Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
ตำรวจนั่ง ‘รถบัสสองชั้น’ เพื่อตรวจจับคน ‘ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ’ ใครทำผิด โดน!!
ใครเล่าจะคิดว่า ‘ระบบขนส่งสาธารณะ’ จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการจับตัวผู้กระทำผิดเกี่ยวกับ ‘กฎจราจร’!? เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองเวสต์ มิดแลนด์ ประเทศอังกฤษ ได้ทำการ ‘นั่งรถบัสสองชั้น’ เพื่อสอดส่องความเรียบร้อยบนท้องถนน และจับผู้กระทำผิดกฎจราจรที่ ‘ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ’ ที่เป็นสาเหตุหลักในการเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จะประจำอยู่บนรถบัสสองชั้น พร้อมกับ ‘วิทยุสื่อสาร’ เมื่อเห็นว่ามีใครใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ก็จะทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างล่างเพื่อจดเลขป้ายทะเบียน จากนั้นก็จะส่งใบสั่งตามไปที่บ้าน จากรายงานของเว็บไซต์ BBC ระบุว่าค่าปรับของการทำผิดกฎจราจรในการใช่โทรศัพท์ขณะขับรถจะถูกปรับเป็นเงิน 200 ปอนด์ หรือรา่วๆ 8,500 บาท และหักคะแนนการขับขี่ถึง 6 แต้มเลยทีเดียว ซึ่งทางด้านโฆษกของสถานีตำรวจประจำเขตเวสต์ มิดแลนด์ ก็ออกมาประกาศว่าจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำแบบนี้ต่อไป เพราะมีแนวโน้มที่จะช่วยให้คนหันมาใส่ใจกับการขับขี่มากยิ่งขึ้น ลองมาฟังทางด้านคนที่ถูกจับกันบ้างว่าเขาคิดอย่างไรกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาบอกว่า ‘ตอนแรกเขาเป็นคนที่ระมัดระวังในการทำผิดกฎจราจรตลอด พอมีหมายมาถึงบ้านก็งงเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น’ ซึ่งเขาก็บอกอีกว่า “มันก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะผมทำมันจริงๆ แต่พวกเขา (ตำรวจ) ไปเห็นตอนไหน!? และต่อไปผมก็จะไม่ทำมันอีก เพราะผมรู้แล้วว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตาเราอยู่ตลอดเวลา” .…
-
Stone Cold และ The Rock โพสต์คิดถึงยุค 90s แฟนๆ เรียกร้องกลับมาจัดกันซักแมตช์!!
สำหรับเด็กๆ ยุค 90s อย่างเราๆ แล้ว คงต้องเคยผ่านการชมกีฬา ‘มวยปล้ำ’ กันมาบ้างล่ะ!! และในยุคนั้นก็มีสุดยอดนักมวยปล้ำอยู่มากมาย และหนึ่งในคนที่ดังที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น The Rock หรือ Dwayne Johnson นั่นเอง นอกจากนี้ก็มีคู่ปรับตลอดกาลที่ผลัดกันถือเข็มขัดแชมป์ของ WWE อยู่ก็คือ Stone Cold Steve Austin กับท่าไม้ตาย Stone Cold Stunner เตะท้อง ชูนิ้วกลาง แล้วก็จับล็อกคอฟาดลงไปที่หัวไหล่!! ทั้งสองคนนี้ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการมวยปล้ำมากที่สุดในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ นัดไหนที่มีการปล้ำกันจะมีคนเข้ามาดูเยอะเป็นพิเศษ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ทั้ง Stone Cold และ The Rock เองก็ห่างหายจากวงการมวยปล้ำไปแล้ว ทำให้เหล่าแฟนๆ ต่างก็คิดถึงช่วงเวลาอันแสนสนุกที่ทั้งสองคนสร้างเอาไว้บนสังเวียนของ WWE ล่าสุดทางด้าน Stone Cold ก็ได้ทำการโพสต์สเตตัสทวิตเตอร์เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เคยผ่านมา ว่า “นี่แหละคือสัญลักษณ์ของยุค 90s’” พร้อมกับภาพของเขากับ The…
-
หนุ่มน้ำหนัก 190 กิโลฯ ถูกภรรยาทิ้งเพราะ ‘ไม่มีแรงขับทางเพศ’ เลยตัดสินใจลดจนหล่อเฟี้ยว!!
เชื่อเลยว่าสำหรับหลายๆ คนแล้ว คงมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไปเพื่อเป็นแรงจูงใจในการลดน้ำหนัก บ้างก็อยากให้ตัวเองดูดี บ้างก็อยากให้สุขภาพดี แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้แล้ว เขาลดน้ำหนักเพราะว่าตัวเอง ‘ขาดแรงขับทางเพศ’ จนทำให้ถูกภรรยาทิ้ง!? เรื่องราวของนาย Stephen Ringo จากรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสมัยอายุได้ 30 ปี คือจุดพีกที่สุดของน้ำหนักในชีวิตของเขา อยู่ที่ประมาณ 186 กิโลกรัม!! นั่นทำให้นาย Stephen ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก ทั้งการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ต้องมีรอบเอวยาวถึง 60 นิ้ว หรือราวๆ 152 เซนติเมตรเลยทีเดียว รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันอื่นๆ โดยเฉพาะ ‘ชีวิตรัก’ ของเขา ในปี 2016 Stephen ต้องหย่ากับภรรยา เพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เขาเล่าว่า “มันก็แฟร์ดีนะที่น้ำหนักของผม เป็นสาเหตุที่ทำให้ชีวิตการแต่งงานของผมจบลง และตอนนี้ผมกลายเป็นคนโสดที่ตัวใหญ่ที่สุด” “ความสัมพันธ์ของผมกับภรรยาถูกทำลายลงไปเพราะการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวของผม มันทำให้ผมมีแรงขับทางเพศน้อยลง และนั่นทำให้เธอต้องจากผมไป” “และมันทำให้ผมคิดว่า ถ้าผมทำหน้าที่เป็นสามีที่ดีกว่านี้ เอาใจใส่ความรู้สึกของเธอ เธอคงจะไม่จากผมไป” …
-
ขุ่นแม่ ‘เลดี้ กาก้า’ รับมือกับสื่อแบบโคตรโปร หันหามุมให้กล้องได้เพียงเสี้ยววินาที…
ดาวเด่นตัวแม่ในวงการฮอลลีวูด ทั้งด้านผลงานเพลงและงานแสดง คงจะต้องยกให้กับขุ่นแม่เลดี้ กาก้า จริงๆ เพราะในระหว่างที่นางกำลังเดินสายโปรโมทภาพยนตร์ A Star Is Born ที่กำลังจะเข้าฉายในช่วงตุลาคมนี้ เธอก็งัดสกิลการรับหน้าสื่อให้เห็นแบบมืออาชีพมาก!! https://www.instagram.com/p/BoKnqMXnU9f/ โดยในช่วงคืนพรีเมียร์รอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ขุ่นแม่เลดี้ กาก้า ได้เดินทางไปร่วมงานพร้อมกับชุดเดรสสยายอลังการ แน่นอนว่าระหว่างงานต้องให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสาย… ให้สัมภาษณ์เสร็จ แจกกอดแจกหอมไปด้วย และมันเด็ดตรงที่นาง หันหน้าเข้ามุมโพสต์ให้กล้องทันที ใช้เวลารวมแค่ 3 วินาที ใช่ 3 วินาทีเท่านั้น!! lady gaga found her angle in 3 seconds. ugh LEGEND. https://t.co/VkNjd6Pl8Z — jack (@fkajack) September 25, 2018 หนึ่ง สอง… ปังงงงงง!! รับหน้าสื่อได้แบบเฉียบขาดจริงค่ะ!…
-
นักศึกษาสาว ทำคลิปนำน้ำผสมผงฟอกขาว เทราด “เป้า” ผู้ชาย เพราะไม่พอใจนั่งขาอ้าซ่า
“มารยาททางสังคม” เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรจะศึกษาและปฏิบัติตาม ไม่ควรที่จะละเลยมันเพราะอาจจะมีคนเดือดร้อนจากการกระทำที่ไม่เข้าท่านั้นได้ โดยเฉพาะการนั่งอ้าขาของเหล่าสุภาพบุรุษบนระบบขนส่งสาธารณะ ที่นอกจากจะไม่สุภาพแล้ว ยังรบกวนผู้อื่นอีกต่างหาก ด้วยเหตุนี้ Anna Dovgalyuk นักศึกษากฎหมายสาวแห่งเมือง St Petersburg ประเทศรัสเซีย จึงได้ทำการแก้เผ็ด ด้วยการเผยคลิปวิดีโอที่เธอนำน้ำผสมกับผงฟอกขาวขึ้นไปราดใส่เป้าของผู้ชายที่นั่งอ้าขาอยู่ในรถไฟใต้ดิน ในวิดีโอเธอยังมีการเตือนกลุ่มเป้าหมายของเธออีกว่า “ผงฟอกขาวที่ฉันผสมลงในน้ำนี้ มีความรุนแรงมากกว่าที่ใช้ซักรีดตามบ้านทั่วไปถึง 30 เท่า มันจะกัดสีจนหายในเวลาไม่กี่นาที รวมถึงจะทิ้งคราบที่ลบไม่ออกไว้ด้วย” Anna ยังพูดถึงเป้าหมายของเธอต่อว่า “ในนามของตัวแทนบุคคนที่ต้องคอยอดทนแก่พฤติกรรมการนั่งอ้าขาอ้าซ่าของผู้ชายในบริการขนส่งสาธารณะ เราไม่เพียงแต่จัดการพวกที่นั่งอ้าซ่าได้ แต่เรายังสร้างร่องรอยให้รู้ด้วยว่าพวกเขาเคยทำแบบนี้! ทุกคนจะรู้ได้ในทันทีถึงพฤติกรรมการควบคุมอวัยวะในร่างกายของผู้ชายเหล่านี้“ Anna เธอเรียกตัวเองว่า “นักกิจกรรมสังคม” ก่อนหน้านี้เธอก็ได้ “เปิดกระโปรง” ตัวเองและถ่ายรูปให้เห็น “กางเกงใน” ในที่สาธารณะเพื่อให้คนตระหนักถึงการแอบถ่ายใต้กระโปรงและเพื่อเรียกร้องกฎหมายการแอบถ่ายใต้กระโปรงในรัสเซียอีกด้วย เมื่อเธอเผยวิดีโอการกระทำให้ครั้งนี้ลงในโลกออนไลน์ ก็ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น “เธอเรียกร้องให้ผู้ชายมีมารยาททางสังคม แต่ตัวเธอกลับไม่ปฏิบัติตามระเบียบของสังคมเลย” หรือจะเป็น “มันเป็นถือว่าเป็นการลวนลามชัดๆ” รวมถึงนักข่าวชาวรัสเซียก็กล่าวว่าวิดีโอของเธอนั้นเป็นของเตี๊ยมกันมาอย่างแน่นอน เธอต้องมีการใช้นักแสดงแน่ๆ แต่ Anna ก็ออกมาตอบโต้ว่า “การกระทำของฉันคือของจริง…
-
จีนสร้างตึกใหม่สไตล์ล้ำ แต่ชาวเน็ตบอกเหมือน “ไอ้จ้อน” อันโตตั้งอยู่กลางเมือง…
การออกแบบโครงสร้างและรูปลักษณ์ของอาคารของสถาปนิกนั้นก็จะมีแรงบันดาลใจมาจากสิ่งต่างๆ แตกต่างกันไป นั่นทำให้ตึกรามบ้านช่องแต่ละแห่งจึงมีความสวยงามอันเป็นเอกลัษณ์ที่ต่างกันไปนั่นเอง แต่ตึกสูงแห่งใหม่ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน ที่เปิดตัวออกมาล่าสุดนั้นถึงแม้ว่าจะมีดีไซน์ล้ำสมัยสวยงามแต่กลับถูกชาวเน็ตวิจารณ์แง่ลบกันอย่างแพร่หลายเพราะรูปร่างของมันดันไปคล้ายกับ “อวัยวะเพศชาย” เสียนี่ ตึกชื่อว่า Guangxi New Media Center นี้ก่อสร้างเสร็จในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาหลังจากใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 2 ปี แต่เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยกลับกลายเป็นว่า ตึกแห่งนี้เป็นที่ค้านสายตาของชาวเน็ต เนื่องด้วยรูปลักษณ์อันคล้ายคลึงกับอวัยวะเพศชายอันมหึมาที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินมณฑลกวางสี โดยเฉพาะเมื่อคืนวันที่ 24 กันยายน 2018 ที่มีการจุดพลุยิงออกมาจากยอดตึก Guangxi New Media Center มันยิ่งทำให้ดูคล้ายกับอวัยวะดังกล่าวจนไม่สามารถคิดเป็นอย่างอื่นได้ ชมคลิปการจุดพลุของตึกแห่งนี้… ขณะที่ชาวเน็ตกำลังวิจารณ์ถึงรูปลักษณ์ของตึกแห่งนี้กันอย่างสนุกปาก ทางสื่อชุมชนก็ได้ออกมาเผยว่าแรงบันดาลใจของดีไซน์สำหรับตึกแห่งนี้ก็คือ “นาขั้นบันได” ที่สามารถพบเห็นจนเป็นเอกลักษณ์ของมณฑลกวางสีนั่นเอง เปลือกของตัวตึกจึงทำออกมาเป็นขั้นๆ ตั้งแต่ฐานและไล่ระดับขึ้นไปจนถึงส่วนที่เป็นยอดของอาคาร แต่ถึงกระนั้น หลายคนก็ยังคงลบภาพที่ว่า ตึกแห่งนี้มีรูปลักษณ์คล้ายองคชาตไม่ได้อยู่ดี ตึก Guangxi New Media Center และนาขั้นบันได น่าสงสารสถาปนิกผู้ออกแบบจริงๆ ที่ตั้งใจดีไซน์ออกมาแล้วดันทำให้ผู้คนมองเห็นเป็นรูปอย่างอื่นเสียได้… ที่มา: nextshark, twitter และ shanghaiist
-
หนุ่มไอร์แลนด์ใช้บัตรเดบิตของ ‘คนตาย’ ซื้อพิซซ่าและใช้จ่ายเป็นเงินหลายแสนบาท…
เรื่องราวเกิดขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า Marie Conlon เสียชีวิตคาที่พักเมื่อราวเดือนตุลาคมปี 2017 ไม่มีใครทราบเรื่องนี้เพราะ Marie ไม่มีครอบครัวเลย เพื่อนบ้านเองก็เจอเธอครั้งสุดท้ายเมื่อราวปี 2015 การตายของ Marie Conlon ไม่มีใครทราบเรื่องเลยนอกจาก Robert Sharkey เพื่อนบ้านที่เข้าไปพบว่า Marie ได้เสียชีวิต แต่แทนที่เขาจะแจ้งตำรจ เขากลับทำสิ่งที่เห็นแก่ตัวอย่างมาก Robert ในวัย 24 ปี ได้บุกเข้าไปยังบ้านของ Marie ผู้เสียชีวิต จากนั้นก็เข้าไปขโมยบัตร Debit เพื่อนำมาใช้จ่ายอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และอื่นๆ ให้กับตนเอง เขาใช้เงินในธนาคารของ Marie ไปกับการซื้อพิซซ่าจากร้าน Domino เป็นจำนวนเงินราว 254,000 บาท และใช้จ่ายสำหรับค่าอาหารในร้าน Sainsbury ไปราว 139,000 บาท นอกจากนี้ยังมี การซื้อโทรศัพท์มืออีก 43,600 บาท รวมถึงค่าน้ำค่าไฟรวมแล้วเป็นจำนวนเงินราว 12,000 บาท Robert จึงถูกกล่าวหาว่าขโมยบัตร Debit…
-
Nintendo เติมเต็มความปรารถนาของหนุ่มเกมเมอร์ ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปพร้อมกับความสุข
“วิดีโอเกม” ถือว่าเป็นสื่อบันเทิงที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อที่จะมอบความบันเทิง ความสนุกสนานและจินตนาการให้แก่เรา ซึ่งก็มีหลายๆ คนที่มีช่วงเวลาและความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับการเล่นเกม เช่นเดียวกันกับ Chris Taylor หนุ่มวัย 21 ปีคนที่เราจะนำเรื่องราวของเขามาให้ได้ชมกันในวันนี้ครับ เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เติมโตมาพร้อมกับวิดีโอเกม มาความทรงจำร่วมกับมันอย่างมากมายและหวังจะเล่นมันไปอย่างเรื่อยๆ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่… ข่าวร้ายก็ได้มาถึง เขาป่วยเป็นโรคมะเร็งและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 3 ถึง 6 เดือน Im really scared i won't be able to play ultimate — Chris Taylor (@SpookyWoobler) September 13, 2018 ในวันที่ 14 กันยายน 2018 Chris ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ของเขาที่แสดงถึงความท้อใจและกลัวว่าวันที่ตัวเองจะได้เล่นเกมที่อยากเล่นมากที่สุดจะมาไม่ถึงว่า “ผมกลัวว่าผมจะไม่มีโอกาสได้เล่นเกม (Super Smash Bros.) Ultimate จริงๆ” โดย Super Smash Bros.…
-
‘Gucci’ เปิดมิติใหม่วางขาย ‘ชุดว่ายน้ำที่ไม่ควรใส่ลงน้ำ’ ด้วยราคาชิลๆ แค่หมื่นกว่าเท่านั้น!!
สิ่งแรกๆ ที่เราคิดเอาไว้ในหัวเวลาที่เดินเลือกซื้อ ‘ชุดว่ายน้ำ’ ก็คือการเอาไว้ใส่เล่นน้ำแบบสวยๆ ใช่ไหมล่ะ?? แต่ว่าความคิดนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับชุดว่ายน้ำภายใต้แบรนด์ Gucci ชุดนี้ ที่จะทำให้คุณต้องอึ้ง!! เรียกได้ว่าเป็นการฉีกกฎชุดว่ายน้ำแบบเดิมซะจริงๆ สำหรับชุดว่ายน้ำชุดใหม่ของทาง Gucci ที่มาพร้อมกับความงามระดับ Hi – End ซึ่งทางบริษัทเคลมมาว่าเป็น ‘ชุดว่ายน้ำที่ไม่ควรใส่ลงน้ำ’ ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าเนื้อผ้าของชุดว่ายน้ำชุดนี้ ถูกทำขึ้นมาจากผ้าไนลอน 80% และเส้นด้ายอีลาสเทนอีก 20% เพื่อให้ความกระชับเมื่อสวมใส่ โดยทั้งนี้วัสดุทั้งสองไม่สามารถรองรับคุณสมบัติของ ‘คลอรีน’ ที่อยู่ในน้ำได้นั่นเอง “เพราะด้วยคุณสมบัติทางธรรมชาติของเนื้อผ้าทั้งสอง ชุดว่ายน้ำชุดนี้จึงไม่ควรนำไปสัมผัสกับคลอรีน” Gucci เขียนไว้บนเว็บไซต์ คุณสมบัติที่เขียนไว้ (ปล. ราคาในภาพแพงกว่าบนเว็บ Gucci ที่จริงๆ แล้วแค่ 380 ดอลลาร์เท่านั้น) แน่นอนว่ามีหลายสำนักในวงการแฟชั่นออกมาคอมเมนต์กันอย่างจ้าละหวั่น อย่างเช่น Whimn แมกกาซีนออนไลน์สัญชาติออสเตรเลีย บอกว่านี่มันไม่ใช่ชุดว่ายน้ำแต่เป็นเสื้อผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดว่ายน้ำต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้น ใครจะไปคิดว่าชุดว่ายน้ำชุดนี้กลับขายดีอย่างเทน้ำเทท่า จนหมดสต๊อกของทางเว็บไปแล้ว… สำหรับเรื่องราคาของเจ้าชุดว่ายน้ำชุดนี้ ก็เบาๆ ตกอยู่ที่…
-
น้ำเย็นเข้าลูบ… หนุ่มทะเลาะกับเมีย ใช้ ‘การจูบ’ แก้ปัญหา สุดท้ายโดนกัดลิ้นขาดพูดไม่ได้!!
หลายคนที่มีแฟนคงจะเข้าใจกันดีว่า บางครั้งการใช้ชีวิตร่วมกันก็เป็นเสมือนกับ ‘ลิ้นกับฟัน’ ที่ต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ใดๆ ก็ตาม แต่ถ้าคุณคิดว่าระหว่างที่มีการทะเลาะกันเกิดขึ้น ‘การจูบ’ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยผ่อนคลายอารมณ์ บางทีกรณีของคู่รักคู่นี้อาจทำให้ความคิดของคุณเปลี่ยนไปเลยก็เป็นได้… เมื่อไม่นานมานี้ชายวัย 22 ปีคนหนึ่งจากรัฐเดลี ประเทศอินเดีย ต้องรีบบึ่งไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผลที่ลิ้น หลังถูกภรรยากัดจนขาด!! ในเวลาต่อมาภรรยาคนที่บรรจงใช้ฟันเป็นเครื่องตัดอันโหดเหี้ยมก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม เธอสารภาพว่าที่ทำอย่างนี้ก็เพราะว่าไม่ค่อยมีความสุขกับการใช้ชีวิตคู่ของเธอนัก รวมถึงเรื่องรูปลักษณ์ของสามีเธอที่มันช่างไม่น่าดึงดูดเอาซะเลย เธอเลยทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว วิดีโอของเหตุการณ์นี้ “พวกเขาทะเลาะกันเป็นปีๆ แล้ว เธอเคยเรียกเขาว่า ‘เจ้าหมา’ และบางครั้งก็ทุบตีเขารวมถึงใช้รองเท้าเป็นอาวุธด้วย” แม่ของหนุ่มคนนี้กล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสอบสวนแล้วก็พบว่า เหตุรุนแรงในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 22 กันยายนที่บ้านของทั้งคู่ โดยในช่วงเย็นวันดังกล่าวนาย Karan ได้เข้าบ้านตามปกติ ซึ่งก็อีกตามเคยทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่ด้วยความที่อยากจะทำให้อารมณ์ของภรรยาเย็นลง นาย Karan จึงได้เลือกวิธีการจูบเข้าใช้ ซึ่งในช่วงแรกๆ ภรรยาของเขาก็เหมือนจะมีอารมณ์ดีขึ้นและจูบกลับ ทว่าไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นเธอกลับกัดเข้าไปที่ลิ้นของชายคนนี้เต็มๆ จนทำให้ลิ้นขาดออกมากองอยู่ตรงนั้น… เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครเป็นคนแจ้งตำรวจกันแน่ แต่ที่รู้ๆ ในตอนนี้นาย Karan ยังไม่สามารถพูดได้…
-
เสือล้มลงและชักกระตุกจนหมดสติ หลังถูกคณะละครสัตว์บังคับให้กระโดดลอดห่วงไฟ
“คณะละครสัตว์” คือกลุ่มคนที่ทำออกตระเวนโชว์การแสดงไม่ว่าจะเป็นกายกรรม ละครตลก ดนตรีหรือโชว์การฝึกสัตว์อีกด้วย โดยสัตว์ที่พวกเขานำมาฝึกก็มีมากมายหลายชนิดตั้งแต่สัตว์ที่เป็นมิตรกับมนุษย์เช่นช้างหรือลิง ไปจนสัตว์ที่ดุร้ายอย่างเสือหรือสิงโต ซึ่งก็มีหลายครั้งที่เกิดการแสดงผิดพลาดขึ้นมา รวมถึงครั้งที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันในวันนี้ด้วย เมื่อเจ้าเสือประจำคณะละครแห่งหนึ่งล้มลงและชักกระตุกอย่างไม่หยุด หลังถูกบังคับให้กระโดดลอดห่วงไฟ เจ้าเสือตัวนั้นอายุได้ 6 ปี มีชื่อว่า Zena ซึ่งกำลังทำการแสดงคู่กับนักแสดงหลักพี่ชายและน้องสาว Artur และ Karina Bagdasarov อยู่ในคณะละครสัตว์แห่งเมือง Magnitogorsk ประเทศรัสเซีย การแสดงเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมือนปกติ จนถึงฉากที่ต้องโชว์กระโดดลอดห่วงไฟ เจ้า Zena กลับมีท่าทีกลัวการกระโดดเป็นอย่างมากและดูเหมือนว่ามันจะปฏิเสธที่จะกระโดดลอดห่วง เมื่อเห็นท่าไม่ดี Artur จึงได้เข้าไปตีด้วยไม้เพื่อกระตุ้นให้เจ้าเสือแสดงโชว์ต่อไป แต่นั่นกลับยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงและยิ่งทำให้ Zena กลัวจนล้มตัวลงและชักกระตุกไม่หยุดกระทั่งหมดสติไป เมื่อเกิดเรื่องดังกล่าว Artur จึงได้ลาก Zena ลงมาจากเวทีการแสดงให้มาอยู่ในพื้นที่โล่ง ซึ่งภายหลังเข้าก็สามารถเรียกสติของ Zena กลับมาได้โดยการราดน้ำใส่ จากเหตุการณ์นี้เองกลุ่มคณะละครสัตว์ถูกโจมตีเรื่องทารุณกรรมสัตว์อย่างมากมาย แต่พวกเขาก็ยังบอกว่าแท่งไม้เป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะว่าพวกเขากลัวที่เสือตัวอื่นจะมาทำร้าย Zena จึงต้องใช้มันเพื่อป้องกันให้แก่มัน Karina ให้สัมภาษณ์ว่า “Artur ทำดีที่สุดในการนำสติของ Zena กลับมา…
-
คาซัคสถานผ่านร่างกฎหมาย อนุมัติใช้ ‘ยาฝ่อ’ เพื่อลงโทษผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
ปัญหาการกระทำความผิดทางเพศต่อผู้เยาว์ ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลากหลายประเทศ และบทลงโทษของผู้กระทำความผิดนั้น ไม่มีวี่แววจะช่วยลดปัญหาให้น้อยลงได้ ซึ่งหากพูดถึงแนวทางการลงโทษ การฉีดยาฝ่อเพื่อให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายๆ ประเทศสนใจ และล่าสุดคาซัคสถานก็เริ่มนำบทลงโทษดังกล่าวมาใช้แล้ว คาซัคสถานเริ่มบังคับใช้บทลงโทษฉีดยาฝ่อ กับผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แหล่งข่าวระบุว่า ชายไม่ระบุชื่อผู้กระทำความผิดในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเยาวชนในปี 2016 จากภูมิภาคเตอร์กิสถาน จะเป็นรายแรกที่ถูกฉีดยาฝ่อจากนาง Lyazzat Aktaeva รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคาซัคสถาน อีกทั้งยังเปิดเผยว่า Nursultan Nazarbayev ประธานาธิบดีของคาซัคสถาน ได้อนุมัติงบประมาณกว่า 870,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฉีดยาฝ่อให้กับผู้กระทำความผิดกว่า 2,000 ราย ที่ก่อคดีในปีนี้ Nursultan Nazarbayev ประธานาธิบดีของคาซัคสถาน “ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2018 คำสั่งของกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยกฎและการใช้สารเคมีลดสมรรถภาพทางเพศ ได้ถูกนำมาบังคับใช้แล้ว… ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคำตัดสินของศาลด้วย งบประมาณได้ถูกจัดเตรียมบางส่วน และวันนี้ หนึ่งในผู้กระทำผิดได้รับคำตัดสินจากศาลให้รับโทษด้วยการฉีดยาฝ่อเรียบร้อยแล้ว” นาง Lyazzat Aktaeva กล่าวแถลงกับสื่อท้องถิ่น Lyazzat Aktaeva รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคาซัคสถาน …
-
คุณแม่ชาวญี่ปุ่นถูกจับกุม หลังสารภาพผิด ‘ทิ้งลูกแรกเกิดไว้ในล็อคเกอร์’ นานกว่า 5 ปี…
กลายเป็นข่าวที่สร้างความรู้สึกช็อคอย่างบอกไม่ถูก ด้วยพฤติกรรมของบุคคลผู้เป็นแม่หลังให้กำเนิดลูกน้อยได้ไม่นาน กลับปิดบังและฆ่าลูกในไส้ของตัวเองทั้งเป็น… เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงโตเกียว ทำการจับกุม Emiri Suzaki หญิงวัย 49 ปี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่เธอเดินทางมามอบตัว พร้อมกับรับสารภาพว่าทิ้งลูกวัยแรกเกิดไว้ในตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญเอาไว้นานหลายปี ในช่วงวันจันทร์ก่อนวันจับกุม เจ้าหน้าที่พบร่างของเด็กทารกสภาพเน่าเปื่อยถูกห่อด้วยถุงพลาสติก ในตู้ล็อคเกอร์ของสถานีรถไฟฟ้า Uguisudani แขวงไทโต จนกระทั่งนาง Suzaki ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจในแขวงอารากาวะ เพื่อแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าเธอทิ้งร่างลูกของตัวเองเอาไว้ในล็อคเกอร์ ประมาณ 4 – 5 ปีก่อน โดยจ่ายค่าตู้หยอดเหรียญและสลับตู้ไปเรื่อยๆ “ฉันรู้สึกกลัวหลังจากที่คลอดลูกออกมาแล้ว แต่เด็กไม่รอดชีวิต เลยตัดสินใจเก็บร่างเอาไว้แทนเพราะไม่รู้จะทำยังไง” หนึ่งในคำให้การของนาง Suzaki แก่เจ้าพนักงาน เธอตัดสินใจเข้ามอบตัว หลังจากมีปากเสียงกับชายที่คบหากันและต้องหนีออกจากบ้านมา ซึ่งหลังจากที่ออกมาแล้ว กลับลืมกุญแจตู้ล็อคเกอร์ที่เก็บร่างเด็กเอาไว้ เธอคิดว่าเขาอาจจะหากุญแจเจอ และนำไปเปิดตู้ล็อคเกอร์และเจอกับศพของเด็กเข้า ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ร่างของเด็กทารกถูกทิ้งภายหลังจากคลอดมาได้ไม่นานนัก และกำลังทำการสืบสวนหาสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป ที่มา: japantimes, dailymail, scmp
-
สาวแชร์เรื่องน่าอาย เมื่อเธอลืมแก้ชื่ออาจารย์ก่อนส่งรายงาน เล่นเอาจารย์น้ำแทบพุ่ง!!
ช่วงที่เรียนอยู่ ถือว่าเป็นช่วงสนุกๆ ช่วงหนึ่งของชีวิต ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่ผ่านช่วงนี้ต้องเคยได้รับมอบหมายให้ทำรายงานสักเรื่องจากอาจารย์เป็นอย่างแน่นอน ซึ่งเวลาส่งเราก็ต้องเขียนชื่ออาจารย์ที่เราจะส่งถึงอยู่ด้วย และนี่แหละที่จะกลายมาประเด็นฮาๆ ให้เราได้พูดถึงกันในวันนี้ เมื่อ Zoey Oxley นักศึกษาสาวสายปาร์ตี้ เธอได้ส่งรายงานให้อาจารย์ที่มหาวิทยาลัย แต่ดั๊นไม่ได้เปลี่ยนชื่ออาจารย์ให้ถูกต้อง… และเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าเธอตั้งชื่ออาจารย์ว่าอะไร? เธอพิมพ์ชื่ออาจารย์ว่า “ศาสตราจารย์จวยไรวะ” เอ้า!! หากอาจารย์ได้เห็นคงบันเทิงอย่างแน่นอน https://twitter.com/Hendyhendel/status/1042475666678198272 และก็เป็นอย่างที่เราคาดการณ์กัน เมื่ออาจารย์คนดังกล่าวได้รับรายงานจากนักศึกษาสาว แม้ว่า Zoey จะส่งอีเมลมาบอกว่าขอโทษอาจารย์ด้วยหนูลืมใส่ชื่ออาจารย์ผิดไป เขาก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรมากเลยตอบไปว่าไม่เป็นไร แต่เมื่อเปิดรายงานดูก็ได้เรื่องเซอร์ไพรส์ทันที จุดพีคคือในวันที่ 20 กันยายน 2018 อาจารย์ท่านนี้ได้แชร์เรื่องดังกล่าวลงในทวิตเตอร์ว่า “นักศึกษาส่งอีเมลมาหาผมว่าเธอใส่ชื่อผมผิดบนหัวกระดาษ ผมก็ตอบกลับไปว่า ‘ขอบคุณนะ แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก’ ก่อนที่ผมจะเปิดดูงานและพบว่าชื่ออาจารย์ผู้สอนคือ ‘ศาสตราจารย์จวยไรวะ’” ที่พีคกว่านั้นคือเขาถึงกับเปลี่ยนชื่อแอคเคาต์ทวิตเตอร์ของตัวเองให้เป็น “ศาสตราจารย์จวยไรวะ” เหมือนอย่างในรายงานของนักศึกษาด้วย (555) A series of unfortunate events: pic.twitter.com/xSnT0JTYPV — zo (@Zoeyoxley) September 20, 2018…
-
นักศึกษาวิศวะฯ จีนโดน ‘ไล่ออก’ กรณีโพสต์ลงโซเชียล ‘ไม่เคยรักชาติตัวเอง’
ว่ากันว่าโซเชียลคือพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าใครก็ตามสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ได้ แต่ทว่าก็ไม่ใช่ทั้งหมด เนื่องจากความคิดเห็นบางส่วนที่ไม่ควรเผยออกมา ก็กลายเป็นดาบสองคมหวนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับนักศึกษาวิศวกรรมโยธา ชั้นปีที่ 1 เพิ่งได้เริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย Hunan City University กลับถูกปลดให้พ้นสภาพนักศึกษา เนื่องจากปฏิบัติตนขัดกับนโยบายมหาวิทยาลัยภายใต้แนวทางพรรคคอมมิวนิสต์ Wang Dong อายุ 18 ปี ลงทะเบียนเรียนระดับปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมโยธา กับทางมหาวิทยาลัย Hunan City University เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นเพียง 10 วัน เขาถูกสอบสวนจากทางมหาวิทยาลัยเนื่องจากได้รับร้องเรียนว่า เขาโพสต์ข้อความลงในโซเชียลมีเดียด้วยลักษณะโจมตีชาติตัวเอง หนึ่งในคอมเมนต์ของเขาบน Weibo เขียนเอาไว้ว่า ‘การรักประเทศของผมเป็นไปไม่ได้ ผมไม่อาจรักประเทศชาติตัวเองได้’ รวมไปถึงโพสต์อื่นๆ ที่แสดงความคิดเห็นในเชิงรุนแรง เกี่ยวกับการให้ร้ายประเทศจีนที่ถูกระบุว่าเป็นการปลุกปั่นและยั่วยุ ผลที่ตามมาก็คือนาย Wang ถูกตัดชื่อออกจากทางมหาวิทยาลัย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์จีนบนโพสต์ประกาศทางการของมหาวิทยาลัยกว่า 19,000 คอมเมนต์ ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย “ถ้าใครสักคนถูกลงโทษจากความไม่รักชาติ…
-
เผยเบื้องหลังคอนเซ็ปต์ Murakami Flower รอยยิ้มจากความเจ็บปวด ‘ระเบิดปรมาณู’
ช่วงนี้ยังคงวนเวียนอยู่กับผลงานพวงกุญแจติดห้อยรูปดอกไม้หน้ายิ้มแป้น Murakami Flower ผลงานการออกแบบชิ้นเอกของเจ้าพ่อป๊อปอาร์ทฝั่งญี่ปุ่น Takashi Murakami ทั้งนี้กว่าจะมาเป็นดอกไม้ยิ้มแป้นอย่างที่เราเห็นกัน เบื้องหลังของดอกไม้กลับไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากสิ่งที่สวยงาม แต่เป็นความเจ็บปวดและความสูญเสียจากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณู Fat Man ลงถล่มเมืองนางาซากิ https://www.instagram.com/p/Bai65qTAo98/ โดยในวันนั้นระเบิด Fat Man จะลงเป้าหมายที่เมืองโคคุระอันเป็นบ้านเกิดของนาย Murakami แต่ด้วยสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ทหารอเมริกันจึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นนางาซากิแทน “‘โตได้แล้ว’ นี่คือคำพูดของคุณแม่ของคุณ Murakami ที่คอยย้ำเตือนเขาว่า ดีแค่ไหนที่อยู่ภายในเมืองโคคุระในวันนั้น เธออาจจะไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ รวมถึงตัวเขาด้วย” กล่าวโดย Nick Simunovic ผู้จัดการแกลอรี่ในฮ่องกงที่เคยจัดงานแสดงศิลปะให้กับเขา และ Murakami เองเคยเปิดเผยผ่านสารคดีของทาง BBC Four ในตอน Takashi Murakami – Birth of Super flat ไว้ว่า… “พวกเราชาวญี่ปุ่น คือผู้ที่ประสบกับเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูจริงๆ โดยที่ทุกอย่างหายไปในพริบตา ต้องขอบคุณสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นกลับมีพลังรุนแรงมากกว่าพระเจ้า……
-
เด็กเฟรชชี่รัสเซียลงทุนแก้ผ้า โชว์ท่วงท่ายั่วยวนบนเวที หวังชิงรางวัลมูลค่า 490 บาท!!
หลายๆ มหาวิทยาลัยอาจมีการประกวดดาวเดือน เฟ้นหาหนุ่มหล่อสาวสวยประจำของแต่ละคณะ หรืออาจมีการแข่งขันกีฬาของนักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 อะไรทำนองนั้น แต่ในประเทศรัสเซีย กลับมีการแข่งขันสำหรับน้องใหม่ในแบบที่เราอาจไม่เคยเห็นกันมาก่อน และไม่คาดคิดว่าจะมีได้ เมื่อเด็กเฟรชชี่ชายหญิงต่างพากันถอดเสื้อผ้าบนเวที โชว์ความวาบหวิว เพื่อชิงของรางวัลมูลค่า 490 บาท?! นี่คือภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในผับ Baikonur เมือง Tyumen นักศึกษาปี 1 จากหลายๆ มหาวิทยาลัยท้องถิ่นต่างพามารวมตัวกันเข้าแข่งขันโชว์สุดพิสดาร ติดเรท 18+ บนเวทีจะมีการประกวดมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันโกนหัว การให้ชายหญิงทำท่าเหมือนกับมีเพศสัมพันธ์กันทางปาก หรือแม้แต่การแก้ผ้าโชว์ลีลาวาบหวิว การทำท่าเสมือนว่ามีเพศสัมพันธ์กันทางปาก จากการรายงานบอกว่านักศึกษาเข้าแข่งขันกันเพื่อชิงบัตรกำนัลร้านรอยสักมูลค่า 11.50 ปอนด์ (ราวๆ 490 บาท) ภาพจากการรายงานในวันที่ 25 ก.ย. 2018 . หลังจากคลิปดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสในโลโซเชียล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งทำการสอบสวนตรวจสอบหาต้นตอของสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป ทางด้านมหาวิทยาลัยเองก็แจ้งเตือนกับนักศึกษาใหม่ว่า หากใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อาจต้องโดนลงโทษ พักการเรียน หรืออาจถูกไล่ออกได้เลย คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว (หากดูไม่ได้กดที่ลิงก์…
-
เปิดคดี Mary Kay Letourneau ครูสาวผู้หลงรัก “นักเรียน” ของตัวเองมากว่า 20 ปี!!
กลายเป็นคดีสุดโด่งดังและเป็นต้นแบบให้กับวรรณกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิยาย ละคร หรือภาพยนตร์ สำหรับ Mary Kay Letourneau (แมรี เคย์ ลิทัวโน) คุณครูสาวสวยที่ “หลงรัก” นักเรียนชายของตัวเอง ในปี 1995 Mary Kay Letourneau ครูสาวชาวอเมริกันวัย 34 ปี ได้พบเจอกับ Vili Fualaau นักเรียนชายวัย 12 ปีของเธอ และเกิดหลงรักเข้าอย่างจริงจังทั้งที่เธอเองก็แต่งงานและมีลูกแล้วถึง 4 คน Mary Kay Letourneau Mary ตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์กับ Vili นั่นทำให้เธอได้รับความผิดฐานพรากผู้เยาว์เพราะถือเป็นการข่มขืนเด็กชายที่ยังเป็นเยาวชน จากเหตุการณ์นี้เองทำให้เธอตั้งครรภ์ลูกคนแรกกับ Vili ภายใต้การรับสารภาพของ Mary ทำให้โทษของเธอลดลงเหลือเพียงจำคุก 6 เดือน รอลงอาญาอีก 3 เดือน และห้ามติดต่อกับ Vili อีกตลอดชีวิต แต่นี่ความรักคงห้ามกันไม่ได้ หลังจากที่ติดคุกได้ 3 เดือน เธอก็ถูกจับได้ว่าแอบไปมีเพศสัมพันธ์กับ Vili…
-
ผู้ใช้ท้องถนนต้องตะลึง หลังเจอหนุ่มใหญ่ร่างท้วมขับ “รถบั๊ม” ออกมาวิ่งหน้าตาเฉย
สมัยเด็กๆ เพื่อนๆ เคยมีโอกาสได้ไปเดินเที่ยวเล่นตามงานวัดหรืองานกาชาดอะไรแบบนี้กันบ้างมั้ย? หากเคยไปเดินล่ะก็เรามักจะเห็นของเล่นมากมายที่เขาตั้งเอาไว้รอให้เราไปจ่ายเงินเล่นอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน ปราสาทลม แต่ที่ฮิตสุดๆ ในหมู่วัยรุ่นก็คงไม่พ้นกับของเล่นที่เรียกว่า “รถบั๊ม” ที่เราสามารถขึ้นไปขับเจ้ารถที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ พุ่งเข้าชนใส่ผู้ขับรถคันอื่นๆ ในลานกว้างๆ พร้อมกับดีเจและเสียงเพลงสุดเร้าใจยิ่งทำให้เราสนุกสุดเหวี่ยงไปกับมันมากขึ้นไปอีก ซึ่งปกติแล้วเราจะเห็นรถบั๊มได้แค่ตามในงานวัดหรือสวนสนุกเท่านั้น แต่ข่าวที่จะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ต้องทำให้ประหลาดใจกันอย่างแน่นอน เพราะว่ามีคนนำเอาเจ้ารถบั๊มออกมาวิ่งในถนนจริง!! โดยเรื่องราวเกิดขึ้นช่วงเย็นของวันที่ 19 กันยายน 2018 ณ เมือง Harlow มณฑลเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ เมื่อผู้ใช้รถยนต์ท่านหนึ่งได้สังเกตเห็น ชายรูปร่วมท้วมกำลังขับยานพาหนะชนิดหนึ่งกำลังรอที่จะข้ามถนน ใช่แล้ว…พาหนะชนิดนั้นคือรถบั๊มนั่นเอง เมื่อเรื่องวิดีโอดังกล่าวถูก Telematics Pro อัปโหลดขึ้นไปบนโลกออนไลน์พร้อมกับแคปชั่นว่า “นี่ไม่ใช่อะไรที่เราจะได้เห็นอยู่บนถนนในทุกๆ วัน” ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์ว่า “นี่มันรถตำรวจรุ่นใหม่แน่ๆ แบบประหยัดงบอ่ะ” หรือจะเป็น “เขาต้องแอบไปทำอาชญากรรมอะไรมาแล้วทิ้งรถเก่าและมาเอารถคันใหม่ที่เน้นความเงียบแน่ๆ” แต่เมื่อเราลองค้นหาข้อมูลต่อไปแล้ว ก็พบว่าเขาคือเจ้าของกลุ่มและเพจ Abused mobility scooters And More กลุ่มที่ชื่นชอบรถขับเคลื่อนโดยมอเตอร์อย่างสกู๊ตเตอร์หรืออื่นๆ (ที่ไม่ใช่รถยนต์แบบปกติ) ก็เรียกได้ว่าเป็นสีสันที่แปลกประหลาดเวลาที่ไม่ค่อยได้เห็นจากบนท้องถนนสักเท่าไหร่ ไม่รู้ในไทยถ้านำรถบั๊มมาขับบ้างจะถูกพี่ตำรวจจับมั้ยน้าาาา? …
-
น่าทึ่ง!! หนุ่มอินโดพร้อมกับแพถูกพายุพัดออกไปอยู่กลางทะเล ลอยคออยู่ 49 วันยังรอด
สภาพอากาศถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่นักเดินเรือหรือชาวประมงต้องทำการศึกษาและเรียนรู้อยู่เสมอ เพราะหากคุณออกไปหาปลาขณะที่เกิดพายุอยู่อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ขนาดไม่ได้ออกไปหาปลาถึงกลางทะเลก็ยังอาจจะเจอเหตุร้ายจากพายุได้ เหมือนอย่างหนุ่มคนที่เราจะนำมาพูดถึงวันนี้ เขากำลังใช้แสงไฟเพื่อล่อปลาอยู่บนแพกระท่อมที่เรียกว่า “Rompong” ขณะที่เกิดพายุขึ้นและพายุก็ได้พัดเอาแพของเขาลอยไปไกลเกือบ 2,000 กิโลเมตรและใช้เวลาถึง 49 วันกว่าจะมีคนพบตัว คนคนนั้นคือ Aldi Novel Adilang หนุ่มวัย 19 ปีจากเกาะ Sulawesi ของประเทศอินโดนีเซีย ในขณะที่แพกระท่อมของเขาถูกพายุพัดพาออกจากถิ่นไปไกลประมาณ 1,900 กิโลเมตร แพของเขานั้นมีอาหารติดอยู่เพียงพอสำหรับวันสองวันเท่านั้น แถมยังไม่มีไม้พายหรือเครื่องยนต์ที่จะทำให้เขาสามารถนำมันกลับเข้าฝั่งได้ด้วย ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมานี้ Aldi ได้ต้องเอาตัวรอดโดยการพยายามจับปลาและเผาเศษไม้บนแพเพื่อทำให้มันสุก ส่วนเรื่องของน้ำดื่มเขาก็อาศัยดื่มน้ำทะเลที่กรองเอาเกลือออกผ่านเสื้อของเขา วันแล้ววันเล่าที่เจ้าหนุ่มต้องลอยคออยู่กลางทะเลที่ไม่รู้อยู่จัดไหนของโลก เขาได้บอกว่าเขาเจอเรือเป็นสิบๆ ลำและมีความหวังเสมอเมื่อเห็นเรือลำใหญ่ๆ เข้ามา แต่เรือเหล่านั้นกลับมองไม่เห็นเขาและแล่นผ่านเขาไปโดยไม่สนใจเลยสักนิด จนผ่านมา 49 วัน ในวันที่ 31 สิงหาคม ในที่สุดลูกเรือของเรือของชาวปานามาก็ได้สังเกตเห็นเขาและช่วยเขา จากนั้นเขาจึงรู้ว่าตัวเองในบนน่านน้ำของเกาะกวม ซึ่งห่างจากประเทศอินโดนีเซียถึง 1,900 กิโลเมตร!! พวกลูกเรือชาวปานามาได้พาเขาส่งไปที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ซึ่งเขาได้รับการดูแลอย่างดีจาก Mirza ตัวแทนกงสุลอินโดนีเซียในประเทศญี่ปุ่น พวกเขาพา Aldi ไปตรวจสุขภาพและพบว่าสุขภาพของเขาดีมากๆ…
-
หมดยุคศัยกรรม! เป็น ‘สาวอึ๋ม’ ได้ง่ายๆ ด้วย “ซิลิโคนคอสเพลย์” หน้า ผม นม มาครบจ้า!!
ต้องยอมรับเลยว่า การคอสเพลย์ กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งประเทศไทยและต่างประเทศต่างก็มีจำนวนผู้แต่งกายตามตัวละครในวรรณกรรมจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้น การคอสเพลย์ยังเปิดโอกาสให้ผู้คนได้แต่งกายตามใจชอบ ไม่ว่าคุณจะเป็นวัยหรือเพศใด ก็สามารถแต่งกายเป็นตัวละครต่างวัยและต่างเพศได้เสมอ เช่น หนุ่มที่อยากแต่งเป็นตัวละครสาว เป็นต้น ปัจจุบันร้านขายของออนไลน์จากประเทศจีนได้จับทางของตัวเองได้ จึงมีการขายสินค้าสำหรับผู้ที่อยากแต่งคอสเพลย์เป็นตัวละครที่ข้ามเพศและข้ามอายุกับตนเอง สินค้านั้นก็คือ หน้ากากและชุดซิลิโคนเสมือนจริง Eyung Crossdressing Store เป็นร้านขายของบน AliExpress ซึ่งสินค้าภายในจะเป็นหน้ากากซิลิโคน (ที่เหมือนคนมากๆ) พร้อมทั้งชุดซิลิโคนครึ่งตัวและเต็มตัวที่สามารถเลือกหน้าอกได้หลายขนาด ลูกค้าสามารถเลือกได้ 3 แบบ ได้แก่ 1) หน้ากากชิ้นเดียว 2) หน้ากากแบบเต็มศีรษะ และ 3) หน้ากากเต็มศีรษะพร้อมด้วยหน้าอก ส่วนราคาก็แตกต่างกันไปตามลักษณะของสินค้า ถ้าเป็นหน้ากากแบบชิ้นเดียว ก็จะเริ่มต้นที่ 98 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราวๆ 3,200 บาท) แต่ถ้าเป็นชุดซิลิโคนเต็มตัวพร้อมศีรษะก็จะอยู่ที่ราวๆ 21,000 บาท นับว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลทีเดียว สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นที่จดจำในการแต่งคอสเพลย์เป็นเพศตรงข้ามชนิดที่ว่าแนบเนียนสุดๆ ลองชมตัวอย่างสินค้าต่างๆ จากทางร้านได้เลย . . . นอกจากชุดเพศหญิงแล้วยังมีชุดซิลิโคนโมเดลผู้ชายให้เลือกสรรกันด้วย…
-
เป็นไปได้ไง? เด็กเวียดนาม 5 ขวบ “พูดภาษาอังกฤษ” คล่องเป๊ะ แต่พูดเวียดนามไม่ได้…
ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันที่ใครๆ ก็อยากมีติดตัวกันทั้งนั้น ยิ่งสำหรับคนที่เติบโตมาในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักแล้ว กว่าจะใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วก็ต้องฝึกฝนกันยาวนาน แต่เรื่องราวในวันนี้เกี่ยวกับหนูน้อยเพศชายวัย 5 ขวบชาวเวียดนามที่สามารถ พูดภาษาอังกฤษ ได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งที่ตนเองยังพูดภาษาเวียดนามได้ไม่แข็งแรงแท้ๆ Le Nguyen Bao Trung หรือฉายาว่า Bin หนูน้อยวัย 5 ขวบชาวเวียดนาม วันนี้เขาสามารถพูดและอ่านภาษาอังกฤษได้อย่างดีเยี่ยม แต่ขณะเดียวกันสำหรับภาษาเวียดนามซึ่งควรจะเป็นภาษาหลัก เขากลับใช้ได้ไม่คล่องแคล่ว Le Nguyen Bao Trung หรือ Bin วัย 5 ขวบ ขณะที่หนูน้อย Bin มีอายุได้ 2 ขวบเขาก็เริ่มพูดคำแรกได้ Le Thi Lien ผู้เป็นแม่จำความได้ว่าในช่วงแรก Bin มักชี้นิ้วไปยังปฏิทินพูดออกมาว่า “Eleven (อิเลฟเวน)” ที่แปลว่าเลขสิบเอ็ด โดยที่ฝ่ายแม่ยังไม่เคยพูดภาษาอังกฤษให้เขาได้ยินเลยสักครั้ง จากนั้น แม่ของ Bin ก็ต้องตกใจมากขึ้นอีกเมื่อเจ้าหนูสามารถนับเลข 1-30 เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างแม่นยำ จนปัจจุบัน Bin ในวัย 5 ขวบนั้นสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้…
-
รายการทีวีสวีเดน กล่าวและล้อพฤติกรรมแย่ๆ ของ ‘คนจีน’ เหมารวมเหยียดไปทั้งแผ่นดิน!
เป็นที่ทราบชื่อเสียงเรียงนามในเรื่องของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มักจะมีข่าวและภาพแง่ลบออกมาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสียงดัง การถ่มน้ำลาย และพฤติกรรมแย่แบบอื่นๆ ที่ไม่ควรทำ ทว่ารายการทีวี Svenska Nyheter จากประเทศสวีเดน ได้หยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาเล่าอีกครั้ง ในหัวข้อยินดีต้อนรับชาวจีนสู่สวีเดน และกล่าวถึงสิ่งที่ควรและไม่ควรกระทำ โดยระบุเจาะจงไปที่นักท่องเที่ยวชาวจีน ภายในวิดีโอของรายการนั้น มีพิธีกรหญิงได้ออกมากล่าวถึงพฤติกรรมที่ไม่ควรทำของชาวจีน (พากย์ทับเป็นเสียงภาษาจีน) ออกมาเป็นเชิงมุกตลกล้อเลียนมากกว่า แต่ชาวจีนกลับรู้สึกไม่พอใจเนื่องจากเป็นการเหยียดและเหมารวมชาวจีนทั้งหมด เปิดมาทางรายการได้ยกตัวอย่างพฤติกรรมแรก กล่าวว่า ‘ในสวีเดน เราไม่อุจจาระเรี่ยราดตามสถานที่ทางประวัติศาสตร์’ “ถ้าเห็นคนเดินจูงสุนัขบนท้องถนน ไม่ได้หมายความว่า ‘สุนัข’ เป็นมื้อกลางวันของพวกเขานะ” “เราใช้ส้อมกับมีดรับประทานอาหารในสวีเดน และเราก็ไม่อุจจาระกลางคันระหว่างทานด้วย” “อีกหนึ่งความแตกต่างทางวัฒนธรรม คือชาวจีนนั้นเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติ” “แต่ในสวีเดน เรามีทั้งคนผิวสี ชาวยิว ชาวอาหรับ และคนรักร่วมเพศ” “นั่นเป็นเพราะพวกเราสนับสนุนสิทธิของทุกคนในเรื่องของความเท่าเทียม” “อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ใช้หลักการนั้นกับชาวจีน” ซึ่งภายหลังจากที่เนื้อหาภายในรายการออนแอร์ไปแล้ว วิดีโอคลิปตัวดังกล่าวก็ถูกแพร่กระจายต่อไปยัง Weibo ซื่อโซเชียลของชาวจีน และกลายมาเป็นหัวข้อติดอันดับการค้นหาด้วย…
-
“One Cut of The Dead” หนังแนวอินดี้ซอมบี้ ต้นทุนแค่เกือบล้าน แต่รายได้ทะลุ 200 ล้านบาท!!
One Cut of The Dead คือหนังอินดี้สัญชาติญี่ปุ่นที่มีการผสมผสานเรื่องราวของซอมบี้เข้าไป และเป็นหนังต้นทุนต่ำที่ใช้เงินทุนในการสร้างเพียงแค่ 27,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 876,000 บาท) One Cut of The Dead หนังแนวอินดี้-ซอมบี้ ต้นทุนต่ำ ไม่มีใครคิดว่าหนังเรื่องนี้จะได้รับความนิยมชนิดที่ว่าเปรี้ยงปร้างเอามากๆ เพราะล่าสุดจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เพียงแค่ 3 แห่งในกรุงโตเกียว กลับทำรายได้ได้มากถึง 7.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 233 ล้านบาท)!! รายได้นั่นเท่ากับ 250 เท่าของต้นทุนเลยทีเดียว!! (เข้าฉายในญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2018) One Cut of The Dead คือหนังที่ว่าด้วยเรื่องของ “การทำหนังซอมบี้ขึ้นมาสักเรื่อง” โดยฉากแรกนั้นคือการถ่ายทำหนังซอมบี้แบบที่ไม่มีการสั่งคัท ถ่ายติดต่อกันไปเรื่อยๆ ด้วยความยาวกว่า 37 นาที นั่นจึงอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน สังเกตได้จากคะแนนรีวิวในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes…
-
คลิปไวรัล พนักงานร้านอาหาร ‘ถ่มน้ำลายใส่พิซซ่า’ ของลูกค้า ก่อนราดซอสทับลงไป…
ยามที่เราไปรับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารต่างๆ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าภายในห้องครัวหลังร้านนั้น มีการเตรียมอาหารกันอย่างไรบ้าง อย่างเช่นตัวอย่างจากวิดีโอหนึ่งที่กำลังโด่งดังบนโลกออนไลน์ ที่หนุ่มทำพิซซ่าคนหนึ่งมีการ ถ่มน้ำลาย ลงบนแป้งพิซซ่าก่อนจะราดซอสปิดทับลงไป Jaylon Kerley หนุ่มพนักงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ขณะที่เขากำลังเตรียมพิซซ่าให้กับลูกค้า วิดีโอก็ถ่ายติดจังหวะที่เขากำลังถ่มน้ำลายลงไปบนแป้งพิซซ่าถอดหนึ่งที่เขากำลังเตรียม เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กันยายน 2018 และเขาก็ถูกไล่ออกจากงานพร้อมกับถูกจับกุมหลังจากที่พฤติกรรมของเขาครั้งนี้ถูกเผยแพร่ออกไป Quinelle May เพื่อนร่วมงานที่ถ่ายวิดีโอนี้และนำไปโพสต์ลงอินเทอร์เน็ตก็ถูกไล่ออกเช่นเดียวกัน คลิปวิดีโอ May เพื่อนร่วมงานของ Kerley กล่าวว่าวันนั้นเป็นวันที่แย่ของ Kerley จริงๆ เขาก็เลยถ่มน้ำลายใส่พิซซ่าแบบนั้น ซ้ำยังกล่าวต่ออีกว่า การกระทำครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก Kerley เคยถ่มน้ำลายใส่พิซซ่ามาก่อนหน้านี้แล้ว May บอกว่าที่นำวิดีโอมาเผยแพร่เพราะคิดว่าควรทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ทางเจ้านายของเขากลับพยายามไม่ให้นำไปเผยแพร่ Quinelle May โพสต์วิดีโอดังกล่าวลงบน อินสตาแกรม ของตัวเองพร้อมเล่าประกอบว่า วันที่เกิดเหตุเขาถูกไล่กลับบ้านเนื่องจากไม่ได้สวมเสื้อตามที่ทางร้านกำหนดมา และเขาใช้ห้องน้ำนานเกินไป จากนั้นเขาก็คิดว่าลูกค้าควรรู้ว่าในพิซซ่าของพวกเขามีน้ำลายอยู่ เพราะไม่มีลูกค้าคนไหนสมควรได้รับสิ่งที่น่าขยะแขยงแบบนี้ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าจากการกระทำครั้งนี้ Kerley…
-
ชาวเน็ตฮือฮา สาวผู้มารายการหาคู่ ตัดสินใจสารภาพรักกับผู้เข้าแข่งขันหญิงด้วยกันเอง
“ความรัก” เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน ซึ่งอาจจะหมายถึงความรู้สึกในเชิงชู้สาวหรือความสัมพันธ์ในครอบครัวก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆ คือความรู้สึกนี้มันไม่เลือกเวลาเกิด… แม้แต่ในรายการเรียลลิตี้โชว์ชื่อดังอย่าง The Bachelor ก็ตาม เมื่อผู้เข้าแข่งขัน “หญิง” สองคน ทำสิ่งที่ทำให้ผู้ชมและผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ต้องตกตะลึง เมื่อเธอสองคนเกิดความรู้สึกรักแก่กันและกัน และเลือกที่จะยอมตกรอบไปพร้อมๆ กับอีกฝ่าย ต้องบอกก่อนว่า The Bachelor นี้เป็นรายการที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกาและได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนมีหลายประเทศซื้อลิขสิทธิ์ไปทำตามๆ กัน โดยวัตถุประสงค์หลักตามเดิมของรายการนี้ก็คือการหาคู่แท้อยู่ เพียงแต่ว่าปกติแล้วผู้เข้าแข่งขันหญิงจะถูกเลือกโดยหนุ่มโสดที่รายการคัดเลือกมา ในคราวนี้ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใน The Bachelor ของประเทศเวียดนาม ในช่วงพิธีมอบกุหลาบ (Rose Ceremony) หรือก็คือพิธีที่ฝ่ายชายจะมอบดอกไม้ให้กับผู้เข้าแข่งขันหญิงและคนที่ได้รับกุหลาบก็จะสามารถเข้ารอบต่อไปได้นั่นเอง Minh Thu ไม่ได้รับดอกไม้จาก Nguyen Quoc Trung ผู้เข้าแข่งขันฝ่ายชายในคราวนี้ (ซึ่งแปลว่าเธอตกรอบและต้องออกจากรายการไป) เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะเปิดเผยความรู้สึกที่เธอมีต่อหน้ากล้องและผู้ชม เธอกล่าวว่า “ฉันมาเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้เพื่อที่จะหารักแท้และตอนนี้ฉันก็เจอรักแท้ของฉันแล้ว แต่นั่นไม่ใช่คุณ (ฝ่ายชาย) แต่เป็นคนอื่น” จากนั้นเธอก็เดินเข้ามาหาผู้เข้าแข่งขันหญิงอีกคนหนึ่งที่ชื่อ Truc Nhu และกอดเธอก่อนที่จะพูดกับเธอว่า “กลับบ้านกับฉันเถอะนะ” ท่ามกลางความตะลึงของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นและผู้ชม …
-
คนจริง!! หนุ่มวิ่งมาราธอนเข้าเส้นชัยได้ฉิวเฉียด ทั้งที่ไม่เคยซ้อม เหตุแค่แพ้เกมโดนลงโทษ
ภาพวินาทีของชายหนุ่มผู้วิ่งเข้าเส้นชัยการแข่งขันวิ่งมาราธอน 6 ชั่วโมง ด้วยเวลาฉิวเฉียดอีกเพียงแค่ 2 นาทีก่อนจะปิดการแข่งขัน คือหนึ่งในความภูมิใจแบบบ้าบิ่นสุดพลังของนาย Ian McNamara วัย 26 ปี ผู้ที่ไม่เคยซ้อมวิ่งมาราธอนเลยแม้แต่ครั้งเดียว Ian McNamara วิ่งเข้าเส้นชัยมาราธอนได้สำเร็จ ทั้งที่ไม่ได้ซ้อมเลย การเอาชนะขีดจำกัดของตัวเขาเองนั้น ไม่ได้มาจากลูกบ้าฮึดอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่เป็นไปด้วยบทลงโทษ จากการที่แพ้เกม NFL Fantasy Football (เกมจัดการทีมอเมริกันฟุตบอลอ้างอิงของจริง) โดยที่มีเพื่อนๆ คอยติดตามผลงานว่าเขาจะทำได้สำเร็จหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ในระหว่างกลุ่มเพื่อนก็ร่วมเล่นเกมดังกล่าวด้วยกันมาโดยตลอด 4 ปี โดยในทุกๆ ปี เพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กก็ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ โดยผู้ที่แพ้มักจะต้องลงเอยด้วยการทำอะไรห่ามๆ เช่น เล่นตลกเดี่ยวไมโครโฟน หรือ ไปอุจจาระในที่สาธารณะ แต่ปีนี้เป็นดวงซวยของ Ian ที่เป็นผู้พ่ายแพ้ และบทลงโทษคือการไปแข่งวิ่งมาราธอน โดยที่ไม่มีเวลาเตรียมตัวเลยแม้แต่น้อยกับระยะ 42 กิโลเมตรในรายการแข่งวิ่ง 2018 Hamilton Nightglow…
-
เรือนจำได้รับบริจาค “กล้วย” ก่อนพบว่ามี “โคเคน” มูลค่ากว่า 500 ล้านติดมาด้วย!!
เราอาจเคยได้ยินว่าเคยมีเหตุการณ์ซุกซ่อนของบางอย่างส่งไปให้นักโทษในเรือนจำ อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ หรือสารเสพติด แต่เชื่อว่าที่เคยได้ยินกันมานั้นมันคงไม่มีปริมาณเยอะมากขนาดนี้อย่างแน่นอน ล่าสุดช่วงกลางเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา เรือนจำในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้รับบริจาคกล้วยจำนวนมากโดยไม่ทราบแหล่งที่มา ซึ่งบอกแค่เพียงว่ากล้วยมันสุกแล้วเลยจะจัดส่งไปให้นักโทษได้กินกัน จนกระทั่งเมื่อพัสดุเดินทางมาถึงในวันที่ 21 กันยายน 2018 เจ้าหน้าที่เรือนจำ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของกรมยุติธรรมอาญาของรัฐ ก็ได้พยายามเคลื่อนย้ายเพื่อที่จะส่งต่อไปแจกจ่ายให้กับเหล่านักโทษ แต่แล้วเจ้าหน้าที่ก็สัมผัสได้ว่ามีอยู่กล่องนึงที่รู้สึกแปลกๆ แตกต่างจากกล่องอื่นๆ พวกเขาจึงทำการเปิดดูภายใน พบกล้วยอยู่เกือบเต็มกล่อง โดยที่ข้างใต้ของกล้วยนั้นมี “ผงสีขาว” ซ่อนอยู่ จากการตรวจสอบพบว่าผงสีขาวดังกล่าวก็คือ “โคเคน” นั่นเอง และเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบกล้วยทั้ง 45 ลังก็พบว่ามีโคเคนถูกซุกซ่อนเข้ามาอยู่มากถึง 540 ห่อเลยทีเดียว!! เจ้าหน้าที่บอกว่าโคเคนจำนวนมหาศาลขนาดนั้นมีมูลค่าสูงถึง 17,820,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 578 ล้านบาท) . หลังจากนี้จึงอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนต่อไป ผ่านการสอบถามจากบริษัท Ports of America ซึ่งเป็นผู้จัดส่งพัสดุดังกล่าวมาให้ เพื่อตามหาต้นตอที่มาของลังกล้วยทั้งหมด …
-
“บ้านที่แพงที่สุดในโลก” ราคากว่า 4 หมื่นล้านบาท อยู่กันแค่ 5 คน จ้างคนดูแลกว่า 600 คน!!
ที่เพื่อนๆ กำลังดูอยู่นี้ คือบ้านที่ได้ชื่อว่า “มีมูลค่ามากที่สุดในโลก” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย มาตั้งแต่ปี 2010 บ้านหลังใหญ่ สูงเสียดฟ้า บ้านหลังนี้มีทั้งหมด 27 ชั้น สูงกว่า 173 เมตร มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 37,161 ตารางเมตร มีสระว่ายน้ำ สนามหญ้าลอยฟ้า หรือแม้แต่ที่จอดเฮลิคอปเตอร์ถึง 3 จุด อ่านสรรพคุณกันไปคร่าวๆ แล้ว คราวนี้เรามาลองเดาเรื่องราคาของมันกันดีกว่า เอาจริงๆ ก็ไม่ได้แพงอะไรมากหรอกนะ แค่ราวๆ 42,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง!! เจ้าของบ้านหลังนี้คืออภิมหึมามหาเศรษฐี Mukesh Ambani นักธุรกิจชาวอินเดียวัย 61 ปี เจ้าของบริษัทค้าน้ำมันและพลังงาน Reliance Industries Mukesh ตั้งชื่อบ้านหลังนี้ว่า Antilia มีความหมายถึงการสักการบูชาสถานที่อันเป็นตำนาน ชายคนนี้ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes ว่าเป็นผู้ที่ร่ำรวยมากที่สุดในประเทศอินเดียเมื่อปี 2017 มีทรัพย์สินอยู่มากกว่า 1.4…
-
เด็ก 5 ขวบขึ้นเล่น “ชิงช้าสวรรค์” เพียงลำพัง หันดูอีกทีหัวติด ตัวห้อยเกือบตกมาตาย
เครื่องเล่นในสวนสนุกหลายๆ ชิ้นไม่สามารถปล่อยให้เด็กเล่นกันเองเพียงลำพังได้ แต่จำเป็นที่จะต้องมีผู้ปกครองขึ้นไปเล่นด้วยเสมอ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดตามมาเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนสนุก Yuhuan Park มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เด็กชายวัย 5 ขวบคนหนึ่งขึ้นไปเล่น “ชิงช้าสวรรค์” เพียงลำพัง แล้วจู่ๆ เขาก็เกือบต้องตายเพราะความซนของตัวเอง จากการรายงานบอกว่าเด็กชายคนดังกล่าวได้เข้าไปเล่นในสวนสนุกแห่งนี้กับแม่ของเขา แต่เมื่อต้องเล่นชิงช้าสวรรค์ คุณแม่กลับไม่ยอมขึ้นไปเล่นด้วย ปล่อยให้เด็กชายขึ้นไปนั่งเล่นเองคนเดียว อาจเป็นเพราะความตื่นเต้น น่าระทึกใจบนชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงกว่า 40 เมตร เด็กชายคนดังกล่าวจึงเกิดความคิดอยากเล่นสนุก ลองปีนขึ้นไปนั่งบริเวณราวเหล็กที่กั้นหน้าต่างเอาไว้ เพราะเหตุนั้นเองที่ทำให้ร่างเล็กๆ ของเขาไหลผ่านช่องกั้นของราวเหล็กไป แต่โชคดีที่เขาไม่ตกลงมาตาย เพราะส่วนหัวได้ไปติดอยู่กับช่องว่างนั้น ห้อยไปมาอย่างที่เราเห็นกันในภาพ เมื่อแม่ของเขาหันไปดูและเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ รวมถึงผู้เห็นเหตุการณ์หลายๆ คนที่พยายามช่วยกันคิดหาทางแก้ปัญหาดังกล่าว เด็กชายจำเป็นต้องห้อยไปมาอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งชิงช้าวนมาถึงด้านล่าง ก่อนที่ผู้คนจำนวนมากจะรีบแห่เข้าช่วยเขาและนำตัวส่งโรงพยาบาล First People คลิปจากการรายงานในวันที่ 24 ก.ย. 2018 สวนสนุกถูกปิดทำการชั่วคราว เพื่อทำการสืบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด โชคดีที่เด็กไม่ได้เป็นอะไรมาก มีเพียงรอยฟกช้ำบริเวณคอของเขา…
-
แฟนบอลสวิตฯ ไม่พอใจ ประท้วงการแข่ง ‘อีสปอร์ต’ ปาลูกเทนนิสและจอยเกมลงสนาม!!
การนิยามคำว่า ‘อีสปอร์ต’ ให้เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในหลายๆ ประเทศ อาจจะยังเป็นเรื่องที่ห่างไกล เนื่องจากความนิยมที่ยังไม่มากพอ หรือมองว่าการเล่นเกมนั้นยังไงก็ไม่ใช่กีฬา เช่นเดียวกันกับสโมสรฟุตบอลจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้มีการจัดตั้งทีมอีสปอร์ตในสังกัดของตนเองขึ้นมา แต่กลับกลายเป็นว่าสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลของทีมแทน ปาจอยลงสนาม! ในการแข่งขันรายการ สวิสซูเปอร์ลีก ระหว่างทีม BSC Young Boys และ FC Basel ต้องหยุดกลางคันในนาทีที่ 15 เนื่องจากถูกแฟนบอล Young Boys (กลุ่มชุดสีดำ) ประท้วงปาลูกเทนนิสและจอยเกมลงสู่สนาม ที่เขียนคำว่า ‘อีสปอร์ตระยำ’ ติดไว้ด้วย https://twitter.com/ScottSlocombe/status/1044160118693273600 เท่านั้นยังไม่พอ แฟนบอลก็นำป้ายผ้าและธงสีดำขนาดใหญ่มากางออกเพื่อแสดงสัญลักษณ์ ‘หยุดชั่วคราว’ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการที่ทีมฟุตบอลในสวิตฯ เริ่มนำเงินไปลงทุนจัดตั้งทีมอีสปอร์ตอย่างจริงจัง ทั้งนี้จากแหล่งข่าว รายงานว่าสโมสร FC Basel มีการจัดตั้งทีมอีสปอร์ตเพื่อแข่งเกม FIFA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนสโมสร Young Boys ยังไม่ได้จัดตั้งทีมอย่างเป็นทางการ… แต่ทางลีกแข่งขันกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขันเกม…
-
หนุ่มไต้หวันแต้มบุญหมด ได้ซื้อ iPhone Xs Max เป็นคนแรก ทำแตกสวยๆ ในวันเดียวกัน…
ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรดีกับการที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคเหล่าแฟนคลับระดับฮาร์ดคอร์ เพื่อมาเป็นบุคคลแรกของวันเปิดขายโทรศัพท์รุ่นใหม่ของแอปเปิล ซึ่งล่าสุดก็ออกมาเป็นรุ่น Xr Xs และ Xs Max โดยที่ก่อนหน้านี้ พอจะทราบกันมาแล้วคร่าวๆ ว่า ราคาเปิดตัวของแต่ละรุ่นก็แรงเอาเรื่องพอสมควร ถ้าหากมีความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวเครื่องเมื่อไหร่ ค่าซ่อมแซมก็คงไม่ต้องพูดถึงว่าจะคุ้มหรือไม่ เผลอๆ ซื้อใหม่อีกเครื่องคงจะรู้สึกดีกว่า พ่อหนุ่มไต้หวันรายนี้ มีบุญมากที่ไม่ต้องไปต่อแถวแคมป์ข้ามคืนเหมือนใครเขา ซึ่งก่อนจะเปิดขายวันแรกอย่างเป็นทางการ ก็จะมีคนมารอต่อแถวซื้อเครื่องแบบยาวเหยียด แต่ตาคนนี้นี่สิ ดันได้สิทธิพิเศษคว้าเครื่อง Xs และ Xs Max ไปได้ก่อนใคร เครื่องที่จอแตกคามือคือ Xs Max แต่แล้วอนิจจา เมื่อคว้าเครื่องใหม่มาได้แล้วพี่แกก็ดั๊นทำเครื่องหลุดจากมือ ตกลงไปกระแทกกับพื้นโหม่งโลกได้อย่างสวยงาม ซึ่งเครื่องที่ตกก็ดันเป็นรุ่นเรือธงตัวท็อป Xs Max ซะด้วยยยยย! หลังจากที่เกิดเหตุอันน่าสลดใจไปแล้ว ชาวเน็ตต่างก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวอยู่บนหน้าจอและในใจ เพราะด้วยราคาค่าตัวคร่าวๆ ของ Xs Max นั้นอยู่ที่ 50,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ถ้าตีเป็นเงินไทยก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 53,000 บาทไทย…
-
คนรักสัตว์โจมตีบริษัทผลิต ‘เคสหนังสัตว์’ โยงหมา-แมว-ม้า ทวีตตอกกลับ ‘มันหนังวัว’ โว้ย
ผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ ตามต้นกำเนิดแล้วมีประวัติมาอย่างยาวนานหลายร้อยพันปี โดยเฉพาะหนังวัวที่นิยมนำมาทำเป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์หนัง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋าสะพาย กระเป๋าตังค์ รองเท้า เบาะหนัง ฯลฯ ที่มักจะเห็นกันได้บ่อยๆ ซึ่งในช่วงหลังๆ มานี้ เริ่มมีกระแสการต่อต้านผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ เนื่องจากเป็นการทารุณ ทรมาน และฆ่าสัตว์เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์เท่านั้น ซึ่งจุดที่เป็นที่น่าสนใจสำหรับกรณีเกิดขึ้นกับ ‘เคสโทรศัพท์หนังสัตว์’ ภายใต้วิดีโอคลิปกระบวนการผลิต… บริษัท Saddleback Leather ได้ออกผลิตภัณฑ์เคสที่ทำมาจากหนังสัตว์ (หนังวัว) โดยที่ทางบริษัทก็ออกผลิตภัณฑ์หนังชนิดอื่นๆ ด้วย แต่แล้วคนรักสัตว์ก็ออกมาโจมตีในโลกออนไลน์ – สัตว์ถูกฆ่าแน่นอน 100% สินะ ทั้งหมา ทั้งม้า ทั้งแมว ถูกฆ่าเพื่อเอามาเป็นของตกแต่ง iPhone งั้นเหรอ ไม่เอาหรอก… บริษัทก็ตอบกลับไป – ไม่มีหมาถูกฆ่าเพื่อเอามาทำเคสนะ เป็นวัวต่างหาก จะบอกให้ว่าไม่ได้ฆ่าถลกหนังเพื่อเอาทำเคสนะ หนังที่เอามาทำเป็นส่วนที่ไม่ใช้แล้วต่างหาก ‘ก็ยังเป็นสัตว์ที่น่าสงสารถูกฆ่าเป็นจำนวนมาก เพื่อแค่ทำให้โทรศัพท์ดูดีขึ้น ไม่ล่ะ ขอบคุณ’ ถ้าคุณจะมาวิจารณ์เคสหนัง คุณก็ไม่ควรจะซื้อสมาร์ทโฟนนะ…
-
เมื่อหนุ่มกำหนัดทักสาวผิดเบอร์ เจ้าของเบอร์ก็ปั่นเต็มที่ พาต้มเสียวซะเปื่อยเหี่ยว…
เหตุการณ์ทักผิดเบอร์ก็ว่าแย่แล้ว ยิ่งเป็นพฤติกรรมชวนคุยไปในเรื่องใต้สะดือก็ยิ่งแล้วใหญ่ หากอีกฝ่ายไม่ยอมเล่นด้วยแล้วโดนแฉออกสื่อจะทำให้อับอาย กรณีดังกล่าวก็ยิ่งหนักข้อเข้าไปมากขึ้น เพราะดันโดนปั่นให้คล้อยตามจนเหวอ แรกเริ่มจากตาหนุ่ม Jon ผู้ได้เบอร์มาผิด ส่งข้อความทักทายมาหานาย Penguillion โดยเข้าใจว่าเป็นเบอร์ของสาวที่ชื่อว่า Lynn แทนที่จะบอกว่าผิดเบอร์แล้วไอ้หนุ่ม พี่แกก็เล่นเนียนตามบทสาวน้อยน่ากล้อมแกล้มให้เชื่อเสียสนิทใจเลย… เฮ้! นั่น Lynn รึเปล่า อื้มมม แล้วนั่นใครล่ะ ผมเอง Jon ทำไรอยู่เหรอเตง? ยังคบกับแฟนอยู่รึเปล่า ก็ไม่แล้ว ชั่งหัวหมอนั่นสิ ขอตัวไปอาบน้ำลงอ่างแป๊บนะ หืมมมม ลงอ่างเหรอ จะมีบุญวาสนาได้เห็นมั้ยน้าาาา? จัดไปพ่อหนุ่ม ขาเนียนเหลือเกิน อยากเห็นภาพแบบเต็มตัวอ่ะ ได้มั้ยยยยย? เดี๋ยวจัดให้นะคนดี รอพี่แป๊บนึง… (อดใจรอไม่ไหวจนต้องทักก่อน) เตงมายังงงงง? กรูยังไม่ว่าง Jon กรูขรี้อยู่!! ดูหน้าแข้งกรูสิ เนียนมั้ยล่ะ… เชรี้ยยยย นี่แฟน Lynn รึเปล่าแว๊ะ เออ…
-
เตือนภัย!! คลิปหนุ่มทำที “แกล้งหลับ”เพื่อให้ได้ ‘ซบไหล่’ หญิงสาวบนรถโดยสารในฟิลิปปินส์
ดูแทบไม่รู้ว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นต่างๆ ของคนสมัยนี้นั้นเป็นธรรมชาติหรือเป็นความตั้งใจที่แฝงไว้ด้วยเจตนาร้ายกันแน่ เช่น การที่ชายหนุ่มบนรถโดยสารที่เอนมาซบไหล่หญิงสาว บางครั้งก็ยากจะทราบว่าเป็นเพราะเขาหลับไม่รู้ตัว หรือเป็นเพราะความต้องการของเขากันแน่ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2018 ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นในเมือง Cabanatuan จังหวัดนูเวบาเอซีฮา ประเทศฟิลิปปินส์ มีคลิปถูกเผยแพร่ออกมาบนเฟซบุ๊กของ Edward Peñaflor แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มคนหนึ่งบนรถจี๊ปนีย์ (รถสองแถวของฟิลิปปินส์) ได้นั่งหลับและเอนตัวไปซบไหล่หญิงสาวที่นั่งข้างๆ คลิปวิดีโอแรก จากคลิปวิดีโอชิ้นแรก จะเห็นได้ว่าชายดังกล่าวพยายามเอนตัวไปพิงไหล่ของสาว ที่นั่งข้างๆ จนสาวในคลิปต้องใช้มือดันออกจนเขาลืมตาขึ้นและกลับมาซบอีกครั้ง สุดท้ายหญิงสาวทนไม่ไหวถึงกับต้องลุกจากที่นั่งไป ปล่อยให้ชายคนนี้ฟุบลงกับเบาะนั่งและลุกขึ้นมาด้วยใบหน้างงๆ คลิปวิดีโอที่ 2 จากคลิปวิดีโอที่ 2 จะเห็นว่าชายในคลิปนั้นมีการนอนลงบนเบาะนั่งที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งบนรถ ตรงนี้ มีผู้โดยสารคนหนึ่งเข้าไปแจ้งกับคนขับรถว่า “คุณกำลังพาผู้โดยสารไม่ปกติมาด้วย รีบปล่อยเขาลงรถเถอะ เขาทำให้ผู้โดยสารคนอื่นหวาดกลัวหมดแล้ว” และจากนั้นคนขับก็ไล่ชายคนนี้ลงรถ วิดีโอดังกล่าวกลายเป็นที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ตเนื่องจากพฤติกรรมของชายผู้นี้ดูไม่น่าไว้วางใจและแฝงความอันตรายโดยเฉพาะกับหญิงสาว ชาวเน็ตจึงได้ฝากคอมเมนต์เอาไว้มากมาย เช่น… “ถ้าฉันเป็นผู้หญิงคนนั้นนะ ฉันจะผลักให้ร่วงรถไปเลย” “ถ้าฉันเป็นคนถ่ายคลิปนะฉันจะต้องมีเตะไอ้คนนี้บ้างแหละ” “เอาจริงๆ แค่สีหน้าของนายคนนี้ก็บอกได้แล้วว่าเขาไม่ปกติ” “การแกล้งหลับมันยากนะ บอกตรงๆ คุณพี่คือแกล้งหลับโคตรไม่เนียนอะ”…
-
Bowserette ฟีเวอร์!! เมื่อตัวร้ายประจำเกมมาริโอกลายมาเป็นผู้หญิง ทำเอาชาวเน็ตคลั่งไคล้
“Super Mario” ถือว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมยอดฮิตตลอดกาลของ Nintendo ที่ไม่ว่าจะเป็นเด็ก(โข่ง)หรือเด็กปัจจุบันต่างก็ต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน เพราะ Super Mario นั้นออกภาคแรกกันตั้งแต่ปี 1985 โน้นและก็ยังคงออกภาคใหม่ๆ มาให้แฟนๆ ติดตามกันเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งประเด็นที่เราจะนำมาพูดถึงในวันนี้ก็คือภาคล่าสุดของเกมนี้อย่าง Super Mario Bros. U Deluxe ที่จะวางขายในวันที่ 11 มกราคม 2019 ได้เพิ่มไอเทมใหม่อย่าง Super Crown ไอเทมรูปมงกุฎที่หาก Toadette เก็บล่ะก็จะสามารถแปลงร่างเป็นสาวสวยรูปร่างคล้ายเจ้าหญิง Peach ที่ชื่อว่า Peachette ได้ หากนึกภาพไม่ออกให้ลองดูในวินาทีที่ 22 เลยจ้า ดูไปดูมาเจ้ามงกุฎนี้มันเหมือนกับเป็นไอเทมที่สามารถทำให้ตัวละครแปลงร่างเป็นสาวสวยได้เลยนี่หน่า จึงได้มีศิลปินท่านหนึ่งนามว่า Haniwa ได้ปิ๊งไอเดีย เมื่อ Mario และตัวร้ายประจำเกมอย่าง Bowser ผิดหวังกับความรักจากเจ้าหญิง Peach กันบ่อยๆ ก็จับให้ Bowser ใช้ไอเทมดังกล่าวและเป็นผู้หญิงคู่กับ Mario ซะเลย!!…
-
4 สาวน้อยผู้เอาชนะ “โรคมะเร็ง” ไปด้วยกัน กลับมาพบกันอีกครั้งในสถานที่แห่งความทรงจำ
ความสัมพันธ์และความชอบซึ่งกันระหว่างสิ่งมีชีวิตหรือที่เราเรียกว่า “มิตรภาพ” นั้นสามารถเกิดขึ้นที่ไหน เวลาใดก็ได้บนโลกใบนี้ ไม่เว้นแม้แต่เวลาที่คุณเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายและต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลก็ตาม เหมือนอย่างกับเรื่องของเด็กสาวตัวน้อยมหัศจรรย์ 4 คนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ พวกเธอสร้างมิตรภาพขึ้นมาระหว่างที่ต้องรับการรักษา “โรคมะเร็ง” อยู่ในโรงพยาบาลและในที่สุดพวกเธอก็เอาชนะมันลงและกลับมาพบกันอีกครั้งในสภาพของคนปกติ ที่ไม่ใช่คนไข้อีกต่อไป เด็กสาวเหล่านั้นพวกเธอคือ McKinley, Lauren, Ava ผู้ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาดและ Chloe ผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดหายาก ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 พวกเธอได้เข้ามารับการรักษาโรคมะเร็งพร้อมๆ กัน ที่โรงพยาบาลเด็ก Johns Hopkins รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ด้วยระหว่างการรักษาพวกเธอต้องทำการโกนหัวอยู่ตลอด ทำให้เด็กๆ รู้สึกกังวลใจในความไม่ปกติของเธอเป็นอย่างมาก แต่เมื่อพวกเธอแต่ละคนได้เจอกับคนที่เป็นเหมือนกัน ทำให้พวกเธอรู้สึกเหมือนตัวเองปกติมากยิ่งขึ้นและยังได้สร้างมิตรภาพซึ่งกันและกัน และล่าสุดนี้เองด้วยพลังใจ พลังมิตรภาพที่ช่วยเหลือ สนับสนุนซึ่งกันและกัน ก็ทำให้เด็กๆ มหัศจรรย์ทั้ง 4 คนสามารถต่อสู้ ฝ่าฟันกับโรคร้ายลงได้และกลับมาพบกันอีกครั้งในโรงพยาบาลที่เปรียบเหมือนสถานที่ที่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพวกเธอ ไม่ใช่เพียงแค่เด็กสาวฝ่ายเดียวเท่านั้นที่สร้างมิตรภาพและให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่เหล่าคุณแม่ของพวกเธอก็ติดต่อและคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา Alyssa Luciano แม่ของ Ava ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “มันมหัศจรรย์มากที่ได้เห็นว่าพวกเธอมาไกลจากตอนที่เป็นเด็กหัวโล้นมากๆ” Shawna Glynn แม่ของ Lauren กล่าว “ตอนนั้นเธอมีอายุ 3…
-
Murakami Flower ดอกไม้ยิ้มแป้นสุดฮิต ราคาแพงได้ขนาดนี้ คืองานดีไซน์ระดับโลก…
ในโลกออนไลน์ไทยเริ่มรับรู้ถึงกระแสของ ดอกไม้ยิ้มแป้นหลากสี จากการได้เห็นแฟชั่นการแต่งตัวแนวสตรีทของวัยรุ่นไทย ที่มีทั้งพวงกุญแจ เสื้อผ้าลายดอกไม้นี้ และสินค้าประเภทอื่นๆ ประดับอยู่ด้วย จากการสืบทราบราคาค่าตัวของดอกไม้ยิ้มแป้นนี้ ทำเอาตกใจไปตามๆ กัน เนื่องจากพบว่าราคาแพงในระดับหลักพันกันเลยทีเดียว ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ? เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักกับ Murakami Flower กันดีกว่า https://www.instagram.com/p/BnNGEG9hhxC/ . https://www.instagram.com/p/BitpeQfnTAk/ ทั้งนี้ Murakami Flower นั้นออกแบบโดยนาย Takashi Murakami ศิลปินป็อปอาร์ตชาวญี่ปุ่น ถึงขั้นได้ชื่อว่าเป็นศาสนาแห่งวงการนี้กันเลยทีเดียว เพราะเขามีผลงานการออกแบบร่วมกับแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง LOUIS VUITTON มาแล้ว https://www.instagram.com/p/Bncri7MhX9v/ . https://www.instagram.com/p/BkW13D2FcgZ/ อีกทั้งกลิ่นอายการออกแบบของเขาก็ถูกนำไปจัดแสดงตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก ด้วยการนำเอกลักษณ์วัฒนธรรมป็อปแบบร่วมสมัย นำมาผสมกับความเป็นการ์ตูนแบบญี่ปุ่น จนกลายเป็นผลงานสร้างความโดดเด่นในรูปแบบของเขาเอง การผสมส่วนของดอกไม้ยิ้มแป้นและโดราเอม่อน https://www.instagram.com/p/BmtODjuh2G7/ . https://www.instagram.com/p/BmtL0VHBD9S/ . https://www.instagram.com/p/BmnO-6Vh99F/ แม้แต่ Drake แรปเปอร์ชื่อดังฝั่งอเมริกา ยังซื้อเสื้อฮู้ดดอกไม้ยิ้มของเขามาใส่…
-
สาวต่อต้าน LGBT ออกมาบอกว่า “มีแต่พวก ‘รักร่วมเพศ’ ที่จะมีอะไรกันทางปาก หรือทวารหนัก”!!
ในขณะที่ LGBT (กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) เริ่มได้รับการยอมรับไปทั่วทุกมุมโลก แต่แน่นอนว่ายังมีบางคนที่เห็นต่าง ต่อต้านกับการยอมรับในเรื่องนี้ Linda Harvey คือหนึ่งคนที่ตั้งกลุ่มต่อต้าน LGBT ขึ้นมาในสหรัฐอเมริกา เธอคือผู้นำองค์กรที่ชื่อว่า Mission: America แสดงออกถึงความไม่ชอบในเรื่องการรักร่วมเพศอย่างชัดเจน Linda สาวผู้ต่อต้าน LGBT หลายๆ คนเรียกเธอว่า “ชาวคริสเตียนผู้คลั่งในศาสนา” โดย Linda นั้นมีความเชื่อว่าการรักร่วมเพศคือสิ่งที่ “ซาตาน” เป็นผู้สร้างขึ้น เพื่อต้องการทำลายอนาคตหรือชีวิตของเด็กๆ เธอบอกกับผู้คนว่าผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยกัน ไม่มีทางที่สองคนนั้นจะมีความจริงใจต่อกันอย่างแท้จริง ผู้หญิงก็ไม่ควรแต่งงานกับเพศเดียวกันอย่างเด็ดขาด เธอยังบอกอีกว่า “ส่วนใครที่สามารถยอมรับในเรื่องของ LGBT ได้ นั่นหมายความว่าคนคนนั้นก็เป็นพวกรักร่วมเพศเหมือนๆ กันนั่นแหละ” ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะแนวคิดของเธอที่ทำให้หลายๆ คนไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ก็คือแนวคิดที่ว่า “มีแต่พวกรักร่วมเพศเท่านั้นแหละที่จะมีเพศสัมพันธ์กันด้วยการใช้ปาก หรือการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก” แนวคิดดังกล่าวได้กลายเป็นข้อถกเถียงในช่วงกลางปี 2018 ที่ผ่านมา หลายๆ คนไม่เข้าใจว่าทำไม “การใช้ปาก” ถึงต้องจำกัดแค่กับคนรักร่วมเพศด้วย มันฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย…
-
เมื่อ ‘iPhone XS’ และ ‘iPhone XS Max’ มาทดสอบความเร็วการบูตเครื่องเทียบกับ ‘iPhone X’!?
เป็นที่ฮือฮากันซะเสียจริงๆ สำหรับเจ้าโทรศัพท์ ‘iPhone’ รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งมีการเปิดตัวไม่นานมานี้อย่าง ‘iPhone XS’ และ ‘iPhone XS Max’ และวางขายให้ชาวโลกได้เป็นเจ้าของเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา แน่นอนว่าเมื่อมีของใหม่ออกมาก็ต้องลองของทดสอบกันนิดหน่อย ซึ่งในวันนี้เราไปดูกันว่าความเร็วการบูตเครื่องของทั้งสอง เมื่อนำเทียบกับ ‘iPhone X’ จะเป็นอย่างไร!? ในเรื่องนี้ทางเว็บไซต์ iClarified ได้เป็นผู้จัดการทดสอบดังกล่าวขึ้น โดยนำเครื่องทั้งสามมาวางเรียงกันและเริ่มต้นบูตเครื่องพร้อมๆ กัน คลิปการทดสอบดังกล่าว ทั้งนี้สำหรับ iPhone XS และ XS Max ก็มาพร้อมกับ iOS 12 อยู่แล้ว แต่ว่าเจ้า iPhone X ก็ได้อัพเป็น iOS เดียวกันผ่าน iTunes เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งผลที่ออกมาก็คือ iPhone X สามารถบูตเครื่องได้เร็วที่สุดที่ 11.708 วินาที (แต่ยังช้ากว่าที่รันบน iOS 11.2 ซึ่งทำเวลาได้…
-
คุณพ่อสุดซวย เข้าบ้านไม่ได้เพราะประตูไฮเทคดันไปสแกนใบหน้าของ “แบทแมน” บนเสื้อแทน
เทคโนโลยีต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นอย่างมากมายนับแต่อดีต ถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตของมนุษย์นั้นสะดวกสบาย รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น แต่บางทีด้วยเจ้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้ก็มีอาการเอ๋อๆ ให้เราได้เห็นกันอยู่บ้างเป็นบางคราว เช่นกันกับคราวนี้ ก็เป็นเรื่องราวตลกๆ ฮาๆ ของเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง Digital Door Lock หรือกลอนประตูอัจฉริยะที่ทำให้คุณสะดวกสบาย ไม่ต้องคอยพกกุญแจไปไหนมาไหน เพราะสามารถใช้บัตร โทรศัพท์แตะก็เปิดได้แล้ว บางรุ่นนี่สามารถทำได้แม้แตะการสแกนหน้า!! แต่ด้วยระบบล้ำๆ อย่าง “สแกนหน้า” นี่แหละจะเป็นเรื่องให้เราพูดถึงกันในวันนี้ เมื่อเจ้าของบ้านแห่งหนึ่งที่ใช้ Digital Door Lock ออกมานอกบ้านแล้วไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้เพราะเจ้ากลอนประตูตรวจจับใบหน้าที่ไม่คุ้น เพราะมันดันไปตรวจจับหน้าของ “บุคคลอื่น” ที่ไม่ใช่เขาแทนซะงั้น… วันที่ 18 กันยายน 2018 มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า B.J. May ได้โพสต์รูปพร้อมกับเรื่องราวความฮาขึ้นบนทวิตเตอร์ โดยที่ในวันนั้น เขาออกบ้านไปเช็กดูว่าลูกของเขายังเล่นอยู่แถวหน้าบ้านใช่หรือไม่ และเมื่อเขาจะกลับเข้าบ้าน เจ้าระบบกลอนอัจฉริยะที่จะปลดล็อกเมื่อตรวจจับใบหน้าของเขาได้ แต่คราวนี้มันดันไม่เปิดให้เขานี่สิ… ด้วยความสงสัยเขาจึงได้เข้าไปตรวจเช็กดูในแอปพลิเคชันของกลอนประตู ว่าทำไมมันถึงไม่ยอมเปิดประตูให้กับเขา ทั้งๆ ที่ปกติมันก็เปิดให้อย่างดีมาตลอด My @nest doorbell automatically locks…
-
ร้านอาหารผุดไอเดียทำอาหารแบบมีมนุษยธรรม ลดความเจ็บปวดล็อบสเตอร์โดย “รมกัญชา”
สัตว์ทั้งหลายถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถคิดได้ และรู้สึกเป็น มันสามารถรู้สึกเจ็บปวดเหมือนที่มนุษย์เรารู้สึกได้ ไม่เว้นแม้แต่สัตว์ที่ถูกเลี้ยงหรือถูกล่าเพื่อเป็นอาหาร นั่นเป็นเหตุผลทำให้หลายๆ ประเทศเริ่มรณรงค์ไม่ฆ่าสัตว์โดยใช้วิถีการทารุณ รวมถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เป็นประเทศแรกในการออกกฎหมายแบนการต้มกุ้งล็อบสเตอร์ทั้งเป็น (ข่าวเก่า) และล่าสุดถึงไม่มีกฎหมายแบนการต้มล็อบสเตอร์ทั้งเป็นในสหรัฐอเมริกาเหมือนอย่างในสวิตเซอร์แลนด์ แต่ร้านอาหารร้านหนึ่งในสหรัฐก็ได้คิดค้นหาทางลดความเจ็บปวดของเจ้าล็อบสเตอร์ก่อนที่จะต้มมันด้วยวิธีการรมกัญชา!! สหรัฐอเมริกา ซึ่งพวกเขามีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในด้านอาหารที่เกี่ยวกับกุ้งล็อบสเตอร์ วันนี้ทาง Charlotte Gill เจ้าของร้านได้ออกมาเปิดเผยกระบวนการที่ดูมีมนุษยธรรมมากกว่าเก่า โดยการลดความเจ็บปวดให้แก่ล็อบสเตอร์ที่จะนำมาประกอบเป็นอาหาร โดยปกติแล้วการประกอบอาหารโดยใช้ล็อบสเตอร์นั้น จะนำล็อบสเตอร์เป็นๆ มาหย่อนใส่ในน้ำเดือดๆ ซึ่งดูเป็นวิธีที่โหดร้ายและทารุณ ทำให้มีผู้คนหลายๆ คนออกมาประท้วงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางเจ้าของร้านจึงได้ปิ๊งไอเดียใหม่ออกมา โดยที่จะทำการ “รมกัญชา” ให้แก่ล็อบสเตอร์ที่จะถูกนำมาประกอบอาหารเพื่อที่จะทำให้เคลิบเคลิ้มและรู้สึกถึงความเจ็บปวดน้อยลงก่อนที่มันจะตาย เธอได้กล่าวว่า “เธอรู้สึกไม่ดีแก่ล็อบสเตอร์ที่มาที่นี่โดยที่ไม่สามารถเลือกได้ ร้านนี้เป็นที่ที่พิเศษที่จะทำให้คุณได้รับมื้อพิเศษ แต่ต้องแลกเปลี่ยนกับชีวิตของเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้ ฉันพยายามที่จะหาทางทำให้วิธีทำอาหารมันดีกว่านี้” และสุดท้ายนี้ เธอบอกว่าไอเดียวิธีการประกอบอาหารที่มีมนุษยธรรมมากขึ้นนี้ ลูกค้าจะไม่ต้องจ่ายค่าอาหารเพิ่มขึ้นรวมถึงยังได้อาหารดีกว่าเดิมอีกด้วย เนื่องจากล็อบสเตอร์จะรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าเดิมตอนที่มันตาย ทำให้ได้รับเนื้อที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น ที่มา NYpost, BBC
-
เผย 10 สาขาอาชีพที่ได้รับการปัดขวามากที่สุดในแอพฯ ‘Tinder’ ปี 2018!!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแอพฯ สุดฮอตสำหรับคนเหงาอย่างเราๆ สำหรับ ‘Tinder’ ที่ปัดกันกระจาย ไม่ว่าจะเป็นปัดหาเพื่อนใหม่ๆ ปัดหาคนคุย ปัดหาคู่ชีวิตต่างๆ นานา แต่รู้ไหมว่าสาขาอาชีพใดกันนะที่ผู้คนมักจะปัดขวากันมากที่สุด?? หลายคนอาจจะมีคำถามนี้ค้างคาอยู่ในใจมาเป็นเวลาเนิ่นนานและยังหาคำตอบไม่ได้สักที แต่ว่าตอนนี้คุณกำลังจะได้รู้กันแล้ว… เมื่อไม่นานมานี้แอพฯ Tinder ได้ออกมาเผยถึงเรื่องดังกล่าว โดยจะแบ่งออกเป็นชาย – หญิง และทั้งนี้เป็นผลการสำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลที่ได้ก็คือ ฝ่ายหญิง 10. พนักงานเสิร์ฟ/บาร์เทนเดอร์ 9. เทรนเนอร์ 8. ผู้ประกอบการ (ธุรกิจส่วนตัว) 7. พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 6. ครู 5. เภสัชกร 4. นักศึกษา 3. ช่างภาพ 2. ทันตแพทย์ 1. พยาบาลวิชาชีพ ฝ่ายชาย 10.…
-
พบมัมมี่เก่าแก่จากยุคน้ำแข็งของ ลูกหมาป่า และกวางแคริบู เชื่ออายุมากกว่า 50,000 ปี
ภูมิภาค Klondike เป็นดินแดนของรัฐยูคอนในประเทศแคนาดา เดิมทีแล้วมีชื่อเสียงเรื่องการเป็นแหล่งทองคำขนาดใหญ่ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งมีค่าเพียงอย่างเดียวของสถานที่แห่งนี้ เพราะล่าสุดนี้เองรัฐบาลยูคอนได้ออกมาประกาศการค้นพบมัมมี่เก่าแก่จากยุคน้ำแข็งของลูกสุนัขหมาป่า และกวางแคริบู ในชั้นดินเยือกแข็งคงตัว หรือเพอร์มาฟรอสต์นั่นเอง นี่เป็นซากมัมมี่ที่เชื่อกันว่ามีอายุมากกว่า 50,000 ปีที่ถูกค้นพบโดยคนงานเหมืองที่กำลังทำการขุดหาทองคำในภูมิภาค Klondike เมื่อปี 2016 และถูกนำมาจัดแสดงที่ดอว์สันเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา มัมมี่ลูกสุนัขหมาป่าที่ถูกพบนั้นอยู่ในสภาพที่ดีมาก มันมีชิ้นส่วนของร่างกายครบถ้วน ถึงขั้นที่ว่ายังสามารถเห็นผิวหนังกับเส้นขนได้อย่างชัดเจน แถมจากการแถลงการณ์ของรัฐบาลยูคอน มัมมี่ลูกสุนัขหมาป่าที่พบนี้ ยังเป็นมัมมี่ลูกสุนัขหมาป่าเพียงตัวเดียวที่เคยมีการขุดพบบนโลกใบนี้ด้วย ส่วนมัมมี่ของกวางแคริบูนั้นแม้ว่าจะถูกพบเพียงแค่ครึ่งตัวส่วนหน้าเท่านั้น แต่ก็มีความสมบูรณ์สูงเช่นกัน มันยังมีผิวหนัง เส้นขน กล้ามเนื้อ และกระดูกอยู่อย่างครบถ้วนซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่พบได้ยากมากในมัมมี่ที่มีอายุกว่า 50,000 ปี สัตว์ที่พบทั้งสองตัวนั้นเชื่อกันว่าเดิมทีแล้วน่าจะอาศัยอยู่ในทุ่งทุนดรากับสัตว์อื่นๆ เช่นแมมมอธ และด้วยความที่พื้นที่ที่พวกมันอาศัยมีลักษณะค่อนข้างแห้งและเย็นจัด ก็ทำให้มัมมี่เหล่านี้ถูกเก็บรักษาผ่านกาลเวลามาอย่างสมบูรณ์แบบมาก การค้นพบในครั้งนี้นับเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่มากในทางวิทยาศาสตร์ เพราะนอกจากมัมมี่ที่พบจะมีความเก่าแก่มากแล้ว มันยังสมบูรณ์มากพอที่จะถูกใช้ในการศึกษาและตรวจสอบสัตว์ดึกดําบรรพ์ โดยในปัจจุบันนี้ ทางนักวิทยาศาสตร์เองก็กำลังพยายามศึกษามัมมี่ทั้งคู่ เพื่อหาอายุในตอนที่พวกมันยังมีชีวิต และสาเหตุที่ทำให้พวกมันตายอยู่นั่นเอง ที่มา allthatsinteresting, theguardian, Yukon
-
โซเชียลรุมโจมตีชายโกนหนวดบนรถไฟ โดยไม่มีใครรู้ว่าเขาเพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆ มา
ในทุกวันนี้ แม้ว่าเทคโนโลยีอย่างอินเตอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดีย จะช่วยทำให้ชีวิตของเรามีความสะดวกสบายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านการติดต่อสื่อสาร การนัดหมายหรือธุรกิจ แต่ก็มีบางคนก็นำโซเชียลมีเดียมาใช้เป็นอาวุธเพื่อทำคนอื่นๆ เสียหาย เหมือนอย่างกับเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นเรื่องของชายคนหนึ่งซึ่งถูกถ่ายวิดีโอ “โกนหนวด” บนรถไฟและถูกชาวเน็ตโจมตีและล้อเลียนกันเต็มไปหมด ทั้งๆ ที่ไม่รู้เหตุผลของชายคนนั้นโดยชัดเจน 🎥 A guy was caught shaving on an @NJTransit train and we can't look away. #njtransit @pbenti007 pic.twitter.com/QeicZJcQqr — njdotcom (@njdotcom) September 14, 2018 วันที่ 13 กันยายน 2018 ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @pbenti007 ได้โพสต์วิดีโอของ Anthony Torres ขณะกำลังโกนหนวดพร้อมกับแคปชั่นว่า “ยินดีต้องรับสู่ NJ TRANSIT!!” หลังจากนั้นไม่กี่วัน วิดีโอดังกล่าวก็กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล มีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และล้อเลียนการกระทำของเขาอย่างมากมาย …
-
“ตกปลาโดยแม่เหล็ก” เทรนด์ตกปลาแบบใหม่เมืองผู้ดี ได้ทั้งสมบัติ ทั้งปืน ทั้งสร้อยเพชร!!
“การตกปลา” ถือว่าเป็นกิจกรรมหรือกีฬายอดฮิตของใครหลายๆ คน โดยการตกปลานั้นเป็นหนึ่งในวิธีจับปลาที่มีการใช้เหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นเหยื่อสด เหยื่อหมักหรือเหยื่อปลอม เพื่อล่อให้ปลามากิน ซึ่งการตกปลาแบบใช้เหยื่อที่เราได้พูดถึงข้างต้นนี้ ถือว่าได้กลายเป็นแบบเก่าไปเสียแล้ว เมื่อเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ถือว่าเป็น “การตกปลา” ที่ล้ำไปกว่านั้น เพราะว่านี่คือการตกปลาแบบใช้ “แม่เหล็ก” ล่ะ เพื่อนๆ หลายคนคงสงสัยล่ะสิว่าการตกปลาโดยใช้แม่เหล็กนี้มันจะตกปลาได้อย่างไร? และปลามันจะมากินแม่เหล็กเหรอ? ต้องขอบอกก่อนเลยว่าการตกปลาโดยใช้แม่เหล็กนี้ ไม่ใช่การตกปลาที่หวังอยากได้ปลา… แต่คนที่ใช้มันหวังอย่างอื่นต่างหาก!! ขอเชิญพบกับ Gareth Bryer วิศวกรทหารวัย 36 ปี จากเมืองแมนเชสเตอร์ ผู้มีงานอดิเรกคือตกปลาโดยใช้แม่เหล็ก เทรนด์การตกปลาแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในเมืองผู้ดีอย่างประเทศอังกฤษ ที่เราบอกว่าการตกปลาแบบนี้ ผู้ตกไม่ได้หวังตกได้ปลาเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นเล็งไปที่สิ่งอื่นๆ ที่อยู่ใต้แม่น้ำลำคลองต่างหาก โดยสิ่งของที่พวกเขาหวังเอาไว้ก็คือขุมทรัพย์เก่าๆ อย่างพวกเหล็กเก่าๆ วัตถุโบราณหรืออาวุธต่างๆ ในช่วงเวลาที่ Gareth ได้ทำการตกปลาแบบใช้แม่เหล็กมา เขาได้เขาได้ของมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง Enigma ของเยอรมนีจากบ่อน้ำเก่า, ปืนใหญ่ช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษจากแม่น้ำใน Leicester, ยังเคยได้สร้อยข้อมือเพชรจากแม่น้ำ Thames และยังไม่รวมอื่นๆ อีกมากมาย .…
-
เจ้านายหยอกเล่นกับลูกน้องใช้ ‘สายฉีดลม’ ฉีดเข้าก้น ต่อมาพบลูกน้องตาย!?
บางครั้งการหยอกล้ออาจไม่ใช่เรื่องขำๆ และกลายเป็นเรื่องเศร้าขึ้นมาได้ นาย Aditya Jadhav พนักงานโรงงานเหล็กแห่งหนึ่ง เสียชีวิตจากการถูกเจ้านายแกล้งแหย่เล่นด้วยการเอาสายฉีดลมแรงดันสูงฉีดเข้าไปที่รูทวาร!? เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดนี้เกิดขึ้นที่รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดียในวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นวินาทีชีวิตของชายคนนี้กับสาเหตุการเสียชีวิตของเขา ในคลิปจะเห็นว่า Aditya ยืนอยู่กับชายชื่อว่า Rakesh Wagmore ผู้เป็นเจ้านายของเขา ทั้งสองหยอกกระเซ้าเย้าแหย่กันอย่างสนุกสนาน โดยในเริ่มแรกจะเห็นว่าเจ้านายคนนี้เอาสายฉีดลมฉีดเข้าไปที่บริเวณหัวและคอของ Aditya ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเห็นเป็นการเล่นกันสนุกๆ แต่ว่ามีอยู่จังหวะหนึ่งที่เจ้านายคนนี้เอาสายฉีดไปฉีดเข้าที่ก้นของเขาอย่างเต็มเปา และด้วยความแม่นไปมันตรงเข้ารูทวารอย่างพอดิบพอดี วิดีโอเหตุการณ์นี้ ไม่นานหลังจากนั้นนาย Aditya ก็ล้มลงในทันที เจ้านายคนนี้จึงมาเช็กดูว่าเป็นอะไรก่อนที่เขาจะนำตัวส่งโรงพยาบาลต่อไป ทว่าหลังจากนั้น 15 วันชายคนนี้ก็เสียชีวิตลงในวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ทางแพทย์ชี้แจ้งว่าระบบย่อยอาหารและอวัยวะภายในอื่นๆ ของ Aditya ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากการถูกแกล้งเล่นในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมคนทำผิดได้ เพราะว่านาย Rakesh ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ… ขำไม่ออกเลยทีนี้ ที่มา: maeww, metro, thesun
-
พ่อหม้ายขโมยชุดเจ้าสาวไปกว่า 73 ชุด สารภาพทำไปเพราะ ‘อยากรู้สึกเหมือนได้แต่งงานอีกครั้ง’
เชื่อเลยว่าใครหลายคนอาจจะอยากได้เครื่องย้อนเวลา พาตัวเองหมุนกลับไปในวันแห่งความสุขอีกครั้ง แต่ว่าในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วมันอาจเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ… เมื่อไม่นานมานี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้ทำการจับกุมชายวัย 50 ปีคนหนึ่งที่ออกตระเวนขโมย ‘ชุดเจ้าสาว’ มากกว่า 73 ชุด และเหตุผลที่เขาทำอย่างนี้ก็เพราะว่าอยากจะรู้สึกว่าได้แต่งงานอีกครั้งหนึ่ง!! การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นจากความที่ร้านขายชุดแต่งงานในย่าน Pudong แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากที่ชุดแต่งงานของทางร้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย เจ้าของร้านแซ่ Wang อ้างว่าชุดแต่งงานของร้านเธอหายไปจำนวนมาก และการหายไปนี้ก็มีมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งการที่จู่ๆ ชุดหายไปในทุกๆ เดือนมันคงไม่ใช่เรื่องที่ธรรมดาแน่ๆ และการแจ้งความในครั้งนี้ก็เกิดจากความที่ชุดเจ้าสาว 8 ชุดในคอลเลคชั่นล่าสุดของเธออันตรธานหายไป จุดที่เธอบอกว่ามันน่าจะเป็นที่ที่คนร้ายเอาไปก็คือลานกว้างบริเวณร้าน เพราะเธอมักจะนำชุดไปแขวนตากไว้อยู่บ่อยๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่นั้น แล้วก็พบว่ามีชายคนหนึ่งปีนรั้วเข้ามาในร้านจริงๆ แล้วใช้ไม้ยาวสอยชุดแต่งงานไป หลังจากที่พบตัวคนร้ายแล้ว ทางตำรวจก็แกะรอยจนมาพบตัวชายคนนี้และทำการจับกุมได้สำเร็จ ซึ่งเขาก็สารภาพว่า ที่ทำไปเพราะอยากจะรู้สึกเหมือนได้แต่งงานอีกครั้งหลังจากที่หย่าร้างกับภรรยาคนเก่า และที่ขโมยมาก็เอาไว้ชื่นชมอย่างเดียว ไม่ได้มีเจตนาจะเอาไปขายแต่อย่างใด แน่นอนว่าชายคนนี้ได้รับโทษทางกฎหมายจากเหตุการณ์ที่เขาก่อ และทางตำรวจก็บอกว่าเขาไม่มีประวัติการป่วยอาการทางจิตมาก่อนด้วย… โถ่ชีวิต… ที่มา: odditycentral, shine
-
คาเฟ่ในเกาหลีเปลี่ยนร้านให้กลายเป็น ‘โลกแห่งการ์ตูน’ ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็ออกมาสุดชิค!!
เพื่อนๆ หลายคนคงจะชอบใช้เวลาในวันหยุดไปกับการนั่งร้าน ‘คาเฟ่’ ดื่มกาแฟจิบชากันอย่างมีความสุข ซึ่งร้านคาเฟ่เดี๋ยวนี้ก็มักจะมีซิกเนเจอร์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการจัดร้านให้ดูสวยเหมาะกับการถ่ายภาพลงโซเชียล หรือขายบรรยากาศต่างๆ แต่ว่าคงไม่มีที่ไหนเหมือนกับที่นี่อีกแล้ว… คาเฟ่ชื่อว่า Yeonnam-dong 239-20 ในกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ ตอนนี้กำลังกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลที่มีคนไปถ่ายรูปชิคๆ คูลๆ อย่างหนักมากก!! เพราะร้านนี้จำลองเอาโลกของการ์ตูนยกมาไว้ในร้านที่ไม่ว่ามองมุมไหนก็สวยไปซะหมด ถ้าไม่เชื่อลองไปดูบรรยากาศอย่างนี้ดูสิ แต่ระวังไว้ให้ดีคุณอาจจะกดจองตั๋วอย่างไม่รู้ตัวก็เป็นได้ นี่มันเป็นร้านคาเฟ่จริงๆ ใช่ไหมเนี่ย เอาซี่ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็รอด ดูแล้วเหมือนกับอยู่ในโลกการ์ตูนจริงๆ ดูซะก่อน เอาไปอวดเพื่อนได้สบาย เครื่องดื่มต่างๆ ก็ดูสวยสดงดงาม แวะมาจิบซะหน่อยไหม?? ร้านเล็กๆ แต่มีกิมมิก ใครมาเป็นต้องควักกล้องขึ้นมาถ่ายภาพ ใส่เสื้อผ้ามาเข้าธีมดีจริงๆ น่ารักสุดๆ สวยยันแก้วอะคิดดู ออกฮิปสเตอร์หน่อยๆ ก็ย่อมได้ คุมโทนแบบสุด ขอเข้าไปหน่อยได้ไหมนะ หิวน้ำขึ้นมาทันที รอดยังไงก็รอด ได้ไปนั่งเล่นนี่คงดีไม่ใช่น้อย…
-
เจ้าเหมียวโดน ‘มีด’ แทงแสกหน้าจนมิดด้าม แต่รอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์!!
คำกล่าวที่ว่า ‘แมวมี 9 ชีวิต’ ก็คงจะไม่เกินจริงนัก หากเพื่อนๆ ได้รับชมเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อเจ้าเหมียวตัวหนึ่งถูก ‘มีด’ แทงเข้าไปกลางแสกหน้าจนมิดด้าม แต่มันกลับรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ แถมยังหายดีเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น!? เรื่องราวต่อไปนี้เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัย Universiti Putra Malaysia (UPM) ของประเทศมาเลเซีย มีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งถูกส่งมารักษาที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ สภาพของมันมี ‘มีด’ ปักอยู่กลางแสกหน้าจนมิดด้าม แต่ทว่าเจ้าเหมียว ‘ยังไม่ตาย’!? เจ้าหน้าที่ทำการเอกซ์เรย์และทำให้รู้ว่า มีดเล่มดังกล่าวแทงเข้าไปไม่ถูกอวัยวะสำคัญใดๆ เลย ทั้งดวงตา และสมอง ล้วนแล้วแต่ปลอดภัย!! แต่การเอามีดออกมาก็ไม่ได้ง่าย เพราะมันมีความเสี่ยงที่จะทำให้อวัยวะต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย แต่สัตวแพทย์ก็สามารถเอามันออกมาได้สำเร็จ!! เจ้าเหมียวปลอดภัยดี!! (แถมยังทำหน้าโหดอีกต่างหาก) เอาล่ะ จากนี้ไปเอ็งเหลืออีก 8 ชีวิตให้ใช้แล้วล่ะนะ ที่มา : INFO BERITA SEMASA
-
เด็กสาว 4 ขวบ ปิ๊งไอเดีย สร้าง ‘ปุ่มกอด’ ขึ้นมา เพื่อคลาย ‘ความคิดถึงแม่’ เมื่ออยู่ห่างกัน
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การไปโรงเรียน’ ของเด็กๆ ในช่วงแรกๆ นั้นถือเป็นเรื่องที่ยากมาๆ เพราะจากเดิมที่พวกเขาต้องอยู่ติดกับพ่อแม่ตลอดเวลา แต่พอไปโรงเรียนแล้วจะต้องแยกกันย่อมเป็นความรู้สึกที่เด็กๆ จะรับมือได้ยากเป็นธรรมดา หรือฝั่งคนเป็นพ่อเป็นแม่เองก็อาจจะหนักกว่าเสียด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้เองแต่ละครอบครัวก็จะมีวิธีการในการจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้ที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกันกับครอบครัวนี้ ที่ใช้วิธีสุดแสนจะน่ารักเพื่อทำให้ลูกของตัวเองรู้สึกอบอุ่นหัวใจ แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน Violet Orrick เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่เพิ่งจะได้เข้าโรงเรียน และได้เผชิญประสบการณ์ที่ต้องห่างจากคุณแม่ Leanne Orrick วัย 38 ปีเป็นครั้งแรก เธอก็เลยปิ๊งไอเดีย ‘ปุ่มกอด’ ขึ้นมา เป็นการวาดปุ่มรูปหัวใจเล็กๆ ติดไว้ที่แขนของทั้งคู่ และเมื่อกดเมื่อไหร่ก็จะจินตนาการถึงอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของกันและกัน เพื่อเยียวยาความเศร้าจากการอยู่ห่างกัน Violet กล่าวถึงปุ่มรูปหัวใจดังกล่าวว่า “หัวใจก็เปรียบเสมือนกับตัว M คือ Mummy ที่ตั้งอยู่บนตัว V คือ Violet” และทุกครั้งที่ Violet รู้สึกเหงาที่โรงเรียน เธอก็จะกด ‘ปุ่มกอด’ นี้ทุกครั้ง เพื่อรับรู้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของคุณพ่อกับคุณแม่ ช่วยให้เธอผ่านช่วงเวลาที่อยู่โรงเรียนไปได้อย่างมีความสุข “ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากการที่ฉันเห็นรูปที่วาดบนแขนของลูกสาวเป็นรูปหัวใจ ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงวาดมัน…
-
สาววีแกนอ้าง สั่งพิซซ่ามังสวิรัติจาก Domino’s แต่มีแฮมใส่เข้ามาด้วย ถึงขั้นทำให้ป่วย!?
เรื่องราวของหญิงสาววีแกน ที่บังเอิญ ‘กินพิซซ่าหน้าแฮม’ เข้าไป และเธอก็เคลมว่า จากการกินแฮมเข้าไปมันทำให้ร่างกายของเธอป่วย!? Shannon Rich สาววัย 22 ปี และสามี Paul Davies วัย 22 ปี ได้ทำการสั่งพิซซ่าจากร้าน Domino’s ในเมืองนิวพอร์ต เขตเซาท์เวลส์ ประเทศอังกฤษ มาทานที่บ้าน เป็นหน้า Roma แต่ขอให้ทำเป็นแบบมังสวิรัติสองถาด โดยปกติแล้วหน้า Roma นั้นจะประกอบไปด้วยชีสนมแพะ พริก Roquito หอมแดง และผักสลัดร็อกเก็ต และเครื่องอื่นๆ ที่เป็นสไตล์อิตาเลียน แน่นอนว่ามันจะมี ‘เนื้อ’ อยู่ด้วย เมื่อพิซซ่ามาถึง Shannon ก็เปิดกล่องออกมาแล้วก็สวาปามอย่างเอร็ดอร่อย แต่หลังจากกินไปได้ 2-3 ชิ้น เธอก็เพิ่งรู้ตัวว่าในนั้นมันดันมี ‘แฮม’ อยู่ด้วย “พวกเราหิวมากๆ พอเปิดมาก็เห็นว่ามันไม่มีเนื้อวางอยู่บนหน้า แต่พอกัดเข้าไปก็เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆ เป็นรสสัมผัสของเนื้อชัดๆ เลย” Shannon…
-
12 เรื่องราวน่ารักๆ ของเหล่ามนุษย์พ่อ สุดอบอุ่นหัวใจจนต้องเผลอยิ้มตาม
ความรัก สามารถเปลี่ยนผู้ชายที่ดูภายนอกดูแข็งแกร่งให้กลายเป็นอ่อนโยนได้ง่ายๆ โดยเฉพาะความรักที่เกิดจากความรัก ที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้คำว่า ‘การเป็นพ่อ’ เหล่ามนุษย์พ่อทุกคนที่ดูภายนอกอาจจะดูเคร่งขรึม แต่พออยู่กับลูกแล้ว ภาพลักษณ์ของความเคร่งขรึมนั้นก็ถูกถอดออกจนเกลี้ยง เหลือแต่เพียงความอ่อนโยนที่มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้สัมผัสมัน อย่างเช่นเรื่องราวของเหล่าคุณพ่อต่อไปนี้ พ่อลูกคู่นี้แต่งคอสเพลย์เป็น ธานอสกับกาโมร่า คุณพ่อใช้มือตัวเองรองศีรษะลูกสาวเอาไว้นานกว่า 45 นาทีเพื่อให้เธอได้นอนหลับสบาย เมื่อยแค่ไหนแค่ลูกสบาย พ่อทนได้ คุณพ่อสัญญากับลูกสาวเอาไว้ว่าจะเลี้ยงผมให้ยาวแล้วนำไปบริจาคเป็นเพื่อนลูกสาว เขาไว้ผมยาวกว่า 2 ปี ในที่สุดก็สำเร็จ คุณพ่อตัดผมแล้วหล่อเฟี้ยวเลย พ่อเลี้ยงเดี่ยวกับลูกสาวทั้ง 4 แต่งตัวเป็นเจ้าหญิงเลอา จากภาพยนตร์เรื่อง Star Was พร้อมกับลูกๆ น่ารักเชียว รอยสักนี้ ได้มาจากรูปวาดของลูกสาว สุดยอดคุณพ่อผู้เป็นทุกอย่างให้กับลูก แม้กระทั่งนางเงือกนะฮะ คุณพ่อชาวญี่ปุ่นทำข้าวกล่องน่ารักๆ ให้เหมือนกับรูปวาดต้นฉบับของลูกสาวที่สุด คุณลูกอยากได้สีชมพู จัดไปลูกรัก คลาสน่ารักๆ ของเหล่าคุณพ่อที่มาเข้าคอร์สฝึกทำผมให้กับลูกสาว “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว แต่ในบางครั้ง ผมก็ได้รับประสบการณ์บางอย่างที่พ่อคนอื่นๆ อาจจะไม่ได้”…
-
หนุ่มทำตามฝันเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็น ‘ตัวตลก’ ด้วยการสักลายและปลูกถ่ายซิลิโคน!?
บางครั้งความฝันของคนเราอาจจะเป็นการเป็น ‘ตัวละคร’ ที่เราชื่นชอบ ซึ่งก็แน่นอนว่าเมื่อโอกาสมาถึงแล้วใครๆ ก็ย่อมอยากจะทำความฝันให้กลายเป็นจริง รวมถึงหนุ่มคนนี้ที่แปลงร่างตัวเองให้กลายเป็น ‘ตัวตลก’ อย่างถาวร!! Richie the Barber มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นตัวตลกมาโดยตลอดตั้งแต่เขาจำความได้ และด้วยเหตุนี้เขาจึงเปลี่ยนตัวเองให้เป็นตัวตลกอย่างถาวรด้วยการ สักลวดลายบนหน้าตัวเองรวมถึงปลูกถ่ายซิลิโคนเพื่อการเป็นตัวตลกที่สมบูรณ์ที่สุด https://www.instagram.com/p/BiN-G5ehf-v/?utm_source=ig_embed ภาพของตัวตลกที่ว่านี้ก็คือการมีปากและจมูกเป็นสีแดงโต มีคิ้วหนาใหญ่ มีใบหน้าสีน้ำเงินกับรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการมีผมเฉพาะข้างๆ ศีรษะเพียงเท่านั้น https://www.instagram.com/p/BldcOZJAnPB/?utm_source=ig_embed เพื่อเป็นการนำทุกสิ่งมาประกอบกันอย่างสมบูรณ์ เขาจึงตัดสินใจทำให้มันกลายเป็นศิลปะที่อยู่เรือนร่างอย่างถาวร เขาสักลายบนใบหน้าด้วยลวดลายต่างๆ รวมถึงใช้ซิลิโคนปลูกถ่ายเพิ่มความหนาของคิ้ว จนในที่สุดแล้วเขาก็สามารถเป็นตัวตลกได้ดั่งที่ฝัน https://www.instagram.com/p/Bnp5q6FAemv/?utm_source=ig_embed แน่นอนว่าใครหลายคนอาจจะเดาถูกว่า Richie นั้นเป็นช่างตัดผม (จากฉายา Richie the Barber) เขาบอกว่าเขามีความหลงใหลในรูปลักษณ์ของตัวตลกมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งในตอนที่เจอตัวตลกเป็นครั้งแรก เด็กๆ หลายคนอาจจะรู้สึกกลัว แต่นั่นไม่ใช่กับเขาที่กลับหลงรักเข้าอย่างเต็มเปา ทว่าก็ไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นที่ทำให้เขาต้องมนต์ เพราะเขาบอกว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาหลงรักในตัวละครนี้ก็คือการ ‘เล่นกล’ ของเหล่าตัวตลกที่ทำให้เขาต้องแปลกใจได้เสมอ …
-
หนุ่มแว่นแกล้งทำเป็นคุยโทรศัพท์ ที่แท้แอบถ่ายใต้กระโปรง ถูกจับได้เพราะลืมปิดแฟลช!!
100 ทั้ง 100 เชื่อได้เลยว่าวัยหนุ่มกลัดมันหลายคน อาจจะต้องเคยผ่านประสบการณ์ ‘หวิว’ แอบมองนั่นนี่ของสาวๆ กันมาบ้าง แต่บางทีถ้ามองให้เนียนสาวๆ ก็อาจจะจับไม่ได้รอดตัวไปอย่างหวุดหวิด และทางที่ดีอย่าทำประเจิดประเจ้อเหมือนกับไอ้หนุ่มคนนี้ ที่จะแอบถ่ายเขาทั้งทีดันไปเปิดแฟลชซะสว่างโร่เล่นเอาซะไก่ตื่นหมด!! วิดีโอดังกล่าว (ดูไม่กดคลิกที่นี่) เมื่อไม่นานมานี้ ทางโลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่คลิปของหนุ่มน้อยวัยขบเผาะคนหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ ในคลิปจะเห็นได้ว่าเป็นภาพของหนุ่มแว่นที่นั่งอยู่บริเวณขั้นบันได และทำท่าทีควักโทรศัพท์ออกมาโทรคุยกับใครสักคน ซึ่งตรงที่เขานั่งนั้นเองเหนือขึ้นไปก็เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ใส่กระโปรงนั่งอยู่สูงกว่า ด้วยโอกาสอันประสบเหมาะนี้เขาเลยคิดว่าจะถ่ายภาพใต้กระโปรงเก็บเอาไว้ดู ด้วยการจัดแจงเปิดแอพฯ ถ่ายภาพแล้วทำทีเป็นถือคุย แต่ว่าด้วยความไม่ทันคิดเลยทำให้ลืมปิดแฟลช!! แสงสีขาวนวลจ้าออกมาจากโทรศัพท์บ่งบอกว่ามีการถ่ายรูปเกิดขึ้นเป็นแน่ และด้วยความเขินอายนี้เองจึงทำให้หนุ่มคนนี้รีบเดินหนีออกไปจากสถานการณ์หน้าแตกอย่างทันควันหายไปในที่สุด คลิปดังกล่าวได้กลายเป็นความฮาสำหรับชาวเน็ต ที่ขำขันกันในเรื่องความปล่อยไก่ของหนุ่มคนนี้ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนักนะหากจะว่าไปแล้ว… ที่มา: dailymail, lailasnews, thesun
-
พนักงานสนามบิน ‘ขว้างกระเป๋า’ ผู้โดยสารทิ้งอย่างไม่ไยดี CEO ถึงขั้นต้องมาแถลงการณ์!!
เวลาที่เราเดินทางโดยเครื่องบิน บางครั้งก็อาจมีการใช้บริการโหลดกระเป๋า เมื่อสิ่งของที่เราพกมีน้ำหนักเกินกว่าที่จะสามารถนำขึ้นเครื่องโดยปกติได้ แต่ว่าหากคุณดูคลิปวิดีโอนี้แล้ว บางทีอาจจะไม่อยากใช้บริการนี้อีกเลยก็เป็นได้… Elizabeth Evans สาววัย 28 ปีได้เดินทางมาจากเมืองมาลาก้า ประเทศสเปนมายังสนามบินแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อเช้าของวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา วิดีโอที่สาวคนนี้ถ่ายเอาไว้ แต่ว่าระหว่างที่อยู่ในสนามบินนั้นเอง เธอได้สังเกตเห็นถึงพฤติกรรมผิดปกติของพนักงานคนหนึ่งที่ ‘โยนกระเป๋า’ ของผู้โดยสารอย่างไม่ไยดี และหนึ่งในนั้นก็มีกระเป๋าของเธอด้วย เธอจึงถ่ายวิดีโอคลิปมาเผยแพร่ในโลกโซเชียลถึงการกระทำยอดแย่นี้ “ฉันรู้สึกโกรธและช็อกมากๆ นี่เป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นกับฉัน สัมภาระของฉันถูกโยนอย่างไม่ไยดี” Elizabeth กล่าว ในเวลาต่อมาพบว่าพนักงานคนดังกล่าวเป็นพนักงานของบริษัท Swissport ซึ่งนอกจากกระเป๋าของสาวคนนี้แล้วก็ยังมีกระเป๋าของคนอื่นๆ อีก 5 ใบถูกโยนในคลิปนี้ด้วย จึงทำให้ Andrew Cowan CEO ของสนามบินแมนเชสเตอร์ออกมากล่าวแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ในทำนองที่ว่าจะไม่ยอมให้เรื่องเช่นนี้เกิดในสนามบินของเขาอีกในภายภาคหน้าแน่ๆ “พวกเราต้องทำให้กระจ่างว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ สำหรับสัมภาระของผู้โดยสารที่โดนปฏิบัติอย่างนี้ในพื้นที่ของเรา เราจะเรียกร้องเงินประกันภัยจากบริษัทแห่งนี้ให้แก่ผู้โดยสาร รวมถึงจะดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มที่” “สำหรับพวกเราแล้วนี่เป็นเหตุการณ์ซีเรียสมากๆ เราหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต” แถลงการณ์ที่ออกมากล่าว ทางด้านโฆษกของ Swissport ก็ออกมาแสดงความเสียใจกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน “เราเสียใจมากๆ ที่ได้เห็นวิดีโอนี้บนโซเชียลมีเดีย เราต้องขออภัยสำหรับพฤติกรรมเช่นนี้ด้วย มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เลยจริงๆ…
-
สองหนุ่มได้ตังค์จากแมคฯ 1 ล้านบาท เพราะเอาภาพตัวเองไปติดโดยไม่มีใครจับได้ 50 วัน!!
หากย้อนกลับไปช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาทีมงานเหมียวของเราได้นำเสนอเรื่องราวของ ‘สองหนุ่มเนียนเอา ‘รูปของตัวเอง’ ไปแปะในร้าน McDonald’s โดยที่ไม่มีใครจับได้!?‘ เมื่อหนุ่มอเมริกันเชื้อสายเอเชียสองคนบังเอิญสังเกตเห็นว่าในร้าน McDonald’s ในย่านที่พวกเขาอยู่อาศัยนั้นไม่มีป้ายโฆษณาที่มีนายแบบเป็นชาวเอเชียอยู่เลย พอเห็นผนังที่ว่างเปล่าในร้าน Mc ใกล้บ้าน ก็เลยปิ๊งไอเดียที่อยากจะโชว์ความเป็นเอเชียนในร้าน Mc ขึ้นมา พวกเขาก็เลยลงทุนไปถ่ายภาพโฆษณาแบบเนียนๆ แล้วก็เอาไปแปะไว้ วันเวลาผ่านไปกว่า 50 วัน ไม่มีใครจับได้เลยสักคนว่ามันเป็น ‘ภาพปลอม’ พี่แกก็เลยออกมาโพสต์ทวิตเตอร์เพื่อเล่าถึงวีรกรรมดังกล่าวจนกลายเป็นกระแสไวรัล อย่างที่รู้กันดีว่าการกระทำของพวกเขานั้นถือเป็น ‘การกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต’ แต่ขณะเดียวกันเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะจนมีคนรู้ไปแล้ว แต่ทาง McDonald’s ก็ไม่ได้ว่าอะไรแม้แต่น้อยแถมยังมอบเงินรางวัลให้ด้วย!? (ก็แหงล่ะ ได้โฆษณาร้านไปฟรีๆ เลยนี่นา) ซึ่งล่าสุดทั้งสองคนก็ได้รับเชิญให้ไปออกรายการ Ellen DeGeneres เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทาง McDonald’s ได้ฝาก ‘เงินรางวัล’ มามอบให้คนละ 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 1 ล้านบาท เป็นรางวัลให้กับสิ่งที่พวกเขาทำ Ellen กล่าวกับพวกเขาว่า…
-
ดาราหญิงตบหน้าคนดูกลางรายการ เพราะดันไปวิจารณ์ลูกที่ป่วยเป็น ‘ดาวน์ซินโดรม’
กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกโซเชียลของประเทศรัสเซีย เมื่อดาราหญิงวัย 49 ปี เดินไปตบหน้าผู้ชมในห้องส่งกลางรายการ เพราะผู้ชมดันไปวิจารณ์ถึง ‘ลูก’ ของเธอที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม เรื่องมีอยู่ว่าในรายการ ‘ถ่ายทอดสด’ แนวทอล์กโชว์ ที่มีแฟนๆ รายการติดตามเป็นจำนวนมากของประเทศรัสเซีย Evelina ดาราหญิงวัย 49 ปี ถูกเชิญให้ไปออกรายการดังกล่าว พร้อมกับพูดคุยถึงเรื่องการตั้งครรภ์ครั้งล่าสุดของเธอ ด้วยการทำ ‘เด็กหลอดแก้ว’ (IVF) ซึ่งเธอก็เล่าไปว่าในการตั้งครรภ์ครั้งนี้เธออยากได้ลูกผู้หญิง ซึ่งเธอใฝ่ฝันมาโดยตลอด ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ด้วยดี แต่แล้วเมื่อถึงช่วงเปิดโอกาสให้ผู้ชมในห้องส่งได้ถามคำถาม ความเดือดก็เริ่มต้นขึ้น ผู้ชมคนดังกล่าวระบุชื่อได้ว่า Elena Lebedeva เอ่ยปากถามคำถามที่ทำให้ทั้งพิธีกรและผู้ชมในห้องส่งคนอื่นๆ ถึงกับช็อกไปตามๆ กัน เธอพูดว่า “มันอันตรายมากนะที่จะมีลูกในวัย 35 ถึง 40 ปี แล้วนี่ยิ่ง 49 ปี คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?” “คุณอยากจะคลอดลูกที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรมอีกคนรึไง? ในสังคมไม่ต้องการเด็กป่วยแบบนี้เพิ่มเข้ามาหรอกนะ ไม่ใช่แค่ในสังคมนี้ รวมไปถึงตัวคุณเองด้วย” ซึ่งระหว่างที่กำลังถามคำถาม Evelina ก็พยายามที่จะพูดเสียงดังเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่พอใจ แต่ Elena ก็ยังกล่าวว่าร้ายให้ลูกของเธอ…
-
ไม่โวยได้ไง?! ไปกินข้าวกัน 8 คน บิลออกมาเกือบ 2 ล้านบาท เซอร์วิสชาร์จเกือบ 2 แสน!!
ลองคิดกันเล่นๆ ว่าถ้าเราพาเพื่อนสัก 8 คนไปกินข้าวตามร้านอาหารดีๆ หน่อย บิลค่าใช้จ่ายในมื้อนั้นจะออกมาสักเท่าไหร่กัน?? แต่บอกเลยว่าตัวเลขที่คิดกันเอาไว้ อาจเทียบไม่ได้เลยกับบิลค่าอาหารที่เขาคนนี้ต้องเจอ เมื่อการกินอาหารของคน 8 คนกลับมีค่าใช้จ่ายตามใบเสร็จสูงเกือบ 2 ล้านบาท!! ผู้ใช้ Weibo (โซเชียลมีเดียของจีน) ได้โพสต์ภาพใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการกินอาหารของเขาและเพื่อนๆ รวมทั้งหมด 8 คน กับราคาที่เห็นแล้วต้องทำให้หลายๆ คนช็อกไปตามๆ กัน เขาบอกว่านี่คือใบเสร็จจากร้าน Maggie’s Restaurant (西郊5号) ร้านอาหารชื่อดังในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กับค่าใช้จ่ายที่สูงถึง 418,245 หยวน (ราวๆ 1,977,441 บาท) ภาพของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Snake_Kane ในโซเชียลมีเดียประเทศจีน เมื่อรวมอาหาร ของหวาน เครื่องดื่ม และบุหรี่ที่ซื้อภายในร้าน มีทั้งหมด 25 รายการ โดยอาหารที่แพงที่สุดคือ”ซุปหางจระเข้” 1 ถ้วยราคา 16,800 หยวน (ราวๆ…
-
ตำรวจเข้าจับกุมตัว หญิงสาวผู้ซุกซ่อนโคเคนและเฮโรอีน จำนวนกว่า 78 ห่อ ไว้ใน “จิ๊มิ๊ส์”?!
เราทราบกันดีว่า “สารเสพติด” คือสิ่งผิดกฎหมาย ไม่อาจมีไว้ในครอบครองหรือค้าขายได้ หญิงสาวคนนี้จึงจำเป็นที่จะต้องซ่อนมันเอาไว้ ไม่ใช่ในกระเป๋า ไม่ใช่ใต้เบาะมอไซ แต่เธอซ่อนไว้ใน “อวัยวะเพศ” ของตัวเอง Lauren Carson หญิงสาววัย 31ปีคนดังกล่าว ถูกตำรวจในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เข้าจับกุมตัวในช่วงกลางเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา หลังพบว่าเธอกำลังแอบขายสารเสพติดให้กับคนในเมือง Lauren ผู้ต้องหาในคดีนี้ เธอถูกค้นตัวหาสารเสพติดที่มีไว้ในครอบครอง โดยในระหว่างนั้นเธอก็พยายามย้ายเอาสารเสพติดที่ซ่อนไว้ในอวัยวะเพศ ขึ้นไปซ่อนในบราที่ถูกค้นไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่นั่นก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ จากการค้นตัวจึงทำให้ตำรวจพบ “โคเคน” 53 ห่อ และ “เฮโรอีน” อีก 25 ห่อ ซึ่งถูกซ่อนอยู่ภายในอวัยวะเพศ Lauren บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเธอเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศสกอตแลนด์ โดยสารเสพติดที่พกติดตัวมานั้นเธอซื้อมาด้วยเงินมรดกก้อนสุดท้ายของพ่อ มูลค่า 130 ปอนด์ (ราวๆ 5,500 บาท) เพื่อไว้เสพเองคนเดียว แต่ตำรวจไม่เชื่อว่าเธอจะเก็บสารเสพติดจำนวนมากนั้นเอาไว้ใช้เองคนเดียวอย่างแน่นอน เพราะของกลางทั้งหมดนั้นสามารถขายได้ในมูลค่ามากกว่า 500 ปอนด์ (ราวๆ…
-
คลิปสะเทือนใจ เมื่อลูกสาวใช้ให้แม่ก้มลงไป “เช็ดเท้า” แถมตะโกนใส่ว่า “มันยังไม่สะอาดเลย!!”
ภาพนี้อาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกหดหู่และไม่พอใจหญิงสาวภายในคลิป หลังเธอใช้ให้ “แม่” แท้ๆ ของตัวเองก้มลงไปเช็ดเท้าให้เธอ ท่ามกลางคนที่เดินผ่านไปมาอยู่ข้างถนน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 18 กันยายน 2018 ไม่มีใครทราบว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งมีคนถ่ายคลิปลูกสาววัยประมาณ 20 กว่าๆ ใช้ให้แม่ลงไปเช็ดเท้าของเธออย่างที่เราเห็นกันนี้ แม่นั่งลงไปเช็ดเท้าให้ลูกสาว จากการรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่นบอกว่านี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณริมถนน Pu’an เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ระหว่างที่แม่กำลังเช็ดเท้าให้อยู่นั้น ลูกสาวที่ยืนอยู่ก็ตะคอกใส่ว่า “มันยังไม่สะอาดเลย!!” และพอแม่เช็ดต่อไปเรื่อยๆ เธอก็ตะคอกไปอีกทีหนึ่งว่า “แม่ทำเท้าหนูเจ็บหมดแล้วเห็นมั้ย?!” ไม่มีใครเข้าไปยุ่งอะไรกับแม่ลูกคู่นี้ จนกระทั่งทุกอย่างเรียบร้อยดี ทั้งสองคนก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงความสงสัยให้กับคนที่เห็น ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกสาวถึงได้ทำอะไรอย่างนั้น คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คลิปนี้ได้กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียล หลายๆ คนคอมเมนต์ไม่พอใจในการกระทำของลูกสาว บางคนก็มองว่าคนเป็นแม่ตามใจเธอมากจนเคยตัว “เจ้าหญิงแห่งท้องถนน” “ความล้มเหลวของการศึกษาระดับชาติ” “แม่ผิดที่รักลูกมากเกินไป ลูกสาวก็ผิดที่เธอโง่เกิน” ที่มา: 3g.163 , weibo , kankanews , nextshark
-
หนุ่มโกหกเมียว่าถูก ‘ลักพาตัว’ สุดท้ายจับได้ว่ากุเรื่องเพราะ จะออกไปกินเหล้ากับเพื่อน!!
สำหรับชายหนุ่มที่มีครอบครัวแล้ว เรื่องของการสังสรรค์กับหมู่เพื่อนบางครั้งอาจจะโดนสั่ง ‘แบน’ จากผู้ปกครอง (ภรรยา) พวกเขาจึงต้องหากลเม็ดวิธีต่างๆ ในการขอออกไปกินเหล้ากับเพื่อนให้ได้ แต่ทางที่ดีแล้วอย่าทำแบบชายคนนี้จะดีกว่า เพราะอาจจะต้องติดคุกฟรีแถมดีไม่ดีโดนบาทาถวายจากฝ่ายหญิงอีกด้วย… หน้าตาของ Leigh Ford เรื่องนี้เกิดขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อนาย Leigh Ford ชาวเมืองแบล็คพูล ประเทศอังกฤษวัย 45 ปี แกล้งโทรศัพท์ไปหา Zoe Doyle ภรรยาของเขาที่ตั้งครรภ์อยู่เป็นจำนวนหลายครั้ง โดยเนื้อความที่เขาโทรไปบอกภรรยาก็คือบอกว่า เขาถูกลักพาตัวไปและถูกทรมานอย่างแสนสาหัสซึ่งทางเดียวที่จะหยุดเรื่องนี้ได้คือให้ภรรยาของเขาโอนเงินใส่บัญชีของคนที่จับตัวเขาไป กับ Zoe ภรรยาของเขา ในตอนแรก Zoe ก็นึกว่านี่เป็นเรื่องล้อเล่น แต่ว่าเสียงในโทรศัพท์ของชายคนนี้ดูกลัวจนลนลาน รวมถึงมีเสียงชายคนอื่นตะโกนโหวกเหวกไปมา รวมทั้งมีคำขู่จะตัดขาของสามีเธอและเทน้ำร้อนราด จึงทำให้ในที่สุดแล้วเธอยอมทำตามที่สามีบอกแต่โดยดี ทว่าเพื่อความปลอดภัยเธอได้โทรบอกตำรวจเกี่ยวกับเรื่องร้ายแรงนี้เอาไว้ให้รับรู้ด้วย “ตอนแรกฉันนึกว่าเขาปั่นฉันเล่น แต่ว่าน้ำเสียงของเขามันดูกลัวจริงๆ แถมจู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ถูกตัดไปดื้อๆ ก่อนที่จะมีการโทรกลับมาอีกครั้งพร้อมกับคำขู่ว่าจะตัดอวัยวะต่างๆ ของสามีฉันทิ้งรวมทั้งอวัยวะเพศด้วย บอกตรงๆ ตอนนั้นฉันตกใจจนแทบคลั่งแหนะ” Zoe กล่าว นอกเหนือคำขู่แล้ว Leigh ยังคงส่งเสียงกรีดร้องใส่โทรศัพท์ที่ปลายสายคือภรรยาผู้อุ้มท้อง 35…
-
เพื่อนผีแดงทำกระเป๋าตังค์หาย เพื่อนซี้หงส์แดงก็แสบนัก แปะสติกเกอร์ให้อกแตกตาย!!
หากใครเป็นแฟนบอลฝั่งอังกฤษก็จะรู้ได้ว่า เลือดกีฬาฟุตบอลมันเข้มข้นมากๆ ใครเชียร์สโมสรไหนก็จะติดหนึบตามเชียร์อย่างสุดใจ จะไม่ยอมปล่อยให้ใครมาหยามทีมอันเป็นที่รักของเราได้!! ยกตัวอย่างจากสองเพื่อนสนิทเชียร์คนละทีม ซึ่งก็เป็นทีมฟาดแข้งแดงเดือดเจ้าประจำ ระหว่างสโมสรลิเวอร์พูลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด Darren Brown Darren Brown วัย 43 ปี เป็นแฟนหงส์แดงมาตั้งแต่เด็ก เขาอุทิศให้ทั้งกายและใจกับทีมสุดๆ เช่นเดียวกันกับเพื่อนสนิทอีกคนที่เชียร์แมนยูทั้งใจเหมือนกัน แต่แล้วก็เหมือนฟ้าจงใจเข้าข้าง Darren จากที่เพื่อนของเขาแวะไปร้านสักในคืนหนึ่ง หลังนัดที่แมนยูเจอกับสเปอร์แล้วแพ้ แถมยังทำกระเป๋าตังค์หายอีกเสียนี่… ในเช้าวันถัดมาทางร้านก็เจอกระเป๋าตังค์ของเขา แต่เป็นช่วงที่เขาต้องไปเที่ยวเกาะ Ibiza พอดี จึงอยากฝากให้เพื่อนรักไปรับกระเป๋าตังค์คืนแทนให้หน่อย พอกลับจากเที่ยวเสร็จจะได้ไปรับจากมือเพื่อน แปะสติกเกอร์ลิเวอร์พูลลงไปแม่มเลย Darren คิดว่าจัดการให้ได้แหละ แต่จะให้คืนกลับไปง่ายๆ มันก็คงไม่สนุกเท่าไหร่นัก ในเมื่อเอ็งเชียร์แมนยูจะมารับของจากเด็กหงส์ มันก็ต้องผ่านการชุบตัวกันก่อน… จัดใส่กล่องลิเวอร์พูลให้แบบสวยๆ ประจวบเหมาะกับช่วงที่ Darren ได้รับกล่องสมาชิกสโมสรรายปีพอดี ก็เลยใช้สติกเกอร์ลิเวอร์พูลแปะลงบนกระเป๋าตังค์ของเพื่อน แล้วก็จับยัดใส่กล่องที่เขียนว่า ‘WE ARE LIVERPOOL’ มีอกแตกตายกันบ้างล่ะ!! …
-
มหาวิทยาลัยดังในอังกฤษแจก ‘กล่องอุปกรณ์สำหรับน้องใหม่’ โดนวิจารณ์ว่าเหยียดเพศ!!
เรื่องของการ ‘เหยียด’ ถือเป็นประเด็นที่ค่อนข้างจะมีความบอบบางและสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก จนบางครั้งเรื่องที่เราอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่กลายเป็นว่าคนอื่นอาจจะรู้สึกว่ามัน ‘เหยียด’ ก็เป็นได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่กล่องอุปกรณ์ต้อนรับนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัย University of Sussex ที่ได้รับการสนับสนุนจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย กลับถูกวิจารณ์ว่า ‘เหยียดเพศ’ ในกล่องอุปกรณ์ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับเด็กใหม่ คู่มือ และ ‘จานรองแก้ว’ ที่มีโฆษณาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย เป็นภาพของปากผู้หญิงที่เต็มไปด้วยฟองของยาสีฟัน และเจ้าจานรองแก้วอันนี้แหละที่กลายเป็นประเด็น ซึ่งอีกด้านหนึ่งมีการเขียนข้อความเอาไว้ว่า “ไม่ว่าคุณจะคายหรือจะกลืนมันลงไป ในการ…..แปรงฟันของคุณทั้ง 2 ครั้งใน 1 วัน โปรดไว้วางใจให้ Brushbox เป็นคนดูแลสุขภาพช่องปากของคุณเถอะ” จากแผ่นรองแก้วนี้ เลยทำให้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า RaquelRosarioSánchez โพสต์ทวีตเปิดประเด็นการเหยียดเพศของการโฆษณานี้ขึ้นมา “ลองจินตนาการว่าคุณเป็นนักศึกษาหญิงที่รู้สึกตื่นเต้นกับการได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอังกฤษ แล้วดันมาเจอสิ่งนี้อยู่ในของขวัญสำหรับนักศึกษาใหม่ดูสิ” “การเหยียดเพศก็คือการเหยียดเพศ แม้ว่ามันจะเป็น ‘เรื่องตลก’ ก็ตาม ผู้หญิงควรจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่านี้” ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดไลก์กว่า 1,400 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 832 ครั้งเลยทีเดียว …
-
ลุงกลายเป็นเซเลบ หลังอาสามา ‘หวีขนให้แมว’ ที่ศูนย์พักพิงแล้วก็ผล็อยหลับไปทุกวัน!!
กำลังกลายเป็นดาวเด่นในโลกโซเชียลของต่างประเทศ ณ ตอนนี้เลย เมื่อคุณลุงอาสาสมัครในศูนย์พักพิงแมวจรจัดรายหนึ่งทำหน้าที่ในการดูแลแมวอย่างหนักในทุกๆ วัน และเขามักจะผล็อยหลับที่ศูนย์พักพิงอยู่เป็นประจำร่วมกับเจ้าเหมียว ทางเพจก็ได้ทำการถ่ายภาพเขามาอัปโหลดลงโซเชียล และนั้นทำให้คุณลุงกลายเป็น ‘คนดัง’ ไปโดยที่ไม่รู้ตัว!? ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับคุณลุง Terry เขาเป็นอาสาสมัครที่ขอเข้ามาดูแลเจ้าเหมียวในศูนย์พักพิงแมวจรจัดที่มีชื่อว่า Safe Haven Pet Sanctuary ตั้งอยู่ในเมือง Green Bay รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณลุงกลายเป็นที่รู้จักของชาวโซเชียลเมื่อเพจของศูนย์พักพิง Safe Haven Pet ได้ทำการโพสต์รูปภาพของเขา พร้อมกับแคปชันว่า “เราโชคดีเป็นอย่างมากที่ได้พบกับ Terry ซึ่ง Terry เพิ่งจะมาช่วยงานที่นี่ได้ไม่นานนัก ในวันแรกเขาเดินเข้ามาติดต่อพวกเราบอกว่า เขาอยากที่จะแปรงขนให้กับเจ้าเหมียวทั้งหลาย จากนั้นเขาก็มาที่นี่ทุกวัน” “เขาแปรงขนให้เจ้าเหมียวทุกตัวที่อยู่ที่นี่ แถมยังสามารถบอกได้อีกว่าเจ้าเหมียวตัวไหนชอบการแปรงขนแบบไหน หลังจากที่ไล่แปรงขนให้ทุกตัวแล้วเขาก็จะผล็อยหลับไปบนโซฟาทุกวัน แต่เราไม่ว่าอะไรหรอกนะ เพราะเจ้าเหมียวทุกตัวดูเหมือนจะชอบเขามากๆ เลยล่ะ!!” โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย กลายเป็นกระแสไวรัล ที่มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 59,000 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 16,000 ครั้งเลยทีเดียว!! …
-
หนุ่มแอบเนียนเป็น ‘ฝ่ายบุคคลสาว’ หลอกให้เพื่อนถ่ายหน้าฮาๆ ส่งให้ อย่างจี้!!
บางครั้งในชีวิตการทำงาน มันก็จะมีวันที่ว๊างว่าง ว่างจนไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ก็เลยอยากจะหาเรื่องมาแกล้งเพื่อนร่วมงาน เช่นเดียวกันกับนาย Lee Blaylock วัย 22 ปี พนักงานก่อสร้างถนน จากเมือง Carlisle ที่ว่างจนไม่รู้จะทำอะไร เลยนึกครึ้มแกล้งเพื่อนร่วมงานขึ้นมาจนกลายเป็นกระแสความฮาในโลกโซเชียล เรื่องมันเริ่มจากที่นาย Lee เคยส่งข้อความไปหาเพื่อนร่วมงานชื่อว่านาย Jordan และปรากฏว่าเขาไม่ได้เมมเบอร์ของ Lee เอาไว้ ด้วยเหตุนี้เองก็เลยแสร้งทำเป็นฝ่ายบุคคล ที่กำลังจะมาตรวจตราการทำงานของพนักงานส่งข้อความไปหาซะเลย!! ข้อความที่ Lee ส่งไปหา Jordan “สวัสดีค่ะ นี่ Claire จากฝ่ายบุคคลเองนะ คือว่าเราอยากจะขอให้คุณช่วยส่งภาพของคุณมาให้ตอนนี้จะได้ไหม เพื่อที่จะเอาไปติดบัตรพนักงานน่ะ” เหมือนการแกล้งจะสำเร็จไปได้ด้วยดี แต่จู่ๆ ก็กลายเป็นว่าเหมือนจะโป๊ะแตก เพราะนาย Jordan นั้นเป็นเพียงพนักงานฝึกหัดเท่านั้น และเขาก็บอกว่าก่อนหน้านี้ได้ส่งภาพถ่ายพร้อมกับใบสมัครงานไปแล้วนี่นา แต่นาย Lee ก็ใช้สกิลในการแถต่อไปว่า “อ๋อ อันนั้นมันอยู่ในระหว่างดำเนินการค่ะ แต่ถ้าส่งมาให้ตอนนี้มันจะสะดวกและรวดเร็วยิ่งกว่า” และก็ได้ภาพนี้มา ก็เลยเสริมไปว่า “ถ้าเป็นไปได้ขอเป็นภาพที่ดูสบายๆ…
-
ภาพหญิงสาวที่มี “ปานรูปกระจู๋” ขนาดเบิ้มพาดข้างลำคอ กำลังเป็นที่ฮือฮาบนทวิตเตอร์
ว่ากันด้วยเรื่องของ “ปาน” อันเป็นรอยด่างพร้อยบนร่างกายที่เกิดมาพร้อมกับตัวเรา ปานเกิดขึ้นเป็นรูปร่างต่างๆ ตามธรรมชาติที่เราไม่สามารถกำหนดได้ว่ามันจะมีรูปร่างเป็นอย่างไร บางคนอาจจะมีปานที่ดูเหมือนกับหัวใจ บางคนอาจจะมีปานรูปดอกไม้ วงกลม หรือพระจันทร์เสี้ยว เป็นต้น ล่าสุดมีชาวเน็ตแชร์รูปภาพผ่านทวิตเตอร์ เป็นรูปภาพของสาวผิวขาวผมยาวคนหนึ่ง ที่ถูกถ่ายรูปบริเวณข้างลำคอซึ่งปรากฏให้เห็นเป็น “ปาน” ดวงใหญ่ลากตั้งแต่กรามลงไปจดต้นคอ ปาน… (ว่าแต่รูปร่างมันแปลกๆ) จุดที่ว่าพีคกก็ตรงที่ปานของหญิงสาวคนนี้มันเป็นรูป “องคชาต” นี่แหละ!! ถึงจะห้ามไม่ให้คิดลึกแต่รูปร่างและขนาดของปานมันเหมือนกับ “ไอ้จ้อน” จนอดคิดไม่ได้จริงๆ ไม่รู้ว่าภาพนี้เป็นภาพจริงหรือว่าตัดต่อขึ้นมา แต่ผู้ที่ทำการเผยภาพดังกล่าวออกสู่สายตาชาวเน็ตก็คือ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @3h_plus_agency คนนี้นี่แหละ หากดูจากโปรไฟล์แล้วน่าจะเป็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่นอย่างแน่นอน นี่แหละตัวการ ใครไม่ชอบใจ ก็ไปคุยกับนางเองเลยเด้อ!~ ไม่ว่าจะเป็นภาพจริงหรือหลอก แต่ถ้าคนเรามีปานรูป “องคชาต” แบบนี้จริงๆ คงเป็นเรื่องอัศจรรย์ไม่น้อยเลยทีเดียว! ที่มา: Twitter@3h_plus_agency via ck101
-
ชายถูกฆ่าหาศพไม่เจอนานกว่า 40 ปี ถูกพบเพราะมี ‘ต้นมะเดื่อ’ งอกจากเมล็ดในท้อง!?
บางครั้งเรื่องเหนือธรรมชาติก็อาจเกิดขึ้นได้อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด… นี่คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ถูกฆาตกรรมเมื่อ 40 ปีก่อน ศพของเขาไม่สามารถหาเจอได้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ว่าในที่สุดศพของเขาก็ได้รับการค้นพบจากการมีต้น ‘มะเดื่อ’ งอกออกมาจากเมล็ดในท้อง!? นาย Ahmet Hergune ถูกฆ่าในปี 1974 จากกรณีความขัดแย้งระหว่างชาวไซปรัสเชื้อชาติกรีก – ชาวไซปรัสเชื้อชาติตุรกี ที่ปะทุในเวลานั้น และศพของเขาก็หายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยเป็นเวลาหลายทศวรรษ แต่แล้วในปี 2011 ทีมนักวิจัยก็ค้นพบต้นมะเดื่อต้นหนึ่งที่เจริญเติบโตอยู่ในถ้ำ ซึ่งโดยปกติแล้วต้นไม้ชนิดนี้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่แถบภูเขา นักวิจัยจึงตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นที่ถ้ำแห่งนี้ พวกเขาจึงขุดสำรวจลงไปในบริเวณที่ต้นไม้ต้นนั้น แล้วสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่อมีการค้นพบร่างของมนุษย์จำนวน 3 คนอยู่ในนั้น รวมถึงเศษเสื้อผ้าบางส่วนด้วย… ทีมนักวิจัยได้นำเสื้อผ้าเหล่านั้นมาตรวจสอบ รวมถึงนำกระดูกมาตรวจ DNA แล้วก็พบว่า 1 ใน 3 ศพนั้นเป็นศพของนาย Ahmet เมื่อนำผลเลือดมาเปรียบเทียบกับ Munur Herguner น้องสาววัย 87 ปีของเขา “พวกเราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่มีคนอยู่ประมาณ 4,000 คน ครึ่งหนึ่งเป็นชนชาติกรีกอีกครึ่งหนึ่งเป็นชนชาติตุรกี ทว่าในปี 1974 ที่มีความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายเกิดขึ้น พี่ชายของฉันก็เลือกที่จะเข้าร่วมกับฝ่ายชนชาติตุรกี และตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนปีนั้นเองก็ไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย”…
-
สลดใจ… คุณแม่วัยรุ่นขายลูกออนไลน์ อายุแค่ 9 วัน นัดรับสนามบินแลกเงินแค่ 1,400 บาท
ปัญหาของความไม่พร้อมในการมีลูก ส่งผลทำให้เกิดเรื่องราวอันน่าเศร้าตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำแท้งเพื่อเอาเด็กออก หรือคลอดออกมาแล้ว นำไปฝากให้กับคนอื่นในครอบครัว โดยไม่สนใจไยดีเลย สำหรับกรณีนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศรัสเซีย ถูกเปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงภาพจากกล้องวงจรปิดของกระบวนการค้ามนุษย์ โดยมีผู้กระทำความผิดเป็นแม่ที่ขายลูกอายุเพียงแค่ 9 วัน ให้กับคนแปลกหน้าที่นัดเจอกันโลกออนไลน์ Inna Petrova คุณแม่วัย 25 ปี ได้ทำการนัดพบกับนาง Natalia Zhdanova ภายในบริเวณสนามบิน ลงทุนบินไกลจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมายังเมืองออมสค์ ที่ห่างกันไกลกว่า 3,000 กิโลเมตร เพื่อมารับส่งมอบเด็กจากผู้เป็นแม่… กระบวนการทั้งหมดนี้ ถูกจับภาพจากกล้องวงจรปิดไว้ได้ทั้งหมด โดยที่ Inna ผู้เป็นแม่ยอมขายลูกตัวเองเพื่อแลกกับเงินเพียง 1,400 บาท (3,000 รูเบิล) เท่านั้น คุณแม่ได้ทำการจูบลาลูกน้อยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะส่งให้กับนาง Natalia ในห่อผ้าขนหนูสีชมพูสด โดยที่พยายามไม่หันกลับมามองลูกอีกเลย แม้จะต้องปาดน้ำตาอยู่หลายต่อหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า นาง Natalia ได้ใช้สูติบัตรปลอมแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน้าเกทเพื่อยืนยันว่าเป็นลูกของเธอเอง ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินกลับไปพร้อมกับเด็กที่ซื้อมา…
-
งงกันทั้งบาง?! หลังแพทย์พบ “เต่า” อยู่ใน “อวัยวะเพศ” ของสาวรายหนึ่ง เอ็งเข้าไปได้ยังไง??
เราอาจเคยเมาจนไม่ได้สติ จำไม่ได้ว่าในคืนนั้นทำอะไรลงไปบ้าง หนักสุดเลยคือจำไม่ได้ว่ามีใครมาทำมิดีมิร้ายอะไรเราหรือเปล่าเนี่ยแหละ เพราะไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องเจอกับอะไรแปลกๆ ในที่ลับเหมือนอย่างหญิงสาวคนนี้ ในวันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2018 หญิงสาวไม่ทราบชื่อคนหนึ่งได้เข้ารับการตรวจภายในโรงพยาบาล El Mojon บนเกาะเตเนริเฟ ประเทศสเปน หลังจากที่เธอรู้สึกเจ็บบริเวณท้องน้อย เกาะที่เป็นดั่งแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศสเปน แพทย์จึงทำการตรวจร่างกายบริเวณนั้น ก่อนจะพบกับสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ มี “ศพเต่า” อยู่ภายใน “อวัยวะเพศ” ของหญิงสาวคนนี้!! ไม่รู้ว่าแพทย์หรือคนไข้ ใครควรจะช็อกมากกว่ากันดี หลังจากนั้นพวกเขาจึงทำการนำมันออกมาจากช่องคลอดของเธอที่ตอนนี้ภายในมีบาดแผลอยู่ค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต จากการรายงานไม่มีการระบุในเรื่องขนาดของเจ้าสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมที่เข้าไป แต่ตอนนี้เล็กใหญ่อาจไม่สำคัญ สำคัญตรงที่ว่ามันเข้าไปได้อย่างไรซะมากกว่า หญิงสาวได้เล่าถึงอาการเจ็บปวดให้แพทย์และตำรวจฟังว่า เธอเริ่มรู้สึกเจ็บบริเวณท้องน้อยตั้งแต่หลังจากที่เธอไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ มาเมื่อคืน 2 วันก่อนหน้านั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของเกาะจึงคาดการณ์ว่าหญิงสาวคนนี้อาจตกเป็นเหยื่อของการ “ถูกคุกคามทางเพศ” ในแบบที่เรียกว่าพิเรนทร์ไปซะหน่อย โดยตำรวจก็เร่งสืบหาความจริงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หญิงสาวผู้โชคร้ายคนนี้ก็บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอไม่อยากให้มีการสืบสวนใดๆ ไปมากกว่านี้อีกแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธออายกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือเปล่านะ การไปปาร์ตี้เมามายสังสรรค์กับเพื่อนๆ อาจไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร แต่ก็อย่าลืมที่จะดูแลตัวเองกันให้ดีด้วยนะ ที่มา: mirror , thesun , ladbible
-
สาววีแกนบุกโรงฆ่าสัตว์ ล่ามตัวเองกับลูกวัวเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยมันจากการถูกเชือด!?
สำหรับชาววีแกน ‘บางคน’ แล้ว การฆ่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารอาจเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก จึงทำให้มีการเรียกร้องต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมากมายอย่างที่เราเคยเห็นกันอยู่บ่อยๆ รวมถึงในกรณีที่เป็นข่าวล่าสุด ที่มีสาววีแกนคนหนึ่งเรียกร้องให้ปล่อยสัตว์ด้วยการเอาตัวเองไปล่ามติดกับสัตว์ในโรงเชือด!? Alix Livingstone นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสัตว์วัย 23 ปีจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้บุกเข้าไปที่โรงฆ่าสัตว์ Benalla ในรัฐวิกทอเรีย แล้วนำโซ่ล่ามตัวเองไว้กับลูกวัวตัวหนึ่ง เพื่อเป็นการเรียกร้องให้ทางโรงฆ่าสัตว์ปล่อยลูกวัวตัวนี้เป็นอิสระ ทว่าในเวลาต่อมาพนักงานของโรงฆ่าสัตว์ก็ไล่นักเคลื่อนไหวคนนี้ออกจากโรงฆ่าสัตว์ ด้วยการบอกว่าหากไม่ยอมออกไปดีๆ อาจจะต้องใช้วิธีการบังคับ ในที่สุดแล้วเธอจึงยอมออกมาด้วยความจำนน วิดีโอที่เธอคลอเคลียกับลูกวัวในโรงฆ่าสัตว์ Alix พยายามจะเจรจาต่อรองว่าขอให้มีการปล่อยลูกวัวจำนวน 2 ตัวออกมา แต่ว่าก็ไม่เป็นผลสำเร็จเมื่อทางโรงฆ่าสัตว์ไม่ตกลงด้วย ซึ่งเธอก็บอกว่าพวกมันถูกฆ่าในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ทั้งๆ ที่มันเพิ่งจะถูกแยกตัวออกจากแม่และมีอายุได้เพียงแค่ 30 วัน สาววีแกนนักเคลื่อนไหวคนนี้ทำงานอยู่ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเธอก็มักจะออกมาพูดสร้างความตระหนักให้กับผู้คนในเรื่องของสัตว์ต่างๆ รวมถึงเรื่องของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ด้วย โดยเพจในเฟซบุ๊กของเธอที่มีชื่อว่า Alix the Vegan เคยกล่าวไว้ดังนี้ “เป้าหมายของฉันคือการช่วยให้ผู้คนได้รู้และตระหนักถึงวิธีการที่เราทำกับสัตว์ ด้วยการออกมาเปิดเผยความจริงของอุตสาหกรรมเหล่านี้” “ฉันรู้ว่ามันคงเป็นเรื่องที่เจ็บใจมากจริงๆ ถ้าหากเรารู้ชะตากรรมของสัตว์เหล่านี้แล้วไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือพวกมัน” ตามรายงานของต่างประเทศกล่าวว่า จริงๆ…
-
แซะถึงหน้าร้าน!! หัวเหว่ยแจก “พาวเวอร์แบงก์” ให้กับคนที่รอต่อคิวซื้อ iPhone ตัวใหม่
สำหรับ iPhone XS และ XS Max ที่หลายๆ คนตั้งตารอคอยกันนั้น มันได้ถูกวางจำหน่ายในวันนี้ (21 กันยายน 2018) เป็นวันแรก ในหลายๆ ประเทศ ทำให้ไม่แปลกที่เราจะได้เห็นคนไปยืนรอต่อคิวกันเต็มหน้าร้าน เหมือนอย่างบรรยากาศด้านหน้า Apple Store ในประเทศสิงคโปร์ ผู้คนต่างพากันไปนั่งรอนอนรอกันตั้งแต่ดึกดื่น โดยที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะได้รับของแถมกลับมาด้วย บรรยากาศหน้าร้าน Apple Store ในประเทศสิงคโปร์ ช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่มของเมื่อคืน จู่ๆ ก็มีคนเดินแจก “พาวเวอร์แบงก์” ให้กับผู้คนที่กำลังนอนรอต่อคิวกันอยู่แบบฟรีๆ ซะอย่างงั้น?! ใครก็ไม่รู้มาเดินแจกพาวเวอร์แบงก์ให้ฟรีๆ เฉยเลย?? จนกระทั่งได้ทราบว่าคนที่มาเดินแจกก็คือพนักงานจากบริษัท หัวเหว่ย (Huawei) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอีกรายที่ก่อนหน้านี้เคยแซะเรื่องของ iPhone โมเดลล่าสุดนี้ไปบ้างแล้วในวันเปิดตัว อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: หัวเหว่ยทวีตแซะแรง ‘ขอบคุณที่ยังทำอะไรเดิมๆ’ หลังการเปิดตัว iPhone X โมเดลใหม่ มาคราวนี้ หัวเหว่ยแกเล่นตามมาแซะกันถึงหน้าร้าน โดยพาวเวอร์แบงก์ที่แจกนั้นมีจำนวนกว่า…
-
หนุ่มตุ้ยสายฮา Jack Black ในที่สุดก็มีชื่อบนดวงดาว Hollywood Walk of Fame แล้ว!!
เชื่อว่าหลายคนต้องคุ้นหน้าคุ้นตาพ่อหนุ่มตุ้ยนุ้ยสายฮาอย่าง Jack Black คนนี้อย่างแน่นอน เพราะพี่แกเองก็เป็นนักแสดงและนักดนตรีที่มีฝีมือ แถมฝากผลงานการแสดงที่โด่งดังไว้มากมาย อาทิเช่น School of Rock, King Kong, Goosebumps และ Jumanji (2017) เป็นต้น เรียกได้ว่า Jack Black เป็นนักแสดงที่เติมสีสันให้กับภาพยนตร์จนผู้ชมหลายต่อหลายคนชื่นชอบเลยล่ะ ล่าสุดในวันที่ 18 กันยายน 2018 นักแสดงหนุ่มสายฮา Jack Black ในวัย 49 ปีได้ถูกบรรจุชื่อลงบน “ดาว” ดวงที่ 2,645 ของ Hollywood Walk of Fame ท่ามกลางสายตาของแฟนๆ ทั้งหลาย ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า การได้มีชื่ออยู่ในดวงดาวนี้เป็นสิ่งที่สำคัญและมีเกียรติอย่างมาก เพราะมันหมายถึงว่า ชื่อของคนผู้นั้นจะกลายเป็น “คนสำคัญ” ที่จะถูกจารึกไว้ในดาวและในใจของผู้ชมตลอดกาล งานนี้ดูแล้วพี่ Jack Black เองก็ดีอกดีใจไม่น้อยเลยทีเดียว ชมคลิปวิดีโอ Jack Black ในงานจารึกชื่อ …
-
พนักงานบนเครื่องลืมเปิด ‘เครื่องควบคุมแรงดันอากาศ’ ทำให้ผู้โดยสาร 30 คนเลือดออกหู/จมูก!?
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การเดินทางโดยเครื่องบิน’ นั้นถือเป็นหนึ่งในการเดินทางที่รวดเร็วและปลอดภัย เพราะจะมีการเช็กความพร้อมทุกอย่างให้แน่ใจก่อนที่เครื่องจะขึ้นบิน รวมไปถึงการดูแลเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ที่มีความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ แต่สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางไปกับสายการบิน Jet Airways จากเมืองมุมไบ ไปยังเมืองชัยปุระ ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ต้องเผชิญกับประสบการณ์เลวร้ายที่พวกเขาจะไม่มีทางลืมอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่บนเครื่องดันลืมเปิด ‘เครื่องควบคุมความดันอากาศ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘Bleed Switch’ จนทำให้ความดันอากาศในเครื่องลดลงอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้ผู้โดยสารกว่า 30 คน จากทั้งหมด 166 คน มีเลือดไหลออกจากหูและจมูก นอกจากนี้อีกกว่า 10 คน มีอาการปวดหัว จากความประมาทของพนักงานบนเครื่องบิน จากรายงานของสำนักข่าว India Today TV ระบุเอาไว้ว่าหลังจากที่เครื่องขึ้นไปไม่นานก็วนกลับมาแลนดิ้งที่สนามบินมุมไบอย่างปลอดภัย หลังจากที่เครื่องลงจอดแล้วเจ้าหน้าที่แพทย์สนามบินที่สแตนด์บายรออยู่ด้านล่าง ก็เข้ามาตรวจสอบและพบว่ามีผู้โดยสารถึง 5 คนที่ต้องทำการแอดมิตเข้าโรงพยาบาล Nanavati Hospital อย่างเร่งด่วน ทางด้านคุณหมอ Rajendra Patankar คุณหมอที่รับผิดชอบเคสนี้ได้กล่าวว่า “ผู้ป่วยทุกคนกำลังอยู่ภายใต้การดูแลของเรา บางคนก็ถึงกับมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน เพราะแรงกดอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะใช้เวลาฟื้นฟูเป็นสัปดาห์กว่าจะกลับมาหายดีอีกครั้ง นอกจากนี้ผมยังให้คำแนะนำกับผู้ป่วยอีกว่าอย่าเพิ่งโดยสารเครื่องบินจนกว่าอาการจะหายดี” แน่นอนว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว…
-
ศิลปินสรรค์สร้างโปรเจกต์ Toy Stories เก็บภาพ ‘ของเล่น’ ของเด็กๆ ที่อยู่ทั่วโลก!!
หากย้อนกลับไปในวัยเด็ก ทุกคนต่างก็ต้องเคยมี ‘ของเล่น’ เป็นของตัวเอง และมันเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยคลายความเหงาได้เป็นอย่างดีในเวลาว่าง แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมว่า ในแต่ละประเทศทั่วโลกนั้น เหล่าเด็กๆ จะเล่นของเล่นแบบไหนกันบ้าง? จะเหมือนกับที่เราเคยเล่นเมื่อตอนยังเป็นเด็กๆ หรือไม่ หรือไม่ว่าที่ไหนก็เหมือนๆ กันไปหมด สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปชมผลงานโปรเจกต์ถ่ายภาพของช่างภาพ Gabriele Galimberti จากประเทศอิตาลี ในชื่อว่า Toy Stories ซึ่งเขาจะพาทุกคนไปชมของเล่นของเหล่าเด็กๆ จากทั่วโลก!! “ผมได้ทำการบันทึกสิ่งของต่างๆ ที่สร้างความสนุกสนานให้กับเหล่าเด็กๆ ซึ่งมันสามารถบอกเล่าถึงวัฒนธรรม และเบื้องหลังชีวิตที่พวกเขาได้เติบโตมา แม้มันจะดูไม่มีค่าหรือดูแปลกอะไร แต่ก็เป็นความภาคภูมิใจ ที่มันสามารถสร้างความสนุกสนานและเป็นเพื่อนให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างดี” Gabriele กล่าวถึงผลงานของตัวเอง เขาเดินทางไปยัง 50 ประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างโปรเจกต์ Toy Stories ขึ้นมา และนี่คือเรื่องราวที่เขาเก็บมาได้ จะเป็นอย่างไรลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… Noel Hawthorne วัย 5 ขวบ จากเมือง South Dallas รัฐ Texas…
-
‘ปูติน’ โชว์เทพ ทดสอบสไนเปอร์รุ่นใหม่ ยิงเข้าเป้าไป 3 จาก 5 นัดแถมโดนหัวด้วย!!
เป็นอีกหนึ่งผู้นำบนโลกใบนี้ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็ตกเป็นที่น่าสนใจจริงๆ สำหรับ ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ผู้นำแห่งประเทศรัสเซีย ที่ล่าสุดเขาก็ได้ออกมาโชว์ทักษะการบู๊แบบขั้นเทพด้วยการทดสอบปืน ‘สไนเปอร์’ แล้วยิงเข้าเป้ามากกว่าครึ่ง!! โดยเมื่อวันพุธที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา นายปูตินได้เดินทางไปที่ศูนย์ทดสอบยิงเป้าของบริษัท Kalashnikov บริษัทผลิตปืนชื่อดังของประเทศ เพื่อเข้าร่วมทดสอบปืนรุ่นใหม่ที่มีการผลิตออกมา ปืนที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า ‘Kalashnikov SVCh-308’ และการทดสอบก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เมื่อทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่าเป้าที่พวกเขาจัดเอาไว้ให้มีระยะไกลถึง 1,868 ฟุต (ประมาณ 569 เมตร) เลยทีเดียว แต่ทันทีที่นายปูติน นั่งแท่นประจำการแล้วจัดการลั่นไกออกไป 5 นัดก็ปรากฏว่าเข้าเป้าถึง 3 นัดด้วยกัน!! โดยยิงเข้าบริเวณหัว 1 นัด ตับ 1 นัด (หากเทียบเป็นคนจริง) และช่องท้องอีก 1 นัดด้วยกัน ลีลาการวาดลวดลายของเขา “เป้าฝึกซ้อมถูกจัดให้มีระยะห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว” Rossiya ผู้สื่อข่าวแห่งสถานี 24 Television กล่าว และเขายังบอกด้วยว่านายปูตินยังมีลักษณะของมือปืนอาชีพ นั่นคือการกลั้นลมหายใจเพื่อความนิ่งในขณะที่ยิงอีกด้วย สำหรับบริษัทปืน Kalashnikov เป็นบริษัทอาวุธปืนอันดับต้นๆ…
-
ชาวเน็ตซูฮก เจ้าของร้านอาหารโต้กลับลูกค้ามารยาทแย่ ที่มาทิ้งรีวิวด้านลบทั้งที่ไม่จริง
หากพูดถึงปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจประเภทบริการประสบความสำเร็จได้ ก็คงไม่พ้นคุณภาพของสินค้าหรือการบริการและโลเคชั่น แต่ในยุคนี้ถือเป็นยุคที่อินเตอร์เน็ตมีส่วนสำคัญมาก ดังนั้นจึงมีอีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่สามารถขาดได้เลย นั่นคือคะแนนรีวิวหรือคำวิจารณ์จากลูกค้านั่นเอง และจะเป็นอย่างไรถ้าลูกค้าคนหนึ่งให้คะแนนรีวิวแย่ๆ แก่ร้าน แต่คำวิจารณ์นั้นเป็นคำวิจารณ์ที่ไม่ยุติธรรม เจ้าของร้านจึงออกมาโต้กลับและอธิบายเหตุผลจนชนะใจชาวเน็ตหลายๆ คน เริ่มจากการลูกค้ามาให้คะแนน 1 ดาวพร้อมกับคำวิจารณ์ว่า “อาหารโอเค แต่รอนานไปหน่อย” เมื่อเจ้าของร้านมาเห็นคำวิจารณ์ดังกล่าวในอีก 2 เดือนต่อมา ปรากฏว่าเขาจำเธอได้และได้ตอบกลับไปว่า “ถึง Monica (นามสมมติ) ผมอยากจะขอบคุณข้อความของคุณ ผมยินดีที่จะบอกว่า ตั้งแต่ที่เราก่อตั้งร้านมา 2 ปีก่อน เรายังไม่เคยเจอปัญหาอะไรใดๆ และเรามักจะตื่นเต้นเสมอเวลามีคนกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ผมอยากจะให้คุณรู้ว่าในวันนั้นมีกลุ่มลูกค้า 27 คนมาก่อนเวลาที่พวกเขาจองไว้ตอน 19.00 น. ถึง 40 นาทีคุณและแขกอีกสองคนต้องการให้เราบริการและหาที่นั่งให้ในทันทีซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่ง แม้ว่าพนักงานของเราจะทำงานกันอย่างขยันขันแข็งเพื่อดูแลลูกค้าทุกคนอย่างสุดความสามารถ ขณะที่ดูแลลูกค้าท่านอื่น เราก็ยังมีน้ำใจพอที่จะเปิดห้องจัดเลี้ยงให้แก่พวกคุณเพื่อความสะดวกสบายของพวกคุณ หลังจากที่เรารับออร์เดอร์จากคนทั้งกลุ่ม เราสามารถนำมาอาหารมาให้ได้ใน 35 นาที สำหรับจำนวนแขกเท่านี้ โดยไม่มีการสั่งเมนูล่วงหน้า พนักงานของเราทำงานอย่างหนักเพื่อให้เสิร์ฟอาหารได้ทันเวลา พวกเราไม่ใช่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดนะ และทุกอย่างต้องทำตามออเดอร์ อีกทั้งคุณกับแขกอีกสองคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะได้ขอให้ร้านเราแยกบิลค่าอาหารออกจากกลุ่มลูกค้าคนอื่นๆ ทั้งๆ…
-
หญิงขายบริการต่อต้าน ‘ซ่องหุ่นยนต์’ ชี้ลดคุณค่าของมนุษย์ ต้นเหตุความรุนแรงต่อผู้หญิง
ในต่างประเทศเริ่มมีแนวโน้มที่ซ่องหุ่นยนต์หรือซ่องตุ๊กตายางจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหวังนำมาเป็นทางเลือกให้กับชายผู้กำหนัด ได้หาที่ลงในการปลดปล่อยความรู้สึก แทนที่จะไปลงกับโสเภณีที่เป็นคนจริงๆ ซึ่งกิจประเภทดังกล่าวก็ยิ่งทำให้เหล่าผู้ที่ทำงานในวงการแบบนี้ รู้สึกได้รับผลกระทบและอาจจะก่อให้เกิดผลเสียตามมา สามตัวแทนในนามของหญิงขายบริการ จากเรือนนวลนางถูกกฎหมาย Sheila’s Ranch ในรัฐเนวาดา ได้ออกมาต่อต้านเทคโนโลยีตุ๊กตาหุ่นยนต์ที่คล้ายคนจริง นำมาใช้สนองความต้องการทางเพศของมนุษย์ โดยให้เหตุผลว่า เป็นการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะผู้หญิง และจะเป็นการส่งเสริมการใช้ความรุนแรงของผู้ชายต่อผู้หญิงจริงระหว่างร่วมเพศ กลายมาเป็นผู้ก่ออาชญากรรมในอนาคต Red Diamonds Red Diamonds ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เพราะหุ่นยนต์หรือตุ๊กตายางไม่ใช่คนจริง ซึ่งในตอนนี้ปัญหายังไม่เกิดขึ้น แต่อาจจะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า หากลูกค้าไม่สามารถแยกแยะได้ “เซ็กส์จริงๆ โดยเฉพาะกับหญิงขายบริการ คือสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างให้ความเคารพ ชื่นชมกันและกัน แต่ซ่องรูปแบบนี้จะกระตุ้นการไม่ให้เกียรติต่อผู้หญิง และจะก่อให้เกิดการขาดความเอาใจใส่ในระหว่างการร่วมเพศ (ไม่มีการเล้าโลม)” โดยที่เธอชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป อาจจะนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายในอนาคต ต่อลูกค้าที่ใช้บริการการร่วมเพศกับหุ่นยนต์เป็นประจำ… Roxanne Price ด้าน Roxanne Price เพื่อนร่วมงานในวงการ มีความคิดเห็นในเชิงเดียวกัน เธอเชื่อว่าการทำให้ซ่องประเภทนี้ถูกกฎหมาย จะเป็นการส่งเสริมการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิง ให้กลายมาเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นได้ปกติในสังคม…
-
ร้านเบเกอรี่แจก ‘ขนมปังของเมื่อวาน’ ฟรี ชี้ดีกว่าทิ้ง-ได้ช่วยเหลือสังคม ประโยชน์ร่วมกันไปอีก!!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่ใครได้อ่านก็ต้องมีใบหน้าเปื้อนยิ้มแน่ๆ เมื่อมีร้านเบเกอรี่ร้านหนึ่งในประเทศจีนตัดสินใจแจก ‘ขนมปังจากเมื่อวาน’ ให้กับใครที่เดินผ่านไปมาผ่านมาสามารถหยิบเอาไปกินได้อย่างฟรีๆ ไม่มีข้อแม้!! ร้านขนมปังที่ว่านี้ตั้งอยู่ในเมืองซีอาน ประเทศจีน โดยพวกเขาจะตั้งโต๊ะแจกขนมปังในทุกๆ วันและที่ทำอย่างนี้ก็เพราะว่าไม่อยากจะทิ้งให้เสียของโดยเปล่าประโยชน์ รวมถึงอยากจะทำความดีตอบแทนสังคมด้วย สำหรับใครที่กังวลว่ามันจะเสียจะขึ้นราหรือไม่ พวกเขาก็บอกว่าปกติแล้วขนมปังที่วางขายในร้านถ้าหากขายไม่หมดจะไม่สามารถนำมาวางขายได้ต่อในวันต่อไป (เพื่อความสดใหม่) แต่ทั้งนี้ก็ยังสามารถกินได้อย่างไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างแน่นอน ด้วยเหตุผลที่ได้กล่าวมาจึงทำให้พวกเขาตั้งโต๊ะแจกขนมปังที่เหลือจากการขาย ถึงตอนนี้เป็นเวลา 1 ปีเต็มๆ แล้วที่ช่วยเหลือสังคมด้วยวิธีนี้ “แต่ละวันจะมีขนมปังเหลือประมาณ 30 – 40 ชิ้นคละๆ ชนิดปนกันไป ซึ่งถ้าคิดรวมๆ มันก็จะมีมูลค่าประมาณ 200 กว่าหยวน (ประมาณ 1,000 บาท) และตรงนี้เองก็เลยเกิดความคิดขึ้นมาว่าจะทิ้งก็เป็นการเปล่าประโยชน์เปล่าๆ เลยเอามาจัดวางไว้หน้าร้านให้คนที่เดินผ่านไปมาได้หยิบกินกันตามสะดวก ซึ่งปกติไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็หมดถาดเรียบร้อย” เจ้าของร้านกล่าว สำหรับผู้คนส่วนมากที่มาหยิบจะเป็นคนที่ต้องทำงานในเวลาเช้าๆ อย่างเช่นพนักงานกวาดถนน ตำรวจ หรือคนชราทั่วๆ ไปที่ตื่นแต่เช้าตรู่นั่นเอง นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีจริงๆ แถมยังได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นทางร้านที่ได้ช่วยเหลือสังคม แถมไม่ต้องทิ้งขยะให้เสียเปล่าอย่างน่าเสียดาย ด้านผู้รับก็มีขนมปังอร่อยๆ กินฟรีๆ อย่างไม่ต้องเสียเงิน…
-
หนุ่มรถบรรทุกหลับใน จนรถ ‘พลิกคว่ำ’ ทำให้ ‘สาวเปลือยกาย’ กระเด็นออกมาสู่หน้ากล้อง
คำว่า ง่วงไม่ขับ นั้นเป็นคำเตือนที่จำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างมาก เพราะการง่วงนอนขณะขับรถไปบนถนน อาจทำให้ผู้ขับเผลอหลับ และทำให้รถเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ได้ การขับรถยามง่วง นอกจากมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนได้แล้ว บางครั้งยังมีหลายๆ สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ตามมาอีกด้วยแม้ว่าจะไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรุนแรงก็ตาม อย่างเช่นเหตุการณ์ตัวอย่างในวันนี้ที่ ชายขับรถบรรทุกคนหนึ่ง ผู้ที่ตั้งกล้องถ่ายทั้งภายในและนอกรถเอาไว้ ด้วยความเส้นทางเป็นทางตรงทอดยาว จู่ๆ เขาเกิดง่วงและเผลอหลับไป ชายขับรถบรรทุก มีกล้องถ่ายทั้งนอกรถและในรถ จู่ๆ เขาผล็อยหลับทั้งๆ ที่รถก็ยังวิ่งอยู่ (เรียกอีกอย่างว่าหลับในนั่นเอง) จากนั้นรถของเขาก็พุ่งออกทางด้านข้างของถนน ทำให้รถเกิดเสียหลัก ไม่สามารถควบคุมได้ สุดท้ายรถบรรทุกของเขา พลิกคว่ำ ทำให้ตัวเขาถึงกับกระเด็นออกจากที่นั่งคนขับเลยทีเดียว และที่ยิ่งกว่านั้น นอกจากกล้องจะถ่ายติดภาพที่เขากระเด็นกระดอนขณะรถพลิกคว่ำแล้ว กล้องยังถ่ายติดภาพ “ภรรยาของเขา” ที่กระเด็นออกมาจากหลังรถในสภาพ เปลือยกาย อีกด้วย รถเกิดพลิกคว่ำ คนขับก็ตื่น ภรรยาคนขับที่เปลือยกายนอนหลับอยู่หลังม่านก็ตื่นด้วย หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็เข้าขั้นชุลมุนวุ่นวายเลยทีเดียว ทั้งคนขับและภรรยาลอยเคว้งคว้างกันในตัวรถ . พอรถหยุด ทั้งคู่ต่างก็ต้องงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่โชคดีที่ทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนัก (แต่พ่อหนุ่มคนนี้มีหวังได้รับบาดเจ็บจากการลงโทษของภรรยาแน่ๆ) ชมคลิป หนุ่มรถบรรทุกเผลอหลับ…
-
มิติใหม่แห่ง “การสัก” กับรอยสักที่สามารถ ‘ขยับและเปลี่ยนรูปร่างได้’ บอกเลยว่าเจ๋งมาก!!
ขึ้นชื่อว่า การสัก แล้วหลายคนต้องคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ยากแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ ก็เพราะว่าถ้าสักไปแล้วมันก็จะติดอยู่แบบนั้น ขยับไปไหนไม่ได้เลย แต่วันนี้ช่างสักนามว่า Vek Van Hillik ได้ออกมาสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการสักที่ใครเห็นเป็นต้องตะลึง เพราะสิ่งที่เขาทำก็คือ การสักภาพที่สามารถ “ขยับและเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้” นั่นเอง ทว่ารอยสักน่ะมันขยับเองไม่ได้หรอกนะ มันก็ต้องใช้ตัวคนเรานี่แหละช่วยให้มันสามารถขยับและเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้เหมือนภาพเคลื่อนไหว พูดไปก็คงไม่ค่อยจะเห็นภาพ เอาเป็นว่า เราไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า!! ภาพด้วงกว่างตัวนี้ดูเท่มากเลยใช่ไหมล่ะ แต่… พอกางแขนออกมันกลายเป็นด้วงสยายปีกที่ดูเท่มากขึ้นไปอีก ป๊าดโถ๊ะ!! ชมภาพเคลื่อนไหวกันเลย! https://www.instagram.com/p/Bm_oCesArgI/?utm_source=ig_embed เจ้าปลาหมึกนิ่งๆ ตัวนี้ ถ้ายืดขาออกล่ะก็ มันกลายเป็นปลาหมึกอีกตัวไปเลย! จัดไปครับ กับภาพเคลื่อนไหว https://www.instagram.com/p/BmIoMevFW4F/?utm_source=ig_embed ก่อนที่จะสัก Van Hillik จะมีการวาดร่างก่อนเพื่อความแม่นยำของตำแหน่ง เวลาขยับร่างกายภาพจะได้ออกมาเป๊ะ ลองชมภาพเคลื่อนไหวของภาพกระต่ายตัวนี้กัน https://www.instagram.com/p/BldW4NOF6ws/?utm_source=ig_embed ลองมาชมเจ้าแมลงตัวนี้กันว่าขยับแล้วจะกลายเป็นอะไร โอ้โห มันกลายเป็นแมลงสยายปีกที่กำลังโบยบิน งดงามมาก ชมภาพเคลื่อนไหวกัน…
-
สาวโพสต์ภาพสุดฮา ซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ ทำไมกลับกลายเป็นชุด “สุดสยิว” แบบนี้ไปได้!!?
คนบางคนก็ไม่ได้เกิดมาแล้วเหมาะสมกับเสื้อผ้าทุกชุด และเสื้อผ้าเองก็เช่นกันที่ไม่ได้ถูกตัดเย็บออกมาให้ เหมาะสมกับสรีระของทุกคน ฉะนั้นการสวมเสื้อผ้าบางชุดที่ไม่เหมะกับเราก็อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ อย่างเช่นสาววัย 23 ปี Paige Gardner ผู้ที่อุตส่าห์หาชุดสุดเซ็กซี่สำหรับออกเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆ ได้แล้วเชียว แต่ชุดมันดั๊นไม่เหมาะกับเธอแบบสุดๆ เสียได้ Paige Gardner สาวนักช็อปวัย 23 ปี สาว Paige ได้เผยภาพสุดฮาของเธอลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก หลังชุดเดรสแหวกเว้าสุดเซ็กซี่ที่เธอสั่งมาจากอินเทอร์เน็ตกลับกลายเป็นชุดที่ “ชวนสยิว” ชนิดที่ว่า ใส่แบบนี้ไม่ต้องใส่เลยก็ได้ สืบเนื่องมาจากการนัดออกดริ้งก์ยามค่ำคืนของเธอและเพื่อนๆ ทำให้เธอต้องรีบหาชุดที่จะทำให้เธอดูเซ็กซี่และเจิดจรัสที่สุดในงานมาใส่ เธอจึงสั่ง ชุดเดรสสีเขียวขี้ม้า ที่มีช่องเว้าบริเวณเนินอกและหน้าท้องมาในราคาราวๆ 1,060 บาทไทย หวังว่าจะทำให้เธอได้เผยความเซ็กซี่ของเรือนร่างได้กระจุ๋มกระจิ๋ม ชุดนี้ ที่เธอพบบนอินเทอร์เน็ตแล้วตัดสินใจสั่งมา แต่จากที่หวังว่ามันจะโชว์เซ็กซี่แบบกระจุ๋มกระจิ๋ม มันดันเผย “ไฟหน้า” ของเธออกมาเกือบทั้งลูก (ไม่ต้องใส่เลยก็ได้มั้งแบบนี้!!) เมื่องานหยาบกลายเป็นความฮา เธอจึงตัดสินใจโพสต์ภาพความเฟลนี้ลงอินเทอร์เน็ต พร้อมอธิบายว่า… “ทีแรกที่ตัดสินใจสั่งชุดนี้มาเพราะเห็นว่ามันน่ารักดี แต่พอลองใส่ดูแล้ว โอ้…พระเจ้า ดูหัวนมฉันมันโผล่ออกมาสิ! ฉันว่าฉันไม่ได้หุ่นฟิตเหมือนอย่างแต่ก่อนเสียแล้วล่ะ” เหล่าชาวเน็ตที่เข้ามาเห็นรูปของเธอต่างก็ฮาไปด้วย กับความแตกต่างของเธอกับนางแบบที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของชุดนี้ (เอาจริงๆ แค่ขนาดหน้าอกก็ต่างมากมายแล้ว) Paige…
-
หญิงถูกจับข้อหาขโมยของ แต่ปลดกุญแจหนีได้ สุดท้ายถูกตามจับที่เดิมอีกรอบ-โดนข้อหาเพิ่ม…
เวลาที่ใครสักคนกระทำความผิดแล้วถูกจับได้ หากหนีออกมาแล้วจะไม่อยากให้ตัวเองถูกจับอีกรอบเป็นซ้ำสองแน่ๆ แต่มันก็เกิดขึ้นได้กับใครบางคน ที่อาจจะคิดน้อยเกินไปหน่อย Amber Gonzales วัย 30 ปี จากรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกจับกุมในข้อหาลักขโมย หลังจากที่เธอขโมยโทรศัพท์มือถือ ที่ถูกวางไว้บนรถเข็นทำความสะอาดของโรงแรม Baymont Inn ประมาณ 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา แน่นอนว่าเธอก็ถูกตามจับกุมตัวได้อย่างรวดเร็ว และถูกนำตัวมายังสถานีตำรวจประจำเมืองวอเคชา อยู่ในห้องฝากขังพร้อมกับคล้องกุญแจมือเอาไว้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สืบประวัติ พบว่าเธอเคยโดนข้อหาครอบครองอุปกรณ์เสพยาในเดือนสิงหาคมมาก่อน หากไม่มีหลักทรัพย์ใช้ในการประกันตัว ก็จะถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำประจำเมืองแทน แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ปล่อยเธอทิ้งไว้ในห้องฝากขัง เธอก็เริ่มใช้วิธีรูดแขนเสื้อให้หลุดออกจากกุญแจมือ จนสามารถทำได้สำเร็จ ทำการหากุญแจไขประตูหลบหนี ออกมาจากทางด้านหลังสถานีตำรวจในเวลาประมาณ 16.40 น. เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ระหว่างที่นาง Amber ทำการหลบหนี เธอได้พบกับชายคนหนึ่งที่ร้านขายของชำ และตกลงพาเธอกลับไปส่งที่โรงแรมเดิม เบาแสะจากพนักงานร้านขายของชำและพนักงานโรงแรม ทำให้เจ้าหน้าตามกลับไปจับที่โรงแรม Baymont Inn ได้อีกครั้งในเวลา…
-
คนใจทราม อัดคลิปขับรถไล่เหยียบ ‘นกอีมู’ หัวเราะเยาะสะใจ ชาวเน็ตล่าแม่มดผิดคน…
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้คือความน่าสะเทือนใจจากความคึกคะนองของมนุษย์ หลังจากที่ชายไม่ทราบนามรายหนึ่ง ได้ทำการอัดคลิปวิดีโอ ในขณะขับรถยนต์ไล่เหยียบนกอีมูที่กำลังวิ่งหนีอย่างชุลมุน วิดีโอคลิปดังกล่าว เผยให้เห็นว่าชายคนนี้ไม่ได้มีความรู้สึกละอายใจกับการขับรถชนแต่อย่างใด แถมยังตะโกนโหวกเหวกด่า ‘นกอีมู ไปตายซะ’ เขาได้เร่งความเร็วรถประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไล่เหยียบนกอีมูหลายตัวที่วิ่งขวางเส้นทาง พร้อมกับนับจำนวนนกที่ถูกเหยียบ หัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนที่จะพูดปิดท้ายว่า ‘แม่งโคตรสะใจ’ นกอีมูไม่ต่ำกว่า 10 ตัว ถูกชายคนดังกล่าวขับรถชน โดยไม่ทราบว่าคลิปนี้เกิดเหตุที่ใด แต่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นบนเส้นทางชนบทของประเทศออสเตรเลีย ทางด้านโฆษกขององค์กรสวัสดิภาพสัตว์ RSPCA Australia กล่าวว่าพวกเขารู้สึกหดหู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น และทางด้านเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุภายในคลิปดังกล่าว และพวกเขาก็เปิดรับเบาะแสจากประชาชน เพื่อทำการหาต้นตอผู้กระทำความโหดเหี้ยมต่อสัตว์รายนี้ เพื่อนำตัวคนใจทรามมารับโทษกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป “เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอย่างเห็นได้ชัด และไม่ควรจะมีที่ยืนในสังคมของเรา ทางด้าน RSPCA รับทราบถึงการกระทำรุนแรงต่อสัตว์ในครั้งนี้ ไม่ใส่ใจต่อชีวิตสัตว์ท้องถิ่น อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างพฤติกรรมที่อาจจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย” ทางด้านนาย Fabio Galleti คือผู้แชร์คลิปวิดีโอดังกล่าวออกมาในโลกออนไลน์ โดยที่เขากล่าวว่าการแชร์พฤติกรรมที่ย่ำแย่แบบนี้ เป็นเพราะเขาเกลียดการกระทำรุนแรงต่อสัตว์ และประจานในสิ่งที่ผู้ก่อเหตุได้ทำลงไป โดยหวังพึ่งให้ทางการนำตัวชายคนนี้มารับโทษที่สาสมให้ได้ …
-
ชมแฟชั่นของบรรดาเซเลบ ดารา คนดัง ส่งตรงจากพรมแดง Emmy Award 2018!!
“รางวัลเอ็มมี่” หรือ Emmy Award เป็นพิธีมอบรางวัลเกี่ยวกับวงการโทรทัศน์ โดยจะพิจารณานำเสนอรางวัลในหลายส่วนของอุตสาหกรรมทางโทรทัศน์อย่าง รายการบันเทิง ข่าว สารคดี รายการกีฬา ซึ่งถือว่าเป็นพิธีมอบรางวัลที่ยิ่งใหญ่เทียบเคียงกับ Academy Award หรือ Oscar ของทางฝั่งวงการภาพยนตร์เลยทีเดียว แน่นอนในงานพิธีมอบรางวัลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ต้องมีเซเลบริตี้ ดารา รวมถึงคนดังมากมายไปร่วมงานกันอย่างแน่นอน และสิ่งที่ถือว่าเป็นสีสันของงานก็คงไม่พ้นการเดินพรมแดงเพื่อโชว์แฟชั่นของเหล่าดารานี่แหละ วันนี้เราจึงได้ทำการรวบรวมแฟชั่นงามๆ ของดาราที่มาเข้าร่วม Emmy Award ประจำปี 2018 ที่เพิ่งผ่านมานี้ให้ได้ดูกันครับ เอาล่ะ ไปชมชุดสวยๆ กันเล้ย Tracee Ellis กับชุดสีชมพูโดดเด่น Millie Bobby Brown กับชุดสีชมพูฟูฟ่อง Chrissy Teigen ชุดเดรสระยิบ ระยับ Heidi Klum เดรสสีชมพูทองเป็นประกาย Kit Harington กับชุดสูทและมาดเข้มๆ Evan Rachel Wood กับชุดดำยาว ดูสง่า …
-
ชาวเน็ตแชร์ภาพ ตำรวจญี่ปุ่นปฏิเสธน้ำดื่มจากทหารอเมริกัน เพราะยังอยู่ในหน้าที่
บนโลกใบนี้มีมนุษย์อยู่มากมายหลายล้านคน ต่างคนก็ต่างชาติพันธุ์ ซึ่งก็มีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นทั้งสรีระร่างกายหรือภาษาที่ใช้พูดก็ด้วย ถึงแม้จะมีความแตกต่างกันออกไปก็ตาม แต่ความแตกต่างนั้นก็ไม่ใช่อุปสรรคที่เราจะทำดีให้แก่กันละกัน เช่นกันกับเรื่องราวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เป็นเรื่องของทหารอากาศสหรัฐอเมริกาที่พยายามจะแบ่งปันน้ำใจโดยการนำน้ำดื่มไปให้กับตำรวจญี่ปุ่นที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่อย่างเคร่งครัด แต่ทางตำรวจกลับรับเอาไว้ไม่ได้ เนื่องจากพวกเขากำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ https://twitter.com/Type96aoino/status/1041320108033859584?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1041320108033859584%7Ctwgr%5E373939313b636f6e74726f6c&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F09%2F18%2Fu-s-soldiers-failed-attempt-to-give-japanese-policemen-some-cool-drinks-melts-internets-heart%2F วันที่ 16 กันยายน 2018 ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @Type96aoino ได้ทำการโพสต์ภาพและข้อความที่แปลได้ว่า “ทหารอากาศอเมริกา (พูดภาษาอังกฤษ): เฮ้ พวกคุณทำงานกันหนักมากเลย! อยากได้น้ำดื่มหน่อยมั้ย? ตำรวจญี่ปุ่น (พูดภาษาญี่ปุ่น): ขอโทษนะ แต่พวกเราไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มอะไร เพราะว่าพวกเราอยู่ในหน้าที่ ทหารอากาศอเมริกา (พูดภาษาอังกฤษ): จริงๆ เหรอ? คุณจะไม่ดื่มจริงๆ เหรอ? ตำรวจญี่ปุ่น (พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง): ขอโทษนะ แต่พวกเราโอเค” และหลังจากที่ภาพและเรื่องราวความใจดีของทหารอาการรวมถึงวินัยที่เคร่งครัดของตำรวจญี่ปุ่นนี้ ได้ถูกเผยแพร่ต่อกันไปในอินเตอร์เน็ต ก็มีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บางคนก็ชื่นชมว่า “ฝ่ายตำรวจพูอังกฤษไม่ได้ ส่วนทหารก็พูดญี่ปุ่นไม่ได้ แต่ในเวลานั้นพวกเขายังพยายามที่จะพูดคุยแบ่งปันน้ำใจให้แก่กัน ช่างสวยงามเอามากๆ” หรือจะเป็น “เขาใจที่ดีที่เอาน้ำเย็นๆ ไปให้พวกเขาดื่ม แต่พวกเขากลับไม่ได้รับอนุญาตให้รับของ ผมรู้สึกไม่ดีสำหรับทั้งสองฝ่ายเลย” บางคนก็อาจจะคิด “แม้ว่าจะไม่ให้ดื่มในหน้าที่…
-
สายการบินถึงกับเขิน หลังเพิ่งถอยเครื่องมาใหม่เตรียมออกบิน ดันพ่นโลโก้ผิดซะได้!?
บางครั้ง ‘ข้อผิดพลาด’ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในการทำงานต่างๆ แม้งจะเป็นองค์กรที่ใหญ่แค่ไหนก็มีเรื่องผิดพลาดมาให้เราได้เห็นกันบ้างเป็นครั้งคราว เช่นเดียวกันกับเรื่องราวในครั้งนี้เมื่อสายการบิน Cathay Pacific หนึ่งในสายการบินที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ หลังจากที่เพิ่งจะถอยเครื่องบินลำใหม่มา และนำไปพ่นสีโลโก้เตรียมนำออกมาใช้งาน แต่กลับกลายเป็นว่าดันสะกดผิด เป็น CATHAY PACIIC ซะได้ แทนที่จะสะกดว่า CATHAY PACIFIC ต่างหากล่ะ!! ทางด้านทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของสายการบินก็ได้ทำการโพสต์เพื่อยอมรับถึงข้อผิดพลาดดังกล่าวว่า “อุ๊ปส์ เจ้าโลโก้แบบพิเศษนี้จะอยู่ได้อีกไม่นาน และเครื่องบินโดยสารลำนี้กำลังถูกส่งกลับไปยังอู่เพื่อทำการแก้ไขอย่างเร่งด่วน!!” ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 9,713 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 4,336 ครั้งเลยทีเดียว แน่นอนว่าเมื่อมันกลายเป็นกระแสไวรัล ทางด้านโฆษกของสายการบิน Cathay Pacific ก็ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “มันคือข้อผิดพลาด และเราก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เรื่องมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ในตอนแรก แต่ภาพเหล่านี้ถูกแชร์ไปในโลกโซเชียลเป็นจำนวนมากแล้ว เราจึงถ่ายภาพแล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดียอีกรอบเพื่อให้ทุกคนได้รับทราบ” (แนวๆ แก้เขินนั่นเอง 555+) มันต้องเติมตัว F เข้าไปด้วย!! แน่นอนว่าเหล่าชาวเน็ตทั้งหลายพอได้เห็นดังนี้ ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างก็เล่นเชิงติดตลกว่า…
-
เด็กชายวัย 13 ขวบ ถูกเพื่อนแกล้งที่โรงเรียน ‘โยนชีสใส่’ จนนำไปสู่การเสียชีวิต
บางครั้งจากเหตุกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนของเด็กๆ ที่ใครหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่อง ‘ขำๆ’ มันอาจจะบานปลายจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมก็เป็นได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ที่เด็กชายวัย 13 ขวบ ถูกเพื่อนๆ กลั่นแกล้งโยนชีสใส่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขา ‘แพ้’ มันอย่างรุนแรง จนนำไปสู่การเสียชีวิต!! Karanbir Cheema เด็กชายวัย 13 ปี อาศัยอยู่ในเขต Greenford กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขามีอาการแพ้อาหารจำพวกข้าวสาลี, กลูเตน, และอาหารอื่นๆ ที่หาทานได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวันอย่างไข่ และถั่วต่างๆ ซึ่งมันจะทำให้เขาหายใจไม่ออกและมีผื่นขึ้นตามร่างกาย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ แม้จะรู้อย่างนั้นแต่เพื่อนๆ ของเขาในโรงเรียนไฮสคูล William Perkin Church พยายามที่จะกลั่นแกล้งเขา โดยการโยน ‘ชีส’ ใส่ และนั่นเองทำให้เขาเกิดอาการช็อก และเกร็งหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่ Kierin Oppatt ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฉุกเฉิน มีผู้ป่วยแพ้อาหารอย่างรุนแรงที่โรงเรียน และเขาก็รีบเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่าเด็กชาย Karan กำลังนอนชักเกร็ง พยายามที่จะหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปอย่างยากลำบาก…
-
ทางการเม็กซิกัน พบรถบรรทุกถูกจอดทิ้งไว้ เปิดออกดูพบมีศพคนกว่า 157 ศพอยู่ในนั้น!!
‘รถบรรทุก’ อีกหนึ่งพาหนะที่เราใช้ใช้สำหรับส่งของส่งสินค้าที่มีจำนวนมากๆ แต่บางครั้งรถบรรทุกก็อาจจะไม่ได้มีไว้สำหรับการใส่ของเพียงอย่างเดียว เพราะบางทีมันอาจแปรเปลี่ยนกลายเป็นสถานที่สำหรับเก็บ ‘ศพ’ ได้เหมือนกับในเหตุการณ์นี้ เมื่อไม่นานมานี้ทางการของประเทศเม็กซิโก ได้เริ่มเปิดการดำเนินการสอบสวนหลังจากที่พวกเขาพบรถบรรทุกคันหนึ่งถูกจอดทิ้งเอาไว้ และมีการพบศพเน่าเปื่อยกว่า 157 ศพอยู่ภายในรถคันนี้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ค้นพบศพในรถ ก็เพราะได้รับการแจ้งจากชาวบ้านในนครกวาดาลาฮารา รัฐฮาลิสโก ว่าได้กลิ่นไม่พึงประสงค์อะไรบางอย่างออกมาจากรถคันนี้ และแม้ว่าจะเป็นรถแช่แข็งก็จริง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้กระบวนการย่อยสลายของศพหายไปแต่อย่างใด เป็นเพียงการช่วยชะลอเวลาเท่านั้นจึงทำให้มีการพบเจอเรื่องราวสุดช็อกในที่สุด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดการณ์กันว่าศพเหล่านี้น่าจะถูกจับมาไว้บนรถบรรทุกแช่แข็ง อันเนื่องมาจากความที่โรงเก็บศพที่จำนวนศพที่ล้นเกินไป และนั่นเกิดมาจากความที่ในประเทศเม็กซิโกขณะนี้กำลังเผชิญกับวิกฤติ ‘การฆาตกรรม’ สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ โดยในครึ่งปีแรกของปี 2018 มีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นแล้วมากกว่า 16,000 ครั้งในประเทศเม็กซิโก ซึ่งนับว่ามากกว่าปี 2017 ถึง 17% และนับเป็นตัวเลขสูงสุดตั้งแต่ปี 1997 มาเลย “การพบเจอศพบนรถบรรทุกเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาด เพราะชาวบ้านต้องได้รับความเดือดร้อนรวมถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตเหล่านี้ก็อาจจะเจ็บปวดด้วย พวกเขาควรจะต้องได้รับการฝังอย่างเหมาะสม” “ถึงเวลาแล้วที่จะต้องยุติเรื่องเหล่านี้ซะ รวมถึงคนที่ทำร้ายพวกเขาด้วย” Javier Perlasca คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐ กล่าว ในขณะนี้รถบรรทุกคันนี้ได้ถูกย้ายออกจากที่ๆ มันถูกทิ้งเอาไว้แล้ว และอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ต่อไป… ทำไมไม่รู้ นึกถึงเรื่อง…
-
คุณลุงภารโรงมหาลัย ได้พบปะครอบครัวเสียที หลังนศ. ร่วมใจระดมเงินให้เพื่อตอบแทน
คุณลุง Herman Gordon ภารโรงอันเป็นที่รักของเหล่านักเรียนใน มหาวิทยาลัย Bristol ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันได้ไปเที่ยวกับภรรยาสุดที่รักแล้ว หลังนักเรียนช่วยกันระดมเงินให้ลุงได้กลับไปเจอครอบครัว อ่านข่าวเก่าได้ >>> ที่นี่เลย! คุณลุงภารโรง Herman Gordon วัย 65 ปีและภรรยา หลังมีข่าวอันน่าประทับใจที่เด็กนักศึกษาราว 230 ชีวิตในมหาวิทยาลัย Bristol ร่วมใจกันระดมเงินให้กับคุณลุงภารโรง Herman Gordon เป็นจำนวนราว 64,000 บาท เพื่อตอบแทนสิ่งดีๆ ที่คุณลุงได้ทำไว้ให้กับพวกเขา พวกเขาจึงอยากมอบสิ่งดีๆ กลับคืนให้คุณลุง นั่นก็คือการนำเงินจำนวนหนึ่งมามอบให้คุณลุงเพื่อเดินทางกลับบ้านเกิด ณ ประเทศจาเมกา เพื่อพบหน้าครอบครัวพร้อมกับภรรยาสุดที่รักของตนเอง และนั่นทำให้คุณลุงถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวเลยทีเดียว คลิปวิดีโอ ล่าสุด คุณลุงและภรรยานามว่า Denise ก็ได้เดินทางกลับไปยังประเทศจาเมกาเพื่อพบหน้าครอบครัวหลังย้ายมาทำงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษอยู่นมนานและมีชื่อเสียงจากการที่คุณลุงกลายเป็นภารโรงที่ “เด็กๆ รักมากที่สุด” คนหนึ่ง ขณะเดินทางกลับบ้าน คุณลุง Herman และภรรยาก็ได้แวะพักที่แคริบเบียน ในรีสอร์ทสุดหรูบริเวณอ่าวมอนเตโก เพื่อฉลองครบรอบวันแต่งงานปีที่ 23 ของคุณลุงและภรรยา …
-
นักศึกษาปี 1 ใช้ ‘ธนู’ และ ‘ลูกดอก’ ยิงแมวจรจนตาย ชาวเน็ตร้องให้มหาลัยฯ ไล่ออก!!
(คำเตือน: อาจมีภาพหรือเนื้อหากระทบต่อจิตใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม) บางครั้งการเล่นสนุกที่เลยเถิดและไม่คำนึงถึงหัวอกของคนอื่น ก็อาจทำให้มีเรื่องร้ายแรงที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมาได้ อย่างเช่นในกรณีของนักศึกษาปี 1 คนนี้ที่ใช้ธนูและลูกดอกยิงแมวเร่ร่อนแถวๆ มหาวิทยาลัยจนตาย และในตอนนี้ชาวเน็ตก็ส่งเสียงเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยไล่นักศึกษาคนนี้ออกซะ!! โดยนักศึกษาที่ไม่สามารถระบุชื่อได้คนนี้ กล่าวว่าได้ใช้ธนูและลูกธนูปลิดชีวิตแมวตัวหนึ่งหลังจากที่เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัย Hubei University of Economics ในมณฑลหูเป่ยเป็นเทอมแรก ภาพของแมวที่ถูกนักศึกษายิงธนูใส่ ซึ่งเมื่อวาน (19 ก.ย.) ก็มีภาพของแมวผู้โชคร้ายถูกทิ้งอยู่ในถังขยะ แพร่กระจายในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นวงกว้าง ในส่วนนี้นักเรียนนักศึกษาคนอื่นๆ ที่เห็นสภาพอันน่าอนาถของแมวตัวนี้ ก็รีบนำตัวมันไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ในพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะใช้เงินค่ารักษาเป็นเงินเฉียดๆ 1,000 หยวน (ประมาณ 4,720 บาท) ก็ไม่สามารถรักษาชีวิตของแมวตัวนี้ได้ มันทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจตายในที่สุด นักศึกษาคนที่ลงมือกระทำการเหี้ยมโหดนี้ มีรายงานว่าเขาอยู่ในช่วงพักจากการฝึกวิชาทหาร และในระหว่างก็ได้ให้เพื่อนถ่ายวิดีโอเก็บเอาไว้ด้วย คลิปเผยให้เห็นสภาพของแมวตัวนี้ ในที่สุดแล้วเวลาต่อมาทางมหาวิทยาลัย ก็ได้ออกประกาศรับรู้ความสำคัญของเรื่องนี้และได้เริ่มกระบวนการสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่านักศึกษาคนดังกล่าวจะถูกลงโทษด้วยวิธีการใด แต่ชาวเน็ตหลายคนบนโลกโซเชียลก็ขอให้มีการลงโทษคือไล่ออกจากมหาวิทยาลัยซะ… น่าสงสารน้องแมวตาใสๆ เหลือเกิน ที่มา: shanghaiist, weibo
-
สาวบาร์บี้ยูเครน อวดโฉมคุณแม่ตัวเอง ในชุดบิกินี่ริมชายหาด ดูอ่อนวัยเหมือนลูกเป๊ะ!?
นางแบบสาวชาวยูเครนผู้ได้ฉายา ‘ตุ๊กตาบาร์บี้ยูเครน’ ได้ออกมาเปิดเผยถึงต้นแบบรูปลักษณ์ของเธอเอง ที่เข้าข่ายว่า ‘ได้แม่มา’ แทบทั้งหมด Valeria Lukyanova https://www.instagram.com/p/BnkUA1bh2Gv/ Valeria Lukyanova นางแบบสาวชาวยูเครนวัย 33 ปี ได้ทำการโพสต์ภาพของ Irina Pashckeeva ผู้เป็นแม่ของเธอเอง ให้กับผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 500,000 คน โดยที่ไม่ได้ทำการเปิดเผยว่าคุณแม่ของเธอนั้นมีอายุเท่าไหร่แล้ว Irina Pashckeeva คุณแม่ยังแซ่บ https://www.instagram.com/p/Bnud71FhtVl/ ด้วยภาพที่โพสต์ออกไป จะเห็นได้ว่าคุณแม่ใส่บิกินี่นั่งริมชายหาด พร้อมกับแคปชั่น ‘มาถึงอินสตาแกรมแล้ว คุณแม่ผู้ขัดเกลาฉัน’ โดยที่ Valeria นั้นได้กล่าวถึงเคล็ดลับการรักษารูปร่างหน้าตาของคุณแม่เธอไว้ว่า ‘ถ้าคุณอยากจะดูอ่อนวัยและสวยอย่างที่แม่ฉันเป็น คุณควรจะไปออกกำลังกายและเลิกทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้แล้ว’ https://www.instagram.com/p/BnwGqdNh5z2/ อย่างไรก็ตาม หลังจาก Valeria โพสต์ภาพออกไปแล้ว กระแสตอบรับจากชาวเน็ตต่างสงสัยกันว่า ที่เธอดูเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ขนาดนี้ อาจจะผ่านมีดหมอมาด้วยหรือไม่… แต่เธออ้างว่าทั้งหมดนี้ ได้มาจากกระบวนการทางธรรมชาติ เธอได้มาจากแม่ทั้งหมด เว้นแต่ ‘หน้าอก’…
-
เธอกลับมาแล้ว!! Avril Lavigne กลับมาพร้อมบทเพลงใหม่ ให้แฟนๆ ได้ชื่นใจหายคิดถึง
ในช่วงยุค 2000 ถือว่ามีศิลปินมากหน้าหลายตาที่แจ้งเกิด ไม่ว่าจะเป็น Taylor Swift, Katy Perry หรือคนที่เราจะนำมากล่าวถึงในวันนี้อย่าง Avril Lavigne Avril Lavigne เรียกว่าเป็นศิลปินและนักแต่งเพลงสาวชาวแคนาดา ซึ่งเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเจ้าของบทเพลงดังที่คุ้นหูคนไทยอย่าง When You’re Gone หรือ Don’t Tell Me เมื่ออายุได้ 17 ปี Avril ก็ได้เซ็นสัญญากับ Arista Records และเปิดตัวเข้าสู่วงการดนตรีด้วยอัลปั้มเปิดตัวอย่าง “Let Go” ซึ่งเน้นไปที่แนวดนตรี Skate Punk แนวดนตรีที่มีจังหวะรวดเร็ว รุนแรง จนทำให้เธอถูกขนานนามว่าเป็น “เจ้าหญิงป็อปพังก์” เมื่ออัลบั้มแรกได้เปิดไปแล้ว ถือว่าเป็นการแจ้งเกิดของเธออย่างแท้จริง เพราะเธอได้กลายเป็นศิลปินเด็กที่สุดที่สามารถเปิดตัวอัลบั้มแรกแล้วสามารถขึ้นไปติด UK Albums Chart รวมถึงอัลบั้มเปิดตัวของเธอยังสามารถขึ้นไปถึงอันดับสองของ Billboard Albums Chart ด้วย!! หลังจากที่แจ้งเกิดได้สำเร็จ Avril ก็มีผลงานให้เราได้ติดตามชมมามากมายไม่ว่าจะเป็นอัลบั้ม…
-
โรงเรียนจีนลงโทษ “นักเรียนแอบใช้มือถือ” โดยให้ออกมา ‘ขว้างลงพื้น’ จนกว่าจะแตก…
ภายในโรงเรียนแต่ละแห่งก็จะมีมาตรการในการป้องกันไม่ให้นักเรียนมีการ ใช้โทรศัพท์มือถือขณะเรียน ที่แตกต่างกันไป โดยบางที่อาจจะตัดคะแนน หรือบางที่ก็อาจจะริบโทรศัพท์ไปเลย แต่สำหรับโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในประเทศจีน มีวิธีการป้องกันและลงโทษนักเรียนที่ถูกจับได้ว่าใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนที่หนักหน่วงและโหดกว่าที่เคยเจอจากที่ไหนๆ เพราะหากนักเรียนคนใดที่ถูกจับได้ว่าแอบใช้มือถือขณะเรียนจะต้องออกมาหน้าห้องแล้ว ปาโทรศัพท์มือถือ เครื่องนั้นลงพื้นด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2018 ได้มีคลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ออกมาบนโลกออนไลน์ เป็นคลิปวิดีโอการทำโทษเด็กนักเรียนที่แอบเล่นโทรศัพท์มือถือขณะเรียน ทำเอาชาวเน็ตต่างวิจารณ์กันกระหน่ำเกี่ยวกับคลิปดังกล่าว ภายในคลิป เป็นภาพเหตุการณ์การลงโทษนักเรียนที่แอบใช้มือถือขณะเรียนของโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในหยงเซ่า มณฑลหูหนาน ประเทศจีน โดยมีการให้นักเรียนที่ถูกจับได้ออกมาปาโทรศัพท์มือถือลงพื้นด้วยตนเอง คลิปวิดีโอ นักเรียนปาโทรศัพท์มือถือลงพื้นเพราะถูกจับได้ว่าแอบใช้ในห้องเรียน ตามรายงานจาก The Paper คุณครูในคลิปวิดีโอที่ภายหลังทราบว่าสกุล Xiong บอกว่าเด็กนักเรียนขอขว้างโทรศัพท์มือถือด้วยตนเองหลังพบว่าตนเองทำผิด แต่ตามรายงานแล้วพบว่าคุณครู Xiong เป็นผู้ที่ “บังคับ” ให้นักเรียนทำแบบนั้น ซึ่งกระทรวงการศึกษาก็ชื่นชมที่คุณครูพยายามรักษากฏโรงเรียน แต่การลงโทษในครั้งนี้มีความรุนแรงเกินไป คุณครู Xiong จึงได้รับโทษโดยการถูกลดเงินเดือน นักเรียนขว้างโทรศัพท์มือถือลงพื้นด้วยตนเอง จนกว่าจะเสียหายตามสมควร . นักเรียนอีกคนหนึ่งก็ต้องทำเช่นเดียวกัน . แม้ว่าโรงเรียนดังกล่าวจะมีมาตรการป้องการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างเรียนที่เข้มงวด แต่ก็มิได้มีบทลงโทษที่เหมาะสมชัดเจน หลังจากเหตุการณ์นี้ ทางโรงเรียนจึงได้ประกาศว่าจะหาทางจัดการกับปัญหานี้ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ส่วนชาวเน็ตที่พบเห็นเรื่องนี้ก็ต่างวิจารณ์กันไปหลากหลายความเห็น เช่น……
-
“กระท่อมช็อกโกแลต” ที่พักใหม่ในฝรั่งเศส ทั้งหลัง ‘ทานได้’ แถมราคาย่อมเยาไปอี๊กก!!
สถานที่พักผ่อนหย่อนใจในวันว่างๆ แห่งใหม่ในประเทศฝรั่งเศสนั้นเรียกได้ว่าเอาใจสาย “ช็อกโกแลต” กันเต็มที่เลยทีเดียว เพราะว่าสถานที่ดังกล่าวล้วนสร้างขึ้นจากช็อกโกแลตยังไงล่ะ กระท่อมตากอากาศ สร้างขึ้นจากช็อกโกแลต กระท่อมหลังนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยช็อกโกแลตจำนวน 1.5 ตัน ภายในมีพื้นที่ 18 ตารางเมตร ซึ่งแน่นอนว่า เกือบทุกอย่างภายในกระท่อมนั้นสามารถ ทานได้ จริงๆ ด้วยนะเออ ตัวอย่างเช่น เตาผิง โต๊ะ โคมไฟระย้า นาฬิกา แก้วน้ำ หนังสือ หรือแม้แต่ผนังและเพดานห้องก็สามารถหยิบมาทานได้เลย เพราะทั้งหมดนี้ทำขึ้นจากช็อกโกแลตยังไงล่ะ ส่วนภายนอกกระท่อมก็จะมีดินแดนมหัศจรรย์ที่สร้างขึ้นจากไวท์ช็อกโกแลต เช่น บ่อน้ำเป็ดและหมู่ดอกไม้ ซึ่งก็สามารถรับประทานได้ด้วยเช่นกัน กระท่อมช็อกโกแลตหลังนี้ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นโดย Jean-Luc Decluzeau นักทำช็อกโกแลตระดับท็อป เขากล่าวว่า… “ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้มีโอกาสสร้างกระท่อมช็อกโกแลตขนาดเท่าของจริงเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพัก” ที่ตั้งกระท่อมหลังนี้ก็คือ ณ Cité de la Céramique ในเมือง Sèvres ประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง สำหรับผู้ที่สนใจสถานที่แห่งนี้ก็ได้เปิดให้จองเพื่อเข้าพักกันได้ในเว็บไซต์ booking.com อีกด้วย โดยราคาเข้าพักก็จะเริ่มต้นที่คืนละประมาณ 1,890 บาทไทยเท่านั้นเอง แถมผู้ที่เข้าพักยังมีโอกาสได้เข้าร่วมการบรรยายและการฝึกสอนทำช็อกโกแลตจาก Jean-Luc ผู้สร้างกระท่อมหลังนี้เองอีกด้วย …
-
โลกออนไลน์ลงดาบ ‘Salt Bae’ หลังต้อนรับผู้นำเวเนฯ กินหรู-อยู่สบาย ประชาชนอดอยาก
ที่ผ่านมานั้นเกิดเป็นปรากฏการณ์มีมสะท้านทั่วอินเทอร์เน็ต หลังจากที่เชฟชาวตุรกี Nusret Gökçe (Salt Bae) ได้ทำท่าโรยเกลือใส่เนื้อสัตว์เตรียมอาหาร โด่งดังจนเป็นเอกลักษณ์ติดตัวผู้คนต่างให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม พอเริ่มมีชื่อเสียงในโลกอินเทอร์เน็ต ก็ตามมาด้วยการได้ต้อนรับเหล่าคนดังที่เข้ามาทานอาหารในร้านของเขา โดยรายล่าสุดก็คือนาย Nicolás Maduro ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา… โดยที่นาย Maduro ปรากฏอยู่ในคลิป ขณะที่เชฟชื่อดังกำลังเตรียมริบอายสเต็ก ราคา 3,200 บาท เพื่อให้เขาได้ลองทาน รวมไปถึงการหยิบซิการ์ขึ้นมาสูบอย่างสบายใจ พร้อมกับได้รับเสื้อเชิ๊ตจากนาย Nusret ไปอีกด้วย What a shame on you! Chef #SaltBae @nusr_ett after watching you proudly served #VenezuelanDictator Nicolas Maduro, and how you said “bye” to him with a hug. pic.twitter.com/aMoxvV37w8…
-
ไม่ย่อท้อแม้ถูกสบประมาท…สาวใส่ขาเทียมประกวด ‘มิสอิตาลี’ ได้รางวัลที่ 3 ไปครอง!!
ความสำเร็จมักจะเป็นของคนที่ไม่ยอมแพ้!! เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ ที่แม้ว่าเธอจะประสบอุบัติเหตุจนเสียขาไปหนึ่งข้าง แต่เธอก็ไม่ย่อท้อกับความฝันในเส้นทางนางงาม จนสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 3 คนสุดท้ายในเวทีประกวดมิสอิตาลี (Miss Italia 2018) ได้ในที่สุด!! Chiara Bordi สาวชาวอิตาลีวัย 18 ปี เธอประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เมื่อตอนอายุได้ 13 ปี ทำให้สูญเสียขาซ้ายตั้งแต่ช่วงเข่าลงไป แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น ‘นางงาม’ ของเธอแม้แต่น้อย Chiara ตัดสินใจลงสมัครประกวดในเวที Miss Italia 2018 ในวัย 18 ปี และสามารถผ่านเข้ารอบมาได้จนผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้าย ณ ตอนนั้นแฟนเวทีประกวดมากมายต่างก็สบประมาทเธอ บอกว่าที่เข้ารอบมาได้เป็นเพราะใช้ ‘ความพิการ’ เป็นตัวเรียกคะแนนความสงสาร แต่เธอก็ออกมาตอบโต้ชาวเน็ตที่มีความคิดแบบนั้นว่า “แม้ฉันจะเสียขาไป แต่พวกคุณน่ะเสียหัวใจ และสมองไปแล้ว” “การกระทำเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง ฉันไม่ได้สนใจในชัยชนะ ฉันเพียงแค่ต้องการแสดงให้โลกได้เห็นว่า ชีวิตยังคงสวยงามแม้ว่าฉันจะต้องผ่านเรื่องราวร้ายๆ แบบนี้มา” …
-
หนุ่มวัยรุ่นเก็บเงินสด 3 แสนส่งคืนเจ้าของ ได้รางวัลหลักพัน ชาวเน็ตบอกควรได้เยอะกว่านี้รึเปล่า!?
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นมากกว่าเดิม เมื่อมีวัยรุ่นคนหนึ่งเก็บเงินสดเป็นหมื่นๆ ดอลลาร์ได้ แต่เขากลับไม่เอาไปใช้จ่ายใดๆ นำเงินส่งคืนให้กับตำรวจจนเจ้าของได้รับเงินครบถ้วนไม่หายแม้แต่สตางค์เดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตเกิดขึ้น จากรางวัลที่ชายคนนี้ได้รับ!? Rhami Zeini หนุ่มวัยรุ่นชาวแคลิฟอเนียร์วัย 16 ปีได้สังเกตเห็นว่ามีกระเป๋าสีดำใบหนึ่งนอนนิ่งอยู่กลางถนน เขาจึงลงจากรถแล้วเก็บกระเป๋าใบนั้นมาเปิดดู ก็ปรากฏว่ามีเงินเป็นฟ่อนอยู่ในนั้นซึ่งนับรวมๆ แล้วมันมีค่าถึง 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 324,500 บาท) เลยทีเดียว!! แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็กลับไม่อุบอิบเก็บเงินนี้ไว้เป็นของตัวเอง เขานำเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ได้เจอนี้ไปบอกกลับพ่อแม่ และในที่สุดแล้วเขาก็ตัดสินใจนำเงินทั้งหมดมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทางด้านตำรวจเมื่อได้เห็นความมีจิตใจดีของหนุ่มคนนี้ จึงได้โพสต์เฟซบุ๊กประกาศยกย่องความดีของเขาให้กับชาวโลกได้รับรู้ว่า ถึงแม้จะมีเรื่องราวแย่ๆ มากมายเกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นเสมอ โพสต์ที่ทางตำรวจกล่าวสรรเสริญ “ในโลกที่เรากำลังโดนบอมบ์ด้วยข่าวร้าย พวกเราตื่นเต้นมากๆ ที่จะแชร์เรื่องราวดีๆ นี้ให้กับคุณได้รับรู้ เด็กหนุ่มชื่อว่า Rhami Zeini เก็บกระเป๋าใบหนึ่งได้ระหว่างกลับจากโรงเรียน เขาเห็นเงินจำนวนมากในนั้น แต่ก็ยังพยายามจะตามหาผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริง เขาพยายามจะโทรหาเบอร์ติดต่อที่อยู่ในกระเป๋าแต่ก็ไม่ได้ผล จึงนำเงินมาให้กับเจ้าหน้าที่กว่า 10,000 ดอลลาร์แหนะ ขอบคุณ Rhami สำหรับการทำหลายสิ่งที่ถูกต้องนับตั้งแต่การเห็นกระเป๋าใบนี้ ความกล้าที่จะไปเก็บมันมา รวมถึงนำมันมาส่งคืนด้วย” โพสต์เฟซบุ๊กของเจ้าหน้าที่เขียนไว้…
-
แฟนบอลเจอ Ngolo Kante ตอนกำลังละหมาด เลยชวนไปกินข้าวที่บ้าน พี่แกตกลงเฉย!?
สำหรับแฟนบอลแล้ว การได้พบกับ ‘นักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก’ คงเป็นเรื่องที่อยู่ในความใฝ่ฝันที่หากเกิดขึ้นจริงคงได้ตายตาหลับเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี่ ที่บังเอิญได้พบเจอกับ Ngolo Kante (เอ็นโกโล่ ก็องเต้) นักฟุตบอลจากทีมสิงโตน้ำเงินคราม “เชลซี” โดยบังเอิญ จึงออกปากเชิญชวนเขาไปกินข้าวเย็นที่บ้าน และพี่แกก็ไม่ปฏิเสธ!? ต้องท้าวความให้ทุกท่านทราบกันก่อนว่าก็องเต้เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีฝีเท้าอยู่ในแถวหน้าของโลกเลยก็ว่าได้ การันตีด้วยแชมป์มากมาย ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ ทีมเลสเตอร์ซิตี้, ทีมเชลซี, และล่าสุดได้แชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติฝรั่งเศส แต่ชีวิตของเขานั้นเรียกได้ว่าเป็นความพลิกผันอย่างมาก เพราะก่อนหน้าจะคว้าแชมป์พรีเมียลีกครั้งแรกกับเลสเตอร์ซิตี้ เขายังเป็นเพียงนักเตะโนเนม ที่เล่นให้กับทีมโนเนม ในลีกชั้นล่างของประเทศฝรั่งเศสอยู่เลย นั่นทำให้ก็องเต้เป็นนักฟุตบอลที่มีนิสัยติดดินมากๆ แถมยังเป็นคนที่นอบน้อมกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลก็ตาม… ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ทีมสิงโตน้ำเงินครามเปิดบ้านเอาชนะคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ไปได้ 4-1 หลังจากแข่งจบเขาจะขึ้นรถไฟกลับบ้านที่ฝรั่งเศส แต่ทว่าดั๊นตกรถไฟเสียอย่างนั้น เนื่องจากว่าก็องเต้เป็นคนที่นับถืออิสลาม ประจวบกันกับช่วงนั้นเป็นช่วงที่ต้องทำการละหมาด เขาจึงเดินทางไปมัสยิดที่อยู่ในย่านคิงส์ ครอสส์ และที่นั่นเองเขาก็พบกับแฟนบอลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแฟนบอลกลุ่มนั้นจำหน้าเขาได้อย่างแม่นยำ หลังจากที่ละหมาดเสร็จแล้วจึงชวนก็องเต้ไปที่บ้านเพื่อรับประทานอาหาร “ศาสนาอิสลามสอนว่า เราควรชักชวนแขกมาที่บ้านเพื่อรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน ผมก็เลยตัดสินใจชวนเขามาที่บ้าน” นาย Badlur Rahman Jalil ผู้เอ่ยปากชวนก็องเต้เล่า และมันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากๆ…
-
เมื่อ ‘เดอะร็อก’ จัดซูชิในวันชีทเดย์ตอนตี 1 ชาวเน็ตสงสัย ไปหามากินได้ไงฟ๊ะ!?
สำหรับคนที่ออกกำลังกาย หรือกำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ จะรู้กันดีว่าในหนึ่งสัปดาห์หรือหนึ่งเดือน จะมีวันที่เรียกว่า ‘ชีท เดย์’ หรือวันแห่งการโกงนั่นเอง ในวันนี้เราจะสามารถกินอะไรก็ได้ที่อยากกิน ไม่ว่าอาหารนั้นจะมีพลังงานแคลอรีมากแค่ไหนก็ตาม!! แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าในวันชีทเดย์ของ ‘เดอะร็อก‘ นักแสดงฮอลลีวูดและอดีตนักมวยปล้ำกล้ามโต เขากินแต่ละอย่างนี่ขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสมากเลยทีเดียว!! เพราะแต่ละอย่างที่พี่แกจะกินนั้นมันเรียกได้ว่าเป็นปริมาณที่ ‘โหดสึส’ จริงๆ จน ถึงกับตั้งคำถามขึ้นมาว่า แล้วแบบนี้มันจะควบคุมน้ำหนักได้จริงๆ เหรอ!? อย่างเช่นล่าสุดพี่แกก็เพิ่งจักคุกกี้ช็อกชิปจานเบ้อเร่อไป ก่อนหน้านั้นก็เป็นแพนเค้กจานโต แล้วก็จัดซูชิตอนตี 1 แต่ประเด็นคือแทนที่จะโฟกัสไปที่ของแต่ละอย่างที่เดอะร็อกกิน ชาวเน็ตรายหนึ่งดันตั้งคำถามขึ้นมาว่า “เดี๋ยวนะ แล้วเอ็งไปเอาซูชิจากที่ไหนมากินตอนตี 1 ฟร๊ะ!?” กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสงสัย ชาวเน็ตมากมายต่างก็ตั้งข้อสันนิษฐานกันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า หรือเอ็งจะโทรหาเชฟ ให้ตื่นมาทำซูชิให้เอ็งตอนตี 1 เหรอ? บ้าไปแล้ว!! บ้างก็ว่า หรือมันจะมีร้านซูชิลับ ที่รู้กันเฉพาะเหล่าคนดัง แล้วเขาเปิดขายให้ตอนตี 1…
-
หนุ่มเจอ ‘ด่าน’ บนทางด่วน แต่ไม่อยากเป่า เลยทิ้งรถ กระโดดลงทางด่วน หักสิครับ…
การเจอตำรวจสำหรับบางคน บางครั้งก็น่ากลัวเหมือนกับว่า ‘เห็นผี’ พวกเขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อพยายามจะหลีกเลี่ยงการเข้าพบปะพูดคุย รวมถึงการเข้าทดสอบเรื่องต่างๆ เพราะกลัวว่าความผิดที่ทำมามันจะประจักษ์ต่อสายตาเจ้าหน้าที่ รวมถึงในรายของชายคนหนึ่งที่กระโดดลงจากสะพาน เพราะอยากจะหนีตำรวจ!? คลิปเหตุการณ์ทั้งหมด เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ชายคนหนึ่งขับรถมาตามทางด่วนเหมือนเช่นปกติ แต่ว่าระหว่างที่เขากำลังจะลงจากทางด่วนก็ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านอยู่ ณ ตรงนั้น ลัลลา ลัลล้า ด้วยความที่เขาไม่อยากจะเข้ารับการตรวจวัดแอลกอฮอล์ เลยทิ้งรถเอาไว้ตรงทางลงแล้วกระโดดออกนอกรถ วิ่งข้ามฝั่งอย่างกับนักวิ่งลมกรด และพยายามจะโบกรถหารถติดไปด้วย ทว่าก็ไม่มีใครจอดรับเขาเลยสักคันเดียว เอ๋ วิ่งเร็วเอ๋ ในที่สุดแล้วด้วยความไม่รู้ว่าจะหนีไปไหนต่อดี ทำให้เขาตัดสินใจกระโดดลงจากทางด่วนไปตายเอาดาบหน้า นับ 1 2 3 แล้วกระโจนตัวลงไป แต่แล้วก็ไปไหนไม่รอดเมื่อเจ้าหน้าที่ไปพบเขานั่งอยู่อย่างหมดสภาพเพราะมีอาการขาหักเกิดขึ้น รับผมไปด้วยคนสิค้าบบ ชายคนดังกล่าวอธิบายกับเจ้าหน้าที่ว่าที่หนี เพราะว่าเมื่อคืนก่อนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาแล้ววันนี้ขับรถ ก็เลยกลัวว่าแอลกอฮอล์มันยังอยู่ในร่างกายแล้วถ้าตรวจเป่าจะเจอ จึงทำให้ตัดสินใจทำอย่างนี้ กระโดดต่อไม่รอแล้วนะ แต่แล้วหลังจากที่รักษาอาการขาหักที่โรงพยาบาลก็ปรากฏว่า ผลการตรวจเลือดบ่งชี้ว่าเขาไม่มีจำนวน BAC (Blood Alcohol…
-
เกาะส่วนตั๊วส่วนตัว Kaulbach Island ที่ตอนนี้กำลัง “ลดราคา” เหลือ 150 ล้านบาทเท่านั้น!!
ชีวิตที่สงบ มีอิสระ และเป็นเอกเทศ ในยามที่ชีวิตต้องการหลีกหนีความวุ่นวายของสังคมมนุษย์ การใช้ชีวิตบนเกาะส่วนตัว คงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยสำหรับผู้ที่มีความต้องการที่กล่าวไปข้างต้น ก่อนอื่น เราลองมาชมเกาะ Kaulbach เกาะโดดเดี่ยวงดงาม ใจกลางอ่าวมาโฮนของรัฐโนวาสโกเชีย ประเทศแคนาดา เกาะ Kaulbach ด้วยเนื้อที่กว่า 140 ไร่ พร้อมคฤหาสน์หรูเนื้อที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ประกอบกับบรรยากาศทั้งป่าไม้ ชายหาด และน้ำทะเล ทำให้เกาะส่วนตัวแห่งนี้เปิดขายด้วยราคาสูงลิบในปีที่ผ่านมา ภายในคฤหาสน์มี 11 ห้องนอนด้วยกัน พร้อมทั้งของใช้สอยที่จำเป็นต่างๆ ที่ยิ่งกว่านั้น ภายนอกคฤหาสน์ยังมี “ลานจอดเฮลิคอปเตอร์” ไว้สำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์อีกด้วย คฤหาสน์หรูเนื้อที่กว่า 1,000 ตารางเมตร . . มองจากระเบียงของที่อาศัยออกไปเห็นพื้นหญ้า ต้นไม้ เกาะเพื่อนบ้าน และท้องทะเล สำหรับการเดินทางโดยเรือ เกาะแห่งนี้ได้จัดเตรียมท่าจอดสำหรับยานพาหนะทางน้ำไว้ที่ฝั่งด้านแผ่นดินแม่แล้ว ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากเกาะไปเพียง 6 นาที นอกจากนี้ สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ เกาะ Kaulbach นี้ยังอยู่ไกลจากท่าอากาศยานนานาชาติ Halifax เพียง…
-
หัวร้อนคนเดือด หนุ่มใหญ่วัย 45 เล่นเกมแพ้แล้วพาลเด็ก 11 ขู่ตามยิงถึงบ้าน สุดท้ายตัวเองเกม…
ความรู้สึกไม่สบอารมณ์เกิดอาการร้อนตุ๊บๆ บนหัว มักจะเกิดขึ้นกับเหล่าจริงจังเกมเมอร์ทั้งหลาย เมื่อใดก็ตามที่แพ้มา ก็ควรจะหยุดเล่น ไปพักสงบสติอารมณ์ก่อน หากยังไม่ยอมหยุดเพราะมัวแต่ห่วงศักดิ์ศรี อาจจะเกิดการไม่ยั้งคิดแบบนี้ก็ได้… นาย Michael Aliperti เกมเมอร์วัยดึก 45 ปี จากนิวยอร์ก ได้กระทำในสิ่งที่เกินเลยนอกเหนือจากขอบเขตกฎหมาย เนื่องจากเขาทำการขู่จะเอาชีวิตเด็กวัย 11 ปี ที่ยิงเขาตายในเกม Fortnite ผู้ต้องสงสัยถูกตั้งข้อหากระทำการข่มขู่และกระทำการเข้าข่ายทำร้ายเยาวชน ซึ่งหลังจากเกิดเหตุส่งข้อความเสียงขู่ฆ่าเด็กผ่านเครื่อง Xbox ไปเมื่อคืนก่อนหน้านั้น เวลาประมาณ 01.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันถัดมา ตำรวจเข้าทำการจับกุมตัวเขาทันที หลักฐานที่ใช้ในการจับกุมตัว Aliperti ถูกเปิดเผยจากบันทึกของศาล ด้วยข้อความเสียงข่มขู่ที่มีใจความดังต่อไปนี้ “กรูจะไปหาเอ็งพร้อมกับปืน เอ็งตายแน่ กรูจะไปที่บ้านเอ็งคืนนี้และยำโลกของเอ็งให้เละ” Stuart Cameron ผบ. ตำรวจท้องถิ่น ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า จากหลักฐานที่มีนั้นเพียงพอต่อการทำจับกุมนาย Aliperti แล้ว เนื่องจากอาจจะเป็นเหตุชนวนที่ทำให้เกิดการกราดยิงในโรงเรียนได้ “แม้นาย Aliperti…
-
จากเด็กน้อย “ออทิสติก” ผู้ถูกแบนจากกิจกรรมโรงเรียน สู่ “นายแบบ H&M” อนาคตไกล
โดยปกติแล้วเรามักจะเห็นนายแบบที่มีหุ่นล่ำๆ กล้ามใหญ่ๆ หน้าตาหล่อเหลาหรือนางแบบที่หุ่นดี ขาเรียว เอ็กซ์ เซ็กซี่กันเป็นประจำ แต่มาในวันนี้เราจะนำเรื่องราวของนายแบบ H&M, River Island และ Land Rover ตัวน้อยวัย 11 ปีผู้ป่วยเป็นโรคออทิสซึม ซึ่งทำให้เขาถูกห้ามเข้าร่วมในหลายๆ กิจกรรมของโรงเรียน เด็กคนนั้นคือ Alfie Aldridge เด็กชายที่ถูกส่งตัวไปเรียนที่ Larwood School หลังถูกพบว่าผู้ป่วยเป็นออทิสติกที่มีความสามารถระดับสูง (High Fucntioning Autism หรือก็คือเขาสามารถใช้ภาษาและปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นๆ ได้) แต่ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ใกล้เคียงกับเด็กปกติ แต่เขาก็ยังถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมใดๆ กับโรงเรียนอยู่ดี Gary Aldridge คุณพ่อของเขาพยายามทุกวิถีทางที่จะกระตุ้นให้เขาได้เข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนๆ เด็กๆ คนอื่นเสียบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล… เขายังขาดความมั่นใจในตัวเองอยู่ จนกระทั่งเพื่อนของพ่อเขาแนะนำว่าบางที Alfie อาจจะเป็นนายแบบที่ดีได้นะ ได้รับคำแนะนำดังนั้นครอบครัวของ Alfie จึงพาเขาไปรู้จักกับ Zebedee Management บริษัทเอเจนซี่สำหรับนายแบบนางแบบผู้พิการ พวกเขาจึงจับ Alfie มาลองถ่ายแบบดูและนั่นล่ะก็ทำให้พรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวของหนุ่มน้อยปะทุขึ้นมา ต่อไปเรามาชมผลงานของนายแบบตัวน้อยของเราดีกว่าครับ . . .…
-
ชายใจดีซื้อรถโรงเรียนคันเก่า เพื่อใช้ในการช่วยอพยพสัตว์เลี้ยง ก่อนที่พายุจะถล่ม
หลังจากที่ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ประกาศให้ประชาชนทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ อพยพออกจากพื้นที่ก่อนที่พายุเฮอริเคน ฟลอเรนซ์ จะมาถึง ชาวเซาท์แคโรไลนาก็ได้เตรียมอพยพออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว แต่ Tony Alsup จากเทนเนสซีได้ตัดสินใจทำสิ่งที่ต่างออกไป Alsup ได้ซื้อรถรถโรงเรียนคันเก่าเพื่อภารกิจนี้โดยเฉพาะ เพราะความมุ่งมั่นของเขาคือ การช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทิ้งหลังจากที่เจ้าของอพยพไป และไม่ได้พาพวกมันไปด้วย สำหรับตัว Alsup เองนั้น เขาเป็นอาสาสมัครที่ทำงานร่วมกับ EARS Emergency Animal Rescue and Shelter ที่ผ่านมา เขาเคยใช้รถโรงเรียนอพยพสัตว์ก่อนที่พายุเฮอริเคน ฮาร์วีย์จะเข้าในปี 2017 ดังนั้น ครั้งนี้เมื่อเขาได้ทราบข่าวของศูนย์พักพิงสัตว์ในเซาท์แคโรไลนา ที่กำลังตกอยู่ในอันตราย เขาตัดสินใจที่จะร่วมภารกิจช่วยเหลืออีกครั้ง Alsup บอกว่า “ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้สัตว์เลี้ยงได้ออกมาจากที่นั่นอย่างปลอดภัย พวกมันจะไม่ใช่แค่ส่วนเกินที่นั่งหลังรถกระบะ แต่ผมจะทำให้พวกมันมีรถบัสของตัวเอง” ก่อนที่พายุฟลอเรนซ์ จะมาถึง Alsup ได้ไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ในเซาท์แคโรไลนาหลายแห่ง และพาสัตว์เลี้ยงขึ้นรถโรงเรียนของเขา จากรายงานบอกว่า Alsup ได้อพยพสุนัข 53 ตัว และแมวอีก 11 ตัว ทำให้ผู้โดยสารขนปุยทั้งหลายกลายเป็นผู้โชคดีที่ได้ออกไปอยู่ที่ปลอดภัยได้ทันเวลา …
-
นางแบบฟิตเนสผู้รับขนานนามว่า “นางสาวก้นเหล็ก” ถูกชาวเน็ตคุกคามเรียกเธอว่า “ปิศาจ”
เรียกได้ว่าในปัจจุบันนี้เทรนด์รักสุขภาพมาแรงเอามากๆ ผู้คนหันมาใส่ใจกับอาหารการกินและการออกกำลังกาย รวมถึงสาวๆ หลายๆ คนก็ด้วย เหมือนกันกับ Bakhar Nabieva นางแบบฟิตเนสชาวยูเครนวัย 24 ปี ผู้ถูกขนานว่า “นางสาวก้นเหล็ก” เธอได้ออกกำลังกายอย่างหนักจนร่างกายเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยกล้ามเนื้อขนาดที่ผู้ชายเห็นยังต้องอาย และด้วยรูปร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเธอ แม้หลายๆ คนจะเห็นเธอเป็นไอดอลในการออกกำลังกายก็ตาม แต่ก็มีอีกหลายคนที่เรียกเธอว่า “เอเลี่ยน” หรือ “ปิศาจ” Bakhar เริ่มที่จะออกกำลังกายตามกระแส โดยที่ในช่วงแรกเธอนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากิจวัตรประจำวันและวิธีการออกกำลังกายของเธอนั้นถูกต้องหรือไม่ด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่เริ่มออกกำลังกายมาได้สักพักหนึ่ง เธอสังเกตเห็นรูปร่างเธอในกระจก เธอเห็นว่าร่างกายของเธอมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นนิดหน่อย และเมื่อเธอเห็นรูปร่างของตัวเองที่มีกล้ามเนื้อดังกล่าว เธอก็เริ่มรู้สึกดีและนั่นเป็นพลังที่ทำให้เธอเลือกที่จะออกกำลังกายอย่างหนักต่อไป ในปัจจุบัน Bakhar มีผู้ติดตามเธอในฐานะไอดอลแห่งการออกกำลังกายผ่านทางอินสตาแกรมกว่า 2 ล้านคนและแม้ว่าเธอจะมีหุ่นที่เฟิร์มและกล้ามเนื้อที่ผู้ชายหลายๆ คนยังต้องอาย แต่ก็ยังไม่วายหนีไม่พ้นฝีปากของชาวเน็ตต่างๆ อยู่ดี มีชาวเน็ตหลายคนที่เข้ามาคอมเมนต์ตามรูปที่เธอลงในอินสตาแกรมว่า “คุณมาจากจักรวาลอื่นใช่มั้ย? แต่ก็เป็นเอเลี่ยนที่สวยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นล่ะนะ” หรือจะเป็น “คุณเป็นปิศาจใช่มั้ย? ขอโทษนะ แต่คุณต้องเป็นปิศาจแน่ๆ” https://www.instagram.com/p/BnRLoLCFFr2/?taken-by=bakharnabieva ไม่ว่าใครจะว่าเธอว่าเป็นอะไร แต่สำหรับ #เหมียวโคบี้ แล้ว ชื่นชมเธอจริงๆ…
-
หญิงกล่าว “คนเป็นแม่” ควรได้รับอนุญาตให้ “แซงคิว” ขณะต่อแถวได้ แต่ชาวเน็ตตอกกลับยับ!!
ในสังคมปัจจุบันมีการเรียกร้องถึงความเท่าเทียมทางเพศกันอย่างมากขึ้น แต่ก็มีบางคนที่อ้างเอาความเป็นเพศที่อ่อนแอหรือเอา “ความเป็นแม่คน” เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งสิทธิพิเศษต่างๆ ในสังคม เหมือนกับผู้หญิงที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้ เธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ใช้คำว่าแม่มาเป็นข้ออ้างเพื่อจะแซงคิวเข้าแถวซื้อกาแฟ เธอได้โพสต์รูปของตนพร้อมกับป้ายข้อความว่า “คุณแม่ทั้งหลายควรที่จะได้สิทธิพิเศษให้ลัดเข้าไปอยู่ข้างหน้าแถวในร้านกาแฟได้ ที่รัก พวกเธออายุ 22 และเมื่อคืนก็ได้หลับเป็นสิบชั่วโมงแล้วนะ ไปต่อข้างหลังแถวเถอะ (พูดถึงกลุ่มวัยรุ่น)” https://www.instagram.com/p/BnyiVHWD2wj/?taken-by=slutwhisperer ไม่ทราบว่าทางต้นฉบับโพสต์ในวันเวลาใด แต่ภาพดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสหลังจากที่ผู้ใช้อินสตาแกรมชื่อว่า slutwhisperer ได้นำมาโพสต์ในวันที่ 17 กันยายน 2018 พร้อมกับแคปชั่นว่า “ลองจินตนาการดูนะ เพราะว่าคุณปล่อยให้ผู้ชายบางคนมาแตกในได้ นั่นหมายความคุณควรได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษงั้นเหรอ? งั้นไหนล่ะรางวัลของผมที่ไม่ทำร้ายโลกใบนี้โดยการไม่สร้างผู้สืบสันดานที่เลวร้าย ซึ่งจะโตมาโดยไม่สร้างประโยชน์อันใดให้แก่ดาวดวงนี้ คนแม่หลายๆ คนทำเหมือนกับพวกเธอนั้นเป็นของขวัญจากพระเจ้า… ไม่ใช่อ่ะคุณผู้หญิง ลูกชายของคุณอาจจะโตขึ้นมาเป็นไอ้โง่ที่ข่มขืนเด็กหญิงที่น่าสงสาร เพราะว่าเขาไม่เคยได้ยินคำว่า ‘ไม่’ เหมือนกับที่คุณแม่ที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเขา” หลังจากที่ภาพนี้เป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์ ชาวเน็ตหลายคนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับภาพดังกล่าวมากมาย คนอายุ 22 คนไหนเขาได้หลับ 10 ชั่วโมงต่อคืนกัน? ฉันอยากจะเป็นหนึ่งในนั้น ตอนที่ฉันอายุ 22 ฉันเรียนอยู่ในโรงเรียนแพทย์และไม่เคยได้หลับถึง 10 ชั่วโมง… เหมือนอย่างที่ฉันคิด ฉันอายุ 22 ปีจบการศึกษามาแล้วและก็ได้หลับ 4-5…
-
สงสัยหนักไปหน่อย!! หนุ่มเรียกอูเบอร์เจอ ‘คนขับเมา’ เลยขับเองจนถึงบ้านซะเลย…
ในยุคนี้สมัยนี้โลกได้ก้าวไกลจนทำให้อะไรหลายๆ อย่างง่ายขึ้นอย่างทันตาเห็น อย่างเช่นเรื่องของการเดินทางที่ไม่ต้องมายืนง้อโบกแท็กซี่อีกต่อไป เพราะมีแอพฯ ที่ใช้เรียกรถมารับถึงที่อย่าง ‘อูเบอร์’ กำเนิดขึ้นมาให้เราได้ใช้บริการกัน แต่บางครั้งชีวิตก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเสมอไป อย่างเช่นในกรณีของหนุ่มรายหนึ่งที่หวังจะนั่งอูเบอร์กลับบ้านสบายๆ แต่กลับเจอคนขับเมาจนต้องมาขับเองซะอย่างงั้น!! เรื่องมีอยู่ว่านาย Surya Oruganti ได้เดินทางลงเครื่องมาที่สนามบิน Bengaluru International Airport ในประเทศอินเดีย แล้วเรียกอูเบอร์หวังจะให้พาส่งกลับบ้าน แต่ว่าเมื่อรถที่เขาเรียกมาถึง ก็มีจุดที่ผิดปกติอย่างหนึ่งคือคนขับรถคันดังกล่าว ไม่ใช่คนเดียวกับที่ทางแอพฯ บอกเอาไว้ ทว่าเขาก็ตัดสินใจนั่งอยู่ดีเพราะถึงยังไงก็เป็นรถทะเบียนเดียวกันและความอยากถึงบ้านเร็วๆ @Uber_India, the ride back from Bangalore airport was not quite what I expected. The driver was drunk and drowsy. I had to pull the car over to the side and I drove…
-
พ่อแม่ชาวเกาหลี แห่เรียก ‘อาจอชีเซอร์วิส’ ลุงปกป้องลูกหลาน จากการถูกรังแกในโรงเรียน!!
กลายมาเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจการให้บริการที่แหวกแนวขึ้นมาอีกขั้น ภายหลังจากการกลั่นแกล้งรังแกและข่มเหงในโรงเรียน เป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขให้หมดไปจากสังคมเกาหลีใต้ได้ อาจอชีเซอร์วิส จ้างลุงปกป้องลูกจากการถูกรังแกในโรงเรียน ด้วยเหตุนี้ จึงกลายมาเป็นช่องทางในการกำเนิด ‘อาจอชีเซอร์วิส’ ให้บริการในประเทศเกาหลีใต้ โดยมาพร้อมกับแพคเกจว่าจ้างลุง 3 รูปแบบ ได้แก่ แพคเกจลุงเนียน แพคเกจลุงเก็บหลักฐาน และแพคเกจลุงตามประจาน แพคเกจลุงเนียน สำหรับแพคเกจลุงเนียน เป็นบริการในรูปแบบของชายช่วงวัย 30 – 40 ปี ตัวใหญ่ สวมบทบาททำตัวเป็นลุงของเด็กนักเรียนคนนั้น โดยอาจอชีหน้าม้าจะออกมาประจัญหน้าเด็กที่คอยตอแย และจะไปรับลูกของพ่อแม่ผู้ว่าจ้าง เพื่อส่งและรับกลับจากโรงเรียนในวันนั้นๆ อัตราค่าจ้างต่อวันอยู่ที่ 500,000 วอน แพคเกจลุงเก็บหลักฐาน แพคเกจเก็บหลักฐาน ก็ตามชื่อของมันเลย อาจอชีจะทำการสำรวจและเก็บหลักฐาน การถูกข่มเหงรังแกด้วยกล้องขนาดจิ๋ว เมื่อได้หลักฐานเพียงพอแล้ว จะทำการฟ้องต่อคุณครูในโรงเรียน หากไม่ใส่ใจแก้ปัญหา จะทำการส่งเรื่องไปถึงระดับผู้บริหารของโรงเรียนให้จัดการแทน (นั่นหมายถึงหน้าที่การงานของครูด้วย) อัตราค่าแพคเกจนี้รวมอยู่ที่ 400,000 วอน แพคเกจลุงตามประจาน ส่วนแพคเกจสุดท้าย จะเป็นการจ้างวานอาจอชีให้ไปตามรังควานพ่อแม่เด็กฝ่ายรังแก…
-
ลูกเศรษฐีใจโหด ทุบดาวโป๊รัสเซียรับงานจนเสียชีวิต แถมเคยตีโสเภณีเจ็บหนักอีก 4 ราย!!
กลายเป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่อความบ้าคลั่งไร้ความเชื่อใจของคนหนึ่ง เอามาลงกับคนอื่นที่ไม่ได้เป็นต้นเหตุเลย… ความโหดเหี้ยมนาย Andrey Demenkov วัย 32 ปี ลูกชายเจ้าของธุรกิจผู้ร่ำรวย ก่อเหตุทำร้ายคุณแม่ลูกหนึ่ง Olga Kudrova วัย 21 ปี ทุบด้วยของแข็งไม่ต่ำกว่า 100 ครั้งจนเสียชีวิตภายในอพาร์ทเม้นท์ของเขา Andrey Demenkov นาย Demenkov นั้นพยายามที่จะจับเธอกดน้ำให้เสียชีวิตในด้วยอ่างอาบน้ำ แต่ทว่าเหยื่อสิ้นใจไปก่อนหน้านั้นแล้ว ด้วยพิษบาดแผลจากการถูกทุบตีอย่างหนัก ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เธอทำงานเป็นไซดไลน์รวมถึงการเป็นดาราหนังผู้ใหญ่ด้วย โดยก่อนจะมาพบกับนาย Demenkov นั้นเธอบอกกับญาติๆ ว่าจะเดินทางมาหาชายผู้เป็นที่รัก แทนการบอกว่ามาทำงาน Olga Kudrova คุณแม่ลูกหนึ่ง เพิ่งคลอดลูกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา สืบประวัติย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคม เขาเคยลักพาตัวและทุบตีหญิงวัย 32 ปี จนบาดเจ็บสาหัส ภายในอพาร์ทเม้นที่เกิดเหตุแห่งเดียวกัน อีกทั้งยังเคยเรียกหญิงขายบริการมา 4 ราย เพื่อทำร้ายร่างกายจนซี่โครงและขาหัก ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเคยลักพาตัวเพื่อนผู้หญิงที่รู้จักกัน…
-
หญิงถูกชายโหดทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส หลังพยายามขอมีเซ็กส์ แต่เธอปฏิเสธ
*มีภาพของความรุนแรงและเลือด โปรดใช้จักรยานในการรับชม* ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง ถือว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ไม่จบไม่สิ้นเสียที ล่าสุดข่าวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายถูกกระทำ เมื่อ Emma Higginson หญิงชาวอังกฤษวัย 35 ปีถูกชายที่เธอเจอในไนท์คลับทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส หน้าตาเละไปหมด เพียงแค่จากการที่เธอปฏิเสธที่จะมีเซ็กส์ด้วยเท่านั้น… เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Emma ได้ใช้เวลากับเพื่อนๆ ในวันหยุดที่ประเทศตุรกีและตกดึกมา ตามประสาผู้หญิงชอบสนุก เธอกับเพื่อนก็ได้พากันไปเที่ยวไนท์คลับ ที่เดียวกับที่เธอได้พบกับ Declan Marshall เซลส์ขายรถชาวอังกฤษวัย 27 ปี Marshall บอกกับ Emma ว่าคืนนี้เขาไม่รู้จะกลับยังไง ด้วยความใจดีของเธอจึงได้เสนอให้เขามานอนบนโซฟาที่ห้องพักของเธอได้นะ เมื่อถึงเวลาที่ Emma ได้กลับห้องจริงๆ เธอก็ให้ Marshall ไปนอนบนโซฟาตามที่ได้กล่าวไว้ ส่วนตัวเธอก็ไปนอนบนเตียงตามปกติ แต่ไม่กี่นาทีต่อมา Marshall ก็ได้ขึ้นไปบนเตียงและพยายามจะมีเซ็กส์กับ Emma เธอจึงได้ขัดขืนและปฏิเสธไปว่า “ฉันมีแฟนแล้วและฉันไม่สนใจมีเซ็กส์หรอกนะ” เมื่อสิ้นเสียงประโยคเท่านั้น Marshall ก็โมโหมากที่เธอไม่ยอมมีอะไรด้วย จึงได้บันดาลโทสะเข้าทำร้าย Emma จนบาดเจ็บสาหัสบริเวณใบหน้า …
-
คุณยายขุดเจอ ‘ลูกบอลเหล็ก’ เลยเอาให้หลานเล่นมา 3 ปี สุดท้ายพบมันคือ ‘ระเบิด’!?
บางคนอาจจะขุดดินเพื่อปลูกต้นไม้แล้วไปเจอเข้ากับเงินทองบ้าง ของหายากบ้าง แต่ว่าไม่ใช่กับคุณยายคนนี้แน่นอนที่ดันไปขุดเจอ ‘ระเบิด’ เข้า แต่เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไรเลยเอาให้หลานเล่นมาตลอดระยะเวลา 3 ปีเต็มๆ!! คลิปของการเจอระเบิดที่ว่านี้ เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พากันแห่เข้าไปที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน หลังมีเจ้าหน้าที่รายงานว่ามีการตรวจพบวัตถุระเบิดในบ้านหลังนี้ การค้นพบดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากคุณยายแซ่ Zhang ผู้อาศัยในบ้านหลังนี้ เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปดู ‘ของเล่นปริศนา’ บางอย่างให้หน่อย หลังจากที่เธอเกิดตะหงิดใจขึ้นมาว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับสิ่งนี้ ทว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเห็นก็ตะลึงงันเพราะสิ่งที่อยู่ต่อหน้ามันคือ ‘ระเบิด’ จึงเรียกกำลังเสริมพร้อมกับหน่วยเก็บกู้ระเบิดมาปิดล้อมพื้นที่บ้านหลังนี้ไว้ ทางหน่วยเก็บกู้ได้ใส่ชุดป้องกันอย่างเต็มตัว ขณะที่เข้าจัดการกับระเบิดลูกนี้ แล้วผลที่ออกมาก็คือสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด คุณยาย Zhang เล่าให้ฟังว่าไปเจอกับลูกเกลี้ยงนี้เข้าระหว่างที่ขุดดินจะปลูกต้นไม้หน้าบ้าน เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน แต่ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรดูเป็นลูกเล็กๆ เรียวๆ ดี เลยเก็บมาให้หลานชายเล่นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทว่าเธอก็สงสัยมาโดยตลอดว่ามันคือะไรกันแน่ ในภายหลังจากเก็บกู้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็กล่าวว่ามันเป็นระเบิดที่ยังสามารถทำงานได้อยู่และพร้อมที่จะปะทุในเวลาใดก็ได้ ซึ่งเป็นโชคดีของทั้งคุณยายและหลานจริงๆ…
-
หนุ่มลองเสื้อกันกระสุน ยิงท้องตัวเอง ‘ทะลุจุกและเจ็บ’ ตากล้องนึกว่าแอคติ้งดันตายจริง
ความบ้าระห่ำห่ามๆ แบบนี้ ไม่ควรเอาเยี่ยงเอาอย่างเด็ดขาด หากจะทำการทดลองอะไรก็ตามที่อาจส่งผลร้ายต่อร่างกาย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิตได้ ตัวอย่างของหนุ่มชาวยูเครน ที่มั่นใจกับเสื้อเกราะกันกระสุนที่สวมใส่ พร้อมกับคว้าปืนพกเอามายิงเข้าหน้าท้องตัวเอง เพื่อทดสอบว่ามันจะ ‘ยิงไม่เข้า’ ในวิดีโอคลิป ชายคนนี้ชื่อว่า Domovoi ได้สวมใส่เสื้อเกราะที่อ้างว่าเป็นเกรดเดียวกันกับหน่วยพิเศษของรัสเซีย ด้วยความใจถึงเขาก็เลือกที่จะยิงปืนอัดเข้าหน้าท้องตัวเอง ต่อหน้าเพื่อนที่กำลังอัดคลิปเก็บไว้ ภายหลังจากลั่นไกกระสุนพุ่งเข้าใส่หน้าท้อง เจ้าตัวถึงกับเข่าทรุดนั่งลงไปกองกับพื้น เอามือกุมหน้าท้องด้วยความจุก พร้อมกับโยนปืนออกไปให้ห่างจากตัว เพื่อนตากล้องคิดว่าเขาอำเล่น แกล้งทำท่าเป็นเจ็บ แต่เพียงเสี้ยววินาทีจึงฉุกคิดได้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บจริง กระสุนทะลุผ่านเสื้อเกราะไป เนื่องจากเจ้าตัวไม่ยอมตอบอะไรเลย ทำได้แค่ถอดเสื้อเกราะออกและนั่งอยู่นิ่งๆ แบบนั้น ภายหลังจากที่คลิปถูกตัดจบไป สื่อท้องถิ่นรายงานว่าชายที่ลองเสื้อเกราะนั้น เสียชีวิตภายหลังจากเหตุที่ยิงเข้าหน้าท้องตัวเอง ซึ่งคาดว่าน่าจะพลาดไปโดนในส่วนของเสื้อที่ไม่มีชั้นเกราะป้องกัน… ผู้เชี่ยวชาญทางการทหาร Mikhail Bratskov ได้อธิบายว่า ระยะยิงนั้นใกล้เกินไป ถึงแม้เสื้อเกราะจะสามารถกันกระสุนได้ แต่ด้วยแรงอัดจากกระสุนสามารถทำให้อวัยวะภายใน ได้รับความเสียหายเช่นกัน ที่มา: dailymail, meaww
-
หนุ่มนักประดิษฐ์สร้าง ‘เครื่องยิงใย’ ใช้งานได้จริง นี่มันสานฝันคนอยากเป็นสไปดี้ชัดๆ
หนึ่งในความฝันสูงสุดในวัยเด็ก (และวัยผู้ใหญ่) คือการมีพลังพิเศษเหมือนดั่งตัวละครฮีโร่ ซึ่งในฮีโร่ที่ใครๆ ต่างต้องประทับใจตั้งแต่แรกเห็นและได้รับความนิยมสูงมากๆ คงหนีไม่พ้น สไปเดอร์แมน ไอ้แมงมุมยิงใยปิ๊วๆ ได้นี่แหละ!! หนุ่มรายหนึ่งในนาม HeroTech ทำการโพสต์วิดีโอคลิปเผยวิธีการใช้งานเครื่องยิงใยของจริง ถึงแม้หน้าตาจะดูไม่ไฮเทคเหมือนในหนังก็ตาม แต่ทว่าการใช้งานของมันนั้นถือว่าใกล้เคียงกันเลยทีเดียว อุปกรณ์เครื่องยิงใยชิ้นนี้ สามารถใช้ยิงใยด้วยท่าแบบไอ้แมงมุมได้ ปล่อยออกไปจากข้อมือเพื่อยึดติดกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า โดยใยจะเป็นเส้นด้ายที่มีความหนาและแข็งแรงพอสมควร เพื่อให้ความรู้สึกที่เหมือนกับในการ์ตูนหรือหนังจริงๆ ในส่วนของกระสุนใยแมงมุมนั้น สามารถถอดเปลี่ยนได้ลักษณะเหมือนแมกกาซีนกระสุนปืน ใส่เข้าที่ด้านหลังปลายลำกล้องยิงใย สามารถถอดสลับเปลี่ยนได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งเวลาตอนใส่กระสุนพร้อมยิงแล้ว ไฟสีเขียวแสดงสถานะพร้อมยิงจะโชว์ขึ้นมา แบบว่าโคตรเท่!! ดูคลิปสาธิตวิธีการใช้งานได้ที่นี่ เห็นละอยากได้จริงๆ!! มาถึงขนาดนี้แล้ว ใครอยากได้เครื่องยิงใยของจริงสามารถสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ esty ในราคาเริ่มต้น 3,990 บาท สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ข้อมือซ้ายหรือขวาได้ตามความถนัด แต่แนะนำว่าอย่าไปยิงข้ามตึกแล้วลองโหนนะ มันอาจจะเสี่ยงอันตรายเกินไป แค่ยิงใยปื๊วๆ ก็พอแล้ว ที่มา: unilad, ytsas18392
-
แฮ็กเกอร์คิด ‘หลอกพังคอมพ์’ คุณยายวัย 83 ปี สุดท้ายได้บทเรียนแสนสาหัสกลับไปแทน
การกลั่นแกล้งและหลอกลวงบนโลกออนไลน์ (Scam) นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวเพราะบางครั้งเหยื่อของการกลั่นแกล้งนี้อาจต้องเสียเครื่องคอมพิวเตอร์ไปเลยก็ได้ ยิ่งเป็น คนชรา ก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากเป็นวัยที่ไม่ได้คลุกคลีกับคอมพิวเตอร์และภัยจากอินเทอร์เน็ตมากนัก ผู้สูงอายุจึงกลายเป็นเหยื่อชั้นดีของเหล่า Scammer แต่วันนี้ถึงเวลาที่พวกนักกลั่นแกล้งหรือเหล่า Scammer จะได้รับกรรมที่ก่อไว้กันบ้างแล้ว เมื่อช่องยูทูบที่ชื่อว่า Deeveeaar ได้ตั้งตนเป็นผู้ลงโทษเหล่า Scammer โดยการล่อลวงและกลั่นแกล้ง จนทำให้พวกเขาไม่อยากกลั่นแกล้งผู้อื่นอีก เรื่องราวเริ่มขึ้นจาก Scammer คนหนึ่งได้ขออนุญาตหญิงชราวัย 83 ปีคนหนึ่งเพื่อเข้าใช้คอมพิวเตอร์ของเธอ ซึ่งทุกอย่างก็ดูเป็นใจอย่างมาก Scammer: “ใครคือเจ้าของคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ครับคุณผู้หญิง คุณหรือคนอื่น?” คุณยาย: “ฉันเอง” Scammer: “คุณใช้โน้ตบุ๊กใช่ไหมครับ?” คุณยาย: “ใช่แล้ว มีแต่โน้ตบุ๊ก” Scammer: “งั้นช่วยเปลี่ยนไปใช้โน้ตบุ๊กทีได้ไหมครับ?” คุณยาย: “ได้เลย” Scammer: “เอาล่ะ ขอผมเข้าดูหน่อยก็แล้วกันนะครับ โอเคมั้ย?” Scammer รายนี้คิดว่าเขาทำสำเร็จแล้ว ขณะที่เขาใช้โปรแกรม Team Viewer เข้าดู เขามีการกล่าวชมเด็กๆ หลานๆ ที่เป็นรูปพื้นหลังหน้าจอคอมพ์คุณยายด้วย Scammer: “เห็นโปรแกรม Google Chrome…
-
อดีตดาราโป๊เผยเคยฟัด ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ บอก “ไอ้จ้อน” ของเขายังกับตัวเห็ดในเกมมาริโอ้!!
เป็นเรื่องอีกหนึ่งเรื่องตลกร้ายสุดฮาที่เกิดขึ้นกับ ‘นายโดนัลด์ ทรัมป์’ ผู้นำประเทศสหรัฐอเมริกาอีกแล้ว!! เมื่อมีอดีตดาวโป๊คนหนึ่งออกมาเผยว่าเธอเคยมีสัมพันธ์สวาทกับเขา แล้วเยาะเย้ยว่า ‘ไอ้จ้อน’ ของเขามันเหมือนตัวละครหัวเห็ดในเกมมาริโอ้… Stormy Daniels คือชื่อของหญิงสาวคนดังกล่าว เธอได้ออกมาเผยเรื่องราวในมุ้งระหว่างเธอกับประธานาธิบดีผมขาววัย 72 ปีคนนี้ผ่านสื่อ The Guardian ซึ่งทีเด็ดอยู่ตรงที่ว่าเธอได้เปรียบเทียบดาบปลายแหลมของนายทรัมป์ว่ามันมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับตัวละคร Toad ในเกมมาริโอ้ หน้าตาของ ‘Toad’ ที่ดาวโป๊คนนี้บอกว่าเหมือนของทรัมป์ “ฉันนอนอยู่ตรงนั้น รู้สึกรำคาญใจจริงๆ ที่ต้องมาฟัดกับชายขนรุงรังยังกับตัวเยติ แถมยังมีไอ้นั่นเหมือนตัวละครเห็ดในเกมมาริโอ้อีก” “บอกเลยว่ามันเป็นเซ็กส์ที่ห่วยแตกที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขาคิดอย่างนั้นไหม ฉันจะบอกหมดทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันรู้แหละ แม้ว่าคนอื่นๆ จะคิดยังไงกับฉันก็ตาม แต่ถึงยังไงมันก็เป็นเรื่องจริงนิ” Daniels กล่าว เธอเล่าว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองได้จั้มบ๊ะกัน เกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์แข่งขันกอล์ฟอันโด่งดังที่ทะเลสาบทาโฮ รอยต่อระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเนวาด้าในปี 2006 ซึ่งในเวลานั้นเป็นเวลาที่เธอบอกว่าตัวเองเลยจุดสูงสุดของอาชีพนักแสดงหนังโป๊มาแล้ว แต่ว่าทรัมป์ก็เสนอจะช่วยให้เธอมีส่วมร่วมในซีรีส์ The Apprentice ด้วย โดยเรื่องราวนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ Full Disclosure หนังสือเล่มใหม่ของ Daniel ที่จะมีรายละเอียดต่างๆ มากกว่านี้ แต่แค่นี้ก็คงจะพอนึกภาพออกว่ามันน่าจะคล้ายๆ กับ ‘ขนมปังไส้กรอก’ อันโด่งดังในบ้านเราเหมือนกันว่าไหม… …
-
คุณน้าชี้แจง ‘ครูตรวจการบ้านผิด’ เป็นเพราะ ‘เร่งรีบและงานเยอะ’ วอนขอความเห็นใจด้วย
จากกรณีของ ‘ครูตรวจการบ้านเด็ก’ ที่กลายเป็นประเด็นให้เหล่าวชาวเน็ตมากมายทั่วไทยต้องมาถกกัน สรุปแล้วคำตอบไหนมันถูกกันแน่!? อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ : สาวถึงกับงง สอนการบ้านหลานไป คุณครูกลับตรวจว่าผิด สรุปผิดหรือไม่ผิดอย่างไร!? เผื่อใครจำไม่ได้ ลองเอาข้อการบ้านลองไปแซมเปิ้ลสัก 2-3 ข้อกันดูหน่อยก็แล้วกัน สรุปแล้วโจ้เก็บมะม่วงได้ทั้งหมดกี่ผลกันแน่!? ลุงมีฝรั่งทั้งหมดกี่ผล? . จากโจทย์การบ้านเหล่านี้ทำให้มีชาวเน็ตมากมายต่างก็สงสัยว่า เอ๊ะ!? เด็กก็ทำถูกหมดแล้วนี่ แต่ทำไมครูถึงบอกว่าผิดล่ะ หรือมันมีวิธีคิดอย่างอื่นที่ถูกต้องอยู่กันแน่นะ!? #เหมียวหง่าว ขอตั้งข้อสันนิษฐานไว้แบบนี้ครับ หากสังเกตดูดีๆ แล้วในคำสั่งได้บอกเอาไว้ว่าเป็นโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ซึ่งจากภาพที่ยกมานั้นเราจะเห็นได้ว่ามีบางข้อที่ถูก ซึ่ง ‘ตัวเลข’ ในข้อที่ถูกนั้นจะมีจำนวนน้อย แสดงว่าข้อนั้นเป็นข้อที่เด็กหาคำตอบได้จากการลบ แต่กลับกลายเป็นว่าข้อที่ต้องบวกนั้น ‘ผิดหมดเลย’ ตรงนี้อาจจะเป็นได้ว่า คุณครูน่าจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับโจทย์การบ้านอย่างแน่นอน!! ซึ่งล่าสุดเมื่อราวๆ 9 นาฬิกา ของวันนี้ ทางด้านคุณน้าของเด็กที่ทำการบ้านผิด และเป็นคนนำภาพเหล่านี้มาแชร์ในโลกโซเชียล ก็ได้ทำการโพสต์ชี้แจงแถลงไขถึงที่มาของการตรวจการบ้านในครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว ลองไปอ่านโพสต์เต็มๆ กันดูครับ เมื่อทราบดังนั้นแล้วชาวเน็ตมากมายต่างก็เข้าไปให้ความเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าคนเรามันผิดพลาดกันได้ เป็นการจบที่สวยงาม…
-
เมื่อลูกค้าเบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง เจ้าหนี้เลยจัดการทวงเงินผ่าน “ป้ายโฆษณา” ซะเลย!!
พูดถึงอาชีพที่สมัยนี้เป็นที่นิยมกันมากขึ้นอย่างรับจ้างอิสระหรือฟรีแลนซ์แล้ว หลายๆ คนคงทราบข้อดีของมันแล้วไม่ว่าจะเป็นการที่เราสามารถบริหารเวลาการทำงานเองหรืออาจจะเป็นการเลือกสถานที่ทำงานเองได้ แต่มันก็มีข้อเสียอยู่ด้วย นั่นคือพวกเขาต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะถูกเบี้ยวค่าจ้างนั่นเอง เหมือนกับเรื่องราวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งของลูกค้าขี้เบี้ยวที่ไม่ยอมจ่ายเงินให้กับคนที่เขาไปจ้างมาเป็นเวลา 6 สัปดาห์ เจ้าหนี้เลยต้องเล่นไม้แข็ง เอารูปของลูกหนี้ขึ้นบนป้ายโฆษณาอย่างใหญ่โตซะเลย!! วันที่ 17 กันยายน 2018 ได้มีสมาชิกบอร์ด Reddit นามว่า jimbobilly81 ได้ตั้งกระทู้ชื่อว่า “นี่คือ Dave” พร้อมแนปลิงค์รูปข้างต้นไว้ในกระทู้ โดยในรูปนี้มีข้อความว่า “นี่คือ Dave Dave ไม่ยอมจ่ายค่าจ้างสำหรับงานที่เสร็จไปแล้ว 6 อาทิตย์ก่อน อย่าเป็นเหมือน Dave ฉันก็มีรายจ่ายที่ต้องจ่ายเหมือนกันนะ! #จ่ายอะไรที่คุณติดค้างอยู่” จากการสืบแล้วพบว่าป้ายโฆษณาดังกล่าวเป็นป้ายที่ตั้งอยู่ข้างๆ กับ McDonald ในเมือง Halesowen สหราชอาณาจักร หลังจากที่เขาโพสต์กระทู้นั้นลงในบอร์ด Reddit เหล่าสมาชิกบอร์ดก็ได้เข้ามาคอมเมนต์กันอย่างมากมาย มีชาวเน็ตคนหนึ่งมาคอมเมนต์ว่า “จ่ายๆ เขาไปสิ Dave !!” และก็มีผู้ใช้บอร์ดที่ชื่อว่า Dave_the_timekeeper เข้ามาเล่นมุกว่า “ไม่มีวัน”…
-
สามีถูกฟันเสียชีวิตต่อหน้าภรรยา เหตุครอบครัวฝ่ายหญิงละอาย ‘ลูกเขยวรรณะต่ำ’
เรื่องของชนชั้นวรรณะในประเทศอินเดีย ยังคงถูกยึดมั่นไม่เสื่อมคลายไปตามยุคสมัย ซึ่งในเรื่องของชนชั้นวรรณะที่แตกต่างกัน ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โศกนาฏกรรมความรักต้องห้ามของนาย Pranay Kumar วัย 24 ปี ผู้เป็นสามีของนาง Amrutha Varshini วัย 23 ปี ในขณะที่กำลังเดินออกจากโรงพยาบาล หลังเสร็จสิ้นจากการตรวจสุขภาพ แต่เขากลับถูกมือสังหารที่เดินตามหลังมา ใช้มีดพร้าฟันเข้าบริเวณคอเข้าอย่างจัง โดยที่ภรรยาก็ยังอุ้มท้องเห็นภาพดังกล่าวต่อหน้าต่อตา ในวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ภรรยาที่เข้าตาจน พยายามห้ามปรามให้คนร้ายหยุด ในขณะที่ Pranay นอนล้มตัวลงไปบนพื้นและถูกฟันย้ำเข้าที่หัวอีกครั้ง คนร้ายอาศัยจังหวะดังกล่าววิ่งหนีออกจากทิ้งเกิดเหตุพร้อมทิ้งมีดพร้า และหลังจากนั้น Amrutha จึงรีบวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือ ยื้อชีวิตสามีเป็นการด่วน แต่ด้วยบาดแผลที่รุนแรงเกินกว่าจะเยียวยาได้ ทำให้เขาเสียชีวิตในท้ายที่สุด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบเบาะแสของการก่อเหตุในครั้งนี้ คาดว่าเป็นการฆ่าเพื่อรักษาเกียรติยศ (ยโศโฆษาฆาต) เนื่องจากสามีและภรรยาคู่นี้ มาจากต่างชนชั้นวรรณะกัน โดยที่ภรรยามาจากวรรณะแพศย์ (ชาวไร่หรือพ่อค้า) ส่วนทางด้านสามีนั้นเป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์ ที่เปลี่ยนมาจากฮินดู แต่ไม่อาจหนีพ้นระบบวรรณะที่ถูกมองว่าต่ำกว่าไปได้ ซึ่งเขาถูกตีตราว่าเป็นจัณฑาล…
-
ลูกแพะตกบ่อจนเกือบจมน้ำตาย แต่กู้ภัยมาช่วยไว้ทันเวลา มันจึงได้กลับสู่อ้อมกอดแม่อีกครั้ง
เมื่อ Animal Aid Unlimited ได้รับแจ้งจากคนเลี้ยงแพะว่า ลูกแพะตกลงไปในบ่อและกำลังจะจมน้ำตาย พวกเขารู้ว่าต้องไปช่วยเหลือมันอย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึง พวกเขาเห็นลูกแพะอยู่ในบ่อ มันรอความช่วยเหลือด้วยความหวาดกลัว และเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ช่วยเหลือด้วยแววตาที่เหนื่อยล้า เห็นได้ชัดว่าเจ้าแพะน้อยตะเกียกตะกายขึ้นมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ไม่สำเร็จ จนมันเตรียมใจที่จะยอมแพ้ แพะน้อยผู้น่าสงสารเหลือเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อย และมันแทบจะไม่สามารถลอยตัวได้ ทีมช่วยเหลือจึงรีบหย่อนเชือกลงไปและเริ่มทำตามแผนที่เตรียมไว้ หนึ่งในผู้ช่วยเหลือได้ผูกเชือกไว้รอบเอว โดยคนที่เหลือคอยจับเชือกเอาไว้แน่น ทันทีที่ลงไปถึงผิวน้ำ เจ้าแพะก็รีบลุกขึ้นไปหาเขาทันที เหมือนมันรู้ว่ามนุษย์คนนี้ลงมาเพื่อช่วยมัน จากนั้น ผู้ช่วยเหลือก็ได้กอดเจ้าแพะไว้กับตัว แล้วก็ปีนขึ้นไป โดยมีคนอื่นๆ คอยดึงเชือกให้ ทันทีที่ถึงพื้นดิน ผู้ช่วยเหลือคนอื่นๆ ก็อุ้มมันต่อ แล้วคอยปลอบใจมัน รวมไปถึงเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้มัน นั่นเป็นช่วงเวลาที่แพะน้อยรู้สึกโล่งใจมาก เพราะมันรู้ว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว แต่มากไปกว่านั้น มันอยากกลับไปอยู่ในอ้อมกอดแม่อีกครั้ง หลังจากที่ตรวจจนแน่ใจแล้วว่าแพะน้อยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร พวกเขาจึงพามันกลับไปหาแม่ ขณะที่แพะน้อยตื่นเต้นหนักมาก มันแทบจะรอไม่ไหวที่จะกลับไปอยู่ข้างๆ แม่ เมื่อเจ้าหน้าที่ปล่อยแพะน้อยกลางฝูงแพะ มันก็วิ่งไปหาแม่ทันที ขณะที่แม่ของมันดูมีความสุขมากเช่นกันที่เห็นลูกกลับมาอย่างปลอดภัย ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเกี่ยวกับลูกแพะแล้ว แต่ทุกคนก็หวังว่ามันจะจำเหตุการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียนและไม่เข้าใกล้บ่อน้ำอีก ภารกิจช่วยแพะน้อยที่ตกลงไปในบ่อน้ำ …
-
เด็กๆ ในเยอรมนีรวมตัว “เดินขบวนประท้วง” พ่อแม่ สาเหตุที่เอาแต่สนใจโทรศัพท์มือถือ!
ก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟน นั้นจำเป็นจริงๆ บางครั้งมันเป็นสิ่งที่ที่มนุษย์หลายคนแทบจะวางมือจากมันไม่ได้เลยทีเดียว ถึงแม้ประโยชน์ของสมาร์ตโฟนจะมีมากมายแต่ มันก็ส่งผลเสียไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะในเชิงสังคมที่ผู้คนมักเลือกมีปฏิสัมพันธ์กับอิเล็กทรอนิกส์มากกว่ามนุษย์ด้วยกันเอง งานนี้ผลร้ายจึงตกไปสู่เหล่าเด็กๆ ที่ต้องการความอบอุ่น ความรัก และความใส่ใจจากพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ผู้ที่ควรจะเป็นผู้ดูแลกาย จิตใจ และมิติทางสังคมของเด็ก กลับเอาแต่เล่นสมาร์ตโฟนแทนที่จะเล่นกับลูก เหล่าเด็กๆ ราว 150 ชีวิตจึงออกมา ‘เดินขบวนประท้วง‘ ในเมืองฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนี นำโดย Emil Rustige เด็กชายวัย 7 ขวบ ที่เดินพร้อมกับถือป้ายสโลแกนว่า “เล่นกับผมสิ ไม่ใช่เล่นกับโทรศัพท์” Emil Rustige วัย 7 ขวบ เรื่องราวเริ่มจากการที่ Emil Rustige ไม่พอใจที่พ่อแม่ของตนติดการใช้โทรศัพท์มือถือ เขาจึงต้องการเดินประท้วงสำหรับเรื่องนี้ “ผมอยากไปเล่นนอกบ้านกับเพื่อน แต่พ่อไม่ได้ให้ไป ผมก็เล่นอยากเล่นกับพ่อที่บ้าน แต่พ่อก็ดันเอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือ” Emil กล่าว เขาจึงบอกกับพ่อแม่ว่าอยากเดินขบวนประท้วงเกี่ยวกับเรื่องนี้ พ่อแม่ของเขาจึงช่วยเหลือโดยการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จัดการเรื่องของขบวนประท้วงสำหรับเด็กๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความช่วยเหลืออย่างดีเยี่ยม มีการจัดการปิดถนนหลายเส้นเพื่อให้เด็กๆ…
-
เด็กหญิงมีดวงตากลมโต ไม่ใช่เอกลักษณ์ของความน่ารัก แต่เป็นโรคหายากชนิดหนึ่ง…
การที่ร่างกายผิดแปลกไปจากคนทั่วไป สามารถมองได้ 2 ทางทั้งด้านบวกและด้านลบ ตัวอย่างจากความผิดปกติในดวงตาของเด็กหญิงวัย 2 ขวบ Mehlani เธอมีดวงตาที่กลมโตมากๆ ผู้คนต่างกันพาชื่นชมในความน่ารัก แต่หารู้ไม่ว่าเธอนั้นประสบกับโรคหายากชนิดหนึ่ง ที่ส่งผลต่อพัฒนาการของดวงตา… Karina Martinez ผู้เป็นแม่เปิดเผยว่า คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันมักจะชื่นชมดวงตาลูกสาวของเธออยู่เสมอ ว่ามีดวงตากลมโตสวยงาม เนื่องจากว่าพวกเขาไม่รู้ว่าลูกสาวของเธอเป็นอะไร ซึ่งโรคดังกล่าวก็คือ Axenfeld – Rieger syndrome อาการของต้อหินที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่กำเนิด ทั้งนี้ Axenfeld-Rieger syndrome จะส่งผลกระทบต่อกระจกตาและม่านตา จึงทำให้ดวงตานั้นมีลักษณะที่แตกต่างจากคนทั่วไป ในส่วนของม่านตาหรือตาดำนั้นอาจจะมีขนาดเล็กหรือผิดรูปไป นอกเหนือจากนั้นหากผู้ป่วยมีอาการของต้อหินร่วมด้วย จะทำให้เกิดความดันจากภายในดวงตา ส่งผลเสียหายต่อประสาทตาได้หากไม่รักษา และจะทำให้ดวงตาของเด็กมีขนาดที่ใหญ่ผิดปกติ และอาจสูญเสียการมองเห็นได้ในอนาคต หนูน้อย Mehlani เป็นต้อหินจึงทำให้มีสภาพดวงตาใหญ่ผิดปกติ แต่ยังคงมองเห็นได้อยู่ คุณแม่ยังไม่แน่ใจว่าอาการของลูกจะเป็นอย่างไรในอนาคต ซึ่งในระหว่างการออกไปนอกบ้านก็ต้องให้ลูกสวมแว่นตากันแดดอยู่ตลอด เนื่องจากดวงตาของเธอนั้นไวต่อแสงอย่างมาก… Everytime were out & a stranger…
-
คุณตาใจเด็ดวัย 83 ไม่กลัวโจรอุกอาจบุกปล้นโต๊ะพนัน ไล่เตะไล่ต่อยทั้งที่โจรมีอาวุธ…
ความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวในการตัดสินใจช่วงเสี้ยววินาที อาจจะนำไปสู่วีรกรรมสุดเท่หรือโศกนาฏกรรมสุดสลดก็ได้ ซึ่งโชคดีเหลือเกินที่สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่มีเรื่องร้ายๆ ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในโต๊ะพนันแห่งหนึ่ง ที่ถูกโจรสามรายสวมโม่ง พร้อมค้อนและลูกซองเข้าบุกปล้นด้วยความรวดเร็ว ซึ่งดูท่าแล้วน่าจะเตรียมพร้อมรับมือกับทุกคนที่มาขวางทาง แต่คงไม่คิดว่าจะเจอกับคุณตาวัย 83 ปี Denis O’Connor ท่านนี้ การบุกเข้าร้านอย่างรวดเร็วและเข้าประชิดตัวผู้จัดการโต๊ะพนัน Tim Murphy ทำให้คุณตาเห็นคิดว่า หากปล่อยเขาทิ้งเอาไว้อย่างนั้นคงไม่ดีแน่ คุณตาไม่หนีออกจากร้าน แต่กลับพุ่งเข้าไปประชิดตัวโจร ฉุดกระชากลากตัวออกมา โดยไม่คิดถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับชีวิตของตัวเอง เมื่อเห็นท่าไม่ดี โจรทั้งสามรายเริ่มล่าถอยออกไปจากร้าน คุณตาก็ยังไม่วายคว้าเก้าอี้หวังจะฟาดโจรให้บาดเจ็บ จังหวะชุลมุนที่เกิดขึ้น คุณตาก็ไล่เตะโจรคนสุดท้ายไปสองทีหนีหดหายไป โดยที่ไม่ได้อะไรไปจากร้านเลย… ภายหลังจากเกิดเหตุไปแล้ว คุณตา Denis ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Irish Independent ว่า ‘ผมไม่ได้คิดอะไรในตอนนี้ ผมแค่เข้าไปเลย ตอนที่ผมเห็นพวกมันประชิดตัว Tim ผมก็เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผมแค่อยากจะช่วยเขาไว้’ จะเห็นได้ว่าโจรที่ถือปืนลูกซอง พยายามขู่ยิงอยู่หลายครั้ง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นของจริงหรือของปลอม ซึ่งนับว่าโชคดีมากๆ ที่ไม่เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น…
-
คดีปริศนาในออสเตรเลีย เมื่อชาวออสซี่พบ “เข็ม” ถูกซ่อนอยู่ในสตรอว์เบอร์รี่หลายยี่ห้อ
ผลไม้เป็นหนึ่งในอาหารที่มนุษย์สามารถรับประทานได้ โดยที่มีให้เลือกรับประทานหลายชนิดตามความชอบของแต่ละคน แต่จะเป็นอย่างล่ะหากทานผลไม้ที่ชอบอยู่แล้วเจอ “เข็ม” ซ่อนอยู่ในนั้น เหมือนกับในช่วงที่ผ่านมาตามร้านขายผลไม้ต่างๆ ในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้เกิดคดีปริศนาขึ้น เมื่อมีคนพบเข็ม อยู่ในเนื้อของสตรอว์เบอร์รีหลายๆ ลูก เหตุการณ์เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย โดยที่มีลูกค้าคนหนึ่งซื้อสตรอว์เบอร์รีแล้วต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากทานสตรอว์เบอร์รีลงไปและพบว่ามีเหล็กแหลมซ่อนอยู่ในนั้น ก่อนที่จะมีคนอื่นๆ พบเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันตามมาภายหลัง สตรอว์เบอร์รีหลายๆ แบรนด์ต้องเรียกเก็บผลิตภัณฑ์คืน รวมถึงร้านขายของจากนิวซีแลนด์ถึงขั้นสั่งห้ามขายสตรอว์เบอร์รีที่มาจากออสเตรเลียในทันที โดยที่ความน่ากลัวของคดีนี้ไม่ได้อยู่เพียงแค่ผลไม้ชนิดเดียว เพราะล่าสุดมีการจับกุมหญิงชราวัย 62 ปี ขณะกำลังแอบนำเข็มใส่เข้าไปในกล้วย (เจ้าหน้าที่คาดว่าหญิงชราคนนี้เป็นพวกที่ทำพฤติกรรมเลียนแบบหรือที่เรียกกันว่า Copycat) Neil Handasyde ประธานสมาคมผู้ปลูกสตรอว์เบอร์รีได้กล่าวว่า “ในฐานะผู้ปลูก เราแน่ใจเลยว่าเข็มพวกนี้ไม่ได้มาจากฟาร์มอย่างแน่นอน พวกเราพยายามที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจเวลาที่พวกเขาซื้อ ว่าสตรอว์เบอร์จะไม่กลายเป็นอย่างอื่นที่นอกเหนือกว่าสตรอว์เบอร์รี่ที่พวกเขาสามารถทานได้อย่างปลอดภัย“ รวมถึง Handasyde ยังกล่าวอีกว่าพวกเขาได้ทำการติดตั้งเครื่องตรวจจับโลหะมูลค่าสูงถึง 471,000 บาทไว้ในฟาร์มเพาะพันธุ์สตรอว์เบอร์รีแต่ละฟาร์มด้วย เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อผู้บริโภคเพียงเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบรวมไปถึงผู้ผลิตและร้านค้าผลไม้เกือบทั้งหมดอีกด้วย โดยอย่างที่บอกไปว่าประเทศอื่นๆ ถึงขั้นสั่งห้ามไม่ให้ขายสตรอว์เบอร์รี่ที่มีจากออสเตรเลีย รวมถึงราคาสตรอว์เบอร์รีในประเทศออสเตรเลียยังลดลงอย่างกะทันหันอีกด้วย Ian Stewart เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งรัฐควีนส์แลนด์ ได้รายงานว่า…
-
พ่อและพี่สาวสามีร่วมมือกัน วางยาภรรยา ข่มขืน ถ่ายคลิป ขู่แบล็กเมล์หากแจ้งตำรวจ
เป็นอีกหนึ่งคดีการถูกคุกคามทางเพศของหญิงสาวในประเทศอินเดีย ภรรยาโชคร้ายถูกพ่อและพี่สาวสามีรวมหัวกัน วางยา จากนั้นก็โดนข่มขืนและถูกถ่ายคลิปเอาไว้ จากการรายงานบอกว่าหญิงสาวคนดังกล่าวอาศัยอยู่ในเมืองปาเตียลา โดยเธอได้แต่งงานเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ภายในบ้านหลังนี้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2018 แต่ดูเหมือนว่าครอบครัวทางฝั่งสามีจะไม่ค่อยพอใจในค่าสินสอดที่ได้รับสักเท่าไหร่ (ประเทศอินเดีย ฝ่ายหญิงเป็นคนจ่ายค่าสินสอดให้ฝ่ายชาย) และนั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาตามมาหลังจากนั้น วันเวลาผ่านไป เริ่มมีการกระทบกระทั่งกันภายในครอบครัว สามีของเธอกดขี่เอาเปรียบภรรยาสาว มีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น จนเธอต้องเอาเรื่องนั้นไประบายกับพี่สาวของสามี เธอไม่รู้เลยว่าคนที่เธอไประบายความทุกข์ด้วยนั้น ในวันต่อมาจะกลายเป็นคนที่สร้างความทุกข์ใจให้กับเธอมากกว่าเดิม หลังจากที่พี่สาวสามีได้แอบวางยาเอาไว้ในนมที่ให้เธอดื่ม ต่อจากนั้นเธอก็ถูกพ่อของสามีข่มขืน โดยมีพี่สาวสามียืนถ่ายคลิปการกระทำทั้งหมดเอาไว้ เมื่อเธอได้สติและจะไปแจ้งตำรวจ เธอก็ถูกขู่ว่าจะโดนเอาคลิปออกไปเผยแพร่ ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปได้ เธอตัดสินใจเข้าแจ้งความในวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหากับทั้ง 2 คน ในความผิดก่อให้เกิดความเสียหายโดยใช้ยาผิด กระทำความผิดในคดีอาญา และล่อลวงกักขังหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว ตามกฎหมายอินเดีย อย่างไรก็ตาม คดีความดังกล่าวยังคงอยู่ในช่วงของการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ยังคงไม่มีการเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด ที่มา: mirror , dailymail
-
สายเขียวต้องไม่พลาด! Coca-Cola กำลังพัฒนาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ “กัญชา”
“กัญชา” คือชื่อของพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ซึ่งมีสรรพคุณที่ส่งผลต่อประสาท ทำให้มันสามารถนำไปประยุกต์เป็นยารักษาโรคเพื่อใช้ในทางแพทย์ ส่วนการแปรรูปของกัญชาเป็นอย่างอื่นยังไม่เป็นที่ยอมรับของทั่วโลกนัก แต่ไม่ใช่กับประเทศแคนาดาที่ล่าสุดได้กลายเป็นประเทศที่สองที่สามารถปลูกและนำกัญชามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างถูกกฎหมาย แม้ว่าจะต้องรออีกประมาณสองเดือนเป็นอย่างต่ำถึงจะสามารถซื้อมันอย่างถูกกฎหมายได้ ด้วยความน่าสนใจและโอกาสทางธุรกิจ ทำให้หลายๆ บริษัทเล็งหาช่องทางที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับการแปรรูปกัญชากันมากขึ้น รวมถึงบริษัทน้ำอัดลมชื่อดังอย่าง Coca-Cola เองก็ด้วย Coca-Cola ถือว่าเป็นบริษัทน้ำอัดลมที่เป็นเจ้าของแบรนด์กว่าอีก 500 แบรนด์รวมถึง Sprite, Fanta และ Costa Coffee และตอนนี้พวกเขาก็กำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจาธุรกิจกับบริษัทจากแคนาดาอย่าง Aurora Cannabis บวกกับความนิยมของน้ำอัดลมที่มีอัตราลดลง ทำให้ Coca-Cola เริ่มมองหาเส้นทางของสายผลิตชิ้นใหม่โดยใช้ส่วนผสมเป็นกัญชา และเชื่อกันว่า Coca-Cola นั้นสนใจที่จะพัฒนาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ Cannabidiol หรือที่เรียกกันว่า CBD สารเคมีที่มีอยู่ในพืชอย่างกัญชา (แต่ CBD ไม่มีผลข้างเคียงทางจิต) ตามที่บอกไปข้างต้น หลังจากที่แคนาดาประกาศการแปรรูปกัญชาอย่างถูกกฎหมายแล้ว มีหลายๆ บริษัทได้ให้ความสนใจและเข้าร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ทำคนดื่มรู้สึก “ตื่นเต้น ซาบซ่าน” แต่สำหรับ Coca-Cola ที่ร่วมมือกับ Aurora แล้ว มีรายงานว่าพวกเขาไม่ได้พัฒนาเครื่องประเภทนั้น แต่กำลังพัฒนาเครื่องดื่มที่ช่วยรักษาอาการอักเสบ อาการเจ็บปวดหรือตะคริวเสียมากกว่า…
-
มหาเศรษฐีญี่ปุ่นลงชื่อกับ SpaceX เพื่อจะเป็นนักท่องเที่ยวรายแรก ออกทริปไปดวงจันทร์!!
รูปแบบของการท่องเที่ยว อาจจะถูกขยายฐานออกไปนอกโลกได้ในสักวันหนึ่ง เมื่อโครงการอันน่าเหลือเชื่อ เริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว หลังจากที่ทางมหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่น Yusaku Maezawa ได้ทำการลงชื่อตนเอง เพื่อเป็นพลเมืองรายแรกที่ได้ออกไปท่องเที่ยวนอกโลก โดยที่มี Elon Musk เป็นผู้ประกาศผ่านงานอีเวนท์ของ SpaceX เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Elon ได้อธิบายแผนการของโครงการ Big Falcon Rocket (BFR) ของทาง SpaceX ว่าจะเป็นอากาศยานนำร่องสู่นอกอวกาศ แต่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ และยังต้องการเงินทุนจำนวนหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าสำเร็จเมื่อไหร่ จะสามารถพาบินไปถึงดวงจันทร์ได้ และจะมีนาย Maezawa ขึ้นไปด้วย… ทั้งนี้ที่ผ่านมา SpaceX ได้เผยข้อมูลว่ามีมนุษย์เพียง 24 คนเท่านั้นที่เคยไปเหยียบดวงจันทร์ และการที่จะนำใครสักคนหนึ่งที่ไม่ใช่นักบินอวกาศขึ้นไป คืออีกหนึ่งก้าวแห่งความสำเร็จในการแผ่ขยายชีวิตของมนุษย์ออกไปทั่วจักรวาล ทางด้านนาย Maezawa วัย 47 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัท Start Today ผู้อยู่เบื้องหลังเว็บไซต์ของแบรนด์แฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่น Zozo และเขาก็ยังเป็นนักสะสมชิ้นงานศิลปะตัวยง…
-
Hara อดีตสมาชิกวง KARA โพสต์ภาพถูกแฟนหนุ่ม “ทำร้าย” จนร่างกายฟกช้ำหนัก
การทะเลาะวิวาทระหว่างคู่รักเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ถึงอย่างไร ความรุนแรง และ การทำร้ายร่างกาย คือสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะมันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีเท่าใดนัก ล่าสุด แม้ว่าจะเป็นคนดังที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปยังหลายๆ ประเทศทั่วโลก เช่น ศิลปิน K-Pop เองก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องราวของความรุนแรงและการทำร้ายร่างกาย Hara (Goo Ha-ra) นักร้องและนักแสดงสาวสัญชาติเกาหลี อดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป KARA ได้เผยภาพรอยฟกช้ำบนแขนและขาของเธอลงบนโลกออนไลน์ โดยกล่าวว่าเป็นผลมาจากการถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย ภาพถูกโพสต์ลงเว็บไซต์ Dispatch ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนเกิดความสะเทือนใจที่ได้เห็นภาพรอยฟกช้ำจำนวนมากบนร่างกายของ Hara Hara อดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป KARA ภาพรอยฟกช้ำและบาดแผลบนร่างกายของเธอ ทั้งแขน ขา เท้า หัวเข่า และข้อศอก . นอกจากนี้ Hara ยังโพสต์ภาพใบรับรองแพทย์ของเธอ ประกอบไปด้วยการวินิจฉัยจากสูติแพทย์และศัลยแพทย์กระดูก ตามคำวินิจฉัยของสูติแพทย์ Hara มีเลือดคั่งในท่อปัสสาวะและช่องคลอดเนื่องจากการถูกทำร้าย เธอจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาราวหนึ่งสัปดาห์ในการรักษา ใบกำกับการวินิจฉัย (สูติแพทย์) ขณะเดียวกันทางฝ่ายของศัลยแพทย์กระดูกก็กล่าวว่าเธอได้รับความบาดเจ็บซ้ำๆ บ่อยครั้ง เป็นไปได้ที่จะทำให้เกิด เอ็นกระดูกคอบาดเจ็บ กระดูกใบหน้าช้ำและแพลง กระดูกขาส่วนล่างช้ำและแพลง และเอ็นกระดูกปลายแขนขวาฉีกขาด ใบกำกับการวินิจฉัย…
-
แม่โกหกทุกคนว่าเป็น “มะเร็งรังไข่” หลอกเอาเงินครอบครัวและเพื่อนๆ ไปมากกว่า 9 ล้านบาท
ตอนเด็กๆ เราอาจเคยแกล้งป่วยเพราะไม่อยากไปโรงเรียน หรือบางครั้งเราอาจแกล้งทำตัวอ่อนแอเพราะอย่างอ้อนใครสักคน แต่บอกเลยว่าการแกล้งหลอกๆ อะไรทำนองนั้นมันดูจืดไปในทันที เมื่อเทียบกับของคุณแม่คนนี้ Kelly Val Smith คุณแม่ลูกสามวัย 40 ปี เธอคือนักต้มตุ๋นที่หลอกได้แม้กระทั่งครอบครัวของตัวเอง โกหกทุกคนว่าป่วยเป็น “มะเร็งรังไข่” หลอกเอาเงินคนใกล้ชิดไปมากกว่า 9 ล้านบาท Kelly คุณแม่ลูกสาม จากการรายงานบอกว่าเธอถูกจับกุมตัวในช่วงเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่หอบเงินก้อนใหญ่หนีไปด้วยการโกหกทุกๆ คนมาตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี นับตั้งแต่ปี 2007-2015 เธอบอกทุกคนว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งมาโดยตลอด หลอกแม้กระทั่งลูกๆ ของตัวเอง หลอกเอาเงินจากแม่แท้ๆ รวมถึงแอบเข้าไปยักยอกเงินบำนาญ แอบเอาบัตรเครดิตของแม่เธอไปใช้ แล้วเธอก็จะคอยโพสต์เฟซบุ๊กอัพเดตอาการอยู่เรื่อยๆ ทำเหมือนว่าต้องเข้าไปพบแพทย์อยู่เสมอ หลอกจนคนใกล้ชิดญาติสนิทมิตรสหายเชื่อกันอย่างสนิทใจ การหลอกเอาเงินของเธอทำให้หลายๆ คนถึงกับต้องมีปัญหาในเรื่องของการเงิน บางคนยอมเอาสิ่งของบางอย่างไปแลกเป็นเงิน ไปกู้เงินมาช่วยเหลือเธอ จนไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคของตัวเองได้ Michelle Ingley-Smith แม่ของสามีที่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงนี้ เธอบอกว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเหมือนกับการตัดขาดความสัมพันธ์ของเธอและฝั่งสามีไปในทันที แม่สามียังบอกอีกว่า Kelly ใช้ความใจดี ความสงสาร…
-
คลิปสุดสะเทือนใจภายใน “ศูนย์วิจัยวานร” ลิงถูกทดลอง วางยา สัก ในขณะที่คนก็ร้องเพลงไป
เราอาจเคยเห็นการทดลองหลายๆ อย่างกันมาก่อน และนี่คงเป็นอีกหนึ่งการทดลองอันน่าสลดใจที่อาจทำให้หลายๆ คนต้องรู้สึกกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ไม่คิดว่านี่จะเป็นการกระทำของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น สิ่งที่เรากำลังจะได้เห็นต่อไปนี้คือคลิปที่แอบถ่ายภายในศูนย์วิจัย Biomedical Primate ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัย “วานร” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศยุโรป คำเตือน ภาพและเนื้อหาอาจมีความรุนแรง กระทบกระเทือนต่อความรู้สึก กลุ่มคุ้มครองสัตว์ Animal Defender International (ADI) ได้แอบถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นจริงภายในศูนย์วิจัยแห่งนั้น แสดงให้เห็นว่าลิงจำนวนมากจะต้องเผชิญและใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไรบ้าง จากข้อมูลบอกว่าลิงเหล่านี้จะถูกวางยาที่ทำให้มันมีอาการสะลึมสะลือ ไม่สามารถขัดขืนใดๆ ได้ แต่ยังคงมีความรู้สึกเจ็บปวดอยู่ ก่อนที่ผู้วิจัยจะสักอะไรบางอย่างลงไปบนร่างกายของมัน การวางยาในลักษณะดังกล่าวถือว่าเป็นอันตรายกับพวกลิงอย่างมาก เพราะมันจะเหมือนตกอยู่ในอาการมึนเมา ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บอยู่เสมอ ไม่ใช่แค่สัก แต่ยังรวมไปถึงการถูกนำไปทดลองต่างๆ นานา มีการทดลองยาหลายๆ ชนิดกับพวกมัน โดยที่แน่นอนว่าลิงทุกตัวไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากถูกขังไว้ในกรง รอคนจับไปทดลองเท่านั้นเอง นอกจากนั้นภายในคลิป เราจะเห็นว่าผู้วิจัยกลุ่มหนึ่งมีการร้องเพลงออกมาอย่างสนุกสนาน เพลิดเพลินไปกับการทดลองลิงแต่ละตัว “ไม่ใส่ใจต่อชะตากรรมของพวกมันเลย” ADI กล่าว หากลิงตัวไหนที่หมดประโยชน์แล้ว…
-
ประมวลภาพเหตุการณ์ไต้ฝุ่น ‘มังคุด’ หลังเข้าถล่มฮ่องกง ทิ้งร่องรอยความเสียหายอย่างหนัก
เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น เกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติเข้าถล่มฮ่องกง และมุ่งหน้าเข้าสู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ส่งผลทำให้ทางการจีนต้องสั่งอพยพประชาชนกว่า 3 ล้านคนเป็นการเร่งด่วน ‘ไต้ฝุ่นมังคุด’ ถือได้ว่าเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงมากที่สุดที่เกิดขึ้นในรอบปี 2018 นี้ ด้วยความเร็วของแรงลมที่มากถึง 228 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถพัดพาทุกสิ่งให้ลอยไปตามกระแสลมได้อย่างง่ายดาย แม้แต่กระทั่งตัวตึกเองก็ยังโยกเยกไปตามลมได้ หลังจากที่พายุมาถึงประเทศจีน ก่อให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมทะลักเข้าพื้นที่ https://twitter.com/MattBossons/status/1041184791125798912 ทั้งนี้ หลังจากที่พายุได้ผ่านเส้นทางมาจากฮ่องกง ก็หลงเหลือไว้เพียงความเสียหายอย่างหนัก เศษซากต่างๆ ถูกกองทิ้งไว้อยู่กลางถนนหนทาง ประชาชนได้รับบาดเจ็บสาหัส และสิ่งที่น่ากลัวมากๆ ก็คือความเสียหายที่เกิดขึ้นบนตึกสูงหลายช่วงตึก… https://twitter.com/HintMan/status/1041240907180175360 พายุไต้ฝุ่นนั้นรุนแรงถึงขนาดที่ว่าสามารถทำให้ตึกระฟ้าหลายแห่งในฮ่องกงเกิดอาการสั่นสะเทือนได้ อีกทั้งยังทำให้เครนก่อสร้างตึกที่ยังไม่เสร็จ ถล่มร่วงลงมา I've been in many typhoons, but this one in Hong Kong is pretty bad. This footage is circulating in Hong…
-
4 ประสบการณ์ชีวิตหลังความตายจากชาวเน็ต ที่จะทำให้ต้องคิดว่าตายแล้วจะเป็นอย่างไร!?
“ความตาย” เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าความตายเป็นยังไง แต่ภาพยนตร์ต่างๆ มักแสดงชีวิตหลังความตายแตกต่างออกไป บ้างก็ว่าตกนรก บ้างก็ว่าไปพบเจอกับเพื่อนหรือญาติพี่น้องที่รออยู่อีกฝั่ง และที่ผ่านมาเราก็จะเห็นคนตั้งคำถามเกี่ยวกับความตายอยู่บ่อยๆ ว่าสรุปหากเราตายไปแล้วจะเป็นอย่างไรกันแน่ วันนี้เราจึงได้นำเรื่องราวกระทู้ที่มีคนตั้งขึ้นในบอร์ด Reddit เกี่ยวกับประสบการณ์ตายแล้วฟื้น ซึ่งแต่ละคนก็เข้ามาเล่าเรื่องชีวิตหลังความตายที่แตกต่างกันไป เราจึงนำเรื่องราวเด่นๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ ว่าแล้วเราก็ไปดูกันดีกว่าว่าเรื่องราวชีวิตหลังความตายของแต่ละคนจะเป็นอย่างไรกันบ้าง 1. ชีวิตหลังความตายที่เหมือนกับการอ่านหนังสือ 5 ปีก่อน สมาชิกชื่อว่า monitormonkey ได้เข้ารับการผ่าตัดครั้งใหญ่และครั้งนั้นทำให้ชีพจรของเขาหยุดเต้นไปหลายนาที ก่อนที่จะกลับฟื้นขึ้นมาได้ เขาได้โพสต์ข้อความว่า “ผมตื่นขึ้นมาในที่ที่ดูเหมือนกับอวกาศแต่ไม่มีแสงหรือดวงดาว มันไม่ร้อนไม่หนาว ไม่มีความหิวหรือความเหนื่อยเลย มีแต่ความเงียบสงบ และผมก็รู้ว่ามีแสงและความรักจากที่ไหนสักแห่งใกล้ๆ นั้น แต่ผมยังไม่ต้องการที่จะไปทางนั้น มันไม่เหมือนกับภาพตัด มันเหมือนกับเราได้พลิกหน้าหนังสือแล้วโผล่เข้าไปและออกมาจากที่นั่นเสียมากกว่า ไม่ว่าสิ่งนั้นจะคืออะไร มันช่วยเปลี่ยนความคิดบางอย่างของผมได้ ผมยังคงกลัวความตายอยู่ แต่ผมไม่กังวลเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นแล้ว” 2. ได้เจอกับคนที่เรารัก สมาชิกชื่อ Schneidah7 ได้ประสบอุบัติเหตุจักรยานยนต์ เขาเสียชีวิตลงก่อนที่จะฟื้นกลับมาหลังจากถูกนำส่งโรงพยาบาล เขาได้โพสต์เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เขาจากไปตลอดกาลว่า “เหตุผลเดียวที่ผมไม่หลับไปตลอดกาล เพราะรู้สึกมีคนตะโกนว่า ‘ลุกขึ้นไอ้กาก ไม่เอาน่า ลุกขึ้น ลุกขึ้นมาสิโว้ย!’ ทันใดนั้นผมก็รู้สึกว่ามีคนตบหมวกกันน็อกของผม และเมื่อลืมตาขึ้นมาดูผมก็เห็นพี่ชายของผม…
-
เพื่อนบ้านใช้เวลากว่า 11 ปี สูญเงินกว่า 5 ล้านบาท เพื่อต่อสู้แย่งที่จอดรถแค่ 30 นิ้ว
เราอาจเคยมีปัญหาความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน อย่างเช่นเถียงกันว่าพื้นที่ตรงกลางนั้นเป็นของใครกันแน่ จนบางครั้งอาจถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้เองก็เช่นกัน เมื่อเกิดการแย่งชิงระหว่างผู้อยู่อาศัยมานานกว่า 10 ปี ต้องหมดเงินไปมากกว่า 5 ล้านบาท เพียงเพราะต้องการครอบครองที่จอดรถพื้นที่เพียงแค่ 30 นิ้ว นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนาย Alan Soden วัย 85 ปี เจ้าของที่ดินในเขต Berkshire ประเทศอังกฤษ โดยเขาซื้อที่แปลงนี้ไว้ตั้งแต่ปี 1987 ก่อนจะปล่อยให้คนมาเช่าสร้างบ้าน และส่วนหนึ่งทำเป็นลานจอดรถ จนกระทั่งในปี 2007 ก็ได้มีผู้เช่าเข้ามาร้องเรียนกับเขาว่าไม่สามารถเข้าประตูสวนหลังบ้านของตัวเองได้ เพราะมีคนมาถือสิทธิ์บอกว่าตรงนั้นเป็นที่จอดรถของตัวเอง นำรถมาจอดขวางประตูเอาไว้อยู่เสมอ นาย Alan เจ้าของที่ คนที่บอกว่าตรงนั้นเป็นที่จอดรถของตัวเองก็คือนาง Annette และ Raymond Timmins สามีของเธอ โดยทั้งสองคนอ้างว่าพื้นที่ความกว้าง 30 นิ้วนั้นเป็นที่จอดรถของพวกเธอ ห้ามไม่ให้ใครเข้ามายุ่ง เรื่องนี้จึงเริ่มกลายเป็นปัญหาที่หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ Alan ตัดสินใจพาสองสามีภรรยาขึ้นไปตกลงกันในชั้นศาล โดยผ่านกระบวนการยุติธรรมมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปีเข้าไปแล้ว Annette…
-
เทศกาลถ่ายรูปบัตรประจำตัวนักเรียนโคตรแหวกแนว ส่งตรงจากโรงเรียนมัธยมอเมริกัน
ชีวิตช่วงมัธยมถือว่าเป็นชีวิตที่หลายๆ คนยกให้เป็นช่วงชีวิตที่สนุกที่สุด ได้สร้างความทรงจำมากมายไปกับเพื่อนๆ มากที่สุดและในชีวิตการเรียนแต่ละระดับเราต้องมีสิ่งที่เรียกว่า “บัตรประจำตัวนักเรียน” กันอยู่แล้ว โดยปกติการถ่ายรูปขึ้นบัตรก็จะเป็นรูปหน้าตรงเหมือนที่เราถ่ายในบัตรประชาชน แต่สำหรับ North Farmington High School แล้ว พวกเขาสามารถนำความสนุกสนานเข้ามารวมกับการถ่ายรูปหน้าตรงสุดน่าเบื่อได้ โดยที่ทางโรงเรียนจะจัดเทศกาลถ่ายรูปบัตรประจำตัวนักเรียนแบบที่ปล่อยฟรีสไตล์ให้นักเรียนอยากถ่ายแนวไหน จะเอาอะไรมาเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากก็ได้ ดังนั้นจึงได้เกิดความฮาสุดครีเอตแบบที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ครับ บัตรประจำตัวนักเรียนของพวกเขาจะเจ๋งขนาดไหนนั้นเราไปรับชมกันเล้ย ฉันคือผู้หญิงไร้อาวุธที่อันตรายที่สุดในโลก เรียกได้ว่าเป๊ะ!! เตรียมมากระทั่งน้องหมาด้วย 55 เจ๋งขนาดนี้ ยกนิ้วให้เลย!! ไม่ได้มาเดี่ยวนาจา แต่เรามาคอนเพลย์เป็นแพคคู่ Buttercup จาก Powerpuff girl ก็มา ทำซะเหมือนขุ่นแม่ Rihanna เลย องศาปากยังเหมือนนน เจ้าหญิง Leia มาอยู่นี่เอง ปีสุดท้ายแล้วเหรอ? คาดเข็มขัดเลยทุกคน!! การขโมยรูปลักษณ์ไม่ใช่เรื่องตลกนะ Jim!! สาวคนนี้อาจจะเนียนมาโฆษณาให้กับบริษัทประกันก็เป็นได้ …
-
หรือความซวยของ Post Marlone เฉียดตายหลายครั้ง จะเกิดจากแตะกล่องเฮี้ยนต้องคำสาป!?
หนึ่งในแรปเปอร์ดาวรุ่งดวงใหม่อย่าง Post Marlone เจ้าของรางวัล Best-Performing Albums of the Year กลับมีข่าวคราวไม่ดีออกมาบ่อยครั้ง หลังจากที่ประสบกับเหตุการณ์เฉียดตายอย่างกับถูกจัดบทให้เป็นคนซวยในหนัง Final Destination… เพราะเมื่อเดือนที่แล้วแรปเปอร์หนุ่ม ต้องเจอกับเหตุการณ์เครื่องบินเจ็ทขัดข้อง ร่อนลงจอดมาได้อย่างหวุดหวิดปลอดภัย โดยไม่ได้ห้อยพระชื่อดังจากประเทศไทยแต่อย่างใด… เกิดปัญหาเครื่องบินเจ็ท ล้อพังร่อนลงแทบไม่ได้ แต่ก็รอดมาได้ด้วยความเก่งของกัปตัน https://twitter.com/barstoolsports/status/1031997394173480960 เจ้าตัวเองก็ได้ออกมาแถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า ‘ยังอยู่รอดปลอดภัยดี พระเจ้าน่าจะเกลียดกรู แต่โทษทีพวกกองแช่ง กรูยังไม่ตาย’ ซึ่งประสบการณ์เฉียดตายของเขายังไม่จบง่ายๆ เพราะพี่แกดันมาเจอกับเหตุการณ์รถชนเมื่อต้นเดือนกันยายนอีกระลอก รถกรูพังยับ แต่ยังนั่งยองได้โว้ยยยยย Post Malone after surviving a car accident pic.twitter.com/gfW8XKIHHr — L☹️VE (@digitaItears) September 9, 2018 ซึ่งไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพราะความดวงซวยที่มันดันมาเกิดกับพี่แกพอดี หรือว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเขาโดนคำสาปจากวิญญาณร้ายที่กำลังหมายปองเอาชีวิตแกอยู่… ล่าสุดทางเว็บไซต์ TMZ ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอของ…
-
หนุ่มแต่งตัวเป็น ‘แมคโดนัน’ เกาะกระแสหนังดัง มัวแต่จ้องมองคนอื่น บาปกรรมตามเล่นทันที…
หลังจากที่เข้าโรงกันไปแล้ว กับเรื่องราวขยายจักรวาลผีปีศาจ The Nun จนกลายมาเป็นกระแสแต่งตัวเป็นแม่ชีไปดูหนัง แถมยังจะพากันแต่งตัวออกมาใช้ชีวิตประจำวันกันอีกด้วย… อาจจะเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน ที่จะมีคนแต่งตัวแปลกๆ ออกจากบ้าน เพื่อให้เป็นจุดเด่นของวันนั้น อย่างมาเป็นผีแม่ชีนั่งกินเบอร์เกอร์ในร้านอาหารเช่นนี้ คลิปนี้ถ่ายเอาไว้โดยนาย Roberto Da Matta Filgueiras จากประเทศบราซิล ในขณะที่เขากำลังมีความสุขกับมื้อค่ำ ก็ดันไปเจอเพื่อนโต๊ะอื่นหน้าตาซีดเซียว นั่งเคี้ยวเบอร์เกอร์แบบจ้องไปทั่วร้าน พี่แกไม่ได้ตั้งใจมาหลอกใคร ไม่ได้ตั้งใจมาอาละวาด ก็แค่หิวข้าวแบบไม่มองอาหารตัวเอง ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ลูกค้าท่านอื่น แต่จังหวะกินเร็วๆ มันจะติดคอ ต้องทานน้ำตาม… โชคร้ายของผีแม่ชีจริงๆ ที่คว้าแก้วดูดน้ำได้ ตาที่ไม่ยอมมองแก้วกลับมาทำร้ายตัวของนางเอง เล็งหลอดไม่ตรงปาก ทิ่มเต็มๆ เข้ารูจมูก เจ็บยิ่งกว่าโดนคาถาไล่ผีอีกกกก… หรือว่าผีจะกินน้ำผ่านจมูก!? ฮร่าาา หวังว่าแม่ชีจะรีบกินให้อิ่ม แล้วออกไปทำงานกะกลางคืนต่อนะ ที่มา: @roberto.damattafilgueiras, unilad
-
สาวเมกาแชร์ ประสบการเดตสุดห่วย คู่เดตชักดาบค่าอาหาร แถมส่งข้อความมาด่าว่า “อ้วน”
ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาทำให้หลายๆ อย่างบนโลกของเรามีความสะดวกสบายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารหรือการขนส่งต่างๆ รวมถึง “การหาคู่” ก็เช่นกัน โดยในปัจจุบัน การหาคู่นั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายเพราะมีโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นที่เอาไว้ใช้หาคนถูกใจเพื่อได้ทดลองเรียนรู้เรื่องราวของกันและกัน เช่นเดียวกับ Ryann Miller สาวเจ้าของเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นหนึ่งในคนที่เลือกใช้บริการของแอปพลิเคชั่นหาคู่ แต่สิ่งที่เธอเจอกลับเป็นคู่เดตที่สุดจะบรรยาย เมื่อเขาทำตัวไม่ดีกับพนักงานร้านอาหารที่พวกเขาไปกิน แถมยังชักดาบกินแล้วหนีเธออีกด้วย!! Ryann Miller สาวจากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เธอเจอกับคู่เดตของเธอผ่านทางแอปพลิเคชั่นหาคู่ Bumble พวกเธอได้ทำการพูดคุยกันอยู่สักพักก่อนที่จะตัดสินใจนัดเจอกัน แต่การเดตครั้งนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่แย่สำหรับเธอ เธอจึงนำมันมาแชร์ลงในทวิตเตอร์ เธอกล่าวว่า “พวกเราตัดสินใจที่จะไปบาร์ที่อยู่บนถนนสายหลักและนั่งดื่มกันสักหน่อย ตลอดทางไปที่บาร์เขาพูดเกี่ยวกับเรื่องเดตแย่ๆ ที่เขาเคยเจอมา ฉันเลยแชร์เรื่องของฉันไปด้วยนิดหน่อย และเมื่อเราได้ที่นั่งในร้าน เขายังคงไม่หยุดพูดเรื่องแย่ๆ เกี่ยวกับผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับฉันและรวมถึงเรื่องราวของผู้หญิงอย่างเราๆ ที่คาดหวังต่อผู้ชาย https://twitter.com/RyMill1003/status/1040500283418173440 เขาอายุ 38 แล้วนะ แต่อย่างไรก็ตามเขายังทำตัวน่าเกลียดและหยาบคายกับพนักงานเสิร์ฟผู้หญิงเพียงเพราะเธอเดินมาเติมเบียร์ให้เขาเร็วไม่พอตอนที่เขาดื่มหมดแก้วแรก เขาเลยโยนเมนูลงบนพื้นเหมือนกับเด็กที่งอแงจะเอาอะไรสักอย่างแล้วยังพูดกับพนักงานเสิร์ฟด้วยน้ำเสียงที่น่ารังเกียจพร้อมกับถ้อยคำที่แดกดันเธอ” https://twitter.com/RyMill1003/status/1040502025153204224 หลังจากที่กินสเต๊กกับเบียร์ไป 3 แก้วชายคนดังกล่าวก็บอกกับ Ryann ว่าเขาขออนุญาตไปห้องน้ำสักหน่อยระหว่างนั้นเธอก็เลยนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือไปพลางๆ แต่อีกห้านาทีต่อมา… เธอก็ได้รับข้อความที่ไม่คาดฝันมาก่อน เขาส่งข้อความมาหาเธอว่า “ขอบคุณสำหรับอาหารเย็นนะ! แต่มันยากที่จะรับกับคนแคลิฟอร์เนียอ้วนๆ ได้ฟระ” หลังจาจบเหตุการณ์นี้ไปได้ เราก็ไม่แน่ใจว่าชายคนดังกล่าวตั้งใจจะมาหาคู่จริงๆ…
-
หนุ่มช่วยชีวิตสาวจากคนร้ายมีอาวุธ เพราะอยากจะเป็นฮีโร่เหมือนใน My Hero Academia!!
การ์ตูนหรือเกมเป็นสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อจะมอบความบันเทิงให้แก่มนุษย์เรา แม้ว่าในสังคมบางแห่งก็มองว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดี มองว่ามันเป็นสิ่งที่จะคอยมอมเมาเยาวชน ทำให้เยาวชนเลียนแบบพฤติกรรมไม่ดีที่พวกเราได้รับชมมาจากการ์ตูนและเกม แต่เหรียญก็มีสองด้านเสมอการ์ตูนและเกมไม่ได้มีเพียงข้อเสียเท่านั้น เกมและการ์ตูนยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เราๆ ได้ด้วย อย่างในเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้เองก็เป็นเรื่องของฮีโร่หนุ่มผู้เข้าช่วยชีวิตสาวจากคนร้ายมีอาวุธเพราะเขาอยากจะทำความดีเหมือนกับฮีโร่บ้าง!! เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในวันที่เหมือนจะสงบสุขเหมือนกับวันทั่วๆ ไป Blaine Hodge พระเอกของเราวันนี้ที่ได้นั่งอยู่ในร้านกาแฟ Starbuck เขาได้สังเกตเห็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ เมื่อสาวคนหนึ่งได้ถูกแฟนเก่าของเขาไล่ตาม โดยในมือของแฟนเก่าได้พกอาวุธมีดมาด้วย Hodge นั้นไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบและเห็นว่าเหตุการณ์ต้องเลวร้ายลงอย่างแน่นอน จึงได้เข้าไปเพื่อป้องกันไม่ให้สาวคนดังกล่าวถูกแฟนเก่าของเธอทำร้าย ด้วยความช่วยเหลือจาก Hodge ทำให้เหยื่อรอดและสามารถจับคนร้ายได้ในที่สุด แต่การเป็นฮีโร่ของเขาครั้งนั้นไม่ได้แลกมาฟรีๆ เมื่อ Hodge ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าปกป้องหญิงสาว เขาถูกแทงบริเวณมือหลายครั้ง ถึงขั้นทำให้เขาไม่สามารถที่จะขยับนิ้วได้เลย เมื่อชาวเน็ตได้เห็นเรื่องราวของเขา ก็รู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญและเสียสละของเขา จึงได้ทำแคมเปญ GoFundMe เพื่อระดมทุนค่าผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่เขา Blaine Hodge everyone Also, if you can, please donate to his GoFundMe to help with…
-
ย้อนรอยการเปิด McDonald’s สาขาแรกในรัสเซีย คนรอต่อแถวยาวเหยียด ยิ่งกว่างานจับมือซะอีก…
หนึ่งในแฟรนไชน์มีสาขาทั่วโลก ยักษ์ใหญ่ด้านเบอร์เกอร์อย่าง McDonald’s ที่ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมดราวๆ 36,000 สาขา จากทั้งหมด 101 ประเทศ ให้บริการลูกค้าเฉลี่ย 69 ล้านคนต่อวัน (สถิติเดือนมกราคม 2018) แต่รู้หรือไม่ว่า บางประเทศก็ยังไม่มีร้านดังกล่าวเข้าไปเปิด และเมื่อประชาชนได้ข่าวว่าร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังจะมาตั้งสาขาแรกเป็นของประเทศ ใครๆ ต่างก็อยากลิ้มลองของใหม่เป็นธรรมดา แต่คงไม่มีที่ไหนเหมือนในรัสเซียแน่ๆ เพราะด้วยจำนวนคนที่เยอะ ทำให้คนที่อยากกินแทบจะรอกันทั้งวันทั้งคืนกันเลยทีเดียว… เปิดตัวร้าน McDonald’s ในยุคสมัยที่รัสเซียยังคงเป็นสหภาพโซเวียต McDonald’s สาขาแรกในรัสเซีย เปิดทำการในกรุงมอสโก อันเป็นความร่วมมือระหว่าง McDonald’s แคนาดาและสภาเมืองมอสโก โดยเริ่มต้นมาจากการที่ George Cohon ผู้ก่อตั้งและ CEO ประจำประเทศแคนาดา ได้พบกับเจ้าหน้าที่โซเวียตในงานแข่งกีฬาซัมเมอร์โอลิมปิก ปี 1976 ณ เมืองมอนทรีออล ร้านจะมาพร้อมที่นั่งภายในทั้งหมด 900 ที่ และคัดเลือกพนักงานประจำร้าน 600 คน จากทั้งหมดที่แห่เข้ามาสมัคร…
-
การแข่งขัน “หัวล้านชักเย่อ” กีฬาสำหรับคนหัวใสโดยเฉพาะ ไม่ต้องเป็น “หัวล้านใจน้อย” กันอีกแล้ว
หลายๆ คนอาจเกิดมาหัวล้านหัวอง หัวใสโยงๆ ผ่ออย่างกระทงเดือนยี่ จนบางทีก็อาจรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่มีผมปลิวไสวเหมือนกับใครเขา แต่แน่นอนว่าคุณไม่ใช่เพียงคนเดียวที่เป็นอย่างนั้น และการที่เราหัวล้านก็อาจทำให้เรามีอะไรได้ทำสนุกๆ มากกว่าที่คิด ยกตัวอย่างเช่น “การแข่งขันหัวล้านชักเย่อ” ?! นี่คือภาพการแข่งขันประจำปีของสมาคม “คนหัวล้าน” ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1989 ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 65 คนทั่วประเทศ “การแข่งขันหัวล้านชักเย่อ” นั้นเป็นส่วนหนึ่งของงานเฉลิมฉลองประจำปีของสมาคม โดยพวกเขามีจุดประสงค์หลักเพื่อต้องการให้เหล่าชายหัวใสทั้งหลายได้สนุกไปกับลักษณะพิเศษของตัวเองในแบบที่ไม่เหมือนใคร วิธีการเล่นก็ง่ายๆ เพียงแค่ติดจุกดูดลงไปบนพื้นที่โล่งเตียนบริเวณศีรษะของพวกเขา จากนั้นก็แข่งกันใช้แรงดึง ใครสามารถทำให้จุกดูดของอีกฝ่ายหลุดออกมาได้ก็จะเป็นผู้ชนะไป บรรยากาศการแข่งขันหัวล้านชักเย่อ แชมเปี้ยนวัย 81 ปีเล่าว่า “ตอนที่ยังหนุ่มๆ เส้นผมก็เริ่มหลุดร่วงไปจนทำให้ผมหัวล้านแบบนี้ โดยในตอนนั้นผมรู้สึกด้อยค่า น้อยใจ แต่เมื่อผมได้เข้าร่วมกับทางสมาคม ผมก็เริ่มกลับมามีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง” และการแข่งขันชักเย่อในรูปแบบนี้ก็ทำให้แชมเปี้ยนวัยชรารู้สึกมีเป้าหมายในชีวิตอีกครั้ง เขาบอกว่าหากในปีหน้าตัวเองยังแข็งแรงดี เขาก็จะกลับมาแข่งขันกับทางสมาคมในทุกๆ ปีไปเลย Teijiro Sugo ประธานสมาคมคนหัวล้านดังกล่าว เขาบอกว่าตนเองมีความตั้งใจที่จะให้การแข่งขันหัวชักเย่อได้กลายเป็นสิ่งที่รวมเอาคนหัวล้านจากทั่วทุกมุมโลกมารู้จักกัน จัดตั้งเป็นกีฬาโอลิมปิกคนหัวล้านไปเลย นอกจากการแข่งชักเย่อ ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมในงานประจำปีที่จัดขึ้น…
-
สมาชิกสภาสหรัฐฯ รับได้ที่ชาวจีน “ทานเนื้อสุนัข” เพราะชาวอเมริกันก็ทานกระต่ายเช่นกัน
หลังจากชาวจีน (รวมถึงชาวเอเชียที่ละม้ายคล้ายชาวจีน) ถูกมองในแง่ลบจากสายตาของประเทศตะวันตกเนื่องจากพฤติกรรมการ บริโภคเนื้อสุนัข ของชาวจีนบางส่วน ครั้งนี้ในคลิปวิดีโอรายการ Voice of America China ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ตัวแทนจาก พรรคริพับลิกัน (Republican) ก็กล่าวในการสัมภาษณ์ว่าการทานเนื้อสุนัขเป็นเรื่องรับได้ ถ้ามันอร่อย เพราะชาวอเมริกันเองก็ทานกระต่ายเช่นกัน คลิปวิดีโอการสัมภาษณ์ Dana Rohrabacher สมาชิกสภาริพับลิกัน นาย Dana Rohrabacher สมาชิกสภาริพับลิกันได้นั่งให้สัมภาษณ์กับรายการ Voice of America (VOA) ของประเทศจีน ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ของจีนพอดี เขาจึงมอบคำพูดให้กับผู้ชมว่า… “ในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีจอ อย่างที่เห็นกันว่าชาวอเมริกันหลายคนไม่ชอบชาวจีนที่ทานเนื้อสุนัข แต่ผมเองก็อยากให้ชาวจีนรู้เหมือนกันนะว่า ชาวอเมริกันก็ทานเนื้อกระต่าย แถมยังทานสัตว์เล็กชนิดอื่นๆ อีกด้วย ผมไม่เคยตำหนิหากชาวจีนจะทานเนื้อสุนัข คุณอยากทานก็ทานไป ถ้าหากเนื้อมันอร่อย มันก็คือของอร่อยชนิดหนึ่งเท่านั้นแหละ” Dana Rohrabacher สมาชิกสภาริพับลิกัน ผู้ทำหน้าที่สัมภาษณ์แสดงสีหน้าหลังจากคำกล่าวของท่านสมาชิกสภา . . จากนั้น Rohrabacher ยังกล่าวว่า เขาและสหรัฐอเมริกาเองก็มองว่าชาวจีนก็เปรียบเสมอประชาชนในประเทศเหมือนกัน…
-
เจ้าสาวอาละวาดขู่ลบเพื่อน แขกนับร้อยไม่ยอมจ่ายเฉียดแสน เพื่อบินมาร่วมงานในไทย!?
เข้าใจว่าการแต่งงานของแต่ละบุคคล ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก ซึ่งอาจจะเป็นการแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ก็เลยมีความต้องการอยากจะจัดให้มันยิ่งใหญ่อลังการ แต่ลืมนึกไปว่าแขกที่เชิญมาร่วมงานด้วย อาจจะไม่สะดวกใจและเงินในกระเป๋าไปร่วมก็ได้… เรื่องดังกล่าวกลายมาเป็นประเด็นเดือดบนเว็บไซต์ Reddit หลังจากที่เจ้าสาวเชิญแขกมาร่วมงานแต่งที่จะจัดในประเทศไทยอันสวยงามของเรา แต่ทว่าด้วยค่าใช้จ่ายไปร่วมงานที่สูงถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (98,000 บาท) นั่นทำให้แขกบางคงเกิดอาการลังเล… เจ้าสาวคนดังกล่าวถูกตั้งชื่อให้เป็น ‘Bridezilla’ เจ้าสาวอาละวาด โพสต์ข้อความโจมตีเพื่อนทุกคนบนเฟสบุ๊กของเธอ หลังพบว่าแขกที่เชิญมาร่วมงานกว่า 150 คน มีคนขานตอบรับเพียงแค่ 9 คนเท่านั้น ด้วยข้ออ้างว่า ‘วันพิเศษของตัวเธอเองกลับเป็นเรื่องที่ “มากไป” สำหรับคนอื่น’ ‘เมื่อเราเชิญเพื่อนๆ และครอบครัว มาร่วมงานแต่งในฝันที่ประเทศไทย มีแค่ 9 คนที่ตอบกลับมาจากทั้งหมด 150 คน!! โอเค เข้าใจละ การจ่ายเงิน 3,000 ดอลลาร์ เพื่อแชร์ประสบการณ์ในวันวิเศษของฉันคงจะมากไปสำหรับบางคน เป็นฉัน ฉันยอมจ่ายให้กับงานของคุณนะ แต่ช่างมันเหอะ แต่หลังจากที่เราเปลี่ยนมาจัดที่ฮาวาย ในที่ที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึงได้ มีคนตอบกลับแค่…
-
คุณแม่เดือด หลังลูกชายโดน “โรงเรียนจับแยก” ไม่ให้เรียนรวมกับเพื่อน เพราะ “ทรงผม”
ในบ้านเรา หากว่านักเรียนมีทรงผมผิดระเบียบก็อาจจะถูกคุณครูหักคะแนน บอกให้ไปแก้ทรงผม หรือไม่อย่างนั้นก็อาจไถให้เป็นทรงนักเรียนไปเลย แต่สำหรับเด็กชายวัย 13 ปีคนนี้ เขากลับถูกโรงเรียนจับแยกไม่ให้เรียนรวมกับเพื่อนเพียงเพราะทรงผมของเขา ซึ่งคุณแม่มองว่ามันก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไรเลย มันออกจะดูดีด้วยซ้ำไป เด็กชายคนดังกล่าว Ryan Wild คือเด็กชายที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียน Hall Park Academy เมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ โดยโรงเรียนของเขานั้นเปิดเทอมมาตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2018 จนกระทั่งตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน เด็กชายคนนี้ก็ถูกจับแยกออกไปไม่ให้เรียนรวมกับเพื่อนๆ นานเป็นสัปดาห์ หลังจากที่ทางโรงเรียนมองว่าทรงผมของเขานั้นมันผิดแปลกจนเกินไป Serena Fowkes คุณแม่ของเขา บอกว่า “ในวันนั้นลูกชายของฉันถูกจับแยกออกไปเพราะทรงผม เขาต้องไปนั่งอยู่ในห้องเล็กๆ มองไปเจอแต่กำแพง แทนที่จะได้เข้าเรียนรวมกับเพื่อนๆ” “ฉันคิดว่าการกระทำดังกล่าวมันน่ารังเกียจเอามากๆ ทำไมเขาถึงต้องมาพลาดการเรียนหนังสือตามปกติ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย” เธอกล่าว Serena ยังบอกอีกว่าในตอนที่เธอไปถึงโรงเรียน เธอก็เห็นว่ามีเด็กคนอื่นๆ อีกหลายคนที่ทำทรงผมแปลกๆ ดูรกรุงรัง ทำผมลีบๆ ในขณะที่ทรงผมของลูกชายเธอนั้นมันออกจะดูดีซะด้วยซ้ำไป เด็กชายและแม่ของเขา…
-
คู่รักกิน ‘ผลไม้’ เพียงอย่างเดียวมานานกว่า 3 ปี เคลมว่าทำให้สุขภาพดี แถมไม่ต้องแปรงฟัน!?
นี่คือเรื่องราวของสองหนุ่มสาวคู่รักที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการ ‘ทานแต่ผลไม้’ พร้อมกับเคลมว่า การทำแบบนี้ทำให้พวกเขารู้สึกดี แถมไม่ต้องแปรงฟันอีกต่อไปอีกด้วย!? Tina Stoklosa หญิงสาวจากเมือง Warsaw ประเทศโปแลนด์ วัย 39 ปี เป็นผู้เริ่มความคิดที่จะทานเฉพาะผลไม้นี้ เพราะเธอต้องการที่จะดีท็อกซ์ร่างกายของตัวเอง เธอจึงชักชวนแฟนหนุ่มของตัวเอง Simon Beun วัย 26 ปี ให้หันมาทานผลไม้ด้วยกัน จนตอนนี้ผ่านมาแล้วกว่า 3 ปี พวกเขาไม่แตะอาหารอื่นเลยนอกจากผลไม้!! พวกเขาเรียกการกินแบบนี้ว่า ‘Fruitarian’ พวกเขาเล่าว่าการทานแบบนี้ช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียออกมาได้มากมาย แถมตอนนี้ฝ่ายแฟนสาวยังมีน้ำหนักลดลงไปราวๆ 31 กิโลกรัมเลยทีเดียว ตอนนี้น้ำหนักของเธออยู่ที่ 55 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังเคลมอีกว่าไม่จำเป็นต้องแปรงฟันแม้แต่น้อย เพราะไฟเบอร์ในผลไม้ ได้ทำหน้าที่แทนแปรงสีฟันไปแล้ว!? แถมยังบอกอีกว่ามันช่วยรักษาโรคเครียด โรคซึมเศร้า อาการเจ็บป่วยเรื้อรังและโรคมะเร็งได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่บริโภคอาหารที่ให้พลังงานพอๆ กับคนที่ทานอาหารปกติทั่วไปเลยทีเดียว โดยจะอยู่ที่ราวๆ 2,000-4,000 กิโลแคลอรีต่อวัน ประกอบไปด้วยกล้วยราวๆ 30 ลูก น้ำเปล่าและน้ำมะพร้าวเป็นต้น …
-
ตำรวจตามหาผู้หญิงที่เอา ‘กัญชา’ จากการเกยตื้นไป ชาวเน็ตชี้ไม่ได้ ‘ขโมย’ มันไม่มีเจ้าของ!!
เรื่องของการเจอสิ่งของโดยบังเอิญ อาจนับว่าเป็นโชคของเราเข้าแล้วที่มีโอกาสได้ลาภลอยแบบเต็มๆ แต่ว่าบางทีสิ่งนั้นอาจจะมีเจ้าของหรือไม่มีก็ได้ และถ้าของสิ่งนั้นเป็น ‘ยาเสพติด’ คุณจะคิดว่ายังเป็นโชคดีอยู่หรือไม่?? ภาพที่มาของปัญหาเรื่องนี้ ในตอนนี้ทางกรมบังคับใช้กฎหมายแห่งรัฐฟลอริด้า กำลังออกตามหาผู้หญิงคนหนึ่งที่มีข้อกล่าวหาว่าเธอขโมย ‘กัญชา’ จากการที่มันถูกคลื่นซัดมาอยู่บนหาด Flagler Beach ในวันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา หลักฐานทางภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงคนดังกล่าวมีผมสีบลอนด์ ใส่บิกินี่สีเหลืองในส่วนบนและสีดำในส่วนล่าง โดยภาพนี้เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังล้วงหีบห่ออันหนึ่งอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าหีบห่อนี้เป็นหีบห่อของกัญชาที่มาเกยตื้น ประกาศตามหาตัวเธอที่ทางการออกมา และถึงแม้ว่าภาพดังกล่าวจะเห็นหน้าของผู้หญิงเพียงแค่ด้านเดียว แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็กล่าวว่ารอยสักที่อยู่บนแผ่นหลังของเธอจะสามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่หาตัวเธอได้ง่ายขึ้น และได้ออกประกาศหาตัวเธอในวันศุกร์ที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา นอกจากกัญชาห่อนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ก็กล่าวว่ายังมีห่อกัญชาอื่นๆ อีกจำนวนมากที่ถูกค้นพบบนหาดเดียวกัน โดยมีน้ำหนักรวมๆ กว่า 45 กิโลกรัม และยังมีการค้นพบอีกมากที่บริเวณใกล้ๆ กับหาดนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่พบเห็นทั้งหมดจะแจ้งเรื่องมายังเจ้าหน้าที่ได้รับรู้ กัญชาที่ทะเลพัดมาเกยตื้น อย่างไรก็ตามก็มีคนพยายามจะยึดยาเสพติดเหล่านี้ไว้เป็นของตัวเองเช่นเดียวกัน นั่นคือนาย Robert Kelley ชายวัย 61 ที่ถูกจับกุมได้ไม่ไกลจากหาดดังกล่าว และถูกจับกุมด้วยข้อหาคล้ายๆ กันนั่นคือพยายามเม้มกัญชาเอาไว้เอง Robert Kelley ชายที่ถูกจับกุม เขาอ้างว่าตั้งใจจะเก็บไว้บนรถเพื่อป้องกันอันตราย…
-
คุณพ่อใจสลาย ลูกชายตายจากอุบัติเหตุ ‘หลุมบ่อบนถนน’ เลยซ่อมหลุมไม่ให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อ!!
แม้ว่าปัญหาเรื่องถนนเป็นหลุมเป็นบ่อจะเป็นปัญหาที่คุ้นชินสำหรับหลายๆ คน แต่ใครจะไปคิดว่ามันสามารถทำให้คนเสียชีวิตได้เลย และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายคนหนึ่งพยายามจะแก้ไขปัญหานี้เพื่อไม่ให้คนอื่นต้องตกเป็นเหยื่อความสูญเสียเหมือนกับที่เขาต้องเผชิญ… Dadarao Bilhore พ่อค้าผักชาวอินเดียวัย 48 ปีคือคนดังกล่าว ในตอนนี้ภารกิจของเขานอกจากหาเลี้ยงชีพแล้วก็ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ นั่นคือการพยายามช่วยกลบรอยหลุมบ่อบนถนน หลังจากที่ลูกชายของเขาต้องเสียชีวิตจากปัญหาที่ว่านี้ ในแทบทุกๆ หย่อมหญ้าที่เป็นหลุมบ่อในเมืองมุมไบ ชายคนนี้จะเป็นผู้นำทราย ก้อนกรวด หรือว่าอิฐไปเติมเต็มให้มันกลายเป็นถนนที่สมบูรณ์อีกครั้ง ซึ่งในตอนนี้เขาได้ช่วยเติมเต็มหลุมบ่อไปแล้วถึง 585 จุดด้วยกัน คลิปภารกิจของคุณพ่อคนนี้ จุดเริ่มต้นของภารกิจนี้เกิดขึ้นในปี 2016 ซึ่งเป็นหนึ่งปีให้หลังจากที่ Prakash Bilhore ลูกชายของเขาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตในเดือนกรกฎาคมปี 2015 ในเหตุการณ์ครั้งนั้นคุณพ่อเล่าใหัฟังว่าลูกชายของเขาได้ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปกับลูกพี่ลูกน้องอีกคนหนึ่ง แต่ว่าด้วยความที่มองไม่เห็นหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ มอเตอร์ไซค์ของพวกเขาจึงวิ่งลงหลุมลึกหลุมหนึ่งบนถนน และมันก็ทำให้ทั้งคู่ตัวลอยจนตกลงมากระแทกกับพื้นในที่สุด แต่ว่าด้วยความที่ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องเป็นเพียงผู้เดียวที่ ‘สวมหมวกกันน๊อค’ จึงทำให้เขาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วน Prakash ผู้ไม่มีเครื่องป้องกันใดๆ ก็เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้าด้วยสาเหตุทางด้านสมอง “การตายของเขาสร้างความสูญเสียยิ่งใหญ่ให้กับพวกเรา (หมายถึงครอบครัว) ผมจะทำงานนี้เพื่อเป็นการระลึกถึงและให้เกียรติเขา ผมไม่อยากให้ใครๆ ต้องสูญเสียคนที่รักเหมือนกับที่พวกเราต้องเจออีกแล้ว” Dadarao ด้วยความตั้งใจอย่างแน่วแน่และมีผลงานต่างๆ มากมาย จึงทำให้มีผู้คนอาสาเข้าร่วมช่วยเติมเต็มช่องว่างบนถนนกับเขาอย่างมากมาย จนเขาพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่ใช่เขาตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว และนอกจากนี้การทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมยังทำให้เขาได้รับรางวัลต่างๆ…
-
สาววัย 19 ปีโดนผู้ชาย 12 คน “ข่มขืน” นานกว่า 8 ชั่วโมง บอบช้ำจนแทบจะพูดไม่ได้
นี่คงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอันแสนเลวร้าย กับพฤติกรรมที่เราอาจไม่เคยคาดคิดว่ามนุษย์ด้วยกันจะทำได้ลงคอ ในวันที่ 12 กันยายน 2018 หญิงสาววัย 19 ปีคนหนึ่งได้ถูกลักพาตัว ลากไปข่มขืนโดยผู้ชาย 12 คน นานกว่า 8 ชั่วโมง ทิ้งบาดแผลอันบอบช้ำให้กับทั้งร่างกายและจิตใจของเธอ รัฐที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเช้าวันนั้น บริเวณป้ายรถเมล์ของเมือง Mahendergarh ประเทศอินเดีย สาววัยรุ่นคนดังกล่าวได้ไปยืนรอรถเมล์อยู่ในขณะนั้น จนกระทั่งมีชาย 2 คนเดินเข้ามาเอาน้ำให้เธอกิน (เชื่อว่าในน้ำดังกล่าวนั้นมียาผสมอยู่) ก่อนที่พวกเขาจะฉุดลากเธอขึ้นไปบนรถ ขับพาเธอไปยังบ้านหลังหนึ่งซึ่งเหยื่อบอกว่าห่างออกไปราวๆ 40 กิโลเมตรจากป้ายรถเมล์ เธอถูกจับมัดเอาไว้ก่อนที่ผู้ชายคนอื่นๆ จะตามเข้ามาในบ้าน และทั้งหมดนั้นก็ได้รุมข่มขืนเธออย่างป่าเถื่อน รุนแรง สุดจะพรรณนา นานกว่า 8 ชั่วโมง หลังจากนั้น ชายผู้ก่อเหตุก็ได้นำตัวเธอมาทิ้งไว้ที่ป้ายรถเมล์ที่เดิม ก่อนจะโทรหาครอบครัวของหญิงสาวให้มารับตัวเธอไป หนึ่งในผู้ต้องสงสัย เหยื่อสาวตกอยู่ในสภาพบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลท้องถิ่น โดยมีบาดแผลอยู่ที่บริเวณหลัง หัวไหล่ และอวัยวะเพศ บาดแผลทางกายที่หนักที่สุดเลยคือบริเวณคอของเธอ เพราะเหยื่อถูกผู้ชายเหล่านั้นบีบคอเอาไว้ขณะที่กำลังข่มขืน ซึ่งแม่ของเธอบอกว่าปัจจุบันเธอแทบจะไม่สามารถพูดออกมาได้ หรือกลืนอะไรลงไปได้เลย…
-
นี่คือ ‘โอกาสในการเสียชีวิต’ จากการทำกิจกรรมต่างๆ ต้องคิดให้ดีก่อนจะใช้ชีวิต!!
ในแต่ละวันนั้นจะมีคนเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตนั้นก็จะมาจากหลายสาเหตุ ทั้งการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุต่างๆ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมกันว่า ในกิจกรรมที่เราทำกันในทุกๆ วันนั้นมันจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เรา ‘เสียชีวิต’ ได้มากน้อยแค่ไหน เป็นข้อมูลจากเว็บไซต์ Best Health Degrees ที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ จากหน่วยงาน US National Centre for Health Statistics มาทำเป็นอินโฟกราฟฟิกให้เราเข้าใจได้อย่างง่ายๆ เพื่อเป็นการะประกอบการตัดสินใจให้กับเพื่อนๆ ว่าก่อนจะออกไปใช้ชีวิต ทำกิจกรรมต่างๆ แต่ละอย่างมันมีความเสี่ยงที่จะทำให้เราเสียชีวิตมากน้อยแค่ไหน จะได้ไม่ประมาทนั่นเอง จะเป็นอย่างไรลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… หมวดการกีฬา กระโดดร่ม โอกาสเสียชีวิต 1 ใน 101,083 การต่อยมวย โอกาสเสียชีวิต 1 ใน 2,200 การดำน้ำลึก โอกาสเสียชีวิต 1 ใน 34,400 อเมริกันฟุตบอล โอกาสเสียชีวิต 1 ใน 50,000 วิ่งจอกกิง โอกาสเสียชีวิต…
-
หนุ่มจ้าวพายุโชว์โหด เดินล่อนจ้อนประจันหน้า ‘พายุฟลอเรนซ์’ ความเร็ว 136 กม./ชม.!!
ปกติเวลาที่มีพายุมา เราก็คงรีบหนีกันเข้าบ้านหาที่ปลอดภัยอยู่ เพราะไม่รู้พายุมันจะพัดอะไรมาฟาดหน้าเราบ้างรึเปล่า แต่ว่ามีชายอยู่คนหนึ่งที่ดูจะชื่นชอบพายุซะเหลือเกิน แถมยังไม่เกรงกลัวออกไปโบกธงประจันหน้าบอกว่าข้านี่แหละคนเหนือพายุ!! ชายสุดเพี้ยนคนที่ว่านี้มีชื่อว่า Lane Pittman ชาวรัฐฟลอริด้า ที่ก่อนหน้าเคยสร้างปรากฏการณ์เป็นจ้าวพายุด้วยการเผชิญหน้ากับพายุ Matthew และ Irma มาแล้ว และในครั้งนี้เขาก็กลับมาตอกย้ำความระห่ำอีกครั้งด้วยการขับรถไปที่เมือง Myrtle Beach รัฐเซาท์แคโรไลนา เพื่อขอท้าเดี่ยวๆ กับพายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์ พายุที่มีความรุนแรงระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับและมีความเร็วลมถึง 136 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!! วิดีโอสุดบ้าระห่ำท่ามกลางพายุ ในคลิปที่เขาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กจะเห็นว่าเขาไม่ได้มีเครื่องป้องกันใดๆ เลย มีเพียงกางเกงสีน้ำเงินตัวน้อยที่สวมไว้กัน ‘ของลับ’ โผล่เพียงเท่านั้น ขณะเดียวกันในมือก็กำธงชาติสหรัฐฯ แน่นเพื่อเอาไว้เป็นอาวุธต่อสู้กับแรงลม!? “เจ้ามันอ่อนแอและช่างเล็กกระจิริดจริงๆ เจ้าฟลอเรนซ์!!! ฟลอริด้าแมนอยู่ต่อหน้าเอ็งแล้วเฟ้ย” แคปชั่นที่เขาเขียนไว้ในเฟซบุ๊ก คลิปที่เขาบวกกับพายุ Matthew ในปี 2016 บอกเลยว่าโคตรร็อค!! ต่อมาเขาก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า “มันเป็นอะไรที่อิสระและรู้สึกถึงความเป็นอเมริกันสุดๆ ผมจะไม่ยอมให้อะไรมาหยุดผมได้หรอก ไม่แม้แต่ไอ้พายุก้อนนี้” อันนี้กับพายุ Irma ในปี 2017…
-
นักข่าวโชว์แอกชั่นให้ดูว่าลมพายุแรงมาก ปรากฏว่ามีคนเดินผ่านข้างหลังไปแบบชิลๆ!?
ขณะนี้สหรัฐอเมริกากำลังประสบกับปัญหาอย่างหนักเมื่อ พายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์กำลัง พัดโถมเข้าใส่จนทำให้ต้องอพยพประชากรจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน เช่นเดียวกันกับนักข่าวรายงานสภาพอากาศท่านนี้ ที่ออกไปทำข่าวและแสดงให้เห็นว่าลมจากพายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ที่กำลังพัดใส่รัฐนอร์ทแคโรไลนา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นมันรุนแรงจริงๆ แรงจนชนิดที่ว่านักข่าวคนนั้นต้องใช้แรงเกือบทั้งหมดเพื่อทานลมที่พัดแรง ถ้าไม่เช่นนั้นตัวของเขาอาจจะปลิวไปได้เลยทีเดียวล่ะ ในคลิปเขากล่าวว่า “มันร้ายแรงมากที่สุดตั้งแต่เคยมีมาเลยทีเดียวล่ะ” แต่ทันใดนั้นเองก็มีประชาชนสองคนเดินผ่านไปด้านหลัง ด้วยท่าทีที่ ‘โคตรจะชิล’ ช่างแตกต่างกันกับนักข่าวอย่างสิ้นเชิง!? ลองไปชมคลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… So dramatic! Dude from the weather channel bracing for his life, as 2 dudes just stroll past. #HurricaneFlorence pic.twitter.com/8FRyM4NLbL — Tony scar. (@gourdnibler) September 14, 2018 มีชาวเน็ตคนหนึ่งเห็นเหตุการณ์นี้และใช้มือถืออัดคลิปวิดีโอการรายงานสภาพอากาศมาอัปโหลดลงทวิตเตอร์ พร้อมกับแคปชันว่า “เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก นักข่าวรายงานสภาพอากาศพยายามใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อต่อสู้กับลมพายุ ขณะที่ 2…
-
ชาวเน็ตสนับสนุน เมื่อ Ken Jeong ออกมาโพสต์ทวีต อยากได้บทซูเปอร์แมน!!
หลังจากข่าวที่ Henry Cavill ประกาศวางมือจากบท ‘ซูเปอร์แมน’ ไปเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างก็ช็อกไปตามๆ กัน และข่าวที่ทำให้ช็อกยิ่งไปกว่านั้นอีกคือการที่ Warner Bros กำลังมองหาตัวแทนคนใหม่ แถมยังระบุเอาไว้ว่าไม่จำกัดว่าจะเป็นคนผิวขาวอย่างเดียวด้วย!? ซึ่งล่าสุดก็มีข่าวลืออย่างหนาหูว่า Michael B. Jordan เองก็เป็นหนึ่งในลิสต์ที่อยู่ในการคัดเลือกของ WB!! ล่าสุดทางฝั่ง ‘เอเชีย’ ก็ไม่น้อยหน้า Ken Jeong นักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ที่มักจะรับบทสายฮาจากหนังเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะ The Hangover ทั้ง 3 ภาค และอื่นๆ อีกมากมาย พี่แกได้ทำการตัดต่อภาพหน้าของตัวเองสวมใส่ชุดซูเปอร์แมนพร้อมกับโพสต์ลงทวิตเตอร์ โดยใช้แคปชันว่า “โปรดทำให้มันเป็นจริงที!!” ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 18,200 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 4,775 ครั้งเลยทีเดียว แน่นอนว่าชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็เห็นด้วย ให้การสนับสนุนความคิดนี้ผ่านแฮชแท็ก #KenForKent…
-
เด็ก 11 ขวบถูกกลุ่มวัยรุ่นท้าให้เล่น ‘วงล้อแห่งความตาย’ เพื่อถ่ายลงยูทูบ ‘สมองบวม-ตาเป่ง’!!
บางครั้งสำหรับเด็กๆ สิ่งที่ดูแปลกใหม่สำหรับพวกเขาหากไม่ได้รับการสอนการบอกด้วยวิธีที่ถูกต้อง พวกเขาก็อาจจะหาทางเรียนรู้ด้วยตัวเอง และอาจจะเกิดการบาดเจ็บอย่างใหญ่หลวงตามมาได้อย่างเกินกว่าจะคาดคิด เหมือนกับในเหตุการณ์ที่สุดแสนน่ากลัวนี้… Tyler Broome เด็กชายวัย 11 ปีจากเมืองน็อตติ้งแฮม ประเทศอังกฤษ ได้เข้าไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะภายในเมืองเฉกเช่นวันปกติธรรมดาทั่วไป ทว่าขณะที่เขาอยู่ที่นั่นนั้นเอง ก็มีกลุ่มวัยรุ่นที่โตกว่าเขากลุ่มหนึ่งเดินตรงเข้ามาหา แล้วท้าให้เขาเล่น ‘วงล้อแห่งความตาย’ เพื่ออัดคลิปลง Youtube วิดีโอขณะเขาเล่นวงล้อแห่งความตาย ด้วยความไม่รู้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น บวกกับความเป็นเด็กที่อยากจะพิสูจน์ความกล้าจึงทำให้ Tyler ตัดสินใจเป็นนักแสดงให้กับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ ซึ่งแน่นอนว่าการตัดสินใจที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็เกิดจากเสียงยุที่วัยรุ่นกลุ่มนี้พูดกรอกหูเขาด้วย Tyler ขึ้นไปนั่งอยู่บนวงล้อหมุนกลางสวนสาธารณะจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็เริ่มหมุนเขาด้วยการใช้ ‘ล้อหลังรถมอเตอร์ไซค์’ เป็นตัวหมุน จากความเร็วช้าๆ ก็เริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นแรงเหวี่ยงที่รุนแรงเกินกว่าที่ใครคาดเอาไว้ หลังจากทุกอย่างยุติลง Tyler ก็บอกว่าเขารู้สึกป่วยและหมดสติลงไปทันที โชคดีที่ในเวลานั้นมีพลเมืองดีพบเห็นเข้าพอดี จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน พร้อมกับโทรศัพท์แจ้ง Dawn Hollingworth ผู้เป็นแม่ หลังจากเข้ารับการตรวจจากทางแพทย์เป็นเวลาหลายชั่วโมง คุณหมอพิเศษเฉพาะทางวิเคราะห์ว่า Tyler น่าจะได้รับบาดเจ็บจากการเผชิญกับ ‘แรงโน้มถ่วง’ (Gravitational Force) หรือที่เรียกกันว่า G-Force…
-
คุณแม่ลูกสามโชว์ของ ใช้ ‘จิ๊มิ’ ยกกระป๋องถั่วหนัก 2 กิโลขึ้นๆ ลงๆ บอกฝึกได้ด้วยการ ‘ขมิบ’
เป็นอีกหนึ่งมหัศจรรย์แห่ง ‘จิ๊มิ’ จริงๆ สำหรับคุณแม่ลูก 3 คนนี้ที่เธอทำการโชว์ใช้อวัยวะเพศยกกระป๋องถั่วขึ้นๆ ลงๆ อย่างพลิ้วไหวราวกับใช้มือจับ ซึ่งเธอยืนยันว่าใช้เพียงแรงแห่งช่องคลอดเพียงเท่านั้น!! Kirsty Wright คุณแม่คนดังกล่าวได้ไปออกรายการ ‘This Moring’ หลังจากที่เธอป่าวประกาศอ้างว่าเธอนี่แหละเป็นผู้หญิงที่มีจิ๊มิแข็งแกร่งที่สุดในสหราชอาณาจักร และพลังทั้งหมดนี้ก็ได้มาจากการที่เธอใช้วิธีการฝึกขมิบด้วยอุปกรณ์ ‘Jade Egg’ (หยกหรือหินอื่นๆ ที่เป็นรูปไข่) เธอเล่าว่าก่อนที่จะมาเจ้าไข่มหัศจรรย์นี้เข้าให้ เธอก็เคยลองวิธีการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel Pelvic Floor Exercises) มาก่อน แต่ว่ามันดูไม่ได้ผลเท่าไหร่นักสำหรับเธอมากนัก แต่ก็เป็นโชคดีของเธอจริงๆ ที่ระหว่างวันหนึ่งที่ชอปปิงในซูเปอร์มาเก็ต เธอได้เจอกับคุณแม่ลูกอ่อนวัย 1 เดือนแนะนำให้รู้จักกับเจ้าไข่หยกนี้ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็ฝึกขมิบโดยใช้มันโดยตลอดมา “จิ๊มิเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก กล้ามเนื้อของมันสามารถยืดหยุ่นได้แบบไม่น่าเชื่อ” Kristy กล่าว จากนั้นก็ถึงเวลาโชว์ของ ในเริ่มแรกเธอสตาร์ทแบบเบาๆ ด้วยการยกกระปุก Marmite ผลิตภัณฑ์สำหรับทาลงบนขนมปังหน้าตาคล้ายๆ กับแยมที่มีน้ำหนัก 250 กรัมก่อน ซึ่งเธอก็ยกแบบเบาๆ สบายๆ หลังจากนั้นก็เริ่มเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้ายถึงกระป๋องถั่วที่มีน้ำหนักถึง 2 กิโลกรัม แต่เธอก็บอกว่าสบายๆ แถมยังโชว์ยกขึ้นยกลงสร้างความตะลึงให้กับทั้งพิธีกรและผู้ชมด้วย…
-
เจ้าบ้าน ‘Airbnb’ ญี่ปุ่นร้อง เจอนักท่องเที่ยวจีนทิ้งขยะเกลื่อนแถมบอก ‘มาอยู่ไม่ได้มาเก็บขยะ’!!
อย่างที่รู้ๆ กันว่าธุรกิจ ‘Airbnb’ คือธุรกิจที่ว่าด้วยการแบ่งปันที่พักไม่ว่าจะเป็นบ้านว่างๆ หรือว่าห้องว่างๆ ให้ผู้อื่นมาเช่าอยู่อาศัยได้ตามที่ตกลงกัน แต่ว่าบางครั้งการเจอกับลูกค้าที่ไม่คำนึงถึงเรื่อง ‘ความสะอาด’ สุขอนามัยต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยโอเคสำหรับทางเจ้าของเหมือนกัน เฉกเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าของห้องพัก Airbnb ที่ประเทศญี่ปุ่น ต้องถึงกับตะลึงงันเมื่อเข้าไปในห้องพักแล้วพบว่ามีกองขยะถูกทิ้งไว้เป็นภูเขาเลากา หลังจากที่นักท่องเที่ยวชาวจีน 3 คนได้เช็กเอาท์ออกไป ทั้งนี้นักท่องเที่ยวทั้งสามเป็นเด็กสาววัยมหาวิทยาลัยที่มีอายุ 19 ปีเพียงเท่านั้น… ซึ่งขยะที่ทิ้งเอาไว้นี้ก็มีทั้งเศษอาหารที่เน่าเสียแล้ว กระป๋องน้ำอัดลมต่างๆ ข้าวของเครื่องใช้จิปาถะ แต่ที่หนักที่สุดก็คือกองกระดาษทิชชู่ที่บางแผ่นมีเศษอุจจาระติดเอาไว้ด้วย เท่านั้นยังไม่พอนอกจากขยะที่ทิ้งเอาไว้ นักท่องเที่ยวทั้งสามคนนี้ยังได้วาดภาพ ‘อุนจิ’ ไว้ในสมุดบันทึกการเข้าเยี่ยม (สมุดไว้เขียนคอมเมนต์) รวมถึงขีดเขียนสิ่งต่างๆ ในทุกๆ หน้าของสมุดเล่มนี้เสมือนเป็นการเยาะเย้ยก็ว่าได้ จากที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทางเจ้าของจึงได้ติดต่อไปยังหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่ม เพื่อที่จะร้องขอค่าชดเชยสำหรับทำความสะอาดเป็นเงิน 3,000 เยน (ประมาณ 875 บาท) ทว่าก็กลับได้การตอบกลับมาอย่างเจ็บแสบจากหญิงสาวคนนี้ว่า “เราจ่ายเงินเพื่อจะมาอาศัยอยู่ไม่ได้มาทำความสะอาด นี่ไม่ใช่บ้านของฉัน ฉันไม่มีความจำเป็นต้องทำความสะอาดให้คุณหรอก” ด้วยเหตุนี้แล้วทางเจ้าของบ้านจึงได้นำเรื่องต่างๆ ประจานลงสู่โลกโซเชียลในทันที และมันก็กลายเป็นกระแสไวรัลในเวลาต่อมา…
-
17 ภาพเผยชีวิตบนท้องถนนใน ‘นครปารีส’ อีกมุมมืดของเมืองงามในฝันใครหลายคน…
แม้ว่า ‘นครปารีส’ ประเทศฝรั่งเศส จะเป็นเมืองในฝันของผู้คนส่วนใหญ่ทั่วๆ โลกที่อยากเดินทางไปชมหอไอเฟลอันสูงตระหง่านฟ้า หรือเดินชอปปิงเสื้อผ้าน้ำหอมแบรนด์เนมต่างๆ แต่ถึงอย่างไรแล้วเมืองนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนกับทุกๆ ที่บนโลกใบนี้ นั่นคือล้วนมีอีกมุมที่ไม่ค่อยมีใครเห็นซ่อนอยู่เสมอ และช่างภาพชื่อว่า David Tesinsky นักเก็บภาพชาวเช็ก ก็มีโอกาสได้เดินทางไปเก็บภาพชีวิตบนท้องถนนภายในเมืองนี้มาให้เราได้ดูกัน ต้องบอกเลยว่าผลงานของเขาอาจทำให้ความคิดที่เรามีต่อเมืองนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะเปลี่ยนไปอย่างไรนั้นต้องลองตัดสินด้วยตัวคุณเองแล้วล่ะ… ที่นอนสำหรับคนไร้บ้านบางคน ชีวิตที่ฝากไว้บนท้องถนน ล้วนมีมุมมืดเหมือนกับที่อื่นๆ บนโลก ไม่ได้มีแต่ความสวยงามอย่างเดียว อย่างเช่นสาวคนไร้บ้านคนนี้ แม้แต่หมอนก็ยังคงไม่มีหนุน นอนท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ วินเทจแบบคูลๆ คล้ายๆ กับที่ไหนสักแห่งเหมือนกัน แม้เด็กน้อยก็ยังจำต้องมาใช้ชีวิตเช่นนี้ อยู่กันเป็นครอบครัว คราบฝุ่นละอองอันหนาเตอะที่อยู่บนพื้นในเมืองนี้ เหงาหงอยเปล่าเปลี่ยวใจ โพสท่าเป็นนางแบบเชียวนะ ผู้คนเดินผ่านไปมาบน ‘ที่นอน’ ของเขา สะท้อนบางอย่างได้เป็นอย่างดี ชิลๆ ตามสไตล์ ขอเศษเงินเศษทองผู้สัญจรไปมา …
-
“แอร์โฮสเตส” โดนไล่ออก หลังโดนขอแต่งงานบนเครื่อง สายการบินบอก “ขาดความรับผิดชอบ”
เราอาจเคยเห็นการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานกันในหลายๆ สถานการณ์ เหมือนอย่างการที่ชายคนหนึ่งขอแฟนสาวแอร์โฮสเตสแต่งงานบนเครื่องบิน ระหว่างที่กำลังแล่นไปในอากาศ ดูโรแมนติกไม่ใช่น้อย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนเครื่องบินของสายการบิน China Eastern Airlines ระหว่างที่เครื่องขึ้นบินไปได้ 30 นาที ระหว่างทางจากเมืองซีอาน ไปยังนครหยินชวน ประเทศจีน คลิปนี้ได้กลายเป็นกระแสโด่งดังไปในโลกโซเชียล โดยแอร์โฮสเตสสาวคนนั้นได้ออกมาบอกว่า “ฉันไม่รู้เลยจริงๆ ว่าแฟนของฉันจะมาขอแต่งงานบนเครื่องแบบนี้ ขอบคุณทุกคนที่ได้มาเป็นพยานให้กับเรานะคะ” แต่ในขณะที่หลายๆ คนกำลังดีใจไปกับคู่ข้าวใหม่ปลามัน ล่าสุดวันที่ 10 กันยายน 2018 ทางสายการบินได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาตัดสินใจไล่พนักงานต้อนรับสาวคนนั้นออกไป สายการบินให้เหตุผลไว้ว่าเธอทำผิดในเรื่องของการละเลยความปลอดภัยผู้โดยสาร ขาดความรับผิดชอบในสถานการณ์ที่อาจเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ ไม่ใส่ใจในความปลอดภัยอย่างที่ควร คลิปที่กลายเป็นกระแสดังมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม หลังจากการรายงานดังกล่าวเผยแพร่ออกไป บางคนก็เห็นด้วยกับความคิดนั้น แต่ชาวเน็ตจำนวนมากกลับมองว่าคู่รักไม่ได้ทำผิดอะไร สายการบินเคร่งครัดมากเกินไป และช่างไร้หัวใจเหลือเกินที่ไล่เธอออก เหตุการณ์นี้คงมองได้ 2 ด้าน แต่หากลองนำมาชั่งน้ำหนักดูแล้ว เพื่อนๆ คิดเห็นกันอย่างไรบ้างเอ่ย?? ที่มา: businessinsider , asiaone , nextshark
-
เด็กประถมเจอ “ห่อขนม” ในรถพ่อ เลยเอาไปแบ่งเพื่อนที่โรงเรียน หารู้ไม่ว่ามันคือ “ยาอี”!!
เราควรเก็บวัตถุอันตรายทั้งหลายไว้ให้ไกลมือเด็ก ไม่เว้นแม้แต่ “ยาอี”…?! ถ้าเราไม่เก็บไว้ไกลมือเด็กๆ แล้วล่ะก็ สุดท้ายอาจกลายเป็นเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เมื่อเด็กชายวัย 8 ขวบเอาห่อที่เขาคิดว่าเป็นลูกอมอยู่ในนั้นไปแบ่งให้เพื่อนๆ ได้กิน แต่แท้จริงแล้วมันคือยาอี!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 10 กันยายน 2018 ในเขต Riau ประเทศอินโดนีเซีย เด็กน้อยวัย 2 ขวบได้บังเอิญไปเจอกับถุงพ่อบางอย่างภายในรถของพ่อ เขาจึงนำมันไปให้กับพี่ชายวัย 8 ขวบ พี่ชายคิดว่ามันน่าจะเป็นขนมลูกอมอะไรสักอย่าง เขาจึงตัดสินใจนำมันไปที่โรงเรียนด้วย และได้ทำการแบ่งกับเพื่อนๆ อีก 4 คน ซึ่งมีอายุประมาณ 7-9 ขวบ แต่เมื่อกินเข้าไป พวกเขาก็เกิดอาการปวดหัว วิงเวียนศีรษะ ทำให้ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเป็นการด่วน ก่อนที่แพทย์จะพบว่าสิ่งที่เด็กกินเข้าไปนั้นมันคือ “ยาอี” เมื่อตำรวจได้รับแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงเข้าจับกุมตัวนาย HR (นามสมมุติ) ชายหนุ่มวัย 46 ปี พ่อของเด็กชายคนดังกล่าว จากการรายงานบอกว่าเด็กๆ ทุกคนได้รับการรักษาและมีอาการที่ดีขึ้นแล้ว แต่ยังไม่มีการรายงานว่านาย HR…
-
หนุ่มแกล้งป่วยเป็น “ดาวน์ซินโดรม” จ้างคนดูแลสาว 3 คน มาช่วยอาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อมให้
เราอาจเคยได้ยินข่าวคน “แกล้งป่วย” หรือ “แกล้งบ้า” หลอกลวงคนอื่น ทำให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการหรือมีสิทธิพิเศษ และชายคนนี้เองก็คือหนึ่งในคนกลุ่มนั้น เมื่อเขาแกล้งทำว่าตัวเองป่วยเป็น “ดาวน์ซินโดรม” เพราะต้องการให้มีสาวๆ มาคอยดูแล อาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อมให้กับเขา Paul Anthony Menchaca หนุ่มวัย 31 ปีในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เขาได้แกล้งทำเป็นผู้หญิง โพสต์ลงในโลกโซเชียลประมาณว่า “ต้องการคนมาดูแลลูกชายของฉันที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม” เขาโพสต์หาคนมาดูแลใน CareLinx จากนั้นจึงมีหญิงสาวเข้ามาทำงานเป็นผู้ดูแลให้กับเขาด้วยกัน 3 คน ในขณะที่ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นว่าตัวเองป่วยเป็นดาวน์ซินโดรมจริงๆ ทำท่าทางและพูดเหมือนเด็กๆ หญิงสาวรายหนึ่งเล่าว่าในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เธอต้องอาบน้ำให้กับ Paul มากกว่า 30 ครั้ง เขาไม่เคยที่จะเข้าไปอาบน้ำหรือเข้าห้องน้ำด้วยตัวเองเลย ต้องมีคนอยู่ด้วยตลอด Paul ชายที่แกล้งป่วย ในขณะที่หญิงสาวอีกคนบอกว่าเวลาที่อาบน้ำให้ ชายหนุ่มก็มักจะแกล้งทำเป็นบอกว่า “ยังล้างจุ๊ดจู๋ได้ไม่สะอาดเลย” ซึ่งในตอนอาบน้ำให้นั้น ไอ้นั่นของชายหนุ่มก็จะเหมือนถูกกระตุ้นขึ้นมาอยู่เสมอ หนักกว่านั้นคือชายคนนี้ยังแกล้งทำเป็นใส่ผ้าอ้อม และมักจะอึออกมาทำให้พวกเธอต้องคอยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้อยู่เสมอ เมื่อหมดเวลาทำงาน พวกเธอก็จะพาเขาไปส่งยังที่ที่หนึ่ง จากนั้นก็จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินสดในแต่ละวัน …
-
ชายไร้บ้านถูกนักเลง ‘พ่นสีสเปรย์’ ใส่ วันต่อมาพบ ‘เป็นศพ’ ชาวเน็ตตั้งกองทุนจัดงานให้!!
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีคลิปวิดีโอหนึ่งเผยให้เห็นความเหี้ยมโหดของมนุษย์ที่ทำต่อมนุษย์ด้วยกันเอง โดยคลิปที่ว่านี้เป็นภาพของชายไร้บ้านคนหนึ่งที่ถูกกลุ่มนักเลงกลั่นแกล้งด้วยการ ‘พ่นสีสเปรย์’ ใส่ทั่วทั้งตัว เหตุการณ์ดังกล่าวได้เป็นที่พูดถึงของชาวเน็ตเป็นอย่างมากในเรื่องของการทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่ที่น่าเศร้ากว่าคือข่าวล่าสุดที่ว่าชายไร้บ้านคนดังกล่าวเสียชีวิตลงเรียบร้อยแล้ว หลังจากถูกกลั่นแกล้งเพียงแค่หนึ่งวัน… คลิปวิดีโอที่นักเลงกลั่นแกล้งชายไร้บ้านคนนี้ Michael Cash คือชื่อของชายไร้บ้านคนนี้ ศพของเขาถูกพบในสุสาน Eston Cemetrey เมืองมิดเดิลส์เบรอ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ไม่ไกลนักจากซุปเปอร์มาเก็ต Tesco Express ที่เขาถูกกระทำอย่างโหดร้าย “นี่คือวิธีที่เราใช้จัดการกับพวกขอทาน” เสียงในคลิปกล่าว ณ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ระบุอย่างเป็นทางการว่า ชายไร้บ้านคนนี้เสียชีวิตด้วยสาเหตุใด ทว่าทางครอบครัวของเขายืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่มาพูดคุยเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว การเสียชีวิตลงอย่างน่าสงสารของ Cash ได้ทำให้โลกออนไลน์พากันรุมประณามกลุ่มนักเลงดังกล่าว รวมถึงมีผู้จัดตั้งกองทุนในเว็บไซต์ JustGiving เพื่อระดมเงินเป็นค่าจัดงานศพให้กับเขาด้วย โดยคำอธิบายที่กองทุนดังกล่าวเขียนเอาไว้มีดังนี้: “มันเป็นเรื่องที่เศร้ามากๆ ที่ Michael Cash (ชายไร้บ้าน) คนที่เราเพิ่งพูดถึงกันเมื่อพูดถึงกันเมื่อต้นสัปดาห์ได้ลาโลกนี้ไป หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพียงไม่กี่วัน” “ผู้คนมากมายต่างพูดถึงความสุภาพนอบน้อมที่เขาเป็น ผู้คนมักจะแบ่งปันอาหารและสิ่งต่างๆ ให้กับเขา ด้วยเหตุนี้ฉันจึงคิดว่ามันน่าจะไม่ใช่เรื่องที่เสียหายมากนักที่เราจะช่วยเหลือเขาเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้เขาได้ไปสู่สุคติที่ดี RIP” …
-
วินาทีสุดระทึก เมื่อตำรวจจับกุม ‘ฆาตกร’ ที่เพิ่งลงมือมาหมาดๆ มือยังเต็มไปด้วยเลือด!!
คลิปวิดีโอสุดระทึกเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ‘ฆาตกร’ ที่เพิ่งลงมือมาหมาดๆ เลือดยังติดมือของเขาอยู่เลย!! เป็นคลิปเหตุการณ์ฟุตเทจ ที่ถ่ายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะจับกุมผู้ต้องหาที่เพิ่งจะก่อคดีฆาตกรรมมาหมาดๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Derby ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งคดีความได้สิ้นสุดลงไปแล้ว แค่คลิปวิดีโอการจับกุมเพิ่งจะถูกนำมาเผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ คลิปดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้โดยเจ้าหน้าที่ Richard Edge ได้จับกุมนาย Martin McDermott หลังจากที่เขาเพิ่งจะลงมือฆาตกรรมนาย Leslie Salmon วัย 44 ปี มาหมาดๆ ในสภาพที่เลือดยังติดอยู่เต็มมือของเขาอยู่เลย หลังจากที่หาตัวคนร้ายพบเจ้าหน้าที่ได้ทำการหยิบปืนช็อตไฟฟ้าขึ้นมาและตะโกนใส่ผู้ร้ายว่า “อย่าขยับ หากขยับผมจะใช้ปืนไฟฟ้ายิงคุณ!!” “หันไป แล้วเดินหน้าไปเรื่อยๆ เดินต่อไป เอามือวางไว้บนโรงเก็บของ อยู่นิ่งๆ อย่าขยับ อย่าแสดงท่าทางคุกคามต่อผมหรือคนอื่น ไม่งั้นผมจะยิงคุณด้วยปืนช็อตไฟฟ้า ได้ยินมั้ย?” เจ้าหน้าที่กล่าวกับฆาตกร ในที่สุดฆาตกรก็ถูกจับกุม และส่งตัวไปยังสถานีตำรวจ Derby อย่างลุล่วงไปด้วยดี เจ้าหน้าที่ Edge เล่าถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าวว่าเขาได้รับแจ้งมาว่ามีคนถูกแทงในโฮสเทล เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็พบว่าเหยื่อถูกแทงจนเลือดอาบเต็มไปหมด จึงได้ทำการโทรแจ้งรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่เพื่อทำการรักษาเหยื่อก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่ทันการ หลังจากที่ถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ได้บอกกับฆาตกรว่า ‘นาย…
-
หนุ่มเข้าใจผิดขับรถออกตรงทางเข้า ถูกพนักงานยืนขวางไว้ แจ้งตำรวจจับแถมเล่นใหญ่สุดๆ!!
การอยู่ร่วมกันกับผู้คนในสังคมบางครั้งอาจจะทำให้เจอเรื่องราวแปลกๆ ขึ้นมาก็ได้… เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์นี้ที่กำลังดังในโลกโซเชียลของต่างประเทศ เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังจะขับรถออกจาก ‘ลานจอดรถ’ แต่เขาไม่รู้ว่ากำลังจะออกทางผิดเลยมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาขวางและตะโกนทำราวกับว่าเขาก่อเหตุร้ายแรงขึ้น!? เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ลานจอดรถ Cedar Breaks Park ในเมืองจอร์จทาวน์ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา จริงๆ เรื่องราวมันเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมแล้ว แต่ Chris Hampshire ผู้ประสบเหตุเพิ่งจะนำคลิปเหตุการณ์มาโพสต์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เรื่องมีอยู่ว่า Chris เจ้าของรถถูกเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลประตูทางออกหยุดเอาไว้ หลังจากที่เขาพยายามจะขับรถออกตรงทางเข้า หญิงสาวตะโกนเสียงดังราวกับว่ามีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น พร้อมกับเอามือข้างหนึ่งจับไว้ที่กระโปรงหน้ารถของ Chris เธอตะโกนพูดเสียงดังบอกว่าเขาพยายามที่จะขับรถทับเธอ พร้อมกับทำท่าทางเหมือนกับจะหยุดรถเอาไว้ ซึ่งขณะนั้นเธอโทรแจ้งตำรวจไปด้วย ก่อนที่เธอจะตะโกนชื่อของ ‘Mike! Mike!!’ ขึ้นมา เธอบอกกับ Chris ว่า “นายงานเข้าแน่ๆ นายจะต้องไปเข้าคุก!!” จากนั้นก็ตะโกนขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยว่า “นายทำร้ายฉัน เขาพยายามที่จะขับรถทับฉัน!!” ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ขยับเขยื้อนรถไปไหนเลยแม้แต่น้อย Chris เล่าเหตุการณ์เพิ่มเติมผ่านทางเฟซบุ๊กว่า หลังเหตุการณ์ในคลิป เขาไม่หยุดรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง แต่ถอยรถออกไป และขับออกทางออกที่ถูกต้อง …
-
นักศึกษาเคมบริดจ์ ร่วมใจ “เปลือยกาย” ถ่ายภาพลงปฏิทิน ระดมเงินบริจาคให้กับสังคม
สำหรับนักศึกษาที่ได้ชื่อว่าเป็น ปัญญาชน ย่อมไม่เอนอ่อนไปตามคำตัดสินของสังคม การกระทำเช่น “การเปิดร่างกายบางส่วน” บางครั้งก็อาจมีเหตุผลเพียงพอในการกระทำเช่นนั้น ใช่ว่าจะเป็นการกระทำไร้ความคิดเสมอไป อย่างเช่น นักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่ได้ร่วมใจกันเผยเรือนร่าง เปลื้องผ้าถ่ายภาพลงปฏิทินในโครงการ Cambridge Blues เพื่อจำหน่ายระดมทุน “ช่วยเหลือสังคม” โดยเหล่านักศึกษาที่ร่วมการถ่ายภาพในครั้งนี้ก็จะเป็นเหล่านักกีฬาของมหาวิทยาลัย เช่น นักกีฬาเนตบอล ว่ายน้ำ สกี ลาครอส ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล เป็นต้น โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดย สมาคมการกุศลแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge Raising and Giving) โดยตรง และไม่ได้มีเสียงคัดค้านใดๆ จากทางมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น กลับมีคำชื่นชมเสียอีก สถานที่ถ่ายภาพเปลือยชุดนี้ ก็คือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายๆ แห่งในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ไม่ว่าจะเป็น สะพานคณิตศาสตร์ (Mathematical Bridge), สวนพฤกษศาสตร์, และอาคารสมาคมสหภาพเคมบริดจ์ (Cambridge Union Society) ที่เป็นชมรมโต้วาทีที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย แม้ว่าการลุกขึ้นเปลื้องผ้าแล้วถ่ายแบบเช่นนี้จะเป็นสิ่งใหม่สำหรับเหล่านักศึกษา แต่พวกเขาเองก็เต็มใจและยอมรับมันเนื่องจากคิดว่าเป็นความท้าทายใหม่ๆ แถมยังได้ช่วยนำเงินไปบริจาคช่วยเหลือสังคมอีกด้วย Joanna Moest…
-
หัวเหว่ยทวีตแซะแรง ‘ขอบคุณที่ยังทำอะไรเดิมๆ’ หลังการเปิดตัว iPhone X โมเดลใหม่
นับว่าเป็นสีสันที่มักจะเกิดขึ้นทุกปี เมื่อมีการเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ของเหล่าบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำจากทั่วโลก ก็มักจะมีค่ายคู่แข่งออกมาหยอกนิดแซวหน่อย แน่นอนว่าเจ้าประจำที่มักจะถูกหมายปองจากทุกบริษัท ก็คงหนีไม่พ้นค่ายผลไม้ Apple กับ iPhone คู่ใจของเขานั่นแหละ… ภายหลังจากที่มีการเปิดตัวไปแล้ว กับโมเดลใหม่ในปี 2018 ของทางค่ายผลไม้ ที่งัดรุ่นใหม่ออกมาขายอย่าง iPhone Xr, iPhone Xs และ iPhone Xs Max ด้วยเทคโนโลยีที่เพิ่มเติมเสริมอัดแน่นแบบแรงๆ ทำเอาแฟนคลับอู้หูว อู้ว้าว พร้อมกับราคาแรงๆ ด้วยเช่นกัน ทุกท่านคงจะทราบกันมาบ้างแล้วว่าภายใน iPhone โมเดลล่าสุดนั้น อัดแน่นไปด้วยอะไรใหม่ๆ บ้าง (ตามที่แถลงในพรีเซ็นต์เปิดตัวโมเดลใหม่) แต่ทว่าอีกหนึ่งบริษัทที่กำลังมาแรงเช่นเดียวกัน ได้ทำการทวีตทักทายอย่างเงียบๆ ในทวิตเตอร์อยู่… และเจ้านั้นก็ไม่ใช่อื่นนอกเหนือจาก ‘หัวเหว่ย’ แซวด้วยข้อความ ‘ขอบคุณที่ยังทำอะไรเดิมๆ ไว้เจอกันที่ลอนดอน 16.10.18’ Thank you for keeping things the same. See…
-
โรงเรียนแบนเด็กชายวัย 6 ขวบ เพราะกลัวว่าผมทรง “โมฮอว์ค” ของเขาจะ “แทงตาเพื่อน”?!
ทรงผม “โมฮอว์ค” คือทรงที่วัยรุ่นชายหลายๆ คนนิยมตัดกัน ไม่เว้นแม้แต่เด็กชายวัย 6 ขวบคนนี้ที่มองว่าทรงผมนั้นมันเท่ดี เขาเลยกะจะเอาไปอวดเพื่อนที่โรงเรียนในช่วงเปิดเทอมสักหน่อย แต่ทรงผมที่ว่านั้นก็ได้ทำให้เขาถูกห้ามไม่ให้เข้าเรียน โดยทางโรงเรียนให้เหตุผลว่าทรงผมของเขามัน “พิสดารสุดโต่ง” เกินไป จนอาจแทงตาเพื่อนๆ คนอื่นได้?! เด็กวัย 6 ขวบกับทรงผมโมฮอว์ค Charlie Chafer คือเด็กชายชาวอังกฤษที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ เขาตัดผมทรงโมฮอว์คไปโรงเรียนในวันเปิดเทอมช่วงต้นเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา จนกระทั่งวันที่ 7 กันยายน 2018 ทางโรงเรียนประถม Drayton Park ได้โทรติดต่อหา Kristie แม่ของเด็กว่าไม่อนุญาตให้ Charlie เข้ามาเรียนได้ เนื่องจากทรงผมของเขาไม่เหมาะสม Charlie และ Kristie ทางโรงเรียนได้ให้เหตุผลไว้ว่าผมทรงโมฮอว์คที่เขาตัดไปถือว่ามัน “พิสดารสุดโต่ง” เกิน อาจทำให้นักเรียนคนอื่นๆ และตัวเขาเองเสียสมาธิ รวมถึงความอันตรายที่อาจ “แทงตา” เพื่อนๆ คนอื่น ด้วยเหตุนั้นเอง โรงเรียนจึงบอกให้เด็กชายไปโกนผมทรงนี้ออกก่อนถึงจะกลับมาเข้าเรียนได้ตามปกติ …
-
บริษัทญี่ปุ่นสุดล้ำผลิต ‘Muscle Trainer’ รองเท้าที่ช่วยเบิร์นพลังงานได้มากกว่าเดิม!?
ใครๆ ก็รู้ดีว่า ‘การออกกำลังกาย’ เป็นเรื่องที่สำคัญกับสุขภาพของคนเรา เพราะว่านอกจากจะทำให้เราเจ็บป่วยได้ยากขึ้นแล้ว มันยังทำให้เรามีรูปร่างที่สมส่วน ทำอะไรก็พลิ้วไหวไปซะหมด แต่ปัญหาสำหรับบางคนมันอยู่ที่ว่า ออกกำลังกายไปเท่าไหร่ก็ไม่เห็นผลซะทีเลยเกิดอาการเบื่อพาลเลิกซะดื้อๆ ถ้าอย่างนั้นล่ะก็นี่อาจเป็นวิธีแก้ปัญหาที่คุณกำลังมองหาอยู่ เพราะมันจะดีแค่ไหนที่ออกกำลังกายเท่าเดิมแต่ว่าได้เบิร์นมากขึ้น!! โดยตัวช่วยที่ว่านี้ก็คือรองเท้าที่มีชื่อว่า Muscle Trainer ที่ทางบริษัทผู้ผลิตอ้างว่า ปกติแล้วการเดินเป็นเวลา 30 นาทีจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้อยู่ที่ประมาณ 75 – 150 แคลอรี่ แต่ว่าถ้าหากใส่รองเท้านี้แล้วจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 300 แคลอรี่ ในระยะเวลาที่เท่ากัน ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าทำไมรองเท้านี้มันถึงได้วิเศษขนาดนี้ ทางผู้ผลิตก็บอกว่าสิ่งที่ทำให้มันสามารถเผาผลาญได้มากขนาดนี้ก็เป็นเพราะ ‘การเพิ่มน้ำหนัก’ ให้กับรองเท้า ซึ่งปกติรองเท้าทั่วไปจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 200 – 400 กรัม ทว่า Muscle Trainer จะเพิ่มน้ำหนักเข้าไปอีก 1,200 กรัม (สำหรับผู้หญิง) และ 1,400 กรัม (สำหรับผู้ชาย) ในแต่ละข้างนั่นเอง สำหรับสิ่งที่ใช้ในการเพิ่มน้ำหนักนี้ก็คือเหล็กเม็ดเล็กๆ ที่มาในลักษณะลูกบอลซ่อนอยู่ในรองเท้า โดยทางบริษัทอธิบายว่ามันเป็นนวัตกรรมที่ทางบริษัทจดสิทธิบัตรเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว และนอกจากนี้ก็การออกแบบในทรง High…
-
ฝรั่งแห่สักคำไทย ทั้งชื่ออาหารและใต้สะดือ ไปไกลถึงสื่อนอก ต่างชาติยังบอกว่าฮา!?
เมื่อไม่นานมานี้ มีกระแสแชร์ภาพรอยสักคำไทยของฝรั่งสาวรายหนึ่ง ที่สักคำว่า ‘ปอเปี๊ยะสด’ อยู่บนแผ่นหลัง ทำเอาชาวเน็ตไทยต่างพากันชอบใจเฮฮาไปตามประสา พาลทำให้ชวนคิดว่าฝรั่งสาวคนนี้น่าจะชอบกินจริงๆ ถึงขั้นลงทุนสักเอาไว้เลย ‘ปอเปี๊ยะสด’ กลับกลายเป็นว่าไม่ใช่เพียงแค่ฝรั่งสาวปอเปี๊ยะสด แค่รายเดียวเท่านั้น เพราะยังมีภาพรอยสักคำไทยจากฝรั่งรายอื่นๆ โผล่ตามมาอีกเพียบ ซึ่งแต่ละคำก็ยิ่งทำให้ไม่แน่ใจแล้วว่า ฝรั่งชอบคำนั้นหรือเป็นเพราะอยากสักแค่ตัวอักษรไทย? โดยรวมแล้วเป็นชื่อของเมนูอาหาร หรือไม่ก็คำในแง่ลบเกี่ยวกับเรื่องใต้สะดือทั้งนั้น แบบว่าฝรั่งอยากได้ตัวอักษรไทย แต่ไม่รู้คำไทย ก็เลยให้ช่างสักจัดให้ตามใจช่างรึเปล่า… ก๋วยเตี๋ยวน้ำไก่ x ฉันชอบxีและxีรักฉัน แน่นอนว่าคนไทยได้เห็นรอยสักแบบนี้ ก็อดกลั้นขำไม่ได้แน่ๆ สำหรับรอยสักที่เกี่ยวกับชื่ออาหารก็คงจะไม่เท่าไหร่ แต่คำหยาบๆ ที่ทิ้งไว้บนผิวหนังของฝรั่งนี่ ตั้งใจแกล้งกันแรงๆ อารมณ์ประมาณจ่ายน้อยได้น้อยกระมัง ข้าวมันไก่!! อู๋ลูกชิ้นปลาเยาวราช ซึ่งหลังจากที่ภาพรอยสักคำไทยเหล่านี้ โผล่ออกไปในโลกออนไลน์ สำนักข่าวต่างประเทศก็ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวออกไปรายงานด้วย ด้านชาวเน็ตต่างชาติต่างก็รู้สึกตลกขบขันเช่นกัน แต่ก็มีบางส่วนรู้สึกไม่พอใจ ช่างสักคงจะทำเกินไปเสียหน่อย และเป็นโชคร้ายของนักท่องเที่ยวรายนั้นไปซะนี่… โคตรฮา! เรารู้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในพัทยา และเราก็หัวเราะให้กับความโง่ของนักท่องเที่ยวที่ไม่ตรวจสอบให้ดีก่อน ทำไมถึงยอมเอาอะไรก็ไม่รู้ไปวางบนร่างกาย โดยที่ไม่รู้ความหมายของมัน?…
-
พบกับคุณหมออารมณ์ดี ชวนเหล่าคนไข้เต้นทุกครั้งที่รักษา เพื่อสร้างความสุขให้กับพวกเขา!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘หมอ’ ถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่เรียกได้ว่าต้องทำงานกับ ‘ความเครียด’ แทบจะตลอดเวลา เพราะพวกเขามีชีวิตของเหล่าคนไข้เป็นเดิมพัน และหลายๆ ครั้งพวกเขาก็ทำมากกว่า ‘การรักษาทางกาย’ ให้กับผู้ป่วย ด้วยการสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับพวกเขา นี่คือเรื่องราวสุดประทับใจของ Tony Adkins คุณหมออารมณ์ดี วัย 42 ปี จากเขต Orange County รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มักจะมาสร้างความสนุกสนานให้กับเหล่าเด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงในโรงพยาบาลเด็ก ในทุกๆ ครั้งที่ทำการรักษาเด็กๆ เขามักจะเต้นด้วยความสนุกสนาน รวมไปถึงชวนเหล่าเด็กๆ เต้นด้วย ราวกับว่าการเต้นเหล่านั้นเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาของเขา จนถึงกับขนาดที่ว่าได้รับฉายาให้เป็น ‘Dancing Doc‘ หรือ ‘คุณหมอนักเต้น’ เลยทีเดียว!! คุณหมอเล่าว่าที่ทำแบบนี้เพราะตนต้องการที่จะ ‘อยากรักษาความสนุกในวัยเด็กของเหล่าผู้ป่วยของเขาเอาไว้ ก็เลยตัดสินใจที่จะเต้นเพื่อทำให้พวกเขามีความสุข’ “การเต้นกับผู้ป่วยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ดีๆ จากการที่พวกเขาเข้ามารักษาตัวที่นี่” “ผมต้องการที่จะเก็บรักษาช่วงเวลาอันสำคัญของเด็กๆ เอาไว้ เวลามันผ่านไปเรื่อยๆ ช่วงวัยแห่งความเป็นเด็กของพวกเขาเองก็ค่อยๆ ผ่านไปเรื่อยๆ เช่นกัน มันไม่สามารถกดหยุดเหมือนกับในหนังได้”…
-
เกาะอันห่างไกล “ไร้อาชญากรรม” มานานกว่า 20 ปี ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำงานแล้ว
เกาะเล็กๆ ห่างไกลผู้คนแห่งนี้มีชื่อว่าเกาะ Gigha ตั้งอยู่ในเขตของประเทศสกอตแลนด์ เป็นพื้นที่ “ปลอดอาชญากรรม” มาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา แต่ล่าสุดวันที่ 9 กันยายน 2018 สถิติปลอดอาชญากรรมดังกล่าวนั้นก็พังทลายลง เมื่อมีคนแอบขโมยเงินโรงแรมไป 2,000 ปอนด์ (หรือราวๆ 85,000 บาท) โรงแรม Gigha Hotel คือโรงแรมแห่งเดียวบนเกาะแห่งนี้ ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยมีความคิดที่จะติดกล้องวงจรปิดมาก่อนเลย จนกระทั่งได้เกิดเหตุอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น สำหรับเราแล้วคดีขโมยเงินหลักหมื่นอาจดูไม่หนักหนามากอะไรขนาดนั้น แต่กับชาวบ้านบนเกาะแห่งนี้ พวกเขาต่างพากันรู้สึกผิดหวังต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ลองคิดดูว่าทั้งเกาะมีประชากรแค่ 160 คน ไปไหนมาไหนก็รู้จักกันหมด ไว้ใจกันมาตลอด คดีอาชญากรรมล่าสุดที่เคยเกิดขึ้นนั้นก็นานมากแล้ว จู่ๆ กลับมีคนคิดเป็นโจรผุดมาซะอย่างนั้น Willie McSporran ชาวบ้านวัย 82 ปีบอกว่าอาชญากรรมล่าสุดที่เคยเกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้ คือเหตุขโมยจักรยานเมื่อตั้งแต่ 20 ปีก่อนโน้นแล้ว หลังจากนั้นมาก็ไม่เคยมีเหตุอาชญากรรมใดๆ เกิดขึ้นอีกเลย จนกระทั่งเกิดการขโมยเงินขึ้นที่โรงแรม ซึ่งนั่นมันทำให้ความเชื่อใจที่มีต่อกันของเหล่าชาวบ้านนั้นสั่นคลอน และพวกเขาก็พยายามเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุเป็นการด่วน …
-
วินาทีชายไร้บ้านเข้าประชิดตัวผู้ร้าย ‘สละชีวิตของตัวเอง’ เพื่อแลกอิสระของตัวประกัน
เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2015 ในประเทศบราซิล หลังจากที่มีคนร้ายก่อเหตุชิงตัวประกันภายในมหาวิหารเซาเปาโล พร้อมกับอาวุธปืน เกิดเป็นเหตุชิงตัวประกันที่อาจจะเกิดความสูญเสียได้ทุกเมื่อ… Luiz Antonio da Silva วัย 49 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เข้าไปภายในมหาวิหารเซาเปาโล และจับนาง Elenilza Mariana de Oliveira ขณะกำลังสวดมนต์เป็นตัวประกัน ฉุดกระชากลากออกมายังบริเวณหน้ามหาวิหาร สืบประวัติพบว่านาย da Silva นั้นเคยต้องโทษจำคุก 22 ปี มาก่อน จากข้อหาลักเล็กขโมยน้อย ทำลายทรัพย์สินและทำร้ายร่างกายหลายคดี จนกระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้ อันเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา ภายใต้ความกดดันของสถานการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดล้อมพื้นที่เอาไว้ โดยที่ยังไม่ได้ทำการเข้าประชิดตัวผู้ร้ายและตัวประกันแต่อย่างใด โดยในระหว่างนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนเจราจา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสูญเสียโดยไม่คาดคิด แต่แล้วในช่วงจังหวะเพียงเสี้ยววินาที นาย Erasmo Francisco Rodrigues de Lima วัย 61…
-
คุณแม่ใจแกร่ง ทำสกูปรายงานข่าว ‘ลูกสาวตัวเองเสียชีวิต’ โดยที่ไม่ร้องไห้ออกมา…
ความเป็นมืออาชีพคือสิ่งที่ควรมีในทุกวิชาชีพ สามารถปฏิบัติงานให้ลุล่วงได้แม้จะมีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม นั่นก็คือการแยกแยะระหว่างชีวิตส่วนตัวและงานออกจากกันได้ แต่ทว่าเมื่อพูดถึงการรายงานข่าว หากเป็นแนวข่าวคราวการเสียชีวิตของใครคนหนึ่งก็นับว่าแย่พอแล้ว หากว่าจะต้องมารายงานข่าวการเสียชีวิตของลูกสาวตัวเองล่ะ จะเจ็บปวดมากขนาดไหน… นับว่าเป็นฝันร้ายที่กลายเป็นจริงของผู้ประกาศข่าว Angela Kennecke ของสถานีโทรทัศน์ KELO-TV ประเทศสหรัฐอเมริกา และเธอก็ตัดสินใจด้วยความกล้าหาญ ทำการรายงานข่าวถึงภัยร้ายของการใช้ยาเกินขนาด ที่มีลูกสาวของตัวเองเป็นผู้เสียชีวิต… Emily Groth ผู้มีศักดิ์เป็นลูกสาวของ Angela เสียชีวิตในวัย 21 ปี ด้วยสาเหตุของการใช้ยาเฟนทานิลเกินขนาด (ยาระงับปวดประสิทธิภาพสูงในกลุ่มโอปิออยด์) ส่งผลรุนแรงจนทำให้เป็นพิษต่อร่างกายในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา I'm issuing a personal plea to end the stigma surrounding addiction and a call for action regarding the opioid crisis! pic.twitter.com/Ayxlf43UQm — Angela Kennecke (@AngelaKennecke) September…
-
‘ปูติน’ โชว์เสน่ห์ปลายจวักชวน ‘สี จิ้น ผิง’ ทำแพนเค้กใส่คาเวียร์กินร่วมกัน ดูน่ารักไปอีกแบบ…
ขึ้นชื่อว่า ‘วลาดีเมียร์ ปูติน’ แล้วใครๆ อาจจะติดภาพของเขาในฐานะของประธานาธิบดีแห่งประเทศรัสเซีย แต่รู้ไหมว่าอีกความสามารถหนึ่งของเขาก็สามารถเป็น ‘พ่อครัว’ ปรุงจัดตัดแต่งอาหารให้ออกมาแสนอร่อยได้เหมือนกัน!! โดยในระหว่างเวทีการประชุมด้านเศรษฐกิจ Eastern Economic Forum ที่จัดขึ้นในประเทศรัสเซียสัปดาห์นี้ ปูตินได้ออกมาโชว์ลวดลายเสน่ห์ปลายจวักด้วยการชวน ‘นายสี จิ้น ผิง’ ประธานาธิบดีแห่งประเทศจีน มาทำอาหารท้องถิ่นของรัสเซียต่อหน้ามวลชนรวมถึงสื่อต่างๆ วิดีโอตอนทำอาหาร และเมนูที่ทั้งสองทำร่วมกันก็คือแพนเค้กพื้นบ้านของรัสเซียที่มีชื่อเรียกว่า ‘Blini’ และนอกจากนี้ด้วยความที่ในปัจจุบันประเทศจีนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ผลิต ‘ไข่ปลาคาเวียร์’ รายใหญ่ของโลก จึงได้มีการนำเอาไข่ปลามาประยุกต์ใส่ในแพนเค้กกลายเป็นอาหารฟิวชั่นขึ้นมาในทันที หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการโชว์ทำอาหารแล้ว ก็ดูเหมือนว่าทั้งสองจะมีความสุขกับอาหารมื้อนี้มาก แถมยังมีการร่วมฉลองอย่างสนุกสนานด้วยการดวลว็อดก้าแบบช็อตต่อช็อตกันด้วย อันที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้นำทั้งสองโชว์การทำอาหารร่วมกัน เพราะทั้งคู่เคยหัดทำ ‘เกี๊ยว’ มาแล้วพร้อมๆ กันขณะที่อยู่ประเทศจีนเมื่อครั้งอดีต นี่อาจเป็นการแสดงออกถึงความมีมิตรภาพของผู้นำทั้งสองประเทศที่รักใคร่กลมเกลียวกันเสียจริงๆ ซึ่งจุดเริ่มต้นในเรื่องนี้ก็เริ่มมาตั้งแต่ที่นายสี จิ้น ผิง ได้เป็นประธานาธิบดีในปี 2012 และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทั้งคู่ก็ไปมาหาสู่กันจนมีครั้งหนึ่งนาย สี เคยบอกไว้ว่า “มิตรภาพของพวกเราแข็งแกร่งขึ้นตลอดเวลา” เลยด้วย เมื่อครั้งทำเกี๊ยวกินกันในอดีต เห็นคาเวียร์แล้วน่ากินจริงๆ ที่มา:…
-
“พ่อเมาหนัก” ควักปืนยิงลูกน้อยวัย 6 เดือนเสียชีวิต หลังจากที่ภรรยา “ไม่ยอมมีเซ็กส์” ด้วย
เป็นอีกหนึ่งโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจากความเมาขาดสติ นำไปสู่การกระทำอันไร้ความปรานี เมื่อพ่อควักปืนยิงลูกน้อยเสียชีวิต หลังภรรยาไม่ยอมมีเซ็กส์กับเขา เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากการที่ Maycon Salustiano Silva หนุ่มวัย 25 ปีในเมืองลุยเซียเนีย ประเทศบราซิล ดื่มเหล้าและเสพกัญชาเข้าไปเป็นปริมาณมาก จนทำให้เกิดอาการเมามาย สติหลุดลอย Maycon และภรรยาของเขา จากการรายงานบอกว่า ช่วงดึกของวันที่ 11 กันยายน 2018 Maycon ที่กำลังอยู่ในอาการเมานั้นพยายามปลุก Jennifer ภรรยาวัย 20 ปีของเขา เพื่อที่จะมีเซ็กส์ด้วย แต่ Jennifer ปฏิเสธและบอกกับเขาว่าตนเองรู้สึกเหนื่อยล้าอยากพักผ่อน และนั่นก็ได้กลายเป็นสาเหตุของการทะเลาะมีปากเสียงกันระหว่างทั้งสองคน Maycon แสดงความไม่พอใจอย่างหนัก มีการใช้กำลังกับภรรยา ก่อนที่เขาจะเดินไปควักปืนที่ซ่อนไว้ใต้โซฟาออกมา เล็งไปที่ฝั่งหญิงสาว ภรรยาที่อยู่กินกันมา 4 ปี พยายามขอร้องให้เขาใจเย็นๆ ก่อน แต่ด้วยฤทธิ์ของความเมามายไร้สติ ทำให้ชายหนุ่มไม่อาจห้ามตัวเองได้ เขาเปลี่ยนใจหันปืนไปที่ลูกน้อยวัย 6 เดือน Michel พร้อมกับตะโกนใส่ Jennifer…
-
หมอพบ “พยาธิตัวตืด” ในสมองคนไข้หนุ่ม แม้เอาออกมาแล้วก็ยังคง “แหวกว่าย” ได้อยู่
เราอาจเคยได้ยินคำว่า “พยาธิขึ้นสมอง” ซึ่งมันเกิดขึ้นจริงกับคนไข้หนุ่มคนนี้ และความน่าขนลุกอีกอย่างก็คือ เมื่อแพทย์นำมันออกมาก็พบว่าเจ้าพยาธินั้นยังคง “มีชีวิต” สามารถเคลื่อนไหวได้อยู่ นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับชายแซ่ Liu วัย 26 ปี หนุ่มร่างกายแข็งแรงสุขภาพดีมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เขาได้มีอาการของโรคลมชักเข้ามา จึงไปทำการตรวจร่างกายกับแพทย์ ดอกเตอร์ Wang Chunliang จากโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย Nanchang ประเทศจีน เป็นคนตรวจร่างกายให้กับเขา และเมื่อทำการตรวจเลือดถึงพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกายของชายคนนี้ ภาพภายในสมองของชายคนนี้ กับเจ้าพยาธิที่กำลังแหวกว่ายอยู่ แพทย์พบว่ามี “พยาธิตัวตืด” อยู่ในสมองของคนไข้หนุ่ม ทำให้วันที่ 10 กันยายน 2018 หมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจำเป็นต้องเอาเจ้าพยาธิออกมา เมื่อนำพยาธิความยาวราวๆ 10 เซนติเมตรออกมาได้สำเร็จ เหล่าทีมแพทย์ก็ต่างพากันรู้สึกขนลุกกับเจ้าปรสิตตัวนี้ เพราะมันยังมีชีวิตอยู่ เคลื่อนไหว แหวกว่าย (แล้วลองคิดภาพตอนมันอยู่ในสมองของเราสิ บรึ๋ยยยย) พยาธิความยาวราวๆ 10 ซม. ที่ถูกเอาออกมาจากสมองของเขา อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมากล่าวเตือนกับทุกคนว่าการกินของดิบ กึ่งดิบกึ่งสุก…
-
มาได้ยังไง?? เด็กหญิงจีนเจอ “ปลาอัลลิเกเตอร์” กัดแผลเหวอะขณะให้อาหารปลาแถวบ้าน
ความอันตรายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออย่างไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ แม้กระทั่งในสถานที่ซึ่งดูแล้วไม่น่ามีอะไรก็กลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นได้ อย่างเช่นเรื่องนี้ ที่เด็กสาวชาวจีนวัย 9 ขวบถูก “ตัวประหลาด” งับเข้าที่มือจนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ขณะที่เธอกำลังให้อาหารปลาอยู่ที่บ่อน้ำประดับในละแวกที่อาศัย เมืองหนานหนิง เขตปกครองกวางสี ประเทศจีน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2018 ภาพและคลิปวิดีโอรายงานเหตุการณ์ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วอินเทอร์เน็ต เจ้าหน้าที่ดูแลชุมชนจึงออกตามหา “ตัวประหลาด” ดังกล่าวว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ หลังเกิดเหตุได้ราว 40 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ก็พบสิ่งมีชีวิตที่ทำร้ายเด็กสาวดังกล่าวได้ มันเป็น ปลาสัญชาติอเมริกาใต้ ตัวยาว 1 เมตรและมีน้ำหนัก 10 กิโลกรัม คลิปวิดีโอรายงานเหตุการณ์ ปลาตัวดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเป็น ปลาอัลลิเกเตอร์ (Alligator Gar) ปลานักล่าที่สามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ฉายาของปลาชนิดนี้คือ “ฟอสซิลที่ยังหายใจ” ร่างกายของมันมีรูปร่างคล้ายตอร์ปิโด มีเกล็ดซ้อนทับแบบกานอยด์ที่หนาและแข็งราวกับกระดูก พร้อมกับเขี้ยวและฟันที่ทั้งใหญ่และแหลมคม ปลาอัลลิเกเตอร์ ผู้ก่อเหตุ รอยบาดแผลจากการถูกปลาอัลลิเกเตอร์ดังกล่าวกัด…
-
สาวสวยสุดเซ็กซี่ “ขี่ม้า” ชิลอยู่บนถนนในยามค่ำคืน ก่อนโดนตำรวจรวบตัวไปสอบสวน
ช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่มของวันที่ 12 กันยายน 2018 ได้มีภาพเหตุการณ์ประหลาดๆ ที่หาชมได้ยากในประเทศจีน เมื่อจู่ๆ ก็มีสาวสวยคนหนึ่ง “ขี่ม้า” ออกมาเดินเล่นอยู่ตามท้องถนน น่าขี่จริงๆ เลยนะ…. ม้าเนี่ย ภาพนี้ถูกถ่ายได้เมืองยานาน ประเทศจีน สาวนิรนามอยู่ในชุดรัดรูปสีดำออกควบม้าโทนสีเดียวกัน ด้วยท่าทางชิลๆ ราวกับการออกมาปั่นจักรยานรอบเมืองเล่นๆ ยังไงยังงั้น สิ่งที่เกิดขึ้นทำเอาคนเดินผ่านไปผ่านมาหรือผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งหลายต่างพากันมองจนเหลียวหลัง เกิดความสงสัยว่าเธอเป็นใคร และทำไมถึงได้ออกมาขี่ม้าแบบนี้?? เธออาจคิดว่ามันสะดวกดี ไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องหาที่จอดให้ยาก จนกระทั่งมีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งชะลอความเร็ว หันไปถามเธอว่า “ทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย?!” สาวเจ้าก็ตอบกลับมาว่า “ไม่มีอะไร ฉันแค่พาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นบ่าดาย” สัตว์เลี้ยงเดี๊ยนเองค่ะ แต่ดูแล้วการพาสัตว์เลี้ยงออกมาเดินเล่นของเธออาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมสาวคนนี้ในเวลาต่อมา จากการรายงานบอกว่าสาวสวยวัย 26 ปีคนดังกล่าวถูกสอบปากคำที่สถานีตำรวจ โดยให้เหตุผลคลุมเครือ ไม่แน่ชัดว่าทำไมเธอถึงออกมาขี่ม้าในเวลานั้น โชคดีที่ตำรวจเห็นใจ แค่กล่าวตักเตือนไม่ให้เธอทำอย่างนี้อีก ก่อนที่จะปล่อยตัวเธอและม้ากลับไป จ๋อยกันทั้งคนทั้งม้าเลยแฮะ…
-
เชื่อยาย!! คุณยายอายุ 105 ปี เผยเคล็ดลับในการมีชีวิตที่ยืนยาว ‘อยู่เป็นโสดสิหลานเอ้ย’
การจะมีอายุที่ยืนยาวนั้นจะต้องทำอย่างไร? คำถามนี้คงจะอยู่ในใจใครหลายๆ คนที่เริ่มมีอายุเยอะขึ้นหลัก 50 ปีขึ้นไปซึ่งปกติแล้ว คำตอบที่ได้ก็คงเป็น ดูแลสุขภาพตัวเองให้ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บนั่นเอง สำหรับคุณยาย Brenda Osborne นั้นมีอายุครบ 105 ปีแล้ว เรียกได้ว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย อยู่มานานจนผ่านสงครามโลกมาได้ถึง 2 ครั้ง ผลัดเปลี่ยนยุคของนายกฯ ของอังกฤษมาถึง 24 คน และเคล็ดลับการมีชีวิตที่ยืนยาวของคุณยายนั้นก็คือ ‘การอยู่เป็นโสด’ หื้ม!? คุณยายว่างั้นจริงเหรอ? ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดูแลในบ้านพักคนชรา ได้ถามถึงเคล็ดลับการมีอายุยืนของคุณยาย คำตอบที่ได้จากปากคุณยายทำเอาอึ้งกันไปหมดเลยทีเดียว เพราะคุณยายกล่าวอย่างเรียบง่ายด้วยประโยคดังต่อไปนี้ ‘ที่ฉันมีสุขภาพดีได้ขนาดนี้ ก็เป็นเพราะการทำงานหนักและหลีกเลี่ยงการคบผู้ชายยังไงล่ะ’ ประวัติชีวิตของคุณยายนั้น เธอแทบจะใช้ทั้งชีวิตอยู่ภายในบ้านเกิดของตัวเองมาตลอด 93 ปี ก่อนที่จะย้ายเข้ามาอยู่ภายในบ้านพักคนชรา Brookholme Croft Nursing Home เธอเริ่มทำงานเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลวิคตอเรีย ตั้งแต่ปี 1940 คอยดูแลทหารจากปฏิบัติการดันเคิร์ก และกลายมาเป็นพยาบาลอาวุโสในปี 1953 นอกจากนั้นแล้วคุณยาย Brenda ก็ได้รับรางวัลพยาบาลดีเด่นจากการลางานเพียงแค่วันเดียวตั้งแต่ทำงานมาได้…
-
หนุ่มใหญ่ละเลย ‘ผื่นฉกรรจ์บนหรรมส์’ ปล่อยไว้นาน ลามเป็น ‘มะเร็งหรรมส์’ ต้องตัดทิ้ง
นับว่าเป็นโรคร้ายที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกอวัยวะของร่างกายมนุษย์จริงๆ โดยเฉพาะในรูปแบบการแฝงตัวมากับโรคต่างๆ แล้วก็พัฒนาร่างแห่งความร้ายกาจเป็น ‘มะเร็ง’ ในภายหลัง เรื่องของคุณพ่อลูกสอง ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของตัวเขาเองเป็นครั้งแรก ที่จะต้องตัดขาดจากความเป็นชายอย่างถาวร จากผื่นที่ไร้พิษสงใดๆ กลับกลายมาเป็นมะเร็งหายากได้เสียนี่ Neil Walker วัย 54 ปี ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งอวัยวะเพศชายในปี 2014 หลังจากที่มีผื่นแปลกๆ ที่ขึ้นบนอวัยวะเพศไม่มีวี่แววว่าจะหายสักที คุณพ่อเองก็เริ่มรู้สึกเป็นกังวลและต้องการที่จะตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม และหลังจากที่ค้นพบความจริงว่าเป็นมะเร็งอวัยวะเพศชาย แพทย์ได้ยื่นคำขาดกับเขา ต้องทำการตัดหรรมส์ส่วนก้านบนทิ้งไป และจะทำการสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยผิวหนังจากส่วนขาของเขา!! อย่างไรก็ดี มะเร็งร้ายก็ยังวนเวียนกลับมาหาเขาในช่วงเดือนสิงหาคมเมื่อปีที่แล้ว ชะตากรรมหรรมส์ของ Neil นั้นก็ต้องบอกลากันแต่โดยดี เขาทำการตัดหรรมส์ทิ้งทั้งหมดในเดือนมีนาคมปีนี้ และจะต้องปรับตัวไปตามสภาพทั้งๆ ที่ยังไม่มีลูกเลย… “หลังจากการผ่าตัดครั้งแรก ผมไม่ได้รู้สึกเศร้าหมองนะ เพราะหมอบอกว่าจะสร้างส่วนหัวของผมให้ใหม่จากเนื้อส่วนขาของผม หลังจากนั้นผมก็คิดว่าเริ่มจะกลับมาเป็นปกติ แต่แล้วผื่นก็โผล่มาอีกครั้งในเดือนสิงหาคมปี 2017 และผมรู้ได้ทันทีว่ามะเร็งมันกลับมาอีกแล้ว…” “ครั้งนี้ ผมสูญเสียการมองเห็นในดวงตาทั้งสองข้างด้วย เพราะการฉีดยาสลายลิ่มเลือด ยิ่งทำให้เกิดความสับสันในการรักษามะเร็งของผมมากขึ้นไปอีก และในตอนนี้ผมก็โดนตัดความเป็นชายออกจนหมดสิ้น จะปัสสาวะได้ออกจากรูที่เจาะไว้หลังถุงอัณฑะนี่แหละ” “อะไรที่เลวร้ายทำนองนี้…
-
พ่อแม่สลับเพศ!? ครอบครัวข้ามเพศคู่แรกแห่งอังกฤษ เผยยังเลี้ยงลูกได้ โดยไม่คำนึงเพศ
ปัจจุบันนี้เริ่มมีการเปิดกว้างในเรื่องของความหลากหลายทางเพศ หากใครที่รู้สึกว่าจิตใจไม่ตรงกับเพศสภาพ ก็สามารถปฏิบัติตัวในตามที่ใจตัวเองต้องการได้ และสังคมก็พร้อมจะยอมรับกับตัวตนของพวกเขาเหล่านั้น Star (ซ้าย) Louise (กลาง) Nikki (ขวา) แต่เรื่องที่กำลังจะเอ่ยถึงต่อไปนี้ อาจจะสร้างความสับสนเสียหน่อย เมื่อสถาบันครอบครัวที่มีพ่อแม่และลูก กลับตาลปัตรเนื่องจากพ่อเคยเป็นผู้หญิง และแม่เคยเป็นผู้ชายมาก่อน แต่ก็ยังเลี้ยงลูกได้ตามปกติเหมือนกับคนทั่วไป… Louise และ Nikki Draven จากเมือง Middlesbrough ประเทศอังกฤษ กล่าวว่าพวกเขารู้สึกไม่สมบูรณ์ และกำลังวางแผนที่จะแปลงเพศด้วยการผ่าตัด เพื่อให้ลูกของพวกเขา Star Cloud วัย 5 ขวบ รู้สึกมีความสุขมากขึ้น ทั้งนี้ ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ที่กำลังจะทำการสลับเพศกัน เผยว่าพวกเขาเลี้ยงลูกโดยไม่คำนึงถึงว่าลูกจะเป็นเพศอะไร แม้จะสามารถบอกได้ว่าเป็นเด็กชายก็ตาม ทั้งนี้ Louise ก็คือพ่อแท้ๆ โดยที่ลูกของเขาเรียกว่าแม่อย่างเต็มปาก และกำลังจะกลายมาเป็นผู้หญิงอย่างเต็มตัวในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ส่วน Nikki แม่ผู้ให้กำเนิด จะกลายมาเป็นคุณพ่อและเปลี่ยนชื่อมาเป็น Charlie โดยทำการวางแผนแปลงเพศของตัวเองในช่วงก่อนที่ลูกจะมีอายุครบ 10 ปี…
-
ไบก์เกอร์หนุ่มถูกยกให้เป็นฮีโร่ หลังขับชน ‘หัวขโมย’ ที่พยายามปล้นต่อหน้าต่อตา!!
เรื่องราวสุดระทึกเมื่อชายหนุ่มไบค์เกอร์คนหนึ่งเจอเหตุการณ์ ‘ผู้ร้าย’ ชิงทรัพย์ต่อหน้าต่อตา แต่ด้วยการตัดสินใจอันรวดเร็วทำให้เขาสามารถช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างทันท่วงที เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนแห่งหนึ่งในเขต Alexandra ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุง Johannesburg ประเทศแอฟริกาใต้ Anton Damhui ชายผู้ขี่มอเตอร์ไซค์พบเห็นชายหนึ่งพยายามที่จะปล้นกระเป๋าจากรถคันสีขาวที่อยู่ใกล้ๆ พอดี หัวขโมยสามารถกระชากกระเป๋าออกมาได้สำเร็จ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกนาย Anton ขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบก์เข้ามาชน และเบียดไม่ให้ลุกขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามหัวขโมยลุกขึ้นมาได้และพยายามวิ่งหนีต่อไป Anton ก็พยายามกลับรถตามไปและโบกมือให้ช่วยจับหัวขโมยคนนั้น จนในที่สุดหัวขโมยก็ยอมแพ้ และโยนกระเป๋าที่ชิงมาได้ทิ้งไว้บนถนนและวิ่งหนีไป… Anton ได้นำคลิปวินาทีสุดระทึกไปอัปโหลดลงเว็บไซต์ยูทูบพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ว่า “ผมกำลังขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน และเห็นชายคนหนึ่งกำลังลงมือปล้นอย่างอุกอาจ ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันครับ” ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกอัปโหลดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา และตอนนี้มีผู้ให้ความสนใจมากมายจนตอนนี้ยอดวิวพุ่งขึ้นไปสูงถึง 33,000 ครั้งเลยทีเดียว ชาวเน็ตหลายคนต่างก็ชื่นชมในการกระทำอันกล้าหาญของเขา “ขอขอบคุณในการช่วยเหลือของคุณ ที่ต่อสู้กับการก่อเหตุอาชญากรรม” “เป็นการกระทำที่ยอดเยี่ยมมาก รู้สึกดีนะที่ยังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะช่วยเหลือเมื่อเราพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ขอบคุณมากค่ะ” “ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แทนที่จะยืนดูอยู่เฉยๆ…
-
คนงานเหมืองขุดพบ ‘หินทองคำ’ น้ำหนักรวมกว่า 100 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท!!
กลายเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากในต่างประเทศ เมื่อ ‘คนงานเหมือง’ ในประเทศออสเตรเลียขุดพบ ‘ทองคำ’ ที่ฝังอยู่ในหินก้อนขนาดใหญ่มีมูลค่ามากมายมหาศาลเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2018 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ The West Australian รายงานว่าคนงานเหมือง Beta Hunt ที่อยู่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ขุดพบก้อนหินที่เต็มไปด้วยทองคำ 2 ก้อน โดยหินแต่ละก้อนนั้นจะมีน้ำหนัก 95 กิโลกรัม และ 63 กิโลกรัม เป็นทองคำปริมาณกว่า 2,440 ออนซ์ และ 1,620 ออนซ์ อยู่ในหินทั้งสองก้อนนั้น ประเมินมูลค่าแล้วน่าจะอยู่ที่ราวๆ 170 ล้านบาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเจ้าหินสองก้อนนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ขุดออกมาได้เท่านั้น ยังมีหินทองคำอีกมามายที่อยู่ด้านใต้เหมือง คาดว่าน่าจะมีราวๆ อีก 9,000 ออนซ์เลยทีเดียว!! ทางด้านบริษัท RNC สัญชาติแคนาดาเจ้าของเหมือนแร่แห่งนี้กล่าวว่า เหมืองแห่งนี้ทำจะทำการขุดแร่นิกเกิลเป็นหลัก แต่เพิ่งจะหันมามุ่งขุดแร่ทองคำเมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่พบร่องรอยของทองคำใกล้พื้นผิวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งมันอยู่ลึกลงไปใต้ดินถึง 500 เมตร …
-
สาวเล่าประสบการณ์ทุกอย่างที่หลายคนอยากรู้ เกี่ยวกับการเกิดมาแล้วมี ‘จิ๊มิ 2 อัน’!?
เรื่องราวของหญิงสาว ที่มี ‘จิ๊มี’ 2 อัน และในวันนี้เธอก็จะมาเล่าประสบการณ์ชีวิตของเธอให้พวกเราได้รับฟังกัน Maddie Schueller หญิงสาววัย 21 ปีจากรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา มองดูเผินๆ แล้วเธอก็เป็นเหมือนกับผู้หญิงธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ถ้าหากมองลึกเข้าไปข้างใน จะทำให้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดา เพราะว่าเธอเป็นคนที่เกิดมาพร้อมกับจิ๊มิถึง 2 อัน ไม่ใช่แค่ช่องคลอดแต่มดลูกก็มี 2 อันด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ แค่ 0.003 เปอร์เซนต์เท่านั้น!! อย่างไรก็ตาม Maddie ใช้ชีวิตโดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าตัวเองมีน้องจิ๊มิถึง 2 อัน จนกระทั่งไปตรวจร่างกายและรู้ตัวเมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้เอง Maddie เปิดเผยว่าจิ๊มิทั้งสองของเธอนั้น แยกออกจากกันอย่างชัดเจนโดยแบ่งเป็น ‘ฝั่งซ้าย’ กับ ‘ฝั่งขวา’ ซึ่งฝั่งขวานั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าอันที่อยู่ฝั่งซ้าย “สมัยตอนฉันอายุ 12 หรือ 13 นี่แหละ ฉันเป็นประจำเดือนครั้งแรกแล้วใช้ผ้าอนามัยแบบสอด แต่กลายเป็นว่าเลือดก็ยังไหลอยู่ นับตั้งแต่นั้นมาฉันก็เลยต้องใช้ผ้าอานามัยแบบปกติมาโดยตลอด”…
-
ชาวเน็ตรุมประณามแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง หลังออกสินค้าใหม่ที่มีสโลแกนเหยียดคนอ้วน
การที่เราจะสร้างผลิตภัณฑ์หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกวางจำหน่าย ต้องใช้องค์ประกอบหลายอย่างเพื่อที่จะให้คนนั้นสนใจของๆ เราไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ ดีไซน์ ราคาและสิ่งที่เรียกว่า “สโลแกน” ก็ด้วย สโลแกนถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการขายผลิตภัณฑ์ ถึงแม้มันจะเป็นข้อความสั้นๆ กระชับๆ แต่ก็สามารถสร้างการตระหนักรู้ให้แก่ลูกค้าได้ ดังนั้นเราจึงเห็นแบรนด์ดังๆ ใช้สโลแกนเพื่อดึงดูดลูกค้าอยู่บ่อยๆ แต่สโลแกนก็ไม่ใช่ว่ามีข้อดีเพียงอย่าง ข้อเสียของมันก็มี หากใช้คำพูดที่ไม่ดี ผลกระทบก็จะถูกตีกลับกลายเป็นแย่ได้ เหมือนที่เสื้อผ้าแบรนด์ดัง Revolve ถูกสังคมประณามในไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านนี้ หลังจากใช้สโลแกนเสื้อผ้าในเชิงดูถูกคนอ้วน ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ ทาง Revole แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังได้อัปโหลดสินค้าชุดใหม่ของพวกเขาขึ้นบนเว็บไซต์ออนไลน์ โดยสินค้าดังกล่าวคือเสื้อแขนยาวสีเทา Paloma Sweatshirt สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 5,500 บาท แต่ประเด็นมันอยู่ข้อความสโลแกนอยู่บนเสื้อของพวก ซึ่งข้อความดังกล่าวเขียนไว้ว่า “การเป็นคนอ้วนไม่ได้สวยงาม มันเป็นเพียงข้อแก้ตัว” เมื่อชาวเน็ตเห็นสินค้าตัวใหม่ของ Revole ก็รู้สึกไม่พอใจและออกมาทวีตประณามการดูถูกและเหยียดคนอ้วนกันมากมาย นี่มันเชี่ยอะไรวะ Revole? What the hell is this @REVOLVE !? pic.twitter.com/aQtvmcEkR8 — Felicity (@FelicityHayward) September 12, 2018 …
-
เมื่อ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ทำท่ากำหมัดแสดงความฮึกเหิม ชาวเน็ตเลยทำ ‘มีม’ ซะเละเลย!!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความฮาที่กำลังเป็นไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ตแบบสุดๆ ไปเลย สำหรับท่าทางสุดกวนของผู้นำประเทศสหรัฐอเมริกากับการชกลมแสดงความฮึกเหิม ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นมีมที่ใครเห็นต่างก็ท้องแข็งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!! เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางไปที่รัฐเพนซิลวาเนีย เพื่อทำพิธีรำลึกถึง United 93 เหตุการณ์ที่ผู้ก่อการร้ายไฮแจ็คเครื่องบินหวังพุ่งชนอาคารรัฐสภาแต่มีผู้กล้าขัดขวางเอาไว้จนเครื่องบินตก ซึ่งในปีนี้ครบปีที่ 17 อย่างพอดิบพอดี President Donald Trump does double fist pump on way to a 9/11 event in Shanksville. #September11th pic.twitter.com/5ydGQ34LEv — The National Desk (@TND) September 11, 2018 โดยนายทรัมป์ ขณะกำลังจะเข้าสู่พิธีดังกล่าวเขาได้ทำการปลุกความฮึกเหิมแก่มวลชนด้วยการกำหมัดทั้งสองข้างแล้วยกชูขึ้นเหนืออากาศ และท่านี้เองที่ได้เป็นจุดเริ่มต้นของความฮาที่เรากำลังจะได้เห็นกัน… ทวิตเตอร์ชื่อว่า Rob Sheridan เรียกได้ว่าเป็นผู้จุดกระแสของความฮานี้เมื่อเขาทำการตัดต่อภาพประธานาธิบดีมาใส่พื้นหลังขาวให้ชาวเน็ตได้ยำกันอย่างสนุกสนาน It just so happened that…
-
หนุ่มใหญ่เจ้าของ “กระปู๋จักรกล” เผยประสบการณ์ “มีเซ็กส์ครั้งแรก” ที่รอมานาน 45 ปี
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ของมนุษยชาติ ทำให้สร้างทางเลือกใหม่ๆ ให้กับใครๆ หลายคนได้ รวมถึงนวัตกรรมอย่างอวัยวะจักรกลที่สามารถช่วยให้ผู้พิการกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับคนปกติอีกครั้ง เช่นเดียวกันกับ Andrew Wardle หนุ่มใหญ่วัย 45 ปีจากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษที่ได้รับโอกาสใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาอีกครั้ง ด้วยการปลูกถ่าย “จู่จักรกล” Andrew Wardle เขาเกิดมาพร้อมกับโรคหายากที่เรียกว่า Bladder Exstrophy หรือโรคกระเพาะปัสสาวะปลิ้นกลับแต่กำเนิด โรคที่กะเพาะปัสสาวะจะออกมาเติบโตข้างนอกร่างกายและนั่นทำให้เขากลายเป็นคนไม่มีอวัยวะเพศ ผ่านไปไม่กี่ปี เขาได้ไปเข้าโครงการผ่าตัดกับ University College Hospital London เพื่อปลูกถ่ายอวัยวะเพศ การผ่าตัดของเขาต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงถึง 2.1 ล้านบาท ใช้เวลาทำการผ่าตัดนานถึง 10 ชั่วโมงและต้องใช้เส้นประสาทจากขาของเขารวมถึงผิวหนังจากแขนเพื่อปลูกถ่ายให้กับมัน Andrew ต้องทนรอถึง 6 สัปดาห์กว่าจะได้ทดลองใช้อวัยวะเพศใหม่ของเขา เขาใช้มันได้ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ อย่างคล่องเหมือนกับเป็นอวัยวะที่ได้รับมาตั้งแต่กำเนิด เว้นแต่กิจกรรมเดียวที่เขายังไม่เคยทำนั่นก็คือ…การมีเพศสัมพันธ์ และเหมือนฟ้ามีตา ในที่สุดเขาก็พบกับคนที่ยอมรับอวัยวะเพศจักรกลของเขาและยอมมีเพศสัมพันธ์กับเขา นั่นคือ Fedra Babian แฟนสาววัย 28 ปี Andrew…
-
ชายเลือดไหลออกจมูก 10 วันติด หาหมอตะลึงพบ ‘ปลิง’ ตัวเขื่องแถมอยู่มาแล้ว 3 เดือน!!
‘จมูก’ เป็นอวัยวะที่เราใช้เพื่อการหายใจ แต่ว่าบางครั้งก็อาจมีอะไรเข้าไปติดบ้างอย่างเช่น เศษผ้าเล็กๆ หรือฝุ่นละอองต่างๆ แต่คงไม่มีใครคาดคิดแน่ๆ ว่าจมูกของเราจะสามารถกลายเป็นที่อยู่อาศัยของ ‘ปลิง’ ได้เหมือนกับจมูกของชายคนนี้!! เรื่องราวชวนเสียวรูจมูกนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อชายแซ่ Pan ตัดสินใจเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาล Dongguan Chang’an Hospital มณฑลกวางตุ้ง หลังจากที่เขามีเลือดออกจากจมูกมาเป็นเวลาถึง 10 วันติดๆ กัน นายแพทย์ Liu Yuxing แพทย์แผนกหูตาคอจมูก เมื่อได้รับรู้อาการดังกล่าวจึงตั้งข้อสงสัยเอาไว้เลยว่าน่าจะเป็นเพราะมี ‘ปลิง’ อยู่ในจมูกของชายคนนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วเขาก็ยังไม่เคยเจอกับคนไข้ที่มีปลิงอยู่ในจมูกด้วยตัวเอง แต่ว่าเขารู้จักอาการคล้ายๆ อย่างนี้มาจากการอ่านในวารสารแพทย์ เขาจึงไม่รอช้ารีบใช้สายส่องกล้องเข้าไปในจมูกของชายคนนี้ทันที แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คาดเขามีปลิงดูดเลือดอยู่ในจมูกจริงๆ!! “แม้ว่าหลายปีที่ผมเป็นหมอมาจะยังไม่เคยเจอกับตัวเอง แต่ก็พอรู้จากอาการที่คล้ายๆ กับในหนังสือแพทย์ การเอามันออกไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เพราะตัวปลิงมันติดแน่นกับโพรงจมูกการกระชากมันออกมาอาจเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก” นายแพทย์ Liu กล่าว ปลิงตัวเป็นๆ ในท้ายที่สุดแล้วหลังจากปรึกษากับทีมแพทย์ คุณหมอ Liu ก็ตัดสินใจใช้วิธีการทายาชาบนตัวปลิงก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ คีบมันออกมาอย่างช้าๆ จนกระทั่งมันออกมาได้ในที่สุด และทันทีที่มันออกมาทางแพทย์ก็ต้องตะลึงเพราะมันตัวใหญ่มากเลยจริงๆ “นี่คนไข้ไม่รู้สึกว่ามีอะไรขวางทางเดินหายใจบ้างหรือนี่” แพทย์กล่าว…
-
หนูน้อย 2 ขวบกิน ‘ไอศกรีม’ บนรถบัส ด้วยการเอา ‘ถังขยะ’ มารอง เพราะไม่อยากให้รถเลอะ…
เชื่อได้เลยว่า ‘ไอศกรีม’ กับเด็กๆ นั้นเป็นของคู่กัน เพราะใครล่ะจะปฏิเสธความหวานเย็นแสนอร่อยของมันได้!! ทว่าเวลาที่เด็กเล็กกินไอศกรีม เราก็จะเห็นว่ามันช่างเป็นอะไรที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมหรือว่าตามพื้นต่างๆ ที่ไอศกรีมละลายหยดลงมา แต่ว่ามีเด็กคนหนึ่งที่ได้รับการพูดถึงจากชาวเน็ต เพราะทั้งๆ ที่มีอายุแค่ 2 ขวบ แต่ก็มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมด้วยการนำถังขยะมารองขณะกินไอศกรีมบนรถบัส ทำให้พื้นไม่เปื้อนเหมือนกับเด็กๆ ทั่วไป!! วิดีโอของหนูน้อยคนนี้ โดยเรื่องราวของน้องหนูมารยาทแสนดีคนนี้เกิดขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคมที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน เมื่อมีวิดีโอเผยให้เห็นว่ามีเด็กน้อยในชุดสีเหลืองกำลังหม่ำไอติมแสนอร่อยอยู่บนรถบัส แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังนำถังขยะมารองเพื่อให้ไอติมหยดเป็นที่เป็นทางไม่เลอะรถที่เป็นรถสาธารณะ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วยเล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้วเด็กคนนี้ก็นั่งอยู่กับแม่ของเธอตามปกติ แต่ว่าแม่ของเธอได้เตือนให้ฟังว่าไอติมที่กินอยู่อาจทำให้รถสกปรกได้ เธอจึงลุกจากที่นั่งเดินไปนำถังขยะมารองแล้วนั่งกินอย่างที่เห็นในภาพจนกระทั่งหมดแท่งเสร็จเรียบร้อย วิดีโอนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในประเทศจีน ที่ชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมถึงความน่ารักของหนูน้อยคนนี้ที่แสดงออกมาให้เห็นผ่านการกินไอติมแท่งน้อยๆ แท่งนี้ “นี่คือผลสำเร็จของครอบครัวที่มีการศึกษา” “การแสดงมารยาทเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับความรวยหรือความจน” “เธอจะต้องรักความสะอาดมากๆ แน่เลย” “พ่อแม่สอนมาดีมว๊ากก” “ช่างเป็นเด็กที่น่ารักอะไรอย่างนี้เนี่ย” แต่ถึงอย่างไรแล้วเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ เมื่อมีคนชมแล้วก็มีคนอดเป็นห่วงถึงเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยไม่ได้… “มันเป็นสิ่งที่อันตรายมากเลยนะที่รถยังวิ่งอยู่อย่างนี้” “บางทีเธออาจจะได้รับบาดเจ็บได้นะ” “จริงๆ ควรจะกินไอติมให้หมดก่อนจะขึ้นรถแล้ว” “อาหารไม่ควรได้รับอนุญาตให้เอาขึ้นรถนะ” “มันเป็นอะไรที่ไม่มีสุขอนามัยเลยจริงๆ” …
-
โมเมนต์สุดประทับใจ คุณตารู้ว่า ‘มีหลานชาย’ ครั้งแรก หลังจากที่ครอบครัวมีแต่ผู้หญิง
โดยปกติแล้วคนเป็นพ่อเป็นแม่ ย่อมต้องมีความ ‘คาดหวัง’ อยากจะได้ลูกเพศนั้นเพศนี้กันบ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ตามแต่เมื่อลูกเกิดมา ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นเพศอะไรก็ตาม ด้วยความเป็นพ่อเป็นแม่ พวกเขาก็ยินดีที่จะรักเราอย่างเต็มที่อยู่แล้วล่ะ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของคุณตามือใหม่คนนี้ ที่ตลอดชีวิตของเขามีแต่ ‘ลูกสาว’ แต่ตอนนี้เขาได้มี ‘หลานชาย’ คนแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องราวความประทับใจของตุณตา James Keleman นักผจญเพลิงจากเมือง New Baden รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ชีวิตของเขาต้องอยู่กับ ‘ผู้หญิง’ มาโดยตลอด ตั้งแต่ในหมู่พี่น้องเขาก็เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ที่เหลือเป็นพี่สาวกับน้องสาว รวมไปถึงลูกของเขาก็มีแต่ ‘ลูกสาว’ ถึง 4 คนด้วยกัน หรือแม้แต่ก่อนหน้านี้ลูกสาวเองก็มีหลานๆ มาให้เขาอุ้มแล้วถึง 2 คน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิง!? และแล้วชีวิตของเขาก็เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อลูกสาวของเขา Elbe ได้ให้กำเนิดทารกน้อย ถือเป็นหลานคนที่ 3 ของคุณตา James และปรากฏว่าทารกคนนั้น ‘เป็นเพศชาย’!! จริงๆ Elbe รู้เรื่องเพศของเด็กทารกตั้งแต่ไปตรวจครรภ์ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์แล้ว แต่ตัดสินใจที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเพื่อเซอร์ไพรส์พ่อของตัวเอง รวมไปถึงคนอื่นๆ ในครอบครัว …
-
เปิดโปงอดีตศัลยแพทย์ เงินเดือนไม่พอกิน หันมาทำทัวร์ล่าสัตว์ ฟาดเงินได้ 49 ล้านบาทต่อปี!!
ธุรกิจประเภทนี้ยังคงไม่หมดไปเสียที ต่อให้มีการรณรงค์ มีกฎหมายห้ามแล้วก็ตาม แต่การล่าสัตว์ก็ยังคงเกิดขึ้นทุกวัน แม้จะต้องจ่ายเงินเข้าไปฆ่าสัตว์ ก็ยังมีคนยอมจ่ายเงินหลักแสนหลักล้าน เพื่อออกล่าสัตว์ที่ต้องการ โดยเฉพาะสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ทั้งช้าง ม้าลาย และแรด ต่างเป็นสัตว์ที่ถูกฆ่าโดยน้ำมือของมนุษย์ ผู้ที่ยอมจ่ายเงินแลกกับการออกล่าชีวิตของพวกมัน… ทุกๆ ครั้งที่นาย George Ragozin วัย 45 ปี หรือลูกค้าสามารถฆ่าสัตว์ป่าเหล่านี้ได้จากการออกทัวร์ล่าสัตว์ ก็จะทำการถ่ายรูปคู่กับศพของพวกมัน พร้อมกับยิ้มแย้มภูมิใจในการล่าของตน ในบริเวณแหล่งอนุรักษ์สัตว์ ประเทศแอฟริกาใต้ แพคเกจการล่าสัตว์จะเริ่มต้นตั้งแต่ 160,000 บาท สำหรับทัวร์ 10 วันในการล่าวิลเดอบีสต์และม้าลาย แพคเกจ 688,000 บาท สำหรับการล่าสิงโต และแพคเกจ 1,114,000 บาท สำหรับการออกล่าเสือดาว ทัวร์ล่าสัตว์ยังมีที่แพงกว่านั้นด้วยมูลค่า 1,800,000 บาท แพคเกจ 5 วันในการออกล่าแรดขาวหรือการออกล่าช้างเป็นระยะเวลา 12 วัน ข้อเสนอแพคเกจอื่นๆ ที่แพงสูงที่สุดคือการออกล่า…
-
ทีมงานซีรีส์ The Witcher เจอกระแสสวนกลับ จะแคสติ้งตัว ‘Ciri’ ด้วยคนผิวสี เอเชีย หรือชนกลุ่มน้อย…
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าซีรีส์เกม The Witcher กำลังจะกลายมาเป็นซีรีส์บนแพลทฟอร์มของ Netflix โดยที่มี Henry Cavill จาก Man of Steel ตกลงรับบทเป็นตัวเอก Geralt เป็นที่เรียบร้อยแล้ว… ทั้งนี้ยังเหลือตัวละครหลักอื่นๆ ที่กำลังรอการแคสติ้งตัวนักแสดงอยู่ Lauren S. Hissrich ผู้อำนวยการสร้างซีรีส์ดัดแปลงจากเกม The Witcher ก็ถูกกระแสตีกลับจากแฟนนิยายและแฟนเกมขึ้นมา หลังจากที่เว็บไซต์ Digital Spy ได้เปิดเผยว่าทาง Netflix กำลังวางแผนว่าจ้างนักแสดงผิวสี เอเชีย หรือ ชนกลุ่มน้อย เพื่อมารับบทเป็น Ciri อีกหนึ่งตัวละครหลักของเรื่อง อันเป็นลูกบุญธรรมของตัวเอก ท่ามกลางกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เธอถูกแฟนคลับโจมตีเป็นจำนวนมาก ซึ่งเธอเองได้อธิบายว่ายังไม่ได้อยู่ในขั้นตอนสุดท้าย รอข่าวประกาศอีกครั้งเมื่อมีข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้ จนเธอต้องหนีจากทวิตเตอร์ไปสักพัก เพราะโดนถล่ม… It's time for a Twitter hiatus. The…
-
คุณแม่ถ่ายภาพเผยให้เห็นถึงพัฒนาการ ‘ตั้งท้องแฝดสาม’ ดูแล้วรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง!!
สำหรับการตั้งท้องของคุณแม่นั้นหลายๆ คนอาจจะเคยเห็นภาพขนาดท้องที่ใหญ่โตจากการที่มีเด็กตัวน้อยๆ กำลังเติบโตอยู่ข้างในนั้นกันมาบ้างแล้ว แน่นอนว่าแค่คนเดียว ก็ใหญ่จนไม่รู้จะใหญ่อย่างไรแล้ว แต่ถ้าเป็นท้องของ ‘แฝดสาม’ ล่ะ? จะมีขนาดที่ใหญ่โตขนาดไหนกัน หรือสภาพท้องของคุณแม่จะเป็นอย่างไรกันบ้างนะ!? สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวของ ‘คุณแม่ตั้งท้องแฝดสาม’ ที่เห็นแล้วเพื่อนๆ จะต้องทึ่งอย่างแน่นอน!! Maria วัย 36 ปี และ Anders วัย 40 ปี สองสามีภรรยาชาวเดนมาร์ก ผู้โชคดีตั้งท้องแฝด 3 ที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นแค่ 1 ใน 4,400 เท่านั้น!! ทั้งคู่ได้ตัดสินใจบันทึกภาพต่างๆ เอาไว้ ตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าท้องไปจนถึงตอนทำคลอด เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ และนำมาแชร์ให้กับผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 62,000 คนได้รับชม “มันเป็นการเดินทางที่น่าประทับใจมาก ตอนแรกเมื่อเรารู้ว่าจะมีลูกแฝดทุกคนต่างดีใจมาก แต่การเตรียมตัว และการดูแลตัวเองย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน” Maria เล่า “พวกเราถ่ายภาพพวกนี้เก็บเอาไว้ และมันทำให้เห็นว่าท้องของฉันใหญ่ขึ้นแค่ไหน ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการที่เราสามารถยืนโดยที่ท้องใหญ่ขนาดนั้นมันไม่แตกออกมาได้อย่างไร” …
-
นักแต่งนิยายยิงสามีเสียชีวิต พบเคยเขียนบทความ ‘วิธีฆ่าสามี’ อาจเชื่อมโยงเป็นแรงจูงใจ
เรื่องที่คุณอาจจะทำได้เพียงแค่คิดเล่นๆ ไม่ได้ลงมือทำจริงแต่อย่างใด เพราะไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ แต่มันกลับเกิดขึ้นจริง แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน อย่างกรณีของนักแต่งนวนิยายรายนี้ที่อาจลงมือฆ่าสามีตัวเอง ด้วยแรงจูงใจจากบทความที่เขียนขึ้นบนเว็บไซต์… Nancy Crampton Brophy วัย 68 ปี ถูกจับกุมตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากการลงมือฆาตกรรมสามี Daniel Brophy วัย 63 ปี ด้วยอาวุธปืนภายในโรงเรียนสอนทำอาหาร Oregon Culinary Institute ทางด้านภรรยา Nancy Brophy นั้นเป็นนักแต่งนวนิยายแนวโรแมนซ์และแนวลึกลับ อีกทั้งยังเคยเขียนบทความเกี่ยวกับการลงมือฆาตกรรมสามี โดยโพสต์ผ่านเว็บไซต์ See Jane Publish ตัวบทความดังกล่าวชื่อว่า How To Murder Your Husband ถูกเขียนขึ้นเมื่อ 7 ปีที่แล้ว และได้รับการเปิดโปงโดยหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น The Oregonian ตัวบทความดังกล่าวนั้นถูกจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึง จะมีเพียงเจ้าของบทความเท่านั้นที่สามารถเข้าไปอ่านและแก้ไขได้ แต่สำนักข่าวหลายแห่งใช้ภาพหน้าจอมาใช้ในการทำข่าวเปิดโปงเกี่ยวกับคดีนี้ ‘ด้วยความที่เป็นนักเขียนเรื่องราวความโรแมนติก…
-
สยองสาวถูกกองทัพ ‘Bed Bug’ รุมกัดจากการนั่ง ‘รถบัส’ เตือนมันอาจอยู่รอบตัวแม้บนที่นอน!!
หากว่าในเวลาตื่นนอนยามเช้า คุณมีอาการคันยุบๆ ยิบๆ อย่างไร้สาเหตุและยังหาที่มาไม่ได้สักที ลองตรวจสอบดูให้ดีไม่แน่ว่าคุณอาจโดน ‘Bed Bug’ หรือที่เราเรียกว่า ‘ตัวเรือด’ เล่นงานเข้าให้แล้ว!! สำหรับเมืองไทยเรายังเป็นโชคดีที่แมลงชนิดนี้ไม่พบว่าเป็นที่แพร่ระบาดมากนัก แต่สำหรับใครที่ไปอยู่ต่างประเทศคงจะเคยได้ยินชื่อคุ้นหูเป็นอย่างดี ถึงอย่างนั้นก็แล้วแต่ บางสถานที่บางมุมก็อาจมีพวกมันซ่อนตัวอยู่ก็เป็นได้ และต้องบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เล่นๆ เลยถ้าหากโดนพวกมันกัดเข้าให้ ตัวเรือดอาจแฝงตัวอยู่ตามเบาะนั่งก็เป็นได้ อย่างเช่นในกรณีของหญิงสาวจากนครฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐฯ ที่เมื่อไม่นานมานี้เธอได้เผยว่าถูกตัวเรือดกัด จากการที่เธอนั่งโดยสารรถบัสซึ่งมีตัวเรือดเป็นกองทัพแฝงตัวอยู่ที่เบาะนั่ง เธอกล่าวว่าในตอนที่โดนกัดเธอรู้สึกคันร่วมกับมีอาการแสบร้อนตั้งแต่ข้อมือไปจนถึงข้อศอก และเมื่อหันหลังดูไปก็ถึงกับผงะ เพราะเบาะที่เธอนั่งอยู่มีพวกตัวเรือดเดินยั้วเยี้ยะอยู่เต็มไปหมด!! ซึ่งเรื่องนี้เธอได้แจ้งกับทางศูนย์ฯ รถคันดังกล่าวให้รับรู้และระงับการใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาการที่เธอโดนพวกตัวเรือดกัด จริงอยู่ว่าแม้ตัวเรือดจะไม่ได้มีอันตรายจนถึงขั้นรุนแรง แต่ทว่ามันก็สามารถทำเรามีอาการระคายเคืองจากการคัน และอาจทิ้งรอยตุ่มแดงไว้บนผิวหนังของเราได้ ร่องรอยต่างๆ ที่มันอาจเกิดขึ้นจากแมลงชนิดนี้ ที่สำคัญคือมันสามารถแฝงตัวอยู่ในจุดต่างๆ ได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นบนเตียงนอนที่เรานอนอยู่ทุกวันหรือเบาะโซฟา กระเป๋าเดินทาง เสื้อผ้าหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็ย่อมได้ อาจจะแอบอยู่ตามตะเข็บที่นอนก็ได้นะ โดยวิธีการสังเกตว่ารอบๆ ตัวเรามีตัวเรือดอยู่หรือไม่ก็ง่ายๆ เพียงแค่มองหาว่ามีจุดแดงๆ คล้ายๆ สีสนิมหรือรอยเลือดอยู่ในจุดต่างๆ หรือไม่นั่นเอง นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภัยสำหรับนักเดินทางที่ต้องเปลี่ยนสถานที่นอนอยู่ตลอด หรือคนที่ต้องนั่งรถโดยสารอยู่บ่อยๆ…
-
ศิลปินถูกขอให้วาดรูปให้ฟรีๆ อ้างเพื่อลูกชายที่เป็นมะเร็ง พอปฏิเสธกลับถูกด่าไม่ยั้ง
ศิลปะเป็นศาสตร์ที่มักถูกหลายๆ คนดูถูกและประเมินคุณค่าของผลงานต่ำมากๆ และมีหลายครั้งที่เราเห็นคนพยายามขอให้คนอื่นวาดรูปโดยไม่มีค่าจ้างให้สักบาท (หรือหากเพื่อนๆ เป็นคนที่อยู่ในวงการนี้ก็คงเคยถูกวานให้วาดภาพให้ฟรีๆ มากันบ้างแล้ว) เช่นเดียวกันกับเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เป็นเรื่องของคุณพ่อคนหนึ่งที่พยายามขอร้องให้ศิลปินวาดภาพที่จะนำไปลูกชายให้ฟรีๆ โดยอ้างเหตุผลว่าเขาเป็นมะเร็งและเมื่อศิลปินปฏิเสธที่จะวาดให้ฟรีๆ ก็ถูกด่าจนกลายเป็นเรื่องราวดุเดือดเหมือนที่เพื่อนๆ จะได้ชมกันต่อไปนี้ครับ *แทนคุณพ่อเป็น A และศิลปินเป็น B นะครับ* A: สวัสดี ผมเห็นมาจากในทวิตเตอร์ว่าคุณรับงานใช่มั้ย? ผมอยากได้สักอัน B: เยี่ยมเลย! คุณอยากได้งานแบบไหนล่ะ? A: ผมอยากได้รูปพอร์ทเทรตของตัวผม เดี๋ยวผมส่งรูปไปให้นะ B: โอเคครับ A: *ส่งรูป* B: ผมจะใช้เวลาทำประมาณ 3-4 คิดราคาแล้วตกประมาณ 7,000 บาท บวกค่าขนส่งอีกครับ A: นี่คุณจริงจังรึเปล่าเนี่ย? B: ใช่ ผมจริงจัง A: คุณอยู่ที่ไหน? ผมอยู่ที่ xxx อยากจะรู้ว่าค่าส่งมันจะเสียสักเท่าไหร่ B: ผมอยู่สเปน ค่าขนส่งไปหาคุณก็ตกประมาณ 1,200…
-
นักบินลงทุนสั่งพิซซ่า 40 ถาดมาขอโทษผู้โดยสาร หลังไฟลต์บินของพวกเขาถูกเปลี่ยนเส้นทาง
เพื่อนๆ ว่าสิ่งที่คนเกลียดที่สุด เวลาเลือกใช้งานบริการขนส่งสาธารณะคืออะไร? การปฏิเสธผู้โดยสาร พาหนะมาช้ากว่าเวลาที่กำหนดหรือจู่ๆ การเดินทางครั้งนั้นถูกยกเลิก แน่นอนว่าเราต้องรู้สึกแย่เมื่อเจอกับเหตุการณ์ข้างต้น แต่รู้หรือไม่ว่าเราไม่ใช่ฝ่ายเดียวที่รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะฝ่ายพนักงานและทีมงานของบริการขนส่งสาธารณะก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกัน อย่างเช่น Jeff Raines นักบินคนนี้ที่รู้สึกแย่แทนผู้โดยสาร เขาจึงได้ทำการสั่งพิซซ่ามาให้กับผู้โดยสารร้อยกว่าคนเพื่อเป็นตัวแทนคำขอโทษของพวกเขา วันที่ 6 กันยายน 2018 เป็นวันที่เที่ยวบินที่จะบินจากลอสแอนเจลิสไปยังแดลลัส/ฟอร์ตเวิร์ท ของสายการบิน American Airlines ต้องถูกเปลี่ยนเส้นทางการบิน เนื่องจากในเส้นทางเก่านั้นมีฝนฟ้าคะนองอย่างหนักทำให้ไม่สามารถบินผ่านไปได้ จากเส้นทางเดิมที่ต้องบินไปลงที่ Dallas/Fort Worth International Airport กลับเปลี่ยนเส้นทางมาลงที่ Wichita Falls Municipal Airport ที่ซึ่งผู้โดยสารกว่า 159 คนต้องถูกทิ้งไว้ในสนามบินด้วยความไม่พอใจ ทำได้แค่รอให้พายุสงบลงในวันรุ่งขึ้น พวกเขาจึงจะออกเดินทางต่อได้ ถือว่าเป็นความโชคดีของผู้โดยสารไฟลต์นี้ ที่ Jeff Raines ไม่ใช่นักบินธรรมดา เขาเข้าใจความรู้สึกของผู้โดยสารที่เป็นอย่างดี จึงได้ตัดสินใจที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อคลายความกังวลและความไม่พอใจของผู้โดยสารทั้งหลาย Jeff ตัดสินใจที่จะโทรสั่งพิซซ่าของ Papa John ทั้งหมด 40 ถาดใหญ่ๆ ให้มาส่งที่สนามบิน เมื่อพิซซ่ามาถึงเขาก็เป็นคนลงมือนำพิซซ่าแต่ละถาดไปส่งให้กับผู้โดยสารทั้งหลาย…
-
สาวฟิลิปปินส์ตาบอด กับ “เสียงร้องอัศจรรย์” แถมสำเนียงอังกฤษเป๊ะแม้ไม่เคยเข้าโรงเรียน
คนพิการ แม้พวกเขาจะไม่ได้สมบูรณ์และมีร่างกายที่ครบครันแบบคนปกติ แต่หลายครั้งพวกเขาเองก็มี “สิ่งทดแทน” ที่ทำให้พวกเขาดูพิเศษและโดดเด่นเสียยิ่งว่าคนปกติเสียอีก อย่างเช่นหญิงสาวชาวฟิลิปปินส์นามว่า Elsie คนนี้ ที่แม้ว่าเธอจะ “ตาบอดมาตั้งแต่เกิด” แต่เธอกลับมีเนื้อเสียงที่งดงามราวเทพธิดา เสียงของเธอทรงพลังและไพเราะชนิดที่ว่าคนร่างกายปกติยังยากที่จะทำได้… Elsie สาวตาบอดที่มีเสียงร้องเพลงอันทรงพลัง ทั้งนี้มีคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์โดยเฟซบุ๊ก Darrell Burnett เป็นวิดีโอที่ถ่ายขณะ Elsie นั้นร้องเพลงโชว์เนื้อเสียงอันไพเราะ ลองไปฟังกันเลย… Elsie กับบทเพลง “I Will Always Love You” ของ Whitney Houston เป็นอย่างไรกันบ้างล่ะ? นอกจากเสียงร้องของ Elsie จะทรงพลังและไพเราะแล้ว การออกเสียงภาษาอังกฤษยังเรียกได้ว่าเป๊ะและชัดถ้อยชัดคำอย่างมาก แต่หารู้ไม่ว่าเธอไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้แม้แต่น้อย Elsie ไม่เคยเข้าเรียนในโรงเรียนด้วยซ้ำ เธอฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยการเลียนเสียงจากการร้องเพลงผ่านการฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งการออกเสียงภาษาอังกฤษของเธอ “เป๊ะ” ราวกับเจ้าของภาษา Elsie กับบทเพลง “You’ll Never Walk Alone,” …
-
อวสานหมูจุ่ม!! สาวท้องเจอ ‘หนูตาย’ ในหม้อ แต่เจ้าของร้านเสนอเงินให้ไป ‘ทำแท้ง’!?
คำเตือน: บางภาพหรือเสียงในบทความนี้อาจทำให้การกินหมูจุ่มของคุณเปลี่ยนไปตลอดกาล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม น้ำซุปหวานๆ หมูนุ่มๆ กับน้ำจิ้มรสเด็ด เมนู ‘หมูจุ่ม’ หรือชาบูที่เราๆ เรียกกันน่าจะเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน แต่ไม่แน่เหมือนกันว่าหากคุณได้เจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ คุณอาจจะเลิกกินมันไปตลอดชีวิตเลยก็เป็นได้ เพราะใครจะไปคิดว่ามี ‘หนูตาย’ อยู่ในหม้อที่เรากิน!! เรื่องราวชวนอ้วกที่ว่านี้เกิดขึ้นที่เมืองเหวยฟาง มณฑลชานตง เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อมีกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเข้าไปกินชาบูกันที่ร้านชื่อ Xiabu Xiabu ร้านชื่อดังของประเทศจีน แต่แล้วทางกลุ่มคุณผู้หญิงกลุ่มนี้ก็ได้พบเข้ากับส่วนผสมที่ไม่มีใครคาดคิดเอาไว้อยู่ในหม้อ ไม่ใช่กระชาย ไม่ใช่ขิงข่าตะไคร้หรือเครื่องเทศใดๆ ทว่าเป็นซาก ‘หนูตาย’ ทั้งตัวนอนอยู่ในนั้น วิดีโอคีบ ‘หนู’ แบบชัดๆ เมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูทางเจ้าของร้านเข้า ทางเจ้าของจึงได้เสนอเงินจำนวน 5,000 หยวน (ประมาณ 23,800 บาท) เพื่อเป็นค่าทำขวัญให้กับคุณผู้หญิงกลุ่มนี้ กับการไปเจอสิ่งนี้เข้า แต่ถึงอย่างนั้นทางกลุ่มก็ปฏิเสธที่จะรับเงินจำนวนนี้ไว้ พร้อมกันนี้ในกลุ่มก็มีหญิงแซ่ Gao กำลังตั้งท้องอยู่ ซึ่งเธอก็บอกว่าเธอจำเป็นต้องไปตรวจร่างกายก่อนว่าอาหารที่กินเข้าไปนี้เป็นอันตรายกับเธอหรือไม่ ก่อนที่จะตกลงเงื่อนไขอีกทีหนึ่ง เอ๊ะ นี่มันตัวอะไรกันนะ …
-
พยานเผย ได้ยินเสียง ‘เคาะประตู’ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเปิดห้องเข้าไปยิงชายผิวสี!!
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงยิงชายผิวสีในอพาร์ตเมนต์เพราะเข้าห้องผิด และคิดว่าห้องนั้นเป็นของตัวเอง จนกลายเป็นข่าวใหญ่ที่ผู้คนในบ้านเราให้ความสนใจ แน่นอนว่าหลายๆ คนเข้าใจว่าเหตุเกิดเพราะการเข้าใจผิด แต่ล่าสุดจากการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม คดีนี้อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้การเอาไว้ในตอนแรกก็เป็นได้… จากเหตุการณ์ฆาตกรรมชายผิวสีในอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ที่ 6 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง Amber Guyger ใช้อาวุธปืนยิงนาย Botham Jean เสียชีวิต เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นผู้ร้ายที่เข้ามาขโมยของในห้องของตัวเอง แต่จริงๆ แล้วห้องนั้นเป็นห้องของนาย Jean เอง ซ้าย Botham Jean (ผู้เสียชีวิต) ขวา Amber Guyer (ผู้ก่อเหตุ) จากรายงานล่าสุดของเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2561 ระบุเอาไว้ว่า มีพยานรายหนึ่งให้ปากคำกับนาย Lee Merrit ทนายของครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า “ได้ยินเสียงเคาะประตู และตะโกนว่า ให้ฉันข้าไป!! ให้ฉันเข้าไป!!” ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา ซึ่งคำให้การของพยานในครั้งนี้ขัดกับคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง ที่อ้างว่า ‘ประตูถูกเปิดแง้มเอาไว้อยู่’ …
-
สามีใจอำมหิตโยน ‘หมา-แมว’ ออกจากตึก 21 ชั้น เพราะโมโหที่รู้ว่าภรรยา ‘ตั้งท้อง’!?
นับได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำร้ายหัวใจคนรักสัตว์จริงๆ เมื่อมีหมา-แมวคู่หนึ่ง ต้องจบชีวิตลงด้วยการถูกโยนออกมาจากตึกสูงกว่า 21 ชั้น และคนที่ทำอย่างนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกจากเจ้าของของพวกมันเอง… เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมาชาวเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ต้องผงะเมื่อพบเข้ากับศพหมา-แมวอย่างละตัว นอนตายอยู่อย่างอนาถบนพื้นดินข้างๆ ตึกสูงเสียดฟ้าแห่งหนึ่งภายในเมืองนี้ วิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว ในวิดีโอจะเห็นได้ว่าสัตว์แสนโชคร้ายเป็นสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์กับแมวอีกตัวหนึ่งที่นอนข้างๆ กัน ซึ่งก็มีผู้หญิงคนหนึ่งลูบหัวของมัน พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสารที่ต้องเห็นมันอยู่ในสภาพเช่นนี้ ผู้หญิงคนดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ในตอนที่เกิดเหตุเธอกำลังเดินจูงหมาเดินเล่นอยู่แถวๆ นั้น แล้วจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังลั่นจากการกระแทกอะไรสักอย่าง จากนั้นก็พบเจ้าสัตว์สองตัวนี้นอนอยู่บนพื้นอย่างที่เห็น ซึ่งทั้งนี้เธอก็บอกว่ารู้จักเจ้าหมาตัวนี้ด้วยและจำได้ว่ามันชื่อ Jack เพราะมันชอบมาเล่นกับหมาของเธอบ่อยๆ ด้วยความเห็นเหตุดังกล่าว ในเวลาต่อมาหญิงสาวคนนี้จึงไปหาเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งสอง ทว่าทางชายผู้เป็นเจ้าของกลับบอกว่าไม่แคร์กับพวกมันทั้งสองแม้แต่นิด พร้อมกับบอกกับทางผู้หญิงคนนี้ว่าจะทำอะไรกับศพพวกของมันก็แล้วแต่ด้วย ในที่สุดแล้วผู้หญิงจิตใจดีคนนี้กับชาวบ้านในละแวกใกล้ๆ ก็ต้องช่วยกันนำผ้าห่มมาห่อร่างของทั้งสองแล้วนำไปฝังดินบริเวณใกล้เคียง โดมไร้วี่แววของทางเจ้าของแม้แต่น้อย… เวลาไม่นานเรื่องนี้ก็กลายเป็นข่าวใหญ่โตในเมือง จึงทำให้นักข่าวท้องถิ่นลงสำรวจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีคำตอบที่แน่ชัดจากปากของเจ้าของ แต่ทางผู้จัดการตึกก็บอกกับนักข่าวว่า สาเหตุที่ทำให้พวกมันทั้งสองต้องจบชีวิตลงก็เนื่องมาจากความที่ภรรยาของชายผู้เป็นเจ้าของเกิดตั้งท้องขึ้นมา เมื่อกำลังจะมีลูกน้อยฝ่ายสามีจึงไม่ต้องการเลี้ยงหมาอีกต่อไป แล้วทั้งสองเกิดทะเลาะกันเรื่องนี้ เลยบันดาลโทสะโยนทั้งหมาและแมวออกนอกหน้าต่างในที่สุด และเรื่องน่าเศร้าอีกเรื่องหนึ่งก็คือชาวบ้านพบว่าในขณะที่เสียชีวิตแมวกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย… ในอีก 2 วันต่อมา ทางครอบครัวผู้เป็นเจ้าของก็ติดประกาศเอาไว้ว่าขอโทษกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น และอ้างว่าการตายของพวกมันทั้งสองเป็นเรื่อง ‘อุบัติเหตุอย่างสุดวิสัย’…
-
หนึ่งในฆาตกร ‘เยาวชน’ คดี “จุนโกะ” เมื่อ 30 ปีก่อน ถูกจับกุมอีกครั้ง จากข้อหาพยายามฆ่า
ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน มีคดีฆาตกรรมอันน่าเศร้าสลดใจเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เด็กนักเรียนชาย 4 คน ได้วางแผนหลอกล่อเหยื่อมา “ข่มขืนและฆ่า” โดยเหยื่อก็คือ จุนโกะ ฟุรุตะ เด็กนักเรียนหญิง ม.ปลาย วัยรุ่นชายวัย 15 ปี นามว่า โนบุฮารุ จึงได้วางแผนกับเพื่อนเพื่อหลอกล่อจุนโกะมายังบ้านของตน จากนั้นจึงข่มขืน ทรมาน และฆ่าในที่สุด หลังตำรวจจับกุมตัวพวกของโนบุฮารุได้ ซึ่งขณะนั้นยังมีสถานะเป็น “เยาวชน” ศาลจึงผ่อนผันโทษตามข้อกฎหมายของเยาวชน โดยให้โนบุฮารุถูกตัดสินจำคุกเพียง 5-9 ปีเท่านั้น จุนโกะ ฟุรุโตะ เหยื่อฆาตกรรมเมื่อปี 1988 เวลาผ่านไปสามทศวรรษนับจาก “คดีฆาตกรรมจุนโกะ” เหล่าเยาวชนที่เป็นผู้ร้ายในคดีเติบโตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานที่อาศัยร่วมกับสังคมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น… แต่ล่าสุดวันที่ 9 กันยายน 2018 มีรายงานว่าชายวัย 45 ปีนามว่า ชินจิ มินาโตะ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเนื่องจากทุบตีและใช้มีดแทงเพื่อนร่วมงานวัย 32 ปี ขณะทั้งคู่มีการทะเลาะวิวาทในจังหวัดไซตามะ ขณะที่เหยื่อวัย 32 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล มินาโตะผู้ก่อเหตุถูกตั้งข้อหา พยายามฆ่า…
-
การหายตัวไปของ ‘ฟ่าน ปิงปิง’ ยิ่งลือหนักคดีอื้อฉาว แถมสื่อจีนขยี้ ‘ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม’
หลังจากที่ออกมาเป็นข่าวลือสะพัดครั้งใหญ่ของดาราดังแดนมังกร ‘ฟ่าน ปิงปิง’ จากการหายตัวไปของเธอจากหน้าสื่อ ลือกันว่าเธอถูกจับในข้อหาเลี่ยงภาษี จากการเซ็นสัญญา ‘หยินหยาง’ (งานเดียวมีสองสัญญา) ล่าสุดนี้ได้มีการเปิดเผยถึงอันดับดาราจีนผู้มีความรับผิดชอบต่อสังคมออกมา ก็ยิ่งทำให้ข้อกล่าวหาในการกระทำผิดของเธอนั้นยิ่งถูกลือหนักขึ้นไปอีก… จากรายงาน ความรับผิดชอบต่อสังคมของดาราภาพยนตร์และโทรทัศน์ประจำปี 2017-2018 ได้ทำการจัดอันดับดาราจีนผู้มีชื่อเสียงเอาไว้ทั้งหมด 100 คน โดยประเมินรวมจาก 3 ส่วนคือ หน้าที่การงาน การทำกิจกรรมทางการกุศล และความซื่อสัตย์ส่วนบุคคล การจัดอันดับดังกล่าวนั้น ถูกเผยแพร่โดยสื่อจีน China Daily เผยให้เห็นว่า ฟ่าน ปิงปิง ติดอยู่ใน 100 อันดับ แต่กลับได้คะแนนความรับผิดชอบต่อสังคมเป็น 0 โดยมีดาราจีนเพียง 9 คนเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์การจัดอันดับที่ได้ 60 คะแนนขึ้นไป ทั้งนี้ยังมี หลี่เฉิน คู่รักของฟ่าน ปิงปิง อยู่ใน 9 คนนั้นด้วย และมี ซูเจิ้ง นักแสดงนำจาก Lost in…
-
“นักคอสเพลย์อันดัน 1 ของญี่ปุ่น” เผยสร้างรายได้มากถึง 3 ล้านจากงานคอมิเกะเพียง 1 วัน
คอมิเกะ, คอมิเก็ต (Comiket) หรือ Comic Market ถือว่าเป็นเทศกาลงานขายโดจินชิที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง (แต่ในทุก 5 ปี จะมีปีหนึ่งที่จัดงาน 3 ครั้ง) ในปีนี้งานครั้งแรกก็จัดไปในช่วง 10-12 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าชมมากถึง 530,000 คน!! แน่นอนว่าจำนวนคนเข้างานมากขนาดนี้ ต้องมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าในงานอย่างมากมายมหาศาลและเกิดเป็นเม็ดเงินสะพัดอย่างแน่นอน หากอยากรู้ว่าจำนวนเงินนั้นมากขนาดไหน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมรายได้คร่าวๆ ที่ Enako นักคอสเพลย์ที่ถูกยกย่องว่าเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นทำได้ภายในเวลา 3 วันของงานคอมิเก็ตกัน Enako ถือว่าเป็นนักคอสเพลย์ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น แค่เพียงเธอโผล่มาคอสเพลย์ในงานก็สร้างความตื่นเต้นและทำให้ช่างภาพเป็นร้อยๆ คนต้องกรูกันไปล้อมวงเพื่อถ่ายรูปเธอเลยทีเดียว (ข่าวเก่า) นอกจากที่จะได้รับค่าจ้างการโปรโมตจากบริษัทเจ้าของโครงการแล้ว การปรากฏตัวของเธอยังสามารถเพิ่มความสนใจและยอดขายสินค้าของเธอ อาทิอัลบั้มภาพของตัวเธอรวมถึงสินค้าอื่นๆ เมื่อเธอได้ไปออกรายการ Ariyoshi Japon เธอได้พูดไว้ว่าการขายสินค้าครั้งล่าสุดของเธอมีคนเข้าคิวรอซื้อยาวที่สุดเท่าที่เธอเคยมีมา โดยมีแฟนๆ เข้าแถวรอคิวเพื่อซื้ออัลบั้มรูปของเธอถึงประมาณ 500 คนได้เลยทีเดียว และเมื่อถูกถามว่าเธอทำรายได้จากการขายไปเท่าไหร่ในวันนั้น Enako ตอบว่า “หากจะให้ฉันพูด…
-
5 ดารานักแสดงที่ตัดสินใจ “สัก” เพื่อระลึกถึงความทรงจำและช่วงเวลาดีๆ ในการถ่ายภาพยนตร์
หากเรานั้นได้ใช้เวลาและสร้างความทรงจำกับบางอย่างเป็นเวลานาน โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้วย่อมที่จะมีความผูกพันกันเป็นธรรมดา เช่นเดียวกันเหล่านักแสดงที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ พวกเขาถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ได้ใช้เวลาร่วมถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยกันอย่างยาวนาน ทำให้พวกผูกพันกับภาพยนตร์นั้นๆ และได้ตัดสินใจที่จะ “สัก” เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความทรงจำดีๆ ที่เคยได้ใช้เวลาในกองถ่าย ซึ่งจะมีนักแสดงคนไหนบ้างที่ตัดสินใจสักเพื่อระลึกถึงภาพยนตร์เราไปชมพร้อมๆ กันเลยครับ 1. กลุ่มนักแสดงจาก The Avengers เรียกได้ว่าผ่านทุกข์ผ่านสุขด้วยกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ The Avengers ในปี 2012 กลุ่มนักแสดงชุดแรกของภาพยนตร์รักและผูกพันเป็นอย่างมากจนตัดสินใจที่จะสักลายเดียวกันเป็นที่ระลึกถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ด้วยกัน โดย Scarlett Johansson กับ Chris Evans เป็นคนต้นคิดและเป็นสองคนที่เข้ารับการสักในมหานครนิวยอร์กก่อน จากนั้นช่างสักจึงได้บินลัดฟ้าไปลอสแอนเจลิสเพื่อสักให้กับ Robert Downey Jr, Chris Hemsworth และ Jeremy Renner 2. Sophie Turner Game of Thrones ถือว่าเป็นมหากาพย์ซีรีส์สุดยิ่งใหญ่ที่ใช้เวลาถ่ายทำมาอย่างยาวนาน ความผูกพันระหว่างนักแสดงและภาพยนตร์จึงมีสูงมากๆ ซึ่ง Sophie Turner ก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอตัดสินใจที่จะสักรูปหมาป่าโลกันตร์ สัญลักษณ์ของตระกูล…
-
เทรนด์ใหม่โลกออนไลน์ Invisible Prank Challenges เสกให้คนหายไปก็ได้เหรอ!?!
#เหมียวบู้บี้ เห็นมาว่ากำลังมีการแชร์กันอย่างกว้างขวางและกำลังเป็นเทรนด์ที่วัยรุ่นต่างประเทศเริ่มทำตามกันแบบรัวๆ เลยกับเทรนด์ Invisible Prank Challenges ที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้ เทรนด์การทำคลิปวิดีโอ Invisible Prank Challenge นั้นเริ่มมาจากซีรีส์จาก Netflix ที่มีชื่อว่า Magic for Humans ที่ถูกเผยแพร่บนยูทูบไปเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นเทรนด์ Invisible Prank Challenge ก็เริ่มมีคนทำตามๆ กัน ทั้งในยูทูบและทวิตเตอร์ โดยเฉพาะคลิปที่โด่งดังสุดๆ โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @_makaylaanne__ ที่มีผู้ชมคลิปนี้มากกว่า 11 ล้านครั้ง https://twitter.com/_makaylaanne__/status/1038529937240743936 นี่คือวิธีการเล่น Invisible Prank Challenge อ้างอิงจากผู้ใช้อินสตาแกรมชื่อว่า woodyandkleiny มีวิธีการเล่นแบบนี้ นำเด็กคนหนึ่งมานั่งบนเก้าอี้พร้อมกับนำผ้าคลุมเอาไว้แบบนี้ พร้อมทำเหมือนกับร่ายคาถา อับดุลเอ๊ย (หยอกๆ จะ โอมมะลึกกึีกกึ๋ยอะไรก็ว่ากันไป) เสกคาถาพร้อมกับดึงผ้าออก เอ้า น้องหายไปไหนอ่ะ…
-
ไม่สูญเปล่า ป้ายขอแต่งในเกม Spider-Man ถูกนำเอาไปใช้ โดยแฟนสไปดี้อีกคน!!
หลังจากที่กลายเป็นเรื่องเป็นราวสุดเศร้า เมื่อแฟนเกมหนุ่มคนหนึ่ง พยายามขอร้องให้ผู้พัฒนาใส่ป้ายขอแต่งงานในเกมเพื่อเซอร์ไพรส์แฟนสาว แต่เมื่อวันที่เกมออก เขาดันโดนคนรักบอกเลิกไปซะก่อน แถมยังเป็นคนใกล้ตัวคาบไปซะได้นี่ (ข่าวเก่า) เมื่อได้อ่านและดูก็แทบจะช้ำหนองช้ำในเหลือเกิน อุตส่าห์เตรียมการไว้ซะยิ่งใหญ่ แต่ดันไม่ได้ใช้งาน เพราะโดนทิ้งไปก่อนเกมออกเพียงไม่กี่สัปดาห์… แต่หลังจากที่ออกเป็นข่าวครึกโครมไปแล้ว ก็มีแฟนเกมอีกหนึ่งรายคว้าโอกาสอันดีนี้ ใช้มาขอแต่งงานกับแฟนตัวเองได้สำเร็จ!! Maddie จะแต่งงานกับผมมั้ยยยย? เรื่องดังกล่าวนี้มาจากผู้ใช้เว็บไซต์ reddit นามว่า mitch3750 กล่าวถึงการใช้อีสเตอร์เอ้กตัวนี้ภายในเกม Marvel’s Spider-Man พร้อมกับภาพคุกเข่าควักแหวนขอแต่งงาน ด้วยหัวข้อ “ขอแฟนแต่งงานด้วยอีสเตอร์เอ้กตัวนี้ เธอชื่อ Maddie เหมือนกัน และเธอก็ตอบ ‘ตกลง’” แหม๊ กลายเป็นว่าช่วงจังหวะพอดิบพอดีกับ Maddie อีกคน ก็กลายมาเป็นส้มหล่นเซอร์ไพรส์ซะงั้น ก็ถือว่าการทำอีสเตอร์เอ้กของทีมงานในครั้งนี้ไม่สูญเปล่า บรรลุจุดประสงค์ในการสร้างแล้ว แม้จะไม่ใช่คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีก็เถอะ… ที่มา: reddit, comicbook, ladbible
-
พบเหรียญโรมันเก่าแก่ประเมินค่าไม่ได้ ระหว่างรื้อถอนโรงหนัง เชื่อมาจากศตวรรษที่ห้า
จะเกิดอะไรขึ้นหากการทุบทำลายสิ่งก่อสร้างกลายเป็นการค้นพบสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้แทน นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ในระหว่างการทุบทำลายโรงหนัง Cressoni ในเมือง Como ประเทศอิตาลีเมื่อวันพุธที่ 5 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา โดยในระหว่างการดำเนินการ เหล่าคนงานก็ได้พบกับเหรียญทองจากสมัยโรมันจำนวนมากซึ่งถูกเก็บไว้ในไห (บางสื่อบอกว่าจริงๆ มันคือ Amphora ภาชนะชนิดหนึ่งของโรมันโบราณ) และฝังเอาไว้ใต้โรงหนังอีกที โรงหนัง Cressoni ซึ่งเป็นสถานที่พบเหรียญนั้น เดิมทีแล้วเป็นโรงละครที่เปิดให้บริการในปี 1870 ก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นโรงภาพยนตร์ และปิดตัวลงในปี 1997 อย่างไรก็ตามเชื่อกันว่าเหรียญที่พบนั้นน่าจะมีความเก่าแก่กว่านั้นมาก โดยมีความเป็นไปได้ที่เหรียญเหล่านี้จะมาจากช่วงศตวรรษที่ห้าเลยทีเดียว โดยคุณ Luca Rinaldi นักโบราณคดีท้องถิ่นบอกว่า “เราไม่อาจบอกมูลค่าของเหรียญเหล่านี้ได้ เนื่องจากนี่ไม่ใช่สินค้าที่จะเอาไปขายได้ตามปกติ แต่การค้นพบที่หายากแบบนี้ย่อมทำให้มันมีมูลค่าที่ประเมินไม่ได้เลยทีเดียว จากการรายงานของสื่อในประเทศอิตาลี มีความเป็นไปได้ว่าเหรียญที่พบนั้น อาจมีมูลค่าหลายล้านยูโรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามนี่เหรียญเหล่านี้จะไม่ได้ถูกนำไปประมูลขาย แต่จะถูกนำไปตรวจสอบอายุที่แน่นอนโดยทางนักวิทยาศาสตร์ก่อนที่จะนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ และด้วยสภาพที่ดีมากๆ ของเหรียญที่พบ คุณ Luca ก็เชื่อว่าการตรวจสอบน่าจะเสร็จสิ้นลงในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ในปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนที่จะหยุดการรื้อถอนโรงหนัง Cressoni เอาไว้ก่อน เพื่อให้นักโบราณคดีสามารถขุดค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์อื่นๆ…
-
หญิงตัดสินใจ “แต่งงานกับตัวเอง” หลังเจ้าบ่าวทิ้งเธอไปเพียง 3 เดือนก่อนถึงวันแต่ง
ในเทพนิยายต่างๆ เรามักจะได้เห็นเหล่าตัวเอกมีตอนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ที่ได้แต่งงานอยู่ร่วมกับคนรักอย่างมีความสุข แต่ในชีวิตจริงๆ แล้ว ไม่ใช่ชีวิตคู่ของทุกคนที่จะแฮปปี้เอนดิ้งเหมือนดั่งนิยาย บางคนอาจจะมีปัญหาและอาจจะต้องเลิกรากันก่อนที่จะได้มีความสุขเสียด้วยซ้ำ เหมือนอย่าง Laëtitia Nguyen ผู้หญิงวัย 38 ปีคนนี้ที่ความฝันต้องแหลกสลายหลังจากที่คู่รักของเธอทิ้งเธอไปก่อนจะถึงวันแต่งงานเพียงแค่ 3 เดือน แต่เธอไม่ยอมจมปลักอยู่กับความเศร้า เธอนำมันมาเปลี่ยนเป็นพลังบวกและตัดสินใจที่จะแต่งงานกับตัวเอง Laëtitia กับคู่รักลูกครึ่งเวียดนาม-ฝรั่งเศสได้คบและเรียนรู้ซึ่งกันและกันมานาน 3 ปีและพวกเขาก็เริ่มคิดที่จะวางแผนความรักระยะยาวด้วยการแต่งงานกัน ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2017 เธอกับคู่รักได้แลกเปลี่ยนคำสาบานซึ่งกันและกันว่าจะจัดงานแต่งงานมูลค่าประมาณ 900,000 บาทที่เกาะ Santorini ในประเทศกรีซ ทุกๆ อย่างดูเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่แล้วช่วงเวลาแห่งความเสียใจก็ได้มาถึง 3 เดือนก่อนที่วันงานแต่งจะมาถึง ฝ่ายเจ้าบ่าวได้บอกเลิกกับเจ้าสาวและเดินออกจากชีวิตของเธอไปอย่างไม่ใยดี โดยที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงได้เป็นแบบนี้… ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาแห่งความมืดมิดของ Laëtitia เธอเสียใจและเศร้าซึมเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่คิดจะจมปลักอยู่กับมัน เธอได้เปลี่ยนช่วงเวลาที่เลวร้ายนั้นมาเป็นพลังบวกเพื่อผลักดันตัวเองไปสู่ความหวังใหม่ เธอจึงตัดสินใจที่จะยังคงกำหนดการงานแต่งงานไว้ดังเดิม ในงานแต่งที่ไร้วี่แววของเจ้าบ่าว เธอได้ใช้ค่าใช้จ่ายไป 900,000 บาท โดย 123,000 บาทนั้นเป็นค่าชุดแต่งงานเพียงอย่างเดียว Laëtitia กล่าวว่า “ฉันยังเจ็บมากๆ และคงจะเจ็บตลอดไป…
-
นางแบบโปรแกรมเมอร์ผิวสี ถูกชาวเน็ตดูถูกว่าเก่งไม่จริง เธอจึงตอกกลับพวกเขาซะหน้าหงาย
นางแบบหรือนายแบบ จัดว่าเป็นอาชีพที่มีการใช้รูปร่างและหน้าตาเพื่อหาเลี้ยงชีพโดยการนำเสนอผลงานทางด้านแฟชั่นและศิลปะ รวมถึงโฆษณาต่างๆ สู่สายตาของสาธารณชน เช่นเดียวกันกับ Lyndsey Scott นางแบบสาวชาวแอฟริกันอเมริกัน วัย 34 ปี ที่เราจะนำเรื่องราวของเธอมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ Lyndsey เธอเป็นหนึ่งในนางแบบที่มีผลงานด้านแฟชั่นและศิลปะมาอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นตัวแทนของแบรนด์ดังต่างๆ อย่าง Calvin Klein, Gucci, Prada รวมถึง Victoria’s Secret ด้วย นี่แหละ Lyndsey Scott นางแบบคนเก่งของเรา เธอเป็นถึงนางแบบชาวแอฟริกันอเมริกัน คนแรกที่ได้เซ็นสัญญาพิเศษกับแบรนด์ดังอย่าง Calvin Klein เลยนะ ความพิเศษของ Lyndsey ไม่ใช่มีเพียงแค่รูปร่างและหน้าตาเพียงเท่านั้น สิ่งพิเศษที่ทำให้เธอแตกต่างจากนางแบบคนดังคนอื่นๆ ก็คือเธอมีความสามารถในการเขียนโค้ดหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และหลังจากที่เธอได้ไปเดินแบบให้กับ Victoria’s Secret ผู้คนก็เริ่มที่จะรู้จักเธอมากขึ้นและรับรู้ข้อมูลต่างๆ ของเธอที่ว่าเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่นางแบบเท่านั้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะชื่นชมในความสามารถของเธอ ยังมีชาวเน็ตบางส่วนที่ตั้งแง่กับความสามารถของเธอและได้ไปโพสต์ข้อความเชิงดูถูกในอินสตาแกรมของเธอ คงทำได้เพียงแต่ “Hello World!” (โปรแกรมพื้นฐานที่ง่ายที่สุดในการเขียนภาษาโปรแกรม) ล่ะสิ ใช่แน่ๆ เธอคงเขียนได้แค่ Hello…
-
20 ภาพถ่ายหาดูยาก จากเหตุการณ์ 9/11 หลากความรู้สึก ท่ามกลางความสับสน…
เป็นเวลากว่า 17 ปี แล้วกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญระดับโลก 11 กันยายน 2001 เมื่อเกิดเหตุเครื่องบินพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซนเตอร์ ส่งผลทำให้ประชาชนต่างต้องวิ่งหนีและดิ้นรนเอาชีวิตรอด ท่ามกลางความรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า สำนักข่าวต่างรายงานประเด็นนี้ไปทั่วโลก บ่งชี้ว่าเป็นการก่อการร้ายครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชนชาติอเมริกัน โดยเหตุการณ์ในวันนั้นยังคงเป็นที่จดจำ ถึงความน่ากลัวจากอีกมุมมองหนึ่งที่ด้านล่างภายใต้ตัวอาคาร มุมสูงจากอาคารอื่น และมุมไกลๆ ที่เฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ และอาจจะเป็นภาพที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนจากหน้าสื่อหลักทั่วไป ประชาชนกำลังเฝ้ามองดูอาคารฝั่งใต้ถล่มลงมา ภาพถ่ายจากช่างภาพที่พยายามเอนตัวออกมาจากหน้าต่าง ในช่วงวินาทีที่เครื่องบินลำที่สองกำลังจะพุ่งชนตัวอาคาร ผู้ประสบเหตุที่ติดค้างอยู่ภายในอาคาร กับช่วงเวลาสุดท้ายที่กำลังร่วงลงมาจากตึก ประชาชนกำลังวิ่งหนีออกห่างจากกลุ่มควันและฝุ่น ผลพวงจากตึกที่กำลังถล่มลงมา ท่ามกลางความโกลาหล พนักงานส่งของก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองในวันนั้น มุมจากอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ห่างออกมาเพียง 4 ช่วงตึก กลุ่มควันไฟเริ่มก่อตัวจากอาคารฝั่งเหนือ หลังจากเครื่องบินลำแรกพุ่งชนไปแล้วไม่กี่นาที อเมริกัน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11 กำลังพุ่งเข้าชนตึก (มุมขวาบนของภาพ) สภาพของตึกฝั่งใต้ที่กำลังถล่มลงมา ภาพความเสียหายของตึกฝั่งใต้ ที่เหลือเป็นเพียงเศษซาก Isabel Daser สถาปนิกและนักบินสมัครเล่น ในขณะที่กำลังอุ้มท้อง…
-
หนุ่มสงสัยพ่อจะไลฟ์อะไรในเฟสบุ๊ก ที่แท้ ‘นั่งสักโชว์’ จนชาวเน็ตแห่อยากได้เป็นพ่อ!!
ความเป็นพ่อนั้นมักจะมีมุมมุมหนึ่งที่ลูกไม่เคยรู้หรือไม่เคยเห็นมาก่อน โดยทั่วไปแล้วคุณพ่อทั้งหลายก็มักจะมีกิจกรรมแบบพ่อๆ อย่างการนั่งดูทีวี ซักผ้า ถูบ้าน ล้างจาน ตัดหญ้า ฯลฯ กิจกรรมแบบพ่อบ๊านพ่อบ้าน ที่ใครๆ เค้าก็ทำกัน… แต่สำหรับคุณพ่อ Outhay ของนาย Dihnai วัย 21 ปี กลับมีบางอย่างที่ซ่อนอยู่ เพราะเขาไม่ได้เปิดเผยให้ลูกได้รู้โดยตรง ว่ากิจกรรมยามว่างของคุณพ่อนั้นคืออะไร นาย Dihnai และคุณพ่อ Outhay เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Dihnai สังเกตเห็นการแจ้งเตือนในเฟสบุ๊กว่าคุณพ่อของเขากำลังทำการไลฟ์สดอยู่ และคนที่เข้าไปดูก็มักจะเป็นเพื่อนๆ ของคุณพ่อ ที่มีไม่เยอะมาก และด้วยความสงสัยของตัวเขาเอง ก็เลยคลิกเข้าไปดูไลฟ์สดนั้นของคุณพ่อ ปรากฏว่า คุณพ่อของเขากำลังนั่งสักลายให้กับตัวเองอยู่!! ผ่ามมมมมมม!! “เขาทำเหมือนแค่โพสต์บนเฟสบุ๊กทั่วไปเหมือนที่เคยทำนั่นแหละ บางครั้งก็ออกมาไลฟ์สดโชว์บ้างเป็นครั้งเป็นคราว เวลาที่ทำอะไรเสร็จเป็นชิ้นเป็นอัน” Dihnai ให้สัมภาษณ์ อีกทั้งยังบอกว่า พ่อของเขานั้นไม่ได้มีเพื่อนในเฟสบุ๊กเยอะขนาดนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพียงแค่กลุ่มเพื่อนสนิทพ่อและครอบครัวเพียงไม่กี่คน เข้าไปดูไลฟ์และคอมเมนต์ตอบโต้กัน My dad really the coolest…
-
หนุ่มอยากเจอ ‘นิโคล’ แต่จำไม่ได้ว่าคนไหน เลยนัดนิโคลทั้งมหาลัย 246 คนมาเจอกัน!!
เรื่องแบบนี้มักจะเกิดขึ้นจากความบังเอิญอยู่เสมอ เริ่มต้นจากคนสองคนก็คือนาย Carlos Zetina และ Nicole หญิงสาวชาวฮอลแลนด์ ได้ไปเจอกันในร้านเหล้าแห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝั่งหญิงสาวก็ได้ให้เบอร์ติดต่อเอาไว้ด้วย แต่ผลปรากฏว่าให้เบอร์ผิดมา แล้วจะตามหาตัว Nicole ได้จากที่ไหนละเนี่ย… และแล้วไอเดียสุดบรรเจิดของพ่อหนุ่ม Carlos ก็ผุดขึ้นมาว่า ไปหาอีเมลของคนชื่อ Nicole จากทั้งมหาวิทยาลัย University of Calgary แล้วก็ร่อนส่งไปให้ Nicole ทั้ง 246 คนมันซะเลย (มันต้องมีสักคนที่ใช่คนที่ตามหาแหละวะ!!) “สวัสดี เมลนี้เป็นเมลหว่านแหสำหรับ Nicoles ทุกคน ถ้าคุณไม่ได้มีคุณสมบัติตามที่อธิบายไป ก็ไม่ต้องสนใจเมลนี้ แต่ถ้าคุณคือคนที่ใช่ แต่ไม่อยากจะคุยกับผมต่อก็ไม่เป็นไร” “ถ้าคุณชื่อ Nicole แล้วก็มาจากฮอลแลนด์ ติดต่อกลับมาหาผมได้เลยนะ (แนบเบอร์) ผมชื่อ Carlos ผมเป็นคนที่พาคุณกับเพื่อนกลับบ้านเมื่อคืนเอง” ใจความจากอีเมลหว่านแหหา Nicole กลุ่มเพื่อนนิโคล คนชื่อเหมือนกันที่ได้รับอีเมลแบบงงๆ อีเมลที่ถูกร่อนส่งออกไปนั้นก็ไม่ได้มีแค่คนชื่อ Nicole เท่านั้น…
-
แท็กซี่เดือดจัด เห็นผู้โดยสารทิ้งขยะลงข้างทาง เลยตัดสินใจ “โยน” ผู้โดยสารออกจากรถ
ในโลกใบนี้มีบริการขนส่งสาธารณะมากมายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำอย่างเรือโดยสาร ทางอากาศอย่างเครื่องบิน และทางบกอาทิ รถไฟ รถบัส และบริการที่สามารถบอกจุดหมายปลายทางได้อย่างแท็กซี่ และวันนี้เองเราก็จะนำเรื่องราวของแท็กซี่มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เพราะนี่คือคนขับแท็กซี่ที่รักสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก มากจนตัดสินใจที่จะ “โยน” ผู้โดยสารของเขาออกจากรถเพราะผู้โดยสารทำการขว้างเศษขยะลงในริมทาง วิดีโอดังกล่าวเป็นวิดีโอที่ถูกบันทึกภาพไว้ในวันที่ 24 สิงหาคม 2018 ณ เมือง St. Petersburg ประเทศรัสเซีย ผู้บันทึกวิดีโอได้กล่าวเอาไว้ว่า “คนขับแท็กซี่ที่ขับอยู่หน้าผมเขาสังเกตเห็นว่าผู้โดยสารขว้างขยะลงข้างทาง เขาจึงตัดสินใจที่จะสอนบทเรียนให้ผู้โดยสาร เขาลงจากรถและโยนผู้โดยสารออกจากรถของเขา นี่คือความยุติธรรม” โดยจากวิดีโอเราจะเห็นว่าแท็กซี่คันดังกล่าวขับรถมาอย่างปกติ แต่จู่ๆ ผู้โดยสารของเขาก็เปิดหน้าต่างเพื่อโยนขวดน้ำทิ้งลงข้างทาง เมื่อคนขับแท็กซี่เห็นดังนั้น เขารู้สึกว่าไม่ชอบการกระทำของผู้โดยสารเป็นอย่างมากจึงได้ทำการหยุดรถอย่างฉับพลันและทำการเดินลงจากรถไปหาผู้โดยสารพร้อมกับยกมือขึ้นทำท่าขออภัยผู้ขับขี่คันหลังด้วย และเมื่อเขาเดินมาถึงประตูฝั่งผู้โดยสาร เขาก็ทำการเปิดประตูและจับผู้โดยสารคนนั้น “โยน” ลงจากรถ เหมือนอย่างที่เขาทำกับขวดน้ำที่เขาทิ้งไป ขณะเดียวกันดูเหมือนว่าผู้โดยสารคนดังกล่าวที่ถูกโยนลงไปคุกกับฝุ่นข้างถนนรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะถูกคนขับแท็กซี่ขับรถออกไปโดยทิ้งเขาไว้กลางทาง…. หลังจากที่วิดีโอนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บางคนบอกไว้ว่า “นี่คือการทำความสะอาดขยะและคนขี้เมา ยอดเยี่ยมไปเลยรัสเซีย!!” บ้างก็ว่า “ผู้ชายคนนี้ (คนขับแท็กซี่) สมควรได้รับเหรียญรางวัล!!” และบางคนก็ชื่นชมที่เขาใส่ใจคนที่ขับตามมาข้างหลังโดยการให้สัญญาณขออภัยไว้ด้วย …
-
ชายหนุ่มถูกจับกุมตัว หลังถ่ายคลิป “รับประทานอาหารเช้า” กับหญิงสาว ในประเทศซาอุฯ
พนักงานโรงแรมหนุ่มชาวอียิปต์ ถูกจับกุมตัวภายในประเทศซาอุดีอาระเบีย หลังเขาถ่ายคลิปกินอาหารเช้ากับหญิงสาว ก่อนหน้านั้น คลิปดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสที่โด่งดังอย่างมากในโลกโซเชียล ไม่ใช่ว่าเพราะชายคนนี้กระทำการอนาจารอะไรออกมา แต่มันเกิดจากการที่หลายๆ คนโฟกัสไปตรงหญิงสาวที่อยู่กับเขาต่างหาก ประเด็นที่เกิดขึ้นนี้ ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงต้นเดือนกันยายน 2018 เธอคนนั้นอยู่ในชุดคลุมสีดำ ปิดหน้าปิดตา โดยเป็นการแสดงให้เห็นถึงเรื่องของศาสนา และแน่นอนว่าเธอคือชาวซาอุดีอาระเบียอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนั้นเอง คลิปนี้จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะตามกฎหมายของประเทศซาอุดีอาระเบียแล้ว ผู้หญิงและผู้ชายจะต้องนั่งแยกห่างกัน ทั้งในที่ทำงานและร้านอาหาร ผู้ชายที่สามารถอยู่กับผู้หญิง 2 ต่อ 2 ได้ มีแค่คนในครอบครัวเท่านั้น อย่างเช่น พ่อ พี่ชายน้องชาย สามี หรือลูก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ชายคนดังกล่าวถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์แยกออกไปเป็น 2 ทาง บางคนมองว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร “เขาถูกจับในประเทศซาอุเพราะไปกินข้าวกับผู้หญิงเนี่ยนะ แค่เพราะเขาเป็นคนอียิปต์แล้วอีกฝ่ายเป็นคนซาอุ ผมมองว่าบางคนคงยังอยู่ในยุคล้าหลังอยู่” หรือบางคนที่มองว่าเขาสมควรถูกเนรเทศออกไปเลยด้วยซ้ำ “ฉันเป็นสาวซาอุเหมือนกัน ขอบอกเลยว่าฉันอยากให้ลงโทษทั้ง 2 คนนั้นหนักๆ ไปเลย การมานั่งหัวเรา กินข้าวกันในที่ทำงานแบบนี้นี่มัน พวกเขาไม่รู้จักคำว่าขอบเขตหรือไง?”…
-
เชียร์ลีดเดอร์ตัวเล็ก โดนตัวใหญ่ตามรังควาน บอกว่าไม่อยากมีเรื่อง ‘จับทุ่มบอดี้สแลม’ ร่วงเลย!!
ในสังคมที่มีคนหมู่มากอย่างในช่วงวัยเรียน ใครๆ ก็อยากจะอยู่อย่างสงบ มีเพื่อนฝูงที่น่ารักคอยสนับสนุนช่วยเหลือกันแต่ถึงอย่างนั้น ก็มักจะมีคนที่รู้สึกไม่ชอบใจเรา และจะเข้ามาหาเรื่องอยู่เสมอ… ย้ำแล้วย้ำอีกว่าไม่อยากมีเรื่อง… ปัญหาของการรังแกตามรังควานกลั่นแกล้ง ไม่เคยหายไปเสียที ไม่ว่าจะในประเทศใดๆ ก็ตาม อย่างกรณีนี้ก็เกิดขึ้นกับน้องสาวของ Sierra Sprague โดยที่เธอได้ทำการแชร์วิดีโอคลิปในทวิตเตอร์พร้อมใจความว่า ‘น้องสาวฉันมีเรื่องในคืนนี้ และไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกภูมิใจขนาดนี้มาก่อน ทั้งๆ ที่ยังถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ซัดซะยับเลย’ เหตุการณ์เริ่มจากที่ มีการถกเถียงกันระหว่างตัวเชียร์ลีดเดอร์ตัวเล็กและนักกีฬาตัวใหญ่ใส่ฮู้ดสีเหลือง ถูกตามรังควานรังแกแตะตัว พยายามจะหาเรื่อง ทั้งๆ ที่ฝ่ายเชียร์ลีดเดอร์ย้ำแล้วว่าไม่ได้อยากจะมีเรื่อง “ไม่มีใครอยากมีเรื่อง ไม่มีใครอยากสู้กับพวกเธอหรอก” สาวเชียร์ลีดเดอร์กล่าว แต่พูดไม่ทันขาดคำ หมัดกับมือก็ลั่นเข้าใส่หน้าเธอ โดยคนรังแกที่มีขนาดตัวใหญ่กว่า โดนลั่นหมัดใส่แบบนี้ ป๊าบบบบบ ก็ลุกขึ้นสวนซะยับเลยสิครับ!! เหตุการณ์หลังจากนั้นก็วุ่นวายเกิดเป็นมวยคู่เอก แม้จะไม่อยากมีเรื่อง แต่เชียร์ลีดเดอร์ตัวเล็กกว่าก็ทนไม่ไหว ลุกขึ้นซัดหมัดสวนไม่ยั้ง แถมยังได้จังหวะจับเหวี่ยงตัวฝ่ายตรงข้ามที่ใหญ่กว่า จับบอดี้สแลมร่วงไปอย่างง่ายดาย… เป็นที่ชัดเจนว่าหลังจากซัดกันนัวแล้ว ถูกจับแยกย้ายกันไปคนละทาง เชียร์ลีดเดอร์ก็เป็นฝ่ายชนะไป ในขณะที่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้ช่วยทำให้รู้ได้เลยว่า ก่อนหน้านี้มีเรื่องอะไรกันมา… ทั้งๆ…
-
เบื่อมือเต็มที… พี่แกเลยทุบกระจกตู้ขาย “เซ็กส์ทอย” สอย “ตุ๊กตายาง” ขนาดเท่าคนจริงกลับไป!!
ช่วงต้นเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ “ขโมยของ” ขึ้นในเมืองหยางเจียง ประเทศจีน โดยสิ่งที่หัวขโมยหนุ่มได้กลับไปนั้นคือ “ตุ๊กตายาง” ขนาดเท่าคนจริง!! ไม่รู้ว่าพี่แกโสดมานาน เบื่อการใช้มือหรือฟองน้ำแล้วอะไรทำนองนั้น แกถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ลงไปได้ โดยหารู้ไม่ว่ามีกล้องวงจรปิดถ่ายติดทุกอิริยาบถของเขา ทนไม่ไหวแล้ววววววววว!! เราจะเห็นว่าชายหนุ่มเดินเข้ามาที่ “ตู้ขายเซ็กส์ทอย” 24 ชั่วโมง (ตอบโจทย์หนุ่มอารมณ์เปลี่ยวเป็นยิ่งนัก) โดยชายคนนี้ก็ยืนๆ ดูๆ เลือกสินค้าที่ตนเองต้องการ แต่ดูเหมือนว่ากามารมณ์ที่พลุ่งพล่าน คงจะสวนทางกับเงินในบัญชีธนาคารไปสักหน่อย แทนที่พี่แกจะหยอดเงินกดซื้อ แกเลยเปลี่ยนเป็นควักมีดออกมาทุบกระจกพลาสติกซะอย่างนั้น ข้อมือเขาคงต้องแข็งแรงมากจริงๆ หากใครเคยขโมยของจากตู้ลักษณะนี้มาก่อน (แต่ไม่เคยเลยจะดีกว่านะ) ก็อาจพอรู้กันว่ากระจกที่เป็นพลาสติกนั้นมันมีความเหนียวค่อนข้างมาก ไม่ใช่ว่าจะทุบให้แตกกันได้ง่ายๆ ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ไม่ย่อท้อ แม้เขาจะพักเหนื่อยไปราวๆ 2 วิ แต่ด้วยความกระเงี่.. เอ๊ย!! กระเหี้ยนกระหือรือ เขาจึงฮึดสู้ทุบตู้ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง จนแตกในที่สุด (หมายถึงกระจกนะ) นับจากคืนนี้ไป ไม่ต้องนอนโดดเดี่ยวหรรมส์เหี่ยวอีกแล้วโว้ยยย หนุ่มนิรนามล้วงเข้าไปหยิบเอาตุ๊กตายางเป่าลมขนาดเท่าคนจริงออกมา หันซ้ายหันขวาไม่เห็นมีใคร เขาจึงเดินจากไปด้วยความไวปกติ จากการสอบถามเจ้าของตู้ขายแห่งนี้ เขาบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการขโมยของจากตู้ขายเซ็กส์ทอยภายในเมือง…
-
นศ. ป.โท ฟ้องมหาวิทยาลัย เหตุไม่ให้ผ่านงานวิจัยหมา โร่ฟ้องทั้งนายกฯ-สิทธิมนุษยชน!?
เรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ เมื่อนักศึกษาด้านการข่าวระดับปริญญาโท ทำการฟ้องมหาวิทยาลัยของตัวเอง หลังจากที่งานของเขานั้นไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ได้คะแนนน้อยกว่าเกณฑ์มากๆ แม้จะได้รับการประเมินมาแล้วถึง 2 ครั้งก็ตาม Chinmay Naik คือนักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย Monash University สอบไม่ผ่านงานวิจัยของเขา ที่มีหัวข้อและเนื้อหาเกี่ยวกับ ‘ทัศนคติเชิงลบที่มีต่อสุนัข’ โดยที่งานวิจัยของเขานั้น จะต้องทำการเข้าไปสัมภาษณ์ประชาชนคนเลี้ยงหมาที่พาออกมาเดินเล่นด้วย ทว่าท้ายที่สุดแล้ว ผลคะแนนที่ได้รับประเมินนั้นกลับได้เพียงแค่ 12 คะแนนจากทั้งหมด 100 คะแนน เป็นการให้คะแนนถึง 2 ครั้งแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าช่วยฉุดเกรดมากกว่าเพิ่มเกรดเสียนี่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นาย Naik เกิดอาการหัวร้อน ไม่พอใจกับผลคะแนนที่ได้รับ จึงนำเรื่องดังกล่าวไปฟ้องร้องต่อศาลสูง ในประเทศออสเตรเลีย เพื่อหวังว่าจะให้ได้คะแนนเพิ่มมากขึ้นกว่านี้!! จากเอกสารของทางศาล นาย Naik กล่าวว่า การกระทำของทางมหาวิทยาลัยนั้น ‘ไม่เป็นธรรม’ โดยที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อของอาจารย์ผู้ที่ให้คะแนนกับงานวิจัยของเขาเป็นครั้งที่ 2 เขาเชื่อว่าได้อาจารย์คนเดียวกันมาประเมินผลซ้ำ เป็นเหตุทำไม่ให้ได้คะแนนเพิ่ม เพราะเขารู้สึกว่า เขาควรที่จะได้คะแนนขั้นต่ำที่ผ่านเกณฑ์ ทางด้านอาจารย์ผู้ประเมินที่ไม่เปิดเผยนาม ได้ให้ข้อสรุปภายในชิ้นงานไว้ว่า…
-
คลิปสัมภาษณ์ ‘สาวๆ ชาวจีน’ เงินหรือนิสัยสำคัญกว่ากันในการ ‘เลือกคู่ครอง’!!
(คำเตือน: เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความคิดส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถเหมารวมถึงประชากรทั้งหมดได้) ชาวจีนรวมถึงชาวเอเชียหลายๆ ประเทศมักถูกมองว่ามีความเป็น วัตถุนิยม ค่อนข้างสูง และยิ่งเมื่อกระแสภาพยนตร์เรื่อง Crazy Rich Asians โด่งดังไปยังนานาประเทศก็ยิ่งตอกย้ำความคิดนี้เข้าไปใหญ่ ทางแชแนลยูทูบ Asian Boss จึงได้ออกไปทำการสำรวจสาวจีนหลายๆ คนถึงสิ่งที่พวกเธอหวังจะได้รับจากชายหนุ่ม เพื่อวัดดูว่าสาวจีนส่วนมากนั้นนิยมในวัตถุมากกว่าบุคคลจริงๆ อย่างที่ชาวโลกมองหรือไม่ คลิปวิดีโอสัมภาษณ์สาวจีนในหัวข้อ “วัตถุนิยม” โดยการถามถึงวิธีการเลือกคู่ครอง คลิปวิดีโอถูกโพสต์เมื่อวันพุธที่ 5 กันยายน 2018 คำถามหลักๆ ที่ผู้สัมภาษณ์เข้าไปถามกับสาวๆ ชาวจีนในพื้นที่ คือให้เลือกว่าสิ่งใดสำคัญกว่ากันหากจะเลือกคู่ครอง ระหว่างเงินและบุคลิก คำตอบจะออกมามีแนวโน้มไปทางไหนเราลองไปชมพร้อมๆ กันเลย… สาวๆ บางคนบอกว่า “เงินคือสิ่งสำคัญอันดับแรกเลยเวลาเลือกแฟน” บางคนก็บอกว่า “เงินซื้อไม่ได้ทุกสิ่งก็จริง แต่ถ้าไม่มีมันคุณก็ทำอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน” “เงินซื้อไม่ได้ทุกสิ่งก็จริง แต่ถ้าไม่มีมันคุณก็ทำอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน” ขณะที่บางส่วนก็ตอบว่าสิ่งสำคัญก็คือ ความพยายามและความทะเยอทะยาน เหตุผลก็เพราะว่าบุคคลที่มีสองสิ่งนี้ในจะจบลงด้วยการเป็นคนจนอย่างแน่นอน ส่วนสาวๆ บางกลุ่มก็กล่าวว่าสิ่งที่สำคัญก็คือ ความมั่นคงทางการเงิน เพราะต่อให้มีเงินมากมายแต่ไม่มั่นคงก็ไม่อาจจะมีความสุขในระยะยาวได้ พอถึงช่วงที่ผู้สัมภาษณ์ถามถึงว่าพ่อแม่ของสาวๆ คิดอย่างไรหากพวกเธอมีแฟนที่ฐานะยากจน คำตอบส่วนใหญ่ก็ออกมาว่า พ่อแม่ของพวกเธอมักไม่ให้การยอมรับชายที่ตกงานหรือว่ายากจน…
-
กระแส “เต้นชัฟเฟิลขึ้นบันได” ระบาดในจีน สาวๆ น้อยใหญ่เต้นกันกระเพื่อม เอ้ย กระหน่ำ!!
ความอัศจรรย์ของ อินเทอร์เน็ต ก็คือมันสามารถแพร่กระจายข้อมูลต่างๆ ไปทั่วโลกได้เพียงระยะเวลาอันสั้น ฉะนั้น คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากมนุษย์เราจะมี เทรนด์ หรือกระแสใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา อย่างเช่นปรากฏการณ์ การเต้นชัฟเฟิลขึ้นบันได (Stair Shuffle Dance) ที่ได้กลายเป็นความนิยมกันในหมู่หนุ่มสาวชาวเน็ต ด้วยความเท่ ความเรียบง่าย ที่ต้องอาศัยการฝึกฝน จึงทำให้กระแสนี้มีผู้ทำตามอยู่ทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ชาวจีนที่ออกมาเต้นชัฟเฟิลขึ้นบันไดกับเขาเหมือนกัน แต่ที่มันน่าจับตามองก็คือ ชาวจีนที่ออกมาร่วมกระแสนี้ส่วนใหญ่ เป็นผู้หญิง ซึ่งนั่นทำให้กระแสนี้ยิ่งดูน่าสนใจมากขึ้น การเต้นชัฟเฟิลนั้นจะต้องมีการเขย่าตัวอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น มันก็อาจจะมีอะไร “เด้งๆ” บ้าง (หมายถึงผมเด้งอะไรแบบนี้) และก็ไม่รู้เพราะอะไรชาวจีนที่ออกมาเล่นแชเลนจ์นี้จะต้องเป็นสาวน่ารักๆ เสียส่วนมาก เรียกได้ว่าเป็นงานโชว์ทักษะการเต้น แถมยังได้โชว์หุ่นแซ่บๆ ไปด้วย ส่วนสองสาวตัวน้อยนี้เต้นเก่งและน่ารักมากๆ เลยล่ะ เต้นชัฟเฟิลก็ไม่ใช่ง่ายๆ แถมต้องเต้นขึ้นบันไดด้วย ว่าแล้วก็ไปชมคลิปวิดีโอกันเลย!! ก็ถือว่าเป็นอีกกระแสหรืออีกแชเลนจ์หนึ่งที่เต็มไปด้วยสาวๆ น่ารักๆ แถมเต้นเก่ง อย่างน้อยก็ทำให้โลกนี้ดูสดใสขึ้นล่ะนะ!! ที่มา: facebook
-
ฮือฮา!! Crane Game โฉมใหม่จากจีน บังคับพัดลมพัดเงินร่วงแทนการคีบตุ๊กตาซะแล้ว…
“เกมตู้” หรือเกมอาร์เคด (Arcade) คือเครื่องเกมที่อยู่ในสังคมเรามาแสนนาน โดยเกมตู้ก็จะมีด้วยกันมากมายหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นตู้เกมต่อสู้ เกมยิงปืน เกมเต้น หรือเกมคีบตุ๊กตา และเราต้องหยอดเหรียญเพื่อแลกจำนวนตาที่เราได้เล่น วันนี้เราก็จะก็มาพูดถึงเกมคีบตุ๊กตาหรือ Crane Game เกมที่จะให้เราหยอดเหรียญเพื่อบังคับคันโยกนำพาเจ้าเครนให้ไปคีบตุ๊กตาที่เราหมายปองมาให้ได้ แต่ Crane Game ที่เราเตรียมมาให้เพื่อนๆ ได้ดูในวันนี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างแน่นอน เพราะ Crane Game เครื่องนี้ เรียกได้ว่าพัฒนาไปไกลกว่าการเล่นคีบตุ๊กตาธรรมดาเสียแล้ว เมื่อสิ่งที่เราจะบังคับไม่ใช่เครนอีกต่อไป แต่เป็นพัดลมไฟฟ้าที่เอาไว้เป่าให้ธนบัตรต่างๆ ในตู้ร่วงลงมาแทนการคีบตุ๊กตาเสียแล้ว… https://twitter.com/sol_getnews/status/1037602650143916032 วันที่ 6 กันยายน 2018 ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @sol_getnews ได้โพสต์คลิปวิดีโอของ Crane Game สุดแปลกใหม่จากเกมเซนเตอร์แห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งจุดประสงค์ของเกมนี้คือการใช้พัดลมเป่าธนบัตรให้ร่วงลงมาทางรูให้ได้ จากแหล่งข่าวไม่มีข้อมูลบอกว่าในตู้เกมเครื่องนี้จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเล่นแต่ละครั้ง แต่ในตู้จะมีการบรรจุธนบัตรชนิด 100 หยวนหรือประมาณ 480 บาทลงในตู้เต็มไปหมด #เหมียวโคบี้ ว่าใครที่เล่นเจ้าตู้คีบตุ๊กตาเก่งๆ คงอยากจะให้เครื่องเกมนี้เข้าไทยกันเร็วๆ เลยใช่มั้ยล่ะ!? ที่มา Gogotsu,…
-
ภรรยายิงสามีดับต่อหน้าต่อตาลูกๆ ทั้ง 3 คน สาเหตุจากการฟ้องร้องขอสิทธิ์ดูแลเด็ก
การทะเลาะวิวาทและความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกัน ได้นำไปสู่การฆาตกรรมในครั้งนี้ เมื่อภรรยาตัดสินใจยิงสามีของตัวเองต่อหน้าต่อตาลูกๆ ทั้ง 3 คน หลังถูกฟ้องร้องถึงสิทธิ์ในการดูแลเด็ก Kayla Jean Giles หญิงสาววัย 31 ปี ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว เธอได้แต่งงานอยู่กินกับ Thomas Coutee Jr สามีวัย 30 ปีของเธอมาตั้งแต่ปี 2014 Kayla และ Thomas ทั้งสองมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ในขณะที่ลูกๆ อีก 2 คนเป็นลูกติดแม่มาตั้งแต่แรก (ไม่มีการรายงานถึงพ่อของเด็กทั้ง 2) แต่แล้วก็ได้เกิดปัญหาภายในครอบครัว มีการรายงานว่า Kayla เคยทำร้ายร่างกาย Thomas และมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน ทั้งสองจึงตัดสินใจแยกกันอยู่นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2018 ต่อมา Thomas ก็ได้ยื่นเรื่องขอหย่าร้าง รวมถึงร้องขอสิทธิ์ในการดูแลลูกสาวของเขา ซึ่ง Kayla ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เลย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองมีปากเสียงถกเถียงกันหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการรายงานว่าในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา…
-
คุณครูญี่ปุ่น ‘ฝีมือเทพ’ วาดการ์ตูนบนกระดานดำเพื่อ ‘เรียกสปิริต’ ให้นักเรียนเพื่อแข่งกีฬา!
สำหรับเด็กนักเรียนทั้งหลาย การเรียนนั้นย่อมเป็นสิ่งสำคัญและเป็นหน้าที่หลักที่จะต้องทำ ขณะเดียวกันก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องของ กีฬา เพราะนั่นทำให้พวกเขาได้มีสุขภาพที่ดีและมีความสามัคคีกับผู้อื่น โรงเรียนแทบทุกแห่งจึงต้องมีการจัด กีฬาสี ที่ให้เหล่านักเรียนได้มาแข่งขันกีฬากันอย่างสนุกสนาน ซึ่งถือเป็นอีกสีสันหนึ่งในชีวิตของการเป็นเด็กนักเรียน My Hero Academia ฝีมือวาดบนกระดานดำของอาจารย์ท่านหนึ่งในญี่ปุ่น “เราทุกคนจะออกไปแข่งขันและคว้าชัยชนะมาให้ได้!” นอกจากเด็กๆ ที่จะได้สนุกไปกับการแข่งขันกีฬาสีแล้ว ครู/อาจารย์ เองก็คงสนุกไม่แพ้กันที่จะได้ช่วยผลักดันและเสริมกำลังใจให้เด็กๆ ได้มีสปิริตในการแข่งขันกีฬา อย่างเช่นคุณครูท่านหนึ่งในญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @SwEnve ได้ใช้ฝีมือการวาดภาพของเธอในการ “ปลุกสปิริต” ของเหล่าเด็กนักเรียนให้พร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาสี เธอวาดเป็นตัวการ์ตูนจากหลายๆ เรื่อง ซึ่งนอกจากเรื่อง My Hero Academia แล้วยังมีการ์ตูนเรื่องอื่นๆ อีกซึ่งต้องเลยว่าฝีมือการวาดของเธอนั้นเยี่ยมยอดมาก ไปชมที่เหลือพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… อาจารย์ท่านนี้ใช้ชอล์กหลายๆ สีเป็นอุปกรณ์ในการวาดกระดานดำ เอลซาจาก Frozen: “ปล่อยมันออกไปให้เต็มกำลังเลยทุกคน ทีมสีแดงต้องชนะได้แน่!” โอตาคุน่องเหล็ก: “ทีมเขียวสู้ๆ ขึ้นเป็นหนึ่งกันเถอะพวกเรา!” Attack on Titan: “ต่อจากนี้ ทีมน้ำเงินจะเอาจริงแล้วนะ” Your…
-
แม่สาว ‘บลูอายส์ไวท์ดราก้อน’ เผยภาพก่อนเปลี่ยนตัวเอง สักลาย-สักตาร่วม 3 แสนบาท!!
ความชื่นชอบที่เริ่มต้นตั้งแต่ในวัย 16 ปี ของ Amber Luke สาววัยรุ่นผู้หันมาสนใจการสักลายบนผิวหนังตัวเอง จนกระทั่ง 7 ปี ผ่านไป Amber ในวัย 23 ปี แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมของเธออีกต่อไปแล้ว สาวนักสักลาย รวมทั้งนักเจาะร่างกาย Amber Luke แทบจะเป็นคนละคนกันเลยทีเดียว หลังจากที่ผ่านการลงหมึกบนร่างกายกว่า 50 ครั้ง รวมไปถึงการสักสีฟ้าลงบนนัยน์ตาของตัวเองอีก… มูลค่าในการสักและเจาะทั้งหมด โดยรวมแล้วจะอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 328,800 บาท เปลี่ยนสภาพร่างกายของเธอในแบบสุดขีด ทั้งเจาะแยกลิ้นและยืดติ่งหู เธอมีฉายาไว้เรียกแทนตัวเองว่า “บลูอายส์ไวท์ดราก้อน” และไม่ได้รู้สึกผิดอะไรกับการที่ตัวเองกลายมาเป็นแบบนี้ “ฉันโคตรจะหลงรักกับภาพลักษณ์ของตัวเองเลยล่ะ” โดยที่ฉายาดังกล่าวนั้นได้มาจากเพื่อนๆ เพราะด้วยลักษณะดวงตาและลิ้นที่คล้ายคลึงกับมังกร จึงถูกหยิบยกตั้งชื่อให้ไปโดยปริยาย เมื่อเธอได้ย้อนกลับมาดูรูปภาพเก่าของตัวเองแล้ว เธอกล่าวว่า “ฉันเห็นตัวเองเป็นประเภทที่ดูธรรมดาทั่วไป หลังจากที่เทียบภาพก่อนและหลังแล้ว ฉันเกลียดสิ่งที่ตัวฉันเคยเป็น มันน่าเบื่อ” “จนตอนอายุครบ 16 ปี…
-
เพราะเรื่องปากท้องสำคัญที่สุด ต่อให้พายุจะรุนแรงสักแค่ไหน จงกินต่อไปอย่าไปเกร็ง…
เคยได้ยินชุดอาหารแฮปปี้มีลบ้างรึเปล่า ถ้าไม่พูดถึงเรื่องแบรนด์ผู้คิดชุดอาหารนี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหนก็เป็นแฮปปี้มีลได้ แค่กินแล้วมีความสุข เพราะอาหารคือชีวิต คือสิ่งที่หล่อเลี้ยงปากท้องเราให้อยู่ต่อไป!! อย่างตาหนุ่มชาวมาเลเซียรายนี้ ที่ตีหน้ามึนกินข้าวได้หน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่ฉากหลังของตัวเองกำลังเป็นพายุฝนห่าใหญ่ลมพัดแรง ข้าวของกระจุยกระจาย แต่ยังคงนิ่งไม่ไหวติงมีเพียงมือที่ปากที่ขยับเพื่อกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย… ไม่แน่ว่ากับข้าวมื้อนี้ น่าจะเป็นมื้อพิเศษที่อร่อยและตั้งใจมากินก็เป็นได้ ต้องยอมรับเลยว่าหากมีอะไรมารบกวนการกินเนี่ย มันเป็นเรื่องที่ชวนหงุดหงิดได้จริงๆ นะ แต่ตาหนุ่มก็คงจะแบบว่า ‘เอาไว้วันหลังนะพายุ ขอกรูกินข้าวอร่อยๆ เหอะ’ คาดว่าจากภาพที่เห็น พ่อหนุ่มก็นั่งอยู่ใต้เพิงที่ยังคงแน่นหนาและปลอดภัยต้านทานลมได้ ด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยกังวลอะไรมาก ออกจะเบื่อๆ เสียด้วยซ้ำจนสงสัยว่า นี่เอ็งจะไม่คิดตื่นกลัวกับพายุบ้างเลยเหรอฟะ!? จนกระทั่งต้นไม้กับเพิงด้านหลังถล่มลงมา ก็เริ่มออกอาการหันไปสนใจหน่อย แต่สุดท้ายแล้วก็ยังนิ่งกินต่อไป ไม่มีอะไรมาหยุดแกได้หร๊อกกกก ภายหลังจากที่ได้แชร์วิดีโอไปแล้ว เด็กหนุ่มก็กล่าวว่า “พวกเรากำลังกินข้าวกันอยู่ จู่ๆ ก็มีลมแรงพายุเข้าจนทำต้นไม้ล้มระนาว แต่ผมก็ยังกินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” เสียงหัวเราะในตอนท้ายคลิป โผล่เฉลยออกมาว่ามันก็เป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น จริงๆ เจ้าตัวก็กลัวอยู่ไม่น้อยแหละ ฮร่าาา แต่ก็ยังแวะมากินร้านเดิมอยู่นะ ที่มา: unilad, economy-chat
-
จังหวะน่ารัก ‘คุณพ่อป้ายแดงโคตรดีด’ เปิดมาเจอภรรยาเซอร์ไพรส์ เราจะมีลูกแล้วนะจ๊ะ!!
กว่าที่เราจะมีลูกได้นั้น ต้องผ่านอะไรมามากมาย ตั้งแต่ด่านพ่อแม่ญาติพี่น้อง มาจนถึงตัวของคุณเอง เมื่อพร้อมที่จะเลี้ยงดู แต่ปัญหาของการมีลูกยาก ก็เป็นอีกด่านที่จะต้องฝ่าฟันกันไปให้ได้… กรี๊ดดดดดด!! ถึงแม้ว่าในแต่ละเรื่องราวของแต่ละครอบครัวอาจจะมีอารมณ์ที่หลากหลายปนเปกันไป แต่ในความรู้สึกปลื้มปีติยินดีที่จะมีเจ้าตัวน้อยออกมานั้น เป็นช่วงเวลาที่ส่งต่อพลังบวกให้กับหลายๆ คนได้อย่างดีเลย เหมือนอย่างคุณพ่อป้ายแดงรายนี้ ที่เพิ่งจะเดินทางกลับมาถึงบ้าน ในขณะที่กำลังจะเดินเข้ามาภายในห้องนอน เขาก็จะพบกับเซอร์ไพรส์ข่าวดีที่แทบไม่ทันตั้งตัว ความรู้สึกของคุณพ่อป้ายแดงถูกถ่ายบันทึกเอาไว้โดยภรรยาทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าอาการดีใจของคุณพ่อนั้นดูน่ารักเหลือเกินที่ได้รู้ว่า กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ววววว!! อาการดีใจกระโดดโลดเต้นเหมือนได้เป็นเด็ก (ทั้งๆ ที่จะได้เด็กเพิ่มมาอีกคน) คุณพ่อป้ายแดงถึงกับถามซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ไม่ได้อำกันเล่นใช่มั้ย ก่อนจะพุ่งเข้าโผกอดภรรยาด้วยความดีใจสุดขีด แม้ภรรยาจะดูเขินอายอยู่หน่อยๆ แต่อาการที่คุณพ่อป้ายแดงแสดงออกมา ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงจังหวะเปลี่ยนชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างแท้จริงเลยแหละ!! และหลังจากที่คลิปวิดีโอถูกนำไปโพสต์ผ่านทั้งยูทูบและเว็บไซต์เรดดิท ชาวเน็ตต่างร่วมอวยพรและแสดงความคิดเห็นไปในเชิงบวกให้กับคู่รักคู่นี้ด้วย “พระเจ้าอวยพรนะ นี่คือความสุขที่แท้จริง ขอให้โชคดีกับเส้นทางต่อจากนี้นะ, ถ้าหากพวกเขารักกันและมีความมั่นคงทางการเงินมากพอที่จะสนับสนุนลูกได้ ทำไมพวกเขาจะไม่ดีใจล่ะ ใช่มั้ย? แต่ทว่าบางส่วนของชาวเน็ต กลับออกความคิดเห็นในเชิงดูถูกถากถาง เช่น… “วิดีโอแบบนี้ช่วยทำให้ฉันรู้ตัวว่าไม่อยากเป็นพ่อแม่คน เพราะจะไม่มีทางที่ฉันจะแสดงอาการออกมาแบบนี้” “ในฐานะพ่อลูกสอง ผมนึกไม่ออกเลยว่าเคยดีใจขนาดนี้มั้ยตอนที่รู้ว่าจะมีลูก แม้ในตอนเพิ่งจะรู้ข่าวเรื่องลูกคนแรก ผมก็แค่แบบว่า “อ๋อ…
-
“กันดัมจัง” สาวญี่ปุ่นใต้หน้ากากกันดัม เซเลบแอปฯ ขายเสื้อผ้า รั่ว ฮา แต่ “งานขา” จัดว่าดีย์!!
ในประเทศญี่ปุ่นจะมีแอปพลิเคชันหนึ่ง ที่จะให้สมาชิกมาโพสต์รูปภาพต่างๆ (คล้ายอินสตาแกรม) แต่จะเน้นไปที่การโชว์เสื้อผ้าเสียมากกว่า ชื่อของแอปนั้นก็คือ “WEAR” WEAR เป็นแอปฯ ที่เหล่าสมาชิกจะมาถ่ายรูปพร้อมการแต่งกายเท่ๆ โชว์กัน แล้วแปะลิงก์อธิบายว่าพวกเขาใส่เสื้อผ้ายี่ห้ออะไรกันบ้าง เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมของวัยรุ่นชาวญี่ปุ่นค่อนข้างมากพอสมควรเลยล่ะ แต่ว่าล่าสุด ชาวเน็ตกลับไปเจอสมาชิก WEAR รายหนึ่งซึ่งมีความแหวกแนวสุดๆ หันไปเห็นถึงกับต้องไล่ดูภาพจนครบเลยเพราะว่าเธอคนนี้มีการนำเสนอเสื้อผ้าที่ “น่าสนใจ” จริงๆ ผ่าม!! (อิหยังวะเนี่ยยย) ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @a1n9rid ได้ไปเจอสาวรายหนึ่งในแอปฯ WEAR ที่มันช่างดึงดูดสายตาเสียเหลือเกิน เพราะนอกจากรูปร่างของเธอแล้ว เธอยังมีการนำเสนอที่มากกว่าแค่สวมเสื้อผ้าแล้วถ่ายรูปอีกด้วย เธอใช้ชื่อว่า Dundam-chan (ล้อเลียน Gundam) เอกลักษณ์ของเธอก็คือเธอจะไม่เผยหน้าตา แต่จะสวมหน้ากาก กันดัม ที่ทำจากกล่องกระดาษ รวมไปถึงการโพสต์ท่าแปลกๆ ฮาๆ เรียกได้ว่าเสียเส้นพอตัวเลยล่ะ… ดูการโพสต์ท่าของนางเสียก่อน ถึงจะ “ไม่เห็นหน้า” แต่เธอก็เป็นขวัญใจหนุ่มๆ หลายคนเลยล่ะ จากการวิเคราะห์ของ #เหมียวโลลิ กันดัมตัวนี้น่าจะงานดีย์~ ถึงจะดูรั่วๆ ไปหน่อย…แต่ก็น่าร้ากก นี่ท่าโพสต์ขายเสื้อผ้าเหรอฟระเนี่ย!!! หน้าตาเป็นไงไม่รู้แหละ…
-
สาวอยากเลี้ยงน้องหมาใจจะขาด แต่ถูกคุณแม่ปฏิเสธ เธอจึงต้องออกอุบายหลอกซะเลย!!
เขาว่ากันว่าบนโลกใบนี้สามารถแบ่งคนออกได้เป็น 2 ประเภท คือคนที่ชอบเจ้าเหมียวกับคนที่ชอบเจ้าหมา เพื่อนๆ ล่ะเป็นคนประเทศไหนกัน? แต่สำหรับ Kelsey Johnstone สาวคนที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้แล้ว เธอเป็นประเภทที่รักหมาเอามากๆ แต่ทางครอบครัวไม่อนุญาตให้เลี้ยง ไม่ว่าจะอ้อนวอนขอร้องเพียงใด คุณแม่ของเธอก็ปฏิเสธ แต่ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร เธอก็เลยออกอุบายหลอกคุณแม่เพื่อให้ได้เจ้าหมามาเลี้ยงซะเลย https://twitter.com/_kelseygracee/status/1037039413023391746 วันที่ 5 กันยายน 2018 Kelsey ได้โพสต์ภาพลงทวิตเตอร์พร้อมกับแคปชั่นว่า “แม่ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นฟุตลองแบบไหนนิ… ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้าน เจ้า Bentley น้อย” อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าแม่ของ Kelsey นั้นปฏิเสธเสียงแข็งที่จะรับเลี้ยงเจ้าหมามาโดยตลอด ไม่ว่าเธอจะอ้อนวอนเพียงใด แต่มาคราวนี้ต่างออกไป เมื่อทาง Dallas Animal Services สถานสงเคราะห์สัตว์ได้ทำโครงการ $5 Foot Long Pets โครงการที่จะให้ผู้คนเข้ามารับเลี้ยงสัตว์ที่มีขนาดตัวยาวกว่า 1 ฟุต (30 เซนติเมตร) โดยมีค่าใช้จ่าย 164 บาทเท่านั้น เธอจึงได้ออกอุบายโดยการส่งข้อความไปหาคุณแม่และบอกว่าเธอขอซื้อฟุตลอง 5$(164 บาท) ได้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าคุณแม่ต้องคิดว่าเป็นไส้กรอกที่เรากินกันเป็นประจำแน่นอน คุณแม่จึงตอบกลับว่าได้สิ และเมื่อเธอได้ยินดังนั้น หึหึ… เข้าทางเธอเลยล่ะสิ…
-
โรงเก็บของธรรมดาๆ มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท เปิดเข้าไปถึงไม่แปลกใจว่าทำไมมันแพง
หลายๆ คนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “อย่ามองคนแต่เพียงภายนอก” รวมถึงโรงเก็บของนี้ก็ด้วย เพราะแม้ข้างนอกมันจะดูธรรมดาไม่มีอะไร แต่ภายในมันแจ่มแมวกว่าที่เราคาดคิดเอาไว้เยอะ โรงเก็บของธรรมดาๆ ภายนอกดูไม่มีอะไรเลย โรงเก็บของที่เห็นนี้ถูกตั้งขายโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง โดยตัวโรงเก็บของนั้นตั้งอยู่ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ด้วยราคาที่สูงถึง 1.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราวๆ 40 ล้านบาท)!! บางคนอาจสงสัยว่าทำไมโรงเก็บของแห่งนี้ถึงได้ถูกตั้งราคาสูงขนาดนั้น มันอยู่ในทำเลทองติดสถานีรถไฟฟ้าหรือก็ไม่ใช่ แต่หากใครมีโอกาสได้เปิดเข้าไปชมภายในก็จะเข้าใจและอาจมองว่าราคานั้นมันสมเหตุสมผลดีอยู่แล้ว เปิดเข้ามา ชิกก้ะพ่าม พ่าม พ่าม พ่ามมมม!! . โรงเก็บของแห่งนี้ถูกตกแต่งภายในให้กลายเป็นบ้านสุดชิค สุดแนว พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง 1,458 ห้องนอน 20,785 ห้องน้ำ!! หยอกๆๆ มีแค่ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำนะจ๊ะ อุอุ ภายในถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนไว้อย่างเรียบง่าย แต่ดูดีมีสไตล์เป็นยิ่งนัก มีทั้งโซนนั่งเล่น โซนครัว โต๊ะอาหาร หลายๆ อย่างถูกรวมไว้ในพื้นที่เดียวแบบไม่มีกำแพงกั้น ห้องน้ำสีแดงสด…
-
ประทับใจ!! หนูน้อยสมองพิการวัย 4 ขวบพยายามเดินเข้าโรงเรียน ในวันเปิดเทอมด้วยตนเอง
บนโลกใบนี้ มีมนุษย์อยู่มากมายหลากหลายล้านคน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาแล้วจะมีร่างกายแข็งแรงหรือมีสภาพร่างกายปกติเหมือนอย่างคนอื่นเขา เช่นเดียวกันกับ Millie Bea Hughes เด็กสาวตัวน้อยวัย 4 ขวบที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เธอก็เป็นคนหนึ่งที่เกิดมาแล้วไม่ได้มีร่างกายปกติเหมือนกับมนุษย์ธรรมดา แต่เธอก็สามารถพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่าถึงร่างกายจะไม่ปกติ ก็สามารถทำสิ่งที่อยากทำได้ Millie Bea Hughes เป็นเด็กสาวที่อาศัยอยู่ในเมือง Carnforth มณฑล Lancashire ประเทศอังกฤษ เธอเกิดมาพร้อมกับโรคสมองพิการ โรคที่เกิดความผิดปกติกับทางระบบประสาท ส่งผลทำให้ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อ การทรงตัวหรือการเคลื่อนไหวได้อย่างที่ใจคิด แม้ว่าเธอจะป่วยด้วยอาการดังกล่าว แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ต่อความต้องการของเธอ ในวันที่สำคัญวันหนึ่งในชีวิตอย่างวันที่จะได้ไปโรงเรียนวันแรก เธอตัดสินใจที่จะเดินไปโรงเรียนด้วยตัวของเธอเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอต้องเข้ารับผ่าตัดอยู่หลายครั้ง อย่างครั้งล่าสุดเธอก็เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดที่มีค่าใช้จ่ายถึง 800,000 บาท รวมถึงต้องทำกายภาพบำบัดนานอยู่เป็นเดือนจึงจะสามารถทรงตัวโดยไม่ใช้ไม้ค้ำยันและสามารถเดินไปยังโรงเรียนได้ด้วยตนเอง จากในวิดีโอเราจะเห็นได้ว่าระหว่างทางที่ Millie เดินเข้าโรงเรียน ด้วยความช่วยเหลือจาก Natalie คุณแม่และ Evam พี่ชายฝาแฝด ทำให้เธอสามารถยิ้มออกมาได้ ทาง Natalie ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “Mille เป็นคนที่มั่นคงและเธออยากที่จะเดินไปโรงเรียน มันทำให้ฉันร้องไห้ตลอดที่ได้ดูวิดีโอนี้เลย Evan…
-
หนุ่มขอผู้ผลิตใส่ “คำขอแต่งงาน” ลงในเกม Spider-Man ก่อนจะกลายเป็นเรื่องราวอันแสนเศร้า
เหล่าเกมเมอร์หลายๆ คนมักจะมองหา “อีสเตอร์เอ้ก” (Easter Egg) หรือความลับบางอย่างที่ทางผู้ผลิตซ่อนมันเอาไว้ในตัวเกม เช่นเดียวกันกับเกมใหม่ Spider-Man ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปในวันที่ 7 กันยายน 2018 และนี่คงเป็นอีสเตอร์เอ้กที่เศร้าที่สุดที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ เมื่อชายคนหนึ่งขอให้ทางผู้ผลิตใส่ข้อความ “คำขอแต่งงาน” ลงไป หวังจะบอกความในใจกับแฟนสาว เกม Spider-Man บนเครื่องเล่น PS4 ที่เพิ่งวางขายไป Tylor Schultz คือชายคนที่เรากำลังพูดถึงอยู่ เขาได้ติดต่อหาบริษัท Insomniac Games ผู้ผลิตเกม Spider-Man ไปตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2018 โดยคำขอของเขาได้รับการตกลงในทันที ถึงอย่างนั้นทางผู้ผลิตก็ถาม Tylor ว่า “เกมของเราออกวันที่ 7 กันยายน เลยนะ คุณรอได้หรือ?” Tylor จึงตอบกลับไปว่า “เราคบกันมา 5 ปีแล้ว ผมเชื่อว่าเธอคงรอให้ถึงตอนนั้นได้อย่างแน่นอน” ผู้ผลิตใส่สิ่งนี้ลงไป “Maddie แต่งงานกับผมนะ?”…
-
ตำรวจหญิงถูกสั่งจับข้อหา ‘ฆาตกรรม’ หลังยิงชายผิวสีเสียชีวิต จากความเข้าใจผิด…
เรื่องอื้อฉาวของวงการตำรวจสหรัฐฯ หลังจากที่เกิดเหตุยิงผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต จากความเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่คิดว่าชายดังกล่าวบุกรุกอพาร์ตเมนต์ของเธอ (ข่าวเก่า) Amber Renee Guyger เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงเมืองแดลลัส Amber Renee Guyger วัย 30 ปี ถูกฝากขังในเรือนจำ Kaufman County Jail ช่วงเวลา 19.20 น. ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาฆาตกรรมที่ก่อเหตุเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม หลังก่อเหตุยิงนาย Botham Jean วัย 26 ปี เสียชีวิตภายในอพาร์ตเมนต์ของเขา นาง Guyger ได้จ่ายเงิน 9,852,600 บาท (300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อประกันตัวออกมาและได้รับการปล่อยตัวเป็นการชั่วคราวในช่วงเวลา 20.30 น. ภายในวันเดียวกัน ซึ่งเธอได้ออกมาจากเรือนจำทางด้านหลัง เพื่อหลีกเลี่ยงการทำข่าวจากสื่อหลายสำนัก จากการสืบสวนของทีม Texas Rangers ในวันศุกร์ที่ผ่านมา กล่าวว่าคดียังอยู่ในระหว่างการสืบสวนและปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยทีม Rangers…
-
ยอดขาย Nike เพิ่มขึ้น 31% แม้จะถูกลูกค้าคว่ำบาตร ‘เผารองเท้า’ เพราะพรีเซนเตอร์คนใหม่
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เกิดเรื่องราวใหญ่โตเกี่ยวกับแบรนด์ Nike หลังจากที่ได้เลือกพรีเซนเตอร์คนใหม่และปล่อยแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ออกมา แม้พรีเซนเตอร์คนนี้จะมีประเด็นทางสังคม เนื่องจากการไม่แสดงออกในความรักชาติและให้เกียรติธงชาติสหรัฐฯ… Believe in something, even if it means sacrificing everything. #JustDoIt pic.twitter.com/SRWkMIDdaO — Colin Kaepernick (@Kaepernick7) September 3, 2018 บริษัทวิจัยทางด้านการพาณิชย์ดิจิทัล Edison Trend ระบุว่ายอดขายของ Nike นั้นกลับมียอดที่พุ่งสูงมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2017 “ยอดขายของ Nike เติบโตเพิ่มขึ้น 31% จากวันอาทิตย์จนถึงวันอังคาร ยอดขายเยอะกว่าวันแรงงานปีนี้เสียด้วย จากที่ในปี 2017 นั้นเติบโตเพิ่มแค่ 17% เท่านั้น” แบรนด์ Nike ได้ทำการปล่อยแคมเปญโฆษณาที่มีอดีตนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ทีมซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนเนอร์ส Colin Kaepernick เป็นพรีเซนเตอร์ โดยที่เขามีประเด็นในระดับชาติในปี 2016…
-
เพราะ ‘สายลม’ พัดพาให้หนุ่มกับสาวแปลกหน้าได้มาพบพาน และไปงานเต้นรำด้วยกัน!!
เรื่องราวของสองหนุ่มสาว ที่ได้บังเอิญมาพบกันเพราะ ‘สายลม’ ที่พัดผ่านไป… ในทุกๆ ปีเหล่าหนุ่มๆ จากโรงเรียน Westlake High School ที่ตั้งอยู่ในเมือง Saratoga Springs รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีประเพณีที่ทำกันอยู่เป็นประจำทุกปี คือการทำโปสเตอร์เจ๋งๆ ไปวางไว้หน้าบ้านของสาวที่ชอบเพื่อชวนเธอไปร่วมงานเต้นรำของโรงเรียน เช่นเดียวกันกับ Grayson Beck หนุ่มชั้นมัธยมปีสุดท้ายก็เขียนโปสเตอร์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อไปขอสาวที่เป็นนักกีฬาเทนนิสไปงานเต้นรำ เขาคิดคำพูดเจ๋งๆ ขึ้นมาด้วยการนำลูกเทนนิสมาเขียนไว้ในโปสเตอร์ว่า “ในที่สุดผมก็ ‘รวบรวมความกล้า’ (Get the balls) มาขอให้เธอไปงานเต้นรำด้วยแล้วนะ” จากนั้นก็นำไปวางไว้หน้าบ้านของสาวคนนั้น แต่เนื่องจากวันนั้นเป็นวันที่ลมแรงมากๆ ลมได้พัดพา ‘โปสเตอร์’ ของ Grayson ลอยละลิ่วไปที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัว Pyfer De Anne Pyfer เจ้าของบ้านเล่าว่า “ลูกชายของฉันเป็นคนเจอโปสเตอร์แผ่นนี้แล้วก็หยิบมันเข้ามาในบ้าน ตอนนั้นฉันคิดขึ้นมาว่าเราจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของโปสเตอร์อันนี้กันแน่” คุณ De…
-
ดังจนฉุดไม่อยู่ สองคู่หู ‘นายฮ้อยซาลาห์+ล่าม’ เพื่อนบ้านถึงกับเอาไปทำเป็น Parody!!
มาแรงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ กับสองคู่หู ‘นายฮ้อยซาลาห์ และล่ามส่วนตัว’ ที่มาสร้างรอยยิ้มและการยั่วน้ำลายให้กับพวกเราในโลกโซเชียล จนตอนนี้เรียกได้เลยว่าพวกเขากลายเป็นหน้าเป็นตาของ wongnai ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่ากระแสความดังของทั้งสองคนก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่เมืองไทยเท่านั้น เพราะตอนนี้ดังไปถึงประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ อย่างประเทศมาเลเซีย จนถึงกับมีการทำคลิปวิดีโอล้อเลียนขึ้นมาแบบเหมือนเป๊ะๆ เลยทีเดียว คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์โดยเพจเฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า Laparpo เป็นเพจเฟซบุ๊กที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการรีวิวร้านอาหารต่างๆ นั่นเอง ทางเพจได้ทำคลิปวิดีโอรีวิวร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตั้งชื่อวิดีโอว่า Laparpo WONG NAI ด้วยการคอสเพลย์เป็นนายฮ้อยซาลาห์กับล่าม ออกมาได้แบบเหมือนเป๊ะๆ แทบจะทุกช็อต ทั้งการขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าร้าน การอธิบายสรรพคุณของร้าน ท่าทางต่างๆ การตบโต๊ะหลังชิมอาหาร การใช้เพลงประกอบ รวมไปถึง ‘พูดภาษาไทย’ ด้วย!! . คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจมากมายจนมีคนเข้าไปกดไลก์ถึง 3,100 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 3,500 ครั้งเลยทีเดียว!! ลองไปชมคลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แหม่ ดังใหญ่แล้วนะเนี่ย ไม่แน่นี่อาจจะเป็นช่องทางในการขยายธุรกิจของ wongnai และนายฮ้อยซาลาห์ไปรีวิวร้านอาหารที่ประเทศมาเลเซียก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะปกติในคลิปแกก็ไม่พูดอะไรอยู่แล้ว 5555+…
-
เด็กชายเศร้า ‘ขึ้นรถบัสผิดคัน’ เด็กแปลกหน้า 3 คน ช่วยเรียกแท็กซี่/จ่ายเงินให้กลับถึงบ้าน!!
หากย้อนกลับไปตอนเด็กๆ ‘การไปโรงเรียนวันแรก’ นั้นถือเป็นอะไรที่เราไม่มีทางลืมได้อย่างแน่นอน ทั้งเพื่อนใหม่ๆ ประสบการณ์ต่างๆ ที่เราจะได้รับ มันช่างน่าตื่นเต้นซะจริงๆ เช่นเดียวกันกับเด็กชายวัย 11 ขวบ ที่ดันขึ้น ‘รถบัส’ ขากลับบ้านผิดคัน ในวันเปิดเทอมวันแรกของการเรียนชั้นเกรด 7 หรือเทียบเท่ากับ ม.1 ของบ้านเรา ปรากฏว่ารถบัสที่เขาขึ้นมานั้นขับออกไปจากเมือง Liverpool บ้านของเขา ด้วยเหตุนี้เองเด็กชาย จึงทำอะไรไม่ถูก ตกอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ และตื่นตระหนก เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับบ้านได้อย่างไร และแล้วเด็กหนุ่มวัย 17 ปี Tom O’Brien ที่เรียนอยู่ชั้นเกรด 11 (ม.5) และ เด็กชายจากชั้นเกรด 7 อีกสองคน คือ Harry Campbell และ Dylan Robson ก็สังเกตเห็นถึงความกังวลใจของเด็กชายแปลกหน้า ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เลยเสนอความช่วยเหลือให้ Tom O’Brien วัย 17 ปี เรียนอยู่ชั้นเกรด 11…
-
ครูสั่งการบ้าน ให้นักเรียนนับข้าว 100 ล้านเม็ด?! ผู้ปกครองงง ครูบอกเป็นประโยชน์ต่อตัวเด็ก
เชื่อว่าทุกๆ คนจะต้องเคยได้รับมอบหมาย “การบ้าน” จากอาจารย์ในสมัยที่เรายังเป็นนักเรียน นักศึกษาอยู่ แต่การบ้านที่เราเจอนั้น อาจไม่แปลกประหลาดเท่ากับโจทย์การบ้านของอาจารย์คณิตศาสตร์คนนี้ อาจารย์สาวแซ่ Su เป็นคุณครูวิชาคณิตศาสตร์ในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง เมือง Foshan ประเทศจีน ซึ่งโจทย์การบ้านของเธอกำลังถูกพูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล กับการสั่งให้นักเรียนกลับไป “นับเม็ดข้าว 100 ล้านเม็ด”?! นั่นคือโจทย์ที่เธอตั้งให้กับเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยเธอให้เวลา 2 วันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ นับเม็ดข้าวให้ครบ 100 ล้านเม็ดและนำคำตอบมาส่งเธอที่โรงเรียน โจทย์ดังกล่าวทำให้ผู้ปกครองจำนวนมากต่างรู้สึกไม่เห็นด้วย มองว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ใครจะบ้ามานั่งนับเม็ดข้าวจนครบทั้ง 100 ล้านเม็ดได้ในเวลาแค่ 2 วันกันล่ะ หลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ของประเทศจีน คุณครูสาวก็ได้ออกมาชี้แจงว่าโจทย์ที่เธอให้ไปนั้นมีเพื่อสอนให้เด็กรู้จักใช้สิ่งที่เรียกว่า “การประเมิน” และออกไอเดียความคิดอย่างหลากหลาย Su บอกว่า “แทนที่เด็กจะมานั่งนับข้าวทีละเม็ด ฉันหวังว่าพวกเขาจะนับให้ครบสัก 100 เม็ด จากนั้นจึงใช้ทักษะการคูณอย่างที่ได้สอนไป เข้าใจว่า 100 กับ 100 ล้านนั้นมันต่างกันกี่เท่า แตกต่างกันอย่างไร” เหมือนอย่างผู้ปกครองคนหนึ่งที่บอกว่า…
-
ยลโฉมนอกจอของ ‘ซิสเตอร์ไอรีน’ จาก The Nun นอกจอเธอสวยมว๊ากกก เห็นแล้วหลงเลย!!
สำหรับแฟนๆ หนังจากจักรวาล The Conjuring แล้ว อย่างที่รู้กันดีว่าเป็นหนังผีที่น่ากลัวจนมีผู้คนให้ความสนใจมากมาย โดยเฉพาะภาคล่าสุดที่เป็นเรื่องราวของ ‘ผีแม่ชี’ ที่หลายๆ คนอาจได้ไปลิ้มลองกันมาแล้ว จนเสียงแตกออกไปหลายเสียง บ้างก็ว่าน่ากลัวสมการรอคอย บ้างก็ผิดหวังเพราะไม่มีความน่ากลัวเลยซักกะตี๊ดดด!! แต่จะน่ากลัวหรือไม่น่ากลัวก็ไม่รู้ล่ะ เพราะวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปโฟกัสที่ ‘แม่ชี’ ตัวเอกของเรื่อง ก็คือซิสเตอร์ไอรีน (Irene) นั่นเอง เพราะว่านางสวยมว๊ากกกกกก!! แบบว่ามองแล้วก็ยิ่งหลง มองในโรงหนังไม่พอ ก็เลยต้องออกมาค้นหาดูว่าเธอเป็นใคร ซิสเตอร์ไอรีน รับบทโดย Taissa Farmiga นักแสดงสาววัย 24 ปี แถมยังมีดีกรีเป็นน้องสาวของ Vera Farmiga ที่รับบทเป็นนางเอกของ The Conjuring ภาค 1 และ 2 อีกด้วย!! แม้จะอายุแค่ 24 ปี แต่ขอบอกเลยว่าเธอผ่านงานแสดงมาแล้วมากมายทั้ง ซีรีส์เรื่อง American Horror…
-
พ่อแม่ยืนหัวเราะ ปล่อยลูกน้อยเล่นกับ “งูเหลือม” ตัวบักเอ้ก ทั้งนั่งทับ จับปากมันแบบชิลๆ
พ่อแม่ส่วนใหญ่อาจปล่อยให้ลูกน้อยได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ผ่านการลงมือทำ เล่นสนุกกับสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง ซึ่งนั้นคงเป็นความคิดเดียวกันกับผู้ปกครองของเด็กคนนี้ นี่คือคลิปของเด็กน้อยกำลังเล่นสนุกอยู่กับเจ้า “งูเหลือม” ตัวใหญ่ยักษ์ ขนาดของมันมากกว่าเด็กคนนี้ไปหลายเท่าตัว ส่วนพ่อแม่นั้นก็คอยถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะที่แซมเข้ากล้องมาเบาๆ คลิปนี้ถูกถ่ายในเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย แน่นอนว่าเด็กน้อยคงไม่คิดอะไร ด้วยความซนๆ ใสๆ เจ้าหนูถึงกับขึ้นไปนั่งทับตัวงูเหลือมซะอย่างกับว่ามันเป็นเก้าอี้ยังไงยังงั้น ขนาดว่างูพยายามเลื้อยหนีไปแล้ว แต่เจ้าหนูก็ยังตามจะไปเล่นด้วย บีบปากของมันยกขึ้นมาได้อย่างชิลๆ ส่วนพ่อแม่ของเขาก็แอบส่งเสียงหัวเราะกับการกระทำเหล่านั้น ในขณะที่ยังคงถ่ายคลิปไปเรื่อยๆ คลิปนี้ได้กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียลในช่วงต้นเดือนกันยายน 2018 หลายๆ คนอาจมองว่าเป็นพฤติกรรมที่น่ารักดี แต่บางคนก็รู้สึกเป็นห่วง กลัวว่าเด็กจะได้รับอันตรายอย่างที่คาดไม่ถึง คลิปที่ถูกถ่ายเอาไว้ โดยในเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมานี้ที่ประเทศเดียวกัน เคยมีหญิงสาวคนหนึ่งถูกผ่าออกมาจากร่างของงูเหลือม หลังจากที่เธอถูกมันกลืนเข้าไปแบบเป็นๆ เพราะฉะนั้น แม้ว่าการปล่อยให้เด็กเรียนรู้จะเป็นเรื่องที่ดี แต่เราต้องดูให้ดีๆ ว่ามันเสี่ยงอันตรายเกินไปหรือเปล่าด้วยนะ ที่มา: metro , unilad
-
“แก๊งลักพาตัว” แอบบุกเข้าไปในโรงเรียน หวังฉุดเด็กหญิงวัย 11 ปี สุดท้ายโดนกระทืบเสียชีวิต
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากการที่แก๊งลักพาตัว 4 คนแอบบุกเข้าไปในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง เมือง Begusarai ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2018 เวลาราวๆ 10.30น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ทั้ง 4 คนมีเป้าหมายที่จะแอบลักพาตัวเด็กหญิง (ไม่เอ่ยนาม) วัย 11 ปี แต่เมื่อพวกเขาหาตัวเด็กคนดังกล่าวไม่พบ จึงใช้ปืนจ่อหัวขู่ครูใหญ่ของโรงเรียน ตำรวจลงไปตรวจสอบบริเวณสถานที่เกิดเหตุ Neema Kumari ครูใหญ่ที่ถูกข่มขู่อยู่บอกกับคนทั้ง 4 ว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวไม่ได้มาโรงเรียนในวันนั้น และด้วยความกลัวเธอก็ได้ส่งเสียงกรี๊ดออกมาอย่างดัง เรียกความสนใจจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเหล่านักเรียน ครูคนอื่นๆ หรือแม้แต่ชาวบ้านในละแวกนั้น ทุกคนรีบวิ่งเข้ามาล้อมผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คนเอาไว้ จนกระทั่งได้จังหวะดึงตัว 3 ใน 4 คนแยกออกมาได้ ก่อนที่จะรุมประชาทัณฑ์อย่างหนักหน่วง ตำรวจเร่งเข้ามาควบคุมสถานการณ์เอาไว้ แต่ก็ไม่ทันการณ์ ผู้ก่อเหตุ 3 คนนั้นโดนกระทืบจนเสียชีวิต มี 1 คนที่ตายในที่เกิดเหตุ และอีก 2 คนตายระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาล…
-
นักวิทย์พยายาม “โคลนนิ่ง” มัมมี่ลูกม้า 40,000 ปี หวังนำไปสู่การโคลนนิ่งแมมมอธในอนาคต
หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวการขุดพบมัมมี่ลูกม้าจากยุคน้ำแข็ง ในเพอร์มาฟอส ซึ่งมีสภาพที่สมบูรณ์อย่างไม่น่าเชื่อ (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ พบมัมมี่ลูกม้าอายุราว 30,000-40,000 ปี ในเพอร์มาฟอส สมบูรณ์มากจนเห็นขนจมูกได้) เชื่อว่าในตอนนั้นคงมีหลายคนไม่น้อยที่สงสัยว่าการค้นพบในครั้งนั้นมีความสำคัญอย่างไร แต่ล่าสุดนี้เองทีมนักวิทยาศาสตร์ในไซบีเรียก็ได้ออกมาบอกแล้วว่าหากโชคดีพอมัมมี่ลูกม้าตัวนี้ อาจจะให้พันธุกรรมที่สำคัญในการโคลนนิ่งม้าสายพันธุ์โบราณจากยุคน้ำแข็งได้นั่นเอง ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์ The Siberian Times หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ดูแลงานวิจัยในครั้งนี้คือคุณ Woo-Suk Hwang นักวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดและผู้บุกเบิกการโคลนนิ่งจากเกาหลีใต้ คุณ Hwang และทีมนักวิทยาศาสตร์รัสเซียนั้นเคยทำงานร่วมกันในการทดลองโคลนนิ่งแมมมอธมาก่อน และในขณะนี้พวกเขาก็กำลังทำการวิจัยเซลล์ที่น่าจะหลงเหลืออยู่ในลูกม้าที่มีการพบ เพื่อตามหาเซลล์ที่สมบูรณ์และยังมีชีวิตมากพอที่จะใช้ในการโคลนนิ่งอยู่นั่นเอง “ถ้าเราพบเซลล์ที่มีชีวิตเพียงเซลล์เดียวเราก็จะสามารถโคลนนิ่งม้าโบราณตัวนี้ได้” คุณ Hwang กล่าว ดูเหมือนว่าการโคลนนิ่งม้าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายกว่าแมมมอธมาก เพราะสามารถฝากตัวอ่อนไว้ในม้าสายพันธุ์ปัจจุบันได้ จากความใกล้เคียงทางพันธุ์กรรม ต่างจากแมมมอธที่แม้จะคล้ายกับช้างแต่พันธุ์กรรมกลับค่อนข้างต่างกัน โดยคุณ Hwang หวังเป็นอย่างมากว่าการโคลนนิ่งลูกม้าในครั้งนี้ จะเป็นบันไดไปสู่ความก้าวหน้าของการโคลนนิ่งแมมมอธต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามการทดลองในครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะราบรื่นเสียทีเดียว เพราะ DNA ของสัตว์ที่พบในยุคจำแข็งนั้นแทบจะทั้งหมดไม่อยู่ในสภาพที่จะใช้ได้อีกต่อไป และนั่นทำให้แม้มัมมี่ลูกม้าตัวนี้จะค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ก็มีโอกาสพบกับ DNA ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็น้อยพอๆ กับโอกาสค้นพบดวงดาวที่ต้องการดวงหนึ่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่เลยก็ว่าได้ ถึงอย่างนั้น นี่ก็เป็นโอกาสเล็กๆ ที่นักวิทยาศาสตร์เต็มใจที่จะควานหาเช่นกัน ที่มา livescience
-
นักแสดงวัย 87 ปี ตัดสินใจ “หย่าร้าง” กับภรรยาวัย 27 หลังเธอไม่ยอมมีอะไรกับเขาเลย 3 ปี
Ivan Krasko นักแสดงชาวรัสเซียวัย 87 ปี ตัดสินใจ “หย่าร้าง” กับ Natalia ภรรยาสาววัย 27 ปี หลังจากแต่งงานกันมานานกว่า 3 ปี หลังจากที่ผ่านมาเธอไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์กับเขาเลย เหตุผลดังกล่าวอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่ทว่ากับ Natalia แล้วมันเป็นอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น Ivan นักแสดงดังในรัสเซีย และ Natalia ภรรยาของเขา เหตุที่ทำให้เธอไม่ยอมมีอะไรกับสามีของตัวเองเลย นั่นเป็นเพราะว่าเธอไม่ต้องการที่จะมีลูก ทั้งสองคนแต่งงานกันมาตั้งแต่ปี 2015 โดยเธอปฏิเสธที่จะมีอะไรกันกับ Ivan ไม่อยากเสี่ยง กลัวจะตั้งครรภ์ โดยในขณะนั้น Ivan มีลูกอยู่แล้วถึง 5 คน เมื่อเขาแต่งงานใหม่ เขาก็ต้องการจะมีลูกกับเธอคนนี้อีก ในขณะที่ Natalia คิดตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิง ส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอไม่ต้องการจะมีลูก เป็นเพราะว่าเธอนั้นเติบโตมาในครอบครัวยากจน รู้สึกว่าการมีลูกจะทำให้การใช้ชีวิตยากขึ้นกว่าเดิม ต้องมีค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่างตามมา อีกทั้งปัจจุบันทั้งสองก็ยังต้องอาศัยอยู่ในห้องเช่า ซึ่งหลานของ Ivan…
-
นางแบบสาวเสนอ ‘มีเซ็กส์แบบทรีซัม’ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้รอดพ้นจากการจับกุม!!
อย่างที่รู้กันดีว่าเมื่อคุณ ‘ทำผิดกฎหมาย’ สิ่งที่ตามมาก็คือต้องถูกลงโทษตามความผิดที่ได้ทำลงไป แน่นอนว่าหลายๆ คนอาจจะพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการลงโทษเหล่านั้นด้วยวิธีการต่างๆ นานา เช่นเดียวกันกับนางแบบสาวชาวรัสเซียรายนี้ ที่พยายามจะหลีกเลี่ยงการลงโทษทางกฎหมายจากการทำผิดกฎจราจร ด้วยการ ‘เสนอให้มีเซ็กส์แบบทรีซัม’ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คน แต่โดนปฏิเสธเลยโดนจับเข้าคุก 18 เดือน!! เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail รายงานว่า Kira Mayer นางแบบสาววัย 24 ปี กำลังจะถูกจับกุมในข้อหาสร้างความรุนแรงบนท้องถนน แต่เธอไม่อยากถูกดำเนินคดี จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายลบคลิปวิดีโอที่เป็นหลักฐานทิ้งไปแลกกับการได้มีเซ็กส์แบบทรีซัมกับเธอ ก่อนหน้านั้นเธอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอด แต่กลายเป็นว่าตัวเธอนั้นไม่มีใบขับขี่ จึงต้องขับหนีไป แต่ความพยายามนั้นก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ในที่สุดเธอก็ยอมจอดและลงมาทำข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคน เจ้าหน้าที่เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “เธอพยายามที่จะตะโกน และแสดงความไม่พอใจ รวมไปถึงพยายามที่จะขับรถหนีไปอีกรอบ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ” “เธอพยายามที่จะเสนอให้เรามีเซ็กส์ด้วย ทั้งแบบทีละคน หรือพร้อมกัน 2 คนเลยก็ได้ แต่พวกเราปฏิเสธไป พร้อมกับแจ้งข้อหากับเธอเพิ่มเติม” ทางด้าน…
-
หนุ่มผิวสีถูก ‘ตำรวจหญิง’ ยิงเสียชีวิต เพราะเธอเปิดเข้าห้องผิด และคิดว่าเขาเป็นขโมย!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ณ ขณะนี้เลย กับกรณีของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนหนึ่งเปิดเข้าห้องผิดแล้วคิดว่าเจ้าของห้องนั้นเป็นโจรบุกเข้าห้อง เธอเลยใช้ปืนยิงชายคนดังกล่าวจนถึงแก่ชีวิต!? จากรายงานของเว็บไซต์ New York Post ของประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อพาร์ตเมนต์ที่มีชื่อว่า Southside Flats ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงไม่ทราบชื่อได้ใช้อาวุธปืนยิงชายผิวสีวัย 26 ปี เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขโมยบุกเข้าห้องของเธอ แต่อันที่จริงแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนนั้นเองที่เปิดประตูเข้าห้องมาผิด ตามรายงานไม่ได้กล่าวไว้ว่าเธอบุกเข้าไปในห้องของเหยื่อได้อย่างไร แต่จากคำให้การของพยานเล่าว่าประตูของอพาร์ตเมนต์นั้นจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อมีกุญแจ หรือคีย์การ์ดเท่านั้น นอกจากนี้พยานคนอื่นๆ ก็เล่าต่ออีกว่าพวกเขาได้ยินเสียงราวๆ ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา “มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เปิดประตูสิ เปิดประตูสิ!!” จากคำบอกเล่าของพยาน “เราได้ยินเสียงตำรวจตะโกน แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” พยานอีกคนเล่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่านาย Botham Shem Jean เป็นชาว Saint Lucia (ประเทศบนเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน) โดยกำเนิด เขาทำงานให้กับ PricewaterhouseCoopers ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมไปถึงเป็นลูกชายของ Allison Jean อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการของประเทศ St. Lucia…
-
สื่อไต้หวันตีข่าว การหายตัวไปของ ‘ฟ่าน ปิงปิง’ กว่า 3 เดือน ถูกจับเพราะ ‘หนีภาษี’!!
กลายเป็นข่าวเด่นข่าวดังของเมื่อคืนที่ผ่านมาเลยทีเดียวกับกรณีของนักแสดงที่ชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในเอเชียอย่าง ฟ่าน ปิงปิง ถูกจับกุมในข้อหา ‘หนีภาษี’ หลังจากที่เงียบหายไปนานถึง 3 เดือน เพราะถูกกล่าวหาว่าหนีภาษีจากการใช้วิธีที่เรียกว่า ‘สัญญาหยิน-หยาง’ เป็นระบบการทำสัญญาที่นักแสดงชาวจีนใช้กันเพื่อหลบเลี่ยงการจ่ายภาษี ยกตัวอย่างเช่น ในงาน 1 งาน นักแสดงจะทำการเซ็นสัญญาไว้ 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งจะเปิดเผยตัวเลขรายได้ให้เห็นอย่างชัดเจนสมมุติว่าเป็น 1 ล้านบาท (เป็นจำนวนเงินที่ถูกหักภาษีไปแล้ว) ส่วนอีกฉบับหนึ่งจะเป็นรายได้อีกจำนวนหนึ่งซึ่งจะไม่นำมาเปิดเผย และในฉบับหลังนี้จะมีจำนวนเงินที่เยอะกว่าฉบับแรกมาก สมมุติว่าเป็น 7 ล้านบาท สรุปแล้วจริงๆ รายได้ของนักแสดงจะอยู่ที่ 8 ล้านบาท ไม่ใช่ 1 ล้านบาทอย่างที่เข้าใจกัน และจากการรายงานของเว็บไซต์ Securities Daily ของประเทศไต้หวัน ได้ระบุว่ามีการค้นพบว่าฟ่าน ปิงปิง ได้ทำการหนีภาษีโดยใช้สัญญาหยินหยางนี้ จากการเซ็นสัญญารับงานแสดงในหนังเรื่อง Cell Phone 2 โดยที่สัญญาแรกมีมูลค่าอยู่ที่ 2 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (65 ล้านบาท) ส่วนสัญญาที่สองมีมูลค่าถึง 10…
-
18 ภาพแห่งการดูแลเอาใจใส่ ของเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลก ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ
บางครั้งเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ก็สามารถสร้างความสุขทางใจให้กับเราได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเราแม้แต่น้อยเลยก็ตาม สำหรับวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็จะมาเติมเต็มความสุขทางใจให้กับเพื่อนๆ ด้วยภาพแห่งความประทับใจที่เกิดจาก ‘การดูแลเอาใจใส่’ ของเพื่อนมนุษย์และบรรดาสัตว์โลก จะเป็นอย่างไรลองไปชมกันได้เลยจ้า… 1. เจ้าหมาที่กำลังงัวเงีย แต่ก็ยังเดินมาส่งเจ้านายของมันเข้าห้องน้ำ 2. เพราะอากาศหนาวเกินไป เจ้าของรถก็เลยเอาหมวกอุ่นมาสวมให้รถของเขา 3. คุณปู่กอดเจ้าหมาไว้แน่น เพราะเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้น เพราะควันจากการทำอาหารสำหรับวันคริสต์มาส 4. พี่สาวผู้ถักเสื้อไหมพรมให้กับงูของตัวเอง 5. การสนับสนุน ถือเป็นส่วนสำคัญของ ‘กีฬา’ 6. เพื่อนช่วยเพื่อน จะได้ถ่ายภาพคู่กับหนุ่มที่ชอบได้ 7. ในทุกๆ ปี เจ้าของบ้านจะนำเสื้อผ้า รองเท้า มาแขวนเอาไว้เพื่อให้คนที่ต้องการใช้งานหยิบไปใช้ได้เลย 8. เพราะอากาศหนาว หนุ่มก็เลยถอดเสื้อให้หมาของตัวเอง 9. เมื่อกระดาษทิชชูในห้องน้ำหมด ก็เลยมีคนสละทิชชูของตัวเองเอาไว้ให้ 10. เด็กน้อยผู้ปลอบใจเจ้าเสือว่าอย่างน้อยมันก็ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว …
-
ภรรยาแกล้งหลอกสามีว่า ‘ถูกหวย’ ผ่านไป 3 สัปดาห์ดันถูกจริงๆ แถมถูกรางวัลใหญ่ซะด้วย!!
ใครเล่าจะคิดว่าจากการแกล้งหลอกสามีเล่นๆ ว่าตัวเองถูกหวย แต่หลังจากผ่านไป 3 สัปดาห์ ดันถูกขึ้นมาจริงๆ!! แถมถูกรางวัลใหญ่ซะด้วย เรื่องราวของ Charlotte Pearl วัย 28 ปี จากเมือง Peterborough ประเทศอังกฤษ ที่แกล้งหลอกสามีว่าตัวเองถูกลอตเตอรี่มูลค่ากว่า 275,000 ยูโร หรือราวๆ 10 ล้านบาท!! “ราวๆ เดือนก่อน Charlotte เล่นใหญ่มาก เธอหลอกผมว่าเธอถูกหวย 275,000 ยูโร ตอนนั้นทำเอาผมตกใจสุดๆ ไปเลยล่ะ” Daniel สามีวัย 27 ปีเล่า และเมื่อไม่นานมานี้ Charlotte ก็เอาอีกรอบ โทรมาบอก Daniel ว่าเธอถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่มูลค่ากว่า 1 ล้านยูโรหรือราวๆ 38 ล้านบาท “รอบนี้ผมรู้สึกเฉยๆ มาก เพราะคิดว่าเธอต้องล้อเล่นเหมือนเดิมแน่ๆ ก่อนที่เธอจะส่งภาพและข้อความยืนยันต่างๆ มาให้ดูและผมก็รู้ได้เลยว่ามันคือความจริง!! มันเป็นอะไรที่บ้ามากๆ เลยล่ะ” Daniel…
-
2 คุณครู ตัดสินใจ ‘บริจาคไต’ เพื่อช่วยชีวิตพ่อของลูกศิษย์ ที่กำลังป่วยเป็นโรคไต
เรื่องราวสุดประทับใจ คุณครูตัดสินใจ ‘บริจาคไต’ ของตัวเองเพื่อช่วยเหลือคุณพ่อของลูกศิษย์ที่ป่วยเป็นโรคไตและเกือบเอาชีวิตไม่รอด คุณ Neil Emmott ป่วยเป็นโรคถุงน้ำในไตมาตั้งแต่ปี 2001 ทำให้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมาตั้งแต่นั้น แต่ภายหลังไตของเขาก็เกิดเสื่อมสภาพลงในปี 2016 ครอบครัวพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะหาคนบริจาคไตให้ เพราะเนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพทำให้ครอบครัวและภรรยาของเขาไม่สามารถบริจาคให้ได้ นั่นหมายความว่า คุณหมอจะต้องทำการฟอกไตให้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหาคนบริจาคไตที่เหมาะกับเขาได้ และแล้วโชคฃะตาก็เป็นใจให้กับ Neil และครอบครัว เมื่อ Allison Malouf คุณครูประจำชั้นของ Mackenzie Emmott ผู้เป็นลูกสาวได้รู้ข่าวเกี่ยวกับพ่อของเธอ จึงตัดสินใจที่จะมอบไตของตัวเองให้กับเขา ด้วยความที่สามีของคุณ Allison นั้นเคยบริจาคไตข้างหนึ่งไปเมื่อ 8 ปีก่อน ทำให้เธอรับรู้ว่าชีวิตที่ไม่มีไตอีกข้างนั้นไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะบริจาคไต “เมื่อคุณเป็นคุณครู คุณจะมีความรู้สึกว่าลูกศิษย์ทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา ลูกสาวของพวกเขาก็เปรียบเสมือนลูกสาวของเราด้วย ฉันไม่อยากเห็นเธอใช้ชีวิตต่อไปโดยที่ไม่มีพ่อ…พระเจ้ามอบไตมาให้เราถึง 2 ข้าง แต่เราจำเป็นต้องใช้มันจริงๆ เพียงข้างเดียวเท่านั้น” คุณครู Allison กล่าว อย่างไรก็ตามการบริจาคไตของคุณครู Allison (คนกลาง) ก็ถูกปฏิเสธ เพราะเธอมีเลือดคนละกรุ๊ปกับคุณพ่อ Neil ขณะเดียวกันก็มีคุณครูอีกท่านหนึ่ง…
-
คุณแม่จับลูกห้อยหัวจ่อ ‘ชักโครก’ เพื่อลงโทษที่พูดไม่เพราะ ภายหลังบอกแกล้งกันเล่นเฉยๆ!!
วัยเด็กเป็นวัยที่ไร้เดียงสาและยังไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติมากๆ ที่บางครั้งพวกเขาทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งพ่อแม่ก็อาจใช้การลงโทษต่างๆ สอนเป็นบทเรียนให้ได้จดจำว่าสิ่งนี้ควรทำหรือไม่ควรทำ แต่บางทีการลงโทษก็อาจรุนแรงเกินไปสำหรับเด็กๆ วัยแรกแย้ม เหมือนกับเหตุการณ์นี้… คลิปที่กลายเป็นประเด็น เรื่องมีอยู่ว่าคุณแม่ในรัฐเวอร์จิเนีย ชื่อว่า Kaitlyn Wolf ได้ลงโทษลูกชายวัย 3 ขวบของเธอด้วยการจับเด็กห้อยหัวลงไปจ่อ ‘ชักโครก’ เพราะลูกชายของเธอพูด ‘คำที่ไม่ควรพูดออกมา’ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดได้ถูกถ่ายเอาไว้เป็นวิดีโอ ในภายหลังวิดีโอดังกล่าวได้กลายเป็นไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ต และเธอก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่การเล่นกันขำๆ เท่านั้น เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อ Fox News ว่า “ตอนนั้นฉันจะลงโทษลูกชายฉัน แต่เขากลับวิ่งหนีไปรอบๆ บ้านนานกว่า 10 นาที เมื่อฉันจับเขาได้ฉันเลยแกล้งเขาเล่นๆ ด้วยการบอกว่า ‘โอ้ว ฉันจะเอาหัวเธอไปติดอยู่ในห้องน้ำซะ’ แต่จริงๆ มันเป็นเพียงมุกโจ๊กๆ เท่านั้น” ทว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นคลิปดังกล่าวเข้าก็เกิดความไม่สบายใจ และเริ่มการสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่ ทางด้าน Wolf ก็ยืนยันว่าลูกชายของเธอหัวเราะอยู่ตลอดเวลาและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แน่นอน “ถ้าคนที่ถ่าย ถ่ายต่ออีกสักนิดจะได้ยินเขาพูดว่า เอาอีก เอาอีก” ในตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเธอจะถูกจับจากเหตุการณ์นี้หรือไม่…
-
เตือนสาวๆ!! หนุ่มหื่นแอบถ่าย “ใต้กะโปรง” ขณะหญิงสาวกำลัง ‘จดจ่อ’ กับหนังสือในร้าน
ในยุคสมัยที่ มนุษย์ กลายเป็นภัยอันตรายอย่างหนึ่งของมนุษย์ด้วยกันเอง ไม่ว่าจะออกไปที่ไหนก็ต้องระวังตัวเอาไว้ให้มาก โดยเฉพาะสาวๆ ที่มักเดินทางคนเดียว บางครั้งคุณอาจอยู่ใกล้ๆ กับ “ชายไม่ประสงค์ดี” ก็เป็นได้ ถือได้ว่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับสาวๆ สำหรับเหตุการณ์ที่จะนำมาเสนอต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นในร้านหนังสือแห่งหนึ่งในเมืองหลัวตง ของไต้หวัน ภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้ว่าเมื่อราวๆ 15.00 น. ของวันที่ 6 กันยายน 2018 หญิงคนหนึ่งที่ยืนเลือกหนังสืออยู่ในร้านถูกชายอีกคนในร้านแอบใช้กล้องถ่าย “ใต้กระโปรง” ของเธอโดยทำทีว่ามาเลือกหนังสือ ขณะที่หญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำกำลังอ่านหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ ชายเสื้อสีขาวที่อยู่ใกล้ๆ ก็แอบนั่งลงและยื่นแขนเข้าไปใต้กะโปรงระหว่างขาทั้งสองข้างของเธอ แล้วใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเอาไว้ คลิปวิดีโอเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดของร้านหนังสือ ชายในคลิปแอบนั่งยอง เขาสอดแขนเข้าไปใต้กะโปรงของหญิงสาวและแอบถ่ายรูปเป็นเวลาราว 3 วินาที เมื่อเสร็จแล้วเขาก็ลุกยืนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะเดียวกันหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายก็ไม่อาจรู้สึกตัวได้ว่าตนกลายเป็นเหยื่อของชายคนนี้ไปเสียแล้ว เมื่ออ่านบทความนี้แล้วหวังว่าสาวๆ จะมีความระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะปัจจุบันคนเรามัน “รู้หน้าไม่รู้ใจ” จริงๆ ที่มา: ck101 และ youtube
-
ย้อนดูเหตุการณ์แข่งวิ่งมาราธอน ฝ่าความหฤโหดทั้งดินและฝุ่น ในกีฬาโอลิมปิก 1904
ในยุคปัจจุบันที่กีฬาการวิ่งได้รับกระแสตอบรับความนิยมมากขึ้น มีการจัดแข่งวิ่งทั่วประเทศและถี่ตลอดทั้งปี อาจจะมีความรู้สึกว่ายากในบางรายการ แต่คงไม่ยากเท่ารายการวิ่งมาราธอนในอดีตครั้งนี้แน่ๆ ที่ทำให้นักวิ่งโอลิมปิกถึงกับต้องยอมแพ้ ในปี 1904 กีฬาโอลิมปิกถูกจัดขึ้นที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา และรายการแข่งมาราธอนถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของโอลิมปิก โดยจัดแข่งเป็นรายการสุดท้ายของวันนั้น มีนักกีฬาเข้าร่วมทั้งหมด 62 คนจากทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นวันที่จัดเทศกาลครั้งใหญ่ของเมือง ซึ่งนับว่าเป็นวันที่เกิดงานสองงานรวมกันในวันเดียว และก่อให้เกิดหายนะต่อนักกีฬาอย่างร้ายแรง หายนะเริ่มต้นจากผู้จัด เลือกวันตรงกับงานเทศกาลใหญ่ของเมือง และให้เริ่มการแข่งขันวิ่งในช่วงบ่ายแทนที่จะเป็นช่วงเช้า นั่นหมายความว่า นักกีฬาจะต้องวิ่งท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ตลอดการแข่งขัน และน้ำดื่มที่นักวิ่งจะได้รับนั้น อยู่ห่างออกไปประมาณ 17 กิโลเมตรจากจุดปล่อยตัว ซึ่งเป็นเพียงจุดเดียวที่มี เส้นทางการวิ่งประกอบไปด้วยทางดินและทางฝุ่น ประกอบกับเป็นวันจัดงานเทศกาลใหญ่ของเมือง ชาวบ้านที่ขับรถม้าสัญจรไปมา ทั้งล่วงหน้าและตามหลังนักกีฬา ก่อให้เกิดฝุ่นตลบอบอวลตลอดเส้นทาง และกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ของนักกีฬา Charles Lucas นักประวัติศาสตร์โอลิมปิกกล่าวว่า “นักกีฬาหลายคนไม่ได้ดื่มน้ำระหว่างทาง ผลที่ตามมาก็ก่อให้เกิดความผิดปกติในลำไส้” หนึ่งในนักวิ่งชาวอเมริกัน William Garcia ถูกชาวบ้านพบ นอนเป็นลมล้มพับกลางทาง เนื่องจากเขาได้รับผลกระทบต่อร่างกายภายในอย่างรุนแรง…
-
ความทรหดของ ‘คนส่งพิซซ่า’ แม้ไต้ฝุ่นจะรุนแรงแค่ไหน พี่ก็ยังจะฝ่าไปส่งให้ได้!!
งานบริการในญี่ปุ่นถือว่าเป็นงานที่มีคุณภาพสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นบริการในระดับไหนก็ตาม เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความพึงพอใจระดับสูงสุด ผู้ปฏิบัติงานก็จะทุ่มเทให้ทั้งกายและใจกันเลยทีเดียว อย่างในช่วงที่ผ่านมา ข่าวพายุไต้ฝุ่นเชบิได้ซัดเข้าสู่บริเวณภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี ด้วยความเร็วลม 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมีพายุเข้า ทางการจึงได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนหลบอยู่ภายในอาคาร เลิกงานก่อนเวลา เพื่อความปลอดภัยในระหว่างที่กำลังรอคำแนะนำจากทางการ แต่ก็ยังมีหนึ่งในหน้าที่ที่ไม่สามารถเลิกงานได้ ก็คือ ‘คนส่งพิซซ่า’ さすがにこの台風での配達は無謀です。@dominos_JP pic.twitter.com/x1YOCnoKWp — キタケン(93.5) (@pur305) September 4, 2018 นับว่าเป็นโชคร้ายของคนส่งพิซซ่าที่ต้องมาเจอกับสภาพอากาศอันรุนแรงเช่นนี้ ชาวเน็ตญี่ปุ่นสังเกตเห็นว่าคนส่งพิซซ่ารายนี้ กำลังติดอยู่กลางถนนเนื่องจากไม่สามารถฝ่าแรงลมและฝนไปได้ คลิปดังกล่าวเกิดขึ้นในจังหวัดโอซาก้า หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นอย่างรุนแรง จะเห็นได้ว่าคนส่งพิซซ่าก็ยังพยายามที่จะต้านทานแรงพายุเพื่อไปถึงที่หมายให้ได้… 同じマンションの人やったとゆう奇跡 pic.twitter.com/NIqtMy9Qde — いしだつ@カタナ250 (@ishidatsu) September 4, 2018 ซึ่งจากที่เห็นว่าคนส่งพิซซ่าผู้โชคร้ายนั้น ไม่ใช่เพียงแค่คนเดียวที่ต้องมาผจญพายุแบบนี้ เพราะมีอีกหนึ่งคลิปจากตึกเดียวกัน แสดงให้เห็นว่ายังมีคนขับมอเตอร์ไซค์อีกรายนอนล้มอยู่ข้างทาง ในช่วงเวลาที่พายุกำลังโหมกระหน่ำเช่นกัน …
-
14 พฤติกรรมตัวอย่างของแฟนหนุ่ม หากมีแฟนดี ชีวิตก็จะดีขึ้นหมื่นแสนล้านเท่า!!
ว่ากันว่ามีแฟนหน้าตาดี ไม่โชคดีเท่ามีแฟนนิสัยดี ข้อนี้ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหนกันเชียว เพราะบ่อยครั้งเหลือเกินที่ประเด็นนี้ มักจะถูกหยิบมาถกเถียงกันบนโลกออนไลน์เสมอๆ และยังหาข้อสรุปไม่ได้สักที… แต่ก็อย่างว่าแหละ หากเลือกที่จะคบกันแล้ว การเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็ต้องปรับตัวกันหน่อย ซึ่งถ้าหากว่าพฤติกรรมของแฟนหนุ่มนั้นดีเลิศ ไม่ทำให้แฟนสาวเดือดร้อนใจ ชีวิตจะต้องดีขึ้นแน่ๆ จากตัวอย่างต่อไปนี้!? ใช้ทิชชู่เก่ง แต่ไม่ยอมทิ้งแกน!! จัดคอลเลคชั่นเครื่องเกมได้เป็นระเบียบ ชอบไปโกนหนวดตรงอ่างล่างหน้า ทำให้มันตัน แล้วก็ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น กินขนมเก่งงง ปล่อยที่เหลือในซองอ้าไว้แบบนั้นแหละ เวลาขอชิม ก็เลือกซะตรงกลาง เวลาจะใช้ทิชชู่ ก็มักจะหยิบเป็นแผ่นสวยงามมมมม ส่วนผ้าเช็ดปากไม่ต้องพูดถึง ใช้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้แกะห่อ มีนิสัยชอบเก็บเลขแจ้งเตือน ทักอะไรไปก็ไม่ตอบ แขวนเสื้อเก่งงงงงง ใช้แปรงสีฟันก็กลัวน้องเมื่อย คว่ำหน้าทิ้งไว้แบบนั้นแหละ เป็นคนประหยัดแม้แต่ในช่องกระเป๋าตังค์ ยัดไว้ในช่องเดียว มีดเมิดใช้เสร็จก็วางทิ้งไว้ดื้อๆ เผื่อจะหยิบมาใช้อีก… บอกให้เตรียมน้ำอาบให้ เทสบู่แชมพูพร้อมอาบให้ทั้งขวด และเวลาจะเปลี่ยนอะไร มักจะนึกถึงความเข้ากันได้ ระหว่างของเก่าและใหม่เสมอ!!…