในโลก” ทันที เพราะสูงกว่า Spring Temple Buddha ของประเทศจีนที่ครองตำแหน่งนี้อยู่ถึง 30…
-
หนุ่มเมาแล้วคึก ยัด ‘ช้อนยาว 8 นิ้ว’ ลงในหลอดอาหาร อยู่คาเป็นปี เพิ่งจะเจ็บตอนโดนต่อย
ขีดจำกัดทางด้านร่างกายของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน บางคนอาจจะทนความเจ็บปวดได้ และรอให้ร่างกายปรับตัวจนหายไปเอง แต่บางรายก็ทนไม่ได้ตั้งแต่เกิดความผิดปกติขึ้นมา จนต้องไปหาหมอขอความช่วยเหลือ… ด้านชายนิรนามรายหนึ่งจากประเทศจีน เกิดอาการคึกคะนองด้วยความเมา ถูกท้าทายจากเพื่อนร่วมวงเหล้าด้วยกัน ก่อนจะคว้าช้อนรับประทานอาหาร ความยาว 8 นิ้ว กลืนลงไปและปล่อยให้คาอยู่อย่างนั้น ชายคนดังกล่าว ปล่อยช้อนที่ว่านี้คาอยู่ในหลอดอาหารของเขามานานแรมปี หลังจากที่เกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา โดยที่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร สามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ แต่แล้วเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศได้ระบุว่า เขาเพิ่งเริ่มรู้สึกเจ็บปวด หลังจากที่โดนชกเข้าที่บริเวณหน้าอก จนต้องโร่มาหาแพทย์เพื่อขอความช่วยเหลือ ช่วยบรรเทาอาการ เขาเล่าย้อนกลับไปว่า ในตอนนั้นเพื่อนอ้างว่าจะช่วยดึงช้อนออกมาได้หลังจากที่กลืนลงไป ด้วยการผูกเส้นด้ายไว้กับด้ามช้อน ฟังดูเหมือนจะเป็นไปได้สวย แต่ดันพาซวยได้เพราะ เชือดดันขาดตอนกลืนลงไป เมื่อช้อนหลุดคาอยู่ในนั้น แทนที่จะไปโรงพยาบาลทันที เขากลับลองกินลองดื่มตามปกติ ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร ก็เลยปล่อยมันทิ้งไว้แบบนั้นเป็นปี และจากเหตุที่โดนชกเข้าบริเวณหน้าอกเพียงไม่กี่วัน อาจจะทำให้ช้อนที่ติดคาในหลอด ขยับเขยื้อนและสร้างความเจ็บปวด ภายหลังจากที่มาหาหมอในโรงพยาบาล Xinjiang Meikuang General Hospital เขาก็บอกอาการหมอแบบสบายๆ ว่า ‘หมอ ผมมีช้อนคาอยู่ในหลอดอาหารมาเป็นปีแล้วนะ’ …
-
เหมือนอยู่ในฮอกวอตส์!! คู่รักแฟนตัวยง Harry Potter เนรมิตงานแต่งในธีม “โลกเวทมนตร์”
“การแต่งงาน” ว่าเป็นความฝันสูงสุดของคู่รักหลายๆ คน แน่นอนงานเฉลิมฉลองที่อาจจะมีครั้งเดียวตลอดชีวิตนี้ หลายๆ คนคงไม่อยากให้มันออกมาซ้ำและจำเจกับของคนอื่นๆ เช่นเดียวกับคู่รักคู่ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้อย่าง Marcus Hewston และ Newlyweds Caroline คู่บ่าวสาวที่ไม่อยากจะให้งานแต่งของตัวเองออกมาแบบธรรมดา พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเนรมิตงานแต่งของตัวเองออกมาตามธีมภาพยนตร์ที่พวกเขาชื่นชอบอย่าง “Harry Potter” คู่สามีภรรยาดังกล่าวมาจากเมือง Walsall ประเทศอังกฤษ ทั้งคู่พบกันครั้งแรกในที่ทำงาน พวกเขามีลูกด้วยกันสองคน โดยที่ฝ่ายชายได้ขอฝ่ายหญิงแต่งงานในปี 2015 หลังทราบว่าภรรยาได้ตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง แต่งานแต่งยังไม่ถูกจัดขึ้นในทันที เนื่องจากทั้งสองคนมีความเห็นว่าควรรอให้ลูกโตพอที่จะเดินได้ เพื่อที่พวกเขาจะได้มาเป็นเด็กคอยโปรยดอกไม้บนทางเดินเข้าโบสถ์ ผ่านมา 3 ปีในที่สุดลูกคนเล็กก็โตพอจะเดินได้อย่างที่หวัง งานแต่งงานสุดยิ่งใหญ่ที่ใช้งบไปกว่า 800,000 บาทครั้งนี้จึงเกิดขึ้น อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า Harry Potter ถือว่าเป็นนิยายกับภาพยนตร์เรื่องโปรดของทั้งคู่ แถมทั้งคู่ยังอยากจัดงานในช่วงเทศกาลฮาโลวีน พวกเขาจึงคิดว่าธีมเวทมนตร์นี่แหละเพอร์เฟกต์!! งานแต่งครั้งนี้ถูกจัดขึ้นในกรุงเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ เนื่องจากคู่บ่าวสาวทราบว่าช่วงที่ J.K. Rowling เขียน Harry Potter ขึ้น เธอใช้เวลาเขียนอยู่ในกรุงเอดินบะระเป็นส่วนมาก ในงานพวกเขาใช้กระจกโบราณมาประดับ ใช้ฟอนต์แบบ Harry Potter…
-
ชายผู้ตัดจมูกและหู เพื่อให้ดูเหมือน “หัวกะโหลก” ตอนนี้พี่แกเตรียมตัด “ไอ้จ้อน” แล้ว?!
ถ้าหากว่าการสักหรือระเบิดหูมันยังดูธรรมดาไปสำหรับหลายๆ คน งั้นเราก็ขอแนะนำให้รู้จักกับชายชาวโคลอมเบียคนนี้ ผู้ซึ่ง “ตัดหูและจมูก” ของตัวเองออกไป?! Erick Hincapie Ramirez หรือที่รู้จักกันในชื่อ Kalaca Skull ชายวัย 22 ปีผู้อยากมีลักษณะเหมือน “หัวกะโหลก” จนถึงกับตัดอวัยวะบางอย่างบนใบหน้าของตัวเองออกไป Erick ก่อนที่เขาจะตัดปลายจมูกและหูของตัวเอง เขาเล่าว่าจุดเริ่มต้นในการดัดแปลงร่างกายและใบหน้าของตัวเองนั้นมันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่แม่ของเขาเสียไป ตอนนั้นเขาอายุแค่เพียง 12 ขวบเท่านั้นเอง Erick เริ่มจากการสักรูปหน้าแม่ของเขาลงบนแผ่นหลัง และจากนั้นเขาก็เริ่มทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็นมาตั้งแต่เด็ก ติดตรงที่แม่ของเขาไม่ยอม นั่นก็คือการทำให้มีหน้าตาเหมือนหัวกะโหลก เขาให้เพื่อนที่เป็นช่างสักทำการตัดปลายจมูกและหูทั้ง 2 ข้างออกไป ดูแบนๆ เหมือนเป็นหัวกะโหลกที่มีชีวิต Erick บอกว่าเขามักจะรู้สึกขำเวลาที่มีคนตกใจกับรูปลักษณ์ของเขา เพราะเขาคิดว่าตัวเองก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาเหมือนๆ กันนั่นแหละ หากแต่ดูแตกต่างไปจากคนอื่นเฉยๆ เวลาผ่านไปนานกว่า 10 ปี เขาเริ่มเกิดความคิดที่ไปไกลกว่าเดิม จากตอนแรกที่อยากจะเป็นเพียง “หัวกะโหลก” เดินได้ ตอนนี้เขาอยากกลายเป็น “โครงกระดูก” เปลี่ยนแปลงทั่วทั้งร่างกายไปซะเลย เขาบอกว่า…
-
หากจะเป็นตำรวจหญิงในอินโดฯ ต้องผ่านการทดสอบว่าเป็น “สาวพรหมจรรย์” โดยใช้ 2 นิ้ว?!
นี่คือสิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มานานหลายปี กับเรื่องที่ว่าการสอบเป็นตำรวจหญิงในประเทศอินโดนีเซียนั้น จะมีการทดสอบดูว่าพวกเธอยังเป็น “สาวพรหมจรรย์” อยู่หรือไม่ โดยการใช้ 2 นิ้วแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศ?! จากการรายงานบอกว่าผู้หญิงในประเทศอินโดนีเซีย นิยมที่จะเข้าสอบบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนหนึ่งมาจากการที่สาวคนดังหน้าตาดีหลายๆ คนที่ทำอาชีพนี้อยู่ ตำรวจหญิงในประเทศอินโดนีเซีย แต่สิ่งที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากก็คือ “การทดสอบพรหมจารี” ของหญิงสาว ซึ่งพวกเธอจะต้องถูกเอานิ้ว 2 นิ้วแหย่เข้าไปภายในอวัยวะเพศเพื่อดูว่าเยื่อพรหมจรรย์ของพวกเธอนั้นมีการฉีกขาดหรือไม่ แน่นอนว่าวิธีการทดสอบดังกล่าวคงเป็นเรื่องที่สร้างความไม่พอใจให้กับคนหลายๆ ฝ่าย ซึ่งมองว่ามันเป็นการกดขี่ข่มเหงผู้หญิง ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเห็นได้ชัด การทดสอบพรหมจรรย์นั้นไม่ได้ถูกเขียนระบุเอาไว้อย่างชัดเจน แต่มันคือสิ่งที่หลายๆ คนทำไปตามค่านิยมความเชื่อในเรื่อง “การรักษาพรหมจารีของผู้หญิง” Andreas Harsono เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน (Human Rights Watch) คือหนึ่งคนที่ออกมาต่อต้านเกี่ยวกับการทดสอบดังกล่าว เขาเล่าว่าสำหรับตำรวจในประเทศอินโดนีเซียนั้น พวกเขามักจะมีความคิดไม่ยอมรับตำรวจหญิงที่ประกอบกิจกรรมทางเพศในชีวิตประจำวัน หรือเคยทำงานเกี่ยวกับอะไรแบบนั้นมาก่อน “พูดง่ายๆ คือพวกเขาคิดว่าต้องการแต่ “ผู้หญิงดีๆ” มาเป็นตำรวจเท่านั้น” Andreas กล่าว แต่ถึงอย่างนั้นการทดสอบพรหมจรรย์โดยใช้นิ้วแหย่เข้าไปก็เป็นเรื่องที่ทำให้หลายๆ ฝ่ายรู้สึกรับไม่ได้ เพราะมันอาจเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจของผู้หญิงหลายๆ คนได้เลย Andreas บอกว่าสิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือแพทย์ที่จะทำการทดสอบพรหมจรรย์นั้น…
-
ช่างภาพบังเอิญถ่ายติดคู่รักที่กำลัง “ขอแต่งงาน” กันบนหน้าผา และเรื่องราวก็เริ่มขึ้น
เมื่อราวๆ หนึ่งเดือนที่ผ่านมา ช่างภาพนามว่า Matthew Dippel ได้บังเอิญถ่ายภาพอันสุดแสนงดงามบริเวณหน้าผาใน อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี ภาพดังกล่าวเป็นภาพของคู่รักคู่หนึ่งที่ฝ่ายชายกำลังคุกเข่าขอฝ่ายหญิงแต่งงานท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่นของแสงแดดที่สาดเข้ามาอย่างเจิดจ้า ทั้งคู่ถูกห้อมล้อมด้วยหุบเขาและหน้าผาธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ แต่มนุษย์ตัวเล็กๆ สองคนในภาพ กลับกลายเป็นจุดเด่นและทำให้ภาพดูงดงามแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆ เมื่อได้ภาพที่แสนงดงามเช่นนี้แล้ว ช่างภาพ Dippel จึงต้องการรู้ว่า คู่รักที่เขาถ่ายติดมานั้นเป็นใครกันแน่ แต่พวกเขาอยู่ไกลเกินที่จะถามได้ Dippel จึงตัดสินใจเดินทางไปยังหน้าผาแห่งนั้นเพื่อหาตัวคู่รักสุดโรแมนติกคู่นี้ โชคไม่ดีเพราะกว่าจะเดินทางถึงก็ใช้เวลานานจนคู่รักดังกล่าวไม่อยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ ต่อให้ต้องหาตัวจนทั่วประเทศเขาก็จะยอมทำ เขาโพสต์ภาพดังกล่าวลงบนทวิตเตอร์เพื่อให้ชาวเน็ตช่วยกันแชร์ไปให้ถึงหูของหนุ่มสาวในภาพทั้งสองคน เขาโพสต์ว่า: “ชาวทวิตช่วยด้วย…คู่รักสองคนนี้เป็นใคร ผมอยากพบตัวพวกเขามากๆ ผมถ่ายรูปนี้มาจากยอดเขาในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2018” จากนั้นชาวเน็ตก็ช่วยกันแชร์และช่วยกันหาตัวคู่รักหนุ่มสาวในภาพกันเป็นการใหญ่ โพสต์ของเขามีการแชร์ไปถึง 150,000 ครั้งเฉพาะบนทวิตเตอร์ไม่รวมเฟซบุ๊ก เวลาผ่านไปราวสัปดาห์ก็ยังไม่พบตัวของคู่รักทั้งสอง Dippel จึงคิดว่าบางที ทั้งสองอาจไม่อยากเปิดเผยตัวก็ได้ แต่หลังจากคิดแบบนี้ได้ไม่กี่วัน ความสำเร็จก็ปรากฏขึ้น ชายที่คุกเข่าขอคนรักแต่งงานในภาพที่ Dippel ถ่ายมานั้น ติดต่อกลับมาหาเขาทางเฟซบุ๊ก หนุ่มคนนั้นก็คือ Charlie Bear และแฟนสาวของเขาก็คือ Melissa นั่นเอง…
-
หญิงสาวสวมบท “เจ้าบ่าว” เพื่อแม่ของเธอที่เป็นม่าย ให้ได้มีรูป “ชุดแต่งงาน” อย่างที่ฝันเอาไว้
อีกหนึ่งเรื่องราวชวนน้ำตาคลอ เมื่อลูกสาวสวมบทบาทเป็น “เจ้าบ่าว” เพื่อการถ่ายภาพชุดแต่งงาน สิ่งที่แม่ของเธอใฝ่ฝันเอาไว้มาโดยตลอด Chen Zhaolian คุณแม่ชาวจีนวัย 63 ปี เลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 2 คนมาเพียงลำพังตั้งแต่ตอนที่พวกเขายังเป็นเด็ก หลังจากที่สามีของเธอจากโลกนี้ไปในปี 1997 Chen และลูกสาวของเธอ Ma Er ลูกสาวคนเล็กวัย 28 ปีของเธอเล่าว่า แม่ของเธอไม่เคยมีโอกาสได้ถ่ายภาพชุดแต่งงานเลย เพราะด้วยฐานะที่ยากจนในอดีต บวกกับพ่อของเธอที่มาด่วนจากไปจนทำให้แม่กลายเป็นแม่ม่าย เธอเล่าว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม่ของเธอต้องทำงานหนักในทุกๆ วัน ประกอบอาชีพเป็นคนกวาดถนนเพื่อหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูเธอและพี่ชาย ในขณะที่ตอนกลางคืนก็จะกลับมานอนร้องไห้คิดถึงสามีที่จากไป . ถึงแม้ว่าพอลูกๆ ทั้ง 2 คนโตขึ้น บอกให้แม่ไม่ต้องทำงานแล้ว แต่ Chen ก็ยังคงทำงานกวาดถนนและยังทำอาชีพเสริมเป็นพนักงานในโรงอาหารอีกด้วย Ma Er เล่าว่า “ตั้งแต่ตอนที่เรายังเป็นเด็ก ไม่ว่าบ้านเราจะยากจนมากขนาดไหน แต่แม่ก็จะพยายามเก็บเงินซื้อเสื้อผ้าให้ฉันและพี่ชายอยู่เสมอ ในขณะที่เธอไม่เคยซื้อของให้ตัวเองเลย แม้แต่ถุงเท้าสักคู่ก็ยังไม่มี” . …
-
สาววีแกนกลับมาทานเนื้อดังเดิม เพราะร่างกายทรุดโทรมหนัก หลังทานมังสวิรัติมา 6 ปี
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ กระแสการทานอาหารที่หลีกเลี่ยงส่วนประกอบทั้งทางตรงและทางอ้อมของสัตว์หรือที่เราเรียกกันว่าวีแกนนั้นเป็นที่นิยมกันมากขึ้น เช่นเดียวกันกับผู้หญิงที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันในวันนี้ครับ เธอก็ได้ไปใช้ชีวิตแบบวีแกนอยู่นาน 6 ปีเพราะคิดว่ามันจะช่วยเรื่องสุขภาพและระบบการย่อยอาหารได้ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาทานเนื้อเพราะร่างกายของเธอพัง คนที่เรากล่าวถึงนี้คือ Mariela Stewart หญิงวัย 39 ปีจากรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีก่อนเธอคิดว่าการทานมังสวิรัติจะช่วยแก้ปัญหาระบบย่อยอาหารของตัวเองได้ เธอจึงตัดสินใจที่จะเป็นวีแกน ซึ่งก่อนที่เธอจะหันมาทานมังสวิรัติอย่างเต็มตัว เธอเคยใช้หลักการทานอาหารแบบ Ketogenic Diet หรือการทานที่เน้นอาหารแคลอรีน้อยและประสบความสำเร็จกับมันอย่างมาก แต่กระนั้นเธอก็ยังมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารอยู่ดีและประจวบเหมาะกับเคยดูสารคดีเกี่ยวกับวีแกน ซึ่งในสารคดีนั้นบอกว่าจะทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้นได้ ช่วงแรกที่เธอเปลี่ยนมาทานแบบวีแกน ปัญหาหลายอย่างได้หายไปและเธอก็รู้สึกว่าร่างกายของดีขึ้นกว่าเก่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปปัญหาดังกล่าวก็ได้กลับมา แถมยังเลวร้ายกว่าเดิมเสียอีก ในระหว่างที่เปลี่ยนการทานอาหาร เธอได้ลองหลายๆ รูปแบบของวีแกน ไม่ว่าจะเป็นผักดิบๆ อาหารคาร์โบไฮเดรตสูง ไขมันต่ำหรือจะเป็นพวกผลไม้ แต่ระบบการย่อยอาหารของเธอไม่ดีขึ้นอย่างที่คิด หกปีที่ผ่านมาจากสาวหุ่นดี เธอได้เสียมวลกล้ามเนื้อ กลายเป็นคนผอมที่มีพุงแทน ผมที่เคยยาวสลวยสุขภาพดี ก็เริ่มหยิกงอ น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ อารมณ์ของเธอก็แปรปรวน และเมื่อเทียบกับพี่สาวฝาแฝดที่ไม่ได้เป็นวีแกนของเธอ ก็พบว่าเธอมีริ้วรอยมากกว่าแถมยังดูแก่กว่าพี่สาวของตนเสียอีก เมื่อร่างกายของเธอไปกันได้ไม่ดีกับการใช้ชีวิตแบบวีแกน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา…
-
น้องชิบะอินุโด่งดังไปทั่วจีน เพราะถูก “ประมูล” ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2,400 บาท!!
เจ้าตูบตัวอื่นๆ ที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ต ส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดจากความน่ารัก ความฉลาด หรือไม่ก็ความเด๋อๆ ของมันนั่นเอง แต่สำหรับเจ้าหมา ชิบะอินุ ตัวนี้ กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ของจีนอย่างรวดเร็ว เพราะว่ามันถูกประมูลด้วยราคาเริ่มต้นที่ 500 หยวน (ราวๆ 2,400 บาท) เท่านั้นเอง! เจ้าชิบะอายุ 4 ปีตัวนี้มีชื่อว่า Deng Deng เมื่อ 3 ปีที่แล้วมันถูกเจ้าของเก่าทอดทิ้งไว้ที่สถานรับฝากสัตว์เลี้ยงชื่อว่า Happy Pampering นั่นเอง Xiao Moumou เจ้าของเดิมได้ส่งมามันยังสถานรับฝากสัตว์เลี้ยงดังกล่าวช่วงเดือนตุลาคมปี 2014 แต่ Xiao ก็มาเยี่ยมเจ้า Deng Deng บ่อยครั้งจนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 เขาก็ไม่มาอีกเลย ทางสถานรับฝากจึงคิดว่าเจ้าของจะไม่มาหามันอีกแล้ว จึงยื่นเรื่องฟ้องศาลเพื่อเรียกค่าเลี้ยงดูที่ทางสถานรับฝากได้เตรียมให้กับเจ้า Deng Deng จากเจ้าของเดิมของมัน แต่น่าเสียดายที่ทางศาลไม่สามารถตามหาตัว Xiao ได้พบ ศาลจึงประกาศให้มี การประมูล เจ้าชิบะ Deng Deng ตัวนี้…
-
วินาทีบีบหัวใจ เมื่อพิธีกรต้องเปลี่ยนมารายงานสด อุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์กลางรายการกีฬา
นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียบุคคลสำคัญอย่างมาก หลังจากที่มีข่าวว่าเฮลิคอปเตอร์ของประธานสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ซิตี้ตกในบริเวณลานจอดรถข้างสนาม คิงเพาเวอร์สเตเดียม ในวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา, ผู้ติดตามอีกสองท่าน, และนักบินเสียชีวิตทั้งหมด https://twitter.com/UKSoccerplays/status/1056287824343900160?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1056287824343900160&ref_url=https%3A%2F%2Fhilight.kapook.com%2Fembed.php%3Fid%3D5bd6b87d7d167152ffd98edd%26view%3Dfull ทั้งนี้ในก่อนช่วงที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ในรายการ BT Sport โดยมีนาย Jake Humphrey เป็นพิธีกรรายการ กำลังทำการถ่ายทอดสดพูดคุยวิเคราะห์เกมการแข่งขันฟุตบอล โดยที่มีฉากหลังในห้องส่งก็เป็นภาพเฮลิคอปเตอร์ของคุณวิชัย กำลังบินขึ้นออกจากสนามไป… ในขณะที่ กำลังร่วมพูดคุยกันในเรื่องกีฬาร่วมกับอดีตนักฟุตบอลชื่อดังอย่าง Owen Hargreaves, Chris Sutton และ John Hartson ภาพเฮลิคอปเตอร์ของคุณวิชัย ก็ถูกตัดออกไป จนกระทั่งภายในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา ปรากฏว่ามีเสียงระเบิดดังตามมาขณะออกรายการสดอยู่ ด้าน Jake Humphrey ผู้ดำเนินรายการ จึงต้องทำการรายงานข่าวอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ตกบริเวณข้างสนามทันที… แม้จะยังไม่สามารถทำใจได้ เขามีอาการสั่นเผยให้เห็น แต่ก็ยังคงควบคุมตัวเองเพื่อรายงานข่าวให้ผู้ชมให้ทราบ ด้วยสีหน้าที่จริงจังไม่มีผ่อนคลายเหมือนในรายการวิเคราะห์กีฬา …
-
ประมวลภาพ “เวนิส” น้ำท่วมใหญ่ในรอบ 10 ปี พื้นที่กว่า 75% จมอยู่ใต้บาดาล!!
“เวนิส” คือสถานที่ท่องเที่ยวอันแสนสวยงามในประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่คนทั้งโลกต่างขนานนามกันว่า “เมืองแห่งสายน้ำ” เพราะเราจะเห็นว่ามีลำคลองตัดผ่านไปทั่วเมือง กับฉากคู่รักนั่งบนเรือพายสุดโรแมนติก แต่ล่าสุดเมืองแห่งสายน้ำแห่งนี้อาจต้องถูกเปลี่ยนไปเรียกว่า “เมืองใต้บาดาล” เสียแทน เพราะได้เกิดเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ทำให้กว่าพื้นที่กว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของเมืองนั้นจมไปอยู่ใต้น้ำ!! ภาพของเมืองเวนิส กับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ . นี่คือภาพบรรยากาศของเมืองเวนิสในวันที่ 29 ตุลาคม 2018 หลังจากที่เกิดฝนตกหนักจนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1.52 เมตร มองไปโดยรอบก็จะเห็นว่ามีแต่น้ำท่วมเต็มพื้นที่ไปหมด นักท่องเที่ยวหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่เองก็ต้องเดินลุยน้ำสัญจรไปมา ในตอนแรกมีการวางฐานไว้เดิน ก่อนจะเอาออกไปเพราะระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นมากจนเสี่ยงโดนพัดไปกับกระแสน้ำ . นี่จึงถือว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีของเวนิส นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 โดยตามปกติแล้วเมืองแห่งนี้จะมีช่วงที่ระดับน้ำขึ้นสูงอยู่ทุกๆ ปี (เหมือนช่วงหน้าฝนแล้วเกิดน้ำท่วม) และสำหรับช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงกึ่งกลางของระยะเวลาที่ระดับน้ำจะสูงขึ้นกว่าปกติ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมากขนาดที่ท่วมไปเกือบทั้งเมืองแบบนี้มานานมากแล้ว . . อย่างไรก็ตาม Luigi Brugnaro นายกเทศมนตรีของเวนิสก็ได้ออกมาบอกว่า ปัญหาน้ำท่วมนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าหากว่าโครงการ Moses เสร็จสมบูรณ์ โครงการดังกล่าวคือการเพิ่มหนทางระบายน้ำไปทั่วเมือง ป้องกันน้ำท่วมจากระดับน้ำที่สูงขึ้นทุกๆ…
-
ไม่รู้อดอยากมาจากไหน!! เบียร์ไอซ์แลนด์เข้าขั้นฉุกเฉิน หลังมีทหารกว่า 7,000 มาพัก
แอลกอฮอล์หรือเหล้า เบียร์นั้นถือว่าเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่นิยมดื่มสังสรรค์ในทุกแวดวง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดินธรรมดาจนไปถึงดาราซูเปอร์สตาร์ขั้นเทพ นั่นรวมถึงอาชีพที่ป้องกันชาติอย่างทหารก็ด้วย และเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นเรื่องราวของทหารกับแอลกอฮอล์ เมื่อ “เบียร์” ในประเทศไอซ์แลนด์ถึงขั้นวิตกภายในหนึ่งสัปดาห์ หลังจากมีทหารอเมริกากว่า 7,000 นายมาพักระหว่างการเดินทาง โดยนายทหารกว่า 7,000 ได้มาพักในประเทศไอซ์แลนด์ระหว่างการเดินทางไปร่วมการซ้อมรบ Trident Juncture 18 ซึ่งจัดซ้อมโดย NATO ซึ่งระหว่างที่พักนั้นพวกทหารทั้งหลายก็ได้ใช้เวลาสังสรรค์กันตามผับตามบาร์ของไอซ์แลนด์อย่างรื่นเริงและเพียงหนึ่งสัปดาห์เบียร์ในกรุงเรคยาวิกก็เข้าขั้นวิกฤต และนั่นก็ทำให้เจ้าของบาร์ต่างๆ ต้องวิ่งแก้ปัญหากันอย่างวุ่นวาย ร้านไหนที่ไม่มีเบียร์แล้วก็จะวิ่งไปขอยืมจากร้านที่สต็อกเบียร์ไว้เยอะหรือร้านที่ไม่ค่อยมีทหารเข้าแทน อ้างอิงตามนิตยสาร Iceland Magazine หนึ่งในเจ้าของร้านได้บอกว่าทหารชุดแรกได้มาถึงในวันพุธที่ 24 ตุลาคม ก่อนที่ในคืนเดียวกันจะมีเรือรบเข้าเทียบท่าและพักกันจนถึงวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม ก่อนจะเดินทางต่อ การซ้อมรบ Trident Juncture 18 ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามเย็นมา โดยมีทหารประมาณ 50,000 คน ยานพาหนะ 10,000 คัน เรือ 65 ลำและอากาศยานอีก 250 ลำจาก 31 ประเทศเข้าร่วม ไม่รู้ว่าเพราะอดอยากมานานหรือเพราะเบียร์ไอซ์แลนด์มันเด็ด!? ที่มา Unilad, Businessinsider
-
คนงานเหมืองรัสเซียพบ ‘มรกตแฝด’ สุดหายาก มูลค่ากว่า 7,500 ล้านบาท!!
กลายเป็นการค้นพบสุดยิ่งใหญ่ เมื่อคนงานเหมืองในรัสเซีย ขุดพบ ‘มรกต’ สองก้อนที่มีหน้าตาคล้ายกันมากๆ จนถูกขนานนามว่าเป็น ‘มรกตแฝด’ ถูกตีมูลค่ากว่า 229 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 7,500 ล้านบาท เลยทีเดียว!! เจ้ามรกตแฝดนี้ถูกขุดพบในเหมืองแร่ Mariinsky ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย นับว่าเป็นการค้นพบที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ มรกตทั้งสองก้อนมีสภาพที่ใกล้เคียงกันมากๆ ทั้งรูปร่าง สี และคุณภาพ นาย Yevgeny Vasilevskiy ผู้อำนวยการเหมืองแร่ระบุว่า “มันเป็นการค้นพบที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ แร่ทั้งสองก้อนมีน้ำหนักก้อนละราวๆ 300 กรัม” อย่างไรก็ตามการขุดพบแร่มีค่าในเหมืองนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ทำให้การค้นพบในครั้งนี้มันพิเศษก็เพราะว่าแร่ทั้งสองก้อนมีความเหมือนกันเกือบทั้งหมด เหมือง Mariinsky ถือเป็นเหมืองใหญ่ พวกเขาสามารถขุดหินใต้ดินขึ้นมาได้วันละราวๆ 200 ตันต่อวัน ในแต่ละตันจะพบมรกตบริสุทธิ์ประมาณ 3 กรัม หรือราว 150 กิโลกรัมต่อปีเท่านั้น “เป้าหมายของเราคือการขุดพบแร่ที่มีความบริสุทธิ์ให้มากยิ่งขึ้น จะต้องไม่ผ่านการเสริมเติมแต่ง…
-
เสียงคร่ำครวญสุดท้ายจากเจ้าของ เมื่อสัตว์เลี้ยงถูก ‘วางยา’ เหตุเพื่อนบ้านเกลียดสุนัข
เป็นข่าวที่สะเทือนใจสำหรับคนรักสัตว์จริงๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีกับสัตว์เลี้ยง จากความผูกพันที่มีด้วยกันมาอย่างยาวนาน กลับถูกพรากจากไปด้วยน้ำมือของบุคคลอื่น… เรื่องราวของนาง Zhang Leewen ที่เปิดถึงความรักระหว่างเธอกับน้อง Julie สุนัขพันธุ์โกลเดินริทรีฟเวอร์ อายุ 8 ปี ในขณะที่ย้ายกลับมาอาศัยอยู่ในประเทศจีน แต่กลับถูกวางยาเบื่อหนูอย่างจงใจจากเพื่อนบ้าน สำหรับ Julie นั้นเป็นสุนัขที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่อายุได้เพียง 2 เดือน และได้รับขึ้นบัญชีอนุญาต เป็นสุนัขคอยให้ช่วยเหลือจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา นาง Zhang ได้พาน้องกลับมาที่เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน เมื่อปีที่แล้ว และกำลังมีแผนว่าจะย้ายไปอาศัยในทวีปยุโรปในเร็วๆ นี้ แต่ในระหว่างการอาศัยอยู่ภายในประเทศจีน แถบที่เธออาศัยอยู่กลับเป็นปัญหากับเพื่อนบ้าน เนื่องจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยส่วนมาก ไม่ค่อยชอบสุนัขเท่าไหร่นัก โดยระบุเอาไว้ในโพสต์ว่า… “เราย้ายมาที่นี่ได้ประมาณ 5 เดือน ก็ได้ยินมาบ้างว่าคนแถวนี้เกลียดสุนัข พวกเขาสาปแช่งสุนัข ถึงกับขนาดจับกลุ่มคุยกันว่าจะกำจัดสุนัขยังไง พวกเขาคิดว่าบริเวณนี้ควรมีแต่เด็กๆ ไม่มีพื้นที่สำหรับสุนัข ฉันเคยเจอเพื่อนบ้านที่คอยตามตอแยและรังควานขู่มากกว่า 4 ครั้ง ว่าเขาจะฆ่าสุนัขของฉัน รวมไปถึงหมาพันธุ์เดียวกันทั้งหมดด้วย มันเลวร้ายมากจนถึงขั้นที่ฉันเคยโทรแจ้งตำรวจไปแล้วครั้งหนึ่ง” …
-
คุณแม่ต๊กกะใจ เพิ่งจะรู้ว่าลูกสาวแอบไป ‘เจาะหัวนม’ มา หลังผลเอกซเรย์ช่วยแฉให้…
คงจะกลายมาเป็นเรื่องปวดหัวสำหรับวัยรุ่นสายเจาะทั้งหลาย ในขณะที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นดีเห็นงามในเรื่องของการเจาะร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ยังยืนยันว่า ‘ห้ามเจาะ’ นะ เดี๋ยวจะตีให้ตายเลย… วัยรุ่นทั้งหลายก็อยากเจาะใจจะขาด สุดท้ายแล้วก็แอบไปเจาะกันโดยที่ปิดไว้เป็นความลับ อย่างเช่น Sydney Allen วัย 20 ปี รายนี้ เธอแอบไปเจาะหัวนมตัวเองในช่วงเดือนมิถุนายน อันเป็นของขวัญวันเกิดจากพี่สาวของตัวเอง Sydney Allen กับคุณแม่ของเธอ ทั้งสองต่างเก็บงำความลับเอาไว้อย่างมิดชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นพ่อเป็นแม่เนี่ย จะรู้ไม่ได้เด็ดขาด โดยเธอให้สัมภาษณ์กับทาง BuzzFeed News ว่า ครอบครัวเธอจะเป็นอนุรักษนิยมนิดนึงเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอก และเกลียดการสักกับการเจาะ ผ่างงงงงง! แต่หลังจากที่ Allen จะต้องไปตรวจสุขภาพตามนัด จากการที่จะต้องจัดตำแหน่งกระดูกสันหลัง จากกลุ่มอาการไขสันหลังเป็นโพรง (ไซริงโกมัยอีเลีย) แพทย์จำเป็นที่จะต้องทำการเอกซเรย์ร่างกายของเธอ นั่นหมายความว่า วัตถุที่เจาะติดตัวไปจะโผล่ติดหน้าจอแสดงผลด้วย และ Allen ไม่ได้เอะใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยที่แพทย์ก็ไม่รู้เช่นเดียวกัน ปล่อยผ่านให้เข้าเอกซเรย์จนจบกระบวนการ Allen ให้สัมภาษณ์ว่า “พอแม่เห็นว่าฉันเจาะจากจอเอกซเรย์ ทั้งหมอกับหนูต่างหัวเราะกันอย่างเสียสติ”…
-
เวรกรรมติดจรวด!! หญิงผิวขาวถูกที่ทำงานลงดาบ หลังแสดงพฤติกรรมเหยียดพี่น้องผิวสี
ในอดีตเรื่องการเปิดรับหรือให้อิสระแก่คนที่แตกต่างนั้นถือว่ามีไม่มากสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเวลาผ่านมา ปัจจุบันการเปิดรับความแตกต่างทั้งเรื่องเชื้อชาติ สีผิวหรือเพศก็ถูกยอมรับกันมากขึ้น แต่กระนั้นแล้ว ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีการยอมรับเรื่องของความแตกต่างนั้น ดังเช่นผู้หญิงผิวขาวคนที่เราจะนำมากล่าวถึงในวันนี้ https://twitter.com/_StaceeJ/status/1055948999549730822 เหตุการณ์เกิดขึ้นในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เมื่อคู่พี่น้องผิวสี Garris ถูก Susan หญิงผิวขาวเข้ามาแสดงพฤติกรรมเหยียดใส่พวกเธอ เพียงเพราะเธอไปยืนอยู่หน้ารถของเธอ (แต่เป็นหน้าบ้านของพี่น้องคู่นั้น) ในวิดีโอ Susan ได้กล่าวประมาณว่าฉันฮอต ฉันสวย ฉันผิวขาว ที่นี่คือ South Park นะและถามพี่น้องผิวสีว่ามาทำอะไรที่นี่? แถมยังบอกอีกด้วยว่าเธอทำเงินได้มากถึง 4 ล้านบาทต่อปีเชียวนะ และแม้ว่าพี่น้องทั้งสองจะขอให้คุณผู้หญิงช่วยเลิกยุ่งกับเธอเสียที แต่หญิงคนดังกล่าวก็ไม่มีท่าทีจะเลิกรา ดังนั้นพี่น้อง Garris จึงได้ทำการแจ้งตำรวจ https://twitter.com/_StaceeJ/status/1056184623204573184 หลังจากที่ตำรวจมาถึง Susan ก็ได้แจ้งข้อหาว่าถูกพี่น้อง Garris รุมและพี่น้องทั้งคู่ยังมีพฤติกรรมแบบแก๊ง (Gang Activity) อีกด้วย แต่เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อพี่น้อง Garris รวมถึงเพื่อนๆ ได้ไปหาข้อมูลของ Susan บนอินเตอร์เน็ตเจอและทราบว่าเธอทำงานอยู่ที่ Spectrum…
-
แฟนมวยถึงกับช็อก เมื่อเจอเหตุการณ์นักมวยไล่ต่อยโค้ชตัวเองหลังจากแพ้การแข่ง
“โค้ช” คือคำที่เราเอาไว้เรียกบุคคลที่เคยสั่งสอน คอยฝึกเรื่องต่างๆ ให้กับเรา โดยปกติแล้วเราจะเห็นคนที่เป็นโค้ชอยู่ในวงการกีฬาเป็นส่วนมาก ซึ่งไม่ว่ากีฬาประเภทไหน หากต้องพัฒนาผู้เล่น ผู้แข่งขันแล้วการจ้างโค้ชก็ถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เช่นเดียวกันกับกีฬาต่อสู้อย่างมวยสากล นอกจากจะมีการจ้างโค้ชแล้ว การเชื่อฟังคำสั่งของโค้ชก็เป็นสิ่งที่นักกีฬาพึงกระทำ แต่เรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อนักมวยคนหนึ่งไม่เชื่อฟังโค้ช แถมยังต่อยโค้ชกลางการแข่ง จังหวะที่นักมวยคนดังกล่าวปล่อยมันใส่โค้ชตัวเอง https://twitter.com/Charles_1000/status/1056324805035810817?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1056324805035810817&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.dailymail.co.uk%2Fnews%2Farticle-6327503%2FBeaten-boxer-turns-cornerman-defeated-fight.html เรื่องราวไม่คาดฝันดังกล่าวเกิดขึ้นการแข่งชกมวยรุ่นมิดเดิลเวทในรายการ Hughie Fury- Kubrat Pulev ระหว่างนักชกไร้พ่าย Spas Genov กับ Levan Shonia ซึ่งผลสรุปของรายการก็คือ Spas Genov ยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายต่อไปได้เขาได้มอบความพ่ายแพ้ครั้งที่ 12 ให้กับคู่แข่ง Levan Shonia ได้สำเร็จ แต่แทนที่จะยอมรับความพ่ายแพ้อย่างที่นักกีฬาควรทำ แต่ Levan Shonia เจ้าของสถิติชนะ 15 แพ้ 12 ครั้ง กลับทำสิ่งที่ทำให้แฟนๆ ต้องตกใจ เมื่อเขาบันดาลโทสะไล่ชกใส่โค้ชของตนเอง ฝ่ายโค้ชก็ได้ทำการป้องกันตัวก่อนมีการตอบโต้ใส่ Levan ด้วยการตบ ซึ่งจากรายงานก็ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าทำไมนักกีฬาคนดังกล่าวถึงได้ระเบิดอารมณ์ใส่โค้ชของตน…
-
ชายหนุ่มสะสม “ขยะพลาสติก” ของตัวเองตลอด 1 ปีเอาไว้ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 4,490 ชิ้น!!
พวกเรารู้กันดีอยู่แล้วว่า “ขยะพลาสติก” เป็นปัญหาระดับโลกที่ควรต้องได้รับการแก้ไขให้ได้มากที่สุด เพราะการที่มันเป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยาก จึงสามารถส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมและธรรมชาติได้อย่างมหาศาล และเพื่อเป็นอีกแรงหนึ่งที่จะทำให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาข้อนี้ Daniel Webb หนุ่มชาวอังกฤษจึงตัดสินใจเก็บสะสมขยะพลาสติกของตัวเองตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เห็นว่ามันมีเยอะมากขนาดไหน Daniel ผู้พยายามให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติก ตลอดระยะเวลา 1 ปีในการเก็บสะสมขยะพลาสติกของตัวเองที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มันมีทั้งสิ้นกว่า 4,490 ชิ้นเลยทีเดียว เฉลี่ยแล้ววันละ 12 ชิ้นเลยทีเดียว ขยะพลาสติกที่เขาใช้อยู่เรื่อยๆ ก็จะมีตั้งแต่ ขวดนม พลาสติกห่ออาหารหรือขนม ฝาแก้วกาแฟ และพวกของใช้อื่นๆ อีกมากมาย . นอกจากที่เขาจะทำให้ทุกคนได้รู้ว่ามันเยอะมากขนาดไหนแล้ว เขายังได้ร่วมมือกับดอกเตอร์ Julie Schneider นักวิจัยที่ช่วยศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับขยะพลาสติกต่างๆ ที่ Daniel เก็บเอาไว้ จากข้อมูลบอกว่า 93 เปอร์เซ็นต์ของขยะพลาสติกที่ Daniel ใช้ทั้งหมดเป็นการใช้ครั้งเดียว (แบบขวดนมที่พอกินหมดแล้วก็ไม่ได้นำมาใช้ซ้ำ) และมีมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ที่ปัจจุบันยังคงไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้ . …
-
ชมความเฟี้ยวของ “ตำรวจมุมไบ” ทำป้ายประชาสัมพันธ์เป็น Harry Potter สุดครีเอท!!
ปกติแล้วเรามักไม่ค่อยได้เห็นป้ายประชาสัมพันธ์ของทางกรมตำรวจที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมกระแสหลัก (Pop Culture) สักเท่าไหร่ ส่วนมากที่เราจะเห็นก็เป็นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางกรมตำรวจที่ดูไม่ต่างกันเท่าใดนักในแต่ละพื้นที่ ไม่ได้เน้นให้ความบันเทิงกับผู้พบเห็น แต่เน้นไปที่การให้ข้อมูลเสียมากกว่า ส่วนมากที่เรามักพบเห็นกันภายในประเทศ ก็จะมีลักษณะประมาณนี้ใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าอยากเห็นความเป็นตำรวจผสมผสานกับความบันเทิง ลองมาดูภาพประชาสัมพันธ์ของ กรมตำรวจนครมุมไบ ในประเทศอินเดียกันหน่อยดีกว่า บอกเลยว่าครีเอทีฟสุดๆ! เริ่มจาก Strager Things ซ้าย: “ฉันพบบางสิ่งแปลกประหลาด” ขวา: “โทรแจ้ง 100 ด่วน!” Harry Potter และสัญลักษณ์เครื่องรางยมทูตแบบตำร๊วจตำรวจ “ไม่จำเป็นจะต้องพึ่งเครื่องรางยมทูตเสมอไป หากจะหลีกเลี่ยงความตาย” (แค่ห้ามตรงไปก็พอแล้ว) และ Harry Potter กับแผนที่ตัวกวน (อันนี้คนที่ไม่เคยดู Harry อาจจะงง) ซ้าย: “ข้าขอสาบานอย่างจริงจังว่าข้านั้นหาความดีไม่ได้” (คำพูดก่อนเปิดใช้แผนที่) ขวา: “ถ้ามีพวกเราอยู่ใกล้ๆ จะไม่มีแผนลวงไหนที่สำเร็จไปได้” (ปกติแล้วคำพูดหลังใช้แผนที่เสร็จจะต้องพูดว่า “แผนลวงสำเร็จแล้ว”) หลังจากทวิตเตอร์ @mumbaipolice ได้โพสต์ภาพประชาสัมพันธ์ดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์ ภาพเหล่านี้ก็กลายเป็นไวรัลที่มีชาวเน็ตให้ความสนใจกันอย่างแพร่หลาย ด้วยเหตุนี้ทำให้ทวิตเตอร์ตำรวจนครมุมไบมีผู้ติดตามมากขึ้นจะทะลุ 4.65 ล้านคนเลยทีเดียว!! …
-
ชาวเน็ตตะลึง พบผืนป่าสั่นไหวในแคนาดาคล้าย “กำลังหายใจ” แต่แท้จริงคืออะไรกันแน่?
ธรรมชาติมักสร้างปรากฏการณ์ประหลาดๆ ให้ผู้คนได้ตื่นตกใจกันอยู่เสมอ อย่างเช่นเหตุการณ์ในวันนี้ ป่าแห่งหนึ่งในประเทศแคนาดา ได้มีผู้คนพบเห็นว่าต้นไม้และพื้นดินมีการขยับขึ้นๆ ลงๆ ราวกับว่า “ป่ากำลังหายใจ” อะไรทำนองนั้น โดยผู้ที่ถ่ายวิดีโอมาก็คือทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @DannyDutch นั่นเอง เราลองไปชมคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นกันเลยดีกว่า The ground looks like it's breathing in this Quebec forest. pic.twitter.com/AeETAYJOdN — Daniel Holland🎗🏴 ॐ (@DannyDutch) October 20, 2018 คลิปวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ตอย่างมาก เพราะภาพที่เห็นนั้นผู้ถ่ายยืนยันได้ว่าเป็นภาพจริงมิได้ผ่านการตัดต่อหรือตกแต่งใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากคลิปวิดีโอนี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวเน็ตไปได้ระยะหนึ่งก็มีคนมาเฉลยว่า ภาพที่เห็นไม่ใช่การหายใจของป่าหรือต้นไม้หรอก แต่เป็นเพราะว่ายามที่ฝนตกหรือมีพายุ ดินจะชื้นมากและสูญเสียความหนาแน่นไป เมื่อลมพัดกระหน่ำใส่ต้นไม้จนไหวเอน รากของต้นไม้จึงขยับตามแรงไหวของลำต้น จึงมีการดันพื้นดินให้สูงขึ้นและต่ำลงตามภาพนั่นเอง ป่าหายใจอีกคลิป (คนละป่ากัน) ในคลิปด้านบนจะเห็นได้ชัดเลยว่า ที่พื้นดินและต้นไม้ขยับคล้ายการหายใจนั้นเป็นเพราะแรงลมและพื้นดินที่ร่วนลง หาใช่การหายใจที่แท้จริงของต้นไม้และผืนป่าไม่ อย่างไรก็ตาม ธรรมชาตินี่มักจะสร้างปรากฏการณ์ประหลาดๆ ให้เราได้ตื่นเต้นกันอยู่เรื่อยเลยนะ!…
-
‘ผมเหนื่อยแล้ว ผมขอโทษ’ คดีอันน่าเศร้าของพ่อ ผู้พรากชีวิตทั้งครอบครัวและตัวเอง
กลายมาเป็นคดีที่สะเทือนขวัญไปทั่วประเทศอินโดนีเซีย หลังจากเกิดเหตุฆ่าล้างครอบครัวโดยที่มี ‘พ่อ’ ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ลงมือ และเขาก็ตัดสินใจดับชีวิตตัวเองตามไปด้วย… เบื้องลึกเบื้องหลังในเหตุครั้งนี้ อาจจะทำให้รู้สึกโกรธ โมโห รังเกียจ เศร้า และสับสน เนื่องจากปมที่เกิดขึ้นนั้น ผสมปนเปจนกลายมาเป็นทางออกสุดท้ายที่ต้องลงเอยเช่นนี้ เหตุเกิดขึ้นที่เมืองปาเล็มบัง ในจังหวัดสุมาตราใต้ ประเทศอินโดนีเซีย เกิดเหตุของผู้เป็นพ่อทำการยิงครอบครัวตัวเอง สุนัขที่เลี้ยงไว้ ก่อนที่จะจบชีวิตตัวเองตามไป พร้อมกับทิ้งจดหมายลาทิ้งท้ายไว้ว่า “เหนื่อยมากพอแล้ว” แต่ด้วยความรักที่มีต่อภรรยาและลูก จึงไม่สามารถทิ้งพวกเขาไว้เป็นเบื้องหลังได้… Fransiskus Xaverius Ong นักธุรกิจวัย 45 ปี ชายผู้รักครอบครัว กลายมาเป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรม-ฆ่าตัวตาย ยกครอบครัว โดยที่เขาลงมือปลิดชีวิตภรรยา Margereth Yentin Liana วัย 43 ปี ลูกชายวัย 18 ปี Rafael Fransiskus และลูกสาววัย 11 ปี Kathlyn Fransiskus ในช่วงเช้าวันพุธที่ 24 ตุลาคม 2018…
-
ผอ. ถูกรุมวิพากษ์วิจารณ์ หลังพูดว่ากระโปรงของ นร.หญิง จะทำให้ผู้ชายรู้สึกกระอั่กกระอวน
อย่างที่เรารู้กันว่า เครื่องแบบนักเรียนแต่ละโรงเรียนโดยส่วนมากจะมีการแบ่งแยกเพศหญิง เพศชายอย่างชัดเจน ในขณะที่ผู้ชายจะมีเครื่องแบบนักเรียนเป็นกางเกง เช่นเดียวกันผู้หญิงก็มีกระโปรงเป็นเครื่องแบบ และวันนี้ประเด็นที่เราจะนำมาพูดถึงก็คือเครื่องแบบนักเรียนหญิงอย่างกระโปรงนี่แหละ ซึ่งเร็วๆ นี้ได้มีกระแสหนึ่งที่กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในต่างประเทศ เมื่อผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งเข้ามาตรวจเครื่องแบบนักเรียนและบอกว่า “กระโปรงทำให้ผู้ชายทุกคนในอาคารต้องตกอยู่ในสถานการณ์เคอะเขิน กระอักกระอวล” เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยม St. Theresa’s Catholic รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เมื่อวันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม 2018 ได้มีการเดินตรวจเครื่องแบบนักเรียนโดยผู้อำนวยการ Bern Tate และรองผู้อำนวยการ Megan Clarke พวกเขาได้บอกให้นักเรียนหญิงยืนขึ้นเพื่อจะทำการวัดความยาวของกระโปรง ในขณะที่รองผู้อำนวยการบอกกับนักเรียนคุณหนึ่งกระโปรงผิดระเบียบ ผู้อำนวยการก็พูดเสริมออกมาว่า “มันก็เหมือนกับ #MeToo (แฮชแทกแคมเปญต้านการคุกคามทางเพศ) เธอกำลังทำให้ผู้ชายตกอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอวล(เหมือนเขาจะสื่อว่ากระโปรงสั้นไปจะเดี๋ยวกางเกงในจะโผล่ แล้วจะทำให้ผู้ชายเคอะเขิน กระอักกระอวล)” ซึ่งคำพูดของผู้อำนวยการครั้งนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับนักเรียนหญิงเป็นอย่างมาก บางคนก็บอกว่าเธอไม่คิดมาก่อนเลยว่านี่จะเกิดขึ้น บางคนก็บอกว่าพวกเธอรู้สึกอึดอัด ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะ ทำไมต้องมาเจอกับคำพูดแบบนี้ที่พูดจากคนบางคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนด้วย ยิ่งไปกว่านั้นบางคนถึงขั้นเขียนข้อความว่า “ขาสวย” ลงในกระดาษพร้อมกับชื่อของผู้อำนวยการและนำไปโปรยเต็มบนทางเดินแสดงถึงความไม่พอใจอีกด้วย ความไม่พอใจดังกล่าวไม่เพียงแต่เกิดขึ้นกับนักเรียนเท่านั้น แต่ชาวเน็ตที่ได้เห็นคราวก็รู้สึกว่าไม่พอใจเช่นเดียวกัน ทำไมเราต้องยึดติดกับรูปร่างกับผู้หญิงและดูคำพูดของผู้อำนวยการที่จะสื่อว่า “ขาสวย” นี่เป็นปกติของผู้ใหญ่ที่เป็นอาจารย์คิดกับเด็กเหรอ? งั้นก็เปลี่ยนเป็นกางเกงคงดี! why are we…
-
พ่อตาสั่งสอนลูกเขย ‘ข้าเลี้ยงลูกสาวมากับมือ ไม่ได้ให้เอ็งมาข่มเหง’ เตือนแล้วแต่ไม่เข็ด
*ภาพที่ปรากฏในวิดีโอคลิป มีการใช้คำรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม* เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกตกลงปลงใจพร้อมจะสร้างครอบครัวใหม่ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ต่างรู้สึกยินดีและไว้วางใจกับคู่ครองที่ลูกเลือกแล้ว หมายมั่นว่าจะช่วยกันดูแลไปให้ตลอดรอดฝั่ง… แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ปัญหาอาจจะยังไม่เกิดในช่วงเริ่มอยู่กินด้วยกันใหม่ๆ แต่จะค่อยๆ เปิดเผยในภายหลัง จนก่อเกิดเป็นปัญหาในครอบครัว ถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือกันเลยทีเดียว กรณีตัวอย่างนี้เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย หลังจากที่มีชาวเน็ตโพสต์คลิปเหตุการณ์ มีปากเสียงกันระหว่างฝ่ายพ่อตาและลูกเขย โดยที่เบื้องต้นนั้นสืบสาเหตุพบว่ามาจาก การใช้ความรุนแรงของฝ่ายลูกเขยกับภรรยา (ผู้เป็นลูกสาวผู้ตา) คลิปวิดีโอในเหตุการณ์ดังกล่าว ภาพที่ปรากฏในวิดีโอคลิปเผยให้เห็นว่า ชายมีอายุนั้นได้ลงมือตีชายหนุ่มแบบไม่ยั้งมือ ถึงขั้นเลือดออกปากและจมูก ซึ่งชายมีอายุใส่เสื้อโปโลสีขาวนั้นเป็นพ่อตาของชายหนุ่ม และเหตุผลที่ต้องลงมือถึงขั้นนี้ เป็นเพราะฝ่ายลูกเขยนั้นใช้กำลังรุนแรงกับลูกสาวตนเอง เมื่อพ่อตารู้ก็ถึงขั้นเดือดดาล พยายามปกป้องลูกสาวตัวเอง และลากตัวลูกเขยไม่รักดีมาสั่งสอนให้หลาบจำได้มือตัวเอง… คำพูดจากพ่อตานั้น ได้สั่งสอนและข่มขู่ลูกเขยเอาไว้ว่า “นี่ข้าไม่ได้เลี้ยงลูกสาวมาตั้งแต่เล็กจนโตถึงทุกวันนี้ เพื่อให้เอ็งมาข่มขู่ทำร้ายนะ ข้าเคยเตือนเอ็งไปหลายรอบแล้ว ข้าอนุญาตให้ลูกสาวแต่งงานกับเอ็ง แต่ดูแลเธอแบบนี้งั้นเหรอ” ทางฝ่ายพ่อตาไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับพรรคพวกอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็ลงมือลงเท้าถีบไปที่ลูกเขย โดยที่ฝ่ายลูกเขยไม่ได้ตอบโต้ เพียงแต่ใช้ยกแขนขึ้นมาปกป้องตัวเอง คาดว่าอารมณ์ความโมโหที่พ่อตามี มาจากการที่ลูกเขยดูแลลูกสาวของตนไม่ดีเท่าที่ควร แม้จะเคยเตือนไปหลายครั้งแล้ว จนหมดความอดทน “จะขอโทษข้าบ้างมั้ย?…
-
ภาพของชายชราผิวขาวอาสาอุ้มลูกให้กับหญิงแปลกหน้าผิวสีกลายเป็นไวรัล ชาวเน็ตต่างชื่นชม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง ในแต่ละวันเราจะพบเจอกับดราม่า การทะเลาะกัน การเหยียดกันไปกันมา แต่ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ ที่จะเพิ่มศรัทธาในตัวมนุษย์อยู่เช่นกัน เหมือนอย่างเรื่องที่กลายเป็นไวรัลที่เรานำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ครับ ชาวเน็ตคนหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวดีๆ ของการมีน้ำใจแก่กัน เมื่อมีชายชราคนหนึ่งอาสาอุ้มลูกน้อยของคุณแม่ท่านหนึ่งที่กำลังยุ่งอยู่กับการกรอกประวัติลงเอกสาร โดยที่ดูแลลูกของเธอเหมือนกับลูกของเขา ช่างเป็นภาพที่น่ารักเสียยิ่งกระไร วันที่ 24 ตุลาคม 2018 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Natasha Crittenden Wilson ได้โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคลินิกแห่งหนึ่งในเมือง Florence รัฐแอละแบมา สหรัฐอเมริกาว่า “วันนี้ฉันกำลังนั่งอยู่รอคิวอยู่ในคลินิกและก็มีคนแม่คนนี้อุ้มลูกน้อยที่กำลังหลับเข้ามาและเธอก็ต้องทำการกรอกประวัติลงเอกสาร แต่ด้วยลูกน้อยที่ต้องอุ้ม ทำให้เธอกรอกได้ไม่ถนัดนักและก็พยายามจะหาวิธีกรอกประวัติโดยที่ไม่ทำให้ลูกน้อยตื่น ในขณะเดียวกัน ก็มีชายชราที่นั่งอยู่ตรงข้ามเข้ามาขออาสาช่วยดูแลลูกน้อยแทนขณะที่เธอกรอกประวัติได้แทน ซึ่งคุณแม่ก็ยิ้มและบอกว่ามหัศจรรย์มาก ชายชราคนดังกล่าวจึงได้นำลูกของเธอไปเลี้ยงดูด้วยความรักราวกับเป็นลูกเป็นหลานแท้ๆ ของเขา ใจของฉันนี่ละลายเลย การเหยียดเกิดขึ้นทุกวันในสังคมของเรา แต่ชายคนนี้มอบความหวังให้ฉันและนี่จะเป็นช่วงเวลาสุดน่ารักที่ฉันจะไม่มีทางลืม หากคุณรู้จักผู้ชายคนนี้ล่ะก็ ช่วยบอกเขาหน่อยว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน” หลังจากที่เธอได้โพสต์เรื่องนี้ลงในโซเชียลมีเดีย โพสต์ดังกล่าวก็ได้กลายเป็นที่สนใจและชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ดูวิธีที่เขาใช้อุ้มเด็กคนนั้นสิ น่ารักมากๆ คุณแม่ที่ใจดีและน่ารักคนนั้นทำให้ชายคนนั้นมีความสุขโดยการให้เขาอุ้มลูก ปฏิบัติกับคนอื่นเหมือนที่คุณอยากถูกคนอื่นปฏิบัติด้วย ชายคนนี้ยอดเยี่ยมมากๆ ได้เห็นและอ่านโพสต์นี้ ทำเอาฉันยิ้มไม่หุบเลย เรื่องสีผิวไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ แต่ความอ่อนโยนของหัวใจพวกเขาต่างหากที่เกี่ยว ที่มา Natasha…
-
Red Dead 2 การันตีเกมดี!? เหตุทำเกมเมอร์ลงทุนลาป่วยเพื่อหยุดเล่นมากที่สุดในปี
ในวันที่ 26 ตุลาคม 2018 ที่เพิ่งผ่านมานี้ ถือว่าเป็นอีกวันหนึ่งที่เหล่าเกมเมอร์รอคอย เมื่อเกมฟอร์มยักษ์อย่าง Red Dead Redemption 2 หรือเรียกสั้นๆ ว่า Red Dead 2 ได้วางขายเสียที เจ้าเกมฟอร์มยักษ์เกมนี้ เป็นเกมที่ถูกพัฒนาโดย Rockstar ค่ายเกมยักษ์ใหญ่ที่เคยสร้างผลงานมาแล้วกับ Grand Theft Auto หลากหลายภาค และนั่นเองทำให้แฟนๆ รวมถึงนักวิจารณ์เกมหลายๆ สำนักคาดการณ์ว่าเกมนี้แหละที่กลายเป็นเป็นเกมที่คว้ารางวัล Game of the Year ประจำปี 2018 นี้ไปได้!! ซึ่งแค่วางขายมาได้ไม่กี่วันก็มีสถิติออกมาการันตี เมื่อพบว่ามีเหล่าเกมเมอร์ที่ตัดสินใจ “ลาป่วย” เพื่อไปเล่นเจ้า Red Dead Redemption 2 มาเป็นพิเศษเลยล่ะ จากการเก็บข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียอย่าง Fizziology พบว่ามีผู้คนที่พูดถึงการลางานเพื่อไปเล่นเกมข้างต้นมากกว่าวิดีโอเกมอื่นๆ ที่ออกมาในปีนี้ โดยจากการเก็บข้อมูลการสนทนาบนโซเชียลมีเดียกว่า 800,000 ข้อความพบว่า 85% เป็นชายที่มีอายุอยู่ระหว่าง 18-35 ปีและในแต่ละชั่วโมงจะมีข้อความเกี่ยวกับเกมนี้เพิ่มขึ้นมากถึง…
-
เปิดประวัติเจ้าสัว ‘วิชัย ศรีวัฒนประภา’ แห่งคิง พาวเวอร์ ผู้ผลักดันสโมสรเลสเตอร์ซิตี้
หลังจากที่มีข่าวคราวเกี่ยวกับอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ของคุณ วิชัย ศรีวัฒนประภา ตกในบริเวณสนามคิงเพาเวอร์ สเตเดียม และมีข่าวยืนยันออกมาแล้วว่าคุณวิชัยและผู้โดยสารทั้งหมด เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้… แถลงการณ์ผ่านหน้าเว็บไซต์สโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ซิตี้ ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความสูญเสีย ทั้งสื่อไทยและต่างประเทศต่างให้ความสนใจ และร่วมไว้อาลัยแก่การจากไปของคุณวิชัย เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่ช่วยผลักดันธุรกิจด้านปลอดภาษี และช่วยผลักดันสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ การแถลงข่าวผ่านสื่อโซเชียลของสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ซิตี้ pic.twitter.com/hQSR0IDWWg — Leicester City (@LCFC) October 28, 2018 โดยย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2557 คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ได้ให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสารไทย เปิดเผยถึงความเป็นมาของคิง เพาเวอร์ พร้อมกับทรัพย์สินอีกจำนวนมากในประเทศอังกฤษ จุดเริ่มต้นของธุรกิจปลอดภาษี คุณวิชัยเล่าว่า เกิดจากช่วงที่เริ่มไปเรียนที่ไต้หวัน ในช่วงขาบินกลับไปต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง และจะมีการรับฝากซื้อของจากร้านปลอดภาษีบ่อยครั้ง จึงทำให้เริ่มเป็นไอเดียว่าในเมื่อประเทศไทยไม่มีร้านค้าแบบนี้ จึงเริ่มบุกเบิกธุรกิจดังกล่าวขึ้นมา แต่ในช่วงเริ่มต้นนั้นทำได้ยาก เพราะจะต้องขอสัมปทานจากหน่วยงานรัฐ จึงหันมาเป็นทำธุรกิจเป็นตัวแทนแบรนด์เนมชื่อดังแทน จนมาถึงจุดที่เพื่อนชวนมาซื้อหุ้นธุรกิจปลอดภาษีที่ฮ่องกง คุณวิชัยถือไว้ 10% จนกระทั่งภายในเวลา 2 ปี ก็กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่…
-
หนุ่มแต่งฮาโลวีน “ทาหน้าดำ” นั่งรถไฟ เจอคนบอกว่า “เหยียดผิว” แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่ไม่คิดงั้น
สำหรับช่วงวันฮาโลวีนแบบนี้ ผู้คนในต่างประเทศก็เริ่มที่จะแต่งตัวแฟนซีเลียนแบบตัวละครต่างๆ กันออกไปข้างนอก ดูไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรมากนัก แต่ชุดที่ชายคนนี้ใส่นั้นกลับถูกมองว่าเป็นการ “เหยียดผิว”?! จากคลิปวิดีโอที่กลายเป็นกระแสในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2018 เผยให้เห็นชายผิวขาวคนหนึ่งนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สวมชุดสูท ผมทรงแอฟโฟร และทาหน้าตัวเองให้เป็นสีดำ ชายคนดังกล่าว คนรอบข้างส่วนใหญ่เหมือนว่าจะไม่ค่อยใส่ใจกับชุดที่เขาใส่มากนัก จนกระทั่งหญิงสาวผิวสีวัย 24 ปีคนหนึ่งเข้ามาบอกว่าการที่เขาทาหน้าดำอย่างนั้นมันคือการเหยียดผิว ชายคนดังกล่าวแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยในคำพูดของเธอ เขายักไหล่แล้วถามเธอกลับไปว่า “ทำไมผมจะแต่งงี้ไม่ได้ล่ะ?” หญิงสาวที่เข้ามาต่อว่าในการที่เขาทาหน้าดำ คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปในทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @DOkoriko พร้อมกับแคปชั่น “นี่มันปี 2018 แล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นอยู่ล่ะ?” ชาวเน็ตบางคนเห็นด้วยกับความคิดนั้น มองว่ามันเป็นการเหยียดผิวที่ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก มีความคิดเห็นหนึ่งที่บอกว่า.. “การแต่งตัวมันไม่ได้ผิดอะไร แต่การที่คนผิวขาวทาหน้าดำแบบนั้นมันคือการเหยียดผิว เพราะพวกเขามักจะทำเพื่อแสดงออกมาในแง่ลบเกี่ยวกับคนผิวสี มันจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้” คลิปดังกล่าว บางคนอาจเห็นด้วยในความคิดนั้น แต่ในขณะเดียวกันชาวเน็ตจำนวนมากกลับไม่คิดอย่างนั้น หลายๆ คนมองว่าการแต่งตัวทาหน้าดำของชายคนนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร เพราะเขาคงแค่อยากแต่งเป็นดาราดังอย่าง Samuel L.Jackson จากหนังเรื่อง Pulp…
-
คาราวานกลุ่ม “คนรักร่วมเพศ” ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เรียกร้องสิทธิ์ “การแต่งงานของเพศเดียวกัน”
ในวันที่ 27 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมานี้ ได้มีการชุมนุมเดินขบวนกันของกลุ่ม “คนรักร่วมเพศ” (หรือ “ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ”) ซึ่งถือว่าเป็นการรวมตัวกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย การเดินขบวนในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้งาน Taiwan Gay Pride Parade ครั้งที่ 16 งานที่ถูกจัดขึ้นในทุกๆ ปี ณ กรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน . สำหรับการเดินขบวนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พวกเขายังมีเป้าหมายหลักในการเรียกร้องสิทธิ “การแต่งงานของคนเพศเดียวกัน” ในไต้หวันอีกด้วย เนื่องจากว่าในเดือนหน้า (พฤศจิกายน) จะมีการลงประชามติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว อย่างที่หลายๆ คนทราบกันดีว่าหลายๆ ประเทศทางฝั่งตะวันตกเริ่มมอบอิสระให้กับการแต่งงานอย่างถูกกฎหมายระหว่างผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศแล้ว ในขณะเดียวกัน ไต้หวันเองก็ถือว่าเป็นเขตปกครองแรกในฝั่งเอเชียที่มีการนำเอากฎหมายข้อนี้เข้ารับการพิจารณา โดยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2017 ปัจจุบันยังคงทำได้เพียงจดทะเบียน “ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน” เท่านั้น . โดยเหล่าผู้มีความหลากหลายทางเพศในไต้หวันนั้นมองว่า “ความรักคือความเท่าเทียม” และการแต่งงานอย่างถูกกฎหมายที่แท้จริงแล้วก็ไม่ควรที่จะจำกัดเอาไว้แค่กับคู่ชาย-หญิง ในการลงประชามติเดือนหน้านี้ หากมีผู้เซ็นยินยอมกฎหมายดังกล่าวมากกว่า 280,000 คน ก็จะสามารถดำเนินเรื่องในขั้นตอนต่อไปได้…
-
แบบทดสอบ…สิ่งที่เห็นในภาพ ‘เป็นอย่างแรก’ บ่งบอกถึงความเป็นตัวคุณ
อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องของ ‘มุมมอง’ ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ใช้บ่งบอกถึง ‘ความเป็นตัวของตัวเอง’ ได้อีกด้วย แต่บางครั้งเราอาจจะไม่รู้ตัวว่ามุมมองของเรานั้นเป็นอย่างไร!? สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว มีแบบทดสอบเกี่ยวกับเรื่องของ ‘มุมมอง’ ที่มีความเชื่อมโยงกับ ‘ความเป็นตัวของตัวเอง’ จากเว็บไซต์ Bright Side มาฝากกันครับ วิธีการก็ง่ายๆ คือจะมีภาพมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน และหากเห็นอะไรในภาพนั้นเป็นอย่างแรกล่ะก็ สิ่งนั้นจะบ่งบอกถึงความเป็นตัวของเพื่อนๆ เอง ที่อาจจะซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก แบบที่อาจจะไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยก็ได้….เอาล่ะถ้าพร้อมแล้วก็ลองไปเล่นพร้อมๆ กันได้เลยครับ 1. หน้าคน หรือ ปลา? หน้าคน : คุณเป็นคนชอบเข้าสังคม ชอบติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น เป็นคนชื่อให้ความสนใจกับชีวิตของผู้คน และมากไปกว่านั้นโดยธรรมชาติแล้วคุณจะใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ปลา : คุณเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิต มีความเชื่อในโชคลางถึงสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของคุณ แม้ว่าบางอย่างมันจะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ คุณก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับมันได้ 2. รูกุญแจ หรือ คนร้องไห้? รูกุญแจ : คุณเป็นคนขี้สงสัยเกี่ยวกับชีวิตปกติของตัวเอง บางครั้งคุณอาจจะมีความรู้สึกว่าในเร็วๆ…
-
โมเมนต์แสนกินใจ ภาพของตำรวจหญิงที่กุมมือชายชราที่เพิ่งสูญเสียภรรยาสุดที่รักไป…
หากพูดถึงอาชีพอย่าง “เจ้าหน้าที่ตำรวจ” ปกติแล้วเราจะนึกไปถึงบุคคลที่คอยจับอาชญากรหรือปกป้องความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ซึ่งปกติแล้วเราก็จะเห็นภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นบุคคลที่เข้มแข็งไม่อ่อนไหว แต่เรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้แล้ว จะทำให้เราได้เห็นอีกด้านหนึ่งของคุณตำรวจ เมื่อมีการเผยภาพของตำรวจหญิงคนหนึ่งกำลังกุมมือชายชราที่เพิ่งเสียภรรยาไป แถมไม่เท่านั้นเพราะญาติๆ ของภรรยายังมาขนของของภรรยาออกจากบ้านจนแทบไม่เหลืออะไรให้ชายชราเลย ภาพที่เราได้เห็นข้างต้นนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมือง Ladywood เบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เมื่อชายชราคนหนึ่งที่เพิ่งสูญเสียภรรยาสุดที่รักไป ถูกญาติฝ่ายภรรยาเข้ามาขนของของเธอออกไปจนแทบไม่เหลืออะไรให้เขา แม้แต่เครื่องอำนวยความสะดวก ทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง Roger กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ Greaves ได้ยินข่าวของชายชราคนดังกล่าว พวกเขาก็คิดว่าต้องรีบให้ความช่วยเหลือแก่ชายชราคนนี้เสียแล้ว พวกเขาจึงได้พยายามหาหนทางต่างๆ ที่จะสามารถจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่เขาได้ และสุดท้ายด้วยการร่วมมือกับองค์กรการกุศล Trident Reach พวกเขาก็สามารถจัดหาของใช้ได้สำเร็จและนำอะไรหลายๆ อย่างไปมอบให้แก่ชายชราไม่ว่าจะเป็นทีวี แก้วกาแฟหรือจะเป็นเครื่องปิ้งขนมปัง และก็ไม่เพียงแต่มอบของให้เท่านั้น เมื่อเสร็จงาน เจ้าหน้าที่สองคนก็ยังอยู่ที่บ้านและคอยปลอบประโลมและมอบความอบอุ่นให้แก่เขา ซึ่งชายชราคนดังกล่าวก็รู้สึกขอบคุณและตื้นตันใจเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ร้องไห้ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงกำลังกุมมือเขาอยู่ ช่างเป็นภาพที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่ามนุษย์ก็สามารถทำสิ่งดีให้แก่กันได้ โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักหรือเป็นญาติกันเลยก็ตาม ที่มา Metro, Dailymail
-
สาวแชร์เพื่อนบ้านแต่งสวนรับฮาโลวีนด้วยโครงกระดูก แถมเปลี่ยนท่าทุกวัน แต่ละวันสุดพีค!!
อย่างที่เร็วรู้กันดีว่าวันที่ 31 ตุลาคม 2018 ที่กำลังจะถึงนี้ เป็นวันเทศกาลอย่าง “ฮาโลวีน” เทศกาลที่หลายๆ คนจะแต่งตัวหรือแต่งบ้านให้เข้าธีมผีๆ ซึ่งเพื่อนบ้านของ Sami Campagnano สาวคนที่เราจะพูดถึงนี้ก็แต่งบ้านในธีมผี ปีศาจด้วยเช่นกัน พวกเขานำเอาโครงกระดูกมาตกแต่งอยู่ในบริเวณสวนหน้าบ้าน แต่นานวันเข้า Sami ก็สังเกตเห็นว่าเจ้าโครงกระดูกของเพื่อนบ้านเธอมันไม่ได้อยู่ในท่าเดิมและมันจะถูกจัดท่าใหม่ในทุกๆ วันนี่นา เธอก็เลยนำเรื่องราวสุดตลกของโครงกระดูกเพื่อนบ้านมาแชร์ให้เราได้รับชมกันครับ “เพื่อนบ้านของฉันเปลี่ยนท่าทางของโครงกระดูกพวกนี้ทุกๆ วันในช่วงฮาโลวีน และฉันก็คิดว่าฉันอยากจะแชร์มัน” โครงกระดูกของเพื่อนบ้านเธอจะตลก จะฮา จะน่าสนใจขนาดไหนนั้น เราไปรับชมพร้อมๆ กันเลยครับผ๊ม!! เริ่มมาไอ้เราก็ว่าพีคแล้วนะ แต่ผ่านไป ผ่านไป นานวันเข้า มันกลับพีคยิ่งกว่า!! นอนอาบแดดหน่อยมั้ยเพื่อนๆ กางเต็นท์กันกลางแดดไปเลย ส่งสัญญาณ SOS บอกซ้อยข่อยแหน่ คราวนี้มีลูกมาด้วย แหม่… ครอบครัวสุขสันต์เสียจริ๊ง ปิกนิกกันเต็มที่ ยิ้มหน่อยยยย ถ่ายรูปกัน …
-
“แคทวอล์กของจริง”!! เมื่อเจ้าเหมียวโผล่ป่วนงานแฟชั่นโชว์ แถมยังเดินแบบโชว์ซะด้วย
สำหรับเรานั้น คำว่า “แคทวอล์ก” ก็คือเวทีทางเดินที่เราจะมักจะเห็นนางแบบหรือนายแบบออกมาเดินโชว์ ตามงานแฟชั่นโชว์หรืองานเดินแบบต่างๆ แต่วันนี้แคทวอล์กธรรมดา ก็ได้กลายเป็นแคทวอล์กของจริง เมื่อมีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งโผล่เข้ามาในงานแฟชั่นโชว์ได้อย่างงงๆ แถมยังออกท่าทางป่วนงานสุดๆ เรียกได้ว่าซนจนกลายเป็นขวัญใจของผู้เข้าชมไปเลย เดินตามแม่มานะคะลูกๆ เหตุการณ์สุดเซอร์ไพรส์แสนน่ารักครั้งนี้เกิดขึ้นในงานแฟชั่นโชว์ ณ ห้าง Emaar Square Mall ของประเทศตุรกี เมื่อจู่ๆ เจ้าแมวเหมียวตัวหนึ่งซึ่งมาจากที่ใดไม่มีใครทราบ โผล่ขึ้นมาบนแคทวอล์ก ขณะที่นางแบบกำลังเดินแบบอยู่ และเจ้าเหมียวตัวดังกล่าวก็ไม่ได้ขึ้นมาโชว์ตัวให้เราเห็นเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อมันเห็นเสื้อผ้าที่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาของนางแบบ มันก็กระโจนเข้าเล่นอย่างเมามัน!! แง้วววว!! ขอเหมียวเล่นด้วยคนจิ เหมียวก็จะเล่นด้วยคน ผัวะ!! ตบเข้าให้ ด้วยความน่ารักและซุกซนของเจ้าเหมียวตัวดังกล่าว ทำให้มันแย่งซีนจากบรรดานางแบบและยังครองใจผู้ชมในงานอย่างมากมาย ขนาดที่ผู้ใช้อินสตาแกรมชื่อว่า hknylcn อดใจไม่ไหว ต้องบันทึกวิดีโอของเจ้าเหมียวและนำมาแชร์ให้คนอื่นๆ ได้ชมกัน ซึ่งจะซุกซนขนาดไหนนั้นเราไปลองรับชมกันครับ https://www.instagram.com/p/BpW_NfWn4ub/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_video_watch_again ด้วยกระแสตอบรับเจ้าเหมียวตัวนี้ด้วยความเอ็นดูจากชาวเน็ต Hakkı Ali แฟชั่นดีไซเนอร์ก็เล่นมุกตลกออกมาว่าไม่แน่นะ ในอนาคตอาจจะมีการเดินแบบแมวจริงๆ ก็เป็นไปได้ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ อยากให้มีเดินแบบแมวกันมั้ย ถ้ามีมันคงเป็นภาพที่น่ารักน่าชังมากๆ เลยเนอะ …
-
สาวถูกจับส่งไปบำบัดกับจิตแพทย์ หลังส่ง “ดาร์กมีม” ผิดกลุ่ม ไปส่งเข้ากลุ่มครอบครัวแทน!!
แต่ละวันในทุกวันนี้หากเราได้เล่นอินเตอร์เน็ตล่ะก็ ย่อมต้องเคยเห็นภาพมุกตลกที่คนส่งให้กันไปกันมาที่เรียกว่า “มีม” อย่างแน่นอน ซึ่งเจ้ามีมเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นภาพตลกๆ ที่สร้างสีสันให้กับโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี แต่ใครจะไปรู้ว่าภาพตลกๆ แบบนี้จะทำให้สาวคนที่นำมาพูดถึงนี้ เกือบโดนครอบครัวส่งเข้าไปบำบัดที่โรงพยาบาล เมื่อเธอดันส่งรูป “ดาร์กมีม (มีมที่มุกแรงๆ หน่อย)” ไปผิดกรุ๊ปแชทและกรุ๊ปแชทนั้นเป็นกรุ๊ปของครอบครัว ด้วยความที่ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจมีม ก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปเสียเลย สาวคนที่เรากล่าวถึงนี้คือ Celeste จาก San Diego รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งปกติแล้ววัยรุ่นสมัยก็ย่อมจะมีกลุ่มแชทเพื่อนสนิทเอาไว้เม้าท์มอยกันอยู่แล้ว เธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน วันหนึ่งเธอไปเจอมีมของเจ้าหมาที่มีข้อความว่า “ตอนนี้ตูพร้อมจะตายแล้ว” เธอคิดว่าเพื่อนของเธอน่าจะชอบ ก็เลยตั้งใจที่จะส่งเข้ากลุ่มเพื่อน แต่เจ้ากรรม เธอดั๊นส่งรูปดังกล่าวไปในกลุ่มครอบครัวเสียอย่างนั้น เมื่อคุณแม่เธอเห็นภาพที่ลูกสาวส่งมา แถมยังมีข้อความดังกล่าวอีก ด้วยความที่กลัวลูกสาวจะเป็นโรคซึมเศร้า (เพราะเธอเคยเข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้ามาก่อน) แม่ก็ถามขึ้นมาทันทีว่าเธอต้องไปโรงพยาบาลมั้ย แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้อธิบายอะไร พี่สาวของเธอก็เข้ามาพาตัวเธอ ไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที ซึ่งเธอต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เพื่ออธิบายว่าอะไรคือมีมและทำให้เขามั่นใจว่าเธอจะไม่ฆ่าตัวตาย หลังจากที่อธิบายให้กับครอบครัวและแพทย์ฟังจนเข้าใจแล้ว สุดท้ายแล้ว Cleste ก็ได้กลับบ้านและใช้ชีวิตดังเดิม และเธอก็ไม่ถือโทษโกรธครอบครัวของตน เพราะเธอคิดว่ามันก็ไม่แปลกที่ครอบครัวกังวลหลังจากที่เห็นมีมนั้น และเธอก็เห็นด้วย…
-
ชาวเน็ตช็อก…หลังรู้ว่า ‘พ่อ’ ใน Haunting of Hill House คือ Elliot จาก E.T.!!
สำหรับเด็กๆ ช่วงยุค 80s – 90s แล้วล่ะก็ คงจะผ่านการดูหนังเรื่อง E.T. เพื่อนรัก มาแล้วอย่างแน่นอน!! และเพื่อนๆ รู้ไหมว่าเจ้าหนู Elliot ที่เป็นเพื่อนรักกับมนุษย์ต่างดาวในวันนั้น เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ซึ่งล่าสุดเขาก็ได้รับบทบาทในการแสดงซีรีส์ที่กำลังดังอยู่ในตอนนี้อย่าง The Haunting of Hill House แถมเล่นเป็น ‘พ่อ’ อีกด้วย…โอ้โห อะไรจะผ่านไปเร็วขนาดนั้น!! Elliot รับบทโดย Henry Thomas ซึ่งตอนถ่ายทำหนังเรื่อง E.T. เขายังอายุได้ 8 ขวบอยู่เลย ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 36 ปีด้วยกัน!? และตอนนี้เจ้าหนู Elliot ก็มีอายุ 47 ปีแล้ว!! (โอ้วหมายก้อดดดดด) หลังจากฝากผลงานไว้กับหนังเรื่อง E.T. Henry ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการภาพยนตร์ มีผลงานมากมายแต่ก็ไม่ได้โด่งดังเปรี้ยงปร้างเท่าไหร่นัก เช่น Legends…
-
เจ้าหนูวัย 8 ขวบ ขึ้นไปยืนร้องไห้อยู่ขอบตึก 33 ชั้น!! โอดครวญว่า “ผมไม่อยากไปโรงเรียน”
ตอนเด็กๆ เราอาจเคยมีความรู้สึก “ไม่อยากไปโรงเรียน” จนบางครั้งถึงกับร้องไห้งอแง หรือแกล้งป่วยก็มีบ้างเหมือนกัน (สมัยยังวัยละอ่อน #เหมียวตะปู ก็เคยทำเหมือนกันนะ) เจ้าหนูวัย 8 ขวบคนนี้ก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน ซึ่งเขาไม่อยากไปโรงเรียนจนถึงขั้นขึ้นไปอยู่บริเวณขอบตึกชั้นดาดฟ้าของอาคารสูง 33 ชั้นอย่างน่าหวาดเสียว ร้องไห้ครวญครางอยู่บนนั้นเพียงลำพัง เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 21 ตุลาคม 2018 คนงานก่อสร้างในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน มองขึ้นไปเห็นเด็กชายคนดังกล่าวยืนร้องไห้อยู่คนเดียว พร้อมกับโวยวายออกมาว่า “ผมไม่อยากไปโรงเรียนเลย” เหล่าคนงานจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือหนูน้อยคนนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์ในทันที พยายามไปช่วยเจ้าหนูให้หลบออกมาจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย จากในคลิปเราจะเห็นว่าพนักงานดับเพลิงคนหนึ่งค่อยๆ เข้าไปพูดคุยกับเจ้าหนู ในขณะที่เขาก็พยายามเอาตะขอและเชือกผูกเอวของเด็กเอาไว้ ป้องกันไม่ให้ตกลงไป หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ช่วยกันดึงร่างของเด็กชายขึ้นมาได้สำเร็จ ทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ภายหลังบอกว่า เด็กชายคนนี้ไม่ได้มีความต้องการจะฆ่าตัวตายใดๆ เลย เขาเพียงแค่มายืนโวยวาย พยายามหาทางหลีกเลี่ยงไม่อยากไปโรงเรียนก็เท่านั้นเอง นับว่าเป็นโชคดีที่สุดท้ายแล้วเจ้าหนูไม่ได้เป็นอะไร เอาเป็นว่าใครไม่อยากไปโรงเรียนหรือไม่อยากไปทำงานจริงๆ แนะนำให้ลองคุยกับผู้ปกครองไปตรงๆ หรือไม่ก็อาจแกล้งป่วยบ้างนานๆ ครั้งแทนน่าจะดีกว่าทำแบบนี้นะ…
-
สาวแต่งเรื่องสุดฮา ‘โดน NASA กับ Space X’ เปิดศึกแย่งชิงตัว ชาวเน็ตแชร์กระหึ่ม!!
ใครเล่าจะคิดว่าการโพสต์อะไรฮาๆ เพียงไม่กี่โพสต์ จะนำไปสู่เรื่องราวที่ใหญ่โตมโหฬารได้ขนาดนี้… เรื่องมีอยู่ว่ามีชาวเน็ตสาวชื่อว่า Sarah Abou El Khair จากประเทศอียิปต์ ได้ทำการโพสต์สตอรี่ไอจีแบบขำๆ เพื่อแนะนำไอเดียเจ๋งๆ ให้กับ NASA ลองไปดูกันครับว่าไอเดียนั้นมันคืออะไร… งายยยย NASA เรามีไอเดียเจ๋งๆ มาฝากแหละ จะเป็นอย่างไรถ้าก่อนปล่อยจรวด นายเอาตะแกรงย่างขนาดยักษ์ กับเนื้อไก่เป็นตันไปรองไว้ด้านใต้ฐานปล่อยจรวด อะไรแบบนี้ จากนั้นเมื่อจรวดเริ่มปล่อยตัว นายเห็นมั้ยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น!??? ปาร์ตี้บาร์บีคิวขนาดยักษ์ยังไงล่ะ!!! บาร์บีคิวสำหรับพนักงาน NASA ทุกคน แถมยังใช้เวลาไม่ถึงนาทีอีกด้วย!!! และมันไม่จบลงแค่นี้นะ ไอเดียนี้น่ะ สามารถหยุดยั้งปัญหาการขาดแคลนอาหารบนโลกนี้ได้ด้วย ช่วยประหยัดพลังงาน โคตรเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเลย สร้างความสุขให้กับพนักงาน สร้างผลผลิตที่ดีกว่า ทำให้ Nasa เหนือกว่า SpaceX เห็นๆ ฉะนั้นรับตรูเข้าทำงานเถอะ (ขยิบตา ปิ๊งๆ) ยิ่งปล่อยจรวดมากขึ้น…
-
เทรนเนอร์แจก ‘ใบปลิว’ ตามร้านฟาสต์ฟู้ด ขอไม่ให้ขายให้ ‘หนุ่มอ้วน’ เพื่อช่วยชีวิตของเขา!!
เรื่องของการลดน้ำหนักอาจเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนอยากจะทำกัน แต่ว่าอาหารแสนอร่อยอย่างเฟรนช์ฟรายส์ หอมทอด หรือไก่ทอดหอมๆ นี่มันช่างเป็นอะไรที่เกินจะห้ามใจจริงๆ เลยใช่ไหมล่ะ เพราะด้วยเหตุนี้แล้วเทรนเนอร์ส่วนตัวคนหนึ่ง เลยตัดสินใจพิมพ์ใบปลิวลูกค้าของเขาไปแจกจ่ายให้ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ เพื่อไม่ขายอาหารอุดมไปด้วยไขมันให้ และทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการช่วยชีวิตเขาคนนี้จากโรคอ้วน!! ลูกค้าคนพิเศษของเขา https://www.instagram.com/p/BpPoVHDBYP6/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_camera โดยเรื่องมีอยู่ว่าในทุกๆ ปี Mike Hind เทรนเนอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของเมืองมิดเดิลสโบรห์ ประเทศอังกฤษ จะสุ่มเป็นเทรนเนอร์ให้กับผู้โชคดีคนหนึ่งแบบฟรีๆ ไม่เก็บเงินสักบาทเพื่อเป็นการกุศล เขาบอกว่า เขาสามารถที่จะพลิกชีวิตของผู้โชคดีคนนั้นจากหน้ามือให้กลายเป็นหลังมือได้ในเวลาแค่ 1 ปี และแน่นอนว่ามีผู้ยื่นใบสมัครรับการเทรนจากเขาเป็นพันๆ คนต่อปี ซึ่งในปีนี้เขาได้เลือกชายวัย 27 ปีชื่อว่า Dibsy เป็นลูกค้าคนพิเศษของเขา จากการที่เห็นเขาและแม่มากินอาหารที่ห้องอาหารของยิม ผู้โชคดีในครั้งนี้ ชายคนนี้มีรูปร่างที่ค่อนข้างจะอ้วนมาก โดยมีน้ำหนักมากถึง 254 กิโลกรัมและเมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งจะต้องเผชิญกับปัญหาที่เกี่ยวกับระบบหัวใจและต้องเข้าโรงพยาบาลนานนับสัปดาห์เลยด้วย ในครั้งนั้นทางคุณหมอได้มอบทางเลือกให้เขาเลือกว่า ‘Diet or Die’ (จะเลือกคุมอาหารหรือความตาย) และเมื่อเรื่องนี้เองไปเข้าหู Mike เข้า เขาจึงตัดสินใจว่าจะช่วยชีวิตของ Dibsy ให้ได้ด้วยการเป็นเทรนเนอร์ให้ สิ่งแรกที่เทรนเนอร์คนนี้เห็นว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ ก็คือการไม่ให้เขากินอาหารฟาสต์ฟู้ด…
-
พบรูปสลักไม้รูปร่างประหลาดชวนขนลุกจำนวน 19 ตัวที่เปรู เชื่อมีความเก่าแก่ถึง 750 ปี
สำหรับทางประวัติศาสตร์แล้ว ประเทศเปรูนับว่าเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญมากๆ แห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะไม่เพียงแต่ที่นี่จะมีมาชู ปิกชูของชาวอินคาเท่านั้น แต่ยังมีโบราณสถานจากวัฒนธรรมอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก และล่าสุดนี้เองในแหล่งโบราณคดีที่ Chan Chan ซึ่งเชื่อกันว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อ 850 ปีก่อนโดยวัฒนธรรมชิมู ก็ได้มีการค้นพบรูปสลักประหลาดจำนวน 19 ตัว ที่มีรูปร่างหน้าตาแลดูน่าขนลุกขึ้น การค้นพบครั้งนี้เป็นเกิดขึ้นในระหว่างการบูรณะกำแพงรอบๆ โบราณสถาน Utzh An ที่เริ่มต้นโครงการในปี 2017 และมีกำหนดที่จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในปี 2020 โดยนี่เป็นรูปสลักจากไม้ ที่บางส่วนมีการใส่หน้ากากที่ทำจากดินเหนียวคล้าย “ผีไร้หน้า” จากภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Spirited Away ซึ่งถูกประดับไว้ระหว่างทางเดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าของสิ่งปลูกสร้างจากสมัยโบราณ แม้ว่ารูปสลักทั้งหมดจะมีส่วนสูงอยู่ที่ประมาณ 70 เซนติเมตรแต่รูปสลักแต่ละอันจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป โดยที่นอกจากหน้ากากดินเหนียวแล้ว รูปสลักบางตัวยังมีการถืออาวุธ หรือโล่ป้องกันตัวอีกด้วย นักโบราณคดีเชื่อว่ารูปสลักที่พบนั้นน่าจะมีอายุราวๆ 750 ปี และถูกสร้างขึ้นในช่วงใกล้เคียงกับที่เผ่าอินคาล่มสลาย ในเบื้องต้นเชื่อกันว่ารูปสลักเหล่านี้จะถูกทำขึ้นเพียงเพื่อประดับทางเดินเท่านั้น เพราะด้านบนของรูปปั้นที่พบเองก็ยังมีการวาดภาพของสัตว์ต่างๆ ไว้บนกำแพงด้วย แต่ถึงอย่างนั้น ทางนักโบราณคดีก็ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า รูปปั้นเหล่านี้ อาจมีความหมายมากกว่านั้นเช่นกัน …
-
พ่อโพสต์เดือด…เมื่อลูกชายถูกเพื่อนแกล้งเพราะ ‘ทาสีเล็บ’ ไปโรงเรียน โดนใจชาวเน็ตสุดๆ!!
เรื่องของ ‘การกลั่นแกล้งในโรงเรียน’ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ควรได้รับความสนใจ เพราะหากปล่อยทิ้งเอาไว้นานๆ อาจส่งผลให้บาดแผลมันฝังลึกในจิตใจของเด็กได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของเด็กชายคนนี้ ที่ ‘ทาสีเล็บ’ ไปโรงเรียน ทำให้เขาถูกกลั่นแกล้ง แต่พ่อของเขากลับเลือกที่จะไม่อยู่เฉย และออกมาโพสต์ตอบโต้จนกลายเป็นกระแสไวรัล เรื่องมีอยู่ว่านาย Aaron Gouveia จากรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณพ่อลูกสามได้ออกมาเล่าเรื่องราวของลูกชายของเขาชื่อว่า Sam ถูกเพื่อนๆ ร่วมชั้นกลั่นแกล้งที่โรงเรียน เพราะเขา ‘ทาสีเล็บ’ ไปโรงเรียน คุณพ่อ Aaron เล่าผ่านโพสต์ว่า “นี่คือลูกชายของผม Sam เขาอายุ 5 ขวบ และเพิ่งจะได้เรียนรู้ถึงความเลวร้ายของการถูกกลั่นแกล้ง ความโกรธของผมมันทะลุถึงขีดสุด ฉะนั้นจึงต้องขอโทษด้วยหากพูดหยาบไปสักนิดหนึ่ง และผมต้องการที่จะอยากจะพูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ (ยาวสักหน่อยนะ)” “Sam เป็นลูกชายคนกลางของผม เขาเป็นเด็กผู้ชาย ที่ดื้อ ซน ชอบส่งเสียงดังเจี๊ยวจ๊าว ชอบเล่นจนเนื้อตัวสกปรกมอมแมม เขาชอบบรรดารถบรรทุก และชอบเล่นกีฬา แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร คือเขาชอบอะไรหลายๆ อย่างที่เด็กผู้หญิงให้ความสนใจ” “Sam…
-
หนุ่มใช้ชีวิตหนึ่งปีเต็มๆ โดยมี ‘ช้อน’ ขนาด 8 นิ้วอยู่ในหลอดลม ไม่เคยคิดจะเอาออกเพราะสบายดีอยู่!!
ปกติแล้วถ้าเรากลืนสิ่งของที่ไม่ใช่อาหารลงไป เราก็คงต้องรีบเอาออกให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของตัวเองใช่ไหมล่ะ แต่ว่ามีชายอยู่คนหนึ่งที่ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติเป็นเวลาถึงหนึ่งปีเต็มๆ แม้ว่าจะมีช้อนคันเบ้อเร่อติดอยู่ในหลอดอาหารของเขาก็ตาม และที่สำคัญคือไม่เคยคิดจะเอามันออกเลยด้วย!! เรื่องนี้เกิดขึ้นกับชายชาวจีนที่ไม่เปิดเผยชื่อวัย 26 ปีคนหนึ่ง เขาเล่าว่าเมื่อปีที่แล้วระหว่างที่กินเหล้ากับเพื่อน จู่ๆ เขาก็รับคำท้าบอกกับเพื่อนว่าเดี๋ยวจะแสดงโชว์อะไรให้ดูเป็นขวัญตา โชว์ที่ว่านี้ก็คือ การโชว์กลืนช้อนลงไปให้ลึกที่สุด แล้วค่อยเอากลับขึ้นมาใหม่ด้วยเชือกที่มัดติดกับปลายช้อนเอาไว้ แต่ปรากฏว่าผิดแผน เอาขึ้นมาได้แค่เชือก แต่ช้อนเข้าไปในหลอดอาหารเรียบร้อย!! แต่ถึงอย่างนั้นแทนที่เขาจะไปโรงพยาบาลหาหมอให้เอาออก เขากลับนั่งดูอาการว่าตัวเองเป็นอะไรหรือเปล่าแล้วก็พบว่าร่างกายของเขาปกติดีทุกอย่างทั้งการกินอาหารหรือดื่มอะไรก็ตาม เขาเลยใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าช้อนขนาด 8 นิ้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา… แล้วก็ดูเหมือนว่าเจ้าช้อนจะต้องอยู่ร่วมกับหลอดอาหารของชายคนนี้นานกว่านี้อีก ถ้าหากไม่บังเอิญว่าเขาถูกชกเข้าที่อกเมื่อ 2 – 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งมันทำให้เขาเริ่มมีอาการแน่นหน้าอกร่วมกับหายใจไม่ออก จนในที่สุดต้องเข้าโรงพยาบาลในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ที่เขาอยู่ “ผมช็อกจริงๆ นะ ผมไม่เคยเจอกับอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย ตอนที่เราได้พบกับเขา หลอดอาหารเริ่มมีการติดเชื้อแล้ว” Yu Xiwu นายแพทย์คนรักษากล่าว หลังจากนั้นทางทีมแพทย์ก็ได้ประชุมกัน และเห็นว่าวิธีการที่ดีที่สุดที่จะเอาวัตถุนี้ออกมาก็คือทางเดียวกับที่มันเข้าไปนั่นคือทาง ‘ปาก’ ทางแพทย์จึงให้ยาชากับผู้ป่วยก่อนที่จะค่อยๆ ใช้การส่องกล้องลงไป ซึ่งในที่สุดแล้วก็ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงเต็มๆ…
-
หนุ่มป่วยอยากลงจากเครื่องบิน เลยเปิดประตูจนเกือบถูกไอพ่นดูดเข้าไป!! รอดตายมาได้หวุดหวิด
การจะขึ้น-ลงเครื่องบินนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราจะตัดสินใจเอาเองและทำมันได้ในทันที เพราะมันเป็นเรื่องของความปลอดภัย ยิ่งถ้าคุณไม่อยากจะต้องเกือบตายเหมือนชายคนนี้ด้วยแล้วล่ะก็ นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของสายการบิน Frontier Airlines ที่กำลังจะบินจากประเทศเม็กซิโก ไปยังสหรัฐอเมริกา ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา ผู้โดยสารที่รู้สึกอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จากการรายงานข่าวบอกว่าระหว่างที่เครื่องกำลังค่อยๆ แล่นไปตามรันเวย์สนามบิน จู่ๆ ผู้โดยสารชาวอเมริกันที่ชื่อว่า Tommy Gray ก็เหมือนพยายามที่จะลงจากเครื่องให้ได้ Tommy ได้เดินไปทุบประตูบอกกับพนักงานบนเครื่องบินว่าเขารู้สึกป่วย และต้องการลงจากเครื่องในทันที แต่ช่วงเวลานั้นไม่สามารถทำตามความต้องการของเขาได้แล้ว ทำได้เพียงแค่ค่อยๆ พาเขากลับมานั่งที่เดิม แต่แล้วผู้โดยสารหนุ่มก็ได้ตัดสินใจเปิดประตูห้องโดยสาร ซึ่งมันก็ทำให้ระบบเปิดประตูฉุกเฉินอัตโนมัติทำงานขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ และเมื่อประตูเปิดออก เขาก็ต้องเจอกับแรงลมดูดของไอพ่นเครื่องบิน ผู้โดยสารคนอื่นๆ ต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลายๆ คนพยายามคว้าตัว Tommy เอาไว้ไม่ให้เขาหลุดเข้าไปข้างในไอพ่น ก่อนที่กัปตันจะตัดสินใจหยุดเครื่องกลางคัน นับว่าเป็นโชคดีของชายคนนี้ที่ไม่ได้ถูกดูดเข้าไปปั่นภายในไอพ่น ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากผู้โดยสารคนอื่นๆ และพนักงานบนเครื่องบินที่ช่วยกันคว้าตัวเขาเอาไว้ เที่ยวบินจำเป็นต้องถูกเลื่อนออกไป ในขณะที่ Tommy ถูกจับกุมตัวก่อนจะพาไปส่งโรงพยาบาลท้องถิ่น คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ของ Tommy ได้ให้การกับตำรวจว่าก่อนหน้านั้น…
-
ผู้คนไม่กล้าแต่ง Moana ช่วงฮาโลวีน เพราะกลัว ‘เหยียด’ นักพากย์เลยออกมาสนับสนุนให้แต่ง!!
ปัจจุบันผู้คนให้ความสำคัญกับเรื่องของ ‘การเหยียด’ ไม่ว่าจะเป็นการเหยียดเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว หรือเพศ เพราะมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ บางครั้งหลายๆ คนอาจจะกระทำอะไรบางอย่างลงไปโดยที่ไม่ได้คิด แต่กลับกลายเป็นประเด็นเรื่อง ‘การเหยียด’ ไปซะอย่างนั้น จนทำให้ไม่กล้าทำอะไรต่อมิอะไรเพราะเกรงว่าจะถูกตราหน้าว่าเหยียด เช่นเดียวกันกับช่วงฮาโลวีน ที่มีการแต่งกายคอสเพลย์ในช่วงเทศกาล ผู้คนกลับไม่กล้าหยิบตัวละครจากเรื่อง Moana มาแต่ง เพราะกลัวว่าจะถูกมองว่าเหยียด!? อย่างที่รู้กันดีว่าในหนังเรื่อง Moana นั้นเป็นเรื่องราวของชาวพอลิเนเซียน ที่ออกไปผจญภัยในท้องทะเลอันแสนกว้างใหญ่ ในปี 2016 ดิสนีย์ได้ทำการลงขายชุด Maui จากเรื่อง Moana แต่แฟนๆ กลับไม่พอใจและมองว่ามันเหยียดเชื้อชาติซะอย่างนั้น!! ทางด้านดิสนีย์ถึงกับต้องออกมาแถลงว่า “ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์เรื่อง Moana นั้นให้ความเคารพกับวัฒนธรรมของชาวพอลิเนเซียน ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา เรายอมรับว่าชุด Maui นั้นสื่อถึงการเหยียดจริงๆ และต้องขออภัยเป็นอย่างสูง” และแล้วฮาโลวีนก็วนกลับมาอีกครั้ง นั่นทำให้หลายๆ คนเกรงว่าหากจะแต่งเป็นตัวละครในเรื่อง Moana จะถูกกล่าวหาว่าจงใจเหยียดเชื้อชาติ ล่าสุดทางด้าน People Magazine ก็มีโอกาสได้พูดคุยกับ Auli’i…
-
13 ภาพที่จะทำให้เห็นว่า ‘การบิดเบือนความจริง’ มันสามารถทำได้ไม่ยากเลย…
โดยส่วนใหญ่แล้วคนเรามักจะ ‘ตัดสิน’ เรื่องราวจากมุมที่เห็นเพียงมุมเดียว ซึ่งจริงๆ แล้ว ‘ความจริง’ มันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น เช่นเดียวกันกับ ‘ภาพถ่าย’ ที่เราเห็นกันอยู่ในโลกโซเชียล ความจริงแล้วมันอาจจะยังไม่เผยความจริงทั้งหมดออกมาก็ได้ สำหรับบทความนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปพิสูจน์พร้อมๆ กันว่าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มันคือความจริง เหตุการณ์ 1 เหตุการณ์เราสามารถเติมแต่ง สรรค์สร้างเรื่องราวให้คนเข้าใจ ‘ความจริง’ ผิดไปได้อย่างง่ายดาย จะเป็นอย่างไรลองไปชมได้เลยจ้า… 1. ภาพของเจ้าชายวิลเลียมที่โชว์มือขึ้นมาเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า พระองค์กำลังจะมีบุตรตัวน้อยคนที่ 3 2. ภาพของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ กำลังเอาน้ำให้กับทหารจากอิรักดื่ม ในปี 2003 3. สถานีรายงานข่าว 4. ในงานเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ Donald Trump 5. งานสนับสนุน Hillary ในเมือง Omaha 6. ทหารเล่นกับเด็ก 7. ในงานแถลงเปิดตัวแคมเปญของพรรคอนุรักษนิยมโดย…
-
หนุ่มร้านเหล้าก้มหน้าก้มตาเล่น ‘WhatsApp’ แม้จะมีโจรมาปล้นก็ไม่แยแสแต่อย่างใด!?
จริงอยู่ที่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะได้เห็นคนก้มหน้าก้มตาจิ้ม ‘โทรศัพท์’ กันอยู่เต็มไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นเวลาที่มีเหตุการณ์ด่วนเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น ก็คงไม่มีใครมีกะจิตกะใจมาพะวงอยู่กับหน้าจอหรอกใช่ไหมล่ะ แต่ว่าอาจจะยกเว้นกับผู้ชายคนนี้ ที่แม้มีโจรมาปล้นเขาก็ไม่แยแสแต่อย่างใด!! ลองมาดูความนิ่งของเขากัน ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านเหล้าในเมือง Nova Serrana รัฐมีนัสเชไรส์ ประเทศบราซิล ได้เผยวิดีโอที่ทำให้ใครหลายคนที่ได้เห็นจะต้องอึ้งไปกับชายคนนี้ เพราะจะเห็นได้ว่าในตอนนั้น ร้านเหล้าแห่งนี้ถูกปล้นโดยโจรที่เล็งปืนไปมา ทุกๆ คนจึงหมอบลงกับพื้นหรือไม่ก็ชูมือขึ้นเพื่อเอาชีวิตรอด แป๊บนะ พี่กำลังเพลิน แต่ชายที่ชื่อว่า Jose Carlos de Almeida กลับไม่ทำอย่างนั้น เขายังยืนเล่นโทรศัพท์อย่างไม่รู้หนาวรู้ร้อนไม่แคร์โจรแต่อย่างใด แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ในที่สุดแล้วโจรก็ได้เงินจากทางร้านไปและหนีออกทางประตูหลังร้าน ซึ่งเขาก็ยังคงก้มหน้าเล่นอยู่เช่นเดิมจนกระทั่งโจรขี่มอเตอร์ไซค์หนีไปในที่สุด ทางด้านลูกค้าคนอื่นๆ ที่ตอนแรกนอนหมอบอยู่กับพื้น ก็ลุกขึ้นมาถาม Jose หลังจากโจรไปแล้วว่า นี่ไม่รู้อะไรเลยหรอว่ามีโจรมาปล้นร้านเนี่ย ซึ่ง Jose ก็ช็อคไปเลยเพราะเขาไม่รู้จริงๆ เพราะเล่น WhatsApp อยู่ “ตรงๆ เลยนะผมไม่เห็นอะไรเลย ดนตรีตอนนั้นมันดังมากผมเลยไม่รู้ว่าบาร์โดนปล้น แต่มันก็เป็นเรื่องดีนะเพราะถ้าผมรู้ผมก็ไม่รู้จะทำตัวยังไงดี “และอีกหนึ่งเรื่องที่ดีก็คือโจรไม่ได้ขโมยโทรศัพท์ของผมไปเพราะมันมีราคาตั้ง 147 ปอนด์ (ประมาณ 6,200…
-
ถึงกับผงะ!! หนุ่มเปิดตู้แช่น้ำในซูเปอร์มาร์เก็ต เอื้อมคว้าขวดน้ำเจอ ‘ถุงยางใช้แล้ว’ ติดมาด้วย
ในวันที่อากาศร้อนๆ ‘ตู้แช่น้ำ’ มันคงเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่ตามหามาเนิ่นนาน เพราะข้างในนั้นมันมีน้ำเย็นๆ หวานๆ รอให้เราหยิบขึ้นมาเปิดดื่มดับกระหายกันอย่างมากมายก่ายกอง แต่ว่าบางครั้งมันก็อาจจะไม่ฟินเหมือนอย่างที่เราคิดเอาไว้ เพราะไม่แน่เหมือนกันว่าเราอาจจะเจอของแถมเหมือนกับสองหนุ่มสุดซวยคนนี้ที่ไปเจอกับอะไรที่ไม่น่าเจอเข้า… ไอเท็มที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเจอ เหตุการณ์โคตะระอภิมหาความซวยนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มสองคนที่เป็นเพื่อนกัน อันมีนามว่า Kenny Moore และ Michael Bradshaw ในวันดังกล่าวพวกเขาเล่าว่าได้ไปหาซื้ออาหารเที่ยงกินกันในซูเปอร์มาร์เก็ต Holton-le-Clay ย่านลิงคอล์นเชอร์ ประเทศอังกฤษ หน้าตาของสองหนุ่มสุดซวยนี้ แน่นอนว่าเมื่อมีอาหารแล้วสิ่งที่ย่อมขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องดื่มเย็นๆ หนึ่งในสองคนจึงอาสาไปหยิบน้ำเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อ Lucozade ในตู้แช่มาให้… แต่แล้วเขาก็ถึงกับชะงักเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างติดกับขวดมาด้วย และทันทีที่หันไปมองก็แทบจะเป็นลมเพราะเจ้าสิ่งที่ว่านี้มันคือ ‘ถุงยางอนามัยใช้แล้ว’!! “ผมไปร้านแล้วซื้ออาหารแช่แข็งมาเยอะแยะทั้งแซนด์วิช, พายหมู และเครื่องดื่มแต่ว่าทันทีที่ผมไปหยิบขวด Lucozade ผมก็พบว่ามันมีอะไรบางอย่างติดมือมาด้วย มันคือถุงยางยังไงล่ะ” Kenny กล่าว ทิ้งซะเลย สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มีคำถามเกิดขึ้นอย่างมากมายอย่างเช่น มันมาได้อย่างไรหรือทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ แต่ว่าก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด ในท้ายที่สุดแล้วพนักงานของร้านก็นำเจ้าถุงยางเจ้าปัญหานี้ไปทิ้งขยะที่หน้าร้าน พร้อมกับบอกว่าจะสืบสวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนร่วมด้วย แต่สำหรับสองหนุ่มนี้ พวกเขาบอกว่าคงจะไม่เข้าร้านนี้อีกต่อไปแล้ว… ทางด้านโฆษกของร้านก็ออกมาแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “นี่เป็นเรื่องที่เราไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด เราจะสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่เพื่อหาคำตอบให้ได้ในที่สุด” ไม่กล้าเปิดตู้เย็นเลยทีนี้ ที่มา: ladbible, mirror
-
รักต้องซ่อม… หนุ่มสาวจู๋จี๋แสนสวีทในลิฟท์ ดันไปกระแทกประตูพัง ลิฟท์ค้างหมดอารมณ์!?
จริงอยู่ที่ว่าการจู๋จี๋กันของคนสองคนมันไม่น่าจะทำให้ใครเดือดร้อนแต่ประการใด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่แน่เสมอไปเพราะเมื่อเร็วๆ นี้มีคู่รักคู่หนึ่งที่แสดงความรักต่อกันจนทำให้ประตูลิฟท์พัง!? มานี่ซิที่รัก เรื่องรักต้องซ่อมนี้เกิดขึ้นที่ลิฟท์ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองยาโรสลาฟล์ ประเทศรัสเซีย เมื่อคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในลิฟท์ได้เผยให้เห็นถึงวินาทีอันหวานมันของคู่รักดังกล่าว ในคลิปจะเห็นว่าพวกเขาเริ่มต้นกันด้วยการหัวเราะ ก่อนที่จะสวมกอดและจูบกระเส้าเย้าแหย่กันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดจะเกิดขึ้น หมับเข้าให้ เพราะในวินาทีที่ฝ่ายชายดันตัวฝ่ายสาวเข้าไปพิงประตูลิฟท์ ก็ไม่รู้ด้วยดันแรงเกินไปหรือประตูลิฟท์มันเปราะบางกันแน่ เลยทำให้จู่ๆ เกิดเสียงดังลั่น พวกเขาจึงออกมาจากประตูลิฟท์ทันทีและแน่นอนในตอนนั้นลิฟท์ค้าง!! ปัง!! เห้ยเสียงไรฟะ “เรายังไม่ทันทำอะไรกันเลย แต่ตอนนี้ลิฟท์พังและเราถูกแขวนอยู่บนห้วงอากาศแล้วล่ะ” ฝ่ายชายพูดกับฝ่ายหญิง แต่อย่างไรแล้วในท้ายที่สุด เจ้าหน้าที่ก็เข้าช่วยเหลือทั้งคู่ให้รอดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้อย่างปลอดภัย และไม่เอาผิดใดๆ กับทั้งคู่ด้วย เพราะถือว่านี่เป็นความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หมดอารมณ์เลยตู “แต่ถึงยังไงก็จะพิงประตูลิฟท์ไม่ได้อยู่ดีนะ” ผู้เข้าพักคนอื่นๆ ในอพาร์ตเมนต์กล่าว แถมยังบอกด้วยว่าน่าจะปล่อยคลิปนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ ได้เป็นกรณีศึกษาด้วย คลิปของเหตุการณ์นี้ ที่มา: 76, khaosod
-
หญิงลงแข่งวิ่งมาราธอน แม้กายไม่ไหวแต่ใจยังสู้ คลานจนเข่าถลอก เพื่อส่งไม้ต่อ!
ใจนักสู้อาจจะอยู่ในสายเลือดของชาวญี่ปุ่น จากรุ่นสู่รุ่นเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องอะไรก็ตาม แม้จะต้องเจออุปสรรคขัดขวางระหว่างทาง ก็ยังคงพยายามฝืนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายให้ได้ เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในวันที่ 21 ตุลาคม ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอน ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มบริษัท Iwatani Industrial ในกรุงโตเกียว Ida Rei และหนึ่งในผู้แข่งขันที่กลายเป็นจุดสุดใจมากที่สุดก็คือ Ida Rei หญิงสาววัย 19 ปี ผู้มีความมุ่งมั่นไม่อยากให้ทีมต้องผิดหวังในตัวเธอ . ระหว่างที่เธอกำลังวิ่งเพื่อไปให้ถึงจุดส่งไม้ต่อ ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 250 เมตร แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุชนกับนักวิ่งรายอื่นเข้าอย่างจัง จนได้รับบาดเจ็บทำให้วิ่งต่อไม่ไหว ผลจากการล้มระหว่างการวิ่ง ส่งผลทำให้เกิดความเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย แต่ด้วยความรู้สึกที่ว่ามีเพื่อนกำลังรออยู่ข้างหน้า… เธอจึงยังไม่อยากยอมแพ้ แม้จะเดินไม่ได้ แต่ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นเพื่อแข่งต่อให้จบ Ida จึงเริ่มที่จะคลานต่อไปด้วยมือและเข่า เพื่อที่จะส่งไม้ต่อให้กับเพื่อนร่วมทีม เธอพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะคลานต่อท่ามกลางอากาศร้อน และพื้นผิวถนนที่ระอุ ส่งผลทำให้มือและเข่าของเธอถลอกจนเลือดออก …
-
ลูกค้าฉงนกับราคาปีกไก่ทอด ‘ต้องซื้อกี่ปีก ถึงจะคุ้ม’ ยิ่งเพิ่มจำนวน ดันแพงบ้างถูกบ้าง!?
โดยปกติแล้ว ตามกลไกการค้าขาย ยิ่งซื้อในจำนวนที่มากขึ้น ราคาต่อชิ้นก็จะถูกลง และจะทำให้ผู้ซื้อมีความรู้สึกได้ว่ามีความคุ้มค่ามากกว่า ซื้อจำนวนเพียงไม่กี่ชิ้น ร้านค้าก็ขายของได้เยอะด้วย… แต่สำหรับกรณีของร้านอาหารจีน Danny’s Wok ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา กลับทำให้ลูกค้ารู้สึก ‘งง’ กับการตั้งโครงสร้างราคาในเมนูปีกไก่ทอด https://twitter.com/seanposting/status/1054136447362629637 ภาพที่เห็นจากในทวีตของ @seanposting เป็นป้ายแจกแจงราคาเมนูปีกไก่ทอด แบ่งออกเป็น 2 แถว เริ่มต้นด้วยปีกไก่ทอด 4 ชิ้น ราคา 4.55 ดอลลาร์ ไปจนถึง 200 ปีก ในราคา 222.50 ดอลลาร์ Sean Woodall วัย 24 ปี ชาวนครฟิลาเดลเฟีย พบกับราคาอันสุดแสนจะชวนฉงนนี้ เพราะราคากับจำนวนปีกไก่ไม่ได้เป็นไปตามความสมเหตุสมผล บวกราคามากน้อยในระดับที่ต่างกัน เริ่มต้น 4.55 ดอลลาร์ ขยับไปที่ 5.70 ดอลลาร์ (+ 1.15)…
-
ผู้พิพากษาสายลุย ไม่คุยเยอะ มีผู้ต้องหาหนีกลางห้องพิจารณาคดี ถอดครุยวิ่งจับเอง!
ลองนึกตามถึงสภาพผู้ต้องหาถูกใส่กุญแจมือ กำลงอยู่ในช่วงพิจารณาโทษบนชั้นศาล แต่ดันก่อเหตุอุกอาจพยายามหลบหนีในสภาพแบบนั้น คนที่อยู่ภายในห้องพิจารณาคดีก็ต้องตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ ในกรณีนี้ อาชญากร 2 ราย จากเมือง Winlock รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังยืนรอฟังคำตัดสิน ตามกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล แต่แทนที่จะยอมรับไปตามสภาพกระบวนการทางกฎหมาย นาย Tanner Jacobson วัย 22 ปี และ Kodey Howard วัย 28 ปี กลับคิดการณ์ใหญ่ วิ่งแจ้นหนีออกจากห้องพิจารณาคดี โหยหาอิสรภาพ โดยที่คนในห้องไม่ทันได้ตั้งตัว… จะหนีไปไหน! ภาพฟุตเทจกล้องวงจรปิดชิ้นนี้ ถูกเผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์หลายแห่งในอเมริกา เผยให้เห็นว่าอาชญากร 2 รายนี้ ทำทีกำลังจะเข้าไปรับทราบคำตัดสิน แต่พอผู้คุมเผลอละสายตา ทั้งคู่จึง ‘วิ่งแบบพี่ตูน วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง เวลาตำรวจมา กรู วิ่งแบบพี่ตูน’…
-
หญิงสาวมั่นใจ ‘หัวขโมยเบียร์’ ที่หน้าเหมือนดารา คือลูกชายที่หายตัวไปเมื่อ 11 ปีก่อน!!
หลังจากที่กลายเป็นกระแสไวรัลที่โด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล กับกรณีของดาราที่ดันไปมีหน้าตาเหมือนกับหัวขโมยเข้า ก็เลยรีบออกมาแก้ต่างด้วยวิธีการสุดฮา!! อ่านข่าวเก่าได้ที่ : เมื่อดาราดันหน้าตาเหมือนขโมย ถึงกับต้องมาโพสต์แก้ต่างสุดฮา โดนใจชาวเน็ตเต็มๆ!! ล่าสุดมีผู้หญิงรายหนึ่งออกมาให้ข้อมูลว่า ‘หัวขโมย’ ในภาพนั้นเหมือนกับ ‘ลูกชาย’ ของเธอที่หายตัวไปเมื่อ 11 ปีก่อนไม่มีผิด!! เหตุลักขโมยเกิดขึ้นในร้านสะดวกซื้อในเมือง Blackpool ประเทศอังกฤษ โดยที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพชายผู้ต้องสงสัยกำลังถือถาดเบียร์เอาไว้ได้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำภาพของผู้ต้องสงสัยไปโพสต์ลงโซเชียล เพื่อให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา และแจ้งเบาะแสถึงตัวคนร้าย แต่กลับกลายเป็นว่าชายคนดังกล่าวดั๊นนนมีหน้าตาเหมือนกับตัวละคร Ross จาดเรื่อง Friends ที่รับบทโดย David Schwimmer ดาราชื่อดังของ Hollywood ซะเหลือเกิน จนเกิดเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล ล่าสุด Susan Trowbridge หญิงสาว วัย 58 ปี จากเมือง Swindon ติดต่อมาหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งว่าผู้ต้องสงสัยในภาพนั้นหน้าตาเหมือนกับ Paul ลูกชายของเธอที่หายตัวไปเมื่อราวๆ 11 ปีก่อนแบบเด๊ะๆ Paul เป็นเด็กชายที่ Susan รับมาเลี้ยงและหายตัวไปในวันที่…
-
รัฐมนตรีมาเลฯ ประกาศปี 2019 จะเริ่มใช้หนังสือเรียนดิจิทัล เพื่อลดปัญหานร. แบกกระเป๋าหนัก!!
ในสมัยเด็กๆ ใครหลายคนคงจะจำบรรยากาศที่ต้องแบกหนังสือหนักๆ วันละหลายๆ เล่มไปโรงเรียนกันได้เป็นอย่างดี ว่ามันช่างเป็นอะไรที่ทำให้ปวดเมื่อยซะขนาดไหน (แบกกันซะจนหลังแอ่น) แต่ว่าเมื่อโลกเปลี่ยนไป ‘เทคโนโลยี’ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายได้มากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาสำหรับเด็กๆ ที่ต้องแบกหนังสือหลายเล่มไปโรงเรียนทุกๆ วัน ในตอนนี้ประเทศมาเลเซียได้นำร่องแก้ไขปัญหา ด้วยการประกาศว่าในปี 2019 จะมีหนังสือเรียนดิจิทัลให้เด็กๆ ระดับชั้นมัธยมได้ใช้กันแล้ว!! Teo Nie Ching รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการของประเทศมาเลเซีย โดยในเรื่องนี้ Teo Nie Ching รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการของประเทศมาเลเซีย ได้เป็นผู้กล่าวคำประกาศดังกล่าว โดยเธอบอกว่าในปี 2019 โรงเรียนมัธยมในประเทศมาเลเซียจะเริ่มมีการปรับมาใช้ระบบ e – textbooks ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือเด็กๆ ให้ไม่ต้องมีน้ำหนักกระเป๋าที่มากเกินไป จากการแบกหนังสือมาโรงเรียนจำนวนมากในแต่ละวันนั่นเอง Teo ได้กล่าวว่าถึงแม้จะมีหนังสืออิเล็กทรอนิกส์นี้ออกมา แต่ว่านักเรียนก็ยังสามารถเลือกได้ว่าจะใช้หนังสือเรียนแบบเดิมหรือว่าจะใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ออกมาใหม่นี้แทน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับโครงการนี้ก็คือ ยังเป็นที่ถกเถียงกันถึงเรื่องรายละเอียดต่างๆ อย่างเช่นเรื่องแท็บเล็ตที่จะใช้เป็นหนังสือเรียน ว่าจะให้เป็นของโรงเรียนจัดหาไว้ให้หรือว่าต้องให้นักเรียนซื้อด้วยตัวเอง เป็นต้น แต่สำหรับแผนการทางด้านอื่นๆ ทางรัฐมนตรีคนนี้ก็กล่าวไว้ว่า มีแผนการที่จะพัฒนาหนังสือเรียนดิจิทัลให้มีความน่าสนใจมากกว่าเดิม เพราะในตอนนี้มีเพียงการใช้ขั้นพื้นฐานอย่างการอ่านไฟล์ PDF อย่างเดียวเพียงเท่านั้น ซึ่งมันจะเป็นการน่าเบื่อเกินไป…
-
คลิปรวม ชาวจีนสาย (ไม่) เนียน “แกล้งถูกรถชน” มิติใหม่แห่งการหาเงินในยุคปัจจุบัน…
เศรษฐกิจของทุกวันนี้ใครก็รู้ดีว่ามันไม่คล่องตัวสักเท่าไหร่ เงินทุกบาททุกสตางค์กว่าจะหามาได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเลยจริงๆ ฉะนั้น โดยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของแล้ว คนเราจึงมัก ทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทอง โดยไม่ได้คำนึงถึงอะไรทั้งนั้น ตัวอย่างเช่นคลิปวิดีโอดังต่อไปนี้ ผู้คนจากประเทศจีนจำนวนหนึ่งเลือกใช้วิธีการแกล้งประสบอุบัติเหตุรถชน เพื่อให้ตนได้รับค่าเสียหายหรือค่ารักษาพยาบาลจากคนขับรถนั่นเอง ฟังดูเหมือนเป็นวิธีที่น่าจะใช้ได้ผล ยอมเจ็บตัวนิดๆ หน่อยๆ แล้วจะเรียกเงินเท่าไหร่ก็ได้ แต่เอาเข้าจริงแล้ววิธีหาเงินแบบนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่หวังเอาไว้นัก วิธีการนี้พึ่งพาความสามารถทาง การแสดง สูงชนิดที่ว่าถ้าเป็นดาราก็คงดังไปแล้ว แถมต้องประกอบกับจังหวะการชนของรถที่ต้องแนบเนียนแต่ต้องไม่ถึงกับเจ็บสาหัสจริงๆ อีกด้วย เพราะถ้าแสดงไม่ดี หรือจังหวะไม่เนียนแล้วล่ะก็ รับรองเลยว่าภาพมันต้องออกมาเหมือนในคลิปด้านล่างนี้แน่นอน (ดูแย่ แถมไม่ได้เงินอีกด้วย ฮ่าๆ) คลิป สุดยอดนักแสดงเจ้าบทบาทแห่งจีน วิธีการนี้นอกจากบางครั้งจะไม่ได้เงินแล้ว ยังดูไม่ดี แถมอาจเจ็บตัวได้อีกด้วย ฉะนั้น วิธีนี้ไม่ควรนำไปใช้อย่างยิ่ง หันมาหาเงินอย่างสุจริตดีกว่าเนอะ! ที่มา: Gags Tube
-
เผยชีวิตแม่เฒ่าทระนงแห่งเกาหลี เก็บกระดาษลังขาย 14 ชม. ต่อวันได้ 65 บาท.!?
‘ผู้สูงอายุ’ วัยที่เริ่มร่วงโรยตามกฎของธรรมชาติที่ว่าด้วย ‘เกิด แก่ เจ็บ ตาย’ ในอดีตพวกเขาอาจเคยเป็นคนแข็งแรงมีกำลังวังชา สามารถทำงานได้เป็นวันๆ แต่ว่าด้วยอายุที่มากขึ้นทุกวันมันอาจจะไม่ใช่เช่นนั้นเสียแล้ว จึงทำให้ผู้สูงอายุจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แต่เราก็จะเห็นว่าในหลายๆ ประเทศ ระบบและสวัสดิการที่จัดขึ้นเพื่อรองรับผู้สูงอายุกลับยังไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ เราจึงเห็นข่าวว่ามีผู้สูงอายุต้องปากกัดตีนถีบเอาชีวิตรอดอยู่เสมอๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลี เมื่อทางช่อง Asia Boss ได้เผยแพร่เรื่องราวของ Yoo หญิงชราที่ต้องสู้ชีวิตเก็บของเก่ากว่าวันละ 14 ชั่วโมงไปขาย เพื่อหาเงินประทังชีวิตให้รอดไปในแต่ละวัน… คลิปการใช้ชีวิตของคุณยาย Yoo คุณยาย Yoo อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ของเธอตลอดระยะเวลา 5 ปีให้หลังมานี้โดยที่เธอไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือเหลียวแลจากลูกๆ ทั้ง 5 คนแม้แต่น้อย เธอเล่าให้ฟังว่าลูกๆ ของเธอก็มีฐานะที่ไม่ค่อยดีนักเช่นเดียวกันและยังต้องดิ้นรนในทุกๆ วัน และเธอก็เชื่อด้วยว่าพวกเขาอาจไม่ได้อยากจะดูแลคนแก่ๆ อย่างเธอมากนัก “บางทีพวกเขาอาจจะไม่อยากดูแลฉันหรอก มันเหมือนเป็นภาระสำหรับพวกเขาน่ะ” คุณยาย Yoo กล่าว แต่ถึงอย่างนั้นคุณยายคนนี้ก็กล่าวว่า เธอไม่ได้ผิดหวังในตัวของลูกๆ…
-
หนูน้อยวัย 3 ขวบทำ “เครื่องช่วยฟังราคาหลักล้าน” หล่นหาย ทั้งเมืองช่วยกันตามหาจนเจอ!!
หลายๆ คนอาจเคยทำสิ่งของตกหาย หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนอาจถึงขั้นต้องขอความช่วยเหลือจากทุกๆ คนเหมือนอย่างหนูน้อยคนนี้ เรื่องราวการช่วยเหลืออันน่าประทับใจของเหล่าพลเมืองดีที่มีให้กับเด็กชายวัย 3 ขวบที่ว่านั้นเกิดขึ้นในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เมื่อเจ้าหนูดันทำ “เครื่องช่วยฟัง” ตกหายไปไหนก็ไม่รู้ หนูน้อยวัย 3 ขวบ กับเครื่องช่วยฟังของเขา Cheng คุณแม่ของเจ้าหนูบอกว่าลูกของเธอมีอาการ “หูหนวกมาตั้งแต่กำเนิด” ทำให้ต้องใส่เครื่องช่วยฟังอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่จะทำมันตกหายไประหว่างที่กำลังออกมาชอปปิงกับครอบครัว เธอยังบอกอีกว่าราคาของเครื่องช่วยฟังนั้นสูงถึง 280,000 หยวน (ราวๆ 1.3 ล้านบาท) ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่ครอบครัวของเธอไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อเครื่องใหม่ได้เลย ด้วยเหตุนั้นเอง Cheng จึงได้ขอความช่วยเหลือจากทุกๆ คนผ่านการติดประกาศลงในสำนักข่าวท้องถิ่น Dahe Daily ที่ช่วยกระจายข่าวการตามหาเครื่องช่วยฟังในครั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นได้รับความสนใจจากโลกโซเชียลในประเทศจีนอย่างรวดเร็ว คนจำนวนมากติดต่อกลับมาหา Cheng เพื่อที่จะยื่นมือช่วยเหลือในการตามหา รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็เช่นกัน คนในโลกโซเชียลยื่นมือเข้าช่วย เรียกว่าแห่กันตามหาให้ทั่วเมืองเลยทีเดียว แล้วเครื่องช่วยฟังที่หล่นหายไปในวันที่ 21 ตุลาคม 2018 ก็ถูกพบโดยหญิงสาวคนหนึ่งหลังจากผ่านไป 2…
-
คนขับแท็กซี่จีน ถูกพักงาน 3 วันหลังตำรวจพบว่า “มาสก์หน้า” ขณะขับรถกลางคืน!?
ในเมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้เกิดเรื่องราวอันน่าสงสารกับคนขับแท็กซี่ชายคนหนึ่ง เพราะเขาต้องถูกพักงานถึง 3 วัน หลังมีภาพหลุดว่าเขาแอบ มาสก์หน้า ขณะขับรถ!! คนขับแท็กซี่แซ่ เฉิน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามหลังภาพการมาสก์หน้าขณะขับรถของเขากลายเป็นที่สนใจอย่างมากบนโลกออนไลน์ เขาได้รับบทเรียนและคำสั่งสอนอย่างจริงจังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับพฤติกรรมการสวมแผ่นมาสก์หน้าขณะขับรถแท็กซี่ในยามค่ำคืน คลิปข่าวจากจีน อย่างไรก็ตามบริษัทแท็กซี่ที่เฉินทำงานอยู่ก็มิได้มีข้อบังคับใดที่สามารถเอาผิดหรือลงโทษคนขับแท็กซี่วัย 25 ปีคนนี้ได้ ที่ทำได้ก็มีเพียงสั่งให้เฉินพักงาน 3 วันเท่านั้น ทางฝ่ายของเฉินคนขับแท็กซี่หนุ่มก็เผยว่า ตนก็ตกใจเช่นกันที่พบว่าภาพดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจบนโลกอินเทอร์เน็ตขนาดนี้ เขาเริ่มมาสก์หน้าเป็นกิจวัตรก็เพราะว่าการทำงานกะกลางคืนนั้นส่งผลต่อผิวของเขามาก เฉิน คนขับแท็กซี่วัย 25 ปี คนเรามันก็ต้องห่วงสุขภาพผิวกันบ้างสิเนอะ ทำไมไม่เข้าใจกันบ้างเลย! ที่มา: nextshark, Shanghaiist และ 中天新聞CH52
-
หนุ่มจีนโมโห เที่ยวบินถูกยกเลิก “ตบหน้า” กราวด์ชายด้วยโทรศัพท์มือถือ!
ในสนามบิน Qingdao ของประเทศจีน ผู้โดยสารชายคนหนึ่ง ได้ระเบิดอารมณ์ ตบหน้า พนักงานต้อนรับภาคพื้นดินด้วยโทรศัพท์มือถือ หลังทราบว่าเที่ยวบินของเขาถูกยกเลิก จากรายงานทราบว่า ชายชาวจีนสกุล Wu ได้เกิดอารมณ์โมโห หลังทราบว่าเที่ยวบินของตนถูกยกเลิกไปเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้า เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย คลิปเหตุการณ์ ตามรายงานของสื่อในท้องถิ่น ทางสายการบินได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและค่าเสียหายให้กับ Wu แล้วในวันก่อนเกิดเหตุ แต่ถึงกระนั้น Wu ก็ยังคงระเบิดอารมณ์ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเอง “ตบหน้า” พนักงานต้อนรับภาคพื้นดินเพศชายคนหนึ่ง ขณะที่เขาเข้ามาติดต่อที่เคาน์เตอร์ แม้จะถูก Wu ตบหน้าด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่พนักงานชายคนดังกล่าวก็ไม่มีการตอบโต้ จากเหตุการณ์นี้ Wu ก็ถูกคุมตัวไปสอบสวน จนสุดท้ายก็ถูกกักตัวไว้เป็นเวลา 10 วัน และถูกบันทึกลงบัญชีดำสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศจีน ที่มา: nextshark, local media, Netizen Watch และ Shanghaiist
-
แปลงร่าง!! หนุ่มเมาเดินเยื้องย่างไปตามสายไฟบนเสาไฟฟ้าแรงสูง พบดื่มไวน์ไปเยอะเกิน!!
เราอาจจะเคยเห็นตัวเองหรือว่าเพื่อนๆ ในสภาพที่ ‘แปลงร่าง’ หลังจากอัดเหล้าอัดเบียร์กันไปอย่างหนัก ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าคนเมามักจะทำอะไรที่อยู่เหนือการคาดคิดและอยู่เสมอ อย่างเช่นเป็นการไปนั่งกับโต๊ะนู้นโต๊ะนี้โดยที่ไม่รู้จักเขา หรือเต้นไปเรื่อยยังกะชาตินี้จะไม่ได้เต้นอีกแล้ว แต่ถึงอย่างไรวีรกรรมในตอนเมาของคุณอาจจะดูธรรมดาไปเลยก็ได้ หากเทียบกับเรื่องที่ #เหมียวจิวยี่ เอามาฝากเพื่อนๆ เรื่องนี้ ดูกันชัดๆ ว่าเขาทำอะไรกันนะ เรื่องราวสุดป่วนอันเนื่องมาจากแอลกอฮอล์เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน เมื่อมีคนพบเห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งไปเดินไต่สายไฟอยู่บนเสาไฟฟ้าแรงสูง!! เขาผู้นี้เดินไต่ไปมาราวกับว่ากำลังเล่นละครอยู่ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ กับการที่จะพลัดตกลงมาหรือถูกไฟดูดเข้าให้ คลิปวิดีโอเต็มๆ ของชายสุดเมาคนนี้ ทว่าในที่สุดแล้วก็มีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งพนักงานดับเพลิงก็สามารถช่วยเขาลงมาจากเสาไฟได้ในที่สุดและไม่ได้รับอันตรายใดๆ และแน่นอนพวกเขานำตัวชายคนนี้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังผลจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ชี้ชัดว่า ที่ชายคนนี้ทำมีพฤติกรรมสุดบ้าบิ่นเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่าเขาดื่มไวน์มากเกินไปจนเมาควบคุมสติไม่อยู่นั่นเอง แต่ก็ไม่มีรายงานว่าเขาถูกทำโทษหรือไม่อย่างไร นี่อาจเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ว่าเราไม่ควรจะดื่มเยอะเกินไปจนขาดสติ เพราะไม่รู้ว่าในตอนที่เราเมาเราจะทำอะไรลงไปบ้าง ซึ่งบางทีมันอาจเป็นเรื่องที่ทำให้เสียใจไปตลอดทั้งชีวิตเลย… ที่มา: shanghaiist
-
ชายผู้รักในการ “ปีนตึก” กับผลงานล่าสุด ปีนตึกสูง 230 เมตร “ด้วยมือเปล่า” ไม่มีเซฟตี้ใดๆ!!
Alain Robert คือชื่อของชายชาวฝรั่งเศสวัย 56 ปี ผู้ชื่นชอบในการ “ปีนตึกสูง” เป็นอย่างมาก เขานั้นเริ่มงานอดิเรกสุดท้าทายนี้มาตั้งแต่ตอนที่ยังอายุเพียงแค่ 11 ปี ผ่านการปีนตึกสูงมาแล้วกว่า 150 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นตึก Patronas Towers (มาเลเซีย), New York Times (สหรัฐอเมริกา) หรือแม้แต่ Burj Khalifa (สาธารณรัฐอาหรับอาหรับเอมิเรตส์) ซึ่งสูงกว่า 828 เมตร เขาก็ไม่เว้น Alain ผู้ชื่นชอบการปีนตึกสูง ล่าสุดในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2018 นี้เขาก็ได้ฝากผลงานให้ลุ้นระทึกกันไปกับการปีนตึก Salesforce Tower สูง 230 เมตร ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยที่ไม่มีการติดอุปกรณ์เซฟตี้ใดๆ ใช้แต่มือเปล่า!! เกินกว่าคำว่าหวาดเสียว เพราะผู้ชมทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างรู้กันดีว่าถ้าเขาพลาดตกลงมาก็คงไม่ต้องถามแล้วว่าสภาพจะเป็นอย่างไร ผู้ชมทุกคนต่างลุ้นไปตามๆ กันว่าเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ และด้วยประสบการณ์ของชายคนนี้ การพิชิตตึกที่สูงที่สุดในกรุงลอนดอนก็สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี …
-
โค้ชสอนการต่อสู้ MMA ซัดกุ๊ยพกมีดหวังปล้นทรัพย์ แบบ 8 ต่อ 1 รอดมาได้หวุดหวิด
* คำเตือน ภาพประกอบข่าวมีสภาพบาดแผลสด กรุณาทำใจก่อนอ่าน * ในสภาพสังคมปัจจุบัน เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าภัยจะมาถึงตัวเมื่อไหร่ หากถูกรุมล้อมจากผู้ไม่หวังดีจะชิงทรัพย์ การป้องกันตัวเองที่ปลอดภัยที่สุด ก็คงจะต้องยอมให้ของที่โจรต้องการไป… แต่หากใครพอจะมีทักษะด้านการต่อสู้ นำมาใช้ป้องกันตัวเองได้อยู่บ้าน การซัดแบบ 1 ต่อ 1 คงจะพอไหว แต่สำหรับกรณีที่จะพูดถึงต่อไปนี้คือ 8 ต่อ 1 และมีอาวุธมีดด้วย! Louis Nicholson ผู้เชี่ยวชาญและโค้ชฝึกสอน ศิลปะการต่อสู่แบบผสมผสาน (MMA) ต้องเจอกับกลุ่มโจรกุ๊ยข้างถนน ดักปล้นในช่วงบ่ายแก่ๆ ประมาณ 16.00 น. ซึ่งมีทั้งหมด 8 คนด้วยกัน กลุ่มโจรดังกล่าวต้องการทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรศัพท์มือถือของเขา แต่แล้วเมื่อไม่ยอมให้โดยดี กลุ่มโจรก็ทำการแทงเข้าที่ช่วงรักแร้ และฟันเข้าที่แขนเป็นแผลบาดลึก Louis กล่าวว่า “ผมกำลังเดินผ่านย่าน Seabrook Rise โดยไม่ได้สนใจอะไร แต่แล้วก็มีกลุ่มคน 8 คน เข้ามาล้อม…
-
หนุ่มอินเดียวัย 20 ปีถูกจับ หลัง “ข่มขืน” คุณยายอายุ 100 ปี แล้วแอบหนีไปซ่อนอยู่ใต้เตียง?!
นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคม 2018 กับคดีของหนุ่มวัยรุ่นผู้กระทำการข่มขืนหญิงวัยชราอายุ 100 ปี?! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในหมู่บ้าน Chakulia รัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย โดยฝีมือของนาย Argha Biswas ชายวัย 20 ปีผู้ก่อเหตุ Argha ชายผู้ก่อเหตุ เรื่องมีอยู่ว่าในวันนั้น คุณยายวัย 100 ปีพักอาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ซึ่งผู้คนในหมู่บ้านนี้มักจะไม่ล็อกประตูบ้านเอาไว้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ Argha แอบเข้าไปในบ้านได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่เขาจะลงมือข่มขืนคุณยายที่กำลังนอนอยู่บนเตียง จนกระทั่งหลานสาวของคุณยายได้ยินเสียงเรียกร้องขอความช่วยเหลือ หลานสาวมองผ่านกระจกเข้าไปและเห็นคุณยายของเธอกำลังโดนหนุ่มวัยรุ่นข่มขืน เธอจึงวิ่งเข้าไปพร้อมกับญาติๆ จนได้พบกับนาย Argha ที่แอบหลบไปซ่อนอยู่ใต้เตียง คนในครอบครัวดึงเขาออกมาจากจุดที่ซ่อนตัวอยู่ จากนั้นถึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับกุมตัวชายคนนี้ไปดำเนินคดีในทันที Argha ให้การว่าสาเหตุที่ทำอย่างนั้นเพราะ “ความเมา” ล้วนๆ เขาจำอะไรแทบไม่ได้เลย ขาดสติไปในตอนนั้น ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ทำการคุมขังชายคนนี้เอาไว้ก่อน 14 วัน เพื่อทำการตรวจสอบและให้เขารอฟังการตัดสินโทษจากศาลในครั้งต่อไป ทางด้านคุณยายอายุ 100 ปีนั้น…
-
หนุ่มเกลียดแมงมุมขยุ้มหลังคา คว้าเครื่องพ่นไฟหวังจะฆ่ามัน จนบ้านไฟไหม้เละเทะกระจุย…
เป็นเรื่องเป็นราวที่มักจะเกิดขึ้นได้ทุกปี เมื่อใครก็ตามที่มีอาการเกลียดแมงมุมอย่างรุนแรง พบเจอเจ้า 8 ขาปล้อง จะต้องรีบหาทางกำจัดออกไปให้เร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ และไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม!! อย่างชายหนุ่มรายนี้ มาอยู่พักอาศัยบ้านพ่อแม่ ในเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหัรฐอเมริกา ช่วงวันอังคารที่ผ่านมาตามวันเวลาท้องถิ่น… จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นว่า มีสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้รับเชิญอยู่ภายในบ้าน เป็นแมงมุมแม่ม่ายดำจำนวนหนึ่ง ในบริเวณชั้นสองของบ้าน เขาก็เลยตัดสินใจคว้า ‘เครื่องพ่นไฟ’ (Blowtorch) เอาไปพ่นใส่แมงมุมหวังจะฆ่าให้ตายอย่างราบคาบ แต่ปรากฏว่า ไฟที่ถูกพ่นออกมากลับลุกลามใหญ่โต จนทำให้บ้านชั้นสองและห้องใต้หลังคาลุกโชนไปด้วยเพลิงฆ่าแมงมุม สุดท้าย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 29 นายที่ต้องมาจัดการดับไฟเป็นการด่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเชื่อว่า ‘เครื่องพ่นไฟ’ น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้นั่นเอง จากรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ชายคนดังกล่าวสามารถหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย และไม่มีใครคนอื่นอยู่ในบ้านนอกจากเขา ทั้งนี้ไม่ได้มีการระบุว่าจำนวนแมงมุมที่เสียชีวิตจากเพลิงไหม้มีทั้งหมดกี่ตัว แต่ก็ไม่น่าเหลือรอดมากนัก ที่มา: 6abc, ladbible, metro
-
โฆษณายาคูลท์ญี่ปุ่น โชว์วิธีแอบเอาขนมเข้าห้องเรียนแบบล้ำๆ เรียนยุ่งจนไม่มีเวลากิน!?
วิธีการโฆษณาที่จะทำให้คนหันมาให้ความสนใจได้ มันจะต้องสร้างเรื่องราวที่น่าติดตามขึ้นมาเสียก่อน อย่างในโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มยาคูลท์ตัวใหม่ล่าสุด ที่บอกเลยว่าเจ๋งสุดๆ โฆษณาตัวนี้ชื่อว่า HAYA-BEN HACKERS ในความหมายของการแอบกินข้าว (ขนม) ก่อนเวลาพัก และจะต้องแอบทำให้แนบเนียนที่สุด ไม่ให้ครูจับได้ระหว่างเรียนในคาบ ซึ่งแต่ละวิธีก็ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ล้ำๆ แบบเวอร์วังมากๆ ฮร่า! เปิดมาด้วยฉากหนุ่มแว่นทำเนียนว่าเรียนอยู่ พอครูเผลอ อ้าปากเขมือบของกินจากส้อมที่ซ่อนในแขน… แล้วก็นั่งเนียนต่อ พร้อมกับความอิ่มท้อง ส้อมซ่อนในแขนเสื้อยังไม่พอ คราวนี้มาเป็นรถคีบหนังสือปิดบังสายตา แหม่เล่นเอายากิโซบะมาเป็นชามเลย ไหนจะมาเป็นเน็กไทป้อนขนมเข้าปากอีก โอ้ยยยย! และอีกหลากหลายสารพัดวิธีในโฆษณาตัวเต็ม จิ้มดูได้เลย! และกว่าจะจบได้ เป็นการโฆษณาเครื่องดื่ม Joie จากยาคูลท์ อุดมไปด้วยกรดแลคติค พร้อมแคลเซียมและวิตามินดี อันเป็นสารอาหารที่สำคัญ สำหรับนักเรียนที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างทานอาหารนั่นเอง แหม๊!! เรามาดูกันดีกว่าว่า อุปกรณ์แอบเนียนที่โผล่ในโฆษณาชุดนี้ มีอะไรบ้าง… ส้อมเนียนในแขนเสื้อ รถเลื่อนโล่หนังสือ เน็กไทป้อนขนม…
-
สถานทูตเกาหลีใต้เตือน ชาวเกาหลีหนีไปดูดกัญชาที่แคนาดา กลับมามีสิทธิ์ติดคุก…
หลังจากที่แคนาดาประกาศให้กัญชาถูกกฎหมาย ก็กลายมาเป็นปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ ที่ต้องการไปปลดปล่อยอิสระภาพในการสูบของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ทำการตักเตือนประชาชนเอาไว้ว่า จะไปสูบที่แคนาดามีสิทธิ์ทำได้ แต่ถ้าหากกลับมาแผ่นดินแม่จะถือว่ามีความผิด เรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยมาจาก สถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศแคนาดา ได้ออกมาเตือนประชาชนคนเกาหลีใต้ ที่มีเป้าหมายมาเพื่อการสูบกัญชาโดยเฉพาะ มีความเสี่ยงที่จะถูกจำคุกกับการทำผิดกฎหมาย แม้จะไม่ได้ก่อเหตุบนแผ่นดินเกาหลีใต้ก็ตาม “แม้ว่าชาวเกาหลีใต้ จะไปอยู่ในอาณาเขตที่กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายก็ตาม แต่ข้อกฎหมายยังถือว่าเป็นการกระทำผิดสำหรับการใช้หรือเสพกัญชา กรุณาระมัดระวังไม่กระทำการใดๆ ที่เสี่ยงต้อข้อกฎหมาย ที่อาจทำให้ถูกลงโทษได้” ข้อความที่ถูกเผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์ของสถานทูตเกาหลีใต้ ภายใต้กฎหมายควบคุมยาเสพติดของเกาหลีใต้ ผู้ที่กระทำการปลูก ครอบครอง ขนส่ง หรือเสพกัญชา อาจจะได้รับโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือถูกปรับเป็นเงิน 50 ล้านวอน (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่บังคับใช้กับชาวเกาหลีใต้ทุกคน แม้จะออกไปนอกประเทศแล้วก็ตาม ด้านหัวหน้าแผนกสืบสวนอาชญากรรมยาเสพติด Yoon Se-jin กล่าวว่า “ผู้ที่เสพกัญชาจะได้รับโทษทางข้อกฎหมายของเกาหลีใต้ แม้จะกระทำให้ประเทศที่กัญชาถูกกฎหมายก็ตาม จะไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น” …
-
ผู้พิพากษาทนไม่ไหว หลังพิจารณาหลักฐานคลิปข่มขืนเด็ก จนต้องเลื่อนการไต่สวนออกไป
นับว่าเป็นประเด็นที่ทำให้รู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก เกี่ยวกับการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีข่มขืนเด็กไม่ต่ำกว่า 60 คดี ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาก็คือนาย Jason Daron Mizner วัย 44 ปี ชาวออสเตรเลีย หนีมากบดานอยู่ในประเทศไทย และถูกส่งตัวกลับไปยังออสเตรเลีย เพื่อรับการพิจารณาโทษที่ในเมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ Jason Daron Mizner เมื่อวันพุธที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานจากสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการพิจารณาโทษในคดีนี้ว่า ผู้พิพากษา Leanne Clare ถึงกับตัวสั่น ทนไม่ไหวกับการต้องนั่งดูพิจารณาหลักฐานคลิปวิดีโอในการก่อเหตุ ในวันอังคารที่ 23 ตุลาคม ตามวันเวลาท้องถิ่น โดยที่เธอได้เดินออกจากห้องไต่สวน ก่อนจะประกาศเลื่อนการพิจารณาโทษออกไปถึง 3 วัน (เริ่มต้นอีกครั้งในวันศุกร์ที่จะถึงนี้) ศาลแขวงเมืองบริสเบน โดยที่ผู้พิพากษาได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่า “จะเป็นการดีที่สุด ในการรักษาระยะห่าง ระหว่างการดูวิดีโอเทปและการตัดสินโทษ โดยปราศจากการใช้อารมณ์ร่วมให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้” เพราะการต้องนั่งดูคลิปวิดีโอข่มขืนเด็ก ประกอบการพิจารณาโทษ นับว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้การตัดสินโทษมีความยุติธรรมมากที่สุด แต่ด้วยอารมณ์ที่สะเทือนใจอาจจะทำให้เกิดการตัดสินที่ผิดพลาดได้ และทางผู้พิพากษาจำเป็นจะต้องหยุดพักการตัดสินไปก่อน……
-
โปรเพลเยอร์ CS:GO ใช้โปรแกรมโกงกลางงานแข่ง ถูกสั่งปลดยกทีม เจ้าตัวโดนแบน 5 ปี!!
สำหรับชาวเกมเมอร์ทั้งหลายจะรู้กันดีว่า ‘การใช้โปรแกรมโกง’ ในการเล่นเกมนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันคือการเอาเปรียบผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ทุ่มเทฝึกฝนมาอย่างยากลำบาก แต่ใครเล่าจะคิดว่า ‘กลางงานแข่งขันอย่างเป็นทางการ’ จะมีผู้เล่นใช้ ‘โปรแกรมโกง’ แบบโต้งๆ ไม่อายฟ้าอายดิน จนถูกจับได้และปรับแพ้ไปในที่สุด เรื่องมีอยู่ว่าในงานแข่งขัน E-Sport ชื่อว่า eXTREMESLAND Asia ที่จัดขึ้นในประเทศอินเดีย เงินรางวัลสูงสุดมูลค่า 3 ล้านบาท มีผู้เล่นคนหนึ่งชื่อว่านาย Nikhil Kumawat หรือ Forsaken สมาชิกของทีม Optic India ที่ทำการแข่งขันเกม CS:GO ดันไปใช้โปรแกรมโกงกลางงานแข่งขันซะอย่างนั้น สมาชิกทีม OpTic India นาย Kumawat คือคนที่สองจากซ้ายมือ ในการต่อสู้ระหว่างทีม OpTic India กับทีม Revolution รอบออฟไลน์ (แข่งผ่านระบบ LAN) การแข่งขันดำเนินไปอย่างสนุกสุดมันส์กว่า 20 นาที แต่แล้วจู่ๆ ก็ถูกสั่งให้หยุดกลางคัน เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาตรวจสอบที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของนาย Kumawat…
-
รถ Range Rover รุ่นใหม่ล่าสุด หลังคาหายไปทั้งแถบ เพราะลอดใต้สะพานไม่พ้น!!
บางครั้งในการทำงาน มันก็มักจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ เช่นเดียวกันกับพนักงานขับรถเทรลเลอร์รายนี้!! และภาพที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า Range Rover ไม่ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่แบบเปิดประทุนแต่อย่างใด… ไม่ว่าจะด้วยความเบลอ หรือความประมาทก็ตาม คนขับรถบรรทุกผู้ดวงซวยทำให้รถรุ่นใหม่ล่าสุดของ Range Rover และ Jaguar พังเละเทะไม่เป็นท่า จากการขับชนเข้ากับทางลอดใต้สะพานรถไฟในเมือง Perth ประเทศออสเตรเลีย อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ราวๆ 8.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ภาพจากเหตุการณ์ทำให้เห็นสภาพรถรุ่นใหม่ล่าสุด Range Rover Sport 4×4 ที่ถูกบรรทุกมาโดยรถเทรลเลอร์ หลังคาหายไปเป็นแถบ นาย Gareth Ruddock วัย 40 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า “ผมอยู่ในเหตุการณ์ ตอนนั้นผมส่งภรรยาที่สถานีรถไฟ และกำลังขับออกมาพอดี หลังคารถรุ่นใหม่หายไปทั้งแถบเลย” “ด้านในยังมีพลาสติกหุ้มอยู่เลย เหมือนกับว่าพวกเขากำลังจะนำมันไปส่ง แล้วก็ขายให้กับเจ้าของใหม่ และคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือคนขับรถบรรทุกนั่นแหละ เพราะหน้าตาเขาดูเซ็งมากๆ เลยล่ะ”…
-
คู่รักถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง โดยให้ชาวคองโกเอาปืนมาจ่อที่หัว ถูกสังคมรุมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
การถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ถือว่าเป็นสิ่งที่คู่รักหลายคู่ต้องทำก่อนจะได้แต่งงาน ซึ่งปกติแล้วก็จะหาสถานที่สวยๆ งามๆ เป็นโลเคชั่นในการถ่าย แต่สำหรับคู่บ่าวสาวที่เราจะนำมาให้ดูกันในวันนี้แล้ว พวกเขาเลือกสถานที่แตกต่างออกไป เพราะพวกเขาเลือกที่จะไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่ประเทศคองโกในธีมของสงครามกลางเมือง จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างมากมาย คู่บ่าวสาวดังกล่าวคือช่างภาพชื่อว่า John Milton กับภรรยา พวกเขาได้บินไปถ่ายภาพแต่งงานกัน ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเมื่อปลายปี 2017 ในเซ็ตภาพดังกล่าว มีภาพๆ หนึ่งที่ถ่ายบนปล่องภูเขาไฟ คู่บ่าวสาวกำลังทำท่าร้องขอชีวิต จากชายผิวสีสองคนที่กำลังนำปืนชี้จ่อไปทางพวกเขา ซึ่งเรื่องนี้กลายมาเป็นประเด็นในวันที่ 23 ตุลาคม 2018 เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Cecilia Christin ได้นำเซ็ตภาพดังกล่าวมาลงในเฟซบุ๊กพร้อมกับแคปชั่นว่า “หลายสิ่งหลายอย่างตรงนี้มันผิดไปหมดแล้ว…” . ก็มีบางคนคิดไอเดียการถ่ายรูปแต่งงานของเขาแปลกแหวกแนวดี แต่ก็ถามว่าทำไมต้องให้ผู้ชายในรูปจ่อปืนใส่เขาด้วย และพวกเขาก็ตอบกลับว่า “พวกเราแค่อยากทำให้มั่นใจว่าจะภาพที่ได้ จะไม่ใช่ภาพกะโหลกกะลาแบบรูปแต่งงานทั่วไป” ในภาพนี้พวกเขาได้เรียกหมู่บ้านในคองโกโดยใช้คำแทนว่า “สลัม” แหวนแต่งงานบน AK-47 หลังจากเรื่องนี้ถูกโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตหลายคนที่ไม่พอใจและแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย Poverty porn? War porn? ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณเรียกสิ่งเลวร้ายพวกนี้ว่าอะไร https://twitter.com/briiilliant/status/1054648592449687552?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1054648592449687552&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.thisisinsider.com%2Fviral-wedding-pictures-from-congo-reactions-2018-10…
-
คุณยายถึงกับต้องหลั่งน้ำตา หลังได้ยินเสียงคู่ชีวิตที่จากไป ในตุ๊กตาหมีที่หลานสาวให้มา
สำหรับชีวิตคู่แล้ว คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เราได้อยู่กับคนที่เรารักตราบนานเท่านานและมันคงจะน่าเศร้า ถ้าคู่รักของเราต้องมาด่วนจากไปเสียก่อน เหมือนกับ Elaine Galloway คุณยายคนที่เราจะมากล่าวถึงในวันนี้ เธอเป็นอีกคู่หนึ่งที่สามีต้องมาด่วนจากไปก่อน นั่นก็ทำให้เธอคิดถึงเขาเป็นอย่างมากและต้องหลั่งน้ำตาเมื่อได้รับของขวัญจากหลานสาว เป็นตุ๊กตาที่มีเสียงของคุณตาอยู่ข้างใน ในวันที่ 24 ตุลาคม 2018 ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Chloe Boyle หรือก็คือหลานของคุณยายที่เรากล่าวถึง เธอได้อัปโหลดวิดีโอพร้อมกับแคปชั่นว่า “ฉันให้ตุ๊กตาหมีสั่งทำซึ่งมีเสียงของคุณตาอยู่ข้างในเป็นของขวัญแก่คุณยาย เนื่องในวันครบรอบของพวกเขา มันพิเศษมากๆ คุณตาคุณยายเป็นเหมือนโลกทั้งใบของฉันเลย” Got my gran a build-a-bear with my papas voice in it for there anniversary, so special❣️grandparents mean the absolute world 💗💜 pic.twitter.com/dbu6H3ssgZ — Chloé Boyle (@BoyleChloe) October 23, 2018 ในวิดีโอที่ Chloe…
-
อิตาลีลงดาบ ปรับ Samsung และ Apple 400 ล้านบาท จากการทำให้สมาร์ตโฟนช้าลง!!
หลังจากการเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานเมื่อปีที่ผ่านมากับกรณีของ Apple ทำการอัปเดตเวอร์ชันระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์ จนทำให้โทรศัพท์ใช้งานได้ช้าลง จนนำไปสู่การฟ้องร้องกันในที่สุด ซึ่งล่าสุดจากการตรวจสอบของหน่วยงานป้องกันการผูกขาดทางการตลาดของประเทศอิตาลี (AGCM) ก็พบว่าทั้ง Apple และ Samsung ได้ทำการอัปเดตเวอร์ชันระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์จนทำให้เครื่องใช้งานได้ช้าลงจริงๆ!! การตรวจสอบดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยแยกออกเป็นสองเคสคือของ Samsung และ Apple จากทาง Apple พบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับระบบ iOS ใหม่ ที่ถูกอัปเดตเข้ามา ซึ่งคนที่ใช้ iPhone 6 จะรู้สึกว่าเครื่องของตัวเองนั้นช้าลง สาเหตุเป็นเพราะว่า iOS ใหม่ นั้นจะมีความต้องการในการใช้พลังงานมากยิ่งขึ้น และถูกปรับมาให้สามารถใช้งานได้ดีกับ iPhone รุ่นใหม่อย่าง iPhone 7 นั่นเอง จากกรณีนี้ Apple ถูก AGCM สั่งฟ้อง และต้องเสียค่าปรับถึง 5 ล้านยูโร หรือราวๆ 187 ล้านบาท นอกจากนี้ Apple ยังถูกปรับเพิ่มอีก 5 ล้านยูโร เพราะไม่ยอมแจ้งข้อมูลให้กับลูกค้าทราบถึงปัญหาของการอัปเดต…
-
Claudia Kim เปิดใจต่อสื่อกรณีเหยียดเชื้อชาติ บทนากินี ‘ควรเป็นเอเชียตามต้นกำเนิด’
หากยังจำกันได้ หลังจากที่มีการปล่อยตัวอย่างสุดท้ายของ Fantastic Beasts 2: The Crimes of Grindelwald ที่เผยตัวตนของนากินี เป็นผู้หญิงหน้าตาเอเชีย จนเกิดเป็นกระแสเหยียดเชื้อชาติขึ้นมาว่า ทำไมต้องเป็นคนเอเชีย ข่าวเก่า: ชาวเน็ตดราม่าหนัก Fantastic Beasts 2 ทำไมถึงใช้นักแสดงเอเชียมารับบท ‘นากินี’ ? ท่ามกลางการถกเถียงของชาวเน็ตที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ด้าน J.K Rowling ผู้ประพันธ์หนังสือก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก และถูกกล่าวหาว่าการนำนักแสดงเชื้อสายเอเชียมารับบทนากินี เป็นการเหยียดหยามภาพลักษณ์ของผู้หญิงเอเชีย มาเป็นทาสรับใช้วายร้าย J.K. Rowling ได้แสดงความคิดเห็นและอธิบายให้ทุกคนที่สงสัยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว The Naga are snake-like mythical creatures of Indonesian mythology, hence the name ‘Nagini.’ They are sometimes depicted as winged, sometimes…
-
เจ้าของร้านบอกโจรที่มาปล้น ‘ยังไม่ได้ขายเลย เดี๋ยวกลับมาใหม่นะ’ โจรมาจริงโดนรวบสิครับ!!
เมื่อมีโจรมาปล้นร้านเราอาจจะมอบเงินทั้งหมดที่เรามีให้แก่พวกเขาเพื่อความปลอดภัยของตนเอง แต่ว่าบางครั้งหากเรามีไหวพริบที่ดี ก็อาจจะรอดพ้นการเสียเงินไปฟรีๆ แถมบางทียังสามารถจับคนร้ายไปกินข้าวแดงในคุกได้ด้วย อย่างเช่นเหตุการณ์ไม่นานมานี้ที่กลุ่มนักเลงหัวไม้ 6 คนได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘โจรที่โง่ที่สุดในเบลเยียม’ เพราะตกหลุมพรางอันแยบยลของเจ้าของร้านแสนฉลาด ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้นไปดู… เดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่นะพ่อหนุ่ม เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (20 ต.ค.) กลุ่มโจรกระจอกทั้ง 6 คนนี้ได้นำอาวุธครบมือไปเข้าปล้นร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าแถวๆ เขตนอกเมืองชาร์เลอรัว ประเทศเบลเยียม พวกเขาได้แสดงอาวุธว่านี่คือการปล้น!! และสั่งให้เจ้าของร้านเปิดลิ้นชักใส่เงินเพื่อนำเงินทั้งหมดที่มีมาให้กับพวกเขาซะ พวกโจรรุมเปิดดูลิ้นชักเงิน แต่ว่าด้วยความที่มันเพิ่งจะเป็นเวลาช่วงบ่ายๆ (15.00 น.) ทางเจ้าของร้านจึงได้แสดงสกิลไหวพริบด้วยการบอกกับพวกโจรในทำนองที่ว่า “พ่อหนุ่มวันนี้แทบทั้งวันฉันยังไม่ได้ขายของเลย แต่ถ้าอยากได้เงินล่ะก็ค่อยกลับมาใหม่เวลาใกล้ๆ ปิดร้านละกัน” นอกจากนี้เขายังล่อใจโจรด้วยการบอกว่า ถ้าพวกเขากลับมาในเวลาดังกล่าวเขาน่าจะมีเงินให้อยู่ราวๆ 2,000 – 3,000 ยูโร (ประมาณ 75,000 – 112,000 บาท) ถ้าทำตามคำแนะนำข้างต้น คลิปของนาย Didier เจ้าของร้านให้สัมภาษณ์ แน่นอนว่าการปล้นมันเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมายเสี่ยงต่อการติดคุก แล้วอาชญากรที่ไหนจะมาเชื่อคำพูดลมๆ แล้งๆ ที่อาจเป็นคำโกหกก็ได้อย่างนี้…
-
Jane Lana จากนางพยาบาลสู่การเป็น “นางแบบ” ล่าสุดมี Photo Book ของตัวเองแล้ว
ก่อนหน้านี้เป็นที่ฮือฮาในได้หวันอย่างมากที่มีภาพของ นางพยาบาลสาว คนหนึ่งผู้มีใบหน้าอันน่ารักและงดงามจนครองใจชายหนุ่มทั่วประเทศ พยาบาลสาวคนนั้นนามว่า Jane Lana ก่อนหน้านี้ ภาพที่เธอสวมเครื่องแบบพยาบาลแล้วอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งเอาไว้ก็กลายเป็นภาพสุดโด่งดังบนโลกออนไลน์ของไต้หวัน Jane Lana จนล่าสุด ชายหนุ่มทั้งหลายจะได้เชยชมความงดงามของ Jane Lana พยาบาลสาวคนนี้ได้อย่างจุใจแล้ว เพราะว่า เธอได้ถ่ายแบบลงหนังสือภาพหรือ Photo Book ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย จากพยาบาลสาวที่ดูแลคนไข้อยู่ในโรงพยาบาล ด้วยกระแสของโลกออนไลน์ทำให้เธอผันตัวมาเป็นนางแบบบน Photo Book ซึ่งมีทั้งภาพความงามภายนอกและ “ภายใน” ของเธอกันเลยทีเดียว Jane Lana กับ Photo Book ของเธอ น่าหามาเชยชมจริงๆ อวยกันมาขนาดนี้ จะไม่ให้เห็นภาพถ่ายของเธอก็ดูจะใจร้ายไปหน่อย เอาเป็นว่าเราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายสุดงดงามและเซ็กซี่ของ Jane Lana ใน Photo Book ของเธอกันหน่อยดีกว่า ลุย!!! อะเฮือกกก~ . . . โมเมนต์ใสๆ กับ…
-
รวมการสร้างตัวละครหลุดโลกจาก Soulcalibur VI นี่มันเกมต่อสู้หรือเกมแต่งตัวกันแน่!?
สำหรับคอเกมต่อสู้แล้ว เกมดังที่คนนึกถึงและนิยมเล่นก็คงไม่พ้นเกมอย่าง Street Fighter, Tekken หรือ King of Fighter กันอย่างแน่นอน แต่เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2018 ที่เพิ่งผ่านมานี้ เรียกได้ว่าเกมต่อสู้ในตำนานอย่าง Soulcalibur ภาค 6 ก็ได้ออกมาให้แฟนๆ ได้เล่นสมใจอยาก หลังจากหายไปนานกว่า 6 ปี ซึ่งจุดเด่นของเกมต่อสู้แต่ละเกม แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของระบบการต่อสู้หรือเนื้อเรื่อง แต่สำหรับ Soulcalibur VI นั้นแตกต่างออกไป เพราะในภาคนี้เราสามารถสร้างตัวละครขึ้นเองได้!! และการสร้างตัวละครเองได้นี่แหละจะเป็นประเด็นให้เราได้พูดถึงในวันนี้ เมื่อผู้เล่นแต่ละคนต่างพากันออกแบบตัวละครได้สุดครีเอตหรือหลุดโลกสุดๆ จะเป็นอย่างไรนั้นเราไปรับชมกันดีกว่าครับ Bob Ross ก็มามั้ยล่ะ Petey Piranaha ต้นไม้กินคนจาก Super Mario Pickle Rick Skeletor Tommy Wiseau …
-
นักบินอเมริกันโชว์เทพ ขับเครื่องบินวาดภาพท้องอากาศเป็นรูป ‘หรรมส์’ โดนสอบสวนเรียบร้อย…
โดยปกติแล้วนักบิน เวลาจะบินก็จะขับเครื่องบินไปตามเส้นทางที่มีการกำหนดเอาไว้ แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น เพราะดูเหมือนว่ามีนักบินอยู่คนหนึ่งตั้งใจขับรถเครื่องบินวาดภาพบนท้องอากาศเป็นรูป ‘หรรมส์’ ซะงั้น!! โดยเครื่องบินลำดังกล่าว ได้รับการรายงานว่าเป็นเครื่องบินของทางกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่บินเหนือทะเลสาบ Salton ใกล้ๆ กับเมืองปาล์มสปริงส์ รัฐแคลิฟอเนียร์ ด้วยเส้นทางการบินที่แปลกๆ ภาพเจ้าปัญหา แม้ว่าเราอาจจะไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่านักบินที่ขับเครื่องลำนี้ บินวาดภาพเป็นรูปอะไร แต่ว่าทางแอพพลิเคชั่นทางการบินได้เผยให้เห็นว่าเส้นทางการบินนี้ มันมีรูปร่างเหมือนกับหรรมส์อย่างกับตั้งใจวาดเอาไว้ ทวีตจาก Aircraft Spots Somebody needs to have a word with the crew of US Navy T-34C 160937 SHUTR91 out of MCAS Miramar 😂😂 pic.twitter.com/WgrgkKzRln — Aircraft Spots (@AircraftSpots) October 23, 2018 แถมมีหรรมส์เป็นแท่งๆ…
-
หนุ่มเศรษฐีคุกเข่าขอสาวแต่งงานพร้อมประเคนรถสปอร์ต สาวบอก ‘แล้วไง’ เดินหนีออกไปเลย!?
‘ผู้หญิงชอบคนรวย’ นี่อาจเป็นคำพูดติดปากของใครหลายๆ คนที่ไม่รู้ว่าแซวเล่นหรือพูดจริงจัง แต่ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งจะมาพิสูจน์ให้เห็นว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป เพราะถึงแม้ว่าจะมีชายมาคุกเข่าขอแต่งงานพร้อมกับประเคนรถสปอร์ตคันหรูให้ แต่ด้วยความไม่มีใจเธอเลยปฏิเสธอย่างไม่ไยดี แถมบอกด้วยว่า ‘แล้วไงอะ’!! คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเหตุการณ์รวยแค่ไหนก็ซื้อใจเธอไม่ได้นี้ เกิดขึ้นที่บริเวณด้านนอกห้างสรรพสินค้า Wanda Plaza ในเมืองฉางชา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน เมื่อวันเสาร์ (20 ต.ค.) ที่ผ่านมา ในคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าเป็นภาพของชายคนหนึ่งที่คุกเข่าขอสาวผมสีน้ำตาลสุดสวยแต่งงาน พร้อมกันนี้เขาบอกด้วยว่าได้ซื้อรถแลมโบกินี่ที่เธอชอบไว้ให้ด้วย เพื่อหวังว่านี่จะเป็นของขวัญที่จะช่วยให้เธอตอบตกลงได้ง่ายขึ้น แต่งงานกับผมนะครับ แต่แล้วมันก็ไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะสาวเจ้าคนนี้กลับปฏิเสธคำขอด้วยคำพูดง่ายๆ สุดคลาสสิกว่า ‘ขอโทษนะ ฉันไม่ต้องการสิ่งนี้ ฉันขอโทษ’ นะได้โปรดเถอะ อย่างไรก็แล้วแต่ หนุ่มที่หอบความหวังมาอย่างเต็มเปี่ยมคนนี้ก็ไม่ลดละความพยายามอย่างง่ายๆ เขาเกลี่ยกล่อมด้วยคำพูดว่า “ผมมีเงินนะ ผมมีเงินพอที่จะซื้อรถอย่างนี้มาให้คุณมากมาย ผมสามารถซื้ออะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการเลย โปรดแต่งงานกับผมเถอะ” ทำไมล่ะ ผมมีเงินนะ!? ทว่าสาวคนนี้กลับยังไม่เปลี่ยนท่าที พยายามสะบัดมือของชายหนุ่มทิ้งต่อหน้าฝูงชนที่มามุงกันอย่างแน่นขนัด… และในที่สุดแล้วเพื่อเป็นการออกจากสถานการณ์น่าอึดอัดนี้โดยเร็วที่สุด เธอเลยตัดสินใจพูดออกมาว่า ‘คุณมีเงินเหรอ แล้วไงล่ะ’…
-
เผยภาพลูกชายนักข่าวซาอุฯ ใบหน้าไร้ชีวา จับมือกับเจ้าชายผู้ต้องสงสัยเอี่ยวสังหารโหดบิดา
ในขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตามองอย่างต่อเนื่อง กับประเด็นการสังหารนักข่าวอิสระชาวซาอุดีอาระเบีย Jamal Khashoggi ภายหลังจากการเดินเข้าไปในอาคารกงศุลซาอุฯ ในประเทศตุรกี และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนพบหลักฐานคลิปเสียงจากสมาร์ทวอชท์ที่อัดไว้ ระหว่างถูกทารุณกรรม จนสิ้นเสียงของเขาไปในที่สุด… ข่าวที่เกี่ยวข้อง: สรุปไทม์ไลน์ ‘นักข่าวซาอุฯ’ หายตัว ก่อนถูก ‘สังหารโหด’ ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?? เปิดภาพกล้องวงจรปิด คดีฆาตกรรมนักข่าวซาอุฯ อำพรางด้วยร่างตัวแทน สวมใส่ชุดผู้ตาย… นาย Sahel จับมือกับสมเด็จพระราชาธิบดี Salman bin Abdulaziz Al Saud โดยเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2018 สำนักข่าว Al Jazeera ได้ทำการรายงานต่อเนื่องเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เกิดเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์ หลังจากมีการเผยแพร่ภาพของนาย Salah และพี่ชาย Sahel ลูกชายของนาย Jamal เข้าพบสมเด็จพระราชาธิบดี Salman bin Abdulaziz Al Saud กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย พร้อมกับมกุฎราชกุมาร Mohammed…
-
เมื่อดาราดันหน้าตาเหมือนขโมย ถึงกับต้องมาโพสต์แก้ต่างสุดฮา โดนใจชาวเน็ตเต็มๆ!!
ใครเล่าจะคิดว่าเรื่องของคนที่บังเอิญหน้าตาเหมือนกัน มันจะ ‘สร้างปัญหา’ ให้กับคนดังจนเกือบจะต้องเข้าไปนอนในซังเตได้เลยทีเดียว เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา เกิดเหตุ ‘ขโมยเบียร์’ จากร้านสะดวกซื้อในเมือง Blackpool ประเทศอังกฤษ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็สามารถระบุใบหน้าของคนร้ายได้ เจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจเมือง Blackpool ก็เลยเอาภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นไปแชร์ลงโซเชียลมีเดีย เพื่อขอความร่วมมือจากเหล่าประชาชนในการติดตามจับตัวคนร้าย เจ้าหน้าที่เขียนโพสต์ว่า “หากคุณรู้จักชายคนนี้ โปรดติดต่อมาที่อีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์ของเรา ขอขอบคุณสำหรับความร่วมมือ” หลังจากภาพจากกล้องวงจรปิดถูกเปิดเผยออกไป เหล่าประชาชนทั้งหลายก็เข้ามาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีคนก็เข้ามาทักว่า “หน้าตาของหมอนี่มันเหมือนกับ Ross เลยว่ะ” หน้าตาของหัวขโมย ซึ่ง Ross นั้นเป็นบทบาทจากซีรี่ส์เรื่อง Friends รับบทโดย David Schwimmer นักแสดงชาวอเมริกัน ที่ฝากผลงานไว้กับวงการบันเทิงมากมายนับไม่ถ้วน David Schwimmer นอกจากนี้เหล่าชาวเน็ตก็ตอกย้ำความเหมือนนี้กันเข้าไปอีก “ไม่น่าเชื่อเลยว่า Ross จะกลายมาเป็นหัวขโมยไปซะได้” “ROOOOSS เอาเบียร์มาแบ่งกันบ้าง!!” จากโพสต์ของสถานีตำรวจคอมเมนต์พุ่งกระฉูดไปถึง…
-
คุณลุงคนเหงา อาจนอนจำคุก 5 ปี จากการโทรหาตำรวจกว่า 45,000 ครั้ง ภายในปีเดียว
กรณีที่กำลังจะพูดถึงดังต่อไปนี้ อาจจะเปรียบเทียบได้กับการโทรไปป่วนเบอร์ 191 ในบ้านเราก็ว่าได้ โดยเป็นเรื่องของชายวัย 55 ปี ชาวตุรกี อาจจะถูกจำคุกเป็นเวลา 5 ปี จากการ “ขัดขวางเจ้าหน้าที่รัฐจากการปฏิบัติงาน” ด้วยวิธีโทรป่วนสายแจ้งเหตุฉุกเฉินมากถึง 45,210 ครั้ง ภายในระยะเวลาปีเดียว Şeref Can คือชื่อของคุณลุงโทรป่วนรายนี้ จากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เขาทำการกระหน่ำโทรย้ำๆ ไปยังสายด่วนแจ้งเหตุฉุกเฉิน เฉลี่ยแล้ววันละ 100 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงวันที่ 15 พฤษภาคม 2017 จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2018 และการโทรแต่ละครั้งไม่ใช่การแจ้งเหตุร้าย หรือขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ แต่เป็นการพยายามสนทนากับปลายสาย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่รับ จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทนไม่ไหว กับพฤติกรรมปั่นป่วนจากคุณลุง จึงทำการสืบหาต้นตอกับทางหน่วยสื่อสารของกรมตำรวจอิสตันบูล และแล้วก็พบว่าคุณลุง โทรเข้าเบอร์สายด่วนฉุกเฉิน 115 มาทั้งหมด 45,210 ครั้งในปีเดียว จนนำไปสู่การตั้งข้อหา “ขัดขวางเจ้าหน้าที่รัฐจากการปฏิบัติงาน” ทั้งนี้ ศาลอาญาอิสตันบูลได้ทำการไต่สวนคดีความดังกล่าว…
-
รวม 18 การคอสเพลย์สุดสยองแบบฉบับ ‘คู่รัก’ ต้อนรับเทศกาล ‘ฮาโลวีน’ มีแต่เด็ดๆ ทั้งนั้น!!
พอวนมาถึงช่วงเทศกาล ‘ฮาโลวีน’ ทีไร เรามักจะได้เห็นเรื่องราวสนุกๆ ของชาวเน็ตต่างประเทศ จนเรียกได้ว่าเทศกาลนี้คือมหกรรมแห่งการ ‘คอสเพลย์’ ก็ว่าได้เลยทีเดียว สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมการ ‘คอสเพลย์ของคู่รัก’ แบบสุดเจ๋งรับเทศกาลฮาโลวีนประจำปีนี้ที่กำลังจะมาถึง ขอบอกเลยว่าเหมือนกับอยู่ในงานคอมิกส์คอนเลยทีเดียว!! จะเป็นอย่างไรลองไปชมได้เลยจ้า… 1. คอสเป็นหยิน & หยาง!? 2. สองคนใน 1 ร่าง!! (ชอบอันนี้อ่ะ) 3. คู่รัก LEGO 4. มาเป็น Beetlejuice เลย หลอนชะมัด 5. Daft Punk มั้ยล่ะ คูลสุดๆ 6. เมื่อผัวไม่อยู่ เจ๊แกก็เลยคอสกับหมาซะเลย 7. คู่รักที่มาในธีมอาละดินกับพรมวิเศษ 8. แต่งรูปกับไม่แต่งรูป 9.…
-
หนุ่มไปร้านสัก ตกลงกับช่างเรียบร้อย แต่ไม่ยอมจ่ายเงิน ช่างเลยแถมคำ ‘ไอ้ขี้โกง’ ให้ฟรี
เวลาไปรับการบริการอะไรสักอย่างหนึ่ง หลังจากที่ตกลงอะไรกันเรียบร้อยแล้ว และผู้ให้บริการก็ทำให้เสร็จแล้ว สิ่งที่ผู้รับบริการต้องทำให้จบงานคือ ‘การจ่ายเงิน’ แต่บางครั้ง การจ่ายเงินของลูกค้าบางรายก็เล่นตัวยึกยัก อยากจะได้ไปฟรีๆ ไม่ยอมจ่าย ครางนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของร้าน ว่าจะจัดการอย่างไรต่อจากนั้น เหตุในครั้งนี้ เกิดขึ้นกับชายชาวรัสเซียคนหนึ่ง ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นกล่าวว่า ชายคนนี้มีนิสัยชอบโกงค่างานของช่างสัก ปฏิเสธไม่ยอมจ่ายบ่อยครั้ง และล่าสุดก็ได้รับงานฟรีสมใจกับคำว่า ‘ไอ้ขี้โกง’ ลงบนกลางหน้าผาก Roman Bikeev ภาพที่เห็นนี้ คือชายที่โกงค่าช่างสักไปทั่ว ถูกเผยแพร่โดยช่างสัก Roman Bikeev (หรือ Mr. Amsterdam) โดยเขาให้แคปชั่นไว้ว่า… ลูกค้ารายนี้มาสักที่บริเวณคอ แต่พองานเสร็จแล้วก็ไม่ยอมจ่าย พยายามใช้ลูกเล่นเดิมที่เคยใช้กับช่างคนอื่นในเมืองอูฟา สาธารณรัฐบัชคอร์โตสถาน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาจึงตัดสินใจแก้แค้นให้กับตัวเองและช่างคนอื่น ด้วยการแถมคำว่า Кидала ที่แปลว่าไอ้ขี้โกง ลงบนกลางหน้าผาก พร้อมกับลายเซ็นของตัวเอง และหลังจากที่ภาพดังกล่าวโผล่ไปทั่วโลกออนไลน์ ชาวเน็ตก็เริ่มสงสัยว่า ทำไมลูกค้ารายนี้ถูกสักเพื่อให้รู้สึกสำนึก กลับนั่งยิ้มแย้มไม่เดือดร้อนอะไร หรืออาจจะเป็นแผนโปรโมทร้านของตัวเองรึเปล่า สายฟรี ฟรีทั้งตัว!…
-
อย่างกับหนังสือเวทย์! งานศิลปะตัดอักษรเลเซอร์ ใช้ไฟส่องด้านล่าง ดูดีมีระดับได้อีก
หลายคนก็คงจะเคยนึกถึงภาพการร่ายเวทย์ ออกมาจากตำราจากหนังสือกันบ้าง แม้ในชีวิตจริงจะไม่มีวันที่หนังสือจะเปิดหน้าเอง ปัดไปปัดมามีตัวหนังสือหลุดโผล่ อย่างน้อยก็พอจะมีวิธีทำให้ใกล้เคียงจินตนาการบ้าง… โดยเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Uka Ohashi (@uten_lullaby) นักประพันธ์นวนิยายชาวญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาด้านการออกแบบ ในวิทยาลัยศิลปะอยู่ และได้ทำการสร้างผลงานเกี่ยวกับหนังสือออกมา ด้วยวิธีการที่แตกต่างไปจากเดิม ด้วยการใช้หนังสือหน้าเปล่า เขียนตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นด้วยวิธีตัดเลเซอร์ ดูล้ำยิ่งกว่าพิมพ์ด้วยหมึกไป 1 ขั้น ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะกระบวนการต่อไปก็คือการติดตั้งไฟ LED สีเหลืองนวลตา สอดเข้าไปในบริเวณสันหนังสือ พอทั้งหมดรวมร่างกันเสร็จ ก็จะได้หนังสือเรืองแสง ให้ความรู้สึกอบอุ่นและดูมีชีวิตชีวา รู้สึกคล้ายหนังสือเวทมนตร์ในอนิเมะ https://twitter.com/uten_lullaby/status/1048577005468311553 ทั้งนี้ เธอได้ออกมาเปิดเผยว่าต้องการที่จะสร้างหนังสือ ที่พิมพ์ตัวอักษรเรืองแสงลงไปได้ แต่ในวิธีปฏิบัติจริงนั้นทำได้ยาก จนกระทั่งกลายออกมาเป็นผลงานในรูปแบบดังกล่าว อย่างไรก็ตาม งานชิ้นนี้ทำขึ้นเพื่อเป็นงานส่งในคลาสเรียนศิลปะ โดยสร้างจากหนังสือที่เธอเขียนเอง ตั้งใจว่าจะทำหมดทุกหน้า พร้อมกับบทสรุป 10 หน้าส่งท้าย แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัด จึงทำให้ได้แค่ส่วนหน้าสรุปเท่านั้น และไม่มีแผนจะทำการจำหน่ายแต่อย่างใด… ที่มา: @uten_lullaby,…
-
11 ผลิตภัณฑ์เซ็กส์ทอยสยองขวัญ เหมาะสำหรับสายลิ้มลอง เปิบพิสดารแฟนตาซี!
* คำเตือน เนื้อหาภายในต่อไปนี้ เหมาะสำหรับผู้อ่านกลุ่มวัยผู้ใหญ่เท่านั้น * ใกล้จะถึงเทศกาลปล่อยผีเข้ามาทุกทีแล้วล่ะ หากใครที่กำลังมองหาไอเดียความแปลกใหม่สำหรับฮาโลวีนปีนี้ ที่ไม่ใช่ในเรื่องของชุดผี การแต่งหน้าเป็นผี หรือสินค้าทั่วไปในตีมผี ขอแนะนำให้เจอกับ ‘เซ็กส์ทอยสยองขวัญ’ ของเล่นผู้ใหญ่ที่เคยเห็นกันมาจนชินตา ไม่ว่าจะเป็นทั้งดิลโด้ แท่งหรรษา กระบอกสวรรค์ แต่เมื่อนำตีมผีกับสัตว์ประหลาดมายำรวมร่างในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ อาจจะเหมาะสำหรับคนชอบอะไรแปลกๆ หลุดโลกก็ได้นะ… Fleshlight Freaks Dracula Dildo เค้าว่าเนื้อสัมผัสคล้ายของแดรกคูลา… Fleshlight Freaks Frankenstein Dildo ตัวนี้ก็เหมือนกัน แต่เปลี่ยนผิวสัมผัสเป็นแฟรงเกนสไตน์!? Fleshlight Alien Male Masturbator ถ้ำกระบอกสายเอเลี่ยนนนนนน! ส่วนตัวนี้คือ Vampire Licker Upper Dildo ดิลโด้ลิ้นแวมไพร์ ยาวไม่พอ แหลมซะด้วย Zombie BJ Dildo ดิลโด้ซอมบี้ งานคุณภาพ เพ้นท์ผ่านมือ…
-
ผู้นำฝ่ายค้านมาเลฯ เผย ภัยพิบัติในอินโดนีเซียเกิดจาก ‘พระอัลเลาะห์ลงโทษชาวเกย์’!?
เมื่อมีภัยพิบัติธรรมชาติเกิดขึ้น ก็แล้วแต่ ‘ความเชื่อ’ ของแต่ละคนว่าจะเชื่อว่าสิ่งใดคือสาเหตุที่ทำให้เกิด บ้างก็ว่าเกิดจากอาเพศ บ้างก็ว่าเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของโลก… แต่สำหรับผู้นำฝ่ายค้านของประเทศมาเลเซียแล้ว เขาเชื่อว่าภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย เกิดจากพระเจ้าต้องการลงโทษคนเพศทางเลือก (LGBT)!? นาย Ahmad Zahid Hamidi นาย Ahmad Zahid Hamidi อดีตรัฐมนตรีและผู้นำฝ่ายค้านในปัจจุบัน ได้ตกเป็นเป้าวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่เมื่อวันอังคารที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมาเขากล่าวในรัฐสภาว่า เหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซียและมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน คือ ‘บทลงโทษจากพระอัลเลาะห์สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมชาวเกย์’ และทั้งนี้ในสุนทรพจน์เขาได้กล่าวเตือนด้วยว่า หากชุมชนชาวเกย์ได้รับการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศมาเลเซียก็อาจจะต้องเผชิญกับชะตากรรมแบบเดียวกัน ภัยพิบัติในเมืองปาลู ประเทศอินโดนีเซีย เหตุการณ์โศกนาฎกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมาในเมืองปาลู โดยมีแผ่นดินไหวขนาด 7.5 แมกนิจูดและสึนามิเข้าถล่ม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตนับพันและอีกประมาณ 5,000 คนต้องติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังด้วย การเคลื่อนไหวของนาย Ahmad ถือว่าเป็นสัญญาณการต่อต้านชาวรักร่วมเพศครั้งล่าสุดจากนักการเมือง หลังจากที่ไม่กี่เดือนก่อนเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายคนรวมถึงนาย Mahathir Mohamad นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้ออกมาพูดต่อต้านสิทธิของชาวเพศทางเลือก รวมถึงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ศาลประเทศมาเลเซียก็ได้สั่งลงโทษคู่รักเลสเบี้ยนด้วยการเฆี่ยน หลังจากจับได้ว่าทั้งคู่มีเซ็กส์กัน…
-
ทีมวิจัยประกาศค้นพบ ‘ซากเรืออับปาง’ เก่าแก่ที่สุดในโลกอายุ 2,400 ปี ใต้ทะเลดำ 2 กิโลเมตร!!
เมื่อใต้ท้องทะเลยังคงเป็นปริศนาสำหรับมนุษย์ การค้นพบใหม่ๆ จึงเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ และคราวนี้ก็อีกเช่นเดียวกันเมื่อทีมนักวิจัยได้ค้นพบซากเรือบริเวณทะเลดำ และที่พิเศษกว่าการเจอซากเรือครั้งอื่นๆ ก็เพราะนี่น่าจะเป็นซากเรือที่คาดว่าเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบมาบนโลกเราเลย!! เมื่อไม่นานมานี้ทีมนักวิจัยจากสหราชอาณาจักรร่วมกับประเทศบัลแกเรีย ได้พบซากเรือกรีกโบราณในสภาพสมบูรณ์นอนสงบนิ่งอยู่ใต้ท้องสมุทรด้วยระดับความลึกกว่า 2 กิโลเมตรในทะเลดำ “มันเหมือนอีกโลกนึงเลย ตอนที่ ROV ( Remote Operated Vehicle หรืออุปกรณ์สำรวจใต้ท้องทะเลแบบบังคับ) ดำลงไปในน้ำลึกแล้วไฟส่องเข้าไปเจอกับเจ้าเรือนี่ มันสุดยอดจริงๆ” Helen Farr หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว ทางผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าสิ่งที่พวกเขาค้นพบนี้น่าจะเป็นเรือเดินสมุทรที่มีอายุอยู่ราวๆ 2,400 ปีก่อน ซึ่งหากเป็นจริงล่ะก็ การค้นพบครั้งนี้จะเป็นบันทึกหน้าใหม่ว่าเป็นการค้นพบซากเรืออับปางที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นอกจากนี้พวกเขายังบอกด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้มันหลุดรอดการค้นพบมาเป็นพันๆ ปีก็อันเนื่องมาจากความลึกที่อยู่เหนือการเข้าถึงของนักประดาน้ำ คลิปวิดีโอตอนที่ลงไปสำรวจเรือ อย่างไรก็ตามด้วยความที่มันนอนจมอยู่ด้วยระดับความลึกใต้น้ำถึง 2 กิโลเมตร จึงแทบไม่มีก๊าซออกซิเจนไปทำปฏิกิริยาใดๆ ส่วนต่างๆ ของเรืออย่างหางเสือ, ม้านั่งภายเรือและสิ่งต่างๆ จึงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างยอดเยี่ยม และพวกเขาก็ตัดสินใจว่าจะปล่อยให้เรือลำนี้อยู่ในที่ๆ ของมันดังเดิม และเก็บเพียงบางสิ่งเพื่อนำไปตรวจสอบต่อที่มหาวิทยาลัยเซาแทมป์ตัน ประเทศอังกฤษเท่านั้น ซึ่งผลที่ออกมาก็คือมันเป็นซากเรือที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจริงๆ “เป็นที่ยืนยันแล้วว่าซากเรืออับปางที่เราเจอนี้เก่าแก่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เราเคยรู้จัก” “มันสามารถอยู่รอดมาด้วยอย่างสมบูรณ์นานกว่าสองพันปีในความลึกถึงสองกิโลเมตร…
-
หนุ่มเดลิเวอรี่ ถูกยกย่องเป็น “ฮีโร่” หลังจอดรถ แล้วโดดลงคลองไปช่วยเด็กหญิงที่ ‘จมน้ำ’
ชายส่งของชาวจีนคนหนึ่งได้ผ่านไปเห็น เด็กจมน้ำ และรีบเข้าไปช่วยเหลือจนเด็กคนนั้นรอดชีวิต ชาวเน็ตพากันยกย่องเป็น ฮีโร่ ตามประโยคที่เรามักได้ยินกันว่า “ฮีโร่ในชีวิตจริงไม่จำเป็นต้องมีผ้าคลุม” ในวันที่ 13 ตุลาคม 2018 เด็กหญิงชาวจีนวัย 6 ขวบเกิดอุบัติเหตุลื่นและตกลงไปในน้ำขณะกำลังล้างไม้ถูพื้นอยู่ริมลำคลองในเมืองเฉาซิง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน คลิปเหตุการณ์ จาก CGTN จากคลิป จะเห็นได้ว่ามีเด็ก 2 คนกำลังล้างอะไรบางอย่างอยู่ริมลำคลอง จากนั้นเด็กคนหนึ่งก็พลัดตกลงไปในน้ำ ขณะเดียวกัน ชายส่งของก็บังเอิญผ่านมาเห็นพอดี เขารีบลงจากรถทันที ชายคนดังกล่าวหยิบของออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วรีบลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เขาช่วยเด็กหญิงขึ้นมาได้ปลอดภัย เขาก็กลับลงไปในน้ำอีกครั้งเพื่อไปงมหารองเท้าของเด็ก หลังวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากก็ชื่นชมชายคนนี้ถึงความกล้าหาญของเขา จนเรียกได้ว่าเป็น “ฮีโร่” ในชีวิตจริงเลยทีเดียว ชายคนนี้ภายหลังทราบว่าชื่อนาย He Linfeng อายุ 23 ปี พนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ของ Meituan ซึ่งเข้าให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเห็นน้ำกระเพื่อมและตกใจมากเมื่อเห็นว่ามีเด็กกำลังจมน้ำ ผมเห็นว่ารองเท้าเด็กหายไป อีกอย่างตัวผมไหนๆ ก็เปียกแล้วก็เลยตัดสินใจกลับไปหารองเท้าให้เด็กอีกครั้ง” …
-
เด็กชายจัด ‘ปาร์ตี้วันเกิด’ แต่สุดเหงาเพื่อนไม่มาสักคน คุณแม่เลยโพสต์ภาพจนกลายเป็นไวรัล!!
ในงานปาร์ตี้วันครบรอบวันเกิด ผู้เข้าร่วมงานที่ขาดไม่ได้เลยคือ ‘เพื่อน’ เพราะพวกเขาเหล่านี้แหละที่คอยแต่งเติมสีสันให้กับชีวิตของเราเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเวลาไหนๆ จนทำให้เกิดรอยยิ้มอยู่บ่อยครั้ง แต่ว่าจะเป็นอย่างไรถ้าหากว่าในงานที่เราตั้งใจจัดขึ้น ไม่มีเพื่อนมาร่วมงานเลยสักคน มันคงเป็นความรู้สึกที่เปล่าเปลี่ยวอ้างว้างมากเลยจริงๆ เหมือนกับหนูน้อยผู้โชคร้ายคนนี้… เมื่อไม่นานมานี้เฟซบุ๊กของคุณแม่ชื่อ Sil Mazzini ได้แชร์ภาพสุดเศร้าของ Teddy ลูกชายวัย 6 ขวบของเธอที่จัดงานปาร์ตี้ครบรอบวันเกิดในร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งในเมืองทูซอน รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในภาพจะเห็นว่าเป็นภาพของ Teddy ที่นั่งอยู่อย่างเดียวดายแม้ว่าบนโต๊ะนั้นจะมีจานนับสิบๆ ใบวางเอาไว้รอให้เพื่อนๆ ของเขามาร่วมกินอาหารแสนอร่อยด้วยกัน แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมาร่วมงานของเด็กชายคนนี้แม้สักคนเดียว… Teddy กับงานปาร์ตี้วันเกิดของเขา ทางคุณแม่กล่าวว่าได้เชิญเพื่อนร่วมชั้นของ Teddy กว่า 30 คนมางานปาร์ตี้นี้และเตรียมของขวัญเอาไว้ให้ด้วย แต่ว่าเมื่อมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นก็เป็นอะไรที่พูดไม่ออกเลยจริงๆ เธอได้แชร์ภาพนี้จนกลายเป็นกระแสไวรัล รวมถึงส่งภาพนี้ไปให้ Nick Vinzant ผู้ประกาศข่าวที่มักจะแชร์เรื่องราวต่างๆ บนเพจ และปรากฏว่าเขาก็แชร์มันจริงๆ โดยใช่แคปชั่นเอาไว้ว่า “ถ้าไม่เป็นการรบกวนอะไรนัก ขอพวกเราโปรดแสดงความยินดีกับการครบรอบวันเกิดของ Teddy กันสักหน่อย แม่ของเขาส่งรูปนี้มาให้ผมเพราะว่าเพื่อนๆ ของเขาไม่สามารถไปร่วมงานฉลองวันเกิดได้น่ะ” และแล้วมันก็ได้ผลเป็นอย่างดี เหล่าผู้คนในโลกโซเชียลได้อวยพรวันเกิดให้กับ Teddy อย่างมากมาย!! ซึ่งคุณแม่ก็บอกว่าได้เอาข้อความเหล่านี้ให้กับลูกชายของเธอดูแล้ว และในตอนนี้เขาก็เริ่มยิ้มออกมาได้ในที่สุด Teddy…
-
เกิดอุบัติเหตุบันไดเลื่อนรุนแรงในอิตาลี ไหลเร็วเทกระจาด ทำแฟนบอลเจ็บระนาว 20 ราย
ตามสถานที่ที่มีผู้คนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการขึ้นลงระหว่างชั้น จึงต้องมีการติดตั้งบันไดเลื่อนเอาไว้ให้บริการ ทั้งนี้จะต้องได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาให้มีความปลอดภัยอยู่เสมอ เนื่องจากว่าหากเกิดเหตุขัดข้องของบันไดเลื่อนขึ้นมา จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ใช้งาน อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ว่าได้ https://twitter.com/RBWorldorg/status/1054789992613068800 กรณีตัวอย่างนี้ เกิดขึ้นในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ภายในบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Metro Roma สถานี Repubblica ในวันอังคารที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เหตุเกิดขึ้นในช่วงที่การแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่างทีมโรมา กับซีเอสเคเอ มอสโก กำลังจะเริ่ม จึงมีผู้ใช้บริการอย่างหนาแน่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลฝั่งรัสเซียที่กำลังจะเดินทางไปร่วมชมการแข่งขัน ภาพส่วนหนึ่งจากผู้ประสบอุบัติเหตุบันไดเลื่อน จากในคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ในทวิตเตอร์ จะเห็นได้ว่า มีเสียงกรีดร้องในขณะที่บันไดเลื่อนไหลลงอย่างรวดเร็ว และเหวี่ยงคนลงไปด้านล่างทับกันจนได้รับบาดเจ็บ ด้านโฆษกหน่วยกู้ภัยและดับเพลิงประจำกรุงโรม Luca Cari กล่าวว่า กำลังทำการสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงในอุบัติเหตุครั้งนี้อยู่ และรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บอย่างต่ำ 20 ราย และหนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส #Roma #23ott 19:45, cede scala mobile #metroA stazione #repubblica: intervento #vigilidelfuoco…
-
มิติใหม่แห่งการสุ่ม!! ญี่ปุ่นออก “กาชาปองปุ่มกดห้องน้ำ” มาให้สะสม แถมฉีดน้ำได้ด้วย
สำหรับประเทศญี่ปุ่น เรารู้จักกันดีในฐานะของประเทศที่เป็นเจ้าเทคโนโลยีและวัฒนธรรม โดยอย่างยิ่งเฉพาะเรื่องห้องน้ำนะ ใครที่ได้ไปก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวว่า “สุดยอด” !! ห้องน้ำของญี่ปุ่น ที่เราอาจจะเคยเห็นกันบ่อยๆ ในอินเตอร์เน็ตก็คือภาพของชักโครกที่มีปุ่มกดมากมายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นปุ่มถ่ายหนัก-เบา ปุ่มปรับอุณภูมิน้ำ ปุ่มเฉพาะผู้หญิง รวมถึงปุ่มฉัดก้นและปุ่มเป่าลมให้ก้นแห้ง ด้วยความล้ำของปุ่มกดต่างๆ ในห้องน้ำที่กลายเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน ทาง Kitan Club บริษัททำของกาชาปองชื่อดังได้เล็งเห็นความน่าสนใจของมัน จึงตัดสินใจออกผลิตภัณฑ์กาชาปองไลน์ใหม่ในชื่อ “ปืนฉีดน้ำปุ่มกดห้องน้ำ” !! ซึ่งจะมีให้เราสะสม 6 แบบด้วยกัน แบ่งเป็นปุ่มกดเพื่อล้างก้น, ปุ่มกดเพื่อล้างจุดซ่อนเร้น, ปุ่มกดเพื่อล้างข้างหน้า, ปุ่มกดเพื่อเป่าแห้ง, ปุ่มกดเพื่อเลือกความแรงของน้ำและสุดท้ายคือปุ่มหยุด ก็อย่างที่เราบอกไปว่าชื่อของมันคือปืนฉีดน้ำ ดังนั้นความพิเศษของเจ้าปุ่มกดนี้ก็คือการที่เราสามารถจะฉีดน้ำออกมาจากพวกมันได้ ซึ่งพวกเขาบอกว่าห้ามยิงที่อื่น ยกเว้นที่ก้นเท่านั้น!! แต่อย่างไรก็ตามจากการทดลองใช้ของ Soranews พบว่าแรงดันน้ำที่ได้จากเจ้าปุ่มกดรุ่นต่างๆ นั้นไม่เพียงพอที่จะใช้แทนสายฉีดได้ ดังนั้นคนที่จะซื้อมันมาเพื่อเอาไว้ล้างก้นคงต้องมองหาทางอื่น แต่อย่างไรก็ตามมันยังสามารถเอาไว้เล่นสนุกได้นะ ใส่น้ำเข้าไปก็พ่นน้ำได้ ไม่เติมน้ำก็มีลมออกมาอย่างเดียว ปิ้วๆ . สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะซื้อมันมาเก็บสะสมหรือเล่นสนุกล่ะก็ เจ้ากาชาปองรุ่นใหม่พวกนี้ถูกวางจำหน่ายที่ชั้น 7 ของห้าง Tokyu…
-
ผู้หญิงอุ้มเด็กบินกลางอากาศ เพราะโดนแรงระเบิดจาก ‘ล้อรถบรรทุก’ พบคนงานเติมไว้ลืมปิด!!
นี่อาจเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้เราจะไม่ได้ทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายกับตัวเอง แต่ว่าบางทีความประมาทของคนอื่นก็ทำให้เราเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดได้เช่นกัน… เมื่อมีผู้หญิงกับเด็กต้องบินถลาแล่นลม อันเนื่องมาจากโดนแรงระเบิดของยางรถบรรทุกซัดเข้าใส่เต็มๆ และในท้ายที่สุดก็พบว่าต้นเหตุเป็นเพราะพนักงานนี่เอง!! วิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่จับเหตุการณ์นี้ได้ ภาพจากกล้องวงจรปิดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองตันเจียงโข่ว มณฑลหูเป่ย ตอนกลางของประเทศจีน ในวิดีโอจะเห็นว่า ในตอนแรกมีคนงานสองคนกำลังพยายามที่จะเติมลมใส่ยางล้อบรรทุกขนาดใหญ่กันอยู่ และเมื่อทั้งสองเสียบหัวจ่ายลมเข้ากับล้อ พวกเขาก็พิงล้อไว้กับรถยกของ ในเวลาต่อมาก็มีผู้หญิงกำลังอุ้มเด็กเดินผ่านมาแถวๆ นั้นพอดี และด้วยความบังเอิญหรือว่าโชคร้ายก็ไม่อาจทราบได้เลยทำให้ยางมันเกิดระเบิดขึ้นระหว่างที่เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ แน่นอนว่าด้วยความแน่นของลมที่อยู่ในล้อยางขนาดใหญ่ ทั้งผู้หญิงและตัวเด็กต้องกระเด็นกระดอนกันไปคนละทิศทางจนกลายเป็นภาพอันน่ากลัวที่เราได้เห็นกัน อย่างไรก็ตามทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับมีปาฏิหาริย์!! ปรากฏว่าทั้งผู้หญิงและเด็กไม่ได้รับอันตรายอย่างร้ายแรงใดๆ จะมีก็แค่เพียงรอยถลอกเล็กน้อยเท่านั้น ในภายหลังได้มีการตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น แล้วก็พบว่าที่ยางมันเกิดระเบิดก็เพราะว่าพนักงานที่เติมลมลืมปิดปั๊มลมนั่นเอง นี่อาจเป็นอุทรหรณ์ให้เราได้ระมัดระวังตัวเองกันมากขึ้น เพราะเราไม่รู้จริงๆ ว่าอุบัติเหตุมันอาจเกิดขึ้นวันไหน เมื่อไหร่ อย่างเช่นในเหตุการณ์นี้… ที่มา: ladbible, xinhuanews
-
แรปเปอร์แคนาดา พลาดท่าระหว่างถ่าย MV เพลงใหม่ ตกเครื่องบินเสียชีวิตทันที…
แม้จะเป็นเรื่องราวที่ไม่ได้อยู่ใกล้บ้านเรือนเคียงไทยเท่าไหร่นัก แต่น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆ ท่านได้ไม่มากก็น้อย หลังจากเกิดเป็นเรื่องราวของแรปเปอร์ชาวแคนาดา Jon James วัย 34 ปี ที่ตั้งใจถ่ายทำมิวสิควิดีโอตัวใหม่ ในลักษณะโลดโผนบนเครื่องบิน แต่พลาดท่าตกลงมาเสียชีวิต… https://www.instagram.com/p/BpNsqxWlKDG/ ในระหว่างการถ่ายมิวสิควิดีโอตัวใหม่ในรัฐบริติชโคลัมเบีย Jon James McMurray ได้ทำการเดินออกไปบนปีกเครื่องบินขนาดเล็ก Cessna ระหว่างขึ้นบิน แต่แล้วเขาเดินไกลเกินไปจนถึงปลายปีกเครื่องบิน ส่งผลทำให้เครื่องบินเสียการควบคุม บินบิดเป็นเกลียวดิ่งลงพื้น… https://www.instagram.com/p/BpQOxrKlNti/ “Jon พยายามยึดปลายปีกเครื่องบินเอาไว้แต่สายไปเสียแล้ว และในช่วงจังหวะนั้นเขาก็ปล่อยมือ เขาไม่มีเวลาที่แม้แต่จะกระตุกร่มชูชีพได้ทัน เขาตกลงมากระแทกกับพื้นและเสียชีวิตทันที” Ryan Desrochers พร้อมกับทีมผู้จัดการแถลงกับ CNN https://www.instagram.com/p/BockjLcBS9X/ อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น นักบินสามารถควบคุมเครื่องบินและลงจอดได้อย่างปลอดภัย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ยกเว้นการสูญเสียแรปเปอร์ Jon James ไป ทั้งนี้ ทีมผู้จัดการเปิดเผยว่า Jon James นั้นได้รับการรับรองเป็นนักเล่นสกีมืออาชีพ…
-
ทวิตเตอร์นึกว่าโดนแฮค จัดการล็อคแอคเคาต์ Elon Musk หลังโพสต์ “ผมรักอนิเมะ”
ในปัจจุบันเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า Elon Musk คือหนึ่งในคนทรงอิทธิพลเป็นอย่างมากในด้านแวดวงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งสำหรับคนไทยแล้ว คงเคยได้ยินชื่อของ Elon Musk บ่อยๆ จากในช่วงเหตุการณ์ที่มีการช่วยเหลือทีมหมู่ป่าติดถ้ำหลวง เมื่อกี่วันก่อน Elon Musk เพิ่งทวีตไปว่าเขารักแอนิเมชั่นญี่ปุ่นเรื่อง Your Name หรือ Kimi no na wa รวมถึงยังทวีตบอกอีกว่าได้เวลาสร้างหุ่นยนต์ยักษ์แล้ว เล่นเอาแฟนอนิเมะถึงกับฮือฮากันทั่วอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว Love Your Namehttps://t.co/fRU7nTWnML — Elon Musk (@elonmusk) October 14, 2018 . It is time to create a mecha — Elon Musk (@elonmusk) October 14, 2018 ซึ่งก็มีหลายๆ คนคิดว่าเขาพูดเล่นหรือเปล่านะ แต่ล่าสุดในวันที่ 23 ตุลาคม…
-
สาวฮ่องกงข้ามถนนไม่ระวัง ถูก “แท็กซี่ชน” ไปกองกับพื้น แต่โชคดีที่ไม่เจ็บสาหัส
การจะข้ามถนนที่มีรถวิ่งอยู่ขวักไขว่นั้นจำเป็นจะต้องดูซ้ายขวาอย่างระมัดระวังและรอบคอบ มิฉะนั้นก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ และถ้าโชคไม่ช่วยก็อาจทำให้เราต้องบาดเจ็บสาหัส อย่างเช่นนักเรียนหญิงชาวฮ่องกงในเหตุการณ์ต่อไปนี้ เธอวิ่งข้ามถนนโดยไม่ระมัดระวังขณะที่รถแท็กซี่ก็พุ่งมาด้วยความเร็วเช่นกัน นั่นทำให้เธอถูกรถชนเข้าอย่างจังจนตัวเธอเกยขึ้นมาบนกระโปรงหน้ารถและกระแทกเข้ากับกระจกหน้ารถ จากนั้นจึงร่วงไปนอนกองกับพื้น แต่ไม่นานนักเธอก็ลุกขึ้นอย่างใจเย็น และเดินออกไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชมคลิป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2018 ที่ถนน Po Tung บนเกาะฮ่องกง นักเรียนหญิงคนนี้เดินออกมาโดยไม่ระแวดระวังรถที่กำลังวิ่ง กล้องของรถแท็กซี่จึงถ่ายติดภาพที่พุ่งชนเข้ากับร่างของนักเรียนหญิงดังกล่าว แม้ว่าหลังจากนั้น นักเรียนหญิงในคลิปจะลุกเดินออกไปอย่างนิ่งๆ แต่ภายหลังมีรายงานว่าเด็กคนนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Tseung Kwan O Hospital เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ขา เจ้าหน้าที่สืบสวนชั้นสูง Jacky Chan ก็ออกมากล่าวว่าให้คนขับแท็กซี่เพิ่มความระมัดระวังขณะขับผ่านย่านผู้คนและทางเดินข้ามถนน อาจกระทำได้โดยการลดความเร็วลง อีกทั้งยังกล่าวกับคนเดินเท้าด้วยว่าให้มีสติและระมัดระวังอยู่เสมอ พยายามมองไฟสัญญาณจราจรและที่สำคัญเลยก็คือ “อย่าเล่นโทรศัพท์มือถือหรือจดจ่อกับอะไรที่ไม่ใช่ถนน” ที่มา: The Straits Times, CAP9UCAM9U และ nextshark
-
ศิลปินสาว วาดภาพเซเลบชายละเลงส่วนล่าง พยายามสื่อ ‘ผู้หญิงเป็นเครื่องมือสนองผู้ชาย’
* คำเตือน ภาพวาดศิลปะประกอบเนื้อหา เหมาะสมสำหรับกลุ่มผู้อ่านวัยผู้ใหญ่ * วิธีการแสดงจุดยืนของศิลปินนั้น สามารถถ่ายทอดออกมาจากผลงานของตัวเอง และเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับรู้ และนำไปตีความตามที่ต้องการจะสื่อ… และศิลปินหญิงชาวบรุกลิน จากนิวยอร์ก Alexandra Rubinstein ก็ได้ใช้วิธีวาดภาพผลงานชุด A Dream Come True โดยที่มีเนื้อหาสำหรับวัยผู้ใหญ่โดยเฉพาะ โดยลักษณะภาพจะเป็นเหล่าเซเลบชาย ใช้หน้าแนบและกำลังละเลงส่วนล่างหว่างขาของผู้หญิง Alexandra Rubinstein จุดประสงค์ของชุดภาพดังกล่าว เธอตั้งใจเอาไว้สะท้อนภาพลักษณ์ของสื่อกระแสหลักและลามกในยุคปัจจุบัน ที่ขาดมุมมองของเพศตรงข้าม (ฝ่ายหญิง) ที่ต้องการเอาใจใส่บ้าง ซึ่งส่งผลก่อให้เกิดการปฏิบัติกับผู้หญิงในชีวิตจริง และเธอต้องการที่จะเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ จากมุมมองของฝ่ายหญิงด้วย Drake Justin Bieber Leonardo DiCaprio Jon Hamm Ryan Gosling Rubinstein กล่าวว่า เธอเน้นมาที่ส่วนนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากไม่เคยถูกนำเสนอผ่านสื่อลามก หรือมีแต่น้อยมาก ซึ่งทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ สามารถเข้าใจได้ว่าการร่วมเพศนั้น…
-
สื่อญี่ปุ่นนำเสนอข่าว ‘ภูเขาขยะเกาะสมุย’ ส่อปัญหาสะสม ปัจจุบันมีมากถึง 300,000 ตัน!
ประเทศไทยมีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน โดยรวมแล้วตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หมุนเวียนกันไปเที่ยวตามแหล่งต่างๆ ทั่วประเทศ ตีจำนวนแล้วก็หลักสิบล้านกันได้เลยทีเดียว ทั้งนี้ ฉากหน้าในสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม มักจะมาควบคู่กับการจัดการขยะ และเรื่องนี้ทางสื่อญี่ปุ่นก็ได้เดินทางมา เพื่อนำเสนอข่าวขยะบนเกาะสมุยกันถึงที่เลย นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากๆ เมื่อทางสื่อญี่ปุ่นให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ทางสำนักข่าว ANN News ได้ส่งนักข่าวลงพื้นที่เกาะสมุย ทำสกูปรายงานว่า เกาะแห่งนี้เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ แต่ทว่ากลับพบปัญหาที่น่าตกใจอย่าง กองภูเขาขยะขนาดมหึมา ที่มีปริมาณมากถึง 300,000 ตัน อีกทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณเกาะ กล้องซูมออก เผยให้เห็นว่ากองขยะนั้นมีขนาดใหญ่แค่ไหน ระหว่างสกูปข่าวดังกล่าว นักข่าวได้ทำการสัมภาษณ์หนึ่งในนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชี้ให้เห็นฝั่งตรงข้ามว่าบริเวณนั้นมีกองขยะขนาดมหึมากองอยู่ และไม่สามารถกำจัดออกไปได้หมด ซึ่งเธอก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกเสียใจมากๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ยังไม่ทันขาดคำ กลับมีนักท่องเที่ยวอีกหลายราย ทิ้งขยะลงไปบริเวณข้างล่างต่อหน้ากล้อง… ในขณะยืนสัมภาษณ์นักท่องเที่ยวแค่รายเดียว เห็นนักท่องเที่ยวทิ้งขยะต่อหน้ากล้องไปแล้ว 4 คน… . . . นอกเหนือจากนั้นแล้ว ทางผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว…
-
2 โจ๋แต่งตัวเป็นผีผ้าห่อศพ หลอกชาวบ้านให้ตกใจกลัว จับตัวได้พานอนป่าช้าให้เข็ดหลาบ…
ใกล้จะเทศกาลฮาโลวีนเข้ามาทุกทีแล้ว ความน่ากลัวและสยดสยองของตัวละครผีๆ หรือฆาตกรโรคจิตต่างๆ ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาดั่งวันนรกแตก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเพียงแค่การสร้างสีสันเฮฮาตามเทศกาลเท่านั้น แต่ด้วยความนึกพิลึกพิลั่น ผสมปนเปกับความพิเรนทร์ ก็มักจะมีกลุ่มคนที่ชอบแต่งตัวเป็นผีไปไล่หลอกคนอื่นให้ตกใจ ขวัญหายไปอยู่ที่ตาตุ่ม โดยที่ไม่คำนึกถึงสุขภาพจิตใจกันสักคำ… โดยในช่วงวันที่ 21 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา เกิดเป็นเรื่องเป็นราวของ 2 โจ๋วัยรุ่น จากประเทศอินโดนีเซีย ผู้นึกคึกคะนองอยากจะหลอกชาวบ้าน ด้วยการแต่งตัวเป็นผีผ้าห่อศพ และก่อเหตุมาหลายครั้งแล้ว เรื่องดังกล่าวเปิดเผยผ่านเพจ Sarawak Viral ซึ่งหลังจากที่ทำให้ชาวบ้านตกใจกลัวมาหลายครั้ง ชาวบ้านในหมู่บ้านเกิดความเดือดร้อน จนในที่สุดก็สามารถจับตัวได้สำเร็จ และเพื่อเป็นการดัดนิสัย ชาวบ้านในหมู่บ้านจึงตัดสินให้ทำการลงโทษ 2 วัยรุ่น ด้วยการให้ไปนอนคอสเพลย์เป็นผ้าห่อศพจริงๆ ในบริเวณป่าช้าเป็นเวลา 1 คืนเต็ม หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็แสดงความคิดเห็นออกมาเป็น 2 ฝ่าย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทิศทางส่วนใหญ่จะออกไปในแนวเห็นด้วยเสียมากกว่า… “ไม่น่าปล่อยให้พวกเขานอนใกล้กันเลย อย่างงี้ก็คุยแก้เหงากันได้ทั้งคืนสิ” “ฉันคิดว่าคนที่ช่วยห่อผ้าให้กับ 2 คนนี้…
-
Chris Hemsworth เซอร์ไพรส์หนุ่มแปลกหน้าขอติดรถ จัดพานั่งเฮลิคอปเตอร์ส่งถึงที่!!
หากเราจะนึกถึงผู้ชายที่เซ็กซี่ล่ะก็ ชื่อของ Chris Hemsworth คงเป็นชื่อที่เราคิดถึงเป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า Chris Hemsworth เทพเจ้าสายฟ้าของเรานอกจากจะเป็นคนดีทั้งในจอภาพยนตร์แล้ว นอกจอเขาก็ยังเป็นคนดีอีกด้วย อย่างเมื่อวานนี้ (22 ตุลาคม 2018) เขาก็ได้โพสต์วิดีโอช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งลงในอินสตาแกรมของเขา https://www.instagram.com/p/BpNYrFbjnfJ/?hl=en&taken-by=chrishemsworth ในวิดีโอที่เราจะเห็นว่าพ่อหนุ่ม Chris กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางพร้อมกับ Luke Zocchi เพื่อนของเขา ซึ่งระหว่างทางนั้นพวกเขาก็ได้เจอ Scott Hildebrand นักดนตรีที่กำลังโบกรถเพื่อขอเดินทางไปเมือง Byron Bay ในออสเตรเลียด้วย พวกเขาทั้งสองจึงได้ตัดสินใจรับ Scott มาร่วมก๊วนเดินทางด้วย แต่… พวกเขาไม่ได้บอกว่าจะเดินทางไปจุดหมายด้วยพาหนะอะไรบ้าง และแล้ว Scott ก็ถูกทำเซอร์ไพรส์ เมื่อรู้ว่าหนุ่มคนที่รับเขามาจะพาไปยังจุดหมายด้วย “เฮลิคอปเตอร์” แถมยังเล่นมุกขอแชร์ค่าน้ำมันอีก 131,000 บาท !! (ทีนี้ไม่รู้แล้วว่าตา Scott เซอร์ไพรส์เรื่องเครื่องบินหรือค่าน้ำมัน) Scott…
-
แอดมินชาวจีน ถูกจำคุก 6 เดือน หลังจับได้ว่าแชร์ “คลิปโป๊” ลงในกลุ่ม WeChat เป็นประจำ
รู้นะว่าหลายคนมีกลุ่มลับทั้งในเฟซบุ๊ก แมสเซนเจอร์ หรือว่าไลน์ ซึ่งก็ไม่ผิดหรอกหากจะเป็นกลุ่มลับที่สร้างไว้สำหรับแชร์ข้อมูลที่ไม่อยากเผยให้คนนอกได้รับรู้ เว้นเสียแต่ว่าข้อมูลเหล่านั้นมันจะเป็น “หนัง/คลิปโป๊” เพราะว่าล่าสุดในประเทศจีนได้มีมาตรการควบคุมอย่างจริงจังถึงเรื่องการเผยแพร่คลิปอนาจารลงบนอินเทอร์เน็ต ชายวัย 31 ปีจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ชื่อว่า Luo ผู้เป็นแอดมินกลุ่มลับ “ประมูลของเก่าชายขอบ” ในแอปฯ WeChat ถูกตัดสินจำคุก 6 เดือนหลังพบว่าเป็นผู้เผยแพร่สื่อลามกภายในกลุ่ม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าภายในเวลา 11 วัน มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอลามกถึง 46 คลิปต่อวันเลยทีเดียว Luo ผู้เป็นแอดมินเคยเปลี่ยนชื่อกลุ่มมาหลายครั้งเพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกจับได้ แต่ครั้งนี้กลับหนีไม่รอด กลุ่มที่มีสมาชิกราว 150 คนนั้นถูกปิดลงและตัวของ Luo เองก็ถูกจับกุมในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังการพิจารณาคดีในช่วงเดือนสิงหาคม สัปดาห์นี้ผลการตัดสินก็ออกมาแล้วว่าให้ Luo รับโทษจำคุกถึง 6 เดือน ซึ่งเป็นโทษที่ได้รับการลดหย่อนแล้ว ใครที่มีกลุ่มลับแชร์สื่ออนาจารก็ระวังไว้ให้ดีนะ เดี๋ยวจะซวยเอาได้ ที่มา: nextshark และ Shanghaiist
-
เปิดภาพกล้องวงจรปิด คดีฆาตกรรมนักข่าวซาอุฯ อำพรางด้วยร่างตัวแทน สวมใส่ชุดผู้ตาย…
เป็นอีกหนึ่งคดีที่สะเทือนไปทั่วโลก หลังจากเกิดกรณีการถูกสังหารโหดของนาย Jamal Khashoggi นักข่าวอิสระชาวซาอุดีอาระเบีย จากการเข้าไปในอาคารสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี จนเกิดเป็นการตั้งคำถามว่า ‘ใครเป็นคนลงมือ’ รายละเอียดข่าวเก่า: สรุปไทม์ไลน์ ‘นักข่าวซาอุฯ’ หายตัว ก่อนถูก ‘สังหารโหด’ ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?? Jamal Khashoggi โดยล่าสุดนี้ ทางสำนักข่าว CNN ได้ทำการเปิดเผยภาพวงจรปิดจากแหล่งข่าวในประเทศตุรกี ปรากฏเป็นภาพของชายนิรนามรายหนึ่ง ที่เดินออกมาจากอาคารกงสุล หลังเกิดเหตุการฆาตกรรมนาย Jamal ชายคนดังกล่าวมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายคลึงกับนาย Jamal อีกทั้งยังสวมใส่เสื้อผ้าชุดเดียวกันกับผู้ตาย พร้อมกับใส่หนวดเคราปลอม เพื่อทำการอำพรางตัวบุคคล CNN รายงานว่าร่างอำพรางคือนาย Mustafa al-Madani เจ้าหน้าที่ของทางการซาอุดีอาระเบีย หนึ่งในจำนวน 15 คนที่ถูกส่งมาจัดการนาย Jamal ในอาคารกงสุล และทำการจัดฉากอำพรางการกระทำทั้งหมด จากภาพวงจรปิด Madani เดินทางมาถึงตัวอาคารในวันที่ 2…
-
นร.หนุ่มประท้วงโรงเรียนออกกฎแบนกระเป๋า เลยนำหนังสือใส่ ‘ไมโครเวฟ’ มาโรงเรียนแทน
แม้ว่าโรงเรียนแต่ละแห่งจะมีกฎที่คล้ายๆ กัน แต่บางที่ก็อาจจะมีกฎที่แปลกกว่าที่อื่นอยู่บ้าง เช่นเดียวกันกับโรงเรียน Spalding Grammar ที่ตั้งอยู่ในมณฑล Lincolnshire สหราชอาณาจักรนี้เอง ก็เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่มีกฎเกณฑ์สุดแปลก เพราะพวกเขาสั่งห้ามไม่ให้นักเรียนสะพายกระเป๋าไปโรงเรียน!! ทางโรงเรียน Spalding Grammar เพิ่งมีมติให้แบนกระเป๋าเมื่อไม่นานมานี้ โดยที่ให้เหตุผลว่าการสะพายกระเป๋าที่ใส่หนังสือเอาไว้จำนวนมาก จะทำให้นักเรียนเสียสุขภาพหรือบาดเจ็บบริเวณไหล่ได้ ดังนั้นทางโรงเรียนจึงให้นักเรียนของพวกเขาเปลี่ยนไปถือหนังสือไปเรียนแทน ซึ่งในตอนแรกก็เริ่มใช้ในไม่กี่ชั้นเรียน แต่ ณ ปัจจุบันถูกใช้ทั้งโรงเรียนแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ากฎสุดแปลกนี้ นักเรียนบางคนอาจจะรู้สึกไม่เห็นด้วยเป็นธรรมดา เช่นเดียวกับ Jacob Ford หนุ่มหล่อวัย 17 ปีคนนี้ ที่พยายามจะร้องขอให้โรงเรียนยกเลิกกฎนี้ Jacob ได้ทำการแบบประท้วงแบบสงบๆ โดยการนำหนังสือใส่สิ่งที่ไม่ใช่กระเป๋ามาโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นไมโครเวฟ, ถุงพลาสติกหรือตะกร้าหวาย รวมถึงยังได้เขียนเรียงความที่ยาวกว่า 3,000 คำ เพื่อร้องขอให้มีการยกเลิกกฎดังกล่าว แต่แทนที่จะได้ตอบกลับจากทางโรงเรียนดีๆ เขากลับถูกโรงเรียนพักการเรียนเป็นเวลาสองวันหลังจากปฏิเสธที่จะเลิกร้องเรียนเรื่องนี้ ซึ่งทาง Tracy คุณแม่ของ Jacob ก็ได้สนับสนุนลูกชายเธออย่างเต็มที่และยังภูมิใจในการกระทำของ Jacob ซึ่งเธอมองว่าเป็นการประท้วงที่สันติ ไม่ได้ก่อความเดือดร้อนใดๆ และเธอยังเชื่อในสิทธิเสรีภาพอีกด้วย แต่ทาง Steven Wilkinson…
-
Lil Tay ปรากฏตัวหลังหายไป 4 เดือน ถูกพ่อข่มเหง จนเป็นซึมเศร้า และต้องตัดขาดจากโลกโซเชียล
หากคุณได้ติดตามข่าวคราวในแวดวงฮิปฮอปรุ่นใหม่ของอเมริกา คุณอาจจะคุ้นชื่อของ Lil Tay สาวน้อยแรปเปอร์ ที่ออกมาโลดแล่นรันวงการ ผ่านสื่อโซเชียล จนถูกกระแสตีกลับไปอยู่ช่วงหนึ่ง เนื่องจากความเป็นเด็ก ที่ไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้… ท่ามกลางกระแสโจมตีที่ถาโถมเข้ามา โดยเบื้องลึกเบื้องหลังแล้ว หนูน้อย Lil Tay นั้นไม่ได้เข้าวงการด้วยตัวเองเพียงลำพัง แม้จะแสดงท่าทางโปรยเงิน ใช้คำวาจาไม่เหมาะสม ตีสนิทกับคนในวงการยูทูบเบอร์ และแรปเปอร์ต่างๆ แต่ก็มีพี่ชายและคุณแม่คอยอยู่เป็นเบื้องหลัง ดูแลประกบการใช้สื่อ และเลือกงานให้กับน้องอยู่เสมอ แต่แล้วจู่ๆ ในช่วงที่ผ่านมาเกือบจะ 4 เดือนเศษ หนูน้อย Lil Tay นั้นได้หายตัวไปจากหน้าสื่อโซเชียลมีเดีย แทบจะไม่มีใครพูดถึงหรือเห็นหน้าของน้องโผล่มาอีกเลย ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ถูกบอกเล่าและเปิดโปงผ่านอินสตาแกรมของน้อง โดยอดีตผู้ที่เคยร่วมทำงานกับน้องนั่นเอง * กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อมูลทั้งหมด (ยังเป็นข้อมูลเพียงฝ่ายเดียว) * * อัพเดท 23 ตุลาคม 12.43 น. ข้อมูลในอินสตาแกรม @liltay ถูกลบออกทั้งหมดแล้ว * …
-
25 การเปลี่ยนแปลงตัวเอง เมื่อตั้งใจลดน้ำหนักอย่างจริงจัง กลายเป็นคนละคนอย่างเห็นผล!
การหันมาใส่ใจสุขภาพ ดูแลตัวเองถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง นอกเหนือจากการที่มีสุขภาพดีชีวิตยืนยาวแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป จะช่วยทำให้ตัวตนของเราดูดีขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว… แม้ว่าการลดน้ำหนัก การควบคุมอาหารอาจจะเป็นเรื่องที่เริ่มต้นได้ยากในช่วงแรกๆ แต่ผลของความพยายามและความตั้งใจอย่างจริงจัง จะก่อเกิดเป็นผลงอกเงย ตอบแทนความเหนื่อยได้อย่างคุ้มค่า กับ 25 ตัวอย่างดีๆ ที่จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้คุณเริ่มต้นได้ ไม่มากก็น้อย… ใช้เวลาทั้งหมด 365 วัน จาก 99 กิโลกรัม สู่ 61 กิโลกรัม เผาผลาญน้ำหนัก 104 กิโลกรัมภายใน 3 ปี ปัจจุบันขนาดตัวเล็กกว่าครึ่งหนึ่งจากที่เคยเป็น เปรียบเทียบจากปี 2010 กับปี 2018 ปัจจุบันหน้าคล้าย Gal Gadot มวากกก! จากน้ำหนัก 145 กิโลกรัม ลดเหลือ 104 กิโลกรัม ในระยะเวลา 3 ปี แถมมวลกล้ามให้ด้วยเอ๊าะ! ต่อไปนี้จะมาว่าเป็นคุณพ่อลงพุง ไม่ได้แล้วน้าาาาา…
-
กลุ่มเพื่อนซี้ นัดแต่งคอสฯ รับฮาโลวีน นักแสดงรับบทไหน ก็แต่งพัฒนาตามขึ้นทุกปี!!
เทศกาลฮาโลวีนหรือวันปล่อยผี เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นประจำในวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสอันดี ที่จะได้แต่งตัวปล่อยผีตามใจที่อัดอั้นกันมานาน กลายเป็นวันคอสเพลย์ผีไปโดยปริยาย แต่ก็ใช่ว่าจะมีคนแต่งตัวเป็นผีๆ ไปเสียหมด อยากจะแต่งอะไรก็เป็นได้ตามใจอยาก คิดเสียว่าอยากแต่งตัวแนวแฟนซีแหวกๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน กลุ่มซี้สนิทกัน Jamie Bell, Auburn Salcedo และเหล่าผองเพื่อน ไอเดียแบบนี้จึงเกิดขึ้นกับกลุ่มเพื่อนสาวเพื่อนซี้ Jamie Bell, Auburn Salcedo และคนอื่นๆ ในกลุ่ม รวมตัวกันทั้งหมด 7 คนด้วยกัน โดยจุดเริ่มต้นของการแต่งคอสเพลย์เหล่านี้ ถือกำเนิดเมื่อ 8 ปีก่อน โดยที่ทุกคนไม่เคยเจอกัน ไม่เคยสนิทกัน แต่มาเจอกันด้วยการถูกจ้างมาถ่ายงานสำหรับบล็อกเกอร์ด้านแฟชั่น สำหรับงานด้านการโฆษณา โจทย์ปี 2012 Johnny Depp: Fear and Loathing, Pirates of the Caribbean, Alice in Wonderland, Sweeney Todd,…
-
ชายฝรั่งเศสรับการผ่าตัดเอา “วัตถุประหลาด” ออกจากช่องท้องหลังยัดเข้าทางทวารหนัก
(บทความมีภาพและเนื้อหาของความรุนแรง ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม) ของบางอย่างที่ขนาดใหญ่กว่าแขนจะเข้าไปอยู่ในร่างกายได้อย่างไร ดูเหมือนเป็นคำถามที่เกินจะจินตนาการ…แต่เรื่องราวในวันนี้ได้เฉลยคำตอบมาเรียบร้อยแล้ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส ชายคนหนึ่งถูกนำตัวเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉินหลังยัดวัตถุประหลาดขนาดใหญ่กว่าท่อนแขนเล็กน้อยเข้าไปในร่างกาย ภายหลังทราบว่า ชายดังกล่าวได้ยัดวัตถุประหลาดนี้เข้าไปทางรูทวารหนัก เขาสามารถยัดเข้าไปได้จนสุด แต่กลับไม่สามารถรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นได้ ทางทีมแพทย์กล่าวว่าการจะดึงวัตถุชิ้นนี้ออกทางเดิมนั้นเป็นไปไม่ได้แน่ จำเป็นต้องใช้วิธี “ผ่าตัด” เท่านั้น และเมื่อทีมแพทย์เริ่มกรีดมีดผ่าตัดลงไปบริเวณช่องท้องของผู้ป่วย วัตถุที่พบนั้นก็ได้สร้างความตกใจให้ทุกคนโดยรอบอย่างมาก หลังดึงวัตถุออกมาได้แล้ว พบว่ามันคือวัตถุรูปร่างเหมือน องคชาต คล้ายสิ่งที่บ้านเราเรียกกันว่า “ปลัดขิก” ซึ่งวัตถุนี้มีวางขายทั่วไปตามร้านขายของเล่นทางเพศ (Sex Toy) แม้จะลงมือผ่าตัด แต่การดึงวัตถุขนาดใหญ่นี้ออกจากร่างกายมนุษย์ก็หาใช่สิ่งที่ทำได้ง่าย แพทย์ต้องใช้แรงดึงค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงเนื้อเยื่อของผู้ป่วยด้วย แต่สุดท้าย ทีมแพทย์ก็สามารถนำ “ปลัดขิก” อันเขื่องนี้ออกจากร่างกายของชายคนนี้ได้สำเร็จ และไม่มีใครเสียชีวิต… แพทย์พยายามดึงวัตถุนี้ออกจากช่องท้องของผู้ป่วย สุดท้าย ก็สามารถนำออกจากร่างกายผู้ป่วยได้สำเร็จ (อันใหญ่มาก) หากใครต้องการชมวิดีโอกรุณาเข้ามาชมได้ที่ ลิงก์นี้ อะไรที่มัน “เกินไป” นั้นมักจะมีผลเสียตามมาเสมอจริงๆ เลย ขอให้ชายคนนี้หายเจ็บไวๆ ด้วยก็แล้วกันนะ… ที่มา: ck101 และ igusuri
-
Aika Okita ผู้ประกาศข่าวผู้มาพร้อมรอยยิ้ม “โคตรสดใส” คว้าหัวใจชายหนุ่มไปหมดแล้ว!!
เช้าวันเสาร์ของประเทศญี่ปุ่นจะมีรายการ Mezamashi Saturday ที่ถ่ายทอดทางช่อง Fuji TV ซึ่งเป็นรายการประกาศข่าวสารวาไรตี้ เช่น ข่าวกีฬา บันเทิง แฟชั่น รวมถึงรายงานสภาพอากาศ ล่าสุด รายการ Mezamashi Saturday ก็กลายเป็นที่ชื่อชอบของผู้ชมโดยเฉพาะ “หนุ่มฉกรรจ์” ทั้งหลาย ก็เพราะว่าผู้รายงานสภาพอากาศสาวของรายการนั้นมีความ น่ารัก คิ้วท์ๆ เกินห้ามใจไหวจริงๆ!! หนูคนนี้นี่แหละ (คาวาอี้สุดๆ) และเรื่องนี้ก็กลายเป็นที่ฮือฮากันอีกครั้งเมื่อภายหลังทราบว่าเธอคนนี้น่ะยังเป็น นักศึกษา อยู่เลย!! เธอมีชื่อว่า Aika Okita อายุ 21 ปี มาจากจังหวัดมิยาซากิ ทางตอนใต้ของเกาะคิวชู แม้ว่าเธอเพิ่งเข้ามาเริ่มงานผู้ประกาศข่าวรายงานสภาพอากาศได้เพียง 6 เดือน แต่ตอนนี้บอกเลยว่าแฟนคลับแน่นเอี้ยด!! Aika Okita ผู้รายงานสภาพอากาศสุดคิ้วท์ งู๊ยยยยยย…ยิ้มทีใจละลาย ขณะที่หนู Aika อยู่ในชุดทำงานแสนสุภาพเรียบร้อยเธอก็มีหนุ่มๆ มาสมัครเป็นแฟนคลับอย่างล้นหลามแล้ว ยิ่งพอเธออยู่นอกบทบาทหน้าที่ของผู้ประกาศข่าวกลายเป็นหญิงสาวธรรมดาที่แต่งกายตามใจชอบ ยิ่งทำให้เธอกลายเป็นหญิงที่ต้องใช้คำว่า “โคตรน่ารัก” เลยทีเดียว… น่ารักแถมเก่งอีกด้วยนะเนี่ย!! …
-
คุณแม่เกือบถูกซ้อมจนตาย รอดมาได้เพราะลูกสาววัย 6 ขวบไปบอกครูว่า “พ่อชอบทำร้ายแม่”
ความรุนแรงในครอบครัวยังคงเกิดขึ้นในทุกๆ วัน เพียงแต่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเหยื่อคนนั้นจะต้องทนรับกับความทรมานมากน้อยมากแค่ไหน เพราะพวกเขาเองก็เลือกที่จะไม่พูดเรื่องเหล่านั้นให้ใครฟัง เช่นเดียวกันกับ Jodie Keegans คุณแม่ลูกสามวัย 35 ปี หญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในลักษณะนั้น กับการที่สามีของเธอทุบตี ทารุณกรรมเธออย่างโหดเหี้ยมและไร้เหตุผล Jodie และครอบครัวอาศัยอยู่ในเมือง Doncaster ประเทศอังกฤษ Jodie เล่าว่าเธอคบหาดูใจและมีลูกด้วยกันกับ Scott ชายวัย 34 ปี ก่อนที่ทั้งสองจะแต่งงานกันในปี 2009 แต่เมื่อความสัมพันธ์ของพวกเขาดำเนินมาได้ราวๆ 10 ปี จากสามีและพ่อที่ดีก็กลับแปรเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอเริ่มถูกสามีทำร้ายร่างกายตั้งแต่ในช่วงปี 2014 เธอถูกห้ามไม่ให้ใช้มือถือ ไม่ให้ออกไปทำงาน แค่จะออกไปเจอเพื่อนหรือคนในครอบครัวก็ยังทำไม่ได้ แม้แต่การจะออกไปเยี่ยมหลุมศพของพี่สาวที่ตายไปด้วยโรคมะเร็ง เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกไปได้เลย หลังจากนั้นเธอต้องทนทุกข์อยู่กับการโดนทำร้ายร่างกายทุกๆ วันมาตลอดระยะเวลา 3 ปี เธอถูกทุบตีอย่างหนัก มีบาดแผลและรอยช้ำเต็มตัว เธอเล่าว่าในช่วงเวลานั้นเธอจะถูกจับตามองอยู่เสมอ และ Scott ก็จะคอยถามลูกๆ ตลอดในแต่ละวันว่า “เห็นคุณแม่ได้ไปคุยกับใครหรือเปล่าเอ่ย??” และจะด่าว่าเธอเป็นคนไร้ค่าให้ลูกๆ ฟังอยู่เรื่อยๆ …
-
ชาวเน็ตรุมสับ Lady Gaga ในชุดสูทโอเวอร์ไซส์ แต่แอบแฝงไปด้วย ‘ความโหดร้ายในวงการ’
ในทุกๆ ครั้งที่มีเหล่าคนดังระดับโลก เดินทางมาร่วมงานพรมแดง พร้อมกับแต่งตัวแบบแปลกๆ ในระดับที่คนทั่วไปเข้าไม่ถึง อาจจะเป็นเพราะด้วยรสนิยมที่แตกต่างกันไป ก็ไม่วายจะถูกหยิบยกมาพูดถึงในโลกออนไลน์อยู่เสมอ ประเด็นล่าสุดก็เป็นของ Lady Gaga กับการสวมใส่ชุดสูทโอเวอร์ไซส์ ที่ออกแบบโดย Marc Jacobs เดินทางเข้าร่วมงานอีเว้นท์ในฮอลลิวูด พร้อมกับทรงผมแบบเรียบง่าย แต่แอบแฝงอะไรบางอย่างในครั้งนี้ด้วย ภายหลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นการแต่งตัวแวบแรกของเธอ ต่างพากันพูดติดตลกขำขันว่าเธออาจจะบ้าไปแล้วแน่ๆ และตัดสินว่าเป็นสิ่งที่เชย ไร้รสนิยมอย่างรุนแรง ถึงขั้นทำภาพล้อเลียนเป็นมีมต่างๆ ออกมาแซะ A Star is Born คือหนังยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยได้ดูมาเลย ดีมากถึงขนาดที่ผมยอมให้ Lady Gaga ยืมชุดสูทไปใส่… (ทวีตจาก ปีเตอร์ เคราช์ นักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ) ภาพมีมที่ถูกนำมาใช้เปรียบเทียบ . “ลุคนี้เคยมีคนใส่มาแล้ว” แต่สิ่งที่ทุกคนมองไม่เห็นในความตั้งใจที่ Lady Gaga เลือกใส่ชุดนี้มา เป็นเพราะเธออยากจะบอกในสิ่งที่หลายคนไม่รู้ ด้านความโหดร้ายในวงการมายาฮอลลิวูด… Lady…
-
อาจารย์สาวสุดฮา แจก “มีม” ให้คะแนนนักเรียน ได้เสียงตอบรับที่ดีจากทั้งชาวเน็ตและลูกศิษย์
คุณครูคือคนที่เปรียบได้ดังกับพ่อแม่คนที่สอง เพราะว่านอกจากพ่อแม่จริงๆ แล้วก็มีคุณครูนี่แหละที่คอยสอนความรู้ต่างๆ และการใช้ชีวิตในสังคมให้แก่เด็กๆ ทั้งหลาย และด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป มีครูรุ่นใหม่เข้ามาแทนครูรุ่นเก่า ก็เริ่มมีการประยุกต์การเรียนการสอนให้เข้ากับการเรียนการสอนสมัยใหม่มากขึ้น เหมือนกับ Ainee Fatima คุณครูวัย 27 ปี ที่สอนภาษาอังกฤษอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกาคนนี้ที่เรียกเสียงฮาให้กับนักเรียนและชาวเน็ตด้วยการตรวจการบ้านโดยแจก “มีม” ให้คะแนนนักเรียนแทนคะแนนแบบปกติ I love grading with my new stickers! pic.twitter.com/4K66qQblSJ — aineef (@axfxq) October 17, 2018 วันที่ 17 ตุลาคม 2018 ได้ Ainee ได้โพสต์วิดีโอลงในทวิตเตอร์ของเธอพร้อมกับแคปชั่นว่า “ฉันชอบการให้คะแนนด้วยสติกเกอร์ใหม่นี้จัง” ในวิดีโอเราจะเห็นได้ว่าเธอได้ทำเครื่องหมายลูกศรชี้เข้าไปที่ข้อความในการบ้านของนักเรียน ก่อนที่จะติดสติกเกอร์มีมหน้างุนงงของ Nick Young เพื่อสื่อให้นักเรียนรู้ว่าคุณครูคนนี้ไม่เข้าใจข้อความที่พวกเธอเขียนมานะ!! ถ้านักเรียนทำได้ดีก็จะได้รับภาพมีมของ Gordon Ramsey ที่มีข้อความว่า “เยี่ยมมาก วันนี้เธอได้ดาวทองไปเลย” Don't worry, I did positive memes…
-
หนุ่มเพื่อนซี้กวาง ถูกคุ้ยประวัติ ‘เหยียดทั้งคนทั้งสัตว์’ ขอสังคมให้อภัย ยังเป็นเด็กเล่นทวิตฯ
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2016 คุณอาจจะเคยได้เห็นหน้าตาของ Kelvin Peña หนุ่มผู้กลายมาเป็นกระแสไวรัลจากการที่เป็นเพื่อนซี้ตีสนิทเหล่ากวาง และกลายมาเป็นชายผู้ใกล้ชิดธรรมชาติในนาม “Brother Nature” ข่าวเก่า: หนุ่มวัย 17 ให้อาหารเจ้ากวางแค่หนึ่งตัว แล้วเขาก็ได้เข้า ‘แก๊งกวาง’ พร้อมเพื่อนใหม่เพียบ Kelvin Peña ปัจจุบันนี้ Peña ในวัย 20 ปี มียอดผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคนบนอินสตาแกรม และอีก 1 ล้านคนที่ติดตามบนทวิตเตอร์ ซึ่งหลังจากที่โด่งดังเป็นกระแส เขาสามารถก่อตั้งองค์กรไม่แสวงกำไร Everybody Eats ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาล ให้ผู้ปกครองได้รับประทานอาหารดีๆ ร่วมกับลูกๆ อีกทั้งเมื่อปีแล้ว องค์กรของเขาก็ช่วยเหลือส่งของยังชีพให้กับผู้ประสบภัยพายุเฮอร์ริเคนในประเทศปวยร์โตรีโกด้วย ปัจจุบันเจ้าตัวก็ยังคงโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้ากวาง Canela, Money และสัตว์ตัวอื่นๆ พร้อมกับรับสปอนเซอร์โฆษณาต่างๆ ช่วยโปรโมทแบรนด์ธุรกิจเพื่อความอยู่รอด https://twitter.com/Kaliddd_/status/1054119220747886592 แต่ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพทวีตในอดีตของ Peña…
-
หนูน้อยได้ทำเล ยืนขายคุกกี้หน้าร้านกัญชาในแคนาดา ของหมดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง!?
หลังจากที่ประเทศแคนาดาประกาศปลดล็อคกัญชาไปเรียบร้อยแล้ว ร้านค้าขายกัญชาต่างแน่นเอี๊ยดไปด้วยลูกค้าสายเขียวจำนวนมาก มายืนรอต่อแถวเข้าคิวซื้อกัญชาอย่างถูกกฎหมายในวันแรก เหมือนเข้าคิวซื้อ iPhone ตอนเปิดตัวใหม่ๆ ไม่มีผิด Elina Childs แต่ด้วยจำนวนคนเข้าคิวที่เยอะ และต้องรอเป็นระยะเวลานาน หนูน้อยลูกเสือ Elina Childs จึงมีความคิดดีๆ ที่จะช่วยสร้างรายได้ในเวลาอันรวดเร็ว เธอจึงเลือกมายืนขายคุกกี้ให้กับลูกค้าร้านกัญชาเสียเลย… บริเวณหน้าร้าน Nova Cannabis ในรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา มีลูกค้ามายืนต่อแถวอย่างคับคั่ง หนูน้อย Elina กับคุณพ่อจึงนำคุกกี้มายืนขายหน้าร้าน พร้อมกับตระเวนเดินขายส่งตรงถึงมือลูกค้าที่ยืนรอคิวด้วย จำนวนลูกค้าที่มายืนรอเข้าคิว เพื่อไปซื้อกัญชาในวันแรก! จากปกติงานขายคุกกี้ลูกเสือนั้นจะต้องเดินขายตามบ้านเรือน ไปเคาะประตูขายทีละหลัง แต่ด้วยกิจการใหม่ที่ทำให้ชาวสายเขียวมารวมตัวกันในที่เดียว อยากจะมีของขบเคี้ยวคู่กับตุ่ย ก็เข้าทางขายของกันเลยทีนี้ ด้านคุณพ่อ Seann เป็นผู้ริเริ่มไอเดียช่วยลูกสาวขายคุกกี้ หลังจากที่เห็นคนมาต่อคิวหน้าร้านกัญชาเยอะมากๆ และจากที่ลูกสาวขายคุกกี้ด้วยวิธีเดิมไม่ค่อยออก วิธีนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ยืนขายหน้าร้านกันไปเลย! “ปีที่แล้ว ลูกสาวผมถูกสุนัขกัดด้วย มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นแต่ก็ทำให้รู้สึกกังวลอยู่บ้าง ซึ่งในขณะที่ขับรถผ่านหน้าร้านกัญชา พวกเราก็เห็นแถวยาวเหยียดหน้าร้าน ก็เลยลงจอดแวะขายมันตรงนั้นเลย”…
-
สายการบินถูกวิจารณ์หนัก หลังไม่ยอมไล่ผู้โดยสารที่ “ด่าเหยียดคนผิวสี” ลงไปจากเครื่อง
ในวันที่ 19 ตุลาคม 2018 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า David Lawrence ได้ทำการแชร์คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงการ “เหยียดผิว” อย่างชัดเจน และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก ภายในคลิปเผยให้เห็นว่าชายชราผิวขาวคนหนึ่งตะโกนโวยวาย ด่าเหยียดคนผิวสีที่นั่งข้างๆ กับเขาบนเครื่องบินของสายการบิน Ryanair ในช่วงก่อนที่เครื่องจะออก กลายเป็นจุดสนใจของผู้โดยสารคนอื่นๆ ชายผิวขาว ผู้โดยสารที่แสดงออกถึงการเหยียดผิวอย่างชัดเจน David เล่าว่า ชายชราคนนั้นใช้คำพูดที่รุนแรงเป็นอย่างมาก ตะโกนออกมาในตอนแรกว่า “หลบไป มึงขวางทางกุอยู่ เอาจริงๆ กุไม่อยากนั่งกับมึงหรอก” คำพูดนั้นทำให้ลูกสาวของหญิงชราผิวสีต้องรีบวิ่งเข้ามาดูว่าใครมาด่าแม่ของเธอ โดยเธอก็พูดตอบกลับชายคนนั้นไปว่า “คุณพูดกับใคร? อย่าตะโกนใส่เธอ นั่นน่ะแม่ฉันนะ เธออายุมากจนถึงกับต้องนั่งวีลแชร์แล้ว” ถึงอย่างนั้นชายผิวขาวก็ได้พูดออกมาว่า “แล้วไง กุไม่สน” เที่ยวบินนี้มุ่งหน้าตรงไปยังประเทศอังกฤษ แต่ไม่มีการรายงานว่าชายคนดังกล่าวนั้นเป็นคนชาติใด การถกเถียงกันไปมาทำให้พนักงานบนเครื่องบินต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ซึ่งชายชราก็ยังคงต่อว่าด่าคนผิวสีต่อไป และบอกให้เธอย้ายไปนั่งที่อื่นได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาจะเป็นคนจับเธอย้ายที่ซะเอง คำพูดหนึ่งที่รุนแรงมากๆ คือในตอนที่หญิงชราผิวสีหันไปพูดบางอย่างกับเขาช้าๆ ชายคนนั้นก็ตอกหน้ากลับมาว่า “อย่ามาพูดกับกุด้วยภาษาต่างชาติงี่เง่าของแกนะ อีวัวโง่หน้าตาน่าเกลียด” คำพูดของเขาทำให้ผู้โดยสารคนอื่นๆ ถึงกับตะโกนใส่เขาว่า “ไล่มันลงไป ไล่คนแบบนี้ลงไปจากเครื่องได้แล้ว”…
-
โปรเจกต์ขายเนื้อสัตว์ กับแพกเกจ ‘โลงศพ’ สุดเจ๋ง ที่จะทำให้คุณหันมากินผักแทน!!
เรื่องของ ‘แพกเกจ’ ถือเป็นส่วนที่ช่วยให้สินค้าของเรามีความน่าสนใจ และดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี… และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมโปรเจกต์การแพกเกจเนื้อสัตว์ ชื่อว่า R.I.P Meat In Coffins ที่ขอบอกเลยว่าทำออกมาได้น่าสนใจจริงๆ แต่เห็นแล้วมันก็รู้สึกแปลกๆ ว่าจะซื้อมากินดีมั้ย!? โปรเจกต์ดังกล่าว ได้นำเนื้อสัตว์ต่างๆ มาใส่กล่องที่มีรูปร่างเหมือนกับ ‘โลงศพ’ แถมยังมีป้ายหลุมศพมาให้ซะด้วย!! นอกจากนี้ก็ยังมีชื่อของเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ เพื่อบ่งบอกว่าแพกเกจไหนบรรจุเนื้ออะไร พร้อมกับบอกสาเหตุการตายเอาไว้ อย่างเช่น Ms. Chicken เป็นเนื้อไก่, Mr. Pick เป็นเนื้อหมู ,หรือ Mr. Ram เป็นเนื้อแกะ เป็นต้น แต่ละอย่างล้วนแล้วแต่ ‘ถูกฆ่าเพื่อนำมาทำเป็นอาหาร’ รวมไปถึงตัวหนังสือที่เขียนอยู่ข้างโลงว่า “เกิดมาเพื่อกลายเป็นอาหาร” เป้าหมายของโปรเจกต์ดังกล่าวคือการชี้ให้คนตระหนักถึงการทานเนื้อ ว่าสัตว์ทั้งหลายเองก็ต้องสละชีวิตกลายมาเป็นอาหารของเหล่ามนุษย์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแพกเกจที่ทำออกมานั้นมันช่างสวยงามจริงๆ ฉะนั้นต่อให้ได้ผลมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถดึงดูดใจลูกค้าให้ซื้อไปได้อย่างแน่นอน ลองไปชมภาพในมุมต่างๆ…
-
Keira Knightley เผย ไม่ให้ลูกดู ‘การ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์บางเรื่อง’ เพราะปลูกฝังในทางที่ผิด!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘จักรวาลเจ้าหญิงดิสนีย์’ นั้นถือเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก และมักจะมีข้อคิดดีๆ ที่แอบแฝงอยู่เบื้องหลังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมมากมาย แต่สำหรับบางคนแล้วมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น… หนึ่งในนั้นก็คือ Keira Knightley ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง ซึ่งล่าสุดเธอออกมาเปิดเผยผ่านรายการ The Ellen Show ว่า… ไม่ให้ลูกสาววัย 3 ขวบ ของตัวเองดู ‘การ์ตูนดิสนีย์บางเรื่อง’ เพราะเผยให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของผู้หญิงในทางที่ผิดๆ ประกอบไปด้วยเรื่อง ‘เงือกน้อยผจญภัย’ และ ‘ซินเดอเรลลา’ Keira กล่าวถึงเรื่องเงือกน้อยผจญภัยว่า “มันเป็นเรื่องที่กวนใจฉันมากๆ เลย เพราะฉันรักการ์ตูนเรื่องนี้ ฉันหมายความว่า เพลงในเรื่องมันสุดยอดมากเลยนะ แต่ฉันจะไม่ยอมเสียเสียงของตัวเองไปเพื่อผู้ชายหรอก “ เธอกล่าวถึงซินเดอเรลลาว่า “เธอเป็นผู้หญิงที่หวังพึ่งพาแต่ผู้ชายรวยๆ ทำไมไม่พึ่งพาตัวเองล่ะ!?” นอกจากนี้ Keira ยังเปิดเผยอีกว่า ไม่ได้หมายความว่าเธอจะแบนไม่ให้ลูกดูการ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ไปซะทุกเรื่อง อย่างเช่นเรื่อง Moana หรือ Frozen ก็ถือเป็นการ์ตูนที่ดี และมันสามารถปลูกฝังข้อคิดดีๆ ให้กับลูกสาวของเธอได้ …
-
คุณแม่สุดช็อก หลังพบ “เขี้ยว” ที่จู่ๆ ก็งอกออกมาในปากของลูกน้อยวัย 2 เดือนครึ่ง!!
ตามปกติแล้วเด็กๆ จะเริ่มมีฟันงอกออกมาซี่แรกในช่วงอายุราวๆ 3-4 เดือนเป็นต้นไป (ขึ้นอยู่กับตัวเด็กแต่ละคน) แต่สำหรับหนูน้อยคนนี้กลับไม่ได้แค่งอกออกมาเร็วกว่าเด็กคนอื่นๆ แต่มันกลับมีอะไรที่ต่างออกไปอีกด้วย หนูน้อย Oscar O’Byrne คือเด็กชายวัย 11 สัปดาห์ หรือราวๆ 2 เดือนครึ่ง จากเมือง Drogheda ประเทศไอร์แลนด์ ผู้ซึ่งมี ”เขี้ยว” ซี่แรกงอกออกมาในช่วงเวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง เขี้ยวที่จู่ๆ ก็งอกออกมาในเวลาแค่ 1 ชั่วโมง?! Tara แม่ของเขาเล่าว่าเธอได้เข้าไปหาลูกน้อยในห้องตอนประมาณ 1 ทุ่ม โดยปกติแล้วเธอจะให้เขาดูดจุกปลอมจนเผลอหลับไป ทว่าในวันนั้นเด็กน้อยกลับร้องไห้อยู่เรื่อยๆ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง Tara ก็ได้ไปอุ้มลูกน้อยออกมาจากห้องเพื่อจะเปลี่ยนผ้าอ้อม ก่อนที่เธอจะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติภายในปากของเขา นั่นก็คือเขี้ยวซี่เล็กๆ ที่งอกออกมา เธอบอกว่าก่อนหน้านั้นไม่ได้มีร่องรอยของฟันซี่นี้ออกมาให้เห็นเลย แต่ผ่านไปเพียงแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงมันกลับแสดงออกมาให้เห็นชัดเจนได้มากขนาดนี้ ด้วยความที่เธอรู้สึกว่ามันแปลกจนเกินไป กลัวจะเป็นอันตรายต่อลูกน้อย เธอจึงตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาล Our Lady…
-
แบรนด์แอมบาสเดอร์ Samsung โดนจับภาพตอนออกรายการ ใช้โทรศัพท์ iPhone X!?
อย่างที่รู้กันดีว่า Apple และ Samsung นั้นถือเป็นคู่แข่งทางการตลาดที่เรียกได้ว่าต่างคนต่างไม่ยอมแพ้กันเรื่องของ ‘นวัตกรรมสมาร์ตโฟน’ เลยทีเดียว แต่ใครเล่าจะคิดว่าคนที่เป็นถึง ‘แบรนด์แอมบาสเดอร์’ ของ Samsung จะหันไปใช้ iPhone และนั่นก็อาจจะเป็นเหตุให้ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายและปลดออกจากตำแหน่งนั้น!! เรื่องมีอยู่ว่า Ksenia Sobchak พรีเซนเตอร์สาวชาวรัสเซีย ที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับสมาร์ตโฟนค่าย Samsung ดันโป๊ะแตกขณะไปออกรายการเรียลลิตี้ทีวี เพราะกล้องดันไปจับให้เห็นภาพว่าเธอใช้สมาร์ตโฟนยี่ห้อ iPhone X ซะอย่างนั้น!? แม้ว่าเธอพยายามจะใช้กระดาษบังขณะอยู่ในรายการแล้วก็ตาม!! แน่นอนว่าหาก Samsung ทราบเรื่องดังกล่าว อาจจะทำให้ Ksenia ถูกฟ้อง และเรียกค่าเสียหายกว่า 108 ล้านรูเบิล (53 ล้านบาท) เลยทีเดียว นอกจากนี้ตอนไปออกงานสังคมต่างๆ ในมอสโก หรือออกรายการก็มีรายงานว่าพบเห็น Ksenia ใช้ iPhone นั่นหมายความว่าเธอทำหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่แย่มากสำหรับ Samsung อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าทาง Samsung…
-
ชายผู้มีชัยเหนือฉลาม!! ต่อสู้ด้วยการ “เอาหัวโขก” ตามด้วยปล่อยหมัดจนมันถึงกับต้องว่ายหนี
พออ่านเรื่องนี้จบปุ๊บ สิ่งแรกที่ #เหมียวตะปู คิดถึงเลยก็คือการ์ตูนเรื่อง “บากิ” (หวังว่าจะมีคนรู้จักนะ) คือมันอาจไม่ได้เวอร์ขนาดนั้น แต่มันก็เป็นการต่อสู้กับสัตว์ดุร้ายที่ฟังดูแล้วดุเดือดเอามากๆ ขอเชิญให้ได้รู้จักกับ Paul Kenny ชายวัย 50 ปีผู้สามารถต่อสู้เอาชนะ “ปลาฉลาม” มาได้ ด้วยการใช้หัวโขกและต่อยซ้ำๆ จนมันต้องว่ายหนีไปให้ไว Paul ผู้รอดชีวิตจากการต่อสู้กับปลาฉลาม เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 20 ตุลาคม 2018 Paul ได้ออกไปเล่นโต้คลื่น (Body Surf) แถวหาดเปลือย Samurai นิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ขณะที่เขากำลังโต้คลื่นอย่างสนุกสนาน จู่ๆ ก็มีสัตว์ร้ายพุ่งเข้าจู่โจมเขาจากใต้น้ำ มันก็คือปลาฉลามที่เขาบอกว่ามีขนาดตัวใหญ่เอามากๆ ว่ายมากัดแขนเขาไว้ไม่ปล่อย Paul เล่าว่า “ผมคิดว่าผมคงจะต้องเสียแขนของตัวเองไปแล้วแน่ๆ เพราะหัวของมันนั้นใหญ่เอามากๆ ไม่ได้ดูเล็กเหมือนรอยกัดที่ผมได้มานี่หรอก” แต่เขาบอกว่าโชคดีอยู่เหมือนกันที่เหมือนว่ามันจะกัดไม่โดนตรงแถวเส้นเลือดแดง และมันก็เหมือนจะกัดๆ ปล่อยๆ จึงทำให้แขนของเขายังอยู่ดี หากแต่มีรอยกัดทิ้งเอาไว้ แผลจากการถูกฉลามกัด ณ…
-
หนุ่มส่งพิซซ่าเดินทาง 300 กม. พร้อมพิซซ่าสองถาด เพื่อส่งให้ถึงมือลูกค้าป่วยเป็นมะเร็ง
นี่อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ดีๆ ที่ทำให้เรามีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม จากการเห็นน้ำจิตน้ำใจที่คนเรามีให้ต่อกัน เมื่อมีพนักงานส่งพิซซ่าคนหนึ่งลงทุนขับรถไปไกลกว่าเป็นร้อยๆ กิโลเพียงเพื่อจะส่งพิซซ่าให้ถึงมือลูกค้าที่กำลังล้มป่วยอยู่!! Dalton Shaffer หนุ่มคนส่งพิซซ่าจิตใจดี เรื่องมีอยู่ว่า Rich Morgan กับ Julie คู่ชีวิตจากนครอินเดียแนโพลิส รัฐอินดีแอนา ได้เป็นลูกค้าที่ใช้บริการร้าน Steve’s Pizza มาอย่างยาวนาน แม้ว่าร้านนี้จะตั้งอยู่ในเมือง Battle Creek ที่อยู่ห่างกับบ้านของเขาถึง 362 กิโลเมตร ทั้งคู่ชื่นชอบพิซซ่าของร้านนี้เอามากๆ แต่ว่าด้วยความที่ Rich ป่วยเป็นโรคมะเร็งและต้องรักษาตัว จึงทำให้เขาไม่สามารถมาที่ร้านนี้ได้ด้วยตัวเองอีกต่อไป และเขามีความปรารถนาที่จะได้กินพิซซ่าของร้านนี้อีกสักครั้ง แม้เขาจะมีช่วงเวลาเหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็ตาม… Rich และ Julie “สมัยที่เรายังเป็นเพียงวัยรุ่นและมีเงินไม่มาก แทบทุกๆ ครั้งที่ถึงวันเงินเดือนออก สามีของฉันจะไปซื้อพิซซ่าจากร้านนี้มาเป็นมื้อดินเนอร์สุดพิเศษ และจนถึงตอนนี้เรายังหาร้านพิซซ่าที่ดีกว่านี้ไม่ได้เลย” Julie กล่าว ด้วยความที่รู้ดีว่า Rich ผูกพันกับร้านนี้ขนาดไหน เลยทำให้ David Dalke พ่อของ Julie โทรศัพท์ไปที่ร้านแห่งนี้ เพื่อขอให้ทางร้านส่งการ์ดอวยพรมาเป็นกำลังใจให้กับ Rich หน่อย “ผมไม่รู้ว่าผมอาจจะขอพวกเขามากไปรึเปล่า แต่ยังไงผมก็ติดต่อพวกเขาไป” David กล่าว รูปถ่ายของครอบครัวพวกเขา ซึ่งในการโทรไปของคุณพ่อครั้งนี้…
-
สาวรีบวิ่งไปประชุม พลาดตกลงไปใน “บ่อฉลาม” กลางศูนย์การค้า! โชคดีเจ้าหน้าที่เข้าช่วยทัน
เราอาจเคยรีบร้อนมากๆ จนเผลอวิ่งไปชนโน่นชนนี่ อาจมีสะดุดบ้างเป็นบางครั้ง แต่เชื่อว่าคงมีไม่กี่คนที่จะรีบซะจนพลาดตกลงไปใน “บ่อฉลาม” เหมือนอย่างเธอคนนี้!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 12 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ศูนย์การค้า Wuyue Plaza ในเมืองผิงหู ประเทศจีน จะเปิดให้บริการแก่ลูกค้าทุกคน ภาพจากกล้องวงจรปิดได้เผยให้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ในท่าทีที่รีบวิ่งไปไหนสักแห่ง และด้วยความเรียบร้อนนั่นเองที่ทำให้เธอไม่ได้สังเกตว่าพื้นข้างหน้านั้นมันเปิดออกมา นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอพลาดท่าตกลงไปด้านล่างซึ่งเป็นส่วนของ “บ่อฉลาม” ที่ทางศูนย์การค้าเตรียมไว้จัดแสดง เราจะเห็นว่าเธอตกไปอยู่ในนั้นได้ไม่นาน โชคดีที่มีคนเห็นเธอเข้าและเรียกให้เจ้าหน้าที่วิ่งเข้ามาช่วยเหลือหญิงสาวขึ้นมาจากบ่อ ก่อนที่เธอจะกลายเป็นอาหารเช้าให้กับฉลามเหล่านั้น คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการรายงานล่าสุดบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ที่เปิดบ่อเอาไว้ เตรียมให้อาหารฉลามในช่วงเช้า และอีกส่วนนั้นมาจากการที่หญิงสาวรีบร้อนไปประชุมมากจนไม่ได้สังเกตเห็นช่องพื้นที่ถูกเปิดออกมา จนต้องก้าวตกลงไปด้านล่าง แต่ก็ยังดีที่เธอรอดมาได้โดยที่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะมาจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่ง แต่พวกเราเองก็ต้องไม่ลืมที่จะใช้ชีวิตกันอย่างระมัดระวัง สังเกตสิ่งรอบข้างเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเหมือนอย่างเธอคนนี้ ที่มา: btime , nextshark
-
อย่าเหยียบปลา!! ‘คาเฟ่น้ำท่วม’ ร้านกาแฟแสนสวยกับฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมา…
เดี๋ยวนี้ไม่ว่าหันไปทางไหนเราต่างก็เห็นว่ามี ‘คาเฟ่สัตว์’ หรือ ร้านกาแฟสวยๆ กับเจ้าปุกปุยแสนน่ารักอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่หมา คาเฟ่แมว คาเฟ่กระต่ายและอื่นๆ อีกมากมาย แต่รับรองได้ว่าคุณคงไม่เคยต้องเผชิญกับคาเฟ่สัตว์อย่างนี้แน่ๆ เพราะนี่คือ ‘คาเฟ่น้ำท่วม’ ใช่แล้วคุณอ่านไม่ผิดหรอกคาเฟ่น้ำท่วม ที่มีปลาตัวเป็นๆ แหวกว่ายอยู่อย่างมากมาย!! Amix Coffee ร้านกาแฟสุดชิคแห่งดินแดนโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม คือคาเฟ่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่รักน้ำรักปลารักกาแฟ ด้วยการเนรมิตร้านทั้งสองชั้นให้กลายเป็นบ่อเลี้ยงปลาแบบย่อมๆ โดยพื้นที่ทั้งร้านกว่า 20 ตารางเมตร (มีสองชั้น) จะมีน้ำลึกถึง 25 เซนติเมตรพร้อมกับฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมาให้เราได้ชื่นชมความสวยงาม แต่ทางร้านขออย่างเดียวว่าอย่าเหยียบปลา!! ลองมาดูบรรยากาศในร้านกัน ก่อนที่เราจะเข้าร้านนี้ได้นั้นเราจะต้องถอดรองเท้าและล้างเท้าให้สะอาดสะอ้านซะก่อน ซึ่งเป็นกฎระเบียบของทางร้าน ร้าน Amix Coffee สุดชิคนี้เป็นผลผลิตของ Nguyen Duoc Hoa เจ้าของร้านวัย 23 ปีผู้ที่ต้องการสร้างคาเฟ่สัตว์ที่ฉีกแนวออกไปจากเดิมๆ ที่เราเคยเห็นกัน เธอกล่าวว่านี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะสามารถเปิดร้านอย่างนี้ได้ เพราะว่าทั้งร้านจะต้องใช้น้ำถึง 10,000 ลิตรในการเปลี่ยนพื้นธรรมดาๆ กลายเป็นบ่อเลี้ยงปลา แถมยังต้องทำให้ดูสะอาดตลอดเวลาด้วย โดยวิธีการที่ทางร้านใช้ก็คือจะมีการกรองน้ำถึง…
-
โรงเรียนเมกันขอโทษผู้ปกครอง หลังเอา ‘เนื้อจิงโจ้ผัด’ เสิร์ฟให้นักเรียนกิน
โดยปกติธรรมดาแล้วเวลาที่เรากินข้าวที่โรงเรียนจัดมาให้ เราก็อาจจะได้ลิ้มรสกับเนื้อระดับเบสิกอย่าง หมู ไก่ วัว ปลา และอื่นๆ แต่ว่ามีอยู่โรงเรียนหนึ่งที่อยากแปลกแหวกแนวจากวิถีเดิมๆ เลยเสิร์ฟ ‘เนื้อจิงโจ้’ เป็นจานเด็ดให้แก่นักเรียนซะเลย และแน่นอนว่าเรื่องนี้มีผู้ปกครองหลายคนไม่พอใจ จนทำให้ในที่สุดแล้วโรงเรียนนั้นต้องออกโรงมาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วย!! เมื่อไม่นานมานี้ Potter-Dix School โรงเรียนในรัฐเนแบรสกา ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เสิร์ฟมื้อโปรตีนสุดพิเศษให้กับนักเรียนของโรงเรียนด้วยเมนู ‘เนื้อจิงโจ้ผัดพริก’ โดยไม่มีการแจ้งกับนักเรียนว่านี่คือเนื้ออะไร ทางนักเรียนก็กินมื้อแสนอร่อยนี้กันโดยปกติ แต่ว่าในภายหลังพวกเขาก็มารู้ว่านี่คือเนื้อจิงโจ้ด้วยเหตุใดก็ไม่อาจทราบได้ และนำเรื่องนี้ไปบอกต่อกับพ่อแม่ผู้ปกครอง พ่อแม่หลายคนจึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับวิธีการของทางโรงเรียน จนทำให้ในที่สุดแล้ว Mike Williams ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องออกมากล่าวขอโทษพร้อมส่งจดหมายไปตามบ้านของเด็กๆ ด้วย “ในนามของโรงเรียน Potter-Dix Public Schools ผมต้องขออภัยกับความวิตกกังวลและความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนหรือครอบครัวแต่ละคนด้วย” Mile กล่าว นอกจากนี้ในจดหมายที่ส่งไปตามบ้าน Mike ยังเผยว่า Kevin Frei หัวหน้าเชฟของโรงเรียนได้ตัดสินใจนำเนื้อจิงโจ้มาเป็นอาหารให้กับนักเรียน ก็เนื่องมาจากเขาเห็นว่ามันมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดี (เป็นเนื้อไม่ติดมัน) นั่นเอง “ถ้าครอบครัวไหนต้องการจะกินอาหารที่มีความแปลกใหม่ พวกเขาอาจหากินได้ด้วยตัวเองและแน่นอนว่ามันไม่ใช่กับที่โรงเรียน” “ถ้าเรามีวัตถุดิบที่แปลกออกไปจากปกติ อันที่จริงเราก็ควรจะแจ้งให้นักเรียนได้รู้เพื่อที่พวกเขาจะได้ตระหนักว่าสิ่งที่พวกเขากำลังจะได้กินคืออะไร” “เราจะไม่มีวันเสิร์ฟอาหารประเภทนี้อีก” Mike กล่าว ทว่าอันที่จริงแล้วเนื้อจิงโจ้ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ กับร่างกายเลย…
-
สจ๊วตหนุ่มโดนไล่ออก หลังคลิปหลุดขึ้นไปมีอะไรกับ “ดาราหนังโป๊ชาย” ในห้องน้ำบนเครื่องบิน
ไม่รู้ว่าอารมณ์ทางเพศเข้าครอบงำ หรือว่าพวกเขาจะชอบอะไรที่มันท้าทาย อยู่ในที่สูงๆ หน่อยหรือเปล่า มันถึงได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ชายสองคนนี้ได้ไป “มีอะไรกันบนเครื่องบิน”?! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับสายการบิน Delta Airlines โดยจากการรายงานล่าสุดวันที่ 19 ตุลาคม 2018 เผยว่าพวกเขาได้ทำการไล่ “พนักงานต้อนรับบนเครื่อง” ออก เพราะได้ไปมีอะไรกับ “ดาราหนังโป๊” บนเครื่องบิน สายการบินสัญชาติอเมริกัน Delta Airlines ในการรายงานไม่ได้มีการระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเที่ยวบินไหน บอกแต่เพียงว่ามันเกิดขึ้นระหว่างที่เครื่องบินกำลังบินอยู่บนฟ้า และมีคลิปหลุดออกมาว่าพวกเขาทั้ง 2 คนนั้นมีอะไรกันในห้องน้ำ เรื่องมีอยู่ว่าพนักงานค้อนรับบนเครื่องบินคนดังกล่าวนั้นเป็นผู้ชายอายุราวๆ 20 กว่าๆ ซึ่งตอนนั้นเหมือนว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาของการปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังคงสวมชุดทำงานอยู่ ขณะที่เครื่องบินกำลังเดินทางไปยังจุดหมาย ชายคนนี้ก็ได้หายเข้าไปในห้องน้ำกับชายอีกคน ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นดาราหนังโป๊ที่ชื่อว่า Austin Wolf โดยที่สามารถพิสูจน์ได้จากรอยสักของเขาที่เห็นในคลิป Austin ดาราหนังโป๊ชาย และรับจ้างเป็นคู่นอน ผ่านไปประมาณ 8 นาที ทั้งสองคนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ โดยที่พนักงานต้อนรับไม่ทราบว่ามีการถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ขณะที่กำลังมีอะไรกันในนั้น ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าใครเป็นคนถ่าย เพราะทางฝั่งดาราหนังโป๊ไม่ได้ออกมาพูดอะไร แต่ที่แน่ๆ คือหลังจากเครื่องลงจอดได้ไม่นาน คลิปดังกล่าวก็ได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล…
-
NASA นำทีมนักวิจัย ตั้งชื่อกลุ่มดาวใหม่ล่าสุด ‘Godzilla’ ด้วยรูปร่างที่ออกมาเป็นตัวเป๊ะๆ!
หนึ่งในความตั้งใจอันแน่วแน่ เพื่อความก้าวหน้าทางดาราศาสตร์ กลุ่มนักวิจัยระดับนานาชาติได้ร่วมกันตั้งชื่อกลุ่มดาวใหม่ล่าสุดว่า Godzilla ตามชื่อของสัตว์ประหลาดตัวยักษ์ ผู้โด่งดังจากแดนอาทิตย์อุทัยนั่นแหละ!! กลุ่มดาวนักษัตรดวงใหม่ล่าสุด “Godzilla” ทั้งนี้ กลุ่มนักวิจัยนานาชาติ นำทีมโดยองค์กร NASA ร่วมกับนักวิจัยด้านดาราศาสตร์จากทั่วโลก ร่วมกันประกาศแต่งตั้งกลุ่มดาวรังสีแกมมาทั้ง 21 ดวง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของปฏิบัติการดาวเทียมสำรวจด้านดาราศาสตร์ Fermi โดยการตั้งชื่อกลุ่มดาวใหม่นี้ แตกต่างไปจากการให้คำนิยามชื่อกลุ่มดวงดาวจากสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล อย่างเช่นกลุ่มดาว Orion และ Cassiopeia NASA กล่าวว่าชื่อ Godzilla ถูกหยิบยกขึ้นมา เพราะรังสีความร้อนของสัตว์ประหลาดตัวดังกล่าว มีความคล้ายคลึงกับรังสีแกมมา ที่สอดคล้องกับหลุมดำและกลุ่มดาวนิวตรอนเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ชื่อ Godzilla ที่ถูกนำเสนอชื่อแต่งตั้ง แต่มีทั้งชื่อ The Little Prince และ Hulk ตัวละครยักษ์สีเขียวผู้โด่งดังจากค่าย Marvel …
-
Kleenex เจอดราม่าหนัก หลังเปิดตัวทิชชู Mansize โดนหาว่าเหยียดเพศ!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างดุเดือดกับกรณีของ ‘แบรนด์ทิชชู’ ชื่อดังอย่าง Kleenex ได้ทำการปล่อยสินค้าตัวใหม่ออกมา และปรากฏว่าชื่อที่ตั้งให้มันดันถูกวิจารณ์อย่างหนักหน่วงว่า ‘เหยียดเพศ’ ซะงั้น!? เป็นผลิตภัณฑ์กระดาษทิชชูที่เอาไว้เช็ดหน้าที่มีขนาดใหญ่กว่าของเดิม ซึ่งทาง Kleenex ได้ตั้งชื่อมันว่า Mansize แน่นอนว่าพอมันถูกวางขาย เหล่าชาวประชาทั้งหลายต่างก็ดราม่ากันไปตามระเบียบ พร้อมกับตั้งคำถามขึ้นมาว่า ‘ทำไมถึงไม่ตั้งชื่อว่า Extra Large มาตั้งแต่แรก’!? หากเรามองย้อนกลับไปในปี 1956 ซึ่งเป็นปีที่ Kleenex ถูกนำมาวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก ซึ่งตอนนั้นใช้ชื่อว่า Kleenex For Men ในยุคที่ผู้ชายยังมีความเป็นใหญ่ในสังคม ผู้หญิงจะต้องอยู่แต่บ้านไม่สามารถออกมาทำอะไรได้เลย หากจะตั้งชื่อว่า Mansize ก็คงไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรนัก แต่ในปัจจุบันมันได้เปลี่ยนไปแล้ว ผู้หญิงสามารถออกมาทำอะไรต่อมิอะไรได้เท่าเทียมกับผู้ชาย เรื่องแบบนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่ได้รับการยอมรับ ลองไปอ่านความเห็นของชาวเน็ตดูกันสักหน่อยครับ บางส่วนก็เล่าเหตุการณ์ของลูกชายขี้สงสัย “สวัสดี Kleenex ลูกชายวัย 4 ขวบของผมถามว่า ตรงนี้มันอ่านว่าอะไร พอผมบอกไปว่า Mansize เขาก็ถามต่อว่า ทำไมต้องเป็นแบบนั้น…
-
หมอผงะพบหนอนพยาธิ 11 ตัวใน ‘ตา’ หนูน้อยวัย 5 เดือน คาดติดมาจากเล่นกับสัตว์เพื่อนบ้าน
คำเตือน: บทความนี้อาจมีเนื้อหาและภาพที่ดูสยองขวัญน่ากลัว โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม สำหรับเด็กๆ วัยแบเบาะแล้ว ด้วยความไร้เดียงสาไม่รู้ไม่ชี้ของพวกเขา อาจทำให้เกิดความรู้เท่าไม่ถึงการณ์สร้างอันตรายให้กับตัวเองได้ และในเหตุการณ์นี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีเด็กวัยเพียง 5 เดือนถูกพบว่ามีตัวหนอนถึง 11 ตัวอยู่ในลูกตา ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการเล่นกับสัตว์เลี้ยง!! เมื่อไม่นานมานี้คุณแม่คนหนึ่งได้นำตัวลูกน้อยวัย 5 เดือนของเธอชื่อว่า Dong Dong เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล Xi’an No 1 Hospital มณฑลส่านซี ประเทศจีน หลังจากคุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกน้อยมีความรู้สึกไม่สบายตา คลิปตอนที่คุณหมอดึงหนอนออก (ดูไม่ได้คลิกที่นี่) และแล้วปริศนาทั้งหมดก็ถูกไขกระจ่างออกเมื่อทางทีมแพทย์ได้ตรวจดวงตาของเด็กทารกคนนี้ ก็พบว่ามีตัวหนอนอยู่ข้างในนั้น จึงได้รีบนำออกโดยด่วนแล้วก็พบว่ามันมีทั้งหมดถึง 11 ตัวด้วยกัน ทางแพทย์เชื่อว่าตัวหนอนที่ค้นพบนี้คือ Thelazia callipaeda (หนอนพยาธิในตา) ซึ่งส่วนใหญ่จะพบทั้งในคน สุนัข แมวและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ทั้งในทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย โดยทางคณะแพทย์ใช้เวลาทั้งหมด 21 นาที สำหรับการใช้แหนบดึงตัวหนอนนี้ออกมาทั้งหมด และในตอนนี้ตัวหนูน้อยก็กำลังอยู่ในการดูแลของแพทย์ต่อไป ทางด้านคุณแม่บอกกับคุณหมอว่าปกติแล้วที่บ้านไม่มีสัตว์เลี้ยงใดๆ อยู่เลย…
-
โปรเกมเมอร์ผู้เลิกกับนักข่าวสาวสวย ชี้แจงเหตุที่ต้องเลิก เป็นเพราะ ‘นางขอส่วนแบ่ง’
จากข่าวคราวที่กระเพื่อมไปทั่วโลกออนไลน์ในสายการแข่งเกม เมื่อโปรเกมเมอร์ Douglas ‘Censor’ Martin ได้ประกาศเลิกคบหากับ Yanet Garcia ผู้ประกาศข่าวสาวพยากรณ์อากาศสุดเซ็กซี่ โดยให้เหตุผลว่าต้องการอุทิศให้กับการฝึกซ้อมที่เข้มข้น และอยากให้แฟนสาวมีอนาคตที่ดีกว่า จนท้ายที่สุดแล้วก็ตกรอบพลาดแชมป์ลีคในรายการ Call of Duty League Championship ไป Douglas ‘Censor’ Martin และอดีตแฟนสาว Yanet Garcia และจากข่าวคราวการเลิกคบหากับแฟนสาวนั้น ทำให้แฟนคลับที่ติดตามถล่มก่นด่าเจ้าตัวอย่างหนัก อยากให้กลับไปคืนดีกับเธอ แต่นาย Martin ยังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “ไม่ต้องการเธออีกต่อไป” ทวีตของ Yanet Garcia เผยความรู้สึกหลังจากที่ถูกบอกเลิก Heartbroken 💔😞 — Yanet García (@IamYanetGarcia) July 20, 2018 เมื่อแฟนคลับเห็นเป็นเช่นนั้น ต่างพากันคิดไปว่าเขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัว กับการยุติความสัมพันธ์อันยาวนานกับนักข่าวสาวพยากรณ์อากาศวัย 27 ปี แม้เธอจะเป็นคนดังที่มียอดผู้ติดตามมากถึง 7 ล้านคนก็ตาม…
-
Larry Tesler ผู้สร้างระบบ Copy/Cut & Paste ให้เราได้ใช้งานกันจนถึงทุกวันนี้!!
หากคุณเป็นคนที่ใช้ ‘คอมพิวเตอร์’ อยู่เป็นประจำแล้วล่ะก็ จะต้องรู้จักกับระบบ Copy/Cut & Paste กันอย่างแน่นอน!! เพราะมันสร้างความสะดวกสบายให้กับพวกเราได้อย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว จนชนิดที่ว่า ถ้าหากไม่มีระบบนี้คงจะจินตนาการการใช้งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันไม่ออกเลยแม้แต่น้อย!! สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับบุคคลผู้ให้กำเนิดระบบ Copy/Cut & Paste กันครับ เพื่อแสดงความขอบคุณที่สร้างมันขึ้นมาทำให้ชีวิตของเราสบายขึ้นเยอะเลย ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับชายที่ชื่อว่า Larry Tesler นักวิศกรคอมพิวเตอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังประวัติศาสตร์การสร้างระบบ Copy/Cut & Paste ขึ้นมา และมันสามารถช่วยเซฟพลังงานในการกดคลิก รวมไปถึงการกดปุ่มต่างๆ บนคีย์บอร์ดไปได้เยอะเลย!! Tesler เป็นหนึ่งในคนที่บ้าคอมพิวเตอร์มากๆ เขาทำงานเป็นหน่วยวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีให้กับศูนย์ใหญ่ของ Xerox PARC ที่ตั้งอยู่ในเมือง Palo Alto รัฐแคลิฟอร์เนีย ย้อนกลับไปในช่วงปี 1970s คอมพิวเตอร์ยังคงเป็นเพียงแค่ไอเดียที่ยังคงทำการทดลองกันอยู่เท่านั้น ซึ่งหลายๆ คนต่างก็คิดว่ามันคงจะไปไม่ถึงไหนอย่างแน่นอน ในปี 1973-76 Tesler ได้ทำการพัฒนาระบบที่มีชื่อว่า Smalltalk-76 และในระหว่างการพัฒนาก็ทำให้ทฤษฎีการ…
-
เด็กชายวัย 12 พัฒนาเกมเกือบเสร็จ โดนเจ้าของร้านลบทิ้ง ชาวเน็ตร่วมบริจาคเงินซื้อคอมให้
หนึ่งในตัวอย่างที่ดีของความพยายาม จากการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้วยตนเอง จนสามารถสร้างความประทับใจให้กับใครหลายๆ คนได้ จากเรื่องราวของเด็กชาย Muhammad Thaqif วัย 12 ปี นักเรียนและเกมเมอร์ตัวยง ผู้มีความสามารถนอกเหนือจากการเล่นเกม เพราะเขาเริ่มสร้างและพัฒนาเกมด้วยตัวเองในวัยนี้แล้ว! Muhammad Thaqif นักเรียนและเกมเมอร์วัย 12 ปี เรื่องราวของเขาเริ่มเป็นที่สนใจของชาวเกมเมอร์มาเลเซีย ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าตัวได้โพสต์ลงในกลุ่ม PC Gaming Community [MALAYSIA] ว่า มีใครสนใจจะซื้อเกมของเขาบ้าง ในราคาเพียงแค่ 1 ริงกิตเท่านั้น (เกือบ 8 บาท) โดยที่เกมที่เขากำลังพัฒนาอยู่ เป็นแนวมุมมองบุคคลที่ 1 และมีจะมีซอมบี้กับแมงมุมอยู่ในเกมด้วย และถามความเห็นจากชาวเน็ต ให้ช่วยตั้งชื่อเกมให้… จากโพสต์ดังกล่าว ชาวเน็ตต่างรู้สึกสนใจและประทับใจกับความสามารถของเด็กชายคนนี้มากๆ ต่างรอคอยกันอย่างใจจดจ่อ เอาใจช่วยให้เขาสร้างและพัฒนาเกมนี้ให้เสร็จ ทั้งนี้ จากรายงานของเว็บไซต์ Malay Reporter กล่าวว่าเด็กชาย Thaqif ไม่มีคอมพิวเตอร์ส่วนตัว เขาพัฒนาเกมดังกล่าวจากร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่แถวบ้าน…
-
คุณป้าคนกวาดถนนเห็นเด็กจะ ‘ขรี้’ ข้างถนนเลยเข้าไปห้าม กลับโดนพ่อแม่เด็กตียับซะงั้น!!
เรื่องของการ ‘ขับถ่าย’ ใครๆ ก็รู้ว่ามันต้องทำให้เป็นที่เป็นทาง ไม่อย่างนั้นแล้วมันอาจส่งกลิ่นรบกวนจมูกหรือกลายเป็นภาพอุจาดตาได้ถ้าหากเราไปปล่อยเรี่ยราดตามทางต่างๆ แต่ว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจากกรณีเรื่องการขับถ่าย เพราะมีคุณป้าคนกวาดถนนคนหนึ่งไปห้ามไม่ให้เด็ก ‘ปล่อยทุ่น’ บนถนน แต่กลับโดนผู้ปกครองของเด็กทำร้ายร่างกายจนต้องเข้าโรงพยาบาล!! คุณป้าโดนทำร้ายร่างกายโดยพ่อแม่เด็ก เรื่องราวสุดพิลึกพิลั่นนี้เกิดขึ้นในเมืองหลูเซ่า มณฑลเหอหนาน เมื่อ Yao Xiang คุณป้าพนักงานกวาดถนนวัย 66 ปี กำลังกวาดถนนพื้นที่แถวๆ สวนสาธารณะเฉกเช่นในวันปกติที่เคยทำ แต่แล้ววันนั้นจู่ๆ เธอก็สังเกตเห็นว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งนั่งยองๆ กำลังเตรียมจะถ่ายอุจจาระข้างถนน เธอจึงเดินเข้าไปที่ตัวเด็กและห้ามไม่ให้เขาปล่อยของเสียเรี่ยราดตามทางแบบนี้ ภาพขณะถูกคุณพ่อของเด็กเข้าใช้กำลัง ทว่าคำขอบคุณที่น่าจะได้รับจากพ่อแม่เด็กกลับกลายเป็นอารมณ์โกรธแค้นอย่างเหลือคณา… พวกเขาทั้งด่าทอสาปแช่งคุณป้าคนกวาดถนนคนนี้ที่แตะเนื้อต้องตัวลูกของพวกเขา และในท้ายที่สุดก็มีการลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกันด้วย โดยในคลิปที่คนอยู่แถวนั้นถ่ายมาได้ จะเห็นว่าผู้ที่เป็นพ่อของเด็กพยายามดึงผมกระชากลากตัวคุณป้าไปตามทาง ในขณะเดียวกันทางฝั่งคุณแม่ก็โต้เถียงกับคนที่เดินผ่านไปมาด้วยถึงสิ่งที่คุณป้ากระทำไป ถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุและพาตัวทั้งคู่ไปที่สถานี ขณะเดียวกันคุณป้า Yao ก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล และถึงตรงนี้เธอก็ล่าวอย่างตัดพ้อทั้งน้ำตาด้วยว่า “เมื่อคุณเป็นคนกวาดถนน ใครๆ ต่างก็มองคุณต่ำต้อยทั้งนั้นแหละ” เป็นที่โชคดีคุณป้าคนนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก จะมีแค่เพียงรอยฟกช้ำเพียงเท่านั้นจากการปะทะดังกล่าว คุณป้ากล่าวทั้งน้ำตา ทางด้านคุณพ่อคุณแม่ของเด็ก ในภายหลังก็ออกมากล่าวขอโทษคุณป้าและยินยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้ แต่อย่างไรก็ตามชาวเน็ตบนโลกโซเชียลต่างก็ไม่พอใจกับพฤติกรรมอย่างนี้เอามากๆ และมีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพวกเขาด้วย ทั้งนี้สื่อท้องถิ่นก็รายงานว่ามีห้องน้ำสาธารณะอยู่ถึงสองห้องใกล้ๆ จุดที่เกิดเหตุด้วย……
-
งานสร้างสรรค์ภาพถ่ายมาโคร ‘ปีกผีเสื้อ’ ประกอบรวมเป็นหนึ่ง จากทั้งหมด 2,100 ช็อต!
ผลงานการถ่ายภาพอันสวยงาม มีหลากหลายประเภทให้เลือกชมกัน แต่ทว่าน้อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นผลงานถ่ายภาพแบบมาโคร หรือการถ่ายภาพในระยะใกล้กับวัตถุ ที่งดงามน่าประทับใจ แต่แล้วก็ยังมีโจทย์ที่ยากมากกว่าเดิม กับการถ่ายภาพมาโครกับวัตถุขนาดเล็ก อย่างเช่นปีกผีเสื้อ หากดูผิวเผินตามระยะสายตาปกติก็สวยแล้ว หากได้เห็นผิวปีกผีเสื้อจะรู้ได้เลยว่า มัน-สวย-มาก! . . . ช่างภาพ Chris Perani ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการถ่ายภาพมาโครแบบสุดโต่ง เขาได้นำปีกผีเสื้อมาถ่ายรูปผ่านกล้องจุลทรรศน์ และเป็นโปรเจคการถ่ายภาพ ที่เก็บรายละเอียดของปีกผีเสื้อแต่ละลวดลายให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้… . โดยในแต่ละรูปที่จะเห็นต่อไปนี้ Perani ทำการถ่ายภาพทั้งหมดประมาณ 2,100 ช็อต และนำภาพทั้งหมดที่ได้มาประกอบเข้าด้วยกัน จนกลายมาเป็นผลงานภาพถ่ายมาโครคุณภาพสูง เผยให้เห็นรายละเอียดลวดลายของปีกผีเสื้อได้อย่างงดงาม . เขาเปิดเผยว่า การถ่ายรูปในโปรเจกต์นี้ จะต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ขยาย 10 เท่าติดกับเลนส์ขนาด 200 มิลลิเมตร และค่อยๆ บรรจงถ่ายไปทีละส่วนบนปีกผีเสื้อตามสเกล โดยใช้รางเลื่อนโฟกัสเข้าช่วย และจะสามารถขยับเลนส์ได้ไม่เกิน 3 ไมครอนต่อภาพ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดเพี้ยนของภาพโดยรวม . .…
-
ทรัมป์ไม่ได้อยู่แค่ทำเนียบขาว แต่โผล่ไปขายฮอทดอกถึงปารากวัย คืนความสุขให้ประชาชน!
กลายมาเป็นที่ฮือฮาสำหรับชาวปารากวัยกันเลยทีเดียว เมื่อชายผู้มอบความสุขให้กับทุกคนผ่านฮอทดอก Uptaciano Melgarejo ดันมีใบหน้าละม้ายคล้ายกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Donald Trump จากเหตุดังกล่าวนี้ ทำให้นาย Melgarejo กลายเป็นคนดังข้างถนนไปโดยปริยาย แถมยังช่วยทำให้กิจการขายฮอทดอกของเขา มีผลประกอบการที่เจริญงอกเงยยิ่งกว่าเดิม! คลิปสกูปข่าวของนาย Melgarejo ชายปารากวัยหน้าคล้าย Trump ในคลิปดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้เมื่อช่วงวันพุธในเมือง Estena เกี่ยวกับนาย Melgarejo ชายผู้รักครอบครัว มีลูกต้องเลี้ยงดูมากถึง 5 คน และเขาดำรงชีพด้วยการขายฮอทดอก เขาจะตระเวนขายฮอทดอกไปรอบเมือง ด้วยการควบมอเตอร์ไซค์ฮ้างคู่ใจ เสริมพ่วงท้ายด้วยครัวเคลื่อนที่ พร้อมเสิร์ฟฮอทดอกร้อนๆ ให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อ โดยหลังจากที่รู้ตัวว่าตัวเขาเองนั้นมีความคล้ายกับ Trump เขาจึงผุดไอเดียนำโปสเตอร์มาแปะไว้พ่วงท้าย เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้ามากขึ้น และผลที่ออกมาก็เป็นไปตามคาด ด้วยความที่ตัวเขาเองมีผมสีบลอนด์ทองอยู่แล้ว บวกกับการจัดทรงผมอีกนิดหน่อย ทำให้ลูกค้าเห็นปุ๊บก็นึกถึงหน้า Trump ทันที ลูกค้าที่เห็นต่างเรียกซื้อฮอทดอก และถ่ายรูปคู่กับเขา กล่าวกันแบบปากต่อปาก แชร์ภาพถ่ายลงในโลกออนไลน์ ขายดิบขายดีแบบเทน้ำเทท่า อย่างไรก็ตาม ภายนอกที่ดูคล้ายกันเกือบจะเป็นแฝด…
-
Pornhub ทุ่มงบ 800,000 บาท จ้าง ‘นักวิจัย’ เพื่อพัฒนาคุณภาพ ‘หนังโป๊’ ให้ดียิ่งขึ้น!!
หลายๆ คนอาจจะเข้าใจกันดีว่าการถ่ายทำ ‘หนังโป๊’ ถือเป็นเรื่องง่ายๆ แค่ถ่ายคนโจ๊ะพรึมๆ กันมันก็จบแล้ว…แต่จริงๆ มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านั้น!! เพื่อนๆ ทราบไหมว่าเว็บไซต์ Pornhub เจ้าใหญ่แห่งวงการหนังผู้ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เค้ามีการลงทุนเป็นเงิน ‘หลักล้าน’ ในการ ‘ทำวิจัย’ เพื่อเพิ่มคุณภาพของหนังโป๊ออกมาดีที่สุดสำหรับเหล่าคนดูเลยทีเดียว!! เพราะล่าสุดทาง Pornhub ได้จ่ายเงินเป็นมูลค่ากว่า 25,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 800,000 บาท ให้กับทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Kansas โดยมีเป้าหมายเพื่องานวิจัยเพื่อหาทางพัฒนา ‘หนังผู้ใหญ่’ ของพวกเขาให้มีประสิทธิภาพทางด้าน สังคม เทคโนโลยี และสุขภาพ มากยิ่งขึ้น และหาหนทางในการเพิ่มความสุขให้กับชาวโลก ให้มีสุขภาพ และชีวิตเซ็กส์ที่ดียิ่งขึ้น ประกอบไปด้วยศาสตราจารย์ Omri Gillath จากภาควิชาจิตวิทยา ดอกเตอร์ Ateret Gewirtz-Meydan และนักศึกษาระดับปริญญาเอก Katie Adams ซึ่งพวกเขาจะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์กลุ่มแรกในประวัติศาสตร์ ที่ทำการศึกษาวิจัยให้กับ ‘เว็บโป๊’ ซึ่งก่อนหน้านี้ศาสตราจารย์…
-
นายพรานต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด หลังจากใช้ปืนยิง ‘ช้าง’ จนล้ม เลยถูกฝูงของมันวิ่งไล่!!
ตอนนี้มีคลิปวิดีโอหนึ่งที่กลายเป็นกระแสไวรัลในต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องราวของนายพรานสองคนที่ใช้ปืนยิงช้างตัวหนึ่งจนล้ม แต่ในเวลาต่อมาพวกเขาก็ถูกฝูงช้างวิ่งไล่จนต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอย่างอุตลุด!! จากการรายงานระบุว่าคลิปดังกล่าวได้ถูกถ่ายขึ้นที่เขต Nakabolelwa Conservancy ในประเทศแซมเบีย วิดีโอการฆ่าช้างครั้งนี้ ในวิดีโอจะเห็นว่าเป็นภาพของนายพรานสองคนที่กำลังจ้องมองฝูงช้างอยู่ ก่อนที่พวกเขาจะเล็งเป้าหมายและช่วยกันใช้ปืนไรเฟิลระดมยิงจนช้างผู้น่าสงสารตัวนั้นลงไปแน่นิ่งกองอยู่กับพื้น ณ จุดหนึ่งในวิดีโอเราจะได้ยินเสียงของนายพรานตะโกนบอกกันด้วยว่า ‘ให้ยิงตรงพื้นที่ระหว่างตา’ เพื่อให้เจ้าช้างนั้นตายสนิทดั่งที่พวกเขาหวังเอาไว้ ทว่าหลังจากที่มีเสียงปืนเกิดขึ้นพร้อมกับการจากไปของช้างตัวนั้น นายพรานทั้งสองก็ต้องจ้ำอ้าววิ่งหนีกันอย่างไม่คิดชีวิต เพราะว่าฝูงช้างที่อยู่แถวๆ นั้นวิ่งไล่กวดพวกเขาอย่างบ้าคลั่งราวกับรู้ว่านายพรานได้ไปทำร้ายครอบครัวของมัน อย่างไรก็ตาม Corné Kruger นายพรานสัญชาตินามิเบียก็บอกกับสื่อว่า “ในที่นี้เหลือโควต้าการล่าสัตว์เพียงน้อยนิดเท่านั้น โดยเราจะสามารถล่าช้างได้เพียงแค่ 2 ตัวต่อปี” พร้อมกันนี้เขาก็ยังยืนยันด้วยว่าการล่าสัตว์ของนายพรานทั้งสองในคลิปเป็นสิ่งที่ ‘ถูกกฎหมาย’ นอกจากนี้เขาก็กล่าวเพิ่มว่าจริงๆ แล้ววิดีโอนี้มันได้ถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อ 3 – 4 ปีที่แล้ว แต่ว่าไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไรมันถึงเพิ่งจะมาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนในตอนนี้ ทั้งนี้แม้ว่าการล่าสัตว์ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกาจะเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย แต่ก็ต้องทำตามกฎระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นการลักลอบและถูกลงโทษด้วย ในตอนนี้มีการคาดการณ์กันว่าช้างแอฟริกันน่าจะมีจำนวนอยู่ราวๆ 415,000 ตัวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในป่า (ข้อมูลจาก World Wide Fund for Nature) และก็มีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว ที่มา: ladbible, news24
-
เอาล่ะสิ! ศิลปินวาดตัวการ์ตูนดังให้เป็น “คนผิวสี” กลับถูกชาวเน็ตหาว่าแบ่งแยกชนชาติ!!
การ์ตูนดังๆ หลายเรื่องจะมีบางสิ่งที่คล้ายๆ กันนั่นก็คือตัวละครหลักที่ส่วนมากจะเป็น คนผิวขาว ต้องยอมรับว่าน้อยครั้งนักจะได้เห็นตัวละครผิวสีได้เป็นตัวละครหลักในการ์ตูนดังๆ และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ศิลปินนามว่า Tyron Handy เกิดไอเดียแปลกใหม่ ออกแบบการ์ตูนดังๆ ในตำนานให้มีตัวละครเอกเป็น “คนผิวสี” Tyron Handy “เราไม่ค่อยได้เห็นตัวการ์ตูนที่นำเสนอตัวละครผิวสีเท่าไหร่นะ ส่วนมากพวกเขาจะได้เป็นแค่คู่หูของตัวละครผิวขาว ผมว่าเด็กๆ ที่เป็นคนผิวสีควรได้เห็นตัวละครที่เหมือนกับพวกเขาไปโลดแล่นอยู่ในการ์ตูนบ้าง” งานนี้แทนที่จะออกมาราบรื่นกลับกลายเป็นว่าได้ปลุกระดมกระแสต่อต้านจากชาวเน็ต ที่หลายคนออกมาบอกว่า ทำแบบนี้ตัวของ Tyron เองก็ถือว่าเป็นคนที่ “แบ่งแยกชนชาติ” เช่นกัน ก่อนอื่นลองไปชมผลงานของเขากันก่อนดีกว่า… #1 #2 #3 #4 #5 #6 #7 ชาวเน็ตที่เข้ามาชมผลงานของ Tyron ต่างก็ชื่นชมว่ามีแนวคิดที่ดี แต่บางส่วนกลับไม่เห็นด้วยและมองว่าเป็นการ “แบ่งแยกชนชาติ” ตัวอย่างเช่น… “สิ่งที่คุณทำมันทำให้การแบ่งแยกชนชาติยังคงดำเนินต่อไป” “นี่มันไม่ถูกต้องนะแถมยังแบ่งแยกชนชาติอีกด้วย มันไม่ถูกต้องสำหรับคนผิวสีเลย เพราะนี่มันเหมือนการนำคนขาวมาทาหน้าด้วยสีดำอะ ไม่ใช่คนดำจริงๆ” “ถ้าคุณอยากเห็นตัวการ์ตูนผิวสีให้มากกว่านี้ควรสร้างขึ้นเองสิ ไม่ใช่เอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเองแบบนี้”…
-
พนักงานทนไม่ไหวยื่นฟ้องห้างฯ ที่ทำงานอยู่ เพราะถูกบูลลี่ หนักสุดถูก ‘ตดอัดหน้า’!!
เรื่องของการ ‘บูลลี่’ (ฺBully) หรือการกลั่นแกล้ง เป็นอีกสิ่งหนึ่งแย่ๆ ที่ยังคงมีอยู่ในแทบๆ จะทุกสังคมตั้งแต่เด็กจนโต และมันก็สร้างความกระทบกระเทือนต่อจิตใจผู้ถูกกระทำเป็นอย่างมาก ดั่งที่เราเคยเห็นเป็นข่าวว่าการบูลลี่เป็นต้นเหตุทำให้หลายคนกลายเป็นโรคซึมเศร้า หรือฆ่าตัวตายกันอยู่บ่อยๆ… และในตอนนี้ก็มีชายคนหนึ่งผู้ตกเป็นเหยื่อการกระทำนี้ ไม่ยอมอีกต่อไปเดินหน้าฟ้องเรียกเงินจากห้างสรรพสินค้าที่เขาทำงาน เพราะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วกับการโดนกลั่นแกล้งและที่หนักสุดก็คือถูกเพื่อนร่วมงาน ‘ตดอัดหน้า’!! นาย Atif Masood วัย 42 ปี ได้ยื่นเรื่องฟ้องเรียกเงินจากห้างสรรพสินค้า Tesco เป็นเงิน 20,000 ปอนด์ (ประมาณ 849,000 บาท) หลังจากที่เขาตกเป็นเหยื่อถูกเพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้งและเหยียดเชื้อชาติในสาขา Thornton Heath ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่เขาทำงานอยู่ ชายคนนี้อ้างว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนจริงๆ กับการถูกปฏิบัติเช่นนี้ และหนำซ้ำยังไม่เคยได้รับคำขอโทษหรือมีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย แม้ว่าเขาจะยื่นคำร้องเรียนเรื่องนี้กับทางบริษัทไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง และเหตุผลที่นาย Atif พนักงานผู้ทำงานในเครือห้างสรรพสินค้านี้กว่า 12 ปีถูกกลั่นแกล้ง นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาเป็น ‘มุสลิม’ เขาอ้างว่ามีหลายครั้งที่เขาได้รับข้อความที่รุนแรงผ่านแอปพลิเคชั่นอย่าง WhatsApp รวมทั้งถูกด่าว่า ‘มุสลิมคือผู้ก่อการร้าย’ และยังถูกเหยียดหยันว่าเป็น ‘คนตอแหล’ ต่อหน้าลูกค้าด้วย …
-
จีนสร้าง “พระจันทร์เทียม” ให้แสงสว่าง แทนการใช้กระแสไฟฟ้า เตรียมปล่อยปี 2020 นี้!
ยามค่ำคืนที่ไร้ซึ่งแสงจากดวงไฟ คงจะมืดมิดสนิทยิ่ง นอกเสียจากจะมี แสงจันทร์ คอยให้ความสว่าง… เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้วางแผนประหยัดกระแสไฟฟ้าในเมืองโดยการสร้าง “พระจันทร์เทียม” เพื่อให้แสงว่างกับผู้คนยามค่ำคืน Wu Chunfeng ประธานบริษัทเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์อวกาศแห่งเฉิงตู ได้ประกาศเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมว่าขณะนี้กำลังวางแผนปล่อยดาวเทียมเรืองแสงออกนอกโลกเพื่อมอบแสงสว่างให้กับเมืองเฉิงตู ดาวเทียมดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในนาม พระจันทร์เทียม ซึ่งมันสามารถให้แสงสว่างได้มากกว่าแสงจากดวงจันทร์จริงถึง 8 เท่า Wu และบริษัทของเขาได้ทำการทดสองพระจันทร์เทียมนี้มาหลายปีแล้ว และขณะนี้ก็กำลังเตรียมตัวปล่อยขึ้นสู่อวกาศเพื่อใช้งานจริงในปี 2020 ขณะเดียวกัน หลายคนก็ออกมาแสดงความกังวลว่าแสงจากพระจันทร์เทียมนี้จะส่งผลกระทบต่อกิจวัตรตามธรรมชาติของเหล่าสรรพสัตว์หรือไม่ นาย Kang Weimin ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจึงออกมาบอกว่าแสงที่ได้จากพระจันทร์เทียมนี้จะให้ความรู้สึกคล้าย “แสงสว่างพลบค่ำ” ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์อย่างแน่นอน พระจันทร์เทียมดังกล่าว จะปล่อยเพื่อให้แสงสว่างแก่เมืองเฉิงตู โดยมีรัศมีความสว่างไปประมาณ 50 ไมล์ ซึ่งไม่น่าจะมีผลกระทบกับสัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รอบนอก แต่ถึงอย่างไรกระแสไฟฟ้าก็ยังจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของผู้คนมากกว่าการให้แสงสว่าง ต้องรอดูกันต่อไปว่าโครงการพระจันทร์เทียมนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ และมีผลกระทบอะไรกับผู้คนบ้าง ที่มา: toutiaoabc, People’s Daily และ nextshark
-
พนักงานรวมตัวฟ้องบริษัทญี่ปุ่น ใช้อำนาจกดขี่ ทำให้ติดหนี้ และต้องรายงานตัวทุกๆ 5 นาที
เกิดเป็นเรื่องฟ้องร้องกันระหว่างกลุ่มพนักงานผู้ถูกกดขี่ กับเจ้านายผู้เป็นเจ้าของบริษัท อันเนื่องมาจากใช้อำนาจบาตรใหญ่กดขี่พนักงานเปรียบเสมือนทาสในยุคปัจจุบัน… ทั้งนี้ ครอบครัวของพนักงานหญิงผู้เสียชีวิต (จากเหตุฆ่าตัวตาย) พร้อมกับพนักงานชายอีก 2 ราย ได้ส่งทนายความเป็นตัวแทนฟ้องร้องบริษัทและตัวเจ้าของบริษัท จากการใช้อำนาจกดขี่พนักงาน เป็นค่าความเสียหายรวม 88 ล้านเยน (25 ล้านบาท) ทนายความตัวแทนฟ้องร้อง จากพนักงานชาย 2 คน และพนักงานหญิง 1 คน การฟ้องร้องเกิดขึ้นในศาลกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา พนักงานหญิงวัย 30 ปี ได้ทำการฆ่าตัวตาย จากการถูกกดขี่ด้วยอำนาจจากเจ้านายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากบริษัทผลิตสื่อมังงะ เกม และอนิเมะ Be Higher Inc. ทั้งนี้ ค่าเสียหายที่เรียกร้องนั้น เป็นค่าว่าจ้างที่ถูกทางบริษัทหักออกไปจากเงินเดือนจากพนักงานทั้ง 3 ราย บริษัท Be Higher Inc. พนักงานหญิง และพนักงานชาย 2…
-
ผู้ลงสมัครเลือกตั้งฟิลิปปินส์ ชูนโยบาย ‘แบนเกม DOTA และอื่นๆ’ ชี้มอมเมาเยาวชน
ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างฟิลิปปินส์ กำลังจะเกิดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2019 โดยอยู่ในช่วงหาเสียง เพื่อกวาดคะแนนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่คงไม่มีนโยบายไหน โดดเด่นได้เท่านาง Bethsaida Lopez แล้ว Bethsaida Lopez ผู้ลงสมัครเลือกตั้งฟิลิปปินส์ ชูนโยบายแบนเกมออนไลน์ นาง Bethsaida Lopez ได้กล่าวปราศัยหาเสียงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ด้วยน้ำเสียงที่ขึงขังและจริงจัง หยิบยกชูนโยบายแบนเกมออนไลน์ขนานใหญ่ โดยกล่าวถึงทั้งเกม DOTA (Defense of the Ancients), Clash of Clans และเกมอื่นๆ ที่จะตามมา หากเธอชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ เธอชึ้ให้เห็นว่า เกมออนไลน์วางแผนเหล่านี้ คือบ่อนทำลายชีวิตของเยาวชน ในวัยนักเรียนนักศึกษา อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดความหยาบคายแก่ผู้เล่น จากการพูดปราศัยในสำนักงานคณะกรรมาธิการการเลือกตั้ง ในกรุงมะนิลา อีกทั้งยังกล่าวถึงปัญหาดังกล่าว ส่งผลกระทบไปถึงผู้ปกครองของเยาวชน ทำให้เสียเวลาไปกับการคอยตักเตือนลูกหลาน ที่แอบหยุดเรียน (โดด) หลังจากติดเกมเหล่านี้อย่างหนัก https://twitter.com/VargasMannysen/status/1052473516354756608 นาง Bethsaida…
-
ความรักของหนุ่มสาว สู้กับมะเร็งด้วยกันเมื่อ 20 ปีก่อน กลายเป็น ‘คู่ชีวิต’ ของกันและกัน
เรื่องราวความรักอันน่าประทับใจของชายหนุ่มและหญิงสาว ที่ในอดีตต่างคนต่างต่อสู้กับ ‘โรคมะเร็งร้าย’ จนในที่สุดพวกเขากลายมาเป็น ‘คู่ชีวิต’ ของกันและกัน ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 20 ปีก่อน Joel Alsup และ Lindsey Wilkerson ทั้งสองคนยังเป็นเด็กผู้ป่วยโรคมะเร็งและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเดียวกัน Joel ในวัย 11 ปี ป่วยเป็นมะเร็งกระดูกบริเวณแขนขวา ขณะที่ Lindsey ในวัย 10 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หลังจากที่มีโอกาสได้พบเจอกันที่โรงพยาบาล St. Jude ด้วยความที่เป็นรุ่นราวคราวเดียวกันจึงทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนที่ร่วมต่อสู้กับโรคร้ายไปด้วยกัน ทั้งคู่เผชิญกับวันเวลาอันยากลำบาก แต่แล้วในที่สุดพวกเขาสามารถเอาชนะมะเร็งร้ายได้ แม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ Joel ต้องสูญเสียแขนข้างขวาไป เด็กทั้งสองคนยังคงติดต่อกันเรื่อยมา แม้จะต้องแยกกันไปอยู่คนละรัฐ แต่ถึงอย่างนั้นโชคชะตาของพวกเขาก็ยังไม่ได้แยกออกจากกัน หลังจากเรียนมหาวิทยาลัยจบ Joel และ Lindsey ก็ได้กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ในองค์กรการกุศลที่มีชื่อว่า American Lebanese Syrian Associate Charities (ALSAC)…
-
สรุปไทม์ไลน์ ‘นักข่าวซาอุฯ’ หายตัว ก่อนถูก ‘สังหารโหด’ ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง??
หลังจากที่กลายเป็นประเด็นโด่งดังไปทั่วโลก กับกรณีของ ‘นักข่าวในซาอุดีอาระเบียหายตัวไป’ ก่อนจะพบหลักฐานที่บ่งบอกว่าเขากลายเป็นศพถูกชำแหละเป็นชิ้นๆ ไปแล้ว นาย Jamal Khashoggi นักข่าวอิสระชาวซาอุดีอาระเบีย ผู้ตกเป็นเหยื่อถูกสังหารโหดหลังเข้าไปในอาคารสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย นาย Jamal Khashoggi หลังจากนั้นก็มีการปล่อยหลักฐานชิ้นสำคัญคือคลิปเสียงที่เขาแอบกดอัดเอาไว้ในนาฬิกาแอปเปิลวอทช์ ขณะที่ตัวเองถูกสอบสวน ทรมานร่างกาย และถูกสังหารชำแหละร่างเป็นชิ้นๆ ก่อนที่ไฟล์เสียงนั้นจะถูกส่งไปยังเครื่องไอโฟนของเขาที่ฝากไว้กับคู่หมั้น ทางด้านรัฐบาลตุรกีได้เปิดเผยว่าขณะนี้กำลังทำการสืบสวนถึงที่มาของเหตุดังกล่าวอยู่ ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร? มีใครอยู่เบื้องหลังกันแน่? ทำให้ทั่วโลกต่างจับตารอแถลงการณ์อย่างใกล้ชิด เบื้องต้นพบว่ามีผู้ก่อเหตุมากกว่า 15 ราย ถูกส่งมาจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งปมสังหารคาดว่าเกิดจากการที่นาย Jamal มักจะวิจารณ์มกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman อยู่บ่อยครั้ง ก่อนหน้านั้น #เหมียวหง่าว ได้ค้นเจอข้อมูลที่น่าสนใจ เป็นการสรุปไทม์ไลน์ก่อนเกิดเหตุสังหารโหดนี้มาให้เพื่อนที่กำลังติดตามข่าวนี้ได้ลองอ่านกันดูครับ วันที่ 28 กันยายน นาย Jamal เดินทางไปยังกงสุลซาอุฯ ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อรวบรวมเอกสารที่จะใช้ในการแต่งงานกับคู่หมั้นชาวตุรกีของเขา ซึ่งก็คือ Hatice Cengiz…
-
ขุดพี่ขึ้นมารักษา! ชายอินเดียหวิดดับ ทำพิธีฝังตัวเองทั้งเป็น เพื่อเกิดใหม่เป็นพระเจ้า
ตามความเชื่อในท้องถิ่นแต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรทำพิธีอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สิน เพราะหากทำลงไปแล้วเกิดเหตุสลดที่ไม่คาดคิดขึ้นมา ก็ไม่มีทางแก้ไขอะไรได้แล้ว กรณีของชายอินเดีย Deeraj Kharol จากรัฐราชสถาน ผู้เลื่อมใสในลัทธิตันตระมานานหลายปี โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้ประกาศวางแผนเพื่อที่จะฝังตัวเองทั้งเป็น ทำเป็นพิธีกรรมไถ่บาปและหวังจะเกิดใหม่เป็นพระเจ้าในเวลา 3 วันให้หลัง หลังจากประกาศออกไปแล้ว ชาวบ้านผู้เลื่อมใสศรัทธาต่างเคารพในการตัดสินใจของเขา และยินดีช่วยเหลือในการทำพิธีกรรมทุกอย่าง แม้แต่กระทั่งช่วยขุดหลุมฝังให้เขาในบริเวณใกล้กับวัดที่เขาจำอาศัยอยู่ ช่วงวันพุธในสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเป็นวันแรกของเทศกาลนวราตรี พวกเขาได้ทำการฝังนาย Kharol ลงไปในหลุมตามคำแนะนำของเจ้าตัว ชาวบ้านทั้งในละแวกและหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างมาร่วมพิธีกันอย่างคับคั่ง และหลังจากที่ปิดหลุมสนิทและเริ่มทำการบูชาหลุมฝัง ข่าวการทำพิธีประหลาดนี้แพร่กระจายไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองใหญ่ ภายในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ณ วันพฤหัสบดี เวลาประมาณตีสอง เจ้าที่ตำรวจจากเมืองใหญ่ได้เดินทางมาถึงจุดทำพิธีฝัง ทำการสั่งหยุดและแทรกแซงพิธีกรรมดังกล่าวทันที แม้จะมีชาวบ้านเข้ามาขัดขวางก็ตาม แต่แล้วชาวบ้านก็ยอมถอยให้เจ้าหน้าที่ทำการควบคุมทั้งหมด เนื่องจากได้รับชี้แจงให้เข้าใจแล้วว่า หากฝังเขาไว้ทั้งเป็นแบบนั้น เขาจะเสียชีวิตอย่างทรมานจากการขาดอากาศหายใจ ทั้งนี้นาย Kharol เกือบจะสิ้นสติหลังจากที่ถูกขุดออกมาจากหลุม และถูกนำส่งตัวไปรับการรักษาเป็นการด่วนในศูนย์พยาบาลในบริเวณใกล้เคียง สุดท้ายแล้วก็มีอาการคงที่ รอดพ้นจากขีดอันตรายแล้ว…
-
คุณพ่อผิวสีตะโกนเชียร์ลูกแข่งบอลอยู่ดีๆ จู่ๆ หญิงผิวขาวแจ้งความจับในข้อหาคุกคามเฉย
ในยุคปัจจุบัน โลกของเรานั้นได้ชื่อว่ามีการให้อิสระมากขึ้นแก่ผู้คนหลายๆ อย่าง ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นเพศใด จะเป็นเชื้อชาติใดหรือจะรวยจน ถึงกระนั้นแล้ว ก็ยังคงมีคนที่ไม่เปิดรับกับความแตกต่างของผู้คนอยู่ดี เหมือนกับผู้หญิงคนที่เราเอามาให้ชมกันนี้นี้ เธอแจ้งตำรวจมาจับคุณพ่อผิวสี เพียงเพราะเขาตะโกนเชียร์ลูกชายแข่งฟุตบอลเสียงดังเท่านั้นเอง In the latest incident of authorities being called on black people going about their routine lives, a youth soccer league official in Florida called 911 on an African-American father for yelling instructions at his son during a game. https://t.co/tAxbFnvVif pic.twitter.com/KtjnEVKceP — ABC News (@ABC)…
-
การฝึกซ้อมของหน่วยสไนเปอร์ ‘NATO’ บนเทือกเขาแอลป์ นอกจากดูทรงพลัง วิวยังงามจับใจ
เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าเวลาที่หน่วย ‘สไนเปอร์’ หรือหน่วยซุ่มยิงฝึกซ้อมกันจะเป็นเช่นไร หลายคนอาจจะเคยเกิดคำถามนี้กันขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นตาม #เหมียวจิวยี่ มาได้เลย!! โดยภาพเหล่านี้คือภาพการฝึกซ้อมของหน่วยสไนเปอร์จาก กองกำลังทางทหารขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization : NATO) จากหลายหลายประเทศ อย่างเช่นหน่วยสไนเปอร์จากประเทศเบลเยียม, เยอรมนี, กรีซ, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, สหรัฐอเมริกา และอื่นๆ อีกมากมาย ทีมสไนเปอร์จากกองทัพนอร์เวย์ขณะเล็งเป้าไปที่เป้าหมายในอีกหุบเขาหนึ่ง พวกเขาทำการซ้อมกันทั้งแต่วันที่ 9 – 14 กันยายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์ฝึกพิเศษบนเทือกเขาแอลป์ในเขตประเทศออสเตรีย ซึ่งก็แน่นอนว่านอกจากภาพการซ้อมแล้ว เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์อย่างสวยงามตระการตาแน่ๆ พร้อมแล้วใช่ไหมล่ะงั้นไปชมกันเล๊ย!! ทีมกองกำลังนาโต้ต้องขึ้นเขาไปสูงกว่า 1,980 เมตรสำหรับการฝึกซ้อมนี้ และพวกเขาก็เลือกที่จะใช้ม้าในการขนอุปกรณ์ต่างๆ และนี่ยังเป็นการสอนทหารด้วยว่าควรจะจัดกระเป๋าอย่างไรให้มีน้ำหนักเบาที่สุดระหว่างการเดินทาง “ด้วยปืนสไนเปอร์บางทีมีถึง 2 กระบอก กระสุนอีกนับร้อย ขาตั้งปืน สโคปและเลนส์กลางคืน อุปกรณ์ปีนเขา อุปกรณ์การนอน น้ำและอาหาร” อย่างต่ำๆ คุณก็ต้องแบกกว่า…
-
งานถอยอลวน เข้าออกหลายรอบ ปาดรถหรูทั้ง Maserati Audi และ BMW ได้รอยยับ!
ในการใช้รถใช้ถนน นอกจากจะต้องระมัดวังไม่ทำให้รถคนอื่นเสียหายแล้ว เราก็คงต้องระมัดระวังคนอื่นเช่นเดียวกัน เพราะแม้แต่จอดรถทิ้งไว้ตามปกติเฉยๆ ก็อาจจะมีกรณีที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ ภาพดังกล่าวมาจากกล้องวงจรปิด ในลานจอดรถใต้ดินแห่งหนึ่ง ในเมืองหางโจว ประเทศจีน ในขณะที่ผู้ขับขี่รายนี้พยายามจะถอยรถออกจากซองจอด แต่ดันหักพวงมาลัยจนไปขูดรถยี่ห้อ Maserati คันข้างๆ เข้า สภาพความเสียหายของ Maserati พอถอยพ้นห่างออกมาจากซองได้ พี่แกก็ยังถอยรถแบบแรงๆ ไม่สนใจจะผ่อนใดๆ พุ่งถอยชนรถยี่ห้อ Audi ที่จอดอยู่ในซองฝั่งตรงข้าม ไหลไปกระทบ BMW อีกคัน จัดไปรวดเดียวเสียหาย 3 คัน Audi ที่ถูกถอยชน เหตุการณ์ในการถอยรถสร้างความเสียหายยับเยินนี้ กินเวลาประมาณ 5 นาที โดยที่ผู้ก่อเหตุถอยรถชนนั้น เป็นหญิงวัย 27 ปี ขับรถมานานกว่า 2 ปี แล้ว และที่ปรากฏในภาพวิดีโอวงจรปิด ที่เจ้าตัวขับรถหนีออกมานั้น เธอขับเพื่ออกมาจอดด้านนอก ก่อนจะโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังจุดเกิดเหตุ …
-
โผล่คลิปพี่เข้ Chubbs เดินทอดน่อง-นอนอาบแดดชิลๆ ตัวบักเอ้กขนาดนี้ ไม่ตีแล้วก็ได้จ้า!
แดดยามบ่ายอันแสนสดใส เหมาะแก่การไปออกรอบตีกอล์ฟสัก 18 หลุมกับก๊วนรู้ใจ ว่าแต่หากเป็นขาจรทั่วไปก็คงจะต้องออกรอบได้ช้าหน่อย เพราะส่วนใหญ่มักจะมีขาประจำมาจองสนามก่อนแล้ว… ทีนี้ให้คุณลองนึกภาพของเจ้าของสนามไว้ในหัว ตัวใหญ่ๆ ขนาดความยาวเกือบ 5 เมตร มาเดินเพ่นพานกลางสนาม พร้อมเขี้ยวโต คงจะเป็นการดีกว่าที่จะถอยให้พี่เค้าได้หลุมนั้นไป เจ้าของสนามนี้คือพี่เข้ Chubbs มักจะโผล่วนเวียนอยู่ในสนามกอล์ฟ Buffalo Creek Golf Course รัฐฟลอริดา โดยก่อนหน้านี้ก็เคยปรากฏตัวไปแล้วในปี 2016 กลับมาในครั้งนี้ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โตกว่าจระเข้น้อยทั่วไป ทำเอานักกอล์ฟขาจรที่พบเห็นต่างถอยห่างให้พี่เข้ Chubbs นอนจองสนามไปแต่โดยดี ภาพจากคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายไว้โดยนาย Sage Stryczny ในขณะที่กำลังออกรอบกับคุณพ่อ แล้วก็มาเจอพี่เข้เดินทอดน่องกลางสนาม เพื่อมานอนจองพื้นที่อาบแดดแบบชิลๆ เขากล่าวกับสื่อว่า “พี่เข้ตัวใหญ่เบ้อเร่ออย่างกับสัตว์ประหลาด ผมกับพ่อกำลังจะทำการทีออฟในหลุมพาร์ 3 แต่แล้วก็มาเจอพี่แกนอนเล่นอยู่บนกรีนเนี่ยแหละ” อย่างไรก็ตาม พี่เข้ Chubbs อาจจะกลายมาเป็นจระเข้แอลลิเกเตอร์เจ้าถิ่นประจำสนามไปแล้ว แต่สำหรับนาย Sage นั้นเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอแบบตัวเป็นๆ และไม่ได้รับอันตรายใดๆ จากการมาเยือนของพี่เข้ “พี่แกนอนอ้อยอิ่งนานมาก…
-
คดีในโรงเรียน เมื่อนักเรียนนำคุกกี้ที่ผสม “เถ้ากระดูกคน” มาแบ่งให้เพื่อนร่วมห้องกิน!!
การกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนนั้นเกิดขึ้นเป็นประจำ โดยเฉพาะเด็กที่เริ่มเป็นวัยรุ่นซึ่งต้องการความบันเทิงและการมีอำนาจเหนือผู้อื่น โดยส่วนมาก รูปแบบของการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนจะมาในลักษณะของการทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ ซึ่งทางโรงเรียนก็มักจะมีวิธีรับมือกับพฤติกรรมดังกล่าว แต่ครั้งนี้กลับเป็นการกลั่นแกล้งในรูปแบบที่แปลกอย่างไม่มีใครคาดคิด เมื่อเด็กมัธยม 2 คนจากโรงเรียนมัธยม DaVinci Charter Academy ได้กลั่นแกล้งเพื่อนด้วย “ขนมคุกกี้” ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแต่ที่จริงแล้วเบื้องหลังของขนมคุกกี้นี้แฝงการกลั่นแกล้งที่ “รุนแรง” เอาไว้ นักเรียน 2 คน (ไม่เผยชื่อ) จากโรงเรียนมัธยมในเมืองเดวิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้นำขนมคุกกี้ที่ตนทำขึ้นมาแบ่งให้กับเพื่อนๆ ในห้องได้ทาน โดยที่คุกกี้เหล่านี้ถูกทำขึ้นจาก “เถ้ากระดูก” ของคุณยาย พวกเขาได้นำมาแบ่งให้กับเพื่อนร่วมห้องจำนวน 9 คนได้ทาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นกับร่างกายของนักเรียนที่ทานเข้าไป ขณะนี้เรื่องได้ถูกส่งต่อถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคดี โดยหลักฐานมีเพียงคำให้การของเด็กๆ เท่านั้น “จู่ๆ หญิงคนนี้เที่ยวไปบอกทุกคนว่าคุกกี้ที่เธอนำมาให้ทุกคนกินนั้นมีส่วนผสมของ ‘เถ้ากระดูกมนุษย์’ อยู่ด้วย” นักเรียนชายคนหนึ่งกล่าวกับ KTXL ขณะที่ทางโรงเรียนไม่มีการตอบสนองใดๆ ต่อเรื่องดังกล่าว รายงานจาก Business Insider ก็ได้ระบุว่า การบริโภคชิ้นส่วนหรือเศษเหลือใดๆ ก็ตามของมนุษย์ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ที่มีการกระทำดังกล่าวจะถูกเหมารวมว่าเป็น ฆาตกร…
-
แพทย์อธิบาย กรณีของหญิงมะกันที่เกือบ “แขนพิการ” หลังรับการฉีดวัคซีนรักษาไข้หวัด!
ประเทศไทยเราก็นับว่าเข้าสู่เหมันตฤดูแล้ว แม้ว่ากลางวันแดดจะยังร้อนเป็นไฟในบางพื้นที่ แต่เชื่อว่าหลายคนก็คงได้สัมผัสความหนาวเย็นกันบ้างแล้วในยามค่ำคืน เข้าหน้าหนาวแบบนี้สิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษก็คือ ไข้หวัด ที่มักจะเข้าสู่ร่างกายเราเสมอยามที่อุณหภูมิต่ำลง ซึ่งเมื่อเป็นหวัดแล้วเราก็อาจจะต้องรับยาเพื่อรักษาไปตามระเบียบ แต่บางครั้งเรื่องราวมันก็ไม่ได้ราบรื่นแบบนั้น หญิงคนหนึ่งนามว่า Jacalyn Broze จากรัฐมินนิโซตา เธอเกือบ “แขนพิการ” ของเธอไปหลังจากรับวัคซีนรักษาไข้หวัด ปกติแล้ว Jacalyn จะฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี แต่ล่าสุดในปี 2017 หลังได้รับการฉีดวัคซีน มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับเธอมากกว่าความเจ็บปวดธรรมดา หัวไหล่ข้างที่ได้รับวัคซีนเกิดอาการเจ็บปวดรุนแรง ไหล่ตกและขยับไม่ได้ กระทั่งแพทย์จับเส้นกระดูกสันหลังของเธอยังสังเกตเห็นเลยว่าไหล่ของเธอไม่เท่ากัน เธอจึงไปพบแพทย์หลายแห่ง จนสุดท้ายก็ทราบว่าอาการผิดปกตินี้เรียกว่า SIRVA หรือ อาการเจ็บหัวไหล่จากการฉีดวัคซีน เป็นอาการเจ็บปวดแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นหลังได้รับการฉีดวัคซีนที่ “ไม่ถูกวิธี” อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้หาก ตำแหน่งที่เข็มวัคซีนเจาะเข้าไปนั้นอยู่สูงเกิน หรือไม่ก็เจาะเข็มเข้าไปลึกเกิน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บที่เส้นเอ็น ข้อต่อ และถุงน้ำในหัวไหล่ได้ แพทย์กล่าวว่า อาการ SIRVA สามารถเกิดขึ้นได้ทุกครั้งทุกครั้งที่ฉีดยา (ที่แขน) แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นน้อยมาก อย่างไรก็ตาม อาการ SIRVA นั้นสามารถหายได้ หากใครเป็นหวัดไม่สบายก็อย่ากลัวที่จะรับการฉีดวัคซีนเลยนะ เป็นห่วง… ที่มา: shared…
-
จีนสุดล้ำ สร้าง “ฐานทัพดาวอังคารจำลอง” ให้ความรู้เยาวชน กลางเวิ้งทะเลทราย
ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ทั้งยิ่งใหญ่และสร้างสรรค์เอามากๆ สำหรับ Mars simulation base หรือ ฐานทัพดาวอังคารจำลอง ของประเทศจีน เพราะสิ่งก่อสร้างดังกล่าวนั้นสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นทั้งสถานีวิจัยและสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วยในตัว และยังใช้งบประมาณการสร้างมากถึง 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,989 ล้านบาท) อีกด้วย ฐานทัพจำลองดังกล่าวสร้างขึ้นบนพื้นที่ห่างไกลในเวิ้ง ทะเลทรายโกบี โดยภายในจะมีส่วนสำหรับ “พักอาศัย” ที่ออกแบบให้เหมือนกับการใช้ชีวิตบนพื้นผิวดาวอังคารเลยทีเดียว ชมคลิปวิดีโอ “ฐานทัพดาวอังคารจำลอง” ฐานทัพนี้ถูกสร้างขึ้นภายใต้โครงการ C Space Plan เป็นโครงการสร้างองค์ความรู้ทางอวกาศให้กับเยาวชน ตามวิสัยทัศน์ของภาครัฐที่มุ่งเน้นพัฒนาเด็กๆ สู่การเป็นนักบินอวกาศรุ่นใหม่ สถานที่แห่งนี้นับเป็นสิ่งก่อสร้างแรกของจีนที่เป็นทั้งสถานที่ให้ความรู้และสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วยในตัว นอกจากนี้มันยังถูกใช้เป็นโลเคชันสำหรับถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย บรรยากาศและภูมิทัศน์ภายนอกนั้นมีความคล้ายคลึงกับพื้นผิวดาวอังคารมาก เพราะเต็มไปด้วยดินและหินสีแดง ส่ายภายในนั้นออกแบบให้เหมือนกับฐานทัพสำรวจดาวอังคาร และยังมีกิจกรรมจำลองการใช้ชีวิตบนดาวอังคารอีกด้วย ภายในจะถูกแบ่งเป็นส่วนๆ เช่น ส่วนพักอาศัย ส่วนแล็บวิทยาศาสตร์ และห้องวิจัย เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังมีโอกาสได้สัมผัสการออกสำรวจดวงดาว และต้องสวมชุดอวกาศอีกด้วย ล่าสุดทางการประเทศจีนก็ได้เปิดฐานทัพจำลองนี้ ให้กับสื่อหลายๆ ฝ่ายได้เข้าชมแล้ว…
-
คุณยายวัย 100 ปี เข้าพิธีวิวาห์กับชายที่คบหากันมา 30 ปี พร้อมความรักที่สวยงามราวเทพนิยาย…
หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘ไม่มีใครแก่เกินเรียน’ กันมาบ้าง แต่คงมีแค่ไม่กี่คนที่เคยได้ยินคนพูดว่า ‘ไม่มีใครแก่เกินแต่งงาน’ ซึ่งเป็นคำพูดที่ใครได้ยินก็คงยากจะเชื่อแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นมาลองดูเรื่องราวนี้แล้วจะรู้ว่ามันจริงขนาดไหน!! Norah Witkiss คุณยายวัย 100 กะรัตเมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งจะเข้าพิธีวิวาห์กับ Malcolm Yates ชายผู้มีอายุน้อยกว่าเธอถึง 26 ปี (อายุ 74 ปี) ทั้งคู่คบหาดูใจกันมาเป็นเวลานานถึง 30 ปี!! โดยในครั้งแรกพวกเขาเจอกันในงานเต้นรำแห่งหนึ่งในช่วงยุค 80s และหลังจากนั้นก็เริ่มสานสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ (นานจริงง) จนในที่สุดแล้วนาย Yates ก็มั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่สวรรค์ส่งลงมาให้กับเขา จึงตัดสินใจเอ่ยคำขอคำแต่งงานกับฝ่ายหญิงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเธอก็ตอบตกลงอย่างมีความสุข งานแต่งงานของพวกเขาจัดขึ้นที่เมือง Prestatyn ทางตอนเหนือของประเทศเวลส์ ซึ่งในงานนี้ทั้งคู่ได้แสดงความรักที่มีต่อกันด้วยการกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นสามี – ภรรยากันอย่างสมบูรณ์แบบ วิดีโอระหว่างพิธีการแต่งงาน “เป็นเจ้าสาวเหรอ มันเป็นอะไรที่สวยงามเอามากๆ วิเศษสุดๆ เลย” “แน่นอนมันคุ้มค่าที่รอคอย ฉันสามารถรอมันได้นานกว่านี้อีกนะไม่มีอะไรที่เขาจะไม่ทำให้ฉันเลย เขาเป็นคนที่วิเศษมาก วิเศษเอามากๆ” Norah เจ้าสาวป้ายแดงกล่าว โดยก่อนหน้านี้…
-
ตดอย่างมั่นใจ หมดปัญหาเรื่องกลิ่น กับกางเกงยีนส์รุ่นใหม่ ที่กรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้!
การผายลมนั้นถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แต่เพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์น่าอายอย่างการผายลมในที่สาธารณะ จนส่งกลิ่นไม่จรรโลงใจออกมาให้กับผู้อื่นได้สูดดมกันหรือไม่? หากเพื่อนๆ เคยพบกับปัญหาอย่างว่าแล้วล่ะก็ วันนี้ #เหมียวโคบี้ ขอแนะนำให้รู้จักกับ “กางเกงยีนส์” รุ่นใหม่ ไฉไลกว่าเก่า เพราะว่ามันคือกางเกงยีนส์ที่สามารถ “กรองกลิ่นตด” ของคุณได้!! Ladies Flatulence Jeans (กางเกงยีนส์สตรีท้องอืด) หรือเจ้ากางเกงยีนส์กรองกลิ่นตดตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์ Shreddies แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง ในเว็บไซต์ Shreddies ได้อธิบายสินค้าเอาไว้ว่า “กางเกงยีนส์กรองกลิ่งไม่พึงประสงค์ของ Shreddies ได้ใช้ผ้าซับในคาร์บอน ที่ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และทำให้คุณเข้าสังคมได้อย่างอิสระ และเมื่อคุณสวมมันพร้อมกับชุดชั้นในกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ มันก็จะช่วยให้มีด่านป้องกรองกลิ่นเหล่านั้นถึง 2 ชั้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่คุณว่ากลิ่นดังกล่าวจะไม่ออกมาอย่างแน่นอน” สำหรับคนที่สนใจเจ้ากางเกงยีนส์สตรีท้องผูกตัวนี้ เพื่อนๆ ก็สามารถเข้าไปชมสินค้าและสั่งได้ที่เว็บไซต์ Shreddies โดยสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 4,200 บาท สุดท้ายนี้เมื่อเพื่อนๆ มีกางเกงตัวนี้ ก็จะสามารถผายลมได้อย่างมั่นใจว่าไม่มีใครได้กลิ่นอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องระวังเรื่องเสียงด้วยล่ะ เพราะมันถึงกันกลิ่นไม่ได้กันเสียง!! ที่มา Unilad, MyShreddies
-
ชาวต่างชาติเข้าห้าม ‘คนต่อยกัน’ ขณะที่คนอื่นๆ ได้แต่ยืนมอง เกิดเป็นคำถามควรห้ามหรือไม่!?
เมื่อคุณเห็นคนทะเลาะกันคุณจะเข้าไปห้ามหรือไม่ นี่อาจเป็นคำถามที่คุณยังตอบกับตัวเองไม่ได้ถ้าหากยังไม่เจอเข้ากับตัวจริงๆ ใช่ไหมล่ะ… ทว่ามีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่กลายเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียลประเทศจีน ในกรณีของชายสองคนที่ต่อยกันในรถไฟฟ้า แต่คนที่เข้าไปห้ามนั้นกลับเป็นชาวต่างชาติ ขณะที่คนอื่นๆ ได้เพียงแค่ยืนดูอยู่เฉยๆ ซะอย่างงั้น!! คลิปเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทนี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 10 ตุลาคม ที่รถไฟสาย 9 ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยในคลิปวิดีโอจะเห็นว่าเป็นภาพของชายเสื้อเหลืองและเสื้อสีดำยืนสาวหมัดใส่หน้ากันไปมา จนมีอยู่จังหวะหนึ่งที่ชายในเสื้อดำพลาดท่าโดนสอยลงไปกองกับพื้นนอกขบวนรถไฟ แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้เดินกลับมาสู้ต่อ ซึ่งในจังหวะนี้เองที่มีผู้โดยสารชาวต่างชาติคนหนึ่งเข้ามาห้ามเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ ทำอะไรกันน่ะ ชายชาวต่างชาติคนนั้นตะโกนออกมาว่า ‘เฮ้ เฮ้ แยกออกๆ’ ก่อนที่เขาจะผลักทั้งสองออกจากกัน โดยในตอนนี้ก็มีคนอื่นๆ มาช่วยห้ามด้วยต่างจากในตอนแรกที่เพียงยืนดูกันเฉยๆ “นายสองคนเป็นบ้าอะไรกันเนี่ย” ชาวต่างชาติตะโกนถาม ก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดจะกลับเป็นปกติ เฮ้ยพอๆ แยกๆ เมื่อคลิปนี้ได้ไปลงโซเชียลมีเดียของประเทศจีน ก็มีความคิดเห็นต่างๆ มากมาย แต่โดยส่วนมากแล้วก็พูดในทำนองที่ว่าเป็นเรื่องแล้งน้ำใจจริงๆ ที่คนแถวๆ นั้นไม่ช่วยกันห้ามได้เพียงแต่ยืนมอง… “นี่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพคนของเรา เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ “เราเสียหน้าถึงสองครั้งสองคราในเหตุการณ์เดียว อย่างแรกคือเรื่องที่มีเหตุการณ์ทะเลาะกันเกิดขึ้นต่อหน้า อย่างที่สองคือเราไม่ได้ทำอะไรเพื่อหยุดมันเลย” นี่พวกนายเป็นอะไรกันเนี่ย …
-
นักพยากรณ์อากาศหญิงกระเตงลูกน้อยออกอากาศ ชาวเน็ตชื่นชม น่ารัก น่าเอ็นดูมาก!!
สำหรับพ่อแม่แล้ว ลูกทุกคนนั้นเปรียบเหมือนกับของขวัญที่โลกใบนี้มอบให้มา แต่การมีลูกก็จะเพิ่มภาระความรับผิดชอบให้แก่พ่อแม่มากขึ้นเช่นกัน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Susie Martin นักพยากรณ์อากาศหญิงคนนี้ เพราะว่าเธอยืนยันว่าการมีลูกไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน โดยจัดการกระเตงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมารายงานข่าวจนกลายเป็นภาพน่ารักๆ ให้เราได้เห็นกัน Susie เป็นนักพยากรณ์อากาศประจำช่อง Praedictix รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา โดยในช่วงที่ผ่านมาเธอสร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้ชม หลังกระเตงลูกชายมาพยากรณ์อากาศด้วย ในขณะที่เข้าสู่รายการของเธอ Susie ได้เปิดรายการเหมือนอย่างปกติ แต่คราวนี้เธอได้พูดถึงสัปดาห์สำคัญ อย่างสัปดาห์แห่งการกระเตงลูกสากล (International Babywearing Week) ก่อนที่เธอจะหันหลังมาแล้วแนะนำให้รู้จักกับผู้ช่วยหวานใจวัยเกือบ 2 ขวบตัวน้อยของเธอและดำเนินรายงานพยากรณ์อากาศตามปกติของเธอ หลังจากที่รายการได้ออกอากาศไป ทางเพจของ Praedictix ก็ได้นำวิดีโอของ Susie มาลงในเฟซบุ๊ก โดยมีแคปชั่นแอบแซวผู้ช่วยตัวน้อยว่าเขาแอบหลับในหน้าที่และก็ขออภัยสำหรับผู้ชมที่รู้สึกไม่พอใจ ซึ่งวิดีโอดังกล่าวก็ได้รับเสียงตอบรับไปในทางบวกเป็นอย่างมาก ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย Heather Leacy บอกว่า “นี่ป็นการพยากรณ์อากาศที่ฉันชื่นชอบที่สุดเลย ฉันรักที่จะได้เห็นผู้หญิงเป็นมืออาชีพในขณะเดียวกันก็เป็นคุณแม่ที่ดีด้วย” Jaime Ingram กล่าวว่า “ฉันคงจะดูข่าวมากกว่านี้ หากผู้ประกาศทุกคนกระเตงลูกมาด้วย” …
-
สิ้นความสัมพันธ์ Logan Paul & Chloe Bennet ชาวเน็ตพากัน “ยินดี” กับฝ่ายหญิง!?
ล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า Chloe Bennet นักแสดงสาวสวยจากซีรียส์ Agents of S.H.I.E.L.D. ได้แยกทางกับแฟนหนุ่ม Logan Paul ยูทูบเบอร์ชื่อดังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สาว Chloe นั้นมี “แฟนคลับ” ติดตามเป็นจำนวนมาก แต่แปลกที่เหล่าแฟนคลับแแทนที่จะพากันโศกเศร้ากลับแห่ขบวนกันมา แสดงความยินดี กับเธอที่ได้แยกทางกับ Logan เสียอย่างนั้น ความรักของทั้งคู่ที่ฝ่ายหญิงเคยออกมากล่าวว่า “Logan ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของฉันให้ดีขึ้น และฉันก็เปลี่ยนชีวิตเขาให้ดีขึ้นเช่นกัน” วันนี้กลับต้องจบลงโดยไม่มีใครทราบสาเหตุ แต่แม้ว่าจะเลิกรากันไปแล้วหนุ่ม Logan Paul ก็กล่าวถึง Chloe ว่า… “Chloe คว้าหัวใจผมไปเต็มๆ หนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่ทำให้ผมรักเธอก็คือเธอร่วมทุกข์สุขกับผมมายาวนานซึ่งส่วนมากจะเป็นความทุกข์ แต่เธอก็ไม่เคยหันหลังให้ผมเลยสักครั้ง” Chloe Bennet Logan Paul อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ก็ยังจะต้องกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในภาพยนตร์มิวสิกคัลเรื่อง Valley Girl ที่ยังอยู่ระหว่างการถ่ายทำและยังไม่มีกำหนดฉาย สำหรับความเห็นของชาวเน็ตนั้นก็มีหลายทิศทางหลายอารมณ์ แต่ส่วนหนึ่งกลับมาแสดงความยินดีกับ Chole ที่สุดท้ายก็พบทางสว่าง… “พบทางสว่างสักทีนะ”…
-
เปิดปม ‘จับผีน้อย’ คาร้านหมูกระทะ ขโมยเงิน 3 ล้านวอน เจ้าหนี้แค้นเลยแจ้งตำรวจจับ
หลังจากที่กลายเป็นข่าวใหญ่ข่าวดังที่ชาวเน็ตไทยต่างก็ให้ความสนใจ กับกรณีของเหล่า ‘ผีน้อย’ ในประเทศเกาหลีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคาร้านหมูกระทะ อ่านข่าวเก่า : เกาหลีเริ่มกวาดล้าง ‘ผีน้อย’ รวบตัวคาร้านหมูกระทะได้ 9 ราย จับกุมพาส่งกลับไทยทันที… ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 สำนักข่าว Amarin ได้ทำการโทรศัพท์ทางไกลสัมภาษณ์ นางรุณี บุญภา เจ้าของร้านหมูกระทะบุฟเฟ่ต์ดังกล่าว ที่อยู่ในเมืองอินชอน ซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ทำให้ทราบถึงเรื่องราวที่มาที่ไปของการจับกุมในครั้งนี้ โดยตำรวจชุดที่เข้าตรวจไม่ใช่ตม. แต่เป็นตำรวจในพื้นที่ ที่เข้ามาตรวจหลังจากได้รับแจ้งจาก ‘คนไทย’ ว่ามีกลุ่มคนไทยที่มารับประทานอาหารที่ร้านของตน ซึ่งหนึ่งในคนไทยกลุ่มนี้มีการติดหนี้สินจากผู้แจ้งความและหลบหนีหนี้อยู่ แต่คนไทยกลุ่มนี้ได้ทำการ ‘ไลฟ์สดเฟซบุ๊ก’ ขณะทานบุฟเฟ่ต์อย่างสนุกสนาน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถระบุที่อยู่และตามมาจับกุมได้ถึงที่สุด ชนแก้วกันขณะโดนตำรวจจับ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพาสปอร์ตแล้วพบว่าวีซ่าหมดอายุแล้วทั้งหมด 9 คน ส่วนจะส่งกลับไทยหรือไม่นั้นก็ยังไม่ทราบ นอกจากนี้ยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่าผู้หญิงที่ติดหนี้นั้นได้ขโมยเงินเจ้าหนี้มาเป็นจำนวน 3 ล้านวอน แถมยังเป็นหนี้แชร์อีกด้วย พอเกิดเรื่องหนีหนี้ อีกฝ่ายก็เลยจ้างตำรวจจับ ภาพเหตุการณ์ตอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีเข้าจับกุม นางรุณี เป็นคนไทยที่แต่งงานมีครอบครัวกับชาวเกาหลี…
-
นักศึกษาสาวอนาคตไกลวัย 21 ปี ตกเป็นเหยื่อเดนคน ถูกลักพาตัวไปรุมโทรมเสียชีวิต…
เรื่องราวอันน่าสลดใจ ของนางสาว Hannah Cornelius วัย 21 ปี นักศึกษาสาวผู้มีอนาคตไกล กลับต้องมาเจอกับเหตุการณ์อันโหดร้าย ที่พรากชีวิตเธอไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา… เหตุเกิดหลังจากที่ Hannah อาสาพาเพื่อนนักศึกษาชาย Cheslin Marsh วัย 22 ปี ไปส่งถึงที่พัก เพื่อให้มั่นใจว่าเขาเดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย แทนที่จะไถสเก็ตบอร์ดกลับดั่งเช่นเคย Hannah Cornelius แต่หลังจากที่เธอจอดรถเพื่อรับนาย Cheslin ขึ้นรถ กลุ่มชายฉกรรจ์ 4 รายที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เข้ามาล้อมรถของเธอ และทำการจี้ปล้นทันที ฝั่งเพื่อนชายถูกจับยัดเข้าส่วนท้ายรถ ส่วนนางสาว Hannah ถูกแทงเข้าที่บริเวณหน้าอก ศาลสูง Western Cape แห่งเมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ รายงานว่า กลุ่มคนร้ายใช้ไขควงในการเริ่มปล้น ระหว่างที่เหยื่อเปิดกระจกรถ และประชิดเข้าเปิดประตูรถ ใช้มีดแทงเข้าข้างหลังของนาย Cheslin พร้อมขู่ฆ่าเหยื่อทั้งสอง กลุ่มคนร้ายผู้ก่อเหตุ 4 ราย นาย…
-
ทำเอาตาค้าง สองหนุ่มสาว ‘โจ๊ะพรึมๆ’ ไม่ปิดผ้าม่าน คนเห็นกันทั้งย่านชอปปิง!!
‘เซ็กส์’ ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ และมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดหากกระทำในที่ส่วนตัว… แต่แม้จะทำในที่ส่วนตัว แต่ถ้าโจ๊ะพรึมๆ กันตรงหน้าต่างแล้วเปิดผ้าม่านในที่ที่มีคนพลุกพล่านเดินผ่านไปผ่านมาตลอดเวลา ก็อาจจะทำให้สร้างความแตกตื่นได้เหมือนกัน!! เช่นเดียวกันกับหนุ่มสาวจากเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษคู่นี้ ที่จัดการโชว์ ‘โจ๊ะพรึมๆ’ กันที่ห้องพักชั้นบนของร้านขายโทรศัพท์มือถือในย่านชอปปิง ตอนกลางวันแสกๆ แถมไม่ปิดผ้าม่าน ทำเอาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงกับตาค้างไปตามๆ กัน เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยเว็บไซต์ Mirror ของอังกฤษ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา รายงานระบุเอาไว้ว่า ผู้คนที่เดินไปมาในย่านนั้นต่างไม่เป็นอันชอปปิงกันเลยทีเดียว เมื่อมีคนสังเกตเห็นสองหนุ่มสาวบรรเลงเพลงรักกันอย่างดุเดือดในห้องของตัวเอง ที่ไม่ได้ปิดหน้าต่าง แน่นอนว่ามีคนถ่ายภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียพร้อมกับแคปชันว่า “มีคนถามผมว่าคุณเห็นอะไรตอนไปเดินบนถนนที่อังกฤษ…อ่ะ เอาแซมเปิลไปดูก่อนละกัน” มีคนแชร์ไปมากกว่า 3,000 ครั้งเลยทีเดียว!! ชาวเน็ตหลายคนต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันไปต่างๆ นานา ส่วนใหญ่แล้วจะเข้ามาเล่นมุกตลกกันเสียมากกว่า “ผมกำลังหาสถานที่ซ่อมโทรศัพท์ถูกๆ อยู่” “ที่นี่รับซ่อมโทรศัพท์ในราคาถูกนะ ไม่เชื่อดูที่ราคาข้างบนนั้นสิ” (อาจจะหมายถึงการกระทำของหนุ่มสาวที่เป็นตัวบ่งชื้ว่ามันต่ำล่ะนะ) “เวลาไปซื้อโทรศัพท์ที่ร้านนี้ตรูไม่เอาเงินทอนก็ได้ ไปยืนหามุมดีๆ ที่ลานจอดรถก็ได้แล้ว” …
-
‘ตั๋วแห่งปรารถนา’ เรื่องเล่าช่วงวัยรุ่น ดำดิ่งถึงจุดต่ำสุด ฉุกคิดได้จากความรักของแม่
‘การเป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย’ ประโยคที่มักจะถูกหยิบยกมาพูดกันบ่อยๆ ของเหล่าวัยรุ่นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เนื่องจากปัญหาต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งชีวิตส่วนตัว หรืออะไรก็ตามแต่ เหล่าวัยรุ่นมักจะหมดไฟและท้อแท้ได้ง่ายๆ จนนำไปสู่การคิดสั้น ‘ฆ่าตัวตาย’ https://twitter.com/loveglasslip/status/1050693007349927936 ดั่งเช่นเรื่องราวจากทวิตเตอร์ @loveglasslip ที่บอกเล่าประสบการณ์ช่วงวัยรุ่น ในห้วงที่ดำดิ่งถึงจุดต่ำที่สุด และฟื้นคืนกลับมาได้ด้วยกำลังใจจากคนที่ห่วงใยเขามากที่สุด… ใจความจากทวีตระบุว่า… “ในช่วงที่ผมเรียนชั้นมัธยมปลาย ผมทรมานกับความยากลำบาก ที่ถาโถมเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง จนรู้สึกเกินกว่าจะรับไหวแล้ว… ผมพาตัวเองไปยืนบริเวณขอบตึก บนชั้นดาดฟ้าอพาร์ทเม้นท์ ความสูง 13 ชั้นจากระดับพื้นดิน ด้วยความตั้งใจที่จะกระโดดลงมา เพื่อจบทุกสิ่งทุกอย่างในวันนั้น แต่แล้ว คุณแม่ของผมก็ตามมาทัน เธอมาพร้อมกับบางสิ่งยื่นให้กับผมจากกระเป๋าเงิน ที่เธอเก็บเอาไว้กับตัวตลอด ผมจำได้ทันทีว่ามันเป็นตั๋วที่ผมทำให้ในวันแม่ตั้งแต่ตอนเรียนอนุบาล เขียนไว้ว่า “ตั๋วใบนี้จะทำให้สมปรารถนาทุกประการ” เราทั้งสอง หันหน้าสวมกอดและร้องไห้ทันที และจากนั้นเป็นต้นมา ผมไม่เคยคิดจะฆ่าตัวตายอีกเลย” หลังจากที่ชาวเน็ตได้อ่านเรื่องราวของเขาแล้ว ก็มีผู้คนร่วมแชร์ความรู้สึกเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น… 9年ほど葬儀屋やってたけど、自死の葬儀で良かった事なんて一度もなかったな。遺された家族は己を責めるし、見送っても気持ちは沈んだままだし。 どうせみんないつかは死ぬんだし、そんなに急がなくてもいいじゃんって思う。 お母さんの願い事叶えてあげられて良かったね。 — 千内府(せんの・ないふ) (@sennonaifu) October 12,…
-
หนุ่มตัดสินใจซื้อ ‘ลูกหมา’ มาเลี้ยงช่วยคลายเหงา ที่ไหนได้ มันคือ ‘หนูอ้วน’ ชัดๆ!!
บางครั้ง ‘เรื่องเข้าใจผิด’ ก็เกิดขึ้นได้อยู่บ่อยครั้ง แต่จะมีสักกี่คนกันที่เข้าใจผิดคิดว่า ‘หนู’ เป็นลูกหมาไปซะได้ล่ะเนี่ย!? แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว นี่คือเรื่องราวของหนุ่มออฟฟิศขี้เหงาชาวจีน ที่ตัดสินใจจะรับ ‘หมา’ มาเลี้ยงเป็นเพื่อนแก้เหงา แต่กลับกลายเป็นว่าที่ซื้อมาเลี้ยงมันดันกลายเป็น ‘หนู’ ซะงั้น!! จากรายงานของเว็บไซต์ btime สื่อออนไลน์ของประเทศจีนเล่าว่า ชายหนุ่มสนใจที่จะไปซื้อลูกหมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยง และเขาก็ได้ลูกหมาตัวหนึ่งตัวสีดำ หน้าตาน่ารักน่าชัง ซึ่งในช่วงแรกนั้นเขาดีใจมากๆ กับเพื่อนใหม่ที่ตัวเองได้ตัดสินใจเลือกมันมาเองกับมือ แต่พอเลี้ยงไปได้สักพักก็พบว่า พฤติกรรมการกิน หรือการใช้ชีวิตของมันไม่เหมือนกับที่เขาศึกษามาเลยแม้แต่น้อย มันไม่วิ่งเล่นเหมือนกับหมา หรือบางครั้งมันก็ไม่เห่าเลย ด้วยความสงสัย พี่แกก็เลยโพสต์ภาพสุนัขของตัวเองลงโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อถามว่าทำไมมันถึงมีอาการแปลกๆ? นั่นทำให้เขาทราบว่าจริงๆ แล้วเจ้าสัตว์เลี้ยงที่ตัวเองเข้าใจผิดมาตลอดว่าเป็น ‘ลูกหมา’ จริงๆ แล้วมันคือ ‘หนูต้นไผ่’ ตัวอ้วนพลุ้ย ที่ดูแล้วก็ชวนให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นลูกหมานั่นเอง!! พอทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ชายหนุ่มผู้โดดเดี่ยว และผิดหวังกับการหาเพื่อนรู้ใจมาแก้เหงา ก็ตัดสินใจที่จะนำมันไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ เพราะตัวของเขาเองไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูหนูไม้ไผ่เลยแม้แต่น้อย แหม่ ก็ตัวมันอ้วนตั๊บซะขนาดนั้น เป็นใครใครก็ต้องเข้าใจผิดกันบ้างล่ะ ฮร่าๆ ที่มา :…
-
คู่รักสุดช็อก… เจอ ‘กล้องจิ๋วแอบถ่าย’ ในเต้าเสียบปลั๊กไฟ ทั้งๆ ที่อยู่มาเกือบครึ่งปีแล้ว!!
‘ห้องเช่า’ อีกหนึ่งรูปแบบที่พักอาศัยสุดฮอตฮิตไม่ว่าจะในประเทศไหนๆ แต่รู้หรือไม่ว่าห้องเช่าก็อาจจะแฝงไปด้วยอันตรายมากมายที่มาในรูปแบบต่างๆ และนี่อาจเป็นหนึ่งอุทาหรณ์สอนให้เราได้ระวังตัวเอาไว้ ในกรณีของคู่รักคู่หนึ่งที่ค้นพบว่าในอพาตเมนต์ของพวกเขา มีกล้องตัวจิ๋วบันทึกภาพซ่อนอยู่ซะอย่างงั้น!! เหตุการณ์สุดช็อกนี้เกิดขึ้นกับคู่รักไม่ประสงค์จะออกนามคู่หนึ่ง เมื่อพวกเขาได้เช่าอพาตเมนต์ในเขตฉาวหยาง ใจกลางกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนมาเป็นเวลาเกือบจะครึ่งปีมาแล้ว แต่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางคู่รักก็ค้นพบว่าที่เต้ารับใกล้ๆ กับเตียงนอนมีรูปริศนาที่ไม่รู้ว่าเจาะไว้ทำไมซ่อนตัวอยู่ พวกเขาจึงรีบนำเทปมาปิดไว้ก่อนที่จะเรียกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบสวนในวันต่อมา และแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่มาเปิดดู ทางผู้เช่าสองคนนี้ก็แทบช็อกเพราะสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นคือกล้องตัวจิ๋วที่บรรจุเมมโมรี่การ์ดขนาด 16 GB เอาไว้แถมยังมีระบบการเชื่อมต่อผ่าน WiFi ด้วย ทว่าที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือกล้องอันนี้ถูกตั้งบันทึกภาพทิ้งเอาไว้ตั้งแต่วันที่ทั้งคู่ย้ายเข้ามา นั่นจึงหมายความว่าทุกๆ อิริยาบถของพวกเขาอาจถูกใครบางคนจับตามองอยู่… ทั้งคู่ได้นำเรื่องราวสุดช็อกนี้ไปแจ้งแก่ Ziroom เอเจนซี่ให้เช่าที่พักชื่อดังในประเทศจีน แต่ว่าก็ไม่มีการตอบรับแสดงความรับผิดชอบใดๆ เกิดขึ้น พวกเขาจึงจำต้องนำเรื่องนี้ไปประกาศในโลกโซเชียลจนกลายเป็นไวรัลในที่สุด คำแถลงการณ์ของ Ziroom ในเวลาต่อมาทาง Ziroom ได้ออกมาแถลงการณ์ว่าในเรื่องนี้ทางบริษัทได้จัดตั้งทีมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเพื่อหาว่าเรื่องนี้เป็นมาอย่างไร และจะเพิ่มความเข้มงวดในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่ทั้งสองย้ายเข้ามาอยู่ ก็มีคนอื่นเคยอยู่มาก่อนแล้ว เรื่องนี้จึงต้องสอบสวนว่าเป็นของผู้เช่าคนก่อนหรือว่ามีใครแอบมาตั้งกล้องเอาไว้กันแน่… น่ากลัวจริงๆ เลย ที่มา: shanghaiist, technode
-
สิงคโปร์ยกเลิก ‘จัดอันดับและสอบ’ เริ่มที่เด็กชั้นประถม ให้โฟกัสความรู้ ไม่ใช่แข่งกันเรียน…
สิงคโปร์ คือหนึ่งประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีอันดับด้านการศึกษาติดระดับต้นๆ ของโลก ทั้งนี้อันเนื่องมาจากนโยบาย ในการจัดการระบบการศึกษาภายในประเทศสิงคโปร์ด้วย เป็นที่ทราบกันดีว่า เด็กๆ ในภูมิภาคเอเชียจะต้องเรียนหนัก แข่งขันสอบกันเป็นว่าเล่น อันเป็นผลพวงมาจากการจัดอันดับทางด้านการศึกษาที่มีมาอย่างยาวนาน แต่แล้วล่าสุดนี้ กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ ได้ประกาศทำการยกเลิกระบบ ‘จัดอันดับในชั้นเรียน’ และยกเลิกการ ‘สอบ’ สำหรับนักเรียนช่วงชั้นประถมและมัธยม ตามนโยบาย ‘การเรียนรู้เพื่อชีวิต’ (Learn For Life) โดยหวังเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนจดจ่ออยู่กับกระบวนการเรียนรู้ และเปลี่ยนแปลงระบบการสอนในโรงเรียน ให้เป็นการเรียนรู้อย่างแท้จริง ไม่ใช่การแข่งขันกันเรียนเหมือนที่ผ่านมา หลังจากที่มีการปรึกษาหารือ และถกเถียงภายในกระทรวงถึงจำนวนการบ้านและการสอบยิบย่อย ไปจนถึงการสอบปลายภาค การจัดอันดับนักเรียนในชั้นจากผลเกรดปลายเทอม ทั้งหมดนี้จะถูกทดแทนด้วยการเก็บข้อมูลประเมินผลการเรียนรู้แทน… ทั้งนี้ สิงคโปร์จะเริ่มเปลี่ยนระบบในปีการศึกษา 2019 ดังรายการต่อไปนี้ – ไม่มีการตัดเกรดบันทึกลงในสมุดพก และจะไม่มีการจัดอันดับภายในชั้นเรียน หลีกเลี่ยงปัญหาการถูกเปรียบเทียบ – ยกเลิกการสอบทุกชนิดในระดับชั้นประถม 1 และ 2 ใช้ระบบควิซถามประเมินความรู้ความเข้าใจแทน – ยกเลิกการสอบกลางภาคในระดับชั้นมัธยมปีที่ 1…
-
ญี่ปุ่นร่วมใจ “ลงภาพโฆษณา” น้อง Koki บนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกสำนัก พร้อมแฝงอักษรลับ
ประเทศญี่ปุ่นนอกจากจะเป็นประเทศที่โดดเด่นในเรื่องของวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ญี่ปุ่นยังถือว่าเป็น ประเทศรักการอ่าน มากๆ อีกด้วย และล่าสุดสำนักหนังสือพิมพ์ทุกสำนักในประเทศญี่ปุ่นก็ได้ร่วมใจลงภาพโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์ของตนเอง เพื่อต้อนรับ วันแห่งการโฆษณาของหนังสือพิมพ์ ของสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศญี่ปุ่น ภาพโฆษณาดังกลาวเป็นรูปใบหน้านางแบบสาวน้อยอย่าง Koki (ลูกสาวของพระเอกหน้าหวานอย่าง Takuya Kimura) ซึ่งแต่ละสำนักหนังสือพิมพ์ก็ได้ร่วมใจใช้ภาพเดียวกันนี้เป็นการโฆษณา ความอัศจรรย์อยู่ตรงที่ทั้งสำนักข่าวรายใหญ่และรายย่อยตามท้องถิ่มตั้งแต่เหนือจรดใต้ รวมๆ แล้ว 74 สำนักหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่นซึ่งมีการแข่งขันระหว่างสำนักพิมพ์ที่ “สูง” มาก กลับพร้อมใจกันลงภาพโฆษณาเดียวกันนี้ เพื่อโฆษณาและกระตุ้นให้ผู้คนเห็นความสำคัญของการอ่าน รวมถึงการรับรู้ข่าวสารเพื่อเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น และที่ ล้ำ ไปกว่านั้น… หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะมีตัวอักษรฮิรางานะ 1 ตัวอยู่บริเวณขวาบนของภาพ ส่วนใบหน้าน้อง Koki ก็จะต่างกันไปตามการออกเสียงของตัวอักษรแต่ละตัว ตัวอักษรต่างๆ แต่ละฉบับเมื่อนำมาเรียงกันแล้วจะได้ใจความว่า… “ฉันยังไม่รู้ เรื่องราวต่างๆ ของประเทศนี้และโลกใบนี้ จงรู้ เพื่อให้เข้มแข็งขึ้น จงรู้ เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว จงรู้ เพื่อที่จะได้ปกป้องอิสรภาพ ให้หนังสือพิมพ์เปิดทางสู่อนาคต” จะเห็นได้ว่าข้อความนี้เป็นอีกโฆษณาหนึ่งที่แฝงอยู่ภายใต้ภาพน้อง Koki เป็นนัยยะที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการอ่านและการรับรู้ข่าวสารที่จะทำให้บุคคลรู้เท่าทันโลกมากขึ้น ส่วนวันแห่งการโฆษณาของหนังสือพิมพ์นั้นจะตรงกับวันที่ 20 ตุลาคม 2018 และตั้งแต่วันที่ 15-21…
-
อดีตไอดอล ‘GNZ48’ ตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง หลังทนถูก Cyberbullying นานนับเดือน
การกลั่นแกล้ง ถือว่าเป็นภัยร้ายที่ถูกซ่อนอยู่ภายในสังคมหลายๆ แห่งมาตั้งแต่อดีต เมื่อมองจากภายนอกแล้วอาจจะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่จริงๆ แล้วผลกระทบของมันเลวร้ายกว่านั้นมาก และเรื่องราวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นเรื่องราวของอดีตสมาชิกวงไอดอล GNZ48 ซึ่งกลายเป็นเหยื่ออีกคนของการกลั่นแกล้งทางอินเตอร์เน็ต (Cyberbullying) จนถึงขั้นตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง ไอดอลคนนั้นคือ Du Yuwei วัยรุ่นสาววัย 19 ปี ที่เข้ามาเป็นเด็กฝึกในวง SNH48 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 ก่อนที่จะได้รับเลื่อนขั้นให้กลายเป็นสมาชิกทีม XII (ชื่อทีมย่อยของวง) เต็มตัวในเดือนธันวาคม 2015 จากนั้นในเดือนเมษายน 2016 เธอก็ได้ถูกย้ายมาเป็นสมาชิกรุ่นแรกของทีม G ของวงน้องสาว GNZ48 ก่อนที่จะจบการศึกษา (ลาออก) จากวงในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ หลังจากที่จบการศึกษาออกมา ได้มีข่าวลือว่าเป็นเธอได้เข้าไปเป็นมือที่สามระหว่าง Huang Jiawei นักวาดการ์ตูนที่มีอายุห่างกันเกือบ 20 ปีกับ Zou Yu ภรรยาของเขา ถึงขนาดที่ทำให้ทั้งคู่รักทั้งสองมีปัญหาจนต้องหย่ากัน และนั่นทำให้เธอตกเป็นเป้าการโจมตีของชาวเน็ต แม้กระทั่งเธอถอนตัวออกมาจากความสัมพันธ์ดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังคงถูกชาวเน็ตตามด่า ตามว่าอยู่เรื่อยมา จากเสียงด่าทอมากมาย ทำให้เธอเธอตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าและในที่สุดก็ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง ก่อนตายเธอได้ทิ้งข้อความไว้ในอินเตอร์เน็ตว่า…
-
เด็กหนุ่มวัย 18 เสียชีวิตด้วยมะเร็งกระเพาะอาหาร แพทย์เตือนทานบะหมี่กึ่งฯ ทุกคืนก็มีส่วน
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมักจะถูกพูดถึงในเชิง เป็นมิตรต่อกระเป๋าตังค์ในยามสิ้นเดือน โดยที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าอาหารชนิดนี้ ไม่ได้เป็นมิตรกับกระเพาะของเราเท่าไหร่นัก… หากจะกินในยามขัดสนก็ยังคงพอทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ควรรับประทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตในยามที่สายไปเสียแล้ว กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับ เด็กหนุ่มวัย 18 ปี จากไต้หวัน รายงานจากสื่อต่างประเทศกล่าวว่า นักศึกษาระดับชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร จากการรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นประจำทุกคืน โดยพฤติกรรมดังกล่าว เริ่มเกิดขึ้นในช่วงที่เขากำลังเรียนชั้นมัธยม และมักจะต้องทำการบ้าน อ่านหนังสือติวสอบจนถึงเวลาดึกดื่น และต้องพึ่งพาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่เสมอ… หลังจากเรียนจบระดับชั้นมัธยมมาแล้ว เขาก็สามารถสอบเข้าเรียนระดับอุดมศึกษาได้สำเร็จ แต่ทว่าเป็นการแลกสุขภาพของตัวเองไปกับการทานบะหมี่กึ่งฯ กลางดึก… เด็กหนุ่มเริ่มมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ คลื่นไส้และปวดท้อง ทางครอบครัวรู้สึกเป็นกังวลอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น จนกลายเป็นอาการที่เรื้อรัง ภายหลังจากที่พาเด็กหนุ่มเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล พบว่าเขาเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย ความหวังที่จะรอดชีวิตนั้นแทบไม่เหลือแล้ว แม้จะใจสู้กับโรคร้ายนานเกือบปี ท้ายที่สุดเด็กหนุ่มก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับมัน… ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอก Dr. Gan ประจำโรงพยาบาลดังกล่าว ได้เตือนให้ประชาชนลดการรับประทานอาหารประเภท ไส้กรอก, เนื้อรมควัน, อาหารดอง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื่องจากอาหารเหล่านี้…
-
บ้านพักคนชราจัดให้… ขนหนุ่มหล่อล่ำมาเสิร์ฟมื้อพิเศษให้คุณยายตามคำขอ ยิ้มกันแก้มปริ!!
สำหรับผู้สูงอายุบางคน การกินอาหารในแต่ละวันอาจเป็นเรื่องที่ยากเย็นและน่าเบื่อหน่าย และเพื่อเป็นการขจัดปัญหานี้ให้หมดไป เลยทำให้บ้านพักคนชราแห่งหนึ่งจัดเต็ม พาหนุ่มล่ำในชุดวาบหวิวมาคอยเสิร์ฟอาหารให้แก่เหล่าคุณยาย แบบนี้ได้อิ่มทั้งท้อง อิ่มตา อิ่มใจไปตามๆ กัน!! Milton Lodge บ้านพักหญิงชราแห่งมณฑลเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ ได้จัดงานปาร์ตี้สุดระห่ำขึ้นเพื่อเอาใจคุณยายวัยใกล้ฝั่งที่อยากลองสัมผัสกับมื้ออาหารสุดวิเศษนี้ดู พวกเขาได้ว่าจ้างติดต่อชายหนุ่มรูปงามจากทางบริษัท Hunks in Trunks ให้มาปฏิบัติหน้าที่สำหรับภารกิจนี้โดยเฉพาะ ซึ่งทางบริษัทก็จัดให้แจ่มๆ พาหนุ่มรูปร่างงามอย่างกับรูปปั้นมาให้เหล่าคุณยายได้รู้สึกสดชื่นกัน ในงานดังกล่าวมีหญิงชราที่พักอยู่ในบ้านนี้อยู่แล้วเข้าร่วม 11 คนและพวกเธอก็ชวนลูกๆ หลานๆ ผู้หญิงมาจอยปาร์ตี้ดังกล่าวด้วย จนกลายเป็นความสนุกครื้นเครงอย่างเกินจะบรรยาย ชายหนุ่มที่มาในการนี้ จะมีหน้าที่คอยเสิร์ฟอาหารฟูลคอร์ส ให้กับคุณยายได้อิ่มหนำพร้อมกับเล่นสนุกไปด้วยกัน โดยเงินทั้งหมดที่จัดงานเป็นเงินที่ได้จากความที่เหล่าเจ้าหน้าที่ช่วยกันระดมเงิน เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้สูงอายุที่อยู่ภายในบ้านหลังนี้… Claire Martin ผู้ประสานงานด้านกิจกรรมของบ้าน Milton Lodge กล่าวว่าทั้งหมดนี้เป็นเริ่มขึ้นมาจากความคิดของ Joan Corp หญิงวัย 89 ปี “เมื่อไหร่ที่ฉันถาม Joan ว่าเธออยากได้อะไรในวันสุดวิเศษ เธอมักจะชอบว่า ‘ผู้ชาย’“ “พวกเราเลยพูดคุยกันแล้วก็พบว่าทุกๆ คนสนับสนุนความคิดนี้กันดีจริงๆ พวกเราเลยจัดให้อย่างสาสมแก่ใจเลยทีเดียว” …
-
ฝรั่งรีวิว “ไข่เยี่ยวม้า” ชิมแล้วคายทิ้ง พร้อมบอกว่า “เหมือนไข่เน่า” ชาวเน็ตปรี๊ดแตก!!
ไข่เยี่ยวม้า ไข่เนื้อวุ้นสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำ เป็นของโปรดในหลายๆ เมนูอาหารสำหรับชาวไทยและชาวเอเชียหลายประเทศ หลายคนอาจกล่าวว่าความเอร็ดอร่อยของมันอยู่ที่รสสัมผัสของไข่ขาวที่เด้งราวกับวุ้นแต่ส่วนไข่แดงกลับเนียนนุ่ม โดยทั้งสองส่วนให้รสชาติเค็มมันปะแล่มๆ ประกอบกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งหาได้จากไข่เยี่ยวม้าเท่านั้น ทว่าชาวต่างชาติโดยเฉพาะฝั่งตะวันตกกลับบอกว่า “ไม่ชอบ” เจ้าอาหารที่เรียกว่า ไข่เยี่ยวม้า หรือ Century Egg แบบสุดๆ บริษัทผลิตสื่ออย่าง Vocativ ได้สร้างวิดีโอการทดลองชิมไข่เยี่ยวม้าโดยชาวตะวันตก แต่คำวิจารณ์และปฏิกิริยาแง่ลบกลับทำให้ชาวเอเชียจำนวนไม่น้อยเกิดความไม่พอใจ เพราะพวกเขาบอกว่ากลิ่นเหมือนกับไข่เน่าแถมรสชาติยังไม่อร่อยอีกด้วย แถมยังมีการคอมเมนต์ว่า “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนเราจะกินไอ้ของแบบนี้ได้จริงๆ” ชมคลิปวิดีโอจาก Vocativ ในคลิป Vocativ มีการเขียนอธิบายว่า “ไข่พวกนี้ส่งกลิ่นเหม็นน่าขยะแขยงออกมา แถมเนื้อของมันยังเป็นวุ้นสีมืดๆ ที่ดูไม่น่ากินอีกด้วย” ในช่วงต้นของคลิปจะเผยให้เห็นวิธีการทำไข่เยี่ยวม้า และหลังจากนั้นก็จะเผยภาพปฏิกิริยา ทั้งสีหน้า และคำวิจารณ์ ของชาวตะวันตกที่ลองชิมเจ้าไข่เยี่ยวม้านี้ คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่าหลายคนที่ชิมไข่เยี่ยวม้านั้นต้องหน้าเบ้ และรีบคายทิ้งอย่างรวดเร็ว Vocativ จึงเขียนคำอธิบายว่า “ชาวต่างชาติต่างต้องพยายามกลืนและยัดอาหารสุดประหลาดนี้ลงคอให้ได้” “แต่บางคนก็บอกว่าหากสามารถทนกลิ่นมันได้ มันก็ถือว่าเป็นอาหารที่อร่อยเลยล่ะ” สุดท้าย Vocativ เสนอว่า “เราควรทานแบบดั้งเดิมน่ะดีที่สุดแล้ว” หลังจากคลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียล…
-
(Kan)Ye West แจก Yeezy ให้เด็กยูกันดา ถูกสังคมวิจารณ์ ทำไมไม่แจกสิ่งของจำเป็นแทน?
เมื่อช่วงวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางด้าน Ye (Kanye) West แรปเปอร์ชื่อดัง พร้อมภรรยา Kim Kardashian ได้เดินทางไปยังประเทศยูกันดา เข้าพบกับประธานาธิบดี Yoweri K. Museveni โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือทางด้านสังคม โปรโมทการท่องเที่ยวและศิลปะของประเทศยูกันดา โดยในระหว่างการเข้าพบกับผู้นำประเทศ Ye ได้นำรองเท้า Yeezy Boost พร้อมลายเซ็น มอบให้กับประธานาธิบดีเพื่อเป็นของขวัญจากการเข้าพบปะในครั้งนี้ I welcome American entertainment stars Kanye West and @KimKardashian to Uganda. I held fruitful discussions with the duo on how to promote Uganda's tourism and the arts.…
-
เกาหลีเริ่มกวาดล้าง ‘ผีน้อย’ รวบตัวคาร้านหมูกระทะได้ 9 ราย จับกุมพาส่งกลับไทยทันที…
ปัญหาของกลุ่มคนหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้ ยังคงเป็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมานั้น ทางเกาหลีใต้ได้ให้โอกาสสุดท้ายกับเหล่า ‘ผีน้อย’ ในการแจ้งความประสงค์เดินทางกลับประเทศด้วยความสมัครใจไปแล้ว และในระหว่างนี้เอง ล่าสุดทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ ได้ตระเวนตามร้านอาหารต่างๆ ภายในเขตพื้นที่ที่มีผู้หลบหนีเข้าเมืองมาทำงานอย่างผิดกฎหมาย และกรณีดังกล่าวก็เกิดขึ้นกับหญิงชาวไทยกลุ่มหนึ่ง ถูกจับกุมคาร้านหมูกระทะ ในเมืองอินชอน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เปิดเผยรายละเอียดและแชร์ภาพแจ้งเตือนให้กับกลุ่มผีน้อยได้ทราบว่าตอนนี้ ทางการเกาหลีเริ่มเข้มงวด ออกตรวจตามสถานที่ต่างๆ แล้ว ด้านกลุ่มผู้หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายในเกาหลี เริ่มแตกตื่นและแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ในเหตุการณ์รวบผีน้อยคาร้านหมูกระทะ ปรากฏเป็นภาพของหญิงไทยกลุ่มใหญ่ประมาณ 9 ราย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองล้อมจับ 4-5 นาย ซึ่งจากบทสนทนาที่ถูกนำมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุได้ใจความประมาณว่า กำลังนั่งรับประทานหมูกระทะภายในเมืองอินชอน จู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าตำรวจเข้ามาจับถึงในร้าน… โพสต์จากกลุ่มหญิงไทยที่โดนจับกุมตัว . . . ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ ถูกรวบตัวคาร้านอาหารดังกล่าวไปแล้ว คาดว่าหญิงไทยกลุ่มนี้ จะถูกส่งตัวกลับประเทศไทยในทันที เรื่องราวดังกล่าวก่อให้เกิดความตื่นตระหนกภายในกลุ่มชาวไทย ที่กำลังหลบหนีอยู่ภายในเกาหลีใต้ยกใหญ่ มีการส่งข่าวข้อมูลความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเป็นระยะๆ โดยในรายละเอียดเหล่านั้น ได้กล่าวถึงกลุ่มแรงงานผิดกฎหมาย…
-
พบชายผู้ตกหลุมรัก ‘พิซซ่า’ กินติดต่อกันมาแล้วกว่า 37 ปีเต็มๆ ตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อตอน 3 ขวบ!!
เชื่อว่าหลายคนคงจะมีอาหารจานโปรดที่ชอบกิน ชนิดที่ว่ากินมันได้แทบทุกมื้อแทบจะทุกครั้งที่มีโอกาสจนใครหลายคนต้องถามว่า ‘นี่เธอกินไอ้นี่อีกแล้วเหรอเนี่ย?’ แต่ว่าคงไม่มีใครเหมือนกับหนุ่มวัย 41 ปีคนนี้อีกแล้ว เพราะใครจะไปคิดว่าเขากิน ‘พิซซ่า’ ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลาถึง 37 ปีเต็มๆ!! Mike Roman คุณครูจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้รู้จักกับอาหารสัญชาติอิตาเลียนชนิดนี้ตั้งแต่มีอายุได้ประมาณ 3 – 4 ปีจากการที่แม่ของเขานำมาให้ลองกินดู แล้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่สามารถหย่าขาดกับอาหารชนิดนี้ได้อีกเลย หลังจากที่ได้ลิ้มรสเป็นครั้งแรก Mike ก็ร้องขออาหารชนิดนี้กับพ่อแม่ในแทบจะทุกมื้ออาหาร เขากินจนพ่อแม่ต้องบอกว่า ‘กินอย่างอื่นบ้างเถอะลูก’ และในที่สุดก็มีการบังคับให้กินอย่างอื่นเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม Mike ยังคงได้กินพิซซ่าอย่างน้อยๆ 1 มื้อต่อวันตลอดวัยเด็ก จนเริ่มย่างก้าวเข้าสู่วัยรุ่นและโตเป็นหนุ่มเต็มตัวในเวลาต่อมา ในรายงานกล่าวว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่ชายผู้ตกหลุมรักแป้งถาดกลมๆ คนนี้ กินพิซซ่าเป็นอาหารถึง 3 มื้อต่อวันเป็นเวลาหลายปี ทว่าในปีหลังๆ เขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นแซนวิซกับเนยถั่วบ้างในมื้อเช้าและกลางวัน ส่วนพิซซ่านั้นไว้เป็นจานเด็ดสำหรับมื้อเย็น “ผมซื้อพิซซ่าจากหลายๆ ที่ อย่าบอกว่ามันไม่หลากหลายนะ…” “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมรู้ว่าบางคนคิดว่ามื้อเย็นเป็นมื้อที่แสนพิเศษที่จะต้องคิดว่าจะกินอะไรดี แต่สำหรับผมแล้วมื้อเย็นมันก็ธรรมดางั้นๆ คุณแค่ต้องกินเพราะว่าคุณหิว” Mike กล่าว …
-
หนุ่มจีน “แกล้งตาย” หวังเอาเงินประกัน ภรรยาเชื่อสนิทใจ ฆ่าตัวตายตามพร้อมลูกๆ …
กลายเป็นโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าเมื่อชายชาวจีนคนหนึ่งได้ “แสร้งว่าเสียชีวิต” เพื่อให้ได้รับเงินประกัน แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นว่ามันทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่เขารักไป ชายชาวจีนวัย 34 ปีนามว่า He ได้แสร้งว่าเสียชีวิตเพื่อรับเงินประกันแต่กลับไม่ได้บอกแผนการครั้งนี้ให้คนในครอบครัวได้ทราบ มีรายงานว่า He ได้ยืมรถยนต์คันหนึ่งมาเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2018 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบว่ารถที่ He ยืมมานั้นได้พุ่งตรงลงไปยังแม่น้ำในเขตปกครองซินหัว แต่หลังจากทำการค้นหาในแม่น้ำในบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่มีใครพบร่างของ He เลยแม้แต่คนเดียว ชมคลิปข่าว สุดท้าย Dai ภรรยาวัย 31 ปีของ He กลับเชื่ออย่างหมดใจว่าสามีของตนได้ตายไปแล้ว ด้วยความโศกเศร้าเธอจึงตัดสินใจโยนลูกชายวัย 4 ขวบและลูกสาววัย 3 ขวบลงบ่อน้ำ ก่อนจะกระโดดน้ำ ฆ่าตัวตาย แต่ก่อนที่ Dai จะลงมือปลิดชีวิตของตนเองและลูกๆ ลง เธอได้เขียนข้อความเอาไว้ใน WeChat เธอเล่าว่าครอบครัวของ He นั้นมักมองว่าเธอเป็นหญิงที่ “ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย” อีกทั้งฝ่ายญาติของ…
-
เจ้าชายแฮร์รี่แสดงความหวง หลังนักข่าว ‘มอบดอกไม้ช่อใหญ่’ ให้กับดัชเชสต่อหน้าต่อตา
‘แฟนของใคร ใครก็หวง’ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ไม่ว่าใครต่างก็เป็นกันทั้งนั้น… และเช่นเดียวกันกับ ‘เจ้าชายแฮร์รี่‘ ที่เพิ่งจะจัดพิธีอภิเษกสมรสกับ ‘ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์’ (เมแกน มาร์เคิล) เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เอง อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องราวความของทั้งสองพระองค์นั้นกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ต้องผ่านอะไรมามากมาย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าชายแฮร์รี่ถึงได้ทรงหวงดัชเชสนักหนา เพื่อนๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นก็ลองไปชมเรื่องราวต่อไปนี้กันดูครับ… เรื่องมีอยู่ว่าขณะที่เจ้าชายแฮร์รี่และดัชเชสเดินทางไปเยือนที่ประเทศออสเตรเลีย ขณะที่กำลังพบปะกับประชาชนเป็นจำนวนมาก จู่ๆ ก็มีผู้รายงานข่าวคนหนึ่งถือดอกไม้ชอใหญ่เบ้อเร่อ เดินมามอบให้กับดัชเชส ต่อหน้าต่อตาของเจ้าชาย!? ตามรายงานระบุว่าช่อดอกไม้ดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 270 ปอนด์ หรือราวๆ 11,500 บาทเลยทีเดียว!! แน่นอนว่าโดนหยามกันต่อหน้าต่อตาซะแบบนี้ เป็นใครใครก็ต้องไม่ยอม เจ้าชายเดินตรงเข้ามาหานักข่าวก่อนที่จะบอกว่า “เฮ้ นายไม่สามารถเอาดอกไม้ช่อเบ้อเร่อนั้นให้ ‘ภรรยา’ ของผมได้นะ มันหมายความว่าไงกัน?” แหม่ แบบนี้นักข่าวก็หน้าจางกันสิครับ แต่โชคดีที่เจ้าชายทรงยิ้มออกมาด้วยขณะพูดประโยคนั้น ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วเจ้าชายแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ตามดอกไม้ดังกล่าวนั้น ไม่ได้เอามาให้เพราะตั้งใจจะแกล้งเจ้าชาย หรือยั่วยุให้โกรธแต่อย่างใด Matt de Groot นักข่าวคนดังกล่าวตั้งใจเอาของขวัญมาให้กับดัชเชสก็เพื่อแสดงความยินดีที่กำลังจะมีเจ้าชายตัวน้อยแล้วนั่นเอง >< ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ…
-
โมเมนต์แห่ง “อิสรภาพ” ของ “แพะรับบาป” ที่รอมานาน 20 ปี หลังถูกจับข้อหาฆ่าคนตาย
“แพะรับบาป” เป็นคำที่เราเอาไว้เรียกคนที่ตกเป็นผู้กระทำผิดทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำความผิดดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาเราก็อาจจะเคยเห็นคนที่ถูกตำรวจจับซึ่งเป็นแพะรับบาปอยู่หลายคน เช่นเดียวกันกับเรื่องของ Horace Roberts ชายคนที่เราจะนำมาเพื่อนๆ ได้ดูกันในวันนี้ เขาก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ตกเป็นแพะรับบาป และถูกสั่งจำคุกเป็นเวลาถึง 20 ปีจากคดีที่เขาไม่ได้ก่อ ผ่านมา 20 ปี ในที่สุดเขาก็ได้ “อิสรภาพ” กลับคืนมาเสียที ย้อนกลับไป 20 ปีก่อน ในปี 1998 Horace Roberts ถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมผู้หญิงชื่อว่า Terry Cheek ซึ่งในบริเวณที่เกิดเหตุมีการพบนาฬิกาของ Roberts ตกอยู่ รวมถึงก่อนหน้านี้เขามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้ตายที่มีครอบครัวอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ตำรวจสงสัยในตัวเขามากขึ้นและจากการคำให้การของ Roberts เขาดันไปโกหกเจ้าหน้าที่เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับผู้ตาย เพียงเพราะไม่อยากจะพูดถึงเรื่องน่าอับอาย เมื่อทางเจ้าหน้าที่พบว่าเขามีท่าทีพิรุธดังนั้น จึงได้คิดว่าจริงๆ แล้วเขาพยายามจะปิดบังเรื่องการฆาตกรรม เมื่อ Roberts ต้องขึ้นไปให้การในศาล ศาลก็พบว่าเขาได้ให้การไม่สอดคล้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของเขาและผู้ตาย สุดท้ายจึงตัดสินให้เขามีความผิดในข้อหาฆาตกรรมโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน และหลังจากที่เขาถูกตัดสินความผิด California Innocence Project (CIP) หรือองก์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ไม่ได้กระทำผิด…
-
ปังเว่อร์!! 20 ชุดประจำชาติสุดอลังการจากเวที Miss Grand International 2018
Miss Grand International เป็นเวทีที่รวบรวมสาวงามตัวแทนจากประเทศต่างๆ มาประชันความงามเพื่อคว้ารางวัลและมงกุฎ ซึ่งในปีนี้ประเทศเมียนมาร์เป็นเจ้าภาพในการประกวด สิ่งหนึ่งที่น่าจับตามองสำหรับการประกวดนางงามแต่ละเวทีนั่นก็คือรอบชุดประจำชาติที่สาวงามตัวแทนแต่ละประเทศได้ออกมานำเสนอผ่านเวทีระดับโลก และนี่คือ 20 ชุดประจำชาติจากเวที Miss Grand Internationnal ที่กำลังเปิดให้ชาวเน็ตเข้ามาร่วมโหวตสาวงามผู้ที่สมควรได้รับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมประจำปี 2018 นี้ ก่อนรอบตัดสินที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2018 Dy Lika : Miss Grand Cambodia Nicole Menayo: Miss Grand Costa Rica Valérie Alcide : Miss Grand Haiti Meenakshi Chaudhary : Miss Grand India Nadia Purwoko :Miss Grand Indonesia Haruka Oda :…
-
ผอ. รับผิดชอบด้วยการ ‘ลาออก’ หลังหลุดปากเรียกผู้ปกครองเด็กว่า ‘แก’
ใครเล่าจะคิดว่าข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อย่างการ ‘ใช้คำสรรพนาม’ เรียกผู้ปกครองของเด็กผิด จะทำให้ ‘ผู้อำนวยการของโรงเรียน’ ตัดสินใจรับผิดชอบความผิดนี้ด้วยการ ‘ลาออก’!? เรื่องมีอยู่ว่านาย Ryoichi Yamada (เรียวอิจิ ยามาดะ) ผู้อำนวยการโรงเรียน Shibata City ที่ตั้งอยู่ในจังหวัด Niigata Prefecture ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของเด็กนักเรียนชายวัย 13 ปี ที่เสียชีวิตจากการ ‘ฆ่าตัวตาย’ เพราะสาเหตุมาจากการถูกเพื่อนกลั่นแกล้งที่โรงเรียน มีการพูดคุยกันระหว่างผอ. และผู้ปกครองของเด็ก แต่ที่เป็นประเด็นก็คือ ก่อนจากกัน ผอ. ได้เอ่ยถามคุณพ่อของเด็กชายว่า “Omae mo hogoshakai ni kuru ka?” ซึ่งคำว่า Omae นั้นมันเป็นคำที่ใช้แทนคำว่า You แต่จะเป็นคำที่ใช้กับคนที่สนิทกว่า คือจะแปลเป็นไทยได้ว่า ‘แก’ หรือ ‘เอ็ง’ นั่นเอง ดังนั้นประโยคที่ผอ. พูดก็จะประมาณว่า “แกจะไปร่วมงานประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนมั้ย?” …
-
เมื่อ Elon Musk เผยว่าชอบดู “อนิเมะ” มาก งานนี้ชาวเน็ตจัดกันไปคนละฮาสองฮา!
เชื่อว่าในปัจจุบันน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักกับ Elon Musk (อีลอน มัสก์) เจ้าของโครงการอวกาศ Space X และอดีตผู้บริหารใหญ่ของบริษัท Tesla ภายหลังมีข่าวต่างๆ ออกมาให้ได้เสพกันจนต้องยกย่องด้วยคำว่า “ท็อปฟอร์ม” เลยล่ะสำหรับพ่อหนุ่มอีลอน มัสก์ผู้นี้ แต่ข่าวคราวล่าสุดกลับเป็นเรื่องราวสุดน่ารัก เพราะเฮียอีลอนออกมาเผยว่าตัวเองนั้นชื่นชอบการ์ตูนอนิเมะอย่างมาก ถึงกับโพสต์ทวิตเตอร์ว่าชอบการ์ตูนเรื่อง Your Name เลยนะเออ! มีมุมแบบนี้กับเขาด้วยเหรอเฮียอีลอน มัสก์!! Love Your Namehttps://t.co/fRU7nTWnML — Elon Musk (@elonmusk) October 14, 2018 Your Name หรือ Kimi no na wa นั้นเป็นการ์ตูนอนิเมะปี 2016 ผลงานของผู้กำกับ Makoto Shinkai ที่มีแฟนคลับติดตามอย่างล้นหลาม งานนี้เมื่อเฮียอีลอนออกมาเผยว่าตนก็ชอบการ์ตูนเรื่อง Your Name ด้วยเหมือนกัน เหล่าสาวกอนิเมะทั้งหลายก็เข้ามาให้ความสนใจกันเพียบเลยล่ะ! ยกโขยงแฟนอาร์ตมากันเต็มเลยทีเดียว ทวิตเตอร์นี้น่ารัก เปลี่ยนแบรนด์ทั้งสองของอีลอน…
-
หนุ่มซ่า เจออุบัติเหตุ ‘ปางตาย’ ยังไม่ทันออกจาก รพ. เลย เล่น Tinder ล่อสาวซะแล้วเฮ้ย!!!
ปกติแล้วคนที่เจ็บป่วยปางตายและกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนั้นมักจะมุ่งความสนใจไปยังครอบครัวและคนรอบข้าง …แต่ไม่ใช่สำหรับหนุ่มที่ชื่อว่า Joe คนนี้ Joe ชายหนุ่มจากรัฐเวอร์จิเนีย หลังประสบอุบัติเหตุถูกก้อนฟางน้ำหนักรวม 3,000 ปอนด์ (1,360 กิโลกรัม) ทับร่างจนสภาพปางตาย ทำให้เขาต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากมีกระดูกหักหลายส่วน แต่โชคดีที่เขายังรอดชีวิต แถมยังกลับมาซ่าบนโลกออนไลน์ได้อีกต่างหาก Joe ผู้ถูกทับด้วยกองฟางหนัก 680 กิโลกรัม 2 ก้อนทับร่างจนสาหัส “ผมน่าจะตายไปแล้ว ตอนนี้ผมยังงงอยู่เลยว่าผมรอดได้อย่างไร โชคดีจริงๆ” Joe บอกว่าการรักษาตัวของเขาใช้เวลายาวนาน ซึ่งผ่านความเจ็บปวดมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่รอดชีวิต “ถึงจะเจ็บก็ไม่เป็นไร เพราะความเจ็บคือความรู้สึก การที่ผมได้รู้สึกอีกครั้งแปลว่าผม ยังไม่ตาย!!” ที่พีกที่สุดก็คือ ยังไม่ทันออกจากโรงพยาบาลเลย Joe ก็เปิดแอปฯ Tinder ซะแล้ว!! ปล. Tinder คือแอปพลิเคชันสำหรับหาเพื่อนคุยและออกเดต (หรืออาจมากกว่านั้น) แถม Joe ยังเขียนบรรยายโปรไฟล์ Tinder ของตัวเองแบบโคตร “เรียล” ว่า……
-
แอร์สาวดังข้ามคืน กลายเป็นขวัญใจชาวเน็ตทันที หลังผู้โดยสารแชร์ภาพระหว่างเที่ยวบิน…
โดยทั่วไปตามมาตรฐานการบิน เหล่าแอร์ฯ และสจ๊วตจะมีบุคลิกที่ดูดี (หน้าตาก็ตามมาด้วย) ซึ่งเป็นเรื่องที่ปฏิเสธกันไม่ได้อยู่แล้วล่ะ เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจด่านแรกให้กับผู้โดยสารนั่นเอง… แต่แล้วจู่ๆ สำหรับแอร์สาวสายหางแดง ระหว่างเที่ยวบินจากมาเลเซียรายนี้ กลับเป็นขวัญใจของชาวเน็ตจำนวนมหาศาล ภายในเวลาเพียงข้ามคืน แห่ถามหาวาร์ปกันแบบไม่หยุดหย่อนเลยทีเดียว โดยภาพดังกล่าวมาจากผู้โดยสารนามว่า GeorGe Wong ได้ถ่ายภาพเธอระหว่างปฏิบัติหน้าที่บนเครื่อง พร้อมกับระบุแคปชั่นไว้ว่า “ค่าโดยสารราคาไม่แพง กับวิวระดับสุดยอดขนาดนี้ จะบ่นอะไรอีก” ภาพที่นาย GeorGe Wong ถ่ายมาแชร์ให้ชาวเน็ตได้ชม . แน่นอนว่าหลังจากที่ภาพดังกล่าวเริ่มเตะตาชาวเน็ตทั้งหลาย ก็กลายมาเป็นกระแสไวรัลทันที แห่ถามหาวาร์ปของแอร์สาวรายนี้ก็เป็นว่าเล่น ต่างแคลงใจใคร่รู้ว่าเธอให้บริการบนเส้นทางไหน บางรายก็ว่าทำไมไม่เจอแบบนี้บ้าง!? ทั้งนี้ งานขุดก็มา เพจต่างประเทศตามไปสืบเพิ่มเติม พบว่าเธอชื่อ Mabel Goo หญิงสาวชาวมาเลเซีย ประจำสายการบินหางแดง แอร์เอเชียมาเลเซีย . ภาพที่ถูกชาวเน็ตและเพจต่างๆ ขุดมาจากอินสตาแกรมของ Mabel Goo . . . . …
-
พิสูจน์ทฤษฎี ‘คุณภาพตามราคา’ ทดสอบส่งภาพให้ฟรีแลนซ์ไปรีทัช ผลที่ได้ก็เป็นไปตามนั้น…
จำนวนมูลค่าเงินที่คุณจ่ายไปเพื่อรับบริการบางอย่าง บางครั้งบางทีก็รู้สึกว่ามันไม่สมเท่ากับที่เราจ่ายไป หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือได้มากเกินกว่าที่คาดหวังไว้ก็มี… ครั้งนี้ จะมาเอ่ยถึงการให้บริการที่หลากหลายในต่างประเทศ โดยครั้งนี้จะเป็นการให้บริการรีทัชแต่งรูปภาพ บนเว็บไซต์ Fiverr แหล่งรวมฟรีแลนซ์รับงาน ว่าจ้างกันไปตามฝีมือและราคา ภาพโจทย์ ไฟล์ดิบ ยังไม่ได้รับการตกแต่งรีทัชใดๆ ช่างภาพนาม Irene Rudnyk เกิดสงสัยและแคลงใจว่า ค่าจ้างที่โผล่อยู่ในนั้นถูกแสนถูก แล้วภาพที่ได้กลับมามันจะออกมาในรูปแบบไหน อาจจะถูกหวยจ่ายน้อยได้ภาพระดับฮอลลีวูดมารึเปล่า? Irene Rudnyk โดยโจทย์ที่ให้ไปนั้น เธอต้องการให้รูปมีโทนอบอุ่น ผิวนางแบบดูสะอาด ตาใส เพิ่มสีผมโทนแดง เพื่อให้เข้ากับพื้นหลังของภาพ และเคารพการตัดสินใจของนักรีทัชที่ว่าจ้างไป จะไม่สั่งแก้งาน ทั้งนี้ เธอจึงได้ว่าจ้างให้นักรีทัช 3 คน ด้วยค่าว่าจ้างที่ต่างกันตั้งแต่ถูกสุดๆ 0.25 ดอลลาร์ (8 บาท) 5 ดอลลาร์ (160 บาท) และ 10 ดอลลาร์ (320 บาท) เพื่อแต่งรูปเดียวกัน และได้ผลออกมาว่า… …
-
พ่อฉีกสมุดการบ้านลูกทิ้ง เหตุให้การบ้านเยอะจนต้องนอนดึก ‘เด็กควรมีความสุขมาก่อน’
ในเรื่องของระบบการศึกษาในแต่ละประเทศนั้น ก็มักจะมีมุมมองและวิธีการเรียนการสอนที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้วประเทศในภูมิภาคเอเชีย ขึ้นชื่อได้ว่าเรียนหนักมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก กรณีนี้มาจากคุณพ่อชาวไต้หวันนามสกุล Lim ได้ทำการเล่าถึงจุดแตกหักระหว่างครอบครัวของเขา กับโรงเรียนที่ส่งลูกเข้าไปรับการศึกษา โดยหักกฎเกณฑ์ทุกอย่างที่ครูสั่งและไม่สนใจไยดีอะไรใดๆ โดยเรื่องเริ่มจากการที่ ภรรยาของเขาตื่นขึ้นมากลางดึกประมาณตีสาม แต่แล้วสังเกตเห็นว่าไฟในห้องนอนของลูกชายยังเปิดอยู่ พบว่าลูกชายยังคงนั่งทำการบ้าน คัดลอกตำราเรียนจำนวน 22 หน้า อันเป็นการถูกทำโทษจากคุณครู ภรรยาจึงได้โทรแจ้งให้คุณพ่อ Lim ได้ทราบ และกลับมาที่บ้านเพื่อถามลูกชายว่า ‘จะทำเสร็จไหม’ และลูกชายตอบกลับมาว่า ‘ไม่’ คุณพ่อจึงทำการฉีกสมุดการบ้านและตำราเรียนของลูกทิ้งหมด พร้อมกับโพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กระบุว่า “คุณครูครับ ผมฉีกตำราและสมุดการบ้านของลูกชายหมด และผมก็ขอให้เขาไปนอนแล้ว” ทั้งนี้ เบื้องหลังเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความอดทนครั้งสุดท้ายของคุณพ่อ เพราะก่อนหน้านี้เคยเจรจากับคุณครูที่โรงเรียนถึงจำนวนการบ้านที่เยอะเกินไป ซึ่งทางด้านครูเองได้ให้เหตุผลว่าจะไม่เป็นธรรมกับเด็กคนอื่นๆ และแนะนำให้ลูกชายทำต่อให้เสร็จ แม้จะส่งไม่ทันกำหนด ก็อนุญาตให้ส่งทีหลังได้ แต่คุณพ่อกลับมองว่า เด็กจะได้เรียนรู้อะไรจากการคัดลอกตำราเรียน โดยที่ไม่ได้สนใจเนื้อหาจริงๆ ลักษณะเป็นการท่องจำแบบยัดเยียด “แม้แต่ผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังยากที่จะทำให้เสร็จส่งทันเวลา แล้วเด็กจะทำได้มั้ย” จุดยืนของคุณพ่อคือการสนับสนุนลูก แต่ไม่ใช่การตามใจลูก อย่างไรก็ตาม…
-
Adidas x GoT ‘Ultra Boost’ คอลเลคชั่นรวมร่างสองแบรนด์ หลุดภาพจริงยั่วกระเป๋าตังค์
หากคุณเป็นแฟนตัวยงของซีรีส์ Game of Thrones และเป็นลูกค้าชั้นยอดของ Adidas อาจจะไม่น่ารอดจากสินค้าไลน์ใหม่นี้ไปได้แน่ๆ เพราะบอกได้คำเดียวว่า ‘สวยมาก’ โดยที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเกี่ยวกับโปรเจกต์ใหม่ของทั้งสองฝั่ง เพื่อร่วมมือกันสร้างสรรค์คอลเลคชั่นรองเท้า UltraBoost ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2019 ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้จากแหล่งข่าวต่างประเทศ ตามหน้าสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เริ่มทยอยลงรูปภาพชุดใหม่ คาดว่าจะเป็นการโปรโมทซีรีส์ Game of Thrones ซีซั่นสุดท้าย และแล้วก็เป็นไปตามคาด จากภาพที่มีเพียงภาพร่างคอลเลคชั่นใหม่ ก็เริ่มปรากฏภาพรองเท้าที่ใช้สวมใส่จริง แต่ละรุ่นก็ได้รับการออกแบบตามโทนสีประจำตระกูล เป็นการดึงเอกลักษณ์ที่เฉียบขาดและลงตัวมากๆ UltraBoost รุ่น White Walkers UltraBoost รุ่น House of Targarye . https://www.instagram.com/p/BoEyh1lATQ0/?utm_source=ig_embed . UltraBoost รุ่น Night’s Watch UltraBoost รุ่น House of Stark…
-
Lawson ญี่ปุ่นเริ่มแล้ว ใช้ระบบสแกนสินค้า จ่ายผ่านแอปฯ เดินออกได้เลยไม่ต้องต่อแถว…
อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรมากนัก กับการชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการผ่านแอปฯ สำหรับร้านสะดวกซื้อ ตัดความยุ่งยากในการพกเงินสด ควักกระเป๋าตังค์จ่ายหน้าเคาท์เตอร์ไปได้หนึ่งส่วน แต่สิ่งที่ยังเหลือคือ ‘การต่อแถว’ หากในช่วงเวลาที่มีลูกค้าเยอะ ต้องรอคอยนาน กว่าจะยิงเลเซอร์ใส่บาร์โค้ดสินค้า ติ๊ด ติ๊ด จนครบอีก ทั้งนี้ร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ในญี่ปุ่นอย่าง Lawson ก็ได้พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว ในช่วงประมาณวันที่ 9 ตุลาคม ร้านค้า Lawson สาขาในกรุงโตเกียว เริ่มทยอยเปลี่ยนระบบชำระค่าสินค้าเป็นรูปแบบใหม่ โดยเรียกมันว่าระบบ Smartphone Pay โดยความเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ภายในร้านอย่างแรก คือมุมไก่ทอด ‘คาราอาเกะคุง’ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีเพียงพนักงานร้านเท่านั้นที่สามารถหยิบใส่ห่อได้ แต่รูปแบบใหม่จะเป็นการให้ลูกค้าบริการตนเอง หยิบเอง จ่ายเอง… ทั้งนี้ การจะซื้อสินค้าจากทางร้าน Lawson จะต้องโหลดแอปฯ ของร้านมา จากนั้นลงทะเบียนให้เรียบร้อย และเปิดใช้งานระบบสแกน QR Code เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้ส่องซื้อสินค้าได้แล้ว เปิดแอปฯ ใช้งานโหมดสแกน QR Code อยากซื้ออะไรก็ส่องดูได้เลยยยย …
-
Ryanair ตกเป็นดราม่า ชาวเน็ตไม่พอใจหลังมีภาพลูกเรือต้องนอนที่พื้นระหว่างรอพายุสงบ
แอร์โฮสเตส, สจ๊วตหรือที่เรียกรวมๆ ว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนี้ ถือว่าเป็นอาชีพในฝันของใครหลายๆ คน เพราะได้เดินทาง ได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย ซึ่งเวลาที่พวกเขาต้องบินเที่ยวบินยาวหรือเที่ยวบินข้ามประเทศ สายการบินก็มักจะจองโรงแรมเพื่อให้ลูกเรือของพวกเขาพักผ่อนกัน แต่ไม่นานมานี้สายการบินชื่อดังของประเทศไอร์แลนด์อย่าง Ryanair ได้ถูกชาวเน็ตต่อว่าหลังมีรูปปล่อยให้พนักงานของตนต้องนอนพื้นในห้องลูกเรือ ระหว่างรอพายุสงบ แทนที่จะให้ลูกเรือเหล่านั้นได้ไปพักในโรงแรม This is a Ryanair 737 crew based in Portugal, stranded in Malaga, Spain a couple of nights ago due to storms. They are sleeping on the floor of the Ryanair crew room. RYR is earning €1.25 billion this year…
-
หนุ่มจีนเดือด “ทำร้าย” แพทย์หลังปฏิเสธ ‘ผ่าตัดทำคลอด’ ภรรยาให้ทันตามฤกษ์ที่ดูไว้
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2018 ได้เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย หลังแพทย์ปฏิเสธที่จะทำคลอดก่อนกำหนดให้กับหญิงสาวชาวจีน ทำให้ผู้เป็นสามีของหญิงตั้งครรภ์เข้าจู่โจมนายแพทย์ด้วยอารมณ์โมโห เหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงพยาบาล Peking University First Hospital กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน แพทย์ผู้เคราะห์ร้ายนามว่า He ถูกชายสกุล Zheng วัย 46 ปีเข้าทำร้ายร่างกายเนื่องจากแพทย์ปฏิเสธที่จะผ่าตัดทำคลอดภรรยาของนาย Zheng ตาม “ฤกษ์” ที่ทางครอบครัวกำหนดไว้ นายแพทย์ Zhan แพทย์อีกรายที่ร่วมการทำคลอดก็ออกมาอธิบายบนเว็บไซต์ Weibo ว่า ที่ต้องปล่อยให้คนไข้คลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาตินั้นก็เพราะเห็นว่าปลอดภัยและ ไม่จำเป็น จะต้องใช้วิธีการผ่าตัด ขณะเดียวกัน นายแพทย์ He ผู้ถูกทำร้ายร่างกายก็มีกระดูกหักหลายจุด หากชมภาพจากกล้องวงจรปิดจะพบว่า Dr. He ถูกชกแต่เตะที่ศีรษะและท้องหลายครั้ง ลองชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2018 นาย Zheng ผู้ก่อเหตุก็ถูกคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจเนื่องจากคดีทำร้ายร่างกายในครั้งนี้ ส่วนหญิงวัย 19…
-
หญิงผิวขาวเหยียดชายผิวสีขวางไม่ให้เข้าที่พักหรูของเขา สุดท้ายได้บทเรียนอันสาสม!!
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ จะมีการให้อิสระและเปิดรับเรื่องของเพศสภาพ สีผิว เชื้อชาติ รวมถึงชนชั้นกันมากขึ้น แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ไม่ยอมเปิดรับและยังมีพฤติกรรมเหยียดให้เราได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งเรื่องที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งกรณีของการเหยียด เมื่อชายผิวสีคนหนึ่งที่เป็นถึง CEO ของ Global Wealth Insights Corporation กำลังกลับเข้าอพาร์ตเมนต์หรูของเขาตามปกติ แต่คราวนี้เขากลับถูก Hilary Brooke Thornton เพื่อนบ้านหญิงผิวขาววัย 32 ปีพร้อมกับน้องหมาคู่ใจ ขวางทางเขาเอาไว้ พร้อมกับถามหาหลักฐานที่เขาอาศัยอยู่ที่นี่ ในวันที่ 13 ตุลาคม 2018 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ D’Arreion Nuriyah Toles ได้โพสต์วิดีโอพร้อมกับข้อความว่า “การเป็นคนผิวสีในอเมริกาและกลับบ้านมาก็เจอกับผู้หญิงที่พยายามจะกันไม่ให้ผมเข้าไปในตึก เพราะว่าเธอรู้สึกว่าผมไม่นั้นอันตราย เพราะเธอคิดว่าผมไม่ได้เป็นผู้อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรูแห่งนี้ ผมไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับผม แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว หลังจากนั้น 30 นาที ตำรวจก็มีเคาะประตูห้องผม เพราะว่าเธอโทรแจ้ง! ผมช็อคไปเลย นี่มันอเมริกา 2018 ชัดๆ” โปรดขยับออกไปหน่อยครับ คุณผู้หญิง คุณอาศัยอยู่ที่นี่เหรอ? คุณขวางทางผมอยู่นะ ไม่ คุณไม่มีกุญแจสักหน่อย…
-
คุณแม่ลูกสี่ ฟ้องบริษัททำเตียง ฐานทำให้เธอร่วงจากเตียงจนเป็นอัมพาต “ขณะกำลังมีเซ็กส์”
ในต่างประเทศ เวลาที่เกิดอุบัติเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากตัวผู้ประอุบัติเหตุหรือปัจจัยอื่นๆ ก็ตาม เรามักจะเห็นการฟ้องร้องเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งกรณีที่เกิดกันฟ้องร้องกัน เมื่อคุณแม่วัย 46 ปีคนหนึ่งได้ทำการฟ้องร้องจะเอาค่าเสียหายจากบริษัทเตียงนอน เพราะเธอตกจากเตียงจนเป็นอัมพาต ขณะกำลังมีเซ็กส์!! ย้อนกลับไปก่อนที่จะเกิดเหตุดังกล่าว คุณแม่ลูกสี่ชื่อ Claire Busby จากเมือง Maidenhead ประเทศอังกฤษ ได้ทำการซื้อเตียงขนาดซูเปอร์คิงไซส์มาใหม่ ไม่รอช้า เธอจัดการทดลองคุณภาพของเตียงใหม่ของเธอในทันที เธอกับสามีตัดสินใจร่วมบรรเลงเพลงรักลงบนเตียงขนาดใหญ่ ก่อนที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เธอได้พลาดตกเตียงและนั่นทำให้เธอกลายเป็นอัมพาตแขนและขา Claire Busby จึงได้ทำการฟ้อง Berkshire Bed Company บริษัททำเตียง โดยที่เธอได้บอกกับศาลสูงอังกฤษว่าเตียงของเธอต้องมีชิ้นส่วนบางอย่างที่หายไปอย่างแน่นอน เธอถึงเสียสมดุลและตกลงมาจากเตียง แต่อย่างไรก็ตาม ทางบริษัททำเตียงนั้นปฏิเสธที่จะรับผิดชอบในการบาดเจ็บของเธอและยืนยันว่าเตียงของพวกเขามีการประกอบอย่างถูกต้องแล้ว แถมทางทนายของบริษัทยังคาดการณ์อีกด้วยว่าการที่เธอตกลงมาจากเตียงของพวกเขานี้ เป็นเพราะเธอมีจัดท่าทางรวมถึงการลงน้ำหนักที่ไม่สมดุล หรือบางที ตำแหน่งของเธออาจจะอยู่ใกล้กับขอบเตียงมากเกินไป ทำให้ฟูกไม่สามารถรองรับน้ำหนักเธอได้เต็มที่และทำให้เธอร่วงลงมาจนบาดเจ็บ แต่ในปัจจุบัน การฟ้องร้องครั้งนี้ยังไม่สามารถเดินเรื่องต่อไปได้ อันเนื่องมาจากสุขภาพของ Claire Busby นั้นไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยแก่การให้การสักเท่าไหร่ เธอมีอาการหัวใจวายถึง 2 ครั้งใน 24 ชั่วโมง เรื่องราวครั้งนี้ จะมีบทสรุปอย่างไรนั้น…
-
สาวจีนคนดัง “ถูกจับ” ต้องนอนคุกนาน 5 วัน หลังจากที่เธอ “ร้องเพลงชาติ” ระหว่างไลฟ์สด
Yang Kaili (หรืออาจรู้จักในชื่อ Li Ge) คือหญิงสาวชาวจีนวัย 20 ปีผู้มีชื่อเสียงจากการ “ไลฟ์สด” เผยแพร่วิดีโอผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ในประเทศจีน มีผู้ติดตามเธอมากกว่า 44 ล้านคน Kaili สาวชาวจีนผู้โด่งดังจากการไลฟ์สด และล่าสุดในวันที่ 6 ตุลาคม 2018 เธอได้ทำการไลฟ์วิดีโอลงในแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Huya ก่อนที่วิดีโอตัวนั้นจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และทำให้เธอต้องโดนจับเข้าคุก เหตุเพราะเธอ “ร้องเพลงชาติ” จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กล่าวว่าการกระทำของเธอถือว่าผิด “กฎหมายเพลงชาติของประเทศจีน” ซึ่งต้องได้รับโทษจำคุกสูงสุด 15 วัน เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “เพลงชาติถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน ประชาชนทุกคนจึงต้องให้ความเคารพต่อการร้องเพลง รักษาความมีเกียรติของเพลงเอาไว้” แต่ในการไลฟ์สดของสาวคนดังนั้นกลับร้องเพลงชาติออกมาในท่าทีที่สนุกสนาน ซึ่งพวกเขามองว่าท่าทางของเธอถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติต่อการร้องเพลงชาติ จึงต้องถูกจับกุมตัวอย่างไม่มีข้อยกเว้น Kaili ต้องไปนอนในคุกนานถึง 5 วัน โดยเธอก็ได้ออกมากล่าวขอโทษกับทุกๆ คนว่า “ฉันขอโทษจากใจจริงกับการที่ฉันได้ร้องเพลงชาติออกไปโดยไม่มีความจริงจัง เพลงชาติของเรานั้นมีความศักดิ์สิทธิ์และการกระทำของฉันอาจไปทำร้ายความรู้สึกของใครหลายๆ คน”…
-
หลั่งน้ำตา… เมื่อ นทท. จีนเข้าไปพัง “ทุ่งหญ้าสีชมพู” ปลูกมานานกว่า 3 ปี เพื่อหามุมถ่ายรูป?!
“ทุ่งหญ้าสีชมพู” ในเมืองหางโจว ประเทศจีน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวของจีน ต้นเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา ในช่วงนั้นเป็นตอนที่มันกำลังออกดอกผลิบานพอดี ทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากแห่กันไปถ่ายรูปเก็บไว้ และกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้บรรยากาศความสวยงามของทุ่งหญ้าสีชมพูหายไปในพริบตา ความสวยงามที่ถูกทำลายไป นี่คือภาพบรรยากาศในตอนที่นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากบุกตะลุยเข้าไปในทุ่งหญ้าที่ถูกกั้นเอาไว้ มีทั้งป้ายเตือนบอกว่า “ห้ามเข้าไปเหยียบ” ขนาดคนดูแลตะโกนห้ามไม่ให้เข้าไปก็ไม่มีใครฟัง เหตุผลที่นักท่องเที่ยวจีนเหล่านั้นต่างพากันละเมิดกฎก็เพียงเพราะพวกเขาต้องการจะ “ถ่ายรูป” หามุมสวยๆ ที่จะทำให้การเซลฟี่ของตัวเองออกมาดูดีที่สุด แลกกับการทำลายความสวยงามตามธรรมชาติของพื้นที่ตรงนั้นไป สังเกตว่าเขามีเชือกกั้นเอาไว้อย่างชัดเจน แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย ผู้คนต่างเข้าไปทั้งนั่งทับ นอนทับ ไม่สนใจสิ่งใดนอกเหนือจากการถ่ายรูปของตัวเอง โดยพวกเขาไม่ได้เหยียบย่ำแค่ต้นไม้ใบหญ้า แต่พวกเขายังได้เหยียบย่ำจิตใจของคนดูแลและคนที่ปลูกมันขึ้นมาด้วย คุณป้าแซ่ Zheng คือคนที่นำพืชชนิดนี้มาปลูกเป็นสวนเพื่อความสวยงามในบริเวณดังกล่าว โดยมันเป็นพืชที่นำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย และเธอต้องใช้เวลานานกว่า 3 ปีกว่าที่มันจะสวยงามได้มากขนาดนี้ แต่เมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเข้ามากันอย่างล้นหลามนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ความสวยงามก่อนหน้านี้ก็พังทลายลงไปต่อหน้าต่อตา โดยเธอบอกว่าที่เลวร้ายสุดก็คือช่วงกลางเดือนที่มีแต่คนเหยียบเข้าไปถ่ายรูป จากการรายงานบอกว่าป้า Zheng พยายามตะโกนห้ามนักท่องเที่ยวจนเสียงแหบเสียงแห้ง แต่ก็ไม่มีใครสนใจในคำพูด รั้วกั้น…
-
ชาย 2 คน “คุกเข่าขอแต่งงาน” กับหญิงสาวคนเดียวกัน ในเวลาพร้อมกัน จากนั้นจึงต่อยกัน?!
เราอาจเคยเห็นฉากในละคร ซีรีส์ หรือหนังรักโรแมนติก กับช่วงเวลาที่นางเอกจะต้องเลือกว่าเธอจะรับรักใครดี (ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือรับรักพระเอกอยู่ดีแหละนะ) และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นแต่ในละครเพียงอย่างเดียว เมื่อชายทั้ง 2 คนนี้เองก็ได้ตัดสินใจนัดกันไปขอหญิงสาวคนหนึ่งแต่งงานในช่วงเวลาเดียวกัน คุกเข่าลงไปพร้อมๆ กัน ก่อนที่จะกลายเป็นการทะเลาะวิวาทกัน?! ชาย 2 คน ผู้ตกหลุมรักหญิงสาวคนเดียวกัน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกลางย่านศูนย์การค้า Wuyue Square เมืองฉางโจว ประเทศจีน โดยชายคนหนึ่งนั้นเป็นบลอกเกอร์ที่ชื่อว่า Xiao Yi มีผู้ติดตามกว่า 380,000 คน เขาได้นัดชายหนุ่มอีกคนไปสารภาพรักบอกความในใจ และขอแต่งงานกับผู้หญิงคนเดียวกัน และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกคนได้เห็นเหตุการณ์รักสามเส้าในครั้งนี้ หญิงสาวคนนั้นมีชื่อว่า Xiao Ai ทั้ง 3 คนได้นัดไปเจอกันยังสถานที่ดังกล่าว โดยชายหนุ่มทั้ง 2 คนได้เตรียมดอกไม้ช่อใหญ่มาด้วยกันทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่าทางฝั่ง Xiao Yi จะเตรียมตัวมาได้ดีกว่า เห็นได้จากการที่เขาใส่สูทมาพร้อมสรรพ บวกกับโทรโข่งในมือที่เหมือนเป็นตัวช่วยให้เสียงเขาดูดังกังวานทรงพลังยิ่งกว่าเดิม ผู้อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากถึงกับลุ้นไปตามๆ กันในตอนที่ทั้ง 2 คนคุกเข่าลงไปขอหญิงสาวแต่งงานพร้อมๆ…
-
พนักงานวงแตก!! เมื่อ “งูหลาม” ตัวโตหล่นจากเพดานลงมากลางวงขณะยืนประชุมกันอยู่
มีเหตุการณ์ชวนผวาเกิดขึ้นในประเทศจีน ขณะที่ทีมพนักงานในธนาคารแห่งหนึ่งกำลังยืนประชุมกันอยู่นั้น จู่ๆ งูหลาม ตัวโตก็ร่วงจากเพดานลงมากลางวงประชุม ทำเอาพนักงานต่างหนีด้วยความหวาดกลัว เหตุการณ์เกิดขึ้นในธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China ณ เมืองนานหนิง เขตปกครองกวางสี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา ชมคลิปวินาที “งูหลาม” ร่วงจากเพดานลงมากลางวงประชุม จะเห็นได้ว่าเหล่าพนักงานธนาคารกำลังยืนฟังหัวหน้างานอย่างมีสมาธิ ทันใดนั้นเองก็มีอะไรบางอย่างหล่นลงมากลางวงประชุม ใกล้ๆ กับพนักงานหญิงคนหนึ่ง ปรากฏว่ามันคืองูหลามตัวยาว ทำเอาพนักงานวิ่งหนีกันกระเจิง หลังจากแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาพร้อมกับกรมอนุรักษ์พืชและสัตว์ป่า เมื่อตรวจสอบพบว่า งูหลามตัวนี้หนักเกิน 5 กิโลกรัมซึ่งถือเป็นสัตว์สงวนชั้นหนึ่งที่ต้องการการคุ้มครองอย่างมาก ปัจจุบัน ธนาคารแห่งนี้ก็ยังคงไม่เปิดให้ใช้บริการเนื่องจากยังค้นไม่เจอสาเหตุที่ “งูหลาม” ร่วงลงมาจากเพดานของธนาคาร ที่มา: chinanews และ nextshark
-
Floyd รับคำท้า Khabib พร้อมปะทะกันในศึกแชมป์ไร้พ่าย “ลาสเวกัสจะต้องลุกเป็นไฟอีกครั้ง!!”
ในตอนนี้คงแทบไม่มีใครไม่รู้จัก Khabib Nurmagomedov แชมป์เปี้ยนชาวรัสเซียวัย 30 ปี จากวงการ UFC ซึ่งล่าสุดเพิ่งมีเรื่องไปกับ Conor McGregor นักสู้ชาวไอริช ในเหตุจลาจลหลังการแข่งขัน อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: สรุปเหตุจลาจล McGregor พ่ายแพ้ Khabib ถูกตีซ้ำ ปีนไปมีเรื่องด้านนอก เข็มขัดแชมป์ไร้คนครอง แชมป์ไร้พ่าย กับสถิติชนะ 27 แพ้ 0 หลังจบเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ Khabib เริ่มหมดศรัทธากับบทลงโทษที่ UFC ตัดสินแต่กับฝั่งของเขา เราจึงอาจได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าเขาตัดสินใจที่จะอำลาเวที UFC หากเพื่อนนักสู้ร่วมชาติของเขาต้องโดนแบน แต่การอำลาเวทีนั้นไม่ได้แปลว่าเขาจะยอมแพ้กับกีฬาศิลปะการต่อสู้แต่อย่างใด เพราะล่าสุดเขาได้มีโอกาสไปเจอกับ Leonard Ellerbe ประธานโปรโมเตอร์ของ Floyd Mayweather แชมป์มวยสากลชื่อก้องโลก Leonard นักธุรกิจและผู้สนับสนุนหลักของนักมวยชื่อดัง Floyd ราชาไร้พ่ายแห่งวงการมวยสากล Khabib ได้ทำการส่งคำท้าไปถึง…
-
9 เทคนิคง่ายๆ ช่วยพิชิตชีวิตยากๆ นี่แหละตัวจริงอีซี่โหมด ลองทำตามได้ไม่เสียหลาย!?
คุณเคยรู้สึกบ้างมั้ยว่า ชีวิตนี้นอกจากการไปทำงาน ไปเรียนก็ว่ายากแล้ว ไหนจะต้องกลับมาจัดการชีวิตตัวเองในแต่ละวันก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เพราะจะจัดการอะไรยังไงมันก็ดูวุ่นวายไปหมดเลย… แต่รู้มั้ยว่า บางสิ่งบางอย่างหากเรามองแบบใกล้ๆ ตัว จะรู้ได้ว่ามันมีวิธีช่วยจัดการสิ่งที่ยากให้เป็นเรื่องง่าย และหากได้ลองทำตามก็จะรู้ว่าเรื่องแค่นี้ แม่ม… ทำไมตรูนึกไม่ออกเลยในชีวิตนี้เนี่ย! ไมโครเวฟมีที่สำหรับแค่ชามเดียว เอาแก้วเข้าไปรองเพิ่มพื้นที่ได้อีกชาม อยากได้ถุงซิปล็อคขนาดใหญ่ขึ้นงั้นรึ? ใช้สองถุงประกบนอกใน แล้วก็กดซิปให้ติดกัน แค่นี้ก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาผ้าออกจากไม้แขวนเสื้อทีละตัว เอาถุงขยะที่ยังสะอาดมาห่อมัดรวม ยกไปทีเดียวโลด ตัวหนีบจากไม้แขวนเสื้อ หรือตัวหนีบที่หลุดออกมาแล้ว ยังใช้ประโยชน์หนีบถุงขนมที่เปิดแล้วกินเหลือได้นะ กล่องทิชชู่ยังมีประโยชน์ ไว้ใช้เก็บถุงพลาสติกได้ ดึงเอามาใช้ได้ทันที หมดปัญหาของแปลกปลอม หลุดเข้าเครื่องดูดฝุ่น ใช้ถุงน่องรัดปิดปากกรองอีกชั้น จัดระเบียบสายระโยงระยาง ด้วยเคเบิ้ลไทร์สองชั้น ส้อม ใช้งานได้มากกว่าจิ้มลูกชิ้น ช่วยแขวนรูปได้ด้วยนะเออ ที่เปิดฝาจีบหายกลางคัน? ใช้ฝาจีบงัดกันเองเลยพี่! อ่านแล้วก็อย่าลืมไปลองใช้กันนะ ไม่ยากอย่างที่คิด อิอิ ที่มา: buzzfeed
-
น้องโดนทำโทษ จากไมโลหกเลอะรถ ‘เผลอล้างทั้งคัน’ ไมโลปลอบใจ จัดรถไปเลี้ยงถึงโรงเรียน
เมื่อช่วงวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเป็นเรื่องน่ารักปนฮา และชวนปวดหัวสำหรับคนรักรถไม่น้อย หลังจากที่หนูน้อย Nur Izzah Nayli ทำเครื่องดื่มไมโลหกเลอะเทอะเบาะ… คุณแม่จึงสั่งทำโทษให้น้องทำความสะอาด และปล่อยให้น้องทำเองระหว่างไปดูโทรทัศน์ในบ้าน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือน้องไม่ได้ล้างแค่เบาะ แต่ดันล้างข้างในตัวรถทั้งคันจนท่วมกันเลย! Emmi Muhammad Shah ผู้เป็นพี่ชายได้ทำการเก็บหลักฐานทำความสะอาด และแชร์ให้ชาวเน็ตได้รับชมกัน . . . . ด้านชาวเน็ตที่ได้เห็นต่างรู้สึกเอ็นดู ในความใสซื่อของน้อง Izzah และเกรงว่าจะโดนคุณแม่ทำโทษหนักกว่าเดิม ซึ่งยังไม่ทราบว่า น้องทำไปเพราะด้วยความตั้งใจอยากจะให้รถสะอาดจริงๆ หรือเป็นเพราะความไร้เดียงสา… แต่แล้วหลังจากที่เรื่องดังกล่าว กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วประเทศมาเลเซีย ด้วยความน่ารักของน้อง ทางไมโลมาเลเซีย จึงได้ทำการปลอบใจให้กับน้อง Izzah ตามไปถึงโรงเรียนโดยไม่รู้ตัวกันเลยล่ะ โดยในช่วงเช้าวันที่ 11 ตุลาคม คุณครูได้ทำการเรียกน้อง Izzah ไปยังหน้าชั้นเรียน โดยที่ยังไม่บอกว่าเรียกไปเพราะอะไร แต่แล้วทางตัวแทนของไมโล ก็ได้มอบกระเป๋าผ้าพร้อมกับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ให้อย่างจุใจ! เท่านั้นยังไม่พอ ทางไมโลก็ได้นำรถชงไมโลสด มาแจกจ่ายให้กับเด็กๆ…