Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
พนักงายขายกระเป๋าในฟิลิปปินส์ “เล่นใหญ่” สุดฮา ฉีกแข้งขา ชาวเน็ตพากันชื่นชอบ!!
ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร อาชีพไหนๆ หากคุณรักและสนุกกับงานที่คุณทำแล้วล่ะก็ รับรองว่ามันต้องไปได้ดีอย่างแน่นอน… ตัวอย่างของคนที่สนุกกับงานนั้นก็มีให้เห็นกันมากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงวันนี้ก็เช่นกัน พนักงานขายกระเป๋าเดินทางคนหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วเพียงเพราะวิธีการขายของของเขานั่นเอง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Brew Alcazar ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ขณะที่เขาเข้าไปซื้อกระเป๋าเดินทางที่ห้างสรรพสินค้า SM City Lipa ในจังหวัดบาตังกัส ประเทศฟิลิปปินส์ ภายในคลิป Brew ได้เจอกับบุคคลที่มีถูกขนานนามว่า “พนักงานขายที่เล่นใหญ่ที่สุด” ณ ห้างสรรพสินค้าดังกล่าว พนักงานชายคนนี้ก็ทำการแนะนำสินค้าและโฆษณาถึงเหตุผลที่ลูกค้าควรเลือกซื้อกระเป๋าใบนี้ “มันไม่ใช่แค่ราคาถูก แต่มันยังทนทาน แสนนานแม้จะหมดประกันไปแล้วก็ตาม” “ใบนี้ทำจากวัสดุคุณภาพเยี่ยม จะเห็นได้จากล้อของมัน ตัวนี้ทำได้ดีมาก ล้อใหญ่” ลีลาการพูดขายของน่ะไม่เท่าไหร่ สิ่งที่ทำให้ลูกค้าถึงกับตะลึงก็คือท่าทดสอบความแข็งแกร่งของกระเป๋านี่แหละ พูดๆ ไปมา ว่าแล้วพนักงานขายนายนี้ก็กระโดดฟาดกระเป๋าลงพื้นพร้อมฉีกขาแบบสวยๆ ผลปรากฏว่ากระเป๋าไม่มีแม้รอยขีดข่วน ไม่บุบสลาย มีเพียงสิ่งเดียวที่ลูกค้าและผู้ชมได้รับก็คือ ความอุทิศตนที่พนักงานขายรายนี้มีให้กับงานของเขา ดูเขาตั้งใจทำงานมากจริงๆ แถมสนุกสนานอีกด้วย ปัจจุบันคลิปวิดีโอนี้มียอดผู้เข้าชมไปแล้วกว่า 1.6 ล้านครั้ง แถมมียอดไลก์กว่า 12,000 ครั้งเลยทีเดียว…
-
แพ้อย่างสง่างาม… บรรยากาศกองเชียร์ ‘ซามูไรน้ำเงิน เลือดบูชิโด’ สะอาดทั้งใจและสถานที่!!
ผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 คู่ ญี่ปุ่น – เบลเยียม รอบ 16 ทีม ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นคู่ที่ดูลุ้นสนุกทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งผลก็ปรากฏออกมาเป็นเบลเยียมสามารถเอาชนะซามูไรน้ำเงินไปได้ด้วยสกอร์ 3 – 2 ประตู . ซึ่งหลังจากทีมชาติญี่ปุ่นพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติเบลเยียม กองเชียร์ซามูไรน้ำเงินที่ตามไปถึงติดขอบสนาม ต่างรู้สึกเสียใจและร้องไห้กับผลลัพธ์ที่ออกมา แต่กลับไม่มีอาการโกรธแสดงออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย . เมื่อสิ้นสุดเสียงนกหวีดจากกรรมการ อันเป็นการจบเกมโดยสมบูรณ์ นักเตะทีมชาติญี่ปุ่นซามูไรน้ำเงิน ต่างรวมตัวกันเดินไปยังขอบสนามทางด้านกองเชียร์เลือดบูชิโด เพื่อโค้งคำนับให้กับการติดตามสนับสนุนพวกเขาเป็นอย่างดีเสมอมา… Here’s Team #JPN staying on the field after that heartbreaking loss and paying tribute to their fans as their #WorldCup comes…
-
ทีมบาสปินอยจะไปมวยโลก หลังวางศอกทีมชาติออสซี่อย่างเดือด แถมแฟนๆ ร่วมแจม
ช่วงนี้สำหรับคอบาสเกตบอล คงตื่นเต้นกับการเซ็นผู้เล่นฟรีเอเจนต์ใน NBA ของแต่ละทีมไม่ว่าจะเป็นการที่ Paul George ต่อสัญญากับ Thunders, Lebron James ย้ายมาอยู่ Lakers หรือ DeMarcus Cousin เสริมแกร่งให้ Warriors แต่สำหรับวงการบาสนานาชาติในวันที่ 2 กรกฎาคม 2018 หรือเมื่อวานนี้ได้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่ระหว่างทีมชาติออสเตรเลียกับทีมชาติฟิลิปปินส์ที่แม้แต่กองเชียร์ฟิลิปปินส์ก็เข้าไปผสมมวยในครั้งนี้ด้วย จังหวะที่เกิดเหตุการณ์ตะลุมบอนกันครั้งนี้ โดยที่เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในการแข่งที่ออสเตรเลียเหมือนจะชนะใสๆ แต่ในช่วงนาทีที่ 4 ควอเตอร์ที่ 3 ขณะที่ออสเตรเลียขึ้นนำ 79 ต่อ 48 แต้ม Roger Pogoy ผู้เล่นตำแหน่งการ์ดของทางฟิลิปปินส์ก็ได้เข้าชาร์จพร้อมเหวี่ยงศอกใส่ Chris Goulding เหตุการณ์นั้นเหมือนเหตุการณ์จุดชนวนความวุ่นวาย Daniel Kickert ได้เข้ามาผลัก Pogoy ที่ทำเพื่อนร่วมทีมของเขา จากนั้นก็เกิดการกรูเข้าหากันทั้งผู้เล่นในสนามและผู้เล่นสำรอง เจ้าหน้าที่ในสนามรวมถึงแฟนๆ ของฟิลิปปินส์ด้วย Matt Russell ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายบาสเกตบอลมานานได้กล่าวว่า…
-
ญี่ปุ่นเผยเซตข้อคำถามที่ตัดสินแล้วว่า “ไม่เหมาะสม” ในการใช้ถามในการสัมภาษณ์งาน
ประเทศญี่ปุ่นนั้นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เข้มงวดในเรื่องของการทำงานอย่างมาก การทำงานนั้นจะต้องตรงเวลาและมีความรับผิดชอบสูง พนักงานจะต้องมีความสามารถในการทำงานที่หัวหน้าสั่ง ฉะนั้น การว่าจ้างพนักงานในบริษัทของประเทศญี่ปุ่นก็จะมุ่งเน้นไปที่ตัวผู้สมัครว่าสามารถเข้ากันกับวัฒนธรรมขององค์การได้หรือไม่ การสัมภาษณ์จึงเป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่งซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละอาชีพ แต่หลายครั้งการสัมภาษณ์ก็มีคำถามต่างๆ ที่อาจดูเป็นการคุกคามตัวผู้สมัครงานและอาจดูไม่เหมาะสม ล่าสุดกระทรวงแรงงานของจังหวัดคุมะโมโตะ ประเทศญี่ปุ่นได้เป็นกังวลถึงเรื่องนี้และขอให้แต่ละองค์การมีการสัมภาษณ์งานด้วยข้อคำถามที่เหมาะสม ทางกระทรวงแรงงานได้เผยข้อคำถามต่างๆ ที่มองว่า “ไม่เหมาะสม” ในการสัมภาษณ์หรือเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวกับงาน เช่น ครอบครัว สถานะทางบ้าน ภูมิลำเนา และปรัชญาทางการเมืองของผู้สมัคร เป็นต้น โดยตัวอย่างข้อคำถามที่ไม่เหมาะสมในการสัมภาษณ์งานมีดังนี้: -คุณเกิดที่ไหน? -พ่อแม่ของคุณทำงานประเภทไหน? -คุณเป็นลูกคนเดียวหรือไม่? -รถที่คุณขับเป็นรถประเภทใด? -คุณนับถือศาสนาพุทธหรือไม่? -พรรคการเมืองใดมีความคิดใกล้เคียงกับคุณมากที่สุด? -คุณต้องการแต่งงานในวันใดวันหนึ่งหรือไม่? -บุคคลในประวัติศาสตร์คนใดที่คุณชื่นชอบ? -คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับลัทธิมากซ์ -คุณเป็นสมาชิกกลุ่มหรือองค์กรใดอยู่หรือไม่? -หนังสือพิมพ์ของสำนักข่าวใดที่คุณอ่าน? คำถามเหล่านี้ บางข้อเป็นการถามถึงความเชื่อและค่านิยมทางศาสนาและการเมืองโดยตรง บางครั้งคำตอบของผู้สมัครอาจทำให้ผู้สมัครถูกตัดสิทธิ์ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีคำถามที่เกี่ยวกับรถที่ขับ และบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ชื่นชอบ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สามารถพูดคุยกันได้ในชีวิตประจำวัน หากคำถามเหล่านี้มีส่วนตัดสินการเข้ารับทำงาน จะสามารถแปลได้ว่าบริษัทดังกล่าวประเมินค่าของผู้สมัครที่สถานะทางสังคมและอุดมคติ ซึ่งไม่เกี่ยวกับฝีมือและความสามารถในการทำงานเลยแม้แต่น้อย การสัมภาษณ์งานนั้นสำคัญอย่างมากที่จะทำให้บริษัทได้รับคนที่มีความสามารถเข้าทำงานตามที่ต้องการ ฉะนั้น ควรมีผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบข้อคำถามในการสัมภาษณ์โดยเฉพาะ ที่มา: soranews24
-
ญี่ปุ่นนี่ญี่ปุ่นจริงจริ๊ง!! เปิดภาพห้องแต่งตัวทีมชาติญี่ปุ่นหลังแพ้เบลเยียม เอี่ยมเหมือนใหม่!!
ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านคมนาคม การขนส่งสาธารณะ ด้านเทคโนโลยี ด้านภาษาและวัฒนธรรมรวมถึงด้านการปลูกฝังความรู้และนิสัยให้แก่ประชากร ทำให้ประชากรของประเทศนี้มีคุณภาพสูงมากๆ อีกด้วย แม้แต่ในเทศกาลฟุตบอลครั้งใหญ่ที่ 4 ปีมีครั้ง อย่างฟุตบอลโลกก็ยังไม่เว้น กองเชียร์ญี่ปุ่นได้แสดงให้กองเชียร์ประเทศอื่นๆ เห็นถึงความมีระเบียบของพวกเขา โดยการพากันเก็บขยะที่อยู่บนสแตนด์เชียร์ออกไปทิ้งเป็นที่เป็นทาง ทำเอาประเทศอื่นพากันทำตามเป็นแถบๆ และก็ไม่ใช่เพียงแค่กองเชียร์เพียงเท่านั้นนะ เพราะนักเตะทีมชาติญี่ปุ่นก็โชว์ให้เห็นถึงความมีระเบียบสุดขั้วเหมือนกัน จะเป็นอย่างไรดูรูปด้านล่างเลยครับ วันที่ 3 กรกฎาคม 2018 Priscilla Janssens ผู้จัดการสื่อกีฬา topsportcommunity ได้ทวีตรูปภาพพร้อมข้อความว่า “นี่คือห้องแต่งตัวของนักเตะทีมชาติญี่ปุ่นหลังจากที่แพ้ให้แก่ทีมชาติเบลเยียมในนาทีที่ 94 พวกเขาทั้งขอบคุณแฟนๆ ที่สเตเดียม ทั้งทำความสะอาดม้านั่งข้างสนามและห้องแต่งตัวและยังให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ แม้กระทั่งทิ้งโน้ตที่เขียนข้อความว่าขอบคุณในภาษารัสเซียไว้ให้ด้วย ช่างเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ทุกๆ ทีมจริงๆ ฉันรู้สึกวิเศษจริงๆ ที่ได้ทำงานร่วมกับพวกเขา” หลังจากที่เธอได้อัปโหลดรูปภาพดังกล่าวลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวปุ๊บ รูปดังกล่าวก็ถูกส่งต่อกันและกลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็วกว่า ด้วยจำนวนรีทวีต 45,000 ครั้งและไลค์อีก 80,000 ครั้ง รวมถึงมีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมกันใหญ่ “ช่างเป็นเหล่าคนที่น่าเคารพที่สุดในโลกนี้เลย เคยไปที่นั่นหลายครั้งและเคยไปเที่ยวทั่วโลกมาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว เราควรเรียนรู้จากพวกเขาให้มาก” Most respectful…
-
ชาวโคลอมเบียโร่ขอโทษ หลังคลิปแฟนบอลชาติตัวเอง หลอกแฟนบอลญี่ปุ่นพูด ‘เป็นคุณตัว’
คงจะเคยเห็นมุกตลกขบขันที่ให้ชาวต่างชาติลองพูดคำเป็นภาษาตัวเอง อย่างเช่นคำว่า ‘สวัสดี’ ให้พูดว่า ‘บิดาท่านสิ้น’ อะไรประมาณนี้ ซึ่งถ้ามองผิวเผินอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่ก็ไม่ควรมองข้าม… เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อมุมมองของคนในชาติภาครวมได้ เพราะการไปหลอกให้พวกเขาพูดแบบนั้นอาจจะเป็นการดูแคลนสติปัญญา ทำให้พวกเขาดูโง่ในสายตาคนชาติอื่น ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 คู่ระหว่างญี่ปุ่นเจอกับโคลอมเบีย (วันอังคารที่ 19 มิถุนายน 2018) และญี่ปุ่นสามารถเอาชนะไปได้ 2-1 ประตู หลังจากจบเกมการแข่งขันนอกสนาม Mordovia Arena แฟนบอลชาวโคลอมเบีย Guillermo Morales วัย 40 ปี ได้อัดคลิปวิดีโอหลอกสาวแฟนบอลชาวญี่ปุ่น 2 คนให้พูดวลีภาษาสเปนตามเขา… คลิปวิดีโอต้นเหตุ โดยที่สาวคนแรก ผู้ไม่พูดและไม่เข้าใจภาษาสเปนได้พูดวลีตามเขาว่า ‘Yo soy perra’ แปลได้คร่าวว่า ‘ฉันเป็นหญิงขายบริการ’ โดยที่ไม่มีการอธิบายความหมายใดๆ เพิ่มเติม พร้อมกับให้พูดวลี ‘Mas puta’ อันมีความหมายไปในทางทิศเดียวกัน อีกคลิปหนึ่ง ชายคนเดียวกันไปหลอกแฟนบอลญี่ปุ่นผู้ชายอีกสองราย ให้พูดคำว่า ‘Yo…
-
Syed Saddiq รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนฯ ที่อายุน้อยที่สุดแห่งมาเลเซีย
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2018 ที่ประเทศมาเลเซีย ได้มีประกาศแต่งตั้งนาย Syed Saddiq ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬา โดยที่เขากลายเป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์มาเลเซีย นาย Syed Saddiq อายุ 25 ปี หัวหน้าพรรคยุคชนพรรคสหประชาชนมาเลย์ (Parti Pribumi Bersatu Malaysia) ผู้ที่เสนอตัวเข้าสมัครการเลือกตั้งของประเทศมาเลเซีย เป็นตัวแทนแห่งคนรุ่นใหม่ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวหน้า นาย Syed Saddiq หล่อออออ ประวัติคร่าวๆ ของนาย Syed สำเร็จการศึกษาทางด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยอิสลามแห่งชาติมาเลเซีย ได้รับรางวัลมากมายโดยเฉพาะรางวัลชนะเลิศด้านการโต้วาทีระดับเอเชียถึง 3 สมัย เขาเป็นหนุ่มธรรมดาที่ทางบ้านไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร แต่ด้วยความเก่งของเขาทำให้มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเสนอทุนให้เขาเรียนในระดับปริญญาโทมูลค่ากว่า 3.23 ล้านบาท แต่เขาก็ได้ปฏิเสธทุนดังกล่าวนี้ไปเพื่อเดินหน้าเข้าสู่วงการการเมืองที่เขาตั้งใจเอาไว้ นโยบายที่นาย Syed ใช้มาเป็นนโยบายในการหาเสียงคือ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา ซึ่งนโยบายนี้โดนใจคนรุ่นใหม่ไปเต็มๆ นาย Syed จะทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและการกีฬาแห่งประเทศมาเลเซีย…
-
สาวมีถุงรังไข่ใหญ่ หนัก 22 กิโลฯ เจ็บท้องไปหาหมอ แต่ถูกบอกว่าอ้วนเฉยๆ ไปลดน้ำหนักซะ
จะเกิดอะไรขึ้นหากวันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกเจ็บท้องมากๆ ทำอะไรแป๊บๆ ก็เหนื่อย แถมยังน้ำหนักขึ้นทั้งๆ ที่พยายามควบคุมน้ำหนักอยู่เสมอ นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับ Kayla Rahn หญิงสาววัย 30 ปีจาก เมืองมอนต์กอเมอรี รัฐแอละแบมา สหรัฐอเมริกา โดยอาการปวดท้องของเธอเริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายน 2018 ก่อนที่น้ำหนักและขนาดหน้าท้องของเธอจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คนแปลกหน้าถามว่าเธอท้องรึเปล่า? “แค่เดินไปที่รถฉันก็หอบแล้ว” Rahn เล่ากับผู้สื่อข่าว Rahn นั้นเคยตัดสินใจไปพบกับหมอมาเกี่ยวกับอาการของเธอมาก่อน แต่หมอคนดังกล่าวกลับตัดสินว่าเธอนั้นเพียงแค่อ้วนเท่านั้น ก่อนจะบอกให้เธอออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะออกกำลังและคุมน้ำหนักแค่ไหนอาการของ Rahn ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย จนในที่สุดแม่ของเธอก็ตัดสินใจพาเธอไปยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล Jackson ที่นั่นเองที่ทีมแพทย์พบว่าต้นเหตุของอาการทั้งหมดที่เธอเป็นนั้น เกิดจากการที่ถุงรังไข่ของเธอนั้น ขยายตัวขึ้นอย่างผิดปกติ มันเป็นอาการเนื้องอกในถุงรังไข่ชนิดหนึ่งที่มีชื่อทางการแพทย์ว่า Mucinous Cystadenoma ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่โรคที่หายากนัก แต่ตามปกติแล้วขนาดของเนื้องอกจะไม่ใหญ่โตขนาดนี้ ด้วยขนาดของถุงรังไข่ที่ใหญ่ขนาดนี้ ไม่แปลกเลยที่ระบบไหลเวียนโลหิตของเธอจะถูกกดทับ ซึ่งหากปล่อยไว้อาจนำไปสู่อาการไตล้มเหลวได้เลย Rahn ถูกนำเข้าห้องผ่าตัดไม่นานหลังจากนั้น และเมื่อการรักษาเสร็จสิ้น ทางทีมแพทย์ก็พบว่าถุงรังไข่ของเธอนั้น มีน้ำหนักมากถึง 50 ปอนด์ (22.68 กิโลกรัม) Dr. Gregory Jones หนึ่งในทีมแพทย์ผู้ทำการรักษากล่าวว่า…
-
ชายหนุ่มพยายามฆ่าคนอื่น ด้วยการขี่ “เจ็ตสกี” อ้าง ไม่ผิดเพราะ “กระโดด” ก่อนชน
ฆาตกรส่วนใหญ่มักใช้อาวุธเช่นพวกมีด ปืน เชือก ค้อน หรือยาพิษ ในการทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่กับชายคนนี้เลือกใช้ “เจ็ตสกี” เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้นำเสนอเรื่องราวของนาย Joseph B. Ireland วัย 28 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ด้วยการขับเจ็ตสกีพุ่งชน ตามรายงานบอกว่านาย Joseph ได้ออกไปเล่นน้ำกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งในแม่น้ำ Magothy ในรัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่เกิดการถกเถียงและทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ชายหนุ่มอ้างว่าเขาถูกต่อยเข้าที่ใบหน้า จึงเกิดอาการโกรธแค้นเลยควบเจ็ตสกีขี่ออกไปในแม่น้ำแล้วยูเทิร์นกลับมาที่กลุ่มชายหนุ่มที่เขาเพิ่งจะทะเลาะด้วย จากนั้นจึงเร่งความเร็วแล้วกระโดดลง เพื่อให้เจ็ตสกีพุ่งเข้าใส่กลุ่มคนดังกล่าว หลังจากนั้นก็มีชาย 2 คนจากกลุ่มนั้นถูกกระแทกและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ต่อมานาย Joseph ก็ได้หนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของพ่อแม่ตัวเอง แต่เนื่องจากกลุ่มคนที่เขาไปมีเรื่องด้วยสามารถตรวจสอบเจ็ตสกีลำดังกล่าว และในที่สุดก็รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เมื่อตอนที่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว นาย Joseph ตำรวจรายงานว่าดวงตาของเขามีรอยแดงก่ำ มีกลิ่นสุรา และได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าเล็กน้อย เขาอ้างว่าการกระทำของเขาไม่มีอะไรผิด เพราะเขา “กระโดด” ออกจากเจ็ตสกีก่อนที่มันจะชนคนอื่นแล้ว เขายอมรับว่าในตอนเกิดเหตุ…
-
จีนผลิตต้นแบบ ‘ปืนเลเซอร์’ ไม่เน้นสังหาร แต่เจ็บเจียนตาย ระยะหวังผลเกือบ 1 กิโลเมตร!!
ประเทศมหาอำนาจในทวีปเอเชียอย่างจีน กำลังซุ่มพัฒนาต้นแบบอาวุธชนิดลำแสงที่มีพลังทำลายล้างในระดับหนึ่ง ที่สามารถยิงลำแสงให้ติดไฟใส่เป้าหมายในระยะไกลถึง 1 กิโลเมตรได้ รายงานดังกล่าวนั้น ถูกเปิดเผยมาจากทีมนักวิจัยอาวุธในโปรเจกต์ ‘ปืนไรเฟิลเลเซอร์’ รุ่น ZKZM-500 ถูกจัดให้เป็นอาวุธที่ไม่ทำอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ไม่ควรมองอนุภาคลำแสงด้วยตาเปล่า สามารถจุดประกายไฟบนเสื้อผ้าได้ภายในเวลาเสี้ยววินาที ภาพต้นแบบของ ZKZM-500 “ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นเกินกว่าจะทนไหว” หนึ่งในนักวิจัยที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาและทดสอบอาวุธต้นแบบจากสถาบัน Xian Institute of Optics และ Chinese Academy of Sciences กล่าวถึงพลังทำลายล้างของมัน ปืนไรเฟิลเลเซอร์ดังกล่าว มีขนาดลำกล้อง 15 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม (เท่ากับปืนไรเฟิล AK-47) และมีระยะหวังผล 800 เมตร สามารถติดตั้งบนรถยนต์ เรือ และเครื่องบินได้ ทั้งนี้แหล่งข่าวอ้างว่า อาวุธชิ้นนี้พร้อมสำหรับการผลิตเพื่อใช้งานแล้ว และหน่วยแรกที่จะได้รับไปประจำการคือ กองกำลังตำรวจแห่งประชาชนจีน เพื่อใช้งานทางด้านปราบปรามก่อการร้าย โดยยกตัวอย่างจากกรณี สถานการณ์ช่วยตัวประกัน ยิงลำแสงผ่านกระจกโดยที่ผู้ร้ายไม่รู้ตัว ก่อให้เกิดประกายไฟต่อผู้ร้ายใช้เป็นช่วงจังหวะในการจู่โจม…
-
ชาวต่างชาติพากันส่งกำลังใจ หลังทราบข่าวทีมกู้ภัยเจอตัวเด็กๆ และโค้ชทั้ง 13 คน
ถือเป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับเช้านี้ด้วยจริงๆ ที่เหล่าทีมกู้ภัยสามารถหาตัวเด็กๆ และโค้ชทีมหมูป่าทั้ง 13 คนจนเจอ และช่วยพาทุกๆ คนออกมาอย่างปลอดภัย และเพราะว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือจากคนในหลายๆ ประเทศ จึงทำให้เกิดความสนใจไปทั่วโลกเลยทีเดียว เราเลยอยากนำความคิดเห็นบางส่วนจากชาวต่างชาติ หลังจากที่ได้รู้ข่าวคราวการช่วยเหลือได้สำเร็จ มาให้ทุกๆ คนได้อ่านกัน ดูซิว่าพวกเขายินดีหรือรู้สึกยังไงบ้างที่ได้รู้ว่าเด็กๆ ปลอดภัย? David Dinard “ฉันชอบเวลาที่หลายๆ ประเทศมารวมตัวกันเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ!” Krystie Fenton Gross “มีส่วนช่วยกันทั้งหมู่บ้าน ไม่ได้แค่เฉพาะกลุ่มเดียว หรือคนเดียว มันต้องใช้ความพยายามจากหลายๆ ฝ่ายมาก และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ร่วมมือกันทำเรื่องดีๆ” Stacye Lyles Earnhardt “ใช่เลย คนเรายังสามารถร่วมกันทำสิ่งดีๆ แล้วสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นได้” Doll Goodman “ขอบคุณทีมกู้ภัยทุกๆ คนเลย” Gav Dunne “รอจนกว่าพวกเขาจะรู้ว่าสเปน โปรตุเกส และเยอรมันตกรอบบอลโลกไปหมดแล้ว” Oli Ahmed “ใครก็ได้ช่วยบอก FIFA…
-
รัฐบาลอังกฤษสั่งแบน “ปราสาทลม” หลังเกิดระเบิด คร่าชีวิตเด็กหญิงวัย 4 ขวบ
เกิดเหตุสะเทือนขวัญที่ชายหาด Gorleston ประเทศอังกฤษ หลังจากสาวน้อยรายหนึ่ง เสียชีวิตจากการระเบิดของปราสาทลมของเล่น เป็นเหตุให้ทางการต้องสั่งห้ามเครื่องเล่นชนิดนี้ จากรายงานเผยว่า เธอถูกแรงระเบิดของปราสาทเป่าลม ส่งร่างของเธอลอยขึ้นไปบนฟ้าและตกลงมาได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา เหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นระหว่างที่เธอกำลังเล่นแทรมโพลีน พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เขาได้ยินเสียงระเบิดที่รุนแรงก่อนที่จะเห็นเด็กหญิงลอยขึ้นไปในอากาศ Kayla-Ann Weaver หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก และเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย “ตอนที่เกิดระเบิดนั้น ผมยืนอยู่ด้านหลังที่กัน ผมได้ยินเสียงระเบิดที่ดังมาก และเมื่อหันไปมองก็เห็นเด็กผู้หญิงชุดสีชมพูกำลังลอยขึ้นฟ้าและหล่นลงมา มันเป็นภาพที่น่ากลัวมาก” Weaver ให้สัมภาษณ์ นอกจากนี้ยังมีผู้เห็นเหตุการณ์รายอื่นๆ ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่ออีกว่า สาวน้อยรายดังกล่าว น่าจะลอยขึ้นไปสูงกว่า 6 เมตร ก่อนที่จะมีพลเมืองดีเข้าช่วยทำ CPR ให้กับเธอ มีการตั้งข้อสังเกตว่า อากาศที่ร้อนอาจเป็นสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่อุบัติเหตุครั้งแรกจากปราสาทเป่าลมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้ในปี 2016 เด็กหญิงวัย 7 ขวบก็เสียชีวิตในลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน ทางด้านนาย Robert Halfon สมาชิกจากพรรคอนุรักษนิยม ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการสั่งห้ามเครื่องเล่นชนิดนี้ พร้อมกับเพิ่มการตรวจสอบด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น “เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางรัฐบาลจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงกฎระเบียบ พร้อมสั่งห้ามการให้บริการปราสาทเป่าลมในพื้นที่สาธารณะชั่วคราว จนกว่าเราจะสามารถมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้” นาย…
-
เปิดประตูมิติ~ นักข่าวสาวจากไต้หวัน ที่ได้ชื่อว่า “ซ่อนรูป” จนชายหนุ่มหัวใจแทบวาย!!
ผู้ประกาศข่าว เป็นอาชีพที่ใช่ว่าใครก็ทำได้ แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่เก่งและมีความสามารถในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะภาษาและการสื่อสาร หลายคนโดยเฉพาะหนุ่มๆ จึงติดภาพผู้ประกาศข่าวสาวๆ ว่าต้องเป็นคนที่เก่ง ฉลาด เนี๊ยบ และเรียบร้อย แน่นอนว่าไม่เป็นที่น่าสนใจในหมู่ชายฉกรรจ์เท่าใดนัก… แต่บอกเลยว่าวันนี้ หนุ่มๆ ต้องหันมาสนใจอย่างแน่นอน เพราะผู้ประกาศข่าวสาวคนนี้ มีดีมากกว่าความสามารถแน่นอน เธอมีชื่อว่า 涂恩晨 หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ Stella Tu เป็นผู้ประกาศข่าวชาวไต้หวัน ในจอโทรทัศน์เธอไม่ได้โดดเด่นไปกว่านักข่าวคนอื่นๆ ดูเผินๆ แบบนี้ไม่มีใครรู้แน่นอน ว่าเธอซ่อนอาวุธลับอะไรเอาไว้ฆ่าชายหนุ่ม… เพื่อนๆ คงเห็นแล้วว่า ในบทบาทผู้ประกาศข่าวเธอไม่แตกต่างจากคนอื่นๆ เลย หลายคนอาจมองผ่านไปเฉยๆ แต่หากเธอถอดคราบนักข่าวออกเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ รับรองเลยว่าไม่มีหนุ่มคนไหนกล้ามองผ่านอย่างแน่นอน!!! ต่อไปนี้เราจะพาทุกท่านไปส่องชีวิตนอกการทำงานเป็นนักข่าวของสาว Stella Tu ไปดูกันว่า ผู้ประกาศข่าวสาวคนนี้ซุกซ่อนอะไรเอาไว้ใต้ชุดทำงานแสนสุภาพนั้นกันแน่ 3…2…1…ลุย!!! บึ้ม! การแต่งกายของเธอดูเรียบง่ายแต่ก็ไม่สามารถปกปิดอาวุธลับของเธอได้เลย เธอออกกำลังกายเป็นประจำ จึงไม่แปลกใจที่รูปร่างของเธอ แน่น! กระชับ! แน่นกระชับไปหมด! ตอนนี้หนุ่มๆ คงเริ่มสนใจนักข่าวคนนี้แล้วล่ะสิ…
-
สุดภูมิใจ… ครอบครัวแฝด 5 เลี้ยงลูกให้ได้ดีทุกคน ส่งเรียนที่เดียวกัน และจบพร้อมกัน!!
ความสำเร็จสูงสุดของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ก็คงจะไม่พ้นในวันที่สามารถส่งลูกเรียนจนรอดฝั่ง สำเร็จการศึกษาในระดับสูง มีความรู้และวิชาชีพติดตัวเพื่อเลี้ยงดูตัวเองได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว มีลูกคนเดียวส่งเรียนจนจบก็ชื่นใจ มากที่สุดอาจจะเป็นแฝด 2 หรือ 3 แต่สำหรับคุณพ่อเซลล์แมน Jorge ผู้มีพื้นเพมาจากประเทศเม็กซิโก… และคุณแม่ Enna Diaz ดีใจหนักยิ่งกว่าใคร เพราะได้เห็นและรับรู้ว่าลูกแฝดทั้ง 5 คน เรียนจบพร้อมกันในมหาวิทยาลัยเดียวกันทั้ง 5 สาขา!! Enna, Maria, Emilio, George และ John Diaz ร่วมชักภาพสวมชุดครุยและหมวก พร้อมกับใบปริญญาหลังจากที่ร่ำเรียนภายในมหาวิทยาลัย University of North Texas ร่วมกับแฝดทั้ง 5 ในระยะเวลา 4 ปี โดยที่ผ่านมาแฝด 5 อายุ 21 ปีเท่ากันทุกคน ต่างเคยผ่านประสบการณ์ร่วมกันมาโดยตลอด ทั้งเข้าเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาในสถาบันเดียวกัน รวมไปถึงการเข้าร่วมงานพรอมพร้อมกันทั้ง 5 คนด้วย!!…
-
ความคิดดีหรือไม่? โรงเรียนอังกฤษเริ่มแบนการใส่กระโปรง หวังสร้างความเท่าเทียมชายหญิง
กระแสความเท่าเทียมในประเทศอังกฤษนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่แพร่หลายไปแม้แต่ในรั้วโรงเรียน ไม่ว่าจะในรูปแบบของการยอมรับเพศที่สาม หรือการอนุญาตให้เด็กผู้ชายแต่งกายด้วยชุดนักเรียนหญิงได้ในบางโรงเรียน แต่ในเวลานี้ โรงเรียนจำนวนมากในอังกฤษก็กำลังจะก้าวไปสู่อีกขั้นของความเท่าเทียม ด้วยการยกเลิกการใส่กระโปรง และให้นักเรียนทุกคนใส่กางเกงมาเรียนเท่านั้น แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อาจจะดูเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากเกินไปในสายตาของหลายๆ คน แต่ก็มีโรงเรียนกว่า 40 แห่งที่ได้เริ่มใช้มาตรการที่ว่านี้แล้ว บวกกับโรงเรียนอีกเป็นจำนวนมาก ที่เริ่มปรึกษากับผู้ปกครองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โรงเรียนในเมือง Lewes เป็นตัวอย่างที่ดีของการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ โดยพวกเขาได้เริ่มยกเลิกการใส่กระโปรงไปในปี 2017 เนื่องจากมีนักเรียนถามว่าทำไมเครื่องแบบของเด็กผู้ชาย และเด็กผู้หญิงถึงต่างกัน บวกกับการเปิดใจรับเด็กข้ามเพศที่มากขึ้น เช่นเดียวกับโรงเรียนมัธยม Woodhey ใน Greater Manchester ที่ยกเลิกการใส่กระโปรงด้วยเหตุผลว่ากระโปรงนั้นเป็นสัญลักษณ์ของ “ความไม่สมเกียรติและน่าอาย” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเด็กผู้หญิงนั่งบนพื้น ส่วนเหตุผลที่โรงเรียนจำนวนมากมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ทางสื่อต่างประเทศเชื่อว่าอาจจะมาจากการที่ทางรัฐบาลยอมสนับสนุนกลุ่มคนข้ามเพศมากขึ้น อย่างไรก็ตามความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็ไม่ได้มีแต่คนที่เห็นด้วย เพราะแม้แต่ภายในโรงเรียนที่มีการออกมาตรการยกเลิกการใส่กระโปรงเอง ก็มีเด็กผู้หญิงออกมาบอกว่าการกระทำนี้ถือเป็นการลิดรอนสิทธิ์ในการแต่งตัวของนักเรียน อีกทั้งยังมีนักเรียนจำนวนมากที่รู้สึกมั่นใจในการใส่กระโปรงมากกว่าการใส่กางเกงด้วย เช่นเดียวกับ Naomi Wolf นักสตรีนิยมมีชื่อที่ออกมากล่าวว่า “ฉันคิดว่าการบังคับให้ทุกคนใส่กางเกงมันเป็นเรื่องที่งี่เง่ามาก และจะสามารถยอมรับได้ต่อเมื่อคุณมีตัวเลือกให้ทุกๆ คนใส่กระโปรงได้ด้วยเท่านั้น” แม้ว่าความเท่าเทียมอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ตาม แต่หากความเท่าเทียมนั้นเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของหลายๆ คนแล้วล่ะก็ เราอาจจะต้องมาทบทวนสิ่งที่เราทำลงไปอีกครั้งแทนกัน ว่าแต่เพื่อนๆ คิดอย่างไรกับเรื่องนี้กันบ้าง ถ้าโรงเรียนในไทยให้นักเรียนทุกคนใส่กางเกงมาเรียนจะดีหรือไม่…
-
“ถูกแทงในลอนดอน” คดีนองเลือดแห่งอังกฤษจนเสียชีวิต รวมกว่า 70 คดีตั้งแต่ต้นปี
เดิมทีแล้ว คดีแทงกันบนท้องถนนมักจะไม่ใช่ข่าวที่คนจะให้ความสนใจกันมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากการแทงกันที่ว่า มันเกิดขึ้นแทบจะทุกอาทิตย์ แถมยังเป็นในเมืองเดียวกันเสมอล่ะ? นี่เป็นเหตุการณ์ที่ทางตำรวจของลอนดอนต้องพบตั้งแต่ต้นปี 2018 มานี้ แถมยังมากมายมากถึง 70 คดีอีกต่างหาก ภาพจากหนึ่งในสถานที่เกิดเหตุทางตอนเหนือของลอนดอน ถึงแม้ว่าคดีที่เกิดขึ้นในแต่ละคดีนั้นมีรูปแบบของเหยื่อที่หลากหลาย แถมยังมีฆาตกรหลายคนที่โดนจับ และฆาตกรที่ว่านั้นก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลยด้วย เพียงแต่คดีที่เกิดขึ้นนั้นจะเกิดขึ้นในลอนดอนเสมอ และอาวุธที่ใช้ก็มักจะเป็นมีดเสียด้วย ซึ่งต่อให้นับเพียงแค่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ ก็มีคดีในรูปแบบที่ว่านี้เกิดขึ้นมาแล้วถึง 6 ครั้ง ประกอบด้วย วันที่ 1 มิถุนายน Andra Hilitanu วัย 28 ปีถูกแทงเสียชีวิตโดยชายวัย 43 ปี วันที่ 9 มิถุนายน Edmond Jonuzi วัย 35 ปี ถูกแทงเสียชีวิตที่ Turnpike Lane โดยในขณะนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้ วันที่ 13 มิถุนายน Gitana Matukeviciene วัย 50 ปีถูกพบเป็นศพอยู่ที่ Dagenham ในสภาพถูกแทงหลายแผล ในขณะนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้ สถานที่เกิดเหตุของ Gitana Matukeviciene วันที่ 18 มิถุนายน ชายไม่ทราบชื่อวัย 23 ปี เสียชีวิตในโรงพยาบาลหลังจากถูกแทงด้วยมีดใน Bermonsey…
-
ชายวัย 30 ถูกจับหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย ในคดีทำร้ายร่างกายเด็ก 6 คน ในวันเกิดเด็ก 3 ขวบ
ในคืนวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2018 ได้เกิดเหตุคนร้ายถือมีดบุกเข้าทำร้ายร่างกายผู้เคราะห์ร้าย 9 คนในอะพาร์ตเมนต์ ที่รัฐไอดาโฮ สหรัฐอเมริกา ระหว่างที่มีการจัดงานวันเกิดให้แก่เด็กวัย 3 ขวบหนึ่งคน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ William Bones ในจำนวนผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมดนั้น มีเด็กที่อายุระหว่าง 3-12 ปีอยู่เป็นจำนวน 6 คน และมีผู้ใหญ่อีก 3 คน โดยมีเหยื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย อะพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นทางตำรวจเชื่อว่าคนร้ายในคดีนี้คือนาย Timmy Kinner วัย 30 ปี จาก ลอสแอนเจลิส โดยมีเหตุจูงใจจากการที่เขาถูกไล่ออกจากอะพาร์ตเมนต์ เจ้าหน้าที่ Bones กล่าวว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาก็พบกับนาย Kinner อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ แม้ว่าจะถูกไล่ออกไปก่อนหน้านี้ก็ตาม ทางตำรวจจึงได้ทำการเข้าจับกุมตัวนาย Kinner เอาไว้ Timmy Kinner วัย 30 ปี ผู้ต้องสงสัยของคดี อะพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุนั้น…
-
หญิงสาวได้รับรูป “กระปู๋” มาจากชายหนุ่ม เธอจึงส่งมันให้ “แม่” ของหนุ่มคนนั้นเสียเลย…
โลกอินเทอร์เน็ตปัจจุบัน การหาคู่ผ่านแอปพลิเคชันนั้นเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว แต่ก็ยังคงมีหลายคนที่ใช้วิธีแปลกๆ ในการดึงดูดเพศตรงข้าม ยกตัวอย่างเช่น การส่ง รูปอวัยวะเพศ ที่ไม่พึงประสงค์ไปให้ เป็นต้น วันนี้สาวน้อยคนหนึ่งกลายเป็นคนดังทั่วอินเทอร์เน็ตเพราะเธอมีวิธีรับมือกับปรากฏการณ์นี้อย่างดุดันและเด็ดเดี่ยว นั่นก็คือการ ส่งรูป “กระปู๋” ที่ชายหนุ่มส่งให้เธอดู กลับไปให้แม่ของพวกหนุ่มๆ ได้ดูเสียเอง ชื่อของเธอก็คือ Madi Kohn เธอได้เขียนอธิบายไว้บนโปรไฟล์ของแอปฯ Tinder ว่า “หากคุณส่งรูปกระปู๋มาให้ฉัน ฉันจะส่งมันต่อให้แม่ของพวกคุณดู” ถึงแม้จะเป็นคำขู่ที่น่ากลัว แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีชายหนุ่มคนหนึ่งส่งรูปกระปู๋มาให้เธออยู่ดี Madi จึงต้องทำการส่งภาพๆ นั้นไปให้แม่ของชายหนุ่มดูเสียเลย Madi บอกกับ ABC 15 ว่า “มันบ้ามากที่ผู้คนคิดว่าส่งรูปพวกนี้มาให้คนอื่นดูได้โดยที่ตัวเองจะไม่ได้รับการตอบโต้เอาคืน โดยเฉพาะกับคนที่คุณไม่เคยรู้จักมักจี่หรือแม้แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงเลยสักครั้ง ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าคนพวกนี้หวังได้รับอะไรกลับคืนจากภาพที่ส่งมา” สิ่งที่ Madi ทำหลังจากได้รับภาพกระปู๋มาจากชายหนุ่มก็คือการไม่พูดพร่ำทำเพลง จัดการส่งภาพนั้นไปให้แม่ของชายหนุ่มดู ด้วยวิธีการสืบตัวตนของชายหนุ่มมาจากเฟซบุ๊กนั่นเอง เธอบอกกับแม่ของหนุ่มว่า “ฉันไม่เคยรู้จักไม่เคยคุยกับลูกชายคุณเลย แต่เขากลับส่งรูปน่าเกลียดนี้มาให้ฉันทางอินสตาแกรม คุณช่วยสอนอย่าให้เขาส่งรูปไม่พึงประสงค์นี้ไปให้ผู้หญิงทีได้ไหมคะ? เพราะฉันไม่ได้ต้องการมัน” และฝ่ายแม่ก็ตอบกลับในวันถัดมา เธอบอกว่าลูกชายของเธอเป็นคนดีมาเสมอ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ขอโทษพร้อมบอกว่าจะนำเรื่องนี้ไปคุยกับเขาอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน…
-
ครอบครัวดีใจ หลังเห็นลูกสาวคนเล็กที่ไม่พูดมากว่า 13 ปี ร้องเพลงเป็นครั้งแรก!!
บางครั้งโชคชะตา ก็อาจจะเล่นตลกกับพวกเราได้ และในบางทีพวกเขาก็อาจจะขโมยบางอย่างไปจากพวกเราด้วยเช่นกัน เหมือนกับสาวน้อยรายนี้ ที่ไม่สามารถพูดได้นานถึง 13 ปี!! Bessie สาวน้อยวัย 13 ปีที่เกิดมาพร้อมกับอาการผิดปรกติ เมื่อเธอไม่สามารถพูดได้ตั้งแต่เกิด ในตอนเด็กๆ ครอบครัวของเธอคิดว่า สาวน้อยคงจะมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน แต่พวกเขาก็ต้องหมดหวังเมื่อนักประสาทวิทยาได้บอกข่าวร้ายที่พวกเขายากจะรับได้ Bessie ป่วยด้วยโรค Landau Kleffner syndrome ที่ทำให้การทำงานของคลื่นสมองผิดปรกติ และไม่สามารถพูดได้เหมือนกับคนอื่นๆ แถมยังมีอาการชักร่วมด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะเกิดมาพร้อมกับอาการป่วย แต่เธอก็ยังคงเป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว Ernestine พี่สาวของเธอบอกว่า ตัวเธอเองจะคอยดูแลน้องสาวไว้ไม่ให้ห่างกาย “ถ้าหากว่าคุณเห็นฉัน คุณจะต้องเห็น Bessie ด้วย ฉันไม่สามารถทิ้งเธอได้” Ernestine พี่สาวของ Bessie ให้สัมภาษณ์ แม้ว่าทั้งคู่จะไม่สามารถสื่อสารกันด้วยคำพูดได้ แต่พวกเขาก็เป็นพี่น้องที่รักใคร่กันมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง ฝ่าน้องสาว ก็ได้ทำให้พี่สาวของเธอต้องประหลาดใจอย่างมาก เมื่อเธอร้องเพลงเป็นครั้งแรก หลังจากที่ไม่สามารถพูดได้มานานถึง 13 ปี เสียงของเธอทำให้ครอบครัวตื่นเต้นมาก Bessie ร้องเพลงที่พี่สาวของเธอแต่ง ก่อนที่คลิปวิดีโอของเธอจะถูกอัปลงบนโลกออนไลน์ และทำเอาหลายๆ คนประทับใจอย่างมาก ทุกวันนี้ Bessie พยายามฝึกพูด…
-
กราฟิกภาพสต๊อกผสม ความธรรมดาของสองภาพถ่าย สู่จินตนาการเหนือจริงอีกภพ…
ภาพถ่ายทั่วไปที่นำไปใช้ประกอบบทความต่างๆ อาจจะไม่ค่อยมีความดึงดูดมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเป็นภาพถ่ายที่พอจะทำให้มองเห็นภาพนั้นๆ ประกอบการอ่านตัวหนังสือในแต่ละเนื้อหา ทว่าการเพิ่มพูนจินตนาการนั้นสามารถทำได้ เมื่อนำความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบมาใส่ลงไป ส่วนผสมของภาพสต๊อกเหล่านี้ ก็กลายออกมาเป็นภาพใหม่ๆ ที่ช่วยเปิดโลกให้กับเราได้มากยิ่งขึ้น ผลงานการตัดต่อของกราฟิกดีไซเนอร์ชาวเยอรมัน Justin Peters วัย 22 ปี ได้ใช้ทักษะทางด้านการตัดต่อ รวมทั้งมุมมองการออกแบบต่อภูมิทัศน์และสิ่งมีชีวิต นำมาผสมผสานเข้าด้วยกัน ด้วยคำพูดของปีกัสโซที่ว่า “ทุกสิ่งที่คุณจินตนาการสามารถกลายเป็นจริงได้” เขาจึงเลือกที่จะนำภาพถ่ายสต๊อกที่มี นำมาเป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างงานศิลปะดิจิทัลอันน่าประทับใจเหล่านี้ . . . . เปรียบเปรยได้เหมือนดั่งโลกคู่ขนานในเวลาเดียวกัน . . ยังมีผลงานอื่นๆ ที่น่าสนใจของเขาอีกมากมาย คุณสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ใน @jstnptrs ที่มา: @jstnptrs, thisiscolossal
-
เท้าละลาย!! สาวได้รับแผลเหวอะ จากการเดินเหยียบทรายร้อนหลังจัดปาร์ตี้ BBQ บนหาด
*ในข่าวนี้มีภาพชวนสะอิดสะเอียน โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม* ทะเลเป็นที่ที่หลายคนชอบไปพักผ่อนหย่อนใจกัน เพราะเป็นสถานที่มีทั้งสายลม แสงแดด คลื่นสวย และหาดทราย ทุกช่วงเวลาที่อยู่ริมทะเลจึงเหมือนกับการได้ผ่อนคลายความเครียดจากปัญหาต่างๆ รวมถึงการได้ก้าวเท้าเหยียบไปบนพื้นที่เต็มไปด้วยทรายอุ่นๆ มันช่างทำให้รู้สึกดีซะเหลือเกิน แต่เหตุการณ์ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันในวันนี้อาจทำให้ต้องระวังเจ้าทรายอุ่นๆ นี้ขึ้นเสียบ้าง เพราะว่าในเรื่องที่เราเอามานี้มันไม่อุ่นอีกต่อไป เพราะมันร้อนจนสามารถละลายผิวหนังของเท้าเราได้เลยล่ะ ผู้เคราะห์ร้ายในเรื่องนี้ก็คือ Jessica Scott สาวสวยนักกีฬาวัย 17 ปี เหตุการณ์เกิดขึ้นในขณะที่เธอกำลังจะไปจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวต้อนรับปิดเทอมบนชายหาดกับ Anna พี่สาวและ Nathan เพื่อนของเธอ Jessica ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเราจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวที่ Seapark อยู่ชั่วโมงสองชั่วโมงก่อนที่จะเก็บของกลับบ้าน มันเป็นวันแรกของการปิดเทอม ทุกๆ อย่างเหมือนเป็นไปด้วยดี แต่ตอนที่ฉันจะวิ่งไปเก็บกระเป๋าถือ จู่ๆ ฉันก็ล้มลงพื้นเฉยๆ ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เท้าของฉันมันเหมือนกับถูกไฟไหม้และฉันก็กรีดร้องหนักมาก” Jessica บอกให้เพื่อนช่วยอุ้มเธอไปลงน้ำทะเลเพื่อให้เท้าเย็นลงหน่อย ขณะเดียวกันพี่สาวของเธอก็รีบไปบอก John คุณพ่อของทั้งสองมาให้ช่วย Jessica ได้รับบาดแผลไหมลวกที่น่ากลัวมากๆ เท้าทั้งสองของเธอมีอาการพุพองและบวมอย่างเห็นได้ชัด หากจะบอกเท้าข้างขวาของเธอถูกหลอมละลายก็อาจจะไม่ผิดเสียทีเดียว ครอบครัวของเธอจึงรีบพาเธอส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน…
-
เด็กนักเรียนไฮสคูลจากเวลส์ เล่นซนจนทำโบราณวัตถุจากศตวรรษที่ 16 แตกเป็นชิ้นๆ
โรงเรียน Whitchurch High School จากเมืองคาร์ดิฟฟ์ ในเวลส์ ถูกบังคับให้จ่ายค่าชดเชย หลังจากที่นักเรียนของพวกเขาทำรูปปั้นจากศตวรรษที่ 16 แตก ระหว่างการทัศนศึกษา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ฐานของพลับพลา Canto alla Paglia ในประเทศอิตาลี ถูกพบในสภาพแตกเป็นเสี่ยงๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวเด็กวัย 15 ปี ไปสอบสวนก่อนที่จะปล่อยตัวออกมาในเวลาประมาณบ่าย 2 จากการรายงานของเว็บไซต์ต่างประเทศ ระบุว่ากลุ่มเด็กๆ ได้เล่นตุ๊กตากระโดดร่มใกล้ๆ บริเวณนั้นก่อนที่มันจะร่วงลงมา เด็กนักเรียนพยายามต่อตัวกันเพื่อเก็บตุ๊กตาของพวกเขาก่อนที่โบราณวัตถุดังกล่าวจะร่วงลงมา เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุให้นักเรียนรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกเศษหินหล่นใส่ ตามรายงานหินที่รูปปั้นที่หล่นแตกนั้น ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อล้อมรูปวาดจากศตวรรษที่ 16 อย่างไรก็ตามภาพที่อยู่ด้านบนนั้นไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมายืนยันว่า ความเสียหายครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมเดินทางมาถึง บล็อกเกอร์ชาวอิตาเลี่ยนรายหนึ่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการสั่งห้ามนักเรียนกลุ่มนี้ไม่ให้เดินทางเข้าประเทศอีก ในขณะที่ทางเทศบาลกำลังประเมินค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทางด้านโฆษกของทางโรงเรียนได้ออกมากล่าวว่า พวกเขารู้เสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกำลังทำการสืบสวนเหล่านักเรียนที่ได้เดินทางไปที่นั่น ที่มา metro
-
ลูกค้าในออสเตรเลียหัวร้อน “บีบคอ” พนักงานห้าง เพราะทางห้างงดใช้ถุงพลาสติก
ในหลายๆ ประเทศเริ่มมีมาตรการลดการใช้ถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้าหรือตามสถานที่ต่างๆ เพื่อลดการเกิดขยะพลาสติกที่มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเช่นในประเทศออสเตรเลียที่เริ่มออกกฎตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ให้ห้างบางแห่งงดใช้ถุงพลาสติก แต่กลับทำให้ลูกค้าบางรายเกิดอาการหัวเสียจนเข้าทำร้ายร่างกายของพนักงานในห้างสรรพสินค้า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Reuters ได้รายงานว่ารัฐบาลท้องถิ่นในประเทสออสเตรเลียได้ออกคำสั่งให้ห้างค้าปลีกเลิกใช้ถุงพลาสติกที่มีความหนา 35 ไมครอน เนื่องจากไม่สามารถรีไซเคิลได้ หากใครฝ่าฝืนจะถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 6,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 146,655 บาท ซึ่งห้างที่ยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกเป็นที่แรกๆ ได้แก่ Woolworths และ Coles โดยพวกเขาเริ่มมาตรการนี้ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน และ 1 กรกฎาคมตามลำดับ แต่ทาง Woolworths กลับเจอปัญหาใหญ่เนื่องจากลูกค้าแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงใส่พนักงาน เนื่องจากไม่มีถุงพลาสติกใส่ของ มีครั้งหนึ่งที่พนักงานของ Woolworths ถูกลูกค้าโวยวายและบีบคอ ทำให้ทาง Woolworths ต้องแก้ปัญหาด้วยการแจกถุงพลาสติกแบบรีไซเคิลฟรีไปจนถึงวันที่ 8 กรกฎาคม หลังจากนั้นลูกค้าจะต้องนำถุงมาใส่สินค้าเอง หรือหากไม่ได้นำมาก็สามารถซื้อกับทางร้านค้าได้ในราคาใบละ 15 เซนต์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 3.6 บาท…
-
รองนายกฯ มาเลเซีย กล่าวถึงการแต่งงานกับเด็ก 11 ขวบ ว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
หลังจากที่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เราได้นำเสนอเรื่องราวของอิหม่ามจากประเทศมาเลเซียวัน 41 ปี ที่เดินทางมาแต่งงานกับเด็กหญิงชาวไทยวัย 11 ขวบในฐานะภรรยาคนที่ 3 ที่ประเทศไทย (สามารถอ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) ล่าสุดเว็บไซต์ Malaymail.com ได้รายงานเพิ่มเติมว่ารองนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย ดอกเตอร์ Wan Azizah เองก็ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าการแต่งงานดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และยังมีความผิดตามกฎหมายด้วย ดร. Wan Azizah ชี้แจงกับสื่อว่าการแต่งงานดังกล่าวเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะพ่อของเด็กหญิงไม่ได้รับการอนุมัติจากศาลในฐานะผู้ดูแล และศาลยังไม่อนุญาตให้เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแต่งงานกับชายที่มีอายุมากกว่าด้วย “การแต่งงานมันไม่ถูกต้อง และพวกเขาต้องแยกจากการ” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว โดยภายใต้กฎหมายของอิสลามระบุว่าผู้หญิงจะแต่งงานได้ตอนอายุ 16 ปี และผู้ชายตอนอายุ 18 ปี ซึ่งทั้งหมดต้องได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ของทั้งสองและได้รับการอนุมัติจากศาลเท่านั้น รองนายกรัฐมนตรีบอกอีกว่าตอนนี้ได้มีการออกติดตามอิหม่ามวัย 41 ปีรายนี้ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้ดอกเตอร์ Wan Azizah ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสตรีครอบครัวและชุมชน ได้กำลังพิจารณาว่าการแต่งงานดังกล่าวมีองค์ประกอบของการค้าประเวณีเด็ก หรือการกระทำที่อนาจารด้วยหรือไม่ และอาจมีการพิจารณาเพิ่มขีดอายุสำหรับการแต่งงานจาก 16 และ 18 ปี…
-
หนุ่มญี่ปุ่นดีใจทีมได้เข้ารอบ หวังตีมือไฮไฟฟ์คนแปลกหน้าริมทาง แต่กลับโดนต่อยแทน
บางครั้งเวลาที่คนเราดีใจอะไรมากๆ ก็อาจจะมีบ้างทีเราจะอยากตีมือไฮไฟฟ์กับใครสักคนแม้ว่าคนคนนั้นจะไม่ใช่คนที่เรารู้จักก็ตามที อย่างไรก็ตามการที่จู่ๆ มีใครก็ไม่รู้มายกมือไฮไฟฟ์ใส่นั้น ก็อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เหมือนกับเรื่องราวของหนุ่มคนนี้ นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน 2018 ที่ย่านซูซูกิโนะ ในซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ได้มีชายวัย 20 ปีคนหนึ่งกำลังเดินไปบนถนนด้วยความบันเทิงใจ หลังจากที่ทีมฟุตบอลของประเทศได้ผ่านเข้ารอบราวกับปาฏิหาริย์ แม้จะแพ้ให้กับโปแลนด์ก็ตามที ย่านซูซูกิโนะ ในซัปโปโร สถานที่เกิดเหตุ เขาเดินไปพบกับกลุ่มชายสามคนบนถนน และด้วยความที่อยากจะแบ่งปันความดีใจกับเพื่อนๆ ในประเทศ ชายหนุ่มจึงได้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเตรียมตีมือไฮไฟฟ์กับชายทั้งสามคนนั้น แต่แทนที่จะได้สีมือกันอย่างที่เขาคิด ชายหนุ่มกลับพบว่าเขานั้นถูกต่อยเข้าใส่ใบหน้าโดยชายหนึ่งในสามคนนั้นแทน หลังจากเหตุการณ์จบลง ผู้ลงมือทำร้ายร่างกายวัย 28 ปีได้ให้การหลังจากนั้นว่า พอเขาเห็นชายที่เดินเข้ามาหายกมือ เขาก็คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้าย เขาเลยตัดสินใจชิงลงมือก่อนที่จะโดนโจมตี จากการที่ผู้ลงมือไม่มีบาดแผลใดๆ เลยจึงทำให้เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าทั้งคู่นั้นไม่ได้มีการต่อสู้กันต่อ และทุกอย่างจบลงเพียงแค่แฟนบอลโดยต่อยไปสองครั้งที่ใบหน้าเท่านั้น เดิมทีแล้วการทำไฮไฟฟ์ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เห็นกันบ่อยๆ ในญี่ปุ่นอยู่แล้ว ต่างไปจากประเทศในทางตะวันตกที่มีการไฮไฟฟ์กันอยู่บ่อยๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีคนเข้าใจผิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้ายได้ รายงานข่าวต้นฉบับจากช่อง HTBニュース อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีการฟ้องร้องอะไรกันมากมายไปกว่านั้น และเรื่องที่เกิดขึ้นก็คงจบลงที่การเป็นอุทาหรณ์ให้คนเราระวังตัวในการใช้สื่อที่ไม่คุ้นเคยในสื่อสารนั่นเอง ที่มา soranews24, htb, yahoo
-
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส นำสวดภาวนาสันติสู่โลก รวมถึงภาวนาทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง…
ประเด็นของปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ ทีมฟุตบอลหมูป่าอะเคเดมี่ทั้ง 13 ชีวิตนั้น กลายเป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลกแล้ว ซึ่งทางสื่อต่างประเทศก็ได้ให้ความสนใจและลงพื้นที่คอยรายงานเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนี้ ข่าวติดถ้ำหลวงในประเทศไทยไปไกลถึงสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส รายงานผ่านจากเว็บไซต์ Vaticannews กล่าวถึงพระองค์ท่าน ได้ทำการนำสวดภาวนาเพื่อสันติสู่โลกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ระหว่างการนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวต่อผู้แสวงบุญที่รวมตัวกันในจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ หัวข้อหลักในครั้งนี้ พระองค์ท่านกล่าวถึงประเทศนิการากัว ตรัสถึงความประสงค์จะเข้าร่วมกับเหล่าผู้แสวงบุญ เพื่อเป็นตัวแทนไกล่เกลี่ยนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างคนในประเทศ และตรัสถึงการนำสันติภาพและความสงบสุขไปยังประเทศซีเรียและเอธิโอเปีย ภายหลังจากนั้น พระองค์ท่านได้ตรัสถึงความคิดภายในใจต่อเด็กๆ นักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่า ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง จ. เชียงราย เป็นระยะเวลาเกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งพระองค์ได้ตรัสว่าทรงภาวนาเพื่อให้ทั้ง 13 ชีวิตรอดและปลอดภัย โดยกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เริ่มคลี่คลายและมีความคืบหน้ามากขึ้น หลังจากที่ระดับน้ำที่ท่วมสูงภายในถ้ำที่ทำให้การปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือล่าช้ามานานหลายวัน ลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่มา: vaticannews, newsbook, lastampa
-
หญิงสาวผู้มี 12 บุคลิก ใช้วิธีแยกสมุดโน้ต 12 เล่ม บันทึกพฤติกรรมตัวเองในแต่ละช่วง
ฟังดูอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของคนปกติ หากเราได้ยินว่าคนเราสามารถมีบุคลิกได้มากกว่า 1 แบบ สมัยก่อนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ แต่ปัจจุบันอาการดังกล่าวได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางจิตเวชประเภทหนึ่งเรียบร้อยแล้ว Lauren Stott วัย 23 ปี ต้องประสบกับอาการของโรคหลายบุคลิก หรือ Dissociative Identity Disorder (DID) โดยที่เธอนั้นมี 12 บุคลิกอยู่ภายในร่างเดียวกัน เธอจะต้องพกสมุดโน้ต 12 เล่มเพื่อจดบันทึกความคิด ความรู้สึก ที่เกิดขึ้นในแต่ละบุคลิกนำมาประกอบเป็นตัวตนของเธอเอง ความผิดปกติทางจิตนี้ โดยส่วนมากจะเกิดขึ้นจากการได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง หรืออาจจะหมายถึงความผิดปกติ ที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจได้เช่นเดียวกัน ทางด้านจิตแพทย์เชื่อว่า Lauren นั้นทุกข์ทรมานจากความผิดปกติที่ไม่สามารถระบุได้ตั้งแต่ช่วง ป. 1 – ป. 2 นำไปสู่การแยกบุคลิกเพื่อความอยู่รอด เธอได้รับวินิจฉัยโรคครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2017 ซึ่งก่อนหน้านั้นเธอเคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วในเดือนสิงหาคม 2016 หลังจากนั้นเป็นต้นมา เธอเข้ารับการรักษาแทบทุกวัน เพื่อที่จะมองเห็นภาพบุคลิกทั้ง 12 ร่างให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นภายในห้องบำบัดที่จัดโต๊ะไว้ให้สำหรับเธอคนเดียว 12 ที่!!…
-
เผยเทคนิคถ่ายภาพ ‘อาหารบินได้’ ไม่ยากอย่างที่คิด แค่มีสลิงบางๆ และเวลาว่าง!!
เวลาที่เราเห็นภาพโฆษณาอาหารอันน่าตื่นเต้น ที่แยกส่วนประกอบของอาหารออกมาทีละส่วน และนำเข้ามาประกบกันในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที แถมจัดเรียงตัวกันได้อย่างสวยงาม หลายคนคงสงสัยในแง่ความเป็นจริงแล้วมันจะเป็นไปได้ขนาดนั้นเชียวหรือ!? แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ คือการจัดองค์ประกอบภาพถ่าย ฉะนั้นแล้วจะต้องมีการวางแผนองค์ประกอบแต่ละส่วนมาเป็นอย่างดี ถ้าให้เป็นภาพนิ่งก็จะสบายหน่อย เพราะคุณจะใช้อุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่าง บวกกับทักษะการตัดต่อและเวลาอีกเล็กน้อย… เทคนิคอาหารบินได้ ลอยกลางอากาศนั้น ถูกเปิดเผยโดยช่างภาพ Skyler Burt เขาได้อัดวิดีโอคลิปสอนถ่ายภาพความยาวประมาณ 5 นาที โดยยกตัวอย่างโฆษณาเบอร์เกอร์ ที่เผยให้เห็นส่วนประกอบทั้งหมดของอาหารที่แยกออกจากกัน ทั้งนี้การเริ่มต้นถ่ายภาพที่สมบูรณ์จะต้องวางแผนไว้ 3 ขั้นตอน คือ ภาพของส่วนอาหาร จะต้องขึงกับสลิงบางใส นำแต่ละชิ้นส่วนมาวางบนสลิง แล้วถ่ายภาพเก็บเอาไว้ ส่วนขั้นที่ 2 คือการถ่ายภาพ บุคคลนำจานมาวางรองอาหาร แสดงลักษณะเหมือนรออาหารตกลงสู่จาน และขั้นตอนที่ 3 ก็คือการถ่ายภาพพื้นหลังเพียงอย่างเดียว เมื่อได้ภาพทั้ง 3 แบบแล้ว จึงนำมาเข้าสู่กระบวนการตัดต่อ ลบเส้นสลิงออก และนำภาพถือจานและภาพพื้นหลังมาผสานกัน จึงจะได้ออกมาเป็นภาพถ่ายอาหารบินได้อย่างสมบูรณ์ ภาพสุดท้ายที่ผ่านกระบวนการตัดต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว…
-
หนูน้อย 12 ขวบถูก “แจ้งจับ” เพราะรับจ้างตัดหญ้า แต่ดันตัดไปโดนสนามหญ้าบ้านข้างๆ?
เมื่อเด็กๆ หันมาสนใจในการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ แน่นอนว่าเด็กๆ เหล่านั้นควรได้รับคำชื่นชมและคำแนะนำที่จำเป็นให้เด็กๆ มีพฤติกรรมที่ดีอยู่เสมอ แต่เหตุการณ์นี้ หนูน้อยอายุ 12 ปี กลับต้องถูกผู้ใหญ่โทรแจ้งตำรวจเพราะเกิดข้อผิดพลาดขณะที่ทำธุรกิจรับจ้างตัดหญ้าหน้าบ้าน เจ้าหนูน้อย Reginald Fields วัย 12 ปี ได้เปิดธุรกิจรับจ้างตัดหญ้าที่ชื่อว่า Mr. Reggie Lawn และขณะที่กำลังตัดหญ้าให้กับบ้านของ Lucille Holt ที่อยู่ในรัฐโอไฮโออยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านของ Lucille ว่าเจ้าหนู Reggie ได้ตัดหญ้าไปถูกบางส่วนของสนามหญ้าหน้าบ้านของเขา แต่โชคดีที่ไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับเจ้าหนู เมื่อพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง Lucille จึงได้บันทึกเป็นภาพวิดีโอเอาไว้และโพสต์มันลงไปบนเฟซบุ๊ก ซึ่งภายหลังมีผู้เข้าชมจำนวนมากเลยทีเดียว เมื่อเรื่องราวถึงหูของชาวเน็ต นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กิจการของเจ้าหนู Reggie เป็นที่สนใจและโด่งดังไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต ในคลิปวิดีโอจะได้ยินเสียงคุณ Lucille พูดว่า “ฉันคิดว่าฉันแบ่งเส้นเอาไว้ชัดเจนนะ ว่าส่วนไหนที่เป็นสนามหญ้าของบ้านฉัน บ้านนั้นโทรแจ้งตำรวจเพียงเพราะว่า เจ้าหนูดันตัดหญ้าไปถูกสนามหญ้าบ้านของเขา” “ใครกันที่ทำแบบนี้?” เธอถาม “ฉันโมโหมากในตอนนี้…
-
อย่างกับในหนัง นักโทษแหกคุกฝรั่งเศสโดยใช้ทั้ง “เฮลิคอปเตอร์” คนคุ้มกัน และระเบิดควัน
เวลาเราคิดถึงฉากแหกคุกแบบเวอร์วังอลังการหน่อยๆ ส่วนมากภาพที่โผล่เข้ามาในหัวของเราก็มักจะเป็นภาพที่เห็นจากในหนังกันเสียส่วนใหญ่ เพราะยังไงซะเรื่องแบบนั้นก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในโลกความเป็นจริงใช่ไหมล่ะ? แต่แล้วการแหกคุกแบบในหนังก็เกิดขึ้นบนโลกจริงๆ จนได้ เมื่อ Redoine Faid หนึ่งในสมาชิกแก๊งมีชื่อ ได้ทำการแหกคุก Sud-Francilien ในฝรั่งเศส ด้วยความช่วยเหลือจาก ชายสามคนที่มาพร้อมกับปืนไรเฟิลจู่โจม ระเบิดควัน และมีแม้กระทั่งเฮลิคอปเตอร์ Redoine Faid นักโทษแหกคุกในครั้งนี้ Redoine Faid วัย 46 ปีนั้น เดิมทีแล้วต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลา 25 ปี หลังจากที่เขาทำการโจรกรรมล้มเหลวในปี 2010 อย่างไรก็ตามเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2018 ในระหว่างที่มีการนำตัว Faid ไปยังห้องเยี่ยมญาติของเรือนจำ ก็มีชายสองคนได้ทำการบุกเข้าชิงตัวนาย Faid ไปจากห้องโดยอาศัยระเบิดควันและเครื่องเจียร์ไฟฟ้า เรือนจำ Sud-Francilien ที่เกิดเหตุ พวกเขาหลบหนีไปยังลานของเรือนจำที่มีสมาชิกคนที่สามรออยู่พร้อมเฮลิคอปเตอร์และคนขับที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ก่อนที่จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์หนีไป ทางตำรวจพบเฮลิคอปเตอร์ถูกทิ้งไว้ใน Gonesse ซึ่งเป็นบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ตามไม่มีการพบตัวนักโทษที่แหกคุกออกมาแต่อย่างใด เพราะพวกเขาได้ทำการสับเปลี่ยนพาหนะไปเป็นรถยนต์ขับหนีไปบนถนน A1 เป็นที่เรียบร้อย ทิ้งไว้เพียงแค่นักบินที่ถูกจับเป็นตัวประกันเท่านั้น ชายสามคนได้ทำการปล้นเฮลิคอปเตอร์มาจาก Fontenay-Trésigny พวกเขาจอดเฮลิคอปเตอร์ทิ้งไว้ที่…
-
หญิงสาวถูกสั่งจำคุกตลอดชีวิต หลังฆ่าหั่นศพหญิงชราวัย 74 เพราะแอบเข้าบ้านแล้วถูกจับได้
Sandra Malcolm หญิงสาววัย 74 ปีผู้เดินทางจากประเทศสกอตแลนด์ มาอาศัยอยู่ที่เคปทาวน์ในประเทศแอฟริกาใต้ เธอพบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบาดเจ็บอยู่ในบ้านของตัวเอง จึงได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นกลับใช้มีดแทงเธอจนถึงแก่ความตาย Sandra Malcolm ผู้เสียชีวิต เด็กผู้หญิงคนดังกล่าวมีชื่อว่า Sheree Prince หญิงสาววัย 22 ปีที่หน้าอ่อนกว่าวัยจริงๆ เธอบอกว่าเธอหนีออกจากบ้านใน Citrusdal เพราะว่า “ความสัมพันธ์ที่ไม่ดี” กับคุณแม่ของเธอ ก่อนที่จะหนีออกมาทำงานเป็นคนทำความสะอาดอยู่ในเคปทาวน์ เธอเล่าว่าในเธอแอบเข้าในขโมยของในบ้านคนอื่นอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเธอเผลอเตะหม้อสตูในที่ทำงานจนได้แผลไฟลวกที่ขา ทำให้เธอตัดสินใจหนีออกมาจากร้านพร้อมกับขโมยกระเป๋าถือใบหนึ่งมาด้วย Sheree Prince ผู้ก่อเหตุ เธอเร่ร่อนไปเรื่อยๆ จนได้มาถึงบ้านของคุณ Malcolm และแอบปีนหน้าต่างเขาไปในบ้าน แต่ก็ต้องพบกับหญิงชราที่ตื่นขึ้นมา Prince เล่าว่าหญิงชราเห็นบาดแผลของเธอและพาเธอไปทานชากับขนมปังปิ้ง ก่อนที่จะอาสาเรียกรถพยาบาลให้เธอ หญิงชราเห็นบาดแผลที่ Prince มีและอาสาเรียกรถพยาบาลให้ ด้วยความที่เป็นขโมยที่หนีมา Prince จึงคิดว่าหญิงชราจะเรียกตำรวจมาจับ เธอจึงตัดสินใจเอามีดแทงเข้าใส่หญิงชรา 24 แผลจนถึงแก่ความตาย ก่อนที่จะหั่นศพของเธอเป็นชิ้นๆ ด้วยมีดและขวาน ก่อนจะนำไปทิ้งในถังขยะ Sheree Prince…
-
แรปเปอร์หนุ่มโดนตำรวจจับใส่กุญแจมือตอนถ่ายทำ MV เลยถ่ายต่อทั้งอย่างนั้น!!
The show must go on แม้จะมีอุปสรรคเกิดขึ้นโชว์ยังคงต้องดำเนินต่อไป… เช่นเดียวกันกับแรปเปอร์ A1Beam ชาวอเมริกันที่กำลังถ่ายทำ MV เพลงอยู่ ไปทำอิท่าไหนไม่รู้ดั๊นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับใส่กุญแจมือ แต่พี่แกก็ยังถือคติ The show must go on ยังคงท่องไรม์ของตัวเองอย่างเมามันส์ ขณะที่ตากล้องก็ยังดำเนินการถ่ายต่อไป พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยังคงยืนควบคุมสถานการณ์อยู่ด้านหลัง อย่างไรก็ตามนาย A1beam ถูกปล่อยตัวออกมาภายหลัง และเขาก็กลายเป็นคนดังไปในชั่วพริบตา คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวถูกนำไปโพสต์ลงโซเชียล และกลายเป็นกระแสไวรัลที่มีผู้คนสนใจมากมาย มียอดวิวมากกว่า 3.3 ล้านวิว!! ในอินสตาแกรมใช้แคปชั่นอธิบายใต้คลิปว่า “ตำรวจพยายามจะ ‘ล็อก’ ตรูด้วยระบบ ขณะที่ตรูกำลังถ่ายวิดีโอ แต่พวกเขาไม่สามารถ ‘น็อค’ ตรูได้หร๊อก!!” ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… เท่านั้นยังไม่พอ จากเหตุการณ์นี้ A1beam ก็ได้รับการติดต่อจากค่ายเพลงเพื่อทำสัญญากับเขาด้วย!! อย่างไรก็ตามคลิป MV เพลงที่ A1beam ถูกจับกุมนั้นยังคงไม่เสร็จสมบูรณ์ดี…
-
ม้าไม่ทืบโรงแต่กระทืบรถ!! ครอบครัวงงออกบ้านมารถพังยับ สุดท้ายเป็นเพราะม้าชน!!
จะเป็นอย่างไรถ้าหากในเช้าอันสดใสวันหนึ่ง คุณออกจากบ้านมาแล้วพบว่ารถที่จอดอยู่หน้าบ้านของเรา เกิดเสียหายซะยับเยิน คุณก็คงคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ยใช่ไหมล่ะ และแน่นอนว่าคุณต้องหาตัวผู้ร้ายผู้ก่อการนี้มารับผิดชอบให้ได้ แต่ว่ามีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่หาตัวผู้ร้ายได้แล้วแต่ว่าไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะว่าผู้ที่ก่อความเสียหายทิ้งเอาไว้นั้นเป็นสัตว์อย่าง ‘ม้า’ ที่วิ่งเข้ามากระทืบรถเข้าอย่างจังๆ ลองดูภาพเต็มๆ ในครั้งนี้ โดยเหตุการณ์อันแปลกประหลาดนี้ถูกจับได้โดยภาพจากกล้องวงปิดบริเวณหน้าบ้านของคู่สามีภรรยาชื่อว่า Agnieszka และ Jaroslaw Zaniewicz ในเมือง Scunthorpe ประเทศอังกฤษ Agnieszka เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าเธอได้ออกมาจากบ้านในเวลาประมาณ 11 โมงเช้าของวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา แล้วก็ต้องพบว่ารถของสามีเธอได้รับความเสียหายอย่างหนัก และเมื่อไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็ต้องพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากม้าตัวหนึ่งที่ลากพ่วงกับเทรลเลอร์มาด้วย ซึ่งเจ้าเทรลเลอร์นี้เองที่ไปเกี่ยวเข้ากับรถอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “มันน่าตกใจมาก ลูกๆ ของฉันในตอนนั้นกำลังเล่นอยู่บนฟุตบาทและปั่นจักรยานกันอยู่ด้วยแหละ” Agnieszka กล่าว พร้อมกันนี้ Michal ลูกชายวัย 19 ปีของเธอก็ออกมาบอกด้วยว่าได้บอกเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย “ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไม่สามารถทำอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่พวกเราก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันสุดวิสัยจริงๆ แต่ถ้าลองคิดภาพของเด็กๆ ว่ากำลังเล่นอยู่ในที่ม้าตัวนี้วิ่งมาจะเกิดอะไรขึ้น?? มันเป็นอะไรที่น่าอันตรายสุดๆ เลย” Michal กล่าว สำหรับม้าตัวดังกล่าวหลังจากที่สร้างความเสียหายนี้แล้ว มันก็ไปติดแหงกเข้าระหว่างรถและเสาไฟเหมือนดั่งในวิดีโอ และค่าเสียหายสำหรับการซ่อมรถนี้ทางครอบครัวก็คิดคร่าวๆ เอาไว้ประมาณ 500 ปอนด์…
-
Sony ประกาศทำ Faith ฮีโร่สาวร่างท้วมคนแรก ผลงานจากผู้เขียนบท American Gods
เมื่อนึกถึงซูเปอร์ฮีโร่สาวในหนังเพื่อนๆ จะนึกภาพเธอออกมาอย่างไร? สาวงามในชุดรัดรูปอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าสาวแกร่งแรงเกินร้อย? ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนพวกเราก็คงติดภาพลักษณ์ของซูเปอร์ฮีโร่หญิงที่มีรูปร่างผอมเพรียวกันใช่ไหมล่ะ เพราะว่านอกจากเป็นอาหารตาชั้นดีแล้ว เมื่อคิดกันตามความเป็นจริงคนที่ทำงานใช้แรงแบบซูเปอร์ฮีโร่นั้น จะมีร่างกายที่ผอมเพรียวก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเลย แต่ก็ใช่ว่ามันจะจำเป็นต้องเป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะว่าล่าสุดนี้ได้มีข่าวจากทาง Sony ออกมาบอกว่า พวกเขานั้นวางแผนที่จะนำ Faith ซูเปอร์ฮีโร่หญิงร่างท้วมจาก Valiant Comics ออกมาทำเป็นหนังโรงให้พวกเราได้ชมกัน แถมยังเขียนบทโดย Maria Melnik เจ้าของผลงานอย่าง American Gods อีกด้วย Faith Herbert หรือ Zephyr เป็นซูเปอร์ฮีโร่หญิงจากร่างท้วมเจ้าของพลัง Telekinetic (ประมาณว่าพลังจิตเคลื่อนย้ายสิ่งของ) เธอสามารถบินได้ และปรากฏตัวออกมาเป็นครั้งแรกในปี 1992 ในซีรีส์ Harbinger ในฐานะเด็กสาวผู้หลงใหลในหนังสือคอมมิค หนังไซไฟ และทีวีโชว์ ประมาณว่าเด็กเนิร์ดตามสไตล์ฝรั่งนั่นล่ะ ในปี 2015 Faith ได้รับการยืนยันจากคนเขียนว่าเธอจะได้รับซีรีส์เป็นของตัวเอง โดยที่มีจุดโฟกัสของเรื่องอยู่ที่ “การเรียนรู้ที่จะยืนหยัดด้วยตัวเอง” Faith นั้นนอกจากจะต้องพบกับปัญหาต่างๆ ของซูเปอร์ฮีโร่แล้ว เธอยังต้องพบกับปัญหาที่คนธรรมดาต้องเผชิญอย่างการทำงาน หรือปัญหาแฟนเก่าอีกด้วย การตัดสินใจของ Sony ในครั้งนี้อาจจะทำให้ Faith นั้นได้กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่หญิงจากร่างท้วมคนแรก ที่มีหนังเป็นของตัวเองในวงการหนัง Hollywood…
-
Boronia เรือนจำหญิงแห่งอิสระ “ไร้การจองจำ” เตรียมความพร้อมเหล่านักโทษกับโลกภายนอก!!
ลบภาพเรือนจำที่เราเคยเห็นหรือเคยคิดเอาไว้ เพราะที่แห่งนี้คือเรือนจำหญิง Boronia ในเมือง Perth ประเทศออสเตรเลีย “คุกไร้การจองจำ” เรือนจำหญิงแห่งนี้เป็นเหมือนกับหมู่บ้านขนาดย่อมสำหรับนักโทษหญิงจำนวน 95 คน พวกเธอเหล่านั้นเหมือนมีบ้านเป็นของตัวเอง มีงานให้ได้ทำ มีการเดินชอปปิง ทำกิจกรรมอย่างอิสระ หรือจะเลี้ยงลูกไปด้วยก็ได้ . . จะบอกว่าเรือนจำแห่งนี้ไม่มีการ “จองจำ” เลยก็คงไม่แปลก พวกเขามีกฎเหล็กเพียงไม่กี่ข้อสำหรับเหล่านักโทษหญิงทุกคน อย่างแรกคือทุกคนจำเป็นต้องบริหารชีวิตของตัวเองให้ดี ทำอาหารกินเอง ดูแลความสะอาดของเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ดูแลของใช้ส่วนรวมร่วมกัน . . . ทุกคนจะได้มอบหมายให้ทำงานเหมือนกับการใช้ชีวิตอยู่ในโลกภายนอก และหากว่าพวกเขาทำงานใช้ชีวิตอยู่ที่แห่งนี้ครบ 12 เดือน พวกเขาก็จะได้สิทธิ์ในการออกไปทำงานด้านนอกเรือนจำ . . กฎเหล็กที่สำคัญอีกข้อเลยก็คือนักโทษห้ามก่อความวุ่นวายหรือความเดือดร้อนขึ้น ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะถูกส่งตัวกลับไปอยู่ในเรือนจำที่พวกเขาถูกย้ายมา . . พวกเขาทุกคนยังต้องกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพกันด้วยนะ . พัศดี Jan Allen ผู้ดูแลเรือนจำแห่งนี้มองว่าสิ่งสำคัญสำหรับนักโทษทุกคนก็คือการเตรียมพร้อมให้พวกเขาสามารถออกไปเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริงได้ เหมือนกับคนปกติทั่วไป…
-
อะไรเอ่ยขนเยอะ?? ก็รถสามล้อยังไงล่ะ ขนทีอย่างกะรถบรรทุกย่อมๆ แถมขับแบบแสนชิว
อะไรเอ่ยขนเยอะ?? เป็นคำถามพื้นๆ ที่ใครๆ ก็ตอบได้ว่ารถบรรทุกใช่ไหมล่ะ แต่ว่ามีรถสามล้อคันหนึ่งที่จะทำให้ความคิดของคุณเปลี่ยนไป เพราะสามล้อคันนี้แทบจะทำหน้าที่แทนรถบรรทุกได้แบบสบายๆ แถมท่าเทียบกับขนาดตัวรถแล้วต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ใครได้เห็นก็ต้องพูดออกมาว่า ‘ทำไปได้ไงฟะ’ โดยเรื่องราวนี้ของสามล้อนักขนคันนี้ได้รับการถ่ายเป็นคลิปวิดีโอเอาไว้เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอำเภอฝู่หยาง มณฑลอันฮุย ประเทศจีน ได้พบกับรถคันหนึ่งที่เห็นมาตั้งแต่ไกลๆ ก็นึกว่ารถบรรทุก แต่เมื่อเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ก็ต้องพบว่าจริงๆ แล้วมันคือรถสามล้อต่างหาก รถสามล้อคันนี้บรรทุกของเอาไว้ปริมาณที่ต้องเรียกว่าเกินตัวจริงๆ เพราะมันเยอะซะจนแทบจะมองไม่เห็นว่าเป็นรถสามล้อซะแล้ว ซึ่งที่เป็นอย่างนี้ได้ก็เพราะบนหลังคาและส่วนหน้าของหลังคาได้ต่อเพิ่มมาเป็นพิเศษสำหรับใช้ขนของนั่นเอง และอีกส่วนหนึ่งก็เพราะว่าของที่บรรทุกเอาไว้เป็นโฟมจึงมีขนาดเบาบรรทุกได้เยอะ แถมยังทำให้สามารถขับเคลื่อนได้แบบชิลๆ เหมือนกับปกติ แต่ว่าเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบรถคันนี้ก็พบว่าทางคนขับไม่มีทั้งใบอนุญาตขับขี่ ไม่สวมหมวกนิรภัย รวมถึงฝ่าฝืนระเบียบการบรรทุกของอีกด้วย (จะไม่ผิดได้ไงล่ะ) ซึ่งก็แน่นอนว่าโดนปรับไปตามระเบียบเป็นเงินทั้งสิ้น 550 หยวน (ประมาณ 2,750 บาท) และน่าจะเข็ดหลาบไปอีกนาน คลิปของสามล้อสุดเฟี้ยวคันนี้ แม้ว่าจะเป็นอีกหนึ่งความคิดสร้างสรรค์หนึ่งในการประหยัดพลังงานด้วยการขนไปทีเดียวเยอะๆ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายเข้าอย่างจัง อย่างนี้นับว่าไม่เวิร์คนะจ๊ะเพราะอาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้ยังไงล่ะ ที่มา: china xinhua news
-
ออกตัวแรง!! แฟนบอลอังกฤษสักชื่อทีมรัก พร้อมบอกทีมของเขาจะเป็นแชมป์โลกปีนี้
ถ้าหากว่าคุณเป็นที่ชื่นชอบฟุตบอลล่ะก็ คงจะทราบกันเป็นอย่างดีว่าแฟนบอลของทีมใหญ่จากฝั่งเมอร์ซี่ไซด์ทีมหนึ่งที่ไม่ใช่เอฟเวอร์ตัน มักจะออกตัวแรงจนล้อฟรีมากกว่าทีมไหนๆ (แซวเฉยๆ น้าาา ห้ามโกรธ) แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเพียงแค่แฟนบอลของทีมใหญ่จากฝั่งเมอร์ซี่ไซด์ทีมหนึ่งที่ไม่ใช่เอฟเวอร์ตันเท่านั้นที่ออกตัวแรง เพราะพี่หนุ่มอังกฤษรายนี้เองไม่แพ้กัน หลังจากเขาลงทุนสักชื่อทีมรัก พร้อมประกาศไปเลยว่าแชมป์ฟุตบอลโลกปีนี้จะต้องเป็นของทีมผู้ดีแน่นอน!! แน่นอนว่าจากฟอร์มของทีมชาติอังกฤษที่เราได้เห็นในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา คงจะไม่มีใครที่กล้าเถียงว่าพวกเขาไม่ใช่เต็งแชมป์ของทัวร์นาเมนต์นี้ หลังจากที่ระเบิดฟอร์มหรูด้วยการถล่มทีมชาติปานามาไปถึง 6-1 ก่อนที่จะการันตีการเข้ารอบเป็นที่เรียบร้อย และถึงด้วยความมั่นใจในฟอร์มการเล่นนัดดังกล่าว ทำให้ Jamie Richardson แฟนบอลผู้ชื่นชอบการสัก ถึงขั้นบึ่งไปที่ร้านเพื่อทำการสักรูปทีมรักพร้อมถ้วยแชมป์กันเลยทีเดียว “เรานำ 5-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก และผมรู้ว่าเราจะไม่ผิดหวังเหมือนฟุตบอลยูโรปี 1996 ที่แพ้ให้กับเยอรมนี 1 ประตูต่อ 0 หรือ การพลาดท่าให้กับอาร์เจนตินาในบอลโลกปี 1998 ผมรู้ว่าเราอาจจะแค่ชนะทีมเล็กๆ แต่เมื่อดูทีมใหญ่อื่นๆ ก็ทำผลงานได้ไม่ดีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสเปน หรือเยอรมันที่พลาดตกรอบแรก” Richardson ให้สัมภาษณ์ การพลาดท่าของทีมสิงโตคำรามนั้นไม่ได้อยู่ในความคิดของ Richardson เลยแม้แต่น้อย เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ผมเชื่อมั่นว่าเราจะเป็นแชมป์ได้” ทีมชาติอังกฤษสามารถผ่านเข้ารอบสุด 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ และพวกเขามีโปรแกรมลงแข่งในวันที่ 4 กรกฎาคมที่จะถึงนี้กับทีมชาติโคลอมเบีย…
-
หญิงวัย 55 ปี ลอยคอกลางทะเลนานกว่า 21 ชั่วโมง ก่อนถูกช่วยเหลือโดยทีมกู้ภัย
ภาพที่คุณกำลังจะได้เห็นต่อไปนี้ คือวินาทีที่นักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียถูกช่วยชีวิตเอาไว้ หลังจากที่เธอถูกพัดออกมาจากชายฝั่งไกลถึง 11 กิโลเมตร และต้องลอยอยู่กลางทะเลนานกว่า 21 ชั่วโมง Olga Kuldo หญิงชาวรัสเซียวัย 55 ปี ผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยเธอได้เดินทางมาพักผ่อนที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศกรีซ ภาพของทีมกู้ภัย Frontex ที่กำลังโยนเชือกเพื่อช่วยเหลือเธอ ทีมกู้ภัยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า พวกเขาได้รับแจ้งเมื่อเช้าวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา จากหน่วย Hellenic Coast Guard เพื่อขอร้องให้ตามหาหญิงสาวรายดังกล่าวที่หายตัวไป “เมื่อเวลาประมาณ 10.40 เครื่องบินของเรารายงานว่าพบคนลอยอยู่กลางทะเล ห่างออกไปประมาณ 9 ไมล์ทะเล จากนั้นเรือของหน่วยกู้ภัยจึงถูกส่งไปเพื่อช่วยหญิงที่ลอยอยู่กลางทะเลนานกว่า 20 ชั่วโมง” เจ้าหน้าที่จาก Frontex ให้สัมภาษณ์ Kuldo ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาทันทีเมื่อถึงฝั่ง เนื่องจากทีมกู้ภัยพบว่าเธอมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของหัวใจ และอุณหภูมิของร่างกายที่ต่ำกว่าปรกติ หญิงวัย 55 ปีเดินทางมาพักผ่อนในวันหยุดพร้อมกับสามีและลูกสาวของเธอ Yulia ลูกสาวของเธอโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ พร้อมกับบอกว่านี่คือปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นกับแม่ของเธอ จากรายงานเผยว่าเธอถูกกระแสน้ำพัดออกจากฝั่ง ก่อนที่จะหายตัวไปจากชายหาด ซึ่งสิ่งสภาพอากาศและความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน มีผลอย่างมากต่อร่างกายของเธอ “ร่างกายของเธอมีอุณหภูมิเพียงแค่ 32 องศาเซลเซียสเท่านั้น…
-
ผู้โดยสารถูกรวบ หลังใช้หัวโขกลูกเรือ หลังถูกปล่อยให้รอบนเครื่องนานกว่า 2 ชั่วโมง
คลิปวิดีโอที่บันทึกภาพเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้นบนเครื่องของสายการบิน Easy Jet เผยให้เห็นผู้โดยสารคนหนึ่งที่ถูกกดลงกับพื้นเนื่องจากทำร้ายร่างสจ๊วต ด้วยการเอาหัวโขก ผู้โดยสารที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างจ้องดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขา พร้อมกับส่งเสียงดัง จากรายงานเผยว่าความวุ่นวายครั้งนี้ เกิดขึ้นที่สนามบิน Gaulle Airpor เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ความวุ่นวายครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สจ๊วตได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชายคนดังกล่าวมีอาการโกรธและปฏิเสธที่จะออกจากเครื่อง พร้อมกับบอกว่าเขาคือตัวแทนของผู้โดยสารที่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากเครื่องดีเลย์ คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์ พร้อมแคปชั่นบอกว่าความวุ่นวายนี้เกิดจากเครื่องที่ดีเลย์นานกว่า 2 ชั่วโมง “มันเกิดขึ้นเพราะเครื่องดีเลย์นานกว่า 2 ชั่วโมงและการบริการที่ไม่น่าประทับใจบนเครื่อง นั่นเป็นเหตุผลที่สายการบินทำกับผู้โดยสารทั้งหมด” ข้อความจากทวิตเตอร์พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ และนี่คือคลิปวิดีโอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากรายงานของ The Mirror เผยว่าผู้โดยสารในเที่ยวบินนี้ ถูกสั่งให้นั่งรอบนเครื่องนานถึง 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีประกาศว่าเที่ยวบินถูกเลือนไปเป็นวันพรุ่งนี้ในเวลา 11 โมง ทางด้านโฆษกของ Easy Jet ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Mirror ว่าความปลอดภัยของลูกเรือและผู้โดยสารเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด “เราได้ทราบถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับลูกเรือและผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งให้ควบคุมตัวผู้โดยสารที่กำลังทำร้ายลูกเรือของเรา…
-
กัญชาปลอมระบาดหนักในสหรัฐ พบผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 100
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2018 สื่อต่างประเทศรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 100 ราย หลังจากสูบกัญชาที่คาดว่ามีการผสมยาฆ่าหนูลงไป ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายอาศัยอยู่ในรัฐอิลินอย ในขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บพบว่ามาจากหลายพื้นที่ในสหรัฐอเมริกา ผู้ป่วยทั้งหมดได้สูบกัญชาสังเคราะห์ซึ่งประกอบด้วยส่วนผสมอันตรายต่างๆ ที่พวกเขาใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มความแรงอย่างเช่นยาฆ่าหนู ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐได้ออกมาเผยว่า ผู้ป่วยส่วนมากมีสภาวะเลือดออกอย่างรุนแรง และตามมาด้วยอาการแทรกซ้อนอีกมากมายที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ การระบาดของกัญชาชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยทางผู้ป่วยต้องเข้ารับการเติมวิตามินเค เพื่อลดอาการตกเลือด กัญชาปลอมหรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่ากัญชาสังเคราะห์ ถูกสร้างขึ้นมาจากสารเคมีและออกฤทธิ์แรงกว่ากัญชาปรกติถึง 100 เท่า และทำให้ผู้ป่วยมีอาการชัก ซึ่งบางรายอาจถึงขั้นโคม่า กัญชาสังเคราะห์มักจะพบในร้านจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา โดยจะมาในชื่อของ K2, Spice และ Kush กัญชาสังเคราะห์ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกา แต่ทางผู้ผลิตพยายามที่จะเลี่ยงกฎหมายเพื่อจำหน่ายสินค้าของพวกเขา ในระหว่างปี 2010 ถึง 2015 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐระบุว่ามีผู้ป่วยจากสินค้าดังกล่าวมากกว่า 456 ราย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งภัยคุกคามที่ต้องเฝ้าระวังอย่างมาก ที่มา metro
-
คุณพ่อเขียนจดหมายสุดซึ้ง เพื่อบอกเล่าความสัมพันธ์กับเพื่อนซี้ ที่เป็น ‘สามีเก่า’ ของภรรยา
ใครเล่าจะคิดว่า ‘คุณพ่อ’ จะกลายเป็นเพื่อนรักกับ ‘สามีเก่าของคุณแม่’ ไปซะได้… นี่เป็นเรื่องราวของ Wade Wagnon และ Chris ที่กลายมาเป็นเพื่อนรักกันแม้ว่าทั้งคู่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนเดียวกัน!! Chris และ Annette Hall Wagnon แต่งงานกันมานานกว่า 16 ปี พวกเขามีลูกชายด้วยกัน 2 คน และแล้วในที่สุดความรักก็เดินทางมาถึงทางตัน ทั้งคู่จึงตัดสินใจเลิกรากันไปในที่สุด ส่วน Wade เป็นนายตำรวจจากเมือง Marietta รัฐจอร์เจีย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เพิ่งหย่ากับภรรยามาด้วยเช่นกัน Wade ได้พบกับ Annette ไม่กี่ปีต่อมาหลังจากที่เธอเลิกกับ Chris พวกเขามีโอกาสได้ทำงานด้วยกันก่อนที่ความสัมพันธ์จะพัฒนาไปสู่การแต่งงานกันในที่สุด พวกเขาได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจนเวลาผ่านไปแล้วกว่า 5 ปี ในช่วงแรกนั้น Wade ก็เหมือนกับสามีธรรมดาทั่วไปที่รู้สึกหึงหวง Annette จากแฟนเก่า เวลาที่พวกเขาติดต่อไปมาหาสู่กันเรื่องลูก แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลายเป็นว่า Wade (ซ้าย) และ Chris (ขวา)…
-
VRoid โปรแกรมสร้างตัวการ์ตูน 3D อย่างง่าย ผลงานจาก Pixiv Inc เจ้าของเว็บศิลปะจากญี่ปุ่น
เคยเป็นกันไหม? อยากทำตัวละครในใจของตัวเองออกมาเป็นโมเดล 3 มิติกับเขาบ้าง แต่ก็ทำได้แค่ฝันเพราะว่าทำโมเดลก็ไม่เป็น วาดรูปก็ไม่เก่ง แถมไม่ชอบทำอะไรยุ่งยากอีก ทำไมไม่มีโปรแกรมอะไรให้ทำโมเดล 3 มิติง่ายๆ แบบเวลาสร้างตัวละครในเกมบ้างน้า~ ถ้าคุณคิดแบบนี้ล่ะก็ ขอให้ดีใจไว้ได้เลยเพราะว่าล่าสุดนี้ได้มีโปรแกรมสุดเจ๋งออกมาช่วยพวกเราสร้างตัวละครในฝันออกมาเป็นโมเดล 3 มิติได้แบบง่ายๆ แล้ว ที่สำคัญมันฟรีอีกด้วย!! นี่คือ VRoid โปรแกรมสร้างตัวละครสามมิติสุดเจ๋งตัวใหม่ล่าสุดจากบริษัท Pixiv Inc บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังเว็บไซต์ชุมชนศิลปินของชาวญี่ปุ่นอย่าง Pixiv นั่นเอง VRoid นั่นออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างตัวละครในฝันได้อย่างง่ายดาย แทบไม่ต่างอะไรกับการเล่นเกมด้วยระบบ “Texture Painting” ที่ออกแบบมาให้ผู้ให้นั้นสามารถ “วาดภาพ” ลงบนวัตถุ 3Dในโปรแกรมได้โดยตรง นอกจากนี้ VRoid ยังมาพร้อมกับระบบการ ปรับแต่งอีกมากมาย อย่างการปรับแต่งขนาดของปอยผมแต่ละเส้น ปริมาณของเส้นผม หรือการทำให้เส้นผมที่วาดลงไปนั้นเกาะติดกับลักษณ์ของศีรษะที่อยู่ด้านล่าง ทาง Pixiv Inc เชื่อว่าโปรแกรมตัวใหม่นี้จะทำให้เหล่าผู้คนที่ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำโมเดล 3 มิตินั้น สามารถสนุกสนานไปกับการทำโมเดลสามมิติของตัวเองได้ไม่ยาก และทางบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตพวกเขาจะสามารถพัฒนาเครื่องมือและระบบอื่นๆ อีกมากมายสำหรับโปรแกรมนี้อีกด้วย ถ้าไม่ชอบตาก็วาดใหม่ได้ตรงๆ เลย…
-
อัฟกานิสถานเผย 80% ของการฆ่าตัวตายในประเทศเป็นหญิง สะท้อนปัญหาของสังคม
ในขณะที่ในหลายๆ ประเทศนั้นมีการรณรงค์เรื่องความเท่าเทียมทางเพศกันอยู่เป็นระยะๆ ในอีกหลายๆ ประเทศ ความรุนแรงต่อผู้หญิงก็ยังคงเป็นเรื่องที่มีให้พบเห็นกันได้ทั่วๆ ไปอยู่ดี หนึ่งในประเทศที่ว่านั้นคืออัฟกานิสถาน ประเทศที่ถูกจัดว่าอันตรายที่สุดเป็นอันดับที่สองของโลกสำหรับผู้หญิง จากการจัดอันดับของมูลนิธิ Thomson Reuters โดยเป็นรองแค่เพียงประเทศอินเดียก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามความแปลกของประเทศอัฟกานิสถานยังมีมากกว่านั้น เพราะอัฟกานิสถานเป็นเพียงประเทศเดียวในโลก ที่มีตัวเลขผู้หญิงฆ่าตัวตายสูงกว่าผู้ชาย (ข้อมูลจากปี 2016) ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน Herat บอกว่า ในปี 2017 มีผู้ฆ่าตัวตายใน Herat อยู่ที่ประมาณ 1800 คน และในจำนวน 80% เป็นผู้หญิง คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนอัฟกานิสถานกล่าวเกี่ยวกับตัวเลขการฆ่าตัวตายอันแปลกประหลาดนี้ว่า เหตุผลของการฆ่าตัวตายนั้นมีตั้งแต่ ปัญหาสุขภาพจิต การใช้ความรุนแรงในครอบครัว การที่ถูกบังคับแต่งงาน เรื่อยไปจนถึงแรงกดดันทางสังคมอื่นๆ พวกเขายังบอกอีกว่าตัวเลขที่ได้มานั้น เชื่อว่ายังไม่รวมถึงจำนวนการฆ่าตัวตายที่ไม่ได้มีการแจ้งกับทางตำรวจอีกด้วย เนื่องจากการฆ่าตัวตายจัดเป็นเรื่องที่ถูกประณามอย่างหนักจากสังคม และผิดต่อความเป็นศาสนาอิสลามอย่างรุนแรง ทางกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติให้ข้อมูลว่า 87% ของผู้หญิงอัฟกานิสถานเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางร่างกาย หรือความรุนแรงทางเพศอย่างน้อยหนึ่งรูปแบบและ 62% เคยประสบกับการล่วงละเมิดหลายรูปแบบ แถมยังมีผู้หญิงจำนวนมากที่ต้องแต่งงานก่อนอายุ 18 ปีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีรายงานจากเหล่าผู้หญิงในประเทศอีกว่า ความยากจนและการขาดโอกาสในการทำงานก็อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่มีตัวเลขการดับชีวิตของตัวเองในหมู่ผู้หญิงสูงก็เป็นได้…
-
หมึกที่ญี่ปุ่น ทายผลบอลโลกถูกมาสามนัดรวด แต่สุดท้ายก็โดนชำแหละขายด้วยความจำเป็น
ช่วงหลังๆ มานี้ทุกครั้งที่มีการแข่งฟุตบอลโลกขึ้น ก็มักจะมาพร้อมกับข่าวสัตว์ทำนายผลบอลอยู่เสมอๆ ซึ่งถ้าทายถูกขึ้นมาพวกมันก็จะมีชื่อเสียง แต่ถ้าทายผลพลาด… ก็ไม่อาจบอกได้เหมือนกันว่าจะโดนอะไรบ้าง เรื่องราวในครั้งนี้เป็นเรื่องของเจ้าปลาหมึกยักษ์ตัวหนึ่งที่ถูกจับได้ในโอบิระ ฮอกไกโด และได้รับชื่อว่า Rabiot ตามชื่อของนักฟุตบอลชาวฝรั่งเศสนาม Adrien Rabiot เจ้าหมึก Rabiot นั้นถูกนำไปใส่ในสระน้ำขนาดความกว้าง 2 เมตรที่แบ่งออกเป็นสามส่วน ชนะ แพ้ และเสมอ เพื่อให้เจ้าหมึกนั้นทำนายผลการแข่งผ่านส่วนของสระน้ำที่มันไปอาศัยอยู่นั่นเอง แน่นอนว่าการที่เจ้า Rabiot มีชื่อเสียงขึ้นมานั้น แน่นอนว่าต้องมาจากการที่มันทายผลการแข่งได้ถูกต้องเป็นธรรมดา โดยเจ้า Rabiot สามารถท้ายผลการแข่งของทีมญี่ปุ่นได้ถูกต้องถึง 3 ครั้งติดต่อกัน ไม่ว่าจะการชนะทีมโคลอมเบีย การเสมอกับเซเนกัล และการแพ้ให้กับโปแลนด์ ถ้าจะบอกว่าบังเอิญแล้วล่ะก็ คงต้องบอกว่าเจ้าหมึกตัวนี้ดวงดีพอสมควรเลยทีเดียวเพราะโอกาสของการทำนายผลบอลถูกต่อเนื่องกันสามครั้งนั้นมันมีเพียงแค่ 1 ใน 27 เท่านั้นเอง ผลการเสี่ยงทายของ Rabiot ทั้งสามนัดที่ผ่านมานั้น ถูกต้องทั้งหมด อย่างไรก็ตามตำนานของเจ้า Rabiot ก็ต้องมาจบลงเพียงแค่นั้น เนื่องจากว่านาย Kimio Abe ชาวประมงวัย 51 ปีเจ้าของของ Rabiot นั้น ตัดสินใจว่าการทำงานค้าขายของเขานั้น…
-
อิหม่ามวัย 41 ปี เดินทางมาแต่งงานกับเด็กหญิงวัย 11 ขวบ ที่ไทย ในฐานะภรรยาคนที่ 3
กลายเป็นข่าวที่ชาวมาเลเซียให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย สำหรับกรณีของอิหม่ามวัย 41 ปี รายหนึ่งในมาเลเซีย ที่เดินทางมาแต่งงานกับเด็กหญิงวัย 11 ขวบ เพื่อเป็นภรรยาคนที่ 3 ที่ประเทศไทย ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์จากโลกออนไลน์ว่าเหมาะสมหรือไม่? เรื่องราวดังกล่าวถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ The Star Online เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยรายงานว่าอิหม่ามรายนี้มีภรรยาอยู่แล้ว 2 คน กับลูกๆ อีก 6 คน อาศัยอยู่ในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เขาได้เดินทางมาแต่งงานกับเด็กหญิงวัย 11 ขวบที่อำเภอสุไหงโกลก ประเทศไทย และอ้างว่าการแต่งงานนี้ได้ผ่านการยินยอมจากพ่อแม่ของเธอแล้ว ที่เรื่องราวทั้งหมดกลายเป็นที่พูดถึงก็เพราะว่าภาพในงานวันแต่งงานถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กโดยหนึ่งในภรรยาของเขา พร้อมกับข้อความว่า “Selamat pengantin baru suamiku. Suami 41, Maduku 11″ ซึ่งแปลว่าได้ “ยินดีด้วยนะกับการแต่งงานของคุณ สามีดิฉันอายุ 41 ปี ภรรยาอีกคนอายุ 11 ปี” แต่หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกพูดถึงและวิจารณ์ในแง่มุมต่างๆ อย่างหนัก ภรรยารายนี้ก็รีบลบมันออกจาเฟซบุ๊กของเธอทันที ตามรายงานบอกว่าในบรรดาลูกๆ…
-
วิ่งสิรออะไร!! ช่างภาพเผย วินาทีสิงโตโดนฝูงควายโอบล้อม หลังไปฆ่าควายในฝูงเข้า
โดยทั่วไปแล้วสิงโตถูกเข้าใจมาตลอดว่าเป็นสัตว์เจ้าป่า เนื่องจากมีร่างกายที่แข็งแรง มีกรงเล็บและเขี้ยวที่สามารถทำอันตรายต่อสัตว์อื่นๆ ได้ จึงเป็นเรื่องยากที่สัตว์ชนิดอื่นๆ จะต่อกรกับมันได้แบบตัวต่อตัว แต่ถ้ามาเป็นฝูงล่ะก็ไม่แน่ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอภาพถ่ายของนาย Eric Baccega ช่างภาพสัตว์โลก ที่เดินทางไปถ่ายภาพวิถีชีวิตสัตว์ต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติ Masai Mara ประเทศเคนยา . แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือร้าย Eric ได้ผ่านไปพบเข้ากับเหตุการณ์ของเจ้าสิงโตตัวหนึ่งที่เพิ่งจะลงมือฆ่าควายไป 1 ตัว แต่ในจังหวะนั้นฝูงควายที่อยู่ใกล้ๆ ก็เริ่มโอบล้อมเจ้าสิงโตตัวนี้เข้ามาเรื่อยๆ จนมันจนมุมไม่สามารถหนีไปทางไหนได้เลย ฝูงควายนับสิบๆ ตัวเริ่มเข้ามาใกล้เจ้าสิงโตเรื่อยๆ เพื่อหวังแก้แค้นให้กับเพื่อนในฝูงของมันที่เพิ่งจะโดนฆ่าไป และยังหันเขาควายอันแหลมคมเข้าใส่มันอีก ดูเหมือนว่าเจ้าสิงโตเองก็รู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับมัน ในที่สุดมันก็ตัดสินใจกระโดดข้ามบึงเล็กๆ ไป และวิ่งหนีออกไปให้ห่างจากฝูงควาย ทำให้มันรอดตายอย่างหวุดหวิด มันคงจะเข็ดขยาดจากการล่าในพื้นที่นี้ไปอีกสักระยะเลย . โดด!! . . ที่มา dailymail
-
สาวจับได้ว่าแฟนนอกใจ หลังส่งอาหารให้แฟนกิน แต่พนักงานส่งเข้าไปเจอแจกพ็อต!!
ความรักระยะไกลถือว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างลำบากและมีอุปสรรคหลายๆ อย่าง แม้ว่าในปัจจุบันจะเป็นยุคของอินเตอร์เน็ต เหล่าคู่รักสามารถเฟซไทม์หรือแชทคุยกันได้ตลอดเวลา แต่เราก็ไม่สามารถรู้ได้อยู่ดีว่าอีกฝ่ายทำอะไรอยู่หรือแอบนอกใจเราหรือไม่ เหมือนอย่างที่เรื่องของ Kayla Speers สาวจากรัฐไอโอวา สหรัฐอเมริกาที่ได้มีความสัมพันธ์ระยะไกลกับแฟน แต่แล้วเธอก็ได้รู้ว่าแฟนหนุ่มที่เธอรักและเป็นห่วงนักเป็นห่วงหนานั้นแอบนอกใจเธอจากคำบอกเล่าของคนส่งอาหารที่เธอใช้บริการเป็นประจำ วันที่ 28 มิถุนายน 2018 Kayla ได้เปิดเผยประสบการณ์ของเธอลงในทวิตเตอร์ว่า “ฉันกำลังคบกับชายคนหนึ่งได้ไม่กี่เดือน ความสัมพันธ์ของเราเป็นรักระยะไกล (ห่างกันประมาณ 3 ชั่วโมง) เขากำลังที่จะจบการศึกษาและอยู่ในช่วงสอบไฟนอลครั้งสุดท้าย ในตอนเย็นวันหนึ่งในที่ทำงาน ฉันก็คิดว่าจะทำบางอย่างดีๆ ให้แก่แฟนฉัน จึงได้สั่งอาหารจาก Jimmy John ไปให้ขณะที่เขากำลังวุ่นกับการอ่านหนังสือ” https://twitter.com/kayla_speer_/status/1012181262583435265?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1012181262583435265&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.unilad.co.uk%2Frelationships%2Fguy-gets-caught-cheating-on-long-distance-girlfriend-by-delivery-driver%2F “ตอนที่ฉันสั่งอาหาร ฉันก็บอกให้พวกเขารู้ว่าฉันสั่งให้แฟนนะ ฉันจะไม่ได้อยู่รับ ฉันยังถามอีกว่ามันโอเคใช่มั้ยถ้าให้เขาเซ็นรับมันแทนฉัน” https://twitter.com/kayla_speer_/status/1012181603248984064?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1012181603248984064&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.unilad.co.uk%2Frelationships%2Fguy-gets-caught-cheating-on-long-distance-girlfriend-by-delivery-driver%2F “หลังจากที่สั่งอาหารเสร็จ แฟนของฉันก็ส่งข้อความให้ฉันรู้ว่าเขาจะไปงีบนะ ฉันจึงส่งข้อความไปว่า ‘เฮ้ อาหารกำลังมาแล้วนะ ให้ทิปเขาด้วยล่ะ’ แต่เขาก็ไม่ตอบกลับ ฉันก็ได้แต่นึกว่าเขานั้นหลับอยู่” https://twitter.com/kayla_speer_/status/1012181776582791169 “ไม่นานต่อมาฉันก็ได้รับข้อความจากแฟน บอกว่า ‘ขอบคุณนะ’ สั้นๆ…
-
“เกาหลีน้องพี่ จากนี้นายคือชาวเม็กซิกัน!!” ชาวเม็กซิกันตะโกนหลังเกาหลีชนะเยอรมนี
ช่วงนี้กระแสที่ดังๆ ที่เราได้ยินกันมากก็ไม่พ้นกับเทศกาลงานแข่งขันฟุตบอลครั้งยิ่งใหญ่ที่ 4 ปีจะมี 1 ครั้ง อย่างฟุตบอลโลกเป็นอย่างแน่แท้ ถึงแม้ว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้จะได้ทีมที่เข้ารอบ 16 ทีมกันไปหมดแล้ว แต่วันนี้เราจะมาเก็บตกข่าวในรอบแบ่งกลุ่มกันเสียหน่อย ในวันที่ 27 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมากลุ่ม F ได้เกิดดราม่าแย่งเข้ารอบ 16 ทีมกัน 3 ทีม นั่นคือทีมชาติสวีเดน เม็กซิโกและเยอรมนี หลังจากที่สวีเดนเอาชนะเม็กซิโกไปได้ด้วยสกอร์ 3-0 ประตู ทำให้ลอยลำเข้ารอบเป็นที่แน่นอน ทางแฟนคลับเม็กซิโกจึงต้องหันไปเอาใจช่วยทีมชาติเกาหลีใต้ให้ชนะเยอรมนีให้ได้และผลก็คือเกาหลีใต้สามารถชนะเยอรมนีได้จริงๆ เรียกได้ว่าตะลึงไปทั้งโลกที่แชมป์เก่าอย่างเยอรมนีต้องเก็บของกลับไปบ้านไปตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม หลังจากที่ได้ทราบผลแล้ว เมื่อชาวเม็กซิกันได้เจอกับชาวเกาหลีใต้ที่นอกสนามพวกเขาก็กรูกันเข้าไปขอบคุณ กอดกันร่วมกันโยนตัวแฟนคลับเกาหลีหลายๆ คน The Mexicans found a South Korean outside the stadium 😂 pic.twitter.com/9gG7V9wtOd — Siavoush Fallahi (@SiavoushF) June 27, 2018 . We…
-
Nissan มอบรถสปอร์ตรุ่นใหม่ “GR-R R35” ให้กับตำรวจ ในจังหวัดโทจิงิ…
เชื่อแน่ว่าข่าวนี้อาจจะทำให้เหล่าค.คนรักรถหลายๆ คนต้องร้องกรี๊ดแน่ๆ หลังจากที่ทางบริษัท Nissan ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการมอบรถสปอร์ตอย่าง GT-R R35 ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดโทจิงิ การส่งมอบรถดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่ง GT-R R35 นี้จะถูกนำไปใช้ในการตรวจตราบนท้องถนน เพื่อควบคุมการกระทำผิดกฎจราจรอย่างการขับรถเกินความเร็วที่กำหนด หรือการขับรถที่เป็นอันตราย GT-R R35 คือรถที่มาพร้อมกับสมรรถนะอันยอดเยี่ยม โดยใช้เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ขนาด 3.8 ลิตร V6 ให้กำลังสูงสุดที่ 570 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 632 นิวตันเมตร โรงงานของ Nissan ในจังหวัดโทจิงิ ถือเป็นฐานการผลิตรถในตระกูล GT-R มาแล้วหลายเจนเนอร์เรชั่นด้วยกัน และในการมอบครั้งนี้ยังเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปีของโรงงานแห่งนี้อีกด้วย อย่างไรก็ตามทาง Nissan ได้โพสต์คลิปวิดีโอการส่งมอบครั้งนี้ลงทางช่องยูทูบ พร้อมกับบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจากจังหวัดโทจิงิจะเป็นผู้ที่ได้สัมผัส GT-R R35 เป็นที่แรก และมีแผนที่จะส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ในจังหวัดอื่นๆ อีกต่อไป การส่งมอบรถสปอร์ตรุ่นดังกล่าวจากทาง…
-
วินาทีชีวิต!! สาวออสซี่วัย 34 ถูกฉลามลากลงน้ำ ในระหว่างที่กำลังให้อาหารมัน
กลายเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่สาวรายหนึ่งถูกฉลามกระโดดเข้างับที่เท้าของเธอ ในระหว่างที่กำลังให้อาหารมัน Melissa Brunning หญิงสาววัย 34 ปี จากออสเตรเลียผู้ได้รับประสบการณ์ในวันหยุดอันน่าจดจำ หลังจากที่เธอถูกฉลามกัดที่เท้าจนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ “ฉันคิดว่าฉลามตัวนั้นคงอยู่ในอาการตกใจ ฉันเองก็เช่นกัน ฉันรู้สึกว่ามันกำลังฉีกกระดูกของฉัน ฉันขึ้นมาบนเรือ และพบว่าฉันได้สูญเสียนิ้วเท้าไป” หญิงวัย 34 ปีให้สัมภาษณ์ เหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นที่อ่าว Dugong ทางตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย Melissa ไม่ได้โทษฉลามสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอให้สัมภาษณ์ว่ามันคือความผิดพลาดของเธอเอง “มันไม่ใช่ความผิดของฉลาม แต่ตอนนั้นมันมีข้อผิดพลาดอื่นๆ เกิดขึ้นมากมาย” เธอให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ Melissa ต้องพักรักษาตัวนานกว่า 3 สัปดาห์ ภาพวินาทีที่ฉลามลาก Melissa ลงไปในน้ำ เพื่อนๆ ของเธอพยายามช่วย แต่โชคร้ายที่เธอต้องสูญเสียนิ้วเท้าไป และนี่คือคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มา thesun
-
ป้าฟ้องร้านบุฟเฟ่ต์เรียกเงิน 32 ล้าน เพราะข้าวผัดที่ร้านทำให้เธอป่วย ‘Fried Rice Syndrome’
เป็นปกติที่เวลาเรากินอาหารเราก็ต้องเลือกกินอาหารที่อร่อย มีกลิ่นหอม แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องคำนึงถึงก็คือเรื่องของความสะอาด เพราะไม่แน่เหมือนกันว่าถ้าเรากินอาหารที่มีสุขลักษณะไม่ดีจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเราบ้าง เหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่มีสาวคนหนึ่งยื่นฟ้องต่อร้านอาหารจีนบุฟเฟ่ต์ เพราะเธออ้างว่าอาหารจากร้านนี้ทำให้เธอป่วยเป็นโรค “Fried Rice Syndrome” โดยเรื่องราวอันแปลกประหลาดนี้ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2016 เมื่อหญิงวัย 62 ปีชื่อว่า Germaine Mobley ได้เข้าไปใช้บริการร้านอาหารจีนบุฟเฟ่ต์ชื่อว่า Asian King Buffet ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วสั่งเมนูข้าวผัดมาเป็นมื้อหลักสำหรับอาหารเที่ยงในวันนั้น “ทุกๆ อย่างมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” เธอกล่าว ทว่าหลังจากรับประทานข้าวผัดจานนั้น Mobley ก็บอกว่าเธอเริ่มมีอาการป่วยเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ออกจากร้านเป็นเรื่อยมา จนในที่สุดแล้วเธอก็ต้องล้มป่วยอย่างหนักในระยะเพียงแค่ 8 วันหลังจากนั้น “อาการแรกๆ ของฉันคือเริ่มมีการอ้วก และในเช้าวันถัดมาฉันก็ไม่สามารถหายใจได้เป็นปกติ จนสามีของฉันต้องเรียกรถฉุกเฉินมารับตัว” Mobley กล่าว ทั้งนี้เธอได้อ้างว่าข้าวผัดจานดังกล่าวทำให้เธอป่วยเป็นโรคที่มีชื่อว่า ‘Fried Rice Syndrome’ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากเชื้อ Bacillus cereus เชื้อแบคทีเรียที่อาจเกิดขึ้นได้ในอาหารที่ทิ้งเอาไว้ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานานๆ โดยเชื้อที่ว่านี้จะสามารถทำปฏิกิริยากับร่างกายของเราได้ 2 อย่างหลักๆ ประการแรกคือมันจะทำให้เราเกิดอาการปวดท้องร่วมกับมีอาการท้องร่วงร่วมด้วย ซึ่งอาการนี้เหล่านี้ปกติแล้วจะหายไปได้เองในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ส่วนอีกประการหนึ่งของเชื้อนี้คือมันจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงห้าชั่วโมงแรกหลังการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนนั่นเอง …
-
บอลแพ้คนไม่แพ้…แฟนบอลเกาหลีใต้ปาไข่ใส่นักเตะทีมชาติตัวเอง หลังกลับมาจากรัสเซีย
ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง การได้เห็น ‘ทีมชาติ’ ของตัวเองได้ไปบอลโลกขอบอกเลยว่ามันคือ ‘ความฝันที่เป็นจริง’ แม้ว่าทีมจะแพ้หรือจะตกรอบกลับมาก็ถือว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของเราและได้ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว เพราะการได้เข้าไปแข่งขันยังรอบสุดท้ายของบอลโลกก็ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากสุดๆ เพราะมีอีกมากมายนับหลายร้อยชาติ ที่ต้องแข่งขันกันจนเหลือเพียง 32 ทีมเท่านั้น แต่สำหรับทีมชาติเกาหลีใต้ ที่แม้จะตกรอบไป แต่พวกเขาก็สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเอาชนะทีมแชมป์เก่าอย่างเยอรมันไปได้ 2-0 และดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกเขาทำลงไปมันอาจจะยังไม่พอ จนทำให้หลังจากที่เหล่านักเตะเดินทางกลับไปถึงประเทศบ้านเกิดของตัวเอง กลับมีแฟนบอลขว้างปาไข่ใส่พวกเขาเพราะไม่พอใจที่ตกรอบ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมานักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ได้เดินทางกลับไปถึงสนามบินแห่งชาติอินชอน โดยมีบรรดาแฟนบอลออกมาต้อนรับมากมาย แต่ทุกอย่างกลับแย่ลงเมื่อมีกลุ่มแฟนบอลบางส่วนที่ไม่พอใจกับความพ่ายแพ้ของพวกเขา ขว้างปาสิ่งของและไข่ดิบใส่เหล่านักเตะ แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางด้านนาย Shin Tae-yong โค้ชทีมชาติของเกาหลีใต้ ได้ออกมาบอกว่า “ผมไม่อยากจะกลับมาที่บ้านเลยจนกระทั่งถึงเดือนกรกฎาคม (เพราะเขาจะพาทีมเข้ารอบลึกไปอีก) และมันน่าผิดหวังมากๆ ที่เราต้องกลับมาในเดือนมิถุนายน (เพราะตกรอบนั่นเอง)” “ผมอยากจะขอบคุณแฟนๆ สำหรับการสนับสนุนของพวกเขา หากไม่มีแฟนบอล พวกเราก็ไม่สามารถที่จะสร้างปาฏิหาริย์ที่พวกเราได้ทำลงไปได้” ทางด้านสตาร์ดังอย่าง Son Heung-min ก็ได้กล่าวว่า “ขอบคุณทุกคนที่มาในวันนี้ ผมอยากจะขอโทษแฟนๆ ทุกคนที่เราทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ไม่ได้ คือการเข้าไปถึงรอบน็อกเอ้าท์ แต่ผมคิดว่าเรายังมีหวังอยู่จากการเอาชนะเยอรมนีได้” “แต่มันก็ไม่เป็นผล…
-
จรวด MOMO-2 ตกลงมากระแทกพื้นก่อนลุกเป็นไฟที่ญี่ปุ่น หลังปล่อยขึ้นไปได้ไม่ถึงนาที
การกระทำอะไรที่ยิ่งใหญ่นั้น ในบางครั้งหากเกิดความผิดพลาดขึ้น ก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นอะไรที่เกี่ยวกับการท่องอวกาศแล้วด้วย เมื่อวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุจรวด MOMO-2 ผลงานของนาย Takafumi Horie ผู้ประกอบการบริษัทเทคโนโลยีอวกาศ เกิดความผิดพลาดระหว่างปล่อยตัวออกจากฐานยิง ที่เมืองไทคิ เมืองทางตอนใต้ของจังหวัดฮอกไกโด วิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจาก Guardian News จากในวิดีโอจะสังเกตุเห็นว่าหลังจากที่มีการปล่อยตัวออกไปได้ไม่นาน ระบบเครื่องยนต์ของจรวดก็หยุดลง ส่งผลให้จรวดตกลงมากระแทกกับพื้นก่อนที่จะลุกเป็นไฟ ต่อหน้าผู้เข้าชมการปล่อยตัวจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ จังหวะที่ความผิดพลาดเกิดขึ้น จรวด MOMO-2 เป็นจรวดที่มีความยาว 10 เมตรที่มีการติดตั้งระบบสำรวจที่จะมีการปล่อยสู่วงโคจรในระดับความสูงที่ 100 กิโลเมตร ซึ่งหากการปล่อยจรวดสำเร็จได้ด้วยดี MOMO-2 จะได้ชื่อว่าเป็นจรวดของทางเอกชนลำแรกของญี่ปุ่นที่ถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรเลยทีเดียว MOMO-2 ตกลงมาและลุกเป็นไฟ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การปล่อยจรวดของเอกชนเกิดความผิดพลาดขึ้น เพราะการปล่อยจรวด MOMO-1 เมื่อปี 2017 ก็จบลงด้วยการขาดการติดต่อกับจรวดในเวลาเพียง 1 นาทีหลังจากยิงขึ้นไปเช่นกัน แต่ก็ราวกับเป็นความโชคดีในความโชคร้าย เพราะแม้ว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะจบลงด้วยความผิดพลาด แต่ก็ไม่มีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แต่อย่างใด เหล่าผู้ชมที่ได้แต่ตกใจกับเหตุการณ์ทที่เกิดขึ้น …
-
นักศึกษาถูก “หลอกเอาเงิน” หลายล้าน เลย “แกล้งถูกลักพาตัว” หลอกเอาเงินจากพ่อแม่อีกที?!
เดี๋ยวนี้แก๊งมิจฉาชีพมันเยอะ เราอาจต้องกลายเป็นเหยื่อของคนเรานั้นโดยไม่รู้ตัว และต้องสูญเงินไปหลายหมื่นหลายแสน เหมือนอย่างสิ่งที่พวกเขาเหล่านี้ต้องเจอ เรื่องราวนี้กำลังโด่งดังไปไกลในหลายประเทศ มันคือการหลอกลวงอันแสนซับซ้อน เมื่อมิจฉาชีพหลอกเอาเงินจากนักศึกษามหาลัยเป็นจำนวนหลายล้านบาท และนั่นจึงทำให้เหยื่อตัดสินใจแกล้งโดนลักพาตัวเพื่อหลอกเอาเงินจากคนในครอบครัวอีกที เหยื่อถ่ายรูปตัวเองเหมือนว่าโดนลักพาตัว แล้วส่งไปหลอกเอาเงินพ่อแม่อีกที วิธีการอันง่ายแสนง่ายแต่ได้ผลเป็นอย่างมาก นั่นคือแก๊งต้มตุ๋นเหล่านั้นจะโทรมาหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าเหยื่อมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีความและจำเป็นต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินกว่าหลายล้านบาท เพื่อทำให้เหยื่อเชื่อสนิทใจ พวกมิจฉาชีพก็จะทำเป็นขอข้อมูลโน่นนี่นั่น และให้ตำรวจปลอมคนอื่นๆ ติดต่อมาอีกที เรียกว่าเป็นขบวนการต้มตุ๋นมืออาชีพเลยก็ว่าได้ เหยื่อส่วนใหญ่ที่โดนจะเป็นแค่เด็กนักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วๆ ไป แน่นอนว่าพวกเขาเองคงไม่มีเงินเป็นจำนวน 7 หลักขนาดนั้น ด้วยเหตุนั้นเอง มันจึงนำไปสู่การหลอกลวงอันซับซ้อน เหยื่อนักศึกษาทั้งหลายเลือกที่จะถ่ายรูปแกล้งทำเหมือนกับว่าตัวเองถูกลักพาตัวไป จากนั้นเหยื่อจะอารมณ์แบบร่วมมือกับพวกแก๊งต้มตุ๋น ส่งภาพดังกล่าวและคำข่มขู่ไปให้ผู้ปกครองเพื่อเรียกเงินจำนวนมหาศาล แน่นอนว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่คงไม่อาจปล่อยให้ลูกต้องตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ได้ พวกเขาแทบทั้งหมดจึงจำเป็นต้องโอนเงินไปให้แก๊งต้มตุ๋นในทันที นั่นก็เหมือนกับว่าเหยื่อเด็กนักศึกษากลายเป็นพวกมิจฉาชีพไปซะเอง จากการรายงานบอกว่านักศึกษาชาวจีนคนหนึ่งที่เรียนอยู่ในโรงเรียนนานาชาติ ประเทศออสเตรเลีย เธอนั้นหลอกว่าตัวเองถูกลักพาตัว เพื่อเอาเงินจากพ่อแม่ไปให้พวกต้มตุ๋น มากกว่า 12 ล้านบาทเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ในออสเตรเลีย เพราะการหลอกลวงในลักษณะเดียวกันนี้ยังกระจายออกไปในประเทศอังกฤษ แคนาดา และสหรัฐอเมริกา หลายๆ ประเทศจึงจำเป็นต้องออกมาเตือนภัยให้กับประชาชนทุกคน พวกเขาบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่เรียกเงินผ่านทางโทรศัพท์โดยที่ไม่มีการยื่นเอกสาร ณ สถานีตำรวจ …
-
โรงเรียนจากจีน เปิดอนุสาวรีย์รถถัง พร้อมฝึกโหดนักเรียน เพื่อเตรียมสอบเข้ามหาลัย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งจากจังหวัดฮานดัง ในมณฑลเหอเป่ย์ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการใช้ระบบทหารในการฝึกนักเรียนของพวกเขา นอกจากการฝึกระเบียบวินัยแบบทหารที่เข้มข้นแล้ว โรงเรียนแห่งนี้ยังมีรถถังคันใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าของโรงเรียนอีกด้วย “เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณครูและนักเรียนของเราจะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณและปณิธานที่มุ่งมั่น พวกเขาจะไม่หวั่นกลัวเรื่องใดๆ และมีความเสียสละในการเผชิญหน้ากับทุกอย่าง” อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ กล่าวในพิธีเปิดอนุสาวรีย์รถถังที่หน้าโรงเรียน นอกจากนี้อาจารย์ใหญ่ยังกล่าวอีกว่า อนุสาวรีย์แห่งนี้จะช่วยทำให้นักเรียนและคุณครูไม่ลืมหน้าที่ของพวกเขา และทำงานอย่างหนักเพื่อบรรลุให้ถึงเป้าหมาย การให้โอวาทในครั้งนี้ต้องการที่จะสื่อให้นักเรียนทุกคนมุ่งมั่นสำหรับการสอบ Gaokao ที่เปรียบเหมือนกับการสอบเอนทรานซ์ของประเทศจีน โรงเรียนมัธยม Hengshui คือโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งของจังหวัดฮานดัง และในแต่ละปีนักเรียนจากที่นี่สามารถทำคะแนนสอบได้อย่างยอดเยี่ยม และเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนได้มากมาย จากรายงานเผยว่าธุรกิจโรงเรียนนั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในเครือข่ายของโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ในแต่ละวันนักเรียนจะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 12 ชั่วโมง และมีเวลากินข้าวประมาณ 15 นาที นอกจากนี้พวกเขายังมีกฎที่เคร่งครัดมากมายที่คล้ายกับค่ายทหาร ไม่ว่าจะเป็นการห้ามติดต่อใกล้ชิดกันระหว่างนักเรียนชายและนักเรียนหญิง นอกจากนี้ก่อนช่วงสอบ Gaokao พวกเขาจะต้องมาเข้าแถวในสนาม พร้อมกับตะโกนว่าจะทำให้ดีที่สุดในการสอบอีกด้วย อย่างไรก็ตามมีหลายฝ่ายที่มีความกังวลว่าวิธีการนี้จะสร้างความกดดันให้กับเด็ก และในปี 2016 ที่ผ่านมา มีรายงานว่านักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ ได้กระโดดจากดาดฟ้าของโรงเรียนเพื่อฆ่าตัวตาย ซึ่งภายหลังทางอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนได้ติดตั้งราวเหล็กเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอีก ที่มา shanghai,cgtn
-
ลุงเดือดจัดโทรแจ้งตำรวจ หลังเห็นคน ‘ทานเบอร์ริตโต้’ บนรถไฟ ทั้งๆ ที่มีป้ายห้าม
การทำตามกฎก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ หากเรามองว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้… เรื่องราวนี้เกิดขึ้นบนรถไฟด่วน Bay Area Rapid Transit (BART) ในเมืองโอ๊กแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้โดยสารท่านหนึ่งแสดงความโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากว่ามีผู้โดยสารอีกคนหนึ่งกำลังทาน ‘เบอร์ริตโต้’ อย่างเอร็ดอร่อย ทั้งๆ ที่ในตู้รถไฟมีป้ายเตือนอยู่ว่า ‘ห้ามทานอาหารและน้ำดื่ม’ คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้ ซึ่งชายผู้เดือดดาลได้ต่อว่าชายที่ทำผิดกฎว่า “คุณรอหน่อยไม่ได้เหรอ? มันมีป้ายเตือนอยู่ว่าห้ามกินและห้ามดื่ม คุณไม่เข้าใจรึไง? คุณจะต้องโง่แน่ๆ” จากนั้นเขาก็เดินไปที่โทรศัพท์ฉุกเฉินของตู้รถไฟพร้อมกับบอกว่าจะโทรหาตำรวจ “ผมจะโทรหาตำรวจ จะเอางั้นมั้ยล่ะ?” แล้วเขาก็โทรไปจริงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจรับสาย “สวัสดีครับ โปรดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่นี่หน่อยได้มั้ย มีคนทานอาหารที่ตู้รถไฟตู้แรก เขากำลังทานอาหารบนรถไฟ” ชายที่โทรตำรวจเดินมาถ่ายภาพคู่กรณี ขณะเดียวกันผู้โดยสารคนอื่นๆ กลับมองว่านี่เป็นเรื่องตลก หลังจากที่คู่กรณีเดินลงจากรถไฟเป็นที่เรียบร้อย ผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็พูดกับชายผู้โมโหว่า “ชั้นว่านายอย่าขึ้นรถไฟ BART บ่อยๆ จะดีกว่านะ” เขาตอบกลับไปว่า “ผมขึ้น BART บ่อยกว่าพวกคุณอีก…
-
หญิงสาวไม่ยอมเก็บ “อึ” สุนัขของเธอในสนามบิน พร้อมชูนิ้วกลางให้คนถ่ายคลิป
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันในต่างประเทศอีกครั้ง หลังจากที่หญิงสาวรายหนึ่งถูกจับภาพในระหว่างที่เธอ ปล่อยให้สุนัขของเธออึกลางสนามบินนานาชาติเดนเวอร์ ในรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ภาพวิดีโอได้เผยให้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งหญิงนิรนามผู้นั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ และขณะเดียวกันเธอเองก็ไม่ได้สนใจเจ้าตูบของตัวเองที่กำลังปล่อยของเสียทิ้งไว้ที่ประตูทางเข้าผู้โดยสารเลย เจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวพยายามเตือนหญิงสาวที่กำลังคุยโทรศัพท์ว่า สุนัขของเธอนั้นกำลังทำความสกปรกไปทั่ว ก่อนที่เจ้าของสุนัขจะตอบกลับเป็นเชิงสัญลักษณ์ด้วยการยกนิ้วกลาง และเดินจากไป หลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้คนจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น บางคนบอกว่า ทางสนามบินนั้นได้เตรียมห้องสำหรับดูแลสัตว์เลี้ยงไว้ตามแต่ละประตูผู้โดยสารแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเหตุสุดวิสัยก็ได้ ในขณะที่บางคนกลับไม่คิดเช่นนั้น พร้อมกับบอกว่าหญิงสาวคนนี้จงใจที่จะปล่อยสุนัขของเธอถ่ายเรี่ยราด และตั้งใจสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ถ้าหากใครที่คิดจะพาสัตว์ออกไปนอกบ้านล่ะก็ เธอจะต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ถ้าหากว่าทำไม่ได้ล่ะก็ เลี้ยงพวกมันไว้ที่บ้านดีกว่า” “ถ้าเธอมีกรงสุนัข สายจูง โทรศัพท์และกำลังจะไปเที่ยว ฉันคิดว่าเธอน่าจะมีเงินพอซื้อถุงใส่ขี้ของหมาเธอนะ” “กำลังรอถุงงั้นหรือ?? ขอโทษนะถ้าหากคุณนำสัตว์เข้ามา คุณจะต้องเตรียมพร้อมอยู่แล้ว” แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้… ที่มา dailymail
-
มหากาพย์ฆาตกรรม ภรรยากับลูกสาวทั้ง 4 จ้างมือปืนฆ่าสามี เพราะ ‘ไม่ให้สวมกางเกงยีน’!!
เมื่อมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น ก็จะต้องมีขั้นตอนการสืบสวนถึงที่มาที่ไปว่าเป็นอย่างไร ผู้เสียชีวิตเป็นใคร บ้านอยู่ไหน และมีสาเหตุการตายอย่างใด ซึ่งแต่ละคดีนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ว่ามีคดีหนึ่งที่น่าสะเทือนใจจนแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง เพราะมีว่าในคดีนี้ทางครอบครัวเป็นผู้ตายเป็นผู้พรากเอาวิญญาณของเขาไปซะเอง!! ร่างอันไร้วิญญาณของนาย Meharbaan Ali นายตำรวจชั้นรองสารวัตร ได้ถูกพบเข้าที่คลองระบายน้ำในเมือง Shahjahanpur รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นจุดที่ห่างจากบ้านของเขาเพียง 250 เมตรเพียงเท่านั้น ในวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากพบศพการสืบสวนหาสาเหตุการตายของนาย Meharbaan ก็ได้เริ่มขึ้น และในเวลาไม่นานนักทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นก็ได้พบว่าการตายของเขาไม่ใช่การตายที่ธรรมดา เพราะว่าได้มีทางครอบครัวของเขาเองมีพัวพันเข้ากับคดีนี้ด้วย!! ด้วยหลักฐานจากทั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ การตรวจสอบประวัติการโทรของสมาชิกในครอบครัวแต่ละคน ทำให้ในที่สุดทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถหาตัวผู้ร้ายที่แท้จริงได้นั่นก็คือภรรยาและลูกๆ ทั้ง 4 คนของผู้ตายนั่นเอง ซึ่งในภายหลังนี้เองทางครอบครัวก็ได้สารภาพถึงแรงจูงใจและวิธีการฆ่าอย่างหมดเปลือก “หลังจากที่มีการพบศพของ Ali เราก็ตั้งข้อสงสัยว่าจะต้องมีเรื่องของทางครอบครัวมาเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน เพราะการตายของเขาอยู่จากบ้านเพียงแค่ 250 เมตรเพียงเท่านั้น” “เราได้ทำการตรวจสอบประวัติการใช้โทรศัพท์ของสมาชิกในบ้านทุกคน แล้วก็พบว่า Zadina ภรรยาของผู้ตายได้มีการติดต่อกับเบอร์โทรศัพท์หมายเลขหนึ่งอย่างสม่ำเสมอ” Daya Chand Sharma สารวัตรแห่งสถานีตำรวจ Sadar Bazaar กล่าว ทั้งนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในบริเวณดังกล่าว ก็ได้พบว่าผู้เสียชีวิตได้มาถึงบ้านในเวลา 10.45 น.…
-
เด็กสาวสองคน แกล้งโทรเรียก ‘รถพยาบาล’ พอมาถึง ขว้างปาอิฐ ข้าวของ ใส่จนเสียหาย!!
บางครั้งการละเล่นของเด็กๆ มันก็เลยเถิดไปจนสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น… เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปนี้…เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Ladbible รายงานว่าเจ้าหน้าที่จากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ได้รับสายโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเด็กวัยรุ่นหญิง 2 คน แต่พอเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นพวกเขากลับถูกขว้างปาด้วยก้อนอิฐ จากเด็กผู้หญิงสองคนนั้นเอง!! เจ้าหน้าที่จากหน่วย South Central Ambulance Service ได้รับสายโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเด็กสาววัย 13 ปี แต่พอไปถึงจุดเกิดเหตุที่อยู่ในเขต Eastleigh เมือง Hampshire ประเทศอังกฤษ กลับมีสายโทรเข้ามาอีกว่ารถพยาบาลที่ถูกเรียกไปก่อนหน้านี้ได้รับความเสียหาย กลับกลายเป็นว่าสายที่โทรไปก่อนหน้านี้เป็นเพียงการกลั่นแกล้งของเด็กวัยรุ่นหญิง 2 คน ที่ทำทีเป็นเดือดร้อนโทรเรียกรถฉุกเฉิน พอเจ้าหน้าที่ไปถึงกลับโยนสิ่งของต่างๆ ทั้งก้อนอิฐ เก้าอี้ แก้วน้ำ และสิ่งของต่างๆ ออกมาจากหน้าต่างบ้าน เจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้างานจึงต้องโทรเรียกกำลังเสริมเพราะได้รับความเสียหายจากการกระทำของเด็กทั้งสองคน “สิ่งที่มันแย่ยิ่งกว่านั้นคือพนักงานมากมายหลายคน อุปกรณ์ต่างๆ และรถพยาบาลมากมายถูกส่งไป นั่นทำให้ผู้คนที่เจ็บป่วยจริงๆ ไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที” โฆษกจากหน่วย South Central Ambulance Service กล่าว โชคดีที่เจ้าหน้าที่แพทย์เคลื่อนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด …
-
ชาวเน็ตบ่นการออกแบบ ‘เมาส์ Apple’ ทำไมถึง ‘ใช้ไปชาร์จไป’ ไม่ได้ล่ะฟร๊ะ!?
อย่างที่รู้กันดีว่าบริษัท Apple นั้นถือเป็นผู้นำในเรื่องของการออกแบบหรือสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้โลกของเราได้อึ้งกันอยู่เสมอ เช่นเดียวกันกับเจ้า ‘เมาส์’ สุดไฮเทคแบบไร้สายของ Apple นี้ขอบอกเลยว่ามันเจ๋งมากๆ การใช้งานก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างผ่านฉลุย แต่ปัญหามันเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ‘ชาร์จแบตฯ’ เพราะเมาส์แบบไร้สายเองก็ต้องการไฟฟ้าในการใช้งาน เมื่อมันไฟฟ้าที่ชาร์จไว้หมด ก็ต้องมีการเติมมันเข้าไป แต่กลับกลายเป็นว่าที่เสียบสายชาร์จมันดันอยู่ ‘ด้านล่าง’ ซะงั้น เพราะฉะนั้นการใช้งานมันไปด้วยระหว่างชาร์จก็เลยกลายเป็นเรื่องที่ ‘เป็นไปไม่ได้’ หรือจะเป็นเป้าหมายของบริษัทอยู่แล้วที่ออกแบบมาไม่ให้ใช้งานระหว่างชาร์จแบตเตอรี!? แต่ผู้ใช้งานหลายคนต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ทำไมมันออกแบบมาได้ห่วยแตกแบบนี้ล่ะฟร๊ะ!?’ บางส่วนก็พบทางออกของปัญหา เพื่อที่จะสามารถใช้งานเมาส์ของ Apple ระหว่างชาร์จได้ “ผมถึงกับงงไปพักนึงเลย กับการออกแบบที่ไม่น่าเชื่อของ Apple” “ผมรู้สึกประทับใจมากกับสิ่งที่บริษัทที่มีชื่อเสียงออกแบบมา แถมการใช้งานของมันก็เป็นอะไรที่ห่วยแตกบรม แบบที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน” อย่างไรก็ตามมีชาวเน็ตบางท่านที่ออกมาให้ความเห็นว่า อย่าไปว่าบริษัทเขาเลย ปัญหาทุกอย่างมันเกิดขึ้นกับตัวพวกคุณๆ เองนั่นแหละ!! “ฉันเพิ่งเห็นในทวิตเตอร์ว่ามีคนบ่นถึงการใช้งานเมาส์ของ Apple กันใหญ่เลย แต่ก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากนะ เพราะเดี๋ยวจะยาว…คือ ถ้าคุณไม่ได้วางแผนการใช้งานมันให้ดีก็จะทำให้ชีวิตของคุณยากขึ้นแล้วล่ะ เพราะเราสามารถใช้งานมันตลอด…
-
คู่บ่าวสาวไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง บังเอิญเจอ Adam Sandler เลยชวนมาแชะภาพด้วยซะเลย!!
‘งานแต่งงาน’ ถือเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษที่ใครหลายๆ คนต่างเฝ้ารอคอยให้มาถึง… ในชีวิตหนึ่งคุณจะได้แต่งงานกันกี่ครั้งเชียว ฉะนั้นมันจะต้องกลายเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษ ที่จะสร้างความสุข และทำให้เราจดจำมันไปตลอดชีวิต เช่นเดียวกันกับงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่นี้ ที่เชื่อเลยว่ามันจะเป็นความทรงจำดีๆ ที่ติดตัวพวกเขาไปไม่รู้ลืม… เรื่องมีอยู่ว่าในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ขณะที่คู่บ่าวสาว Kevin และ Alex Goldstein กำลังแชะภาพพรีเวดดิ้งคู่กันอยู่ จู่ๆ พบกับบุคคลปริศนาที่มาพร้อมกับหนวดเข้มเดินเข้ามาในร้านอาหารข้างๆ ชายคนนั้นคือนักแสดง Hollywood ชื่อดังอย่าง Adam Sandler!!? จากรายงานของสำนักข่าว BBC พบว่าในวันดังกล่าว Adam ได้เดินทางไปทานอาหารกลางวันร่วมกับครอบครัวที่ร้านอาหารใกล้กับสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของคู่บ่าวสาวพอดี ด้วยความที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ ฝ่ายเจ้าสาวได้ตะโกนเรียกชื่อของ Adam จากนั้นพี่แกก็เดินเข้ามาหา ทำเอาว่าที่คู่บ่าวสาวถึงกับเขินจนยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว เจ้าบ่าว Kevin เล่าว่า “ภรรยาของผมตะโกนชื่อของเขาออกมา จากนั้นเราก็ได้ถ่ายรูปด้วยกัน เขาอวยพรให้กับเราและพูดคุยกัน” “เราบอกเขาว่าเราเป็นแฟนตัวยงของเขาเลย เราชื่นชอบผลงานของเขามาก และได้ดูหนังทุกเรื่องที่เขาแสดงมาแล้ว เขาก็ตอบกลับมาว่า ‘เยี่ยมมาก งั้นผมจะถ่ายภาพด้วยนะ’” “ภรรยาของผมชวนเขาไปร่วมงานแต่งงานด้วย แต่น่าเสียดายที่เขามาไม่ได้…
-
คู่รักสายฟาสต์ฟู้ด…พอแต่งงานเสร็จก็บึ่งรถไปฉลองกันที่ร้าน ‘แม็คโดนัลด์’ ซะเลย!!
สำหรับคนที่ชื่นชอบทานอาหารฟาสต์ฟู้ดแล้วต้องขอบอกเลยว่า การมีมันเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตอย่าง ‘งานแต่งงาน’ แล้วต้องขอบอกเลยว่าคงเป็นอะไรที่ฟินเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกันกับคู่บ่าวสาว Carmel และ Phil Price de Pasquale วัย 30 และ 27 ปี ได้ทำการเฉลิมฉลองงานแต่งงานในฝันด้วยการพากันไปทานอาหารที่ร้านแม็คโดนัลด์หลังแต่งงานเสร็จหมาดๆ!! เนื่องจากว่าพวกเขานั้นชื่นชอบการทานอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ร้านแม็คโดนัลด์เป็นอย่างมาก จนชนิดที่ว่าซื้อมาทานแทบทุกวันเลยทีเดียว “พวกเราชอบไปออกกำลังกายที่ยิมด้วยเช่นกัน ผู้คนมักจะตกใจทุกครั้งที่เราซื้อแม็คไปทาน เราต้องการให้ความรักที่มีต่อแม็คโดนัลด์ได้เข้ามามีส่วนร่วมในงานแต่งงานของเราด้วย ในรูปแบบที่ว่าเป็นการตกหลุมรักต่อความรักที่มีต่อแม็คโดนัลด์ของเรา” “นอกจากนี้ในงานแต่งของเรายังมีรถกระบะที่ขนอาหารฟาสต์ฟู้ดมาเต็มลำรถ และกำแพงที่เต็มไปด้วยโดนัท ตามธีมงานแต่ง ‘โลกแห่งอาหารฟาสต์ฟู้ด’ ที่พวกเราช่วยกันคิด” Carlmel ผู้เป็นเจ้าสาวกล่าว “หลังจากงานแต่งงานเสร็จสิ้น เราก็รีบบึ่งรถไปที่ร้านแม็คโดนัลด์ในทันที ฉันสั่งนักเก็ตมา 20 ชิ้นและมันฝรั่ง” “หลายคนในร้านแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราเพิ่งจะแต่งงานกันจริงๆ แล้วก็ไปที่ร้านแม็คฯ ทั้งพนักงานและลูกค้าคนอื่นๆ ต่างก็หัวเราะชอบใจเพราะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลก” “แต่เพื่อนๆ และครอบครัวของเรากลับไม่แปลกใจเลยที่พวกเราจอดรถแวะที่ร้านแม็คโดนัลด์ เพราะพวกเขารู้กันอยู่แล้วว่าพวกเราชอบกินมากๆ” Carmel เล่าเพิ่มเติม ที่มา : ladbible
-
ชายในแคลิฟอร์เนียบริจาคตุ๊กตาสะสมของแม่ โชคดีได้เงินคืนกลับมา 1.1 ล้าน
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมืองแซนตามอนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย ครอบครัวของ Ray Rhinehart ต้องสูญเสียคุณแม่อันเป็นที่รักไป คุณแม่ของเขาสะสมตุ๊กตาพอร์ซเลนเอาไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางครอบครัวคิดว่าเมื่อคุณแม่ล่วงลับไปแล้ว ตุ๊กตาเหล่านี้มันน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นมากกว่าตั้งอยู่ในบ้าน ทางครอบครัวจึงตัดสินใจนำตุ๊กตาที่แม่สะสมไว้ นำไปบริจาคให้กับร้านขายของมือสองของสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาที่ตั้งอยู่ในบริเวณเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่ พวกเขาส่งของไปบริจาคเพราะคิดว่าส่วนหนึ่งมันสามารถทำเงินได้และอีกส่วนหนึ่งอาจจะถูกส่งต่อไปเพิ่มความสุขให้กับเด็กๆ ที่ต้องการ ประมาณหนึ่งเดือนต่อมา Ray ได้รับโทรศัพท์จากทางร้านว่า พบซองจดหมายที่ซ่อนอยู่ในกล่องตุ๊กตากล่องหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นเอกสารสำคัญของคุณแม่ หรือว่ามีบางสิ่งที่คุณแม่ซ่อนเอาไว้ แต่สิ่งที่อยู่ในซองจดหมายนั้นกลับไม่ใช่ข้อความหรือเอกสารใดๆ แต่กลับเป็นเงินสดที่ซ่อนเอาไว้มูลค่ากว่า 36,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 1.1 ล้านบาท!!! นี่คงเป็นสิ่งที่คุณแม่แอบซ่อนเอาไว้ให้กับลูกๆ ทั้งหลาย ในวันที่เธอจากโลกใบนี้ไป เงินจำนวนนี้ถูกส่งคืนกลับสู่ลูกๆ ที่มีจิตใจเป็นกุศล นำสิ่งของของคุณแม่ไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น #เหมียวบู้บี้เชื่อว่า คนดีย่อมได้รับแต่สิ่งดีๆ ตอบแทนอย่างแน่นอน ที่มา abc7, Gratitude Attitude
-
คุณแม่ชาวจีนถ่ายภาพกับลูกทุกปี แล้วเอารูปก่อนๆ มาวางไว้ข้างหลัง เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง
หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Annie Hsiao-Ching Wang เธอเป็นศิลปินชาวจีนที่ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ เธอให้ความสนใจในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหญิงสาวอย่างมาก เธอเชี่ยวชาญเรื่องการถ่ายภาพ การวาดภาพสีน้ำมัน และการใช้สื่อแบบผสมผสาน ในหนึ่งในปี 2001 เธอก็ได้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ที่ชื่อว่า “The Mother as a Creator” โดยเป็นการถ่ายภาพของเธอในตอนที่ท้องแก่ใกล้คลอด ซึ่งเธอหวังจะให้ภาพนี้เป็นภาพแรกในผลงานชุดนี้และใช้มันเล่าเรื่องราวในภาพต่อๆ ไป เพื่อให้แสดงให้เห็นว่าแม่นี่แหละคือศิลปินอย่างหนึ่งที่ผลงานคือลูกของเธอ ในปี 2002 เธอก็พาลูกชายมาถ่ายภาพด้วย โดยตั้งภาพที่เธอท้องไว้ด้านหลังเพื่อให้เห็นความต่อเนื่องและความเปลี่ยนแปลงของเธอ และในปี 2003 มาเธอก็ถ่ายรูปลูกชายที่เติบโตขึ้นอีกนิด และนำภาพของปีก่อนมาตั้งไว้ด้านหลังเช่นเดิม จากตรงนี้เราจะได้เห็นลูกชายของเธอเติบโตขึ้นทีละนิดๆ และเธอเองมีการเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้างในแต่ละปี ภาพจากปี 2004 ถูกถ่ายขณะที่เธอกำลังจัดบ้านต้อนรับวันคริสต์มาส ในปี 2005 เธอกำลังเตรียมงานเพื่อจัดแสดงผลงานบางอย่างอยู่ ปี 2006 เธอมีงานที่ต้องทำหลายอย่าง ภาพนี้จึงสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในปีนั้น ภาพจากปี 2010 ปี 2011 และปี 2014 จากภาพนี้แสดงให้เห็นเลขปีที่แต่ละภาพถูกถ่าย…
-
เปิดภาพหัวขโมยเล่นใหญ่ ตกลงมาจากฝ้าเพดานเพราะหนีตำรวจ นี่เอาออสการ์ไปเลยไหม!?
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สุดชุลมุนเกิดขึ้นที่รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา เป็นเหตุการณ์ที่วัยรุ่น 2 คนขโมยบัตรเครดิตของคนอื่นมาแล้วมาใช้ซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ แต่ถูกจับได้ซะก่อน และในระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโผล่มาพอดี ทำให้เกิดเป็นภาพวิ่งไล่จับสุดชุลมุนจนแทบจะมอบถ้วยรางวัลออสการ์ให้เลย ตามรายงานบอกว่าคู่หนุ่มสาวที่ว่านี้มีชื่อว่า Richard Pariseau วัย 28 ปี และ Brittany Burke วัย 29 ปี พวกเขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้คาร้านสะดวกซื้อเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่แทนที่การจับกุมจะจบลงแบบง่ายๆ นาย Richard ก็ผลักหญิงสาวลงไปกับตำรวจและหวังจะใช้โอกาสนี้หนีออกไป ในระหว่างนั้นตำรวจได้พยายามจับเสื้อของเขาไว้ ทำให้เสื้อของเขาขาดเหลือแต่กางเกง แต่ Richard ก็ยังสู้ไม่ยอมถอย ยังคงพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุม แม้จะมีปืนจ่อมาที่เขาก็ตาม ส่วน Brittany ใช้จังหวะที่ฝ่ายชายกำลังวิ่งไล่จับกับตำรวจหนีเข้าไปยังหลังร้านและพยายามปืนบันไดขึ้นไปบนฝ้าเพดาน หวังจะคลานออกไปแบบเนียนๆ แต่ด้วยกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ที่หลังร้าน ยิ่งทำให้ใบหน้าของเธอชัดเจนขึ้นไปอีก ในระหว่างที่เธอคลานออกไป ฝ้าเพดานที่รับน้ำหนักของเธอก็พังลงมา ทำให้หญิงสาวตกลงมากระแทกเข้ากับชั้นวางของราวกับฉากหนึ่งในหนังฮอลลีวูดยังไงยังงั้น สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ถูกจับกุมและถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 164,880 บาท จากการใช้บัตรเครดิตที่ขโมยมาเพื่อซื้อน้ำอัดลมกระป๋องราคาไม่กี่บาท ชมคลิปการจับกุมของทั้งคู่ได้ที่นี่ แค่น้ำอัดลมกระป๋องเดียว…
-
พนักงานดับเพลิงโชว์สกิลสุดเทพ ใช้ ‘ตะเกียบ’ ช่วยคีบค้างคาวออกมาจากบ้านชาวบ้าน!!
เป็นที่รู้กันดีว่าวัฒนธรรมการกินของชาวจีนนั้น ‘ตะเกียบ’ เป็นเหมือนกับอาวุธหลักอันทรงพลังที่ใช้คีบนู่นคีบนี่แทนช้อนส้อมได้อย่างดี แต่ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะใช้ตะเกียบเก่งถึงขั้นที่ว่าสามารถคีบค้างคาวตัวเป็นๆ ออกจากบ้านได้เป็นร้อยๆ ตัว!! โดยเมื่อเร็วๆ มานี้มีครอบครัวหนึ่งในเมืองซีอาน ประเทศจีน ได้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ หลังจากที่พบว่าที่บ้านของพวกเขามีค้างคาวนับร้อยตัวมาตั้งรกรากอยู่บริเวณหน้าต่างห้องครัว และทางทีมงานที่รับรู้เหตุดังกล่าวและเข้าไปช่วยเหลือก็คือ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนั่นเอง (เป็นทุกอย่างให้แล้วจริงๆ) เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านของครอบครัวนี้ก็ได้พบว่า เจ้าค้างคาวที่ว่านี้มันมีขนาดที่หลากหลายแถมยังอยู่ในพื้นที่ที่แคบระหว่าง แผ่นกระจกกับผนังคอนกรีต พวกเขาจึงได้คิดหาวิธีที่จะนำพวกมันออกมาโดยสร้างความเสียหายให้น้อยที่สุด และในที่สุดวิธีที่พวกเขาเลือกก็คือการค่อยๆ ใช้ค้อนทุบกระจกไล่เหล่าค้างคาวให้ขึ้นไปอยู่ทางด้านบน หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ใช้ ‘ตะเกียบ’ คีบออกมาทีละตัวๆ ใส่ถุงพลาสติกจากตัวแรกจนถึงตัวสุดท้ายเลยทีเดียว คลิปตอนค่อยๆ คีบค้างคาวออกมา ซึ่งหลังจากที่จับได้ทั้งหมดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ไม่ได้เอามันไปฆ่าแกงแต่อย่างใด กลับกันพวกเขาได้นำพวกมันไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติบริเวณภูเขาที่อยู่ใกล้ๆ นั่นเอง เรียกได้ว่าภารกิจนี้อาจจะสำเร็จไม่ได้ง่ายๆ เลย ถ้าหากไม่มีสกิลการใช้ตะเกียบระดับเทพแบบพวกเขา ถ้าอย่างนั้นแล้วล่ะก็ #เหมียวจิวยี่ ขอตัวไปฝึกทักษะซะหน่อย เผื่อว่าคืนนี้จะมีค้างคาวบินเข้ามากบดานแบบบ้านหลังนี้เข้าให้ ที่มา: shianghaiist
-
หนุ่มชาร์จโทรศัพท์กับเพาเวอร์แบงค์ไว้ใต้หมอน สุดท้ายระเบิดหัวเป็นรูไปหาหมอแทบไม่ทัน!!
เดี๋ยวนี้จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่จะต้องมีติดตัวอยู่เสมอสำหรับ ‘แบตเตอรี่สำรอง’ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า เพาเวอร์แบงค์ เพราะการใช้งานโทรศัพท์อย่างหนักหน่วงไม่ว่าจะติดต่อเรื่องงาน หรือเล่นโซเชียล มันช่างกินแบตเตอรี่ให้หมดไปไวซะเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นการเลือกใช้เพาเวอร์แบงค์ก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน ถ้าไม่อยากจะต้องประสบอุบัติเหตุเหมือนชายคนนี้ที่ชาร์จโทรศัพท์เอาไว้กับเพาเวอร์แบงค์แล้วนอนหลับไป ปรากฏว่าจู่ๆ มันกลับเกิดระเบิดขึ้นซะอย่างนั้น อุทาหรณ์สอนใจนี้เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีชายสกุล Li ถูกส่งเข้ามาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลอู่ฮั่น ประเทศจีนอย่างเร่งด่วน ด้วยบาดแผลเหวอะหวะและมีเลือดไหลออกมาจากบริเวณด้านหลังของศีรษะ ซึ่งจากการรายงานระบุว่าหนุ่ม Li คนนี้ ขณะเกิดเหตุเขาได้นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงขณะที่ชาร์จโทรศัพท์กับเพาเวอร์แบงค์เครื่องหนึ่งเอาไว้ จากนั้นก็เผลอหลับไปอย่างปกติธรรมดา ทว่าในเวลาประมาณตีสอง Li ก็ต้องเด้งตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะว่ามันได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นจากเพาเวอร์แบงค์ที่อยู่ใต้หมอนของเขา และสาเหตุที่ทำให้มันระเบิดก็เนื่องมาจากมีความร้อนที่มากเกินไปนั่นเอง สำหรับในการรักษาทางคุณหมอ Knews คุณหมอของโรงพยาบาลอู่ฮั่นก็ออกมาบอกว่า นาย Li มาถึงห้องฉุกเฉินด้วยบาดแผลบริเวณหลังศีรษะที่มีความยาวประมาณ 8 – 10 ซม. และมีขนาดเท่ากับประมาณลูกแอปเปิลลูกหนึ่งเลย “มันเป็นบาดแผลที่ค่อนข้างแปลกเลยทีเดียว” คุณหมอ Knews กล่าว พร้อมทั้งยังอธิบายต่อด้วยว่าการระเบิดในครั้งนี้ได้ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก และอาจทำให้หนังศีรษะของเขาเป็นแผลที่ค่อนข้างไม่ค่อยน่าดูนัก แต่อย่างไรก็ตามการระเบิดครั้งนี้ก็ไม่ร้ายแรงจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสมอง นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่ดีเลยทีเดียวสำหรับใครที่ต้องใช้งานเพาเวอร์แบงค์ ว่าเราควรจะเลือกซื้อของที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะต้องมีบาดแผลที่เหวอะหวะเหมือนกับชายคนนี้ก็เป็นได้… ที่มา:…
-
เธอกลับมาอีกแล้ว!! นางแบบนู้ดชาวเบลเยียม โผล่ถ่ายภาพกลางกรุงเยรูซาเล็ม
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ The Sun ได้นำเสนอข่าวของ หญิงสาวรายหนึ่ง ที่ออกไปถ่ายภาพนู้ดกลางกรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล นางแบบสาวรายดังกล่าวคือ Marisa Papen นางแบบนู้ดชาวเบลเยียม ที่เคยตกเป็นข่าวดัง หลังจากที่เธอและช่างภาพส่วนตัว ได้แอบเข้าไปถ่ายภาพนู้ดที่โบราณสถานแห่งหนึ่ง ในประเทศอียิปต์ (อ่านข่าวเก่า นางแบบนู้ดเบลเยียมเกือบถูกจับเข้าคุกอียิปต์ หลังจากถ่ายภาพเปลือยในโบราณสถาน) ภาพนู้ดของเธอที่อียิปต์ นางแบบสาวได้โพสต์ภาพนู้ด กลางเมืองหลวงของอิสราเอลลงในเว็บไซต์ของเธอ เธอเล่าถึงที่มาของภาพนี้ว่า เธอได้รับเชิญจากเพื่อนชาวอิสราเอลคนหนึ่งให้มาดื่มกาแฟที่บ้าน ก่อนจะขอขึ้นไปถ่ายภาพบนดาดฟ้า “ฉันได้พบกับเพื่อนชาวมุสลิมคนหนึ่ง เขาได้ขอให้ฉันไปดื่มชาและกาแฟที่บ้าน ฉันขอขึ้นไปถ่ายภาพบนดาดฟ้าของบ้านเขา ซึ่งได้อธิบายกับเขาว่าเราจะทำการถ่ายภาพนู้ดกัน และเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร” Marisa เล่าถึงที่มาของภาพนู้ดใกล้กับ กำแพง Wailing ของเธอ . ผลงานของเธอได้รับคำชื่นชมจากชาวอิสราเอลจำนวนไม่น้อย และหลายคนก็ได้ขอร้องให้เธอกลับมาสร้างผลงานที่นี่อีก แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับภาพดังกล่าว เนื่องจากบริเวณกำแพง Wailing คือโบราณสถานสำคัญของชาวยิว มุสลิม และชาวคริสต์ Marisa เล่าว่าการสร้างสรรค์ผลงานของเธอนั้น ก็เพื่อต้องการที่จะทำลายกรอบความคิดที่ถูกจำกัดด้วยกฎเกณฑ์ต่างๆ รวมทั้งเรื่องของศาสนาด้วย “ศาสนากำลังเปลี่ยนแปลงพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ พวกเราไม่ได้รับโอกาสในฟังเสียงหัวใจของตัวเองหรือสัญชาตญาณของตัวเอง…
-
สูงยกบ้าน!! ขนาดลูกชายวัย 11 ขวบ ยังสูงกว่า 2 เมตร มากกว่าค่าเฉลี่ย NBA ซะอีก!!
ตอนประถมสัก ป.5 ป.6 พวกเราแต่ละคนมีส่วนสูงกันสักเท่าไหร่? อย่าง #เหมียวตะปู เอง ตอนนั้นก็มีส่วนสูงอยู่ที่ประมาณ 155 เซนติเมตรเท่านั้น แต่สำหรับเด็กชายวัย 11 ขวบคนนี้ เขากลับมีความสูงกว่า 2.05 เมตร!! เด็กคนนี้มีชื่อว่า Xiaoyu เขาเติบโตมาในครอบครัวที่เรียกได้ว่าสูงใหญ่กันทั้งบ้าน พ่อของเขาสูงกว่า 1.8 เมตร ในขณะที่แม่และคุณตาสูงกว่า 1.9 เมตร เรียกได้ว่าเกินค่าเฉลี่ยของคนจีนอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ และไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะความสูงของเด็กชายในตอนนี้ถือว่ามากกว่าค่าเฉลี่ยความสูงของนักบาสเกตบอลอาชีพใน NBA ซะอีก (ค่าเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2.01 เมตร) ตอนเรียนเขาจำเป็นต้องนั่งโต๊ะที่สูงกว่าเด็กคนอื่นๆ สูงขนาดนี้ ใครๆ ก็คงคิดว่าเขาจะต้องได้เป็นนักกีฬาบาสอย่างแน่นอน แต่เป็นที่น่าเสียดาย เพราะเขามีอาการของโรคเท้าแบน ทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆ หรือแม้แค่การเดินก็สามารถทำให้เขารู้สึกเจ็บขาได้ ความยากลำบากของความสูงที่มากเกินวัยยังไปกระทบกับเรื่องของการใช้ชีวิตในโรงเรียนประถม เขากลายเป็นจุดสนใจของทุกคน แถมยังต้องคอยระวังไม่ให้หัวไปชนกับโน่นนี่นั่นอยู่บ่อยๆ จะไม่ให้เป็นจุดสนใจได้ไง ก็ค่าเฉลี่ยของเด็กวัย 11 ปีทั่วโลกนั้นอยู่แค่ประมาณ 1.453 เมตรเท่านั้นเอง…
-
ชายชราวัย 81 ปี ผู้ยังคงแข็งแรงฟิตปั๋ง กล้ามเป็นมัดๆ กับการมี Arnold เป็นแรงบันดาลใจ
เมื่อเราแก่ตัวไป สุขภาพร่างกายก็จะยิ่งเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา แต่ว่าคุณปู่วัย 81 ปีคนนี้กลับยังคงแข็งแรงปึ๋งปั๋งราวกับว่าอายุของเขานั้นไม่สามารถทำลายร่างกายของเขาได้เลย เขาคนนี้มีชื่อว่า Huang Rubiao ชายผู้เกิดในปี 1937 โดยถึงแม้เขาจะไม่ได้เล่นกล้ามมาตั้งแต่ตอนแบเบาะ แต่เขาก็คือชายคนนี้ที่มีแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ฟิตปั๋งอยู่เสมอ Huang ชายชราผู้ดูแลรูปร่างของตัวเองอยู่ตลอด ชายชราคนนี้เคยเป็นหนึ่งในนักกีฬาทีมชาติชุดแรกของประเทศจีน และได้ไปแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งแรกในปี 1956 อีกทั้งยังเป็นนักยิมนาสติกในทีมมณฑลเหอหนานอีกด้วย ภาพของ Huang สมัยหนุ่มๆ นับตั้งแต่นั้นมา ชายคนนี้ก็พยายามรักษาสุขภาพร่างกายเอาไว้ให้แข็งแรงอยู่เสมอ ตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา เขาใช้เวลาไปกับการเพาะกายอยู่ในฟิตเนสแทบจะตลอด และถึงแม้เขาจะแก่ตัวลงไปมากจนมีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง สิ่งนั้นก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับชายคนนี้ เขายังคงออกกำลังกาย ดื่มนมวันละ 2 แก้ว และกินอาหารจำพวกโปรตีนเข้าไปสร้างกล้ามเนื้อของตัวเองในทุกวัน ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาขยันขันแข็งในการฟิตหุ่นได้มากขนาดนี้ เป็นเพราะนักแสดง นักเพาะกาย และนักการเมืองชื่อดังอย่าง Arnold Schwarzenegger ภาพของ Arnold สมัยเป็นนักเพาะกาย Huang มองว่า Arnold เป็นทั้งแรงบันดาลใจและคู่แข่งในจิตใจของเขา…
-
นักท่องเที่ยวพยายามเอามือไปแตะช้างป่าที่กำลังกินอาหาร สุดท้ายโดนงวงฟาดเข้าหน้าเหวอ!!
สำหรับคนไทยเราอาจจะคุ้นเคยกับสัตว์สูงใหญ่อย่าง ‘ช้าง’ เป็นอย่างดี เพราะว่าเป็นสัตว์ที่คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล้ว การได้เห็นช้างเป็นสิ่งที่แสนจะวิเศษมาก เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะได้เห็นช้างด้วยสายตาของตัวเองในประเทศอื่นๆ แต่ก็ด้วยขนาดตัวอันใหญ่โตของมัน ทางที่ดีเราก็ไม่ควรจะไปเข้าใกล้มันจะดีกว่าถ้าหากไม่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะอาจโดนทำร้ายได้เหมือนกับนักท่องเที่ยวคนนี้ ที่โดนงวงฟาดเข้าเต็มๆ หน้าเพราะพยายามจะเอามือไปสัมผัสมัน!! โดยเหตุการณ์ระทึกขวัญของนักท่องเที่ยวคนนี้เกิดขึ้นในจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย เมื่อมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชื่อว่า Cody Stiner ไปเจอช้างที่กำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยเข้า และเมื่อเห็นอย่างนั้นเขาจึงอยากที่จะเข้าไปทักทายกับเจ้าช้างตัวนี้สักหน่อย ด้วยการเข้าไปยืนใกล้ชิดสนิทสนมป้อนอาหารให้กับเจ้าช้างตัวนี้ ซึ่งก็มีอยู่จังหวะหนึ่งที่เขาพยายามจะเอามือไปแตะต้องตัวช้าง โดยในจังหวะนี้เองที่ได้เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น เพราะนอกจากช้างจะไม่ให้แตะตัวแล้วมันยังเอางวงฟาดเข้าเต็มๆ หน้าของนักท่องเที่ยวคนนี้ และด้วยความแรงของมันก็ทำให้ Cody ถึงกับลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้นอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะเดินหนีออกมาจากจุดๆ นั้นด้วยความรวดเร็ว วิดีโอแบบเต็มๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ถูกถ่ายคลิปวิดีโอไว้ได้ทั้งหมด และทันทีที่ออกสู่สายตาชาวอินเทอร์เน็ตก็ได้มีความเห็นมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนมากจะเป็นในรูปแบบของตำหนินักท่องเที่ยวคนนี้ซะมากกว่าที่ไปยุ่งกับสัตว์ป่าอย่างนี้เข้า อย่างเช่น ทำไมคนเราถึงคิดว่าตัวเองมีสิทธิที่จะไปแตะเนื้อต้องตัวสัตว์ป่าได้ สมควรแล้วล่ะที่เขาได้รับการลงโทษอย่างนี้ เพราะถ้าแค่ยืนดูเฉยๆ ก็คงไม่โดนอะไรแล้ว แม้ว่าโดยทั่วไปช้างจะมีอารมณ์ที่ค่อนข้างอ่อนโยน แต่แม้แต่สัตว์อย่างสิงโตเองก็ยังรู้ว่าไม่ควรจะแหยมกับช้าง เยี่ยมมากเลยเจ้าช้าง คนที่ไม่รู้อะไรก็ควรจะโดนลงโทษอย่างนี้แหละ โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่โดนช้างกระทืบเข้าน่ะ ทั้งนี้เคยมีรายงานจากสื่อ National Geographic ว่าแม้ว่าสัตว์อย่างช้างจะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างอ่อนโยน แต่ถ้ามันตกมันขึ้นมาล่ะก็จะมีพละกำลังมหาศาลเลยทีเดียว…
-
โบสถ์จ้างครูสอนศิลปะมาบูรณะรูปปั้นที่มีอายุ 500 ปี แต่ไหงออกมาเฟลแบบนี้ล่ะเนี่ย!?
การบูรณะงานศิลปะโบราณที่มีอายุนับร้อยปีให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งนับเป็นงานที่ยากมากๆ ฉะนั้นคนที่จะทำหน้าที่นี้ได้ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีทั้งความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์และศิลปะ เพราะหากเราแค่ทาสีใหม่เพียงอย่างเดียวก็อาจจะทำให้มันกลายเป็นผลงานสุดเฟลแบบเรื่องราวต่อไปนี้ก็เป็นได้… เรื่องมีอยู่ว่าทางโบสถ์ San Miguel de Estella ที่ตั้งอยู่ในเมือง Navarre ประเทศสเปน ได้ทำการจ้างช่างฝีมือเพื่อมาทำการบูรณะรูปปั้นเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 500 ปี เป็นรูปปั้นของนักบุญ George ที่กำลังขี่ม้าและต่อสู้กับมังกร ในอดีตมันเป็นงานศิลป์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระคัมภีร์ไบเบิล ของดั้งเดิมก่อนจะบูรณะนั้นมีสภาพที่เก่าเพราะผ่านกาลเวลามานานกว่า 500 ปีแล้ว แทนที่จะจ้างช่างฝีมือระดับมืออาชีพ ที่มีความรู้เกี่ยวกับการผสมสี และประวัติศาสตร์ทางด้านศิลป์ ทางโบสถ์ได้ตัดสินใจจ้าง ‘ครูสอนวิชาศิลปะ’ จากโรงเรียนในพื้นที่แทน และนี่คือผลที่ได้!! หน้าตาของรูปปั้นนักบุญ George กลายเป็นหุ่นที่อยู่ในสนามเด็กเล่นไปซะแล้ว คาวาอี้เดสสุดๆ ด้วยเหตุนี้เองทางด้านนายกเทศมนตรี Koldo Leoz ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า “การบูรณะงานศิลป์ชิ้นนี้ทำให้เรารู้ว่า ควรจะให้ทางการประกาศหาผู้เชี่ยวชาญ และช่างมีฝีมือเพื่อมารับหน้าที่นี้ เพราะการบูรณะรูปปั้นงานศิลป์จากยุคศตวรรษที่ 16 คุณจะต้องระมัดระวังอย่างมากในการเลือกวัสดุต่างๆ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะสูญเสียความเป็นดั้งเดิมไปหมดเลยก็ได้” “ในมุมมองของวัฒนธรรม ประวติศาสตร์ และงานศิลปะ มันคือความฉิบหายวายป่วง ในความคิดเห็นของผมโบสถ์ถือเป็นสถานที่ที่รวบรวมไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมและงานศิลป์ต่างๆ ซึ่งมันการจะเปลี่ยนแปลงหรือทำอะไรเกี่ยวกับมัน ควรจะเป็นหน้าที่ของรัฐมากกว่า”…
-
หนุ่มถ่ายภาพแฟนสาวทุกวันที่ไปเดตด้วยกัน เพื่อมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษ!!
‘การถ่ายภาพ’ ถือเป็นวิธีการในการเก็บความทรงจำเอาไว้กับตัวเรา ในรูปแบบที่สามารถจับต้องได้อย่าง ‘รูปภาพ’ เช่นเดียวกันกับหญิงสาวคนนี้ ที่สงสัยว่าแฟนหนุ่มถ่ายรูปเธอไปทำไมนักหนา ถ่ายมันทุกวัน แต่พอถึงวันครบรอบมาก็ทำให้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันลงไปนั้นมันช่างมีค่ามากมายเหลือเกิน ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @magsster ได้ทำการโพสต์เรื่องราวความโรแมนติกที่แฟนหนุ่มของเธอได้ทำให้ “แฟนของฉันถ่ายรูปของฉันทุกวันที่เราไปออกเดตกันตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาทำไปทำไม แต่พอมาถึงวันครบรอบของเรา เขาเอาหนังสือนี้มามอบให้ฉัน” กลายเป็นว่าภาพทุกภาพที่แฟนหนุ่มของเธอได้ถ่ายเอาไว้นั้น รวมมาอยู่ในหนังสือเล่มนี้ทั้งหมดแล้ว รวมไปถึงข้อความสุดหวานแหววที่เขียนกำกับแต่ละภาพเอาไว้ด้วย “พายที่ดูธรรมดา….ผมมันก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่มีผู้หญิงแสนเพอร์เฟกต์แบบเธออยู่ข้างๆ กายไม่ไปไหน” “บิสกิตและน้ำเกรย์วี่ก็ไม่ดูดีเท่ากับเธอในเช้าวันนี้” “ในเดตนี้คุณทำให้ผมรู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนนั้นเป็นเรื่องจริง” “ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดท้อง แต่มันก็คุ้มค่า!! ปล. ผมไม่รู้แล้วล่ะว่าเสื้อสีน้ำเงินตัวนี้อยู่ที่ไหน แต่ผมรู้อย่างเดียวว่ามันฮอตมาก” “ผมเชื่อว่านี่เป็นทริปเดียวที่เราไม่จบที่การไปกินคุกกี้” “ผมพยายามเปลี่ยนใจให้คุณสั่งจานเล็กกว่านี้ แล้วจะไม่ทำพลาดแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง” แหม่ ขอบอกเลยนะว่ามีแฟนหนุ่มโรแมนติกซะขนาดนี้ เป็นใครใครก็ต้องอิจฉาล่ะ แน่นอนว่าชาวเน็ตทั้งหลายก็ไม่พลาดดด!! บางส่วนก็ถึงกับตื่นเต้นแทน “หัวใจของฉันเต้นแรงจนหลุดออกมาเลยล่ะ” บ้างก็ว่า “มันเป็นสิ่งที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้เห็นมาเลยล่ะ” บางคนก็อยากได้แฟนแบบนี้บ้าง “โทษทีนะแฟนหนุ่มที่ดีที่สุดคนนี้เป็นใคร และฉันจะหาแบบนี้ได้จากที่ไหน” ง่อววววว!! เห็นแล้วรู้สึกเขินแทนแม่สาวคนนี้เลยอ่ะ >< ที่มา :…
-
“หายไวๆ นะเจ้าแรด” หนูน้อยก้มจูบแรดขาวที่ถูกตัดนอ หวังปลอบให้มันหายเจ็บ
ในปัจจุบัน เรื่องการคุกคามสัตว์ การล่าสัตว์เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ยังปรากฏให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ในสังคมไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ นับวันสัตว์ป่าตามธรรมชาติก็ยิ่งมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ สวนทางกับจำนวนผู้ล่าที่มีเพิ่มมากขึ้นพอๆ กับความต้องการที่มีไม่จำกัด แต่ก็ใช่ว่ามนุษย์จะมีแต่เพียงผู้ล่าเท่านั้น ยังมีมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งที่อุทิศตัวเพื่อปกป้องเหล่าสัตว์ป่าจากการถูกมนุษย์ล่าอยู่จำนวนไม่น้อยเช่นกัน คนกลุ่มนี้ถูกเรียก ‘นักอนุรักษ์’ ผู้ที่ทำหน้าที่ปกป้องสัตว์ทั้งหลายให้อยู่กับโลกใบนี้ไปนานๆ ณ อุทยาน Kragga Kamma Game Park ประเทศแอฟริกาใต้ เจ้าหน้าที่อุทยานมีหน้าที่ดูแลสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งนี้ หนึ่งในประชากรสัตว์ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษนั่นก็คือ แรดขาว เนื่องจากว่ามีผู้ที่ต้องการล่ามันเพื่อเอานอไปขาย แรดจึงตกเป็นเหยื่อที่ถูกล่ามากที่สุดจนพวกมันใกล้จะสูญพันธุ์เต็มที เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลอุทยานต้องตัดนอของแรดที่อยู่ในอุทยานแห่งนี้ทุกๆ 2 ปี เพื่อไม่ให้พวกมันถูกล่าเอานอแล้วฆ่าทิ้งไปเปล่าๆ ก่อนตัดนอ เจ้าหน้าที่จะทำการฉีดยาไม่ให้พวกมันเคลื่อนที่ได้ แล้วปิดตาเอาไว้ ก่อนที่จะตัดเอานอของพวกมันออกไป ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังทำงานกันอยู่ เด็กหญิง Ava อายุ 3 ขวบก็ตามคุณพ่อมาทำงานด้วย เธอเห็นว่าแรดตัวหนึ่งถูกตัดเอานอออกไปแล้ว แต่ว่ามันกำลังนอนพักอยู่ เธอจึงเดินเข้าไปจูบที่หัวของมันเพื่อเป็นการปลอบให้มันหายเจ็บเร็วๆ หายไวๆ นะ ภาพแห่งความไร้เดียงสานี้ถูกบันทึกเอาไว้โดย Ayesha Cantor ช่างภาพวัย 50…
-
ผู้ก่อตั้งองค์กรต่อต้าน ‘การล่วงละเมิดทางเพศเด็ก’ ถูกจับเพราะมี ‘หนังโป๊เด็ก’ ในครอบครอง
ใครเล่าจะคิดว่าจากหนุ่มนักกิจกรรม ผู้ต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก สุดท้ายแล้วจะมาถูกจับเพราะพยายามที่จะล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กซะเอง เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานว่า นาย Joel Davis วัย 22 ปีจากนิวยอร์ก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาในข้อหากระทำการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก และมีสื่อลามกเกี่ยวกับเด็กไว้ในครอบครอง ตามรายงานระบุว่าเขาพยายามจะนัดเจอกับเด็กหญิงวัย 9 ขวบเพื่อกระทำการอนาจารกับเธอ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ FBI จับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด เจ้าหน้าที่ FBI ได้ปลอมตัวเป็นนายหน้าค้ามนุษย์และมีการตกลงกับนาย Davis เพื่อให้เขาได้พบเจอกับเด็กสาวคนดังกล่าว นอกจากนี้รายงานยังระบุอีกว่าเขาขอให้เจ้าหน้าที่ส่งภาพและคลิปของเด็กสาวในสภาพที่เปลือยกายให้อีกด้วย รวมไปถึงก่อนหน้านี้เขาเคยก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กชายวัย 13 ปี และถ่ายคลิปวิดีโอและภาพของเด็กชายคนนั้นเก็บเอาไว้ในมือถือ นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสื่อลามกเด็กก็ถูกพบในโทรศัพท์มือถือ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่านาย Davis เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งแคมเปญ Stop Rape and Gender Violace in Conflict ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เรียกร้องให้หยุดการกระทำรุนแรงทางเพศกับเด็ก…
-
เนียนเลยน้า~ หนุ่มแอบถ่ายรูป “สาวโนตม” บนรถไฟฟ้า แต่ไม่เนียนเพราะมีกระจกสะท้อน…
รถไฟฟ้า อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเดินทางใจกลางความวุ่นวายภายในเมือง และที่สำคัญมันอาจทำให้เราได้พบปะผู้คนมากหน้าหลายตาอีกด้วย ความตื่นเต้นมันอยู่ที่การพบเจอเพศตรงข้ามที่เรียกได้ว่าถูกสเป็กนี่แหละ ไม่ว่าจะหนุ่มเผ็ชหรือว่าสาวแซ่บเราก็มีโอกาสพบเจอบนรถไฟฟ้ากันได้ทั้งนั้น… อย่างเช่นเหตุการณ์ที่นำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ บนรถไฟฟ้าสายหนึ่งในฮ่องกง ผู้โดยสารชายฉกรรจ์ถึงกับปากอ้าตาค้างกับเรือนร่างของผู้โดยสารสาวคนหนึ่งที่ยืนเกาะราวเหล็กอย่างมั่นใจในชุดรัดรูป ครั้งนี้เองก็ถือว่าเป็นโอกาสดีของหนุ่มๆ ที่ได้พบเจอกับหญิงสาวซึ่งมีทรวดทรงราวกับออกมาจากความฝัน ผิวของเธอออกขาวตามฉบับสาวเอเชีย ผมยาวสลวย พร้อมด้วย หน้าอกทรงโต คู่นั้น วินาทีนั้นคงต้องบอกเลยว่าหนุ่มๆ ไม่สามารถควบคุมสายตาให้มองไปที่อื่นได้เลยจริงๆ อีกไม่นานรถไฟฟ้าก็คงถึงจุดหมาย สาวสะบึ้มคนนี้ก็คงจะจากไปไม่เหลืออะไรให้เชยชมอีกแล้ว หนุ่มๆ จึงตัดสินใจ เก็บภาพของเธอเอาไว้อย่างเนียนๆ ซึ่งแต่ละคนก็คงจะมีวิธีของตัวเองในการเก็บภาพสาวในฝันคนนี้เอาไว้ใช้ในจินตนาการ ขณะที่ใครบางคนถ่ายภาพของเธอมาให้ชาวเน็ตได้รับชม ในกระจกดันสะท้อน ความไม่เนียน ของเจ้าหนุ่มเสื้อขาวมาเสียได้ แชะ! ไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่!! ไอ้เจ้าหนุ่มเสื้อขาวคงไม่ทันมองเห็นกระจกสะท้อน งานนี้เขาก็กลายเป็นหนุ่มหื่นในสายตาชาวเน็ตไปเลย แถมยังเป็นคนหื่นที่ไม่เนียนอีกเสียด้วย ฮ่าๆ แต่อย่างน้อยเจ้าหนุ่มคนนี้ก็ได้ภาพของหญิงสาวโนตมนิรนามไปเชยชมล่ะนะ ถ้าจะให้แนะนำล่ะก็คราวหลัง หากสนใจเขาจริงๆ ก็เข้าไปคุยให้เป็นกิจลักษณะดีกว่ามาแอบถ่ายแบบนี้นะ โชว์ความจริงใจแมนๆ ไปเลย! หวังว่านายคงจะไม่นำรูปภาพไปทำอะไรไม่ดีนะไอ้หนุ่มๆ ทั้งหลาย!! ที่มา: Hilda Lam และ ck101
-
บรรยากาศการออกสำรวจถ้ำ คลายข้อสงสัยทำไมถึงเข้ายาก ลุยอุปสรรคน้ำ-โคลน-แคบ
พื้นที่ภายในบริเวณถ้ำโถงใหญ่ที่ยังสามารถเดินได้ตามปกตินั้น ยังไม่เป็นปัญหามากนัก แต่เมื่อเข้าไปส่วนลึกข้างในของถ้ำมากยิ่งขึ้น พื้นที่ก็ยิ่งแคบและเล็กลงไปเรื่อยๆ แสงสว่างเริ่มไปไม่ถึง และอากาศเริ่มไม่ถ่ายเท… ซึ่งเมื่อเกิดเหตุคนติดถ้ำเกิดขึ้น ตัวอย่างภารกิจการเข้าช่วยเหลือคนติดถ้ำในแต่ละครั้งจะต้องใช้เวลามากพอสมควร เริ่มตั้งแต่กระบวนการศึกษาถ้ำ การวางแผนเข้าถ้ำในแต่ละจุด และประเมินสภาพภายในถ้ำแต่ละจุดทุกๆ รายชั่วโมง ทั้งนี้ อาจจะยังมองไม่เห็นภาพว่าภายในถ้ำแคบๆ นั้น เป็นอย่างไร ทำไมการช่วยเหลือถึงมีความลำบากและใช้เวลานาน ตัวอย่างภารกิจสำรวจถ้ำจาก Dudley Caving Club ที่ทำการพิชิตถ้ำแคบๆ ในประเทศอังกฤษและเวลส์ ระหว่างปีค.ศ. 2010 – 2015 การเดินทางเข้าไปภายในถ้ำแคบนั้น ต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย โดยสิ่งแรกที่จะต้องเจอก็คือพื้นที่แคบอย่างมาก แทบจะลอดตัวผ่านไปได้ยาก และน้ำโคลนขุ่นที่ขังอยู่ภายในบริเวณถ้ำลึกข้างใน ที่มาพร้อมกับความลื่น… หากแต่การพิชิตจะต้องเจอกับความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตมากขนาดนี้ ต้องพยายามเบียดร่างกายเข้าไปในช่องแคบ มีน้ำท่วมสูงและไหลผ่านอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป้าหมายสำหรับการช่วยคนติดถ้ำจะต้องพบและพากลับออกมาให้ได้ รวมไปถึงการรักษาชีวิตตัวเองให้รอดออกมาด้วยเช่นกัน . จึงพอเป็นเหตุผลที่ช่วยอธิบายได้ว่า การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยติดถ้ำต้องใช้เวลานาน อาศัยความเชี่ยวชาญทักษะเฉพาะตัว รวมไปถึงความอดทนของร่างกายและจิตใจเป็นอย่างสูง …
-
พยาบาลสาวอ้างพาเหยื่อไปเที่ยวยุโรป ก่อนใช้ไสยศาสตร์บังคับพวกเธอให้ขายตัว
นี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ได้เผยให้เห็น เหตุการณ์ค้ามนุษย์ที่แสนโหดร้าย หลังจากที่พยาบาลสาวรายหนึ่งได้หลอกลวงเหยื่อของเธอ และอ้างว่าเธอสามารถช่วยพวกเขาไปเที่ยวในยุโรปได้ จากรายงานเผยว่า นาง Josephine Iyamu พยาบาลสาววัย 53 ปี หัวหน้าแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติ จากประเทศไนจีเรีย ที่เคยอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ได้ใช้พิธีไสยศาสตร์กับเหยื่อของเธอ ก่อนที่จะบังคับพวกเธอให้ค้าบริการทางเพศ แก๊งค้ามนุษย์รายนี้เรียกเก็บเงินจากเหยื่อมากถึง 30,000 ยูโร – 38,000 ยูโร (ประมาณ 1-1.4 ล้านบาท) โดยอ้างว่าเป็นการท่องเที่ยวในแถบยุโรป ซึ่งหลักจากที่เหยื่อตกลงกับพวกเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะมีการจ่ายเงิน พวกเธอจะใช้พิธี JuJu ซึ่งเป็นพิธีทางไสยศาสตร์ เพื่อหลอกลวงพวกเธอ ก่อนที่จะบังคับให้จ่ายเงิน และจากนั้นจะให้เหยื่อนั่งเดินทางไปยังประเทศลิเบีย ก่อนที่จะจับพวกเขาขึ้นเรือเพื่อเดินทางไปยังประเทศเยอรมนีเพื่อขายบริการ เจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมนีได้รับการรายงานจากเจ้าของสถานบริการแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว หลังจากที่มีการพบว่าเอกสารการจ้างงานของนายจ้างรายหนึ่งมีความไม่ชอบมาพากล นาง Iyamu และสามีของเธอถูกจับเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2017 หลังจากที่เดินทางกลับจากประเทศไนจีเรีย จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบโทรศัพมือถือถึง 7 เครื่อง และซิมการ์ดอีกมากกว่า 30 ชิ้น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบกระดาษที่เขียนถึงรายละเอียดพิธีกรรม JuJu พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย …
-
คนไข้วัย 75 ปีเสียชีวิต ก่อนวันผ่าตัด เพราะพยาบาลเอา “หัวฝักบัว” ยัดรูทวารของเขาซ้ำๆ
ลูกชายใจสลาย พ่อกำลังจะได้รับการรักษากลับต้องมาตายก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียว เพราะถูกพยาบาลที่ดูแลเอา “หัวฝักบัว” ยัดเข้ารูทวารซ้ำๆ การจากไปอันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล Tuen Mun ฮ่องกง โดยคนไข้แซ่ Wong ได้เสียชีวิตลงในช่วงเช้าวันที่ 24 มิถุนายน 2018 ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการกระทำอันน่าประหลาดของพยาบาลผู้ดูแล โรงพยาบาลสถานที่เกิดเหตุ คนไข้วัย 75 ปีรายนี้พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรอการปลูกถ่ายไตในวันที่ 25 มิถุนายน 2018 หลังจากที่เขาป่วยเป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย แต่แล้วเขาก็ต้องมาเสียชีวิตก่อนหน้าวันผ่าตัดเพียงแค่ 1 วัน สร้างความเสียใจให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก ลูกชายของเขาถึงกับบอกว่า “เหมือนกับเทวดาที่ตกลงมาจากสวรรค์ จมสู่ขุมนรก” ลูกชายของคนไข้ ก่อนหน้าที่เขาจะจากโลกนี้ไป เขาได้เคยเล่าเรื่องการดูแลอันทารุณของพยาบาลผู้ดูแล 2 คนให้ลูกชายฟัง ชายชราเคยเล่าไว้ว่า 1 ในพยาบาลที่ดูแลใช้หัวฝักบัวหัวแหลมยาวยัดเข้าไปในรูทวารของเขา ขณะที่กำลังช่วยเขาอาบน้ำ ในตอนนั้น เขาก็ได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและขอให้พยาบาลหยุด แต่เธอกลับบอกว่านี่เป็นวิธีการดูแลปกติทั่วๆ ไป และทำอย่างนั้นซ้ำๆ อีก 5 ถึง 6 ครั้ง …
-
หนุ่มจีนคิดสั้นโดดตึก จนท. เร่งช่วย แต่ชาวบ้าน “คว้าเก้าอี้” นั่งรอชมกันเฉย!?
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา รายงานจาก Xuehua News ในเขตซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน พบว่ามีชายนิรนามคนหนึ่งอยู่บนดาดฟ้าของตึก 11 ชั้นและทำท่าจะกระโดดลงมา แต่ที่สำคัญคือชาวบ้านชาวเมืองละแวกนั้นที่เห็นเหตุการณ์อยู่ด้านล่างกลับรีบจับจองที่นั่ง บ้างก็ยืน บ้างก็คว้าเก้าอี้มานั่งรอชมเหตุการณ์กันเสียอย่างนั้น ในคลิปวิดีโอเหตุการณ์ เผยให้เห็นวินาทีที่ชายนิรนามดังกล่าวเดินอยู่บนดาดฟ้าของตึก เขาเดินมาบริเวณขอบตึก มีท่าทีเหมือนกับว่าจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย จากนั้นชาวบ้านที่มุงดูอยู่ด้านล่างก็เริ่มหยิบเก้าอี้สีเขียวๆ มานั่งรอชมเหตุการณ์กัน โดยนั่งดูกันอยู่ราวๆ 3 ชั่วโมงเห็นจะได้ คนที่รอชมคงยืนรอไม่ไหวจนต้องหาที่นั่ง ตากล้องที่ถ่ายคลิปมาให้ดูเองก็นั่งกับเขาด้วย สุดท้าย เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้ช่วยชีวิตชายนิรนามได้สำเร็จ และทราบมาว่าภรรยาของเขาเองที่ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะฆ่าตัวตาย จากเหตุการณ์นี้ ชาวเน็ตที่เข้ามารับฟังข่าวและชมคลิปเหตุการณ์ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย เช่น… “คนจีนน่าจะชอบที่อยู่ในที่เกิดเหตุและชอบดูอะไรแบบนี้” “เพื่อนฝูงจากถนนเหรอ หรือว่าเพื่อนในแวดวง หรือเพื่อนบ้านกันแน่?” “ต้องเป็นคนแบบไหนถึงมารอดูอะไรแบบนี้ได้? เลือดเย็นกันเกินไปแล้ว” “โอ้ รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขามารอดูหนังกันอย่างนั้นแน่ะ” ไม่ช่วยก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่ว่านั่งรอดูคนกระโดดตึกฆ่าตัวตายแบบนั้น มันอำมหิตเกินไปหรือเปล่า? ที่มา: nextshark, xuehua และ weibo
-
หนูน้อยวัย 3 ขวบเล่นซ่อนแอบกับพี่สาว สุดท้ายเสียชีวิตเพราะเอาตัวเองไปขังในเครื่องซักผ้า!!
เชื่อเลยว่าหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตในวัยเด็กของใครหลายคน จะต้องเป็นการเล่น ‘ซ่อนแอบ’ อย่างแน่นอน เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่สนุกสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะที่จะต้องพยายามซ่อนตัวไม่ให้อีกฝั่งหนึ่งจับได้ไล่ทันว่าเราไปแอบอยู่ที่ไหนกันนะ… แค่ใครจะไปคิดว่าการเล่นแสนสนุกนี้จะสามารถคร่าชีวิตหนูน้อยคนหนึ่งจากโลกนี้ไปได้ เพราะหนูน้อยคนดังกล่าวดันเอาตัวเองไปแอบอยู่ในเครื่องซักผ้า จนสุดท้ายกว่าที่จะหาเด็กคนนี้เจอก็ไม่ทันการเสียแล้ว โดยเหตุอันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นในวันที่ 18 มิถุนายน ณ เมือง Slupsk ประเทศโปร์แลนด์ เมื่อหนูน้อยวัย 3 ขวบชื่อเล่นว่า Marcel กำลังเล่นซ่อนแอบกับพี่สาววัย 5 ขวบของเขาอย่างสนุกสนาน ขณะที่พ่อแม่กำลังพักผ่อนอยู่ตามปกติ ซึ่งเมื่อหนูน้อย Marcel กำลังรับบทเป็นฝ่ายซ่อนตัวอยู่นั้น เขาก็เกิดความคิดเอาตัวเองไปแอบอยู่ในเครื่องซักผ้าในห้องน้ำเพื่อความแนบเนียนไม่ให้พี่สาวหาเจอ พร้อมกับล็อกขังตัวเองเอาไว้ด้านในอีกด้วย เวลาผ่านไปนานจนพ่อแม่ของหนูน้อยคนนี้เริ่มสังเกตเห็นว่ามีอะไรที่ผิดปกติไป เพราะไม่มีเสียงของ Marcel เล็ดลอดให้ได้ยินเลยแม้แต่น้อย พวกเขาจึงออกตามหาตัวของเด็กวัย 3 ขวบคนนี้กันให้จ้าละหวั่นว่าหายไปอยู่ตรงไหนกันนะ และในที่สุดแล้วทางผู้เป็นพ่อก็พบตัวเด็กชายคนนี้ที่ล็อกตัวเองอยู่ในเครื่องซักผ้าด้วยอาการหมดสติ จึงได้รีบนำตัวออกมาพร้อมกับโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินโดยด่วน และทันทีที่ทางหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มาถึง อาการของหนูน้อยก็เข้าขั้นโคม่าซะแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงพยายามช่วยกันปฐมพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตของหนูน้อยคนนี้เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะพาตัวไปเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ทันการเสียแล้ว เพราะสุดท้ายเด็กชาย Marcel ก็เสียชีวิตในเวลา 6 ชั่วโมงต่อมา เนื่องมาจากการขาดออกซิเจนในระหว่างที่อยู่ในเครื่องซักผ้า ในเรื่องนี้ทางสื่อท้องถิ่นได้กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและก็อาจเป็นไปได้ด้วยว่า ฝั่งพ่อแม่อาจจะถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรมโดยไม่ได้เจตนา… ที่มา:…
-
หนุ่มเมาปลุกอดีตแฟนสาวให้มากินข้าวด้วย แต่ถูกปฏิเสธเลยขว้างไก่ย่างใส่ สุดท้ายติดคุกเต็มๆ
สำหรับคนที่รักกันหรือคนที่เคยเป็น ‘คนรักกัน’ ต่างก็ต้องมีเรื่องระหองระแหงกันบ้างเป็นบางครั้งตามประสาลิ้นกับฟัน แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วถึงแม้จะทะเลาะกันขนาดไหน ก็ไม่ควรจะทำให้ต้องมีการเจ็บตัวหรือเดือดร้อนเกิดขึ้น เพราะไม่แน่เหมือนกันว่ามันอาจจะนำไปสู่ความบานปลายที่อาจเกิดขึ้นได้ เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ที่มีหนุ่มคนหนึ่งพยายามจะปลุกอดีตแฟนสาวไปกินข้าวด้วยกัน แต่ว่าเธอกำลังหลับอยู่อย่างสบาย ฝ่ายชายเลยบันดาลโทสะใช้ไก่ย่างที่เตรียมมาขว้างใส่เธอจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในที่สุด!! โดยนี่เป็นเรื่องราวของชายที่มีชื่อว่า Colin Comiskey วัย 34 ปีที่กระทำต่ออดีตแฟนสาวชื่อว่า Ellen Van De Vusse และทำให้เธอต้องโทรศัพท์แจ้งตำรวจในที่สุด เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นในวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาในท้องที่ Westminster กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุก็ไปถึงที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด และสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในภายหลังจากเสร็จขั้นตอนการสอบสวนแล้ว ทางผู้พิพากษาคดี Jonathan Bryan ก็ได้ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ของทั้งคู่ให้ฟังว่า ทั้งคู่คบหามันมาได้ 3 ปีแต่ว่าเพิ่งจะเลิกรากันไปเมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้และยังคงใช้ชีวิตอยู่ใต้ชายคาเดียวกันอยู่ โดยในวันที่เกิดเหตุหนุ่ม Comiskey ก็กลับมาที่บ้านของทั้งคู่พร้อมด้วยอาการเมามายจนขาดสติ ซึ่งหลังจากที่เขาเข้ามาที่บ้านแล้วก็ได้พยายามปลุกอดีตแฟนสาวคนนี้ให้มากินอาหารที่เขาซื้อมาด้วยกัน ทว่าด้วยความที่ Ellen กำลังนอนหลับอยู่อย่างสบายจึงปฏิเสธคำเชิญชวนของฝ่ายชายไป พร้อมกับบอกด้วยว่ายังไม่อยากกินอะไรในตอนนี้ เมื่อได้ยินดังนั้นหนุ่ม Comiskey ก็มีอารมณ์ขึ้นมาทันทีจากฤทธิ์ของความเมามาย พร้อมกับพูดออกมาว่า ‘ลุกขึ้นมา คุณยังนอนหลับไม่ได้ในตอนนี้’ จากนั้นเขาก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาพร้อมกับเริ่มใช้กำลังด้วยการผลักอก จึงทำให้ฝ่ายหญิงต้องเดินหนีไปจากที่ตรงนั้นเพื่อป้องกันการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ทันใดนั้นเองก็ปรากฏว่าเขาได้หยิบไก่ย่างที่ซื้อมาแล้วขว้างใส่ฝ่ายสาวจนทำให้ชุดนอนของเธอเลอะเปรอะเปื้อนไปจนเสียหมด…
-
นักท่องเที่ยวจีนไปเต้นหน้ามัสยิดในมาเลเซีย สุดท้ายโดนปรับไป 200 บาท หลาบจำไหมล่ะ!!
โดยปกติแล้วศาสนสถานของแต่ละศาสนา ก็จะเป็นสถานที่ที่มีเอาไว้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ดังนั้นแล้วจึงเป็นที่เคารพบูชาและถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้ที่นับถือศาสนานั้นๆ แต่บางทีนักท่องเที่ยวต่างถิ่นต่างแดนก็อาจจะไม่รู้ซึ้งและมีการล่วงเกินจนดูไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่พบเห็น เหมือนกับในกรณีนี้ที่มีนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนสองคน ไปยืนเต้นอยู่บนมัสยิดในประเทศมาเลเซีย และผลสุดท้ายเธอก็ต้องโดนเจ้าหน้าที่จับกุมไปพร้อมกับเสียค่าปรับเป็นเงิน 200 บาท!! โดยเหตุการณ์ที่ว่านี้ได้ถูกจับภาพเป็นวิดีโอได้เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนในเวลาประมาณ 4 โมงเย็น เมื่อนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนชื่อว่า Wan Han และ Zhang Na ขึ้นไปยืนเต้นร้องรำทำเพลงอยู่บริเวณหน้ามัสยิดแห่งหนึ่ง ในเวลาต่อมาคลิปวิดีโอของสองสาวผู้นี้ได้แพร่หลายออกไปในโลกออนไลน์และเป็นกระแสไวรัล จึงทำให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยววัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมของรัฐซาบาห์ ต้องออกมาตามหาว่าสองสาวคนที่อยู่ในคลิปเป็นใคร สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถหาตัวนักท่องเที่ยวสองคนนี้ได้ หลังจากที่มีคลิปออกไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ซึ่งทั้งสองก็ถูกตั้งข้อหาประพฤติพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในพื้นที่สาธารณะ และจากข้อหานี้จะต้องเสียค่าปรับ หรือหากไม่อยากเสียเงินก็จะต้องเผชิญกับโทษจำคุกเป็นเวลา 7 วัน คลิปเหตุการณ์การเต้นของนักท่องเที่ยว ก็เป็นที่แน่นอนว่าทั้งสองสาวต้องเลือกการเสียค่าปรับเป็นเงินอยู่แล้ว เพราะเนื่องมาจากความที่ทั้งสองอ้างว่าไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศนี้ พวกเธอจึงเสียค่าปรับเป็นเงิน 25 ริงกิต (ประมาณ 205 บาท) พร้อมกับถูกพาตัวไปส่งยังสนามบินเพื่อกลับสู่ประเทศจีนด้วย โดยนี่อาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งตัวนักท่องเที่ยวสองสาวนี้ หรืออาจรวมถึงนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ด้วยว่าควรจะให้ความเคารพแก่ศาสนสถานต่างๆ เพราะมิอย่างนั้นแล้วอาจจะกลายเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนกับสองคนนี้ และอาจถูกส่งตัวกลับประเทศจนหมดสนุกเลยก็เป็นได้… ก็ไม่น่าจะทำอย่างนั้น… ที่มา: nextshark, thestar
-
สาวมะกันถูกเหยียดรูปร่าง “ต้นขาสายฟ้าฟาด” จึงเปลี่ยนแปลงตัวเองจนฟิตแอนด์เฟิร์ม
ผู้คนที่เรียกกันว่า อันธพาล นั้นมักสร้างความไม่พอใจให้กับผู้อื่นทั้งที่ไม่จำเป็น อาจจะด้วยทางวาจาและร่างกาย และพวกเขาก็ได้ทำให้สาวคนหนึ่งต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างหนัก Meghan Gilbert สาววัย 21 ปีจากเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับการกินและมีสุขภาพที่ย่ำแย่ จนเหล่าอันธพาล (Bully) มักเรียกเธอว่า “ต้นขาสายฟ้าฟาด” ซึ่งนั่นทำให้เธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล Meghan รู้สึกว่าเธอเองไม่มีความสุขกับสิ่งที่เธอเป็นอยู่ เธอจึงลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตัวเอง จนกระทั่งเธอมีรูปร่างที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม นั่นทำให้เธอมีความสุขมากขึ้น ผู้คนเข้ามาติดตามอินสตาแกรมของเธอมากขึ้นถึง 69,000 คน หลังจากที่เธอโพสต์ภาพแต่ละกระบวนการกว่าจะมีรูปร่างที่ดีได้ขนาดนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากเทรนเนอร์ที่เป็นแฟนหนุ่มของเธอเอง Meghan อธิบายว่า “ก่อนหน้านี้ฉันไม่รักและไม่เคารพตัวเองเลย ฉันเหมือนคนหลงทาง แต่พอฉันเริ่มรู้สึกรักตัวเองขึ้นมาฉันก็พยายามนำแต่สิ่งดีๆ มาให้กับร่างกาย ฉันกินอาหารเพื่อสุขภาพ เลิกใช้ยา เลิกดื่มน้ำหวาน และหันมาออกกำลังกายอย่างจริงจัง” เธอเผยว่าก่อนหน้านี้เธอเคยลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร แต่มันทำให้เธอรู้สึกไร้เรี่ยวแรง เธอจึงเปลี่ยนมาทานอาหารที่มีประโยชน์แทน Meghan กล่าวว่า “ทุกวันนี้ฉันไม่สนใจตารางของฉันแล้ว ฉันไม่เคร่งครัดกับการลดน้ำหนักแล้วล่ะ ฉันจะทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่เสมอ และให้รางวัลตัวเองบ้างตามที่ฉันต้องการ ฉันชอบเวลาที่ฉันพบเจอความสมดุลในชีวิตแบบนี้ ฉันมีความสุข สุขภาพดี และฉันก็กำลังหลงรักรูปร่างของตัวเองมากๆ เลยล่ะ” …
-
ชาวบ้านงง?! พบหนุ่มติดคา “ตู้บริจาคเสื้อผ้า” หรือว่าเขาตั้งใจจะบริจาคชุดที่ใส่อยู่กันนะ?!
ในหลายประเทศจะมี ตู้รับบริจาคเสื้อผ้า ตั้งเอาไว้ให้ทุกคนสามารถนำเสื้อผ้าไม่ใช่แล้วมาใส่เอาไว้ แล้วทางองค์กรผู้ดูแลจะนำไปบริจาคให้กับผู้ด้อยโอกาส ถึงอย่างนั้น ต้องชี้แจงก่อนว่าตู้เหล่านั้นรับบริจาคแค่เสื้อผ้าเพียงอย่างเดียว ส่วนใครอยากบริจาคร่างกายก็แนะนำให้ไปที่โรงพยาบาล อย่าคิดเอาตัวเองเข้าไปในตู้นั้นเหมือนอย่างชายคนนี้ ไปทำอิท่าไหนเข้าล่ะนั่น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองหนานยาง มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2018 ชายหนุ่มนิรนามคนหนึ่งถูกพบว่าติดอยู่กับช่องใส่เสื้อผ้าของตู้บริจาค พอชาวบ้านไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้เข้ามาช่วยกันแงะช่องดังกล่าวนานอยู่หลายนาที คลิปเหตุการณ์การช่วยเหลือในครั้งนี้ จนสุดท้ายชายหนุ่มที่ติดอยู่ก็สามารถผลุบเข้าไปข้างใน และลอดออกมาจากช่องด้านล่างได้สำเร็จ จากการรายงานบอกว่าชายนิรนามคนนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะบริจาคชุดเสื้อผ้าที่ตัวเองสวมใส่อยู่ (แต่ขี้เกียจถอด เลยเข้าไปทั้งตัว) หรือว่าอยากจะบริจาคร่างกายของตัวเองแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเลยคือเขาเป็นชายไร้บ้านที่ต้องการเข้าไปหาเสื้อผ้าใส่สักตัวสองตัว แต่ช่างน่าเสียดายที่สุดท้ายเขาก็เดินจากไปด้วยท่าทางที่เขินอายแบบสุดๆ โดยที่ท่อนบนยังคงเปลือยเปล่าอยู่อย่างนั้น จะไม่ให้เขินได้ไงกันล่ะเนาะ โธ่ววว พ่อคุ๊ณณณ คราวหน้าคราวหลังถ้าอยากได้อะไรก็บอกคนอื่นเขาดีๆ ไม่ต้องพยายามให้มากขนาดนี้ก็ได้นะ ที่มา: shanghai.ist
-
ปาฏิหาริย์… หมอบอกเธอไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ สุดท้ายลูกออกมาเป็น “แฝด 4” สุดน่ารัก
การตั้งครรภ์สำหรับผู้หญิงบางคนว่ายากแล้ว การจะได้ลูกแฝดกลับยิ่งยากกว่า แถมถ้าจะให้ออกมาเป็น แฝด 4 นั้นเรียกว่ายากสุดๆ ชนิดว่ามีโอกาสเพียงแค่ 1 ใน 64 ล้าน และทั้งโลกมีแค่ 27 ครอบครัวที่เป็นอย่างนั้น แต่วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปลูกจักกับครอบครัวลูกสาวแฝด 4 กับเรื่องราวแห่งปาฏิหาริย์และความน่ารักของพวกเขากัน นี่เป็นเรื่องราวของ Jose และ Julie สองสามีภรรยาชาวอังกฤษที่ตัดสินใจแต่งงานกันในปี 2004 ตอนนั้นพวกเขาอยู่ในวัย 30 กว่าๆ Julie และ Jose เมื่อ Julie อายุได้ 36 ปี คู่รักทั้งสองก็ตั้งใจว่าจะมีลูกด้วยกัน พวกเขาจึงปรึกษาแพทย์ในเรื่องนี้ แต่ทั้งคู่ก็ต้องได้ข่าวร้ายกลับมา เพราะหมอบอกว่า Julie แทบจะไม่มีโอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้เลย ทั้งสองเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขามองหาทุกวิถีทางที่จะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ เพราะต้องการมีลูกด้วยกันมากจริงๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไป 1 เดือน ความฝันของพวกเขาก็ได้กลายเป็นความจริง Julie ตั้งครรภ์ได้สำเร็จ และเมื่อแพทย์ได้ทำการอัลตราซาวด์ดูก็พบว่าในท้องของเธอนั้นไม่ได้มีเด็กเพียงคนเดียว โดยตอนแรกทั้งคู่ก็คิดว่าคงจะได้ลูกแฝด 2…
-
อังกฤษร้อนจัด ทรัพยากรน้ำไม่เพียงพอ ชาวเมืองถูกขอให้ “อาบน้ำ” แค่ 4 นาทีก็พอ!!
ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษได้เกิดปรากฏการณ์อากาศร้อนมากกว่าปกติ อุณหภูมิแตะถึง 30 องศาเซลเซียส และคาดว่าจะยังร้อนอยู่แบบนี้อีกหลายวัน ด้วยความร้อนที่เพิ่มขึ้นทำให้เดือนมิถุนายนในประเทศอังกฤษนั้นแห้งแล้งที่สุดในรอบ 90 ปี ปัญหาที่ตามมาก็คือในอาณาบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษนั้นขาดแคลนทรัพยากรน้ำอย่างรวดเร็ว ชาวเมืองในพื้นที่จึงถูกขอให้มีการใช้น้ำลดน้อยลง โดยได้รับคำแนะนำว่าให้ อาบน้ำเพียงแค่ 4 นาที เท่านั้น สำนักข่าว The Sun ได้สัมภาษณ์โฆษกขององค์การ Southern Water ซึ่งได้รับคำตอบว่า “ด้วยอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้นและความร้อนทั่วประเทศ น้ำจึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก น้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่า เราจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้สูญเสียน้ำไปโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ทางที่จะช่วยได้ก็มีวิธีอย่างง่ายๆ แค่ปิดน้ำเมื่อไม่ใช้ อาบน้ำเพียง 4 นาที และรดน้ำต้นไม้ด้วยน้ำฝนที่รองเอาไว้ เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดการใช้น้ำในภูมิภาคได้มากแล้ว” ทวิตเตอร์จาก Southern Water มีใจความว่า “ด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้น น้ำถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็ว ทางเราต้องจัดสรรน้ำเพิ่มมากขึ้นถึง 77 ล้านลิตรให้กับผู้คนเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว นี่มันพอๆ กับน้ำในบัวรดน้ำ 9 ล้านใบเลยทีเดียว!” อากาศร้อนก็ยิ่งต้องอาบน้ำ แต่หากถูกจำกัดการใช้น้ำแบบนี้แล้ว ชาวเมืองในอังกฤษคงทนร้อนทรมานกันไม่น้อยเลยทีเดียว ที่มา: ladbible และ thesun
-
หนุ่มเกิดมาไม่มี ‘หรรมส์’ ได้รับการปลูกถ่าย และจะมีเซ็กส์เป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี!!
คนเราเลือกเกิดไม่ได้….ถ้าเลือกได้ก็คงอยากจะเกิดมามีอวัยวะในร่างกายครบทุกส่วน ก็ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้วล่ะ เพราะการเกิดมาโดยขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปและต้องกลายเป็นผู้พิการ ย่อมทำให้การใช้ชีวิตลำบากกว่าคนอื่นๆ และการเดินทางไปสู่ความสำเร็จก็ย่อมเป็นเรื่องที่ยากตามมาด้วย เช่นเดียวกันกับชายชาวอังกฤษวัย 44 ปี คนนี้…แม้ว่าเขาจะเกิดมามีอวัยวะในร่างกายที่จำเป็นในการใช้ชีวิตทุกส่วน แต่สิ่งที่เขาไม่มีมันมาตั้งแต่เกิดก็คือ ‘อวัยวะเพศ’ เพื่อสืบพันธุ์นั่นเอง นาย Andrew Wardle ผู้เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางร่างกายที่มีชื่อว่า “Bladder Exstrophy” หรือ กระเพาะปัสสาวะปลิ้นกลับแต่กำเนิด ซึ่งมันส่งผลให้อวัยวะสืบพันธุ์ของเขาเติบโตอยู่ภายนอกร่างกาย และมันจะเกิดขึ้นกับผู้ชาย 1 ใน 20 ล้านคน!! แต่หลังจากที่ผ่านการผ่าตัดมานานกว่า 4 ปี ในที่สุดเขาก็ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเพศไบโอนิก โดยการตัดเนื้อที่แขนมาใช้ในการทำศัลยกรรม ด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาสามารถเปิดซิงตัวเองครั้งแรกเมื่ออายุได้ 44 ปี “ผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้ใช้ชีวิตต่อไป แต่ผมก็คิดว่าการมีเซ็กส์ครั้งแรกถึอเป็นเรื่องที่รับมือยากมากแน่ๆ” “ผมใช้ชีวิตมา 44 ปีโดยไม่มีอวัยวะเพศ แน่นอนว่าผมไม่เคยมีเซ็กส์มาก่อน ซึ่งมันอาจจะต้องใช้เวลาสักนิดหนึ่งที่จะทำให้ผมคุ้นชินกับมัน” Andrew กล่าว แผนการผ่าตัดแบบคร่าวๆ “แน่นอนว่าผมต้องการมัน แต่มันก็ไม่ใช่จุดจบของทุกอย่างหรอกนะ เพราะการมีอวัยวะเพศ มันช่วยให้ผมรู้สึกว่าตัวเองได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมจริงๆ” เขาเล่าเสริม การผ่าตัดทั้งหมดมีค่าใช้จ่ายราวๆ…
-
รักแรกเป็นเหตุ~ ไอ้หนุ่มวัย 24 จัดสาวมาแล้วกว่า 250 ราย หาคนที่จะไม่หักอกเขาอีก
ในเมื่อรักแรกมันเจ็บปวด งั้นผมก็คงต้องออกล่าแล้วล่ะนะ!! Benny London วัย 24 ปี ชายหนุ่มจากประเทศอังกฤษ ผู้ได้ฉายาว่า “หนุ่มน้อยสองร้อยรัก” ที่เผยว่าตั้งแต่อายุ 16 ปีจนถึงปัจจุบันเขาได้มีเซ็กส์กับหญิงสาวมาแล้วราว 250-300 คน นอกจากนี้ยังมีชนิดที่เรียกว่า มาพร้อมกัน 3-4 คนอีกด้วย ซึ่งเขาเองก็บอกว่าเป็นเรื่องปกติ แถมล่าสุดที่ทำแบบนี้ก็คือเมื่อคืนก่อนให้สัมภาษณ์นี่เอง… สาเหตุที่ Benny ตัดสินใจทำแบบนี้ก็คือ เขาเคยถูกทำร้ายทางจิตใจมาจาก รักแรก ของเขา เมื่อเขามีอายุได้ 16 ปี หนุ่มน้อย Benny ณ ตอนนั้น มีความรักอันบริสุทธิ์ให้กับหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ก็ต้องจบลงด้วยความเจ็บปวด นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาอกหัก เขาจึงตัดสินใจที่จะหาหญิงสาวไปเรื่อยๆ หญิงสาวสักคนที่เขาจะเชื่อใจได้ หญิงสาวสักคนที่จะ ไม่มีวันทำให้เขาต้องเสียใจอีก! จากนั้นกิจวัตรในชีวิตของ Benny ก็คือการออกไปยังร้านเหล้า บาร์ และผับ เพื่อมองหาสาวสักคนในคืนนั้นๆ เขาบอกว่าตัวเขาเองเป็นคนตลกเฮฮา ซึ่งสามารถดึงดูดสาวๆ ได้เป็นอย่างดี…
-
โหดจัด!! สาวบุกเข้าไปในบ้านชายหนุ่มที่เป็นแฟนเก่าพร้อมใช้ ‘มีดขู่’ เพื่อขอมีเซ็กส์ด้วย!!
โดยปกติแล้ว เรามักจะเห็นรายงานข่าวการข่มขืน ที่มีคนร้ายเป็นผู้ชายและมีเหยื่อเป็นผู้หญิง… แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กลับตาลปัตรกันหมด เพราะคนก่อเหตุเป็นผู้หญิง ใช้มีดขู่บังคับแฟนเก่าที่เป็นผู้ชายให้มีเซ็กส์ด้วย!? เรื่องมีอยู่ว่าวันที่ 27 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ Daily Mail รายงานว่า Samantha Mears หญิงสาววัย 19 ปีจากรัฐมอนแทนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหา การใช้ความรุนแรงในการลักทรัพย์, การใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธมีด เหตุเพราะเธอใช้มีดบุกเข้าไปในบ้านของชายหนุ่มคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นแฟนเก่าของเธอ ที่ตั้งอยู่บนถนน 2nd Avenue Northwest ในเมืองเกรต ฟอลส์ ตามรายงานระบุว่า ก่อนหน้านั้นชายหนุ่มได้ออกไปนอกบ้าน Samantha จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปดักรอในนั้น หลังจากที่ชายหนุ่มกลับมาถึงที่บ้าน เธอก็เดินเข้าไปข้างหลังพร้อมกับจ่อมีดไปที่หน้า พร้อมกับสั่งให้เขาถอดเสื้อผ้าพร้อมกับนอนลงไปบนเตียง จากนั้นเธอก็ถอดกางเกงของตัวเองออกพร้อมกับถือมีดเล่มใหญ่ไว้ในมือ ก่อนที่จะบังคับขู่เข็ญให้ชายหนุ่มมีเซ็กส์ด้วย ขณะมีเซ็กส์กัน Samantha ก็กัดไปที่แขนเขาอย่างรุนแรง แม้ว่าชายหนุ่มจะพยายามห้ามเท่าไหร่ก็ตามฝ่ายหญิงก็ไม่ยอมหยุด จนกระทั่งหญิงสาวเปลี่ยนไปนอนที่เตียงบ้าง หนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อก็ประสบโอกาศหยิบโทรศัพท์ทำทีเป็นเอามาถ่ายภาพเธอ ก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจและนำภาพกับคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ ณ ตอนนั้นเป็นหลักฐานส่งให้กับเจ้าหน้าที่ในภายหลัง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง Samantha ได้ให้การว่าตัวเองนั้นถูกฝ่ายชายลักพาตัวมา…
-
หนุ่มผู้ดีลงทุนซื้อ “ตู้เซฟที่เปิดไม่ออก” มาเปิดเองที่บ้าน สิ่งที่พบคือขุมสมบัติชัดๆ !!!
การจะได้มาซึ่งรายได้นั้นย่อมต้องมีการลงทุน บางคนก็นำไปเปิดกิจการส่วนตัว บ้างก็นำไปเล่นหุ้น หรือบางคนก็นำไปสมทบกับกองทุนต่างๆ เพื่อรอแบ่งปันรายได้ แต่สำหรับ Tom Stanniland เจ้าหนุ่มอังกฤษคนนี้เขาได้นำเงินราว 65,000 บาทไปลงทุนกับการ ซื้อตู้เซฟเก่าๆ ที่เปิดไม่ออก มาเป็นของตัวเอง ด้วยความหวังว่าข้างในตู้เซฟจะมีของล้ำค่า เขาจัดแจงทำการเปิดตู้เซฟนี้ด้วยความหวัง เมื่อเจาะรูที่ตู้ได้สำเร็จ เขาก็ควานมือลงไปในตู้ ซึ่งมีทั้งกระเป๋าสตางค์ จดหมาย เอกสารต่างๆ และที่น่าสนใจก็คือเขาได้พบกับถุงที่บรรจุแหวนวงงามวงหนึ่ง ที่ทำให้เขาและภรรยาเริ่มมีความหวังมากขึ้น ต่อมาเขาพบถุงอีกใบหนึ่ง ซึ่งภายในบรรจุ เพชรเม็ดงามขนาดใหญ่เท่าไข่ไกเบอร์ 0 พร้อมเศษเพชรเล็กๆ อีกมากมาย นั่นทำให้ภรรยาของ Tom ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความมหัศจรรย์ใจ เท่านั้นยังไม่พอ เพราะมันยังมีของข้างในอยู่ เขาล้วงลงไปอีกครั้ง และสิ่งที่เขาพบก็คือ ทองคำแท่ง 2 แท่งแวววับ ทำให้เขาและภรรยาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ลองชมคลิปวิดีโอเต็มๆ กันเลยดีกว่า ความตื่นเต้นนี้มันอะไรกัน!? ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง! คุณอาจเปิดตู้มาแล้วไม่เจออะไรเลยก็เป็นได้ แต่หากโชคดีก็อาจจะเป็นอย่างชายคนนี้ที่กลายเป็นเศรษฐีไปเลย ที่มา: Kill’em และ ck101
-
ใจโคตรได้!! หนุ่มโหยหารักบอกจะเดินหน้าหาเมียต่อไป แม้จะถูกปฏิเสธมา 80,000 ครั้งแล้วก็ตาม
ถ้าจะพูดถึงชีวิตอันแสนเหงาของ ‘คนโสด’ ใครๆ ก็คงรู้กันดีใช่ไหมล่ะว่ามันว้าเหว่ อ้างว้างซะขนาดไหน ดังนั้นแล้วการหาใครสักคนมาเติมเต็มน่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดแล้ว แต่สำหรับบางคนที่ยังหาใครคนนั้นไม่เจอก็อย่าได้หมดกำลังใจไปแต่อย่างใด เพราะขนาดหนุ่มคนนี้ที่โดนสาวปฏิเสธมาแล้วกว่า 80,000 ครั้งยังบอกเลยว่าจะขอเดินหน้าหาเมียต่อไปให้จงได้!! ไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหมล่ะ แต่ขอบอกว่านี่มันจริงซะยิ่งกว่าจริงซะอีก เพราะนี่คือเรื่องราวชีวิตของชาวจีนวัย 31 ปีที่ชื่อว่า Niu Xiangfeng ผู้ได้รับฉายาว่า “นักออกเดทสุดระห่ำ” สำหรับความจริงจังในการหาคู่ชีวิตของเขาให้เจอจนได้ Niu ได้กลายเป็นข่าวครึกโครมครั้งแรกในปี 2013 เมื่อมีภาพถ่ายของเขาระหว่างที่เดินอยู่บนถนนแห่งหนึ่งในเมืองปักกิ่ง แต่ก็แน่นอนว่าเขาไม่ได้เดินเฉยๆ จนเป็นข่าว เพราะเขาได้สวมป้ายโฆษณาเขียนเอาไว้ในทำนองที่ว่า เขาปรารถนาที่จะหาภรรยาเป็นของตัวเองสักคนเอาไว้ด้วยนั่นเอง สำหรับชีวิตของหนุ่มถวิลหารักคนนี้ เขาเล่าให้ฟังว่าพ่อของตัวเองได้เสียชีวิตลงไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน และในตอนนี้เขาก็ต้องการที่จะแต่งงานสร้างครอบครัวขึ้นมาใหม่ ทว่ามันกลับไม่เป็นอย่างที่ตั้งความหวังเอาไว้ง่ายๆ เพราะหลังจากใช้ความพยายามอย่างหนักมาถึง 5 ปีเต็มๆ เขาก็ยังไม่พบคนที่เขาตามหาสักที… ถึงอย่างนั้น Niu ก็บอกว่าเขาก็ยังไม่หมดหวังแต่อย่างใด และลองเปลี่ยนวิธีการเข้ามาใหม่ให้ทันโลกทันสมัย จากเดิมที่ห้อยป้ายเดินไปตามถนนเขาก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้เว็บไซต์หาคู่ ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ แทน และบางครั้งก็ยังใช้วิธีแบบบ้านๆ อย่างการเดินไปคุยกับผู้หญิงตามท้องถนนสายต่างๆ อีกด้วย ทว่าแม้จะใช้วิธีต่างๆ จนแทบจะหมดมุกอยู่แล้ว แต่ Niu ก็ยังคงถูกปฏิเสธจากสาวๆ…
-
ญี่ปุ่นเสนอเครื่องตรวจวัด “กลิ่นกาย” แบบพกพา เช็กหน่อยว่าคนอื่นเขาเหม็นคุณหรือเปล่า?
ด้วยความร้อน ความเร่งรีบ และความแออัดของผู้คนก็อาจทำให้เรามีเหงื่อออกตามร่างกายได้ และสิ่งที่จะตามมาหลังจากเหงื่อออกก็คือกลิ่นกายตามจุดอับต่างๆ นั่นเอง แล้วยิ่งถ้าคุณต้องไปพบปะหรือไปใกล้ชิดกับคนสำคัญด้วยแล้วล่ะก็ อาการเหงื่อออกและมีกลิ่นกายคงเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์สุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ? ฉะนั้น เราควรพกอุปกรณ์ดับกลิ่นติดตัวไว้สักหน่อย เผื่อใช้ดับกลิ่นกายยามเหงื่อออกและเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการไปพบปะและใกล้ชิดกับผู้อื่น แล้วจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่า เราตัวเหม็นหรือยัง? บางครั้งการดมกลิ่นตัวเองก็อาจทราบได้ยากว่าตัวเรามีกลิ่นเหม็นหรือยัง ฉะนั้นเราขอแนะนำให้รู้จักกับ ES-100 อุปกรณ์ตรวจเช็กและวัดระดับกลิ่นกายจากบริษัทผู้ผลิตแบรนด์ Tanita เจ้าเครื่องนี้มีชื่อเล่นว่า “เครื่องตรวจกลิ่นแบบพกพา” ที่จะสามารถตรวจสอบได้ว่าร่างกายของบุคคลนั้นเริ่มมีกลิ่นไม่พึงประสงค์อยู่ที่ระดับไหนแล้วจาก 0-10 โดยตัวเลขยิ่งมากแปลว่ายิ่งเหม็นนั่นเอง… เครื่องตรวจกลิ่นแบบพกพา Tanita ES-100 เจ้าเครื่องนี้พัฒนามาจากผลิตภัณฑ์เดิมของ Tanita นั่นก็คือเครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ แต่เปลี่ยนจากสแกนหาแอลกอฮอล์มาเป็นหาสารพาร์ทิเคิลที่ก่อให้เกิดกลิ่นแทนนั่นเอง ส่วนวิธีใช้ก็ง่ายดายเพียงแค่ เปิดเครื่อง กดขยายสัญญาณ แล้วนำไปชี้ยังจุดที่คุณต้องการตรวจสอบกลิ่น ระบบจะทำการตรวจเช็กราว 10 วินาที ก่อนจะแสดงผลออกมาเป็นระดับตัวเลข แถมเจ้าเครื่องนี้ยังสามารถเตือนคุณได้ด้วยเมื่อคุณใส่น้ำหอมมากจนเกินไป กลุ่มเป้าหมายของสินค้าชินนี้ก็คือมนุษย์เงินเดือนวัย 40-50 ปีนั่นเอง เครื่องตรวจกลิ่นแบบพกพา Tanita ES-100 นี้จะวางขายในวันที่ 1 กรกฏาคม 2018…
-
ฮัล์คยังยอม!! หนุ่มโชว์ความสตรองด้วยการใช้หมัดลุ่นๆ ต่อยรถไม่พอมีเข่าคู่แถมไปอีกหนึ่ง
แม้ว่าจะมีกล้ามเนื้ออันทรงพลังมหาศาลหรือมีพลังวิเศษจนแข็งแรงเหมือนซูเปอร์แมน แต่ว่าเราก็ไม่ควรจะโชว์ของเหล่านั้นจนทำให้คนอื่นเดือดร้อนเหมือนกับเหตุการณ์นี้ ที่หนุ่มคนหนึ่งอยากจะโชว์กล้ามเลยไปต่อยรถคันหนึ่งเข้าให้ แถมไม่พอยังมีกระโดดเข่าคู่แถมอีกด้วย อยากให้เธอรู้ อยากให้เธอลอง โดยเหตุการณ์ของพ่อหนุ่มขี้โชว์คนนี้ เกิดขึ้นที่รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อมีคลิปวิดีโอหนึ่งทำให้เราเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น คลิปวิดีโอได้เริ่มขึ้นด้วยภาพของชายคนหนึ่งที่อยู่ในชุดกางเกงสีสาว เสื้อสีกรมท่า ทำท่าเบ่งกล้ามแขนหน้ารถสีดำคันหนึ่งเหมือนกับอยากให้ดูว่าแข็งแรงแค่ไหน จากนั้นเขาก็ลงมือใช้หมัดลุ่นๆ ต่อยเข้าไปเต็มๆ หน้ารถถึงสองครั้งด้วยกัน ปั้งเข้าให้ เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาชายคนนี้ก็ได้เดินไปที่ฝั่งคนขับเหมือนจะยั่วยุให้คนขับรถลงมาจากรถให้ได้ แต่ว่าฝั่งคนขับกลับไม่ทำอย่างนั้นและถอยรถกลับหลังแทน เพื่อที่จะหลีกหนีจากชายแสนบ้าบิ่นคนนี้ที่เหมือบกับตบะแตกไปเสียแล้ว ทีเด็ดต้องนี่เลย ‘เข่าคู่’ ทว่าชายคนนี้ก็ดูเหมือนยังไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่ เลยจัดการวิ่งกระโดดลอยเข่าคู่เข้าใส่รถไปอีกทีหนึ่งเป็นอันจบพิธี ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น https://www.instagram.com/p/BkeDSl0Htz2/?hl=en&taken-by=only.in.hialeah.305 เหตุการณ์การพังรถในครั้งนี้ ได้รับการบอกเล่าจากผู้ใช้อินสตาแกรมชื่อว่า @only.in.hialeah.305 ซึ่งได้เล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเวลาก่อน 6 โมงเย็นประมาณหนึ่งบนถนนในเมือง Hialeah รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา และหลังจากที่มีการปะทะก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมที่เกิดเหตุ แต่ทั้งนี้ทางเจ้าของรถก็ไม่ได้ยื่นแจ้งความแต่อย่างใด… แหม่ แข็งแกร่งเหลื๊อเกิน ที่มา: dailymail, local10, wsvn
-
เยอรมันแพ้บอลโลกได้ แต่ชาวเยอรมันยังไม่แพ้ ส่องภาพชีวิตดีๆ ที่ลงตัว ณ กรุงเบอร์ลิน!!
กลายมาเป็นพลิกโผทุกสำนักทายผลบอลโลกกันเลยทีเดียว หลังจากที่แชมป์เก่าฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี (อินทรีเหล็ก) พ่ายแพ้ต่อทีมชาติเกาหลีใต้ 2 – 0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ… ส่งผลทำให้ทีมชาติเยอรมนีต้องตกรอบไป เนื่องจากรั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม ส่วนเกาหลีใต้ถึงจะคว่ำแชมป์เก่าได้ก็ต้องตกรอบเช่นกันเนื่องจากจบในอันดับที่สามของกลุ่มเอฟ ถึงแม้ว่าจะต้องเสียใจทั้งสองทีม กอดคอกันกลับบ้านไปมือเปล่า โดยเฉพาะฝั่งเชียร์อินทรีเหล็กดูท่าจะเจ็บช้ำกว่าใครๆ แต่ไม่เป็นไร ขนาดชาวเมืองเบอร์ลินยังยังไม่ยอมแพ้เลย ต่อให้มีอุปสรรคกับชีวิตมากแค่ไหน แค่ลืมมันไปเดี๋ยวก็กลับมาผงาดได้ใหม่ (แต่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าฟอร์มตก) พวกเรามีความเป็นทีมเวิร์คสูง!! แต่เหนื่อยนักก็พักก่อน มักจะวางแผนไว้ล่วงหน้าเสมอ เรื่องอาหารการกินก็สำคัญ ปิ้งย่างทั้งรถเข็นนี่แหละ ในรถไฟฟ้าก็ยิ่งดี ‘ไส้กรอกย่างที่คุณคู่ควร กินได้ทุกที่ กินที่ทุกที่จริงๆ!! ลงมาต่อในสถานีก็ยังได้ เป็นชาวเยอรมัน ยิ่งเป็นคนในเบอร์ลินต้องรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และต้องมีความพยายามให้มากขึ้น (โดยที่ไม่จำเป็น) วิธีการสัมผัสอากาศสดชื่นให้ใกล้ชิดที่สุด หน้าต่างมันไม่พอ มันต้องขึ้นหลังคา!! แดดไม่ร้อนเท่าประเทศไทยสักเท่าไหร่ ไฮแฟชั่นต้องมาก่อน …
-
เปิดวาร์ป “สาวสวิตเซอร์แลนด์อุ้มลูก” ในบอลโลก สวยจนต้องหันมองกันทั้งสนาม
กระแสฟุตบอลโลกกำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้และกำลังเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เหล่าแฟนบอลทั่วโลกต่างก็ร่วมลุ้นและเชียร์ทีมฟุตบอลที่ตัวเองชื่นชอบให้ได้แชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้ สิ่งที่เด่นที่สุดและเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ฟุตบอลโลกน่าติดตามสำหรับสาวๆ แล้วก็คือความหล่อของนักฟุตบอล แต่สำหรับหนุ่มๆ แล้วนอกจากการขิงกันเรื่องสกอร์ของทีมที่ตัวเองเชียร์แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่น่าติดตามมากๆ นั่นก็คือเหล่าสาวๆ ในสนามที่จัดว่าเด็ดไม่แพ้นักบอลหล่อๆ เลย อีกหนึ่งภาพที่กำลังกลายเป็นไวรัลแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์นั่นก็คือภาพของแฟนบอลสาวคนหนึ่งที่มาร่วมเชียร์ในแมตช์การแข่งขันคู่สวิตเซอร์แลนด์-โปแลนด์ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2018 สาวชุดแดงเดินเข้ามาในสนามพร้อมกับอุ้มเด็กคนหนึ่ง หุ่นเซ็กซี่ หน้าตาสวยคมจนคนต้องหามามอง ใจเย็นนะลุงๆ ทั้งหลาย หุ่นดีสุดๆ แต่เราโฟกัสนี่ ความสวยของเธอทำให้หลายๆ คนต่างตามหาว่า แม่สาวคนนี้เธอคือใคร มาจากไหน หลังจากการสืบอย่างละเอียดแล้วพบว่าเธอมีชื่อว่า Erjona Sulejmani อาชีพนางแบบ แฟนสาวของ Blerim Dzemaili นักฟุตบอลทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ว๊าาาา เบอร์ 15 ติดกลางอกแบบนี้จะให้เชียร์ใครอีกล่ะ ชัดเจน เด็กที่เธออุ้มอยู่คือเด็กชาย Sulejmani jr พยานรักของทั้งคู่นั่นเอง ว่าแต่คุณแม่ทำยังไงถึงหุ่นแซ่บได้ขนาดนี้เนี่ย สวยจริงๆ คุณแม่ ทีนี้ก็หายสงสัยกันแล้วนะว่าเธอคือใครไปดูความสวยของเธอกันต่อได้ที่อินสตาแกรมตามลิงก์นี้ได้เลย erjona_sulejmani …
-
คุณปู่กลับสู่ความเจริญ หลังอาศัยเกาะร้างมา 30 ปี หวังใช้สถานที่นี้เป็น “ที่สำหรับตาย”
คุณเคยคิดไว้หรือไม่ว่า ในบั้นปลายของชีวิตคุณนั้นสถานที่ที่คุณต้องการจะอยู่ มันเป็นอย่างไรกันแน่? เป็นบ้านกลางเมือง? โรงแรมหรูหรา? หรือจะอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว? แต่คุณปู่ชาวญี่ปุ่นชื่อว่า มาซาฟุมิ นากาซากิ วัย 82 ปีได้ตัดสินใจที่จะหลบหนีความวุ่นวายมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่เกาะ ซาโตะบะนาริ เกาะร้างขนาดพื้นที่ราวๆ 1 กิโลเมตรในจังหวัดโอกินาวะ ล่าสุดคุณปู่ต้องถูกนำตัวกลับเข้าสู่สังคมเมืองอีกครั้งหลังหลบไปอาศัยอยู่อย่างลำพังบนเกาะร้างที่ตนเรียกมันว่า “บ้าน” มานานเกือบ 30 ปี ตามข้อมูลของนักสำรวจ Alvaro Cerezo ที่ระบุไว้ใน Docastaway คุณปู่นากาซากิปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตบนเกาะร้างด้วยความตั้งใจได้นานที่สุด ซึ่งเป็นเวลากว่า 29 ปีแล้วที่คุณปู่ตัดสินใจเข้าไปใช้ชีวิตอยู่บนเกาะแห่งนี้ คุณปู่เคยให้สัมภาษณ์กับ Reuters เมื่อปี 2012 ซึ่งเป็นปีแรกที่เรื่องราวของคุณปู่นากาซากิถูกเผยแพร่ให้โลกได้รับรู้ คุณปูกล่าวว่า “การหาสถานที่สำหรับใช้ชีวิตจนสิ้นลมหายใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ผมตัดสินใจแล้วว่าที่นี่แหละคือที่สำหรับผม” และยังเล่าต่ออีกว่า “ความคิดนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับผมมาก่อนจนกระทั่งผมรับรู้ถึงความสำคัญของสถานที่สำหรับวันสุดท้ายของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ที่บ้าน หรือท่ามกลางสมาชิกในครอบครัว ไม่เลย เพราะสำหรับผมนี่แหละคือสถานที่ที่ผมจะตาย ท่ามกลางธรรมชาติ ธรรมชาติที่คุณไม่สามารถจะฝืนมันได้ยังไงล่ะ” ภายหลังคุณปู่นากาซากิ ก็เป็นที่รู้จักกันในนาม “ฤาษีชีเปลือย” ในปี 2014 นักสำรวจ Cerezo ได้เข้าไปอาศัยอยู่กับคุณปู่นากาซากิเป็นเวลา 5 วัน เพราะเขารู้สึกสนใจว่าทำไมถึงมีชายชรามาใช้ชีวิตอยู่อย่างลำพังบนเกาะร้างเช่นนี้…
-
การตัดสินโทษประหาร ในวันต่อต้านยาเสพติดจีน มีคนร่วมดู 300 ชีวิต แอมเนสตี้ชี้ ‘ป่าเถื่อน’
การเชือดไก่ให้ลิงดู อาจจะเป็นวิธีที่โหดร้ายและรุนแรงเกินไปสำหรับบางคน และในประเทศจีน เรื่องทำนองนี้ยังคงเกิดขึ้นอยู่เสมอกับการตัดสินโทษขั้นสูงสุดของผู้กระทำผิด คือการ ‘ประหารชีวิต’ ต่อหน้าสามัญชนที่ร่วมเป็นสักขีพยาน การตัดสินโทษประหารครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ตามวันเวลาของประเทศจีน ทางเว็บไซต์ hinews ได้ทำการเผยแพร่ภาพการตัดสินโทษประหารของศาลเฉียงซาน ร่วมกับศาลประชาชนกลางไหโขว่ ท่ามกลางประชาชนร่วมเป็นสักขีพยานกว่า 300 ชีวิต พร้อมกับถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ มีผู้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานเป็นนักเรียนส่วนใหญ่ ถูกบังคับให้เข้าร่วมชมตัดสินโทษประหารกลางพื้นที่สาธารณะในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะมาในชุดนักเรียนจริงๆ พร้อมกับประชาชนบางส่วนที่เป็นคนในพื้นที่มณฑลไหหลำ การตัดสินโทษเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการจากรัฐบาล เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลกที่ตรงกับทุกๆ วันที่ 26 มิถุนยานทุกปี Cai Liqun โดยนักโทษรายแรกคือนาย Cai Liqun วัย 39 ปี ถูกจับกุมในข้อหาลักลอบค้ายาบ้าและยาเสพติดชนิดใหม่ Magu (มีส่วนผสมระหว่างยาบ้าและคาเฟอีน) โดยที่นาย Cai ลักลอบขนยาผ่านทางไปรษณีย์ หลายครั้งในช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนพฤศจิกายนในปี 2015 Huang Zhengye …
-
งงกันทั้งลำ ตำรวจบุกตรวจนึกว่าเครื่องบินโดนปล้น สุดท้ายนักบินแค่มือลั่นไปเอง
เรื่องตลกที่เกือบจะไม่ตลกนี้เกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติ JFK หรือ John F. Kennedy International Airport เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุวุ่นวายทั้งสนามบิน เมื่อมีการส่งสัญญาณจากสายการบินเจ็ตบลูที่จอดอยู่ในสนามบิน เป็นสัญญาณฉุกเฉินที่แจ้งมาว่า เครื่องบินกำลังถูกจี้ เครื่องบินแอร์บัส A-320 พร้อมผู้โดยสารจำนวน 158 คนเตรียมเดินทางไปสู่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สุนัขตำรวจ และรถพยาบาลบุกเครื่องบินลำนี้ ผู้โดยสารแต่ละคนต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้โดยสารท่านหนึ่งบันทึกภาพและคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุการณ์สุดระทึกนี้เอาไว้ได้ ภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธนับสิบนายเข้ามาในเครื่องบินพร้อมสั่งให้ผู้โดยสารทุกคนยกมือขึ้นเหนือศีรษะ แต่ละคนต่างตกใจและหวาดกลัวในสิ่งที่เกิดขึ้นและคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นแล้ว ภายหลังจากการตรวจสอบแล้ว พบว่าเครื่องบินไม่ได้ถูกจี้ตามที่นักบินส่งสัญญาณฉุกเฉินไปแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะว่านักบินกดปุ่มผิดแค่นั้นเอง นักบินพบว่าวิทยุสื่อสารบนเครื่องบินไม่สามารถใช้งานได้ จึงทำให้ไม่สามารถติดต่อกับหอควบคุมการบิน จึงส่งสัญญาณแจ้งเหตุขัดข้อง แต่ดันกดผิดปุ่ม ดันไปกดใส่ปุ่มแจ้งว่าเครื่องบินถูกไฮแจ็กหรือถูกปล้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังบุกมาช่วยเหลือแบบนี้ คลิปวิดีโอที่มีผู้ถ่ายเหตุการณ์เอาไว้ได้ https://twitter.com/JEEPVader/status/1011775702419550208 โชคดีที่ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ปล้นเครื่องบินขึ้นจริงๆ วุ่นวายกันเพราะมือลั่นแท้ๆ ที่มา nypost, news
-
Jesse Eisenberg โพสต์วิดีโอเจอมิ้วถูกทิ้ง 3 ตัว ร้องโซเชียลตามหาบ้านให้ !!
อาจจะเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย แต่ด้วยพลังของคนมีชื่อเสียงระดับฮอลลีวูดก็สามารถช่วยทำให้บรรลุจุดประสงค์ได้เป็นอย่างดี ด้วยความต้องการของ Jesse Eisenberg (Now You See Me, The Social Network) ที่พบลูกแมวน้อย 3 ตัวถูกทิ้งไว้ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างที่เขาเข้าร่วมงาน Shanghai International Film Festival ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เขาได้พบกับลูกแมวถูกทิ้งไว้ในกล่องข้างถนนแห่งหนึ่ง และด้วยจิตใจอันดีงามของชายวัย 34 ปีผู้นี้ เขาได้ทำการอัดคลิปวิดีโอเพื่อขอความช่วยเหลือให้ผู้คนรับน้องไปเลี้ยงดู “ผมเจอลูกแมวน่ารักทั้ง 3 ตัวบนถนน ถ้าคุณสนใจที่จะรับน้องไปเลี้ยง น้องๆ น่ารักมากเลยนะ ดูเหมือนเป็นแมวที่ผมเลี้ยงในนิวยอร์กเลย กรุณาติดต่อมาหาเรา ถ้าคุณสนใจจะรับไปเลี้ยงจริงๆ กรุณามารับตัวไปภายใน 8 วันหลังจากนี้ น้องๆ ยังมีสุขภาพที่ดีและพร้อมที่จะไปอยู่บ้านใหม่แล้ว” Jesse กล่าวในวิดีโอคลิป คลิปดังกล่าวถูกนำไปโพสต์บน Weibo โดยแฟนคลับเวลาประมาณ 18.35 น. ในวันเสาร์ที่…
-
จัดหนักจัดเต็ม!! พรานสาวโพสต์ฆ่ายีราฟดำหายากแล้วถ่ายภาพคู่ลงโซเชียล โดนด่ายับเยิน
สำหรับสัตว์ที่หายากแล้ว เป็นธรรมดาที่มนุษย์อย่างเราจะต้องช่วยกันอนุรักษ์สายพันธุ์ของสัตว์เหล่านั้นให้มีอยู่ต่อไป ทว่าเราก็อาจเคยได้ยินข่าวการล่าอย่างผิดกฎหมายเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีในเรื่องนี้ เมื่อมีพรานสาวคนหนึ่งฆ่ายีราฟหายาก แถมยังมีการถ่ายภาพลงโซเชียลอย่างภาคภูมิใจ Tessa Thompson Talley คือชื่อของพรานคนดังกล่าว เธอคือผู้ที่มีชื่อเสียงและช่ำชองในด้านการล่าสัตว์ต่างๆ จนถึงขั้นได้ถ้วยรางวัลมากมาย ทว่าเมื่อเร็วๆ นี้เธอได้ฆ่ายีราฟดำ สัตว์หายากชนิดหนึ่งในประเทศแอฟริกาใต้ และก็เป็นธรรมดาสำหรับนักล่าอย่างเธอที่ต้องอวดผลงานสักหน่อย ด้วยการถ่ายภาพคู่กับซากยีราฟที่สิ้นชีพลงอย่างน่าเวทนา พร้อมกับใส่แคปชั่นเอาไว้ว่า “หนึ่งในความฝันการเป็นนักล่าของฉันเป็นจริงแล้ววันนี้!” “ฉันเห็นยีราฟดำหากยากตัวนี้เดินอยู่จึงตัดสินใจแอบติดตามมันไปสักพัก ฉันคิดว่าบางทีมันอาจเป็นตัวเดียวของที่นี่เลยก็ได้ มันน่าจะมีอายุอยู่ประมาณ 18 ปีและมีน้ำหนักอยู่ที่ 1,800 กิโลกรัม ซึ่งไม่แน่เหมือนกันว่าเราอาจจะได้เนื้อจากมันถึง 900 กิโลกรัมเลยนะ” ภาพถ่ายของเธอได้เข้าสู่สายตาของประชาคมโลกอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็มีความคิดเห็นมากมายเกี่ยวกับการล่าสัตว์ของเธอในครั้งนี้ ทว่าส่วนใหญ่กลับเป็นความเห็นในเชิงลบกับสิ่งที่เธอทำเสียมากกว่า อย่างเช่น “Tessa Thompson Talley ชอบจริงๆ กับการใช้ปืนยิงยีราฟหรือสิ่งมีชีวิตแสนสวยงามอื่นๆ เรามาทำให้เธอรู้กันเถอะว่าพวกเราคิดยังไงกับการกระทำของเธอ” “น่ารังเกียจจริงๆ !! ผู้คนอย่างเธอมันเป็นสิ่งที่รับไม่ได้” White american savage who is partly a…
-
กินยังไงล่ะเนี่ย!? ญี่ปุ่นเสิร์ฟ “น้ำแข็งไส” โคตรสูง กินได้ทั้งบ้าน ชื่นใจยันชาติหน้า!
ช่วงนี้ถ้าใครกำลังร้อนๆ หรือมองหาของหวานเย็นๆ สดชื่นๆ ล่ะก็ น้ำแข็งไส คงจะเป็นความคิดที่ดีเลยใช่ไหมล่ะ แถมทำให้นึกถึงวัยเด็กอีกด้วยแน่ะ ปกติแล้วน้ำแข็งไสที่เราทานกันนั้น ก็จะมีปริมาณน้ำแข็งประมาณ 1 ถ้วย ซึ่งนั่นก็เพียงพอจะทำให้เราอิ่มท้องและชื่นใจกันได้แล้ว แต่ถ้าหากคุณไปซื้อน้ำแข็งไสที่ร้านอุด้ง Hyakusho Udon ในประเทศญี่ปุ่นล่ะก็ คุณคงต้องพากันไปทาน ทั้งครอบครัว เสียแล้วล่ะ เพราะว่ามันใหญ่ยาวมากๆ!! โอ้โห! ร้านอุด้ง Hyakusho Udon โดยรสชาติของน้ำหวานที่ราดน้ำแข็งไสก็จะมีให้เลือกด้วยกัน 7 รสชาติ เช่น สตรอว์เบอร์รี่ เมลอน มะม่วง และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนราคาก็นับว่ารับได้ น้ำแข็งไสขนาดเล็กจะอยู่ที่ราคา 250 เยน (75 บาท) ส่วนขนาดปกติก็จะอยู่ที่ราคา 590 เยน (177 บาท) หากใครไม่รู้จะทานรสชาติไหนดี ก็สามารถเลือกเป็นรสชาติเรนโบว์หรือผสมทั้ง 7 รสเข้าด้วยกันซึ่งก็มีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แบบในภาพที่เห็นจะเป็นน้ำแข็งไสเรนโบว์ขนาดปกติ ราคาอยู่ที่ 650 เยน (195…
-
ล้ำไปอีก!! จีนเตรียมใช้โดรนรูปนกพิภาพ ออกสอดส่องความเรียบร้อยของประชาชน
ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีของมนุษย์มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทำให้เรามีอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระและหน้าที่ของมนุษย์อย่างมากมาย เพื่อนๆ ก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าอุปกรณ์ไฮเทคหลายๆ อย่างบนโลกนี้ ล้วนแต่ถูกประกอบขึ้นที่ “ประเทศจีน” ด้วยแรงงานที่มหาศาลและค่าแรงที่ถูก จึงทำให้หลายๆ ชาติจ้างจีนทำกันทั้งนั้น และเพราะเหตุผลข้างบน ทำให้หลายปีที่ผ่านมานี้ประเทศจีนได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างมากมาย จนในที่สุดพวกเขาก็สามารถนำความรู้และเทคโนโลยีเหล่านั้นมาประยุกต์กลายเป็นของตัวเองได้ ยกตัวอย่างเช่นการที่ปัจจุบันตลาดสมาร์ทโฟน ผลิตภัณฑ์ของคนจีนก็กระโดดขึ้นไปอยู่ใน Top 5 ของโลกได้สบายๆ และคราวนี้มาถึงคราวของโดรนกันบ้าง เมื่อประเทศจีนประกาศว่าจะเริ่มใช้โดรนรูปนกพิราบที่จะคอยบินสำรวจและตรวจตาความเรียบร้อยของประชาชนในบทบาทเสมือนกับกล้องวงจรปิด โดยที่จะถูกนำไปใช้ทั้งในวงการทหารและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล โครงการ “นกสอดแนม” โค้ดเนม “Dove” นี้จะถูกพัฒนาโดยทีมที่มีหัวหน้าคือ Song Bifeng ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Northwestern Polytechnical ในขณะนี้เจ้าหุ่นยนต์นกยังไม่สามารถที่จะใช้งานในระยะไกลและในที่ๆ มีสภาพอากาศเลวร้าย แต่ในอนาคต Song วางแผนเอาไว้ว่าเขาจะพัฒนาและติดตั้ง Artificial Intelligence หรือ AI ให้แก่มัน เพื่อที่มันจะสามารถบินในรูปแบบที่ซับซ้อนและสามารถตัดสินใจได้อย่างเป็นอิสระกลางอากาศ แต่สำหรับประเทศจีนแล้ว เจ้าหุ่นยนต์นกผู้ตรวจตรานี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ทางออกของอนาคตสักเท่าไหร่ เมื่อตอนนี้จีนมีกล้องวงจรปิดทั่วประเทศกว่า 170 ล้านตัวและยังมีแผนที่จะติดตั้งเพิ่มอีก 400…
-
คำขอสุดท้ายในชีวิตครู ‘ไม่ต้องวางดอกไม้ในงานศพ ขอเป็นกระเป๋าให้นร.ยากไร้แทน’
หนึ่งในอาชีพที่ได้รับการยกย่องที่สุดนั่นก็คืออาชีพครู ผู้ที่เปรียบเสมือนดั่งเรือจ้างพายไปเพื่อส่งศิษย์ให้ถึงฝั่งฝัน ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคและไม่ได้ผลตอบแทนเท่าที่ควร แต่คนที่เป็นครูแต่ละคนต่างก็มีจิตวิญญาณที่แรงกล้า ทำสิ่งที่ตัวเองรักจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต เรื่องนี้เป็นเรื่องสุดเศร้าจากเมือง Forsyth County รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณครูนามว่า Tammy Waddell อายุ 58 ปี มันอันต้องจากโลกใบนี้ไปหลังจากที่เธอพยายามต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้… คุณครูท่านนี้ได้รับการวินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หมอได้บอกข่าวร้ายกับเธออีกครั้ง นั่นก็คือ เธออาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว Tammy ต้องหยุดอาชีพครูที่เธอรักออกมาเพื่อรักษาตัว แต่ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครูของเธอไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เธอยังทำหน้าที่จนกระทั่งวาระสุดท้ายมาถึง สองสัปดาห์ก่อนหน้าที่คุณครูหัวใจงามคนนี้จะเสียชีวิต เธอบอกกับ Dr. Brad Johnson ลูกพี่ลูกน้องของเธอว่า เธอไม่ต้องการดอกไม้ในงานศพของเธอ ขอเปลี่ยนจากดอกไม้เป็นกระเป๋าเป้ที่เต็มไปด้วยสิ่งของที่จำเป็นสำหรับนักเรียนแทน และขอให้นำกระเป๋าเหล่านั้นไปบริจาคให้เด็กยากไร้ Dr.Brad จึงได้ทำตามคำขอที่เธอต้องการด้วยการทวีตบอกรับบริจาคกระเป๋าเป้สำหรับนักเรียน เพื่อทำตามคำขอของลูกพี่ลูกน้องให้สำเร็จตามที่เธอหวัง เธอจะได้จากโลกนี้ไปอย่างภาคภูมิ “ลูกพี่ลูกน้องของผมร้องขอว่า งานศพของเธอขอเป็นกระเป๋าเป้ที่เต็มไปด้วยของจำเป็นสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลนแทนดอกไม้ เธอเป็นครูจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิต” My cousin’s final request at her funeral was Backpacks full of…
-
ยูทูปเบอร์ทำคลิปเผย ชาวจีนมองชาวต่างชาติและคิดเห็นเรื่องค่านิยมผิวขาวกันอย่างไรบ้าง
บนโลกใบนี้มีมนุษย์มากมายหลายล้านคน หลากหลายภูมิประเทศและต่างชาติพันธุ์ และด้วยความแตกต่างของชาติพันธ์นี้เอง ทำให้ชาติแต่ละชาติ มีมุมมองที่มองชาติอื่นๆ ไม่เหมือนกัน วันนี้ช่อง Youtube ชื่อว่า Asian Boss จึงได้ไปสอบถามความคิดเห็นของชาวจีนตามข้างถนนในเซี่ยงไฮ้ว่า พวกเขามองชาวต่างชาติผิวขาวที่มาอาศัยอยู่ในประเทศรวมถึงทัศนคติเกี่ยวกับผิวขาวเป็นอย่างไรกันบ้าง เราไปชมตัวอย่างไรกันเลยดีกว่าครับ “ในแง่ของการทำงาน ผมคิดว่าพวกเขาเป็นคนที่ทำงานได้อย่างมีคุณภาพนะครับ” “ฉันคิดว่าคนผิวขาวเป็นนั้นมีความทะเยอทะยานมากกว่าคนจีน ที่มักจะอยู่เฉยๆ แถมตาพวกเขายังโตจนทำให้ฉันประทับใจในแรกพบเลยล่ะ” บางคนก็บอกว่าด้วยรูปลักษณ์ภายนอก ผิวขาว สูง ทำให้พวกเขาดูเหมือนกับรูปปั้นที่เราเอาไว้ใช้วาดรูปในคาบเรียนศิลปะเลย ผู้สัมภาษณ์ยังได้ยิงคำถามว่ารู้จักเกี่ยวกับ “White Monkey Jobs” บ้างมั้ย คำที่เอาไว้เรียกคนขาวที่ถูกจ้างโดยธุรกิจของจีนให้เข้าร่วมในงานต่างๆ เพื่อทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดูเป็นสากล ซึ่งบางคนก็ไม่รู้จัก แต่มีหนุ่มคนหนึ่งกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามันเป็นธรรมดาในเซี่ยงไฮ้ที่จะเชิญชาวต่างชาติมาในงานเลี้ยง งานเปิดตัวหรือโปรโมตผลิตภัณฑ์และงานเฉลิมฉลองต่างๆ . ต่อมาผู้สัมภาษณ์ก็ได้ย้ายหัวข้อการพูดคุยไปเป็นประเด็นของเรื่องผิวขาวว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่ต้องมีผิวขาวถึงจะดูดีและดึงดูดและผู้ให้ความร่วมมือจะถูกสอบถามว่าพวกเขาได้ใช้ไวท์เทนนิ่งกันบ้างมั้ย สาวคนหนึ่งตอบอย่างมั่นใจในความสวยแบบชาวเอเชียว่า “ฉันไม่คิดแบบนั้นเพราะฉันคิดว่าฉันก็สวยในแบบของฉัน’ ฝั่งความเห็นจากฝั่งของผู้ชายกันบ้าง ชายคนนี้คิดว่าผู้ชายที่มีผิวขาวนั้นดูสำอางไป การที่มีผิวเข้มหน่อยๆ จะดูเหมาะและดูแข็งแรงกว่า แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ในวิดีโอก็ยังคงพูดถึงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างเช่นโฟม โลชั่น โทนเนอร์ เพื่อที่ทำให้ผิวของตัวเองขาวและดูเด็กลงอยู่ดี แม้ว่าส่วนใหญ่จะใส่ใจในผิวขาว แต่ก็มีบางคนที่คิดอย่างแง่ดีว่าเดี๋ยวกระแสที่ต้องผิวขาวก็จะหายไปในอนาคต ผู้คนจะใส่ใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองกันน้อย นี่เป็นตัวอย่างประเด็นและความคิดเห็นของพวกเขาที่เรานำมาให้ได้ดูกัน หากใครอยากรับชมเต็มๆ สามารถรับชมได้ที่วิดีโอข้างล่างนี้เลยครับ…
-
สาววัย 23 ปี ลงมือวางยางานเลี้ยง เหตุแค้นจัด ถูกครอบครัวสามีด่าทำอาหารห่วยแตก
มนุษย์เราแต่ละคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้ล้วนแต่มีหน้าตา ผิวพรรณ ความสามารถ หรือความถนัดที่แตกต่างกันไป แต่หลายๆ คนมักเอาข้อแตกต่างของคนอื่นมาเป็นคำต่อว่า เช่นเรื่องสีผิวหรือเรื่องทักษะการอาหาร ซึ่งเมื่อมนุษย์คนหนึ่งถูกต่อว่าเป็นประจำ ก็จะมีการแสดงออกเพื่อตอบโต้แตกต่างกันไป บ้างก็ไม่สนใจต่อคำต่อว่า บ้างก็เครียด กดดันหรือกระทั่งวางแผนฆาตกรรมคนที่ด่าต่อพวกเขาเลยก็มี เหมือนกับผู้หญิงที่เราจะนำมาเล่าให้ได้ชมกันในวันนี้ เธอถูกดุด่าเรื่องสีผิวดำคล้ำและฝีมือการทำอาหารที่ห่วยแตกอยู่ตลอด เมื่อมีโอกาสเธอจึงจัดการผสมยาพิษลงในอาหารเพื่อหวังจะแก้แค้นคนเหล่านั้น Pradnya Survase หญิงสาววัย 23 ปี จากเมือง Khalapur ประเทศอินเดีย เธอได้เก็บความแค้นที่ถูกดุด่าว่ากล่าวเอาไว้ในใจ และเมื่อพี่สาวของแม่สามีเธอได้จัดงานเลี้ยงที่เชิญแขกมา 120 คน เธอเห็นว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้สะสางความแค้นที่ถูกต่อว่าเรื่องสีผิวและรสชาติอาหารของเธอมาตลอดเวลาตั้งแต่ที่เธอแต่งงานเข้าบ้านของสามีมาอย่างยาวนานเสียที เธอจึงจัดการผสมผงพิษที่เอาไว้ใช้ฆ่างูลงในดาลหรือแกงถั่ว อาหารยอดฮิตของชาวอินเดีย หลังจากครอบครัวของสามีและแขกรับประทานอาหารพิษเข้าไป 2-3 ชั่วโมง พิษก็เริ่มส่งผลผู้คนเริ่มคลื่นไส้ วิงเวียน อาเจียนและปวดท้อง ต้องพาตัวส่งโรงพยาบาลกันเป็นแถบๆ จากการแก้แค้นของเธอส่งผลให้มีผู้ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลกว่า 88 คน มีเด็กเล็ก 3 คนเสียชีวิตทันทีหลังจากถูกนำส่งโรงพยาบาลและก็มีเด็กอีกคนกับผู้ใหญ่วัย 53 ปี ทนพิษไม่ไหวแล้วเสียชีวิตหลังจากนั้นสามวัน รวมแล้วมีผู้เสียชีวิต 5 ราย…
-
ดาวเทียม Google จับภาพ ‘หรรมส์’ ได้ ชาวเน็ตเข้าไปรีวิว 5 ดาว จนคนอยากไปเที่ยว!?
ใครเล่าจะคิดว่าจากการค้นพบภาพประหลาดจากดาวเทียม Google จะทำให้สถานที่แห่งนั้นได้รับการรีวิว 5 ดาวและกลายเป็นสถานที่ที่คนอยากจะลองไปเที่ยวดูสักครั้ง!? เรื่องมีอยู่ว่ามีการตรวจจับภาพรูป ‘กระปู๋’ ขนาดเล็ก ถูกวาดเอาไว้ท่ามกลางทะเลสาบ Betoota ในเมืองมาร์คัส ฮิลล์ รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ที่แห้งผากเผยให้เห็นแต่พื้นดินไปแล้ว ภาพของกระปู๋หากซูมออกไปในระยะไกลๆ แล้วอาจจะเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะความซามารถในการซูมเข้า-ออก ของกล้องบนจานดาวเทียมของ Google ก็ทำให้สามารถเห็นมันได้อย่างชัดเจน ภาพของกระปู๋ยักษ์อันนี้ถูกนำมาแชร์โดยเพจเฟซบุ๊ก Take the Piss Geelong เมื่อช่วงดึกของวันจันทร์ที่ผ่านมา ไม่มีรายงานว่าเจ้ารอยกระปู๋ในทะเลสาบที่แห้งไปนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แต่จากการคาดเดาแล้วคิดว่าเจ้าหรรมส์อันใหญ่นี้น่าจะเป็นรูปปั้นหรือไม่ก็เป็นร่องรอยที่ถูกวาดขึ้น และน่าจะมีขนาดความยาวราวๆ 50 เมตรเลยทีเดียว มีชาวเน็ตมากมายเข้าไปรีวิวสถานที่ทะเลสาบ Batoota ใน Google Earth Maps จนได้รับเรตติ้ง 5 ดาวไปเป็นที่เรียบร้อย แถมยังมีการเขียนรีวิวฮาๆ ที่ไม่รู้จะจริงหรือเล่นเอาไว้มากมาย 555 มีชาวเน็ตบางส่วนตังมั่นเอาไว้ว่าจะต้องไปเยือนมันให้ได้ “เดินทางมาตั้งไกลจากนิวยอร์ก เพื่อชมความงดงามของมัน และผมจะมาอีกแน่นอน!!” …
-
ชาวญี่ปุ่นแชร์ภาพคุณลุงสุดหลอน แต่งสูทขาวมายืนค่ำๆ มืดๆ คนเดียวข้างถนน!?
เวลาที่เราต้องกลับบ้านคนเดียวค่ำๆ มืดๆ เราอาจจะหวาดระแวงสิ่งต่างๆ รอบตัว เพราะด้วยความมืดที่ทำให้เรามองเห็นได้น้อยลง และคิดไปต่างๆ นานาจนเกิดเป็นอาการวิตกจริตเห็นสิ่งรอบตัวเป็นอะไรที่ชวนหลอนก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @eastbighelp ที่เล่าเหตุการณ์ว่าตัวเองได้ขี่จักรยานกลับบ้านตามปกติเหมือนอย่างทุกๆ วันในจังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น แต่ในระหว่างทาง ไฟส่องสว่างหน้าจักรยานของเขาก็ดันไปกระทบเข้ากับคนๆ หนึ่งที่ยืนอยู่ข้างทางพร้อมกับใส่สูทสีขาวและถือไม้เท้า คุณเห็นสิ่งแปลกปลอมในภาพนี้ไหม? ในตอนแรกเขาตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะมีใครมายืนอยู่ค่ำๆ มืดๆ แบบนี้ แถมใส่สูทซะเต็มยศ ยิ่งไม่น่าใช่เรื่องปกติแน่นอน แต่พอเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่า….มันคือรูปปั้นผู้พันแซนเดอร์ จาก KFC ที่ถูกนำมาวางไว้ข้างทางนั่นเอง ด้วยความตกใจปนฮา เจ้าตัวเลยถ่ายรูปเก็บไว้แล้วโพสต์ว่า “ผมออกมาปั่นจักรยาน แล้วก็ได้แต่ร้องอ๊ากกกก จริงๆ นะ” เริ่มเห็นบ้างหรือยัง? แฮร่!! ตั้งสติไม่ทันมีวิ่งแน่ๆ หลังจากเรื่องนี้ถูกแชร์ออกไปก็มีชาวเน็ตอีกรายเข้ามาแชร์ภาพของรูปปั้นชิ้นนี้เพิ่มเติม เป็นภาพรูปปั้นของผู้พันแซนเดอร์ที่ตั้งอยู่ตรงนั้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว พร้อมกับบอกว่า “นี่คือรูปของรูปปั้นอันเดียวกันจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วครับ” สั่งไก่ทอดกับลุงไหม? .…
-
CNN ร่วมมือกับ ‘ผู้สื่อข่าวไทย’ ให้เป็นนักข่าวภาคสนามรายงานสถานการณ์ ’13 ชีวิตติดถ้ำ’
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอยู่ทั่วโลก ณ ขณะนี้ กับกรณีของเด็กๆ ทีมฟุตบอล 13 คนหายตัวเข้าไปในถ้ำหลวงเชียงราย มีสำนักข่าวจากต่างประเทศมากมายได้ให้ความสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมไปถึงสำนักข่าวใหญ่อย่าง CNN ด้วย!! และที่น่าสนใจก็คือมีการใช้นักข่าวไทยจากสำนักข่าวสปริงนิวส์ (Spring News) เป็นคนรายงานข่าวภาคสนามส่งกลับไปยังรายงานข่าวออกอากาศของ CNN เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา เรื่องมีอยู่ว่าเพจเฟซบุ๊ก Breaking-News ได้ทำการแชร์คลิปวิดีโอรายการข่าวสดของช่อง CNN ที่กำลังรายงานข่าวเหตุการณ์เด็กชาย 13 คนหายตัวเข้าไปในถ้ำหลวง พร้อมแคปชั่นว่า “CNN สื่อระดับโลก รายงานสดสถานการณ์กู้ภัย โดยใช้นักข่าวไทย สำนักข่าวต่างประเทศให้ความสนใจรายงานข่าวน้องๆ ที่ยังติดอยู่ในถ้ำหลวง ถือเป็นโอกาสที่ดีของสื่อไทยที่จะได้ทำงานกับสื่อระดับโลก วันนี้ได้เห็นนักข่าวไทยได้ไปลงพื้นที่รายงานให้ CNN โดยผู้สื่อข่าวสาวคนดังกล่าวเป็นผู้สื่อข่าวสังกัดสำนักข่าวสปริงนิวส์” มีการสัมภาษณ์ครอบครัวของเด็กที่หายตัวไป พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์การช่วยเหลือเป็นภาษาอังกฤษ ที่เป็นหน้าที่ของนักข่าวสาวจากสปริงนิวส์ คลิปวิดีโอการรายงานข่าว ถือเป็นประสบการณ์ในการร่วมงานกับทีมงานสื่อระดับโลกที่น่าชื่นชมของบุคลากรสื่อไทยจริงๆ ที่มา : Breaking News
-
เจ้าพ่อขาลุย Bear Grylls กลับมาเข้าป่ากันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มี “Yao Ming” มาเป็นเพื่อน!!
ประมาณช่วง 2 – 3 ปีก่อนมีบุคคลหนึ่งที่ดังในโลกโซเชียลของไทยกันอย่างมาก คนๆ นั้นคือ Bear Grylls ชายผู้กินทุกอย่างที่สามารถทำให้เขามีชีวิตรอดต่อไปได้ ในรายการ Man vs Wild ไม่ว่าจะเป็นงูเป็นๆ อึหมี ดื่มน้ำจากอึช้าง พี่แกก็ทำมาหมดแล้ว และคราวนี้เขากลับมาโชว์ทักษะการเอาชีวิตรอดอีกครั้ง!! แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว เพราะพี่แกพาเพื่อนซี้ตัวใหญ่ใจดีอย่าง Yao Ming มาเผชิญกับการใช้ชีวิตแบบพี่แกด้วย Yao Ming เรารู้จักกันดีในฐานะของบุคคลที่มีความสูงมากที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก เขาเป็นอดีตนักบาสเกตบอลชื่อดังที่เคยเล่นให้ทีม Houston Rockets ใน NBA เมื่อคนที่ตัวใหญ่ของเขาต้องมาบุกป่าฝ่าดงไปกับ Bear Grylls มันจะออกมาเป็นอย่างไรกัน เราสามารถไปดูตอนล่าสุดของ D/Code กันได้เลยครับ เริ่มต้นตอนมาพวกเขาก็ต้องกับอาหารมื้อโอชะกันเสียแล้ว นั่นคือหนูตาย… แต่เป้าหมายของ Bear Grylls ครั้งนี้ไม่ใช่หนูตาย เพราะมันเน่าแล้ว กินไม่ได้ มันคือหนอนที่ขึ้นอยู่ตามตัวหนูต่างหาก!! แต่ทางพี่ Yao ของเราไม่ยินดีที่จะลองกินมันอย่างเด็ดขาด แม้…
-
ล้ำจริงจัง ร้านอาหารในจีน ใช้ระบบ “อัตโนมัติเต็มรูปแบบ” ตั้งแต่เลือกเมนูยันเก็บขยะ
เดี๋ยวนี้เรามักจะได้เห็นร้านอาหารที่นำเอาหุ่นยนต์มาช่วยบริการในร้านอาหาร หรืออย่างในญี่ปุ่นที่เราจะได้เห็นการซื้ออาหารผ่านตู้หยอดเหรียญ ที่ให้เรากดเลือกเมนู เลือกส่วนผสม เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการซื้อ แต่ที่ร้านอาหารที่เรากำลังจะพาไปดูนี้ มันล้ำยิ่งกว่านั้น เพราะทางร้านใช้รูปแบบการบริการแบบ “อัตโนมัติเต็มรูปแบบ” ที่ไม่ต้องใช้พนักงานแม้แต่คนเดียวมาบริการคุณเลย เมื่อไม่นานมานี้ได้มีชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า Shao (Sho SAWADA) ได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศจีน และเจอเข้ากับร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่ให้บริการแบบ Self Service แบบเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกแมนู การจ่ายเงิน การรับอาหาร การกิน ไปจนถึงขั้นตอนการทิ้งภาชนะ ซึ่งคนแทบไม่ต้องเรียกพนักงานสักคนเลย จ่ายเงินด้วยมือถือ ยื่นหน้าจอเข้าไปสแกน รับอาหารที่ช่องด้านล่าง พร้อมอุ่นให้เสร็จสรรพ เมื่อกินเสร็จแล้ว ช่องที่โต๊ะอาหารจะเปิดออกแล้วค่อยๆ ดันถ้วยพลาสติก แก้วน้ำและกระป๋องลงไปยังถังขยะด้านล่าง เป็นอันจบกระบวนการ ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย https://twitter.com/shao1555/status/1010541811482259458?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F06%2F26%2Ffully-automated-chinese-restaurant-is-the-eatery-of-the-future-threatens-worlds-restaurant-jobs%2F เรื่องนี้ทำให้ชาวญี่ปุ่นตั้งคำถามเกี่ยวกับความสะอาดอยู่ไม่น้อย เพราะเนื่องจากด้านล่างของโต๊ะอาหารจะเต็มไปด้วยกองขยะที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมา “ถ้าเกิดจู่ๆ มันเปิดออกระหว่างที่เรากำลังกินอยู่ล่ะ!!” “แล้วมันจะคัดแยกขยะยังไงล่ะ?” “ผมกังวลว่าจะลืมกุญแจและมือถือไว้บนโต๊ะมากกว่า น่ากลัวจริง” “ไม่ถูกหลักอนามัยเลย” “กินอาหารบนถังขยะเนี่ยนะ…
-
J.K. Rowling ทำเซอร์ไพรส์!! ส่งของขวัญสุดพิเศษให้แฟนคลับตัวน้อยวัย 12 ปี
ถ้าพูดถึงหนึ่งในตำนานนิยายและภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการพ่อมด ไม่พูดถึงซีรีส์เวทมนตร์สุดแฟนตาซีของพ่อมดน้อย Harry Potter ก็คงเป็นไปไม่ได้เลย และผู้เขียนอย่าง J.K. Rowling ก็ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีไปอย่างรวดเร็ว จากความสำเร็จของนิยายพ่อมดน้อยของเธอ Harry Potter นั้นโด่งดังไปทั่วโลก แม้แต่พื้นที่ห่างไกลอย่างแถวโรงเรียนรัฐบาล Haji แถวเทือกเขาหิมาลัย ที่ซึ่งมีคุณครูที่ชื่อ Sabbah Haji ได้รับเรียงความความสุดประทับใจจาก Kulsoom Bano Batt เด็กอายุ 12 ปี ในเรียงความของเด็กสาว เธอเขียนว่า เรื่องราวของ J.K. Rowling ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของเธอ Haji จึงตัดสินใจที่จะทวีตข้อความไปบอก J.K. Rowling เพื่อหวังให้เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเด็กน้อย “ถึง J.K. Rowling เด็กสาววัย 12 ชื่อ Kulsum อยากที่จะพบกับคุณในสักวันหนึ่ง ดังนั้นอยากให้คุณมาเยี่ยมเราที่โรงเรียนรัฐบาล Haji บ้าง” Dear @jk_rowling. Kulsum, 12, a first generation English learner from the…
-
สุดซึ้ง!! ปู่ชาวสวิสวัย 99 ปี บินกลับมาตามหาภรรยาชาวไทย ที่พลัดพรากกัน 4 ปี
ตามหาความรักที่ว่ายากแล้ว การที่เราจะรักษามันให้ยั่งยืนนั้นยากยิ่งกว่า เพราะมันช่างมีอุปสรรคมาคอยทดสอบคนสองคนอยู่เสมอ แต่ถ้าหากมันเป็นรักแท้ล่ะก็ต้องผ่านไปได้ด้วยดีอยู่แล้ว!! เหมือนอย่างที่ Emile Georges Jean-Petite-Matile คุณปู่ชาวสวิสวัย 99 ปีนี้ได้ออกตามหารักแท้ของตัวเองที่พลัดพราดจากกันไปถึงสี่ปีจนเจอ เกิดเป็นภาพเหตุการณ์สุดประทับใจให้เราได้เห็นกัน ก่อนหน้านี้คุณปู่ Georges ได้มีความรักกับนางกระจ่างหรือป้าใจและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในประเทศไทยมา 20 ปี เวลาผ่านเลยไปจนมาถึงปี 2014 ปู่ Georges จำเป็นต้องบินกลับบ้านเกิดที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อเหตุผลทางการแพทย์ ซึ่งโชคไม่ดี ขณะที่เขาได้รักษาตัวอยู่ที่ประเทศบ้านเกิด คุณปู่ Georges ได้ทำเบอร์โทรศัพท์บ้านที่ของป้าใจหาย รวมถึงทั้งสองคนไม่ได้เล่นโซเชียลมีเดียทำให้พวกเขาไม่สามารถติดต่อกันในระหว่างนั้น และในทางกลับกันในทางป้าใจเชื่อว่าปู่ George อาจะเสียชีวิตจากอาการป่วยของเขาไปเสียแล้ว จึงย้ายกลับไปอยู่กับครอครัวของเธอ ในที่สุดคุณปู่ Georges ก็สามารถต่อสู้และผ่านพ้นปัญหาสุขภาพของตัวเองมาได้และออกตามหาภรรยาสุดที่รัก ที่มีเบาะแสเป็นเพียงกระดาษใบเดียวที่ระบุที่อยู่ของเธอเพียงเท่านั้น เขาเข้าขอความช่วยเหลือกับตำรวจท่องเที่ยวให้ช่วยตามหารักแท้ของเขาให้หน่อย ตำรวจท่องเที่ยวจึงติดต่อประสานงานให้ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยช่วยตามหาภรรยาของเขา ซึ่งเบื้องต้นไม่พบเจอกับที่อยู่ในกระดาษที่ปู่ Georges มีอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ละความพยายาม จนสามารถพบเบาะแสใหม่ที่ระบุว่า เคยมีบ้านอีกหลังหนึ่งในเกาะพงันมีหญิงที่เคยแต่งงานกับชาวต่างชาติ จึงไปตรวจสอบ พบว่าคนๆ นั้นคือป้าใจ ภรรยาสุดที่รักของปู่ Georges ไม่ผิดแน่ ในวันที่ 25…
-
โรงเรียนอังกฤษออกเตือนพ่อแม่ หลังเด็กฆ่าตัวตายเพราะเล่นเกม Doki Doki Literature Club
เชื่อว่าเพื่อนๆ บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงของเกม Doki Doki Literature Club มากันบ้างแล้วไม่มากก็น้อย นี่เป็นเกมวิชวลโนเวลที่มีชื่อเสียงเรื่องการหลอกคนเล่นให้ตายใจ ด้วยภาพที่สุดแสนน่ารัก และโทนสีของเกมที่สว่างสดใส แถมยังเปิดให้โหลดไปเล่นได้แบบฟรีๆ แต่เชื่อไหมล่ะว่าเกมนี้แท้จริงแล้วเป็นเกมที่มีธีมเกี่ยวกับโรคทางจิตวิทยา และมีเนื้อเรื่องวนเวียนอยู่กับการฆ่าตัวตายจนถึงขั้นว่าได้รับแท็ก “สยองขวัญแนวจิตวิทยา” จากเหล่าผู้เล่นบนแพลตฟอร์ม Steam เลยทีเดียว พูดตามตรงเลยว่าไม่ใช่แนวเกมที่เหมาะกับเด็กๆ เป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามเรื่องมันก็เกิดขึ้นจนได้เมื่อมีเหตุการณ์เด็กชายวัย 15 ปีที่อาศัยอยู่ในเมือง Sunderland ประเทศอังกฤษได้ทำการฆ่าตัวตาย หลังจากเล่นเกมที่ว่านี้ หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น สำนักงานชันสูตรศพของแมนเชสเตอร์ได้ทำการแจ้งครูในตอนเหนือของประเทศอังกฤษ ให้ทำการเตือนเหล่าผู้ปกครองของเด็กๆ ถึงอันตรายที่อาจจะแฝงอยู่ในเกมๆ นี้ แม้ว่าตัวเกมจะมีการเตือนอย่างชัดเจนว่าไม่เหมาะสมกับเด็กหรือคนขวัญอ่อน แต่ด้วยธีมของเกมที่ดูสดใสนั้นทำให้อาจจะมีเด็กๆ จำนวนมากที่หลงเข้าไปเล่นเกมนี้โดยไม่รู้ตัว ทางเจ้าที่หน่วยสูตรศพกล่าวว่า “สาเหตุการฆ่าตัวตายของเด็กหนุ่มวัย 15 ในครั้งนี้ มีจุดเชื่อมโยงที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับเกมออนไลน์ชื่อ Doki Doki Literature Club” แม้ว่า Doki Doki Literature Club นั้นจะไม่ใช่เกมออนไลน์อย่างที่ทางเจ้าหน้าที่อ้างก็ตาม แต่จากเนื้อหาของที่ตัวเกมนำเสนอออกมานั้น ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า…
-
ชาวเมืองงง พบหนุ่มชุดสูทพาย Paddle Board ข้ามแม่น้ำ เพราะไม่อยากจ่ายค่าผ่านทาง!!
การเดินทางในโลกใบนี้มีด้วยกันอยู่หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นพาหนะส่วนตัวหรือจะเป็นขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำหรือทางอากาศปัจจุบันก็ให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ซึ่งแต่ละอย่างก็มีข้อแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา ความสะดวกสบาย ความสามารถเข้าถึงง่ายและรวมถึงค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป และเรื่องค่าใช้จ่ายนี่แหละที่เราจะพูดถึงในวันนี้ เพราะมีคนบันทึกภาพที่เล่นเอาคนที่เห็นถึงกับแปลกใจ เมื่อมีชายในชุดสูทโดดขึ้น Paddle Board และพายมันข้ามแม่น้ำมาอีกฝั่งเพราะว่าเขาไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมผ่านทาง!! วินาทีที่มีคนบันทึกภาพของชายพาย Paddle Board ข้ามแม่น้ำ Hudson ชายคนนั้นคือ Scott Holt นักแสดงตลกที่กำลังดิ้นรนต่อสู้กับชีวิต ซึ่งจะเดินทางข้ามแม่น้ำ Hudson จาก New Jersey ไป Manhattan เพื่อที่จะไปพบป่ะกับคนที่เขานัดเอาไว้ภายใน 30 นาที เหตุการณ์เกิดขึ้นในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดและไม่อยากที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านทาง เขาก็เลยจับเจ้า Paddle Board ออกมาพายข้ามไปซะเลย เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเป็นศิลปินยาจกผู้หิวโหย (อาจจะสื่อว่าเขาไม่ค่อยมีเงิน) ผมเลยจับเอาบอร์ดออกไปลอย โดดขึ้น และพายมันออกไป ผมงี่เง่ามากๆ ที่ไม่ได้เอาเสื้อชูชีพมาด้วย ถ้ามันมีคลื่นมาชนกับบอร์ด ผมก็คงร่วงและจมน้ำพร้อมๆ กับสูทที่ใส่อยู่แน่ๆ” เขาสามารถพายไปถึงท่าเรือที่นิวยอร์กและไปทำธุระของตัวเองได้สำเร็จทันเวลา…
-
แมตช์บอลโลกทำ “กรุงโตเกียว” หวิดไม่มีน้ำใช้ หลังแฟนบอลแห่เข้าห้องน้ำกันตอนพักครึ่ง?!
ในวันที่ 19 มิถุนายน 2018 การแข่งขันฟุตบอลโลกระหว่าง ทีมชาติญี่ปุ่น กับ ทีมชาติโคลอมเบีย สร้างความสนุกสนานให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก เชื่อว่าแฟนบอลของ 2 ชาตินี้คงจะลุ้นกันตัวโก่งอย่างแน่นอน จบเกม ญี่ปุ่นเอาชนะโคลอมเบียไปได้ 2 ประตูต่อ 1 และด้วยการที่แฟนๆ ต่างพากันลุ้นชนิดที่ว่าไม่อยากพลาดแม้แต่ช็อตเดียว มันจึงเป็นเหตุที่ทำให้กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เกือบต้องตกอยู่ในภาวะขาดแคลนน้ำไปช่วงหนึ่งเลย กรมการประปาในประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า ระหว่างการพักครึ่งของแมตช์ฟุตบอลโลกดังกล่าว เปอร์เซ็นต์การใช้น้ำของประชากรทั้งประเทศพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 24 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะหลังจากสิ้นสุดการแข่งขัน เปอร์เซ็นต์การใช้น้ำก็พุ่งสูงกว่าเดิมไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์ สถานการณ์ในตอนนั้นทำให้กรุงโตเกียวเกือบจะต้องประสบปัญหาภาวะขาดแคลนน้ำ ไม่มีน้ำใช้กันไปทั้งเมือง ทางภาครัฐเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นผลมาจากการที่แฟนบอลจำนวนมากไม่ยอมลุกไปใช้ห้องน้ำ อั้นมันเอาไว้จนกว่าจะถึงช่วงพักครึ่งหรือหลังจบเกม เพราะกลัวภาพความสนุกของการแข่งขัน ด้วยเหตุนั้นเอง การประปาของประเทศจึงจำเป็นต้องเตรียมตัวรับมือกับแมตช์ฟุตบอลโลกต่อๆ ไป ซึ่งในรอบที่ญี่ปุ่น ปะทะทีมชาติเซเนกัล ก็ไม่มีปัญหาเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาแล้ว การอั้นอึอั้นฉี่ตอนดูบอลนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่เราทำกันจนชิน แต่ใครจะไปคิดว่าสิ่งนี้เกือบสร้างปัญหาระดับชาติเข้าแล้วมั้ยล่ะ ลองคิดดูว่าถ้าใช้ห้องน้ำพร้อมกันเยอะๆ แล้วจู่ๆ น้ำก็ตัดไปไม่เหลือให้ใช้…
-
สาววีแกนโมโหหลังรออาหารในร้าน 2 ชั่วโมง สุดท้ายได้ขนมปังไส้เศษผักหนึ่งอัน
จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณเป็นคนทานมังสวิรัติ แล้วต้องเข้าไปนั่งรอในร้านอาหารนานเป็นชั่วโมงๆ เพียงเพื่อที่จะต้องมาเจอกับอาหารที่ห่วยแตกจนสงสัยว่าใช้เวลาทำมาได้ยังไงตั้งสองชั่วโมง คุณจะอารมณ์เสียบ้างไหม? จะอยากบ่นบ้างรึเปล่า? เพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่ Taylor Mooney เจอเข้ากับตัวเลยยังไงล่ะ Taylor Mooney ได้ตัดสินใจเดินทางไปยังร้านอาหารเยอรมันแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย เพื่อพาครอบครัวของตัวเองไปทานอาหารเนื่องในวันพ่อสากล Taylor Mooney ผู้เผชิญเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่ด้วยความที่ว่าเธอเป็นคนทานมังสวิรัตินั่นเองเธอจึงสั่ง “ขนมปังมังสวิรัติ” สอดไส้ “ผักแสนอร่อย” ซึ่งเป็นเมนูของร้าน ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปด้วยดี แต่ Taylor ต้องเจอกับปัญหาบางอย่าง เพราะเธอต้องนั่งรออาหารเป็นเวลานานถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว เอาเข้าจริงๆ ถึงแม้ว่าการทำอาหารของฝั่งตะวันตกมักจะกินเวลามากกว่าฝั่งเอเชียเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เวลาสองชั่วโมงมันก็ออกจะมากไปนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสิ่งที่เธอได้นั้นเป็นอะไรแบบนี้ สิ่งที่เธอได้มาเป็นเพียงขนมปังและผักสองไม่กี่ชิ้น เมื่อเห็นดังนั้น Taylor ก็หยิบมือถือขึ้นมา และถ่ายภาพอาหารที่เธอเจอลงบนโลกโซเชียลเสียเลย นี่คืออาหารวีเกนที่ฉันต้องรอมันถึง 2 ชั่วโมง แน่นอนว่าของแบบนี้นั้นย่อมต้องเป็นเรื่องที่มีผู้คนออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมายเป็นเรื่องธรรมดา ตั้งแต่คนที่บอกว่า การต้องมาเจอกับอาหารที่ไม่ดีแบบนี้ล่ะเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่เป็นวีเกน หรือคนที่เอามาตำหนิการกระทำของร้านอาหารที่เธอไป ว่าเป็นการกระทำที่ “ขี้เกียจ” และดูถูกลูกค้าอย่างไม่น่าให้อภัยมาก นอกจากนี้เหล่าคนในโลกออนไลน์ยังมีการโน้มน้าวให้ Taylor ทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับร้านแห่งนี้เสียบ้าง…
-
อ่ะหื้อ แสบตา!! กับลุคใหม่ของป๋าเบน Benedict Cumberbatch ในละครเรื่อง Brexit
หากพูดถึงนักแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่พื้นเพเป็นคนอังกฤษ ก็มีอยู่หลายคน แต่จะไม่กล่าวถึงคนนี้เลยก็เป็นไปไม่ได้ นั่นคือ Benedict Cumberbatch นั่นเอง Benedict Cumberbatch หรือที่แฟนๆ ชาวไทยเรียกกันว่า “พี่เบน” หรือ “ป๋าเบน” นี้เองเป็นนักแสดงวัย 42 ปี ซึ่งเกิดและเติบโตมาในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ผ่านมาเราจะเห็นเขาแสดงภาพยนตร์หรือซีรีส์มามากมาย แต่บทเด่นๆ ที่ทำให้คนจำเขาได้ดีก็คงไม่พ้น Sherlock Holmes จากซีรีส์ Sherlock Holmes, เป็น “ข่าน” ตัวร้ายที่โดดเด่นและมีเสน่ห์จากภาพยนตร์ Star Trek: Into Darkness และต้องไม่ลืมกับบทอย่าง Doctor Strange อีกด้วย เราจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาป๋าเบนของเราจะรับบทเป็นคนที่เท่ มีเสน่ห์อยู่บ่อยๆ แต่ละครเรื่องล่าสุดที่เขาได้รับเลือกให้เล่น เรื่อง Brexit จะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของพี่เบนไปอีกแบบหนึ่งเลยล่ะ… Brexit เป็นละครที่จะฉายทางช่อง Channel 4 ที่อิงเนื้อเรื่องมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร ในช่วงปี 2016 ที่ผ่านมา โดยที่คราวนี้ป๋าเบนของเราได้รับเลือกให้เล่นเป็น Dominic Cummings ที่ปรึกษาทางการเมืองและยุทธศาสตร์ชาวอังกฤษ ผู้เป็นแกนนำแคมเปญ Vote Leave แคมเปญที่จะพาสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกของ European…
-
ชาวเน็ตแห่ชื่นชมพนักงานร้าน Jollibee หลังช่วยกันดูแลพร้อมป้อนนมแก่เด็กที่ถูกทิ้ง
ทุกวันนี้มีเด็กเกิดใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ตั้งครรภ์และคลอดลูกออกมาจะมีความพร้อมเลี้ยงดูเด็กๆ เหล่านั้น จนเรามักจะเห็นตามข่าวอยู่บ่อยๆ กับการที่มีพ่อหรือแม่ใจร้ายที่นำเด็กทารกมาทิ้งไว้ในสถานที่ต่างๆ เหมือนอย่างกับเรื่องที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ ได้มีพ่อหรือแม่ใจร้ายนำลูกน้อยมาทิ้งไว้ข้างนอกร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดชื่อดังในประเทศฟิลิปปินส์อย่าง Jollibee แต่ยังถือว่าเป็นเคราะห์ดีเด็กทารก เพราะได้เจอกับเหล่าพนักงานที่ดี มีน้ำใจ พวกเธอช่วยกันเก็บเด็กเข้ามาดูแลและพนักงานคนหนึ่งยังให้นมแก่เด็กทารกในร้านด้วย ในวันที่ 20 มิถุนายน 2018 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jesica Tan Verano ได้อัปโหลดรูปภาพพร้อมข้อความว่า “ใครกันนะที่มาทิ้งทารกคนนี้ที่ Jollibee ใน Imus (เมืองหนึ่งในฟิลิปปินส์) เด็กคนนี้น่ารักมาก!! ฉันอยากจะร้องไห้เพราะพ่อหรือแม่ของเขาทิ้งเขามาได้ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์และการพัฒนาจะมารับตัวเขาไป แต่ฉันอยากที่จะเลี้ยงหนูน้อยคนนี้ไว้!” Verano ให้สัมภาษณ์ว่า “เขาเป็นทารกแรกเกิด เพราะตอนที่เจอยังมีรอยเลือดอยู่บนหัวของเขา มันเหมือนกับว่ามีใครสักคนรีบๆ ทำความสะอาดเขาแล้วนำเขามาทิ้ง เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนเจอ แต่ตำรวจจราจรเป็นคนนำเขาเข้ามาในร้าน และผู้ดูแลร้านก็ช่วยดูแลเด็กน้อย พร้อมทำความสะอาดและป้อนนมเขาด้วย” หลังจากที่ Verano ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพลงในโซเชียลมีเดีย ชาวเน็ตทั้งหลายก็ช่วยแชร์ต่อกันและเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย Jecca Rodriguez Sayaman กล่าวว่า “ขอบคุณที่แบ่งปันน้ำนมของคุณให้แก่เขา ถึงพ่อแม่ของเด็ก พวกคุณจะไม่มีความสุขไปตลอดกาลแน่ๆ”…
-
หนุ่ม “จุดเทียน” หวังขอแฟนแต่งงาน แต่ไฟรักอันเร่าร้อนกลับลุกไหม้ ต้องหนีตายกันทั้งโรงแรม!!
เราคงเคยเห็นฉากหนึ่งในหนังโรแมนติก พระเอกจุดเทียนไว้ในห้องนอนเซอร์ไพรส์สาวที่ตัวเองรัก จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่ผลลัพธ์ก็อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราหวัง เพราะการแสดงความรักของพวกเรามันอาจเร่าร้อนจนเกินไป ทำให้ไฟรักลามไปติดผ้าม่าน ผ้าห่ม จมสู่กองเพลิง กลายเป็นความวอดวาย เหมือนกับเหตุการณ์ของชายคนนี้ นี่คือเรื่องราวของชายแซ่ Zhang ผู้หวังจะขอแฟนสาวแต่งงานด้วยความโรแมนติก เขาจึงจุดเทียน 8 เล่มวางเรียงเป็นรูปหัวใจเอาไว้ในห้องนอน จากนั้นเขาก็ออกไปรับตัวแฟนสาวสุดที่รัก แต่เมื่อกลับมาที่โรงแรม เดินขึ้นไปบนห้องที่เขาจัดทุกอย่างเอาไว้เสร็จสรรพ สิ่งที่เขาได้พบก็คือกองเพลิงอันโชติช่วงชัชวาล พร้อมกับควันไหม้คละคลุ้ง หมดกันความโรแมนติกที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะดูๆ แล้วเทียนเจ้ากรรมคงจะร่วงลงไปบนผ้าห่ม ลามต่อไปถึงผ้าเช็ดตัว ก่อนจะไปติดเพิ่มที่ผ้าม่าน ความรักอันร้อนแรงได้ทำให้พนักงานและลูกค้าคนอื่นๆ ของโรงแรมได้แต่รีบวิ่งหนีตายออกจากตัวอาคาร พนักงานดับเพลิงเร่งตรงเข้ามาช่วยเหลือในบัดดล การช่วยเหลือ ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองหูโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือลูกค้าบางส่วนที่ยังติดอยู่บนชั้น 7 ชั้นที่ชายแซ่ Zhang วางแผนเซอร์ไพรส์แฟนสาว ท้ายที่สุดก็โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย และ 1 ชั่วโมงหลังจากนั้นก็สามารถดับไฟได้สำเร็จ แม้ว่าความโรแมนติกมันออกจะผิดจากที่ตั้งใจไว้ไปสัก (ไม่) หน่อย ถึงอย่างนั้นแฟนสาวของเขาก็ตกลงยินดีที่จะแต่งงานด้วย (เธอคงจะปลาบปลื้มกับความรักอันเร่าร้อนของเขากระมัง) ควันไฟแห่งรักลอยละล่องออกมาเต็มเลยยย…
-
เชิญพบกับ Maxim Pastuhov นักบวชรัสเซียสุดล่ำ แถมยังเป็นแชมป์ยกน้ำหนักด้วย
ถึงจะดูแปลกตาไปสักหน่อย แต่ต้องบอกว่าชายคนนี้เป็นนักบวชจริงๆ และเขาเป็นแชมป์การแข่งขันยกน้ำหนักในรัสเซียด้วย!! ชายคนนี้มีชื่อว่านาย Maxim Pastuhov วัย 41 ปี ที่อาศัยอยู่ในแคว้นเบลโกรอด ประเทศรัสเซีย ทำหน้าที่เป็นนักบวชอยู่ที่นั่น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่หมดภาระหน้าที่ เขาจะถอดชุดนักบวชออกและตรงไปยังโรงยิมเพื่อออกกำลังกาย Maxim เข้ายิมออกกำลังกายอย่างหนักและได้สมญานามว่าเป็นเจ้าแห่งกีฬาและโด่งดังไปทั่วรัสเซีย “การยกน้ำหนักเป็นกีฬาและเป็นชีวิตของผมเลย” Maxim กล่าว เมื่อถาม Maxim ว่าการทำหน้าที่เป็นนักบวชและการฟิตซ้อมร่างกายไปพร้อมๆ กันมีผลกระทบอย่างไรบ้าง เจ้าตัวจึงบอกว่า “มีคำชมสำหรับงานหลักในฐานะนักบวชและชุมชนของผมก็สนับสนุนงานอดิเรกของผมด้วย มันไม่ได้รบกวนการปฏิบัติหน้าที่เลยเพราะผมใช้เวลาว่างในการฝึกซ้อม” ในปี 2009 เขาได้กลายมาเป็นผู้ดูแลโบสถ์ ก่อนจะเข้ารับการคัดเลือกเป็นนักบวชเต็มตัวในปี 2010 ซึ่งในปีนั้นเอง Maxim ได้ก็ได้จัดตั้งสโมสรกีฬาที่ชื่อ Orthodox Saint Iosaf Belgorodskiy Sportive Club เพื่อช่วยเหลือเด็กผู้ชายและชายหนุ่มในหมู่บ้านในการฝึกฝนร่างกายให้มีสุขภาพที่ดี Maxim เคยฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวอยู่นาน 15 ปี ปัจจุบัน Maxim จะใช้เวลาวันละ 2 ชั่วโมงในการเล่นเวทยกน้ำหนักและยังทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ให้กับสโมสรเป็นเวลา 3 วันต่อสัปดาห์ “เป้าหมายของสโมสรของเราไม่ได้มีเพื่อให้ความรู้ทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวเนื่องถึงจิตวิญญาณและศีลธรรมด้วย เราพยายามที่จะส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี” Maxim กล่าว…
-
หัวหน้าแก๊งนักเลงส่งข้อความขอโทษญาติๆ หลังฆ่าโหดเด็ก 15 ลั่น “โทษทีเราฆ่าผิดคน”
กลายเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนขวัญที่สุดเรื่องหนึ่งของสหรัฐอเมริกาไปแล้ว เมื่อ Lesandro Guzman-Feliz เด็กหนุ่มวัย 15 ปีจากเมืองนิวยอร์ก ถูกสังหารอย่างโหดร้ายจากคนกลุ่มหนึ่ง เมื่อวันพุธที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา Lesandro Guzman-Feliz ผู้เสียชีวิต ภาพการฆาตกรรมอันโหดร้ายในครั้งนี้นั้น ถูกจับภาพไว้ได้โดยกล้อง CCTV ในพื้นที่ซึ่งแสดงให้เห็นภาพของคนกลุ่มหนึ่งดึงตัวเด็กหนุ่มไปข้างถนน ก่อนที่จะระดมฟันแทงเขาด้วยมีดยาว จนเด็กหนุ่มได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะวิ่งหนีไป หลังจากที่คนร้ายหนีไปได้ไม่นาน Lesandro ที่ได้รับบาดแผลที่คอก็พยายามตะเกียกตะกายข้ามถนนไปยังโรงพยาบาลในบริเวณใกล้เคียงแต่ก็สิ้นลมไปเสียก่อน ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจาก Dailymail อย่างไรก็ตามเรื่องราวมันไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น เพราะไม่กี่วันหลังจากความตายของ Lesandro พี่เขยของเขา นาย Derek Grullon ก็บอกว่าเขาและภรรยาได้รับข้อความจากชายที่อ้างตัวเป็นหัวหน้าของแก๊ง Trinitarios แก๊งหัวรุนแรงในโดมินิกันส่งมาบอกว่า “โทษทีเราฆ่าผิดคน” Grullon บอกอีกว่าภรรยาของเขานั้นได้รับวิดีโอยาวราวๆ สองนาทีที่มีเนื้อความคร่าวๆ ว่าหัวหน้าแก๊งได้ทำการไล่สมาชิกผู้กระทำผิดออกจากแก๊งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สมาชิกผู้กระทำผิดที่หัวหน้าแก๊งพูดถึงนั้น ทางตำรวจเชื่อว่าหมายถึงชายหกคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยของเนื่องจากถูกจับภาพไว้ได้โดยกล้องในพื้นที่นั้นเอง ภาพของชายหกคนที่มีความเกี่ยวข้องกับคดี ที่ได้รับการเปิดเผยจากทางตำรวจ เบื้องต้นทางตำรวจนั้นสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาห้าคนจากในภาพได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในเบื้องต้นเชื่อว่าเหตุจูงใจในการลงมือครั้งนี้ มาจากวิดีโอคลิปอันหนึ่งซึ่งมีการปล่อยออกมาในโซเชียลมีเดีย โดยในคลิปนั้นเป็นภาพของชายสองคนกำลังมีเซ็กซ์กับหญิงสาวที่โดนคลุมหน้าด้วยเสื้อ ทางตำรวจเปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่หญิงสาวในคลิปจะเป็นญาติกับใครสักคนในแก๊งที่ก่อเหตุ แต่ยังไม่อาจทราบได้ว่าชายคนไหนในคลิปเป็นคนที่ทางแก๊งจำสลับกับผู้ตายกันแน่ แต่รูปคดีจะเป็นอย่างไรต่อไป และตำรวจจะสามารถจับคนร้ายทั้งหมดมาลงโทษได้ไหมนั้น ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป…
-
อินเดียขึ้นแท่น “ประเทศอันตรายที่สุดสำหรับผู้หญิง” จากข้อมูลของทอมสัน รอยเตอร์ส
เป็นเรื่องที่คนส่วนมากน่าจะทราบกันแล้วว่าประเทศอินเดียนั้นมีอัตราคดีการข่มขืนที่สูงสุดประเทศหนึ่งของโลกเลย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่ผลการสำรวจของผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาสตรีจำนวน 550 คน จากมูลนิธิทอมสัน รอยเตอร์ส จะได้ผลออกมาว่าประเทศอินเดียนั้น เป็นประเทศที่อันตรายที่สุดในโลก ในด้านความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิง การค้ามนุษย์ การบังคับใช้แรงงาน การบังคับแต่งงาน และด้านอื่นๆ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญคืออินเดียนั้นมีอันดับความเป็นอันตรายต่อสตรีร้ายแรงขึ้นจากการสำรวจที่จัดทำขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อนเป็นอย่างมาก โดยเลื่อนจากอันดับ 4 ของโลก ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในปีนี้ กล่าวคือประเทศอินเดียนั้นมีความอันตรายต่อสตรีมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา จากข้อมูลของทางการ ประเทศอินเดียมีคดีการข่มขืนสตรีสูงถึงเฉลี่ยวันล่ะ 100 คดี และนั่นเป็นเพียงแค่คดีส่วนที่ได้รับการแจ้งความเท่านั้น แสดงถึงความเป็นไปได้ของเหยื่อที่มองไม่เห็นอีกเป็นจำนวนมาก โดยจากการสำรวจในครั้งนี้นั้นพบว่าประเทศที่มีความเป็นอันตรายต่อสตรีในสิบอันดับแรกนั้น ได้แก่ อันดับ 1 ประเทศอินเดีย อันดับ 2 ประเทศอัฟกานิสถาน อันดับ 3 ประเทศซีเรีย อันดับ 4 ประเทศโซมาเลีย อันดับ 5 ประเทศซาอุดีอาระเบีย อันดับ 6 ประเทศปากีสถาน อันดับ 7 ประเทศคองโก อันดับ…
-
คุณพระ!! สาวมีตุ่มขึ้นใต้ตา คิดว่าสิว แท้จริงเป็น “พยาธิ” เกาะอยู่ แถมย้ายไปถึงริมฝีปาก!?
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพชวนขยะแขยง ที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] เรื่องราวต่อไปนี้อาจทำให้คุณเกิดอาการวิตกกังวลว่าสิวหัวดำหรือตุ่มนูนต่างๆ บนใบหน้าอาจจะร้ายแรงกว่าที่คิดก็ได้ เพราะนี่คือเรื่องราวของหญิงสาวชาวรัสเซียวัย 32 ปีคนหนึ่งที่มีตุ่มนูนขึ้นบนใบหน้าบริเวณใต้ตา แต่วันต่อมามันดันขยับไปอยู่บนเปลือกตาและริมฝีปาก!? ตามรายงานบอกว่าหญิงสาวรายนี้มีอาการประหลาดที่พบได้ยาก เธอพบว่ามีก้อนนูนขึ้นมาบนใบหน้านานราวๆ 2 สัปดาห์ เธอเลยไปหาหมอตาเพื่อตรวจดูว่ามันคืออะไร เมื่อตรวจดูอย่างละเอียดก็พบว่าสิ่งที่อยู่ภายใต้ผิวหนังของเธอคือหนอนพยาธิ ในตอนแรกหญิงสาวบอกว่าเธอสังเกตเห็นมันเป็นตุ่มเล็กๆ อยู่ที่บริเวณใต้ตา แต่หลังจากนั้น 5 วันมันก็ขยับขึ้นไปอยู่ที่บริเวณเปลือกตา มันบวมอยู่แบบนั้น 10 วัน จากนั้นตุ่มที่ว่านี้ก็ยุบลงไป แต่ดันย้ายมาอยู่ที่ริมฝีปากของเธอแทน หมอของเธอเห็นว่าตุ่มหรือความบวมเป่งนี้สามารถเคลื่อนที่ได้ และหากเธอไม่ได้รับการรักษาล่ะก็อาจทำให้เธอตาบอดได้ หมอจึงตัดสินใจผ่าตัดเอาหนอนพยาธิออกจากใบหน้าของหญิงสาวรายนี้ ยังไม่มีใครทราบว่าเจ้าหนอนตัวนี้เข้าไปอยู่ในใบหน้าของหญิงสาวได้อย่างไร แต่เธอก็บอกว่าพอจะจำได้ว่าก่อนหน้านี้เธอเคยเดินทางไปย่านชนบทของรัสเซีย ซึ่งตอนนั้นเธอถูกยุงกัดเข้าเลยอาจเป็นสาเหตุให้เกิดเจ้าหนอนปรสิต มีการระบุว่าเจ้าพยาธิชนิดนี้มีชื่อว่าหนอนพยาธิไดโรฟิลาเรีย (Dirofilaria Repens) ซึ่งพบได้ตามสุนัขและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พวกมันจะวางไข่ไว้ในตัวของยุง เมื่อไหร่ก็ตามที่ยุงไปกัดเข้าก็จะเป็นการถ่ายเทไข่ออกจากตัวของพวกมัน จากนั้นมันก็จะไปเติบโตต่อและดูดซึมสารอาหารอยู่ภายใต้ผิวหนังของสัตว์ชนิดนั้น พวกมันสามารถเติบโตอยู่ใต้ชั้นผิวหนังได้นานถึง 8 ปีเลยทีเดียว แม้ว่าอาจจะพบได้ยาก แต่หากใครเจออาการแบบนี้ก็รีบไปหาหมอโดยด่วนเลยนะ ที่มา metro
-
สาวจีนพยายามโดดตึก เพราะฝังใจที่เคยโดนครูลวนลาม ผู้คนปรบมือส่งเสียงเชียร์ “โดดเลยๆ”
เว็บไซต์ Shanghaiist ได้นำเสนอเรื่องราวของหญิงสาวชาวจีนวัย 19 ปี ที่ตกอยู่ในสภาวะเครียดจนพยายามปีนขึ้นไปบนตึกเพื่อฆ่าตัวตาย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยต้องเข้าช่วยเธอจากการกระโดดตึก ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในมณฑลกานซู่ เมืองฉินหยาง ประเทศจีน คลิปเหตุการณ์ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่พยายามจะช่วยเธอ หญิงสาวรายนี้มีนามสกุลว่าลี เธอนั่งอยู่ที่ขอบหน้าต่างของโรงแรม เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงในการเกลี้ยกล่อมเธอให้กลับเข้ามาในตัวอาคาร ในขณะที่ผู้คนที่เฝ้ามองอยู่ด้านล่างต่างตื่นตกใจ ก่อนจะปรบมือและส่งเสียงเชียร์ให้เธอกระโดดลงมา นอกจากนี้ยังมีคอมเมนต์ในโลกออนไลน์ที่บอกให้ยุให้เธอโดดลงมาเสียที เช่น “ฉันรอเป็นชั่วโมงภายใต้แสงแดดเพื่อรอให้เธอโดดเนี่ย” และ “โดดเร็วๆ ฉันต้องไปรับลูกอีกนะ” ในที่สุดนางสาวลีก็ขยับมาที่ขอบหน้าต่างมากขึ้นและบอกกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยว่า “ขอบคุณนะ แต่ฉันต้องไปแล้วล่ะ” จากนั้นก็กระโดดลงไป จากการสืบสวนพบว่าเธอได้เขียนจดหมายลาตายเอาไว้อยู่ 6 หน้า เป็นเหตุการณ์ในวันที่ 5 กันยายน 2016 ในตอนที่เธออายุได้ 17 ปี เธอเล่าว่าในตอนนั้นเธอปวดท้องจึงขอไปห้องพยาบาล ต่อมาคุณครูนามสกุลอู่ ก็ได้เข้าไปตรวจดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง คุณครูได้ฉวยโอกาสจับใบหน้าของเธอ จูบปากและกัดเข้าที่หูของเธอ ก่อนจะฉีกเสื้อของเธอออกเพื่อลวนลาม แต่โชคดีที่จังหวะนั้นมีคุณครูรายอื่นเดินผ่านมาพอดีทำให้เธอไม่ถูกข่มขืน เหตุการณ์นี้ไปถึงหูของทางโรงเรียน แต่นายอู่กลับไม่ได้ถูกลงโทษอะไรมากมาย มีแค่การสั่งให้คุณครูขอโทษเธอเท่านั้น และบอกให้เธอกลับไปเรียนตามปกติเท่านั้น แม้ว่าต่อมาเรื่องจะไปถึงตำรวจแต่นายอู่ก็ยังไม่ได้รับโทษร้ายแรงเนื่องจากตำรวจอ้างว่าเธอไม่มีพยานและสิ่งที่คุณครูรายนี้ทำไปก็ไม่ได้ “รุนแรง”…
-
สาวคนดังในอังกฤษ ออกมาประกาศว่าตัวเองถ่าย “คลิปโป๊” ใครอยากได้ ขาย 43 ล้านบาท!!
คงไม่มีคนดังคนไหนที่จะออกมาประกาศว่าตัวเองถ่ายคลิปโป๊เก็บเอาไว้ และพร้อมจะขายมันให้กับทุกคนที่อยากดู แต่ว่าเซเลบสาวชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษคนนี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่าคนแบบนั้นมันมีอยู่จริงๆ เธอคนนี้มีชื่อว่า Gemma Collins สาววัย 37 ปีผู้มีชื่อเสียงจากรายการ The Only Way Is Essex เธอได้ออกมาเผยว่าตนเองถ่ายคลิปโป๊เก็บเอาไว้ และโอเคที่จะแชร์มันให้กับทุกคนด้วยราคา 43 ล้านบาท Gemma ผู้ออกมาบอกกับทุกคนว่า ได้ทำการถ่ายคลิปโป๊ของตัวเองเอาไว้ Gemma บอกว่าเธอใช้โทรศัพท์ไอโฟนถ่ายขณะที่ตัวเองกำลังแก้ผ้า ร่วมรักกับคู่นอนอย่างเร่าร้อน ซึ่งเธอตั้งใจว่าจะเก็บเอาไว้ดูในอนาคต เธออธิบายว่า “ฉันทำอย่างนั้นเพราะฉันรักหวานใจของตัวเองมากจริงๆ และหลงใหลไปกับความสัมพันธ์ของเรา ฉันจึงอยากย้อนกลับไปดูมันซ้ำๆ เรื่อยๆ” หญิงสาวยังบอกอีกว่าไอโฟนที่ใช้ถ่ายคลิปก็ถูกซ่อนเอาไว้ในซอกใดซอกหนึ่งของบ้านเธอนั่นแหละ Gemma เชื่อว่าคลิปโป๊ของเธอนั้นจะต้องโด่งดังและเป็นที่น่าพึงพอใจกว่าคลิปหลุดของเซเลบอย่าง Kim Kardashian และ Ray J แน่นอน Ray J และ Kim Kardashian อย่างไรก็ตาม หากใครอยากดูคลิปที่เธอพูดถึงนี้ จำเป็นต้องแลกด้วยเงินจำนวนมหาศาล 1 ล้านปอนด์…
-
ตำรวจเม็กซิกันโดนจับยกเมือง หลังจากต้องสงสัยในเหตุการณ์นักการเมืองถูกยิงเสียชีวิต
เดิมทีแล้วข่าวการที่ตำรวจโดนจับเสียเองนั้น ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกและไม่ค่อยที่จะเกิดขึ้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ข่าวในครั้งนี้อาจจะต้องบอกว่าแปลกยิ่งกว่าปกติ เพราะตำรวจที่โดนจับนั้น ไม่ใช่แค่คนหรือสองคน แต่เป็นนายตำรวจทั้งเมืองเลยต่างหาก เรื่องราวในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์สืบเนื่องมาจากการถูกฆาตกรรมของนาย Fernando Ángeles Juárez วัย 64 ปีนักธุรกิจผู้ผันตัวไปเป็นนักการเมือง ด้านนอกของโรงแรมแห่งหนึ่งในเมือง Ocampo ประเทศเม็กซิโก Fernando นั้นเข้าลงสมัครรับเลือกตั้งในฐานะสมาชิกพรรค Party of the Democratic Revolution หรือ RPD ดังนั้นการถูกลอบสังหารในครั้งนี้จึงสร้างความหวาดกลัวให้กับสมาชิกพรรคที่เหลือเป็นอย่างมาก จนทางพรรคมีการติดต่อขอรับการคุ้มครองจากทางภาครัฐ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการสังหารนักการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะการบุกสังหารนักการเมืองในเม็กซิโกนั้น เกิดขึ้นมากกว่า 120 ครั้งแล้วสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2018 นี้ ร่างของนาย Fernando ได้รับการส่งกลับไปให้ญาติๆ ทำพิธีศพเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าผู้ต้องหาหลักของคดีในครั้งนี้จะเป็นนาย Oscar Gonzalez Garcia เลขาธิการด้านความมั่นคงสาธารณะของเมือง Ocampo และผู้อำนวยการกรมตำรวจเท่านั้น แต่เนื่องจากทางตำรวจในท้องที่มีการขัดขวางการเข้าจับกุมผู้อำนวยการกรมตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดในเมืองจำนวน 27 นายได้ถูกควบคุมตัวโดยกองกำลังของรัฐบาลในฐานะผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น นายตำรวจของเมือง Ocampo ถูกจับกุมโดยกองกำลังของรัฐบาล โดยหลังจากที่เหตุการณ์บุกจับกุมจบลง เบื้องต้นทางอัยการก็ได้มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ทั้ง 27 คนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมที่มีอำนาจในพื้นที่ และนำตัวพวกเขาทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนหาความเป็นจริงกันต่อไป…
-
หนุ่มสุดซวย!! บินจากอังกฤษไปรัสเซียเพื่อเชียร์ทีมโปรด ดั๊นลืมตั๋วเข้าชมไว้ที่บ้านซะงั้น
ในช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่มีงานแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่ง 4 ปีจะมีครั้งหนึ่ง นั่นคือการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 นั่นเอง และแน่นอนว่าการได้เข้าไปชมฟุตบอลโลกเพื่อเชียร์ทีมที่รักสดๆ นั้นถือว่าเป็นความฝันสูงสุดของคอบอลหลากหลายคน เหมือนอย่างชายคนนี้ Douglas Moreton ที่ได้ทำตามความฝันของแฟนบอลคนหนึ่ง ลงทุนบินไปประเทศรัสเซียเพื่อชมและเชียร์ทีมชาติอังกฤษสุดที่รักกันสดๆ แต่เจ้าพระคุณเอ๊ย!! ด้วยความซวยหรือขี้ลืมก็ไม่ทราบ เขาดั๊นลืมตั๋วเข้าชมไว้ในลิ้นชักที่อังกฤษซะอย่างนั้น This is Douglas. He was at our hotel in Volgograd. We’ve just bumped in to him in Nizhny Novgorod & he’s realised he’s left his match tickets in the drawer at home in Bristol. If anyone’s got a…
-
พิซซ่า “เกือบใหญ่ที่สุดในโลก” ความกว้างกว่า 1.2 เมตร 11,000 กิโลแคลอรี อ้วนกันยันชาติหน้า!!
พิซซ่าที่เรากินกันทั่วๆ ไปก็คงจะมีขนาดที่ไม่ได้ใหญ่โตมโหฬารอะไรมากมายนัก ยิ่งเมื่อเทียบกับพิซซ่าที่มีชื่อว่า The Epic New York Pizza ถาดนี้ด้วยแล้ว พิซซ่าไซส์ใหญ่ยักษ์ โคตะระบิ๊ก นี่คือผลงานพิซซ่าถาดใหญ่ยักษ์จากร้าน Rub Smokehouse ในเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ พิซซ่า 1 ถาด 11 ชิ้นนี้ แต่ละชิ้นมีความยาวมากถึง 60 เซนติเมตร ทำให้พิซซ่าถาดนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 1.2 เมตรเลยทีเดียวเชียว พวกเขานั้นตั้งใจทำพิซซ่าขนาดยักษ์นี้ขึ้นมาเพื่อให้ผู้กล้าทุกคนสามารถเข้ามาท้าประลอง ร่วมสนุก กินมันให้หมด ซึ่ง Alex Amor ผู้จัดการร้านบอกเลยว่าไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนเลยนะจะบอกให้ ลองคิดดูว่าพิซซ่าขนาดใหญ่ แต่งหน้าด้วยเปปเปอโรนี่ ชีส และซอสมะเขือเทศ จากนั้นจึงเอาไปอบแบบแยกกันทีละชิ้น (เพราะใส่เข้าไปพร้อมกันทั้งถาดไม่ได้จริง) น่ากินมั้ยล่ะ?? (หมายถึงพิซซ่าอ่านะ) พิซซ่าแต่ละชิ้นนั้นมีปริมาณแคลอรีสูงถึง 1,000 แคลฯ แปลว่าทั้งถาดนั้นเท่ากับ 11,000 แคลฯ และหากใครอยากดุดันกว่านั้นก็สามารถเพิ่มเครื่องได้…
-
สาวซาอุได้ทำความฝันขับรถ F1 ให้เป็นจริง หลังกฎหมายอนุญาตให้ผู้หญิงขับรถ
เป็นที่ทราบกันว่าเดิมทีแล้วประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น เคยมีกฎหมายห้ามผู้หญิงขับรถยนต์ทุกชนิดมาก่อน และเพิ่งจะมีการยกเลิกข้อห้ามที่ว่านี้ไปเมื่อไม่นานมานี้ และเพื่อเป็นการฉลองต่อการยกเลิกกฎหมายที่ว่านี้ Aseel Al-Hamad สมาชิกหญิงคนแรกแห่งสหพันธ์มอเตอร์สปอร์ตแห่งซาอุดีอาระเบีย จึงได้ออกมาทำการขับรถแข่งสูตรหนึ่ง Lotus Renault E20 ไปบนสนามแข่ง Circuit Paul Ricard ในฝรั่งเศส นอกจากนี้ รถคันที่ว่ายังเป็นรถคันเดียวกับที่ Kimi Raikkonen ใช้ในงานแข่งอาบูดาบีกรังด์ปรีซ์ในปี 2012 และได้รับรางวัลชนะเลิศมาอีกด้วย Aseel Al-Hamad บอกว่า “ฉันรักในการแข่งรถมาตั้งแต่ในวัยเด็กแล้ว และการได้ขับรถสูตรหนึ่งนี้ เป็นสิ่งที่อยู่เหนือกว่าความฝัน และฉันไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งจะได้ทำมันจริงๆ ฉันมาที่นี่ในฐานะตัวแทนของประเทศ และหวังว่าฉันจะทำได้ดีที่สุด นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นของยุคใหม่เลยก็ว่าได้” ซาอุดีอาระเบียนั้น เคยจัดเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการห้ามไม่ให้ผู้หญิงขับรถยนต์ทุกชนิดมาก่อน ดังนั้นการที่กฎหมายที่ว่านี้ถูกยกเลิกไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมาจึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ยิ่งใหญ่ของสิทธิสตรี และความเท่าเทียมของสังคมเลยก็ว่าได้ แม้ว่าในปัจจุบันจะยังมีข้อกำหนดอีกมากสำหรับเหล่าสตรีในประเทศ แต่พวกเธอก็เชื่อเป็นอย่างมากว่าความไม่เท่าเทียมเหล่านั้น จะสามารถหายไปได้ในสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน ที่มา cnn, autosport
-
ชาวไร่ยัวะ เจอรถจอดผิดที่ผิดทางแถมเจ้าของยังไม่กลับมาเอา เลยใช้รถแทรกเตอร์ยกไปทิ้ง!?
หากคุณมีรถเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็ คุณควรจะระมัดระวังเรื่องการจอดรถไว้สักหน่อย ดูซ้ายดูขวาก่อนจะจอดว่ามันไม่ได้ไปบังหน้าบ้านใครหรือจอดในที่ห้ามจอดหรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณไปจอดรถในฟาร์มที่เจ้าของดุๆ หน่อย เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่ามีรถเก๋ง Audi A4 ในสภาพเสียหายถูกนำมาจอดไว้ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในเมือง Ampthill ประเทศอังกฤษ โดยที่ไม่มีใครโผล่มาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ แต่เจ้าของฟาร์มดูจะใจร้อนไม่รอให้เจ้าของกลับมาเอา เขาเลยขับรถแทรกเตอร์ในฟาร์มแล้วมายกเอารถเก๋งคันนั้นออกไป จะจอดจะชนที่ไหนก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่!! ด้านตำรวจจราจรได้ผ่านไปเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าพอดี เขาเลยถ่ายมันไว้และทวีตมันลงในทวิตเตอร์ พร้อมกับข้อความว่า “ถ้าคุณขับรถไฟชนในไร่ของเกษตรกรแล้วหนีไปแบบไร้ร่องรอยยามค่ำคืน ปล่อยให้ไร้เกิดความเสียหาย อย่าได้คาดหวังว่ารถของคุณจะถูกนำออกมาแบบดีๆ ล่ะ!!” ไม่กลับมาเอารถเหรอ? ไม่มีปัญหา แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่รถคันดังกล่าวถูกทิ้งไว้ที่นั่นหรือชื่อของผู้เป็นเจ้าของ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกติดตามเพื่อหาเจ้าของของมันแล้ว ที่มา metro
-
สาว 20 ลักลอบขนยามาใส่ในบราเซีย แต่ต้องมาโดนจับเพราะน้องหมาจ้องนมไม่ยอมเลิก
การขนยาเสพติดในปัจจุบันนั้น จะบอกว่ามีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นทุกวันก็คงไม่ผิดนัก ไม่ว่าจะยัดไว้ในสับปะรด หรือเอาใส่หลังนกพิราบ ดังนั้นการที่ Chloe Jones หญิงสาววัย 20 ปีเอายาเสพติด 13 เม็ดใส่ในบราเซียของเธอ เพื่อแอบเอาไปให้แฟนหนุ่มที่อยู่ในเรือนจำที่เวลส์นั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกเท่าไหร่เลยเมื่อเทียบกับการขนยาของแก๊งค้ายาใหญ่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเป็นวิธีการที่อาจจะทำให้เธอสามารถผ่านจุดตรวจไปได้จากความเกรงใจของผู้คุมอยู่ดี เรือนจำที่เกิดเหตุ ปัญหาคือในตอนที่เธอเดินทางผ่านจุดตรวจ เธอก็ถูกหยุดไว้โดยสุนัขตำรวจตัวหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้เห่าหรือเข้ามาตะกุยตัวเธอก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ Ian Wright กล่าวว่า สุนัขตำรวจที่ประจำการณ์อยู่นั้น เอาแต่จ้องมองที่หน้าอกของ Chloe Jones เป็นเวลานาน จนเขาสงสัย บวกกับการที่หญิงสาวดูมีพิรุธมาก เขาจึงตัดสินใจเข้าทำการตรวจสอบเธอ Chloe Jones ผู้ลักลอบนำยาเสพติดเข้าสู่เรือนจำ พวกเขาพบกับห่อพลาสติกเก็บยา Subutex จำนวน 13 เม็ดไว้ ซึ่งยาตัวดังกล่าวนี้ สามารถใช้แทนเฮโรอีนได้ โดยปริมาณยาที่ถูกตรวจพบอาจมีมูลค่าได้สูงมากหากหลุดเข้าไปในเรือนจำ โดยเบื้องต้น Chloe Jones บอกว่ายาที่ว่านั้นเป็นของเธอเอง และเธอเพียงแค่ลืมเอายานั้นออกจากบราก่อนมาเยี่ยมแฟนเท่านั้น อย่างไรก็ตามเธอจะต้องได้รับโทษในข้อหานำสิ่งของต้องห้ามเข้าสู่เรือนจำ และต้องรับโทษในทัณสถานเป็นเวลา 16 สัปดาห์ Chloe Jones ต้องเข้ารับโทษในทัณสถานเป็นเวลา 16 สัปดาห์…
-
โมเมนต์ประทับใจ เมื่อแฟนบอลเซเนกัล-ญี่ปุ่น ร่วมร้องเพลงการ์ตูน One Piece ไปด้วยกัน
หากใครได้ติดตามฟุตบอลโลกปี 2018 นี้ ก็คงจะทราบข่าวกันไปแล้วว่าการแข่งขันระหว่าง ทีมชาติญี่ปุ่น และ ทีมชาติเซเนกัล (ในวันที่ 24 มิ.ย.) ซึ่งจบลงไปด้วยผลเสมอ 2 ประตูต่อ 2 ถึงแม้ว่าการแข่งขันจะจบไปแล้ว แต่เราก็ยังจะมีโอกาสได้เห็นความน่ารักหรือโมเมนต์ความประทับใจได้จากเหล่าแฟนบอลผู้เดินทางไปเชียร์ทีมชาติตัวเองแบบติดขอบสนาม เหมือนอย่างช่วงเวลาของคนกลุ่มนี้ นี่เป็นโมเมนต์อันน่าประทับใจของแฟนบอลจากทั้ง 2 ทีม หลังจากการแข่งขัน พวกเขาได้ร่วมใจกันร้องเพลงประกอบการ์ตูนอนิเมะชื่อดัง One Piece ไปพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข นอกจากจะเป็นแฟนบอลแล้ว พวกเขายังเป็นแฟนคลับตัวยง ของเส้นทางการเป็นราชาโจรสลัดอีกด้วย คลิปช่วงเวลาดังกล่าวถูกโพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @JohnSulo พร้อมกับแคปชั่นที่ว่า “ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวัน ร้องเพลง One Piece กับแฟนบอลญี่ปุ่นหลังจากการแข่งขัน” วิดีโอของเขาได้รับความนิยมอย่างมากในโลกโซเชียล มีการรีทวีตมากกว่า 27,000 ครั้ง และคนกดไลก์อีกกว่า 34,000 คน คลิปบรรยากาศช่วงเวลาดังกล่าว ดูไปก็แอบอมยิ้มไปเบาๆ แม้มันอาจเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เชื่อว่านี่คงเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีที่สุดของแฟนบอลทั้ง 2 ชาตินี้เลยจริงๆ แม้ในการแข่งขันอาจมีฝั่งตรงข้าม แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็คือมิตรสหายเพื่อนร่วมโลกกันทั้งนั้นแหละเนาะ…
-
รีสอร์ตชื่อดังเผย!! ถูกขอพักฟรีจากผู้ที่เรียกตัวเองว่า “เน็ตไอดอล” ไม่ต่ำกว่า 6 ครั้งต่อวัน
ในยุคโลกาภิวัตน์ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วๆ ในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็น สังคม การเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี ทำให้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตต่างๆ เติบโตอย่างรวดเร็วและทำให้การติดต่อสื่อสารกันสามารถทำได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการเติบโตของโซเชียลมีเดียก็ทำให้มีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างมากมายอย่างเช่นอินเตอร์เน็ตไอดอล นักรีวิวหรือไม่ว่าจะเป็นเหล่าบล็อกเกอร์ทั้งหลาย ที่สามารถทำเงินได้จากการรับจ้างโพสต์รูปภาพหรือข้อความเพื่อโฆษณาสินค้า สถานที่ได้อย่างมหาศาล เหมือนอย่าง Jack Morris และ Lauren Bullen ที่มีคนติดตามทางอินสตาแกรมสองล้านกว่าคนเผยว่าพวกเขาสามารถทำเงินจากการโพสต์ภาพรีสอร์ตสุดหรู ซึ่งบางที่จ่ายให้พวกเขาถึง 300,000 บาทต่อโพสต์เพียงโพสต์เดียว https://www.instagram.com/p/BhPQk_6ly1c/?utm_source=ig_embed ซึ่งสำหรับคนที่มีชื่อเสียงจริงๆ ก็ถือว่าเป็นการโฆษณาที่ดี แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่มักง่ายแอบอ้างว่าตัวเองเป็นบล็อกเกอร์ชื่อดังเพื่อมาขอพักที่โรงแรมหรูและใช้บริการต่างๆ ฟรีๆ โดยที่ Kate Jones ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการสื่อสารของรีสอร์ตระดับ 5 ดาวอย่างดุสิตธานีรีสอร์ตสาขามัลดีฟส์ ได้เผยว่าเธอต้องเจอคำขอของเหล่าผู้คนที่เรียกตัวเองว่า “ผู้ทรงอิทธิพลบนโลกโซเชียลมีเดีย (Influencer)” หรือเรียกแบบไทยๆ ว่า “เน็ตไอดอล” มาขอพักรีสอร์ตฟรีๆ ไม่ต่ำกว่า 6 ครั้งต่อวัน https://www.instagram.com/p/BkXeX2KDIg9/?taken-at=20314417 “หลายๆ คนมาบอกว่า ‘ฉันอยากที่จะมีพักที่มัลดีฟส์ 10 วันและจะโพสต์รูปในอินสตาแกรมให้ 2 โพสต์’…
-
ศิลปินหนุ่มทุ่มกายใจ สร้างประติมากรรม “เรือผีสิง” ด้วยระยะเวลากว่า 14 เดือน!!
ผลงานประติมากรรมอันสวยงามที่เราเคยเห็นกันมาก่อนนั้น แต่ละชิ้นล้วนเกิดจากการทุ่มเทแรงกายแรงใจของช่างฝีมือ หรือศิลปินผู้สรรค์สร้างมันขึ้นมา และผลงานนี้เองก็ถึงว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดผลงานประติมากรรมอันยิ่งใหญ่ของ Jason Stieva ศิลปินจากเมือง Whitby ประเทศอังกฤษ กับสิ่งที่ถูกเรียกว่าประติมากรรม “เรือผีสิง” Jason ศิลปินชาวอังกฤษ ผู้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ นี่คือภาพเรือผีสิง ผลงานชิ้นเอกของเขา . นี่คือผลงานชิ้นเอกที่เขาได้แสดงฝีมืออันเกิดจากประสบการณ์กว่า 20 ปี และใช้เวลาในการทำมันขึ้นมานานกว่า 14 เดือน ชิ้นส่วนต่างๆ ที่ประกอบขึ้นมาเป็นผลงานชิ้นนี้ ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่เขาออกไปรวบรวมมาจากหลากหลายแหล่งที่มา ไม่ว่าจะเป็นตามร้านขายของเก่า ตามงานประมูล ตามอู่รถ หรือตามตลาดนัด นำชิ้นส่วนต่างๆ มารวมกัน บวกกับฝีมือการแกะสลักของเขา สู่ผลงานอันน่าทึ่ง สังเกตดูว่ารายละเอียดในแต่ละจุดนี่สุดยอดเหลือเกิน . . สุดท้ายแล้วจึงเกิดขึ้นมาเป็นประติมากรรมเรือโจรสลัดผีสิงขนาดมหึมาที่ชื่อว่า Leviathan ความสูง 2.43 เมตร ยาว 2.28 เมตร และกว้างอีก 0.76 เมตร …
-
ชายวัย 40 โดนจำคุก 12 ปี หลังปลอมเป็นแท็กซี่ไปข่มขืนสาวๆ เลียนแบบหนังโป๊ที่ชอบ
ในเวลาที่มีใครทำอะไรผิดเป็นข่าวขึ้นมา จะมีอยู่หลายๆ ครั้งที่เหตุจูงใจของเหล่าผู้ต้องหานั้นจะถูกอ้างว่าเป็นการเลียนแบบสื่อต่างๆ เช่นเกมหรือการ์ตูน ซึ่งหลายๆ ครั้งก็อาจนำไปสู่การถกเถียงกันในโลกออนไลน์ได้ แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ สิ่งที่ผู้ต้องหาเลือกที่จะเลียนแบบกลับเป็นหนังโป๊เสียนี่ เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อนาย Alnadar Ahmed วัย 40 ปีผู้ย้ายถิ่นฐานมาจากประเทศซูดาน ได้เขาปลอมตัวเป็นคนขับรถแท็กซี่ เข้ารับผู้โดยสารสาวอายุราว 20 ปีต้นๆ ก่อนที่จะลงมือข่มขืนเธอตอนที่ขับรถไปจนเกือบถึงบ้านของเธอ Alnadar Ahmed วัย 40 ปี หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อให้การว่า เธอไปดื่มกับเพื่อนเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง ก่อนที่จะเมาจนแทบไม่ได้สติในเวลาราวๆ ตีหนึ่ง และตัดสินใจขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้าน โดยไม่คิดเลยว่าจะถูกข่มขืนโดยนาย Ahmed ผู้ก่อเหตุถูกจับโดยทางตำรวจในเวลาต่อมา และแม้ว่านาย Ahmed จะให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาในเบื้องต้น โดยอ้างว่าเขาไปส่งเด็กสาวฟรีๆ เพื่อแลกกับการมีเซ็กส์กับเหยื่อ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องจนมุมจากหลักฐานที่พบ Alnadar Ahmed ระหว่างไปขึ้นศาล และแม้ว่าผู้ต้องหาจะบอกว่าเขาก่อเหตุเนื่องจากว่าฝ่ายหญิงนั้นใส่กระโปรงสั้นจนเขาเกิดอารมณ์ แต่จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่เขาใช้ ทางตำรวจก็พบว่าเขามีความชื่นชอบในการดูหนังโป๊ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคนขับรถแท็กซี่ ไม่ว่าจะเป็น BogusTaxi.com หรือ Cabfake.com. ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุผลที่แท้จริงของการก่อเหตุในครั้งนี้ Alnadar Ahmed เชื่อว่าลงมือก่อเหตุข่มขืนเพื่อเลียนแบบหนังโป๊ที่เขาชอบดู นาย Ahmed ได้รับการตัดสินจำคุก…
-
มิตรภาพหลังจบเกม!! ยายชาวญี่ปุ่นมอบกิโมโนให้แก่แฟนโคลอมเบียที่ร่วมยินดีกับเธอ
ในช่วงนี้ก็เป็นช่วงของการแข่งขันกีฬาหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างฟุตบอลโลก 2018 ที่จะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี และแน่นอนว่าเมื่อมีการแข่งขัน ก็ย่อมที่จะมีผู้ชนะ ผู้แพ้ ผู้ดีใจ และผู้ที่เศร้าเสียใจอยู่เสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่จะหลงเหลืออยู่หลังเกมจบเสมอก็คือคำว่า “มิตรภาพ” เหมือนอย่างเรื่องของหญิงชราชาวญี่ปุ่นที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เธอได้เข้าร่วมชมศึกฟุตบอลระหว่างทีมชาติญี่ปุ่นกับทีมชาติโคลอมเบีย และได้มอบชุดกิโมโนให้กับแฟนชาวโคลอมเบียหลังเกมจบ หญิงชราที่เรากล่าวถึงนี้คือคุณ Kumiko Sano วัย 71 ปีจากจังหวัดเอฮิเมะ เมื่อเกมฟุตบอลได้จบลงด้วยการที่ทีมชาติญี่ปุ่นเอาชนะทีมชาติโคลอมเบียไปด้วยสกอร์ 2 – 1 ประตู เธอก็ได้เดินออกจากสนาม Mordovia Arena มาพร้อมๆ กับผู้หญิงแฟนทีมชาติโคลอมเบียคนหนึ่ง ซึ่งหญิงโคลอมเบียคนนั้นได้กล่าวแสดงความยินดีกับคุณ Kumiko ว่า “Omedetou” หรือที่แปลได้ว่า “ยินดีด้วยนะคะ” เมื่อเห็นว่าแฟนโคลอมเบียมีท่าทีที่เป็นมิตรแบบนี้ Kumiko จึงตัดสินใจที่จะมอบชุดกิโมโนแบบเดียวกับที่เธอใส่มาชมฟุตบอลโลกครั้งนี้ให้แก่แฟนโคลอมเบียคนนั้น เมื่อ Kazuki Okamoto ผู้เห็นเหตุการณ์ได้ทวีตเรื่องราวลงในทวิตเตอร์ ชาวเน็ตญี่ปุ่นก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อกันมากมาย https://twitter.com/photofoot23/status/1009250868426936326 “ช่างเป็นเรื่องที่ซึ้งอะไรขนาดนี้ T^T” ええ話や(T ^ T) https://t.co/S9J6n2nee8 —…
-
หนูน้อยหิวจัด พยายามกินไก่ทอด “บนป้ายโฆษณา” หน้าร้าน สุดท้ายได้กินฟรีจุใจ อิ่มหนำไปเลย!!
ในยามหิวโหยถวิลหาอาหารเลิศรสที่ตัวเองชื่นชอบ เราก็อาจเผลอทำอะไรลงไปตามสัญชาตญาณโดยไม่รู้ตัว เหมือนอยากเด็กชายตัวน้อย (?!) คนนี้ นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในเมือง Bayambang ประเทศฟิลิปปินส์ เจ้าหนู (หรือจะเรียกว่าเจ้าหมูดี?) Harvey Quesa ได้ออกไปกินข้าวกับครอบครัวที่ร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอย่าง Jollibee เจ้าหนู Harvey สุดตุ้มตะตุ้มตุ้ย แต่เมื่อพวกเขาไปถึง ปรากฏว่าร้านอาหารแห่งนี้ยังคงไม่เปิดให้บริการ ทำให้จำเป็นต้องนั่งรอ เดินเล่นไปรอบๆ ก่อน และนั่นเองที่ทำให้เจ้าหนู Harvey เหลือบไปเจอป้ายโฆษณาหน้าร้าน กับภาพไก่ทอดอันแสนอร่อยโชว์หลาอยู่ตรงนั้น ตอนแรกเขาพยายามผลักประตู และพูดว่า “เปิดร้านเดี๋ยวนี้เลยนะ!!” ด้วยความหิวและน่าจะชอบกินไก่ทอดเอามากๆ เด็กชายจึงย่อตัวลงไปนั่ง พยายามที่จะกินไก่ทอดภายในภาพให้จงได้ เห็นแล้วก็ช่างน่ารักน่าเอ็นดูและน่าสงสารเป็นยิ่งนัก ไก่ทอดของข้า (กินแบบนี้ทั้งวันก็ยังไม่อิ่มท้องหรอกนะ) คลิปความน่ารักของเจ้าหนูแบบเต็มๆ Va Nes Sa น้าสาวของเขาได้ถ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ ก่อนที่จะทำการโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊คเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เข้าชมมากกว่า 11 ล้านคนเลยทีเดียว สุดท้ายหลังจากที่ร้านเปิดและพนักงานร้านได้เห็นความน่ารักของเจ้าหนูคนนี้ พวกเขาจึงตัดสินใจมอบไก่ทอด…
-
Erdogan ชนะการเลือกตั้งในตุรกี ได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีต่อไปเป็นสมัยที่สอง
หลังจากที่กลายเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลกไป ในที่สุดผลการเลือกตั้งทั่วไปของตุรกีที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2018 ก็ออกมาให้เห็นกันจนได้ จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศนาย Recep Tayyip Erdogan ได้ออกมาประกาศชัยชนะของตัวเองหลังจากที่มีการนับคะแนนไปได้ 99% ของคะแนนทั้งหมดและพบว่าเขาได้รับคะแนนเสียงมากถึง 52.5% ซึ่งมากกว่าคู่แข่งของเขา นาย Muharrem Ince ที่ได้รับคะแนนเสียงอยู่ที่ 30.7% ตัวเลขผลการเลือกตั้งที่รายงานจากสำนักข่าว BBC ทั้งนี้การนับคะแนนสมาชิกสภาก็ได้มีการดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้วราวๆ 96% และพบว่าพรรค AK ของนาย Erdogan มีคะแนนนำอยู่ที่ 42% ส่วนพรรคฝ่ายค้าน CHP ได้คะแนนไปที่ 23% ซึ่งนาย Erdogan เชื่อว่าเป็นจำนวนเก้าอี้ที่มากพอจะเป็นเสียงข้างมากในสภาแล้ว ผลคะแนนในครั้งนี้ทำให้พรรคฝ่ายค้านได้มีการออกมาประกาศว่า พวกตนยังไม่ยอมรับถึงผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตามพวกตนจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร Muharrem Ince ในวันลงคะแนนเสียง การประกาศนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากข่าวลือที่ว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้นั้นอาจมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น ทั้งจากการข่มขู่ผู้มีสิทธิ์ และการทุจริตการเลือกตั้ง บวกกับการที่นาย Erdogan เลื่อนการเลือกตั้งให้เร็วขึ้น จากกำหนดการเดิมที่จะต้องมีการจัดขึ้นในปี 2019 อีกด้วย อีกทั้งการที่นาย Erdogan ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้จะนำไปสู่การปรับแก้ร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญ…
-
‘Ba Na Hills’ แดนยุโรปแห่งเวียดนาม ที่ไม่ว่าใครไปก็ได้ภาพเป๊ะๆ ปังๆ กลับมาแน่นอน
ช่วงว่างๆ นอนเปื่อยๆ หรือเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ไม่ว่าใครๆ ก็อยากจะออกไปเที่ยวกันใช่ไหมล่ะ แต่ว่าบางทีเราก็อาจยังไม่รู้ว่าจะไปไหนดีที่มันจะช่วยเติมพลังให้แก่ชีวิตใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นแล้วล่ะก็ลองตาม #เหมียวจิวยี่ ไปดูสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่เหมือนกับดินแดนยุโรปแบบเปี๊ยบๆ และที่สำคัญคือมันอยู่ในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงเราอย่าง ประเทศเวียดนามนี้เอง!! ลองดูภาพรวมของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ซะก่อน โดยสถานที่ที่เราจะพาไปเที่ยวกันในวันนี้มีชื่อว่า Ba Na Hill แห่งเมืองดานัง ตอนกลางของประเทศเวียดนาม ซึ่งสถานที่แห่งนี้ถ้าจะเรียกว่ายกบรรยากาศประเทศฝรั่งเศสมาไว้ก็คงจะไม่ผิด เพราะไม่ว่าตึกรามบ้านช่อง หรือวิวทิวทัศน์ต่างๆ ที่มันเหมือนเด๊ะๆ ชนิดที่ว่าถ้าอยากได้ภาพสวยๆ แบบยุโรปแต่ไม่อยากไปไกลก็ต้องมาที่นี่เลย ยุโรปป่ะล่ะ และนอกจากนี้สภาพอากาศของที่นี่ยังเหมาะกับความเป็นยุโรปซะจริงๆ เพราะค่อนข้างจะมีอากาศที่เย็นสบายแทบจะทุกๆ ช่วงของปี ดังนั้นการมาพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศที่นี่จึงเป็นเรื่องที่เหมาะจริงๆ เลยเชียว มีกระเช้าสวยๆ ให้เรานั่งดูวิวด้วยแหละ เอ๊ออ ไม่บอกไม่รู้เลยนะว่าที่นี่ดานัง ดูสิอยู่ท่ามกลางม่านหมอกแล้ว โรแมนติกขนาดไหน สวยชนิดที่ว่าแทบจะอยากเลียพื้นลิ้มรส มันว๊าวว สุดๆ ไปเลย พระราชวังใช่ไหมเนี่ย อีกมุมหนึ่งของสถานที่สวยๆ อย่างนี้ มุมสูงบ้าง อยู่ท่ามกลางหุบเขาอันเงียบสงบ …
-
คุณพ่อได้พบกับเพื่อนสนิท ที่เล่นเกม Xbox แบบออนไลน์ด้วยกันมานานกว่า 7 ปี!!
คุณเคยจินตนาการภาพของตัวเองในวันที่อายุมาก กลายเป็นพ่อคนแม่คนกันบ้างมั้ย ว่าตอนนั้นตัวเองจะเป็นอย่างไร หรือทำอะไรกันบ้าง? นี่คือเรื่องราวของคุณพ่อท่านหนึ่งจาก Hawaii ที่กลายเป็นเพื่อซี้กับชายอีกคนหนึ่ง เพราะพวกเขาเล่นเกมผ่านทาง Xbox ออนไลน์ด้วยกันมานานกว่า 7 ปี!! และเมื่อเร็วๆ นี้พวกเขาเพิ่งได้พบหน้ากันแบบตัวเป็นๆ ครั้งแรก แม้จะเป็นแบบนั้นแต่พวกเขาก็ดูสนิทสนมกัน เพราะทั้งคู่ได้ผ่านการผจญภัยด้วยกันมามากมายผ่านทางโลกของเกมมาเป็นระยะเวลานานกว่า 7 ปีด้วยกัน ลูกสาว Addey Bartlett ได้ทำการโพสต์บอกเล่าช่วงเวลาแห่งความประทับใจเมื่อทั้งคู่ได้พบกันผ่านทางทวิตเตอร์พร้อมกับแคปชั่นว่า “พ่อของฉันได้พบกับเพื่อนซี้ที่เล่น Xbox ด้วยกันมานานกว่า 7 ปี มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของพวกเขาจริงๆ น้ำตาจะไหล” นอกจากนี้เธอยังเล่าเพิ่มเติมอีกว่า “จริงๆ แล้วพ่อของฉันเล่น Xbox มาแล้วหลายปี แม่ของฉันเองก็บอกให้เขาเลิกเล่นมาตั้งหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ไป” “เราเคยแซวเขาตั้งหลายครั้งว่าทุกวันนี้เขาไม่เหลือเพื่อนแล้ว นอกจากเพื่อนที่เจอกันใน Xbox ซึ่งพ่อของฉันพวกเขาดูสนิทกันมาก รู้แทบจะทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตของกันและกัน ราวกับว่าเป็นเพื่อนสนิทกันจริงๆ” “พ่อฉันมักจะบอกว่าเขาอยากจะพบเพื่อนคนหนึ่งที่มักจะเล่นเกมด้วยกันบ่อยที่สุด ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกสนุกมากๆ” “ตอนนั้นก็นึกว่าเขาพูดเล่นๆ แต่ผ่านไป 2…
-
สุดเฟี้ยว คู่รักถ่ายภาพรีเวดดิ้งในสไตล์ PUBG สื่อถึง 2 เราที่เหลือรอดเป็นคู่สุดท้าย
ถ้าพูดถึงเกมออนไลน์ที่โด่งดังในตอนนี้ หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ PUBG (หรือชื่อเต็มๆ PlayerUnknown’s Battlegrounds) มาเป็นชื่อแรกๆ แน่นอน เพราะมีให้เล่นทั้งเวอร์ชัน PC และมือถือ ที่มันสนุกและกลายเป็นกระแสก็เพราะรูปแบบการเล่น ที่ต้องยิงกันให้ตายจนเหลือคุณเป็นคนสุดท้ายของเกมถึงจะเป็นผู้ชนะ หรือจะเล่นเป็นทีมก็สามารถเลือกได้ ซึ่งบางครั้งก็ต้องใช้ไหวพริบและการพลิกเกมในแบบอื่นๆ นอกเหนือจากการยิงแม่นด้วยนะ ด้วยกระแสอันร้อนแรงของเกมเอาตัวรอดเกมนี้ ทำให้คู่รักคู่หนึ่งลงทุนถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในสไตล์ของเกม PUBG ที่มีการสวมหน้ากาก ถือปืน และถือกระทะ!! ภาพนี้มีการแชร์ต่อกันอย่างมากมายในเว็บไซต์ของจีนและเวียดนาม แต่ไม่มีรายละเอียดว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นใครหรืออยู่ที่ไหน แต่สิ่งที่รู้แน่ๆ ก็คือพวกเขาน่าจะชื่นชอบเกม PUBG พอสมควรเลยล่ะ จากมุมขวาบนเราจะเห็นจำนวนผู้เล่นที่เหลือรอดในเกมคือ 2 คน ที่สื่อว่าพวกเขาคือ 2 ผู้คนสุดท้ายที่รอดชีวิตจากเกมอันตรายจนสามารถแต่งงานด้วยกันได้ในที่สุดนั่นเอง เตรียมพร้อมสำหรับศึกในแมตช์ต่อๆ ไป เหมือนชีวิตที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับอุปสรรคต่างๆ และที่สำคัญต้องไม่ลืมป้องกันตัวเองด้วยกระทะ!! . . . ที่มา PUBG EliP , ifuun
-
ช่างตัดผมจับชายไร้บ้านมาแปลงโฉม และทำให้เขาได้พบกับชีวิตใหม่อีกครั้ง
เรื่องราวของหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่ง ที่ไม่เคยจินตนาการภาพของตัวเองหลังจากที่ได้ตัดผมและตกแต่งใบหน้าให้ดูเกลี้ยงเกลามานานหลายปีแล้ว แต่แล้วเมื่อได้พบกับช่างตัดผมรายหนึ่ง ชีวิตของเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ… Jose Antonio หนุ่มชาวสเปนที่ชีวิตต้องผกผันเมื่อตอนอายุ 30 ปี หลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุจากอาชีพช่างไฟที่ทำอยู่ และประสบปัญหาทางด้านการเงินจนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน “ผมเริ่มมีภาวะซึมเศร้า ตอนนั้นสภาพอารมณ์ของผมไม่ปรกติ ก่อนที่จะออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน” Jose กล่าว เขาอาศัยอยู่ได้ด้วยเงินจากการช่วยหาที่จอดรถในที่สาธารณะให้กับร้านพิซซ่าแห่งหนึ่ง ซึ่งเพียงพอสำหรับค่าอาหารในแต่ละวันเท่านั้น แต่แล้วชีวิตของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อได้รู้จักกับ Salva Garcia ช่างตัดผมหนุ่มที่เปิดร้านอยู่ใกล้ๆ กับร้านพิซซ่าที่ Jose ทำงานให้ “ตอนแรกที่พบกัน ผมพูดกับเขาเล่นๆ ว่าอยากจะลองโกนหนวดให้เอาไหม แต่ Jose ก็ปฏิเสธ แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนใจ” Salva ให้สัมภาษณ์ ช่างตัดผมหนุ่มเสนอการแปลงโฉมเสียใหม่ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นให้กับ Jose โดยมีข้อแม้ว่าเขาจะขอเก็บภาพก่อนและหลังการตัดผม ซึ่งชายไร้บ้านก็ตอบตกลง ในระหว่างการแปลงโฉมให้กับชายไร้บ้าน ช่างตัดผมของเราไม่ได้ให้ Jose เห็นหน้าตาของเขาในระหว่างการทำงาน “เขาได้เห็นหน้าตาตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเข้ารับการแปลงโฉม และเขาจะได้เห็นตัวเองอีกครั้งเมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไป” ช่างตัดผมกล่าว และไม่ใช่เพียงแค่การตัดผมเท่านั้น แต่ชายไร้บ้านวัย 55 ปีผู้นี้ยังได้รับการแต่งตัวให้ดูดีแบบเปลี่ยนไปคนละคนเลยทีเดียว Jose ยังไม่ได้เห็นโฉมใหม่ของตัวเขาเอง จนกระทั่งเขาแต่งตัวเรียบร้อยและกลับมานั่งที่หน้ากระจกอีกครั้ง …
-
โมเมนต์สุดประทับใจ…คุณพ่อถึงกับล้มโต๊ะ เมื่อได้พบลูกชายที่ไปเป็นทหารนานกว่า 7 ปี!!
ของขวัญสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ คงไม่มีอะไรที่ดีเกินไปกว่าการได้เห็นหน้าลูกของตัวเองแวะเวียนกลับมาเยี่ยมที่บ้าน… เช่นเดียวกันกับคุณพ่อคนนี้ ที่ลูกชายของเขาไปรับใช้ชาติเป็นเวลานานกว่า 7 ปี และเนื่องในวันพ่อเขาก็ได้รับการเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจากลูกชายที่กลับมาหาที่บ้าน Taylor McCauley ทหารหนุ่มวัย 27 ปี ขับรถจากค่ายทหารกว่า 17 ชั่วโมงเพื่อมาเซอร์ไพรส์คุณพ่อของตัวเอง น้องชายของเขาเป็นคนถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ตอนที่คุณพ่อได้เจอกับลูกชายหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 7 ปี “พวกเรารู้กันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และวางแผนทุกอย่างให้แนบเนียนเพื่อเซอร์ไพรส์คุณพ่อ เริ่มจากเรามอบจดหมายให้กับพ่อเป็นจดหมายที่ส่งมาจากพี่ชาย ก่อนที่ผมจะส่งข้อความไปให้พี่ชายบอกให้เขามายืนรอที่หน้าประตู และพบว่าพ่อดีใจมากๆ รีบเดินเข้าไปสวมกอดพี่ชายอย่างเร็วไว เนื่องจากต้องไปประจำการที่ต่างประเทศ เพราะอยู่ในสังกัดกองทัพเรือในฐานะนักแม่นปืน ทำให้เขามีโอกาสกลับมาเยี่ยมที่บ้านน้อยมากๆ” Robee น้องชายเล่า ไม่รู้จะเรียกว่าดีใจหรือโมโห เพราะคุณพ่อถึงกับพลิกโต๊ะที่ขวางทางกลับด้าน แล้วก็เดินเข้าไปกอดทหารหนุ่มอย่างรุนแรง ราวกับเป็นการแสดงให้เห็นว่าความคิดถึงของเขามันแรงกล้าแค่ไหน “วันนี้เป็นวันพ่อ และผมก็รู้ว่ามันเป็นวันสำคัญมากสำหรับเขา ผมจะต้องกลับไปหาเขาให้ได้ ผมได้วางแผนไว้กับน้องชาย ให้เขามอบจดหมายของผมให้กับพ่อ แล้วผมจะเดินมารอที่ประตูเพื่อเซอร์ไพรส์” “แต่มันดันไม่เป็นไปตามแผนเพราะผมออกมายืนที่หน้าประตูเร็วกว่าที่ตกลงกันไว้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีสุดๆ ไปเลยล่ะ” Taylor เล่า คลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้ถูกโพสต์ลงทวิตเตอร์ ชาวเน็ตหลายคนต่างก็ประทับใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีคนเข้ามากดไลก์มากกว่า 2,900 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า…
-
ระบบคุกผิดพลาดนักโทษเลยตีเนียนออกมาแบบชิลๆ แต่ออกมาได้แป๊บเดียวเมียจับส่งคืนยาว!!
สำหรับนักโทษ สิ่งที่พวกเขาอาจจะถวิลหามากที่สุดในระหว่างที่อยู่ในคุกก็คือ การได้ออกไปใช้ชีวิตอย่างลั้ลลาข้างนอกลูกกรงอีกครั้ง ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตามเชื่อเลยว่าพวกเขาต้องยอมทำทั้งนั้นแหละ และก็มีนักโทษคนหนึ่ง ที่มีโอกาสได้ออกจากคุกกลับบ้านไปหาลูกเมียจากความผิดพลาดของคุก แต่ว่าออกไปได้แป๊บเดียวปรากฏว่าสุดท้ายเมียกลับเอามาส่งคืนคุกซะอย่างนั้น!! นี่เป็นเรื่องราวอันตลกร้ายของนักโทษวัย 38 ปี ชื่อว่า James Rynerson ที่ได้ออกจากคุก Mesa County Jail รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกาแบบฟลุ๊กๆ จากการสวมรอยเป็นเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่มีกำหนดได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก โดยจุดเริ่มต้นแผนการอันแยบยลของเขามาจากความบังเอิญที่ว่า นักโทษชื่อว่า Marvin March ต้องย้ายมาร่วมห้องขังกับเขาเป็นการชั่วคราว เพราะห้องขังเดิมของ March กำลังอยู่ในช่วงการซ่อมปรับปรุง จากนั้นเมื่อห้องขังของ March ซ่อมเสร็จแล้วเขาก็ย้ายกลับไปอยู่ห้องเดิม ทว่ารายชื่อของเขายังคงอยู่ที่ห้องของ James อยู่ ดังนั้นเมื่อถึงกำหนดเวลาเรียกปล่อยตัวทางเจ้าหน้าที่จึงเปิดห้องขังของ James ออกแล้วเขาก็สวมรอยเป็น March ซะเลย James จัดการเนียนปลอมตัวเป็น March อย่างสบายอกสบายใจ เขารับสัมภาระ, ปลอมลายเซ็น แล้วเดินออกจากคุกอย่างชิลๆ และนี่คืออีกหนึ่งความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เพราะพวกเขาไม่ได้ตรวจสอบสายรัดข้อมือที่มีชื่อนักโทษติดเอาไว้นั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อเป็นอิสระทั้งที สิ่งแรกที่เขาทำก็คือการกลับไปบ้านหาเมียสุดที่รัก ทว่าทันทีที่เมียของเขารู้ว่าเขาหนีคุกออกมา เธอก็รีบเอาตัวของเขาไปส่งคืนคุกอย่างเร็วที่สุด โดยสรุปแล้ว James ได้ใช้เวลาเป็นอิสระแค่เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง…
-
Nowa Yukigami มาสคอตสุดน่ารัก กับนิสัยขี้เล่นแถมชอบโชว์กางเกงใน!!
นอกจากน้องเกี่ยวก้อยแล้ว เหล่ามาสคอตสุดน่ารักที่หลายๆ คนมักจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีก็คงจะหนีไม่พ้น ฟุนัชชี่ หรือเจ้าหมีคุมะมงจากประเทศญี่ปุ่น ที่เรามักจะได้ชมความน่ารักของพวกมันอยู่บ่อยๆ บนโลกออนไลน์ แต่นอกเหนือจากเหล่ามาสคอตชื่อดังที่ทุกคนคุ้นหูแล้ว วันนี้เราอยากจะขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับสาวน้อยสุดน่ารักอย่าง Nowa Yukigami มาสคอตสาวน้อยที่มาพร้อมกับคาแรกเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ Nowa คือมาสคอตสาวจากเกาะฮอกไกโด แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่มาสคอตอย่างเป็นทางการของทางเกาะ แต่ความน่ารักของเธอก็กลายเป็นที่จดจำได้อย่างรวดเร็วหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ซึ่งนอกจากความน่ารักของเธอแล้ว นิสัยขี้เล่นและความซุกซนของเธอยังเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คนอีกด้วย และหนึ่งในนิสัยที่ทำให้เธอกลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่ามาสคอตหนุ่มๆ นั่นก็คือ การโชว์กางเกงในนั่นเอง ไหน Nowa จัง ขอถ่ายรูปหน่อยยย…. แชะ แชะ!! นี่แนะ!! จุ๊ๆ ไม่ได้นะ ตรงนี้คนเยอะ… ไปชมความน่ารักของ Nowa Yukigami แบบเต็มๆ กันได้เลย… . เขินจัง… ปิดบ้างดีกว่า ทั้งน่ารักและขี้เล่นแบบนี้ ใครมีโอกาสไปเที่ยวฮอกไกโดล่ะก็ อย่าลืมเก็บภาพน่ารักๆ ของน้อง Nowa มาฝากกันล่ะ ที่มา Soranews24
-
สาวผิวขาวโทรศัพท์แจ้งตำรวจเพราะเด็กหญิงผิวสี ‘ขายน้ำเปล่า’ กลายเป็นไวรัลชาวเน็ตด่ายับ!!
สำหรับเด็กๆ แล้ว การได้ฝึกขายของเล็กๆ น้อยๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในระดับหนึ่ง เพราะว่านอกจากกำไรที่ได้แล้วตัวของเด็กๆ ก็จะได้ฝึกทักษะต่างๆ อย่างมากมาย อย่างการเสนอขาย การรู้จักค่าของเงิน ถ้าฟังๆ ดูมันเป็นเรื่องที่ดีๆ ทั้งนั้นเลยใช่ไหมล่ะ แต่ว่ามีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่อาจทำให้ความคิดของคุณเปลี่ยนไป เพราะมีเด็กหญิงคนหนึ่งที่ขายน้ำเปล่าอยู่ดีๆ กลับถูกผู้หญิงอีกคนเรียกตำรวจให้มาจับซะอย่างนั้น และเหตุผลที่เธอถูกกระทำอย่างนี้อาจจะเป็นเพราะสีผิวก็เป็นได้… โดยเรื่องราวดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา และได้รับการบอกเล่าจากทวิตเตอร์ชื่อว่า Raj (@_ethipiangold) ซึ่งได้เล่าว่ามีเด็กหญิงผิวสีคนหนึ่งที่ยืนขายน้ำเปล่าอยู่บริเวณฟุตบาทใกล้ๆ กับสนามเบสบอล San Francisco’s AT&T Park ในประเทศสหรัฐอเมริกา ในเวลานั้นเป็นเวลาบ่ายและเป็นเวลาก่อนที่การแข่งขันเบสบอลระหว่างทีม Giants กับ San Diego Padres จะเกิดขึ้น ซึ่งเด็กหญิงวัย 8 ขวบคนนี้ก็เร่ขายน้ำดื่มพร้อมกับประโยคชวนซื้อว่า “น้ำดื่มเย็นๆ เพียงแค่ 2 ดอลลาร์เท่านั้น” สถานการณ์ต่างๆ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเรื่องปกติใช่ไหมล่ะ แต่ว่ามันไม่เป็นอย่างนั้น เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินไปเดินมาใกล้ๆ กับเด็กผิวสีคนดังกล่าว พร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย และทันทีที่รู้ตัวว่าถูกกล้องถ่ายอยู่เธอก็ได้หนีไปหลบอยู่หลังกำแพง วิดีโอขณะเกิดเหตุ ซึ่งเรื่องนี้ทาง Raj ผู้ถ่ายวิดีโอดังกล่าวได้ยืนยันด้วยว่า ผู้หญิงผิวขาวคนนี้ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ…
-
สายรวยไม่ต้องลุ้นหวยอีกต่อไป เพราะมีเศรษฐีซ่อนสมบัติกว่า 65 ล้านไว้และรอคนไปเจออยู่!!
แน่นอนว่าคงมีหลายคนที่เบื่อการทำงานแลกเงินที่มันแสนเหน็ดเหนื่อย และอยากจะหาลาภลอยสักก้อนแบบชนิดที่ว่าเจอครั้งเดียวรวยเปรี้ยงไปเลย แต่ยังหาลาภอันนั้นไม่เจอสักที (ยกเว้นซื้อหวยอ่ะนะ) ในตอนนี้โอกาสของคุณได้มาถึงแล้ว เพราะมีมหาเศรษฐีคนหนึ่งที่ซ่อนทรัพย์สมบัติเอาไว้ว่า 65 ล้านเอาไว้และรอให้ใครสักคนไปพบเจออยู่!! ถือว่าเป็นโอกาสทองของนักล่าขุมทรัพย์เลยก็ว่าได้สำหรับงานนี้ เพราะมหาเศรษฐีชื่อว่า Mr Fenn วัย 87 ได้แสดงความมีน้ำใจต่อชาวโลกด้วยการฝังสมบัติล้ำค่าเอาไว้ ซึ่งบริเวณที่เขาฝังเอาไว้ก็คือบนเทือกเขาร็อกกี้ ในทวีปอเมริกาเหนือ พร้อมทั้งทิ้งลายแทงเอาไว้ ทว่า Mr Fenn ก็ได้บอกเอาไว้ว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาเป็นพันๆ ปี กว่าที่จะหาใครสักคนที่หาสมบัติของเขาเจอ แถมยังบอกอีกด้วยว่าเคยมีคน 4 คนที่ต้องเสียชีวิตลงไปขณะหาสมบัติของเขาด้วย และที่มากไปกว่านั้นเขายังบอกอีกด้วยว่ามีผู้คนกว่า 350,000 คนที่เคยพยายามจะหาสมบัติของเขาให้เจอจนได้ สำหรับสถานที่ที่เขาฝังสมบัติเอาไว้นั้น Mr Fenn ก็บอกว่ามันเป็นอะไรที่หาเจอง่ายมากๆ แค่เพียงดูลายแทงและตีความจากบทกลอนที่เขาทิ้งเอาไว้ให้เท่านั้นเอง ซึ่งมีใจความคร่าวๆ ดังนี้ “มันเริ่มขึ้นที่ที่น้ำอุ่นหยุดชะงักและพาไปสู่หุบเขาทางด้านล่าง ไม่ไกลเกินไปนักแต่ไกลเกินกว่าที่จะเดิน ฉันอยู่ข้างใต้บ้านของคุณ Brown” นอกจากนี้ Mr Fenn ยังอธิบายเพิ่มเติมในบล็อกของเขาด้วยว่า เขาได้ฝังลาภลอยอันนี้ไว้ในพื้นที่สักแห่งระหว่างเมือง Santa Fe กับเมือง New Mexico…
-
เหตุระเบิดระหว่างหาเสียงของประธานาธิปดี ซิมบับเว เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 15 ราย
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561 เว็บไซต์ Metro ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิด ระหว่างการปราศรัยหาเสียงของนาย Emmerson Mnangagwa ประธานาธิบดีซิมบับเว ตามรายงานเหตุระเบิดดังกล่าวเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย หนึ่งในนั้นคือนาย Kembo Mohadi รองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับบาดเจ็บที่ขา และสมาชิกคนอื่นๆ ของพรรค นาย Emmerson รอดจากเหตุการณ์ดังกล่าวและไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาเผยถึงวินาทีสุดระทึกขวัญว่า “ระเบิดอยู่ห่างผมเพียงไม่กี่นิ้ว แต่มันยังไม่ถึงเวลาของผม” ภาพจากคลิปวิดีโอ ได้เผยให้เห็นวินาทีที่นาย Emmerson เดินลงจากเวทีหาเสียง พร้อมกับคณะผู้ติดตาม และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 รายด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าว BBC คาดว่าน่าจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้น และขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สนามกีฬา White City ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองฐานเสียงของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งนาย Emmerson กำลังอยู่ระหว่างเดินทางหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งระดับชาติ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ …
-
ผวายกลำ!! เผยวินาทีควันปริศนาเต็มห้องโดยสาร ผู้คนตื่นตระหนก สายการบินออกมาชี้แจง
เหตุเครื่องบินเดินทางล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดนั้นอาจเป็นเรื่องที่เราสามารถพบเห็นได้บ้าง แต่สำหรับเที่ยวบินนี้นอกจากจะล่าช้าแล้ว เครื่องบินยังเกิดเหตุขัดข้องเพิ่มเติม อีกทั้งผู้โดยสารยังถูกไล่ให้ลงจากเครื่องด้วยวิธีการที่สร้างความวิตกกังวลให้กับพวกเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก เหตุการณ์ที่ว่านั้นเกิดขึ้นกับเที่ยวบิน i5583 ของสายการบิน AirAsia ในประเทศอินเดีย ซึ่งกำลังจะเดินทางจากเมือง Kolkota ไปยัง Bagdogra แต่แล้วจู่ๆ ก็มีควันปริศนาลอยออกมาฟุ้งเต็มห้องผู้โดยสาร ภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2018 Dipankar Ray หนึ่งในผู้โดยสารและเป็นคนที่ถ่ายเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ เขาได้อธิบายว่าเที่ยวบินดังกล่าวควรต้องเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น แต่เครื่องบินกลับมาถึงล่าช้าไป 30 นาที และเมื่อผู้โดยสารทุกคนขึ้นเครื่องเป็นที่เรียบร้อย เครื่องบินลำนี้ก็เคลื่อนตัวไปจอดแน่นิ่งอยู่ใกล้กับรันเวย์ ไม่ยอมออกบินไปแต่อย่างใด ค้างอยู่อย่างนั้นนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างนั้นผู้โดยสารไม่ได้รับอาหารหรือน้ำชดเชยจากสายการบินใดๆ เลย พวกเขาทำได้แค่นั่งรออยู่บนเครื่อง ท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ ข้างนอกฝนตกหนัก จนกระทั่งกัปตันบนเครื่องประกาศให้ผู้โดยสารทุกคนลงไปจากเครื่องบิน ซึ่งไม่ได้ชี้แจงว่าเพราะอะไร แต่ผู้โดยสารทุกคนก็ปฏิเสธเพราะสภาพอากาศที่รุนแรงภายนอก กัปตันและพนักงานบนเครื่องบินจึงตัดสินใจใช้วิธีการเร่งเครื่องปรับอากาศให้แรงยิ่งขึ้น จนเกิดเป็นหมอกปริศนาลอยออกมาฟุ้งเต็มไปหมด ผู้โดยสารจำนวนมากต่างรู้สึกขวัญผวากับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาเริ่มโวยวายกับพนักงานบนเครื่อง เด็กๆ ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว บางคนถึงกับเกิดอาเจียนออกมาเลยก็มี …
-
ประเทศจีนสั่งแบนเกม The Sims FreePlay เนื่องจากเนื้อหา “รักร่วมเพศ”
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า เกมมือถือชื่อดังจากค่าย EA อย่าง The Sims FreePlay ถูกลบออกจากแอปสโตร์ประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สาเหตุที่ทำให้เกมดังกล่าวถูกแบนจากประเทศจีนนั้นเนื่องจากภายในเกมได้อนุญาตให้ตัวละครที่มีเพศเดียวกันสามารถสานสัมพันธ์และแต่งงานกันได้ เมื่อวันพุธที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาทางทีมพัฒนาได้ประกาศเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า “ตามมาตรฐานของทางภูมิภาค เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2018 เป็นต้นไป The Sims FreePlay จะไม่สามารถให้บริการได้ในประเทศดังต่อไปนี้คือ จีน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน คูเวต กาตาร์ และอียิปต์” The Sim FreePlay เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมาและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ ซึ่งเนื้อหาในเกมยังคงพูดถึงการสร้างชีวิตของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน สร้างความสัมพันธ์ และสร้างบ้าน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกมนี้ อย่างไรก็ตามผู้เล่นที่ดาวน์โหลดเกมก่อนหน้านี้ ยังสามารถเล่นเกมได้ตามปรกติ แต่จะไม่สามารถอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดได้ นอกจากนี้ยังไม่สามารถค้นหาตัวเกมได้จากเว็บไซต์ของทาง EA ประเทศจีนอีกด้วย …
-
สาวเมืองใหญ่ถูกค่อนขอดจากอาจารย์ว่าเรียนเกษตรไม่น่ารอด สุดท้ายก็เรียนจบอย่างภาคภูมิ
ความสนใจการในการเรียนด้านต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคน แม้ว่าบางทีความชอบอาจจะดูไม่เข้ากับสิ่งที่เป็นอยู่บ้าง แต่อย่างไรแล้วการเรียนในสิ่งที่รักก็คงมีความสุขและสามารถก้าวหน้าไปได้เร็วกว่าการเรียนในเรื่องที่ถูกบังคับอยู่ดี และถ้าหากยังไม่เชื่อล่ะก็ลองมาดูตัวอย่างของสาวคนนี้ ที่โดนตั้งคำถามจากอาจารย์ว่า ‘เป็นสาวชาวเมืองอย่างนี้จะเรียนเกษตรได้เหรอ’ แต่ด้วยความรักในวิชาการเกษตรจึงพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอสามารถเรียนจบได้ในที่สุด และข้อความของเธอก็กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วทั้งโลก!! โดยนี่เป็นเรื่องราวของสาวน้อยชาวฟิลิปปินส์วัย 20 ปี ชื่อว่า Johanna Lyn Estonilo Inocencio เธอเป็นคนที่เติบโตมาในเมืองมากาตี ศูนย์กลางด้านการเงินของประเทศฟิลิปปินส์ ดังนั้นแล้วเธอจึงถูกเรียกว่าเป็นสาวชาวเมืองจากใครหลายๆ คน ทว่าความเป็นชาวแดนศิวิไลซ์ กลับไม่ได้ทำลายความฝันในการเรียนวิชาเกษตรกรรมของเธอหายไปแต่อย่างใด ดังนั้นแล้วเธอจึงเลือกลงเรียนวิชาการจัดการธุรกิจการเกษตร ที่มหาวิทยาลัย University of the Philippines Los Baños (UPLB) ทวิตเตอร์ที่เธอได้โพสต์เอาไว้ (หากดูไม่ได้คลิกที่นี่) A professor once told me , "How can a girl living in Makati pursue a degree in Agribusiness Management?" To my…
-
คุณแม่ลูกห้า ถูกโซเชียลต่อว่า กับการที่เธอ “ให้นมลูกชายวัย 7 ขวบ” เธอจึงอธิบายในเรื่องนี้
พวกเราส่วนใหญ่คงเข้าใจกันว่าเด็กๆ จะหย่านมแม่กันตั้งแต่เล็กๆ แต่สำหรับคุณแม่คนนี้เธอกลับให้นมลูกอยู่ตลอด แม้ว่าลูกชายของเธอจะอายุ 7 ขวบแล้วก็ตาม คุณแม่ลูกห้าวัย 46 ปีคนนี้มีชื่อว่า Lisa Bridger ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในเมือง Adelaide ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเธอให้ลูกดูดเต้านมมานานรวมกันกว่า 20 ปี Lisa คุณแม่ลูกห้า และเธอยังคงให้ลูกชายดูดจุกนมต่อมาเรื่อยๆ แม้ว่าลูกๆ ของเธอจะอายุมากจนหลายๆ คนมองว่าสามารถหย่านมแม่ได้แล้วก็ตาม ลูกชายที่ยังคงดูดเต้านมของเธออยู่นั้นมีชื่อว่า Chase วัย 7 ปี และ Phoenix วัย 4 ปี Chase และ Phoenix การให้นมลูกทั้ง 2 ของเธอนั้น ได้กลายเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชียล บางคนมองว่าสิ่งที่เธอทำเป็นเหมือนกับการทารุณเด็ก บีบบังคับให้ทั้งสองต้องดูดนมจากเต้าของเธออยู่ และบางครั้งมันก็ดูน่าอายสำหรับพวกเขา ด้วยเหตุนั้นเอง Lisa จึงได้อธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมเธอถึงยังคงให้ลูกชายทั้งสองทำอย่างนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ Lisa บอกว่า Chase…
-
บริษัทจีนใจป้ำ แจกเงินโบนัสให้ CEO ที่นำพาให้บริษัทประสบความสำเร็จกว่า 50,000 ล้าน!!
การทำงานหนักแล้วได้รับผลตอบแทนย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่บริษัทต่างๆ ให้ความสำคัญกับพนักงาน…. เช่นเดียวกันกับ CEO ของบริษัทมือถือค่ายยักษ์ใหญ่ที่สุดของจีนอย่าง Xiaomi ที่ทำงานอย่างหนัก จนได้รับโบนัสที่มากที่สุดเป็นประวัติกาลของบริษัท คุณ Lei Jun CEO ของบริษัท Xiaomi ได้กลายเป็นคนที่สร้างความมั่งคั่งให้กับบริษัท จนกลายมาเป็นบริษัทสมาร์ตโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก เขาได้รับเงินมากกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 50,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการตอบแทนในความสามารถของเขา โดยจำนวนเงินนี้เป็นส่วนหนึ่งของยอดขายที่บริษัททำได้ ทางบริษัท Xiaomi ได้บอกเหตุผลของการให้เงินก้อนใหญ่ก้อนนี้ว่า “เป็นรางวัลสำหรับการสนับสนุนของเขา” ซึ่งโบนัสที่ได้นี้ไม่ได้อยู่ภายใต้แผนการปฏิบัติงานใดๆ ในอนาคตของบริษัท และที่สำคัญคุณ Lei เองก็ทำงานอย่างหนักมาตลอดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา และยังไม่มีรายงานว่าเขาเคยได้รับโบนัสมาก่อนเลยด้วย ในเดือนมิถุนายนบริษัท Xiaomi เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก ตอนนี้มีมูลค่าสูงถึง 70,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 2.3 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว นับว่าเป็นความสำเร็จที่สร้างขึ้นมาด้วยน้ำมือของตัวเอง การได้รับโบนัสมหาศาลขนาดนี้ก็ถือเป็นการตอบแทนที่คุ้มกับค่าเหนื่อยแล้วล่ะนะ ที่มา…
-
เรื่องอบอุ่นใจ สาวน้อยอาสาสื่อสารกับชายหูหนวกตาบอดบนเที่ยวบินด้วยการใช้ภาษามือ
มนุษย์บนโลกนี้มีจำนวนกว่า 7,300 ล้านคน แต่ไม่มีใครบนโลกนี้ที่เกิดมาความสมบูรณ์แบบกันหมดทุกคน อาจจะมีขาดบ้างเกินบ้าง แต่สิ่งที่มนุษย์มีเหมือนกันนั่นก็คือความดีที่อยู่ใจจิตใจที่จะสามารถทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ เรื่องราวสุดประทับใจนี้เกิดขึ้นบนเที่ยวบินเที่ยวหนึ่งของสายการบินอะลาสกา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Lynette Scribner ได้นำเรื่องราวที่เขาพบเจอระหว่างเที่ยวบินมาโพสต์ให้ชาวโลกออนไลน์ได้รู้กัน บนเที่ยวบิน ที่นั่งแถวเดียวกับเขามีผู้โดยสารท่านหนึ่ง เขาคนนั้นมีความบกพร่องทางด้านการสื่อสาร เขาทั้งหูหนวกและตาบอด ไม่มีใครสามารถสื่อสารกับเขาได้ตลอดเที่ยวบินแม้กระทั่งลูกเรือที่พยายามจะสื่อสาร แต่ก็ไม่มีใครใช้ภาษามือได้ เขามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางคนเดียวแบบที่ไม่มีใครช่วยเหลือ แต่ทว่าเรื่องราวดีๆ ก็เกิดขึ้นเมื่อมีสาวน้อยน่ารักคนหนึ่งที่อาสาเข้ามาพูดสื่อสารกับเขา เธอทราบมาว่าเขาทั้งหูหนวกและตาบอด เธอจึงมาพูดคุยกับเขาด้วยการใช้การสื่อสารแบบพิเศษ นั่นก็คือ การใช้ภาษามือ เธอใช้ภาษามือคุยกับเขาโดยการกุมมือของเขาเอาไว้ แล้วค่อยๆ สัมผัสเพื่อสื่อสาร ภายหลังทราบมาว่า เธอคนนี้อายุ 15 ปี เรียนรู้เรื่องการสื่อสารพิเศษเพราะว่าเธอก็มีความผิดปกติเช่นกัน จึงสามารถสื่อสารกับชายคนนี้ได้ เรื่องนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แต่ก็เป็นเรื่องราวสุดแสนอบอุ่นหัวใจที่ได้รับการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ หลังจากที่เจ้าของเฟซบุ๊กโพสต์ออกไปเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ก็ได้รับการแชร์ไปมากกว่า 313,000 ครั้งเลยทีเดียว โลกนี้ช่างน่าอยู่จริงๆ ที่มา Lynette Scribner, sunnyskyz
-
Johnny Depp ออกมายอมรับว่า “นิสัยสุรุ่ยสุร่าย” ของตัวเขา มันแย่กว่าที่หลายๆ คนคิดไว้
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ‘อาชีพดารานักแสดง’ เป็นอาชีพที่มีความร่ำรวยเป็นอย่างมาก ยิ่งโดยเฉพาะในวงการภาพยนตร์ Hollywood ที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนอย่างมหาศาล แต่นักแสดงและดาราเองก็เป็นคน เพราะฉะนั้นการหาเงินมาได้และใช้จ่ายเงินก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่หากมันเป็นจำนวนที่มากเกินไปก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีสักเท่าไหร่นัก และนี่คือเรื่องราวของดาราที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Johnny Depp ในนามของยอดโจรสลัด Jack Sparrow จากหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean ที่เขาเองก็ยอมรับว่าตัวเองนั้นมีนิสัยเสียเกี่ยวกับ ‘การใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย’ Depp ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Rolling Stone และเขายอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่ใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายมาก มีข่าวลือว่าเขาใช้เงินไปกับการซื้อไวน์มากกว่า 30,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (1 ล้านบาท) ต่อเดือน “ผมว่ามันเหมือนจะดูถูกกันไปหน่อยยนะที่ผมใช้เงินไปเดือนละ 30,000 เหรียญ เพราะจริงๆ มันมากกว่านั้นเยอะเลยล่ะ” นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกว่าเขาใช้งบมากกว่า 3 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (100 ล้านบาท) ในการจัดงานศพให้กับ Hunter S. Thompson ที่เป็นเพื่อนรัก ด้วยการใช้ปืนใหญ่ในการยิงเถ้ากระดูกขึ้นไปบนฟ้าเพื่อไว้อาลัย Depp ตอบประเด็นนี้ว่า…
-
‘Fortnite’ เป็นเหตุ คุณพ่อต้องกุมขมับเพราะลูกขโมยตังเป็นหมื่นไปเติมเกม โธ่ไอ้นี่!!
กำลังเป็นเกมมาแรงที่แซงทางโค้งนำหน้าทุกๆ เกมเลยก็ว่าได้สำหรับเกม ‘Fortnite’ เกมแนว Survival ในโทรศัพท์มือถือ ที่สามารถทำเงินได้สูงที่สุดในระยะ 3 เดือนแรกถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งดูเหมือนเกมนี้จะเป็นเกมที่มันน่าสนุกสุดๆ แต่ใครจะไปคิดว่าเกมเดียวกันนี้เอง ก็ทำให้คุณพ่อคนหนึ่งต้องปวดหัวจนกบาลแทบจะแตก เพราะว่าลูกชายของเขาแอบเอาเงินเป็นหมื่นๆ บาทไปเติมโดยที่ไม่มีการบอกสักคำ!! โดยเรื่องปวดหัวที่ว่านี้เกิดขึ้นกับคุณพ่อชื่อว่า Steven Harrison วัย 37 ปี ที่เล่าให้ฟังว่า Tyler ลูกชายของเขาได้แอบเอาเงินในบัญชีกว่า 691 ดอลลาร์ (ประมาณ 22,700 บาท) ไปเติมเข้าเกม Fortnite กว่า 81 ครั้งในระยะเวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นก่อนที่เขาจะจับได้ในที่สุด และสาเหตุที่เขาจับได้ก็เพราะเห็นความเคลื่อนไหวของบัญชีที่ค่อนข้างผิดปกติไป ซึ่งทันที่รู้เขาก็ติดต่อไปยังธนาคาร NatWest ที่เขาเปิดบัญชีเอาไว้ เพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรทางธนาคารก็บอกว่าไม่สามารถนำเงินมาคืนให้ได้เพราะว่ามีการอนุญาตการชำระเงินอย่างถูกต้องในทุกธุรกรรมที่ผ่านมา ในที่สุดแล้วคุณพ่อคนนี้ก็ต้องยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี และบอกว่าเป็นความผิดของเขาเองที่ลืมว่าได้ทิ้งรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีธนาคารเอาไว้ให้ลูกชายเพื่อซื้อของขวัญวันเกิดในปีที่ผ่านมา “ผมแค่อยากเตือนพ่อแม่คนอื่นให้ระวังไว้ให้ดีละกัน” Steven กล่าวอย่างเสียดายเงิน ลูกหนอ ไม่น่าทำกับพ่ออย่างนี้เลย… ที่มา: ladbible,…
-
เจอทุ่มเข้าให้ เจ้าของรถ BMW จอดผิดที่ เจอชาวบ้านเอาถังขยะมาวางใส่รถ!?
นอกจากเราจะขับรถเป็น มีใบขับขี่ถูกต้องแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรมีพอๆ กันก็คือมารยาทในการใช้รถใช้ถนนร่วมกับผู้อื่น เพราะหากคุณทำตัวไม่น่ารักแล้วล่ะก็ คุณอาจได้รับของขวัญเป็นสิ่งปฏิกูลบางอย่างที่ทำให้รถของคุณต้องเข้าคาร์แคร์แบบด่วนๆ ก็ได้ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าว China Xinhua News ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับรถ BMW คันหนึ่งในเขตสือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน ที่ไปจอดผิดที่ผิดทาง จนมีชาวบ้านโมโหถึงขั้นเอาถังขยะมาทุ่มใส่แถมทุบกระจกจนร้าว ตามรายงานบอกว่ารถคันดังกล่าวถูกนำมาจอดทิ้งไว้ที่หน้าอาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่งแบบข้ามคืนเนื่องจากที่จอดรถเต็ม แต่พอรุ่งเช้ารถ BMW คันนั้นก็ถูกทำให้เละเทะอย่างที่เห็น และยังมีกระดาษข้อความถูกเขียนติดเอาไว้ด้วยว่า “กรุณาจอดรถแบบมีอารยธรรมด้วย ขอบคุณ” ฝั่งเจ้าของรถระบุว่าเขาจอดรถตัวเองไว้ตั้งแต่ช่วง 5-6 โมงเย็นก่อนวันเกิดเหตุ โดยเจ้าตัวยืนยันว่าบริเวณที่เขาจอดนั้นไม่ได้ไปขวางทางใครหรือขวางที่ตั้งถังขยะเลย ด้านเจ้าของอาคารได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้เป็นคนทำลายรถคันดังกล่าว เพียงแต่ล็อกล้อไว้เท่านั้น ส่วนคนทำผิดตัวจริงนั้นยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดซึ่งตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย เวลาจะไปจอดรถที่ไหนก็ระวังๆ หน่อยนะครับ ดูว่าที่บริเวณนั้นจอดได้ไหม ไปขวางหน้าบ้านใครหรือเปล่า และเราใส่เบรกมือทิ้งไว้หรือเปล่า เพื่อไม่ให้รถของคุณก็ถูกทำลายหรือเกิดความเสียหายในวันรุ่งขึ้นนั่นเอง ที่มา China Xinhua News
-
หนุ่มรับคำท้าแฟนสาว ปั่นจักรยานข้ามเมืองไปให้ถึงก่อน ‘รถไฟ’ ใครชนะได้กินพิซซ่าฟรี!!
ไม่มีใครชอบความพ่ายแพ้หรอก….เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มนักปั่นคนนี้ที่วางเดิมพันกับแฟนสาวเอาไว้ด้วยพิซซ่า 1 ถาด หากว่าเขาสามารถปั่นจักรยานเอาชนะ ‘รถไฟ’ และไปถึงที่หมายก่อนได้ เรื่องมีอยู่ว่านาย James และแฟนสาว Deena ได้จองตั๋วรถไฟจากเมือง Ediburgh ไปยังเมือง Inverness ด้วยความที่เขาเป็นนักปั่นตัวยง และต้องการที่จะเอาจักรยานไปปั่นที่นั่นด้วย แต่เวรกรรมสาวเจ้าไม่ได้จองตั๋วสำหรับพกจักรยานไปให้แฟนหนุ่มด้วย และที่สำคัญคือพื้นที่นั่งในรถไฟก็ไม่มีพอสำหรับวางจักรยาน 1 คันด้วย ก็เลยกลายเป็นที่มาของการวางเดิมพัน “ผมรักจักรยานของผมมาก และผมไม่อยากจะเอามันเก็บใส่กล่องแล้วเอาไว้ไกลตัว พวกเราต้องเดินทางไปถึงที่ Inverness ในวันศุกร์ เพื่อพบกับพ่อของ Deena” James เล่า “การรถไฟบอกเราว่าให้ผมเอาจักรยานใส่กล่องไว้ และเอาไปไว้ที่หลังขบวนโดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลให้ แต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะดูแลมันได้ดีไหม หรือกล่องที่ให้มามันจะมีขนาดพอดีกับจักรยานหรือไม่ ผมก็เลยตัดสินใจที่จะปฏิเสธไป” “Deena เลยวางเดิมพันกับผมด้วยพิซซ่า 1 ถาด หากว่าผมสามารถปั่นจักรยานไปที่ Inverness ได้ก่อนที่รถไฟจะไปถึง และแน่นอนว่าผมรับคำท้านั้น” “มันคงจะเป็นการผจญภัยที่น่าสนุกเลยทีเดียว เพราะที่สกอตแลนด์นั้นมีแต่สถานที่สวยๆ ทั้งนั้น” James เล่าเพิ่มเติม เขาออกเดินทางจาก Edinburgh ในเวลา…
-
พ่อลูกชาวซีเรียใช้ ‘กระป๋อง’ มาทำเป็นขาเทียม เพราะไม่มีเงินไปซื้อขาเทียมจริงๆ
โดยปกติแล้วการต้องเป็น ‘ผู้พิการ’ ย่อมทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องที่ยากลำบากอยู่แล้ว และยิ่งต้องตกเป็นผู้พิการในประเทศที่กำลังตกอยู่ในช่วงภัยสงครามอย่างซีเรียแล้ว ยิ่งทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบากกว่าเดิมหลายเท่าตัวนัก นี่คือเรื่องราวของ Maya Ali Merhi จากประเทศซีเรีย เธอเกิดมาโดยที่ไม่มีอวัยวะช่วงล่าง โรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรมที่มีชื่อว่าภาวะ Congenital Amputation เช่นเดียวกันกับพ่อของเธอ นาย Mohammed เองก็ป่วยเป็นโรคนี้ด้วยเช่นกัน ครอบครัวของพวกเอาอาศัยอยู่ในค่ายของผู้อพยพ และไม่มีเงินมากพอที่จะไปซื้อขาเทียมมาใส่ พ่อของ Maya จึงประดิษฐ์ขาเทียมขึ้นมาใช้งานเองด้วย ‘กระป๋อง’ ที่พันรอบๆ ด้วยผ้า “หัวใจของผมรู้สึกเจ็บปวด เมื่อได้เห็นลูกสาวของผมยืนอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ขณะที่พวกเขาวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน” “มันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากมากๆ แต่อย่างน้อยถ้าเรามีเจ้ากระป๋องนี้ ก็ดียังกว่าไม่มีอะไรเลย” คุณพ่อกล่าว ครอบครัวของ Maya ต้องหลบหนีออกมาจากเมือง Aleppo ที่ต้องตกเป็นพื้นที่ทำสงคราม แม้ว่าจะต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแต่สักวันหนึ่งคุณพ่อก็มีความใฝ่ฝันว่าลูกสาวของตัวเองจะสามารถเดินได้ปกติเหมือนกับคนทั่วๆ ไป อ้างอิงจากรายงานขององค์กรการกุศลในประเทศซีเรีย พบว่ามีผู้คนมากกว่า 13 ล้านคนที่ยังคงต้องการการรักษาพยาบาล และอุปกรณ์ทางการแพทย์ จากจำนวนนี้เป็นเด็กมากกว่า 5 ล้านคน เพราะประชากรหลายคนต้องหลบหนีจากภัยสงคราม ทำให้ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ต้องตั้งแคมป์อยู่กันอย่างยากลำบาก…
-
คนตาดีเห็นร่างแยก ‘แจ็ค หม่า’ ยืนขายเห็ดป่าอยู่ข้างถนน หรือนี่จะเป็นอีกอาชีพของเขากัน!!
ในตอนนี้คงไม่มีใครรู้จักกับมหาเศรษฐีแห่งอาณาจักรอาลีบาบา นามว่า “แจ็ค หม่า” ที่กำลังเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจนเป็นข่าวครึกโครมกันในช่วงก่อน แต่ว่าบางทีนอกจากการบริหารระดับข้ามประเทศแล้ว เขาอาจจะมีอีกอาชีพหนึ่งซ่อนอยู่จนเป็นอีกเหตุที่ทำให้เขาร่ำรวยอย่างนี้ก็เป็นได้ เพราะว่ามีคนตาดีไปเห็นร่างแยกของเขายืนขายเห็ดป่าอยู่ข้างถนนในประเทศจีนเข้าซะงั้น!! เทียบให้เห็น ต่างตรงไหนเอาปากกามาวง โดยร่างแยกของมหาเศรษฐีหน้าเหลี่ยมคนนี้ ได้ถูกพบเข้าที่เขตชนบทของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ขณะกำลังยืนขายเห็ดป่าอยู่บริเวณริมถนน และชายคนดังกล่าวก็มีชื่อว่า Zhou Chaozhong ที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับแจ็ค หม่า ประหนึ่งว่าเป็นฝาแฝดกันเลยก็ว่าได้ เนี่ย เท่ป่ะล่ะ งานเสริม และจากการเข้าไปคุยกับ Zhou เขาก็เล่าเรื่องราวชีวิตให้ฟังว่าหลักๆ แล้วเขามีอาชีพเป็นชาวไร่ชาวนา อยู่ที่เขต Gong ทางตอนใต้ของมณฑลเสฉวน แต่ว่าในทุกๆ ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนของทุกปี เขาจะขึ้นไปบนเขาเพื่อสืบเสาะหาเห็ดป่ามาขายอยู่ริมถนนอย่างที่เห็น ซึ่งมันเคยสามารถทำเงินให้เขาได้มากถึง 5,000 หยวน (ประมาณ 25,000 บาท) เลยทีเดียว เฟี้ยวมากเลยคุณเพ่ ในตอนนี้หน้าตาของชาวไร่คนนี้ได้รับการเผยแพร่โดยสื่อต่างๆ ของประเทศจีน ซึ่งก็ไม่แน่เหมือนกันว่ามันอาจจะสร้างรายได้ที่มากกว่าเดิมให้กับเขาจากเรื่องนี้ก็เป็นได้.. แต่นอกจากชายคนนี้แล้วก็ยังมีอีกคนหนึ่งในเมืองเฉิงตู ที่โด่งดังขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อนจากความที่มีหน้าตาคล้ายกับ แจ็ค หม่า อีกเช่นเดียวกัน…
-
ตำรวจล่าตัวหนุ่ม “ชนแล้วหนี” โชคดีไม่บาดเจ็บอะไรมาก เพราะที่ชนเป็น “รถเข็นคนพิการ”!!
เหตุการณ์ชนแล้วหนีสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ขับชนกันแล้วหนี รถยนต์ขับชนคนแล้วหนี หรือแม้แต่ “รถเข็นคนพิการ” ขับชนคนแล้วหนีก็มี?! เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อหนุ่มคนหนึ่งขับเคลื่อนรถเข็นคนพิการถอยไปชนสาวชราวัยกว่า 90 ทั้ง 2 คนล้มระเนระนาด ก่อนที่เขาจะชิ่งหนีไปด้วยความไวแสง ชนเสร็จก็จากไปอย่างไวเลยนะพ่อคุณ Ian Gooch เจ้าของร้านที่มีกล้องวงจรปิดและถ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ เขาเล่าว่าตนเองได้ยินเสียงโวยวายด้านหน้าร้าน จึงรีบวิ่งออกไปดู พบหญิงชรา 2 คนล้มลงไป ขณะที่คนอื่นๆ พยายามช่วยพยุงพวกเธอขึ้นมา หลังจากนั้นหญิงชราทั้งสองก็บอกว่าพวกเธอไม่ได้เป็นอะไร ก่อนที่จะขึ้นรถบัสจากไปในทันที ส่วน Ian ก็เอะใจว่าตนเองมีกล้องวงจรปิดอยู่ เลยกลับเข้าร้านไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากภาพเห็นว่าหญิงชราทั้งสองคนกำลังยืนรอรถบัสอยู่ที่ป้าย แล้วจู่ๆ ชายผู้ก่อเหตุก็บังคับรถเข็นของตัวเองถอยชนพวกเธอทั้งสอง โดยไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่า Ian จึงนำเอาคลิปที่ถ่ายไว้ได้ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตามหาตัวคนร้ายกันต่อไป ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านดังกล่าว (ช่วงเที่ยงของวันที่ 14 มิถุนายน 2018) ทางด้านผู้เสียหายคนหนึ่งก็ได้กลับมาพูดคุยกับ Ian ที่ร้าน เธอบอกว่ารู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่ที่หัวของเธอลงไปกระแทกพื้น ทำให้ตุ้มหูของเธอพัง…
-
นักเรียนนายร้อยถูกไล่ออก หลังโชว์เสื้อยืดรูป “เชกูวารา” กับหมวกที่มีข้อความไม่เหมาะสม
นักเรียนนายร้อยวัย 26 ปี ถูกตัดสิทธิ์การเป็นทหาร หลังจากถ่ายรูปพร้อมโชว์เสื้อยืดหน้าเช กูวารานักปฏิวัติลัทธิมากซ์ชื่อดังในวันสำเร็จการศึกษา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นาย Spenser Rapone ได้ลาออกจากโรงเรียนเตรียมทหารชื่อดังของรัฐนิวยอร์ก พร้อมกับสละสิทธิพิเศษต่างๆ ที่เขาได้รับ หลังจากกระทำการไม่เหมาะสมในโรงเรียน ทางกองทัพได้มีการสอบสวนเรื่องดังกล่าว ก่อนที่จะมีการปลดเขา ซึ่งหลังจากถูกปลด Rapone ได้โพสต์ภาพตัวเองต่อหน้ารูปปั้นที่ป้ายทางเข้า Fort Drum พร้อมข้อความว่า “การเคารพครั้งสุดท้าย” Rapone ได้ทวีตภาพวันจบการศึกษาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2016 ซึ่งไม่เพียงแค่ภาพเสื้อยืดเท่านั้น ยังมีภาพที่เขาถือหมวกพร้อมกับข้อความ “คอมมิวนิสจงเจริญ” อยู่ในหมวกอีกด้วย Rapone ได้รับการขนานนามว่า “นายร้อยลัทธิคอมมิวนิสต์” ซึ่งในหน้าทวิตเตอร์ของเขานั้นเต็มไปด้วยภาพและข้อความเกี่ยวกับลัทธิดังกล่าว และการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับข้ออ้างของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทางทหารได้มีการแถลงผลการสอบสวน อดีตนักเรียนนายร้อยคนดังกล่าวพร้อมเผยว่า ทางกองทัพได้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และจะมีการดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป “มีข้อจำกัดบางอย่างเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เราจึงสามารถให้ข้อมูลเท่าที่เราสามารถให้ได้ อย่างไรก็ตามทางเรายืนยันว่าทหารได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่และมีการดำเนินการอย่างเหมาะสม” โฆษกของทางกองทัพให้สัมภาษณ์สื่อ Rapone ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาตัดสินใจที่จะผันตัวกลายเป็นนักปฏิวัติสังคมนิยม และมีกำหนดขึ้นพูดในการประชุม Socialism 2018 ที่ชิคาโกในเดือนกรกฎาคมด้วย ที่มา bbc, stripes, theguardian
-
หนุ่มบากบั่นพยายามจะ “มีอะไรกับท่อไอเสียรถ” ตำรวจมาห้ามก็ไม่สน จึงต้องจบลงด้วยปืนไฟฟ้า…
วิธีการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศของเราก็คงหนีไม่พ้นการช่วยตัวเองอยู่ในห้องเพียงลำพัง หรือไม่อย่างนั้นก็อาจมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เรารัก แต่ชายคนนี้กลับทำในสิ่งที่พิสดารมากยิ่งกว่านั้น เมื่อเขาพยายามไป “มีอะไรกับท่อไอเสียรถยนต์” และความกำหนัดของเขาก็พุ่งสูงชนิดที่ว่า ตำรวจหลายคนมาห้ามเอาไว้ก็เอาไม่อยู่ เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันที่เคยเกิดขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Newton รัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา ตำรวจได้รับแจ้งว่าชายวัย 24 ปีคนหนึ่งพยายามเอาไอ้จ้อนยัดเข้าท่อไอเสียรถ Dodge Dart ที่จอดอยู่ในลานจอดรถ เมื่อตำรวจไปถึงสถานที่เกิดเหตุก็พบว่าชายคนดังกล่าวกำลังทำอย่างนั้นอยู่จริงๆ เจ้าหน้าที่จึงพยายามเกลี้ยกล่อมบอกให้เขาหยุดทำอย่างนั้นซะ แต่ชายผู้ก่อเหตุไม่สนใจคำพูดของตำรวจจำนวนมากที่ล้อมเอาไว้ เขายังคงพยายามยัดเยียดความเป็นปั๋วให้กับรถคันนั้นอย่างบากบั่น ไม่ท้อถอย หน้าตาของรถ Dodge Dart ที่ตกเป็นเหยื่อในวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 เพราะอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นต้องยิงปืนไฟฟ้าใส่ ชายคนนั้นจึงสงบลงได้ในที่สุด แต่ทว่าเขากลับถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลแทนที่จะเป็นห้องขัง เจ้าหน้าที่ Scott Powell ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า “เขามีอาการเหมือนกับเมายาบางอย่างอยู่ ความผิดปกติที่เห็นนั้นจึงทำให้เราไม่สามารถพาเขาไปเข้าคุกได้ในทันที” เมื่อไปถึงโรงพยาบาล หมอก็พบว่าระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดของเขาสูงถึง 0.35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัย Case Western Reserve บอกว่านั่นอาจทำให้เขาหยุดหายใจได้เลย…
-
สาวเมาขาดสติใช้ห้องน้ำ ไปๆ มาๆ ขาดันไปติดเข้ากับส้วมนั่งยอง นี่ไปทำเอาอิท่าไหนกันเนี่ย!!
ถ้าใครที่เคยประสบกับอาการมึนเมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ก็จะเป็นอันรู้กันดีว่าในตอนที่เราเมานั้นมักจะทำอะไรลงไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เราจึงเห็นได้ว่าบางคนเมาแล้วก็มีเรื่องบ้าง ไปหลับอยู่ไหนไม่รู้บ้าง หรือแม้แต่เกิดอุบัติเหตุจากความขาดสติก็เป็นเรื่องที่มีให้เห็นอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ว่าคงไม่มีใครที่คาดคิดเอาไว้ว่าแค่คนเมาไปเข้าห้องน้ำก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้ แถมมันยังเป็นอุบัติเหตุที่น่าเขินอายจริงๆ สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ขาของเธอดันไปติดเข้ากับส้วมแบบนั่งยองในบ้านของเธอเองซะอย่างนั้น!! เรื่องราวแสนจะอับอายที่ไปเล่าให้ใครฟังก็คงขำกลิ้งนี้ เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่งในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน ในวันอังคารที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยในวันนั้นเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นในเวลาประมาณ ตี 3 เมื่อหญิงสาวคนนี้มีอาการเมามายจากการไปดื่มสังสรรค์แล้วกลับมาที่บ้าน และใช้ห้องน้ำตามปกติ แต่ก็ด้วยความมึนเมาที่ดูเหมือนขาดสติไปแล้ว ทางครอบครัวของเธอจึงได้บอกเตือนเธอว่าถ้าจะใช้ห้องน้ำให้ไปใช้ห้องน้ำแบบปกติดีกว่าส้วมแบบนั่งยองแบบนี้ เพราะอาจหัวคะมำหรือเกิดอุบัติเหตุอย่างอื่นขึ้นมาได้ ทว่าเธอก็ไม่ฟังคำเตือนจากครอบครัวที่ห่วงใยเธอแต่อย่างใด และหลังจากนั้นเองหลังจากคำเตือนจากครอบครัวของเธอก็เป็นจริงขึ้นมา เพราะขาของผู้หญิงคนนี้ดันไปติดเข้ากับส้วมหลุมชนิดที่ว่าดึงยังไงก็ดึงไม่ออก เดือดร้อนทางครอบครัวต้องเรียกหน่วยดับเพลิงในท้องที่เพื่อมาให้ความช่วยเหลือหญิงสาวคนนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ได้ใช้อุปกรณ์ต่างๆ มากมายในการช่วยเหลือเธอให้ปลอดภัย ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ต้องใช้วิธีการทำลายส้วมหลุมอันนี้ให้แตกออกจากกัน จึงช่วยให้ขาของหญิงสาวคนนี้หลุดออกมาได้สำเร็จโดยได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เหตุการณ์นี้อาจจะไม่ใช้เหตุการณ์ที่เราพบเจอได้ในทุกๆ วัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็เตือนว่าควรจะดื่มให้อยู่ในระดับที่พอดี อย่าดื่มเยอะเกินจนขาดสติ เพราะเราไม่รู้ว่าบางทีอาจจะเกิดอะไรที่ร้ายแรงกว่านี้ก็เป็นได้… แค่เข้าห้องน้ำก็เป็นเรื่องได้ ยอมใจเลยจริงๆ ที่มา: nextshark, shianghaiist, dailymail
-
สวรรค์!! ร้านอาหารในจีนจ้างสาวสวยระดับพริตตี้มาแกะกุ้งให้ลูกค้าถึงโต๊ะ ไม่หวานไม่รู้ว่าไงแล้ว
ถ้าพูดถึงรสชาติอันหอมหวานมันของ ‘กุ้ง’ แล้ว เชื่อว่าหลายคนก็คงน้ำลายหกกันเป็นแถวเลยใช่ไหมล่ะถ้าลองนึกภาพของเนื้อกุ้งแน่นๆ ที่จิ้มกับน้ำจิ้มที่เข้ากั๊นเข้ากันเป็นอย่างดี… ทว่าการกินกุ้งถ้าจะกินให้อร่อยและคุ้มก็คงจะต้องใช้มือแกะใช่ไหมล่ะ ดังนั้นแล้วนี่จึงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคอกุ้งเลยทีเดียว เพราะกลิ่นของมันอาจทำให้มือของเราเหม็นคาวไปจนแทบจะทั้งวันเลย แต่ว่ามันจะดีแค่ไหนล่ะถ้าหากมีคนแกะกุ้งให้เรากินถึงโต๊ะโดยที่เราไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่เล่นโทรศัพท์รอเพียงเท่านั้น และที่สำคัญคือคนที่แกะให้ยังเป็นสวยสาวชนิดที่เรียกว่าเป็นพริตตี้เลยก็ยังได้!! ซึ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นความฝันอีกต่อไป เพราะว่าเราสามารถไปสัมผัสกับประสบการณ์อย่างนี้ได้จริงๆ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขต Huangpu เมืองเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน เพราะพวกเขาได้จ้างสาวสวยสองคนมาทำหน้าที่แกะกุ้งโดยเฉพาะ โดยการบริการของสาวสวยสองคนนี้ก็คือ การมานั่งที่โต๊ะเพื่อแกะเนื้อกุ้งเครย์ฟิช ที่ชาวจีนนิยมให้เรากินโดยเฉพาะ ที่นอกจากเราจะได้กินเนื้อกุ้งแน่นๆ อย่างมือไม่เปื้อนแล้ว เราก็ยังได้เห็นหน้าสวยๆ ของพวกเธอด้วย มันเป็นเรื่องที่สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ วิดีโอการสาธิตของคนแกะกุ้ง “การแกะกุ้งเครย์ฟิชเป็นเรื่องที่อาจทำให้คุณเกิดความหงุดหงิดใจขึ้นมาหรือทำให้มือของคุณเปื้อนได้ ดังนั้นแล้วเราจึงอยากจะแนะนำผู้เชี่ยวชาญในการแกะกุ้งให้ เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของลูกค้า” และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทางเจ้าของร้านได้บอกเพิ่มเติมก็คือ ความที่ร้านนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียงสำหรับเหล่าแฟนๆ เกมโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นเรื่องที่ไม่ดีใช่ไหมล่ะถ้าจะให้แกะกุ้งไปด้วยเล่นเกมไปด้วย เพราะบางทีการเล่นเกมก็อาจจะต้องใช้มือทั้งสองมือเพื่อการเล่นอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง สำหรับสาวนักแกะกุ้ง He Nanxin สาวสวยหนึ่งในสองคนที่ให้บริการ ก็ออกมาบอกว่าเธอเป็นนักศึกษาปี 4 ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ในสาขาแฟชั่นดีไซต์ และที่เธอมาทำงานอย่างนี้ก็เพื่ออยากหารายได้นั่นเอง โดยทั้งเธอและเพื่อนอีกคนของเธอจะได้รับเงินคิดเป็น 15% ของค่าบริการแกะกุ้ง ซึ่งมันสามารถทำเงินได้มากกว่า 10,000 หยวน (ประมาณ 50,000…
-
หนุ่มเซอร์ไพรส์แฟน เปลี่ยนห้องนั่งเล่นเป็น “สนามฟุตบอล” งานนี้บอกเลยแฟนไม่ปลื้ม!!
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่านี่มันคือช่วงเทศกาลฟุตบอลโลก จึงไม่แปลกที่เหล่าแฟนบอลจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกจะมีความอยากเชียร์ทีมที่ตัวเองรัก หรืออาจสร้างบรรยากาศให้เข้ากับช่วงเทศกาลเหมือนอย่างที่เขาคนนี้ทำ ชายคนนี้มีชื่อว่า Kris Hancock ผู้ยอมสูญเงินไปประมาณ 4,300 บาทเพื่อเปลี่ยนห้องนั่งเล่นในบ้านให้กลายเป็นสนามฟุตบอลขนาดย่อม เอาไว้เซอร์ไพรส์แฟนสาวของตัวเอง Kris จัดห้องรอต้อนรับหวานใจ จัดเต็มธงอังกฤษ-รัสเซีย แต่เมื่อ Krissy Flowers แฟนสาวที่ออกไปทำงานและไม่ได้กลับบ้านมานานหลายวัน พอเธอเปิดประตูมาเจอสิ่งนี้ปุ๊บ สิ่งแรกที่เธอโวยวายออกมาก็คือ “โซฟาของชั้นมันหายไปไหน?!” เปิดปุ๊บ เห็นปั๊บ โวยวายเลยจ้าาา งานนี้บอกเลยว่า Krissy รู้สึกช็อกและไม่ปลื้มอย่างแรง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองต้องกลับบ้านมาเจอสนามฟุตบอลเล็กๆ อยู่ในห้องนั่งเล่นของเธอ เธอบอกว่า “ก่อนหน้านี้เขาก็เคยทำอะไรบ้าๆ ไปบ้าง แต่ครั้งนี้คือเขาเก็บเงียบไม่บอกใคร นั่นจึงทำให้ฉันรู้สึกช็อกแบบช็อกจริงๆ” Krissy และ Kris Krissy นั้นไม่ได้เป็นแฟนบอล จึงไม่แปลกที่เธอจะไม่ค่อยโอเคกับมันสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยแฟนหนุ่มของเธอก็ยังจัดห้องให้ตรงกับเธออยู่นิดหนึ่ง เพราะ Krissy เป็นลูกครึ่งรัสเซีย-อังกฤษ ถ้าจะให้เลือก เธอก็คงเชียร์สองทีมนี้น่ะแหละ เมื่อ Krissy ถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อนๆ และครอบครัวของเธอดู…
-
“นินจาบิกินี” เสื้อผ้าสุดเซ็กซี่ที่ทำให้สาวๆ กลายเป็นนินจาลึกลับน่าค้นหา
เวลาที่เราได้ดูหนังหรือการ์ตูนญี่ปุ่น เราคงจะได้เห็นเครื่องแบบนินจาผ่านตามาบ้าง มันเป็นเครื่องแบบที่ช่วยอำพรางร่างกายของนักรบในสมัยนั้น แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปการสู้รบลดน้อยลง การใส่ชุดนินจาออกไปต่อสู้ก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป แต่เครื่องแบบเหล่านั้นก็ยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้และถูกนำมาดัดแปลงให้สามารถใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ผ่างงงงง!! นี่เป็นผลงานการออกแบบจากแบรนด์เสื้อผ้าญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Mocolle แบรนด์ที่มักจะนำเอาเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมมาดัดแปลงให้ทันสมัยขึ้น เช่นเอาชุดกิโมโนมาปรับดีไซน์ให้ใส่สบายเข้ากับชีวิตประจำวันมากขึ้น ล่าสุดพวกเขาได้ผลิตชุด Kunoichi Swimsuit หรือชุดว่ายน้ำนินจาสาว ซึ่งมันมีสีสันที่สวยงามมากกว่าแค่สีดำทึมๆ ที่เรามักจะเห็นในชุดนินจาทั่วๆ ไป จุดเด่นของชุดนินจาปกติคือพวกเขาจะใส่ผ้าที่มีตาข่ายที่เรียกว่า Kusarikatabira ที่จะช่วยป้องกันร่างกายของนินจาเวลาต่อสู้ ซึ่งไอ้เจ้า Kusarikatabira ที่ว่านี้ก็ได้ถูกนำมาดัดแปลงให้เป็นผ้าตาข่ายบริเวณหน้าอกเพิ่มความสวยงามและเซ็กซี่เข้าไปอีก ส่วนด้านล่างเป็นกางเกงว่ายน้ำที่มีความยืดหยุ่น สวมทับด้วยกระโปรงสั้นแมตช์กับบิกินีด้านบน สร้างความโดดเด่นให้กับผู้สวมใส่ ตอนนี้ชุด Kunoichi Swimsuit วางขายแล้วผ่านเว็บไซต์ Village Vanguard ของญี่ปุ่น สนนราคาอยู่ที่ 8,100 เยน หรือประมาณ 2,423 บาท สาวๆ คนไหนที่อยากได้ชุดว่ายน้ำที่ไม่ซ้ำใครหรืออยากคอสเพลย์ ลองสั่งมาลองใส่สักหน่อยไหมล่ะ? . . ที่มา soranews24 , vvstore
-
หนุ่มไปตัดผมที่ร้าน บอกช่าง ‘เอาข้างๆ กับด้านหลังสั้นๆ’ ออกมาเหมือน จิม แคร์รีย์ เลย!!
ใครๆ ก็คงจะเคยไปตัดผมแล้ว พอออกจากร้านมาก็รู้สึกไม่พอใจกับการตัดของช่างกันบ้างล่ะ…. เช่นเดียวกันกับหนุ่มท่านนี้ที่ไปตัดผมที่ร้านมา แล้วปรากฏว่าทรงผมที่ได้มันเด๋อเหมือนกับ จิม แคร์รีย์ ในหนังเรื่อง Dumb and Dumber เลยทีเดียว!! เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานาย Chris Cook ได้ตัดสินใจไปตัดผม แต่ร้านที่ไปตัดประจำนั้นคนเยอะเหลือเกิน ก็เลยเปลี่ยนไปตัดที่ร้าน Smart Cuts ในเมือง Cleckheaton เขต West Yorkshire ประเทศอังกฤษแทน พอไปถึงก็สั่งช่างไปว่า ‘เอาด้านหลังกับด้านข้างสั้นๆ นะ แล้วก็โกนหนวดให้ด้วย’ พอเสร็จเรียบร้อยนี่คือสิ่งที่ได้!? ราวกับว่าช่างเขาเอาถ้วยครอบหัวของเขา แล้วก็เอาเครื่องตัดผมมาไถข้างๆ กับข้างหลังออกเลยทีเดียวล่ะ ด้วยความเซ็งคุณพ่อก็เลยอัดคลิปวิดีโอสั้นๆ “ไง ทุกคนๆ ตรูไปตัดผมมาเมื่อวาน แถมเก็บตังค์ตรูเพิ่มด้วย แล้วดูทรงผมที่ได้ดิ” “โกนหนวดให้ตรูซะด้วย นี่สินะถึงได้เก็บเงินเพิ่ม แล้วดูตรงนี้ดิ เออมันสั้นตรงด้านข้างกับด้านหลังแบบที่ตรูสั่งไปเป๊ะๆ แต่ลองมาดูด้านบนนี่ดิ!!?” “ถ้าพวกเอ็งทุกคนอยากจะคอสเพลย์เป็น Lloyd ในหนังเรื่อง Dumb and Dumber…
-
ยิ่งอ้วนก็ยิ่งสวย สวนสนุก เปิดให้สาวๆ ที่มีน้ำหนักมากกว่า 61.8 กิโลฯ เข้าไปเล่นได้ฟรีๆ
สวนสนุกถังพาราไดซ์จากเมืองซีอานประเทศจีน เปิดโปรโมชั่นให้สาวๆ ที่มีน้ำหนักมากกว่า 61.8 กิโลกรัมสามารถเข้าไปได้แบบฟรีๆ ไม่เสียเงินซักกะบาท ซึ่งแท้จริงแล้วโปรโมชั่นที่ว่านี้มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังซ่อนอยู่ !? หากย้อนกลับไปในช่วงราชวงศ์ถัง เมื่อปีคริสต์ศักราช 618-907 มาตรฐานความสวยความงามของผู้หญิงนั้นไม่เหมือนกับปัจจุบัน ผู้หญิงที่มีความอ้วนท้วม แสดงว่าเป็นคนที่มีฐานะทางการเงินที่ดี และมีสถานะทางสังคมที่สูงส่ง “ผู้คนในปัจจุบันมองว่าการมีสุขภาพที่ดี และผอม เป็นมาตรฐานของความงาม แต่เราต้องการที่จะโชว์ให้เห็นว่ารูปร่างที่ชวนให้รู้สึกเย้ายวนของสาวๆ จากยุคราชวงศ์ถังนั้นก็เป็นสิ่งที่สวยงามเช่นเดียวกัน” ตัวแทนของสวนสนุกกล่าว โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นในวันที่ 15 – 19 มิถุนายนที่ผ่านมา สวนสนุกถังพาราไดซ์ (Tang Paradise) จะมอบตั๋วฟรีให้กับผู้หญิงจำนวน 618 คน ที่มาพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองมีน้ำหนักมากกว่า 61.8 กิโลกรัม ด้วยเครื่องวัดน้ำหนักของทางสวนสนุกเอง หากผู้หญิงคนไหนที่นั่งลงไปแล้วน้ำหนักไม่ถึงก็จะต้องจ่ายค่าเข้าเป็นจำนวนเงิน 90 หยวน หรือราวๆ 450 บาท ส่วนคนที่มีน้ำหนักเท่ากับหรือเกินที่กำหนดไว้ ก็แสดงว่าคุณคือผู้หญิงสวยจากสมัยราชวงศ์ถัง และจะได้รับตั๋วฟรีเข้าไปชมเทศกาล Dragon Boat Festival หรือ…
-
สาวเพิ่งเช่า Ferrari มาขับ ดันเสียหลัก ไปชนรถฝั่งตรงข้าม สภาพยับเยิน เงินกว่า 16 ล้านหายวับ!!
รถ Ferrari 458 ถือว่าเป็นหนึ่งในรถที่มีราคาสูงติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ และมันก็คงเป็นรถที่ใครหลายๆ คนต่างถวิลหาอยากได้มาครอบครอง หรือลองขับดูสักครั้งในชีวิต เช่นเดียวกันกับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอได้ตัดสินใจไปเช่าเจ้ารถหรูคันนี้มาลองขับ แต่เพียงชั่วอึดใจหลังจากออกมาโลดแล่นบนท้องถนนได้ไม่นาน Ferrari แดงคันงามก็แทบจะกลายเป็นเศษเหล็กในพริบตา… หน้าตาของรถ Ferrari 458 นี่คือคลิปเหตุการณ์ที่ถูกเผยแพร่ลงไปในโลกโซเชียลเมื่อช่วงวันที่ 22 มิถุนายน 2018 เผยให้เห็น Ferrari 458 สีแดงเสียหลักพุ่งชนเข้ากับรั้วกั้นกลางถนน ลามไปชนกับรถฝั่งตรงข้าม สภาพพังยับเยิน ภาพจากกล้องวงจรปิด เขต Wenling ประเทศจีน จากการรายงานบอกว่านี่เป็นรถที่หญิงสาวชาวจีนคนหนึ่งเช่ามาขับ ซึ่งเธอได้อัดคลิปยลโฉมเจ้ารถหรูคันงามนี้ก่อนเกิดอุบัติเหตุไปแบบสดๆ ร้อนๆ ในคลิปที่เธอเป็นคนถ่าย เธอได้พูดว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ขับเฟอรารี่ มันช่างรู้สึกสุดยอดจนอธิบายไม่ถูกเลยจริงๆ” คลิปที่เธอถ่ายก่อนเกิดอุบัติเหตุแค่แป๊บเดียว หลังจากนั้นผ่านไปเพียงไม่นาน กล้องวงจรปิดบนท้องถนนก็สามารถจับภาพว่าเธอนั้นขับรถเสียการควบคุม จนทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างที่เราเห็นในที่สุด โชคดีที่ระบบความปลอดภัยของรถทำให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่ทว่าสภาพของรถที่เหลือให้เราเห็นนั้นเรียกว่าเละเทะแบบสุด ด้านหน้าหายไปเป็นแถบ ล้อหลุด เศษชิ้นส่วนกระจัดกระจาย คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น …
-
คุณแม่ร่ำไห้…หลังลูกสาวได้รับการปลูกถ่าย ‘ประสาทหูเทียม’ และได้ยินเสียงเป็นครั้งแรก!!
ภาพแห่งความประทับใจของคุณแม่ ที่ร้องไห้ออกมาด้วยความปีติ หลังลูกสาวของตัวเองได้ยินเสียงเป็นครั้งแรก Ayla Esler เด็กสาวตัวน้อยวัย 1 ขวบจากรัฐเท็กซัส เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายประสาทหูเทียมเป็นผลสำเร็จ และปฏิกิริยาของเธอตอนที่ได้ยินเสียงเป็นครั้งแรก ถึงกับทำให้ทุกคนที่ได้เห็นเหตุการณ์ประทับใจเป็นอย่างมาก เมื่อแพทย์ได้เปิดเครื่องเพื่อให้ประสาทหูเทียมทำงาน จู่ๆ Ayla ก็หันหัวไปมาอย่างน่าฉงนใจ นั่นแสดงว่าเธอเองก็ตกใจที่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียง ทั้งๆ ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนตั้งแต่เกิดมา แม่ของเธอถึงกับน้ำตาอาบหน้า พร้อมกับรอยยิ้มสุดแสนดีใจ ทั้งคุณพ่อ, พี่ชาย, และพี่สาว ต่างก็อยู่ในเหตุการณ์อันแสนสำคัญนี้ด้วย และเหตุการณ์แห่งความประทับใจนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากองค์กร Cook Children’s ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การช่วยเหลือเกี่ยวกับการปลูกถ่ายประสาทหูเทียมมาตั้งแต่ปี 2006 เจ้าประสาทหูเทียมนี้จะมีไมค์ติดอยู่ที่บริเวณข้างหลังหูเพื่อรับเสียง จากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นรหัสแบบพิเศษเพื่อส่งต่อไปยังตัวรับที่อยู่ข้างใน จากนั้นรหัสดังกล่าวก็จะถูกส่งไปยังหูชั้นในรูปหอยโข่ง และสุดท้ายก็จะถูกส่งต่อไปยังสมองเพื่อประมวลผลออกมาเป็นการรับรู้ต่อไป ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์แห่งความประทับใจที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… นับเป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ และเชื่อเลยว่าเจ้าประสาทหูเทียมนี้ จะเปลี่ยนชีวิตของหนู Ayla ไปตลอดกาลเลยล่ะ ที่มา : dailymail
-
องค์กรพิทักษ์สัตว์โวย!! หลังรปภ. ของมหาวิทยาลัย ใช้ไม้ตีลูกสุนัขจนตายคาหอพัก
กลายเป็นเรื่องที่ทางองค์กรพิทักษ์สัตว์ หรือ PETA ต้องออกมาวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย Ankang ใช้ไม้ตีสุนัขจนตาย เนื่องจากมันแอบเข้าไปในหอพักของนักศึกษา ภาพของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากมหาวิทยาลัยในมณฑลส่านซี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน พร้อมกับกระบอง และอีกคนที่กำลังจัดการนำศพของสุนัขตัวเล็กใส่ถุงพลาสติกสีดำ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก จากรายงาน นักศึกษาที่อาศัยอยู่ในหอพักดังกล่าว ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง PETA Asia ว่าเจ้าสุนัขตัวน้อยถูกไล่ตีอยู่บริเวณห้องโถงของหอพัก และมันร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะขาดใจ ซึ่งทางองค์กรพิทักษ์สัตว์ได้มีการเรียกร้องให้ทางมหาวิทยาลัย มีมาตรการจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่การทารุณสัตว์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมามีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ของทางมหาวิทยาลัยได้ฆ่าลูกสุนัขตัวหนึ่งที่อยู่ในมหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน “เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อนมีสุนัขตัวหนึ่งถูกฆ่าที่นี่ โศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ถ้าหากเราจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมีมนุษยธรรม” แถลงการณ์จากทาง PETA ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนทางด้านนาย Keith Kuo เจ้าหน้าที่จากทาง PETA ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า สุนัขในประเทศจีนนั้นมีความเสี่ยงต่อการถูกทารุณมาก และรัฐควรมีการจัดการกับปัญหาเหล่านี้ “หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแก้ปัญหานี้ก็คือการควบคุมจำนวนของสุนัขและแมวโดยการทำหมัน แต่การกระทำที่รุนแรงนั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้เลย ทาง PETA ได้เรียกร้องให้มีการลงโทษผู้ที่กระทำผิดนี้ และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้จีนต้องมีการดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองสัตว์” นาย Keith กล่าว ที่มา metro
-
สาวผู้ป่วย ‘โรคซึมเศร้า’ ได้รู้ความจริงว่าแม่ที่จากไป ได้ฝากฝังทุกอย่างไว้กับสามีแล้ว
‘โรคซึมเศร้า’ ถือเป็นหนึ่งในโรคทางจิตใจที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก และการดูแลรักษาก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด ทั้งการกินยาและการบำบัดทางอารมณ์ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของ Nikki Pennington หญิงสาวผู้เผชิญกับอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่โชคดีที่แม่ของเธอเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อบำบัดอาการป่วยของเธอ แต่แล้วเรื่องราวอันน่าสลดใจก็เกิดขึ้นเมื่อแม่ของเธอต้องมาด่วนจากไป โลกทั้งใบของเธอต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะต่อจากนี้ไปไม่มีใครดูแลอีกต่อไปแล้ว Nikki ได้ระบายความเศร้าให้กับสามีของเธอฟัง และปรากฏว่าสามีได้เล่าเรื่องราวบางอย่างที่ถูกเก็บเป็นความลับตั้งแต่วันแต่งงานของทั้งคู่!? และนี่คือเรื่องราวชีวิตอันขมขื่นของเธอ…. “โรคซึมเศร้ากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แน่นอนว่าการป่วยเป็นโรคนี้คุณจะต้องมีใครสักคนที่เข้าใจคุณ และคนคนนั้นสำหรับฉันก็คือ ‘แม่’” “แม่เป็นคนที่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรในยามที่ฉันซึมเศร้า เธอช่วยให้ฉันกลับมามองโลกแห่งความเป็นจริง และเอาชนะความคิดลบต่างๆ ได้” “ฉันมักจะคิดอยู่เสมอว่าคนที่เข้าใจฉันได้ คงไม่มีใครอื่นแล้ว นอกจากแม่ของฉัน” “แต่แล้วในวันหนึ่งหลังจากงานแต่งงานของฉันกับสามี ฉันถูกความเศร้าเข้าครอบงำ ฉันตัดสินใจที่จะโทรหาแม่ แต่สามีกลับห้ามและบอกว่า ‘คุณลองพูดกับผมดูมั้ย? ให้ผมลองดู เผื่อว่าผมจะช่วยอะไรได้บ้าง” “ฉันให้โอกาสเขา เพื่อช่วยบรรเทาความเศร้าจากโรคนี้ จากนั้นการโทรหาแม่ก็เริ่มลดน้อยลงไป และวันนั้นก็มาถึง วันที่แม่ของฉันต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ” “ฉันได้โทรหาสามีของฉันและบอกกับเขาว่า ‘แม่ของฉันไปแล้ว เธอเป็นคนที่รู้จักฉันมากที่สุด และรักฉันมากที่สุด คนที่ทำให้ฉันหลุดพ้นจากความกลัวได้ เธอได้จากไปแล้ว’” “จากนั้นสามีของฉันก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับแม่ของฉัน ที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนให้ฟังว่า ในวันแต่งงานแม่ของฉันได้มอบโน้ตให้กับสามีของฉัน โน้ตนั้นเขียนติดเอาไว้ว่า…
-
ครูถูกสั่งย้าย นักเรียนร้องไห้ทั้งโรงเรียน วุ่นวายจนต้องระงับการย้ายออกไปก่อน
ความรัก ความผูกพันระหว่างครูกับนักเรียนเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะกล่าวถึงเมื่อไหร่ก็ทำให้น้ำตาไหลเสมอ #เหมียวบู้บี้ เชื่อว่าคุณครู(เกือบ)ทุกท่านมีความต้องการที่จะให้ลูกศิษย์แต่ละคนได้ดี จึงได้ทำหน้าที่สั่งสอนนักเรียนให้ได้เป็นคนดี เป็นคนเก่งถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน Veliagaram รัฐทมิฬนาฑู รัฐที่อยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย นาย G Bhagawan คุณครูสอนภาษาอังกฤษได้รับคำสั่งให้ย้ายไปประจำการที่โรงเรียนอื่น ซึ่งเขาไม่สามารถขัดคำสั่งได้ จึงจำเป็นต้องทำตามหน้าที่และคำสั่งที่ได้รับมา แต่การย้ายโรงเรียนของเขาทำให้เกิดเรื่องโกลาหลขึ้นในโรงเรียน พอนักเรียนทราบข่าวว่าเขาจะได้ย้ายไปที่โรงเรียนอื่นจึงพากันเข้ามารุมกอดยื้อคุณครูท่านนี้เอาไว้เพราะว่าพวกนักเรียนนั้นไม่อยากเสียคุณครูที่ดีที่สุดท่านนี้ไป นักเรียนชายหญิงจำนวนหลายสิบคนร้องไห้และกอดเขาเอาไว้ บางคนดึงแขน ดึงขาเอาไว้ สร้างความลำบากใจให้กับคุณครูท่านนี้เป็นอย่างมาก เขาสอนวิชาภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนตั้งแต่เกรด 6 จนถึงเกรด 10 ซึ่งเขาอาจจะทำหน้าที่ในการสอนที่ดีมากจนมีนักเรียนรักเขามากถึงขนาดนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทางโรงเรียนต้องมีการพิจารณาการโอนย้ายคุณครูท่านนี้อีกครั้ง โดยได้ระงับการย้ายออกไปก่อนเพื่อให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ คุณครูบอกว่า เขาได้ทำหน้าที่สอนเด็กนักเรียนตามปกติ แต่เขาได้นำวิธีการสอนแบบใหม่ๆ ที่เข้าถึงนักเรียนด้วยการนำจอโปรเจ็คเตอร์มาช่วยสอน ทำให้เด็กได้เพลินเพลินเหมือนกับอยู่ในโรงภาพยนตร์ เด็กๆ จึงชอบวิชานี้และคุณครูท่านนี้มาก นักเรียนคนอื่นกล่าวกับสื่อว่า ถึงแม้ว่าคุณครูท่านอื่นจะออกจากโรงเรียนไป แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้สึกเศร้าเท่ากับการที่คุณครูท่านนี้จะย้ายออกไป ที่มา thenewsminute, deccanherald
-
ชายออสเตรเลีย ปวดท้อง เดินไม่ได้ ไตเสียหาย เนื่องจากท้องผูกไม่ได้ถ่ายมาสามวัน
ไหนใครที่รู้สึกว่าตัวเองมีอาการท้องผูกเรื้อรัง สามวันเจ็ดวันแทบไม่ถ่ายหนักเลยบ้าง เชื่อเถอะว่าต้องมีสักคนล่ะที่เคยเป็นแบบนั้น ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อาจจะเป็นข่าวที่ค่อนข้างจะน่ากลัวสำหรับคนที่ไม่ค่อยถ่ายหนักเลยก็เป็นได้ เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย เมื่อทีมแพทย์ได้ทำการช่วยชีวิตชายวัย 57 ปีรายหนึ่งเอาไว้ ด้วยการผ่านำเอาอุจจาระปริมาณกว่า 2 ลิตรออกมาจากลำไส้ใหญ่ของเขา จากคำบอกเล่าของทีมแพทย์ ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะมีอาการท้องผูกอย่างหนัก จนไม่ได้ถ่ายหนักเป็นเวลานาน 3 วัน นั่นทำให้อุจจาระในลำไส้มีการสะสมจนทำให้ลำไส้ขยายตัวไปกดทับเส้นเลือดที่ส่งเลือดไปยังขาขวาของเขา รวมทั้งทำให้ไตได้รับความเสียหายอีกด้วย ผู้ป่วยบอกว่าเขาไม่สามารถใช้เท้าข้างขวาได้เลย แถมยังมีอาการปวดท้องรุนแรงและคลื่นไส้ เป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมงจนในที่สุดเขาก็ต้องเข้าโรงพยาบาล เบื้องต้นทางทีมแพทย์เองก็สงสัยในอาการของชายหนุ่มเช่นกัน เนื่องจากขาขวาของเขามีอาการขาดเลือดไปเลี้ยง แต่ก็ไม่มีวี่แววของการกดทับให้เห็นจากภายนอกเลย Dr. Simon Ho แพทย์ผู้รับผิดชอบกล่าวว่า “สุดท้ายเราก็ตัดสินใจทำการตรวจทางทวารหนัก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าได้อาการของชายคนนี้เป็นผลกระทบมาจากการมีอุจจาระสะสมในลำไส้เนื่องจากอาการท้องผูก และยังพบอีกว่าไตของเขาได้รับความเสียหาย เพราะไม่สามารถขับกรดออกจากร่างกายได้” ผลจาก CT สแกนแสดงให้เห็นถึงอุจจาระจำนวนมากตกค้างอยู่ในปริมาณตัว S ของลำไส้ใหญ่ และเมื่อทีมแพทย์ทำการกำจัดอุจจาระเหล่านี้ออกไป ระบบการไหลเวียนเลือดของคนไข้ก็ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติทีละนิด อย่างไรก็ตามชายหนุ่มยังต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับความเสียหายของไตต่อไปอีกสักพัก และกว่าที่เขาจะกลับมาเดินได้เป็นปกติก็กินเวลาอีกราว 13 วันหลังจากนั้น ทำให้กว่าที่เขาจะออกจากโรงพยาบาลได้จริงๆ ก็เป็นกว่า 3 สัปดาห์หลังจากที่เข้าโรงพยาบาลไปเลยทีเดียว…
-
พบซาก “วานรที่สูญพันธุ์ไปแล้ว” ในสุสานจีนโบราณ นักวิทย์เชื่อนี่คือสายพันธุ์ใหม่ของโลก!!
ดูเหมือนว่าวัฒนธรรมการฝังศพของชาวจีนโบราณนั้น มักจะมีการฝังเอาสิ่งของของผู้ตายลงไปไว้ด้วย ดังนั้นบ่อยครั้งที่เราจะสามารถพบกับหลักฐานของการใช้ชีวิตในแต่ละยุคได้จากสุสานเหล่านั้น เพียงแต่ล่าสุดนี้เอง สิ่งที่เหล่านักโบราณคดีได้ขุดค้นสุสานจีนโบราณ และสิ่งที่พวกเขาพบกลับไม่ใช่แค่สิ่งของเครื่องใช้ในสมัยนั้น แต่ยังมีซากของวานรสายพันธุ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนถูกฝังอยู่ด้วย นี่เป็นกระดูกของชะนีสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ไปเป็นเวลานานแล้ว ถูกค้นพบในสุสานจีนโบราณอายุกว่า 2,200 ปีในเมืองฉางอาน เมืองหลวงเก่าของประเทศจีน ดูเหมือนว่าในสมัยนั้นชะนีจะถูกจัดว่าเป็นสัตว์ชั้นสูง และมักมีการเลี้ยงโดยผู้คนที่มีฐานะ โดยซากของชะนีที่มีการค้นพบนั้น เชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงขององค์หญิงแห่งราชวงศ์เซี่ย พระอัยยิกา (ยาย) ของจิ๋นซีฮ่องเต้ ซากชะนีที่ว่านี้ ได้รับการตั้งชื่อจากทางนักวิทยาศาสตร์ว่า Junzi Imperialis และพวกเขาบอกว่าการค้นพบครั้งนี้นับเป็นสิ่งสำคัญมากๆ อันหนึ่งเลยเนื่องจากในปัจจุบันมีประชากรชะนีเหลืออยู่ในพื้นที่ไม่มากแล้ว ชะนีจำนวนมากกำลังถูกคุกคามจากการสูญพันธุ์ Dr Samuel Turvey นักชีววิทยาจากสมาคมสัตววิทยาแห่งลอนดอนกล่าวว่า “มันเป็นชะนีที่ต่างไปจากชะนีในปัจจุบันมาก” ทั้งรูปแบบของกระโหลกและขากรรไกรของชะนีที่พบนั้น แตกต่างจากของสายพันธุ์ชะนีที่ยังมีอยู่ในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง จะเรียกว่าเป็นการค้นพบของสายพันธุ์ใหม่ที่สูญพันธุ์ไปแล้วก็ไม่ผิดนัก แม้ว่าจะมีเพียงแค่กระดูกของชะนีเท่านั้นที่เหลืออยู่แต่ทางนักโบราณคดีก็สามารถคาดเดารูปร่างหน้าตาของชะนีสายพันธุ์นี้ได้จากงานศิลปะและบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับชะนีจำนวนมากของชาวจีนในสมัยนั้น และถึงแม้ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงหลักในสมัยนั้นก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าการสูญพันธุ์ของชะนีสายพันธุ์นี้ จะมาจากการขยายอนาเขตของอาณาจักรจีนเองเสียอย่างนั้น ด้วยปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า และการทำการเกษตร ทำให้พื้นที่ที่ชะนีสายพันธุ์นี้ใช้อยู่อาศัยลดลงจนน่าใจหาย อย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้นั้น ยังคงเป็นเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศแม้ในปัจจุบัน และทำให้ชะนีอีกสองสายพันธุ์ในจีนในตอนนี้ลดจำนวนลงอย่างมาก และเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างยิ่ง ไม่ต่างจากกรณีของ Junzi Imperialis สักเท่าไหร่ ชะนีไทรหนาน เป็นชะนีอีกพันธุ์หนึ่งที่ลดจำนวนลงไปอย่างมากจากการตัดไม้ทำลายป่า…
-
หนุ่มสิงคโปร์พูดจาเหยียดไล่พนักงานชาวจีนกลับประเทศ เพียงเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้!!
ประเด็นเรื่องการเหยียดเชื้อชาติเป็นประเด็นละเอียดอ่อนที่เกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัย ไม่เว้นแม้แต่ในยุคดิจิตัลอย่างทุกวันนี้ เพราะว่ามีคลิปวิดีโอหนึ่งที่ได้กลายเป็นกระแสร้อนในโลกโซเชียลของต่างประเทศ เพราะในคลิปดังกล่าวคือคลิปของคนสิงคโปร์คนหนึ่งที่ไล่พนักงานชาวจีนกลับประเทศไป เพราะเธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้!! วิดีโอเจ้าปัญหา โดยในวิดีโอดังกล่าวนี้ได้ถ่ายขึ้นที่ฟู้ดคอร์ตแห่งหนึ่งที่พนักงานหญิงชาวจีนคนนี้ทำงานอยู่ และชาวสิงคโปร์คนที่อัดคลิปก็พูดจาในทำนองถากถางพนักงานคนนี้เนื่องมาจากความที่เธอ ‘ไม่สามารถ’ พูดภาษาอังกฤษได้ จริงๆ แล้ววิดีโอนี้ได้มีการอัปโหลดลงในยูทูบตั้งแต่ปี 2014 แล้ว แต่ว่าเพจ Singapore Peasant เพิ่งจะแชร์เรื่องราวดังกล่าวเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา และนี่เองเรื่องนี้จึงได้กลายเป็นกระแสไวรัลอยู่ในตอนนี้ เพราะมีผู้เข้าชมคลิปนี้กว่าเป็นแสนๆ คนเลย หากใครเข้าไปดูจะได้ยินภาษาอังกฤษที่พูดจาถากถางพนักงานชาวจีน โดยมีภาษาแมนดารินผสมอยู่ด้วยจากชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง และถ้าหากนำข้อความของเขามาแปล ก็จะได้ใจความคร่าวๆ ว่า “เธอต้องพูดภาษาอังกฤษ โอเคไหม? อย่าให้ฉันต้องพูดภาษาจีนกับคุณเลย” “เธอมาที่สิงคโปร์ นี่มันเป็นประเทศของฉัน ฉันเป็นคนสิงคโปร์ เธอต้องเรียนรู้การพูดภาษาอังกฤษเอาไว้บ้างสักนิดก็ยังดี” “นี่แหละคือปัญหาของเราเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล ที่เอาแรงงานต่างด้าวเข้ามาใช้งาน อย่างในกรณีผู้หญิงคนนี้ที่มาจากประเทศจีน เธอไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลย” “กลับประเทศของเธอไปเถอะ นี่มันประเทศของฉัน” จากนั้นหญิงสาวที่พอจะเข้าใจภาษาแมนดาริน (จีนกลาง) ที่ชายชาวสิงคโปร์คนนี้พูดกับเธอ จึงได้ตอบกลับไปว่า “มีแต่ชาวสิงคโปร์อยู่ที่นี่งั้นเหรอ สิงคโปร์เป็นประเทศที่ต้อนรับผู้คนจากทั่วทั้งโลกนี่” ซึ่งในตอนสุดท้ายของคลิปชายคนนี้ก็ได้พูดปิดท้ายเอาไว้ว่า “นี่เป็นกรณีหนึ่งของกฎหมายรัฐบาล ที่เอาชาวต่างชาติเข้ามาแล้วทำให้ชาวสิงคโปร์อย่างเราต้องมีปัญหา” …
-
เด็กหนุ่มวัย 15 ปี กับฝีมือการวาดภาพ ‘สัตว์’ แบบขั้นเทพ แถมไม่ต้องดูแบบด้วย!?
หากลองนึกย้อนกลับไปในวัยที่เรายังเป็นเด็กหนุ่มวัย 15 ปี เพื่อนๆ เคยลองหัดทำอะไรอย่างจริงจังกันบ้างไหม? อย่างเช่นการวาดภาพที่เป็นการนำจินตนาการมาบอกเล่าเป็นรูปร่าง และการจะวาดออกมาให้สมจริงดูสวยงาม ย่อมเป็นเรื่องที่ยากยิ่งขึ้นไปอีก แต่สำหรับเด็กหนุ่ม Dusan Krtolica วัย 15 ปี จากประเทศเซอร์เบีย แล้วต้องขอบอกเลยว่า เขามีความคลั่งไคล้ในการวาดภาพ ‘สัตว์’ แบบสุดๆ และทำออกมาได้ดีมากๆ เลยทีเดียว Dusan เริ่มฝึกวาดภาพมาตั้งแต่ 2 ขวบ (ตอนนั้นเอาจริงๆ #เหมียวหง่าว ยังจำความไม่ได้เลย ฮร่าๆ) จนตอนนี้อายุได้ 15 ปี และมีการจัดแสดงโชว์ผลงานการวาดภาพของตัวเองไปแล้วมากกว่า 6 ครั้ง!? Dusan เป็นคนที่ชื่นชอบโลกของสัตว์มากๆ และเขาก็นำความชอบนี้มาต่อยอดเป็นผลงานหลักของตัวเอง เขาศึกษาเกี่ยวกับร่างกายของสัตว์ เพื่อให้งานวาดภาพของตัวเองออกมาดูสมจริงมากที่สุด ซึ่งการวาดภาพสัตว์นี้ Dusan เพิ่งจะเริ่มหัดวาดเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้เอง!! “ผมรักในความหลากหลายของสัตว์โลก มันสามารถนำมาปรับเปลี่ยนได้ และการวาดภาพก็ถือเป็นเกมเกมหนึ่งสำหรับผม” …
-
ล่ามสาวแปลเพลงแรปของ Eminem เป็น ‘ภาษามือ’ แบบโคตรเจ๋ง ทำทันได้ไงฟะ!?
ใครเล่าจะคิดว่า ‘การแรป’ แบบไม่มีเสียง มันจะสนุกและมันส์ได้ขนาดนี้!!… โดยปกติเราคงจะเคยฟังเพลงแรปกันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะไม่เคยฟังในรูปแบบของ ‘ภาษามือ’ มาก่อนอย่างแน่นอน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในงานคอนเสิร์ตของเจ้าพ่อแรปเปอร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Eminem ที่ข้างล่างเวทีจะมีล่ามภาษามือยืนอยู่เพื่อแปลภาษาแรปด้วย!! และล่ามคนนี้มีชื่อว่า Holly Maniatty ระหว่างที่กำลังแปลเพลงแรปให้เป็นภาษามือ มีคนถ่ายคลิปวิดีโอของเธอเอาไว้ได้และนำไปแชร์ลงบนโลกออนไลน์ กลายเป็นว่าคลิปดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก และกลายเป็นกระแสไวรัลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในชั่วข้ามคืน เพราะมันช่างเป็นอะไรที่แปลกใหม่ แต่ก็ดูเจ๋งอย่างไม่น่าเชื่อ เพลงแรปของ Eminem ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเจ้าของวงการแร็ปเปอร์ แต่ละคำที่เขาแร็ปออกมานั้นมันช่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ แต่ Holly ก็สามารถแปลมันออกมาได้ แถมยังดูไปแล้วก็รู้สึกเพลินตาแบบสุดๆ ไม่คิดว่าการแรปด้วยภาษามือมันจะสนุกถึงขนาดนี้!! ลองไปชมคลิปวิดีโอที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ชาวเน็ตหลายคนหลังจากที่ได้รับรู้เรื่องราวสุดเจ๋งนี้ต่างก็ชื่นชมทั้ง Eminem และความคูลของ Holly “มันยอดมากเลยที่ Eminem ทำคอนเสิร์ตออกมาเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับทุกๆ คนที่เป็นแฟนเพลงของเขา ผู้หญิงคนนั้นก็เจ๋งมากๆ เลย” “ดูเหมือนว่าเธอจะสะบัดนิ้วกลางไปมากกว่า 4,365 ครั้งแล้วใช่มั้ยเนี่ย?” “ผมรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้เห็นการใส่ใจในรายละเอียดสำหรับคนพิการ เสียงดนตรีมันสามารถรู้สึกได้ผ่านการสั่นสะเทือน…
-
หนุ่มหายจากบ้าน 3 วัน ญาตินึกว่าตายแล้วเลยรับศพที่คิดว่าเป็นเขามาทำพิธี จู่ๆกลับมาเฉย!!
คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าหากว่าวันหนึ่ง คนที่คุณจัดงานศพให้กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งราวกับฟื้นขึ้นมาจากความตาย มันก็คงเป็นเรื่องที่ช็อกจนแทบเสียสติ แต่ว่านี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ บนโลกใบนี้ และคนที่ทำอย่างนั้นก็คือหนุ่มปารากวัยวัย 20 ปีที่กลับมาสร้างความช็อกให้กับเพื่อนๆ และครอบครัว ด้วยการกลับบ้านหลังจากที่หายตัวไปเต็มๆ 3 วัน โดยในระหว่างนั้นญาติก็ฝังศพร่างที่คิดว่าเป็นเขาไปเรียบร้อยแล้ว… Juan Ramón Alfonso Penayo หนุ่มวัย 20 ปีจากหมู่บ้าน Santa Teresa หมู่บ้านติดชายแดนระหว่างประเทศบราซิลและอุรุกวัย ได้ถูกพบเห็นล่าสุดที่บ้านของเขาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน หลังจากนั้นเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาไม่ได้บอกกับใครว่าจะไปไหนหรือมีแผนจะทำอะไร แต่ว่าหลังจากนั้นก็ไม่สามารถมีใครติดต่อกับเขาคนนี้ได้อีกเลย ดังนั้นแล้วทางครอบครัวของ Juan จึงได้ไปแจ้งความคนหายเอาไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเวลาต่อมาก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อมายังครอบครัวของ Juan ว่าได้พบร่างของผู้เสียชีวิตคนหนึ่งในสภาพที่ไหม้เกรียม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พบเข้าที่บริเวณใกล้เคียงกับหมู่บ้าน Santa Teresa หมู่บ้านของ Juan นั่นเอง และด้วยความที่บริเวณชายแดนระหว่างประเทศปารากวัยกับประเทศบราซิล มักจะมีแก๊งค้ายาเสพติดประจำอยู่ จึงทำให้ทางครอบครัวของ Juan เมื่อได้รับการติดต่อก็รีบรุดไปห้องเก็บศพทันที ซึ่งสภาพศพที่พวกเขาเห็นก็ไหม้เกรียมซะจนไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเป็นใครเลย ทว่าทางครอบครัวนี้ก็เชื่อว่าเป็นร่างของ Juan อย่างแน่นอน จากนั้นทางครอบครัว Penayo…
-
หนุ่มขโมยกล้องวงจรปิด แต่พลาดท่า “ไลฟ์สด” บ้านตัวเอง ส่งกลับไปให้เจ้าของกล้องดูซะงั้น?!
การจะเป็นโจรอาจไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป มันอาจผิดพลาดกันได้จากการบกพร่องในเรื่องของความรอบคอบ หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จนโดนจับได้ นำไปสู่การนิยามพวกหัวขโมยเหล่านั้นว่า “โจรกระจอก” ชายคนนี้คงนับว่าเป็นหนึ่งในโจรกระจอกเหมือนกัน หลังจากที่เขาขโมยกล้องวงจรปิดไป แต่กลับตั้งไว้ถ่ายทุกอย่างภายในบ้านของตัวเอง ส่งกลับไปให้เจ้าของกล้องดูซะอย่างนั้น?! โจรถ่ายการใช้ชีวิตของตัวเอง ส่งกลับไปให้เจ้าของกล้องดูซะงั้น เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่มณฑลเจียงซู ประเทศจีน โจรนิรนามไม่ทราบชื่อได้ทำการขโมยเอากล้องวงจรปิดของสำนักงานบริษัทแห่งหนึ่งไปอย่างแนบเนียน แต่ทว่าการตามหาเพื่อกล้องที่ถูกขโมยไปนั้นง่ายกว่าที่หลายๆ คนคาดคิดเอาไว้ เพราะเจ้าโจรกระจอกดันเอากล้องไปตั้งถ่ายภายในบ้านของตัวเอง โดยที่ไม่เปลี่ยน IP Address ทำให้ภาพทุกอย่างถูกส่งมายังเจ้าของกล้อง ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอยู่ ทุกอย่างก็ถูกถ่ายเอาไว้หมด สิ่งที่เจ้าของกล้องได้เห็นคือภาพทุกคนในครอบครัวของโจรกระจอกรายนั้น ทุกท่วงท่าอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ลูกกำลังจะไปโรงเรียน หรือตอนที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ด้วยเหตุนั้นเอง พวกเขาจึงนำภาพทั้งหมดที่ถูกถ่ายไว้ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสามารถตามจับกุมหัวขโมยคนนี้ได้อย่างรวดเร็ว คลิปรายงานข่าวในวันที่ 14 มิถุนายน 2018 โจรหนุ่มบอกว่าตนเองรู้สึกละอายใจและเสียใจกับการที่ขโมยกล้องมาอย่างนั้น เขาเพียงต้องการจะนำมันมาถ่ายกิจกรรมต่างๆ ของลูกน้อย แต่ก็ไม่รู้เลยว่าภาพทั้งหมดถูกส่งกลับไปให้ตัวเจ้าของกล้อง เป็นความผิดพลาดเล็กๆ ที่ทำให้เห็นว่าถ้าใครอยากจะเป็นโจร คงต้องรู้จักการใช้เทคโนโลยีสักนิดนึง แต่ทางที่ดีอย่าไปขโมยของๆ ใครเลยจะดีกว่านะ ที่มา: shanghai
-
หนุ่มเซอร์ไพรซ์คุณแม่ ด้วยรถรุ่นเดียวกับที่เธอขายไปเมื่อ 12 ปีก่อน เพื่อช่วยเขา
เหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของ Lynette Rothero หญิงวัย 63 ปี หลังจากที่ลูกชายของเธอ มอบของขวัญสุดเซอร์ไพรซ์ เป็นรถยนต์คันโปรดที่รุ่นเดียวกับที่เธอขายไปเมื่อ 12 ปีก่อนเพื่อช่วยสนับสนุนอาชีพนักดนตรีของเขา คุณแม่วัย 63 ปีขายรถ Ford StreetKa ออกไปเมื่อปี 2004 เพื่อซื้อรถตู้คันหนึ่งให้กับ Ross Rothero-Bourge ลูกชายของเธอ Lynette เห็นลูกชายของเธอ ต้องเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับกลองชุดของเขาด้วยรถแวนคันเก่า เธอจึงคิดว่าลูกชายของเธอน่าจะมีรถตู้สักคันเอาไว้สำหรับขน นั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจขายรถที่มีอยู่เพื่อลูกชายของเธอ แต่ไม่นานมานี้ รถรุ่นเดียวกันและสีเดียวกันกับที่เธอขายไปเมื่อ 12 ปีก่อน กลับมาจอดอยู่ตรงหน้าบ้านของเธออย่างไม่น่าเชื่อ “ผมต้องเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตทั่วประเทศ และรถคันเก่าของผมก็มีปัญหามาก ดังนั้นผมจึงอยากได้รถตู้สักคัน แม่ของผมเป็นห่วงเธอจึงขายรถที่เธอซื้อมาด้วยตัวเองเพื่อผม และหลังจากที่เธอขายรถไปเธอต้องใช้รถกับคุณตาของผม ดังนั้นผมจึงตั้งใจไว้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องซื้อมันคืนมาให้เธอให้ได้” Bourge ให้สัมภาษณ์ และหลังจากที่ทำงานอย่างหนัก ในที่สุดความฝันของชายหนุ่มก็เป็นจริง เมื่อเขาสามารถรวบรวมเงินได้และเจอรถคันดังกล่าวในอินเตอร์เน็ต “ฉันรู้สึกดีมากๆ ฉันไม่คิดว่าจะได้เห็นรถคันนี้อีกแน่ๆ ฉันคิดว่าฉันมีลูกชายที่ดีที่สุดในโลกเลย” Lynette ให้สัมภาษณ์ และนี่คือวินาทีที่ Lynette ได้พบกับรถในฝันของเธออีกครั้ง ที่มา ladbible, dailymail
-
ชายผู้รอดจากการกวาดล้างในกัมพูชา กลับถูกโจรยิงเจ็บสาหัส ด้วยปืนชนิดเดียวกันในต่างแดน..
นี่คือเรื่องราวอันน่าเศร้าของ Mike Poeng ชายวัย 50 ปี หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากการกวาดล้างของเขมรแดงในประเทศกัมพูชาเมื่อครั้งอดีต แต่ทว่าเขากลับต้องมาถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันกับที่ตัวเองเคยเจอ… เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังล้างรถอยู่หน้าร้าน KCJ ร้านขายเบียร์ของตัวเอง ทางตะวันตกของเมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา Mike ชายผู้เคราะห์ร้าย ระหว่างนั้น จู่ๆ ก็มีชายผิวดำวัย 20 ปีกว่าๆ เดินเข้ามาพร้อมกับปืน AK-47 พยายามขู่ให้ชายผู้เคราะห์ร้ายกลับเข้าไปในร้าน ต้องการที่จะปล้นเอาของมีค่าไป Mike พยายามขัดขืนชายคนดังกล่าว เขาใช้สายยางฟาดใส่เพื่อป้องกันตัวเอง จนทำให้คนร้ายตัดสินใจยิงเขาในที่สุด แต่โชคยังดีที่เขารอดชีวิตมาได้ ถึงอย่างนั้นก็ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสจากลูกตะกั่ว John Walker เจ้าหน้าที่ตำรวจภายในเมือง สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น และตอนนี้ตำรวจทุกคนก็พยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อเร่งชี้ตัวและจับกุมมาดำเนินคดี คลิปจากกล้องวงจรปิด ช่วงเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง วันที่ 5 พฤษภาคม 2018 เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจให้กับทุกคนอย่างมาก โดยเฉพาะกับคนในครอบครัวของ Mike เพราะพวกเขาทราบดีว่าปืน AK-47 นั้น คือปืนชนิดเดียวกันกับที่พวกเขาต้องเคยเจอเมื่อครั้งอดีต Thai พี่ชายของ…
-
เปิดตัวผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าแรปเปอร์ชื่อดัง XXXTentacion ตำรวจกล่าว เป็นหนุ่มฟลอริด้าวัย 22
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ชายสวมหน้ากาก 2 คนยิง นาย Jahseh Onfroy หรือที่รู้จักกันในนาม XXXTentacion ถึงแก่ความตาย กลายเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญของวงการเพลงแรปไป (สามารถอ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เอง เมื่อวันพุธที่ 20 มิถุนายน 2018 ทางตำรวจจึงได้ทำการเข้าจับกุมนาย Dedrick Williams ชายหนุ่มวัย 22 ปีผู้อาศัยอยู่ที่หาดพอมพาโนในรัฐฟลอริด้าในข้อหาลงมือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน Dedrick Williams ผู้ต้องสงสัยของคดีในครั้งนี้ ในปัจจุบันนี้ทางตำรวจยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของการจับกุม หรือหลักฐานที่นำมาสู่การจับกลุ่มในครั้งนี้ออกมา อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่านอกจากข้อหาฆาตกรรมแล้ว ในเบื้องต้นนาย Williams ยังถูกตั้งข้อหาโจรกรรมรถยนต์ และข้อหาขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่อีกด้วย ภาพสถานที่เกิดเหตุ ไม่นานหลังจากที่ XXXTentacion ถูกยิง ข้อหาทั้งสองข้อหานี้ ถูกเพิ่มมาเนื่องจากนาย Williams กำลังอยู่ในระหว่างการคุมประพฤติจากคดีโจรกรรมรถยนต์ก่อนหน้า โดยจากข้อมูลของทางตำรวจ การคุมประพฤติที่ว่านี้เดิมทีแล้วมีกำหนดการที่จะจบลงในปี 2021 Williams ถูกศาลสั่งควมคุมตัวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา และจะต้องขึ้นศาลอีกครั้งเพื่อรับการพิจารณาโทษการกระทําผิดซ้ำต่อไป ส่วนผู้ต้องหาอีกรายของคดีนั้น…
-
Melania Trump ใส่ชุด “ฉันไม่ได้สนใจหรอกนะ” ขณะขึ้นเครื่องไปเยี่ยมเด็กๆ ที่ถูกกักกัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าในขณะนี้ Donald Trump กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับนโยบายปิดกั้นการข้ามพรมแดน ที่จะมีการจับกุมผู้ใหญ่ที่พยายามข้ามพรมแดนในข้อหาเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย จนทำให้มีเด็กๆ จำนวนกว่า 2,000 คนที่ต้องแยกจากพ่อแม่ของตัวเองไปอยู่ในสถานกักกันอีกแห่ง สภาพความเป็นอยู่ของเด็กๆ เดิมทีนี่ก็ไม่ใช่เหตุการณ์ที่ดีต่อชื่อเสียงเท่าไหร่อยู่แล้ว แต่แล้วเมื่อในวันที่ 21 มิถุนายน 2018 กลับมีภาพของ Melania Trump ภรรยาของนาย Donald Trump สวมชุดแจ็คเก็ตที่มีข้อความว่า “I really don’t care do u?” (ฉันก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ คุณล่ะ?) ขณะขึ้นเครื่องไปเยี่ยมเด็กๆ ที่สถานกักกัน เสื้อแจ็คเก็ตตัวนี้ผลิตโดยบริษัทสัญชาติสเปน Zara และมีราคาอยู่ที่ 39 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 1280 (1,280) บาท) ภาพที่ว่านี้ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจอย่างหนักในโลกออนไลน์ โดยมีผู้คนจำนวนมากออกมาบอกว่า นี่มันไม่ต่างอะไรกับการบอกว่า ภรรยาของผู้นำประเทศนั้น “ไม่ได้สนใจ” เด็กๆ เหล่านั้นสักนิด บางก็ว่า การกระทำของเธอมันจงใจชัดๆ “จะบอกอะไรให้นะ คนแบบ Melania Trump ไม่บังเอิญเลือกใส่แจ็คเก็ตราคาหลักพัน…
-
โด่งดังในทันที…หลังชายหนุ่มดันพูดเรื่อง “การดื่มน้ำร้อน” ตอนกล่าวสุนทรพจน์ วันจบการศึกษา?!
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนคงต้องเคยมีโอกาสได้ฟังหรือได้ขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ในวันจบการศึกษากันมาบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเรื่องของแรงบันดาลใจ สังคม หรือเป้าหมายชีวิตในวันข้างหน้า แต่สำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ในมหาวิทยาลัย Shanghai’s East China Normal กลับต่างออกไป เมื่อตัวแทนบัณฑิตดันขึ้นไปพูดเกี่ยวกับ “การดื่มน้ำร้อน” ให้ทุกคนฟังซะอย่างนั้น?! เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2018 บัณฑิตหนุ่มชาวอิตาลีที่ชื่อว่า Carlo ได้ขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ในวันจบการศึกษา หลังจากได้ใช้เวลาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยที่ประเทศจีนมานานถึง 4 ปี สิ่งที่เขาพูดนั้นมีความแตกต่างไปจากเรื่องที่เรามักจะได้ยินจากการกล่าวสุนทรพจน์ เพราะเขาได้หยิบเอาเรื่อง “การดื่มน้ำร้อน” หนึ่งในวัฒนธรรมที่สำคัญของชาวจีนขึ้นมาพูด บัณฑิตหนุ่มนามว่า Carlo เขาเล่าว่าตนเองได้ใช้ชีวิตอยู่ที่หอพักกับเพื่อนรูมเมทชาวจีน โดยเมื่อไหร่ที่เขารู้สึกไม่ค่อยสบาย เพื่อนร่วมห้องของเขาก็จะแนะนำให้ดื่มน้ำร้อนอยู่เสมอ Carlo บอกว่า ”ทำอย่างไรเมื่อเป็นไข้? ดื่มน้ำร้อน!! หากมีอาการปวดท้อง? ดื่มน้ำร้อน!! หรือถ้ามีความเครียดมากจนเกินไป? เพื่อนก็จะบอกให้ดื่มน้ำร้อน!!” และเพราะอย่างนั้น มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถสรุปได้ว่าน้ำร้อนในประเทศจีนเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็สามารถเยียวยาได้หมด คลิปการกล่าวสุนทรพจน์ของเขา ฟังดูคล้ายๆ บ้านเราที่มักจะบอกกันว่า…
-
สาวได้เงินทดแทนกว่า 65 ล้านบาท หลังแพทย์ระบุไม่ได้ว่า ทำไมเธอ “ถึงจุดสุดยอด” ไม่ได้
เมื่อเรารู้สึกว่าไม่สบาย มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของตัวเอง ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้พวกเขาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น Ginny Atchison คุณแม่วัย 45 ปี จากเมือง Norfolk ประเทศอังกฤษ เป็นหนึ่งคนที่เลือกจะไปพบแพทย์ แต่พวกเขากลับอธิบายไม่ได้ว่าเธอป่วยเป็นอะไร และหลังจากนั้นเธอก็ต้องสูญเสียความสามารถในการ “ถึงจุดสุดยอด” Ginny คุณแม่ลูกหนึ่งผู้มีอาการป่วยดังกล่าว อาการเจ็บป่วยของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2008 หลังจากที่เธอพบว่าตัวเองรู้สึกปวดหลังช่วงล่างอย่างไม่ทราบสาเหตุ โดยในตอนแรกนั้นเธอคิดว่าเป็นแค่พวกกล้ามเนื้อยึดทั่วๆ ไป หลังจากผ่านไป 2 ปี อาการเจ็บดังกล่าวก็รุนแรงจนเธอทนไม่ไหว บวกกับมีอาการเหน็บชาเหมือนไฟดูดบริเวณขาทั้งสองข้าง Ginny จึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย Norfolk and Norwich ในครั้งแรก แพทย์ไม่ได้ส่งตัวเธอไปเอ็กซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) แต่ก็บอกกับเธอว่าสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นผลมาจากการที่กระดูกอ่อนบริเวณไขสันหลังมีการเคลื่อนตัว ช่วงเวลานับปีหลังจากนั้น เธอจึงต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเจ็บปวด ถูกส่งตัวไปทำกายภาพบำบัดโดยที่ไม่มีใครบอกได้อย่างแน่ชัดว่า สรุปแล้วเธอป่วยเป็นอะไรกันแน่ จนกระทั่งเดือนสิงหาคม 2011 เธอเล่าว่า “วันนั้นฉันกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก แล้วจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่าฉันต้องไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งฉันใช้เวลาอยู่ในนั้นนานมากๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน” “ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ว่าจะพยายามมากขนาดไหน ฉันกลับไม่สามารถปัสสาวะออกมาได้”…
-
ชาวประชาพร้อมใจเฮลั่น เอาใจช่วย ‘คู่รัก’ จัดท่ายากกันในอพาร์ตเมนต์ ตอนจบหักมุมซะงั้น!?
เมื่อวันที่ 20 เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเว็บไซต์ Shanghaiist รายงานว่ามีประชาชนชาวฮ่องกงในเขต Sheung Wan หลายสิบคนยืนรวมตัวกัน พวกเขาไม่ได้มาประท้วงนาฬิการัฐบาลแต่อย่างใด… พวกเขามาเพื่อเอาใจช่วยคู่รักที่กำลังบรรเลงเพลงรักโจ๊ะพรึมๆ กันอย่างออกรสออกชาติในอพาร์ตเมนต์ส่วนตัวของพวกเขา โดยที่ไม่ปิดผ้าม่านและเปิดไฟสว่างจ้าจนเห็นหมดทุกรูขุมขน เพราะท่าประกอบจังหวะของคู่รักนั้นไม่ธรรมดา มีการชูสองขาชี้ฟ้าซะด้วย!! หลายๆ คนเดินผ่านมาแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย อาจจะเป็นเพราะว่าลืม ไม่รู้ตัว หรือตั้งใจ เลยทำให้หน้าต่างมันเปิดโล่งโจ้งซะอย่างนั้น!? พอเสร็จกิจแล้วประชาชนถึงกับร้องเสียดายไปตามๆ กัน… แต่ตอนจบของคลิปขอบอกเลยว่ามีเงิบ รอฟังเสียงเฮดังๆ ของชาวประชา หลังจากเห็นฉากจบสิ!! คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ต่อไปในโซเชียลมีเดียและมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่คลิปดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจมากมาย ทางด้านทนายความท้องถิ่นก็ได้ออกมาให้ความเห็นกับเรื่องนี้ว่า “การกระทำของคู่รักอาจจะเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมาย ฐานกระทำอนาจารในที่สาธารณะ มีโทษปรับ 4,200 บาท และจำคุก 6 เดือน” ทางด้านผู้รายงานข่าวก็ได้ไปเยี่ยมเยียนห้องอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวในวันต่อมา แต่ปรากฏว่าพบเพียงแต่ห้องที่ปิดไฟมืดสนิทเท่านั้น ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อยู่… ที่มา : shanghaiist
-
บาทหลวงทำพิธีศีลจุ่มแต่เด็กไม่หยุดร้องไห้สักที เลยหวดเข้าไปเต็มหน้า งานนี้ดังไปทั่วโลก!!
สำหรับเด็กๆ แรกเกิดแล้ว ก็มักจะมีพิธีทางศาสนาต่างๆ มากมายเพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต แต่ว่ามีเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเด็กสักเท่าไหร่นัก เพราะว่าตัวเด็กดันถูกตบหน้าจากบาทหลวงที่กำลังทำพิธีให้ เนื่องจากหัวเสียที่เด็กไม่หยุดร้องไห้สักที!! โดยเรื่องราวที่ว่านี้ได้รับการเปิดเผยในวันที่ 21 มิถุนายนจากวิดีโอคลิปที่มีคนถ่ายเอาไว้ในโบสถ์แห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นั้นคือ บาทหลวงที่ปรากฏในคลิปกำลังทำพิธีศีลจุ่ม พิธีกรรมทางศาสนาคริสต์เพื่อเป็นมงคลชีวิตให้แก่เด็กคนหนึ่งที่พ่อแม่อุ้มเข้ามาจะให้ทำพิธีให้ คลิปวิดีโอที่กลายเป็นกระแสดังในตอนนี้ ภาพจากวิดีโอได้แสดงให้เห็นว่าผู้เป็นแม่ได้อุ้มลูกน้อยคนนี้เอาไว้ในอ้อมกอดระหว่างที่กำลังทำพิธีศีลจุ่มกันอยู่ โดยมีบาทหลวงสวมชุดสีขาวเป็นตัวแทนของพระเจ้าในการประกอบพิธีครั้งนี้ หลวงพ่อขณะกำลังกล่อมเด็กให้เงียบ แต่ว่าเหตุการณ์กลับไม่ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น เพราะเด็กคนนี้เกิดร้องไห้ขึ้นมาอย่างที่ไม่มีใครคาดเอาไว้ และเสียงร้องไห้ที่ดังลั่นนี้เองที่ได้สร้างความรำคาญใจให้แก่บาทหลวงจนเกิดอารมณ์เกรี้ยวกราดขึ้นมา จากนั้นบาทหลวงคนดังกล่าวก็เริ่มใช้เสียงที่ดังขึ้นเพื่อที่จะให้เด็กเงียบลง ซึ่งก็ไม่ได้ผลแต่อย่างใด ต่อมาเขาก็เริ่มใช้มือบีบเข้าที่ใบหน้าของเด็กเพื่อให้ฟังสิ่งที่เขากำลังพูดอยู่ แต่ก็เหมือนเดิมนั่นคือยังไม่สามารถทำให้เด็กหยุดร้องไห้ได้ บอกให้เงียบยังไงล่ะ “ใจเย็นนะหนูน้อย ใจเย็นๆ หนูต้องสงบสติเอาไว้ก่อนนะ” บาทหลวงกล่าวกับหนูน้อย ทว่าในท้ายที่สุดความอดทนของบาทหลวงก็หมดลง เขาจับหน้าของเด็กคนนี้เอาไว้และใช้สายตาจ้องมองก่อนที่จะเงื้อมือซ้ายตบเข้าไปที่หน้าของเด็กเต็มๆ จนเด็กรู้สึกเจ็บแล้วร้องไห้หนักกว่าเดิมซะอีก ทางพ่อแม่ของหนูน้อยคนนี้พยายามดึงตัวเด็กกลับมา หลังจากหลวงพ่อลงมือตบหน้า จนในที่สุดก็มีผู้หญิงคนหนึ่งแยกบาทหลวงกับเด็กออกจากกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดไปมากกว่านี้… เหตุการณ์ทั้งหมดยังคงเป็นที่คลุมเครือว่าเป็นอย่างไรต่อไป บาทหลวงคนดังกล่าวถูกลงโทษใดๆ หรือไม่ แต่สิ่งที่เขาทำก็ได้ประจักษ์ต่อสายตาของชาวเน็ตทั้งโลกแล้วว่ามันไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเด็กก็ยังอยู่ในวัยไร้เดียงสาและเสียงที่ร้องออกมาก็อาจร้องออกมาตามประสาเด็กเล็กๆ ทั่วไปนั่นเอง เป็นพรที่เจ็บแสบสำหรับหนูเลย… ที่มา: dailymail,…
-
สาวโชว์ดื่มฉี่สุนัขแบบสดๆ เหตุเชื่อว่าฉี่ของสุนัขจะช่วยรักษาสิวได้
สำหรับผู้หญิงแล้วเรื่องของความงามเป็นสิ่งที่ยอมกันไม่ได้ ผู้หญิงแต่ละคนก็จะหาวิธีการที่จะทำให้ตัวเองสวยแตกต่างกัน ถึงแม้ว่าจะต้องเสียเงินหรือเจ็บตัวมากเท่าไหร่ก็ยอม เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อของหญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้น อย่าไปลองทำตามกันอย่างเด็ดขาด หญิงสาวชื่อว่า Lynn Lew เธอมีความเชื่อว่า ถ้าหากดื่มปัสสาวะของสุนัข จะสามารถช่วยรักษาสิว ทำให้หน้าใสกิ๊ง โดยเธอไม่ได้แค่บอกว่ามันดีแค่ไหน แต่เธอได้พิสูจน์ให้เห็นด้วยการสาธิตการดื่มปัสสาวะสุนัขแบบสดๆ เธอถ่ายคลิปวิดีโอขณะที่จูงสุนัขของเธอไปที่สวนแห่งหนึ่ง พร้อมนำแก้วพลาสติกหนึ่งใบเข้าไปตวงฉี่ของสุนัขในปริมาณ 3/4 แก้ว แล้วเธอก็ดื่มมันเข้าไปเหมือนกับว่ามันคือน้ำเปล่า เธอยืนยันว่าฉี่ของสุนัขจะช่วยในการรักษาปัญหาสิวของเธอ และเธอยังบอกไว้อีกว่า “ฉันดื่มฉี่หมาครั้งแรก ตอนนั้นฉันรู้สึกหดหู่ ฉันรู้สึกเศร้า และฉันก็เป็นสิว ฉี่หมามีวิตามิน A วิตามิน E แคลเซียม อีกทั้งยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย” เธอได้แชร์วิดีโอนี้ลงบนเฟซบุ๊กของเธอเอง พร้อมแคปชั่นว่า “บริษัทยาเก็บความลับนี้ไว้ไม่เผยแพร่ให้กับใคร พวกเขาต้องการให้จ่ายค่ารักษาและค่ายาแพงๆ นี่คือความลับที่จะช่วยในการรักษาโรคมะเร็ง บรรเทาอาการปวด และป้องกันการบวม ถ้าคุณไม่มีหมาเป็นของตัวเอง ก็แค่ลองขโมยหมาของเพื่อนบ้านมา” นอกจากนี้ Joy McCarthy นักโภชนาการจากสหรัฐอเมริกาได้พูดถึงการดื่มปัสสาวะเอาไว้ว่า “การดื่มปัสสาวะของสุนัขหรือมนุษย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อของการดื่มปัสสาวะเพื่อบำบัดมีมานานกว่า 100 ปีแล้วในอารยธรรมอียิปต์ กรีซ และโรม…
-
Marvel เล่นอิหยัง!? เอาฮีโร่มา “รวมร่าง” เตรียมเปิดตัวคอมมิกสั้น Infinity Warps!!
จักรวาลคอมมิกจากค่าย Marvel นั้นต้องยอมรับจริงๆ เลยว่ามีตัวละคร “เยอะมว๊ากกก” จนจำแทบไม่หมด แถมเนื้อเรื่องทั้ง Timeline หลักและเสริม จักรวาลนู้นจักรวาลนี้ โอ้โห บอกเลยว่าชวนสับสนสุดๆ แต่ถ้าเจอข่าวคราวในวันนี้เข้าไปล่ะก็ รับรองเลยว่ามันจะชวนสับสนเสียยิ่งกว่า เพราะว่าหลังจากมีการเกริ่นๆ เนื้อเรื่องใหม่บนทวิตเตอร์ในแฮชแท็ก #WhoGetsWarped ก็มีภาพที่ ตัวละครทั้งหลายมารวมร่างกัน มั่วซั่วไปหมดออกมาให้ชาวเน็ตได้งุนงง Humberto Ramos ศิลปินนักวาดของค่าย Marvel พร้อมกับคนอื่นๆ ก็ทำมันออกมาจริงๆ โดยการเปิดตัวมินิซีรีส์สั้นๆ ที่เป็นภาคแยกชื่อว่า Infinity Warps (แยกจาก Infinity Wars นะจ๊ะ) เป็นเรื่องราวที่ตัวละครต่างๆ ที่ถูกวาร์ปไปนั้นต้องมารวมร่างผสานกันแบบงงๆ ซึ่งเนื้อเรื่องในมินิซีรีส์นี้ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อต้อนรับตอนใหม่ของ Infinity Wars เล่มหลักที่กำลังจะปล่อยออกมานั่นเอง ปก Infinity Warps #1 (Iron Hammer) ปก Infinity Warps #2 (Soldier Supreme) ตัวละครที่จะเปิดตัวออกมาในมินิซีรีส์ชุดนี้จะมีตัวไหนบ้างนั้น ทางผู้วาดก็ได้วาดออกมาให้เห็นกันเป็นน้ำจิ้มๆ บ้างแล้วล่ะ…
-
ลิ้นจี่ล้นตลาดชาวสวนเลยเอามาเทกลางถนนแล้วเหยียบซ้ำ ตอกย้ำความช้ำให้สุดไปเลย!!
สำหรับชาวเกษตรกรแล้วการปลูกพืชชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็อาจจะอยากเห็นมันคืนกำไรให้กับเม็ดเหงื่อที่ลงทุนลงแรงไปบ้าง แต่ว่าพอถึงเวลาแล้วมันกลับไม่เป็นที่ต้องการของตลาด เพราะมีเยอะมากเกินไป อย่างนี้ก็เป็นเรื่องที่เคยมีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ และนี่คืออีกหนึ่งกรณีที่ทำให้เกษตรกรน้ำตาตกใน เมื่อลิ้นจี่ที่พวกเขาปลูกมันมีราคาที่ต่ำเตี่ยเรี่ยดิน พวกเขาเลยทำการเอามาเททิ้งบนถนนแล้วใช้เท้าเหยียบทับให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย!! คลิปวิดีโอที่ชาวสวนเหยียบลิ้นจี่ โดยเรื่องราวที่ว่านี้เกิดขึ้นกับชาวสวนลิ้นจี่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน ที่ในหน้าร้อนปีนี้ผลไม้อุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ จนทำให้ผลผลิตออกมาล้นตลาดและไม่มีที่รองรับต้องปล่อยให้เน่าเสียไปบ้างตามยถากรรรม นอกจากนี้ชาวสวนยังบอกอีกด้วยว่า บางทีเอาไปขายเพียงกิโลกรัมละ 1 หยวน (ประมาณ 5 บาท) ยังขายไม่ค่อยจะออก ส่วนในเรื่องการเจรจากับผู้รับซื้อก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จนทำให้ในตอนนี้เม็ดเงินที่พวกเขาลงทุนไปก็จมอยู่ในผลลิ้นจี่ซะเป็นส่วนใหญ่ ทว่าก็มีชาวเน็ตของประเทศจีนออกมาแสดงความคิดเห็นหลังจากได้เห็นคลิปดังกล่าวว่า ถึงชาวสวนจะบอกว่ามีราคาต่ำขนาดไหน แต่ราคาลิ้นจี่ในเมืองก็ยังคงมีราคาอยู่ที่ประมาณ 8 – 10 หยวน (ประมาณ 40 – 50 บาท) ต่อครึ่งกิโลกรัมในขณะนี้ สำหรับในปัญหานี้ก็มีหลายคนมองว่าควรจะพัฒนาอุตสาหกรรมการแปรรูปให้ดีและมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่และอาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต เพราะหากการแปรรูปมีประสิทธิภาพที่มากพอก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องสภาวะล้นตลาดเฉกเช่นนี้อีกนั่นเอง ที่มา: China Xinhua News
-
ลูกชายถูกศาลสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อกับ ‘พ่อแม่ของตัวเอง’ 5 ปี เพราะตื๊อขอเงินมากไป
สำหรับคนเป็นลูกการโทรไปขอเงินพ่อแม่ถือเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะไม่ว่าอย่างไรท่านก็จะยินดีให้ความช่วยเหลือกับเราอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับคุณพ่อคุณแม่สองท่านนี้ ที่ลูกชายวัย 24 ปี ขอเงินใช้อยู่นั่นแหละ ทั้งๆ ที่อายุปาเข้าไป 24 ปีแล้ว ก็เลยไปฟ้องศาลและสุดท้ายศาลก็ตัดสินให้ลูกชายห้ามติดต่อพวกเขาเป็นเวลานานถึง 5 ปี!! และล่าสุดจากรายงานของเว็บไซต์ Mirror ระบุว่านาย Matthew Kerley ถูกศาลตัดสินจำคุกจากการสร้างความก่อกวนให้แก่ผู้อื่น เมื่อปีที่ผ่านมาคุณพ่อของ Matthew คุณ Paul วัย 60 ปี ได้รับการช่วยเหลือและคำแนะนำจากองค์กร Crown Prosecution Service หลังจากที่ลูกชายของตนตามตื๊อขอเงินจนทำให้เขาและภรรยา คุณ Coreen วัย 51 ปี ต้องตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า และต้องจมอยู่กับความเครียด ทำให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจไปฟ้องร้องต่อศาลในเมือง Southampton ทำให้ลูกชายถูกตัดสินห้ามไม่ให้ติดต่อกันอีกเป็นเวลา 5 ปี แต่แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้นอีกเมื่อเดือนที่ผ่านมานาย Matthew ได้โทรหาพ่อแม่เพื่อขอเงินอีกครั้ง!! จากข้อมูลคำให้การของฝ่ายอัยการระบุว่า “เขา (Matthew) บอกพ่อแม่ของเขาว่ากำลังจะไปสัมภาษณ์งานและต้องโกนหนวด แต่บังเอิญว่าที่โกนหนวดมันพังเสียก่อน เลยโทรไปขอเงินพ่อแม่”…
-
บทเรียนราคาแพง?! ร้านหม้อไฟชื่อดังถึงกับเจ๊ง หลังปล่อยโปรโมชั่นทานบุฟเฟ่ต์ได้แค่ 11 วัน
การทำธุรกิจอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กๆ หรือธุรกิจที่ใหญ่คับฟ้า เราต้องพยายามก่อข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าบางทีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ นี้อาจจะส่งผลเสียระยะยาวต่อองค์กรของเราหรืออาจทำให้เจ๊งไปเลยก็เป็นได้.. และร้านอาหารแห่งนี้ก็เป็นอุทาหรณ์สอนใจเราในการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี ว่าควรจะรอบคอบขนาดไหน เพราะว่าร้านอาหารแห่งนี้ต้องเป็นหนี้ธนาคารมหาศาลจนแทบล้มละลาย หลังจากเปลี่ยนโปรโมชั่นเรียกแขกแล้วเกิดมีช่องโหว่ขึ้น!! โดยนี่เป็นเรื่องของร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ชื่อว่า Jiamen’er ร้านอาหารแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะร้านหม้อไฟอันเผ็ดร้อน และในวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางร้านแห่งนี้ก็จะได้ออกโปรโมชั่นใหม่เสนอให้แก่ทางลูกค้า เมื่อพวกเขาได้ทำระบบสมาชิกขึ้นมา โดยมีค่าเป็นสมาชิกอยู่ที่ 120 หยวน (ประมาณ 610 บาท) ต่อเดือน ซึ่งด้วยราคานี้จะทำให้สมาชิกสามารถกินแบบบุฟเฟ่ต์ได้มากเท่าที่ต้องการ ทว่าอันที่จริงแล้วโปรโมชั่นนี้ได้ออกมาเพื่อมีเป้าหมายเป็นการกอบกู้ร้านอาหารให้พ้นจากวิกฤติ เนื่องจากมียอดขายตกต่ำเป็นอย่างมากตั้งแต่เปิดให้บริการในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา จากคำบอกเล่าของ Su Zhe หุ้นส่วนร้านอาหารแห่งนี้ ซึ่งในตอนแรกที่มีโปรโมชั่นนี้ออกมาก็มีผู้คนสนใจเข้ามาใช้บริการอย่างมากมาย โดยบางครั้งก็มีคนเข้ามากินอาหารถึงมากกว่า 500 คนต่อวันเลยทีเดียว แต่ก็ปรากฏว่านอกจากความยากลำบากในการบริการลูกค้าแล้ว ทางลูกค้าเองก็ยังพบช่องโหว่จากบัตรสมาชิกของร้านแห่งนี้ ซึ่งต่อมาภายหลังมันได้กลายเป็นหายนะสำหรับร้านไปเลย เพราะว่าบัตรสมาชิกของร้านอาหารดังกล่าว ไม่มีการติดรูปถ่ายหรือสิ่งใดเพื่อเป็นการยืนยันตนได้เลย ดังนั้นแล้วนอกจากสมาชิกบางคนจะอยู่ภายในร้านทั้งวันเพราะไม่มีการจำกัดเวลา ยังมีสมาชิกบางคนที่เอาบัตรสมาชิกของตนให้แก่คนอื่นๆ ยืม เพื่อหมุนเวียนไปกินอาหารที่ร้านนี้แบบฟรีๆ ด้วย …
-
เด็กชายแบเบาะวัย 1 ขวบ หนังหุ้มปลาย ‘จู๋’ ขาด เพราะหกล้มไปติดร่องบันไดเลื่อน!!
วันเด็กแบเบาะเป็นวัยที่ไร้เดียงสา และยังเต็มไปด้วยความซนจนพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนต้องปวดหัว แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราก็ควรจะจับตาดูเด็กๆ เหล่านี้เอาไว้เป็นอย่างดี เพราะว่าพวกเขายังไม่รู้ถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเองได้ เหมือนกับกรณีนี้ที่มีเด็กคนหนึ่งที่หนังหุ้มปลายจู๋ขาด เพราะมันไปติดเข้ากับบันไดเลื่อน!! โดยเรื่องราวของเด็กแสนซนจนเป็นภัยกับตัวเองนี้ เกิดขึ้นในวันที่ 24 พฤษภาคม ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน เมื่อมีเด็กชายวัย 1 ขวบคนหนึ่งชื่อเล่นว่า Kunkun ได้ไปเดินเล่นกับคุณปู่ที่ห้างแห่งนี้ ทว่าในระหว่างที่เดินเล่นกันอยู่นั้นเอง ก็มีอยู่จังหวะหนึ่งที่เด็กน้อยคนนี้เกิดหลุดออกจากมือของคุณปู่ที่จับอยู่ แล้ววิ่งไปที่บันไดเลื่อนใกล้ๆ และด้วยความโชคร้ายก็ทำให้หนูน้อย Kunkun สะดุดลงอย่างกะทันหัน การหกล้มครั้งนี้ก็คงเป็นการหกล้มธรรมดาๆ ตามประสาเด็ก แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเอาไว้ก็เกิดขึ้นเพราะว่าอวัยวะเพศของหนูน้อยคนนี้มันดันไปติดเข้ากับร่องของบันไดเลื่อน และที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าหนูน้อยคนนี้สวมชุดแบบเปิด (Open-Crotch Pants) ตอนที่ออกมาจากบ้านนั่นเอง กางเกงแบบเปิด (Open-Crotch Pants) เมื่อคุณปู่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เขาก็รีบกดปุ่มฉุกเฉินเพื่อหยุดบันไดเลื่อนในทันที พร้อมกับได้ร้องเรียกขอความช่วยเหลือจนในที่สุดเด็กชาย Kunkun ก็ได้เข้ารับผ่าตัดที่โรงพยาบาลเด็กอู่ฮั่นอย่างเร่งด่วน การผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตของเด็กชายคนนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และทางนายแพทย์ Wang Jun ก็ออกมาบอกว่าเป็นเพราะการที่สามารถส่งตัวเด็กมาได้ทันเวลา ทำให้อาการบาดเจ็บนี้ไม่ส่งผลต่อการระบบสืบพันธุ์ในอนาคต มีเพียงปลายหนังหุ้มเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บ …
-
เอาจริงดิ!? “ประกวดคว่ำโต๊ะ” ของญี่ปุ่น โครมมม…สนองความหัวร้อนกันแบบสุด!!
เคยเห็นในหนังในละครกันบ้างไหม เวลาที่พวกคนหัวร้อนไม่พอใจอะไรมากๆ เข้าก็มักจะแสดงกิริยาก้าวร้าว เช่น การคว่ำโต๊ะ เป็นต้น ไม่รู้ว่าในโลกแห่งความเป็นจริง ผู้คนเวลาที่ไม่พอใจ ถูกขัดใจ หรือโมโหนั้นมีการกระทำแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า แต่ถ้าใครอยากเห็น ต้องมาดูนี่เลย การประกวดคว่ำโต๊ะ (!!?) ครั้งที่ 12 ของประเทศญี่ปุ่น อะเด๊ะ!!! เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา ณ ห้างสรรพสินค้าย่านยาฮาบะ จังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการจัดการประกวด World Chabudai-Gaeshi Tournament ครั้งที่ 12 ขึ้น งานนี้ผู้แข่งขันจะต้องเข้าไปนั่งแล้วตะโกนแสดงความโมโหโกรธา ความไม่สบายใจ หรือความหวังออกมา พร้อมใช้มืองัดโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าให้คว่ำกระจัดกระจายเสีย (ฟังดูเป็นการประกวดที่เล่นง่ายดีนะ) นี่คือวิดีโอโปรโมตงานประกวดครั้งนี้ วิธีเล่นนั้นแสนง่าย ขณะที่ผู้เข้าแข่งขันกำลังตะโกนความโมโห ความไม่สบายอยู่นั้น หญิงสูงวัยที่มาในชุดแม่ครัวซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ ก็จะเข้ามาแตะตัวเบาๆ แม่ครัวหญิงจะขอให้ผู้แข่งขัน “ใจเย็นๆ” และนั่นคือเวลาที่ ผู้แข่งขันต้องคว่ำโต๊ะ…
-
สามีดูบอลโลกสดๆ ไม่ได้ ‘แม่บ้าน’ เลยส่งข้อความรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การดูบอล’ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นฝ่ายผู้ชายที่มีความเข้าใจเกมและดูได้สนุกสุดมันส์ได้อย่างถึงพริกถึงขิงกว่าบรรดาสาวๆ แต่สำหรับแม่บ้านท่านนี้ที่มีสามีเป็นแฟนบอลทีมชาติอังกฤษตัวยง แต่เนื่องจากว่าสามีเองติดธุระและกำลังรีบกลับมาชมการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดที่ทีมชาติอังกฤษลงสนามพบกับทีมชาติตูนีเซีย แต่กลัวว่าจะพลาดช็อตสำคัญไป ก็เลยฝากให้คุณแม่บ้านที่อยู่ที่บ้านคอยส่งข้อความมารายงานสถานการณ์ให้หน่อย และผลปรากฏว่าเธอส่งข้อความรายงานทุกความเคลื่อนไหวอย่างละเอียดยิบ ถึงกระทั่งมีการบอกว่า “ผ่านไป 34 นาทีแล้ว ทรงผมของทุกคนยังตั้งอยู่ดีไม่มีเปลี่ยนแปลง” เธอนำเรื่องราวนี้ไปโพสต์ลงทวิตเตอร์ lightningstarr พร้อมกับแคปชั่นว่า “แฟนของฉันฝากให้ฉันส่งข้อความอัปเดตสถานการณ์การแข่งขันระหว่างทีมชาติอังกฤษกับทีมชาติตูนีเซีย ขณะที่เขากำลังขับรถกลับบ้าน” และนี่คือข้อความบางช่วงที่เธอรายงานให้กับสามี “ตูนีเซียได้ฟาล์ว และผู้เล่นทีมชาติอังกฤษได้รับใบเหลือง ดูเหมือนว่าคนที่ได้รับใบเหลืองถึงกับหน้าเจื่อนไปเลย” “ตอนนี้นาทีที่ 34 แล้ว แต่ทรงผมของทุกคนยังคงตั้งตรง และดูดีเหมือนตอนเริ่มเกม” “ตูนีเซียยิงประตูได้แล้ว!” “อังกฤษได้ฟรีคิก” “รอบนี้ทีมอังกฤษโดนแตะตัวเบาๆ แต่ล้มอย่างรุนแรง” “อังกฤษพลาดโอกาสสำคัญในการทำประตู” “นักเตะตูนีเซียล้มลงไปนอนกับพื้น” “เหมือนกับว่าเขาจะถูกชนเข้าที่เส้นผม” “ผู้ตัดสินไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย” “นักเตะคนที่ได้รับบาดเจ็บที่เส้นผมดูเหมือนจะไม่ชอบใจเท่าไหร่” แหม่ นอกจากจะพากย์ได้ฮาแล้ว ยังดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจเกมได้เป็นอย่างดีด้วยนะเนี่ย ไม่อยากจะนึกภาพคุณสามีที่กำลังขับรถกลับบ้าน คงจะขำไม่หยุดจนได้กลับมาดูที่บ้านแน่นอน 5555+ ที่มา : ladbible, lightningstarr
-
McDonald’s จับมือ “คาลพิส” ปล่อยเมนู “Calpis Shake” เครื่องดื่มแสนชื่นใจ
เครื่องดื่มโยเกิร์ตรสชาติเยี่ยมอย่าง คาลพิส ที่ใครๆ หลายคนชอบดื่มกัน วันนี้ได้กลายเป็นหนึ่งเมนูของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสุดชิคอย่าง แมคโดนัลด์ ไปแล้ว ร้านแมคโดนัลด์ในประเทศญี่ปุ่นออกเมนูใหม่สำหรับคนที่ต้องการดื่มด่ำกับความสดชื่นในวันร้อนๆ กับเมนูเครื่องดื่ม Calpis Shake นั่นเอง Calpis Shake (คนญี่ปุ่นมักเรียกว่า คาลพิโกะ) ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่าเมนูนี้มีขายที่ญี่ปุ่นเพียงเท่านั้นในขณะนี้ คนไทยที่อยากลิ้มลองก็คงต้องไปเที่ยวญี่ปุ่นกันสักทริปเสียแล้วล่ะ ฮ่าๆ Calpis Shake เป็นเครื่องดื่มโยเกิร์ตที่มีการนำส่วนผสมต่างๆ ไปเข้าเครื่องปั่นสมูตตี้ให้ออกมาเป็นเครื่องดื่มแสนอร่อยชื่นใจ หอมหวาน และเนื้อสัมผัสที่เนียนละเอียด Calpis McShake เวอร์ชั่นปี 2017 เมื่อปีที่แล้ว (2017) เคยมีเมนูนี้ออกมาครั้งหนึ่ง โดยใช้ชื่อว่า Calpis McShake นั่นเอง แต่ว่ากระแสตอบรับจากผู้บริโภคหลายๆ คนบอกว่า “มันหวานเกินไปหน่อย” คราวนี้ทางแมคโดนัลด์จึงรื้อส่วนผสมมาทำใหม่โดยสัญญาว่าจะลดความหวานลงนิดหน่อย และเพิ่มความฝาดๆ แบบโยเกิร์ตเข้าไปให้มากขึ้น รับรองว่าผู้ดื่มต้องสดชื่นตาตื่นกันแน่นอน กลับมาดูที่ Calpis Shake กันอีกครั้งกับภาพเนื้อในของเครื่องดื่ม ด้านในมีสีขาวดูไม่เหลวมากนัก หนึบๆ ละเอียดๆ ซึ่งคาดว่ารสสัมผัสน่าจะค่อนข้างละมุน…
-
ทำไม “โหดสัส” ต้องรัสเซีย คำนี้มีที่มาอย่างไร พร้อมกับ 5 เรื่องราวอันโหดสัสจริงๆ
โหดสัสรัสเซีย!!! คำนี้ได้แต่ใดมา ? หลายคนได้ยินกันจนติดปาก เวลาเจอข่าวรุนแรง หรือเหตุการณ์โหด ๆ มักอุทานออกมาว่า “โหดสัสรัสเซีย!” แต่ความหมายของมันจริงๆ คืออะไร ทำไมรัสเซีย ถึงได้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดสัสหนักหนา เราจะพาไปค้นคำตอบรากเหง้าของคำนี้กัน #โหดสัสรัสเซีย 1: แข่งเกม Point Blank ไทย 4 รุม รัสเซีย 1 แต่ไทยดันตายเรียบ!!!! ต้องเกริ่นกันก่อน จริง ๆ แล้วที่มาของคำว่า “โหดสัสรัสเซีย” เกิดจากการแข่งขันเกมออนไลน์ที่ชื่อ Point Blank ในรายการแข่งขันที่ชื่อ “Point Blank Tri National” ปี 2011 ซึ่งมีประเทศ ไทย รัสเซีย อินโดนีเซีย เข้าร่วมการแข่งขัน ตอนนั้นทีมไทย (MiTH.GC) ดวลกับ ทีมรัสเซีย (Rox.Kis) เหตุมันเกิดมาจากทีม MiTH.GC ของไทยเหลือผู้เล่นอยู่ถึง…
-
ลุงปริศนาราดน้ำมัน “จุดไฟเผา” ร้านอาหาร นักแสดงตลกเกาหลีชื่อดัง เสียชีวิตคาที่…
เคราะห์ร้ายเกิดขึ้นได้อย่างไม่มีใครคาดคิด ใครจะรู้ว่าร้านอาหารที่เราเข้าไปรับประทานมื้อเย็นแสนสุข จะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นได้ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ล่าสุดในเมืองกุนซัน จังหวัดชอลลาเหนือ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2018 ได้เกิดเหตุการณ์วางเพลิงร้านอาหารแห่งหนึ่งจนทำให้มีผู้เสียชีวิต และหนึ่งในนั้นคือ ดาราตลกชื่อดังในเกาหลี คิมแทโฮ (Kim Tae Ho) จากรายงาน คิมแทโฮ (Kim Tae Ho) นักแสดงตลกของประเทศเกาหลีได้เดินทางไปเล่นกีฬากอล์ฟการกุศลในเมืองกุนซัน หลังจากนั้นเขาจึงแวะเข้าร้านอาหารเพื่อดื่มสังสรรค์กับคนรู้จัก แต่ไม่นานก็พบว่ามีชายสูงวัยราว 50 ปี เดินเข้ามายังร้านด้วยอาการโวยวายพร้อมมีปากเสียงกับเจ้าของร้านอย่างหนักเรื่องบิลค่าใช้จ่ายบางอย่างที่ยังตกลงกันไม่ได้ จากเหตุทะเลาะวิวาทครั้งนี้ทำให้ชายสูงวัยคนดังกล่าวเกิดอารมณ์โมโหรุนแรง หยิบน้ำมันราดร้านอาหารและจุดไฟเผา ทำให้ลูกค้าต่างวิ่งหนีกันอลหม่าน คลิปวิดีโอเหตุวางเพลิงร้านอาหารดังกล่าว จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 30 ราย และเสียชีวิตอีก 3 ราย หนึ่งในผู้เสียชีวิตก็คือนักแสดงตลกชื่อคิมแทโฮ ที่ถูกพบร่างหลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุวางเพลิงได้แล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้สร้างความสะเทือนใจให้กับวงการบันเทิงของประเทศเกาหลีเป็นอย่างมาก คิมแทโฮ (Kim Tae Ho) คิมแทโฮนั้นมีชื่อเสียงมากในประเทศเกาหลี…
-
เกรงใจกันนิดนึง…คู่หนุ่มสาวทนไม่ไหว เล่นจ้ำจี้กันบนเครื่องบิน เจ้าหน้าที่เร่งตามตัว
การที่ต้องเดินทางเป็นเวลานานๆ คงจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกเบื่ออย่างแน่นอน หลายๆ คนจึงหากิจกรรมไปทำระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นอ่านหนังสือ ดูหนัง หรือเครื่องเล่นเกมพกพา แต่จะทำอะไรก็ได้ขอเพียงไม่เลยเถิดไปถึงขั้นทำอะไรประเจิดประเจ้ออย่างการมีเซ็กส์เลย… เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่ามีผู้โดยสารสองคนที่พากันไปเล่นจ้ำจี้กันบนเครื่องบินของสายการบิน Silver Airways ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังประเทศเม็กซิโกแบบไม่แคร์สายตาใคร จากภาพเราจะเห็นหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวนั่งคร่อมลงบนตักของผู้ชายที่นั่งอยู่ในแถวหลังสุด และโยกตัวขึ้นลงตลอดเวลา พร้อมกับหายใจอย่างรุนแรง แต่กิจกรรมสุดสัปดนของพวกเขาก็ถูกถ่ายเอาไว้ได้โดยผู้โดยสารสองสามีภรรยาที่นั่งอยู่ด้านหน้าของพวกเขา ก่อนที่พวกเขาจะส่งให้ Kiley Tully ลูกสาวตัวเองดูและโพสต์มันลงในโลกออนไลน์ว่า “แม่และพ่อของฉันพยายามจะเดินทางแบบสงบๆ ไปเม็กซิโก และพวกเขาก็ส่งคลิปนี้มาให้ฉัน” ชมคลิปแบบเต็มๆ ได้ที่ด้านล่าง https://twitter.com/KileyTully/status/1008405393582804993 คลิปนี้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในทวิตเตอร์ และมียอดผู้เข้าชมแล้วเกือบ 6 ล้านครั้ง นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่าทั้งคู่อยู่ในช่วงวัยประมาณ 20 ปี และไม่น่าจะรู้จักกันมาก่อน นาง Misty Stoller ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของสายการบิน Silver Airways กล่าวว่า “เรากำลังพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และกำลังพยายามตรวจสอบความถูกต้องของวิดีโอ รวมถึงข้อมูลเที่ยวบินอย่างถี่ถ้วน” รายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบ…
-
แฟนบอลเซเนกัล-ญี่ปุ่น ฉลองชัยชนะเหมือนกัน ด้วยการ “เก็บขยะ” ในสนามฟุตบอล
เรื่องราวความประทับใจของแฟนบอลทีมชาติเซเนกัล ที่ทำการเก็บทำความสะอาดที่นั่งในสนามแข่ง หลังจากที่เป็นฝ่ายเอาชนะทีมชาติโปแลนด์ไปได้ 2-1 เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 มิถุนายน พ.ศ. 2561) การกระทำดังกล่าวนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากโซเชียลมีเดียมากมาย เพราะแม้จะมีพนักงานที่ทำหน้าที่ในการดูแลความสะอาดของสนาม แต่เหล่าแฟนบอลของทีมชาติเซเนกัล ก็เลือกที่จะเก็บขยะมารวมไว้ที่เดียวกัน การแข่งขันเมื่อคืนนี้ทีมชาติเซเนกัลออกนำก่อน 2 ประตู ก่อนที่จะโดนทีมชาติโปแลนด์เอาคืนได้ 1 ประตูในช่วงท้ายเกม แต่สุดท้ายก็ไล่ไม่ทัน ทำให้ทีมชาติเซเนกัลเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ในที่สุด หลังจากที่เกมจบลง โดยปกติแล้วแฟนบอลจะเดินออกจากสนามเลย แต่แฟนบอลของฝั่งชาติเซเนกัลได้เลือกที่จะอยู่ที่สนามต่อเพื่อเก็บเอาขยะเอามรวมไว้ที่เดียวกัน เป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะที่พวกเขาได้รับมา มีแฟนบอลคนอื่นๆ ทำตาม และแสดงความเคารพต่อสิ่งที่แฟนบอลเซเนกัลทำด้วยเสียงปรบมือ เรื่องราวนี้มีการนำไปแชร์ลงในทวิตเตอร์ PF | World Cup พร้อมกับแคปชั่นวาา “แฟนบอลเซเนกัลทำความสะอาดที่นั่งกองเชียร์ฝั่งของตัวเองหลังจากที่ทีมเอาชนะโปแลนด์ไปได้ เป็นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้” และคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกลา่วก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดไลก์มากถึง 7,600 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 3,300 ครั้งเลยทีเดียว เพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมคลิปเหตุการณ์ได้ที่นี่…
-
อัลบั้มล่าสุดของ Blackpink แต่…มีคนได้ยินเพลง “Forever Young” มาตั้งแต่ปี 2015!!?
ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีสุดเผ็ชที่กำลังโด่งดังอยู่ในบ้านเราตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นวง Blackpink อย่างแน่นอน เพราะเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2016 แต่กลับได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ อย่างถล่มทลาย โดยเฉพาะชาวไทยอย่างเราๆ แล้วยิ่งมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากแต่ละเพลงของวง Blackpink นั้นจะสนุกสนานติดหูแล้ว สมาชิกสุดฮอตคนหนึ่งในวงอย่าง Lisa ยังเป็น คนไทย อีกต่างหาก เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกับวง Blackpink แล้ว ซึ่งล่าสุดก็ได้ปล่อยอัลบั้ม Square Up ออกมาในวันที่ 15 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมานี่เอง ทำเอาแฟนๆ ตื่นเต้นกับความเดือดของเพลงและ MV กันถ้วนหน้า แต่ในขณะที่แฟนๆ กำลังตื่นเต้นกับแต่ละบทเพลงของอัลบั้มใหม่กันอยู่นั้น มีคนบังเอิญไปเห็นอินสตาแกรมหนึ่งเคยได้ยินเพลง “Forever Young” ในอัลบั้มใหม่ล่าสุดนี้มาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่วงจะเปิดตัวอีก!!? ผู้ใช้ชื่อว่า karina_shumaeva ได้โพสต์วิดีโอหนึ่งลงบนอินสตาแกรมตั้งแต่ปี 2015 ภายในวิดีโอเป็นภาพบรรยากาศภายในตึก YG Entertainment ที่มีเสียงท่อนหนึ่งของบทเพลง Forever Young ดังออกมา ลองไปฟังกันดูว่า ใช่เพลง Forever Young…
-
มันคือความน่ารัก!! ขุ่นพ่อให้ลูกสาวออกแบบรอยสัก แล้วไปสักลงบนตัวเขาจริงๆ
การสักนั้นถือเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะลงหมึก อย่างที่เรามักจะเห็นอยู่ตลอดกับรอยสักสุดเฟลต่างๆ หรือรอยสักใบหน้าของแฟนสาว ที่ไปสักตอนเมาๆ และพอตื่นมาก็ต้องมาเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป แต่สำหรับคุณพ่อ Mike Reynolds ท่านนี้ได้ตัดสินใจนำภาพวาดของลูกๆ ไปให้ช่างสักจรดหมึกลงบนร่างกาย แม้ว่ามันจะไม่ได้สวยงามเหมือนกับลวดลายที่ช่างออกแบบให้ก็ตาม!! Mike เป็นคุณพ่อวัย 39 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Ottawa ประเทศแคนาดา เขามีลูกสาวสองคนคือ Charlotte วัย 6 ขวบ และ Leah วัย 8 ขวบ เขาเล่าถึงการมีรอยสักที่เป็นฝีมือภาพวาดของลูกๆ ว่า “ผมรักในรอยสักพวกนี้มาก และผมภูมิใจที่จะเดินออกไปไหนมาไหนพร้อมกับมัน และผมคิดว่าจะสักรอยสักจากฝีมือการวาดภาพของลูกๆ เพิ่มอีก” โชคดีที่ภรรยาของเขา Andrea เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี และเธอเองก็มองว่ารอยสักเหล่านี้ช่างงดงามเหลือเกิน เรื่องทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ลูกสาวคนโต Leah เอาภาพที่เธอวาดที่โรงเรียนกลับมาที่บ้าน และ Mike เองก็ได้เห็นภาพผึ้งที่ลูกสาวเป็นคนวาดเลยปิ๊งไอเดียนำมันไปสักติดที่แขน จากนั้นเขาก็มักจะขอให้ลูกเป็นคนออกแบบลายสักให้เสมอมา จนตอนนี้มีรอยสักที่ออกแบบโดยลูกสาวทั้งสองคนมากกว่า 40 ลายบนตัวของเขาแล้ว!!…
-
ใจมันได้…แม่มือใหม่เพิ่ง ‘คลอดลูก’ ได้ 5 ชั่วโมง รีบไปงานแต่งของน้องสาวกลัวไม่ทัน
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘งานแต่งงาน’ ถือเป็นงานสำคัญอีกงานหนึ่งในชีวิตของสาวๆ เลยทีเดียวล่ะ ไม่ว่าใครต่างก็ต้องการที่จะลองสวมชุดเจ้าสาวแสนสวยสักครั้งหนึ่งในชีวิต แน่นอนว่าเหล่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทั้งหลายต่างก็ต้องอยากมาร่วมงานแสดงความยินดีให้กับเจ้าสาว ยิ่งสนิทกันแค่ไหน ก็คงไม่อยากพลาดโมเมนต์สำคัญที่สุดในชีวิตของเจ้าสาวกันหรอก เช่นเดียวกันกับสาวคนนี้ ที่แม้ว่าตนเองท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว ก็ยังไม่วายจะมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าสาวที่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของตนเองให้ได้ Emily Chell วัย 27 ปี จากเมือง Staffordshire ประเทศอังกฤษ ต้องทำการคลอดก่อนกำหนดประมาณ 3 สัปดาห์ ขณะนั้นเธอกำลังพักอยู่ที่โรงแรม เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันสำคัญที่สุดในชีวิตของน้องสาว Katie Chell แต่ก่อนจะถึงวันงานเริ่ม Emily ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเสียก่อน และให้กำเนิดเด็กชายตัวน้อยที่ชื่อว่า Brody ออกมาเมื่อเวลาประมาณ 7.10 น. เด็กมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงมีน้ำหนักแรกเกิดที่ 3.3 กิโลกรัม แต่แทนที่จะพักรักษาเนื้อรักษาตัวหลังจากเพิ่งทำคลอดมา 5 ชั่วโมงให้หลัง Emily และสามี Wayne Barratt วัย 34 ปี รีบรุดไปยังงานแต่งของน้องสาวที่โบสถ์ซะงั้น!? …
-
คณะละครสัตว์เจอหมีขย้ำคอ หลังทุบตีและบังคับให้มันทำการแสดงมากไป
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอคลิปวิดีโอสุดระทึกของหมีตัวหนึ่งจากคณะละครสัตว์ในประเทศรัสเซีย ที่ตรงเข้าขย้ำผู้ช่วยละครสัตว์รายหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ สาเหตุเนื่องมาจากการความเครียดและการถูกตีซ้ำๆ ตามรายงานบอกว่าการแสดงนี้ถูกจัดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองวอลโกกราด ของประเทศรัสเซีย โดยโชว์ที่ว่านี้จะเป็นการจับเอาหมีมาแสดงบนสเก็ตบอร์ดและใช้โซ่คล้องคอเพื่อลากมันไปมา แต่ในระหว่างการแสดงเจ้าหมีก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งแล้วพุ่งเข้าใส่ผู้ช่วยรายหนึ่งในชุดสีแดง แม้ในระหว่างนั้นนักแสดงหญิงจะพยายามรั้งโซ่ที่คล้งคอของมันไว้ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานพลังของหมีได้ ในที่สุดมันก็เข้าถึงตัวของชายหนุ่มและขย่้ำร่างของเขาต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก ทางทีมงานละครสัตว์จึงต้องช่วยกันตีมันเพื่อให้มันปล่อยผู้ช่วยรายนี้ไป หนึ่งในผู้ชมที่สามารถบันทึกคลิปวิดีโอดังกล่าวไว้ได้เล่าว่าการแสดงที่เห็นนี้เป็นการพยายามบังคับฝืนใจเจ้าหมีสีน้ำตาลตัวนั้น เพราะมันพยายามจะเดินหนีออกจากเวทีเพราะไม่อยากถูกตีซ้ำอีก แต่ครูฝึกก็ยังใช้ไม้ฟาดมันแล้วลากให้กลับมาแสดงต่อไป และด้วยความเจ็บปวดบวกกับความเครียดที่เกิดขึ้น เจ้าหมีจึงพยายามหนีและกระโจนเข้าใส่ผู้ช่วยรายหนึ่งอย่างที่เห็น ด้านนาย Nikolay ผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้นก็ได้กล่าวกับสื่อว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้ากลับเข้าไปดูการแสดงอีก “ละครสัตว์ยังคงอยู่ในหมู่บ้านนะ พวกเขามาจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ตอนนี้ชาวบ้านได้แต่เดินผ่านไปผ่านมาด้วยความกลัว” ที่มา dailymail
-
‘ประธานาธิบดีฝรั่งเศส’ ถูกวัยรุ่นเรียกชื่อเล่นในงานสำคัญ เขาเลยสอนบทเรียนแสนล้ำค่า
เมื่อมนุษย์เติบโตขึ้นมาจนกลายเป็นผู้ใหญ่ สิ่งที่จะต้องเติบโตไปด้วยก็คือ ‘วุฒิภาวะ’ หรือจะแปลง่ายๆ ก็คือ ‘ความเป็นผู้ใหญ่ทางบุคลิกภาพและพฤติกรรมทางอารมณ์’ โดยเฉพาะหากคุณมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงๆ แล้วล่ะก็เรื่องของวุฒิภาวะยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมการรับมือสถานการณ์ของท่านประธานาธิบดีของประเทศฝรั่งเศสเมื่อเขาโดนเด็กนักเรียนเรียกด้วยชื่อเล่นของเขาอย่างสนิทสนม ท่านประธานาธิบดี Emanuel Macron ได้พบปะกับเด็กๆ ในงานอีเวนต์หนึ่ง แต่มีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งเข้ามาทักทายและเรียกชื่อของเขาอย่างสนิทสนมว่า Manu “สบายดีมั้ย Manu” เด็กวัยรุ่นเอ่ยถามท่านประธานาธิบดี ท่านจึงตอบกลับไปด้วยบทเรียนอันแสนสำคัญให้กับเด็กคนนั้น “ไม่นะ นายจะเรียกฉันว่าอย่างนั้นไม่ได้” เด็กชายจึงรีบขอโทษ “ขอโทษด้วยครับท่านประธานาธิบดี” “ตอนนี้นายอยู่ในงานพิธีการอย่างเป็นทางการ และนายจะต้องประพฤติตัวให้เหมาะสม” “นายสามารถเล่นตลก ทำตัวไร้สาระได้ แต่วันนี้เป็นวันสำคัญแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันครบรอบเหตุการณ์ Maseillaise หรือการปฏิวัติฝรั่งเศส” “ฉะนั้นนนายจะต้องเรียกฉันว่า ‘ท่านประธานาธิบดี’ หรือ ‘ท่านครับ’ เข้าใจไหม?” “ตามนี้นะ และนายควรจะทำตามขั้นตอน หากนายต้องการที่จะเริ่มทำการปฏิวัติ นายจะต้องเรียนหนังสือก่อน เพื่อรับใบปริญญาและหาเงินเลี้ยงชีพตัวเอง เข้าใจมั้ย?” “และจากนั้นนายก็จะสามารถสั่งสอนผู้อื่นได้” …
-
พาไปชม “วิธีประหารชีวิตแบบญี่ปุ่น” ที่ใช้การแขวนคอ แต่มีรายละเอียดเยอะมาก
จากกระแส “โทษประหารชีวิต” ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในไทยอยู่ในขณะนี้ ว่ามีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหนในการจัดการกับนักโทษ? เพราะในบางประเทศก็ได้มีการยกเลิกโทษประหารไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังคงไว้ซึ่งโทษประหาร และดูจะรุนแรงกว่าบ้านเราสักเล็กน้อย อย่างในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีการลงโทษด้วยการประหารชีวิตเช่นกัน และวิธีที่พวกเขาใช้คือการแขวนคอ แต่การแขวนคอในแบบญี่ปุ่นนั้นมีขั้นตอนมากมายหลายอย่าง เว็บไซต์แคทดั๊มบ์ของเราเลยอยากชวนคุณไปดูวิธีการประหารชีวิตนักโทษในประเทศญี่ปุ่นกัน อย่างแรกเรามาดูแผนผังของตัวอาคารกันก่อน ว่าส่วนไหนเป็นห้องอะไรบ้าง ที่เห็นอยู่นี้คือห้องชี้ทาง เป็นห้องที่มีไว้ให้นักโทษดื่มชากินขนมเล็กๆ น้อยๆ ได้เป็นครั้งสุดท้าย โดยจะมีพระพุทธรูป ศาลเจ้าเล็กๆ หรือหากนักโทษคนนั้นนับถือศาสนาอื่นก็จะมีการปรับเปลี่ยนไปตามศาสนานั้นๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพานักโทษไปยังห้องก่อนประหารซึ่งจะเป็นห้องเปล่าที่มีพระพุทธรูปอยู่ในห้องนั้น และเช่นเดียวกับห้องชี้ทาง คือสามารถเปลี่ยนพระพุทธรูปเป็นรูปปั้นหรือสิ่งอื่นๆ ตามแต่ศาสนาของนักโทษได้ และห้องข้างๆ ที่อยู่ติดกันนั้นคือห้องประหาร หน้าตาของห้องประหารแบบชัดๆ มีขนาดประมาณ 25 ตารางเมตร และตรงกลางมีช่องสี่เหลี่ยมกว้าง 1.1 เมตร มันจะเปิดออกเวลาที่ผู้คุมกดปุ่มประหาร เพื่อให้นักโทษที่โดนแขวนคอทิ้งน้ำหนักลงไปด้านล่าง ห้องด้านข้างห้องประหารจะเป็นห้องกดปุ่มประหาร ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 ปุ่มที่ต้องกดพร้อมๆ กัน แต่จะไม่มีใครรู้ว่าปุ่มไหนคือปุ่มที่ใช้สำหรับประหารจริงๆ เพื่อเป็นการลดภาระใจจิตใจของผู้คุมเอง ด้านบนของห้องประหารจะมีรอกเหล็กเพื่อเอาไว้แขวนเชือกห้อยคอนักโทษ ฝั่งตรงข้ามห้องประหารเป็นห้องสำหรับดูการประหาร ที่เอาไว้ให้เจ้าหน้าที่ดูว่านักโทษเสียชีวิตเรียบร้อยหรือยัง แบบจำลอง 3 มิติ…
-
อุทาหรณ์! ข้ามถนนขณะไฟเขียว ถูกมอเตอร์ไซค์ “ชนอย่างแรง” ร่างปลิวไปบนถนน
การใช้รถใช้ถนนนั้นเป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังอย่างมาก หลายคนต้องบาดเจ็บสาหัสหรืออาจเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุทางท้องถนนที่ไม่คาดคิด อย่างเช่นคุณลุงในเหตุการณ์นี้ เฟซบุ๊กเพจ Singapore Reckless Drivers ได้นำคลิปวิดีโอเหตุการณ์ในประเทศสิงคโปร์ ที่ชายสูงวัยคนหนึ่งวิ่งข้ามถนนขณะสัญญาณไฟเขียวมาโพสต์ลงให้ชมเป็นอุทาหรณ์ คลิปคุณลุงวิ่งข้ามถนนขณะรถบนท้องถนนยังวิ่งอยู่ วิดีโอถูกบันทึกเอาไว้จากกล้องของรถคันหนึ่ง คุณลุงดูเหมือนพยายามรีบวิ่งข้ามถนนขณะไฟจราจรเป็นสีเขียว คุณลุงถูกชนด้วยรถจักรยานยาต์คันหนึ่ง จนร่างลอยปลิวไปบนถนน ไม่แน่ชัดว่าผู้คุณลุงได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงไร แต่ดูด้วยตาคาดว่าค่อนข้างหนัก เจ้าของรถจักยานยนต์ได้จอดรถเพื่อมาดูอาการผู้บาดเจ็บ ไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหนเมื่อไหร่ แต่มีคนสังเกตเห็นรถบัส SMRT 857 ที่เดินทางอยู่รอบๆ ซันเทคซิตี้ในประเทศสิงคโปร์ ส่วนชาวเน็ตที่เข้ามาชมคลิปก็ทิ้งความคิดเห็นเอาไว้มากมาย ทั้งเห็นใจและไม่เห็นใจผู้บาดเจ็บ… “มอเตอร์ไซค์ผู้น่าสงสาร เป็นอะไรมาไหมน้อ…” “ดูท่ามอเตอร์ไซค์น่าจะไม่เป็นไรมาก” “ขอบคุณพระเจ้าที่คนขับไม่เป็นอะไร รถมอเตอร์ไซค์นี่แข็งแรงดีจริงๆ” “ดูแรงอยู่นะ คุณลุงลอยไปจนหัวกระทบพื้น อายุปูนนี้บางคนอาจเจ็บสาหัส จงจำไว้ว่าต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง ขับไม่ต้องเร็วมากเผื่อมีเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้หยุดรถได้อย่างกะทันหัน” “ยอมใจให้กับความดีของคนขับมอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าใครถูกใครผิดเขาก็ยังสนใจเป็นห่วงผู้บาดเจ็บ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ทำดีมากเพื่อน…” หวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายคน ข้ามถนนและขับขี่อย่างระมัดระวังนะจ๊ะ… ที่มา: nextshark, coconuts และ Singapore Reckless Drivers
-
ร้านปิ้งย่างญี่ปุ่น เปิดตัว “เนื้อสีน้ำเงิน” เป็นกำลังใจให้ทีมชาติในฟุตบอลโลก 2018!?
ญี่ปุ่นได้รังสรรค์อาหารต่างๆ ที่มี “สีน้ำเงิน” ขึ้นมาเพื่อเป็นกำลังใจเชียร์นักฟุตบอลทีมชาติที่แข่งขัน ฟุตบอลโลก ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในปี 2018 นี้ ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่อพูดถึงอาหารสีน้ำเงิน หลายคนคงคิดว่าเป็นอาหารจำพวกเบอร์รี่ หรือขนมย้อมสีต่างๆ แต่วันนี้เราคงต้องแนะนำให้รู้จักกับความแปลกใหม่ที่ชาวญี่ปุ่นได้สรรค์สร้างขึ้นกันสักหน่อย เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมนักฟุตบอลญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “Samurai Blue” ทางร้านปิ้งย่างแห่งหนึ่งในเกียวโต จึงได้เปิดตัว เนื้อย่างสีน้ำเงิน มาให้ผู้คนได้ลิ้มลองกัน เนื้อหมูและวัวสีน้ำเงิน (Blue Horumon) ขณะนี้กำลังวางขายในร้าน Yakiniku Bare Yaruki และร้าน Ponto-cho Yakiniku Yaruki ด้วยความที่สีของมันฟ้าผสมน้ำเงินดูสดอย่างมาก คนจึงสงสัยว่า เมื่อทานเข้าไปจะช่วยให้มีแรงเชียร์ทีมซามูไรบลูหรือว่าทำให้ต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำกันแน่… เนื้อ Blue Horumon เหล่านี้มีการผสมมิ้นต์เข้าไปกับสีผสมอาหารสีน้ำเงินซึ่งเป็นสารอาหารที่รับประทานได้ ทั้งชุดเนื้อสีน้ำเงินจะมีราคาอยู่ที่ราวๆ 150 บาท ซึ่งนอกจากจะมีเนื้อสีน้ำเงินแล้วยังมีอาหารและเครื่องดื่มอย่างอื่นที่เป็นสีน้ำเงินอีกด้วย เช่น เบียร์สีน้ำเงิน ไวน์สีน้ำเงิน และเครื่องดื่มอีกมากมายที่เป็นสีน้ำเงินสดใส เนื้อย่างสีน้ำเงิน Blue Horumon และเครื่องดื่มสีน้ำเงินทั้งหลาย เป็นเมนูที่แปลกดีจริงๆ เมืองไทยบ้านเราอาจจะยังไม่มีให้พบเห็น ฉะนั้น…
-
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง Google เผยเทคโนโลยี AI ใหม่ บอกเวลาตายเราได้แม่นยำ 95%
เชื่อว่าบนโลกใบนี้ต้องมีคนจำนวนอยู่ไม่น้อยเลยที่กลัวความตายยิ่งกว่าสิ่งใด ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกเท่าไหร่เพราะมันเป็นธรรมชาติคนที่จะหวาดกลัวต่อสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้า #เหมียวศรัทธา บอกว่าเดี๋ยวนี้เราสามารถรับรู้ถึงเวลาที่เราจะเสียชีวิตจาก Google ได้แล้วล่ะ เมื่อไม่นานมานี้ทาง Google ได้ทำการเปิดเผยเทคโนโลยี AI ใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Google และมหาวิทยาลัย Stanford ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อคาดการณ์เวลาตายของผู้ป่วยในโรงพยาบาล AI ตัวนี้ทำงานโดยการนำข้อมูลส่วนตัวของคนป่วยเช่น อายุ เพศ และเชื้อชาติ มารวมเข้ากับข้อมูลจากทางโรงพยาบาลอย่างสัญญาณชีพและการวินิจฉัยที่ผ่านมา ก่อนที่จะนำข้อมูลไปคำนวณโดย AI ที่สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ นั่นทำให้นักวิจัยสามารถใส่ข้อมูลเกือบทุกประเภทของผู้ป่วยลงไปในตัวโปรแกรมเพื่อนำไปคำนวณออกมาเป็นผลลัพธ์ เนื่องจากความสามารถในการเรียนรู้ที่ AI มี โดยทาง Google ได้มีการจัดให้ตัว AI เก็บข้อมูลจากการวิเคราะห์ประวัติผู้ป่วยเด็กและผู้ใหญ่รวมกว่า 216,221 รายจากโรงพยาบาลสองแห่ง ทำให้ AI มีข้อมูลการจำลองสถานการณ์มากกว่า 46,000 ล้านรูปแบบอยู่ในตัว ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะมีการเปิดเผยของทางมหาวิทยาลัยว่า AI ตัวนี้มีความสามารถในการคาดการณ์คนไข้ที่จะตายภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากนำตัวเข้าโรงพยาบาลได้แม่นยำถึง 95% แถมนอกจากการคำนวณเวลาเสียชีวิตของผู้ป่วยแล้ว AI ตัวนี้ยังสามารถคำนวณระยะเวลาที่ผู้ป่วยจะต้องอยู่ในโรงพยาบาล หรือโอกาสที่ผู้ป่วยจะกลับมาเป็นโรคเดิมอีกครั้งได้อีกด้วย ไม่แน่นะว่าในอนาคต…
-
หนุ่มฝรั่งที่เคยอัดคลิปจีบสาวไทย ไปโผล่ไต้หวัน แต่เล่นผิดคน โดนมาเฟียขู่จนต้องลบคลิป!!
หากใครยังจำกันได้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ของเราได้มีการนำเสนอเรื่องราวของนาย Nicolas Coakley หนุ่มอังกฤษวัย 28 ปี หรือชื่อในวงการยูทูบเบอร์คือ Explorer Nick ที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทย แต่กลับถ่ายคลิปวิดีโอที่พยายามจะจีบสาวไทย แม้สาวไทยรายนี้จะบอกว่าตัวเองมีแฟนแล้ว แต่เขาก็ยังคงตามมาราวีเธอต่อในเฟซบุ๊ก (สามารถอ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ หนุ่มฝรั่งอัดคลิปจีบสาวไทย สาวไม่เล่นด้วย ยังตามไปตอแยในเฟซบุ๊ก โดนตอบกลับเด็ดไปอีก) หลังจากที่นาย Nicolas ได้ก่อวีรกรรมเอาไว้ที่ประเทศไทย เขาก็เดินทางไปเที่ยวต่อที่ประเทศไต้หวัน และทำคลิปในเชิงดูถูกหญิงสาวที่นั่นเรื่อยๆ แถมยังมีการตั้งเว็บไซต์ที่ชื่อว่า TaiwanGirlsEasy.com เพื่อให้คนที่อยากจะดูคลิปแบบ 18+ จ่ายเงินแล้วเข้าไปดูได้ มีหญิงสาวรายหนึ่งเล่าให้สื่อฟังว่าเธอได้เจอกับเขาในวันหนึ่งขณะฝนตก และถูกเขาเข้ามาพูดจาหยาบคายใส่ จนมีการพูดถึงไปทั่วอินเตอร์เน็ตว่าเขาเป็นนักท่องเที่ยวที่ควรหลีกเลี่ยง แต่ล่าสุดจากการรายงานของเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเขาจะไปสะดุดเข้ากับแข้งขาของมาเฟียที่โน่นเข้า จนทำให้เขาได้รับการข่มขู่ถึงที่โรงแรมและสั่งให้เขาลบคลิปต่างๆ ที่ดูถูกหญิงสาวออกจากช่องยูทูบของเขา ตามรายงานบอกว่ามีใครบางคนพยายามตามหาตัวเขาและเตือนว่ามีมาเฟียใต้ดินพยายามตามหาตัวเขาอยู่ จากข้อความระบุว่า “นี่ใช่นักเลงคีย์บอร์ดนิกหรือเปล่า? ฉันเพิ่งได้ยินมาว่ามีพวกใต้ดินกำลังตามคุณอยู่ พวกเขาจะให้ถุงน้ำแข็งกับคุณแล้วตัดจู๋คุณออก” ซึ่งจากข้อความดังกล่าวก็ทำให้เขาต้องออกมาถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ . ชมคลิปวิดีโอได้ที่ด้านล่างเลย แต่ในภายหลังเขาก็ได้เปลี่ยนชื่อคลิปวิดีโอของเขาเป็น Lol Shanghaiist is Fake News…
-
ผู้คนนับพันร่วมไว้อาลัยครูสาว หลังสละชีวิตกระโดดขวางรถที่กำลังพุ่งชนนักเรียน
เกิดเหตุสลดขึ้นที่เมืองซิ่นหยาง มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน หลังจากที่คุณครูรายหนึ่ง ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยให้นักเรียนของเธอ ให้รอดจากอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา เพจ China Xinhua News ได้รายงานข่าวชาวจีนนับพันร่วมกันไว้อาลัย ในพิธีศพของคุณครูหลี่ฟาง วัย 49 ปี คุณครูของโรงเรียนประถมศึกษาเมืองซิ่นหยาง ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา คุณครูหลี่ฟาง ได้กระโดดเข้าขวางรถจักรยานยนต์สามล้อที่เสียหลักและกำลังจะพุ่งชนกลุ่มเด็กนักเรียน 4 คน โดยเธอได้ใช้ร่างขวางรถคันดังกล่าวจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต จากรายงานเผยว่า ในเหตุการณ์ดังกล่าว คุณครูหลี่ฟางได้สังเกตเห็นรถที่กำลังพุ่งมาทางเด็กๆ เธอตะโกนเสียงดังเพื่อให้เด็กๆ หลบรถคันดังกล่าว ในสถานการณ์ที่กำลังคับขัน คุณครูสาวได้ตัดสินใจที่จะกระโดดและใช้ร่างของเธอปกป้องเด็กนักเรียนทั้ง 4 เอาไว้ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา นักเรียนทั้ง 4 คนที่เธอช่วยเหลือเอาไว้ได้รับบาดเจ็บ และออกจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากเบรกแตก ส่วนคนขับขณะนี้กำลังถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว พิธีศพของคุณครูหลี่ฟางจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา…
-
หลุดคลิปเพื่อนรุมกลั่นแกล้งเด็ก 15 แม่เด็กบอกให้สังคมดู หวังไม่เกิดขึ้นที่ไหนอีก!!
การกลั่นแกล้งนั้นจะเรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ยากของชีวิตวัยเรียนเลยก็ได้ นำมาซึ่งปัญหาฆ่าตัวตายหรือโรคซึมเศร้าของเด็กวัยเรียน เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่มองเห็นได้ยาก แต่ส่งผลกระทบที่รุนแรงก็ไม่ผิดนัก และในครั้งนี้เองปัญหาการกลั่นแกล้งก็กลับมาให้เห็นกันอีกครั้ง เมื่อมีวิดีโอคลิปภาพการถูกกลั่นแกล้งของ Abbie McCarthy เด็กสาววัย 15 ปีเผยแพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ต คลิปวิดีโอที่ว่า จากช่อง Star News จะเห็นว่าในคลิปนั้น Abbie ถูกดึงผมไปตามสนามหญ้าโดยเด็กสาวอีกคนหนึ่ง ก่อนที่จะโดนทุบเข้าที่ศีรษะหลายครั้ง โดยที่มีเด็กคนอื่นๆ ค่อยเชียร์ผู้ลงมือจากบริเวณรอบๆ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่าวิดีโอในครั้งนี้จะถูกถ่ายโดยหนึ่งในกลุ่มเด็กที่ลงมือรังแก Abbie และเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์เพื่อความสะใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าวิดีโอที่ว่านี่ล่ะ กำลังจะกลายเป็นหลักฐานการกลั่นแกล้งที่ดีที่สุดไป Carly McCarthy มารดาของ Abbie บอกว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ Abbie จำเป็นที่จะต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอื่น เนื่องจากเพื่อนแทบทั้งห้องรุมรังแกเธอ Carly และ Abbie “พวกเพื่อนๆ มักจะมาผลัก Abbie ไม่ก็เอากาวมาแปะผมของเธอ” Carly เล่า “พวกเธอทำให้ชีวิตของ Abbie เหมือนกับตกนรกเลยไม่มีผิด” เธอบอกว่าเธอรู้สึกไม่ดีมากๆ กับวิดีโอที่ออกมา แต่ก็ขอชวนให้ผู้คนได้เห็นในสิ่งที่ลูกสาวของเธอโดน เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ และอยากให้ผู้ลงมือได้รับบทเรียนอะไรไปบ้าง Abbie McCarthy…
-
พายุกระหน่ำ! จีนเกิดปรากฏการณ์ “ฝนสัตว์ทะเล” ปลาหมึกปลาดาวตกลงมาราวกับฝน
ณ เมืองชิงเต่า ตอนใต้ของมณฑลซานตง ประเทศจีน ได้รับผลกระทบรุนแรงจากพายุที่โหมกระหน่ำ จนกระทั่งต้นไม้หักโค่น ถนนติดขัด น้ำท่วม และทำให้ สัตว์ทะเล ทั้งหลายตกลงมาราวกับเม็ดฝน เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นกระแสไวรัลในอินเทอร์เน็ตของประเทศจีน ตั้งแต่ที่ผู้ขับขี่จักรยานยนต์คนหนึ่งได้โพสต์ภาพว่ามี “ปลาหมึก” ตัวหนึ่งลอยมาติดบริเวณกระจกกันลมของเขา ปลาหมึกลอยลงจากฟ้าราวกับเป็นฝนสัตว์ทะเล แน่นอนว่าไม่ได้มีแต่ปลาหมึกเท่านั้น สิ่งมีชีวิตในทะเลทั้งหลาย เช่น ปลาดาว และกุ้งก็ลอยลงมาด้วยเช่นกัน กุ้งน้อยใหญ่ก็ลอยลงมาติดบนกระจกรถยนต์ เนื่องจากพายุ นอกจากนี้ พายุที่ซัดเข้ามายังเมืองชิงเต่าก็ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมขังภายในเมืองและเส้นทางการเดินรถ จนทำให้การจราจรนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก ถนนบางเส้นไม่สามารถใช้การได้ชั่วคราว มีน้ำท่วมขังไปทั่วเมือง เนื่องด้วยพายุลูกนี้ ทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนนั้นยากลำบากยิ่งขึ้นและส่งผลกระทบไปทั่วพื้นที่ จากรายงานพายุลูกนี้มีความเร็วที่ 56 กิโลเมตรต่อวินาที และมีระดับความรุนแรงอยู่ที่ ระดับ 12 ตามการวัดของ Beaufort ถือว่าเป็นปรากฏการณ์และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทั้งน่ากลัวและน่าประหลาดใจอย่างมาก ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นสัตว์ทะเลตกลงมาเป็นฝนแบบนี้ ที่มา: thesun, shanghaiist และ nextshark
-
สุดสลด หนุ่มอินโดจัดงานศพให้แม่ แต่ถูกโลงศพหล่นลงมาทับเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอเรื่องราวของนาย Samen Kondorura วัย 40 ปี ในจังหวัดซูลาเวซีใต้ ประเทศอินโดนีเซีย ที่จัดงานศพให้กับแม่ของตัวเอง แต่เขากลับถูกโลงศพของแม่หล่นทับทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามรายงานบอกว่างานศพที่จัดขึ้นนั้นเป็นงานศพแบบโบราณ ที่จะมีการแบกโลกขึ้นไปบนศาลาเล็กเพื่อประกอบพิธี แต่เนื่องจากในตอนที่พวกเขาแบกโลกศพขึ้นไปมีเพียงแค่บันไดไม้ไผ่เล็กๆ วางพาดอยู่เท่านั้น ในระหว่างที่ Samen และญาติคนอื่นๆ ช่วยกันยกโลงศพขึ้นไปนั้น เกิดอุบัติเหตุ เมื่อชายคนหนึ่งก้าวขาพลาดจนทำให้บันไดเลื่อนออก ทำให้โลกศพหลุดมือและร่วงลงไปทับร่างของนาย Samen ที่อยู่ด้านล่าง เหตุการณ์ทั้งหมดถูกบันทึกไว้ได้โดยแขกผู้ร่วมงานรายหนึ่ง ทำให้เห็นว่าในตอนที่เกิดเหตุ บรรดาแขกเหรื่อเกิดอาการตกใจขนาดไหน หลังจากที่นาย Samen ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ทางครอบครัวก็ได้รีบยกโลงศพออกมาและนำตัวของเขาส่งโรงพยาบาลในทันที แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นได้ไม่นานเขาก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ทั้งนี้นาย Julianto Sirait ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่นได้กล่าวกับสื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะตัวบันไดไม่ได้ถูกวางอย่างถูกต้อง ทำให้มันล้มลงมาในที่สุด หลังจากนั้นร่างของนาย Samen ก็ถูกใส่ไว้ในโลง ซึ่งวางไว้ข้างๆ กับโลงศพของแม่ของเขาเอง และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ที่มา dailymail , thesun , independent
-
ผวา!! ชายอินเดียจับ “งูเหลือม” พาดบ่าหวังเซลฟี่ แต่ถูกเจ้างูรัดคอเข้าทันใด
ถึงแม้ว่า งู จะเป็นสัตว์ที่หลายๆ คนหวาดกลัว แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงหรือไม่ก็ชอบนำมาถ่ายรูปลงโซเชียลโชว์เก๋ๆ และแม้ว่างูที่เราสามารถถ่ายรูปด้วยได้จะเป็นงูที่ไม่มีพิษ แต่อาวุธหลักของงูเหล่านี้ก็คือการ “รัด” และนี่จึงเป็นสาเหตุของความน่าใจหายในวันนี้ คลิปวิดีโอชายอินเดียถูกงูเหลือมพยายามรัดคอ ขณะนำมาถ่ายรูป คลิปวิดีโอดังกล่าวถ่ายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมือง Jalpaiguri ของอินเดีย นาย Sanjay Dutta คือผู้ที่นำงูเหลือมที่ขนาดลำตัวยาวราว 10 เมตรมาพาดไว้บนไหล่และคอเพื่อจะถ่ายรูป แต่เขากลับดูเหมือนจะไม่สามารถควบคุมงูตัวดังกล่าวให้อยู่นิ่งได้ งูเหลือมขนาดมหึมาพยายามจะเลื้อยลำตัวไปรัดคอของนาย Sanjay ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้ชมโดยรอบ . เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเจ้างูเหลือมตัวนี้ได้เข้าไปกินแพะของชาวบ้าน นาย Sanjay จึงถูกเรียกให้ไปช่วยนำตัวงูออกมา แต่แทนที่เขาจะนำมันลงกระสอบ เขากลับยกมันขึ้นมาพาดบ่าเพื่อตั้งใจจะถ่ายรูป ทันใดนั้น งูเหลือมตัวดังกล่าวกลับพยายามที่จะพันตัวล้อมรอบ “คอ” ของนาย Sanjay จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ชัดเจนว่านาย Sanjay นั้นพยายามจะเดินออกจากฝูงชนขณะที่ถูกงูรัดคอ ผู้ชมโดยรอบต่างกรีดร้องด้วยความตกใจและพยายามหนี ขณะที่งูเหลือมตัวดังกล่าวก็พยายามจะรัดคอของนาย Sanjay ซึ่งเขาก็พยายามจะจับลำตัวและหางของงู แต่พบว่ามันลื่นจนควบคุมได้ยาก ผู้ช่วยของนาย Sanjay พยายามบอกให้เขารีบจับหางของงูเอาไว้ ซึ่งนาย Sanjay ก็ตกลง เขาจึงโชคดีที่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ นอกจากความตื่นกลัวขณะที่จะโดนรัดคอ งูเหลือมตัวขนาดนี้ต้องบอกเลยว่าหากรัดคอขึ้นมาจริงๆ นาย Sanjay คงจากไปอย่างสงบเลยล่ะ… ที่มา: thesun,…
-
แฟนสาวทำความฝันแฟนหนุ่มพังทลาย เนื่องจากหึงหวงไม่อยากให้ต้องแยกจากกันไป
ความหึงหวงเป็นเรื่องน่ากลัวกว่าที่หลายๆ คนคิด เพราะความหึงหวงนั้นสามารถเปลี่ยนคนดีๆ คนหนึ่งให้กลายเป็นคนชั่ว หรือเปลี่ยนคนที่เคยรักกันให้โกรธแค้นกันได้ไม่ยากเลย นี่คือเรื่องราวของ Eric Abramovitz และ Jennifer Jooyeon Lee คู่รักผู้อาศัยอยู่ในประเทศแคนาดา Eric Abramovitz (ซ้าย) และ Jennifer Jooyeon Lee (ขวา) เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Eric ได้รับทุนไปศึกษาต่อที่เมืองลอสแอนเจลิสกับ Yehuda Gilad อาจารย์คลาริเน็ตที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง โดยทางโรงเรียนได้ทำการส่งข้อเสนอทางทุนการศึกษามาให้กับเขาผ่านทางอินเตอร์เน็ต แต่ด้วยความที่ว่า Jennifer ไม่อยากให้ Eric จากเธอไปเพื่อทำตามความฝัน เธอจึงตัดสินใจแอบใช้แอคเคาท์ของ Eric ในการปฏิเสธทุนการศึกษา ก่อนที่จะลบหลักฐาน ทั้งการได้รับทุนและข้อความปฏิเสธของเธอออกไป อย่างไรก็ตาม Jennifer ไม่หยุดเท่านั้น เพราะเธอรู้ว่า Eric ต้องไปคุยกับทางโรงเรียนสักวันแน่ๆ เธอจึงสร้างอีเมลปลอมที่ชื่อ [email protected] ขึ้นมา เพื่อส่งจดหมายปฏิเสธคำขอทุนไปให้แก่แฟนของเธอ Eric ที่ไม่รู้เรื่องนี้จึงไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย McGill และเข้าร่วมวงออเคสตราของโตรอนโตในเวลาต่อมา โดยทิ้งโอกาสที่จะได้เรียนกับ Yehuda Gilad หนึ่งในนักดนตรีคลาริเน็ตที่เก่งที่สุดในโลกไป แต่ก็เหมือนกับคำว่าความลับไม่มีในโลก เพราะแผนการทั้งหมดที่ Jennifer วางไว้นั้น…
-
ข้าราชการญี่ปุ่นแถลงข่าวขอโทษ เพราะใช้เวลา 3 นาทีในทุกๆ วัน ออกไปซื้อข้าวกล่อง
กลายเป็นข่าวคราวที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์พอสมควร ในกรณีที่มีข้าราชการรายหนึ่งของญี่ปุ่นถูกลงโทษเนื่องจากใช้เวลาประมาณ 3 นาทีในทุกๆ วันออกไปซื้อข้าวกล่องมารับประทาน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Asahi ของญี่ปุ่นได้นำเสนอเรื่องราวของข้าราชการอาวุโสญี่ปุ่นวัย 64 ปี เป็นเจ้าหน้าที่การประปาในเมืองโกเบ เขตคันไซ ที่ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวขอโทษประชาชนและสื่อ เนื่องจากตนเองมักจะใช้เวลา 3 นาที ออกไปซื้อข้าวกล่องที่ร้านอาหารใกล้ๆ ที่ทำงาน ตามรายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่ดังกล่าวมีพฤติกรรมแบบนี้ติดต่อกัน 7 เดือน ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 60 ถึงเดือนมีนาคม 61 รวมทั้งหมดแล้ว 26 ครั้ง โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ ทั้งนี้ตัวแทนและผู้รับผิดชอบเมืองโกเบ ได้มีการจัดโต๊ะแถลงข่าวขอโทษพร้อมกับโค้งคำนับต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพนักงานรายนี้ อีกทั้งยังมีการสั่งลงโทษด้วยการตัดเงินเดือนลงครึ่งหนึ่งด้วย “เป็นเรื่องน่าเสียใจมากที่เกิดเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว พวกเราขอโทษครับ” สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว การจัดงานแถลงข่าวขอโทษ (ที่เรียกกันในญี่ปุ่นว่า Shazai Kaiken) นับว่าเป็นงานที่สำคัญมาก เพื่อแสดงถึงการสำนึกผิด งานเหล่านี้มักใช้เพื่อจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับการเมือง เรื่องอื้อฉาวในโรงเรียน ซึ่งในการแถลงข่าวมักจะมีการดูในทุกรายละเอียด ทั้งคำพูด การแต่งตัว หรือแม้แต่ความยาวในการแถลงข่าวขอโทษ แต่อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตในญี่ปุ่นเองก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการแถลงข่าวขอโทษนี้กันอย่างมากมาย “งี้การออกไปเข้าห้องน้ำก็ถูกห้ามด้วยดิ?”…
-
XXXTentacion แรปเปอร์หนุ่มวัย 20 ถูกชายสวมหน้ากาก 2 คน ยิงเสียชีวิตในฟลอริด้า
กลายเป็นเรื่องน่าเศร้าของวงการคนฟังเพลงแรปไปแล้ว เมื่อ Jahseh Onfroy แรปเปอร์หนุ่มวัย 20 ผู้ที่มีชื่อในวงการว่า XXXTentacion ต้องมาจากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เวลาประมาณ 16.00 นาฬิกาตามเวลาในท้องถิ่น ในระหว่างที่ XXXTentacion เดินออกมาจากร้านมอเตอร์ไซค์แห่งหนึ่ง จากการเปิดเผยของทางตำรวจ เขาถูกชายสองคนที่สวมฮู้ดและหน้ากากสีแดง ยิงเข้าใส่จนเสียชีวิต ก่อนที่ทั้งสองจะขับรถ SUV สีโทนมืดหลบหนีไป โดยในเบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่านี่เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ XXXTentacion เป็นแรปเปอร์ที่มีชื่อเสียงในฐานะของ SoundCloud Rapper หรือแรปเปอร์ที่ออกผลงานผ่านทางอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก โดยในเดือนตุลาคมปี 2017 เขาได้รับเงินจากค่าลิขสิทธิ์เพลงสูงถึง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 196 ล้านบาท) แม้ว่าจะมีข่าวที่ไม่ค่อยดีเป็นบางช่วงก็ตาม ดังนั้นการจากไปของเขา จึงส่งผลกระทบเป็นอย่างมากกับเหล่าแฟนเพลงจำนวนมากที่รอคอยเพลงใหม่เพลงต่อไปของเขาอยู่ หนึ่งในนั้นคือ Kanye West นักดนตรีมีชื่อที่ออกมาทวีตว่า หลับให้สบายนะ น่าเสียดายที่ฉันไม่เคยได้บอกนายในตอนที่นายยังอยู่ ว่านายเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันขนาดไหน https://twitter.com/kanyewest/status/1008839504902307840 และนักฟุตบอล Daniel Sturridge ที่ออกมาบอกว่า…
-
สหรัฐฯ ประกาศจัดตั้ง “กองทัพอวกาศ” ภารกิจแรกคือส่งกองทัพไปดวงจันทร์
เป็นข่าวคราวที่ทำให้ชาวโลกตื่นเต้นพอสมควร เพราะเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา Donald Trump ได้ประกาศจัดตั้ง “กองทัพอวกาศ” ซึ่งถือเป็นกองทัพที่ 6 ของสหรัฐฯ และภารกิจแรกของกองทัพนี้คือการออกไปสำรวจดวงจันทร์ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ BBC ได้รายงานว่าประธานาธิบดี Donald Trump ได้มีคำสั่งให้กองทัพสหรัฐฯ เพิ่มหน่วยงานใหม่ที่ชื่อว่า “กองทัพอวกาศ” (Space Force) ในระหว่างการประชุมร่วมกับสภาอวกาศแห่งชาติ (National Space Council) โดยให้เหตุผลในการสร้างกองทัพใหม่นี้ว่า กองทัพอวกาศจะหนุนความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจด้วยการสร้างงาน “มันไม่ใช่แค่การแสดงตัวตนของชาวอเมริกันในอวกาศเท่านั้น เราจะต้องปกครองอวกาศด้วย” Trump กล่าว Trump กล่าวว่าการปล่อยให้จีนและรัสเซียเป็นผู้นำออกไปสู่อวกาศนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และเขาจะเป็นผู้กำกับดูแลของหน่วยงานรัฐบาลกลางเพื่อ “ใช้กรอบการจัดการจราจรทางอากาศที่ทันสมัย” ทั้งนี้ภารกิจแรกของกองทัพนี้คือการส่งคนไปยังดวงจันทร์และดาวอังคาร ในตอนนี้ภารกิจและหน้าที่ของกองทัพอากาศที่ Trump เพิ่งจะประกาศจัดตั้ง จะยังดูไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่เขาก็ยืนยันว่ากองทัพนี้จะ “แบ่งแยกแต่เท่าเทียม” กับกองทัพอากาศ การจัดตั้งกองทัพอวกาศที่ว่านี้จะถือเป็นกองทัพที่ 6 ถัดจาก กองทัพบก กองทัพเรือ หน่วยรักษาความสงบชายฝั่ง นาวิกโยธิน รวมถึงกองทัพอากาศ Trump กล่าวว่าการจัดตั้งกองทัพนี้จะเป็นวางรากฐานในระยะยาว…
-
การทดลองวิปริตจากสแตนฟอร์ด ให้อาสาสมัครมาเล่นคุกจำลอง หลงอำนาจจนเกินขอบเขต!!
จากทดลองในอดีตสุดโด่งดังของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ถูกกล่าวขานว่าเป็นการทดลองทางจิตวิทยาที่รุนแรงเกินควบคุมได้ เนื่องจากผู้เข้าร่วมทดลองเกิดอาการ ‘อิน’ ขั้นรุนแรง การทดลองดังกล่าวนั้นเป็นการทดสอบแนวคิดทางด้าน อำนาจ การควบคุม และความสมานฉันท์ โดยเป็นการทดลองของนาย Philip Zimbardo ซึ่งเขาเปิดเผยว่าการทดลองทั้งหมดเป็น ‘การแสดง’ แทบทั้งสิ้น การทดลองคุกจำลองของนาย Zimbardo นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังสือเรื่องแต่งมานานหลายปี เนื่องจากการทดลองดังกล่าวนั้นกลายมาเป็นสิ่งที่เหนือการควบคุม การทดลองได้นำอาสาสมัคร 24 คน มาจองจำไว้ในคุกจำลองชั้นใต้ดินของอาคารภาควิชาจิตวิทยาในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด อาสาสมัครทั้งหมดได้รับการประเมินสภาพจิตใจมาก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อไม่ให้ผู้มีปัญหาทางจิตหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงและเล่นยามาเข้าร่วม และพวกเขาเหล่านั้นก็ถูกแบ่งฝ่ายให้เป็นนักโทษและผู้คุมขัง ฝ่ายนักโทษก็ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงนักโทษจริงๆ ผู้คุมขังปลดทรัพย์สินของฝ่ายนักโทษทั้งหมด และจัดแจงหมายเลขนักโทษให้แต่ละคน นำตัวไปคุมขังไว้ในห้องตลอดทั้งวัน จากการเปิดเผยในเอกสารการทดลอง ฝ่ายผู้คุมขังนั้นได้รับชี้แจงว่า อนุญาตกระทำการใดๆ ก็ตาม ที่มีความจำเป็นเพื่อรักษากฎระเบียบภายในคุก ตลอดการทดลองคุกจำลอง ทั้งสองกลุ่มต่างเข้าถึงบทบาทของตัวเอง ‘มาก’ จนเกินไป ผู้คุมเริ่มกลั่นแกล้ง ทำร้าย ทุบตี ไม่ใยดีฝ่ายนักโทษ และนักโทษก็เริ่มมีอาการบ้าคลั่ง ควบคุมตัวเองไม่อยู่ภายใต้ความกดดันจากผู้คุม …
-
ชาวเน็ตรุมจวก 3 วัยรุ่น พยายามขว้างหินใส่แมวน้ำ เพื่อบังคับให้มันกระโดดหน้าผา
คลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ต ได้แสดงให้เห็นกลุ่มวัยรุ่น 3 คนที่กำลังพยายามขว้างก้อนหินไปที่แมวน้ำ ซึ่งจากรายงานระบุว่าพวกเขาขว้างก้อนหินเพื่อบังคับให้มันกระโดดลงจากหน้าผา จากรายงาน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมือง Newcastle ประเทศอังกฤษ ซึ่งหลังจากที่แมวน้ำตัวดังกล่าวกระโดดลงจากหน้าผาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้ง 3 ก็หันไปสนใจเหล่าสัตว์ตัวอื่นๆ ที่อยู่บริเวณดังกล่าว คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยองค์กร St Mary’s Seal Watch พวกเขาอธิบายผ่านแฟนเพจว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่แย่มาก และมันได้แสดงให้เห็นว่ามีเหล่าสัตว์ป่าจำนวนไม่น้อยที่กำลังถูกมนุษย์รังแก “คลิปวิดีโอที่ไม่ระบุชื่อที่แสดงให้เห็นถึงความน่าอับอายของมนุษย์ และปัญหาที่เหล่าสัตว์ป่ากำลังเผชิญอยู่ พฤติกรรมของบุคคลในคลิปเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจมาก และส่งผลต่อพฤติกรรมของพวกสัตว์บนเกาะ” . “พื้นที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในเขตอนุรักษ์ แต่นักท่องเที่ยวควรที่จะตระหนักถึงการช่วยอนุรักษ์เหล่าสัตว์ป่า เรารู้ว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ให้ความเคารพและปฏิบัติตัวอย่างดีกับพวกสัตว์ป่า” ข้อความจากทางแฟนเพจ St Mary’s Seal Watch อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับเจ้าแมวน้ำที่เราเห็นในภาพ แต่อย่างไรก็ตามทางหน่วยงาน St Mary’s Seal Watch ก็ได้ขอความร่วมมือผู้ที่พบเห็นความไม่เหมาะสม ให้แจ้งมาที่หน่วยงาน เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดต่อไป คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว ที่มา metro
-
แย่ยิ่งกว่าลูกญาติมา!! นักสะสมโอด หลังของสะสมราคานับแสนเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว
เชื่อว่าในเวลานี้เพื่อนๆ คงจะได้ยินข่าวแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริกเตอร์ที่โอซาก้ากันไปบ้างแล้ว นี่เป็นแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในตอนเช้าวันที่ 18 มิถุนายน 2018 และทำให้เกิดความเสียหายพอสมควรกับสิ่งปลูกสร้างและเหล่าผู้ใช้ชีวิตในบริเวณที่เกิดเหตุ แต่หนึ่งในบรรดาผู้ที่ได้รับความเสียหายจะทั้งทางทรัพย์สินและทางจิตใจไปมากที่สุดนั้น ก็คงไม่พ้นเหล่านักสะสมทั้งหลาย โดยเฉพาะกับเหล่าคนที่เราเรียกกันว่าโอตาคุแล้วด้วย ดูจากการที่พวกเขาออกมาโอดครวญกันมากมายเต็มโซเชียลแล้วด้วย ก็แหม ไอ้ของสะสมแบบนี้น่ะ ถึงมันจะดูเหมือนของเล่นของเด็กๆ ก็เถอะ แต่ราคาค่าตัวมันไม่ได้เด็กๆ ตามไปด้วยเลยนะ เผลอๆ จะเสียหายกันหลายแสนเลยก็เป็นได้ เริ่มกันที่อะไรเล็กๆ อย่างฟิกเกอร์ที่ตั้งโชว์ไว้ล้ม หรือของสะสมชุดเล็กๆ ตก ต่อกันด้วยลังใส่ของสะสมคว่ำ อะหือทั้งแผงเลย โอ้ หัวหลุด หัวหลุดอีกแล้ว ก็เข้าใจนะว่าส่วนหัวฟิกเกอร์มันบอบบาง แต่นี่มันเทศกาลหัวหลุดสินะ เอาเข้าไป อันนี้ไม่หลุดนะ แต่หักเลย นั่นมัน.. เกมโบราณใช่ไหม? แล้วนี่ล้มทั้งตู้ ของข้างในจะเป็นอะไรไหมเนี่ย แต่ถ้าจะถามหาคนที่ดูเหมือนจะซวยที่สุด ก็คงไม่พ้น ผู้ใช้ทวิตเตอร์…
-
นักวิทย์ออกแบบ Samantha หุ่น Sex Robot ที่จะปฏิเสธคนได้หากหุ่น “ไม่มีอารมณ์” ห๊ะ?
การทำให้หุ่นยนต์มีความรู้สึกนึกคิด เป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันมาอย่างยาวนานของเหล่านักวิทยาศาสตร์ ในอนาคตอันใกล้นี้ ในเวลาที่หุ่นยนต์เดินกันมากมายเต็มถนน จะมั่นใจได้สักแค่ไหนว่าหุ่นยนต์ที่มีความรู้สึกจะไม่ทรยศเรา แต่แล้วการออกแบบหุ่นยนต์ที่มีความรู้สึกนึกคิดนั้น ก็แพร่กระจายมาสู่อีกด้านหนึ่งของวงการการสร้างหุ่นยนต์จนได้ เมื่อ Dr. Sergi Santos นักวิทยาศาสตร์ชาวสเปน และภรรยาของเขา Maritsa Kissamitaki ได้ออกแบบ “Sex Robot” รุ่นใหม่ล่าสุดออกมา นี่คือ “Samantha” หุ่น Sex Robot รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับ ระบบเซนเซอร์การสัมผัสที่อยู่ใต้ผิว เพื่อตอบสมองกับการสัมผัสราวกับมนุษย์จริงๆ บวกกับระบบสมองเทียมที่จะสามารถทำให้เธอสามารถรับบทเป็นผู้นำในการทำเรื่องบนเตียงได้เป็นอย่างดี เธอสามารถให้ความสุขกับคุณได้ทั้งด้วยมือ ปาก สะโพกและอื่นๆ เรียกได้ว่าความสามารถเต็มเปี่ยมเลยก็ไม่ผิดนัก แต่ความสามารถที่ทำให้ Samantha ต่างจากหุ่น Sex Robot ทั่วๆ ไปนั้น อยู่ที่ความสามารถที่จะปฏิเสธคู่นอนของตัวเอง หรือแม้แต่การปิดการทำงานลง ในกรณีที่ตัวหุ่นไม่ได้รับการปฏิบัติด้วยอย่างถูกต้องหรือตัวหุ่น “ไม่มีอารมณ์” Samantha นั้นสามารถบอกได้ว่าการสัมผัสตัวที่คุณทำนั้นรุนแรงเกินไปหรือไม่ แถมยังสามารถรู้ว่าคุณกำลังกระทำกับเธอด้วยความเคารพหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณ Samantha อาจจะทำการปฏิเสธที่จะนอนกับคุณ หรือปิดตัวเองลงอย่างสมบูรณ์ในกรณีที่โดนบังคับ อย่างไรก็ตามการมาของ Samantha นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้จากหลายๆ คนสักเท่าไหร่ เพราะมีคนจำนวนหนึ่งเหมือนกันที่มองว่าหุ่นยนต์นั้นไม่สมควรที่จะมีความรู้สึกนึกคิด…
-
รถไฟญี่ปุ่นดีเลย์กว่า 7 ชั่วโมง ผู้โดยสารขอ “ตั้งวงเหล้า/ซ้อมยิมนาสติก” เลยละกัน!!!
การเดินทางโดยรถไฟ สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้นถือเป็นระบบการคมนาคมหลักๆ เลย เพราะเส้นทางของรถไฟนั้นกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม แถมรวดเร็วอีกด้วย เห็นแบบนี้แล้วก็ไม่น่าแปลกใจที่ชั่วโมงเร่งด้วยจะมีผู้คนไปอัดแน่นกันบริเวณสถานีรถไฟ เพราะว่าพวกเขาเตรียมตัวมาขึ้นรถไฟกันอย่างตรงเวลานั่งเอง แต่เหตุการณ์นี้กลับทำให้ความเป็นระบบระเบียบของผู้คนชาวญี่ปุ่นต้องพังทลายเพราะว่ารถไฟ ชิงกันเซ็ง ขบวนหนึ่งรอบ 12.20 น. กลับมาล่าช้าเนื่องด้วยสาเหตุบางประการ ปล่อยให้ผู้โดยสารเคว้งคว้างอยู่ในสถานีอย่างแออัดถึงกว่า 7 ชั่วโมง!! . ทางผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @Thrill_Junky ก็ได้ถ่ายภาพบรรยากาศมาให้ชมกัน ผู้คนที่แน่นขนัดอาจทำให้บรรยากาศดูตึงเครียด แต่ถ่ายไปถ่ายมากลับพบกลุ่มชายวัยกลางคนจนถึงวัยชรากลับพากัน ตั้งวงก๊งเหล้า เฉยเลย!!! มันเป็นเครื่องดื่มที่พวกเขาเตรียมเอาไว้เพื่อดื่มระหว่างการเดินทางบนรถไฟ แต่ในเมื่อรอนานขนาดนี้ พวกเขาก็เกรงว่าเครื่องดื่มจะไม่เย็น ทางออกที่ดีที่สุด ณ ตอนนั้นก็คือ ดื่มมันตรงนี้แหละ…เดี๋ยวมันจะหายเย็นเสียก่อน!! และในขณะเดียวกันที่เมือง อาโอโมริ ซึ่งอยู่ทางเดียวกันก็พบกับปัญหารถไฟล่าช้าเช่นกัน ทำให้เหล่าผู้โดยสารต่อรอคอยกันอย่างหมดหวังที่ สถานีรถไฟฮะจิโนะเฮะ จนกระทั่งมีความบันเทิงเกิดขึ้น… 東北新幹線のホームで学生さんたちがパフォーマンスしてる pic.twitter.com/1r4QnPJTMm — かか (@hminami_oshi) June 17, 2018 . https://twitter.com/Ms_mickey7711/status/1008300686834991104?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F06%2F18%2Fdrinking-party-breaks-out-on-tokyo-station-platform-as-shinkansen-delay-strands-travelers%2F คราวนี้ไม่มีการตั้งวงก๊งเหล้าแต่อย่างใด เหล่านักกีฬายิมนาสติกของมหาวิทยาลัยออกมาใช้พื้นที่โล่งๆ ซ้อมการแสดงตีลังกากลับหลังกันอย่างชิลๆ เลยทีเดียว แหม…สร้างความบันเทิงให้ผู้คนได้ดีเลยทีเดียว สรุปกว่ารถไฟจะมาถึงก็ปาเข้าไป 19.30…
-
สาวเมกันวัย 19 ปี เมาจน “หัว” เข้าไปติดใน ‘ท่อไอเสีย’ รถบรรทุก ทำอีท่าไหนล่ะน่ะ!!?
แอลกอฮอล์และความมึนเมา อาจเป็นต้นตอของอุบัติเหตุได้หลายรูปแบบ ฉะนั้น หากต้องการดื่มเพื่อสังสรรค์ก็ควรจะดื่มแต่พอดี ไม่เมาจนเกินสมควร เพราะไม่อย่างนั้นแล้วล่ะก็ อาจจะเป็นแบบหญิงสาวในเหตุการณ์นี้ก็เป็นได้ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่งานเทศกาลดนตรี Winstock Country ที่รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา ภายในงาน Kaitlyn Strom หญิงสาววัย 19 ปีคนหนึ่งก็ได้สนุกสนานกับเทศกาลอย่างสุดเหวี่ยง เธอดื่มเข้าไปจนเมาชนิดที่ว่าทำให้ ศีรษะของตัวเองเข้าไปติดในท่อไอเสียของรถบรรทุก คันหนึ่งเข้า หลายคนคงสงสัยว่า ทำอีท่าไหนถึงได้เอาหัวไปติดอยู่ในท่อไอเสียแบบนั้นได้… Kaitlyn ไม่สามารถดึงหัวตัวเองออกจากท่อไอเสียได้ ผู้คนจึงโทรขอความช่วยเหลือจากพนักงานดับเพลิง ซึ่งเมื่อพนักงานดับเพลิงมาถึงก็ใช้เลื่อยไฟฟ้าตัดท่อไอเสียให้แตกออก ใช้เวลาราว 45 นาทีกว่าจะช่วยเธอออกมาได้ ขณะทำการช่วยเหลือ พนักงานถามถึงสาเหตุที่ศีรษะเข้าไปติด Kaitlyn จึงเล่าว่า “คืนนั้นพวกเราสนุกกันมาก ฉันเห็นว่าท่อไอเสียรถคันนี้ใหญ่ดี ฉันอยากบอกว่ามันใหญ่เท่าๆ กับหัวของฉันเลย ฉันเลยลองเอาหัวเข้าไปวัดดู…” Kaitlyn Strom วัย 19 ปี หลังจาก Kaitlyn ออกมาแล้ว เธอจึงถ่ายรูปกับเจ้าของรถบรรทุกพร้อมถือชิ้นส่วนท่อ เธออัปโหลดลงเฟซบุ๊กพร้อมบอกว่า “ฉันนี่แหละ หญิงสาวในท่อไอเสีย” ฮ่าๆๆ มีคลิปสั้นๆ ให้ดูด้วยนะเอ้อ …
-
Charlotte คุณแม่ผู้ต่อสู้กับกฎหมายอังกฤษ เพื่อนำน้ำมันกัญชากลับมารักษาลูกที่เป็นลมชัก
Charlotte Caldwell มีลูกชายวัย 12 ขวบอยู่หนึ่งคน เขามีชื่อว่า Billy Caldwell เพียงแต่เขาคนนี้ไม่ใช่เด็กชายธรรมดาๆ Billy เป็นเด็กหนุ่มที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคลมชักและโรคแทรกซ้อนอื่นๆ มากมาย ที่ทำให้เขามีอาการลมชักได้บ่อยถึง 100 ครั้งต่อวัน เขาต้องต่อสู้กับคืนวันที่ไม่สามารถเดิน กิน หรือเล่นได้เหมือนเด็กปกติ แถมยังต้องมีชีวิตอยู่กับอันตรายอย่างต่อเนื่องทุกวัน Charlotte และ Billy มันเป็นเรื่องโชคดีมากที่พวกเขาได้พบกับน้ำมันกัญชาทางการแพทย์ ที่เมื่อนำมาใช้กับ Billy เพียง 0.5 มิลลิลิตร วันละสองครั้ง ก็สามารถลดอาการชักของเขาไปได้จนแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย แต่แล้วเรื่องราวการต่อสู้อันยากลำบากก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา Charlotte และ Billy ที่บินกลับจากการไปรับยาที่โตรอนโต ประเทศแคนาดา ต้องถูกเจ้าหน้าที่สนามบินของอังกฤษ ริบน้ำมันกัญชาที่เตรียมไว้เพื่อใช้เป็นเวลาหกเดือน เนื่องการกฎหมายของอังกฤษ ที่เป็นแบบนั้นเนื่องจากว่าในน้ำมันกัญชาทางการแพทย์ที่พวกเธอได้มานั้นมีสาร THC ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทอยู่ แม้ว่าจะในปริมาณที่น้อยมากจนผู้เชี่ยวชาญบอกว่าต่อให้ดื่มทีเดียวร้อยขวดก็ไม่มีผลข้างเคียงก็ตาม วันนั้นเองที่ Billy มีอาการลมชักอย่างหนักอีกครั้งหลังจากที่ไม่มีอาการมานานราว 250 วัน Charlotte รีบไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม Nick Hurd เพื่อขอยาคืนทันทีหลังจากนั้น แต่ก็ไม่ได้รับยาคืนมาอยู่ดี เธอถูกบอกว่าเธอสามารถทำใบอนุญาตเป็นพิเศษได้…
-
หรือว่าเอเลี่ยนจะมาดูฟุตบอลโลก!! ชาวรัสเซียแตกตื่น หลังพบ UFO บินผ่านน่านฟ้าประเทศ
ฟุตบอลโลกนั้นไม่ว่าจะเป็นปีไหนๆ ก็ย่อมเป็นเรื่องที่เป็นที่ติดตามของคนทั้งโลกอยู่แล้ว ในฐานะที่มันเป็นการแข่งขันที่เว้นระยะห่างถึง 4 ปีในการจัดแต่ละครั้ง แถมยังเป็นการรวมเอาสุดยอดนักฟุตบอลเด่นๆ ดังๆ ไว้เต็มไปหมด แต่ดูเหมือนว่างานฟุตบอลโลก 2018 นั้นจะก้าวล้ำไปจากเดิมอีกหนึ่งขั้น เมื่อมีการรายงานจากแฟนบอลและประชาชนในพื้นที่จำนวนมากออกมาบอกว่าพบ UFO บินผ่านน่านฟ้ารัสเซียในระหว่างงานฟุตบอลโลกในครั้งนี้ด้วย!! วิดีโอที่มีการบันทึกภาพ “UFO” ที่ว่าโดย Père Noèl จากในวิดีโอจะเห็นว่ามีเส้นแสงรูปร่างคล้าย “ปลากระเบนยักษ์” พุ่งผ่านน่านฟ้าทางตอนเหนือของรัสเซียไป ทำให้เกิดความประหลาดใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก “นั่นมันอะไรน่ะ ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย” หญิงสาวผู้พบกับแสงปริศนาในเมือง Kirov กล่าว โดยแสงปริศนานี้ สามารถมองเห็นได้จาก Nizhny Novgorod ซึ่งจะมีการจัดการแข่งของทีมอังกฤษในวันที่ 24 มิถุนายน 2018 นี้ “ไม่แน่นะว่าเอเลี่ยนอาจจะมาดูบอลโลกก็ได้” แฟนบอลผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งออกความเห็นแบบติดตลก อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าแสงที่ว่านี้จะไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์ต่างดาวแต่อย่างใด เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่องค์การอวกาศของรัสเซียออกมาให้คำอธิบายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า แสงที่ว่านี้เป็นไปได้ว่าจะเกิดจากการปล่อยตัวจรวด Soyuz-2.1.B จาก Plesetsk Cosmodrome ฐานปล่อยจรวดใน Arkhangelsk โดยจรวดที่ว่านี้ถูกปล่อยตัวออกไปในช่วงวันที่ 17 มิถุนายนเวลา 0.46 นาฬิกาตามเวลาในท้องถิ่น จึงมีความเป็นไปได้สูงทีเดียวว่าจะเป็นที่มาของ UFO…
-
ดีไซเนอร์สวิตเซอร์แลนด์ออกแบบ “พรมเช็ดเท้ามอสส์” แค่อาบน้ำบ่อยๆ ก็ช่วยให้เติบโตได้
เคยอ่านเจอข้อความหนึ่งในหนังสือสักเล่มหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ว่าการที่เราได้เอาเท้าสัมผัสกับผืนหญ้าจะเป็นการเติมเต็มพลังชีวิตให้กับเรา ซึ่งก็ดูจะเป็นคำเปรียบเปรยที่มีส่วนจริงอยู่บ้าง เพราะพื้นที่สีเขียวช่วยให้เราสบายตาและการได้สัมผัสกับผืนหญ้าก็ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายเท้าจริงๆ และด้วยไอเดียที่อยากจะให้ธรรมชาติเข้ามาใกล้ชิดกับมนุษย์มากขึ้น ทำให้ดีไซเนอร์อย่าง Nguyen La Chanh จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คิดค้นพรมเช็ดเท้าแบบใหม่ ที่ไม่ได้ทำมาจากผ้าแต่ทำจาก “มอสส์” ดีไซเนอร์สาวเล่าถึงไอเดียแรกเริ่มว่า “ไอเดียคือการหาหนทางใหม่ๆ ที่ทำให้คุณมีต้นไม้ในบ้านคุณ ไม่ใช่แค่การปลูกลงในกระถางแล้วตั้งมันไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่นเท่านั้น แต่เติบโตอยู่ทั่วบ้าน” จึงเกิดเป็นพรมมอสส์อย่างที่เห็น วัสดุสีดำที่คุณเห็นเป็นฐานของพรมชิ้นนี้ ทำมาจากโฟมที่มีลักษณะเบา มีความหนา 2.4 นิ้ว ซึ่งคุณแทบไม่ต้องรดน้ำดูแลมันเลย เพราะทุกครั้งที่คุณอาบน้ำเสร็จแล้วยืนอยู่บนพรมเช็ดเท้าชิ้นนี้ ละอองน้ำบนร่างกายของคุณก็จะร่วงลงไปเอง ทำให้ต้นมอสส์ได้รับความชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา ในทีแรกที่เธอผลิตมันขึ้นมา มันมีราคาสูงถึงชิ้นละ 9,500 บาท แต่หลังจากได้รับการระดมทุนและผลิตมันในจำนวนมากๆ เธอก็สามารถลดราคาของมันลงมาได้เหลือเพียงชิ้นละ 3,367 บาท หากคุณสนใจอยากจะได้มาไว้ใช้หรือซื้อเป็นของขวัญแปลกๆ ล่ะก็ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ etsy ได้เลย ที่มา apartmenttherapy , inhabitat
-
ตำรวจช็อก พบหญิงสาวอาร์เจนตินาถูกล่ามโซ่ไว้ในบ้านนาน 20 ปี เพียงเพราะเธอมีความรัก
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ของอังกฤษได้นำเสนอเรื่องราวน่าเศร้าของ Marisa Almiron หญิงสาวชาวอาร์เจนตินาวัย 42 ปี ที่ถูกพ่อแท้ๆ ของตัวเองกักขังเอาไว้ในบ้านและล่ามโซ่เธอไว้กับเตียงเป็นเวลานานถึง 20 ปี เพียงเพราะเธอมีความรัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตชนบท เมืองเบนาโด ตวยร์โต ประเทศอาร์เจนตินา หลังจากที่มีเพื่อนบ้านรายหนึ่งได้ยินเสียงร้องของหญิงสาวรายหนึ่งดังออกมาจากบ้าน จึงมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ในทีแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ ทางครอบครัวอ้างว่าตำรวจไม่มีสิทธิ์ในการเข้าตรวจค้นเนื่องจากไม่มีหมายค้น แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเข้าตรวจค้นได้ เมื่อพวกเขาเข้าไปในบ้านได้ก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น เพราะภายในบ้านมีหญิงสาวร่างกายผอมสูบถูกล่ามโซ่เอาไว้กับเตียงนอนในห้องมืดๆ ซึ่งรอบๆ ตัวเธอเต็มไปด้วยคราบอุจจาระ และปัสสาวะของเธอ ซึ่งคนที่ทำกับเธอแบบนี้คือพ่อของเธอเอง โดยให้เหตุผลว่าเป็นการลงโทษที่เธอมีแฟนหนุ่ม แต่หลังจากที่ล่ามโซ่ลูกสาวไปได้ 8 ปี พ่อของเธอก็เสียชีวิตลง แต่ Marisa ก็ยังไม่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เพราะ Mario พี่ชายของเธอเข้ามารับหน้าที่ในการกักขังเธอต่อไปอีก 12 ปี จากการถูกขังลืมแบบนี้ทำให้ Marisa ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจเป็นอย่างมาก และกลายเป็นคนที่มีอาการทางจิตที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยส่งเธอไปยังโรงพยาบาล Alejandro Gutierrez ในตัวเมืองเพื่อเข้ารับการรักษา หนึ่งในเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ บอกว่าแม้จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่สามารถเข้าไปทำอะไรกับครอบครัวนั้นได้ “บ้านของฉันเหมือนตกอยู่ในนรกเลย เพราะเสียงกรีดร้องนั่นฉันแทบจะสามารถได้ยินมันผ่านกำแพงเลย ผู้หญิงคนนั้นทุกข์ทรมานจากสิ่งเลวร้ายมากมาย”…
-
นักร้อง Example หงุดหงิดแฟนเพลงไม่มีบลูทูธในรถ ซื้อรถใหม่ให้จะได้ไว้ฟังเพลงของเขา…
ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปรูปแบบการขายเพลงก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เทคโนโลยีสตรีมมิ่งเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แฟนต่างๆ ถูกขายในรูปแบบดิจิตอล และรูปแบบการฟังเพลงจากเดิมที่มีสิ่งจับต้องได้จากเทปมาเป็นซีดี ก็เริ่มหายไปเช่นกัน ศิลปินต่างก็ต้องปรับตัวไปตามยุคสมัยเช่นกัน อย่างศิลปินนักร้อง Example (Elliot Gleave) ที่เปลี่ยนรูปแบบขายเพลงของตัวเองเป็นดิจิตอลเต็มรูปแบบ และจะไม่มีซีดีวางขายอีกต่อไป แต่แล้วหนึ่งในแฟนเพลงนามว่า Jordan Niner ได้ทวีตถามเจ้าตัวว่า จะพอมีโอกาสบ้างไหมที่อัลบั้มใหม่จะขายเป็นแผ่นซีดี เนื่องจากว่ารถของเขารุ่นปี 2001 ไม่มีทั้งสายเชื่อมต่อเล่นเพลงและเทคโนโลยีบลูทูธเลย ใหม่สุดๆ ก็มีแค่เครื่องเล่นซีดี!? เจ้าตัวเห็นและตอบกลับมาสั้นๆ ว่า “คงไม่อ่ะ นี่มันปี 2018 แล้ว แต่ถ้าอัลบั้มนี้ขายดี ผมจะซื้อรถคันใหม่ให้คุณเลย ดีมั้ยล่ะ?” รถของหมอนี่ไม่มีสายต่อ AUX ไม่ทั้งบลูทูธ มีแต่ซีดี อัลบั้มใหม่ของผมจะไม่มีซีดี ผมจะซื้อรถใหม่เพื่อที่เขาจะได้มีไว้ฟังเพลง!? This lad don’t have an aux or Bluetooth in his car. Only CD. And…
-
Johnny Depp ยกเลิกงานแถลงข่าวทั้งหมด ท่ามกลางข่าวลือเรื่องอาการป่วยจนผอมแห้ง…
ก่อนหน้านี้มีภาพเกี่ยวกับ Johnny Depp ในสภาพที่ดูโทรมและผอมแห้งผิดจากปกติที่เราเห็นกัน จนแหล่งข่าวต่างประเทศลือกันให้เพียบว่า เขากำลังประสบกับโรคร้ายจนทำให้สุขภาพร่างกายย่ำแย่… . แต่ทว่าข่าวจากวงในผู้ใกล้ชิดกับ Depp นั้นกลับบอกว่า เขายังมีสุขภาพที่ดี ไม่จำเป็นจะต้องห่วงเรื่องร้ายแรง แม้ว่าจะมีภาพถ่ายในขณะที่เขากำลังออกทัวร์กับวงดนตรีของตัวเองก็ตาม ในขณะที่ภายนอกได้เห็นภาพและเป็นห่วงกับสุขภาพของ Depp เพราะเกรงว่าการโหมงานหนักอาจจะทำให้เขาป่วย แหล่งข่าวใกล้ชิดกับเขาปัดข้อสงสัยดังกล่าวออกไปในทันที เพราะเขาไม่มีปัญหาทางด้านสุขภาพแต่อย่างใด และทาง Depp เองก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ถูกพูดถึงเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่มีภาพถ่ายของเขาปรากฏออกมาในระหว่างทัวร์วงดนตรี Hollywood Vampires ในเมือง St. Petersburg ประเทศรัสเซีย อีกทั้งมีรายงานจาก Times Magazine โดยนักข่าวชาวเยอรมันได้ถามคำถามเกี่ยวกับร่างกายอันผอมแห้งของ Depp ทำให้เกิดความหวาดวิตกกับแฟนๆ ทั่วโลก ส่งผลทำให้งานแถลงข่าวต่างๆ ถูกยกเลิก เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดความวิตกกังวลมากไปกว่านี้ . อย่างไรก็ตาม การที่ Depp ดูเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้กรีดอายไลน์เนอร์อย่างที่ทุกคนติดภาพกัปตันแจ็ค จึงทำให้ภาพที่ปรากฏออกมาทำให้ดูแปลกตาออกไป…
-
เหตุจากเม็กซิโกชนะเยอรมนีในบอลโลก ชาวเม็กซิกันกระโดดฉลอง ก่อแผ่นดินไหวย่อมๆ!!
ในขณะที่ผลบอลโลกคู่ช็อกแชมป์เก่าระหว่าง เยอรมนีพบเม็กซิโก เป็นที่ถกเถียงกันเมื่อคืนจนถึงเช้านี้ด้วยสกอร์ 1 – 0 ในครึ่งแรก จากจังหวะโต้กลับเร็วของ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ไหลทะลุส่งให้ เฮอร์วิง โลซาโน เติมขึ้นมาล็อกตัดเข้าในและทำประตูเสียบเสาแรกเข้าไปได้สกอร์ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายก่อนหมดครึ่งแรก!! ด้วยการทำสกอร์นำแชมป์เก่าของเม็กซิโก เหล่ากองเชียร์ในสนามกีฬาลุจนีกี ต่างโห่ร้องกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอย่างบ้าคลั่ง แต่คงจะเทียบไม่ได้เท่ากับเหล่ากองเชียร์ที่บ้านเกิดในเมืองหลวงเม็กซิโกซิตีแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากกองเชียร์ส่วนใหญ่ต่างรอให้กำลังใจและรอลุ้นกันอยู่ที่บ้านเกิด จนกระทั่งทำสกอร์นำขึ้นมาได้ปุ๊บ เหตุแผ่นดินไหวที่กระทำโดยมนุษย์ก็เกิดขึ้นทันทีในเวลา 11.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น หน่วยเฝ้าระวังแผ่นดินไหวเม็กซิโก ทำรายงานอย่างเป็นทางการ กล่าวว่าเกิดแผ่นดินไหวประดิษฐ์ (แผ่นดินไหวขนาดย่อมที่มนุษย์สร้างขึ้น) El #sismo detectado en la Ciudad de México se originó de manera artificial. Posiblemente por saltos masivos durante el Gol…
-
สลด!! เด็กหนุ่มถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมข่มขืนแถมใช้แท่งเหล็กเสียบทวารหนัก ไม่พอถูกถ่ายคลิปอีก
หากจะพูดถึงการกระทำที่ผิดกฎหมาย และสร้างความความทุกข์ให้แก่ผู้ที่ถูกกระทำจนแทบจะเหมือนการตายทั้งเป็น ก็จะต้องมี ‘การข่มขืน’ เป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็เกิดเหตุที่น่าเศร้าสลดเกี่ยวกับประเด็นนี้ขึ้น เพราะว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งถูกข่มขืนโดยวัยรุ่นถึง 5 คน เท่านั้นยังไม่พอยังมีการยัดแท่งเหล็กใส่ทางทวารหนักและถ่ายวิดีโอเก็บเอาไว้ด้วย!! เรื่องราวอันน่าสลดใจนี้เกิดขึ้นที่เมือง Modinagar ประเทศอินเดียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์เริ่มขึ้นจากความที่เด็กชายวัยรุ่นวัย 17 ปีคนหนึ่งกำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากที่นำรถมอเตอร์ไซค์ไปซ่อมไว้ที่ร้านซ่อมรถ แต่ว่าในระหว่างทางนั้นเอง เขาก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คนลากเข้าไปในร้านแห่งหนึ่งแล้วใช้กำลังรุมข่มขืน ซึ่งก็แน่นอนว่าเขาต้องไม่ยอมแต่โดยดีและมีการดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด ทว่าการต่อสู้ของเขาก็ทำให้ถูกวัยรุ่นกลุ่มนั้นเกิดโมโหแล้วนำแท่งเหล็กเสียบเข้าไปที่ทวารหนัก พร้อมทั้งมีการถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ข่มขู่ด้วย นอกจากการข่มขืนทำร้ายร่างกายแล้ว ก็ยังมีการยืนยันด้วยว่ากลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 คนนี้ก็ได้ขโมยเงิน 1600 รูปี (ประมาณ 800 บาท) ของวัยรุ่นผู้โชคร้ายคนนี้ไปด้วย ทั้งนี้ทางพ่อของเหยื่อผู้ถูกกระทำก็ได้บอกว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้รังแกลูกชายของเขามาเป็นเวลานานแล้ว แถมยังมีการเหยียดวรรณะเกิดขึ้นด้วย เพราะว่ามีหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นลูกของนายตำรวจใหญ่นั่นเอง ในตอนนี้ยังไม่มีการรายงานว่าคดีนี้คืบหน้าจนถึงขั้นไหนแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็เป็นอีกหนึ่งคดีที่มีความรุนแรงและความโหดร้ายมากๆ ซึ่งไม่ควรมีใครที่ต้องมาเจอเหตุการณ์ที่ทารุณถึงขนาดนี้เลยจริงๆ… ที่มา: ndtv, indiatoday, india.com, gnsnews
-
เด็กหญิงวัย 3 ขวบ หายตัวไปในทุ่งข้าวโพด แต่โชคดีที่มีสุนัขคอยอยู่ดูแลเธอตลอดทั้งคืน
เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าเมื่อช่วงค่ำของวันพฤหัสที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งผ่านเบอร์ 911 ว่าเด็กหญิง Remy Elliott วัย 3 ขวบในรัฐมิซูรี ได้หายตัวไปจากบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องพวกเขาก็ได้สั่งทีมตำรวจออกลาดตระเวนเพื่อค้นหาตัวเด็กน้อยทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศภายในคืนนั้น โดยใช้กำลังตำรวจกว่า 100 นายช่วยกันค้นหา โดยคาดการณ์ว่าบริเวณที่เธอหายไปน่าจะเป็นไร่ข้าวโพดแห่งหนึ่ง แต่แม้เวลาจะผ่านไปทั้งคืน พวกเขาก็ยังไม่พบตัวเด็กหญิงรายดังกล่าว หลังจากใช้เวลาค้นหาไปจนถึงช่วง 8 โมงเช้าของวันศุกร์ ทีมค้นหาก็ได้ยินเจ้าสุนัขยอร์กเชอร์เทอร์เรียร์ตัวหนึ่งส่งเสียงเห่าออกมาจากไร่ข้าวโพด และพยายามส่งสัญญาณให้กับทีมค้นหาว่าเด็กหญิงคนนั้นอยู่ตรงส่วนไหนของไร่ข้าวโพด ทีมค้นหาต้นตอของเสียงและเดินตามไปเรื่อยๆ จนพบว่าเด็กหญิงที่พวกเขาตามหานั่งอยู่บนพื้นในไร่ข้าวโพดนั่นเอง ในขณะนั้นเธอมีอาการเหนื่อยอ่อน ร้อน และเหงื่อออกไปทั่วตัว แต่เด็กหญิงบอกว่าในช่วงเวลากลางคืนเธอไม่รู้สึกหวาดกลัวเลย เพราะมีเจ้า Fat Heath คอยอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลา หน้าตาของเจ้า Fat Heath ทีมงานรีบพาไปไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลใกล้ๆ และพบว่าเด็กหญิงมีร่องรอยของการถูกยุงกัดอยู่หลายจุด แต่โชคดีที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก “ฉันรู้สึกดีขึ้นมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรารู้ว่าเธอโอเค ตอนนี้เธอกลับมาเป็นปกติแล้ว” Timber Merritt แม่ของหนูน้อย Remy กล่าว ด้านนาง Makayla Hardcastle หนึ่งในอาสาสมัครผู้ร่วมค้นหาเด็กหญิงกล่าวถึงความยากลำบากในการช่วยเหลือว่า “ไร่ข้าวโพดเป็นอะไรที่สร้างบาดแผลเหมือนกับใบมีดโกนมาก และคุณจะไม่ค่อยได้ยินอะไรเท่าไหร่เมื่ออยู่ในนั้น เมื่อมีใครสักคนตะโกนชื่อของคุณ…
-
Brimham Rocks สถานที่ท่องเที่ยวอายุ 320 ล้านปี พังพินาศในไม่ถึง 1 วันเพราะวัยรุ่น 5 คน
เคยได้ยินคำที่ว่าสถานที่แห่งประวัติศาสตร์นั้นประเมินค่าไม่ได้ไหม นั่นเป็นเพราะว่าของบางสิ่งนั้นมีคุณค่ามาเกินว่าจะเอามาตีราคาเป็นเงินนั่นเอง โดยมากแล้วจะใช้กับสถานที่โบราณหรือมรดกทางวัฒนธรรมของโลกนั่นเอง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าเศร้ามากเมื่อ Brimham Rocks การเรียงของหินที่มีอายุ 320 ล้านปีตั้งแต่สมัยยุคน้ำแข็ง ต้องมาพังพินาศในไม่ถึง 1 วันเพราะวัยรุ่น 5 คน ในวันที่ 1 มิถุนายน เวลาประมาณ 20.45 นาฬิกาตามเวลาในท้องถิ่น ได้มีการพบเห็นกลุ่มวัยรุ่น 5 คน พยายามผลักหินก้อนบนสุดของ Brimham Rocks ลงไปจากหน้าผา ทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจจะซ่อมแซมได้ และทำลายแห่งท่องเที่ยวเก่าแก่แห่งหนึ่งของอังกฤษไป จะเห็นได้ว่าหินที่ซ้อนกันอยู่นั้นหายไป ตัวหินที่ตกไปนั้น แตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่ใต้หน้าผา ความเสียหายนั้นรุนแรงมากจนไม่อาจกู้คืนได้ และอังกฤษอาจจะต้องเสีย Brimham Rocks ไปตลอดกาล แต่นอกจากจะทำลายแห่งท่องเที่ยวเก่าแก่ไปแล้ว วัยรุ่น 5 คนที่ว่ายังได้ทำการขีดเขียนชื่อและข้อความจำนวนหนึ่งทิ้งไว้บนหินในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย ข้อความเหล่านี้ ถูกเขียนไว้ในพื้นที่ใกล้เคียงกับหินที่หายไป ข้อความนี้เขียนขึ้นจากการขูดผิวของหิน บ้างก็เป็นชื่อ หรือตัวเลข และข้อความ…
-
ไอเดีย ‘มนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ’ ของนักวิทย์ โดยยืมจุดเด่นของสัตว์…และนี่คือสิ่งที่ได้!!
ร่างกายของมนุษย์เรานั้นได้รับการพัฒนาการมาแล้วมากกว่าหลายล้านปี จนกลายมาเป็นมนุษย์อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบันนี้… แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่าที่เราพัฒนาการจนถึงทุกวันนี้ เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบแล้วรึยัง? แน่นอนว่าในแง่ของวิทยาศาสตร์นั้นมองว่ามันยังไม่ได้สมบูรณ์จนถึงที่สุด สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมการวิวัฒนาการของมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบของนักวิทยาศาสตร์กัน จะเป็นมนุษย์ที่มีรูปร่างหน้าตาแบบไหนลองไปชมกันได้เลยจ้า จากข้อมูลของสารคดีเรื่อง Can Science Make Me Perfect? จากช่อง BBC4 ได้ทำการนำข้อดีของสัตว์ชนิดต่างๆ เพื่อนำมาใช้เสริมสร้างจินตนาการเพื่อสร้างมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดออกมา Alice Roberts นักวิทยาศาสตร์สาวผู้ออกแบบมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบได้กล่าวว่า “ในอีกนัยหนึ่ง มนุษย์ตกเป็นเหยื่อของความสำเร็จของตัวเรา เพราะสิ่งที่จำเป็นเพื่อเอาชนะในการวิวัฒนาการก็คือ การมีชีวิตอยู่ให้นานพอที่จะถ่ายทอดยีนส์ของตัวเอง” “เมื่อคุณทำการ ‘สืบพันธุ์’ สำเร็จ การวิวัฒนาการก็ไม่ได้สนใจอะไรกับตัวคุณอีกต่อไปแล้วล่ะ” “มันทำให้เราอ่อนแอลง และเราไม่สามารถวิวัฒนาการไปต่อได้แล้ว เราไม่สามารถหลีกหนีให้ห่างไกลจากโรคปวดหลัง ซึ่งเป็นโรคที่คุณไม่เคยต้องเผชิญกับมันมาก่อนจนกระทั่งมีอายุได้ 50 ถึง 60 ปี เป็นระยะเวลาที่คุณได้หลุดพ้นจากกระบวนการสืบพันธุ์ไปแล้ว” คุณ Roberts เริ่มศึกษาเกี่ยวกับเภสัชศาสตร์เมื่อ 25 ปีก่อน และเธอก็เกิดสงสัยว่าเหตุใดมนุษย์ถึงอ่อนแอกับโรคต่างๆ มากมาย ยกตัวอย่างเช่น ไข้หวัด กับโรคหัวใจ เธอก็เลยออกแบบมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ…
-
ก็คนมันไม่ชอบเค็ม!! ผัวประกาศขอเลิกเมียเพราะใส่เกลือลงใน ‘ป๊อปคอร์น’ โดยไม่บอก
เมื่อเราไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ เราก็อาจจะซื้อขนมติดไม้ติดมือเข้าไปกินเพิ่มความสนุกในระหว่างการดูเรื่องราวต่างๆ และขนมที่ฮอตฮิตที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น ‘ป๊อปคอร์น’ แสนอร่อยที่มันเข้ากันดีเหลือเกินกับบรรยากาศในโรงภาพยนตร์ แต่ใครจะไปคิดว่าขนมข้าวโพดคั่วนี้จะทำให้คู่รักคู่หนึ่งต้องเลิกกันโดยมีมันเป็นต้นเหตุ เพราะมีสามีคนหนึ่งที่บอกเลิกกับภรรยาของเขาไป เนื่องจากว่าเธอใส่เกลือลงไปในป๊อปคอร์นโดยไม่บอกเขาแม้แต่น้อย!! นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ บนโลก โดยเหตุการณ์เริ่มขึ้นจากความที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถูกโทรเรียกให้เข้าไปช่วยเคลียร์เหตุที่โรงหนัง Marcus Majestic Cinema รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็พบกับคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่กำลังยืนเถียงกันอยู่ โดยฝ่ายภรรยาเป็นคนเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่า มันเริ่มขึ้นในตอนก่อนที่จะเข้าไปดูหนังเมื่อเธอไปต่อคิวจะซื้อป๊อปคอร์นเข้าไปกินในโรง โดยในระหว่างที่ต่อคิวซื้ออยู่นั้นเอง ตัวของสามีของเธอก็ได้เดินมาบอกขอให้เธออย่าใส่เกลือลงในป๊อปคอร์น แล้วเขาก็เดินออกไปจากแถว แต่ว่าหลังจากที่ได้รับป๊อปคอร์นจากซุ้มขายมาแล้ว เธอคนนี้ก็ตัดสินใจใส่เกลือลงไปตามความอยากกินของเธอ เพราะว่าเธอเป็นคนจ่ายเงินซื้อมาด้วยตัวเอง ในเวลาต่อมาสามีของเธอก็รู้ว่าเธอใส่เกลือลงไปในป๊อปคอร์นด้วย เขาเลยโมโหเป็นฟืนเป็นไฟและด่าว่าเธอเป็นคนไม่ซื่อสัตย์และชอบทำอะไรลับหลังเขาเสมอ และในท้ายที่สุดแล้วเขาก็พูดออกมาด้วยว่าจะขอยุติชีวิตการแต่งงานลงเพียงแค่นี้… ทว่าเมื่อได้ยินอย่างนั้นกลับไม่ทำให้ตัวภรรยาคนนี้สะเทือนเท่าไหร่นัก เพราะเธอยังคงเข้าไปดูหนังอย่างสนุกสนานบันเทิงใจ ขณะที่ตัวสามีบอกว่าไม่ดูหนังแล้วและจะรอเธออยู่ข้างนอก ซึ่งในเวลาหลังจากที่ภาพยนตร์จบลงภรรยาก็ออกจากโรงหนังมาเจอกับสามีที่คอยอยู่ข้างนอก เพื่อที่จะกลับบ้านด้วยกัน แต่ว่าผู้หญิงคนนี้กลับไม่ยอมให้ฝ่ายชายเป็นคนขับ เพราะเธอบอกว่าเขามักจะขับรถเร็วตลอดเวลาที่มีอารมณ์โกรธ และก็แน่นอนว่าตัวฝ่ายชายเองก็ไม่ยอมอย่างแน่นอน เขาปฏิเสธที่จะขึ้นรถถ้าไม่ได้เป็นคนขับ แต่ถึงอย่างไรตัวฝ่ายหญิงก็เป็นคนถือกุญแจรถอยู่ เมื่อเห็นทีท่าว่าคงไม่ได้กลับบ้านสักที จึงเป็นเหตุทำให้ฝ่ายหญิงต้องโทรศัพท์เรียกตำรวจมาช่วยไกล่เกลี่ยในที่สุดนั่นเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อมาถึงและรับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็ได้แนะนำว่าเธอไม่มีสิทธิ์จะไปบังคับเขาให้ขึ้นรถ เพราะเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วและสามารถปฏิเสธได้หากว่าเขาไม่ต้องการ ในท้ายที่สุดแล้วก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจบลงอย่างไรหรือจะไปหย่ากันเมื่อไหร่ แต่ถึงยังไงมันก็แสดงให้เห็นว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ…
-
หนุ่ม 22 เสียชีวิตหลังจากแทงตัวเอง เพราะคิดว่าเสื้อที่ใส่ป้องกันการแทงได้
ในบางครั้งด้วยความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป บวกกับความเข้าใจผิดๆ ก็อาจจะทำให้ชีวิตของคนคนหนึ่งต้องจบลงอย่างน่าเศร้าได้เลยทีเดียว นี่เป็นเรื่องราวของ Jordan Easton วัย 22 ปีจาก Middlesbrough เมืองทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ ผู้ซึ่งเสียชีวิตไปในงานวันเกิดครบรอบ 22 ปีของเขา Jordan Easton วัย 22 ปีผู้เสียชีวิต สาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ เกิดจากการที่เขาใช้มีดทำครัวแทงเข้าไปที่หน้าอกของตัวเอง เพื่อโชว์ให้คนในงานดูว่าเสื้อแจ็คเก็ตที่เขาใส่นั้นสามารถกันการถูกของมีคมแทงได้ แน่นอนว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด Jordan Easton ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการแทงตัวเองในครั้งนั้น ก่อนที่จะถูกส่งตัวเขาโรงพยาบาลท้องถิ่น และเสียชีวิตเพราะพิษบาดแผล จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเด็กเหตุการณ์ในครั้งนี้ถูกตัดสินให้เป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ไม่อาจจะกล่าวโทษใครได้ และถ้าจะทำจริงๆ ก็คงบอกได้เพียงว่าสาเหตุการตายของ Jordan นั้น มาจาก “ความเขลาของวัยรุ่น” เท่านั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นทำเอา Alison Price มารดาของผู้ตายแทบจะทำใจเชื่อไม่ลงเลยว่าลูกชายของเธอนั้นเอามีดแทงตัวเองแบบมีสติครบถ้วนจริงๆ เธอเล่ากับทางตำรวจว่า “ถ้าบอกว่าเขาทำเท่เพื่อโชว์สาวก็ยังพอเข้าใจอยู่หรอก แต่มาแทงตัวเองโชว์แม่กับน้องสาวนี่มันไม่น่าใช่นะ… ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ” เหตุการณ์ในครั้งนี้แท้จริงแล้วเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2017 แต่ด้วยความแปลกประหลาดของคดี กว่าที่จะมีการเปิดเผยสาเหตุการตายออกมาสู่สาธารณะ ก็เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 นี้เอง งานศพของ Jordan…
-
สะเทือนขวัญบอลโลก รถแท็กซี่พุ่งเข้าชนกลุ่มแฟนบอลข้างถนน บาดเจ็บอย่างน้อย 7 ราย
กลายเป็นเรื่องสะเทือนขวัญประจำเทศกาลบอลโลก 2018 ไปแล้ว เมื่อที่กรุงมอสโกประเทศรัสเซีย ได้เกิดเหตุการณ์รถแท็กซี่พุ่งเข้าชนกลุ่มแฟนบอลที่เดินอยู่ข้างถนน จนมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 7 คน ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากช่อง Anna Liesowska จากในคลิปจะสังเกตเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งพยายามเลี้ยวออกมาจากแถวของรถบนถนน และพุ่งเข้าใส่บรรดาแฟนบอลที่เดินอยู่บนทางเท้า ก่อนที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์บางส่วนจะพยายามเข้าไปเปิดประตูรถแท็กซี่ และคนขับรถแท็กซี่วิ่งหนีไป คนขับแท็กซี่ ที่กำลังวิ่งหนีกลุ่มคนที่วิ่งตามมาด้วยความโกรธแค้น แหล่งข่าวท้องถิ่นบอกว่า คนขับรถแท็กซี่วิ่งหนีไปพลางตะโกนว่า “ผมไม่ได้ทำ” ก่อนจะถูกจับไว้ได้โดยคนที่วิ่งตามไป และโดนนำตัวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา คนขับรถแท็กซี่ตะโกนว่า “ผมไม่ได้ทำ” ระหว่างวิ่งหนี เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวท้องถิ่นว่ามีอย่างน้อย 7 คน โดยส่วนมากเป็นแฟนที่เดินทางมาเชียร์บอลโลก ประกอบด้วยชาวเม็กซิโก รัสเซีย และยูเครน โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสหนึ่งราย ภาพสถานที่เกิดเหตุหลังจากนั้น ส่วนคนขับแท็กซี่ที่ได้รับการเปิดเผยจากทางตำรวจว่าชื่อ Anarbek Chyngyz และถือใบขับขี่ของประเทศคีร์กีซสถาน ในปัจจุบันกำลังถูกตรวจสอบจากทางตำรวจว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายใดๆ หรือไม่ ขับขี่ของ Anarbek Chyngyz อย่างไรก็ตามเบื้องต้นแล้ว ผู้ต้องหากล่าวว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการที่เขา “ควบคุมรถไม่ได้” และไม่ได้เป็นการก่อการร้ายแต่อย่างใด รถคันที่ก่อเหตุ จะสังเกตว่ากันชนหน้าหลุดออกไป…
-
หนุ่มจีนพยายามบังกล้องวงจรปิด ‘เพื่อทำผิดกฎจราจร’ แต่โดนกล้องอีกตัวจับไว้ได้!!
บางครั้งเรื่องที่เราเคยคาดหวังเอาไว้ มันก็ไม่มีทางเป็นจริงได้เสมอไป… เพราะบนโลกใบนี้ยังมีอะไรเกิดขึ้นตั้งมากมายอย่างที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มชาวจีนรายนี้ที่หวังจะทำผิดกฎจราจรด้วยการเอากระเป๋าปิดกล้องวงจรปิด แต่หารู้ไม่ว่ามีกล้องวงจรปิดตัวอื่นอีก งานนี้ขอบอกเลยว่าไม่รอด!! เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ China Xinhua News ได้รายงานว่ามีรถยนต์คันหนึ่งขับเข้าผิดช่องทาง ตรงทางแยกบนทางหลวงสายหนึ่งในอำเภอเชียงถาน มณฑลหูหนาน ประเทศจีน แต่ทว่าบนทางหลวงนั้นไม่มีที่กลับรถให้ ประจวบกับขับเลยทางแยกมาแค่นิดเดียว เจ้าของรถจึงตัดสินใจที่จะถอยรถกลับไปที่แยกและเปลี่ยนเส้นทาง ดูจากทรงแล้วด้วยความที่พี่แกกลัวว่าจะโดนกล้องวงจรปิดถ่ายเอาไว้ได้ เพราะทำผิดกฎจราจร จึงให้เพื่อนลงจากรถมาเอากระเป๋าบังกล้องวงจรปิดตรงแยกดังกล่าวเอาไว้ แต่ใสเจียเสียใจนะจ๊ะ เพราะว่ากล้องตัวนั้นไม่ใช่กล้องวงจรปิดสำหรับตรวจจับการทำผิดกฎจราจร แต่เป็นกล้องตรวจสอบสภาพอากาศต่างหาก ส่วนกล้องวงจรปิดที่เอาไว้ตรวจจับคนทำผิดกฎจราจรตัวจริง อยู่ห่างออกมาต่างหากล่ะ แถมยังจับภาพการกระทำของพวกเขาได้ทั้งหมด!! สรุปแล้วทั้งคนขับรถและผู้ร่วมกระทำความผิดได้รับการลงโทษโดยการตัดคะแนนใบขับขี่กันไปคนละ 18 คะแนน ลองไปชมคลิปจากกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แหม่ อุตส่าห์พยายามเอากระเป๋าปิดกล้องเอาไว้ ยื่นไม้ยื่นมือซะตะคริวแทบจับ สุดท้ายดันบังกล้องผิดตัวซะได้ ไม่รู้จะสงสารรึฮาดี ฮร่าๆ ที่มา : China Xinhua News
-
ใจเป็นชายกายเป็นหญิง เด็ก 12 ขวบจึงตัดผมและเปลี่ยนชื่อ หลังรู้ตัวตนจริงๆ ของตัวเอง
Gabriel Buttress ลืมตาขึ้นดูโลกใบนี้ในฐานะของ Charlotte Buttress และใช้ชีวิตเกือบ 12 ปีในการเรียนรู้ว่าตัวเองนั้น ไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะเป็นผู้หญิงเลย และในที่สุด Charlotte ก็ได้ตัดสินใจที่จะทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ ด้วยการเปลี่ยนชื่อเป็น Gabriel และตัดผมของตัวเองทิ้งเพื่อที่จะแสดงให้โลกเห็นถึงตัวตนจริงๆ ที่ซ่อนอยู่ Gabriel Buttress หลังจากตัดผมและเปลี่ยนชื่อ Melanie Palmer-Scaum มารดาวัย 35 ปีของเขากล่าวว่า “เรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่เราไปซื้อเสื้อเด็กผู้หญิงด้วยกันและเขาพูดขึ้นมาว่า ผมไม่อยากเข้าร้านนี้อ่ะแม่” เธอเล่าว่า Gabriel นั้นดูเป็นสาวทอมๆ มานานแล้ว แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะรู้สึกว่าตัวเองเกิดมาอยู่ในร่างกายที่ผิดไปจากเพศที่เขาเป็นแบบนี้ Melanie และ Charlotte สมัยที่ยังเป็นลูกสาว Gabriel ยอมเปิดใจคุยกับแม่หลังจากนั้น เขาส่งเมลไปหาแม่ว่า “แม่รู้จัก LGBT ไหม? ผมเป็นแบบนั้นล่ะ” และถึงแม้ว่าจะใช้เวลาสักพัก แต่ในที่สุด Melanie ก็สามารถยอมรับในสิ่งที่ลูกเธอเป็นจนได้ ถึงอย่างนั้นหนทางของ Gabriel ก็ใช่ว่าจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ เพราะแม้ว่าแม่ของเขาจะยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น แต่ก็ใช่ว่าโรงเรียนและเพื่อนๆ ทุกคนจะยอมรับมันได้เหมือนกับครอบครัวของเขา “มีคนมากมายถามเขาว่า ตกลงเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย…
-
อย่าแหย่สิงโต!! กลุ่มนักท่องเที่ยวลองของเอามือไปแตะตัวเจ้าป่า เลยโดนยี่เขี้ยวใส่ผวาเลยดิ๊
ใครๆ ต่างก็เป็นอันรู้กันดีว่าสัตว์เจ้าป่าอย่าง ‘สิงโต’ เป็นสัตว์นักล่าที่สามารถฉีกร่างของเหยื่อเป็นชิ้นๆ ได้ในเวลาเพียงแค่อึดใจเดียว ดังนั้นคงจะเป็นการดีซะกว่าถ้าเราไม่เอามือไม้ไปแตะต้องมัน แต่ว่าก็มีนักท่องเที่ยวอยู่กลุ่มหนึ่งที่ไม่เชื่ออย่างนั้น แล้วเอามือไปแตะตัวของสิงโต จนสุดท้ายโดนขู่ซะจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมด…. โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวอยากลองของกลุ่มนี้ ได้ไปสัมผัสกับประสบการณ์เสี่ยงตายที่สวนสัตว์แห่งหนึ่งในประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งจริงๆ แล้วการไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดอย่างนี้ก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในประเทศแห่งนี้อยู่แล้ว คลิปที่นักท่องเที่ยวเอามือไปสัมผัสไปทัช และก็เป็นเช่นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่จะได้ชมความงามของสัตว์ภายในรถ ทว่าในครั้งนี้พวกเขาอยากจะสัมผัสกับตัวสัตว์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เลยยื่นมือออกไปนอกรถแตะตัวสิงโตตัวที่อยู่ใกล้ๆ สักหน่อยว่าผิวของมันจะเป็นยังไงกันนะ แต่ก็ดูเหมือนว่าสิงโตตัวที่โดนจับจะไม่ค่อยชอบใจนัก มันเลยหันหน้ามาหากลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ แล้วแยกเขี้ยวพร้อมกับส่งเสียงขู่คำรามใส่ จนต้องผวาไปตามๆ กัน จนแทบจะปิดกระจกรถไม่ทัน ทว่าก็ปลอดภัยในท้ายที่สุด ภาพวิดีโอของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Youtube ช่อง Wildlife Sightings พร้อมกับคำเตือนว่าอย่าทำเหมือนพวกเขาเหล่านี้เด็ดขาด!! ต่อมาเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่าแห่งประเทศแอฟริกาชื่อว่า Naas Smit ก็ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ถ้าใครที่เคยทำงานร่วมกับสัตว์ป่าจะรู้กันดีว่าสิงโตมีความเร็วขนาดไหน แถมมันยังสามารถฉีกแขนของคนออกจากร่างได้ในเวลาอันรวดเร็วด้วยนะ” “มันมีพลังอันมหาศาลที่สามารถลากตัวนักท่องเที่ยวอย่างนี้ออกไปฆ่าได้ในทันที ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่งี่เง่ามากจริงๆ ที่ทำอย่างนี้ แต่ยังไงมันก็เป็นเรื่องเศร้ามากจริงๆ เพราะถ้าสิงโตฆ่าคนขึ้นมามันก็อาจจะถูกฆ่าตามไปด้วย” เห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่าพวกมันมีพลังเยอะขนาดไหน ทางที่ดีถ้าใครได้มีโอกาสไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดล่ะก็ ทางที่ดีควรจะหลีกเลี่ยงการแตะต้องตัวเจ้าป่าอย่างนี้จะดีกว่า เพราะเราไม่รู้ว่าอารมณ์ในตอนนั้นของมันเป็นยังไง ซึ่งก็ไม่แน่เหมือนกันว่ามันอาจจะขู่แค่นี้หรือลากเอาเราไปเป็นอาหารกันแน่ อยู่ดีไม่ว่าดีซะแล้ว… …
-
Dan Mancin นักสเก็ตบอร์ดที่ตาบอดสนิท ผู้เปลี่ยนมุมมองของผู้พิการที่ไม่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้
เคยได้ยินคนพูดมาหลายครั้งว่าหากวันใดที่คุณสูญเสียอวัยวะในร่างกายไปสักอย่าง อวัยวะส่วนอื่นๆ จะพัฒนาความสามารถขึ้นเพื่อให้ทดแทนส่วนที่ขาดหายไป เช่นหากคุณพิการแขน คุณก็อาจจะฝึกฝนการใช้เท้าเพื่อหยิบจับ หรือหากคุณสูญเสียการได้ยิน ดวงตาของคุณก็จะสามารถโฟกัสการมองได้มากกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย Dan Mancin ก็เป็นหนึ่งในบุคคลผู้พิการทางสายตา นั่นจึงเป็นเรื่องยากสักหน่อยที่เขาต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตในโลกอันมืดมิด แต่นั่นไม่สามารถหยุดความฝันที่อยากจะเป็นนักสเก็ตได้เลย Dan ชื่นชอบการเล่นสเก็ตบอร์ดมาตั้งแต่ที่เขาอายุ 7 ขวบ แต่พออายุ 13 ปีเขาก็ได้รับการวินิจฉัยจากหมอว่าเป็นโรคเกี่ยวกับจอประสาทตา และความสามารถในการมองเห็นของเขาก็ค่อยๆ ลดลง จนบอดสนิทในวัย 22 ปี จากสภาวะที่เจออยู่ Dan บอกว่าเขาแทบจะไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้เลย ต้องอยู่แต่ในบ้านตลอดเวลา และหากไปไหนโดยไม่มีคนไปด้วยเขาก็อาจจะหลงทางได้เลย นั่นเลยทำให้เขาเกิดความเครียดและกลายเป็นโรคซึมเศร้าอยู่พักหนึ่ง “ด้วยการสูญเสียการมองเห็นและไม่ได้เล่นสเก็ต ซึ่งมันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับผมมาก มันทำให้ผมรู้สึกอ้างว้าง” Dan กล่าว https://www.instagram.com/p/BkGM4dngblT/?taken-by=danthemancina แต่ด้วยความหลงใหลในสเก็ตบอร์ดทำให้เขาลุกขึ้นออกไปเล่นอีกครั้ง แม้ว่าจะมองไม่เห็นอะไรเลยก็ตาม ถึงจะหกล้มเจ็บตัวอยู่บ่อยๆ แต่มันก็ทำให้เขาได้เรียนรู้อย่างช้าๆ “ผมเริ่มฝึกฝนอย่างช้าๆ และเริ่มต้นทำสิ่งที่ผมเคยทำได้ตอนที่มองเห็นปกติ ผมเริ่มกลับมามั่นใจในตัวเองอีกครั้ง” Dan กล่าว ตลอดเวลาที่พยายามฝึกเล่น เขาใช้ไม้คลำทางคอยแตะพื้นอยู่ตลอดเพื่อให้รู้ว่าพื้นผิวด้านหน้าเป็นเนิน เป็นราวเหล็ก หรือเป็นขอบสนาม การได้กลับมาเล่นสเก็ตบอร์ดอีกครั้งถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับคนตาบอดอย่างเขา…
-
ประชาชนอินเดียกว่า 600 ล้านชีวิต กำลังเผชิญปัญหาขาดน้ำรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเริ่มต้นฤดูฝนอยู่นั่นเอง ในอีกมุมหนึ่งของโลก ประเทศอินเดียกลับกำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนน้ำที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ประชาชนกว่า 600 ล้านชีวิตต้องเผชิญหน้ากับการขาดแคลนน้ำอย่างหนัก นำไปสู่จำนวนการสูญเสียประชากรโดยเฉลี่ยมากถึงประมาณปีล่ะ 200,000 ชีวิตจากปริมาณน้ำสะอาดที่ไม่เพียงพอ และการบริโภคน้ำปนเปื้อน นอกจากนี้ภายในปี 2020 น้ำใต้ดินในเมืองกว่า 21 เมืองยังมีแนวโน้มที่จะหมดลงอีกด้วย ปัญหาขาดน้ำที่ว่านี้อาจจะนำไปสู่การขาดแคลนอาหารต่อไปได้ เนื่องจาก 80% ของน้ำในอินเดียนั้น ถูกใช้ไปกับการเกษตรในประเทศ จากรายงานของ Niti Aayog สถาบันแห่งชาติเพื่อการปฏิรูปประเทศอินเดียเปิดเผยออกมาว่า การพัฒนาระบบประปาอย่างยั่งยืนในอินเดียนั้น มีการดำเนินการที่ช้ามากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นั่นทำให้เกิดการชลประทานที่ไม่ดีและการปนเปื้อนอย่างรุนแรงของน้ำใต้ดินที่ประชาชนจำเป็นต้องพึ่งพา ทำให้ปัญหาขาดแคลนน้ำที่รุนแรงอยู่แล้ว หนักหนามากขึ้นเป็นทวีคูณ ประชาชนส่วนใหญ่ในปัจจุบันอาศัยน้ำจากบ่อน้ำส่วนตัวหรือรถบรรทุกน้ำที่มาจากทางรัฐบาล จนการต่อแถวรอรับน้ำกลายเป็นภาพที่เห็นกันจนชินตาในสลัมของอินเดียไปโดยปริยาย นอกจากนี้เนื่องจากการเติบโตขึ้นของเมือง ความกดดันของการหาทรัพยากรน้ำในเมืองก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยจากรายงานของ Niti Aayog แล้ว ความต้องการน้ำจะมากกว่ากำลังการผลิตถึง 2 เท่าภายในปี 2030 และอาจส่งผลให้ค่า GDP ของประเทศลดลงได้ถึง 6% อีกด้วย นั่นทำให้ปัญหาขาดน้ำในครั้งนี้กลายเป็นเรื่องที่สำคัญต่ออนาคตของอินเดียเป็นอย่างมาก และมีแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น ตราบใดที่ทางรัฐบาลยังไม่สามารถพัฒนาระบบประปาอย่างยั่งยืนได้ ที่มา cnn และ bbc
-
โลกอันวุ่นวาย ช่วงเวลาอันเร่งรีบ จนหญิงสาวคนหนึ่งต้องนั่ง “โกนขนหน้าแข้ง” กลางสถานีรถไฟ
ปัจจุบันโลกของเราช่างวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม เต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความเร่งรีบ งานก็ต้องรีบไปทำ ธุระโน่นนี่นั่นก็ต้องรีบเดินทางไป การจราจรก็คับคั่งเหลือเกิน และอาจเป็นเพราะอย่างนั้นเอง ที่ทำให้หญิงสาวคนนี้ต้องตัดสินใจทำสิ่งที่แปลกประหลาด ขณะกำลังนั่งรอรถไฟฟ้าใต้ดิน เธอก็ตัดสินใจควักเอาครีมโกนและใบมีด ออกมานั่งโกนขนหน้าแข้งของตัวเองซะเลย สาวนั่งโกนขนหน้าแข้ง กลางสถานีรถไฟ ในช่วงเวลาเร่งรีบ นี่คือภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2018 ณ สถานีรถไฟใน Time Squre นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมืองใหญ่อันแสนวุ่นวาย ในช่วงเวลาอันเร่งรีบของผู้คน คนจำนวนมากกำลังนั่งรอให้รถไฟมาเทียบชานชาลา ระหว่างนั้นพวกเขาก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งโกนขนหน้าแข้งของตัวเอง โดยไม่แคร์สายตาของคนรอบข้างเลยแม้แต่น้อย คลิปเหตุการณ์ที่มีคนถ่ายเอาไว้ แน่นอนว่าการกระทำของเธอคนนี้คงจะไปขัดหูขัดตาของบางคนอยู่บ้าง แต่สิ่งที่เธอทำสามารถสื่อออกมาให้เราเห็นอะไรในสังคมปัจจุบันบ้างล่ะ? การใช้ชีวิตของคนในเมืองกรุงจำนวนไม่น้อย จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับความวุ่นวายและเร่งรีบ จนบางครั้งอาจรู้สึกว่าทำไมชีวิตของเรามันถึงได้มีเวลาให้น้อยยิ่งนัก ด้วยเหตุนั้นเอง เราจึงอาจต้องใช้เวลาให้น้อยที่สุดในการทำสิ่งต่างๆ ใช้เวลานั่งรอรถเฉยๆ ไปทำอย่างอื่นที่จำเป็นต้องทำ แม้ตอนนี้สิ่งที่เราเห็นอาจดูเป็นเรื่องที่แปลกตาไม่น่าเกิดขึ้นได้ในที่สาธารณะ แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตการกระทำในลักษณะนี้อาจกลายเป็นสิ่งที่เราเห็นกันชินตาไปเลยก็ได้ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ นอกจากจะรู้สึกแปลกๆ กับสิ่งที่เห็นนี้แล้ว ยังมีความรู้สึกหรือความคิดอะไรเกิดขึ้นมาเพิ่มเติมจากสิ่งที่เห็นบ้างหรือเปล่า? เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันได้นะ ที่มา: ladbible , metro , mirror
-
นักบอลหล่อเหรอ!? มาดู ‘โค้ชทีมชาติโมร็อกโก’ กันบ้าง แฟนบอลกำลังคลั่งไคล้กันสุดๆ
หลังจากที่กระแสบอลโลกฟีเวอร์เริ่มมาได้ไม่กี่วัน หลายๆ คนก็ทนไม่ไหวเริ่มหันมาดูบอลกันบ้าง บางคนก็มาดูเพราะอยากศึกษาเกมกีฬา แต่บางคนก็มาดูเพราะ ‘นักบอลหล่อ’!? จากกระแสนักบอลหล่อที่โผล่มาให้เห็นตามหน้านิวส์ฟีดมากมายขนาดนี้ ใครเล่าจะอดใจไหว แต่ขอบอกเลยว่าขณะนี้โลกโซเชียลต่างประเทศเค้ากำลังโฟกัสไปที่ ‘โค้ชหล่อ’ กันอยู่ จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทีมชาติโมร็อกโกลงเตะกับทีมชาติอิหร่าน และผลปรากฏว่าโมร็อกโกเอาชนะไปได้ 1-0 แต่แทนที่ชาวเน็ตจะโฟกัสไปที่เกมการแข่งขันในสนาม กลับกลายเป็นว่าไปโฟกัสที่โค้ชทีมชาติโมร็อกโก เพราะพี่แกหล่อซะงั้น!? ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับ Herve Renard กุนซือชาวฝรั่งเศสวัย 49 ปี ที่ขอบอกเลยว่าพี่แกมีหน้าตาเหมือนกับ Jamie Lannister จากเรื่อง Game of Thrones เป็นอย่างมาก ถอดแบบกันมาเป๊ะๆ!! บางกระแสก็เหมือนกับเจ้าชายจากการ์ตูนดิสนีย์ไม่มีผิด ความหล่อเหลาเอาการของโค้ชท่านนี้ทำให้ชาวเน็ตมากมายต่างหลงใหลไปตามๆ กัน “เขาเหมือนกับแฟนใหม่ของแม่เลย” ชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าวถึงนิยามความหล่อของเขา รอยยิ้มพิมพ์ใจ บ้างก็ถึงกับบอกว่า “Renard เป็นชายที่หล่อที่สุดบนโลกใบนี้” “โมร็อกโกเต็มไปด้วยนักเตะที่ดูดี แต่ก็ไม่ใกล้เคียงกับ Renard” จะว่าไปก็คล้ายกับ Matthew McConaughey อยู่นะ …
-
ความซนนำพา เด็กชายวัย 5 ขวบพลาดทำงานศิลปะล้ม พ่อแม่ถูกเรียกค่าเสียหายกว่า 4 ล้านบาท!!
เราเข้าใจดีว่าเด็กย่อมมีความซนบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งความซุกซนของพวกเขาก็อาจนำพามาสิ่งหายนะของผู้ปกครอง เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ก็ได้ หายนะที่ว่านั้นเกิดขึ้นกับ Shannon Goodman และสามีของเธอ เมื่อลูกชายตัวน้อยวัย 5 ขวบวิ่งเล่นด้วยความสนุกสนาน ก่อนจะเข้าไปโอบกอดกับประติมากรรมงานศิลปะชิ้นหนึ่ง จนมันล้มลงมา สร้างความเสียหาย เด็กซนไปเล่นกับประติมากรรมที่จัดแสดงอยู่ นี่คือภาพจากกล้องวงจรปิดของอาคารชุมชน Overland Park ในเมือง Kansas City สหรัฐอเมริกา ขณะที่เด็กคนดังกล่าวเดินทางมาเป็นแขกร่วมงานแต่งงานที่จัดขึ้นในอาคารนั้น เราจะเห็นว่าขณะที่เด็กชายกำลังวิ่งเล่นอยู่กับเด็กอีกคนหนึ่ง จู่ๆ เขาก็เกิดสนใจประติมากรรมที่จัดแสดงอยู่ เขาจึงพุ่งเข้าไปกอดมันเอาไว้และทิ้งน้ำหนักไปด้านหลัง จนทำให้มันล้มลงมาเกิดความเสียหายในที่สุด เหตุการณ์นี้ทำให้ส่วนหัวและแขนของงานศิลปะชิ้นนั้นเสียหาย ทางด้านของเด็กเองก็ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงมากนัก เพราะเขายังคงสามารถวิ่งเล่นต่อได้ ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2018 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าครอบครัวของเด็กชายได้รับจดหมายเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 4,300,000 บาท!! จดหมายดังกล่าวนั้นถูกส่งมาโดยบริษัทประกัน Travelers ซึ่งให้ความดูแลงานศิลปะต่างๆ ในอาคารประจำเมืองแห่งนี้อยู่ …