Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
นศ. สาวติดนิสัย ‘กัดเล็บ’ จนหายเกลี้ยง ส่งผลร้ายเป็นมะเร็งรุนแรง ถึงขั้นต้องตัดนิ้วทิ้ง…
* ภาพประกอบเนื้อหาดังต่อไปนี้ อาจมีความรุนแรงต่อสภาพจิตใจ * นิสัยความเคยชินบางอย่างที่อาจมองได้ว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย จะสามารถส่งผลเสียร้ายแรงต่อร่างกายของเรากันได้เลยทีเดียว อย่างเช่นนิสัยการกัดเล็บเช่นนี้… Courtney Whithorn Courtney Whithorn นักศึกษาวัย 20 ปี เริ่มมีอาการวิตกกังวล มาตั้งแต่ในช่วงที่ถูกรังแกในโรงเรียน อันเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การกัดเล็บนิ้วโป้งเป็นประจำเมื่อเกิดอาการ ตั้งแต่ช่วงปี 2014 ต่อมาการกัดเล็บของเธอเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงแค่การกัดที่ปลายเล็บ แต่ลามไปจนถึงการกัดทั้งเล็บบนนิ้วโป้งหายไปทั้งหมด… หลังจากนั้นนิ้วโป้งที่ไร้เล็บของเธอ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำและทำให้เธอรู้สึกอาย แต่แทนที่จะไปหาหมอกลับเก็บซ่อนไว้ไม่ให้ครอบครัวและเพื่อนๆ รู้ กำนิ้วโป้งเก็บไว้เสมอและใส่เล็บปลอมมานานกว่า 4 ปี การปล่อยนิ้วเล็บเปลือยเปล่าเป็นระยะเวลานาน ก็ลุกลามกลายมาเป็นเนื้อมะเร็งร้ายที่กัดกินเล็บเธอ นั่นก็คือมะเร็งเมลาโนมา (Acral lentiginous) “ตอนที่ฉันเพิ่งจะรู้ว่าการกัดเล็บจนเกลี้ยงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็ง มันทำให้ฉันรู้สึกช็อคมาก ในหัวคิดได้เพียง ‘ทำตัวเองทั้งนั้น’ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ควรทำ” Courtney ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ผลวินิจฉัยออกมาในเดือนกรกฎาคม เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมถึง 4 ครั้ง เพื่อรักษานิ้วโป้งของเธอเอาไว้ แต่ผลสุดท้ายในครั้งที่…
-
คนจริง… ‘อีลอน มัสก์’ ดูด ‘กัญชา’ ระหว่างสัมภาษณ์สด มาเป็นจ๊อย ดึงซะยาว!!
ปกติเวลาเราดูการ ‘สัมภาษณ์สด’ เราก็อาจจะเห็นคนถูกสัมภาษณ์พยายามทำตัวให้เรียบร้อยในอากัปกิริยาต่างๆ แต่ว่าหลักการนี้คงใช้ไม่ได้กับชายสุดอินดี้นาม ‘อีลอน มัสก์’ เพราะเขาคว้าจ๊อยกัญชาขึ้นมาดูดระหว่างการสัมภาษณ์อย่างสุดฟิน ลองดูการดึงของเขาซะก่อน ธรรมดาที่ไหนชายคนนี้ เมื่อเร็วๆ มานี้มหาเศรษฐีแห่ง Tesla คนนี้ได้ให้สัมภาษณ์สดกับ Joe Rogan พิธีกรชื่อดังในการตอบคำถามเรื่องราวต่างๆ อย่างเรื่องของความรัก, เรื่องปัญญาประดิษฐ์, ความรู้สึกที่เป็นเจ้าของบริษัท Tesla และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย แต่ในระหว่างขณะที่สัมภาษณ์อยู่นั้นเอง จู่ๆ เขาก็ควักเอา ‘เนื้อ'(ศัพท์เรียกกัญชา) ขึ้นมาจุดดูดอย่างหน้าตาเฉย แถมยังดึงปื้ดยาว ทำหน้าฟินซะจนใครๆ ที่ได้เห็นอยากจะร่วมแจมแบ่งปันรอยยิ้มด้วยซะจริงๆ อ้า ชื่นใจซะจริงๆ สำหรับคำถามคร่าวๆ ที่พิธีถามอีลอน ก็มีอย่างเช่น พิธีกร: คุณมีระบบความคิดและจิตใจอย่างไร ถึงทำให้นำไปสู่การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่างๆ มากมายอย่างนี้ อีลอน: ไม่รู้สินะ เหมือนสมองของผมมันมีไอเดียมาจากไหนไม่รู้หมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา บางทีผมก็อยากจะหนีจากพวกมันนะแต่ก็ทำไม่ได้ ผมขอเรียกตัวผมว่าเป็นพวก ‘ผ่าเหล่า’ ละกัน พิธีกร: แล้วคุณรู้ตัวมานานหรือยังว่าแตกต่างจากคนอื่นเค้าเนี่ย อีลอน: น่าจะตั้งแต่…
-
‘คนจรจัด’ ช่วยสุนัขที่หนีออกจากบ้าน เจ้าของจึงตอบแทนทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับคนรักสัตว์หลายๆ คน สัตว์เลี้ยงมีความหมายต่อชีวิตมาก บางคนถึงขั้นยอมทำทุกอย่างเพื่อพวกมัน เหมือนกับ Rick Darge ที่รักน้องหมา Maya มากกว่าสิ่งใดบนโลกนี้ ทั้งคู่ทำทุกอย่างด้วยกันเสมอและมีความผูกพันที่เหนียวแน่น แต่แล้ว Maya ก็ได้หายตัวไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมปี 2018 Darge เสียใจมาก และพยายามออกตามหามันทุกที่ที่คิดได้ นอกจากนี้ เขาได้ยังได้ติดประกาศตามหาเจ้าหมาหลายจุดในละแวกที่เขาอยู่ แต่ผ่านไปวันแล้ววันเล่า เขาไม่ได้รับข่าวคราวของมันเลย ขณะที่กังวลเกี่ยวกับน้องหมา อีกใจหนึ่ง Darge ก็มีความรู้สึกแปลกๆ ว่า Maya ต้องปลอดภัย เขาบอกว่า “ผมรู้ว่าต้องมีบางคนจับมันไว้ มันไม่ได้ซ่อนตัวหรือตายแน่นอน” กระทั่งวันที่ 8 กรกฎาคม ปี 2018 เจ้าของได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งที่ชื่อ James เขาเป็นคนเจอ Maya… Darge จึงรีบไปหาชายคนนี้ทันที เมื่อไปถึง เขาได้ฟังเรื่องราวที่น่าทึ่งเกี่ยวกับเบื้องหลังที่ Maya มาอยู่กับ James ว่า หลังจากที่เจ้าหมาวิ่งออกจากบ้าน มันไปได้ไม่ไกลนัก ก่อนจะจบลงด้วยการไปอยู่กลับกลุ่มคนไร้บ้านที่อยู่ใกล้ออฟฟิศของ Darge พวกเขาคิดว่ามันเป็นหมาจรจัด และต้องการจะดูแลมัน ดังนั้นพวกเขาจึงพาน้องหมาไปให้ James เพราะเขาเป็นคนที่รักสุนัขมาก ที่สำคัญ เขาเพิ่งสูญเสียน้องหมาของตัวเองไปก่อนที่จะเจอ Maya…
-
วิดีโอเผย กลุ่มวัยรุ่นโชว์ความคึกคะนอง ใช้ ‘ถังดับเพลิง’ ฉีดใส่หน้าคนไร้บ้านแบบเต็มๆ
อย่างที่รู้ๆ กันว่า ‘วัยรุ่น’ เป็นวัยที่มีพลังเยอะและคึกคะนองในเรื่องต่างๆ แต่ว่าถ้าเอาพลังที่ว่านี้ไปใช้ในทางที่ไม่ดี ก็อาจจะกลายเป็นความเดือดร้อนสำหรับคนอื่นได้ เหมือนกับในเหตุการณ์นี้… เมื่อเร็วๆ มานี้มีคลิปวิดีโอหนึ่งที่กลายเป็นกระแสไวรัลในโซเชียลมีเดีย โดยเป็นภาพของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่แสดงความห้าวหาญด้วยการนำถังดับเพลิงไปฉีดใส่หน้าของผู้หญิงคนหนึ่งที่เชื่อกันว่าเป็นคนไร้บ้าน วิดีโอดังกล่าว ทั้งนี้สื่อก็รายงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สวนสาธารณะ Peace Park ประเทศไอร์แลนด์ ในวันอาทิตย์ที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ในคลิปจะเห็นได้ว่ามีวัยรุ่นสองคนวิ่งไปที่หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนม้านั่งพร้อมกับตะโกนว่า ‘Gang Gang Gang’ แล้วจัดการนำถังดับเพลิงที่อยู่ในมือฉีดเข้าไปเต็มๆ หน้าของผู้หญิงคนนั้น ก่อนที่จะรีบวิ่งหนีไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ ซึ่งทางคนถ่ายก็คาดว่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มนี้ด้วยเช่นเดียวกัน คลิปดังกล่าวได้แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว และสร้างเสียงประณามก่นด่าจากชาวเน็ตอย่างมากมาย อย่างเช่นตัวอย่างต่อไปนี้ “WTF นี่พวกนายเป็นอะไรเนี่ย” “เป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่ผู้คนในยุคนี้ทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้ได้ผู้ติดตาม ฉันหวังว่าตำรวจจะจับพวกเขาได้นะ พวกนายอาจไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะรู้สึกยังไงที่โดนแบบนี้ ฉันไม่ตลกสักนิดกับวิดีโอนี้” “ส่วนที่เศร้าคือผู้หญิงไม่แม้แต่อยากจะสู้กลับสักนิด” ที่มา: ladbible, metro, dailymail
-
ภารกิจสุดท้าย ฮีโร่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เดินส่งตัวหลานสาวในงานแต่งก่อนสิ้นใจ
ทหารผ่านศึกผู้เคยเป็นฮีโร่ในสงครามโลกครั้งที่สอง ปฏิบัติภารกิจสุดท้ายของชีวิต คือการ ‘เดินส่งตัวหลานสาว’ ในงานแต่งงาน ก่อนที่จะสิ้นใจในอีก 2 วันถัดไป คุณตา Bronislaw Karwowski วัย 94 ปี ทหารผ่านศึกที่เคยรบในสงครามโลกครั้งที่สอง คุณตาเป็นส่วนหนึ่งในหน่วยต่อต้านพรรคนาซีในโปแลนด์ เขาถูกจับกุมโดยทหารนาซี และดำเนินการหลบหนีออกจากศูนย์บัญชาการ Gestapo ในเมือง Lomza ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศโปแลนด์ ช่วยชีวิตผู้คนได้มากกว่าร้อยคน แต่ภายหลังก็ถูกจับตัวอีกครั้งหนึ่ง คุณตาถูกตัดสินจำคุกในข้อหาต่อต้านระบอบเผด็จการ ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวมาหลังจากที่สงครามจบลงแล้ว ด้วยความกล้าหาญและวีรกรรมของเขาที่ไม่ยอมแพ้ต่อระบอบเผด็จการ ทางการของโปแลนด์ได้มอบยศ Knight’s Cross of the Order of the Rebirth of Poland ให้กับคุณตา และเหรียญรางวัลอีกมากมาย ในวัย 94 ปี คุณตา Karwowski ได้ทำภารกิจสุดท้ายของชีวิต คือการพาหลานสาวของตัวเองไปส่งให้ถึงมือเจ้าบ่าวในงานแต่งงาน งานแต่งงานนี้จัดขึ้นที่เมือง Bialystok ที่ตั้งอยู่ชายแดนติดกับประเทศเบลารุส ระหว่างหลานสาว Joanna…
-
“แม่เลี้ยง” สั่งให้ลูกชายและเพื่อน “รุมฆ่าข่มขืน” ลูกเลี้ยงหญิงวัย 9 ขวบ เพราะความอิจฉา
อีกหนึ่งเหตุการณ์อันน่าสลดใจในประเทศอินเดีย เมื่อแม่เลี้ยงวางแผนให้ลูกชายและเพื่อนๆ ของเขา “รุมฆ่าข่มขืน” ลูกสาววัย 9 ขวบ เพราะอิจฉาที่เธอได้รับความรักมากกว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อสามีของเธอรับภรรยาคนที่ 2 เข้ามาในบ้าน แล้วให้กำเนิดเด็กหญิงออกมา จนทำให้เธอเริ่มเกิดความรู้สึกว่าสามีเอาใจใส่และให้ความรักกับฝั่งภรรยาอีกคนมากกว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัฐชัมมูและกัศมีร์ ประเทศอินเดีย ความริษยานำไปสู่การวางแผนอันโหดเหี้ยม โดยในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2018 เธอได้วางแผนให้ลูกชายแท้ๆ วัย 14 ปีของเธอและเพื่อนๆ ของเขาอีก 3 คน ลักพาตัวเด็กหญิงวัย 9 ขวบไป จากนั้นเธอก็สั่งให้ลูกชายและเพื่อนรุมทรมาน ข่มขืนเด็กหญิงคนดังกล่าวซ้ำๆ อย่างทารุณ ถูกจับขึงแล้วใช้ขวานฟันไปตามร่างกาย โดยที่ตัวแม่เลี้ยงคอยยืนดูสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากผ่านไป 10 วัน ในวันที่ 2 กันยายน 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพเด็กหญิงถูกซ่อนไว้ในป่า ซึ่งห่างจากบ้านของเธอไปเพียงราวๆ 1 กิโลเมตร สภาพศพเต็มไปด้วยบาดแผลของการถูกทรมาน ดวงตาของเธอถูกควักออกมาจากเบ้า ร่างกายถูกเผาไหม้ไปด้วยน้ำกรด มีการพบอาวุธที่ใช้ในการทรมาน ทั้งมีดและขวาน โดยทั้งหมดนั้นนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งหมด…
-
คุณตาอายุ 106 ปีทำสถิติโลกด้วยการเล่น ‘ซิปไลน์’ ฉลองวันเกิด ถึงแก่แต่ยังเก๋านะเฟ้ย!!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเมื่อเร็วๆ มานี้มีคุณตาวัยร้อยขวบคนหนึ่ง ทำเรื่องน่าตกใจด้วยการ ‘เล่นซิปไลน์’ ในโอกาสฉลองวันเกิดของตัวเขาเอง และมันได้กลายเป็นสถิติโลกในทันที!! โดยคุณตาคนที่ว่านี้มีชื่อว่า Jack Reynolds ชาวอังกฤษวัย 106 ปี ที่แสดงความเก๋าด้วยการเอาตัวเองไปเล่นผาดโผนอย่างไม่เกรงใจอายุเกรงใจคนแก่คนอื่นๆ สำหรับเครื่องซิปไลน์ที่เขาเล่นก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เพราะมันมีความสูงจากพื้นกว่า 60 เมตร ยาวกว่า 400 เมตรและสามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันอาจจะดูไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ลองนึกภาพคนที่มีอายุเป็นศตวรรษอย่างนี้มาเล่นดู มันจะเป็นอะไรที่เจ๋งขนาดไหนกัน!! การแสดงความสดของคุณตาในครั้งนี้ได้ถ่ายทอดสดผ่านรายการ Good Morning Britain ซึ่งทั้งนี้เขาก็ไม่ได้ทำเพื่อเอาความมันความเท่เพียงอย่างเดียว เพราะว่าเขาทำเพื่อการกุศลช่วยเหลือองค์กรโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งหากเขาผ่านโจทย์ต่างๆ ที่รายการตั้งเอาไว้ได้ก็จะยิ่งได้เงินบริจาคมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง การรายงานข่าวของคุณตา Remember Jack Reynolds? He's the 106 -year-old who's got into the Guinness Book of World Records after…
-
เด็กหนุ่มวัย 16 โชวพ่นไฟอวดผองเพื่อน พลาดท่าโดนไฟคลอกหน้า ชาวบ้านงงว่าพลาดได้ไง
ในบางครั้ง เราอาจจะอยากอวดความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่ได้ไปฝึกฝนหรือร่ำเรียนมา เหมือนอย่างเด็กหนุ่มวัย 16 ปีคนนี้ เมื่อเขาพยายามจะโชว์การพ่นไฟให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน การแสดงความสามารถดังกล่าว เกิดขึ้นในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ช่วงต้นเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา เด็กหนุ่มไม่เอ่ยนามโชว์การพ่นไฟ อวดเพื่อนๆ ของเขาอยู่ริมถนน แต่ไม่รู้ว่ามันเกิดผิดพลาดตรงไหน เพราะเมื่อเขาพ่นออกไปแล้ว จู่ๆ ไฟก็หันกลับมาคลอกใบหน้าของเด็กหนุ่ม จนเหล่าผู้ชมและตัวเขาเองถึงกับเหวอไปตามๆ กัน เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ซึ่งโชคดีที่บาดแผลไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากนัก หากแต่ถึงรอยไหม้พุพองเอาไว้บนใบหน้าของเขาอยู่บ้างบางส่วน เมื่อผู้สื่อข่าวท้องถิ่นสอบถามกับชาวบ้านในละแวกนั้น จึงได้ทราบว่าเด็กหนุ่มคนนี้เรียนรู้การพ่นไฟมาจากพ่อของเขาที่กำลังบวชเป็นพระอยู่ นอกจากนั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแสดงการพ่นไฟให้ทุกคนได้เห็น เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยทำการแสดงมาแล้วมากมายในงานต่างๆ อาทิเช่น งานแต่งงาน เป็นต้น ด้วยเหตุนั้นเอง ชาวบ้านหลายๆ คนจึงบอกกับผู้สื่อข่าวว่าพวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเด็กหนุ่มจะทำพลาด เพราะดูเหมือนเขาจะเป็นมืออาชีพสำหรับการแสดงนี้เลยก็ว่าได้ คลิปการรายงานข่าวเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ 4 เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง อะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้แหละนะ อย่างน้อยก็ดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมากนัก …
-
ตร. เข้ายึดทรัพย์ คู่รักส่อโกงเงินบริจาค 13 ล้านให้คนไร้บ้าน เงินส่วนที่เหลือนั้นไร้วี่แวว…
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคดีที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก จากเรื่องราวที่ทำให้ผู้คนรู้สึกอิ่มเอมใจจากการช่วยเหลือของหนุ่มไร้บ้าน ได้รับการตอบแทนกลับมาอย่างล้นหลาม แต่ชีวิตจริงหลังจากนั้นก็ไม่ได้เป็นดั่งฝันที่คิดไว้ เงินบริจาคที่มีผู้ร่วมระดมทุนให้เกือบ 15,000 คน ยอดเบ็ดเสร็จ 13,000,000 บาท หลังจากที่มีการระดมบริจาคเงินผ่านเว็บไซต์ GoFundMe ให้กับนาย Johnny Bobbitt อดีตทหารผ่านศึกไร้บ้านผู้ใจดี ช่วยเหลือมอบเงินเติมน้ำมันให้กับนาง Kate McClure จนได้ยอดบริจาคทะลุ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,000,000 บาท) จากนั้นจึงเกิดเป็นการฟ้องร้องกันระหว่างนาย Bobbitt และคู่รัก Kate McClure กับ Mark D’Amico เนื่องจากเขาไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเงินบริจาคทั้งหมด ทั้งสองเก็บเอาไว้ใช้ส่วนตัว นำไปเที่ยวทริปหรูและเล่นการพนัน ภายหลังจากศาลได้ตัดสินให้ ทั้งคู่มอบเงินจำนวนที่เหลือให้กับทางทนายของ Bobbitt นำไปดูแล ซึ่งคู่รักได้อ้างว่ามอบเงินช่วยเหลือไปแล้วครึ่งหนึ่ง ที่นำไปซื้อรถเทรล์เลอร์ (แทนบ้าน) รถ SUV มือสอง (แทนรถกระบะที่ Bobbitt ต้องการ) ภายหลังได้ขายออกไปหมดแล้ว อีกทั้งยังมีโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์แลปท็อป…
-
ชายชราวัย 90 นั่งอยู่หน้าโรงเรียน คอยใช้ไม้เท้าตีตูดนักเรียนสาว แม้แต่ตำรวจก็ห้ามแกไม่ได้
พอเราแก่ตัวไป ไม่ได้ทำงานอะไร เกษียณตัวเองใช้ชีวิตอยู่บ้าน บางทีมันก็อาจทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ชายชราวัย 90 ปีคนนี้ ออกมานั่งเล่นอยู่ข้างทางในทุกๆ วัน ใช้ไม้เท้าคู่ใจฟาดใส่บั้นท้ายของเหล่านักเรียนสาวๆ อย่างสบายอารมณ์ แปะเข้าให้!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมือง Hohhot ประเทศจีน มีคนถ่ายคลิปเผยให้เห็นคุณปู่นิรนาม นั่งอยู่บริเวณทางเดินด้านหน้าโรงเรียน เมื่อไหร่ที่มีเด็กนักเรียนสาวๆ ใสๆ เดินผ่าน แกก็จะใช้ไม้เท้าตีไปที่ก้นของเด็ก ราวกับเป็นเรื่องปกติที่แกทำเป็นประจำอยู่แล้ว ชาวบ้านในละแวกนั้นบอกว่าที่เห็นนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา (นับตั้งแต่ต้นปี 2018) คุณปู่จะมานั่งอยู่เป็นประจำ ราวกับเป็นกิจวัตรประจำวันของแกเลย อีกทั้งยังไม่เคยตีก้นผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียว เพราะปู่แกจะเลือกแต่สาวๆ ใสๆ เอ๊าะๆ เท่านั้น จากการรายงานบอกว่าทางโรงเรียนได้เคยเข้าไปคุยกับครอบครัวของคุณปู่แล้ว รวมถึงปรึกษาเพื่อนบ้านของแก หรือแม้แต่แจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ว่ากลับไม่มีใครสามารถห้ามพฤติกรรมของแกได้เลย ซึ่งพวกเขาบอกว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะอายุของคุณปู่ที่แก่มากแล้ว คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ในวันที่ 5 ก.ย. 2018) อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทางโรงเรียนพอจะช่วยได้ก็คือการแนะให้นักเรียนหญิงเดินเลี่ยงเส้นทางนั้น…
-
“ฮาวาย” โปรโมตการท่องเที่ยวด้วยการตลาดสุดฮา ชักชวนชาวญี่ปุ่นด้วย “อุลตร้าแมน”
หนึ่งกลไกสำคัญของการตลาดก็คือ การโปรโมตและการโฆษณา เพราะมันช่วยทำให้ผู้ชมสนใจมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นการโฆษณาประเภทต่างๆ ก็จะต้องทำออกมาให้ดึงดูดผู้คนมากที่สุด โดยอาจจะสร้างออกมาให้มีความสนุก ตลก ซึ้งกินใจ หรืออาจจะนำเสนอความจริง เช่น ค่าสถิติ เพื่อให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือกับผู้ชม แต่ต้องบอกเลยว่าโฆษณาโปรโมตการท่องเที่ยวของ ฮาวาย นั้นทำออกมาได้แหวกแนวและน่ารักจริงๆ พวกเขามีกลุ่มเป้าหมายคือชาวญี่ปุ่น จึงทำวิดีโอโปรโมตออกมาเชิญชวนชาวญี่ปุ่นด้วยเหล่า อุลตร้าแมน เสียเลย!! ผ่ามมม!! โฆษณาดังกล่าวปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว แต่ชาวไทยจำนวนมากก็ยังไม่เคยได้ชมโฆษณาชิ้นนี้ ถือได้ว่าเป็นการโปรโมตที่เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงเผง เพราะมีการใช้อุลตร้าแมนเป็นสัญลักษณ์แทนชาวญี่ปุ่นนั่นเอง ขนาดอุลตร้าแมนฮีโร่ประจำชาติญี่ปุ่นยังมาเที่ยวกันแบบสนุกสนานกันที่ฮาวาย แล้วชาวญี่ปุ่นจะไม่ลองมาเที่ยวได้อย่างไรกันล่ะ? ชมวิดีโอโปรโมตสุดน่ารักของฮาวายกันได้เลย!! ออกรอบกันสักหน่อย รำ…ระบำชาวเกาะ~ ตะวันจะตกดินแล้ว…กลับดีกว่า ฟิ้วว~ บางทีวงการโฆษณาหรือสื่อโปรโมตการท่องเที่ยวของไทยก็อาจจะนำไอเดียนี้ไปปรับใช้เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ได้ไม่มากก็น้อย ที่มา: AsiaTrend.org via facebook
-
นักการเมืองรัสเซีย ฉลองวันเกิดด้วยใช้ปืนใหม่แกะกล่อง ยิงใส่หมีสีน้ำตาลขณะจำศีลอยู่ในถ้ำ
เหตุการณ์อันน่าสลดใจที่เกิดขึ้นกับสัตว์โลกอย่างหมีสีน้ำตาลตัวนี้ เกิดจากความต้องการสนองอำนาจ เฉลิมฉลองวันเกิดของนักการเมืองเพียงคนเดียว ทั้งๆ ที่หมีไม่ได้แสดงพฤติกรรมดุร้ายใดๆ เลย Sergey Levchenko นักการเมืองอาวุโสฝ่ายคอมมิวนิสต์จากรัสเซียวัย 63 ปี ถูกเปิดเผยคลิปเฉลิมฉลองวันเกิดของตนเอง เขาได้รับของขวัญเป็นปืนไรเฟิลกระบอกใหม่เอี่ยม และได้นำออกไปล่าสัตว์เป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนปี 2016 Sergey Levchenko พร้อมคณะนายพรานออกล่าหมีในปี 2016 สิ่งที่เกิดขึ้นต่อหลังจากนั้น คือการที่ผู้ติดตามของนาย Sergey ได้พยายามยุยงให้เขาเลือกยิงที่หัวของหมีสีน้ำตาลตัวหนึ่ง ที่กำลังจำศีลอยู่ภายในรังของมันเอง ภายหลังจากสิ้นเสียงของกระสุนปืน ชีวิตของหมีตัวดังกล่าวถูกพรากจากไปและถูกลากออกมาจากถ้ำ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะในการล่าสัตว์ โดยมีผู้ติดตามคอยลากออกมาให้ พร้อมกับแสดงความยินดีให้กับนาย Sergey หนึ่งในผู้ติดตามพูดชี้เป้า ‘นั่นไงหัวของมัน ยิงที่หัวของมันเลย’ . อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายสังกัดพรรคของเขานั้นกล่าวว่า วิดีโอคลิปที่หลุดออกมาเป็นการเล่นแง่ตุกติกทางการเมือง เพื่อใช้ในการดิสเครดิตแย่งคะแนนเสียงจากฝั่งผู้สนับสนุนพรรคของปูติน เพราะกำลังจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในอีกไม่นานนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบถึงวิดีโอคลิปตัวนี้แล้ว ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเวลาการตรวจสอบว่า เขากระทำผิดต่อกฎหมายหรือไม่ในการฆ่าหมีขณะจำศีล . ทั้งนี้นาย Nikolai Nikolaev นักสิทธิสัตว์และประธานคณะกรรมการทรัพยากรธรรมชาติแห่งรัสเซีย กล่าวว่า ‘การฆ่าไม่คู่ควรกับใครทั้งนั้น…
-
“ชิงช้า” สนามเด็กเล่นมันธรรมดาไป งั้นลองเครื่องเล่นใหม่ แกว่งชิงช้าบนหน้าผาสูง 1,000 ฟุต!!
เชื่อว่าแทบทุกคนคงจะต้องเคยเล่น “ชิงช้า” ที่ติดตั้งอยู่ตามสนามเด็กเล่น หรือในโรงเรียนกันมาก่อน แต่หากว่าการแกว่งชิงช้าในลักษณะนั้นมันดูน่าเบื่อหรือธรรมดาไป งั้นเราขอแนะนำให้รู้จักกับชิงช้าริมหน้าผา บนความสูงกว่า 1,000 ฟุต (สูงกว่า 304 เมตร)!! นี่คือชิงช้าที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ในวันที่ 3 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา โดยมันตั้งอยู่บนหน้าผาภูเขา Fuxi มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ชิงช้าแห่งนี้ใช้งบประมาณในการสร้างกว่า 5 ล้านหยวน (ราวๆ 24 ล้านบาท) โดยเราสามารถเลือกความสูงของชิงช้าได้ว่าจะเอาคานสูง 4 เมตร , 6 เมตร , 8 เมตร หรือว่า 20 เมตร!! จากการทดสอบที่ผ่านมา แสดงให้เห็นวิธีเล่นที่คล้ายกับ “เรือไวกิ้ง” ในสวนสนุกต่างๆ นั่นคือดึงเราขึ้นไปให้ตั้งฉากกับพื้นก่อน จากนั้นจึงปล่อยให้เกิดแรงเหวี่ยง ถ้าไปกับแฟน เขามีให้เลือกแบบนั่งเป็นคู่ด้วยนะ และแน่นอนว่าเครื่องเล่นที่ดูอันตรายมากขนาดนี้ จำเป็นต้องมีข้อจำกัดเพื่อความปลอดภัยหลายๆ…
-
แฟนสาวคิดว่าแน่ “เล่นชู้” กับ “น้องชายของแฟนหนุ่ม” แถมส่งภาพย้ำ เจอโต้กลับทันควัน!!
ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน ควรจะอยู่ในขอบเขตที่พอดี แต่หลายๆ กรณีของการคบชู้นอกใจก็เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ เช่นกัน ส่ วนใหญ่แล้วก็จะเป็นคนนอกหรือคนในที่พอจะรู้จักกันบ้าง แต่คงเทียบเท่าไม่ได้กับกรณีนี้แน่… เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก ฝ่ายแฟนสาวได้ทำการส่งภาพผ่านแอปฯ สแนปแชต เป็นภาพของตัวเธอยืนแนบกับชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่แฟนของเธอ พร้อมกับแคปชั่นว่า “คุ้นๆ หน้าบ้างมั้ย?” ปรากฏว่าชายหนุ่มในภาพ เป็นน้องชายแท้ๆ ของแฟนหนุ่มของเธอเอง!! คุณอาจจะคิดว่าเปิดตัวแรงขนาดนี้ ท่าจะจบไม่สวยซะแล้ว เล่นชู้กับพี่น้องในครอบครัวของตัวเองก็ยิ่งแล้วใหญ่ ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตามล่าตามแค้นจิกหัวลากมาตบชัวร์ๆ แต่บอกเลยว่าอาจจะต้องผิดคาดกันเสียหน่อย… เพราะทางฝั่งแฟนหนุ่มก็มีกับดักวางรอไว้แล้ว หน้าตาเหมือนน้องชายเราเลยแฮะ ยกนิ้วโป้งให้รัวๆ – ฮ่าาาาาา ถูกต้องแล้ว นี่เธอคิดว่าชนะแล้วเหรอ กรูรู้ทุกซอกทุกมุมของมันหมดแล้ว แต่จะบอกอะไรให้เอาบุญนะ “มันเป็นโรคติดต่อโคตรเยอะเลย” จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการอัพเดทใดๆ ว่าทางหญิงสาวรู้สึกยังไงบ้าง… แต่หากใครคิดจะทำอะไรแบบนี้ก็ระวังกันไว้ให้ดี คิดว่ากำชัยชนะเหนือกว่าอีกฝ่ายได้แค่ไหน หากเจองัดไม้ตายออกมาเมื่อไหร่ คนที่หัวเราะทีหลังจะดังกว่าเสมอ!! ที่มา: elitereaders, unilad
-
ยาคูลท์กลับมาขายดีเทน้ำเทท่า ผลพวงจากซีรีส์ All The Boys I’ve Loved Before
ปรากฏการณ์ของสื่อต่างๆ ที่ทำให้โลกแห่งความเป็นจริงกลับมาครึกครื้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว หลังจากที่ซีรีส์ All The Boys I’ve Loved Before ได้ออกฉายผ่านทาง Netflix ทำให้ยาคูลท์ได้รับอานิสงค์อย่างรุนแรงไปด้วย Can't believe Peter K has lived his life without Yakult pic.twitter.com/3iM9c4AWLA — Netflix Philippines (@Netflix_PH) August 18, 2018 เหตุมันเริ่มมาจากที่ตัวเอกภายในเรื่อง Peter Kavinsky ที่รับบทโดย Noah Centineo มีฉากที่ต้องดื่มยาคูลท์อยู่บ่อยครั้ง โดยที่ไม่ได้กล่าวถึงชื่อเครื่องดื่มจริงๆ แต่เรียกว่าเป็นสมูทตี้โยเกิร์ตเกาหลีแทน ซึ่งภายหลังจากที่แฟนๆ ซีรีส์ได้ชมและเห็นฉากแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้กลายเป็นกระแสที่มีการพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ สงสัยกันเหลือเกินว่าไอ้ที่ตัวเอกดื่มขวดเล็กๆ มันคืออะไร? และจากการที่ถูกเมนชั่นบ่อยขึ้นในทวิตเตอร์หลังจากที่ซีรีส์ออกฉายไปแล้ว ก็ยิ่งทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักยาคูทล์หันมาซื้อและลองชิมเยอะขึ้น ขายดีจนหมดเกลี้ยงแผงไม่หลงเหลือเลย… และยิ่งไปกว่านั้นหุ้นของยาคูลท์ก็พุ่งสูงขึ้นจากที่เคยตกลงมา จากยอดขายที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา…
-
ไอดอลญี่ปุ่น “ลืมปิดกล้อง” หลังไลฟ์เสร็จ พบว่าเธอขำคิกคักกับ ‘ค่าตอบแทน’ ที่เธอจะได้
ในประเทศไทยบ้านเราขณะนี้เองก็กำลังเป็นที่นิยมไม่น้อยเลยสำหรับ กลุ่มไอดอลสไตล์ญี่ปุ่นอย่าง BNK48 ที่เรียกได้ว่าทั้งสายโหดสายซอฟต์ก็ผันตัวมาเป็น “โอตะ” กันเป็นขบวน ไม่ต่างอะไรกับประเทศผู้ให้กำเนิดอย่างญี่ปุ่น ที่มีกลุ่มไอดอลสาวๆ มากมาย แน่นอนว่าเหล่าสาวๆ ไอดอลนั้นจะต้องมีบุคลิกน่ารักน่าเอ็นดู มีความใสแบ๊วที่ทำให้ผู้ชมได้ชุ่มชื่นหัวใจเมื่อพบเห็น แต่เหตุการณ์ในวันนี้อาจทำให้เหล่าโอตะอาจจะต้องผิดหวังกันสักหน่อยเมื่อ ไอดอลสาว Bibian Murakawa จากวง HKT48 ประจำสาขาฟูกูโอกะ ถ่ายวิดีโอไลฟ์สดและ “ลืมปิดกล้อง” หลังถ่ายเสร็จ ทำให้เห็นเบื้องหลังอันน่าผิดหวังในความคิดของหลายๆ คน คลิปวิดีโอถูกโพสต์ลงบนทวิตเตอร์ @48gtosaka เนื้อหาภายในเป็นการถ่ายไลฟ์วิดีโอที่สาว Bibian วัย 18 ปี พูดคุยกับแฟนคลับของเธอ ซึ่งทุกอย่างดูปกติดีเว้นเสียจากว่าเธอ หัวเราะคิกคักเกี่ยวกับเรื่องค่าจ้าง ออกมา คลิปวิดีโอของ Bibian ที่ลืมปิดกล้องหลังวินาทีที่ 37 ※閲覧注意(夢を壊したくない方は見ないで下さい)配信切り忘れ?アイドルの裏の顔が流出配信直後にタワーの数をお金に換算して歓喜する親子村川緋杏の給料は月16万円と判明#PRODUCE48 #HKT48 #村川緋杏 #무라카와비비안 #SHOWROOM pic.twitter.com/dqNPJ90I1O — 48Gと坂道応援中🍥 (@48gtosaka) September 5, 2018 ในวินาทีที่ 37 ของวิดีโอ เธอกล่าวอำลาผู้ชมก่อนจะนำมือมาสัมผัสกับบริเวณกล้อง…
-
นักวิชาการเดือดต่อว่าสายการบิน จากการถูกลูกเรือเรียก ‘นางสาว’ แทนที่จะเป็น ‘ด็อกเตอร์’
จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ร้อนแรงมากๆ ในโซเชียลมีเดียต่างประเทศ ในกรณีของนักวิชาการคนหนึ่งที่ไม่พอใจออกมาต่อว่าสายการบิน จากการที่เธอถูกแอร์โฮสเตสเรียกว่า ‘นางสาว’ แทนที่จะเป็น ‘ด็อกเตอร์’ ตามระดับการศึกษาของเธอ!! เรื่องมีอยู่ว่าด็อกเตอร์ Siobhan O’Dwyer นักวิชาการชาวออสเตรเลีย (ปัจจุบันอยู่ที่สหราชอาณาจักร) ได้ทวีตตำหนิสายการบิน Qantas ในวันศุกร์ที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา “เฮ้ Qantas ฉันมีชื่อว่า ‘ด็อกเตอร์ O’Dwyer’ ตั๋วของฉันก็เขียนไว้ว่า ‘ด็อกเตอร์ O’Dwyer’ แต่พนักงานต้อนรับของพวกคุณกลับมองไปที่ตั๋ว มองหน้าฉันแล้วกลับไปมองตั๋วอีกที แล้วเรียกฉันว่า ‘นางสาว’ ฉันไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยมา 8 ปี เพื่อถูกเรียกว่านางสาวนะ” โพสต์ดังกล่าวของเธอได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและมียอดไลก์เกือบๆ 8,000 ไลก์ แต่ที่น่าสนใจก็คือโพสต์นี้ได้ทำให้เกิดการถกเถียงกันของชาวเน็ต ว่าสิ่งที่ด็อกเตอร์ O’Dwyer ผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกด้านปรัชญากระทำลงไป เป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่ หรือเป็นความผิดของแอร์โฮสเตสจริงๆ ซึ่งบางคนก็ว่าสิ่งที่ด็อกเตอร์ O’Dwyer ทำนี้ก็เพื่อจะเพิ่ม ‘อีโก้’ ให้กับตัวเอง ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็มองว่าการที่แอร์โฮสเตสไม่เรียกเธอว่าด็อกเตอร์ก็เป็นการไม่ให้ความเคารพเช่นเดียวกัน อย่างเช่น ตัวอย่างความเห็นที่ให้การสนับสนุนเธอ “คุณมีกำลังเสริมแน่ๆ ในประเด็นนี้” “ฉันเป็นคนรุ่นแรกที่เรียนจบชั้นมัธยมในครอบครัวของฉัน ฉันคงจะรู้สึกแย่จริงๆ…
-
หนุ่มถ่าย MV เพื่อแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ช่วยดูแลรักษาโรคมะเร็งมาโดยตลอด
เรื่องราวของชายหนุ่ม ที่ต้องการจะแสดงความขอบคุณกับเจ้าหน้าที่พยาบาลและคุณหมอ ที่คอยดูแลเขามาตลอดการรักษาโรคมะเร็ง ก็เลยชวนพวกเขามาถ่าย MV เพลงเพื่อบอกเล่าความรู้สึกของตัวเองซะเลย นาย Davion M. Hollywood หนุ่มวัย 17 ปี ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาใช้เวลานานกว่า 5 เดือนในโรงพยาบาล Children’s Medical Center ในเมือง Dallas รัฐเท็กซัส จากความประทับใจของการดูแลของเหล่าเจ้าหน้าที่ Davion ก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอทุกช่วงเวลาเก็บไว้ในโทรศัพท์ของเขา หลังจากที่การรักษาเสร็จสิ้น และเขาต้องออกจากโรงพยาบาลไปใช้ชีวิตอย่างคนปกติ Davion ก็เลยนำคลิปวิดีโอเหล่านั้นมาตัดต่อทำเป็นมิวสิกวิดีโอ เพื่อแสดงถึงความขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ดูแลมาเป็นอย่างดี จนช่วยให้เขาสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาแย่ๆ ของชีวิตมาได้ รวมไปถึงขอให้เจ้าหน้าที่เต้นแล้วก็ร้องเพลงแบบลิปซิงก์ เป็นเพลง Count On Me ของ Bruno Mars ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากที่วิดีโอดังกล่าวเสร็จสิ้นเรียบร้อย ทางโรงพยาบาลก็นำคลิปไปแชร์ลงโซเชียล ICYMI: our patient, Davion, created this…
-
หนุ่มย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์ใหม่ พบ ‘ประตูลับ’ นำพาไปสู่ดันเจียนใต้ดินสุดหลอน!!
บางครั้งบ้านที่เราย้ายเข้าไปอยู่ อาจจะมีความลับบางอย่างซ่อนเอาไว้อยู่ก็เป็นได้… เช่นเดียวกันชายหนุ่มชาวไอร์แลนด์ Daniel Carley ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในอพาร์ตเมนต์ใหม่ แต่มันไม่ใช่อพาร์ตเมนต์ธรรมดาๆ แบบที่เขาคิด!? อพาร์ตเมนต์ที่นาย Daniel ย้ายเข้าไปอยู่นั้นตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ และมันถูกสร้างมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 แล้ว!! ตอนแรกที่ย้ายเข้าไปอยู่มันก็ดูเหมือนบ้านปกติทั่วไปไม่มีความแตกต่างอะไร… มีการรีโนเวทภายใน ทำให้ดูราวกับว่าเป็นบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้เลย . . หลังจากที่ชมทุกส่วนของอพาร์ตเมนต์ใหม่ไปแล้ว ก็ต้องมาแปลกใจกับบริเวณหน้าห้องน้ำ เพราะมันมีบางอย่างที่คล้ายกับ ‘ประตูลับ’ อยู่บนพื้น ที่เปิดช่องลับ . พอเปิดออกมาก็พบกับถังสีเก่าๆ และแปรงทาสีอยู่ข้างในนั้น ดูๆ แล้วเจ้าห้องนี้ก็น่าจะเป็นห้องเก็บของทั่วๆ ไปล่ะนะ แต่พอมองอีกมุมหนึ่งก็พบว่ามันมีบันไดลงไปข้างล่างได้ด้วย!? . มันคือดันเจี้ยนชัดๆ!! ยังคงลึกเข้าไปเรื่อยๆ ลึกเข้าไปอีก ตอนนี้ทางใต้ดินนำมาสู่ด้านใต้ห้องของอพาร์ตเมนต์ข้างๆ แล้ว . ในที่สุดมันก็นำมาสู่ประตูทางเข้าห้องสี่เหลี่ยม …
-
ชายไร้บ้านวิตถารกระทำชำเรา ‘บีเวอร์ขาหัก’ กลางสวนสาธารณะ สุดท้ายบีเวอร์ตาย!!
บางครั้งความกำหนัด ความใคร่ของคนเราก็พาไปสู่เรื่องราวแปลกๆ มากมาย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นบนโลกนี้จริงๆ เมื่อมีหนุ่มรายหนึ่งถูกตำรวจจับเพราะว่าเขาดันไปกระทำชำเราตัว ‘บีเวอร์’!!! Whitney Nycole ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าถึงเรื่องอุตริดังกล่าวให้ฟังว่า ในตอนแรกขณะที่เธอขับรถผ่านสวน Columbia Park ในรัฐวอชิงตัน เธอก็ได้สังเกตเห็นว่ามีตัวบีเวอร์นอนเจ็บอยู่กลางถนนแถวๆ นั้น “ตอนนั้นฉันพลิกตัวมันขึ้นมาแล้วก็พบว่าขามันหัก ฉันเลยใช้ผ้าขนหนูที่อยู่ในรถค่อยๆ ลากมันออกมาริมถนนใกล้ๆ กับหนองน้ำ เพื่อให้มันมีน้ำกินแล้วก็ไม่ถูกรถเฉี่ยว” จากนั้นเมื่อจัดการเอาตัวเจ้าบีเวอร์น้อยเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย Nycole ก็รีบกลับไปที่บ้านเพื่อหากล่องลังไว้ใส่พามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อรักษาอาการขาหัก ทว่าเมื่อกลับไปที่เจ้าบีเวอร์นอนอยู่ เธอก็ถึงกับผงะเมื่อพบว่ามีชายคนหนึ่งนอนอยู่ข้างๆ บีเวอร์ตัวนั้น และนี่สำคัญคือเขาใส่เสื้อผ้าแค่บางชิ้นแถมกางเกงก็ไม่รูดซิปอีกด้วย “ตอนแรกฉันนึกว่าเขาจะช่วยเจ้าบีเวอร์นะ” Nycole กล่าว ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปยังที่สถานที่เกิดเหตุ แล้วต้องพบว่าเจ้าบีเวอร์มันทนพิษบาดแผลไม่ไหวตายลงไปเรียบร้อยแล้ว และไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ในตอนที่ถูกกระทำชำเราโดยชายคนดังกล่าว ในที่สุด Richard Delp ชายไร้บ้านวัย 35 ปีก็ถูกจับกุม ณ สถานที่เกิดเหตุในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ และอีกข้อหาหนึ่งคือครองครองยาเสพติด ทำให้เขาเดินคอตกยอมรับกรรมโดยละม่อม อะไรจะขนาดน้านน พ่อหนุ่ม ที่มา: dailymail, thesun
-
ตำรวจช่วยอพยพสัตว์ออกจากศูนย์พักพิงที่ถูกไฟไหม้ และรับเลี้ยงหลังเสร็จภารกิจ
เมื่อวันศุกร์เดือนที่ผ่านมาได้เกิดไฟไหม้ใน SPCA of Solano County ศูนย์พักพิงสัตว์ที่ Vacaville รัฐแคลิฟอร์เนีย ทางเจ้าหน้าที่ได้ประกาศให้ทุกคนอพยพออกมาอย่างเร่งด่วน ขณะที่ไฟลุกลามอย่างต่อเนื่อง สัตว์เลี้ยงผู้น่าสงสารกว่า 67 ตัว ต่างรอคอยความช่วยเหลืออย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทุกคนก็พยายามทำงานอย่างหนัก เพื่อพาพวกมันออกมายังที่ปลอดภัย Carly Stone เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Vacaville Police Department ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ชุลมุนเหล่านั้น ในคลิปจะเห็นว่าเธอวิ่งเข้าออกศูนย์พักพิงพร้อมกับสายจูง เพื่อพาหมาออกจากศูนย์แล้วมาขึ้นรถของเธอ เธอบอกว่า “เราไม่รู้จะพาหมาไปไว้ที่ไหน แต่พวกมันดูมีความสุขที่ได้อยู่กับฉัน ดังนั้น ฉันจึงเริ่มอพยพพวกมันออกมา ก่อนจะพาพวกมันไปรวมกับตัวอื่นๆ ในลานจอดรถ” หลังจากพาสุนัขออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ขอความช่วยเหลือจากผู้คนในชุมชนนั้น ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พวกเขาบริจาคถาดอาหาร อาหาร และเครื่องดื่ม นอกจากนี้ บางคนเปิดบ้านเป็นที่ลี้ภัยชั่วคราวสำหรับสัตว์ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้ จนกว่าศูนย์พักพิงจะกลับมาอยู่ในสภาพปกติและปลอดภัย มีพื้นที่ถูกไฟไหม้ไปกว่า 5,000 ไร่ แต่โชคที่สัตว์ทุกตัวถูกช่วยออกมาอย่างปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาร่วมภารกิจในครั้งนี้…
-
แม่ร่ำไห้…ลูกชายวัย 13 ปี “โดดตึกตาย” เพราะเลียนแบบตัวละครในเกม PUBG!!
เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในประเทศจีน ที่ผู้เป็นแม่ต้องสูญเสียลูกชายวัย 13 ปีไปเนื่องจากเขาทำการกระโดดจากที่สูงจนตกลงมาเสียชีวิต เบื้องต้นแม่กล่าวโทษว่าเขาทำพฤติกรรมเลียนแบบตัวละครในเกม PUBG เกม PlayerUnknown’s Battlegrounds หรือ PUBG นั้นเป็นเกมยิงเอาชีวิตรอดที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนเล่นเกมในปัจจุบัน รวมถึงเด็กหนุ่มวัย 13 ปีคนนี้ก็ชื่นชอบการเล่นเกมนี้มากเช่นกัน โฆษณาเกม PUBG ในประเทศจีน ตามรายงานกล่าวว่าเด็กหนุ่มผู้เสียชีวิตนั้นได้กระโดดจากอพาร์ตเมนต์เมื่อราวเวลาตีหนึ่งของวันที่ 30 สิงหาคม 2018 หลังเล่นเกม PUBG บนเครื่อง iPad ฝ่าย Yu Lihua ผู้เป็นแม่ก็ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ลูกชายตนกระโดดลงมาจากอพาร์ตเมนต์ชั้น 4 เพราะต้องการรู้ว่าตนจะรอดชีวิตแบบตัวละครในเกมหรือไม่ เด็กหนุ่มผู้เสียชีวิตทราบภายหลังว่าชื่อ Xi Tianci เจ้าหน้าที่พบร่างศพของเขา 6 ชั่วโมงหลังเสียชีวิต ผลการชันสูตรพบว่า Xi Tianci น่าจะเสียชีวิตทันทีหลังตกลงสู่พื้น ฝ่าย Yu ผู้เป็นแม่ได้แต่ร่ำไห้และกล่าวโทษว่าเป็นเพราะเกมที่ทำให้ลูกชายของเธอต้องตาย “เกมนั่นแหละที่ทำให้ลูกฉันตาย ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้ว” เธอกล่าว “เขาคิดถึงเกมนี้ตลอดแม้จะไม่ได้เล่นมันก็ตาม เขาต้องอยากรู้แน่ว่าเขาจะตกลงมาแล้วรอดชีวิตเหมือนในเกมหรือเปล่า” ในเกม PUBG หากตัวละครตกจากที่สูง…
-
เจ้าสาวใจสลายแต่งงานกับ ‘เจ้าบ่าวไร้วิญญาณ’ เพื่อเป็นการกล่าวลาครั้งสุดท้าย…
‘งานแต่งงาน’ พิธีการอันศักดิ์สิทธิ์ที่อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตของเรา แต่ถึงอย่างนั้นก็มีสาววัยรุ่นคนหนึ่งตกลงปลงใจแต่งงานกับคู่รักของเธอ แม้ว่าเขาคนนั้นจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม… Zyrine หญิงสาววัย 19 ปีสวมชุดเจ้าสาวสีขาวสุดสวยเข้าร่วมพิธีการดังกล่าวขณะที่ Jake Anthony Macadangdang ชายคนรักวัย 22 ปีของเธออยู่ในโลงศพสีขาวบริสุทธิ์ด้วยเช่นเดียวกัน จากการที่เขาเสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุถูกรถชน ทั้งสองเป็นคู่รักกันมาตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ จึงมีความผูกพันกันมาก ซึ่งการแต่งงานในครั้งนี้ ฝ่ายหญิงสาวก็ตั้งใจไว้ว่าจะใช้พิธีนี้เป็นการเอ่ยคำว่า ‘ลาก่อน’ กับคนรักของเธอที่จากไปตลอดกาล ระหว่างพิธีการในช่วงเช้า เจ้าสาวคนนี้ท่องคำปฏิญาณของเธออย่างโศกเศร้า พร้อมกันนี้ก็สวมแหวนแต่งงานของเธอเอาไว้ตลอดงาน ซึ่งงานแต่งของทั้งคู่จัดขึ้นที่จังหวัดอีซาเบลา ประเทศฟิลิปปินส์ งานแต่งงานในงานศพที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการตกลงกันด้วยความเข้าใจดีระหว่างครอบครัวทั้งสองฝั่ง และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นการแต่งงานอย่างเป็นทางการ (มีทะเบียนสมรส) แต่ก็มีนักบวชจากโบสถ์มาเป็นสักขีพยานแห่งรักให้ “พวกเขารักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว ผมเชื่อว่าลูกสาวผมรักเขามากจริงๆ” Antonio Delmend พ่อของฝ่ายสาวกล่าว สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับ Macadangdang มีการรายงานว่าเขาถูกคร่าชีวิตไปโดยความประมาทของนักธุรกิจผู้ร่ำรวยคนหนึ่ง และภายหลังผู้ก่อเหตุคนดังกล่าวก็ถูกจับไปเรียบร้อยแล้ว จากการรายงานของสื่อ The Filipino Times ระบุว่า Jake กับ Zyrine ได้หมั้นหมายกันเพียงไม่กี่วันก่อนที่จะมีอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเท่านั้น ทว่าก็เกิดเหตุที่น่าเศร้านี้ขึ้นซะก่อน และแน่นอนฝ่ายหญิงคงจะต้องใจแทบสลายกับสิ่งที่เกิดขึ้นแน่ๆ สะเทือนใจจริงๆ ที่มา:…
-
ประมวลภาพความเสียหาย ‘แผ่นดินไหวฮอกไกโด’ กว่า 40 ชีวิตสูญหายจากดินสไลด์…
ถือเป็นช่วงที่ภัยพิบัติเข้าถาโถมประเทศญี่ปุ่นอย่างรุนแรงในปีนี้ โดยที่ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วันภูมิภาคคันไซได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นเชบี ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา… และในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 6 กันยายน (วันนี้) เวลาประมาณ 3.08 น. แผ่นดินไหวระดับ 6.7 แมกนิจูด ส่งผลทำให้เกิดดินสไลด์อย่างรุนแรง สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนของประชาชนในเมืองซับโปโร และทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้อง . ภายหลังจากนั้นเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาเป็นระลอกๆ ทางการได้ทำการสั่งอพยพประชาชนออกมาสู่พื้นที่ปลอดภัย เบื้องต้นคาดว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย ผู้บาดเจ็บจำนวนไม่ต่ำกว่า 125 ราย แต่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ . . และเมืองอาซึมะ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางสั่นสะเทือนในครั้งนี้ ได้รับความเสียหายรุนแรงมากที่สุด บ้านเรือนถูกกวาดหายไปกับดินสไลด์หลายหลังคาเรือน และมีผู้สูญหายกว่า 40 ราย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ได้จัดตั้งและส่งหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินกว่า 25,000 นาย ลงพื้นที่แล้ว ภาพความเสียหายภายในเมืองซัปโปโร หลังเกิดเหตุในช่วงเช้ามืด…
-
หญิงเข้าห้องน้ำร้านอาหารนานไปหน่อย โผล่อีกทีร่วงจากฝ้าเพดาน คาดเสพยามากเกินไป
กลายมาเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องของลูกค้าร้านอาหารซะได้นี่ แทนที่จะได้นั่งรับประทานอาหารอย่างสบายใจ กลับต้องมาหลบภัยอันตรายจากฝ้าเพดานร้านซะงั้น ฮร่าาา คลิปวิดีโอจากลูกค้าร้านอาหารสไตล์เม็กซิกันในรัฐแคลิฟอร์เนียนี้ เผยให้เห็นหญิงรายหนึ่งที่เข้าไปใช้ห้องน้ำของร้าน หายไปอยู่นานสองนาน จู่ๆ ก็ตกร่วงลงมาจากฝ้าเพดานคนละฝั่งของห้องน้ำซะงั้น!! จากต้นโพสต์ในเว็บไซต์ Reddit โดยผู้ใช้ที่ชื่อ japangie ได้อธิบายเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า “พวกเราเห็นเธอย่องเข้ามาในร้านแล้วก็ตรงดิ่งไปห้องน้ำ เธออยู่ในนั้นสักพักหนึ่งจนเริ่มสังเกตเห็นรอยแตกที่ก่อตัวบนฝ้าที่เริ่มมาจากบริเวณห้องน้ำ” “จนกระทั่งมีเศษฝ้าตกลงมาจากบริเวณนอกห้องน้ำ พนักงานร้านก็บอกให้เราย้ายโต๊ะหนี เพราะคาดว่ามีใครบางคนแอบปีนขึ้นไปบนฝ้าเพดาน แต่ฉันก็คิดเลยว่าต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ” ในช่วงระหว่างที่ทุกคนกำลังลุ้น ก็ได้ยินเสียงเหยียบฝ้าเพดานอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าบางส่วนก็บอกว่าควรจะหนีออกจากร้าน แต่ที่ไหนได้ทุกคนดันห่วงจานอาหารตัวเอง แล้วมานั่งก็ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะพังลงมา!? ท้ายที่สุดแล้วหญิงสาวคนดังกล่าวก็ร่วงหล่นโบ๊ะลงมาจากฝ้าเพดานร้าน เจ้าหน้าที่ก็พยายามเข้าประชิดตัวเพื่อตรวจอาการบาดเจ็บเบื้องต้น เธอพยายามปัดและปฏิเสธว่าไม่เป็นอะไร ท้ายที่สุดก็ยอมแต่โดยดีนั่งจบแบบสวยๆ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นผลพวงมาจากการเสพโคเคนจนเป็นแบบนี้ อีกหนึ่งเหตุการณ์ร่วงจากฝ้าเพดานที่เคยเกิดขึ้น ที่มา: @japangie, abc11, dailymail
-
หญิงสาวถูกจับขังในตู้คอนเทนเนอร์ 9 เดือนถูกทรมานดั่งสุนัข-ใส่ปลอกคอไฟฟ้า
ความวิปริตผิดมนุษย์ถูกซ่อนเอาไว้อยู่ภายในมุมมืดต่างๆ บนโลกใบนี้ และวันนี้เรามีเรื่องราวของเหยื่อที่ถูกลักพาตัวไป และรอดชีวิตกลับมาเปิดเผยความโหดร้ายของคน สิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้ช่างน่าสลดใจยิ่งนัก Abigail Hernandez ในวัย 14 ปี ถูกลักพาตัวโดยนาย Nathaniel Kibby วัย 39 ปี ในระหว่างที่กำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียนในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ช่วงเดือนตุลาคมปี 2013 Abigail Hernandez นาย Kibby แสร้งหยิบยื่นน้ำใจไมตรี อาสาจะพาเธอไปส่งที่บ้าน และเธอก็ตอบตกลงเนื่องจากเธอรู้สึกเจ็บเท้าจากรองเท้าบูทที่สวมใส่ Nathaniel Kibby แต่แล้วชีวิตของเธอกลับต้องเจอกับความโหดร้าย เมื่อนาย Kibby กระทำการลักพาตัวเธอจับไปขังในตู้คอนเทนเนอร์หลังบ้านของเขา ที่เตรียมการมาอย่างดี จากจิตใจที่ผิดเพี้ยนและความรู้สึกหลงใหลในเรื่องราวเกี่ยวกับซอมบี้ ในระหว่างที่เธอถูกจองจำเป็นเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง เขาบังคับให้เธอสวมปลอกคอไฟฟ้า ถ้าหากกรีดร้องเมื่อไหร่ ก็จะถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอกลายเป็นบุคคลสาบสูญทันทีในปี 2013 นอกเหนือจากการถูกทรมานแล้ว ในขณะนั้นนาย Kibby จะไม่ยอมเปิดเผยชื่อของเขาต่อเหยื่อ แต่จะบังคับให้เรียกว่า ‘นายท่าน’ แทน โดยที่ Abigail ได้พูดถึงช่วงที่เขาบังคับให้เธอสวมใส่ปลอกคอไฟฟ้าเป็นครั้งแรกว่า……
-
คู่รักตัดสินใจแต่งงานตามขนบธรรมเนียมของ ‘ชาวไวกิ้ง’ ดั้งเดิม เป็นครั้งแรกในรอบ 1,000 ปี!!
งานแต่งงานถือเป็นงานที่ใครหลายคนอาจจะมีโอกาสได้จัดมันเพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น นั่นต้องทำให้แน่ใจว่างานนี้จะต้องประทับใจและตราตรึงหัวใจของเราไปตลอดชีวิต เช่นเดียวกันกับคู่รักชาวนอร์เวย์คู่นี้ ที่ตัดสินใจแต่งงานกันตามขนบธรรมเนียมประเพณีของชาว ‘ไวกิ้ง’ แบบดั้งเดิม ที่มีการล่องเรือยาว ใช้นักบวชนอกศาสนา หรือแม้แต่พิธีการสละเลือด!? Elisabeth และ Rune Dalseth สองคู่รักได้ตัดสินใจจัดงานแต่งงานตามธรรมเนียมของชาวไวกิ้งที่เคยทำกันอย่างเป็นปกติเมื่อราวๆ 1,000 ปีก่อน ทั้งคู่ได้ทำการเปลี่ยนรถแต่งงานให้กลายเป็นเรือยาวสองลำแบบโบราณ และแต่งงานกันที่ทำเลสาบ พร้อมกับแต่งกายแบบชาวไวกิ้งดั้งเดิม มีการใช้ประเพณีแบบเดิมแทบจะทุกอย่าง ทั้งการใช้เลือดของหมูมาป้ายที่ใบหน้าของตัวเอง เพราะเลือดนั้นเปรียบเสมือนตัวแทนของพระเจ้าของชาวไวกิ้งนั่นเอง จากนั้นก็จะมีการเต้นรำกันพร้อมกับร้องเพลงของชาวนอร์ส ไปพร้อมกับแขกที่เข้ามาร่วมงาน Elisabeth เล่าว่า “พวกเราเต้นรำกันในเพลงที่บรรพบุรุษของเราเคยเต้นรำกันเมื่อหลายพันปีก่อน” สองคู่รักเป็นหนึ่งในกลุ่มนักฟื้นฟูวัฒนธรรมของชาวไวกิ้ง ที่มีสมาชิกกว่า 6,000 คน ในประเทศนอร์เวย์ พวกเขาตั้งชื่อลูกตามราชาและฮีโร่ที่เป็นตำนานของชาวไวกิ้งอย่าง Ragnar Lothbrok ทางด้าน Elisabeth เจ้าสาวเล่าว่า “Rune เป็นคนที่เปิดโลกใหม่ให้กับฉัน และมันใช้เวลาเพียงไม่นาน ฉันก็เริ่มรู้สึกหลงใหล และวิถีของชาวไวกิ้งก็ซึมลึกเข้าไปในหัวใจของฉัน” เนื่องจากว่า Rune เปิดบริษัทเกี่ยวกับการแปรรูปไม้ ก็เลยทำให้การสร้างเรือยาวสองลำนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปนัก…
-
ศิลปินญี่ปุ่นสร้างผลงานสุดล้ำ ดูสวยงามสมจริง ทั้งหมดทำมาจาก ‘กระดาษลัง’!?
ใครเล่าจะคิดว่าจากกระดาษลังธรรมดาๆ จะสามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นสิ่งต่างๆ ที่ดูสวยงามและเหมือนจริงได้ถึงเพียงนี้!! การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วย ‘กระดาษลัง’ นี้เป็นของผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นชื่อว่า @odonger2 เขากล่าวถึงคอนเซปต์ของการสร้างผลงานนี้ขึ้นมาว่า “มันคือองค์ประกอบของความหนาแน่น ผลงานที่สามารถสร้างสรรค์ขึ้นมาจากพื้นที่อันว่างเปล่า โดยที่ไม่เกี่ยวว่าใครจะมองจากมุมไหนก็ตาม คุณจะสามารถเห็นมันได้จากการพับอย่างประณีตและรายละเอียดจากลวดลายที่สรรค์สร้างขึ้นมา” ผลงานแต่ละชิ้นนั้นเขาจะต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างมันขึ้นมา อย่างเช่นเจ้าไก่ตัวนี้ที่ใช้เวลาราวๆ 2 เดือนกว่าจะเสร็จ ชื่อผลงาน : ไก่หางยาว ทั้งขนขนาดใหญ่ของมันนั้นต้องผ่านการตัดมากกว่า 4-5 พันชิ้น และขนเล็กๆ ก็ใช้ประมาณ 80 ชิ้น . แต่จริงๆ แล้วไอเดียการสร้างสรรค์ผลงานจากกระดาษลังนั้นมาจากการเล่นกับลูกๆ เขาพบว่ากระดาษลังที่อยู่ในบ้านนั้นมีอยู่มากมายเหลือเกิน และการนำมันมาตัดเล่นก็ต้องใช้ความสามารถเป็นอย่างมาก และความท้าทายนี้เองก็นำไปสู่การสร้างผลงานที่ยากยิ่งขึ้น ชื่อผลงาน : เทพเจ้ามังกร . ชื่อผลงาน : ปั๊ก ชื่อผลงาน : ฉลามก็อบลิน ชื่อผลงาน : ซาคุ ลองไปชมผลงานอื่นๆ เพิ่มเติมที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า……
-
คนขายรองเท้าประทับใจ ลูกค้าคืนเงินที่ตนเผลอทำหล่นไว้ในรองเท้า 42,000 บาทคืน
ปัจจุบันโลกของเราถือว่าเป็นยุคโลกาภิวัตน์ การขนส่ง ติดต่อสื่อสาร รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศมีการเติบโตอย่างกว้างขวาง ทำให้ชีวิตการซื้อขายสินค้าของเรานั้นสะดวกสบายขึ้นกว่าเดิมมากๆ เพราะสามารถทำรายการผ่านอินเทอร์เน็ตได้นั่นเอง แม้ว่าการค้าขายผ่านอินเทอร์เน็ตจะมีความสะดวกสบาย แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกโกงหรือได้สินค้าไม่ตรงกับรูปภาพเช่นกัน เหมือนอย่างที่สาวคนนี้โดน เธอสั่งรองเท้ามือสองมาจาก eBay ซึ่งสินค้าที่เธอซื้อมาไม่เหมือนกับที่ตกลงกันไว้ เพราะรองเท้าเจ้ากรรมดันมีเงินของเจ้าของคนเก่าซ่อนเอาไว้ถึง 42,000 บาท!! Ella Gilman วัย 19 ปี จากเมือง Manchester ประเทศอังกฤษ เธอได้ซื้อรองเท้ามือสองมาจากผู้ขายใน eBay และเมื่อของมาถึงเธอก็ตะลึงเมื่อตรวจของข้างในแล้วพบกับเงินที่ถูกซ่อนอยู่ในซองจำนวนกว่า £1,000 หรือประมาณ 42,000 บาท แต่แทนที่ Ella จะเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ใช้ เธอกลับเลือกที่จะซื่อสัตย์และติดต่อกลับไปหา Laura Hazeldine ผู้ขายจากเมือง Brighton ว่ามีซองเงินอยู่ในรองเท้านะ นี่คือ Ella เด็กสาวผู้ซื่อสัตย์ของเราวันนี้ ส่วนนี่คือ Laura ผู้ขายรองเท้า Laura กล่าวว่าเธออยากที่จะขอบคุณ Ella อย่างเป็นทางการมากๆ ที่ซื่อสัตย์และเพิ่มความศรัทธาให้กับมนุษยชาติ โดยที่ Ella…
-
ชมฉากของการ์ตูน Lilo & Stitch ที่เปลี่ยนไป หลังจากเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 9/11
อย่างที่รู้กันดีว่าเหตุการณ์ 9/11 ถือเป็นหนึ่งใน ‘โศกนาฏกรรม’ ครั้งยิ่งใหญ่ มีผู้คนมากมายที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เกือบ 3,000 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 6,000 คน โศกนาฏกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายทั่วโลก ส่งผลกระทบมากมายเป็นวงกว้าง และเพื่อนๆ รู้ไหมว่าจากเหตุการณ์นี้เองได้สร้างผลกระทบกับวงการภาพยนตร์การ์ตูนด้วย!? หลายๆ คนคงจะรู้จักกับการ์ตูนเรื่อง Lilo & Stitch ได้เป็นอย่างดี ในยุค 2000s ต้นๆ ถือเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของ Disney เลยก็ว่าได้ และจากผลของเหตุ 9/11 ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องของการ์ตูนเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ในปี 2002 การ์ตูนเรื่อง Lilo Stitch มีฉากที่ Stitch ผองเพื่อนขับยานอวากาศผ่านเทือกเขาเพื่อหลบหนีตัวร้าย แต่ย้อนกลับไปปีก่อนหน้านี้ ก่อนจะเกิดเหตุ 9/11 ในฉากนี้จะเป็นฉากที่ Stitch และ Jumba ขโมยเครื่องบินเพื่อหลบหนีจากจอมปิศาจ Gantu ระหว่างที่ขับเครื่องบินก็มีการขับแบบโลดโผนโจนทยานในเมืองใหญ่ หลบตึกระฟ้าต่างๆ หรือแม้แต่กระทั่งมีการเฉี่ยวชนตึกก็มี …
-
ครูผู้ให้ไม่สิ้นสุด ช่วยเหลือศิษย์เก่าไม่ทอดทิ้ง ขับรถพาไปหางานทำพร้อมช่วยเลี้ยงลูก
หนึ่งในเรื่องราวอันน่าประทับใจ ในสายสัมพันธ์ระหว่างคุณครูกับลูกศิษย์ แม้จะเป็นศิษย์เก่าที่ไม่ได้สอนไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เมื่อลูกศิษย์เก่ากำลังลำบาก Larresha Plummer วัย 18 ปี ศิษย์เก่าของ LaShonda Carter ที่เคยสอนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ยังคงติดต่อกันผ่านเฟซบุ๊กอยู่ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาครูได้รับรู้ว่าลูกศิษย์ของเธอนั้น กำลังย่ำแย่และพยายามหางานทำอยู่ โดยจะไปหางานในมหกรรมจัดหางาน แต่ไม่รู้ว่าจะไปถึงที่นั่นได้อย่างไร Plummer เองก็เพิ่งจะมีลูกได้ไม่นาน และการดูแลลูกน้อยวัย 3 ขวบเพียงลำพัง หากจะต้องอาศัยการคมนาคมสาธารณะ อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกได้ “ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยให้ลูกศิษย์พาลูกขึ้นรถเมล์แน่ๆ ฉันบอกเธอไปในทันทีว่าจะไปรับตอนเช้าเอง” คุณครู Carter ให้สัมภาษณ์ ภายหลังจากที่คุณคณูไปรับลูกศิษย์ และพาไปส่งถึงมหกรรมจัดหางาน คุณครูก็ยังคอยดูแลลูกน้อยอยู่ภายในรถ ระหว่างที่ลูกศิษย์ออกไปหาและสมัครงาน ซึ่งในช่วงนี้เองคุณครู Carter ก็ได้อัดวิดีโอคลิปแชร์ให้กับผู้คนในละแวกใกล้เคียงกับศิษย์เก่าของเธอ ให้ความช่วยเหลือทั้งแม่และลูกเท่าที่จะเป็นไปได้ “บางครั้งการเป็นครูนั้น ก็ยังมีหน้าที่นอกเหนือจากภายในห้องเรียน เธอยังเป็นคุณแม่วัยรุ่นอยู่และเธอต้องการความช่วยเหลือจากพวกเรา ฉันอยากจะช่วยเท่าที่ทำได้ เท่าที่เป็นบุคลากรทางการศึกษาคนหนึ่ง แต่ฉันรู้ว่าฉันจะทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวไม่ได้” คุณครู Carter กล่าวในโพสต์เฟซบุ๊กของเธอ …
-
‘มือใหม่หัดขับ’ ใส่เกียร์พลาดเหยียบคันเร่งส่ง รถพุ่งถอยหลังชนคนเดินข้ามถนน หวิดดับ!!
ในเรื่องของ ‘การใช้รถใช้ถนน’ นอกจากจะต้องมีความรับผิดชอบกับตัวเองแล้วในทุกๆ ครั้งเราก็ต้องมีความรับผิดชอบกับส่วนรวมด้วยเช่นเดียวกัน เพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะไปทำให้ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เดือดร้อนเอาได้ เหมือนกับในกรณีนี้ที่มีมือใหม่หัดขับคนหนึ่ง จู่ๆ ก็ใส่เกียร์ถอยหลังขับรถพุ่งเข้าชนคนข้ามถนนที่ไม่รู้เรื่องอะไรจนได้รับบาดเจ็บ และกลายเป็นภาพอันน่ากลัวเผยแพร่ในโลกอินเทอร์เน็ตในเวลาต่อมา เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นรุ่งเช้าของวันที่ 2 กันยายนที่เมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง เมื่อหญิงแซ่ Song ตัดสินใจที่จะขับรถพาลูกชายของเธอไปส่งที่สถานรับเลี้ยงเด็ก (Day Care) แต่อย่างไรก็ตามการตัดสินใจของเธอที่ขับรถด้วยตัวเองทั้งๆ ที่เพิ่งจะได้รับใบขับขี่มาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (หลังจากได้ใบแล้วเธอก็แทบไม่เคยขับอีกเลย) ก็ทำให้มีอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้น คลิปวิดีโอดังกล่าว เพราะในตอนที่เธอกำลังจะออกตัว เธอดัน ‘ใส่เกียร์ผิด’ ไปใส่เกียร์ถอยหลังแทนที่จะเป็นเกียร์เดินหน้า และเมื่อผสมกับแรงเท้าที่เธอเหยียบคันเร่งเอาไว้ เลยทำให้รถของเธอพุ่งไถลไปทางด้านหลังด้วยความเร็วระดับหนึ่ง และด้วยความโชคร้ายที่ในขณะนั้นมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินข้ามถนนตรงนั้นพอดี จึงโดนรถของ Song ชนเข้าอย่างจังๆ ซึ่งที่เห็นหนักที่สุดก็คงเป็นผู้หญิงที่ถูกชนจนตัวลอยไปไกลกว่า 3 เมตร ขณะที่ฝ่ายชายรอดจากระยะอันตรายได้อย่างหวุดหวิด หลังจากนั้นเมื่อรถหยุดนิ่งแล้วก็ปรากฏว่ามันยังทับขาของผู้หญิงคนนี้เอาไว้ เลยทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมารีบเข้ามาให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วนรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย จากการรายงานของตำรวจท้องถิ่นเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ระบุว่าตัวผู้หญิงคนที่โดนชนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะและต้องเย็บถึง 7 เข็มด้วยกัน รวมทั้งมีอาการเท้าหักจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์เตือนใจใครหลายคน ว่าควรจะแน่ใจซะก่อนว่าเราพร้อมที่จะออกสู่ถนนจริงๆ เพราะถ้าหากเราพลาดเหมือนกับเหตุการณ์นี้ มันอาจเปลี่ยนชีวิตของคนๆ หนึ่งไปตลอดกาลก็เป็นได้……
-
หญิงมอบจูบให้ชายที่เดตด้วยครั้งแรกเพื่อ CPR ช่วยชีวิต ก่อนจะกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด
“การจูบ” คือกริยาที่มนุษย์นำริมฝีปากของเราไปสัมผัสกับร่างกายของอีกคนหนึ่ง โดยที่แต่ละวัฒนธรรม การจูบก็จะมีความหมายแตกต่างกันออกไปบ้างก็ว่าเพื่อความโชคดีหรือบ้างก็ถือว่าเป็นการทักทาย แต่ในระดับสากลแล้วการจูบถือว่าเป็นการแสดงความรัก ซึ่งการจูบก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมอบให้กับใครง่ายๆ ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ผู้หญิงคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้แล้วเธอยอมมอบจูบของตนให้แก่ชายที่เพิ่งเดตกันครั้งแรก เพื่อทำ CPR และช่วยรักษาชีวิตเขาเอาไว้ ผู้หญิงคนดังกล่าวคือ Andi Traynor วัย 45 ปีเธอได้ตกลงปลงใจลองไปเดตกับ Max Montgomery หนุ่มใหญ่วัย 56 ปีที่ชายหาดในรัฐซานตากรุซ ประเทศอาร์เจนตินา พวกเขาได้เล่นกระดานโต้คลื่นด้วยกัน ก่อนที่ Max จะรู้สึกร้อนข้างในทรงอกเขาจึงขอขึ้นจากน้ำก่อนและทันใดนั้นเขาก็ล้มลงจากภาวะหัวใจหยุดเต้น ทันทีที่ Andi เห็นว่า Max ล้มลงไป ในฐานะของวิสัญญีแพทย์ เธอไม่รอช้าเข้าไปช่วยชีวิตเขาและไม่ลังเลที่จะมอบ “จูบ” ให้แก่ Max ด้วยการทำ CPR จากนั้นก็พาตัวเขาไปส่งโรงพยาบาล แม้ว่าการเดตของทั้งคู่จะเกิดเรื่องน่ากลัวขึ้น แต่ทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันและสร้างสายสัมพันธ์จากตอนนั้นมาเป็นเวลาได้ 10 เดือนแล้ว เพราะไม่มีอะไรจะสื่อว่า “ฉันรักคุณ” ได้เท่ากับการช่วยชีวิตอีกฝ่ายแล้ว ด้วยความความกลัวว่าจะเสียแฟนในอนาคตไป เมื่อ Max ตื่นมาแล้วเขาได้เรียกหา Andi และขอโทษเธอที่เขาล้มลงในวันนั้น ฝ่าย…
-
หนุ่มสับเกียร์วิ่งตีนแทบแตก หลังแฟนสาวคว้า ‘ช่อดอกไม้ต่อจากเจ้าสาว’ ในงานแต่ง!!
อย่างที่รู้กันดีว่าในพิธีการของงานแต่งงานนั้นจะมีการ ‘โยนช่อดอกไม้’ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหล่าเพื่อนเจ้าสาว หรือผู้ร่วมงานที่เป็นผู้หญิงต่างก็รอคอย เพราะเชื่อกันว่าคนที่รับ ‘ช่อดอกไม้’ ของเจ้าสาวได้ จะกลายเป็นเจ้าสาวคนต่อไปในอนาคตไม่ใกล้ไม่ไกลนี้ แต่ดูเหมือนว่าการโยนช่อดอกไม้ในงานแต่งงานที่จัดขึ้นในเขต Kettering เมือง Northants ประเทศอังกฤษเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ดูเหมือนจะแปลกไปกว่าทุกที่ เพราะระหว่างงานแต่งงานของ Chelsea และ Matt Best ดำเนินมาถึงช่วงของการโยนช่อดอกไม้ Rachel Besley ผู้หญิงที่สวมชุดราตรีสีส้มชูมือรับช่อดอกไม้ด้วยความดีใจ แต่ตัดภาพกลับมาที่แฟนหนุ่มของเธอ Daniel Gilbert เมื่อรู้ว่าแฟนสาวของตัวเองรับช่อดอกไม้ได้ กลับสับเท้าวิ่งออกไปจากงานแต่งด้วยความรวดเร็ว!! ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… คลิปวิดีโอดังกล่วถูกถ่าเอาไว้และแชร์ต่อกันไปในโลกออนไลน์จนกลายเป็นกระแสไวรัล หลายคนพอเห็นคลิปแล้วต่างก็คอมเมนต์กันว่าหากแฟนสาวของตัวเองได้รับช่อดอกไม้ ก็จะทำแบบที่ Daniel ทำเช่นกัน บ้างก็เชิดชูว่าที่ Daniel ทำนั้นเป็นมุกตลกที่สร้างเสียหัวเราะให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก แต่เอ็งไม่น่าคิดสั้นเร็วขนาดนี้นะ ยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆ บ้างก็เป็นห่วงว่า ‘หวังว่าตอนนี้นายจะยังไม่กลายเป็นโสดไปแล้วนะ’ แหม่ เล่นวิ่งหนีกันออกไปซะดื้อๆ แบบนี้ ตอนกลับมาล่ะน่าดู!! ที่มา : dailymail,…
-
สองหนุ่มเนียนเอา ‘รูปของตัวเอง’ ไปแปะในร้าน McDonald’s โดยที่ไม่มีใครจับได้!?
ใครเล่าจะคิดว่าสองหนุ่มเกรียน จะกลายมาเป็น ‘พรีเซ็นเตอร์’ ของ McDonald’s ได้โดยที่ไม่มีใครรู้สักคนเลยว่าพวกเขาเมคมันขึ้นมาเอง!? เรื่องมีอยู่ว่าสองหนุ่ม Jehv Marravilla วัย 21 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย University of Houston และเพื่อนซี้ของเขา Christian Toledo วัย 25 ปี ทั้งสองคนล้วนแล้วแต่เป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์ เนื่องจากว่าร้าน McDonald’s ในเขต Maccies เมือง Pearland รัฐเท็กซัส ที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้น ไม่มีป้ายโฆษณาที่มีนายแบบเป็นชาวเอเชียอยู่เลย ก็เลยปิ๊งไอเดียขึ้นมา เขาต้องการที่จะโชว์ความเป็นเอเชียในร้าน Mc และเมื่อเห็นกำแพงที่ว่างเปล่าในร้าน ก็เลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างกับมัน พวกเขาเลยไปถ่ายภาพของตัวเองขณะกิน McDonald’s พร้อมกับแต่งภาพให้ดูสวยงาม ราวกับว่าเป็นภาพที่ใช้ในการโฆษณาจริงๆ จากนั้นก็แอบเอาไปแขวนไว้ที่ร้านในวันที่ 13 กรกฎาคม จนผ่านไปแล้วกว่า 52 วัน ก็ไม่มีใครจับได้ว่าภาพโฆษณาดังกล่าวเป็นของปลอม แถมยังติดทิ้งเอาไว้ตรงนั้นไม่ยอมเอาออกไปไหนอีกต่างหาก!? Jehv ก็เลยนำเรื่องราวที่เขาทำนี้ไปโพสต์ลงบนทวิตเตอร์และกลายเป็นกระแสไวรัลในเวลาไม่นาน…
-
หนุ่มใหญ่ทุบตีเพื่อนจนเสียชีวิต จากเหตุชวนกินเหล้าด้วยกัน แต่กลับโดนปฏิเสธ…
หนึ่งในวิธีการช่วยผ่อนคลายความเครียดของคนวัยทำงาน มักจะชวนกันออกไปสังสรรค์ปาร์ตี้ดื่มสุราเมามายตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนในระดับไหนๆ ต่างก็ทำกันอยู่แล้ว… แต่สิ่งที่คนมักจะไม่ค่อยทำกันก็คือ ตีเพื่อนที่ถูกชวนจนเสียชีวิตนี่แหละ เพียงเพราะเขาปฏิเสธไม่อยากจะดื่มด้วยแค่นั้นเอง… ชวนกินเหล้าแต่โดนปฏิเสธ บันดาลโทสะทุบตีจนตาย!? เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา นาย Jack Reong คนงานก่อสร้างวัย 39 ปี จากประเทศมาเลซีย ได้เข้าไปในบ้านของนาย Mingu Nanggai วัย 45 ปี ผู้เป็นทั้งเพื่อนและเพื่อนบ้าน เพื่อชวนมาดื่มเหล้าด้วยกัน แต่แล้วเขากลับถูกปฏิเสธ จนเกิดบันดาลโทสะแบบสุดขีด ทั้งต่อยและถีบทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย พร้อมกับคว้าไม้มาฟาดอย่างรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสปางตาย ในเช้าวันถัดมา ภรรยาของนาย Mingu ได้กลับมาที่บ้านและพบว่าสามีของตนเสียชีวิตแล้ว โดยพบว่ามีเลือดออกตามปากและจมูก พร้อมกับร่องรอยของการถูกทำร้าย นาย Jack Reong ลอยนวลมาตั้งแต่ปี 2015 หนำซ้ำในปี 2016 ก็เคยก่อเหตุใช้ดาบซามูไรฟันข้อมือชายวัย 46 ปี และไม่ทราบถึงแรงจูงใจในการกระทำครั้งนั้น แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ถูกจับกุมตัวในวันที่ 3 สิงหาคม…
-
เด็กชายวัย 15 ใช้เลื่อยหั่นคอตัวเอง จากเหตุ ‘เล่นเกมแล้วแพ้’ คาดเชื่อมโยง ‘วาฬสีน้ำเงิน’
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ทางการตำรวจรัสเซียได้เปิดเผยถึงเหตุสลดของเด็กชายรายหนึ่ง ลงมือใช้เลื่อยตัดหัวตัวเอง จากเหตุเพียงเพราะเล่นเกมแล้วแพ้… คดีความดังกล่าวยังไม่ได้สรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือถูกยั่วยุให้ฆ่าตัวตาย โดยที่ผู้เสียชีวิตคือเด็กชายวัย 15 ปี Pavel Matveev ถูกพบอยู่ในสภาพหัวหลุดออกจากบ่าภายในหมู่บ้าน Mogochino เขต Tomsk ของประเทศรัสเซีย Pavel Matveev รายงานในวันเกิดเหตุกล่าวว่า เด็กชายออกไปในบริเวณสวนหลังบ้านในช่วงเช้า จากนั้นก็เปิดสวิตช์เลื่อยไฟฟ้าและใช้หั่นคอตัวเองจนขาด นอกจากนี้ยังอ้างอิงถึงชาวบ้านในละแวกนั้นที่กล่าวว่า เขาเป็นเด็กที่ติดเกมคอมพิวเตอร์อย่างหนัก โดยที่มีคุณแม่คอยดูแลเพียงคนเดียว และเป็นคนที่ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าเขาเล่นเกมอะไรอยู่… อีกหนึ่งแหล่งข่าวได้กล่าวถึงแรงจูงใจในการกระทำครั้งนี้ของเด็ก ชี้ไปที่สาเหตุของการเล่นเกมแล้วแพ้จนก่อให้เกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น “นั่นคือสิ่งที่ฆ่าเขา เขาใช้เวลาเล่นเกมอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์นานหลายชั่วโมงจนขาดสติ” แหล่งข่าวกล่าว ทั้งนี้สถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย NTV ออกพาดหัวข่าวในเชิง ‘เด็กหนุ่มวัยรุ่นจากเขต Tomsk ฆ่าตัวตายหลังจากที่เล่นเกมคอมพิวเตอร์แล้วพ่ายแพ้’ อย่างไรก็ตาม ทางด้านทางคณะกรรมการสืบสวนของรัสเซียในท้องถิ่น ไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดที่มากกว่านี้ และยังไม่สรุปคดีในทันที โดยคาดว่าน่าจะเป็นเหตุของการยั่วยุให้เกิดการฆ่าตัวตาย เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยเกิดคดีการฆ่าตัวตายของวัยรุ่น เกิดมาจากกลุ่มเกมในโลกโซเชียลที่ชื่อว่า ‘วาฬสีน้ำเงิน’ ด้วยลักษณะกระทำการล้างสมองวัยรุ่น และจะมอบหมายภารกิจต่างๆ ให้กับผู้เล่นได้ทำ มีจุดจบของเกมอยู่ที่การฆ่าตัวตาย แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุสลดในครั้งนี้หรือไม่…
-
หมอตะลึง พบ ‘แมงมุม’ สร้างบ้านใน ‘หู’ ของชายสูงอายุ ด้วยการชักใยเต็มไปหมด!!
อีกหนึ่งอวัยวะสุดแสนจะสำคัญในชีวิตของคนเราก็คือ ‘หู’ ที่มีหน้าที่ทำให้เราได้ยินเสียงต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันว่ามันอาจทำหน้าที่เป็น ‘บ้าน’ ให้กับสัตว์อย่างแมงมุมได้เหมือนกับหูของชายชราคนนี้… นายแพทย์ Cui Shulin ผู้ชำนาญการแผนกหูตาคอจมูก แห่งโรงพยาบาล Dalian Central Hospital มณฑลเหลียวหนิง ต้องตกตะลึงเมื่อได้ค้นพบสิ่งแปลกประหลาดที่อยู่ในหูของชายชราวัย 60 ปีคนหนึ่ง เขาคนนี้เข้ามาที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ช่วยตรวจดูให้ ซึ่งจากคำอธิบายของเขาบอกว่ามันเหมือนกับมี ‘เสียงกลอง’ อยู่ในรูหูของเขาแทบตลอดเวลา เมื่อทางแพทย์ได้ส่องกล้องเข้าไปก็พบว่ามันมี ‘แมงมุม’ ตัวขนาดเท่าเม็ดถั่วอยู่ในโพรงหูของคนไข้คนนี้ และที่ยิ่งไปกว่าการเจอตัวก็คือ เจ้าแมงมุมมันทำให้หูของชายคนนี้กลายเป็นบ้านไปซะแล้ว จากการพ่นใยเอาไว้เต็มไปหมด เพื่อเป็นการปกป้องตัวเองจากอันตราย “มันเหมือนกับมีอะไรไม่รู้อยู่ในหูของผมตอนนอนเมื่อคืน แต่ผมก็พยายามเฉยๆ กับมัน และเมื่อเช้านี้ผมพบว่าเจ้าสิ่งที่น่ารำคาญนั้นก็ยังอยู่ มันเหมือนกับเสียงจังหวะกลองยังไงนี่แหละ” คนไข้อธิบาย วิดีโออันน่าขนลุก และแล้วปฏิบัติการช่วยเหลือชายคนนี้ก็ได้เริ่มขึ้น ทางแพทย์ได้คิดหาวิธีช่วยซึ่งในที่สุดแล้วพวกเขาก็จัดการเอาแมงมุมตัวนี้ออกมาได้สำเร็จด้วยการใช้น้ำชะล้างแล้วจัดการดูดมันออกมา โดยเป็นโชคดีของชายคนนี้จริงๆ ที่แมงมุมไม่ได้ทำความเสียหายต่อระบบการได้ยินแต่อย่างใด มันเพียงแค่อาศัยอยู่เฉยๆ แค่นั้น เรื่องนี้จึงจบลงอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง ทางด้านคุณหมอหลังจากเอาแมงมุมตัวนี้ออกมาเสร็จสรรพ ก็โพสต์ขำๆ ว่ามันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากเลยที่เขาได้เจออะไรอย่างนี้ และมันคงไม่ใช่สิ่งที่เจอในทุกๆ วันอย่างแน่นอน รู้สึกเสียวๆ หูยังไงไม่รู้สิ ที่มา: ladbible,…
-
ช่างภาพจับ “ฆาตกรและผู้สูญเสีย” มา ‘ถ่ายรูปร่วมกัน’ หลังให้อภัย เป็นคุณจะทำได้ไหม???
คุณจะยอมให้อภัยกับฆาตกรที่ฆ่าครอบครัวคุณหรือไม่ หากได้เปิดใจคุยกับเขา?? สำหรับพวกเราแม้แต่กับคนที่มีความคิดขัดแย้งกับเรา เราก็คงไม่อยากที่จะถ่ายรูปร่วมด้วยแล้ว คนบางคนที่เคยมีปากเสียงกับเรา การจะให้อภัยคนๆ นั้นยังทำได้ยาก หากถามว่าจะให้อภัย “ฆาตกร” ที่ฆ่าคนรักของเราได้หรือไม่ คำตอบคงมีแนวโน้มออกมาทางเดียวกันว่า “ไม่ได้” อย่างแน่นอน (ซ้าย) François Sinzikiramuka – ผู้กระทำผิด (ขวา) Christophe Karorero – ผู้รอดชีวิต ผู้กระทำผิด: “เพราะผมพี่ชายเขาถึงต้องตาย” ผู้รอดชีวิต: “ผมได้รับการขออโหสิจากใจจริง อีกอย่าง ความแค้นจะทำให้เราเสียตัวตน การให้อภัยจะทำให้เราได้ตัวตนกลับคืนมา” แต่ชุดภาพถ่ายล่าสุดของ Pieter Hugo ช่างภาพชาวแอฟริกาใต้ ที่ได้เดินทางไปเก็บภาพของผู้คนในประเทศรวันดาเป็นเวลาครบ 20 ปีหลังสงครามล้างเผ่าพันธุ์รวันดาที่มีผู้คนถูกเข่นฆ่าราวหนึ่งล้านคน โปรเจกต์ของเขาครั้งนี้ก็คือการนำ ฆาตกร และ ผู้สูญเสีย มาพูดคุย ให้อภัย และถ่ายรูปอยู่เคียงข้างกัน ราวกับว่าพวกเขาได้รับคำสอนจากพุทธศาสนาเฉกเช่นประเทศไทยอย่างไรอย่างนั้น… (ซ้าย) Jean Pierre Karenzi – ผู้กระทำผิด (ขวา)…
-
มหากาพย์ดราม่าเลิกราของคู่รักศิลปิน Noah Cyrus และ Lil Xan ใครนอกใจใครกันแน่!?
Miley Cyrus ศิลปินสาวชื่อดังผู้มากความสามารถ เพื่อนๆ หลายๆ คนคงรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเธอกันเป็นอย่างดี แต่ทราบหรือไม่ว่าเธอนั้นมีน้องสาวอยู่ด้วย นั่นคือ Noah Cyrus ศิลปินสาวที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้ Noah เจ้าของบทเพลง Make Me (Cry) ก็ถือว่าเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงพอสมควร และในตอนนี้เธอก็ได้คบอยู่กับแรปเปอร์หนุ่มนามว่า Diego Leanos หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Lil Xan งาน Video Music Awards ที่เพิ่งผ่านไปไม่นานทั้งคู่ยังควงแขนกันไปเข้างาน แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ (4 สิงหาคม 2018) จู่ๆ Lil Xan ก็ได้อัป IG Story ว่า “ผมรู้สึกเหมือนกับถูกนอกใจว่ะ เรื่องแย่ๆ มันมักเกิดขึ้นกับผู้ชายดีๆ เสมอ…” เมื่อเขาอัปข้อความดังกล่าวขึ้นบนอินสตาแกรมส่วนตัว ชาวเน็ตก็ให้ความสนใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขาและ Noah รึเปล่านะ และจากนั้น Lil Xan ก็ได้อัปโหลดคลิปวิดีโอที่มีข้อความในเชิงที่เขาถูก Noah หลอกใช้ว่า “มันเจ็บนะ มันเจ็บมากๆ ที่คุณแบบ รู้จักใครบางคนและคนคนนั้นเขาหลอกใช้คุณ…
-
เพราะหลอนหูหรือเมา!? สาวตัดสินใจสักเนื้อเพลง “Baby Shark” ลงแขนเฉยเลย
เพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์อาการ “Earworm” หรืออาการที่มีเนื้อเพลงบางเพลงวนอยู่ในหัวทั้งวันทั้งคืนบ้างหรือไม่ แบบที่เนื้อเพลงท่อนเดียวกลับทำให้เราหลอนหูอยู่นาน ซึ่งบางทีก็อาจจะร้องออกมาทั้งวัน ทำเอาคนรอบข้างรำคาญและหลอนดูไปตามๆ กันเลย (ฮา) ในปีที่ผ่านมาก็จะมีเพลงๆ หนึ่งที่ทำเอาคนไทยหลอนหูกันไปหลายวันนั่นคือเพลงน่ารักๆ ที่เนื้อหาเหมือนจะเน้นไปกลุ่มเด็กๆ (แต่ผู้ใหญ่ติด) อย่าง Baby Shark เพลงหลอนหูดังกล่าว ถ้าถามว่าเจ้าเพลง Baby Shark นี้หลอนหูขนาดไหนล่ะก็ ก็หลอนหูมากๆ จนสาวคนที่จะเราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ถึงขั้นต้องไปสักเนื้อเพลงใส่แขนกันเลยทีเดียว สาวคนดังกล่าวคือ Chloe Louise Roy วัย 18 ปีจากเมือง Lancaster ประเทศอังกฤษ ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เธอได้ไปเที่ยวเกาะ Ibiza ประเทศสเปน ซึ่งก็มีการดื่มแอลกอฮอล์ด้วยแน่นอน และไม่รู้ว่าด้วยด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์นี้หรือความหลอนหูของเนื้อเพลง Baby Shark กันแน่ เธอได้ตัดสินใจเข้าร้านสักแล้วก็จ่ายเงินไป 4,500 กว่าบาทเพื่อสักเนื้อเพลงว่า “Baby Shark do do do do do do” พร้อมฉลามตัวน้อยหลังเนื้อเพลง …
-
Keeanu Reeves โพสต์ท่า ‘ชาวร็อก’ กับคู่บ่าวสาว หลังบังเอิญเจอกันในงานแต่งงาน
สำหรับหลายๆ คนแล้ว ‘งานแต่งงาน’ ถือเป็นงานที่มีความสำคัญ เพราะแต่ละคนอาจจะได้มีประสบการณ์แห่งความสุขในงานนี้เพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น และงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่นี้ ขอบอกเลยว่าต้องเป็นงานที่ทั้งคู่จะต้องจดจำไปตลอดชีวิตของพวกเขาอย่างแน่นอน!! เพราะระหว่างกำลังถ่ายภาพพรีเวดดิงกันอยู่ จู่ๆ ก็พบกับชายปริศนาสวมชุดไบค์เกอร์กำลังนั่งดื่มกาแฟในบาร์ของโรงแรม ก็เลยขอถ่ายรูปด้วยแต่ใครเล่าจะรู้ว่าพี่แกจะจัดหนักจัดเต็มโพสต์ท่าชาวร็อก จนกลายมาเป็นภาพพรีเวดดิ้งที่จะทำให้บ่าวสาวไม่มีทางลืมเลือน Jarrod Camara และ Leslie Walker แต่งงานกันไปที่ Santa Cruz รัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงเวลาก่อนเข้าพิธีแต่งงาน พวกเขาไปถ่ายภาพกันในบาร์ จู่ๆ ก็เพื่อนเจ้าบ่าวคนหนึ่งก็พบกับชายที่สวมชุดไบค์เกอร์นั่งอยู่ข้างๆ ปรากฏว่าผู้ชายคนดังกล่าวคือ Keanu Reeves ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง หรือที่เรารู้จักกันดีจากบทบาทของ John Wick นั่นเอง เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวจึงขออนุญาต Keanu เพื่อถ่ายรูปร่วมกัน และเขาเองก็ยินดีและมีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานแต่งงานของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ก็เลยโพสต์ท่า ‘ชาวร็อก’ ถ่ายรูปกับบ่าวสาวซะเลย!! Jordan Camara พี่ของเจ้าบ่าวเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “พอพวกเรารู้ว่าเป็น Keanu ทุกคนต่างก็ตกใจและยืนอึ้งกันหมดเลย เขาดูเป็นคนที่สงบและใจเย็น” “และคนที่มีความสุขมากที่สุดก็คือคู่บ่าวสาว เพราะอีกไม่กี่นาทีนับจากตอนนั้นงานแต่งงานของพวกเขาก็จะเริ่มขึ้น และการกระทำของ Keanu…
-
หนุ่มแสนซวย เล่นน้ำทะเลอยู่ดีๆ โดนหาง ‘ปลากระเบน’ ทิ่ม ‘ไอ้จ้อน’ เจ็บปวดทรมานยิ่งนัก…
หลายคนอาจจะเคยไปเที่ยวทะเล แล้วต้องเจ็บปวดจากการเหยียบเข้าไปโดนเปลือกหอยที่นอนอยู่แถวๆ นั้น มันอาจเป็นความเจ็บที่ทำให้คุณต้องน้ำตาเล็ดกับบาดแผลที่เกิดขึ้น แต่เชื่อเถอะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชายคนนี้จะทำให้คุณลืมแผลน้อยๆ ที่ว่านี้ไปเลย ณ เมืองซานย่า มณฑลไหหลำ ประเทศจีน ชายคนหนึ่งได้เริงร่าอย่างสุดขีดที่ได้มาพักผ่อนเที่ยวทะเลในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส พระอาทิตย์ส่องแสงแจ่มจ้าเช่นนี้ เขาเล่นน้ำทะเลด้วยความสนุกสนานในวันที่อากาศช่างเป็นใจ แต่แล้วก็เกิดเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้น… เมื่อจู่ๆ ขณะที่เขากำลังแหวกว่ายอยู่ในทะเล ก็ดันมี ‘ปลากระเบน’ ตัวหนึ่ง ว่ายผ่านแล้วหางของมันเกิดไปเกี่ยวเข้ากับกางเกงขาสั้นของชายคนนี้ ทำให้หนามที่หางของมันทิ่มกับ ‘ไอ้จ้อน’ ของชายสุดโชคร้ายคนนี้เข้าให้อย่างจังๆ ทันใดนั้นเองชายคนนี้ก็รีบวิ่งกลับขึ้นหาดมาพร้อมกับปลากระเบนตัวต้นเหตุ นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดในสภาพคว่ำหน้า คนแถวนั้นเมื่อเห็นเข้าจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือเป็นการด่วน วิดีโอการช่วยเหลือชายคนนี้ ในวิดีโอจะเห็นได้ว่ามีหลายฝ่ายพยายามจะช่วยเหลือชายคนนี้ทั้งตำรวจ นักดับเพลิงและอื่นๆ อีกมากมาย และในที่สุดแล้วหลังจากพยายามด้วยวิธีการต่างๆ ก็สามารถช่วยให้ชายคนนี้รอดพ้นจากความทุกข์ทรมานได้สำเร็จ และนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อเช็กร่างกายต่อไป โดยทั่วๆ ไปแล้วปลากระเบนจะเป็นสัตว์ที่ไม่เป็นอันตราย (ยกเว้นบางชนิด) แต่ว่าเมื่อพวกมันรู้สึกว่าถูกคุกคาม มันก็จะใช้หางที่แหลมคมและมีพิษของมันเพื่อป้องกันตัวเอง ซึ่งก็เคยมีคนตายจากการโดนพิษของมันด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างไรมันจะมีพิษหรือไม่ ทว่าความเจ็บปวดที่ถูกหนามของมันทิ่มแทงน่าจะเป็นอะไรที่ไม่อยากคิดภาพตามเลยจริงๆ แล้วยิ่งเป็นอวัยวะสำคัญอย่างน้องหนูนี้ด้วยล่ะก็ มันจะรู้สึกยังไงคงต้องถามชายคนในคลิปนี้เอาเอง… ที่มา:…
-
ประมวลภาพความเสียหาย พายุไต้ฝุ่น ‘เชบี’ ถล่มญี่ปุ่นเสียหายที่สุดในรอบ 25 ปี
เมื่อวันอังคารที่ 4 กันยายน 2018 กรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นเผยรายงานว่า พายุไต้ฝุ่น ‘เชบี’ ได้พัดขึ้นฝั่งทางตะวันตกของญี่ปุ่น ส่งผลให้จังหวัดโทกุชิมะ โอซากา เกียวโต และจังหวัดโกเบ ถูกพายุไต้ฝุ่นที่มีความเร็วลม 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพัดถล่มเมือง ความรุนแรงของพายุไต้ฝุ่นเชบีในครั้งนี้ มีการประเมินความรุนแรงเอาไว้ว่า รุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ส่วนบ้านเมืองพังเสียหายจนรัฐบาลต้องสั่งอพยพประชาชนกว่า 1 ล้านคน สิ่งที่เสียหายส่วนใหญ่คือรถที่โดนแรงของลมพายุพัดจนเสียหายทั้งคัน ลมแรงถึงขั้นรถบรรทุกสินค้าพลิกคว่ำ อาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดโอซากาที่ได้รับความเสียหายจากแรงพายุ น้องหมาชิบะหลงทางจากเจ้าของ สไลด์เดอร์ที่ถูกลมหอบมา ราวสะพานถูกพายุพัดจนพังทั้งแถบ เพดานของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่พังถล่ม ต้นไม้พังเสียหาย วิกผมของใครสักคน ป้ายโฆษณาล้มพังอาคารบ้านเรือนเสียหาย หน้าต่างของตึกยังทนแรงพายุไม่ไหว มวลน้ำจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ขอให้คุณป้าปลอดภัยนะ รถบรรทุกคว่ำ สิ่งที่เสียหายมากที่สุดก็คือรถยนต์ของประชาชน …
-
ร้านหนังสือมือสองสเปนแตกตื่น หลังพบว่ามีระเบิดซุกอยู่ในหนังสือของพวกเขา
“ระเบิด” คืออาวุธอย่างหนึ่งที่ถูกใช้เพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ทุกๆ อย่างบนโลกใบนี้ ตั้งแต่คน สัตว์ ยันสิ่งปลูกสร้าง ในปัจจุบันก็ยังมีการใช้ระเบิดเพื่อก่อจลาจลอยู่ในตามสถานที่ดังๆ หรือพื้นที่ที่มีสงครามกลางเมือง ปกติแล้วระเบิดที่ถูกลอบวางในพื้นที่ต่างๆ จะถูกซ่อนไว้ในกระเป๋าหรือกล่องกระดาษ แต่คราวนี้ระเบิดที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้แตกต่างออกไป เมื่อร้านหนังสือมือสองพบเจอว่าหนังสือที่พวกเขารับมานั้นมีระเบิดซ่อนอยู่ข้างใน โดยเรื่องดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านหนังสือ Hundred Cannons ร้านหนังสือมือสองในเมือง Badajoz ประเทศสเปน และหนังสือที่เป็นที่ซ่อนระเบิดลูกดังกล่าวคือหนังสือเรื่อง The King of Beggars ที่เขียนโดย Jean Larteguy นักเขียนชาวฝรั่งเศส ในขณะที่กำลังขนย้ายหนังสืออยู่ พนักงานของร้านได้รู้สึกถึงความผิดปกติและเห็นว่าหนังสือเล่มดังกล่าวมีน้ำหนักที่มากกว่าปกติ จึงทำการสำรวจดู และก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าภายในนั้นกระดาษถูกตัดออกเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ที่ดูเหมือนนาฬิกาจับเวลา ตัวเก็บประจุและสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมด แน่นอนว่าแค่เห็นพริบตาเดียวก็รู้ว่านั่นคือระเบิดเวลา พวกเขาจึงได้ทำการอพยพคนออกจากร้านหนังสือในทันทีพร้อมกับโทรแจ้งเรื่องทางตำรวจ พนักงานคนที่เจอระเบิดกล่าวว่า “เรารับซื้อหนังสือปกอ่อนที่เขียนในต่างประเทศช่วงยุค 80 ประมาณปีที่ 85-86 และเมื่อเราหยิบมันขึ้นมาเราก็รู้สึกมันหนักเกินไป พวกเราจึงเปิดมันและก็พบวัตถุดังกล่าวในหนังสือ” หลังจากที่ส่งรูปภาพของวัตดุอันตรายให้กับตำรวจดู ทางตำรวจจึงได้ส่งหน่วยกูระเบิดเข้ามาควบคุมสถานการณ์ และเมื่อหน่วยดังกล่าวได้ทำการสำรวจหนังสือเป็นอย่างดีก็พบว่าแบตเตอรี่ของนาฬิกาจับเวลาหมดไปแล้ว รวมถึงยังไม่มีร่องรอยของวัตถุระเบิดข้างในด้วย หนังสือเล่มดังกล่าวดูเหมือนจะไม่เป็นอันตรายใดๆ ถึงแม้ว่ายังไม่รู้จุดประสงค์ดั้งเดิมของการยัดระเบิดปลอมใส่เข้ามาในหนังสือ แต่ทางเจ้าของร้าน Hundred Cannons ก็มีทฤษฎีว่าหนังสือเล่มดังกล่าวเป็นหนังสือของสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย Basque ที่ถูกปรับแต่งเพื่อเตรียมใช้เป็นระเบิดแต่ลืมมันเสียก่อน ที่มา Oddity…
-
ประเพณีอันโหดร้ายของชาวเบดูอิน ชีวิตของเด็กหญิง ที่อาจถูกขายเพื่อแลกแกะ 50 ตัว
หนึ่งในเรื่องราวที่ถูกเปิดเผยมาจากนักทำสารคดีชาวรัสเซีย หลังจากที่เขาได้เดินทางเพื่อถ่ายทำสารคดีชุดใหม่ โดยที่มีชายชาวพื้นเมืองเป็นไกด์ส่วนตัวระหว่างอยู่ในบริเวณหุบเขา Wadi Qelt ของประเทศอิสราเอล Ivan Vdovin นักทำสารคดีชาวรัสเซียวัย 27 ปี ได้รับคำสารภาพจากไกด์ Arafat ผู้เป็นพ่อของเด็กหญิง Zakura วัย 7 ขวบ ว่าเขาจำใจต้องขายลูกสาวเพื่อแลกกับแกะ 50 ตัว เมื่อเธออายุครบ 11 หรือ 12 ปี อันเป็นวัยที่เริ่มเป็นสาวและจะถูกนำตัวไปเป็นภรรยาให้กับผู้ซื้อ เป็นหนึ่งในประเพณีที่สืบต่อกันมาของชาวเบดูอิน ที่อาศัยอยู่ในแถบหุบเขา Wadi Qelt อันเป็นเขตชายแดนระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ แห่งนี้ นาย Ivan เองหลังจากที่ได้ทราบเรื่องก็รู้สึกตกใจเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และเขาก็พยายามที่จะหาหนทางเพื่อช่วยเหลือ Zakura เพื่อให้ความหวังของผู้เป็นพ่อเป็นจริง หลีกเลี่ยงการถูกนำไปขายแลกกับแกะหลังจากที่เธอเริ่มมีประจำเดือนแล้ว โดยก่อนหน้านี้ Arafat ได้ขอร้องให้เขาพาลูกสาวไปเลี้ยงดูที่กรุงมอสโก ถึงขั้นอยากให้ลูกสาวได้แต่งงานกับเขาเมื่ออายุครบ 12 ปี แต่ด้วยตัวของ Ivan ไม่อาจทำเรื่องแบบนี้ได้ จึงทำการปฏิเสธอย่างสุภาพ… Zakura และน้องชายคนเล็ก…
-
แจ็กพอต!! ห้องน้ำญี่ปุ่นถูกใช้นานเกิน จนท. เปิดดูพบชาย-หญิง 2 คู่กำลัง “จ้ำจี้” กันเฉย!
การใช้ห้องน้ำสาธารณะ นานเกินไป อาจทำให้ผู้อื่นที่รอต้องเกิดความลำบาก ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะถูกเปิดห้องโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้!! ล่าสุดในประเทศญี่ปุ่น ณ ห้องน้ำสาธารณะสำหรับบุคคลพิเศษแห่งหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นภายในห้างสรรพสินค้า มีคนแจ้งว่าห้องน้ำนั้นถูกใช้งานนานเกินไป เจ้าหน้าที่จึงมาเปิดล็อกและพบกับภาพที่ไม่น่าดูเท่าใดนัก ทวิตเตอร์ @TwTimez ได้มีการโพสต์วิดีโอพร้อมกับบอกว่า ห้องน้ำสาธารณะห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องน้ำสำหรับบุคคลพิเศษนั้นถูกใช้งานเวลานานมาก จนเขารู้สึกว่ามันแปลก เขาจึงได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบโดยมิได้คิดว่าเจ้าหน้าที่จะทำการเปิดประตูห้องน้ำ และเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการไขประตูเพื่อเปิดกลับพบภาพที่ไม่น่าดูของกลุ่มคนภายในห้องน้ำ… เจ้าหน้าที่ทำการเปิดประตู พบภาพ หญิง-ชาย 2 คู่ กำลังทำกิจกรรม “ร่วมรัก” กันในห้องน้ำดังกล่าว เมื่อเปิดไปพบ หญิงสาวก็ร้องออกมาอย่างเขินอาย ขณะที่ฝ่ายชายก็โบกมือเพื่อให้กล้องถ่ายไปทางซ้าย เนื่องจากมีอีกคู่กำลังทำกิจกรรมร่วมรักอยู่ด้วยเช่นกัน! ลองมาชมคลิปเต็มกัน (จริงหรือปลอมลองพิจารณากันดู) https://t.co/bkPf5QZZbG【TwTimez】RTの勢い順23位のツイートです。時速1,656RThttps://t.co/0lGtn4G672 @honkemarinオフパコで童貞捨てる猿とオカリナ … — TwTimez (@TwTimez) July 22, 2018 อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตที่เข้ามาชมคลิปเหตุการณ์นี้ก็ฝากความเห็นกันเอาไว้มากมาย ตัวอย่างเช่น… “ผู้หญิงในคลิปน้ำหนักน่าจะประมาณ 80 กิโลกรัมได้” “โล้สำเภาในห้องน้ำ ใจเด็ดจริงๆ” “ถ้าโถส้วมไม่ดีมันทำให้คุณเจ็บตัวได้นะ”…
-
“จู๋ปลอมยาว 23 นิ้ว” ติดอยู่ในทวารของชายหนุ่ม แพทย์เลยคิดวิธี “ทำบ่วง” ดึงออกมาได้สำเร็จ
พวก “เซ็กส์ทอย” อย่างเช่นจิ๊มิ๊ส์กระป๋อง กับจุ๊ดจู๋ปลอม เป็นสิ่งที่เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีไว้สร้างความสุขทางกามารมณ์ แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องใช้มันให้พอเหมาะพอควร อย่าไปหักโหมเกิน ถ้าถามว่าใช้อย่างหักโหมแล้วมันจะเป็นอย่างไร? คำตอบคืออาจเป็นอย่างชายคนนี้ เมื่อเจ้าจู๋ปลอมขนาดใหญ่ยักษ์ความยาว 23 นิ้ว ผลุบเข้าไปในรูทวารของเขา!! (สงสัยพี่แกจะยัดเข้าไปไม่ยั้งเลยมั้งเนี่ย…) เรื่องราวที่ถูกเผยแพร่ในต่างประเทศ เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา ทีมแพทย์จากโรงพยาบาล ASST Great Metropolitan ในเมือง Niguarda ประเทศอิตาลี บอกว่าก่อนหน้านี้ได้มีชายวัย 31 ปีเข้ามารักษากับทางโรงพยาบาลด้วยเหตุผลดังกล่าว ไม่รู้ว่าไปทำอิท่าไหนมันถึงเข้าไปได้ โดยทีมแพทย์บอกว่าชายคนนั้นใช้เวลาทั้งวัน พยายามเอามันออกมาด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจึงรีบตรงมายังโรงพยาบาลเป็นการด่วน ชายหนุ่มมีอาการเจ็บบริเวณท้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อแพทย์ลองเอกซเรย์ดูก็ได้พบกับท่อนจู๋ปลอมยาว 23 นิ้ว ติดอยู่ในลำไส้ใหญ่ มองผ่านๆ คิดว่ามีกระดูกเกินมา แพทย์จึงใช้วิธีการสอดท่อที่มีปลายเป็นคีมขนาดเล็ก พยายามดึงเจ้าสิ่งแปลกปลอมนั้นออกมา แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากว่าขนาดที่ใหญ่และความนุ่มนิ่มของเจ้าจู๋ปลอม ทีมแพทย์จึงเกิดไอเดีย ใช้ลวดขนาดเล็กทำเป็นบ่วงสอดเข้าไปในสายสวนทวาร เพื่อใช้มันในการคล้องเอาเจ้าเซ็กส์ทอยอันนั้นออกมาจนเป็นผลสำเร็จในที่สุด ผ่านไปไม่นานคนไข้ก็สามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ …
-
“ตู้คีบลอบสเตอร์” เล่นครั้งละ 50 บาท ใครคีบได้ พ่อครัวบริการปรุงให้กินฟรีเลยจ้าาา!!
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนจะต้องเคยเห็น “ตู้คีบตุ๊กตา” ที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ตุ๊กตาน่ารักๆ แบบไม่ต้องใช้งบมากมาย (ถ้านายคีบเก่งจริงอ่ะนะ) แต่สำหรับตู้คีบนี้ เพื่อนๆ จะไม่ได้มานั่งมองหาตุ๊กตาที่ตัวเองชอบ แต่มันกลับกลายเป็นการเลือกหา “กุ้งลอบสเตอร์” เพราะภายในตู้เต็มไปด้วยพวกมันนอนอยู่ในน้ำแทน?! ข้างในมีแต่ “กุ้งลอบสเตอร์” แทนที่จะเป็นตุ๊กตา . นี่คือ “ตู้คีบลอบสเตอร์” สิ่งที่จะทำให้คุณสามารถเลือกลอบสเตอร์ได้ด้วยตนเอง โดยตู้นี้ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน วิธีการเล่นก็เหมือนกับพวกตู้คีบทั่วไป เพียงแค่คุณใช้เงิน 10 หยวน (ประมาณ 50 บาท) คุณก็สามารถบังคับที่คีบ เลือกลอบสเตอร์ตัวที่คุณต้องการได้ นอกจากนั้น ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ หากเพื่อนๆ คนไหนสามารถคีบมันขึ้นมาได้สำเร็จ พ่อครัวของร้านอาหารเจ้าของตู้ก็ยินดีที่จะนำมันไปปรุง ประกอบอาหารให้คุณแบบฟรีๆ (จะกินที่ร้าน หรือห่อกลับบ้านก็ได้) เรียกว่าหากใครมีฝีมือการคีบที่ยอดเยี่ยม ก็สามารถกินลอบสเตอร์กันได้ในราคาเพียง 50 บาทเท่านั้น!! ที่มา: cgtn , China Xinhua News
-
‘Momo’ ระบาดหนัก เด็กหญิงและชาย 2 รายสังเวยเกมปิศาจ ฆ่าตัวตายเพื่อหนีคำสาป!!
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวเกี่ยวกับเกมแห่งความตาย Momo ที่พรากชีวิตเด็กหญิงวัย 12 ปี ในประเทศอาร์เจนตินา และกำลังแพร่ระบาดอย่างเงียบๆ ในกลุ่มเด็กวัยรุ่นทั่วยุโรปผ่านแอป WhatApps (ข่าวเก่า) ล่าสุดนี้เกมดังกล่าวได้แพร่ระบาดมาสู่ประเทศโคลอมเบีย โดยมีเหยื่อที่เสียชีวิตจากเกมนี้ เป็นเด็กหญิงวัย 12 และเด็กชายวัย 16 ปี ลงมือฆ่าตัวตายตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาจากเกมดังกล่าว โดยเหตุสลดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมงจากจุดเริ่มต้น ภายในเมือง Barbosa ทางตอนเหนือของประเทศโคลอมเบีย เกมดังกล่าวเกิดขึ้นจากการติดต่อกับเบอร์โทรศัพท์ของ ‘Momo’ ตัวละครครึ่งคนครึ่งนก ที่มีดวงตากลมโต จะคอยส่งภารกิจต่างๆ ให้กับผู้เล่น และนำไปสู่จุดจบขั้นสูงสุดที่ต้องการให้ผู้เล่นฆ่าตัวตาย หากผู้เล่นไม่ยอมทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย จะถูกข่มขู่หมายเอาชีวิตและจะต้องคำสาปจากวิญญาณอันชั่วร้าย สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ร่างของเด็กชายวัย 16 ปีถูกพบก่อนเป็นศพแรก และคาดว่าตัวเด็กชายน่าจะรู้จักกับเด็กหญิงวัย 12 ปีอีกราย เนื่องจากสังเกตว่าเขาได้ทำการส่งต่อเกม Momo ให้กับเธอก่อนที่จะเสียชีวิต ภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง เด็กหญิงวัย 12 ก็ถูกพบเป็นศพ โดยที่ร่างถูกแขวนคออยู่ภายในตู้เสื้อผ้า ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบโทรศัพท์ของเด็กทั้ง…
-
หนุ่มตั้งใจขับรถมารับเพื่อนสาว แต่ไม่ยอมขึ้นเพราะ ‘รถเก่า’ ช้ำหนักเรียกแกร็บซ้ำ!!
การจะทำให้อีกฝ่ายประทับใจ ต้องเริ่มจากความทุ่มเทใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เรื่องแบบนี้ชายหนุ่มทั้งหลายควรจะประจักษ์ให้ดี… อย่างในเรื่องของหนุ่มมาเลเซียรายนี้ ที่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับความพยายาม ที่จะมารับเพื่อนสาวจากที่ทำงานเพื่อไปด้วยกัน แต่แล้วก็กลับถูกปฏิเสธอย่างไม่ไยดีเพราะดันขับรถยี่ห้อไม่หรู รุ่นไม่เด่น Bosco Fong เล่าเรื่องราวภายในกลุ่มบนเฟซบุ๊กว่า “ผมขับรถ Proton Wira ของผมเพื่อมารับเธอถึงที่ทำงาน จนมาถึงที่แล้วก็บีบแตรเพื่อให้เธอรู้ตัว แต่พอเธอเห็นรถของผม เธอกลับแกล้งทำเป็นไม่รู้จักผมซะงั้น” “เธอยังส่งข้อความมาหาผมว่า ถ้ายังจะขับ Proton Wira คันนี้มาอีก ครั้งหน้าก็ไม่ต้องมารับแล้ว รถคันนี้พาผมไปไหนต่อไหนโดยที่ไม่มีปัญหาอะไร แอร์ก็ยังเย็น ทุกอย่างก็ปกติดีใครๆ ที่ขึ้นมานั่งก็จะรู้สึกดีเหมือนกัน ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมขึ้นรถของผม” เมื่อกล่าวถึงข้อความที่เธอส่งมาให้เขา ถามถึงเหตุผลที่ไม่ยอมขึ้นรถคันนี้ เธอไม่ได้ตอบคำถามโดยตรงแต่กลับบอกว่ากดเรียกแกร็บมารับแทนแล้ว… นั่นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกช้ำใจเข้าไปอีก “ผมมาถึงที่ทำงานของเธอแล้ว แต่ดันไปกดเรียกแกร็บแทนที่จะมาขึ้นรถผม นี่ Proton Wira คันนี้มันน่าอายขนาดนั้นเลยเหรอ?” จากโพสต์ดังกล่าวของพ่อหนุ่ม มีคนเข้ามาร่วมแสดงความรู้สึกกว่า 17,000 ครั้ง ทั้งกดตุ่มถูกใจ กดเศร้าและว้าวตามๆ กัน ยังไม่รวมยอดแชร์อีกกว่า 6,400 ครั้งอีกนะเนี่ย…
-
หญิงมาเลเซีย 2 ราย ถูกจับฐานร่วมประเวณีในรถ ลงโทษเฆี่ยนและปรับร่วม 2 หมื่นบาท!!
ถือเป็นครั้งแรกของมาเลเซีย ที่ทำการดำเนินคดีกับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ในการละเมิดข้อห้ามทางศาสนา และถูกลงโทษด้วยวิธีการเฆี่ยนและปรับเป็นเงินจำนวนมาก ด้วยเหตุการร่วมประเวณีของเพศเดียวกัน… หญิงชาวมาเลเซีย 2 ราย อายุ 22 และ 32 ปี ถูกจับกุมในข้อหาพยายามร่วมประเวณีภายในรถยนต์ บริเวณจัตุรัสสาธารณะ รัฐตรังกานู เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เข้มงวดทางศาสนาของประเทศมาเลเซีย ทั้งคู่ถูกจับในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และยอมรับสารภาพว่าละเมิดกฎข้อปฏิบัติชะรีอะฮ์ (กฎหมายอิสลาม) ถูกตัดสินรับโทษเฆี่ยนคนละ 6 ครั้ง และถูกสั่งปรับเป็นเงินคนละ 3,300 ริงกิต (ประมาณ 26,000 บาท) เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การลงโทษในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของมาเลเซีย ที่มีการลงโทษบุคคลที่มีรสนิยมในเพศเดียวกัน ด้วยกฎหมายศาสนาอิสลาม การเฆี่ยนลงโทษดังกล่าว ถูกจัดในสถานที่ปิดภายในศาลสูงชะรีอะฮ์ โดยมีทั้งคณะลูกขุน ครอบครัวของผู้กระทำผิด ตัวแทนหน่วยงานทางด้านกฎหมาย องค์กรอิสระ และสื่อมวลชน รวมทั้งสิ้นกว่า 100 ชีวิต ภายหลังจากที่มีการลงโทษเกิดขึ้น ก็กลายมาเป็นข้อถกเถียงของชาวเน็ตมาเลเซียในทันที…
-
ชายหนุ่มน้ำหนักลงไป 88 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยที่กิน “อาหารขยะ” ได้อยู่ทุกวัน
ชายคนนี้อาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้สำหรับคนที่ต้องการจะลดน้ำหนัก แต่ไม่อยากละทิ้ง “อาหารขยะ” หรือพวกอาหารฟาสต์ฟู้ตทั้งหลาย Anthony Brown คือชายหนุ่มชาวอเมริกันวัย 34 ปีผู้สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คน เมื่อเขาสามารถลดน้ำหนักลงไปได้ 88 กิโลกรัมในระยะเวลาแค่ 2 ปี โดยที่ยังสามารถกินพิซซ่าที่เขาชอบได้ในทุกๆ วัน Anthony คือพนักงานไอทีผู้ประสบปัญหาน้ำหนักเกินมานานหลายปี ก่อนหน้านี้เขาเคยหนักกว่า 170 กิโลกรัมเลยทีเดียว เขาบอกว่าตนเองไม่ค่อยได้ชั่งน้ำหนักสักเท่าไหร่ แต่พอได้รู้ตัวเลขแล้วก็ถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก และครอบครัวของเขาก็รู้สึกเป็นห่วงในเรื่องสุขภาพมากเหลือเกิน Anthony สมัยก่อน นับตั้งแต่นั้นมา เขาจึงตัดสินใจเริ่มต้นการลดน้ำหนัก โดยหันไปกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างเช่นข้าวโอ๊ต ไก่ และผักเป็นหลัก แต่ผ่านไปได้แค่เดือนเดียว เขาก็รู้สึกว่าไม่โอเคกับมื้ออาหารเหล่านั้นเลย เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนบางมื้อให้กลายเป็นพวกอาหารขยะหรือฟาสต์ฟู้ดที่เขาชื่นชอบ โดยที่น้ำหนักของเขายังคงลดต่อไปเรื่อยๆ ในแต่ละวันเขาจะกินเข้าไปทั้งหมด 2,000 กิโลแคลอรี โดยมีพิซซ่ารวมอยู่ในนั้นด้วยเสมอ และใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงในการเล่นฟิตเนสเท่านั้นเอง Anthony บอกว่า “น้ำหนักของผมลดลงไปเรื่อยๆ ทุกสัปดาห์ โดยที่ยังสามารถกินอาหารมื้อโปรดของตัวเองได้ มันเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์จริงๆ”…
-
พบกับ ‘ลูกสิงโตหลอดแก้ว’ สองตัวแรกของโลก ความสำเร็จที่ช่วยให้รอดจากการ ‘สูญพันธุ์’
ถึงแม้เหล่าแมวยักษ์อย่างเสือและสิงโตจะเป็นสัตว์ป่าดุร้ายและอันตรายต่อมนุษย์ แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ที่ไม่มีใครอยากให้มันต้อง “สูญพันธุ์” ไป ช่วงระยะหลังสัตว์จำพวกนี้มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้นเนื่องจากหลายสาเหตุ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเราจะสามารถช่วยเหลือเหล่าเสือสิงโตจากการสูญพันธุ์ได้แล้วด้วยการ เพาะเลี้ยงทารกในหลอดแก้ว เจ้า Victor และ Isabella เป็นลูกสิงโตสองตัวแรกที่ถูกเพาะเลี้ยงจากหลอดแก้วได้สำเร็จ นอกจากทั้งคู่จะเป็นความภาคภูมิใจของแม่สิงโตแล้วยังเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า “สปีชีส์ของมันยังไม่สูญพันธุ์” อีกด้วย เจ้า Victor และ Isabella (น่ารักมากเลย) นักวิจัยเผยว่าความสำเร็จในการเพาะลูกสิงโตสองตัวนี้เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ หลังพยายามหาวิธีรักษาเผ่าพันธุ์ของแมวยักษ์เหล่านี้มาเนิ่นนาน ทั้งคู่กำเนิดขึ้นมาได้หลังทำการปฏิสนธิเทียมกับแม่สิงโตเป็นเวลาครึ่งเดือน โดยปัจจุบันสามแม่ลูกนั้นมีสุขภาพที่แข็งแรงและปกติดีในศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศแอฟริกาใต้ เจ้าสิงห์น้อยเพิ่งคลอดอายุได้ราวหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้ สิงโตกำลังมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ แต่ปัจจุบันเริ่มมีภาวะคงตัวมากขึ้นในแอฟริกาใต้ ทำให้พวกมันกลายเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการทดลองเพาะเลี้ยงในหลอดแก้ว ซึ่งหากสำเร็จจะสามารถนำไปใช้กับสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ ได้ Dr. Isabel Callealta หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า “การวิจัยของเรา ในอนาคตตั้งใจจะใช้วิธีเดียวกันนี้กับสัตว์สายพันธุ์แมวยักษ์ชนิดอื่นๆ เช่น เสือดาวหิมะและเสือโคร่ง เป็นต้น” ปัจจุบันเป็นที่คาดว่ามีเสือโคร่งในทวีปเอเชียอยู่ไม่ถึง 4,000 ตัว และมีเสือดาวหิมะอยู่ไม่ถึง 7,000 ตัวในเอเชียกลาง ส่วนลิงซ์สเปนเองก็มีไม่ถึง 300 ตัวในประเทศสเปน ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ได้ผลิตตัวอ่อนของสิงโตแอฟริกันจากรังไข่แช่แข็งเป็นที่สำเร็จแล้ว…
-
ละมุนสุดๆ NASA ตอบกลับจดหมายของเด็กสาว 4 ขวบด้วยข้อความที่น่ารักน่าประทับใจ
National Aeronautics and Space Administration หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ NASA ถือว่าเป็นหน่วยงานส่วนราชการของสหรัฐอเมริกาที่มีจุดมุ่งหมายในการศึกษาเกี่ยวกับอวกาศที่มีชื่อเสียงมากสุดในโลก ซึ่งภายในองค์กรชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้ มันต้องยุ่งวุ่นวายมากๆ เป็นแน่ๆ แต่ใครจะไปคิดว่าเจ้าหน้าที่จะมีเวลาตอบกลับจดหมายเด็กสาวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้กันในวันนี้ได้อย่างน่ารักและอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน เรื่องมีอยู่ว่า Cyrus Farivar คุณพ่อกับลูกสาววัย 4 ขวบของเขาชอบเรื่องราวเกี่ยวกับอวกาศมากๆ รวมถึงการสำรวจ Europa ดวงจันทร์น้ำแข็ง แห่งดาวพฤหัส ซึ่งทาง NASA ก็ได้ส่งยาน Europa Clipper ออกไปเพื่อทำการสำรวจด้วย ด้วยความสงสัย ลูกสาวของ Cyrus จึงได้เขียนจดหมายไปหาหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ขององค์กรสำรวจอวกาศดังกล่าว โดยที่ในจดหมายของหนูน้อยวัย 4 ขวบมีข้อความว่า “ถึง Dr. David Williams หนูชื่อ xxx วันนี้หนูได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องของ Europa ด้วยกันกับป่ะป๊า พวกเรามีคำถามที่อยากจะถามคุณ เราจะทำยังไงให้ยาน Europa Clipper สามารถถ่ายภาพดวงจันทร์น้ำแข็งอันเป็นที่รักของหนูให้ออกมาดีได้คะ” ด้วยรักจาก xxx วัย 4 ขวบและ…
-
เผยคลิปเหตุการณ์ 9/11 ชุดใหม่ ทั้งข้างนอกและข้างในตึก กับภาพผู้คนวิ่งหนีเอาชีวิตรอด…
กว่า 17 ปีแล้วที่เหตุการณ์สะเทือนขวัญของประเทศสหรัฐอเมริกา กับการถูกโจมตีด้วยเครื่องบินชนตึกคู่เวิลด์เทรดเซนเตอร์ โดยที่ผ่านมาเราจะได้เห็นภาพไกลๆ จากนอกตัวอาคารในช่วงวินาทีที่ถูกเครื่องบินชนและกำลังร่วงถล่มลงมา ล่าสุดนี้ มีคลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ 9/11 ชุดใหม่ออกมาเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ ด้วยภาพและเสียงที่ชัดมากๆ มาจากการถ่ายวิดีโอคลิปของนาย Mark LaGanga จากสถานีโทรทัศน์ CBS ความยาวเกือบ 30 นาที เขาได้นำคลิปวิดีโอตัวนี้มาปรับปรุงคุณภาพใหม่ และได้เผยให้เห็นถึงสภาพภายนอกตัวอาคารในช่วงเวลาที่ยังไม่ถล่มลงมา ประชาชนวิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุเพื่อเอาชีวิตรอด และยังคงมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยบางส่วนที่เข้าไปในตัวอาคารให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและตกค้างอยู่ภายในตึก ช่วงที่ตึกกำลังถล่มลงมาช่วงเวลา 10.28 น. ของวันเกิดเหตุ ท่ามกลางเศษซากจากตึกและฝุ่นควัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามอย่างสุดความสามารถ ในการช่วยเหลือผู้คนออกมาจากตึกคู่ จนกระทั่งในจังหวะหนึ่งภายในล็อบบี้ของตัวอาคาร เขาได้พบกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยพิเศษ กล่าวเตือนเขาไว้ว่า “ผมคิดว่าคุณควรจะออกไปจากที่นี่นะ ทุกคนหนีไปหมดแล้ว ผมได้ยินเสียงจากด้านบนเริ่มถล่มลงมาแล้ว” แม้เวลาจะผ่านมานานเกือบ 20 ปีแล้ว ทางการสหรัฐฯ ยังคงทำการระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อยู่ ซึ่งในปัจจุบันสามารถระบุได้แล้วกว่า 1,600 ราย และยังคงเหลืออีกประมาณ…
-
ช้างเกือบ 90 เชือก “ตายเกลื่อน” ในเขตสงวนบอตสวานา ถูกมนุษย์ใจร้ายฆ่าเพื่อเอางา…
(คำเตือน: บทความนี้อาจมีภาพที่สะเทือนใจ ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม) การสำรวจทางอากาศโดยนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พบ ช้างล้มตาย จำนวน 87 เชือกในเขตป่าสงวนประเทศบอตสวานา เนื่องจากถูกฆ่าเพื่อเอางา โดยส่วนใหญ่พบว่าตายมาหลายสัปดาห์แล้ว การบุกรุกเขตสงวนเพื่อฆ่าสัตว์ นั้นเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก หลังจากที่หน่วยงานต่อต้านการบุกรุกป่าสงวนของประเทศบอตสวานาถูกลดบทบาทโดยการปลดอาวุธออกจากหน่วย การล่าช้างเพื่อฆ่าเอางาจึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจในประเทศบอตสวานา โดยมีจำนวนมากกว่าประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกาเป็นสองเท่า หน่วยงานการกุศลเพื่อสัตว์ป่าสันนิษฐานว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ช้างในทวีปแอฟริกาได้ถูกฆ่าไปราว 1 ใน 3 ของทั้งหมด โดยที่ประเทศแทนซาเนียได้สูญเสียช้างในประเทศไปแล้วราว 60 เปอร์เซ็นต์ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ในประเทศบอตสวานาที่ยังคงมีหน่วยงานต่อต้านการบุกรุกป่าสงวนที่ติดอาวุธ การบุกรุกเข้ามาฆ่าสัตว์นั้นถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากทีเดียว แต่ปัจจุบันหน่วยงานนี้ได้ถูกปลดอาวุธไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางรัฐบาลยังไม่มีการอธิบายใดๆ เกี่ยวกับการปลดอาวุธในครั้งนี้ การสำรวจทางอากาศในบอตสวานาปี 2018 หรือครั้งล่าสุดจึงพบว่า เพียงการสำรวจเพียงครึ่งป่าก็ทำให้พบศพช้างตายเกลื่อนแล้วถึง 87 เชือก โดยคาดว่าหากสำรวจต่อก็อาจพบมากขึ้นอีก Dr. Mike Chase จากองค์กร Elephants Without Borders กล่าวว่า “เรื่องนี้ต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วนโดยทางรัฐบาลของบอตสวานา เพราะปกติแล้วประเทศนี้จะเป็นแนวหน้าในการอนุรักษ์สัตว์ป่าเสมอ”…
-
ผู้เชี่ยวชาญ Google Maps อ้างพบเครื่องบิน MH370 กลางป่าใหญ่ หลังหายไปนานกว่า 4 ปี
หากใครยังจำกันได้ ในวันที่ 8 มีนาคม 2014 ได้มีข่าวใหญ่ที่ดังไปทั่วโลก เมื่อเครื่องบินของสายการบิน Malaysia Airlines เที่ยวบิน MH370 หายตัวไประหว่างการเดินทาง เครื่องบินลำดังกล่าวหายไปกลางคันระหว่างเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน พร้อมผู้โดยสาร 227 คนและลูกเรืออีก 12 คน เครื่องบินลำนั้นหายไปจากการควบคุมภาคพื้นดิน ระหว่างการเดินทาง โดยสัญญาณสุดท้ายที่ได้รับปรากฎขึ้นในมหาสมุทรอินเดีย แต่ล่าสุด (รายงานในวันที่ 3 ก.ย. 2018) ผู้เชี่ยวชาญการใช้งาน Google Maps ได้พบร่องรอยซึ่งเขาคาดว่าจะเป็นเครื่องบินลำดังกล่าวตกอยู่ภายในเขตป่าลึกของประเทศกัมพูชา ภาพที่ถูกค้นพบในครั้งนี้ Ian Wilson ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีในประเทศอังกฤษบอกว่า “ผมใช้เวลาหลายชั่วโมงในการตามหาเครื่องบินลำนี้ ผ่านแผนที่ดาวเทียมใน Google Earth มองหาจุดต่างๆ ที่คาดว่าเครื่องบินน่าจะไปตกอยู่” จนกระทั่งเขาพบสิ่งที่เห็นในภาพ ลักษณะเหมือนเครื่องบินขนาดใหญ่ ใจกลางป่าลึกที่ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ . อย่างไรก็ตาม สำนักงานสืบสวนสอบสวนอากาศยานนานาชาติ ก็ยังคงไม่อาจตัดสินได้ว่าภาพที่เราเห็นจาก…
-
ผู้ปกครองเอ๋อรับประทาน เมื่อ “โรงเรียนอนุบาล” จัดโชว์ “เต้นรูดเสา” ต้อนรับเปิดเทอม?!
บางโรงเรียนอาจมีกิจกรรม “ต้อนรับเปิดเทอม” หลังจากที่เด็กๆ ได้หยุดยาวกันไป แล้วต้องกลับมาเรียนตามปกติ แต่เชื่อว่าคงไม่มีกิจกรรมต้อนรับของโรงเรียนไหนที่จะทำให้อึ้งเท่ากับของ “โรงเรียนอนุบาล” แห่งนี้อีกแล้ว เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 กันยายน 2018 (ตามเวลาท้องถิ่น) โรงเรียนอนุบาล Xinshashui ในเขต Bao’an ประเทศจีน ได้จัดกิจกรรมต้อนรับเปิดเทอมให้กับเด็กตัวน้อยๆ ด้วยการแสดงโชว์เต้นรูดเสา?! ทำเอาผู้ปกครองเหวอไปตามๆ กัน มีทั้งเด็กที่ยืนงง และเด็กผู้ชายบางคนที่รู้สึกตื่นเต้นกับการแสดงนี้ คลิปที่ผู้ปกครองหลายๆ คนถ่ายเก็บเอาไว้ เผยให้เห็นว่ามีนักแสดงโชว์เต้นรูดเสาขึ้นไปวาดลวดลายอยู่บนเวที ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในการแสดงต้อนรับเปิดเทอมสำหรับแด็กๆ อนุบาล การแสดงก็จัดอยู่บริเวณเสาธงชาติน่ะแหละ โชว์อื่นๆ นอกเหนือจากการเต้นรูดเสานั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเต้น การแสดงทั่วๆ ไป (รำพัดแบบจีน อะไรประมาณนั้น) อันอื่นมันก็ไม่ได้มีอะไร แต่การเต้นรูดเสานั้นกลับทำให้ผู้ปกครองจำนวนมากรู้สึกไม่โอเค รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมสำหรับเด็กอนุบาล การแสดงต้อนรับเปิดเทอมของทางโรงเรียน Michael Standaert ผู้ปกครองคนหนึ่งที่เป็นนักข่าว เขาได้โพสต์เรื่องราวและคลิปเหล่านี้ลงไปในทวิตเตอร์ บอกว่าตนเองต้องการให้ลูกออกจากโรงเรียนและพยายามยื่นเรื่องขอค่าเทอมคืน เขาเล่าต่อไปว่าภรรยาของตัวเองได้ทำการติดต่อหาครูใหญ่แล้ว บ่นถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยครูใหญ่ก็ตอบกลับมาว่า “การเต้นรูดเสาถือเป็นกิจกรรมสากล…
-
สังคมวิจารณ์ Donald Trump ไม่เข้าร่วมพิธีศพ John McCain เพราะหนีไป “ตีกอล์ฟ”
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติ มีหน้าที่สุดแสนสำคัญและจะมีภาพลักษณ์ที่ดี แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบันอย่าง Donald John Trump กลับมีเรื่องฉาวเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนโยบาย แนวคิดและการเหยียด ล่าสุดเขาก็ได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งหลังจากที่เขาไม่ได้เข้าร่วมพิธีศพของวีรบุรุษสงครามอย่าง John McCain เนื่องจากมีธุระที่ต้องไป “ออกรอบตีกอล์ฟ” แต่ก็มีรายงานว่าที่ Trump ไม่ได้เข้าร่วมพิธีศพของ John McCain นั้นเป็นเพราะทั้งสองคนไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันสักเท่าไหร่และเขาก็ไม่ถูกเชิญให้ไปร่วมพิธีด้วย แต่ทั้งฝ่าย Ivanka Trump ลูกสาวของเขาและ Jared Kushner ที่ปรึกษาทำเนียบขาว รวมถึงหัวหน้าเจ้าหน้าที่อย่าง John Kelly ต่างก็ไปเข้าร่วมพิธีทั้งนั้น และในขณะเดียวกันในเวลาที่กำจัดพิธีศพอยู่นั้น จากรายงานพบว่าประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบันได้ไปอยู่ที่ Trump National Golf Club ในเมือง Sterling รัฐเวอร์จิเนีย จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เขาถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งที่ตอนก่อนหน้านี้เขาเคยพูดในฐานะของประธานาธิบดีว่าเขาไม่มีเวลาพอที่จะไปเล่นกอล์ฟหรอก แถมยังเคยโจมตีประธานาธิบดีคนก่อนอย่าง Barack Obama ที่เขาออกเขาออกรอบตีกอล์ฟในเวลางานอยู่บ่อยๆ แต่จากการสำรวจแล้วใน 100 วันแรกหลังจากการเข้ารับตำแหน่ง Trump กลับเป็นประธานาธิบดีที่ไปออกรอบตีกอล์ฟมากที่สุด ด้วยจำนวน 19 วันและจนถึงปัจจุบันเขารับตำแหน่งมาแล้ว 590 วันและใช้เวลาตีกอล์ฟไปถึง 148 วันหรือประมาณ 25% ของวันทำงานเลยทีเดียว…
-
สุดอุกอาจ!! โจรบุกปล้นร้านสะดวกซื้อ ก่อนควัก ‘กรรไกรเล็มขนจมูก’ ออกมาจี้พนักงาน
จากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน อัตราการเกิดของมนุษย์นั้นมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหากในอนาคตยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดการแก่งแย่งชิงดีกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องของกินของใช้ รวมถึงที่อยู่อาศัย ส่วนฝ่ายที่พ่ายแพ้ก็อาจจะต้องตกงาน ไม่มีรายได้และอาจจะกลายเป็นขโมยไปปล้นตามร้านต่างๆ เหมือนอย่างในข่าวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ครับ ช่วงเช้าตู่ในวันที่ 31 สิงหาคม 2018 ณ ถนนชินจูกุ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้มีรายงานว่ามีโจรบุกปล้นเข้าร้าน Family Mart ร้านสะดวกซื้อชื่อดังที่มีพนักงานหนุ่มเฝ้าร้านอยู่เพียงคนเดียว เพื่อหวังจะเอาเงิน แต่เรื่องที่เป็นประเด็นก็คือ ทันใดที่เจ้าโจรโฉดที่หน้าตาประมาณวัยกลางคน บุกเข้ามาในร้าน เขาได้ล้วงกระเป๋ากางเกงและควักเอา “กรรไกรเล็มขนจมูก” ออกมาจี้พนักงานคนดังกล่าว พร้อมจับจ้องมองด้วยสายตาที่เลือดเย็น ก่อนจะออกคำสั่งแก่พนักงานคนนั้นว่า “อย่าขยับ เอาเงินออกมาให้หมด” ณ ช่วงเวลานั้น พนักงานหนุ่มวัย 25 ปีก็ฉงนใจว่าตะกี้เขาสั่งว่า “อย่าขยับ เอาเงินออกมาให้หมด” ใช่มั้ยนะ? และก็คิดในใจต่อว่าถ้าเขาเอาเงินออกมาให้ เขาก็ต้องขยับร่างกายสิ แต่ถ้าเขาไม่ขยับเขาก็จะไปเอาเงินมาให้โจรไม่ได้อ่ะดิ ไม่รู้ว่าคำสั่งของโจรจะยากไปหรือท่าทีจะของโจรน่ากลัวเกินไปสำหรับพนักงานหนุ่ม เขาจึงตัดสินใจที่จะวิ่งหนีออกไป ปล่อยในโจรยืนงงจะในร้านสะดวกซื้อเพียงลำพัง และพอไม่มีพนักงานโจรก็ไม่อาจจะเอาเงินออกมาจากตู้เซฟหรือลิ้นชักเก็บเงินได้ ด้วยสถานการณ์งุนงงดังกล่าว ทั้งกับโจรและพนักงาน ทำให้สามารถซื้อเวลาพอให้สายตรวจของตำรวจรู้ว่าเกิดเหตุไม่ปกติและรุดหน้ามาตรวจสอบและเข้าจับกุมโจรได้ โดยทราบภายหลังว่าโจรอายุ 49…
-
#มองก้นดูเหมือนจะช่วยลดความเครียดได้นะ แฮชแท็กสุดแปลกที่เป็นกระแสแรงในญี่ปุ่น!!
“บนโลกของเราใบนี้ สามารถแบ่งคนออกได้เป็นสองประเภท นั่นคือประเภทที่ชื่นชอบในหน้าอกและอีกประเภทคือพวกที่คลั่งไคล้ในก้น” (ผอ. คุริฮาระ ได้กล่าวไว้ใน Prison School)… แล้วเพื่อนๆ ล่ะเป็นคนประเภทไหนกัน!? และถ้าหากเพื่อนๆ เป็นคนที่คลั่งไคล้ใน “ก้น” แล้วล่ะก็วันนี้เราก็มีเรื่องของก้นมาให้ได้ชมกันครับ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ จู่ๆ ในประเทศญี่ปุ่นก็ได้เกิดแฮชแท็กสุดสร้างสรรค์ (รึเปล่า) ที่มีชื่อว่า おしりを見るとストレスが減るらしい (Oshiri o miru to sutoresu ga herurashī) หรือที่แปลเป็นภาษาไทยได้ประมาณว่า “มองไปที่ก้นดูเหมือนจะช่วยลดความเครียดได้นะ” แฮชแท็กดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อบอกว่าเวลาเรามองก้นนะมันอาจจะช่วยลดความเหนื่อยและความเครียดได้ (ตามชื่อมันเลย) และก็มีชาวเน็ตหลายคนได้ให้ความสนใจแฮชแท็กนี้จนกลายเป็นกระแสไปในที่สุด ใครจะโพสต์อะไรเกี่ยวกับกระแสนี้กันบ้างเราไปชมกันครับ นักคอสเพลย์บางคนก็เข้าร่วมแฮชแท็กนี้โดยการโพสต์ภาพก้นของตัวเอง I hope I'm doing this right!!! 😅#おしりを見るとストレスが減るらしい pic.twitter.com/5hrJBynFnP — Afrodyte (@Afrodyte87) September 1, 2018 . Joining the day old trend#おしりを見るとストレスが減るらしい…
-
ลูกชายติดเกมหนัก ขโมยเงินแม่ผู้พิการกว่า 50,000 บาท เอาไปซื้อของในเกมเกลี้ยง…
ในประเทศไทยเคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง กรณีที่ดังมากๆ ก็เคยเป็นเรื่องของเกมคุกกี้รันและเกม ROV ที่มีพนักงานปั้มน้ำมันขโมยเลขบัตรลูกค้าไปเติม ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นมาอีกระลอก เมื่อเด็กชายวัน 10 ขวบขโมยบัตรธนาคารของคุณแม่ไปเติมเกม Fortnite กว่า 50,000 บาท!! Cleo Buckett คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 46 ปี จากเมือง Bridgend ประเทศเวลส์ กล่าวกับสื่อว่าเธอเหลือเงินเพียงแค่ 8 ปอนด์ (338 บาท) อยู่ในบัญชี หลังจากที่ Jayden-Lee ลูกชายของเธอใช้บัตรธนาคารของคุณแม่ นำไปซื้อของในเกมร่วมหลายรายการ โดยที่เงินจำนวนนี้เป็นเงินสวัสดิภาพเพื่อผู้พิการด้วย… คุณแม่ประสบกับโรคโปลิโอและจะต้องใช้ชีวิตอยู่บนวีลแชร์กล่าวว่า “ฉันเพิ่งจะรู้ก็ตอนที่ไปถอนเงินในตู้ กลับพบว่าเหลือเงินแค่ 8 ปอนด์เท่านั้น หลังจากนั้นก็มีข้อความจากธนาคารแจ้งมาว่ามีการเบิกเงินเกินบัญชี” “ลูกชายก็ออกมารับสารภาพว่า เป็นฝีมือของเขาเอง เขาเอาบัตรธนาคารของฉันไปใช้โดยที่ฉันไม่รู้ ใส่รายละเอียดบัตรเข้าไปแล้วก็ซื้อของในเกม Fortnite จำนวน 1,193.25 ปอนด์ (50,825 บาท) เป็นการเบิกเงินเกินบัญชีไป 245 ปอนด์…
-
แม่โอดทนไม่ไหว ลูกชายติด Fortnite หนักมาก แย่งจอยมากลับโดนลูกเฮดบัตต์ใส่!!
เมื่อสมัยก่อนที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตรุ่งเรือง การเลี้ยงดูลูกจะปล่อยให้ออกไปเล่นนอกบ้าน และกลับมาอยู่บ้านในช่วงเวลาเย็น แต่ในยุคนี้กลับเปลี่ยนไปแล้ว เพราะเด็กเริ่มอยู่ติดบ้านมากขึ้น ไม่ใช่เพราะอบรมมาดีแต่เป็นการติดเทคโนโลยีเสียมากกว่า… คุณแม่ Britta Hodge และลูกชาย Logan เรื่องของคุณแม่ Britta Hodge จากนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวถึงอาการติดเกมอย่างหนักของลูกชายวัย 14 ปี ถึงขั้นต้องโทรเรียกตำรวจมาให้การช่วยเหลือ หลังจากที่เธอถูกลูกชายทำร้ายจากการห้ามปราบให้หยุดเล่นเกม แต่ก่อน Logan คือเด็กชายที่ชื่นชอบออกไปใช้ชีวิตทำกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นเด็กชอบเล่นกีฬา ออกไปดูหนัง ออกไปเที่ยวชายหาด อยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ตามประสาเด็กปกติทั่วไป แต่แล้วอาการติดเกมของเขาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น จากการเล่นเกมหลากหลายประเภทรวมไปถึงเกม Fortnite ส่งผลเสียทำให้จนต้องหยุดเรียนหนังสือไป 2 ปี จะออกมาจากห้องนอนก็ต่อเมื่อหิวหรือต้องใช้ห้องน้ำ และแล้วความรุนแรงของลูกก็เกิดขึ้นกับแม่ เมื่อคุณแม่พยายามจะแย่งจอยออกมาจากมือของ Logan และเธอก็ถูกลูกชายเฮดบัตต์ใส่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมานั้น คุณแม่สังเกตถึงพฤติกรรมของลูกชายที่เริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยเป็นเด็กร่าเริงก็กลายมาเป็น เด็กขี้โมโห ซึมเศร้าและวิตกกังวลง่าย โดยที่ทั้งหมดนี้…
-
“เด็กตัวเล็กที่สุด” ในอังกฤษ หนักแค่ 350 กรัม พอๆ กับน้ำอัดลมกระป๋องเท่านั้นเอง!!
น้ำหนักเฉลี่ยของเด็กแรกเกิดทั่วๆ ไปจะอยู่ที่ราวๆ 2.5-4 กิโลกรัม แต่หากคลอดก่อนกำหนดก็อาจทำให้น้ำหนักน้อยลงไปมากกว่านี้อีก และมันอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตในภายหลัง แต่เด็กคนนี้อาจมีความเสี่ยงที่น่ากลัวกว่าเด็กคลอดก่อนกำหนดคนอื่นๆ เมื่อเขาเกิดมาโดยมีน้ำหนักเพียงแค่ 350 กรัมเท่านั้นเอง!! เด็กเกิดมาตัวเล็กที่สุดในอังกฤษ Theo Taylor คือทารกที่ได้ออกมาลืมตาดูโลกด้วยน้ำหนักที่แพทย์บอกว่า “น้อยที่สุดในประเทศอังกฤษ” แล้ว Jay และ Katie พ่อแม่ของเด็กเล่าว่าในตอนแรกนั้น แพทย์ก็ดูแลการตั้งครรภ์ของเธอไปตามปกติ จนกระทั่งในสัปดาห์ที่ 19 แพทย์ตรวจพบว่าลูกของเธอหยุดการเจริญเติบโตภายในครรภ์ จากการคาดการณ์ แพทย์ได้บอกกับเธอว่าเด็กอาจคลอดออกมาก่อนกำหนด และจะมีน้ำหนักเพียงแค่ราวๆ 450 กรัม เลวร้ายกว่านั้นคือแพทย์บอกให้ทั้งสองคนเตรียมใจรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กคลอดออกมาตัวเล็กแค่นี้แล้วจะสามารถรอดชีวิตได้ หลังจากนั้น แพทย์และพยาบาลทุกคนต่างช่วยกันดูแล พยายามให้เด็กสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด จนกระทั่งก่อนวันที่เด็กจะได้มีโอกาสลืมตาออกมาดูโลก แพทย์ถามกับพ่อแม่ทั้งสองว่าต้องการทำแท้งหรือไม่? เพราะเด็กที่คลอดออกมาแทบจะไม่มีโอกาสรอดได้เลย แต่เมื่อสู้กันมาถึงขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าทั้งสองคนย่อมไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น พวกเขาเลือกที่จะเสี่ยงให้เด็กคลอดออกมา ในที่สุด Theo ก็ได้ถือกำเนิดออกมาด้วยระยะการตั้งครรภ์เพียงแค่ 26 สัปดาห์กับอีก 5 วัน โดยเขานั้นมีขนาดเล็กกว่าฝ่ามือของพ่อซะอีก แถมยังหนักแค่…
-
ตำรวจคูเวตลงดาบ!! บุกเข้าปิดร้านขายปลา ที่ใช้ “สติกเกอร์ตาปลอม” ติดปลาเพื่อให้ดูสด
ในปัจจุบัน มีคนหลายคนให้ความสนใจเกี่ยวกับการประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวหรือพ่อค้าแม่ค้ากันมากขึ้นและแน่นอนว่ารายได้ที่เขาจะได้รับนั้นก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขาขาย ดังนั้นหลายๆ ร้านจึงงัดกลยุทธ์ทุกอย่างมาใช้ไม่ว่าจะเป็นลด แลก แจก แถม แต่บางทีก็อาจจะมีการโกงเกิดขึ้น อย่างใช้การเติมสีเพื่อให้เนื้อดูสดหรือใช้ยาฆ่าแมลงเพื่อให้ผักดูสวยงาม ซึ่งบางทีคุณโกงแบบนี้ก็อาจจะถูกตำรวจจับได้ เหมือนอย่างข่าวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูในวันนี้ เป็นข่าวของตำรวจประเทศคูเวตได้บุกจับและปิดร้านขายปลา เพราะร้านขายปลาโกงโดยการติดสติกเกอร์ “ตาปลอม” เพื่อให้ปลาดูสด!! https://twitter.com/eldahshan/status/1035929578626318336?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1035929578626318336%7Ctwgr%5E373939313b636f6e74726f6c&ref_url=http%3A%2F%2Fwww.ladbible.com%2Fnews%2Fweird-store-closed-down-for-using-googly-eyes-to-make-fish-look-fresher-20180902 วันที่ 1 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา Al Bayan หนังสือพิมพ์ของประเทศคูเวตได้โพสต์ภาพของปลาที่ติดตาปลอมลงในทวิตเตอร์ ก่อนที่ Mohamed El Dahshan จะนำภาพดังกล่าวมาโพสต์ต่อเป็นภาษาอังกฤษที่มีใจความว่า “ตำรวจคูเวตได้ปิดร้านขายปลาที่เอาสติกเกอร์ตาปลอมมาใส่เพื่อให้พวกมันดูสดกว่าที่เป็น” และหลังจากที่เขาได้โพสต์ภาพลงในทวิตเตอร์ ภาพดังกล่าวก็กลายเป็นกระแสไปอย่างรวดเร็ว ชาวเน็ตต่างเข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย เราจะยกตัวอย่างมาให้ได้ชมกันครับ ฉันตอนที่อ่านเรื่องนี้… Me reading this pic.twitter.com/Siq6YuBofU — August Sweats (@menzotoliosis) September 1, 2018 เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าตัดสินความสดของปลาผ่านทางลูกตามันเด็ดขาด Never judge the freshness of fish…
-
ศาลตัดสินให้คู่รักโอนเงินบริจาค 4,900,000 บาท ให้ทนายความชายไร้บ้านเอาไปดูแล!!
ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องเงินระดมทุนบริจาคของ Katie McClure และ Mark D’Amico ที่ตั้งใจจะเก็บไว้ให้นาย Johnny Bobbitt ชายไร้บ้านผู้เคยให้ความช่วยเหลือ มอบเงินเติมน้ำมันรถให้จำนวน 650 บาท กลับกลายมาเป็นปัญหาระหว่างทั้งสองฝ่าย (ข่าวเก่า) เรื่องราวของนาย Bobbitt นั้นได้กลายมาเป็นประเด็นที่โด่งดังมากๆ บนอินเทอร์เน็ตจากปีที่แล้ว หลังจากที่เขาได้ช่วยเหลือ Katie เอาไว้ และแคมเปญบริจาคเงินสามารถระดมเงินได้มากถึง 13,000,000 บาท จากผู้ร่วมบริจาคทั้งหมด 14,000 รายทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ทาง Katie และแฟนหนุ่มกลับไม่ยอมมอบเงินที่เหลือให้กับนาย Bobbitt โดยอ้างว่าจะจัดการให้ และนาย Bobbitt ก็กล่าวหาว่าพวกเขานำเงินจำนวนนี้ไปใช้เอง ทั้งนี้ ฝ่ายของ Katie กับแฟนหนุ่มให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยให้เหตุผลว่าการที่ไม่ให้นาย Bobbitt แตะเงินบริจาคเพราะเกรงว่าเขาจะนำเงินไปใช้เล่นยาเสพติด จนกระทั่งวันศุกร์ของสัปดาห์ที่แล้ว ทางศาลได้ทำการตัดสินให้คู่รักนำเงินที่เหลือจำนวน 4,900,000 บาท โอนเข้าบัญชีที่จัดการโดยกลุ่มทนายความของนาย Bobbitt จนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้ดูแลจากทางศาลให้จัดการเรื่องนี้แทน และจะต้องแสดงรายการใช้จ่ายเงินจากบัญชีดังกล่าวให้ทางศาลได้รับทราบด้วย…
-
บลอกเกอร์สาวโดนขู่ฆ่า เพียงเพราะอัพรูป “ยามเช้าอันสมบูรณ์แบบ” เหนือกว่าความเป็นจริง
เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องเล่นอินสตาแกรมกันอยู่บ้าง ซึ่งเราก็คงจะมีโอกาสได้เห็นเพื่อนๆ หรือเหล่าคนดังอัพภาพสวยๆ ตอนที่พวกเขาได้ไปเที่ยวหรือว่าการใช้ชีวิตประจำวันแบบเก๋ๆ เช่นเดียวกันกับบลอกเกอร์สาววัย 24 ปี Scarlett London เธอมักจะอัพรูปไลฟ์สไตล์ของตัวเองอยู่เสมอ เหมือนกับภาพนี้ในยามเช้าอันแสนสดใส เธอเขียนแคปชั่นว่า “การเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีที่สุด พร้อมกับรอยยิ้ม คิดบวก ข้างกายมีแพนเค้ก สตรอว์เบอร์รี่ และน้ำชา” ภาพที่กลายมาเป็นปัญหาสำหรับเธอ (โพสต์วันที่ 1 ก.ย. 2018) ดูๆ แล้วภาพของเธอก็ไม่น่าเป็นปัญหาอะไรใช่มั้ย? แต่แล้วมันก็กลับกลายเป็นกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อมีคนนำภาพของเธอไปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ ด้วยแคปชั่นว่า… “มึงจะบ้าเหรอ นี่มันใช่ยามเช้าของคนปกติที่ไหนกันล่ะ โลกในอินสตาแกรมนี่โคตรจะหลอกลวงเลย ต้องทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าอยู่ตลอด” ทวิตเตอร์ดังกล่าวได้ถูกแชร์ ถูกรีทวีตไปกว่า 21,000 ครั้ง คนกดไลก์อีกเกือบแสน เต็มไปด้วยความคิดเห็นในแง่ลบ มองว่า Scarlett เป็นพวกจอมปลอม สร้างภาพ และทำร้ายความรู้สึกของสาววัยรุ่นคนอื่นๆ หนักสุดคือถึงขั้นมีคนขู่จะฆ่าเธอเพียงเพราะภาพๆ นี้เลย Scarlett เล่าว่า “กระแสตอบรับจำนวนมากบอกว่าฉันเป็นอันตรายต่อสาววัยรุ่น เหมือนฉันเป็นคนทำร้ายพวกเธอ ฉันควรจะหยุดทำอะไรแบบนี้…
-
จับแพะ… คุณพ่อหน้าเหมือน ต้องรับโทษจำคุกนานถึง 17 ปี แทนผู้ต้องหาตัวจริง!?
เพื่อนๆ คงจะเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเกี่ยวกับการจับกุมตัวผู้ที่ไม่ได้กระทำผิดในคดีนั้นๆ หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า “จับแพะ” ซึ่งไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ในต่างประเทศก็มีเช่นกัน นาย Richard Anthony Jones คือหนึ่งในแพะซึ่งถูกตัดสินและรับโทษให้จำคุกเป็นเวลา 17 ปี!! ด้วยข้อหาปล้นโดยใช้อาวุธเมื่อปี ค.ศ.1999 แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าหนุ่ม Jones เป็นผู้กระทำผิด แต่พยานผู้เห็นเหตุการณ์ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคือผู้ลงมือเนื่องมาจาก “ใบหน้า” ที่พยานจำได้อย่างชัดเจน และไม่มีการตรวจพิสูจน์หลักฐานจากดีเอ็นเอจากที่เกิดเหตุใดๆ ภาพประกาศจับของผู้ร้ายที่กระทำความผิด ถึงแม้ว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลหลายครั้งในทุกๆ ปี แต่เขามักจะถูกปฏิเสธจากชั้นศาลจนทำให้เขาต้องโครงการ Midwest Innocent Project เพื่อช่วยเหลือในคดีนี้ จนสุดท้ายเขาก็สามารถที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ คดีของเขาถูกรื้อฟื้นขึ้นเมื่อทางตำรวจสามารถที่จะจับคนร้ายตัวจริงได้ เมื่อทางตำรวจได้นำตัวคนร้ายและนาย Jones มาให้พยานชี้ตัว ผลปรากฏว่าพวกเขากลับมีลักษณะรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก นาย Jones ต้องรับโทษ 17 ปี แทนคนร้ายตัวจริงอย่าง Ricky (ภาพซ้าย) ถึงแม้คนร้ายตัวจริงอย่าง Ricky จะให้การปฏิเสธ แต่หลักฐานแวดล้อมและหลักฐานยืนยันที่อยู่ชี้ให้เห็นว่า Ricky คือคนร้ายตัวจริง นอกจากหน้าตาจะเหมือนนาย…
-
เด็กหญิง 10 ขวบถูกเพื่อนแกล้ง โดนเอาเชือกรัดคอแขวนต้นไม้ รอดมาได้ด้วยความหวาดกลัว
การกลั่นแกล้งยังคงมีให้เห็นอยู่กับทุกเพศทุกวัย หากลองมองย้อนกลับไปตอนที่เราอยู่ในวัยประถม เราเคยแกล้งเพื่อนหรือถูกเพื่อนแกล้งอย่างไรบ้างหรือเปล่า? บางคนอาจจำเรื่องเหล่านั้นไม่ได้แล้ว แต่สำหรับเด็กหญิงวัย 10 ขวบคนนี้ การกลั่นแกล้งที่เธอเจอคงทำให้เธอจดจำไปอีกนาน เพราะมันทำให้เธอเกือบตายได้เลยทีเดียว คุณแม่และเด็กหญิงที่ถูกกลั่นแกล้ง เด็กหญิงคนดังกล่าวมีชื่อว่า Amber Yoon มีคนไปพบว่าเธอถูก “เชือกกระโดด” รัดที่บริเวณต้นคอ แขวนไว้กับต้นไม้ในโรงเรียน Queen of Apostles Catholic School เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2018 โชคดีที่มีคนไปเห็นก่อน ทำให้เธอรอดมาได้ โดยเด็กหญิงบอกว่า “ตอนนั้นหนูกลัวมาก หนูกลัวว่าจะต้องจากโลกนี้ไปซะแล้ว” เธอเล่าว่าตนเองถูกเพื่อนร่วมชั้นแกล้งเอาไปแขวนไว้ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก แต่ทางโรงเรียนกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ในสิ่งที่เกิดขึ้นเลย Belinda แม่ของเด็กบอกว่าลูกสาวของเธอมีอาการหัวใจบกพร่องมาตั้งแต่เล็กๆ แถมตอนนี้ยังต้องเกือบตายเพราะถูกเพื่อนในโรงเรียนแกล้ง โดยที่ทางโรงเรียนกลับไม่ติดต่อแสดงความรับผิดชอบใดๆ เลย สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เด็กหญิงต้องตกอยู่ในภาวะหวาดกลัวและความวิตกกังวล ถึงแม้อาการบาดเจ็บทางร่างกายจะไม่สาหัสมาก แต่อาการบาดเจ็บทางใจนั้นกลับตรงกันข้าม เมื่อทางโรงเรียนไม่ติดต่อใดๆ มา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเป็นคนติดต่อไปสอบสวนกับทางโรงเรียนที่เกิดเหตุแทน เพื่อสืบหาสาเหตุและความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นนี้กันต่อไป ที่มา: mirror , perthnow , 9news
-
คนขับรถหัวร้อน โดนด่าเพราะขับรถเฮีย พยายามจะขับชนคนด่า สุดท้ายพลิกคว่ำซะเอง!?
ปัญหาความรุนแรงบนท้องถนนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ เพราะบรรยากาศบนท้องถนนนั้นเป็นอะไรที่สามารถทำให้คนเราเดือดได้ตลอดเวลา ทั้งการขับรถเฮียๆ ของเพื่อนร่วมทาง หรือการจราจรที่ติดขัด ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุให้เกิดเหตุรุนแรงได้ทั้งสิ้น เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่มีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นบนทางด่วนในแคลิฟอร์เนีย ชายหนุ่มคนหนึ่งจอดรถกลางถนนแล้วก็เดินลงมาต่อว่าคนในรถที่อยู่ข้างหลัง เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกเอาไว้โดย Meghan Lattimore ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง เธอเล่าว่า “ตอนแรกฉันถ่ายคลิปเอาไว้เพราะเขาพยายามจะเบี่ยงออกไปที่เลนทางซ้าย แต่รถอีกคันหนึ่งเหมือนจะไม่ยอม” “เจ้าของรถเปิดประทุนขับต่อไปอีกประมาณ 3-5 เมตร แล้วก็หยุดรถ จากนั้นก็ลงมาต่อว่ารถ SUV สีดำคันหลังที่พยายามจะแทรกตัดหน้าเขา ฉันกลัวและตกใจมากเลยล่ะตอนนั้น” หลังจากที่เจ้าของรถเปิดประทุนยืนด่าไปสักพัก คนขับรถ SUV ก็เปิดหน้าต่างออกมาตอบโต้ เลยโดนถุยน้ำลายใส่หน้าเข้าไปจังๆ ด้วยความโมโหรถ SUV จึงเลี้ยวออกมาทางซ้าย ขณะเดียวกันชายเจ้าของรถเปิดประทุนก็เดินกลับไปที่รถ แต่ทันใดนั้นเองหลังจากที่รถ SUV เลี้ยวซ้ายออกไปก็พยายามจะหักพวงมาลัยเข้ามาทางขวา เพื่อชนรถเปิดประทุนอย่างตั้งใจ แต่กลายเป็นว่าหลังจากที่ชนแล้วแรงกระแทกทำให้รถ SUV พลิกคว่ำไปซะงั้น!? ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แหม่ จงใจจะทำร้ายเขา แต่รถของตัวเองดันพลิกคว่ำซะได้ แบบนี้สินะที่เค้าเรียกว่ากรรมตามสนอง ที่มา…
-
เด็กป่วยลูคีเมียอยากได้สติกเกอร์ Ferrari ติดที่โลงศพ เลยได้นั่งรถของจริงเติมเต็มความฝัน!!
หลายๆ คนคงจะมีความใฝ่ฝัน หากตายไปอยากจะทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จเสียก่อน… เช่นเดียวกันกับ Caleb Hammond เด็กชายวัย 11 ปี ที่ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย และเขาอาจจะเหลือชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน ก่อนจะจากไปความต้องการของเขามีเพียงแค่ ได้ติดสติกเกอร์ Ferrari เอาไว้บนโลงศพของเขาเท่านั้น Caleb ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) เมื่อปีที่ผ่านมา แต่หลังจากที่เข้ารับการรักษา ร่างกายของเขากลับไม่ตอบสนองเพราะเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว ครอบครัวจึงตัดสินใจหยุดการรักษาเอาไว้และพาเขาออกไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำได้ Caleb เป็นเด็กที่มีความหลงใหลในความเร็วเป็นอย่างมาก เขาจะเก็บสะสมสติกเกอร์รถต่างๆ และสติกเกอร์การแข่งขันรถยนต์จากทั่วโลกเอาไว้ และเขาได้บอกกับพ่อแม่ไว้ว่าอยากให้พ่อแม่ติดสติกเกอร์ Ferrari เอาไว้ที่โลงศพของเขาอีกด้วย เรื่องราวของเจ้าหนู Caleb ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย รวมไปถึงเจ้าของโชว์รูม Ferrari ในเซาท์ ฟลอริดา Garrett Hayim เจ้าของโชว์รูมที่นำเข้ารถ Ferrari ในเขต Fort Lauderdale ได้ตัดสินใจที่จะมอบประสบการณ์สุดท้าทาย ด้วยการพาเด็กชายนั่งในรถแข่ง Ferrai ราคา 100 ล้านบาท เพื่อเติมเต็มความฝันของเขา “บางทีผมอาจจะพาเขาไปพบกับทีมแข่งทั้งหมดเลยก็ได้นะ…
-
Xiaoyue เด็กสาววัย 18 ปีที่อยากตามความฝันเป็น ‘โปรเกมเมอร์’ ถึงขั้นแอบหนีออกจากบ้าน!!
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เทคโนโลยีของมนุษย์นั้นมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ใครจะคิดว่าเจ้าคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือเครื่องใหญ่ๆ หนาๆ ในปัจจุบันมันจะมีขนาดลดเหลือเพียงแค่แผ่นบางๆ ไม่กี่เซนติเมตร และด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีนี่แหละก็ทำให้เกิดอาชีพต่างๆ ใหม่ๆ ขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอลเซนเตอร์ ช่างผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาหรือจะเป็นอาชีพใหม่ๆ อย่าง “โปรเกมเมอร์” และเรื่องราวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นเรื่องราวของ Xiaoyue สาวน่ารักผู้แอบหนีออกจากบ้านและมาดมั่นว่าตัวเองจะต้องเป็นโปรเกมเมอร์ให้ได้ Xiaoyue เด็กสาวอายุ 18 ปีในตอนแรกเธอนั้นเป็นเพียงเด็กมัธยมธรรมดาที่ชื่นชอบการเล่นเกม เธอไม่ค่อยจะออกไปนอกบ้านสักเท่าไหร่นัก เพราะเธอคิดว่าการได้เล่นเกมมันสนุกกว่า เธอรู้จักกับเกม League of Legend ครั้งแรกในช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเธอรู้สึกสนุกไปกับมัน เธอตัดสินใจที่จะฝึกฝนทักษะการเล่นเกมอย่างจริงจังและขณะที่เธอกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียน เธอก็เห็นข่าวเปิดรับสมัครทีม E-Sports หญิงผ่านทางอินเตอร์เน็ต เธอจึงตัดสินใจที่จะสมัครเพื่อเข้าร่วมในทันที และเพื่อการคัดเลือกนักกีฬาที่จะเข้าร่วมทีมหญิงล้วน เธอจึงแอบหนีออกจากบ้านขึ้นเครื่องบินไปอีกมณฑลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นโปรเกมเมอร์ ในด้านของพ่อแม่ซึ่งไม่รู้เรื่องราวดังกล่าวก็ได้แต่เป็นห่วงเธอ แต่คิดว่าเธอคงจะไปเที่ยวหาเพื่อนอยู่ แต่หลังจากที่เวลาผ่านไป 4-5 วันพวกเขาก็รู้สึกว่าพฤติกรรมของลูกสาวไม่ปกติและคิดว่าเธออาจจะถูกหลอกลวงหรือตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากจนกระทั่ง Xiaoyue ติดต่อกลับมาเปิดเผยแก่พ่อแม่ว่าตัวเธออยากที่จะเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพ ในช่วงเวลานั้นพ่อแม่ของเธอถึงกับตะลึงและงุนงง ด้วยความไม่รู้ว่า E-Sports นั้นคืออะไรด้วยซ้ำ แต่พวกเขาเห็นว่าลูกสาวของตนมีความสุขไปกับมัน จึงตัดสินใจที่จะช่วยสนับสนุนเธออย่างเต็มที่และหากว่าลูกสาวของตนเหนื่อยและท้อกลับมาเมื่อใด พวกเขาก็พร้อมที่ต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่นเสมอ การกลายเป็นนักกีฬามืออาชีพของเธอมันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง? Xiaoyue…
-
ชายชราขโมย “นกหงส์หยก” จากร้านขายของตกแต่งบ้าน เพื่อเอาไปเป็นอาหารให้ “แมว” ตัวเอง?!
ร้านขายของตกแต่งบ้านบางแห่งในประเทศญี่ปุ่น จะมีการนำ “สัตว์เลี้ยง” มาขายภายในร้านด้วย ซึ่งมันก็คงเปรียบเหมือนกับสิ่งที่ทำให้บ้านของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้นแหละนะ และสิ่งนั้นเองก็ได้กลายเป็นเป้าหมายของชายชราคนนี้ เมื่อเขาพยายามขโมย “นกหงส์หยก” ออกจากร้าน แต่ก็ถูกจับได้แล้วสารภาพว่าตนเองต้องการนำกลับไปเป็นอาหารให้แมวของเขาเอง เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแห่งหนึ่งในเมือง Nasushiobara จังหวัดโทชิงิ ประเทศญี่ปุ่น พนักงานร้านวัย 53 ปีสังเกตเห็นว่ามีลูกค้าคนหนึ่งเหมือนจะพยายามขโมยของออกไป พนักงานจึงเข้าไปรวบตัวชายชราวัย 69 ปีคนนั้นเอาไว้ เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าชายคนดังกล่าวพยายามขโมยของออกไปจริงๆ รวมแล้วมีมูลค่าราวๆ 11,700 เยน (ประมาณ 3,400 บาท) โดยมีตั้งแต่มุ้งลวด ไปจนถึงหนูแฮมสเตอร์ 3 ตัว และนกหงส์หยกอีกหนึ่งตัว ชายชราให้การกับตำรวจว่าตนเองตั้งใจจะกลับมาจ่ายให้ที่ร้านในภายหลัง และบอกว่าที่เขาขโมยสัตว์เลี้ยงอย่างนกหงส์หยกและแฮมสเตอร์ไปก็เพราะต้องการนำไปเป็นอาหารให้กับน้องแมวที่เขาเลี้ยงเอาไว้ แรงจูงใจในการขโมยของชายคนนี้ ทำเอาชาวเน็ตญี่ปุ่นถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน (รวมถึง #เหมียวตะปู เองก็ด้วย) “ร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้านส่วนใหญ่ เขาก็ขายอาหารแมวด้วยเหมือนกันมั้ยล่ะ” “เขาคิดอะไรอยู่?! เขาจะเอาไปปรุงก่อนมั้ย หรือจะปล่อยให้แมวกินกลายเป็นซากอยู่ในบ้านตัวเอง” “ใครจะไปคิด เขาอาจกินมันเองก็ได้นะ” ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่อนๆ…
-
พ่อถูกจับ หลังเอาลูกสาว “มัดติดหลังรถ” ขับไปบนถนน พี่ชายอ้างน้องขอให้ทำเพราะ “สนุกดี” ?!
นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนท้องถนนแห่งหนึ่งของเมือง Cankiri ประเทศตุรกี ที่กำลังกลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียล เผยให้เห็นภาพของเด็กหญิงสวมชุดดำถูกมัดติดไว้กับราวแขวนจักรยานด้านหลังรถตู้ ภาพเด็กหญิงถูกมัดติดหลังรถ ขณะที่กำลังแล่นไป จากการรายงานบอกว่าคุณพ่อของเด็กหญิงวัย 13 ขวบคนดังกล่าว เป็นคนจับเธอไปมัดเอาไว้อย่างนั้นเอง ก่อนที่จะขับรถแล่นไปตามท้องถนนจนมีคนถ่ายเอาไว้ได้และนำมาโพสต์ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา ชาวเน็ตที่ได้ชมคลิปต่างประณามในการกระทำของคนเป็นพ่อ หลายๆ คนบอกให้จับชายคนนี้เข้าคุกไปซะ หรือไม่อย่างนั้นก็ให้เขาหมดสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกสาวไปเลย เหตุการณ์ดังกล่าวที่ถูกถ่ายคลิปเอาไว้ (หากดูไม่ได้กดที่ลิงก์ Twitter) #Turkey: A woman was tied to the back of the minibus. #SHOCKING pic.twitter.com/A29xC7QObx — Ali Özkök (@Ozkok_A) August 28, 2018 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยป้ายทะเบียนและเข้าจับกุมคุณพ่อคนดังกล่าว ภายหลัง หนุ่มวัย 22 ปีพี่ชายของเด็กหญิงที่ถูกมัด ได้ออกมาให้การกับสื่อท้องถิ่นว่าที่พ่อของเขาทำอย่างนั้น ก็เพราะว่าน้องชอบและขอให้เขาทำเอง เด็กหนุ่มพูดว่า “พ่อของผมแค่อยากให้น้องมีความสุขเท่านั้นเอง…
-
พยาบาลได้พบเด็กคลอดก่อนกำหนดที่เคยดูแลเมื่อ 28 ปีก่อน ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนร่วมงาน!!
เรื่องของพรหมลิขิตมันไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะคู่รักกันเท่านั้น กับคนที่เคยมีความสัมพันธ์ต่อกันและต้องแยกจากกันไปเป็นระยะเวลายาวนาน จนไม่คิดว่าอาจจะได้เจอกันแล้ว พรหมลิขิตก็จะทำหน้าที่ของมัน เพื่อนำพาให้คนสองคนได้มาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อพยาบาลผู้ดูแลเด็กชายคนหนึ่งเมื่อ 28 ปีก่อน ได้กลับมาเจอกับเด็กชายคนนั้นอีกครั้งในฐานะ ‘เพื่อนร่วมงาน’ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนปี 1990 เด็กชาย Brandon Seminatore ได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ด้วยอายุครรภ์ 29 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการคลอดก่อนกำหนด และนั่นทำให้เด็กชายต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้รอดชีวิตออกไปสู่โลกกว้างได้ และคนที่รับหน้าที่นี้ก็คือพยาบาลดูแลเด็กทารกแรกเกิด Vilma Wong ณ ตอนนั้นเธออายุ 32 ปี และยังทำงานที่ศูนย์ดูแลเด็กคลอดก่อนกำหนด NICU (Neonatal intensive care unit) มาได้แค่ 4 ปีเท่านั้น วันเวลาล่วงเลยผ่านไปกว่า 28 ปี Brandon ได้ใช้ชีวิตตามทางของตนเองจนสามารถเรียนจบและกลายเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยา และล่าสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมาเขาถูกย้ายมาทำงานที่ NICU ขณะเดียวกันคุณ Vilma ก็ยังคงทำงานอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน เมื่อได้เจอกันครั้งแรกเธอสามารถจำชื่อของเขาได้ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นเด็กคนที่เกิดก่อนกำหนด ก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลายเมื่อคุณหมอ Brandon เล่าให้เธอฟังว่าเขาเกิดที่นี่ และต้องพักฟื้นอยู่ที่นี่เพราะคลอดก่อนกำหนด ทั้งคู่ก็ถึงกับอึ้ง…
-
36 ยังแซ่บ!! เคียวโกะ ฟูคาดะเตรียมปล่อย Photobook เล่มที่ 20 ให้แฟนๆ หายคิดถึง
ในช่วงปลายยุค 90 และต้นยุค 00 ถือว่าเป็นช่วงที่กระแสของวัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้นโด่งดังในประเทศไทยเป็นอย่างไม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดนตรีอย่าง J-Pop, J-Rock หรือจะเป็นซีรีส์ ละครและภาพยนตร์ต่างๆ แน่นอนว่าเมื่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นช่วงนั้นบูมในไทย ก็ย่อมมีศิลปิน นักแสดงชาวญี่ปุ่นหลายคนที่กลายเป็นขวัญใจแก่ชาวไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “เคียวโกะ ฟูคาดะ” นักแสดง ศิลปินและไอดอลที่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าชายไทยถ้วนหน้า (หลายๆ คนนี่ต้องมีรูปเธอไว้ติดห้องบ้างแหละ) และเมื่อมีจุดพีคก็ย่อมที่จะมีจุดตกต่ำ กระแสของวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้จางหายไปตามกาลเวลา ทำให้คนที่รู้จักชื่อของเคียวโกะ ฟูคาดะน้อยลงไปตามๆ กัน แต่ล่าสุดสำหรับแฟนๆ ที่กำลังรอคอยผลงานต่อไปของเธออย่างใจจดใจจ่อ ก็ถือว่ามีข่าวดีเพราะเคียวโกะจังวัย 36 ปี (ย้ำ!! 36 ปี) ได้โพสต์ภาพลงในอินสตาแกรมว่าเธอถ่ายทำ “Blue Palpitations” Photobook เล่มที่ 20 ของเธอเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วและจะวางขายในวันที่ 20 เดือนกันยายนปีนี้!! https://www.instagram.com/p/BnIGtVfHIuq/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control ก็หวังว่าแฟนๆ ของเธอจะยังคงให้การสนับสนุนเธอต่อไปนะครับและระหว่างที่รอ Photobook เล่มใหม่ของเธอวางจำหน่ายนี้ เราก็มีภาพเก่าของเธอมาให้ได้ชมกันครับ ไปดูกันเล้ย ย้ำ!! ว่าเธออายุ…
-
บาทหลวงออกมาขอโทษ จากเหตุ ‘ลวนลาม’ Ariana กลางงานศพของ Aretha Franklin
หลังจากที่กลายเป็นกระแสที่โด่งดังไปทั่วโลกกับแฮชแท็ก #RespectAriana หลังจากที่เธอถูกบาทหลวงลวนลามกลางงานศพของ Aretha Franklin เรื่องมีอยู่ว่าในงานพิธีศพของนักร้องที่มีชื่อเสียง Aretha Franklin ผู้ล่วงลับ Ariana Grande รับหน้าที่ในการร้องเพลง You Make Me Feel Like ของ Aretha เพื่อเป็นการสดุดีแด่การจากไปของเธอ จากนั้นก็มีการพูดคุยกันเล็กน้อยกับผู้ดำเนินพิธีการ ซึ่งก็คือบาทหลวง Charles H Ellis ที่ 3 ระหว่างนั้นเขากลับเอามือไปโอบที่บริเวณด้านหลังหน้าอกของ Ariana ด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการบันทึกเอาไว้ และนำไปโพสต์ในโลกออนไลน์จนชาวเน็ตมากมายได้ชมและมองเห็นว่าบาทหลวงพยายามที่จะจับหน้าอกของ Ariana ลองไปชมคลิปวิดีโอกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… https://twitter.com/musicfactnews/status/1035666503276945408?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1035666503276945408%7Ctwgr%5E373939313b73706563696669635f73706f7274735f616374696f6e&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.catdumb.com%2Frespect-ariana-119%2F ชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา บางส่วนก็ออกมาตำหนิ Ariana ว่าแต่งตัวไม่เหมาะสม นุ่งเดรสสั้นเกินไปจนทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ส่วนใหญ่มองว่าไม่เกี่ยวกัน ไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไรบาทหลวงก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำแบบนั้นกับเธอ และล่าสุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาตามเวลาของบ้านเรามีรายงานว่าทางด้านบาทหลวงก็ออกมาขอโทษต่อเหตุดังกล่าว โดยให้สัมภาษณ์ผ่านทาง Associated Press ว่า… “เรื่องการจับหน้าอกของผู้หญิงนั้นไม่เคยอยู่ในความคิดของผมเลย ไม่รู้สิผมเดาว่าผมอาจจะเอาแขนโอบไปที่ตัวของเธอ และบางทีมันอาจจะลึกจนเกินไป แต่เอาจริงๆ แล้วผมเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี และพยายามตีสนิทมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตามผมต้องขออภัยเป็นอย่างสูง”…
-
นักท่องเที่ยวร้องลั่น เมื่อเจอ “ฉลามขาว” ความยาวกว่า 3 เมตร ว่ายมาใกล้ชายหาด!!
ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า “ปลาฉลาม” คือสิ่งมีชีวิตที่พวกเราต่างหวาดกลัว ยิ่งตอนไปเที่ยวทะเล ลงไปเล่นน้ำไกลจากฝั่ง เราก็อาจมีโอกาสได้เจอกับมันได้ทุกเมื่อ แต่ว่าเหตุการณ์นี้คือไม่ต้องลงไปเล่นน้ำไกลๆ เลย เพราะเจ้าฉลามขาวตัวนี้เล่นว่ายมาหาถึงที่จนแทบจะเดินขึ้นมาบนชายหาดซะอย่างนั้น ทำเอาเหล่านักท่องเที่ยวถึงกับขวัญกระเจิงกันเลยทีเดียว คือถ้ามีขา มันคงวิ่งขึ้นมาบนหาดแล้วเอาจริง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณชายหาด Nauset คาบสมุทร Cape Cod สหรัฐอเมริกา เมื่อเจ้าฉลามขาวว่ายเข้ามาจนทำเอานักท่องเที่ยวในชุดบิกินี่ถึงกับร้องกรี๊ดออกมาด้วยความกลัว จากคลิปวิดีโอเราจะเห็นว่าเจ้าฉลามตัวนั้นว่ายเข้ามาใกล้มาก คือห่างจากชายหาดออกไปแค่ไม่ถึง 10 เมตรเลยด้วยซ้ำ งานนี้เหล่านักท่องเที่ยวจึงต้องรีบขึ้นจากน้ำกันให้ไว คลิปที่ถูกแชร์ในวันที่ 27 สิงหาคม 2018 สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หลายๆ คนคิดไปถึงหนังเรื่อง Jaws เกี่ยวกับฉลามสุดโหดไล่ล่ามนุษย์ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ดันมาถ่ายทำในบริเวณเดียวกันกับที่เกิดเหตุการณ์นี้ด้วย จากการรายงานบอกว่าฉลามขาวที่เราได้เห็นกันนั้น น่าจะมีความยาวประมาณ 11 ฟุต (หรือราวๆ 3.3 เมตร) ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับที่มักจะโผล่มาให้เห็นบ่อยๆ ใกล้ชายฝั่ง และยังมีข้อมูลอื่นๆ ที่บอกอีกว่าการที่มันว่ายมาใกล้ฝั่งขนาดนี้อาจเป็นเพราะความหิว สะท้อนให้เห็นว่าความอุดมสมบูรณ์ในท้องทะเลนั้นกำลังลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางภาครัฐจึงจำเป็นต้องทำการปิดหาดดังกล่าวเอาไว้ชั่วคราว เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวต้องเสี่ยงอันตรายหรือกลายเป็นอาหารของเจ้าฉลามขาวไปเสียก่อน …
-
พาชมภาพเหล่า “เด็กแว้น” ผู้รักในรถ Vespa จากประเทศอินโดนีเซีย แต่ละคันคือสุดจริง
“เด็กแว้น” สำหรับบทความนี้ คือการจำกัดความของผู้ที่ชื่นชอบในการขี่มอเตอร์ไซค์ รวมถึงการแต่งรถให้ออกมามีสไตล์เป็นของตัวเอง และนี่ก็คืองานรวม “เด็กแว้น” ในประเทศอินโดนีเซีย กับผู้คนที่มีความคลั่งไคล้ในรถ Vespa เป็นอย่างมาก บอกเลยว่าแต่ละคนแต่ละคันนั้นมีความแหวกแนวอย่างที่ไม่ซ้ำใครแบบสุดๆ เลย นี่เป็นภาพบรรยากาศในงานที่จัดขึ้นทุกๆ ช่วงกลางปีของเมือง Kediri ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะรวมเอาเหล่าผู้รักรถ Vespa ทั้งหลายมาอยู่ในที่ที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นนายช่าง นักเรียน วัยรุ่น วัยชรา ทุกคนต่างพากันมาอวดสไตล์การแต่งรถสุดชิค ผลิตกันขึ้นมาด้วย 3 มือของตัวเอง (มือ 2 ข้างกับเครื่องมือต่างๆ นานา) ว่าแล้วเราก็ลองไปชมบรรยากาศงานกันคร่าวๆ ซึ่งดูราวกับหนัง Mad Max ยังไงยังงั้นเลย แต่งกันได้แบบไร้ขอบเขต ขอแค่ใช้เครื่องยนต์เดิมๆ ของรถ Vespa รวมถึงแฟริ่ง (โครงหลังรถ) เอาไว้ก็พอ หน้าตามันก็จะออกมาดูแปลกหูแปลกตากันซะหน่อยอ่ะนะ มีการโชว์ประสิทธิภาพภายในงานด้วย อันนี้นี่มาอย่างกับรถถังเลย …
-
บริษัทญี่ปุ่นสร้าง ‘เฟอร์นิเจอร์ขนาดจิ๋ว’ สำหรับแมวเหมียว เพื่อปรนเปรอนายท่าน
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ชาวญี่ปุ่น’ นั้นถือเป็น ‘ทาสแมว’ ที่ซื่อสัตย์และเคารพนับถือเจ้านายของตัวเองมากที่สุดเลยก็ว่าได้ จนถึงกับขนาดที่ว่าลงทุนสร้าง ‘เฟอร์นิเจอร์’ แบบเฉพาะขึ้นมา เพื่อเอาอกเอาใจนายท่าน จะได้พักผ่อนหย่อนกายอย่างสบายใจ เป็นผลงานของเหล่าช่างฝีมือจากบริษัท Okawa Kagu ที่ต้องการจะทำให้อุตสาหกรรมงานฝีมือในจังหวัดฟุกุโอกะ กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เมื่อก่อนนี้พวกเขาเคยเป็นอันดับต้นๆ ในด้านนี้มาก่อน ภายใต้โปรเจกต์ที่มีชื่อว่า ‘Craftsman MADE’ และบริษัท Okawa Kagu เองก็มาพร้อมกับไอเดียสร้าง ‘เฟอร์นิเจอร์สำหรับนายท่านเหมียว’ ขึ้นมา เพื่อทำให้ผู้คนได้เห็นว่าฝีมือของช่างในบริษัทเขานั้นสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้ที่อื่นๆ โดยการสร้างเฟอร์นิเจอร์ตามแบบของจริง แต่ทำการลดขนาดของมันให้เล็กลง แต่ยังคงความมีคุณภาพสูงเอาไว้ ให้เหมาะแก่การใช้งานของนายท่านเหมียว ช่างฝีมือทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างขะมักเขม้น เพื่อปรนเปรอนายท่านเหมียว . . อ่าห์ หลับสบายใจจุงงงง แบบนี้นายท่านทั้งหลายจะต้องชอบใจแน่ๆ เลย >< ที่มา : designboom, okawa…
-
คุณปู่วัย 98 ปี ลงทุนเดินเท้าทุกวัน วันละ 20 กิโลฯ เพื่อไปเยี่ยมภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็ง
หลายๆ คนยอมทำทุกอย่างเพื่อ ‘ความรัก’ เช่นเดียวกันกับคุณปู่วัย 98 ปี คนนี้ ที่ยอมเดินเท้าวันละเกือบ 20 กิโลเมตรเป็นประจำทุกวันเพื่อไปเยี่ยมภรรยาที่แต่งงานกันมานานกว่า 50 ปี เรื่องราวความรักของคุณปู่ Luther Younger วัย 98 ปีอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก เขาเดินเท้าเปล่าไปที่โรงพยาบาลในเมือง Rochester เพื่อเยี่ยมภรรยา Waverlee Younger ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งสมองมาตั้งแต่ปี 2009 “ผมไม่มีอะไรเลยถ้าไม่มีภรรยาของผม มันเป็นอะไรที่ยากมากๆ หากจะใช้ชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีเธอ” “เธอเป็นเสมือนถ้วยกาแฟที่ดีที่สุดที่ผมเคยมี เธอเป็นคนที่ผมต้องการมากที่สุด” คุณปู่กล่าว ด้วยความรู้สึกนี้เองที่เป็นดั่งแรงขับเคลื่อนให้คุณปู่สามารถเดินเท้าไปเยี่ยมภรรยาในทุกๆ วันเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ เพราะลูกๆ ของเขาก็พร้อมที่จะขับรถไปส่ง แต่อาจจะต้องรอให้พวกเขาว่างเว้นจากการทำงานก่อน “เขาไม่จำเป็นต้องเดินไปก็ได้ แต่เขาไม่ต้องการที่จะรอเพื่อที่จะได้ไปเยี่ยมแม่” “ตลอดเวลาที่แม่ป่วย เขาจะไปค้างที่โรงพยาบาลและไม่ยอมห่างเธอไปไหนเลย ที่เขาต้องทำแบบนี้ก็เพื่อทำให้ตัวเองได้มีชีวิตอยู่ต่อไป” Lutheta ลูกสาวเล่า นอกจากนี้เธอยังให้ข้อมูลอีกว่าตอนนี้แม่ของเธอเหลือเวลาอยู่บนโลกใบนี้ประมาณ 5 ปีเท่านั้น หลังจากที่รู้ว่าแม่ป่วยเมื่อ 9…
-
เศร้าสลด… เต่าใกล้สูญพันธุ์มากกว่า 300 ชีวิตต้องตายเพราะ ‘ติดข่ายดักปลา’
อีกครั้งและอีกครั้งที่สัตว์โลกผู้ไร้เดียงสาต้องตายจากโลกนี้ไปด้วยน้ำมือของมนุษย์เรา และคราวนี้ก็เช่นเดียวกันเมื่อมีชีวิตของเต่าใกล้สูญพันธุ์กว่า 300 ตัว ต้องหายไปอย่างตลอดกาล… เหตุการณ์แสนเศร้านี้เกิดขึ้นที่บริเวณนอกชายฝั่ง Oaxaca ประเทศเม็กซิโก เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเม็กซิโก ได้ประกาศว่ามีเต่าหญ้า (Olive Ridley Sea Turtles) มากกว่า 300 ชีวิตเกาะกันลอยน้ำตายเนื่องจาก ‘ติดอวนตาข่าย’ ที่ชาวประมงวางเอาไว้ และที่น่าสลดใจที่สุดก็คือสภาพศพของพวกมัน ที่มีกระดองแตกร้าว เนื่องมาจากถูกแสงแดดแผดเผาเป็นเวลานานนับสัปดาห์จากการติดอวนดังกล่าว… แต่ถึงแม้ว่าจะยังไม่ทราบถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงของบรรดาเต่าเหล่านี้ ทว่าพวกมันหลายตัวก็มีร่องรอยการบาดเจ็บจากการติดอวนและอีกอย่างหนึ่งคือตะขอตกปลา ข่าวร้ายข่าวนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่มีการค้นพบเต่าจำนวน 113 ตัวตายบริเวณชายฝั่งของรัฐเชียปัส ที่อยู่ห่างจากที่นี่เพียง 160 กิโลเมตรเพียงเท่านั้น 300 endangered turtles were found dead off Mexico’s Pacific coast after they became caught in fishing nets. They come to the…
-
รวมสี Pantone ประจำปีตั้งแต่ ปี 2000-2018 แต่ละปีจะมีสีที่คุณชื่นชอบหรือเปล่านะ
เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องของสี Pantone ผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง แต่ก็มีบางคนที่อาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร Pantone ก็คือมาตรฐานของระบบสีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ และเริ่มมีการนำสี Pantone มาใช้ในวงการแฟชั่นอีกด้วย ในแต่ละปีก็จะมีการประกาศสีประจำปีออกมา ซึ่งสีที่ทาง Pantone ประกาศออกมานั้นก็จะมีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่น เรามาดูกันดีกว่าว่าตั้งแต่ปี 2000 สี Pantone ประจำปีจะเป็นสีอะไรบ้างนะ ปี 2000 สีฟ้า Cerulean blue ปี 2001 สีชมพู Fuchsia Rose ปี 2002 สีแดง True Red ปี 2003 สีฟ้า Aqua Sky ปี 2004 สี Tigerlily ปี 2005 สีฟ้าเทอร์ควอยซ์ Blue Turquoise ปี…
-
ชายจีนสุดเจ๋ง!! สร้างหุ่นยนต์ ‘Transformers’ ด้วยตัวเอง แต่เอามาวิ่งโชว์โดนตำรวจไล่ซะงั้น…
หากใครที่เคยดูภาพยนตร์หุ่นยนต์สุดล้ำอย่าง “Transformers” กันมา คงจะติดใจในความเท่ของตัวละครต่างๆ ไม่มากก็น้อย แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีคนสร้างหุ่นยนต์อย่างนี้ขึ้นมาวิ่งบนถนนจริงๆ และที่สำคัญคนที่สร้างเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่ใช่วิศวกรโด่งดังอะไรด้วย ทว่าที่น่าเสียดายก็คือหุ่นยนต์ของเขากลับถูกตำรวจจับนี่สิ… หูยย มันเจ๋งสุดๆ ไปเลย โดยเรื่องราวของเจ้าหุ่นยนต์ที่ว่านี้ได้ถูกโพสต์ลงในโลกอินเทอร์เน็ตในวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อมีคนพบเห็นมันไปวิ่งเล่นอยู่ที่ถนนชานเมืองในแถบนครปักกิ่ง ประเทศจีน มันช่างใหญ่โตอะไรเช่นนี้ เจ้าหุ่นยนต์นี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ของชายไม่ประสงค์จะออกนามคนหนึ่ง ที่ได้สร้างขึ้นมาเองแบบ DIY (Do It Yourself) นั่นจึงหมายความว่ามันเกิดขึ้นมาได้จากฝีมือของชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ผู้คนต่างมุงดูด้วยความประหลาดใจ ด้วยขนาดที่ใหญ่โตและหน้าตาที่แปลกประหลาดของมัน ทำให้ไม่ว่าใครที่ได้ประสบพบเจอต่างก็ให้ความสนใจชนิดที่ว่าจ้องกันตามันวาว ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรหรอกใช่ไหมล่ะ เรียบร้อย โดนพี่ตำรวจเล่นแบบวร๊ายๆ และแน่นอนนอกจากมันจะไปเข้าตาประชาชนคนทั่วไปแล้ว พี่ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สะดุดตาด้วยก็เช่นเดียวกัน ที่มีหุ่นยนต์อย่างนี้มาอยู่บนท้องถนนรอบๆ เมืองหลวงอย่างนี้ พวกเขาจึงสั่งให้ชายผู้เป็นเจ้าของเก็บเจ้าหุ่นยนต์นี้กลับบ้านไปซะ กลับบ้านสิครับงานนี้ ทางด้านเจ้าของก็ยอมทำตามแต่โดยดี เดินคอตกกลับบ้านไปพร้อมๆ กับหุ่นยนต์ที่ตั้งใจทำมาโชว์นี้… นี่อาจเป็นไอเดียที่สุดจะบรรเจิด แต่ว่าการเอามาใช้บนท้องถนนอย่างนี้ก็ต้องโดนจับไปตามระเบียบล่ะนะ เพราะมันอาจสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนอื่นๆ ได้เหมือนกัน!! …
-
เด็กชายป่วยเป็นมะเร็ง มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ได้รับกำลังใจจากเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ใน Marvel
เราทุกคนต่างต้องการความหวัง แรงผลักดันเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต เช่นเดียวกันกับเด็กชายวัย 15 ปีคนนี้ Josh คือเด็กที่ต้องต่อสู้กับอุปสรรคมากมายมาตั้งแต่เกิด เขาต้องทนทุกข์กับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว จนกระทั่งตอนอายุได้ 15 ปี เขาก็ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นมะเร็งสมอง ทำให้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ไม่กี่เดือน เด็กชายผู้จะมีอายุอยู่ได้อีกไม่นาน เพื่อนๆ และครอบครัวของเขาจึงช่วยกันโพสต์เรื่องราวอันแสนเลวร้ายนี้ลงไปในโลกโซเชียล พร้อมกับบอกว่า… “เขาต้องการเพียงแค่ได้พบหรืออย่างน้อยก็ได้รับข้อความจากเหล่านักแสดงซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลาย โดยเฉพาะตัวละครในจักรวาล Marvel ซึ่งเขาเป็นแฟนคลับตัวยง และชื่นชอบมากที่สุด” ในช่วงเดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมานี้ ข้อความเหล่านั้นได้ถูกส่งต่อไปถึงหูของเหล่านักแสดงในจักรวาล Marvel ทั้งหลาย พวกเขาจึงช่วยกันทำวิดีโอ ส่งต่อข้อความมาหาเด็กชาย Ryan Reynolds ผู้รับบทเป็น Deadpool ส่งข้อความมาบอกว่า “มันตลกดีเหมือนกันนะที่นายชื่นชอบซูเปอร์ฮีโร่ เพราะความเป็นจริงแล้วนายมีจิตใจที่แข็งแกร่งและกล้าหาญกว่าพวกเราซะอีก” อีกทั้งเขายังพูดให้กำลังใจ ขอให้เด็กชายยังคงสู้ต่อไป ข้อความจาก Deadpool (หากดูไม่ได้กดที่ลิงก์ Twitter) Such a special man with a…
-
วิจารณ์กระหึ่ม Ariana ถูกบาทหลวงลวนลาม กลางงานศพของ Aretha Franklin
กลายเป็นประเด็นที่โด่งดังชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว กับกรณี ‘บาทหลวง’ ที่ทำหน้าที่ดำเนินพิธีการในงานศพของ Aretha Franklin ได้ทำการโอบนักร้องสาว Ariana Grande และทำท่าเหมือนจะจับหน้าอกของเธอแบบเนียนๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา Ariana Grande รับหน้าที่ในการร้องเพลง You Make Me Feel Like ของ Aretha เพื่อเป็นการสดุดีแด่การจากไปของเธอ จากนั้นก็มีการพูดคุยกันเล็กน้อยกับผู้ดำเนินพิธีการ ซึ่งก็คือบาทหลวง Charles H Ellis ที่ 3 ระหว่างนั้นเขากลับเอามือไปโอบที่บริเวณด้านหลังหน้าอกของ Ariana ด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวมีการบันทึกเอาไว้ และถูกนำมาโพสต์ทางออนไลน์ ชาวเน็ตทั้งหลายก็จับสังเกตกันว่า มือของท่านบาทหลวงนั้นทำเหมือนกับว่าพยายามที่จะ ‘จับหน้าอก’ ของ Ariana ลองไปชมคลิปเหตุการณ์ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… https://twitter.com/musicfactnews/status/1035666503276945408 ชาวเน็ตทั้งหลาย ต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าที่เกิดเหตุแบบนี้เพราะว่า Ariana น่ะสวมกระโปรงสั้นเกินไป แต่ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากที่มองว่า มันไม่เกี่ยวกัน ต่อให้สวมเสื้อผ้าอย่างไรก็ไม่ควรทำแบบนั้น จนกลายมาเป็นกระแสแฮชแท็ก…
-
ปริศนาเรือผี!! เรือขนส่งลำยักษ์เกยตื้นชายฝั่งเมียนม่า ‘ไร้ผู้คน-ไร้สินค้า’ พบครั้งสุดท้ายปี 2009…
อย่างที่รู้ๆ กันว่าโลกใบนี้มีความลับซ่อนอยู่มากมาย และนี่อาจจะเป็นอีกปริศนาหนึ่งให้เราได้ขบคิดกันว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ เมื่อมีเรือขนส่งสินค้าลำหนึ่งเกยตื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลประเทศเมียนม่า และเรือลำนี้ไม่มีคน ไม่มีสินค้าอยู่เลย!! เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรือขนสินค้าลำหนึ่งลอยลำเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณชายฝั่งเมืองเศรษฐกิจของประเทศเมียนม่า ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบและพบว่ามันเป็นเรือที่มีนามว่า “Sam Ratulangi PB 1600” “เรือลำนี้ไม่มีลูกเรือหรือว่าสินค้าใดๆ อยู่เลย” ตำรวจแห่งเมืองย่างกุ้งกล่าว แต่ว่าจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเรือ พวกเขาก็ได้พบสิ่งที่น่าสนใจคือเรือลำนี้ ‘มีธงชาติอินโดนีเซีย’ ด้วย ทางด้านนาย Aung Kyaw Linn เลขาธิการทั่วไปแห่งสหพันธ์คนเดินเรือเมียนม่า กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่าอันที่จริงแล้วเรือลำนี้ยังคงเดินเรือตามคำสั่งที่ได้รับมา แต่เขาก็ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ว่าลูกเรือน่าจะเพิ่งสละเรือเมื่อเร็วๆ มานี้ ‘มันต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างแน่ๆ’ เขากล่าว อย่างไรก็ตามข้อมูลจากทางเว็บไซต์ Marine Traffic ซึ่งเป็นเว็บไซต์ระบุความเคลื่อนไหวของเรือต่างๆ ทั่วทั้งโลกระบุว่า เรือลำนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 2001 มีความยาวกว่า 177 เมตร และหนักถึง 26,510 ตัน บันทึกครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับเรือลำนี้คือ มันถูกพบเห็นนอกชายฝั่งไต้หวันในปี 2009 และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเรือลำนี้อีกเลย ซึ่งนอกจากนี้นี่ยังเป็นการค้นพบเรือร้างครั้งแรกในน่านน้ำของประเทศเมียนม่าอีกด้วย ต้องมีอะไรสักอย่างเป็นแน่ ที่มา: bbc, newsinfo.inquirer,…
-
ชาวเน็ตแห่สวด!! หนุ่มจับเต่าทะเลมาขี่-ยกกลับหัว ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนรอบข้าง…
บางครั้งคนเราก็ชอบที่จะเล่นสนุกกับชีวิตของคนอื่น โดยที่ไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วเขาอยากจะเล่นด้วยหรือว่ารู้สึกยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเหตุการณ์นี้ก็เช่นเดียวกันเมื่อมีชายคนหนึ่งทำท่าอนาจารกับเต่า แถมยังยกมันขึ้นจนกลับเท้าชี้ฟ้าหน้าทิ่มดิน สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วทั้งโลกอินเทอร์เน็ต https://instagram.com/p/Bm4e1ZijtLH/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control เรื่องราวที่ว่านี้ได้โพสต์ลงบนโลกอินเทอร์เน็ตโดยผู้ใช้ Instagram ชื่อว่า nakawaproject ซึ่งภาพที่แสดงออกมาก็คือภาพของชายไม่ระบุชื่อคนหนึ่งกำลังรังแกเจ้าเต่าทะเลที่น่าสงสาร โดยที่มันไร้หนทางต่อสู้โดยสิ้นเชิง จากการรายงานของสื่อ DailyMail ระบุว่าว่าเรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นบริเวณสักแห่งหนึ่งของท้องทะเลประเทศจีน โดยสิ่งที่ชายคนนี้ทำก็คือใช้เท้าเหยียบกระดองขี่เต่าทะเลด้วยความหฤหรรษ์ และนอกจากตัวของชายคนนี้จะสนุกแล้วก็ดูเหมือนว่าคนอื่นๆ ที่อยู่บนเรือลำนี้จะสนุกด้วยเช่นเดียวกัน หากดูจากเสียงเชียร์ที่ตะโกนออกมา จากนั้นหลังจากที่ขี่เจ้าเต่าน้อยครูดไปกับท้องเรือจนสมใจแล้ว เขาก็สรรหาวิธีเล่นกับเจ้าเต่าตัวนี้ต่อด้วยการยกมันขึ้นมาอย่างกลับหัวกลับหาง ซึ่งในขณะนั้นเราจะเห็นได้ว่าเต่าตัวนี้พยายามจะดิ้นรนให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของชายคนนี้ให้ได้ แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้ผลแต่อย่างใด… เท่านั้นยังไม่พอดูเหมือนว่าชายคนนี้อยากจะพิสูจน์พละกำลังของตัวเอง เขาได้พยายามยกเต่าขึ้นมาโดยที่ไม่ได้เป็นห่วงเลยว่ามันจะเจ็บหรือว่ารู้สึกเช่นไรกับการกระทำเช่นนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าชายในภาพนี้เป็นใครหรือเป็นคนชนชาติใด แต่ว่าชาวเน็ตได้วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามันเป็นอะไรที่โหดร้าย และแสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมซะจริงๆ เป็นอะไรที่น่ารังเกียจมากๆๆๆ เจ้าเต่าตัวนี้ช่างน่าสงสารเสียจริง เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาเลย หาตัวเขา แล้วลองลากด้วยไปมาด้วยการดึงหูดูบ้าง จากนั้นก็ส่งหมอนี่ไปนอนในคุกซะ ชายคนนี้เป็นอะไรที่น่าอัปยศอดสูยิ่งนัก ที่มา: nextshark, dailymail
-
หนุ่มห้าว “ควักมีด” ลงรถ BMW ไล่ฟันชายปั่นจักรยาน สุดท้ายกลับต้องตายด้วยอาวุธตัวเอง
ปัญหาบนท้องถนนไม่ได้มีแค่อุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันเพียงอย่างเดียว แต่มันยังรวมไปถึงความไม่พอใจในการขับขี่จนอาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาทอันรุนแรง ถึงแก่ชีวิต ตัวอย่างของปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนในเมือง Kunshan ประเทศจีน เมื่อชายคนหนึ่งควักมีดออกมาไปมีเรื่องกับชายปั่นจักรยาน แต่สุดท้ายเขากลับต้องตายด้วยอาวุธของตัวเอง ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 27 สิงหาคม 2018 เผยให้เห็นว่าขณะที่กำลังติดไฟแดงกันอยู่ รถ BMW คันหนึ่งก็พยายามที่จะเบี่ยงเข้าไปในเลนจักรยาน แต่ว่าชายแซ่ Yu วัย 41 ปีที่ปั่นจักรยานอยู่นั้นไม่ยอมหลบทางให้ ชายหญิงคู่หนึ่งจึงลงจากรถมา เข้ามาพูดด้วย โดยที่หญิงสาวก็ยกเอาจักรยานของเขาไปไว้ตรงทางเดินริมถนน จากภาพเห็นว่าเหมือนพวกเขาจะมีปากเสียงกันเล็กน้อย ผู้ที่เดินผ่านไปมาก็เข้ามาช่วยกันแยกทั้ง 2 ฝ่าย จนกระทั่งจู่ๆ ก็มีชายอีกคนลงจากรถมาด้วยท่าทางไม่พอใจแบบสุดเหวี่ยง ชายแซ่ Liu วัย 36 ปี ลงจากรถมาเหมือนพร้อมมีเรื่องอย่างเต็มที่ เขาเข้าไปผลักชายปั่นจักรยานคนนั้น พยายามที่จะเข้าไปทำร้ายแม้ว่าคนรอบข้างจะคอยห้ามเอาไว้ แล้วเขาก็เดินกลับมาที่รถ ควักเอามีดยาวประมาณ 1 ช่วงแขนออกมา บุกเข้าจู่โจมชายแซ่ Yu อีกครั้ง ชายแซ่ Liu ภายหลังพบว่าเขามีประวัติอาชญากรรมมาก่อนหน้านี้แล้ว . …
-
สาวอ้าง ‘หมา’ ของตัวเองเป็น ‘มังสวิรัติ’ ถูกท้าพิสูจน์กลางรายการ มันเลือกกินเนื้อซะงั้น!!
ปัจจุบันอาหาร ‘มังสวิรัติ’ กลายเป็นที่นิยมสำหรับคนที่หันมาใส่ใจสุขภาพเป็นอย่างมาก และตอนนี้มันก็ได้ลามไปถึง ‘เจ้าหมา’ กันแล้ว!? Lucy Carrington เจ้าของของเจ้า Storm หมาพันธุ์ฮัสกี้ได้พามันไปออกรายการ This Morning เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา เพื่อบอกให้ชาวโลกรับรู้ว่าหมาของตัวเองนั้นเป็นมังสวิรัติ และเลี้ยงแบบนั้นมาโดยตลอด มีการยืนกรานอย่างถึงที่สุดว่าเจ้า Storm นั้นเป็นมังฯ จริงๆ และมันจะเลือกทานผักมากกว่าเนื้อเสียด้วยซ้ำ แม้จะมีผู้เชี่ยวชาญมาอธิบายให้ฟังว่าจริงๆ แล้วหมานั้นเป็นสัตว์ที่ทานทั้งเนื้อและผัก จะให้ทานแต่ผักอย่างเดียวไม่ได้ และเมื่อมันมีโอกาสเลือก มันก็จะเลือกเนื้อมากกว่า ทางรายการก็เลยทำการพิสูจน์ให้เห็นกันจะจะว่าสิ่งที่ Lucy กล่าวอ้างมานั้นเป็นความจริงหรือไม่!? เจ้าหน้าที่ในรายการได้นำถาดอาหารมาสองถาด ถาดหนึ่งเป็นเนื้อ และอีกถาดหนึ่งเป็นอาหารมังสวิรัติ พอเจ้า Storm เดินเข้าไปเลือก มันกลับเลือก ‘จานเนื้อ’ ซะงั้น!? แถมมีบางช่วงที่ลองหันไปดมจานผัก แต่ก็ไม่กินหันมากินจานเนื้อต่อซะด้วย แน่นอนว่าการกระทำของเจ้า Storm นั้นสร้างความอับอายให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก พร้อมกับพูดแก้เขินว่า ที่พูดอย่างมั่นใจไปก่อนหน้านี้เธอไม่ได้มั่นใจถึงขนาดนั้น…
-
เด็กหนุ่มสุดช็อก ถูกชวนให้ไปตัดผมฟรี สุดท้ายบิลมาเกือบ 200,000 บาท?! ไม่ปล้นตรูไปเลยล่ะ
ปกติเราตัดผมกันในราคาเท่าไหร่?? อย่าง #เหมียวตะปู ก็ตัดทั่วๆ ไปประมาณ 80-150 บาท พอหันไปถาม #เหมียวบู้บี้ นางก็บอกว่าตัดประมาณ 150-300 บาท แต่เด็กหนุ่มวัย 18 ปีคนนี้ถึงกับต้องช็อก เมื่อเขาได้เจอกับบิลค่าตัดผมที่สูงเกือบ 200,000 บาท?! เด็กหนุ่มกับทรงผมราคาเกือบ 200,000 บาท เด็กหนุ่มคนดังกล่าวมีชื่อว่า Xiao Wu เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2018 เขาได้ไปตัดผมที่ร้านในเมืองหางโจว ประเทศจีน ที่มอบข้อเสนอให้เขาว่าจะตัดผมพร้อมการดูแลผิวพรรณบนใบหน้าแบบ “ฟรีๆ” ไม่ต้องเสียเงินสักบาท จนกระทั่งพอตัดเสร็จ สิ่งที่เขาได้รับคือบิลค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า 40,000 หยวน (ราวๆ 191,000 บาท) เอ๊า ไหนบอกว่าจะตัดให้ฟรีไม่ใช่เหรอ?! เขาเช็กดูในบิลก็พบว่าแค่ค่ากันผมนิดๆ หน่อยๆ ก็สูงกว่า 8,800 หยวน (ราวๆ 42,000 บาท) ไปแล้ว ขนาดนี้ไม่ปล้นตรูไปเลยล่ะ…. กันผม 40,000…
-
อายุน้อยหมื่นล้าน…Forbes จัดอันดับ ‘มหาเศรษฐี’ ที่มีอายุน้อยที่สุดประจำปี 2018
บางครั้งคนเราก็สามารถกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ในระยะเวลาเพียงไม่นาน เพียงแค่ช่วงวัยรุ่นก็มีทรัพย์สินเป็นหมื่นๆ ล้านได้ ซึ่งทรัพย์สินเหล่านั้นบ้างก็รับช่วงต่อมาจากบุพการี บ้างก็สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือพวกเขาจะทำการบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ให้ประสบผลสำเร็จและสร้างกำไรต่อไปได้อย่างไร ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าติดตามไม่น้อยเลยล่ะ และนี่คือ 10 อันดับของเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลกจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes ประจำปี 2018 จะมีใครและพวกเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรกันบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 10. Eva Maria Braun-Luedicke ชาวเยอรมนีวัย 31 ปี ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ มีทรัพย์สินทั้งหมด 65,000 ล้านบาท 9. Lukas Walton ชาวอเมริกันวัย 31 ปี ผู้สืบทอด Wal Mart มีทรัพย์สินทั้งหมด 520,500 ล้านบาท 8. Bobby Murphy ชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งบริษัท Snapchat มีทรัพย์สินทั้งหมด 137,500 ล้านบาท 7. Patrick Collison…
-
เพื่อนสาวจะแต่งงาน ก็เลยจัดงานศพให้กับ ‘ความโสด’ ของเธอที่เพิ่งจากโลกใบนี้ไป
ในวันหนึ่งเมื่อเราแต่งงาน สิ่งที่จะหายไปจากชีวิตของเราก็คือ ‘ความโสด’ เช่นเดียวกับกลุ่มเพื่อนสาวกลุ่มนี้ที่มีเพื่อนคนหนึ่งกำลังจะแต่งงาน พวกเธอก็เลยลงทุน ‘จัดงานศพให้กับความโสด’ ของเพื่อน ที่กำลังจะลาจากเธอไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนมา Kristi Hamby สาววัย 27 ปี จากรัฐฟลอริดา และเพื่อนสาวของเธอได้ตัดสินใจจัดงานศพให้กับความโสดของเพื่อนสาว Lizzy Hart ที่กำลังจะแต่งงานในเร็ววันนี้ โดยมีการนัดแนะกันแต่งตัวและจัดงานปาร์ตี้ในธีม ‘งานศพ’ ทุกคนต้องแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีดำ พร้อมกับแต่งบ้านให้ดูหลอนน่ากลัว “ปกติแล้วฉันเป็นคนที่ชื่นชอบงานปาร์ตี้มากๆ และฉันก็คิดว่ามันน่าจะสนุกน่าดูถ้าเราจัดงานปาร์ตี้สละโสดให้กับเพื่อสนิทในธีมงานศพ” “สิ่งที่ยากที่สุดก็น่าจะเป็นการแต่งรถขนศพที่จะพาพวกเราทุกคนไปส่งยังสถานที่จัดงานปาร์ตี้ ฉันได้ส่งอีเมลหาร้านรับจัดงานศพเพื่อขอเช่ารถมาใช้ขน ‘คนเป็น’ แต่ก็ร้านส่วนใหญ่ก็ปฏิเสธ” “แต่จากความพยายามเราก็ได้รถมาใช้ในการขนส่งศพแบบสมใจ พร้อมทั้งแถมคนขับรถมาให้ด้วย!!” Kristi เล่า เมื่อ Lizzy เดินทางมาถึงบ้านก็ต้องตกใจเมื่อทุกคนต่างก็สวมชุดสีดำพร้อมกับถือลูกโป่งตัวหนังสือคำว่า RIP แถมยังมีรถขนศพมาจอดที่หน้าบ้าน แต่เธอก็ชอบกับสิ่งที่เพื่อนๆ ทำให้!! ซึ่งก่อนหน้านี้ Kristi เองก็ได้ทำการวางแผนมาเป็นอย่างดี มีทั้งการส่งอีเมลมาให้เป็นการบอกใบ้ว่าจะมีการจัดงานศพเกิดขึ้น เป็นการตัดภาพจากนิตยสารที่มีคำว่า ‘ความตายใกล้มาเยือนแล้ว’ แก๊งเพื่อนสาวคบกันมาตั้งแต่ชั้นประถม พวกเขาผ่านเรื่องราวด้วยกันมามากมาย จนถึงวันงานแต่งงานของ Lizzy ที่จะถูกจัดขึ้นในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ …
-
ชาวเน็ตถกปัญหาโลกแตก “ผู้ชายกับผู้หญิงไม่สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้จริงๆ เหรอ”
“ผู้ชายกับผู้หญิงไม่สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้จริงๆ เหรอ” เรามักได้ยินคำถามแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง บางทีมันก็อาจจะเป็นเรื่องที่เราเกิดความสงสัยกับคนอื่น หรือบางครั้งคำถามนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง เรื่องนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่สามารถถกเถียงกันได้แบบไม่จบไม่สิ้น การที่ชาย-หญิง มาคบกันในความสัมพันธ์แบบเพื่อนมันไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร แต่ทว่าสายตาที่คนอื่นมองมาอาจจะคิดว่า “เห้ย เมิงเป็นแฟนกันหรอ” “ใกล้กันขนาดนี้ไม่มีหวั่นไหวบ้างหรอวะ” หรือวนกลับมาคำถามเดิมที่ว่า “ผู้หญิงกับผู้ชาย จะสามารถเป็นเพื่อนกันได้จริงๆ หรอ” คำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง กลับมาเป็นประเด็นฮิตอีกครั้งหลังจากที่ผู้ใช้เว็บไซต์พันทิป สมาชิกหมายเลข 4753577 ได้มาตั้งกระทู้คำถามว่า “ผู้ชายกับผู้หญิงไม่สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้จริงๆ เหรอ” จนมีผู้เข้ามาตอบมากกว่า 100 คอมเมนต์ เรามาดูกันดีกว่าว่าชาวพันทิปเขาคิดกันอย่างไรถึงประเด็นนี้ เป็นได้ แต่ต้องห้ามใจตัวเองไว้ด้วย ความรักมันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ผู้หญิงกับผู้ชายสามารถเป็นเพื่อนกันได้ ถ้าหากว่าไม่ล้ำเส้น เกินคำว่าเพื่อน ตราบใดที่ไม่ล้ำเส้น เกินขอบเขตความเป็นเพื่อนก็สามารถอยู่ใน Friend Zone ต่อไปได้ยาวๆ เพื่อนก็คือเพื่อน ไม่สามารถจะคิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ได้จริงๆ รู้นิสัยกันหมดแล้วจะให้เอาเป็นแฟนนี่คิดหนักเลย ต่างคนต่างก็มีคนรักของตัวเอง ผู้หญิงที่เรียนในคณะที่มีผู้ชายส่วนมากก็มักมีเพื่อนเป็นผู้ชายกันทั้งนั้น ถ้าเป็นเพื่อนแล้วเปลี่ยนไปเป็นแฟนไม่ได้ เมื่อเป็นแฟนแล้วเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนก็ไม่ได้เช่นกัน แล้วแต่คน…
-
ภาพหายาก… พบ “ไข่มุก” 10 เม็ดเน้นๆ ภายในหอยเพียง ‘ตัวเดียว’ โอกาสเกิดหนึ่งในหมื่น!!
สิ่งของที่งดงามและล้ำค่าส่วนใหญ่มักไม่ได้มาไว้ในครอบครองกันง่ายๆ บางทีมันอาจจะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล หรือบางครั้งมันก็ต้องพึ่ง ปาฏิหาริย์ กันสุดๆ ไปเลย… อย่างเช่นครอบครัวของ James Brown ที่มีธุรกิจของครอบครัวเป็นฟาร์มเลี้ยงหอยมุกสายพันธุ์ Pinctada Maxima มายาวนานกว่า 60 ปี ฟาร์มของพวกเขาตั้งอยู่ที่อ่าวทางตอนเหนือของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ล่าสุด James Brown บังเอิญได้พบกับปรากฏการณ์ที่เรียกกันได้ว่า “ครั้งเดียวในชีวิต” เมื่อเขาพบว่าหอยมุกของเขาตัวหนึ่งมี ไข่มุก อยู่ภายในถึง 10 เม็ด! งดงามมาก James กล่าวว่าปรากฏการณ์แบบนี้นี้จะพบในหอยบางตัวที่มีลักษณะพิเศษเท่านั้น ซึ่งหอยลักษณะนี้จะพบได้เพียง 1 ใน 5,000 หรือ 1 ใน 10,000 ตัวเท่านั้น James กล่าวว่า “ตั้งแต่ผมเลี้ยงหอยมานับร้อยนับพันตัว ผมยังไม่เคยพบเห็นอะไรแบบนี้เลย เราจะจำไว้เสมอว่าปกติหอยมุกประเภทนี้จะเจอไข่มุกได้เพียงครั้งละหนึ่งเม็ดเท่านั้น แถมมันต้องเลี้ยงถึง 2 ปี และโอกาสสำเร็จก็มีเพียง 70 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย” แกะไข่มุกออกจากตัวหอยแล้วล่ะ แต่ทว่าชื่อเสียงเรียงนามของฟาร์มแห่งนี้ก็ใช่ย่อย ฟาร์มที่ชื่อว่า ซิกเน็ตเบย์เพิร์ลส แห่งนี้…
-
คุณพ่อข้ามเพศ ได้กำลังใจจากลูกสาว เปลี่ยนแปลงมาเป็นชาย เพราะลูกก็รู้สึกแบบนั้น…
ในยุคสมัยที่เปิดกว้างด้านเพศมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีที่ทำให้หลายคนได้ออกมาปลดปล่อยความรู้สึก ในเรื่องเพศที่แท้จริงของตนเอง แม้จะไม่ตรงกับเพศสภาพตั้งแต่กำเนิดก็ตาม… เรื่องราวของ Spencer Hanson วัย 36 ปี คุณพ่อข้ามเพศ ผู้เคยให้กำเนิดลูกมาแล้วถึง 2 ครั้ง กล่าวถึงแรงผลักดันครั้งสำคัญที่ทำให้เขารู้ตัวว่าเป็นผู้ชาย และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ก็มาจากลูกสาววัย 9 ขวบที่รู้ว่าตัวเอง ‘ไม่ใช่ผู้หญิง’ Spencer Hanson Spencer ถูกเลี้ยงดูและเติบโตมาด้วยวิถีชีวิตแบบเด็กหญิง และเขารู้ตัวมาโดยตลอดว่า 100% ภายในจิตใจไม่ใช่ผู้หญิง ท่ามกลางครอบครัวหัวเก่าที่ไม่เข้าใจถึงเรื่อง ‘ข้ามเพศ’ จนกระทั่งอายุครบ 20 ปี การให้กำเนิดลูกคนแรกของ Spencer เขาได้ให้กำเนิดบุตร 2 คนชื่อ Bug และ Cub ในช่วงที่เขายังเป็นผู้หญิง และปัจจุบัน เขาอยู่อาศัยกับภรรยา Jess Hanson วัย 42 ปี ที่มีลูกมาแล้วเช่นเดียวกัน 2 คนจากครอบครัวเก่า …
-
โจรใจบาป ถูกเจ้าของร้านฟาดด้วยไม้กวาด จนต้องหนีแม้มีปืน ‘จงไปโบสถ์แล้วละทางชั่วร้ายเสีย’
แทบจะกลายเป็นคดีเด็ดไปแล้วล่ะ เมื่อเกิดเหตุปล้นกับร้านค้าแห่งหนึ่งในประเทศเอกวาดอร์ แต่เจ้าของร้านกลับฮึดสู้แม้อาวุธป้องกันตัวจะเป็นเพียงแค่ ‘ไม้กวาด’ ก็ตาม!! ภาพจากกล้องวงจรปิดเปิดเผยขณะที่ชายรายหนึ่งพยายามจะปล้นร้ายขายผ้าแห่งหนึ่ง ในเมืองกัวยากิล ทางตอนใต้ของเอกวาดอร์ เจ้าโจรใจบาปรายนี้ พกอาวุธปืนติดตัวมาด้วย และชักปืนขู่ใส่หน้าเจ้าของร้าน แต่แทนที่เจ้าของร้านจะเกรงกลัว เธอกลับต่อสู้ขัดขืนอย่างสุดแรง คว้าไม้กวาดใกล้ตัวมาแหย่ใส่โจรอีกต่างหาก!! แต่แล้วกลับกลายเป็นว่า โจรไม่ยอมตอแยด้วย และพยายามหนีออกจากร้านไป เจ้าของร้านก็ยังไม่ยอมแพ้ ลุกไล่ตามโจรออกมาจากร้าน พร้อมกับคว้าไม้กวาดหวังจะฟาดให้ได้ . ภาพกล้องวงจรปิดนอกร้าน เผยให้เห็นว่าเธออยู่ในอาการโกรธจัด ฟาดไม้กวาดลงพื้นอย่างรุนแรง แถมพยานในวันเกิดเหตุให้การถึงประโยคที่ได้ยินเจ้าของร้านตะโกนไล่หลังโจรว่า “ไปโบสถ์ซะ จงละทางแห่งความชั่วร้ายเสียให้สิ้น” เอาซะเหมือนไล่ผีกันเลยทีเดียว… ตามรายงานท้องถิ่นกล่าวว่า โจรไม่ได้ถูกจับกุม และไม่ได้กลับมาที่ร้านอีก แต่ไม่รู้ว่าไปโบสถ์รึยัง ฮร่า ที่มา: sputniknews, newsfeeds, dailymail
-
อดีตกลุ่มวิศวกรโกดัก ผู้เป็นเบื้องหลังในการป้องกันไม่ให้เกิด ‘สงครามโลกครั้งที่ 3’
ในยุคสมัยของสงครามเย็น (ช่วงหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2) ทางการสหรัฐอเมริกาได้ขอความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากบริษัทโกดัก ในการสร้างกล้องดาวเทียมเพื่อนำมาใช้สอดแนมสหภาพโซเวียต… ดาวเทียมสอดแนม Gambit โดยที่ภารกิจดังกล่าวถูกดำเนินการอย่างลับๆ และไม่เคยถูกเปิดเผยผ่านหน้าสื่อใดๆ มาก่อน จนกระทั่งสำนักข่าว CNN ได้ทำการเจาะลึกถึงภารกิจสอดแนมที่มีเหล่าอดีตพนักงานบริษัทโกดักเป็นผู้ป้องกัน ไม่ให้สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นมาได้!! เหล่าวิศวกรที่ในปัจจุบันก็ยังคงนัดมาเลี้ยงอาหารกลางวันกันอยู่ พวกเขาได้รับภารกิจในการพัฒนาดาวเทียมสอดแนม KH-7 Gambit ที่ถูกนำมาใช้งานในเดือนกรกฎาคม ปี 1963 จนถึงเดือนมิถุนายน ปี 1967 โปรแกรมดังกล่าวได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของแผนกวิจัยและวิศวกรรมบริษัทโกดัก หนึ่งในความลับขั้นสุดยอดที่ถูกปกปิดมาอย่างยาวนาน และไม่เคยรู้มาก่อนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะนำกล้องตัวนี้ไปทำอะไร ครอบครัวและเพื่อนฝูงของพนักงานก็ไม่รู้เลยว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่ และสิ่งที่เหล่าวิศวกรได้สร้างขึ้นมา ก็คือดาวเทียมสอดแนมพร้อมกล้องคุณภาพสูงในยุคสมัยนั้น ทำให้ทางการสหรัฐฯ สามารถเก็บภาพถ่ายคุณภาพสูงได้เป็นครั้งแรก เพื่อสอดส่องการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ของสหภาพโซเวียต ภาพถ่ายที่ได้มาจากกล้องสอดแนม Gambit . . และกล้องตัวดังกล่าวที่ติดตั้งบนดาวเทียม สามารถเผยให้เห็นวัตถุที่มีขนาดเล็กกว่า 1 ฟุตได้อย่างชัดเจน จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้…
-
เผยปัญหามลพิษ ‘หมอกควัน’ ส่งผลกระทบต่อชาวจีน ทำให้มีสติปัญญาลดลง…
เป็นที่ทราบกันดีว่า เรื่องของปัญหามลพิษหมอกควันที่เกิดขึ้นในจีน มักจะวนเวียนกลับมาในทุกๆ ปี เปรียบได้เหมือนกับอีกหนึ่งฤดูที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้จะมีการออกมาตรการแก้ไขมาแล้วก็ตาม… นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว อีกหนึ่งผลกระทบที่ร้ายแรงพอๆ กันก็คือ ‘จะก่อให้เกิดสติปัญญาลดลง’ จากผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยเยลร่วมกับมหาวิทยาลัยปักกิ่ง จากผลสำรวจอาสาสมัครกว่า 25,000 รายที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ทำการทดสอบด้วยข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์และภาษาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ในปี 2010 และปี 2014 จากนั้นนักวิจัยจะนำผลลัพธ์ในการทำข้อสอบ มาเปรียบเทียบความเกี่ยวข้องกับระดับมลพิษในพื้นที่ที่อาสาสมัครอยู่อาศัย และแล้วก็พบว่า ระดับมลพิษทางอากาศส่งผลกระทบด้านลบอย่างรุนแรงต่อสติปัญญาของมนุษย์ อย่างเช่นในกลุ่มตัวอย่างจะสูญเสียความรู้ทางด้านการศึกษาเฉลี่ย 1 ปี ทางด้านหัวหน้าทีมวิจัย Xi Chen ศาสตราจารย์ด้านนโยบายสุขภาพและเศรษฐศาสตร์ ณ Yale School of Public Health กล่าวว่าผลกระทบเหล่านี้จะรุนแรงกว่าในผู้สูงอายุ เพราะความรู้ที่เคยได้รับการศึกษามาถดถอยหายไปหลายปี จากการสูดดมหมอกควันทุกวัน…. โดยส่วนมากผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้น เป็นกลุ่มชายสูงวัยที่ไม่ได้รับการศึกษาในระดับสูง และมักจะทำงานกลางแจ้งและสูดดมมลพิษหมอกควันเข้าไปในอัตราที่สูง ในส่วนของความแตกต่างด้านสมองระหว่างชายและหญิงอาจจะทำให้เกิดผลกระทบที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม จากผลสรุปของการศึกษาชิ้นนี้ อาจจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียว มีการคัดค้านผลสำรวจดังกล่าวว่าไม่ได้เก็บข้อมูลทางด้านสาเหตุและผลลัพธ์ที่เพียงพอ…
-
หนุ่มแคระ ถูกปฏิเสธเรียนทำอาหาร เพราะร่างเล็ก ‘เสี่ยงอันตราย’ แต่ลุงกอร์ดอนอ้าแขนรับ!!
Louis Makepeace คือเด็กหนุ่มวัย 18 ปี ผู้มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นเชฟ แต่เขากลับถูกทางสถาบันเรียนทำอาหารปฏิเสธไม่รับเขาเข้าเรียน ไม่ใช่เป็นเพราะเขาไม่มีความสามารถ แต่เป็นเพราะความสูง 116 เซนติเมตร กลายมาเป็นอุปสรรคที่ทางสถาบันอ้างว่าเสี่ยงต่อสุขภาพและความปลอดภัย โดยก่อนหน้านี้ เขาได้รับข้อเสนอเข้าเรียนที่วิทยาลัย Heart of Worcestershire College แต่แล้วทางผู้บริหารกลับปฏิเสธรับเขาเข้ามาเรียน ตัวเล็กเกินไม่เหมาะสมกับห้องครัวทำอาหาร และอาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับเพื่อนร่วมคลาสอีก 14 คน และทางด้าน Louis เองก็เชื่อว่า การตัดสินใจของทางวิทยาลัยนั้นน่าจะมาจากลักษณะความแคระของตัวเขา ซึ่งทำให้รู้สึกอับอายมากๆ “มันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดมากๆ ทั้งที่ผมตั้งใจจะไปเรียน เราควรจะให้ความเท่าเทียมทางด้านโอกาส แต่แล้วผมก็ถูกห้ามไม่ให้ทำในสิ่งที่ผมรัก พวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อมเพื่อเปลี่ยนแปลงให้กับผมเลย อย่างเช่นจัดพื้นที่ที่ต่ำลงให้ผมเอื้อมถึงหม้อไฟฟ้าได้” Louis ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Disgusting attitude, I’d offer him an Apprenticeship any day. https://t.co/xYdfWJ7CLK — Gordon Ramsay (@GordonRamsay)…
-
ช่างภาพสายปั่น ‘จัดฉากหย่าร้าง’ ให้คู่รักปลดปล่อยความรู้สึก เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง!!
โอกาสพิเศษที่จะให้ช่างภาพได้มาร่วมเป็นสักขีพยานแห่งความรัก แน่นอนว่ามีทั้งช่วงพรีเวดดิ้งและในวันแต่งงาน แต่หลังจากนั้นแล้วล่ะ? และในเมื่อตอนนี้อัตราหย่าร้างเพิ่มขึ้นมากมายกว่าแต่ก่อน และช่วงเวลาในการหย่านี่แหละ ก็จะมีช่วงถ่ายภาพเพิ่มขึ้นมาเหมือนกัน Tom Byrd Tom Byrd คือหนึ่งในช่างภาพที่เพิ่มสายงานให้กับตัวเอง เขารับงานถ่ายภาพ ‘วันหย่า’ เมื่อคู่รักตกลงปลงใจเลิกกันอย่างเป็นทางการ หนึ่งในช่วงเวลาที่ตัดขาดออกจากกันเป็นอีกหนึ่งช่วงของชีวิตเช่นเดียวกัน ถอดแหวนออก แล้วกระทืบซ้ำ!! “สำหรับหลายคู่แล้ว วันที่พวกเขาได้หย่ากันอย่างถูกต้อง ก็คือความสุขวันใหม่ในชีวิตของพวกเขาเลย รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่… จากการที่ต้องทนทะเลาะเบาะแว้งและทนคำโกหกมานานหลายปี และตัวผมเองในระหว่างที่ถ่ายภาพหย่า ก็มักจะขยี้และเสี้ยมเรื่องส่วนตัวจะได้ถึงอารมณ์มากขึ้น” Byrd ให้สัมภาษณ์ นอกจากจะถ่ายในสตูดิโอแล้ว Byrd ก็พาบางคู่กลับไปถ่ายในสถานที่ที่พวกเขาเคยทะเลาะกันเป็นครั้งแรก ช่วยปลุกเร้าพลังได้ดียิ่งนัก แบบว่าฟีลจะมาแบบทันทีทันใด ได้ภาพที่ออกมาเป็นธรรมชาติสุดๆ!! แต่ก็ยังมีกรณีที่หนักหนาสาหัสยิ่งกว่าเดิม เมื่อบางคู่เอาแฟนใหม่มาอวดถึงที่ในระหว่างถ่ายภาพ เป็นการเซอร์ไพรส์แฟนเก่าได้อย่างเจ็บแสบกันเลยทีเดียว หย่าเสร็จแล้วก็ได้เวลาเปิดตัวคนใหม่ อะไรจะโหดร้ายขนาดนั้น แหม๊!? ปล. คลิปเอาฮานะจ๊ะ ไม่มีช่างภาพสายนี้จริงๆ หรอก…
-
ประเด็น “ดราม่ารับน้อง” ในฮ่องกง สั่ง นศ. หญิงยัดลูกโป่งที่หน้าอก เหมาะสมหรือไม่??
ประเด็นของ การรับน้องใหม่ กำลังมาแรง ณ ขณะนี้ กิจกรรมที่รุ่นพี่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นการสร้างเสริมความสัมพันธ์และความสามัคคีของรุ่นน้อง หลายครั้งมันได้กลายเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลจนกลายเป็น ดราม่า ขณะที่ประเทศไทยเรายังคงถกเถียงกันถึงเรื่องประเพณีการรับน้องที่ไม่เหมาะไม่ควร ต่างประเทศเองเขาก็มีดราม่าการรับน้องไม่แพ้บ้านเราเหมือนกัน ล่าสุด ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในฮ่องกง รุ่นพี่ในคณะการบัญชีได้จัด กิจกรรมรับน้อง ขึ้นในวันที่ 22 เดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา โดยเหล่านักศึกษาใหม่ต้องเข้าร่วมเล่นเกมบางอย่างที่หากแพ้ต้องมาการถูกลงโทษ จากนั้นนักศึกษาหญิง 2 รายผู้ที่แพ้เกมในกิจกรรมรับน้อง ก็ถูกขอให้นำลูกโป่ง 2 ลูกยัดเข้าไปในเสื้อแล้วหันจุกของลูกโป่งออกมาทางด้านหน้า ถือเป็นการลงโทษที่รุ่นพี่เชื่อว่าเป็นความบันเทิงและสนุกสนาน แต่เมื่อภาพของนักศึกษาหญิงหลุดออกมาสู่โลกอินเทอร์เน็ตก็กลายเป็นประเด็นดราม่าค่อนข้างใหญ่โต นักศึกษาหญิงหลายคนให้ข้อมูลว่าเกมนี้น้องและพี่ต้องเล่นร่วมกัน และบทลงโทษของเกมก็จะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รุ่นพี่บางคนที่แพ้เกมอาจถูกทำโทษถึงชนิดที่ว่า “เปลือยกาย” กันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม นักศึกษาหญิงที่ร่วมกิจกรรมนี้เผยว่าในตอนแรกก็ลังเลที่จะรับการทำโทษแต่คิดว่าไม่เป็นไร เพิ่งมารู้สึกอึดอัดใจภายหลังจากที่ถูกลงโทษไปแล้ว ทั้งนี้ ทางผู้ใหญ่ที่มีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าว ออกมาให้การว่ากิจกรรมลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เหล่านักศึกษานั้นคิดกันขึ้นมาและแอบจัดกิจกรรมลักษณะนี้กันเองในช่วงรับน้องใหม่ แล้วเพื่อนๆ คิดว่าการละเล่นแบบนี้เป็นความสนุกหรือว่าเป็นความรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลกันล่ะ? ที่มา: discuss และ ck101
-
อารมณ์มันได้!! หนุ่มสุดซวยเจอแฟนสาว ‘ดูดหู’ หวังเล้าโลม สุดท้าย ‘แก้วหูทะลุ’ วิ่งหาหมอวุ่น…
เรียกได้ว่าเป็นปกติของธรรมชาติมนุษย์จริงๆ ที่ก่อนที่ ‘สบั๊มกั๊ม’ กัน ก็จะต้องมีการโหมโรงด้วยการเล้าโลมต่างๆ ก่อน ซึ่งของอย่างนี้ก็มีหลายวิธีทั้งกอดจูบลูบคลำต่างๆ แต่ว่าถ้าหากรุนแรงเกินไปล่ะก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ เหมือนกับในกรณีนี้ที่ถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลกันเลย!! เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ คู่รักชายหญิงคู่หนึ่งได้รีบวิ่งเข้าไปที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน เนื่องมาจากความที่ฝ่ายชายเกิดรู้สึกปวดบริเวณหูอย่างรุนแรง วิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ด้วยความเขินอายในตอนนั้น จึงทำให้ทั้งคู่ไม่ยอมบอกความจริงกับหมอว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ ทว่าในที่สุดจากการซักถามไปเรื่อยๆ หมอก็ได้รู้ความจริงว่าอาการปวดหูที่เกิดขึ้นนี้ มันมีขึ้นจากความที่ฝ่ายหญิงจูบหูของฝ่ายชายอย่างรุนแรง ในเวลาต่อมาทางแพทย์ได้พบว่าการจูบหรือดูดอย่างดูดดื่มที่เกิดขึ้นนี้ มันได้สร้างความเสียหายแก่ ‘แก้วหู’ ของฝ่ายชายจนถึงขั้นฉีกขาด แต่ก็ไม่ได้มีรายงานว่าการรักษาชายคนนี้เป็นอย่างไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วอาการแก้วหูทะลุนี้จะสามารถหายได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทางแพทย์ได้แนะนำว่าให้ช่วงนี้ฝ่ายหญิงงดการโหมโรงหนักๆ กับหูของผู้ชายก่อน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำเหมือนกับคราวนี้ และทางที่ดีอย่าจูบอย่างดูดดื่มแถวๆ หูจะเป็นการดีที่สุด ทั้งนี้แก้วหูหรือเยื่อแก้วหู เป็นเพียงแค่เนื้อเยื่อแผ่นบางๆ ที่กั้นอยู่ระหว่างหูชั้นนอกและหูชั้นกลางเพียงเท่านั้นมันจึงบอบบางมาก ที่มา: nextshark, shanghaiist, view.inews
-
ครอบครัวแกล้งหลอกให้น้องชายเชื่อว่าตัวเอง ‘ล่องหน’ น้องเชื่อสุดใจ แถมถอดกางเกงโชว์!?
หลายๆ คนคงจะเคยจินตนาการกันเล่นๆ เมื่อตอนเป็นเด็ก ถึงพลังวิเศษ ที่เราสามารถ ‘ล่องหน’ โดยที่ไม่มีใครเห็นได้ แล้วจะเป็นอย่างไรเมื่อเด็กชายคนหนึ่งได้ลอง ‘ล่องหน’ ได้ โดยที่ไม่มีใครเห็นตัวของเขา ในระยะเวลาสั้นๆ เรื่องมีอยู่ว่าครอบครัวได้ทำการถ่ายคลิปวิดีโอเล่นมายากลหลอกให้เด็กชายคนหนึ่งเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองถูกเสกให้ล่องหน คลิปดังกล่าวถูกถ่ายเกิดขึ้นในเมือง Garden City รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา พี่สาวของเด็กชายเล่าถึงการถ่ายทำคลิปว่า “สามีของฉัน และเพื่อนๆ เห็นคลิปวิดีโอจาก Netflix ที่มีนักมายากลเสกให้คนล่องหนหายไปได้ และหลอกให้คนที่หายไปเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ” “หนึ่งในเพื่อนของเราก็เลยคิดว่าน่าจะลองทำกับน้องชายคนเล็กสุดของเราดู เพราะเขาน่าจะเชื่อมากที่สุด” “เราตั้งใจวางแผนกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในห้องใต้ดิน ขณะที่น้องชายคนเล็กเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อหาอะไรกิน จากนั้นก็เริ่มถ่ายรูปก่อนเพื่อหลอกให้เขาเชื่อ” “เมื่อสามีของฉันเอาผ้าคลุมตัวของเขา เขาก็จะหายไปทุกคนจะต้องแสดงท่าทีตกใจ ก่อนจะไปหลอกให้เขาเชื่ออีกครั้งด้วยภาพที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้” “นอกจากนี้ก็ลองให้เขาถืออะไรสักอย่าง ทุกคนก็จะต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ แบบว่ามันลอยอยู่กลางอากาศได้อย่างไร แต่ที่จริงแล้วคือทุกคนก็เห็นเขาถือมันอยู่นั่นแหละ” “หลังจากที่ให้สามีของฉันพาเขากลับมาด้วยการคลุมผ้าและเสกมนตร์อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะโชว์คลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ เพื่อให้ดูว่าจริงๆ แล้วเราเห็นเขาตั้งแต่เริ่ม และเขาโดนพวกเราต้มซะเปื่อย” คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้าชมโดยรวมแล้วกว่า 700,000 ครั้งเลยทีเดียว!! ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า..…
-
‘มิสเตอร์คูปอง’ หนุ่มจีนผู้ใช้โปรโมชันและบัตรสมาชิก จนประหยัดเงินไปได้กว่า 80%!!
ใครเล่าจะคิดว่าการสะสมคูปองและกิฟต์วอยเชอร์ต่างๆ จะช่วยประหยัดเงินได้มากถึงเพียงนี้!? นี่คือเรื่องราวของหนุ่มชาวจีนที่มีชื่อว่า ลู่ หรือที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งว่า Mr. Coupon เขาเป็นผู้เก็บสะสมกิฟต์วอยเชอร์และบัตรสมาชิกมากกว่า 1,000 ใบ ไม่ได้มีเพียงแค่การเก็บสะสมเท่านั้น เขายังวางแผนเก็บข้อมูลการใช้สิทธิพิเศษต่างๆ เป็นอย่างดี และจากการทำแบบนี้ช่วยให้ครอบครัวของเขาสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ถึง 80% เลยทีเดียว!! “ทุกครั้งที่มีโปรโมชั่นอะไรใหม่ๆ ออกมา เขาจะตามไปเก็บเพื่อนำไปใช้จนเกือบหมด และแม้ว่าจะมีบัตรสมาชิกมากมายหลายใบแต่ก็สามารถควบคุมการใช้งานได้เป็นอย่างดี เขาเป็นคนที่สุดยอดมากๆ เลยล่ะ” “ถ้าคุณอยากจะซื้อสินค้าล็อตใหญ่ๆ ในราคาพิเศษนะ ต้องมาปรึกษาเขานี่แหละ เพราะผมคิดว่าเขาน่ะคือมือโปรในด้านนี้เลย” เพื่อนของลู่เล่า ทางด้านนายลู่เองก็เล่าถึงการเริ่มสะสมและใช้คูปองจนนำไปสู่การสร้างผลดีต่อชีวิตของตนและครอบครัวว่า “ในแต่ละปีพวกเราจะได้รับบัตรสมาชิกและคูปองต่างๆ มาเยอะมาก ผมก็เลยตัดสินใจที่จะวางแผน และนำพวกมันมาใช้อย่างจริงจังดู และผลที่ได้ก็พบว่าเราสามารถประหยัดเงินไปได้เยอะมากเลยล่ะ” “มีครั้งหนึ่งที่ภรรยาผมเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลลูก ก็เลยพาลูกไปฝากกับอาม่าและอากง ก่อนจะพาภรรยาไปพักผ่อนดูหนังกัน ผมก็ใช้บัตรเครดิตให้ได้ส่วนลด แล้วก็หาโปรตั๋วหนัง ทำให้เดตของผมและภรรยาประหยัดเงินลงไปอีก” . . สำหรับใครที่คิดว่าโปรโมชั่นหรือบัตรสมาชิกต่างๆ ไม่ค่อยเห็นผลล่ะก็ ลองคิดใหม่ดูก็ยังไม่สายนะ เพราะหากลองมาวางแผนการใช้งานดีๆ มันอาจจะช่วยประหยัดได้เยอะเลยทีเดียว เฉกเช่นเดียวกันกับมิสเตอร์คูปองท่านนี้!! …
-
มิติใหม่แห่งการกิน ‘ราเมงเบียร์’ สดชื่นตื่นเต็มตา เส้นนุ่มๆ กับน้ำซุปใสๆ ปลอดแอลฯ 100%
ในวันที่โดนเจ้านายบ่นแถมยังมีอากาศร้อนแสนจะอบอ้าว จะมีอะไรที่ทำให้รู้สึกยิ่งกว่า ‘เบียร์’ ได้อีก แต่มันจะดีแค่ไหนถ้าเราได้กินอาหารที่แสนอร่อยแถมมีประโยชน์ แต่มีรูปลักษณ์เหมือนกับเบียร์อย่าง ‘ราเมงเบียร์’ แก้วนี้ หลายคนอาจจะงงว่ามันมีอยู่จริงหรือเจ้าเมนูที่ว่านี้ ต้องบอกว่ามันเป็นเมนูเด็ดของร้าน Yuu Japanese Tapas ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ที่นำเส้นราเมงนุ่มๆ มาอแดปใส่ในแก้วเบียร์ แทนที่จะเป็นถ้วยชามเหมือนกับร้านธรรมดาๆ ทั่วไป ดูความน่ากินของมันซะก่อน ซึ่งหากมองในแวบแรกใครหลายคนคงจะคิดว่า มันก็เป็นแค่เบียร์ที่ใส่เส้นราเมงลงไปเท่านั้น แต่ต้องบอกเลยว่าคุณคิดผิด!! เพราะนี่ไม่ใช่เบียร์จริงๆ แต่เป็นราเมงเย็นที่นำไข่กับผงเจลาตินมาทำเป็นฟองเบียร์ต่างหาก และที่เห็นสีเหลืองๆ อย่างนั้นก็คือน้ำซุปเย็นยังไงล่ะ ซึ่งแน่นอนว่าปลอดแอลกอฮอล์ 100% https://instagram.com/p/BmRRiMnnnns/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control ทางด้าน Julia Kubotani เจ้าของร้านก็เล่าให้ฟังว่า ได้ไอเดียนี้มาจากวันหนึ่งในเมือง Vancouver ที่มีอากาศร้อนจัด ร้อนจนทนไม่ไหวอยากจะดื่มอะไรเย็นๆ ให้มันชื่นใจสักนิด https://www.instagram.com/p/BmJ51jwAZgy/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control “ต้องขอขอบคุณอากาศที่โคตรจะร้อนในปีนี้ ในวันนั้นฉันนั่งอยู่บนโซฟาแล้วรู้สึกร้อนมากๆ เลยคิดว่าจะกินเบียร์ดับร้อนสักแก้ว แล้วจู่ๆ ฉันก็คิดว่าทำไมเราไม่ทำเบียร์ราเมงขึ้นมาล่ะ” https://instagram.com/p/BnF2fUnlGf2/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control ถ้าหากใครมีโอกาสได้ผ่านไปแถวนั้นก็อยากจะแนะนำให้ลองจริงๆ ว่ามันจะให้ประสบการณ์ที่แปลกประหลาดขนาดไหน ซึ่งค่าตัวของเจ้าราเมงเบียร์นี้ก็จะอยู่ที่ $14.95…
-
ไฟไหม้บ้านแต่คุณป้าไม่ยอมหนีออกมา เพราะคิดว่าสามียังอยู่ข้างใน สุดท้ายถูกไฟคลอกเสียชีวิต
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์อันน่าสลด และพิสูจน์ให้เห็นถึงคำว่า “รักแท้” เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน แต่หญิงวัย 55 ปีไม่ยอมหนีออกมา เพราะคิดว่าสามีของเธอยังติดอยู่ด้านใน เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่บ้านในเมือง Saline ประเทศสกอตแลนด์ ที่พักอาศัยของ Gail Lamb และ Derek สองสามีภรรยา ในช่วงคืนวันที่ 24 สิงหาคม 2018 ระหว่างนั้นทั้งสองคนกำลังนอนหลับกันอยู่ แต่แล้ว Gail ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาก่อนจะพบว่าไฟกำลังไหม้บ้านของเธออย่างหนัก จึงรีบปลุกสามีให้รีบลุกขึ้นมาหาทางหนีออกจากบ้าน ทว่าทางออกของพวกเขาถูกไฟปิดทางเอาไว้หมดแล้ว ทั้งสองคนจึงแยกกันไปตะโกนขอความช่วยเหลือ Gail พยายามร้องเรียกเพื่อนบ้านอยู่บริเวณด้านหน้า ส่วน Derek อยู่บริเวณด้านหลังบ้าน Sid เพื่อนบ้านของทั้งสอง เขารีบนำบันไดพาดไปรับ Gail ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่เมื่อไปถึงพยายามดึงมือของเธอให้หนีลงมากับเขา Gail กับเลือกที่จะปฏิเสธการช่วยเหลือ แล้วถามกลับมาว่า “Derek อยู่ไหน?” เธอไม่ยอมหนีออกมาเพราะคิดว่าสามียังคงติดอยู่ด้านใน ในขณะที่ Sid ก็พยายามจะรีบช่วยเธอออกมาให้เร็วที่สุด แล้วเธอก็สะบัดมือหนีเป็นครั้งที่สอง…
-
พบกับ “หุ่นไล่กาเลเซอร์” ไล่นกได้ 99 เปอร์เซ็นต์ นวัตกรรมยุคใหม่ ชาวไร่ยิ้มแป้น!!
สำหรับชาวนาชาวไร่แล้ว ศัตรูตัวสำคัญที่คอยกวนใจอยู่เสมอก็คือ “เหล่านก” ที่คอยมาขโมยกินผลิตผลของพวกเขานั่นเอง ชาวนาชาวไร่จึงเลือกที่จะสร้าง “หุ่นไล่กา” ขึ้นมาเพื่อขับไล่เจ้าพวกนก แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล บางครั้งหุ่นไล่กาก็กลายเป็นที่พักอาศัยของนกไปเสียอย่างนั้น วันนี้ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าเดิม หุ่นไล่กาเองก็ถึงคราวต้องเปลี่ยนแปลง เรามาดูกันดีกว่าว่า หุ่นไล่กาในยุค 4.0 มันเป็นอย่างไร พบกับ Agrilaser Autonomics หุ่นไลกาแสงเลเซอร์ ในไร่บลูเบอร์รี่ รัฐออริกอน ไร่บลูเบอร์รี่แห่งหนึ่งในรัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา ถูกเหล่านกขโมยผลผลิตไปมากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ต่อมาในช่วงฤดูออกผล พวกเขาจึงติดตั้ง Agrilaser หรือ หุ่นไล่กาเลเซอร์ จำนวน 6 ตัวลงในไร่ Agrilaser เป็นเครื่องยิงแสงเลเซอร์ที่สามารถนำมาวางติดตั้งในบริเวณไร่หรือฟาร์มได้ โดยมันจะยิงแสงเลเซอร์สีเขียวออกมา ทะลุพุ่มไม้และต้นไม้ในไร่ ทำให้เหล่านกคิดว่าแสงนี้คือนักล่าแล้วมันก็จะหนีไป ทางบริษัทผู้ผลิตเจ้า Agrilaser กล่าวว่ามันสามารถไล่นกได้ในไร่และในฟาร์มได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ทางไร่บลูเบอร์รี่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เพิ่มมากขึ้นถึง 262,500 กิโลกรัม หรือเป็นเงินประมาณ 3.3 ล้านบาทเลยทีเดียว พวกเขาต้องใช้เวลาถึง 4 ปีในการพัฒนาหุ่นไล่กาเลเซอร์ตัวนี้ มีการปรับเปลี่ยนทดลองมาแล้วหลายอย่าง เช่น…
-
หนุ่มใช้ “จู๋ปลอม” จ่ายค่าตั๋วรถเมล์…. อ้าวเฮ้ย ใช้จ่ายได้จริงๆ ด้วยแฮะ?! ป้าขายตั๋วเขินเลยทีนี้
ในหลายๆ ประเทศ พวกเขาสามารถใช้บัตรเครดิตสแกนจ่ายค่าตั๋วรถไฟ หรือรถบัสได้ วิธีการง่ายๆ เพียงแค่ทาบบัตรลงไปกับเครื่อง แค่นั้นมันก็จะตัดเงินในบัตรของเราไปเอง Sergey Korshunskiy คือคนคนหนึ่งที่ต้องการใช้วิธีนั้นสำหรับซื้อตั๋วรถเมล์ของเขาและเพื่อนๆ อีก 2 คนในประเทศรัสเซีย เพียงแต่ว่าสิ่งที่เขานำมาทาบกับเครื่องจ่ายเงิน มันเป็นอะไรที่เราคงคาดไม่ถึงกัน ขนาดที่ใช้ รูปร่างที่คุ้นเคย มันคืออะไรหว่าาา อย่างที่เพื่อนๆ เห็นว่าเขาใช้ “จู๋ปลอม” ในการจ่ายค่าตั๋วในครั้งนี้ ซึ่งตอนแรกที่เขาทาบไปเครื่องมันก็ไม่อ่าน พนักงานจึงบอกให้เขาลองดูอีกครั้ง (โดยที่เธอพยายามไม่หันมามองเจ้าสิ่งนั้น) พอลองดูอีกที อ้าวคราวนี้ได้เฉย?! เครื่องตัดเงินใน “จู๋ปลอม” ของเขาแล้วก็พิมพ์ตั๋วออกมาให้ไปเลือกที่นั่งบนรถได้อย่างสบายใจ คลิปการจ่ายตั๋วรถเมล์ ด้วย “จู๋ปลอม” (ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2018) Sergey อธิบายว่าที่เครื่องมันตัดเงินไปได้ เพราะเขาถอดเอา “ชิพ” ที่ฝั่งอยู่ในบัตรเครดิต เอาเข้าไปฝังอยู่ใน “จู๋ปลอม” นี้แทน โดยมีวงเงินอยู่ที่ 11.50 ปอนด์ (ราวๆ 500 บาท) ไว้ใช้จ่ายอะไรเล็กๆ น้อยๆ …
-
ลูกแรดแรกเกิดนอนข้างๆ ศพ ‘แม่’ ที่ถูกพรานเถื่อนฆ่าขโมย ‘นอ’ เฝ้าหวังแม่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง…
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์น่าเศร้าที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นซะจริงๆ เมื่อมีแรดแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่งต้องตายลงจากฝีมือของพรานเถื่อน ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นก็มีลูกน้อยของมันเดินอยู่เคียงข้าง และที่น่าเศร้ายิ่งกว่าก็คือลูกแรดตัวนั้นนอนเฝ้าศพของแม่มันไม่ยอมจะไปไหน… เรื่องที่ว่านี้เกิดขึ้นในต้นปีที่ผ่านมาที่อุทยาน Kruger National Park ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานได้ไปพบศพของแม่แรดตัวหนึ่งที่มีลูกแรกเกิดได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ข้างๆ จากการตรวจสอบพบว่าแม่แรดตัวนี้เสียชีวิตลงจากฝีมือของพรานเถื่อน ที่ปลิดชีวิตมันลงเพื่อจะขโมย ‘นอ’ ไป และเหตุผลเดียวที่แรดตัวน้อยนี้รอดชีวิตก็เพราะด้วยวัยแรกเกิดของมันยังไม่มีนอให้ตัดออกไปนั่นเอง แรดแรกเกิดตัวน้อยนี้มีชื่อว่า Arthur มันพยายามจะปกป้องแม่ที่ถูกโจมตีในขณะนั้น จนทำให้ตัวของมันได้รับบาดเจ็บ ถูกมีดฟันเหวอะหวะพร้อมกับมีลูกดอกจากปืนของนายพรานปักเข้าที่บริเวณกลางหลัง แต่มันก็พยายามจะปกป้องแม่ของมันอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในสภาพตอนที่เจ้าหน้าที่ไปพบ มันนอนอยู่เคียงข้างแม่ไม่ยอมไปไหน ทั้งๆ ที่มันจะหลบหนีพรานเถื่อนเข้าป่าหรือไปที่ไหนก็ได้ ทั้งหมดก็เพราะความหวังว่าแม่ของมันจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวของ Arthur ไปรักษาตัวที่ศูนย์ดูแลแรดกำพร้า (Care for Wild Rhino Orphanage) เป็นการด่วน และอาการบาดเจ็บของมันก็ได้รับการรักษาในเวลาหลายสัปดาห์ และที่นี่เองเจ้าหน้าที่ได้ตั้งชื่อให้มันว่า ‘Arthur’ จากเรื่องราวความกล้าหาญของมันในการพยายามปกป้องแม่ผู้จากไป เจ้า Arthur ค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ และค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังส่งเสียงร้องเรียกหาแม่ของมันอยู่เสมอ ซึ่งทางผู้ดูแลบอกว่ามันเป็นเสียงที่ทำให้ใจแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เลยก็ว่าได้ เรื่องราวของเจ้าแรดน้อยตัวนี้ได้ทำให้มันถูกส่งตัวไปที่สวนสัตว์ South…
-
คุณยายป่วยโรคมะเร็ง วางแผนจัดงานศพของตัวเองในธีม Harry Potter ในช่วงสุดท้ายของชีวิต
Harry Potter นิยายและภาพยนตร์จากนักเขียนชื่อดัง JK Rowling ได้ร่ายเวทมนตร์ครองใจแฟนคลับจากทั่วโลก ไม่ว่าจะชายหญิงเด็กหรือสูงวัย เมื่อได้ลองเปิดใจให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ต่างก็ต้องเป็นอันต้องหลงใหลไปกับความมหัศจรรย์ของมันอย่างแน่นอน เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของคุณยาย Veronica Leaning อายุ 78 ปี เธอเลือกที่จะใช้เวลา 1 เดือนสุดท้ายก่อนจะจากโลกใบนี้ไปกับสิ่งที่เธอรักและชื่นชอบมากที่สุด นั่นก็คือ Harry Potter คุณยายได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปอดและมะเร็งกระดูก มะเร็งได้ลุกลามไปจนคุณยายอาจมีชีวิตได้ไม่เกิน 1 เดือน เธอจึงเลือกที่จะใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายอย่างสงบกับสิ่งที่เธอรักในบ้านพักพร้อมกับครอบครัว คุณยายเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter เธอสะสมทั้งนิยายและดีวีดีพร้อมลายเซ็น รวมไปถึงของที่ระลึกที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เป็นจำนวนมาก และสิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยนั่นก็คือผ้าพันคอและไม้กวาด คุณยายติดตามนิยายแฟนตาซีจาก JK Rowling มาเป็นเวลานานหลายปี เธอและสามีผู้ล่วงลับของเธอก็ชื่นชอบเช่นเดียวกัน แถมยังเคยถูกเชิญไปร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์มีโอกาสได้พบเจอกับนักเขียนและเหล่านักแสดงอีกด้วย คุณยายแย้มว่า ตัวละครที่เธอชอบที่สุดในเรื่องคือศาสตราจารย์สเนปกับดอบบี้ วาระสุดท้ายในชีวิตของคุณยาย เธอได้ออกแบบงานศพของเธอในธีม Harry Potter ที่เธอรักมาก สั่งให้ทำโลงเป็นสีประจำแต่ละบ้านของฮอกวอตส์พร้อมติดสติกเกอร์สัญลักษณ์ประจำบ้าน และขอให้ผู้ที่จะมาร่วมงานแต่งเครื่องแบบนักเรียนฮอกวอตส์มาด้วย ซึ่งได้เขียนจดหมายขออนุญาตทาง Warner Bros. เรียบร้อย…
-
รู้สึกอิจฉา เห็นว่าร้านอาหารขายดี เลยโยน “ถุงอุจจาระ” ใส่หน้าร้านเกือบทุกวัน นานเป็นเดือน
จะเป็นอย่างไรหากว่าร้านอาหารของคุณขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีลูกค้าเข้ามากินอย่างไม่ขาดสาย แล้วจู่ๆ ก็มี “ถุงอุจจาระ” ปริศนา ลอยตกลงมาที่หน้าร้านอยู่แทบทุกวันนานเป็นเดือน?! เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นกับร้านอาหารแห่งหนึ่งในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน เป็นร้านที่ร่วมกันเปิดโดย 2 พี่น้อง ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างสุดของตึกที่อยู่อาศัยสูง 19 ชั้น ร้านของพวกเขาเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้คนแวะเวียนเข้ามาใช้บริการอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนั่นก็คงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ประกอบการ แต่มันอาจไปสร้างความอิจฉาให้กับคนอื่นๆ ได้เหมือนกัน ถุงอุจจาระปริศนา อยู่มาวันหนึ่ง จู่ๆ หน้าร้านของเขาก็เต็มไปด้วยเศษซากอุจจาระจำนวนมาก ที่ดูแล้วน่าจะมีคนจงใจโยนลงมาจากด้านบน ความเหม็นเกินคำบรรยายนี้กระทบต่อกิจการของ 2 พี่น้อง แถมบางครั้งมันยังไม่ได้ลอยตกลงมาที่พื้น แต่ดันไปตกลงบนหลังคารถที่จอดอยู่ซะแทน เมื่อพวกเขาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่อาจที่จะตามหาผู้ร้ายซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในผู้อยู่อาศัยของอาคารแห่งนี้ได้ ชายแซ่ Yin หนึ่งในเจ้าของกิจการ เขาจึงตัดสินใจหาทางจับผู้ร้ายด้วยตัวเอง เจองี้แทบทุกวัน นานเป็นเดือน บอกเลยว่าเละเทะ Yin ตื่นแต่เช้าเพื่อไปแอบดูว่าแท้จริงแล้วใครเป็นคนโยนถุงอุจจาระลงมา แล้วในวันที่ 24 สิงหาคม 2018 เขาก็สามารถจับมือปาขี้คนนี้ได้สำเร็จ ในตอนนั้นเขาเห็นว่ามีชายคนหนึ่งอยู่บนดาดฟ้าพร้อมถุงไม่พึงประสงค์ Yin จึงรีบวิ่งขึ้นไปล็อกตัวชายคนดังกล่าวเอาไว้ได้สำเร็จ ก่อนที่จะเรียกน้องชายและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วย …
-
“โอรีโอ” เปิดตัว 2 รสชาติใหม่ “รสปีกไก่แซ่บ” และ “รสวาซาบิ”!! เตรียมบิด ชิมครีม จุ่มนม กันเลยย
โอรีโอ เป็นชื่อขนมที่ใครหลายๆ คนจะต้องเคยกินมาก่อน กับสโลแกนติดหูที่ว่า “บิด ชิมครีม จุ่มนม” และล่าสุด พวกเขาก็ได้ออก 2 รสชาติมั้ยที่แปลกไปจากที่เราเคยเห็นมา เมื่อครีมนมได้ถูกเปลี่ยนไปซะแทบไม่เหลือความหวาน ซึ่งมันก็คือโอรีโอรส “ปีกไก่แซ่บ” กับรส “วาซาบิ” นั่นเอง!! โอรีโอรสปีกไก่แซ่บ โอรีโอรสวาซาบิ โอรีโอรสชาติใหม่นี้เริ่มโฆษณาออกมาตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2018 โดยพวกเขาบอกว่ารสชาติของมันจะมีความ “เค็มๆ และจัดจ้าน” เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ “ทำลายต่อมรับรส” (เว่อจริงๆ) “ตัดความคิดที่ว่าโอรีโอต้องหวานเพียงอย่างเดียวไปได้เลย” ทางผู้ผลิตกล่าวไว้ โฆษณาโอรีโอ 2 รสชาติใหม่ . ทางด้าน Mondelēz International (บริษัทผู้ผลิตโอรีโอในปัจจุบัน) บอกว่าสินค้าตัวใหม่นี้เป็นเหมือนกับนวัตกรรมความแปลกใหม่สำหรับรสชาติขนมที่มีมาอย่างยาวนาน ล่าสุด ร้าน Tmall ในประเทศจีนก็ได้เริ่มวางขายโอรีโอ 2 รสชาติใหม่ในราคา 21.9 หยวน (หรือประมาณ 105…
-
ถึงกับช็อก สาวไปผ่าตัดเสริมหน้าอก พอฟื้นจากยาสลบพบว่าตัวเองกำลังโดนหมอข่มขืน!?
บางครั้งเราอาจจะคิดกันเล่นๆ ว่าเวลาเข้ารับการรักษาและต้อง ‘ดมยาสลบ’ เพื่อทำการผ่าตัด จะถูกทำอะไรไปบ้างก็ไม่อาจทราบได้ แต่สำหรับเหตุการณ์นี้เมื่อ Erika Bykova นักออกแบบสาวชาวรัสเซียวัย 35 ปี ได้ไปทำการผ่าตัดเสริมหน้าอก แต่พอฟื้นจากยาสลบมาก็พบว่าตัวเองกำลัง ‘ถูกหมอข่มขืน’ อยู่!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ที่คลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่งในเมือง Samara ประเทศรัสเซีย โดยมีผู้ก่อเหตุคือดอกเตอร์ Yury Chernikov วิสัญญีแพทย์ หรือหมอที่ทำหน้าที่ในการให้ยาสลบวัย 59 ปี จากคำให้การของคุณหมอเล่าว่าเขาได้มีเพศสัมพันธ์กับเธอไม่กี่นาทีหลังจากผ่าตัดเสร็จ พร้อมกับอ้างว่าฝ่าย Erika นั้นสมยอม บอกว่าขณะมีอะไรกันคนไข้ยังร้องครางและบอกกับเขาอีกว่า ‘รู้สึกดีมาก’ แถมยังอ้าขาให้กับเขาอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามทางด้าน Erika ที่เป็นคุณแม่ลูกหนึ่งก็ออกมาโต้ ว่าคำให้การของหมอนั้นไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย “ฉันร้องครางก็จริง แต่ที่ครางก็เพราะว่าฉันไม่สามารถตะโกนหรือกรีดร้องเสียงดังได้ เพราะเพิ่งฟื้นจากยาสลบและยังไม่มีสติเต็มร้อย” “นี่เป็นครั้งแรกในการผ่าตัดของฉันที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่ก่อนหน้าที่จะทำการผ่าตัดฉันได้มีโอกาสพบกับเขาเพื่อพูดคุยกันถึงรายละเอียดในการเข้ารับการผ่าตัด แต่ไม่นึกว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้” “เขาข่มขืนฉัน ฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำเลยว่าตัวเองกำลังโดนอะไรอยู่ ดวงตาของฉันหนักอึ้ง และยังลืมตาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” “ฉันพยายามที่จะถีบเขาออกจากตัวด้วยขาของฉัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้” Erika…
-
เมื่อลุงทรัมป์ร่วมวาดภาพระบายสีกับเด็กๆ แต่ดัน ‘ระบายสีธงชาติผิด’ ซะงั้น ชาวเน็ตแซวเละ!!
การเป็นผู้นำของประเทศนั้นถือเป็นบุคคลที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะถูกจับตามองอยู่เสมอ… เช่นเดียวกันกับ Donald Trump ผู้นำหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลก ที่ล่าสุดก็ถูกชาวเน็ตจับผิดหลังไปเยี่ยมเด็กๆ ที่โรงพยาบาลเด็ก Nationwide Children Hospital ประจำรัฐโอไฮโอ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 61 ที่ผ่านมา ร่วมกันกับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง Melania Trump และ Alex Azar เลขานุการของกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชน ท่านประธานาธิบดีได้เข้าร่วมชั้นเรียนกับเด็กๆ พร้อมกับโชว์ฝีไม้ลายมือในการ ‘วาดภาพระบายสี’ ซะด้วย!! ภาพบรรยากาศดูน่ารักน่าชังไม่น้อยเลยทีเดียว แต่พอมาถึงภาพภาพหนึ่งชาวเน็ตหลายคนถึงกับต้องสะดุด เพราะพบว่าท่านประธานาธิบดีนั้น ‘ระบายสีธงชาติอเมริกาผิด!!’ แทนที่จะระบายสีแดงลงไป แต่กลับใส่สีน้ำเงินลงไปซะงั้น!? ชาวเน็ตก็แซวซะเละเทะเลยสิครับงานนี้ “ท่านประธานาธิบดีระบายสีธงชาติผิดน่ะ แค่นี้แหละ” “ท่านประธานาธิบดีระบายสีน้ำเงินลงไป แทนที่จะเป็นสีแดง แสดงว่ากำลังจะวาดภาพธงชาติรัสเซียเรอะ!?” “ท่านประธานาธิบดีระบายสีธงชาติผิด เด็กข้างๆ ถึงกับมองด้วยหางตา” . “นี่หัวเราะดังมาก เพราะ Trump กำลังอยู่ที่รัฐที่ฉันอาศัยอยู่ และนี่คือภาพของเขากำลังระบายสีธงชาติร่วมกับเด็กๆ…
-
คุณพ่อถึงกับหลั่งน้ำตา เมื่อลูกชายซื้อรถที่ตนใฝ่ฝันอยากได้มาตลอด มอบให้เป็นของขวัญ!!
การทดแทนบุญคุณพ่อแม่ถือเป็นเรื่องที่ลูกๆ หลายคนให้ความสำคัญ…เช่นเดียวกันกับลูกชายคนนี้ที่ ‘ซื้อรถในฝัน’ มอบเป็นของขวัญให้กับคุณพ่อของตัวเอง เรื่องมีอยู่ว่าคุณพ่อ Bob Madsen วัย 62 ปี ใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากจะเป็นเจ้าของรถรุ่นคลาสสิกอย่าง Chevrolet Chevelle และในที่สุดความฝันของคุณพ่อก็กลายเป็นความจริงเมื่อลูกชาย Jason Madsen วัย 33 ปี ได้ทำการซื้อรถคันดังกล่าวมาเซอร์ไพรส์ทำเอาคุณพ่อถึงกับน้ำตาซึม Josh พี่ชายของ Jason เล่าว่า “พ่อใฝ่ฝันอยากจะได้รถ Chevelle มาโดยตลอด และ Jason เองก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี และเขาเองก็ต้องการที่จะตอบแทนพระคุณของพ่อให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้” “พ่อมักจะทำงานหนักอยู่เสมอ เพื่อให้พวกเรามีการศึกษาและชีวิตที่ดี และเมื่อเราได้อยู่ในสถานะที่สามารถหาเงินเลี้ยงตัวเอง และมีเงินเหลือแล้วก็เลยเริ่มที่จะมองหารถคันนั้นเพื่อตอบแทนคุณพ่อ” ทุกคนในครอบครัวต่างก็ร่วมมือกันวางแผนเซอร์ไพรส์คุณพ่อ “เราต้องการที่จะทำให้คุณพ่อตกใจ โดยบอกว่าจะชวนกันไปตกปลาเพื่อเป็นการฉลองวันเกิดของเขา แต่พอกลับมาถึงที่บ้านก็ต้องตกใจเพราะมีรถ Chevrolet Chevelle มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านพร้อมกับผูกโบว์เป็นของขวัญ” “ทั้งพ่อและ Jason ต่างก็ประทับใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฝ่ายหนึ่งก็ดีใจที่ความฝันของตัวเองกลายเป็นความจริง รวมไปถึงความกตัญญูของลูก ฝ่าย Jason เองก็ดีใจที่ได้ตอบแทนบุญคุณของคุณพ่อ” Josh…
-
มาเหนือ!! นักบินสาวทำ Kiki Challenge ยกไปอีกระดับ ไม่ทำกับรถ แต่ไปทำกับเครื่องบิน!!
ยังคงได้รับความนิยมกันอย่างต่อเนื่องกับกระแส Kiki Challenge เป็นกิจกรรมของเหล่าวัยรุ่นที่จะเปิดเพลง In my feelings ของ Drake ไปด้วยแล้วก็ลงมาจากรถพร้อมกับเต้นไปด้วย ล่าสุดมันถูกทำให้เหนือไปกว่านั้นโดยนักบินสาว เพราะแทนที่จะเปิดเพลงบนรถ แล้วลงมาเต้น แต่กลับเป็น ‘เครื่องบิน’ แทน!! Alejandra Manriquez นักบินสาว ที่ทำ Kiki Challenge โดยใช้เครื่องบินแทนรถ จนคลิปวิดีโอของเธอได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทวิตเตอร์ ลองไปชมคลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… #kiki dance in pilots way 💃😅 pic.twitter.com/62zKlz58fx — Aviationdaily✈️الطيران يوميآ (@Aviationdailyy) August 28, 2018 หลายคนอาจจะคิดว่ามันอันตราย และอาจจะผิดกฎของสนามบินหรือเปล่า? แต่จากรายงานของเว็บไซต์ Dailymail ได้ระบุว่าจริงๆ แล้ว เธอทำ Challenge นี้ ขณะที่กำลังทำการขนย้ายเครื่องบินนั่นเอง โดยที่เครื่องบินไม่ได้ขับเคลื่อนไปขณะที่ยังติดเครื่อง แต่มีรถขับลากไปนั่นเอง…
-
เตือนภัย! สาวจีนใช้มือถือ “ถ่ายวิดีโอ” ขณะขับรถ ผลสุดท้ายราว ‘เสียบ’ ทะลุคันรถ…
(คำเตือน: บทความอาจมีภาพหรือเนื้อหารุนแรง ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม) การขับรถนั้นจำเป็นจะต้องมีสมาธิและสติอยู่กับการควบคุมรถอย่างมาก เพราะหลายครั้งอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นจากการที่ผู้คนไม่ยอมใส่ใจและประมาทในการขับรถนั่นเอง หลายคนมั่นใจในตัวเองว่า เพียงแค่เล่นสมาร์ตโฟนนิดๆ หน่อยๆ ไม่น่าจะเกิดเหตุอะไรเพราะถึงจะเล่นมือถือแต่ก็มองทางไปด้วย แต่เชื่อว่าหลายคนจะมีความระมัดระวังมากขึ้นเมื่อได้ชมเหตุการณ์ตัวอย่างที่จะนำเสนอดังต่อไปนี้ หญิงรายหนึ่งในประเทศจีนได้ฝ่าฝืนคำเตือนยอดฮิตที่ว่า “ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ” เธอใช้มือถือถ่ายวิดีโอไปพร้อมกับการขับรถ ในวิดีโอเธอถ่ายบรรยากาศภายในรถที่มีน้องหมานอนอยู่ด้วยพร้อมเพลงประกอบ ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่หลังจากนั้นไม่นาน รถของเธอก็พุ่งไปชนเข้ากับราวกั้นถนน (ราวเหล็กลูกฟูก) อย่างจัง จนราวกั้นนั้น “เสียบ” เขามาในรถจนทะลุท้ายรถเลยทีเดียว คลิปวิดีโอดังกล่าว ขณะที่เธอยังไม่รู้ตัวว่าอีกไม่กี่วินาทีก็จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น รถของเธอพุ่งเข้าไปเสยเข้ากับราวกั้นข้างถนน คาดว่าน่าจะด้วยความเร็วพอประมาณโดยไม่ทันได้เหยียบเบรก จึงทำให้ราวเหล็กเสียบทะลุกระจกหน้ารถเข้ามายังภายในตัวรถและเสียบทะลุกระจกหลังออกไปด้วย สภาพของหญิงสาวดังกล่าวหลังเกิดอุบัติเหตุนั้นเต็มไปด้วยเลือดบริเวณใบหน้า และดูราวกับว่าเธอไม่สามารถขยับร่างกายออกจากรถได้ สภาพหลังเกิดอุบัติเหตุ ดูท่าว่าเธอจะยังสามารถใช้โทรศัพท์ได้ปกติ ทั้งนี้ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันในวิดีโอกันพอสมควร เช่น “เธอปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว สงสัยมีคลิปเยอะ” และ “เจ้าหมาเป็นไงบ้างงง?” เป็นต้น หวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นอุทาหรณ์เตือนผู้ที่ชอบใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถได้เป็นอย่างดี เพราะบางทีเราไม่รู้หรอกว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นตอนไหน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราควรมีสติในการขับรถอยู่ตลอดเวลาไงล่ะ ที่มา: facebook1, facebook2 via ck101
-
หนุ่มปวดท้องโรคกะเพาะ ได้ยินว่า ‘กลืนปลาไหลตัวเป็นๆ’ แล้วจะหาย เล่นซะเข้าโรงพยาบาล…
บางครั้งการรักษาตามแบบฉบับพื้นบ้านหรือความเชื่อที่เล่าต่อๆ กันมา ก็อาจจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับสุขภาพของเราได้ อย่างเช่นในกรณีนี้ที่มีชายคนหนึ่งกลืนปลาไหลเข้าไปเป็นๆ เพราะมีคนบอกว่าสามารถรักษาอาการปวดท้องได้!! ถึงกับต้องผ่าตัด โดยเรื่องมีอยู่ว่าเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีชายคนหนึ่งเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลในเมืองเหอเฝย มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ชายคนที่เข้ามานี้มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง แต่ว่าในตอนแรกเขาก็ยังไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้ปวดท้องเช่นนี้ แต่เมื่อทางทีมแพทย์ได้ใช้เครื่องสแกนตัวเขาก็พบความจริงที่ทำให้แทบจะอ้าปากค้าง เพราะมี ‘ปลาไหล’ ตัวเขื่องอยู่ในนั้น… ชนิดของปลาไหลที่เขากินลงไป ในที่สุดแล้วเรื่องทั้งหมดก็ได้กระจ่างออกมาว่า จริงๆ แล้วชายคนนี้มีอาการปวดท้องจากโรคกระเพาะที่เขาเคยเป็นมาก่อน และไปได้ยินวิธีรักษาพื้นบ้านเข้าว่า ‘ถ้ากลืนปลาไหลตัวเป็นๆ เข้าไปจะสามารถรักษาอาการปวดท้องได้’ ซึ่งก็ปรากฏว่าเขาเชื่อและกลืนมันเข้าไปจริงๆ หลังจากกลืนปลาไหลตัวเป็นๆ เข้าไปแล้ว หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที ท้องของเขามันก็มีอาการปวดทรมานอย่างหนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังกัดฟันอดทนอีกกว่า 20 ชั่วโมง จนในที่สุดแล้วก็ทนไม่ไหวให้ลูกชายพามาโรงพยาบาลในที่สุด กลืนเข้าไปยังไงเนี้ย หลังจากได้รู้เรื่องราวดังกล่าว ทางทีมแพทย์ก็ตัดสินใจผ่าตัดอย่างฉุกเฉิน และก็สามารถนำปลาไหลตัวยาวกว่า 30 เซนติเมตรออกมาจากช่องท้องของชายคนนี้ได้สำเร็จ ซึ่งแม้ว่าเจ้าปลาตัวนี้จะทำความเสียหายต่ออวัยวะภายในไปบ้าง แต่อย่างไรแล้วเขาก็อยู่ในอาการที่คงที่… นี่อาจเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์แสดงให้เห็นว่า บางความเชื่อที่ดูผิดแปลกจนถึงขั้นพิสดารอย่างนี้ อาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายเราได้ ทางที่ดีถ้าหากเจ็บป่วยอะไรให้เข้าพบแพทย์น่าจะเป็นการดีที่สุด หนักกว่าเก่าอีก ไอ้ชายเอ๊ยย…
-
ปลดปล่อยความสร้างสรรค์ ไปกับงานศิลปะบนเรือนร่างในเทศกาล Daegu Body Painting
ศิลปะคือศาสตร์ชนิดหนึ่งที่ผู้สร้างตั้งใจสร้างสรรค์ชิ้นงานออกมาเพื่อสื่อข้อความ อารมณ์ ทัศนคติของผู้สร้าง โดยงานศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะวาด จะเขียน แกะสลักหรือปั้นประติมากรรมก็ถือว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบของศิลปะทั้งสิ้น วันนี้เราจึงพาเพื่อนๆ มาชมกับหนึ่งในรูปแบบของศิลปะ นั่นคือศิลปะบนเรือนร่างหรือบอดี้เพนต์ งานศิลปะที่จะทำการละเลงสีลงบนร่างกายของมนุษย์ให้ออกมาตามจินตนาการของศิลปิน ในช่วงวันที่ 25-26 สิงหาคมที่ผ่านมาใน Kolon Field Concert Hall ที่มหานครแทกู ประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการจัดงานเทศกาลศิลปะอย่าง Daegu International Bodypainting Festival เทศกาลบอดี้เพนต์ขนาดใหญ่ที่มีธีมเกี่ยวกับความแฟนตาซี แน่นอนว่างานใหญ่ระดับนี้ ย่อมมีศิลปินชื่อดังจากทั่วโลกเข้ามาร่วมงานเพื่อโชว์ผลงานและเข้าแข่งชิงรางวัลกันอย่างมากมาย รวมถึงผู้ร่วมงานยังสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงดนตรี การเต้น โชว์มายากล และการแสดงอื่นๆ อีกมากมาย https://www.instagram.com/p/Bm__ulTg7u8/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control แต่ละวันในงานนั้นจะมีผู้เข้าชมเป็นพันๆ คน ซึ่งก็จะมีกิจกรรมอย่างการแต่งหน้าหรือเพนต์เล็บให้เข้าร่วมกันฟรีๆ อีกด้วย ว่ามาขนาดนี้ เราจะไม่ชมภาพบรรยากาศในงานหน่อยคงไม่ได้แล้ว จะน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหนกันนะ ถ้าพร้อมแล้วไปรับชมด้วยกันเลยครับ https://instagram.com/p/Bm_FgBYFQMH/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control . https://www.instagram.com/p/Bm_Eq-ZBR2E/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control . https://www.instagram.com/p/Bm_DX0jl4Ih/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control . https://www.instagram.com/p/Bm_BMsflC_-/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control . https://www.instagram.com/p/Bm_Bz_ylsTO/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control .…
-
สาวๆ ร่วมแชร์ ‘ประสบการณ์ยอดแย่’ จากเดตแรก คุณผู้ชายขา… ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ
กว่าคนเราจะตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ ก็ต้องใช้กาลเวลาเป็นตัวพิสูจน์ แต่ก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้นความประทับใจแรกเจอกับเดตครั้งแรกนี่แหละ ที่จะเป็นตัวตัดสินว่าจะได้ไปต่อรึเปล่า? จากคำถามง่ายๆ ของชาวทวิตเตอร์ ถามสาวๆ ว่า “สุภาพสตรีทั้งหลาย ช่วยเล่าถึงเดตยอดแย่ของพวกเธอหน่อยสิ” โอ้ยยย ทีนี้แหละ มาแบบแซ่บๆ กันรัวๆ “หมอนี่ใช้เวลาทั้งมื้อดินเนอร์เพื่อเล่าถึงบรรดาแฟนเก่า พวกเขาเลิกกันได้ยังไง และต้องย้ายจากบ้านน้องนางแล้วกลับไปอยู่บ้านตัวเอง แล้วก็มาถามฉันว่าอพาร์ทเมนต์ที่ฉันอยู่ใหญ่แค่ไหน?” “เขาพาฉันไปกินมื้อเที่ยงแล้วบอกว่าสั่งได้ไม่เกิน 10 ดอลลาร์จากเมนู แล้วแทนที่จะขึ้นรถกลับ ดันเลือกให้เดินกลับเองซะงั้น แทบจะไม่เชื่อว่ามันเกิดขึ้น ฉันหยุดคุยตั้งแต่ตอนนั้นเลย แถมตอนเดินกลับ มันยังเดินนำหน้าไปหลายก้าวไม่มองย้อนมาดูฉันด้วย” “พาไปกินดินเนอร์ในร้านที่ไม่ได้จอง แน่นอนว่าไม่ได้โต๊ะ เปลี่ยนร้านปุ๊บก็ดื่มจัดและหนักมาก ตอนขากลับก็ขอแวะก่อนสองสถานีที่ฉันจะลง เพื่อไปดูเขายืนฉี่บนรางรถไฟ…” “ทีเด็ดเดตแรก พาไปถึงบ้านแล้วก็ทำมื้อดินเนอร์ นั่งร่วมรับประทานกับพ่อและแม่ของเขา… (เดตแรกพาไปหาพ่อแม่เลยเนี่ยนะ)” “พาไปกินกาแฟ เขาบอกกับฉันว่าแต่งงานแล้วนะ แต่ภรรยาของเขา ‘หยวนๆ’ ให้ได้แหละ มันก็จะไม่มีเดตเป็นครั้งที่สองอีก” …
-
‘วานิลลา’ ขุมทรัพย์แห่งมาดากัสการ์ ผู้ส่งออกของแท้ ที่เหลือเพียง 1% บนโลก…
หากพูดถึงรสชาติอันหอมหวานของวานิลลา ถือว่าเป็นรสชาติขั้นพื้นฐานของบรรดาขนมหวานต่างๆ ทั่วโลกที่จะมาควบคู่กับช็อกโกแลต แท้จริงแล้ววานิลลาที่กำลังรับประทานกันอยู่นั้น ไม่ใช่ของแท้อย่างที่เราเข้าใจกัน… วานิลลาคือเถาไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก ถูกนำมาปลูกในประเทศมาดากัสการ์ในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยเจ้าอาณานิคมอย่างฝรั่งเศส จนกระทั่งในช่วงปี 1960 วานิลาก็กลายเป็นพืชยอดฮิตของชาวมาดากัสการ์ ด้วยภูมิประเทศที่มีความชื้นสูง อุณหภูมิพอเหมาะ และกลายมาเป็นผู้ส่งออกวานิลลารายใหญ่ที่สุดของโลก เคียงคู่กับประเทศอินโดนีเซีย ปัญหาของการปลูกวานิลลาเริ่มส่อปัญหาภายในมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้รับความนิยมสูง มูลค่าของวานิลลาก็ยิ่งมีมูลค่าแพง สามารถนำไปตากแห้งและขายได้สูงถึง 515 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 16,900 บาทต่อ 1 กิโลกรัม ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เกิดหมู่โจรปล้นและขโมยฝักวานิลลาจากสวนของชาวบ้าน และเจ้าของเองก็ต้องคอยลาดตระเวนดูฝักวานิลลาตลอดทั้งวันทั้งคืน ต้องพกปืนติดตัวเพื่อป้องกันทั้งตัวเองและผลผลิต รอคอยวันเก็บเกี่ยวที่จะมีเพียงแค่ครั้งเดียวต่อปีเท่านั้น การสลักชื่อลงบนฝักวานิลลา นอกเหนือจากการลาดตระเวน ตรวจตราผลผลิตแล้ว อีกหนึ่งวิธีป้องกันก็คือการสลักชื่อและการใส่เลขซีเรียลเอาไว้ เก็บเป็นร่องรอยเอาไว้แสดงว่าใครเป็นเจ้าของ แม้จะนำไปตากแห้งแล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความหวาดผวาเกรงว่าจะถูกขโมยผลผลิตวานิลลาอันอวบอิ่มไป ชาวสวนจึงเร่งทำการเก็บเกี่ยวทั้งที่ยังไม่โตเต็มที่ เมื่อนำไปขายก็จะได้วานิลลาที่ผ่านมาตรฐานน้อยลง ส่วนที่เหลือคือวานิลลาคุณภาพต่ำ ไม่สามารถนำไปใช้แต่งกลิ่นได้…
-
ภรรยางอแงและเครียดหนัก ขังตัวเองขู่จะฆ่าตัวตาย เหตุสามี ‘ไม่ยอมซื้อชาไข่มุกให้’
สำหรับชาไข่มุกอันเลื่องชื่อลือนาม เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมทั้งในประเทศไทยเราเองและต่างประเทศเอเชียแถบใกล้เคียง เรียกได้ว่าเสพติดกันยิ่งกว่าอะไร ด้วยรสชาติหอมหวานและมุกเคี้ยวหนึบหนับ แหงล่ะ ก็มันอร่อยขนาดนี้ ใครๆ ก็ติดใจ แต่เรื่องของเรื่องก็คือ อาการเสพติดขั้นรุนแรงจากเครื่องดื่มชนิดนี้ เริ่มมีให้เห็นตัวอย่างออกมาแล้ว ที่ผ่านมาอาจจะเป็นแค่กรณีเด็กๆ ไม่ได้กินก็หงุดหงิดนิดนึง อะไรประมาณนี้… ในวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานจากสื่อไต้หวัน LTN ว่าเกิดเหตุหญิงสาววัย 23 ปี ณ เมืองไทจง ขังตัวเองอยู่ภายในห้องน้ำ และพยายามขู่จะฆ่าตัวตาย เนื่องจากสามีของเธอไม่ยอมซื้อ ‘ชาไข่มุก’ ให้ จากคำให้การของฝั่งสามี เล่าว่าก่อนหน้านั้นออกไปเที่ยวลู่กัง เมืองทางชายฝั่งตะวันตกของไต้หวันแบบไปเช้าเย็นกลับ ในขณะนั้นภรรยาก็เอาแต่พูดถึงชาไข่มุกว่าอยากกินใจจะขาด แต่ฝั่งสามีก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ขับรถตรงกลับบ้านหลังจบทริปไม่มีแวะจอดซื้อชาไข่มุกให้เลย ด้วยความล้มเหลวในการตามหาชาไข่มุก เธอเริ่มมีอาการร้องไห้หนักมาก และพูดจาไร้สาระไร้เหตุผลจนถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย จนหนีไปขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำตะโกนโหวกเหวกเป็นพักๆ ว่า ‘ทำไมไม่ซื้อชาไข่มุกให้ช้านนนน’ เสียงกรีดร้องของเธอดังมากจนไปถึงหูชาวบ้านในละแวกเดียวกัน จนต้องโทรเรียกตำรวจมาช่วยเกลี้ยกล่อมสงบสติอารมณ์อยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดแล้ว เมื่อภรรยาปรับอารมณ์เย็นลงได้ ทั้งสองก็เดินจับมือจูงกันไปซื้อชาไข่มุกแบบสวยๆ จบแฮปปี้เอนดิ้ง (นี่แค่ชาไข่มุกเองนะ)…
-
Mia Aflalo นางแบบตัวน้อยดาวรุ่งพุ่งแรง ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นเด็ก 5 ขวบที่ผมสวยที่สุด
นางแบบหรือนายแบบ เป็นอาชีพที่ใช้รูปร่าง หน้าตาและสไตล์ในการนำเสนอผลงานทางด้านแฟชั่นและศิลปะให้สาธารณชนได้รับรู้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาชีพนี้เราจะเห็นแต่คนที่มีร่างกายและรูปร่างที่ผอมเฟิร์ม แต่ก็ไม่จำเป็นว่านางแบบต้องมีหุ่นที่สูงยาวเข่าดีตลอด เพราะเด็กสาวตัวน้อยคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็สามารถกลายเป็นนางแบบดาวรุ่งได้เพราะเธอมีผมที่ยาวและงดงามเหนือใคร พบกับ Mia Aflalo สาวน้อยผมสวยวัย 5 ขวบที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้ ด้วยยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมที่มากกว่า 50,000 คนแล้วในปัจจุบัน Mia เป็นเด็กสาวจากเมือง Tel Aviv เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศอิสราเอลและบวกกับจุดเด่นที่ความยาวและความสวยงามของผม ทำให้มีคนมองเห็นแววในตัวเธอและจับเธอมาเป็นนางแบบ ด้วยสไตล์ ทรงผม ตาสีเขียวสดใสสวยงาม รวมถึงนิสัยที่ร่าเริงของเธอ ทำให้เธอได้รับขนานนามว่าเป็นนางแบบดาวรุ่งพุ่งแรง จนขนาดที่นิตยสารแฟชั่นอย่าง Vogue ยังนำรูปของเธอขึ้นบนเว็บไซต์ของพวกเขาเลยทีเดียว และถึงเธอจะเป็นเด็ก หลายคนอาจจะคิดว่าการร่วมการกับน้องหนูคนนี้คงจะลำบากเหมือนจับปูใส่กระด้ง แต่ตามที่ Sagi Dahari สไตล์ลิสต์ชื่อดังที่เคยร่วมงานกับเธอได้กล่าวว่า Mia เป็นเด็กที่สามารถทำงานด้วยง่าย เธอจะไม่บ่น ไม่ติไม่เถียงใดๆ สิ่งที่เธอจะทำก็มีเพียงรอคอยที่จะได้แจกรอยยิ้มสุดสดใสให้แก่ทุกๆ คน หลังจากที่ร่วมงานกับเธอ Dahari ก็รู้สึกปลื้มเธอขนาดหนักถึงขั้นที่เรียกเธอว่า “เจ้าหญิง Mia” เลยล่ะ แน่นอนว่าการเป็นนางแบบของหนูน้อยคนนี้ แฟนคลับต่างชื่อชอบแล้วเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมกันรัวๆ อย่างเช่น…
-
โมเมนต์น่ารัก Wiz Khalifa คุณพ่อแรปเปอร์ กับภารกิจปลุกลูกไปเรียนอนุบาลวันแรก…
ชีวิตของบุคคลผู้มีชื่อเสียงนั้น แทบจะไม่แตกต่างไปจากคนทั่วไปเลยในแง่เรื่องการสอนลูกหลาน ใช้ชีวิตตามปกติปุถุชนทั่วไป และเมื่อถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตครั้งแรกของลูก ก็ทำให้เกิดอาการหวาดวิตกได้เช่นกัน อย่างเช่นชีวิตของคุณพ่อแรปเปอร์ Wiz Khalifa กับลูกชาย Sebastian Bash Taylor แม้พ่อจะยุ่งๆ กับชีวิตในวงการ แต่ก็อดห่วงลูกชายไม่ได้ https://www.instagram.com/p/BW9cX0xHEd6/ หลังจากที่หมดช่วงเวลาฤดูร้อนแล้ว และเป็นช่วงเวลาที่ Sebastian วัย 5 ขวบ จะต้องไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก สิ่งที่ยากที่สุดก็คือการปลุกเจ้าขี้เซาออกมาจากเตียงนี่แหละ “ได้เวลาตื่นแล้วไอ้รูปหล่อ วันนี้เป็นวันแรกที่จะต้องไปโรงเรียนแล้วนะ” กว่าจะปลุกออกมาได้ แต่งเนื้อแต่งตัว พูดคุยเตรียมใจกันสักหน่อย ‘กลิ่นท่าจะพร้อมแล้วนะ’ (นี่ลูกนะพี่ไม่ใช่กัญชา) แต่ดูหน้าลูกพี่แกสิ เซ็งหน่อยๆ ฮร่าาาา และแล้วรถโรงเรียนก็มาถึง Wiz เองยังรู้สึกมั่นใจและกังวลในเวลาเดียวกัน เพราะการไปโรงเรียนครั้งแรกของลูก คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็มักจะรู้สึกแบบเดียวกัน ไม่รู้ว่าลูกจะต้องเจอกับอะไรบ้าง จะปรับตัวได้รึเปล่า? ต่อให้เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงก็ตามที “ผมรู้สึกทั้งกังวลและมั่นใจในคราวเดียวกัน ผมรู้ว่าผมสอนลูกให้พร้อมกับการไปโรงเรียนแล้ว และเขาก็รู้สึกพร้อมมากๆ ที่จะรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป รักนะเจ้า Bash”…
-
พ่อสุดเกรียนยัด ‘ดิลโด้ยักษ์’ ขนาด 12 นิ้ว ไว้ในกระเป๋าลูกตอนกำลังขึ้นเครื่อง ฮาสิครับงานนี้!!
บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นการแกล้งกันน่ารักๆ ระหว่างคุณพ่อสุดเกรียนกับคุณลูกสุดแสบ และคราวนี้อีกก็เช่นเดียวกันแต่ไม่ใช่มาแบบเล่นๆ เพราะเป็นการแกล้งที่ทำเอาลูกชายคนนี้อายจนแทบจะทรุดแผ่นดินหนี ฮากันจนลั่นไปทั้งโลกอินเทอร์เน็ตเลยทีเดียว!! เรื่องมีอยู่ว่าคุณพ่อนาม Ted Andressen ชาวเมืองนิวออร์ลีนส์ ในรัฐหลุยเซียนา ได้วางแผนเอา ‘ดิลโด้’ แท่งหรรษาขนาดยักษ์กว่า 12 นิ้วไปแอบยัดไว้ในกระเป๋าสะพายของลูกชาย ซึ่งทั้งคู่กำลังจะขึ้นเครื่องบินกัน และกำลังจะผ่านด่านตรวจกระเป๋า แค่คิดก็ฮาแล้วใช่ไหมล่ะงั้นลองดูวิดีโอกันก่อนดีกว่า… ในวิดีโอจะเห็นว่าตอนแรกลูกชายของ Ted ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร เดินเข้าด่านตรวจกระเป๋าอย่างไร้เดียงสาปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และทางเจ้าหน้าที่ก็เริ่มเปิดกระเป๋าออกดูว่าเขาได้พกอะไรใส่ในเป้ใบน้อยนี้ไว้บ้าง ลัลลา ลัลล้า ทันใดนั้นเองหลังจากเธอดึงหมอนรองคอกับถุงพลาสติกห่อของเหลวออกไป ก็พบเข้ากับดุ้นยักษ์ขนาด 12 นิ้วอันนี้เข้าให้ ซึ่งในวินาทีนั้นลูกชายคนนี้ก็ตกตะลึงปกเขินอายจนหน้าแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกัน Ted ผู้เป็นพ่อก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสะใจกับแผนการแสนเกรียนนี้ เฮ้ย อะไรฟะเนี่ย “ดูคุณแล้ว คุณน่าจะไม่รู้นะว่าอะไรอยู่ในกระเป๋าของคุณน่ะ” เจ้าหน้าที่พูดด้วยรอยยิ้มเห็นฟันขาว หลังจากนั้นก็มีเพื่อนคนหนึ่งเข้าสวมกอดด้วยความสำนึกผิด และนาทีนั้นเองตัวลูกชายคนนี้ก็รู้ในทันทีว่าพ่อของเขากับเพื่อนของเขาได้ร่วมมือกันวางแผนแกล้งในครั้งนี้ โอ๊ยย ทำไมถึงทำกับผมได้เนี้ย พ่อ!! “ตูว่าแล้ว ทำไมเอ็งถึงอยากให้ตูไปสูบบุหรี่นัก” เขากล่าว ในเวลาต่อมาทางผู้เป็นพ่อก็ได้เข้าขอโทษขอโพยกับเจ้าหน้าที่คนนั้น กับการเล่นแผลงๆ ในครั้งนี้ แต่ดูจากสีหน้าแล้วเธอก็คงไม่ได้โกรธอะไรออกจะสนุกกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ…
-
ความเท่าเทียมอยู่ไหน? นักเทนนิสหญิงได้รับ ‘โค้ดทำผิดกฎ’ เพราะเปลี่ยนเสื้อในสนาม
กลายเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันเป็นวงกว้างในโลกโซเชียลของต่างประเทศ กับกรณีของนักเทนนิสสาว ที่ทำการ ‘ถอดเสื้อ’ กลางสนามแข่งขันเพราะเธอสวมมันผิดด้าน แต่การทำแบบนั้น ‘มันผิดกฎของการแข่งขัน’ ทำให้เธอถูกลงโทษจากการทำผิดกฎดังกล่าว ในการแข่งขันเทนนิสรายการ U.S. Open ที่นิวยอร์กเป็นการพบกันระหว่างนักเทนนิสสาวชาวฝรั่งเศส Alize Cornet พบกับ Johanna Larsson จากสวีเดน ก่อนจะเริ่มทำการแข่งขัน Alize ก็พบว่าตนสวมเสื้อแข่งผิดด้าน ด้วยความที่การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นเธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปที่บริเวณหลังคอร์ทก่อนที่จะทำการถอดเสื้อ แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ แต่แล้วจู่ๆ กรรมการก็ส่งสัญญาณว่า ‘เธอทำผิดกฎ’ ซึ่งก็ถูกตามที่กรรมว่า เพราะตามข้อบัญญัติของ Women’s Tennis Association แล้วได้มีการระบุเอาไว้ว่า ‘ผู้เล่นหญิง ห้ามทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าในคอร์ท (สนาม)’ ขณะที่ ‘ผู้เล่นชายสามารถทำได้’ ชมคลิปเหตุการณ์ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… Cornet( info – @nicklester , @BenRothenberg,@ymanojkumar)(🎥Eurosport) pic.twitter.com/RlfQT3t77a — doublefault28 (@doublefault28) August 28, 2018 …
-
“หมีแพนด้า” ในออสเตรเลียวาดภาพ ขายราคาเกือบ 19,000 บาท เพื่อนำเงินช่วยสวนสัตว์
ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือหน่วยงานใดก็ตาม “งบประมาณ” ย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้องค์กรนั้นๆ สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ สวนสัตว์เองก็จำเป็นต้องพึ่งงบประมาณเช่นกัน อย่างเช่นสวนสัตว์แห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลียที่นอกจากจะใช้รายได้จากการเข้าชมสวนสัตว์มาเป็นงบประมาณแล้ว ยังให้เจ้า “แพนด้า” มาช่วยหาเงินอีกด้วย!! อุ๋งงงง ฟังไม่ผิดหรอกครับ ที่สวนสัตว์ Schönbrunn แพนด้าวัย 18 ปีนามว่า Yang Yang ได้ใช้ความสามารถในการ “วาดรูป” ของตัวเองเพื่อช่วยหาเงินให้กับทางสวนสัตว์ แม้ภาพที่มันวาดจะเป็นภาพนามธรรมที่ดูไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แต่มันก็มีเอกลักษณ์และสวยงามในแบบของตัวเอง ชนิดที่ว่าไม่มีใครเลียนแบบได้ โดยผลงานภาพวาดของเจ้า Yang Yang สามารถขายได้ในราคา 490 ยูโร (ประมาณ 18,700 บาทไทย) เลยทีเดียว! ไปชมคลิปวิดีโอสกิลการวาดภาพของเจ้าแพนด้า Yang Yang กันเลย! เป้าหมายของเจ้าแพนด้าเพศเมียตัวนี้คือ ต้องวาดภาพออกมาให้ได้ 100 ภาพ ผู้ดูแลสวนสัตว์ Eveline Dungl กล่าวว่า Yang Yang สามารถวาดออกมาได้ราว 3 ภาพต่อวัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของมันด้วย บางครั้งก็วาดได้ถึง…
-
โรงเรียนเอาเก้าอี้ในโรงอาหารออกเพื่อให้นักเรียน ‘ใช้เวลากินข้าว’ น้อยลง เรียนให้หนักขึ้น!!
ได้เกิดเรื่องที่น่าไม่เชื่อขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศจีน จนทำให้เด็กๆ ต้องเกาหัวกันยิกๆ เพราะจู่ๆ เก้าอี้สำหรับนั่งกินข้าวในโรงอาหารของพวกเขาหายไปเพราะโรงเรียนต้องการจะให้เด็กกินข้าวให้ไวขึ้น จะได้เรียนได้เยอะกว่าเดิม!! หลังจากพักเบรคในช่วงฤดูร้อน เหล่านักเรียนแห่งโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในเมืองซางฉิว มณฑลเหอหนาน ก็งงกันเป็นไก่ตาแตก เมื่อเดินไปที่โรงอาหารแล้วพบว่าเก้าอี้ที่เคยใช้สำหรับนั่งกินข้าวหายไปหมด ไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว ทำให้ในเวลากินข้าวพวกเขาต้องยืนกิน… ซึ่งเหตุที่หายไปก็ไม่ใช่เพราะโดนขโมยไปแต่อย่างใด แต่เป็นผลมาจากระเบียบใหม่ของโรงเรียนที่ถูกกำหนดโดยผู้บริหาร โดยเหตุผลที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อจะลดเวลาในการพูดคุยกันบนโต๊ะกินข้าว รวมถึงทำให้กินอาหารได้เร็วขึ้นด้วย ทั้งหมดก็เพื่อที่จะเอาเวลาในส่วนนี้ไปเล่าเรียนให้มากยิ่งขึ้น นักเรียนในโรงอาหาร เท่านั้นยังไม่พอยังมีลูกจ้างของทางโรงเรียนคนหนึ่งบอกว่า ในตอนนี้พวกเขาก็ได้วางแผนจะกำหนดจุดกินอาหารให้นักเรียน เพื่อจะลดเวลาที่นักเรียนใช้ไปกับโรงอาหารแห่งนี้ “โดยปกติแล้ว พวกเขาควรจะใช้เวลาแค่ 10 นาทีสำหรับอาหารมื้อหนึ่งเท่านั้น” ลูกจ้างคนดังกล่าวเล่าบอก ทางด้านนักเรียนหลังจากเจอกรณีดังกล่าว ก็ได้สันนิษฐานกันว่าระบบนี้น่าจะเป็นไอเดียมาจากโรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งของเมืองเฮงซุย ที่นำระบบเข้มงวดคล้ายกับทหารมาใช้กับนักเรียน และนอกจากนี้เมื่อปีที่แล้วก็มีโรงเรียนแห่งหนึ่งของมณฑลเหอเป่ยนำ ‘รถถัง’ 2 คันมาตั้งไว้หน้าทางเข้าโรงเรียน เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้นักเรียนตั้งใจศึกษาเล่าเรียนด้วย หลังจากข่าวเรื่องการนำเก้าอี้ออกจากโรงอาหารนี้ได้แพร่สะพัดออกไป ก็มีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะออกไปในเชิงไม่ค่อยเห็นด้วยนัก บางทีโรงเรียนน่าจะเอาห้องน้ำออกไปด้วยเลยนะ ใช่ การกินมันไม่ใช่เรื่องที่ทำเพื่อความสนุกหรือความผ่อนคลาย แล้วทำไมถึงไม่ให้ผู้บริหารทำแบบเดียวกันล่ะ อีกหน่อยพวกเขาคงแบนอาหารแล้วให้กินสมูทตี้เอาแทน ทำไมโรงเรียนไม่ปล่อยให้เด็กๆ กินอาหารอย่างสงบสุขนะ…
-
เด็กชายถูกรุมบูลลี่ แต่เขาปฏิเสธที่จะสู้กลับ โดยให้เหตุผลว่า “มันไม่ใช่วิถีของเจได”
การกลั่นแกล้งหรือการบูลลี่ถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหาที่ซ่อนอยู่ในสังคมมาอย่างยาวนาน ซึ่งหลายๆ คนก็ไม่ได้ตระหนักถึงความรุนแรงของมัน ในสายของคนนอกมันก็อาจจะดูเหมือนกันหยอกล้อกัน แต่สำหรับคนที่ถูกบูลลี่แล้วมันอาจจะเหมือนกับการตกนรกทั้งเป็น และ Aiden Vasquez เด็กชายที่เราจะนำเรื่องราวของเขามาให้ได้ดูวันนี้ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกรังแก แต่เด็กน้อยปฏิเสธที่จะสู้กับกลุ่มอันธพาลกลับ โดยให้เหตุผลที่หลายคนคิดไม่ถึงว่า “มันไม่ใช่วิถีของเจได” วันที่ 27 สิงหาคม 2018 Lizette Casanova คุณแม่ของ Aiden ได้โพสต์รูปลูกของเธอที่มีคิ้วแตกยาวกว่า 7.5 เซนติเมตรลงในเฟซบุ๊กพร้อมกับข้อความว่า “ฉันเกลียดโรงเรียน Two Bunch Palms Elementary School โรงเรียนใน DESERT HOT SPRINGS เพราะนี่มันเป็นปีที่สามแล้วนะที่ลูกขายของฉันต้องถูกรังแก ใช่ เขาแตกต่างจากคนอื่น เขาฉลาดกว่าและน่ารักกว่าเด็กผู้ชายส่วนมากที่อายุเท่านี้ แต่เพราะแบบนั้นจริงดิ!? ตอนนี้เราพาเขามาโรงพยาบาลและฉันก็ต้องจ่ายค่ารักษาเอง เหมือนกับปีที่แล้วที่เขาถูกเย็บแผลบนหน้าเพราะถูกต่อย เขาหายใจไม่ออกเพราะถูกทุ่มลงบนพื้นในสนามเด็กเล่น ฉันแจ้งเรื่องกับตำรวจและเขตการศึกษาไปแล้ว แต่พวกเขาทำอะไรบ้างล่ะกับการรังแกเนี่ย!” สำหรับผู้ปกครองบางคนอาจจะสอนให้ลูกสู้กลับเวลาถูกรังแกหรือสอนให้ลูกรู้จักป้องกันตัวไว้ แต่ Lizette ไม่คิดว่าวิธีนั้นเป็นวิธีที่ถูกต้อง เธอได้กล่าวว่า “สำหรับคนที่บอกให้ฉันควรสอนลูกให้สู้กลับหรือทำร้ายพวกกลุ่มเด็กที่มาแกล้ง ฉันบอกเลยว่าพวกเราไม่ใช่คนประเภทนั้น ฉันไม่ต้องการให้เกิดการต่อสู้กัน ลูกชายของฉันมีพรสวรรค์มากมายและนั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องสอนให้เขารู้จักไว้เนื้อเชื่อใจกัน…
-
พนง. รัฐฯ มะกันโวย ไม่พอใจเด็กน้อย “ร้องไห้บนเครื่องบิน” สุดท้ายพักงานยาว!!
แน่นอนว่าการโดยสารบนเครื่องบินหรือรถโดยสาร หากว่ามีเด็กที่ร้องไห้เสียงดังโดยสารไปพร้อมกันด้วย มันคงทำให้ผู้โดยสารรู้สึกว่าถูกรบกวนจิตใจอย่างมาก แต่ถึงอย่างไร เราก็ไม่ควรใช้วาจาและกริยารุนแรงในการแก้ปัญหา Marissa Rundell คุณแม่ลูกอ่อนวัย 19 ปีจากเมืองรอเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก ได้เดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบิน JFK ไปยังสนามบิน Hancock พร้อมกับลูกน้อยของเธอ ขณะเดียวกัน Susan Peirez ที่เป็นผู้อำนวยการโครงการของสภาศิลปะรัฐนิวยอร์ก ก็ตะโกนต่อว่าถึงลูกชายตัวน้อยของ Marissa ที่กำลังร้องไห้ จนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตและกลายเป็นผลกรรมอย่างหนักหน่วง Marissa Rundell กับลูกชายตัวน้อยอายุ 8 เดือน ทั้งคู่ถูกหญิงคนหนึ่งตะโกนต่อว่าอย่างรุนแรง หลังจากเด็กน้อยร้องไห้ Susan Peirez เจ้าหน้าที่รัฐฯ จากสภาศิลปะของนิวยอร์ก ผู้ที่ตะโกนต่อว่าแม่ลูกคู่นี้ Marissa เล่าว่า “เธอ (Susan) มานั่งเบาะด้านหลังเรา และกระแทกกระเป๋าลงพื้นอย่างแรงก่อนจะบ่นว่า ‘ตลกสิ้นดี บ้าจริง นี่ฉันต้องมานั่งอยู่ข้างหลังเหรอเนี่ย’” จากนั้น Susan ก็ร้องขอย้ายที่นั่ง พร้อมตะโกนต่อว่า Marissa ไปด้วย เนื่องจากลูกน้อยของเธอไม่ยอมหยุดร้องไห้ เมื่อ Marissa บอกกับ…
-
ตัวอย่างสุดยอดภาพถ่ายพรีเวดดิ้งแห่งปี 2018 ส่งเข้าประกวดจากช่างภาพทั่วโลก
การประกวดภาพถ่ายพรีเวดดิ้งประจำปีของ JunebugWedding กลับมาอีกครั้ง งานนี้เป็นการรวบรวมสุดยอดภาพพรีเวดดิ้งจากช่างภาพจากทั่วโลกมาร่วมประชันเพื่อคว้ารางวัลสุดยอดภาพถ่ายพรีเวดดิ้งประจำปี 2018 รูปภาพมากกว่า 5,000 รูปจากช่างภาพทั่วโลกถูกส่งเข้าประกวดในงานนี้ และนี่คือตัวอย่าง 20 ใน 50 อันดับรูปที่มีสิทธิ์จะได้รับรางวัลสุดยอดภาพถ่ายพรีเวดดิ้งประจำปี 2018 นี้ รัฐไรน์ลันท์-ฟัลทซ์ ประเทศเยอรมนี บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย คาบสมุทร Sneafellsnes ประเทศไอซ์แลนด์ เวนิซ อิตาลี ปราสาท Eilean Donan สก็อตแลนด์ Cliffs Of Moher ไอร์แลนด์ บาหลี อินโดนิเซีย ป่า Glen Oaks Big Sur รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมืองควีนส์ทาวน์ นิวซีแลนด์ Lago Di Braies อิตาลี…
-
เผยภาพ ‘บ้านถ้ำ’ ที่ขึ้นชื่อว่าหรูที่สุดในโลก แถมยังขายในราคาถูกๆ แค่ 81 ล้านเอง…
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความฝันอยากจะไปใช้ชีวิตอินดี้ๆ ปลีกวิเวกอยู่ในถ้ำ แต่ยังต้องการความสุขสบายอย่างครบถ้วน นี่อาจเป็นสถานที่ที่คุณกำลังมองหาอยู่ เพราะมันคือ ‘บ้านถ้ำ’ สุดหรูที่ใครเห็นก็ต้องอยากเป็นเจ้าของ โดยเจ้าบ้านถ้ำที่ว่านี้ตั้งอยู่ที่รัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ดั้งแต่เดิมสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นหลุมหลบภัยจากระเบิด แต่ว่าในช่วงปี 80 ได้มีการรีโนเวทใหม่กลายมาเป็นโรงแรมหรู และมีการตั้งชื่อว่า The Beckham Creek Cave Lodge ความพิเศษของที่นี่คือมีการตกแต่งอย่างงดงาม พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกหลายชนิด อย่างลายแกะสลักหินที่อยู่ภายในบ้าน มีน้ำตกในตัว ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ และอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้คุณไม่อยากจะออกไปไหนแน่ๆ สำหรับใครที่อยากจะจับจองเป็นเจ้าของล่ะก็ ขอแค่เพียงคุณมีเงิน 2.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 81 ล้านบาท) เท่านั้น ก็จะได้บ้านในฝันแห่งนี้ไปครอบครองแล้ว แต่ถ้ายังไม่มีเงินล่ะก็ ลองมาดูรูปภาพภายในยั่วกิเลสกันหน่อยดีกว่า เผื่อจะมีแรงเก็บเงินมากขึ้น… ในช่วงประมาณปี 1800 ที่นี่เคยใช้เป็นหลุมหลบภัย แต่ภายหลังรีโนเวทใหม่ในช่วง 1980s มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 971 ตารางเมตร (ใหญ่มว๊ากก) ในตอนแรกเจ้าของเชื่อว่าที่นี่จะเป็นสถานที่หลบภัยจากสงครามเย็นที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น เลยซื้อมาด้วยเงิน 146,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.7…
-
ภาพเหตุการณ์ “ภูเขาถล่ม” ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาในกรุงปักกิ่ง ประชาชนพากันตื่นกลัว
ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก หากไม่ระวังให้ดีมันอาจพรากชีวิตของผู้คนไปได้เลยทีเดียว… ล่าสุดภูเขาแห่งหนึ่งในเมืองฟางซาน กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ส่วนหนึ่งได้เกิดถล่มลงมาสู่พื้นถนนซึ่งมีผู้ใช้รถใช้ถนนอยู่บริเวณเกิดเหตุเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้แต่ตกตะลึงอยู่กับภาพที่เห็นท่ามกลางเสียงอึกทึกกึกก้องและฝุ่นที่เกิดจากแผ่นดินถล่ม จังหวะดินและหินบนภูเขาถล่มลงสู่พื้นถนน ผู้คนต่างตื่นตระหนกตกใจกลัว ภาพภัยพิบัติแผ่นดินถล่มจากทางอากาศ ชมคลิปวิดีโอดินถล่ม ณ เมืองฟางซาน กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน กรุงปักกิ่งเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2018 ที่ผ่านมานั้นต้องประสบกับพายุฝนกระหน่ำอย่างหนัก ซึ่งคาดกันว่ามีส่วนทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในครั้งนี้ มีการบันทึกภาพและเผยแพร่ต่อกันไปอย่างกว้างขวางจนทำให้ประชาชนที่ได้รับชมต่างพากันตื่นกลัวที่จะเข้าใกล้เขตภูเขา เพราะแม้แต่ภูเขาสูงใหญ่ในภาพยังสามารถสั่นคลอนและถล่มลงมาได้ ภาพหลังดินถล่มสงบลง ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายอย่างมาก ฉะนั้น จงเตรียมตัวรับมือกับมันเอาไว้ให้ดี… ที่มา: ck101 และ 千年蠢猪习近平
-
กรณีศึกษาชายรับประทานปลาดิบ ติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ ต้องตัดแขนด้านซ้ายทิ้ง…
เมนูทะเลดิบๆ มักจะนิยมรับประทานกันในแถบประเทศเอเชีย และภายในบ้านเราเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเมนูยอดนิยมส่วนมากก็จะเป็นปลาดิบและหอยดิบ เป็นต้น ทั้งนี้ การรับประทานอาหารทะเลดิบนั้นมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ หากไม่ได้ทำตามกรรมวิธีขั้นตอนที่สะอาดเพียงพอ จนอาจนำไปสู่การสูญเสียอวัยวะกันได้เลยทีเดียว กรณีศึกษาจาก ชายวัย 71 ปี จากประเทศเกาหลีใต้ ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของวารสารทางการแพทย์ New England Journal of Medicine โดยแพทย์เจ้าของเคส ได้กล่าวถึงคนไข้ที่รับประทานปลาดิบเข้าไป หลังจากระยะเวลา 12 ชั่วโมง มือซ้ายของเขาก็เริ่มมีอาการปวดแสบและบวมเป่งคล้ายกับลูกกอล์ฟอย่างรุนแรง รวมถึงมีไข้หนักอีก 2 วัน จนกระทั่งเข้ามาพบแพทย์เป็นการฉุกเฉิน ตุ่มพองบนฝ่ามือนั้นมีขนาด 3.5 ซม. x 4.5 ซม. และลุกลามไปทั่วหลังมือจนถึงท่อนแขน แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขาติดเชื้อ Vibrio vulnificus แบคทีเรียแกรมลบทรงแท่งที่มักจะพบได้ในอาหารทะเลดิบ และในส่วนของการลุกลามนั้นก็เป็นเพราะเขามีประวัติป่วยเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 ความดันโลหิตสูง และเป็นโรคไตระยะสุดท้าย ส่งผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันล้มเหลวจนเชื้อแบคทีเรียกินแขนด้านซ้าย แม้ว่าจะทำการรักษาเบื้องต้นด้วยการดูดหนองออกจากตุ่มพอง และตัดชิ้นส่วนมือที่ติดเชื้อออกไป พร้อมกับให้ยาปฏิชีวนะ แต่กลับไม่เป็นผล…
-
บริษัทเปิดให้บริการ ซ่องตุ๊กตายางแห่งแรกในอเมริกาเหนือ ทางออกสำหรับชายกำหนัด!!
เราต่างรู้กันดีว่าในโลกที่เปิดกว้าง เริ่มมีการนำตุ๊กตายางมาใช้เป็นทางเลือกสำหรับทดแทนผู้หญิงจริงๆ ในอุตสหกรรมทางเพศ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มประเทศยุโรปและเอเชียบางส่วน ล่าสุดนี้ ก็เริ่มมีกระแสการมาของตุ๊กตายางในโซนอเมริกาเหนือบ้างแล้ว เมื่อบริษัท Aura Dolls ผู้ผลิตตุ๊กตายางได้หันมาให้บริการในรูปแบบซ่อง ลักษณะของธุรกิจการให้ยืมเช่าไปทำอะไรก็ได้ภายในพื้นที่ โดยทางบริษัทหวังว่าจะทำการเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงภายในตัวอาคารเล็กๆ ในเมืองโทรอนโต รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา กำหนดเปิดให้บริการ 8 กันยายน 2018 สำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เพียงแค่เลือกแพคเกจจำนวนชั่วโมง จ่ายเงินตามอัตราค่าบริการ และสามารถจะเล่นจ้ำจี้กับตุ๊กตาตัวไหนก็ได้ตามที่เลือก เว็บไซต์ของทางบริษัทเปิดเผยข้อมูลเอาไว้ว่า พวกเขาจะเป็นซ่องตุ๊กตายางแห่งแรกในอเมริกาเหนือ พร้อมกับตุ๊กตายางที่สวยและไฮเทคที่สุด… พร้อมกับเปิดรายละเอียดของตุ๊กตาแต่ละตัวที่เปิดให้เช่า มีชื่อและอธิบายลักษณะรูปร่างเอาไว้เสร็จสรรพ อัตราค่าบริการก็มีตั้งแต่ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ (2,600 บาท) ต่อ 30 นาที ไปจนถึง 960 ดอลลาร์สหรัฐฯ (31,400 บาท) ต่อ 4 ชั่วโมง แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่าเป็นการลดทอนคุณค่าของผู้หญิง ทางด้าน Claire Lee…
-
คุณลุงชิลจัด สวมวิญญาณพ่อครัว นั่งต้ม ‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ กลางทางด่วน รถชน-รถติดเต็ม!!
เราอาจจะเคยเห็นสิ่งแปลกๆ มากมายเกิดขึ้นบนท้องถนนที่ใช้สัญจร ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่โดนรถชนตายหรือคนตีกัน แต่ว่าเหตุการณ์ของคุณลุงคนนี้รับรองได้ว่าคุณอาจจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แล้วจะทำให้คุณประหลาดใจแน่ๆ ว่าอย่างนี้ก็มีด้วยเหรอ… โดยเรื่องนี้เกิดขึ้น ณ ทางด่วนแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับมณฑลกวางตุ้ง ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (23 ส.ค.) เมื่อมีวิดีโอเผยให้เห็นว่ามีคุณลุงคนหนึ่งนั่ง ‘ทำอาหาร’ อยู่บริเวณกลางเลนของทางด่วนแห่งนั้น วิดีโอลุงทำอาหารบนทางด่วน ไปดูชัดๆ ว่าเขาทำอะไรกินกันนะ ในวิดีโอจะเห็นว่าลุงคนนี้แทบจะยกครัวมาตั้งไว้กลางทางด่วน เพราะว่ามีทั้งเตาทั้งกระทะ ที่มาพร้อมกับถังแก๊สถังเบ้อเร่อ และแน่นอนว่าการมาทำกับข้าวบนทางด่วนแบบนี้ ย่อมได้รับความสนใจจากใครที่ผ่านไปผ่านมาที่อาจสงสัยว่าทำอะไร จนในที่สุดก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วทำให้รถติดขนาดหนัก ซึ่งทั้งหมดมาจากครัวเคลื่อนที่นี่เอง!! ต้มบะหมี่เฉยเลย เอ้า!! ในเวลาเพียงอึดในเดียวหลังจากนั้น คุณลุงคนนี้ก็ต้องเก็บสัมมะโนครัวเข้าไปไว้ในรถ เพราะถูกตำรวจจับ ซึ่งคุณลุงคนนี้ให้การกับเจ้าหน้าที่ถึงเหตุผลว่าเหตุที่ทำให้เขาลงไปตั้งเตาต้ม ‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ เพราะว่าในตอนนั้นรู้สึกอารมณ์ไม่ดี!! อย่างไรก็ตามไม่รู้ว่าคุณลุงคนนี้โดนข้อหาอะไรบ้างจากเหตุการณ์นี้ แต่ก็น่าจะเป็นอุทาหรณ์ได้ดีจริงๆ ว่าถ้าใครอารมณ์ไม่ดีอย่าไปทำอย่างนี้ เพราะชาวบ้านเขาเดือดร้อน แถมไม่พออาจโดนจับแล้วถูกสังคมประณามอีกด้วย (เพื่อนๆ คงไม่ทำตามกันนะ 5555) ที่มา: shanghaiist
-
ชาวโซเชียลถึงกับงง จู่ๆ Lady Gaga ก็โพสต์รูปเกือบโป๊โชว์เรือนร่างลงใน IG รัวๆ
ถ้าพูดถึงหนึ่งในศิลปินตัวแม่แห่งยุค เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง Lady Gaga หรือชื่อเต็มๆ ว่า Stefani Joanne Angelina Germanotta เจ้าของเพลงดัง Bad Romance, Poker Face และอีกมากมาย เรียกได้ว่าออกเพลงมากี่เพลงก็เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ส่วนหนึ่งที่ Lady Gaga กลายเป็นที่รู้จักของทั้งคนไทยและต่างชาติก็คงไม่พ้นกับสไตล์แต่งตัวของเธอ ที่มีความสุดโต่ง โดดเด่น และฉีกเทรนด์แฟชั่นไปเป็นอย่างมาก จนบางคนก็หาว่าเธอนั้นสติหลุดไปเลย . และอย่างที่เราบอกไปว่า Lady Gaga เป็นคนที่มีสไตล์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เธอคิดอะไรอยู่เราไม่สามารถรู้ได้เลย และในวันนี้จู่ๆ ไม่รู้ว่าคึกหรือตั้งใจจะบอกใบ้อะไรสักอย่าง เธอได้โพสต์รูปเกือบเปลือยของเธอลงในอินสตาแกรมส่วนตัว โดยไม่มีแคปชั่นอธิบายรูปนี้แต่อย่างใด ในแคปชั่นจะมีก็เพียงที่เธอกล่าวถึง Eli Russell Linnetz ช่างภาพคนโปรดของ Kim Kardashian และ Kanye West คู่สามีภรรยาศิลปินเซเลบชื่อดัง https://www.instagram.com/p/BnB73UWn3X_/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control . ภาพเกือบเปลือยที่เธอเพิ่งโพสต์ลงในอินสตาแกรม เผยให้เห็นเรือนร่างผอมบางและผิวขาวๆ พร้อมกับรอยสักเต็มตัว เมื่อเธอโพสต์รูปภาพเซตนี้ลงในโซเชียลก็มีแฟนๆ หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันมากมาย บางคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า “ใจฉันรับนี่ไม่ไหวว่ะ” หรือจะมีอีกคนที่กล่าวว่า “โทรเรียกตำรวจเถอะ” แต่แฟนๆ บางคนก็คอมเมนต์ชื่นชมเธอว่า “สวยงามมากๆ”…
-
ใจสลาย… ‘แรคคูน’ สุดเศร้าเห็นคู่หูถูกรถชนต่อหน้า ทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะไปลาเป็นครั้งสุดท้าย
จริงอยู่ที่ว่าเรื่องของการ ‘เสียชีวิต’ จะเป็นเรื่องธรรมชาติที่ใครๆ ก็ห้ามไม่ได้ แต่ถึงรู้อย่างนั้น ทว่าบางทีมันก็เป็นเรื่องยากต่อการทำใจซะจริงๆ และถ้ายิ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าแล้วล่ะก็ มันก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ทำให้แทบหัวใจแตกสลายเลยก็ว่าได้ ความรู้สึกเศร้าสลดจากการจากลานี้ ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นกับมนุษย์เราเท่านั้น แต่ว่าสัตว์ต่างๆ มันก็อาจจะมีความรู้สึกเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เราพลอยต้องน้ำตาตกไปด้วยจริงๆ เมื่อมีวิดีโอเผยให้เห็นว่ามีแรคคูนตัวหนึ่งยืนอาลัยอาวรณ์คู่หูของมันที่ถูกรถชนอย่างแสนซึ้ง ก่อนที่มันจะเข้าไปหาเป็นครั้งสุดท้าย… วิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมด เรื่องราวที่ว่านี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เมื่อมีชายหนึ่งกำลังออกเดินทางจากบ้านไปทำงานแล้วบังเอิญได้เห็นเหตุการณ์นี้เข้าจึงได้ถ่ายวิดีโอเก็บเอาไว้ ในวิดีโอจะเห็นได้ว่าเป็นภาพของแรคคูนที่นั่งซึมอยู่ข้างถนน และเบื้องหน้าของมันก็คือแรคคูนอีกตัวหนึ่งที่นอนแน่นิ่งจากการถูกรถชน ซึ่งก็คาดว่าน่าจะเสียชีวิตเรียบร้อยแล้ว จะเห็นได้ว่าเจ้าแรคคูนดูโศกเศร้ากับการจากไปตรงหน้าอย่างมาก ดูได้จากการพยายามเอาอุ้งเท้าประกบกันเหมือนการสวดภาวนาก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินไปหาเพื่อนรักเป็นครั้งสุดท้ายท่ามกลางรถที่วิ่งผ่านไปมาอย่างน่าเวทนา วิดีโอนี้ได้กลายเป็นไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ต ที่ทำให้ใครหลายคนต้องน้ำตาตกให้กับเรื่องราวอันน่าหดหู่นี้ รวมถึงมีความเห็นมากมายจากชาวเน็ตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่างน่าสงสารซะจริงๆ มันเป็นอะไรที่เศร้าจริงๆ ทำฉันน้ำตาไหลเลย ปฏิกิริยาของแรคคูนตัวนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ RIP นะเจ้าแรคคูน เป็นการลาจากที่น่าสลดจริงๆ ที่มา: ladbible, viralhog, triblive
-
คุณป้าสายโยก อวดลีลาระหว่างเสิร์ฟไก่ตามจังหวะเพลง เต้นมันส์ซะจนมองกันแทบทั้งร้าน!!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งลีลาและทีเด็ดของทางร้านจริงๆ สำหรับพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งที่วาดลวดลายเต้นประกอบการเสิร์ฟไก่แบบสุดพลิ้วไหว แม้ว่าอายุอานามจะอยู่ในวัยราวกลางคนแล้วก็ตาม!! โดยนี่เป็นเรื่องของคุณป้าคนหนึ่งที่ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารภายในศูนย์อาหาร The Punggol Settlement ประเทศสิงคโปร์ ที่ทำให้ลูกค้ามากมายประทับใจในการบริการของเธอ ด้วยการออกสเตปเต้นโยกซ้ายโยกขวาระหว่างการเสิร์ฟเมนู ‘ไก่’ วิดีโอของคุณป้าคนนี้ วิดีโอที่ว่านี้ได้ถูกถ่ายที่ร้านชื่อ House Of Seafood และแชร์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยคุณ Anthony Boey และกลายเป็นไวรัลที่ดังแบบสุดฉุดไม่อยู่ที่ในตอนนี้มีการเข้าดูแล้วกว่าเป็นล้านครั้ง ในคลิปจะเห็นได้ว่าเปิดตัวขึ้นมาด้วยการเต้นของคุณป้าท่านนี้ ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เทน้ำสีใสลงบนตัวไก่แล้วจุดไฟพรึ่บ! จากนั้นก็ไปเต้นต่อด้วยท่าทางอารมณ์ดีราวกับว่านี่เป็นงานแห่งความสุขของเธอจริงๆ ที่ได้ทำแบบนี้ ทางด้านความคิดเห็นของชาวเน็ต ต่างก็ออกปากชมเธออย่างมากมายที่นอกจากจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าได้อารมณ์ดีจากความน่ารักด้วย เธอเป็นพนักงานยอดเยี่ยมแห่งปีเลยนะเนี่ย ผมยอมจ่ายเงินเพื่อได้ดูสิ่งนี้เลย อยากดูสาวๆ วัยรุ่นเต้นงี้บ้างจัง ที่มา: nextshark
-
สาวปริศนาไล่ “กดกริ่ง” บ้านคนอื่นกลางดึก เจ้าหน้าที่พยายามตามหาตัวแต่ ‘ไร้ร่องรอย’
ในเมืองมอนต์โกเมอรี รัฐเท็กซัสได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เมื่อพบเห็นหญิงสาวปริศนาในกล้องวงจรปิด เดินไปกดกริ่งของบ้าน 5 หลังในเวลาราวตีสามโดยไม่ทราบสาเหตุ และจากนั้นก็ไม่มีใครหาหญิงคนนี้ได้พบ จากภาพวงจรปิด เห็นได้ว่าหญิงคนดังกล่าวใส่เพียงเสื้อตัวยาวๆ ไม่สวมรองเท้า และที่ข้อมือขวามีเครื่องประดับเป็นสายผูกข้อมือที่ห้อยยาวลงมา สาวปริศนากดกริ่งบ้านคนอื่น ผู้อาศัยคนหนึ่งออกมาเล่ากับ ABC News ว่าเพื่อนบ้านของเขาบางคนก็เดินออกมาเปิดประตูขณะที่สาวคนนี้มากดกริ่ง แต่กลับไม่พบใคร เพราะเธอได้หายตัวไปก่อนแล้ว Branson Golson ผู้อาศัยอีกรายก็ออกมากล่าวว่า “ผมมีลูกสาวอายุ 9 ขวบอยู่ในบ้าน สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันทำให้ผมกังวลอย่างมาก” ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนแต่ละบ้านในละแวก และพยายามอย่างมากในการแกะรอยสาวปริศนาจนกว่าจะพบตัว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ “ภาพคนหาย” ที่พลเมืองส่งแจ้งเข้ามา แต่ก็ไม่พบใครจะมีใครที่มีลักษณะใกล้เคียงกับสาวปริศนาในกล้องวงจรปิดเลย ร้อยโท Frank Spencer จึงออกมาเตือนชาวเมืองว่าพยายามระมัดระวังตนเองให้ดี หากมีคนมากดกริ่ง เจ้าของบ้านสามารถตอบรับผู้ที่มากดกริ่งได้ แต่ให้พูดจากอีกฝั่งของประตูก่อนที่จะเปิดประตูออกไป หมู่บ้านที่เกิดเหตุ ในเมืองมอนต์โกเมอรี รัฐเท็กซัส ชมภาพวิดีโอสาวปริศนาจากกล้องวงจรปิด เป็นเหตุการณ์ประหลาดๆ ที่แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามสืบสวนแล้วแต่ปัจจุบันก็ยังไม่พบตัวของ “หญิงสาวปริศนา” ดังกล่าว ที่มา: thesun, facebook, shared…
-
หนุ่มช่างสัก ‘ตัดจมูก-ใบหูออก’ เพื่อให้ใบหน้าดูเหมือน ‘หัวกะโหลก’ ที่สุดเท่าที่จะทำได้…
เราอาจจะเคยเห็นการโมดิฟายเปลี่ยนร่างกายไปในรูปแบบต่างๆ อย่างการสักนู่นเจาะนี่ แต่รับรองได้เลยว่าไม่น่าจะหาใครเหมือนกับชายคนนี้ได้อีกแล้ว เพราะเขาต้องการจะเปลี่ยนใบหน้าของตัวเองให้เหมือนกับ ‘หัวกะโหลก’!! เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วหนุ่มชาวโคลัมเบียวัย 22 ปีชื่อว่า Eric Yeiner Hincapié Ramírez ตื่นลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความคิดที่ว่าเขาอยากจะเดินสายทาง ‘โมดิฟาย’ ร่างกายของตัวเองจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่า “ฮาร์ดคอร์” และเมื่อเร็วๆ มานี้เขาก็ได้ทำตามความคิดที่ว่านี้ด้วยการตัดจมูก เอาใบหูออกพร้อมกับตัดลิ้นให้เป็นสองแฉก เพื่อที่ว่าจะได้มีหน้าตาที่คล้ายกับ ‘หัวกะโหลก’ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้… ช่างสักเจ้าของสมญา ‘Kalaca Skull’ คนนี้เล่าให้ฟังว่า จริงๆ แล้ว มันเป็นความหลงใหลมาตั้งแต่วัยเด็กของเขาที่ชื่นชอบรูปหัวกะโหลกเอามากๆ แต่ว่าเขาเพิ่งจะมาได้เปลี่ยนตัวเองในตอนนี้ก็เนื่องมาจากแม่ผู้คัดค้านเรื่องการเปลี่ยนร่างกายของเขามาโดยตลอดได้จากโลกนี้ไปแล้วนั่นเอง สิ่งที่เขาทำกับร่างกายของเขาในตอนนี้ก็คือการ ตัดจมูกออกครึ่งหนึ่ง เอาใบหูทั้งสองข้างออก สักบริเวณรอบๆ ตาให้เป็นสีเข้ม สักรูปฟันรอบๆ ปากและตัดลิ้นให้เป็นสองแฉกพร้อมๆ กับสักสีน้ำเงิน-เทาลงไปด้วย จากการรายงานของสื่อ Dailymail ระบุว่า เขาได้เป็นบุคคลแรกในประเทศโคลัมเบียที่ตั้งใจจะเอาจมูกและใบหูออก การตัดสินใจในครั้งนี้ของเขาจึงได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย รวมถึงนักวิจารณ์ทั้งหลายด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ออกมาบอกว่านี่เป็นการตัดสินใจของตัวเขาเอง… “การดัดแปลงร่างกายเป็นเรื่องของการตัดสินใจส่วนบุคคล และไม่ควรได้รับคำตัดสินจากใคร มันเหมือนกับการตัดสินผู้หญิงที่ทำหน้าอกหรือก้นให้ใหญ่ๆ นั่นแหละ” …
-
สาวน้อยกำพร้าหลั่งน้ำตา เมื่อได้รับของขวัญสุดเซอร์ไพรส์เป็น ‘ครอบครัวใหม่แสนอบอุ่น’
หากเพื่อนๆ สามารถเลือกของขวัญเป็นสิ่งใดก็ได้ในโลกใบนี้ แน่นอนว่าเพื่อนๆ คงต้องเลือกสิ่งของที่ตัวเองอยากได้ใช่หรือไม่ แต่สำหรับเด็กที่ต้องสูญเสียครอบครัวและต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าแล้ว ของขวัญสุดพิเศษที่เขาปรารถนาจะได้ก็คงไม่มีอะไรที่จะมีค่าไปกว่า “ครอบครัวที่อบอุ่น” อีกแล้ว และเรื่องราวที่เราจะนำมาให้ได้รับชมในวันนี้ สิ่งที่เด็กสาวกำพร้าได้รอคอยมาตลอดชีวิตก็กลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาแล้ว เมื่อสามีภรรยาคู่หนึ่งได้มอบของขวัญวันเกิดสุดเซอร์ไพรส์ โดยการรับอุปถัมภ์เธอเป็นลูกบุญธรรม ในวันที่ 24 สิงหาคม 2018 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Paige Zezulka อัปโหลดวิดีโอสุดอบอุ่นหัวใจขึ้นบนเฟซบุ๊กส่วนตัวเธอพร้อมกับแคปชั่นว่า “นี่จะเป็นการแชร์วิดีโอที่ฉันชอบที่สุด วันนี้คือวันที่เราบอกลูกสาวของเราว่าเราจะรับเลี้ยงเธอเป็นลูก สาวน้อยคนนี้ภาวนาให้มีใครสักคนมาอุปถัมภ์เธอเป็นลูกบุญธรรมมาตั้งนานและพวกเราก็ได้ทราบเรื่องนี้ในวันเกิดของเธอ ดังนั้นวันถัดมาเราจึงมอบของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ให้แก่เธอ พระเจ้าช่างมอบช่วงเวลาได้เหมาะเจาะเสียจริง เด็กคนนี้ต้องนี้ต้องอยู่ในสถานสงเคราะห์ถึง 1,128 วันตลอดเวลา 3 ปีมานี้ มันเป็นเรื่องยากมากๆ สำหรับเด็กที่ต้องอาศัยอยู่ในที่ๆ ไม่แน่นอนแบบนั้น” ในวิดีโอดังกล่าวเราจะเห็นได้ว่าเธอและ Daniel สามีของเธอถือกล่องของขวัญเข้ามาให้เด็กสาว ก่อนที่ Daniel จะกล่าวกับเด็กสาวตัวน้อยว่า “ฉันอยากให้หนูอ่านมันนะ” เด็กสาวตัวน้อยจึงได้หยิบของที่มีลักษณะคล้ายกับกรอบรูปขึ้นมาอ่านข้อความที่บันทึกไว้อยู่ข้างในและทันทีที่เธออ่านข้อความดังกล่าว เธอก็ถามสามีภรรยาคู่นั้นด้วยเสียงดังว่า “พวกคุณกำลังจะรับหนูเป็นลูกบุญธรรมเหรอคะ?” ก่อนที่เธอจะปล่อยน้ำตาแห่งความความสุขออกมา วิดีโอดังกล่าวดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันไปทั้งหมดถึง 117,000 ครั้งพร้อมกับคอมเมนต์จากชาวเน็ตมากมายที่เข้ามาอวยพรให้แก่ครอบครัวของเธอ ช่างเป็นเหตุการณ์ที่อบอุ่นหัวใจอะไรเช่นนี้ ที่มา Metro, Paige Zezulka
-
‘Dan Bilzerian’ เพลย์บอยแห่งโลก IG เข้ารับสัญชาติอาร์เมเนีย พร้อมเป็นทหารแล้ว!!
หากว่าใครที่ชอบท่องอยู่ในโลกของ Instagram ก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับอีตา Dan Bilzerian ชายผู้มีชีวิตดี๊ดีที่ชอบโพสต์เรื่องเกี่ยวกับ ผู้หญิง รถหรู และอาวุธปืน ซึ่งไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าชีวิตสุดจะเพลย์บอยของเขาได้มีผู้ติดตามชมในทุกๆ วันมากเกือบ 24 ล้านคน และในตอนนี้เขาได้ทำเรื่องใหม่ที่ไม่มีใครคาดคิดเอาไว้จนกลายเป็นที่ฮือฮาในโลกอินเทอร์เน็ต ด้วยการสมัครเข้ารับสัญชาติอาร์เมเนีย แถมยังบอกจะเข้าร่วมเป็นทหารให้กับประเทศนี้อีกด้วย!! ‘King of Instagram’ คือชื่อที่เขาใช้เรียกตัวเขาเองสำหรับนาย Dan ที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำเรื่องขอสัญชาติอาร์เมเนียและได้รับการยอมรับเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเหตุผลของเขาในการทำแบบนี้ยังไม่มีที่เปิดเผยออกมาแน่ชัดว่าเพราะเหตุใด แต่ที่รู้ๆ คือในตอนนี้เขาได้เป็นประชาชนคนอาร์เมเนียแล้ว และนอกจากตัวเขาเองก็ยังมี Adam Bilzerian ผู้เป็นน้องชาย ก็ร่วมขอสัญชาติอาร์เมเนียด้วยเช่นกัน “Dan กับ Adam เพิ่งจะเข้าร่วมในพิธีสาบานตนในการรับสัญชาติอาร์เมนเนียเมื่อเร็วๆ นี้” Mnatsakan Bichakhchyan หัวหน้าแผนกหนังสือเดินทางและวีซ่าของตำรวจอาร์เมเนียกล่าว และนอกจากการได้รับสัญชาติแล้ว ก็ยังมีรายงานจากสื่อต่างประเทศด้วยว่าทั้งคู่ได้สมัครเข้าเป็นทหาร เพราะด้วยกฎหมายของประเทศอาร์เมเนียที่ระบุว่า ‘ชายทุกคนต้องเข้ารับการเป็นทหาร’ นั่นเอง ฉลองได้สัญชาติด้วยการ… https://www.instagram.com/p/BnByQC5AMst/?hl=th&taken-by=danbilzerian อย่างไรก็ตามถ้าหากทั้งสองศรีพี่น้องพยายามหลบเลี่ยงในการรับใช้ชาติล่ะก็ อาจจะโดนค่าปรับเป็นเงินประมาณ 5,700 ปอนด์ (ประมาณ 240,000 บาท) ด้วย แต่ที่ทำเอาใครหลายคนฮากันลั่นก็คือการเฉลิมฉลองของเขาในการเป็นชาวอาร์เมเนียวันแรก เพราะเขาไม่ได้ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาเหมือนกันทั่วๆ…
-
คุณแม่นั่งลุ้นเพศลูกคนที่ 9 แจ้งข่าวให้ทราบโดยคุณพ่อ ปลายเสียงที่จากไปแล้ว…
หนึ่งในช่วงเวลาสุดแสนประทับใจของคุณแม่ผู้ตั้งท้อง อาจจะยอมเก็บงำไม่อยากรู้ว่าลูกตนเองนั้นเป็นเพศอะไร จนกว่าจะถึงวันคลอด ซึ่งก็ถือว่าเป็นธรรมเนียมส่วนบุคคลที่อยากจะรู้ก่อนหรือหลังเท่านั้นเอง แต่ด้วยการลุ้นของคุณ Jennifer Jones-Prothro วัย 38 ปี กับการอุ้มท้องลูกคนที่ 9 และกำหนดคลอดในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ เธออยากจะเก็บเพศของลูกเอาไว้ลุ้นในช่วงโอกาสพิเศษ หรือไม่ก็ในช่วงเวลาอันสำคัญของครอบครัวเธอ ก่อนหน้านั้นเธอจะรู้เพศของลูกล่วงหน้า แต่ในครั้งนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะไม่มีคุณพ่อของเธอ Charles คอยร่วมลุ้นกับเธอเหมือนแต่ก่อน เขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไปเมื่อปีที่แล้ว และการที่จะทำให้การประกาศเพศลูกในครั้งนี้พิเศษมากขึ้น ทางด้านสามี James วัย 43 ปี จึงได้จัดเซอร์ไพรส์แจ้งข่าวให้ทราบ ด้วยการใช้เสียงคุณพ่อผู้จากไปเป็นผู้ประกาศ เพื่อให้ทราบได้ว่า ‘เธอกำลังจะได้ลูกสาว’ https://twitter.com/anaxyoung/status/1032496314771095555 เมื่อเสียงอัดที่ถูกเริ่มเล่นผ่านลำโพง กล่าวด้วยใจความว่า “Jenny ครั้งนี้เป็นครั้งที่พิเศษที่สุด และครีเอทที่สุดเท่าที่ผมจะบอกให้คุณรู้ถึงเพศลูกของเรา ผมคงทำไม่ได้ด้วยการช่วยเหลือจากใครบางคน” และแล้วเสียงของคุณพ่อ Charles ก็ตามมา “สวัสดี Jenny นี่พ่อของลูกนะ พ่ออยากจะให้รู้ว่าเราได้ลูกสาวนะ เป็นลูกสาวนะ พ่อรักลูกนะ บ๊าย บาย” ท่ามกลางข่าวดีที่เธอเพิ่งทราบ…
-
“นายหลอกฉันไม่ได้หรอก” นายตำรวจปล่อยภาพท่าทีพิรุธสุดฮาที่คนใช้เวลาขับรถผ่านตำรวจ
“ตำรวจ” ถือว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติและจะคอยสอดส่องดูแลความสงบและตรวจตราผู้กระทำผิดกฎหมายอยู่เสมอ ดังนั้นหากใครกระทำผิดกฎหมาย พอเจอกับตำรวจต้องมีท่าทีพิรุธอย่างแน่นอน ขนาดบางคนไม่ได้ทำผิดกฎหมายเจอตำรวจบางทียังทำพิรุธเลย (ฮา) แต่เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าคนคนนั้นมีท่าทีพิรุธ วันนี้จึงมีนายตำรวจนามว่า David Castro จากรัฐโอคลาโฮมา สหรัฐอเมริกา ที่ตระหนักได้ว่าที่ผ่านมามีคนกระทำผิดกฎหมายโดยการไม่คาดเข็มขัดนิรภัยกันเยอะ และส่วนใหญ่ของคนที่ไม่คาดเข็มขัดก็จะทำท่ามีพิรุธเวลาเจอตำรวจทุกที เขาจึงอยากจะบอกว่าอย่าพยายามให้เสียเวลา หลากเขาไม่ได้หรอก ดังนั้นใส่เข็มขัดนิรภัยกันซะดีๆ เพื่อประโยชน์ของตัวเองและคนอื่นๆด้วย David ได้กล่าวว่า “เป้าหมายของผมก็คือทำให้ทุกคนตระหนักได้ว่าเราไม่ได้เป็นเพียงหุ่นยนต์ไร้อารมณ์ที่มียศถาบรรดาศักดิ์ พวกเราคือมนุษย์ พวกเราแคร์คุณโดยไม่สนว่าพวกคุณมองตำรวจเป็นอย่างไร พวกเราก็จะคอยปกป้องและจะคอยให้บริการแก่พวกคุณเสมอ” และในที่สุดไอเดียชุดท่าทางพิรุธเมื่อเจอตำรวจชุดนี้ก็ถูกทำออกมาจนได้ จะฮาและน่ารักขนาดไหนไปชมกันครับ นี่แหละ David Castro กับในรถคู่ในพร้อมกับเจ้าหมาคู่หู เขาโพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กพร้อมกับแคปชั่นว่า “นี่คือท่าทางเวลาคุณขับรถผ่านตำรวจและพยายามซ่อนความผิดว่าตัวเองไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ผมเคยเจอมาแล้วทุกทริค คุณหลอกผมไม่ได้หรอก” ท่ายักไหล่โชว์ ท่าหลบหน้าหลบตา ท่าหดหัวแบบเต่า ท่าจู่ๆ ก็เกิดคันขึ้นมาเลยอ้ะ ท่าบางทีถ้าฉันโบกมือให้พวกเขา พวกเขาคงไม่สังเกตเห็นมันหรอกนะ ท่าเอนตัวแบบมาเฟีย ท่า… ท่าจะไม่มีตัวตนอยู่แล้ว ท่าผมไม่ได้ขับ หมามันขับ!!…
-
นักท่องเที่ยวนับร้อยคนตะลึงและยืนงง เมื่อจู่ๆ ผู้ลี้ภัยนับสิบก็ขับเรือเข้าชายหาดมา
“ผู้ลี้ภัย” เป็นคำที่เราเอาไว้เรียกบุคคลที่ไม่ได้กำเนิดในประเทศที่มีถิ่นฐานประจำ แต่มีเหตุจำเป็นที่ต้องย้ายถิ่นอาศัยมา อาจจะเป็นเพราะเหตุผลเกี่ยวกับภัยพิบัติ สงคราม หรือ การเมือง และเรื่องราวคราวนี้ก็เป็นเรื่องราวที่พูดถึงกลุ่มของคนลี้ภัยเช่นกัน เมื่อนักท่องเที่ยวร้อยกว่าคนต้องตกตะลึง เพราะจู่ๆ ก็มีเรือพร้อมกับผู้โดยสารเป็นสิบๆ คนเข้ามาในหาดพร้อมกับรีบวิ่งกรูกันออกไป ในวิดีโอที่ถูกบันทึกภาพโดยผู้เห็นเหตุการณ์ โชว์ให้เห็นนักท่องเที่ยวนับร้อยคนยืนตะลึง อ้าปากค้างมองดูเหล่าผู้ลี้ภัยหลายสิบคนที่กำลังนำเรือเข้ามาเทียบชายฝั่งที่หาด Barossa Beach ในเขต Chiclana ประเทศสเปน หลังจากที่เรือของพวกเขาได้เข้าสู่ชายหาดเป็นที่เรียบร้อย ผู้ลี้ภัยเหล่านั้นก็วิ่งกรูกันลงจากเรือและขึ้นไปทางหน้าผาที่ใกล้ๆ กับชายหาด สื่อท้องถิ่นได้รายงานว่า ประชากรส่วนมากของกลุ่มผู้ลี้ภัยเป็นกลุ่มวัยรุ่นและมีผู้ลี้ภัย 12 คนได้หลบไปพักอยู่ที่โรงแรมใกล้ๆ สถานที่เกิดเหตุ และในช่วงที่ชุลมุนอยู่นั้น มีผู้เห็นเหตุการณ์สังเกตเห็นว่าทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ลี้ภัยสองคน ส่วนผู้ลี้ภัยหลบหนีที่เหลืออยู่ ทางสำนักงานเขตได้บอกว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตามสืบและตามหาตัวต่อไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จู่ๆ ประเทศสเปนก็มีผู้ลี้ภัยโผล่เข้ามาทางชายฝั่ง โดยตามรายงานตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้วประเทศสเปนมีผู้ลี้ภัยมากกว่า 500 คนเข้านำเรือกว่า 18 ลำเข้ามาทางชายฝั่ง Andalusian รวมถึงเมื่อเดือนที่แล้ว ทางชายหาดเมือง Zahora ของสเปนก็มีผู้ลี้ภัยชาวแอฟริกันที่ล่องเรือเข้ามา ซึ่งสร้างความสับสนอลหม่านให้กับนักท่องเที่ยวกันอย่างมากมาย ที่มา Ladbible, Daily Mail
-
นึกว่าวิตามิน… ญี่ปุ่นทำ “ซาชิมิ” รูปแบบใหม่ บรรจุซองพร้อมรับประทานได้ทุกที่ทุกเวลา
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนี้ “ซาชิมิ” อาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ได้กลายเป็นอาหารอันโอชะที่ใครๆ หลายๆ คนได้ลิ้มลองแล้วต้องติดใจ ยิ่งกินคู่กับวาซาบินะ แซ่บหลายยยย โดยปกติแล้วเวลาที่เราอยากทานอาหารพวกปลาดิบ ซูชิ หรือซาชิมิ เราก็ต้องถ่อไปกินถึงร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งบางทีมันก็ไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่วันนี้ปัญหาความไม่สะดวกเหล่านั้นจะหมดไป เมื่อบริษัทญี่ปุ่นอย่าง Kaisho ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เอาใจคนที่อยากกินปลาดิบโดยไม่ต้องถ่อไปถึงร้าน Kaisho เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการประมง ตั้งอยู่ในจังหวัดชิซูโอกะได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า “Ari no Manma” ออกมาเอาใจแฟนๆ ปลาดิบ โดยที่เจ้าสินค้าชิ้นนี้คือซาชิมิดีๆ นี่แหละเพียงแต่ว่าพวกเขานำไปบรรจุในซองสุญญากาศ เพื่อที่จะสามารถเก็บอาหารได้นานและสะดวกต่อการกินมากขึ้น โดยที่สินค้านี้จะมีด้วยกัน 3 แบบในบรรจุภัณฑ์ที่คล้ายกับวิตามินยี่ห้อดัง แต่ละซองจะมีน้ำหนักประมาณ 4 กรัมและมีตัวหนังสือกำกับว่า “ซองสีเหลืองสำหรับวิตามิน B12 ซองสีแดงสำหรับโปรตีน และซองสีส้มสำหรับวิตามิน B6” ถุงสีเหลืองสำหรับวิตามิน B12 นั่นคือเจ้ากุ้งหวานตัวนี้นี่เอง ส่วนสีแดงสำหรับโปรตีน ก็รับเจ้านี่ไปเลยทูน่า!! ส่วนวิตามิน B6 ในสีส้ม นั่นคือของชอบของเราๆ…
-
นักข่าวสาวโนตม โดนว่า “ทำหน้าอก” จึงโชว์ภาพ X-ray ว่านี่ “ของแท้แม่ให้มา” นะโว้ย!!
ปัจจุบัน เน็ตไอดอล นั้นเปล่งประกายขึ้นมากมายราวกับแสงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า แน่นอนว่าก็เป็นเพราะความงาม ความน่ารัก รวมกับความเซ็กซี่ของพวกเธอนั่นแหละที่ทำให้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต แต่การเป็นเน็ตไอดอลก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป ปัญหาต่างๆ ที่คนทั่วไปไม่ค่อยพบเจอเน็ตไอดอลก็อาจจะต้องเจอ เช่น คำวิจารณ์รูปลักษณ์ และคำวิจารณ์ต่างๆ นานา เป็นต้น อย่างเช่นผู้ประกาศข่าวสาวสุดเซ็กซี่สัญชาติเกาหลีใต้ Choi Somi คนนี้ ที่กลายเป็นเน็ตไอดอลเนื่องจากความสามารถ บวกกับหน้าตาและรูปร่างกระชากใจชายของเธอ 최소미 (Choi Somi) ที่มีผู้ติดตามอินสตาแกรมกว่า 650,000 คน รูปร่างของเธอเซ็กซี่เกินบรรยาย ความอ้อนแอ้นและส่วนโค้งเว้าทำให้เธอยิ่งน่ามอง ด้วยหุ่นที่เซ็กซี่ของเธอนี้ ประกอบกับสัดส่วนโค้งเว้าที่ลงตัวเกินจะคิดว่าเป็นความจริง ทำให้เธอถูกชาวเน็ตปล่อยข่าวลือกันทั่วว่าเธอ “ทำศัลยกรรม” มา หลายคนเห็นด้วยกับข่าวลือนี้ เพราะเน็ตไอดอลสาวหลายคนก็ผ่านมือหมอกันมาแล้วทั้งนั้น ประกอบกับที่ Choi…
-
คดีสะเทือนขวัญ เมื่อบ้านเด็กกำพร้ากลายเป็นฝันร้าย แม่ชีถูกกล่าวหาเป็นคนลงมือ…
อีกหนึ่งการเปิดโปงความสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น กับระบบบ้านเด็กกำพร้าภายใต้การดูแลและการกำกับของตัวแทนทางจากทางโบสถ์ศาสนาคริสต์ ณ บ้านเด็กกำพร้า St. Joseph’s Catholic Orphanage เมืองเบอร์ลิงตัน รัฐเวอร์มอนต์ กลับกลายเป็นฝันร้ายที่ยากจะลืมลงของเหล่าเด็กๆ ผู้เคราะห์ร้าย ในช่วงปี 1950 และ 1960 ชื่อเสียงของบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้เริ่มก็เริ่มโด่งดังขึ้น เมื่อทางการได้รับการร้องเรียนจากอดีตเด็กกำพร้าที่ออกไปแล้วมากกว่า 100 ชีวิต ว่าพวกเขาตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง แต่ทางการรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไม่ตั้งข้อหาใดๆ หากต้องการเรียกร้องความยุติธรรมก็ต้องไปยื่นฟ้องร้องเอาเอง Sally Dale Sally Dale หนึ่งในเด็กหญิงที่เติบโตอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่ 2 ขวบจนถึงอายุ 23 ปี อาจจะเป็นหนึ่งในเด็กที่อยู่ในบ้านเด็กกำพร้านานที่สุด เธอได้ให้การต่อทนายความว่า มักจะถูกเหล่าแม่ชีผู้ดูแลทุบตีบ่อยครั้ง เหตุการณ์ที่จำได้ก็คือ เคยถูกจับขังเดี่ยวภายในตู้เก็บของในห้องใต้หลังคา ภายหลังจากหมดบทลงโทษ หนำซ้ำยังเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศภายในห้องนอนของแม่ชี ถูกดึงผมกลับมานั่งที่เตียงตัวเอง ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า ‘เธอเป็นเด็กไม่ดี’ จนกระทั่งเช้าวันถัดมา เธอถูกบังคับให้มานั่งอยู่ข้างเตียงบนพื้น และแม่ชีจะให้เด็กคนอื่นมาหัวเราะเยาะเย้ย พร้อมกับให้สารภาพว่าเมื่อคืนเป็นเด็กไม่ดีต่อหน้าเพื่อนๆ…
-
สาววัย 23 เดินทางข้ามสหรัฐฯ ด้วย “โรลเลอร์เบลด” หาเงินบริจาคเพื่อเด็กในเคนย่า
Yanise Ho คือหญิงสาววัย 23 ปีที่ถึงแม้ว่าเธอจะมีบ้านเกิดอยู่ที่ฮ่องกง แต่เธอก็ได้ออกเดินทางไปเรียนในสถานที่ต่างๆ ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยมี “โรลเลอร์เบลด” เป็นเหมือนกับพาหนะคู่ใจ . ความชอบของเธอได้นำไปสู่การเดินทางอันน่าจดจำ เมื่อเธอมาหยุดอยู่ที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา พร้อมกับความตั้งใจที่จะเดินทางตัดผ่านประเทศไปที่นิวยอร์ก และเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน การเดินทางของเธอเริ่มต้นขึ้นจากความตั้งใจที่จะจัดกองทุนชื่อว่า Bladress ไถโรลเลอร์เบลดออกเดินทางไกล หาเงินบริจาคไปช่วยเรื่องของการศึกษาให้กับเด็กๆ ในประเทศเคนยา Yanise บอกว่ารายได้ทั้งหมดนั้นเธอจะมอบให้กับมูลนิธิ One Girl Can ที่ช่วยในเหลือในเรื่องดังกล่าว และปลุกพลังให้กับผู้หญิงทั่วโลกรับรู้ว่าพวกเธอสามารถสร้างสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ เธอยังไม่พกเงินติดตัวไปเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะเธอต้องการจะพิสูจน์ว่ามีผู้คนดีๆ อีกมากที่พร้อมจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการเดินทางครั้งนี้ แล้วเธอก็เริ่มออกเดินทางในวันที่ 15 มีนาคม 2018 ซึ่งหลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เธอคิดไว้ ไม่ว่าเธอไปที่ไหนก็จะมีคนคอยช่วยเหลือ ให้ที่พักชั่วคราว ดูแลเธออยู่เสมอ ภาพจุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนี้ เธอเดินทางวันละประมาณ 48 กิโลเมตร ได้เจอกับคนมากหน้าหลายตา โดยที่ในทุกๆ…
-
ยุทธการจับวิญญาณ เมื่อน้ำในตู้ไหว้บรรพบุรษหายเกลี้ยง จับผู้ร้ายได้ก็ยังไม่สำนึก…
ความเชื่อในเรื่องของชีวิตหลังความตาย บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ก็มักจะเก็บอัฐิของบุคคลอันเป็นที่รัก นำมาวางไว้บนแท่นบูชาเพื่อสวดมนต์ภาวนา ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี แต่ทีนี้เนี่ย ปัญหามักจะเกิดขึ้นกับของที่วางไว้บนแท่นบูชา จำพวกน้ำและอาหารต่างๆ ที่กลับหายไปอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดเป็นข้อสงสัยว่ามันเกิดเรื่องเหนือธรรมชาติขึ้นรึเปล่า? น้ำจะระเหยเองได้ไวขนาดไหนกัน ของกินยิ่งแล้วใหญ่ หรือมีวิญญาณมารับไปแล้ว? ตู้ไหว้บรรพบุรุษที่ตั้งอยู่ในบ้านของอาจารย์ Hiroki Ugawa ได้วางถ้วยน้ำไว้ตามธรรมเนียมปกติ แต่แล้วมาวันหนึ่งกลับสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ เพราะน้ำในถ้วยกลับเหือดแห้งไปในเวลาอันรวดเร็ว… ด้วยความพิศวงที่เกิดขึ้นตรงหน้า มันอาจจะเป็นเรื่องราวลี้ลับที่เกิดขึ้นจริงก็ได้ ญาติพี่น้องที่อยู่อีกโลกหนึ่งกำลังพยายามสื่อสารกับเขารึเปล่า… ‘ผมรู้แล้วว่าน้ำในตู้หายไปไหน…’ 仏壇に供えた水がいつも減ってる怪現象の原因を捉えた。 pic.twitter.com/XqF8S5hdAS — 宇河弘樹 (@ugawa) August 25, 2018 แทนที่จะคิดเป็นตุเป็นตะไปไกลกว่านี้ ไม่อยากจะให้ขนสยองพองเกล้า ต้องใช้เวลาในการตามสืบคดีพิศวงสักพัก ก็ไม่มีอะไรมากกว่าผู้ร้ายในโลกปัจจุบันนี่แหละ มันก็คือเจ้าเหมียวที่อาจารย์เลี้ยงไว้ หิวกระหายน้ำแวะมากินบ่อยๆ นี่เอง ปั๊ดโถ้วววว!! หลังจากที่สืบคดีเสร็จสิ้นแล้ว ชาวเน็ตก็มาตอบกลับอาจารย์ไว้ว่า ไม่ใช่อาจารย์คนเดียวหรอกที่จะเจออะไรแบบนี้ บ้านผมก็เป็น!! https://twitter.com/jduhndp1/status/1033254828430880768 จัดดอกไม้ปลอมเตรียมเอาไว้เปลี่ยนใส่ตู้ กลับมาที่บ้านเจอตัวเล็กมาป่วนเหมือนกัน!! 暑い夏、、 お仏壇には 造花の お花 イッパイ飾りました(๑˃̵ᴗ˂̵)…
-
‘The Rock’ ส่งวิดีโอแสดงความเสียใจ และให้กำลังใจแฟนคลับหนุ่มที่เพิ่งสูญเสียครอบครัว
Dwayne Johnson หรือที่เรารู้จักกันในนาม The Rock จากเรื่องราวก่อนๆ ของเขา ก็ทำให้ทราบกันดีว่าเขาเป็นคนตลกเฮฮา เข้ากับคนอื่นง่าย เป็นมิตร ใจดีและยังชอบช่วยเหลือผู้อื่นอีกด้วย ถ้ามีอะไรที่เขาพอจะทำเพื่อแฟนคลับได้ เขาแทบจะยอมทำทุกวิถีทาง และคราวนี้ก็เช่นกัน เขาได้ส่งข้อความไปแสดงความเสียใจกับ Angelo Pizarro หนุ่มคนที่เพิ่งจะเสีย Aileen Pizarro คุณแม่วัย 42 และ Aryana น้องสาววัย 12 ขวบไปด้วยอุบัติเหตุทางท้องถนน My beautiful mom who passed away loved @TheRock so so SO much. I’m trying to get him to do even a video saying her name for the funeral. If you could retweet the…
-
ชายหาดในฝรั่งเศส สั่งห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวลงน้ำ เพราะเจ้า “โลมา” มันขี้เล่นเกิ๊น?!
โลมา เป็นสัตว์ที่เรามักจะรู้สึกว่ามันไม่มีพิษภัย เต็มไปด้วยความขี้เล่น เป็นมิตรกับมนุษย์ แต่ล่าสุดมันกลับกลายเป็นตัวการที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงไปเล่นน้ำบริเวณชายหาดแห่งหนึ่งได้ โลมาที่เรากำลังพูดถึงนี้มีชื่อว่า Zafar โลมาเพศผู้ ความยาว 3 เมตร ที่มีความขี้เล่นอยู่ในตัวสูงมาก แต่เดิมนั้นมันมีถิ่นอาศัยอยู่ในบริเวณรอบๆ ท่าเรือในเมือง Brest ประเทศฝรั่งเศส Zafar โลมาขี้เล่น เจ้าโลมาตัวนี้มักจะออกไปเล่นกับนักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำ สร้างความสนุกสนานให้กับเหล่านักเรียนที่ออกเรือมาอยู่เสมอ โดดน้ำโชว์บ้าง ว่ายวนรอบๆ เรือบ้าง หรือบางครั้งก็จะให้คนเล่นน้ำก็ครีบของมันว่ายไปด้วยกัน จนกระทั่งมันได้ย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยลงใต้ ไปอยู่ในบริเวณชายหาดของเมือง Landévennec เจ้าโลมาตัวนี้ก็ได้กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการห้ามเล่นน้ำขึ้นมา จากการรายงานท้องถิ่นบอกว่ามันไม่ได้มีท่าทีก้าวร้าวแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าเพราะความขี้เล่นเกินไปของมัน ทำให้คนที่เล่นน้ำหรือเรือที่แล่นอยู่ไม่ปลอดภัยเท่านั้นเอง แม้แต่ในเขตน้ำตื้นมันก็มักจะว่ายเข้ามา เมื่อเดือนกรกฎาคม 2018 มีการรายงานว่าคนเดินเรือได้ช่วยหญิงสาวนักว่ายน้ำเอาไว้ เพราะเธอถูกเจ้าโลมาตัวนี้ขัดขวางไม่ให้เธอว่ายกลับเข้าฝั่ง มีพฤติกรรมเอาตัวไปถูไถกับนักท่องเที่ยวที่ลงว่ายน้ำ ไปสวีวี่วีกับเรือคายัคที่จอดทิ้งไว้ พร้อมกับอวัยวะเพศสีชมพูขนาด 20 เซนติเมตร โผล่ออกมาและมักจะถึงจุดสุดยอดบ่อยครั้ง… หนักกว่านั้นคือช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีการรายงานบอกว่าเจ้าโลมาได้ใช้จมูกของมันโยนนักว่ายน้ำหญิงขึ้นไปบนอากาศ จนทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนก “น้องโลมาตัวนี้กำลังมองหาคู่ขาอยู่ เขาจะไปถูไถคลอเคลียกับทุกสิ่งทุกอย่างที่พอจะหาได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรือทั้งคน ในช่วงที่กำหนัดแบบจัดๆ”…
-
ให้ฟรีไม่คิดตังค์… ชาวเน็ตพากันเงิบ ซื้อของร้านสะดวกซื้อ พนง. แถมถาดรับเงินให้ด้วย
ตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นแล้ว เวลาที่จะต้องคิดเงินคิดค่าบริการต่างๆ ทางร้านจะไม่รับเงินจากลูกค้าโดยตรง จะมีถาดรับเงินเพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้ารายนี้ จ่ายเงินมาเท่านี้ตามจำนวน ง่ายต่อการหยิบและนับ และส่งเงินทอนคืนให้กลับมาที่ถาดเดิม (บางกรณีก็ยื่นใส่เหมือนตามปกติ) โดยที่ถาดรับเงินนี้ ถือว่าเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียวสำหรับร้านค้า แน่นอนว่าถ้าหายไปก็คงจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากของคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่ว่าพนักงานอาจจะรู้สึกเหนื่อยเพลียจนเบลอ ก่อให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องแบบนี้ได้เช่นกัน จากที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @D_u_P_II ออกมาเปิดเผยว่าหลังจากที่เขาเข้าไปซื้อของในร้านแฟมิลี่มาร์ท จ่ายเงินรับของตามปกติ แต่พอกลับมาเนี่ยสิ ดันมีของแถมห้อยติดมาด้วย… https://twitter.com/D_u_P_ll/status/1032568762002694144 ไอ้ของแถมที่ว่าก็ไม่ใช่อะไร ‘ถาดรับเงิน’ ที่ควรจะอยู่ข้างเคาท์เตอร์ดันมาอยู่ในถุงของลูกค้าซะได้นี่ แต่ภายหลังจากที่หัวเราะลั่นออกมาแล้ว เขาก็รีบกลับไปที่ร้านเดิมพร้อมกับกล่าวว่า… ‘ผมเอาถาดไปคืนแล้ว และผมก็ซื้อสินค้าในร้านเพิ่มเติม แต่คราวนี้ผมเอาข้าวของใส่ตะกร้า แล้วก็คอยดูพนักงานคนเดิมคิดเงิน เขามักเอาสินค้าวางบนถาดรับเงินเพื่อสแกน (โดยไม่ทันคิดว่ามันจะติดกับสินค้าออกไปด้วย) แต่เขาก็ดูชิลแล้วก็ยิ้มตลอดเวลาด้วย นายคงต้องพักแล้วล่ะ’ กรณีแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นบ่อยนัก กับการที่จะเอาสินค้ามาวางทับบนถาดรับเงินแล้วจะติดกับสินค้าไปด้วย แต่มันก็เกิดขึ้นได้อยู่ดี เพราะชาวเน็ตก็เข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ตรงเช่นเดียวกันว่า ‘เฮ้ย ไม่ใช่เอ็งคนเดียวที่ได้ของแถมนะ’ อันที่พีคกว่าถาดรับเงิน ก็น่าจะเป็นฟองน้ำล้างนิ้วนี่แหละ เหมือนได้ไอเท็มหายากประจำร้านสะดวกซื้อกันเลยทีเดียว ที่มา: jin115, soranews24, @D_u_P_ll
-
หนึ่งในวิธีฝึกด้าน ‘ความปลอดภัย’ มหาโหด ให้พนักงานรถไฟหัวกระสุน ไปนั่งลงหลุมเฉียดตาย…
ในด้านของการคมนาคมทางรถไฟของญี่ปุ่น เรื่องของความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ และด้วยกรรมวิธีการฝึกฝนของกลุ่มผู้ให้บริการรถไฟ JR West ได้ให้พนักงานทำการฝึกในรูปแบบที่น่าอึดอัดใจไม่น้อย กรรมวิธีการฝึกฝนดังกล่าวจะแบ่งกลุ่มในพนักงานลงไปนั่งอยู่ในหลุมข้างๆ กับรางรถไฟชินคันเซ็น ที่อยู่ห่างเพียงแค่เอื้อมมือเท่านั้น และหลุมดังกล่าวก็กว้างเพียง 1 เมตร ลึก 1 เมตรเท่านั้น ภาพจำลองการฝึกดังกล่าว หลังจากที่ปล่อยให้พนักงานลงไปนั่งในหลุมแล้ว รถไฟชินคันเซ็นที่มีน้ำหนักกว่า 700 ตัน จะวิ่งผ่านไปด้วยความเร็วสูงเฉียด 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของหลุมภายในอุโมงค์ที่จะมาบรรจบกับความเร็วสูงสุดแบบพอดิบพอดี การฝึกดังกล่าวได้รับการเปิดเผยมาจากเหล่าพนักงานที่ผ่านมาการฝึกกับทาง JR West มาแล้ว ให้สัมภาษณ์ผ่าน Mainichi Shinbun ว่าจะมีการฝึกแบบนี้เป็นประจำเพื่อให้เหล่าพนักงานตรวจสอบความปลอดภัย ใส่ใจกับความสำคัญในการทำงานของพวกเขา กระบวนการฝึกพนักงานฝึกหัดแบบนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ในปี 2015 หลังจากที่มีแผ่นเหล็กขนาด 74 x 62 ซม. หลุดออกมาจากขบวนรถไฟชินคันเซ็นหมายเลข 2 จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่รถไฟขบวนหลังที่ตามมา นั่นก็เป็นเพราะการดูแลด้านความปลอดภัยที่หละหลวม เป็นความผิดพลาดของพนักงานชุดผู้ตรวจสอบความปลอดภัย ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ JR West ได้กล่าวไว้ว่า…
-
พารู้จัก Kadoya Akiko ผู้ประกาศข่าวสาวชาวญี่ปุ่น สวยน่ารักระดับ 10 ที่มีแฟนคลับตามคลั่งไคล้!!
โลกใบนี้มีผู้หญิงน่ารักๆ อยู่เต็มไปหมดและเขาก็ว่ากันว่าการได้มองดูผู้หญิงสวยๆ น่ารักๆ ก็เหมือนได้ชาร์จพลังงานให้แก่เรา ดังนั้นวันนี้เราจึงนำกระแสของ “ผู้ประกาศข่าว” ชาวญี่ปุ่นสุดน่ารัก ที่ชาวเน็ตกำลังคลั่งไคล้เธอคนนี้มาให้ได้ดูกันครับ ผู้ประกาศข่าวคนที่เรากล่าวถึงคนนี้คือ Kadoya Akiko สาวสวยวัย 24 ปีที่จบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยเก่าแก่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอย่างมหาวิทยาลัย Keio Akiko เพิ่งเข้ามาทำงานในฐานะนักข่าวเมื่อปี 2017 โดยที่เธอประจำอยู่ที่ช่อง TV-Tokyo โดยที่จะรับผิดชอบหน้าที่ใน 5 รายการได้แก่ Hyakukin!, NMS, Nichiyou Chaplin, 7stlive และ TXN News แม้ว่าเธอจะเข้าทำงานมาได้ไม่นานสักเท่าไหร่ แต่ด้วยความน่ารักสดใสของเธอ ก็ทำให้เป็นที่ชื่นชอบและมีแฟนๆ คอยติดตามผลงานของเธอกันอย่างมากมาย Akiko มีงานอดิเรกคือฟังเพลงและดูรายการวาไรตี้ เธอมีความสามารถพิเศษคือร่างกายยืดหยุ่นมากๆ ส่วนถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้เธออยากมาเป็นผู้ประกาศข่าวนั้นก็คือการที่เป็นนักข่าว สามารถทำให้เธอได้พบกับ Yuzo Kayama นักดนตรีและดาราคนโปรดของเธอนั่นเอง (ฮา) เราจะไปประมวลผลภาพความน่ารักของเธอกันครับ ระวังตกหลุมรักเธอกันล่ะ!! ตั้งใจประกาศข่าวอย่างเต็มที่ ขอสัมภาษณ์หน่อยจิ . น่ารักกก ไปลงพื้นที่ข้างนอกห้องส่งกันบ้าง …
-
ปฏิกิริยาของคนรอบข้าง “เมื่อลูกชายยอมรับว่าเป็นเกย์” แต่ครอบครัวกลับไม่เข้าใจและผิดหวัง
ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า มีการผลักดันเรียกร้องความเท่าเทียมในเรื่องเพศทางเลือก หลายๆ ประเทศต่างเริ่มให้การยอมรับมากขึ้น ส่งผลต่อทัศนคติที่เปลี่ยนไปในแง่บวก ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรทุกคนก็ยังคงเป็นมนุษย์เหมือนเดิม… แต่แท้จริงแล้ว ตามสิ่งที่เราได้เห็นกันผิวเผินว่าการยอมรับเพศสภาพที่แตกต่างนั้น เป็นไปในทิศทางใดๆ มากน้อยแค่ไหน ซึ่งในชีวิตจริงยังคงมีบางส่วนที่ไม่ยอมรับในสิ่งที่หลายคนเป็นอยู่ ไม่เว้นแม้แต่ในสถาบันครอบครัว ตัวอย่างในการทดลองเปิดใจและเปิดทัศนคติของคนรอบข้าง จากการให้นักแสดงหน้าม้าจัดฉากให้ลูกชายเปิดเผยว่าตนเองเป็นเกย์ต่อหน้าพ่อแม่ ในรายการ What Would You Do โดยยกให้เป็นครอบครัวชาวเอเชียที่ไม่ค่อยยอมรับกับเรื่องแบบนี้เท่าไหร่นัก เนื่องจากในเรื่องของการสืบสกุล การเป็นลูกชายคนเดียว ฯลฯ การจัดฉากเริ่มขึ้นด้วยการให้ลูกชายพูดเปิดใจว่าตัวเองเป็นเกย์ และให้ผู้เป็นพ่อและแม่แสดงอาการไม่พอใจ กล่าวต่อว่า “มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ สิ่งที่พ่อแม่พยายามเลี้ยงดูและเสียสละมาต้องเป็นแบบนี้หรือ” ในระหว่างที่โต๊ะข้างๆ ได้ยินเรื่องราวการถกเถียงระหว่างครอบครัวหน้าม้าของ Daniel ผู้คนที่อยู่รอบๆ ก็ได้ร่วมแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย ตัวอย่างจากคู่รักคู่แรกที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เธอกล่าวกับคุณแม่ว่า ‘คุณน่าจะละอายใจตัวเองบ้าง’ แม้จะถูกบอกว่าลูกชายทำให้เธอรู้สึกละอายใจมาก แต่ก็ย้ำตอบว่า ‘มันไม่ใช่เรื่องของคุณ’ จนแล้วก็เชิญ Daniel มานั่งร่วมโต๊ะด้วยกันพร้อมกับให้กำลังใจว่า ‘ในทุกวัฒนธรรม ทุกครอบครัวก็ไม่ใช่จะยอมรับได้ทั้งหมด แต่อย่าให้มันมาควบคุมชีวิตเรา จงหาตัวเองให้เจอและมีความสุขกับมัน’ …
-
หนุ่มเมาอยากติดรถตำรวจกลับบ้าน เลยโทรแจ้งว่า “ขโมยปืนมา” สุดท้ายได้ไปนอนในคุกแทน
เมื่อเราอยากจะกลับบ้าน แต่หมดหนทางไป จะเดินก็ไกล รถรับส่งสาธารณะทั้งหลายก็ไม่ยอมไปส่ง อีกหนทางที่คิดออกในตอนนั้นอาจเป็นการโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากผู้รักษากฎหมาย ถ้าขอดีๆ อาจไม่มีปัญหาอะไร ขอแค่ไม่ทำเหมือนชายคนนี้ก็พอ เพราะเขาดันโทรไปแจ้งกับสถานีตำรวจว่า “ขโมยปืนมา” เพียงเท่านั้นแหละ ความหวังที่จะได้กลับบ้านก็ดับวูบไปในทันที เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เวลาประมาณเกือบ 6 โมงเย็นของวันที่ 22 สิงหาคม 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชายนิรนามคนหนึ่งที่ใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรเข้ามาว่า “ตอนนี้ผมกำลังมุ่งหน้าไปที่ป้อมตำรวจ Wajiro ผมขโมยปืนพกมา ขอความกรุณาว่าช่วยเล็งตอบโต้แค่ที่เท้าของผมด้วย” เมื่อตำรวจได้รับแจ้งมาอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ 9 นายจึงเตรียมอาวุธครบมือ พร้อมต่อสู้กับผู้ร้าย และรีบมุ่งตรงไปยังสถานที่เกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึง สิ่งที่พวกเขาได้พบก็คือ ชายว่างงานวัย 68 ปีที่กำลังอยู่ในสภาพเมาสุรา นั่งบ่นพึมพำกับตัวเอง ตำรวจจึงทำการจับกุมตัวเขาไป แต่ก็ไม่พบปืนพกอย่างที่เขาแจ้งไว้ในตอนแรก ก่อนจะได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วชายคนนั้นแค่หลงทางและต้องการจะขอติดรถกลับบ้านกับตำรวจเท่านั้นเอง ผู้ต้องหาให้การว่า “แท็กซี่ไม่ยอมจอดรับผม ผมเลยคิดว่าถ้าโทรแจ้งตำรวจว่าตัวเองขโมยปืนมาก็คงจะติดรถกลับไปบ้านได้” แต่ว่าเจ้าหน้าที่ไม่ใจดีอย่างนั้น แทนที่ชายคนนี้จะได้กลับไปนอนบ้านอย่างสบายอารมณ์ สุดท้ายเขาถูกพาตัวไปนอนในคุกซะแทน ตามข้อหาแจ้งความเท็จ…
-
วิ่งกันจ้าละหวั่น เมื่อสัญญาณไฟไหม้ในโรงแรมที่เยอรมนีดัง ที่แท้นักท่องเที่ยวต้มหม้อไฟ!!
เพื่อให้รับรู้ถึงภัยเหตุอัคคีภัยแล้ว สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในปัจจุบันจึงมักจะมีการติดตั้ง “สัญญาณเตือนไฟไหม้” ไว้ในตัวอาคารอยู่เสมอ โดยที่เจ้าสัญญาณเตือนไฟไหม้นี้ก็จะมีด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นประเภทตรวจจับควันไฟ ประเภทตรวจจับความร้อน หรือประเภทกดเพื่อแจ้งเตือน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน หากมันตรวจจับถึงเหตุไฟไหม ก็จะส่งเสียงดังขึ้นมาทันที และเจ้าเสียงดังที่กล่าวไปข้างต้นนี่แหละประเด็นในวันนี้ เมื่อเสียงของสัญญาณไฟไหม้ที่โรงแรมในประเทศเยอรมนีดังขึ้นมา งานนี้ผู้พักอาศัยแต่ละคนเลยวิ่งกันจ้าละหวั่นเลยสิครับ แต่ผ่านไปสักพัก ไม่ยักจะเห็นไฟ จึงได้มีการตรวจสอบสาเหตุ หาไปหามาก็พบว่า โธ่เอ๊ย!! นักท่องเที่ยวจีนต้มหม้อไฟกึ่งสำเร็จรูป!! ในวันที่ 26 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมาทางเพจเฟซบุ๊ก China Xinhua News ได้โพสต์ภาพของเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นในโซเชียลมีเดียจีนเกี่ยวกับการที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มหนึ่ง ที่ไปท่องเที่ยวที่ประเทศเยอรมนีและได้ไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง และดูเหมือนว่าอาหารของประเทศเยอรมนีจะไม่ค่อยถูกปากของพวกเขาสักเท่าไหร่นัก พวกเขาจึงได้นำอาหารที่ได้นำหม้อไฟกึ่งสำเร็จรูป (คล้ายกับมาม่าบ้านเรา) ที่พกมาด้วยออกมาต้มซะเลย ด้วยที่เจ้าหม้อไฟกึ่งสำเร็จรูปนี้ ต้องมีการใช้ถุงทำความร้อนมาวางใต้ถ้วยหม้อไฟสร้างความร้อนเพื่อต้มให้หม้อไฟกึ่งสำเร็จรูปเดือด โดยใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที และระหว่างนี้เองความร้อนจากถุงทำความร้อนก็ได้ทำให้เกิดควันและไอน้ำลอยขึ้นไปสูง จนถูกเซนเซอร์ตรวจจับควันไฟจับได้และสัญญาณเตือนไฟไหม้ก็ดังขึ้นในทันที เมื่อสัญญาณเตือนดังขึ้นแบบนี้ทางโรงแรมจึงได้โทรตามเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอย่างรวดเร็ว แต่พอเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้มาถึงห้องพักก็ไม่พบกับเหตุไฟไหม้ตามที่ได้รับรายงานมา จะพบก็เพียงการต้มหม้อไฟกึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น นักท่องเที่ยวจีนรายดังกล่าวจึงโดนปรับเป็นเงิน 950 ยูโรหรือประมาณ 36,000 บาทไปโดยปริยาย หลักฐานคาหนังคาเขาเชียว!! เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
-
นิวซีแลนด์พบ “หมึกยักษ์” เกยตื้น ลำตัวยาว 4.3 เมตร นึกว่า Kraken แค่เห็นก็ขนลุกแล้ว!!
ทะเลและมหาสมุทรเป็นศูนย์รวมความอุดมสมบูรณ์สำหรับเหล่าสัตว์ทะเลทั้งหลาย ฉะนั้น สัตว์หลายตัวจึงเติบโตได้จนมีขนาดตัวใหญ่ยักษ์ ถ้าพวกเราได้พบเห็นมันเราก็คงจะตื่นเต้นผสมกับกลัวไม่น้อยเลยทีเดียว ล่าสุด ณ ชายฝั่งของเมืองหลวงประเทศนิวซีแลนด์ มีปลาหมึกยักษ์ขนาดตัวยาว 4.3 เมตรถูกน้ำพัดพามาเกยตื้น ซึ่งถูกพบโดย 3 พี่น้องที่เดินทางไปดำน้ำยังละแวกนั้น Daniel, Jack และ Matthew Aplin ได้เดินทางไปดำน้ำยังเมืองเวลลิงตัน ขณะที่พวกเขากำลังดำน้ำเลาะชายฝั่งเร้ดร็อกส์ทิศใต้ของเมือง พวกเขาก็ต้องพบกับสัตว์ทะเลยักษ์ใหญ่นอนเกยตื้นอยู่บนหาด ทั้งสามพี่น้องเล่าว่าขณะดำน้ำพวกเขาก็มีการพบเห็นฉลามบ้าง แต่ยังไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตตัวไหนมีขนาดใหญ่เท่านี้มาก่อนเลย จากนั้นพวกเขาก็ติดต่อ National Institute of Water and Atmospheric Research เพื่อเข้ามาตรวจสอบและนำตัวหมึกยักษ์ตัวนี้ไปยังที่ที่สมควร โฆษกของหน่วยงานกล่าวว่ามันเกือบจะเรียกได้ว่าเป็น “ปลาหมึกยักษ์” โตเต็มวัย เพราะหมึกจำพวกนี้มันถูกน้ำพัดขึ้นมาเกยฝั่งให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ความจริงแล้วหมึกพันธุ์นี้สามารถโตได้มากสุดถึง 10 เมตร บริเวณหนวดจะมีหลุมดูดพร้อมด้วยหนามแหลมตลอดโคนจดปลาย พวกมันมักกินปลาและหมึกตัวเล็กๆ เป็นอาหาร แต่อย่างไรก็ตามพวกมันก็มักเป็นเหยื่อของวาฬสเปิร์มและฉลามน้ำลึกเช่นกัน การจับเหยื่อของมันจะเป็นการใช้หนวดสองเส้นในการตรึงเหยื่อแล้วใช้ปุ่มพร้อมหนามบนหนวดในการล็อกและดึงเหยื่อเข้าสู่จะงอยปากอันแหลมคม ก่อนฉีกเหยื่อเป็นชิ้นแล้วกลืนลงไป ปลาหมึกยักษ์แบบนี้สามารถพบเจอได้ในมหาสมุทรต่างๆ ทั่วโลกเลยล่ะ ที่มา: thesun และ news
-
อดีตนาวิกโยธินตัวใหญ่ใจดี มีน้ำใจ เข้าช่วยเหลือชายเจ็บขา ชาวเน็ตชื่นชมเพียบ!!
เพื่อนๆ คิดว่าอะไรกันที่ทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นมา ส่วนตัวของเรานั้นคิดว่าคงเป็น “น้ำใจ” ที่มนุษย์หลายๆ คนได้แบ่งปันให้แก่กัน ได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ด้วยความอยากกระตุ้นให้หลายๆ คนทำความดี วันนี้ #เหมียวโคบี้ จึงนำเรื่องของพลเมืองดีคนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือชายที่มีปัญหาทางการเดินมาให้ชมกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่ปั๊มน้ำมันในเมือง Fort Worth รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อคนบันทึกภาพของ Israel Cevallos อดีตนาวิกโยธินตัวใหญ่แต่ใจดี ทันทีที่เขาเห็นคนใส่ที่รัดขาและดูเหมือนจะมีปัญหาเรื่องการเดิน เขาก็ได้เดินตรงเข้าไปหาชายคนนั้นและพูดคุยกันอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่เขาจะช่วยพยุงชายคนดังกล่าวเดินไปกับเขาช้าๆ แต่เดินไปสักพักหนึ่งพวกเขาทั้งคู่ก็ได้หยุดลงและพูดคุยกันอีกครั้ง ก่อนที่ Israel Cevallos จะขออนุญาตอุ้มชายเจ็บขาคนนั้นไปส่งที่รถยนต์ของเขา . จากนั้น Israel ก็ค่อยๆ ปล่อยเขาลงพร้อมกับตรวจดูความเรียบร้อยและทำให้แน่ใจว่าชายคนดังกล่าวโอเค ก่อนที่จะเดินไปทำธุระของเขาต่อ และเหตุการณ์นี้ก็มีคนสามารถบันทึกภาพวิดีโอเอาไว้ได้และได้โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ทำให้มีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมกันอย่างมากมาย ขอบคุณคุณมากๆ สำหรับความใจดีของคุณ หวังว่าจะมีคนแบบคุณอยู่หลงเหลืออยู่ในโลกนี้นะ ขอบคุณคุณที่นำวิดีโอนี้มาโพสต์มากๆ ฉันพูดอยู่เสมอว่าในโลกนี้มันมีคนดีมากกว่าคนเลว และมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่ได้เห็นด้านดีๆ ของมนุษย์แบบนี้ มารับชมวิดีโอกันครับ ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่สักเท่าใด แต่มันก็ทำให้เราเห็นว่าน้ำใจของมนุษย์ยังมีอยู่และก็ทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ ที่มา Ispiremore
-
ชายไร้บ้านกล่าว ‘ไม่ได้แตะเงินบริจาค’ กรณีสาวช่วยระดมเงินได้ 13 ล้าน ตอบแทนค่าน้ำมันที่ช่วย…
Kate McClure หญิงสาววัย 27 ปีกำลังขับรถกลับบ้านของเธอที่ รัฐฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความเผลอหรือลืมดูก็ไม่ทราบ ทำให้รถของเธอน้ำมันหมดกลางทางหลวง (ข่าวเก่า) ซึ่งขณะที่เธอกำลังโทรหา Mark D’Amico แฟนของเธอให้มารับก็ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากเงามืดและให้การช่วยเหลือ Kate McClure และ Johnny Bobbitt Johnny Bobbitt คือชายไร้บ้านผู้มอบเงินจำนวน 650 บาทสุดท้ายของตัวเอง เพื่อให้เธอมีเงินไปเติมน้ำมันรถขับต่อ โดยที่เขาไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน… จนทำให้ McClure รู้สึกประทับใจในตัวเขามากๆ “จอห์นนี่ไม่ได้ร้องขอเงินอะไรเลย ฉันไม่มีเงินจ่ายคืนให้เขาได้ในตอนนั้น แต่ก็แวะมาจุดเดิมที่เจอเขาบ้าง มาจ่ายเงินคืน ให้เสื้อแจ็คเก็ต ถุงมือ หมวก และถุงเท้า และให้เงินเขาทุกครั้งที่เจอกัน” McClure เคยกล่าวไว้ในโพสต์เฟซบุ๊กของเธอเองเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา แคมเปญระดมทุนช่วยบริจาคที่จะเปลี่ยนชีวิตได้ยอดมากถึง 13,000,000 บาท และด้วยความประทับใจของเธอ จึงได้ทำการเปิดระดมทุนหาเงินผ่านเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อนำไปเป็นเงินช่วยเหลือ Bobbitt สำหรับซื้อบ้าน รถยนต์ในฝันของเขา ซึ่งการระดมทุนก็ได้รับเงินสนับสนุนมากถึง 400,000…
-
หนุ่มมะกันช้ำรัก หันมาสร้าง “แฟนหนุ่ม” ใช้เอง ด้วยกล่องกระดาษเหลือๆ …
ศิลปินหนุ่มใหญ่วัย 44 ปี นามว่า Michael James Schneider ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา ปกติแล้วเขาทำงานอยู่ที่ร้านค้าส่ง แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาก็ผันตัวกลายเป็นหนุ่มติสต์ ผลงานศิลปะชิ้นล่าสุดของเขาคือการที่เขานำกล่องไวน์เปล่าๆ มารวมกันและสร้างสรรค์มันให้ออกเป็น ผลงานประดิษฐ์เชิงศิลปะชิ้นหนึ่ง แถมยังเป็นสิ่งที่เขารักมากเสียด้วย “เมื่อปีสองปีก่อน ผมผิดหวังจากความรักจึงเยียวยาตัวเองด้วยไวน์” Michael เล่า “แต่ตอนนี้ผมก้าวข้ามอาการอกหักและการติดไวน์มาแล้วล่ะ ผมมักคิดว่ามันน่าจะมีทั้งความรู้สึกเศร้า ตลก และมีความสุขนะ ถ้าผมจะสร้างคนคู่ชีวิตขึ้นมาใหม่จากกล่องกระดาษที่ได้จากการซื้อไวน์” Michael ได้สร้างหุ่น “แฟนหนุ่ม” ของเขาขึ้นมาจากกล่องกระดาษเปล่าๆ นั่นเอง จากนั้นเขาก็พา “แฟนหนุ่ม” ดังกล่าวไปเที่ยวละถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำ เขาบอกว่าภาพถ่ายต่างๆ ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพตัวอย่างที่มักเห็นขณะไปซื้อกรอบรูป Michael และแฟนหนุ่มกล่องกระดาษ พวกเขาเที่ยวเล่นด้วยกัน พักผ่อนด้วยกัน ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข วันที่เขาได้รับความรัก วันที่เขาถูก “ขอแต่งงาน” “ผมคิดว่าอีกหน่อยมันคงเป็นเรื่องปกติ หลังเวลาผ่านไป พอผมย้อนกลับมาชมภาพถ่ายเหล่านี้จะได้รู้ว่าผมกับแฟนหนุ่มกล่องกระดาษของผมมีความสัมพันธ์อย่างไรกันบ้าง” เขากล่าว…
-
“เกมแพ้ คนไม่แพ้” ผู้เล่นควักปืนออกมากราดยิงใน “งานแข่งเกม” ขณะไลฟ์สด เสียชีวิต 4 ราย
นี่คือเหตุการณ์อันน่าสลด เมื่อมีการกราดยิงเกิดขึ้นใน “การแข่งเกม” Madden NFL 19 (เกมกีฬาอเมริกันฟุตบอล) จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และเสียชีวิตไป 4 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 26 สิงหาคม 2018 นักเล่นเกมกำลังอยู่ในระหว่างการแข่งขันที่ศูนย์การค้าในเมือง Jacksonville รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ภาพระหว่างการแข่งขันดังกล่าว ระหว่างที่พวกเขากำลังไลฟ์สดการแข่งขันดังกล่าวใน Twitch จู่ๆ เราก็จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาก่อน 1 นัด แล้วตามมาติดๆ กันอีกหลายนัดหลังจากนั้น ความแตกตื่นทำให้สัญญาณไลฟ์สดถูกตัดไปในเวลาเพียงไม่กี่วินาที และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวก็รีบตรงไปยังที่เกิดเหตุโดยด่วน ไลฟ์สดระหว่างการแข่งขัน และเริ่มเกิดเหตุกราดยิง นายอำเภอ Mike Williams บอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างพากันแตกตื่นไปหมด เขาจึงจำเป็นต้องรีบเข้าไปควบคุมสถานการณ์โดยด่วน Mike บอกให้ประชาชนอยู่ห่างออกไปจากสถานที่เกิดเหตุให้มากที่สุด และได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วย SWAT เข้าไปช่วยเหลือผู้เข้าแข่งขันที่ติดอยู่ภายในศูนย์การค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเข้าควบคุมสถานการณ์ . โดยเหตุการณ์นี้มีผู้เคราะห์ร้ายบาดเจ็บ 9 ราย ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งโพสต์ลงหน้าเพจตัวเองว่าเขาถูกยิงที่นิ้ว…
-
สายการบิน Lufthansa อนุญาตให้พนักงาน ‘สวมสนีกเกอร์’ มาทำงานในวัน Sneaker Day
หลายๆ คนอาจจะจินตนาการภาพของนักบิน หรือแอร์โฮสเตส ที่สวม ‘รองเท้าผ้าใบ’ มาทำงานไม่ออก แต่สำหรับสายการบิน Lufthansa แล้ว เขามีนโยบายให้พนักงานทุกคนทั้งนักบิน แอร์โฮสเตส พนักงานภาคพื้น หรือกระทั่งพนักงานขายตั๋วสวมใส่รองเท้าผ้าใบมาทำงาน!! โดยจะมีการกำหนดให้พนักงานเลือกที่จะสวมรองเท้าผ้าใบมาทำงานตามความสมัครใจของตนเอง เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวัน Sneaker Day ที่จัดขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคมทุกปี ไม่มีการกำหนดว่าจะต้องสวมใส่รองเท้ายี่ห้ออะไร แต่ต้องเป็นสีขาวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรองเท้าลิมิเต็ดอิดิชัน ที่ทาง Lufthansa ร่วมมือกับ Adidas ทำรองเท้าสนีกเกอร์สุดสวยออกมา “แต่รองเท้าแบบอื่นๆ และยี่ห้ออื่นก็สามารถใส่มาทำงานได้” จากกำหนดการของเว็บไซต์ระบุเอาไว้ “พนักงานสายการบิน Lufthansa จะให้ความร่วมมือเนื่องในวัน Sneaker Day โดยการอนุโลมให้สามารถสวมชุดสบายๆ มาทำงานได้ในวันพิเศษนี้ ทั้งพนักงานภาคพื้นดิน, พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน, และนักบิน” “แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็จะมีความโดดเด่นในชุดยูนิฟอร์มที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lufthansa โดยมีความกลมกลืนไปกับรองเท้าที่สวยงามไปด้วย” . อย่างไรก็ตามถือเป็นงานโฆษณารองเท้าที่เข้าใจทำจริงๆ เพราะพอเอามาใส่กับยูนิฟอร์มแล้วขอบอกเลยว่ามันขึ้นมากๆ เลยล่ะ ที่มา…
-
บ่าวสาวกำลัง ‘ถ่ายพรีเวดดิง’ แต่ถูกแขกไม่ได้รับเชิญบุก แถมยังขโมยจูบเจ้าบ่าวซะงั้น!?
งานแต่งงานถือเป็นงานแห่งความประทับใจ ที่อาจจะเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวในช่วงชีวิตของเรา และมันจะสร้างความประทับใจให้กับเราไปตราบนานเท่านาน และงานแต่งงานของคู่รักคู่นี้จะติดตราตรึงใจพวกเขาไปตลอดกาล เพราะระหว่างที่กำลังถ่ายภาพพรีเวดดิงอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเจ้ายีราฟตัวหนึ่งมาขโมยจูบของเจ้าบ่าวไปซะงั้น!? Tristan Burns และ Luke Karshagen จัดงานแต่งงานขึ้นที่ Areena Riverside Resort เป็นทั้งรีสอร์ตและเขตอนุรักษ์ธรรมชาติในประเทศแอฟริกาใต้ “ตอนแรกฉันกังวลว่ามันจะทำร้ายเรา แต่เจ้า Abby (ชื่อของยีราฟ) มันน่ารักกว่าที่เราคิด” คุณ Burns เล่า “อยู่ๆ มันก็โผล่หัวออกมาจากพุ่มไม้ใหญ่ แล้วก็เดินเข้ามาท่ามกลางกลุ่มของพวกเราที่กำลังถ่ายรูปกันอยู่” เธอเล่าเสริม เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เองก็ทำให้ช่างภาพ Stephanie Norman ตกใจเองเช่นกัน เพราะเธอไม่เคยรับมือกับอะไรแบบนี้มาก่อน “เราถูกโฟโต้บอมบ์โดยยีราฟตัวใหญ่ จู่ๆ ก็เดินเข้ามาท่ามกลางวงของเจ้าบ่าวเจ้าสาว กับบรรดาเพื่อนๆ แล้วก็ขโมยจุ๊บเจ้าบ่าว 1 ที จากนั้นก็เดินวนเวียนอยู่แถวนี้เป็นเวลากว่า 20 นาที” “ตอนแรกทุกคนต่างก็เกร็งกันหมด แต่สักพักพอรู้ว่ามันไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด ก็เริ่มหันมาถ่ายรูปร่วมกันอย่างสนุกสนานกับเจ้า Abby” ช่างภาพเล่า …
-
สาวอ้างว่าถูกข่มขืน ที่แท้ ‘แจ้งความเท็จ’ เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากหนุ่ม งานนี้เธอติดคุก!!
เรื่องการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราต้องคิดอย่างรอบคอบและไม่ใช่เรื่องที่เล่นๆ ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะต้องไปกินข้าวแดงในคุกเหมือนกับหญิงสาวคนนี้ ที่แจ้งความเท็จว่ามีชายสองคนข่มขืนเธอในงานปาร์ตี้!! เรื่องมีอยู่ว่า Nikki Yovino สาวน้อยวัย 19 ปีจากเกาะ Long Island ประเทศสหรัฐฯ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าเธอถูกนักศึกษาสองคนจากมหาวิทยาลัย Sacred Heart University ข่มขืนเธอในห้องน้ำระหว่างงานปาร์ตี้หนึ่ง “ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากทำอะไรแบบนี้ เพื่อนฉันรออยู่ข้างนอกปล่อยฉันออกไปนะ” นี่คือคำให้การที่เธออ้างว่าเป็นคำพูดที่ใช้กับชายสองคนนั้น แต่ว่าเมื่อมีการสืบสวนเริ่มขึ้นกลับพบหลายอย่างไม่สอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็นพยานหลายคนที่บอกว่าเธอ ‘เต็มใจ’ ไปกับชายเหล่านั้น และอีกอย่างก็คือมีการลือกันว่าที่ Yovino แจ้งความอย่างนี้ก็เพื่อจะเรียกคะแนนสงสารจากหนุ่มมหาวิทยาลัยคนหนึ่งที่เธอหวังจะสานสัมพันธ์ด้วย ต่อมาเมื่อคดีถึงชั้นศาลในเดือนพฤษภาคม เธอกลับให้การต่างออกไปด้วยการอ้างว่า เธอไม่เคยบอกตำรวจว่าเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่แรกแล้ว “ฉันไม่เคยบอกเขา (นักสืบ) ว่าฉันถูกล่วงละเมิด ฉันแค่บอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องน้ำวันนั้นเอง และนั่นเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากจะให้เกิดขึ้น” และเมื่ออัยการถามต่อว่า “คุณมั่นใจว่าไม่ได้แจ้งความเรื่องการถูกล่วงละเมิดทางเพศใช่ไหม” หญิงสาวคนนี้ก็ตอบว่า “ฉันไม่เคยบอกว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศนิ” ซึ่งในสุดท้ายแล้วทางศาลก็ตัดสินว่านี่คือการ ‘แจ้งความเท็จ’ ส่งผลให้เธอต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปีเต็มเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีคำพูดจากหนุ่มผู้ถูกกล่าวหาด้วยว่า ตั้งแต่เรื่องนี้เกิดขึ้นชีวิตของเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป… “ผมแค่หวังว่าเธอจะสำนึกว่าเธอได้ทำอะไรกับผมบ้าง ชีวิตผมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไร ตั้งแต่เรื่องนี้เกิดขึ้นทุกๆ อย่างก็เปลี่ยนไปหมด” ที่มา:…
-
พบเครื่องบินที่สูญหายในสงครามโลก ที่ใต้น้ำแข็งใน “เบอร์มิวดาแห่งกรีนแลนด์”
การที่เครื่องบินจะตกหรือนักบินจะเสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สองอาจจะถูกมองเป็นเรื่องธรรมดา แม้การที่เครื่องบินหายไปอย่างไร้ร่องรอยเองก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ในสมัยที่ศัตรูจะแอบอยู่ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่การพบเครื่องบินที่หายไปกว่า 70 ปีหลังจากสงครามที่ว่าต่างหากที่ไม่ใช่เรื่องที่หาชมได้ง่ายนัก เพราะล่าสุดนี้เองมีการตรวจพบซากของเครื่องบิน Lockheed P-38 Lightning เครื่องบินของสหรัฐอเมริกาจากยุคสงครามโลกครั้งที่สองอยู่ใต้น้ำแข็งเย็นยะเยือกที่กรีนแลนด์ เขตปกครองตนเองแห่งประเทศเดนมาร์ก นี่คือหนึ่งในฝูงบินที่สูญหายในระหว่างการบินจากสหรัฐอเมริกาไปยังอังกฤษในปี 1942 ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด B-17 2 ลำ และเครื่องบินต่อต้าน P-38 อีก 6 ลำ ซึ่งเชื่อกันว่าพบกับพายุ จนตกลงในกรีนแลนด์นั่นเอง ในการสูญหายครั้งนั้น มีเพียงเครื่องบิน B-17 ลำเดียวที่ถูกพบ การค้นหาในครั้งนี้ดำเนินการโดยการใช้โดรนบินสำรวจทางอากาศ ที่ติดเรดาร์ทะลุทะลวงผิวดิน (Ground Penetrating Radar) เอาไว้ และหากมีการค้นพบสิ่งที่น่าสนใจ จะมีการส่งทีมค้นหาเข้าไปอีกที Jim Salazar ผู้นำการค้นหาบอกว่าทีมงานได้พบกับซากของเครื่อง P-38 ฝังอยู่ใต้น้ำแข็ง 91 เมตร ในวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการขุดนำเครื่องขึ้นมานั้น จะมีการดำเนินการในฤดูร้อนครั้งหน้า เครื่องบิน P-38 Lightning พวกเขายังหวังอีกว่าในระหว่างที่รอพวกเขาจะสามารถค้นพบเครื่องบินที่หายสาบสูญลำอื่นๆ เพิ่ม โดยเฉพาะเครื่องที่มีนักบินสหรัฐอยู่ด้วยนั่นเอง…
-
คุณแม่ลูกสามสร้างรายได้จากการกอดและให้คำปรึกษามากกว่า 1,500,000 บาทต่อปี!!
ในยุคสมัยปัจจุบัน เป็นยุคที่ขึ้นชื่อมีการใช้ชีวิตเป็นแบบปลีกวิเวก หลายคนเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียว บวกกับความเครียดสะสมจากงานทำให้หลายๆ คนนั้นมีความเครียดสะสม จิตตก มองโลกในแง่ร้ายหรือดีไม่ดีก็เกิดเป็นโรคอย่าง “โรคซึมเศร้า” ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีการรณรงค์ถึงเรื่องของโรคซึมเศร้าและเน้นให้เรามอบความรักให้แก่คนที่มีพฤติกรรมเข้าข่าย และนี่ก็เป็นหนทางหารายได้พิเศษของ Jessica O’Neill ผู้หญิงที่สามารถทำเงินได้มากกว่า 1,500,000 บาทต่อปีจากการ “กอด” Jessica O’Neill คุณแม่ลูกสามวัย 35 ปกติแล้วเธอทำงานเป็นพนักงานนวดบำบัดและผู้ให้คำปรึกษาในเมือง Gold Coast รัฐ Queensland ประเทศออสเตรเลีย แต่จากประสบการณ์ที่ทำงานมากว่าสิบปีเธอก็ได้เรียนรู้ว่าลูกค้าของเธอหลายๆ คนนั้นต้องเผชิญกับปัญหาความเครียด หดหู่และซึมเศร้า เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มการกอด เป็นบริการพิเศษเพื่อปัดเป่า บรรเทาปัญหาที่ลูกค้าต้องเผชิญ เธอกล่าวว่า “ฉันเป็นที่รักของผู้คนอยู่เสมอและมักจะกอดคนอื่นๆ อยู่ตลอด มันเป็นธรรมชาติของฉัน มันเป็นสิ่งที่ฉันเป็น ตอนเด็กๆ แม่ของฉันเองก็เป็นที่รักใคร่และเป็นคนมีเมตตา อ้อมกอดของเธอจะช่วยให้ทุกๆ อย่างดีขึ้นอยู่เสมอเมื่อมีอะไรแย่ๆ เกิดขึ้นรอบๆ และฉันก็มอบความรักให้แก่คนที่ฉันกอดอยู่ตลอด ทุกๆ คนรักการกอด!!“ Jessica สร้างรายได้จากการกอดเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 1,900 บาทต่อชั่วโมง หากการให้คำปรึกษาด้วยก็จะเพิ่มเป็นประมาณ 2,600 บาท แต่ถ้าเลือกระดับสูงสุดแบบที่พวกเขาเรียกว่า…
-
มารยาทดี๊ดี!! คนงานก่อสร้างยอมถอดเสื้อเอามาปูเบาะ ‘แท็กซี่’ เพราะไม่อยากให้เบาะเปื้อน…
ในวันที่เราเนื้อตัวเปรอะเปื้อนมอมแมม การจะไปนั่งรถของคนอื่นเขาก็อาจจะต้องกังวลว่าจะไปทำเบาะเปื้อนไหม ไปทำให้รถเขาสกปรกไหม และนี่ก็เป็นสิ่งที่คนงานชาวจีน 4 คนนี้คิดเหมือนกันและเขาก็ได้ใช้วิธีที่เหนือกว่าที่ใครคาดคิดเอาไว้แก้ปัญหานี้… หลังจากผ่านการทำงานที่แสนจะเหน็ดเหนื่อย คนงานในเมืองเต๋อโจว 4 คนก็ตกลงกันว่าในวันนี้พวกเขาจะนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านกัน จึงได้เรียกแท็กซี่คันหนึ่งให้มารับ เมื่อแท็กซี่คันดังกล่าวมาถึง ก็มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจากการที่พวกเขาทั้ง 4 คนถอดเสื้อแล้วกลับตะเข็บพลิกเอาด้านในออกมาด้านนอกมาปูเบาะนั่งในรถแท็กซี่ซะอย่างนั้น และที่ทำอย่างนี้พวกเขาก็อธิบายให้ฟังว่า ด้วยเนื้อตัวอันเปรอะเปื้อนของพวกเขาอาจจะทำให้เบาะเกิดสกปรกขึ้นมาได้ เลยตัดสินใจที่จะทำอย่างนี้เพื่อเป็นการป้องกันเป็นอันดีที่สุด ทางด้าน Di Zhenhong คนขับแท็กซี่ก็เล่าถึงเหตุการณ์นี้ให้ฟัง เขาบอกว่าประทับใจกับเหล่าคนงานเหล่านี้มากๆ ที่มีมารยาทดีซะจริงๆ ซึ่งนอกจากการเอาเสื้อมาปูเบาะนั่งแล้ว ผู้โดยสารเหล่านี้ยังยอมปวดหลังไม่ยอมเอาหลังพิงเบาะเพราะกลัวจะเปื้อนอีกด้วย และนอกจากนี้แล้วนาย Di ยังบอกด้วยว่า จากการได้พูดคุยด้วยก็รู้ในทันทีว่าพวกเขามีจิตใจที่ดีแถมยังพูดจาได้ไพเราะจนถึงขั้นเป็นผู้โดยสารที่สุภาพที่สุดที่เขาเคยเจอมาเลย “จริงๆ แล้วผมก็ไม่รังเกียจหรอกถ้าเบาะมันจะเปื้อนน่ะ แต่พวกเขาก็ยังคิดถึงตรงนี้ สุดยอดจริงๆ” ในตอนแรกนาย Di ก็กังวลใจนิดๆ ที่มีคนงานถอดเสื้อกระโดดขึ้นมาบนรถแบบนี้ แต่หลังจากที่ได้พูดคุยกันก็ได้รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันมาจากนิสัยและมารยาทของพวกเขาล้วนๆ เลย เรื่องนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในประเทศจีน ซึ่งมีผู้คนยกย่องชื่นชมเหล่าคนงานเหล่านี้มากๆ เลย ที่มีจิตใจดีเป็นห่วงคนอื่นๆ เช่นนี้ และนี่เป็นเรื่องดีๆ ที่ได้รู้แล้วมีความสุขขึ้นมาจริงๆ ที่มา:…
-
พ่อรับปากลูกจะให้เงิน 4,200 บาท กับทุก A ที่ทำได้ เลยจัดไปเหนาะๆ 14 ตัว ถึงกับหน้าจาง!!
ถือเป็นเรื่องปกติในบ้านเราที่จะมีการ ‘ใช้เงิน’ เป็นตัวล่อให้ลูกๆ ตั้งใจเรียน ซึ่งก็แล้วแต่พ่อแม่แต่ละคนว่าจะให้เป็นจำนวนเท่าไหร่ หรือกำหนดเกรดเอาไว้อย่างไรบ้าง เช่นเดียวกันกับคุณพ่อชาวเวลส์ ที่อาศัยอยู่ในเมือง Rhondda ได้ทำการรับปากลูกสาวเอาไว้ว่าจะให้เงินเป็นจำนวน 100 ปอนด์ (4,200 บาท) ให้กับลูกสาวต่อเกรด A ที่เธอสามารถทำได้ และลูกสาว Molly Rowlands วัย 16 ปี ก็เลยจัดไปเต็มเหนี่ยวล่อเกรด A ไปทั้งหมด 14 ตัว เท่ากับว่าคุณพ่อจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 1,400 ปอนด์ หรือราวๆ 60,000 บาทเลยทีเดียว ในตอนแรกนาย Clive Rowlands วัย 58 ปี ให้คำมั่นกับลูกสาวเอาไว้ก่อนเริ่มเกรด 10 หรือเทียบเท่ามัธยม 4 เอาไว้ว่าจะให้เงินกับลูกสาว 100 ปอนด์ต่อเกรด A ที่เธอสามารถทำได้ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าจะเสียเงินไปมากมายขนาดนี้ ขนาดคุณครูเองยังบอกว่าผลการเรียนที่ Molly ทำได้นั้นเป็นผลการเรียนที่ดีที่สุด เท่าที่โรงเรียนเคยมีมาเลยทีเดียว!! “ผมเคยบอกลูกเอาไว้เมื่อราวๆ…
-
การโกงแห่งประวัติศาสตร์ของไนจีเรีย กับ ‘สนามบิน’ ที่ไม่มีจริง ฟันเงินกว่า 8,000 ล้าน!!
เหตุการณ์ฉ้อโกงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของไนจีเรีย กับสนามบินปลอมที่ไม่มีอยู่จริง สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 242 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 8,000 ล้านบาท ให้กับแบงก์ชาติ!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1995-1998 นาย Nwude เองก็ทำงานอยู่ในธนาคาร Union Bank of Nigeria เช่นกันในตำแหน่งของผู้อำนวยการ นั่นทำให้เขาสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และคนที่ตกเป็นเหยื่อของการก่อเหตุฉ้อโกงในครั้งนี้ก็คือนาย Nelson Sakaguchi ที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการแบงก์เช่นกัน นาย Nwude ให้ข้อมูลกับ Nelson ว่าตอนนี้ไนจีเรียกำลังวางแผนที่จะสร้างสนามบินในเมือง Abuja (ซึ่งเป็นเรื่องที่เมคขึ้นมา สนามบินไม่ได้ถูกสร้างจริงๆ) พร้อมกับหลอกล่อเขาว่าเราสามารถสร้างสนามบินด้วยวิธีการที่ถูกกว่างบที่กำหนด นั่นจะทำให้เหลือเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเต็มๆ ถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 330 ล้านบาท เพียงแต่ว่าต้องให้ตนเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเงินในการสร้างสนามบินทั้งหมด แน่นอนว่านาย Nelson ก็หลงเชื่อ มอบเงินจำนวนกว่า 191 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6,200 ล้านบาท) ให้กับนาย Nwude…
-
เด็กชายสวม ‘เสื้อสีเขียว’ ไปวันถ่ายภาพของโรงเรียน พอได้ภาพดันกลืนกับพื้นหลังหมด!!
ในวันถ่ายรูปของโรงเรียนในต่างประเทศนั้น ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญของนักเรียนที่จะต้องแต่งตัวหล่อๆ เพราะภาพนั้นจะถูกเก็บเอาไว้ไปตลอดทั้งปี เช่นเดียวกันกับ Carter Hutsell จากรัฐมิสซูรี กำลังตื่นเต้นกับวันแรกของการเปิดเทอมชั้นเกรด 7 หรือเทียบเท่ามัธยมปีที่ 1 ของบ้านเรา เขาจึงไปปรึกษากับคุณแม่ Laurel Boone Hutsell ว่าจะแต่งตัวไปในวันถ่ายรูปอย่างไรให้หล่อที่สุดดี คุณแม่ก็เลยเลือกเสื้อสีเขียวคอปกสุดเนี๊ยบให้ เพราะคิดว่ามันดูสวยและดูเป็นธรรมชาติ วันแรกของโรงเรียนผ่านไป…. สิ่งแรกที่ Carter บอกกับแม่ของเขาคือ “แม่ ผมไม่น่าใส่เสือสีเขียวไปถ่ายรูปเลย เพราะพื้นหลังมันก็เป็นสีเขียวด้วย เลยกลายเป็นว่าผมดูกลมกลืนไปกับพื้นหลังหมดเลย” แม่ก็ตอบกลับไปว่า “เขาใช้พื้นหลังสีเขียวเหรอ? ไม่น่าจะเป็นอะไรมั้งลูก อย่าคิดมากน่า” แต่มันไม่โอเค…อีก 2 วันต่อมาคุณแม่ Laurel ได้รับ Email ที่เป็นภาพถ่ายของลูกชายส่งมา ก็เลยคลิกเข้าไปชมภาพหล่อๆ และนี่คือสิ่งที่เธอเห็น…. “ทันทีที่เห็นภาพ ฉันต้องเปิดดูแล้วดูอีก แล้วก็ตะโกนออกมาเสียงดัง ‘โอ้พระเจ้า! เขาพูดถูกจริงๆ ด้วย!!’ ฉันหยุดขำไม่ได้เลยกับภาพพวกนี้ พื้นหลังต่างๆ ที่เป็นภาพธงชาติ หรือต้นไม้ในฤดูใบไม้ร่วงต่างก็กลายมาเป็นลายเสื้อของเขาหมดเลย เหลือไว้แต่หน้าของเขาเท่านั้น!?” คุณแม่เล่า…
-
คุณหมอใช้ ‘อสุจิ’ ของตัวเอง ในการผสมเทียมให้กับคนไข้ เผยทำมาแล้วกว่า 50 ราย!!
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในต่างประเทศ กับกรณีของคุณหมอชาวอเมริกา หลอกคนไข้ที่มาผสมเทียมโดยบอกว่าจะใช้อสุจิที่บริจาค แต่เขากลับแอบใช้อสุจิของตัวเองทำให้คนไข้หญิงตั้งท้องมาแล้วหลายสิบคน!! คุณหมอ Donald Cline วัย 79 ปี จากเมืองอินเดียนาโพลิส รัฐอินเดียนา เคยถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี จากการใช้สเปิร์มของตัวเองในการผสมเทียมให้กับผู้ป่วย ซึ่งที่จริงแล้วควรจะใช้สเปิร์มที่ได้รับบริจาคมา แม้เขาจะให้การปฏิเสธในเบื้องต้น แต่ถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนจับได้เพราะหญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อ ได้พาลูกของตัวเองมาตรวจ DNA และพบว่ามีความใกล้เคียงกันกับหมอ Cline ทั้งหมด 20 ราย นอกจากนี้ในรายงานบันทึกคดีความของศาล จากคำให้การของ Jacoba Ballard หนึ่งในคนที่คาดว่าเป็นลูกสาวของเขา เล่าว่าเขาทำแบบนี้มาแล้วกว่า 50 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงยุค 1970-1980 “สำหรับความเจ็บปวดที่พวกคุณได้รับจากสิ่งที่ผมทำ ผมต้องขอโทษด้วย” หมอ Cline กล่าวขอโทษกับคนไข้ของเขา ระหว่างรับโทษในเรือนจำ อย่างไรก็ตามโทษจากการกระทำผิดของเขามีเพียงแค่นี้ เพราะกฎหมายในรัฐอินเดียนาไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าห้ามแพทย์ไม่ให้ใช้สเปิร์มของตัวเองกับผู้ป่วยที่มารับการผสมเทียม แต่เหล่าอดีตผู้ป่วยที่มาทำการผสมเทียมกับหมอ Cline และลูกๆ ของพวกเขาต่างก็พยายามที่จะเรียกร้องให้ผู้ออกกฎหมายของรัฐอินเดียนาหันมาให้ความสนใจกับเรื่องดังกล่าวนี้ และแก้ไขกฎหมายให้คุณหมอที่ใช้สเปิร์มของตัวเองในการผสมเทียม ถือเป็น ‘อาชญากรรม’…
-
นักสู้ MMA มั่นใจว่าชนะ เลยเต้นโชว์ไป 1 ดอก โดนเตะเสยปลายคาง น็อกไปเลยสิครับ
หลายๆ ครั้งในการชมกีฬา เมื่อมีนักกีฬาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ และมั่นใจว่าจะชนะก็จะทำเป็นชะล่าใจ ไม่ได้จริงจังกับการแข่งขันเพราะถือว่าอย่างไรตนก็ชนะแน่นอน แต่หลายครั้งจากการชะล่าใจนี้ ก็อาจจะนำมาซึ่งผลการแข่งขันที่แตกต่างออกไปก็เป็นได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวในครั้งนี้ การต่อสู้ในครั้งนี้เกิดขึ้นในการแข่งขันรายการการต่อสู้ MMA ชื่อว่า BCMMA ระหว่าง Joe Harding กับ Johan Segas เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2017 ในไฟท์นี้ Harding เป็นฝ่ายที่กุมความได้เปรียบมาโดยตลอด จนกระทั่งถึงยกสุดท้าย เขาคงมั่นใจว่าอย่างไรตัวเองก็คงชนะอย่างแน่นอน เลยชกแบบทีเล่นทีจริง แถมยังโชว์สเต็ปการเต้นเลื้อยเพื่อโชว์เหนือ แต่กลับกลายเป็นว่า Segas เองเห็นช่องว่างพอดี ก็เลยเหวี่ยงขาเตะป๊าบเสยเข้าไปที่ปลายคาง เป็นเหตุให้ Harding พ่ายแพ้แบบ TKO ในยกสุดท้ายพอดี ลองไปชมคลิปวิดีโอการแข่งขันในวันนั้นกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แหม่ พี่ก็มั่นใจเกิ๊น แล้วดันมาทำตอนยกสุดท้ายพอพลาดแล้วก็จบเลย เรียกได้ว่าคู่แข่งนี่เหมือนกับได้ส้มหล่นเลย ฮร่าๆ ที่มา : sportbible, MMA…
-
พยาบาลสาวผู้กล้าหาญ เผชิญหน้ากับชายถือมีด เพื่อซื้อเวลาให้ “คนไข้นั่งรถเข็น” หาโอกาสหนีไป
ทุกคนมีความเป็น “ฮีโร่” อยู่ในตัว ขอแค่เพียงคุณมีความกล้า พร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือคนอื่นๆ เหมือนอย่างพยาบาลสาวคนนี้ นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล Leicester Royal Infirmary ในประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงเวลาประมาณตี 2 จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มถือมีดบุกเข้ามาอย่างน่ากลัว ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลดังกล่าว ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะบุกเข้ามา เขาได้ใช้มีดในมือแทงเข้าไปที่หลังของชายอีกคนที่ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล ทำให้คนแถวนั้นต้องพากันวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น ชายถือมีดบุกเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว หลังจากนั้นเขาจึงเดินดุ่มๆ เข้ามาด้านในโรงพยาบาล บริเวณที่คนไข้กำลังนั่งรอเข้าพบแพทย์ แล้วก็มาพังข้าวของบริเวณเคาน์เตอร์ โยนทุกสิ่งที่คว้าได้ใส่คนไข้ที่กำลังแตกตื่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น จากภาพเราจะเห็นว่ามีพยาบาลสาวคนหนึ่งพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ควบคุมสถานการณ์ทุกอย่าง บอกให้คนไข้วิ่งหนีออกไปตามทางออกที่ใกล้ที่สุด แต่เธอคนนี้ไม่ได้วิ่งออกไปพร้อมกันกับคนไข้คนอื่นๆ เพราะเธอสังเกตเห็นว่ามีคนไข้นั่งรถเข็นที่ต้องการการช่วยเหลืออยู่ สังเกตพยาบาลสาวเสื้อฟ้า ที่กำลังพยายามควบคุมสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด พยาบาลสาวจึงตัดสินใจเผชิญหน้ากับชายถือมีดคนนั้น เพื่อพยายามจะซื้อเวลาให้คนไข้ทั้ง 2 คนหาโอกาสหนีออกไป ซึ่งถึงแม้ว่าคนร้ายจะหันไปโยนคอมใส่คนไข้รายดังกล่าว แต่สุดท้ายเธอก็เรียกความสนใจเขาได้สำเร็จ เมื่อคนไข้และเจ้าหน้าที่ทุกคนสามารถหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุได้แล้ว เธอจึงวิ่งหนีตามออกไปเป็นคนสุดท้าย เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ไม่มีใครได้รับอันตรายถึงชีวิต มีเพียงแค่ชายหนุ่มคนแรกที่โดนแทงตรงด้านหลัง ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ก็รอดตายมาได้ ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…
-
ม้าโพนี่สุดแสนน่ารักถูกผู้ร้ายทารุณกรรมทางเพศ โดยใช้วัตถุคล้าย ‘ด้ามไม้กวาด’ สอดใส่!!
สำหรับสัตว์น่ารักๆ อย่าง ‘ม้าโพนี่’ ใครหลายคนก็คงจะกรี๊ดกร๊าดเมื่อได้เห็นขาสั้นๆ ที่มาพร้อมกับลำตัวป้อมๆ ของมัน แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีคนที่คิดอยากจะทำร้ายมันด้วย… แต่ว่ามันได้เกิดขึ้นจริงๆ แล้วและไม่ใช่การทำร้ายธรรมดาๆ ด้วย เพราะมีม้าโพนี่ตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจากการถูกวัตถุคล้ายๆ กับ ‘ด้ามไม้กวาด’ ยัดเข้าไปที่อวัยวะเพศ!! โดยเรื่องอันแสนเศร้านี้เกิดขึ้นที่รัฐเดลาแวร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าของวันที่ 23 สิงหาคม หญิงสาวชื่อว่า Taylor Robichaud ได้เข้าไปที่คอกม้าของเธอเพื่อจะให้อาหารแก่เจ้า Bella ม้าโพนี่แสนน่ารัก Taylor เจ้าของม้าโพนี่ตัวนี้ แต่ว่าเมื่อเข้าไปในคอกเธอก็หัวใจแทบวาย เพราะภาพที่เห็นก็คือเจ้า Bella มีเลือดไหลออกมาและมีรอยบอบช้ำอยู่แทบจะรอบๆ ตัว เธอจึงรีบพาม้าผู้น่าสงสารตัวนี้ไปหาสัตวแพทย์ที่คลินิก The Delmarva Equine Clinic ในทันที “เจ้าม้าตัวนี้มีเลือดออกบางจุดรวมถึงมีบางส่วนที่ฉีกขาด ทางสัตวแพทย์ได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ว่ามันจะถูกทารุณกรรมทางเพศ และเชื่อด้วยว่าน่าจะมีการใช้วัตถุคล้ายๆ ‘ไม้กวาด’ สอดใส่เข้าไปในตัวมันด้วย” “มันเหมือนกับคนธรรมเรานี่แหละ มันบอบช้ำมากทั้งด้านร่างกายและจิตใจจากเรื่องร้ายนี้” Taylor กล่าว ในตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบเหตุน่าเศร้าอันนี้แล้ว และกำลังออกตามหาตัวผู้ก่อเหตุครั้งนี้อยู่ ซึ่งก็คาดว่าน่าจะเจอตัวได้ในเร็วๆ นี้… น่าสงสารน้องม้าเสียจริง ที่มา: dailymail, delawareonline, delaware1059
-
หนุ่มร่างใหญ่ใจนักเลง ล้มชาย 7 คนใน 1 นาที กะโหลกร้าว เข้าโรงพยาบาลไป 2 !! โหดแท้
ปัญหา “คนเมาตีกัน” เป็นสิ่งที่มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ไม่ใช่แค่ในบ้านเรา แต่ยังรวมถึงตามร้านเหล้าในต่างประเทศหลายต่อหลายแห่งด้วย และนี่คือตัวอย่างหนึ่งของเหตุการณ์ในลักษณะนั้น แต่มันมีความพิเศษกว่าการตีกันครั้งไหนๆ เมื่อหนุ่มร่างใหญ่คนนี้สามารถล้มชาย 7 คนได้ด้วยตัวคนเดียว จนบางคนต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลไปเลย!! โปรดสังเกตชายเสื้อขาวซ้ายมือเอาไว้ให้ดี ภาพจากกล้องวงจรปิดของผับ Studio Private Place ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นชายหนุ่มจำนวนมากกำลังออกท่วงท่าลีลาการแดนซ์อยู่บนฟลอร์ จากในคลิปจะเห็นว่ามีการชนไหล่กันระหว่างชายแปลกหน้า 2 คน ทำให้หนุ่มร่างใหญ่ใจนักเลงหันไปแจกหมัดใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเสียหลักล้มลงไปเล็กน้อย เราจะเห็นว่าฝ่ายที่ถูกต่อยนั้นตัวเล็กกว่า แต่มาเป็นกลุ่ม และเขาก็ดูไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก พยายามเข้าไปเอาเรื่องในขณะที่เพื่อนอีกคนคอยห้ามไว้ แต่พอจังหวะที่หนุ่มร่างใหญ่ลุกกลับเข้าสังเวียนเท่านั้นแหละ ชายที่ถูกต่อยไปในตอนแรกก็โดนสอยล้มลงไปในพริบตา ไอ้คนที่ห้ามไว้ก็โดนหมัดขวาอันทรงพลังเสยไปนอนนับดาวอยู่กับพื้น และไม่ต้องกลัวว่าเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ยืนดูสถานการณ์อยู่จะเหงา เพราะในไม่ช้าเขาก็ถูกสอยลงไปหลับใหลอย่างง่ายดาย ห้ามไม่หยุด ฉุดกันไม่อยู่แล้วทีนี้ เมื่อปัญหามันเริ่มลามไปถึงโต๊ะใกล้ๆ ที่นั่งกันอยู่ พวกเขาไม่พอใจแล้วลุกขึ้นมาเอาเรื่องกับชายร่างใหญ่คนนั้น เมื่อศพแรกผ่านไป ศพสอง ศพสามค่อยๆ ผ่านไป ศพสี่ ศพห้าจึงตามมาในช่วงอึดใจเดียว บอกเลยว่าใครลุกขึ้นมาเอาเรื่องกับพี่แก เป็นต้องหลับใหลไปเฝ้าพระอินทร์กันทุกราย ยังไม่หยุดแค่นั้น…
-
โซเชียลหลบไป!! มิติใหม่แห่งการหาคู่ ‘รถบัสสื่อรัก’ รถโดยสารที่จะทำให้คุณได้พบรักแท้…
ใครหลายคนอาจเคยรู้สึกเหงาเปล่าเปลี่ยวอยากจะมีใครสักคนเอาไว้กอด แต่ว่าจะใช้วิธีไหนๆ ก็ไม่สามารถหาคนคนนั้นเจอสักที ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะก็ลองมาขึ้นรถบัสคันนี้ดูไม่แน่ว่าชีวิตของคุณอาจเปลี่ยนไปเลยก็ได้ เพราะนี่คือ ‘รถบัสสื่อรัก’!! ตาวาวกันเลยล่ะสิ… สำหรับเจ้ารถบัสคันที่ว่านี้มันมีเส้นทางวิ่งอยู่ในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน โดยความพิเศษอย่างที่บอก นอกจากมันจะพาเราไปยังจุดหมายแล้ว อีกหน้าที่หนึ่งของบัสคันนี้คือทำหน้าที่หาคู่ให้กับคนโสดนั่นเอง โดยนาย Yun Xi คนขับรถประจำรถคันนี้เล่าที่มาของ ‘รสบัสหาคู่’ ให้ฟังว่ามันได้เริ่มขึ้นที่รถบัสของเขาตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งถึงตอนนี้ก็ผ่านไปเป็นเวลากว่า 10 ปีเต็มๆ แล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันจะทำหน้าที่หาคู่ได้อย่างไรกัน นาย Yun เลยอธิบายว่า รถบัสของเขาจะติดป้ายประกาศที่มีข้อมูลทั้งชื่อ นามสกุล การศึกษา การงานอาชีพ รวมถึงรูปภาพของเหล่าคนโสดเอาไว้ที่ผนังรอบๆ รถบัส เหมือนกับโปรไฟล์ในโลกโซเชียลไม่มีผิด ซึ่งถ้าใครเห็นแล้วถูกใจก็จะติดต่อไปทาง WeChat หรือว่า QR Code ที่ปรากฏเอาไว้นั่นเอง นอกจากนี้เขายังเล่าให้ฟังด้วยว่า สิ่งที่ทำอยู่นี้เป็นแรงบันดาลใจที่ได้รับมาจากพ่อของเขาที่เป็นคนหาคู่ให้กับผู้คนในบ้านเกิดเขตชนบท และอีกอย่างคือจู่ๆ ไอเดียนี้ก็ปิ๊งขึ้นมาจากการได้ยินเหล่าคนเป็นพ่อแม่พูดคุยกันว่าลูกๆ ของพวกเขาไม่มีคู่ครองสักที เลยทำให้เกิดความคิดขึ้นมาว่าในแต่ละวันรถของเขาก็มีผู้คนขึ้นแน่นคันแทบทุกวันอยู่แล้ว…
-
มาไงเนี่ย!? เจ้าหน้าที่ผงะเจอ ‘อุโมงค์ลับ’ ใต้ร้าน ‘KFC’ ไว้ขนยาระหว่างประเทศ
ไม่รู้ว่านี่อาจเป็นเคล็ดลับความอร่อยที่ทำให้เราติดกันจนงอมแงมรึเปล่า แต่ว่ามีสิ่งก่อสร้างที่เป็นอดีตร้านขายไก่ KFC แห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐฯ ถูกพบว่ามีอุโมงค์ส่งยาอยู่ข้างใต้ร้าน!! โดยเรื่องที่ว่านี้จุดเริ่มต้นต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน เมื่อทางแผนกสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยินข่าวมาว่า มีอุโมงค์ใต้ดินซ่อนตัวอยู่บริเวณใต้ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่งที่อยู่ในเมือง San Luis เมืองชายแดนที่ห่างจากชายแดนประเทศเม็กซิโกไปทางเหนือประมาณ 183 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสาวราวเรื่องต่อไปยังเจ้าของอาคารที่มีชื่อว่า Ivan Lopez และหลังจากการควบคุมตัวเขาได้นั้น ก็ได้พบว่ามีกล่องน่าสงสัยหลายใบอยู่บริเวณหลังรถบรรทุกของเขา ซึ่งเมื่อได้ตรวจค้นก็พบว่ามันคือกล่องบรรจุยาบ้า โคเคน เฮโรอีนและเฟนทานิล ที่เป็นยาเสพติดล้วนๆ การจับกุมชายคนนี้ได้นำพาไปยังการสืบค้นขั้นต่อไปนั่นคือการค้นบ้านและร้านอาหารเก่าของเขา และนี่เองได้สร้างความตกตะลึงให้กับทางตำรวจ เพราะพวกเขาได้พบว่าร้านอาหารเก่าของชายคนนี้ที่เคยเปิดเป็นร้าน KFC มีอุโมงค์ลับใต้ดินซ่อนไว้อยู่ โดยเจ้าอุโมงค์ที่ว่านี้มันมีขนาดใหญ่พอที่คนปกติสามารถเดินผ่านไปได้อย่างคล่องตัว และแน่นอนว่ามันมีปลายทางอยู่ที่ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ในเรื่องนี้ Scott Brown เจ้าหน้าที่พิเศษบอกว่าอุโมงค์ที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นผลมาจากความที่เจ้าหน้าที่ชายแดนเพิ่มความเข้มงวดกวดขันในเรื่องการลักลอบมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรแล้วอุโมงค์นี้น่าจะเกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน และใช้เงินหลายแสนดอลลาร์ในการสร้าง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเชื่อกันว่านาย Lopez น่าจะมีสายสัมพันธ์อันดีกับเหล่าพ่อค้ายาทั้งหลาย เพราะก่อนหน้าที่จะมีการจับกุมก็มีผู้พบเห็นเขาขนกล่องลังอย่างนี้ออกจากร้านดังกล่าวมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ทว่าอย่างไรก็ตามก็ไม่มีการเปิดเผยโทษที่เขาคนนี้ได้รับ นี่อาจเป็นเรื่องที่ทำให้เราประหลาดใจ แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้ว 28 ปีที่ผ่านมามีการค้นพบอุโมงค์ส่งยาระหว่างสหรัฐ-เม็กซิโก แล้วมากกว่า 200 อุโมงค์และคาดว่าน่าจะมีการค้นพบเพิ่มเติมขึ้นอีกในวันหน้าด้วย วิดีโอการค้นพบดังกล่าว หรือนี่จะเป็นสูตรลับหมักไก่… …
-
อุบัติเหตุจากการผ่าตัด ทำให้ “ถุงอัณฑะ” ของคนไข้หนุ่ม บวมใหญ่เท่ากับ “ลูกแตงโม”!!
แม้ว่าแพทย์จะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมากขนาดไหน แต่อย่างที่สำนวนกล่าวไว้ว่า “สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” จึงไม่แปลกที่ความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้บ้างเหมือนกัน เหตุการณ์ในลักษณะนั้นได้เกิดขึ้นกับหนุ่มชาวอินเดียรายหนึ่ง เมื่อการผ่าตัดรักษากลายเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม เพราะมันเป็นเหตุที่ทำให้ถุงอัณฑะของเขามีขนาดเท่ากับ “แตงโม” ไปเลย!! สภาพของคนไข้รายนี้ จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศเล่าว่าชายคนดังกล่าวมีอาการติดเชื้อบริเวณทางเดินปัสสาวะ ทนอยู่กับอาการเจ็บปวดมานานถึง 2 ปี เขาจึงตัดสินใจเข้ารักษาในโรงพยาบาล King George’s Medical University เมืองลัคเนา ประเทศอินเดีย โดยแพทย์ได้ทำการสอดท่อเข้าไปในรูปัสสาวะของเขา ทีมแพทย์ขยายท่อที่สอดเข้าไปภายในองคชาตของเขา ก่อนที่จะผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อติดเชื้อภายในนั้นออกมา ซึ่งวิธีการนั้นกลับทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Oedema (เกิดการสะสมของเหลวในร่างกาย) บริเวณถุงอัณฑะ ถุงอัณฑะของคนไข้บวมขึ้นมาจนน่ากลัว ใหญ่มากถึงขั้นมีขนาดเท่ากับลูกแตงโม ทำให้หลังจากการพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2 วัน เมื่อเขากลับบ้านไปก็ยังมีท่อเสียบอยู่และต้องทำตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด 10 วันหลังจากนั้น อาการบวมเริ่มลดลงจนกลับมาเป็นขนาดปกติ สามารถถอดสายท่อออกมาได้ในที่สุด และปัสสาวะได้ตามปกติโดยที่ไม่มีของเหลวตกค้างอยู่ภายใน โดยหลังจากนี้ (ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2018 เป็นต้นไป) เขาจำเป็นที่จะต้องทำตามแพทย์สั่งไปอีกราวๆ 4 เดือน ต้องทำให้อวัยวะเพศมีการแข็งตัว 2 ครั้งในทุกสัปดาห์ …
-
หนุ่มถูกขโมยรถ เลยวิ่งลงออกมาจับโจรทั้งๆ ที่เปลือยอยู่ แม้แต่โจรยังช็อก!?
ของของใครของใครก็รัก ยิ่งเป็น ‘รถ’ ที่กว่าจะเก็บหอมรอมริบเพื่อซื้อมาได้ก็เรียกได้ว่าแทบจะรากเลือดเลยทีเดียว แต่หากมีใครพยายามที่จะมาขโมยรถของเราไป ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ เพราะบางคนน่ะรักรถยิ่งกว่าลูกของตัวเองเสียอีก!! เช่นเดียวกันกับเจ้าของรถคนนี้ ที่กำลังจะถูกจอมโจรขโมยรถของตัวเอง ก็เลยวิ่งออกมาจากบ้านทั้งๆ ที่ไม่ได้ใส่อะไรเลย แม้แต่โจรเองก็ยังอึ้ง!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ หัวขโมยกำลังลงมือโจรกรรมรถยี่ห้อ Range Rover คันหนึ่งที่จอดเอาไว้นอกบ้าน Nicola Jane Baldwin คู่หมั้นของชายคนดังกล่าวเล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่า “มีคนพยายามขโมยรถของเราเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหัวขโมยคนนั้นไม่รู้ว่าคู่หมั้นของฉันเป็นนินจาเปลื้องผ้า เขาวิ่งลงไปที่รถด้วยความรวดเร็ว” “หลังจากที่หัวขโมยได้เห็นภาพที่ตัวเองแทบจะไม่เชื่อสายตา ก็เลยอึ้งและทำอะไรไม่ถูกก่อนที่จะวิ่งหนีไป แต่ก็ถูกคู่หมั้นของฉันจับได้ทั้งๆ ที่เปลือยเปล่าล่อนจ้อน” แม้ว่าหัวขโมยจะเปิดประตูรถเข้าไปได้แล้ว แต่เสียงสัญญาณกันขโมยก็ดังขึ้นพอให้เจ้าของรถได้ยิน ก็เลยวิ่งออกมาในสภาพเปลือยตรงมาที่รถ หัวขโมยเองก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก รีบเปิดประตูอีกฝั่งออกไปแล้วก็วิ่งหนี แต่ก็หนีไม่พ้นถูกจับตัวไว้ได้เสียก่อน คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดถูกนำไปแชร์ลงโซเชียลมีเดียโดย Jane ทำให้มีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมาก หลายคนต่างก็ชื่นชมการกระทำอันกล้าหาญของชายคู่หมั้น ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียรถอันเป็นที่รักไป ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ที่มา : ladbible, dailymail
-
สาววัย 17 ถูกแก๊งลักพาตัวจับไปกักขัง ทรมาน ข่มขืน และ “สัก” ลงไปทั่วร่างกายของเธอ
นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอันน่าสลด สะท้อนให้เห็นถึงความป่าเถื่อนระหว่างมนุษย์ด้วยกัน เมื่อวัยรุ่นสาวอายุ 17 ปีถูกลักพาตัวไปกักขัง ทรมาน ข่มขืน และกลับมาพร้อมกับ “รอยสัก” เต็มตัว รอยสักจำนวนมากทั่วร่างกายของเด็กสาววัย 17 ปี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศโมร็อกโก เด็กสาวคนดังกล่าวถูกจับไปโดยแก๊งลักพาตัวที่พาเธอไปขังเอาไว้ในบ้านหลังหนึ่งของเมือง Olad Ayad จากการรายงานบอกว่าเธอถูกข่มขืนโดยชายวัยรุ่น 13 คน แถมยังถูกบุหรี่จี้ตามร่างกาย ต้องเจอกับนรกบนดินอยู่อย่างนั้นนานนับเดือน ไม่อยากคิดเลยว่าในช่วงเวลานั้น เธอต้องทุกข์ทรมานมากขนาดไหน ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอยังถูกเหล่าชายใจเหี้ยมใช้อุปกรณ์สักทำเองมาสักไปทั่วร่างกาย นี่มันคือการกระทำของมนุษย์จริงๆ หรือ? ร่องรอยที่คนเหล่านั้นทิ้งไว้ให้กับเธอตลอดชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกาย แต่ยังรวมไปถึงสภาพจิตใจอันบอบช้ำ เรื่องราวดังกล่าวถูกแจ้งไปยังสถานีตำรวจหลังจากที่เธอถูกแก๊งลักพาตัวปล่อยกลับมาแล้ว ซึ่งเหตุผลที่ไม่มีใครแจ้งตำรวจในตอนแรก นั่นก็เพราะว่าชาวบ้านในแถบชนบทของประเทศนี้ พวกเขามักจะกลัวและไม่กล้ายุ่งกับเจ้าหน้าที่ รายงานล่าสุด (24 ส.ค. 2018) บอกว่าตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาได้แล้ว 8 ราย อีก 5 รายกำลังอยู่ในระหว่างหลบหนี Buchra Abdou…
-
หนุ่มเมายาเกือบตาย หลังเอา “ไข่ต้ม” 15 ฟองยัดเข้ารูทวารตัวเอง ยังดีที่แพทย์ช่วยเหลือได้ทัน
เราควรอยู่ให้ห่างจากสารเสพติดทั้งหลาย เพราะหากเราใช้มันเข้าไปแม้เพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้เกิดอาการหลอนจนเผลอทำเรื่องบ้าๆ ไปอย่างไม่ยั้งคิด และนี่คือตัวอย่างของคนที่ใช้สารเสพติดจนนำพามาซึ่งความวอดวาย เกือบตายโดยไม่ได้ตั้งใจ ขณะที่เขาอยู่ในอาการเมายา เขาก็นำเอาไข่ต้มจำนวน 15 ฟองยัดเข้าไปในรูทวารของตัวเองซะอย่างงั้น?! นี่เอ็งอยากออกไข่เป็นแม่ไก่หรือยังไง?? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในประเทศเนเธอร์แลนด์ ชายหนุ่มวัย 29 ปีและคู่ขาของเขาได้เสพยาที่ชื่อว่า GHB (สารเสพติดชนิดหนึ่ง) จนกระทั่งเริ่มเมาได้ที่ เขาและคู่ขาก็นำไข่ต้มมาทั้งหมด 15 ฟอง นั่งปอกเปลือกของมันออก จากนั้นจึงช่วยกันยัดไข่ที่ปอกแล้วเข้าไปในรูทวารของเขา เวลาผ่านไปได้ไม่นาน ในคืนนั้นเองเขาก็เริ่มที่จะรู้สึกเจ็บท้อง จึงต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในทันที ตัวยาที่เขาเสพเข้าไป แพทย์เล่าว่าในตอนนั้น ชายคนนี้อยู่ในอาการที่เรียกว่า Tachycardia (หัวใจเต้นเร็ว 120 ครั้งต่อนาที) และ Tachypnoea (หายใจเร็ว 29 ครั้งต่อนาที) เมื่อทำการ CT Scan (ตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์) จึงพบว่ามีอาการติดเชื้อในช่องท้องของเขา อากาศและของเหลวจำนวนมากไปรวมอยู่บริเวณนั้น อีกทั้งยังมีแผลบริเวณกระดูกเชิงกราน ทีมแพทย์จึงจำเป็นที่จะต้องผ่าตัดผนังช่องท้องของเขาโดยด่วน จนสามารถนำเอาไข่ต้มทั้งหมดออกมาได้ ล้างท้อง ฆ่าเชื้อให้เรียบร้อย และทำการเย็บปิดแผลจำนวนมากให้สนิท อาการเมายา…
-
อาจารย์หมอคบชู้ ลงมือฆาตกรรมภรรยาของตัวเอง แต่โชคร้ายลูกสาวถูกลูกหลงไปด้วย!?
นี่คือเรื่องราวของคดีการฆาตกรรมของวิสัญญีแพทย์และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่เกิดขึ้นในฮ่องกง ได้วางแผนฆาตกรรมภรรยาเพราะตัวเองเป็นชู้กับลูกศิษย์ แต่โชคร้ายลูกสาวของตัวเองดันรับเคราะห์จากเหตุดังกล่าวไปด้วย นาย Khaw Kim-Sun ชาวมาเลเซียวัย 53 ปี เป็นวิสัญญีแพทย์ที่โรงพยาบาล Prince of Wales ในฮ่องกง และศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิสัญญีวิทยา มหาวิทยาลัย Chinese University of Hongkong เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาวางแผนฆาตกรรมภรรยา Wong Siew-fung วัย 47 ปี และลูกสาว Khaw Li-ling วัย 16 ปี ด้วยแก๊สอันตรายบรรจุไว้ในลูกบอลโยคะ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2015 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน ล่าสุดศาลได้เริ่มทำการพิจารณาคดีและตัดสินคดีนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อัยการ Andrew Bruce SC เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคดีนี้กับศาลว่า ย้อนกลับไปเมื่อช่วงก่อนเกิดเหตุ นาย Khaw ได้ทำการก่อตั้งโปรเจกต์วิจัยขึ้นมาเพื่อเป็นข้ออ้างในการนำแก๊สอันตรายอย่างคาร์บอนมอนอกไซด์มาใช้ในการลงมือฆาตกรรม โดยมีผู้ช่วยงานวิจัยเป็นนักศึกษาสาว ที่เขามีความสัมพันธ์ลับด้วยอยู่ เป็นผู้ร่วมสมคบคิดด้วย …
-
ชมคลิป “พลังงานลึกลับ” ที่ปรากฏขึ้นบนร่างไร้ชีวิตของชายชาวจีน มันคืออะไรกันแน่!?
โลกเรานั้นเต็มไปด้วยปริศนาและความลึกลับที่ยังอธิบายไม่ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ หลายสิ่งก็เป็นเพียงคำร่ำลือแต่หลายสิ่งก็มีผู้คนเคยพบเห็นกันมาแล้ว เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัตถุ (หรือสิ่งมีชีวิต) ปริศนา ซึ่งมีผู้ถ่ายวิดีโอมาได้ ต้องขอเตือนเอาไว้ก่อนเลยว่า ภาพที่ทุกท่านจะได้รับชมต่อไปนี้ อาจก่อให้เกิด ความกลัว ได้ ภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นในบริเวณริมถนนแห่งหนึ่งของประเทศจีน ที่มีร่างผู้ชายนอนไร้สติอยู่ริมถนน ชายคนนี้ดูเหมือนได้รับบาดเจ็บจนนอนแน่นิ่ง แต่จู่ๆ ก็มีวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตคล้ายควันและเงาสีดำปรากฏขึ้นมาจากตัวของเขา วัตถุหรือสิ่งมีชีวิตลึกลับนี้ดูเหมือนพยายามเข้ามาสัมผัสร่างกายของชายที่นอนไร้สติ ไม่มีใครทราบว่ามันคืออะไร มาจากไหน และมาเพื่ออะไรกันแน่ ชมคลิปวิดีโอ เมื่อภาพและคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ต ชาวเน็ตที่พบเห็นก็เข้ามาคอมเมนต์กันอย่างคับคั่ง เช่น… “พระเจ้า มันเหมือนจริงมากๆ” “โอ้ พระเจ้า อ้ากกกก” “มันหิวหรือเปล่า?” “พูดง่ายๆ มันก็คือยมทูต” “นี่อาจจะเป็นหลักฐานการปรากฏตัวของปิศาจ” ไม่มีใครรู้ว่าคลิปวิดีโอนี้เป็นภาพจริงหรือตัดต่อ สิ่งที่รู้มีเพียงแค่ว่า มันสมจริงมากและชวนขนหัวลุกสุดๆ ที่มา: ck101 และ liveleak
-
สาวจีนสมญา ‘Sexy Cyborg’ ผลิต ‘คอร์เซ็ตเรืองแสง’ งานนี้ไปเต้นในผับไม่เด่นให้รู้ไป!!
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของ Naomi Wu สาวจีนจากเมืองเซินเจิ้น เจ้าของสมญา ‘Sexy Cyborg’ กันมาบ้าง และอาจจะพอรู้ว่าเธอเป็นสาวสวยที่คลั่งไคล้เรื่องเทคโนโลยี จนถึงขั้นลาออกจากงานประจำมาใช้เวลากับส่วนนี้อย่างเต็มที่จนมีผลงานต่างๆ ออกมาอย่างมากมาย แต่ว่าสำหรับผลงานชิ้นล่าสุดของเธอนี้ รับรองได้เลยว่าสาวๆ จะต้องอยากได้จนแทบร้องขอชีวิตแน่ๆ เพราะมันเป็นคอร์เซ็ทที่ทำให้หน้าอกตูมๆ สามารถ ‘เรืองแสง’ ได้ ชนิดที่ว่าวูบวาบจนใครอดจะไม่มองไม่ได้แน่ๆ!! โดยเจ้าชุดคอร์เซ็ทที่ว่านี้จะมีส่วนประกอบหลักๆ เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นได้แก่ ไฟฉาย ข้อต่อที่ผลิตขึ้นมาจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติและอีกชิ้นหนึ่งทำจากเหล็ก และส่วนที่สำคัญที่สุดคือ ‘สายใยแก้วนำแสง’ (Fiber Optic Cable) ซึ่งวัสดุเหล่านี้เมื่อนำมารวมกับทางชุดแล้วจะทำให้คุณมีสีสันออกมาบริเวณหน้าอกอย่างน่าทึ่ง และสำหรับใครที่กังวลเรื่องของความร้อนไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะแม้ว่าการเปิดไฟฉายไว้นานๆ จะทำให้มีความร้อนสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอก็ได้คิดค้นวิธีที่จะทำให้ปัญหาในส่วนนี้หมดไป หลักการอย่างอธิบายง่ายๆ ของการผลิตชุดที่ว่านี้ก็คือ การนำไฟฉายส่องเข้าไปยังสายใยแก้วนำแสงเพื่อให้แสงไปโผล่ในที่ที่ต้องการโดยใช้ข้อต่อเชื่อมให้ติดกันและไม่ให้แสงกระจายไปที่อื่น จากนั้นก็นำสายใยนี้ต่อเข้ากับช่องต่างๆ ที่เจาะติดไว้กับตัวของคอร์เซ็ทเท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย ส่วนขั้นตอนในการนำเจ้าชุดนี้ไปติดกับตัว ทาง Naomi ก็เลือกที่จะใช้ ‘ที่เสียบล็อกกล้อง’ (Camera Holster) เป็นอุปกรณ์สำหรับยึดติดนั่นเอง…
-
หญิงสาวอยากแก้แค้นแฟนเก่า เลยปล่อยให้น้องหมา “อดอาหาร” นานกว่า 30 วัน จนเกือบตาย
Elizabeth Lena James หญิงสาวชาวอเมริกันวัย 30 ปี ถูกจับในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ขั้นรุนแรง หลังเธอปล่อยให้น้องหมาต้องอดอาหารอยู่นานกว่า 30 วัน Elizabeth และน้องหมาที่ถูกเธอทารุณ จากรายงานของศาลในรัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา บอกว่าเจ้าหมาตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของแฟนเก่าเธอ ด้วยความแค้นหลังจากเลิกกัน เธอจึงตัดสินใจมัดเอาไว้ ปล่อยให้มันอดน้ำ อดอาหารอยู่อย่างนั้น ในขณะที่ดูแลน้องหมาตัวอื่นๆ ของตัวเองเป็นอย่างดี สภาพของมันในตอนที่ทีมช่วยเหลือไปพบ . ทีมช่วยเหลือ Rescue Dogs Rock NYC เข้าไปพบสภาพของเจ้าหมาวัย 16 เดือนอยู่ในสภาพผอมซูบ หนักแค่เพียง 22 กิโลกรัม ทั้งๆ ที่ควรหนักอย่างน้อย 50 กิโลกรัม ไม่มีแรงพอที่จะเดินได้ ถูกมัดอยู่กับต้นไม้ ทีมช่วยเหลือได้ตั้งชื่อเจ้าหมาพันธุ์ผสม Mastiff ตัวนี้ว่า Champ พามันไปอยู่ในที่พักที่ดี ดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของอาหารการกิน ให้มันได้เดินออกกำลังกายเล็กน้อยในช่วงแรก ทำให้ล่าสุดมันมีน้ำหนักขึ้นมาเป็น 50 กิโลกรัมแล้ว …
-
อดีตนาซีวัย 95 ที่แอบเข้าสหรัฐในปี 1949 โดนเนรเทศกลับเยอรมันแล้ว หลังต่อสู้มายาวนาน
แม้ว่าสงครามโลกครั้งที่สอง จะจบลงไปกว่า 70 ปีแล้วแต่รอยแผลที่สงครามในครั้งนั้นฝากไว้กับโลกก็ฝังลึกจนยากที่จะลืมเลือน ดังเช่นเรื่องราวของ Jakiw Palij อดีตทหารนาซีผู้ถูกไล่ออกจากสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา Jakiw Palij เป็นอดีตทหารนาซีที่แอบเข้ามาในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1949 ด้วยการโกหกประวัติของตัวเองในเอกสารตรวจคนเข้าเมืองจนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกาจนอายุได้ 95 ปีในปัจจุบัน จากข้อมูลของทางนักข่าวในปี 2001 Palij เคยเป็นทหารนาซีที่ประจำการอยู่ที่ ค่ายแรงงาน Trawniki ในประเทศโปแลนด์ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และโดนกล่าวโทษว่ามีส่วนร่วมในการทำให้ชาวยิวกว่า 6,000 คนเสียชีวิตในค่ายเมื่อปี 1943 อีกด้วย อย่างไรก็ตามแม้ Palij จะเคยสารภาพว่าทำงานในค่ายจริงๆ แต่เขาก็ปฏิเสธว่ามีส่วนร่วมในการฆ่าคน เขาบอกว่าตัวเองเพียงแค่โดนข่มขู่ให้ดูแลสะพานป้องกันชาวยิวหนีเท่านั้น โชคร้ายที่การกระทำของเขาถูกศาลมองว่าไม่ต่างอะไรกับการมีส่วนร่วมในการตายของชาวยิวอยู่ดี หน่วยสืบสวนพบอดีตอันดำมืดของ Palij ครั้งแรกในปี 1993 และมีกำหนดการจะถูกปลดสัญชาติอเมริกันในปี 2004 อย่างไรก็ตามทางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถหาประเทศที่จะรับตัวอดีตทหารนาซีไปดูแลได้เลย Jakiw Palij ในปี 1949 อย่างไรก็ตามหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี คดีของนาย Palij ก็คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วจนในที่สุดความพยายามกว่า 14 ปีของสหรัฐฯ ก็สำเร็จผล โดย Jakiw…
-
ไอ้หนุ่มทำพลาด เผลอส่งภาพ “เจ้าโลก” ให้กลุ่มเพื่อนวิชาปรัชญา “ทั้งคลาส” ได้เชยชม…
เชื่อไหมล่ะว่าบางทีความผิดพลาดเพียงหนึ่งครั้งอาจเปลี่ยนชีวิตคุณได้ตลอดกาลเลยทีเดียว ถ้าไม่เชื่อลองมาชมตัวอย่างความผิดพลาดจากหนุ่มคนนี้กัน รับรองว่าไม่มีใครอยากพลาดแบบเขาแน่นอน หนุ่มผู้ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @Marese_CP ผู้ที่ได้ก่อความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงโดยการส่ง “ภาพไอ้จ้อน” ของตัวเองไปยังกลุ่มเพื่อนที่ร่วมเรียนในคลาสวิชาปรัชญาของเขา Marese_CP หนุ่มเจ้าของภาพไอ้จ้อนดังกล่าว เรื่องมันเริ่มขึ้นจากการที่เขานำโทรศัพท์มือถือไปซ่อมที่ร้านซ่อมแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโทรศัพท์ของเขา พอถึงกลางดึกของวันหนึ่ง เขาเล่นทวิตเตอร์แล้วเกิดอารมณ์คุกรุ่น เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพไอ้จ้อนของตัวเองให้สาวดู จากนั้น เขาก็ปิดโซเชียลมีเดียจนหมด และอาบน้ำกลับมานอนดู Netflix จนหลับไป รุ่งขึ้นเขาต้องไปเรียนคลาสวิชาปรัชญาและก็มีงานกลุ่มเสียด้วย “ย้อนกลับไปเมื่อผมดันเผลอส่งรูป “กระจู๋” ไปให้เพื่อนร่วมคลาสปรัชญาทุกคน” ขณะที่เขากำลังวิ่งไปเข้าเรียน เขาก็เข้าไปเช็กแชตกลุ่มว่าเพื่อนๆ ที่เรียนวิชาปรัชญาคุยอะไรกันบ้าง เผื่อมีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับการเรียน ขณะเดียวกันเขาก็ถึงห้องเรียนพอดี เขาเดินเข้าไปนั่งลงในห้องทั้งๆ ที่โทรศัพท์ของเขาก็ยังไม่ได้ล็อก ทำให้มือของเขาเผลอไปกดส่งภาพไอ้จ้อนของตัวเอง (ที่เคยถ่ายเอาไว้ส่งให้สาว) จำนวน 2 ภาพเข้าไปในกลุ่ม “จบกันชีวิตตรู” เขาบอกว่าตอนนั้น “ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม” รูปไอ้จ้อนของเขาประจักษ์สู่สายตาเพื่อนๆ ทั้งห้อง เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นพร้อมเห็นว่าเพื่อนชายคนหนึ่งในห้องพูดออกมาดังๆ ว่า “โอเคเลยยยย” และเขาก็เห็นว่าเพื่อนๆ ทุกคนเริ่มเข้าไปดูภาพนั้นภายในแชต “ชิ*หายแล้ว ขอโทษทีนะพวก”…
-
ลุงขายไอศกรีมหัวร้อน หลังเด็กกดไอศกรีมเองแล้วทำหกเลอะเทอะ ต่อยฟันหักเลย!!
‘การทำงานกับเด็ก’ บางครั้งก็อาจจะพบเจอกับเรื่องหงุดหงิดได้เช่นกัน เพราะเด็กๆ มักจะไร้เดียงสาและเล่นซนจนเกิดเหตุให้ผู้ใหญ่ต้องปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกันกับคุณลุงขายไอศกรีม Alan Donaldson วัย 58 ปี ที่ถูกเด็กวัย 12 ขวบ รบเร้าขอกินไอศกรีมฟรี และต้องการที่จะกระโดดขึ้นไปกดไอศกรีมจากตู้กดด้วยตัวเอง คุณลุงก็บอกเตือนกับเจ้าหนูน้อยคนนั้นไปว่า ‘ถ้าหากเอ็งยังอยากโดนตบล่ะก็นะ ขึ้นมาทำเลย’ แล้วเด็กคนนั้นก็เอาจริง กระโดดขึ้นรถขายไอศกรีมมากดเครื่องด้วยตัวเองจนไอศกรีมหกเลอะเทอะเต็มไปหมด ด้วยความโมโหคุณลุงก็เลยต่อยเจ้าเด็กซนคนนั้นจนถึงกับฟันหักเลยทีเดียว แล้วเรื่องราวก็บานปลายใหญ่โตจนต้องขึ้นศาลกันในที่สุด หลังจากที่โดนต่อยแล้วเจ้าหนูก็รีบวิ่งกลับบ้านไปฟ้องแม่ ส่วนทางด้านคุณลุง Donaldson ก็เดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อมอบตัวและเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น “ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายเด็กจริงๆ แค่จะสั่งสอนเขาเท่านั้น” คุณลุงเล่า หลังจากที่ยอมรับสารภาพผิดในศาล คุณลุงถูกตัดสินโทษด้วยการทำงานบริการชุมชนเป็นเวลากว่า 120 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตามมีผู้คนแสดงความเห็นใจกับคุณลุง ผ่านทางโซเชียลมีเดียมากมาย ทางด้านทนาย Sam McDonald ก็ได้ให้การในศาลว่า “เขาเป็นคนดีมาเสมอ และมักจะทำเรื่องดีๆ ให้กับสังคม ผู้คนในชุมชนนี้ต่างก็เคยได้รับความช่วยเหลือจากเขา” “แต่ในวันเกิดเหตุถือเป็นวันที่ค่อนข้างแย่สำหรับเขา ทั้งอากาศที่ร้อน และแอร์รถก็เสียอีกต่างหาก บวกกับเจอเด็กนิสัยไม่ดี จึงไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกที่เขาจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หลังจากที่ก่อเหตุแล้วเขาก็รับแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำอย่างรวดเร็ว” ทางด้านผู้พิพากษาเองก็รับรู้ว่า Donaldson…
-
ของจริง!! หนุ่มคอทองแดงดวดเหล้า ‘Sambuca’ 30 ช็อตใน 1 นาที มีใครให้มากกว่านี้ไหม…
สำหรับเหล่าคอแอลกอฮอล์แล้ว ก็มักจะมีคำพูดข่มขวัญกันว่าข้านี่แหละเจ๋ง ข้านี่แหละคอแข็งที่สุดแล้ว และเพื่อเป็นการพิสูจน์คำดังกล่าวเลยทำให้เกิดชาเลนจ์ที่เรียกกันว่า ‘แก้วต่อแก้ว’ กันขึ้น และสำหรับผลลัพธ์ส่วนมากก็แทบจะพังพินาศ เมาปลิ้นอ้วกแตกกันไปแทบทุกราย แต่ถ้าหากใครคอแข็งจริงๆ แล้วยังหาใครมาต่อกรไม่ได้สักที ไม่แน่นะว่าหนุ่มคนนี้อาจจะมีดีกรีพอที่จะไฟว้ด้วย เพราะผลงานล่าสุดของเขาคือการกินเหล้าไป 30 ช็อต ในเวลาเพียงแค่ 1 นาที!! กินเข้าไปได้ยังไง สำหรับเรื่องสุดแสนจะเหลือเชื่อว่าไม่น่าจะมีมนุษย์ปกติคนไหนทำได้นี้ เกิดขึ้นจากความที่หนุ่มชาวอังกฤษวัย 25 ปีนาม Chris McAdam เดินทางไปเที่ยวเกาะซาคินทอส ประเทศกรีซ และที่นั่นเองที่เขาได้เดินเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่งที่มีชาเลนจ์ว่า ‘กินหมดงดจ่ายตังค์’ ซึ่งหมายถึงการกินเหล้าจำนวน 30 ช็อตให้หมดในเวลาที่กำหนด และแน่นอนขี้เหล้าอย่างเขาไม่ยอมพลาดโอกาสดีๆ กับการกินฟรีอย่างนี้ เขารับคำท้า!! อ่าา ชื่นใจ สำหรับเหล้าที่ชาเลนจ์นี้กำหนด เป็นเหล้าที่มีชื่อว่า ‘Sambuca’ (เหล้าลิเคียวประเภทหนึ่ง) โดยเหล้าประเภทนี้จะมีรสชาติที่หวานหอม ทว่าก็มาพร้อมกับดีกรีที่แรงอย่างจัดจ้าน เมื่อ Chris ตกลงรับคำท้า ทางบาร์ก็เทเหล้าใส่แก้วช็อตให้เขามาวางไว้ต่อหน้าทีเดียว 30 ช็อต และเมื่อมีการจับเวลาเกิดขึ้นเขาก็จับยกพรวดเดียวแทบจะทั้งหมด เรียกได้ว่ากินเป็นน้ำไหล และในสุดท้ายแล้วเขาก็กวาดเรียบภายในระยะเวลาอย่างรวดเร็ว ฮึบ…
-
หนุ่มขึ้นรถไฟ “นั่งผิดที่” แต่ดันไม่ยอมย้าย อ้างว่าตัวเองพิการ ทำไมคนป่วยกันเยอะจังช่วงนี้?!
เวลาที่เราก่อความผิดพลาด สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำก็คือกล่าวขอโทษ รับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง แต่นี่คือตัวอย่างของบางคนที่ไม่ยอมรับในเรื่องนั้น เมื่อชายคนนี้ขึ้นรถไฟไปนั่งผิดที่ ไม่ตรงตามตั๋วรถ แต่แทนที่เขาจะยอมลุกกลับไปนั่งที่ตัวเองดีๆ เขากลับดื้อดึงไม่ยอมไป แถมอ้างว่าขาพิการอีกต่างหาก?! ภาพของชายคนดังกล่าว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในรถไฟขบวนหนึ่งที่กำลังเดินทางจากเมืองจีหนาน ไปกรุงปักกิ่งประเทศจีน ในวันที่ 21 สิงหาคม 2018 หญิงสาวเจ้าของที่นั่งดังกล่าวได้ขอให้ชายที่นั่งอยู่ตรงที่ของเธอลุกขึ้นและกลับไปที่ของตัวเองได้แล้ว แต่หนุ่มแซ่ Sun กลับไม่ยอมย้ายออกไปไหน ดื้อดึงที่จะนั่งอยู่ตรงนั้น พนักงานบนรถไฟจึงดินมาขอดูตั๋วของเขาและพบว่าที่นั่งของชายคนนี้อยู่ถอยไปอีกแค่ไม่กี่แถว แถมยังเป็นที่นั่งข้างหน้าต่างเหมือนกันแท้ๆ เมื่อพนักงานขอให้เขากลับที่ ชายหนุ่มก็บอกกลับมาว่า “ผมจำเป็นต้องใช้รถเข็น ไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเอง” ทั้งๆ ที่ในตอนแรก พนักงานบอกว่าตอนเขาขึ้นรถมาก็ยังเดินออกปร๋อ ไม่เห็นต้องใช้รถเข็นเลย ท้ายที่สุด พนักงานจึงจัดที่ชั้นธุรกิจให้กับหญิงสาวเจ้าของที่ ปล่อยให้นาย Sun นั่งอยู่ตรงที่ที่เขาต้องการ ก่อนจะลงรถไป ชายคนดังกล่าวก็ทำท่าขอยืมรถเข็นจากพนักงาน ทำตีหน้าซื่อราวกับว่าตัวเองพิการจริงๆ คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียลของจีน ซึ่งพวกเขาสามารถตามเจอตัวชายในคลิปได้อย่างง่ายดาย เข้าไปต่อว่ากับการกระทำแบบนี้ และขอให้แบนจากระบบขนส่งสารสาธารณะไปเลย เมื่อกลายเป็นกระแส หนุ่มแซ่ Sun ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขารู้สึกเสียใจกับกระทำแย่ๆ ของตัวเองในครั้งนั้น และขอโทษทุกคนด้วย…
-
รปภ. อัดคลิป ‘ผายลม’ ในที่ทำงานตลอด 6 เดือน กลายเป็นกระแสไวรัล สุดท้ายโดนไล่ออก
บางครั้ง ‘โลกอินเตอร์เน็ต’ มันก็ไปไวกว่าที่เราคิด หากจะอัปโหลดข้อความ ภาพ หรือคลิปวิดีโอลงไปจะต้องคิดดูก่อนดีๆ เพราะไม่เช่นนั้นมันอาจส่งผลกระทบถึงตัวคุณได้ เช่นเดียวกันกับพี่รปภ. รายนี้ ที่อัดคลิปวิดีโอของตัวเอง ‘ผายลม’ ในที่ทำงานเป็นประจำทุกวันนานกว่า 6 เดือน แล้วนำไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย จนโด่งดังกลายเป็นกระแสไวรัลที่มีผู้คนแชร์กันไปมากมาย ชมคลิปวิดีโอที่ข้างล่างนี้ก่อนนะจ๊ะ พี่ รปภ. คนดังกล่าวนี้มีชื่อว่า Doug แต่คลิปที่ถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์นั้นถูกแชร์ไปในชื่อ ‘Paul Fart’ เขาทำงานอยู่ที่รัฐ New Jersey เป็นรปภ. ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เขาเป็นคนสนุกสนาน และมักจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนร่วมงานอยู่ตลอดเวลา “ที่ทำงานของผมนั้นเป็นที่เปิดและกว้าง หลายคนมักจะผายลมที่นั่น และวันหนึ่งผมก็ได้ยินเสียงผายลมของตัวเองและผมว่ามันเพราะมากๆ เลย พอหลังจากนั้นผมก็เลยถ่ายคลิปเก็บเอาไว้แล้วก็ส่งเข้าไปในกลุ่มแชตของผม” และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของคลิปไวรัล เพื่อนๆ ของเขาเองก็คิดว่ามันเจ๋ง ก็เลยบอกว่าทำให้มันแมสไปเลยสิ เขาก็เลยเริ่มอัดคลิปตอนตัวเองผายลมแล้วก็โพสต์ลงอินสตาแกรมทุกๆ วัน โดยตั้งชื่อแอคเคานท์ว่า Paul Fart และนั่นทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในชื่อ Paul อินสตาแกรมได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก จนตอนนี้มีผู้ติดตามกว่า 43,100 คนแล้ว!!…
-
ชายหนุ่มโดนบอกเลิก เขาเลยขโมย “ชักโครก” ของแฟนสาวไปด้วย ลำบากเลยสิแบบนี้?!
เราอาจเคยเลิกกับแฟน แล้วถึงมารู้ทีหลังว่าเขาหรือเธอคนนั้นแอบเอาบางอย่างที่มีค่าของเราติดตัวจากไปด้วย… ที่พูดนี่ไม่ได้หมายถึงหัวใจ แต่กำลังพูดถึง “ชักโครก” ต่างหากล่ะ?! นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อว่า shelblikadoo เมื่อเธอตัดสินใจบอกเลิกกับแฟนหนุ่ม ก่อนที่จะพบว่า “ชักโครก” ในห้องน้ำของเธอถูกชายคนนั้นขโมยไปด้วย!! ภาพที่เธอถ่ายไว้ เผยให้เห็นพื้นที่ที่เคยมีชักโครกอยู่ เธอเล่าว่าตัวเองและแฟนคนดังกล่าวคบหากันมานานกว่า 10 เดือน ใช้เวลาร่วมกันอยู่ในห้องเช่าของเธอจนกระทั่งเริ่มมีความบาดหมางกันในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ ถึงอย่างนั้นเมื่อช่วงเดือนก่อน เธอก็ยังพยายามที่จะให้เรื่องทุกอย่างมันเย็นลง เพราะเชื่อว่าลึกๆ แล้วเขายังเป็นคนดีอยู่ 1 ในปัญหาที่ทำให้ทะเลาะกันก็คือเรื่องของ “ชักโครก” ที่พัง และชายหนุ่มก็มักจะซ่อมให้เธออยู่เป็นประจำมานานหลายเดือน แต่แล้วทุกอย่างก็มาถึงทางตัน หญิงสาวตัดสินใจบอกเลิกกับแฟนคนนี้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา หนุ่มแฟนเก่า กับชักโครกของเราที่หายไป ชายคนนั้นไม่ได้จากไปง่ายๆ เขาพูดขู่ว่า “กูจะเอาชักโครกมึงไปด้วย” ซึ่งเธอก็ไม่ได้ติดใจอะไรในคำพูดนั้น และเผลอหลับไปในตอนที่เขากำลังเก็บของออกจากห้องเธอ รวมถึงชักโครกสุดที่รัก เมื่อเธอตื่นมาก็ถึงกับเหวอ ไม่คิดว่าแฟนเก่าจะเอาไปจริงๆ หญิงสาวจึงรีบแจ้งเรื่องไปกับทางผู้ให้เช่า โดยในตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พอรู้ว่ามันคือความจริง ทุกคนก็ถึงกับขำก๊ากออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้เธอต้องรอช่างประปาอยู่นานหลายชั่วโมง…
-
ชายฮ่องกงรับคำท้า “กินนักเก็ต 90 ชิ้น” เผยตั้งใจแพ้ เพราะอยากเสียเงินให้กับการกุศลอยู่แล้ว!
การกินเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ชอบ ยิ่งเป็นการกินที่ได้เงินรางวัลตอบแทนแล้วด้วยยิ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก แต่การที่เราจะได้เงินมานั้นแน่นอนว่ามันไม่ง่าย เราอาจจะต้องกินจนแน่นปริกว่าจะได้เงินรางวัลมาก็เป็นได้ ล่าสุดชายชาวฮ่องกงคนหนึ่งก็ได้รับคำท้าในการทาน McNugget 90 ชิ้นให้หมดภายในเวลา 90 นาที เพื่อรับเงินรางวัล 20,000 ฮ่องกงดอลลาร์ (กว่า 80,000 บาท) ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Joe เขาได้ทำการถ่ายทอดสดการกินนักเก็ตในครั้งนี้ลงบนเฟซบุ๊ก Dennis Chan เมื่อวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา กติกาของชาเลนจ์นี้ก็คือการทานนักเก็ต McNugget จากร้าน McDonald’s จำนวน 90 ชิ้นให้หมดภายในเวลา 90 นาทีเพื่อรับเงินรางวัล แต่หากไม่สามารถทานหมดได้ทันเวลาหรืออิ่มก่อน จะต้องจ่ายค่าปรับ 100 ฮ่องกงดอลลาร์ (426 บาท) ต่อชิ้นที่เหลือ ชมคลิปการทานนักเก็ตของ Joe กัน ชาวเน็ตที่เข้ามาชมคลิปของเขา เมื่อเห็นว่า Joe เริ่มทานไม่ไหว จึงแนะนำให้จิ้มซอสเยอะๆ …
-
ดาราสาวเกิดในครอบครัวจีน แต่กลับถูกชาวจีนเรียกว่า “กล้วย” เพราะมองว่าเธอไม่ใช่จีนแท้
เราอาจเคยได้ยินคำพูด “เหยียดเชื้อชาติ” เมื่อบางคนมองว่าคนชาติอื่นหรือสีผิวอื่นด้อยค่ากว่าคนชาติตัวเอง แต่ประสบการณ์ของดาราสาว Michelle Yeoh เธอเล่าว่าแม้ตัวเองจะเป็นคนจีน เกิดในครอบครัวจีน แต่เธอกลับถูกคนจีนเรียกว่า “กล้วย” เพราะถูกมองว่าไม่ใช่จีนแท้ นักแสดงสาว Michelle Yeoh Michelle คือ 1 ใน Bond Girl (เป็นตัวเอกหญิงในหนังซีรี่ส์ James Bond) ผู้เคยฝากผลงานไว้ในหนังเรื่อง James Bond 007: Tomorrow Never Dies (1997) ล่าสุดช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2018 เธอได้ให้สัมภาษณ์ในฐานะนักแสดงนำของหนังเรื่อง Crazy Rich Asians พร้อมกับเล่าประสบการณ์ที่เคยเจอกับคำพูดดังกล่าวเอาไว้ เธอเล่าว่าตัวเองเป็นคนจีน ครอบครัวจีน เพียงแต่ว่าเธอเกิดในประเทศมาเลเซียก็เท่านั้นเอง แต่เหตุผลดังกล่าวก็ทำให้เธอแตกต่างไปจากคนจีนแท้ๆ Michelle บอกว่าครั้งแรกที่เธอได้ไปฮ่องกง แน่นอนว่าคนที่นั่นคงมองว่าเธอเป็นคนจีนอย่างแน่นอน แต่ในตอนนั้น ดาราสาวคนนี้กลับไม่สามารถพูดหรือเขียนภาษาจีนได้คล่องอย่างที่หลายๆ คนคิด แม้แต่ตอนที่เธอไปย่านไชน่าทาวน์ของประเทศอังกฤษ เธอยังต้องขอเมนูอาหารเป็นภาษาอังกฤษเลยด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่การใช้…
-
เด็กสาวป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ใฝ่ฝันอยากรู้ตอนจบของ Avengers 4 ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป
ในชีวิตของเพื่อนๆ เคยคิดกันบ้างไหมว่าก่อนตาย อยากจะทำอะไรเป็นครั้งสุดท้าย? สำหรับเด็กสาวที่ชื่อว่า Keira ที่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ความหวังก่อนตายของเธอคือการได้รู้ตอนจบของ Avengers 4 ก่อนที่จะลาจากโลกใบนี้ไป และด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรที่มีชื่อว่า My Shining Star Children’s Cancer Society ได้ทำการโพสต์เล่าเรื่องราวของเธอเพื่อสานต่อความหวังครั้งสุดท้ายของเด็กสาวคนหนึ่งให้กลายเป็นจริง Keira ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งสมองมานานกว่า 4 ปีครึ่ง จนในที่สุดเธอก็พ่ายแพ้ต่อมัน และเหลือชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกราวๆ 3-4 เดือนเท่านั้น “ก่อนที่จะตายเธอต้องการที่จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นใน Avengers ภาคต่อไป ครอบครัวของเธอพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ฝันของเธอกลายเป็นความจริง แต่มันก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยาก” “อย่างที่ทุกคนรู้ เราเป็นเพียงองค์กรองค์กรหนึ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา เด็กสาวคนนี้ต้องต่อสู้กับมะเร็งร้ายตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และเธอสวมควรได้รับการเติมเต็มความฝันของตัวเอง เราต้องช่วยกัน ได้โปรด!!” My Shining Star Children’s Cancer Society กล่าว องค์กรได้นำเรื่องราวนี้โพสต์ลงทวิตเตอร์และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย ตอนนี้มีคนเข้ามากดไลก์มากกว่า 32,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 53,100 ครั้งแล้ว …
-
หนุ่มสายเปย์ลงทุน ‘กรีดแขนตัวเอง’ แสร้งว่าโดนปล้น จะได้ไม่ต้องซื้อรถหรูให้แฟนสาว…
นับว่าเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์เอาไว้ใจเตือนใจสายเปย์จริงๆ สำหรับในกรณีนี้ ที่มีหนุ่มคนหนึ่งบอกกับแฟนไว้อย่างดิบดีว่าจะซื้อรถคันหรูให้ แต่จริงๆ แล้วไม่มีเงินพอจะซื้อ เขาเลยแกล้งทำเป็นว่าเงินถูกโจรขโมยไปแล้ว แถมยังเล่นใหญ่ด้วยการเอามีดกรีดเนื้อตัวเองเพื่อความเนียนว่าโดนปล้นจริงๆ นะเออ!! โดยแผนการที่ไม่เข้าท่านี้เริ่มขึ้นในวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อชายนามสกุลว่า Tang ได้พาแฟนสาวของเขาที่มีนามสกุลว่า Yang กับพี่น้องของเธอไปที่โชว์รูมรถแห่งหนึ่ง ตามคำสัญญาที่ชายหนุ่มคนนี้บอกไว้ว่าจะซื้อรถหรูราคา 700,000 หยวน (ประมาณ 3.3 ล้านบาท) ให้กับทางฝ่ายหญิง ทว่าจริงๆ แล้วไอ้หนุ่มคนนี้ไม่ได้มีเงินใกล้เคียงกับเงินจำนวนดังกล่าวแม้แต่นิด เขาจึงคิดแผนการนี้ขึ้นมาได้ จากนั้นก็ดำเนินการตามแผนการที่วางไว้ โดยในตอนแรกเขาได้บอกให้ฝ่ายหญิงกับพี่น้องของเธอรออยู่ในโชว์รูมรถแห่งนี้ ส่วนเขาจะออกไปนำเงินมาจ่ายค่ารถ เมื่อออกจากโชว์รูมแห่งนั้นได้แล้วหนุ่ม Tang ก็รีบวิ่งไปที่ซูเปอร์มาเก็ตที่อยู่ใกล้ๆ แล้วซื้อมีดปอกผลไม้มาเล่มหนึ่งในราคา 15 หยวน (ประมาณ 70 บาท) แล้วจัดการหาที่เปลี่ยวๆ เฉือนเนื้อแขนตัวเองเพื่อเข้าสู่แผนการขั้นต่อไป… นั่นก็คือโทรหาแฟนชาวแล้วบอกว่าเงินจำนวน 700,000 ที่จะเอามาซื้อรถตอนแรกโดนขโมยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในตอนนี้ก็ไม่มีเงินพอจะซื้อรถให้เธออีกต่อไป นับว่าเป็นแผนการอันชาญฉลาดทีเดียว ที่ลงทุนแค่ซื้อมีด 15 หยวนกับยอมเจ็บตัวอีกนิดหน่อย ก็สามารถล้มเลิกคำสัญญาซื้อรถราคาเป็นล้านๆ นี้ลงได้ ถ้าแผนไม่แตกซะก่อน… แต่ก็เหมือนกับฟ้าไม่เป็นใจเพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ โดยในระหว่างที่พี่น้องของฝ่ายแฟนสาวพาตัวเขาไปรักษาที่โรงพยาบาล…
-
เชิญชมแฟชั่นพรมแดงของ 24 ดาราศิลปินในงาน MTV VMAs 2018 เป๊ะ ปัง อลังเวอร์
ในวันที่ 21 สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา ฝั่งอเมริกาได้มีงานประกาศรางวัล MTV Music Video Award 2018 (MTV VMAs) ซึ่งในงานมีการมอบรางวัลมากมายหลายรายการ โดยรางวัลศิลปินแห่งปีตกเป็นของ Camila Cabello ศิลปินหน้าใหม่ตกเป็นของ Cardi B แต่นอกจากการประกาศผลรางวัลนับสิบสาขาแล้ว สีสันอีกอย่างที่เราจะพลาดไม่ได้เลยก็คือแฟชั่นพรมแดงของเหล่าศิลปิน ดารา และบรรดาเซเลบทั้งหลายนี่แหละ วันนี้ #เหมียวโคบี้ จึงนำแฟชั่นโชว์ของ 24 ศิลปิน ดารา คนดัง ใครจะเป๊ะ ปัง ใครจะแป๊กเราไปชมกันครับ 1. Nicki Minaj มาในชุดสุดเซ็กซี่ 2. Blac Chyna กับชุดนุ่งสั้นโชว์หน้าท้อง ซิกแพคจัดเต็ม 3. ขุ่นแม่ Jennifer Lopez มาในชุดสีเงินวิบวับ 4. Audrina Patridge นี่ก็มาพร้อมชุดวิบๆ วับๆ อีกคน 5. Travis Scott…
-
หนูน้อยพิการต้อง “ต่อยตี” กับอีกฝ่าย ใครๆ ก็คิดว่าเขาจะแพ้ เขากลับถอดขาเทียมแล้วลุย!!
เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทอาจเกิดขึ้นได้ไม่ว่ากับใคร โดยเฉพาะเหล่าเด็กๆ ที่มักมีการต่อสู้เกิดขึ้นบ่อยครั้งเนื่องจากมันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงความพ่ายแพ้และชัยชนะ ล่าสุด การทะเลาะวิวาทต้องมาเกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มชาวตะวันตกตัวน้อยสองคนโดยที่ฝ่ายหนึ่งเป็นเด็กที่มีความทุพพลภาพที่จำเป็นต้องสวมขาเทียมทั้งสองข้าง ทั้งคู่ทะเลาะกันอยู่ริมถนนแห่งหนึ่งไม่ทราบประเทศ ในช่วงแรกทั้งคู่มีการเดินดูเชิงกันไปกันมา หลายคนที่พบเห็นต่างพากันคิดว่า หนูน้อยที่สวมขาเทียมต้องสู้ไม่ได้แน่ๆ เพราะเขาดูเสียเปรียบกว่าอีกฝ่ายมาก หลังจากที่ทั้งคู่ดูเชิงกันไปมา หนูน้อยที่สวมขาเทียมและใส่ชุดสีแดงก็นั่งลงและเริ่มถอดขาเทียมของเขาออก หลังจากนั้นการต่อสู้ที่แท้จริงก็เริ่มขึ้น… ไปชมคลิปกันเลยยย หนูน้อยกับขาเทียมเดินดูเชิงกับอีกฝ่ายที่ร่างกายดูปกติ หลายคนคิดว่าเขาต้องสู้หนูน้อยอีกฝ่ายไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะคิดว่าความพิการของเขาจะทำให้เขาเสียเปรียบ แต่เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใจ เจ้าหนูนั่งลงและถอดขาเทียมออก หลังจากนั้นเจ้าหนูชุดแดงก็กลายเป็นฝ่ายรุกได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขาไล่ต้อนอีกฝ่ายอย่างไม่ทันตั้งตัว สุดท้ายเขาไล่ต้อนจนเข้าถึงตัวอีกฝ่ายได้ เขาจึงผลักให้อีกฝ่ายล้มลงไป เสร็จล่ะ!!! เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงจุดยืนของผู้พิการว่าพวกเขาไม่ใช่ฝ่ายที่อ่อนแอและต้องถูกกระทำเสมอไป แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าจะเพศหรือวัยใด ก็ไม่สนับสนุนให้แก้ปัญหาด้วยกำลังและความรุนแรงนะ ที่มา: ck101 และ liveleak
-
ชายหนุ่มบาดเจ็บ หลังตกลงไปในหลุม “Descent Into Limbo” ที่ตนคิดว่าเป็นภาพวาด….
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่เรามองเห็นด้วยตาคือความจริง? เพราะบางครั้ง “สายตา” ของเรามันก็หลอกเรา ให้เราต้องพบเจอกับความสูญเสียได้เช่นกัน ล่าสุด ชายคนหนึ่งต้องได้รับบาดเจ็บเนื่องจากตกลงไปในหลุมลึก 2.4 เมตรซึ่งเป็น “งานศิลปะ” ที่จัดแสดงอยู่ภายใน Serralves Foundation Museum ในเมืองโปร์ตู ประเทศโปรตุเกส ชายคนดังกล่าวคิดว่าหลุมนั้นเป็นเพียงภาพวาด เขาจึงพยายามทดสอบให้แน่ใจโดยการเหยียบย่ำลงไปบนหลุม จนทำให้ตัวของเขาร่วงหล่นลงไปในหลุมและได้รับบาดเจ็บ หลุมนี้เป็นผลงานของศิลปินหญิงชาวอังกฤษที่ชื่อว่า Anish Kapoor ที่สร้างขึ้นในปี 1992 เธอตั้งชื่อผลงานนี้ว่า “Descent Into Limbo” ซึ่งเป็นภาพลวงตาที่ทำให้ดูเหมือนเป็นเพียงภาพที่แปะไว้กับพื้นเท่านั้น ล่าสุดนักท่องเที่ยวชาวอิตาเลียนนายหนึ่งไม่ทราบชื่อ ได้เข้ามาชมยังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้และได้ทำมากกว่าใช้ตามอง เขาพยายามทดลองเดินย่ำลงไปบนงานศิลปะ และด้วยความที่งานชิ้นนี้เป็น “หลุม” จริงๆ จึงทำให้เขาตกลงไป หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Anish Kapoor จึงออกมาพูดในคลิปนี้ว่า “จะให้ฉันพูดอะไรได้…มันช่างน่าละอายเหลือเกิน” สุดท้ายแล้ว ผลงาน Descent Into Limbo ก็ถูกปิดไม่ให้เข้าชม และหากเปิดให้เข้าชมได้อีกครั้งก็จะมีการเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น นี่แหละนะ ของเขามีไว้ให้ดู ดันไปเดินเหยียบเสียอย่างนั้น (แต่จะว่าไปหลุมมันก็เนียนจริงๆ นะ)…
-
บั้นปลายชีวิตหญิงชรา 1 ใน 3 คนสุดท้ายในสหรัฐฯ ต้องพึ่ง ‘ปอดเหล็ก’ เพื่อต่อชีวิต
การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ หนึ่งในประโยคที่คอยสอนใจมนุษย์เราว่า การป่วยเป็นโรคภัยไข้เจ็บนั้นจะทำให้ชีวิตยากลำบาก ไหนจะต้องหาหนทางรักษารวมไปถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมาอีกหลายระลอก… Mona Randolph คือหนึ่งในผู้ป่วยโปลิโอ เธอติดเชื้อไวรัสในช่วงอายุ 20 ปี ส่งผลทำให้ไขสันหลังได้รับความเสียหาย ร่างกายเป็นอัมพาตแต่ยังไม่ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งโชคร้ายตรงที่ปี 1955 มีวัคซีนป้องกันโปลิโอออกมาแล้ว แต่เธอไม่ได้รับวัคซีนเนื่องจากถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคน้อยกว่าเด็กนั่นเอง อาการเบื้องต้นของเธอนั้น ประสบกับปวดหัวขั้นรุนแรง ไข้หวัด และความอ่อนไหวต่อแสงและเสียง อย่างเช่นการได้ยินเสียงกระซิบจะทำให้รู้สึกปวดหูได้ หรือแม้แต่รับแสงเข้าดวงตาก็ทำไม่ได้ จนภายหลังหลายวันต่อมา เธอไม่สามารถหายใจได้ตามปกติ แพทย์ได้วินิจฉัยให้เธอเข้ารับวิธีการรักษาด้วย ‘ปอดเหล็ก’ เครื่องช่วยหายใจในยุคสมัยนั้น ใช้แรงดันลมอัดอากาศเข้าไปในปอดของผู้ป่วยที่ไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง แต่ในปัจจุบันไม่ได้ใช้อย่างแพร่หลายแล้ว เหลือแต่เพียงผู้ป่วยจากยุคสมัยเก่าเท่านั้น เธอรอดชีวิตมาจากโรคโปลิโอได้ แต่ต้องแลกไปด้วยแขนซ้ายเป็นอัมพาต ทุกวันนี้ต้องพึ่งพาอาศัยคนในครอบครัวและเพื่อนคอยดูแลอยู่ตลอด แม้จะไม่ต้องนอนอยู่ในปอดเหล็กก็ตาม ในความโชคร้ายซ้ำสอง แม้จะรอดมาจาโปลิโอ แต่ร่างกายกลับมีอาการกลุ่มโรคหลังโปลิโอในปี 1980 ก่อให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการหายใจติดขัดก็กลับมาอีกครั้ง และต้องกลับมาพึ่งพาปอดเหล็กเช่นเคย จนถึงทุกวันนี้ Randolph จะต้องเข้ารับการบำบัดเป็นประจำ และกลับมานอนอยู่ในเครื่องปอดเหล็ก 6 คืนต่อสัปดาห์…
-
พยาบาลสาวใน ‘ชุดวิวาห์’ ช่วยเหลือคนเจ็บจากอุบัติเหตุ จนชาวเน็ตแห่แซ่ซ้อง ‘นี่แหละฮีโร่’!!
แม้ว่า ‘ชุดเจ้าสาว’ จะเป็นชุดในฝันของหญิงสาวหลายๆ คนที่เฝ้ารอที่ได้จะสวมใส่ในวันสำคัญที่สุดอีกวันหนึ่งของชีวิต วันดังกล่าวคงเป็นวันที่เธอดูสวยและมีความสุขที่สุด แต่ว่ามีพยาบาลสาวคนหนึ่งที่ยอมอุทิศตัวช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ทั้งๆ ที่เธอแต่งตัวกำลังจะมุ่งหน้าไปถ่ายรูปแต่งงานในชุดเจ้าสาวสุดสวย ซึ่งการกระทำของเธอก็ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตว่าเป็นเสมือนกับ ‘ฮีโร่’ เลยทีเดียว ที่ยอมช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะมีเลือดเปื้อนชุดวิวาห์แต่อย่างใด… เหตุการณ์สร้างฮีโร่ที่ว่านี้เกิดขึ้นที่เมืองต้าเหลียน ประเทศจีนในวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อ Xie Dan พยาบาลสาวกำลังมุ่งหน้าไปถ่ายรูปแต่งงานกับคู่รักของเธอ ทว่าในระหว่างการเดินทางไปยังสถานที่ถ่ายทำนั้นเอง จู่ๆ ก็กลับมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของเธอ และมีหญิงชราคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเห็นดังนั้นแล้วนางพยาบาล Xie จึงรีบลงจากรถไปยังหญิงชราคนดังกล่าว แม้ว่าจะสวมใส่ชุดเจ้าสาวแสนสวยอยู่ก็ตาม เธอได้ทำการ CPR เบื้องต้นเพื่อพยายามยื้อชีวิตผู้บาดเจ็บไว้รวมถึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยวิธีต่างๆ จนในที่สุดแล้วรถฉุกเฉินมาถึง เธอถึงหยุดภารกิจนี้เอาไว้และหายตัวไปอย่างว่องไว ทางด้านพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า Xie ได้พูดถึงการช่วยเหลือครั้งนี้ ‘ถ้าเธอไม่ลงมาช่วยคงจะรู้สึกผิดมากๆ’ รวมถึงคำพูดกินใจที่ว่า ‘ฉันแค่ทำในสิ่งที่ฉันควรทำ’ ด้วย… แต่ถึงอย่างไรแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะผู้บาดเจ็บคนดังกล่าวสุดท้ายแล้วก็เสียชีวิตลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา… สำหร้บเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเรื่องนี้ได้ลงสู่โลกอินเทอร์เน็ตก็มีผู้คนมาแสดงความชื่นชมมากมายถึงความเสียสละของพยาบาลสาวคนนี้ เพราะจริงๆ แล้วเธอเลือกที่จะไม่ช่วยเหลือก็ได้และกำลังมีงานสำคัญอยู่ แต่เธอก็ยังเลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องเช่นนี้ เธอช่างเป็นเจ้าสาวที่วิเศษและแสนสวยจริงๆ ขอแสดงความเสียใจด้วยกับผู้ที่จากไป เธอทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เธอทำในสิ่งที่เธอควรทำ…
-
ภาพของเด็กน้อยส่องกระจก แต่ภาพสะท้อนดันไปไวกว่าตัวจริง ที่อยู่ข้างนอกซะอีก!!
ก่อนอื่นเลยต้องอธิบายไว้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติไปหน่อย เมื่อมาคิดไตร่ตรองให้ดีแล้ว ดูซ้ำอีกครั้งตั้งสติดีๆ มันก็เป็นเรื่องของมุมกล้องมุมภาพที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้!! โดยที่ต้นเรื่องนี้มาจากผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @satxjolyn ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอสั้นๆ ของเด็กชายคนหนึ่งกำลังยืนส่องกระจกดูภาพสะท้อนของตัวเอง ดูผิวเผินก็ไม่มีอะไรผิดปกติหรอก… ลองมาดูกันก่อน ช้าๆ ชัดๆ https://twitter.com/satxjolynn/status/1031643061242265600 เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ ชาวเน็ตต่างวิเคราะห์กันว่า ตาน้องปิดแล้วแต่ทำไมในกระจกไม่ปิดตามล่ะ? Sus his eyes closed but his reflection’s isn’t pic.twitter.com/HNB2kCm2in — Iman 🌻✨🌙🕊 (@mani_boom) August 21, 2018 เถียงกันต่อด้วยว่า… มันไม่ใช่แบบนั้น ถ้าตาน้องปิด ภาพสะท้อนก็ต้องปิดตามไปด้วยสิ ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ากระจกมีดีเลย์ 0.5 วิด้วย แต่อีกคนก็มาแย้ง ‘ภาพในกระจกจะดีเลย์เมื่อผ่านกล้องนะ ไม่ได้โกหก!?’ พร้อมกับอีกคนว่า ‘แล้วกระจกมันจะไปดีเลย์ได้ยังไง ในเมื่อภาพสะท้อนในนั้นขยับก่อน?’ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว เราเห็นน้องได้จากด้านเดียวเท่านั้น แต่ภาพในกระจกเราเห็นน้องเต็มๆ แล้วที่ภาพในกระจกขยับก่อนก็เป็นเพราะเราเห็นน้องด้านเดียวนั่นแหละ…
-
สาวน้อยวัย 12 ปี บาดเจ็บสาหัส หลังเล่น Fire Challenge การท้าทายที่ไม่ก่อประโยชน์อันใด
บนโลกอินเทอร์เน็ตมักจะมีการท้าทายทำชาเลนจ์ต่างๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ บางสิ่งบางอย่างอาจจะเป็นเรื่องที่ดูไม่เสี่ยงภัยอันตรายมากนัก อย่างการบิดมือทำท่าทางต่างๆ แต่ที่น่าห่วงก็คือการเต้น Kiki Challenge และการราดเชื้อเพลิงเผาตัวเอง Fire Challenge Timiyah Landers เด็กหญิงวัย 12 ปี จากเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หลังจากที่พยายามเล่นชาเลนจ์ราดไฟใส่ตัวเอง ส่งผลทำให้ผิวหนังเป็นแผลไหม้รุนแรงทั่วทั้งตัว Brandi Owens ผู้เป็นแม่กล่าวว่าเธอทนเห็นดูสภาพของลูกที่ต้องพันแผลตั้งแต่หัวจรดเท้าแทบไม่ได้ ร่างกายของเด็กหญิงถูกไฟเผาไหม้ไปมากกว่า 49% ทั่วร่างกาย โดยในวันนั้นหลังจากที่เธอทำแพนเค้กให้ลูกกับเพื่อนๆ เสร็จแล้วไปงีบหลับ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นมา… Timiyah วิ่งมาหาเธอพร้อมกับไฟลุกโชนทั่วทั้งตัว ทางคุณแม่และคู่หมั้นพยายามที่จะดับไฟให้เร็วที่สุด ทั้งคว้าตัวพาไปลงอ่างอาบน้ำและฉีดน้ำใส่ จนแล้วจนรอดทั้งลูกและเพื่อนๆ ก็ต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาลด้วยสภาพสาหัสจากการเล่นตาม Fire Challenge ที่เห็นผ่านมาจากยูทูบ ด้วยการราดเชื้อเพลิงใส่ตัวเองและจุดไฟเผา “เด็กพวกนี้ไปเห็นชาเลนจ์ในยูทูบ แล้วก็ลองมาทำตามกับเพื่อนๆ พ่อแม่ควรจะสอดส่องลูกๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาอยู่กับโทรศัพท์ และหลังจากที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น…
-
Dele Alli เปิดตัว Challenge อันใหม่ ท้าทายนิ้วชาวเน็ตทั่วหล้า คิดว่าเจ๋งก็ลองทำตามดู
ในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ถือว่าเป็นมีปรากฏการณ์หนึ่งที่ฮิตและทำให้คนหลายคนนิ้วล็อกกันอย่างทั่วบ้านทั่วเมือง นั่นคือ #DeleChallenge แฮชแท็กที่จะท้าทายให้คุณลองทำมือตามท่าประจำตัวของ Dele Alli นักฟุตบอลชาวอังกฤษจากสโมสร Tottenham Hotspur โดยที่เจ้า Dele Alli Challenge นี้คือท่าดีใจประจำตัวของ Dele Alli เขาจะมีการทำมือเป็นสัญลักษณ์ Ok และม้วนมือเข้าหาใบหน้าโดยที่ให้สายตาของเรายังสามารถมองลอดออกมาจากรูนั้นได้ พิมพ์บอกคงยังไม่เห็นภาพกันเท่าไหร่ ลองไปชมเป็นแบบวิดีโอกันครับ Dele Alli has set the challenge, who can do this? 👌#Dele #THFC #COYS #PremierLeague[🎥IG/dele] pic.twitter.com/SqnreoV1TS — Xtra Minute (@XtraminuteTV) August 14, 2018 แน่นอนว่าอย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้น ว่าฮิตกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง (อื้อหือออออ) แต่สำหรับใครที่คิดว่า Dele…
-
บริษัทผลิตอาก้าเปิดตัว ‘หุ่นยนต์พิฆาต’ สูง 4 เมตร หนัก 4 ตัน พร้อมอาวุธจู่โจม!!
ห่างหายไปนานกับการโชว์ศักยภาพเทคโนโลยีทางการทหาร และแน่นอนว่าเป็นอีกครั้งที่รัสเซียได้ทำการจัดแสดงงานโชว์อาวุธรุ่นใหม่ ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการอาวุธก็คือ Kalashnikov Concern ตำนานที่ยังมีลมหายใจกับสุดยอดนวัตกรรมปืน AK-47 ล่าสุดนี้ ทางบริษัทได้ทำการเปิดตัวหุ่นยนต์พิฆาตสีทอง Igorek มาพร้อมกับความสูงเกือบ 4 เมตร น้ำหนักตัว 4.5 ตัน รองรับการควบคุมด้วยพลขับภายในห้องคนขับ ถูกตั้งอยู่บริเวณหน้าฮอลล์จัดงานแสดงสรรพาวุธและเทคโนโลยีทางการทหาร International Military Technical Forum ‘Army 2018’ . รายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับหุ่นยนต์พิฆาตตัวนี้ เปรียบได้เหมือนดั่งงานศิลปะกันกระสุน เดินเคลื่อนที่ด้วยขาและใช้แขนในการจับเคลื่อนย้ายสิ่งต่างๆ ได้ รวมทั้งอาวุธด้วยมือที่มีลักษณะคล้ายก้ามปู แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางผู้ผลิตไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดเชิงลึก เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอยู่ ในส่วนของห้องคนขับนั้น เป็นส่วนที่จะให้พลขับเข้าไปนั่งด้านเนื่องเพื่อควบคุมตัวหุ่นยนต์ กระจกห้องคนขับมีประสิทธิภาพมากพอที่จะป้องกันกระสุนปืน สะเก็ดระเบิด หรือวัตถุอันตรายได้ พร้อมทั้งเสริมเหล็กหนาเข้าไปอีกชั้น อย่างไรก็ตาม จากการคำกล่าวบนเว็บไซต์ของบริษัท ถูกออกแบบมาเพื่อ “การวิศวกรรมและการต่อสู้” ซึ่งในที่นี้ก็พอจะรู้ได้ว่ามันคงจะมีความพร้อมในการออกรบพอสมควร เนื่องจากบริษัท Kalashnikov เลื่องชื่อในการผลิตอาวุธปืน AK-47…
-
สาวโพสต์ ‘ได้ฝึกงานกับ NASA’ ด้วยคำหยาบ มีคนมาเตือนดันไปด่าเขา สุดท้ายโดนไล่ออก!?
บางครั้งคนเราเมื่อดีใจมากๆ ก็อาจจะทำอะไรลงไปโดยที่ไม่คิด และการกระทำนั้นก็อาจจะส่งผลกระทบต่อชีวิตถึงขั้นร้ายแรงได้เลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่ ‘หญิงสาว’ คนหนึ่งนามว่า Naomi H. โพสต์ทวิตเตอร์แสดงความดีใจอย่างสุดขีด หลังตัวเองได้รับเลือกให้เป็น ‘เด็กฝึกงาน’ ในองค์กร NASA ด้วยภาษาที่ค่อนข้างหยาบคาย เธอโพสต์ทวิตเตอร์ว่า “เห้ย พวกเอ็งอ่ะหุบปากไปดิ๊ ตอนนี้กรูได้รับเลือกให้เป็นเด็กฝึกงานของ NASA แล้วโว้ยยยย!!” ด้วยเหตุนี้เองก็มีชาวเน็ตท่านหนึ่ง เข้ามาเตือนด้วยความหวังดีถึงการโพสต์ดังกล่าวว่า “ระวังคำพูดหน่อยนะ” แต่แทนที่จะเจียมเนื้อเจียมตัวว่าตัวเองทำสิ่งที่ไม่ดีลงไป แต่กลับไปด่าคนที่มาเตือนกลับไปซะอย่างงั้น “ดูดปู๋และไข่ของกรูซะ กรูทำงานอยู่ NASA นะโว้ย!!” แต่เรื่องมันพีคตรงที่ว่า คนที่มาเตือนนั้นเป็นถึงตำนานวิศกรที่สร้างผลงานต่างๆ ไว้มากมายที่ NASA แถมยังเป็นส่วนหนึ่งของสภาอวกาศแห่งชาติ (National Space Council) ที่คอยควบคุมองค์กร NASA อีกด้วย!? “และผมอยู่ในสภาอวกาศแห่งชาติ ที่ควบคุมและกำกับ NASA อยู่” Homer Hickam ถือเป็นบุคคลผู้เป็นตำนานในด้านงานเกี่ยวกับวิศวกรรมจรวดเลยทีเดียว เขาเริ่มสร้างจรวดขึ้นในสวนหลังบ้านของตัวเอง ก่อนที่จะเข้าร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ…
-
หนุ่มเปิดประสบการณ์ แฟนสาว ‘อนุญาตให้นอนกับผู้หญิงอื่นได้’ เพื่อรักษาความสัมพันธ์
เนื่องจากยุคสมัยที่เปลี่ยนไปรูปแบบความสัมพันธ์ฉันคู่รัก ก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย จากเดิมที่ชีวิตจะต้องเป็นเรื่องของคนสองคน จะต้องไม่นอกกายนอกใจกันกลายเป็นว่าสามารถไปนอนกับคนอื่นได้ เพื่อช่วยกระชับความสัมพันธ์ของชีวิตคู่!? นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่ม ที่ได้รับอนุญาตจากแฟนสาว ให้สามารถไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นได้มากกว่า 300 คน เพราะเหตุผลว่า ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม นาย David Guerrero วัย 30 ปีจาก Tottenham ประเทศอังกฤษ เขาคบกับแฟนสาวเชื่อว่า Laura Noah วัย 29 ปี มานานกว่า 6 ปีแล้ว และในระหว่างนั้นเขาก็เปิดเผยว่าตัวเองเคยนอนกับผู้หญิงคนอื่นมามากกว่า 300 คนด้วยกัน โดยที่ฝ่ายแฟนสาวอนุญาตอีกด้วย!? David เล่าว่า “ผมคบกับ Laura มาประมาณ 6 ปีก่อน แต่แล้วจู่ๆ ผมก็มีความคิดที่เริ่มอยากจะมองผู้หญิงคนอื่น หรือแอบมีกิ๊ก แต่ผมก็ไม่ได้ทำ จากนั้นความรู้สึกนี้มันก็ค่อยๆ เริ่มกัดกินความรู้สึกของผม จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจบอกกับ Laura ว่าผมรู้สึกอย่างไร” “วันหนึ่งระหว่างทานอาหารเย็น ผมบอกเธอว่าผมยังรักเธออยู่ แต่ผมอยากจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนอื่น ตอนนั้นเธอร้องไห้ออกมาแล้วถามผมว่า…
-
นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษสุดห่าม ถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์กรุงโรมด้วยการโชว์ ‘กระปู๋น้อย’
คำเตือน: อาจมีภาพหรือวิดีโอที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม มันเป็นเรื่องที่ธรรมดาสามัญเอามากๆ ที่เวลาคนเราไปเที่ยวมักจะถ่ายรูปคู่กับแลนมาร์กของที่นั้นๆ เพราะมันเป็นเสมือนกับเป็นเครื่องที่ยืนยันบอกว่าครั้งหนึ่งเราได้มาเยือนที่นี่แล้วนะ ซึ่งมันก็เป็นความทรงจำที่ดีอยู่เหมือนกัน แต่ว่ามันจะไม่ธรรมดาแน่ๆ หากว่าคุณทำอย่างนักท่องเที่ยวสองคนนี้ ที่ถ่ายภาพคู่กับอนุสาวรีย์แห่งกรุงโรมในสภาพสุดจะล่อนจ้อนสวมกางเกงในแค่ตัวเดียว แถมยังมีอยู่ช็อตหนึ่งที่เปลือยหมดจนเห็น ‘กระปู๋น้อย’ ห้อยต่องแต่งออกมาเลยด้วย… เรื่องที่ว่านี้เกิดขึ้นที่น้ำพุบริเวณอนุสาวรีย์ Altare della Patria สถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงโรม ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ พระเจ้าวิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 2 แห่งอิตาลี พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของราชอาณาจักรอิตาลี ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนมาถ่ายรูปอย่างมากมาย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ (จากการรายงานของสื่อท้องถิ่น) พวกเขากลับไม่ให้เกียรติสถานที่ด้วยการถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียวเพื่อถ่ายภาพขณะลงเล่นน้ำพุ คลิปวิดีโอที่มีไกด์คนหนึ่งถ่ายเอาไว้ (ดูไม่ได้คลิกที่นี่) และมีอยู่จังหวะหนึ่ง ที่พวกเขางัดเจ้าโลกออกมาทักทายผู้คนด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำอย่างนี้นอกจากจะเป็นเหมือนกับการดูหมิ่นแล้ว ยังผิดกฎหมายท้องถิ่นของประเทศอิตาลีด้วย จึงทำให้ในตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกควานหาตัวนักท่องเที่ยวสองคนนี้แล้ว เพื่อจะนำตัวมารับโทษตามกฎหมายต่อไป ทางด้านชาวเน็ตก็วิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่ไม่เหมาะสมนี้อย่างมากมาย บ้างก็ว่ามันเป็นอะไรที่รับไม่ได้เลย รวมถึงบางคนก็เกิดคำถามขึ้นมาว่าทำไมต้องเป็น ‘ชาวอังกฤษ’ ซะเป็นส่วนใหญ่ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ นี่เป็นอะไรที่ไม่ให้เกียรติมากๆ แล้วยังสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับชาวอังกฤษอีก นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ…เหอะๆ แค่อ่านหัวเรื่องฉันก็รู้แล้วว่าต้องเป็นพวกบริติชแน่ๆ คนบางคนก็ไม่มีความเคารพต่อประเทศอื่นๆ รวมถึงสิ่งสวยงามต่างๆ ในประเทศพวกเขาด้วย…
-
คุณแม่มีงง!! ลงจากบ้านมาเจอใครไม่รู้นอนบนโซฟา ที่แท้เป็นหนุ่มเมาสิ้นสภาพซะงั้น…
เชื่อเลยว่าหลายคนคงเคยประสบกับการอาการ ‘เมา’ จากปาร์ตี้แสนระห่ำกันมาบ้าง แล้วถ้ายังจำกันได้ วีรกรรมในตอนเมาของแต่ละคนก็อาจเป็นอะไรที่มันน่าหัวเราะให้ฟันหลุดซะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการเต้นที่แสนบ้าบอ ทำอะไรไปแล้วจำไม่ได้ รวมถึงเรื่องของการหลับไปซะดื้อๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดจากความเมาไม่รู้ตัวเช่นกัน เมื่อมีคุณแม่คนหนึ่งพบว่ามีใครก็ไม่รู้มานอนอยู่ที่โซฟาด้านล่างบ้าน ซึ่งในตอนท้ายก็พบว่ามันเกิดจากความที่เขาคนนั้นเมาแล้วสติหลุดเรียกแท็กซี่มาที่บ้านหลังนี้ เพราะเคยเป็นบ้านเก่าของพ่อแม่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว… เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากความที่ Thomas Airlie หนุ่มวัย 26 ปีจากย่าน Lanarkshire ในประเทศสกอตแลนด์ ได้ไปจัดหนักปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยงในเมืองมาเมื่อวันเสาร์ที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเขาสนุกอย่างเต็มที่แล้วก็ขอแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนไปพักผ่อน จึงได้เรียกแท็กซี่มาส่งที่บ้านหลังนี้ที่ปัจจุบันเป็นบ้านของ Elaine McDade คุณแม่วัย 43 ปี แล้วเปิดประตูเข้าไปนอนบนโซฟาอย่างสบายใจเฉิบ โพสต์เล่าเรื่องนี้ ทางด้านคุณแม่เธอเล่าว่า ในขณะนั้นกำลังดูทีวีอยู่กับลูกด้านบนบ้าน และเมื่อเธอเดินมาข้างล่างเพื่อจะดื่มน้ำ ก็แทบช็อกเมื่อเจอเข้ากับหนุ่มคนนี้ที่กำลังนอนอยู่บนโซฟา ซึ่งเธอได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่า “ในตอนนั้นฉันดูทีวีอยู่กับลูกๆ ข้างบนบ้าน แล้วเกิดคอแห้งขึ้นมาเลยเดินลงมากะว่าจะดื่มน้ำซะหน่อย แต่ก็ต้องผงะกับภาพที่เห็น เราดูทีวีกันประมาณชั่วโมงครึ่ง แต่ไม่รู้เลยว่าเขาคนนี้เข้ามาที่บ้านตอนไหนแต่พอลงไปปุ๊บก็เจอเขาหลับปุ๋ยอยู่เลย” เจ้าตัวบอกงง เมาไปอยู่นั่นได้ไง https://twitter.com/ThomasAirlie/status/1031103385175511040?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1031103385175511040&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.yahoo.com%2Flifestyle%2Fdrunk-man-takes-taxi-parents-house-falls-asleep-couch-realize-parents-dont-live-anymore-014836510.html “เมื่อเห็นดังนั้นฉันจึงปลุกเขาทันทีแล้วถามว่าเขามาอยู่ที่ไหนได้ยังไง เขาเคยอยู่ที่นี่หรืออยู่ถนนเดียวกันแต่เข้าบ้านผิดหลังรึเปล่า” “ในท้ายที่สุดแล้ว หลังจากดูสภาพการนอนอย่างนี้เขาไม่ใช่โจรผู้ร้ายแน่ๆ เป็นแค่คนเมาจัดเฉยๆ…
-
หนุ่มเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟน พาขับเฮลิคอปเตอร์ชมทุ่งพร้อมขอแต่งงานกลางอากาศ
เรื่องต่อไปนี้อาจจะทำให้สาวๆเกิดอาการอิจฉาตาร้อนกันนิดหน่อย ในสมัยนี้การหาแฟนที่ว่าหายากแล้ว การจะหาแฟนดีเลิศเลอเพอร์เฟกต์นั้นมันยิ่งยากขึ้นไปอีก ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเลยทีเดียว นาย Varun Bhanot อายุ 28 ปี ได้ตัดสินใจที่จะทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับ Anisha Seth แฟนสาวของเขาเอง ซึ่งจะเซอร์ไพรส์แบบธรรมดาเหมือนใครเขาก็คงไม่ได้ เพราะการเซอร์ไพรส์ในครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคู่ของเขาและเธอไปตลอดกาล ในวันเกิดของแฟนสาวของ Varun เขาได้ทำเซอร์ไพรส์ที่อาจจะทำให้ใครๆ อิจฉาตาร้อนไปทั่วโลกออนไลน์เลย เมื่อเขาทุ่มทุนขับเฮลิคอปเตอร์พาแฟนชมทัศนียภาพเหนือทุ่งนาอันแสนกว้างใหญ่ แต่ถ้าจะแค่ขับเฮลิคอปเตอร์ชมทุ่งแบบธรรมดามันก็จะไม่เรียกว่าเป็นการเซอร์ไพรส์ที่ยิ่งใหญ่สักเท่าไหร่ Varun ได้ตัดสินใจขอแฟนสาวของเขาแต่งงานบนเฮลิคอปเตอร์ซะเลย ขอแต่งงานบนเฮลิคอปเตอร์ที่ว่าพิเศษแล้ว ยังเพิ่มความพิเศษเข้าไปด้วยการโชว์ข้อความบนทุ่งนาผืนใหญ่ว่า “Anisha Marry Me?” เซอร์ไพรส์เล่นใหญ่แบบนี้ สาวเจ้าจะไม่ใจอ่อนได้ยังไง ตอบตกลงพร้อมสวมแหวนทันที โชว์แหวนเพชรเม็ดใหญ่ บิ๊กเซอร์ไพรส์สุดๆ ซะหน่อย จะขอแต่งงานก็ต้องมีคุกเข่าให้ครบสูตร ต่อด้วยปิกนิกเล็กๆ ฉลองการขอแต่งงานและฉลองวันเกิดสุดเซอร์ไพรส์ ไอ้เราก็ได้แต่หวังไว้ว่าสักวันจะได้มีคนมาเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานแบบนี้บ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถึงขนาดพาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมทุ่งแบบนี้ แต่ขอให้มีเถอะ ขอสักคน เพราะตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้ลงจากคานเลยจ้า #เหมียวบู้บี้ อิจฉาจริงๆ ที่มา boredpanda, Varun…
-
งานจัดแสดงภาพถ่าย “ขาอ่อน” ในญี่ปุ่น งานที่อุดมไปด้วย ‘ความสดใส’ ของต้นขาวัยแรกแย้ม
ในงานจัดแสดงภาพภ่าย สิ่งที่หลายๆ คนหวังจะได้เห็นก็คือภาพถ่ายอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นภาพวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ ภาพคน หรือแม้แต่ภาพนามธรรม อีกหนึ่งความงามที่อยู่คู่กับโลกใบนี้มาตั้งแต่อดีตกาลก็คือ สตรี ที่ไม่อาจหาสิ่งสวยงามใดๆ มาเปรียบเปรยได้อย่างทัดเทียม เพราะผู้หญิงถูกประกอบสร้างขึ้นด้วยความน่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นดวงตา ริมฝีปาก ท่อนแขน หรือแม้แต่ ต้นขา ก็ดูน่าหลงใหลเคลิบเคลิ้มไปเสียหมด ช่างภาพญี่ปุ่นนามว่า Yuya Sugiyama ที่มีได้สร้างคอลเลกชัน “ภาพถ่ายต้นขา” ของเหล่าสาวญี่ปุ่น แถมยังจะมีงานจัดการแสดงภาพถ่ายเหล่านี้อีกด้วย โดยมีคอนเซ็ปต์ของงานคือ “ฤดูต้นขาเปล่งปลั่ง” นั่นเอง น่าสนใจ~ ช่างภาพคนนี้เป็นที่รู้จักกันในฉายา Yuria ไม่มีใครรู้ว่าตัวจริงของเขาเป็นใคร อายุเท่าไหร่ และเพศอะไร รู้เพียงว่า เขามีชื่อเสียงมาจากการที่เขาถ่ายภาพต้นขาขาวๆ ของเหล่าสาวญี่ปุ่นนั่นเอง บนทวิตเตอร์ของเขา เขาได้โพสต์เกี่ยวกับรายละเอียดของงานจัดแสดงภาพถ่ายที่จะเกิดขึ้น โดยมีชื่องานว่า “โลกแห่งภาพถ่ายขาอ่อนฤดูใบไม้ร่วง 2018” ที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคมจนถึง วันที่ 24 กันยายน 2018 เลยทีเดียว คงเป็นงานแสดงภาพถ่ายที่ทำให้โลกของหนุ่มๆ สดใสไม่น้อยเลยล่ะ ในงานจัดแสดงที่อำนวยการสร้างโดย Todays Gallery…
-
เติมฝันคู่รักไร้บ้าน ได้รับบริจาคชุดแต่งงาน จัดงานใต้สะพานท่ามกลางเพื่อนไร้บ้าน 100 คน
“การแต่งงาน” ถือว่าเป็นจุดสูงสุดที่คู่รักหลายๆ คู่นั้นใฝ่ฝัน เพราะมันเปรียบเสมือนกับการที่พวกเขาได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเป็นวันที่เจ้าสาวหลายๆ คนจะสวยที่สุดในชีวิตอีกด้วย และถ้าหากจะจัดงานแต่งงานสักครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าคู่รักหลายๆ คู่คงอยากที่จะให้งานออกมาดี ดูหรู ดูแพงและเพอร์เฟกต์ แต่ความคิดดังกล่าวก็ไม่อาจเป็นจริงได้เสมอไป เมื่อคู่รักที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้เป็นคู่รัก “คนไร้บ้าน” พวกเขาได้รับความร่วมมือจากทั้งคนแปลกหน้าและแขกผู้มีเกียรติ รวมถึงเพื่อนๆ ชาวไร้บ้านทำให้เกิดเป็นงานแต่งงานเรียบๆ เล็กๆ ที่แสดงให้เราได้เห็นว่าไม่ต้องหรูหราก็มีความสุขได้ คู่รักดังกล่าวซึ่งฝ่ายเจ้าบ่าวคือ Llewellyn Jeneker และฝ่ายเจ้าสาว Cecilia Absolom ได้พบกันข้างถนนในเมือง Cape Town ประเทศแอฟริกาใต้ ตั้งแต่ตอนนั้นก็ผ่านมานานแล้วกว่า 30 ปีแล้ว แต่ความรักก็ไม่ลดลงเลย ทั้งคู่ฝันว่าอยากจัดงานแต่งงานมาโดยตลอด แต่ว่าด้วยสภาพการเงินและสถานะไร้บ้านนั้นทำให้ยากต่อการจัดงาน แต่ฟ้ามีตาในที่สุดก็มีคนใจดีนามว่า Jill Jeftha ได้มอบชุดแต่งงานให้กับ Cecelia Jill กล่าวว่า “ฉันรู้เรื่องของพวกเขาผ่านบาทหลวง เขาเล่าเรื่องของพวกเขาและถามฉันว่าพอจะช่วยได้มั้ย ฉันเข้าใจถึงความรู้สึกนั้นและก็ดีใจที่ได้ช่วยพวกเขา พวกเขาสมควรที่จะได้รับความรู้สึกที่สวยงามนี้” ทั้งสองคนยังได้รับความช่วยเหลือจาก Culemborg Safe Space สถานที่พักสำหรับคนไร้บ้านเป็นฝ่ายช่วยจัดงานหลายๆ อย่างให้อีกด้วย ในที่สุดวันจริงก็มาถึง…
-
ชมโปรเจ็กต์ “It Happens” ภาพถ่ายทรงพลังรณรงค์ให้ผู้คนเลิกพฤติกรรม ‘คุกคามทางเพศ’
ปัญหาหนึ่งของสังคมที่เปรียบเสมือนโรคร้ายรุนแรงและรักษาไม่หายขาดก็คือ การคุกคามทางเพศ มันเป็นโรคที่ไม่เคยเลือกว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ และกับใครบนโลกใบนี้ แต่มัน “เกิดขึ้น” ราวกับไม่มีทางควบคุมได้ สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้ก็มีเพียงการรณรงค์ให้ผู้คนหยุดพฤติกรรมที่ส่อไปในทางคุกคามทางเพศเท่านั้น ช่างภาพหญิงสาวนามว่า Yana Mazurkevich จึงสร้างผลงานภาพออกมารณรงค์และเตือนสติ Yana Mazurkevich โปรเจกต์ของ Yana มีชื่อว่า “It Happens” มันเป็นเซ็ตภาพซึ่งสื่อให้เห็นว่าโรคร้ายที่ชื่อว่า “การคุกคามทางเพศ” (Sexual Assault) นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาโดยที่เราอาจไม่ทันระวังตัว แต่ละภาพของเซ็ต “It Happens” นั้นจะมีชื่อภาพที่ต่อจากคำว่า “It Happens” เสมอ เราไปชมภาพเหล่านั้นพร้อมๆ กันเลยดีกว่า It Happens Suddenly: มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน It Happens Unexpectedly: มันเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด It Happens Unwillingly: มันเกิดขึ้นได้แม้เราไม่ต้องการ It Happens With Anyone:…
-
เด็กสาวผู้รอการ ‘ปลูกถ่ายหัวใจ’ ทำ Kiki Challenge บนรถเข็น จน Drake มาเยี่ยมจริงๆ!!
ในช่วงชีวิตของคนเรา จะมีสักกี่ครั้งที่ ‘ความฝันกลายเป็นความจริง’ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของสาวน้อยวัย 11 ขวบ ที่รอการ ‘ปลูกถ่ายหัวใจ’ อย่างมีความหวัง เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดต่อไป แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เธอก็ยังคงมีความฝันอื่นด้วยเช่นกัน Sofia Sanchez เด็กสาวที่ป่วยเป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจ ส่งผลให้การสูบฉีดเลือดมีปัญหาและสามารถนำไปสู่อาการหัวใจล้มเหลวได้ทุกขณะ การปลูกถ่ายหัวใจคือทางเดียวที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากความเสี่ยงนี้ไปได้ แต่การรักษาด้วยการผ่าตัด ก็ทำให้อาการของเธอดีขึ้นได้เช่นกัน เมื่อราวๆ 3 สัปดาห์ก่อน Sofia เข้ามาทำการผ่าตัดเปิดหน้าอกเพื่อใส่เครื่องมือที่ช่วยให้ระบบสูบฉีดเลือดของเธอทำงานได้ดียิ่งขึ้น ที่โรงพยาบาล Lurie Children’s Hospital Sofia มีศิลปินโปรดในดวงใจคือ Drake เจ้าของบทเพลงที่ชาวเน็ตนำมาทำเป็น Kiki Challenge จนโด่งดังไปทั่วโลก โดยการทำ Challenge นี้ก็คือการเปิดประตูลงจากรถพร้อมกับเปิดเพลง In my feelings ของ Drake แล้วก็เต้นไปด้วย และเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา Sofia เองก็ทำ Kiki Challenge…
-
กล่องไม้ปริศนา ที่ซื้อมาในราคาถูกๆ มันติด “ภาพถ่ายเก่าแก่” อายุกว่า 100 ปีมาด้วย…
ปริศนาไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่กลับเป็นสิ่งที่เราต้องเข้าไปค้นหามันต่างหาก… ผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า Scott Patrick ได้โพสต์ภาพของ “กล่องไม้เก่า” ลงบนทวิตเตอร์ของตนเอง พร้อมอธิบายว่าเป็นกล่องที่พ่อของเขาไปซื้อมาจากรถขายของเก่า และพ่อของเขาก็ชอบการค้นหาปริศนาในกล่องเสียด้วย กล่องนี้ยังไงล่ะ พอเปิดดูกลับพบเป็นแผ่นฟิล์มเนกาทีฟส์อายุราว 100 ปี แต่ละภาพที่พบมีลักษณะเป็นแบบนี้ (ดูหลอนๆ ชอบกลแฮะ) และแบบนี้… โชคดีที่ Greg Pack วัย 70 ปีผู้เป็นพ่อ อดีตเคยทำงานกับภาพฟิล์มเนกาทีฟส์มาก่อน จึงพอรู้วิธีการเปลี่ยนภาพฟิล์มให้กลายเป็นภาพถ่ายปกติ พวกเขาใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพฟิล์มเหล่านี้ แล้วนำไปกลับสีกลับแสงในโปรแกรม โดยความช่วยเหลือจาก Scott ผู้เป็นลูกชาย หลังจากนั้น พวกเขาจึงใช้กล้องถ่ายแล้วนำไปเข้าโปรแกรม Photoshop มันก็เลยกลายเป็นภาพถ่ายเก่าแก่ที่บรรจุเอาไว้ซื่งความทรงจำของใครบางคนในอดีต ลองมาดูผลงานของภาพที่เหลือกัน อาจจะดูหลอน แต่พอกลับเป็นภาพปกติแล้วก็ดูราวกับหนังย้อนยุคเลยทีเดียว จากภาพนี้… กลายเป็นภาพนี้ จากภาพนี้… กลายเป็นภาพนี้… จากกล่องปริศนา ทำให้เห็นภาพของเด็กๆ…
-
Batman ซิ่ง Batmobile ออกปราบเหล่าร้ายอย่างเท่…แต่ขับไวไปหน่อย เจอพี่จ่าโบกเลย
ซูเปอร์ฮีโร่คือคำที่เราเอาไว้ใช้เรียกตัวละครของถูกแต่งขึ้นมา พวกเขามีพลังพิเศษและจะคอยสู้กับเหล่าร้ายเพื่อพิทักษ์ความยุติธรรมให้แก่ประชาชน แต่ในโลกจริงแล้วซูเปอร์ฮีโร่อาจจะเป็นคนที่ไม่มีพลังอะไรเลยก็เป็นได้ หากพูดถึงซูเปอร์ฮีโร่ที่มีความเป็นคนธรรมดาสูงสุดแล้วคงไม่มีใครที่ไม่คิดถึงชื่อของ Batman ไปได้หรอกใช่มั้ย? Batman ก็คือมนุษย์ธรรมดา (แต่รวย) คนหนึ่งที่อยากจะจัดการและควบคุมเหล่าร้ายในเมือง Gotham City ด้วยความเป็นมนุษย์ธรรมดาของเขา จึงได้ใช่หัวสมองอันชาญฉลาดเป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับเหล่าร้าย ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนที่เฉียบขาดหรืออุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ที่ช่วยเสริมพลังให้แก่เขา และสิ่งพวกนี้เองทำให้ Batman สามารถกลายเป็นฮีโร่ที่ครองใจคนดูได้อย่างท่วมท้น แต่เรื่องที่เราจะให้ได้ชมกันในวันนี้เป็นเรื่องฮาๆ ของเขา เมื่อผู้ผดุงความยุติธรรมกลายเป็นฝ่ายถูกจับเสียเองจะถูกจับอย่างไรนั้นมาชมกันครับ https://twitter.com/ZephPlayz/status/1031260174583918592 ในวิดีโอดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศแคนาดา โดยที่แสดงให้เราเห็นถึงรถตำรวจที่เปิดไฟไซเรนที่จอดอยู่หลัง Batmobile สุดเท่ของบุรุษราตรี Batman ก่อนที่ฮีโร่ของเราจะลงมาจากรถและถูกใบสั่งจากตำรวจหญิงข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด… อะไรกันเจ้าหน้าที่ ผมกำลังรีบไปปราบเหล่าร้ายอยู่นะ หยวนๆ กันไม่ได้เหรอ!? หลังจากที่วิดีโอดังกล่าวได้โพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตรวมถึงแฟนๆ Batman ให้ความสนใจและเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “เขาใช้เสียงพูดแบบ Christian Bale ใช่มั้ย ได้โปรดบอกทีว่าเขาใช้เสียงแบบ Christian Bale” หรือจะเป็น “เขาแต่งตัวแบบ Batman ตลอดเวลาเลยงั้นเรอะ?…
-
ชาวบ้านเหนื่อยใจ เทศบาลไม่ซ่อมถนน เปลี่ยนเป็น ‘สวนชุมชน’ รอจนถึงฤดูเก็บเกี่ยวได้!?
ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน คือสิ่งที่ทางการควรจะใส่ใจเสียหน่อย หากปล่อยปละละเลยไม่มาดูแล แม้จะโทรไปแจ้งปัญหาแล้วก็ตาม อาการเหนื่อยใจกับการประชดก็จะมาหาทันที ไม่แน่ใจว่าการแสดงออกในครั้งนี้ตั้งใจให้เป็น สวนของชุมชนหรือการประท้วงประชดประชันใส่เทศบาลรึเปล่า เพราะจู่ๆ จากหลุมบ่อบนถนนก็กลายมาเป็นสวนมะเขือเทศไปเสียนี่… ในบริเวณย่าน Poplar Plains Crescent ของเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา กำลังได้รับความสนใจเป็นพิเศษ และไม่รู้ว่าใครเป็นคนลงมือปลูกพืชผักสวนครัวเหล่านี้ มีเพียงแค่ชาวบ้านในละแวกนี้ที่ออกมารับรู้ว่า หลุมบ่อบนถนนเส้นดังกล่าวถูกปล่อยทิ้งไว้มานานร่วม 4 เดือนกว่าแล้ว แม้จะมีโทรแจ้งให้เทศบาลมาซ่อมกี่ครั้งกี่หน ก็ยังคงไร้วี่แวว ชาวบ้านบอกว่าหลุมดังกล่าวกลายมาเป็นสวนผักไปแล้ว ตั้งแต่ได้รับน้ำฝนชุ่มฉ่ำเป็นเวลานาน นานจนถึงขนาดที่ว่าออกดอกออกผลมาเป็นมะเขือเทศที่กำลังรอวันเก็บเกี่ยว ดินดีน้ำดีขนาดไหน ออกมาเป็นพวงได้ขนาดนี้!? ‘ฉันไม่แน่ใจว่ามีคนเอามะเขือเทศมาปลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันผ่านหลุมนี้บ่อย ก่อนหน้านี้ก็มีแค่หญ้ารกอยู่ในหลุมเท่านั้นเอง’ Amanda Myers ชาวบ้านในละแวกให้สัมภาษณ์ ในตอนแรกก็มีแค่ต้นผลไม้เล็กปลูกเอาไว้ จนมาภายหลังก็เห็นได้ว่ามีคนแอบเอาต้นมะเขือเทศมาปลูกพร้อมกับลวดไม้เลื้อยให้ต้นมะเขือเทศสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่… ปัจจุบัน ต้นไม้และพืชผักสวนครัวเหล่านี้มีสภาพที่เติบโตแข็งแรงดี และมีจำนวนเยอะซะด้วย ซึ่งมันก็น่าแปลกตรงที่ว่าแปลงผักยังปลูกอะไรได้ไม่ดีเท่าหลุมบ่อบนถนนเลย ฮร่าาา ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังสวนผักชุมชนแห่งนี้ แต่คนทั้งเมืองที่ได้เห็นภาพดังกล่าวบนอินเทอร์เน็ตกลับรู้สึกชอบใจเหลือเกิน ที่มา: blogto, toronto.citynews,…
-
เกิดเหตุ ‘ตบตีกัน’ ในห้างประเทศเกาหลีใต้ เพราะนักท่องเที่ยวจีน “แซงคิว” คนอื่น
เหตุการณ์ความวุ่นวายล่าสุดเกิดขึ้น ณ ร้านค้าปลอดภาษีในประเทศเกาหลีใต้ ที่มีการต่อสู้ทำร้ายร่างกายระหว่างกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง โดยทราบมาว่าเกิดขึ้นเพราะมีการ “แซงคิว” กันนั่นเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2018 ซึ่งได้มีผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพวิดีโอเอาไว้ ขณะที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันในโซนเครื่องสำอางบนชั้น 12 ของห้างปลอดภาษี The Lotte ในย่านอึลจิโร ชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ ในช่วงแรกของวิดีโอจะเห็นได้ว่าหญิงสองคนกำลังดึงผมของกันและกันจนล้มลงกับพื้น ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนโดยรอบ หลังจากนั้นชายคนหนึ่ง คาดว่าเป็นสามีของหญิงที่กำลังปะทะ ก็เข้ามากระทืบเข้าที่ใบหน้าของหญิงสาวที่ล้มอยู่ “นางคนนี้มารังแกเมียฉันก่อน!” ชายหนุ่มตะโกนออกมาก่อนที่ฝูงชนจะเข้ามาห้าม “พอแล้ว หยุดตีกันได้แล้ว!” เสียงตะโกนจากผู้คนรอบๆ หลังจากนั้นราว 5 นาที ผู้รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์ และเมื่อสัมภาษณ์ หญิงสาวในคลิป ทำให้ทราบว่าหญิงสาวอีกคนหนึ่งได้ทำการ แทรกตัวเข้าไปแซงคิว จึงเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้น ภายหลังทราบว่าทั้ง 3 รายเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้ จนทำให้เกิดความไม่พอใจกับชาวเน็ตจีนเป็นอย่างมาก หลายคอมเมนต์กล่าวเป็นทำนองเดียวกันว่า “ทั้ง 3 คนได้สร้างความอับอายให้กับชาวจีน พวกเขาไม่ควรออกไปเที่ยวต่างประเทศ” ฝากเตือนเพื่อนๆ…
-
หนุ่มนั่งวีลแชร์ เข้าชมคอนฯ ป๋า ‘Liam’ แต่มองไม่เห็น ผู้ชมเลยช่วยกันยกเขาเพื่อให้ดูแบบชัดๆ!!
สำหรับคนที่เป็นคอเพลงเหมือนกันแล้ว ย่อมเข้าใจกันเป็นอย่างดีว่าการได้ดูศิลปินในดวงใจเล่นคอนเสิร์ตสดๆ นี่มันเป็นอะไรที่รู้สึกดีขนาดไหน และมันคงเป็นเรื่องน่าเสียดายมากๆ ที่จะพลาดได้เห็นหน้าไอดอลของตัวเองแบบชัดๆ และด้วยความเข้าใจเป็นอย่างดีนี้เอง จึงทำให้เกิดวินาทีสุดประทับใจเกิดขึ้น เมื่อมีผู้เข้าร่วมงานคอนเสิร์ตของเฮีย Liam Gallagher ได้ช่วยกันยกชายในเก้าอี้ ‘วีลแชร์’ ขึ้นเหนือหัว เพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสดูคอนเสิร์ตแบบชัดๆ และมันส์ไปพร้อมกับทุกๆ คน!! เห้ย ทำไรฟะเนี่ย เรื่องมีอยู่ว่า Michael Reynolds ชายหนุ่มผู้พิการจากเมือง Leigh ประเทศอังกฤษ ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมงานคอนเสิร์ตของป๋า Liam อดีตนักร้องนำแห่งวง Oasis ในตำนาน ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาสามารถที่จะเข้าชมในส่วนของพื้นที่พิเศษที่จัดเตรียมไว้ได้ ทว่าเขาอยากจะร่วมสนุกไปกับเพื่อนๆ ทั้ง 15 คนของเขาที่เคยไปดูคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ด้วยกันมาซะมากกว่า ด้วยเหตุนี้แล้วเขาจึงต้องอยู่ในเขตพื้นที่ปกติ (ตั๋วยืน) วิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ดูไม่ได้คลิกที่นี่) This man got to enjoy @liamgallagher last night the way everyone should. God bless those that helped❤️ pic.twitter.com/w4aoDyFmmT…
-
หน้าผากกว้างเหรอ!? พ่อหนุ่มวัย 25 ปีหัวใสรับลงโฆษณาที่หน้าผากกันไปเลย
ในโลกใบนี้มนุษย์นั้นมีการพัฒนาทางความคิดอยู่ตลอดเวลา จากในอดีตใครจะคิดว่าจะมีเทคโนโลยีเท่าปัจจุบันหรือจะมีอาชีพแปลกๆ ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่เราได้ และใครที่จะไปคิดว่าหน้าผากของเราจะกลายมาเป็นหนทางเพิ่มเงินให้แก่เรา แต่พ่อหนุ่มหัวใสคนนี้ดันคิดได้และเล็งเห็นโอกาสเปิดรับให้คนอื่นมาโฆษณาบนหน้าผากของตัวเองซะเลย ชายคนดังกล่าวคือ Tony O’Rourke คุณพ่อลูกหนึ่งวัย 25 ปี จากเขต Erdington เมือง Birmingham ประเทศอังกฤษ เขาได้ลงโฆษณาชวนเชิญบริษัทหรือใครก็ตามที่อยากจะทำโฆษณา ให้มาโฆษณาบนหน้าผากของเขา ปัจจุบัน Tony ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ เขามองเห็นช่องว่างและโอกาสในตลาดการโฆษณา (ด้วยหน้าผากของเขา) แต่โฆษณาที่จะมาจ้างเขาไม่ได้อยู่ตลอดไปนะ จะมีอายุ 30 วันเท่านั้น แหม… นี่มันคือการเช่าพื้นที่ดีๆ นี่เอง เขาบอกว่าราคาของการโฆษณาบนหน้าผากนี้สามารถ “ต่อรอง” กันได้ตามสมควร แต่เขาจะไม่ขอรับงานที่มีค่าจ้างน้อยกว่า 8,500 บาทอย่างแน่นอน หากถามว่าเขานั้นไปได้ไอเดียนี้มาจากไหน Tony ก็ได้ตอบว่า “ในตอนแรกผมเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่และผมก็เล่นมุกตลกกับญาติของตัวเอง พวกเรากำลังหาไอเดียเกี่ยวกับการโฆษณาที่ไม่ธรรมดาและพวกเราจะทำอะไรแบบนั้นได้ไง จู่ๆ ผมก็ปิ๊งไอเดียเกี่ยวกับการโฆษณาบร่างกายและหน้าของผมเป็นเวลา 30 วัน” ตอนนี้ยังไม่มีใครสนใจการโฆษณาบนหน้าผากของ Tony แต่เขาก็ยังหวังที่จะมีใครสนใจและเข้ามาหาเขา มีใครที่อยากหารายได้พิเศษมั้ย ลองเอาความคิดนี้ไปใช้กันก็อาจจะดีนะ 55 ที่มา…
-
นางแบบหลอกชายกลัดมัน นัดทินเดอร์ได้เป็นสิบ เอามาแข่งวัดใจออกเดตแค่คนเดียว…
การใช้แอปฯ หาคู่ออกเดตส่วนใหญ่ กว่าจะเจอคนที่ถูกใจ กว่าจะได้พูดคุยกันจนถึงขั้นนัดแนะเจอตัวจริงก็ว่ายากแล้ว ทุกคนต่างมีความหวังว่าจะได้เจอกับสิ่งที่คิดเอาไว้ ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงมันซับซ้อนเสียยิ่งกว่าอะไร… ยกตัวอย่างกรณีนี้ ถือว่าให้เป็นการต่อสู้แบบฮังเกอร์เกม แบทเทิลรอยัลของเหล่าชายฉกรรจ์ ที่ถูกหลอกและเกณฑ์ให้มารวมตัวกันอย่างเจ็บแสบภายใต้แผนของสาวนางแบบที่ใช้ชื่อว่า Natasha Aponte เธอใช้แอปฯ ทินเดอร์ เพื่อหว่านล้อมชายเหล่านี้ชักจูงให้เชื่อว่าจะได้เจอกันแบบตัวต่อตัว และหลังจากนั้นชายที่ถูกนัดแนะไว้มากกว่า 10 คนก็ออกมายืนออรอคอยในสถานที่เดียวกัน แทนที่จะได้ออกเดตกลับกลายมาเป็นการแข่งขันเพื่อแย่งชิงสิทธิ์เดตไปเสียได้ การหลอกลวงในครั้งนี้เริ่มกระจ่าง หลังจากที่ผู้ประสบภัยทางการเดตได้มาเจอกันหน้าเวทีอีเว้นท์ที่ถูกนัดแนะพบเจอ หลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า Natasha จะพูดคุยเกลี้ยกล่อมให้มาเจอในลักษณะเดียวกันเป๊ะๆ โดยจะใช้เวลาพูดคุยมากน้อยแตกต่างกัน บางคนก็เป็นสัปดาห์หรือบางคนก็เว้นระยะปาไปเป็นเดือน ตัวอย่างแชตที่ถูกหลอกกันมา ทักทายเหมือนกันเป๊ะ Natasha ได้นัดผู้ชายที่คุยเอาไว้มายืนรอที่หน้าเวที ซึ่งกลุ่มชายทั้งหมดที่ยืนออหน้าเวทีก็คือเหยื่อของเธอทั้งหมด เป็นลักษณะของผู้ชมที่แปลกแตกต่างจากทั่วไปมาก เพราะทุกคนสนใจบนเวทีสุดๆ แทนที่จะเดินผ่านไปเฉยๆ หนึ่งในเหยื่อนามว่า David กล่าวว่ามาตามนัดเดตกับ Natasha ถามผู้ชายคนข้างๆ ที่มารอหน้าเวทีว่ามารอนัดกับผู้หญิงคนนี้รึเปล่า และผู้ชายคนอื่นๆ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ใช่’ https://www.instagram.com/p/Bmref50Hps9/ จนกระทั่ง Natasha…
-
โปรเกมเมอร์หนุ่มแพ้การแข่ง CoD หลังบอกเลิกแฟนสาวเซ็กซี่เพื่อโฟกัสกับการซ้อมเล่นเกม
“ความรัก” เป็นสิ่งที่มนุษย์หลายๆ คนนั้นอยากได้ แต่บางทีความรักกับสิ่งที่เราต้องทำก็ไม่สามารถไปด้วยกันได้ จึงต้องทำการตัดสินใจครั้งใหญ่ว่าจะเลือกความรักหรือสิ่งที่เราเป็นอยู่ในตอนนั้น เพื่อนๆ จำข่าวโปรเกมเมอร์เลิกกับแฟนสาวนางแบบสุดฮอตเพราะต้องการโฟกัสกับการซ้อมแข่งเกม Call of Duty ข่าวเก่าที่เราเคยนำเสนอไปแล้วได้มั้ย วันนี้เราจะมาอัปเดตเรื่องราวของโปรเกมเมอร์หนุ่มคนดังกล่าว หลังจากที่เขาทุ่มเททุกอย่างให้กับการซ้อมแข่งเกมที่คืออาชีพของเขา แต่ก็ไปไม่ถึงจุดที่ตัวเองใฝ่ฝันไว้ จึงได้มีคนไปถามความเห็นว่าอยากจะกลับไปคบกับแฟนสาวคนเก่าหรือไม่ หนุ่มคนดังกล่าวคือ Douglas Martin หรือชื่อในวงการว่า FaZe Censor เขานั้นเป็นที่รู้จักกันดีใจฐานะของโปรเกมเมอร์ขั้นเทพและเน็ตไอดอลชื่อดัง ส่วนแฟนของเขาคือ Yanet Garcia สาวที่รับการขนานนามว่าเป็น “นักพยากรณ์อากาศที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก” อย่างที่เรากล่าวไปในข้างต้นว่า Martin ยอมอุทิศทุกอย่างให้แก่อาชีพของเขา เขายอมเลิกกับแฟนสาวที่เซ็กซี่สุดเพื่อโฟกัสกับการฝึกซ้อมเพื่อไปแข่งขันเกมที่จะถึงในอนาคตอันใกล้ ซึ่งหลังจากที่ข่าวการเลิกราของพวกเขาแพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ต ชาวเน็ตหลายคนก็แสดงความคิดเห็นว่าเขานั้นไม่ค่อยจะฉลาดเอาเสียเลยที่เลิกกับผู้หญิงที่สวย เซ็กซี่ขนาดนี้ และแล้ว Call of Duty World league Championship 2018 การแข่งครั้งสำคัญของ Martin ก็ได้มาถึงแน่นอนว่ายอมเลิกกับแฟนมาแบบนี้ เขาต้องตั้งเป้าหมายเอาไว้ต้องชนะรายการดังกล่าวอย่างแน่นอน แต่กลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน ทีมของเขาพ่ายแพ้การแข่งครั้งนั้นไปในที่สุด Martin กล่าวว่า “ผมกลับมาเป็นโปรเกมเมอร์ในปีนี้และลั่นว่าผมจะคว้าแชมป์มาให้ได้ ผมรู้สึกแย่มากๆ ผมคิดว่าทีมของเราจะสามารถคว้าแชมป์มาได้จริงๆ นะ”…
-
เทียบจำนวนมูลค่าเงิน กับสิ่งของในชีวิตประจำวัน เมื่อเวเนซุเอลาต้องเจอกับเงินเฟ้อ…
เงินสดคือตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสิ่งของ มูลค่าของมันก็ควรจะเป็นไปตามความเหมาะสมกับสิ่งของที่ต้องการ และเชื่อหรือไม่ว่าเหตุการณ์ราคามูลค่าที่พุ่งสูงเพียงในเวลาไม่นานมันจะเป็นแบบไหนบ้าง ยกตัวอย่างจากประเทศเวเนซุเอลา ที่กำลังประสบกับปัญหาเงินเฟ้อ สภาวะเงินไร้ค่าจนไม่มีใครอยากได้ เนื่องจากไม่สามารถซื้ออะไรได้เลย แถมยังต้องใช้จำนวนมหาศาลเพื่อแลกกับสิ่งของเพียงเล็กน้อย ผลพวงมาจากการพิมพ์ธนบัตรอัดเงินเข้าสู่ระบบเศษรฐกิจที่มากเกินไป ภายในปลายปีคาดการณ์ว่าประเทศเวเนซุเอลาจะมีอัตราเงินเฟ้อถึง 1 ล้านเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งทางการรัฐบาลได้อัดเงินสกุลโบลิวาร์ใหม่เข้าไปในระบบ ที่มีการลดจำนวนเลขศูนย์ลง 5 หลัก นำมาทยอยหมุนเวียนภายในประเทศ นั่นหมายความว่า 1 โบลิวาร์ใหม่มีค่าเท่ากับ 100,000 โบลิวาร์เก่า ทำให้เกิดความสับสนในเรื่องของมูลค่าที่แท้จริง และก่อให้เกิดการกระทำธุรกรรมใดๆ ติดขัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่ยากจนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ต้องแบกกองเงินสดติดตัวเพื่อไปซื้อของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน กระดาษชำระจำนวน 1 ม้วน มูลค่า 2,600,000 โบลิวาร์เก่า เท่ากับ 13 บาท ลองนึกภาพที่คุณจะไปซื้อม้วนกระดาษชำระหนึ่งม้วน แต่ต้องพกปึกเงินจำนวนหลักล้านเพื่อซื้อเพียงแค่ม้วนเดียว สิ่งนี้คือความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศเวเนซุเอลา และช่างภาพชาวเวเนซุเอลา Carlos Garcia Rawlins จึงได้ทำการนำเสนอความจริงภายในประเทศตนเอง ที่กำลังประสบกับปัญหาเงินไร้ค่ากับการซื้อของเพื่อดำรงชีวิต ด้วยมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะต้องซื้อกันเป็นหลักล้าน สบู่ 1 ก้อน มูลค่า…
-
คู่รักชาวจีน “พิธีหมั้นล่ม” เมื่อฝ่ายชายเดินหนีออกจากงาน เพราะมีอาการกลัวความสูง
ความรักอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่หากอยากรู้ว่าความรักที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนนั้นเป็นรักแท้หรือไม่ มันก็ต้องมีการพิสูจน์กันสักหน่อย แต่การพิสูจน์รักแท้มันก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่สมเหตุสมผลด้วยเช่นกัน ล่าสุดวันที่ 15 สิงหาคม พิธีหมั้นของหญิงสาวจากตระกูลร่ำรวยกับชายหนุ่มคนหนึ่ง จัดขึ้น ณ สะพานกระจกที่ยื่นออกจากริมหน้าผาที่มีความสูงถึง 30 เมตร ตั้งอยู่ในเมืองซินหมี มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน แต่พิธีหมั้นนี้ก็ต้องล่มไม่เป็นท่า หลังจากฝ่ายชายเดินหนีออกไปเนื่องจากไม่สามารถทำใจเดินเข้ามาหาฝ่ายหญิงที่ยืนอยู่บนสะพานกระจกที่อยู่เหนือเหวลึก 30 เมตรได้ ชมคลิปวิดีโอ Xiao Jing หญิงสาววัย 23 ปีจากตระกูลผู้มีฐานะ ได้จัดพิธีขอหมั้น Xiao Yu คู่รักวัย 23 ปีของตน ด้วยรถสปอร์ตคันงานพร้อมกับเงินอีก 1,000,000 หยวน (4.8 ล้านบาท) แต่ก่อนที่ Xiao Jing จะมอบหัวใจและของหมั้นให้กับ Xiao Yu นั้น Xiao Yu จะต้องผ่านบททดสอบรักแท้ไปเสียก่อน เขาจะต้องเดินขึ้นสะพานกระจกมาแล้วตอบตกลงว่าจะหมั้นกับเธอ “เราคบกัน 3 ปีแล้วนะ…
-
Kendra Sunderland จากวัยรุ่นที่ถูกจับได้ว่า “ทำอนาจารในห้องสมุด” สู่การเป็นดารา AV ชั้นนำ
ปลายปี 2014 ได้มีคลิปหลุดของหญิงสาวคนหนึ่งที่โด่งดังไปทั่วสหรัฐอเมริกา เผยให้เห็นว่าเธอแอบ “ทำอนาจาร” ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยรัฐออริกอน แต่ใครจะไปคิดว่าปัจจุบัน หญิงสาวคนนี้จะกลายเป็น ดารา AV ระดับต้นๆ ของโลก ที่หนุ่มๆ หลายคนอาจเคยชมผลงานของเธอมาก่อน สาวสวยสุดเอ็กซ์ที่เรากำลังพูดถึงอยู่ก็คือ Kendra Sunderland จากวัยรุ่นผู้เคยทำความผิดอนาจาร สู่การเป็นดาราหนังผู้ใหญ่ชั้นแนวหน้า คลิปดังกล่าวได้ทำให้เธอต้องออกจากมหาวิทยาลัยและถูกแบนไม่ให้เข้าไปอีกเลย ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเธอเพิ่งเป็นเด็กใหม่วัย 19 ปีเท่านั้นเอง แถมเธอยังถูกปรับไปเป็นจำนวนเงินกว่า 196,000 บาท ซึ่งผลลัพธ์ทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้ทำให้ครอบครัวของเธอสบายใจสักเท่าไหร่ คลิปอนาจารในครั้งนั้นของเธอ Kendra หรือฉายาที่หลายๆ คนเรียกกันว่า Library Girl (สาวห้องสมุด) ตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบต่อไป เธอบอกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความทะลึ่งลามกอยู่ในตัว และเป็นคนที่มีความสนใจในเรื่องเพศสูง แต่ด้วยบทเรียนในครั้งนั้นก็ทำให้เธอไม่กล้าที่จะทำผิดกฎหมายอีก จึงตัดสินใจก้าวเข้าสู่ “วงการหนังโป๊” อย่างเต็มตัว ด้วยความที่เธอได้รับความสนใจมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว บวกกับหุ่นอันแสนเซ็กซี่ หน้าตาอันสละสลวย จึงทำให้เธอกลายเป็นดารา AV ระดับต้นๆ ได้ไม่ยาก…
-
สโมสรจำใจขายนักเตะทิ้ง เพื่อนำเงินมาซื้อแพะไว้เลี้ยงแทน แก้ปัญหาขาดทุนไร้สปอนฯ…
เรื่องอันน่าเศร้าของ Gulspor สโมสรฟุตบอลเล็กๆ ในลีกชั้นล่างสุดของประเทศตุรกี เพิ่งจะทำการขายนักเตะออกไป 18 คน เพื่อนำเงินที่ได้มาซื้อแพะ 10 ตัว ด้วยเหตุผลที่จะทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการขายนมแพะและเนื้อแพะ ทางด้าน Kenan Büyükleblebi ประธานสโมสรฟุตบอลได้กล่าวกับสื่อตุรกีเอาไว้ว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดแปลกไปจากเดิมเนื่องจากไม่มีเงินทุนเหลือ อีกทั้งยังไม่มีสปอนเซอร์เข้ามาหรือมีเงินทุนจากรัฐบาลมาจุนเจือสำหรับทีมในลีกระดับล่างสุด สโมสร Gulspor ได้ทำการขายนักเตะรุ่นเยาว์ทั้งหมด 18 คน ได้เงินมาประมาณ 80,000 บาท เพียงพอที่จะนำมาซื้อแพะ 10 ตัวเพื่อนำมาประกอบเป็นกิจการของสโมสร ฟังดูอาจจะไม่น่าเชื่อเนื่องจากแพะเหล่านี้สามารถทำกำไรให้สโมสรได้ประมาณ 21,000 – 26,000 บาทต่อปี จากการขายนมและเนื้อของแพะ โดยตั้งเป้าจะตั้งเป็นฟาร์มแพะภายในปีต่อๆ ไปด้วย “เราจะต้องมีแหล่งรายได้ที่มั่นคง เงินทุนหายไปหมดเพราะรัฐบาลและสปอนเซอร์ต่างๆ ไม่มีเข้ามาแล้ว เราจึงจำเป็นจะต้องลงทุนเพื่อเด็กๆ ของเรา เริ่มจากแพะ 10 ตัว ก็จะกลายมาเป็นแหล่งรายได้หลักเพื่อเยาวชนคนรุ่นหลัง” …
-
อยากประหยัดเงินค่าชุด… ขุ่นแม่คนนี้เลยเปลี่ยนชุดเก่าๆ เฉิ่มๆ ให้กลายเป็นชุดหรูดูมีสไตล์
แฟชั่น เป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่นิยามและทัศนคติของแต่ละคน บางคนอาจจะมองแฟชั่นที่สวยงามอาจต้องเริ่ดหรูมีราคาแพง หรือบางคนก็อาจมองว่าแฟชั่นดีๆ อาจต้องล้ำๆ ไม่ซ้ำใคร แต่สำหรับแฟชั่นในนิยามของคุณแม่คนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้แล้ว แฟชั่นที่ดีก็อาจจะไม่จำเป็นที่ต้องมีราคาแพงเสมอไป เพราะคุณแม่คนนี้เธอเน้นการนำชุดเก่าๆ เชยๆ มารีไซเคิลกลายเป็นชุดหรูๆ และดูดี เธอคนนี้คือ Sarah Tyau คุณแม่ลูกสามที่เปิดร้านขายเสื้อผ้าที่สร้างแฟชั่นใหม่ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการจากเสื้อผ้าเก่าๆ เชยๆ ที่ไม่มีใครต้องการ ซึ่งแต่ละปีคนอเมริกาจะทิ้งเสื้อผ้าพวกนี้เฉลี่ยแล้วคนละ 31 กิโลกรัมเลยทีเดียว โดยจุดเริ่มต้นการมารีไซเคิลชุดเก่าๆ เป็นแฟชั่นใหม่ๆ ของเธอมาจากหลังที่เธอได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรกและต้องการที่จะประหยัดเงินค่าสุดของลูก แต่ชุดที่ลูกได้รับต้องดูดี ใส่สบายและงานดีด้วย เธอจึงเริ่มนำผ้าเก่าๆ หรือเสื้อที่ใส่ไม่ได้แล้วมาตกแต่งหรือดีไซน์ใหม่ ทำมาเรื่อยๆ จนเชี่ยวชาญเหมือนอย่างที่เราจะได้เห็นต่อไปนี้ครับ ไปชมกันเลย คุณแม่คนนี้แหละที่เราพูดถึง แหม… ลูกสามแล้วยังสวยอยู่เลยนะเนี่ย เพราะอยากจะให้ครอบครัวได้ใส่ชุดดีๆ ราคาประหยัดจึงทำให้เธอมาถึงจุดนี้ได้ ชุดนี้แต่งเติมลวดลายเข้าไปหน่อย ชุดหลวมๆ เอามาเข้ารูปก็ดูดีได้ . ไม่บอกไม่รู้นะว่าชุดเดียวกัน จากชุดเฉิ่มๆ บานๆ สู่ชุดเกร๋ๆ มีสไตล์ ออกแบบชุดเจ้าสาวใหม่ไปเลย …
-
คู่รักมะกันแอบ “อมนิ้วเท้า” ให้กัน เป็นกิจกรรมยามว่างขณะรถติดไฟแดง แถมเปิดกระจกด้วย!!
โลกของเราเต็มไปด้วยผู้คนมากมายหลายแบบ ซึ่งอาจมีนิสัย บุคลิก รวมไปถึง รสนิยมที่แตกต่างกัน เมื่อพูดถึงรสนิยม บางคนก็จะมีรสนิยมที่ตรงกับคนส่วนใหญ่ในโลก แต่บางคนก็มีรสนิยมที่แหวกแนวออกไป อย่างเช่นตัวอย่างเหตุการณ์ในวันนี้ที่จะพิสูจน์ให้ทุกท่านได้เข้าใจว่า รสนิยม ของคนเรามันแตกต่างกันจริงๆ เพราะว่าดันบังเอิญไปเห็นคนสองคนกำลังทำอะไรกันก็ไม่รู้บนรถขณะติดไฟแดง ลองมาชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้กัน ดูซิว่าใช่ข้าวโพดต้มหรือเปล่า!? เรื่องราวเริ่มขึ้นจากการที่ชาวเน็ตมะกันได้อัปโหลดคลิปวิดีโอลงบนอินเทอร์เน็ต ภายในคลิปเผยให้เห็นว่าชายคนหนึ่งกำลัง “อม” อะไรก็ไม่รู้อยู่อย่างเมามัน ดูเผินๆ อาจคิดว่าแทะข้าวโพดต้มอยู่บนรถของตนขณะติดไฟแดง เมื่อมองดูดีๆ แล้วจะเห็นว่าสิ่งที่ฝ่ายชายกำลังอมอยู่อย่างสนุกสนานนั้นก็คือ “นิ้วเท้า” ของฝ่ายหญิงนั่นเอง (นี่มัน “มนุษย์โลกอมตีน” หรือเปล่าเนี่ย!!?) ส่วนฝ่ายหญิงที่คาดว่าเป็นภรรยานั้นก็ดูมีท่าทีค่อนข้างผ่อนคลาย เธอเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างสบายใจขณะฝ่ายสามีกำลังนวดนิ้วเท้าของเธอด้วยช่องปาก (อาจจะเป็นวิธีการบำบัดคลายเส้นแนวใหม่ก็ได้นะ) จากนั้นเจ้าของคลิปก็ทำการเปิดกระจกรถของตนเองแล้วตะโกนถามออกไปว่า “เฮ้ พวกนายทำอะไรกันน่ะ?” เมื่อทั้งคู่เห็นเช่นนั้นจึงรีบหยุดกิจกรรมส่วนตัวไว้ทันที และรีบบึ่งรถออกไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทั้งสองคนนี้ทำอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ถึงอย่างไรก็เป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่นิยมทำกัน ผู้พบเห็นอาจเกิดความรู้สึกไม่สบายใจได้ ฉะนั้น เก็บไว้ทำในที่ลับตาคนจะดีกว่านะ ที่มา: ck101
-
สาวถูกโรคจิต ส่งรูป “ของลับ” ให้ดู เธอจึงแก้เผ็ดโดยการหา “เฟซบุ๊กแม่ของเขา” มาขู่ซะเลย
มีมนุษย์ทั้งหมดอยู่บนโลกใบนี้เป็นล้านๆ คน ดังนั้นการที่มนุษย์หลายคนจะมีนิสัยใจคอหรือความชอบโดยรวมแตกต่างกันไปก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา บางคนก็นิสัยดี ทัศนคติดี บางคนก็เป็นคนตลกเฮฮา แต่ก็บางคนก็ออกแนวโรคจิตชอบโชว์ เหมือนอย่างที่สาวคนนี้โดน เธอถูกคนโรคจิตส่งรูป “จู๋” มาให้ดูในแชทของเฟซบุ๊กในเวลา 03.00 น. แน่นอนว่าดึกขนาดนั้น ต้องทำเธออารมณ์เสียมากๆ เธอจึงหาทางแก้เผ็ดเจ้าโรคจิตนี่ได้อย่างเจ็บแสบ จะโหดขนาดไหนไปชมกันครับ ขอแทนโรคจิตเป็น A และสาวผู้ถูกกระทำเป็น B นะครับ A: เฮ้ ทำไรอยู่ เฮ้ อีกะหรี่เอ๊ย จากนั้นเจ้าโรคจิตก็ส่งรูป “จู๋” ของตัวเองให้เธอได้ดู เธอก็เลยแก้เผ็ดโดยการไปหาเฟซแม่ของเจ้าโรคจิตและแคปรูปมาส่งให้เขาได้ดู พร้อมกับถามว่า “โอ้ ไม่นะ นี่ใช่แม่ของนายมั้ย?” B: ฉันควรส่งรูปรวมถึงทุกอย่างที่นายส่งให้ฉันไปให้เธอมั้ย? A: ไม่… บาย B: ไม่นี่คือ ไม่ใช่แม่ของนายหรือไม่ นี่คือฉันไม่ควรส่งรูปของนายให้เธอ A: ไม่ใช่แม่ของฉัน B: เพราะฉันรู้สึกว่านายควรที่จะขอโทษฉันสำหรับการส่งรูปน่าสะอิดสะเอียนพวกนั้นมา ขณะที่ฉันกำลังนอนอยู่ข้างๆ แฟนของฉันบนเตียงเนี่ย…
-
เซิร์ฟบอร์ดเอาต์ไปเลย!! เมื่อเจอกับชายคนนี้ ที่เอา “เบาะเป่าลม” มาเล่นโต้คลื่นอย่างจ๊าบ
“การโต้คลื่น (Surfing)” คือหนึ่งในกีฬาที่เราไม่ค่อยได้เห็นในประเทศไทย แต่มักจะได้เห็นเวลาเราชมภาพยนตร์ต่างๆ ที่มีฉากที่ให้เห็นถึงทะเล โต้คลื่นคือกีฬาชนิดหนึ่งที่ผู้เล่นต้องนำอุปกรณ์ที่เรียกว่า “กระดานโต้คลื่น” หรือ “เซิร์ฟบอร์ด” ออกไปในทะเล ก่อนจะใช้กระแสของคลื่นน้ำเพื่อดันเจ้ากระดานโต้คลื่นนั้นลอยกลับเข้าฝั่งและเมื่อคลื่นมีกำลังแรงพอที่จะพยุงผู้เล่นและกระดานโต้คลื่น ผู้เล่นก็จะขึ้นยืนทรงตัวบนกระดานก่อนจะแสดงลีลาท่าทางต่างๆ ก็อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่าการโต้คลื่นนี้ต้องมีเจ้ากระดานโต้คลื่นเป็นอุปกรณ์สำคัญในการเล่น แต่เรื่องราวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้บอกเลยว่าเพื่อนๆ ต้องเซอร์ไพรส์! เมื่อคราวนี้กระดานโต้คลื่นจะไม่ใช่อุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับการโต้คลื่นอีกต่อไป เพราะว่ามีชายคนหนึ่งนำ “เบาะเป่าลม” ที่เรานอนกันเป็นประจำมาโต้คลื่น แถมลีลาพี่แกไม่ธรรมดาเสียด้วย จะเฟี้ยว จะจ๊าบขนาดไหนลองไปชมวิดีโอกันครับ โดยเหตุการณ์สุดประหลาดนี้เกิดขึ้นในชายหาด Newport รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา จากในวิดีโอดังกล่าวเราจะเห็นได้ว่ามีชายคนหนึ่งนำเบาะเป่าลมมาโต้คลื่นอย่างเฟี้ยว และในวิดีโอเราก็จะได้ยินเสียงคนดูที่ส่งเสียงเชียร์ชายคนดังกล่าวเสียงดังสนั่น รวมถึงผู้ถ่ายวิดีโอก็ตะลึงกับการกระทำของเขาจนอุทานว่า “พระเจ้าช่วย” ออกมาเลยล่ะ สุดท้ายถึงแม้เขาจะโดนคลื่นซัดเข้าใส่อย่างเต็มๆ ตอนท้ายวิดีโอ แต่ด้วยพื้นที่ของเบาะเป่าลมก็สามารถทำให้เขายังเกาะอยู่ได้อย่างสวยๆ เอาใจคนดูไปเต็มๆ ไปเลย เห็นแบบนี้ #เหมียวโคบี้ นี่อยากจะลองหาของแปลกๆ ไปเล่นโต้คลื่นบ้างเลย เพื่อนๆ คิดว่ามีอะไรที่แปลกพอและสามารถนำไปโต้คลื่นได้บ้างมั้ย? ที่มา Dailymail, Mogaznews
-
หนุ่มแคนาดา ปั่นจักรยาน 650 กม. จากบ้านมาร่วมงานแข่งจน “ชนะเลิศ” แล้วก็ปั่นกลับบ้าน…
การปั่นจักรยานเป็นอีกแบบหนึ่งในการออกกำลังกายที่ดี แถมสนุกและยังได้เดินทางไปยังที่ต่างๆ อีกด้วย หลายคนอาจคิดว่าการปั่นจักรยานนั้นง่ายและสบาย แต่หากคุณต้องปั่นเป็นระยะทางไกลๆ มันอาจไม่สบายอย่างที่คิด ล่าสุดในงานแข่งขันจักรยานระยะทาง 100 กิโลเมตร Big Red Gravel Run ที่จัดขึ้นเมืองแฮร์ริงตัน รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา ชายหนุ่มวัย 31 ปีที่ชื่อว่า Kyle Messier ก็ได้รับชัยชนะในงานแข่งขันนี้ไป แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือชายคนนี้ปั่นจักรยานมาจากเมืองวอเตอร์ลู รัฐออนแทริโอ ซึ่งมีระยะทางกว่า 650 กิโลเมตร (ประมาณกรุงเทพฯ-ลำพูน) เพื่อมาเข้าร่วมงานแข่งขันในครั้งนี้ แถมหลังแข่งเสร็จไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ปั่นกลับบ้าน การเดินทางของ Kyle จากบ้านมาถึงสถานที่แข่งขันใช้เวลาราว 3 วันครึ่ง โดยหลังจากที่เขาได้รับชัยชนะจากการแข่งขันแล้วเขาก็ทานพิซซ่าและงีบไป 2-3 ชั่วโมงก่อนที่จะออกเดินทางปั่นจักรยานกลับบ้านอีก 650 กิโลเมตร Kyle ถือได้ว่าเป็นนักปั่นที่อึดและเก่งกาจอย่างมาก เขาชนะการแข่งขันนี้ได้แม้ว่าตนจะปั่นจักรยานมาแล้วกว่า 650 กิโลเมตร แถมขณะแข่งขันเขายังต้องอดทนกับอาการปวดฟันที่เกิดจากตุ่มหนองอีกด้วย Kyle Messier ช่างเครื่องวัย 31 ปี เคล็ดลับของ Kyle…
-
ผู้เข้าประกวด “มิสฮ่องกง” อัดคลิป Kiki Challenge โดนชาวเน็ตโจมตี อยากให้ถอดเธอออก
Kiki Challenge คือเทรนด์สำหรับการอัดคลิปลงจากรถไปเต้นเพลง In My Feeling ของศิลปิน Drake ในขณะที่รถกำลังแล่นอยู่ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ ล่าสุด Tania Chan Yuen-Ching หนึ่งในผู้เข้าประกวด “มิสฮ่องกง” ประจำปี 2018 เธอก็ได้อัดคลิปในลักษณะเดียวกันนี้ แต่ผลตอบรับที่ได้นั้นกลับเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบจำนวนมาก Tania หนึ่งในผู้เข้าประกวดมิสฮ่องกง คลิป Kiki Challenge ของเธอได้ถูกอัพลงในอินสตาแกรมส่วนตัว เผยให้เห็นลีลาการเต้น โชว์ท่ายิมนาสติก มีการใช้ริบบิ้นประกอบ คลิป Kiki Challenge ของเธอ คลิปของเธอที่เราเห็นไปนั้น ได้กลายมาเป็นตัวจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตฮ่องกง มองว่ามันเป็นเรื่องที่อันตราย ไม่เหมาะสม และควรจะถอดเธอออกจากกองประกวดไปซะเลย “อย่างแรกคือฉันคิดว่ามันไร้สาระและอันตราย แถมในคลิปก็ไม่เห็นว่าเธอจะลงไปเก็บริบบิ้นที่ทิ้งไปด้วย เหมือนเป็นการส่งเสริมให้ทิ้งขยะไม่เป็นที่ มันไม่มีคำเตือนถึงความอันตรายในการทำอะไรแบบนี้เลยหรือไง” “โง่จริงๆ คนอย่างเธอจะไปเป็นมิสฮ่องกงได้อย่างไร ถ้ายังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่” จากการถูกโจมตีอย่างหนัก Tania จึงได้ทำการลบคลิปดังกล่าวออกไป…
-
“หัวเว่ย” โป๊ะแตก นักแสดงปล่อยภาพเบื้องหลัง ไม่ได้ใช้โทรศัพท์จริงแต่เป็นกล้องใหญ่!?
เรื่องของการตลาดและโฆษณาผลิตภัณฑ์ จะเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับคนทั่วไป จนสามารถจูงใจให้มาซื้อของได้ แต่ด้วยภาพที่ออกมาดูดีเวอร์จนเกินไป ก็อาจจะเป็นอีกบ่อเหตุแห่งความสงสัยแคลงใจให้เกิดขึ้นได้เช่นกัน โฆษณาจากบริษัทสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่จากจีน ‘หัวเว่ย’ ถูกจับโป๊ะได้ว่าหนึ่งในงานโฆษณากล้องโทรศัพท์มือถือ แต่ดันใช้กล้อง DSLR ถ่ายภาพนั้นแทน… แถมยังเป็นการปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อจากนักแสดงภายในโฆษณาชิ้นนี้เสียเอง ห๊ะ!? ว่าไงนะ โป๊ะแตกเหรอ!? บริษัทหัวเว่ยประจำอียิปต์ได้ทำการปล่อยโฆษณาความยาว 30 วินาทีตัวใหม่ออกมา เพื่อโปรโมทโทรศัพท์รุ่น Nova 3i จะเห็นได้ว่ามีฉากที่นักแสดงชายเซลฟี่กับนักแสดงหญิงที่ชื่อว่า Sarah Elshamy และตัวเธอเองก็ยังไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาอะไรมากนัก ใช้การโฆษณาฟังก์ชั่นแต่งภาพอัจฉริยะมาประกอบ ทำให้รุ่น Nova 3 ดูดีมีความพร้อมสำหรับบุคคลที่ชื่นชอบเซลฟี่สุดๆ ทุกอย่างดูเป็นไปได้สวยกับโฆษณาชิ้นนี้ แต่แล้วก็ดันมีคนออกมาปล่อยภาพเบื้องหลังให้ชาวเน็ตได้รับรู้ นั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือ Elshamy ตัวนักแสดงเองที่อัปโหลดภาพไว้ในอินสตาแกรม… แน่นอนว่าคนสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่า โฆษณาดังกล่าวไม่ได้ใช้โทรศัพท์รุ่นดังกล่าวในการถ่าย แต่ใช้กล้อง DSRL แทน ซึ่งตัวเธอเองก็รีบลบภาพนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว ถือโทรศัพท์ลมแต่ได้ภาพถ่ายเซลฟี่ อู้ววววว นายดูโทรศัพท์ของชั้นสิ…
-
มุ่งหน้าสู่โคชิเอ็ง!! “คานาอาชิ” ทีมม้ามืดจากโรงเรียนเกษตรเล็กๆ สู่สนามแข่งทรงเกียรติ
หากเพื่อนๆ ได้อ่านหรือดูการ์ตูนที่เกี่ยวข้องกับกีฬาเบสบอลบ่อยๆ แล้ว คงเคยได้ยินชื่อของ “โคชิเอ็ง” กันมาไม่มากก็น้อยใช่มั้ยล่ะ แล้วเพื่อนๆ รู้รึเปล่าว่าโคชิเอ็งคืออะไร โคชิเอ็งหรือสนามกีฬาฮันชิงโคชิเอ็ง เป็นชื่อของสนามเบสบอลที่ตั้งอยู่ในเมืองนิชิโนมิยะ ประเทศญี่ปุ่น โดยจะใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันเบสบอลรอบสุดท้ายในระดับชั้นมัธยมปลายทั่วประเทศ วันนี้เราก็มีเรื่องของการแข่งขันเบสบอลระดับมัธยมปลายของญี่ปุ่นมาได้ชมกัน เมื่อการแข่งในโคชิเอ็งปีนี้มีเรื่องเซอร์ไพรส์คือ ทีมเบสบอลจากโรงเรียนเกษตรเล็กๆ ชื่ออานาอาชิซะกลายเป็นม้ามืดพลิกชนะทีมเก็งอย่างฉิวหลายครั้งจนสามารถเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายได้ แถมยังมีเอซ (ACE) รูปงามของทีมที่ชื่อราวกับพระเอกการ์ตูนเสียด้วย เฟซบุ๊กเพจ Working Along ได้ทำการโพสต์ภาพของทีมเบสบอลแห่งหนึ่งพร้อมว่า… “ว่าด้วยโคชิเอ็งปีนี้ มีโรงเรียนการเกษตรชื่อโรงเรียนคานาอาชิ (金足農業) เรียกเพราะๆ ว่าโรงเรียนสุวรรณบาทา หรือโรงเรียนเท้าทอง (สาบานว่านี่ชื่อโรงเรียน) เป็นโรงเรียนเล็กๆ ที่ส่งทีมเบสบอสประจำโรงเรียนเข้าแข่งเพื่อมุ่งสู่โคชิเอ็ง ผลปรากฎว่า… ทีมเบสบอลของโรงเรียนเล็กๆ แห่งนี้ พลิกเอาชนะทีมบิ๊กๆ ที่เป็นตัวเก็งจากทั่วประเทศมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่าแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ด้วยฝีมือเอสตัวขว้างสุดหล่อชื่อโยชิดะ โคเซย์ (เขียนด้วยตัว 輝星 แปลว่าดวงดาวที่ส่องประกาย ชื่อก็พระเอกการ์ตูนไปอี๊ก) ผลปรากฎว่าชนะมาเรื่อยๆ เกินความคาดหมายจนไม่มีงบไปแข่งต่อ ต้องขอเรี่ยไรบริจาคจากคนในจังหวัด… แต่คนก็ปาเงินให้รัวๆ เพราะถือเป็นการเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในรอบ 103 ปีของจังหวัดอาคิตะ เป็นโรงเรียนการเกษตรแบบเต็มตัว มีกฎว่า * ถ้าขโมยแอปเปิลจะโดนพักการเรียน …
-
พลเมืองดีไต้หวัน ช่วยเหลือคนที่ “รถเสียขยับไม่ได้” ด้วยการ “อุ้ม” มันไปยังร้านซ่อม…
ซูเปอร์ฮีโร่น่ะไม่ได้มีแค่ในหนังหรือการ์ตูนเท่านั้น มนุษย์อย่างเราก็อาจกลายเป็นฮีโร่ได้โดยไม่ต้องมีพลังพิเศษใดๆ ขอเพียงแค่ใช้ความสามารถที่มีในการ ช่วยเหลือผู้อื่น ได้ก็พอแล้ว ล่าสุดในไต้หวัน แค่เพียงเหตุการณ์เล็กๆ ที่เกิดขึ้น ก็สามารถสร้างคนธรรมดาให้กลายเป็นฮีโร่ได้ เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหารถจักรยานยนต์เสีย… หลายคนคงเคยประสบปัญหารถดับกลางถนน เช่นเดียวกับเจ้าของเรื่องรายนี้ที่จู่ๆ รถจักรยานยนต์ของเขาก็ดับขณะขับขี่อยู่บนทางจักรยานยนต์ โดยไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากน้ำมันหมดหรืออะไรกันแน่ แต่เมื่อเข็นไปสักพักมันก็สตาร์ตติดแต่กลับดูเหมือนว่าจะเกิดความเสียหายเกิดขึ้นเล็กน้อยทำให้ล้อหลังของรถนั้นล็อกไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ในขณะที่กำลังงุนงงอยู่กับวิธีแก้ไขปัญหา ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาเสนอความช่วยเหลือ ในเมื่อมันขี่ไม่ได้ แถมยังเข็นต่อไปไม่ได้อีก ชายกำยำล่ำสันผู้ปรากฏกายมาราวกับฮีโร่จึงตัดสินใจ ยกมันขึ้นมา ทั้งคันเลย… ขี่ไม่ได้ เข็นไม่ได้ ก็คงต้อง “ถือ” มันไปเท่านั้นแหละนะ อึ้บบ!! ชายคนนี้ยกรถจักรยานยนต์ทั้งคันขึ้นราวกับว่าอุ้มลูกหมา แถมเขายังเดินต่อไปอีกกว่า 100 เมตร จนกระทั่งถึงร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ชมคลิปวิดีโอของฮีโร่หนุ่มคนนี้กัน! ชาวเน็ตที่เข้ามาชมวิดีโอต่างพากันชื่นชมและยกย่องให้ชายหนุ่มคนนี้เป็น “เดอะฮัลค์แห่งไต้หวัน” เลยทีเดียวเชียวล่ะ ที่มา: 陳韋丞 via ck101
-
คีอานู รีฟส์ เกือบจะได้แต่งงานจริงๆ กับ วิโนนา ไรเดอร์ แล้วจากบทในเรื่อง Dracula
หนึ่งในนักแสดงขวัญใจมหาชน คีอานู รีฟส์ ผู้ชายระดับซุปตาร์ฮอลลีวูดที่ดูอบอุ่นติดดิน ยังคงครองความโสดมาถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะผ่านการใช้ชีวิตมานานแสนนานหลายปี ทั้งหล่อทั้งเท่ขนาดนี้ ก็ยังไม่มีวี่แววจะแต่งงานมีคู่ครองกับเขาเสียที วิโนนา ไรเดอร์ และ คีอานู รีฟส์ จนมาถึงล่าสุด ในระหว่างที่กำลังออกเดินสายโปรโมทภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้เรื่องใหม่ Destination Wedding กับการโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งระหว่าง คีอานู และ วิโนนา ไรเดอร์ ฝ่ายนักแสดงหญิงก็ได้เปิดเผยเรื่องลับๆ ที่เคยเจอกันระหว่างสองคนย้อนกลับไปเมื่อ 26 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ปี 1992 จากภาพยนตร์ Dracula วิโนนา ให้สัมภาษณ์ว่า “เราสองคนได้แต่งงานกันในเรื่อง Dracula แต่สาบานได้เลยว่าฉันคิดว่าเราแต่งงานกันในชีวิตจริงเสียด้วยซ้ำ ในฉากนั้น มีพระนักบวชโรเมเนียอยู่ด้วย เราเข้าฉากเล่นตามบทการแต่งงาน จนคิดไปไกลว่าแต่งงานด้วยกันจริงๆ” เฮียคีอานูก็ออกมาให้สัมภาษณ์แบบติดตลกว่า “มันเป็นอะไรที่น่ารักดีนะ กับการที่เราได้มาเจอกันอีก ส่วนตัวผมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” คีอานูถามวิโนนา “เราตอบตกลงกันเหรอ?” วิโนนาก็ตอบกลับ “คุณจำไม่ได้เหรอ…
-
น่ายกย่องหรือเห็นแก่ตัว… ชาวเน็ตวิจารณ์หนุ่มให้ฮูดคลุมหัวแฟนสาว ทำไมไม่ให้ทั้งเสื้อไปเลย?
การที่ได้เห็นผู้ชายทำอะไรบางอย่างให้ผู้หญิงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว อย่างเช่นการที่ชายหนุ่มรายหนึ่งเลือกที่จะถอดฮู้ดจากเสื้อตัวเองให้แฟนสาว เพื่อไม่ให้ผมที่ทำมาใหม่ของเธอต้องเปียก และเดินกุมมือข้ามถนน โดยที่มีชาวเมืองแอบอัดคลิปมาให้ชาวเน็ตได้ดู แน่นอนว่ามีคนชื่นชมพ่อหนุ่มรายนี้ แต่ก็ยังมีอีกฝั่งที่มองว่าการกระทำของพ่อหนุ่มเป็นความเห็นแก่ตัว ทำไม่ถอดให้ทั้งเสื้อแจ็คเก็ตไปเลย… Jake Shannon วัย 26 ปี คือบุคคลที่ถ่ายคลิปเอาไว้ โดยที่ตัวเขาคิดว่าฝ่ายหญิงเพิ่งทำผมมา จนทำให้ฝ่ายชายต้องถอดฮูดออกเพื่อไม่ให้ผมแฟนสาวเปียก และให้แคปชั่นไว้ว่า ‘คุณรักแฟนคุณ แต่รักมากพอที่จะให้แค่ถอดฮูดออกจากเสื้อแค่นั้นเหรอ มาตรฐานของผู้ชายสมัยนี้ไม่ค่อยไหวเลย’ ชาวเน็ตผู้หญิงที่ได้ชมคลิปวิดีโอต่างชื่นชมในสิ่งที่ชายคนนี้ทำ ตัวอย่างคำชมเช่น “เราควรจะหาผู้ชายที่รักเรามากขนาดนี้ได้แล้วนะ เราควรจะหาผู้ชายที่ยอมทำแบบนี้เพื่อเรา” แต่แล้วก็มีอีกฝั่งความคิดเห็นที่ชื่นชมน้อยหน่อย พร้อมกับให้คำแนะนำในเชิงว่าควรจะให้ไปทั้งเสื้อมากกว่าการถอดให้แค่ฮูด ตัวอย่างเช่น “เขามันเป็นพวกไร้สมองจริงๆ ที่ให้เธอแค่ฮูดเนี่ย ทำไมไม่ให้ไปทั้งเสื้อเลย…” Jake Shannon ทางด้านนาย Shannon กล่าวว่า “ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงให้แค่ฮูดไม่ให้ทั้งเสื้อ เขาอาจจะไม่ได้อยากให้ตัวเองเปียกแล้วก็ไม่อยากให้ผมแฟนสาวเปียก มันเป็นอะไรที่ดูประหลาด” “ถ้าเป็นผมแล้วต้องมาเจอกับฝนตกแบบนี้ ผมจะให้ทั้งเสื้อไปเลย ผมจะไม่มาคิดถอดฮูดแล้วให้แฟนใส่แบบนั้นหรอก แค่ให้ทั้งเสื้อไปก็จบแล้ว คลิปนี้กลายเป็นไวรัล แล้วก็มีคนมาแท็กแฟนตัวเองบอกว่าจะไม่ถอดฮูดให้แบบนี้ ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่คนทั่วไปน่าจะนึกออกได้ว่ามันดูแปลกๆ” แล้วพวกคุณล่ะ…
-
“ว่าที่เจ้าสาว” ล้มงานแต่งก่อน 1 สัปดาห์ หลังจับได้ว่าแฟนหนุ่มดู “หนังโป๊” ในมือถือ?!
การที่เราจะ “แต่งงาน” ใช้ช่วงเวลาของชีวิตหลังจากนี้อยู่กับใครสักคน เราคงจะต้องเลือกคนที่ทำให้เรารู้สึกว่า “เราคิดถูกแล้ว ที่เลือกเขา /เธอคนนี้” เพราะอย่างนั้นจึงทำให้หญิงสาวคนนี้ตัดสินใจยกเลิกการแต่งงานกับแฟนหนุ่มของเธอ หลังจากที่จับได้ว่าเขาแอบดู “หนังโป๊” ในโทรศัพท์ ซึ่งเธอมองว่ามันไม่โอเคเอามากๆ Claire Dalton หญิงสาวชาวอเมริกันวัย 21 ปี ผู้หวังว่าตนเองจะได้เจอกับ “รักแท้อันแสนบริสุทธิ์” เป็นไปตามกฎของพระผู้เป็นเจ้า Claire ผู้ออกมาแชร์ประสบการณ์ในเว็บไซต์ Love What Matters เธอได้รู้จักกับชายคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเขาก็ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทของเธอ และก้าวข้ามความสัมพันธ์กลายมาเป็นคู่หมั้นกัน จนกระทั่ง Claire ได้รับรู้บางอย่างที่เปลี่ยนชีวิตและความคิดของเธอไป… ก่อนงานแต่งเพียง 1 สัปดาห์ เธอพบว่ามีประวัติการเข้าชมหนังโป๊อยู่ในมือถือของแฟนหนุ่ม โดยเขาเพิ่งดูไป 1 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นเอง และไม่ใช่เพียงแค่นั้น เมื่อดูไปเรื่อยๆ ถึงพบว่าแฟนหนุ่มของเธอแอบดูหนังโป๊มาตลอด ตั้งแต่ที่คบกันมานานหลายปี แถมเนื้อหารสนิยมผู้หญิงที่เขาชื่นชอบในหนังก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอเคยคาดคิดเอาไว้มาก่อน ชุดแต่งงานที่เธอไม่มีโอกาสได้ใช้ในวันจริง Claire บอกว่า “ฉันรู้สึกเหมือนโดนนอกใจ มันเปลี่ยนความสัมพันธ์ทั้งหมดของเราไปในทันที แม้แต่ช่วงเวลาดีๆ ก่อนหน้านี้ก็ตาม มันทำให้ฉันรู้สึกไร้ค่าและไม่เคยได้รับความรักใดๆ…
-
พนักงานส่งเบียร์หยุดชายคิดสั้น ‘เฮ้ยหนุ่ม อย่าเพิ่งโดด’ เสนอเลี้ยงเบียร์ 1 กล่อง 12 กระป๋อง!?
เรื่องราวของพนักงานส่งเบียร์ที่ได้กลายมาเป็นผู้ช่วยชีวิตคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากที่พยายามเกลี้ยกล่อมชายรายหนึ่งที่กำลังจะกระโดดลงจากสะพานฆ่าตัวตาย… Jason Gaebel และ Kwame Anderson คือพนักงานขายและขับรถส่งเบียร์ ในขณะที่พวกเขากำลังขับรถขึ้นสะพาน Earl Street Bridge บนทางหลวง Interstate 94 บริเวณรัฐมินนิโซตา ก็เจอกับชายหนุ่มที่กำลังคิดสั้นยืนอยู่นอกรั้วขอบสะพาน ในคลิปที่อัดไว้โดย Anderson จะเห็นได้ว่าเพื่อนคนขับ Gaebel เป็นผู้ที่เรียกคุยกับชายหนุ่มคนนั้น ‘เฮ้ย พ่อหนุ่ม เป็นอะไรรึเปล่า? กลับมายืนฝั่งนี้สิเพื่อน’ ซึ่งหลังจากที่ทราบว่าชายคนดังกล่าวคิดจะฆ่าตัวตาย ทั้งสองจึงตัดสินใจจอดรถเพื่อพูดคุยกับเขา พวกเขาตัดสินใจโทรเรียกขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน และหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง พวกเขาก็ยังคอยคุยเจรจากับเจ้าตัวอยู่ หวังเพื่อให้เขาหยุดความคิดที่จะดับชีวิตตัวเอง “ผมกำลังคิดถึงตัวเอง ชายผู้น่าสงสารกำลังจะจบชีวิตตัวเองต่อหน้าเรา และถ้ามันเกิดขึ้น ก็มีผมกับเพื่อนที่เป็นพยานรู้เห็น” Gaebel กล่าว โดยในระหว่างนั้นเอง พวกเขาก็คิดถึงตัวละครในภาพยนตร์ Inside Man ที่มี Denzel Washington รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายเจรจา พวกเขาจึงใช้ประโยชน์จากภาพยนตร์ที่ได้ชมมา สวมบทบาทเป็นฝ่ายเจรจาเกลี้ยกล่อมชายคนนั้นในชีวิตจริง คลิปวิดีโอที่อัดไว้โดย Anderson…
-
เพลงดังในญี่ปุ่นท้า ‘กองทัพเรือสหรัฐฯ’ ให้ออกมาเต้น พี่ทหารก็เลยสนองให้เสียเลย!!
ใครบอกกันล่ะว่าเหล่าทหารจะต้องเคร่งขรึมหรือว่าจริงจังตลอดเวลา พวกเขาเองก็มีมุมตลกๆ และน่ารักเหมือนกันนะ ถ้าไม่เชื่อลองดูตัวอย่างจากเหตุการณ์นี้กันได้เลย ล่าสุดได้มีภาพและวิดีโอการเต้นสุดฮาของเหล่าทหารอเมริกันเผยแพร่ออกมาบนโลกอินเทอร์เน็ต มันเป็นท่าที่เรียกได้ว่ายอดนิยมกันอยู่ในปัจจุบันเลยทีเดียว ท่าอะไรประมาณนี้ เรื่องราวก่อนหน้าที่เหล่าทหารอเมริกันจะออกมาเต้นกันแบบนี้ เกิดขึ้นจากวงดนตรีวงหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้ปล่อยเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศอเมริกาออกมา เพลงดังกล่าวคือเพลง U.S.A. ของวง DA PUMP นั่นเอง เนื้อหาของเพลงก็ไม่มีอะไรมากนอกจากการเอ่ยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ปัจจุบันมีความสนิทแนบแน่นกันมากขึ้น และทุกๆ ประเทศบนโลกก็เป็นมนุษย์ที่อยู่บนเรือลำเดียวที่เรียกว่า “โลก” นั่นเอง นอกจากนี้เนื้อหาในเพลงก็ยังมีหลายท่อนที่ให้ความหมายดี แต่ท่อนที่ดูเหมือนจะติดหูผู้ฟังมากที่สุดก็คือท่อนที่ร้องว่า “C’mon baby, America!” หรือที่แปลว่า “มาร่วมสนุกด้วยกันสิ อเมริกา!” ชวนกันอย่างนี้ทางกองทัพเรือของสหรัฐอเมริกาก็ทนอยู่เฉยไม่ไหว ลุกมาเต้นกันยกใหญ่ https://twitter.com/mcipacpao/status/1030564593507041281?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1030564593507041281&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F08%2F20%2Fu-s-marines-perform-japans-hottest-dance-craze-share-video-through-official-account%25e3%2580%2590video%25e3%2580%2591%2F คลิปวิดีโอการเต้นของเหล่าทหารสหรัฐอเมริกาถูกเผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์ทางการของ กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาศูนย์บังคับการประเทศญี่ปุ่น ที่เหล่าทหารหลายคนออกมาเต้นตามคำขอของเพลง U.S.A. ทุกคนล้วนเต้นด้วยท่าสุดฮาแบบที่นิยมกันในปัจจุบันพร้อมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสนุกสนาน แถมพวกเขายังสวมชุดเครื่องแบบของทหารเพื่อแสดงให้เห็นว่าทหารก็ไม่เคร่งขรึมตลอดเวลา… ดูเขาสนุกมากเลยล่ะ เชิ้บๆ ฝึกกันนานไหมล่ะเนี่ย!? เมื่อคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ออกไป ผู้ชมจำนวนมากก็เข้ามาให้ความเห็นกันต่างๆ นานา เช่น… “ทหารที่สนุกสนานได้แบบนี้แปลว่าบ้านเมืองอยู่ในความสงบสินะ USA!”…
-
มหาเศรษฐีชาวจีน ใช้เวลาว่างไปกับการ “เดินเก็บขยะ” ในเมืองทุกๆ วันมากว่า 3 ปีแล้ว!!
คนที่ประสบความสำเร็จจนร่ำรวยกลายเป็นมหาเศรษฐี เขาคงมีเวลามากพอสำหรับพักผ่อน หรือใช้ชีวิตตามแบบที่เขาต้องการ แล้วหากเป็นคุณ คุณจะใช้เวลาเหล่านั้นเพื่อทำอะไรกันล่ะ? ไม่ว่าคำตอบของคุณจะเป็นอะไร แต่เรื่องราวของมหาเศรษฐีชาวจีนคนนี้จะทำให้คุณหวนกลับมาคิดใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน… Zhong Congrong นักธุรกิจวัย 52 ปีจากมณฑลฉงชิ่งประเทศจีน ผู้ประสบความสำเร็จจากกิจการของเขาเอง ได้หันมาใช้ชีวิตหลังความสำเร็จด้วยการตระเวน เดินเก็บขยะ บนถนนในเมืองมาเป็นเวลาถึง 3 ปีแล้ว เรื่องราวเริ่มจากการที่เขาได้มาพบกับอดีตศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยท่านหนึ่งที่อุทิศตนเก็บขยะให้บ้านเมืองมากว่า 4 ปีแล้ว เขาจึงประทับใจและร่วมเดินเก็บขยะในเมืองทุกๆ วัน Zhong Congrong วัย 52 ปี ในช่วงแรกเขากลายเป็นจุดสนใจของผู้คนอย่างมาก แต่กลับเป็นในเชิงไม่ดีเท่าใดนัก หลายคนสังสัยว่าทำไมมหาเศรษฐีอย่างเขาต้องมาเก็บขยะ เกรงว่าจะมีเหตุผลอื่นแอบแฝง แต่ Zhong ก็ไม่สนใจและยังคงทำต่อไป จนกระทั่งเรื่องราวเข้าถึงหูของครอบครัวเขา ทีแรกลูกๆ และภรรยาของเขารู้สึกขายหน้ากับสิ่งที่เขาทำอย่างมากถึงกับไม่ยอมไปไหนกับ Zhong ในที่สาธารณะเลยทีเดียว จนกระทั่ง พวกเขาพบว่าบริเวณใกล้บ้านเริ่มสะอาดขึ้นทุกวัน เนื่องจากการกระทำของ Zhong พวกเขาจึงยอมรับพร้อมทั้งชื่นชมและหันมาสนับสนุนเขาด้วย ชมคลิปของ Zhong มหาเศรษฐีเก็บขยะกัน “เราจะทิ้งขยะหรือเก็บขยะมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับระดับการศึกษา วัฒนธรรม อายุ หรือว่าฐานะหรอก” Zhong…
-
ดราม่า Nicki Minaj โทษ Kylie Jenner กับลูก เป็นเหตุให้อัลบั้มของเธอไม่ได้อันดับหนึ่ง
Nicki Minaj หรือชื่อเต็มๆ Onika Tanya Maraj คือศิลปินหญิงชื่อดังคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน เธอแจ้งเกิดในฐานะศิลปินอย่างรวดเร็วหลังจากอัลบั้ม Pink Friday ออกวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2010 (แต่หลายๆ คนอาจจะรู้จักเธอจากเพลง Superbass เสียมากกว่า) ซึ่งล่าสุดในวันที่ 10 สิงหาคม 2018 ที่เพิ่งผ่านมา เธอก็ได้ประกาศวางจำหน่าย Queen อัลบั้มที่ 4 ของเธออย่างเป็นทางการ https://www.instagram.com/p/BmTdPovBKPy/?utm_source=ig_embed แน่นอนไม่ว่าศิลปินคนใดก็ตาม หากพวกเขาผลิตผลงานใหม่ๆ ออกมา ย่อมที่จะคาดหวังว่าผลงานใหม่ๆ ของพวกเขาจะประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักไปทั่วบ้านทั่วเมือง เช่นเดียวกันกับ Nicki Minaj เธอก็หวังว่าผลงานของเธอจะเป็นที่นิยมฮิตติดทอปของ Billboard Chart แต่เมื่อผ่านไปได้ 1 สัปดาห์เธอก็ต้องผิดหวังเพราะเธอถูกอัลบั้ม Astroworld ของ Travis Scott นำไปด้วยจำนวนยอดขาย 205,000 อัลบั้ม ส่วนของเธอทำได้ 185,000 อัลบั้ม และดูเหมือนว่า Nicki จะหัวเสียเป็นอย่างมากเลยทวีตข้อความว่า…
-
สาวเอาคืนแฟนเก่าที่นอกใจเธอ ด้วยการพ่นคำด่า ลงบน “รถเบนซ์” มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
เมื่อเรารู้ว่าแฟนตัวเอง “นอกใจ” ไปมีอะไรกับคนอื่น แล้วก็กลับมาบอกเลิกกับเรา ไปหาผู้หญิงคนนั้นแทน ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นมาอาจเป็นความเสียใจ แล้วหลังจากนั้นอาจเป็นเรื่องของความเจ็บใจล้วนๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หญิงสาวคนหนึ่งในเมือง Adelaide ประเทศออสเตรเลีย ตัดสินใจเอาคืนแฟนเก่าของตัวเอง ด้วยการเอาสีสเปรย์ไปพ่นคำด่าบนรถเบนซ์ราคาหลายล้านของเขาซะเลย!! เขียนตัวใหญ่ๆ เดี๋ยวคนอื่นมองไม่เห็น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคม 2018 พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า หญิงสาวคนดังกล่าวได้นำเอาสีสเปรย์มาพ่นใส่รถยนต์ของอดีตแฟนหนุ่ม เป็นคำว่า “กะหรี่ชาย” , “ไอ้หลายใจ” และ “ไอ้กะหรี่” หลายๆ คนที่เห็นถึงกับถ่ายรูปอัพลงโซเชียลกันเลย และไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะหลังจากที่เธอเดินกลับไปที่รถของตัวเองแล้ว เธอก็ได้หยิบเอาไม้เบสบอลออกมา ฟาดเข้าไปที่บริเวณกระจกด้านข้างรถจนทำให้มีเกิดเป็นรอยบุบ กระจกแตกอย่างที่เราเห็นในภาพ แล้วเธอก็จากไป ทิ้งร่องรอยจำนวนมากเอาไว้บนรถ Mercedes-Benz AMG S 63 Coupe มูลค่ากว่า 130,000 ปอนด์ (หรือราวๆ 5.5 ล้านบาท) เมื่อหนุ่มเจ้าของรถกลับมาเจอกับสภาพที่เห็นนั้น แทนที่เขาจะโทรแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาความกับแฟนเก่าของตัวเอง เขากลับโทรเรียกรถยกให้มาเอารถของเขาไปในทันที…
-
ก็คนมันรัก!! ชายญี่ปุ่นวัย 35 ประกาศกร้าว ขอแต่งงานกับไอดอลสองมิติ Hatsune Miku
เพื่อนๆ เคยได้ยินชื่อของ Hatsune Miku กันบ้างรึเปล่า?? หลายๆ อาจจะเคยได้ยินชื่อเธอมาไม่มากก็น้อย แล้วรู้หรือไม่ว่า Hatsune Miku คนนี้ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นมาสคอตของ Vocaloid โปรแกรมสังเคราะห์เสียงเพลง ด้วยเสียงและหน้าตาที่น่ารักของ Miku นี้เองทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจของคอการ์ตูนอย่างรวดเร็วจนมีสินค้าของเธอผลิตออกมาเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นโมเดล เพลง เสื้อผ้า และความโด่งดังของเธอก็ไม่ใช่ธรรมดาเพราะถึงขนาดที่เธอสามารถจัดคอนเสิร์ตได้เลยทีเดียว เรียกว่าเปิดคอนเสิร์ตที่ไหน ที่นั่นตั๋วขายเกลี้ยง!! ถ้าถามว่าเธอเป็นที่รักของบรรดาแฟนๆ ขนาดไหน ก็ขนาดที่ทำให้แฟนคลับคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ตกหลุมรักแบบหัวปักหัวปำถึงขนาดประกาศจะแต่งงานกับเธอเลยทีเดียว โดยคนๆ นั้นคือนาย Kondo Akihiko มนุษย์เงินเดือนชาวญี่ปุ่นวัย 35 ปี เขาได้ประกาศลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าเขากำลังวางแผนแต่งงานกับไอดอลสาวสองมิติคนนี้ในภายอนาคตอันใกล้ โดยวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา Akihiko ได้ทวีตข้อความวาา “ผมตัดสินใจที่จะจัดงานแต่งกับมิคุในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2018 ซึ่งพิธีจะถูกจัดขึ้นในโบสถ์ นี่ผมจริงจังนะ ผมจะแต่งงานจริงๆ” ミクさんとの結婚式の日が決まりました。2018年11月4日(日)です。チャペルで挙式して、披露宴もやります。真剣に結婚式を挙げますよ。 —…
-
กลุ่มนักคอสเพลย์รวมตัวกันเซอร์ไพรส์ รักษาแผลในใจเด็กน้อยผู้ที่ไม่มีใครร่วมงานวันเกิด
“วันเกิด” เป็นวันที่มนุษย์หลายๆ คนให้ความสำคัญแก่วันนี้เป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นวันที่พวกเขาได้เติบโตและมีอายุมากขึ้นกว่าเดิม 1 ปีนั่นเอง โดยในวันนี้เองก็จะกิจกรรมพิเศษต่างๆ นานาอย่างเช่น การมอบของขวัญให้กับคนที่เกิด การเซอร์ไพรส์ การจัดการเลี้ยงวันเกิด หรือสำหรับคนไทยบางคนก็อาจจะมีการไปทำบุญตักบาตรด้วย วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดปาร์ตี้วันเกิด แน่นอนว่าหากเราจะจัดปาร์ตี้วันเกิดทั้งที เราต้องชวนครอบครัวและเพื่อนฝูงของเรามาร่วมงานเป็นอย่างแน่นอน แต่หากคนที่เรานัดเอาไว้แต่ไม่สามารถมาได้ มันก็คงจะรู้สึกเฟลอย่างแน่นอน เหมือนอย่าง Max หนุ่มน้อยคนนี้ที่ได้จัดปาร์ตี้วันเกิดในสวนหลังบ้านของเขา เขาได้ชวนเพื่อนร่วมห้องจำนวน 30 คนมาร่วมงานวันเกิดครั้งนี้ด้วย แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ กลับมีเพื่อนที่โผล่มาแค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าหนูต้องเสียใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าลูกชายต้องเสียใจขนาดหนัก Susann แม่ของ Max จึงได้แชร์ประสบการณ์ที่เธอกับลูกชายต้องผิดหวังกับสถานีวิทยุท้องถิ่น โดยเธอบอกว่าพวกเด็กๆ ที่ Max ชวนมาไม่คิดที่จะตอบข้อความเชิญชวนของเขาเลย และการไปแชร์ประสบการณ์กับสถานีวิทยุครั้งนั้นถือว่าเป็นโชคดีของ Max และ Susann เมื่อ Brandi Coatsworth นักคอสเพลย์สาวที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม Houston Cosplay for Charity เข้าใจสถานการณ์และคิดว่าเธอน่าจะช่วยได้ Brandi จึงได้ทำการปรึกษากับเพื่อนๆ ร่วมกลุ่มคอสเพลย์และตัดสินใจที่จะเซอร์ไพรส์หนุ่มน้อย พวกเธอจึงได้ติดต่อกับ Susann เพื่อนัดการจัดปาร์ตี้วันเกิดครั้งที่สองในเดือนถัดมา …