Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
Syed Saddiq ถูกวิจารณ์หนัก จากภาพนั่งแช่อ่างน้ำแข็งหลังเล่นกีฬา ‘เป็นตัวอย่างไม่ดีกับเด็ก’
นับว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ถูกจับตามเมืองอย่างยิ่ง Syed Saddiq ผู้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬา ของประเทศมาเลเซีย ด้วยอายุที่ยังน้อย (25 ปี) และผลงานที่โดดเด่น… Syed Saddig นักการเมืองรุ่นใหม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬา ประเทศมาเลเซีย https://www.instagram.com/p/Bo34xokBlGf/?hl=th&taken-by=syedsaddiq โดยนอกเหนือจากหน้าที่การงานทางด้านการเมืองแล้ว เขาก็ยังเป็นนักกีฬาฟุตบอลตัวยงอีกด้วย โดยที่ Syed นั้นจะลงฟาดแข้งเป็นประจำตามปกติ แต่ในนัดที่ผ่านมานั้น เขาจำเป็นต้องพักรักษาร่างกายด้วยวิธีนั่งแช่น้ำแข็ง พร้อมกับแชร์ภาพนั้นลงในโลกโซเชียล ในใจความแคปชั่นของภาพนี้ เขากล่าวไว้ว่า “แช่ตัวเองลงในน้ำแข็ง หลังจากที่สามารถทำประตูในช่วงโกลเดนโกลได้ เป็นนัดที่ดีเลยทีเดียว” โดยในภาพปรากฏเป็น Syed ในสภาพเปลือยท่อนบน สวมใส่เพียงแค่กางเกงกีฬาขาสั้น โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงว่าชาวเน็ตมาเลเซียจะเข้ามากระหน่ำวิจารณ์ถึงความเหมาะสม… ตัวอย่างความคิดเห็นของชาวเน็ตที่เข้ามาวิจารณ์จะพูดถึงในเรื่อง ‘ความเหมาะสม’ และ ‘เป็นตัวอย่างแก่เยาวชน’ “ฉันคิดว่าไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องโพสต์แบบนี้ ช่วยควบคุมตัวเองหน่อยสิ” “หรือนี่เป็นตัวอย่างที่คุณต้องการให้เยาวชนได้รับรู้? นี่คือสิ่งที่มาเลเซียต้องการจากผู้นำประเทศงั้นหรือ? ฉันรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องโพสต์รูปแบบนี้บนสื่อโซเชียลหรอก” https://www.instagram.com/p/Bn6BkPih9X6/?hl=th&taken-by=syedsaddiq โดยภายหลังจากที่ชาวเน็ตเข้ามาโจมตีโพสต์ในรูปภาพดังกล่าว Syed ได้ทำการลบภาพนั้นออกไปทันที…
-
ชายหนุ่มถูกเรียกมาช่วยสืบสวน แต่ตำรวจดันค้นเจอ ‘รูปโป๊ในโทรศัพท์’ ถูกจับกุมในทันที…
กลายเป็นเรื่องที่ไม่รู้ว่าจะควรรู้สึกอย่างไรดีก่อน ต้องเกริ่นไว้ว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อลามกในประเทศมาเลเซียนั้นเข้มงวดมากๆ หากใครมีไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะรูปแบบใดๆ ก็ตาม จะถูกจับกุมทันที… อย่างเช่นชายหนุ่มนามว่า Aiman วัย 28 ปีรายนี้ จากรัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย เขาถูกเรียกตัวมายังสถานีตำรวจเพื่อช่วยอำนวยความสะดวก เป็นพยานช่วยในการสอบสวนคดีหนึ่ง เขามาตามนัดหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่แล้วจู่ๆ เจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นพบว่า ในโทรศัพท์ของนาย Aiman นั้นปรากฏเป็นภาพลามกอยู่ในเครื่องจำนวน 14 รูปด้วยกัน อันเป็นสิ่งที่ผิดต่อกฎหมายประเทศมาเลเซีย เจ้าตัวถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในทันที และต้องเดินทางไปให้การกับชั้นศาล โดยที่เขาปฏิเสธยอมรับในข้อกล่าวหาดังกล่าว และประกันตัวออกไปด้วยเงินประมาณ 15,000 บาท (2,000 ริงกิตมาเลเซีย) ทั้งนี้จากข่าวดังกล่าว เมื่อแพร่กระจายออกไปสู่ประชาชนชาวมาเลเซีย ต่างรู้สึกว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ควรจะโฟกัสไปที่เรื่องของปัญหาด้านการคอร์รัปชั่น และปัญหาด้านการศึกษามากกว่า… “มีชายวัย 40 แต่งงานกับเด็กหญิงที่ยังเรียนไม่จบชั้นมัธยมด้วยซ้ำ แต่ดันมาจับชายที่มีภาพโป๊ในโทรศัพท์ไม่กี่รูปเนี่ยนะ?” หนึ่งในความคิดเห็นของชาวเน็ต ในขณะที่ชาวเน็ตบางราย ได้ทำการแท็กเพื่อนในโลกโซเชียล พร้อมกับระบุถึงความเป็นห่วงเป็นใย กลัวว่าเพื่อนจะถูกจับในข้อหาเดียวกัน… “ไปล้างเครื่องโทรศัพท์เดี๋ยวนี้เลยนะเพื่อน ไม่อยากให้นายถูกจับไปขึ้นโรงขึ้นศาลด้วยข้อหาแบบนี้”…
-
ผู้โดยสารไม่พอใจ “โทรแจ้งตำรวจ” เหตุเพราะคนขับรถไม่ยอม “เปิดเพลง” ตามที่ขอ?!
Lyft คือบริษัทที่ให้บริการเรียกรถรับส่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่ายิ่งใหญ่เป็นอันดับสองรองลงมาจาก Uber โดยวิธีการใช้บริการก็คือการติดต่อเรียกคนขับในแอปพลิเคชันเฉพาะเหมือนกัน Shawn Pepas Lettman คือหนึ่งในคนขับที่ลงทะเบียนไว้กับทางบริษัทดังกล่าว ซึ่งในวันที่ 5 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมาเขาได้ไปรับผู้โดยสารจาก “บาร์เกย์” แห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก ผู้โดยสารที่เขาไปรับนั้นมีชื่อว่า Robert Ortiz ขึ้นรถมาพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน Shawn คนขับผิวสี และ Ortiz ผู้โดยสาร ระหว่างทาง Ortiz ได้ขอให้คนขับเปิดเพลงตามที่เขาต้องการ แต่ทว่า Shawn เลือกที่จะปฏิเสธขอไม่เปิดเพลงให้ฟัง และนั่นก็ทำให้ผู้โดยสารทั้ง 3 คนรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ด้วยความโมโห Ortiz จึงขอให้ Shawn จ่ายเงินค่าโดยสารคืนมาให้กับเขาทั้งหมด แต่ทางฝั่งคนขับก็ได้ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าจ้าง 8 ดอลลาร์ (ราวๆ 261 บาท) คืนกลับไปให้ ทางฝั่งผู้โดยสารจึงยิ่งรู้สึกเดือดดาลมากยิ่งกว่าเดิม Ortiz อ้างว่าตนเองทำงานอยู่ในศูนย์พยาบาลใหญ่ CityMD…
-
พบ “สมุดคณิตฯ” ของเด็กจากศตวรรษที่ 18 พร้อมความอัศจรรย์ที่ J.K. Rowling ยังชม!
แน่นอนว่าในพิพิธภัณฑ์นั้นจะต้องมีสิ่งของเก่าๆ ซึ่งเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์เก็บไว้มากมาย และก็ต้องยอมรับเลยว่าสิ่งของบางอย่างที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนก็ทำให้คนปัจจุบันอย่างเราถึงกับอึ้งได้เหมือนกัน อย่างเช่นล่าสุดที่ Museum of English Rural Life พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษได้ค้นพบสมุดบันทึก (สมุดคณิตศาสตร์) จากอดีต 234 ปีที่แล้ว… สมุดเล่มดังกล่าวเป็นของ Richard Beale เด็กชายวัย 13 ปีจากเมื่อกว่าสองร้อยปีที่แล้ว ซึ่งสมุดเล่มดังกล่าวเป็นหนึ่งในบันทึกทั้ง 42 ชิ้นจากครอบครัว Beale ที่ทางพิพิธภัณฑ์ค้นพบ Museum of English Rural Life ได้ทำการจัดเก็บเอกสารและบันทึกเก่าๆ ให้เรียบร้อย ขณะที่พวกเขากำลังจัดการเอกสารและบันทึกเก่าๆ อยู่นั้น พวกเขาก็พบสมุดบันทึกของเด็กคนหนึ่งจากราว 200 กว่าปีที่แล้ว สิ่งที่น่าสนใจของสมุดบันทึกเล่มดังกล่าวก็คือ มันถูกเขียนและวาดด้วยลายเส้นอันงดงามจนเกินจะเชื่อว่าเป็นฝีมือของเด็กหนุ่มวัย 13 ปี นี่คือโฉมหน้าของสมุดบันทึก (การเรียน) จาก 234 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นของเด็กชายวัย 13 ปี ภายในไม่ได้มีแต่การจดตัวเลขคณิตศาสตร์หรือสมการเท่านั้น แต่กลับมีความงดงามแฝงอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ นี่คือลายมือของเด็กหนุ่มวัย 13 ปีจากศตวรรษที่…
-
นทท. ต่างชาติอกหัก ลงทุนไปญี่ปุ่นเพื่อหารูปปั้นสาวน้อยไซส์ยักษ์ โดยไม่รู้ว่านั่นเป็น CG!!
อย่างที่เรารู้ๆ กันว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศแห่งเทคโนโลยีและวัฒนธรรมเกี่ยวกับการ์ตูน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่หลงใหลและคลั่งไคล้ในอนิเมะ ให้ได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันอย่างมากมาย และเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องของคนที่ถูกวัฒนธรรมอนิเมะของญี่ปุ่นดึงดูดไป เพียงทว่า… คราวนี้เขาถูกดึงดูดไปด้วยภาพตัดต่อซะอย่างนั้น… เมื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนหนึ่งถ่อมาถึงญี่ปุ่นเพื่อที่จะได้ชมกับภาพที่รูปปั้นยักษ์ของสาวน้อยที่มีรถไฟวิ่งผ่านเหมือนดังภาพข้างต้นนี้ โดยที่เขาไม่ได้คำนึงเลยว่าภาพที่เขาเห็นนั้นมันเป็นภาพที่ถูกใช้คอมพิวเตอร์ตกแต่งขึ้นมา!! https://twitter.com/runndy_music/status/1049204301648691200?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1049204301648691200&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F10%2F12%2Fforeign-travelers-heart-broken-as-he-learns-his-image-of-akihabara-is-too-good-to-be-true%2F ในวันที่ 8 ตุลาคม 2018 ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Mun@RUNNDY ได้โพสต์ภาพพร้อมกับเรื่องราวว่า “ฉันถูกชาวต่างชาติที่อากิฮาบาระถามว่าจะไปหารูปปั้นสาวยักษ์นี้ได้ตรงไหน และเมื่อฉันตอบเขาไปว่าภาพนี้มันเป็นภาพที่ถูกทำขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิก เขาก็ช็อกและเสียมากๆ ดูเหมือนกลายเป็นฉันหักอกเขาเลยล่ะ” あるにはあるんですがもう普通には売ってないかもですね。どこかで見つけて欲しいものです… pic.twitter.com/lK9ofDFsjl — †秀星† (@shusei_k) October 9, 2018 แต่ก็มีคนมาให้ที่อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวมีความหวังขึ้นมา เมื่อเขาได้มาบอกว่าภาพดังกล่าวไม่ได้จบแค่เป็นภาพที่ใช้ CG ทำขึ้นมาเฉยๆ นะ แต่ก่อนหน้านี้บริษัท Kaiyodo ก็ได้นำรูปดังกล่าวไปทำเป็นฟิกเกอร์จริงๆ แถมยังมีคนมาเสริมอีกด้วยว่า ฟิกเกอร์ดังกล่าวที่ขนาดใหญ่ประมาณคนจริงๆ ถูกเก็บไว้โชว์ที่พิพิธภัณฑ์ Kaiyodo ที่จังหวัดชิกะด้วยนะ 2年ほど前に滋賀県長浜市にある海洋堂フィギュアミュージアム行った時に大きいのがありましたよ。 pic.twitter.com/OTiUKFy910 — らむどら@ヒロぽん💣 (@ramdra475) October 9,…
-
หนูน้อยผู้ป่วยเป็นออทิสติก ได้รับ “การ์ดอวยพรวันเกิด” จากคนทั่วโลกกว่า 3,000 ฉบับ!!
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน พิสูจน์ให้เห็นว่าโลกของเรายังคงเต็มไปด้วยความสวยงาม เต็มไปด้วยเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นจากคนทั่วโลก เรากำลังพูดถึงเรื่องราวของเจ้าหนู Alfie Thomson จากเมือง Plymouth ประเทศอังกฤษ เด็กชายผู้โชคร้ายเกิดมาพร้อมกับอาการของโรคออทิสติก เจ้าหนู Alfie Alfie คือ 1 ใน 8 คนทั่วโลกที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติที่หาได้ยากมากๆ การหายไปของโครโมโซมทำให้เขามีพัฒนาการที่ต่างออกไป และไม่สามารถพูดได้ ต้องใช้ภาษามือในการสื่อสาร เพื่อนๆ ในโรงเรียนก็มีกันอยู่แค่ 6 คนเท่านั้นที่พอจะเข้าใจภาษามือเหมือนกับเขา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เด็กคนนี้มีเพื่อนน้อยมากๆ การที่มีเพื่อนน้อยเท่ากับว่าในงานวันเกิดเขาก็จะได้รับของขวัญหรือการ์ดอวยพรที่น้อยตามไปด้วย ซึ่งมันทำให้เจ้าหนูถึงกับหงอยทุกครั้ง เพราะเขาชอบอ่านการ์ดวันเกิดจากทุกคนเอามากๆ Alfie คุณแม่ และน้องสาว ด้วยเหตุนั้นเอง Bronya คุณแม่ของเขาจึงตัดสินใจจัดเซอร์ไพรส์ในงานวันเกิดครบรอบ 8 ขวบเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2018 ที่เพิ่งผ่านมา กับการขอร้องให้ชาวเน็ตจากทั่วทุกมุมโลกช่วยกันเขียนการ์ดอวยพรวันเกิดส่งมาให้เขา จากการช่วยเหลือของสำนักข่าวท้องถิ่น Plymouth Live ทำให้การจัดการเป็นไปอย่างราบรื่น และ Alfie ก็ได้รับการ์ดอวยพรวันเกิดจากคนทั่วโลกมามากกว่า 3,000…
-
IZ*ONE เกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่จากผู้ชนะ Produce 48 เผยภาพโปรโมตอัลบั้มแรกสุดสดใส!!
Produce 48 ถือว่าเป็นรายการเรียลลิตี้ที่ จะเฟ้นหาไอดอลจากเด็กฝึกหรือผู้เข้าแข่งขันจากหลายๆ ค่ายในเกาหลี ซึ่งล่าสุดที่ผ่านมาถือว่าพิเศษ เนื่องจากนำสมาชิกจากไอดอลฝั่งญี่ปุ่นอย่าง ในเครือ 48 กรุ๊ป มาด้วย ซึ่งหลังจากที่รายการนี้ได้จบไป เราก็ได้เด็กฝึก 12 ของคนมาเดบิวต์การเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ในนามว่า “IZ*ONE” โดยที่มีสมาชิกดังต่อไปนี้ Kwon Eun bi, Miyawaki Sakura, Kang Hye won, Choi Ye na, Lee Chae yeon, Kim Chae won, Kim Min joo, Yabuki Nako, Honda Hitomi, Jo Yu ri, An Yujin และ Jang Won young ซึ่งวันนี้เราก็ได้มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใหม่ของวงนี้มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ เมื่อล่าสุดทางวงได้เผยภาพโปรโมต 1st Mini Album…
-
นางแบบสาว Cara Delevingne ถูกวิพากษ์วิจารณ์ หลังสวม “สูทผู้ชาย” ร่วมงานแต่งราชวงศ์
ในวันที่ 12 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมาได้มีงานพระราชพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าหญิง Eugenie (ราชวงศ์อังกฤษ) กับ Jack Booksbank ณ โบสถ์เซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ ประเทศอังกฤษ ภายในงานเต็มไปด้วยแขกราชวงศ์ ศิลปินดาราดัง รวมไปถึงเหล่านางแบบจำนวนมาก และ 1 ในแขกที่ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายๆ คนมากที่สุดก็คือนางแบบและนักแสดงสาวชาวอังกฤษ Cara Delevigne Cara ในงานพระราชพิธีเสกสมรส อย่างที่หลายๆ คนอาจทราบกันดีว่า Cara นั้นมีจุดยืนในเรื่องของเพศที่ 3 เป็นอย่างมาก ทำให้เธอตัดสินใจแต่งชุดที่ต่างออกไปในการมาร่วมงานครั้งนี้ Cara มาในชุดสูทหางยาว กับหมวกทรงสูง แต่งมาในลุคแบบแมนๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยรองเท้าส้นสูงสีเดียวกับชุด บางคนอาจมองว่าชุดที่เธอใส่นั้นไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร เพราะตัว Cara เองก็แสดงออกถึงรสนิยมทางเพศของตนมาโดยตลอด แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายๆ คนมองว่าชุดของเธอมันผิดจาก “พิธีการของงานราชวงศ์” ตามพิธีการแล้วระบุไว้ว่า “สุภาพสตรีต้องสวมชุดกระโปรงสไตล์กลางวันและสวมหมวก” และบังคับให้ต้องถือกระเป๋ามาด้วย โดยเราจะเห็นว่า Cara ไม่ได้ทำตามระเบียบพิธีการดังกล่าวเลย มันจึงเป็นเหตุที่ทำให้หลายๆ…
-
ดราม่าสนั่น!! ผู้หญิงถูกกระเป๋าเด็กบังเอิญมาโดนก้น โทรแจ้งตำรวจจับข้อหา ‘ล่วงละเมิด’…
กำลังกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกโซเชียลของต่างประเทศเลยตอนนี้ ถึงกรณีของผู้หญิงคนหนึ่งที่บังเอิญถูกกระเป๋าของเด็กชนก้นเข้าให้ แต่ใครจะไปคิดว่าเรื่องนี้จะถึงขั้นที่ทำให้เธอโทรแจ้งตำรวจให้มาจับเด็ก!! เรื่องดังกล่าวนี้เกิดขึ้นที่เขตบรุกลิน นครนิวยอร์ก เมื่อผู้หญิงชื่อ Teresa Sue Klein กำลังยืนเอนตัวเพื่อดูอะไรบางอย่างอยู่ที่เคาน์เตอร์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น แต่ว่ามีอยู่จังหวะหนึ่งที่มีเด็กชายผิวสีเข้าร้านมาพร้อมกับแม่ของเขา แล้วกระเป๋าที่เขาสะพายหลังอยู่มันบังเอิญไปโดนก้นของ Teresa เข้าให้อย่างไม่ได้ตั้งใจ เรื่องนี้บางคนเลือกที่จะปล่อยผ่านแต่ไม่ใช่กับ Teresa เธอเรียกหนูน้อยคนดังกล่าวมาคุยว่าทำอะไร แต่ว่าคนที่เข้ามาคุยในวิดีโอที่เราเห็นกลับเป็นแม่ของเด็กชายคนนั้นแทน ขณะที่ตัวเด็กเมื่อเห็นดังนั้นก็ร้องไห้น้ำตานองหน้า… เหตุการณ์ต่อจากนั้นที่หน้าร้านดังกล่าว ในเวลานั้นหญิงวัย 53 ปีคนนี้อ้างว่าเธอถูกเด็กชายผิวสีจับก้น และเมื่อเธอสังเกตว่ามีบางคนถ่ายวิดีโอเรื่องนี้เอาไว้เธอก็พูดกับกล้องว่า “นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เด็กชายคนนั้นมาจับตูดฉัน แล้วแม่ของเขาก็มาตะโกนใส่ฉันอีก” “นี่ฉันถูกเด็กล่วงละเมิดทางเพศนะเนี่ย” ขณะเดียวกันคนที่เห็นเหตุการณ์แถวๆ นั้นก็บอกกับเธอว่า ‘ไม่มีใครอยากจะจับก้นแบนๆ ของเธอหรอกนะ’ และก็มีคนอื่นๆ วิพากษ์วิจารณ์อีกมาก ซึ่งเธอก็ตอบกลับไปว่า “คุณไม่ควรมาวิจารณ์อะไรฉันนะ เธอยังเป็นแค่เด็กอยู่เลย เด็กขนาดเป็นลูกสาวฉันได้เลยมั้งเนี่ย” ในเวลาต่อมาเธอก็โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยแจ้งว่าถูกเด็กล่วงละเมิดทางเพศ แต่ก็ไม่มีรายงานกล่าวว่าตำรวจว่าอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง ภายหลังเธอกล่าวว่าอย่าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพราะ ‘การเหยียดสีผิว’ เพราะไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้นจริงๆ และก็ได้ออกมาขอโทษต่อเด็กๆ ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงด้วย แต่เธอก็ยืนยันว่าจะไม่ขอโทษผู้เป็นแม่ที่เข้ามาโวยวายกับเธอ ทางด้านชาวเน็ตเมื่อได้เห็นทุกๆ…
-
คู่รักไปฮันนีมูนที่ ‘ศรีลังกา’ เกิดติดใจ ‘โรงแรม’ ที่ไปพัก เลยซื้อมาเป็นของตัวเองซะเลย!!
บางครั้งเวลาที่เรา ‘เมา’ ก็อาจจะพลั้งพลาดทำเรื่องบางอย่าง ที่พอตื่นมาแล้วอาจจะคาดไม่ถึงเลยก็เป็นได้ แต่ต่อให้คุณจะทำเรื่องชวนปวดหัวไปแค่ไหน ก็สู้คู่รักคู่นี้ไม่ได้หร๊อก!! นี่คือเรื่องราวของ Gina Lyons วัย 33 ปี และ Mark Lee วัย 35 ปี สองคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ที่เพิ่งแต่งงานกัน พวกเขาจัดทริปฮันนีมูนกันที่ประเทศศรีลังกาเมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา และปรากฏว่าโรงแรมที่ไปพักตอนไปฮันนีมูนนั้นมันช่างถูกอกถูกใจทั้งคู่เสียเหลือเกิน หลังจากที่ดื่มอย่างหนักหน่วง ความเมาทำให้เกิดอาการหน้ามืดตามัว ก็เลยตัดสินใจซื้อโรงแรมนั้นเป็นของตัวเองมันซะเลย!! “เมื่อเราเดินเข้าไปในโรงแรม แล้วเห็นเหล่าผู้สูงอายุชาวศรีลังกานั่งอยู่ด้านใน พวกเขากำลังดื่มกันอย่างสนุกสนาน เราก็เลยไปร่วมดื่มกับพวกเขา” “แม้โรงแรมจะดูเก่ามากๆ แต่ก็มีราคาถูก อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับชายหาด แถมยังมีบ้านต้นไม้อีกด้วย มันคือสิ่งที่พวกเราถูกใจมากๆ” “ขณะที่นั่งดื่มอยู่บริเวณชายหาด พนักงานบอกกับเราว่าค่าเช่าโรงแรมนี้เป็นรายปีคิดแค่ 10,000 ปอนด์ (ราวๆ 430,000 บาท) เท่านั้นเอง ทั้งฉันและ Mark ก็เลยคิดว่า เออถ้าเราซื้อมันก็คงเป็นอะไรที่เจ๋งดีนะ” “และตอนนั้นจากไอเดียที่ผุดขึ้นมาตอนเมาเหล้ารัม ผ่านมาแล้ว 1 ปี…
-
ชายผู้รอดชีวิตจากโรคร้าย ถูกผู้จัดการร้านอาหาร ‘ไล่ออกร้าน ‘ เพราะใบหน้าทำให้คนอื่นกลัว!!
บางอย่างในชีวิตเราก็ไม่สามารถกำหนดมันออกมาได้ดั่งที่คาดเอาไว้… Kirby Evans คือชื่อของชายคนหนึ่ง ที่ต้องสูญเสียดวงตาด้านซ้ายและจมูกไปด้วยผลจากโรคมะเร็งผิวหนังที่เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อน ทว่าการสูญเสียจากการผ่าตัดครั้งนั้นก็ทำให้เขามีชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (10 ต.ค.) Evan ผู้มีใบหน้าไม่ค่อยสมบูรณ์นัก ได้เข้าไปใช้บริการที่ร้าน Forks Pit Stop สาขาหนึ่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสิ่งที่เขาซื้อก็คือโดนัทและเครื่องดื่มอีกนิดหน่อย แต่ว่าขณะที่อยู่ในร้านดังกล่าว Evan ก็ถูกผู้จัดการร้านฉุดตัวเข้าไปในห้องห้องหนึ่งแล้วพูดกับเขาในทำนองที่ว่า ช่วยหาอะไรมาปิดหน้าหน่อยหรือไม่ก็ออกไปซะเพราะรูปลักษณ์ของเขามันทำให้คนอื่นรู้สึกกลัว “คำพูดที่ออกมาจากปากเธอ (ผู้จัดการ) มันสร้างความเจ็บปวดให้กับผมมาก มันมากจริงๆ” ชายวัย 65 ปีกล่าว เขาเล่าต่อว่าในวันนั้นเขาต้องออกมาจากร้านทั้งน้ำตาและได้เล่าเรื่องนี้ให้ลูกสาวฟัง ซึ่งในเวลาต่อมาเธอก็นำเรื่องราวของพ่อไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียให้จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต “เมื่อวันที่ 10/8/2018 พ่อของฉันเดินเข้าไปที่ร้านอาหารในปั๊มน้ำมันเพื่อจะหาอะไรกิน แต่พอเขาจะนั่งกินอาหารในร้าน ผู้จัดการกลับดึงเสื้อแล้วลากตัวเขาไปในออฟฟิศของเธอแล้วพูดว่า ‘ถ้าคุณอยากจะกินอาหารที่นี่ต้องหาอะไรมาปิดหน้าซะ!!’ “เขากลับมาที่บ้านทั้งน้ำตาที่ยังนองหน้าและเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง พ่อของฉันเป็นผู้ที่รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเลยทำให้ต้องมีใบหน้าเช่นนั้น แต่เขากลับถูกเลือกปฏิบัติเพราะสิ่งที่เขาเป็น” “เขาอยากจะผ่าตัดซ่อมเสริมจมูกและดวงตาของเขาเหมือนกันแหละ แต่ทำไงได้ล่ะพ่อฉันไม่ได้รวยขนาดนั้นนี่” แคปชั่นที่ลูกสาว Evan เขียนไว้ ไม่นานหลังจากเรื่องนี้ออกสู่สายตาโซเชียล…
-
Fendi เปิดตัว ‘ผ้าคลุมไหล่’ ตัวใหม่ แต่ไหงดูไปดูมามันเหมือน ‘โยนี’ ได้ขนาดนี้!!
เรื่องของเสื้อผ้าหน้าผมต่างๆ จัดได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ ไม่ว่ากับหญิงและชาย เพราะไม่ว่าใครๆ ก็อยากดูดีในสายตาประชาชีใช่ไหมล่ะ?? ดังนั้นแล้วไอเทมต่างๆ จึงถูกสร้างขึ้นอย่างมากมายและมีการออกแบบให้ฉีกแนวเดิมๆ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้ดูเด่นเด้งกับผู้ที่สวมใส่ แต่ว่ามีไอเทมหนึ่งที่คุณอาจจะรู้สึกเขินหน่อยๆ แน่ถ้าใส่มัน… หน้าตาเต็มๆ ของผ้าคลุมไหล่ เมื่อไม่นานมานี้ Fendi แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติอิตาลี ได้เรียกเสียงฮือฮาด้วยการปล่อย ‘ผ้าคลุมไหล่’ ตัวใหม่ออกมา แต่ว่าดูไปดูมามันกลับมีหน้าตาที่คล้ายๆ กับ ‘โยนี’ หรืออวัยวะเพศหญิงซะอย่างงั้น จากการดูในภาพแล้วความที่มันมีชั้นๆ และมีขนรอบๆ นี่มันก็ดูเหมือนอยู่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ ซึ่งชื่อเรียกผ้าคลุมไหล่นี้มันมีชื่อว่า ‘Touch of Fur Shawl’ เบาๆ มีให้เลือกสีด้วย ส่วนราคาของมันก็ไม่ถูกไม่แพงเท่าไหร่จัดได้ว่าจิ๊บๆ สำหรับใครที่อยากมีจิ๊มิมาคล้องคอแบบสวยๆ โดยค่าตัวของมันอยู่ที่ 750 ปอนด์ (ประมาณ 32,000 บาท) เท่านั้น ทางด้านชาวเน็ตเมื่อได้เห็นผ้าคลุมไหล่ดังกล่าว ต่างก็ออกมาวิจารณ์ต่างๆ มากมาย บ้างก็ว่าจะเป็นยังไงถ้าเอามาคลุมไหล่จริงๆ หรือนี่มันเป็นไอเดียของใครกันนี่… ลองนึกภาพว่าหัวของเราโผล่ออกมาจากสิ่งนี้ดูสิ Just imagine…a head…
-
‘Space Taxi’ ซีรีส์ใหม่จากผู้สร้าง ‘FakeTaxi’ รถหรรษาพาเสียวแห่งห้วงอวกาศ!!
‘FakeTaxi’ ชื่อนี้การันตีคุณภาพ… เชื่อเลยว่าใครหลายคนที่เคยดูซีรีส์เรื่องเข้มข้นนี้ อาจจะต้องติดใจกับท่วงท่าลีลาการดำเนินเรื่องและฉากแอ็คชั่นที่ยิ่งกว่าเนื้อแนบเนื้อใช่ไหมล่ะ แต่ว่าในอนาคตอันใกล้เราจะได้เห็นแท็กซี่สุดฮ็อตที่มีแต่คนอยากขึ้น (อย่างน้อยๆ ก็ #เหมียวจิวยี่ นี่แหละฮ่าๆ) คันนี้ไปตะลุยกันในอวกาศกันแล้วในชื่อซีรีส์ใหม่ว่า ‘Space Taxi’!! Space Taxi จะว่าด้วยเรื่องราวในอนาคตอีก 300 ปีข้างหน้าของคนขับรถ Fake Taxi ชื่อว่า John โดยร่างเขาถูกแช่แข็งอยู่บนโลก แต่ว่ากลับได้ไปใช้ชีวิตสุดระห่ำบนห้วงอวกาศแทน (น่าจะอารมณ์ถอดจิตนั่นแหละ) วิดีโอโปรโมทเปิดตัว https://twitter.com/FakeTaxi/status/1048527929972539392?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1048527929972539392&ref_url=http%3A%2F%2Fwww.ladbible.com%2Fentertainment%2Ffilm-and-tv-creators-of-faketaxi-have-now-launched-spacetaxi-series-20181013 ในซีรีส์นี้คุณจะได้ชมกับฉากแอ็คชั่นยิงปืนสู้รบต่างๆ ซึ่งจะให้ทั้งอารมณ์ฮา, ตื่นเต้นและเสียวจนถึงขีดสุดกับฉากเซ็กส์แบบฮาร์ดคอร์ชนิดที่ว่าติดตราตรึงใจในทุกอณูรูขุมขน พร้อมจะลุยกันมานานแล้ว ฮ่าๆ โย่ว “ผมเคยมีไอเดียสร้างหนังแนวใหม่ๆ อย่างมากมาย อย่างซีรีส์ ‘Knockouts’ ที่เกี่ยวกับเซ็กส์แบบมวยปล้ำ แต่ขอบอกเลยว่าความคิดเรื่อง Space Taxi นี่มันเป็นอะไรที่โดดเด่นในความคิดของผมเลยจริงๆ” “เรื่องราวนี้มันถูกสมมุติว่าจะเกิดขึ้นในโลกอีกประมาณ 300…
-
50 Cent ยื่นข้อเสนอให้ Khabib ถ้ามาขึ้นชกที่นี่ให้ไปเลย 65 ล้านบาท!! แชมป์บอก “จัดไป!!”
หลายๆ คนอาจทราบกันแล้วว่า Khabib Nurmagomedov ตั้งใจที่จะออกจากการแข่งขัน UFC หลังจากที่นักสู้ที่เป็นเพื่อนของเขานั้นโดนแบนจากเหตุจราจลที่เกิดขึ้นหลังการต่อสู้กับ Conor McGregor อ่านคำพูดของ Khabib ได้ที่: เปิดใจ Khabib “หากเพื่อนโดนแบน ผมก็จะฉีกสัญญาทิ้ง” Khabib แชมป์ไร้พ่ายชาวรัสเซีย แต่ล่าสุด 50 Cent แรปเปอร์ชื่อดังระดับตำนานได้ยื่นข้อเสนอใหม่ให้กับแชมป์ไร้พ่าย โดยบอกว่า… “ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องในสิ่งที่ UFC ทำกับชายคนนี้ พวกเขากลับทำในสิ่งที่ต่างออกไปกับทางฝั่งของ McGregor ผมจึงยื่นข้อเสนอที่จะจ่ายให้ 2 ล้านดอลลาร์ หากว่า Khabib มาขึ้นชกที่ Bellator คืนนี้” ภาพข้อความที่โพสต์ในวันที่ 13 ตุลาคม 2018 ภาพคำพูดที่ 50 Cent โพสต์ลงอินสตาแกรม Bellator คืออีกหนึ่งการแข่งขันสำหรับ “ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม” (MMA) ในสหรัฐอเมริกา และเงินจำนวน 2…
-
หนุ่มน้อย 7 ขวบ สร้างระบบธนาคารรีไซเคิล พิสูจน์แนวคิดตนเอง สู่การก่อตั้งสถาบันการเงิน
ความฝันในวัยเด็กของคนส่วนใหญ่ อยากทำอะไรกันบ้าง? บางคนอาจจะทำให้เป็นจริงได้ บางคนก็ต้องยอมทิ้งความฝันเหล่านั้นไป แต่สำหรับหนุ่มน้อยชาวเปรูรายนี้ สามารถสานฝันตัวเองจากจุดเล็กสู่ความยิ่งใหญ่ได้… Jose Adolfo Quisocala Condori เริ่มมองเห็นอนาคตของตนเอง ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 7 ขวบ เขาเป็นผู้สร้างระบบธนาคารรีไซเคิลในโรงเรียน และมีลูกค้าเปิดบัญชีมากกว่า 2,000 คน พร้อมกับบริการทางด้านการเงินหลายรูปแบบ ไอเดียของ Jose เริ่มต้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว หลังจากที่เขาสังเกตว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่มักจะใช้เงินไปกับขนมหวานและของเล่น แทนที่จะเก็บเงินไว้ซื้อสิ่งของที่มีค่ามากกว่านั้น แม้จะอายุยังน้อย แต่เขามองเห็นว่าการออมเงินและการเข้าถึงระบบการเงิน มักจะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ยกตัวอย่างง่ายๆ จากบุคคลใกล้ตัวเช่นพ่อแม่ เขาจึงตัดสินใจสร้างระบบการเงินที่เด็กสามารถเข้าถึงได้ขึ้นมา และวิธีที่เด็กๆ สามารถออมทรัพย์และทำเงินให้งอกเงยขึ้นมาได้ โดยที่ไม่ต้องเป็นภาระของพ่อแม่ การทำธนาคารขยะรีไซเคิลคือคำตอบที่เหมาะสมที่สุด แต่หลังจากที่ Jose ได้นำไอเดียของเขาไปเสนอให้คุณครูได้รับฟัง กลับได้คำตอบว่า เด็กอายุแค่ 7 ขวบกับระบบการจัดการที่เกินวัย คงไม่มีทางเป็นไปได้ แต่แล้วเขาก็พิสูจน์ให้ได้เห็นว่า คุณครูคิดผิด… …
-
ทีมเชลซีเตรียมส่ง ‘แฟนบอลขี้เหยียด’ ไปทัวร์ ‘ค่ายกักกัน Auschwitz’ เพื่อให้สำนึกผิด
เรื่องของการเหยียดนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับทุกวงการ โดยเฉพาะใน ‘วงการกีฬา’ ที่มักจะเจอปัญหานี้อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นตัวนักกีฬาเอง หรือบรรดาแฟนกีฬาทั้งหลาย ที่ดูเหมือนจะอินจัดไปหน่อย เวลาเกลียดคู่แข่งก็ต้องหาเรื่องมาถากถางกัน และเรื่องเชื้อชาติหรือสีผิว ก็มักจะกลายเป็นประเด็นที่ถูกยกมาด่าทอกันบ่อยครั้งที่สุดแล้ว ด้วยเหตุนี้เองทางสโมสรทีมฟุตบอลเชลซี (Chelsea) ทีมชั้นนำจากลีกอังกฤษ ก็เลยเสนอมาตรการในการแก้ไขปัญหา ‘ดัดนิสัย’ บรรดาแฟนบอลที่ชอบเหยียด ด้วยการพาไปทัวร์ ‘ค่ายกักกัน’ ซะเลย!! ซึ่งโดยปกติแล้วมาตรการในการจัดการกับแฟนบอลที่มีนิสัยชอบเหยียด ก็คือการ ‘แบน’ ไม่ให้เข้ามาชมการแข่งขันที่สนาม แต่นาย Roman Abramovich เจ้าของสโมสร ที่เป็นชาวยิว จึงเสนอวิธีการใหม่ขึ้นมาแทน คือการพาแฟนบอลเหล่านั้นไปทัวร์ค่ายกักกัน Auschwitz ที่นาซีใช้เป็นสถานที่กักกันชาวยิวในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีชื่อเสียงเรื่อง ‘ห้องรมแก๊ส’ เพื่อให้พวกเขาศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และผลกระทบจากการ ‘เหยียดเชื้อชาติ’ แทน “ถ้าคุณแค่แบนพวกเขาไม่ให้เข้ามาชมการแข่งขัน คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของพวกเขาได้” นาย Bruce Buck หนึ่งในผู้บริหารของทีม Chelsea กล่าว “มาตรการนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้พวกเขาสำนึกว่า ตัวเองได้ทำอะไรลงไป และเมื่อคิดได้เขาก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น” “หากย้อนกลับไปในอดีต เราจะแบนพวกเขาไม่ให้เข้ามาชมเกมในสนามไม่ต่ำกว่า…
-
Usane Bolt ประเดิมลงสนามเป็นตัวจริงในฐานะ ‘นักฟุตบอลอาชีพ’ และยิงประตูแรกได้ด้วย!!
หลายๆ คนคงจะรู้จักกับ Usain Bolt ยอดนักวิ่งจากจาไมก้าเป็นอย่างดี เขาเป็นคนที่สร้างตำนานเอาไว้ในการแข่งขันวิ่งระดับโลกเอาไว้มากมาย ทั้งสถิติโลก 100 เมตรชายเดี่ยวก็ยังคงเป็นของเขาอยู่ และเป็นของเขาคนเดียวมานานหลายปีแล้ว!! หลังจากเป็นข่าวลือหนาหูไปเมื่อปีที่ผ่านมาว่าเขาจะเลิกวิ่ง แล้วไปเป็น ‘นักฟุตบอล’ แทน ตามความฝันที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กๆ ตอนแรกก็คิดว่าเขาอาจจะพูดเล่นๆ แต่ล่าสุดจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศกลับรายงานว่า Usane Bolt หันมาเล่นฟุตบอล และประเดิมยิงประตูไปเรียบร้อยแล้ว!? Usane เซ็นสัญญาให้กับทีม Central Coast Mariners ของลีค A-League ในประเทศออสเตรเลีย และลงเล่นครั้งแรกมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว ในนัดแรกเขาลงเป็นตัวสำรองให้กับทีมในนาทีที่ 70 และยิงประตูได้ แต่ยังเป็นนัดอย่างไม่เป็นทางการ แต่ทว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา Usane ก็ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และสามารถซัดประตูแรกอย่างเป็นทางการให้กับตัวเองได้แล้ว นอกจากนี้ก็ยังยิงแถมให้อีก 1 ประตูซะด้วย!! ประตูแรก Here it is, @usainbolt, the footballer, scores…
-
หนุ่มไปถอนฟันเมายาแก้ปวด สารภาพกับ ‘หมอฟัน’ หมดเปลือกว่า ‘รักลูกสาวของเขา’!!
ในต่างประเทศ ‘การผ่าฟันคุด’ จะใช้ ‘ยาแก้ปวดแบบรุนแรง’ ในการผ่าตัดเอามันออกมา และมันอาจจะทำให้คนไข้เกิดอาการ ‘เบลอ’ พูดไม่รู้เรื่อง หรือบางครั้งก็พูดความจริงออกมาจนหมดเปลือก จนหลายๆ คนเรียกมันว่าเป็น ‘เซรั่มพูดความจริง’ เลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกันกับพ่อหนุ่มคนนี้ ที่ไปผ่าฟันคุด และพูดความรู้สึกที่มีต่อ ‘ลูกสาว’ ของว่าที่คุณพ่อตาในอนาคต ไปซะหมดเปลือก จนชาวเน็ตหลงรักไปตามๆ กัน Take Jaden หนุ่มวัย 18 ปี เข้ารับการถอนฟันคุดกับหมอฟันซึ่งเป็น ‘พ่อ’ ของแฟนสาวของเขาที่ชื่อว่า Nicole เมื่อราวๆ 5 เดือนก่อน หลังจากการถอนฟันเสร็จสิ้น ขณะที่หนุ่ม Jaden กำลังเมายาแก้ปวดอยู่ ก็พูดกับหมอฟันที่จะกลายเป็นว่าที่พ่อตาในอนาคตของเขาไปอย่างหมดเปลือกเลยว่ารู้สึกกับลูกสาวของเขาอย่างไร พร้อมกับถูกถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ซะด้วย ลองไปชมคลิปวิดีโอกันก่อน… Jaden : “ลูกสาวของคุณ…ผมรักเธอมากๆ เลย” คุณพ่อของ Nicole ก็ตอบกลับไปว่า “เยี่ยมมากเลย น่ารักดีนะนายเนี่ย” Jaden : “คุณไม่รู้หรอก เธอน่ะเป็นพรที่วิเศษที่สุดในชีวิตของผมเลย ผมรักเธอ”…
-
หนุ่มกลัดมันทนไม่ไหว พยายามข่มขืน ‘ท่อไอเสีย’ ถูกตำรวจจับปรับเงินแถมคุมประพฤติเป็นปี!!
เมื่อเรามีความต้องการทางเพศ หรือที่เรียกๆ ว่าความกำหนัดเกิดขึ้น เราอาจจะหาทางปลดปล่อยให้มันสบายเนื้อสบายตัวด้วยการให้แฟนช่วย หรือไม่ก็ต้องใช้วิธี ‘ซักมือ’ สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองเป็นทางที่ง่ายที่สุด และทางที่ดีอย่าไปเล่นพิเรนทร์เหมือนกับชายคนนี้จะดีกว่า ที่ดันไปเล่นซนกับ ‘ท่อไอเสีย’ เพราะนอกจากจะเกิดอันตรายกับไอ้จ้อนแล้ว อาจจะต้องไปนอนกินข้าวแดงในคุกเป็นปีๆ เลยก็เป็นได้… หน้าตาของนาย Ryan Scott Malek ผู้พยายามข่มขืนท่อ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมานาย Ryan Scott Malek วัย 24 ปี เดินทางไปรับฟังข้อกล่าวหาที่เขาก่อนั่นก็คือ ‘ก่อกระทำการอนาจาร’ ที่ศาลในนิวตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา จากข้อหาที่ทางศาลได้ชี้แจง นาย Ryan ก็ยอมรับสารภาพผิดแต่โดยดีและยอมรับโทษตามกฎหมาย… ความผิดของเขาเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งในคราวนั้นเขาถูกจับขณะที่กำลังพยายามมีเพศสัมพันธ์กับท่อไอเสียของรถที่จอดอยู่ในลานจอดแห่งหนึ่ง ทางตำรวจกล่าวว่าในเวลานั้น Ryan กำลังอยู่ในสภาพที่มึนเมาและจากการตรวจร่างกายก็พบว่าในร่างกายของเขามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 4 เท่าตัวเลย ในตอนแรกหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเขามา เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไป (ภาพตัด) จากฤทธิ์ของสุรา จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอธิบายสิ่งที่เขาก่อไปให้ฟังอีกครั้ง หลักฐานจากทางศาล…
-
ใส่กันมันซัดกันยับ ‘นักท่องเที่ยว-ชาวบ้าน’ ตะลุมบอนเพราะโกรธที่ทิ้ง ‘เมล็ดแตงโม’ ในแม่น้ำ!!
อย่างที่รู้ๆ กันว่าในช่วง Golden Week ของประเทศจีนคือวันชาติที่มีวันหยุดยาวถึง 1 สัปดาห์เต็มๆ เลยทำให้ผู้คนพากันหลั่งไหลไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ อย่างคับคั่งจนถึงขั้นบางสถานที่แทบแตกเลยก็ว่าได้ แต่ว่าบางครั้งเมื่อนักท่องเที่ยวไปเที่ยวแล้วก็ไม่ได้เก็บบรรยากาศกลับบ้านไปอย่างเดียว แต่ยังทิ้งขยะเอาไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ชาวบ้านในแถบยูนนานยอมไม่ได้เลยต้องมีการสั่งสอนซะหน่อย!! เมื่อวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา เกิดการตะลุมบอนกันขึ้นที่แถวๆ ทะเลสาบ Lugu Lake ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งในศึกครั้งนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายก็คือฝ่ายชาวบ้าน และฝ่ายนักท่องเที่ยว ทางแหล่งข่าวรายงานว่า เหตุผลที่ทำให้เกิดศึกใหญ่ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความที่ชาวบ้านไม่พอใจที่นักท่องเที่ยวทิ้งเปลือก ‘เมล็ดแตงโม’ ลงในแม่น้ำสายเก่าแก่ของหมู่บ้าน ลองดูการตะลุมบอนซะก่อน ซึ่งในตอนแรกทางชาวบ้านก็เข้าไปคุยด้วยดีๆ ทว่าไม่รู้ว่าด้วยความพูดไม่เข้าหูหรือว่าอันใดก็ไม่อาจทราบได้ เลยทำให้ในที่สุดเลยเถิดไปจนกลายเป็นเหตุฟาดปากกันขึ้นอย่างที่เห็นกันในวิดีโอคลิป ท้ายที่สุดเหตุการณ์ก็จบลงด้วยการแยกย้ายกันไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาถึง ซึ่งก็มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยกันทั้งสองฝ่ายอย่างบางคนมือเคล็ด บางคนฟกช้ำดำเขียวตามๆ กันไป และบางคนก็เข้าโรงพยาบาลเลย นี่อาจเป็นอีกหนึ่งผลเสียของการทิ้งขยะไม่เป็นที่ เพราะนอกจากจะทำลายสิ่งแวดล้อมให้หมดความสวยงามแล้ว บางทีอาจจะต้องมีเรื่องมีราวเหมือนอย่างในเหตุการณ์นี้ก็เป็นได้… ที่มา: nextshark, shanghaiist, scmp
-
หนุ่มดาวน์ซินโดรมกับฝันที่เป็นจริง…พยายามขอสมัครงานจนกลายเป็น ‘นักต่อนั่งร้าน’ ได้สำเร็จ
สำหรับบางคนแล้ว ‘ความใฝ่ฝัน’ ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่เสมอไป เพียงแค่เรื่องเล็กๆ ก็สามารถทำให้มีความสุขได้แล้ว… นี่คือเรื่องราวของหนุ่มผู้ป่วยเป็น ‘ดาวน์ซินโดรม’ และความใฝ่ฝันของเขาก็คือการได้เป็น ‘นักต่อนั่งร้าน’ เพียงเท่านั้น!! Todd Scanlon หนุ่มวัย 29 ปีที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม เขาพยายามติดต่อไปยังบริษัทนั่งร้าน Coles Scaffolding Contractors Ltd. ในเมือง Swindon ประเทศอังกฤษเพื่อขอเข้าทำงานที่นั่นนานกว่า 2 ปี “ถ้าหากมันไม่สำเร็จ ก็ต้องพยายามไปเรื่อยๆ” เป็นคติที่ Todd ท่องเอาไว้ในใจ และในที่สุดนาย Martyn Coles วัย 35 ปี เจ้าของบริษัท ก็ตัดสินใจที่จะรับเขาเข้าทำงาน Todd เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และเขามักจะภูมิใจที่ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่น ในขณะทำงานเขาก็จะทำด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา “ผมชอบช่วยเหลือ Colesy เจ้านายของผม ผมอยากจะเป็นนักต่อนั่งร้านเพราะผมชอบช่วยคนอื่น ผมช่วยยกเหล็ก และจับมันไว้ให้แน่นเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะแข็งแรงพอที่จะไม่ทำให้ใครตกลงมา” Todd กล่าว นาย Martyn เองก็กล่าวว่า “เราต้องการที่จะโชว์ให้เห็นว่าเขาสามารถทำได้ ทุกคนสามารถทำงานได้…
-
คุณแม่ปล่อยให้ลูก ‘ยืนฉี่’ กลางรถบัส ผู้ร่วมขบวนยื่นถุงพลาสติกให้บอกไม่จำเป็น!!
จริงอยู่ที่ว่าเรื่องของการขับถ่ายเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราที่จะต้องทำกันทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นการขับถ่ายก็ควรจะทำให้ถูกสถานที่เพื่อไม่ให้เป็นการเดือดร้อนคนอื่นๆ ที่ต้องมาทนกับภาพอุจาดตาและกลิ่นที่อาจติดจมูกไปอีกนาน แต่ที่ผ่านมาเราก็คงเคยได้ยินข่าวเรื่องการขับถ่ายแปลกๆ ในสถานที่ที่ไม่ควร อย่างฉี่ในลิฟท์หรือกลางรถสาธารณะต่างๆ และคราวนี้ก็อีกเช่นเดียวกัน… แม่ๆ หนูปวดฉี่ เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดขึ้นบนรถบัสในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อมีคุณแม่คนหนึ่งปล่อยให้ลูกชายของเธอยืนฉี่กลางรถบัส ทั้งๆ ที่ในขณะนั้นมีคนอยู่เต็มคันรถ!! คลิปวิดีโอของเหตุการณ์นี้ รายงานระบุว่าในเวลานั้นผู้โดยสารที่เห็นว่าเด็กจะฉี่ พยายามหยิบยื่นถุงพลาสติกมาให้แก่คุณแม่เพื่อใช้รองฉี่ของเด็กไว้ให้ไม่ให้มันเปรอะเปื้อนรถบัสที่เป็นรถสาธารณะคันนี้ แต่คุณแม่กลับปฏิเสธด้วยคำพูดที่ว่า ‘ฉันไม่ต้องการมัน’ ซะอย่างงั้น… สบายตัวเชียวนะเจ้าหนู เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตอย่างมากมาย ถึงความไม่เหมาะสมของพฤติกรรมดังกล่าว แต่ถึงอย่างไรบางคนก็เตือนชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศจีนไว้ด้วยว่า เวลานั่งรถสาธารณะอาจจะต้องเจอกับเรื่องแปลกๆ เช่นนี้ และควรจะตรวจสอบที่นั่งต่างๆ ก่อนว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมใดๆ คุณแม่ก็นะ ทำไปได้… ที่มา: shanghaiist
-
ชาวเน็ตโจมตี… ลูกเศรษฐี “ร่อนแบงก์” บอกเงินเป็นแค่เศษกระดาษ นั่งดูคนแห่กันเข้ามาเก็บ
หากพูดถึงการ “ร่อนแบงก์” เราอาจจะยังงงๆ กันอยู่ งั้นลองไปดูภาพด้านล่างนี้ แล้วจะร้องอ๋อขึ้นมาทันที การร่อนแบงก์ และการร่อนแบงก์ในลักษณะนั้นก็ไม่ได้มีให้เห็นแค่ในมิวสิควิดีโอหรือในหนังเสมอไป เมื่อ “เด็กบ้านรวย” ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ทำมันในชีวิตจริง ราวกับเห็นเงินเป็นใบปลิวยังไงยังงั้นเลย นี่คือคลิปที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียลต่างประเทศ กับคลิปของเด็กหนุ่มที่บอกว่าตัวเองเป็นลูกของมหาเศรษฐี เขาบอกกับทุกคนว่า “ผมอยู่ในกลุ่มของลูกๆ มหาเศรษฐี พวกเรามีเงินมากพอที่จะทำให้พวกคุณรู้สึกหมดกำลังใจในการใช้ชีวิตได้เลย” ในคลิปจะเห็นว่าเขาสวมหน้ากากสีดำดูระยิบระยับ นั่งอยู่ในรถและหันมาพูดว่า “ผมคิดว่าจริงๆ แล้วเงินก็เป็นเพียงสิ่งไร้ประโยชน์เท่านั้นแหละ” “เป็นแค่เศษกระดาษ โดยที่พวกคุณพยายามกันทั้งชีวิตเพื่อเพิ่มจำนวนเงินในบัญชีของตัวเอง” เขาพูดต่อไปว่า “ตอนนี้ผมถือเงินจำนวน 50,000 รูเบิลรัสเซีย (ราวๆ 24,000 บาท) เทียบได้กับรายได้ต่อเดือนของหลายๆ คนในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก” “คุณจะสามารถทำทุกวิถีทางเพื่อสิ่งนี้ได้หรือเปล่า? ผมล่ะสงสารพวกคุณจริงๆ” หลังจากนั้นเขาก็ร่อนแบงก์จำนวนมากในมือออกไปจากทางหน้าต่างรถ ท่ามกลางคนที่กำลังยืนมองด้วยความงุนงงอยู่ข้างถนน เมื่อมีคนเห็นว่าที่โปรยออกมานั้นมันคือเงิน คนจำนวนไม่น้อยก็รีบวิ่งเข้ามาเก็บเงินทั้งหมดนั้น ในขณะที่ลูกคนรวยก็นั่งอยู่ในรถพร้อมหันกลับไปมองราวกับเห็นเป็นเรื่องสนุก คลิปดังกล่าว คลิปดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้กับผู้คนในโลกโซเชียล……
-
แม่บอกลูกสาวว่า ‘ลูกเป็นมะเร็ง’ จับโกนหัว เพื่อที่จะเอาเรื่องนี้ใช้หาเงินจากการบริจาค!!
แน่นอนว่าเรื่อง ‘ความเจ็บป่วย’ หรือมีโรคร้ายแรงอาจเป็นสิ่งที่เราไม่อยากจะให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคุณแม่คนหนึ่งหลอกลูกสาวของตัวเองว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง เพื่อที่จะหาเงินจากช่องทางการบริจาคซะอย่างงั้น!! Jamie Kaye Parker คุณแม่จากรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกาคือคนที่ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ในเริ่มแรกแผนการนี้เริ่มมาจากความที่ลูกสาวของเธอมีอาการปวดท้องก่อน เมื่อเห็นว่านี่เป็นโอกาสอันดี Jamie จึงโกหกลูกสาวว่าที่เธอปวดท้องเป็นเพราะเธอป่วยเป็น ‘มะเร็งต่อมน้ำเหลือง’ โรครุนแรงที่สามารถคร่าชีวิตไปได้ในเวลาอันใกล้หรือในเวลาใดก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อตัวเด็กได้ยินดังนั้นก็ใจแทบสลายที่จะต้องลาโลกนี้ไป… นอกจากนี้เพื่อความแนบเนียน เธอยังพาลูกสาวไปหาหมอเพื่อแสร้งว่าเข้ารับฟังคำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคนี้พร้อมกับจับเธอโกนหัวด้วย ในเวลาต่อมา Jamie ได้ประกาศเรื่องอาการป่วยของลูกสาวเธอลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งก็มีเพื่อนๆ และคนรู้จักมากมายบริจาคเงินให้เธอตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเพื่อที่จะช่วยสำหรับรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งเงินทั้งหมดที่เธอได้ไปก็มีค่าราวๆ 3,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 114,000 บาท) เลยทีเดียว แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ผู้บริจาคหลายคนก็สังเกตเห็นว่ามีหลายสิ่งไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้ พวกเขาจึงไปร้องเรียนกับทางตำรวจเพื่อให้ช่วยตรวจว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร และในที่สุดก็ได้รู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก… “มันเป็นเรื่องที่แย่จริงๆ ที่ไปยัดเยียดเรื่องอาการป่วยโรคร้ายแรงให้กับลูกสาว เธออาจคิดว่าตัวเองอาจต้องตายในอนาคตอันใกล้ มันเป็นอะไรที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจจริงๆ นะ เรื่องนี้มันเป็นที่สุดของการทารุณเด็กจริงๆ” นายอำเภอกล่าว สำหรับตัวเด็กเองในที่สุดก็ได้รู้ความจริงว่าเธอไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด ซึ่งคนบอกก็คือผู้เป็นพ่อของเธอเอง ส่วนในด้านของ…
-
เกมเมอร์ญี่ปุ่น ขี้เกียจกดปุ่ม ‘สุ่มกาชา’ สร้างอุปกรณ์จิ้มจออัตโนมัติ หน้าตามันก็นะ…
วัฒนธรรมการเล่นเกมในยุคสมัยใหม่ มีการใช้ระบบ ‘สุ่ม’ เข้ามาแบบไม่ขาดสาย หากใครได้เล่นเกมประเภทผู้เล่นหลายคน มีระบบออนไลน์ ก็จะมีการขายไอเท็มด้วยเงินจริงผสมกับการสุ่มแบบฟรีๆ แต่ด้วยชื่อเสียงเรียงนามของเกมญี่ปุ่นที่มีมาช้านาน ระบบการสุ่มที่เรียกว่า ‘กาชา’ นี่แหละ คือต้นตำรับก็ว่าได้ ด้วยอัตราแจกที่น้อยยิ่งกว่าน้อย แต่ก็ยังมีคนยอมควักเงิน ยอมกดสุ่มกันแบบหมดหน้าตัก FGO เกมสไตล์ JRPG สงครามเกลือศักดิ์สิทธิ์ บางคนอาจจะอดทนเล่นสายฟรีได้ แต่หากใครต้องการใช้เงินแก้ปัญหานั่นก็อีกเรื่อง แต่ถ้ามีเงินเยอะเอามาเทสุ่มเยอะๆ มันก็เหนื่อยเหมือนกันที่จะต้องมานั่งกดสุ่ม อย่างเกมเมอร์ชาวญี่ปุ่นที่เล่น Fate/Grand Order (FGO) รายนี้ แกทุ่มทั้งตัว เทเงินให้หมด… เครื่องกดสุ่มอัตโนมัติ ผ่าม ผ่ามมมมม! แต่จะให้มานั่งกดเปิดสุ่มกาชาที่ละครั้ง นิ้วคงจะบวมเสียก่อน เมื่อรู้ว่าไม่มีระบบเปิดสุ่มรวดเดียว พี่แกก็เลยสร้างเครื่องจิ้มจออัตโนมัติขึ้นมาเอง ถือว่าใช้งานได้ดีเลยทีเดียว (ขอให้มองข้ามหน้าตาของมันไปนะ) ①ソーセージと百均のミルクフォーマーを買います。②スマホをラップで包みます。③組み立てます。④スイッチを入れます。自動ではありましたが絵面から何から全て酷かったです。使ったソーセージは加熱してから食べました。 pic.twitter.com/TGHIIeRzfJ — ひじき@試作中 (@hjk_iii) October 2, 2018 ผลงานชิ้นนี้ประกอบไปด้วย ไส้กรอก…
-
DC ทบทวนอีกครั้งหลังปล่อยภาพ ‘หรรมแบทแมน’ เพราะคนอ่านไม่สนใจเนื้อเรื่องเลย!?
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ค่าย DC’ นั้น จะเน้นไปทางแนวดาร์กๆ มืดๆ ซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาเลยล่ะ แต่ใครเล่าจะคิดว่ามันจะดาร์กจนชนิดที่ว่ามีฉากเปลือยเห็น ‘หรรม’ ของแบทแมนโผล่มาในคอมมิกแบบนี้กัน!? แน่นอนว่าชาวเน็ตต่างก็ตกตะลึงหลังจากที่ถูกเปิดเผยออกมา จนทำให้ DC กลับไปทบทวนว่าตัวเองทำถูกแล้วหรือไม่ เรื่องมีอยู่ว่ามีแฟนๆ ของค่าย DC ที่ได้ทำการซื้อหนังสือการ์ตูนชุดลิมิเตดอีดิชันชื่อชุดว่า Batman : Damned#1 ได้ทำการโพสต์ทวิตเตอร์ถึงฉากฉากหนึ่งจากหนังสือการ์ตูนที่เผยให้เห็น ‘หรรม’ ของ Bruce Wayne เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา โพสต์ดังกล่าว “ทำไมตรูต้องมานั่งดูหรรมของแบทแมนตอนตี 3 ด้วยล่ะเนี่ย?” “นี่คือใบหน้าของผมตอนที่เดินเข้าไปในร้านขายหนังสือการ์ตูนเพื่อซื้อ Batman : Damned” “วันนี้เป็นวันเกิดของตรู และทวิตเตอร์ก็บังคับให้ตรูมาดูหรรมของแบทแมนเนี่ยนะ!?” “โอ้ววว ขอบคุณพระเจ้า นึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เห็นหรรมของแบทแมนซะแล้ว” แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ปล่อยเวอร์ชันที่เผยให้เห็น ‘หรรม’ ของแบทแมนแบบเต็มๆ ไปก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จนทำให้ทาง DC-Comics กลับมาทบทวน…
-
ความฝันที่เป็นจริง…หนุ่มป่วย ‘พิการทางสมอง’ ได้เซ็นสัญญาเป็นนักกีฬาอาชีพกับ Nike!!
คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้… นี่คือเรื่องราวของ Justin Gallegos นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย University of Oregon ที่ได้รับการเซ็นสัญญาเป็น ‘นักกีฬาอาชีพ’ กับ Nike เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ Justin เกิดมาพร้อมกับโรค ‘สมองพิการ’ นั่นทำให้เขาไม่สามารถควบคุมอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้อย่างอิสระเหมือนกับคนปกติทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือการได้เป็น ‘นักกีฬาอาชีพ’ “ผมต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิ่งในโรงเรียนมาโดยตลอด และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกฝนร่างกายของตัวเอง เพื่อให้มันสามารถ ‘วิ่ง’ ได้” Justin พยายามอย่างหนักเป็นเวลาหลายปี จนได้เข้ามหาวิทยาลัย และเขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชมรมกรีฑาของมหาวิทยาลัย Oregon เข้าร่วมงานวิ่งมาราธอนที่จัดขึ้นตามที่ต่างๆ มากมาย ทางด้าน Nike เองก็ติดตามเรื่องราวของ Justin มาได้สักพักแล้ว เมื่อปีที่แล้วก็ส่งรองเท้าวิ่ง Nike Air Zoom Pegasus 35 FlyEase มาให้เป็นของกำนัลอีกด้วย!! ก่อนที่ในปีนี้จะทำการเซอร์ไพรส์เขาด้วยการ…
-
หนุ่ม 19 ควักไรเฟิลยิงลูกพี่ลูกน้อง หลังโดนแย่งกินขนม เหยื่อบอก “ก็ตรูไม่เคยกิน” นี่หว่า!!
“มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ” คงเป็นขนมขบเคี้ยวที่หลายๆ คนชอบกัน โดยมันจะมีให้เราได้เลือกกินในหลากหลายรสชาติ หลากหลายยี่ห้อแตกต่างกันไป แต่สำหรับชายวัย 19 ปีคนนี้ เขาคงจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบมันฝรั่งแผ่นรส “เกลือ & น้ำส้มสายชู” เอามากๆ มากพอที่จะทำให้เขายิงปืนใส่ลูกพี่ลูกน้องของตัวเองที่มาแย่งกินได้เลย!! มันฝรั่งแผ่นรส “เกลือ & น้ำส้มสายชู” Ryan Dean Langdale คือชายผู้อาศัยอยู่ในรัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าจากการโดนแย่งขนม เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 29 กันยายน 2018 เขาให้การกับตำรวจในตอนแรกว่าลูกพี่ลูกน้องวัย 17 ปีของเขานั้นเผลอยิงปืนไรเฟิลใส่ตัวเอง เพราะทำปืนตกพื้นขณะที่กำลังทำความสะอาดมันอยู่ โดยหลังจากที่โดนยิง เหยื่อไม่มีสติที่จะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ได้และถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาล Trident Medical Center จนกระทั่งหลังจากนั้น 1 สัปดาห์ เหยื่อฟื้นคืนสติและพูดถึงเหตุการณ์นั้นเหมือนหนังคนละม้วน Ryan ผู้ต้องหาที่โกหกในตอนแรก ลูกพี่ลูกน้องที่โดนยิงเล่าว่าเขาอยากจะลองกินมันฝรั่งแผ่นรสโปรดของ Ryan ดู เพราะตัวเขาเองไม่เคยกินมันมาก่อนเลย แต่ Ryan ก็บอกกับเขาว่า “อย่าแตะมันฝรั่งแผ่นของกูเด็ดขาด…
-
อินโดฯ จับพ่อค้าออนไลน์ เปิดร้านขาย “ทารกไม่พึงประสงค์” บนอินสตาแกรม!!
เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล การซื้อขายก็สามาารถทำได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส เนื่องจากปัจจุบันมีร้านค้ามากมายที่เปิดออนไลน์บนโลกอินเทอร์เน็ต จนเรียกได้ว่าครบครันแทบทุกอย่าง แต่ล่าสุดกลับเกิดในประเทศอินโดนีเซียกลับมีร้านค้าออนไลน์ที่เปิดขาย “ทารก” ไม่พึงประสงค์ให้กับผู้ที่ต้องการ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องราวที่ไร้มนุษยธรรมอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวชายวัย 29 ปีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพ่อค้าขายเด็กทารกออนไลน์บนอินสตาแกรม โดยมีจุดประสงค์ที่จะแก้ไขปัญหาให้กับคนที่ไม่มีลูก ชายคนนี้รู้จักกันในนาม AP ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย 4 รายที่ถูกจับกุมเนื่องจากการซื้อขายทารกที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา อีกรายเป็นหญิงสาววัย 22 ปีรู้จักกันในนาม LA ที่เป็นทั้งคนขาย (ลูกตัวเอง) เป็นคนซื้อ และยังเป็นนายหน้าการซื้อขายอีกด้วย หญิงคนนี้ถูกจับกุมขณะกำลังวางแผนจะขายทารกของตนเองในราคา 15 ล้านรูเปียห์ (หรือราว 30,000 บาท) โดยเธอได้แยกทางกับสามีและมีหนี้สินสะสมท่วมตัว จนต้องเข้ามาพึ่ง AP ในธุรกิจมืดนี้ ลูกค้าของเธอมีความสนใจที่จะซื้อทารกที่เธอขาย โดยตั้งใจจะจ่ายเงินจำนวน 5 ล้านรูเปียห์ (ราว 10,000 บาท) เพิ่มให้กับนายหน้า และเงินอีก 2.5 ล้านรูเปียห์ (5,400 บาท) ให้กับ AP อินสตาแกรมของร้านใช้ชื่อว่า สถาบันส่งเสริมสวัสดิการครอบครัว มียอดติดตาม…
-
หนุ่มถูกจับ หลังสวมวิญญาณตัวตลก “Joker” ก่ออาชญากรรมทั่วเมืองมาหลายเดือน!
ภาพยนตร์ การ์ตูน หรือวรรณกรรมหลายเรื่องก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้เสพได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงาน การใช้ชีวิต การตามหาความฝัน หรือแม้แต่ “การก่ออาชญากรรม” ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ชมที่จะสามารถแยกแยะเรื่องของความถูกต้องได้หรือไม่ อย่างเช่น เหตุการณ์ล่าสุด นับว่าเป็นตัวอย่างที่ผิดในการนำแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมมาใช้ในชีวิตจริง Damien Hammond ชายหนุ่มวัย 29 ปี ได้แต่งกายเป็นตัวตลกตามตัวละคร Joker อาชญากรตัวร้ายจากเรื่อง Batman แล้วออกก่อความไม่สงบในเมืองที่ห่างจากเมือง Gotham ของจริง ในเขต Nottinghamshire ประเทศอังกฤษ เพียงไม่กี่ไมล์ ชายผู้นี้ได้ทำการข่มขวัญเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานในร้านต่างๆ ติดต่อกันยาวนานถึง 3 เดือน เขาออกอาละวาดโดยแต่งหน้าและแต่งกายเป็นตัวตลก Joker ตามแบบฉบับของการ์ตูนและภาพยนตร์ Batman จนสุดท้ายเขาถูกจับกุมตัวได้ และนี่ก็คือภาพถ่ายใบหน้าที่แท้จริงของเขา รายงานจากสำนักข่าว The Sun พบว่า Hammond ได้ก่อคดีเอาไว้มากมาย อาทิเช่น ก่อความเสียหาย ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และครอบครองกัญชา เป็นต้น โดยล่าสุดเขาถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 22…
-
ชายถูกไล่ออก เพราะวางแผนการทำงานดีเกิน แต่ภายหลังบริษัทต้องเสียใจ ตามง้อกลับไปทำงาน
ในชีวิตการทำงานนั้น หากเรารู้จักขยันสร้างผลงานและรู้จักเพิ่มความสามารถ พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เราก็คงจะคาดหวังที่มีการเจริญก้าวในหน้าที่การงานเป็นอย่างแน่นอน แต่สำหรับชายคนที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้แล้ว เขากลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อการวางแผนการทำงานอย่างดีของเขากลับส่งผลทำให้เขาถูกบริษัทมองว่าไม่จำเป็นและไล่เขาออกในที่สุด (ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหา) ในวันที่ 10 ตุลาคม 2018 ได้มีผู้ใช้เว็บ Imgur นามว่า TotallyNotA30YearOldWhiteDude ได้ตัดสินใจแชร์เรื่องราวประการทำงานของเขาว่า “ประมาณปีก่อน ผมตัดสินใจรับงานเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาเว็บไซต์ในบริษัทเอเจนซี่เล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขามีอัตราการลาออกสูงมาก มีแต่สภาพแวดล้อมแย่ๆ และใช้งานพนักงานเยี่ยงทาส ผมถูกรับเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้น เหล่าผู้บริหารตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้ผมเข้ามาช่วยแก้ปัญหาของเขา” ทีมพัฒนาของเขารับผิดชอบรายได้ของบริษัทนี้ถึง 90% และต้องทำงานมากกว่า 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จนในที่สุดร่างกายของเขาก็ทนไม่ไหวและป่วยจนต้องเข้าห้องฉุกเฉินในต้นปีที่ผ่านมา ผ่านไปหกเดือน เขาบอกให้ผู้บริษัทรู้ว่าเขาจะลาพักร้อนไปหนึ่งสัปดาห์ในเดือนสิงหาคมและไม่อยากจะติดต่อใคร เขาได้เริ่มวางแผนการทำงานกับทีมงานอย่างดี ทั้งแผนเสริมและแผนสำรอง เพื่อที่ช่วงที่เขาไม่อยู่จะไม่เกิดปัญหาขึ้น การลาพักร้อนเป็นไปด้วยดี แน่นอนว่านี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการ ที่ผ่านมาเขาต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ นานา และสัปดาห์นี้ก็ช่วยให้เขาชาร์จพลังจนเต็มอีกครั้ง ผ่านสัปดาห์อันสุดยอดไปแล้ว เขาก็กลับมาทำงานตามเดิม แต่… การกลับมาครั้งนี้บริษัทไม่ได้รู้สึกว่าต้องการเขาอีกต่อไป เพราะขนาดเขาไม่อยู่บริษัทยังเดินต่อไปได้อย่างสบายๆ ดังนั้นจึงจัดการไล่เขาออก อย่างไรก็ตามจากการไล่ออกครั้งนั้น ฝ่ายภรรยาของเขาแฮปปี้มากๆ เนื่องจากสามีของเธอจะไม่ต้องทำงานบริษัทแย่ๆ…
-
เมื่อเพจ Vogue Paris โพสต์ภาพสนีกเกอร์ส้นสูง มีสายรัดคล้าย ‘ธงชาติไทย’ ดราม่าสิครับ!!
กำลังกลายเป็นกระแสดราม่าที่กำลังคุกรุ่นอยู่ ณ ขณะ นี้เลยก็ว่าได้ เมื่อบริษัทแฟชั่นชั้นนำระดับโลกอย่าง Vogue ได้ทำการโพสต์ภาพ ‘รองเท้าสนีกเกอร์แบบใหม่’ ที่ดูล้ำเอาซะมากๆ ผ่านทางเพจ Vogue Paris โพสต์ดังกล่าว “รองเท้าสนีกเกอร์ที่ขโมยซีนในงานแฟชั่นวีค เป็นการออกแบบโดยการผสมผสานหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน ทั้งความงาม รูปแบบ และการใช้งาน” เพราะมันคือการดีไซน์เอา ‘รองเท้าสนีกเกอร์’ มาผสมผสานกับ ‘รองเท้าส้นสูง’ ได้อย่างลงตัว แต่ประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นก็คือ ‘สายรัด’ มันดันมีลายคล้ายกับ ‘ธงชาติไทย’ ไปซะได้!? ทีนี้ชาวเน็ตไทยก็เลยเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันในภาพรัวๆ ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และไม่ควรทำเป็นอย่างมาก . . . . บางส่วนก็เดาไว้เลยว่าเดี๋ยวสักพักจะต้องมีดราม่าอย่างแน่นอน “กำลังรอดราม่าจากชาวเน็ตไทยอยู่ ฮ่าๆๆ” บางส่วนก็มาดักซะเนียนเชียว!! แซะไปอีกกก!! ตอนนั้นหนักกว่านี้อีก!! บ้างก็เตือนว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลนะจ๊ะ แหม่ กลิ่นดราม่ามันตุๆ ขึ้นมาแล้วล่ะสิ…
-
พี่ชายทำเซอร์ไพรส์อบอุ่นใจ พาคุณพ่อผู้ล่วงลับ กลับมาอยู่ในงานแต่งน้องสาวอีกครั้ง
ในโลกใบนี้ แต่ละครอบครัวย่อมมีวิธีการเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเลี้ยงแบบขอไปที บางคนก็อาจจะเลี้ยงแบบตามใจ แต่บางคนก็อาจจะเลี้ยงโดยใกล้ชิดสนิทสนมกับลูกๆ เหมือนกับ Kaley West จากเมือง Salt Lake City รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เธอเติบโตมาโดยที่ใกล้ชิดกับ David Jean West คุณพ่อเป็นอย่างมาก ในปีนี้เอง Kaley ได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นของชีวิต เธอได้จัดงานแต่งงานร่วมกับ Andy Young ซึ่งแน่นอนในวันสำคัญของลูกสาวแบบนี้ ลูกสาวต้องอยากให้คนเป็นพ่อมาแสดงความยินดี แต่… พ่อของเธอไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ถึงแม้พ่อจะจากเธอไปแล้วก็ตาม แต่เพื่อให้น้องสาวมีความสุขที่สุดในชีวิต Kevin, Dustin, Danny, Derek, และ Kasey West พี่ชายทั้งห้าของ Kaley จึงได้วางแผนที่จะพาพ่อมาอยู่กับเธอในวันพิเศษ พวกเขาได้รวบรวมเสียงของคุณพ่อที่ถูกบันทึกในวิดีโอต่างๆ ที่ครอบครัวถ่ายเอาไว้ จากนั้นจึงคัดเลือกเสียงสุดพิเศษของคุณพ่อมาตัดต่อรวมกับเพลง Fathers and Daughter (พ่อและลูกสาว) ของ Michael Bolton และเมื่อถึงในวันงานจริงของ Kaley เหล่าพี่ชายทั้งห้าก็ได้เซอร์ไพรส์เธอ…
-
เน็ตไอดอลตุรกี กลายเป็นกระแสหลังปล่อยภาพรอยสักใหม่สุดสยิว แต่…ประโยคผิด!!
ศิลปะบนร่างกายหรือที่เราเรียกกันว่า “รอยสัก” นี้ ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่มนุษย์เราสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความเชื่อ แฟชั่นและความสวยงามของแต่ละคน เช่นเดียวกัน Naz Mila เน็ตไอดอลสาวชาวตุรกีวัย 26 ปี เธอก็เพิ่งไปเพิ่มรอยสักในจุดสุดสยิว เธอก็ได้โพสต์ภาพรอยสักที่ใหม่ลงบนอินสตาแกรม ซึ่งก็กลายเป็นกระแสไปอย่างรวดเร็ว เพียงทว่า… รอยสักของเธอมันผิด!! Naz Mila ถือว่าเป็นเน็ตไอดอลที่โด่งดังจากการเข้าร่วมรายการ With Zuhal Topal รายการเรียลริตี้โชว์หาคู่ชื่อดังของประเทศตุรกี ซึ่งปัจจุบันมีคนติดตามทางอินสตาแกรมเกือบ 1 ล้านคน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมาเธอได้โพสต์ภาพรอยสักใหม่ของเธอ โดยเธอสักเป็นข้อความว่า “I can judge a single god with my wrongs and wrongs (ฉันสามารถตัดสินพระเจ้าด้วยความผิดและความผิดของฉัน)” ทันทีที่โพสต์ภาพดังกล่าวลงบนโซเชียลมีเดีย รอยสักของเธอก็ได้กลายเป็นประเด็นฮือฮาทันที เพราะว่าชาวเน็ตและแฟนๆ เชื่อว่าประโยคที่เธอสักมานั้นผิด!! โดยจริงๆ แล้วเธอต้องการสักเป็นสำนวนยอดฮิตของตุรกีว่า Only God can…
-
Sophie Turner เผยเวลาว่างชอบ “เมาตุ่ย” พร้อมกับเพื่อนรักจาก Game of Thrones!!
มหากาพย์อันแสนยาวนานของสงครามชิงบัลลังก์อย่าง Game of Thrones นั้นก็ได้เดินทางมาเกือบถึงซีซันสุดท้ายแล้ว เหล่านักแสดงนำที่ทำงานร่วมกันมายาวนานต่างก็สนิทสนมกันราวกับพี่น้อง เช่นนักแสดงนำอย่าง Sophie Turner (Sansa Stark) และ Maisie Williams (Arya Stark) ที่เรียกได้ว่ากลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันอย่างกับคู่หูเลยทีเดียว ล่าสุดทั้งคู่เผยว่าขณะที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนั้นก็มักจะทำสิ่งที่เพื่อนสนิทชอบทำกันก็คือ นอนหลับด้วยกัน ดูวิดีโอบนเว็บไซต์ รวมถึง เสพกัญชา ด้วย!!! Sophie ให้สัมภาษณ์กับ Vulture ว่า… “ในหนังพวกเราจะดูเหมือนเป็นคนรักสันโดษ แต่เอาจริงฉันกัน Maisie นอนหลับด้วยกันทุกวันเลยโดยเฉพาะในช่วงถ่ายทำซีซันหลังๆ บางช่วงที่เราต้องพักอยู่ในเมืองทุกๆ คืนเราก็จะนั่งเล่น หาอะไรกิน ดูวิดีโอ และสูบกัญชา” เธอยังเล่าต่อด้วยว่า… “ไม่รู้ว่าฝ่ายข่าวของฉันจะฆ่าฉันหรือเปล่าที่พูดแบบนี้ พวกเรามัก ล่องลอย (เมากัญชา) ด้วยกัน ขณะนั่งแช่ในอ่างอาบน้ำ พร้อมกับขัดถูเครื่องสำอางบนใบหน้าให้กันและกัน ฉันว่ามันสนุกดี” Maisie Williams (ซ้าย) และ Sophie Turner (ขวา) . ทั้งคู่ไม่ได้ดูไร้เดียงสาเช่นตอนอายุ 13…
-
เศรษฐีมาเลฯ “ทำร้ายร่างกาย” พนักงานลานจอดรถ ยืนยันจะไม่ยอมจ่ายค่าจอด 24 บาท…
นักธุรกิจชาวมาเลเซียคนหนึ่งกำลังถูกสอบสวนหลังพบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่เขาได้ทำร้ายพนักงานลานจอดรถทั้งทางวาจาและร่างกาย โดยมีเหตุมาจากเงินจำนวน 3 ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 24 บาท) ตามรายงาน ทราบว่าเหตุเกิดในลานจอดรถของโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2018 ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า นักธุรกิจชายสูงวัยเดินเข้ามายังห้องทำงานของพนักงานดูแลลานจอดรถ และกระทำความรุนแรง ขว้างปาวิทยุสื่อสารใส่พนักงานคนดังกล่าว จากนั้นนักธุรกิจก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน พร้อมทำท่าทางจะทำร้ายร่างกาย จากนั้นเขาก็ผลักเก้าอี้ก่อนที่จะชกพนักงานคนดังกล่าวหลายครั้ง ชมคลิปวิดีโอ วิดีโอถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก Balamuraly Doraisamy เมื่อวันอังคารที่ 9 ตุลาคม 2018 ซึ่งอัปโหลดพร้อมกับภาพรถของนักธุรกิจดังกล่าว “พนักงานจำเป็นต้องดำเนินการกับชายคนนี้เพราะชายคนนี้คิดว่าตัวเองนั้นเป็นท่านขุนที่เหนือกว่าคนอื่นๆ ที่จะทำอะไรกับใครก็ได้ ผมคิดว่าเรื่องนี้ถูกรายงานกับตำรวจเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ อย่างไรก็ตามช่วยแชร์คลิปนี้ต่อๆ กันจนกว่าชายคนนี้จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย” ภายหลังทราบมาว่านักธุรกิจวัยกลางคนผู้นี้ เกิดอารมณ์เสียหลังพนักงานลานจอดรถวัย 31 ปี ไม่ยอมเปิด “ไม้กั้น” ทางออกให้กับเขา เนื่องจากเขาไม่ยอมจ่ายค่าจอดรถเป็นจำนวนเงิน 3 ริงกิตมาเลเซีย (24 บาทไทย) ทำให้นักธุรกิจคนดังกล่าวลงจากรถมาระบายอารมณ์กับพนักงานอย่างเต็มที่ ทั้งด่าทอและทำร้ายร่างกาย จนพนักงานลานจอดรถเกิดรอยฟกช้ำหลายจุดบนร่างกาย .…
-
นี่มันเย้ยกันเห็นๆ !! เจ้าพ่อยาเสพติดสเปน หาได้แคร์ ปรากฏตัวเย้ยตำรวจใน MV เพลงเฉย
ปกติแล้ว คนที่ทำผิดกฎหมาย อย่างการลักเล็กขโมยน้อยหรือค้าขายยาเสพติด มักจะหลบซ่อนตัวเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกจับกุม แต่ไม่ใช่กับ Francisco “Isco” Tejon เจ้าพ่อยาเสพติดแห่งประเทศสเปนคนนี้ เพราะเขาไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อตำรวจเลย แถมยังเย้ยโดยการปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโออีกด้วย Isco หรือ Francisco Tejon เป็นเจ้าพ่อยาเสพติด ผู้เป็นหัวหน้าของแก๊ง Los Castanitas ร่วมกับ Antonio Tejon ผู้เป็นน้องชาย เขาและน้องชายได้ร่วมมือกับแก๊งอื่นๆ ใน Cadiz จังหวัดทางตอนใต้ของสเปน ลักลอบขนยาเสพติด ซึ่งมีรายงานว่าเขาสามารถทำรายได้ได้ถึง 1,100 ล้านบาท และแก๊ง Los Castanitas ก็ได้กลายเป็นแก๊งที่ทรงอิทธิพลในเขต El Campo de Gibraltar ไปโดยปริยาย ซึ่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางตำรวจสามารถจับกุม Antonio น้องชายของเขาเอาไว้ได้ ขณะที่กำลังเดินทางไปหาภรรยา ทำให้หลายคนคงคิดว่า Francisco จะต้องรู้สึกหวาดกลัวแล้วหายหน้าหายตาไปสักพักแน่นอน แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะว่าเมื่อสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านมานี้ได้มีมิวสิควิดีโอตัวหนึ่งถูกอัปโหลดลง YouTube และได้รับความสนใจอย่างมากมาย เพราะว่าเจ้าพ่อยาเสพติดอย่าง Francisco ปรากฏตัวอยู่ภายในนั้น โดยเพลงๆ นั้นเป็นของ…
-
ชาวเน็ตรวมตัวกันไม่ได้นัดหมาย ดูกล้องไลฟ์สตรีม ‘สี่แยก’ ธรรมดาๆ พากันบรรยายเหตุการณ์…
โลกอินเทอร์เน็ตมักจะมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงอยู่เสมอเลย เดาใจไม่ออกเลยว่าเหตุการณ์ธรรมดาๆ อย่างการที่มีผู้คนมารวมตัวกันดูสี่แยกกล้องวงจรปิด จะสร้างความตลกโปกฮาได้… หลังจากที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดมาตั้งแต่ปี 2014 โดยเริ่มต้นจากชายคนหนึ่งในเมือง Jackson Hole รัฐไวโอมิง สหรัฐอเมริกา เอาไปติดตั้งตามมุมต่างๆ ในเมือง โดยหวังจะใช้เป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวและธุรกิจการค้าของเมือง มาดูถ่ายทอดสดสี่แยกเป็นพันคน เข้ามาดูอะไรกัน!? แม้แต่คนที่เข้ามาดูก็ยังไม่รู้เลยว่าจะมาดูอะไร ฮร่าาาา เมื่อติดตั้งกล้องไว้เรียบร้อย ก็ดำเนินการไลฟ์สตรีมสดให้ชาวเน็ตได้ดูกันไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ แบบนั้น โดยที่ไม่มีพิธีกรดำเนินรายการหรือเหตุการณ์อะไรเป็นพิเศษ แบบว่าให้ดูเฉยๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด แบบไม่ทราบที่มาที่ไปหรือสาเหตุที่แน่ชัด เมื่อชาวเน็ตมารวมตัวกันดูไลฟ์สตรีมสี่แยกหลักของเมือง Jackson Hole ในปี 2016 ยอดคนดูพร้อมกันสูงเป็นพันคน และคอมเมนต์ก็เต็มไปด้วยข้อความบรรยายตามสิ่งที่เห็นผ่านกล้อง… ช่องแชตก็เริ่มเกิดปรากฏการณ์อุปทานหมู่ เฮ้ย ดูนั่นดิ รถบัส หูววววววว รถบัสสสสสส! อู้ววววว รถบรรทุกคันเบ้อเริ่มเทิ่ม แล้วก็ตามด้วยชื่อตู้ NICHOLAS นิโคลัสสสสสสส หูววววว กระบะคันนี้สวยจัง กระบะย้อนยุค กระบะเก่าาาา เชฟโรเลตสีน้ำเงินนนนน…
-
Samsung เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ Galaxy A9 เครื่องแรกที่มีกล้องถึง 4 ตัว!?
อย่างที่รู้กันดีว่าในวงการ ‘สมาร์ตโฟน’ นั้นจะมีแข่งขันกันอย่างดุเดือด เมื่อเดือนที่ผ่านมา Apple ก็เพิ่งเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่อย่าง Xs ไป ล่าสุดทางด้านคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Samsung ก็เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Galaxy A9 ด้วยเช่นกัน!! และสิ่งที่พวกเขาทำออกมาได้เหนือกว่า iPhone อย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือเรื่อง ‘จำนวนของกล้อง’ นี่แหละ ที่ใส่มาถึง 4 ตัวด้วยกัน!! (ใส่มาเยอะเกิ๊นนนนน!!) ซึ่งของ iPhone XS มี 2 ตัว กับแฟลชอีก 1 ซึ่งแต่ละตัวจะทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป ประกอบไปด้วยกล้อง 8 เมกาพิกเซล เลนส์ Ultra Wide กล้อง 10 เมกาพิกเซล เลนส์ Telephoto กล้อง 24 เมกาพิกเซล เป็นกล้องหลัก และกล้อง 5…
-
ชีวิตรัก Maria Ozawa กับหนุ่มเชฟ-นักแสดง Jose Sarasola มองข้ามอดีต และอยู่กับปัจจุบัน
เรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับสาว Maria Ozawa หรือในนาม “มิยาบิ” ที่หนุ่มชาวไทยมักจะเรียกกัน โดยหลังจากที่เธออำลาวงการหนังผู้ใหญ่ไปแล้ว ก็ไม่ค่อยมีข่าวคราวเกี่ยวกับเธอโผล่มามากเท่าไหร่นัก Maria Ozawa https://www.instagram.com/p/BjGuZPvH2ed/?taken-by=maria.ozawa ด้วยความเป็นสาวปาร์ตี้ เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตัวเอง ด้วยการมาเป็นนักธุรกิจสาวผู้มากความสามารถ เปิดกิจการไนท์คลับที่ญี่ปุ่น 2 แห่ง ก่อนจะบินข้ามเกาะย้ายมาใช้ชีวิตในฟิลิปปินส์มาเปิดธ6รกิจเล้าจ์หรู La Maison Jose Sarasola https://www.instagram.com/p/BjY8aUMhh5k/?hl=th&taken-by=chefjosesarasola ในช่วงปี 2016 ที่ผ่านมา สาวมิยาบิก็ได้พบกับหนุ่มหล่อรูปงาม Jose Sarasola จากการที่เพื่อนชวนไปงานปาร์ตี้ และได้พบกับเขาในค่ำคืนนั้น โดยที่เพื่อนสาวของเธอนี่แหละเป็นแม่สื่อพามาเจอกันโดยบังเอิญ แม้ว่าคืนแรกที่เจอกันจะไม่ค่อยได้คุยมากนัก แต่หลังจากแลกเบอร์และอินสตาแกรม Jose ก็เป็นฝ่ายที่เริ่มต้นสานความสัมพันธ์ https://www.instagram.com/p/Bi_hP63BX6b/?hl=th&taken-by=chefjosesarasola โปรไฟล์ของ Jose ก็ไม่ธรรมดา เขาเป็นเชฟหนุ่มมากฝีมือ เป็นเจ้าของสปอร์ตบาร์ Avenue 75 และเป็นนักแสดงที่สาวๆ หลายคนปลื้ม… แต่ทั้งนี้ เขากลับเลือกที่จะคบกับสาว Maria…
-
หนุ่มแทงเพื่อนบ้านข้างห้องตาย 3 ศพ เหตุเพราะ “สุนัขเห่า” จนน่ารำคาญเกินไป!!
เพื่อนๆ บางคนอาจต้องเคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องของเสียง ยิ่งหากใครที่อยู่หอพักหรือว่าคอนโดด้วยแล้ว ปัญหานี้จะยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่รำคาญใจเราเอามากๆ เลย เช่นเดียวกันกับชายคนหนึ่งที่รู้สึกรำคาญเสียง “สุนัข” ของเพื่อนบ้านข้างห้องของเขามากเหลือเกิน จนกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเอามีดไล่แทงคนเหล่านั้นจนเสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเขตที่อยู่อาศัย Lanting Garden เมืองเฉิงตู ประเทศจีน ชายแซ่ Wang อาศัยอยู่ในแฟลตที่ติดกับห้องของครอบครัวสาวแซ่ Chen โดย Wang นั้นรู้สึกรำคาญเสียงสุนัขซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวนั้นเอามากๆ เพราะเขาบอกว่ามันเห่าไม่หยุดจนทำให้เขานอนหลับไม่ได้เลย สถานที่เกิดเหตุในเขตที่พักอาศัย ชายวัย 46 ปีจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกับครอบครัวข้างห้องอยู่เสมอ ถกเถียงกันมาก็หลายครั้ง แต่ก็ยังหาข้อตกลงร่วมกันไม่ได้สักที ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้นำเรื่องนี้ไปแจ้งเทศบาลหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด จนกระทั่งทั้ง 2 ฝ่ายได้ออกมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 10 ตุลาคม 2018 ซึ่งการถกเถียงดังกล่าวได้กลายเป็นการทะเลาะกัน ชายแซ่ Wang จึงเดินกลับเข้าไปหยิบมีดออกมาจากห้องของตัวเอง จากนั้นก็บุกเข้าไปในห้องของครอบครัวสาวแซ่ Chen แทงทุกคนที่อยู่ข้างในนั้น ทั้งตัวหญิงสาว สามีของเธอ ลูกสาว และแม่ของสาวแซ่ Chen เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ…
-
โจรหนุ่มถามอย่างสุภาพว่า “ขอปล้นร้านได้มั้ย?” พอไม่ได้ เลยไปมอบตัวกับตำรวจซะงั้น?!
ที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินเรื่องของ “ความเป็นระเบียบ” ในประเทศญี่ป่น รวมถึงความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ต้องบอกเลยว่าที่ได้ยินมานั้นมันยังอาจน้อยไป เมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2018 ในร้านสะดวกซื้อ Lawson สาขาหนึ่งของเมืองโอโกริ จังหวัดฟุกุโอกะ ในช่วงเวลาประมาณ 13.40น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ในตอนนั้น จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้าไปภายในร้าน บอกกับผู้จัดการร้านด้วยความสุภาพว่า “ผมมาที่นี่โดยมีความตั้งใจที่จะข่มขู่และปล้นร้านของคุณ ผมขอให้คุณช่วยให้ความร่วมมือด้วยได้มั้ยครับ?” อ้าว… งงกันเลยสิฮะอย่างนี้ เพราะแกเล่นมาขอปล้นกันง่ายๆ อย่างนี้เลยเนี่ยนะ?! แล้วเพื่อนๆ คิดว่าผู้จัดการร้านเขาจะตอบไปว่ายังไง?? แน่นอนว่า “ไม่!!” อยู่แล้วสิ หลังจากที่ผู้จัดการร้านตอบกลับไปอย่างสุภาพว่า “ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้” ชายคนนั้นจึงเดินออกจากร้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่ามกลางความงุนงงของหลายๆ คน แต่เรื่องมันยังไม่จบเพียงแค่นั้น หลังเหตุการณ์นี้ผ่านไปราวๆ 5 นาที ชายที่เชื่อว่าเป็นคนเดียวกันเป๊ะๆ เลยนั้นก็ได้เดินเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสถานีเมืองโอโกริ สารภาพว่าเขามีความพยายามที่จะปล้นร้านสะดวกซื้อ จากการรายงานกล่าวว่าชายคนนั้นได้ถูกจับกุมในข้อหา “พยายามปล้น” โดยเมื่อตรวจสอบแล้วถึงได้พบว่าในกระเป๋าของเขามีมีดอยู่เล่มหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าเขาคงมีความตั้งใจที่จะปล้นร้านค้าจริงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าการจับกุมในครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นไปตามความต้องการของเขา เพราะชายคนนั้นเหมือนตั้งใจอยากจะให้ตัวเองโดนจับอยู่แล้ว…
-
เมื่อ Macaulay Culkin ไปร่วมงาน American Music Awards โดนชาวเน็ตแซวหน้าเด็กมว๊าก!!
เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยผ่านการดูหนังเรื่อง Home Alone มาแล้ว โดยเฉพาะในช่วงยุค 90 เพราะช่วงนั้นนี่ฮิตแบบสุดๆ เปิดไปช่องไหนก็เอาหนังเรื่องนี้มาฉายกันเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็นฟรีทีวี หรือช่องเคเบิลก็ตาม จะเรียกว่าเป็นหนังในตำนานก็ว่าได้ หนังเรื่อง Home Alone นั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สร้างรายได้กว่า 31,500 ล้านบาท จากทุนสร้างแค่ 1,300 ล้านบาท เท่านั้นเอง ซึ่ง Macaulay Culkin เองก็ได้รับผลพลอยได้นี้ไปด้วย เขากลายเป็นเจ้าหนูเนื้อหอมที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ติดอันดับ 2 ของ Top 100 นักแสดงเด็กยอดนิยมที่จัดโดยช่อง VH1 และช่อง E ในช่วงนั้นเลยทีเดียว หลายๆ คนต่างก็คิดว่าอนาคตในวงการบันเทิงของเขาจะรุ่งโรจน์อย่างแน่นอน แต่ชีวิตของพี่ Macaulay ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เพราะต้องประสบกับปัญหาชีวิตที่รุมเร้าเลยต้องหันไปพึ่ง ‘ยาเสพติด’ จนทำให้มีสภาพร่างกายของเขาดูซูบผอมลองไปมาก ภาพตอนที่ดูโทรมลงไป . แต่ภายหลังพี่แกก็เริ่มหันมาดูแลตัวเอง และกลับมามีผลงานในวงการบันเทิงบ้างแล้ว นอกจากนี้ก็ทำวงดนตรีเป็นของตัวเองร่วมกับแฟนสาวชื่อว่าวง The…
-
คู่รักจัดทริปส่งท้าย 61 วัน ก่อนจะเลิกกัน จากปัญหาความห่างไกล จนได้เรียนรู้กันและกัน…
เรื่องของความรัก การคบหาดูใจเป็นแฟนกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าระยะทางอันห่างไกล อาจจะทำให้ห่างเหินจนเกิดเป็นปัญหาตามมา แน่นอนว่าเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว การอยู่คนเดียวอาจจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า Pu Pu และ Jue Jue เกิดในปี 1994 ด้วยกันทั้งคู่ และพบรักกันครั้งแรกในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาเรียนจบ ฝ่ายชายก็เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อไปเป็นครู ส่วนฝ่ายหญิงก็เลือกที่จะอยู่ในเมืองใหญ่เพื่อตามฝันเป็นนักวาดการ์ตูน ด้วยระยะห่างและหน้าที่การงาน จึงเป็นการยากที่จะเติมความหวานให้แก่กันและกัน จนมาถึงจุดหนึ่งที่ทั้งสองตกลง “เลิกกัน” แต่ก่อนจะเลิกอย่างเป็นทางการ ได้นึกถึงสัญญาที่จะไปเที่ยวด้วยกันตอนยังเรียนอยู่… จากเหตุนี้เอง จึงกลายมาเป็นทริปเที่ยวทั่วประเทศจีนก่อนจะแยกทาง รวมทั้งสิ้น 61 วัน โดยในแต่ละวันทั้งสองก็ถ่ายวิดีโอคลิปร่วมกัน และวาดออกมาเป็นการ์ตูน เพื่อบันทึกเรื่องราวระหว่างทริปให้ชาวเน็ตร่วมชม ในระหว่างทริปก่อนเลิก พวกเขาเดินทางไปเที่ยวหลากหลายเมือง ดูมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และคอยนับถอยหลังถึงวันเลิกกันอัปเดตให้ทุกคนได้ติดตาม พอถึงวันสุดท้ายของทริปในวันที่ 27 สิงหาคม Pu Pu จึงร้องเพลงส่งท้ายให้กับ Jue Jue กลางถนน ทำให้ฝ่ายหญิงซึ้งจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ …
-
ชายนอนจมคากองเลือด พบถูกสุนัข ‘บูลด็อก’ กัดอวัยวะเพศกระจุย ตอนนี้อยู่ในอาการโคม่า…
แม้ว่าสัตว์เลี้ยงสุดแสนจะน่ารักอย่าง ‘สุนัข’ จะเป็นมิตรแท้สำหรับใครหลายๆ คน แต่ว่าบางครั้งสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ที่อยู่ในตัวมันก็อาจทำให้เกิดเหตุการณ์สยองขึ้นมาได้ดั่งที่เราเห็นข่าวคนถูกหมากัดกันอยู่ๆ บ่อย และคราวนี้ก็อีกเช่นเดียวกัน เมื่อมีชายคนหนึ่งต้องเข้าขั้นโคม่าหลังจากที่เขาถูกสุนัขกัดที่บริเวณอวัยวะเพศจนทำให้ ‘ไอ้จ้อน’ และถุงอัณฑะไม่น่าใช้งานได้อีกต่อไป… สุนัขสายพันธุ์บูลด็อก เหตุการณ์สุดสยองนี้เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันอาทิตย์ (7 ต.ค.) ที่ผ่านมา ณ แฟลตแห่งหนึ่งในเขตโลเธียนตะวันออก ประเทศสกอตแลนด์ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเหตุดังกล่าว ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายก็คือหนุ่มที่ไม่ระบุชื่อวัย 22 ปี โดยในทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงก็พบว่าเขานอนไม่ได้สติกลางกองเลือด จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล Edinburgh Royal Infirmary เป็นการด่วน ในตอนนี้อาการของชายคนนี้ยังอยู่ในขั้นวิกฤตและทางคณะแพทย์ก็เชื่อกันว่า เขาน่าจะเสียระบบการสืบพันธุ์ไปแล้วทั้งหมด ทว่าทั้งนี้ก็ไม่ได้ระบุว่าหมาพันธุ์บูลด็อกตัวที่กัดนี่เขาเป็นเจ้าของเองหรือไม่ “ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนเรื่องดังกล่าวอยู่ ซึ่งทั้งนี้เชื่อว่าเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดมาจากการถูกหมากัด ตอนนี้เขากำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังกล่าวว่า สุนัขตัวนั้นได้ถูกขังกรงเอาไว้ขณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนเรื่องทั้งหมด แต่ถึงยังไงนี่ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งอุทรหรณ์ทำให้เห็นว่าถึงยังไงสัตว์ก็ยังคงมีสัญชาตญาณของมันอยู่ และถ้ามันเอาจริงขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย ที่มา: ladbible, dailymail
-
ชม 18 ภาพการคอสเพลย์จากงาน New York Comic Con 2018 แจ่มๆ ทั้งนั้น!!
กลับมาอีกครั้งกับงาน New York Comic Con ประจำปี 2018 สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพการคอสเพลย์ของเหล่า ‘คอสเพลย์เยอร์’ ที่มาร่วมงาน ขอบอกเลยว่าปีนี้ก็เด็ดดวงไม่แพ้ปีก่อนๆ เลยทีเดียว งาน NY Comic Con ในปีนี้ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4-7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่ Jacob K. Javits Convention Center Comic Con ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากแรกๆ ที่มีคนเข้าร่วมงานหลักหมื่น จนล่าสุด 2-3 ปีให้หลังมานี้ จำนวนผู้เข้าร่วมงานก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกือบ 200,000 คนเข้าไปแล้ว!! ลองไปชมภาพการคอสเพลย์สวยๆ ในปีนี้กันดูครับ 1. Harry Potter 2. Venom 3. Beetlejuice 4. Foxy Brown…
-
เด็กหนุ่มกระโดดจากที่สูงพร้อม “เครื่องร่อนประดิษฐ์” หวังพบมิติใหม่แห่งการบิน…
การละเล่นของเด็กมันแฝงไปด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ แต่บางครั้งจินตนาการของเด็กๆ ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้หากขาด “ความรู้” เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ อย่างเช่นคลิปหนึ่งบนโลกออนไลน์ที่เผยให้เห็นตัวอย่างของเด็กๆ ซึ่งเล่นท้าทายกับความสูง พวกเขาประดิษฐ์ของเล่นที่คล้ายเครื่องร่อนหรือปีกเครื่องบินขึ้นมาโดยขาดความรู้ทางฟิสิกส์และความปลอดภัย และก็ได้นำเจ้าของเล่นชิ้นดังกล่าวไปใช้จริงโดยการถือไว้ วิ่ง และกระโดดลงมา จากที่สูง หวังให้เครื่องร่อนประดิษฐ์ของพวกเขาต้านลมและช่วยให้ผู้เล่นค่อยๆ ร่อนลงพื้นได้ เด็กหนุ่มคนหนึ่งถือเครื่องร่อนประดิษฐ์ไว้ เตรียมทดลองใช้จริง ยกขึ้นเหนือหัวเตรียมตัว Take off… จะบินแล้วน้าาาา สู่ความเวิ้งว้างกันไกลโพ้นนน!! สุดท้ายไม่เป็นอย่างที่คิด เด็กหนุ่มวูบลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว แต่โชคดีที่เจ้าเครื่องร่อนยังพอช่วยต้านลมไว้ได้บ้าง ทำให้หล่นสู่พื้นช้าลงและไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เชิญชมได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่าง… น้องๆ หนูๆ ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่หากต้องการเล่นในที่ที่อันตรายควรได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่เสียก่อนนะจ๊ะ ที่มา: facebook: Master Youtube
-
คู่รักถ่ายครอบครัวที่เหมือนธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา โอ้โห!! หักมุมสุดอะไรสุด
การที่จะเก็บภาพความทรงจำว่าสิ่งเหล่านั้นได้เกิดขึ้นจริงๆ คงไม่มีวิธีไหนที่จะดีไปกว่า “การถ่ายรูป” อีกแล้ว เช่นเดียวกับคู่รักคู่ที่เรากำลังจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ทั้งคู่กำลังใกล้จะได้เป็นพ่อคนแม่คนเต็มที่แล้ว พวกเขาจึงอยากที่จะบันทึกภาพความทรงจำในช่วงที่เด็กกำลังจะเกิดออกมาดูโลก โดยในตอนแรกภาพที่ออกมาก็เหมือนกับภาพคู่รักกับลูกน้อยในท้องแบบธรรมดา แต่เมื่อดูต่อไปกับพบว่ามันหักมุมสุดๆ จะเป็นอย่างไร เราไม่ขอสปอย เพื่อนๆ ต้องไปรับชมกันเองครับ ภาพคู่รักที่ดูเหมือนจะธรรมดา . ขอคุณพ่อจุ๊บลูกในท้องหน่อย ยืนถ่ายเหนื่อยละ ขอนั่งพักหน่อยสิ เอ๊ะ!! อะไรนะ… เธอปวดท้องจะคลอดงั้นเหรอ!? โอ๊ย!! คุณ… ฉันจะไม่ไหวแล้ว ปวดเหลือเกิน อดทนไว้นะคุณ หายใจเข้าลึกๆ ฮึบๆ เอ๊ะเดี๋ยว… ว่าแต่ลูกมันออกมาทางนี้เหรอ? โอ้ว!! ไม่นะ!! ม่ายยยยย *เอเลี่ยนพุ่งออกมา เลือดกระฉูด* ไม่นะที่รัก ลูกของเราเป็นเอเลี่ยนงั้นหรือ!!? ฉากนี้ว่าพีคแล้วใช่มั้ย แต่… ต่อไปนี้จะพีคยิ่งกว่าครับ . …
-
หญิงถูกขอหย่า หลังโป๊ะแตก ถูกสามีไปเจอรูปกำลังสวีทกับกิ๊กอยู่ใน Google Maps!!
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมนุษย์ มีส่วนสำคัญอย่างมากในการผ่อนภาระและเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโซเชียลมีเดียหรือการขายของออนไลน์ แต่ใช่ว่ามันจะมีประโยชน์เพียงแค่ด้านเดียว แต่มันจะสามารถกลายมาเป็นโทษให้แก่ “คนหลายใจ” ได้อีกด้วย เมื่อหญิงคนหนึ่งถูกแฟนขอหย่า เพราะดันไปเจอรูปของเธอกับชู้จู๋จี๋กันใน Google Maps!! ก่อนที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา ฝ่ายชายกำลังวางแผนการเดินทางไปเที่ยวอยู่ จึงได้ใช้ Google Maps เพื่อเข้าไปศึกษาดูเส้นทางในสถานที่จริงของกรุงลิมา ประเทศเปรู และเขาก็ต้องตะลึง เมื่อเส้นทางที่เขากำลังดูอยู่นั้นมีภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คล้ายภรรยาของตนกำลังให้นั่งให้ชายคนหนึ่งหนุนตักอย่างหวานฉ่ำ หลังจากทำการดูหลายๆ มุมก็พบว่านั่นคือภรรยาของเขาที่กำลังจู๋จี๋กับชู้อย่างแน่นอน เมื่อพบความจริงดังนั้น เขาโมโหมากและตัดสินใจที่จะไปคุยกับภรรยาพร้อมกับหลักที่เขาพบ ฝ่ายภรรยาเมื่อพบว่าสามีรู้ความลับของเธอ เธอก็ได้บอกว่านั่นเป็นเรื่องจริง แต่มันเป็นเรื่องตั้งแต่ปี 2013 แล้วนะ ถึงมันจะเป็นอดีตก็ตาม แต่ดูเหมือนฝ่ายสามีจะไม่ยอมรับกับความไม่ซื่อสัตย์ในอดีตของเธอ เขาตัดสินใจที่จะขอหย่ากับฝ่ายภรรยาทันที หลังจากนั้นฝ่ายสามีก็ได้อัปโหลดรูปภาพพร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เขาประสบมาลงในเฟซบุ๊กของตน ซึ่งก็มีชาวเน็ตให้ความสนใจเข้ามาคอมเมนต์กันอย่างมากมาย ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ San Pateste ได้กล่าวว่า “โลกกลมอะไรเช่นนี้… นั่นมันก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่าเธอไม่ได้รักสามีของเธออีกต่อไป” หรือจะเป็น Guillermo Sanchez ที่ให้ความเห็นว่า “ผู้หญิง 90 เปอร์เซ็นต์ไม่ซื่อสัตย์กันทั้งนั้น ส่วนคนซื่อสัตย์ที่เหลือก็มักจะมีเพียงตาข้างเดียว (ฮา) หรือเป็นอมตะอ่ะนะ (ฮา)”…
-
เจ้าของร้านอาหารใจบุญ เห็นคนจรจัดมาคุ้ยถังขยะ เลยชวนเข้ามาทานอาหารในร้านซะเลย
สังคมของเราในปัจจุบันนี้ เต็มไปด้วยความแข่งขัน ต่างคนต่างเอาตัวเองเป็นใหญ่ ทำให้หลายๆ คนคิดว่าสังคมนั้นน่าอยู่น้อยลง เพื่อที่จะให้สังคมนี้กลับมาน่าอยู่อีกครั้งหนึ่ง ความใจดีมีน้ำใจ คงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เป็นเด็ดขาด วันนี้เราก็มีเรื่องราวของความใจดี มีน้ำใจที่ ที่เพื่อนมนุษย์มอบให้แก่กัน เมื่อเจ้าของร้านขายอาหารได้ดูกล้องวงจรปิดของร้านและพบว่ามีคนจรจัดมาคุ้ยขยะเพื่อหาอาหารประทังชีวิตของพวกเขา เจ้าของร้านอาหารคนนั้นรู้สึกสงสารจับใจจึงได้ติดป้ายพร้อมข้อความบอกให้เขาสามารถมารับอาหารไปฟรีๆ ได้รวมถึงยังจะช่วยส่งพวกเขาไปยังที่ๆ ดีกว่าเดิมให้ได้อีกด้วย เขาคนนั้นคือ Shad Saleem เป็นเจ้าของร้านอาหารว่าชื่อ Gino’s Fish ทันทีที่เขาได้ดูกล้องวงจรปิดและเห็นภาพของเหล่าคนจรจัดที่ต้องมาคุ้ยขยะเพื่อความอยู่รอดของตัวเองแล้ว เขาเริ่มกังวลถึงเรื่องสวัสดิการสังคมที่ทำให้คนอย่างจรจัดพวกนี้ต้องตกระกำลำบาก เขาต้องการที่จะช่วยคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่รู้วิธีว่าจะติดต่อพวกเขาได้อย่างไร Shad จึงได้ทำการติดกระดาษเอาไว้ที่ประตูหน้าร้านซึ่งมีข้อความว่า “ถึงคนๆ นั้น หากคุณเป็นคนที่คุ้ยถังขยะของร้านเรา เข้ามาในร้านเรามั้ย เราจะให้น้ำดื่มกับขนมคุณฟรีๆ คุณสมควรได้รับมากกว่าอาหารจากถังขยะ แล้วก็เราอาจจะช่วยส่งคุณไปที่ดีๆ ในเมืองได้นะ นั่นอาจจะช่วยคุณได้ Shad และทีมงาน” จากการสอบถาม Dang ผู้โพสต์ภาพดังกล่าวและเพื่อนสนิทของ Shad เขาได้บอกว่า Shad นั้นเป็นคนแบบนี้แหละ เขาคอยทำเรื่องช่วยเหลือผู้คนแบบนี้มาตลอด หลังจากที๋โพสต์ภาพลงโซเชียลมีเดีย ชาวเน็ตหลายๆ คนเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมการกระทำของ Shad กันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ศรัทธาในมนุษยชาติได้ถูกฟื้นคืนแล้ว” หรือจะเป็น “มันแสดงให้เห็นถึงว่าในโลกใบนี้ยังคงมีคนที่น่ารัก…
-
ดุจริง.. ‘Christian Bale’ ยอมเพิ่มน้ำหนัก 20 กิโลฯ เพื่อรับบทในภาพยนตร์เรื่องใหม่!!
หากใครที่ติดตามวงการฮอลลีวูด ก็คงจะรู้ดีว่า นักแสดงมากความสามารถนาม ‘Christian Bale’ เขายอมเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างสุดเหวี่ยง เพื่อให้รับบทบาทได้อย่างสมจริง และในภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่ต้องรับบทเป็นรองประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา เขาก็สร้างเรื่องเซอร์ไพรส์ขึ้นอีกแล้ว ด้วยการยอมปล่อยตัวเองให้อ้วนลงพุงจนน้ำหนักพุ่งขึ้นกว่าเดิมถึง 20 กิโลกรัมเพื่อการนี้โดยเฉพาะ!! ในภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Vice นี้ป๋า Christian จะรับบทเป็น Dick Cheney รองประธานาธิบดีสมัยรัฐบาลของ George W Bush ซึ่งนอกจากจะต้องปล่อยตัวให้อ้วนจ้ำม่ำแล้ว เขายังต้องลงทุนโกนหัวและเปลี่ยนสีคิ้วเพื่อบทบาทนี้ด้วย Vice มีแผนจะถูกปล่อยออกมาให้เราได้ชมกันในช่วงวันคริสต์มาส ซึ่งก็จะมีดาราคับคั่งมาร่วมแจมกันให้ได้เห็น อาทิเช่น Sam Rockwell, Amy Adams และ Steve Carrell อย่างที่รู้ๆ กันว่า Christian เป็นนักแสดงที่ขึ้นชื่อในเรื่องการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักได้ราวกับตามใจสั่ง… ดั่งที่เราเคยเห็นเขามาแล้วในอดีตอย่างบทคนป่วยผอมซูบในเรื่อง The Machinist ปี 2004 ซึ่งในเรื่องดังกล่าวเขาก็บอกว่ามันมีผลกับทั้งร่างกายและจิตใจของเขามากๆ เลย แต่เขาก็บอกว่ามันเป็นประสบการณ์สุดวิเศษ “มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ที่ได้ทำอย่างนั้น ลองคิดภาพตามดูสิคุณผอมซะจนไม่มีแรงแม้แต่จะขึ้นบันได มันเป็นไอเดียที่บริสุทธิ์ดีจริงๆ ที่ทำให้คุณเห็นว่าจะเป็นอย่างไรถ้าคุณละเลยร่างกายของคุณ” …
-
เด็กจีนซุกซน “สไลด์” ราวบันไดเลื่อนเล่นในห้างฯ ผู้ใหญ่ไม่ห้าม…ซ้ำยังยืนเชียร์!!
การสนับสนุนเด็กๆ ในพฤติกรรมที่ดีจะทำให้เด็กมีโอกาสกระทำพฤติกรรมนั้นๆ ต่อไป แต่หากชื่นชมหรือสนับสนุนการกระทำที่ไม่เหมาะไม่ควร เด็กๆ ก็อาจเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องแล้ว อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน คลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์พบว่า เด็ก 3 คนสไลด์ลงมากับราวบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ขณะที่ผู้ใหญ่โดยรอบก็ชื่นชมและส่งเสียงเชียร์ ชมคลิปวิดีโอ ในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงการละเล่นแสนอันตรายของเด็กชายทั้ง 3 คนที่ไถลตัวลงมากับราวบันไดเลื่อนความยาว 20 เมตรในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งตะวันตกเฉียงใต้ของนครฉงชิ่ง ขณะเดียวกันก็มีผู้ใหญ่จำนวนมากที่อยู่บริเวณรอบๆ ซึ่งได้เห็นภาพความอันตรายของเด็กๆ เหล่านี้ แต่กลับไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะห้ามปราม ซ้ำยังหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอพร้อมชื่นชม ในคลิปจะเห็นได้ผู้ใหญ่ท่ถ่ายวิดีโออยู่ด้านล่างได้เปล่งวาจาชื่นชม โดยหญิงคนหนึ่งพูดออกมาว่า “ว้าว เก่งจังเลย!” . หลังจากคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ออกมา ชาวเน็ตต่างก็ว่ากล่าวพฤติกรรมของเด็กทั้งสามคน ที่ไม่สนใจป้ายเตือนซึ่งบอกเอาไว้ว่าบันได้เลื่อนกำลังซ่อมแซม ห้ามใช้ ตัวอย่างคอมเมนต์จากชาวเน็ตในเว็บไซต์ Weibo เช่น… “พวกพ่อแม่นี่ชอบให้ท้ายเด็กจริงๆ ไม่เข้าใจเลยพวกเขาคิดอะไรกันอยู่” “พ่อแม่ก็คงเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็กๆ ก่อนนั่นแหละ” “นี่ถ้าสมมติเกิดอุบัติเหตุขึ้น พวกเขาก็คงจะโทษให้เป็นความผิดของห้างฯ ใช่ไหม?” สิ่งที่ผู้ใหญ่ควรทำก็คือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ ว่าพฤติกรรมใดคือสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมตามกาลเทศะ ที่มา: nextshark และ 头条…
-
Lady Gaga เผยซีนอารมณ์ฉากสุดท้าย A Star is Born มาจากความสูญเสียระหว่างถ่ายทำ
* คำเตือนเนื้อหาต่อไปนี้จะมีการสปอยล์ภาพยนตร์ ควรรับชมภาพยนตร์ให้จบก่อน เพื่อไม่ให้เสียอรรถรส * การเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครที่รับบทมา จะส่งถึงให้คนดูสัมผัสได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของนักแสดงแต่ละคน ซึ่งจะมีวิธีการที่แตกต่างกันไป อย่างกรณีล่าสุดของ Lady Gaga รับบทเป็น Ally ในภาพยนตร์ A Star is Born เล่นคู่กับ Bradley Cooper รับบทเป็น Jack โดยที่มีซีนอารมณ์เศร้าอย่างลึกซึ้งเกิดขึ้นในนั้น และอารมณ์ที่เข้าถึงความเศร้าก็มาจากความสูญเสียระหว่างถ่ายทำ… เธอเปิดเผยเบื้องหลังความเศร้าในฉากนั้นผ่าน Apple Music ** โดยในฉากซีนอารมณ์สุดท้ายที่ Ally ได้ขับร้องเพลง I’ll Never Love Again ให้กับการจากไปของ Jackson นั้นเป็นฉากที่เศร้าและเข้าถึงได้อย่างทรงพลังมากๆ Gaga เปิดเผยถึงเบื้องหลังของฉากนั้นว่า เป็นสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกใจสลายจริงๆ เพราะในวันที่ถ่ายทำฉากนั้นเธอได้สูญเสีย Sonja Durham ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและผู้จัดการทีมครีเอทีฟส่วนตัวไป… https://www.instagram.com/p/BUYBWc4AfJH/…
-
เจ้าหนูสองขวบ “ฉีก” ซองกระดาษจนเละ เพิ่งรู้ว่าเป็นเงินสะสมกว่า 3 หมื่นบาทของพ่อแม่…
การเลี้ยงดูเด็กๆ บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถึงแม้ว่าการได้อยู่กับเด็กๆ แล้วโลกจะดูสดใส แต่บางทีก็มีเรื่องน่าปวดหัวเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน อย่างเช่นพ่อแม่คู่หนึ่งจากยูทาห์ที่ได้ไปพบเจอกับวีรกรรมของหนูน้อยวัย 2 ขวบอันน่าปวดหัวเข้าให้ พวกเขาพบว่าเจ้าตัวแสบได้ตัด “ธนบัตรเงินสด” ออกเป็นชิ้นเล็กๆ รวมเป็นมูลค่าถึง 1,060 ดอลลาร์สหรัฐฯ (เกือบ 35,000 บาท) เรื่องราวเริ่มจาก Ben Belnap ผู้เป็นพ่อได้สะสมเงินเก็บเอาไว้เพื่อตอบแทนให้กับพ่อแม่ของตนหลังจากที่เขาเคยได้รับของขวัญอันล้ำค่ามาจากพวกท่าน ซึ่งก็คือตั๋วเข้าชมอเมริกันฟุตบอลนั่นเอง เขาและ Jackee ภรรยาของเขาได้ช่วยกันเก็บสะสมเงินสดไว้ในซองจดหมาย รวมๆ แล้วมีมูลค่าถึง 1,060 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 35,000 บาท) ซึ่งเพียงพอในการตอบแทนพ่อแม่ของ Ben แต่ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะนำเงินสดไปมอบให้กับพ่อแม่ของ Ben พวกเขากลับหาซองที่บรรจุเงินสะสมไว้ไม่เจอ Jackee ผู็เป็นภรรยาจึงลองคุ้ยหาในกองเศษกระดาษดู จึงพบว่าเงินสดได้กลายเป็นเศษเสี้ยวเล็กๆ ไปเรียบร้อยแล้ว ละเอียดเชียว เมื่อ Jackee บอกเรื่องนี้กับ Ben ทั้งคู่กลับหัวเราะร่าออกมา เพราะรู้ว่าฝึมือของคนที่ทำแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Leo ลูกน้อยจอมแสบของเขานั่นเอง ฝ่ายแม่กล่าวว่า “ปกติแล้ว Leo…
-
Jackson GOT7 เผยเคล็ดเรียนภาษาเกาหลี ที่พูดจาได้คล่อง ต้องอาศัยออกเดต 3 ปี…
การจะเป็นหนึ่งในดาวเด่นของวงการ K-Pop ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วถ้าหากไม่ใช่คนเกาหลีแต่กำเนิด จะต้องผ่านด่านอุปสรรคพิสูจน์ตัวเองมากมาย อย่างเช่นขั้นแรกที่สุดก็คือในเรื่องของภาษาเกาหลี… ชาวไทยผู้บุกเบิกเส้นทาง K-Pop ก็มีมาแล้วอย่างเช่น นิชคุณ หรเวชกุล (Nichkhun 2PM), กันต์พิมุกต์ ภูวกุล (ฺBambam GOT7), ลลิษา มโนบาล (Lisa BLACKPINK) และคนอื่นๆ โดยเรื่องที่กำลังจะกล่าวถึงก็เป็นเรื่องของฝั่งหนุ่ม Jackson GOT7 (Jackson Wang) ได้เปิดเผยเบื้องหลังชีวิตตนเองจากการได้ไปร่วมออกรายการ ‘Give Me a Meal’ ตอนพิเศษของสถานีโทรทัศน์ JTBC หากใครได้ติดตามพ่อหนุ่ม Jackson ก็จะรู้ว่าเขาชาวฮ่องกง ไม่ใช่คนเกาหลีแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงที่เข้ามาใหม่ๆ จะต้องปรับตัวทางด้านภาษาอย่างมาก แม้จะเรียนรู้อ่านหนังสือตำราก็ไม่ได้ช่วยให้รวดเร็วได้เท่าการออกเดต! Jackson กล่าวในรายการว่า “ผมเรียนภาษาเกาหลีในตำราประมาณ 1 ปี และส่วนที่เหลือผมก็เรียนรู้จากการออกเดต ผมพูดจริงๆ…
-
แยกออกมั้ย!? ยูทูปเบอร์เทียบการถ่ายวิดีโอ ระหว่าง iPhone XS และกล้อง Canon C200
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพกล้องถ่ายภาพในโทรศัพท์ คู่ที่มักจะถูกหยิบยกมาเปรียบเทียบเป็นประจำก็คงหนีไม่พ้น iPhone กับกล้องใหญ่ เนื่องจากเปิดตัวใหม่ทุกปี และมักจะนำเสนอในเรื่องคุณภาพกล้องที่ยกระดับทุกปี… ด้วยเหตุนี้อาจจะทำให้ทุกคนเริ่มสงสัยว่า มันเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน คุณภาพจะสมกับราคาขายที่เปิดตัวมารึเปล่า? ทางด้านแชลแนล Photos In Color จึงได้หยิบมาเปรียบเทียบด้านการถ่ายวิดีโอให้เห็นกันชัดๆ Ed Gregory หนุ่มเจ้าของแชลแนลจึงได้ทำการเปรียบเทียบระหว่าง iPhone XS กับกล้อง Canon C200 ใส่เลนส์ Sigma 18-35mm f/1.8 Art ถ่ายวิดีโอควบคู่กันแบบช็อตต่อช็อต และนำมาเทียบให้เห็นกันในวิดีโอคลิป โดยยังไม่เปิดเผยว่าฟุตเทจที่ยกมาเป็นกล้องของอะไร ระหว่างกล้อง 1 กับกล้อง 2 เขาเปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ฟุตเทจกลับมาเปิดดูแล้ว ฟุตเทจจากกล้อง C200 ต้องทำการปรับสียกใหญ่ ต่างจากกล้องของ iPhone XS ที่ได้ภาพสีสดมาพอสมควรแล้ว ถ่ายวิดีโอพร้อมกันผ่าน 2 กล้อง และในเรื่องของคุณภาพวิดีโอที่ได้ หากนำคลิปวิดีโอมาดูผ่านจอเล็กๆ…
-
ผู้โดยสารถึงกับบ้วนไม่ทัน ดื่มน้ำต้อนรับบนรถโดยสาร ไม่ใช่น้ำชาแต่เป็น ‘ปัสสาวะคนขับ’
เรื่องพีคๆ แบบไม่เป็นเรื่องคงต้องยกให้ประเทศจีนกันเลยทีเดียว เมื่อผู้โดยสารเรียกใช้บริการ Didi แพลทฟอร์มแชร์รถยนต์สาธารณะคล้ายกับ Grab/Uber กลับต้องเจอสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อน หนุ่มเซี่ยงไฮ้แซ่ Sun รายนี้ เรียกรถมาด้วยอาการกระหายน้ำจัด ซึ่งรถที่เขาเรียกมานั้นเป็นแบบพรีเมี่ยม และคนขับจะต้องเตรียมน้ำดื่มไว้ต้อนรับบนรถด้วย ในค่ำคืนนั้นเอง เมื่อรถยนต์ที่เรียกมาถึงปุ๊บ ลูกค้ากระโดดขึ้นรถปั๊บ พร้อมกับคว้าขวดน้ำดื่มที่วางตั้งอยู่กลางคอนโซลรถ โดยที่ไม่ถามคนขับสักคำว่า น้ำในขวดนั้นคือน้ำอะไร ไม่เอะใจเปิดขวดดื่มทันที เมื่อกระเดือกลงคอได้เพียงอึกเดียว รสสัมผัสของน้ำในขวดไม่ใช่น้ำเปล่าทั่วไป กลับกลายเป็นน้ำผสมปัสสาวะของคนขับซะงั้น… พอรู้เรื่องก็เดือดดาลใส่คนขับ ซึ่งทางด้านคนขับเองได้พยายามขอร้องไม่ให้เขาแจ้งบริษัท เนื่องจากจะทำให้ตกงานได้ พร้อมกับยื่นข้อเสนอส่วนลดราคาเป็นกรณีพิเศษแทน อย่างได้ก็ตาม ทางบริษัท Didi ได้รับทราบถึงความผิดพลาดในครั้งนี้ ออกแถลงการณ์ขอโทษในเหตุไม่คาดคิดของน้ำดื่มในขวดนั้น… กล่าวว่าเป็นเหตุฉุกเฉินของทางคนขับที่ไม่สามารถหาห้องน้ำได้ และตัดสินใจรักษาเวลาด้วยการปัสสาวะลงขวดน้ำดื่มที่ติดไว้ในรถ แต่ดันวางขวดนั้นไว้บนที่วางแก้วข้างเบาะ โดยท้ายที่สุดแล้ว คนขับก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งงานไปตามระเบียบ ที่มา: weibo, miaopai, shanghai.ist
-
หนุ่มไปเล่นบ้านผีสิง เจอทีมงานยื่นมีดให้เพื่อนสาว ‘เอ้า แทงสิ’ ปรากฏว่าเป็นมีดจริง…
ตามสวนสนุกหรือตามงานเทศกาลต่างๆ ที่จะมีการจัดบ้านผีสิงหรือบ้านสยองขวัญทำนองนี้ ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าผีสางที่อยู่ในนั้นคือนักแสดง อุปกรณ์พร็อพต่างๆ ก็เป็นของปลอม เพื่อความปลอดภัยของทุกคน… แต่เหตุการณ์กลับผิดเพี้ยนในบ้านผีสิง Nashville Nightmare ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา มีรายงานว่านาย James Yochim วัย 29 ปี ถูกแทงจนได้รับบาดเจ็บจากการเข้าเล่นบ้านผีสิง… นาย James และเพื่อนได้เข้าไปเล่นในบ้านผีสิงดังกล่าว ท่ามกลางความสนุกสนานปนหวาดกลัว ก็ได้พบกับบุคคลที่คาดว่าเป็นหนึ่งในทีมงาน ใส่หมวกฟาง รูปร่างผอม พร้อมกับแต่งหน้าเป็นกะโหลก ชายคนดังกล่าวได้เข้าประชิดกลุ่มพวกเขา และถามเพื่อนหญิงของ James ในกลุ่มว่า ‘รู้สึกรำคาญเพื่อนในกลุ่มสักคนมั้ย?’ เธอตอบว่าใช่ จากนั้นเขาก็ยื่นมีดให้เธอพร้อมกับพูดว่า ‘ถ้างั้น ก็แทงเขาเลยสิ’ เพื่อนสาววัย 29 ปี เมื่อได้รับมีดมาแล้ว ก็ทำการแทงเข้าไปที่แขนซ้ายของนาย James โดยที่คิดว่าเป็นมีดของปลอม ปรากฏว่าพอดึงมีดออกจากแขน กลับมีเลือดติดบนใบมีด เกิดเป็นรอยแผลบนแขนและเลือดไหลออกมา… ทั้งนี้ พวกเขาจึงรีบพาตัวนาย James ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นการด่วน และเปิดเผยออกมาภายหลังว่า…
-
ผดส. ทั้งลำสุดเซงต้องลงจากเครื่องบิน เพราะมีหญิงคนหนึ่งรั้นจะเอากระรอกขึ้นไปด้วย!!
หลายๆ คนคงเคยมีสัตว์เลี้ยงแสนรักตัวโปรดกันกันมาบ้าง ซึ่งเราก็จะรักและอยากดูแลมันมากๆ จนแทบไม่อยากจะจากมันไปไหน อยากที่จะเอามันไปทุกที่ เหมือนอย่างคุณผู้หญิงคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เธอก็เป็นหนึ่งในคนที่มีสัตว์เลี้ยงแสนรัก แต่การจะพาสัตว์เลี้ยงของเธอไปด้วยในครั้งนี้ กลับสร้างความวุ่นวายให้กับผู้โดยสารเครื่องบินทุกคนเป็นอย่างมาก ในวันที่ 9 ตุลาคม 2018 ที่เพิ่งผ่านมานี้ เล่นเอาสายการบิน Frontier Airline วุ่นวายกันไปหมด เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้บอกว่าเธอจะพา “กระรอก” สัตว์เลี้ยงสุดรัก ของเธอบินไปกับตัวเองด้วย ซึ่งเธอได้ยืนยันว่าในตอนที่จองตั๋วได้บอกกับสายการบินเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเธอจะนำสัตว์ไปด้วย เพียงแต่… เธอไม่ได้บอกว่ามันเป็นกระรอก ตามนโยบายของสายการบิน จริงอยู่ที่สามารถนำสัตว์ขึ้นบินในเที่ยวบินในประเทศได้เป็นกรณีพิเศษ แต่ว่าเจ้าสัตว์ตัวนั้นต้องเป็นหมา แมว กระต่าย หนูตะเภา แฮมสเตอร์หรือนกตัวเล็กๆ เท่านั้น และแม้ว่าสายการบินจะบอกนโยบายและร้องขอให้ลงจากเครื่องบินไปแล้วก็ตาม คุณผู้หญิงคนนั้นก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมลงจากเครื่องบินเลยสักนิด สุดท้ายจึงต้องมีการตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเพื่อเคลียร์เรื่องดังกล่าว นั่นหมายถึงเที่ยวบินดังกล่าวต้องถูกเลื่อนและมีการเชิญผู้โดยสาร “ทั้งหมด” ลงมาจากเครื่องเป็นการชั่วคราว สร้างความไม่พอใจให้กับผู้โดยสารท่านอื่นๆ เป็นอย่างมาก “อยากให้รู้ว่าผู้โดยสารทุกคนต้องถูกเชิญลงมาจากไฟลต์ไป Cleveland เพราะมีผู้หญิงเอากระรอกขึ้นเครื่องมาด้วย” https://twitter.com/julia_papesch/status/1049820629845889024?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1049820629845889024&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.unilad.co.uk%2Fanimals%2Fentire-plane-evacuated-because-of-this-womans-emotional-support-squirrel%2F ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องนี้ยังมีอีกมุม เนื่องจากระรอกของคุณผู้หญิงคนนั้นเป็น Emotional…
-
สลด นักข่าวสาวบัลแกเรีย ถูกฆ่าข่มขืน พบเป็นศพไม่นานหลังจัดรายการเปิดโปงการเมือง
การทุจริตทางการเมืองหรือที่เราเรียกว่าการคอรัปชั่น เป็นการทุจริตโดยมีการใช้ตำแหน่งหรืออำนาจทางราชการและการเมือง เพื่อให้ได้มาในส่วนของรายได้เพิ่มเติม แน่นอนว่าการกระทำแบบนี้ ไม่เป็นที่ต้องการของผู้คนอย่างแน่นอน แต่…ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเปิดโปงความจริงดังกล่าว ด้วยเนื่องจากอำนาจมืด อาจจะถูกสั่งฆ่าก็เป็นได้ เหมือนกับ Viktoria Marinova นักข่าวสาวชาวบัลแกเรียวัย 30 ปีคนนี้ ที่ถูกฆ่าข่มขืน หลังจากที่เพิ่งทำรายการสืบสวนเปิดโปงความจริงของนักการเมืองไปได้ไม่นาน Viktoria Marinova เป็นอดีตนักข่าวแนวไลฟ์สไตล์ทั่วไปของช่อง TVN ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนมาเป็นนักข่าวสายสืบสวนและยังจัดรายการชื่อว่า Detector รายการเปิดโปงนักการเมือง ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา และในวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ มีคนไปพบร่างไร้วิญญาณของเธอบริเวณตอนเหนือของเมือง Ruse ประเทศบัลแกเรีย ในสภาพเสื้อผ้าบางชิ้น โทรศัพท์ กุญแจรถของเธอหายไป จากการสืบสวน สภาพศพของเธอมีร่องรอยของการถูกทำร้ายบริเวณศีรษะและขาดอากาศหายใจ รวมถึงถูกข่มขืนก่อนที่จะถูกฆ่าอีกด้วย จากการเสียชีวิตของเธอครั้งนี้ ได้เกิดคำถามขึ้นอย่างมากมาย เนื่องจากก่อนเธอจะเสียชีวิต รายการดังกล่าวได้ออกอากาศไปได้เพียงตอนเดียวเท่านั้น โดยในตอนนั้นเธอได้ทำงานร่วมกับนักข่าวอีกสองคน คือ Dimitar Stoyanov จากสำนักข่าว Bivol และ Attila Biro นักข่าวจาก Rise Project รายการของพวกเขาคือช่วยกันสืบสวนและเปิดโปงการฟอกเงินของสหภาพยุโรปที่โยงไปถึงกลุ่มธุรกิจใหญ่อีกด้วย ไม่นานหลังจากนั้นผลก็คือ ทั้ง Dimitar และ Attila ต่างถูกเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว …
-
เด็กสุดซนขโมยตังค์ยายไปเติมเกม พ่อแม่เลยบังคับให้ไป ‘เก็บของเก่า’ ขายหาเงินคืนให้ยาย!!
การสอนเด็กๆ ให้จดจำว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดี เราอาจจะต้องให้บทเรียนกับเขาที่ควรค่าแก่การระลึกถึงและบางทีอาจจะต้องให้พวกเขาเสียเหงื่อบ้างเป็นบางครั้ง… และนี่คืออีกหนึ่งบทลงโทษสำหรับเด็กที่ขโมยเงิน เพราะมีเด็กคนหนึ่งต้องไปเก็บของเก่ามาขายเพื่อชดใช้เงินที่ไปขโมยมาจากยายเกือบหมื่นบาท!! เมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่ผ่านมา พ่อแม่ของเด็กชาย Hanghang ได้พบว่าลูกชายจอมซนของพวกเขาแอบเอาเงินในบัญชี WeChat ของยายไปเติมเงินซื้อของในเกมโทรศัพท์กว่า 2,000 หยวน (ประมาณ 9,500 บาท) ทางพ่อแม่จึงอยากจะสอนบทเรียนอันล้ำค่าให้กับ Hanghang ว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการบังคับให้เขาหาเงินมาใช้คืนยายด้วยวิธีการเก็บของเก่าตามบ้านขายซะเลย!! “ยอมรับว่าตอนแรกพวกเราโกรธมากๆ เราเกือบจะอัดเขาแล้วล่ะ” คุณแม่กล่าว ขยันขันแข็งดีเชียว ขณะที่เด็กๆ คนอื่นกำลังเล่นสนุกในช่วง Golden Week หรือวันหยุดยาวประจำชาติของประเทศจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ Hanghang ต้องไปเก็บขยะในเขตเทศบาลฉงชิ่ง เพื่อหาเงินมาคืนยายให้ได้ “เราต้องการจะให้เขารู้คุณค่าของเงินว่ามันหามาได้ยากขนาดไหน เราเลยคิดว่าจะลองให้เขาทำงานดูเขาจะได้รู้ว่ามันไม่ใช่ง่ายๆ เลยกับเงิน 2,000 หยวน” คุณแม่กล่าวเพิ่มเติม ดูเหมือนว่าในช่วงสองสัปดาห์สั้นๆ ที่ Hanghang ไปเก็บของเก่าขาย เขาจะได้รู้คุณค่าของเงินมากยิ่งขึ้น ทว่าก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าหาเงินได้เท่าไหร่กันแน่ แต่ที่รู้ๆ คือเขาอาจต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะหาเงินมาคืนยายได้ครบ… …
-
หนุ่มอังกฤษทุ่มเกือบ 3 ล้านบาท “ศัลยกรรม” ตัวเองให้เหมือน Jimin วง BTS !?
ต้องยอมรับว่าวงบอยแบนด์ K-Pop ที่มาแรงขณะนี้คงหนีไม่พ้นหนุ่มๆ วง BTS อย่างแน่นอน โดยสมาชิกวงแต่ละคนก็จะมีแฟนคลับเป็นของตัวเองเป็นจำนวนมาก สำหรับเหล่าแฟนคลับ บางคนก็ชื่นชอบชนิดที่ว่าขอแค่ได้จับมือก็ถือเป็นที่สุดแล้ว บางคนก็พยายามซื้อสินค้าของศิลปินให้มากๆ แต่บางคนก็ชื่นชอบเสียจนอยากเป็น “เหมือน” กับศิลปินผู้นั้นเลยทีเดียว เช่นหนุ่มผู้ดีอังกฤษวัย 28 ปีนามว่า Oli London ผู้นี้ที่ชื่นชอบวง BTS อย่างมากจนเขายอมทุ่มเงินกว่า 3 ล้านบาทเพื่อเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าให้เหมือนกับ Jimin หนึ่งในสมาชิกของวง BTS Oli เผยว่าเขารู้จักกับวง BTS นี้ครั้งแรกในปี 2013 ขณะที่เขามาอาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ และเขาก็กลายเป็นแฟนคลับของวงนี้ทันที หลังจากการติดตามวง BTS มาได้ระยะหนึ่งเขาก็พบว่าตัวเองอยากดูเหมือนกับ 1 ในสมาชิกของวง ซึ่งก็คือ Jimin ผู้ที่มีเอกลักษณ์เป็นแก้มอันเอิบอิ่มและรอยยิ้มอันแสนน่าหลงใหลนั่นเอง “ผมอยากให้ทั้งชีวิตของผมมีแต่ K-Pop และผมก็อยากดูเหมือนกับ Jimin อีกด้วย เพราะเขาคือ ความสมบูรณ์แบบ ที่แท้จริง ทั้งรูปหน้า รูปปาก เสียงร้อง ทุกอย่างเลย”…
-
24 ภาพ ‘การพรางตัว’ ที่กลมกลืนไปกับพื้นหลัง ถึงกับต้องเลื่อนมาดูอีกรอบ!!
วิชาการ ‘พรางตัว’ ถือเป็นหนึ่งในเทคนิคการลอบเร้น ที่เหล่าทหารใช้กันมาตั้งแต่ยุคโบราณ เพราะมันสามารถใช้สังหารศัตรูได้โดยที่ไม่เสียเลือดเนื้อมากมาย… เท่านั้นยังไม่พอ การพรางตัวยังถือเป็นหนึ่งในกลไกการเอาตัวรอด ของสัตว์ป่าบางชนิด จากนักล่าได้อีกด้วย แล้วถ้าหากเป็นในเมืองล่ะ การพรางตัวให้ดูเนียนไปกับสิ่งต่างๆ นั้นจะมีจุดประสงค์ไปเพื่ออะไร แต่ที่บอกได้แน่ๆ ก็คือ บางครั้งคนที่ ‘พรางตัว’ พวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นหรอก แต่มันแค่ ‘บังเอิญ’ ก็เท่านั้นเอง 5555+ 1. ตอนแรกมองผ่านๆ คิดว่าไม่มีอะไร พอจ้องดูดีๆ อ๋ออออ เนียนนักนะไอ้เหมียว!! 2. เป็นแมวรึเป็นนินจา!? 3. สีของตึกที่เป็นโทนเดียวกันกับท้องฟ้าแบบเป๊ะๆ 4. กะ กางเกงหาย!? 5. นอกจากเหยื่อที่ต้องพรางตัวให้เนียนแล้ว นักล่าเองก็เช่นกัน 6. รองเท้าที่เนียนกริ๊บ ไปกับพรม 7. ในภาพนี้มีรถอยู่ 1 คัน 8. หากว่าคุณเป็นมือสไนเปอร์ คงจะมองเห็นภาพนี้เป็นแค่เก้าอี้ตัวเดียวแน่ๆ!!…
-
Selena Gomez เข้ารับ “การบำบัดทางจิต” หลังป่วยทางอารมณ์ พร้อมพักโซเชียลยาวๆ
หลังจากที่นักร้องหนุ่ม Justin Bieber มีข่าวว่าแอบไปจดทะเบียนลับๆ กับ Hailey Baldwin เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2018 ซึ่งผ่านมาได้ไม่กี่สัปดาห์ อดีตคนรักอย่าง Selena Gomez ก็กลับประสบกับความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ ล่าสุดมีรายงานว่านักร้องสาววัย 26 ปี Selena Gomez ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลถึง “สองครั้ง” ในช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว โดยครั้งแรกเพื่อนของ Selena เล่าว่าเธอมีอาการหมดหวังและอารมณ์อ่อนไหวหลังทราบว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวของเธอน้อยลงเนื่องจากการปลูกถ่ายไต ต่อมาเมื่อราวสัปดาห์ที่แล้วเธอก็ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอีกครั้งด้วยสาเหตุเดิม แต่ครั้งนี้อาการของ Selena นั้นย่ำแย่กว่าเดิมมาก มีรายงานว่าเธอพยายามขอออกจากโรงพยาบาลด้วยแต่ทางแพทย์ยืนกรานว่าด้วยสภาพอาการของเธอแล้ว เธอยังไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ หลังจากที่ Selena มีอารมณ์และความรู้สึกที่ย่ำแย่จนมีการดึงสายน้ำเกลือออกจากแขนตัวเอง เธอก็ถูกส่งตัวไปยัง สถานบำบัดทางจิต East Coast เพื่อรับการบำบัดพฤติกรรมแบบวิภาษวิธี (DBT) เธอเคยเข้ารับการบำบัดชนิดนี้มาก่อนแล้ว เนื่องจากอาการเจ็บป่วยของสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นในอดีต และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Selena ก็ได้ถ่ายวิดีโอไลฟ์บนอินสตาแกรมอธิบายถึงอาการซึมเศร้าของเธอที่เป็นมาตลอด 5 ปีเต็ม “ความซึมเศร้าและวิตกกังวลเป็นจุดเริ่มต้องของทุกอย่างที่ฉันทำในชีวิต ทุกอย่างจริงๆ” ยังไงก็ขอให้อาการดีขึ้นเร็วๆ…
-
เด็กสาวพยายาม ‘แกล้ง’ พ่อของตัวเอง ส่งใบสั่งมาถึงบ้าน จนเกือบจะโอนเงินจ่ายค่าปรับจริงๆ!!
ในวัยเด็ก หลายๆ คนอาจจะมีวิธีการ ‘ขอเงิน’ พ่อแม่ ในวิธีที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ร้องไห้งอแง ดิ้นพล่านกับพื้นเพื่อแสดงจุดยืนอันหนักแน่นของตัวเอง บ้างก็ใช้วิธี ‘สังเกตการณ์’ ว่าพ่อแม่ชอบวางเงินไปตรงไหน แล้วแอบหยิบไปทีละเล็กนะน้อย (เลวแต่เด็กจริงๆ 555+) เอาเป็นว่าไม่ว่าคุณจะใช้วิธีแบบไหนมาก็ตาม ขอบอกเลยว่ายังไงก็สู้เด็กสาวคนนี้ไม่ได้!! Elizabeth Kay-Devine จากเมือง Lancashire ประเทศอังกฤษ เธอเริ่มใช้แผนอันแยบยลเพื่อขอ (ขโมย) เงินพ่อของตัวเองด้วยการ ‘ทำใบสั่งปลอม’ ขึ้นมา ซึ่งในใบสั่งนั้นประกอบไปด้วยสถานที่เกิดเหตุ เลขป้ายทะเบียนรถ หรือแม้แต่ตราของหน่วยงานราชการ!? และ Elizabeth เริ่มทำแบบนี้ครั้งแรกตอนที่เธออายุได้ 6 ขวบเท่านั้นเอง Elizabeth ได้รับแรงบันดาลใจมาจากใบสั่งแบบธรรมดาๆ ที่ส่งมาให้กับพนักงานคนหนึ่งที่ทำงานในบริษัทของพ่อเธอ Helen Boardman แม่เลี้ยงวัย 43 ปีของเธอเล่าว่า Paul Kay วัย 46 ปี พ่อของเธอนั้นถูกหลอกโดยจดหมายใบสั่งที่ถูกส่งมาจากสำนักงานเทศบาล Rossendale Borough Council …
-
ผู้อพยพหวังแอบเข้าอังกฤษ ปีนขึ้นรถทั้งที่คนขับบอกไม่ไปอังกฤษ สุดท้ายได้ไปเบลเยียมแทน!!
วิกฤตผู้อพยพลี้ภัย ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรปมาช้านาน และด้วยเนื่องโอกาสทางอาชีพรวมถึงค่าแรงที่สูงกว่า ทำให้ปัจจุบันก็ยังมีผู้อพยพแอบหนีเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายอยู่เรื่อยไป คราวนี้ก็เช่นกัน เมื่อผู้อพยพสองคนแอบขึ้นรถบรรทุกที่มาจอดเติมน้ำมัน หวังว่าจะแอบเข้าประเทศอังกฤษ แต่รถคันดังกล่าวไม่ได้วิ่งไปประเทศอังกฤษ และหนำซ้ำแม้จะร้องตะโกนบอกให้หยุด คนขับรถก็ไม่ยอมหยุดให้ คนขับรถผู้บันทึกเหตุการณ์ในคราวนี้มีชื่อว่า Ryan Ledgister ในขณะที่เขานำรถบรรทุกของเขาไปจอดอยู่ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแถวๆ เมือง Dunkirk ประเทศฝรั่งเศส เขาสังเกตเห็นผู้อพยพสองคนแอบปีนรถบรรทุกของเขาเพื่อแอบเข้ายังประเทศอังกฤษ โดยหารู้ไม่ว่าที่ที่เขาจะวิ่งไปนั้นเป็นประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเขาก็ได้ลงไปพูดคุยกับผู้อพยพทั้งสองแล้วว่าเขาไม่ได้อังกฤษ เขาจะไปเนเธอร์แลนด์นะ แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้สนใจ เขาเลยต้องปล่อยเลยตามเลย และเมื่อขับรถไปได้สักพัก ดูเหมือนว่าผู้อพยพทั้งสองคนจะรู้ตัวเสียทีว่าสิ่งที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้ไม่ใช่เรื่องโกหกและตระหนักได้ว่ารถคันนี้มันมาคนละทางกับที่พวกเขาต้องการไป!! ผู้อพยพคนหนึ่งพยายามที่จะโบกมือให้ Ryan เห็นเพื่อจะให้เขาจอดรถ แต่ Ryan ก็แก้เผ็ดโดยการขับรถต่อไปด้วยความเร็ว ไม่จอดให้ผู้อพยพพวกนี้ลง Ryan ได้กล่าวว่า “ผมบอกพวกเชี้ยนี่แล้วว่าผมไม่ได้ไปอังกฤษ อย่ามาเสียเวลาเลย แต่พวกเขาก็ไม่ยอมฟัง จริงๆ ผมมีหลายทางเลือกนะ แต่การหยุดรถไม่ใช่หนึ่งในนั้น ไอ้เด็กน้อย วันนี้พวกเอ็งต้องได้บทเรียนเสียบ้าง!” หลังจากที่รถบรรทุกคันนี้วิ่งด้วยความเร็วผ่านทางด่วน สุดท้ายเขาก็ได้ไปหยุดจอดให้พวกผู้อพยพที่เมือง Veurne ประเทศเบลเยียม ซึ่งใกล้กับพรมแดนฝรั่งเศสเพียง 1.5 กิโลเมตร ที่มา…
-
หญิงผิวขาวแจ้งจับชายผิวดำ เพราะอยู่ร่วมกับเด็กผิวขาว ทั้งที่จริงแล้วเป็นพี่เลี้ยงเด็ก…
เรื่องของการเหยียดสีผิวนั้น ยังคงถูกรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในปัจจุบันจะเป็นปี 2018 แล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมีเหตุการณ์ความแคลงใจเกิดขึ้นเสมอ กรณีล่าสุดนี้เกิดขึ้นกับนาย Corey Lewis ชายผิวสีผู้ริเริ่มโครงการให้คำปรึกษากับเยาวชน “Inspired By Lewis” และกำลังทำหน้าที่ดูแลเป็นพี่เลี้ยงเด็กผิวขาววัย 10 ขวบ และ 6 ขวบ… เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่ทั้ง 3 คนเดินทางไปรับประทานอาหารในห้าง Walmart และขับรถเดินทางกลับมาถึงบ้าน ปรากฏว่ามีหญิงผิวขาวรายหนึ่งขับรถตามพวกเขามาด้วย และประจันหน้ากับเขา เนื่องจากสงสัยความสัมพันธ์ที่มีต่อเด็ก ด้านนาย Lewis ปฏิเสธที่จะให้หญิงคนดังกล่าวคุยกับเด็กโดยตรง กลับกลายเป็นว่าเธอทำการโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบและสอบปากคำ คลิปวิดีโอเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง ได้ทำการสอบถามจากนาย Lewis ซึ่งเจ้าตัวได้พยายามอธิบายผ่านทั้งไลฟ์วิดีโอว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมถูกตามและถูกก่อกวน ผมมีเด็ก 2 คน ผมเป็นพี่เลี้ยงพวกเขา แล้วเธอก็มาขัดขวางพร้อมกับถามว่า เด็กๆ โอเคมั้ย” “พวกเขาจะไม่โอเคได้ยังไง? ในเมื่อไม่มีใครกรีดร้อง ไม่มีใครวิ่ง ไม่มีใครพยายามหนีเลย” Lewis…
-
ภาพโฆษณา ‘โรงแรม’ ที่ดูไม่มีอะไร แต่กลับเกิดดราม่า ‘เหยียดเพศ’ จนต้องยอมถอดมันออก!?
หากจะกล่าวถึงประเด็นเรื่อง ‘การเหยียด’ บางครั้งมันก็บอบบางเสียจนชนิดที่ว่ามันกลายเป็นเรื่องเหยียดไปได้อย่างไร!? เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่ภาพโฆษณาของโรงแรม ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับถูกวิจารณ์ว่า ‘เหยียด’ จนถึงกับทำให้ทางโรงแรมถึงกับต้องลบภาพที่ใช้โฆษณาดังกล่าวออกไปเลยทีเดียว!! ลองไปชมภาพต้นเรื่องกันก่อนครับ… เป็นภาพโฆษณาของโรงแรม Sofitel ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย มีหญิงชายคู่หนึ่งนอนอยู่บนเตียง ฝ่ายชายเปิดหนังสือพิมพ์อ่าน ส่วนฝ่ายหญิงเป็นนิตยสารแฟชั่น ทั้งสองคนหันมองหน้าเข้าหากันด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ตรงกลางเตียงมีอาหารวางอยู่ จากที่ดูแล้วมันก็ไม่น่าจะมีประเด็นเหยียดอะไรได้เลย สรุปแล้วมันเหยียดยังไงกันล่ะเนี่ย? เอาล่ะ จริงๆ แล้วมันอยู่ในภาพนั่นแหละ แต่เพียงแค่เราอาจจะต้องมองให้ลึกลงไปอีกสักหน่อยนึง…. ติ๊กต่อกๆๆๆ ….อาจจะยากไปสักหน่อย เอาเป็นว่าเฉลยเลยก็แล้วกัน ประเด็นมันอยู่ตรงที่ ‘สิ่งที่ทั้งสองคนอ่าน’ นั่นแหละครับทุกท่าน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่ามันคือประเด็น ‘เหยียดเพศ’ คือฝ่ายชาย ได้อ่านหนังสือพิมพ์ ‘Financial Review’ ที่เป็นหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการเงิน การลงทุน การเมือง ฯลฯ ขณะที่เขากำลังนั่งอ่านถึงวิธีการลงทุนต่างๆ อย่างขมักเขม้น ตัดภาพกลับมาที่หญิงสาวคู่นอนของเขา กำลังอ่านนิตยสารแฟชั่นชั้นนำระดับโลกอย่าง Chanel มันเลยได้ข้อสรุปออกมาว่า ในขณะที่ฝ่ายชายกำลังมองหาลู่ทางในการหาเงิน ฝ่ายหญิงกลับมองหาเสื้อผ้าสวยๆ ถลุงเงินจากฝ่ายชายมาใช้อย่างสิ้นเปลืองซะงั้น!? ช่างเป็นโฆษณาที่เหยียดเพศเสียจริงๆ!!…
-
ส่องบ้านโอตาคุ ผู้ทุ่มเงินกว่า 3 ล้านเยน เพื่อตัวละครอนิเมะ “ตัวเดียว” ที่เขารัก…
ว่ากันว่าความเป็น โอตาคุ นั้นมีแฝงอยู่ในตัวของทุกคนแต่จะมากหรือจะน้อยนั้นก็แตกต่างกันออกไป บางคนอาจมีความหลงใหลในกีฬา บางคนก็หลงใหลในเรื่องของรถ หรือบางคนก็หลงใหล “ตัวการ์ตูน” เป็นชีวิตจิตใจ อย่างเช่นชายชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @Onika_Rem0202 คนนี้หลงใหลในตัวละครสาวจากอนิเมะตัวหนึ่งอย่างมากขนาดที่ว่าทุ่มเงินราว 3 ล้านเยน (8.7 แสนบาท) เพื่อซื้ออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ ตัวละครที่หนุ่มคนนี้หลงใหลก็คือ Rem สาวน้อยน่ารักผมสีฟ้าจากเรื่อง Re:Zero−Starting Life in Another World นั่นเอง และวันนี้เราจะพาไปชม “ห้อง” ของชายหนุ่มผู้ทุ่มเทเงินมหาศาลให้กับตัวละครสาว Rem ดูซิว่าจะมันจะ Rem ขนาดไหนกันเชียว!? ที่สะดุดตาที่สุดก็คงหนีไม่พ้นฟิกเกอร์ขนาดเท่าคนจริงของ Rem นี่แหละ แล้วก็พวกตุ๊กตาน่ารักโมเอะ มีเยอะมากๆ ลองส่องดูที่ตู้โชว์จะพบว่ามีโมเดลและฟิกเกอร์ของ Rem อยู่มากมายหลายขนาดและหลายอิริยาบถ ปัจจุบันก็ผ่านมาเป็นเวลา 2 ปิแล้วหลังจากที่อนิเมะเรื่องนี้ออกฉาย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความหลงใหลใน Rem ของหนุ่มคนนี้ลดลงเลยแม้แต่น้อย เขามักโพสต์ภาพลงบนทวิตเตอร์ว่าได้ตู้โชว์มาใหม่และไม่นานก็มีโมเดลกับฟิกเกอร์ของ Rem มาวางโชว์เต็มตู้เสียแล้ว ห้องที่หันไปทางไหนก็จะเจอแต่…
-
ญี่ปุ่นท้ากิน “เกี๊ยวซ่า” มูลค่า 3,000 บาท กินหมดแค่ชิ้นเดียวภายใน 1 ชั่วโมง “กินฟรี”!!
ใครที่ชื่นชอบ เกี๊ยวซ่า ล่ะก็รับรองว่าต้องสนใจเป็นแน่ เพราะร้านอาหารในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นได้เสนอแชเลนจ์ใหม่ที่ง่ายแสนง่ายเอาใจลูกค้า แค่เพียงทานเกี๊ยวซ่า 1 ชิ้นให้หมดภายในเวลา 1 ชั่วโมง!! โอ้โห อะไรมันจะง่ายปานนั้น!? แค่ชิ้นเดียวงับคำเดียวก็หมดแล้ว… ถ้าใครคิดแบบนี้ช่วยหยุดความคิดไว้ก่อน เพราะว่าเกี๊ยวซ่าของร้านนี้หาได้เป็นเกี๊ยวซ่าทั่วไปอย่างที่เราเคยเห็นกันไม่ แต่มันคือ เกี๊ยวซ่ายักษ์ ที่เรียกได้ว่าถ้ากินหมดก็คงอิ่มไป 3 วันเลยล่ะ!! ผ่าม!! ใหญ่มาก ใครที่สามารถทานได้หมดภายในเวลาที่กำหนดก็จะได้ ทานฟรี โดยไม่ต้องเสียเงินสักเยน แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า ปริมาณของเจ้าเกี๊ยวซ่ายักษ์นี้เพียงชิ้นเดียวก็เทียบได้กับเกี๊ยวซ่าขนาดปกติถึง 100 ชิ้น! ลองผ่าครึ่งแล้วเปิดดูภายในนจะพบว่า ไส้ของเกี๊ยวซ่านั้นประกอบไปด้วยหมูสับและผักที่ดูฉ่ำและน่ารับประทานมากๆ (แต่จะทานหมดไหมก็อีกเรื่อง) เห็นแบบนี้ดูเหมือนจะทานได้หมดอย่างไม่ยากเย็น แถมดูน่าอร่อยอีกด้วย แต่เมื่อชายในภาพลองทานจริงๆ กลับพบว่ามัน “ยาก” กว่าที่คิด เพราะกว่าจะทานหมดครึ่งเดียวก็แทบน้ำตาเล็ดแล้ว ขนาดมีซอสช่วยนะเนี่ย ก็ตามกติกาล่ะนะ ใครทานหมดได้ภายใน 1 ชั่วโมงก็ทานฟรี แต่ถ้าไม่หมดก็ต้องจ่ายตังค์ตามระเบียบ อย่างนายคนนี้โดนไป 10,080 เยน (หรือราวๆ 3,000…
-
คุณแม่ให้ลูกสาวใส่ “ชุดเขียว” ไปวันถ่ายภาพโรงเรียน รูปออกมาเลยกลืนกับพื้นหลังไปหม๊ด!!
สำหรับคนที่เป็นคอภาพยนตร์หรือชื่นชอบการชมภาพยนตร์อยู่แล้ว เราก็คงจะรู้กันดีว่าในฉากที่ทีมงานจะทำการตัดต่อภาพหรือใส่เอฟเฟกต์พิเศษ จะใช้พื้นหลังเป็น Green Screen หรือ Blue Screen เพื่อให้ง่ายต่อการตัดต่อ เนื่องจากเจ้าสองสีดังกล่าวนั้น เป็นสีที่จะไม่ไปรบกวนกับสีผิวของคนทำสามารถลบได้ง่ายกว่า และจะเป็นอย่างไรล่ะหากมีคนดันใส่เสื้อไปเป็นสีเดียวกับที่พื้นหลังที่ใช้ในการตัดต่อ… เหมือนอย่าง Laura Pyle คุณแม่คนนี้ที่ปล่อยให้ลูกสาวตัวน้อยเลือกชุดที่จะใส่ไปวันถ่ายภาพโรงเรียนแบบที่เธอชอบ แต่… ลูกสาวของเธอดั๊นไปเลือกใส่ชุด “สีเขียว” นี่สิ Addison ลูกสาวของ Laura เลือกชุดที่เธอโปรดปรานที่สุด เป็นชุดเดรสสีเขียวมีโบว์ระยิบระยับ แน่นอนว่าชุดน่ารักเหมาะกับลูกสาว Laura ก็ให้เธอใส่ไปถ่ายรูปในวันสำคัญนี้ได้ โดยที่พวกเธอลืมนึกถึงไปเลยว่าทางโลกเรียนเขาใช้เอฟเฟกต์พิเศษทำพื้นหลังและนั่นหมายถึงต้องมีการใช้ Green Screen!! และในครั้งแรกพวกเธอเลือกพื้นหลังเป็นสีม่วง พอตัวอย่างภาพถ่ายมาปุ๊บ พวกเธอก็ได้เห็นว่าเสื้อของ Addison กลายเป็นสีม่วงตามภาพพื้นหลัง Laura เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ว่าชุดเดรสสีเขียวที่ลูกสาวเธอใส่มา มันเป็นกลมกลืนกับ Green Screen ที่พวกเขาใช้กันพอดิบพอดี เธอหัวเราะออกมาอย่างตลกขบขัน พร้อมกับนำเรื่องราวพร้อมรูปภาพของลูกสาวมาลงเฟซบุ๊กด้วยแคปชั่นว่า “โรงเรียนทำภาพมาให้ 87 แบบ… ฉันอยากได้ทั้งหมดเลย” . . .…
-
รัฐบาลกรีกสั่งแบน ‘คนอ้วน’ น้ำหนักเกิน 100 กิโลไม่ให้ขี่ลาขณะท่องเที่ยว เพราะสงสารน้อง!!
เจ้าสัตว์ตัวเตี้ยๆ ป้อมๆ อย่าง ‘ลา’ เราอาจจะเคยเห็นคนขี่มันเล่นหรือว่าใช้ให้มันแบกของต่างๆ ระหว่างการเดินทาง ในต่างประเทศ แต่ว่าหากใช้งานหนักเกินไปก็อาจเกิดเป็นอันตรายกับตัวพวกมันได้ ด้วยเหตุนี้แล้วทางรัฐบาลของประเทศที่ใช้ลาเป็นสัตว์สำหรับการท่องเที่ยวอย่าง ‘กรีซ’ จึงออกมาตรการไม่ให้ ‘คนอ้วน’ ที่มีน้ำหนักเยอะขี่ลาแล้ว!! มาตรการที่ออกมาใหม่นี้ เกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้รณรงค์หลายคนออกมาพูดถึงความลำบากของเจ้าลาน้อยที่ต้องปีนขึ้นขั้นบันไดอันสูงชันของแหล่งท่องเที่ยวชื่อก้องโลกอย่าง ‘ซานโตรินี’ โดยมีนักท่องเที่ยวน้ำหนักตัวเยอะขี่หลังมันอยู่ ทางกระทรวงพัฒนาชนบทและอาหารของประเทศกรีซ จึงได้ประกาศใช้ข้อบังคับใหม่เพื่อเป็นการทำให้ความเป็นอยู่ของลาให้ดีขึ้น คลิปตัวอย่างการใช้งานลา โดยกฎข้อหนึ่งภายใต้ระเบียบที่ว่านี้ก็คือ ห้ามไม่ให้ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม (หรือ 1 ใน 5 ของน้ำหนักสัตว์) ขี่สัตว์ขึ้นซานโตรินี่ ซึ่งจากแถลงการณ์จะอ่านได้ว่า “เจ้าของสัตว์ตระกูลม้าที่ใช้แรงงาน จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพของสัตว์ให้อยู่ในระดับที่สูงรวมถึงมีวัสดุสำหรับการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ทั้งบริเวณที่อยู่อาศัยและที่ทำงานด้วย” “นอกจากนี้ก็ห้ามใช้สัตว์ที่ไม่เหมาะกับการทำงาน อย่างเช่นสัตว์ป่วย สัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงสัตว์ที่ตั้งครรภ์ด้วย รวมทั้งต้องได้รับอาหารที่เหมาะสมและเพียงพอ” “สิ่งของที่จะสามารถใช้แรงงานของสัตว์ จะต้องไม่มีน้ำหนักมากเกินไปโดยคำนึงจากอายุ น้ำหนักและสภาพร่างกายของสัตว์ และที่สำคัญคือห้ามบรรทุกน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัมอย่างเด็ดขาด” โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการเรียกร้องจากกลุ่มผู้รณรงค์การใช้แรงงานสัตว์ จนมีแคมเปญขึ้นมาว่า…
-
งงกันทั้งบาง!! ชายปวดหัวราวหัวแทบแตก ไปหาหมอเจอมี ‘ตะปู’ ยาว 48 มิลฯ ฝังอยู่ในหัว
หลายคนอาจเคยประสบกับปัญหาเรื่อง ‘ปวดหัว’ ที่จู่ๆ ก็จี๊ดขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ไม่ได้เครียดหรือว่าอยู่ในอากาศร้อนแต่อย่างใด จนเป็นเหตุให้เกิดความฉงนงงงวยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายนี่ ไม่แน่เหมือนกันว่าคุณอาจจะมีอะไรฝังอยู่ในหัวเหมือนกับชายวัยกลางคนคนนี้ก็เป็นได้… เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 ต.ค.) ชายคนหนึ่งรีบวิ่งแจ้นเข้าไปที่โรงพยาบาลเขต Chongyang มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน หลังจากเขาประสบกับอาการปวดหัวอย่างหนัก ซึ่งเขาบรรยายว่ามันเหมือนกะโหลกจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เลย ในภายหลังทางแพทย์ก็พบสาเหตุที่ทำให้ชายแซ่ Hu วัย 43 ปีคนนี้ต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อผลของการสแกนศีรษะออกมาแล้วพบว่ามีตะปูยาวกว่า 48 มิลลิเมตรฝังอยู่ในส่วนบนของกะโหลกของเขา!! ทันทีที่รู้ผลทั้งคนไข้ทั้งหมอต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน โดยนาย Hu บอกว่าเขาไม่รู้จริงๆ ว่าตะปูนี้มันมาฝังอยู่ที่หัวได้ยังไง แถมเขาบอกด้วยว่าอาการปวดมันเพิ่งเริ่มขึ้นในช่วงสั้นๆ เพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้นก่อนที่จะทนไม่ไหวมาหาหมอในที่สุด ภาพจากการสแกนศีรษะ นอกจากนี้เขายังเล่าใหัฟังด้วยว่าอาชีพเขาคือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (ทำหน้าที่มอนิเตอร์กล้องวงจรปิด) ในโรงงานปูน จึงไม่ได้สัมผัสกับตะปูหรืออุปกรณ์ก่อสร้างใดๆ โดยตรงเลย นี่จึงเป็นปริศนาว่าเจ้าตะปูนี้มาอยู่ได้อย่างไรกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยผลการผ่าตัดว่าเขาเป็นเช่นไรบ้าง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าแปลกใจจริงๆ ที่ได้รู้ว่าอย่างนี้ก็มีในโลกด้วย… ที่มา: shanghaist, new.sina
-
หนุ่มปีนงานประติมากรรมมูลค่า 6 ล้าน สุดท้ายพัง เจ้าตัวสารภาพที่ทำไปเพราะ ‘เบื่อ’!!
ในวันหยุดที่ชีวิตคุณว่างแสนจะว่าง คุณอาจจะรู้สึกเบื่อและอยากทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจหรือเป็นสีสันให้กับชีวิตบ้าง ซึ่งหลายคนก็อาจหางานอดิเรกอย่าง เล่นกีฬา เล่นดนตรีเปิดหมวกกันไปตามประสา แต่ว่าทางที่ดีคุณอย่าใช้วิธีแก้เบื่อเหมือนกับชายคนนี้จะดีกว่าเพราะคุณอาจจะจนไปทั้งชาติเลยก็ได้… Hunter Macdonald หนุ่มชาวนิวซีแลนด์ใช้เวลาในวันหยุดของเขาออกมาเดินเล่นกินลมแถวๆ ริมแม่น้ำในกรุงเวลลิงตัน เมืองหลวงของประเทศนิวซีแลนด์ แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ปีนขึ้นไปยังงานประติมากรรมชื่อว่า ‘Water Whirler’ ซึ่งมีลักษณะเป็นเสารูปร่างบอบบางที่ตั้งอยู่ในละแวกนั้น เขาปีนขึ้นไปสูงเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็ไปเกือบถึงยอด ทว่าโชคไม่ดีที่งานประติมากรรมนี้ดันหักโค่นลงมา เลยทำให้ตัวชายคนนี้ต้องพลัดตกลงไปในแม่น้ำ ก่อนที่จะเผยอขึ้นมาอีกครั้งด้วยรอยแผลเลือดออกแถวๆ หัว เมื่อปลอดภัยดีแล้วเขาก็ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ทำอย่างนี้ไม่ได้ตั้งใจจะทำลายงานศิลปะแต่อย่างใด แต่รู้สึกว่า ‘เบื่อ’ ก็แค่นั้นเอง “ผมเริ่มโชว์สกิลยิมนาสติกใหม่ของผมเพื่อที่อยากจะให้ผู้คนหันมามองดูบ้าง ผมเลยเริ่มปีนงานประติมากรรมชิ้นนั้น” “นี่มันวันหยุดของผม ก็ผมเบื่ออ่ะ นี่มันเป็นวันที่ดีนะ” “เอาจริงๆ คนบื้อๆ อย่างผมก็เห็นมันเป็นเหมือนกับบันไดธรรมดาๆ นี่แหละ แถมยังไม่มีป้ายบอกด้วยว่า ‘ห้ามปีน’ แต่สารภาพเลยว่าผมรู้ทันทีว่าผมคิดผิดจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำลายมันหรอกนะ” Hunter ให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตามงานประติมากรรมที่เขาทำลายมันลงนี้มีมูลค่าถึง 300,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์…
-
หนูน้อยฟ้องครูว่า “พ่อปลูกกัญชา” พอเธอพาไปดูหลักฐาน ถึงกับขำน้องจนท้องแข็ง~
เด็กๆ ที่ไร้เดียงสานั้นจะว่าน่ารักมันก็ใช่ แต่ถ้าจะว่าน่าหยิกมันก็ถูก เพราะหลายครั้งไอ้ความไร้เดียงสาของเด็กๆ นี่เองที่ทำให้เราต้องปวดหัวอย่างมาก เช่นเหตุการณ์นี้ ที่คุณพ่อของหนูน้อย Skylar Holt ได้รับโทรศัพท์จากทางโรงเรียนของเธอซึ่งไม่ใช่เรื่องผลการเรียนหรือพฤติกรรมเกเรแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับที่เขา เพาะปลูกกัญชา ไว้ที่บ้าน! หนูน้อย Skylar ได้รายงานกับคุณครูว่าที่บ้านของเธอนั้น Dax Holt ผู้เป็นพ่อได้ปลูกกัญชาเอาไว้ เมื่อคุณพ่อได้คุยกับครูเรียบร้อย เขาก็มาขอคำอธิบายและหลักฐานจากสาวน้อย Skylar และตรงนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้องของ “ความน่ารักน่าหยิก” ของเด็กน้อย ที่มีความเข้าใจ “ผิดๆ” เกี่ยวกับกัญชา เรื่องราวจะน่ารักน่าหยิกหรือน่าปวดหัวขนาดไหน ไปชมกันเลย… พ่อ: “วันนี้ลูกบอกอะไรกับครูเหรอ?” ลูก: “กัญชาไม่ดีต่อสุขภาพนะคะพ่อ” ลูก: “เพราะกัญชามันดูคล้ายกับหญ้า…” ลูก: “แต่มันไม่ใช่…มันคือกัญชา” พ่อ: “แล้วลูกได้บอกหรือเปล่าว่าบ้านเรามีกัญชาอยู่เยอะเลย?” ลูก: “บอกค่ะ” พ่อ: “วันนี้พ่อคุยกับคุณครู ครูบอกว่าบ้านเรามีกัญชาเยอะแยะเลย ลูกอยากอธิบายอะไรหน่อยมั้ย?” ลูก: “เอ่อ…ไม่ดีกว่า” พ่อ: “เราปลูกกัญชาไว้ที่บ้านเยอะแยะเลยเหรอ?”…
-
นักวิทยาศาสตร์โชว์ หาก “ทำอาหาร” ในแอนตาร์กติกา มันก็จะ “แข็ง” แบบนี้!!
การทำอาหารนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน ที่เราต่างต้องเห็นกันอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่เพื่อนๆ เคยคิดหรือไม่ว่าหากเราต้องไปทำอาหารแบบปกตินี้ ในพื้นที่หนาวเย็นสุดๆ มันจะเป็นอย่างไร วันนี้เพื่อตอบข้อสงสัยของหลายๆ คน จึงได้มีนักบรรพชีวินวิทยานามว่า Cyprien Verseux ได้ทดลองทำอาหารแบบปกติในพื้นที่ที่ได้ชื่อว่าหนาวที่สุดในโลกอย่างทวีปแอนตาร์กติกา (อุณภูมิ -70ºC) มาให้ได้ดูกันครับ แต่เดิมแล้ว Cyprien เป็นหนึ่งในทีมงานที่ทำงานอยู่ในฐานวิทยาศาสตร์ Concordia Station ในทวีปแอนตาร์กติกา เพื่อทำการศึกษาเกี่ยวการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศว่าเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างที่ผ่านมา รวมถึงทำนายโอกาสที่ภูมิอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตอีกด้วย และไม่นานมานี้เขาก็เกิดนึกสนุกขึ้นมาได้ เขาจึงตัดสินใจทีจะแชร์ประสบการณ์การทำอาหารในพื้นที่ที่หนาวที่สุดในโลก จึงออกมาเป็นภาพเหมือนที่เพื่อนๆ จะได้ชมกันในต่อไปนี้ครับ จากอาหารธรรมดา ก็กลายเป็นประติมากรรมไปเลยนะเนี่ย เส้นพาสต้าก็ไม่รอดจากความหนาวเย็นนี้ . จะทำไข่ดาวงั้นรึ… อย่าหวังเลย เรียกได้ว่าถูกแช่แข็งในช่วงเสี้ยววิ จะทาแยมบนขนมปังยังไม่ได้เล้ย . ซึ่งจริงๆ แล้ว Cyprien และทีมงานนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้กินอาหารที่เขาโชว์ให้เราดูกันหรอกนะ พวกเขาจะทานอาหารแช่แข็งที่ถูกเก็บเอาไว้ในคอนเทนเนอร์ต่างหากล่ะ Cyprien ได้กล่าวไว้ว่า “อาหารสดของพวกเรานั้นหมดไปแล้วตั้งแต่ตอนเริ่มเข้าหน้าหนาว (ซึ่งเราจะไม่ได้รับการเติมวัตถุดิบตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์จนต้นเดือนพฤศจิกายน) ส่วนมากเราเลยต้องกินอาหารแช่แข็งเอา ซึ่งจากอุณภูมิที่ไม่เคยเป็นบวก ทำให้เราสามารถเก็บอาหารไว้ในคอนเทนเนอร์ข้างนอกฐานได้อย่างสบายๆ โดยไม่บูดเลยล่ะ” ต่อไปนี้เป็นช่วงแถมครับ…
-
คลิปสาดน้ำฟอกขาว ใส่ผู้ชายนั่งอ้าซ่า ‘เป็นการจัดฉาก’ ปั่นให้กลุ่มแอนตี้เฟมินิสม์เกลียดชัง…
ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา เกิดเป็นกระแสคลิปที่ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็ว จากการที่ นักศึกษากฎหมายสาวแห่งเมือง St. Petersburg ประเทศรัสเซีย Anna Dovgalyuk ไปไล่สาดน้ำฟอกขาวใส่ผู้ชายนั่งอ้าขาในรถไฟใต้ดิน เพื่อสั่งสอนมารยาททางสังคม จนเกิดเป็นประเด็นที่โต้เถียงยกใหญ่ว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่… คลิปที่กลายเป็นกระแสไวรัลแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ ข่าวเก่าที่เกี่ยวข้อง: นักศึกษาสาว ทำคลิปนำน้ำผสมผงฟอกขาว เทราด “เป้า” ผู้ชาย เพราะไม่พอใจนั่งขาอ้าซ่า นศ. สาวราดผงฟอกขาวใส่ ‘เป้า’ ผู้ชาย โดนชาวเน็ตโต้ที่นั่งแบบนั้น เพราะธรรมชาติโว้ย!! โดยสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ถกเถียงกันไม่รู้จบ ควรหรือไม่ควร มีความเหมาะสมหรือไม่ หรือเป็นการทำเกินกว่าเหตุ จากความตั้งใจที่เปิดเผยในคลิปวิดีโอ Anna Dovgalyuk กล่าวเอาไว้ว่า… ต้องการที่จะตอบโต้กับพฤติกรรมการนั่งอ้าขากินพื้นที่ ของผู้ชายในระบบขนส่งสาธารณะ และเป็นการกระทำในนามตัวแทนของนักเคลื่อนไหวทางสังคม Anna Dovgalyuk จากการรายงานของเว็บไซต์ Eu vs Disinfo องค์กรเปิดโปงโฆษณาชวนเชื่อเครมลินของรัฐบาลรัสเซีย เผยว่า ผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่อปรากฏอยู่ในคลิปนั้น ทั้งหมดเป็นหน้าม้าที่ถูกจ้างมาทั้งสิ้น……
-
สาวสวม ‘ชุดแต่งงาน’ ไปเยี่ยมหลุมศพของแฟนหนุ่ม ในวันที่พวกเขาควรจะได้แต่งงานกัน
เรื่องราวของความรัก ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น หลายๆ คนจะรู้กันดีว่ามันช่างงดงามเหลือเกิน แต่บางครั้งจุดจบของมันก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป… และนี่คือเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์อันน่าสลดใจ เมื่อแฟนหนุ่มของเธอที่กำลังจะแต่งงานกับเธอได้จากไปอย่างไปมีวันหวนกลับมา Kendall James Murphy นักผจญเพลิงจากเมือง Montgomery รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ในวัย 27 ปี คู่หมั้นของเขา Jessica Padgett ที่ตกลงปลงใจจะแต่งงานกันในช่วงเดือนตุลาคมปี 2018 ซึ่งทุกอย่างได้ถูกกำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ดันเกิดเหตุที่น่าสลดใจขึ้นเสียก่อน เธอจึงตัดสินใจสวมชุดแต่งงานในวันที่ ‘ควร’ จะเป็นวันแห่งความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ เพื่อถ่ายภาพรำลึกถึงการจากไปถึงชายผู้เป็นดั่งหัวใจ ด้วยการช่วยเหลือของทีมช่างภาพจาก Loving Life Photography ที่สร้างสรรค์ภาพถ่ายเหล่านี้ ให้ออกมามีพลังบอกเล่าถึงเรื่องราวความรักที่แสนงดงามของเธอ แม้มันจะไม่มีวันสมหวังแล้วก็ตาม ทางทีมงาน Loving Life Photography นำภาพที่พวกเขาถ่ายอัปโหลดลงเพจเฟซบุ๊กพร้อมกับแคปชันว่า “เธอดูเจ็บปวดแต่ก็ยังสวยงาม เธอเข้มแข็งและไม่มีวันพ่ายแพ้ เธอเดินพร้อมกับแบกทุกอย่างในจักรวาลเอาไว้บนบ่า และจักรวาลที่อยู่บนบ่าของเธอทั้งสองข้าง มันสยายออกมาดูราวกับเป็นปีก” ภาพถ่ายของ Padgett ที่ถ่ายคู่กับรองเท้าบูทของ James…
-
หนุ่มออสซี่ เจอขวดใส่จดหมายถึงคนรักจากชายจีน กับตอนจบที่ไม่แฮปปี้เหมือนในละคร
ความรักคือความรู้สึกดีๆ ที่มนุษย์มอบให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคู่รักก็ตาม แต่เรื่องราวความรักของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็อาจจะไม่ได้มีความสุขกันทุกราย เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของชายชาวจีนคนหนึ่งที่เราจะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟัง ชีวิตความรักของเขากำลังเหมือนจะไปได้ดี ได้พบกับหญิงที่รัก ได้หมั้นหมายกันเป็นที่เรียบร้อย แต่แล้วมีเรื่องราวให้จากกันไป ในวันที่ 8 สิงหาคม 2018 Daniel McNally ชายชาวออสเตรเลียได้ออกมาแล่นเรือแถวชายฝั่งรัฐควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นขวดใสๆ ลอยอยู่บนน้ำ ตลอดมา ด้วยความเป็นคนรักธรรมชาติ เขาก็จะคอยเก็บขยะออกมาจากน้ำเพื่อให้ทะเลสะอาดอยู่เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่… ขยะที่เขาเก็บมาในคราวนี้กลับต้องทำให้เขาประหลาดใจ เพราะว่ามันมีแผ่นกระดาษอยู่ภายขวดดังกล่าว ซึ่งเมื่อนำเจ้ากระดาษที่อยู่ด้านในออกมาดูก็พบว่ามันคือจดหมายที่เขียนด้วยภาษาจีน เนื่องจาก Daniel ไม่สามารถอ่านภาษาจีนได้ เขาจึงได้โพสต์ภาพมันลงในเฟซบุ๊กของเขา เพื่อหาคนที่จะช่วยทำให้เขาสามารถเข้าใจเนื้อหาที่อยู่ในจดหมายได้ และจากความช่วยเหลือของคนที่สามารถอ่านเขียนภาษาจีนได้ Daniel ก็รู้ได้ว่าจดหมายนั้นคือจดหมายที่ชายจีนคนหนึ่งเขียนถึงคนรักที่เขาต้องจากมาหลังจากที่ได้หมั้นหมายกัน โดยในจดหมายมีใจความว่า “ผมคือกะลาสีที่กำลังเดินเรืออยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ผมคิดถึงคู่หมั้นที่บ้านของผมมากๆ หลังที่เราหมั้นหมายกันได้ไม่นาน ผมก็ต้องเดินทางออกทะเลจากบ้านมาไกล ผมขอโทษที่ทิ้งเธอเอาไว้ข้างหลัง ผมทำได้แค่นำความรู้สึกที่ผมมีต่อเธอจดลงกระดาษและปิดผนึกมันในขวดๆ นี้ ความปรารถนาเดียวของผมคือการได้กลับบ้าน เพื่อไปใช้ชีวิตที่สวยงามและมีความสุขกับ Jing…
-
ราชันย์บาร์โฮสต์ Roland เผยวิธีสร้างเดตโรแมนติก คนเห็นแย้ง ‘เห็นแก่ตัวและสิ้นเปลือง’
ในวงการบาร์โฮสต์ญี่ปุ่น ณ ช่วงเวลานี้ ต้องยกให้กับ Roland พ่อหนุ่มเจ้าสำราญ ราชันย์ผู้มากความสามารถทางด้านเกี้ยวพาราสี ทำเงินได้สูงสุด 12 ล้านบาทต่อเดือน มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการ ด้วยอายุเพียง 26 ปี เท่านั้น อ่านข่าวเก่า: Roland ราชันย์หนุ่มดริ๊งก์บาร์โฮสต์ อายุแค่ 26 ปี แต่ทำรายได้มากถึง 12 ล้านบาท/เดือน https://www.instagram.com/p/BoLYKZ3lz0o/?taken-by=roland_0fficial โดยนอกเหนือจากหน้าที่การงาน ที่สร้างความสุขให้กับเหล่าแม่ยกแล้ว Roland เองก็คอยเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำกับเหล่าหนุ่มน้อยใหญ่ ในการสร้างความประทับใจกับสาวๆ ที่หมายปองออกเดต โดยรายละเอียดในทวิตเตอร์ของ @Roland_0fficial ทวีตไว้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เขาได้รับคำถามจากทางบ้านว่า… “ผมเป็นนักเรียนวัยมัธยม หวังว่าวันหนึ่งจะได้เป็นโฮสต์เหมือนกับคุณ แต่คุณพอจะมีคำแนะนำสำหรับเด็กมัธยมเพื่อที่จะมีเดตอันแสนโรแมนติกบ้างรึเปล่า กรุณาบอกผมด้วย” คำตอบจาก Roland กล่าวถึงเรื่องการพาไปออกเดตดูหนัง Roland ได้ให้คำตอบว่า “พาคู่เดตไปดูหนังสิ ปรนเปรอด้วยการซื้อตั๋ว 4 ใบ…
-
นายธนาคาร ‘โรบินฮูด’ ฉกเงินจากบัญชีลูกค้าผู้ร่ำรวยร่วม 7 ปี โอนให้คนจนหวังช่วยทางการเงิน…
อาจจะเคยได้ยินชื่อของ ‘โรบิน ฮูด’ กันมาบ้าง ด้วยชื่อเสียงเรียงนามที่เกิดมาเป็นโจรแต่มีคุณธรรม ใช้ทักษะในการปล้นจากคนร่ำรวย และนำมาแจกจ่ายเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านผู้ยากจน Gilberto Baschiera อดีตนายธนาคารจากอิตาลีผู้นี้ อาจจะเป็นโรบินฮูดในยุคปัจจุบันก็ได้ เนื่องจากฉายานี้ถูกตั้งให้กับเขา หลังจากที่ทำการยักยอกเงินจากบัญชีลูกค้าผู้มีฐานะ รวมกว่า 1 ล้านยูโร เป็นเวลาหลายปี โอนแจกจ่ายให้กับลูกค้ารายอื่นเพื่อให้มีคุณสมบัติกู้เงินผ่าน… เหตุการณ์เริ่มต้นในปี 2009 หลังจากที่วิกฤตทางด้านการเงินขึ้นสู่ระดับสูงสุด เงื่อนไขในการอนุมัติเงินกู้จึงเปลี่ยนไปด้วย เพราะไม่ได้ดูที่ภาพรวมเงินในบัญชีอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะต้องดูความมั่นคงของลูกค้าด้วย และลูกค้าจะต้องมาติดต่อที่ธนาคาร ทำการบันทึกลงระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ เมื่อชายรายหนึ่งมาหานาย Gilberto Baschiera เพื่อติดต่อขอกู้เงิน แต่พบว่าคุณสมบัติไม่ผ่าน นายธนาคารจึงตัดสินใจเอาเงินในบัญชีของลูกค้าที่มีฐานะร่ำรวย มาใส่ในบัญชีของชายคนนี้แทนเพื่อให้เขาผ่านการอนุมัติกู้เงิน จากเหตุการณ์นี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของนายธนาคารโรบินฮูด ที่เลือกทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายด้วยความหวังที่อยากจะช่วยลูกค้าที่มีฐานะยากจน… เมือง Forni di Sopra แน่นอนว่า การช่วยเหลือของนายธนาคารถูกบอกต่อปากต่อปากไปอย่างรวดเร็ว ภายในเมืองเล็กๆ Forni di Sopra ที่มีจำนวนประชากรเพียงแค่ 1,000…
-
เปิดประเด็นดราม่าชาวเน็ตถกเถียง เมื่อรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพถูกแบ่งให้คนสองคน
Noble Prize หรือรางวัลโนเบลที่เรารู้จักกันนี้ ถือว่าเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ ซึ่งจะมีการมอบให้แก่บุคคลผู้ทำคุณงาม ความดีและประโยชน์สูงสุดในหมู่มวลมนุษย์ในแต่ละปี เช่นเดียวกันกับปี 2018 นี้ ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่มีการมอบรางวัลโนเบลให้บุคคลต่างๆ แต่ประเด็นที่เราจะนำมาพูดถึงในวันนี้ถือว่าเป็นประเด็นดราม่าในเน็ตจากการที่แบ่งรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพให้แก่บุคคลสองคน โดยที่รางวัลสาขาสันติภาพปีนี้ถูกแบ่งให้กับ Dr. Denis Mukwege กับ Nadia Murad ซึ่งก็ถือว่าเป็นคนที่ทำประโยชน์ให้แก่หมู่มนุษย์ทั้งคู่ Dr. Denis Mukwege เป็นนรีแพทย์ชาวคองโก ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาล Panzi ในเมือง Bukavu ประเทศคองโกตั้งแต่ปี 1999 เพื่อรักษาให้เหล่าสตรีผู้ได้รับการทารุณทางเพศ เขาได้เห็นผู้หญิงหลายคนที่ถูกกดขี่และใช้เป็นเครื่องมือปลดปล่อยความใคร่โดยทหารหรือที่เรียกว่า Mass Wartime Rape ในระหว่างสงครามกลางเมืองคองโก เขาจึงตัดสินใจอุทิศชีวิตของเขาให้กับการช่วยเหลือเหล่าผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงดังกล่าว และแม้ว่าการแสดงจุดยืนของเขาจะถูกขู่ฆ่าก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ทำให้หยุดต่อสู้กับความรุนแรงนี้ . ส่วน Nadia Murad เธอคือนักสิทธิมนุษยชนชาวยาซีดิ ซึ่งในปี 2014 เธอถูกกลุ่ม ISIS จับตัวไปจากหมู่บ้าน Kojo ประเทศอิรัก ที่ซึ่งคนในหมู่บ้านถูกสังหารไปมากกว่า 600 คนรวมถึงพี่ชายน้อยชายเธออีก 6 คนด้วย หลังจากนั้น Nadia…
-
หนุ่มจุดไฟเผา “รถของพ่อเลี้ยง” มูลค่ากว่าเหยียบล้าน เพราะถูกยึด “รีโมท” ไป ทำให้ไม่ได้ดูทีวี
Adrian Padley หนุ่มโสดวัย 41 ปีที่ถึงแม้ว่าเขาจะอายุมากขนาดนั้นแล้ว แต่เขาก็ยังคงอาศัยอยู่กับแม่แท้ๆ และพ่อเลี้ยงของเขาในบ้านหลังเดียวกัน Adrian มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่คลุกอยู่แต่ในห้องนอนของเขา แต่ก็จะมีบางครั้งที่เขาลงมาดูทีวีตรงห้องรับแขกเพียงลำพัง เช่นเดียวกันกับในช่วงกลางดึกของวันที่ 10 กรกฎาคม 2018 Adrian อาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง ในเขตคิงส์ตันอะพอนฮัลล์ ประเทศอังกฤษ แต่เหมือนว่าพ่อเลี้ยงของเขาจะไม่ค่อยชอบให้มีคนลงไปเปิดทีวีในช่วงเวลาที่เขากำลังนอนอยู่สักเท่าไหร่ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เขาเอา “รีโมททีวี” ขึ้นไปบนห้องนอนด้วย ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังหลับใหลอยู่นั้น Adrian ก็เดินลงมาและพบว่าเขาหารีโมทไม่เจอ ซึ่งเขารู้อยู่แล้วว่าพ่อเลี้ยงเป็นคนเอารีโมททีวีขึ้นไปด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก Adrian ลากเอาถังขยะหน้าบ้านที่มีลังกระดาษอยู่ด้านใน ดึงมาวางไว้ใกล้ๆ กับ “รถยนต์” ที่พ่อเลี้ยงรักและหวงแหนเอามากๆ มูลค่ากว่า 860,000 บาท ก่อนจะจุดไฟเผาถังขยะให้ไฟมันลามไปที่รถ ไม่ใช่เพียงแค่นั้นเพราะเขายังได้ราดน้ำมันลงไปเพิ่มที่กระโปรงหน้าของรถ จากนั้นก็จุดไฟเผาใส่ ทำให้ไฟโหมหนักกว่าเดิมและลามไปเผาทั้งโรงจอดรถบ้านเขาเลย สถานการณ์อันยากจะควบคุม Adrian จึงตัดสินใจโทรขอความช่วยเหลือจากนักดับเพลิงในช่วงเช้ามืดของวันที่ 11 กรกฎาคม พร้อมกับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเป็นคนก่อเหตุทั้งหมดนั้นเอง แน่นอนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้กลายเป็นคดีความขึ้นมาในทันที โดย Adrian…
-
หนุ่มไต้หวันสับสน เจอป้ายหน้าห้องน้ำ ‘ช้าง-ยีราฟ’ โร่ถามชาวเน็ตควรเข้าห้องไหนดี!?
เรื่องของการออกแบบดีไซน์นั้น นอกจากความสวยงามแล้ว จะต้องคำนึงถึงลักษณะการใช้งานที่ใช้ได้จริง โดยเฉพาะรูปแบบสัญลักษณ์ต่างๆ ที่นำมาใช้ แบบว่ามองปุ๊บ รู้เลยว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้… ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างสัญลักษณ์เพศหน้าห้องน้ำ ผู้ชาย-ผู้หญิง แต่ถ้าคุณได้เจอสัญลักษณ์ ช้าง-ยีราฟ อยู่หน้าประตูห้องน้ำในยามที่กำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤต คุณจะทำยังไง!? ปวดเข้าขั้นวิกฤต แต่เจอป้ายห้องน้ำงงๆ ยิ่งแย่ไปใหญ่… หนุ่มไต้หวันดวงใกล้ถึงจุดพีค ถึงกับสับสนอยู่พักใหญ่ ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะต้องเข้าห้องน้ำห้องไหน หลังเจอสัญลักษณ์หน้าประตูเป็น ช้างกับยีราฟ แทบจะไม่สามารถระบุหรือแยกแยะเพศออกได้เลย… จากรายงานของเว็บไซต์ ET Today หนุ่มรายนี้ได้ถ่ายภาพหน้าประตูห้องน้ำ และนำไปโพสต์ลงกลุ่มใหญ่บนเฟสบุ๊ก ถามความเห็นชาวเน็ตช่วยตัดสินใจ ว่าควรจะเข้าห้องไหนดี ประโยคที่ถามคือ “อันไหนคือห้องน้ำผู้ชาย? ตอนนี้ต้องการรู้ด่วนมาก ช่วยผมด้วย!” ด้านชาวเน็ตที่เห็นต่างรู้สึกสับสนเช่นเดียวกัน แยกไม่ออกเลยว่าช้างหรือยีราฟจะแทนเพศอะไร ถ้าบอกให้เข้าไปผิดก็แย่แน่ๆ ตัวอย่างความเห็นที่พอจะเป็นไปได้จากชาวเน็ต อธิบายว่า “ห้องน้ำสองห้องเนี้ยเป็นของช้างกับยีราฟ ไม่ใช่ของคนหรอก เอ็งควรจะไปหาห้องอื่นนะ” หรือ “ฉี่มันหน้าห้องนั่นแหละ เหมือนเจ้าของร้านจะไม่อยากให้ลูกค้าได้รู้ว่าควรจะเข้าห้องไหน” อย่างไรก็ตาม หนุ่มเจ้าของภาพได้ออกมาเฉลยภายหลังว่า…
-
ผู้จัดประมูลขอร้อง ‘อย่าทำ’ หลังผู้ครอบครองงานศิลปะ แห่ตัดให้เป็นริ้วกระดาษ หวังเพิ่มราคา
เกิดเป็นเหตุสั่นสะเทือนวงการศิลปะ เมื่อ Banksy ศิลปินผู้ก่อเหตุทำลายงาน Girl With Balloon ของตัวเองจนกลายเป็นริ้วกระดาษ หลังจากที่ปิดประมูลไปแล้ว กลับกลายเป็นว่ายิ่งสร้างมูลค้างานให้พุ่งสูงขึ้นไปอีก อ่านข่าวเก่า: ภาพสเปรย์ดังถูกประมูลไปกว่า 33 ล้าน แต่ศิลปินเจ้าของกลับใช้รีโมทสั่งตัดเหลือเพียงริ้วกระดาษ… Banksy เฉลยกลที่ทำให้ ‘ภาพวาดทำลายตัวเอง’ เผยตอนนี้ราคาขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 86 ล้านบาท!! เหตุการณ์งานศิลปะทำลายตัวเอง หลังปิดการประมูล https://www.instagram.com/p/Bokt2sEhlsu/ หลังจากที่มูลค่าของผลงานภาพสเปรย์ Girl With Balloon ที่กลายเป็นริ้วกระดาษมีมูลค่าพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้เจ้าของผู้ครอบครองผลงานของ Banksy เริ่มอยากจะทำแบบนั้นบ้าง ด้วยการนำงานศิลปะที่ประมูลมาได้ นำมาตัดให้เป็นริ้วๆ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ Girl With Balloon โดยเชื่อกันว่าจะเพิ่มมูลค่าให้กับงานศิลปะได้ แต่กลับกลายเป็นว่าได้ผลตรงกันข้าม… มีผู้ครอบครองผลงานของ Banksy ติดต่อเข้ามาเพียบ ถามว่าถ้าทำให้เป็นริ้วกระดาษจะมีราคาเพิ่มขึ้นรึเปล่า? We've had a number of #Banksy print owners…
-
แหล่งท่องเที่ยวจีน ขายอาหารชุด 1 หยวน ‘จ่ายเอง ทอนเอง’ ทำกำไรได้ ไม่เจ๊ง!?
หนึ่งในรูปแบบการให้บริการของร้านค้าอย่าง Self-Service หรือบริการตัวเอง ที่ถูกนำไปใช้ในหลากหลายประเทศ แบบว่าซื้อเอง จ่ายเอง ไม่ต้องมีพนักงานคอยทำหน้าที่ในส่วนนี้ ก็ดูเหมือนจะได้ผลตอบรับที่ดีเป็นส่วนใหญ่ แต่ข่าวที่เคยออกมาจากประเทศจีนว่า บริการรูปแบบนี้กลับเจ๊งไม่เป็นท่า เนื่องจากลูกค้าไม่ได้ทำตามกฎที่ตั้งเอาไว้ อยากได้ของแต่ไม่ยอมจ่ายเงินก็มี จนต้องยุบรูปแบบร้านค้าและบริการแบบนี้ไปในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ Golden Week วันชาติจีน ที่จะหยุดยาวกันนานถึง 1 สัปดาห์ ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็จะคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยว และจะมาพร้อมกับราคาสินค้าแบบชาร์จมหาโหด สิ่งที่น่าตกใจก็คือ อุทยานแห่งชาติลั่วหยาง ในมณฑลเหอหนาน กลับใช้วิธีกำหนดราคาขายอาหารแค่ 1 หยวน และให้ลูกค้าจ่ายเองในกล่องบริจาค! ด้วยชื่อเสียงของชาวจีนที่มักจะไม่ถูกกับระบบแบบนี้ ดันผิดคาดกับที่นี่ โดยนักท่องเที่ยวมารับประทานอาหารกลางวันของอุทยานในราคา 1 หยวน ก็จะจ่ายเงินในกล่องบริจาคใสที่ตั้งเอาไว้ระบุข้อความว่า “จ่ายเอง ทอนเอง” โดยไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลใดๆ ชุดอาหารราคา 1 หยวนที่ทางอุทยานจัดให้ ก็จะมีทั้งก๋วยเตี๋ยว ซาลาเปา และไส้กรอก ผลปรากฎว่าจบโครงการวันแรก ขายอาหารได้ 1,200 ชุด…
-
หญิงอินเดียวัย 18 ถูกมัดและฟาดนานนับชั่วโมง ฐานทำครอบครัวเสื่อมเสียคบชายฮินดู
ท่ามกลางสังคมที่ศาสนาเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิต กฎระเบียบการใช้ชีวิตต่างๆ จึงถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งที่มองเห็นว่าเป็นบาป พร้อมกับบทลงโทษหากมีใครฝ่าฝืนกฎเหล่านั้น เรื่องราวอันน่าสลดใจนี้ เกิดขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย หญิงสาววัย 18 ปี ที่เติบโตมาในครอบครัวผู้นับถือศาสนาอิสลาม ถูกลงโทษมัดติดกับต้นไม้และเฆี่ยนตี จากการที่เธอหนีไปกับแฟนหนุ่มผู้นับถือศาสนาฮินดู ตามรายงานกล่าวว่า หญิงสาวไม่เปิดเผยนามรายนี้ ได้ละเมิดคำสั่งของครอบครัวด้วยการคบหากับแฟนหนุ่มต่างศาสนา ซึ่งหลังจากที่ครอบครัวรู้เรื่องราว และตามหาตัวจนเจอ จึงได้ทำการลงโทษเธออย่างที่เห็นนานถึง 5 ชั่วโมง ภาพในเหตุการณ์ถูกบันทึกเอาไว้จากโทรศัพท์ของพยานจากหมู่บ้านเล็กๆ ในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย โดยที่เธอนั้นหนีออกจากหมู่บ้านเพื่อไปหาแฟนหนุ่ม Rupesh Kumar ผู้นับถือศาสนาฮินดู นับว่าเป็นสิ่งต้องห้ามของครอบครัวในการคบหาชายต่างศาสนา รายงานจากสื่อท้องถิ่นเพิ่มเติมว่า ทั้งคู่หนีไปด้วยกันเพื่อที่จะแต่งงาน แต่แล้วครอบครัวฝ่ายหญิงรู้ทันและตามล่าตัวเธอ หลังจากที่ติดต่อกับฝ่ายแฟนหนุ่มไปแล้ว ทั้งนี้ ตัวแทนหมู่บ้านได้ลงความเห็นสั่งลงโทษหญิงสาว ฐานนำความเสื่อมเสียและความน่าละอายมาสู่ชุมชน และท่ามกลางการลงโทษเธอมีชาวบ้านมารุมล้อมดูอย่างน่าเวทนา แม้จะเกิดเหตุความรักต้องห้ามในครั้งนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ฝ่ายชายยังคงท้าทายครอบครัวฝ่ายหญิง ด้วยการยืนยันว่าจะคบกับเธอ ต่อให้ต่างศาสนากันก็ตาม… ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และเดินทางมายังที่เกิดเหตุด้วย แต่ไม่ได้ทำการจับกุมหรือตั้งข้อหาใดๆ กับใคร …
-
ทหารหนุ่มน้ำใจงาม ทิ้งบ้านออกไปช่วยผู้ประสบภัย กลับมาต้องสลดเมื่อพบว่าบ้านถูกยกเค้า
“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” เป็นประโยคที่หลายๆ คนถูกผู้ใหญ่ปลูกฝังกันมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเติบโตขึ้นมา หลายๆ คนก็พบว่าชีวิตจริงของเรานั้นไม่ได้เป็นอย่างที่เคยถูกสอนสั่งมาไว้ บางทีการทำดีก็ไม่ได้ดีมีให้เห็นกันอย่างมากมาย เช่นเดียวกันกับ Luis Ocampo ทหารหนุ่มวัย 24 ปีคนนี้ ที่ยอมทิ้งบ้านไป เพื่อออกไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุเฮอริเคนเข้ากระหน่ำ แต่เมื่อกลับบ้านมาก็ต้องใจสลาย เมื่อพบว่าบ้านของเขานั้นถูกยกเค้าทั้งหลัง Luis Ocampo เป็นแพทย์ทหารชาวอเมริกา สังกัดหน่วย North Carolina National Guard ได้ออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเฮอริเคน Florence ในเขตเมือง New Bern ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทันทีที่เขาออกไปช่วยผู้ประสบภัย เขาก็ส่งให้ภรรยาและลูกน้อยไปใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่ของเขาก่อนในช่วงระหว่างที่รอเขากลับบ้านจากการปฏิบัติภารกิจ Luis ปฏิบัติหน้าที่อยู่หลายวัน จนกระทั่งวันที่ 21 กันยายน 2018 เขาก็ได้กลับบ้านเสียที แต่… แทนที่จะได้พักผ่อนในบ้านแสนอบอุ่นหลังจากปฏิบัติหน้าที่มาอย่างยาวนาน กลับต้องเจอกับความเศร้าและทุกข์ที่บ้านถูกขโมยขึ้น Kailey Finch ภรรยาของ Luis ได้โพสต์เรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้ลงในเฟซบุ๊กว่า “นี่คือทหาร… นายทหารของฉัน ผู้ซึ่งออกไปช่วยผู้ประสบภัยเฮอริเคน แต่เมื่อกลับมาที่บ้านกลับต้องเสียทุกสิ่งที่สำคัญไปหมด โน๊ตบุ๊กของเขาที่มีงานเต็มไปหมด ทีวีและก็เครื่องเล่นเกม พวกเราพยายามที่จะกระจายข่าวไปให้มากที่สุด…
-
แม่ชาวญี่ปุ่นโพสต์ภาพ “ของเล่น” ไม่ตรงปก… แทนที่ลูกสาวจะแฮปปี้กลายเป็นเศร้าเลย
ของเล่นเด็กนั้นส่วนมากจะต้องทำออกมาให้น่ารักน่าเล่น เหมาะสมกับวัย ความคิด และจินตนาการของเด็กๆ แต่หลายครั้งเราก็อาจจะเจอของเล่นที่ “ผิดคาด” ไปเสียหน่อย จากที่คิดว่าน่ารักๆ มันดันกลายเป็นน่ากลัวเสียนี่! อย่างเช่นคุณแม่ชาวญี่ปุ่นที่ทนคำอ้อนวอนจากลูกสาวไม่ไหว เธอจึงซื้อของเล่นจาก Tokyo Tower Aquarium ที่กำลังจะปิดตัวลงติดไม้ติดมือกลับบ้านไปเสียหน่อย กล่องของเล่น Pretty Mermaid คุณแม่เจ้าของเรื่องโพสต์ภาพของเล่นที่เธอซื้อมาลงบนทวิตเตอร์ @kilariya แสดงให้เห็นถึงความ “ผิดคาด” ของสิ่งที่เธอซื้อติดมือกลับมา มันเป็นของเล่นที่ชื่อว่า “Pretty Mermaid” เป็นของเล่นรูปเปลือกหอยที่ระบุว่าหากนำไปแช่น้ำพักหนึ่งมันจะแตกออกและเผยให้เห็นเงือกน้อยสุดน่ารักที่แฝงอยู่ภายใน ภาพบนกล่องเป็นรูปเงือกน้อยสุดน่ารักสมชื่อ ใครเห็นก็ต้องอยากซื้อให้ลูกเล่นเป็นแน่ ในทวีตของเธอ เธอเล่าว่า: “ลูกของฉันอ้อนให้พ่อซื้อของเล่นชิ้นนี้มาจาก Tokyo Tower Aquarium มันเป็นเปลือกหอยที่ต้องแช่น้ำถึง 3 วันกว่าจะกลายเป็นนางเงือกแสนสวย ลูกสาวของเราก็ตั้งตารอและถามเราทุกวันว่า ‘มันกลายเป็นนางเงือกหรือยัง?’ สุดท้ายพอนางเงือกโผล่ออกมา มันช่างดูต่างจากภาพบนกล่องเสียเหลือเกิน ทำเอาลูกสาวเราช็อกจนไม่อยากไปโรงเรียนเลยทีเดียว” พอเอาไปแช่น้ำจริงๆ กลับออกมามีหน้าตาแบบนี้ได้ไง!!? คุณแม่กล่าว “ฉันพยายามปลอบลูกโดยการบอกว่าทุกคนทั้งคนวาดรูปบนกล่อง คนออกแบบของเล่น รวมถึงพ่อที่ซื้อของชิ้นนี้ให้ลูกล้วนแต่หวังให้ลูกมีความสุขทั้งนั้น แต่เธอก็ไม่ฟังเลย ฉันเลยคิดว่าเราอาจจะต้องนำเงือกน้อยไปแช่น้ำให้นานกว่านี้อีกหน่อย ซึ่งพอลองทำดูแล้วพบว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยจ้า” …
-
ชาวเน็ตขอแชร์ เกิดมาดั๊นชื่อซ้ำกับคนดังที่ถูกสังคมเกลียด… นี่มันช่วงเวลาเลวร้ายชัดๆ
จริงอยู่ที่ชื่อของมนุษย์แต่ละคนนั้น มีอยู่มากมายหลายชื่อ แต่สำหรับจำนวนประชากรทั่วโลกกว่า 7.7 พันล้านคนแล้ว การจะตั้งชื่อให้ไม่ซ้ำกันคงเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ที่เรามักจะเห็นพวกเขามีชื่อและนามสกุลเหมือนกันอยู่บ่อยๆ และจะเป็นยังไงล่ะถ้าเขาดันไปมีชื่อเหมือนกันคนดังที่กำลังถูกสังคมประณามอยู่ เช่น Brett Kavanaugh ผู้พิพากษาที่ Donald Trump ได้เสนอชื่อให้เป็นคณะตุลาการศาลสูงสุดคนใหม่ ที่กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างหนัก เพราะถูกผู้หญิงกล่าวหาว่าถูกเขาล่วงละเมิดทางเพศ และนั่นก็ทำให้ Brett Kavanaugh ผู้ชายธรรมดาที่มีอาชีพขายเสื้อนั้นถึงกับซวยและคิดว่าการที่เกิดมาชื่อ Brett Kavanagh นี่มันแย่สุดๆ เพราะเขาต้องกลายมาเป็นเป้าโจมตีทางโซเชียลมีเดีย แถมชื่อนี้ยังกระทบกับชีวิตการทำงานของเขาด้วย เมื่อใดที่เขาบอกกับลูกค้าว่าเขาชื่อ Brett Kavanagh ลูกค้าก็จะทำหน้าแบบ “เดี๋ยวนะ… เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?” เขาก็เลยต้องคอยอธิบายอยู่ตลอด . ในวันที่ 6 ตุลาคม 2018 Brett ก็เอาความอัดอั้นนั้นมาโพสต์ลงทวิตเตอร์ว่า “นี่มันช่วงเวลาที่แย่โคตรๆ ที่ได้ชื่อว่า Brett Kavanagh ” และแม้ว่าเขาจะไม่เคยเล่น Twitter มาก่อน รวมถึงมีคนติดตามอยู่เพียง 127…
-
กระจก “Novera” ไอเทมใหม่จากญี่ปุ่น ที่จะคอย ‘เอาใจ’ คุณทุกอย่างเพียงแค่มาส่องมัน!!
ว่ากันว่า คำชม และ คำปลอบใจ นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้ฟังเกิดความภาคภูมิใจและให้การยอมรับกับตนเอง แถมช่วยลดอาการของภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย แต่คำพูดเหล่านี้ใช่ว่าจะพูดใส่ตัวเองได้เสมอไป มันจำเป็นต้องมีคู่สนทนา จะได้รู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นคนหลงตัวเอง แต่สิ่งที่หายากพอๆ กับคำพูดชมเชยก็คือ “คู่สนทนา” หรือว่าคนพูดนี่แหละ บริษัทหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นเข้าใจถึงปัญหานี้ดี จึงผลิตนวัตกรรมใหม่ชื่อว่า Novera ขึ้นมา มันเป็นกระจกไฮเทคที่ทำหน้าที่ราวกับเป็นกระจกวิเศษของแม่มดในเรื่องเจ้าหญิงนิทราเลยก็ว่าได้ กระจก Novera จะสแกนใบหน้าของผู้ใช้เพื่อเก็บข้อมูลสีหน้าอารมณ์ต่างๆ และตอบสนองกลับมาได้อย่างชาญฉลาด เรียกได้ว่าเจ้ากระจกนี้สามารถบอกสิ่งที่เรากำลังต้องการฟังได้เลยทีเดียว ชมคลิปคอนเซ็ปต์การทำงานของเจ้ากระจกวิเศษ Novera กันหน่อย ตัวกระจกนี้จะติดตั้งกล้อง จอภาพ และลำโพงเอาไว้ด้วย การตอบโต้ของ Novera ก็คือจะมีเสียงพูดออกมาให้เราฟัง ซึ่งเป็นเสียงของนักพากย์ตัวละครอนิเมะที่เรียกได้ว่า “เสียงหล่อ” กระชากใจสาวกันไปเลย (คาดว่ามีให้เลือกหลายเสียง) ตัวอย่างคำพูดจากกระจกก็อย่างเช่น “ตาคุณดูโตจังเลยเวลาที่คุณมองมาที่ผม หัวใจผมสั่นไหวไปหมดแล้ว” หรือ “วันนี้ผิวคุณเปล่งปลั่งมากกว่าปกติเลยนะ” เป็นต้น สแกนใบหน้าและรายละเอียดต่างๆ บนใบหน้า เวลาที่กระจกเห็นว่าคุณเศร้าหมองมันก็จะตอบสนองออกมาเป็นเสียงพูด เช่น… “ช่วงนี้คุณรู้สึกแย่ใช่ไหม?” หรือ “ถ้าคุณเศร้าผมก็เศร้าด้วย เฮ้…ยิ้นหน่อยได้ไหม คิดว่าทำเพื่อผมนะ?”…
-
แม่บ้านโวย หลังพบ “กองอ้วก” และ “ถุงยางใช้แล้ว” ในที่ทำงานของ ส.ส. ประเทศอังกฤษ!!
สำหรับ รัฐสภาสหราชอาณาจักร นั้นพวกเขาจะใช้ระบบ 2 สภา แบ่งออกเป็น “สภาสูง” (สภาขุนนาง) กับ “สภาล่าง” (สภาสามัญชน) โดยทั้งหมดจะมีสำนักงานแบ่งเอาไว้ภายในเขต “พระราชวังเวสต์มินสเตอร์” ณ กรุงลอนดอน และล่าสุดก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่าไม่เหมาะสมเอามากๆ หลังคนทำความสะอาดพบ “กองอ้วก” และ “ถุงยางใช้แล้ว” ในฝั่งสำนักงานสภาสามัญชน จากการรายงานในวันที่ 7 ตุลาคม 2018 David Natzler สมาชิกระดับสูงของสภาสามัญชน กล่าวว่าเขตสำนักงานดังกล่าวนั้นทำงานกันโดยกลุ่ม “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” (ส.ส.) และบุคลากรของกลุ่ม โดยเขาได้รับเรื่องร้องเรียนจากคนทำสะอาดหลังพบเศษซากที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่ากลุ่ม ส.ส. ได้ใช้สำนักงานในการจัดปาร์ตี้ ดื่มเหล้าสังสรรค์ จนลามไปถึงการมีเพศสัมพันธ์ภายในสถานที่ทำงาน พฤติกรรมดังกล่าวถูกเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือนกับ “นักศึกษาน้องใหม่” ที่มารับน้องมาปาร์ตี้กัน มันไม่ใช่สิ่งที่คนเป็น ส.ส. จะมาทำอะไรแบบนี้ และพนักงานทำความสะอาดก็ไม่ได้มีหน้าที่มาเก็บกวาดความเสเพลของพวกเขา ตัวแทนสภาสามัญชนกล่าวต่อไปว่า “เราได้แบ่งสำนักงานให้กับ ส.ส. และบุคลากรของพวกเขาก็เพื่อให้ได้ทำงานตามหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับรัฐสภาสหราชอาณาจักร” “โดยสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีไว้เพื่อหน้าที่ดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งมันได้ระบุเอาไว้ในหนังสือข้อบังคับของสมาชิกทุกคนแล้ว…
-
จากคดีสาว Hara และแฟนหนุ่ม ฝ่ายชายเผยภาพ “บาดแผล” และพร้อมพิสูจน์ทุกกรณี!
ก่อนหน้านี้มี่ข่าวใหญ่ของนักร้องสาว Goo Hara อดีตสมาชิกวง KARA ที่เธอถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายจนฟกช้ำเต็มตัวเนื่องจากการทะเลาะวิวาทของทั้งคู่ (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) เธอโพสต์ภาพร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำดำเขียวอันเนื่องจากการถูกแฟนหนุ่ม Choi Jong-bum ทำร้ายร่างกายจนถึงกับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เรื่องราวเกิดจากการทะเลาะวิวาทของทั้งคู่ หลังจากที่ฝ่ายชายเอ่ยปากขอแยกทางกับเธอ การใช้กำลังและความรุนแรงก็เริ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Choi Jong-bum ก็ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขาไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ในวันจันทร์ที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เขาและตัวแทนทางกฎหมายของเขาก็ได้เผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดเอาทรัพย์สินของเขาไปหลายอย่างเนื่องจากการที่เขาถูกฟ้องว่าทำร้ายร่างกาย Hara ทั้งๆ ที่เขาเองก็ได้โพสต์ภาพหลักฐานตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน ว่าตัวเขาเองก็มีรอยบาดแผลฉกรรจ์จากการถูกทำร้ายร่างกายโดย Hara ด้วยเช่นกัน เขาก็เลยต้องเผยภาพดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ . นอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการให้สัมภาษณ์กับ Dispatch Choi Jong-bum ยังถูกกล่าวหาว่ามีการใช้คลิปวิดีโอ “สวาท” ระหว่างเขาและ Goo Hara ในการขู่เธออีกด้วย แต่จากคำให้การเมื่อวันจัทร์ที่ผ่านมา Choi Jong-bum กล่าวว่าข้อมูลในเว็บไซต์ Dispatch นั้นมีการใส่ความและกล่าวเกินจริงไปมาก โดยเขาได้ให้สัญญากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขาจะพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ดังต่อไปนี้… 1. เขาทำท่าจะกดปุ่ม “ส่ง” คลิปวิดีโอต่อหน้าของ Goo Hara ในวันเกิดเหตุเท่านั้น 2.…
-
แฟนเกม Red Dead Redemption ป่วยหนักอาจอยู่ไม่ถึงภาค 2 ค่ายเกมจัดให้ก่อนเกมออกจริง!
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ช่วยสานฝันให้กับแฟนเกมอย่างแท้จริง เมื่อข่าวคราวของเกม Red Dead Redemption จะมีภาค 2 ออกมา และจะวางจำหน่ายและเปิดให้เล่นพร้อมกันในวันที่ 26 ตุลาคมที่จะถึงนี้ อ่านแล้วก็รู้สึกว่าเป็นเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แต่สำหรับแฟนเกมเดนตายอย่าง Jurian อาจจะอยู่ไม่ถึงเวลานั้น และด้วยความหวังที่ว่าอยากจะเล่นเกมภาคต่อก่อนที่จะหมดลมหายใจ… Jurian แฟนเกม Red Dead Redemption ผู้เหลือเวลาช่วงสุดท้ายในชีวิต ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีของแฟนเกมของค่าย Nintendo ที่ป่วยหนัก อยากเล่นเกม Smash Bros Ultimate ก่อนวันวางจำหน่าย แฟนเกมผู้ป่วยหนักที่ได้เล่นเกม Smash Bros Ultimate ก่อนเสียชีวิตเพียงไม่กี่วัน Some pics from me, local Benjamin, and Zach playing Thanks so much guys, this means so much…
-
สุดจะทน… อุทยานแห่งชาติในจีน “ปักเหล็กแหลม” รอบๆ ขวางนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าไปถ่ายรูป
แน่นอนว่าสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หรือธรรมชาติส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเขตหวงห้าม พื้นที่ที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถย่างกรายเข้าไปได้ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมในบริเวณนั้นเอาไว้ แต่บางครั้งแค่ป้ายเตือนหรือรั้วกั้นก็ไม่อาจเพียงพอสำหรับหยุดการกระทำของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ตั้ง “เหล็กแหลม” ล้อมรอบเอาไว้แทน นี่คือภาพจากอุทยานแห่งชาติ Dunhuang Yardang มณฑลกานซู่ ประเทศจีน สถานที่ซึ่งอนุรักษ์เอาไว้ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติ โดยเราจะเห็นว่ารอบๆ บริเวณเขตหวงห้ามของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะมีเหมือนแท่งเหล็กปักเอาไว้ เพื่อใช้ในการป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเดินเข้าไปในพื้นที่นั้นได้ ผู้ดูแลอุทยานกล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะมีการปักเหล็กแหลมเอาไว้นั้น นักท่องเที่ยวจำนวนมากจะชอบเดินย่ำเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ถ่ายรูปกันโดยไม่สนใจป้ายหรือรั้วที่กั้นเอาไว้ ในช่วงปี 2015-2016 ทางอุทยานจึงตัดสินใจปักแท่งเหล็กนี้ขึ้นมาไว้โดยรอบ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปข้างในอย่างเด็ดขาด แม้ว่าการปักเหล็กแหลมในลักษณะนี้จะเป็นเหมือนกับการลดความสวยงามของธรรมชาติดั้งเดิม แต่ว่าทางกลุ่มผู้ดูแลก็บอกว่ามันเป็นวิธีที่ได้ผลเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากนั้นแทบไม่มีนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปข้างในอีกเลย นอกจากนั้นมันยังกลายเป็นเอกลักษณ์อันน่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในและนอกประเทศได้ดีมากกว่าเดิมอีกต่างหาก คลิปบรรยากาศในส่วนของพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ถ้าหากนักท่องเที่ยวใส่ใจในคำเตือนหรือข้อห้ามของทางอุทยานตั้งแต่แรก มันก็คงจะไม่มีการตั้งแท่งเหล็กอะไรแบบนี้เกิดขึ้น และเราก็อาจได้ชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามได้อย่างเพลิดเพลิน ที่มา: nextshark , shanghai
-
‘ความตายอันสง่างาม’ ศิลปะการจัดดอกไม้หน้าศพแบบญี่ปุ่น ซ่อนความหมายบอกลาครั้งสุดท้าย
เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา คุณอาจจะได้เห็นภาพการพิธีจัดงานศพของ Kirin Kiki นักแสดงชาวญี่ปุ่นรุ่นอาวุโส ผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในวัย 75 ปี เมื่อวันที่ 15 กันยายน และจัดงานศพเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา… ซึ่งจากภาพหน้าโลงศพนั้น จะเห็นได้ว่ามีการจัดดอกไม้หน้าโลงไว้ด้วยความเรียบง่ายที่แฝงไปด้วยความอลังการ ประกอบไปด้วย ดอกเบญจมาศ ดอกจิพซอฟฟิลา และกล้วยไม้กว่า 1,200 ดอก จัดเรียงในลักษณะคล้ายกับเกลียวคลื่น ทั้งนี้ จากความประสงค์ของตัว Kiki เอง เธอต้องการให้จัดงานอย่างเรียบง่าย แต่เพื่อให้สมเกียรติกับชีวิตนักแสดงผู้มากความสามารถ จึงออกมาเป็นการจัดดอกไม้หน้าศพอย่างยิ่งใหญ่ นอกเหนือจากงานในครั้งนี้แล้ว ศิลปะการจัดดอกไม้หน้าศพนั้นยังมีอีกมากมาย โดยในญี่ปุ่นเรียกกันว่า 生花祭壇 (Seikasaidan) แปลว่า แท่นบูชาดอกไม้สด รูปแบบที่นิยมมากที่สุดจะเป็นรูปแบบคลื่น รองลงมาเป็นในรูปแบบภูเขา สื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความแข็งแกร่ง โดยในอดีตที่ผ่านมา มักจะนิยมใช้เพียงแต่ดอกเบญจมาศสีขาว แต่ปัจจุบันนิยมใช้ดอกไม้และสีชนิดอื่นเข้ามาแทรกมากขึ้น . และจากการจัดดอกไม้หน้าศพอย่างยิ่งใหญ่นี้ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีเงินสะพัดมาก ยกตัวอย่างจากบริษัทจัดดอกไม้ Youkaen ที่เริ่มต้นธุรกิจมาตั้งแต่ปี…
-
หญิงอินเดีย “ซวย” ซ้ำสองทั้งรถคว่ำและรถชนในเวลาติดๆ กัน แต่กลับ “โชคดี” ที่ไม่เป็นไร
สำหรับการขับขี่ยานพาหนะไม่ว่าจะประเภทใดก็ตาม จำเป็นต้องฝึกให้ชำนาญ ขับขี่อย่างมีสติ และบางครั้งก็อาจจะต้องพึ่งพา ดวง และ โชค ด้วย… อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดียล่าสุด หญิงสูงวัยที่ขับขี่จักรยานยนต์ผ่านสี่แยกใหญ่เกิดรถพลิกคว่ำ หลายคนคงทราบดีว่าการจราจรในประเทศอินเดียนั้นค่อนข้างวุ่นวาย แต่ด้วยความโชคดีไม่มีรถคันไหนเข้ามาชนหรือเหยียบซ้ำ ผู้คนในละแวกกรูกันเข้าไปช่วยเหลือ แต่หลังจากที่เธอลุกขึ้นเธอก็พุ่งเข้าไปชนกันรถโดยสารอีกคันหนึ่ง ไม่รู้จะเรียก ดวงดี หรือ ดวงซวย รถโดยสารคันดังกล่าวนั้นสามารถเบรกไว้ได้ทัน ทำให้เธอไม่ถูกเหยียบนั่นเอง ชมคลิปเหตุการณ์ เธอมาแล้ว รถจักรยานยนต์ของเธอคว่ำลง แต่โชคดีไม่มีรถมาเหยียบซ้ำ ผู้คนในละแวกก็พากันเข้าไปช่วยเหลือให้เธอขึ้นมานั่งบนรถได้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อเธอลุกขึ้นคร่อมรถได้ไม่ทันไร เธอก็พุ่งตรงออกไปยังรถบัสที่ขับมาด้วยความเร็ว โชคดีอย่างมากที่รถบัสดังกล่าวเบรกไว้ได้ทัน ทำให้รถของเธอคว่ำลงใต้ท้องรถบัสเท่านั้น แม้เหตุการณ์นี้เธอจะโชคดีที่รอดมาได้ แต่การกระทำของเธอก็ทำให้การจราจรในขณะนั้นติดขัดอย่างมากเลยทีเดียว ไม่รู้ว่ารถของเธอพุ่งออกไปด้วยสาเหตุใด อาจเกิดจากความสามารถในการขับขี่จักรยานยนต์ก็เป็นได้ อย่าลืมว่าการใช้รถใช้ถนนนั้นจำเป็นต้องมีความชำนาญในการบังคับยานพาหนะ รวมถึงการใช้เส้นทางต่างๆ การพึ่งดวงอย่างเดียวอาจทำให้จบไม่สวยแบบหญิงคนนี้ ที่มา: ck101 และ youtube
-
ชายญี่ปุ่นโหด คว้าโทรศัพท์มือถือ “ทุบศีรษะ” หญิงที่เผลอหลับ แล้วซบไหล่บนรถไฟ…
คนเราเวลาที่ง่วงบางครั้งมันก็ยากที่จะหักห้ามไม่ให้ตัวเองผล็อยหลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เพิ่งเลิกจากงานอันแสนเหน็ดเหนื่อย ได้มานั่งบนรถไฟฟ้าที่เย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ ก็ยิ่งทำให้ “หลับ” ได้ง่ายขึ้น ทว่าการนอนหลับบนรถไฟฟ้านั้นหากไม่ระวังให้ดีก็อาจเอนตัวไปสัมผัสโดนผู้โดยสารคนอื่นเข้าได้ แต่หากเจอคนใจดีเขาก็คงจะพูดกับเราอย่างสุภาพหรือไม่ก็ปล่อยให้เรานอนซบไหล่ไปเลย แต่หากเจอคนใจร้ายล่ะก็ จะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่มีใครทราบได้… ลองมาชมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ที่หญิงสาวคนหนึ่งดันเผลอหลับบนรถไฟฟ้า ทำให้ตัวของเธอนั้นเอนไปชนเข้ากับชายวัยกลางคนรายหนึ่งเข้า ชายดังกล่าวมีสีหน้านิ่งๆ แต่ทำท่าจะคว้าอะไรสักอย่างจากในกระเป๋าถือของเขา เขาหยิบ “โทรศัพท์มือถือ” ออกมาฟาดเข้าที่ศีรษะของหญิงสาวคนที่หลับไปซบเขาจนเกิดเสียงดัง แล้วรีบเก็บเข้ากระเป๋าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้หญิงสาวตื่นขึ้นมาด้วยความงงงวยพร้อมกับความเจ็บปวด ชาวทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @SakuradaPC ก็ได้โพสต์วิดีโอเหตุการณ์ข้างต้นลงบนทวิตเตอร์ของตนเอง แสดงให้เห็นถึงวิธีการรับมือกับปัญหาของคน ที่เลือกจะ “ใช้ความรุนแรง” แทนการพูดและเจรจา ชมคลิปได้เลย… もたれかかって来るのが嫌なのは分かるけど…それはあかんやろ… pic.twitter.com/qBBlqeDRxa — 桜田PC (@SakuradaPC) October 3, 2018 ฟังจากเสียงแล้วคาดว่าน่าจะใช้แรงตีค่อนข้างมาก ประกอบกับโทรศัพท์มือถือเป็นของแข็งและค่อนข้างมีน้ำหนัก การกระทำเช่นนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายกับหญิงในคลิปได้มากกว่าแค่การ “ปลุกให้ตื่น” เมื่อมีคนบังเอิญหลับมาซบหรือชนเข้ากับตัวเรา การแก้ปัญหาโดยไม่ใช้ความรุนแรงนั้นทำก็สามารถทำได้ตั้งหลายวิธีเช่น ปลุกด้วยการสะกิดแล้วเจรจากัน เป็นต้น แค่บังเอิญหลับมาซบแค่เนี๊ยะ พี่บอกหนูดีๆ ก็ได้มั้งง~ ที่มา: @SakuradaPC และ soranews24
-
Brooklyn ลูกชาย David Beckham โดนดราม่าโพสต์ภาพ “เหยียด” นักท่องเที่ยวชาวจีน!
Brooklyn Beckham ลูกชายแท้ๆ ของตำนานนักฟุตบอลอย่าง David Beckham ได้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างมากมายหลังจากที่เขาถ่าย “นักท่องเที่ยวจีน” ในอิตาลี แล้วโพสต์ลงอินสตาแกรม . Brooklyn แอบถ่ายภาพของชาวจีน (หรือชาวเอเชีย) ที่เดินเลือกซื้อของและล่องเรือกอนโดลาอยู่ในเมืองเวนิส พร้อมโพสต์ลงบนอินสตาแกรมพร้อมด้วยคำบรรยายภาพว่า… “คงไม่มีที่ไหนดีเท่าอิตาลีแล้วล่ะเนาะ” (No place like Italy innit.) และนั่นทำให้ชาวเน็ตโดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาเห็นได้พากันคอมเมนต์อย่างโกรธเคือง เพราะมันฟังดูเหมือนการแซะ การดูถูก ถึงขั้นว่าเป็นการ “เหยียด” กันเลยก็ว่าได้ ภาพดังกล่าวมียอดไลก์นับแสน แต่ปัจจุบันรูปภาพเหล่านั้นถูกลบไปเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ชาวจีนหลายคนก็ยืนยันว่าต้องการให้ Brooklyn ออกมากล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ตัวอย่างคอมเมนต์กล่าวว่า “นี่น่ะเป็นการเหยียดเชื้อชาติอย่างแท้จริง เขาเองก็ไม่ใช่ชาวอิตาลี เขาก็เป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน มีสิทธิ์อะไรมาว่าพวกเรา มันสูงส่งกว่าชาวเอเชียอย่างพวกเราตรงไหน?” เมื่อโดนกระหน่ำมากๆ เขา Brooklyn ก็ถึงกับล็อกให้อินสตาแกรมของตนเองเป็นโหมดส่วนตัว งานนี้ไม่ใช่แค่หนุ่ม Brooklyn ที่โดนกระหน่ำ ความซวยตกลงไปถึง David และ Victoria…
-
พนักงานส่งพิซซ่าถูกจำคุก 18 ปี หลัง “แอบบ้วนน้ำลาย” ใส่อาหารลูกค้า แถมถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย?!
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมือง Eskisehir ประเทศตุรกี ซึ่งกล้องวงจรปิดของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งเผยให้เห็น “พนักงานส่งพิซซ่า” คนหนึ่งแอบเปิดกล้องขึ้นมา ถ่ายรูปเซลฟี่ และเหมือนจะถุยน้ำลายลงไป!! หลังจากที่ Huseyin Alyuz ลูกค้าเจ้าของพิซซ่าถาดนั้นได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เขาจึงรีบติดต่อแจ้งไปยังทางร้าน รวมถึงแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ Burak S พนักงานส่งพิซซ่าวัย 18 ปีคนดังกล่าว คดีความที่มีการรายงานในวันที่ 8 ตุลาคม 2018 Huseyin เล่าว่าหลังจากที่ได้รับพิซซ่ามา เขาก็ได้เปิดกล่องกินไป 2 ชิ้น ก่อนที่หลานชายที่อาศัยอยู่ในตึกเดียวกันจะส่งข้อความมาบอกว่า “อย่ากินพิซซ่านั้นเด็ดขาด” และให้ผมลองไปดูภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อเปิดกล้องวงจรปิดดูก็ได้เห็นการกระทำทั้งหมดระหว่างที่พนักงานคนดังกล่าวยืนอยู่ที่ชั้นล่างของตึก โดยจากท่าทางแล้วทำให้หลายๆ คนเชื่อว่า Burak ถุยน้ำลายใส่พิซซ่าของลูกค้าจริงๆ ทางด้าน Burak เองก็ได้บอกกับศาลว่า “ผมรู้มาว่าลูกค้าคนดังกล่าวด่าเพื่อนร่วมงานของผม Aylin ในตอนที่โทรมาสั่งพิซซ่า ผมรู้ว่าเขาคือลูกค้าเจ้าปัญหา” “ผมจึงเปิดกล่องมันขึ้นมาเช็กความเรียบร้อยก่อนเฉยๆ ดูว่าพิซซ่าไม่ได้บุบสลายระหว่างการเดินทาง จากนั้นจึงถ่ายรูปส่งกลับไปให้เพื่อนร่วมงานของผมดู โดยผมไม่ได้ถุยน้ำลายลงไปเลย” เขากล่าว ในส่วนนี้ Huseyin บอกว่า…
-
ยอดคุณแม่ไม่ยอมโจร ถูกขโมยจักรยาน ก็ตามไปขโมยคืนมาเอง เหตุตำรวจไม่เอาอ่าว…
เป็นคุณจะทำอย่างไรเมื่อของที่ถูกขโมยไป โผล่อยู่บนร้านขายของออนไลน์แบบโจ่งแจ้ง แต่ทางด้านผู้บังคับใช้กฎหมายกลับปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากหลักฐานอ่อนเกินไป!? เหตุแห่งความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นกับนาง Sharron Jenson หญิงรุ่นราวคราวแม่จากกรุงลอนดอน ผู้เสียหายถูกขโมยจักรยานไป แล้วโจรก็นำไปประกาศขายบนเว็บไซต์ขายของ ด้วยมูลค่า 18,000 บาท (420 ปอนด์) Sharron Jenson หลังจากที่จักรยานมูลค่ากว่า 30,000 บาท (700 ปอนด์) ถูกขโมย คุณแม่พยายามแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับได้รับคำตอบกลับมาว่าหลักฐานอ่อนเกินกว่าจะดำเนินคดีได้ หลายวันต่อมา คุณแม่ก็พบว่าจักรยานของเธอถูกประกาศขายผ่านเว็บไซต์ Gumtree แจ้งให้ตำรวจได้ทราบว่าตอนนี้โจรประกาศขายอย่างโจ่งแจ้ง แต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ เธอจึงตัดสินใจสวมบทเป็นนักสืบเสียเอง นัดพบกับโจรผู้ขายแสร้งทำเป็นผู้ซื้อ เพื่อให้ได้มาทั้งชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ จนตามไปถึงบ้านเพื่อตามเอาจักรยานคืนมา… พอเจอหน้ากันแล้ว เธอก็ขอลองขี่จักรยานจากโจรและตัดสินใจที่จะควบหนีหายไปในพริบตา ซึ่งในระหว่างนั้นเธอได้ทำการตรวจสอบเลขตัวถังกับหลักฐานซื้อที่พกมา สรุปว่าเป็นของเธอจริงๆ… ตามไปนัดลองขี่จักรยาน แกล้งทำเป็นผู้ซื้อ แล้วก็ขโมยกลับมา… เมื่อได้จักรยานคืนแล้ว เธอได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งว่า หลักฐานทั้งหมดมีอยู่ในมือ พร้อมที่จะจับกุมหัวขโมยรายนี้ได้แล้ว ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดต้องให้ผู้ร้องทุกข์ดำเนินการสืบ แจ้งความ…
-
โผล่ควิซเผย ‘วันมรณะ’ ประมวลจากคำถามการใช้ชีวิต จะยืนยาวหรือสั้นลง คุณเลือกเอง!?
ในชีวิตของคนเรา อาจจะไม่รู้ว่าวันสุดท้ายของชีวิตจะมาถึงเมื่อไหร่ หากใช้ชีวิตอย่างโลดโผนท่ามกลางความประมาท อาจจะตายวันตายพรุ่งเลยก็ได้… ทั้งนี้คนที่อยู่แบบรัดกุมรักชีวิต ก็น่าจะมีแนวโน้มอยู่ได้ยาวกว่า แต่ก็นั่นแหละ บางคนก็อาจจะสงสัยว่า ชีวิตของเราจะอยู่ได้นานสักแค่ไหนกัน มันก็เลยเกิดเป็นชุดควิซคำถาม When Will I Die (ฉันจะหมดอายุขัยเมื่อไร) บนเว็บไซต์ A Real Me สำหรับควิซบนเว็บไซต์นี้ คุณไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพียงแต่จะต้องกรอกข้อมูลวันเกิดและตอบคำถามเกี่ยวกับหลักการใช้ชีวิตของคุณลงไปตามตัวเลือกที่มี โดยก่อนเริ่มชุดคำถาม ข้อความบนเว็บไซต์ระบุว่าโดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงจะมีอายุโดยประมาณอยู่ที่ 79 ปี และผู้ชายจะอยู่ที่ 71 ปี ซึ่งคำตอบที่คุณจะได้ก็มาจากการคำนวณอายุเฉลี่ยและไลฟ์สไตล์นั่นเอง… #เหมียวเลเซอร์ ไปเล่นมาแล้ว เหลือเวลาใช้ชีวิตถึงปี 2052 แหนะ… ด้านโซเชียลเน็ตเวิร์กชาวญี่ปุ่น ก็แห่เข้าไปเล่นกันแล้วผ่าน #おそらく最も正確な寿命測定器 บางคนก็อึ้งไปเลยว่า น่าจะได้อยู่ยาวกว่าที่คิดไว้ซะอีก 測ってみたら、私の死亡予定日時は【2088-02-29】でした!あなたも測ってみませんか? https://t.co/TdibFn6pXh #おそらく最も正確な寿命測定器 思ったより長生きだった… — しいたけ (@ruuuke1) October 6, 2018 …
-
เด็กหญิงวัย 12 กับแฟนหนุ่มวัย 22 ก่อเหตุสังหารโหดเจ้าของบ้านเช่า วิปริตกินเนื้อคน…
เกิดเป็นคดีสะเทือนขวัญในประเทศรัสเซีย หลังจากที่เกิดการเปิดโปงคดีฆาตกรรมสยองขวัญจากนักสืบ พบว่าชายวัย 21 ปี Alexander Popovich ผู้เป็นเจ้าของบ้านเช่า ถูกสังหารโดยเด็กหญิงวัย 12 ปี ร่วมกับแฟนหนุ่มวัย 22 ปี Valeria เด็กหญิงวัย 12 ปี ผู้ก่อเหตุสังหารโหด เหตุสะเทือนขวัญนี้ ผู้ต้องหาเป็นเด็กหญิงวัย 12 ปี นามว่า Valeria หนีออกจากบ้านมากับนาย Arkady Zverev วัย 22 ปี โดยที่ทั้งคู่ยอมรับสารภาพว่าสังหารและแยกชิ้นส่วนนาย Popovich จริง Arkady Zverev จากรายงานของตำรวจ กล่าวว่าเด็กหญิงเป็นผู้ลงมือใช้มีดแทงเข้าที่ท้องของเหยื่อในช่วงที่นอนหลับ ก่อนจะเปิดคว้านเพื่อดูว่าข้างในนั้นมีอะไรอยู่บ้าง… จากนั้นจึงตัดชิ้นส่วนเนื้อออกจากส่วนอกและควักหัวใจออกมา ทางด้านนาย Zverev ก็ลงมือใช้ขวานสับคอและแขน ก่อนจะนำไปเก็บซ่อนไว้ในไมโครเวฟ อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวในบ้านเกิดเหตุ ถูกวางเกลื่อนกลาด พบส่วนหัวของเหยื่อในไมโครเวฟ แต่สมองถูกรับประทานไปแล้ว… …
-
Kourtney Kardashian พี่ใหญ่บ้านตอกหน้า คนแซะรูปไอจีบ่นอยากพัก ‘แต่เธอไม่เห็นทำงานเลยนิ’
ว่ากันด้วยเรื่องของตระกูล Kardashian ที่มักจะโผล่แต่เรื่องฉาวโฉ่หน้าบันเทิงกันอยู่บ่อยๆ ด้วยความดังของชื่อสกุลก็ดี ไหนจะมีดราม่าคนเข้ามาแซะรายวัน ด้วยความไม่ชอบส่วนตัวหรืออะไรก็ตามแต่… Kourtney Kardashian พี่ใหญ่รุ่นลูก ปัจจุบันอายุ 39 ปี https://www.instagram.com/p/BnoiPP1BD0K/?utm_source=ig_embed คุณอาจจะไม่รู้ว่าตระกูลนี้ดังได้อย่างไร ดังในระดับไหน ทำไมถึงมีทั้งคนชอบและเกลียดได้เยอะขนาดนี้ ก่อนอื่นต้องบอกว่า พวกเขามีธุรกิจแบรนด์ในชื่อตระกูลตัวเองหลายอย่าง ทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง และรายการทีวี แถมยังโลดแล่นอยู่ในวงการนางแบบอีก แต่ด้วยความดังและความรวยของตระกูลนี้ แต่ละคนมักจะมีไลฟ์สไตล์ที่ดูน่าอิจฉา คนชอบก็มีคนชังก็เพียบเช่นกัน https://www.instagram.com/p/Boj2eb6joZA/?utm_source=ig_embed เหตุมันเกิดจากภาพไอจีของ Kourtney พร้อมกับแคปชั่นแบบอวดๆ ว่า “บางครั้งคุณก็ต้องการวันพักผ่อนบ้าง” จู่ๆ ก็โดนชาวเน็ตแซะเข้ามาด้วยประโยค “แต่เจ้าพี่คะ หล่อนไม่เห็นจะทำงานเลยนี่หว่า” @xchaa กล่าวว่า “แต่เจ้าพี่คะ หล่อนไม่เห็นจะทำงานเลยนี่หว่า” Kourtney ก็สวนกลับไปเบา เธอตอบกลับแบบเจ็บๆ หน่อยว่า “ให้ฉันตอบกลับเธอด้วยเวลาทั้งหมดที่ฉันมีละกัน อ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อนนะ… ทนายของฉันกับถือสายรอคุยดีลงานธุรกิจอีก 6 งาน…
-
หนุ่มเอามีดปักหัวตัวเอง เพราะรู้สึก “หายใจไม่ค่อยสะดวก”?! แถมยังรอดอีกต่างหาก!!
ข่าวนี้อาจดูน่าเหลือเชื่อไปนิด แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงตามนิยามที่ว่า “โหด-ัสรัสเซีย!!” กับชายผู้เอามีดปักหัวตัวเอง ด้วยเหตุผลที่ฟังดูแปล๊กแปลก แถมพี่แกยังรอดชีวิตมาได้ด้วยอีกต่างหาก!! จากการรายงานในวันที่ 7 ตุลาคม 2018 บอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง Donetsk เขต Rostov ประเทศรัสเซีย ได้รับแจ้งว่ามีชายคนหนึ่งกำลังนั่งคุกเข่าอยู่กลางทุ่งหญ้า โดยที่มี “มีดปักคาหัว” ของเขาอยู่!! อยากอุทานออกมาดังๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอุทานว่าอะไรดีเลย… ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Yury Zhokhov หนุ่มโรงงานวัย 41 ปี ผู้ที่ทำให้ตำรวจถึงกับพูดแทบไม่ออก เพราะในตอนนั้นเขามีมีดทำครัวความยาวประมาณ 8 นิ้วปักอยู่กลางหัว ตำรวจที่เข้าไปถึงสถานที่เกิดเหตุได้บอกให้ Yury นั่งอยู่ในท่าเดิม อย่าขยับเป็นอันขาด และอย่าไปจับมีดที่ปักอยู่ด้วย เพราะกลัวว่าหากมีอะไรผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียว ชายคนนี้อาจเสียชีวิตไปได้โดยไม่ทันตั้งตัว . เจ้าหน้าที่ถามชายคนนี้ว่าใครเป็นคนทำ แล้วชายหนุ่มก็ตอบกลับมาว่า “ผมรู้สึกว่าจมูกมันหายใจได้ไม่ค่อยสะดวก ผมก็เลยเจาะหัวตัวเองเพื่อช่วยให้มันได้หายใจคล่องขึ้น” “แล้วสมองผมจะได้มีโอกาสหายใจ…. แต่ตอนนี้มีดมันปักคาอยู่…. และสมองผมก็ไม่ได้หายใจแล้ว” เขาตอบในสภาพที่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเขาไม่ได้มีอาการเมาขาดสติใดๆ เขามีสติครบถ้วนรับรู้ตามปกติ คลิปในตอนที่ตำรวจไปเจอชายคนนี้…
-
เผยภาพแรปเปอร์ Drake ระหว่างเหตุวุ่นวาย UFC 229 ชาวเน็ตแซว ‘ดูท่าจะเชียร์ผิดฝั่งนะพี่’
ท่ามกลางเหตุการณ์ความดุเดือดในศึก UFC 299 ระหว่าง Khabib Nurmagomedov และ Conor McGregor ผลปรากฏว่า Khabib เป็นฝ่ายชนะป้องกันเข็มขัดแชมป์ได้ แต่ดันเกิดเหตุที่ Khabib กระโจนออกนอกกรงลงไปลุยเดี่ยวกับฝั่งทีมงานของ McGregor ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาขอโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายละเอียด: Khabib กล่าวขอโทษ แต่ไม่อาจทนกับคำดูถูกได้!! “ปูติน” โทรมาดีใจกับชัยชนะของเขา แต่ก็ยังไม่วายมีควันหลงในเหตุการณ์ดังกล่าวเล็กน้อย โดยที่ในระหว่างเกิดเหตุวุ่นวายในแมตช์ UFC 299 มีแรปเปอร์หนุ่มชื่อดังอย่าง Drake เข้าร่วมชมด้วย และดูเหมือนว่าพี่แกจะเชียร์ McGregor อย่างเต็มตัว เพราะก่อนจะขึ้นชกพี่แกก็ถ่ายรูปคู่กับ McGregor และห่มธงชาติไอร์แลนด์ออกสื่อ . แต่พอหลังจากที่พ่ายแพ้ให้กับ Khabib และเกิดเหตุความวุ่นวายข้างเวที สีหน้าของ Drake ถึงกับเหวอออกมา ด้วยอารมณ์โทนของประโยค “นี่กรูทำอะไรลงไป” จนชาวเน็ตหยิบยกมาแซวกันขนาดใหญ่… สีหน้าของ Drake เมื่อเห็น Khabib…
-
หนุ่มเมา “สักชื่อร้านเหล้า” ติดกลางมือ ทางร้านชอบใจ ให้เข้าฟรีตลอดชีวิตไปเลย!!
หลายๆ คนคงอาจเคยดื่มเหล้าเมาจนไม่ได้สติ เผลอทำอะไรแปลกๆ ไปโดยไม่รู้ตัว เมื่ออย่างชายคนนี้ที่พอแกตื่นมาก็ได้พบว่าตัวเองดันเมาจัดจนเผลอ “สักชื่อร้านเหล้า” ลงไปกลางหลังมือซะแล้ว!! Adam Marsh หนุ่มวัย 27 ปี จากเมือง Barnsley ประเทศอังกฤษ ในช่วงเดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา เขาได้ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ อย่างหนักหน่วง Adam ได้ไปปาร์ตี้กับเพื่อนบนเกาะ Magaluf ประเทศสเปน เมาจนได้รอยสักแปลกๆ ติดมา ชื่อร้านเหล้าที่เขาได้สักลงไป ในตอนแรกที่เขาตื่นมาแล้วพบว่ามีชื่อร้าน Che Bar ร้านเหล้าที่เขาเคยทำงานและมักจะไปอยู่เป็นประจำ ติดอยู่ที่มือของตัวเอง เขาก็รู้สึกตกใจและคิดเอาไว้ว่าจะต้องหาทางไปแก้หรือลบรอยสักดังกล่าวออก แต่ใครจะไปคิดว่าเมื่อร้านเหล้าดังกล่าวได้เห็นรอยสักของเขาแล้ว ทางร้านก็รู้สึกชอบอกชอบใจเป็นอย่างมาก และบอกว่าเขาสามารถเข้าร้านไปได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าเข้าเลยตลอดชีวิต ร้านเหล้าในต่างประเทศบางแห่งจะมีการเก็บเงินค่าเข้าร้าน ลองคิดดูว่ารอยสักราคา 35 ปอนด์ (ราวๆ 1,500 บาท) จะสามารถทำให้เขาไม่ต้องเสียค่าเข้าร้านเหล้าร้านโปรดได้ ซึ่งปกติแล้วจะต้องจ่ายค่าเข้าครั้งละ 4 ปอนด์ (ราวๆ 172 บาท)….…
-
หนุ่มญี่ปุ่นโป๊ะแตก โดนแฟนสาวจับได้ว่ามีคนอื่น เพราะ ‘แผ่นดินไหว’ เป็นเหตุแท้ๆ!!
เหตุเพราะ ‘แผ่นดินไหว’ หนุ่มญี่ปุ่นเลยถูกแฟนสาวจับได้ว่านอกใจ!! ในประเทศญี่ปุ่นนั้น การเกิดแผ่นดินไหวถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ ซึ่งพวกเขาก็จะมีมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นจะทำการส่งสัญญาณเตือนไปยังโทรศัพท์แต่ละเครื่องเพื่อเตือนให้รู้ว่า ‘กำลังจะมีเหตุแผ่นดินไหว’ เกิดขึ้น จากการตรวจจับความคลื่นที่เกิดจากการสั่นสะเทือน เสียงเตือนของมันก็จะดังประมาณนี้ แต่เรื่องมันพีคคือ มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวของคู่รักหนุ่มสาวคู่รัก ที่ความรักของพวกเขาได้จบลงเพราะ ‘สัญญาณเตือนแผ่นดินไหว’ นี้เป็นเหตุแท้ๆ @MeinerLacrima ได้โพสต์ข้อความเล่าว่า “ในวันนั้นฉันกำลังขึ้นรถไฟกลับบ้าน จู่ๆ เสียงสัญญาณเตือนแผ่นดินไหวก็ดังขึ้น ทุกคนต่างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กดู โชคดีที่แผ่นดินไหวในครั้งนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรเลยแม้แต่น้อย ทุกคนต่างก็ถอนหายใจกันเฮือกใหญ่” “เว้นแต่ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเจอกับปัญหาใหญ่ เขายืนอยู่ในรถไฟกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่น่าจะเป็นแฟนสาวของเขา หญิงสาวคนนั้นถึงกับตกใจเพราะจากสัญญาณเตือนภัยที่ดังขึ้นมานั้น ทำให้เธอจับได้ว่าแฟนหนุ่มของเธอพกโทรศัพท์มือถือถึงสองเครื่อง!?” “เดี๋ยวนะ ทำไมนายถึงพกโทรศัพท์ 2 เครื่องล่ะ? นายไม่เคยบอกฉันเลยนะว่ามีโทรศัพท์อีกเครื่องนะ มันคืออะไร อธิบายมาเดี๋ยวนี้!!” “บทสรุปของเหตุการณ์นี้ก็คือ พ่อหนุ่มคนนั้นใช้โทรศัพท์อีกเครื่องเพื่อติดต่อกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง จะเรียกว่าเป็นกิ๊กก็ได้นะ” ทวีตดังกล่าว ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดไลก์กว่า 177,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 58,400 ครั้งเลยทีเดียว!!…
-
ขอแนะนำให้นรู้จักกับ Momo ซอมบี้ยูทูบเบอร์ ที่น่ารักที่สุดในสามโลก แล้วคุณจะหลงรัก!!
ในปัจจุบันกระแสของ Virtual Youtuber กำลังกลายเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย… หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร จริงๆ แล้วก็คือ Youtuber นั่นแหละ เพียงแต่ว่าเปลี่ยนจากคนเป็นตัวการ์ตูนหรือตัวละครสมมติ ที่สร้างขึ้นมาโดยใช้ CG นั่นเอง แน่นอนว่า Virtual Youtuber ที่เรามักจะเห็นกันนั้นส่วนใหญ่จะเป็นตัวการ์ตูนโมเอะๆ น่ารักๆ สร้างเป็นคอนเทนต์ต่างๆ นานา มาให้ผู้คนได้ติดตาม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการแคสเกม หรือไม่ก็พูดคุยกันกับแฟนๆ เฉยๆ เท่านั้น แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ Virtual Youtuber จากญี่ปุ่นที่ขอบอกเลยว่าแปลกหลุดโลก จนทำให้ทุกคนถึงกับอ้าปากค้างเลยทีเดียวเชียว ขอแนะนำให้รู้จักกับ Hiiro Sumomo ซอมบี้ที่น่ารักที่สุดในปฐพี!! Hiiro Sumomo หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า ‘ลูกพลัม สีแดงเข้ม’ เป็นซอมบี้สาวน้อยที่มีความกระปรี้กระเปร่า และร่าเริง มาพร้อมกับเสียงพูดสุดน่ารักขัดกับหน้าตาที่ดูหลอนสุดๆ ซึ่งแฟนๆ ได้ตั้งชื่อเล่นให้กับเธอว่า Momo และพักหลังๆ…
-
สองพี่น้องผู้กำกับ Avengers ทวีตแซว “ไล่ Mark Ruffalo ออก” หลังเขาหลุดชื่อหนังภาคล่าสุด!!
เรื่องของการพูดการจา หลังจากที่เอ่ยลั่นออกไปแล้วว่ากันว่าคำพูดนี่แหละที่เป็นนายของเรา เพราะไม่แน่เหมือนกันว่ามันอาจนำเรื่องต่างๆ มาหาเราได้อย่างเกินคาดคิด ถ้าหากยังไม่เชื่อลองมาดูในกรณีของ Mark Ruffalo ผู้แสดงเป็นไอ้ยักษ์ตัวเขียวแห่ง ‘Avengers’ ที่เผลอหลุดชื่อภาคล่าสุดออกมา จนทำให้ทางสองผู้ผู้กำกับถึงกับทวีตออกมาแซวแบบเจ็บๆ ว่า นายถูกไล่ออกแล้ว!! Mark Ruffalo ผู้แสดงเป็น The Hulk ในหนังเรื่องนี้ อย่างที่ใครๆ ก็รู้กันว่าทุกเรื่องราวของทีม Avengers ก่อนที่จะออกฉายนั้นเป็นความลับสุดยอดขนาดไหน… แต่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ต.ค.) หนุ่ม Mark ก็กลับหลุดปากไปเอ่ยชื่อเต็มๆ ของ Avengers ภาค 4 ระหว่างให้สัมภาษณ์กับรายการ The Tonight Show ของ Jimmy Fallon เมื่อรู้ตัวว่าพลาดไปแล้วแกเลยทวิตเตอร์อ้อนวอนกับทาง Jimmy ว่าช่วยตัดฉากที่เขากล่าวชื่อหนังออกให้หน่อยได้ไหม “@JimmyFallon ผมเชื่อนะว่าคุณจะช่วยตัดฉากที่ผมเผลอหลุดปากชื่อหนังออกไปเมื่อคืนให้ เพื่อนเอ๋ยช่วยหน่อยเหอะ ผมไม่อยากจะมีปัญหากับ Marvel น่ะ โปรด Dm (ส่งข้อความ)…
-
ล่าสุด Khabib กล่าวขอโทษ แต่ไม่อาจทนกับคำดูถูกได้!! “ปูติน” โทรมาดีใจกับชัยชนะของเขา
ก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุจลาจลขึ้นในการแข่งขัน UFC ระหว่างแชมป์เปี้ยนรุ่นไลท์เวท Khabib Nurmagomedov นักสู้ชาวรัสเซีย และผู้ท้าชิงชาวไอริช Conor McGregor อ่านสรุปเหตุการณ์ดังกล่าวได้ที่ลิงก์: สรุปเหตุจลาจล McGregor พ่ายแพ้ Khabib ถูกตีซ้ำ ปีนไปมีเรื่องด้านนอก เข็มขัดแชมป์ไร้คนครอง ล่าสุด Khabib ผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทและถูกจับกุมตัวพร้อมกับเพื่อนของเขาอีก 2 คนได้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับการตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Khabib ได้ออกมากล่าวขอโทษกับทางคณะกรรมการกีฬาของรัฐเนวาดา และประชาชนในกรุงลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา สถานที่จัดการแข่งขันดังกล่าว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ได้อธิบายถึงความฉุนเฉียวที่เกิดขึ้นว่า “ผมก็เป็นเพียงแค่คนคนหนึ่ง การที่ฝั่ง McGregor มาพูดดูถูกศาสนาที่ผมนับถือ พูดถึงประเทศ พูดถึงพ่อของผม นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมกระโดดข้ามไป” Khabib ยังบอกอีกว่า McGregor เรียก Ali Abdelaziz ผู้จัดการของเขาว่า “ไอ้พวกผู้ก่อการร้าย” หรือ “ไอ้หนูสกปรก” มันจึงทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แชมป์ชาวรัสเซียบอกว่า “พ่อของผมสอนให้รู้จักการให้เกียรติผู้อื่นมาตั้งแต่เด็ก…
-
เวรกรรมจริงๆ ‘สาวพิการหูหนวก’ ให้ที่พักพิงเพื่อนเก่าหลบพายุ แต่ดันถูกข่มขืนซะได้!!
ใครเล่าจะคิดว่าการให้ความช่วยเหลือกับคนที่กำลังลำบาก จะถูกคนคนนั้นกลับมาทำร้ายเราได้… เรื่องราวต่อไปนี้เกิดขึ้นในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใกล้กับเมืองเฟย์เอตต์วิล รัฐนอร์ท แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบุกจับกุมนาย Freeman Scott Ireland วัย 37 ปี หลังก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ และทำร้ายร่างกายหญิงพิการทางการได้ยิน เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคน Florence พัดถล่มสหรัฐฯ นาย Freeman กำลังจะเดินกลับบ้าน แต่เนื่องจากพายุพัดหนักจึงขอไปหลบพายุที่บ้านของหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างทางกลับบ้านพอดี ตามรายงานระบุว่านาย Freeman กับเหยื่อนั้นรู้จักกันมานานกว่า 20 ปี จึงอนุญาตให้เขาเข้ามาพักในอพาร์ตเมนต์ของตัวเองเพื่อรอให้พายุสงบลง แต่ปรากฏว่าพอตกดึก นาย Freeman กลับย่องเข้ามาทำร้ายร่างกาย และกระทำชำเราหญิงสาว ที่เป็นผู้พิการทางการได้ยิน ขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ เหยื่อถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล Moore Regional Hospital เพื่อรักษาตัว ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุดังกล่าว ซึ่งผู้ก่อเหตุยังคงอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเหยื่อต่อไป จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ในที่สุด จากข้อมูลพบว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงปลายของเดือนพฤษภาคม นาย Freeman เพิ่งจะถูกปล่อยตัวออกจากคุกหลังจากที่รับโทษมานานกว่า 25…
-
สรุปเหตุจลาจล McGregor พ่ายแพ้ Khabib ถูกตีซ้ำ ปีนไปมีเรื่องด้านนอก เข็มขัดแชมป์ไร้คนครอง
เมื่อวานนี้ (6 ต.ค. 2018) ได้มีศึกชิงเข็มขัดรุ่นไลท์เวทของการแข่งขัน UFC ระหว่าง Khabib Nurmagomedov แชมป์ชาวรัสเซีย กับผู้ท้าชิง Conor McGregor นักสู้ที่หลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่หลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลงโดยที่ Khabib สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ จู่ๆ ก็เกิดเหตุจลาจลขึ้น เมื่อผู้ชนะปีนข้ามรั้วเหล็กไปมีเรื่องกับโค้ชของอีกฝั่ง ในขณะที่ McGregor เองก็ถูกทำร้ายโดยชาย 2 คนที่ปีนเข้าไปในสนาม จากการรายงานล่าสุดของสำนักข่าวต่างประเทศ ในวันนี้ #เหมียวตะปู จึงจะมาสรุปเรื่องราวที่มาที่ไปและสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นให้ทุกคนได้เข้าใจกัน คลิปเหตุจลาจลที่เกิดขึ้น Disgusting. #UFC229 pic.twitter.com/bfRMnM6YwL — Darragh Murphy (@DarrMurphy) October 7, 2018 Khabib และ McGregor นั้นมีความบาดหมางกันก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งสองฝ่ายนั้นต่างมีความไม่พอใจกันมานานเป็นเดือนก่อนการชก ได้ใช้คำพูดดูถูกอีกฝ่าย ด่าถึงครอบครัว ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ชัดตั้งแต่ตอนที่ McGregor พยายามจะเตะหน้าของอีกฝ่ายในงานแถลงข่าวที่เพิ่งผ่านไป…
-
ชายชราวัย 73 ปี เด็ด “องุ่น” หน้าร้านไปกินแค่ลูกเดียว โดนแจ้งจับในบัดดล ผู้คนต่างเห็นด้วย
ตำรวจในจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ได้รับแจ้งความในวันที่ 3 ตุลาคม 2018 หลังเจ้าของร้านผลไม้แห่งหนึ่งเห็นว่าชายชราวัย 73 ปีแอบเด็ด “องุ่น” ที่วางขายอยู่หน้าร้านไป 1 ลูก อย่างที่บอกไปว่านั่นมันเป็นองุ่นแค่ 1 ลูกนะ ไม่ใช่ 1 พวง โดยจากการรายงานบอกว่าองุ่นแค่ลูกเดียวที่ถูกเด็ดไปกินนั้นมันมีมูลค่าราวๆ 55 เยน (ประมาณ 15 บาท) เลยทีเดียว!! ภาพที่บอกว่าองุ่น 1 พวงในญี่ปุ่น มีราคาสูงถึง 320-550 บาท โดยเจ้าของร้านบอกว่าชายชราคนนี้น่าจะขโมยองุ่นจากร้านของเขาไปกินมาโดยตลอด สังเกตจากเปลือกองุ่นที่มักจะตกอยู่เต็มพื้นหน้าร้านตลอดช่วงระยะเวลากว่าครึ่งปีที่ผ่านมา ในเมื่อนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เขาจึงตัดสินใจแจ้งความหลังจากจับได้คาหนังคาเขา ตำรวจจึงได้พาตัวชายชราไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจต่อจากนั้น คนญี่ปุ่นจะปอกเปลือกองุ่นกินเป็นเรื่องปกติ ชายชราให้การปฏิเสธว่าตนเองไม่เคยแอบเด็ดองุ่นไปกินก่อนหน้านี้เลย เขาไม่ได้เป็นหัวขโมยอย่างที่เจ้าของร้านเข้าใจ อย่างไรก็ตาม คดีความดังกล่าวยังคงอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนต่อไป ซึ่งหากตำรวจพบว่าชายชรามีความผิดจริง เขาจะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงินอย่างน้อย 1,000 เยน (ประมาณ 295 บาท) ในข้อหาขโมยของ …
-
ป๋า Rowan เผย อาจไม่มีหนัง ‘มิสเตอร์บีนภาคใหม่’ มาให้เราได้ดูอีกแล้ว!!
หากจะกล่าวถึงป๋า Rowan Atkinson แล้ว เพื่อนๆ หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาของเขาในบทบาทของ ‘มิสเตอร์บีน’ กันเป็นอย่างดี!! เพราะชายคนนี้ถือเป็นบุคคลที่ทำให้ซีรีส์เบาสมองอย่างมิสเตอร์บีน ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้เพื่อสร้างเสียงหัวเราะให้กับพวกเราชาวประชาโลกมานานนับ 30 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ก็อาจจะมีการถ่ายทำภาคใหม่ๆ ออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามชมบ้างเป็นครั้งคราว แต่พักหลังๆ มานี้ก็ดูเหมือนจะเงียบกริบไปเลย ไม่มีวี่แววของหนังมิสเตอร์บีนภาคใหม่มาเลยแม้แต่น้อย!! ซึ่งล่าสุดป๋า Rowan ในวัย 63 ปี ก็ได้เปิดเผยถึงอนาคตของหนังมิสเตอร์บีนผ่านทางรายการ The Graham Norton Show ของช่อง BBC ว่า “ผมเกรงว่า เขา (มิสเตอร์บีน) คงจะไม่โผล่มาให้เราเห็นอีกต่อไปแล้วล่ะ มันมาถึงจุดที่เราได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำได้ไปหมดแล้ว” มันน่าเศร้าสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ แต่ป๋า Rowan ก็พูดส่งท้ายราวกับเป็นการให้ความหวังว่า “แต่มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอกนะ” นอกจากนี้ป๋ายังเล่าเพิ่มเติมอีกว่าตั้งแต่รับบทเป็นมิสเตอร์บีนมา หลายๆ คนมักจะจดจำเขาในบทนั้น และคิดว่ามาดของมิสเตอร์บีนน่ะ คือตัวตนจริงๆ ของเขา!! ซึ่งโดยความจริงแล้วมันไม่ใช่แม้แต่น้อย “เมื่อผมบอกเขาว่า ผมคือนักแสดงที่รับบทเป็น ‘มิสเตอร์บีน’…
-
เพิ่มโปรตีน!? สาวผงะพบ ‘หนอน’ อยู่ในหัวจ่ายซอสมะเขือเทศร้าน McDonalds มากันเพียบ…
คำเตือน: บทความนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่ดูยี้ ดูน่ากลัวไปบ้างและอาจทำให้คุณไม่กล้ากดซอสตามร้านไก่หรือร้านเบอร์เกอร์มากินอีกต่อไป… ปกติเวลาที่เราไปกินไก่ทอดหรือเฟรนช์ฟรายส์ในร้านชื่อดังต่างๆ เราก็มักจะชอบไปกดซอสมะเขือเทศหรือซอสพริกมาจิ้มกินกันอย่างสบายใจ แต่ว่ามีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ที่จะทำให้การกินซอสของคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งพบว่าที่หัวของเครื่องจ่ายซอสมี ‘ตัวอ่อนของแมลง’ หรือที่เราเรียกกันว่าหนอนอยู่ภายใน!! ทวิตเตอร์ @bellaritchie00 ได้เป็นผู้พบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว เธอกล่าวว่าได้ไปใช้บริการที่ร้าน McDonalds สาขาหนึ่งในเมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษแล้วดันไปเห็นสิ่งแปลกประหลาดนี้เข้า โดยเธอเขียนแคปชั่นคลิปวิดีโอเอาไว้ว่า “ฉันจะไม่ไปเข้าใกล้ซอสมะเขือเทศของ McDonalds อีกเป็นอันขาด สำหรับใครที่ไม่รู้นะนี่มันคือตัวหนอน” จากนั้นก็ใส่อิโมจิเป็นรูปอ้วกด้วย https://twitter.com/bellaritchie00/status/1047524227165945856 เธอกล่าวว่าได้นำเรื่องนี้ไปบอกกับพนักงานร้านแล้ว แต่ว่าพนักงานกลับทำเฉยแถมยังเอาซอสไปเสิร์ฟให้ลูกค้าคนอื่นๆ อีกราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น “เราต้องหยุดพวกเขาจากการกินสิ่งนี้ เพราะพวกเขาอาจจะไม่รู้มาก่อนก็เป็นได้ มันน่ากลัวมาก” เธอกล่าวเพิ่ม เมื่อเธอได้โพสต์วิดีโอนี้ออกไป ทาง McDonalds ก็ติดต่อกับเธอและให้คำมั่นว่าจะแก้ไขปัญหานี้ให้จนได้ แต่ว่ากับความรู้สึกที่เสียไปมันอาจจะไม่สามารถหวนคืนกลับมาได้แล้ว… “เราต้องขอโทษอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในตอนนี้เราได้ติดต่อกับลูกค้าโดยตรงแล้ว” “พื้นที่สำหรับปรุงอาหารและเครื่องจ่ายต่างๆ อันที่จริงเราจะตรวจเช็กความสะอาดทุกวัน แต่ในตอนนี้เรากำลังตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่” โฆษกของ McDonalds กล่าว โปรตีนเต็มข้อเลยอย่างนี้ ที่มา: ladbible, 9gag,…
-
เมื่อ Donald Trump เดินขึ้น Air Force One แล้วทิชชู่ติดรองเท้า ชาวเน็ตแซวเละเลย!!
อย่างที่รู้กันดีว่าการเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงย่อมกลายเป็นเป้าสายตาของสื่อและผู้คนจากทั่วโลกอยู่แล้ว และยิ่งเป็นผู้นำของประเทศมหาอำนาจของโลกอย่างสหรัฐอเมริกาแล้วด้วยล่ะก็ พลาดนิดเดียวอาจจะโดนเล่นซะยับเลยก็ได้!! ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา ท่านประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา Donald Trump กำลังถูกพูดถึงอยู่ในโลกโซเชียลอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน เพราะขณะที่เขากำลังเดินขึ้นเครื่องบินประจำตำแหน่ง Air Force One เพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ ระหว่างนั้นก็ดันมีคนตาดีเห็น ‘ทิชชู’ ติดอยู่ที่รองเท้าของเขา คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ไปอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล จนกลายเป็นกระแสไวรัล มีคนเข้ามาชมมากกว่า 1.8 ล้านครั้งเลยทีเดียว!! ลองไปชมคลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… Soggy president takes toilet paper with him: pic.twitter.com/m54VTAgxrE — Deadspin (@Deadspin) October 5, 2018 ชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็สงสัยว่า ‘ทำไมทิชชูมันถึงติดหนึบซะขนาดนั้น’ ขนาดที่ว่าแรงก้าวขึ้นไปบนบันไดแต่ละขั้น ยังไม่สามารถทำให้มันหลุดจากเท้าของท่านประธานาธิบดีได้ เอ๊ะ หรือว่ามันจะเปื้อนอะไรจนทำให้เปียกกันแน่นะ!? หลายๆ คนก็แซวกันไปต่างๆ…
-
Banksy เฉลยกลที่ทำให้ ‘ภาพวาดทำลายตัวเอง’ เผยตอนนี้ราคาขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 86 ล้านบาท!!
หลังจากเหตุการณ์ช็อกวงการศิลปะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในกรณีของศิลปิน Banksy ทำลายงานภาพสเปรย์ ‘Girl With Ballon’ มูลค่าราว 1 ล้านปอนด์ของตัวเขาเองจนเหลือเพียงริ้วกระดาษ อ่านข่าวเก่าที่>> ภาพสเปรย์ดังถูกประมูลไปกว่า 33 ล้าน แต่ศิลปินเจ้าของกลับใช้รีโมทสั่งตัดเหลือเพียงริ้วกระดาษ… ในตอนนี้เขาได้เผยถึงวิธีการที่ทุกคนสงสัย ว่าทำไมจู่ๆ มันถึงทำลายตัวเองได้ราวกับมีเวทมนตร์อย่างนั้น!! สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่อุบัติเหตุหรือว่าความบังเอิญแต่อย่างใด ทว่าเป็นความตั้งใจของศิลปินคนนี้อย่างแท้จริงโดยแผนดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว เขาได้อธิบายสิ่งต่างๆ ในวิดีโอบน Instagram ของเขาซึ่งในตอนต้นๆ ของคลิปเขาได้เขียนข้อความเอาไว้ดังนี้ “เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาผมแอบติดตั้งเครื่องทำลายเอกสารเอาไว้ด้านหลังรูป ผมทำขึ้นเผื่อไว้ในกรณีที่สักวันหนึ่งภาพนี้จะถูกนำขึ้นประมูล” https://www.instagram.com/p/BomXijJhArX/?taken-by=banksy หากดูในคลิปก็จะเห็นว่าเขาได้ติดตั้งใบมีดเอาไว้ข้างหลังภาพจริงๆ แต่อีกหนึ่งปริศนาที่หลายคนอยากรู้ว่าเขาสั่งให้มันทำลายตัวเองหลังจากการประมูลได้อย่างไรกัน ในส่วนนี้เป็นความลับที่เขาไม่ได้อธิบายเอาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนแรกมันจะดูเป็นเหมือนกับหายนะสำหรับผู้ที่ประมูลงานนี้ไปได้ เพราะต้องจ่ายเงินเฉียดล้านปอนด์เพื่อแลกกับริ้วกระดาษเช่นนี้ แต่ตอนนี้หลายคนอาจคิดว่าเขา ‘โชคดี’ ซะมากกว่าเพราะลือกันว่า ณ ปัจจุบันราคาของภาพนี้พุ่งขึ้นไปอีกถึงเท่าตัว และอาจทะยานสูงถึง 2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 86 ล้านบาท) เลยทีเดียว “ผลของการประมูลจะยังคงดำเนินต่อไป ผู้โชคดีที่ซื้อภาพนี้ไปจะได้รับผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมหลังจากที่ควักเงิน 1.04 ล้านปอนด์…
-
หนุ่มขี้แกล้ง เอาแฟนไปขึ้นประมูลขำๆ บน ‘eBay’ สุดท้ายมีคนประมูลให้สูงถึง 3 ล้านบาท!!
เดี๋ยวนี้อีกช่องทางที่เราสามารถหาเงินได้ง่ายๆ ก็คือการเอาของที่เราไม่ใช้แล้วไปเลหลังขายบน ‘โลกออนไลน์’ ซึ่งเราก็อาจเคยเห็นคนเอาเสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไปขายบนเว็บกันอย่างสนุกสนาน แต่ใครจะไปคิดว่าการขายของออนไลน์ จะเป็นช่องทางให้เราสามารถแกล้งแฟนอันเป็นสุดที่รักได้… งงล่ะสิถ้าอย่างงั้นไปดูในกรณีของหนุ่มคนนี้ที่แกล้งแฟนด้วยการเอาไปตั้งราคาขายบน eBay ซะเลย!! Dale Leeks หนุ่มขี้เล่นวัย 34 จากมณฑลเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ กระทำการอุกอาจแกล้ง Kelly Greaves แฟนสาววัย 37 ปีของเขาด้วยการเอาเธอไปประมูลบนเว็บไซต์สุดฮิตอย่าง eBay ด้วยความขี้แกล้งของเขา เลยใส่คำอธิบายสินค้าชิ้นนี้อย่างสุดฮาจนใครที่ได้เห็นต่างก็พากันหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง โดยเขาอธิบายสรรพคุณของแฟนสาวเอาไว้ดังนี้ “สินค้าชิ้นนี้อาจส่งเสียงหอนอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีร่องรอยความเสียหายมากนักแต่ก็พอรู้ว่าผ่านการใช้งานมาบ้างแล้ว ตรงส่วนท้ายพอมีรอยรั่วบ้างนิดหน่อย” “ทุกๆ ข้อเสนอจะได้รับการพิจารณาและผมนอกจากขายแล้ว ก็ยังสนใจรับแลกกับโมเดลที่ใหม่ (อ่อนเยาว์) กว่าด้วย และที่สำคัญที่สุดซื้อไปแล้วไม่รับคืน!!” จากคำอธิบายคุณสมบัติของชายคนนี้ ถ้ามองผ่านๆ หลายคนอาจจะนึกว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์หรืออะไรสักอย่าง แต่นี่แหละคือคำอธิบายสินค้า (แฟนสาว) ของเขา… ในตอนแรกเมื่อเขาอัปโหลดสินค้าชิ้นนี้ ก็มีเพียงเพื่อนๆ เขามาประมูลเล่นขำๆ เพียงเท่านั้น แต่พอวันต่อมาก็ปรากฏว่าได้รับการเข้าชมมากกว่า 8,000 วิวแถมมีการประมูลกว่า 100 ครั้งเลยด้วย ซึ่งราคาสูงสุดที่มีคนประมูลเข้ามาคือ 70,200 ปอนด์…
-
เจ้าของบ้านเพิ่งมารู้ว่า ‘หินกั้นประตู’ ที่ใช้มา 30 ปี คือหินอุกกาบาต มีราคาหลายล้าน!?
ใครเล่าจะไปคิดว่า ‘หินที่ใช้เป็นที่กันไม่ให้ประตูปิด’ จะกลายมาเป็น ‘หินอุกกาบาตที่ขายได้ในราคาหลายล้านบาท!? เรื่องมีอยู่ว่าชายไม่ทราบชื่อรายหนึ่งซื้อฟาร์มที่อยู่ใกล้ๆ กับเมือง Edmore รัฐมิชิแกน เมื่อปี 1988 ซึ่งที่ประตูของโรงนาจะมีหินแปลกๆ ก้อนหนึ่งใช้เป็นที่กั้นประตู เจ้าของคนเก่าบอกกับเขาว่ามันคือ ‘อุกกาบาต’ ที่ตกลงมาในพื้นที่ฟาร์มตั้งแต่ช่วงปี 1930s แล้ว ซึ่งตั้งแต่ย้ายเข้ามาเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร และยังคงใช้เจ้าหินก้อนนั้นเป็นที่กั้นประตูต่อไป วันเวลาผ่านไปกว่า 30 ปี เขาเริ่มให้ความสนใจกับเจ้าหินก้อนนั้น หลังจากที่ไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับดาวหางดวงหนึ่งที่ตกลงมาสู่โลก และจากการช่วยเหลือของ Mona Sirbescu นักธรณีวิทยาขอมหาวิทยาลัย Central Michigan University ก็ทำให้ทราบว่าหินก้อนนั้นมันคือ ‘อุกกาบาต’ “ฉันสามารถบอกได้เลยว่า เจ้านี่มันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ” Mona กล่าว จากข้อมูลที่ได้จากมหาวิทยาลัยระบุว่า มันคืออุกกาบาตที่มีขนาดพอๆ กับลูกแคนตาลูป มีน้ำหนักราวๆ 10 กิโลกรัม ถือเป็นอุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ที่พบในมิชิแกนเลยทีเดียว Mona คาดว่าราคาของมันน่าจะอยู่ที่ราวๆ 100,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ…
-
ภาพสเปรย์ดังถูกประมูลไปกว่า 33 ล้าน แต่ศิลปินเจ้าของกลับใช้รีโมทสั่งตัดเหลือเพียงริ้วกระดาษ…
บางครั้งงานศิลป์ก็ไม่ได้มีไว้เพื่อขายเสมอไป… เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ก.ย.) บริษัท Sotheby ได้จัดงานประมูลศิลปะขึ้นที่สำนักงานของพวกเขา ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในงานดังกล่าวมีการประมูลภาพวาดภาพเขียนเกิดขึ้นมากมาย แต่ไฮไลต์ในงานนี้ก็คือภาพสเปรย์ด้วยเทคนิค Stencil ที่มีชื่อว่า Girl With Balloon ของศิลปิน Banksy โดยออกมาเผยตัวในช่วงท้ายๆ งาน มีผู้สนใจประมูลภาพนี้อย่างคับคั่ง ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วภาพเด็กสาวกับลูกโป่งก็ทุบขายออกไปด้วยราคาราวๆ 840,000 ปอนด์ (ประมาณ 36 ล้านบาท) ขณะเคลื่อนย้าย ‘ริ้วกระดาษ’ นี้ https://www.instagram.com/p/BoldZ2EgWMf/?utm_source=ig_embed แต่แล้วก็เกิดเรื่องที่น่าเหลือเชื่อขึ้น เมื่อจู่ๆ ภาพนี้ก็ค่อยๆ เลื่อนตัวเองลงด้านล่างเฟรมพร้อมทั้งทำลายตัวเองกลายเป็น ‘ริ้วกระดาษ’ หลังจากทุบปิดประมูลไม่นานนัก มีการสันนิษฐานกันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะเกิดมาจากความที่ Banksy ใช้รีโมทกดทำลายงานของตัวเขาเองเพื่อต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง พร้อมกันนี้ก็มีคนเห็นว่า มีชายในชุดดำสวมแว่นกันแดดคนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ใส่กุญแจมืออยู่บริเวณทางเข้างาน ซึ่งก็เดากันว่าชายคนนั้นแหละที่น่าจะเป็น Banksy ในภายหลัง Instagram ของ Banksy ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.5 ล้านคนก็โพสต์รูปภาพขณะงานนี้ถูกทำลายลง โดยเขาใส่แคปชั่นเอาไว้ว่า “Going, going, gone…”…
-
เด็กสาวลงไปเล่นน้ำในทะเลสาบ บังเอิญพบ ‘ดาบเก่าแก่’ ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี!!
ใครเล่าจะคิดว่าการเล่นของเด็กๆ จะนำไปสู่การค้นพบหลักฐานสำคัญทาประวัติศาสตร์ ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน ครอบครัวได้พากันไปพักผ่อนที่ริมทะเลสาบ Vidöstern ในเมือง Tånnö ประเทศสวีเดน Saga Vanecek ลูกสาววัย 8 ขวบลงไปเล่นในน้ำตามปกติอย่างสนุกสนาน ก่อนที่จะบังเอิญไปหยิบ ‘แท่ง’ บางอย่างขึ้นมาได้ “ตอนแรกหนูคิดว่าเป็นกิ่งไม้ แต่พอเอาขึ้นมาจากน้ำก็พบว่ามันมีรูปร่างคล้ายกับดาบเลย” จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในพิพิธภัณฑ์ Jönköpings Läns แล้วก็ทำให้ทราบว่า อาวุธที่เด็กสาวพบนั้นอาจจะเป็นของชนเผ่าโบราณ ที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อช่วง 1,000 ปี ถึง 1,500 ปี ก่อนยุคกำเนิดชาวไวกิงเลยทีเดียว!! มันมีความยาวราวๆ 85 เซนติเมตร มีทั้งเศษไม้และเหล็กเป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังไปตรวจสอบบริเวณทะเลสาบดังกล่าวเพิ่มเติม และพวกเขาก็ค้นพบชิ้นส่วนของเหล็กที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเพิ่มเติมอีกด้วย นับว่าเป็นการค้นพบที่น่าประทับใจ และเหล่านักโบราณคดีก็เชื่อว่าในทะเลสาบแห่งนี้ยังมีอะไรซ่อนอยู่อีกมากมาย Andy Vanecek คุณพ่อของหนู Saga เล่าว่า “ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมมันถึงมาอยู่ตรงนั้น เราไปช่วยเหล่านักโบราณคดีจากพิพิธภัณฑ์ค้นหาพื้นที่ตรงนั้นอีกครั้งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ก็พบชิ้นส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมที่มาจากยุคเดียวกัน ผมไม่ทราบว่ามันคืออะไร แต่มันน่าจะเป็นสถานที่ที่เอาไว้ทำพิธีบูชายัญ” …
-
คุณแม่โวย!! อาหารโรงเรียนประถมสุดห่วย ขนาดที่ว่า ‘จะเอาให้หมา’ ยังคิดแล้วคิดอีก!!
ใครๆ ต่างก็รู้ว่ากันดีว่า วัยเด็กเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโตจึงต้องได้รับสารอาหารในแต่ละมื้ออย่างครบถ้วน แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเราก็อาจเคยเห็นข่าวว่าโรงเรียนนำอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางสารอาหารมาให้นักเรียนกินอยู่บ่อยๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีเช่นเดียวกัน เมื่อมีคุณแม่ออกมาร้องว่าอาหารที่ทางโรงเรียนจัดหาให้กับลูกของเธอมันเป็นอาหารชั้นเลวซะยิ่งกว่า ‘เอาให้หมา’ อีก!! เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ปกครองของเด็กโรงเรียน St Pius Primary เมืองดันดี ประเทศสกอตแลนด์ ได้ออกมาบอกว่าอาหารเย็นที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้ให้มันแย่จนเทียบได้กับอาหารของคนในคุก แถมยังบอกด้วยว่าอาหารอย่างนี้จะเอาให้หมา เธอยังไม่กล้าจะเอาให้เลย… มื้อดังกล่าวประกอบไปด้วยไส้กรอกชิ้นน้อยๆ 2 อัน มันฝรั่งอีกหัวครึ่ง น้ำเกรวี่มาสตาร์ดแหยะๆ กับอะไรไม่รู้อีกอย่างหนึ่ง (สันนิษฐานว่าเป็นเค้ก) และนมอีกหนึ่งแก้วเท่านั้น ในเรื่องนี้ทางสภาท้องถิ่นได้ออกมากล่าวถึง โดยพวกเขาบอกว่าเรื่องนี้จะมีการพูดคุยกับทางผู้รับเหมาสัมปทานอาหารของทางโรงเรียนแน่ๆ โดยโพสต์ในเฟซบุ๊กของทางพ่อแม่เด็กนักเรียนคนนี้ได้ใส่แคปชั่นเอาไว้ว่า “นี่ไม่ใชเรื่องขำๆ นะ นี่มันเป็นอะไรที่ห่วยแตกมากๆ ที่โรงเรียน St Pius Primary School เอาอาหารอย่างนี้มาให้เด็กๆ กิน” “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกสาวฉันถึงขอเงินไปทุกๆ วันเพื่อไปซื้ออาหารในร้านค้ากับเพื่อนๆ ของเธอ” โพสต์ดังกล่าวของคุณแม่คนนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในโซเชียลมีเดียสกอตแลนด์ ซึ่งก็มีผู้ถาโถมคอมเมนต์เข้ามาอย่างมากมาย สภาท้องถิ่นบอกส่งเรื่องให้แล้วเรียบร้อย พร้อมกันนี้คุณแม่ได้ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบเรื่องนี้กับทางโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ได้ทราบว่าบริษัทผู้ดูแลในเรื่องอาหารก็คือบริษัทชื่อว่า Tayside Contracts ซึ่งจะมีการเจรจากันต่อไป ทางด้านโฆษกของบริษัท Tayside ก็กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า…
-
เถียงกันใหญ่ เมื่อภาพจากปี 1943 เหมือนจะมี ‘หนุ่มยืนจิ้มมือถือ’ แม้ยุคนั้นมันยังไม่เกิดขึ้น!!
‘คุณเชื่อเรื่องการย้อนเวลาได้ไหม?’ นี่อาจเป็นคำถามที่ใครหลายคนเคยถูกถาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักที ว่าจะเชื่อเรื่องนี้ดีหรือไม่ แต่ว่าในตอนนี้มีรูปภาพหนึ่งที่ว่ากันว่ามีคนย้อนเวลาอยู่ในภาพนี้ จนกลายเป็นที่สงสัยของชาวเน็ตกันว่านี่คือผู้ย้อนเวลาได้จริงๆ หรือไม่!? British war workers escape to the seaside – this Cornish beach was photographed in September 1943. (It would be lovely if one of you were able to identify which beach!) ❤️ pic.twitter.com/BpLyuwSb8z — BabelColour (@StuartHumphryes) September 30, 2018 แหล่งข่าวกล่าวว่า รูปภาพใบดังกล่าวนี้ได้ถูกถ่ายขึ้นที่ชายหาดแห่งหนึ่งในเดือนกันยายนปี 1943 ซึ่งหากมองผิวเผินก็ดูไม่มีอะไรที่ดูผิดแปลกไปนัก แต่ว่าชาวเน็ตตาดีได้สังเกตเห็นว่า มีชายคนหนึ่งภายในภาพกำลังยืนง่วนอยู่กับการจ้องมองอะไรบางอย่างในมือของเขา ซึ่งถึงตรงนี้หลายคนก็เดากันว่ามันมีลักษณะรูปร่างและการถือเหมือนกับโทรศัพท์ซะเหลือเกิน …
-
คุณป้าโดนแจ้งตำรวจจับ หลังตำหนิสองสาว ‘พูดสเปน’ บอก ‘อยู่ประเทศนี้ต้องพูดอังกฤษ’!!
แม้ในโลกยุคปัจจุบัน จะมีความเปิดกว้างในหลายๆ ด้านแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ เพศ, สีผิว, เชื้อชาติ, หรือชนชั้นต่างๆ และทำให้การ ‘เหยียด’ เรื่องต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นการกระทำที่ไม่ได้รับการยอมรับ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าของเมือง Rifle รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา มีคนสองคนพูดเป็นภาษาสเปน แต่กลับถูกผู้หญิงคนหนึ่งต่อว่าและแสดงท่าทีเหยียดใส่ซะอย่างนั้น แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีอยู่ในเหตุการณ์และเธอไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นและดำเนินไปราวกับว่ามันเป็นอะไรที่ยอมรับกันได้ Kamira Trent เดินเข้ามาพร้อมกับต่อว่า Linda Dwire ที่แสดงท่าทีเหยียดคนพูดสเปน มีคนถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์เอาไว้ได้ และนำไปแชร์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์กจนกลายเป็นกระแสไวรัล มีคนเข้าชมมากกว่า 1 ล้านครั้งเลยทีเดียว!! เรื่องมันเริ่มต้นตรงที่ว่าจู่ๆ Dwire ก็เดินตรงเข้าไปหาผู้หญิงสองคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ เพราะพวกเขาใช้ภาษาสเปน พร้อมกับถามว่า ‘พวกเธอน่ะอาศัยอยู่ในประเทศนี้เหรอ?’ ก่อนที่ทั้งสองคนจะตอบว่า ‘ใช่ค่ะ’ แล้ว Dwire ก็พูดอีกว่า ‘งั้นก็หัดเรียนภาษาอังกฤษซะสิ’ หนึ่งในผู้หญิงที่พูดภาษาสเปนนั้นอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกามาแล้วกว่า 8 ปี ในวันนั้นเธอไปเลือกซื้อของกับลูกๆ อีก 3 คน แต่ดันบังเอิญไปเจอคนบ้านเดียวกันก็เลยแวะทักทายกันตามประสา แต่กลับถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง รวมไปถึงพยายามที่จะทำร้ายร่างกายอีกด้วย…
-
ครอบครัว “ชาวต่างชาติผิวสี” ไปเที่ยวจีน โดนเจ้าถิ่นมาแห่ขอถ่ายรูป ลำบากใจยิ่งกว่าดาราดัง!!
ทะเลสาบ West Lake เป็นสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองหางโจว ประเทศจีน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศ และชาวต่างชาติ นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ชาวต่างชาติผิวสีครอบครัวหนึ่งพากันไปเที่ยวยังสถานที่ดังกล่าว แต่ประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับกลับไปนั้นมันอาจไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่ากับการไปเที่ยวสักเท่าไหร่เลย ครอบครัวชาวผิวสีที่นั่งพักอยู่ตามปกติ (ไม่ทราบว่าเป็นคนประเทศอะไร) นี่เป็นบรรยากาศที่เกิดขึ้นในทะเลสาบแห่งนั้นตอนวันที่ 2 ตุลาคม 2018 เมื่อนักท่องเที่ยวผิวสีถูกคนจีนเจ้าถิ่นมุงถ่ายรูป ยืนล้อมเหมือนกับเห็นว่าพวกเขาเป็นของแปลกที่ไม่มีใครเคยเห็นกันมาก่อน จากภาพเราจะเห็นว่าครอบครัวผิวสีที่ไปเที่ยวกันนั้นได้นั่งพักอยู่บริเวณม้านั่งริมทาง แต่จู่ๆ กลับมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากแห่เข้ามาขอถ่ายรูป ทั้งๆ ที่พวกเขาก็ไม่ใช่ดาราดังแต่อย่างใด แน่นอนว่าสีหน้าของชาวต่างชาติผิวสีแสดงออกมาให้เห็นถึงความรำคาญใจอย่างชัดเจน พวกเขาคงไม่ค่อยสบอารมณ์กับการที่ต้องมานั่งเป็นเหมือนกับอะไรสักอย่างรอให้คนรอบข้างมาค่อยถ่ายรูป ถึงแม้ว่าพวกเขาจะปฏิเสธไปว่าไม่อยากถ่ายรูปด้วยก็ตาม แต่นักท่องเที่ยวชาวจีนก็ทำเหมือนไม่สนใจ หรืออาจไม่เข้าใจภาษาของพวกเขา แห่เข้ามาขอถ่ายรูปอย่างไม่ขาดสาย เราจะเห็นว่าชาวผิวสีคนหนึ่งถึงกับแสดงท่าทีไม่พอใจ ลุกขึ้นจากม้านั่ง อุ้มลูกออกไปจากบริเวณนั้นในทันที ขณะที่ชาวจีนยังคงมุงถ่ายรูปกันเหมือนเดิม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียลของประเทศจีน โดยชาวเน็ตนั้นต่างไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมที่นักท่องเที่ยวจีนทั้งหลายได้ทำลงไป “มันเป็นอะไรที่หยาบคายเอามากๆ เลย” “ชาวต่างชาติคงถึงกับพูดไม่ออกเลยจริงๆ” “มันหยาบคายมากกับการรุมถ่ายรูปพวกเขา ราวกับเป็นสัตว์ในสวนสัตว์ยังไงยังงั้น” คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คนท้องถิ่นได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ค่อยมีชาวต่างชาติผิวสีมาเที่ยวกันเท่าไหร่นัก จึงถือว่าเป็นเรื่องแปลกสำหรับคนท้องถิ่นหลายๆ คน…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ บ้านทหารวัยเกษียณสร้างรั้วขึ้นมาล้อม ‘ฟุตปาธ’ แบบนี้ก็ได้เหรอ!?
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ฟุตปาธ’ หรือ ‘ทางเท้า’ นั้นถือเป็นที่สาธารณะ จะเคลมไว้เป็นของตัวเองไม่ได้ เพราะมันผิดกฎหมาย แต่จากโพสต์ล่าสุดของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Somchai Tum Jaitong ได้แสดงให้เห็นว่ามีบ้านหลังหนึ่ง ได้ทำการสร้างรั้วมากั้น ‘ฟุตปาธ’ ที่อยู่หน้าบ้าน ราวกับว่าฟุตปาธนั้นเป็นเขตในบ้านของตัวเองซะงั้น!? นอกจากนี้ยังเปิดเผยอีกว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของอดีตทหารยศพลตรี ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วอีกด้วย ลองไปอ่านโพสต์แบบเต็มๆ กันดูครับ “บ้านของพลตรีทหารเกษียณราชการแล้ว ฟุตปาธกั้นเอามาเป็นรั้วของตัวเอง แล้วยังเอารั้วเหล็กมาวางกั้นไม่ให้ชาวบ้านจอดรถหน้าบ้านได้ เห็นแล้วไม่รู้ว่าใครจะกล้าไปรื้อรั้วได้” โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมายมีคนเข้ามากดไลก์กว่า 1,200 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 1,445 ครั้งเลยทีเดียว แต่ละคนก็ให้ความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า เห็นมานานกว่า 20 ปีแล้วบ้านหลังนี้ ดีใจที่มีคนคิดเหมือนเรา บ้างก็ตัดพ้อว่า ลองเป็นคนพื้นๆ บ้านทำบ้างสิ ได้เดือดร้อนแน่ๆ บ้างก็ตำหนิว่าเห็นแก่ตัว สังคมเดือดร้อนก็เพราะคนแบบนี้นี่แหละ แต่บางส่วนก็มองว่าบ้านหลังนี้ทำถูกแล้ว เอารั้วมาวางกั้นไม่ให้ชาวบ้านจอดรถหน้าบ้านก็ทำถูกแล้วนี่ ไม่งั้นจะเหมือนเคสคุณป้าทุบรถเลยนะ…
-
สุดยอดวิดีโองานแต่ง จากสตูดิโอถ่ายภาพ ใส่เบลอแทบทั้งงาน สาด CG เกลื่อน!?
ในปัจจุบันหากจะจัดงานแต่งทั้งที เราก็อยากมีภาพแห่งความทรงจำเก็บเอาไว้ใช่มั้ยล่ะ นอกเหนือจากจะให้ญาติคอยเก็บภาพให้แล้ว อีกหนึ่งทางเลือกที่อยากจะได้ภาพและวิดีโอสวยๆ ก็ต้องจ้างมืออาชีพมาสิ! แน่นอนว่า เดี๋ยวนี้มีให้เลือกมากมายหลายสตูดิโอ ซึ่งคู่รักข้าวใหม่ปลามัน Farah กับ Hadi จากประเทศมาเลเซียได้ตกลงว่าจ้างช่างภาพมาเก็บบรรยากาศงานแต่ง โดยในแพคเกจจะมีถ่ายวิดีโอแถมให้ด้วย ลางสังหรณ์ของข่าวร้ายกำลังจะมาเยือน เมื่อสตูดิโอแจ้งว่าต้องเปลี่ยนตัวช่างถ่ายวิดีโอ ปัญหามันอยู่ตรงที่ ก่อนวันแต่งงานแค่วันเดียว เกิดเหตุที่ต้องเปลี่ยนตัวช่างถ่ายวิดีโอ ทางสตูดิโอก็ได้แจ้งให้ฝ่ายเจ้าสาว Farah ได้ทราบ โดยที่ไม่ได้ทำการตรวจสอบประวัติผลงานของช่างคนนี้เลย… และแล้วผลก็ออกมาอย่างที่เห็น เมื่อคลิปวิดีโองานแต่งเสร็จสิ้น ถูกอัปโหลดขึ้นยูทูบโดย REZAL V VIDEO ENTERTAINMNET เปิดตัวมาก็สังหรณ์ใจได้แล้วว่า ‘พังแน่นอน’ เปิดมาพร้อมกับเอฟเฟกต์หิมะโปรยปราย พร้อมกับตัวหนังสือสามมิติลอยๆ สารพัดเอฟเฟกต์แอนิเมชั่น (ที่ไม่จำเป็น) แถมยังเบลอๆ ให้เกือบตลอดทั้งคลิป… มีเอฟเฟกต์ดาวพุ่งให้อี๊กกกกก คลิปวิดีโองานแต่งสาดเอฟเฟกต์ตัวเต็ม 12 นาที ดีไม่ดี คุณอาจจะดูไม่จบ… พอเห็นผลงานวิดีโองานแต่งออกมาเป็นแบบนี้ ทั้งภาพสั่นๆ ภาพเบลอ การเลือกเพลงมาประกอบ รวมถึงแอนิเมชั่นที่ไม่จำเป็น…
-
แมวมองเดินแบบ พบหนุ่มญี่ปุ่นคนธรรมดา พาลัดฟ้าสู่นายแบบ Balenciaga รันเวย์ปารีส!!
คุณเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนชีวิตตัวเราเองในเพียงชั่วข้ามคืนรึเปล่า เหตุการณ์ทำนองที่ว่าจากคนธรรมดาที่ไม่มีใครรู้จัก สู่การเป็นส่วนหนึ่งของวงการระดับโลกได้ในชั่วพริบตา… เรื่องแบบนี้มักจะเกิดขึ้นในวงการแฟชั่น จากการเฟ้นหานายแบบและนางแบบ มาเดินบนรันเวย์ให้กับแบรนด์ต่างๆ ตามงานแฟชั่นวีค ซึ่งแต่ละคนต่างก็มาจากจุดที่เป็นคนธรรมดาทั่วไปทั้งนั้น แต่โดดเด่นบนเวทีได้อย่างอัศจรรย์ Plasma ชายหนุ่มญี่ปุ่นผู้ฉีกทุกกฎเกณฑ์นายแบบ… https://www.instagram.com/p/BoAAfBsAh6W/?utm_source=ig_embed หนุ่มญี่ปุ่นคนนี้ เป็นชายธรรมดาคนหนึ่งที่หลงใหลในเรื่องของแฟชั่นการแต่งตัว เขามีสไตล์เป็นของตัวเองและมักจะเดินเที่ยวตามท้องถนนเป็นประจำอยู่แล้ว จนกระทั่งในปีนี้ คือปีที่พลิกชีวิตของเขาสู่วงการนายแบบแฟชั่นระดับโลก จากการที่พบเจอกับแมวมองชาวต่างชาติโดยบังเอิญในกรุงโตเดียว และพวกเขาก็รู้สึกถูกชะตากับ Plasma มาก… https://twitter.com/__plazma/status/999955259450474497 Plasma ได้เล่าเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมว่า “ในขณะที่ผมกำลังเดินในย่าน Kōenji แล้วก็พบว่าต่างชาติ 3 คน เข้ามาล้อมรอบตัวผม… พูดประมาณว่ามาจากปารีสเพื่อหาคนไปเดินแบบให้แบรนด์ Balenciaga พวกเขาถ่ายรูปผมและขออีเมลไป ถ้ามันเป็นจริงก็คงจะวิเศษมาก…” แต่แล้วในวันที่ 1 ตุลาคม เขาก็ทวีตว่า ‘มันเกิดขึ้นจริงแฮะ’ https://twitter.com/__plazma/status/1046536692247609344 ฟังดูเหมือนจะหลุดมาจากโลกแห่งความฝันอะไรทำนองนั้นกันเลยทีเดียว ซึ่งชีวิตที่พลิกผันของพ่อหนุ่ม Plasma ก็เริ่มปรากฏออกมาบนโลกออนไลน์มากขึ้น เผยให้เห็นว่าเขาได้ไปเดินแบบบนรันเวย์ปารีสจริงๆ! . .…
-
สาวพลิกชีวิต ต่อสู้กับโรคผอมแห้งติดกระดูกนานถึง 7 ปี สู่การเป็นเทรนเนอร์สุขภาพดี!
โรคอะนอเร็กเซียหรือโรคคลั่งผอม คือหนึ่งในภาวะความผิดปกติทางจิต ส่งผลทำให้ผู้ป่วยมีความบกพร่องในพฤติกรรมการกิน เนื่องจากคิดว่าตนเองอ้วน ทั้งๆ ที่ผอมมากอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้ผอมมากขึ้นจนเสียสุขภาพ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นกับกลุ่มวัยรุ่นเพศหญิง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Athina Crilley นักศึกษาวัย 22 ปี ผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานกับอาการคลั่งผอมมาตั้งแต่อายุ 13 ปี น้ำหนักตัวที่ต่ำที่สุดของ Athina คือ 34 กิโลกรัม เกิดขึ้นมาจากความพยายามอยากผอมของเธอ ส่งผลร้ายทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น และใช้เวลาต่อสู้กับมันนานถึง 7 ปี ด้วยความตั้งใจครั้งแรก เธอออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง และลดการทานอาหารแบบสุดโต่ง ด้วยระยะเวลาเพียง 5 เดือนเธอก็มีน้ำหนักลดลงไปเกือบ 20 กิโลกรัม ผลพวงจากน้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้พ่อกับแม่ต้องพาเธอไปรับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นครั้งแรก Athina กล่าวว่า ความรู้สึกในตอนนั้นก็คืออยากลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อย แต่แล้วกลับรู้สึกอยากผอมมากกว่านั้น ซึ่งจากน้ำหนักที่ลดลงไป มันทำให้เธอรู้สึกดีในช่วงแรกๆ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มอ่อนแรงลงทุกวัน ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี Athina…
-
การจัดการปัญหาขยะของสิงคโปร์ นำมาทิ้งถมลงทะเล สร้างเป็นเกาะเพิ่มพื้นที่สีเขียว!!
ด้วยลักษณะของประเทศที่เป็นเกาะ มีขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (เล็กกว่ากรุงเทพฯ) และมีประชากรจำนวนเกือบ 6 ล้านคน แต่ทว่าสิงคโปร์กลับสามารถสร้างเกาะของตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ จากการใช้ ‘ขยะ’ ที่ทิ้งกันเป็นประจำ แนวทางการกำจัดขยะของประเทศสิงคโปร์ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างให้เห็นมากขึ้น จากปัญหาพื้นที่อันจำกัดและความจริงจังในการแก้ปัญหาขยะมาหลายยุคสมัย ทั้งนี้ขยะส่วนใหญ่ จะถูกนำมาฝังกลบบนเกาะปูเลาเซมาเกา อยู่ทางตอนใต้ของเกาะหลักประเทศสิงคโปร์ โดยจะทำการขนย้ายขยะมาทางเรือท้องแบน ก่อนที่จะทำการคัดแยกขยะและเผาขยะในโรงงานให้กลายเป็นขี้เถ้า เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการเผาด้วยความร้อนสูง จะทำการตรวจสอบว่าไม่มีสารพิษเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ก่อนจะนำไปถมก็จะทำการรองพื้นด้วยยาง ป้องกันเกิดเหตุรั่วไหลของมลพิษ ตามช่องพื้นที่ถมขยะที่แบ่งเอาไว้แล้ว จะถูกถมด้วยรถขนขี้เถ้าอย่างต่อเนื่อง และรอคอยให้กระบวนการทางธรรมชาติปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นผืนดินต่อไป ปัจจุบันกลายเป็นภาพที่น่าทึ่ง จากเกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ที่ขึ้นชื่อว่าถูกถมกองมาจากขยะ กลับมีความสวยงามและมีพื้นที่สีเขียวอุดมสมบูรณ์ ไม่ต่างไปจากเกาะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3.5 ตารางกิโลเมตร สิ่งมีชีวิตทางท้องทะเลสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ มีแนวปะการังอันสวยงาม และมีป่าชายเลนคอยสร้างชีวิตชีวาให้กับระบบนิเวศอย่างยั่งยืน และผลจากการถมขยะบนเกาะอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะเป็นแหล่งกำจัดขยะหลักของประเทศสิงคโปร์แล้ว ก็ยังเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว ที่เปิดให้ประชาชนเข้ามาสัมผัสธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้ด้วย …
-
ดราม่า Take Me Out ออสเตรเลีย หนุ่มถูกสาวเชื้อเอเชียปิดไฟใส่ ‘ไม่อยากเดตกับผู้ชายเอเชีย’
ในรายการ Take Me Out ตามพื้นฐานแล้ว จะเป็นการให้ผู้เข้าร่วมรายการฝ่ายหญิง ได้ตัดสินใจที่จะเลือกหรือไม่เลือก แขกรับเชิญฝ่ายชาย จากการได้รับรู้ถึงหน้าตาและโปรไฟล์ของเขา และบ้านเราก็คุ้นเคยกับรูปแบบรายการนี้อยู่แล้ว ซึ่งดราม่าในรายการนี้ก็มักจะเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง เช่นเดียวกันฝั่ง Take Me Out ของประเทศออสเตรเลีย ที่เพิ่งจะออนแอร์ไปได้ไม่นาน เกิดเป็นข้อกังขาของชาวเน็ต (ส่วนใหญ่จะเชื้อเอเชีย) ที่ฝ่ายหญิงบางส่วนบอกว่าไม่อยากเดตกับชายเอเชียด้วยกันเอง… ชายโสดในครั้งนี้คือ George ชายหนุ่มบล็อกเกอร์สายท่องเที่ยว จากนครซิดนีย์ หวังเพื่อตามหาหญิงสาวเพื่อออกไปท่องเที่ยวรอบโลกด้วยกัน ภายหลังจากที่เขาแนะนำตัวเล็กๆ น้อยๆ ในรอบแรก ฝ่ายหญิงยังคงเปิดไฟให้กับเขาทั้ง 24 คน จาก 30 คน แม้จะเป็นตัวเลขที่เยอะอยู่ แต่คนที่ปิดไฟส่วนใหญ่กลับเป็นสาวเชื้อสายเอเชีย เหตุมันเริ่มดราม่าตรงที่เมื่อพิธีกร Joel Creasey เข้าไปถามถึงเหตุผลที่ปิดไฟ พวกเธอตอบด้วยความรู้สึกว่า “ไม่มีแนวโน้มออกเดตกับผู้ชายเอเชีย” Gianna “ฉันมีแนวคิดไม่เดตกับคนเอเชีย เพราะคุณดูคล้ายพี่ชายของฉันเลย” Gianna…
-
Ryan Reynolds ทวีตถาม สรุป Kadashian คนไหนท้องกันแน่!? โดนใจชาวเน็ตเป็นอย่างยิ่ง!!
อย่างที่รู้กันดีว่า Ryan Reynolds ถือเป็นหนึ่งในนักแสดงสายเกรียน ที่มักจะโพสต์อะไรตลกๆ ฮาๆ ในทวิตเตอร์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งแต่ละโพสต์ก็จะเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กลายเป็นกระแสไวรัล หรือเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจในแต่ละช่วง กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวเน็ตมากมาย และครั้งนี้เองก็เช่นกัน จะเห็นได้ว่าพักหลังๆ มานี้ตระกูล Kadashian นั้นมักโดนเหล่าชาวเน็ตทั้งหลายก็ไปจับผิดกันในภาพที่พวกเธอโพสต์จนเกิดเป็นข่าวลือว่าเดี๋ยวคนนั้น เดี๋ยวคนนี้ท้องบ้างจนสับสนอลหม่านกันไปหมด เช่น เมื่อ 9 เดือนก่อน Khloe Kardashian ก็โพสต์รูปภาพพร้อมกับประกาศให้โลกรู้ว่าตัวเองตั้งท้องแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ ก็มีข่าวลืออีกว่า Kim Kadashian กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 3!? แถมล่าสุดภาพของ Kendall Jenner ที่โพสต์ลงอินสตาแกรม ชาวเน็ตก็ไปจับผิดว่า เธอกำลังตั้งท้องรึเปล่า? งานนี้ชาวเน็ตต่างก็มึนหัวไปตามๆ กัน สรุปใครท้องหรือไม่ท้องกันแน่ รวมไปถึงตาไรอัน ก็ด้วย ก็เลยออกมาโพสต์ทวีตว่า “ใครก็ได้ช่วยบอกที สรุปแล้วว่า Kadashian คนไหนท้องกันแน่? ตอนนี้ตรูเถียงกับหลวงพ่อจนจะตีกันอยู่แล้ว!!” …
-
สาวจับได้ ‘ตำรวจ’ แอบถ่ายภาพ ‘ก้นสาว’ ในงานคอนเสิร์ต ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘เจ้าหน้าที่ตำรวจ’ จะเป็นคนที่ทำหน้าที่ปกป้องประชาชนคนธรรมดา จากสิ่งผิดกฎหมายทั้งปวง รวมไปถึงการคุกคามจากคนที่มีเจตนาร้าย แต่ใครเล่าจะคิดว่า ‘เจ้าหน้าที่ตำรวจ’ จะกลายเป็นคนที่ ‘คุกคาม’ พลเมืองซะเอง!? เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง Houston รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกถ่ายคลิปเอาไว้ได้ขณะกำลังใช้โทรศัพท์ ‘ถ่ายรูปก้นของสาวคนหนึ่ง’ ในงานคอนเสิร์ตของ Drake และ Migos ในคลิปวิดีโอจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังยืนพร้อมกับหยิบโทรศัพท์เปิดกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไปที่บริเวณบั้นท้ายของหญิงสาวที่อยู่ด้านหน้า ตอนแรกอาจจะเห็นไม่ชัดว่าเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำอะไร แต่พอซูมเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเขา ‘ถ่ายภาพก้น’ ของหญิงสาวเก็บเอาไว้!! แถมยังส่งไปให้คนอื่นดูอีกซะด้วย จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์กลับเข้ากระเป๋าของตัวเอง แล้วก็หันไปดูรอบๆ ว่าไม่มีใครเห็น แต่ที่ไหนได้ เหตุการณ์ทั้งหมดได้ถูกบันทึกเอาไว้แล้ว!! ลองไปชมคลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… https://twitter.com/HeyChalice/status/1047306394288963584 คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกนำไปโพสต์ลงทวิตเตอร์ และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมายจนกลายเป็นกระแสไวรัล มีผู้คนเข้ามากดไลก์ทวีตกว่า 80,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 30,000 ครั้งเลยทีเดียว!! จากรายงานของเว็บไซต์ TMZ ระบุว่า ตอนนี้สถานีตำรวจ Houston กำลังทำการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว…
-
คุกกี้ร้านดังในญี่ปุ่น จัดโปร “ถุงเดียวใส่กี่ชิ้นก็ได้” งานนี้ลูกค้าก็จัดซะคุ้มราคากันไปเลย!!
ขนมที่เอร็ดอร่อยแน่นอนว่าใครๆ ก็ต้องชื่นชอบใช่ไหมล่ะ แต่บางครั้งมันก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งทำให้หลายๆ คนพลาดที่จะได้ทานของอร่อยๆ เหล่านั้น เช่นขนมคุกกี้ยี่ห้อ Aunt Stella’s ในประเทศญี่ปุ่นที่มีราคาถึง 80 เยนหรือเกือบ 24 บาทต่อหนึ่งชิ้น ซึ่งก็นับว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคุกกี้ทั่วไปที่ขายเป็นห่อละหลายๆ ชิ้นในราคาไม่กี่สิบบาท ด้วยเหตุนี้ทางร้านจึงจัดกิจกรรมเอาใจคนรักคุกกี้นั่นก็คือมีการขาย ถุง All-You-Can-Pack ในราคา 880 เยนหรือราวๆ 250 บาท ซึ่งเจ้าถุงนี้คุณจะใส่คุกกี้เข้าไปเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ (เกิน 11 ชิ้นถือว่าคุ้มแล้ว) กฎของกิจกรรมนี้มีอยู่ว่า… 1. ชิ้นที่หยิบขึ้นไปแล้วห้ามนำกลับมาวางเด็ดขาด 2. ถ้าหากคุกกี้ร่วงจะถือว่าเกมโอเวอร์ 3. หากคุกกี้เกินถุงมาก็ไม่เป็นไรหากมันยังไม่ร่วงหล่นก่อนจ่ายเงิน 4. ใช้อุปกรณ์คีบได้อย่างเดียวเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้อย่างอื่น (เช่น มือ เป็นต้น) 5. สุดท้าย ห้ามใช้อุปกรณ์คีบให้การประคองหรือพยุงคุกกี้เด็ดขาด หลังจากมีกิจกรรมนี้ขึ้นมาก็เรียกได้ว่าลูกค้าก็จัดเต็ม ซื้อถุงเดียวยัดคุกกี้กันเอาคุ้มเลยล่ะ เราลองไปชมภาพของแต่ละคนที่ถ่ายมาลงทวิตเตอร์กันเลยดีกว่า… คุณ @ken_rou (ป้าดดดดด วางได้ยังง๊ายย!) จากคุณ @yojino_mam (ไปฝึกกันมาจากไหนล่ะเนี่ย!?)…
-
‘ปั๊กปั๊ก’ อาหารที่ปรุงจาก “เศษขยะ” เลี้ยงปากท้องคนจนในฟิลิปปินส์ให้อิ่มในราคา 7 บาท
อาหาร คือสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการดำรงอยู่ของทุกชีวิต รวมไปถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยเช่นกัน สำหรับมนุษย์บางกลุ่มอาหารนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ยากนัก แต่ขณะเดียวกันเองก็มีมนุษย์อีกจำนวนไม่น้อยที่ “อาหาร” เป็นสิ่งที่หาได้อย่างยากลำบาก และพวกเขาก็พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารเลี้ยงปากท้อง ตัวอย่างเช่น “ปั๊กปั๊ก” วิธีการหนึ่งที่ผู้คนในชุมชนสลัมของฟิลิปปินส์ใช้เพื่อเข้าถึงอาหาร ปั๊กปั๊กคือเศษอาหารเหลือจากกองขยะรายวัน ที่ถูกนำมาปรุงใหม่เพื่อขายให้คนจนได้ทานในราคาเพียง 7 บาทเท่านั้น ประเทศฟิลิปปินส์ที่ปัจจุบันมีประชากรมากถึง 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว รวมถึงวัฒนธรรมในประเทศที่ผสมผสานอย่างหลากหลายทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยขนาดใหญ่ กลายเป็น ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่ยากเกินจะแก้ไข ผู้คนที่มีอันจะกิน เจียดเงินเพียงเล็กน้อยแลกกับอาหารระดับกลางที่ทานจนเบื่อและบางครั้งก็ทานไม่หมด ของเหลือจากผู้ร่ำรวยเหล่านี้นี่เองที่กลายเป็นอาหารมื้อสวรรค์ของบรรดาผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความยากจนแร้นแค้น ขั้นตอนของการทำปั๊กปั๊กเริ่มขึ้นตั้งแต่หัวค่ำของวัน รถเก็บขยะจะไปรอที่ร้านอาหารต่างๆ รวมถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อรีบเก็บขยะจากร้านและนำไปคัดแยก การคัดแยกจะทำจนถึงเช้ารุ่งของอีกวัน ส่วนใหญ่จะคัดเอาพวกกระดูกไก่ที่ติดเนื้อมากกว่าจะเอาเนื้อหมู เพราะพวกเขาคิดว่าเนื้อหมูมีไขมันเยอะและอาจติดโรคได้ง่าย . เมื่อคัดแยกเสร็จแล้วก็นำไปขายให้กับร้านอาหารชุมชน ทางร้านก็จะรีบนำเศษอาหารเหล่านี้ไป “ล้างน้ำเปล่า” ราว 4 รอบจนกระทั่งน้ำล้างไม่ขุ่นมัวและไม่มีเศษดินติดออกมา ล้างเสร็จก็จัดแจงปรุงเป็นเมนูอันโอชะ ทำเป็นสตูว์พื้นเมืองของฟิลิปปินส์ ซอสมะเขือเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญของปั๊กปั๊กเลยก็ว่าได้ ต้องใส้ให้เยอะเข้าไว้เพราะนอกจากจะช่วยให้รสชาติที่ดีขึ้นแล้วยังช่วยกลบกลิ่นต่างๆ ที่ติดมาจากกองขยะอีกด้วย อาหารที่ปรุงเสร็จก็จะออกมามีหน้าตาแบบนี้ นี่แหละที่พวกเขาเรียกกันว่า “ปั๊กปั๊ก” …
-
มาถึงจุดนี้แล้ว!! ‘กระป๋องอัดอากาศจากนิวซีแลนด์’ วางขายสนามบิน ต้องซื้ออากาศกันแล้วหรือ!?
ในชีวิตที่ผ่านมาของเราอาจจะเคยเห็นอะไรแปลกๆ ในรูปแบบ ‘อัดกระป๋อง’ มาแล้วอย่างมากมาย แต่ต้องขอบอกเลยสิ่งต่อไปนี้คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน เพราะใครจะไปคิดว่ามี ‘กระป๋องอัดอากาศ’ เกิดขึ้นแล้ว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าโลกนี้จะมีของอย่างนี้ขายอยู่ด้วยจริงๆ เจ้ากระป๋องอัดอากาศที่ว่านี้ถูกพบเห็นเข้าโดยคนตาดีที่สนามบินนานาชาติออกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ แล้วถูกแชร์ต่อโดยนักวารสารชื่อว่า Damian Christie จนโด่งดัง เมื่อเห็นของแปลกๆ นี้เขาเลยไปถ่ายรูปมาฝากกันให้เราได้รู้ว่ามันมีชื่อเรียกว่า ‘Pure Fresh New Zealand Air’ หรือแปลได้ประมาณ ‘อากาศสุดแสนสดชื่นบริสุทธิ์แห่งประเทศนิวซีแลนด์’ แน่นอนของไม่ธรรมดาอย่างนี้ย่อมมากับราคาที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ โดยแพ็ค 4 กระป๋องของเจ้าสิ่งนี้มีราคาคิดป้ายอยู่ที่ 98.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,250 บาท) เลยทีเดียว Quite surreal waking up in a hotel in Sydney to discover your Instagram post from the airport has hit the news…
-
ลูกชายเห็นแม่ใช้เก้าอี้วางรองเท้าตอน ‘นั่งอึ’ เลยประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์สร้างเงินเป็นร้อยล้าน!!
บางครั้งเรื่องที่ใกล้ตัวเกินไปจนหลายๆ คนมองข้าม อาจเป็นสิ่งที่ดลบันดาลให้คุณกลายเป็นมหาเศรษฐีได้โดยไม่รู้ตัว อย่างเช่นในเรื่องราวต่อไปนี้ ที่มีคนรวยมหาศาลจากเรื่องของการ ‘นั่งอึ’!! ผู้หญิงนามว่า Judy Edwards จากรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องประสบปัญหาเรื่องท้องผูกมาตลอดชีวิต และมันก็เริ่มหนักขึ้นเมื่อมีถึงวัยที่เริ่มร่วงโรย เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเธอได้ไปหาหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ซึ่งคุณหมอก็แนะนำให้เธอลองใช้ ‘เก้าอี้นั่งยอง’ ตัวเล็กๆ เอาไว้รองเท้าขณะที่ขับถ่าย และสิ่งนี้เองที่มันได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล หลังจากเธอใช้แล้วได้ผลดีเกินคาด เธอจึงแนะนำให้ Bill สามีใช้ตาม แล้วทั้งคู่ก็พบว่ามันมีความแตกต่างมากจริงๆ เมื่อใช้เก้าอี้ตัวน้อยรองเท้าไว้ เพราะมันสามารถช่วยให้ขับถ่ายได้อย่างคล่องปรื๋อ ในเวลาเดียวกันนั้นเองไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือว่าความช่างสังเกต เลยทำให้ Bobby ลูกชายของทั้งคู่ที่กำลังวางแผนจะสร้างผลงานชิ้นโบแดงให้กับชีวิต มองเห็นประโยชน์จากสิ่งสิ่งนี้ เขาเลยตัดสินใจคิดค้นนวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับเก้าอี้สำหรับรองบริเวณเท้าขึ้น… คลิปโฆษณาผลิตภัณฑ์นี้ ด้วยความสามารถในการมองเห็นถึงจุดดีจุดด้อยต่างๆ ในที่สุดแล้วสิ่งประดิษฐ์ของเขาก็ออกในรูปของเก้าอี้ที่มีส่วนเว้าพอดีกับฐานของชักโครก ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่มากที่สุด และชื่อของเจ้าสิ่งนี้ก็ถูกเรียกว่า Squatty Potty ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ออกรายการทีวีด้วยนะ Edwards เริ่มมอบผลงานของลูกชายเธอแจกจ่ายให้กับทางญาติๆ และหมู่เพื่อนเพื่อเป็นการทดลอง ซึ่งในตอนแรกพวกเขาเหล่านี้ก็คิดว่าเธอคงจะต้องแกล้งอะไรสักอย่างแน่ๆ แต่เมื่อได้ลองนำไปใช้จริงแล้วก็พากันติดใจกันยกใหญ่ และด้วยผลตอบรับอันดีนี้เอง Bobby…
-
เอาใจสายเหงา!! ห้างฯ เปิดให้เช่า ‘แฟนหนุ่มชอปปิง’ สาวๆ จะไม่ต้องเดินเปล่าเปลี่ยวอีกต่อไป…
เวลาที่เดินชอปปิงตามห้าง สาวๆ หลายคนอาจจะเคยรู้สึกเปลี่ยวเหงาว้าเหว่ที่ต้องเดินอย่างเดียวดาย และคิดว่าถ้ามีใครสักคนมาช่วยถือของ คอยคุยเล่นด้วยสนุกๆ ก็คงจะไม่เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่น้อย… นี่อาจเป็นปัญหาที่ฝังใจชาวโสดหลายต่อหลายคน แต่ว่าในตอนนี้อาจพอมีทางที่จะคลายความอ้างว้างที่ว่านี้ลงได้แล้ว เมื่อทางห้างสรรพสินค้าได้ผุดอาชีพ “แฟนหนุ่มชอปปิง” เพื่อการนี้โดยเฉพาะ!! เรื่องดีต่อใจนี้เกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าแถบๆ มณฑลเหอเป่ย์หรือในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เมื่อทางห้างได้จัดเตรียมหนุ่มๆ หน้าคมเอาไว้ให้สำหรับสาวๆ ได้ใช้บริการเช่าตัวเป็นแฟนสำหรับการชอปปิงในราคาที่จับต้องได้ โดยค่าเช่าตัวหนุ่มๆ เหล่านี้จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1 หยวน (ประมาณ 5 บาท) ต่อชั่วโมงเพียงเท่านั้น!! แนวคิดที่ว่านี้ได้เริ่มมาจากวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันสตรีสากล ทางห้างจึงจัดเตรียมแฟนสำหรับการชอปปิงไว้ให้กับสาวๆ แต่ปรากฏว่ามันเกิดเวิร์คทางห้างจึงได้ให้บริการส่วนนี้เรื่อยมา แฟนหนุ่มที่เช่ามานี้หน้าที่ของพวกเขาไม่ได้มีเพียงแค่เดินเป็นเพื่อนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่าพวกเขาจะสามารถให้คำแนะนำ ถือกระเป๋า พูดคุยอย่างสนุกสนาน ถ่ายภาพกับลูกค้า รวมถึงกินข้าวกินขนมด้วยได้อีก ลองดูตัวอย่างซักนิดหน่อยละกัน ข้อห้ามเดียวที่มีสำหรับพวกเขาก็คือห้ามแตะต้องตามร่างกาย ซึ่งนี่อาจเป็นเรื่องเศร้าสำหรับสาวๆ ที่อยากลูบไล้ให้มันส์มือ โดยหนุ่มๆ ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่อยากหารายได้เสริมและมักจะทำงานเป็นนายแบบพาร์ทไทม์กันอยู่แล้ว จึงมั่นใจได้แน่นอนว่าหล่อล่ำเอาเรื่อง น่าโดนสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ …
-
พบ “ทาสหนุ่ม” ถูกขังเอาไว้ในโรงเก็บของ ไม่ได้ออกมาโลกภายนอก มานานกว่า 40 ปี!!
“ระบบทาส” คือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นจริงในอดีต ก่อนที่มันจะถูกลบล้างหายไปในแทบทุกประเทศ โดยที่เราอาจไม่เคยรู้เลยว่าแท้จริงแล้วอาจยังคงมีคนใช้ระบบนี้ในการกดขี่ผู้อื่นมาจนถึงปัจจุบัน ความเป็นไปได้ดังกล่าวถูกพิสูจน์โดยการค้นพบอันน่าเหลือเชื่อ เมื่อทีมช่วยเหลือในประเทศอังกฤษได้ไปพบกับชายวัย 58 ปีที่ถูกขังไว้ใช้งานเป็นทาสภายในโรงเก็บของเก่าๆ มายาวนานถึง 40 ปี!! ทีมช่วยเหลือไปเจอเขาในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา จากการรายงานของเจ้าหน้าที่กลุ่มต่อต้านผู้ใช้อำนาจในทางที่ผิดของอังกฤษ (GLAA) เผยว่าพวกเขาได้เข้าช่วยเหลือชายคนดังกล่าวที่ถูกขังเอาไว้ในโรงเก็บของแห่งหนึ่ง ภายในเขตคัมเบรีย ประเทศอังกฤษ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการเปิดเข้าไปก็ได้พบกับชายชาวอังกฤษคนนี้ (ไม่ทราบชื่อ) อยู่ในห้องแคบๆ ไม่ใหญ่มากนัก ด้านในมีแค่ทีวี 1 เครื่อง เก้าอี้ 1 ตัว ผ้านวมแข็งๆ และเครื่องทำความร้อนที่พังไปแล้ว Martin Plimmer หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือถึงกับบอกว่าภายในโรงเก็บของนั้นมันหนาวซะจนเกินกว่าที่มนุษย์จะอาศัยอยู่ได้เลย และในแวบแรกที่เขาเข้าไปนั้น ชายหนุ่มก็ถึงกับตกใจและสับสนเป็นอย่างมาก Martin ยังบอกอีกว่าตลอดชีวิตการทำงานนี้ไม่เคยเจอใครถูกกักขังให้เป็นทาสมานานขนาดนี้มาก่อนเลย และหวังว่าชายคนดังกล่าวจะสามารถฟื้นฟูจิตใจกลับมาได้ในไม่ช้า จากการรายงานบอกว่าชายคนนี้ถูกใช้เป็นทาสทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างมาตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 16-17 ปี ก่อนที่จะถูกขังเอาไว้ในห้องดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 1978 ซึ่งตอนนั้นเขาอายุแค่ 18 ปีเท่านั้นเอง การช่วยเหลือในครั้งนี้จึงนำไปสู่การจับกุมตัวชายชราวัย 79…
-
สาวช็อก พนักงานทำความสะอาดที่จ้างมา ‘เมาพังห้อง’ ขโมยเหล้ากับไอศกรีมกินอีก!!
การที่เราจ้างคนมาทำความสะอาดบ้าน ก็เพื่อต้องการจะให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสะอาดตา แต่ว่ามันก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป แถมอาจเละกว่าเดิมอย่างเช่นในเคสสุดพังเคสนี้ Genevieve Snow หญิงสาวจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ว่าจ้างคนมาทำความสะอาดอพาตเมนต์ของเธอด้วยค่าจ้าง 185 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,000 บาท) จากนั้นก็ออกจากบ้านด้วยความสบายใจ แต่พอในเย็นวันนั้นเธอก็ถึงกับต้องผงะ เพราะห้องมันพังแบบสุดแถมยังมีข้าวของเสียหายอีกจำนวนมากจนคิดว่าโดนขโมยขึ้นบ้านหรือเปล่า ทว่าในที่สุดเธอก็ได้พบคำตอบที่แท้จริง เมื่อเห็นคนทำความสะอาดนอนนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นห้องในสภาพที่ต้องเรียกว่า ‘เมาปลิ้น’ เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าของห้องคนนี้จึงเดินสำรวจรอบๆ ห้องว่ามีอะไรบ้างหรือมีอะไรหายไปรึเปล่า แล้วในที่สุดเธอก็พบว่าพนักงานทำความสะอาดแอบขโมยไอศกรีมในตู้เย็นไปกิน และดื่มวอดก้าของเธอไปอีกเกือบครึ่งขวด “ฉันจ้างพนักงานทำความสะอาดผู้หญิงสองคนมาเคลียร์ห้องให้ แต่พวกเธอไม่ได้ทำอะไรเลยแถมยังกินเหล้าฉันอีก รูมเมทฉันกลับมาที่บ้านแล้วก็พบผู้หญิงเสื้อชมพูคนนี้นอนคว่ำในห้องครัว ส่วนอีกคนหนีกลับบ้านไปแล้ว” “ชั้นวางเครื่องเทศของฉันพัง โต๊ะหินอ่อนของฉันเสียหาย กุญแจหาย เหล้าก็หาย แถมบนโซฟายังมีไอติมช็อกโกแลตของฉันวางทิ้งไว้อีก เฮ้ออ” Snow กล่าว อันที่จริงสาวคนนี้ได้ใช้บริการของบริษัททำความสะอาดมาตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งในการจ้างครั้งนี้ก่อนไปทำงานเธอก็ให้ค่าจ้างแก่พนักงานเป็นเงิน 180 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,900 บาท) กับทิปอีก 60 ดอลลาร์ (ประมาณ…
-
หนุ่มเที่ยวสวนสัตว์ ให้อาหาร “ฮิปโป” แต่ไม่ได้ให้ดีๆ เพราะพี่แกเล่นโยนไปทั้ง “ถุงพลาสติก”!!
พวกเราหลายๆ คนทราบกันดีอยู่แล้วว่าในสวนสัตว์แต่ละแห่งนั้นจะมีกฎข้อห้ามที่ตั้งขึ้นมาเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและสัตว์นานาชนิด แต่สำหรับนักท่องเที่ยวหนุ่มคนนี้ เขากลับฝ่าฝืนกฎข้อห้ามที่เขียนเอาไว้ กระโดดเข้าไปในเขตที่กั้นของสวนสัตว์ ให้อาหาร “ฮิปโป” และที่เลวร้ายกว่านั้นคือเขาดันโยน “ถุงพลาสติก” ไปให้มันกินอีกต่างหาก!! การกระทำที่กลายเป็นกระแสในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนสัตว์หนานชาง ประเทศจีน นักท่องเที่ยวหนุ่มคนดังกล่าวฝ่าฝืนกฎของทางสวนสัตว์อย่างชัดเจน ทั้งๆ ที่เขามีป้ายติดเอาไว้รอบๆ กว่า 1,000 ป้าย “ห้ามไม่ให้เข้าไปในที่กั้นหรือให้อาหารสัตว์” และสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้เลยก็คือการที่ชายคนนี้โยนป็อปคอร์นที่อยู่ในถุงพลาสติกให้ฮิปโปกิน คือตอนแรกเขาก็โยนที่ละชิ้นตามปกติ แต่ตอนหลังเขากลับโยนมันไปพร้อมๆ กับถุงพลาสติกเลย ลองไปชมคลิปการกระทำของเขากันดู คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงใน Weibo โซเชียลมีเดียของจีน ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างรู้สึกไม่พอใจ สะเทือนใจกับสิ่งที่เจ้าฮิปโปต้องเจอ มองว่าการกระทำของชายคนนั้นมันน่ารังเกียจจริงๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ของทางสวนสัตว์ได้มาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับชายคนนี้ในทันที โดยล่าสุดยังคงอยู่ในขั้นตอนสืบสวนตามหาชายคนดังกล่าวต่อไป อย่างไรก็ตาม ทางสวนสัตว์ได้ออกมาบอกว่าเจ้าฮิปโปที่เราได้เห็นภายในคลิปนั้นได้ถูกตรวจสภาพร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่พบความผิดปกติใดๆ ขอให้ทุกคนสบายใจได้ นับว่าเป็นโชคดีที่เจ้าฮิปโปไม่ได้รับผลกระทบร้ายแรงจากสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งการให้สัตว์กินถุงพลาสติกนั้นถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงระดับโลก อันตรายจนอาจทำให้พวกมันถึงตายได้เลย ที่มา: dailymail , shanghai
-
ผู้ชมแข่งขันกอล์ฟ ถูกลูกกอล์ฟอัดจน ‘ตาบอด’ เผยไม่มีใครยอมช่วย เอาแต่ถ่ายรูปอย่างเดียว
เกิดเป็นอุบัติเหตุในรายการแข่งขัน Ryder Cup 2018 เมื่อนักกอล์ฟชาวสหรัฐฯ Brooks Koepka เริ่มทำการตีไม้แรกจากทีออฟของหลุมที่ 6 ในการแข่งวันแรก ทิศทางของลูกกอล์ฟกลับพุ่งเข้าใส่กลุ่มผู้ชม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนาง Corine Remande วัย 49 ปี US golfer Brooks Koepka hit a spectator with a tee shot on the first day of the #RyderCup For more news and video, head here: https://t.co/pfrr6LJNQ5 pic.twitter.com/4adLYdUvdp — Sky News (@SkyNews) September 28, 2018 หลังจากที่ลูกกอล์ฟพุ่งเข้าใส่เธออย่างจัง เธอก็ร่วงลงไปนอนกับพื้นทันที…
-
หนุ่มโดดข้ามสะพานสูง 150 เมตร อยู่ดีๆ เชือกสลิงหลุดเฉย!! สวนสนุกบอกมันเป็นการตลาด?!
หากใครอยากสัมผัสกับความตื่นเต้นสุดหวาดเสียวในแบบที่คนกลัวความสูงจะต้องขาสั่นริกๆ แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวเล่นที่สวนสนุก Wansheng Ordovician ในประเทศจีนดูได้เลย สวนสนุกแห่งนี้เต็มไปด้วยเครื่องเล่นนานาชนิดที่รับประกันในเรื่องของความสูงอันแสนระทึกใจ ตอบโจทย์ผู้ชอบความท้าทายแบบสุดๆ สวนสนุกแห่งนี้มีทั้งสะพานกระจก หรือแม้แต่ชิงช้าบนความสูงกว่า 300 เมตร แต่ก่อนที่ใครจะไปเที่ยวกัน เราขอแนะนำให้ลองมาดูคลิปนี้กันก่อนแล้วมันอาจทำให้เพื่อนๆ ถึงกับต้องเปลี่ยนใจคืนตั๋วกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว นี่คือคลิปที่เผยให้เห็นชายคนหนึ่งวิ่งข้ามสะพานไม้บนความสูงเหนือพื้นดินกว่า 150 เมตร โดยที่มีเชือกสลิงติดกับชุดของเขาเอาไว้ แต่มันจะเป็นอย่างไรถ้าอยู่ดีๆ เจ้าเชือกเซฟตี้ก็หลุดให้เห็นกันต่อหน้าต่อตา!! เราจะเห็นว่าพนักงานได้ทำการติดเชือกสลิงไว้กับเขาเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นเขาจึงเริ่มกระโดดเหยียบไปในแต่ละขั้นอย่างคล่องแคล่ว จนสามารถไปถึงอีกฝั่งหนึ่งได้โดยไม่ยากเย็นอะไร แต่แล้วจู่ๆ เจ้าเชือกเซฟตี้ที่ว่านั้นมันก็ดันหลุดออกอย่างง่ายดายในตอนที่เขาข้ามไปถึงอีกฝั่ง ทำเอาถึงกับงงและหันมามองกล้องราวกับว่า ถ้าเชือกมันดันหลุดกลางทางแล้วเขาเหยียบพลาดขึ้นมา มันจะเป็นอย่างไรกัน?! เหวอสิครับงานนี้!! คลิปนี้ได้กลายเป็นที่ฮือฮาในโซเชียลมีเดียจนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น เพราะมันแสดงให้เห็นว่าระบบความปลอดภัยของที่นี่อาจไม่สามารถคุ้มครองชีวิตของคนเล่นได้ ล่าสุดในวันที่ 3 ตุลาคม 2018 ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกมาประกาศว่าสิ่งที่เห็นนั้นเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของพนักงาน คลิปดังกล่าว ในขณะเดียวกันทางสวนสนุกกลับบอกว่ามันเป็นแค่คลิปโชว์สตันท์แมนของทางบริษัท ทำขึ้นมาเพื่อการตลาดดึงดูดนักท่องเที่ยวเท่านั้นเอง (มันใช่จริงๆ เหรอ??) …
-
คุณยายนั่งร้องเพลงอยู่ริมถนน จู่ๆ มีสาวเดินมาบอกว่า “รำคาญ” ทุบตีคุณยายจนเลือดท่วมหน้า!!
เราอาจเคยได้ยินเสียงดนตรีตามท้องถนนจากเหล่าศิลปินเปิดหมวก หรืออาจเป็นพ่อค้าแม่ค้าร้องเพลงขึ้นมาตามบรรยากาศที่พาไปโดยไม่ได้คิดอะไร ทว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้กลับมีสาเหตุมาจากการที่คุณยายวัย 69 ปีคนหนึ่งร้องเพลงอยู่ริมถนน แล้วจู่ๆ ก็มีหญิงสาวบุกเข้ามาจู่โจมเธอ ด่าทอ ทำร้ายร่างกาย และบอกว่าเธอรู้สึก “รำคาญ” การร้องเพลงของคุณยาย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาบ่าย 3 ของวันที่ 2 ตุลาคม 2018 ริมถนนในเขต Sham Shui Po ฮ่องกง คุณยายแซ่ Ip กำลังนั่งร้องเพลงอยู่ มีข้าวของจำนวนมากวางเอาไว้ข้างกาย แต่แล้วจู่ๆ หญิงสาวแซ่ Tam ก็เดินเข้ามาหาคุณยายก่อนจะใช้น้ำเสียงและคำพูดที่แสดงถึงความไม่พอใจ ต่อว่าคุณยายที่กำลังร้องเพลงอยู่ นำไปสู่การถกเถียงกันอย่างหนักจนต้องมีคนเข้ามาคอยห้าม เมื่อความโมโหปรี๊ดถึงขีดสุด หญิงสาวจึงเอาถุงที่เธอถืออยู่ในมือฟาดเข้าใส่คุณยาย ก่อนที่จะคว้าเอาด้ามไม้กวาดจากร้านแผงลอยใกล้ๆ ตีคุณยายซ้ำเข้าไปอีกครั้งจนเกิดบาดแผลเลือดไหลท่วมหน้า เหล่าคนที่มุงดูอยู่ก็ไม่ได้เข้าไปห้ามอะไรมากนัก พยายามจับแยกทั้งสองฝ่ายออก และบอกให้คุณยายใจเย็นๆ อย่าเพิ่งไปตีเธอคืน แม้ว่าในขณะนั้นในมือของคุณยายจะถือขาเก้าอี้เอาไว้แล้วก็ตาม สุดท้ายคุณยายจึงสงบสติรอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง หญิงสาวแซ่ Tam โดนจับตัวไปดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนคุณยายก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปรักษาแผลที่ศีรษะ ลำคอ และมือ…
-
พนักงานมหาวิทยาลัย ถูกจับได้ว่า ‘แอบดูสื่อลามก’ เฉลี่ยอย่างต่ำ 50 ชั่วโมงต่อเดือน!
ในช่วงวัยทำงานต้องกล่าวถึงเรื่องของความเป็นมืออาชีพ แต่ด้วยประสามนุษย์คนธรรมดาทั่วไป อาจจะมีหลุดช่วงเวลาแอบอู้บ้าง ใช้เวลางานไปทำอย่างอื่น ที่นอกเหนือจากหน้าที่การงานตนเอง แต่แล้วเมื่อทางมหาวิทยาลัยโกเบ ได้รับร้องเรียนเกี่ยวกับพนักงานมหาวิทยาลัยรายหนึ่ง ที่แอบทำกิจกรรมที่นอกเหนือหน้าที่ตน… ขัดกับปณิธานของมหาวิทยาลัยที่ว่าด้วย ‘การทำงานด้วยจิตวิญญาณของความซื่อสัตย์ เสรีภาพ และความร่วมมือ’ ซึ่งดูเหมือนจะเกินเลยเสรีภาพไปหน่อย พนักงานชายวัย 40 ปี ไม่เปิดเผยนามรายนี้ ได้รับว่าจ้างให้มาทำงานด้านเอกสาร และให้ความช่วยเหลือกับฝ่ายบุคคล แต่เขาดันใช้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานดูสื่อลามกเป็นประจำ ‘ทุกวัน’ มีบุคคลปริศนาส่งจดหมายให้ทางสำนักงานในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และภายในได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมจนพบว่า พนักงานรายนี้ใช้เวลาดูเว็บภาพวาดและการ์ตูนลามกไปทั้งหมด 1,220 ชั่วโมงตั้งแต่เข้ารับทำงาน ฮั่นแหน่ แอบทำอะไรใต้โต๊ะป่ะเนี่ย! ตัวพนักงานเองก็ยอมรับในข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าที่ทำไปก็เพื่อผ่อนคลายระหว่างทำงาน ซึ่งถึงแม้จะมีช่วงพักผ่อนระหว่างวันก็ตาม บันทึกจากคอมพิวเตอร์ของเขานั้นก็ยังแสดงให้เห็นว่า ใช้เวลา 730 ชั่วโมงดูสื่อลามกแทนที่ควรจะทำงาน… ภายหลังจากจับได้แล้ว ทางมหาวิทยาลัยจึงประกาศพักงานเขาเป็นเวลา 6 เดือน เทียบเท่ากับจำนวนชั่วโมงเฉลี่ยดูเว็บโป๊ 50 ชั่วโมงต่อเดือนในสำนักงานนั่นเอง ใครที่แอบทำพฤติกรรมแบบนี้อยู่ ระวังตัวกันไว้ด้วยล่ะ! ที่มา: livedoor, jin115, soranews24
-
ทิฟฟานี่เผยความรู้สึก หลังภาพในหนังสือรุ่นว่อนเน็ต ‘แล้วเอ็งจะเสียดาย ที่ไม่เดตกับฉัน’
‘ทิฟฟานี่ ฮวัง’ (ชื่อจริง สเตฟานี ฮวัง) หรือชื่อเกาหลี ฮวัง มี-ย็อง นับว่าเป็นอีกหนึ่งดาวเด่นค้างฟ้าของวงการเพลงเกาหลี โดยในปัจจุบันเธอได้มาลุยอัลบั้มเดี่ยวแล้ว https://www.instagram.com/p/BntuKGSnlFA/ ล่าสุดเธอก็ได้ปล่อยเพลง Teach You เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2018 กวาดวิวไปได้แล้ว 3 ล้านวิว ถ้าให้วิเคราะห์จากเอ็มวีเพลงและเนื้อร้องแล้ว จะเดาได้ว่าเป็นเพลงที่เกี่ยวกับการสั่งสอนผู้ชายเจ้าชู้ ที่แอบนอกใจไปมีหญิงอื่น หากคิดจะทำแบบนี้เดี๋ยวได้เจอดีแน่น๊อนนนน… แต่รู้หรือไม่ว่าเพลง Teach You นั้นไม่ใช่เพียงแค่เพลงเนื้อหาผิวเผินที่จู่ๆ จะแต่งขึ้นมา แต่มันมาจากประสบการณ์ตรงของทิฟฟานี่เองเลย ทิฟฟานี่ได้ใหัสัมภาษณ์กับเว็บไซต์ NextShark ว่า “น่าเศร้า แต่ใช่แล้วล่ะ มันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ฉันเชื่อว่าจะทำให้คนสานสัมพันธ์ได้ทันที” “ฉันมักจะหลงไปกับเสน่ห์และคำหวานๆ เหมือนกับผู้หญิงทุกคนที่โหยหาความรัก และมันก็นำไปสู่อาการอกหัก” ซึ่งสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในเพลง Teach You อีกอย่างก็มาจากมีมจากสมัยเรียนไฮสคูล เทียบกับภาพปัจจุบันของทิฟฟานี่ พร้อมกับวาทะคำคมในหนังสือรุ่น ‘พวกเอ็งจะต้องเสียใจ…
-
สาวพาแมวน้อยกลับบ้าน คิดว่าเป็นแมวจร จนเจ้าของโผล่มาตาม ชาวเน็ตรุมด่าเป็นขี้ขโมย!?
เวลาเห็นสัตว์ตัวน้อยๆ โผล่มา ออร่าแห่งความน่าเอ็นดู ก็จะแผ่ขยายเข้าซึมซับสู่หัวใจทันที และถ้าหากพบว่าไม่มีร่องรอยระบุว่ามีเจ้าของ คงจะดีกว่าถ้าพากลับไปเลี้ยงไปดูแลที่บ้าน แต่เรื่องมันไม่ได้สวยงามสำหรับสาววัยรุ่น Juliette Avitia วัย 17 ปี หลังจากที่เธอเสร็จภารกิจปาร์ตี้ในคืนวันเสาร์ แล้วก็เจอแมวน้อยระหว่างทางกลับบ้าน ดูท่าทางจะไม่มีเจ้าของเตร็ดเตร่น่าเวทนา เธอก็เลยพาน้องกลับมาบ้านด้วย “หลังจากที่เลิกจากงานปาร์ตี้แล้ว น้องก็อยู่ตรงหน้าบ้านที่จัดงาน ทำได้แค่ร้องเมี๊ยวๆ ฉันก็เลยคว้าตัวน้องขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าเพื่อน Brooklyn กับ Sasha แล้วพูดว่า ‘เราควรจะพาน้องกลับบ้าน’” Juliette กล่าว แต่แล้วเรื่องก็เริ่มวุ่นวาย หลังจากที่เธอโพสต์ภาพน้องแมวลงในแอป Snapchat เจ้าของก็ทักมาว่า ‘ห่าขัวมึ๊ง เอาแมวกรูไปได้ยังไง นี่กรูตามหามันทั้งเช้าเลยนะ! ‘ และเธอก็ทวีตเรื่องราวความโป๊ะในทวิตเตอร์ found a cat at this party last night….and uh…….oops haha pic.twitter.com/gz9jtWBO5h — julz 𓆏 (@dogluvr37)…
-
ครอบครัวค้างค่าไฟบานตะไทจนถูกฟ้อง ปัดป้องไม่ยอมจ่าย มันเป็นความผิดของ ‘แมว’
กลายเป็นเรื่องแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในรัสเซียกันอีกแล้ว หลังจากที่ครอบครัวหนึ่งในเมืองบารนัล ต้องไปขึ้นศาลจากการถูกบริษัทด้านพลังงานฟ้องร้อง เนื่องจากไม่ยอมจ่ายค่าไฟเป็นหนี้ก้อนโตกว่า 40,000 บาท ซึ่งทางครอบครัวที่ถูกฟ้อง กล่าวว่าค่าไฟฟ้าที่ค้างจ่ายนั้น ไม่ได้เกิดมาจากการใช้งานของพวกเขา แต่เป็นของ ‘แมว’ ต่างหาก!? พวกเขาได้ให้การต่อหน้าคณะลูกขุน ปฏิเสธว่าค่าไฟที่พุ่งสูงไม่ได้มาจากการใช้งานของพวกเขา แต่เป็นเจ้าแมวซุกซนไปยุ่งกับมิเตอร์วัดค่าไฟ โดยอ้างว่า แมวที่เลี้ยงไว้มักจะชอบปีนขึ้นกำแพง ปีนขึ้นหลังคา และบ่อยครั้งที่เห็นว่าเจ้าแมว มักจะไปป่วนกับมิเตอร์วัดไฟฟ้าเลื่อนไปเลื่อนมา จนทำให้ซีลกันลวดในมิเตอร์พัง ก่อให้เกิดค่าไฟฟ้าบานจากมาตรวัดที่พังไปแล้ว แต่การอ้างของครอบครัวนี้ถูกปัดตกไป เนื่องจากทางทนายความของบริษัทไฟฟ้า ได้ให้ช่างไฟผู้มากประสบการณ์พิสูจน์ต่อหน้าศาลว่า… ซีลกันลวดในมิเตอร์นั้นแข็งแรงมากๆ และจะต้องใช้คัตเตอร์ตัดโดยเฉพาะ ไม่มีทางที่แมวจะสามารถทำแบบนั้นได้แน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว ศาลก็ให้น้ำหนักกับทางช่างไฟมากกว่า และสั่งให้ครอบครัวนี้ต้องจ่ายค่าไฟคงค้าง 40,000 บาท พร้อมกับค่าธรรมเนียมให้กับศาลอีก 1,200 บาท ยอมรับตั้งแต่แรกก็น่าจะจบแล้ว ไม่น่างัดต่อเล้ยยยย… ที่มา: bges, myjoyonline, odditycentral
-
ภาพงานแต่งงานสุดเก๋ระหว่าง ชายรักชาย เพื่อน และชะนีหนึ่งเดียวในแก๊ง
ในสังคมปัจจุบัน การเปิดรับเรื่องความหลากหลายทางเพศถือว่าได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ อีกเรื่องหนึ่งที่แต่ละสังคมเริ่มมีการเปิดกว้างทางความคิดและเรื่องทางเพศ ในโลกโซเชียล กำลังมีการแห่แชร์ภาพงานแต่งงานของชายรักชายชาวไต้หวันคู่หนึ่ง ปรากฏว่ามีชาวไทยจำนวนมากเข้าไปคอมเมนต์และแชร์รูปภาพของพวกเขา อัลบั้มดังกล่าวถูกโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อว่า Nick Lan ซึ่งเอกลักษณ์ของอัลบั้มที่ทำให้คนมาถูกใจเยอะมาก ก็คงจะเป็นงานแต่งแบบ ชาย-ชาย นี่แหละ และนั่นทำให้อัลบั้มกลายเป็นกระแสดังบนโลกออนไลน์วันนี้ไปในทันที… เจ้าบ่าวหล่อทั้งคู่ อื้อหือออ คู่รักทุกคู่ ต่างก็ใฝ่ฝันที่จะได้มีโมเมนต์นี้สักครั้งในชีวิต นอกจากเจ้าบ่าวและเจ้าบ่าวแล้ว งานนี้จะขาดเพื่อนไปได้ไง เดี๋ยวๆๆ ยังไม่ครบแก๊ง น้องนี หญิงเดียวในกลุ่ม น่ารักจริงๆ ไปไหนไปกัน เป็นการถ่ายรูปแก๊งเพื่อนที่เก๋สุดๆ การเป็นหญิงคนเดียวในแก๊งก็ต้องเฟียซประมาณนี้ แก๊งไหนเป็นแบบนี้บ้าง อยากถ่ายรูปกับเพื่อนแบบนี้ ภาพบรรยากาศงานแต่งริมทะเล ปิดท้ายด้วยภาพของคู่รัก เลิศมากค่าาาา เห็นแล้วอยากพาเพื่อนไปถ่ายรูปเป็นแก๊งแบบนี้เลย ที่มา Nick Lan
-
สิงโตหน้าเหมือน Mufasa ในแอฟริกาใต้ ถูกลักลอบวางยาฆ่า ตัดแขน/หน้า อย่างทารุณ!!
*คำเตือน : บทความนี้มีภาพที่รุนแรง ฉะนั้นขอให้ไตร่ตรองดูดีๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปรับชมนะครับ ปัญหา ‘การลักลอบล่าสัตว์ป่า’ ถือเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่เกิดขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้ แม้ว่าจะมีบทลงโทษที่หนักหนาสาหัสเพียงใด แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถหยุดยั้งเหล่าบุคลลที่ทำผิดกฎหมายได้เลย เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่กลุ่มลักลอบล่าสัตว์ที่ได้ทำการ แอบเข้าไปในพื้นที่สวนสัตว์ Akwaaba Predator Park ในเมือง Limpopo ประเทศแอฟริกาใต้ ก่อนที่จะทำการ ‘วางยา’ สิงโต ทั้งตัวเมียและตัวผู้ เป็นเหตุให้พวกมันเสียชีวิตไปถึง 5 ตัวด้วยกัน!! นอกจากนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่แล้วพบว่า มีสิงโตตัวหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ เพราะหน้าตาของมันเหมือนกับ Mufasa จากเรื่อง The Lion King ก็เป็นหนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายด้วย แต่สภาพศพของมันหนักกว่าตัวอื่นๆ เพราะถูกตัดเอา ‘เท้า’ และ ‘ใบหน้า’ ออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นการจ้างวานจากเหล่า ‘โทรฟี ฮันเตอร์’ หรือถูกนำไปขายเพื่อใช้ประกอบการทำพิธีเวทมนตร์ดำ ทางด้านนาย…
-
ศิลปินนำ ‘ภาพวาดของเด็ก’ กลับมาวาดใหม่อีกครั้ง เพื่อเติมเต็มจินตนาการ ให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น!!
วัยเด็ก ถือเป็นวัยแห่งความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการที่กว้างไกล และหลายๆ ครั้ง พวกเขาก็ถ่ายทอดออกมาผ่าน ‘การวาดภาพระบายสี’ แต่ภาพที่เด็กๆ วาดมันก็มักจะเป็นลายเส้นยึกๆ ยือๆ ที่มองแล้วมองอีก ก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่ามันเป็นภาพของตัวอะไรกันแน่!? และศิลปิน Aaron Zenz ก็ได้นำภาพวาดของเหล่าเด็กๆ มาวาดใหม่ แปลงโฉมให้ลายเส้นของเหล่าเด็กๆ กลายมาเป็นภาพที่สวยสดงดงาม เปลี่ยนจินตนาการของพวกเขาให้ดูราวกับมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ!! Aaron ได้ทำการนำภาพวาดของเหล่าเด็กๆ มาวาดใหม่ เป็นแนว ‘แฟนอาร์ต’ และนำมันมาทำเป็น ‘คอลเลกชัน’ ผลงาน เพื่อจัดแสดงในงาน ArtPrize 2018 ในพิพิธภัณฑ์ Children’s Museum ที่เมือง Grand Rapids รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา และนี่คือผลงานบางส่วนที่เขาวาดขึ้นมา ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยครับ… ปิศาจแตงโม ปิศาจกวางผู้ปกปักรักษาผืนป่า . . ปิศาจกุหลาบ . .…
-
คุณพ่อถูกแม่ทิ้งไป เพราะกลายเป็น ‘อัมพาต’ ลูกสาววัย 6 ขวบเลยลุกขึ้นมาดูแลพ่อแทน
เรื่องราวของความรัก บางครั้งมันก็ไม่ได้จบลงอย่างสวยงามเสมอไป… เมื่อคุณพ่อชาวจีนต้องประสบอุบัติเหตุ จนทำให้กลายเป็นอัมพาต คนที่ควรจะดูแลและอยู่เคียงข้างเขามากที่สุดอย่างภรรยาที่แต่งงานด้วยกันมานานกว่า 7 ปี กลับกลายเป็นคนแรกที่ทิ้งเขาไป ย้อนกลับไปในปี 2016 นาย Tian Haicheng จากประเทศจีน ประสบอุบัติเหตุจากการโดยสารรถแท็กซี่ จนเป็นเหตุให้เขาต้องกลายมาเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงหน้าอกลงไป หนึ่งเดือนหลังจากประสบอุบัติเหตุ ภรรยาที่แต่งงานมาด้วยกันกว่า 7 ปี ก็ตัดสินใจที่จะทิ้งเขาไป พร้อมกับพา ‘ลูกชาย’ ไปด้วย เหลือไว้แต่เพียง ‘ลูกสาว’ ที่ชื่อว่า Jia Jia วัย 6 ขวบ เท่านั้น “ในวันนั้น เธอบอกกับผมว่า เธอจะไปอาศัยอยู่ที่บ้านแม่ของเธอสักสองถึงสามวัน แต่จากนั้นเธอก็ไม่กลับมาอีกเลย” ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ทิ้งเขาไป ลูกสาวตัวน้อย Jia Jia กลับกลายเป็นคนที่ดูแลเขาแทบจะทุกอย่างตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Jia Jia ตื่น 6 โมงเช้าทุกวัน เพื่อมานวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้พ่อเป็นเวลาประมาณ 30…
-
คุณครูเปลี่ยนห้องเรียนเป็น ‘โลกแห่งคิตตี้’ เพื่อความสุขของเด็กๆ แม้ต้องควักเงินเองก็ตาม!!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความคิดดีๆ ที่อาจทำให้เด็กๆ มีความสุขมากยิ่งขึ้นเวลาที่อยู่โรงเรียน เมื่อคุณครูคนหนึ่งเปลี่ยนห้องเรียนทั้งห้องให้กลายเป็นโลกแห่งคิตตี้สุดหวานแหวว!! Samelyn Lafuente คุณครูสาวสวยแห่งโรงเรียนชั้นประถมต้นแห่งหนึ่งในเมืองมัสบาเตซิตี ประเทศฟิลิปปินส์ ได้ดลบันดาลให้ห้องเรียนของเธอกลายเป็นโลกสีชมพูสุดหวานแหววที่เด็กคนไหนเข้าไปเป็นต้องหลงรัก คุณครูคนนี้จัดแจงเปลี่ยนแทบจะทุกสิ่งอย่างในห้องให้กลายเป็นธีม ‘คิตตี้’ อย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นพรมลายคิตตี้ ทาสีกำแพงเป็นสีชมพู โต๊ะของเด็กนักเรียนที่มากับสีชมพู๊ชมพู พร้อมด้วยตัวการ์ตูนห้อยระโยงระยางและอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน คุณครูเล่าว่ากว่าจะได้อย่างที่เห็นก็ต้องใช้เวลาตกแต่งถึง 3 ปีเต็มๆ ซึ่งเงินที่ใช้ในส่วนนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเงินของคุณครูเองทั้งหมดด้วย เหตุผลที่คุณครูทำอย่างนี้ เธอก็บอกว่าเพราะอยากจะให้เด็กๆ มีความสุขที่สุดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน และถึงแม้ว่าเธอจะต้องควักเงินจ่ายด้วยตัวเอง แต่เวลาที่เห็นประกายความสุขในตาดวงน้อยๆ ของนักเรียน เธอก็บอกว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม… “ฉันทำสิ่งนี้เพื่อเด็กๆ เพราะฉันรักพวกเขายังไงล่ะ” คุณครูกล่าว ห้องเรียนโลกคิตตี้ ได้กลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตในประเทศแถบเอเชียอย่างเช่นจีน ซึ่งชาวเน็ตหลายคนก็ชื่นชมยกย่องคุณครูที่ทำเพื่อความสุขของเด็กๆ ด้วยจิตวิญญาณอย่างแท้จริง… น่ารักจริงๆ เลยทั้งห้องเรียนทั้งคุณครู ที่มา: odditycentral, Glay Franco Bacolod
-
หนุ่มสุดกวนยืนปิ้งฮอตด็อก เย้ยนักเคลื่อนไหว ‘สิทธิ์ของสัตว์’ ที่ยืนปิดล้อมรถขนหมู!!
เราอาจจะเคยเห็นหลายๆ ข่าวเกี่ยวกับการประท้วงเรื่อง ‘สิทธิของสัตว์’ ในต่างประเทศ ซึ่งก็แน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมมีทั้งคนเห็นด้วยและคนเห็นต่าง จึงมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้ง และเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นนี้ก็น่าจะเข้าข่ายในเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อมีหนุ่มคนหนึ่งไปยืนปิ้งฮอตด็อก ใกล้ๆ กับที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวกำลังยืนประท้วงกันอยู่ซะอย่างงั้น!! เพจชื่อว่า Pathetic Millennial ได้เป็นผู้เผยแพร่เรื่องนี้ในรูปแบบของวิดีโอทำไห้เราได้เห็นถึงรายละเอียดต่างๆ เรื่องมีอยู่ว่ากลุ่มนักเคลื่อนไหวได้ไปยืนล้อมรถบรรทุกคันหนึ่งที่มีหมูอยู่เต็มคัน ขณะที่กำลังแล่นมุ่งหน้าไปยังโรงเชือดของบริษัท Fearmans ในประเทศแคนาดา ในวิดีโอจะเห็นว่า ขณะที่พวกเขากำลังให้น้ำให้อาหารแก่เจ้าพวกหมู่อยู่นั้น จู่ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มก็สังเกตเห็นว่าฝั่งตรงข้ามที่ผู้ชายยืนปิ้งฮอตด็อกอยู่อย่างสบายใจ เท่านั้นไม่พอเขายังเดินเอาฮอตด็อกมาถามหนึ่งในกลุ่มว่า ‘กินไหม’ เหมือนเป็นการกวน… ด้วย จากนั้นวิดีโอก็ฉายย้อนไปใน 2 – 3 ชั่วโมงก่อนหน้าเหตุการณ์นี้ เพื่อให้เห็นถึงการเตรียมการจัดร้านฮอตด็อกดังกล่าว ทั้งการตั้งเตา ซื้อของต่างๆ นานา จะเห็นได้ว่าในวิดีโอ ชายคนนี้มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสขณะที่ยืนปิ้งฮ็อตดอกแจกให้คนที่ผ่านไปมา ซึ่งก็แน่นอนว่ามันตรงข้ามกับฝั่งคนประท้วงที่มองเขาว่าเป็นพวก ‘น่ารังเกียจ’ จนในที่สุดแล้วนักเคลื่อนไหวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ตรงเข้ามาหาแล้วบอกให้เขาหยุดการทำอย่างนี้ซะ ซึ่งเขาก็ยอมรับความพ่ายแพ้เก็บของกลับบ้านไปแต่โดยดี เรื่องนี้ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งความประชดประชันที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากลุ่มผู้ประท้วงจะขำเหมือนกับชายคนนี้หรือเปล่านะ… ที่มา: ladbible, Pathetic Millennial
-
คนส่ง ‘UberEats’ แอบขโมยมันฝรั่งของลูกค้ากินก่อนส่ง ถูกจับได้เพราะมีกล้องวงจรปิด!!
หลายคนอาจจะเคยใช้บริการแอปฯ ส่งอาหารต่างๆ อย่าง GrabFood, LineMan หรือ Uber Eats แล้วคิดว่ามันช่างสะดวกอะไรขนาดนี้ แค่นอนตีพุงรอก็ได้กินของอร่อยๆ แล้ว แต่ว่าบางทีของที่คุณสั่งมันอาจมีบางส่วนที่หายไปโดยที่คุณไม่รู้ตัวก็เป็นได้ อย่างเช่นในกรณีนี้… ภาพจากกล้องวงจรปิดบ้านหลังหนึ่งในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย สามารถจับภาพคนส่งอาหารของ UberEats แอบขโมยมันฝรั่งของลูกค้าไปกินหน้าตาเฉยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วิดีโอดังกล่าวนี้ทางเจ้าของบ้านเป็นเพื่อนกับ Eddie McGuire พิธีกรรายการ Hot Breakfast ชื่อดังในออสเตรเลีย เขาเลยนำเรื่องมาเผยแพร่ให้ชาวโลกได้เห็นกันจะจะไปเลย วิดีโอที่ว่านี้ ในวิดีโอจะเห็นภาพของชายคนหนึ่งที่เอาอาหารมาส่งให้กับทางเจ้าของบ้าน แต่ว่าก่อนที่ลูกค้าจะเปิดประตู เขาก็จัดการเอามือล้วงไปหยิบมันฝรั่งขึ้นมาเคี้ยวอย่างสบายใจ “ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมอาหารที่ผมเคยสั่งผ่าน UberEats ถึงมีน้ำหนักเบากว่าที่ควรจะเป็น” Eddie กล่าวอย่างติดตลก ในขณะเดียวกัน Will Anderson พิธีกรที่ทำหน้าที่คู่กับ Eddie ก็บอกว่าเขาเห็นใจคนส่งอาหารคนนี้ เพราะบางทีคนส่งอาหารก็มักจะไม่ได้ทิปจากผู้ใช้บริการเท่าไหร่นัก “ถ้าไม่ได้ทิป ก็จัดชิพ (มันฝรั่ง) ไปเลย ฮ่าๆ” Will กล่าว ที่สุดแล้วเรื่องนี้ก็กลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย และแน่นอนว่าทางบริษัท Uber ได้รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้แล้ว ซึ่งพวกเขาบอกว่าจะพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ …
-
ญี่ปุ่นไอเดียเจ๋ง สร้างแท่นชาร์จไร้สาย “สไตล์เวทมนตร์” เห็นแล้วอยากควักเงินให้เลย!~
เดี๋ยวนี้อุปกรณ์ไอทีเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือมักทำออกมาดึงดูดใจผู้บริโภคกันมากมาย โดยเฉพาะยิ่งเมื่อมีวิทยาการ “เครื่องชาร์จแบตเตอรีไร้สาย” ยิ่งทำให้มีสินค้าเก๋ๆ ออกมาวางขายเพียบ แต่ที่แหวกแนวแต่โดดเด่นเตะตาสุดๆ ก็คือแท่นชาร์จแบตเตอรีไร้สายจากบริษัทของญี่ปุ่นชิ้นนี้นี่แหละ ด้วยดีไซน์สุดล้ำของมัน ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนใช้ “เวทมนตร์” ในการชาร์จไฟเลยทีเดียว ชมคลิปแท่นชาร์จแบตเตอรี่พลังเวทมนตร์!! ผลงานชิ้นนี้เป็นของร้าน Six Seconds Shop ในญี่ปุ่นเขาล่ะ ปัจจุบันมีชาวเน็ตจากทั่วโลกมาสอบถามกันมากมายถึงราคาของเจ้าแท่นชาร์จพลังเวทมนตร์ชิ้นนี้ แต่ทางร้าน Six Second นั้นยังไม่คิดจะผลิตขึ้นเพื่อจำหน่าย เนื่องจากกำลังวางแผนการผลิตสินค้าชนิดอื่นๆ อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม แท่นชาร์จชิ้นนี้ก็เป็นอีหหนึ่งแนวคิดและดีไซน์ที่เจ๋งซึ่งอาจผลิตขึ้นวางจำหน่ายในอนาคต หน้าตาของมันจะเป็นแบบนี้ ดูเหมือนกับแท่นชาร์จทั่วๆ ไปที่มีลวดลายสวยงาม แต่ทันทีที่เราวางโทรศัพท์มือถือลงไป ลวดลายเหล่านั้นก็เริ่มเปล่งแสง! แสงวิ่งไปตามลายเส้น เกิดเป็นวงแหวนที่มีลวดลายเป็นสัญลักษณ์ของพลังเวทมนตร์ เมื่อแท่นรองถูกเติมเต็มด้วยแสงเวทมนตร์จนครบ มันจึงทำการเริ่มชาร์จไฟเข้าไปในโทรศัพท์มือถือ ราวกับว่ามีการร่ายเวทก่อนอะไรแบบนั้น ทางบริษัท Six Second Shop จะผลิตเจ้าแท่นชาร์จพลังเวทมนตร์นี้ขึ้นจริงๆ เมื่อไหร่นั้นยังไม่มีข้อมูล หากใครสนใจแล้วอยากได้ไปครอบครองก็คงต้องติดตามร้านนี้กันต่อไปล่ะนะ ที่มา: 6秒商店 และ soranews24
-
สัมผัส “ชีวิตบนดาวอังคาร” กับ Sun City Camp ที่พักกลางทะเลทรายจอร์แดน
มีใครที่เบื่อกับการพักผ่อนพร้อมภาพบรรยากาศเดิมๆ บ้างไหม? เดี๋ยวก็ทะเล เดี๋ยวก็ป่าเขา สายรักการท่องเที่ยวก็คงจะเห็นกันจนเบื่อแล้วใช่ไหมล่ะ แล้วอยากเห็นวิวทิวทัศน์ที่ดู “ไม่เหมือนอยู่บนโลก” กันบ้างหรือเปล่า? ถ้าใครต้องการแบบนั้นล่ะก็ลุยไปเลยที่แคมป์ Sun City ท่ามกลางหุบเขาวาดิรัม ในประเทศจอร์แดน ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอันสงบเงียบแล้ว ยังมีอันสวยงามที่แทบจะหาจากที่ใดไม่ได้บนโลกอีกด้วย Sun City Camp ภายในจะมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน พร้อมทั้งมีการจัดสรรกิจกรรมต่างๆ ให้เหมาะสมกับสไตล์การพักผ่อนของคุณ เช่น สไตล์ผ่อนคลายและสไตล์ผจญภัย เป็นต้น แขกผู้เข้าพักสามารถเลือกรูปแบบของห้องพักได้ โดยจะมีให้เลือก 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ Bedouin (30 เต็นท์), Royal (8 ห้อง), Family (2 ห้อง) และที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ Martian Domes (20 ห้อง) ที่นี่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศวิวทิวทัศน์ราวกับอาศัยอยู่บนพื้นผิวดาวอังคาร แต่ถึงกระนั้น ทางแคมป์ก็ยังมีสัญญาณ Wi-Fi ให้ใช้ แถมมีบริการอาหารแบบบุฟเฟต์ชั้นเลิศให้รับประทานอีกด้วย . . . Sun…
-
ผู้หญิงขับรถชนคนกวาดถนน เขาเลยกระโดดเกาะหน้ารถเพราะโกรธที่เธอทำ ‘ไม้กวาด’ หัก!!
เรื่องการมีปัญหาบนท้องถนน อาจเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็เจอได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป แต่เชื่อเถอะว่าคงไม่มีใครเคยเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดแบบนี้แน่ๆ เพราะใครจะไปเชื่อว่ารถคันหนึ่งจะสามารถวิ่งไปได้ไกลได้ถึง 13 กิโลเมตรทั้งๆ ที่มีคนนอนอยู่บนฝากระโปรงหน้ารถ! เรื่องราวอันแปลกประหลาดที่ว่านี้เกิดขึ้นแถวๆ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 กันยนยนที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มขึ้นจากอุบัติเหตุที่ผู้หญิงแซ่ Li บังเอิญขับรถไปชนเข้ากับคนกวาดถนนแซ่ Ku ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่แถวๆ นั้นจนทำให้ไม้กวาดของเขาหัก ทั้งสองโต้เถียงกันไปมาอย่างไม่จบสิ้น จนทำให้ในที่สุด Li ก็หนีขึ้นรถแต่ว่าชายคนนี้ก็ไม่ยอมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เขาเลยกระโดดขึ้นฝากระโปรงรถแล้วนอนกอดอยู่อย่างนั้นแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะออกรถแล้วก็ตาม เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงขับรถมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจที่อยู่ห่างออกไปถึง 13 กิโลเมตรเพื่อให้ช่วยเหลือคลี่คลายเหตุการณ์นี้ แม้ว่าขณะที่เธอขับไปชายคนนี้ก็ยังนอนกอดรถอยู่อย่างไม่ไปไหนก็ตาม ในที่สุดทั้งสองก็ถึงสถานีตำรวจอย่างปลอดภัย และทางเจ้าหน้าที่ก็สั่งปรับ Li เป็นเงิน 500 หยวน (ประมาณ 2,370 บาท) สำหรับการก่ออุบัติเหตุในครั้งนี้ รวมถึงสั่งขังไว้อีก 10 วันด้วย คลิปเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้ เมื่อคลิปวิดีโอนี้เแพร่หลายไปในโลกไซเบอร์ ชาวเน็ตต่างก็แซ่ซ้องคนกวาดถนนคนนี้ว่าเป็น…
-
เทรนด์ชาเล้นจ์ใหม่ระบาด ‘วิ่งปาดหน้ากล้องจับความเร็ว’ เอาให้ไวเหมือนลุ้นหวย!?
เทรนด์กระแสชาเล้นจ์ยังคงไม่หมดไปง่ายๆ จากการท้าทายต่างๆ นานา มีการส่งต่อให้คนอื่นได้ทำตาม ไม่ว่าจะด้วยในแง่ความคิดสร้างสรรค์ หรือแง่ความห่ามก็ตาม อย่างที่ผ่านไปได้แป๊บเดียวก็จะเป็น Falling Stars Challenge การถ่ายภาพแนวล้มอวดรวย จัดฉากเทกระจาดข้าวของที่มีมาโพสต์ลงโซเชียล เทรนด์ใหม่ล่าสุดที่กำลังระบาดอีกก็คือ ‘วิ่งปาดหน้ากล้องจับความเร็ว’ . โดยที่ชาเล้นจ์นี้ไม่มีอะไรมากเลย เพียงแต่เป็นการใช้กล้องจับความเร็วเป็นตัวตั้ง และให้คนวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเพื่อเอาความเร็วที่กล้องจับได้มาอวดแข่งกัน! จากกล้องที่ไว้ใช้จับความเร็วยานพาหนะ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละพื้นที่ ก็กลายมาเป็นอุปกรณ์เสริมสร้างสุขภาพแบบไม่ได้ตั้งใจไปซะงั้น . และหลังจากที่เริ่มมีคนเอามาโพสต์ลงในโลกโซเชียลได้ไม่นาน ก็มีคลิปวิดิโอแนวๆ เดียวกันออกมาเพียบ บางรายก็วิ่งได้ความเร็วแบบไม่น่าเชื่ออยู่ที่ 24 – 28 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกันเลยทีเดียว ซึ่งจากการเล่นท้าทายกันไปมา สุดท้ายก็เริ่มลามไปถึง ยูเซน โบลต์ นักวิ่งชาวจาเมกา เจ้าของสถิติโลกวิ่ง 100 เมตร ที่เวลา 9.58 วินาที ด้วยความเร็ว 44 กิโลเมตรต่อชั่วโมง… ไม่รู้ว่าแกจะแอบมาเล่นด้วยรึเปล่า ก็คงต้องรอดูกันต่อไปนะ ฮร่าาา ที่มา:…
-
เทรนด์ใหม่รับฮัลโลวีน ‘แต่งตูด’ วาดลวดลายเปลี่ยนก้นเหี่ยวๆ ให้เป็นลูกฟักทองอันเจิดจรัส!!
ใกล้เข้ามาถึงทุกขณะแล้วสำหรับเทศกาลที่หลายคนรอคอยอย่าง ‘ฮัลโลวีน’ ที่เหล่าผองเพื่อนจะได้ใส่ชุดแปลกๆ สวยๆ มาประชันว่าใครจะแต่งเป็นผีได้น่ารักจุ๋มจิ๋มกว่ากัน แต่ว่าในตอนนี้ได้มีเทรนด์ใหม่เตรียมการเอาไว้สำหรับเทศกาลนี้แล้ว และที่สำคัญคือไม่ต้องแต่งหน้าแต่งตัวอะไรให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพราะพวกเขากำลังฮิต ‘แต่งตูด’ ให้เป็นฟักทองกัน!! https://www.instagram.com/p/BoRymgnH08n/?utm_source=ig_embed ในหลายๆ ปีที่ผ่านมาใครหลายคนก็จะบ่นกันอุบว่าต้องเปลืองเงินไปเช่าชุด แต่งหน้าแบบจัดเต็มกันอีกแล้วเมื่อถึงเทศกาลนี้ แต่ว่านี่อาจเป็นโอกาสให้คุณเก็บเงินส่วนนี้ไว้แล้วเอาไปเสียกับการบอดี้เพนท์แทน https://www.instagram.com/p/BocO6tPHRv6/?tagged=pumpkinbum การแต่งตูดที่ว่านี้คือการวาดลวดลายลงบนแผ่นก้น โดยหากดูจากรูปร่างลักษณะแล้วมันก็เหมาะที่จะเป็นลูกฟักทองงามๆ อยู่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ ถ้างั้นมันคงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าเราบรรจงแต่งแต้มเติมสีส้มๆ ทองๆ ลงไป https://www.instagram.com/p/BoYrOK8hNsq/?utm_source=ig_embed และเพื่อเป็นการให้เห็นกันจะจะไปเลยว่าลายบนก้นเราสวยแค่ไหน ชาวต่างชาติหลายคนก็จะตัดรูที่กางเกงเอาไว้สำหรับการนี้โดยเฉพาะเวลาไปปาร์ตี้เลยล่ะ https://www.instagram.com/p/Ba6EH7qgSw3/?utm_source=ig_embed อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ซะทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีก็มีเหล่าคุณแม่นำลูกๆ วัยแบเบาะมาร่วมฮาโลวีนด้วยการตกแต่งที่ก้นเหมือนกัน ซึ่งดูน่ารักไม่น้อยเลยทีเดียวแหละ เอาเป็นว่าใครแต่งตามหรืออยากดูตัวอย่างกันก่อนล่ะก็ สามารถหาดูกันได้ที่แฮทแท็ค #pumpkinbum กันเลยละกัน… ที่มา: metro
-
มาก่อนเลือกตั้ง BNK48!! ญี่ปุ่นจัด “เลือกตั้งตัวนาก” นากตัวไหนใช่สำหรับคุณเข้าโหวตโลด!!
“การเลือกตั้ง” คือ ถือว่าเป็นกระบวนการลงคะแนนเพื่อทำการเลือกปัจเจกบุคคลเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ โดยชอบธรรม ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยแล้ว ถือว่าเป็นกระบวนการที่สำคัญที่มิอาจจะขาดได้โดยอันขาด สำหรับการเลือกตั้งปกติแล้วเพื่อนๆ คงเคยเห็นกันมาบ้างอยู่แล้วใช่มั้ย? แต่วันนี้เราเลยนำเรื่องการเลือกตั้งสุดแปลกมาให้ได้ชมกันครับ เพราะนั่นคือ “การเลือกตั้งนาก” ประจำปี 2018 นั่นเอง!! Kawauso~u Senkyo หรือการเลือกตั้งนาก เป็นกิจกรรมที่ทางประเทศญี่ปุ่นจัดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี 2017 ซึ่งในปีนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งที่สอง โดยที่กิจกรรมนี้ มีจุดประสงค์ก็คือเฟ้นหาตัวนากที่ถือว่าเป็นสุดยอดของสุดยอดในปฐพี! แต่จริงๆ แล้วนี่ถือว่าเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวสวนสัตว์หรืออควอเรียมไปด้วยในตัว เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นาก เอ๊ย นก สองตัว กฎก็ง่ายๆ อย่างที่เรารู้กัน นั่นคือเราสามารถเข้าไปโหวตให้กับตัวนากตัวใดก็ได้ที่เราชื่นชอบ ผ่านทางเว็บไซต์ Sunshinecity โดยกำหนดว่า 1 คนสามารถโหวตได้ 1 โหวตต่อ 1 วันเท่านั้น เอาเป็นว่าตอนนี้เราไปรับชมกลุ่ม Top 10 ของการเลือกตั้งครั้งนี้ก่อนดีกว่าครับ อันดับ 1 (15,988 โหวต) ตัวนากคู่แฝด Kirari…
-
ศาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สั่งจำคุกภรรยา 3 เดือนเต็ม ข้อหา ‘แอบส่องโทรศัพท์สามี’
ว่ากันด้วยเรื่องของข้อมูลในโทรศัพท์และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ยังคงมีข้อถกเถียงกันว่าเป็นสิ่งที่ทำได้หรือไม่ กับการที่บุคคลอื่นจะสามารถเข้าไปอ่านและรับรู้บทสนทนาของเจ้าของโทรศัพท์? แน่นอนว่า เรื่องแบบนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อสามีหรือภรรยา รู้สึกไม่ไว้ใจคู่ของตนเอง ต้องคอยหมั่นเช็คตลอดว่าแอบคุยกับใครอยู่รึเปล่า แต่แล้วเรื่องแบบนี้ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โตในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีรายงานว่าศาลได้สั่งจำคุกฝ่ายภรรยาเป็นเวลา 3 เดือน จากการแอบส่องโทรศัพท์ของสามี โดยที่ไม่ได้รับความยินยอม โดยมีผู้ฟ้องเป็นสามีของเธอเอง กล่าวหาว่าละเมิดความเป็นส่วนตัว จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันในสุด ซึ่งทางศาลรัฐราสอัลไคมาห์ ทางตอนเหนือของประเทศ พิจารณาแล้วว่ามีความผิดจริง… จากคำแถลงของสามี กล่าวว่าภรรยาของเขาแอบเปิดโทรศัพท์ และก็อปปี้ข้อมูลทั้งหมดลงอีกเครื่อง ก่อนจะทำการเปิดอ่านข้อมูลทั้งหมดในภายหลัง โดยในช่วงเวลาที่เขานอนหลับอยู่ ภรรยาก็อาศัยจังหวะนี้คว้าโทรศัพท์ไปล้วงลับ ทั้งภาพถ่ายและบทสนทนากับผู้อื่น พร้อมกับนำไปโชว์ให้ญาติพี่น้องได้ดู محكمة #رأس_الخيمة عاقبت امرأة بالحبس 3 أشهر لتفتيش هاتف زوجها#مصدر_للأخبار pic.twitter.com/t6ulSZ96BS — مصدر (@MSDAR_NEWS) October 1, 2018 ทางด้านฝ่ายภรรยา กล่าวว่าสามีให้รหัสผ่านมาแล้ว และอนุญาตให้เธอใช้โทรศัพท์ของเขาได้ หลังจากที่เธอจับได้ว่าแอบคุยกับหญิงอื่น แต่ทางศาลกลับมองว่าขัดกับกฎหมายอาชญากรรมไซเบอร์…
-
ยังไงดี!? คนงานเคลียร์บ้าน ค้นพบขุมทรัพย์ ‘หนังสือโป๊วินเทจ’ ซ่อนใต้เตียงเป็นร้อยเล่ม
หากวันใดวันหนึ่งจะต้องโยกย้ายออกจากบ้านเก่า ถ้ามีแรงมีเวลาหน่อยก็ใช้เวลาในการเคลียร์ข้าวของด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลเพิ่มเติมทางด้านความปลอดภัย เผื่อใครจะมาเจอของรักของหวงเข้า… สำหรับคนงานเคลียร์บ้าน Karl Horler วัย 47 ปี จากบริษัทรับกำจัดเคลียร์ข้าวของที่พักอาศัย จะเรียกโชคดีหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้แน่ชัด หลังเขาดันมาเจอกับขุมทรัพย์ของเหล่าชายหนุ่มกลัดมันโดยบังเอิญ โดยในระหว่างที่ เขาและเพื่อนร่วมงานพยายามจะยกเตียงออก กลับรู้สึกหนักแบบแปลกพิกล ก็เลยต้องทำการสำรวจหาสาเหตุที่มาที่ไป Karl กล่าวว่า “มันมีลิ้นชักซ่อนอยู่ใต้ฐานเตียงอีกทีหนึ่ง แต่เปิดไม่ออกจนต้องงัดออกมา แล้วเราก็พบกับหนังสือโป๊จำนวนไม่ต่ำกว่า 100 เล่มซ่อนอยู่ มันรั้งเตียงเอาไว้จนเรายกไม่ได้ โคตรเซอร์ไพรส์เลย” “แล้วหนังสือโป๊ที่ว่ากว่า 100 เล่มก็มีตั้งแต่ปี 1960 จนถึงปี 2010 ผมเชื่อว่าเจ้าของน่าจะเป็นชายโสดที่เสียชีวิตไปแล้วแน่ๆ” เมื่อถามว่า จะทำยังไงกับพวกหนังสือเหล่านี้ พี่แกก็ไม่ได้คิดว่าจะเก็บเอาไว้กับตัวหรอก เพราะคิดว่าน่าจะมีคนคอยเก็บสะสมของแบบนี้ กำลังออกตามหาคอลเลคชั่นหายากก็เป็นได้ “ผมกำลังหาช่องทางขายบน eBay มันจะต้องมีตลาดที่คอยรับซื้อของแบบนี้แน่นอน” แอบสงสัยอยู่นะว่า เจ้าของคอลเลคชั่นจะเสียชีวิตด้วยสาเหตุไหนหว่า? ที่มา: dailymail, thesun, ladbible
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นโพสต์ ภาพคู่กับเพื่อนที่ดูเหมือน “ตัดต่อ” แต่แท้จริงแล้วมันเท่กว่านั้นเยอะ!!
ภาพบางภาพนั้นถ่ายออกมาแล้วดันเหมือนภาพที่ผ่านโปรแกรม Photoshop เสียจนเอาให้ใครดูก็ต้องคิดว่าเป็นภาพตัดต่อเป็นแน่ อย่างเช่นใน บทความเก่า ที่รวมเอาภาพถ่ายจริงแต่ดันไปเหมือนกับภาพตัดต่อเสียอย่างนั้น วันนี้เรื่องราวทำนองนี้เกิดขึ้นกับทวิตเตอร์ของหนุ่มชาวญี่ปุ่นจากเกาะโอกินาวะนามว่า Shinya Nomura ที่ได้โพสต์ภาพถ่ายอำลาเพื่อนซี้ เนื่องจากตนจะย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ยังแผ่นดินแม่ของญี่ปุ่น เฮ้ย! นี่มันภาพตัดต่อชัดๆ!! ภาพดังกล่าวถูกอัปโหลดลงทวิตเตอร์ของเขา @1upcontinue เป็นภาพที่ Nomura ถ่ายพร้อมชูสองนิ้วคู่กับเพื่อนสนิทที่ก็ชูสองนิ้วเหมือนกัน แต่ดัน “ยืนกลับหัว” อย่างน่าประหลาดใจ มันก็เลยทำให้ชาวทวิตเตอร์ที่พบเห็นภาพนี้คิดว่าเป็นภาพตัดต่อโดยใช้โปรแกรม Photoshop แถมคิดเพิ่มด้วยต้องมีทักษะการตัดต่อภาพระดับเทพเลยด้วย เพราะแสงเงาและภาพพื้นหลังนั้นเนียนมาก แต่แท้จริงแล้ว ภาพนี้ไม่ได้มีการตัดต่อหรือ Photoshop ใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงการถ่ายจากภาพเคลื่อนไหวให้ถูกจังหวะเท่านั้นเอง… (ชมคลิปด้านล่างได้เลย) コラじゃないよ。ほんとだよ。 pic.twitter.com/BFl7RrKmwt — 豊村真也 シェイプラボ清澄白河駅前店 (@1upcontinue) September 25, 2018 โอ้โห เล่นถ่ายขณะตีลังกากันแบบนี้เลยเหรอ!? มิน่าล่ะ ภาพถึงได้ออกมาราวกับถูกตัดต่ออย่างแนบเนียนขนาดนี้ ว่าแต่ถ้าเพื่อนๆ สงสัยเกี่ยวกับชุดที่ Nomura กับเพื่อนของเขาสวมใส่รวมถึงการตีลังกาอย่างในภาพ ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าพวกเขาเป็นนักกีฬา Taido ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ของเกาะโอกินาวะนั่นเอง Taido เป็นศิลปะการต่อสู้ว่าด้วยแรงเหวี่ยง…
-
แม่วัยสาวเข้ารับการสักลาย แต่รอยสักกลับติดเชื้อ จนทำให้แท้งลูกและเดินไม่ได้อีกต่อไป!
การ ‘สักลาย’ เป็นศิลปะบนเรือนร่างอันงดงามที่หลายคนหลงใหล แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจมีอันตรายแฝงอยู่เหมือนกับเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนนี้จนถึงขั้นทำให้เธอแท้งลูก!! Luisa Fernanda สาวทีนมัมวัย 16 ปีจากเขต Casanare Department ประเทศโคลอมเบีย เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของเธอมีความผิดปกติและเริ่มมีอาการป่วยหลังจากที่ไปสักอกข้างขวามา ซึ่งปรากฏว่ารอยสักของเธอมีอาการติดเชื้อ ทางแพทย์บอกว่าการติดเชื้อที่เกิดขึ้นมันรุนแรงถึงขั้นจะทำให้เธอไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป เพราะว่าเชื้อมันได้แพร่กระจายไปสู่กระดูกสันหลังแล้ว อย่างไรก็ตามเธอได้ผ่าตัดนำของเหลวที่เกิดจากการติดเชื้อส่วนหนึ่งออกไป ทว่าต่อมาเชื้อมันก็ลุกลามไปยังไส้ติ่งจนเกิดเป็นปัญหาใหม่ขึ้นมาในที่สุด “เพราะด้วยความที่ฉันต้องกินยาเป็นจำนวนมาก มันเลยทำให้ฉันสูญเสียลูกชายในท้องไป” Fernanda กล่าว โดยหลังจากที่การรักษาเริ่มเข้าที่เข้าทางเธอต้องเข้าบำบัดสภาพจิตใจจากการสูญเสียลูกไปด้วย… Fernanda ได้ออกมาเล่าถึงเรื่องประสบการณ์เลวร้ายนี้ เพื่ออยากจะให้นำเรื่องของเธอเป็นอุทาหรณ์ให้แก่วัยรุ่นที่อยากลองสัก ว่ามันมีอันตรายแฝงอยู่ขนาดไหน “เมื่อปีที่แล้วฉันไปสักมา และครั้งนั้นเองมันทำให้เกิดแบคทีเรียไปทำลายกระดูกสันหลัง ซึ่งมันทำให้ฉันไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆ เลยนะตอนที่ฉันได้ยินหมอบอกอย่างนั้นน่ะ” “มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลยในเวลาที่ออกไปข้างนอกแล้วมีคนมองจ้องมาที่เรา แต่ก็ต้องขอขอบคุณแม่ที่ช่วยเหลือและอยู่ข้างๆ ฉันมาโดยตลอด” ที่มา: metro, new.au, dailymail
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นเปลี่ยน “ซองขนม” ให้กลายเป็น “โมเดล” เรือสำเภาลำงาม…โคตรเนี๊ยบ!
ซองขนมหรือแพ็กเกจของช็อกโกแลตนั้นมักจะทำออกมาได้น่าสนใจเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือลวดลายก็ตาม จนบางครั้งเราทานหมดแล้วยังไม่อยากทิ้งซองของมันกันเลยทีเดียว ถึงอย่างไรเราก็ต้องตัดใจทิ้งซองขนมไป เพราะถ้าเราไม่รู้ว่าจะเก็บมันเอาไว้ทำอะไรเก็บไว้ก็รกเปล่าๆ เชื่อเลยว่าหลายคนอาจมีความคิดแบบนี้ แต่สำหรับทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นคนนี้ กลับไม่คิดอะไรที่เหนือกว่า ทวิตเตอร์ชื่อว่า @02ESyRaez4VhR2l ได้โพสต์ภาพหลังจากที่เขาได้ทานขนมยี่ห้อ Alfort เสร็จแล้วและเขาได้นำ “แพ็กเกจ” ของมันมาเนรมิตให้เป็นผลงานศิลปะชั้นยอดอย่างน่าอัศจรรย์ ขนมดังกล่าวเป็นบิสกิตเคลือบช็อกโกแลตพิมพ์ด้วยลวดลายของเรือสำเภา เขาจึงตัดสินใจนำกล่องของขนมนี้มาตัดออกเป็นชิ้นเล็กๆ และประกอบเข้ากันใหม่จนกลายเป็น “โมเดลเรือสำเภา” สุดเนี๊ยบ . ที่ต้องพูดว่าเนี๊ยบก็เพราะว่ามันเป็นโมเดลที่มีความงดงามและละเอียดละออจริงๆ มีการคัดเลือกชิ้นส่วนในการประกอบที่ดีเยี่ยม เช่นรั้วหรือขอบของเรือก็ใช้ส่วนขอบแพ็กเกจที่เป็นสีทอง หรือส่วนธงของเรือก็ใช้ป้ายสีแดงบนซองขนมที่เขียนว่า “รสชาติเป็นเลิศ” มาทำ เรียกได้ว่าโคตรสร้างสรรค์กันเลยงานนี้! ชาวเน็ตคนหนึ่งก็ถามเจ้าของทวิตเตอร์นี้ว่าใช้เวลาทำโมเดลเรือสำเภานี้ประมาณเท่าไหร่ ซึ่งคำตอบก็คือ “15 ชั่วโมง” ต้องยอมรับเลยว่านอกจากทุ่มเทความพยายามและความสามารถแล้วยังต้องทุ่มเทเวลาอีกด้วย ส่วนชาวเน็ตคนอื่นๆ ที่เห็นผลงานนี้ต่างพากันคอมเมนต์ชื่นชมกันยกใหญ่ เช่น… “นี่เป็นงานคุณภาพสูงเลยนะเนี่ย ถ้าคุณมอบให้ใครเขาต้องเอาไปตกแต่งที่ทำงานของเขาแน่นอนเลยล่ะ” “Alfort กลายเป็นเรือจริงๆ ไปแล้วแฮะ! ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ไม่รู้จบเมื่ออยู่ในมือของ Haruki” และ “มันดูราวกับเรือจากเกม Granblue Fantasy เลยล่ะ” นอกจากขนม Alfort…
-
ภาพสุดตื้นตันใจ พนักงานโรงพยาบาลยืนเคารพ “ผู้บริจาคอวัยวะ” ขณะถูกพาเข้าห้องผ่าตัด
การรับบริจาคอวัยวะเพื่อนำไปปลูกถ่าย ถือว่าเป็นวิทยาการทางการแพทย์ที่พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นจากอดีต ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม และในสหรัฐอเมริกา มีผู้คนกว่า 114,000 คน ร้องขอรับบริจาคอวัยวะอยู่ พวกเขาก็ได้ทำการเฝ้ารอว่าวันไหนโอกาสของพวกเขาจะมาถึงและทุกๆ 10 นาทีก็จะมีคนอย่างพวกเขาเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คนเสมอ ดังนั้นแล้วการที่มีคนหนึ่งคนยอมเป็นผู้บริจาคอวัยวะให้ผู้ป่วยแล้ว พวกเขาคงเหมือนกับพระผู้มาโปรด ดังนั้นจึงได้เกิดภาพพนักงานโรงพยาบาลเป็นสิบๆ คนยืนให้ความเคารพแก่ผู้บริจาคอวัยวะอย่างที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมครับ ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้ (27 กันยายน 2018) นี้ได้มีวิดีโอหนึ่งที่กลายเป็นกระแสและถูกแชร์ต่อกันไปอย่างมากมายในเฟซบุ๊ก ซึ่งในวิดีโอดังกล่าวนั้น เป็นภาพเหตุการณ์ของแพทย์ พยาบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ ของ St. Luke’s Health System สถานพยาบาลในเมือง Kansan รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ทำการยืนแสดงความเคารพให้แก่ผู้บริจาคอวัยวะวัย 53 ปี ซึ่งอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ร่างของเขาถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด ล้อมรอบด้วยความครัวของเขาที่มาส่งให้เขาเดินทางไปภพหน้า Deb Compton ผู้อำนวยการ St. Luke’s ICU ได้กล่าวว่าไอเดียการแสดงความเคารพให้แก่ผู้บริจาคอวัยวะนี้ถูกใช้เมื่อหลายปีก่อน ในครั้งนั้นเกิดขึ้นกับคนใกล้ที่สนิทกับเหล่าแพทย์ พยาบาลและพนักงานฝ่ายอื่นๆ ซึ่งพวกเขาดูแลคนไข้คนนั้นอยู่นานกว่าหนึ่งเดือน ก่อนที่เขาจะจากไป ผู้บริหารโรงพยาบาลจึงได้มองหาวิธีที่ไม่เพียงแต่ให้เกียรติผู้ป่วยและครอบครัว แต่ยังเป็นการสรรเสริญที่พวกเขายอมยกอวัยวะให้แก่ผู้ป่วยอื่นๆ…
-
คุณครูอนุบาลถูกโรงเรียนไล่ออกเพียงเพราะ ‘เป็นเพศทางเลือก’ ยื่นฟ้องหวังสังคมเปิดรับมากขึ้น!!
แม้ว่าในปัจจุบัน สังคมเพศทางเลือกหรือว่า LGBT จะได้รับการยอมรับมากขึ้นในหลายๆ ประเทศ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางเคสบางกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้นเพราะเรื่องความชอบส่วนตัวนี้อยู่ อย่างเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นมานี้ เมื่อมีคุณครูอนุบาลคนหนึ่งถูกโรงเรียนไล่ออก เพียงเพราะว่าเขาเข้าร่วมกับกลุ่ม LGBT จนในที่สุดแล้วเขาต้องยื่นฟ้องเรื่องนี้ต่อทางศาล!? ไม่นานมานี้คุณครูผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งจากโรงเรียนในเมืองชิงเต่า มณฑลชานตง ประเทศจีน ถูกโรงเรียนไล่ออกหลังจากที่ทางผู้บริหารพบว่า เขาได้ไปคอมเมนต์บนโพสต์ในโลกโซเชียลมีเดียถึงเรื่องงานอีเวนต์กลุ่ม LGBT ทางครูใหญ่ให้เหตุผลสำหรับการไล่ออกสั้นๆ ว่า ทางผู้ปกครองของเด็กๆ ไม่อยากให้บุตรหลานของพวกเขาถูกสอนโดยคุณครูที่เป็นเกย์ หลังจากได้ยินเหตุผลดังกล่าว คุณครูคนนี้ก็บอกว่ารู้สึกเศร้าใจมากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นและเสียดายที่เด็กๆ เหล่านั้นจะถูกพ่อแม่เลี้ยงดูในสังคมที่ไม่ให้เกียรติรสนิยมทางเพศของผู้อื่น “ผมหวังว่าเคสนี้จะช่วยผลักดันให้สังคมชาวจีนให้การยอมรับมากยิ่งขึ้น” คุณครูกล่าว ทั้งนี้เขาถูกไล่ออกโดยไม่ได้รับเงินชดเชยที่เหมาะสมด้วย… วิดีโอรณรงค์ในเรื่องเพศที่สามในประเทศจีน ในตอนนี้ทางคุณครูและ Tang Xiangqian ทนายของเขากำลังดำเนินการฟ้องร้องเรื่องนี้ต่อทางชั้นศาลอยู่ แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ออกมาสร้างกระแสให้สังคมได้รับรู้ถึงความลำบากของชาวเพศที่สามต้องเผชิญอยู่ในสังคมทุกวันนี้ “เหตุผลหลักที่เรายื่นฟ้องไม่ใช่เรื่องข้อพิพาทการถูกไล่ออกอย่างเดียว แต่พวกเราอยากทำให้สังคมเพศที่สามถูกมองเห็นมากยิ่งขึ้นและให้การยอมรับมากขึ้น สิ่งที่พวกเราทำจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเหล่านี้สามารถตกเป็นเหยื่อของการถูกเลือกปฏิบัติได้อย่างง่ายดาย” Tang กล่าว อย่างไรก็ตามกรณีนับได้ว่าเป็นกรณีแรกในประเทศจีน ที่มีคุณครูเพศที่สามยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อทางโรงเรียนหลังจากถูกไล่ออกเพราะเรื่องรสนิยมความชอบด้วย… ที่มา: reuters, nextshark
-
สมาชิกสภาหญิงญี่ปุ่นถูกเชิญออกจากที่ประชุม หลังมีคนจับได้ว่าเธออมยาอมขณะพูด
ประเทศแต่ละประเทศ หรือสถานที่ต่างๆ บนโลกนี้ ล้วนแต่มีกฎและระเบียบที่ไม่เหมือนกัน บางที่อาจจะมีระเบียบเข้มงวดเป็นอย่างมาก ในขณะอีกที่หนึ่งอาจจะไม่เคร่งครัดมาก แต่สำหรับในรัฐสภาในประเทศญี่ปุ่นแล้ว กฎ ระเบียบและความเรียบร้อยนั้นถือว่าสำคัญมากๆ จนถึงขนาดที่คนทำอะไรไม่เรียบร้อยนิดๆ หน่อย อาจถูกขอให้เชิญออกได้เลย เหมือนอย่างกับ Yuka Ogata สมาชิกสภาหญิงที่ออกไปพูดต่อหน้าประธาน แต่ถูกสังเกตว่ากำลังอมบางอย่างอยู่ในปาก ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม จนสุดท้ายสมาชิกสภาก็ขอเชิญเธอออก ในวันศุกร์ที่แล้ว (28 กันยายน 2018) ได้มีการจัดประชุมสมาชิกสภาวระพิเศษเป็นเวลา 8 ชั่วโมงขึ้นในจังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากประชุมไปได้สองชั่วโมง Yuka Ogata ได้ออกมาพูดต่อหน้าประธานและ Shinya Kutsuki ประธานการประชุมดังกล่าวก็สังเกตเห็นว่าเธออมอะไรอยู่ในปาก เมื่อถูกถามถึง Ogata จึงได้อธิบายว่าเธอเป็นไข้ และมีอาการไอ จึงต้องขออนุญาตอมยาอมเอาไว้ อย่างไรก็ตาม การที่สมาชิกสภาอย่าง Ogata อมยาอมเอาไว้ขณะพูดนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย คณะกรรมการจึงมีความต้องการให้เธออ่านคำขอโทษที่พวกเขาเขียนเอาไว้ แต่เธอปฏิเสธ โดยที่บอกว่าเธอไม่ต้องการอ่านคำขอโทษที่ถูกเขียนขึ้นมา ดังนั้นคณะกรรมการจึงการลงความเห็นในเชิญเธอออกจากที่ประชุม ณ วันนั้น ซึ่งการดื่มหรือกินไม่ใช่ข้อห้ามที่ชัดเจนในสภา แต่สมาชิกสภามีความเห็นว่าพฤติกรรมของ Ogata นั้นทำความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของพวกเขา …
-
พาชม 10 อาหารกลางวันของเด็กๆ ในประเทศต่างๆ บนโลกใบนี้ แล้วจะรู้ว่าพวกเขากินอะไรกัน!!
วัยเด็กถือได้ว่าเป็นวัยแห่งการเจริญเติบโต ดังนั้นเรื่องของอาหารจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ อีกเรื่องหนึ่งสำหรับในวัยนี้ ซึ่งถ้าหากเด็กๆ คนใดที่ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้เกิดการพัฒนาการที่ไม่ค่อยดีนัก และก็แน่นอนว่า ‘อาหารกลางวัน’ ที่เด็กๆ ต้องรับประทานเวลาที่อยู่ในโรงเรียน ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมื้อหลักที่จะทำให้พวกเขาได้รับสารอาหารไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ ตลอดวัน แต่เคยสงสัยกันบ้างไหมว่านอกจากอาหารกลางวันที่เราเคยเห็นกันแล้ว แล้วประเทศอื่นๆ บนโลกเป็นอย่างไรกันบ้างนะ?? นี่คือภาพอาหารกลางวันของโรงเรียนต่างๆ จากทั่วทั้งโลก ซึ่งรวบรวมโดย Sweetgreen แฟรนไชส์ร้านสลัดผู้จัดเตรียมอาหารให้กับโรงเรียนในประเทศสหรัฐฯ เรามาดูกันดีกว่าว่ามันจะมีหน้าตาสีสันประมาณไหนกันนะ ลองเดาๆ กันสิมีของประเทศไหนบ้าง อิตาลี: ชิ้นปลาหนาวางบนผักสลัดร็อกเก็ต, พาสต้าผัดซอส, คาปรีเซ่สลัด (สลัดมะเขือเทศกับชีส), บาแก็ตและตบท้ายด้วยองุ่น ฟินแลนด์: ซุปถั่ว, สลัดผักบีท, สลัดแครอท, ขนมปัง, แพนเค้กหวานและเบอร์รี่จำนวนหนึ่ง ฝรั่งเศส: สเต็ก, แครอท, ถั่วฝักยาว, ชีสและผลไม้สดตามฤดู บราซิล: หมูผัดกับผักชนิดต่างๆ, ข้าวกับถั่วดำ, สลัด, ขนมปังและกล้วยอบ เกาหลีใต้: ซุปปลา, ข้าวหน้าเต้าหู้, กิมจิและผักสด กรีซ:…
-
ตุ๊กตาเด็กสยอง โผล่ทั่วเมืองในข้ามคืน ชาวบ้านหวั่นต้องคำสาป หลอนก่อนฮาโลวีน!?
ตามความเชื่อของฝั่งตะวันตกแล้ว ในพิธีมนตร์ดำทำคุณไสยใส่อีกฝ่าย มักจะใช้วิธีส่งผ่านตุ๊กตาวูดู ด้วยลักษณะที่คล้ายกับคน พร้อมกับเสกคาถาใช้ตะปูตอก เข็มจิ้มลงไป จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดได้โดยไม่ต้องสัมผัสตัวเลย… แต่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดภายในประเทศรัสเซีย หลังจากที่ชาวบ้านในย่าน Zavetny ของเมือง Krasnodar พบว่ามีตุ๊กตาเด็กถูกวางกระจัดกระจายไปทั่วเมือง ไม่ว่าจะในป่า เสาไฟฟ้า แม้แต่ป้ายรถเมล์ก็มี!? . ด้วยสภาพของตุ๊กตาขนาดเท่าเด็กผู้หญิง มีสภาพที่ดูน่ากลัวจากการถูกตอกตะปูยึดเอาไว้ด้วย ตุ๊กตาบางตัวดวงตาหายไปหนึ่งข้าง บางตัวก็แขนขาดไปหนึ่งข้าง บางตัวมีเข็มทิ่มแทง และถูกมัดด้วยด้ายสีดำ… ชาวบ้านที่ผ่านมาเห็น ต่างรู้สึกตกอกตกใจและหวาดผวาไปตามๆ กัน ซึ่งรายที่หนักที่สุดเดินมาเจอตุ๊กตาในช่วงเวลากลางคืนก็ถึงกับความดันขึ้นกันเลยทีเดียว . ทางด้านโฆษกเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า “เราได้รับแจ้งจากประชาชนแล้ว และกำลังพยายามให้เจ้าหน้าที่ ชี้แจงให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายลง” และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อระบุตัวผู้นำตุ๊กตาเหล่านี้มาวางไว้ทั่วเมือง แม้ว่าการกระทำแบบนี้ไม่ได้เป็นการก่ออาชญากรรมก็ตาม แต่สร้างความหวาดวิตกให้กับผู้พบเห็น . เรื่องดังกล่าวทำให้ชาวบ้านต่างคิดไปในแง่ร้ายถึงขั้นที่ว่า การนำตุ๊กตาหลอนมาวางไว้กลางที่สาธารณะ คือการทำมนตร์ดำใส่หมู่บ้าน และประชาชนจะต้องคำสาปอันชั่วร้าย อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายงานว่า ตุ๊กตาเหล่านี้เคยถูกใช้แสดงละครในพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมมาก่อน พอเลิกใช้แล้วก็นำไปบริจาคให้กับโรงเรียน แต่ทว่าโรงเรียนต่างๆ…
-
วินาทีเด็กๆ พยายามช่วยชีวิต ‘เจ้าตูบ’ แสนรัก ให้หลุดพ้นจากพันธนาการของ “งูเหลือม”
สัตว์เลี้ยงของใคร ใครก็ต้องรักจริงไหมล่ะ? ไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว น้องกระต่าย หรือน้องอะไรก็ตาม ถ้าพวกมันตกอยู่ในอันตราย เจ้าของย่อมไม่อยู่เฉยและรีบเข้าไปช่วยเหลือเป็นแน่ อย่างเช่นเรื่องราวในวันนี้ ที่เหล่าเด็กๆ พยายามช่วยเหลือ “เจ้าตูบ” สัตว์เลี้ยงแสนรักของพวกเขาให้พ้นจากอันตรายของงูเหลือมขนาดใหญ่ แม้เจ้างูจะดูน่ากลัว แต่เด็กๆ ก็พยายามช่วยเหลือเจ้าตูบอย่างกล้าหาญ คนหนึ่งพยายามใช้ไม้หรือเหล็กยาวกดที่หัวของงูเหลือมเอาไว้ และอีกสองคนที่เหลือก็ช่วยกันคลายตัวงูที่รัดเจ้าตูบอยู่ให้เจ้าตูบหลุดออกไปได้ การจับงูด้วยมือเปล่าแบบนี้ค่อนข้างอันตรายสำหรับเด็กๆ แต่ถ้าเพื่อช่วยชีวิตเจ้าตูบแล้วพวกเขาย่อมทำได้ และแล้วพวกเขาก็สามารถนำตัวงูเหลือมออกจากตัวเจ้าตูบได้สำเร็จ โดยที่เจ้าตูบเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น คลิปวิดีโอ เด็กๆ ช่วยเจ้าตูบจากงูเหลือม ถึงจะเป็นการกระทำที่กล้าหาญ แต่เด็กๆ ก็ไม่ควรนำไปเลียนแบบเล่นกับงูแถวบ้านนะจ๊ะ เจอแบบนี้ให้เรียกผู้ใหญ่ให้เร็วที่สุดเลย… ที่มา: dailymail
-
ว่าที่เจ้าสาวโพสต์ระบายความในใจ แฟนหนุ่มฐานะดีแต่ซื้อแหวนราคาถูกให้ ทำไงยังไงดีคะ?
การแต่งงานนั้นถือว่าเป็นความฝันสูงสุดของผู้หญิงหลายๆ คน แต่การแต่งงานนั้นจะสมบูรณ์ไม่ได้เลย หากขาดสิ่งที่เรียกว่า “แหวนแต่งงาน” ไป วันนี้เราจึงจะมาพูดถึงเรื่องของแหวนแต่งงานกัน เมื่อว่าที่เจ้าสาวคนหนึ่งออกมาโพสต์ระบายความในใจเกี่ยวกับแหวนที่คู่หมั้นของเธอซื้อมาให้ เพราะว่าแหวนนั้นไม่ค่อยถูกใจเธอ แถมยังดู “ราคาถูก” อีกด้วยลงในเว็บ MumsNet ซึ่งงานนี้ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย เรื่องราวของเธอจะเป็นอย่างไรนั้นไปรับชมกันเลยครับ เธอได้โพสต์ขอคำปรึกษาในเว็บบอร์ดว่า “แฟนของฉันขอฉันแต่งงานและมอบของขวัญเป็นแหวนที่เขาเลือกให้ เพชรเม็ดเดี่ยวกับแหวนทองคำขาว ฉันดีใจและตื่นเต้นมากๆ และตอบรับแต่งงานไป แต่จริงๆ แล้วฉันรู้สึกผิดหวังเมื่อได้เห็นแหวนในครั้งแรก แต่คำแรกที่ปรากฏขึ้นมาในหัวของฉันคือ ‘เล็กจัง’” “แต่ฉันไม่ได้ไม่ชอบประเภทของแหวนหรอกนะ เพชรเม็ดเดี่ยวมันเป็นความต้องการของฉันเอง แต่ลักษณะโดยรวมของมัน ไม่ว่าสีของทอง การวางตำแหน่ง รวมถึงการประดับตกแต่งมันดูเทอะทะ เงินเดือนของเขารวมๆ แล้วก็เกือบจะเจ็ดหลักและปกติเขาก็เป็นคนใจกว้าง พอได้เห็นใบเสร็จฉันก็รู้ว่าเขาจ่ายเงินไปประมาณ 55,000 บาท สำหรับแหวน ซึ่งน้อยกว่าที่ฉันคาดการเอาไว้เสียอีก” . “เขาคงรู้สึกผิดหวังในตัวฉันมากๆ ที่ทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจกับแหวนตอนที่ได้เห็น ในสายตาของเขา แหวนมันมีความพอดีมากๆ และมันคงไม่มีอะไรที่จะผิดหวังเท่ากับการที่ฉันไม่รู้ดีใจกับแหวนแน่ๆ บางทีเพื่อนที่ทำงานของเขาอาจจะบอกกับเขาว่า ‘หากเธอรู้สึกแบบนั้นเพราะแหวนวังดังกล่าว งั้นเธอคงไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณตามหา’ “ . “ฉันนึกว่าเราจะไปได้ไปเลือกแหวนด้วยกันและทำมันให้กลายเป็นวันที่พิเศษ โดยการหาแบบแหวนที่พวกเราทั้งคู่ต่างชอบเหมือนกัน…
-
สาวเจอ “ผ้าอนามัย” ในหม้อสุกี้ วันต่อมาไปกินอีกร้านก็ยังเจอเหมือนเดิม!! ต้องโชคดีขนาดไหนกัน?!
หากใครที่เคยเจอเส้นผมหรือแมลงสาบในอาหารที่เราสั่งมา บอกเลยว่าสิ่งเหล่านั้นจะดูธรรมดาไปในทันทีเมื่อเทียบกับสิ่งที่หญิงสาวคนนี้ต้องเจอติดกันถึง 2 ครั้ง สำนักข่าวท้องถิ่นในประเทศจีนรายงานว่า หญิงสาวแซ่ Ni ได้ไปกินอาหารที่ภัตตาคาร Haidilao สาขาที่ตั้งอยู่ในเมืองเซินเจิ้น ในวันที่ 28 กันยายน 2018 แล้วเธอก็ได้เจอกับ “ผ้าอนามัย” ภายในหม้อสุกี้!! ช่วยให้อาหารอร่อยขึ้นเยอะเลยทีนี้ เธอได้ถ่ายสิ่งที่พบอัพลงในโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นว่ามีผ้าอนามัยอยู่ภายในหม้อสุกี้ที่เธอสั่งมากิน ก่อนที่เธอจะโวยวายกับทางร้านอาหารดังกล่าว มีการถกเถียงกันกับพนักงานภายในร้าน ทำลายข้าวของ ภาชนะบนโต๊ะ จากการรายงานยังบอกอีกว่าเธอได้เรียกร้องขอค่าเสียหายจากทางร้านเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านหยวน (ราวๆ 4.7 ล้านบาท) ก่อนที่เธอจะลดจำนวนลงขอแค่ 500,000 หยวน (ราวๆ 2.35 ล้านบาท) ตำรวจได้เข้าไปควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร้าน โดยไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผ้าอนามัยที่พบนั้นอยู่ในหม้อสุกี้มาก่อนแล้ว หรือว่าสาวแซ่ Ni เป็นคนนำไปใส่เองกันแน่ เจ้าหน้าที่จึงทำได้เพียงแค่บอกให้ลูกค้าสาวชดใช้ค่าเสียหายที่ทำลายข้าวของไป และยังคงสืบหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อ ยังไม่จบหรอกนะ เพราะเธอดันไปเจอกับผ้าอนามัยในหม้อสุกี้อีกแล้ว!! แต่เรื่องมันยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เพราะวันต่อมาสาวแซ่ Ni คนเดิมได้ไปกินสุกี้ในร้านอาหารอีกแห่งภายในเมือง…
-
มิติใหม่ชาวคุก สั่งอาหารจีนใช้โดรนบินไปส่งให้ถึงที่ ผู้คุมสงสัยข้าวคุกไม่อร่อยรึเปล่า…
กลายมาเป็นเรื่องชวนงงของผู้คุมกันเลยทีเดียว เมื่อนักโทษในกรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ปฏิวัติวงการโดรนและเดลิเวอรี่ นำสองสิ่งมาสู่จุดหมายปลายทางในเรือนจำ… เจ้าหน้าที่เรือนจำ Wheatfield ในกรุงดับลิน เปิดเผยว่าพบกล่องอาหารฟาสต์ฟู้ดจากร้านชื่อดังในย่านนั้น ถูกทิ้งไว้ในถังขยะบริเวณลานเรือนจำ โดยคาดว่ากล่องอาหารถูกลำเลียงส่งผ่านโดรนมาอีกที เพราะในช่วงที่ผ่านมา มีรายงานว่าโดรนถูกนำมาใช้ส่งของเข้าเรือนจำเป็นว่าเล่น บินผ่านรั้วเรือนจำมาส่งของหลายสิ่งหลายอย่าง และกำลังพยายามหาวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก “คงไม่มีวิธีไหนที่กล่องอาหารจีนจะเข้ามาในเรือนจำได้ นอกเสียจากโดรน นั่นคือสิ่งที่เจ้าหน้าที่เชื่อไปแล้ว แถมพวกเขาก็ทำได้แต่เกาหัวงงว่ามันเข้ามาได้ยังไง ซึ่งโดรนก็น่าจะอธิบายความเป็นไปได้มากที่สุด” แหล่งข่าวกล่าว ทั้งนี้ ทั่วลานออกกำลังกายในเรือนจำถูกคลุมด้วยตาข่าย คาดว่าเหล่านักโทษจะใช้วิธีต่อตัวเป็นพีระมิดมนุษย์ เพื่อคว้าสิ่งของต้องห้ามที่ส่งมาทางโดรน เปลี่ยนจากติดกล้องเป็นกล่องอาหารเดลิเวอรี่ อย่างไรก็ดี โดรนที่มาส่งของภายในเรือนจำ นำสิ่งของต้องห้ามมาส่งที่นอกเหนือจากอาหาร ซึ่งส่วนมากจะเป็นโทรศัพท์และยาเสพติด และเขตเรือนจำเป็นเขตหวงห้ามที่ไม่ให้โดรนบินผ่านโดยเด็ดขาด แต่ก็ยังมีหลุดรอดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งกรณีที่เพิ่งเกิดขึ้น ทางด้านโฆษกหน่วยงานเรือนจำไอริช แทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ ความปลอดภัยของเรือนจำจะต้องเพิ่มระดับมากยิ่งขึ้น แต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าทำไมนักโทษถึงต้องสั่งอาหารข้างนอกมาทาน หรือเป็นเพราะข้าวคุกมันไม่อร่อย… ที่มา: unilad, irishmirror, msn, metro
-
โปรเจกต์ ‘ถ่ายนู๊ดสลับร่าง’ นางแบบไม่ต้องแก้ผ้าต่อหน้ากล้อง แต่ช่างภาพแก้เองจ้า!
ด้านสายงานช่างภาพของนาย Trevor Christensen เป็นการถ่ายรูปแนวพอร์ตเทรต ซึ่งไม่ว่ากี่งานที่ผ่านมาปัญหาของตัวนางแบบหรือนายแบบ มักจะเกิดอาการเกร็ง ดูไม่ผ่อนคลายอย่างที่ควรจะเป็น Trevor Christensen ช่างภาพพอร์ตเทรต เป็นคนแก้ผ้าเอง และด้วยไอเดียที่จะช่วยทำให้ผู้อยู่ต่อหน้ากล้องรู้สึกผ่อนคลายได้ เขาจึงตัดสินใจ ‘ถ่ายนู๊ด’ แต่ไม่ใช่ให้คนถูกถ่ายแก้ผ้าหรอกนะ เพราะช่างภาพจะเป็นคนแก้ผ้าเอง!? Austin แฟนสาววัย 27 ปี Hillary เพื่อนวัย 24 ปี Jordan เพื่อนวัย 24 ปี Madelyne เพื่อนสมัยประถม อายุ 25 ปี “ความคิดผมเป็นแบบว่าผมคือคนที่รู้สึกสบายๆ เมื่อถ่ายภาพ ก็จะทำให้วัตถุหรือคนในภาพ รู้สึกสบายเมื่อต้องถูกถ่ายเช่นกัน แล้วถ้าหากผมเป็นช่างภาพที่ไม่ค่อยสบอารมณ์อยากถ่ายบ้าง คนที่ถูกผมถ่ายก็จะไม่รู้สึกแย่กว่าผมเหรอ?” Christensen กล่าวถึงโปรเจกต์นี้ วงดนตรี The Fictionist Susie อายุ 22…
-
Andreas Bathory หนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็น “แวมไพร์” ในชีวิตจริง ทั้งดื่มเลือด นอนในโลงศพ
“แวมไพร์” คือสิ่งมีชีวิตในตำนานตามความเชื่อของชาวยุโรป โดยในความเชื่อกล่าวเป็นผีดิบที่รูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับมนุษย์ทั่วไป เพียงแต่มีฟันแหลมคมและชอบดื่มเลือดมนุษย์เป็นอาหาร ชอบที่มืดและแปลงร่างเป็นสัตว์ได้ ซึ่งปกติแล้วก็ไม่มีใครคิดว่าแวมไพร์นั้นจะมีอยู่จริง แต่เรื่องของหนุ่มที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้แล้วอาจจะทำให้เพื่อนๆ เปลี่ยนความคิดไปได้ เมื่อเขาอ้างว่าเขานี่แหละแวมไพร์ตัวจริงเสียงจริง!! ขอเชิญเพื่อนๆ พบกับ Andreas Bathory จากประเทศโรมาเนีย เขาเชื่อว่าแวมไพร์ไม่ใช่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่แต่ในนวนิยายเท่านั้นและข้อเท็จจริงคือพวกเขาก็อยู่ปะปนกับเรานี่แหละ รวมถึงเขาก็ด้วยคนหนึ่ง เขาบอกว่าเขาใช้ชีวิตแบบแวมไพร์โดยการนอนอยู่ในโลงศพ ดื่มเลือดและมีติดต่อกับวิญญาณแห่งความตาย รวมถึงเขาได้อาศัยอยู่ในปราสาทของ Dracula หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า Bran Castle ในภูมิภาค Transylvania เขากล่าวว่าโดยดั้งเดิมแล้วการดื่มเลือดไม่ได้มีเพื่อเสพความเพลิดเพลินและแวมไพร์ที่แท้จริงไม่ควรจะถูกมองไปรวมกับพวกลัทธินิยมเลือดที่มักจะดื่มเลือดเพื่อความสนุกและทำลายกฎธรรมชาติ Andreas ยังได้บอกอีกว่าเหตุที่ทำให้เขากลายมาเป็นแบบนี้ เนื่องจากในคืนหนึ่งเมื่อสี่ปีที่แล้วเขาได้ฝันถึง Vlad the Impaler หรือที่รู้จักกันในนาม Dracula ในฝันนั้นเขาอยู่โบสถ์ที่มืดมิดและ Vlad ก็ได้เรียกเขาว่า “ลูกของข้าเอ๋ย” เขาบอกว่าไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเป็นลูกหลานของ Vlad แต่มันเหมือนกัน Vlad อยากให้เขาเป็นคนสืบประเพณีและเริ่มต้นยุคใหม่แห่งแวมไพร์ ปัจจุบัน Andreas ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำกลุ่ม Ordo Dracul กลุ่มที่บอกว่าตัวพวกเขาสืบเชื้อสายมาจาก Dracula…
-
ลือหึ่ง! หลุดคลิปตัวอย่างเกมใหม่ Harry Potter อยู่ระหว่างพัฒนา คุณภาพเกมระดับ AAA
หลังจากที่ได้เปิดให้เล่นกันไปแล้ว กับเกมพ่อมดน้อยตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Harry Potter: Hogwarts Mystery ผ่านแพลทฟอร์มสมาร์ทโฟน แต่ก็ยังไม่วายแอบซุ่มพัฒนาเกมใหม่ในซีรีส์ขึ้นมาอีก… ล่าสุด สดๆ ร้อนๆ กับคลิปหลุดตัวอย่างเกมเพลย์ ที่มีลักษณะและบรรยากาศที่คล้ายกับซีรีส์นี้อย่างมาก โดยลือกันหึ่งทั่วโลกออนไลน์ว่า เป็นเกมใหม่ระดับ AAA โดยเรียกกันว่า Harry Potter RPG โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม จริงหรือไม่จริง อยู่ที่การตัดสินใจของคุณ ทั้งนี้ ภายในคลิปจะเห็นได้ว่ามีระบบการปรับแต่งตัวละคร การออกเดินสำรวจโรงเรียนฮอกวอตส์ รวมไปถึงระบบร่ายคาถา ภาพของสัตว์มหัศจรรย์ต่างๆ รวมไปถึงระบบการต่อสู้ ที่ถูกออกแบบได้อย่างละเอียดและประณีต จากรายงานที่ผ่านมา สตูดิโอ Warner Bros. ผู้ถือลิขสิทธิ์สื่อภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้ทำการซื้อสตูดิโอ Avalanche Software ที่มีผลงานสร้างเกมในเครือดีสนีย์ เช่น Disney Infinity, Toy Story 3: The Video…
-
ชายผิวขาวเหยียดหนุ่มผิวสี ก่อนเหวี่ยงเหยื่อตกไปในรางรถไฟ แต่…ถูกอีกฝ่ายสวนยับ!!
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าโลกของเรานั้นเปิดกว้างมากขึ้น มีการให้อิสระและยอมรับความแตกต่างทางเพศ สีผิวหรือชาติพันธุ์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่กระนั้นเราก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าทุกคนจะเปิดรับความแตกต่างดังกล่าว เพราะในข่าวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นอีกเรื่องของคนที่เหยียดชาติพันธุ์และพยายามที่จะทำร้ายคนผิวสี เมื่อชายวัย 35 ปีคนหนึ่งได้มีปากเสียงกับเด็กหนุ่มผิวสีวัย 15 ปีที่สถานีรถไฟใน Flanders พื้นที่ตอนเหนือของประเทศเบลเยียม ก่อนที่ชายวัย 35 ปีจะเหวี่ยงเด็กหนุ่มร่วงตกรางรถไฟไปและเกิดกลายเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น พบว่าชายวัย 35 ปีคนดังกล่าวมีชื่อว่า Jonas V. เขาได้มีปากเสียงกับ Leroy Abraham หนุ่มผิวสีวัย 15 ปี ก่อนที่ Jonas จะเหวี่ยง Leroy ลงไปในรางรถไฟเหมือนอย่างที่เห็นในวิดีโอ ทาง Leroy เมื่อถูกเหวี่ยงตกลงมาแบบนั้น เขาก็พยายามที่จะปีนกลับขึ้นมายังชานชาลา แต่ Jonas ไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้น เข้าไปผลักเขาร่วงไปอีกครั้งและคราวนี้ Leroy ไม่ยอมถูกทำฝ่ายเดียว เขาลาก Jonas ให้ลงมาด้วย และตอนนี้เองเหตุการณ์ก็ได้รุนแรงยิ่งขึ้น Leroy ตอบโต้โดยการสาวหมัดใส่ Jonas นับครั้งไม่ถ้วน จนผู้หญิงที่มาด้วยกันกับเขาอีกสองคนต้องลงมากันให้…
-
เด็กหญิงวัย 8 ขวบต่อสู้กับ “โจรถืออาวุธ” ทั้ง 4 คนอย่างห้าวหาญ ล้มลุกคลุกคลาน ไล่ตามถึงที่สุด!!
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความกล้าหาญ “ฮีโร่ตัวน้อย” ในชีวิตจริง ผู้ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เก่งกาจหรือมีเรี่ยวแรงที่เยอะกว่าใครๆ แต่เธอก็ยังเลือกที่จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยคนที่เธอรักให้ได้มากที่สุด ความเป็นฮีโร่ของเด็กหญิงวัย 8 ขวบนั้นเกิดขึ้นที่เมือง General Trias ประเทศฟิลิปปินส์ ช่วงปลายเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา สังเกตเด็กหญิงในภาพ ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าครอบครัวของเด็กหญิงเดินทางกลับมาบ้าน จอดรถเอาไว้บริเวณด้านหน้าบ้าน ก่อนที่คุณตาของเธอจะลงรถมาเป็นคนสุดท้าย แต่แล้วจู่ๆ ก็มีโจร 4 คนที่เตรียมการกันไว้เป็นอย่างดี บุกเข้ามาทำร้ายคุณตาของเด็กหญิงที่เพิ่งลงจากรถมา ท่ามกลางผู้พบเห็นจำนวนมากแต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร เพราะในมือของพวกโจรนั้นมีอาวุธอยู่ โจรทั้ง 4 ได้ของมีค่าเป็นกระเป๋าและเงินสดจำนวนหนึ่ง ก่อนที่ทั้งหมดจะพยายามวิ่งหนีไปทางปากซอยซึ่งจอดรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้ ทว่าเด็กหญิงตัวน้อยที่เห็นเหตุการณ์เข้ากลับไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ เด็กหญิงขวางทางโจรเอาไว้และพยายามแย่งเอาเงินในกระเป๋าของคุณตาเธอกลับมา แรงฉุดกระชากของเธอทำให้ได้กระเป๋ามาแต่เธอพลาดท่าล้มลงไป ทำให้โจรสามารถแย่งกลับคืนไปจากเธอได้ ถึงอย่างนั้นเด็กหญิงก็ยังคงลุกขึ้นมา วิ่งตามโจรกลุ่มนั้นไปอย่างไม่ลดละความพยายาม ในขณะที่คุณยายของเธอตะโกนบอกไม่ให้เธอไปเพราะความเป็นห่วง และมีชาวบ้านอีกหลายคนวิ่งตามไปช่วยเด็กหญิงจับโจรด้วย แต่สุดท้ายโจรทั้ง 4 คนก็หนีไปได้พร้อมกับของมีค่าทั้งหมด ในขณะที่เด็กหญิงนั้นได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะแต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก เด็กหญิงให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า “หนูแค่อยากช่วยคุณตา เพราะหนูรู้ว่าคุณตาต้องทำงานหนักขนาดไหนกว่าจะได้เงินนั้นมา แต่กลับมีคนแย่งมันไปซะเฉยๆ”…
-
พนักงานส่งของปฏิเสธช่วยหญิงท้องขนของขึ้นห้อง แต่กลับวางไว้ทางขึ้นบันไดแทน
เด็ก สตรีมีครรภ์ และคนชรา เป็นกลุ่มคนที่รู้กันดีว่าควรจะปฏิบัติกับพวกเขาเป็นพิเศษอย่างเช่น ควรลุกเพื่อให้ที่นั่งแก่พวกเขาในบริการสาธารณะ และวันนี้เรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นเรื่องของสตรีมีครรภ์เช่นกัน เมื่อคุณแม่คนหนึ่งได้สั่งของออนไลน์ให้มาส่งที่อพาร์ตเมนต์ แต่แทนที่คนส่งจะส่งมาถึงห้องเขากลับวางเอาไว้ตรงบันได และแม้ว่าคุณแม่คนนั้นจะขอร้องให้เขาช่วยยกขึ้นไปให้ที่ห้องหน่อย เขาก็ปฏิเสธ คุณแม่คนนี้คือ Amy Natasha Botten จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เธอได้บันทึกวิดีโอความแล้งน้ำใจของพนักงานขนส่งที่มาส่งของมูลค่าประมาณ 8,500 บาทที่เธอสั่งจาก Asda เว็บขายของออนไลน์ชื่อดัง ของที่เธอสั่งมานั้นมีจำนวนมากและคนส่งของก็ไม่ยอมขนของไปส่งที่ห้องของเธอ กลับวางของไว้ตรงทางขึ้นบันไดชั้นล่าง ซึ่งที่พักของ Amy นั้นเป็นอพาร์ตเมนต์ซึ่งมีหลายชั้น ทำให้ไม่สะดวกต่อคนท้องที่ต้องเดินขึ้นเดินลงและก้มหยิบของบ่อยและยิ่งกว่านั้นคือเธอยังมีลูกน้อยที่ต้องดูแลอยู่ในห้องอีกคนด้วย ด้วยเหตุนี้แล้วเธอจึงได้ขอร้องให้พนักงานคนส่งคนนั้นช่วยขนของขึ้นไปให้ถึงห้องเธอหน่อย แต่พนักงานก็ตอบกลับมาว่า “ผมไม่อยากทำ” แม้เธอจะบอกว่า “คุณไม่อยากทำเหรอ? แต่นี่มันงานของคุณนะ” แต่เขาก็ยังยืนยันคำเดิม Amy เลยทำการบันทึกวิดีโอแล้วนำไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า “นี่ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีปัญหาสุขภาพ คนแก่ คนพิการหรือคนท้อง!! นี่ไม่สมควรเกิดขึ้น มันคือสิ่งที่เรียกว่าบริการส่งถึง ‘บ้าน’ นะ ฉันต้องขนของราคา 8,500 บาทนั้นขึ้นบันไดกว่าสองชั้นคนเดียว ทั้งที่ท้องและมีปัญหากับกระดูกเชิงกรานด้วย มันไม่มีทางเลือกเลยต้องทิ้งให้ร้องไห้อยู่บนห้อง” เมื่อเธอแชร์เรื่องราวของเธอลงในโซเชียลมีเดีย ชาวเน็ตต่างๆ ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย โดยที่บางคนก็พูดว่า “เป็นการกระทำที่น่าเกลียดมาก ในฐานะที่ผมเป็นคนส่งของให้กับอีกห้างหนึ่ง…
-
ดาวเคราะห์น้อยรูปกะโหลก ‘2015 TB145’ จะโคจรผ่านโลกอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้
โลกของเราเป็นเพียงแค่ดาวหนึ่งดวงเล็กๆ ที่อยู่ในเศษเสี้ยวของจักรวาลที่ยิ่งใหญ่นี้ ยังมีดวงดาวดวงอื่นนับล้านดวงที่มนุษย์บนโลกของเรายังไม่รู้จักอีกมาก แต่ด้วยซึ่งเทคโนโลยีทางด้านดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่มีตอนนี้ ก็พอจะทำให้เราได้รู้จักเพื่อนร่วมจักรวาลของเราอยู่บ้าง ดาวเคราะห์น้อยชื่อว่า ‘2015 TB145’ หรือที่ส่วนมากรู้จักมันในชื่อของ The Great Pumpkin ดาวเคราะห์น้อยวันฮัลโลวีนหัวกะโหลกยักษ์ ที่มันถูกเรียกแบบนี้ก็เพราะว่า มันมีลักษณะคล้ายกับกะโหลกศีรษะของมนุษย์นั่นเอง และเจ้าหัวกะโหลกยักษ์นี้จะมาโคจรผ่านโลกอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากที่มันเคยมาทักทายมนุษย์โลกเมื่อวันฮัลโลวีนปี 2015 การเคลื่อนตัวผ่านโลกในครั้งนี้จะไม่เข้าใกล้โลกเท่ากับปี 2015 ที่อยู่ห่างจากโลกประมาณ 480,000 กิโลเมตร แต่ในครั้งนี้จะอยู่ห่างไกลจากโลกประมาณ 40.23 ล้านกิโลเมตร นักดาราศาสตร์ตั้งทฤษฎีเอาไว้ว่า เจ้าดาวเคราะห์น้อย 2015 TB145 มันอาจจะเคยเป็นดาวหางมาก่อน แต่สูญเสียน้ำและองค์ประกอบอื่นไปหมดแล้วระหว่างที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ Dead comet that will safely zip by Earth on Oct 31 looks eerie like a skull: https://t.co/8bq4UBrFO9 #HappyHalloween pic.twitter.com/gICZTSLcZr — NASA…
-
ชาวเน็ตแชร์ เมื่อดู “โคนัน” ด้วยความเร็ว 1.5 ก็พบว่า เจ้าหนูเหมือนมีอะไรแปลกๆ ไป!?
การดูภาพยนตร์หรือการ์ตูนของแต่ละคนนั้นก็จะแตกต่างกันไป บางคนก็ชอบดูเก็บรายละเอียดทุกฉากทุกคำพูด หรือบางคนก็ชอบดูแบบเร็วๆ ขอแค่เข้าใจเรื่องราวก็พอแล้ว เป็นต้น สำหรับคนที่ชอบดูแบบเก็บรายละเอียดก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่สำหรับพวกที่ชอบดูแบบเร็วๆ บางครั้งก็อาจจะทำให้เจอกับเหตุการณ์แปลกๆ อย่างเรื่องราวในวันนี้ก็เป็นได้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่น @crz_d750 ได้โพสต์วิดีโอขณะที่เขาเปิดการ์ตูนเรื่อง โคนันยอดนักสืบ ดูซึ่งเขาได้ปรับให้ความเร็วของการเล่นนั้นเป็น x1.5 หรือเพิ่มขึ้นมา 50 เปอร์เซ็นต์นั่นเอง มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบการรับชมหนังและการ์ตูนด้วยความเร็ว x1.5 เพราะว่ามันเร็ว และก็ไม่พลาดเนื้อเรื่อง ส่วนบทพูดต่างๆ ก็ยังสามารถทำความเข้าใจได้ไม่ต่างกับการดูด้วยความเร็วปกติ แต่สำหรับการ์ตูนเรื่องโคนันที่ @crz_d750 เปิดดูนั้น พอเร่งความเร็วแล้วไม่ใช่แค่ทำให้เจ้าหนูโคนันสามารถไขคดีได้รวดเร็วขึ้นเท่านั้น มันยังทำให้โคนันค้นพบพลังพิเศษในการเคลื่อนที่อีกด้วย อย่างกับซูเปอร์ฮีโร่แน่ะ!! เขาโพสต์วิดีโอบนทวิตเตอร์พร้อมอธิบายว่า “ด้วยความเร็ว 1.5 จู่ๆ โคนันก็หยุดวิ่งไปซะเฉยๆ” https://twitter.com/crz_d750/status/1046383717634072576?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1046383717634072576&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F10%2F02%2Fsomething-shocking-happens-when-you-play-this-anime-scene-at-1-5-speed%25e3%2580%2590video%25e3%2580%2591%2F เอ้า งงล่ะสิ!? คำอธิบายที่เป็นไปได้และน่าจะถูกต้องมากที่สุดก็คือ “โปรดักชัน” หรือว่าขั้นตอนการผลิตของการ์ตูนเรื่องโคนันนี่แหละที่ทำให้ภาพออกมาเป็นเช่นนี้ ทางผู้ผลิตได้ใส่การเคลื่อนไหวการวิ่งของโคนันให้มีรอบเฟรมอยู่ที่ความเร็ว 1.5 พอดี ฉะนั้น เมื่อเราดูโดยเพิ่มความเร็วเป็น 1.5 จึงทำให้มีการข้ามเฟรมไปกลายเป็นเห็นแต่ภาพเดิมซ้ำๆ โคนันจึงดูเหมือนไม่ขยับตัวเลยนั่นเอง ส่วนชาวเน็ตที่เข้ามาเห็นวิดีโอดังกล่าวก็ตกใจและพากันคอมเมนต์ฮาๆ เช่น “บางทีโคนันอาจจะขี่สเกตบอร์ดอยู่ก็ได้นะ” หรือ “ผมเชื่อว่านั่นคือวิทยาการใหม่จากดอกเตอร์” เป็นต้น …
-
นักศึกษาป.เอก ไม่อายทำกิน ทำงานส่งพัสดุหาเงินส่งตัวเองเรียน ไม่สนคนนินทาแย่งงาน…
ว่ากันด้วยเรื่องของการศึกษาคือใบเบิกทางสู่อนาคตที่ดีกว่า แต่ในช่วงระหว่างที่กำลังดิ้นรนเพื่อได้ใบปริญญาระดับสูง ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายทางการศึกษาด้วยเช่นกัน… ทั้งนี้ ถานเชา นักศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเหยียนเปียน เลือกที่จะทำงานด้านส่งพัสดุเพื่อส่งตัวเองเรียนมานานกว่า 8 ปีแล้ว ในช่วงที่ไม่มีเงิน คือช่วงที่เขาตัดสินใจทำงานส่งพัสดุ เพราะจะต้องดิ้นรนทำทุกวิถีทางหาเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีปริญญาติดตัวเพื่อหางานดีๆ ทำ ถานเชาเล่าว่า “ตอนที่ต้องไปงานแต่งของเพื่อน ผมไม่มีชุดดีๆ ใส่ไปร่วมงานเลย และผมก็ผ่านงานใช้แรงมาหมดแล้ว ทั้งเช็ดกระจก เก็บหนังสือพิมพ์ เก็บขวดขาย” จากการทำงานใช้แรงงานมาหลายงาน เขาก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอาชีพส่งพัสดุเป็นหลัก เนื่องจากสามารถทำเป็นกะได้อย่างอิสระ ทำให้แบ่งเวลาไปเรียนและมาทำงานได้ อย่างไรก็ดี ด้วยประสบการณ์ทางด้านการส่งพัสดุที่มี 8 ปี ช่วยทำให้เขาคิดค้นวิธีการจัดลำดับเลขรหัสส่งของแบบเฉพาะตัว ช่วยในการจดจำและหาของไปส่งได้ง่ายขึ้น โดยรวมแล้วของที่ส่งผ่านมือเขานั้นเข้าหลักแสนชิ้น และด้วยระดับการศึกษาที่สูง กลับถูกชาวบ้านนินทาว่ามาแย่งงานของกลุ่มคนที่มีการศึกษาด้อยกว่า ถานเชาไม่เห็นด้วยกับความคิดแบบนี้ เนื่องจากคนเราเท่ากันไม่ควรนำมาแบ่งแยกชนชั้น “ผมกลับไม่ชอบคนที่ว่าแยกสูงหรือต่ำ ตราบใดที่คุณยังต้องทำงาน ก็ถือเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งเพื่อพัฒนาศักยภาพในองค์กร สร้างผลผลิตได้ตามเป้าหมาย สร้างคุณค่าในตัวได้แล้ว” …
-
ฮือฮาทั้งบัณฑิตและอาจารย์ เมื่อจู่ๆ ดันมี “สไปเดอร์แมน” โผล่ขึ้นไปรับใบปริญญาเฉยเลย?!
“การรับปริญญา” ทั้งในบ้านเราและในมหาวิทยาลัยต่างประเทศหลายๆ แห่ง “บัณฑิต” มีความจำเป็นที่จะต้องแต่งกายให้ถูกระเบียบ ตามกฎที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดเอาไว้ สวมสูท ผูกไท ชุดครุย อะไรทำนองนั้น แต่ Hiram Yahir Salas Romero บัณฑิตนิติศาสตร์จบใหม่วัย 22 ปี เขากลับทำให้วันรับปริญญาของตัวเองและเพื่อนๆ มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ด้วยการสวมชุด “สไปเดอร์แมน” ขึ้นรับใบปริญญาซะเลย!! Romero แอบเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ ออกมากลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ งงกันไปทั้งบางเลยทีนี้ จู่ๆ ก็เหมือนมีซูเปอร์ฮีโร่เดินขึ้นไปรับปริญญาต่อหน้าคนเป็นพันซะอย่างงั้น แถมยังไม่มีเจ้าหน้าที่หรืออาจารย์คนไหนต่อว่าห้ามปรามเขาอีกด้วย (มีแค่หน้าบึ้งบ้างนิดหน่อย) ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะเขายังมีโอกาสได้โชว์ป้ายให้คนในครอบครัวได้เห็น โดยบนป้ายที่ว่านั้นเขียนไว้ว่า “สำหรับความรักทั้งหมดที่ผมมีทั้งชีวิต ผมขอมอบให้กับแม่” เขาได้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Autonomous University of Ciudad Juarez ในประเทศเม็กซิโก จากป้ายที่ว่านั้น เราคงพอรับรู้กันได้ว่าเขารักแม่มากขนาดไหน โดยส่วนหนึ่งที่เขาใส่ชุดสไปเดอร์แมนขึ้นมารับปริญญาก็เพราะความทรงจำที่ดีของเขาและแม่นั่นเอง เขาเล่าว่าตอนอายุ 3 ขวบ แม่ของเขาเคยทำชุดซูเปอร์ฮีโร่จากกล่องซีเรียลให้ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม่ก็คือคนที่คอยสนับสนุนเขาในทุกเรื่อง…
-
หญิงบนรถไฟจีน ‘นั่งที่ของคนอื่น’ แต่กลับปฏิเสธที่จะย้าย พร้อมยัง “สาดน้ำ” ใส่คนถ่าย
ปกติแล้วเมื่อคุณโดยสารไปบนขบวนรถไฟแล้วพบว่าตนเองนั่งในที่นั่งของคนอื่น สิ่งแรกที่น่าจะเลือกทำก็คือลุกออกแล้วหาที่นั่งของตนเองให้เจอ แต่สำหรับเรื่องราวของหญิงคนหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศจีนกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อเธอทราบว่าตนเองนั่งในที่นั่งของคนอื่นเธอกลับ ‘ปฏิเสธ’ ที่จะลุกออกจากที่นั่งนั้น แถมยังมีปฏิกิริยาที่ฉุนเฉียวอีกด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวถูกถ่ายเป็นคลิปวิดีโอเอาไว้ซึ่งได้กลายเป็นกระแสวิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียลของประเทศจีน รถไฟขบวนนี้กำลังมุ่งหน้าจากเซี่ยงไฮ้ไปมณฑลอานหุย จากวิดีโอ จะเห็นได้ว่าหญิงสาวผิวสีคนหนึ่งกำลังมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ของขบวนรถไฟ สาเหตุนั้นเนื่องมาจากหญิงสาวดังกล่าวได้นั่งในที่นั่งของผู้อื่น ทีแรกเจ้าของที่นั่งได้มาขอด้วยสันติวิธีแต่เธอกลับเงียบไม่ยอมตอบ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยจัดการ และได้ขอตรวจสอบตั๋วโดยสารของเธอ แต่เธอก็ยังยืนกรานว่าตนจะไม่ยอมย้ายที่นั่งไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แถมเธอยังมีอารมณ์ฉุนเฉียว สั่งห้ามไม่ให้ผู้โดยสารคนอื่นทำการถ่ายวิดีโอ จากวิดีโอจะเห็นได้ว่าเธอมีการ “สาดน้ำ” ใส่ผู้ถือกล้องถ่ายวิดีโอชิ้นนี้อีกด้วย แต่สุดท้ายหญิงสาวในคลิปก็ถูกนำตัวออกจากขบวนรถไฟ และได้กล่าวขอโทษที่ตนเองระเบิดอารมณ์ออกมาภายในรถไฟ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เธอไม่ยอมย้ายที่นั่งนั้นยังไม่เป็นที่ทราบในขณะนี้ ที่มา: South China Morning Post และ nextshark
-
Roland ราชันย์หนุ่มดริ๊งก์บาร์โฮสต์ อายุแค่ 26 ปี แต่ทำรายได้มากถึง 12 ล้านบาท/เดือน
หนึ่งในงานเอนเตอร์เทอร์ลูกค้าที่มีเงินสะพัดมากที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นแนวประเภทเด็กดริ๊งก์ ต้องคอยเอาใจลูกค้าและคอยเชียร์ขายดริ๊งก์ พร้อมปรนนิบัติลูกค้าให้เปรียบเหมือนดั่งเจ้าชายเจ้าหญิง งานเด็กดริ๊งก์ในที่นี้ ไม่ได้อยู่ในข่ายของงานขายบริการทางเพศแต่อย่างใด แต่เป็นงานในลักษณะการพูดจาเอาอกเอาใจลูกค้า คอยให้ความสุขในแบบเพื่อนนั่งคุยเท่านั้น งานแบบนี้จะอยู่ในประเภทของบาร์โฮสต์ ซึ่งในปัจจุบันก็มีลูกค้าผู้หญิงใช้บริการมากมาย เหล่าหนุ่มๆ เด็กดริ๊งก์ก็จะคอยทำหน้าที่เอนเตอร์เทน และเย้ายวนให้คุณจ่ายซื้อดริ๊งก์ให้ได้มากที่สุด โดยในประเทศญี่ปุ่น ก็มีชายหนุ่มรูปงามนาม Roland ผู้ได้รับฉายาว่าเป็น ‘ราชันย์แห่งบาร์โฮสต์ทั้งปวง’ ด้วยมาดหล่อที่ป็อบมากในหมู่สาวๆ แถมทำงานใน Platina Club คลับระดับสูงย่านคาบูกิโชของโตเกียวอีกด้วย Roland เริ่มทำงานไต่เต้าในบาร์โฮสต์มาตั้งแต่อายุ 18 ปี ปัจจุบันเขามีอายุ 26 ปีแล้ว สามารถทำเงินได้จากการเอนเตอร์เทนลูกค้าเป็นจำนวนมหาศาล แบบชนิดที่ว่าคุณอาจจะนึกไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ จากงานเพียงแค่เชียร์ให้ลูกค้าซื้อดริ๊งก์ โดยที่ตัวเองต้องไม่เมาระหว่างทำงานด้วย เขาสามารถเกลี้ยกล่อมให้ลูกค้าซื้อดริ๊งก์ระดับแพงๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะตัวเขาก็เลือกที่จะดื่มแต่ของดีๆ เท่านั้น https://www.instagram.com/p/Bl0126wBe7q/ พ่อหนุ่ม Roland สามารถทำเงินจากงานขายดริ๊งก์ทุบทุกสถิติ ทั้งรายวัน รายเดือน และรายปี โดยเมื่อช่วงวันเกิดปีที่แล้ว ลูกค้ายอมจ่ายเงินมากถึง 10 ล้านเยน…
-
โลมาปากขวดผู้โดดเดี่ยว ใช้ชีวิตในอควาเรียมที่ปิดตัวลงไปแล้ว สภาพอ้างว้างน่าเวทนา…
ลองนึกถึงบรรยากาศของอควาเรียม ที่มีผู้คนมากหน้าหลายตา แวะเวียนกันมาชมความน่ารักของเหล่าสัตว์น้ำ ดูมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่ถ้าหากวันหนึ่งอควเรียมต้องปิดตัวลง ชีวิตของเหล่าสัตว์ในนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไปล่ะ… ภาพที่คุณจะได้เห็นดังต่อไปนี้ คือน้องโลมาปากขวด ‘Honey’ ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในสระน้ำเพียงลำพัง และเหล่าเพนกวิ้นเกือบ 50 ชีวิต พร้อมทั้งสัตว์น้ำอื่นๆ อีกร่วมร้อย ถูกทิ้งไว้ในอควาเรียมร้างหลายเดือน ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีคนเข้าชมอีกแล้ว ภาพถ่ายทางอากาศถูกเก็บเอาไว้ด้วยโดรนของกลุ่มนักอนุรักษ์สัตว์ เผยให้เห็นว่าโลมาปากขวดเพศเมีย Honey ยังต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังในสระว่ายน้ำเล็กของอควาเรียม Inubosaki Marine Park ในจังหวัดชิบะ ทั้งนี้จากสาเหตุที่ทำให้อควาเรียมต้องปิดตัวลงในเดือนมกราคม เจ้าหน้าที่ยังคงให้อาหารสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอควาเรียมอยู่ ก็เหลือเพียงโลมา Honey เพนกวินฮัมโบลต์จำนวน 46 ตัว กับปลาและสัตว์เลื้อยคลานบางส่วนถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ ด้านกลุ่มนักอนุรักษ์ Dolphin Project ได้เรียกร้องให้หน่วยงานท้องถิ่นช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้เป็นการด่วน Ric O’Barry ประธานและผู้ก่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์กล่าว “จากภาพที่เห็นเราได้วิเคราะห์แล้วว่าต้องเร่งทำการช่วยเหลือเป็นการด่วน ก่อนที่โลมาจะตายอย่างน่าสงสาร รวมไปถึงสัตว์ที่ถูกทิ้งไว้ในอควาเรียมแห่งนี้ด้วย” ซึ่งนอกเหนือจากสภาพสระน้ำเล็กๆ ของโลมาแล้ว สภาพความเป็นอยู่ของเพนกวินก็ย่ำแย่ไม่ต่างกัน ต้องนอนอาศัยอยู่ในเศษซากบ้านหลังน้อยท่ามกลางอากาศร้อนแบบนี้… …
-
18 เอกลักษณ์เฉพาะตัวของประเทศญี่ปุ่น หาที่ไหนไม่ได้แล้วนอกจากที่ ‘ญี่ปุ่น’ อ่ะ!!
เอกลักษณ์ประจำชาติที่ทำให้ทั่วโลกจดจำได้ เกิดขึ้นได้จากหลายๆ สิ่ง ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์มักจะเกิดจากความแปลก หรือ ความโดดเด่นของชาตินั้นๆ และชาติญี่ปุ่นเอง ก็มักจะมีอะไรให้เรารู้สึกแปลกใจและอึ้งอยู่เสมอ สิ่งที่พวกเขาทำกันเป็นปกติกลับกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ความญี่ปุ่น’ ไปแล้ว เพราะคงไม่มีใครใส่ใจเท่ากับที่นี่แล้วล่ะ!! รู้หรือไม่ว่าบนกระป๋องทุกใบ จะมีอักษรเบลล์สำหรับผู้พิการทางสายตาด้วย ระบุให้ทราบว่าเป็นเครื่องดื่มอะไร สปิริตของกองเชียร์ซามูไรน้ำเงิน ไปที่ไหนก็ยังคงเก็บขยะในส่วนของตัวเอง ให้เรียบร้อยอยู่เสมอ (เห็นได้จากทั้งบอลโลก 2014 และ 2018) ฝาปิดท่อระบายน้ำทุกเมืองจะมีเอกลักษณ์และสีสันเป็นของตัวเอง Love the customized manhole covers they have in each locality around #Japan. #urban #design #nofilter pic.twitter.com/0F76oog0hY — Jonathan Hsy 許維成 (@JonathanHsy) April 15, 2018 ฟังก์ชั่นเสียงรบกวนเวลาถ่ายหนัก ไม่ได้มีไว้ประดับเฉยๆ ใช้งานได้จริงเพื่อกลบเสียงวางระเบิด …
-
สาวไต้หวันเผยประสบการณ์ “เปลี่ยนแปลงตัวเอง” 5 ปี จนกลายเป็น ‘สาวหวาน’ สุดน่ารัก~
วันนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่องของการ “เปลี่ยนแปลงตัวเอง” โดยเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอกที่หลายคนคิดว่ามันถูกกำหนดมาให้เรามีหน้าตาและรูปร่างเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เปลี่ยนแปลงได้ยาก ก็อาจจะจริงที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะปรับมันไม่ได้สักหน่อย สาวชาวไต้หวันสมาชิกเว็บไซต์ Dcard คนหนึ่งได้มาแชร์เรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากหญิงที่โคตรแมนจนกลายเป็นหญิงสาวแสนน่ารักมันไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันแต่อย่างใด หญิงสาวไม่เปิดเผยชื่อสกุลเล่าว่าย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วเธอเป็นหญิงสาวสูง 168 เซนติเมตร มีผิวคล้ำเพราะชอบเล่นกลางแดด ช่วงมัธยมต้นเธอมีสิวขึ้นนับไม่ถ้วนเนื่องจากการนอนดึกและความเครียดจากการสอบ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่เด็กจนโต เผยว่า เขาไม่ได้ชอบผู้หญิง “แมนๆ” แบบเธอเลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้เธอรู้สึกผิดหวังกับความรักและรูปลักษณ์ของตัวเองอย่างมาก ขณะที่เธอขึ้นชั้นมัธยมปีที่ 5 ขณะที่นักเรียนรุ่นเดียวกันหันมาสนใจการแต่งตัวเสริมสวย แต่เธอกลับไม่สนใจอะไรเลย จนวันเกิดปีที่ 18 ของเธอ ศิลปินที่เธอชอบมาเล่นคอนเสิร์ตในไต้หวัน เธอจึงบอกกับทางวงดนตรีดังกล่าวว่าวันนั้นเป็นเกิดของเธอ แต่พวกเขากลับไม่สนใจเธอเลย เธอจึงเกิดคำถามว่านั่นเป็นเพราะเธอ “ไม่สวย” อย่างนั้นหรือ? จากนั้นเธอก็เริ่มมีความคิด “อยากสวย” ขึ้นมาตั้งแต่วันนั้น… จากเหตุการณ์ในวันนั้นเธอจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงการแต่งกายของตนเอง ด้วยความที่เธอเป็นหญิงเอเชียที่ตัวค่อนข้างสูงจึงทำให้หาเสื้อผ้าใส่แล้วเหมาะสมได้ง่าย เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เธอเริ่มสนใจเรื่องความงาม เริ่มมีการใช้เครื่องสำอาง สนใจการแต่งหน้า และการดูแลรูปร่าง จากนั้นพัฒนาการความงามของเธอก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ … …
-
ผู้ต้องหาคดีข่มขืนถูกตัดสิน “จำคุกตลอดชีวิต” เช้าวันต่อมาถูกพบเป็นศพในเรือนจำ!!
“เรือนจำ” คงเป็นสถานที่ที่หากเราเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากเข้าไปอยู่ในนั้น แต่แน่นอนว่าผู้ที่ทำผิดกฎหมายไม่อาจเลือกได้ บางคนอาจเคยคิดกันว่าคนที่ก่อคดีรุนแรงอย่าง “ฆ่าคน” หรือ “ข่มขืน” สักวันหนึ่งคนเหล่านั้นอาจต้องเสียชีวิตในคุก และนั่นก็ได้เกิดขึ้นจริงภายในเรือนจำ HM Prison Manchester ประเทศอังกฤษ เรือนจำที่มีการดูแลความปลอดภัยในระดับสูง ในวันที่ 24 กันยายน 2018 นาย Stephen Ferguson วัย 33 ปี ถูกศาลในเมืองแมนเชสเตอร์ตัดสินให้ “จำคุกตลอดชีวิต” จาก 3 ข้อหาในคดีข่มขืนที่เขาก่อเอาไว้ เขาถูกส่งตัวไปอยู่ในเรือนจำในวันนั้น แต่แล้วในช่วงเช้ามืดของวันต่อมา เจ้าหน้าที่เรือนจำกลับพบศพของเขา ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่ถูกตัดสินโทษ สำหรับการเสียชีวิตดังกล่าวยังคงอยู่ในขั้นตอนสืบสวนหาสาเหตุกันต่อไป โดยเรื่องนี้ได้รับความรับผิดชอบโดยเจ้าหน้าที่เรือนจำและฝ่ายควบคุมความประพฤติ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนเสียชีวิตภายในเรือนจำอย่างไม่ทราบสาเหตุ เพราะในปี 2018 เรือนจำแห่งนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ผู้คุมขัง หวังว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่คิดจะกระทำความผิดเปลี่ยนใจ และรู้สึกขยาดกับการต้องไปนอนในคุกกันมากยิ่งขึ้น เพราะเราไม่รู้หรอกว่าสังคมภายในกำแพงสูงนั้น เราต้องเจอกับอะไรบ้าง…
-
เกมเมอร์สาวถึงกับสตั๊น หลังถูกแฟนหนุ่มเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน ขณะกำลังสตรีมสดอยู่
หากถามถึงความฝันของผู้หญิงหลายๆ คนแล้ว คงไม่พ้น “การแต่งงาน” อย่างแน่นอน ซึ่งช่วงเวลาที่ถูกขอแต่งงานของหลายๆ คนก็อาจจะกลายเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุดในชีวิตเลยก็ได้ วันนี้เราก็มีเรื่องน่ายินดีมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ โดยในคราวนี้เป็นเรื่องของเกมเมอร์หญิงคนหนึ่ง ที่กำลังสตรีมเกมให้กับแฟนคลับที่ติดตามเธออย่างสนุกสนาน แต่ทันใดนั้นเองแฟนหนุ่มของเธอก็เข้ามาคุกเข่าขอแต่งงาน เล่นเอาเธอเซอร์ไพรส์ ถึงขนาดสตั๊นไปสามวิได้เลย!! เกมเมอร์หญิงที่เราพูดถึงนี้คือ Brie ซึ่งในช่วงก่อนเกิดเหตุ เธอกำลังสตรีมสดเล่นเกม The Witcher 3 ผ่านทางแชแนลและทันใดนั้นเอง Austin ก็โผล่เข้ามาในห้องเธอและรีบคุกเข่าขอเธอแต่งงานอย่างสายฟ้าแลบ แต่ในตอนแรกทาง Brie นั้นยังไม่ได้ตระหนักถึงแฟนหนุ่มที่เข้ามา เธอยังคงเล่นเกมต่อไปอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งไปสังเกตเห็นแฟนของตัวเองในจอภาพของเธอ (ปกติแล้วผู้สตรีมเกมจะนำภาพจากกล้องที่ถ่ายตัวมาไว้บริเวณมุมจอ) เมื่อเธอหันขวับกลับมาก็ได้เห็นกับแฟนหนุ่มที่กำลังถือกล่องแหวนขอแต่งงานอยู่ ตัวเธอนั้นรู้สึกตกใจและช็อกอย่างมาก เธอตัวค้างไปอยู่หลายวินาที (คลิปที่จะได้เห็นต่อไปนี้ไม่ได้ค้างแต่อย่างใด แค่ตัวเธอค้างเท่านั้น) ก่อนที่จะตกลงแต่งานกับเขา จากการสืบเสาะหาข้อมูลแล้วเราก็รู้ว่า Austin นั้นวางแผนเรื่องขอแต่งงานร่วมกับพ่อของ Brie ซึ่งคุณพ่อก็เห็นดีเห็นงามด้วย แถมยังมอบแหวนของคุณย่า Brie ให้กับเขาเพื่อเอาไปปรับขนาดและเพิ่มเพชรพลอยก่อนถึงวันจริงอีกด้วย ทั้งคู่เริ่มคบกันมาตั้งแต่ปี 2015 และวางแผนที่จะแต่งงานกันอย่างรวดเร็วในไม่กี่ปีข้างหน้า แต่สำหรับ Brie แล้วเธอคงไม่คาดคิดว่ามันจะมาในปี 2018 นี้ แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีของทั้งคู่จริงๆ…
-
ชาวบ้านเห็นเด็กน้อยขี่จักรยานตามแม่มาจอดที่เดิมทุกวัน เลยทำที่จอดรถส่วนตัวให้ซะเลย
ความใจดี แบ่งปันหรือความมีน้ำใจนั้นถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีอย่างหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งสามารถทำให้โลกใบนี้ของเราน่าอยู่ขึ้นอีกมาก รวมถึงเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งความใจดีมีน้ำใจที่มนุษย์โลกมอบให้แก่กันจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในเมือง Wiesbaden ประเทศเยอรมนี เมื่อหนุ่มน้อยคนหนึ่งปั่นจักรยานตามคุณแม่มาจอดในที่เดิมทุกๆ วันเป็นเวลาปีกว่า จนชาวบ้านหรือผู้คนแถวนั้นจำได้ จึงได้จัดการทำที่ที่นั้นให้เป็นที่จอดเฉพาะจักรยานของหนุ่มน้อยซะเลย!! My son has parked his bike by this lamppost just about every day for the last year. This morning, this sticker had appeared. Absolutely made our day. People can be so brilliant. Thank you, whoever did it 😊 pic.twitter.com/rYC8jCTD5L — Christie Dietz…
-
ผู้ประกาศข่าวถูกแฟนคลับวง BTS จวก กล่าวไม่ให้เกียรติศิลปิน ‘ก็แค่บอยแบนด์เกาหลี’
ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับโลกกับกลุ่มบอยแบนด์ BTS จากประเทศเกาหลีใต้ ที่สามารถตีตลาดเพลงในกลุ่มประเทศตะวันตกได้ จนสามารถขึ้นชาร์ตบิลบอร์ด และล่าสุดก็ได้ร่วมทำงานกับสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติแล้ว โดยเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2018 กลุ่มบอยแบนด์ BTS ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยในสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หลังจากได้รับหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรี ร่วมแก้ไขปัญหาเยาวชนในระดับโลก การกล่าวปราศรัยในครั้งนี้ นำโดย คิม นัม-จุน หรือ อาร์เอ็ม หัวหน้าวง BTS ในหัวข้อแคมเปญ Love Myself ร่วมกับทาง Unicef โดยมีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเยาวชนทั่วโลก จากการเลือกเส้นทางทำตามความฝันที่มีของเหล่าวัยรุ่น ทั้งนี้ในรายการข่าว World News Now ของสถานี ABC ผู้ประกาศข่าวชาย Kendis Gibson ได้รายงานในเรื่องดังกล่าว แต่กลับมีท่าทีไม่ให้เกียรติกับทางศิลปินเท่าที่ควร… เมื่อขึ้นสกูปข่าวขึ้นมานาย Kendis กล่าวว่า ‘แฟนคลับมักจะเห็นพวกเขายืนถ่างขาบนเวทีต่อหน้าฝูงชน’ และกล่าวถึงการเข้าพบกับองค์กรสหประชาชาติว่าเป็นอีกกลุ่มผู้ชมที่ต้องลดโทนลง (พูดแบบติดตลก) …
-
โชว์หน้าไฟร้านอาหาร ‘Salt Bae’ เกิดผิดพลาด ลามเข้าใส่หน้าลูกค้า บาดแผลไหม้สาหัส!
เพิ่งจะเกิดเรื่องระดับชาติไปได้ไม่นาน หลังจากที่ Salt Bae หรือนาย Nusret Gökçe เจ้าของร้ายสเต๊กชื่อดังจากประเทศตุรกี โดนกระแสตีกลับจากชาวเน็ตคว่ำบาตรร้าน จากการต้อนรับประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ล่าสุดก็เกิดเรื่องจากโชว์ที่ทางร้านได้จัดแสดงให้ลูกค้าได้ชม ในขณะที่ลูกค้ากำลังนั่งรายล้อมบาร์ที่ลุกโชนไปด้วยไฟ และแล้วหนึ่งในพนักงานร้านได้ทำการเทของเหลวบางอย่างลงไปในนั้น จนเกิดเป็นอุบัติเหตุทำให้ลูกค้าได้รับบาดเจ็บ… คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร้าน ลูกค้าหนีจ้าละหวั่น https://www.instagram.com/p/BoWvhMglXTo/ หนึ่งในนักท่องเที่ยวชาวเช็ก Krisryna Tresnakova ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้ หลังจากที่ชุดของเธอติดไฟระหว่างการแสดงโชว์ดังกล่าว พยานในเหตุการณ์เล่าถึงรายละเอียดที่ Krisryna และนาย Viktor Hajicek ได้อันตรายระหว่างการแสดง Krisryna เธอมีบาดแผลไหม้อย่างรุนแรง ส่วนทางด้านนาย Viktor นั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบนใบหน้าและร่างกาย สภาพของนาย Viktor Hajicek หลังเกิดเหตุ นักท่องเที่ยวชาวกรีก Alexandros Severıs และนักท่องเที่ยวชาวโอมาน Mohammed Khamıs ก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เช่นเดียวกัน โดยที่นาง Tresnakova ต้องได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมเป็นการด่วน เพื่อรับการรักษาบาดแผลไฟไหม้ที่ลุกลาม และทางด้านพนักงานร้านที่จัดแสดงนี้…
-
ภาพน่าสลดใจ ‘ปลาฉลามหัวค้อน’ ถูกดักด้วยตะขอทุ่นลอยน้ำ แลกความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของต่างประเทศ มักจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับความอันตรายของฉลามที่อาศัยอยู่ในแต่ละพื้นที่ อย่างเช่นบริเวณเกรตแบร์ริเออร์รีฟ พืดหินปะการังที่ยาวที่สุดในโลกของประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้เริ่มเกิดเป็นข้อกังขาขึ้นมา หลังจากกระทำของมนุษย์ที่กล่าวว่าทำเพื่อปกป้องมนุษย์ด้วยกัน (นักท่องเที่ยว) กลับกำลังทำร้ายสัตว์ทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ในอีกไม่ช้า… โดยในช่วงที่ผ่านมา ปลาจำนวนหลายหมื่นชีวิตถูกดักด้วยตะขอยักษ์จากทุ่นลอยน้ำ ที่ตั้งอยู่ในเขตเกรตแบร์ริเออร์รีฟ แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมของออสเตรเลีย เพื่อปกป้องชีวิตของนักว่ายน้ำและนักท่องเที่ยว และเรื่องราวดังกล่าวกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและไร้ประสิทธิภาพ ปลาฉลามหัวค้อน ถูกดักด้วยทุ่นตะขอบริเวณเกาะ Magnetic Island ปลาฉลามจำนวนไม่ต่ำกว่า 10,400 ตัวถูกดักจับและฆ่ามาตั้งแต่ปี 2001 โดยสถิตินี้เป็นเพียงแค่ในออสเตรเลียเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นปลาฉลามที่ไม่มีอันตรายต่อมนุษย์ นักรณรงค์ด้านสวัสดิภาพสัตว์กล่าว นอกจากนี้ พวกเขายังปล่อยภาพของปลาฉลามที่ถูกดักด้วยทุ่นลอยน้ำ พร้อมกับจะทำการฟ้องรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลแนวปะการังเพื่อหยุดยั้งการกระทำดังกล่าวนี้ . ทางด้านนักรณรงค์กล่าวว่า มีจำนวนทุ่นดักปลาฉลามไม่ต่ำกว่า 200 ทุ่น ใช้วิธีการทอดสมอลงไปใต้ทะเล ติดตะขอยักษ์พร้อมกับเหยื่อล่อให้สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลมาติดกับดัก ไม่ว่าจะเป็นทั้งปลาทั่วไป ปลาฉลาม ปลากระเบน เต่าและโลมา จำนวนกว่า 10,000 ชีวิต ถูกฆ่าจากการดักจับด้วยทุ่นตะขอ ซึ่งถ้าหากเป็นปลาฉลามที่ยังไม่ตายจะถูกยิงให้ตายก่อนปลดจากตะขอ . ทั้งนี้…
-
เกมเมอร์นัดพบกันครั้งแรกหลังรู้จักมาหลายปี เพื่อให้กำลังใจเพื่อนที่ป่วยระยะสุดท้าย
“มิตรภาพ” ถือว่าเป็นความสัมพันธ์หรือความชอบซึ่งกันและกันระหว่างสิ่งมีชีวิต ซึ่งเราก็จะเห็นได้ทั่วไปไม่ว่าจะจากทั้งเพื่อน ครอบครัวหรือแม้กระทั่งคนแปลกหน้า และเรื่องราวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆในวันนี้ก็เป็นเรื่องราวของมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มเพื่อนเช่นกัน แต่มิตรภาพที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นผ่าน “หน้าจอ” คอมพิวเตอร์ เมื่อกลุ่มเพื่อนสนิทที่ร่วมเล่นเกมออนไลน์ด้วยกันตัดสินใจที่จะรวมตัวกันครั้งแรกตั้งแต่ที่รู้จักกันมาหลายปี เพื่อเข้าเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังเผชิญกับโรคมะเร็งและร่วมให้กำลังให้เขาฝ่าฟันมันไปได้ โดยที่หนุ่มคนที่ป่วยนั้นชื่อว่า Joe หนุ่มอายุ 23 ปี เขาป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกที่พบเจอได้ยากหรือที่บางคนเรียกว่า Ewing’s Sarcoma และนั่นทำให้เขาเหลือเวลาอยู่อีกไม่มาก เมื่อเหล่าเพื่อนๆ 5 คนที่ร่วมเล่นเกมออนไลน์ด้วยกันมา 5 ปีได้ยินเรื่องอาการป่วยของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม พวกเขาก็ได้ตัดสินใจรวมตัวกันเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจกับ Joe David Miller หนึ่งในกลุ่มได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราเล่นเกมด้วยกันตลอดเวลา ถึงแม้จะไม่ได้เล่นเกมเราก็ยังคุยกันเรื่องต่างๆ เสมอ “เรามีความคิดที่จะนัดเจอกันอยู่ตลอด แต่เราว่างไม่ค่อยตรงกันเลย แต่เมื่อรู้ว่ามีสมาชิกคนหนึ่งเหลือเวลาอีกไม่มาก เรารู้ทันทีว่าเราต้องนัดเจอกันแล้ว” และแม้ว่าจะไม่เคยเจอตัวจริงกันมาก่อนหน้านี้เลยก็ตาม แต่เพื่อนสนิทจากเกมออนไลน์ทั้ง 6 คนกลับพูดคุยกันได้อย่างไม่เขินอายแต่อย่างใด แถมยังมีสมาชิกกลุ่มบางคนดีใจถึงขั้นหลั่งน้ำตา หลังจากวันนั้น David Miller เด็กหนุ่มในกลุ่มก็ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของพวกเขาลงในเว็บ Reddit ว่า “สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผมเจอกับเพื่อน 5 คนที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนเลยแม้ว่าจะรู้จักพวกเขามาแล้วมากกว่า…
-
คุณแม่ปล่อยให้ “แฟนใหม่” ข่มขืนลูกสาววัย 10 ขวบจนตั้งครรภ์ สุดท้ายแม่เลยต้องติดคุกไปด้วย
นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในรัฐอินดีแอนา สหรัฐอเมริกา เมื่อคุณแม่วัย 33 ปี ปล่อยให้แฟนใหม่ของตัวเองมีเซ็กส์กับลูกสาววัย 10 ขวบของเธอ โดยที่ไม่ว่าอะไร อาศัยอยู่ร่วมกันไปเรื่อยๆ Nicholas Deon Thrash คือชายหนุ่มวัย 34 ปีที่ตัดสินใจคบหา อยู่กินกับคุณแม่ลูกติด (ไม่มีการเอ่ยชื่อแม่และลูกสาว) โดยจากการรายงานบอกว่าชายคนนี้ได้ทำการข่มขืนเด็กหญิงมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังอายุแค่ 10 ขวบ เพื่อคุ้มครองเด็กหญิง การรายงานข่าวจึงไม่เปิดเผยชื่อแม่และชื่อเธอ การข่มขืนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว จากการรายงานบอกว่าเด็กหญิงถูกข่มขืนซ้ำไปซ้ำมา และแม้ว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับแม่ของเธอ แต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เลย จนกระทั่งเด็กหญิงตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกชายตัวน้อยๆ ออกมาในปี 2017 ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 11 ขวบ เรื่องราวนี้จึงได้ถูกดำเนินคดีในที่สุด Thrash ผู้ก่อเหตุ คุณแม่ของเด็กหญิงยอมรับว่าเธอรู้ว่าแฟนใหม่ของตัวเองขืนใจลูกสาว แต่เธอกลับเลือกที่จะไม่ทำอะไรและอยู่กินกันมาจนถึงวันนี้ นอกจากนั้น เธอยังยอมรับอีกว่าเคยบอกให้ลูกสาวโกหกคนอื่นๆ ไปว่าท้องกับเพื่อนร่วมชั้น ในตอนที่เด็กหญิงต้องไปโรงเรียนสอนเต้น ทางด้าน Thrash ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เขาได้โกหกต่อศาลว่าตนเองไม่เคยมีอะไรกับเด็กหญิงเลย แม้ฝ่ายเด็กหญิงจะบอกกับศาลด้วยความสั่นกลัวว่าเคยถูกชายคนนี้ขืนใจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15…
-
“X Japan” โชว์สปิริตแสดงคอนเสิร์ตในฮอลล์ไร้คนดู หลัง “พายุจ่ามี” กระหน่ำเข้าญี่ปุ่น
X Japan ถือว่าเป็นวงร็อกในตำนานจากประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก เรียกได้ว่าช่วงยุค 90 นี่คงไม่มีใครไม่รู้จักวงนี้เป็นอย่างแน่แท้ และในวันที่ 28-30 กันยายน 2018 ที่ผ่านมาทาง X Japan ก็ได้มีคอนเสิร์ตครั้งใหญ่อย่าง X JAPAN LIVE IN JAPAN 2018 “Three Deep Red Nights” ขึ้นที่ฮอลล์ 1-3 Makuhari Messe จังหวัดจิบะประเทศญี่ปุ่น แต่เนื่องจากในขณะนั้นประเทศญี่ปุ่นได้ถูกพายุจ่ามีเข้ากระหน่ำ ทำให้การจราจรหรือคมนาคมหลายแห่งต้องหยุดชะงักจนแฟนๆ ไม่สามารถเดินทางมาชมได้ ทำให้พวกเขาตัดสินใจประกาศยกเลิกคอนเสิร์ตเพื่อความปลอดภัยและจะมีการแจ้งรายละเอียดคืนเงินในภายหลัง ซึ่งหลังจากที่ประกาศยกเลิกคอนเสิร์ตไปแล้ว แต่จากกำหนดการเดิมคอนเสิร์ตในวันสุดท้ายจะมีการถ่ายทอดทางช่อง WOWOW ทางวงจึงได้ตัดสินใจที่จะทำการแสดงตามกำหนดการเดิม “ในฮอลล์ที่ไม่มีผู้ชมแม้แต่คนเดียว” และเปลี่ยนมาถ่ายทอดสดใน Channel ของสมาชิกวงอย่าง YOSHIKI ผ่านทางเว็บ Nicovideo แทน และแม้ว่าในฮอลล์นั้นจะไร้ผู้ชมคอนเสิร์ตของพวกเขา แต่ X Japan ก็ยังโชว์สปิริตและแสดงอย่างสุดความสามารถ มีทั้งการเล่นกับมุมกล้องหรือโพสต์ท่าถ่ายภาพกับคนดูหลังจบการแสดง 悔しくて涙が止まらない。。でもみんなの身の安全が第一です。くれぐれも気をつけてご帰宅なさって下さい。 まもなく代替え案の発表を行う予定です。https://t.co/meprsQlfl1…
-
หญิงโร่ให้แบน ‘แมว’ กลางรายการทีวี ชี้เป็นสัตว์นักล่า ทำให้ประชากร ‘นก’ ลดลง!
สัตว์เลี้ยงยอดนิยมครองใจมนุษย์อย่าง ‘แมว’ ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นถกเถียงกลางรายการ This Morning ของอังกฤษ (โทนรายการเรื่องเล่าเช้านี้) โดยชี้ว่าเป็นภัยอันตรายต่อสัตว์ปีกที่อยู่ตามธรรมชาติ เป็นเหตุทำให้ประชากรนกลดลง… Sally Jones นักข่าวผู้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ เธอได้กล่าวว่า ควรจะทำการสั่งห้ามไม่ให้เลี้ยงแมวเป็นสัตว์เลี้ยงในประเทศอังกฤษ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ควรให้แมวเลี้ยงอยู่แต่ภายในบ้านเท่านั้น Sally Jones ทั้งนี้ เธอได้หยิบยกสถิติที่นกได้กลายมาเป็นเหยื่อของสัตว์หน้าขน โดยเฉลี่ยแล้วนกจะถูกฆ่าโดยแมวที่เลี้ยงไว้ เป็นจำนวน 55 ล้านตัวต่อปีกันเลยทีเดียว เนื่องจากสัญชาตญาณนักล่าภายในตัวของแมว นอกเหนือจากนี้ Sally ยังยกตัวอย่างจากเมืองแห่งหนึ่งในนิวซีแลนด์ กล่าวว่าที่นั่นมีระบบจัดกลุ่มแมวให้อยู่ในประเภทสัตว์รบกวน เพราะพวกมันฆ่านกในท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก ทางด้านพิธีกรหญิง Holly Willoughby ผู้เป็นทาสแมวตัวยงอยู่แล้ว มีเจ้า Bluebell เลี้ยงอยู่ที่บ้าน เธอรู้สึกไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนาง Sally เท่าไหร่นัก โดยเธอยกเหตุผลปกป้องแมวไว้ว่า มนุษย์มีความสัมพันธ์กับแมวในฐานะสัตว์เลี้ยง ผู้คนส่วนใหญ่เลี้ยงแมวเพื่อช่วยในเรื่องของความจรรโลงใจ ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลได้ รวมไปถึงข้อดีที่ส่งพลังบวกด้านอื่นด้วย แต่แล้วก็ยังไม่จบประเด็นแบนแมวง่ายๆ นาง Sally ชี้ว่า…
-
สัตวแพทย์สารภาพ แอบขนเฮโรอีนเหลวด้วยการยัดใส่ ‘ช่องท้องสุนัข’ ลูกขุนสั่งติดคุกยาว!!
เพราะด้วย ‘ยาเสพติด’ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย จึงทำให้เหล่าพ่อค้ายาต้องสรรหาวิธีใหม่ๆ ในการขนยาอยู่เสมออย่างที่เราเห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการยัดยาใส่ช่องคลอด ซ่อนตามชิ้นส่วนรถหรืออะไรอีกต่างๆ นานา แต่ว่าในกรณีของนักขนยาคนนี้คุณเคยไม่เคยได้ยินที่ไหนเป็นแน่ เพราะว่าเขาใช้ตัว ‘สุนัข’ เป็นเครื่องมือสำหรับการส่งยา!? เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นาย Andres Lopez Elorez ผู้ต้องหาวัย 39 ปี ถูกส่งตัวจากประเทศสเปน ซึ่งเป็นประเทศที่เขาอยู่มาตลอด 12 ปี มายังประเทศสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เขาเป็นผู้ต้องหาในข้อหาลักลอบนำเข้ายาเสพติดมายังประเทศสหรัฐฯ และในที่สุดแล้ววันศุกร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา เขาก็ให้การรับสารภาพถึงความผิดทั้งหมดกับทางคณะลูกขุนในนครนิวยอร์ก Elorez ชายชาวเวเนซุเอล่า กล่าวว่าเหตุการณ์การขนยาของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษาสัตวแพทย์อยู่… “ผมร่วมมือกับสัตวแพทย์มืออาชีพอีกคนหนึ่งลักลอบขนเฮโรอีนเหลวเข้ามาในสหรัฐฯ และวิธีที่ผมใช้ก็คือการผ่าตัดยัดมันเข้าใส่ในตัวของสุนัข” Elorez กล่าวสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่า Elorez กับคู่หูของเขาได้ลักลอบนำเฮโรอีนเหลวเข้าสหรัฐฯ ด้วยวิธีอันหลากหลาย และหนึ่งในนั้นก็คือการยัดเฮโรอีนเหลวห่อพลาสติก ยัดใส่ท้องของสุนัขตามที่เขาสารภาพด้วย สำหรับวิธีการผ่าตัดของเขานั้นก็ง่ายๆ เพียงแค่ผ่าตัดเปิดช่องท้องของสุนัขและก็ยัดห่อเฮโรอีนเหลวเข้าไป จากนั้นเย็บปิดแล้วจึงส่งจากประเทศโคลอมเบียไปยังประเทศสหรัฐฯ โดยหลังจากถึงที่หมายแล้วสุนัขเหล่านั้นก็จะถูกผ่าตัดเปิดช่องท้องอีกครั้งเพื่อเอายาออก ทั้งนี้ก็มีรายงานว่ามีสุนัขหลายตัวต้องตายด้วยสาเหตุการติดเชื้อจากแผลการผ่าตัด… เหตุการณ์อันน่าสยดสยองนี้เกิดขึ้นระหว่างเดือนกันยายนปี…
-
วินาทีเฉียดตาย!! นักข่าวภาคสนามถูกสไนเปอร์ ISIS ซุ่มยิง ดีที่ได้ GoPro ช่วยเบนกระสุน
“นักข่าว” ถือเป็นอาชีพที่คอยรายงานข่าวสารทั้งในประเทศและนอกประเทศให้แก่เราฟัง ซึ่งตามปกติแล้วนักข่าวก็ถือว่าเป็นสายอาชีพที่มีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวที่อยู่ในห้องส่ง นักข่าวที่คอยอัปเดตข่าวขึ้นเว็บไซต์หรือหนังสือพิมพ์หรือจะเป็นนักข่าวภาคสนาม โดยที่นักข่าวภาคสนามนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่ต้องลงพื้นที่จริงๆ และต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือเหตุการณ์ความไม่สงบและบ่อยครั้งก็อาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับตัวพวกเขาเอง เหมือนกับเหตุการณ์ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ครับ เมื่อนักข่าวกลุ่มหนึ่งกำลังลงพื้นที่ถ่ายทำข่าวในเมือง Mosul ประเทศอิรัก ประเทศที่กำลังมีสงครามกลางเมือง ก่อนที่นักข่าวคนหนึ่งจะถูกสไนเปอร์ของฝ่าย ISIS ยิงเข้าใส่เขา แต่…โชคดีที่ถูกกล้อง Go Pro เสียก่อน วินาทีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น คลิปวิดีโอสุดระทึกคลิปนี้ถูกบันทึกภาพไว้ได้โดย Owen Holdaway นักข่าวของสำนักข่าว The Sun เขาได้กล่าวว่าในเหตุการณ์นี้กำลังคุยกับ Ammar (คนที่ถูกยิงใส่) ว่าจะพักสักหน่อย แต่ทันใดนั้นเอง กล้อง Go Pro ของ Ammar ก็ระเบิดขึ้น พวกเขารู้ได้ทันทีว่าถูกซุ่มยิง จึงเรียบวิ่งเข้าหาที่กำบังกันอย่างตื่นตระหนก ก่อนที่ Owen จะตะโกนบอก Ammar ว่า “Ammar นั่นมันเกือบไปแล้ว เชี่ยเอ๊ย” 20…
-
หญิงสาวใช้ “มีดทำครัว” แทงใบหน้าของแฟนหนุ่ม เพราะโมโหที่เขา “ไม่ยอมมีเซ็กส์ด้วย”
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา หญิงสาวคนหนึ่งเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก หลังแฟนหนุ่มไม่ยอมมีอะไรกับเธอ ในเมื่อเธอไม่โดนแทง(…) เธอจึงใช้มีดแทงเข้าไปที่หน้าแฟนหนุ่มแทน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในบ้านของ Katherine Tavarez หญิงสาววัย 27 ปีผู้ก่อเหตุ จากการรายงานบอกว่าเธอได้ดื่มสุราเข้าไปก่อนที่จะเกิดความโมโหในช่วงเวลาตี 3 ครึ่งของวันที่ 27 กันยายน 2018 Katherine หญิงสาวผู้ก่อเหตุ ความโมโหที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการที่แฟนหนุ่มของเธอ (ไม่เอ่ยนาม) ปฏิเสธซ้ำๆ ไม่ยอมที่จะมีอะไรกับเธอในตอนนั้น สร้างความไม่พอใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก ในจังหวะที่ชายหนุ่มกำลังเผลอ Katherine จึงเดินเข้าไปหยิบมีดในครัวแล้วแทงเข้าไปที่ใบหน้าของใบหนุ่มทันที ก่อนจะปล่อยให้เขานอนจมกองเลือด และโทรแจ้งตำรวจในเวลาต่อมา ตำรวจได้เดินทางมาถึงสถานที่เกิดเหตุ พบว่ามีเลือดติดอยู่มือและเสื้อผ้าของหญิงสาว รวมถึงอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ และได้นำตัวชายหนุ่มไปรักษาตัวในโรงพยาบาล Indian River Medical Centre Katherine ถูกจับกุมและตำรวจได้ตั้งค่าประกันตัวเอาไว้ที่ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 484,000 บาท) โดยหลังจากนี้หญิงสาวยังคงต้องเข้าให้ปากคำและรอศาลตัดสินต่อไปในช่วงเดือนตุลาคม 2018 ที่มา: mirror
-
ทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนเป็นมีม!! ไม่เว้นแม้แต่เจ้า “มอธ” ที่ถูกชาวเน็ตจับนำมาเรียกเสียงฮา
“Meme” หรือ “มีม” คือรูปแบบหนึ่งของความคิด สัญลักษณ์ ที่เรามักจะเห็นออกมาให้รูปภาพตลกๆ เฮฮาหรือรูปภาพในเชิงล้อเลียน ซึ่งในปัจจุบันนั้นเราสามารถเห็นมีมที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นคนดังอย่าง Yao Ming สัตว์อย่างพวก Grumpy Cat หรือสิ่งของต่างๆ ไม่แน่นะรูปของเพื่อนๆ อาจกลายเป็นมีมในสักวันหนึ่งก็ได้ (ฮา) และวันนี้เราก็มีมีมใหม่มาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันอีกแล้ว เมื่อผีเสื้อกลางคืนหรือที่ต่างประเทศเรียกกันว่า “มอธ” ได้กลายมาเป็นมีมแบบงงๆ เฉยเลย ย้อนกลับไปวันที่ 14 กรกฎาคม 2018 ได้มีสมาชิก Reddit ชื่อว่า No_Reason27 ได้โพสต์รูปของเจ้ามอธที่มาเกาะหน้าต่างบ้านของเขาพร้อมกับแคปชั่นว่า “ภาพมุมของเจ้ามอธที่เกาะอยู่นอกหน้าต่างของผม” ซึ่งดูๆ แล้วก็เป็นเหมือนกับกระทู้โพสต์รูปสัตว์ปกติทั่วไป แต่มันไม่ทั่วไปเมื่อมีคนเข้ามาเล่นมุกเกี่ยวกับเจ้ามอธตัวนี้เต็มไปหมดนี่สิบ้างก็เข้ามาคอมเมนต์ว่า “เฮ้เพื่อน นายมีโคมไฟรึเปล่า?” (ล้อเลียนที่มอธชอบแสงไฟ) หรือจะเป็นเพราะหน้าตาของมันก็เลยมีคนมาล้อว่า “แม่บอกว่านี่มันตาของฉันที่จะได้เล่น Xbox แล้ว” สุดท้ายนี้ไปๆ มาๆ ก็เลยมีคนนำภาพของเจ้ามอธตัวนี้ไปทำเป็นมีมเฉยเลย จะเป็นอย่างไรไปชมกันครับ พวกนายมี เอิ่ม… โคมไฟหมายยยยยย? เจอทินเดอร์ของเจ้ามอธซะหน่อย No Lamp…
-
หนุ่มจะขอสาว ‘แต่งงานบนเครื่อง’ เลยขอผู้โดยสารคนอื่นถ่ายรูปให้ กลายเป็นไวรัลน่าร๊าก!!
การขอแต่งงาน ถือได้ว่าเป็นโมเมนต์อันสุดวิเศษระหว่างคนสองคน ซึ่งก็แน่นอนว่าวินาทีสำคัญในชีวิตมาถึง ก็จะต้องสร้างความทรงจำให้มันดูมีเรื่องราวซะหน่อย อย่างบางคนก็ขอแต่งงานกลางงานโชว์ หรือคุกเข่าท่ามกลางฝูงชนก็มีให้เห็นมาไม่น้อย แต่ว่าสำหรับชายคนนี้แล้ว เขามามุกใหม่ชนิดที่ไม่ว่าใครๆ ก็คงเดาทางไม่ออก เพราะเขาคนนี้วางแผนเอาไว้ว่าจะขอแฟนสาวแต่งงานบนเครื่องบิน แต่ว่าดันไม่มีช่างกล้องถ่ายเก็บภาพความประทับใจเอาไว้ เลยส่งการ์ดขอความร่วมมือผู้โดยสารคนอื่นสวมวิญญาณเป็นช่างภาพถ่ายรูปส่งให้หน่อย!! ตื่นเต้นๆ เรื่องราวที่ว่านี้ได้เปิดเผยมาจากผู้ใช้เว็บบอร์ด Reddit ชื่อว่า ‘pezmonkey’ โดยเขาเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งเขาได้โดยสารเครื่องบินของสายการบิน Delta Airlines (แต่ไม่บอกเที่ยวบินและวันที่) แล้วบังเอิญได้ไปเจอกับเรื่องน่ารักๆ นี้เข้าให้เลยอยากแชร์มาให้ได้ดู ภาพที่เขาโพสต์ในกระทู้ดังกล่าวคือภาพของการ์ดใบหนึ่งที่ทางหนุ่มชื่อว่า Andrew บนเครื่องลำนั้นส่งมาให้ โดยมีเนื้อความว่า การ์ดใบดังกล่าว “สวัสดีครับ ผมชื่อ Andrew ผมจะขอแฟนแต่งงานบนไฟลท์นี้ ผมมีแหวนและเตรียมบทพูดมาแล้ว แต่ว่าผมยังไม่มีช่างภาพเลย ผมเลยอยากจะขอ… ให้ทุกๆ คนช่วยถ่ายรูปหรือวิดีโอการขอแต่งงานของผมส่งมาให้หน่อยเถอะ แล้วถ้าเห็นใจผมล่ะก็รบกวนส่งมาให้ที่เบอร์นี้หน่อยนะ” แล้วก็ไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญหรือว่าเหตุการณ์มันเป็นใจ ถึงทำให้คนโพสต์คนนี้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับการถ่ายภาพอย่างพอดิบพอดี เขาเลยจัดให้ตามคำขอแชะภาพให้หนุ่ม Andrew เป็นที่เรียบร้อย เย้ เธอเซย์เยสด้วย!! “ก่อนที่เครื่องจะลง เขาก็ทำอย่างที่เขาว่าจริงๆ พวกเราไม่รู้จะทำตัวยังไงกันเลยมันสับสนไปหมด (ตื่นเต้น)” “แน่นอน เธอเซย์เยส!!” “แต่ว่าไฟลท์บินนี้มันสั้นเหลือเกินเลยไม่ได้ฉลองอะไร พวกเราทำได้แค่สั่ง…
-
ตำรวจพบ 1 ใน “ไร่กัญชา” ใหญ่สุดในสหราชอาณาจักร ซ่อนอยู่ “ใต้ดิน” เดินทั้งวันก็ยังไม่ทั่ว
“กัญชา” ยังคงเป็นพืชผิดกฎหมายในหลายๆ ประเทศ ในสหราชอาณาจักรเองก็เช่นกัน ประชาชนไม่สามารถปลูก ครอบครอง หรือว่าซื้อขายพืชชนิดนี้ได้อย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นที่จะต้องสอดส่องหาต้นตอว่ามันมีการขายกัญชาภายในประเทศได้อย่างไร จนกระทั่งล่าสุดพวกเขาได้ไปเจอกับ 1 ใน “ไร่กัญชา” ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งถูกซ่อนไว้ใต้ดิน?! ภาพจากการรายงานในวันที่ 29 ก.ย. 2018 ไร่กัญชาที่ว่านั้นถูกซ่อนเอาไว้อยู่ภายในอุโมงค์เหมืองหินแห่งหนึ่ง ณ เมืองแบรดฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นอุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่ ตำรวจใช้เวลาเกือบ 24 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถตรวจค้นได้จนทั่ว สำหรับอุโมงค์เหมืองดังกล่าวนั้นในตอนแรกได้ถูกหยุดใช้งานไปแล้วในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะมีการนำไปใช้เป็นปราการสงครามตั้งแต่ปี 1939 เพื่อเก็บอุปกรณ์ของกองทัพเรือ จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัท Heinz (ซอสมะเขือเทศ) ได้ใช้พื้นที่ดังกล่าวในการปลูกเห็ดสำหรับใส่ลงไปซุปของพวกเขา ต่อมาในปี 2011 อุโมงค์แห่งนี้ได้ถูกขายออกไปให้กับบุคคลนิรนาม โดยอ้างว่ามันเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การให้เช่าทำกิจการแปลกๆ อะไรทำนองนั้น (ก็จริงของเขาแหละนะ) . แล้วในปี 2015 ก็มีนักสำรวจภายในเมืองไปพบเข้าว่าอุโมงค์ที่ควรถูกปิดมานานหลายปี กลับมีคนเข้าไปใช้งานสถานที่แห่งนั้น ใช้ไฟฟ้าราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ…
-
หนุ่มวัยรุ่น “ข่มขืน” เด็กหญิงวัย 6 ขวบในห้องน้ำร้านอาหาร ก่อนจะโดนรุมกระทืบเลือดอาบ
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอันน่าเศร้าที่ “เด็ก” ต้องตกเป็นเหยื่อของกามารมณ์ เมื่อชายคนหนึ่งลากเด็กหญิงวัย 6 ขวบเข้าไปข่มขืนในห้องน้ำของร้านอาหาร เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ ชายวัย 20 ปี (ไม่เอ่ยนาม) แอบสะกดรอยตามเด็กหญิงวัย 6 ขวบมาตั้งแต่ตอนที่เธอกำลังเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่น ภาพของชายผู้ก่อเหตุ จากการรายงานในวันที่ 29 ก.ย. 2018 หลังจากนั้นเด็กหญิงก็ได้เข้าไปใช้ห้องน้ำของร้านอาหารใกล้ๆ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีชายคนหนึ่งแอบสะกดรอยตามเธอไปด้วย และได้ฉุดกระชากเธอเข้าไปในห้องน้ำชายแทน ก่อนที่จะปิดประตูล็อกแล้วเข้าจู่โจม เมื่อแม่ของเด็กหญิงเริ่มสังเกตเห็นว่าเธอหายตัวไป แม่จึงรีบตามหาเธอเป็นการด่วน โดยได้รับความช่วยเหลือจากลูกค้าในร้านอาหารคนอื่นๆ รวมถึงพนักงานและเจ้าของร้านเองก็ด้วย ร้านอาหารที่เป็นจุดเกิดเหตุ จนกระทั่งมีคนไปพบกับเด็กหญิงและชายผู้ก่อเหตุที่เปิดประตูออกมาหลังได้ยินเสียงความวุ่นวาย เมื่อนั้นเองความชุลมุนก็เกิดขึ้น พยานผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าชายคนดังกล่าวอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ล่อนจ้อน ในขณะที่เด็กหญิงเองก็มีเลือดไหลออกมาจากบริเวณอวัยวะเพศ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์จึงเข้ารุมประชาทัณฑ์ชายคนนั้นในทันที ก่อนที่จะมีคนเข้ามาห้ามเอาไว้ได้ ชายผู้ก่อเหตุก็อยู่ในสภาพเลือดอาบไปเสียแล้ว (ถึงอย่างไรก็ยังไม่ยืนยันว่านั่นคือเลือดของเขา หรือเลือดของเด็กหญิง) คงไม่แปลกที่แทบทุกคนในขณะนั้นจะเกิดความไม่พอใจชายคนดังกล่าวอย่างมาก แต่ทางเจ้าของร้านก็จำเป็นที่จะต้องพาชายคนนั้นหลบออกไป เพื่อไม่ให้สถานการณ์มันเลวร้ายยิ่งกว่านี้ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวชายคนดังกล่าว โดยเบื้องต้นเขายังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ยังคงต้องรอการสืบสวนเพิ่มเติม และคำตัดสินของศาลในวันที่ 2…
-
เจ้าของเซอร์ไพรส์…หมาโกลเดนพา ‘คนแปลกหน้า’ เข้าบ้าน ส่งสายตาแป๋วแหววทักทาย!!
ประเทศออสเตรเลียถือเป็นประเทศที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นจึงไม่แปลกนักหากจะมีสัตว์ป่า อย่างหมี จิงโจ้ หรือแม้แต่จระเข้ แวะเวียนมาเยี่ยมหาที่บ้านของผู้คน เช่นเดียวกันกับหญิงสาวชาวออสเตรเลียคนนี้ ที่จู่ๆ เจ้าหมาของตัวเอง บังเอิญไปช่วยชีวิตของ ‘ลูกโคอาล่า’ ตัวน้อย แล้วพากลับมาที่บ้านของเธอ!? Kerry McKinnon วัย 47 จากเมือง Strathdownie รัฐ Western Victoria ได้รับการเซอร์ไพรส์จากเจ้าหมา Golden Retriever ของเธอที่ชื่อว่า Asha เพราะจู่ๆ มันดันไปพา ‘ลูกโคอาล่า’ มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ แถมยังเอามาดูแลประคบประหงม ราวกับว่าเป็นลูกในไส้ของมันอีกต่างหาก จ๊ะเอ๋!! “ตอนนั้นเป็นช่วงเช้า สามีของฉันจู่ๆ ก็ตะโกนเรียกฉัน บอกว่า ‘ให้มาดูอะไรนี่สิ’ ฉันก็ยังงงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่พอเดินเข้าไปดูก็พบว่ามีโคอาล่าตัวน้อยนอนกอดซุกอยู่บนตัวของเจ้า Asha” “พอเห็นแล้วฉันถึงกับขำก๊ากออกมาเลย เจ้า Asha มองมาที่ฉันราวกับว่าตัวเองได้ทำเรื่องผิดลงไป และกลัวว่าจะถูกลงโทษ เพราะดันไปเอาสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในบ้าน” …
-
เจ้าบ่าวสละเวลาอันมีค่าใน ‘คืนวันแต่งงาน’ เพื่อไปดูแล ‘หมู’ อันเป็นที่รัก!!
ในช่วงพิเศษอย่างวันแต่งงาน การได้อยู่กับ ‘คู่รัก’ ของตัวเองนั้นถือเป็นเรื่องที่อยู่ในฝันของใครหลายๆ คน แต่สำหรับเจ้าบ่าวรายนี้แล้ว เขาเลือกที่จะไปอยู่กับ ‘หมู’ แสนรักของตัวเองเสียมากกว่า!? Joanna Durkin เจ้าสาววัย 37 ปี เพิ่งจะแต่งงานกับนาย Lee Durkin วัย 37 ปีไปหมาดๆ แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวดันสละเวลาไม่กี่ชั่วโมงในค่ำคืนของวันแต่งงานไปอยู่กับเจ้าหมูที่มีชื่อว่า Parsnip ที่เป็นหมูสายพันธุ์ Kunekune จากเวียดนามที่มีน้ำหนักถึง 196 กิโลกรัม Joanna เล่าว่าสามีของเธอนั้นเป็นคนที่รักสัตว์เลี้ยงตัวนี้เอาซะมากๆ เขาเลี้ยงเจ้า Parsnip เป็นอย่างดี มีสวนหลังบ้านที่มีความกว้างกว่า 25 ตารางเมตรให้วิ่งเล่น ให้มันเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน บางครั้งก็นอนดู Netflix ด้วยกัน กลับมาที่งานแต่งงานอีกครั้งหนึ่ง งานแต่งงานของทั้งคู่ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์ Southport’s Holy Trinity Church ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา แต่ก่อนที่งานแต่งงานจะจบลง นาย Lee กลับขอตัวกลับบ้านเพื่อไปดูแลเจ้า Parsnip เพราะไม่อยากทิ้งให้มันต้องอยู่คนเดียว…
-
มันส์สุดโคน!! หนุ่มเพิ่มความหฤหรรษ์ทางเพศใช้สายไฟยัด ‘ไอ้จ้อน’ วุ่นวายหมอช่วยเอาออก…
แน่นอนว่าเรื่องของ ‘ความมันส์’ อาจเป็นเรื่องที่มันสนุกเกินจะห้ามใจได้ แต่ว่าบางทีถ้าหากมันส์เกินไปหน่อยจนต้องทำให้ตัวเองบาดเจ็บหรือว่าลำบากคนอื่น ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ อย่างเช่นในกรณีของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เอาสายไฟยัดเข้าไปใน ‘ไอ้จ้อน’ เพื่อเพิ่มอรรถรสในเรื่องอารมณ์ทางเพศ ทว่าในท้ายที่สุดแล้วมันก็ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจนต้องไปให้หมอเอาออก เรื่องราวอันแปลกประหลาดที่ว่านี้เกิดขึ้นที่เกิดขึ้นที่รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เมื่อมีหนุ่มวัย 18 ปีคนหนึ่งรีบวิ่งแจ้นเข้ามาที่โรงพยาบาลหลังจากที่เขารู้สึกเจ็บปวดบริเวณอวัยวะเพศรวมถึงหน้าท้องอย่างรุนแรง ในเบื้องต้นชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่ได้บอกถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไร ทว่าเมื่อทางแพทย์เปิดประวัติการรักษาดู ก็พบว่าก่อนหน้านี้เขาเคยใช้สิ่งของยัดเข้าไปในอวัยวะเพศของตัวเองเพื่อเพิ่มความสำราญในเรื่องอารมณ์ทางเพศ แพทย์จึงสันนิษฐานว่าในครั้งนี้ก็คงเช่นเดียวกัน พวกเขาจึงได้นำตัวชายคนผู้ไม่เปิดเผยชื่อคนนี้ไปทำการสแกนร่างกาย แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คาด!! เมื่อพบว่าในบริเวณกระเพาะปัสสาวะของเขามีขดลวดสายไฟจำนวนหนึ่งอยู่ ขั้นแรกทางแพทย์พยายามจะช่วยเหลือเขา ด้วยการพยายามดึงขดลวดเหล่านี้ออกมาทางอวัยวะเพศโดยตรง แต่ปรากฏว่าไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากมันเกิดไปติดที่กระเพาะปัสสาวะ ทางแพทย์จึงต้องหาหนทางอื่นในการเอาออกแทน ในที่สุดแล้วพวกเขาก็เลือกใช้ ‘เลเซอร์’ ที่มีชื่อว่า ‘Holmium Lasers’ แทน ซึ่งนี่เป็นเครื่องมือที่แพทย์ทางด้านท่อปัสสาวะใช้แก้ปัญหาต่อมลูกหมากโต แต่ว่านอกจากรักษาโรคนี้มันก็สามารถตัดวัตถุชิ้นใหญ่ๆ ในร่างกายเราได้ด้วยเช่นเดียวกัน ทางแพทย์จึงได้นำคุณสมบัติข้อนี้มาใช้สำหรับกรณีนี้ พวกเขาใช้เลเซอร์ตัดขดลวดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนกระทั่งสามารถนำมันออกมาจากร่างกายชายคนนี้ได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งชายหนุ่มก็มีอาการปลอดภัยดีไม่ได้รับอันตรายอะไร จากรายงานของทางแพทย์ระบุว่า นอกจากการรักษาตัวครั้งนี้ยังได้ทดสอบอาการทางจิตของเขาด้วย ซึ่งผลที่ออกมาก็ปรากฏว่าเขาไม่ได้มีความผิดปกติอะไร แต่ทั้งนี้ก็ไม่มีรายงานว่าวัตถุก่อนหน้าที่เขาใช้ยัดใส่อวัยวะเพศเป็นสิ่งใดกันแน่ จะเอามันส์อะไรขนาดน้านน ที่มา: dailymail, thesun
-
นศ. สาวราดผงฟอกขาวใส่ ‘เป้า’ ผู้ชาย โดนชาวเน็ตโต้ที่นั่งแบบนั้น เพราะธรรมชาติโว้ย!!
เหตุการณ์ต่อเนื่องมาจาก “นักศึกษาสาว ทำคลิปนำน้ำผสมผงฟอกขาว เทราด “เป้า” ผู้ชาย เพราะไม่พอใจที่นั่งขาอ้าซ่า” จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลของประเทศรัสเซีย อ่านข่าวเก่าได้ที่ : นักศึกษาสาว ทำคลิปนำน้ำผสมผงฟอกขาว เทราด “เป้า” ผู้ชาย เพราะไม่พอใจนั่งขาอ้าซ่า อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การนั่งอ้าขา’ ของผู้ชายในที่สาธารณะนั้น ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาท เพราะนอกจากจะตกเป็นเป้าสายตารบกวนผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการ ‘กินที่’ ไม่ให้ผู้อื่นมาใช้งานที่นั่งร่วมได้อีกด้วย จากการกระทำของหญิงสาวนักกิจกรรมเพื่อสิทธิสตรีทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย บางส่วนก็มองว่าเป็นกระทำที่เกินกว่าเหตุ บางส่วนก็มองว่านักกิจกรรมเรียกร้องความเท่าเทียม ของให้ผู้ชายมีมารยาท แต่ตัวเองกลับไร้มารยาทซะเอง คลิปวิดีโอดังกล่าว บางส่วนก็ออกมาให้ข้อมูลว่า “ที่ผู้ชายต้องนั่งอ้าขานั้น เป็นเพราะว่ามันไม่สบายเนื้อสบายตัว เพราะการหนีบขามันทำให้ ‘ลูกอัณฑะ’ ถูกบีบนั่นเอง” แล้วการยกคำกล่าวนี้มาอ้าง มันจริงแท้หรือไม่อย่างไร? เราลองไปฟังข้อมูลจากศัลยแพทย์เกี่ยวกับประสาทกระดูกสันหลังกันดูครับ ดอกเตอร์ John Sutcliffe กล่าวว่า “ความกว้างโดยเฉลี่ยของ ‘กระดูกเชิงกราน’ ในผู้หญิงนั้นจะ มีมากกว่าผู้ชาย และสามารถขยับคอกระดูกต้นขาได้เร็วกว่าผู้ชาย นั่นทำให้ท่าทางในการนั่งหัวเข่าของผู้หญิงจะอยู่ชิดติดกัน ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาของผู้หญิง” “กลับกันผู้ชายที่ต้องนั่งอ้าขาเพราะต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้…
-
หมดกันทริปในฝัน…. สาวดันไปบอกว่าตัวเองเป็น “ผู้ก่อการร้าย” อดไปเที่ยวนิวยอร์กตามที่วางแผนไว้
เราอาจเคยคิดว่าความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในการกรอกแบบฟอร์มบางอย่าง อาจสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ แต่บางครั้งมันกลับตรงกันข้ามกับที่เราคิดเอาไว้เลย เรื่องอะไรในลักษณะนั้นได้เกิดขึ้นกับ Mandie Stevenson หญิงสาวชาวอังกฤษผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม เธอวางแผนจะเดินทางไปนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แต่เธอกลับทำพลาดซะจนกลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่คิด Mandie หญิงสาวผู้โชคร้าย หญิงสาววัย 29 ปีคนนี้ได้เข้าไปกรอกแบบฟอร์มยื่นคำร้องละเว้นวีซ่า ของระบบออนไลน์ที่เรียกว่า ESTA (Electronic System for Travel Authorization) เพื่อไปเที่ยวกับ Ross แฟนหนุ่มของเธอ แล้วเธอก็ได้เจอกับคำถามที่ว่า “คุณพยายามที่จะเข้าร่วมหรือเคยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการก่อการร้าย การโจรกรรม การก่อวินาศกรรม หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่?” แน่นอนว่าในข้อนี้เธอก็จะต้องตอบว่า “ไม่” อย่างแน่นอน แต่มันอาจเป็นเพราะเธอเบลอจนกดผิด หรือไม่แท็บเล็ตของเธอก็อาจจะพังอย่างที่เธออ้างในภายหลัง จนทำให้คำตอบที่เธอส่งไปมันกลายเป็นคำว่า “ใช่” แทน บรรลัยละทีนี้ อยู่ดีๆ เธอก็กลายเป็นผู้ก่อการร้ายซะอย่างนั้น ตอนแรกเธอก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร คำตอบแค่นี้น่าจะแก้ได้ง่ายๆ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเนี่ยสิ Mandie ได้เดินทางไปติดต่อกับสถานทูตสหรัฐอเมริกา ในกรุงลอนดอน โดยพวกเขาได้บอกกับเธอว่าไม่สามารถแก้ไขคำตอบของเธอได้ และการยื่นคำร้องขอละเว้นวีซ่าของเธอนั้นก็ไม่ผ่านไปโดยปริยาย…
-
สาวชาวนาสุดเจ๋ง ใช้กระสอบปูน 40 กระสอบ ถักทอขึ้นมากลายเป็น ‘ชุดเจ้าสาว’ แสนสวย!!
นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียทางเลือกในการทำ ‘ชุดเจ้าสาว’ ด้วยตัวเองสำหรับใครที่อยากแปลกแหวกแนวและไม่เหมือนคนอื่น เพราะตอนนี้มีสาวคนหนึ่งผลิตชุดเจ้าสาวสุดอินดี้ขึ้นมา และกำลังได้รับการตอบรับที่ดีในโลกโซเชียลแล้วเป็นล้านๆ คน Lili Tan หญิงสาวชาวนาวัย 28 ปีแห่งหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับเมืองหลงหนาน มณฑลกานซู่ ประเทศจีน คือคนที่สร้างปรากฏการณ์ดังกล่าว ซึ่งอันที่จริงแล้วเธอไม่เคยเข้าเรียนวิชาแฟชั่นดีไซน์ที่ไหนๆ แต่เธอก็สามารถผลิตชุดเจ้าสาวแสนสวยที่ทำมาจากกระสอบปูนได้ เธอกล่าวว่าเธอใช้เวลาว่างหลังจากที่กลับจากท้องไร่ท้องนาหรือในวันที่ฝนตกถักทอชุดดังกล่าวขึ้น ซึ่งกว่าจะสำเร็จเป็นชุดอย่างที่เห็นก็ใช้กระสอบไปมากกว่า 40 กระสอบ และโดยส่วนมากแล้วกระสอบเหล่านี้จะเป็นกระสอบของเพื่อนบ้านในหมู่บ้านที่ใช้ปรับปรุงบ้านของพวกเขานั่นเอง ส่วนในเรื่องของแรงบันดาลใจหรือแบบชุด Tan ก็บอกว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเห็นชุดสวยๆ ในหนังสือแมกาซีนเธอเลยนำมาเป็นต้นแบบผลิตชุดเจ้าสาวจากกระสอบปูน และนอกจากชุดแล้วเธอก็ยังมีหมวกเก๋ๆ ที่ทำมาจากกระสอบด้วยเช่นเดียวกัน “ฉันไม่นึกมาก่อนเลยว่าจะได้รับความสนใจจากผู้คนในโซเชียลอย่างล้นหลามขนาดนี้ มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์สุดๆ บางทีถ้าฉันสวยกว่านี้อาจจะดังกว่านี้อีกก็ได้นะ ฮ่าๆ” แฟชั่นดีไซเนอร์มือสมัครเล่นกล่าว วิดีโอน่ารักๆ ของเธอ ในตอนนี้วิดีโอของเธอได้ออกประจักษ์สู่สายตาโซเชียลชาวจีนแล้วกว่า 5 ล้านวิวและก็มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้อีกในอนาคต ส่วนใครที่สงสัยว่าเธอใช้ชุดนี้ในงานแต่งงานของเธอจริงๆ หรือไม่ ขอบอกเลยว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะว่าเธอได้ตกลงปลงใจแต่งงานกับสามีของเธอตั้งแต่ปี 2012 แล้ว และในตอนนี้ก็มีลูกชายน่ารักๆ มาเป็นสักขีพยานแล้ว 1 คนด้วยกัน ไอเดียแจ่มแมวมากๆ เลยนะเนี่ย ที่มา:…
-
เจ้าหน้าที่พบซาก ‘เสือโคร่งสุมาตรา’ พร้อมกับลูกในท้อง หลังเหยียบโดน ‘กับดักหมู’
เรื่องราวอันน่าสงสารของ ‘แม่เสือ’ ที่กำลังตั้งท้องอ่อนๆ แต่กลับพลาดท่า ‘โดนกับดักหมู’ ที่มนุษย์วางเอาไว้เล่นงาน จนนำไปสู่การเสียชีวิต เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่าพบซากของแม่เสือโคร่งสุมาตราวัย 4 ปี ในจังหวัด Riau ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากที่มันดันไปติดกับดักหมู และพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด จนไปสิ้นใจห่างจากจุดวางกับดักถึง 150 เมตร!! จากการชันสูตรพบว่าแม่เสือเสียชีวิตจาก ‘ไตฉีกขาด’ เป็นเพราะมันพยายามดิ้นพรวดพราดเพื่อให้รอดจากกับดักนั่นเอง ที่ลำตัวของแม่เสือยังคงมีบ่วงกับดักรัดที่ตัวของมันอย่างแน่นหนา เท่านั้นยังไม่พอ ในท้องของมันยังมีลูกน้อยอีก 2 ตัว ที่ยังไม่ได้ลืมตาออกมาดูโลกใบนี้ ทำให้พวกมันเสียชีวิตไปพร้อมๆ กัน นาย Suharyono หัวหน้าหน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าท้องถิ่น กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า “เรารู้สึกเสียใจกับการตายของมันเป็นอย่างมาก เป็นอีกครั้งที่การปกป้องสัตว์ป่าสงวนกลายเป็นเรื่องที่ล้มเหลว” “เจ้าเสือตัวนั้นมันกำลังตั้งท้องลูกตัวผู้ และตัวเมียอย่างละตัว ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้วางกับดักเอาไว้แล้ว และจะดำเนินคดีกับเขาจนถึงที่สุด” เสือโคร่งสุมาตราถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ย่อยของ ‘เสือโคร่ง’ และเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่เหลืออยู่น้อยมากๆ ในโลกของเรา ในแต่ละปีจะมีรายงานการเสียชีวิตของเสือโคร่งสุมาตรามากกว่า 40 ครั้ง เพื่อนำหนังหรือขนของมันไปใช้งาน จนตอนนี้ประชากรของพวกมันเหลืออยู่เพียงน้อยนิดเพียง 400 ตัวบนโลกเท่านั้น …
-
นักดับเพลิงใช้ “เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง” ช่วยหญิงสาวที่จะ “โดดตึกฆ่าตัวตาย” เอาไว้ได้สำเร็จ!!
นี่อาจเป็นวิธีการช่วยเหลือ “ไม่ให้คนฆ่าตัวตาย” ในแบบที่เราอาจไม่เคยเห็นกันมาก่อน แต่อาจบอกได้ว่ามันคือวิธีหนึ่งที่สามารถใช้ได้ผลดีจริงๆ ในบางสถานการณ์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2018 มีเหตุการณ์หญิงสาวคนหนึ่งพยายามจะฆ่าตัวตายด้วยการโดดลงมาจากห้องของตัวเอง บริเวณชั้น 3 ของตึกที่พักอาศัยในเมือง Wenzhou มณฑลอานฮุย ประเทศจีน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวคนดังกล่าว พยายามพูดคุยกล่อมให้เธอเปลี่ยนใจอยู่นานกว่า 30 นาทีแต่ก็ไม่สำเร็จ พวกเขาจึงให้คนปีนออกมาจากหน้าต่างห้องข้างๆ และใช้ไม้ดันตัวเธอเข้าไปในห้อง แม้เธอจะถูกดันเข้าไปในห้องแล้ว แต่เธอกลับพยายามที่จะปีนออกมาจากหน้าต่างอีกครั้ง และกำลังจะโดดลงไป ในขณะนั้นเอง พนักงานดับเพลิงที่รออยู่ด้านล่างจึงตัดสินใจใช้ “เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง” ฉีดใส่ร่างของหญิงสาว วิธีการดังกล่าวทำให้เธอถูกแรงน้ำดันกลับเข้าไปภายในห้องได้สำเร็จ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเร่งเข้าไปรั้งตัวเธอเอาไว้ นำตัวเธอส่งโรงพยาบาลเพื่อเช็กอาการบาดเจ็บเบื้องต้นที่อาจได้รับ คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว คลิปที่ถูกถ่ายเอาไว้ได้กลายเป็นที่สนใจของโลกโซเชียล เผยวิธีการช่วยชีวิตคนที่คิดจะฆ่าตัวตาย ซึ่งผลลัพธ์ของมันนั้นก็ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจจริงๆ แหละนะ ที่มา: dailymail , nextshark , weibo
-
ฮีโร่ในชีวิตจริง!! หนุ่มช่วยชีวิตเด็กแบเบาะ คว้าตัวเอาไว้ได้ ในวินาทีที่เด็กตกลงมาจากตึก 10 ชั้น!!
“ฮีโร่” หนุ่มคนนี้อาจไม่ได้มีพลังที่เหนือธรรมชาติ แต่เขามีใจที่กล้าหาญ เข้มแข็ง ไม่หวั่นแม้ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากแค่ไหน จนสามารถช่วยชีวิตของเด็กคนหนึ่งเอาไว้ได้สำเร็จ Artem Karev คือชื่อของฮีโร่หนุ่มวัย 28 ที่เรากำลังพูดถึง เมื่อวินาทีที่เด็กน้อยกำลังจะร่วงลงมาจากตึกชั้น 10 ในตอนนั้นเองที่ชายคนนี้ตัดสินใจยื่นแขนออกไปและคว้าร่างของเด็กไว้ได้สำเร็จ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นช่วงปลายเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา ในเมือง Astana ประเทศคาซัคสถาน เด็กน้อยวัยแบเบาะคนหนึ่งปีนออกมาจากหน้าต่างบริเวณชั้น 10 ของอาคารที่อยู่อาศัย ในตอนที่แม่ของเขาไม่อยู่ในบ้าน ผู้เห็นเหตุการณ์หลายๆ คนต่างส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว เพราะเด็กน้อยอยู่ในท่าที่จะสามารถร่วงลงมาเมื่อไหร่ก็ได้ และคงไม่ต้องบอกว่าหากร่วงลงไปแล้วเด็กคนนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อนั้นเองที่นาย Karev ได้ยินเสียงของหลายๆ คนจนทำให้เขาต้องยื่นหน้าออกไปดูบริเวณหน้าต่าง พอเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นว่ามีเด็กคนหนึ่งกำลังจะร่วงลงมาพอดี Karev เล่าว่าในตอนนั้นเขาพยายามคิดหาทางช่วยที่ดีที่สุด ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด เขาจึงตัดสินใจยื่นมือออกไปรอรับร่างของเด็กที่จะตกลงมาเอาไว้ เขาบอกว่าตนเองรู้สึกกลัวและหวาดเสียวเอามากๆ เพราะนี่คือการตัดสินชีวิตของเด็กคนหนึ่งเลย ถ้าเขาพลาดก็คือจบ แต่แล้วในจังหวะที่เด็กร่วงลงมา Karev ก็สามารถคว้าเอาไว้ได้สำเร็จ ทำให้หลายๆ คนที่เห็นเหตุการณ์นั้นถึงกับโล่งอกกันไป ก่อนที่เด็กจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เช็กอาการดูแล้วไม่พบความผิดปกติหรืออาการบาดเจ็บใดๆ เลย คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ที่มีคนถ่ายเอาไว้ได้…
-
เจ้านายหมั่นไส้ ลูกน้องลางานไป ‘ฮันนีมูน’ เลยแกล้ง ‘ห่อบ้านทั้งหลัง’ ให้กลายเป็นสีชมพู!!
อย่างที่รู้กันดีว่าสำหรับคนที่มีความรัก โลกทั้งใบมักจะกลายเป็นสีชมพู เช่นเดียวกันกับคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันคู่นี้ ที่ขอลางานไปเที่ยวฮันนีมูนกัน แน่นอนว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ทั้งคู่ต่างก็มีความสุข ความรักที่เติมเต็มให้แก่กันทำให้โลกของพวกเขากลายเป็น ‘สีชมพู’ แม้กระทั่ง ‘บ้านและรถ’ ก็กลายเป็นสีชมพูด้วย!? Jenny และ Jonathan Minger กลับมาจากการไปฮันนีมูนที่ประเทศเม็กซิโก และพอถึงบ้านที่อยู่ในเมือง Alsager เขต Cheshire ประเทศอังกฤษ ก็พบว่าบ้านของตัวเองนั้น ‘กลายเป็นสีชมพูทั้งหลัง รวมไปถึงรถด้วย!!’ Jenny กล่าวว่า “เราถึงกับช็อกไปเลย มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากๆ ไม่คิดว่าจะกลับบ้านมาแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ โอ้พระเจ้า!!” กลายเป็นว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการแกล้งในครั้งนี้ก็คือเจ้านายของ Jonathan นั่นเอง รวมไปถึงเพื่อนๆ ของเขาอีกหลายคนที่ให้ความร่วมมือ เนื่องจาก ‘ความหมั่นไส้’ ล้วนๆ “พวกเราใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงในการห่อบ้านของเขาด้วยพลาสติก เราต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะตอนที่เริ่มลงมือ ห่างจากเวลาที่พวกเขาจะกลับมาถึงบ้านอย่างฉิวเฉียดเลยล่ะ” James และภรรยา Dawn Oulton ผู้เป็นเจ้านายของ Jonathan กล่าว Jonathan…
-
สาวเล่า ‘วินาทีชีวิต’ หลังเดินกลับหอพักถูก ‘ชายแปลกหน้า’ เดินตามมาติดๆ ดีที่ไหวตัวทัน!!
บางครั้งการใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายนี้มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิดเสมอไป เรื่องราวของ Alexa หญิงสาวชาวนิวยอร์กวัย 30 ปี ที่ถูกชายแปลกหน้าเดินตามเข้ามาถึง ‘หอพัก’ ในมหาวิทยาลัย University Heights เธอโพสต์เล่าเหตุการณ์วินาทีชีวิตของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “หลังจากลงมาจาก Uber เวลาประมาณตี 3.50 น. ก็เดินเข้าไปที่ล็อบบี้ของหอพักตามปกติ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าตอนนี้ ‘เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว’” เหตุการณ์ตอนที่ Alexa กำลังเดินเข้ามาในล็อบบี้ของหอพัก The following footage is me walking up into my building. You’ll notice a man walk behind me moments later. I did not see or hear him. pic.twitter.com/oxCtNvcstN…
-
ป๋า Arnold โพสต์ภาพ Before & After อวยพรวันเกิด Linda ผ่านมา 34 ปี ที่ร่วมงานด้วยกัน!!
เป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้วที่ภาพยนตร์ชุด Terminator ได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ จนทำให้ Arnold Schwarzenegger กลายเป็นดาราที่ถูกจดจำในฐานะ ‘คนเหล็ก’ มาโดยตลอด และเชื่อเลยว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยผ่านหูผ่านตาหนังเรื่องนี้กันมาไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะภาคสองที่ประสบความสำเร็จดังเปรี้ยงปร้าง กับวลีเด็ดที่เป็นเอกลักษณ์ ที่จู่ๆ Arnold ก็โผล่มาหาสองแม่ลูกตระกูล Connor โดยไม่มีเสื้อผ้าแล้วบอกว่า “เอาเสื้อผ้า รองเท้า มอเตอร์ไซค์ของเอ็งมา แล้วก็ตามตรูมาถ้าหากว่ายังอยากมีชีวิตรอด” ซึ่งตัวเอกในตอนนั้นนอกจากจะมีคนเหล็กที่รับบทโดยป๋า Arnold แล้ว ก็ยังมี John Connor และแม่ของเขา Sarah Connor ซึ่งรับบทโดย Linda Hamilton โดยเฉพาะฝ่ายแม่นี่ขอบอกเลยว่าบู๊ระห่ำได้ใจจริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาทำงานด้วยกันก็ตั้งแต่ปี 1984 จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมากว่า 34 ปีแล้ว!! และในวันที่ 27 กันยายน ถือเป็นวันครบรอบวันเกิดของ Linda ป๋า Arnold ก็เลยโพสต์ภาพ Before & After ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำงานด้วยกัน…
-
คุณครูถูกไล่ออก หลังแจก 0 ให้เด็กไม่ส่งงาน ขัดกับนโยบายโรงเรียนคุณภาพ ‘ห้ามให้ 0’
ถ้าเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นกับตัวคุณเอง จะจัดการปัญหา ‘เด็กไม่ยอมส่งงาน’ อย่างไร เมื่อถึงเวลาที่จะต้องตัดเกรดส่งให้กับทางโรงเรียน เลือกที่จะให้ 0 หรือปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ ซึ่งกรณีแบบนี้เกิดขึ้นกับคุณครู Diana Tirado หลังจากที่มอบหมายงานในชั้นเรียนให้กับนักเรียนภายใต้การดูแล แต่กลับกลายเป็นว่ามีเด็กหลายคน ‘ไม่ยอมส่งงาน’ เธอจึงตัดสินใจให้ 0 ไป แต่กลับส่งผลทำให้เธอถูกไล่ออกจากงาน… คุณครู Diana Tirado Diana เป็นคุณครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ ชั้นเกรด 8 (เทียบเท่า ม.2) ของโรงเรียน West Gate ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่เธอได้มอบหมายงานให้นักเรียนทำรายงานมาส่ง ซึ่งเป็นชิ้นงานสำคัญจะมีส่วนในการตัดเกรดปลายเทอม ผลปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดส่งงาน เด็กนักเรียนจำนวนหลายคนไม่มีงานส่ง เธอจึงตัดเกรดให้ 0 คือหมายความว่าตกวิชาประวัติศาสตร์ไปในเทอมนี้ และทางโรงเรียนได้ทราบเรื่องการตัดเกรด 0 ของเธอ ทำให้เธอถูกไล่ออกจากการทำหน้าที่เป็นครู เนื่องจากขัดกับนโยบายไร้ 0 ของทางโรงเรียน ซึ่งปรากฏอยู่ในหนังสือคู่มือของนักเรียนและผู้ปกครอง เน้นเป็นตัวสีแดงชัดเจนว่า ‘ห้ามมี…
-
สถานีโทรทัศน์สวีเดนแถลงขอโทษ กรณีเผยแพร่เนื้อหาเหยียด และล้อเลียนพฤติกรรมชาวจีน
หลังจากที่เกิดเป็นประเด็นใหญ่โต เมื่อรายการโทรทัศน์สัญชาติสวีเดน ได้ทำการเผยแพร่เนื้อหาล้อเลียนพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยมองว่าเป็นเพียงตลกขำขันเท่านั้น แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับชาวจีนเป็นจำนวนมาก (อ่านข่าวเก่า : รายการทีวีสวีเดน กล่าวและล้อพฤติกรรมแย่ๆ ของ ‘คนจีน’ เหมารวมเหยียดไปทั้งแผ่นดิน!) รายการทีวี Svenska Nyheter ออกอากาศภายในประเทศสวีเดน และถูกนำไปเผยแพร่ผ่าน YouKu และ Weibo แพลทฟอร์มโซเชียลของจีน ภายในวิดีโอของรายการนั้น มีพิธีกรหญิงได้ออกมากล่าวถึงพฤติกรรมที่ไม่ควรทำของชาวจีน (พากย์ทับเป็นเสียงภาษาจีน) ออกมาเป็นเชิงมุกตลกล้อเลียนมากกว่า แต่ชาวจีนกลับรู้สึกไม่พอใจเนื่องจากเป็นการเหยียดและเหมารวมชาวจีนทั้งหมด… ปัญหาดังกล่าวรุนแรงเพิ่มมากยิ่งขึ้น ถึงขั้นแรปเปอร์จีนทำเพลงประชดประเทศสวีเดนด้วย ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวได้รายงานว่า ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์แห่งชาติสวีเดน (SVT) ได้ออกมาแถลงขอโทษแล้ว หลังจากที่เนื้อหาในรายการดังกล่าวมุ่งไปที่นักท่องเที่ยวชาวจีนในประเด็นเสียดสีประชดประชัน และการเหยียดเชื้อชาติ นายมิคเก้ ลินด์เกรน ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ เข้าร่วมพูดคุยกับตัวแทนชุมชนจีนในสวีเดน โดยยอมรับว่าทางสถานีไม่ได้คำนึงถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมและทำร้ายความรู้สึกบุคคลอื่น ‘โดยเฉพาะกับลูกหลานชาวจีนที่พลัดถิ่นฐานมาจากแผ่นดินใหญ่’ “เรารู้สึกเสียใจกับเรื่องดังกล่าว สิ่งที่เราตั้งใจจะสื่อคือหยอกล้อชาวสวีเดนที่มีอคติกับชาวจีน…
-
ชายผู้ “ร่วมรัก” กับผู้หญิงมามากกว่า 6,000 คน สิ้นใจด้วยวัย 63 ปี ในขณะที่กำลังมีเซ็กส์อยู่
นี่คือข่าวของชายที่ไม่รู้ว่าควรจะจำกัดความเขาว่าอย่างไรดี จะบอกว่าเป็น “นักรัก” ก็คงไม่ใช่ เพราะถ้าจะเรียกให้ถูกจริงๆ คงต้องบอกว่าเขาเป็น “นักร่วมรัก” ซะมากกว่า Maurizio Zanfanti คือชายหนุ่มผู้ได้ฉายาว่า “สุดยอดเพลย์บอยแห่งอิตาลี” ถูกขนานนามว่าเป็นถึง “โรมิโอแห่งเมืองริมินี” ด้วยสถิติเคยมีอะไรกับผู้หญิงมาแล้วมากกว่า 6,000 คน Maurizio “นักร่วมรัก” ชาวอิตาลีผู้เลื่องชื่อ ความโด่งดังมีชื่อเสียงแบบเปรี้ยงปร้างของเขานั้น เริ่มมาตั้งแต่สมัยที่เขาเปิดร้านเหล้าเป็นของตัวเองในช่วง 1970s ตอนนั้นเขาอายุเพียงแค่ 17 ปี แต่ด้วยความที่ร้านติดริมชายหาดจึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากการคลุกคลีอยู่กับร้านเหล้าของตัวเองที่ชื่อว่า Blow Up จึงไม่แปลกที่เขาจะได้พบปะผู้คนมากมาย ได้พูดคุยกับหญิงสาวทั้งในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจากต่างแดน Maurizio เคยเล่าเอาไว้ว่าช่วงฤดูร้อนของแต่ละปี (ไฮซีซั่น) เขาจะมีอะไรกับผู้หญิงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200 คน โดยสถิติสูงสุดที่เขาทำเอาไว้คือ 207 คน (เวลาแค่ประมาณ 3-4 เดือน ยิ่งกว่าวันละคนอีกนะ) เขาเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ในปี 2016 ว่า “ผมคิดว่าตัวผมเองสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีกว่าบริษัทเอเจนซี่หลายร้อยบริษัทภายในเมืองนี้ซะอีก” …
-
คิดว่าโดนสาววัย 19 เรียกว่า “หมา” เลยลักพาตัวเธอไปทรมาน แล้วจับโยนลงสะพาน
Kayla Kendrigen คือหญิงสาววัย 19 ปีผู้เกิดมาพร้อมกับความพิการ ไม่มีมือข้างซ้าย อาศัยอยู่ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กับครอบครัวของเธอ จนกระทั่งในคืนวันที่ 22 กันยายน 2018 ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับหญิงสาวคนนี้ เมื่อจู่ๆ เธอถูกวัยรุ่น 4 คนลักพาตัว พาเธอไปทรมานอย่างแสนสาหัส ก่อนที่จะจับเธอโยนลงสะพานสูง 20 เมตร Kayla เหยื่อสาววัย 19 ปี จากการบอกเล่าและคลิปที่ผู้ก่อเหตุได้ถ่ายเอาไว้ เผยให้เห็นว่าในช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่งขอวันนั้น Kayla ถูกกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงบังคับให้ขึ้นไปบนรถ เมื่อหญิงสาวปฏิเสธ เธอจึงถูกอุ้มเข้าไปไว้ที่กระโปรงหลังของรถ แล้ววัยรุ่นกลุ่มนั้นก็ขับรถออกไปจากจุดเกิดเหตุ ไกลออกไปกว่า 64 กิโลเมตร เข้าไปในบ้านหลังหนึ่งที่เมือง Whalan ภาพจากคลิปที่ผู้ต้องหาถ่ายเอาไว้ เมื่อไปถึงที่หมาย Kayla ก็ถูกจับมัดติดกับเก้าอี้ ถูกฟาดด้วยสายชาร์จไอโฟน ถูกตีด้วยไม้ ศีรษะและใบหน้าถูกเผาอย่างโหดเหี้ยม และมีการใช้มีดแทงเข้าไปที่ขาของเธออย่างน้อย 2 ครั้ง เธอถูกทรมานอยู่อย่างนั้นนานกว่า…
-
ดราม่าวงการแฟชั่น ‘Moschino’ ถูกดีไซเนอร์กล่าวหาว่าก๊อบปี้ผลงาน จริงเหรอ?
เป็นเรื่องเด่นเรื่องดังแห่งวงการแฟชั่นไปเลยตอนนี้ กับการที่แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอย่าง Moschino ถูกกล่าวหาว่าก๊อบปี้ผลงานของดีไซเนอร์สาวที่ชื่อว่า Edda Gimnes หลังจากที่ทาง Moshino ได้มีการเปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากชาวเน็ตได้ไปไม่น้อยเลย การเปิดตัวเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจาก Moshino เรื่องที่กลายเป็นประเด็นร้อนในครั้งนี้ก็คือ ดีไซเนอร์สาว Edda Gimnes ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กต่อว่าแบรนด์ Moschino ว่ามีการก๊อปปี้ผลงานของเธอไปใช้ในคอลเลคชั่นล่าสุด “วันนี้ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความผิดหวังสุดๆ และได้รับอินบ็อกซ์ข้อความจากผู้คนมากมายที่รู้จักผลงานของฉันและได้เห็นคอลเลคชั่นของ Moshino ในเมื่อวานนี้ ฉันเข้าใจว่า เราอยู่ในอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาแรงบันดาลใจซึ่งกันและกัน ดังคำที่กล่าวไว้ว่า การลอกเลียนแบบคือคำสรรเสริญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” “แต่มันน่าท้อแท้ที่ได้เห็นภาพนี้ หลังจากที่ได้พบเจอคนจาก Moshino ที่นิวยอร์กเมื่อเดือนพฤศจิกาปีที่แล้ว ฉันได้แสดงผลงานของฉันทั้งหมดให้เขาดู รวมถึงต้นฉบับการออกแบบและไอเดียต่างๆ พอได้เห็นสิ่งที่ Moschino ทำเมื่อวานนี้แล้วฉันรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดที่มีใครบางคนใช้คอลเลคชั่น SS16 และ SS17 ของฉันเป็นแรงบันดาลใจ แถมยังไม่ให้เครดิตอีกด้วย” และเธอยังแนบรูปภาพผลงานของเธอเองเปรียบเทียบกับเสื้อผ้าคอลเลคชั่นล่าสุดของ Moschino มาด้วย (ผลงานของเธออยู่ด้านซ้าย ของ Moschino อยู่ด้านขวา) . . . …
-
พ่อใจโหดคว้ามีด บุกแทงเด็กนักเรียนชายดับคาโรงเรียน เหตุแกล้งลูกสาวจนบาดเจ็บที่ดวงตา…
* เนื้อหาข่าวมีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน * เกิดเป็นเหตุสลดภายในประเทศจีน จากเหตุการถูกกลั่นแกล้งภายในโรงเรียน สู่การสูญเสียชีวิตของเด็กโดยมีผู้ก่อเหตุเป็นพ่อที่ยอมไม่ได้กับการที่ลูกสาวถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตา… ชายวัย 36 ปีถูกจับกุม ณ จุดเกิดเหตุในห้องน้ำของโรงเรียนประถม Longshan Experimental Primary School มณฑลเจ้อเจียง ในช่วงวันศุกร์ของช่วงสัปดาห์ที่แล้ว (21 กันยายน 2018) เขาได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้เดินทางมายังโรงเรียนแห่งนี้พร้อมกับมีดปอกผลไม้เพื่อตามหาเด็กชายรายหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับลูกสาวหลังจากทราบว่า ถูกเด็กชายกลั่นแกล้งจนได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาระหว่างเรียน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ พบกับร่างของเด็กนักเรียนชายนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น โดยมีพ่อผู้ก่อเหตุนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างๆ พร้อมกับมีดปอกผลไม้เป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเด็กชายไปยังโรงพยาบาล พบบาดแผลถูกมีดแทงหลายแห่งและรอยมีดปาดบริเวณคอ ผลสุดท้ายแล้วเด็กชายก็เสียชีวิตลง ทางด้านพ่อของเด็กชายผู้เสียชีวิต Ye Wanhuan กล่าวขอร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชายของตน เนื่องจากยอมรับไม่ได้กับการกระทำเกินกว่าเหตุของพ่อคู่กรณี “ความหวังเดียวของผม คืออยากให้กฎหมายลงโทษฆาตกรรายนี้ให้สาสม ลูกของผมตายอย่างไม่เป็นธรรม” นาย Ye กล่าวกับสื่อท้องถิ่น โดยที่ไม่อยากเชื่อว่าเหตุเล็กน้อยในโรงเรียนจะกลายมาเป็นการฆาตกรรม …
-
หมอพยาบาลเกือบ 30 คน ช่วยทำ CPR ให้เด็กวัย 8 ขวบ นาน 5 ชั่วโมง จนต่อชีวิตเขาได้สำเร็จ
เป็นอีกเรื่องราวดีๆ กับความพยายามอย่างสุดความสามารถของแพทย์และพยาบาล เพื่อช่วยชีวิตเด็กวัย 8 ขวบ ให้รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด Xiao Yu คือเด็กชายคนดังกล่าวที่เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ก่อนที่พ่อแม่ของเขาจะรีบส่งตัวไปโรงพยาบาล Changzhou Municipal Children’s Hospital เมืองฉางโจว ประเทศจีน แพทย์บอกว่าอาการของเด็กนั้นทรุดตัวลงเรื่อยๆ จำเป็นที่จะต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในนครเซี่ยงไฮ้ เพราะว่าโรงพยาบาลในเมืองใหญ่นั้นจะมีอุปกรณ์ที่ครบกว่าและดีกว่านี้ Xiao Yu จะต้องได้รับการรักษาที่เรียกว่า ECMO ซึ่งเป็นขั้นตอนพิเศษสำหรับแทนที่การของหัวใจและปอดในเวลาที่อวัยวะอ่อนแอเกินไป ในขณะที่ทีมแพทย์วางแผนทุกอย่างเอาไว้ รอส่งตัวเด็กไปรักษาในเมืองใหญ่ จู่ๆ อาการของเขาก็ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ก่อน (17-23 ก.ย. 2018) ความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็ว หัวใจหยุดเต้นไปในทันที ซึ่งนั่นอาจเป็นผลมาจากการอักเสบของหัวใจ หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ในวันที่ 20 กันยายน 2018 แพทย์และพยาบาลเกือบ 30 คนจึงจำเป็นที่จะต้องต่อแถวกันทำ CPR ให้กับเด็กชายคนนี้ พยายามกระตุ้นหัวใจของเด็กกว่า 30,000 ครั้ง ต่อเนื่องกันนานกว่า 5 ชั่วโมง …
-
มันได้จริงๆ หรือ?! เมื่อแม่นั่งยิ้ม ปล่อยให้ลูกชายวัย 9 ขวบ “สักแขน” ทำเป็นเรื่องปกติ
เพื่อนๆ หลายคนอาจต้องการมี “รอยสัก” คิดเอาไว้ว่าเมื่อโตขึ้นไปเป็นวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ ก็อยากจะทำตามความต้องการนั้นๆ ของตัวเอง แต่เด็กชายวัย 10 ขวบคนนี้เลือกที่จะไม่รอให้ตัวเองโตก่อนและลงมือทำมันซะเลย คลิปของเด็กชายคนดังกล่าวได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากเผยให้เห็นเขากำลังนั่งอยู่บนตักของคนเป็นแม่ ในขณะที่ช่างสักก็กำลังสักลงไปบนแขนของเขา ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Storm Harrington ได้โพสต์คลิปดังกล่าวและแคปชั่นว่า “Skylar อายุเท่าไหร่เอง แค่ 9 ป่ะ? เขาไม่โตพอที่จะรู้ความต้องการหรือตัดสินใจอะไรแบบนี้ เธอคือพ่อแม่ที่ทำตัวได้ไร้ค่ามากจริงๆ !!! ” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา แล้วคลิปดังกล่าวก็ได้กลายเป็นเรื่องที่ถูกต่อว่าอย่างหนักในโลกโซเชียล มองว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกับเด็กวัยเพียงเท่านี้ “เรื่องบ้าๆ นี่มันผิดกฎหมายเห็นๆ” “น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ” “มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลยนะ” คลิปที่ถูกถ่ายเอาไว้ในวันที่ 24 ก.ย. 2018 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ได้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงเดินทางไปยังบ้านของสองแม่ลูกที่เราเห็นกันในคลิป ซึ่งเป็นตอนกลางคืนของวันที่คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊ก จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า “เด็กชายเป็นคนบอกเองว่าเขาต้องการมีรอยสัก แม่ของเขาจึงยอมให้สัก” โดยตามกฎหมายของรัฐโอไฮโอแล้ว เด็กอายุต่ำกว่า 18…
-
โผล่อีกแล้ว สิงคโปร์จัด Parody ‘นายฮ้อยชวนชิม’ แต่รอบนี้ชาวเน็ตไม่ขำด้วย!?
ขอบอกเลยว่าดังจนฉุดไม่อยู่จริงๆ กับ ‘นายฮ้อยซาลาห์และล่ามส่วนตัว’ หลังจากที่โด่งดังจนถึงกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ‘มาเลเซีย’ เอาไปทำเป็นคลิปวิดีโอ Parody ไปแล้วเมื่อช่วงต้นเดือน ล่าสุดก็โผล่มาอีกคลิปหนึ่ง แต่คราวนี้เป็นของประเทศ ‘สิงคโปร์’ ที่ทำคลิปวิดีโอแบบ Parody ของช่วง ‘นายฮ้อยชวนชิม’ ที่กำลังฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองไทย แต่รอบนี้กลับกลายเป็นว่า ชาวเน็ตไม่ขำด้วย!? เรื่องมีอยู่ว่าเพจเฟซบุ๊ก SingaporeBeauty ได้ทำการอัปโหลดคลิปวิดีโอรีวิวร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ทะเลในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งทำเป็น Parody ของช่วงนายฮ้อยชวนชิมอันโด่งดังของเว็บไซต์ Wongnai ในคลิปวิดีโอก็จะมี คู่หู 2 คน (เพิ่มหญิงมาอีก 1) เป็นคนมานั่งรีวิวร้านอาหาร ท่าทางขึงขังและเงียบงัน เหมือนกับนายฮ้อย+ล่าม ไม่มีผิด . มีทั้งท่าตบโต๊ะ ตัดซีนไปที่ฉากฟินๆ แบบสโลว์โมชัน พร้อมกับเปลี่ยนทำนองเพลง เวรี่กู้ด ลองไปชมคลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แต่รอบนี้แทนที่ชาวเน็ตจะขำและตลกกับคลิป Parody นี้ กลับกลายเป็นว่ามันไม่ขำซะงั้น และมีชาวเน็ตที่เป็นคนไทยมากมายที่เข้าคอมเมนต์ด่าทอในเพจดังกล่าวว่า ‘ขี้ก๊อบ’ “ก๊อบปี้จาก wongnai…
-
นักศึกษา 500 คนถึงกับเหวอ พากันเดินออกห้องเรียน หลังอาจารย์เปิด “หนังโป๊” ขึ้นจอใหญ่!!
เชื่อว่าสมัยเรียนของใครหลายๆ คนอาจต้องเคยเจอกับความผิดพลาดบางอย่าง เช่น อาจารย์ของเราอาจเผลอเปิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา ไม่ตรงกับสิ่งที่กำลังสอนอยู่ เช่นเดียวกับอาจารย์วิชาจิตวิทยาเบื้องต้น ในมหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา ระหว่างที่กำลังสอนนักศึกษาราวๆ 500 คน จู่ๆ เขาก็ดันเปิด “หนังโป๊สุดฮาร์ดคอร์” ขึ้นจอโปรเจกเตอร์ซะอย่างนั้น!! สิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.ย. 2018 นักศึกษาจำนวนมากถึงกับช็อกไปเลยทีเดียว งงว่าเรียนเรื่องจิตวิทยาอยู่ๆ ดีดันมีคลิปอะไรแบบนี้มาให้ดูได้อย่างไร หลายๆ คนถึงกับส่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสนุกสนาน ตลกกับสิ่งที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในขณะที่บางคนไม่โอเคกับเรื่องนี้ เก็บของใส่กระเป๋าและเดินออกไปจากห้องเรียนในทันที คลิปจากนักศึกษาคนหนึ่ง ถ่ายและอัพลงโซเชียลมีเดีย ทางมหาวิทยาลัยบอกว่าพวกเขาไม่อาจถกเถียงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยหากนักเรียนคนไหนไม่โอเคจริงๆ ก็สามารถเข้าไปปรึกษาพูดคุยกับทางศูนย์สุขภาพของทางมหาลัยได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดก็ได้ เมื่อมีผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งออกมาบอกว่าเขาเคยเรียนกับอาจารย์คนนี้มาก่อนในปี 2008 โดยอาจารย์ได้ใช้วิธีเดียวกันเพื่อแกล้งนักเรียนเล่นขำๆ ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจสรุปว่าสิ่งนี้เกิดจากความตั้งใจได้ แล้วเพื่อนๆ ล่ะมีเรื่องอะไรในลักษณะนี้มาเล่าสู่กันฟังบ้างหรือเปล่า ลองเอามาแชร์กันดูก็ได้นะ ที่มา: thesun , ladbible , toronto.citynews
-
หนุ่มงง…พายเรือเล่นอยู่ดีๆ จู่ๆ ‘อุ๋ง’ ก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ แล้วเอา ‘หมึก’ ตบหน้าดังผั๊วะ!!
สำหรับใครที่คิดว่า ‘เจ้าอุ๋ง’ เป็นสัตว์ที่มีความน่ารักแล้วล่ะก็ หากได้อ่านบทความต่อไปนี้แล้ว ความคิดของคุณอาจจะเปลี่ยนไปก็เป็นได้ เมื่อนักท่องเที่ยวรายหนึ่งถูก ‘แมวน้ำ’ กระโจนจากในน้ำแล้วก็เอา ‘หมึก’ ตบหน้าเขาอย่างเกรี้ยวกราด ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย!? เรื่องมีอยู่ว่านาย Taiyo Matsuda นักท่องเที่ยว กำลังพายเรือคายัคชมความงดงามของท้องทะเล ที่อ่าว Kaikoura บนเกาะทางใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ ขณะที่กำลังพายเรืออยู่นั้นเขาก็สวมกล้อง GoPro เพื่อบันทึกความประทับใจนี้เอาไว้ แต่ใครจะไปรู้เล่าว่า นาย Kyle Mulinder เพื่อนร่วมทริปที่มาด้วยกัน จะถูกแมวน้ำกระโดดขึ้นมา เพื่อเอา ‘หมึก’ ตบหน้าของเขาอย่างเกรี้ยวกราด และเหตุการณ์นี้ก็ถูกบันทึกเอาไว้อย่างถูกที่ถูกเวลา!! ผั๊วะ!! เข้าให้ “เรากำลังนั่งอยู่บนเรือกลางมหาสมุทร และจู่ๆ เจ้าแมวน้ำตัวผู้ตัวนี้ก็โผล่เข้ามา พร้อมกับคาบหมึกไว้ในปาก ก่อนที่จะกระโดดเอามันมาตบหน้าเพื่อนของผมราวกับว่ามีความแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน” Taiyo เล่า “ตอนนั้นผมรู้สึกแบบว่า ‘เฮ้ เพื่อน มันเกิดอะไรขึ้นกันฟร๊ะ!?’ มันแปลกมากๆ เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเหลือเกิน แต่อย่างเดียวที่ผมรู้สึกได้คือ เหมือนมีส่วนแข็งๆ ของหมึกกระแทกมาที่หน้าของผม…
-
สนามบินทุ่มงบ 52 ล้านบาท ใช้ ‘หมา’ ตรวจจับสิ่งผิดกฎหมาย แต่มันพบแค่ไส้กรอกเท่านั้น!?
ปัจจุบันมีองค์กรต่างๆ มากหมายที่หันมาใช้ ‘สุนัข’ เพื่อทำงานที่เกี่ยวข้องกับ ‘อาชญากรรม’ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือแม้แต่ ‘สนามบิน’ เองก็ใช้สุนัขในการดมกลิ่นเพื่อตรวจจับ ‘วัตถุผิดกฎหมาย’ ไม่ให้ถูกนำเข้ามาในประเทศ และที่สนามบิน Manchester เองก็ทุ่มงบประมาณกว่า 1.25 ล้านปอนด์หรือราวๆ 52.5 ล้านบาท เพื่อใช้เจ้าหมามาตรวจจับสิ่งของผิดกฎหมายในด่านตรวจคนเข้าเมือง แน่นอนว่าจำนวนเงินมหาศาลนี้ไม่ได้เป็นเพราะค่าตัวของพวกมัน แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่รวมเบ็ดเสร็จทั้งหมด คือการจ้างเจ้าหน้าที่ในการฝึกพวกมัน อาหารการกิน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานร่วมกับพวกมัน ด้วยราคาที่แพงขนาดนี้ แต่แลกกับการที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมได้ ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าไม่เบา แต่กลับกลายเป็นว่า ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการนี้ไปได้ 7 เดือน เจ้าหมากลับไม่สามารถตรวจพบยาเสพติด หรือวัตถุผิดกฎหมายได้เลยแม้แต่น้อย จากรายงานของหัวหน้าหน่วยตรวจคนเข้าเมือง ได้กล่าวว่า “แม้ว่าเจ้าหมาทั้งหลายจะทำการตรวจจับวัตถุต่างๆ ได้ แต่มันก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับ กลยุทธ์การควบคุมสิ่งผิดกฎหมาย เท่าไหร่นัก” “ทั้งเฮโรอีน โคเคน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งผิดกฎหมายที่ถูกขนส่งกันผ่านทางการโดยสารโดยเครื่องบินแทบทั้งสิ้น แต่จากข้อมูลที่ได้บันทึกเอาไว้ในศูนย์ตรวจคนเข้าเมือง ก็ยังไม่มีการรายงานว่าพวกมันค้นพบยาเสพติดได้เลยตลอดระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา” จากรายงานระบุเอาไว้ว่าสิ่งที่มันพบเป็นส่วนใหญ่มีเพียงแค่…
-
นักท่องเที่ยวจีน ‘ถ่ายรูปหงส์ไม่ทัน’ เลยเอามือคว้าคอบีบเอาไว้ กลายเป็นดราม่าใหญ่โต
มักจะเป็นสิ่งที่ถูกนำเอามาพูดถึงกันอยู่ตลอดบนโลกออนไลน์ ด้วยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะออกไปในทาง ‘ชื่อเสีย’ มากกว่า ‘ชื่อเสียง’ ตั้งแต่มารยาทการพูดจา ไปจนถึงพฤติกรรมแย่ๆ ในการมาเที่ยวต่างประเทศ ถ้าหากว่าเกิดขึ้นกับคนว่าแย่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับสัตว์อาจจะทำให้รู้สึกแย่มากกว่า เนื่องจากธรรมชาติของสัตว์สมควรแล้วหรือไม่ที่จะถูกกระทำแบบนี้? คลิปวิดีโอดังกล่าว ถูกเผยแพร่และส่งต่อกันอย่างมากในโซเชียลจีนในช่วงวันอังคารที่ผ่านมา เผยให้เห็นเป็นภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่ง ในขณะท่องเที่ยวในบริเวณสวนสาธารณะ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยนักท่องเที่ยวหญิงสองรายนั้น พยายามหลอกล่อหงส์ด้วยกระดาษเช็ดปาด ก่อนที่หญิงอีกรายจะเดินขยับไปหามุมเพื่อถ่ายภาพหงส์ตัวนี้ แต่ด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาที หงส์ได้คว้ากระดาษเช็ดปากออกจากมืออย่างรวดเร็ว ทำให้นักท่องเที่ยวหญิงในเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงินไม่พอใจ คว้ากระชากคอหงส์พยายามจะเอากระดาษออก ทางด้านสื่อจีนรายงานว่า ที่เธอทำลงไปนั้นเป็นเพราะยังไม่ทันได้ถ่ายรูป เพราะหลังจากที่หงส์คาบกระดาษเช็ดปากไป นักท่องเที่ยวด้านหลังพูดเป็นภาษาจีนว่า ‘ถ่ายรูปไม่ทัน’ อีกทั้งยังมีป้ายคำเตือนเป็นภาษาอังกฤษพร้อมกับภาพหงส์กำชับไว้ว่า ‘กรุณาอย่าให้อาหารพวกเรา’ อย่างเห็นได้ชัดในคลิป ภาพการกระทำของนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนี้ ทำให้ชาวเน็ตจีนรู้สึกขยะแขยงอย่างรุนแรง เพราะเป็นการสร้างภาพลักษณ์แย่ๆ ให้กับชาวจีนเมื่อออกไปเที่ยวต่างประเทศ “คนพวกนี้ควรลงบัญชีดำเอาไว้ ห้ามไม่ให้ออกนอกประเทศหรือกลับเข้ามาอีก โครตน่าละอายเลย” หนึ่งในความคิดเห็นใต้คลิปวิดีโอบนเว็บไซต์จีน ชาวเน็ตบางส่วนกลับออกมาปกป้องนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เนื่องจากว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจทำร้ายมัน และ ‘เห็นได้ชัดว่า’ พยายามจะช่วยไม่ให้มันกลืนกระดาษเช็ดปาก ที่มา: sina, shanghai.ist
-
Meghan Markle ปิดประตูรถด้วยตัวเอง แค่ปึ้งเดียว คนออกมาชื่นชมไปทั่วอินเตอร์เน็ต
ในช่วงต้นถึงกลางปีที่ผ่านมานี้ ได้มีข่าวใหญ่เกิดขึ้นอย่างมากมายในโลก แต่ถ้าให้เรายกตัวอย่างข่าวที่เป็นที่ฮือฮากันจริงๆ ก็คงไม่พ้นพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชาย Harry แห่งราชวงศ์อังกฤษกับ Meghan Markle นักแสดงและนางแบบสาวชาวอเมริกันอย่างแน่นอน การที่ Meghan ได้เข้ามาส่วนหนึ่งของราชวงศ์อังกฤษ หลายๆ คนคงคิดว่าชีวิตเธอคงเต็มไปด้วยความหรูหรา แทบจะไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเองหรือไปที่ไหนก็มีคนรับใช้คอยทำให้ตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้วเธอก็ยังคงเป็นผู้หญิงคนเก่าคนเดิม คนที่เป็นผู้หญิงธรรมดาอยู่ อย่างในคลิปที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันข้างล่างนี้ เธอก็ปิดประตูรถเองโดยไม่ต้องรอให้ใครมาปิดให้วุ่นวายและนั่นก็ทำให้ชาวเน็ตมากมายรู้สึกชื่นชมท่าทีของเธอ วิดีโอดังกล่าวถูกบันทึกในวันที่ Meghan ออกงานด้วยตัวคนเดียวเป็นครั้งแรกหลังจากที่แต่งเข้าราชวงศ์อังกฤษ รถของเธอได้มาถึงราชบัณฑิตยสถานศิลปะในกรุงลอนดอน ประตูรถของเธอถูกเปิดออกและเธอก็เดินลงมาจากรถเพื่อทักทายกับเจ้าภาพงานของเธอ และทันใดนั้นเองเธอก็ใช้มือของเธอปิดประตูรถเอง ซึ่งดูแล้วก็อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้มีอะไรมาก แต่เพียงแค่วินาทีเดียวในเหตุการณ์นี้ ก็ได้ส่งเสริมภาพลักษณ์ของเธอเป็นอย่างมาก ชาวเน็ตที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียกันอย่างมากมาย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้เห็นเจ้าหญิงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ปิดประตูรถเอง… First time I've seen an on-duty princess shut her own car door… https://t.co/5Mg9TOi6lo — Christopher Wilson (@TheWislon) September 25, 2018…
-
ผุดหลุมศพ ‘ไอโฟนยักษ์’ กลางสุสาน รายละเอียดเป๊ะทุกอย่าง คาดว่าชอบหนักมาก!
การเสียชีวิตที่โลกจะจดจำได้ คงจะต้องทิ้งทวนอะไรไว้ให้คนอื่นได้รู้สึกแปลกใจ ตัวอย่างของสาวชาวรัสเซียรายนี้ ที่จู่ๆ กได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ประจำสุสานไปซะแล้ว ป้ายหลุมศพขนาดยักษ์ใหญ่ทรงโทรศัพท์ไอโฟน เป็นของนาง Rita Shameeva วัย 25 ปี ที่ถูกฝังเอาไว้ในสุสาน Yuzhnoye บริเวณเมือง Ufa ของประเทศรัสเซีย จากรายงานของสื่อท้องถื่นกล่าวว่า ป้ายหลุมศพหินบะซอลต์สีดำดังกล่าว ถูกสั่งให้จัดทำและติดตั้งโดยนาย Rais Shameev หลังจากที่เขาสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไปในปี 2016 โดยไม่ระบุสาเหตุ ทั้งนี้ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับป้ายหลุมศพนี้ด้วย ด้านช่างหินท้องถิ่น Ilgam Galliulin ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนรับงานและออกแบบงานชิ้นนี้ “ผมกับพ่อรับทำอนุสรณ์รำลึกตามสั่ง แต่สำหรับงานชิ้นนี้ผมเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก” ญาติของผู้ตาย Nikolay Yevdokimov ก็งงเหมือนกัน หลังจากที่แวะมาเคารพศพกลับพบป้ายหลุมศพไอโฟนนี้อยู่ด้วย “ฉันคิดว่าฉันเห็นภาพหลอนซะอีก สมาร์ทโฟนอเมริกันมาโผล่อยู่ในสุสานได้ยังไง แถมยังอันเบ้อเร้อด้วย พอเข้ามาดูใกล้ๆ ก็ตกใจเหมือนกัน เพราะเห็นป้ายหลุมศพมามากมาย มีแต่อันนี้นี่แหละมาเป็นทรงไอโฟนชิ้นแรก” มีแถบคิวอาร์โค้ดให้ด้วยนะ ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเป็นผลงานของดีไซน์เนอร์…
-
มาเลเซียเริ่มพิจารณา ร่างกฎหมาย ‘กัญชา’ เพื่อใช้ทางการแพทย์ เป็นที่แรกในเอเชีย
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเสรีกัญชา มักจะเห็นได้จากฝั่งตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งล่าสุดแอฟริกาใต้ก็ได้ผ่านกฎหมายปลดล็อคกัญชาไปแล้ว ให้สามารถครอบครองและใช้ได้เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ในส่วนของประเทศไทยเราเอง ก็มีความเคลื่อนไหวในเรื่องของการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ แต่ทว่าตอนนี้มีอีกหนึ่งประเทศใกล้เคียงที่เล็งผลักดันปลดล็อคกัญชา เพื่อเป็นที่แรกในเอเชียเช่นเดียวกันด้วย โดยภายหลังจากที่ศาลมาเลเซียมีคำสั่งตัดสินประหารชีวิต Muhamad Lukman วัย 29 ปี ผู้ครอบครองและจำหน่ายสารสกัดน้ำมันกัญชา เพื่อใช้บรรเทาและรักษาอาการเจ็บปวด เกิดเป็นข้อถกเถียงในสังคมมาเลเซีย ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายกัญชา เนื่องจากจุดประสงค์ของชายคนนี้ ไม่ได้นำมาใช้เสพ แต่เพื่อรักษาชีวิตผู้อื่นด้วยสิ่งที่ถูกระบุให้เป็นยาเสพติด Muhamad Lukman ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมาเลเซียได้ทำการเปิดสภาถกเถียงในประเด็นดังกล่าวเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อหามูลค่าทางการแพทย์ของกัญชา โดยที่ยังไม่ได้ตั้งขึ้นมาเป็นประเด็นหลักในการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย Xavier Jayakumar รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำ ที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติมาเลเซีย Xavier Jayakumar รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำ ที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติ ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg ว่า… “กฎหมายกัญชาเริ่มเปลี่ยนแปลงในหลายประเทศแล้ว รวมถึงบางรัฐในสหรัฐอเมริกา ถ้าหากว่าจะนำมาใช้ในจุดประสงค์ทางการแพทย์ ก็เห็นควรว่าสามารถนำมาใช้ได้ แต่ไม่ใช่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม” Mahathir Mohamad นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แม้แต่นาย Mahathir Mohamad นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย…
-
โลกไม่ได้สวยงามเสมอไป…เด็กชาย ‘ดาวน์ซินโดรม’ ถูกโค้ชแบนไม่ให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์
บางครั้งโลกของเรามันก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป… เมื่อเด็กชายชั้นไฮสคูลที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม ถูกโรงเรียน ‘แบน’ ออกจากการเป็น ‘เชียร์ลีดเดอร์’ ทั้งๆ ที่เขาซ้อมกับทีมมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์!! Glenn Wilson ถูกแบนออกจากทีมเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน West High School ที่อยู่ในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาร่วมกันฝึกซ้อมกับเพื่อนๆ ในทีมเชียร์ลีดเดอร์มาโดยตลอด จนสามารถขยับร่างกายตามจังหวะ และเข้ากันได้ดีกับทีมแล้ว ทางครอบครัวเองก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะมันคือสิ่งที่เขาชื่นชอบ ทั้งการซื้อยูนิฟอร์ม และทำตารางการฝึกฝนให้ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกถอดชื่อออกจากทีมซะงั้น!? ทางด้านนาย Ray Valentine วัย 47 ปี คุณลุงของ Glenn ก็เลยติดต่อไปยังโรงเรียน และอ้างว่าโค้ชของทีมได้ตัดชื่อหลานของเขาออกจากทีมด้วยเหตุผลที่ว่า “Glenn ไม่เหมาะกับ ‘ภาพลักษณ์ของทีม’ และโค้ชเองก็ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับเด็กพิเศษ” “หลานของผมไม่เหมาะกับ ‘ภาพลักษณ์ของทีม’ ก็เลยต้องตัดเขาออกจากทีม มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ เลยล่ะ” คุณลุง Ray กล่าว ทางด้านคุณย่าของ Glenn คุณย่า…
-
โปรเจกต์ถ่ายภาพ ‘คนแก่’ กับ ‘รอยสัก’ ของพวกเขา ยังคงเฟี้ยวไม่เปลี่ยนแปลง!!
สำหรับคนที่กำลังคิดอยู่ว่า ‘รอยสัก’ หากอยู่บนตัวเรา แล้วในวันหนึ่งที่เราแก่ตัวไป มีผิวหนังที่เหี่ยวย่น มันจะยังคงดูสวยงดงามเหมือนตอนวัยรุ่นอยู่หรือไม่!? ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชม รอยสักเหล่านั้น บนตัวของเหล่าคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายทั้งหลาย ที่จะขอบอกเลยว่า ‘ความเฟี้ยว’ มันยังคงไม่ลดน้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย!! เป็นโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า TattooAge. Never too old หรือแปลเป็นไทยได้ว่า ‘อายุของรอยสัก มันไม่เคยแก่ลงไปเลยแม้แต่น้อย’ Jan โดยช่างภาพได้ทำการถ่ายภาพของผู้สูงอายุทั้งหมดกว่า 25 คนที่มีรอยสัก ซึ่งขอบอกเลยว่ารอยสักแต่ละรอยนั้นก็มีเรื่องราวของช่วงชีวิตที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลัง ทั้งของขวัญที่ได้รับจากหลาน ความทรงจำเกี่ยวกับความรัก หรือจะเป็นประสบการณ์ช่วงหนึ่งของชีวิตของพวกเขา ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจว่ารอยสักนั้นจะมีแค่เหล่าวัยรุ่น วัยคึกคะนองที่คิดจะมีมัน แต่ในโปรเจกต์นี้ก็มีบางคนที่เพิ่งจะสักรอยแรกตอนอายุ 80 ปี เสียด้วยซ้ำ!? Chris Cor Albertina Jack Riek Jan Thomas Rebha…
-
เด็กชายเกลียดกล้อง แม่เลยซื้อชุด T-Rex ให้ใส่ เพื่อถ่าย ‘ภาพครอบครัว’ อินจัดไปแล้วน้อง
พ่อแม่หลายคนคงจะอยากถ่ายภาพเด็กๆ เก็บเอาไว้เพื่อเป็นความทรงจำดีๆ แต่ถ้าหากว่าลูกของคุณเป็นขี้อาย ไม่กล้าเข้ากล้องล่ะ จะทำอย่างไรดี? เช่นเดียวกันกับเด็กชายคนนี้ที่ป่วยเป็นโรคออทิสซึม และเขากลัวการถ่ายภาพเอามากๆ คุณแม่ก็เลยปิ๊งไอเดีย ‘จับใส่ชุดไดโนเสาร์’ เพื่อเพิ่มความกล้าให้กับเขาเวลาถ่ายภาพ แต่กลายเป็นว่าเด็กชายกลับ ‘อินจัด’ จนกลายเป็นชุดภาพที่แสนงดงาม และสดใส คุณแม่ Samantha Lu ช่างภาพผู้ประสบปัญหากับการถ่ายภาพเจ้าหนู Levi ลูกของตัวเองที่ป่วยเป็นโรคออทิสซึม และเขาเป็นคนที่กลัวกล้องเอาซะมากๆ ซึ่งโดยปกติแล้วเด็กที่ป่วยเป็นออทิสซึมนั้นจะมีปัญหาที่เกี่ยวกับ ‘การเข้าสังคม’ เพราะฉะนั้น การถ่ายภาพสำหรับเขาแล้วคือการท้าทายที่ใหญ่มากพอสมควรเลยทีเดียว “เขามีปัญหาเกี่ยวกับการสบตากับคนอื่น และควบคุมการยิ้มไม่ได้ เขาบอกกับฉันว่า ‘ผมไม่สามารถควบคุมใบหน้าของตัวเองได้เลย’” คุณแม่เล่า เธอก็เลยปิ๊งไอเดียซื้อชุด T-Rex มาให้เขาสวมใส่ เพื่อช่วยลดคามเขินอายเวลาถ่ายภาพ และมันก็คุ้มค่าจริงๆ!! เธอเล่าถึงผลงานการถ่ายภาพในครั้งนี้ว่า “Levi และ Lola ชื่นชอบจูราสสิกพาร์ก มากๆ แต่ Levi นั้นเป็นออทิสซึมและเขาเกลียดการถ่ายภาพ ทุกครั้งที่จะถ่ายภาพเขามักจะพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับหน้าของผมดี ผมบังคับมันไม่ได้” ฉันก็เลยซื้อชุด T-Rex มาให้เขา เพื่อที่จะถ่าย…
-
สองวัยรุ่นใช้ไม้เขี่ย ‘แมว’ ที่อยู่ใต้ท้องรถออกมาให้หมากัด แมวโดนขย้ำตาย เจ้าของหัวใจสลาย…
(คำเตือน: ในบทความนี้มีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม) สำหรับเด็กวัยรุ่น ด้วยวัยของพวกเขาที่อยากรู้อยากลองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงยังขาดความยั้งคิดยั้งทำในบางเรื่อง จึงทำให้บ่อยครั้งที่มักจะมีข่าวไม่ค่อยดีนักเกิดขึ้น และในกรณีนี้อีกก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่ามีวัยรุ่นสองคน พยายามจะเอาตัวแมวออกจากใต้ท้องรถเพื่อให้หมากัด ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วแมวตัวนั้นก็เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า วิดีโอของเหตุการณ์นี้ แมวโชคร้ายตัวดังกล่าวมีชื่อว่า Sully แมวพันธุ์เบงกอลวัย 13 ปี มันมักจะออกมาวิ่งเล่นบนท้องถนนในเขตเมือง Merthyr Tydfil ประเทศอังกฤษ บ้านของมันอยู่บ่อยๆ แต่ว่ามีอยู่วันหนึ่งมันหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทางด้านเจ้าของบอกว่าโดยปกติแล้วเจ้า Sully มักจะกลับมาที่บ้านแม้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนมาก็ตาม แต่การหายไปครั้งนี้มันดูผิดสังเกต เขาจึงไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ แล้วสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้หัวใจแทบสลาย… เพราะวิดีโอจากกล้องวงจรปิดได้ฟ้องว่ามันได้ตายไปแล้ว จากการถูกเด็กวัยรุ่นสองคน (ภายหลังทราบว่ามีอายุ 15 ปีกับ 17 ปี) พยายามเอาตัวมันออกมาจากใต้ท้องรถด้วยการใช้ไม้เขี่ย จากนั้นก็ปล่อยหมาของพวกเขาให้กัดจนตาย โดยในท้ายที่สุดแล้วศพของมันถูกพบอยู่ใกล้ๆ กับพุ่มไม้บริเวณนั้น จากการถูกหนึ่งในสองวัยรุ่นนำไปโยนทิ้ง เหตุการณ์สลดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนี้วัยรุ่นทั้งสองก็ถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าสำหรับทางเจ้าของเขาบอกว่ามันยังเป็นเรื่องที่ทำใจไม่ได้สักที “เราใจสลายเลยล่ะ มันเป็นแมวที่น่ารักมากๆ เป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวเรา…
-
ลูกชายที่ถูกคนอื่นรับเลี้ยง 35 ปี ออกตามหาพ่อแม่แท้ๆ ก่อนที่ทำให้พวกเขาได้รักกันอีกครั้ง
ความรัก ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถแปรเปลี่ยนความห่างไกลมาเป็นใกล้ ความเกลียดชังมาเป็นรักได้และเรื่องราวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ นี้ก็เรื่องราวมหัศจรรย์ความรัก เมื่อหนุ่มคนหนึ่งซึ่งถูกรับเลี้ยงไปตั้งแต่เกิด กลับมาตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงที่เลิกรากันไปจนเจอและยังรับบทเป็นกามเทพ ช่วยให้พวกเขาทั้งสองคนกลับมารู้สึกดีและรักกันเหมือนอย่างเก่าได้อีกด้วย https://www.instagram.com/p/BnJznEzHGJe/?utm_source=ig_embed ย้อนกลับไปเมื่อ 36 ปีที่แล้ว มีผู้หญิงชื่อ Michele Newman จากรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกาได้ตั้งท้องโดยไม่เจตนา ในขณะที่อายุได้เพียง 16 ปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โตของเธอเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอกับ Dave Lindgren พ่อของเด็กได้เลิกกันไปก่อนที่เธอจะรู้ว่าตั้งท้อง บวกกับไม่มีการสนับสนุนจากครอบครัว Michele จึงปรึกษาหารือกับ Dave ว่าตัวเธอจะนำลูกชายไปให้รับเลี้ยงแทน ถือว่าเป็นโชคดีของเด็กน้อยคนนั้น เมื่อเขาได้เจอกับ William และ Cynthia Schmidt สองสามีภรรยาที่ดีมารับเลี้ยงไว้และได้ตั้งชื่อว่า Martin W. Schmidt Martin เติบโตมาท่ามกลางครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่น ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าตัวเองถูกรับเลี้ยงมา แต่ก็ไม่เคยที่จะอยากออกตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงเลย เพราะว่ารู้สึกว่าครอบครัวของเขาในตอนนี้มันดีที่สุดแล้ว ในที่สุด Martin ก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาย้ายออกจากไปบ้านไปอยู่รัฐโคโลราโดและได้พบรักกับผู้หญิงคนหนึ่งนามว่า Carin พวกเขาได้ตกลงที่จะแต่งงานกัน จากนั้น…
-
หนุ่มโชว์สด เปลือยล่อนจ้อน ‘สบั๊มกั๊ม’ กับตุ๊กตายางข้างถนน ก็คนมันชอบกลางแจ้งง่ะ…
จริงอยู่ที่ว่าเรื่องของ ‘เซ็กส์’ จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างส่วนตัว แต่ว่าสำหรับบางคนแล้วการได้เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนผู้ร่วมกิจกรรม ก็อาจจะช่วยเพิ่มความตื่นเต้นให้มันถึงใจมากยิ่งไปกว่าเดิม หรือบางทีการเปลี่ยนสถานที่ก็อาจได้ผลเช่นเดียวกัน แต่ทางที่ดีแล้วอย่าทำเหมือนกับชายคนนี้จะดีกว่า เพราะมีภาพฟ้องว่าชายคนนี้ได้ฟัดอยู่กับตุ๊กตายางแถวข้างถนนจนเป็นภาพอุจาดตา!! คลิปวิดีโอดังกล่าว เรื่องราวสุดแสนพิสดารนี้เกิดขึ้นจากความที่คนขับรถบรรทุกคนหนึ่ง ได้ขับรถของเขาไปใกล้ๆ กับเมืองนอร์ทแฮมพ์ตันในประเทศอังกฤษ เมื่อเวลาประมาณ 11 นาฬิกา วันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา คนขับรถคันนี้ก็ขับรถอย่างปกติไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่าเมื่อเขากลับมาดูกล้องติดรถก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะสิ่งที่เขาเห็นนั้นคือภาพของชายคนหนึ่งที่เปลือยล่อนจ้อน ทำท่าทางมีเซ็กส์กับคู่ของเขานั่นคือตุ๊กตายางซะอย่างงั้น “คนบางคนมักจะมีกิจกรรมยามว่างหรือรสนิยมทางเพศแปลกๆ อยู่เสมอ” คนขับรถกล่าว ตรงนี้เลยหรอพี่ ในเวลาต่อมาเขาได้นำเรื่องนี้ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทว่าเมื่อตำรวจไปตรวจสอบดูก็พบว่าตรงนั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่แล้ว วิดีโอนี้ได้กลายเป็นปริศนาว่าใครกันนะที่มาทำอุตริกลางแจ้งแบบนี้ ขณะเดียวกันชาวเน็ตเมื่อได้เห็นคลิปก็มาร่วมสร้างสีสันปั่นให้สนุกมากยิ่งขึ้นไปอีก “มันอาจจะอยู่บน Pornhub ก็ได้นะ” “นี่มันบนไหล่เขาเลยนะเนี่ย” “เราทุกคนมีรสนิยมของตัวเอง แต่บางคนแค่แปลกกว่าชาวบ้านเขานิดหน่อยเอง” ชาวเน็ตกล่าว ดีนะพี่ไม่เล่นท่ายากโชว์เลยเนี่ย ที่มา: metro
-
ร้านขายเนื้อตั้งป้ายโฆษณาสุดดราม่า “เรามีเนื้อที่กินหญ้าของพวกคุณนะ” แซะชาววีแกน
บนโลกใบนี้มีผู้คนอยู่มากมายหลายล้านคน แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีวิถีการดำเนินชีวิตและมุมมองที่มองโลกใบนี้ไม่เหมือนกัน รวมถึงทัศนคติที่มีต่อการทานอาหารด้วย และที่ผ่านมาเราก็มักจะเห็นการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ที่มีทัศนคติในการเลือกทานอาหารที่ไม่เหมือนกัน อย่างคนที่ทานเนื้อและวีแกนอยู่ตลอดเวลา รวมถึงเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เช่นกัน เมื่อร้านขายเนื้อร้านหนึ่งในมณฑล Derbyshire ประเทศอังกฤษ ได้ตั้งป้ายหน้าร้านเพื่อหวังจะดึงดูดลูกค้าโดยข้อความที่หยอกล้อชาววีแกนว่า “ถึงชาววีแกน ทางร้านเรามีเนื้อวัวกินหญ้าของพวกคุณมาโดยตลอดด้วยนะ ด้วยความยินดี!“ ต่อมาได้มาคนๆ หนึ่งเดินผ่านไปทางร้านขายเนื้อดังกล่าว เขาเห็นว่าข้อความนี้เป็นเหมือนกับยุให้คนแตกคอกัน เลยถ่ายรูปและนำมาโพสต์ลงโซเชียลมีเดียว่า “ถึง Anthony Andrew (เจ้าของร้าน) ตอนแรกที่ผมได้เห็นข้อความบนป้ายของคุณ ผมก็ตื่นเต้นนึกว่าคุณจะมีอะไรพิเศษนำเสนอ แต่ช่างน่าผิดหวังจริงๆ หลังจากที่อ่านข้อความจบก็พบว่าคุณมีแต่ความเกลียดชัง แถมยังใช้ไวยากรณ์ที่ไม่เหมาะสมอีก เทคนิคคือ: อย่าทำให้ลูกค้าแตกคอกัน ด้วยความยินดี” ในร้านยังมีข้อความชวนคนมาทานเนื้อด้วยนะ โดยมีใจความว่า “เนื้อของเรามาจากฟาร์มท้องถิ่นที่มีคุณภาพ // ทุกๆ วันจะต้องมีพืชนับพันต้องตายเพราะคนทานมังสวิรัติ ช่วยกันหยุดความรุนแรงนี้ มากินเนื้อสิ!” เมื่อมีกระแสไม่ดีเกี่ยวข้อความโฆษณาชวนชวนของทานร้าน Anthony Andrew เจ้าของร้านจึงได้ออกมาตอบกลับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย เป็นเพียงเรื่องตลกๆ และเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายจิตใจใคร โดยเขาได้กล่าวว่า “เรารู้ดีว่าป้ายของเรามันบ้าบอ รวมถึงโฆษณาที่เราโพสต์ออนไลน์ด้วย แต่ทั้งหมดมันก็เป็นเรื่องตลก เฮฮาเท่านั้น เราไม่ได้ต้องการที่จะสร้างความเกลียดชัง แค่อยากให้ลูกค้ามีอารมณ์ขันและมีช่วงเวลาดีๆเท่านั้นเอง พวกเรามีข้อความเกี่ยวกับคนกินมังสวิรัติก็จริง แต่ผมคิดว่าคนบางคนก็อ่อนไหวกับเรื่องนี้มากกว่าคนอื่นเกินไปนะ และถ้าผมทำให้คนอื่นไม่พอใจ ผมก็ขออภัยด้วยและพวกเขาก็มาทานร้านผมได้นะ ผมจะแถมสเต๊กให้เป็นพิเศษเลย” …
-
นักเรียนแพทย์บริจาค 67% ของตับให้กับครูประถมของเขา แม้เคย ‘เกลียด’ เพราะถูกตีตอนเด็ก!!
แม้ว่าบางครั้ง ‘คุณครู’ ในวัยเด็กของเราจะมีวิธีการสอนที่แตกต่างกัน แต่จุดประสงค์ส่วนใหญ่ของคนเป็นครูก็ล้วนแล้วแต่อยากให้ลูกศิษย์สามารถเติบโตมีชีวิตที่ดีได้ และเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณอันใหญ่หลวงนี้ จึงทำให้หนุ่มวัย 25 ปีคนหนึ่งตัดสินใจบริจาค 67% ของตับตัวเองให้แก่คุณครูชั้นประถมของเขา แม้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาจะเคยบอกว่าเกลียดคุณครูคนนี้ก็ตาม… Jerome Chin นักศึกษาวิชาแพทย์คือคนดังกล่าว เขาอาสาที่จะมอบตับให้กับ Leong Fong Peng อดีตคุณครูวัยประถม สมัยที่เขายังเรียนอยู่ที่โรงเรียน Kong Min Primary School ประเทศมาเลเซีย วิดีโอของเรื่องราวอบอุ่นหัวใจนี้ ในเวลานั้น Chin กล่าวเอาไว้ว่าคุณครูคนนี้ เป็นครูที่เจ้าระเบียบเอามากๆ และมักจะชอบตามลงโทษเขาเป็นประจำเมื่อเขาทำผิดระเบียบ “ครูถือไม้เรียวของเธอไปด้วยทุกๆ ที่ และแน่นอนผมโดนบ่อยมากๆ (หัวเราะ) ผมยอมรับนะว่าตอนนั้นผมเข้าขั้นเกลียดคุณครูคนนี้เลยล่ะ แต่พอผมจบจากโรงเรียนนี้ไปผมก็เริ่มรู้ว่าที่ครูทำอย่างนั้น เพราะครูใส่ใจกับผมมากๆ” Chin กล่าว ชายหนุ่มคนนี้ได้ทราบอาการเจ็บป่วยของคุณครูในเดือนกรกฎาคม จากลูกสาวของเธอซึ่งเป็นเพื่อนกับเขา โดยในตอนแรกก็มีอาสาสมัครจะมอบตับให้ถึง 8 คนด้วยกัน แต่ว่าเมื่อตรวจสอบก็พบว่าตับของพวกเขาเหล่านี้ไม่สามารถเข้ากับร่างกายของคุณครูได้ ด้วยเหตุนี้ Chin จึงได้ลองทดสอบดูแล้วก็พบว่าตับของเขาสามารถเข้ากับคุณครูได้ ทว่าก็ติดปัญหาอยู่ที่คุณพ่อของเขาไม่อยากจะให้บริจาคนั่นเอง แต่แล้วก็ด้วยความที่เขาเป็นนักศึกษาแพทย์และได้เรียนเรื่องนี้มาอย่างละเอียด…
-
หนุ่มตั้งใจเปิดตัวแฟนสาว พาไปทานข้าวพบพ่อแม่ โป๊ะแตก ‘แฟนเป็นเมียน้อยพ่อ’
การได้กลับไปกินข้าวกับพ่อแม่ในยามโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามสำหรับชาวเอเชียอย่างเราๆ เพราะการได้มานั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง ก็จะช่วยเสริมความสุขในสถาบันครอบครัวเป็นอย่างดี แต่ไม่รู้ว่าการพาคนนอกครอบครัวที่เป็นแฟนพาไปให้พ่อแม่รู้จัก ในระหว่างทานมื้ออาหารร่วมกัน จะกลายมาเป็นผลดีหรือผลร้ายที่ไม่อาจคาดเดาได้ กรณีดังกล่าว เป็นเรื่องเล่าที่ถูกแชร์โดยชาวเน็ตมาเลเซียนามว่า Ashraf จากประสบการณ์ตรงของเพื่อนชาวเน็ตรายหนึ่ง กล่าวถึงเหตุการณ์แห่งความกระอักกระอ่วนใจ ที่หวังว่าจะเปิดตัวแฟนให้พ่อแม่ได้รู้จัก กลับได้รู้ความจริงว่าแฟนสาวเป็นเมียน้อยของพ่อตัวเอง… ท่ามกลางโลกโซเชียลแนวถามตอบ Curious Cat ของนาย Ashraf ชาวเน็ตรายนี้เล่าว่า… “วันหนึ่ง เธอได้รู้จักกับหนุ่มหล่อน่ารักคนนี้ คบกันมานานจนอยากยกระดับความสัมพันธ์ แฟนหนุ่มก็เลยพาเธอไปทานข้าวร่วมกับครอบครัว… แต่รู้อะไรมั้ย พ่อของแฟนหนุ่มน่ะเป็นพ่อเลี้ยงหล่อนด้วย ท่ามกลางวงดินเนอร์ เพื่อนผมรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก้มหน้าอยู่อย่างนั้นตลอดไม่พูดอะไร กลายเป็นว่าหล่อนได้สองในครอบครัวเดียว” https://twitter.com/AshrafAriff/status/1043414649234964481 แน่นอนว่า คุณพ่อรายนี้ก็อยู่ในช่วงวัย 50 ปีแล้ว คอยนัดไปหลับนอนและเปย์อยู่ทุกสัปดาห์ และเธอก็ได้เงินจากพ่อแฟนไปหลายตังค์เลยทีเดียว นี่ไม่อยากจะนึกสภาพเลย เจอความจริงแบบนี้จะทำยังไงต่อล่ะเนี่ย? ที่มา: @AshrafAriff, thereporter, worldofbuzz
-
ชาวเน็ตจวกดาวไอจีฮ่องกง นำไฟประดับขึ้นเครื่องไปถ่ายรูป ทั้งที่เอาขึ้นได้ หรือแค่อิจฉา?
ทุกวันนี้มีผู้สร้างชื่อให้กับตัวเองบนโลกออนไลน์นับไม่ถ้วน และกลายมาเป็นบุคคลสาธารณะที่มีผู้ติดตามชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม จะมีทั้งเสียงชื่นชมและก่นด่าตามมาด้วยเช่นกัน บลอกเกอร์สายท่องเที่ยวชาวฮ่องกง Harimao Lee คือหนึ่งในผู้มีชื่อเสียงบนแพลทฟอร์มอินสตาแกรม ได้กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงของชาวเน็ต หลังจากที่เธอแชร์ภาพถ่ายเซลฟี่พร้อมกับไฟประดับ บนเที่ยวบินชั้นธุรกิจของสายการบิน Cathay Pacific จากฮ่องกงไปยังกรุงโรม… ภาพถ่ายที่ตกเป็นประเด็น เธอได้ให้แคปชั่นประกอบว่า “มันเป็นค่ำคืนที่ยาวนาน ระหว่างเที่ยวบินจากฮ่องกงไปกรุงโรม การมองดูดาวก็คือหนึ่งสิ่งที่พอจะทำได้ในห้องโดยสาร” แต่ด้วยภาพถ่ายที่จัดฉากพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบที่ดูขัดกับความเป็นจริง ทำให้เกิดข้อสงสัยในเรื่องของการนำไฟประดับขึ้นเครื่องเป็นสิ่งที่เหมาะสมและทำได้หรือไม่? เอาเข้าจริงๆ ใครมันจะเอาไฟประดับพรรค์นี้ขึ้นเครื่อง งง? มีชาวเน็ตอยากลองทำตาม ด้วยการพกแบตเตอร์รี่ สายไฟ แต่อาจจะทำไม่ได้อย่างเธอ… พยายามหวนสร้างบรรยากาศโรแมนติกบนเที่ยวบินเฟิร์สคลาส? น่าทึ่งที่ทำลงไปก็เพื่อ ‘ยอดถูกใจ’ แถมนางยังนั่งฝั่งตรงข้ามที่นั่งด้วยนะ ชาวเน็ตบางรายถึงขั้นบอกว่า ไฟประดับเหล่านี้คือสิ่งต้องห้ามนำขึ้นเครื่องที่ถูกระบุโดย TSA (หน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐอเมริกา) แต่หลังจากที่ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์โดยตรงแล้ว ทั้งไฟประดับ ไฟ LED ไฟฉาย รวมไปถึงดาบไลท์เซเบอร์ของเล่น ก็สามารถนำขึ้นเครื่องได้ สามารถนำขึ้นเครื่องได้ทั้งกระเป๋าถือขึ้นเครื่องและโหลดใต้ท้องเครื่อง . ทั้งนี้…
-
หนาวนี้ต้องโดน!! ‘โรงแรมน้ำแข็ง’ แห่งฮอกไกโด ไปแช่ออนเซ็นท่ามกลางอากาศเย็นๆ กันเถอะ
เมื่อหน้าหนาวมาถึง ใครหลายคนก็คงจะดี๊ด๊าคิดหาที่เที่ยวกันว่าหนาวนี้จะไปไหนกันดี แต่ว่าถ้าหากยังคิดไม่ออกล่ะก็ ‘ญี่ปุ่น’ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย เพราะอย่างที่ใครๆ รู้กันว่าประเทศนี้ดีงามขนาดไหน และบางทีคุณอาจจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ กับความเย็นแบบสุดขั้ว เพราะมี ‘โรงแรมน้ำแข็ง’ เปิดให้คุณสามารถไปนอนเล่นได้แล้ว!! ‘โรงแรมน้ำแข็ง’ ที่ว่านี้ตั้งอยู่บริเวณท้ายสุดของรีสอร์ต Hoshino Resort Tomamu ในหมู่บ้านชิมุกัปปุ-มูระ จังหวัดฮอกไกโด ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ความพิเศษของโรงแรมนี้ก็คือ มันเป็นเหมือนกับสวรรค์ของคนรักความเย็นเลยก็ว่าได้!! เพราะในช่วงเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ ที่นี่จะสามารถมีอุณหภูมิหนาวสะท้านได้ถึง – 30 องศาเซลเซียส (คุณพระ..) มาดูในส่วนของห้องพักกันบ้าง ห้องพักของโรงแรมแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นโดมน้ำแข็ง และนอกจากตัวโดมที่เป็นน้ำแข็งแล้ว ทุกๆ อย่างภายในห้องพักแห่งนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำมาจากน้ำแข็งทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เตียง เก้าอี้ต่างๆ (แต่มีที่ถุงนอนที่อุ่นมากๆๆๆ เตรียมเอาไว้ให้) แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่ามันช่างหนาวเย็นเกินไปล่ะก็ ที่นี่ก็มีบริการเตรียมพร้อมให้อย่างเสร็จสรรพไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มร้อนที่จัดไว้ให้บริเวณเล้านจ์ที่มีเครื่องดื่มให้เลือกถึง 50 แบบด้วยกัน ทว่าถ้ายังไม่พอ ขอแนะนำไฮไลก์ของทีนี่นั่นคือการแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง ลองนึกภาพดูว่ามันจะเป็นอะไรที่วิเศษขนาดไหนที่คุณได้แช่น้ำร้อนๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำแข็งทั้งหมด!! (หลังจากอาบน้ำจะมีชุดพิเศษให้ไม่ต้องหนาวจนเกินไป)…
-
ชายลงทุนปลอมเป็นหญิง อ้างผัวไม่อยู่ ชวนหนุ่มมาเล่นเสียว แอบถ่ายคลิปไปขายรายได้อื้อ!!
เรียกได้ว่าตั้งแต่ที่โลกของเราเข้าสู่ยุคออนไลน์ ก็ได้เกิดวิธีการทำเงินแบบใหม่ขึ้นไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาหรือค้าขายออนไลน์ และเรื่องที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างรายได้แบบใหม่ที่คุณต้องนึกไม่ถึง (ถึงนึกถึงก็คงไม่อยากทำตาม) เมื่อชายวัย 32 ปีลุกขึ้นมาแต่งตัวเป็นผู้หญิง อ้างเหงา สามีไม่อยู่และชวนชวนแปลกหน้ามาเล่นเสียวกัน ก่อนที่จะแอบอัดวิดีโอและนำไปขายในเว็บโป๊ออนไลน์ ชายคนนั้นคือ Bryan Deneumostier เขายอมรับสารภาพว่าเคยหลอกผู้ชายกว่า 150 คนมามีเซกส์ด้วยผ่านทางเว็บไซต์ Craigslist ที่เป็นศูนย์กลางในการประกาศขายของ หางาน สมัครงานหรือแม้กระทั่งหาคู่ พร้อมกับยังเป็นเว็บบอร์ดที่สามารถพูดคุยได้ในหลายๆ ด้าน โดยที่มากกว่าครึ่งที่เขาหลอกมาไม่รู้ว่าถูกถ่ายคลิป ในโลกออนไลน์ Bryan รับบทเป็น “Susan” แม่บ้านสาวขี้เหงาและได้ใช้แอคเคาต์ชื่อ “susanleon33326” โพสต์ในฐานะผู้หญิงอยากจะหาคนมาเล่นสนุกด้วยกันที่บ้านพักทหารในฐานทัพอากาศที่เมือง Miami รัฐฟลอริดา โดยที่เวลาผู้ชายที่โดนหลอกมา ได้มาตามที่นัดเจอกัน พวกเขาจะถูก Susan ใส่ผ้าปิดตาก่อนทุกครั้งเพื่อที่จะได้ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วนางฟ้าข้างๆ เขานั้นคือผู้ชาย… และอ้างตามที่สื่อรายงาน เวลาผู้ชายที่ถูกหลอกมาถามว่าเธอไม่ได้ถ่ายวิดีโอไว้ใช่มั้ย Bryan ก็จะตอบไปว่า “เธอ” ถ่ายวิดีโอไม่ได้หรอก เพราะตัวเองแต่งงานกับทหารในกองทัพนี้ หากถ่ายไว้แล้วเขามารู้เข้าเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ที่ไหนได้ เขาแอบถ่ายวิดีโอระหว่างทำอะไรกับผู้ที่ถูกหลอกมาทุกคน แถมยังนำขายต่อให้บุคคลที่สามเพื่อที่จะอัปโหลดขึ้นเว็บโป๊อีกด้วย สุดท้ายนี้ เนื่องจาก Bryan ได้รับสารภาพความผิด เขาจึงได้รับละเว้นข้อหาสามกระทง แต่กระนั้นก็ยังต้องเจอกับข้อหาล่อลวงและมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชายซึ่งยังเป็นเยาวชนอยู่ และคดีของเขาจะถูกตัดสินในเดือนพฤศจิกายนนี้และมีการคาดว่าเขาน่าจะต้องถูกจำคุกสูงสุดเป็นเวลา…
-
สาวหงุดหงิดจัด ถูกแฟนสั่งห้ามกินทุเรียนในห้อง โทรแจ้งตำรวจมาจับข้อหา ‘ข่มขืน’
เรื่องกินเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงแล้วห้ามขัดใจเด็ดขาด เพราะอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมายแบบไม่รู้จบก็เป็นได้… กรณีนี้เกิดขึ้นกับ นาง Zhang วัย 29 ปี จากมณฑลเจ้อเจียง ที่รู้สึกหงุดหงิดและฉุนแฟนหนุ่ม Luo ที่คบหาดูใจกันมานาน สั่งห้ามไม่ให้กิน ‘ทุเรียน’ ผลไม้สุดโปรดของเธอภายในห้องโรงแรม จนเกิดการทะเลาะมีปากเสียงกัน จากรายงานของเว็บไซต์ ET Today กล่าวว่า คู่รักเปิดห้องในโรงแรมแห่งหนึ่ง ณ วันที่ 11 กันยายน โดยมีจุดประสงค์ใช้เวลาร่วมกันเพื่อเล่นจ้ำจี้ ซึ่งหลังจากเสร็จกิจแล้วนาง Zhang รู้สึกหิวขึ้นมา ก็เลยควักทุเรียนที่พกติดไว้ในกระเป๋าขึ้นมากิน แต่ด้วยความเหนื่อยหรือไม่ชอบของแฟนหนุ่ม เขาห้ามเธอไว้และขอร้องให้เอาไปกินที่บ้านแทน เมื่อนาง Zhang ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกโมโหเลือดเดือด ปาทุเรียนใส่แฟนหนุ่มแถมถีบซ้ำทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่บนเตียง ด้านแฟนหนุ่มสวนกลับด้วยการตบหน้าหนึ่งฉาด นาง Zhang จึงยอมไม่ได้ โทรแจ้งตำรวจว่าถูกข่มขืน และต้องการให้มาจับกุมตัวแฟนหนุ่มของเธอ… พอตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ กลับไม่พบร่องรอยของการข่มขืนใดๆ อีกทั้งนาง Zhang ก็ไม่ได้มีร่องรอยได้รับบาดเจ็บที่เห็นได้ชัด สภาพห้องก็ดูเรียบร้อยไม่น่าจะมีปัญหาอะไร …
-
พบกับ Lioz Shem ชายผู้มี ‘สุดยอดพลังจิต’ สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้ดั่งใจนึก!!
ต้องขอเกริ่นไว้แต่เนิ่นๆ เลยว่าเพื่อนๆ ทุกคนจะต้องไม่เคยเห็นการแสดงโชว์พลังจิตแบบนี้ที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน!! มีชายคนหนึ่งนามว่า Lioz Shem ชาวอิสราเอล ได้ทำการโชว์สุดยอดพลังจิต ที่สามารถบังคับสิ่งของให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ให้ชาวโลกได้ประจักษ์แก่สายตาในรายการ America’s Got Talent เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมานี้เอง เขากล่าวกับกรรมการว่าตนเป็นผู้ใช้พลังจิต และสามารถใช้พลังที่มีชื่อว่า Telekinesis ซึ่งผู้ใช้จะสามารถบังคับ เคลื่อนย้ายสิ่งของได้เพียงใช้แค่ความคิด เดี๋ยวจะหาว่าโม้…ก่อนจะไปชมคลิปเต็มๆ ลองไปดูเป็นแซมเปิลกันสักหน่อยว่าเขาสามารถขยับอะไรได้บ้าง… บังคับไอศกรีมโคนให้เด้งออกมาได้!? ทำให้ฟองน้ำหายไป!? ขยับกากเพชรในลูกแก้ว!? ทำให้ทิชชู่ตั้งตรงได้ ทำได้ไง!? ลองไปชมคลิปเต็มๆ ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…. กรรมการทั้ง 4 คนต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน โดยเฉพาะ Mel B และ Howie ที่ดูจะชอบโชว์นี้เป็นพิเศษ ทั้งคู่ต่างก็ชื่นชม Lioz ว่าเขาทำได้ ‘แจ่มแมว’ มากๆ แต่ขณะเดียวกัน Heidi กลับมองว่ามันไม่เจ๋ง เลยให้ ‘ไม่ผ่านไป’…