Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
นักมวยวิ่งอยู่กับเพื่อน เจอหญิงพิการบนวีลแชร์ที่แบตฯ หมด ช่วยเข็นส่งบ้านอิ่มเอมใจ
โอกาสในการทำความดีนั้นมีอยู่มากมายรอบตัวเราแทบจะทุกๆ วัน แล้วถ้ายิ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการแบบจริงๆ แล้วล่ะก็ นอกจากจะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นมาแล้วก็อาจจะสร้างความสุขภายในจิตใจของเราได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นเดียวกัน และก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ยิ้มได้จากความดีที่มนุษย์โลกเอื้อเฟื้อให้แก่กัน เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งที่รถวิลแชร์เกิดแบตหมดขึ้นมา จึงทำให้นักมวยที่ออกกำลังอยู่บริเวณนั้นอาสาเข็นไปส่งที่บ้านแม้ว่าจะมีระยะทางเป็นกิโลๆ เลยก็ตาม!! โดยเรื่องราวความดีงามนี้เริ่มขึ้นในเช้าวันหนึ่งเมื่อนักมวยชื่อว่า Bilal Quintyne ที่อาศัยอยู่ในเมือง Smyrma รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังออกกำลังวิ่งกับเพื่อนๆ อยู่ แต่ว่าระหว่างทางนั้นเองเขาก็บังเอิญไปเห็นคนคนหนึ่งที่กำลังลำบากและต้องการความช่วยเหลือเข้า นั่นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์ไฟฟ้าที่แน่นิ่งอยู่บริเวณริมทางเดิน โดยเหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่ารถวีลแชร์ไฟฟ้าของเธอเกิดถ่านหมดขึ้นมา ระหว่างทางที่เธอกำลังจะไปซื้อแบตเตอรี่ที่ร้านค้า ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วเธอก็ไม่สามารถที่จะกลับบ้านหรือไปต่อยังร้านค้าได้อีกต่อไป เธอคนนี้จึงเรียกตัว Bilal ให้ช่วยไปตามตัวสามีเธอให้มารับตัวเธอให้หน่อย แต่ว่า Bilal ก็รู้ในตอนนั้นทันทีว่าเขาต้องให้ความช่วยเหลือเธอคนนี้แล้ว ทว่าสิ่งที่เขาทำกลับไม่ใช่การไปตามตัวสามีเธอมารับ แต่เขาอาสาจะเข็นเธอไปส่งที่บ้านเลยต่างหาก “เธอถามผมว่าพอจะช่วยเหลือเธอหน่อยได้ไหม และผมก็บอกไปว่าเห็นหุ่นผมไหม ผมมีร่างกายแข็งแรงพอที่จะพาคุณไปส่งที่บ้านได้ ว่าแต่บ้านของคุณอยู่ที่ไหน ผมจะพาไปส่งเอง” Bilal กล่าว แม้ว่าในตอนนั้นจะมีอุณหภูมิที่สูงถึง 32 องศาเซลเซียส และมีเนินเขาที่ยากจะเดินก้าวผ่าน แต่ Bilal ก็ไม่ย่อท้อที่จะพาหญิงพิการคนนี้ไปส่งยังบ้านของเธอให้จนได้ “ผมไม่แคร์ว่าคุณจะเคยผ่านหรือเคยเจออะไรมาบ้าง แต่เมื่อถึงเวลาที่พระเจ้าร้องเรียกให้คุณยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนอื่น คุณก็ควรจะทำมัน” Bilal กล่าว …
-
สาววัยกลางคนถูกกลืนโดยงูหลามยาว 8 เมตร ชาวบ้านต้องเร่งผ่าท้องกันวุ่นแต่ก็ไม่ทันการ!!
คำเตือน: อาจมีภาพที่ดูโหดร้ายบ้างเป็นบางภาพ ทางที่ดีควรใช้วิจารณญาณในการรับชม… ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสัตว์เพชฌฆาตสำหรับสัตว์เลื้อยคลานแสนน่ากลัวอย่าง ‘งู’ ที่ใครๆ ต่างก็ต้องหวาดผวาเมื่อได้พบเจอ ซึ่งทางที่ดีหากเราได้เจอมันก็ควรจะหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปใกล้ซะดีกว่า เพราะไม่รู้ว่างูตัวนั้นจะมีพิษหรือไม่… แต่ว่าบางทีถึงแม้ว่ามันจะไม่มีพิษร้าย แต่ว่ามันก็สามารถกลืนเราลงไปได้ทั้งตัวเหมือนกับสาววัยกลางคนคนนี้ ที่ถูกกลืนเข้าไปทั้งตัว จนทำให้ชาวบ้านออกตามหาก่อนจะพบว่าเธอได้เสียชีวิตในท้องของงูไปซะแล้ว โดยเรื่องราวอย่างกับหนังภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เกาะซูลสเวซี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อคุณแม่ลูกสองชื่อว่า Wa Tiba ได้หายตัวไปอย่างลึกลับในเย็นวันพฤหัสที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา จึงทำให้ทีมชาวบ้านได้เริ่มออกตามหาตัวเธอในเช้าวันต่อมา ซึ่งผลจากการสำรวจก็ได้พบ รองเท้า มีดมาเชเต้ รวมถึงไฟฉายที่คาดว่าจะเป็นของ Wa ตกอยู่ห่างจากพุ่มไม้แห่งหนึ่งประมาณ 30 เมตร และเมื่อลูกชายทั้งสองของ Wa เข้าไปสำรวจก็แทบจะหัวใจหยุดเต้น เพราะว่าได้พบเข้ากับงูหลามตัวหนึ่งที่นอนแผ่หลาอยู่กลางพื้น และไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เนื่องจากท้องที่นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเห็นอย่างนี้ก็เป็นที่รู้กันดีว่าต้องเป็นคนแน่ๆ ที่เจ้างูตัวนี้กินเข้าไป “ทุกๆ คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างร้องไห้กันระงมเพราะช็อกกับสิ่งที่ได้เห็น เธอช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารจริงๆ มันเหมือนกับเป็นหนังสยองขวัญเลยก็ว่าได้ ในตอนนี้พวกเรารู้สึกหวาดกลัวมากๆ ในเวลาที่ออกไปข้างนอก สิ่งที่พวกเราทำได้ก็แค่ภาวนาเท่านั้น” Ayu Kartika ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทำให้ชาวบ้านแจ้งตำรวจให้เข้ารับรู้ในเวลา 9 โมงเช้า…
-
ไม่ว่าจะสูง แค่ไหนก็ไปถึง!! คู่รักไม่แคร์สื่อ มีเซ็กส์กันบนหลังคาบ้านสูง 4 ชั้น ทำไมต้องบนนั้นพี่
เคยได้ยินมาหลายครั้งหลายคราว่าการมีเซ็กส์ในสถานที่แปลกๆ นั้นช่วยเพิ่มอรรถรสและเติมเต็มให้กับคู่รักได้ แต่ไม่ว่ามันจะเป็นสถานที่ที่แปลกหรืออยู่ที่ไหนก็ตาม คุณควรจะทำมันในที่ที่ลับหูลับตาคนและปลอดภัยด้วย ไม่งั้นอาจจะเสี่ยงต่ออันตรายและกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกได้ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน เว็บไซต์ Mirror ของอังกฤษ ได้นำเสนอเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งในเมืองลวีฟ ประเทศยูเครน ที่อยากจะเพิ่มความ (หวาด) เสียวให้กับเซ็กส์ของพวกเขา ด้วยการปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านที่ลาดเอียงและมีความสูงถึง 4 ชั้น ก่อนจะมีเซ็กส์กันอย่างเร่าร้อนโดยไม่ทันได้มองว่ามีใครอยู่ในบริเวณนั้นบ้าง ปฏิบัติการเสียวของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของคน 2 คนอีกต่อไป เมื่อเพื่อนบ้านในละแวกนั้นดันเห็นเหตุการณ์เข้า พวกเขาเลยหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายและส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนานอยู่ตลอดเวลาเช่น “เอาเลยเอาเลย” “เพื่อน ถ้าต้องการความช่วยเหลือล่ะก็ให้ยืนขึ้นเลยนะ” จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าทั้งคู่นั้นไม่ได้สนใจหรือาจไม่ได้ยินเสียงเชียร์ของเหล่าเพื่อนบ้านเลยแม้แต่น้อย เขากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ถึงจะมีวิวสวยๆ ในเมืองลวีฟ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าคู่รักหนุ่มสาวนี่ไม่ได้สนใจตรงนั้นเลย ทันทีที่คู่รักเห็นว่ามีคนมองอยู่ พวกเขาก็รีบกลับเข้าไปทันที แต่สิ่งที่สำคัญก็คือไม่มีใครตาย” เมืองลวีฟถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันตกของยูเครน และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศูนย์วัฒนธรรมหลักของประเทศและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกด้วย ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย เปลี่ยนสถานที่ได้ แต่ก็ขอให้มิดชิดและปลอดภัยนะ เพราะหากพลัดตกลงมาอาจไม่ใช่ภาพที่สวยเท่าไหร่ ที่มา mirror , thesun , To Lwów, kuЯwa
-
ร้านอาหารโดนคนรักสัตว์บุก คิดว่าขายเนื้อสุนัขให้ทาน ทำให้ร้านดังขายดีกว่าเดิมอีก!?
ท่ามกลางการคัดค้านการค้าขายและรับประทานเนื้อสุนัขในหลากหลายประเทศทั่วโลก และชาวจีนก็มีชื่อเสียงเลื่องลือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน เรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภัคตาคารจีนในประเทศเปรู หลังจากที่มีเหล่าลูกค้าและเหล่านักปกป้องสัตว์ บุกเข้าอย่างเกรี้ยวกราด เพราะเข้าใจผิดว่าทางร้านฆ่าสุนัขและนำมาประกอบอาหารให้ลูกค้าทาน!? เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นกับร้าน Chifa Asia กลุ่มลูกค้าและนักปกป้องสัตว์กรูเข้ามาในช่วงเดือนมกราคม ทำการกล่าวหาเจ้าของร้านจากการกระทำอันโหดร้าย ที่เลือกใช้เนื้อสุนัขมาประกอบอาหาร โดยไม่ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน และตัดสินจากภาพลักษณ์ของร้านอาหารจีน Liu Xiunhuan ผู้เป็นเจ้าของร้าน ได้รับผลกระทบจากการบุกเข้ามาของกลุ่มคนเหล่านี้ ทางการจึงทำการสั่งปิดร้านเพื่อทำการตรวจสอบ และทางร้านได้ส่งตัวอย่างเนื้อไปให้ตรวจสอบแต่โดยดี ระยะเวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ที่ร้านต้องปิดให้บริการ ภายหลังผลของการตรวจสอบกลับพบว่า เนื้อที่ใช้ภายในร้านเป็นเนื้อวัว ไม่ใช่เนื้อสุนัขอย่างที่เข้าใจกัน ทางร้านจึงได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากกว่าเดิม มีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น จากผลของข่าวที่ถูกบุกกล่าวหาว่าใช้เนื้อสุนัขแต่ไม่ใช่ความจริง และทางร้านก็ขอขอบคุณสื่อต่างๆ ที่ช่วยกันตีแผ่ความจริงของทางร้านให้ประชาชนได้เข้าใจ ที่มา: PeoplesDaily, rpp.pe
-
สิ่งที่หลงเหลืออยู่…จากเหตุ ‘ภูเขาไฟระเบิด’ ที่กัวเตมาลา ราวกับเวลาถูกหยุดเอาไว้แค่นั้น
ภูเขาไฟระเบิด ถือเป็นภัยธรรมชาติอันแสนรุนแรงที่สามารถคร่าชีวิตผู้คนได้มากมายนับไม่ถ้วน และเราไม่สามารถป้องกันหรือหลีกเลี่ยงมันได้เลย สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่หนีไปให้เร็วและไกลที่สุดในตอนเกิิดเหตุเท่านั้น เช่นเดียวกันกับเหตุภูเขาไฟระเบิดในประเทศกัวเตมาลา ผู้คนมากมายต้องยอมทิ้งถิ่นที่อยู่อาศัยของตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอด จนทำให้เมืองหลายเมืองต้องกลายมาเป็นเมืองร้าง และหลงเหลือไว้เพียงแต่ความว่างเปล่า…ราวกับว่าเวลาถูกหยุดเอาไว้โดยฉับพลัน ช่วงเวลาความสุขของครอบครัว ทุกคนกำลังร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน ผ้าที่ถูกตากเอาไว้บนราวหลังบ้าน ของเล่นของเด็กๆ กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทุกอย่างต้องถูกหยุดเอาไว้แค่ตรงนั้น เพราะเกิดเหตุภูเขาไฟ Fuego ระเบิดอย่างรุนแรงในวันที่ 3 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของกัวเตมาลา ภูเขาไฟเกิดปะทุขึ้นในช่วงตอนกลางวันของวันอาทิตย์ ปล่อยขี้เถ้าปริมาณมหาศาลออกมาที่ปากปล่องภูเขาไฟ จากนั้นทุกอย่างก็เริ่มแย่ลง มีการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายออกไปเป็นวงกว้าง ฝุ่นควัน และเถ้าถ่านลอยออกไปครอบคลุมทุกพื้นที่ใกล้เคียง จากการรายงานเผยว่าการระเบิดในครั้งนี้ทำให้มีเถ้าถ่านลอยสูงขึ้นไปในอากาศกว่า 6,000 เมตร กระจายออกไปในรัศมีโดยรอบราวๆ 50 กิโลเมตร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชากรกว่า 1.7 ล้านคน ก๊าซพิษต่างๆ ที่ลอยออกมาสร้างความเสียหายให้กับหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง รวมไปถึงหินละลายที่ปะทุไหลลงมาท่วมหมู่บ้าน ผู้คนจำนวนมากต่างรีบอพยพเพื่อหนีตาย มีรายงานผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 110 คน และอีกกว่า 200 คนหายสาบสูญคาดว่าน่าจะถูกฝังไว้ใต้ซากปรักหักพังจากเหตุภูเขาไฟระเบิด …
-
รวม 32 นักฟุตบอลสุดฮอตจาก 32 ประเทศ เชียร์ทีมไหนเลือกเลยค่ะซิส!!
ฤดูกาลฟุตบอลโลกมาถึงแล้ว สำหรับสาวๆ อย่างเราคงไม่มีอะไรน่าจับ…ตามองไปมากกว่าความหล่อเหลาของเหล่านักฟุตบอลจากประเทศต่างๆ ที่มาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ปล่อยให้ผู้ชายเค้าซีเรียสเรื่องประเทศไหนจะชนะไป ส่วนเราๆ ก็ดูผู้ชายวนไปค่าาาา และนี่คือ 32 ตัวแทนนักฟุตบอลจาก 32 ทีมที่เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ เอาไว้ประกอบการตัดสินใจว่าจะเชียร์ทีมไหนกันดี ^^ Group A ประเทศอียิปต์: Ramadan Sobhi ประเทศรัสเซีย: Aleksandr Golovin ประเทศอุรุกวัย: Nahitan Nandez ซาอุดิอาระเบีย: Mansoor Al-Harbi Group B ประเทศโปรตุเกส: Andre Silva ประเทศอิหร่าน: Ramin Rezaeian ประเทศสเปน: Sergio Ramos ประเทศโมรอคโค: Mehdi Carcela Group C ประเทศฝรั่งเศส: Olivier Giroud ประเทศออสเตรเลีย: Mathew Leckie ประเทศเปรู: Andre…
-
เด็ก 7 ขวบ พิชิตเขาคิลิมันจาโรเป็นสถิติใหม่โลก เพียงเพราะอยากเข้าใกล้พ่ออีกสักนิด
ถ้าหากว่าคุณตั้งใจที่จะปีนภูเขาสูงสักลูกให้สำเร็จ สำหรับคุณแล้วคิดว่าจะต้องมีเหตุผลแบบไหนที่จะทำแบบนั้น? เพื่อท้าทายตัวเองอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าอยากจะสัมผัสถึงความรู้สึกของคนที่ได้ขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด? แต่สำหรับเด็กสาวผู้กล้าหาญอย่าง Montannah Kenney เด็กสาววัย 7 ขวบจากเท็กซัส สหรัฐอเมริกาแล้ว เหตุผลที่เธอลงทุนไปปีนเขาคิลิมันจาโร จนได้กลายเป็นผู้หญิงที่อายุน้อยที่สุดที่พิชิตเขาลูกนี้นั้น มันเป็นเรื่องที่เรียบง่ายกว่านั้นมาก Montannah Kenney เด็กสาววัย 7 ผู้พิชิตคิลิมันจาโร เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Kenney ขอให้แม่ของเธอพาเธอไปปีนเขา แม้ว่าแม่ของเธอจะบอกถึงความยากลำบากแบบไม่ปกปิดแม้แต่น้อยก็ตาม และด้วยความมุ่งมั่นของเธอ Kenney ก็สามารถได้รับใบอนุญาตปีนเขาสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีได้ แม้ว่า Kenney จะเคยเป็นเล่นกีฬาว่ายน้ำ บาส และวิ่งมาก่อนก็ตาม การปีนเขาในครั้งนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากอยู่ดี อย่างไรก็ตามด้วยความช่วยเหลือของคนนำทางและพนักงานรวม 25 คน ในที่สุดเด็กสาวก็ขึ้นไปถึงยอดสุดของภูเขาคิลิมันจาโรจนได้ Kenney และหนึ่งในคนนำทางที่ช่วยเหลือในการปีนเขาของเธอ แต่แม้ว่าการได้เป็นสถิติใหม่ของโลกจะดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่นั่นก็ไม่ใช่เป้าหมายที่ Kenney จะมาปีนเขาแต่อย่างใด เหตุผลที่เด็กสาวลงทุนลงแรงปีนเขาสูงกว่า 5,895 เมตรนั้น ก็เพียงเพื่อเหตุผลง่ายๆ อย่างการที่เธอจะได้อยู่ใกล้กับคุณพ่อที่จากไปเมื่อ 3 ปีก่อนก็เท่านั้น… เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขานั้น Kenney ก็ได้ใช้เวลาบนนั้นไปกับการไว้อาลัยแก่คุณพ่อที่อยู่บนสวรรค์ของเธอ “มันเป็นภาพที่งดงามมาก” แม่ของ Kenney…
-
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะลูกโดนสามีทำร้ายจนตาย แม่จึงกำลังจะถูกไล่ออกจากประเทศ
จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณต้องมาพบกับเรื่องเลวร้ายต่อเนื่องกัน เรื่องแล้วเรื่องเล่า ตั้งแต่แฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายของลูกชายของคุณ แถมยังต้องถูกเนรเทศออกจากประเทศหลังจากนั้นอีก นี่คือเรื่องราวของ Liliya Breha หญิงสาววัย 31 ปี ชาวยูเครน ผู้ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในอังกฤษ และมีลูกชายหนึ่งคนชื่อว่า Alex ก่อนที่เธอได้พบกับ Marvyn Iheanacho และตกลงปลงใจเป็นแฟนกันในตอนที่ Alex อายุได้ 5 ขวบ Liliya และ Alex เพียงแต่ว่า Liliya ไม่ได้รู้เลยว่า Marvyn นั้นเคยมีประวัติใช้ความรุนแรงภายในครอบครัวมาก่อน และนั่นทำให้เธอรู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก เมื่อเธอพบว่าแฟนหนุ่มคนใหม่ของเธอทำร้ายร่างกายลูกชายของเธอจนถึงแก่ความตาย Marvyn ถูกศาลตัดสินจำคุกในปี 2016 ไม่นานหลังจากที่เขาก่อเหตุ และนับเป็นการปิดคดีสะเทือนขวัญสำหรับหลายๆ คน Marvyn ถูกตัดสินจำคุกในปี 2016 แต่สำหรับ Liliya แล้ว… นั่นเป็นเพียงการเริ่มต้นของเรื่องเลวร้ายเท่านั้น เพราะการจากไปของลูกชายที่มีสายเลือดอังกฤษของเธอในครั้งนี้ ทำให้ใบอนุญาตอาศัยในอังกฤษหมดลง หลังจากที่เธอเข้ามาอยู่ได้ 12 ปีในปี 2018 นี้ นั่นทำให้เธอต้องตัดสินใจว่าจะจ่ายเงินทั้งหมด 2,300 ปอนด์ (ราวๆ 100,000 บาท) จากเงิน 5000 ปอนด์ (ราวๆ 217,000…
-
Hangover ชัดๆ สาวออกไปดื่มกับเพื่อน ตื่นมาพบว่าตัวเอง ‘ขโมยหมา’ ใครไม่รู้มาด้วย!?
คุณเคยเมาแล้วทำวีรกรรมรั่วๆ กันบ้างไหม? พอตื่นเช้ามาแล้วก็ต้องตกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อคืนที่ผ่านมา แล้วต้องโทรไปถามเพื่อนเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ ที่ออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ อย่างหนักหน่วง แต่พอตื่นเช้ามาก็ต้องพบกับแขกแปลกหน้าที่มาจากไหนก็ไม่รู้!? Toni Robinson สาววัย 26 ปี จากเมืองวอลซอลล์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา เธอได้ออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ อย่างหนักหน่วง จากนั้นเธอก็เดินไปส่งเพื่อนที่บ้าน แต่แล้วก็เห็นเจ้าหมาตัวหนึ่งเดินเข้ามาหา เธอจึงลักพาตัวมันด้วยการจับมันซ่อนเข้าใต้กระโปรงแล้ววิ่งกลับไปที่บ้านเพื่อน “เราตั้งชื่อมันว่า Violet เพราะคืนนั้นเราดื่มเหล้าจินยี่ห้อ Parma Violet กัน คืนนั้นเรานอนกับเจ้าหมาตัวนั้น พูดคุยกับมันทั้งคืน” “จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้าฉันตกใจมาก เพราะมีเสียงหมาวิ่งไปมาในบ้าน นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ฉันลักพาตัวหมาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย” หลังจากที่สร่างเมาแล้วเธอกับเพื่อนก็ช่วยกันตามหาเจ้าของที่แท้จริงให้กับเจ้า Violet แล้วในที่สุดก็เจอ และก็ทำให้ทราบว่าจริงๆ แล้วเจ้าหมาตัวนี้มันมีชื่อว่า Princess ซึ่งเจ้าของจริงๆ ก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองแต่อย่างใด เพราะในวันที่เจ้า Princess หายตัวไปนั้นเป็นวันที่มันหนีออกจากบ้านไปพอดี และโชคดีที่ Toni กับเพื่อนช่วยจับมันเอาไว้ให้…
-
คุณพ่อสวมชุดเจ้าสาวเดินทั่วเมือง ยอมเป็น ‘เจ้าสาว’ ให้ใครก็ได้ที่ช่วยลูกป่วยเป็นมะเร็งของเขา
สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่คนแล้ว คงไม่มีอะไรสำคัญในชีวิตไปกว่า ‘ลูก’ อีกแล้ว เพราะพวกเขาเป็นดั่งแก้วตาดวงใจเลยก็ว่าได้ แล้วถ้ายิ่งรู้ว่าลูกป่วยไม่สบายแล้วล่ะก็ คนที่เป็นพ่อแม่ก็อาจจะทำทุกวิถีทางเพื่อจะช่วยลูกให้หายดีให้ได้ รวมถึงคุณพ่อคนนี้ที่ยอมอุทิศทุกอย่างในชีวิตให้กับลูกสาวของเขาที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และในตอนนี้เขาก็ได้ประกาศเอาไว้ว่าจะยอมเป็น ‘เจ้าสาว’ ให้กับใครก็ตามที่สามารถช่วยลูกเขาให้รอดพ้นจากความทุกข์ได้ Guo Anchuan ช่างไม้ชาวจีนคือคุณพ่อผู้เสียสละคนดังกล่าว เขาใช้เวลา 5 ปีให้หลังของชีวิตที่ผ่านมาไปกับการหาค่ารักษาพยาบาลให้กับ Guo Yuting ลูกสาววัย 9 ขวบของเขาที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ที่ได้ตรวจเจอในปี 2013 โดยโรคที่ว่านี้เป็นโรคที่ทำให้การทำงานของไขกระดูกผิดเพี้ยนไป ซึ่งมันจะทำให้เกิดการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวมากเกินไป และต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ Yuting เด็กสาวผู้ป่วยก็ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด (คีโม) ไปแล้วกว่า 8 ครั้ง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 200,000 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท) และเงินทั้งหมดนั้นก็ได้มาจากการยืมจากญาติๆ นั่นเอง ทว่าอาการป่วยของ Yuting กลับไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด และมีอาการกำเริบขึ้นมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จึงทำให้ต้องเปลี่ยนวิธีการรักษาไปจากเดิม เหตุการณ์ดูแย่ลงเรื่อยๆ แต่นั่นก็ยังไม่พอ เพราะด้วยค่ารักษาที่มีราคาแพงทำให้คุณพ่อ Anchuan ไม่สามารถหาเงินจำนวนมากเพียงพอมาจ่ายได้…
-
เมียหลวงหึงโหดลากเมียน้อยมากลางถนน จับแก้ผ้าตบตีแล้วราด ‘น้ำปลาและผงพริก’ ใส่ยับ
กลายเป็นที่ผู้พูดถึงกันอย่างมากเลยทีเดียวในตอนนี้ สำหรับประเด็นความหึงโหดเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม เมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งที่อ้างว่าตัวเองว่าเป็นเมียหลวงลากตัวผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่เป็นชู้กับสามีของเธอออกมากลางถนน แล้วทำร้ายตบตีพร้อมกับเทน้ำปลาพร้อมพริกป่นลงใส่เนื้อตัวจนเป็นที่เวทนาอดสูแก่ผู้พบเห็น!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 22.00 ของวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ในจังหวัดทัญฮว้า ประเทศเวียดนาม เมื่อมีหญิงสาววัย 30 ปีชื่อว่า Giang Jun กำลังทำงานอยู่ในร้านสปาของเธอ แล้วจู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับกล่าวหาว่า Jun เป็นชู้กับสามีของเธอ หลังจากนั้นไม่นานนักผู้หญิงคนดังกล่าวก็ลากตัว Jun ออกไปกลางถนนนอกร้าน พร้อมกับจับเจ้าของร้านสปาคนนี้แก้ผ้าออกจนหมดแล้วราดน้ำปลากับพริกป่นลงใส่ และเท่านั้นยังไม่พอยังมีการตบตีทำร้ายร่างกายจนเนื้อตัวบอบช้ำไปหมดอีกด้วย โดยจากการสัมภาษณ์พยานชื่อว่า David Pam ก็ได้อ้างว่าผู้หญิงคนดังกล่าวกับสามีของเธอได้แต่งงานกันมาแล้วกว่า 10 ปีด้วยกัน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้หญิงอีกด้วย “มีผู้หญิงหลายคนที่ไม่ชอบจนแทบจะสาปแช่ง Jun เลย และผู้หญิงคนที่เป็นคนสร้างเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็บอกว่าเธอแต่งงานกับสามีมาแล้วกว่าเป็นสิบปี แต่เจ้าของร้านสปาคนนี้กลับมาทำลายชีวิตการแต่งงานของเธอลง” “แถมตัวเหยื่อผู้ทำถูกกระทำก็ไม่ได้แสดงท่าทางต่อต้านแต่อย่างใด เธอยอมนั่งลงกับพื้นเฉยๆ และรับกรรมอย่างไม่ตอบโต้ ฉันคิดว่าเธอต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะการเผาไหม้ของผงพริกด้วย” Pam กล่าว เหตุการณ์นี้ดำเนินไปท่ามกลางผู้คนมากมายที่อยู่ระหว่างสองข้างถนนนั้น จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาควบคุมเหตุการณ์ ซึ่งตัวผู้กระทำการดังกล่าวก็หนีไปทันที …
-
ที่อื่นฝนตกแค่เปียก แต่ที่นี่จะทำให้คุณอิ่มท้อง เมื่อ “หมู(ไม่มี) หมึก กุ้ง” หล่นมาจากฟากฟ้า?!
ตอนเด็กๆ เราอาจเคยมีความคิดว่าอยากให้มี “ฝนลูกอมขนมหวาน” หล่นลงมาจากฟากฟ้า พอโตขึ้นมาเราก็อาจอยากให้ฝนตกลงมาเป็นแบงก์พัน ความคิดเหล่านั้นอาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่แล้วเหตุการณ์นี้ก็อาจเปลี่ยนความคิดนั้นของเพื่อนๆ ไป เมื่อได้เจอกับ “ฝนสัตว์ทะเล” ปลาหมึก หล่นลงมาจากฟากฟ้า!! ปลาหมึกร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า หรือเทวดารู้ว่าข้ากำลังหิว?! นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในเมือง Qingdao ประเทศจีน ช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2018 นี้ มีคนจำนวนหนึ่งพบสัตว์ทะเลร่วงหล่นมาจากฟากฟ้า เกาะอยู่ตามรถราภายในเมือง (ปลา) ดาวตก มากันเป็นคู่ซะด้วยนะ บอกเลยว่าจะไม่รอช้า รีบเปิดกระจกรถคว้ากันให้ไวในบัดดล แม้จะดูเหลือเชื่อไปสักนิดหนึ่ง แต่เหตุการณ์นี้ก็สามารถอธิบายได้… ผู้บริหารกรมอุตุนิยมวิทยาภายในเมืองกล่าวว่า สิ่งที่เห็นนี้เป็นผลมาจากลมพายุที่พัดโหมกระหน่ำหนักที่สุดในรอบเดือน ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน 2018 ด้วยความแรงของลมอันมหาศาลราวกับพายุเฮอร์ริเคน ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมภายในเมือง ภาพบรรยากาศภายในเมืองดังกล่าว จากเหตุการณ์ลมพายุที่เกิดขึ้น . อีกทั้งพวกเขายังคาดว่าแรงลมที่เกิดขึ้นนี้ ได้ไปทำให้เกิด Waterspout หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ นาคเล่นน้ำ ขึ้นที่ทะเลเหลือง…
-
มีความรัสเซีย…ฉลองบอลชนะ พา “หมี” นั่งรถเป่าวูวูเซลากลางถนน ชิลเหมือนพาสุนัขเดินเล่น?!
สำหรับฟุตบอลโลกในปี 2018 นี้ เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะได้ดูหรือได้ยินข่าวกันมาแล้วว่า ประเทศเจ้าภาพอย่างรัสเซียสามารถเอาชนะทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ไปได้อย่างขาดลอยถึง 5 ประตูต่อ 0 เพราะฉะนั้นมันจึงไม่แปลกที่เหล่าแฟนบอลจะทำการเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะในครั้งนี้ แต่แน่นอนว่าที่นี่คือรัสเซีย พวกเขามักจะมีอะไรมาให้เราแปลกใจอยู่เสมอ ไม่เชื่อก็ลองไปชมภาพนี้กันสิ พาหมีออกมานั่งรถเล่น เป่าวูวูเซลา ฉลองชัยชนะ (วันที่ 15 มิ.ย. 2018) ด้วยความดีใจของแฟนบอล พวกเขาเหล่านี้ก็เลยฉลองกันด้วยการพาน้องหมี…หมีจริงๆ นะเออ?! มานั่งรถชมวิว พร้อมกับเป่าวูวูเซลาโชว์ กลางถนนในกรุง Moscow ประเทศรัสเซีย นี่คงเป็นภาพที่เราไม่น่าจะหาดูกันได้ง่ายๆ เพราะไม่น่าจะมีที่ไหนทำเหมือนพวกเขาเหล่านี้อีกแล้ว ลองดูความชิลของพวกเขาสิ อย่างกับพาสุนัขออกมาเดินเล่นยังไงยังไงงั้นเลย นั่นมันหมีนะ มันเป็นสัตว์ป่า พวกเธอลืมอะไรกันไปหรือเปล่า ตอนท้ายเจ้าหมียังทำท่าทางที่เรียกว่า Quenelle ซึ่งถูกแบนในประเทศฝรั่งเศส เพราะผู้คนมองว่าลักษณะเหมือนการทักทายของกองทัพนาซีในสมัยก่อน แสดงให้เห็นถึงการเหยียดชาวยิว (แต่หากลองสังเกตดู หลายๆ คนบอกว่ามันเหมือนกับท่าชูนิ้วกลางอะไรแบบนั้นมากกว่านะ) คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (หากดูไม่ได้กดที่ลิงก์ Twitter) https://twitter.com/petermstaunton/status/1007342703665926144 เมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป…
-
ขานรับ!! McDonald’s ประกาศเลิกใช้หลอดพลาสติกเริ่มที่สหราชอาณาจักรแล้วขยายทั่วโลก
หลังจากมีกระแสการเสียชีวิตของสัตว์ในทะเลแล้วพบซากพลาสติกจำนวนมากในท้อง จึงทำให้ในตอนนี้ทั่วโลกก็กำลังตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้นและมีการรณรงค์ช่วยกันลดใช้พลาสติก และในตอนนี้ร้านแฟรนไชส์ชื่อดังก้องโลกอย่าง McDonald’s ก็ออกมาขานรับการรณรงค์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งสิ่งที่พวกเขาทำก็คือการเลิกใช้ ‘หลอดพลาสติก’ ในบางพื้นที่ การประกาศครั้งนี้ของ McDonald’s ได้บอกว่าพวกเขาเตรียมตัวที่จะเลิกใช้หลอดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และจะเริ่มจากสหราชอาณาจักรรวมถึงประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนกันยายนปีนี้ หลอดพลาสติกแบบเก่าจะถูกแทนที่ด้วยหลอดกระดาษที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ โดยในปัจจุบันเครือร้านอาหารแห่งนี้มีการใช้หลอดพลาสติกถึง 1.8 ล้านชิ้นในทุกๆ วัน (เฉพาะในสหราชอาณาจักร) และรู้หรือไม่ว่าหลอดแต่ละชิ้นจะต้องใช้เวลาย่อยสลายหลายร้อยปีเลยทีเดียว อันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ก็มีการทดลองเปลี่ยนการใช้หลอดพลาสติกเป็นหลอดกระดาษตั้งแต่ช่วงต้นปี แล้วในที่สุดทาง McDonald’s จึงตัดสินใจให้สาขาของพวกเขาในสหราชอาณาจักรทำตามนโยบายนี้ทั้งหมด “การที่เราทำอย่างนี้ เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าของเราที่บอกว่าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเรื่องหลอดพลาสติกของเรา” แถลงการณ์จากทาง McDonald’s ซึ่งหลังจากมีการเลิกใช้หลอดพลาสติกในสหราชอาณาจักรและประเทศไอร์แลนด์แล้ว ทาง McDonald’s ก็บอกอีกด้วยว่าจะขยายนโยบายนี้ออกไปให้ทั่วทั้งโลก โดยจะเริ่มนำไปใช้กับสาขาที่ประเทศนอร์เวย์ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกาตามลำดับ นอกจากนี้ทางรัฐบาลของประเทศอังกฤษก็ได้พูดถึงความเป็นไปได้ในการเลิกใช้หลอดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งทั้งหมด ทว่าบางธุรกิจก็บอกว่าอาจต้องใช้เวลาสักหน่อยในการเลิกใช้เพราะว่ายังคงมีครอบครองอยู่จำนวนมากนั่นเอง ถึงตรงนี้ก็คงเห็นแล้วว่าทั่วโลกได้เริ่มมีการเลิกใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกให้ลดน้อยลง ดังนั้นแล้วเราอย่ายอมน้อยหน้าช่วยกันลดการใช้ให้น้อยลงเพื่อโลกที่สวยงามขึ้นของเรากันเถอะ!! ที่มา: ladbible, cnbc, bbc
-
ใครว่าไร้ระเบียบ เผยคลิปชาวเซินเจิ้น ต่อแถว 20 นาทีเพื่อข้ามสะพานลอยในวันฝนตก
เพื่อนๆ หลายคนคงจะติดภาพกับ ‘คนจีน’ ที่ว่าเป็นคนไร้ระเบียบ ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง จนถึงกับสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม แต่มันก็ไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป นี่คือเรื่องราวที่อาจจะทำให้เพื่อนๆ เปลี่ยนความคิดนั้นไปตลอดกาล… มีการถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ในเมืองเซินเจิ้นประเทศจีน มีชาวจีนจำนวนมากต่อแถวเพื่อรอข้ามสะพานลอยนานกว่า 20 นาที แม้จะมีฝนตกลงมาก็ตาม คลิปดังกล่าวถูกนำไปโพสต์ลงบนโซเชียล ทำให้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในคลิปจะเห็นได้ว่ามีมนุษย์ออฟฟิศมากมายต่อแถวข้ามสะพานลอยบนถนนสายหนึ่งในเขตหนานซาน นครเซินเจิ้น ประเทศจีนท่ามกลางฝนที่ตกหนัก เป็นเหตุให้มีน้ำขังบนถนน และการจราจรติดขัด กว่าจะถึงอีกฝั่งก็ใช้เวลานานกว่า 20 นาที มีการให้ข้อมูลจากชาวจีนหลายคนที่ทำงานในละแวกนั้นว่า สะพานลอยตรงนี้มักจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเป็นประจำ หลังจากที่เรื่องราวนี้ได้รับการแชร์ออกไป ก็ไปเข้าหูของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพวกเขาก็ออกมาชี้แจงว่า ได้ดำเนินการสังเกตการณ์และเดรียมงานมานานกว่า 1 เดือนแล้ว กำลังอยู่ในช่วงพิจารณาแผนงานในการสร้างทางออกและทางเดินเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาการจราจรบนสะพานลอยแห่งนี้ ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ที่มา : China Xinhua News
-
รถไฟชินคันเซ็นชนคน หัวรถไฟแตก มีชิ้นส่วนมนุษย์ติด เสื้อผ้า อวัยวะกระเด็นตามทาง
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2018 ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานข่าวว่า รถไฟชินคันเซ็นหรือรถไฟหัวกระสุน ชนคนเสียชีวิต โดยบริเวณหัวรถไฟมีรอยแตกขนาดใหญ่ พร้อมรอยเลือดที่ติดอยู่ เหตุเกิดเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 14 มิถุนายน 2018 รถไฟชินคันเซ็น Nozomi 176 พบว่าหัวรถไฟมีรอยแตกขนาดใหญ่ คนขับรถไฟบอกว่า เขาขับรถไฟลำนี้มาจากสถานี Hahata ไปยังสถานี Ogura บริเวณหัวรถไฟมีรอยแตกจากการชนเข้ากับวัตถุขนาดใหญ่ พร้อมกับรอยเลือด คนขับรถไฟบอกว่า ตอนแรกคิดว่าขับชนสัตว์อะไรสักอย่างจึงไม่ได้สนใจหยุด แต่พออีกขบวนขับสวนกันเห็นว่าหัวรถไฟแตกจึงได้หยุดดูที่สถานี Shin-Ekimae เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหลังจากคนขับรถไฟอีกขบวนแจ้งว่าหัวรถไฟมีรอยแตกขนาดใหญ่ . . หลังจากการตรวจสอบพบว่ามีชิ้นส่วนของร่างกายมนุษย์ติดอยู่ด้วย นอกจากนี้มีเสื้อผ้าและอวัยวะหล่นตามทางรถไฟ คาดว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายโดยการกระโดดให้รถไฟทับ ตอนนี้ทางตำรวจกำลังสืบสวนว่า ผู้เสียชีวิตดังกล่าวเป็นใคร และมีเหตุจูงใจอย่างไร ที่มา news.tv-asahi @TomyamWasabi
-
สาวเที่ยวเกาหลี แต่ไม่รู้ภาษา ปวดอึจน “ข้าศึกทะลัก” เพราะไม่รู้จะถามหาห้องน้ำยังไง…
(บทความมีภาพไม่พึงประสงค์ อาจทำให้เกิดความสะอิดสะเอียนได้) การท่องเที่ยวต่างประเทศคงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน แต่การจะเดินทางไปจริงๆ นั้นก็ไม่ง่ายเลย ไหนจะต้องเตรียมตัว ศึกษาสถานที่ วัฒนธรรม รวมไปถึงภาษาและการสื่อสารด้วย! การท่องเที่ยวในต่างแดนนั้นจำเป็นต้องสื่อสารกับคนอื่นๆ ในการถามทางหรือข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็น ซึ่งถ้าหากว่าภาษาที่เราใช้ ไม่สามารถสื่อสารกับคนในประเทศนั้นๆ ได้ รับรองเลยว่า “วุ่นวายแน่ๆ” ขอยกตัวอย่างเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลายบนโลกอินเทอร์เน็ต ที่เมื่ออ่านแล้วคุณจะรู้ได้เลยว่า ภาษานั้นสำคัญขนาดไหนในการไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ หญิงสาวชาวฮ่องกงคนหนึ่งได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้พร้อมกับเพื่อนและพี่สาวของเธอ จู่ๆ เธอก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนท้องไส้จะปั่นป่วนอย่างไรไม่รู้ เพื่อนของเธอก็เริ่มทำการเก็บภาพเอาไว้ ไม่รู้ว่าสาวๆ เหล่านี้ไปกินอะไรกันมา จนทำให้สาวเจ้าของเรื่องเกิดอาการ “ปวดอุจจาระ” ขึ้นมาในทันใด ด้วยความไม่มีภาษาที่จะสื่อสารกับคนเกาหลีได้ เธอจึงไม่สามารถสอบถามได้ว่า ห้องน้ำอยู่ที่ไหน พวกเธอตัดสินใจโบกแท็กซี่เพื่อกลับโรงแรมที่พัก ขณะนั่งอยู่ในรถเองเธอก็เริ่มที่จะทนต่อไปไม่ไหว มีกลิ่นตุๆ ออกมาชนิดที่ว่าคนขับแท็กซี่ต้องเปิดกระจกเพื่อเอาชีวิตรอด เมื่อลงจากรถมาพวกเธอจ่ายค่าแท็กซี่ไป 10,000 วอน (ประมาณ 300 บาท) เพื่อเป็นการขอโทษ แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือ ข้าศึกมันมาแล้ว ภายใต้กางเกงขาสั้นของหญิงสาวมีวัตถุอุ่นๆ…
-
โหดร้าย แฟนหนุ่มกระทืบแฟนสาหัสต้องเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากหึงที่เธอโหลด Snapchat
บทความชิ้นนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่มีความรุนแรงโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ปัญหาความหึงหวงและการควบคุมอารมณ์ไม่ได้นั้นเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของความสัมพันธ์และสถาบันครอบครัวเลยก็ว่าได้ เนื่องจากคนบางคนนั้นต้องการที่จะครอบครองคนรักไว้เพียงคนเดียว และไม่สนใจต่อความสะดวกของอีกฝั่งแม้แต่น้อย นี่เป็นคดีความที่สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2017 เมื่อที่นาย Dameon Marmolejo ชายวัย 21 ปีได้พบแอปพลิเคชัน Snapchat ในโทรศัพท์มือถือของ Solidad Torres แฟนสาววัย 18 ปีของเขา Dameon Marmolejo (ซ้าย) และ Solidad Torres ก่อนได้รับบาดแผล (ขวา) ด้วยความที่เขาและแฟนสาวรู้จักกันผ่านแอปพลิเคชันนี้ และได้ทำการลบ Snapchat ออกจากเครื่องเมื่อคบกัน ดังนั้นนาย Dameon จึงคิดว่าแฟนสาวของเขาโหลดแอปพลิเคชันนี้กลับมาเพราะต้องการที่จะนอกใจเขา ด้วยความโมโหร้ายนาย Dameon ได้ทำการลงมือทำร้ายแฟนสาวของเขาจนหมดสติและต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ทิ้งไว้ซึ่งบาดแผลมากมายบนร่างกาย จนเป็นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลในเวลาต่อมา Solidad Torres ก่อนและหลังเย็บแผลที่ศีรษะ โดยนาย Dameon ถูกจับจากการที่รอยรองเท้าของเขาตรงกับรอยบาดแผลบนร่างของคุณ Solidad แบบพอดิบพอดี อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้ตัดสินใจเข้าสู้คดีต่อศาลต่อไป จนกระทั่งในวันที่ 12 มิถุนายน 2018 เป็นเวลาเกือบหนึ่งปีจากวันนั้น ในที่สุดนาย Dameon ก็ตัดสินใจยอมรับสารภาพกับสิ่งที่ตนเองทำ และได้รับโทษจำคุก 15…
-
หนุ่มอเมริกัน ผู้เดินทางไปครบทั้ง 50 รัฐ เพื่อ “ตัดหญ้า” ให้กับทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ…
การช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ อาจเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความสุขอันยิ่งใหญ่ให้กับผู้คน ตัวอย่างของการช่วยเหลือเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่นั้น เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งตัดสินใจออกเดินทางไปทั่วทั้ง 50 รัฐ เพื่อ “ตัดหญ้า” ให้กับผู้คนแบบฟรีๆ เขาคนนี้มีชื่อว่า Rodney Smith Jr. วัย 28 ปี ผู้ได้สร้างเป้าหมายในชีวิตให้กับตัวเอง หลังจากที่เขาได้จอดรถลงไปช่วยเหลือคุณตาคนหนึ่งที่พยายามอย่างหนักกับการตัดหญ้าตรงสวนหน้าบ้าน ในปี 2016 Rodney ชายผู้ออกตระเวนตัดหญ้าไปทั่วสหรัฐอเมริกา . นับตั้งแต่นั้นมา Rodney ก็มองเห็นว่ายังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถตัดหญ้าหน้าบ้านของตัวเองได้ อันเนื่องมาจากเงื่อนไขบางอย่าง เช่น ความพิการ ความแก่เฒ่า หรือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไม่ชำนาญในเรื่องนี้ ด้วยเหตุนั้นเอง เขาจึงจัดตั้งองค์กรภายใต้ชื่อว่า Raising Men Lawn Care Service และออกเดินทางไปช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้น ด้วยการตัดหญ้าให้กับพวกเขาแบบไม่รับค่าใช้จ่ายใดๆ ทำด้วยใจล้วนๆ เวลาเขาเดินทางไปถึงที่รัฐไหน ก็จะถ่ายรูปอัปลงทวิตเตอร์ แล้วใครที่ต้องการความช่วยเหลือของเขา ก็จะส่งข้อความตอบกลับมาให้ ในปี 2017…
-
คุณปู่วัย 84 ปีเข้าคอร์สเรียนแต่งหน้า เพื่อจะแต่งให้ภรรยาที่กำลังจะสูญเสียการมองเห็นไป!!
สำหรับผู้หญิงแล้วคงจะไม่มีอะไรทำให้พวกเธอได้มั่นใจไปมากกว่า ความสวยความงาม ดังนั้นแล้วการแต่งหน้าจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะมันไม่ใช่เพียงแค่ทำให้ใบหน้าดูสดใสเพียงอย่างเดียว แต่มันยังเป็นเสมือนกับความสุขที่เกิดขึ้นกับจิตใจของผู้หญิงด้วย ดังนั้นแล้วจึงทำให้ชายชราคนหนึ่งตัดสินใจที่จะเรียนรู้การแต่งหน้า เพื่อที่จะเอาไว้แต่งหน้าให้กับภรรยาของเขาในวันที่เธอสูญเสียการมองเห็นไปจากอายุที่มากขึ้น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นมันก็ตาม… โดยเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นจริงๆ กับหญิงชราชื่อว่า Mona Monahan วัย 83 ปีที่เริ่มสูญเสียการมองเห็นของเธอไปเรื่อยๆ และสักวันหนึ่งก็จะไม่สามารถมองเห็นและแต่งหน้าได้อีกต่อไป จึงทำให้สามีสุดที่รักของเธอชื่อว่า Des วัย 84 ปี เริ่มฝึกหัดในเรื่องการแต่งหน้า เพื่อที่จะแต่งให้เธอในวันที่ไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ ส่วนเหตุผลที่ทำอย่างนี้ Des ได้บอกเอาไว้ว่าเพราะเขาอยากจะให้ภรรยาของเขาดูดีและรู้สึกดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถมองเห็นความงามของเธอได้อีกแล้วก็ตาม “ดวงตาของ Mona เริ่มที่จะแย่ลงเรื่อยๆ และเธอก็ไม่สามารถที่จะแต่งหน้าของเธอได้เหมือนเดิมแน่ๆ ในวันข้างหน้า ผมเลยคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าผมไปเรียนรู้วิธีการแต่งหน้ามาแล้วแต่งให้เธอด้วยตัวผมเอง” แล้วการเรียนแต่งหน้าของทั้งสองก็เริ่มขึ้นเมื่อปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยพวกเขาได้เข้าคอร์สเรียนการสอนแต่งหน้าของแบรนด์ Debenhams แบรนด์แฟชั่นชื่อดังแห่งแดนสหราชอาณาจักร ซึ่งจากการเรียนอย่างตั้งใจและด้วยความรักที่มีให้แก่กัน จึงทำให้สุดท้ายแล้วชายวัย 84 ปีคนนี้ก็สามารถแต่งหน้าแบบพื้นฐานให้แก่ภรรยาของเขาได้อย่างครบถ้วน “Des ทั้งทาลิปสติกกับกรีดอายไลเนอร์ให้ฉันเลย เพราะมันเป็นสิ่งที่ฉันทำด้วยตัวเองไม่ได้” Mona กล่าว แต่ว่าเท่านั้นยังไม่พอ Des ยังได้ไปเรียนการแต่งหน้าเพิ่มเติมจาก Rosie O’Driscoll ศิลปินแห่งการแต่งหน้าจากแบรนด์ Benefit Cosmetics เพิ่มเติมด้วย “หลังจากถาม…
-
ตำนานโรงเรียนกลายเป็นความจริง!? เมื่อโครงกระดูกในห้องวิทย์ทำจากกระดูกมนุษย์จริงๆ
ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ขึ้นชื่อเกี่ยวกับเรื่องตำนานประจำโรงเรียนกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ว่าจะบันไดที่ขาขึ้นกับขาลงไม่เท่ากัน หรือว่าฮานาโกะประจำห้องน้ำ แต่ถึงอย่างนั้นก็คงไม่มีใครคิดหรอกว่า เรื่องราวพวกนี้ มันจะมีสักเรื่องที่กลายเป็นความจริงขึ้นมา เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยม Tsurumaru ในจังหวัดคาโงชิมะ เมื่อมีผลการพิสูจน์หลักฐานจากทางตำรวจที่ออกมาประกาศ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2018 ว่า หัวกะโหลกของโครงกระดูกจำลองในห้องวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนนั้น เป็นกะโหลกศีรษะของผู้หญิงที่ตายไปเมื่อ 50 ปีก่อน การตรวจสอบที่ว่านี้เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2016 มีอาจารย์คนหนึ่งรู้สึกตัวว่าโครงกระดูกจำลองของโรงเรียนนั้น มีส่วนหัวที่ทำจากวัสดุคนละอย่างกับโครงกระดูกส่วนที่เหลือ จึงได้ทำการแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับทางตำรวจ ก่อนที่จะมาทราบในภายหลังว่าส่วนหัวที่ว่านั้นเป็นกะโหลกของมนุษย์จริงๆ แน่นอนว่าการค้นพบในครั้งนี้ต้องกลายเป็นเรื่องพูดคุยกันอย่างแพร่หลายในสังคมอินเตอร์เน็ตของญี่ปุ่นเป็นธรรมดา โดยเพราะกับคนที่เคยเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ อย่างนักร้องเพลงป๊อป Midori Karashima แล้วด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความไม่สบายใจมากจนเธอต้องออกมาแชร์ทางทวิตเตอร์ ทวีตจาก Midori Karashima (คำแปลอยู่ด้านล่าง) “ไม่น่าเชื่อเลย ไม่แน่นะว่านี่จะเป็นเหตุผลที่นักเรียนพูดกันเสมอเลยว่าโครงกระดูกนั้น เหมือนจริงจนน่ากลัวเลย… ก็มันเป็นของจริงนี่นะ ทั้งฉันทั้งพี่ชายเคยนั่งเรียนกับกะโหลกคนเหรอเนี่ย ใครก็ได้ช่วยสืบทีว่าทำไมกะโหลกถึงมาอยู่ที่นั่นได้” ในขณะนี้กะโหลกปริศนานี้ได้ถูกนำไปฝังภายใต้ชื่อของ “นักเดินทางผู้จากไป” (行旅死亡人) ส่วนเรื่องที่ว่ากะโหลกนี้มาอยู่ที่โรงเรียนได้อย่างไร หรือว่ากระดูกส่วนอื่นๆ ของเธออยู่ที่ไหนนั้น ยังคงเป็นปริศนาที่ยังไม่ได้รับการไขให้กระจ่างแต่อย่างใด ที่มา…
-
สาวญี่ปุ่นเผย การโยนช่อดอกไม้งานแต่ง มันเป็นการทำให้สาวโสดต้องอับอายชัดๆ
ในงานแต่งงานนั้น ไม่เพียงแต่จะเป็นวันที่สำคัญที่สุดของเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่เหล่าเพื่อนฝูงพี่ป้าน้าอาจะได้พากันมาร่วมแสดงความยินดีกับหนุ่มสาวทั้งคู่อีกด้วย ดังนั้นภายในวันมงคลแบบนี้ก็คงไม่มีใครที่อยากให้งานแต่งไปทำให้ใครอับอายเอาหรอกใช่ไหมล่ะ แต่ดูเหมือนว่าสำหรับสาวญี่ปุ่นแล้ว ภายในงานแต่งงานจะมีสิ่งๆ หนึ่งที่ทำให้เธอต้องอับอายอยู่นี่สิ สิ่งที่ว่านั้น… ก็คือการโยนช่อดอกไม้นั่นเอง ทำไมถึงอับอาย สำหรับสังคมญี่ปุ่น (เอาจริงๆ ไทยก็เป็น) การที่ผู้หญิงไม่มีคู่นั้นถือเป็นเรื่องที่ดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะถ้าอายุเลยขึ้นเลขสามแล้วด้วย ดังนั้นแม้ว่าจะมีความเชื่อว่าคนที่ได้รับช่อดอกไม้จะได้แต่งงานเป็นคนต่อไปก็ตาม แต่การที่ต้องไปแสดงตัวว่าขึ้นคานอยู่กลางงานแต่งงานที่มีแขกเต็มไปหมด ก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดเกินว่าที่จะรับได้ของสาวหลายๆ คนอยู่ดี ความอับอายนี้ส่งผลอย่างไร อย่างที่บอกไปว่าการแสดงตัวว่าขึ้นคานต่อหน้าผู้คนจำนวนมากนั้นเป็นที่น่าอับอายมาก ดั้งนั้นคนที่เคยพบกับความอับอายที่ว่าว่านี้มาก่อน จริงหลีกเลี่ยงที่จะทำมันกับคนอื่นๆ เอาเข้าจริงๆ จากแบบสอบถามที่ถามไปยังเจ้าสาวหลายๆ คนในญี่ปุ่นนั้น ได้ผลลับออกมาว่ากว่า 58% ของเจ้าสาว บอกว่าลืมไปเลยว่ามีประเพณีการโยนช่อดอกไม้งานแต่งอยู่ด้วย และนี่ทำให้เกิดเป็นข้อถกเถียงในโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี มีทั้งคนที่ออกมาแสดงความเห็นว่า “ซองก็ต้องใส่ (ที่ญี่ปุ่นใส่กันเป็นหมื่นเลยด้วย) ยังจะต้องมาทนอับอายอีกเหรอ” และคนที่ออกมาแสดงความเห็นว่า “งานแต่งเป็นงานฉลองที่ดีไม่ใช่เหรอ เจ้าสาวเขาชวนคุณก็เพราะเขาเห็นคุณเป็นเพื่อนนะ เรื่องมากแบบนั้นก็ไม่ต้องไปงานเลยสิ” จะแก้ไขได้อย่างไร ที่จริงแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ มีคู่แต่งงานหลายคู่เหมือนกันที่เปลี่ยนการโยนช่อดอกไม้ เป็นกิจกรรมอื่นๆ ที่เข้ามาแทน อย่างเช่นการให้เจ้าบ่าวโยนบร็อคโคลีซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการสืบทอดตระกูลไปให้แขกผู้ชาย ซึ่งจะแต่งงานแล้วหรือยังโสดก็ได้ หรือแทนที่จะโยนดอกไม้ ก็เปลี่ยนเป็นโยนของขวัญอะไรก็ได้ อย่างตุ๊กตาให้แก่แขกในงานโดยไม่จำเป็นต้องสนสถานะทางการแต่งงาน…
-
เปลี่ยนไก่ทอดธรรมดาให้ดูแพงขึ้น 10 เท่า กับเมนูไก่ทอดเคลือบทองคำ 24k
ไก่ทอด อาจจะเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆ คน เนื่องจากวิธีการการทำที่ง่ายแสนง่าย กินง่าย แถมยังราคาถูกอีกด้วย น่าจะเป็นเมนูหลักประจำบ้านที่ถ้าคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี ไก่ทอดอาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณก็ได้นะ แต่ไก่ทอดที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ไม่ใช่ไก่ทอดธรรมดาๆ นะจ๊ะ แต่เป็นไก่ทอดที่ฟังดูแล้วจะจะมีมูลค่าสูงกว่าไก่ทอดธรรมดาทั่วไป เพราะไก่ทอดเมนูนี้ มันพิเศษก็เพราะว่ามันถูกเคลือบด้วยทองคำ 24k !!!! เมนูไก่ทอดทองคำนี้ถูกคิดค้นโดยร้านอาหาร The Ainsworth ร้านนี้ตั้งอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการนำเมนูบัฟฟาโล่วิงส์หรือปีกบนไก่ทอดนำมาคลุกเคล้ากับซอสสูตรพิเศษทั้งน้ำมันมะพร้าว เครื่องเทศ และน้ำผึ้งหมักนาน 24 ชั่วโมง ก่อนจะนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ออกมาเป็นไก่ทอดสูตรพิเศษ ทางร้านได้เพิ่มมูลค่าของไก่ทอดธรรมดาๆ นี้ ด้วยการนำไปคลุกกับซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่มีส่วนผสมของทองคำที่สามารถกินได้ คลุกให้ซอสนั้นชุ่มฉ่ำไปทั่วชิ้นส่วนไก่ ดูแพงขึ้นมาทันที 10 เท่า!!! ส่วนเรื่องราคาก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ทางร้านมี 3 เซตให้เลือกคือ เซต 10 ชิ้น ราคาประมาณ 970 บาท เซต 20 ชิ้น ราคาประมาณ 1,940 บาท และเซต 50 ชิ้น กองมาเป็นภูเขาเลยก็อยู่ที่ประมาณ…
-
ทีมเกมเมอร์ “หญิงล้วน” ญี่ปุ่น ขอโทษแฟนๆ หลังพบว่า มี “ผู้ชาย” แฝงตัวอยู่ในทีม…
ในยุคสมัยปัจจุบัน นับว่าการแข่งขันเกมในเชิงกีฬาที่เรียกกันว่า E-Sport นั้นมาแรงมากจริงๆ เกิดทีมแข่งขันต่างๆ ขึ้นมากมายทั่วทุกมุมโลก และทีม Whip เองก็เป็นหนึ่งในทีมนักกีฬาแข่งขัน E-Sport ด้วยเช่นกัน แต่จุดเด่นของทีม Whip นี้ก็คือ ทั้งทีมจะมี สมาชิกเป็นผู้หญิงล้วนๆ และจะรับแต่ผู้หญิงเท่านั้น โดยเกมที่ทีมนี้จะเล่นโดยปกติ ได้แก่ Call of Duty, Fortnite, PUBG, and Final Fantasy ล่าสุดทีม Whip ที่มีเจตจำนงว่าจะรับแต่ผู้หญิงเข้าร่วมทีมเท่านั้น กลับกลายเป็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งแอบแฝงเข้าทีมมาโดยปกปิดตบตาสมาชิกคนอื่นๆ ได้อย่างแนบเนียน แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหัวหน้าทีม Whip ที่ใช่ชื่อว่า Peroru ได้ออกมาเผยว่าในทีมของเธอ แอบมีผู้ชายแฝงอยู่ และได้กล่าวขอโทษแฟนๆ ที่ทำให้ผิดหวัง จากภาพด้านบนมีเนื้อความว่า “ล่าสุดพวกเราพบว่าสมาชิกในทีมคนหนึ่งเป็นผู้ชาย แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในทีมเราอีกแล้ว แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็ผิดเองที่ไม่ได้ระมัดระวังที่นำผู้ชายเข้ามาในกลุ่ม พวกเราต้องขอโทษทุกคนจริงๆ” “พวกเรายังคงก้าวไปข้างหน้า และผลิตผลงานความบันเทิงและสนุกสนานต่างๆ ที่แฟนๆ อยากเห็นจากทีมเกมเมอร์หญิงล้วนอย่างพวกเรา…
-
เงิบ! ไอ้หนุ่มเมสเซจหาสาวผิดเบอร์ บอกเป็นชายไม่เชื่อ แถมส่งรูป “กระปู๋” ให้เขาดูอี๊ก!!
ปกติแล้วเวลาที่เราโทรหรือติดต่อคนอื่นผิดเบอร์ เราก็คงจะขอโทษขอโพยแบบง่ายๆ แล้วก็จบไป แต่สำหรับไอ้หนุ่มคนนี้เหมือนจะไม่ง่ายเช่นนั้น จากเบอร์ที่ผิดกลายเป็นเรื่องราวอันน่าขบขันเสียจนได้ ชาวเว็บไซต์ Reddit คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Th3GreenMan56 ได้รับข้อความจากชายหนุ่มแปลกหน้าที่ชื่อว่า Brandon ซึ่งนอกจากจะส่งข้อความมาผิดเบอร์แล้วยังทำการเกี้ยวพาราสีเพราะคิดว่าเป็นสาวที่ตนชอบ ตาคนนี้คือหนุ่มที่ได้รับข้อความจาก Brandon เราขอเรียกเขาว่า Greenman เมื่อ Greenman รู้ว่าเกิดการเข้าใจผิด เขาจึงพยายามอธิบายว่าเขาเป็นผู้ชาย ไม่ใช่สาวที่ Brandon ชอบ แต่ดูเหมือนว่า Brandon วางแผนรับมือเอาไว้แล้ว ยังคงตื๊อต่อไม่เลิก จนผลสุดท้าย กลายเป็นว่าเจ้า Brandon ตายอย่างสงบศพก็ไม่ค่อยจะสวย เราลองไปดูบทสนทนาสุดฮาของพวกเขากันเลยดีกว่า… B: ไง G: เฮ้ นี่ใครเนี่ย? B: อะแฮ่มๆ เรา Brandon จากคลาสเดียวกับเธอไง *เหงื่อโชกชะโลมร่างกาย* G: อ่า ฉันคิดว่ามันนายส่งมาผิดเบอร์แล้วล่ะนะ B: *มองต่ำทำนิ้วจิ้มกัน* คือว่า Shannon…ให้เบอร์เธอมาน่ะ G: เจ๋งนี่ แต่โทษทีนะมันผิดเบอร์อะ…
-
สาวเผยแชทโรคจิต ตามติดชีวิตจากรถเมล์ จนมาเจอในโลกออนไลน์ ไม่ปลอดภัยสุดๆ
ข้อมูลทุกอย่างที่เราป้อนลงไปในสื่อโซเชียลต่างๆ นั้น ต่างต้องยอมรับว่ากลายมาเป็นข้อมูลสาธารณะไปโดยปริยาย มองในแง่หนึ่งจะช่วยทำให้เพื่อนหรือคนรู้จักตามหาเราได้ง่าย แต่อีกแง่หนึ่งก็สามารถดึงใครมาเข้าหาเราก็ได้ สาววัย 18 นามว่า Katie ได้รับข้อความจากคนแปลกหน้าในกล่องข้อความที่ถูกคัดกรองเอาไว้ หลังจากที่เธอเพิ่งเลิกเรียนและโดยสารรถเมล์เดินทางกลับบ้านตามปกติ เมื่อได้พบกับคำร้องขอข้อความจากคนแปลกหน้า ด้วยใจความทักขึ้นต้นประโยค “สวัสดี ผมเห็นคุณบนรถเมล์สาย 7 เป็นไงบ้าง?” เหมือนกับว่าเป็นการทักทายตามประสาคนรู้จักกันแล้ว เธอยังคงรู้สึกงงกับการทักของคนแปลกหน้า เขาตอบกลับด้วยใจความประมาณว่า “คุณไม่เห็นเหรอว่าผมกำลังมองคุณอยู่ คุณดูดีมากนะ” เพื่อทราบถึงที่มาของการทักสุดประหลาดนี้ เธอจึงถามว่ารู้ชื่อของเธอได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน และเขาก็เผยออกมาว่า “เห็นจากป้ายชื่อ” ชอบคุณมาก อยากรู้จัก… เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกว่า ต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เนื่องจากว่าการที่ปล่อยให้คนอื่นได้เห็นชื่อ เปิดโอกาสให้สามารถตามสืบได้ จนอาจจะส่งผลร้ายทำให้มีบุคคลไม่ประสงค์ดีเข้ามา เพราะคนแปลกหน้าปกติทั่วไป เขาไม่ทำกันอย่างนี้ อย่างน้อยๆ ก็อยากให้สาวๆ ระมัดระวังตัวกันนิดนึง อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไหร่ก็คาดเดาไม่ได้
-
สาวจาไมกาถูกหวย สวมหน้ากากอีโมจิไปขึ้นเงิน ป้องกันมิจฉาชีพและคนมาขอเงิน
ทุกๆ วันที่ 1 และวันที่ 16 ของทุกเดือน ถือว่าเป็นวันแห่งความหวังของคนไทยทั้งหลายเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามันคือวันหวยออกนั่นเอง คงไม่มีใครที่ไม่อยากถูกหวยรางวัลที่ 1 หรอก จริงไหม (งวดนี้ใครมีเลขเด็ด แอบกระซิบ #เหมียวบู้บี้ได้นะ) แต่ช่วงนี้คงไม่มีใครโชคดีเท่าสาวจาไมกาคนนี้อีกแล้ว เมื่อเธอเพิ่งจะถูกลอตเตอรี่หรือ Super Lotto เป็นจำนวนเงินประมาณ 180 ล้านดอลลาร์จาไมก้า คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 45 ล้านบาทเหนาะๆ ที่พีคไปกว่านั้นคือ ตอนที่ไปขึ้นเงินรางวัล เธอไม่ได้เปิดเผยตัวตนว่า ฉันถูกหวยนะ กับใครๆ เพราะป้องกันมิจฉาชีพและเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เธอเลยสวมหน้ากากอิโมจิสุดน่ารักอันนี้ไปขึ้นรางวัล นอกจากนี้ยังปิดบังชื่อที่แท้จริงของตัวเอง ออกสื่อแค่ในนามของ N. Gray เท่านั้น ผู้โชคดีในการถูกลอตเตอรี่ครั้งนี้บอกว่าที่ต้องปิดบังตัวเองเพราะป้องกันการเกิดอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเธอ อีกทั้งยังป้องกันคนมาขอเงินถ้าหากว่าใครจำหน้าเธอได้ เธอวางแผนไว้ว่าจะนำเงินก้อนนี้ไปใช้หนี้สิน เอาไว้ลงทุน ออกไปท่องเที่ยว และนำไปสร้างศูนย์เพื่อเด็กและเยาวชนในชุมชนของเธอ เธอบอกว่า เพื่อนของเธอแนะนำให้ซื้อลอตเตอรี่เผื่อว่าจะโชคดีถูกรางวัล ซึ่งมันก็เป็นไปตามโชคชะตาจริงๆ ตอนแรกเธอคิดว่าถูกรางวัลแค่ 4 ตัว แต่เมื่อเช็คดีๆ แล้วเธอถูกรางวัลถึง…
-
ได้เหรอ!! ชายแก่ตบหน้าหญิงวัยกลางคนกลางรถไฟ เพียงเพราะเหตุผล ‘ไม่ยอมลุกให้นั่ง’
ได้มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นบนโลกอินเทอร์เน็ตของประเทศจีนจนแทบลุกเป็นไฟ เมื่อมีชายแก่คนหนึ่งไปตบหน้าผู้หญิงเข้าเต็มๆ หน้ากลางรถไฟฟ้า ซึ่งเหตุผลที่ทำเช่นนั้นก็เพียงเพราะว่าเธอ ‘ไม่ยอมลุกให้นั่ง’ เพียงเท่านั้น… โดยเรื่องราวที่ว่านี้เกิดขึ้นในวันพุธที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา บนรถไฟฟ้า Wuhan Metro สาย 6 ของประเทศจีน เมื่อมีชายแก่คนหนึ่งที่ขึ้นรถไฟมาพร้อมจักรยานของเขาในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีผู้คนโดยสารอยู่อย่างหนาแน่น จากนั้นชายแก่คนนี้ก็พยายามจะหาที่นั่งให้ตนเอง ด้วยการขอผู้หญิงคนหนึ่งให้ลุกให้เขานั่งให้หน่อย แต่ว่าเธอได้ปฏิเสธคำขอของชายคนนี้และได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมดต่อจากนั้น เพราะชายแก่ได้เกิดบันดาลโทสะขึ้นเสียงตะคอกใส่หญิงคนนี้ที่ปฏิเสธไม่ลุกให้นั่ง พร้อมยังได้ตบหน้าเธอเข้าอย่างเต็มๆ หน้าเลยด้วย และมีหรือที่ผู้ถูกกระทำคนดังกล่าวจะยอมนั่งให้ตบอย่างฟรีๆ เธอลุกขึ้นมาตะคอกใส่ชายแก่บ้างว่าทำอย่างนี้ทำไม ทว่าเธอก็ไม่ได้ตบหน้าชายแก่คนนี้กลับแต่อย่างใด หนึ่งในคำพูดของเธอก็กล่าวเอาไว้ว่าชายแก่ผู้หยิ่งยโสคนนี้ มีสิทธิที่จะไปทำอย่างนี้กับคนอื่นได้เพียงเพราะแค่ว่ามีอายุอย่างนั้นหรือ?? ซึ่งเหตุการณ์ที่ว่านี้ก็จบลงด้วยการที่มีพลเมืองดีได้ยื่นมือเข้ามาช่วยแยกทั้งคู่ออกจากกัน ก่อนที่ในที่สุดชายแก่คนดังกล่าวจะลงที่สถานี Jianghan ไปในที่สุด คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ที่ว่านี้ได้กลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตถกเถียงกันถึงเรื่องความเหมาะสม ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่ความเห็นของชาวเน็ตก็จะมีอย่างหลากหลายทิศทาง ดั่งเช่นความเห็นต่อไปนี้ “คนแก่คนนี้บ้าไปแล้วจริงๆ ถ้าฉันเป็นผู้หญิงนะฉันจะตบหน้าเขากลับเลยด้วย” “คุณควรให้ความเคารพแก่คนที่แก่กว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเถอะ” “ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่ผู้หญิงอายุน้อยๆ แล้วนะ ดังนั้นแล้วเธอจึงมีสิทธิอย่างถูกต้องที่จะนั่งในที่ของเธอ” ที่มา: dailymail, ladbible
-
หัวขโมยถูกศาลสั่งจำคุก หลังปล้นบ้านแม่ม่ายวัย 88 และทำร้ายร่างกายเธอจนเจ็บหนัก
ว่ากันว่าการเวลานั้นเยียวยาได้ทุกสิ่ง แต่อย่างไรก็ตามบาดแผลบางอย่างนั้น ก็เป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะทำให้มันจางลงไป นี่คือเรื่องราวของ Blanche Rowlands แม่ม่ายวัย 88 ปีผู้ที่อาจจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดของเธอ ไปกับบาดแผลที่ได้รับจากการบุกปล้นบ้านของหัวขโมย 3 คน ภาพบาดแผลของคุณ Blanche Rowlands ที่มีการเปิดเผยออกมาโดยทางตำรวจ เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2017 ที่ผ่านมานาย Jeffrey Earp วัย 50 ปีได้ทำการบุกปล้นบ้านของ Rowlands ในเวลส์ โดยมีเพื่อนร่วมขบวนการอีกสองคนชื่อว่า Carl Barrett วัย 51 ปี และ Keith Grogan วัย 42 ปี คอยให้ความร่วมมือ นาย Earp ทำร้ายร่างกายของคุณ Rowlands จนได้รับบาดแผลเต็มใบหน้า แขนหักและหมดสติไป ก่อนที่จะนำเธอไปขังไว้ในห้องนอนและกวาดเอาของมีค่าหนีออกไปจากบ้าน Jeffrey Earp ผู้ก่อเหตุ โดยหนึ่งในของมีค่าเหล่านั้น มีแหวนแต่งงานและเครื่องประดับซึ่งเป็นของดูต่างหน้าของสามีที่จากไปของเธออีกด้วย น่าเสียดายที่ของเหล่านั้นยังไม่สามารถหากลับมาคืนเธอได้แม้ในปัจจุบัน คุณ Rowlands ถูกพบโดยเพื่อนบ้านในเวลาต่อมา และทางตำรวจก็ได้ออกไล่ล่ากลุ่มหัวขโมยในทันที Carl Barrett ผู้สมรู้ร่วมคิด…
-
ท่านปูตินบอก…ให้ ‘ผู้หญิงรัสเซีย’ มีเซ็กส์กับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ในช่วงบอลโลก
ประเทศรัสเซียเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเป็นชาตินิยมสูงเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะช่วงที่ ‘ฟุตบอลโลก’ กำลังแข่งอยู่นี้ ทำให้ตอนนี้ประเทศรัสเซียมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากมายที่หลั่งไหลกันมาดูการแข่งขันฟุตบอล และล่าสุดก็มีกระแสสังคมที่ออกมารณรงค์ไม่ให้ผู้หญิงรัสเซีย มีเซ็กส์กับชาวต่างชาติในช่วงบอลโลกที่กำลังจัดขึ้น ซึ่งแนวคิดนี้มาจาก Tamara Pletnyova รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสถาบันครอบครัวของรัสเซียวัย 70 ปี ได้ออกมาให้ความเห็นในเชิงที่ว่า เธอหวังเป็นอย่างยิ่งที่ผู้หญิงรัสเซียจะไม่หลับนอนหรือออกเดตกับผู้ชายต่างชาติที่มาร่วมชมฟุตบอลโลก ซึ่งมันอาจจะนำไปสู่การตั้งท้อง เธอยังบอกอีกว่า “ผู้หญิงรัสเซียทุกคนจะต้องเลิกคิดเกี่ยวกับชายชาวต่างชาติซะ เพราะมันอาจจะทำให้เธอต้องเลี้ยงลูกที่เกิดจากพวกเขาด้วยตัวคนเดียว“ แน่นอนว่ามีการสนับสนุนจากคนดัง ที่เห็นด้วยกับความคิดของท่านรัฐมนตรี Inna Zhirkova นางแบบสาวสุดฮอต วัย 28 ปี ภรรยาของอดีตนักฟุตบอลชื่อดังจากทีม Chelsea อย่าง Yuri Zhirkov ให้ความเห็นว่า “ฉันเห็นด้วยนะกับการไม่มีเซ็กส์กับชาวต่างชาติในช่วงฟุตบอลโลก เพราะพวกเราเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย” “แต่จริงๆ แล้วผู้คนน่ะตกหลุมรักกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเป็นสัญชาติอะไร แต่อย่างไรก็ตามสำหรับฉันแล้วฉันฝันมาตลอดว่าอยากจะมีสามีเป็นชาวรัสเซีย และฉันก็มีสามีเป็นชาวรัสเซียด้วย” อย่างไรก็ตามความคิดนี้ก็ไม่ได้มีแต่คนเห็นด้วยไปซะหมดทุกคน ทางด้าน Alexander Rolbinov ท่านรองนายกเทศมนตรีจากเมืองคาลีนินกราด ก็ออกมาโต้ความคิดของท่าน Pletnyova ว่าความคิดของเธอทำให้ประเทศล้าหลัง “มันทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวในอดีต…
-
ธรณีสูบของจริง… เมือง Berezniki โดนแผ่นดินกลืนกิน เกือบ 30 ปี จนกลายเป็นเมืองร้าง!!
เคยมีคำกล่าวถึงการถูกแผ่นดินดูด ธรณีสูบ เนื่องจากเป็นคนไม่ดี สร้างเรื่องเลวร้ายจนต้องโดนธรรมชาติลงโทษต่างๆ นานา แต่ไม่ยักเคยเห็นว่ามันเป็นเช่นไร เกิดขึ้นได้จริงหรือไม่? แน่นอนว่า ธรณีสูบ นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ มีชื่อเรียกว่าปรากฎการณ์ ‘หลุมยุบ’ ซึ่งเกิดขึ้นในหลากหลายพื้นที่บนโลกใบนี้ และสำหรับเมืองแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซียเรียกได้ว่าโดนหนักสาหัสกว่าใคร เนื่องจากโดนกลืนไปเป็นแทบทั้งเมืองอย่างช้าๆ Berezniki คือเมืองทางด้านอุตสาหกรรม มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 150,000 ชีวิต ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเหมืองเกลือมาตั้งแต่ช่วงปี 1980 และเนื่องจากอุตสหกรรมเหมืองเกลือที่ดำเนินการมาหลายสิบปี ก่อให้เกิดรอยแยกบนผิวดินอย่างต่อเนื่อง และค่อยๆ กลืนกินโรงงาน สำนักงานต่างๆ ลงไป รวมไปถึงอาคารโรงเรียนและบ้านเรือน พังทลายเสียหายหลายแห่ง อย่างเช่นสภาพของสำนักงานเหมืองเกลือ ปัจจุบันอยู่ท่ามกลางบ่อน้ำที่เกิดจากหลุมยุบขนาดใหญ่ ทำให้โกดังและอาคารในบริเวณโดยรอบ ค่อยๆ ถูกกลืนลงไปด้วยอย่างช้าๆ โดยที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะหลุมยุบกำลังกลืนกินทุกสิ่งบนผิวดิน หลุมยุบที่รุนแรงที่สุดเริ่มต้นในระหว่างปี 2006-2007 ส่งผลทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อม ประชาชนในเมืองแตกตื่นหนีเอาชีวิตรอด รางรถไฟบิดเบี้ยว อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก . เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งทำการแจ้งเตือนประชาชนและอพยพชาวเมืองออกจากพื้นที่อันตราย ตามรายงานในอดีตกล่าวว่าเกิดหลุมยุบอย่างน้อย 10…
-
แมวหูหนวกทำนายผลบอลโลกแมตช์แรก รัสเซีย-ซาอุดีอาระเบีย แม่นอย่างกับตาเห็น
ฤดูกาลฟุตบอลโลกก็ได้เปิดอย่างเป็นทางการไปแล้วเรียบร้อย โดยเริ่มจัดการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน-15 กรกฎาคม 2018 มีทีมเข้าแข่งขัน 32 ทีมจากทั่วโลกที่จะมาแข่งเพื่อคว้าชัยไปในครั้งนี้ แน่นอนว่าเมื่อกระแสฟุตบอลโลกมาถึง ก็มีผู้คนที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการนำสัตว์แต่ละอย่างมาร่วมทำนายผลฟุตบอลกันไม่ว่าจะเป็นหมึก หมู หรือแม้กระทั่งแมว หมอดูแมวเหมียวตัวนี้ชื่อว่า อคิลลีส อาศัยอยู่ในพิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลโลกปีนี้ มันเป็นแมวที่หูหนวก แต่ก็มีคนเชื่อว่า แมวที่หูหนวกนั้นจะมีสมาธิมากกว่าแมวตัวอื่น เจ้าอคิลลีสเคยทำนายผลฟุตบอลในฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นคัพ ซึ่งมันก็ทายแม่นซะด้วย เมื่อฤดูกาลฟุตบอลโลกมาถึงมันก็เลยมีหน้าที่ในการทำนายผลฟุตบอลไปโดยปริยาย เจ้าหน้าที่ได้นำชามอาหารมาให้เจ้าเหมียวได้เลือกทำนายผล 2 ชามเป็นคู่แข่งในแมตช์แรกแห่งการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้นั่นก็คือการแข่งขันระหว่าง รัสเซีย-ซาอุดีอาระเบีย เจ้าเหมียวเลือกกินอาหารจากชายฝั่งที่มีธงชาติรัสเซีย จากการทำนายของเจ้าเหมียวหูหนวกตัวนี้ ผลการแข่งขันในแมตช์แรกก็เป็นไปตามที่ทำนาย รัสเซียชนะซาอุดีอาระเบียไปด้วยสกอร์ 5-0 ไม่รู้ว่าเจ้าเหมียวตัวนี้จะสามารถทำนายผลฟุตบอลได้อย่างแม่นยำในทุกๆ แมตช์หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ถ้าเจ้าอคิลลีสอยู่ประเทศไทยล่ะก็ คงต้องจัดตั้งสำนักทำนายเลขเด็ดจากแมวเหมียวอย่างแน่นอน ^^ ที่มา reuters, telegraph, npr
-
แพทย์ชี้ รอยแดงปริศนาบนเพดานปาก ของชายวัย 47 ปี เกิดจากการ “อมนกเขา” มากจนเกินไป?!
การใช้ปากสนองความต้องการทางเพศให้กับอีกฝ่ายถือว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างการร่วมรัก แต่หากทำอย่างนั้นมากจนเกินไป อาจส่งผลต่ออวัยวะที่เราใช้ได้อย่างไม่รู้ตัวเหมือนชายคนนี้ นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหนุ่มเม็กซิกันวัย 47 ปี เมื่อทันตแพทย์พบว่ามีรอยแดงประหลาดเกิดขึ้นบริเวณเพดานปากของเขา จนได้ทราบว่าสิ่งนั้นเกิดจากการ “อมนกเขา” ที่มากจนเกินไป?! รอยแดงปริศนาบนเพดานปาก (จากการรายงานเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2018) หมอฟันจากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย Montemorelos ในประเทศเม็กซิโก รายงานว่ารอยแดงที่เกิดขึ้นในปากของชายคนนั้นคือสิ่งที่เรียกว่า Erythema แพทย์คาดการณ์ว่ามันเกิดขึ้นจากการที่ชายหนุ่มใช้ปากอมนกเขาให้กับคู่นอนของตนมากจนเกินไป ซึ่งเมื่อสอบถามกับคนไข้ก็พบว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ หนุ่มเม็กซิกันเล่าว่าเขามักจะทำอย่างนั้นให้กับอีกฝ่ายอยู่เสมอ และครั้งล่าสุดที่ทำก็คือ 3 วันก่อนที่จะเข้ามาพบหมอ คนไข้ไม่รู้มาก่อนเลยว่าตนเองมีรอยแดงๆ นี้อยู่ตรงผนังปาก เพราะมันไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไรเลย ทางด้านแพทย์ออกมาชี้แจงว่าเจ้ารอยที่เห็นนี้มักจะเกิดจากการที่อวัยวะเพศเข้าไปกระทบกับเพดานปากมากจนเกินไป ทำให้เกิดอาการห้อเลือด และหนักเข้าก็อาจกลายเป็นรอยบวมขึ้นมาในที่สุด นอกจากนั้นอาการนี้ยังสามารถเกิดจากการเล่นเครื่องดนตรีจำพวกเครื่องเป่าบางชนิดได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามหากปล่อยไว้รอยดังกล่าวก็จะสามารถหายไปได้เอง คือต้องพักการนำของแข็งแทงเข้าปากไปสักระยะหนึ่ง ปล่อยไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ รอยที่ว่านั้นก็เลือนลางหายไปเอง พอได้ฟังอย่างนี้แล้ว มีความรู้สึกอยากลองเช็กช่องปากเพื่อนที่นั่งข้างๆ เลย ดูสิว่าจะมีรอยแบบนี้อยู่บ้างหรือเปล่าน้าาาา ที่มา: mirror , thesun , dailymail
-
สุดสะเทือนใจ…อาการเด็กชายผู้ถูกลูกหลงจากระเบิด ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองตาบอด
“สงคราม” คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีความขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มคนสองกลุ่ม สงครามอาจจะสร้างผู้ชนะขึ้นมาได้ แต่ไม่เคยเป็นทางออกของปัญหาใดๆ เพราะหากคิดดีๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นสงครามเล็กใหญ่ขนาดไหนย่อมที่จะต้องมีการสูญเสียสิ่งต่างๆ ไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากร ตึกรามบ้านช่อง รวมถึง “ชีวิต” ของมนุษย์ด้วย เหมือนอย่างเรื่องสะเทือนใจเรื่องนี้ เมื่อ Abdul Moeen al-Hassan เด็กชายตัวน้อย ที่ต้องเสียการมองเห็นไปจากลูกหลงระเบิดในซีเรีย ดวงตาที่เคยมองเห็นได้อย่างสดใส เขากลับต้องตื่นมาพร้อมกับความมืดมิด หลังจากที่บ้านของเขาถูกลูกหลงจากระเบิด เด็กชายได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในประเทศตุรกีอย่างรวดเร็ว สภาพของดวงตาและมือของเขาต้องถูกพันไปด้วยผ้าพันแผลอย่างแน่นหนา และเมื่อตื่นขึ้นมา ด้วยดวงตาที่ไม่อาจจะมองเห็นแสงอีกต่อไป เขาก็ได้กรีดร้องและตะโกนว่า “ปาป๊า ปาป๊า!! ตาของผม มันมองไม่เห็น!!” เด็กน้อยกรีดร้องเสียงดังมาก จนพ่อของเขาต้องเข้ามาปลอบ จนเขาสามารถสงบลงได้ นอกจากการสูญเสียการมองเห็น จากภาพข้างบนเราจะเห็นว่าร่างกายของเด็กชายเต็มไปด้วยแผลเป็นจากระเบิด ต่อมาเขาก็ถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลในเมือง Gaziantep เพื่อการรักษาที่ดีกว่า โดยที่มี One Nation องค์กรการกุศลได้ระดมทุนและเข้ามาช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมดเป็นเงินประมาณ 43,000 บาท ด้านองค์กร UNICEF กล่าวว่ามีเด็กประมาณ 1 ล้านคนที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี รวมถึงพื้นที่บริเวณเมือง Idlib เมืองที่ถูกทิ้งระเบิดใส่ในไม่กี่วันมานี้และได้คร่าชีวิตเด็กไปทั้งหมด…
-
ตำรวจ FBI กระโดดม้วนหลังทำปืนลั่นใส่คน เจ้าทุกข์บอกอยากให้โทรมาเคลียร์เงียบๆ
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่านาย Chase Bishop วัย 29 ปี เจ้าหน้าที่ FBI เผลอยิงเข้าที่ขาของชายคนหนึ่งแบบไม่ได้ตั้งใจ หลังจากทำปืนหล่นจากกางเกงขณะ “กระโดดม้วนตัว” ตามรายงานบอกว่านาย Bishop ได้ไปเที่ยวที่บาร์ Mile High Spirits ในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน และแม้ว่าในเวลานั้นจะเป็นช่วงเลิกงานแล้วแต่เขาก็ยังพกปืนติดตัวไปด้วย ในระหว่างนั้นเขาได้โชว์สเต็ปเท้าไฟของตัวเอง และแสดงท่าทางกระโดดม้วนหลัง แต่ในจังหวะนั้นเองดันทำให้ปืนที่เขาเหน็บไว้ที่เอวร่วงลงมาที่พื้น และในชั่วพริบตาปืนก็ได้ลั่นออกไป ทำให้ผู้คนในงานรวมถึงนาย Bishop รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก โชคไม่ดีที่กระสุนที่ลั่นออกไปนั้นไปถูกเข้ากับขาของนาย Thomas Reddington วัย 24 ปี ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น Reddington ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญว่า “พวกเรานั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่ง ผมได้ยินเสียงดังปังเลยคิดว่าน่าจะมีไอ้งี่เง่าสักคนที่จุดประทัดเล่น จากนั้นผมก็มองลงมาที่ขาของตัวเองและเห็นว่ามีจุดน้ำตาลๆ ผมยังคงคิดว่ามันเป็นประทัดอยู่นะ แต่จู่ๆ ที่หัวเข่าของผมลงไปถึงขา มันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที ตอนนั้นผมเลยเพิ่งรู้ว่า ‘ตัวเองโดนยิง’” ชมคลิปเต็มๆ…
-
หนุ่มนอกใจภรรยา แอบพาชู้ไปเข้าโรงแรม สุดท้ายความแตกเพราะ ‘จิ๋มล็อก’
การนอกใจคนรักถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ หากคุณยังต้องการที่จะรักษาความรักเอาไว้อยู่…. เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของชายหนุ่มคนนี้ ที่นอกใจนอกกายภรรยาของตัวเอง ไปมีสัมพันธ์กับหญิงอื่น จนสุดท้ายถูกจับได้เพราะถูก ‘จิ๋มล็อก’!? เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ Metro รายงานว่า มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งไปเช่าโรมแรมด้วยกันในประเทศเคนยา หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงตะโกนออกมาจากห้องเพื่อขอความช่วยเหลือ ปรากฏว่าฝ่ายผู้ชายนั้นมีครอบครัวอยู่แล้ว อาศัยอยู่ในเมือง Lodwar ซึ่งฝ่ายภรรยาของเขาเองก็มีความสงสัยมาตั้งนานแล้วกับการกระทำแปลกๆ ที่ชอบบอกว่าออกไปทำธุรกิจในเมือง Kitale อยู่บ่อยๆ บางครั้งก็ถึงกับเคยแอบตามสามีไปด้วยแต่ก็จับไม่ได้ไล่ไม่ทันสักที หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากห้องพัก ก็รีบโทรแจ้งตำรวจอย่างเร็วไว และพอเปิดห้องเข้าไปก็พบว่ามีหญิงชายคู่หนึ่งตัวติดกัน อันเนื่องมาจากเกิดอาการ ‘จิ๋มล็อก’ ตามรายงานระบุเอาไว้ว่าทั้งคู่ถูกพาไปที่สถานีตำรวจ ก่อนที่จะแยกจากกันโดยปลอดภัย อย่างไรก็ตามในรายงานไม่ได้ระบุไว้ว่าหลังจากนั้นฝ่ายชายกับภรรยาจะเป็นอย่างไรต่อไป ในความเป็นจริงนั้นอาการจิ๋มล็อกสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ แต่ยากมากๆ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเพศ ดอกเตอร์ John Dean กล่าวว่า “กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานของผู้หญิงนั้นมีการหดเกร็งเมื่อถึงจุดสุดยอด นั่นทำให้กล้ามเนื้อเหล่านั้นมีโอกาสที่จะล็อกกระปู๋เอาไว้ ซึ่งมันสามารถเอาออกมาได้เมื่อกล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวก็เท่านั้นเอง” แหม่ ดันมาโดนจับได้แบบนี้ บอกเลยว่าพลาดซะยิ่งกว่าพลาด แต่ทางที่ดีไม่น่านอกใจแต่แรกเลยจะดีกว่านะจ๊ะ ที่มา :…
-
หนุ่มศัลยกรรมหน้าเหมือน ‘เดวิด เบคแฮม’ เปลี่ยนใจอยากทำหน้า ‘บรูคลิน’ แทนแล้ว
การมีความใฝ่ฝันย่อมเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการใช้ชีวิตของคนเรา เพราะมันจะช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราสามารถใช้ชีวิตมุ่งไปข้างหน้าอย่างมีเป้าหมาย เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มคนนี้ ที่ฝันอยากจะมีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกับ David Beckham จึงทุ่มเงินกว่า 862,000 บาท เพื่อศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าของตัวเอง Jack Johnson หนุ่มวัย 22 ปี ที่ลงทุนเปลี่ยนใบหน้าของตัวเองให้คล้ายกับ David Beckham จนทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไปอย่างมาก เรื่องราวของเขาได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าทีมงานเหมียวเองก็เคยนำเรื่องราวของเขามาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันแล้ว (ตามไปอ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ ) แต่ล่าสุดชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างมาก Jackson เล่าว่าตอนนี้เขากลายเป็นคนไร้บ้านไปแล้ว และทุกวันนี้ได้เงินจากการมีเสี่ยเลี้ยงเป็นจำนวนถึง 5 คนด้วยกัน!! และตอนนี้ความฝันของเขาได้เปลี่ยนไปแล้วด้วย “ก่อนหน้านี้ผมยุ่งมากเลยกับการหาความเป็นตัวของตัวเอง และตอนนี้ผมต้องการที่จะมีหน้าตาเหมือน Brooklyn Beckham” “David เป็นคนที่ดูดีและมีเสน่ห์มาก แต่ตอนนี้เขาดูแก่ลงไปเยอะแล้ว ซึ่งผมต้องการมีหน้าตาที่ดูอ่อนเยาว์กว่านี้” “สำหรับ Brooklyn ดูมีความน่าดึงดูดตาดึงดูดใจมากกว่า และตอนนี้ถ้าผมจะไปปรึกษากับแพทย์ด้านความงาม ผมจะเอาภาพของเขาไปด้วย” Jackson กล่าว “มันต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ทำงานด้วย เลยหาคนออกค่าใช้จ่ายให้ ก็มีอยู่ 5…
-
ครูเกษียณวัย 90 สอนหนังสือเด็กชนบทมานาน 18 ปีไม่มีค่าใช้จ่าย ทำด้วยจิตวิญญาณล้วนๆ!!
เป็นที่รู้กันดีว่าอาชีพ ‘คุณครู’ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองอย่างสูง เพราะพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่สอนหนังสือให้ความรู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังคงดูแลเด็กๆ ให้เติบโตขึ้นอย่างงดงามและเป็นคนดีของสังคม ดังนั้นแล้วคุณครูจึงเปรียบเสมือนกับว่าเป็นพ่อแม่คนที่ 2 ในวัยเด็กเลยก็ว่าได้สำหรับใครหลายคน… ดังนั้นแล้วเราจึงเห็นว่าจิตวิญญาณความเป็นครูจึงเป็นสิ่งที่น่านับถืออย่างมาก และสำหรับบางคนมันก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถสลัดทิ้งออกไปได้ง่ายๆ แม้ว่าจะมีอายุเลยวัยเกษียณแล้วก็ตาม เหมือนกับคุณครูวัย 90 ปีคนนี้ที่ยังคงสอนหนังสือให้เด็กๆ ชนบทแบบฟรีๆ ไม่เสียเงินสักบาทแถมทำมานานแล้วกว่า 18 ปีด้วย!! โดยคุณครูใจดีคนที่ว่านี้มีชื่อว่า Ye Lianping ชาวจีนวัย 90 ปี เขาเป็นอดีตคุณครูที่เกษียณอายุมาเนิ่นนานแล้ว แต่ว่ายังคงออกมาสอนหนังสือให้กับเด็กๆ ในชนบทของเมืองอันซาน มณฑลอันฮุย ด้วยวิชาภาษาอังกฤษมานานถึง 18 ปี แถมยังสอนฟรีๆ อย่างไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เลยด้วย และห้องสอนหนังสือสำหรับคุณครูคนนี้ก็คือ ห้องเก็บของเก่าๆ ที่รัฐบาลท้องถิ่นช่วยกันปรับปรุงใหม่ขึ้นมาจนกลายเป็นห้องเรียนเล็กๆ 2 ห้อง ซึ่งห้องหนึ่งเอาไว้ใช้เป็นห้องเรียนหนังสือสำหรับเด็กๆ และอีกห้องหนึ่งเป็นห้องนันทนาการอย่างการทำการบ้าน หรือเล่นหมากรุกนั่นเอง ซึ่งตัวของคุณครูเย่เองก็บอกว่า มีเด็กๆ จำนวนมากในชนบทแห่งนี้ ที่เหล่าพ่อแม่ย้ายเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่และทิ้งเอาไว้ให้คนสูงอายุอย่างปู่ย่าตายายดูแล เขาจึงอยากให้เด็กๆ เหล่านี้ได้มีความรู้และใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ จึงอาสามาเป็นคุณครูสอนหนังสือให้ฟรีๆ เหมือนดั่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้…
-
เฮ้ยมันดีนะ… ร้านพิซซ่าดังลงทุนซ่อมถนนเป็นหลุมบ่อ ไม่รอภาครัฐ เดี๋ยวส่งพิซซ่าสะดุด!!
ปัญหาถนนเป็นหลุมเป็นบ่อนั้น มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก และการที่จะทำให้ถนนกลับมามีสภาพใช้งานได้เหมือนเดิม ก็ต้องรอหน่วยงานรัฐมาจัดก่อน แน่นอนว่าปัญหาที่ว่าแจ้งแล้วไม่มาทำเสียที หรือถ้ามาก็มาช้า เหล่าประชาชนทั่วโลกล้วนเจอมาเหมือนกันหมด ด้วยเหตุนี้ทางแบรนด์ Domino เฟรนไชน์พิซซ่าเจ้าใหญ่ จึงได้เริ่มแคมเปญ Paving For Pizza ทำการซ่อมถนนเป็นหลุมเป็นบ่อทั่วสหรัฐฯ โดยเล็งเห็นว่าหากปล่อยให้มีหลุมบนถนน เกรงว่าลูกค้าจะขับตกหลุมแล้วทำให้หน้าพิซซ่าหก อดกินของอร่อยๆ ไป . นอกจากจะทำให้อดกินพิซซ่าแล้ว ไหนจะอันตรายต่อรถยนต์และการขับขี่บนท้องถนนอีก ถ้าหากไม่มองเรื่องของการโปรโมทแบรนด์ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องดีๆ ที่ทางเอกชนคืนกำไรให้กับสังคม เพราะจะช่วยทำให้ท้องถนนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกับทุกๆ คน ฮีโร่ตัวจริง ไม่จำเป็นต้องใส่ผ้าคลุม แค่ทำเรื่องดีๆ ให้กับสังคม ผู้คนก็พร้อมชื่นชมแล้ว!! ที่มา: pavingforpizza, boredpanda
-
สาวใหญ่บะลักกัก 4,600 ซีซีเบียดจนเบี้ยว โร่ร้องหาหมอทำให้เท่ากัน แต่ไม่ลดขนาดนะ…
ขนาดหน้าอกอาจจะเป็นหนึ่งในความมั่นใจของผู้หญิงยุคใหม่ เรื่องหน้าอกหน้าใจต้องมาก่อนไม่แพ้เรื่องของหน้าตา ว่ากันว่ายิ่งใหญ่ยิ่งดี เตะตาผู้คนได้มากถึงมากที่สุด ที่ผ่านมาจะเห็นว่าขนาด 1,000 ซีซี ก็น่าจะใหญ่เกินพอแล้ว สำหรับสาวใหญ่ Allegra Cole วัย 44 ปี คิดว่ายังไม่พอ เธอไปอัดฉีดเพิ่มขนาดให้ใหญ่มากถึง 4,600 ซีซี!! เธอเริ่มต้นเสริมหน้าอกครั้งแรกที่ 800 ซีซี ซึ่งชีวิตในช่วงนั้นก็มีความสุขดี ผู้คนรอบกายต่างบอกว่ามันดูเต็มและพอดีแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องเสริมอะไรอีกแล้ว แต่สำหรับเจ้าตัวเองกลับคิดว่ามันน่าจะใหญ่กว่านี้อีกสักหน่อย เธอจึงเริ่มหาช่องทางในการเพิ่มขนาดหน้าอกให้มากขึ้นไปอีก แล้วก็ได้พบกับกลุ่มนายทุนสนับสนุนให้ผู้หญิงทำนม เธอจึงรีบเข้าสมัครร่วมโครงการทันที ภายหลังจากที่กลุ่มทุนได้ให้เงิน พร้อมกับตรวจสอบฝีมือแพทย์ผู้ผ่าตัดแล้ว เธอก็ได้ขนาด 1,700 ซีซีมาครอบครอง เป็นสองเท่าจากการเพิ่มในครั้งแรก และความรู้สึกหลังผ่าเหมือนมีช้างทั้งตัวมานั่งทับบนอก แต่ยังยอมรับว่า ‘ยังไม่ใหญ่พอ’ จนผ่านมา 5 เดือนให้หลัง จากขนาด 1,700 ก็เพิ่มมาเป็น 4,600 ซีซี กับหน้าอกที่เต็มไปด้วยน้ำเกลือ (ไม่ได้เสริมด้วยซิลิโคน)…
-
เน็ตไอดอลสาวพักไลฟ์สด แต่ “ลืมปิดกล้อง” ทำให้ผู้ชมพบคนน่าสงสัย บุกเข้าห้องของเธอ!!
การไลฟ์สด นับวันยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเน็ตไอดอลหรือคนดังทั้งหลายที่มีผู้รอติดตามจำนวนมาก แค่ออกมาปรากฏกายทำอะไรก็ได้ พูดคุยนิดหน่อย แฟนๆ ก็มีความสุขกันน่าดูชมแล้ว แต่การไลฟ์สดมันก็มีข้อดีของมันเหมือนกันอย่างเหตุการณ์ล่าสุดที่เน็ตไอดอลสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่คนหนึ่ง ได้ออกมาไลฟ์สดพบปะแฟนๆ ที่รอคอยกันอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต เริ่มการไลฟ์ได้ไม่นาน เธอก็ต้องขอตัวไปรับโทรศัพท์ แล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่แน่ใจว่าลืมปิดกล้องหรือว่าตั้งใจเปิดไว้กันแน่ การไลฟ์สดของเธอยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าตัวเธอจะไม่ได้อยู่หน้ากล้องก็ตาม ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ เลิกดูไลฟ์ของเธอเลย กลับกัน ด้วยความที่เธอเปิดกล้องไลฟ์สดทิ้งไว้ ทำให้แฟนๆ ที่จ้องหน้าจออยู่พบว่า หญิงผิวสีคนหนึ่งแอบย่องเข้ามาให้ห้อง ของเน็ตไอดอลคนนี้ หญิงปริศนาแอบเข้ามาพร้อมท่าทางเร่งค้นหาอะไรบางอย่าง ชาวเน็ตเห็นก็รู้สึกได้ทันทีว่านี่เป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ ท่ามกลางความงุนงงของเหล่าแฟนๆ ที่รอดูการไลฟ์สด ชาวเน็คคนหนึ่งก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือเน็ตไอดอลสาว และจับกุมตัวหญิงปริศนาเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นความโชคดีที่เปิดกล้องทิ้งไว้ให้ชาวเน็ตคอยเป็นหูเป็นตา แต่ว่าอย่าเปิดทิ้งไว้จนลืมล่ะ เดี๋ยวจะมีภาพฉาวข่าวหลุดเอาได้นะ… ที่มา: ck101
-
หนุ่มโดนคุณหมอตัดเท้า เลยขอชิ้นส่วนกลับมา แถมชวนเพื่อนๆ ร่วมทานเมนู “เนื้อมนุษย์”!!
*ในคอนเทนต์นี้มีภาพที่สยดสยอง กระทบกระทั่งแก่จิตใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมครับ* ในโลกใบนี้มีวัตถุดิบหลายอย่างที่นำมาใช้ประกอบอาหาร ตั้งแต่สิ่งที่หาได้ง่ายๆ อย่างเช่นพวกผัก เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อปลา จนไปถึงสิ่งที่หายากอย่างพวกคาเวียร์หรือหูฉลาม แต่มีวัตถุดิบสิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนไม่เคยลิ้มลอง นั่นคือ “เนื้อมนุษย์’ ของเราๆ นั่นเอง เพื่อนๆ คงไม่อยากที่จะลองทานเนื้อมนุษย์กันหรอกใช่มั้ย แต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่ารสชาติของเนื้อพวกเรานี่มันจะเป็นยังไงกันนะ วันนี้ได้มีคนที่ลองทำแบบที่เราสงสัยมานานเรียบร้อยแล้ว แต่เขาไม่ประสงค์ที่จะเผยนาม เราเลยขอเรียกเขาว่านาย A ละกัน เรื่องของเรื่องคือ A เกิดอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ ทำให้เขาต้องเสียเท้าไปข้างหนึ่ง เขาเก็บเท้าข้างนั้นไว้และเขากับเพื่อนก็รวมตัวเพื่อทดลองชิมเนื้อมนุษย์ด้วยกัน เขาได้โพสต์เรื่องของตัวเองลง Reddit ว่า “ประมาณ 2 ปีมาแล้วที่ผมประสบอุบัติทางจักรยานยนต์ จริงๆ แล้วมีเพียงเท้าที่ได้รับความเสียหาย แต่ผมต้องถูกตัดบริเวณตั้งแต่ใต้เข่าลงมา เพราะจะได้รักษาสมดุลและมีพื้นที่พอสำหรับใส่ขาเทียมได้ ถ้าตัดแค่เท้าอย่างเดียวนั่นจะทำให้ผมลำบากเวลาจะใส่อวัยวะเทียมพวกนั้น ผมก็ขอให้หมอเก็บส่วนที่ถูกตัดไว้ให้ พอผมได้กลับมาที่บ้าน ผมกับเพื่อนบางคนก็ได้ช่วยกันปรุงมัน” จุดเริ่มต้นมันเป็นมายังไง คุณถึงตัดสินใจที่จะกินมัน? เขาตอบว่า “ผมกับเพื่อนมักจะพูดมุกตลกว่าหากคุณมีโอกาสที่จะลองเนื้อมนุษย์แบบที่ไม่ผิดจริยธรรมและมีการปรุงที่ถูกวิธี พวกนายจะลองกันมั้ย และแน่นอนว่าเรามักจะบอกว่าแน่นอนอยู่เสมอ พอเกิดเรื่องนี้มันเลยเป็นโอกาสให้ได้ลอง…
-
รวม 21 มีมสุดฮาจากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์การจับมือระหว่าง Trump และ Kim!!
ในวันที่ 12 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่โลกต้องจดจำ นั่นคือการที่สองยักษ์ผู้ถือครองอาวุธอย่างระเบิดนิวเคลียร์ ประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐอเมริกาและ Kim Jong-Un ผู้นำเกาหลีเหนือได้มาจับมือปรองดองสู่สันติภาพกันที่ประเทศสิงคโปร์ การจับมือของพวกเขาทั้งสองเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจการค้าโลก ทำให้สามารถลดความตึงเครียดที่อยู่ในคาบสมุทรเกาหลีได้ จะส่งผลต่อเสถียรภาพของเศษรฐกิจโลกในระยะยาวอีกด้วย แต่เรื่องน่าดีก็ไม่อาจจะรอดพ้นเงื้อมมือของชาวเน็ตขี้แซว พวกเขาได้ทำมีมของ Donald Trump และ Kim Jong-Un ขึ้นมาเต็มไปหมด เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมกันครับ 1. “ในที่สุดรายการประกวดผมยอดแย่ระดับโลก 2018 ผู้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายก็ได้มาเจอกันแล้วครับ” 2. เมื่อไม่เหลือใครที่ให้คุณจับคู่ด้วยในคาบพละศึกษา 3. ให้ภาพมันเล่าเรื่อง 4. “Kim Possible” เชื่อดิคนบางคนต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อที่จะเขียนหัวข้อนี้แน่นอน 5. ประชาชน!! ในที่สุดเราก็จะมี McDonald กินกันแล้ว!! 6. เฮียจัด McDonald ให้ สนใจปรองดองมั้ยไอ้หนู…
-
กฎโรงเรียน!! นักเรียนสาวถูกสั่ง “ถอดเสื้อชั้นใน” ก่อนเข้าสอบ โวยโดนเจ้าหน้าที่จ้องหน้าอก
หลายโรงเรียนก็จะมีกฎและข้อห้ามไว้สำหรับให้นักเรียนปฏิบัติ เพื่อความสงบเรียบร้อยของโรงเรียนและผู้คนในโรงเรียน แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ กฎของโรงเรียนกลับทำให้เหล่านักเรียนหญิงต้องเดือดร้อน โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซีย มีกฎว่าห้ามนักเรียนมีโลหะติดตัวเข้าห้องสอบ นั่นหมายถึงโครงชุดชั้นในของนักเรียนหญิงด้วยเช่นกัน ทางโรงเรียนถึงกับจัดตั้งเครื่องสแกนตรวจหาโลหะพร้อมผู้คุมอีก 2 คนเพื่อคอยตรวจหาโลหะในร่างกายนักเรียนที่จะเข้าห้องสอบ แต่กฎดังกล่าวทำให้เด็กนักเรียนหญิงต้องผวาเมื่อนักเรียนสาววัย 17 ปีคนหนึ่งดันสวมชั้นในที่มีลวดทองแดงซึ่งทำให้เครื่องตรวจจับโลหะต้องส่งสัญญาณดัง เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้เธอถอดเสื้อชั้นในออก มิฉะนั้นจะไม่ได้เข้าห้องสอบ เมื่อเธอถอดออกแล้วกลับพบว่าเสื้อชีฟอง (ผ้าบางมองทะลุได้ง่าย) ของเธอทำให้มองเห็นถึงเนื้อหนัง และที่ยิ่งกว่านั้นเธอพบว่าเจ้าหน้าที่ทั้งสองเอาแต่จ้องมองที่หน้าอกของเธออย่าไม่ละสายตา นั่นทำให้เธอรู้สึกถูกคุกคาม เรื่องราวถูกแชร์ผ่านโลกโซเชียลโดยน้องสาวของนักเรียนหญิงผู้เสียหายได้นำไปเล่าผ่านเฟซบุ๊ก เธออัปโหลดภาพพร้อมคำบรรยายว่า “นักเรียนหญิงสมัยนี้นอกจากจะห้ามนำมือถือเข้าห้องสอบแล้ว ยังห้ามใส่เสื้อในอีกด้วยนะ” เธอเล่าต่อว่า “เจ้าหน้าที่สองคนตรวจร่างกายพี่สาวของฉัน แล้วบังคับให้ถอดชั้นในออก เมื่อถอดแล้วกลับมาตรวจอีกครั้งด้วยเสื้อซีทรูซึ่งมองเห็นยันเนื้อด้านใน เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนกลับเอาแต่มองหน้าอกพี่สาวฉัน” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งเมืองเนซนีกัมสก์ ซึ่งเป็นโรงเรียนอันดับ 10 ของสาธารณรัฐตาตาร์สถาน สหพันธรัฐรัสเซีย แต่ทางด้านนาย Ayziryak Ramazamova รองหัวหน้าหน่วยงานศึกษาธิการของเมืองเนซนีกัมสก์กลับออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ว่ามาทั้งหมด ขณะเดียวกัน Eduard Taymasov ผู้เป็นครูในโรงเรียนก็ชี้แจงว่าทางโรงเรียนมีกฎห้ามพกโลหะติดตัวอยู่แล้ว ซึ่งการถอดชุดชั้นในออกนั้นเป็นเรื่องปกติ แถมมีห้องแยกไว้สำหรับถอด ไม่ได้ถอดต่อหน้าผู้คน อย่างไรก็ตาม ทางด้านผู้เป็นแม่ของนักเรียนสาวผู้เสียหายก็ได้ทำการแจ้งและร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป …
-
มาแล้ว!! Marcus หมูทำนายผลที่มาพร้อมกับความแม่น 100% บอลโลกนี้ยังไงก็ต้องตาม
มาถึงแล้วสำหรับเทศกาลอดตาหลับขับตานอนที่ใครหลายคนรอคอยสำหรับ ‘ฟุตบอลโลก’ ที่ปีนี้จัดขึ้นในประเทศรัสเซีย นอกจากฟุตบอลสนุกๆ แล้วอีกสีสันหนึ่งที่เกิดขึ้นในงานนี้ก็คือเหล่ากองเชียร์ทีมต่างๆ ที่คอยมาสร้างเรื่องราวแปลกๆ มันส์ๆ ให้เราได้ติดตามกันเป็นประจำ และอีกหนึ่งสิ่งอย่างที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเทศกาลฟุตบอลก็คือ ‘สัตว์ทำนายผล’ นั่นเอง อย่างในปี 2010 ก็มีสัตว์ทำนายผลอย่างหมึก Paul และมีหรือที่ 2018 จะขาดไปได้ โดยในปีนี้เป็นคิวของเจ้าหมูทำนายผลชื่อว่า Marcus หมูวัย 8 ขวบที่มาพร้อมกับสถิติไม่ธรรมดาด้วยการทำนายถูกต้อง 100% ในเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก!! โดยนี่เป็นเรื่องราวที่เปิดเผยจาก Juliette Stevens เจ้าของหมูตัวนี้ โดยเธอกล่าวว่าเจ้า Marcus เคยทำนายเรื่องต่างๆ ถูกมาแล้วนักต่อนักทั้งผู้ชนะฟุตบอลโลก 2014 รวมทั้งผู้ชนะการแข่งขันวิมเบิลดันเทนนิส และนอกจากเรื่องของกีฬาแล้ว เรื่องใหญ่ๆ ในโลกมันก็ทายถูกอีกเช่นเดียวกัน เพราะมันได้เคยทำนายเอาไว้ว่าสหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป รวมถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมดนั่นจึงหมายถึงว่ามันมีความแม่นยำเต็ม 100% ส่วนในฟุตบอลโลก 2018 นั้นเจ้า Marcus ก็ได้ทำนายผลเอาไว้แล้วตั้งแต่นัดแรกยังไม่เริ่มเตะกัน โดยมันทำนายเอาไว้ว่ารอบรองชนะเลิศจะมีทีมใดบ้าง และทีมที่เจ้าหมูตัวอ้วนดำนี้ได้เลือกไว้ก็คือทีมชาติเบลเยียม, อาร์เจนตินา, ไนจีเรีย…
-
เลสเบี้ยนสาวอ้าง ถูกอูเบอร์ไล่ออกจากรถ ด้วยเหตุผลว่าพวกเธอจูบกันตรงเบาะหลัง
คู่เลสเบี้ยนสาวชาวอเมริกันอ้างว่าเธอถูกคนขับรถ Uber ไล่ลงจากรถเพราะว่าพวกเธอทั้งสองจูบกันบนรถ พร้อมกับบอกว่า พวกเธอไม่สามารถจูบกันบนรถได้ มันผิดกฎ พร้อมกับเผยแพร่วิดีโอเหตุการณ์ขณะที่เธอเถียงกับคนขับรถเพื่อยืนยัน Alex Iovine อายุ 26 ปีและ Emma Pichl แฟนสาวของเธออายุ 24 ปี ใช้บริการรถโดยสารจาก Uber เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา จากย่านบรูคลินไปยังย่านอีสต์วิลเลจ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา Alex บอกกับสำนักข่าว NY Dailynews เล่าเหตุการณ์ว่า เธอกับแฟนสาวเรียก Uber มาเพื่อที่จะให้ไปส่งที่ปาร์ตี้ เธอกับแฟนสาวนั่งลงบนเบาะหลังรถคนละฝั่ง ก่อนจะโน้มตัวมาจุ๊บกันเบาๆ ทันใดที่จุ๊บกันแบบธรรมดา คนขับก็หยุดรถทันทีพร้อมกับไล่ให้พวกเธอออกจากรถไป ตอนแรกเธอก็นึกว่าเขาต้องล้อเล่นแน่ๆ เธอรู้ดีว่าตามกฎของ Uber คือห้ามผู้โดยสารมีเซ็กส์กันในรถ แต่การจูบกันไม่ได้เข้าข่ายของการมีเซ็กส์เลย เธออัดคลิปวิดีโอขณะที่คนขับรถมาดึงตัวให้เธอและแฟนสาวลงจากรถ เขาบอกว่า “มันผิดกฎ คุณไม่สามารถทำแบบนี้บนรถ คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทำแบบนี้” Alex พยายามถามเขากลับว่า “ทำไมเราถึงไม่ได้รับอนุญาตให้จูบกันบนรถล่ะ” “มันไม่สุภาพ!!”…
-
หนุ่มไต้หวันถ่ายภาพขายไมโครเวฟ แต่ฝาเตาอบดั๊นสะท้อน “หรรม” ออกมาซะงั้น!!
การขายของออนไลน์นั้นเป็นที่นิยมกันอย่างมากเนื่องจากสามารถทำได้ง่าย สะดวก และเข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก เราอยากขายสินค้าอะไรก็เพียงแค่ถ่ายภาพแล้วอัปโหลดลงบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ข้อควรระวังก็คือ การถ่ายภาพสินค้านั้นต้องถ่ายให้สินค้าน่าสนใจ ดูน่าซื้อ และพยายามอย่าถ่ายให้ติดภาพไม่พึงประสงค์ เพราะมันอาจแย่งซีนสินค้าคุณก็เป็นได้… แต่เตือนไปก็คงไม่ทันแล้วสำหรับไอ้หนุ่มคนนี้ ที่ต้องการจะขายไมโครเวฟชิ้นใหม่เงาวับ! เงาจนกระทั่งเมื่อถ่ายรูปสินค้าเพื่ออัปลงอินเทอร์เน็ตมันกลับ สะท้อนภาพเปลือยล่อนจ้อนของพี่แกมาด้วย!! ขายไมโครเวฟชิ้นใหม่เงาวับจ้าาา… เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเอ็งต้องถ่ายมันมาตอนแก้ผ้าอยู่ด้วยฟระ!? งานนี้แทนที่ชาวเน็ตจะสนใจไมโครเวฟกลับกลายเป็นว่าหันมาสนใจ “บักหรรมขลำโอ้ก” ของพี่แกกันยกน้อยยกใหญ่เลย… ชายคนนี้ตั้งใจจะขายเตาอบไมโครเวฟชิ้นนี้ในราคา 2,800 ไต้หวันดอลลาร์ (ราว 3,000 บาท) ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าตอนนี้เตาอบไมโครเวฟชิ้นนี้ถูกขายออกไปหรือยัง ไหนดูอีกทีซิ อื้อหืม ชัดราวกับส่องกระจก หลังจากภาพนี้ได้กลายเป็นไวรัลของโลกอินเทอร์เน็ตไต้หวัน คนก็เข้ามาคอมเมนต์ให้ความสนใจกันมากมายที่เดียว เช่น… “แหม ช่างเป็นเตาอบที่ฝาปิดใสสะอาดดีจริงๆ” “สินค้าชินนี้มีโฆษณาแฝงด้วยแฮะ” “กรุณาอย่านำภาพไปเพิ่มแสงหากไม่อยากเห็นภาพอันตราย” “ฉันเห็นแล้วฉันอยากซื้อทันทีเลยล่ะ” “นี่มันไมโครเวฟสำหรับอบสาวๆ ให้ไหม้เกรียมหรือเปล่า?” และ “คิดว่าแม่ยกแม่หม้ายทั้งหลายคงมีความต้องการซื้อเตาอบชิ้นนี้ และอาจมีความต้องการ…” ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ สินค้าที่ถูกขายออกไปจะเป็นเตาอบหรือว่าตัวเจ้าของร่างเปลือยนั้นกันแน่ ฮ่าๆ (หยอกกกกก) ที่มา: metro และ ck101
-
จากจิ๊กโก๋แว้นมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่น ชีวิตเปลี่ยนไปเพราะกลายเป็น ‘ติ่งเกิร์ลกรุ๊ป’
บางครั้งชีวิตของคนเราก็ต้องเผชิญกับ ‘ความเปลี่ยนแปลง’ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นผู้นี้ ที่ในอดีตเคยเป็นจิ๊กโก๋ที่อยู่ในแก๊งมอเตอร์ไซค์ แต่ชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปเมื่อได้รู้จักกับเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี เมื่อราว 2 ปีก่อน ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า ゆうせい (@akmau010) เป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊งมอเตอร์ไซค์ชื่อว่า bōsōzoku เขาใช้ชีวิตอยู่กับความเร็วมาโดยตลอด แต่ปัจจุบัน akamau010 กลายเป็นหนึ่งในแฟนคลับเพลงผู้อุทิศทั้งร่างกายและหัวใจให้กับวงเกิร์ลกรุ๊ปที่มีชื่อว่า TWICE “เมื่อสองปีก่อนผมไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าจะกลายเป็นแฟนเพลงของวงเกิร์ลกรุ๊ป เมื่อสองปีก่อนผมมีความฝันว่าอยากจะบิดคันเร่ง และบีบคลัทช์ให้แน่น ไม่ใช่การโบกแท่งไฟไปมา และตะโกนเชียร์ศิลปินที่ชอบอยู่หน้าเวที มั นเหมือนกับว่าผมได้เปลี่ยนคุณค่าของตัวเอง และความคิดมุมมองต่อความสนุกสนาน เริ่มแรกเลยอย่าไปคิดว่าคุณสามารถคิดได้เพียงอย่างเดียว มันมีอะไรที่มากกว่านั้น” akamau010 เล่า เรื่องราวของเขาถูกเล่าผ่านทวิตเตอร์ และมีชาวเน็ตมากมายหลากหลายคนให้ความสนใจ จนตอนนี้มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 64,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 25,000 ครั้ง วง TWICE ถือเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปที่มีศิลปินหลากหลายสัญชาติเข้าร่วมทั้งเกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่น นั่นทำให้ TWICE ได้รับความสนใจจากชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก และสร้างความความคึกคักให้กับวงการ K-Pop…
-
หนุ่มได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญของ ‘มิตรภาพ’ จากการ ‘ถูกเพื่อนทิ้ง’ ในงานพรอม
หากจะกล่าวถึง ‘งานพรอม’ ของต่างประเทศแล้ว ถือเป็นโอกาสสุดท้ายในการทำอะไรต่อมิอะไรในช่วงวัยมัธยมเลยทีเดียว ทั้งร่ำลาเพื่อนๆ หรือได้บอกรักคนที่ชอบมาอย่างยาวนาน และนี่คือเรื่องราวของหนุ่ม Jackson Loop ที่งานพรอมของเขาไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้ แต่สุดท้ายมันก็จบลงด้วยความสุข เรื่องาวงานพรอมของ Jackson ก็เหมือนกันกับคนอื่นๆ ทั่วไป ที่มีเขาและเพื่อนๆ กับสาวๆ ที่ชวนไปออกเดตด้วยกัน ก่อนเข้างานพรอมก็จะมีการแต่งชุดสูทผูกไท หรือผูกหูกระต่าย สาวๆ ก็ใส่ชุดราตรีสวยงาม มันก็เลยต้องมีการถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกซะบ้าง แต่กลับกลายเป็นว่าเพื่อนๆ ของเขาส่งข้อความมาว่าแผนทุกอย่างถูกเปลี่ยนไปแล้ว เพื่อนๆ Jackson ไม่ได้อยากถ่ายภาพร่วมกัน แต่จะมารับแล้วก็ไปที่งานพรอมเลย จนแล้วจนรอดถึงเวลา 18.00 น. ตามเวลานัดหมายก็ไม่มีใครมาแม้แต่คนเดียว Jackson เริ่มรู้สึกแย่ เพราะเพื่อนๆ ไม่ยอมรับสายโทรศัพท์ หรือตอบข้อความเขาเลย “ฉันเห็นเขาผิดหวังมาก การได้เห็นลูกเป็นแบบนี้มันทำให้ฉันเจ็บปวดเหลือเกิน” คุณ Sheila แม่ของ Jackson เล่า และที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อ Jackson ล็อกอินเข้าไปดูหน้าเฟซบุ๊กก็พบว่าเพื่อนๆ ของเขาไปถ่ายรูปกัน!! โดยที่ไม่ได้ชวนเขาไปด้วย…
-
ภาพแทนคำพูด นักดับเพลิงผู้เหนื่อยล้ากับเด็กสาวที่เพิ่ง ‘ถูกช่วยชีวิต’ จากอุบัติเหตุ
การทำงานเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เป็นการกระทำที่สมควรได้รับการยกย่องเป็นอย่างยิ่ง และนี่คือเรื่องราวของคุณลุงนักผจญเพลิง ที่ยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือเด็กสาวตัวน้อยและครอบครัวจากอุบัติเหตุ และบังเอิญมีเพื่อนร่วมงานถ่ายภาพเอาไว้จนโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล คุณลุง Chris Blazek จากเมือง Cahattanooga รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีเหตุไฟไหม้รถยนต์คันหนึ่ง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีเขาเพิ่งจะดับไฟที่ลุกไหม้บ้านหลังหนึ่งไป เมื่อไปถึงสถานที่เกิดเหตุพบว่ามีรถยนต์คันหนึ่งประสบอุบัติเหตุใกล้ๆ กับทางด่วน ผู้โดยสารภายในรถประกอบด้วยหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่ง และลูกเล็กๆ 3 คนของเธอ ซึ่งทั้งหมดยังติดอยู่ภายในรถคันดังกล่าว จากข้อมูลทำให้คุณลุง Chris รู้สึกใจสลาย เพราะคุณลุง Chris เองก็เป็นคุณพ่อที่มีลูก 4 คน และเขาไม่ต้องการให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นไปมากกว่านี้ จึงรีบเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และนี่คือเรื่องราวในวันเกิดเหตุที่เขาเล่าผ่านทางเฟซบุ๊ก “คุณแม่ควบคุมสติไม่ได้ เพราะเธอได้รับการบาดเจ็บที่หลัง เด็กๆ น่าจะมีอายุอยู่ที่ราวๆ 7 ขวบ จนถึง 4 เดือน เด็กหญิงสองคนที่โตแล้วปลอดภัยดี แต่คนเล็กสุดร้องไห้ไม่หยุด ผมก็เลยพาเธอออกจากรถมาและรีบตรวจหาอาการบาดเจ็บในร่างกาย โชคดีที่เธอไม่เป็นอะไร หลังจากที่ทุกอย่างสงบลงเธอก็ซบลงที่ไหล่ของผม” “หลังจากที่เราควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้แล้ว ผมก็ตัดสินใจนั่งพักสักหน่อยกับเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อกี้เอง และเธอก็หลับปุ๋ยเลยทีเดียว” …
-
เบื้องหลังฆาตกรคลั่ง ไล่แทงเหยื่อบนชิงคันเซ็น เคยถูกรังแกกลั่นแกล้ง ส่งผลถึงจิตใจ
เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง เมื่อมีชายรายหนึ่งเลือกก่อเหตุฆาตกรรมในสถานที่ปิดบนรถไฟหัวกระสุน ทำร้ายเหยื่อแบบไม่เลือกหน้า ไล่ล่าใช้อาวุธมีคมทำร้ายแบบสุ่ม เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา Ichiro Kojima ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้คือนาย Ichiro Kojima ชายว่างงานวัย 22 ปี เลือกลงมือในเวลาประมาณ 21.50 น. บนรถไฟขบวน Nozomi หมายเลข 265 ตู้ที่ 12 เดินทางจากกรุงโตเกียวไปยังสถานีชินโอซาก้า ซึ่งมีผู้โดยสารทั้งหมด 880 คน พร้อมกับพกวัตถุมีคมหลากหลายชนิด จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดคานางาวะ นาย Kojima ลงมือแทงเหยื่อผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาเป็นรายแรง ก่อนที่จะไล่แทงหญิงอีกรายที่นั่งอยู่อีกฝั่ง โดยเหยื่อทั้ง 2 รายอยู่ในวัย 20 ปี และนาย Kojima ก็ลงมือแทงนาย Kotaro Umeda ชายวัย 38 ปี ผู้ที่พยายามจะหยุดฆาตกรรายนี้ …
-
มนุษย์ป้าหัวร้อนอาหารไม่สุก เททิ้ง+ขว้างใส่ พนง. ชาวจีน แถมพูดจาเหยียดต่อไปอีก!!
ถึงจะโมโหหรือโกรธเกรี้ยว การพูดเหยียดคนอื่นก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำอยู่ดี เพราะในฐานะของมนุษย์แล้วทุกคนควรจะมีความเท่าเทียมกัน แต่หญิงรุ่นราวคราวป้าคนหนึ่งเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว ณ ร้านอาหารจีนในประเทศอังกฤษ เมื่ออาหารที่ตนสั่งมัน “ไม่สุก” จนกระทั่งต้องเปล่งวาจาเหยียดเชื้อสายออกมาเสียอย่างนั้น เรื่องราวนี้จึงกลายเป็นดราม่าในอินเทอร์เน็ตไปในทันที เหตุการณ์เกิดขึ้น ณ ร้านอาหารจีน Wonderful Chinese ในเมืองเวสต์ยอร์กไชร์ ประเทศอังกฤษ ราวๆ 1 สัปดาห์เห็นจะได้ หญิงไม่ระบุตัวตนได้เกิดโวยวายที่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงินก่อนจะเทอาหารทิ้งและตามด้วยวาจาเหยียด หญิงคนดังกล่าวเทอาหารทิ้งบนเคาน์เตอร์เพราะไม่พอใจที่มันไม่สุก แถมตามด้วยการขว้างปาอาหารใส่พนักงานอีกด้วย พนักงานหญิงเชื้อสายจีนตอบโต้ด้วยการห้ามไม่ให้มาที่นี่อีก พร้อมขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ และนั่นทำให้หญิงผู้ฉุนเฉียวเกิดหัวร้อนยิ่งกว่าเก่าจนต้องเหยียดออกมาว่า “ฉันน่ะคนเมลแธม ฉันเกิดที่นี่เลย แต่แกน่ะแค่นั่งเรือข้ามมา” แล้วเธอก็ออกจากร้านไป มาดูคลิปเหตุการณ์กันดีกว่า https://twitter.com/dylanletremy/status/1005149571654340609 อย่างไรก็ตาม ความโมโหและความไม่ระมัดระวังในการใช้วาจา มันอาจทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ แค่อาหารไม่สุก กลายเป็นเหยียดกันเฉยเลย ที่มา: Dylaaaaan, metro และ nextshark
-
แฟนเกมไม่พอใจ!! Sony นำ “คนผิวขาว” มาเป่าขลุ่ยไม้ไผ่ตอนเปิดตัว Ghost of Tsushima
งาน Electronic Entertainment Exposition หรือที่รู้จักกันในชื่อ E3 นั้นเป็นงานเทศกาลเกม ที่เหล่าค่ายเกมยักษ์ใหญ่จะพากันขนเกมฟอร์มยักษ์มาเปิดตัวกันภายในงานนี้ เมื่อถึงคราวของ Sony เจ้าพ่อซีรีส์เครื่องเกมในตำนาน PlayStation ก็ได้นำเทรลเลอร์เปิดตัวของเกม Exclusive สำหรับ PS4 อย่าง Ghost of Tsushima มาให้ชาวเกมได้รับชม โดยเกมนี้เกมแนวซามูไรที่แสดงให้ถึงวัฒนธรรมและได้รับกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเต็มๆ ถึงเสียงตอบรับของแฟนเกมหลังที่ได้เห็นเทรลเลอร์เปิดตัวของเกมไปเป็นที่เรียบร้อยจะออกมาดีมากๆ แต่ในงานเปิดตัวครั้งนี้ก็ยังไม่วาย ไม่รอดพ้นจากดราม่าไปได้ เมื่อทาง Sony ได้เลือกให้คน “ผิวขาว” มาเป่าขลุ่ยไม้ไผ่ เครื่องดนตรีจากวัฒนธรรมของชาวเอเชีย ทำให้ชาวเน็ตและแฟนเกมบางคนไม่พอใจกับการตัดสินใจครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง วิดีโองานเปิดตัวของ Ghost of Tsushima เหล่ากลุ่มคนที่ไม่พอใจในการเลือกคนเป่าขลุ่ยในครั้งนี้จึงได้ทำการทวีตข้อความในเชิงว่าทำไมถึงเอาคนขาวมาเป่าขลุ่ยไม้ไผ่ล่ะ เช่น “ตูนี่เศร้าเลย อะไรวะเนี่ย คนขาวกำลังเล่นขลุ่ยไม้ไผ่เปิดตัว Ghost of Tsushima งั้นเหรอ” https://twitter.com/metr0n0mic/status/1006477885459140608?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=https%3A%2F%2Fnextshark.com%2Fwhite-guy-playing-flute-samurai-clothes-causes-major-side-eye-e3%2F “ทำไม Sony ต้องให้คนผิวขาวมาเล่นขลุ่ยไม้ไผ่แทนคนเอเชียตอนเปิดตัว Ghost of…
-
สาวจีนลงทุนนับแสน เนรมิตตัวเองให้เหมือนดาราสาว “ฟ่าน ปิงปิง” จนเป็นเน็ตไอดอล
เชื่อว่าแต่ละคนต่างก็ย่อมมีไอดอลในดวงใจที่ยึดเอาไว้เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต อาจจะเป็นดารา นักร้องหรือ บุคคลมีชื่อเสียงในด้านต่างๆ ในปัจจุบันการศัลยกรรมพลาสติกโดยนำเอาหน้าของไอดอลมาเป็นต้นแบบกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว บางคนก็เลือกที่จะนำส่วนที่ดีของไอดอลแต่ละคนมารวมกัน เช่นจมูกทรงอั้ม ตาทรงญาญ่า ปากทรงไคลี่ ก็แล้วแต่ว่าใครอยากจะทำมันออกมาเป็นแบบไหน He Chengxi สาวชาวจีนอายุ 23 ปี ผู้ที่ใช้การศัลยกรรมในการเนรมิตให้ตัวเองมีใบหน้าที่คล้ายกับสุดยอดไอดอลขวัญใจหลายๆ คน นั่นก็คือซูเปอร์สตาร์สาว ฟ่าน ปิงปิง สาวจีนท่านนี้เปิดเผยข้อมูลของตัวเธอเองว่า เธอชอบและคลั่งไคล้ในความสวยของสาวฟ่าน ปิงปิงมากๆ ถึงขนาดลงทุนศัลยกรรมด้วยเงินจำนวนหลายพันดอลล่าร์ ภายในระยะเวลา 8 ปี จนกระทั่งศัลยแพทย์สามารถเนรมิตใบหน้าของเธอให้เหมือนกับซูเปอร์สตาร์สาวได้ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว เรื่องราวของเธอกลายเป็นกระแสอยู่พักหนึ่งหลังจากที่ได้ปรากฏตัวในรายการ Super Girl รายการดังของประเทศจีน เพราะใบหน้าที่คล้ายกับสาวฟ่าน ปิงปิง ทำให้เธอได้รับความนิยมและกลายเป็นที่สนใจ สำนักข่าว Sina เขียนรายงานว่า เธอเปิดคลินิกศัลยกรรมของตัวเอง แต่ข้อมูลนั้นก็ไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามด้วยรูปลักษณ์ที่คล้ายดาราสาว เธอถูกชาวเน็ตตั้งชื่อให้ว่า “Fake Fan BingBing” และทำให้เธอมีผู้ติดตามบนเว็บไซต์ Weibo ของจีนกว่า…
-
ความประทับใจของคุณแม่ เมื่อพ่อเลี้ยงพาลูกสาวไปออกเดตแรก สอนสิ่งที่สุภาพบุรุษควรทำ…
การสร้างความประทับใจให้กับคนในครอบครัวคือสิ่งที่ควรเอาใจใส่อยู่เสมอ และการสร้างมาตรฐานในครั้งแรกให้สูงที่สุดก็จะเป็นที่จดจำไปตลอดกาล อย่างที่เราได้เห็นกันในภาพยนตร์รักโรแมนติก ที่พยายามสร้างบรรยากาศออกเดต ด้วยการไปกันสองต่อสองนอกสถานที่เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีให้มากยิ่งขึ้น และพ่อเลี้ยงคนนี้ก็พยายามพิสูจน์ให้ลูกสาวของเขา ได้รับรู้ว่าผู้ชายควรเทคแคร์เธออย่างไร… ชายคนนี้ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของเธอ ไม่ได้เป็นผู้ให้กำเนิดเธอ แต่เขาก็ยังเชื่อมั่นว่าหากพาลูกสาวไปทานอาหารอร่อยๆ พร้อมกับความเป็นสุภาพบุรุษ รวมถึงถือดอกไม้มารับถึงหน้าบ้านคงจะสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย นาย Andy Terry ต้องการแสดงให้ Sophie ผู้เป็นลูกสาวได้รับรู้ว่า ผู้ชายควรดูแลเธออย่างไร เพื่อให้ลูกสาวพร้อมกับการมีแฟนในอนาคต เขาจึงอยากพาเธอไปทานอาหารด้วยกันที่ร้านอาหารสไตล์อิตาลี และจัดหนักอาหาร 3 คอร์ส ทางด้านสาวน้อยวัย 6 ขวบเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เธอหารองเท้าคู่ใหม่มาใส่เพื่อให้เข้ากับชุดเดรส จนกระทั่งคุณแม่เรียกให้เธอลงมาที่หน้าประตูบ้าน และได้พบกับชายผู้ที่จะพาเธอไปออกเดตเป็นครั้งแรก “เป็นช่วงเวลาดีๆ ระหว่างเราทั้งคู่ มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ที่ทุกอย่างราบรื่น ผมได้พูดคุยกับเธอ และหวังว่าเธอจะได้เรียนรู้ว่าสมควรได้รับการดูแลอย่างไร เมื่อเธอโตขึ้นและพร้อมที่จะออกเดตอีกครั้ง… ผมคิดว่ามันสำคัญนะ โดยเฉพาะในปัจจุบันเมื่อความเคารพในตัวสุภาพสตรีเริ่มไม่ได้รับความใส่ใจ ผมยังเชื่อมั่นในเรื่องของวัฒนธรรมแบบนี้อยู่” นาย Andy กล่าว ในส่วนของน้อง…
-
บัณฑิตหนุ่มสุดภูมิใจ หิ้วหมอนตัวการ์ตูนขึ้นรับปริญญา เพื่อโชว์จิตวิญญาณแห่ง “โอตาคุ”
หากใครเคยเห็นภาพหรือคลิปพิธีรับปริญญาของต่างประเทศ คุณก็คงจะเห็นว่าบ้านเขามีความแตกต่างจากเราสักหน่อย ตรงที่พิธีการต่างๆ อาจไม่เคร่งครัดหรือเป็นระเบียบมากนัก มันมีบรรยากาศผ่อนคลายสบายๆ มีการพูดคุย ให้โอวาทกันสนุกสนาน อย่างล่าสุดที่เราจะให้คุณดูต่อไปนี้ ก็เป็นภาพพิธีรับปริญญาจากต่างประเทศที่ดูแล้วอาจจะแปลกตาไปสักนิด เพราะพ่อหนุ่มบัณฑิตใหม่คนนี้ดันพกเอาหมอนตุ๊กตาชิ้นเบ้อเริ่มมาร่วมงานด้วย… นี่เป็นภาพของพ่อหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อว่า Ryan-Nghi Thai ขณะเข้าแถวรับปริญญาในมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคแคลิฟอร์เนีย ซึ่งในระหว่างพิธีก็มีการถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ตเพื่อให้คนได้รับชมอยู่ทางบ้าน แต่ในระหว่างนั้นเองดันมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @honkposter ดันสังเกตเห็นว่าระหว่างที่นาย Ryan เดินเข้าแถวมา เขาได้หิ้วเอาหมอนข้างที่สกรีนเป็นลวดลายตัวละคร “นิโกะ ยาซาวา” จากการ์ตูนเรื่อง Love Live! มาด้วย “นี่ฉันกำลังนั่งดูถ่ายทอดสดของพิธีจบการศึกษาอยู่และไอ้หนุ่มนี่เอานิโกะ ยาซาวามาด้วย” ทวีตของ @honkposter กล่าว นี่แหละพ่อหนุ่ม Ryan-Nghi Thai เขายื่นมือมาเชคแฮนด์อย่างภูมิใจ นี่เป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้เห็นแฟนเดนตายของการ์ตูนหรือโอตาคุ ที่สามารถใช้ชีวิตและเรียนจบปริญญา เพราะโดยปกติแล้วภาพลักษณ์ของชาวโอตาคุมักจะถูกมองว่าเป็นบุคคลที่คลั่งไคล้ในการ์ตูน 2 มิติจนเข้าสังคมเหมือนคนทั่วไปไม่ได้ วันสำคัญกับคนสำคัญ Ryan และกำลังใจในการเรียนของเขา นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างว่าเราไม่ควรให้ใครมาฉุดให้เราลงต่ำเพียงเพราะคุณเป็นโอตาคุหรือคลั่งไคล้อะไรมากๆ เราสามารถภาคภูมิใจกับสิ่งที่เราเป็นและอยู่ร่วมกับมันได้ ที่มา soranews24
-
นักเรียนพิเศษสุดน่ารัก ดีใจตื่นเต้นสุดขีดบนเวที ทักทายครูทุกคนจนลืมรับ “ประกาศนียบัตร”
ช่วงเวลาแห่งความสุขหลังตรากตรำร่ำเรียนจนจบการศึกษา ในที่สุดแล้ววันสำคัญที่สุดในชีวิตวัยเรียนก็คือพิธีประกาศจบการศึกษาอย่างเป็นทางการ ที่ทุกคนต่างอยากเข้าร่วมงาน ทั้งตัวนักเรียนเองและผู้ปกครองเพื่อมายินดีปรีดาในวันนี้ สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานได้มากที่สุดก็คือ Carlos Neria หนึ่งในนักเรียนดาวน์ซินโดรม กับการแสดงความรู้สึกดีใจแบบสุดขีดบนเวที ระหว่างพิธีจบการศึกษาของโรงเรียน Midland Lee High School ในรัฐเท็กซัส หนุ่มน้อยวัย 19 ปี เดินเรียงแถวขึ้นเวทีพร้อมกับกระโดดโลดเต้น ชูไม้ชูมือดีใจยกใหญ่ ทักทายและกอดกับคุณครูทุกท่านบนเวที เป็นภาพที่ดูแล้วประทับใจในความน่ารักของเขาจริงๆ คุณครูผู้มอบประกาศนียบัตรจบการศึกษาได้เห็น Carlos เดินเข้ามา ก็กระโดดทักทายเขา เขาก็กระโดดทักทายตอบทันที ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนเกือบจะลืมคว้าประกาศนียบัตรซะแล้ว ยังดีที่คุณครูจับยื่นใส่มือได้ทัน ฮร่าาาา ทางด้านโรงเรียนเองก็ได้ทำการแชร์วิดีโอสุดน่ารักนี้ผ่านเฟสบุ๊ก พร้อมกับแถลงการณ์ไว้ว่า “หนึ่งในความยิ่งใหญ่ของการเป็นส่วนหนึ่งในพิธีจบการศึกษา ก็คือการร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จให้กับนักเรียนของเรา” “พวกเราอยากจะแชร์วิดีโอให้กับทุกๆ คน ได้พบกับนักเรียนคนพิเศษของเรา Carlos Neria ผู้กระโดดโลดเต้นบนเวทีด้วยความสุขเต็มเปี่ยม พร้อมกับความกระตือรือร้นที่ได้รับประกาศนียบัตรจบการศึกษามัธยมปลาย เราภูมิใจในตัวเธอ Carlos และภูมิใจในตัวทุกๆ คนที่เรียนจบในปีนี้ด้วย” ที่มา: newswest9, dailymail
-
ดาราคู่ขวัญนางเอก Top Gun ปรากฏตัวอีกครั้ง แต่เธอเปลี่ยนไปมากจนไม่เหลือเค้าเดิม…
หนึ่งในภาพยนตร์ที่สร้างปรากฏการณ์แรงบันดาลใจเป็นนักบินแห่งยุค Top Gun ฟ้าเหนือฟ้า ที่นำแสดงโดยพระเอกเหนือกาลเวลา Tom Cruise ในปี 1986 อายุภาพยนตร์ก็ 32 ปีแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนยังหยิบนำมาดูซ้ำอยู่เหมือนกัน อีกหนึ่งสิ่งที่ประทับใจในเรื่องคือนางเอกสาวสวย Kelly McGillis ผู้รับบท Charlotte ‘Charlie’ Blackwood ที่มีต้นแบบมาจากนาง Christine Fox ในระหว่างประจำที่สถานีอากาศนาวี Miramar ในขณะที่เรายังคงได้เห็นเฮีย Tom โลดแล่นอยู่ในแวดวงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดที่กำลังจะออกฉายก็คือ Mission Impossible – Fallout และกำลังถ่ายทำภาคต่อของ Top Gun: Mevrick คาดว่าจะฉายในปี 2019 ในส่วนของนางเอก Kelly McGillis กลับห่างหายไปโดยที่ไม่รับการพูดถึงบนหน้าสื่ออีกเลย แต่แล้วเธอก็ปรากฏตัวต่อสาธารณะอีกครั้งในวัย 60 ปี ภายในเมือง Hendersonville รัฐนอร์ทแคโรไลนา…
-
หลานโดนแซะกล่องข้าวลายแมว ลุงเห็นว่ามันก็น่ารักดีนี่หว่า พวกเอ็งจงซื้อมาใช้กันซะ!!
รสนิยมความชื่นชอบเป็นเรื่องส่วนตัว สามารถแสดงออกทางด้านต่างๆ ให้คนอื่นรับรู้ได้ ถึงแม้มันอาจจะไม่ถูกจริตทุกคนก็ตาม ไม่วายยังถูกรังควานเสียอีก… จากเหตุ Ryker หลานชายวัย 10 ขวบ ของนาย David Pendragon ผู้มีสถานะเป็นลุง ถูกเพื่อนที่โรงเรียนรังแกและแซะเกี่ยวกับลายบนกล่องข้าว เพราะมันมีสีสันฉูดฉาด มีรูปแมวอยู่บนนั้น ไม่เหมาะกับเด็กผู้ชาย!? Ryker วัย 10 ขวบ หลานชายผู้ชื่นชอบแมวเป็นพิเศษ Emily ลูกพี่ลูกน้องของผม มีลูกชายวัย 10 ขวบ ชื่อ Ryker เขาชอบแมวมาก และเขาตื่นเต้นกับกล่องข้าวลายใหม่ โชคร้ายที่สีหรือไม่ก็แมว หรือทั้งสองอย่าง ทำให้เขาถูกเพื่อนๆ ในห้องรุมแขวะ ถึงกับไม่อยากเอาข้าวกลางวันไปกินอีก เพราะไม่อยากโดนแขวะ ผมก็เลยตัดสินใจสั่งซื้อกล่องข้าวลายเดียวกันมาใช้ พกติดตัวไปทำงานด้วยอย่างภาคภูมิ ผมบอกทุกคนที่ถามถึงเบื้องหลังกล่องข้าวของผม ทุกคนก็อยู่ข้าง Ryker เหมือนกัน คุณลุงอวดกล่องข้าวลายใหม่พกมาทำงานด้วย น่าร๊ากกกกกกก ผมชอบกล่องข้าวใหม่ตัวนี้มาก และผมหวังว่า Ryker และเด็กผู้ชายคนอื่นๆ…
-
สาวซึมหนักร้องไห้ 19 วันติดกัน จากเหตุเสียคุณพ่อไป เพื่อนๆ จึงยอมเสี่ยงช่วยดึงกลับมา…
บุคคลที่ประสบกับความเศร้าหนักๆ อาจจะยังไม่รู้ตัวว่าต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง พวกเขาบางคนสูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตบางส่วนไป แม้แต่เรื่องง่ายๆ ในชีวิตก็ไม่อาจกลับมาทำได้เหมือนเดิม บางรายถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตายได้เลย… โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหากมีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิต พวกเขาจะรู้สึกว่าปมปัญหาต่างๆ ถูกขมวดเอาไว้แน่นและพวกเขาไร้ซึ่งความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง หากไม่ได้รับการคลายความตึงที่ถูกต้อง อาจทำให้เรื่องบานปลายได้ จึงทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้มาช่วยในจุดนี้ได้ แม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ตามที Sheila O’Malley Sheila O’Malley คือหนึ่งในบุคคลที่ประสบกับสภาวะซึมเศร้าอย่างหนัก หลังจากที่เธอสูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รัก จนทำให้ชีวิตเสียศูนย์จนไม่อาจกลับมายืนได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นคงเหมือนเช่นเคย “ในปีหลังจากที่เสียคุณพ่อไปนั้นเลวร้ายมาก ฉันจำอะไรแทบไม่ได้เลย ฉันย้ายมาอยู่ในอพาร์ทเมนต์ใหม่ แต่ไม่สามารถแกะกล่องของที่แพ็คมาได้ เป็นเวลาหลายเดือน รู้สึกละอายใจที่ทำไม่ได้ แค่แกะกล่องแค่นี้ทำไมถึงทำไม่ได้? ก็แค่เปิดกล่องออกมาแค่นั้นเอง และมันเป็นช่วงเวลาที่ร้องไห้ติดต่อกัน 19 วันเต็ม” “เพื่อนที่ชื่อ David ที่รู้จักตั้งแต่ ม.ปลาย รู้ว่าฉันกำลังแย่และเขาไม่รู้จะช่วยยังไง เขาบอกได้แค่ มีคนรักเธอนะ พวกเราต้องการเธอ ฉันก็รู้สึกแค่ ไม่สำคัญอะไร แต่ขอบใจนะ เขาจึงอยากจะลองเสี่ยงสักครั้ง มันอาจจะทำให้แย่ยิ่งกว่าเก่าก็ได้ เพราะฉันอาจจะอาละวาดสติแตกขึ้นมา” “ฉันอาจจะรู้สึกถูกคุกคามมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่เขายอมที่จะเสี่ยง…
-
หนุ่มโดนใบสั่งตรวจจับความเร็วเลยแต่งรูปหลอกตำรวจ สุดท้ายจะเหลืออะไร คุกสิครับ!!
กฎหมายง่ายๆ อย่างกฎจราจร มีเอาไว้เพื่อให้เราได้ใช้รถใช้ถนนกันอย่างสะดวกรวมถึงป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นด้วย ดังนั้นแล้วถ้าหากใครฝ่าฝืนไม่ทำตามล่ะก็จะต้องมีบทลงโทษอย่างค่าปรับแน่นอน แต่ว่าทีนี้ก็มีหลายคนเลยใช่ไหมล่ะที่กำลังหาทางหลีกเลี่ยงค่าปรับกันอยู่ แต่ไม่ว่าคุณจะทำวิธีไหนก็ช่าง แต่อย่าทำเหมือนเขาคนนี้เด็ดขาดเพราะคุณอาจจะติดคุกเอาได้ง่ายๆ เพราะสิ่งที่ชายคนนี้ทำลงไปก็คือตัดต่อรูปภาพแล้วส่งไปแก้ตัวกับตำรวจจากใบสั่งเรื่องการถูกตรวจจับความเร็วจากกล้อง!! โดยคนที่ทำอย่างนั้นคือหนุ่มวัย 23 ปีชาวสหราชอาณาจักรชื่อว่า Jordan Notley อาชีพคนขับรถส่งของ ซึ่งในตอนแรกนั้นเขาถูกกล้องตรวจจับความเร็วได้ในเดือนธันวาคมปี 2016 ขณะที่กำลังขับขี่รถตู้โฟล์คสวาเก้นสีขาวในมณฑล Cambria แต่หลังจากที่เขาได้รับใบสั่งค่าปรับเขาก็ไปตอบกลับเจ้าหน้าที่เก็บค่าปรับไปด้วยคำพูดที่ไม่มีทางที่เขาหรือรถของเขาจะไปอยู่ที่นั่นได้ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวเขาไม่ได้เอารถออกไปที่ไหนเลยพร้อมกันนี้ก็ได้แนบรูปภาพที่ผ่านการตัดต่อโดยตัวเขาเองแนบกับไปจดหมายด้วย เมื่อตำรวจเห็นดังนั้นก็ทำการพิจารณาโทษใหม่ สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ก็ยกเลิกใบสั่งดังกล่าว ทำให้เขาไม่ต้องเสียค่าปรับแต่อย่างใด เมื่อมีครั้งแรกแล้วก็ย่อมมีครั้งที่สองตามมา Jordan ถูกตรวจจับความเร็วได้อีกครั้งในเดือนสิงหาคมปี 2017 ภายในมณฑล Cambria เช่นเดิม ซึ่งก็แน่นอนว่าเขาทำเหมือนกับในครั้งแรกที่มันได้ผลนั่นคือการอ้างว่าไม่ได้เอารถออกไปขับที่ไหนพร้อมกับแนบรูปถ่ายเหมือนเดิมทุกประการ สิ่งที่แตกต่างออกไปในครั้งนี้ก็คือเจ้าหน้าที่ได้จับผิดสังเกตได้ และผลของการกระทำของเขาก็ทำให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล โดยในท้ายที่สุดเขาก็ต้องถูกจำคุกเป็นเวลาถึง 6 เดือนด้วยกันจากข้อหาพยายามขัดขวางกระบวนการยุติธรรมนั่นเอง “คดีนี้และโทษทัณฑ์การจำคุกที่ Jordan ได้รับได้สะท้อนให้เห็นว่ามีคนในสังคมบางคนที่ไม่รับผิดชอบการกระทำของตัวเอง แถมยังมีการทำสิ่งที่ปกปิดความผิดของตัวเองอีกด้วย ซึ่งก็ต้องได้รับการลงโทษ “มันเป็นรูปแบบหนึ่งของการฉ้อฉลแม้ว่าจะเป็นความผิดในคดีเล็กๆ แต่เขาก็ยังพยายามจะหลบเลี่ยงเลย แต่ขอโทษนะเรามีเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์และชำนาญในการตรวจสอบเพื่อนำผู้คนเหล่านี้มาเข้าสู่การลงโทษ ดังนั้นคำพูดง่ายๆ จากพวกเราก็คือ ‘อย่าทำอย่างนี้จะดีกว่า’” Steve Minnikin เจ้าหน้าที่จากเขต Cumbia กล่าว…
-
โคตรเท่!! เหล่าซามูไรกระจายตัวทั่วโตเกียว ดูแลบ้านเมืองให้สะอาดปราศจาก “ขยะ”
เมื่อพูดถึง “คนเก็บขยะ” ในประเทศของเราแล้ว ทุกคนคงมองเห็นเป็นภาพเดียวกัน บุคคลที่ใส่ยูนิฟอร์มพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ที่คุ้นตากันดี หลายคนบอกว่าทำงานอย่างนี้ไม่มีเกียรติ ไม่เจ๋ง ไม่คูล แต่อยากให้ทุกท่านลองมาดูที่ประเทศญี่ปุ่นกันก่อน เพราะว่าคนเก็บขยะของเขานั้นเท่มว๊ากกกก… พบกับ โกโมฮิโระอิ ซามูไร (ซามูไรเก็บขยะ) ของญี่ปุ่น พวกเขาคือเหล่าคนรักสิ่งแวดล้อมที่รวมตัวกันแต่งตัวเป็น “ซามูไร” มาเก็บขยะภายในเมืองโตเกียว กลุ่มคนที่ร่วมกันแต่งกายเป็นชุดซามูไรย้อนยุค พร้อมท่าเก็บขยะที่สง่างามราวฟาดฟันดาบลงบนศัตรู เมื่อใดที่พวกเขาปรากฏตัว คนที่ผ่านไปมาจะต้องหยุดมองและถ่ายคลิปพวกเขาเอาไว้เสมอๆ ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วสารทิศ ล่าสุดพวกเขาปรากฏตัวออกมาปราบปราม “เศษขยะ” ในย่านอิเคบุคุโระ ในโตเกียว さっき外へ出たら60階通りにいきなりゴミ拾い侍が出現してその太刀さばきが余りにもお見事(´・_・`) pic.twitter.com/2Bxezi8CJh — ちからや てんちょー (@burao0304) June 5, 2018 อันที่จริงพวกเขาตั้งชื่อกลุ่มของตัวเองว่า จิไดกุมิ บาซะระ อันที่จริงพวกเขาตั้งชื่อกลุ่มของตัวเองว่า จิไดกุมิ บาซะระ พวกเขาไม่ใช่ใครหน้าไหนก็ไม่รู้ พวกเขามาจากคณะการแสดงซามูไร อิสเซ อิจิได จิไดกุมิ จากฮอกไกโด ที่มีการฝึกฝนท่าทางการร่ายรำมาอย่างงดงาม การกระทำของพวกเขาทำไปเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนสนใจในการรักษาความสะอาดภายในเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่าน เช่น…
-
นักท่องเที่ยวจีนถูกไล่ออกจากร้านอาหารในญี่ปุ่น เพราะสาเหตุ ‘ไร้มารยาทจนดูน่ารังเกียจ’
เมื่อเราไปกินอาหารที่ร้านอาหารต่างๆ แม้ว่าเราจะเสียเงินให้กับทางร้าน แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องคอยควบคุมพฤติกรรมต่างๆ ไม่ให้มีความเกินขอบเขตความพอดีจนดูเป็นการ ‘เสียมารยาท’ ด้วย มิฉะนั้นแล้วอาจจะเหมือนกับนักท่องเที่ยวจีนคู่หนึ่งที่ถูกไล่ออกจากร้านอาหารในประเทศญี่ปุ่นด้วยสาเหตุว่า ‘ไม่มีมารยาท’ เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นในเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อมีนักท่องเที่ยวชาวจีนคู่หนึ่งไปใช้บริการของร้านอาหารชื่อว่า Gyu-Kaku BBQ โดยทั้งคู่เลือกที่จะทานแบบบุฟเฟ่ต์เป็นเวลา 90 นาทีด้วยกัน แต่ว่าหลังจากหมดเวลาแล้วทั้งคู่กลับยังไม่ยอมลุกไปไหน และเมื่อพนักงานเข้าไปเช็กดูก็ต้องพบว่ามีเปลือกกุ้งกระจายอยู่เต็มโต๊ะไปหมดชนิดที่ว่าเกินจะบรรยาย พนักงานคนดังกล่าวจึงพยายามจะเชิญตัวทั้งคู่ให้ออกจากนอกร้านไปให้เร็วที่สุด “คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินหรอก ขอแค่ออกไปก็พอ มันมากเกินไปจริงๆ ผมไม่เคยเห็นใครไร้มารยาทจนดูน่ารังเกียจอย่างนี้มาก่อนเลย” พนักงานเสิร์ฟกล่าว ในขณะเดียวกันหญิงสาวหนึ่งในนักท่องเที่ยวคู่ดังกล่าวก็ออกมาปกป้องตัวเอง โดยเธออ้างว่าร้านอาหารดังกล่าวมีการปฏิบัติแบบเลือกปฏิบัติกับพวกเธอเพียงเพราะว่าเป็น ‘คนจีน’ แถมยังบอกด้วยว่าพนักงานเสิร์ฟคนที่อยู่ในคลิปดูโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อเธอเริ่มถ่ายวิดีโอนี้ด้วย ซึ่งในเรื่องนี้จบลงด้วยการที่หญิงสาวยอมออกไปจากร้านด้วยการจ่ายเงินเป็นจำนวนเต็มให้แก่ทางร้าน แต่ว่าในภายหลังเจ้าของร้านอาหารดังกล่าวก็ตามเอาเงินมาคืนให้กับทั้งคู่ วิดีโอที่กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลเน็ตเวิร์คประเทศจีน เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่ถกเถียงกันเป็นอย่างมากในสังคมออนไลน์ของประเทศจีน ว่าจริงๆ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรระหว่างการเลือกปฏิบัติของร้านอาหาร หรือว่าความไม่มีมารยาทของตัวนักท่องเที่ยวเองกันแน่ และนี่คือบางส่วนของความคิดเห็นของชาวเน็ตต่างประเทศ… ฉันได้ยินมาว่ามันเกิดขึ้นบ่อยมากๆ ในประเทศไทยหรือประเทศใดๆ ที่ชาวจีนเข้าไปเที่ยว พวกเขาคงกินมูมมานจนเป็นเหมือนกันดูถูกเจ้าของร้านน่ะสิ ที่มา: nextshark
-
แฟนแบบนี้หาได้ที่ไหน เช็ดหน้า ทาครีม แถมบำรุงเล็บเท้าให้ตอนเผลอหลับ
สำหรับผู้หญิงแล้วการมีแฟนดีๆ สักคนนั้นถือว่าโชคดีซะยิ่งกว่าการถูกหวยรางวัลที่ 1 เสียอีก แฟนที่ดีที่เป็นให้เราได้ทุกอย่างคืออีกหนึ่งความฝันของผู้หญิงทุกคนที่หวังไว้ว่าจะเจอเขาคนนั้นสักที แต่ถ้าการได้แฟนที่ดีแล้วเหมือนกับถูกหวยรางวัลที่ 1 สาวคนนี้ก็น่าจะเปรียบได้กับการถูกหวยรางวัลที่ 1 10 ใบ สาวผู้โชคดีคนนี้ชื่อว่า Shanika Silverio ได้เผยแพร่เรื่องราวที่สาวๆ ทั้งหลายได้อ่านแล้วคงจะอิจฉาเธอมากๆ เลยล่ะ เธอเปิดเผยเรื่องราวของเธอผ่านทวิตเตอร์ถึงการดูแลเทคแคร์อย่างดีจากแฟนหนุ่ม ซึ่งโดยปกติแล้วผู้หญิงทุกคนมักจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดีทั้งเรื่องผิวพรรณ ความสะอาด และการดูแลร่างกายของตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ แต่เนื่องจากที่ว่าเธอเป็นนักบิน จึงไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองสักเท่าไหร่ วันไหนที่เธอเหนื่อยมากๆ จากการทำงาน พอถึงห้องเธอก็หลับเป็นตายจนลืมดูแลตัวเอง หน้าที่นั้นก็ตกไปที่แฟนหนุ่มของเธอที่อาสาดูแลเธอทุกอย่าง นอกจากเรื่องความเป็นอยู่แล้ว เรื่องความสวยความงามเขาก็ดูแลเธออย่างดีเหมือนกัน ด้วยการทาครีมบำรุงให้กับเธอตอนที่เธอหลับไปแบบไม่รู้ตัว อย่างแรกก็ใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดหน้าก่อน ตามด้วยมอยซ์เจอไรซ์เซอร์ อายครีมด้วย ตาจะได้ไม่คล้ำเป็นหมีแพนด้า นอกจากหน้าแล้ว นิ้วเท้าก็ต้องได้รับการดูแลเช่นเดียวกัน เซลฟี่กับเท้าของแฟนซะหน่อย นี่เราจะหาแฟนแบบนี้ได้ที่ไหนเนี่ย เป็นให้ทุกอย่าง ทำให้ทุกอย่าง โชคดีจริงๆ ทวีตของเธอได้รับการรีทวีตไปกว่า 36,000 ครั้งและกดชื่นชอบกว่า 92,000…
-
หนุ่ม ‘หรรมส์’ 13.5 นิ้วเผย ฟาดเรียบมาแล้วทั้งเซเลบทั้งดาราหนังโป๊และผู้ชนะออสการ์!!
ลองคิดกันเล่นๆ ดูว่าจะเป็นอย่างไรถ้าหากสมมุติว่าคุณเป็นคนที่มี ‘หรรมส์’ ใหญ่โตที่สุดในโลก (สมมุตินะจ๊ะ) คุณคิดว่าจะมีประสบการณ์มันๆ อะไรเกิดขึ้นกับตัวคุณบ้าง ถ้าหากยังนึกไม่ออกล่ะก็ลองไปฟังจากปากของตัวจริงเสียงจริงกันดีกว่า ซึ่งเขาบอกว่าหนึ่งในเรื่องดีๆ ที่มาจากน้องชายตัวโตนี้ก็คือการได้ฟาดกับผู้มีชื่อเสียงมากหน้าหลายตา รวมถึงผู้เข้าประกวดและผู้ชนะเลิศรางวัลออสการ์ด้วย!! หน้าตาของชายเจ้าของกระปู๋ขนาด 13.5 นิ้ว Jonah Falcon คือชื่อของชายคนดังกล่าว เขาเป็นผู้ที่ครอบครองสถิติความใหญ่ยาวขององคชาติที่ 13.5 นิ้ว ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้เขาได้ออกมาเปิดเผยว่าด้วยความแปลกที่ไม่มีใครทัดเทียมได้ของน้องชาย ทำให้เขามีโชคพอที่จะได้หลับนอนร่วมกับคนดังหลายคนทั้งเซเลบริตี้ ดาราหนังโป๊ รวมถึงดาราภาพยนตร์ดัง เห็นใสๆ ที่จริงน่ะทีเด็ด “ใช่แล้วล่ะ ผมเคยหลับนอนร่วมกับเซบริตี้หลายคนรวมถึงผู้ชนะรางวัลออสการ์ แต่ผมไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะว่าถ้าผมบอกไปก็จะมีวงจำกัดให้หากันง่ายยิ่งขึ้นแน่ๆ (เนื่องจากมีอยู่ไม่กี่คน) ผมไม่อยากจะลงรายละเอียดให้ลึกไปมากกว่านี้ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ Meryl Streep (ดาราหญิงที่ปัจจุบันมีอายุ 68 ปี) อย่างแน่นอน” Jonah กล่าว ความยาวเกือบถึงเข่า ซึ่งมากไปกว่านั้นหนุ่มไบเซ็กชวลวัย 47 ปีคนนี้ ยังบอกอีกด้วยว่าเคยได้รับคำชมจากดาราหนังโป๊ว่า กระปู๋ของเขาเป็นอันที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยเห็นมาเลยตลอดทั้งชีวิต และนี่ถือว่าเป็นคำชมที่เขาบอกว่ามันยอดเยี่ยมและรู้สึกดีแบบสุดๆ เลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไรแล้วนอกจากหรรมส์ของเขาจะสร้างความหฤหรรษ์ให้กับเขาได้แล้ว ในขณะเดียวกันมันก็ได้สร้างความทุกข์ด้วยเช่นเดียวกัน …
-
สาวต่างชาติโดนจวกยับ หลังถ่ายคลิป “แกล้งหลับบนรถไฟ” เพื่อเนียนซบไหล่โอปป้า…
หนุ่มๆ โอปป้าสไตล์เกาหลีย่อมเป็นที่หมายปองของสาวหลายๆ คนอย่างแน่นอน แต่จะทำยังไงถึงจะได้ซบไหล่หนุ่มๆ เกาหลีกับเขาบ้างน้า ยิ่งไม่ได้เป็นคนเกาหลีด้วย ยิ่งยากเข้าไปใหญ่เลย แต่ยูทูบเบอร์สาวชาวโคลอมเบียนี้กลับคิดวิธีสุดร้ายกาจ ทำเนียนแกล้งหลับ บนรถไฟใต้ดินเพื่อซบไหล่หนุ่มโอปป้า โอ้โห งานนี้เรียกได้ว่า “ดราม่า” กันกระจายเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ผู้ใชทวิตเตอร์รายหนึ่งนามว่า royaltykai ได้ออกโพสต์ให้ชาวเน็ตได้เห็นพฤติกรรมของยูทูบเบอร์สาวที่แกล้งหลับเพื่อซบไหล่ชายหนุ่มชาวเกาหลีอย่างแนบเนียนบนรถไฟใต้ดิน ทวิตเขียนว่า “หญิงคนนี้แกล้งทำเป็นหลับเพื่อซบไหล่หนุ่มเกาหลี…น่าเกลียดอะ” หญิงสาวในภาพเป็นยูทูบเบอร์ชื่อว่า MeiKCJ เธอเป็นชาวโคลอมเบียที่ปัจจุบันได้เข้ามาอาศัยอยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลี การกระทำของเธออาจเป็นการแสดงเล่นๆ เพื่อความสนุกสนาน หรือทำเพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัวที่จะได้ซบไหล่หนุ่มเกาหลี เธออาจคิดว่าไม่เดือดร้อน ไม่แปลก ใครๆ ก็หลับกันได้ทั้งนั้น หรือเธออาจจะคิดว่าหนุ่มๆ ก็คงยินดีที่ได้มีสาวอย่างเธอมาซบไหล่ หารู้ไม่ว่า สิ่งที่เธอทำมันก็อาจก่อความรำคาญและเป็นการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวคนอื่นได้เช่นกัน This guy literally switched seats sksksksksk pic.twitter.com/v63DUXPSa9 — ot ⁷ (@vrse4) June 10, 2018…
-
บริษัทญี่ปุ่นเสนอบริการ “รถแท็กซี่นินจา” ด้วยการแต่งตัวแบบนินจาและความปลอดภัยระดับ VIP
ใครๆ ก็รู้ว่าเวลาที่เราเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น จะต้องใช้บริการรถไฟเพื่อเดินทางไปยังที่ต่างๆ นั่นก็เพราะว่ามันมีราคาถูกและรวดเร็ว แต่จากบริการใหม่นี้อาจจะทำให้คุณอยากลองใช้บริการรถแท็กซี่บ้างก็ได้นะ นี่เป็นบริการใหม่จากแท็กซี่ญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Ninja Taxi เป็นบริการที่จะทำให้คุณรู้สึกเป็นคนสำคัญเพราะมีนินจามาเป็นคนขับรถและเสมือนเป็นบอดี้การ์ดอยู่ตลอดเวลา บริการนี้เปิดให้บริการโดยบริษัท Sanwa Kotsu ผู้ให้บริการแท็กซี่ในญี่ปุ่น โดยเริ่มให้บริการในพื้นที่เมืองโยโกฮามา ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Ninja Taxi ฉะนั้นคนขับก็จะสวมชุดเป็นนินจาตั้งแต่หัวจรดเท้า และยังจะพูดกับคุณด้วยสำเนียงแบบคนยุคก่อนด้วย แต่หากใครที่อยากจะได้การปกป้องไม่ต่างจากนินจา แต่ต้องการความร่วมสมัยขึ้นมาหน่อย พวกเขาก็มีบริการ “SP-style Taxi” (SP ย่อมาจากคำว่า Security Police ที่แปลว่าตำรวจรักษาความปลอดภัย) ซึ่งก็จะเป็นแท็กซี่ที่ทำหน้าที่บอดี้การ์ดและสวมชุดสูทแบบคูลๆ ที่เราเห็นในหนัง แต่ใช่ว่าบริการนี้จะแค่แต่งตัวเท่ๆ มารับส่งคุณอย่างเดียว แต่ความปลอดภัยของพวกเขายังสามารถเทียบได้กับบริการรักษาความปลอดภัยระดับสูงเลยก็ว่าได้ และภายในเสื้อสูทของพวกเขาก็มีการพกอาวุธปืนไว้กับตัว เพื่อป้องกันเวลาที่คุณถูกโจมตีในระหว่างทางด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนคุณเป็นนักธุรกิจหรือราชายังไงยังงั้น ทั้ง 2 บริการที่เราเล่ามานี้ ได้เริ่มให้บริการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา หากใครสนใจและอยากจะไปลองใช้บริการสักครั้ง ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที่เว็บไซต์ sanwakoutsu ได้เลย ที่มา soranews24…
-
สื่อนอกรวม “ช่วงจังหวะกระอักกระอ่วนใจ” ระหว่างทรัมป์-คิม เมื่อได้มาเจอหน้ากันเสียที!!
เรื่องราวระหว่าง 2 ผู้นำของ 2 ประเทศที่เล่นหูเล่นตากันมานาน ดูจากกระแสข่าวและการแสดงทีท่าของทั้ง 2 ฝ่ายทำให้ชาวโลกต่างรู้สึกว่าจะเอายังไงกันแน่ ที่ผ่านมามีข่าวออกมาว่า คิม-จอง-อึน ยกเลิกการเข้าพบ โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเจรจาเรื่องยุติประเด็นนิวเคลียร์ เนื่องจากความไม่พอใจในเรื่องการซ้อมรบกับเกาหลีใต้ของสหรัฐอเมริกา แต่สุดท้ายก็มีการง้อคืนดีกัน จนทั้งคู่ได้มาเจอกันอีกครั้งใน Singapore Summit 2018 แต่ก็ยังไม่วายมีอะไรแปลกๆ มาให้ดูกันอีกรอบ คิม-จอง-อึน ถึงกับมึน เมื่อทรัมป์ขอให้ช่างภาพถ่ายรูปให้ดูดี มีความหล่อ และดูผอม https://twitter.com/hijakejohnstone/status/1006448468028686337 ทรัมป์ พยายามอวดรถลีมูซีนของตัวเองให้คิมได้ดู WATCH: President Trump walks with Kim Jong Un to show off his presidential limousine that is nicknamed "The Beast." https://t.co/SjJeNHlVRD pic.twitter.com/f2CJ4ZHR6x — NBC…
-
ธรรมดาไม่ได้… หนุ่มจัดรถ BMW คันใหม่ฝังพร้อมร่างคุณพ่อ มีตังค์นี่มันดีจริงๆ นะ…
ตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้ ประโยคที่มักจะถูกนำมาพูดถึงบ่อยๆ เมื่อพูดถึงเรื่องทรัพย์สินและความตาย ต่อให้รวยแค่ไหนมีเงินใช้ไม่ขาดมือ แต่ก็เอาไปใช้หลังจากตายก็ไม่ได้แล้ว แต่คนที่ยังอยู่ก็สามารถนำมาใช้ได้อยู่ดี หากอยากจะใช้ซะอย่าง ในกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศไนจีเรียที่นำรถยนต์ BMW สภาพป้ายแดงใหม่เอี่ยมเพิ่งออกจากห้าง มาใช้แทนโลงศพ!? ภาพถ่ายจากในพิธีฝังศพของชายรายหนึ่ง พร้อมกับรถยนต์คันหรูมูลค่า 2,800,000 บาท กำลังถูกจัดแจงลงในหลุมศพโดยมีลูกชายนามว่า Azubuike เป็นผู้จัดการให้ ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นอ้างว่าหลุมศพดังกล่าวถูกขุดด้วยมือล้วนๆ อีกต่างหาก ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพูดเล่นติดตลกเกี่ยวกับระบบนำทางที่มาพร้อมกับรถยนต์คันนี้ว่า คงจะช่วยนำทางให้เขาหาทางไปสู่สรวงสวรรค์ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดว่าเป็นการลงทุนเล่นใหญ่ที่คุ้มค่ามากนัก หลังจากที่ภาพถ่ายดังกล่าวถูกแพร่กระจายออกไปตามโซเชียลมีเดีย มีคำวิจารณ์มากมายเกี่ยวกับความฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็นเลยสักนิดเดียว รถยนต์ก็ไม่ได้ใช้ แถมยังเอามาฝังไว้ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ยกตัวอย่างเช่น “ซื้อรถให้พ่อแม่ได้ใช้ในขณะที่ยังมีชีวิตจะดีกว่า ทำแบบนี้ก็เหมือนกับอวดรวยแบบโง่ๆ ทั้งบ้าบอและเห็นแก่ตัว” แต่ในเรื่องของเงินที่ถืออยู่ ถึงแม้จะเป็นพิธีฝังศพที่แปลกและดูฟุ่มเฟือย แต่มันก็เป็นเงินของเจ้าตัวเองนี่สิ… ที่มา: naija, dailymail, news24
-
Tsunaina นางแบบสาวจากทิเบต ตัวแทนความงดงามในแบบที่แตกต่าง
นางแบบที่คุณได้เห็นอยู่นี้เป็นนางแบบจากทิเบต เธอมีชื่อว่า Tsunaina เธอเริ่มโด่งดังและมีชื่อเสียงในวงกว้าง ด้วยความงามที่แตกต่างจากนางแบบคนอื่นๆ สิ่งที่ทำให้เธอแตกต่างจากนางแบบคนอื่นๆ ไม่ใช่ความสูง หรือรูปร่างผอมเพรียว แต่เป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โครงจมูกที่ไม่เหมือนใคร และริมฝีปากอวบอิ่ม Tsunaina ได้รับเชิญให้ไปเดินที่งาน London Fashion Week ด้วยความที่เธอมีโครงจมูกไม่เหมือนใคร บวกกับหน้าผากกว้างๆ จึงถูกจับตามองจากสื่อหลายๆ แห่ง ด้วยเอกลักษณ์ที่ว่านี้ แม้ว่าคนเราจะมีนิยามความงามในแบบของตัวเอง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความงามที่ผิดแผกของเธอนั้นน่าสนใจและดึงดูดสายตามาก Tsunaina ได้มีโอกาสเข้าทำงานกับโมเดลลิง The Squad ซึ่งเป็นโมเดลลิงที่มีลูกค้าใหญ่ๆ อย่าง Christian Dior ใช้บริการอยู่ ในทีแรกยังไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นคนสัญชาติอะไร บางคนเดาว่าเธอน่าจะเป็นคนเนปาลเนื่องจากภาพหลายๆ ภาพในอินสตาแกรม แต่มีบางคนสังเกตเห็นว่าเธอมีความสามารถในการใช้ภาษาทิเบต และยังมีการติดแฮชแท็ก #tibetan จึงมีความเป็นไปได้ว่าเธอน่าจะเป็นคนทิเบต ปัจจุบันเธอมียอดผู้ติดตามในอิสตาแกรมเกือบ 2 แสนคนแล้ว หากใครชื่นชอบเธอ สามารถไปกดติดตามได้ที่ @tsunaina ได้เลย . . . . .…
-
2 สาวฟิลิปปินส์ ถูกหลอกฉีดสารปิโตรเคมีเข้าใบหน้า ทุกข์ทรมานนานกว่า 10 ปี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสองสาวชาวฟิลิปปินส์นี้ อาจจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆ คนที่ชื่นชอบการศัลยกรรมความงามก็ได้ หลังจากทั้งสองต้องเสียโฉมไปตลอดกาลเพราะถูกหลอกฉีดสารเคมีที่ใบหน้าของพวกเธอ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 Alvinia Bermoy Bernadez สาววัย 28 ปี และ Maui Cababao เพื่อนสาววัย 30 ปีของเธอ ได้ใช้บริการฉีดฟีลเลอร์ที่เมืองกาบากรัน ประเทศฟิลิปปินส์ 3 เดือนให้หลัง กลับเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นกับพวกเธอ เมื่อทั้งสองเริ่มมีอาการบวมและคันที่ใบหน้าอย่างรุนแรง จนใบหน้าของพวกเธอบิดเบี้ยวไม่ได้รูป ทั้งสองพยายามหาวิธีรักษามากมายทั้งการพบแพทย์ผิวหนัง และการผ่าตัด แต่พวกเธอก็ไม่สามารถหายจากความเจ็บปวดได้ และทำให้พวกเธอหมดหวังจนเกือบฆ่าตัวตายมาแล้ว Alvinia เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีก่อนว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งเดินทางมาที่หมู่บ้านของพวกเธอ และแนะนำให้เธอฉีดสารบางอย่างที่ใบหน้า โดยเขาอ้างว่ามันจะทำให้เธอดูสวยขึ้น “พวกเรามาจากเมืองที่อยู่ห่างไกล และไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก มีหญิงสาวคนหนึ่งบอกให้พวกเราฉีดสารบางอย่างซึ่งเธออ้างว่าจะทำให้สวยและดูดีเหมือนกับเธอ แต่หลังจากนั้นหน้าของฉันก็เริ่มแย่ มันเกิดอาการแสบร้อนและบวมมาก” Alvinia ให้สัมภาษณ์ จากรายงานเผยว่าสารที่ถูกฉีดเข้าในใบหน้าของพวกเธอนั้นเป็นสารปิโตรเคมีชนิดหนึ่ง ถึงแม้ว่าทั้งสองเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดครั้งล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา และอาการบวมก็ลดลงจากเมื่อก่อนมาแล้ว แต่ผลข้างเคียงจากการฉีดยังคงเห็นได้ชัด Maui ให้สัมภาษณ์ว่าเธอรู้สึกหดหู่มากกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่กล้าที่จะออกจากบ้านไปไหนเลย “ฉันไม่กล้าออกไปไหนเลยเพราะอายมาก มันเป็นความผิดพลาดของตัวฉันเอง และหลังจากเกิดเรื่องขึ้น คนรอบๆ ข้างฉันก็ปฏิบัติกับฉันไม่เหมือนเดิมอีกเลย” หญิงวัย…
-
เจ้าหญิงแคเธอริน รีบปลอบพระธิดาที่กำลังร้องไห้ กลายเป็นโมเมนต์สุดน่ารัก…
ถ้าหากใครที่ติดตามข่าวในพระราชสำนักต่างประเทศ ก็อาจจะเคยเห็นภาพของเจ้าหญิงตัวน้อยน่ารักอย่าง เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระธิดาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ กับแคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ กันมาบ้างแล้ว ล่าสุดได้มีการเผยภาพความน่ารักระหว่างพระองค์กับพระมารดา ในระหว่างพิธีเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพ ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ที่ทำเอาหลายๆ คนถึงกับรู้สึกอบอุ่นไปตามๆ กัน ภาพน่ารักๆ ที่ว่านี้เกิดขึ้นระหว่างที่เจ้าหญิงแคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และเหล่ารัชทายาทกำลังชมการแสดงเครื่องบินผาดโผนของกองทัพอากาศ ในระหว่างที่ทุกคนกำลังตื่นตาตื่นใจกับการแสดง เจ้าหญิงน้อยของเราก็เผลอสะดุดบันได และเริ่มงอแงแล้ว… ทันทีที่เห็นเจ้าหญิงน้อยกำลังร้องไห้ แม่ของเธอก็อุ้มเจ้าหญิงน้อยขึ้นมาพร้อมกับปลอบใจ อย่างอบอุ่น และหลังจากที่กล่อมอยู่สักพัก ในที่สุดก็ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มอารมณ์ดีขึ้นแล้ว… อารมณ์ดีแล้วค้าาา… หลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมาก หลายๆ คนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย “น่ารักมากกก ฉันหวังว่าเธอจะไม่เป็นอะไรนะ ฉันชอบที่เจ้าหญิงเคทปลอบลูกของเธอมาก” ความเห็นจากชาวเน็ตรายหนึ่ง ส่วนบางคนก็บอกว่าตัวเขาเองได้ชมคลิปวิดีโอนี้มากกว่า 10 ครั้ง และนี่เป็นภาพที่อบอุ่นมากๆ ไปชมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย (นาทีที่ 2.06-2.37) ที่มา romper, buzzfeed
-
รู้ไว้จะได้ไม่โดนแซว!! 7 ทีมยักษ์ใหญ่ ที่อดไปบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย
เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันแล้ว ที่มหกรรมกีฬาฟุตบอลอันแสนยิ่งใหญ่ที่หลายๆ คนรอคอยอย่าง FIFA World Cup 2018 จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ซึ่งแน่นอนว่าในรอบ 32 ทีมนี้ก็มีทีมทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าอย่างมากหน้าหลายตาที่ได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย แต่ทว่าปี 2018 นี้เองก็กลับมีทีมใหญ่ๆ ที่พลาดท่าตกรอบคัดเลือกไปด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือทีมใหญ่ที่คุณคาดไม่ถึงอย่าอิตาลีนั่นเอง!! และยังมีทีมใหญ่ๆ ที่คุณคาดไม่ถึงอีกด้วย ส่วนจะมีทีมอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย… ทีมแรก ทีมชาติอิตาลี ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าอดีตแชมป์โลก 4 สมัยอย่างทัพอัซซูรีที่มีเหล่าดาวดังมากมาย รวมถึงผู้รักษาประตูระดับโลกอย่างจานลุยจิ บุฟฟ่อนจะพลาดท่าให้กับสวีเดนในรอบเพย์ออฟ จนทำให้อดคว้าตัวไปบอลโลกรอบสุดท้าย อย่างที่บางคนคาดไม่ถึง แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีที่พวกเขาอดไปเล่นรอบสุดท้าย นับตั้งแต่ปี 1958 ด้วย และร้ายที่สุดคือคนที่เขี่ยพวกเขาตกรอบในคราวนั้นก็คือสวีเดนเจ้าเก่านั่นเอง 2. เนเธอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งทีมที่ต้องตกรอบไปอย่างเหนือความคาดหมาย หลังจากที่ทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างน่าผิดหวัง จนถูกสวีเดนเบียดตกรอบไป ทำให้ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านอย่างน่าผิดหวัง 3. ตุรกี ทีมจากแดนไก่งวงที่เคยคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลกเมื่อปี 2002 ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่ต้องพลาดท่าไปอย่างน่าเสียดายหลังเก็บคะแนนในรอบแบ่งกลุ่มได้เพียง 15…
-
ดีไซเนอร์สาวออกแบบเสื้อแจ็กเก็ตสุดเท่ ที่สามารถเอาออกมากางแล้วกลายเป็นเต็นท์ได้!?
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบออกไปท่องเที่ยวกางเต็นท์ตามป่า (หรืออย่างน้อยก็มีความคิดที่อยากจะไป) เชื่อว่าเสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ให้กับการเดินทางของคุณเป็นเรื่องที่น่าสนุกขึ้นแน่ๆ เสื้อแจ็กเก็ตที่เหมือนหลุดออกมาจากหนัง Star Wars ตัวนี้มีชื่อว่า [In]visible jacket เป็นผลงานการดีไซน์จาก Angela Luna วัย 25 ปี ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งจากบริษัท ADIFF (มาจากคำว่า “Make a difference” หรือ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง) ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ADIFF เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ที่เธอหวังจะเอาไว้ใช้ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในซีเรีย Luna มีแนวคิดว่าแฟชั่นจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้หรือไม่? ซึ่งมันก็กลายมาเป็นเสื้อแจ็กเก็ตเต็นท์อย่างที่เห็นนี้ เสื้อคลุมตัวนี้มีคุณสมบัติในการกันน้ำสูง มีน้ำหนักเบา มันถูกทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์รีไซเคิล สามารถใส่ไปเดินป่าเดินเขาหรือสถานที่ไหนๆ ก็ได้ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องพักผ่อน คุณก็สามารถเอาเสาที่สะพายไว้ด้านหลังออกมาแล้วเสียบเข้ากับเสื้อแจ็กเก็ต แล้วกางมันออกให้กลายเป็นเต็นท์สำหรับพักอาศัยได้ถึง 2 คน ในเดือนมกราคมปี 2017 เธอได้นำโปรเจกต์นี้ไประดมทุนผ่านเว็บไซต์ Kickstarter โดยผู้ที่บริจาคเงิน 200 เหรียญดอลลาร์ (ราวๆ 6,418 บาท) จะได้เสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้ไป 1 ตัว และยังได้จะได้บริจาคเสื้อตัวนี้ให้กับผู้ลี้ภัยในซีเรียด้วยอีก 1 ตัว…
-
โมเมนต์บอกลาครั้งสุดท้าย “ผมรู้คุณไม่ได้ยินผมแล้ว แต่ผมรักคุณนะ” ปิดฉากรัก 60 ปี
“รักแท้” มีรูปร่างหน้าตาและความรู้สึกเป็นอย่างไร หากจะให้นิยามเป็นรูปแบบที่ตายตัวคงจะไม่ได้ เพราะทุกคนต่างผ่านเส้นทางความรักที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างจากเรื่องราวของคุณตา Bobby Moore โดยบอกเล่าผ่านภาพถ่ายของช่างภาพสายข่าว April Yurcevic Shepperd ด้วยการเป็นพยานประจักษ์ถึงตำนานความรักแท้ในครั้งนี้ “ในวันนี้ฉันได้เจอกับชายคนหนึ่ง ชายผู้แหลกสลาย ยืนอยู่ตรงหน้าสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต และนี่ก็คือความรักที่มีตัวตนของเขา เมื่อเขาเดินเข้ามาในห้อง การย่างเท้าของเขาไม่มั่นคง แต่ความตั้งใจของเขายังแน่วแน่ ดวงตาจ้องมองมาที่ปลายทางใจกลางห้อง โลงศพเหล็กสีเทาวางอยู่ตรงนั้นภายใต้แสงสีนวลตา ครึ่งหนึ่งของโลกถูกเปิดเอาไว้ ตกแต่งไปด้วยโบและดอกไม้หลากสีสัน พร้อมกับเขียนคำว่า “ภรรยา” และ “แม่” เมื่อมาถึงปลายทางที่เขาตั้งใจ เขาก้มตัวและจูบริมฝีปากของเธอ ร่างกายอันอ่อนแอก็ยิ่งสั่นคลอน จนกระทั่งคำพูดอันสุภาพและอ่อนน้อมได้หลุดออกมาจากปากของเขา เขาพูดเพื่อให้เธอได้ยินเพียงคนเดียว และถูกพูดนับครั้งไม่ถ้วนในห้วงเวลาอันแสนสั้น แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พูดกับเธอ… “ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ยินผมอีกแล้ว แต่ผมรักคุณนะ” สิ้นสุดคำพูดของคุณตา น้ำตาก็เอ่อล้นไหลรินออกมา ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา คุณยายอยู่เคียงข้างคุณตามาโดยตลอด แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ ยังไม่ใกล้เคียงเสียด้วยซ้ำ คุณตาจึงคว้าเก้าอี้มานั่งอยู่ข้างๆ โลง ในขณะที่ไม้ค้ำอยู่ทางด้านขวา และร่างของภรรยาอยู่ทางด้านซ้าย เขานั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานเกือบชั่วโมง เขาคว้ามือของภรรยาและลูบเบาๆ คล้ายกับว่าเขากำลังปลอบโยนเธออยู่…
-
เด็กหนุ่มวัย 16 สารภาพ ทำชายวัย 50 ปีเสียชีวิต ด้วยการต่อยเพียงครั้งเดียว
ที่เมืองดันดี ประเทศสกอตแลนด์ ได้เกิดเหตุเด็กหนุ่มวัย 16 ปีคนหนึ่งต่อยชายวัย 50 ปีที่ชื่อว่า John Watt จนถึงแก่ความตาย หลังจากที่เข้ากลับมาจากบาร์เมื่อเวลาตีสามครึ่งตามเวลาในท้องถิ่น John Watt ผู้เสียชีวิต โดยจากกล้อง CCTV ในพื้นที่ พบว่านาย John Watt ได้เดินทางออกมาจากบาร์เมื่อเวลาประมาณตีสาม ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านของเขา และถูกตะโกนด่าโดยกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ปิดหน้าต่างห้องออกมาในระหว่างที่เขาเดินผ่าน John Watt ตอบโต้พวกเด็กวัยรุ่นด้วยการทำมือแสดงสัญญาลักษณ์ท้าต่อยตี ก่อนที่จะเดินจากไป โดยที่ไม่รู้ว่าวัยรุ่นกลุ่มที่ว่านี้ได้วิ่งตามเขาด้วยความโมโห บาร์ที่ John Watt ไปใช้บริการในคืนนั้น หนึ่งในเด็กวัยรุ่นวิ่งตาม John Watt มาจนถึงตัว ก่อนที่จะต่อย John Watt เข้าที่ใบหน้า จนเขาล้มลงไปหัวกระแทกพื้น ก่อนที่เด็กวัยรุ่นจะวิ่งหนีไป John Watt ถูกพบโดยคนขับแท็กซี่ ก่อนที่จะได้รับการส่งตัวไปยังโรงพยาบาล โดยทางทีมแพทย์บอกว่าเขานั้นมี กะโหลกแตกหลายจุดและมีเลือดออกในสมอง ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ถนนที่เกิดเหตุ เด็กหนุ่มผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่นานหลังจากนั้น โดยเบื้องต้นเด็กหนุ่มให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าผู้ก่อเหตุนั้นเป็นเด็กวัยรุ่นอีกสองคน อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มก็จนมุมจากการให้การของพยานในเหตุการณ์และวิดีโอจากกล้อง…
-
ขอร้องเกะจบก่อน… อัดคลิปประจานพนักงาน ต้องรอให้จบเพลงก่อน ถึงจะยอมทำงานต่อ!?
งานบริการด้านสาธารณะต่างๆ เมื่อมีบุคคลเข้ามาติดต่องาน พนักงานต่างต้องให้บริการอย่างถูกต้อง ฉับไว เพื่อให้สมกับยุคสมัยใหม่ที่ใครๆ ต่างต้องการแบบนี้ ตัวอย่างดีๆ จากโลกออนไลน์ที่คาดว่ามาจากประเทศเวียดนาม เพิ่งจะถูกเผยแพร่มาได้ไม่นาน หลังจากที่ Sophia Phuong Le ได้ทำการโพสต์คลิประหว่างที่เธอไปเที่ยว และกำลังรอจ่ายเงินบริการบางอย่างอยู่ จากภาพที่เห็นดูเหมือนพนักงานประจำเคาท์เตอร์ กำลังง่วนกับการทำงานอยู่ แต่เปล่าเลย บุคคลที่ปรากฏอยู่ในคลิปนั้นกำลังร้องเพลงคาราโอเกะอยู่จ้าาาาา!! เธอให้แคปชั่นสั้นๆ ไว้ว่า “มีแค่เฉพาะเวียดนาม คุณจะร้องคาราโอเกะตอนไหนก็ได้ตราบเท่าที่ต้องการ แม้แต่ในที่ทำงานก็ยังได้ สุดจริง! ทายสิ ฉันยืนรอจนเปื่อยอยู่ตรงนี้ รอให้นางร้องเพลงเสร็จก่อนที่จะให้จ่ายบิล เฮ้อ,” คลิปวิดีโอขณะที่พนักงานกำลังร้องคาราโอเกะอย่างสบายใจ ให้ลูกค้ารอก่อน แบบนี้ก็ได้ด้วย? ที่มา: SophiaPhuongLe, nextshark
-
สุดแปลกแหวกแนว!! ใช้โดรนมาเดินแบบแทนนางแบบ สุดท้ายถูกวิจารณ์ต่างๆ นานา
ในยุคปัจจุบันมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก จึงได้มีธุรกิจหลากหลายวงการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยโดยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของพวกเขา และเช่นกันกับวงการแฟชั่นโชว์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย พวกเขาได้ประยุกต์นำเอาอากาศยานไร้คนขับหรือที่เรียกกันว่า โดรน (Drone) มาใช้เดินแบบแทนนางแบบ ตัวแทนของทางผู้จัดงานได้กล่าวถึงงานนี้ว่าจะจัดขึ้นช่วงเดือนเราะมะฎอนช่วงที่ชาวมุสลิมจะเข้าถือศีลอดกันประมาณ 29-30 วัน ซึ่งในปีที่แล้วพวกเขาก็ได้จัดงานแสดงโชว์แบบนี้ด้วยหุ่นลองเสื้อ พอมาถึงปีนี้เขาอยากที่จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่แฟชั่นโชว์ จึงเลือกใช้โดรนมาเดินแบบนั่นเอง عرض أشباح في السعودية .. قصدي أزياء 😂 pic.twitter.com/xtJHGGtdwo — جالينـــــــوس (@ilxooli) June 7, 2018 และเมื่อมีข่าวและภาพของแฟชั่นโชว์สุดแปลกแหวกแนวแบบนี้ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ต ก็ได้กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก เพราะถึงแม้ว่าครั้งนี้จะเป็นแฟชั่นโชว์เสื้อผ้าผู้หญิง แต่ผู้ชมนั้นกลับมีเพียงแต่ผู้ชายเพียงอย่างเดียว แถมยังจัดที่ประเทศในตะวันออกกลางที่มีถกเถียงเกี่ยวกับสิทธิของสตรีเต็มไปหมด จึงได้มีคนตั้งคำถามว่านี่เป็นการกีดกันสตรีรึเปล่านะ แต่ก็มีหลายคนเห็นการเดินแบบนี้เรื่องตลกและเปรียบการนำโดรนมาแขวนเสื้อผ้าแบบนี้ว่าเหมือนได้เห็นกับผีลอยได้หรือพลังงานบางอย่างที่อยู่ในหนังผีต้นทุนต่ำและนี่มันเหมือนกับหนังผีมากกว่าจะเป็นแฟชั่นโชว์เสียอีก https://twitter.com/wa7d_riyadh/status/1004528067354775552?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.unilad.co.uk%2Fnews%2Fsaudi-arabian-fashion-show-uses-drones-instead-of-female-models%2F “ฉันขำจะตายอยู่ละ แฟชั่นโชว์ที่ซาอุดีอาระเบีย พวกเขาไม่ให้นางแบบเข้าไปโชว์” https://twitter.com/jinakhoushnaw/status/1004463889130622976?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.unilad.co.uk%2Fnews%2Fsaudi-arabian-fashion-show-uses-drones-instead-of-female-models%2F “น่าสนใจนะที่ได้อ่านเกี่ยวกับเสียงตอบรับของแฟชั่นโชว์ที่ซาอุดีอาระเบีย ที่ซึ่งเสื้อผ้าจะลอยไปรอบๆ ห้องด้วยโดรน หลายคนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่สำหรับฉันมันเหมือนกับเป็นการกีดกันและผลักไสไล่ส่งผู้หญิงเสียมากกว่า” It’s interesting reading reactions…
-
น่าสลด!! แม่ยื่นมีดให้ลูกสาวเอาไปใช้ในการตบตี แถมยืนเชียร์ให้ลูก “แทงมันแม่มเลย”
กลายเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจและสะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมของการเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมีการเผยแพร่คลิปการตบตีกันของนักเรียนหญิงสองคนที่บริเวณใกล้กับประตูโรงเรียน Nossa Senhora das Graças ในบราซิล เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา โดยที่ในคลิปที่ว่านี้เด็กคนหนึ่งได้มีการใช้ของมีคม กระหน่ำจ้วงแทงไปบนร่างของเด็กสาวอีกคนจนได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ก่อนที่ผู้เห็นเหตุการณ์จะเขาไปแย่งมีดออกมาได้ในที่สุด แต่ที่น่าสลดกว่านั้น คือคนที่ยื่นมีดเล่มที่ว่าให้กับเด็กสาวก็คือคุณแม่ของเธอนั่นเอง คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจาก Star News จากการให้การของคนในเหตุการณ์ แม่ของเด็กสาวยื่นมีดให้แก่ลูกสาววัย 14 ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้น แถมยังมีการตะโกนเชียร์ให้ลูกสาวของเธอ “แทงมันแม่งเลย” ระหว่างที่ทั้งคู่ตบตีกันอยู่ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เด็กสาววัย 13 ปีที่ถูกแทง ได้รับบาดแผลหลายสิบแห่งที่ หลัง ใบหน้า แขน มือทั้งสองข้าง และที่หน้าอก จนต้องมีการนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากนั้น ส่วนเด็กสาวผู้ลงมือนั้น เชื่อว่าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการต่อสู้ อย่างไรก็ตามทั้งเธอและมารดาหายตัวไปหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน แต่ก็มีปัญหาไม่เข้าใจกันบนโซเชียล ความบาดหมางที่ว่านี้บานปลายมาจนทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น ในปัจจุบันทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำเด็กสาวผู้ถูกแทงและกำลังดำเนินการสืบสวนตามหาตัวแม่ลูกทั้งสอง โดยในเบื้องต้นแม่ของเด็กสาวถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการพยายามฆ่า และจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป ที่มา mirror, dailymail
-
กลุ่มเฟสบุ๊กขี้ชังออกรับหน้า กับการปั่นกระแสใส่ Marie Tran จนต้องลบภาพในไอจี!!
ตั้งแต่การเริ่มต้นไตรภาคใหม่ของภาพยนตร์ชุดสงครามอวกาศ Star Wars ที่มีทั้งตัวละครหน้าเก่าและการกำเนิดตัวละครชุดใหม่ มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบปะปนกันไป สิ่งที่รุนแรงมากที่สุดก็คือกระแสตอบรับของตัวละครใหม่ เริ่มจากที่ไม่ยอมรับในบทของตัวละคร จนลามไปถึงการเหยียดเชื้อชาติและหน้าตาของนักแสดง ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นกับ Kelly Marie Tran ผู้รับบท Rose Tico ใน The Last Jedi Kelly Marie Tran ในบท Rose Tico (The Last Jedi) เธอทำการลบทุกภาพบนอินสตาแกรมของตัวเอง โดยที่ไม่มีการบอกกล่าวอะไรกับใครเลยทั้งคนใกล้ตัวและชาวเน็ตที่กำลังติดตามเธออยู่ ทั้งนี้ในวันที่ 8 มิถุนายน กลุ่มบนเฟสบุ๊ก Down With Disney’s Treatment of Franchises and its Fanboys (ชื่อจะยาวไปไหน) ได้ทำการอ้างว่าการโจมตีทางโซเชียลมีเดียต่อ Marie Tran จนต้องปิดไอจีนั้น เป็นฝีมือของพวกเขาเอง และการโจมตีครั้งนี้ถือว่าเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของแฟนๆ สตาร์วอร์ที่เกลียดดิสนีย์และไม่ต้องการให้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติหรือเพศในจักรวาลหนังอันเป็นที่รักของพวกเขา …
-
อดีตโสเภณีได้รับพระราชทานยศ ‘เดม’ ในฐานะยกระดับคุณตัว และรันวงการให้ถูกกฎหมาย
คุณความดีความงามของคนทำงานในฐานะโสเภณีอย่าง Catherine Healy ได้รับการยกย่องจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชทานยศ ‘เดม’ เทียบเคียงได้เท่ากับเลดี้ จากการต่อสู้ยกระดับของโสเภณีให้ถูกต้องตามกฎหมาย ในช่วงปี 1980 ตำรวจได้ทำการบุกจับกุมการค้าประเวณีผิดกฎหมายในเมือง Wellington ประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีนาง Healy ทำงานอยู่ในนั้นด้วย แต่ทว่าในวันนี้เธอได้รับเกียรติอันสูงสุดจากราชวงศ์อังกฤษจากการรันวงการประเภทนี้!? Catherine Healy ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เธอและผู้ร่วมงานสายอาชีพเดียวกัน ต้องต่อสู้กับความยากลำบากเพื่อดำเนินการรักษาสิทธิของโสเภณีและเพื่อให้เกิดการยอมรับในสังคม และแล้วเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา นาง Healy ได้รับพระราชทานยศ Dame แห่ง New Zealand Order of Merit สำหรับการยกระดับสิทธิสำหรับโสเภณี โดยในปี 1986 เธอได้ช่วยก่อตั้ง New Zealand Prostitutes Collective องค์กรที่ช่วยสนับสนุนเหล่าโสเภณีและรักษาสิทธิของโสเภณี ปัจจุบันมุมมองเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอเริ่มพัฒนาแนวทางร่วมกับเหล่านักการเมืองเพื่อทำให้งานประเภทนี้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย และมีกฎหมายคุ้มครองคนทำงาน จนกระทั่งได้รับพื้นที่จากสื่อสาธารณะในปี 2003 เมื่อกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภานิวซีแลนด์…
-
นางแบบสาวโวย ถูกนำภาพใช้เป็น “เด็กเสี่ย” หลอกเหยื่อมีเพศสัมพันธ์-ถ่ายคลิปอนาจาร!!
ปัญหาการนำรูปภาพไปแอบอ้างโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวกว่าที่เราคิดมาก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Primrose Chamnannitchaya จะต้องออกมาร้องเรียนกับโลกโซเชียล เมื่อภาพเฟซบุ๊กของเธอนั้นถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต แถมการนำไปใช้ที่ว่านั้น ยังเป็นการนำไปอ้างหลอกหาเหยื่อคลิปอนาจารและหลอกไปมีเพศสัมพันธ์ด้วย คุณ Primrose กล่าวในโพสต์ของเธอว่า “เราถูกนายวิชชากรณ์ ไชยคชบาล อายุ 21 ปี เอารูปเราจากในเฟซบุ๊ก รวมถึงแคปหน้าโปรไฟล์เฟซเราไปใช้อ้างหลอกหาเหยื่อ ให้ถ่ายรูปโป๊คลิปโป๊ ร่วมถึงหลอกให้เหยื่อไปมีเพศสัมพันธ์ด้วยและถ่ายคลิปไว้ค่ะ” นายวิชชากรณ์ ไชยคชบาล ผู้ถูกกล่าวถึง เธอเล่าว่านายวิชชากรณ์ได้ใช้รูปของเธออ้างกับเหยื่อว่า เคยเลี้ยงดูเธอในลักษณะของการค้าบริการ โดยให้เงินเดือนเธอและเลี้ยงเธอมาหลายปี เธอยังบอกอีกว่าเธอนั้นมีหลักฐานพยานบุคคลที่ยืนยันตัวตน รวมถึงพยานในการก่อเหตุ และได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วหลายสน. เนื่องจากว่ามีผู้เสียหายหลายคน บางคนเป็นเด็กอายุไม่ถึง 15 หลายคนไม่ถึง 18 ที่มาจากต่างพื้นที่กันไป . ทุกครั้งที่มีผู้เสียหายติดต่อมาเพื่อจะเเจ้งความ เธอจะก็ต้องตามไปแจ้งความด้วย หรือไปปฏิเสธข้อกล่าวหากรณีต้องสงสัยเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด คุณ Primrose เล่าว่า “ตลอดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราไปสน.แทบทุกวัน ก็ยังจับมันไม่ได้ค่ะ หลายสน. แค่ให้ผู้เสียหายคนอื่นลงบันทึกประจำวัน ไม่รับเป็นคดี . ช่วยด้วย ทำยังไงถึงจะเอาผิดได้ เดือนนึงแล้ว นายคนนี้ยังนอนอยู่บ้านสบายใจ…
-
ตำรวจเร่งล่าตัว “หนุ่มสาวปริศนา” มีเซ็กส์กันบนหลุมฝังศพ ไม่เกรงใจผู้ตาย!!
คนเราเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศ มันก็มีวิธีจัดการอยู่ไม่กี่แบบ คือไปจัดการตัวเองหรือจะไปจัดการเป็นคู่ แต่ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตามแต่ เราควรจะดูสถานที่นิดนึงนะ ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมแบบกรณีนี้เอาได้ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้นำเสนอคลิปของหญิงสาววัย 34 ปี และชายหนุ่มวัย 38 ปี ที่กำลังมีเซ็กส์อยู่บนหลุมฝังศพภายในโบสถ์ Holy Trinity Parish Church ในเขตแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ จนทำให้ชาวอังกฤษแสดงความไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาไม่ให้ความเคารพต่อผู้ตายและสถานที่ ด้านนาย Scott Elwood ผู้มีอาชีพจูงสุนัขเดินบอกกับสื่อว่าระหว่างเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เขาได้เดินผ่านมาเห็นเข้าพอดี เขาคิดว่าทั้งคู่น่าจะหยุดเมื่อเห็นเขาเข้า แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งสองยังคงทำกิจกรรมเข้าจังหวะต่อไป นั่นทำให้ Scott ตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปของพวกเขาเอาไว้และตะโกนด่าทอก่อนจะเดินออกมาโทรแจ้งตำรวจ จากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นภาพของชายหนุ่มกลัดมันขณะมีเซ็กส์อย่างเร่าร้อนโดยไม่แคร์สายตาของคนรอบข้าง หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เว็บไซต์ Mirror ก็ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าแม่ของหญิงสาวที่ปรากฎอยู่ในคลิปนี้ได้ออกมาบอกว่าลูกสาวของเธอมีแฟนแล้ว แต่แฟนที่ว่านั่นไม่ใช่ชายหนุ่มที่อยู่ในคลิป และเธอยังมีลูกชายวัย 7 เดือนอีก 1 คนกับแฟนจริงๆ…
-
คู่รักแคนาดาชอบ “นักเก็ตไก่” มาก เลยเอามันมาเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายภาพแต่งงานซะเลย
เมื่อช่วงเวลาแห่งการแต่งงานมาถึง เหล่าคู่รักก็จะต้องหาช่างภาพดีๆ สักคนมาเพื่อเก็บภาพช่วงเวลาดีๆ ที่พวกเขามีให้แก่กัน ลูกค้าบางคนอาจจะมีการร้องขอที่แตกต่างกันไป บางคนอาจจะต้องการธีมแบบไทยๆ บางคนบางได้ธีมแบบเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ และอีกสารพัด แต่จะเป็นยังไงหากลูกค้าบอกคุณว่าอยากได้ธีม “นักเก็ตไก่” ? นี่เป็นเรื่องราวของคู่รักชาวแคนาดาอย่าง Stephanie Blais และ Brett Macoretta ที่ชื่นชอบรสชาติของนักเก็ตไก่มากๆ จนมาถึงวันที่พวกเขาต้องถ่ายภาพแต่งงานด้วยกัน พวกเขาก็เลยว่าจ้างช่างภาพที่ชื่อว่า Katie Silva ให้มาถ่ายพวกเขาหน่อย ความแปลกของการถ่ายภาพแต่งงานนี้ก็คือ Stephanie และ Brett ได้ขอร้องให้ช่างถ่ายภาพของพวกเขาช่วยถ่ายมันออกมาในธีม “นักเก็ตไก่” ให้หน่อย? Katie ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า “เมื่อลูกค้าขอให้เราใส่นักเก็ตไก่ลงไปในภาพถ่ายของพวกเขา อย่างแรกคือเราต้องไม่ปฎิเสธพวกเขา เมื่อ Stephanie พูดถึงไอเดียนักเก็ตไก่กับฉัน ภาพจินตนาการแทบจะผุดเข้ามาในหัวฉันทันที” หากเราเข้าไปส่องดูในอินสตาแกรมของ Katie ที่ katiemariephotography_ เราจะพบกับภาพของคู่รักมากมาย แต่เราจะเห็นภาพของ Stephanie และ Brett โดดเด่นมากกว่าภาพอื่นๆ เพราะพวกเขาแตกต่างด้วยนักเก็ตไก่นี่แหละ นอกจากจะถ่ายภาพแต่งงานแบบฮาๆ แล้ว พวกเขายังวางแผนที่จะตั้งบาร์นักเก็ตไก่เอาไว้ในงานแต่งของพวกเขา เพื่อให้เหล่าแขกเหรื่อได้กินนักเก็ตไก่แบบไม่อั้นไปกับพวกเขานั่นเอง (เชิญเราไปร่วมงานด้วยได้ไหม?) . .…
-
ชวนรู้จัก Zabivaka (ซาบิวากา) มาสคอตประจำฟุตบอลโลกที่รัสเซีย ที่ไม่ใช่หมีขาว?
ในทุกๆ ครั้งที่มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ประเทศเจ้าภาพก็จะมีการสร้างมาสคอตประจำชาติตัวเองขึ้นมา 1 ตัว เพื่อเป็นสัญลักษณ์และการประชาสัมพันธ์การแข่งขันในครั้งนั้น เช่นในปี 2010 ที่อเมริกาใต้ ใช้เสือดาว และปี 2014 ที่จัดที่บราซิล ใช้ตัวอาร์มาดิลโล และในปีนี้เป็นประเทศที่ได้เป็นเจ้าภาพอย่างรัสเซียก็ได้มีการสร้างมาสคอตขึ้นมาเหมือนกัน แต่แทนที่จะใช้หมีขาว ซึ่งเป็นสัตว์ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี พวกเขากลับใช้สุนัขแทนและยังตั้งชื่อให้มันว่า Zabivaka (ซาบิวากา) หมายความว่า “The one who scores” หรือ “ผู้ทำประตู” คนออกแบบ คนออกแบบเจ้ามาสคอตตัวนี้มีชื่อว่า Ekaterina Bocharova (เอคาเทรินา โบชาราวา) เป็นนักเรียนด้านการออกแบบชาวรัสเซียที่ออกแบบแล้วชนะการโหวต มันถูกเปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 21 ตุลาคม 2016 ทำไมถึงเป็นสุนัข? ผู้ออกแบบบอกว่าสุนัขที่ถูกนำมาเป็นต้นแบบคือสุนัขค็อกกี้วูล์ฟ เพราะค็อกกี้วูล์ฟ เป็นสุนัขลากเลื่อนที่โด่งดังเป็นอันดับที่ 2 รองจากหมีขาวที่เราคุ้นเคย แต่เนื่องจากรัสเซียมีพื้นที่ติดกับขั้วโลกเหนือและมีหิมะตกตลอดปี ทำให้สุนัขค็อกกี้วูล์ฟมีความสำคัญกับชาวรัสเซียนั่นเอง . ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2018 กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนที่จะถึงนี้…
-
เครื่องกดกระดาษทิชชูแบบสแกนใบหน้า ที่เมืองจีน ลดการใช้กระดาษเปลือง!!
ปัญหาการใช้กระดาษทิชชูอย่างสิ้นเปลือง นอกจากจะส่งผลต่อปริมาณขยะแล้ว ยังเป็นการสิ้นเปลืองงบทรัพยากรอีกด้วยนะเออ และที่ประเทศจีนเองก็แทบจะไม่ต่างจากที่อื่นๆ เพราะพวกเขาก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้ด้วยเช่นกัน แถมยังมีบางคนที่เข้าห้องน้ำสาธารณะเพื่อหวังกระดาษทิชชูแบบฟรีๆ อีกด้วย ปัญหาการถูกขโมยกระดาษทิชชูในห้องน้ำสาธารณะ กำลังเป็นปัญหาที่ห้องน้ำสาธารณะหลายๆ แห่งกำลังเผชิญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเมืองเซี่ยงไฮ้เอง ก็ได้นำนวัตกรรมเจ๋งๆ เพื่อจัดการกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น เทคโนโลยีที่ว่านี้ก็คือการนำเครื่องสแกนหน้าเข้ามารวมกับตู้เก็บกระดาษชำระ จนกลายเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดการใช้กระดาษอย่างสิ้นเปลืองที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งการทำงานของเครื่องก็คือ คุณจะต้องยืนอยู่ตรงด้านหน้าตู้เพื่อให้เครื่องตรวจจับใบหน้าเสียก่อน จากนั้นเครื่องจึงจะทำการปล่อยกระดาษทิชชูออกมา ซึ่งจะมีความยาวประมาณ 80 เซนติเมตร หลังจากนั้นคุณจะไม่สามารถใช้เครื่องนี้ได้อีก จนกว่าจะครบ 9 นาที ซึ่งในระหว่างนี้ถ้าหากคุณต้องการทิชชูเพิ่มล่ะก็ อาจจะต้องขอให้คนอื่นมาช่วยสแกนหน้าแทน “สำหรับผู้คนส่วนมาก กระดาษยาวประมาณ 80 เซนติเมตรนั้นเพียงพอสำหรับการใช้ ตู้กระดาษทิชชูแบบนี้สามารถช่วยประหยัดกระดาษได้มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์” นาย Li Bei เจ้าหน้าที่จากบริษัท Shoulian Science and Technology ผู้ผลิตเครื่องให้สัมภาษณ์ และนี่คือการทำงานของเจ้าเครื่องนี้ ตามรายงาน ตู้กระดาษทิชชูแบบสแกนหน้านี้ถูกติดตั้งมานานกว่า 2 เดือน และมีผู้คนมากกว่า 1,500 คนที่ได้ใช้เครื่องนี้แล้ว ขณะนี้ทางผู้ผลิตกำลังเตรียมติดในห้องน้ำสาธารณะในเขตผู่ตง นครเซี่ยงไฮ้ ให้มากขึ้น…
-
ประชาชนไม่พอใจ!! เมื่อเห็นเจ้าชายจอร์จ เล่น ‘ปืนของเล่น’ ระหว่างการแข่งโปโล
ในวันอาทิตย์ของทุกๆ สัปดาห์ถือว่าเป็นวันพักผ่อนและเป็นวันที่ครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมกันตา พ่อ แม่ ลูกกันอย่างสุขสันต์ เช่นเดียวกันกับครอบครัวของดยุคแห่งเคมบริดจ์อย่างเจ้าชาย William แห่งราชวงศ์อังกฤษ ในวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน เขาและครอบครัวได้พากันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย โดยที่เจ้าชาย William ได้ออกไปแข่งโปโล ชิงถ้วย Maserati Royal Charity Polo Trophy ส่วนทาง ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ Kate Middleton นั่งดูแลลูกๆ ได้แก่เจ้าชาย George เจ้าหญิง Charlotte และเจ้าชาย Louis อยู่ข้างสนามซึ่งก็ถือว่าเป็นภาพบรรยากาศอันสุดน่ารักและอบอุ่น . แต่ประชาชนและชาวเน็ตกลับไม่พอใจภาพที่ถูกเปิดเผยออกมา เนื่องจากมีภาพของเจ้าชาย George กำลังเล่นปืนของเล่นอยู่และประเด็นนี้ก็ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ “นี่เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังเพียงสิ่งเดียวเกี่ยวกับภาพการแข่งโปโลในวันนี้ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมต้องให้เล่นกับปืนของเล่น ทำไมต้องให้เล่นกับสิ่งที่คุณไม่ควรจะต้องใช้มัน แต่เราก็ไม่ควรโทษ Kate เกี่ยวกับเรื่องนี้เพียงคนเดียว เพราะเราก็ไม่รู้ว่าใครซื้อของเล่นนี้มา แต่ควรที่จะมีคนพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามันไม่โอเคได้แล้ว” This was the only disappointing thing…
-
Kylie ทนไม่ไหว ลบภาพลูกออกจากไอจีทั้งหมด เบื่อความเผือก-ล้ำเส้นเรื่องพ่อเด็ก
การที่เป็นบุคคลสาธารณะระดับโลก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามมักจะถูกจับจ้องจากทุกสายตารอบตัว ไม่เว้นแม้แต่เรื่องส่วนตัวสุดๆ กรณีที่ทำให้ Kylie Jenner เริ่มรู้สึกถึงความเยอะแยะหลากสิ่ง หลังจากที่เธอคลอดลูกสาวผู้น่ารัก Stormi และเผยให้ชาวโลกและชาวเผือกได้รับรู้ไปแล้ว ผู้คนต่างพูดถึงหน้าตาของเด็กและสงสัยว่าเป็นลูกของใครกันแน่? ตั้งแต่หนูน้อย Stormi เกิดในเดือนกุมภาพันธ์ Kylie ได้แชร์รูปภาพของเธอและลูกสาวให้แฟนๆ ได้ชมอยู่เสมอ แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เธอกลับโพสต์รูปเซลฟี่ตัวเองเหลือลูกสาวเพียงแค่ขอบรูปเท่านั้น https://www.instagram.com/p/Bj2sBPBjBQg/ นอกเหนือจากรูปภาพล่าสุด หากลองตามเช็กภาพที่ผ่านมาเธอลบภาพที่มีลูกสาวออกทั้งหมด และจะไม่อัปภาพของ Stormi อีกแล้ว ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยหนักเข้าไปอีก เราลองย้อนกลับไปช่วงที่เธอตั้งท้องและไม่ยอมปล่อยภาพหลุดออกมาเลย https://www.instagram.com/p/BeycUmgFTWb/?utm_source=ig_embed “ฉันเสียใจที่ปล่อยให้พวกคุณอยู่ในความคิดคาดเดากันไปเรื่อยเปื่อย ฉันเข้าใจว่าพวกคุณคงคุ้นชินที่ฉันมักจะปล่อยภาพให้รู้ความเคลื่อนไหวของฉัน แต่การตั้งท้องของฉันคือสิ่งที่ฉันเลือกที่จะไม่อยากให้ทั้งโลกได้รู้” หนูน้อย Stormi เพิ่งจะปรากฏตัวได้เพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แล้วก็กลายมาเป็นประเด็นซุบซิบนินทาอย่างรวดเร็วและทวีคูณจำนวนเยอะขึ้นเรื่อยๆ ข่าวลือที่ร้ายแรงที่สุดก็คือการที่ชาวเน็ตสงสัยว่าใครเป็นพ่อของเด็ก และมโนกันไปว่าพ่อของเด็กอาจจะไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิด https://twitter.com/MikeLastimoso/status/991625650975862784 ตามรายงานอย่างเป็นทางการ พ่อของเด็กก็คือ Travis Scott แรปเปอร์วัย 26 ปี…
-
KFC ลุยตลาดคนรักสุขภาพ เตรียมออกเมนูสำหรับ “มังสวิรัติ”
ร้านไก่ทอดกับกลุ่มคนรักสุขภาพ นั้นแทบไม่ต่างอะไรกับเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบกันได้เลย แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อร้านแฟรนไชส์ไก่ทอดเจ้าดังอย่าง KFC กำลังจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บุกตลาดลูกค้ากลุ่มนี้แล้ว!! จากรายงานของเว็บไซต์ Foodbeast แบรนด์ของคุณลุงผู้พันกำลังเตรียมเพิ่มเมนูสำหรับลูกค้าที่รักสุขภาพ และเป็นมังสะวิรัติ โดยจะมีการทดลองในสาขาที่ประเทศอังกฤษในปีหน้า ทาง KFC อังกฤษหวังที่จะลดปริมาณแคลอรี่ในอาหารลง 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะออกชุดเมนูอาหารที่มีปริมาณพลังงานน้อยกว่า 600 แคลอรี่ ภายในปี 2020 อีกด้วย “การพัฒนาสูตรอาหารกำลังอยู่ในขั้นตอนแรก และการคิดค้นสูตรของพวกเราก็เป็นความลับสุดยอดที่ไม่อาจเปิดเผยได้ เมื่อมันสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราเตรียมทดสอบเมนูในปีนี้ และถ้าหากมันได้ผลเราหวังว่าจะมีการวางขายตัวเลือกสำหรับมังสวิรัติในปี 2019″ KFC อังกฤษ ให้สัมภาษณ์ ทางด้าน Victoria Robertson นักโภชนาการของทาง KFC ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการคิดค้นเมนูสำหรับคนรักสุขภาพโดยยังคงสูตรดังเดิมนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย “เรารู้ว่ามีผู้คนจำนวนมากที่หันมาใส่ใจการรับประทานอาหารที่ดีขึ้น และมันเป็นการท้าทายมากสำหรับสิ่งที่พวกเรานำเสนอให้กับลูกค้า มันเป็นความท้าทายเพราะลูกค้าส่วนมากชื่นชอบสูตรไก่ทอดของผู้พันแซนเดอร์ และเราจะไม่เปลี่ยนแปลงสูตร” นักโภชนาการสาวให้สัมภาษณ์ ทาง KFC หวังว่านี่จะเป็นการนำเสนอเอกลักษณ์ และรสชาติความอร่อยที่จะมีผลดีต่อสุขภาพมากขึ้น และเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ที่มา cnbc, foodbeast, mirror
-
ช็อกหลังรถ… ยายปล่อยหลานออกมาจากกรงสุนัข อ้างเหตุผล “ที่บนรถไม่พอให้เด็ก”
การแก้ปัญหาในชีวิตของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้นมาก็ต้องพยายามหาวิธีที่ลงตัวสำหรับเรามากที่สุด และวิธีนั้นอาจจะไม่เหมือนใครบนโลกนี้ก็ได้… ภาพอันงงงวยนี้เกิดขึ้นกับนาง Leimome Cheeks วัย 62 ปี ถูกตั้งข้อหาทำอันตรายเด็ก 2 คนในกรณีให้เด็กเข้าไปอยู่ในกรงสุนัขหลังรถ ประชาชนผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพระหว่างที่ คุณยายกำลังปล่อยหลานทั้งสองออกมาจากกรงสุนัขหลังรถ ซึ่งเป็นห่วงว่าเด็กกำลังเจอกับปัญหาอะไรในครอบครัวหรือไม่ หลานทั้ง 2 อายุ 7 และ 8 ปี ถูกตำรวจนำตัวมาสอบสวนจนนำไปสู่การจับกุมคุณยาย โดยที่เด็กบอกเจ้าหน้าที่ว่าคุณยายอ้างถึงที่นั่งบนรถไม่เพียงพอ และอาจจะไม่ปลอดภัย หลานทั้งสองทำได้แค่บ่นว่าร้อนในระหว่างที่รถกำลังเคลื่อนตัวไป และถูกขังเอาไว้ภายในกรงสุนัขอยู่อย่างนั้นในด้านหลังรถ จากปากคำของหลานทั้งสอง บอกว่าคุณยายของพวกเธอไม่ยอมเปิดเครื่องปรับอากาศ แถมยังปิดกระจกตลอดทางด้วย อย่างไรก็ตามเพื่อนบ้านที่รู้จักนาง Cheeks กลับรู้สึกช็อกกับการกระทำของเธอ บางรายยืนยันว่าเธอเป็นหญิงจิตใจงาม และไม่เชื่อว่าเธอจะทำแบบนั้นได้ เพื่อนบ้านให้การเพิ่มเติมว่า เธอดูแลสุนัขอยู่ 2 ตัว และเป็นผู้หญิงที่จิตใจดี แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเธอจงใจขังหลานเอาไว้ในกรงสุนัขเพื่อจุดประสงค์ใดกันแน่… ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนต่อไป ที่มา: news.com.au, wreg, dailymail
-
ตำนานสเก็ตยุค 90 “Tony Hawk” เล่าความจางที่พบเจอ ถึงปัจจุบันยิ่งจางเข้าไปใหญ่…
เวลาที่เจอบุคคลมีชื่อเสียงทางด้านต่างๆ ยิ่งถ้าได้พูดคุยด้วย ก็ต้องรู้สึกตื่นเต้นจนเนื้อสั่นกันเป็นธรรมดา แต่บางครั้ง เราก็อาจหลงๆ ลืมๆ กับบุคคลที่(เคย)ดังเป็นพลุแตกในอดีต…อย่างเช่นอดีตโปรสเก็ตบอร์ดคนนี้ Tony Hawk โปรสเก็ตบอร์ดชื่อดังในยุค 90 เขาเป็นตำนานด้านนี้ถึงกับมีเกมที่พ่วงชื่อของเขาหลากหลายเกม อย่างเช่น Tony Hawk’s Pro Skater เป็นต้น รวมไปถึงมีบทบาทในการแสดงภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ด้วย Tony Hawk เริ่มเส้นทางสเก็ตบอร์ดตั้งแต่อายุ 12 ปี และเทิร์นเป็นโปรในอีก 2 ปีให้หลัง ในช่วงอายุ 25 ปี เข้าร่วมแข่งระดับโปร 103 รายการ ชนะ 73 รายการและได้รับอันดับที่สอง 19 รายการ การันตีด้วยแชมป์โลก 12 ปีซ้อน ลองมาดูกันว่าเมื่อถึงยุคปัจจุบัน เขากลับจะต้องเจอกับอะไรบ้าง… เจ้าหน้าที่หน่วย TSA กำลังตรวจบัตรประชาชน: Hawk ที่เหมือนกับนักสเก็ตบอร์ด…
-
นักศึกษาหนุ่ม ถูกจ้างให้เปลี่ยนชื่ออินสตาแกรม นึกว่าหลอกเล่นดันจ่ายให้เกือบ 30,000!!
บางทีโชคลาภเงินทองที่ได้มาง่ายก็ยังมีอยู่จริง ใครมันจะไปเชื่อว่าการขอแกมบังคับให้เปลี่ยนชื่ออินสตาแกรม จะได้เงินก้อนโตกลับมากินสบายๆ เมื่อมีชายนิรนามติดต่อกับพ่อหนุ่ม Ryan ด้วยการยื่นข้อเสนอเงิน 30,000 บาท เพื่อขอซื้อชื่ออินสตาแกรมของเขา กรณีแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อมีใครหรือองค์กรบางแห่งต้องการใช้ชื่อเหล่านั้น และการขอซื้อชื่อก็กลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจไปแล้ว โดยที่ในครั้งแรก Ryan ก็ไม่แน่ใจนัก เกรงว่าจะเป็นการหลอกลวงเชิดชื่อไปใช้เสียอีก เหมือนจะเป็นการพูดเล่น จะให้เปลี่ยนชื่อแล้วอีกคนก็สวมทันที พร้อมยัง!? เปลี่ยนแล้ว ให้ไว จ่ายเงินด้วยนะโว้ยยยยย!! ภายหลังจากการจ่ายเงินงวดแรกเข้าบัญชี พ่อหนุ่ม Ryan ก็ได้รับเงินอีกงวดต่อไปเข้าบัญชีเรียบร้อย อะไรจะได้กินง่ายขนาดนี้เนี่ย!? รวมเงินเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 698 ปอนด์ ตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 29,990 บาท!! แหม่ ไม่รู้ว่าชื่ออินสตาแกรมเด็ดๆ ของเราจะขายได้รึเปล่านะ ชี้ช่องทางรวยไปกว้านสมัครใช้ชื่อบัญชีเท่ๆ กันบ้างดีกว่า เผื่อจะมีใครมาขอซื้อบ้าง ฮร่าาาา ที่มา: vidmid, unilad
-
หนุ่มวัย 38 ถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังใช้ “ยาฆ่าแมลง” สระผมเพื่อฆ่า “เหา”
หลายๆ คนอาจจะเคยเผชิญปัญหากับเจ้าสัตว์ตัวเล็กน่ารำคาญอย่าง “เหา” กันมาบ้างในวัยเด็ก ซึ่งวิธีการจัดการกับมันก็มักจะลงเอยด้วยการตัดผม หรือการสรรหายาสระผมหลายๆ สูตร ไปจนถึงวิธีพื้นบ้านอย่างใบน้อยหน่านั่นเอง Zhang หนุ่มชาวจีนวัย 38 ปีผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังเผชิญชะตากรรมไม่ต่างกัน แต่ดูเหมือนว่าวิธีแก้ปัญหาของเขาจะรุนแรงเกินไปหน่อย จนถึงขั้นทำให้ต้องหามตัวส่งโรงพยาบาลเลยทีเดียว หนุ่มวัย 38 ปีเล่าว่าเขาได้รับคำแนะนำจากเพื่อนบ้าน ให้สระผมด้วยไดคลอร์วอส (dichlorvos) สารเคมีกำจัดแมลง เพื่อใช้ฆ่าเหาที่กำลังกวนใจเขา เมื่อได้รับคำแนะนำดังนั้น ชายหนุ่มตัดสินใจนำยาฆ่าแมลงชนิดดังกล่าวผสมกับน้ำและแชมพูก่อนที่จะนำไปสระผม แต่แล้วหลังจากนั้นไม่นาน Zhag เริ่มมีอาการคลื่นไส้และวิงเวียนศีรษะ ก่อนที่จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แพทย์จากโรงพยาบาลฉางชา ในมณฑลยูนานเผยว่า เขาได้รับสารเคมีชนิดรุนแรงที่ดูดซึมทางหนังศีรษะของเขา ซึ่งขณะนี้อาการของนาย Zhang พ้นขีดอันตรายแล้วและกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เรื่องราวของหนุ่มรายนี้ได้ทำให้เราเห็นแล้วว่า บางครั้งการเลือกเชื่อเพื่อนบ้านก็อาจจะเป็นวิธีที่ไม่ค่อยจะถูกต้องสักเท่าไหร่ ดังนั้นถ้าหากว่าคุณกำลังมีปัญหาเหมือนกับหนุ่มรายนี้ การพบแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาอาจจะเป็นทางที่ดีกว่านะ ที่มา shanghaiist, weibo, globaltimes
-
พาชม 16 เกมใหม่เปิดตัวในงาน E3 2018 ที่ชาวเกมเมอร์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!!
Electronic Entertainment Expo หรือที่รู้จักกันในชื่อ E3 ถ้าจะว่ากันง่ายๆ ก็คืองานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมวิดีโอเกมนั่นเอง โดยภายในงานจะมีการประกาศเกมใหม่ๆ จากเหล่าค่ายเกมต่างๆ จนกลายเป็นหนึ่งในงานที่ชาวเกมเมอร์ให้ความสนใจกันมากที่สุดงานหนึ่งเลยก็ว่าได้ และในปีนี้เอง เจ้างานสุดยิ่งใหญ่ที่ว่านี้ก็กลับมาเยือนพวกเราอีกครั้ง พร้อมกับเหล่านักพัฒนาที่ขนเอาเกมใหม่ๆ มาให้เราได้ดูกันอย่างคับคั่ง ว่าแต่จนถึงตอนนี้มีเกมอะไรที่ได้รับการประกาศออกมาแล้วบ้าง ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่า เริ่มต้นกันด้วย Halo Infinite ผลิตโดย: 343 industries จัดจำหน่ายโดย: Microsoft วันวางจำหน่าย: ไม่ระบุ ในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรมากนักสำหรับเกมนี้นอกจากจะใช้เอนจินตัวใหม่ที่ชื่อว่า Slipspace Engine Ori and the Will of the Wisps ผลิตโดย: Moon Studios จัดจำหน่ายโดย: Microsoft วันวางจำหน่าย: ปี 2019 ภาคต่อของ Ori and the Blind Forest เกม Metroidvania ยอดเยี่ยมเจ้าของรางวัลมากมายที่ออกมาเมื่อปี 2015 โดยจากที่เห็นในเทรลเลอร์ แนวเกมนั้นยังคงความเป็นเอกลักษณ์ไว้แบบไม่มีอะไรขาดหายไปเลย …
-
Rebecca “Friday” Black กลับมาอีกครั้งกับเสียงร้องสุดไพเราะ ที่ทำเอาคนเกลียดถึงกับยอมแพ้
ถ้าพูดถึงศิลปินเด็ก เราคงนึกชื่อพวกเขาได้มากมายหลายชื่อ ซึ่งในเวลานั้นๆ พวกเขาได้สร้างปรากฏการณ์บางอย่างขึ้นมา ทั้งดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนก็เริ่มลืมเลือนพวกเขาเหล่านั้นไป อาจจะเป็นเพราะว่าบางคนไม่ได้ออกผลงานใหม่ๆ และหันไปเอาดีหรือเดินตามความฝันในด้านอื่นๆ แทน แต่ก็ยังมีคนที่เลือกเดินตามความฝันในการเป็นนักร้องอยู่อย่างเช่น Justin Bieber, Austin Mahone, Sophia Grace รวมถึงคนที่เราจะพูดถึงในวันนี้อย่าง Rebecca Black ใช่!! Rebecca Black ที่เราพูดถึงคือ Rebecca Black คนที่เคยถูกแฟนเพลงเกลียดพอๆ Justin Bieber ตอนเด็กๆ นั่นแหละ เธอได้ออกผลงานแรกด้วยเพลง Friday ในปี 2011 ซึ่งเมื่อเธออัปลง Youtube ปุ๊บ ยอด Dislike ก็พุ่งไปขึ้นรัวๆ ปั๊บ เธอถูกแฟนเพลงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องเสียงร้องที่แหบเหมือนเป็ด และอื่นๆ อีกนานา ถึงขนาดที่เธอถูกขู่ฆ่าเลยเชียวล่ะ ซึ่งถ้าโดนโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์ขนาดนี้ เป็นหลายๆ คนคงรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยและคงไม่พยายามเดินตามความฝันของตัวเองอีกต่อไปแล้ว แต่ไม่ใช่กับ Rebecca เพราะสาวน้อยคนนี้ยังคงเลือกที่จะเดินตามความฝันของเธอต่อไป ล่าสุดเธอได้ไปปรากฏตัวในรายการ The Four: Battle…
-
ผู้จัดการผับเห็นคุณตามานั่งคนเดียวทุกวัน เพิ่งจะได้รู้ความจริงว่า เขาไม่เหลือใครแล้ว…
ในโลกอันแสนกว้างใหญ่ ใครจะรู้บ้างว่ามีบางคนที่ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวแบบที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เรื่องราวของคุณตารายหนึ่งที่มานั่งในผับแห่งหนึ่งคนเดียวเป็นประจำแทบทุกวัน บอกเล่าผ่าน Benjamin Lopez ผู้จัดการผับ The Lord Byron ที่เพิ่งจะมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณตาท่านนี้ และเขาก็ได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ผ่านเฟสบุ๊กของร้าน “นี่คือคุณตา John หนึ่งในลูกค้าขาประจำของเรา เขามักจะสั่งเบียร์สองสามแก้วแทบทุกวัน ผมสังเกตเห็นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีใครคุยกับเขาเลย เขามักจะนั่งอยู่ในความเงียบ ปล่อยให้โลกหมุนรอบตัวเขา และไม่มีใครสนใจเขาเลย วันนี้ผมได้มีโอกาสนั่งคุยแลกเปลี่ยนกับเขา เขาบอกว่าเขาไม่เหลือใครในชีวิตนี้แล้ว คนในครอบครัวล้วนด่วนจากหายไปหมด… และเขาต้องอยู่เพียงลำพังโดยที่ไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยกับใครเลย เขาจึงรู้สึกตื้นตันที่ผมเปิดโอกาสคุยกับเขาทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง ผมไม่ชอบที่เห็นคนต้องใช้ชีวิตตามมีตามเกิดแบบนี้ โดยเฉพาะคนน่ารักเช่นคุณตา ผมอยากให้ใครก็ได้ช่วยแชร์ภาพของคุณตาและฝากข้อความถึงเขานิดๆ หน่อยๆ เพื่อที่จะช่วยเปลี่ยนชีวิตของเขานำรอยยิ้มกลับมา ผมจะโชว์ข้อความเหล่านั้นให้เมื่อเขาแวะเข้ามา” “ผมเป็นผู้จัดการได้เดือนกว่าๆ และผมก็ได้เห็นคุณตา John มักจะเข้ามานั่งในร้านทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เขามักจะดื่มเบียร์ John Smith หนึ่งแก้ว ไม่พูดคุยกับใคร ทั้งที่ผู้คนต่างเป็นมิตรและทักทายเขาเสมอ เขาถูกทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยว” “ผมจึงตัดสินใจไปนั่งคุยกับเขา เขาดูรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้คุยกับผม และเปิดเผยเรื่องราวในชีวิตของเขาให้ผมฟัง เขาเล่าว่าเขาไม่มีครอบครัวแล้ว ทั้งพ่อแม่และพี่ชายเสียชีวิตหมด เขาไม่มีภรรยาหรือลูก เขาบอกว่าใช้ชีวิตเพียงลำพังและไม่มีโอกาสได้คุยกับใครอีกแล้ว”…
-
ควรหรือไม่!! หญิงสาวเมาต่อยหน้าตำรวจ เจอสวนสองหมัดเข้าเต็มหน้า ชาวเน็ตวิจารณ์ให้แซ่ด
แม้ว่าอาชีพเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีหน้าที่ที่ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน แต่พวกเขาก็มีอารมณ์และความรู้สึกเหมือนๆ กับอาชีพอื่นๆ จนบางครั้งพวกเขาก็อาจทำอะไรที่ดูเกินเลยไปบ้าง อย่างเช่นเหตุการณ์นี้ โดยเหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งให้เข้าไปควบคุมสถานการณ์ที่ผับๆ หนึ่งในเมือง Rotterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ หลังจากมีคู่รักคู่หนึ่งไปทำร้ายร่างกายยามเฝ้าประตูผับ ภาพจากวิดีโอได้ที่ถ่ายจากผู้คนในละแวกนั้นได้แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใส่กุญแจมือจับกุมชายหนุ่มซึ่งเป็นหนึ่งในคู่รักดังกล่าวขึ้นรถเพื่อไประงับสติอารมณ์ ทว่าฝ่ายหญิงสาวแฟนของคนที่ถูกจับก็พุ่งเข้ามาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อพยายามโต้เถียงหาเรื่องกับพวกเขา จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชายหญิงดันเธอออกไปจนครั้งหนึ่งเธอหกล้มหัวคะมำลงไปแน่นิ่งอยู่กับพื้น หลังจากนั้น ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงช่วยกันพยุงตัวเธอขึ้นมาให้สามารถยืนขึ้นมาได้ แต่หลังจากเธอยืนขึ้นได้แล้วกลับไปต่อยหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งเข้าซะอย่างนั้น เขาจึงต่อยสวนกลับเข้าเต็มๆ หน้าของผู้หญิงคนนี้อย่างจังถึง 2 หมัด หญิงสาวคนนี้จึงล้มลงไปอีกครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มหมวกแดงอีกคนที่เห็นเหตุการณ์คิดว่า ตำรวจทำรุนแแรงไป เขาจึงพยายามเข้าไปเอาเรื่อง แต่ก็ถูกการ์ดของผับดันออกไปพร้อมกับกล่าวเตือนว่า ‘ไปให้พ้นเลยนะ’ เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างชุลมุนจนในที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ลากตัวเธอไปที่รถตำรวจและจับกุมตัวเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาแถลงว่า ผู้ต้องหาทั้งคู่อยู่ในอาการมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ขณะที่ถูกจับกุม และทางการ์ดของผับก็ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายแก่ทั้งคู่ด้วย โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังกล่าวอีกด้วยว่า นายตำรวจคนที่ต่อยหญิงสาวคนนี้ก็กำลังถูกตรวจสอบด้วยเช่นกันจากความรุนแรงที่เขาใช้ คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ได้สร้างประเด็นเกิดขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างมากมายว่าสมควรหรือไม่ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปต่อยหน้าของหญิงสาวเข้า ซึ่งก็มีความเห็นต่างๆ ดังต่อไปนี้ จากที่เธอทำในตอนแรก เธอก็ได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันแล้วนี่ คิดว่าเขาควรทำไงล่ะ เข้าไปหอมแก้มเธอตอนที่เธอเหวี่ยงแขนเสียสติอย่างนั้นเหรอ…
-
เปิดภาพเด็กๆ ผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ที่ต้องดิ้นรนหางานทำในเลบานอน ทั้งขายของ ขอทาน และคุ้ยขยะ
เปิดภาพชวนสลดใจของเหล่าเด็กๆ ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในเลบานอน ที่หาบขนมและ CD ขาย คุ้ยหาเศษพลาสติกในถังขยะและขอทาน เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยภาพของเด็กๆ ชาวซีเรียอายุระหว่าง 6-10 ปี ที่ลี้ภัยไปอยู่ในประเทศเลบานอนและจำใจต้องทำงานหลายอย่างเพื่อหาเงินมาซื้ออาหารประทังชีวิต จากการประเมินของคณะกรรมการกู้ภัยนานาชาติ (IRC) พบว่าเด็กๆ เหล่านี้น่าจะมีจำนวนมากถึง 180,000 คน ที่ทำงานกระจัดกระจายอยู่ทั่วตะวันออกกลาง โดยงานทั้งหลายที่พวกเขาทำนั้นก็ได้แก่ งานทำสวนทำไร่ ทำเหมือง งานก่อสร้าง ล้างรถ ขายอาหารแห้ง และอีกมากมาย IRC ยังเปิดเผยว่าในจำนวนนี้มีราวๆ พันกว่าคนที่ออกมาขายของตามท้องถนน เช่นขาย CD ขายขนม ไปคุ้ยขยะเพื่อหาเศษพลาสติกที่พอจะนำไปขายได้ หรือพ่อแม่บางคนจะส่งลูกๆ ของพวกเขาลงไปขอทานอยู่ข้างถนน ในขณะที่เหล่าพ่อแม่ของพวกเขาก็ต้องดิ้นรนหางานทำเช่นกัน Sara Manger ผู้ประสานงานการคุ้มครองเด็กของ IRC ในเลบานอนกล่าวว่า “พ่อแม่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายคนที่เรามีโอกาสได้พูดคุยด้วยบอกว่าไม่ต้องการส่งลูกไปทำงานหรอก แต่สำหรับหลายๆ คนมันเป็นวิธีเดียวที่พวกเขาสามารถหาอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ หรือสร้างหลังคาคุ้มศีรษะของพวกเขาได้” นอกจากนี้ยังพบอีกว่า 2…
-
ตำรวจหนุ่ม ได้กลับมาเจอกับ ‘ตำรวจวัยเกษียณ’ ที่เคยทำคลอดเขาเมื่อตอนเด็กๆ อีกครั้ง
บางครั้ง ‘บุพเพสันนิวาส’ ไม่ได้นำพาคู่รักกันให้พบกันเท่านั้น แต่ยังนำพาให้คนสองคนที่เคยช่วยชีวิตกันไว้ตั้งแต่เกิดให้กลับมาพบกันอีกด้วย…. Trooper Michael Patterson เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเรียกตรวจชายคนหนึ่งตามปกติ ผู้ชายคนนั้นชื่อว่า Matthew Bailly ในข้อละเมิดเล็กๆ เกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ในเมือง Kingwood จากการพูดคุยกันเล็กน้อยก็ทำให้ทราบว่าคุณ Bailly นั้นเป็นตำรวจที่เกษียณอายุราชการแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนเขาทำงานอยู่ที่สถานีตำรวจของเมือง Piscataway และที่บังเอิญก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ Trooper เองก็เกิดที่เมือง Piscataway เช่นเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่คุยกันอย่างถูกคอมากขึ้น พอคุยไปคุยมาคุณ Bailly ก็เล่าว่ามีครั้งหนึ่งที่เขาเคยช่วยทำคลอดเด็กที่ถนน Poe Place ในสมัยที่เขายังเป็นตำรวจหน้าใหม่อยู่ เมื่อราวๆ 27 ปีที่แล้ว เขาจำได้ว่าเด็กคนนั้นน่าจะชื่อว่า Michael และเจ้าหน้าที่ Trooper ก็พูดออกมาว่า “ผมชื่อว่า Michael Patterson ครับ ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงที่ทำคลอดผมออกมา” เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคม 1991 หรือเมื่อราวๆ 27 ปีที่แล้ว Karen…
-
คุณพ่อช่วยเปิดประตูให้ ‘หญิงแปลกหน้า’ เธอตอบแทนด้วยความใจดีที่หาที่ไหนไม่ได้!!
บางครั้งการทำอะไรบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ จะถูกยกย่องให้กลายเป็นฮีโร่ในสายตาของคนอื่น และได้รับการตอบแทน… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของคุณพ่อ Rob Edwards ที่เดินทางไปทำธุระที่ธนาคาร ในวันนั้นเป็นวันที่ลูกชายของเขาเรียนจบไฮสคูลพอดี ในระหว่างที่เดินเข้าเข้าไปในธนาคารอย่างภาคภูมิใจในวันที่พิเศษ เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาด้านหลัง แน่นอนว่าปกติทั่วไปแล้วใครที่เจอสถานการณ์แบบนี้ก็ต้องเปิดประตูให้ แต่คุณพ่อกลับเปิดประตูให้อย่างอารมณ์ดี พร้อมกับบอกว่า “เข้าไปก่อนได้เลยคร๊าบบบบ วันนี้ลูกชายของผมเรียนจบ ก็เลยจะทำอะไรให้มันช้าลงหน่อย เพื่อลิ้มรสความสุขนี้ให้นานๆ หน่อย” มีการพูดคุยกันเกิดขึ้นต่อจากนั้นเล็กน้อย แต่การคุยนั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำธุระในธนาคาร หลังจากที่คุณพ่อ Rob ทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาพบบางสิ่งบางอย่างอยู่ใต้โต๊ะใกล้ๆ กับแขนของเขา เป็นกระดาษเขียนว่า “ยินดีด้วยนะ ฉันดีใจกับคุณมากจริงๆ” เพื่อใหม่เขียนบอกเขาแบบนั้น พร้อมกับเงินอีกจำนวน 50 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 1,600 บาท พอทราบดังนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไปหน้าธนาคารเพื่อตามหาเธอ และก็พบว่าเธออยู่อีกฟากของที่จอดรถ คุณพ่อตะโกนบอกว่า “ผมรับมันไว้ไม่ได้!” ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบกลับมาว่า “เวลาคุณพูดถึงลูกชายของคุณ คุณดูเปล่งประกายมาก คุณอยากจะมอบความสุขให้กับเขา ฉันเองก็อยากจะให้ความสุขกับเขาเช่นกัน” …
-
พ่อป่วยเป็นมะเร็ง หนุ่มจีนเลยแอบหนีออกมาร้องไห้ข้างถนน เพราะไม่อยากให้คนในบ้านเห็น
เมื่อไหร่ก็ตามที่คนในครอบครัวมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะรู้สึกไม่สบายใจ และความรู้สึกเหล่านั้นมันคงจะยิ่งแย่เกินบรรยายเข้าไปอีก หากรู้ว่าอาการเจ็บไข้ได้ป่วยที่ว่านั้นรุนแรงจนไม่อาจรักษาได้หรืออาจทำให้คนคนนั้นอยู่กับเราได้อีกไม่นาน เว็บไซต์ China Xinhua News ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีคนพบเห็นชายหนุ่มชาวจีนรายหนึ่งในเมืองเจิ้งโจว ออกมานั่งร้องไห้อยู่ริมถนนคนเดียวในช่วงเย็น เมื่อมีคนเข้าพูดด้วยจึงทราบว่าเขาอยู่ในอาการเสียใจเนื่องจากพ่อของเขาป่วยเป็นมะเร็ง และต้องเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดถึง 4 ครั้ง แต่มันก็ยังไม่ทำให้พ่อของเขามีอาการที่ดีขึ้นเลย ส่วนสาเหตุที่เขาต้องออกมาร้องไห้อยู่ข้างถนนคนเดียวแบบนี้ก็เพราะว่าเขาไม่อยากร้องไห้ที่บ้าน เพราะกลัวว่าคนในครอบครัวจะเห็นเขาในสภาพนี้ หลังจากที่ชายหนุ่มร้องไห้เสร็จแล้วเขาก็ลุกขึ้นปาดน้ำตาและเดินกลับบ้านไปตามลำพัง จากคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตเกิดความรู้สึกสะเทือนใจอยู่ไม่น้อยและร่วมกันแสดงความเห็นเพื่อส่งกำลังใจให้กับเขา “ปวดใจจัง” “ขอให้พ่อแม่ทุกคนบนโลกนี้หากเจ็บไข้ก็ได้รับการรักษาด้วยเถิด” “เขาต้องประคับประคองทั้งครอบครัว ก็เลยต้องมาแอบร้องไห้คนเดียว นี่แหละลูกผู้ชาย” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย เห็นแล้วรู้สึกว่าชายหนุ่มน่าจะมีความทุกข์ใจอย่างที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้แน่ๆ ยังไงแล้วในช่วงเวลาแบบนี้ หากมีใครสักคนที่เป็นที่พึ่งให้กับเราหรือสามารถรับฟังปัญหาของเราได้คงจะดีไม่น้อย ที่มา China Xinhua News
-
เด็กชายถูกบูลลี่เพราะกล่องข้าวสุดมุ้งมิ้ง ชาวเน็ตช่วยสนับสนุนโดยการซื้อกล่องข้าวตาม
การกลั่นแกล้งถือว่าเป็นภัยร้ายที่ถูกซ่อนอยู่ในสังคม โดยที่หลายๆ คนไม่ได้ตระหนักถึงมัน บางทีคนนอกอาจจะมองว่ามันเป็นการหยอกล้อเล่นกัน แต่สำหรับคนที่ถูกกระทำแล้วพวกเขาเหมือนตกนรกทั้งเป็น เรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เช่นกัน เป็นเรื่องของเด็กผู้ชายที่ถูกกลั่นแกล้งเพราะเขานั้นนำกล่องข้าวที่มีลายสุดมุ้งมิ้งไปโรงเรียน แต่ญาติของเขานั้นได้แสดงความช่วยและให้กำลังใจแก่เด็กผู้ชายคนนี้ได้อย่างน่าชื่นชม นี่คือ Ryker เด็กผู้ชายที่เรากล่าวถึง และนี่คือ David Pendragon เมื่อรู้เรื่องว่าเด็กน้อยถูกกลั่นแกล้งเพราะนำกล่องข้างมุ้งมิ้งไปโรงเรียน David Pendragon ญาติของเขาจึงได้คิดวิธีช่วยเหลือเขาโดยการซื้อกล่องข้าวมุ้งมิ้งและนำไปใช้ที่ทำงานเหมือนกัน ใช้ให้ดูกันสดๆ ไปเลย เขาได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ญาติของผม Emily มีลูกชายวัน 10 ขวบชื่อ Ryker ผู้ที่รักแมวเหมียวและตื่นเต้นมากๆ กับกล่องข้าวใหม่ของเขา แต่โชคไม่ดีที่เพราะสีสันหรือบางทีอาจจะเป็นแมวเหมียวหรือทั้งสอง ทำให้เขาถูกคนอื่นในชั้นเรียนกลั่นแกล้ง เขานั้นไม่อยากที่จะเอากล่องข้าวไปโรงเรียนอีกแล้วเพราะเขาไม่อยากที่จะถูกแกล้ง ผมจึงได้ตัดสินใจที่จะช่วยเหลือญาติตัวน้อยของผมและแสดงให้เขาเห็นว่าผู้ชายสามารถรักอะไรก็ได้ที่เขาอยากและไม่กลัวที่จะแสดงความรักนั้นๆ ผมจึงได้สั่งซื้อกล่องข้าวที่เหมือนกับของเขาและยืดอกพกมันไปทำงานด้วยในวันนี้ และในที่ทำงานผมเล่าเรื่องนี้ให้กับทุกคนที่เข้ามาถามเกี่ยวกับเรื่องกล่องข้าว และพวกเขาก็เลือกที่จะสนับสนุน Ryker ด้วย ผมชอบกล่องข้าวใหม่ของผมนะและผมก็หวังว่า Ryker และเด็กผู้ชายอื่นๆ จะเห็นว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้มีอะไรน่าอายเลย” ซึ่งเมื่อเขาแชร์เรื่องราวนี้ลงไปในเฟซบุ๊กก็ได้มีชาวเน็ตหลากหลายคนแชร์และเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกันมากมาย รวมถึงยังมีอีกหลายคนก็เลือกที่จะสนับสนุน Ryker อีกด้วย “บอก Ryker…
-
ชายวัย 22 คลั่งใช้มีดแทงผู้โดยสารบนขบวนรถชินคันเซ็น ตาย 1 บาดเจ็บ 2
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นบนขบวนรถไฟสาย Nozomi Tokoido Shinkansen เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุแทงผู้โดยสารขึ้นบนรถไฟสายดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณเวลา 21:50 ในระหว่างขบวนรถที่กำลังมุ่งหน้าไปยังจังหวัดโอซากะ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนาย Ichiro Kojima หนุ่มวัย 22 ปี ผู้ลงมือก่อเหตุไว้ได้ในระหว่างก่อเหตุ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เป็นหญิงสาววัย 20 ปี 2 คน และชายวัย 38 ปีอีกหนึ่งคน ซึ่งชายคนดังกล่าวถูกแทงเข้าที่คอและเสียชีวิตภายหลัง ส่วนทางด้านหญิงอีก 2 รายได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณคอและลำตัว แต่เจ้าหน้าที่สามารถยื้อชีวิตพวกเธอเอาไว้ได้ คลิปวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้ระหว่างเกิดเหตุ ได้เผยให้เห็นวินาทีที่ผู้โดยสารคนอื่นๆ พยายามหลบหนีไปอีกตู้โดยสาร จากรายงานผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมระบุว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นจากความเครียดและอยากทำร้ายใครบางคน นี่ไม่ใช่เหตุสะเทือนขวัญครั้งแรกที่เกิดขึ้น แต่ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2005 ชายได้ใช้อาวุธปืนทำร้ายผู้โดยสาร 30 คนก่อนที่จะฆ่าตัวตาย นาย Ichiro Kojima ผู้ต้องหา . ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางบริษัท JR…
-
ไปอ่านความเห็นชาวเน็ต หลัง EA จับ Command & Conquer เป็นเกมมือถือ จวกยับสับแหลก!!
ใครเป็นแฟนๆ ซีรีส์ Command and Conquer กันบ้าง? นี่คือหนึ่งในซีรีส์เกม RTS (Real-Time Strategy) หรือที่เรารู้จักกันในฐานะเกมสร้างฐาน ที่โด่งดังที่สุดเกมหนึ่งในอดีตเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ Tiberium, Generals หรือ Red Alert เชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องรู้จักกันสักซีรีส์ล่ะ ถึงอย่างนั้นก็ตามสำหรับหลายๆ คนแล้ว ซีรีส์ Command and Conquer นั้นได้เปลี่ยนไปเป็นอย่างมากตั้งแต่ที่ Westwood Studios เข้าไปอยู่ในมือของบริษัท Electronic Arts หรือ EA ทำให้มีคนจำนวนมากที่ไม่พอใจกับการกระทำของ EA เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และล่าสุดนี้เองทาง EA ก็ได้ออกมาเปิดตัวเกมใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Command and Conquer อีกครั้ง เพียงแต่ในครั้งนี้ Command and Conquer ภาคใหม่ที่ว่านี้ ถูกออกแบบมาในฐานะเกมมือถือนั่นเอง ชื่อของเกมที่ว่านี้คือ Command and Conquer: Rivals เกมว่าแผนการรบแบบหนึ่งต่อหนึ่งบนตารางหกเหลี่ยม ที่จัดอยู่ในจักรวาล Tiberium หนึ่งในสามจักรวาลหลักของซีรีส์…
-
ความจริงของ “ไอศกรีมพารา” ที่คนแชร์ในโลกออนไลน์ ที่แท้ไม่มีขายจริง?
ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หลายๆ คนในโลกออนไลน์น่าจะได้เห็นและแชร์ภาพของไอศกรีมสุดแปลก ที่มีป้ายติดเอาไว้ว่า Paracetamol HTP 500 mg (หรือก็คือไอศกรีมรสยาพารานั่นแหละ) พร้อมกับข้อความว่า “ในฮอลแลนด์ พวกเขาคิดค้นไอศกรีมผสมพาราเซตามอล (500 มิลลิกรัม) เมื่อคุณปวดหัว แทนที่คุณจะไปร้านขายยา ก็เปลี่ยนไปซื้อไอศกรีมสักถ้วยแทน” จากภาพและข้อความดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างตื่นเต้นที่ได้เห็นการนำเอายาพาราและไอศกรีมมาผสมกัน จนอยากจะลองชิมดูสักครั้ง แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังของเจ้าไอศกรีมตัวนี้ไม่ได้มีวางขายกันทั่วไปหรอกนะ และมันก็ถูกเภสัชกรหลายคนต่อต้านจนมีคำสั่งห้ามขายไปแบบถาวรแล้วด้วย เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ gezondheid.blog.nl ของเนเธอร์แลนด์ โดยในเนื้อหาบอกว่าไอศกรีมที่เห็นอยู่นี้ถูกคิดค้นโดยนาย Jan Nagelkerke ที่เปิดร้านไอศกรีมในหมู่บ้าน Oudenbosch ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อเป็นตัวช่วยให้กับผู้คนที่นั่น เนื่องจากในทุกๆ ปีจะมีการจัดงานเทศกาลรื่นเริง และไอศกรีมผสมพาราก็น่าจะช่วยให้คนฟื้นตัวกันได้เร็วขึ้น โดยไอเดียนี้มาจากลูกสาวของเจ้าของร้าน ที่บอกว่าหากผสมยาพาราลงไปในไอศกรีมอาจจะทำให้ยอดขายดีขึ้น Jan Nagelkerke (ขวา) ส่วนผสมที่แท้จริง ตามรายงานระบุว่าในไอศกรีม 1 ถึง จะมีการใส่ยาพาราเซตามอลลงไปประมาณ 20 เม็ด เฉลี่ยแล้ว 1 เม็ด ต่อไอศกรีม 4 สกู๊ป…
-
เกมจบคนไม่จบ!! แฟนบาส Warriors ถูกแฟนบาส Cavaliers รุมตื้บหลังแพ้รอบชิงแชมป์
เมื่อวัน 9 มิถุนายน 2018 ที่เพิ่งผ่านมานี้ สำหรับแฟนบาสคงรู้กันดีว่าเป็นเกมที่ 4 ของเกมชิงแชมป์ของลีกบาสเกตบอลอันดับหนึ่งของโลกอย่าง NBA โดยที่เป็นการพบกันระหว่าง Golden State Warriors และ Cleveland Cavaliers ในถิ่น Cleveland อย่าง Quicken Loans Arena สำหรับคนที่งงระบบเพลย์ออฟจนถึงชิงแชมป์ NBA จะใช้ระบบ 4 ใน 7 ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ชนะได้ถึง 4 เกมก่อนจะชนะในครั้งนั้นๆ ไปและในสถานการณ์ที่เราเอามาให้เพื่อนๆ ได้ชม Cleveland Cavaliers ถูก Golden State Warriors ขึ้นนำไปแล้ว 3 เกม นั่นหมายความว่าพวกเขาแพ้อีกไม่ได้แล้วนั่นเอง แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างพวกเขาในเกมที่ 4 Cavaliers ก็ไม่อาจต้านความแข็งแกร่งของ Warriors ได้ทำให้ Warriors ปิดซีรีส์และขึ้นเป็นแชมป์ NBA ประจำปีนี้ทันที วินาทีที่ทีม Warriors ขึ้นรับถ้วยรางวัล …
-
เด็กหนุ่มวัย 13 ปี โกหกว่าถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่ หวังเอาเงินไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่
เด็กหนุ่มวัย 13 ปีจากประเทศจีน ลงทุนจัดฉากการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ตัวเอง เพื่อหวังนำเงินที่ได้ไปซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานว่า Xiaojun (นามสมมุติ) เด็กหนุ่มวัย 13 ปี ได้โทรบอกคุณแม่ของเขาว่าถูกลักพาตัวไป และต้องการเงินจำนวน 50,000 หยวน (ประมาณ 250,000 บาท) เพื่อเป็นค่าไถ่ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนเวลาประมาณ 5 โมงเย็น นาง Zhang Li (นามสมมุติ) แม่ของเด็กชายรายดังกล่าว ได้รับโทรศัพท์จากปักกิ่งในระหว่างที่เธอกำลังอยู่ที่บ้านในเสฉวน เธอรับโทรศัพท์ดังกล่าว พร้อมกับได้ยินเสียงลูกชายของเธอ “แม่ครับ แม่ครับ” เสียงของลูกชายจากโทรศัพท์ เธอตอบกลับไปด้วยความสงสัยว่านั่นคือเสียงใคร ก่อนที่จะได้รับคำตอบว่าเขาคือชายที่ลักพาตัวลูกชายเธอไป หลังจากผ่านไป 3 ชั่วโมง หญิงสาวได้รับโทรศัพท์อีกครั้งพร้อมกับเสียงร้องไห้ของลูกชายเธอที่ดังมาตามสาย Xiaojun บอกกับแม่ของเขาว่าถูกลักพาตัวมาจากสถานีรถไฟ นอกจากนี้เธอยังได้รับข้อความขู่ให้นำเงินจำนวน 50,000 หยวนไปไว้ที่สถานีรถไฟ ไม่เช่นนั้นลูกของเธอจะต้องตาย และคนร้ายยังได้ส่งภาพของลูกชายเธอพร้อมผ้าปิดปากมาด้วย Zhang…
-
ทีมงานยิ้มออก เมื่อรถ Fake Taxi ที่โดนขโมยไป ถูกพบว่าปลอดภัยดีและถูกส่งให้ทีมงานแล้ว
เชื่อว่าคงมีหนุ่มๆ น้อยคนที่ไม่รู้จัด Fake Taxi รถแท็กซี่ปลอมๆ สุดสยิว ที่ขับไปรับผู้โดยสารไปทั่วเมือง แล้วก็พาขึ้นมาสแด่วแห้วกันบนรถ เมื่อเสร็จภารกิจก็พาไปส่ง แต่ปัญหามันเกิดขึ้นเมื่อรถสุดคลาสสิคคันนี้ดันหายไป!! (อ่านข่าว รถ ‘Fake Taxi’ โดนขโมย ได้ที่นี่เลย) หลังจากที่เราได้รายงานเรื่องนี้ไปเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมาก็ได้มีอัปเดตเพิ่มเติมว่ามีคนพบรถคันดังกล่าวเข้าแล้ว และมันปลอดภัยดี ไม่ได้เสียหายตรงไหนเลย เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Ladbible ได้รายงานว่ามีการพบรถคันดังกล่าวแล้ว โดยเฟซบุ๊กเพจ Fake Taxi ได้ออกมาแถลงการณ์เองว่า “พวกเราดีใจและโล่งใจมาก ที่จะบอกว่าเราเจอรถแท็กซี่ที่โดนขโมยไปแล้ว และอยู่ในสภาพดีเลย จากก้นบึ้งของหัวใจของเรา ขอบคุณประชาชนทั่วไปและแฟนๆ ของเราที่ให้การช่วยเหลือ ถ้าไม่มีพวกคุณเราคงไม่มีความภาคภูมิใจและความสุขขนาดนี้” ภาพจากกล้องวงจรปิด ในวันที่รถแท็กซี่สยิวโดนขโมยไป หลังจากที่ข่าวการได้แท็กซี่คันนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ ก็ทำให้หนุ่มๆ หลายคนรู้สึกโล่งอก ที่แท็กซี่ของมวลมหาประชาชนจะได้กลับสู้อ้อมอกของผู้ผลิตสักที Marlon Ebanks “มันเป็นฉากหนึ่งในหนังหรือเปล่า? หรือว่ามันโดนขโมยไปจริงๆ?” Tom Lamb “ยินดีกับคุณด้วย John…
-
ช่วงเวลาแห่งเกียรติยศ ทหารหนุ่มกลายเป็นคนแรกที่ได้สวม ‘ผ้าโพกหัวซิกข์’ เดินขบวน
กำลังกลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจอยู่ในต่างประเทศ ณ ขณะนี้ กับกรณีของทหารรักษาพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งประเทศอังกฤษ ในขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองวันครบรอบวันประสูติของพระราชินี เรื่องของเรื่องก็คือเขาไม่ได้สวมหมวกพู่สีดำเหมือนกับทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ แต่กลับสวมผ้าโพกหัวแทน เนื่องจากว่าเขาเป็นชาวซิกข์!? นาย Charanpreet Singh Lall วัย 22 ปี เป็นหนึ่งในทหารรักษาพระองค์จำนวนนับพันคนที่มาร่วมขบวนพาเหรดในวันเฉลิมฉลองวันครบรอบวันประสูติของพระราชินี เขาสวมผ้าโพกหัวสีดำที่เป็นธรรมเนียมของชาวซิกข์ แตกต่างจากหมวกขนสีดำเหมือนกับทหารคนอื่นๆ ทำให้เขาได้รับการจับตามองจากผู้คนเป็นจำนวนมาก นายทหาร Lall กล่าวว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่มีการสวมผ้าโพกหัวแบบซิกข์ ในขบวนพาเหรดของทหารรักษาพระองค์ และผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก” “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้คนจะมองเรื่องนี้ว่า เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์” Lall และครอบครัวย้ายจากอินเดียมาอยู่ที่อังกฤษตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ เขาเข้าร่วมกองกำลังรักษาพระองค์ในปี 2016 และจากนี้ไปเขาก็อยากจะให้กำลังใจกับทุกคนกล้าที่จะลองมาสมัครเพื่อเป็นทหาร “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้คนอื่นๆ ที่เหมือนผม ไม่ใช่แค่ชาวซิกข์เท่านั้น แต่จากศาสนาอื่นๆ รวมไปถึงคนอื่นๆ ที่มีเบื้องหลังแตกต่างกันออกไป มีความกล้าหาญที่จะมาสมัครเข้าร่วมกับกองทัพ” “สำหรับผมแล้ว การได้เป็นคนแรกที่สวมผ้าโพกหัวซิกข์เพื่อเดินขบวนเฉลิมฉลองในงานพิธีถือเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับตัวของผมเอง และหวังว่าคนอื่นๆ จะได้รับเกียรตินี้ด้วยเช่นเดียวกัน” Lall กล่าว ที่มา :…
-
2 สาวโชคดีได้อัปเกรดเป็น “ชั้นบิสซิเนส” ฟรีๆ เพราะเป็นเพียงแค่ 2 ผู้โดยสารบนเครื่องบิน
คงจะดีไม่น้อยถ้าเกิดว่าเราได้มีโอกาสได้โดยสารเครื่องบินส่วนตัวเดินทางไปที่แห่งไหนสักที่ แต่การที่เราจะทำแบบนั้นเราก็ต้องมีเงินเยอะมากๆ พอที่จะจ่ายค่าเหมาลำเครื่องบินสักเที่ยวหนึ่ง แต่ทว่าสาวสองคนนี้ กลับโชคดีที่อยู่ๆ ก็กลายเป็นผู้โดยสารเพียง 2 คนที่เหลืออยู่ในเที่ยวบิน เสมือนว่าเธอสองคนได้ทำการเหมาเครื่องบินเจ็ทลำนี้จากท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์บินตรงสู่นิวยอร์กไปโดยปริยาย สายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ไม่ได้ยกเลิกเที่ยวบินเที่ยวนี้แต่อย่างใด ถึงแม้ว่าผู้โดยสารจะมีเพียงแค่ 2 คน ลูกเรือก็ยังคงให้บริการที่จะส่งให้เธอเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังอัปเกรดให้เธอทั้งสองกลายเป็นผู้โดยสารชั้นบิสซิเนสได้อย่างฟรีๆ Yvette Francis กับ Peaches Murray สองสาวผู้โชคดีเดินทางมาถึงเครื่องบินก็พบว่า เที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินร้างเนื่องจากผู้โดยสารท่านอื่นอีก 147 ท่านไม่ได้มาร่วมเดินทางกับเธอทั้งสองคนในครั้งนี้ได้ ด้วยความผิดพลาดของสายการบิน ทำให้เธอไม่สามารถย้ายเที่ยวบินได้ ทั้งสองคนได้รับบริการสุดพิเศษจากลูกเรือ ด้วยอาหารสุดพิเศษจากสายการบิน พร้อมเครื่องดื่มซิกเนเจอร์เฉพาะสายการบินเดลต้าเท่านั้น Yvette กล่าวว่า “เรารู้สึกตกใจและตื่นเต้นมาก นักบินบอกว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้มีโอกาสสุดพิเศษแบบนี้” แหม่ ถ้าเราโชคดีได้โดยสารเที่ยวบินส่วนตัว พร้อมกับได้ทานอาหารอร่อยๆ แบบฟรีแบบนี้ น่าจะตื่นเต้นสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย ที่มา thesun
-
ชาวบ้านพากันร้องเรียนนักดนตรีเป่าแตรดังไปหน่อย เลยโดนตำรวจจับใส่ข้อมือเลย
เป็นปกติของการเล่นดนตรี ที่จะต้องมีการส่งเสียงดังของการร้องรำทำเพลง แต่ถ้าคุณไปส่งเสียงผิดที่ผิดทาง หรือดังไปหน่อย คุณอาจจะถูกจับเอาได้นะ… เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอเรื่องราวของนาย John McDonald นักดนตรีเป่าปี่สก็อต ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากเพื่อนบ้านในละแวกนั้นว่าเขาเป่าปี่ดังเกินไป ตามรายงานบอกว่าเขาถูกจับกุมในเมืองเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการแจก “ใบเหลือง” แก่เขาเพื่อเป็นการเตือนไม่ให้ทำผิดซ้ำอีก และขอให้เขาเล่นดนตรีข้างถนนแค่ 6 วันต่อสัปดาห์ (ลดไป 1 วัน) จากกรณีของนาย John McDonald แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้หารือกันเพื่อที่จะควบคุมนักดนตรีข้างถนนไม่ให้ส่งเสียงดังเกินไปจนรบกวนคนที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นด้วย ในระหว่างที่เขากำลังเล่นดนตรีอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินเข้าไปใกล้ๆ เขาเนื่องจากเสียงที่ดังเกินไป แต่ McDonald ก็ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ จึงถูกจับใส่กุญแจข้อมืออย่างที่เห็น ทั้งนี้เคยมีการลงบันทึกประจำวันกับเหล่านักดนตรีข้างถนนที่ร้องรำทำเพลงเสียงดังมาแล้ว แต่หลายๆ คนก็ไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ อย่างนาย McDonald เองก็ถูกจำคุก 1 วัน ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมาในวันถัดไป ทางโฆษกของตำรวจในเมืองเอดินบะระบอกว่าการกระทำครั้งนี้ไม่ได้เป็นการที่จะจับกุมเหล่านักดนตรี เพราะพวกเขาก็ยังคงเปิดโอกาสให้หลายๆ คนได้แสดงออกและทำให้เมืองนี้สดใสขึ้น…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง ถูกยกให้เป็น ‘ฮีโร่’ หลังยืนตากฝน ช่วยเจ้าเต่าให้ปลอดภัย
บางครั้งการเป็นฮีโร่ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากการทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่เสมอไป…. เช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงท่านนี้ที่ถูกยกย่องให้กลายเป็นฮีโร่อย่างการทำเรื่องเล็กๆ ยืนตากฝนเพื่อช่วยเจ้าเต่าข้ามถนน!! เรื่องมีอยู่ว่า Carolyn B. R. Hammett และสามีได้ขับรถกลับบ้านในเมืองกรีนเบลท์ รัฐแมร์รี่แลนด์ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก แต่แล้วเธอก็บังเอิญสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างอยู่ท่ามกลางถนน ตอนแรกเธอเข้าใจว่าอาจจะมีเหตุการณ์น้ำท่วมจนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาช่วยอำนวยความสะดวก “พอเรามองเข้าไปใกล้ๆ แล้วก็พบว่าตำรวจกำลังยืนบังให้กับอะไรสักอย่างอยู่” คุณ Hammett เล่า คุณ Hammett พบว่าเจ้าหน้าที่ยืนบังฝันให้กับเจ้าเต่า เพื่อให้มันสามารถเดินข้ามถนนไปได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะหากไม่ทำแบบนั้นมันอาจจะมองไม่เห็นทางแล้วก็เดินวนอยู่กลางถนนจนถูกรถชนก็ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นเป็นผู้ช่วยชีวิตเจ้าเต่าอย่างแท้จริง!! “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอยืนตรงนั้น ตากฝนเป็นเวลานานเพื่อช่วยเต่า ไม่มีใครทำแบบนั้นแน่นอน แม้มันจะไม่ใช่หน้าที่แต่เธอก็พยายามทำเพื่อปกป้องชีวิตชีวิตหนึ่งที่อยู่ร่วมกันในโลกใบนี้” คุณ Hammett และสามีตัดสินใจจอดรถ และเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกแรงหนึ่ง ด้วยการเอาร่มไปกางให้กับเธอ รวมไปถึงขับรถกลับไปที่บ้านเอาผ้าขนหนูมาให้กับเธอด้วย พอสอบถามแล้วก็ทำให้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นเองก็กำลังเดินทางกลับบ้านเช่นกัน จากนั้นเธอก็พบเห็นเจ้าเต่าตัวนี้กำลังเดินข้ามถนนท่ามกลางสายฝน เธอพยายามติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ แต่ก็ไม่มีการตอบรับ จึงตัดสินใจที่จะทำบางอย่างเพื่อป้องกันอันตรายไม่ให้เกิดขึ้นกับมัน จากการช่วยเหลือของพวกเขาทำให้เจ้าเต่าสามารถข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย “เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงความขอบคุณให้กับเรา และเราก็ขอบคุณเธอ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป รอยยิ้มของเธอมันทำให้เรารู้สึกดี และเป็นกำลังใจให้กับพวกเรา นี่แหละคือสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะมี” เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้มีชื่อว่า Sharnise…
-
ศิลปินหนุ่มเปลี่ยน ‘ขยะพลาสติก 3 ตัน’ ให้กลายเป็นป่าหลากสีสัน เพื่อสร้างจิตสำนึกให้เด็กๆ!!
ในอนาคตจะเป็นอย่างไรไม่มีทางรู้ได้ แต่ที่แน่ๆ เลยคือตราบใดที่เรายังคงบริโภคกันอยู่ ก็จะทำให้เกิดขยะขึ้นมากมาย โดยและพลาสติก ก็ถือเป็นวัสดุที่ผู้คนใช้กันมากมาย แต่ข้อเสียของมันก็คือการย่อยสลายของมันนี่ แหละที่อาจจะต้องใช้เวลานานมากๆ อาจจะเป็นพันๆ หมื่นๆ ปีเลยทีเดียว จึงต้องมีการนำมันไปรีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก เช่นเดียวกันกับศิลปินชาวเดนมาร์กชื่อว่า Thomas Dambo ที่นำขยะพลาสติกมาตกแต่งให้กลายเป็นสวนหลากสีสันแสนงดงาม โดยให้คอนเซ็ปต์ว่า ‘ป่าไม้ในอนาคต’ เพื่อให้คนตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลาสติกและสิ่งแวดล้อม มันสามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว “ผมเชื่อว่านี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โลกของเราถูกปกคลุมไปด้วยขยะ เพราะผู้คนไม่รู้ว่าขยะเหล่านั้นถูกนำไปทิ้งที่ไหน หรือเอาไปทำอะไรบ้าง และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับพวกมันดี” “ผมคิดว่าเราควรจะเฉลิมฉลองเพื่อแสดงให้เห็นว่าขยะเหล่านี้มันงดงาม เราสามารถนำมันมาสร้างเป็นสิ่งสวยๆ เหล่านี้ได้ เพราะการทำแบบนี้เด็กๆ ที่เติบโตมาในอนาคตเขาอยากจะทำงานกับขยะก็ได้” “พวกเขาจะได้ไม่มองว่าพวกมันน่าเกลียด และน่าขยะแขยง แต่มันสวยงามและมีคุณค่า” Thomas กล่าว นอกจากต้นไม้ก็ยังมีสัตว์ต่างๆ ที่ทำขึ้นมาจากพลาสติกอีกด้วย . . . ที่มา : designyoutrust, boredpanda
-
หนุ่มดู Infinity Wars เพิ่มเป็น 45 รอบ แถมได้รับเชิญให้ไปดูรอบพรีเมียร์ของภาคต่อไป!!
จากที่ #เหมียวหง่าว ได้นำเสนอเรื่องราวของ หนุ่มแฟนพันธุ์แท้ของ Marvel ดูหนังเรื่อง Avengers : Infinity Wars ในโรงมากกว่า 43 รอบด้วยกัน จากอัปเดตล่าสุดก็พบว่าพี่แกดูเพิ่มจนครบ 45 รอบไปแล้ว!! และที่สำคัญเขาได้รับการติดต่อจาก Marvel เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรลองไปอ่านพร้อมๆ กัน เรื่องมีอยู่ว่านาย Tony Mitchell หรือ Nem – The Infinity Watcher ชายผู้หลงใหลในจักรวาล Marvel เขาใช้เวลาไปทั้งสิ้นกว่า 112 ชั่วโมงในการชมภาพยนตร์ภาคล่าสุดของ Avengers และจากความคลั่งไคล้ของเขาก็ทำให้ได้รับผลตอบแทนจากทาง Marvel ด้วยตั๋วเข้าชมหนังเรื่อง Avengers : Infinity Wars พาร์ตที่สอง รอบปฐมทัศน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าจำนวนเงินที่เขาเสียไปกับการดูหนัง สามารถซื้อตั๋วหนังรอบปฐมทัศน์ได้เลย แต่การดูซ้ำๆ กันหลายครั้งก็ถือเป็นความสุขของเขา “ผมเติบโตมาจากการดูการ์ตูนแบบ X-Men แล้วก็คิดว่า…
-
พยาบาลลืมปิดไดร์เป่าผม เป็นเหตุให้ทารกวัย 4 วันได้รับบาดเจ็บสาหัส จนต้องตัดขาทิ้ง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศจีน หลังจากที่คุณหมอจำเป็นต้องตัดขาทารกน้อยรายหนึ่ง เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสจากไดร์เป่าผมที่พยาบาลเปิดทิ้งเอาไว้ ไดร์เป่าผมดังกล่าวถูกเปิดทิ้งไว้ใส่ทารกน้อยวัย 4 วันนานกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสังเกตเห็น จากการรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่าทารกรายดังกล่าวคือทารกเพศชาย ซึ่งทางทีมแพทย์จำเป็นต้องตัดขาข้างซ้ายของเขาทิ้งเพื่อรักษาชีวิตเจ้าหนูน้อย ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องตรวจเผยให้เห็นพยาบาลได้ทำการเป่าตัวเด็กน้อย หลังจากที่เพิ่งอาบน้ำให้เขาเสร็จ และกำลังเป่าตัวเขาด้วยไดร์ ก่อนที่จะลืมมันทิ้งไว้บริเวณใกล้กับขาเด็กน้อย ทางห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเด็กน้อยถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉิน ผิวหนังของเขาน้อยมีอาการแตก “ถ้าหากเธอเอาใจใส่เด็กๆ และปิดไดร์เป่าผมได้ทันมันคงจะไม่เกิดเรื่องร้ายๆ กับลูกของผม” ผู้เป็นพ่อของเด็กกล่าว ส่วนทางด้านคุณยายของเจ้าหนูน้อย ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธอรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสงสารหลานที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ “เขาต้องกลายเป็นเด็กพิการตั้งแต่อายุแค่ 4 วัน อนาคตของเขาต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร” เธอให้สัมภาษณ์ ส่วนเด็กน้อยที่อยู่ข้างๆ อีก 2 คนก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน แต่ทั้งสองไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด ทางด้านพยาบาลและเจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขาคิดว่าปิดอุปกรณ์ต่างๆ เรียบร้อยแล้วก่อนออกจากห้อง ทางด้านโฆษกของโรงพยาบาล ได้ออกมาขอโทษต่อกรณีดังกล่าว พร้อมกับรับผิดชอบค่าใช้ในการรักษากว่า 3 ล้านบาทให้กับทางครอบครัวด้วย และนี่คือคลิปวิดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าว ที่มา thesun
-
“6 ปีที่รอคอย” สาวสวมชุดครุยข้ามประเทศ ไปหาคุณพ่อที่โดนเนรเทศจากอเมริกา
วันจบการศึกษา เป็นอีกหนึ่งวันแห่งความยินดีและความภาคภูมิใจของใครหลายๆ คน เป็นโอกาสพิเศษสุดน่าประทับใจที่จะได้มีคนมาร่วมแสดงความยินดี โดยเฉพาะการแสดงความยินดีจากคนที่เรารักอย่างเช่น ครอบครัว เรื่องนี้เป็นเรื่องราวสุดแสนประทับใจของสาวน้อยวัย 18 ปี ชื่อว่า Leslie Silva กับวันจบการศึกษาของเธอ ซึ่งความจริงแล้วมันน่าจะเป็นวันที่ครอบครัวของเธออยู่พร้อมหน้ากันที่สุด แต่ครอบครัวเธอไม่สามารถมาแสดงความยินดีได้ทุกคนเนื่องจากว่า เธอกับคุณพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน!! นาย Milo Silva ถูกเนรเทศให้ไปอยู่ที่ประเทศเม็กซิโกตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งทำให้ครอบครัวนี้ต้องพลัดพรากจากกัน ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามครอบครัวนี้ก็ยังหาเวลาเพื่อพบเจอกันทุกๆ วันหยุด ในวันจบการศึกษาเธอก็อยากให้พ่อได้แสดงความยินดีกับเธอด้วย แต่เนื่องจากว่าเขาไม่สามารถเดินทางมาแสดงความยินดีกับเธอที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ เธอจึงได้เดินทางไปหาพ่อของเธอด้วยตัวเอง ในการเดินทางครั้งนี้ เธอพกความสำเร็จไปให้คุณพ่อได้ชื่นชม ด้วยการสวมชุดครุยสีม่วงข้ามประเทศไปหาพ่อของเธอ เพื่อให้เขาได้มีโอกาสได้แสดงความชื่นชมยินดีกับลูกสาวในวันจบการศึกษา เธอนัดพ่อให้ไปเจอกันที่สะพาน Yselta-Zaragoza สะพานเชื่อมมิตรภาพระหว่างประเทศเม็กซิโก-สหรัฐอเมริกา พร้อมกับสวมชุดครุยเดินไปหาคุณพ่อ ทันทีที่สองพ่อลูกเจอกันน้ำตาแห่งความชื่นชมยินดีก็ไหลออกมา พ่อลูกสวมกอดกันเพื่อแสดงความรัก โมเมนต์สุดประทับใจนี้ถูกถ่ายวิดีโอเก็บเอาไว้โดยพี่สาวของเธอ หลังจากที่เธอได้โพสต์คลิปวิดีโอนี้ลงบนทวิตเตอร์ก็ได้รับยอดวิวไปกว่า 3.9 ล้านครั้ง https://twitter.com/twitter/statuses/1003680287514087431 เป็นอีกหนึ่งคลิปวิดีโอสุดแสนประทับใจที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจและเศร้าในเวลาเดียวกัน ใครที่ยังมีครอบครัวอยู่ข้างๆ ก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้คุ้มค่าที่สุดนะ ที่มา abcnews
-
บริษัทญี่ปุ่นออกแบบกิโมโนสไตล์โมเดิร์น ที่ถูกดีไซน์ให้เข้ากับคนยุคใหม่มากขึ้น
นี่เป็นคอลเลกชันใหม่จากญี่ปุ่นจากแบรนด์เสื้อผ้าที่ชื่อว่า Mocolle ที่นำเอาชุดกิโมโนที่ถือเป็นชุดประจำชาติ มาดัดแปลงดีไซน์ใหม่ ให้ทันสมัยขึ้น สวมใส่สบายขึ้นและเหมาะกับการใส่อยู่บ้านมากขึ้น คอลเลกชันที่ว่านี้มีชื่อ Showa Modern kimono roomwear หรือก็คือชุดกิโมโนยุคโชวะแบบโมเดิร์นที่เอาไว้ใส่อยู่บ้านนั่นเอง ชุดที่ว่านี้มาแบบ 2 ชิ้น คือส่วนบนและส่วนล่าง ส่วนบนจะเป็นชุดแขนยาวแบบหลวมๆ ใส่สบาย และส่วนล่างจะมีลักษณะเหมือนกางเกงฮากามะเอวสูง แต่มาในรูปแบบกระโปรงที่แมตช์กันมาอย่างดี ด้วยการสวมใส่ที่ง่ายและผ้าที่น้อยชิ้น ทำให้ผู้สวมใส่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าสีสันต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ส่วนใหญ่แล้วการออกแบบเสื้อผ้าของ Mocolle จะได้รับอิทธิพลมาจากการคอสเพลย์และอนิเมะ ทำให้ชุดที่ได้ออกมาจะมีความสวยงามแฟนซีอยู่หน่อยๆ ตอนนี้ชุดกิโมโนโชวะโมเดิร์นชุดนี้ยังไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่กำลังระดมทุนอยู่ในเว็บไซต์ Camfire โดยสนนราคาอยู่ที่ชุดละ 12,640 เยน หรือประมาณ 3,694 บาท การระดมทุนที่ว่านี้ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ โดยตั้งเป้าให้มีคนร่วมระดมทุน 1 ล้านเยน ซึ่งตอนนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 49 วันก่อนจะครบกำหนด หากใครสนใจสามารถเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ camp-fire ได้เลย สวยงาม น่าใส่ไปเดินถ่ายรูปเล่นจริงๆ มีสีสันให้เลือกอยู่หลายแบบทีเดียว . .…
-
ญี่ปุ่นมีบริการให้ “ยืมร่มฟรี” ทั่วประเทศผ่านเครื่องอัตโนมัติ เพราะอาจมีพายุเมื่อไหร่ก็ได้
ไม่ต้องจ่าย? บริษัทญี่ปุ่นให้บริการยืมร่มฟรีแก่ประชาชนเนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว หากใครเคยไปญี่ปุ่นหรือเคยอ่านข่าวจากญี่ปุ่นมาบ้าง คงจะเห็นว่าที่ประเทศแห่งนี้มีตู้ขายของอัตโนมัติมากมายขนาดไหน ทั้งขายน้ำ ขายของเล่นกาชา ขายอาหาร ขายตุ๊กตา และอีกสารพัดตู้ขายของ ด้วยเหตุนี้บริษัทตู้ขายของอัตโนมัติแห่งหนึ่งเลยเพิ่มเติมสินค้าเข้าไปอีก 1 อย่าง นั่นก็คือร่ม แต่จะบอกว่าเป็นสินค้าก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะเขาให้คุณเอาไปได้ฟรีๆ เลย!? แม้ในช่วงนี้ญี่ปุ่นจะเข้าสู่ฤดูร้อน แต่ก็อาจเกิดความชื้นจนมีฝนตกได้แบบฉับพลัน บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มและตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติในประเทศญี่ปุ่นอย่าง Dydo เลยเพิ่มคุณสมบัติให้กับตู้ขายของโดยการติดตั้งช่องใส่ร่มไว้ข้างๆ ตู้ แล้วให้คนมาหยิบยืมมันไปใช้ได้ตลอดเวลา ต้องบอกเลยว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาให้บริการร่มฟรี เพราะโครงการนี้เริ่มมีการทดลองมาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว ในตอนนั้นทางบริษัทได้เริ่มทดลองในหมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองโอซาก้า แม้ตอนแรกจะมีความกังวลอยู่ว่าทาง Dydo อาจจะสูญเงินเปล่า แต่ผลที่ได้กลับดีกว่าที่คิด เพราะเหล่าผู้คนที่มาหยิบร่มไปนำเอากลับมาคืนที่ตู้หมดเลย จากนั้นมาทาง Dydo จึงเริ่มแผนการขยับขยายบริการนี้ออกไปยังพื้นที่อื่นเช่นโตเกียว และมีความตั้งใจที่จะขยายมันให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งตอนนี้พวกเขาได้ประกาศว่ามีการติดตั้งบริการร่มไว้กับตู้ขายเครื่องดื่มแล้วกว่า 500 ตู้ แม้ว่าการทำแบบนี้อาจจะไม่ได้สร้างรายได้ให้กับ Dydo ในทางตรง แต่มันก็เพิ่มโอกาสที่ผู้คนจะเดินเข้ามาที่ตู้แล้วซื้อน้ำกับตู้ของพวกเขาสักกระป๋องสองกระป๋องก็ได้ บริษัท Dydo ได้เปิดเผยว่าร่มทั้งหมดที่พวกเขานำเอามาให้บริการประชาชนนั้น ส่วนหนึ่งมาจากร่มที่ผู้คนใช้แล้วพากันลืมไว้บนรถไฟของผู้ให้บริการเช่น Japan Railways, Tokyu…
-
หนุ่มใส่สูทเดินถนน จู่ๆ เดินไปเตะหน้าคนไร้บ้านที่นอนข้างถนนแบบงงๆ แถมยังไร้สาเหตุอีก!!
เป็นความจริงที่ว่าคนที่มีเงินมากกว่า แต่งตัวดูดีมากกว่า อาจจะดูมีภาษีดีกว่าคนที่ไร้ซึ่งเงินทอง แต่ว่าใช่ว่าจะสามารถทำอะไรได้ตามแต่ใจตัวเองต้องการและไปสร้างความเดือดร้อนอย่างการทำร้ายร่างกายกับผู้อื่นได้ เหมือนกับชายคนนี้ที่แต่งตัวแสนจะดูดี แต่ว่าจู่ๆ กลับเดินไปเตะเข้าที่หน้าของคนไร้บ้านซะอย่างนั้น โดยเหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นที่เมืองซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกล้องได้จับภาพของชายคนหนึ่งที่ตรงปรี่เข้าไปทำร้ายคนที่นอนอยู่ริมถนนได้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ภาพจากกล้องได้แสดงให้เห็นว่าชายคนดังกล่าว คือคนที่สวมสูทสีน้ำเงินเข้มพร้อมกับใส่หมวกไหมพรมที่กำลังเดินข้ามไปยังย่าน Tenderloin และมุ่งหน้าลงไปยังทิศใต้ของถนน Leavenworth เหตุการณ์ก็ดำเนินไปอย่างปกติทุกอย่าง จนกระทั่งชายคนดังกล่าวได้เดินกลับมาที่ถนน Leavenworth อีกครั้งแล้วเตะเข้าที่หน้าของคนไร้บ้านที่นอนอยู่ริมถนน 2 ครั้งอย่างไม่มีสาเหตุหรือแรงกระตุ้นอะไรแต่อย่างใด ซึ่งชายไร้บ้านคนดังกล่าวก็นอนขดตัวลงด้วยความหวาดกลัว หลังจากนั้นชายใส่สูทคนนี้ก็ได้พูดอะไรบางอย่างกับเขาก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่รู้ๆ ก็คือเขาได้ทำร้ายร่างกายอย่างตั้งใจแถมยังไร้ที่มาด้วยว่าทำไมจู่ๆ ถึงเดินเข้าไปทำอย่างนั้น คลิปเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายคนไร้บ้านครั้งนี้ ในตอนนี้ตำรวจกำลังความหาตัวผู้ต้องสงสัยคนนี้อยู่ พร้อมกับได้ตั้งข้อหาเอาไว้รอแล้วก็คือการทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เห็นเขาคนนี้ก็คือที่สถานีรถไฟใต้ดิน Civic Center BART ที่เขาใช้เป็นการหลบหนีนั่นเอง แต่ก็คาดไว้ว่าจะหาตัวได้ในเร็ววัน ก็ไม่น่าจะทำอย่างนี้นะ… ที่มา: dailymail, thesun
-
“ไอดอลสุดซ่า ป๊ะป๋าสั่งลุย” การ์ตูนยากุซ่าที่เดินทางมาแปลงเพศที่ไทย กำลังจะมีอนิเมะแล้ว!!
ไทยเราขึ้นชื่อมากเรื่องการศัลยกรรม ไม่ว่าจะใบหน้าหรือการแปลงเพศ จนถึงขนาดที่ว่ามีการจัดทัวร์จากต่างประเทศเพื่อมาแปลงโฉมกันที่นี่แล้วบินกลับบ้านแบบสวยๆ เลยก็มีให้เห็นกัน และไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้จะไปเตะตานักเขียนการ์ตูนคนหนึ่งจนมันกลายเป็นหนังสือการ์ตูนที่ชื่อว่า Back Street Girls หรือชื่อไทยว่า ไอดอลสุดซ่า ป๊ะป๋าสั่งลุย ซึ่งมันกำลังจะกลายเป็นอนิเมะให้เราชมกันเร็วๆ นี้แล้ว!? สำหรับใครที่ไม่รู้จัก Back Street Girls เราจะเล่าเรื่องย่อๆ ก็คือ มันเป็นเรื่องของ 3 หนุ่มจากแก๊งยากุซ่า Kentaro Yamamoto (เรียกสั้นๆ ว่า “ลูกพี่”) Ryo Tachibana (เรียกสั้นๆ ว่า “เรียว”) และ Kazuhiko Sugihara (เรียกสั้นๆ ว่า “คาสุ”) ที่ดันไปทำเรื่องไม่ดีๆ เข้า จนหัวหน้าของพวกเขารู้สึกไม่พอใจจนอยากจะสั่งฆ่าตัดตอนลูกกระจ๊อกทั้ง 3 คน แต่ด้วยไอเดียบรรเจิดของหัวหน้าที่เคยเห็นวงไอดอลอย่าง AKB48 ประสบความสำเร็จ เขาจึงสั่งให้พวกเขาเลือกว่าจะยอมตายหรือจะไปแปลงผ่าตัดเพศที่ประเทศไทยแล้วกลายเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปร้องเพลงอยู่บนเวที? 3 หน่อเลยจำใจเลือกอย่างหลัง แล้วก็เกิดเป็นกลุ่มไอดอลที่ชื่อว่า “โกคุดอลส์” และจะด้วยความบังเอิญหรือฝีมือทางการแพทย์ของไทยก็ไม่ทราบได้ วงโกคุดอลส์ดันดังเป็นพลุแตก และกลายเป็นขวัญใจของมหาชนไปแบบไม่น่าเชื่อ ทำให้ทั้ง 3…
-
เด็ก 10 ขวบ โดนจับใส่กุญแจมือฉี่แตก เพราะตำรวจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนร้าย?
กรณีของคนผิวสีในต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นทำหรือโดนดูถูกเหยียดหยาม ก็อาจกลายเป็นประเด็นให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ได้ ว่าผู้กระทำนั้นเป็นคนเหยียดสีผิวเช่นกรณีดังต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอเรื่องราวของเด็กชาย Michael Thomas Jr. วัย 10 ขวบ ขณะวิ่งเล่นอยู่ในสนามหญ้าที่บ้านตายายในรัฐชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่จู่ๆ เขาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายพยายามวิ่งไล่จับเขาเพราะคิดว่าเขาแอบพกอาวุธปืนติดตัว เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกได้โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @Matsamon เผยให้เห็นภาพของเด็กชายผิวสีที่กำลังร้องไห้และถูกใส่กุญแจมือไว้ที่ด้านหลัง โดยฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ้างว่าพวกเขาได้รับแจ้งเหตุหลายครั้งว่ามีเด็กอายุราวๆ 10-12 ปีพกอาวุธปืนอยู่ในบริเวณนั้น เมื่อพวกเขาเห็นเด็กชาย Michael ที่มีรูปลักษณ์ตรงกับที่ได้รับแจ้งเหตุพวกเขาก็พยายามเดินเข้าไปใกล้ แต่เด็กชายเกิดอาการตกใจจนวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องวิ่งตาม เมื่อชาวบ้านในบริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์เข้า พวกเขาก็พยายามตะโกนใส่ตำรวจว่าเพื่อให้ปล่อยตัวเด็กซะ ทางตำรวจจึงตอบกลับว่า “เราจะปล่อยตัวเขาไปเมื่อเราค้นตัวเขาเสร็จแล้ว” เมื่อเหตุการณ์เริ่มใหญ่โต คุณยายของ Michael จึงออกมาดูเหตุการณ์และกล่าวกับตำรวจว่า “คุณก็เห็นนี่ว่าเขาไม่มีอาวุธอะไรเลย ฉันถกเสื้อเขาดูก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไร เอากุญแจมือนั่นออกซะ” หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นแล้วไม่พบอาวุธปืนตามที่พวกเขาคิด พวกเขาก็ปลดกุญแจข้อมือของเด็กชายออก ทันทีที่ Michael ได้รับอิสรภาพเขาก็ร้องไห้และรีบวิ่งไปหายายของเขาทันที วิดีโอนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกทวิตเตอร์พร้อมกับข้อความว่า “นี่มันบ้าไปแล้ว เด็กผิวสี 10 ขวบเล่นอยู่นอกบ้านตายาย…
-
สาวทำโทรศัพท์หาย หนุ่มเก็บไว้ได้ เอาไปบันทึกการเที่ยวในงานเทศกาลก่อนเอามาคืน!!
ใครเล่าจะรู้ว่าการทำโทรศัพท์หาย จะเจอเรื่องราวแปลกๆ แบบนี้ได้!! เรื่องมีอยู่ว่า Kelly Rennick สาววัย 20 ปี ได้ไปร่วมงานเทศกาลดนตรีสดในเมืองมัลลินการ์ เขตเวสต์มีธประเทศไอร์แลนด์ ในคืนแรกของเทศกาล ขณะเดินกลับไปที่พัก เธอบังเอิญทำโทรศัพท์ของตัวองหล่นหาย แต่มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อวันต่อมา และที่แปลกไปอีกคือมีคนเอากลับมาคืนอีกทีในวันสุดท้าย!? “เอาจริงๆ นะในคืนนั้นฉันเมามาก และเมื่อรู้ว่ามันหายไปฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียดาย แต่กลับรู้สึกตลกเสียด้วยซ้ำ เพราะโทรศัพท์มันเครื่องเก่าแล้วอีกทั้งยังจอแตกอีกต่างหาก ฉันเลยยอมรับได้ถ้าหากว่ามันหายไปเลย” “แต่ในเช้าวันต่อมาฉันก็กลับไปหาดูที่เดิม และผมว่ามันไม่อยู่ที่นั่นแล้ว จากนั้นก็กลับมาวนดูที่เดิมอีกสองสามครั้ง ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน จนสุดท้ายในวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงานเทศกาลฉันก็ไปดูอีกรอบและพบว่ามันอยู่ที่นั่น!! ไม่อยากจะเชื่อเลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น 2 วันมันไม่อยู่ตรงนี้” อย่างไรก็ตาม Kelly ไม่สามารถชาร์จโทรศัพท์ได้จนกระทั่งวันจันทร์ตอนเย็นหลังจากที่กลับมาจากเทศกาลแล้ว พอเปิดโทรศัพท์ก็พบกับเรื่องที่ทำให้เธอต้องเซอร์ไพรส์ เพราะดันมีคลิปวิดีโอหลายคลิป ที่ถ่ายโดนวัยรุ่นผู้ชายที่เก็บโทรศัพท์ของเธอได้ พวกเขาบันทึกเรื่องราวการผจญภัยของพวกเขาตลอดงานเทศกาลเอาไว้ ในคลิปหนุ่มคนหนึ่งพูดว่า “ไง ผมเจอโทรศัพท์ของคุณน่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะไม่ขโมยมันหรอก มันอยู่ในความปลอดภัยแล้ว ผมไม่ใช่คนเลว แต่ผมจะพาคุณไปผจญภัยในงานเทศกาลดนตรีนี้เอง” “เมื่อฉันชาร์จโทรศัพท์…
-
สองสาวนั่งกินจิ้มจุ่ม ด้วยความโชคดี พบ “ปีเตอร์” อยู่ในหม้อถึง 8 ตัว!! อิ่มอร่อยเลยทีนี้…
คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีมากขนาดไหน? หากคิดว่าตัวเองโชคดีมากแล้วล่ะก็ คุณอาจเทียบไม่ได้เลยกับสาว 2 คนนี้ คงไม่แปลกที่บางครั้งเราจะเจอกับสิ่งแปลกปลอมในอาหารบ้าง อย่างเช่นพลาสติก เส้นผมแม่ครัว หรืออาจเป็นแมลงสาบ!! ซึ่งอย่างมากเราคงจะเจอแค่ตัวเดียว ชิ้นเดียว แต่ความโชคดีของสาวๆ 2 คนนี้ พวกเธอได้เจอมากถึง 8 ตัวในหม้อเดียว!! เฮลโล ปีเตอร์… ตอนนี้อาจมีคนอุทานกันในใจว่า “โชคดีพ่อคุณสิครับ” ก็แหมมม ลองคิดดูสิว่าเราจะต้องมีดวงขนาดไหนถึงจะได้เจอแจ็คพ็อตใหญ่ขนาดนี้กันล่ะจริงมั้ย? อุอุ ภาพที่เห็นนั้นเกิดขึ้นในร้านอาหารแห่งหนึ่งของเมือง Haikou ประเทศจีน 2 สาวกำลังกินจิ้มจุ่มอย่างเอร็ดอร่อย จนกระทั่งใช้ตะแกรงตักเจอแมลงสาบ เมื่อตักหาไปเรื่อยๆ ก็พบถึง 8 ตัวด้วยกัน แน่นอนว่าเจ้าของร้านอาหารดังกล่าวรีบปรี่เข้ามาหวังว่าจะปิดเรื่องนี้ไว้เงียบๆ แต่ 2 สาวนิรนามนั้นเลือกที่จะปฏิเสธการกินฟรีในมื้อนั้น พวกเธอตัดสินใจแจ้งเรื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีร้านนี้ในทันที คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปัจจุบันยังไม่มีการรายงานว่าร้านอาหารที่เราเห็นนี้จะต้องโดนลงโทษอะไรบ้าง แต่เชื่อว่านี่คงจะเป็นมื้ออาหารในความทรงจำของลูกค้าทั้งสองอย่างแน่นอน และหวังว่าข่าวนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ รู้สึกเจริญอาหารมากยิ่งขึ้นนะ ที่มา: sina , shanghaiist
-
โจรขโมยสุนัข 15 ตัวใส่รถตู้ นี่มัน ป้ามหาภัยจากเรื่อง 101 Dalmatians ตัวจริงชัดๆ!!
หลายๆ คนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากับตัวร้ายจากเรื่อง 101 Dalmatians อย่าง Cruella de Vil สาวหน้ายับที่ปรากฏตัวพร้อมกับเสื้อขนฟูกันได้เป็นอย่างดี ล่าสุดดูเหมือนว่าตัวละครวายร้ายจากเรื่อง 101 นี้จะออกมาโลดแล่นบนโลกแห่งความเป็นจริงเสียแล้ว หลังจากที่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมหญิงวัย 40 ข้อหาขโมยลูกสุนัข Bridget Darling ผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวพร้อมกับสุนัขพันธุ์แควาเลียร์คิงชาลส์สแปเนียล ถึง 11 ตัวด้วยกัน หญิงวัย 40 ปีร่วมมือกับสามีของเธองัดเข้าไปในบ้านของ Petrie-Harrison และ Craig Jackson ก่อนที่จะขโมยลูกสุนัขไปทั้งสิ้น 15 ตัว เป็นมูลค่ากว่า 6,500 บาท (ประมาณ 270,000 บาท) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และพบรถต้องสงสัยที่กำลังออกจาก Vauxhall Astra ไปยัง Barry Darling ใน West Yorkshire ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่าได้ติดตามพฤติกรรมของคนร้ายมาตั้งแต่เมื่อปี 2015 แล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังมีเจ้าตูบอีก 4 ตัวที่หายตัวไป และหนึ่งในนั้นเป็นสุนัขเพศเมียที่กำลังอุ้มท้อง สองสามีภรรยาให้การยอมรับ ซึ่งทั้งสองจะได้รับโทษจำคุกระหว่าง 12-16 เดือน แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้สุนัขทั้ง 4…
-
รองนายกฯ ญี่ปุ่น สละเงินเดือน 1 ปี อ้างรับผิดแทนเจ้าหน้าที่คดีปลอมเอกสาร
นาย Taro Aso รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ประกาศคืนเงินเดือนเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเป็นการรับผิดชอบกรณีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงที่เขารับผิดชอบ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีปลอมแปลงเอกสาร เพื่อเอื้อประโยชน์ในการขายที่ดินของรัฐให้ต่ำกว่าราคาจริง คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2016 หลังจากที่มีการขายที่ดินของรัฐในเขตเศรษฐกิจพิเศษให้กับกิจการโรงเรียนเอกชน Moritomo Gakuen ด้วยราคาต่ำกว่าตลาด ซึ่งเจ้าของโรงเรียนมีความสนิทสนมกับนาง Akie Abe ภริยาของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ตามการรายงานของสื่อต่างประเทศ เมื่อวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้เปิดเผยผลการตรวจสอบภายในกระทรวง พบว่ามีเจ้าหน้าที่อาวุโสมากกว่า 20 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องและต้องได้รับโทษ นาย Shinzo Abe นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและภริยา เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องถูกลงโทษทางวินัย พักงาน และตัดเงินเดือน ในขณะที่บางรายออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือนาย Nobuhisa Sagawa อดีตปลัดกระทรวงการคลังซึ่งประกาศลาออกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมยอมให้รัฐหักบำนาญหลังเกษียณของเขา นาย Nobuhisa Sagawa อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ทางด้านนาย Aso ได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับบอกว่ามันเป็นความน่าละอายใจอย่างยิ่ง “เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ควรเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสาร หรือส่งเอกสารปลอมเหล่านั้นไปให้สภา มันเป็นเรื่องที่น่าละอายใจอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่สมควรอย่างมาก ผมรู้สึกเสียใจอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ แต่อย่างไรก็ตามสื่อต่างประเทศรายงานว่า การประกาศคืนเงินเดือนแก่รัฐของนาย Aso…
-
เศรษฐีจีนทุ่มเงิน 1,000 ล้าน สร้างหมู่บ้านให้คนชนบทอยู่ฟรี เพราะ “อยากตอบแทนบ้านเกิด”
ความกตัญญูถือเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับสังคมบ้านเรามาอย่างช้านาน ในประประเทศจีนเองค่านิยมในเรื่องของความกตัญญูก็เป็นเรื่องที่อยู่คู่กับคนจีนมาตั้งแต่อดีตเช่นเดียวกัน ดังเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะหยิบมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ ที่เศรษฐีชาวจีนรายหนึ่งทุ่มเงินมากกว่า 200 ล้านหยวน หรือราวๆ 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างบ้านแจกให้กับผู้คนในหมู่บ้านชนบท อันเป็นบ้านเกิดของเขา Chen Sheng วัย 54 ปี ตัดสินใจใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างบ้านให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกวนหู มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพราะที่หมู่บ้านแห่งนั้นเป็นหมู่บ้านเกิดของเขา เขาจึงตัดสินใจมอบบ้านสุดหรูให้กับทุกคนในหมู่บ้านแบบฟรีๆ เพื่อตอบแทนบุญคุณ ภาพโดยรวมของหมู่บ้าน แม้ว่าในช่วงแรกจะมีปัญหาในเรื่องของการโต้แย้งกันว่าใครจะเป็นผู้รับบ้านใหม่ กับการจัดการกับบ้านเก่าอย่างไร รวมถึงชาวบ้านอีกหลายคนก็บอกว่าลูกหลานแต่งงานกันไป ครอบครัวมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ไม่มีพื้นที่พอในการอยู่อาศัย จนทำให้ระงับการก่อสร้างชั่วคราว แต่สุดท้าย Chen ก็ตัดสินใจสร้างต่อไป และใช้วิธีในการ ‘จับสลาก’ มาเป็นตัวตัดสินว่าใครจะได้บ้านหรือไม่ได้บ้านไป ภาพภายในบ้าน ที่มา : xinhanews, chinaplus
-
เคสคดีสุดเศร้า ‘ชาถุงเดียว ติดคุก 10 ปี’ จงใจสร้างหลักฐานเท็จ ใส่ร้ายขนยาข้ามประเทศ!!
เรื่องราวคดีความที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดของ Alexei Novikov ในเดือนกันยายนปี 2015 ชายวัย 34 ปีผู้นี้ กำลังจะออกเดินทางไปพบกับภรรยาและลูกสาวของเขาในเมืองซามารา ประเทศรัสเซีย ด้วยการขับรถยนต์ผ่านเส้นทางลัดตัดเข้าชายแดนคาซัคสถาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างเดินทางเขาจึงเลือกผ่านด่าน Isikul Road จนกระทั่งมาถึงด่านตรวจ เขาถามเจ้าหน้าที่ว่าสามารถเดินข้ามชายแดนได้หรือไม่ แต่ก่อนที่จะได้รับคำตอบ เขาถูกบังคับให้แสดงสิ่งของในเป้สะพายเพื่อตรวจสอบ และการดิ่งลงเหวของเขาก็เริ่มขึ้น… Alexei Novikov ในระหว่างการตรวจค้นกระเป๋า เจ้าหน้าที่ชายแดนพบกับถุงพลาสติกเขียนกำกับไว้ว่า Diabetisan ประกอบไปด้วยใบของพืชอบแห้งหลายชนิด Alexei พยายามอธิบายว่ามันเป็นชื่อของผลิตภัณฑ์ใบชา อันเป็นใบชาจากธรรมชาติ สำหรับดื่มป้องกันและลดอาการของโรคเบาหวาน บนถุงได้ระบุคำอธิบายไว้เป็นภาษาสเปนอ่านได้ใจความว่า ‘สมุนไพร 6 ชนิดใช้เพื่อป้องกันและรักษาโรคเบาหวาน’ นอกจากอธิบายแล้ว เขายังชักชวนให้เจ้าหน้าที่ลองต้มและชิมด้วยตัวเอง แต่ข้อเสนอกลับถูกปฏิเสธและเรียกสุนัขดมกลิ่นมาตรวจสอบแทน… ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ทว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเขียนรายงานตามนั้น กลับเขียน “พบสารสีเขียวเข้ม มีกลิ่นลักษณะคล้ายกับชามิ้นท์” ลงไปแทน และถุงชานั้นก็ถูกยึดไปทันที แม้ว่าเขาจะพยายามอธิบายถึงความสำคัญ ของชาที่นำเข้ามาจากเปรูเพื่อใช้เป็นยารักษา กลับไม่มีใครสนใจสักคนเดียว แต่ก็ดันปล่อยตัวให้เขาข้ามชายแดนไป ภายหลังจากการเดินทางข้ามชายแดนมา…
-
ชาวบ้านสงสัย ใครมา ‘อึ๊’ ทิ้งไว้บนถนนหน้าบ้านเป็นปี สุดท้ายจับได้แบบคาหนังคาเขา!!
ชาวบ้านต้องเผชิญกับ ‘กองอึ’ ของมนุษย์อยู่บริเวณหน้าถนนมากกว่า 30 ครั้งใน 1 ปี!? จนในที่สุดก็จับตัวคนร้ายได้แบบคาหนังคาเขาขณะกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่เลยทีเดียว หลังจากที่ Steve ผู้เป็นหนึ่งในชาวบ้านที่ต้องพบเจอกับปัญหาถึงกับทนไม่ไหว เขาคิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อจับตัวคนร้ายให้ได้ เขาขับรถออกไปจอดตามที่ต่างๆ บนถนน Greenslopes เพื่อตามหาดูว่าใครเป็นคนทำกันแน่!! จากคำเล่าลือ หรือข้อมูลที่ได้รับมาจากกล้องวงจรปิด ก็ทำให้รู้ว่าเป็นฝีมือของนักวิ่งคนหนึ่ง ที่มักออกมาวิ่งในทุกๆ เช้า Steve และเพื่อนบ้านร่วมกันขับรถออกไปจอดตามที่ต่างๆ เฝ้ามองดูคนที่ออกมาออกกำลังกายในตอนเช้าทีละคนๆ จนในที่สุดก็มีผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งเป็นผู้ชายสูงวัยมีลักษณะตรงกับข้อมูลแบบเป๊ะๆ Steve จึงพยายามติดตามการเคลื่อนไหวของเขาอย่างห่างๆ เส้นทางการวิ่งของเขา และที่อยู่อาศัย เขาตามอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จนในที่สุดผู้ชายคนนั้นก็ลงมือ ทำให้ Steve และเพื่อนบ้านสามารถจับเขาได้แบบคาหนังคาเขา!! “เขาแค่พูดว่า ‘สวัสดี’ เท่านั้นเอง“ Steve เล่าตอนจับได้คาหนังคาเขา ชายคนดังกล่าวถูกเรียกว่า Andrew Douglas Macintosh เป็นชายวัย 64 ปี อาศัยอยู่ห่างออกไปจากที่เกิดเหตุแค่ราวๆ 1 กิโลเมตรเท่านั้น เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับพื้นที่สาธารณะ เขาเลือกที่จะเสียค่าปรับเป็นจำนวน 12,000 บาท…
-
แฟชั่นบล็อกเกอร์สุดมั่น เขียนคิ้ว 3018 หนาเตอะ ทวีความหนาเพิ่มขึ้น จนเต็มหน้าผาก!!
Anzhelika Protodyakonova แฟชั่นบล็อกเกอร์สาวจากรัสเซีย เริ่มต้นด้วยการแต่งหน้าล้ำกระแส จนกลายมาเป็นที่ชื่นชอบและแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์กันเลยทีเดียว เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ณ ดินแดนบ้านเกิดในรัสเซีย ระหว่างที่เธอกำลังโดยสารรถประจำทางในเมืองยาคุตสค์ ความโดดเด่นในคิ้วของเธอไปสะดุดตาของผู้โดยสารท่านอื่น ชนิดที่ว่าละสายตาออกห่างไม่ได้จนถ่ายภาพมาแชร์ในโลกออนไลน์ กลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว Anzhelika จึงได้รับฉายา ‘นางฟ้าคิ้วดก’ ไปโดยปริยาย แม้ในตอนแรกเธอจะรู้สึกอายกับภาพที่ถูกถ่ายไป แต่เธอก็นำจุดแข็งตรงนี้มาใช้จุดประกายให้ตัวเอง แถมยังกลายมาเป็นกระแสดีต่อเนื่องอีกต่างหาก!! ภาพถ่ายของ Anzhelika นอกจากจะดังในประเทศแล้ว ก็ยังข้ามไปดังไกลนอกประเทศอีก ถึงขั้นชนิดที่ว่าแฟชั่นบล็อกเกอร์คนอื่นต้องมาสอนแต่งหน้าสไตล์นี้กันเลย ฮร่าาาา เธอคิดว่าจะหยุดแค่ตรงนี้ก็น่าเสียดาย เธอจึงพยายามไปให้ไกลกว่านั้น ด้วยการเขียนคิ้วให้หนาและใหญ่กว่าเดิม ใหญ่จนแทบจะปิดทั้งหน้าผากของเธอแล้ว!! ถึงแม้ว่าหลายคนจะมองว่าแปลก แต่ความดังแบบแปลกๆ ของเธอก็ฉุดไม่อยู่ รายการทีวีในประเทศต่างเชิญตัวไปออก มีคนติดตามอินสตาแกรมเยอะขึ้น ได้เป็นพรีเซนเตอร์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ ก็เพราะคิ้วหนาๆ ของเธอนี่แหละ ที่มา: @anzhelika_protodiakonova, bloknot-yakutsk, odditycentral
-
แม่ทิ้งลูกชายวัย 3 ขวบให้เลี้ยงน้องทารกที่บ้าน สุดท้ายเอาตะปูให้น้องกินเกือบตาย!!
เด็กๆ เป็นวัยไร้เดียงสาที่ยังไม่รู้ถึงเท่าทันของความอันตรายในสิ่งต่างๆ ดังนั้นคนที่เป็นพ่อเป็นแม่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะเกิดเรื่องที่เป็นอันตรายต่อชีวิตขึ้นได้เหมือนกับเหตุการณ์นี้ ที่มีทารกคนหนึ่งเกือบตายเพราะพี่ชายวัย 3 ขวบเอาตะปูป้อนให้กินในตอนที่แม่ไม่อยู่บ้าน!! เหตุการณ์ที่เกือบคร่าชีวิตน้อยๆ ให้หายไปนี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาในประเทศจีน โดยเริ่มขึ้นจากคุณแม่คนหนึ่งที่ออกไปข้างนอกและทิ้งให้ลูกชายวัย 3 ขวบของเธอเลี้ยงน้องที่ยังเป็นวัยทารกที่มีอายุเพียง 37 วันอยู่ที่บ้านอยู่เพียงลำพัง หลังจากนั้นเมื่อเธอทำธุระเสร็จแล้วกลับมาที่บ้านก็ต้องตกใจ เพราะลูกน้อยวัยทารกของเธอมีน้ำลายฟูมปากออกมาอย่างน่ากลัว จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างรวดเร็วที่สุด ทางทีมแพทย์ได้ใช้การเอกซเรย์ตรวจดู แล้วก็พบว่ามีตะปูถึง 3 ตัวอยู่ในบริเวณกระเพาะอาหาร ซึ่งทางผู้เป็นแม่ก็สอบถามลูกชายวัย 3 ขวบว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเด็กก็บอกว่าได้เอาตะปูให้น้องกิน แต่ถึงอย่างนั้นทางทีมแพทย์ดังกล่าวก็ปฏิเสธการรักษา เพราะมีอุปกรณ์ที่ไม่เพียบพร้อมและมีความเสี่ยงมากเกินไป จึงส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลเด็กเจิ้งโจว ในมณฑลเหอหนาน ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ช่วยเอาตะปูออกจากท้องของเด็กคนนี้ และด้วยผลจากการเอกซเรย์ทางหัวหน้าแพทย์ Li Xiaoqin ก็ตัดสินใจเลือกการใช้ส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารพร้อมกับแม่เหล็ก เพื่อที่จะเอาตะปูทั้ง 3 อันออกจากตัวของเด็กน้อยคนนี้ “แม้ว่าเด็กแรกเกิดจะสามารถใช้วิธีการส่องกล้องได้ แต่เราก็ไม่สามารถที่จะนำตะปูออกมาได้โดยใช้อุปกรณ์ที่มีความบางเกินไป ดังนั้นแล้วเราจึงมีความจำเป็นจะต้องใช้ขนาดถึง 7.5 มิลลิเมตร ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็กลัวเกินไปเหมือนกันว่ามันจะเกิดอันตรายต่อเด็ก แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็เห็นว่ามันที่ดีกว่าการผ่าตัด” นายแพทย์ Li กล่าว …
-
แพทย์แนะหนุ่มนักดนตรี ให้เล่นกีตาร์ระหว่างผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ป้องกันอัมพาตหลังผ่า…
เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อของนาย Robert Alvarez ผู้ถูกวินิจฉัยเป็นเนื้องอกในสมองระดับ Low-grade ในปี 2013 โดยเจ้าตัวยังทำใจยอมรับไม่ได้ และขอเลื่อนเข้ารับการรักษามาโดยตลอด Robert Alvarez ผู้รอดชีวิตจากเนื้องอกในสมอง เนื่องจากแพทย์ผู้วินิจฉัยกล่าวกับเขาไว้ว่า การผ่าตัดอาจทำให้เขาเป็นอัมพาตได้ เขาจึงขอเวลาทำใจสักระยะ ระหว่างนั้นเขามีอาการซุ่มซ่ามและหลงๆ ลืมๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ Robert ในวัย 19 ปี รู้สึกถึงความเสี่ยงในชีวิตกับการตัดสินใจเข้ารับผ่าตัด หากผลออกมาเป็นอัมพาตก็ยิ่งแย่กว่าการใช้ชีวิตอยู่กับเนื้องอก “ผมหวังได้เพียงแค่ไม่ให้มันกระจายไปมากกว่านี้ และต้องระวังเรื่องของการใช้ชีวิตให้มากขึ้น” หลังจากเรียนจบระดับมัธยมปลายแล้ว Robert จึงออกเดินตามฝันสายอาชีพนักดนตรีเข้าเรียนในสายวิศวกรเสียง ในขณะที่คุณแม่ของเขาดิ้นรนหาวิธีการรักษาลูกชายที่เสี่ยงน้อยที่สุด… แต่อาการก็ยิ่งแย่ลงขึ้นเรื่อยๆ เพราะอาการใหม่เริ่มแสดงออกมาให้เห็นชัดยิ่งขึ้น ในคืนหนึ่งเขานอนตกเตียงเนื่องจากมีอาการชักแทรกซ้อนในระหว่างนอนหลับ จนในที่สุดคุณแม่จึงตัดสินใจพาเขาเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์สถาบัน MD Anderson Cancer Center Sujit Prabhu ศัลยแพทย์ผู้รับผิดชอบเคสของ Robert นายแพทย์ Sujit Prabhu…
-
พิสูจน์โลกแบนด้วยวิธีบรรเจิด หนุ่มถ่ายภาพขอบฟ้ามา พร้อมโชว์คำนวณส่วนโค้งให้เห็นชัดๆ
ในต่างประเทศยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เนืองๆ กับหัวข้อโลกแบน จนกระทั่งมีการรวมกลุ่มรวมตัวของผู้ที่มีความเชื่อดังกล่าว ถึงขั้นจัดเป็นงานประชุมสัมมนาขนาดใหญ่กันเลยทีเดียว แม้จะมียานอวกาศถูกส่งไปนอกโลกก็แล้ว มีภาพถ่ายหลักฐานแสดงลักษณะทางกายภาพของโลกก็แล้ว ยังไง๊ยังไง ทฤษฎีโลกแบนก็ยังมีคนเชื่ออยู่ดี วันนี้วันดีอากาศสดใส แดดมันก็จ้าซะเหลือเกิน ต่อให้โชว์หลักฐานยังไง คนที่เชื่อแบบนั้นก็ยังไม่ยอม เพราะฉะนั้นแล้วนักดนตรีในนาม GregPagel วัย 47 ปี จากเมือง Manitowoc รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา จึงใช้วิธีหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง… เห็นขอบฟ้านั่นมั้ย มันดูแบ๊นแบนใช่มั้ยล่ะ? แต่ผมได้ยินมาว่าโลกมันกลม ผมโดนโกหกอยู่รึเปล่า? ซูมเข้าไปออกสักนิด ก็แบนอยู่ดี แบนจริงๆ เห็นมั้ย? มาดูมุมกว้างๆ แบบพาโนรามากันบ้าง ก็ยัง ‘แบน’ เอาล่ะ จะมาพิสูจน์กันว่าแบนจริงๆ มั้ย… ภาพจาก Google Earth นั้น ทางด้านซ้ายคือชายฝั่งแม่น้ำ Two Rivers ทางด้านขวาคือชายหาด Silver Creek…
-
สาวอึใส่ถุงพลาสติกบนรถทัวร์ คนขับบอกลบหลู่ “เทพรถบัส” สั่งให้เธอลงไปขอขมา!!
บางครั้งการทำเรื่องน่าอายมันอาจบานปลายกลายเป็นการสร้างความไม่พอใจให้ใครบางคน หรืออาจไปขัดกับความเชื่อของคนคนนั้น เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นจากการที่หญิงสาวแซ่ Wang กำลังเดินทางบนรถบัสกับสามีของเธอ ระหว่างนั้นเธอกลับเกิดอาการปวดท้องต้องการถ่ายหนักขึ้นมา สาวแซ่ Wang (เสื้อชมพู) หากจะให้เธอเปิดหน้าต่างยื่นตูดออกไปอึ มันก็คงจะดูไม่ดีสักเท่าไหร่ เธอจึงตัดสินใจควักเอาถุงพลาสติกออกมาแล้วอึลงไปใส่ในนั้นแทน เมื่อถึงจุดพักรถ เธอก็รีบวิ่งลงเอาของเสียไปทิ้งที่ถังขยะ แต่แน่นอนว่ากลิ่นของมันทำให้ผู้โดยสารแทบทุกคนรู้ว่าเธอทำอะไรบนรถคันนี้ รถคันนี้เดินทางออกจากเมือง Chongqing ประเทศจีน (ในวันที่ 1 มิ.ย. 2018) และสิ่งที่เธอทำลงไปก็ได้สร้างความไม่พอใจให้กับคนขับรถแซ่ Zeng เป็นอย่างมาก จากประสบการณ์การขับรถทัวร์ของเขา มองว่าพฤติกรรมนี้เป็นการลบหลู่ “เทพเจ้ารถบัส” ด้วยเหตุนั้นเอง เขาจึงสั่งให้หญิงสาวต้องลงไปคุกเข่าขอขมาต่อหน้ารถ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่ออกรถต่อ เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี เลยจำเป็นต้องทำตามอย่างที่คนขับสั่ง เดินลงจากรถไปคุกเข่าอยู่ด้านหน้า แสดงความเคารพต่อเทพเจ้ารถบัส ขอขมาในสิ่งที่ทำลงไป สุดท้ายเธอก็ต้องลงไปกราบรถขอขมาเทพเจ้ารถบัส คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การที่เธออึบนรถไม่ได้ทำให้เธอต้องลงไปขอขมาเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากนั้นเธอยังถูกร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย ซึ่งตอนนี้ยังคงอยู่ในช่วงพิจารณาคดี เรื่องราวนี้ทำให้ #เหมียวตะปู แอบคิดถึงวลีเด็ดอย่าง “กราบรถกู!!” ที่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา…
-
‘ยกโทษให้หนูด้วย’ หนูน้อยวัย 5 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายจนเสียชีวิต เหมือนไม่มีตัวตน…
ปัญหาความรุนแรงภายในสถาบันครอบครัวยังคงฝังรากลึกอยู่ในทุกประเทศ และความโหดร้ายในครั้งนี้ก็ถูกเปิดเผยออกมาจากสื่อประเทศญี่ปุ่น กับเหตุพ่อเลี้ยงกระทำลงโทษเด็กหญิง 5 ขวบจนเสียชีวิต เนื่องจากการบังคับให้อยู่ในลู่ทางที่ตนต้องการ ยูอะจัง เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงบังคับและลงโทษอย่างรุนแรง ถูกปฏิบัติอย่างไร้ตัวตนในครอบครัว หลังจากที่พ่อเลี้ยงแต่งงานกับแม่ของเด็กในปี 2016 และให้กำเนิดลูกชายอีก 1 คน พ่อเลี้ยงทำร้ายและทุบตียูอะจัง บังคับให้ทานอาหารกับน้ำซุปเพียงแค่วันละ 1 มื้อเท่านั้น เนื่องจากเขาคิดว่าเธอมีน้ำหนักมากเกินไป เธอมักจะถูกปลุกตั้งแต่ช่วง 4.00 น. เพื่อมาชั่งน้ำหนักทุกๆ วัน และถูกจับแยกให้นอนคนเดียว ซึ่งในบางครั้งถูกบังคับให้นอนบริเวณระเบียงด้านนอกในช่วงอากาศหนาวด้วย ช่วงก่อนเกิดเหตุสลด เพื่อนบ้านสังเกตเห็นเด็กมีเลือดออกตามใบหน้า และถูกบังคับให้มายืนข้างนอกโดยไม่สวมถุงเท้าและรองเท้าใดๆ จนกระทั่งเธอถูกนำตัวส่งไปยังสถานสงเคราะห์เป็นการชั่วคราว แต่สุดท้ายพ่อเลี้ยงและแม่ก็กลับมารับ โดยก่อนกลับไปบ้าน เด็กเคยบอกให้รับรู้ว่าอยากจะไปอยู่กับคุณย่ามากกว่า ระยะสุดท้ายในช่วงเดือนมกราคม ครอบครัวนี้ได้ย้ายมาอยู่ในกรุงโตเกียว แต่ทว่าเพื่อนบ้านสังเกตถึงความผิดปกติ ทั้งที่มีลูก 2 คน แต่กลับปรากฏตัวเพียงแค่เด็กชายคนเดียว จนมารู้ทีหลังว่าน้องยูอะจังนั้นถูกขังลืมเอาไว้ภายในบ้าน ในที่สุดแล้ว น้องยูอะจัง ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล เรื่องจากสภาพร่างกายที่ถูกทำร้ายอย่างหนัก ร่างกายซีดขาว…
-
สุดเกรียน!! สาวทำสแตนดี้ Danny DeVito ไปงานพรอม เขาเลยเอาคืนโดยทำสแตนดี้เธอบ้าง
พวกเราน่าจะเคยเห็นในข่าวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับเด็กหนุ่มหรือเด็กสาวที่ปลื้มดารา คนดังสักคนและเมื่อถึงช่วงที่มีการจัดงานพรอมก็จะขอให้พวกเขามาเป็นคู่เดตให้ หรือไม่ก็ทำสิ่งที่เป็นตัวแทนพวกเขาอย่างเช่นสแตนดี้ควงไปงานเสียเลย ซึ่ง Danny DeVito ก็เป็นหนึ่งดาราคนดังที่มีคนทำสแตนดี้ขนาดเท่าตัวจริงของเขาและควงไปงานพรอมด้วย!! Danny ผู้กำกับและนักแสดงลูกครึ่งอิตาเลียนและอเมริกา ผู้มีชื่อเสียงจากการแสดงซีรีส์เรื่อง Taxi ในปี 1983 แต่เราอาจจะจดจำเขาได้ดีจากบทของ Penguin ตัวร้ายจาก Batman Returns จากข้อความข้างต้น เราได้กล่าวไปแล้วว่าคนมีทำสแตนดี้ของ Danny แล้วนำไปนำไปเดินควงในงานพรอมด้วย คนๆ นั้นคือ Allsion Closs สาวสวยที่เพิ่งจะเรียนจบมัธยมไปหมาดๆ เธอเป็นแฟนตัวยงของซีรีส์เรื่อง It’s Always Sunny in Philadelphia ที่ Danny แสดงอยู่เลยล่ะ เธอได้ทำวิดีโอบันทึกภาพการนำสแตนดี้ของ Danny ไปงานพรอมด้วยนะ Allison กล่าวเกี่ยวกับงานพรอมของเธอว่า “ดูเหมือนว่าผู้ชายดีๆ จะถูกชวนไปเป็นคู่เดตหมดแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ฉันก็ไม่ได้สนใจเขา และก่อนที่จะถึงวันงานหนึ่งวันฉันก็คิดไอเดียนี้มาได้ ว่าถ้าฉันเอาสแตนดี้ของ Danny DeVito ไปแทนล่ะ ฉันรัก Danny มาเสมอ…
-
หญิงตัดสินใจจบชีวิตคู่ลง หลังสามีถามว่า ‘จะเลือกฉันหรือหมา?’ และเธอเลือก ‘หมา’
ชีวิตของเรามักจะมีทางแยกให้เราต้องเลือกมากมาย… เช่นเดียวกันกับหญิงหม้ายท่านนี้ ที่ต้องเลือกระหว่างชีวิตของเหล่ามะหมาจรจัดกับชีวิตการแต่งงานของตัวเอง เรื่องมีอยู่ว่า Liz วัย 49 ปี เธอเป็นคนรักหมามากๆ ทำให้เธอตัดสินใจรับหมาจรจัดมาเลี้ยงไว้ที่บ้านไม่ต่ำกว่า 30 ตัว เธอได้แต่งงานกับชายคนหนึ่ง และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยชอบในสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่สักเท่าไหร่ จนมาถึงวันที่เขามอบทางเลือกให้กับเธอ “สามีของฉันโทรมาแล้วบอกว่า จะเลือกเขาหรือว่าหมา แน่นอนว่าฉันเลือกหมา และฉันก็ไม่เจอเขาหรือได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเขาอีกเลยตั้งแต่นั้น” “เขาบอกว่าเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป และต้องการที่จะหยุดอยู่แค่นั้น ฉันยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนที่จะทิ้งเหล่าบรรดาหมาที่น่ารัก เขาก็เลยตัดสินใจที่จะไป แต่มันก็คือการตัดสินใจของเขาล่ะนะ” ทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่วัยรุ่น แต่งงานกันในปี 1991 และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 22 ปีแล้ว พวกเขาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมานานกว่า 25 ปี จนกระทั่งมันมาถึงทางตัน และส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะชีวิตที่ Liza ได้เลือกแล้ว “ฉันเป็นคนที่รักหมามาก และมันก็พัฒนาจากความรักแบบทั่วๆ ไปมาไกลมากแล้ว การอาศัยอยู่ร่วมกันกับหมามากกว่า 30 ตัว แม้จะเป็นงานที่ยาก แต่ฉันก็มีความสุขกับมัน” “พวกมันเป็นหมาที่ไม่สามารถหาบ้านใหม่ได้ และฉันก็ช่วยเหลือพวกมันมาจากทั่วโลก ทั้งหมาที่ถูกยิง…
-
แฟนคลับตัวจริง!! หนุ่มดูหนัง Avengers : Infinity Wars ในโรงกว่า 43 รอบ!!
หลายๆ คนคงจะมีหนังเรื่องโปรดอยู่ในดวงใจ แน่นอนว่าจะต้องหยิบมาดูซ้ำกันบ้างเป็นบางครั้ง อาจจะ 2 รอบ 3 รอบ อย่างมากก็คงไม่เกิน 10 รอบ และแน่นอนว่าระยะเวลาที่ดูซ้ำๆ กันก็คงต้องห่างกันพอสมควร แต่สำหรับพ่อหนุ่มคนนี้ ที่เป็นแฟนของมาร์เวลตัวยง สร้างสถิติดูหนังเรื่อง Avengers : Infinity Wars ในโรงทั้งหมดกว่า 43 ครั้ง!! เรื่องมีอยู่ว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งชื่อว่า Nem: The Infinity Watcher ได้ทำการโพสต์รูปภาพอัปเดตการไปดูหนังเรื่อง Avengers ภาคล่าสุดทุกครั้ง แต่ก็มีชาวเน็ตบางคนอดเป็นห่วงเขาไปได้ และออกมาวิเคราะห์ข้อมูลว่า “พ่อหนุ่ม หนังเรื่อง Infinity Wars มีความยาว 2 ชั่วโมง 40 นาที เท่ากับ 160 นาที 43 รอบ ก็ 6,880 นาที = 114 ชั่วโมง =…
-
หนุ่มพลเมืองดี ยอมเสี่ยงชีวิตปีนตึก 5 ชั้นด้วยมือเปล่า เพื่อช่วยเหลือทารกที่ห้อยหัวอยู่!!
ทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ต้องรอให้ใครยื่นมือเข้ามา หากแต่เราเป็นคนทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น เหมือนอย่างพ่อหนุ่มคนนี้ เขามีชื่อว่า Zhang Xin ทหารผ่านศึกวัยเยาว์ผู้กำลังเดินเล่นอยู่ในเมือง Zhijiang ประเทศจีน จนได้กลายเป็นฮีโร่ผู้ช่วยเหลือเด็กทารกที่อยู่สูงขึ้นไปบนตึก 5 ชั้น ฮีโร่ผู้เสี่ยงชีวิตขึ้นไปช่วยเหลือเด็ก (ในวันที่ 5 มิถุนายน 2018) เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในตอนที่เดินเล่นอยู่ใกล้ๆ กับอาคารดังกล่าว แล้วก็ได้ยินเสียงเหมือนมีเด็กร้องไห้ดังออกมา ด้วยความสงสัยเขาจึงพยายามมองหาต้นตอของเสียงโดยรอบ และเข้าไปเคาะถามคนที่พักอยู่ในอาคารดังกล่าว หลังจากนั้นเขาถึงพบว่าที่มาของเสียงมาจากเด็กทารกที่กำลังห้อยหัวอยู่บริเวณกรงเหล็กหน้าต่าง ของห้องพักที่สูงขึ้นไปถึง 5 ชั้น หนุ่มพลเมืองดี Zhang Xin ชายหนุ่มจึงไม่รอช้า ตัดสินใจเสี่ยงชีวิตใช้มือเปล่าปีนขึ้นไปเพื่อช่วยเหลือทารกน้อย จากคลิปจะเห็นว่าเขาค่อยๆ ไต่ขึ้นไปตามกรงเหล็กของหน้าต่าง เขาสามารถดันตัวเด็กเข้าไปในห้องได้สำเร็จ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมายังสถานที่เกิดเหตุและเข้าไปในห้องพักดังกล่าว แต่กลับพบว่าไม่มีใครอยู่เลย มีเพียงเด็ก 2 ขวบคนนั้นอยู่เพียงลำพัง คลิปการปีนขึ้นไปช่วยเหลือเด็กของชายคนนี้ เวลาผ่านไปได้ไม่นาน คุณยายของเด็กคนนี้ก็เดินทางกลับมาถึงบ้าน ก่อนจะได้ทราบเรื่องราวของหลานชายที่ต้องเกือบตาย ถ้าไม่ได้ชายพลเมืองดีคนนี้ช่วยเอาไว้…
-
แม่เข้าใจผิด ฝังเด็กแรกเกิดทั้งเป็นนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายกลับรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์!!
แม้ กบ ทรงสิทธิ์ จะเคยบอกเอาไว้ว่า “ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง” แต่มันก็ได้เกิดขึ้นแล้วกับเด็กน้อยแรกเกิดคนหนึ่ง นี่เป็นภาพการช่วยเหลือเด็กน้อยคนนี้ที่โดนฝังทั้งเป็นเอาไว้นานกว่า 8 ชั่วโมง แต่กลับสามารถรอดชีวิตมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ภาพการช่วยเหลือเด็กน้อยที่ถูกฝังทั้งเป็น การช่วยเหลือในครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 5 มิถุนายน 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเด็กแรกเกิดคนหนึ่งเสียชีวิตในเมือง Canarana ประเทศบราซิล แต่กลับไม่มีการแจ้งเสียชีวิตมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เวลาประมาณ 4 ทุ่มของวันนั้น เจ้าหน้าที่จึงตรงไปยังบ้านหลังดังกล่าว จึงรู้ว่าศพเด็กถูกฝังเอาไว้ในดินบริเวณใกล้ๆ แต่เมื่อพวกเขาไปถึงจุดที่ว่านั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาเบาๆ เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาจากด้านล่าง พวกเขาเกิดความคิดว่าเด็กอาจยังรอดชีวิตอยู่ ตำรวจทั้งสองจึงรีบลงมือขุดหลุมเพื่อช่วยเด็กทารก พวกเขาขุดลงไปห่างจากจุดที่คาดว่าจะเป็นหัวเด็ก ลึกไป 50 เซนติเมตร พวกเขาค่อยๆ ขุดลงไป . จนกระทั่งพบเด็กที่ถูกฝังเอาไว้ พวกเขาจึงเร่งมือให้เร็วขึ้นแต่ก็ใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก และดึงตัวเด็กออกมาจากรูปได้ในที่สุด เด็กน้อยส่งเสียงร้องออกมาอย่างแผ่วเบา คลิปการช่วยเหลือในครั้งนี้ ภายหลังเด็กน้อยคนนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที บนรถฉุกเฉินนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลียร์ช่องทางเดินหายใจของเด็ก และให้ออกซิเจนอยู่เรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้เด็กคนดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
-
เบื่อเที่ยวอยากแวะเล่นเกม โรงแรมเกมมิ่ง iHotel จัดเต็มทุกเครื่อง ทุกห้อง พร้อมรายชั่วโมง!!
สำหรับเกมเมอร์ที่อยากจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศหลายวัน แต่ไม่อยากพกคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คติดตัวไปด้วย เนื่องจากความยุ่งยากหรือไม่อยากแบกหนักๆ แต่ก็อยากจะเล่นเกมระหว่างเที่ยวด้วย (วันพักเที่ยว) ตอนนี้ที่ไต้หวันมีสิ่งที่เกมเมอร์สายท่องเที่ยวต้องการแล้ว เพราะว่าที่นี่มีบริการโรงแรมเกมมิ่งไว้พร้อมบริการ จัดเต็มทั้งอุปกรณ์การเล่น อุปกรณ์การนั่ง สะดวกสบายมีเครื่องให้ทุกห้อง!! ทริปไต้หวันเกมมิ่งนี่ จัดขึ้นโดยโรงแรม iHotel มาพร้อมกับเครื่องสเปค i5-7400 แรม 16GB และการ์ดจอ GTX 1080 Ti GPU เพียงพอต่อการเล่มเกมทุกประเภทในปัจจุบัน ยัดมาให้พร้อมสองเครื่องทุกห้อง!! นอกจากจะได้เครื่องคอมพิวเตอร์แรงๆ ไปเล่นระหว่างพักผ่อนแล้ว ทางโรงแรมยังให้บริการพร้อมกับเก้าอี้เกมมิ่ง DXRacer และจะตั้งอยู่ข้างกันในห้องเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องตะโกนด่ากันหากเกิดอาการหัวร้อน นั่งกระซิบหูข้างๆ กันก็ได้ ในเรื่องของเรทราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,200 บาทต่อคืน แต่ถ้าหากไม่อยากอยู่ทั้งคืนก็มีเรทรายชั่วโมงอยู่ที่ประมาณ 383 บาทในช่วงสุดสัปดาห์ หรือจะจ่ายราคาเหมาที่ 2,400 บาทสำหรับเรท 15 ชั่วโมงก็ได้ . นอกจากจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ในห้องพักแล้ว ก็ยังมีโทรทัศน์ขนาด 46 นิ้วไว้ให้บริการสำหรับรายการแข่งขัน…
-
ปัญหาจริงจัง!! พ่อบ้านกับการโดนลูกทำร้าย ‘กล่องข้าวน้อย’ สู่กางเกงในกันกระแทกไข่!!
การถูกกระแทก ‘กล่องข้าวน้อย’ จากการละเล่นของลูกๆ ถือเป็นปัญหาคาราคาซังที่เหล่าพ่อบ้านทั้งหลายต้องประสบพบเจอมาเป็นระยะเวลายาวนาน บางครั้งเด็กๆ อาจจะไม่ได้ตั้งใจ แต่โชคชะตามันช่างเป็นใจ ราวกับว่าเป็นจุดดึงดูด อู้วววววววช์ แต่ที่เจ๋งยิ่งไปกว่านั้นคือมีบริษัทที่เล็งเห็นถึงปัญหานี้ ว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ นะ!! แล้วก็ผลิตสินค้าออกมาเพื่อป้องกันกล่องข้าวน้อยของพ่อบ้านทั้งหลาย เป็นกางเกงในที่มีชื่อว่า “FridaBalls” เป็นผลงานของบริษัท Fridababy ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องไข่ของคุณพ่อจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการละเล่นของเด็กๆ Chelsea Hirschhorn ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าถึงไอเดียว่ามาจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ที่สามีของเธอมักจะถูกลูกๆ โจมตีกล่องข้าวน้อยโดยไม่ได้ตั้งใจอยู่บ่อยๆ “ตอนแรกฉันไม่ได้คิดว่ามันจะจริงจังขนาดนี้นะ แต่หลังจากที่สามีของฉันต้องพบเจอกับปัญหานี้ ฉันก็เริ่มศึกษาและตรวจสอบดู ก็พบว่ามีคลิปวิดีโอของคุณพ่อที่ถูกลูกๆ ทำร้ายกล่องข้าวน้อยในยูทูบมากกว่า 3 ล้านคลิป มันคือปัญหาที่จริงจังและต้องได้รับการแก้ไข” จากคำบอกเล่าของคุณ Chelsea เจ้ากางเกงในนี้สวมใส่สบาย “เราได้รับแรงบันดาลใจมาจากกางเกงในสำหรับเล่นกีฬา และออกแบบเพิ่มเติมเพื่อให้สวมใส่สบายมากยิ่งขึ้นไปอีก” “น้องจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับ ‘ห้องเก็บไข่’ เพื่อปกป้องมันจากแรงกระแทกได้อย่างดีอีกด้วย!!” เจ้ากางเกงใน Fridaballs นี้มีขายในเว็บไซต์ Fridababy ในราคา 27.99 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 890 บาท เพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมคลิปวิดีโอโฆษณาที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า……
-
เจ้าของหมาเดือด ถูก ‘แก๊งขโมยหมา’ ลักพาเพื่อนรักไป ขับรถไล่ล่าแถมพกอีโต้ฟันยับ!!
สัตว์เลี้ยงของใคร ใครก็รัก โดยเฉพาะบางคนถึงกับรักจนเปรียบเสมือนว่าเป็นลูกในไส้ของตัวเองจริงๆ เลย… เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มจากประเทศจีนทางตอนใต้ ที่เจ้าหมาของเขาถูกแก๊งขโมยหมาลักพาตัวไป จึงตัดสินใจออกไล่ล่าหัวขโมยด้วยตัวเอง ขับรถปาดอย่างกับ GTA แถมเดินถืออีโต้ลงมาจากรถเพื่อช่วยเจ้าหมาอีกด้วย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนในเมืองซานเหว่ย มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามรายงานระบุว่าชายผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นหนึ่งในแก๊งขโมยหมา อายุ 44 ปี ชื่อว่า Xie ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ หลังพยายามลักพาตัวเจ้าหมาตัวหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ เจ้าของรู้ตัวว่าเจ้าหมาของเขา 3 ตัว หายไปเมื่อเวลาประมาณ 5.00 น. หลังจากเช็กกล้องวงจรปิดแล้วก็ทราบว่าพวกมันถูกลากขึ้นรถตู้โดยผู้ชายคนหนึ่ง เจ้าของจึงรีบโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจ Luhe Police ก่อนที่จะไปตามไล่ล่าจับรถตู้คันนั้นด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับสายแจ้งความอีกครั้งว่ามีการต่อสู้กันเกิดขึ้นบนถนน แต่ไม่รู้ว่าไปทำอิท่าไหนรถตู้ถึงได้มีสภาพนอนคว่ำ แถมพังเละเทะ พอมาตรวจกล้องวงจรปิดก็พบว่า พี่เจ้าของสุนัขขับรถคันเก๋งคันสีดำเบียดรถตู้เพื่อทำให้เสียหลัก จากนั้นก็ถือมีดอีโต้เล่มหนึ่งเดินลงมา แล้วก็ฟันไปที่รถตู้แบบไม่ยั้งเพื่อช่วยเหลือเจ้าหมาของเขา . ผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายขโมยเจ้าหมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และจากการตรวจค้นรถก็พบอุปกรณ์ในการจับหมาอย่างเช่นสวิงที่มีด้ามยาว ลวดที่ขดเป็นวงเพื่อใช้จับหมา แสดงให้เห็นว่าทำกันเป็นอาชีพเลยทีเดียว เพื่อนๆ…
-
ไอ้เข้โหดจัด โชว์ ‘แม่ไม้มวยเข้’ ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาจับมัน จนล้มหงายน็อกเอ้าท์ไปเลย!!
‘จระเข้’ ถือเป็นสัตว์ที่มีความน่ากลัวเป็นอย่างมากสำหรับมนุษย์ เพาราะเขี้ยวอันแแหลมคม พลังของขากรรไกร กับสัญชาตญาณของนักล่า หากใครเข้าไปใกล้ๆ ก็อาจจะทำให้คุณถึงแก่ชีวิตหรือไม่ก็พิการได้เลยทีเดียว นอกจากนี้เพื่อนๆ รู้ไหมว่า จระเข้ เป็นสัตว์ที่มีความสามารถทางด้านการต่อสู้สูงอีกด้วย จนถึงขนาดที่ว่าท่าที่ใช้ในการต่อสู้ของมันถูกนำมาแต่งเป็นชื่อท่าของแม่ไม้มวยไทย นั่นก็คือ ‘จระเข้’ฟาดหาง’ นั่นเอง และหากยังไม่เชื่ออีกล่ะก็ เราลองไปชมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐฟลอริดากันดู แล้วทุกท่านจะรู้ว่าจริงๆ แล้วเจ้าจระเข้เนี่ย มันเก่งทางด้านทักษะต่อสู้ขนาดที่ว่าทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 คนสู้ไม่ได้เลยทีเดียว แถมยังมีอีกคนหมดสติไปอีกด้วย!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขต Ocoee เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา มีเจ้าจระเข้ตัวหนึ่งหลุดเข้ามาในที่อยู่อาศัยของมนุษย์ เดินต้วมเตี้ยมไปมาเดี๋ยวก็แวะไปบ้านคนนู้น เดี๋ยวก็แวะไปบ้านคนนี้ แน่นอนว่าชาวบ้านต่างก็รู้สึกกลัวจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับมัน พอเจ้าหน้าที่มาถึงก็จัดการจับแล้วมัดมือมัดเท้า และปากของมันเพื่อเคลื่อนย้ายตัว แต่ใครเล่าจะคิดว่าพิษสงของมันยังไม่หมดแค่นั้น ขณะกำลังยกขึ้นท้ายรถกระบะ เจ้าจระเข้ก็ใช้วิชาแม่ไม้มวยเข้ ที่ฝึกมาตั้งแต่สมัยอยู่เมืองบาดาล สะบัดหัวโขกเจ้าหน้าที่คนหนึ่งอย่างจัง จนถึงกับน็อกเอ้าท์ไปเลยทีเดียว ตามด้วยท่าไม้ตาย ‘จระเข้ฟาดหาง’ ใส่เจ้าหน้าที่อีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง จนทำให้ต้องถอยห่างออกมาก่อน เพราะศิลปะแม่ไม้มวยไอ้เข้นั้นมันคือสุดยอดวิชาจริงๆ คุณ Walter Day…
-
เฟ้นหาขุ่นพ่อสุดฮอตที่สุดไปกับ ‘Britain’s Hottest Dad’ ใครชอบหนุ่มรุ่นพ่อต้องชม!!
ในประเทศไทยนั้นวันพ่อแห่งชาตินั้นตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมที่เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในทุกๆ ปี ซึ่งประเทศไทยอาจจะเป็นประเทศเดียวที่มีวันพ่อแห่งชาติในวันที่ 5 ธันวาคม เพราะในประเทศอื่นๆ นั้นก็ย่อมที่จะวันพ่อแห่งชาติแตกต่างกันไป วันนี้เราจะมาพูดถึงวันพ่อในประเทศอังกฤษกันเสียหน่อย โดยที่วันพ่อในประเทศอังกฤษนั้นจะจัดขึ้นตรงกับทุกๆ วันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายนของทุกปี และตอนนี้ก็เข้าสู่เดือนมิถุนายนเป็นที่เรียบร้อย นั่นแปลว่าอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันพ่อของพวกเขาแล้ว ทางสำนักข่าว The Sun จึงได้ทำสร้างกิจกรรมสนุกๆ อย่าง “Britain’s Hottest Dad” มาเพื่อเสาะหาคุณพ่อชาวอังกฤษที่ฮอตที่สุดในประเทศนั่นเอง โดยที่ผู้ชนะในรายการนี้จะได้รับรางวัลราว 50,000 บาท และเอาเป็นว่าตอนนี้เราไปชมตัวเต็งคุณพ่อสุดฮอต 10 คนที่ทาง The Sun เขาลิสต์มาให้ได้ชมกันครับ 1. Ryan Musk ผู้จัดการ Go-Kart อายุ 30 ปีจาก Broxbourne ถูกส่งเข้าประกวดโดย Debbie Musk คุณแม่วัย 58 ปีของเขาเอง 2. Derren Guile ช่างไม้วัย 41 ปี ถูกส่งเข้าประกวดโดย Claire…
-
ชมความน่ารักซนแก่นของเจ้าหญิง Estelle และเจ้าชาย Oscar ที่แย่งซีนจากครอบครัวเสียหมด
วันชาติ คือวันที่มีกำหนดการให้เป็นวาระเฉลิมฉลองความสำเร็จในก่อตั้งรัฐ ดินแดน หรือประเทศขึ้นมา ซึ่งปกติแล้วจะถือว่าเป็นวันหยุดประจำชาตินั้นๆ ด้วย ในเมื่อวานนี้ (6 มิถุนายน 2018) ถือว่าเป็นวันชาติแห่งสวีเดน แต่จะแปลกหน่อยตรงที่วันชาติของสวีเดนคนในชาติไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันนี้สักเท่าไหร่ เห็นว่าเป็นแค่วันหยุดเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ประเทศสวีเดนไม่ได้มีสงครามหรือความรุนแรงแบบที่ต้องกู้เอกราชกลับมา ชาวสวีเดนจึงไม่รู้ว่าจะเฉลิมฉลองวันชาตินี้กันอย่างไรดี แต่ในวันนี้เอง ทางเทศบาลในแต่ละเมือง มักจะจัดการเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่เพิ่งได้รับสัญชาติสวีเดน โดยจัดประเพณีต้อนรับให้เข้ามาเป็นพลเมืองที่ดูแลกันเหมือนครอบครัว ซึ่งในวันชาติสวีเดนนั้นทางราชวงศ์ของสวีเดนก็จะมีเฉลิมฉลองและการถ่ายรูปหมู่ด้วยเช่นกัน แต่ประเด็นที่เราจะนำมาพูดถึงในวันนี้ได้แก่ความน่ารักและความซนแก่นของพระธิดาและพระโอรสของเจ้าหญิง Victoria และเจ้าชาย Daniel อย่างเจ้าหญิง Estelle และน้องชายของเธอ เจ้าชาย Oscar ที่แย่งซีนและแย่งความสนใจจากตากล้องในงานไปได้อย่างไม่ใช่น้อย จะซนแก่นและน่ารักกันขนาดไหนนั้นเราไปชมกันเลยครับ ถ่ายรูปครอบครัว คุณพ่อ คุณยาย คุณตา คุณแม่ พี่สาวและน้องชาย ดูท่าทางเจ้า Estell เสียก่อน ฮั่นแน่!! แอบกระซิบอะไรกับน้องชายล่ะ เด็กๆ เป็นคนที่อยากรู้อยากเห็น ในขณะที่เจ้าชาย Oscar กำลังอยากรู้อยากเห็น เจ้าหญิง Estell กลับวิ่งเล่นอย่างซุกซนอยู่ในฉากหลัง…
-
มาดูกันว่า… นักเรียนของโรงเรียนรัฐฯ ยากจน ประเทศฝรั่งเศส จะได้ทานอะไรเป็นมื้อกลางวัน?
ในขณะที่เมืองไทยกำลังถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นอาหารกลางวัน ของเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ต่างก็ต้องได้รับการแก้ไขกันให้ตรงจุดต่อไป แต่ด้วยสภาพอาหารกลางวันของเด็กๆ นั้นก็ทำให้รู้สึกแย่ได้ไม่น้อย หากมองออกไปข้างนอก ณ ต่างแดน คุณเคยสงสัยบ้างมั้ยว่า ถ้าหากเป็นโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล มีความขัดสนทางด้านการเงินบ้าง เด็กนักเรียนภายใต้การดูแลจะได้รับอาหารการกินเป็นอย่างไร เหมือนหรือแย่กว่าเด็กไทยรึเปล่า? ในช่วงหนึ่งของภาพยนตร์สารคดี Where to Invade Next บุกให้แหลก แหกตาดูโลก ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2015 นั้น มีฉากที่เกี่ยวกับเรื่องของ ‘อาหารกลางวันของเด็กๆ’ ด้วย โดยที่โรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในย่านเศรษฐกิจอันย่ำแย่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ไปนั้น เด็กๆ ได้กินแกะย่างกับไก่ราดคูสคูส Michael Moore ผู้กำกับและผู้ดำเนินสารคดี ได้พาไปดูสภาพของโรงอาหารในโรงเรียนเล็กๆ แห่งหนึ่งของฝรั่งเศส ซึ่งจะเห็นได้ว่า อาหารการกินนั้นดูดีมากๆ โดยที่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าเบื้องหลังของอาหารเหล่านี้ ยิ่งทำให้รู้สึกแปลกใจมากกว่าเดิม โรงเรียนรัฐบาลแห่งนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านของคนรวย มีเงินใช้เหลือเฟือ นั่นหมายความว่าจะเป็นกลุ่มของประชาชนที่ยากจนเสียส่วนใหญ่ ที่ส่งลูกมาเรียน ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนที่ยากจนที่สุด ตั้งอยู่ในเมืองยากจนที่สุดของประเทศฝรั่งเศส เชฟผู้รับผิดชอบมื้ออาหารกลาววันก็ยังใช้เงินซื้อวัตถุดิบน้อยกว่าโรงเรียนในสหรัฐฯ เสียอีก…
-
คู่รักไฮสคูลเลิกกันพร้อมคำสัญญาที่ว่าถ้าอายุ 50 ปียังไม่มีใครจะแต่งงานกัน แล้วก็แต่งจริง!!
เชื่อเลยว่าหลายคนอาจจะต้องเคยผ่านประสบการณ์ความรักกันมาบ้างไม่น้อย และก็ต่างรู้กันดีว่าเรื่องของความรักนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีวันหมดอายุ ถ้าอยากจะเห็นตัวอย่างว่ามันจริงหรือไม่ล่ะก็ลองมาดูตัวอย่างของคู่รักคู่นี้ที่เคยคบหากันมาช่วงหนึ่ง ก่อนจะเลิกรากันไป แต่ในที่สุดแล้วทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตร่วมกันจากคำสัญญาเมื่อ 30 ปีก่อน… เรื่องราวความรักสุดแสนประทับใจนี้เกิดขึ้นกับชายชื่อว่า Ron Palmer วัย 54 ปีและฝ่ายสาวชื่อว่า Kimberley Dean วัย 51 ปี ทั้งคู่ได้จูงมือกันเข้าพิธีวิวาห์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามคำสัญญาที่ดูเหมือนกับเป็นเรื่องตลกขบขันที่เคยให้กันไว้เมื่อสมัยยังเป็นวัยรุ่น ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตลอดระยะนานกว่า 37 ปี โดยในแรกเริ่มนั้นทั้งคู่เป็นคู่รักกันสมัยตอนที่ยังเรียนไฮสคูล แต่ความสัมพันธ์ฉันคนรักนั้นก็ต้องจบลงเนื่องมาจาก Ron อยากจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าก่อนที่จะลงหลักปักฐานกับใครในความสัมพันธ์ระยะยาว “ผมคิดว่าในตอนที่ผมอายุยังน้อย ก็ยังมีสาวๆ อยู่อีกมากให้ค้นหาแล้วผมก็อยากจะทำอย่างนั้นด้วย ดังนั้นแล้วในที่สุดเราจึงเลิกกัน แต่เราก็เลิกกันด้วยดีและยังเป็นเพื่อนกันเสมอ” Ron กล่าว ด้วยความเป็นเพื่อนที่ยังมีให้กันอยู่ ทำให้ตลอดระยะเวลาหลายปีหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ยังคงโทรหากันอยู่เสมอๆ จนเป็นเสมือนกับความเคยชิน และหนึ่งในการสายการโทรคุยกันนั้นเองที่ได้ให้คำมั่นกันว่าถ้าอายุ 50 ปีแล้วทั้งคู่ยังไม่มีใครจะกลับมาเป็นคู่ชีวิตให้แก่กันและกัน “เอาจริงๆ มันเป็นเหมือนเรื่องที่เราพูดกันขำๆ ซะมากกว่านะ ในตอนนั้นบังเอิญว่าเราทั้งสองคนพอดีเป็นโสดทั้งคู่แล้วก็เริ่มเบื่อกับการออกเดทหรืออะไรก็ตามที่งี่เง่าเกี่ยวกับมันทุกๆ อย่างเลย” Kimberry กล่าว คำสัญญาที่ให้กันนี้เป็นคำมั่นที่เคยให้กันไว้เป็นเวลานานหลายสิบปี นานซะจนทั้ง Ron และ Kimberry ต่างก็จำวันที่ที่คำสัญญาของพวกเขาเกิดขึ้นไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นวันที่เท่าไหร่ ปีอะไรกันแน่ ในปัจจุบัน…
-
ช็อตนี้ตรูตาย… เป็น “นักข่าวสุดเนี๊ยบ” มาตั้งนาน พอถ่าย MAXIM ที หนุ่มๆ กำเดาแตก!!
จะว่าอย่างไรดีล่ะ รู้ดีว่าเรื่องของหน้าตาและรูปร่างนั้นก็ไม่อาจตัดสินคนๆ หนึ่งได้ แต่ว่าคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ชาย จะห้ามไม่ให้มองสาวสวยเซ็กซี่ก็คงทำไม่ได้จริงๆ แม้แต่นักประกาศข่าวที่ความจริงแล้วเราฟังแค่เสียงและวิธีการพูดของเขาก็ได้ แต่พอเจอนักข่าวสวยๆ เรากลับชื่นชอบเขาเสียอย่างนั้น เช่นเดียวกับ Ju Jeongkyeong ผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศของประเทศเกาหลีใต้ที่หนุ่มๆ ต่างชื่นชมในความสามารถบวกกับความน่ารักใสๆ ของเธอ น่ารักมั้ยล่ะ~ . . . เธอไม่ได้มีอะไรโดดเด่นไปกว่านักข่าวคนอื่นๆ มากนัก เธอดูน่ารักเรียบร้อยในชุดทำงานแสนสุภาพ ขณะที่เสียงอันนุ่มนวลของเธอก็กำลังบรรยายสภาพอากาศอย่างน่าฟัง นั่นก็เพียงพอจะให้หนุ่มๆ ชื่นชอบในตัวเธอแล้ว แต่ผลงานล่าสุดของเธอทำให้หนุ่มๆ ต้องกำเดาแตก! จากผู้ประกาศข่าวสาวน่ารักเรียบร้อย ได้กลายมาเป็นนางแบบของนิตยสาร MAXIM นิตยสารสำหรับผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงไปซะแล้ว ระเบิดตู้มๆ กันไปเลยงานนี้! ใครจะรู้ว่าผู้ประกาศข่าวสาวผู้เรียบร้อย จะซ่อนความเซ็กซี่เอาไว้มากมายขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เรือนร่างใต้ชุดทำงานของเธอถูกเปิดเผย (ตู้มมม) หนูจะเล่นเปิดตัวสะบึ้มฮึ่มแบบนี้ไม่ได้นะลู๊กก ใจไม่ดีเลยยยย~ รอยยิ้มดวงโตๆ ยิ่งก้มตัวแบบนี้ด้วยแล้ว ทำเอาหนุ่มๆ แทบทนไม่ไหวเลยล่ะ บอกเลยว่า แน่น!!! (หมายถึงเสื้อผ้า หน้า ผม) …
-
สุดยอดชิ้นงานโฆษณา ‘Changing Your Perspective’ เพราะการอ่านช่วยเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น
ในยุคสมัยข้อมูลที่มีเป็นจำนวนมาก ถึงขั้นเรียกได้ว่าเกินพิกัดกว่าที่คนหนึ่งคนจะรับได้ไหวทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นทั้งสื่อวิทยุ โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และสื่อออนไลน์สมัยใหม่บนโลกออนไลน์… อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลที่มีมากจนเกินไป ด้วยพื้นฐานความเป็นมนุษย์มักจะเลือกทางที่ง่ายและถูกใจที่สุดเสมอ นั่นจึงเป็นสิ่งที่อันตรายต่อการใส่ข้อมูลที่บิดเบือน และผิดเพี้ยนไปจากความจริง จนอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ Questioning War (ประเด็นเกี่ยวกับสงคราม) ทางด้านนิตยสารรายเดือน “Reporter” จึงได้สร้างแคมเปญ Changing Your Perspective – เปลี่ยนมุมมอง สะท้อนออกมาเป็นภาพโฆษณา 3 ชิ้น ภายใต้ชื่อภาพที่แตกต่างกัน พร้อมกับการตั้งคำถามกับความเชื่อหรือถูกบังคับให้เชื่อ ว่าตัวเราเองเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งนั้นบ้างหรือไม่ หรือจุดประสงค์ที่แท้จริงในแต่ละอย่างนั้น เกิดขึ้นมาเพื่ออะไร? Questioning Neo-Nazism (ลัทธิที่เคลื่อนไหวคืนชีพนาซี) Questioning Radicalism (ลัทธินิยมความรุนแรง) นิตยสารรายเดือน Reporter มุ่งเน้นไปที่นำเสนอการข่าวในแนวสืบสวนสอบสวน และปกของแต่ละเดือนมักจะออกมาเป็นในแนวการตั้งคำถามในประเด็นสังคมส่วนใหญ่ และแคมเปญดังกล่าวก็ได้นำ 3 ประเด็นมาชูโรงในด้านเนื้อหาของปีนี้ด้วย ภายใต้การผลิตของทีมเอเจนซี่ Y&R จากกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก พร้อมกับเป็นการสะท้อนตัวตนของนิตยสารในด้านการนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ…
-
แฝดไม่มาถ่ายรูปลงหนังสือรุ่น แฝดอีกคนใช้สิทธิ์แทน ถ่ายรูปทีเดียวเป็น 2 คนไปเลย!!
ในระบบโรงเรียนของต่างประเทศนั้น จะมีวันที่เรียกว่า Picture Day การถ่ายรูปของเหล่านักเรียนของแต่ละชั้นปี เพื่อนำมาใส่เป็นทำเนียบรุ่นในแต่ละปีการศึกษา วันสำคัญขนาดนี้ หากใครพลาดไปก็คงรู้เสียใจไม่น้อยเลยล่ะ และเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ก็เกิดขึ้นกับคู่แฝดจากรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อแฝดอีกคนดันมาป่วยในวันถ่ายรูป… Marcus และ Malcolm Williams เป็นฝาแฝดกัน เรียนอยู่ระดับชั้นเดียวกัน ซึ่ง Marcus ป่วยพอดิบพอดี ไม่อาจไปถ่ายรูปได้ แฝด Malcolm จึงใช้สิทธิ์คนหน้าเหมือน ขอถ่ายรูปแทนซะงั้น ฮร่าาาา… https://twitter.com/marcus6096/status/1003783839901192192 Marcus ถึงกับทวีตออกมาว่า ‘เขาเนียนมาถ่ายรูปเป็นเราทั้งสองภาพในวันถ่ายรูป ช่วงเรียนมัธยมปลายในตอนที่ผมกำลังป่วย’ บางคนที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกันถึงกับบอกว่า เอาจริงๆ แล้วต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี ถึงจะรู้ว่าทั้งสองคนเป็นฝาแฝดกัน รู้สึกเหมือนว่าเจอคนหน้าเดิมเดินสวนกันในโถงโรงเรียน แล้วพึ่งจะนึกได้ว่ามันคนละคนกันนี่หว่า!? “ถึงกับเบิกเนตรกันเลยทีเดียว ตอนได้เห็นภาพของทั้งคู่อยู่ด้วยกัน รู้สึกแบบว่าโอ้พระเจ้า ให้ตายสิ มีสองคนเหรอเนี่ย?” Malcolm คงไม่ใช่ X ใช่มั้ย? งั้นดูภาพจากเฟสบุ๊กแม่ของผมก็แล้วกัน ไม่ได้แต่งเรื่องขึ้นมาน้าาา…
-
ใจร้อนจริงๆ !! หนุ่มแทงแม่ 17 แผลจนตายเพราะเถียงกันเรื่อง ‘เติมนมใส่ชาน้อยเกินไป’
เป็นธรรมดาที่เวลาเราอยู่กับพ่อแม่ก็อาจจะมีการโต้เถียงกันบ้าง เพราะว่าด้วยช่วงอายุที่ห่างกันจึงอาจทำให้ความเข้าใจอะไรบางอย่างแตกต่างกันออกไป แต่ว่าเราก็ควรจะเก็บระงับอารมณ์เอาไว้ให้ดีเพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ที่ให้กำเนิดเรามา มิฉะนั้นแล้วอาจเป็นเหมือนกับชายคนนี้ที่ระเบิดอารมณ์จนพลั้งมือฆ่าแม่ตัวเองจนสิ้นลมจากกันเถียงกันแค่เรื่องของการเติมนมใน ‘ชา’!! Thomas Westwood ผู้ก่อเหตุโศกนาฎกรรม โดยเรื่องสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นในวันที่ 1 ธันวาคม 2017 เมื่อนาย Thomas Westwood หนุ่มว่างงานวัย 46 ปีได้ก่อเหตุที่ไม่มีคาดคิดด้วยการใช้มีดแทงเข้าไปที่ลำตัวของนาง Susan Westwood ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าวัย 68 ปี จนเสียชีวิตลงในบ้านพักของเธอเองในเมืองคอเวนทรี ประเทศอังกฤษ ในภายหลังนาย Thomas ก็ถูกจับกุมตัวไปโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งผลจากการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำให้หลายคนถึงกับทึ่ง เพราะปรากฏว่ามีแผลการแทงอยู่บนร่างกายของ Susan มากกว่า 17 ครั้งเลยทีเดียว ต่อมาเขาก็ได้ให้รับการสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุการณ์ในครั้งนี้เอง เพราะมาสาเหตุมาจากอารมณ์ที่บันดาลโทสะจากการโต้เถียงกับแม่ หลังจากที่เขาชงชาไปให้แม่แล้วเธอต่อว่าว่าใส่นมมาให้น้อยเกินไป.. Susan เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย นอกจากนี้เขาก็อ้างว่าเหตุการณ์ดังกล่าวแม่ของเขาเป็นผู้เริ่มก่อน จากการที่เธอพยายามจะเอามีดมาแทงตัวเขา จึงจบลงด้วยเหตุโศกนาฎกรรมดังกล่าว และที่มากไปกว่านั้นก็คือหนุ่มวัย 46 ปีคนนี้ยังบอกอีกทุกวันที่เขาอยู่กับแม่มักจะถูกกลั่นแกล้งเป็นประจำรวมถึงถูกขู่ว่าจะใช้มีดแทงด้วย เหตุการณ์นี้ได้สร้างความสะเทือนใจแก่ทางครอบครัวของ Susan มาก และได้มีการไว้อาลัยแก่เธอเป็นครั้งสุดท้ายด้วยข้อความเหล่านี้ “พวกเราใจแทบจะใจสลายเมื่อต้องสูญเสีย Susan ไป เธอเป็นทั้งฐานะแม่ พี่สาว ป้า…
-
นักเรียนหนุ่มวัย 18 ปี มีใบหน้าเหี่ยวย่นเหมือนคนแก่อายุ 80 แต่ก็ไม่เป็นปัญหากับการใช้ชีวิต!!
ปัญหาเรื่องใบหน้าที่แก่ก่อนวัยเป็นปัญหาที่หนักอกหนักใจของใครหลายคน ที่ไม่อยากจะให้หน้าสวยๆ ของเราเหี่ยวย่นลงไปก่อนกาลเวลา จึงหาวิธีสารพัดทั้งทาครีมบำรุงหรือปรับเสริมเติมแต่งอะไรก็ตามเผื่อชลอให้ผิวใสๆ อยู่กับเราให้นานที่สุด แต่ว่ามีชายผู้หนึ่งที่ไม่ว่าจะทำวิธีใดๆ ก็ไม่สามารถช่วยเขาชลอความเหี่ยวย่นของใบหน้าลงได้ และต้องทนทุกข์ทรมานก่อนวัยที่ควรจะเป็นไปเยอะ เพราะว่าใบหน้าของเขามีความละม้ายคล้ายกับมีอายุได้ 80 ปี จากผลความผิดปกติบางอย่างของร่างกาย… หากใครที่มองไปยังชายที่ชื่อว่า Xiao Cui เป็นครั้งแรก อาจจะต้องนึกอยู่ในใจแน่ๆ ว่าเขามีอายุอย่างน้อย 80 ปีเป็นแน่แท้ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเขาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมชาวจีนที่มีอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ก็เพราะต้องเผชิญกับความผิดปกติบางอย่างของร่างกาย ที่ทำให้กล้ามเนื้อและผิวหนังบริเวณใบหน้าหย่อนคล้อยลงไป และทำให้เขาดูแก่เกินกว่าอายุจริงๆ นั่นเอง Xiao Cui เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน เขาเล่าให้ฟังว่าอาการเริ่มแรกของความผิดปกติในตัวเขาเกิดขึ้นในช่วงมัธยมต้น และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหน้าตาของเขาก็เริ่มแก่ลงอย่างรวดเร็วจนถึงในขณะนี้ เขามักจะถูกทักว่าเป็นผู้สูงอายุอยู่บ่อยๆ แถมยังดูแตกต่างจากนักเรียนคนอื่นๆ ในห้องไปหลายสิบปี ซึ่งถึงตรงนี้เขาก็ลองทุกวิถีทางที่จะกลับมาเหมือนเด็กปกติ แต่ก็ยังไม่สามารถหาทางออกได้ เพราะแม้กระทั่งคุณหมอหลายคนก็ยังไม่เข้าใจถึงความผิดปกติที่เขาเป็น สิ่งที่คุณหมอทั้งหลายพยายามช่วยเขาอยู่ในตอนนี้ก็คือหาทางหยุดความเหี่ยวย่นนี้ไม่ให้มันส่งผลไปมากกว่านี้ ดังนั้นแล้ว Xiao จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำใจยอมรับมันและคิดบวกเอาไว้อยู่เสมอ ตอนที่ Xiao ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวต่างๆ …
-
‘สาวจีน’ ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมกลั่นแกล้ง ด่าทอ พร้อมกับเหยียดเชื้อชาติ กลางรถไฟในสเปน
ด้วยความแตกต่างทางฐานะ สังคม เชื้อชาติ อายุ เพศและสีผิว ทำให้เราสามารถแบ่งแยกมนุษย์ออกได้ว่าคนนี้มาจากไหน คนนี้มีพื้นฐานเป็นอย่างไร ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของโลก แต่บางคนกลับเอาเรื่องความแตกต่างของชาติพันธ์ไปใช้เป็นการกลั่นแกล้งชนชาติอื่นหรือที่เรียกว่า “การเหยียด” นั่นเอง ในช่วงสามสี่วันมานี้เราได้นำเสนอข่าวที่เกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติมามาก และวันนี้ก็ยังคงมีข่าวการเหยียดออกมาให้เราสลดใจอยู่ดี เรื่องราวในครั้งนี้เป็นของ Dantong Zhang หรือมีคนรู้จักกันในอีกชื่อว่า Iris เธอเป็นชาวจีนที่ไปเรียนอยู่ที่ประเทศสเปน ในวันที่ 29 เมษายน 2018 ที่ผ่านมาเธอได้นั่งรถไฟเพื่อจะเดินทางไปอีกเมืองหนึ่ง แต่กลับถูกกลุ่มเด็กวัยรุ่นรุมกลั่นแกล้งเธอ ทั้งด่าทอ ขว้างบุหรี่ใส่ เรียกเธอว่า “Puta China” หรือที่แปลวได้ประมาณ “อีกรี่ชาวจีน” และ “China de mierda vuelve a tu país” ที่แปลว่า “กลับประเทศจีนของมรึงไปเลยไป” https://www.facebook.com/photo.php?fbid=224413361651468&set=a.107534726672666.1073741828.100022484167130&type=3 เธอจึงได้อัปโหลดรูปภาพของคนที่เหยียดเธอขึ้นในเฟซบุ๊ก เผื่อที่ใครจะจดจำกลุ่มวัยรุ่นพวกนั้นได้แล้วสามารถเอาผิดเพื่อทวงความยุติธรรมให้แก่เธอ โดยที่ข้อความที่เธอโพสต์มีอยู่ว่า “สวัสดีทุกคน ฉันชื่อ Iris เป็นนักเรียนต่างชาติที่เรียนอยู่ใน Málaga วันนี้ (29/04/2018) ฉันได้นั่งรถไฟครั้งแรกจาก…
-
เผยโฉมผู้สมัครหน้าใหม่ Paola González ลงเลือกตั้งเม็กซิโก ด้วยอายุเพียงแค่ 18 ปี!!
เมื่อพูดถึงเรื่องของการบ้านการเมือง การแข่งขันชิงตำแหน่งเก้าอี้ต่างๆ ภาพจำของผู้สมัครเข้าชิงมักจะเป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ พร้อมกับช่วงอายุที่จะเรียกด้วยสรรพนามนำหน้าว่า ‘ลุง’ แต่สำหรับเกมการเมืองชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีภายในรัฐ Jalisco ประเทศเม็กซิโก มีสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เมื่อหนึ่งในผู้สมัครหน้าใหม่กลับกลายเป็น หญิงสาวที่มาพร้อมกับอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น!! Paola González Dávalos เธอมีชื่อเต็มๆ ว่า Paola González Dávalos ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมือง Tepatitlán ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เกมการเมืองของที่นี่ เธอเพิ่งจะมีอายุครบ 18 ปีเมื่อเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่เธอลงสมัครชิงตำแหน่งทางการเมืองด้วย . อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุที่ยังน้อยในสายการเมือง เธอมักจะตกเป็นเป้าโจมตีของพรรคฝ่ายตรงข้าม แต่ด้วยการเตรียมความพร้อมก่อนลงสมัครที่ผ่านมา เธอทำงานทางด้านสังคมสงเคราะห์มาอย่างต่อเนื่อง และมีพี่เลี้ยงทางด้านการเมืองอย่างคุณพ่อคอยสนับสนุน . โปรไฟล์ของ González นั้นก็ไม่ได้แย่เลยด้วยทักษะทางด้านภาษาที่หลากหลาย ทั้งเชี่ยวชาญภาษาฝรั่งเศส โปรตุเกส และอังกฤษ และเธอก็เคยได้รับบทบาทเป็นผู้นำด้านต่างๆ ในองค์กรนอกภาครัฐมาหลายแห่ง . “ฉันมักจะถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามในเรื่องอ่อนประสบการณ์ แต่ฉันเชื่อว่าตำแหน่งนายกเทศมนตรีจะต้องมีทักษะความเป็นผู้นำ และความซื่อสัตย์…
-
รถ ‘Fake Taxi’ โดนขโมย งานนี้ชาวเน็ตเลยช่วยแชร์กันจ้าละหวั่น แล้วตูจะเอาอะไรดู!!
หลายคนคงอาจได้ยินชื่อหรือเคยดูเรื่องราวสุดมันส์ของ ‘Fake Taxi’ รถแท็กซี่ที่ร้อนแรงที่สุดในโลกเพราะใช้สำหรับถ่ายทำหนังผู้ใหญ่กับสาวๆ สวยๆ แต่ว่าในวันนี้ได้เกิดปัญหากับพวกเขาแล้ว เมื่อปรากฏว่าได้มีมือดีขโมยรถคันโปรดของพวกเขาไปซะอย่างนั้น!! เหตุการณ์การขโมยสุดยอดรถที่ใครก็อยากเข้านี้มีขึ้นในดึกของวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อรถแท็กซี่คันงามได้ถูกขโมยหายไปจากลานจอดรถในย่าน Sutton กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่ถึงอย่างนั้นก็แน่นอนว่าต้องมีกล้องวงจรปิดจับภาพขณะที่กลุ่มโจรกำลังขโมยรถเอาไว้ได้ และไม่รอช้าทีมงาน Fake Taxi ได้โพสต์ออกไปให้ชาวเน็ตช่วยกันแชร์ ช่วยกันตามหาสักหน่อย โดยพวกเขาเขียนแคปชั่นเอาไว้ว่า “พวกเราหมดคำพูดเลยจริงๆ รถ Fake Taxi คันออริจินัลที่ใช้ตั้งแต่เทปแรกของเราโดนขโมย ถ้าใครมีข่าวคราวเกี่ยวกับรถคันนี้ช่วยส่งมาให้พวกเราที่ [email protected] หน่อยนะ” https://twitter.com/FakeTaxi/status/1004025390954934274 นอกจากนี้ยังมีคำกล่าวของ Lew Thomas หัวหน้าฝ่ายผลิต Fake Taxi ออกมาขอวิงวอนขอความช่วยเหลือผู้คนให้ช่วยตามหารถคันนี้ให้หน่อย โดยเขาได้บอกเอาไว้ว่า “ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดีเพราะรถคันนี้มันมีประวัติศาสตร์กับพวกเรามาอย่างยาวนานและในตอนนี้พวกเราก็คิดถึงมันมากจริงๆ” นี่แหนะ มับเข้าให้ “แต่จริงๆ พวกเราก็ยังมีรถคันอื่นที่สามารถใช้งานได้อยู่ ดังนั้นแล้วไม่ต้องกลัวไปเพราะทาง Fake Taxi หรือ FakeHub จะไม่มีการหยุดผลิตอย่างแน่นอน เราหวังว่าจะหารถคันนี้ได้ในเร็ววันนี้…
-
หนุ่มเล่าประสบการณ์ ‘สักรูปแฟนเปลือยอก’ ไว้บนหลัง แต่สุดท้ายต้องเลิกราจากกันไป…
การรักใครสักคนมากๆ เราก็อยากที่จะสร้างความประทับใจให้กับเขา… เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มผู้นี้ ที่ลงทุนสักรูปแฟนสาวของตัวเองในสภาพเปลือยหน้าอกลงบนแผ่นหลัง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรักที่เขามีต่อเธอ แต่เรื่องของความสัมพันธ์ เป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ วันเวลาล่วงเลยผ่านไป กลับกลายเป็นว่าต้องเลิกกันซะงั้น!? เรื่องมีอยู่ว่าหนุ่ม Malakye Brooks ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่เกาะไอบิซา ประเทศสเปน ในช่วงวันหยุดยาว เขาได้พบกับแฟนสาวที่นั่นซึ่งเธอไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเธอเช่นเดียวกัน หลังจากที่ได้ดื่มกันสักแก้วสองแก้ว ทั้งคู่ก็ตกลงปลงใจคบกัน หลังจากนั้นก็พากันไปที่ร้านสัก แต่ไม่รู้ว่าจะสักลายอะไรดีๆ จู่ๆ แฟนสาวก็พูดขึ้นมาว่า “งั้นเอาเป็นรูปของฉันโชว์หน้าอกมั้ยล่ะ” ด้วยความที่อยากจะสร้างความประทับใจให้กับสาวเขาเลยตกลง การสักผ่านไปได้ด้วยดี ผลงานออกมาดูสวยสดงดงาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต้องมาถึงทางตัน “ในวันหยุดทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงมาก ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย มันก็เหมือนวันหยุดทั่วไป ผมไปเที่ยวกับเพื่อนของผม ส่วนเธอก็มากับเพื่อนของเธอ” “เราได้มาเจอกันช่วงกลางคืนตอนออกไปดื่มสังสรรค์ ผมตัดสินใจที่จะสัก และตอนนั้นก็คิดไม่ออกว่าจะสักอะไร แต่แล้วเธอก็เสนอขึ้นมาว่าให้สักหน้าของเธอในสภาพเปลือยหน้าอก ด้วยความที่ผมอยากจะทำให้เธอประทับใจก็เลยรับปากว่าจะสัก” “เธอจ่ายเงินค่าสักให้กับผมเป็นมูลค่ากว่า 20,000 บาท และผมก็นั่งสักนานกว่า 4 ชั่วโมง มันทรมานเหมือนกับโดนเชือดเลยล่ะ” Malakye เล่า นอกจากนี้เขายังเล่าต่อว่า “หลังจากที่สักกันเสร็จ ผมก็ไปเที่ยวที่คลับมีชื่อว่า…
-
ถึงกับช็อก สามีเจอ ‘กระดูก’ หลังบ้าน นำไปสู่การไขคดีฆาตกรรม ที่มีภรรยาเป็นฆาตกร!?
บางครั้งในพื้นที่หลังบ้านของเราอาจจะมีสิ่งของแปลกๆ ฝังอยู่ใต้ดิน โดยที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็เป็นได้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสิ่งของใช้ภายในบ้านทั่วไป อย่างเช่น แก้ว ถ้วย ชาม เป็นต้น หรือดวงดีหน่อยก็อาจจะเป็นสมบัติ อย่างแหวน เงิน ทอง แต่สำหรับชายคนนี้ เขาบังเอิญเจอสิ่งที่เหนือความคาดหมายยิ่งกว่านั้น…มันคือ ‘โครงกระดูก’ ของมนุษย์นั่นเอง แล้วเรื่องราวมันยิ่งพีคกว่านั้นอีก เพราะมันเป็นศพของสามีคนแรกของภรรยาของเขา ที่ถูกฆ่าด้วยการเอาขวานจามหัวโดยฝีมือของเธอ!? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Luzion เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในเขตไซบีเรีย สามีได้บังเอิญพบกับโครงกระดูกถูกฝังอยู่ในสวนหลังบ้านของตัวเอง และโครงกระดูกนั้นเป็นของ ‘สามีคนแรกของภรรยาของตน’ และสิ่งที่ทำให้หลอนยิ่งกว่านั้นคือสามีคนดังกล่าวถูกฆาตกรรมโดยภรรยาของเขานั่นเอง!! ชายผู้เป็นเจ้าของกระดูกถูกฆาตกรรมเมื่อตอนอายุได้ 52 ปี ตามรายงานระบุว่าในวันเกิดเหตุเขาเมากลับมาที่บ้านและทำร้ายภรรยา ก่อนที่จะถูกเธอเอาขวานจามเข้าที่หัว และหั่นร่างเป็นชิ้นๆ เอาไปฝังที่สวนมันฝรั่งหลังบ้าน และเวลาที่มีคนถามว่าสามีของเธอหายไปไหน เธอก็ตอบไปว่าเขาออกไปทำงานแล้วก็ยังไม่กลับมาที่บ้านเลย หลังจากที่พบกระดูก ภรรยาวัย 60 ปี ได้บอกกับเขาว่า “ไม่ต้องกังวล นี่เป็นกระดูกของสามีคนแรกของฉันเอง เราจะฝังมันไว้อีกครั้ง ลืมๆ มันไปซะ และอย่าไปบอกตำรวจล่ะ” แต่เขาไม่ทำแบบนั้น สามีคนที่สองตัดสินใจแจ้งตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็เริ่มทำการสอบสวนภรรยา…
-
พบมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยได้จากไอเดียการขาย ‘ไข่ปลอมหมา’ เฮ้ยอย่างนี้ก็รวยได้หรอฟะเนี่ย!!
บางครั้งความผิดที่แปลกใหม่จนดูประหลาดและพิสดารก็อาจจะทำเงินให้เราเป็นกอบเป็นกำได้ เหมือนกับชายผู้นี้ที่กลายเป็นมหาเศรษฐีได้จากการขาย ‘ไข่ปลอมหมา’ เพื่อใช้สำหรับหมาตัวผู้ที่ทำหมันจะได้ไม่เสียรูปทรงความงดงามที่สวรรค์ประทานมาให้นั่นเอง!! และ Gregg Miller คือชื่อของมหาเศรษฐีคนดังกล่าว เขาเป็นผู้ที่ประดิษฐ์คิดขึ้น ‘ไข่เทียม’ ซึ่งเป็นซิลิโคนสำหรับหมาตัวผู้ที่ทำหมัน เพื่อที่ว่ามันจะได้ไม่เสียรูปลักษณ์ความสวยงามจากไข่ที่โดนตัดทิ้งไปจนดูพิกลพิการไป เขาเล่าให้ฟังว่าไอเดียการสร้างอวัยวะปลอมสำหรับสัตว์นี้เกิดขึ้นในช่วงต้นยุค 90 โดยในตอนนั้นเขาได้ซื้อหมาพันธุ์ Bloodhound ชื่อว่า Buck มาเลี้ยงเอาไว้ และในตอนนั้นเองเขาก็ปฏิเสธที่จะทำหมันหมาเพราะอยากจะให้มันอยู่แบบธรรมชาติๆ โดยไม่ผ่านกระบวนการผ่าตัดใดๆ มากกว่า แต่ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่เจ้า Buck หายไปเต็มๆ เป็นเวลาถึง 4 วันด้วยกันเพราะด้วยอาการติดสัตว์ตัวเมียของมัน ซึ่งก็แน่นอนเขาบอกเวลาในช่วงเวลาที่มันหายไปนี้เองมันช่างเป็นเวลาที่แสนทรมานและเสียใจมากๆ กับการกระทำของตัวเอง และเมื่อตามหามันเจออีกครั้งเขาก็เปลี่ยนใจพามันไปทำหมันเพื่อที่ว่ามันจะได้ไม่หายไปอีกครั้งหนึ่ง ทว่าถึงจะเป็นอย่างนั้น Gregg ก็บอกว่าเขายังอยากให้เจ้า Buck มีรูปร่างที่งดงามเหมือนกับที่สวรรค์ให้มันมาตั้งแต่เกิดอยู่ เขาจึงขอให้สัตวแพทย์คนหนึ่งทำอวัยวะเทียมขึ้นมาให้เจ้า Buck และสัตวแพทย์คนดัวกล่าวก็บอกกับเขาว่านี่เป็นคำขอที่ดูไร้สาระที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลย แต่สำหรับ Gregg แล้ว เมื่อได้ยินสัตวแพทย์พูดอย่างนั้นมันกลับจุดประกายความคิดบางอย่างให้กับเขาซะมากกว่า… แต่ใครจะไปคิดว่าสัตว์แพทย์คนที่บอกกับ Gregg ว่านี่เป็นไอเดียที่สุดแสนจะไร้สาระ ในภายหลังกลับเปลี่ยนความคิดและขอมาร่วมสร้างงานชิ้นต้นแบบกับเขา และในที่สุดก็ได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า ‘Neuticles’ ไข่เทียมสำหรับหมาชื่อดังบนโลกใบนี้!!…
-
สาวถ่ายหนูวิ่งบนถาดขนมปัง ‘Burger King’ ในสหรัฐฯ เลยนำไปสู่การปิดพร้อมตรวจสอบ!!
แม้ว่าจะเป็นเครือร้านอาหารชื่อดังไปทั่วโลกอย่าง ‘Burger King’ แต่ว่าก็อาจความผิดพลาดเกิดขึ้นมาได้เป็นบางครั้ง เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ที่ร้านอาหารปล่อยให้หนูเข้าไปวิ่งเล่นอยู่บนแผ่นขนมปังอย่างสนุกสนาน จึงทำให้สาวคนหนึ่งอัดคลิปวิดีโอลงโซเชียล จนสุดท้ายนำไปสู่การสั่งปิดชั่วคราวในที่สุด โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นกับร้าน Burger King แห่งหนึ่งย่าน Brandywine Hundred ในรัฐเดลาแวร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อผู้ใช้งานเฟสบุ๊คชื่อว่า Shantel Johnson ได้ถ่ายวิดีโอหนูวิ่งอยู่บนถาดขนมปังของร้านอาหารแห่งนี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา (ตามเวลาสหรัฐฯ) พร้อมกับแคปชั่นที่ว่า “อย่าไปร้าน Burger King บน 202 เพราะว่ามีหนูวิ่งไปทั่วขนมปังเบอร์เกอร์เลย” วิดีโอที่สาวคนนี้ได้โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ค คลิปวิดีโอนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีผู้เข้าชมมากกว่า 700,000 ครั้ง รวมถึงมีคนแชร์อีกกว่า 20,000 ครั้ง จึงแน่นอนว่ามันก็ย่อมไปเข้าตาหน่วยงานรัฐเข้ามาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยสำนักงานสาธารณสุขของรัฐเดลาแวร์ก็ได้รับรู้เรื่องดังกล่าวในวันถัดมา และได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ซึ่งหลังจากตรวจสอบแล้วเบื้องต้นก็ได้มีการสั่งปิดในทันที เนื่องด้วยเหตุผลว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค รวมทั้งสถานที่ประกอบการไม่เอื้ออำนวย และมีการรบกวนจากหนู ในเรื่องนี้ทางสำนักงานใหญ่ของ Burger King ก็ได้ออกมาชี้แจงว่าร้าน Burger King…
-
สาวอเมริกันวัย 19 ปี ดังไปทั่วเพราะ “นัดเย” กับหนุ่มญี่ปุ่น 50 คน แล้วทำคลิปรีวิว!!
ปัจจุบันสิ่งที่นิยมทำกันในโลกออนไลน์ก็คงจะหนีไม่พ้น การรีวิว รีวิวสินค้า รีวิวอาหาร หรือรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งการรีวิวนี้ทำให้ชาวเน็ตเกิดความสนใจและติดตามเป็นจำนวนมาก เพราะถือเป็นข้อมูลความรู้และประสบการณ์ที่ดี วันนี้ สาวชาวอเมริกันเชื้อสายละตินคนหนึ่งก็ได้โด่งดังไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ตด้วยการรีวิวเช่นกัน แต่สิ่งที่เธอออกมาถ่ายวิดีโอรีวิวก็คือ รีวิวการนัดเยกับหนุ่มญี่ปุ่น!! Morena วัย 19 ปี สาวชาวอเมริกันดังกล่าว เธอมีชื่อว่า Morena อายุ 19 ปี ที่อธิบายตัวเองว่าได้เข้ามาขุดทอง (หาเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต) ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงในอินเทอร์เน็ตอยู่พอสมควร ต่อมาเธอก็สร้างประเด็นขึ้นมาอีกครั้งโดยการอัปโหลดคลิปวิดีโอ รีวิวการมีเซ็กส์กับหนุ่มญี่ปุ่น 50 คน! ซึ่งมีคนเข้าดูไปแล้วกว่า 2 แสนครั้ง เพราะเธอออกมารีวิวแบบละเอียด ถึงพริกถึงขิงกันเลยทีเดียว วิดีโอรีวิวการนัดเยหนุ่มญี่ปุ่น จากวิดีโอ เธอบอกว่าหนุ่มญี่ปุ่นจะมีขนาดกระปู๋ “เล็ก” แต่อย่างไรก็ตามเธอบอกว่าข้อดีของพวกเขาก็คือ การเล้าโลม เธอบอกว่าหนุ่มๆ ญี่ปุ่นบรรเลงบทเพลงแห่งการเล้าโลมได้เก่งกาจยิ่งนัก ตัวอย่างเช่น การใช้ปากกับแทบทุกส่วนของร่างกายไม่ว่าจะเป็น รักแร้ ขาพับ หรือแม้แต่ก้นก็ตามที แต่ Morena เองก็บอกว่า…
-
ไม่ยุติธรรม! สาวไต้หวันคลอดลูกแล้วอ้วน พอลดน้ำหนัก “หน้าอก” ดันไม่ลดด้วย!!?
ว่ากันว่า ผู้หญิงยามคลอดลูกแล้วรูปร่างก็จะเปลี่ยนไปทันที ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่รวดเร็วยามตั้งครรภ์ ประกอบกับอาหารต่างๆ ที่ทานเข้าไปจำนวนมาก อาจทำให้คุณแม่มือใหม่ “อ้วนขึ้น” ได้มากมายทีเดียว แต่สำหรับสาวสวยคนนี้กลับไม่เป็นอย่างที่คุณแม่มือใหม่ประสบพบเจอ หลังจากที่เธอคลอดลูกออกมาแล้ว เธอไม่ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองอ้วนขึ้นเลย สิ่งเดียวที่มันเพิ่มขนาดมากขึ้นกลับเป็น หน้าอก ซะงั้น! หญิงสาวชาวไต้หวันคนนี้ชื่อว่า Zhao Xinxin เธอได้ชื่อว่าเป็น “นักอักษรวิจิตรผู้เลอโฉม” ที่มีชื่อเสียงมากในไต้หวัน ล่าสุดในปี 2017 เธอก็ได้กลายเป็นคุณแม่ ซึ่งนั่นทำให้เธอกังวลมากว่าจะรูปร่างของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีก เธอส่องกระจกมองรูปร่างตัวเองแล้วร้องไห้ เพราะเธอรู้สึกว่าเธออ้วนขึ้น ตามแบบฉบับคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งคลอดลูกยังไงอย่างงั้น เธอจึงลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง มุ่งเน้นการออกกำลังกายและอาหารเพื่อสุขภาพ เวลาเพียงไม่กี่อึดใจ เธอก็ลดน้ำหนักตัวเองได้ถึง 18 กิโลกรัม มันทำให้เธอหุ่นเช้งกระเด๊ะกว่าเดิมอีก!! แต่ถึงจะลดน้ำหนักไปมากมาย เธอก็ยังคงมีหน้าอกและน้ำนมมากพอให้ลูก เพราะด้วยรูปร่างธรรมชาติของเธอนั้นก็เรียกได้ว่าบะละฮึ่มอยู่แล้ว ก่อนตั้งท้องเธอมีขนาดคัพหน้าอกที่ คัพ E เลยทีเดียว . ว่ากันว่าหญิงที่ตั้งครรภ์ขนาดของหน้าอกจะเพิ่มมากขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว Zhao Xinxin ก็เช่นกัน ขณะที่เธอตั้งครรภ์เธอบอกว่าขนาดหน้าอกของเธอเปลี่ยนจากคัพ E มาเป็น คัพ G กันเลยทีเดียว!! แถมปัจจุบันเธอลดน้ำหนักออกมากเกือบ…
-
เมืองในฝรั่งเศสพากันโหวต เพื่อให้เด็กๆ ในเมืองสวมใส่เครื่องแบบ เพื่อ “ความเท่าเทียมกัน”
เหล่าพ่อแม่ผู้ปกครองในเมืองแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้พากันโหวตเพื่อให้โรงเรียนในเมืองของพวกเขามีเครื่องแบบนักเรียนสำหรับเด็กประถม เรื่องนี้ถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ BBC เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเหล่าผู้ปกครองในเมืองพรอแว็ง ใกล้กับกรุงปารีส ได้พากันโหวตให้โรงเรียนประถม 6 แห่ง ที่สอนเด็กตั้งแต่อายุ 6 – 11 ขวบ มีการสวมใส่เครื่องแบบนักเรียน และจะเริ่มมีผลในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ Jean-Michel Blanquer ได้กล่าวว่าทางโรงเรียนต้องให้อิสระที่จะใส่ชุดนักเรียน แต่รัฐบาลจะไม่ตั้งกฎนี้ขึ้นมาเอง เพราะเด็กๆ ส่วนใหญ่ในบรรดาประเทศที่อยู่ในสหภาพ EU เองก็ไม่สวมเครื่องแบบนักเรียนกันเช่นกัน เว็บไซต์ข่าวของฝรั่งเศสอย่าง LCI บอกว่าเด็กในเมืองพรอแว็ง 759 คน จะได้รับการส่งเสริมให้สวมใส่เครื่องแบบ แต่จะไม่มีการบังคับใดๆ เครื่องแบบมาตรฐานเป็นเสื้อโปโลสีน้ำเงินมาตรฐานที่มีคำขวัญของพรรครีพับลิกันในฝรั่งเศสว่า “เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ” โดยในเครื่องแบบจะมีทั้งหมด 10 ชิ้น เมื่อคิดเป็นเงินแล้วก็จะตกอยู่ที่ชุดละ 170 เหรียญดอลลาร์ หรือราวๆ 5,417 บาท แต่หากในครอบครัวนั้นมีเด็กที่มีอายุไล่เลี่ยนกันมากกว่า 1 คน…
-
วิกโก้ มอร์เตนเซน เผย…ซื้อม้าที่แสดงในหนัง The Lord of The Rings กลับไปเลี้ยงที่บ้านด้วย!!
หลายๆ คนอาจไม่รู้ว่าหลังจากที่มีการถ่ายทำภาพยนตร์กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหล่าดารา นักแสดงต่างๆ ก็จะมีการนำอุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายทำในหนังกลับบ้านติดตัวไปด้วยเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก อย่างเช่นเรื่อง “เดดพูล” ไรอัน เรย์โนลด์ ถึงกับเอาชุดเดดพูลกลับบ้านไปด้วย หรือเรื่อง “แบทแมน” เบน แอฟเฟล็ก ก็เก็บแบตเตอแรงติดตัวกลับไปไว้ที่บ้านด้วยเช่นกัน แต่สำหรับ วิกโก้ มอร์เตนเซน ที่รับบทเป็น อารากอน ในหนังฟอร์มยักษ์อย่าง เดอะลอร์ด ออฟ เดอะริงส์ แล้ว เขากลับเลือกสิ่งที่ใหญ่กว่านั้นกลับไปเป็นที่ระลึก มันก็คือ ‘ม้า’ ที่เขาขี่มันในหนังนั่นเอง!! และไม่ได้มีแค่ตัวเดียวเท่านั้นนะ พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์กันในระหว่างการถ่ายทำจนถึงขั้นที่เรียกว่าคู่ซี้ และในที่สุดวิกโก้ก็ตัดสินใจที่จะรับมันไปอยู่ด้วยทั้งหมด!! “ผมซื้อม้าจากหนังเรื่อง LOTR มา แม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่กับมันตลอดเวลา เราพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน” “คุณรู้มั้ยว่า ผมไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก่อนเลย เหมือนแบบว่าถูกโยนลงไปในน้ำแล้วก็จำเป็นที่จะต้องว่ายน้ำด้วยตัวเอง เช่นเดียวกันกับเจ้า TJ ที่อยู่ๆ ก็ต้องมาเข้าฉากกับใครก็ไม่รู้ ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน ฉะนั้นเราต้องเชื่อมต่อกันให้รู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้นก่อนที่จะเข้าฉากด้วยกัน” “นั่นเองทำให้เราต้องสนิทกัน ผมอยากจะอยู่กับมันตลอด และกลายเป็นว่าหลังจากหนังเรื่องนี้จบ เรากลายเป็นคู่ซี้ที่แยกจากกันไม่ได้เลยล่ะ มันเป็นเพื่อนที่ดีมาก ดูสบายใจและมีความสุขเมื่อได้อยู่กับผม”…
-
ระทึกชีวิตนักดับเพลิง ยื่นตัวออกไปนอกหน้าต่างรอรับ ‘หญิงโดดตึก’ คว้าตัวได้หวุดหวิด!!
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีบุคคลพยายามพรากชีวิตตัวเอง จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยกู้ภัยและนักดับเพลิงทั้งหลาย ต้องออกมาช่วยรักษาชีวิตหลงทางให้รอดกลับมาได้อย่างปลอดภัย แต่สำหรับบางงานนั้น ชีวิตของเจ้าหน้าที่ก็เสี่ยงทั้งการช่วยเหลือที่อาจจะไม่สำเร็จ หรือแม้แต่กระทั่งต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนเหล่านี้ จากภาพที่เห็นเป็นภาพของนักดับเพลิงจากประเทศลัตเวีย ทราบนามว่าเป็นนาย Tomass Jaunzems เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคนดังกล่าว เดินทางมาถึงอาคารที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้หญิงรายหนึ่งจะกระโดดตึกลงมาจากชั้น 4 ช่วงจังหวะที่เขาไปไม่ทันถึงตัวหญิงสาว จึงตัดสินใจยื่นตัวดักรอรับผ่านหน้าต่างชั้นล่าง พร้อมกับเพื่อนเจ้าหน้าที่คอยยึดขาคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที หญิงคนดังกล่าวตัดสินใจกระโดดลงมา และนาย Jaunzems ก็สามารถคว้าตัวหญิงสาวระหว่างร่วงลงพื้นได้หวุดหวิด พร้อมกับนำตัวกลับเข้าสู่อาคารได้อย่างปลอดภัย ภายหลังเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นเอาไว้ว่า “ผมได้รับคำสั่งให้มารอที่ชั้น 3 หากเกิดอะไรขึ้นมา เป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องคว้าตัวเธอเอาไว้ให้ได้” คลิปช่วงวินาทีระทึก เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถคว้าตัวหญิงสาวได้อย่างหวุดหวิด ทางด้านหน่วยดับเพลิง VUGD ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านเฟสบุ๊กว่า “ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลต้องสงสัยกำลังจะกระโดดออกจากหน้าต่างชั้น 4 เมื่อมาถึงสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรู้ว่าหากพยายามเข้าไปถึงตัวเธอ เธอจะกระโดดลงมาทันที… ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมตัวรอรับอยู่ด้านล่าง อีกหนึ่งทีมจึงไปดักรอที่หน้าต่างเพิ่มเติม พร้อมกับอีกทีมที่กำลังเตรียมเข้าให้ความช่วยเหลือจากบนหลังคา ในที่สุดเธอตัดสินใจกระโดดลงมาและเราก็สามารถช่วยเหลือได้สำเร็จ” ที่มา: skaties,…
-
หนุ่มโมโหหิวบันดาลโทสะใช้มีดแทงแม่จนตายเพราะไม่ยอมทำ ‘แกงกระหรี่ไก่’ เอาไว้ให้
ในตอนที่เวลาหิวๆ ไม่ว่าอะไรที่เข้ามาตรงหน้ามันก็ดูน่าหงุดหงิดไปซะหมดเลยใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าจะเป็นป้าขายข้าวที่่ผัดช้า หรือแม้กระทั่งอากาศที่ร้อนที่ทำเอาเราเหงื่อซึมอยู่ตลอดเวลาเราก็เอาไปพาลได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ควรระงับความโมโหหิวของเราให้ดี มิฉะนั้นแล้วเราอาจจะทำอะไรไม่ยั้งคิดแบบขาดสติเหมือนกับชายคนนี้ ที่ใช้มีดแทงแม่วัยชราของตัวเองจนเสียชีวิต เพียงเพราะว่าไม่มีอาหารกลางวันกิน!! เหตุการณ์สุดสลดที่เกิดขึ้นยิ่งกว่ากล่องข้าวน้อยฆ่าแม่นี้ เกิดขึ้นที่รัฐอานธรประเทศ ประเทศอินเดีย เมื่อมีชายชื่อว่า Bejjam Kishore วัย 45 ปี ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่านาง Bejjam Mariammato แม่บังเกิดเกล้าวัย 80 ปีของเขาเองโดยใช้มีดแทงจากเหตุเพราะว่าเธอไม่ยอมทำอาหารกลางวันให้ โดยจากรายงานของสื่อ The Times Of India เล่าว่าในวันดังกล่าว Kishore ได้นำเนื้อไก่ส่วนหนึ่งมาที่บ้านแล้วให้หญิงชราคนนี้ทำแกงกระหรี่ไก่ให้กินสำหรับมิื้อกลางวัน และตัวเองก็ออกไปดื่มสุรารอเวลาที่จะกลับมากินข้าวที่บ้านอย่างมีความสุข ทว่าเมื่อกลับมาที่บ้านแล้วพบว่าแม่วัย 80 ปีของเขาไม่ได้ตระเตรียมอาหารไว้ให้พร้อมกินอย่างเสร็จสรรพ เขาก็บันดาลโทสะอย่างบ้าคลั่ง แล้วใช้มีดปลายแหลมแทงแม่ของเขาจนสิ้นลมหายใจไปในที่สุด ในระหว่างนั้นเองเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กันก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงชราคนนี้จึงวิ่งกรูเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น และสิ่งที่เพื่อนบ้านได้พบก็คือร่างไว้วิญญาณของหญิงแก่ ส่วนลูกชายผู้ก่อเหตุที่หนีไปอย่างทันควัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังตามตัวอยู่ จากการรายงานเพิ่มเติมก็พบว่า Kishore เป็นผู้ที่ติดเหล้าอย่างหนัก และได้ย้ายกับผู้เป็นแม่หลังจากที่ภรรยาและลูกๆ ของเขาทิ้งไปเพราะด้วยความเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่มของเขานั้นเอง นอกจากนั้นยังพบว่าในอดีตชายผู้นี้ยังเคยเป็นถึงผู้ฝึกหัดทางการแพทย์ของชุมชน แต่ชีวิตก็ต้องมาพังจากการดื่มอย่างไม่ยั้งคิดของเขาเช่นเดียวกัน ในตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าสามารถจับกุมชายคนนี้ได้แล้วหรือไม่ แต่ก็คาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังเร่งหาตัวมารับโทษจากความหิวนี้อย่างเร็วที่สุด …
-
ถูกแฟนๆ Star Wars คุกคาม!! จน Kelly Marie Tran ถึงกับต้องลบรูปทั้งหมดในอินสตาแกรม
การที่ดารา นักแสดงคนหนึ่งเลือกรับบทเล่นเป็นตัวละครตัวหนึ่ง อาจจะส่งผลดีหรือไม่ดีกับอนาคตของพวกเขาก็เป็นได้ บางคนจากนักแสดงโนเนมอาจจะก้าวกระโดดมาเป็นดาราที่มีชื่อเสียง แต่บางคนก็อาจจะถูกจำในฐานะแย่ๆ ไปเพราะบทบาทเดียว เหมือนอย่าง Kelly Marie Tran นักแสดงหญิงเชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน ที่ต้องยอมลบรูปภาพในอินสตาแกรมของตัวเองออกทั้งหมด เพราะถูกคุกคามจากแฟนของภาพยนตร์ซีรีส์ Star Wars ที่ไม่ค่อยจะพอใจในบทบาทที่เธอเล่น ในปี 2017 Kelly Marie Tran ได้กลายเป็นนักแสดงคนแรกที่มีเชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน ที่เข้ามาโลดแล่นอยู่ในจักรวาล Star Wars โดยที่เธอได้รับบทเป็น Rose ช่างซ่อมบำรุงประจำยาน ซึ่งภายหลังเธอได้ร่วมทีมกับ Finn เพื่อที่จะทำภารกิจที่สำคัญ แต่เมื่อภาพยนตร์ได้ออกฉายสู่ตาของผู้คนบทของ Rose กลับไปได้ไม่สวยงามอย่างที่เรานึกกัน Kelly Marie Tran ถูกแฟนๆ โพสต์ด่าเธอรวมถึงเหยียดเธออย่างมากมาย บางคนก็จับเธอมาเทียบกับชาวเอชียที่แสดงซีรีส์ Battlestar Galactica ที่มีหน้าตาสวยกว่า บางคนก็ยกให้เธอเป็นตัวละครยอดแย่ https://twitter.com/HalfWars/status/1002203244125409281?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.buzzfeed.com%2Fkrishrach%2Fpeople-are-upset-after-kelly-marie-tran-deleted-her ยิ่งไปกว่านั้นบางคนถึงกับหลังไมค์ไปหาแอคเคาต์ที่อัปเดตเรื่องของ Kell Marie Tran ว่าเป็นตัวละครที่ยอดแย่ที่สุดใน Star Wars https://twitter.com/dailykellymarie/status/952465737494532096?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.buzzfeed.com%2Fkrishrach%2Fpeople-are-upset-after-kelly-marie-tran-deleted-her…
-
กำเงินไว้ให้พร้อม ญี่ปุ่นออกของเล่นใหม่ HelloPika หุ่นยนต์ปิกาจู ที่สามารถพูดคุยกับคุณได้!?
กำเงินให้พร้อม เพราะนี่คือหุ่นยนต์ปิกาจู ของเล่นใหม่ที่จากญี่ปุ่นที่จะมาชวนคุยได้ตลอดทั้งวัน ถ้าพูดถึงตัวละครโปเกมอนที่โด่งดังที่สุด ทุกคนน่าจะนึกถึง “ปิกาจู” เป็นตัวแรก เพราะมันมีสีสันที่สดใสและด้วยคำพูด “ปิกาปิก้า” ก็ยิ่งที่ให้เรารู้สึกหลงรักมันเข้าไปใหญ่จนอยากจะให้มันมีตัวตนขึ้นมาจริงๆ ซึ่งหากคุณเคยคิดแบบนั้นล่ะก็ โปรดกำเงินให้พร้อม เพราะตอนนี้มันเกิดขึ้นจริงแล้ว เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Takara Tomy ผู้ผลิตของเล่นชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ได้ปล่อยโฆษณาทางทีวีตัวใหม่ เป็นของเล่นที่ชื่อว่า HelloPika มันคือหุ่นยนต์ปิกาจูที่สามารถพูดได้นั่นเอง หุ่นยนต์ปิกาจูจะตอบสนองต่อเสียงของคุณด้วยเสียง “ปิก้า!” ในแบบต่างๆ พร้อมกับหมุนหัวซ้ายขวาหรือผงกหัว เพื่อแสดงท่าทางต่างๆ และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพูดคุยกับมัน มันก็จะหันหน้าไปทางนั้นเพื่อให้รู้ว่ามันตั้งอกตั้งใจฟังสิ่งที่คุณพูดอยู่ ซึ่งเจ้าหุ่นตัวนี้จะแสดงออกได้หลายๆ แบบ เช่นแสดงท่าทางน่ารัก ง่วงนอน ร่าเริง ร้องเพลง หรือทำตัวบ้าๆ บอๆ ให้เรารู้สึกสนุกไปกับมัน นอกจากนั้นบริเวณแก้มที่เป็นจุดสีแดงๆ ก็จะมีการส่องสว่างขึ้นด้วย ทางบริษัท Takara Tomy ไม่ได้ระบุขนาดที่แน่นอนของเจ้า HelloPika แต่จากขนาดกล่องมีการคาดการณ์กันว่ามันน่าจะมีความสูงราวๆ 5.1 นิ้ว ด้วยขนาดตัวเล็กๆ แบบนี้ทำให้คุณสามารถพกมันติดตัวไปที่ไหนด้วยก็ได้ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเสื้อของคุณ เจ้า HelloPika จะเริ่มวางขายในวันที่ 4 สิงหาคม…
-
ประเทศซาอุดิอาระเบีย อนุญาตให้ผู้หญิงสามารถทำ ‘ใบขับขี่’ ได้แล้วเป็นครั้งแรก
วันที่ 4 มิถุนายน 2018 จากรายงานของสำนักข่าว Time ได้ให้ข้อมูลว่า ที่ประเทศซาอุดิอาระเบียได้มีการอนุมัติการออกใบขับขี่ให้กับผู้หญิงจำนวน 10 คนแรกของประเทศ หลังจากที่มีการยื่นคำขอร้องเรื่องกฎหมายที่ห้ามผู้หญิงขับรถมานานแสนนาน โดยปกติแล้วผุ้หญิงชาวซาอุฯ หากจะต้องเดินทางไปไหนต่อไหนต้องจ้างคนขับรถที่เป็นผู้ชายหรือต้องพึ่งพาญาติพี่น้องผู้ชายให้เป็นผู้พาไปเท่านั้น ห้ามขับรถเองโดยเด็ดขาด จากรายงานกล่าวว่า ผู้หญิงประเทศซาอุดิอาระเบียต้องเตรียมพร้อมเพื่อการทำใบขับขี่โดยการเข้าฝึกอบรมด้วย และประมาณการไว้ว่าจะมีผู้หญิงอีกประมาณ 2,000 คนที่ต้องการจะทำใบขับขี่ในช่วงสัปดาห์นี้ ผู้หญิง 10 คนแรกของประเทศที่ได้ทำใบขับขี่ได้เข้าสอบทำใบขับขี่ตามขั้นตอน ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากมีการเรียกร้องมากว่า 30 ปี นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบียก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สิทธิ์ประโยชน์แก่สตรีมากขึ้นเช่นการใช้พื้นที่สาธารณะอย่างสนามกีฬา โรงภาพยนตร์ สามารถทำงานด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจากพ่อ สามี หรือผู้ปกครองที่เป็นผู้ชาย และยังมีการตั้งสำนักจัดหางานให้กับผู้หญิงอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งกล่าวเกี่ยวกับการทำใบขับขี่ของหญิงชาวซาอุดิอาระเบียเอาไว้ว่า “วันที่ 4 มิถุนายน 2018 วันนี้เป็นวันที่ผู้หญิงคนแรกในซาอุได้รับใบขับขี่ แต่ขออย่าให้มันหายไปในการเฉลิมฉลองและสร้างภาพว่าซาอุได้มี ‘การเปลี่ยนแปลง’ เพราะมันยังคงมีความเผด็จการ กดขี่ สิ่งนี้เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ” ที่มา time , unilad
-
ภาพสุดท้ายเด็กหญิง 10 ขวบกับคนร้าย เดินจูงมือกันก่อนถูกฆ่าข่มขืน พบเป็นคนใกล้ตัวพ่อ
ในสังคมปัจจุบัน ความไว้เนื้อเชื่อใจกันถูกสั่นคลอนอยู่เสมอ แม้ว่าจะเคยรู้จักหน้าคร่าตากันมาก่อนก็ตาม เพราะสถานะความใกล้ชิดเหล่านี้นำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพของเด็กหญิง ผู้เป็นลูกสาวของเจ้าของร้านขนมหวานในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย กำลังเดินจูงมืออยู่กับอดีตคนงานร้านชื่อ Bholu วัย 24 ปี นาย Bholu นั้นเคยทำงานให้กับครอบครัวดังกล่าวมานานถึง 9 ปี ก่อนที่จะลงมือกระทำการข่มขืนเด็กหญิงอันเป็นลูกสาวของเจ้านายเก่าตัวเอง และภาพเดินจูงมือกันสองต่อสองคือภาพสุดท้ายที่เด็กหญิงยังมีชีวิต… หลังจากที่หายตัวไป เขาได้ลงมือข่มขืนเด็กหญิงและซ่อนศพเอาไว้ในถังภายในบ้านที่เขาอยู่ร่วมกับแม่ ก่อนจะเดินทางกลับมาทำงานตามปกติ ในช่วงเย็นวันเดียวกัน พ่อแม่ของเด็กรับรู้ถึงความผิดปกติของลูกสาว เหล่าอาสาสมัครพากันออกตามหาพร้อมกับนาย Bholu ที่แสร้งช่วยค้นหาด้วย จนกระทั่งได้รับเบาะแสจากเพื่อนบ้านของนาย Bholu ที่เห็นว่าอยู่กับเด็กเป็นรายสุดท้าย และความจริงอันโหดร้ายก็ปรากฎออกมาจากปากของเขาและแม่ของนาย Bholu… จากการชันสูตรศพของเด็กหญิง เจ้าหน้าที่ยืนยันแล้วว่าถูกข่มขืนก่อนถูกฆาตกรรม และทางตำรวจทำการจับกุมนายและสอบสวน Bholu ในข้อหาข้อความผิดทางเพศและกฎหมายเกี่ยวกับเด็ก พร้อมหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและพยานผู้เห็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาก่อนลงมือ… ที่มา: dailymail, metro, ndtv
-
น่าโดนมากแกร! รองเท้ากีฬา Biti’s Hunter ดีไซน์ Marvel’s Avengers จากเวียดนาม!!
หลังจากที่ค่ายการ์ตูน Marvel Comics ได้แจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์ก็ทำให้ผู้คนทั่วโลกหันมาชื่นชอบเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่กันอย่างล้นหลาม ด้วยความสำเร็จจากการสร้างภาพยนตร์ของค่าย Marvel ที่ได้ชื่อว่ามีความอลังการงานสร้าง ก็ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์อื่นๆ ออกวางขายให้เหล่าแฟนๆ ได้ซื้อไปใช้และสะสม แต่ล่าสุด ผลิตภํณฑ์ที่เข้าตา #เหมียวโลลิ ที่สุดไม่ใช่แก้วน้ำ เสื้อยืด หรือว่าโปสเตอร์ แต่กลับเป็น “รองเท้ากีฬา” ที่มีดีไซน์อิงมาจากเหล่าตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ใน Marvel นั่นเอง รองเท้าที่ท่านผู้อ่านเห็นคือ รองเท้ากีฬาจากประเทศเวียดนามยี่ห้อ Biti’s Hunter นั่นเอง ซึ่งรุ่นที่เห็นเป็นรุ่น Biti’s Hunter x Marvel ที่มีดีไซน์ลวดลายให้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ตัวเอกของ Avengers นั่นเอง รองเท้ารุ่นนี้เปิดตัวมาเมื่อปลายเดือนเมษายน 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งการตอบรับจากแฟนๆ ก็เรียกได้ว่าดีงามพระรามแปดเลยทีเดียว ส่วนเรื่องของราคานั้นก็ไม่เท่าไหร่ แค่ 1.5 ล้าน… ดอง (สกุลเงินของเวียดนาม) ราคาประมาณ 1.5 ล้านดองก็จะเท่ากับประมาณ 2,100 บาทไทยเท่านั้นเองจ้า ลาย Thor ดุดัน…
-
จากเด็กเดินหนาวไปเรียนน้ำแข็งเกาะหน้า สู่การเทงบจากรัฐบาล พัฒนาโรงเรียนครั้งใหญ่
หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เราได้เคยนำเสนอเรื่องราวของเด็กชาย Wang Fuman วัย 8 ขวบ จากประเทศจีน ที่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตเนื่องจากมีภาพที่เขาเดินฝ่าอากาศหนาว -8 องศาเพื่อไปโรงเรียนโดยมีน้ำแข็งเกาะบนเส้นผม คิ้ว และขนตา เพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด (อ่านข่าว เด็กชายผู้ฝ่าหิมะไปเรียน ได้ที่นี่เลย) ภาพของเด็กชาย Wang Fuman ที่มีน้ำแข็งเกาะเต็มไปหมด หลังจากที่เขากลายเป็นคนดังก็เริ่มมีคนบริจาคเงินช่วยเหลือแก่เขา จนได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย People’s Public Security University of China ในกรุงปักกิ่งเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นตำรวจ ซึ่งเป็นอาชีพที่เขาใฝ่ฝันอยากจะเป็น นอกจากนี้อาจารย์ใหญ่จากโรงเรียนเอกชนในเมืองเจาทงยังได้เสนอให้เด็กชาย Wang Fuman เข้าเรียนที่นั่นแบบฟรีๆ อีกด้วย ซึ่งก็หมายความว่าเขาจะไม่ต้องฝ่าอากาศหนาวๆ เพื่อไปเรียนในโรงเรียนบนภูเขาอีกแล้ว และยังจะได้เรียนในที่ที่มีมาตรฐานมากขึ้นมีคุณภาพมากขึ้นนั่นเอง แต่น่าเสียดายที่หลังจากเข้าเรียนเพียงแค่สัปดาห์เดียว ทางโรงเรียนก็ต้องขอให้เด็กชายลาออกไป เนื่องจากทางโรงเรียนไม่สามารถรับมือกับกองทัพสื่อและรัฐบาลที่ให้ความสนใจเรื่องราวของเด็กชายคนนี้ได้ เด็กชาย Fuman จึงต้องกลับไปอาศัยอยู่ในบ้านเก่าๆ แถบชนบทเช่นเดิม และกลับไปเรียนในโรงเรียนประถม Zhuanshanbao แบบหนาวๆ แถมไม่มีเครื่องทำความร้อนด้วย แต่จากการรายงานจากเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 6…
-
ขยี้ตารัวๆ ‘สองสาว’ ผู้ท้าชิงตำแหน่ง ‘คุณยายที่แซ่บที่สุดในโลก’ งานนี้ใครจะคว้าไปนะ!?
ใครบอกว่าการเป็นคุณย่า คุณยายจะต้องทำตัวแก่เสมอไป!!! คุณจะต้องเปลี่ยนความคิดทันทีเมื่อคุณเจอกับ 2 คุณยายที่เข้ามาชิงตำแหน่ง คุณยายที่แซ่บที่สุดในโลก 2 คนนี้ คนแรกชื่อว่า Gina Stewart อายุ 47 ปี สาวใหญ่แห่งแดนจิงโจ้ ที่เพิ่งกลายเป็นคุณยายไปไม่นานหลังจากที่ลูกของเธอเพิ่งมีหลานวัย 11 เดือน งานนี้สำนักข่าว Foxnews ถึงกับบอกว่าเธอคือ “World’s hottest grandmother” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า.. คุณยายที่แซ่บที่สุดในโลก!! ล่าสุดเธอเข้าร่วมประกวดมิสแม็กซิมออสเตรเลียที่เธอต้องเข้าช่วงชิงตำแหน่งกับคู่แข่งที่มีอายุห่างกับเธอหลักสิบปี เพราะผู้เข้าประกวดบางคนก็เพิ่งอายุ 18 ปีเท่านั้น https://instagram.com/p/Bh_vtY6DBvr/?utm_source=ig_embed จากภาพก็น่าจะสามารถการันตีได้ว่าคุณยายคนนี้หุ่นแซ่บแค่ไหน เธอบอกว่านี่ไม่ได้ศัลยกรรมอะไรเลยนอกจากการศัลยกรรมหน้าอกเมื่อ 11 ปีที่แล้ว https://instagram.com/p/BjCXs2fjRaB/?utm_source=ig_embed Gina กับลูกสาวคนสุดท้อง Gina เป็นคุณยายของหลานวัย 11 เดือน แต่ทว่า เธออาจจะเสียตำแหน่ง คุณยายที่แซ่บที่สุดในโลกให้กับ Carrie Hilton หญิงชาวอังกฤษที่กลายเป็นคุณยายตั้งแต่อายุ 35 ปี ซะแล้ว https://instagram.com/p/Bg0Z60gn8p_/?utm_source=ig_embed …
-
‘นายกฯ เนเธอร์แลนด์’ เผลอทำกาแฟหก แย่งไม้ถูพื้นจากแม่บ้านหน้าตาเฉย…
เมื่อมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงในระดับประเทศ ย่อมมีผู้คนห้อมล้อมคอยเป็นบริวารอันถือว่าธรรมดาตามฐานะสังคม แต่คุณจะเชื่อหรือไม่ว่า ผู้ใหญ่บางท่านกลับยังปฏิบัติตนเหมือนคนสามัญชนทั่วไป ตัวอย่างดีๆ จากนาย Mark Rutte นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ กำลังเดินเข้ารัฐสภา ผ่านหน้าจุดตรวจความปลอดภัยมาได้ พร้อมกับกาแฟแก้วน้อยๆ ของเขา ทว่ากาแฟแก้วที่ว่าดันหกเลอะเทอะบนพื้นเสียนี่… แม้จะมีหน้าที่การงานใหญ่โต แทนที่จะให้แม่บ้านมาจัดการตามหน้าที่ แต่เมื่อทำอะไรลงไปก็ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง เขาไม่รอช้าคว้าไม้ถูพื้นจากแม่บ้านมา ถูคราบกาแฟเองท่ามกลางเสียงของแม่บ้าน ฮร่าาาา เช็ดถู เช็ดถู อยู่นานสองนาน ดูเหมือนท่านนายกยังไม่พอใจกับความสะอาด ถึงขั้นถามแม่บ้านว่าจะปรับความยาวก้านจับไม้ยังไงกันเลยทีเดียว เขากำไม้ไว้แน่นไม่ยอมปล่อยพร้อมกับถูพื้นแถมให้อีก… ความน่ารักของนาย Mark Rutte นอกจากจะถูพื้นเองแล้ว เขาก็ยังเคยปั่นจักรยานไปทำงานด้วยนะ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ประชาชนคนทั่วไป หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมในวันที่พร้อมจะทำ และเคยปั่นจักรยานไปเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์เนเธอร์แลนด์ด้วยเช่นกัน เดินทางเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ด้วยการปั่นจักรยาน ขนาดอยู่ในวังยังต้องล็อค วันธรรมดาก็ปั่นไปทำงาน สื่อมวลชนรออยู่ โบกมือทักทายสักหน่อย ไปแล้วน้าาาาาา ที่มา: euronews, tribune,…
-
เกร็ดเบื้องหลัง 12 ข้อ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเครือดิสนีย์ ดูเกรี้ยวกราดจนเกือบจะไม่น่าจริง!?
นับตั้งแต่การก่อตั้ง สตูดิโอแอนิเมชั่นของค่ายดิสนีย์ได้สร้างปรากฏการณ์ความประทับใจมากมายให้กับคนทั่วโลก ด้วยเบื้องหน้าฉากแอนิเมชั่นที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ทุกวัย แถมบางเรื่องก็บทดีและล้ำลึกมากๆ แม้เบื้องหน้าจะดูเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นโลกสดใส สตอรี่เกี่ยวกับเด็กๆ หน่อย แต่เบื้องหลังของแต่ละเรื่องก็น่าตกใจไม่น้อย แบบชนิดที่ว่าคล้ายจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้จริง แต่ก็เกิดขึ้นไปแล้ว… 1. ผู้ให้เสียงเจ้าชายอีริคและผู้ให้เสียงเจ้าหญิงแอเรียล มีอายุห่างกันถึง 12 ปี ในตอนนั้น Christopher Daniel Barnes ผู้ให้เสียงเจ้าชายอีริค มีอายุเพียงแค่ 16 ปี ส่วน Jodi Benson ผู้ให้เสียงเจ้าหญิงแอเรียลมีอายุ 28 ปี (ซึ่งในเรื่องแอเรียลมีอายุแค่ 16 ปี ในขณะที่เจ้าชายอีริคจะมีอายุมากกว่า) 2. เสียงของ Natalie Portman เคยถูกนำมาใช้ในขั้นตอนร่างกำเนิดราพันเซล https://www.tumblr.com/artoftangled/34013596788/pencil-test-for-rapunzel-jin-kim-graphite ในขณะที่ราพันเซลออกฉายไปทั่วโลก ผู้ให้เสียงราพันเซลคือ Mandy Moore แต่รู้หรือไม่ว่าในขั้นตอนการร่างแอนิเมชั่นได้นำเสียงของ Natalie Portman จากเรื่อง Closer มาใช้ในซีนบีบคั้นอารมณ์ด้วย 3.…
-
หืมม!? โพลออกมาว่า สาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เคย “ซั่ม” กับพนักงานหนุ่มในที่ทำงานเดียวกัน!!
ในบรรยากาศของการทำงานที่หนักหนาและเคร่งเครียด มันอาจทำให้คุณเหงา เคว้งคว้าง และไร้ที่พึ่ง ยิ่งในสำนักงานของประเทศญี่ปุ่นที่ได้ชื่อเรื่องความเคร่งด้วยแล้ว พนักงานก็อาจขาดความอบอุ่นได้เป็นเรื่องธรรมดา ด้วยเหตุนี้ จากสถิติจึงพบว่า หญิงสาวชาวญี่ปุ่นจำนวนมากหลงใหลในความอบอุ่นของอ้อมแขนเพื่อนร่วมงานต่างเพศ ซึ่งจากการสำรวจล่าสุดก็ยังคงพบว่า พนักงานหญิงและชายที่มีสัมพันธ์สวาทต่อกันนั้นเป็นเรื่องปกติ มีการทำโพลจาก Aikatu เว็บไซต์สำหรับหญิงสาววัย 20-30 ปีขึ้นไป ถามผู้ใช้งานเว็บไซต์ของตนเองว่า “มีความสัมพันธ์ทางกายกับเพื่อนร่วมงาน” บ่อยแค่ไหน? คำตอบที่ได้คือ จากผู้ใช้ 1,162 คนที่ตอบเข้ามา มากกว่า 3 ใน 4 ตอบว่า เคยหลับนอนกับเพื่อนร่วมงาน ผู้ตอบแบบสำรวจ 45.5 เปอร์เซ็นต์ เผยว่า ไม่ได้มีเซ็กส์กันกับเพื่อนร่วมงานเพศชายเพียงเท่านั้น บางทียังทำกับคนที่ไม่ได้รู้สึกรักใคร่อีกด้วย ส่วนอีก 32.2 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า พวกเขามีการล้ำเส้นหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์กันแล้วกลายเป็นความรักใคร่เกิดขึ้น แต่อีก 22.3 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า การมีเซ็กส์ที่จริงก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของการงานเลย แต่ก็ไม่อาจพูดได้ว่าสถานที่ทำงานของประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นแหล่งนัดแลกเซ็กส์หรือว่าอะไรก็ตามที่เป็นทำนองเดียวกัน แต่นั่นเป็นเพราะว่าสังคมการทำงานที่จริงจังและเคร่งครัดของญี่ปุ่นทำให้ผู้คนมีเวลาพบปะและสานสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ค่อนข้างน้อย ดังนั้น ตราบใดเท่าที่ผลงานในที่ทำงานยังคงดี เรื่องความรักที่เกิดขึ้นหากจัดการอย่างรอบคอบแล้วก็ไม่ได้เป็นผลเสียในมุมมองของบริษัท อีกอย่างคือในวัยทำงานสำหรับชาวญี่ปุ่นก็คือวัยที่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้…
-
ฟาวล์กี่ครั้งก็ยอม~ ชาวเน็ตใจละลาย เมื่อสาวน้อยคนนี้คือ “กรรมการ” งานแข่งบาสในจีน
นอกจากการพักผ่อนที่เพียงพอและเครื่องดื่มชูกำลังแล้ว ก็มี “นวลนางข้างสนาม” เนี่ยแหละ ที่ทำให้เหล่านักกีฬากลับมามีแรงแข่งขันได้อย่างเต็มเหนี่ยว สำหรับหนุ่มๆ แล้วกำลังใจที่ดีคงหนีไม่พ้นสาวๆ น่ารักๆ ที่มานั่งเชียร์กีฬาในละแวกนั้นแน่ๆ แต่กลับกัน ถ้าสาวงามหน้าตาน่ารักกลับมาเป็น กรรมการ ล่ะ จะกลายเป็นว่าตั้งใจเล่นหรือว่าตั้งใจฟาวล์มากขึ้นกันล่ะทีนี้!? ล่าสุดในงานแข่งขันบาสเกตบอล Golden League ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สิ่งที่ทำดึงดูดสายตาคนทั้งสนามและทั้งสเตเดียมหาใช่นักกีฬาฝีมือดีไม่ แต่กลับเป็น กรรมการสาวน้อยน่ารัก นั่นเอง อร๊างง!!~ กรรมการสาวสวยคนนี้ ชื่อว่า Hao Hao เธอเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัย Hunan Normal University หลังจากมีคนถ่ายภาพเธอมาเผยแพร่ เธอได้คว้าหัวใจชาวเน็ตกันไปอย่างล้นหลาม นอกจากความสวยกับความน่ารักที่เป็นธรรมชาติของเธอแล้ว เธอยังเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลหญิงในทีม CUBA ในตำแหน่งสมอลฟอร์เวิร์ดอีกด้วย!! เรียกได้ว่าทั้งสวยทั้งเก่งเลยนะเนี่ย . เธอเป็นที่เอ็นดูของเหล่าโค้ชบาสเกตบอลมาตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยละอ่อน จนได้รับการฝึกฝนเพื่อเป็นนักกีฬานับแต่นั้นมา แต่น่าเสียดายที่ส่วนสูงของเธอยังไม่ถึง 168 ซม. ซึ่งโค้ชมองว่าไม่เหมาะกับการเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล สมัยเด็ก เธอเป็นเด็กที่เชื่อฟังพ่อแม่อย่างมาก เธอไม่ได้เรียนศิลปะและวรรณกรรมอย่างที่ใจต้องการ แต่เมื่อเธอเริ่มโตเป็นสาวเธอก็สมัครเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลหญิงของโรงเรียน แต่โค้ชกลับปฏิเสธ ถึงกระนั้น Hao…
-
หนุ่มตั้งใจขาย ‘ผ้าคลุมล่องหน’ ขายจริงจัง เฮ้ย มันล่องหนได้จริงๆ นะแกร๊ เชื่อเราเถอะ!!
สิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการบนโลกแห่งความเป็นจริง มักจะปรากฏให้เป็นจริงได้ผ่านภาพยนตร์แฟนตาซีต่างๆ หรือไม่ก็สื่อบันเทิงในรูปแบบอื่นๆ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน… แต่หากคุณเป็นแฟนตัวยงของโลกเวทมนตร์พ่อมดน้อยแฮร์รี่ ไอเทมที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าไม้กายสิทธิ์ก็น่าจะเป็นผ้าคลุมล่องหน คิดดูสิว่าถ้ามีจริง มันจะเจ๋งแค่ไหน ขายผ้าคลุมล่องหนสีฟ้า +10 ขนาด 42 คอ 15 นิ้ว พร้อมกระเป๋าด้านใน 2 ช่อง ต่อรองได้จ้า พร้อมลองใช้งานให้ดู ไม่ใช่ช่วงเมษาหน้าโง่ซะด้วย แหม่… เอาเข้าจริงๆ แล้ว มีคนเอามาขายด้วยนะเออ พ่อหนุ่ม Stewart Knox ก็อยากจะลงขายของออนไลน์หารายได้เสริมแบบขำๆ บ้าง พี่แกเล่นงัดขายผ้าคลุมล่องหนผ่านเฟสบุ๊กในราคาตัวละ 200 ปอนด์ (8,500 บาท) เท่านั้นนนน ถือว่าถูกมากกับความสามารถล่องหน!! ดูนะครับ นี่คือผ้าคลุมล่องหนของจริง เดี๋ยวจะลองใส่ให้ดู… เฮ้ยยยยย ล่องหนจริงๆ ด้วย!! จากโพสต์ขายผ้าคลุมล่องหน ในตอนแรกลูกค้าก็คิดกันเป็นจริงเป็นจังว่านี่พี่ซีเรียสขายแบบนี้เลยเหรอ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงเขาได้ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ UNILAD ไว้ว่า …
-
เด็กน้อยผู้กล้าวัย 6 ขวบ ยอมเสี่ยงชีวิตของตัวเอง เพื่อช่วยเหลือพ่อที่ถูกจับเป็นตัวประกัน
ความกล้าหาญ อาจหมายถึงการที่เรายอมเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือคนรอบข้าง เหมือนอย่างที่เด็กน้อยวัย 6 ขวบคนนี้ได้ทำ หลังจากที่เขาเห็นว่าพ่อกำลังตกอยู่ในอันตราย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเมือง Paranavai ทางตอนใต้ของประเทศบราซิล โจรสวมฮู้ด 3 คนพร้อมอาวุธปืนบุกเข้ามาเพื่อจะปล้นเอาของมีค่ากลับไป ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านมินิมาร์ท ในวันที่ 2 มิถุนายน 2018 โจร 3 คนถือปืนบุกเข้ามาปล้น ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าโจรคนหนึ่งได้ล็อกคอผู้ชายสวมเสื้อเขียวฟ้าเอาไว้ ซึ่งเขาคนนั้นมีชื่อว่า Francisco Carlos Alves Silva คุณพ่อที่เป็นเพียงลูกค้า พาลูกชายออกมาจับจ่ายซื้อของตามปกติ ขณะที่โจรกำลังจับ Francisco เอาไว้เป็นตัวประกัน และจ่อปืนจี้เจ้าของร้านสะดวกซื้ออยู่นั้น เด็กน้อยวัย 6 ขวบลูกชายของ Francisco ก็วิ่งเข้ามาด้วยความกล้าหาญ พยายามจะปกป้องพ่อของเขา ลูกชายผู้เปี่ยมไปด้วยความกล้า พยายามเข้ามาปกป้องพ่อของตัวเอง เราจะเห็นว่าเด็กน้อยคนนี้พยายามดึงแขนพ่อออกมา พร้อมทั้งต่อยและเตะใส่ผู้ร้ายที่กำลังจับพ่อของเขาเอาไว้ ส่วน Francisco เองก็พยายามไกล่เกลี่ยกับโจรทั้งสาม และกันลูกชายตัวน้อยออกไปห่างๆ Francisco ยื่นกระเป๋าตังให้กับโจรคนหนึ่ง เพราะไม่อยากจะต้องให้มีเรื่องอะไรร้ายแรง จึงทำให้กลุ่มโจรวิ่งออกไปโดยไม่มีใครต้องได้รับบาดเจ็บ…
-
หนุ่มใหญ่วัย 50 ยัด “มะเขือยาวอันใหญ่ยักษ์” เข้ารูทวารตัวเอง เพื่อแก้ปัญหาท้องผูก?!
เวลาที่เพื่อนๆ มีอาการปวดท้อง ท้องผูก ขับถ่ายไม่ออก เพื่อนๆ จะแก้ปัญหานั้นกันอย่างไร? บางคนอาจกินยา บางคนอาจไปหาหมอ แต่สำหรับชายวัย 50 ปีคนนี้ เขากลับมีวิธีจัดการกับเรื่องนั้นแตกต่างออกไป เมื่อเขาใช้มะเขือยาวอันใหญ่ยักษ์สวนก้นตัวเองซะเลย ในวันที่ 5 มิถุนายน 2018 สำนักข่าว Shanghaiist รายงานว่า ชายชาวจีนคนดังกล่าวยัดเอามะเขือยาวเข้าไปในรูทวารหนักของตัวเอง เพื่อแก้ปัญหาปวดท้อง และอาการท้องผูกที่เป็นอยู่ เห็นดุ้นใหญ่ๆ ในร่างของเขากันมั้ยเอ่ย? วิธีการแก้ปัญหาของเขากลับกลายเป็นตัวสร้างปัญหาที่มากกว่าเดิม อาการปวดท้องเพิ่มมากขึ้น และมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเพิ่มเติมอีกต่างหาก หลังจากทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดอยู่ได้ 2 วัน เขาก็ตัดสินใจที่จะเข้าไปทำการรักษาในโรงพยาบาลใกล้เคียง (ไม่มีการรายงานว่าเป็นโรงพยาบาลไหน) ภาพที่ถูกถ่ายเอาไว้ในโรงพยาบาลดังกล่าว แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์จนพบว่ามะเขือยาวที่ถูกยัดเข้าไปในร่างกายนั้นมีขนาดใหญ่มาก และมันก็ได้เข้าไปสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะภายใน ไม่เว้นแม้แต่ปอดของชายหนุ่ม เข้าไปทางไหนก็ต้องออกมาทางนั้น… ทีมแพทย์รีบช่วยกันพยายามดึงมันออกมาจากรูทวารหนักของเขา แพทย์จำเป็นต้องเอามันออกมาอย่างระมัดระวัง สุดท้ายเจ้ามะเขือยาวก็ออกมาจากร่างของชายคนนี้ได้สำเร็จ ทำให้ทุกคนได้เห็นว่ามันมีขนาดยาวราวๆ 30 เซนติเมตรเลยทีเดียว (นั่นมันพอๆ กับฟุตเหล็กเลยนะ!!) .…
-
จากเหตุแย่งที่นั่งบนรถไฟฟ้า ‘หญิงผิวสี’ ตะโกนด่ายับพร้อมกับเหยียด ‘หญิงเอเชีย’
สหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นประเทศที่มีผู้คนมากมายหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งผิวขาว ผิวสี ชาวเอเชียหรือจะเป็นจำพวกลูกครึ่งชาติต่างๆ ที่ต่างเชื้อสาย และด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาตินี่แหละทำให้เกิดความไม่เสมอภาคในสังคมขึ้นมา ถึงจะไม่เด่นชัดแต่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราก็ยังสามารถเห็นเหตุการณ์ที่มีการเหยียดกันเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ และในเรื่องที่เราจะนำมาเล่านี้ก็เช่นกันครับ โดยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟฟ้าใต้ดินในมหานครนิวยอร์ก ได้เกิดการแย่งที่นั่งบนรถเกิดขึ้นระหว่างเด็กและหญิงแก่ชาวเอเชียและก็มีการส่งเสียงดังไปทั่วรถ วันที่ 2 มิถุนายน 2018 ได้มีคนอัปโหลดวิดีโอขึ้นบน Youtube พร้อมกับคำอธิบายว่า “หากฉันเข้าใจเรื่องนี้ถูกต้องคือผู้หญิงคนนี้รู้สึกอารมณ์เสียที่มีคนลุกยืนให้ที่กับหญิงแก่ชาวจีน แต่ไม่ได้ยืนให้แก่ลูกสาวของเธอ ที่ฉันเข้าใจว่าคือในตอนแรกลูกสาวของเธอกำลังแชร์ที่นั่งกับคนที่ลุกให้กับหญิงแก่ พอเขาลุกไปลูกสาวก็จะขยับมานั่งเต็มๆ ที่นั่ง แต่คนที่ลุกไปเขายกที่นั่งให้กับหญิงแก่ คุณแม่ของเด็กสาวไม่พอใจจึงเกิดการทะเลาะเกิดขึ้น” ในวิดีโอผู้หญิงผิวสีได้ตะโกนด่าหญิงแก่ชาวเอเชียว่า “ออกไปเลยนะ ออกไปจากที่นั่งของลูกสาวตูเลย เพราะลูกสาวดูเป็นคนสเปนส่วนมรึงมันคนจีน” หญิงแก่ก็ตอบกลับมาว่า “ระวังคำพูดหน่อย” แต่คุณแม่จอมโวยก็ยังไม่หยุดพร้อมกับด่าต่อว่า “ระวังตูดมรึงสิและก็ย้ายตูดมรึงไปก่อนที่กุจะเตะตูดมรึง” พร้อมกับตะโกนต่อว่า “อีกะหรี่ กุจะเอามึงออกไปจากที่นั่งเอง หรือจะเอา!!” เธอพูดพร้อมกับตบมืออย่างน่ากลัว แถมเธอยังส่งเสียงให้ลูกสาวของเธอผลักชาวจีนออกไปว่า “ผลักมันเลยลูก! ผลักมันเลยลูก! ผลักมันออกจากที่นั่งไปเลยลูก ออกไปเลยนะอีกะหรี่” ซึ่งลูกของเธอก็ลงมือผลักชาวจีนจริงๆ แต่แรงผลักนั้นไม่มากพอที่จะทำให้เธอได้ที่นั่งมาครอง แต่หลังจากที่คุณแม่เห็นลูกผลักไม่ไหว เธอก็เลยลุกขึ้นมาผลักหญิงชาวจีนด้วยตัวเองจนหญิงแก่นั้นตกที่นั่งไปจนสำเร็จและยังเปล่งเสียง “อย่ามาเล่นกับลูกสาวกูนะอีกะหรี่!!” ก่อนจะกลับไปนั่งที่ตัวเอง ยังดีที่หญิงแก่ยังได้คนช่วยพยุงไว้และเลือกที่จะยืนแทนที่จะกลับไปนั่งตรงนั้นอีกครั้งและพูดว่า “ระวังคำพูดหน่อย ฉันจะไปแจ้งตำรวจ” แต่คุณแม่จอมเดือดก็พูดกลับมาว่า “นี่ไม่ใช่ประเทศของมรึง…
-
ครูหนุ่มมาสอนแทน แต่ได้เงินเดือนช้า-ต้องนอนโรงเรียน นร.เลยระดมเงินบริจาคให้
อาชีพครู หรือที่เราเรียกกันในนามของ แม่พิมพ์ของชาติ ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับเด็กนักเรียน เป็นอาชีพที่ต้องใช้ทั้งความอดทน ความทุ่มเทแรงกายแรงใจที่ตั้งใจจะมอบความรู้ให้กับเด็กๆ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอนาคตของชาติ คอยนำทางให้เด็กแต่ละคนได้ไปตามทางที่พวกเขาอยากจะเป็น หนึ่งในคุณครูตัวอย่างที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ เขาชื่อว่า Bruno Rafael Paiva เป็นชายชาวบราซิลที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจสอนนักเรียนทั้งๆ ที่เขานั้นจะไม่ได้รับรองว่าจะได้เงินเดือนหรือไม่ Bruno ได้รับคำสั่งให้มาสอนแทนคุณครูผู้หญิงท่านหนึ่งอยู่ในระหว่างการลาคลอด แต่ด้วยความผิดพลาดของฝ่ายบัญชีรวมไปถึงความล่าช้าในระบบราชการทำให้รายชื่อของเขายังไม่ได้รับการบรรจุ ทำให้เขาอาจจะต้องได้รับเงินเดือนล่าช้าไปอีก แต่ด้วยสปิริตของเขา เรื่องเงินเดือนมันเป็นของนอกกาย เขาจำเป็นต้องพักอาศัยที่โรงเรียนระหว่างรอเงินเดือนที่ไม่รู้ว่าจะได้ตอนไหน ซึ่งเด็กๆ ที่เขาสอนอยู่แอบรู้มาว่าเขาประสบปัญหานี้จึงได้รวมตัวกันทำเซอร์ไพรส์ลับๆ ให้กับเขา เพื่อตอบแทนที่เขาคอยให้ความรู้มาตลอด นักเรียนในชั้นเรียนต่างก็รวมเงินกันคนละเล็กละน้อยตามกำลัง รวบรวมเงินได้จำนวน 400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12,800 บาทเพื่อเอาไว้ให้เขาได้ใช้สอยระหว่างรอเงินเดือนเข้า โดยพวกนักเรียนได้แอบเซอร์ไพรส์ด้วยการนำเงินใส่กล่องเล็กๆ เอาไว้ให้เขาตอนที่เข้ามาสอน พอคุณครูท่านนี้เดินเข้ามาในห้องก็ได้คุยเล่นกับเหล่านักเรียนตามประสา แต่พอเห็นกล่องเงินที่นักเรียนเตรียมไว้ให้ก็น้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความซาบซึ้งใจที่นักเรียนได้พยายามทำเพื่อเขาขนาดนี้ ยิ่งพอนักเรียนมารุมกอดเขาทั้งห้องยิ่งทำให้ซึ้งใจเข้าไปใหญ่ . คลิปวิดีโอเซอร์ไพรส์แบบเต็มๆ คลิปวิดีโอที่นักเรียนของเขาทำเซอร์ไพรส์ เขาได้นำมันมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2018 ได้รับยอดวิวไปมากกว่า 6…
-
โรงเรียนห้ามนร.ชาย ใส่ขาสั้น แม้อากาศร้อน แต่พร้อมเปิดกว้างให้นร. ชายใส่กระโปรงได้!?
กลายมาเป็นปัญหาระดับเกือบจะชาติแล้ว สำหรับโรงเรียนในประเทศอังกฤษกับอากาศที่ร้อนมากขึ้น และอุปสรรคการเรียนของเหล่านักเรียนชายก็คือเครื่องแบบกางเกงขายาว… อากาศร้อนๆ แบบนี้ ให้ใส่กางเกงขายาวไปเรียน น่าจะทำให้รู้สึกอึดอัดพอสมควร แต่เนื่องจากไม่สามารถใส่กางเกงขาสั้นได้ เพราะไม่ใช่เครื่องแบบอย่างเป็นทางการและดูไม่สุภาพ ปัญหานี้จะต้องแก้ไขอย่างไรล่ะ? บางโรงเรียนบังคับให้ใส่เครื่องแบบ ‘กางเกงขายาว’ ตลอดทั้งปี Alastair Vince-Porteous หนึ่งในผู้ปกครองของนักเรียนจากสถาบัน Oxfordshire’s Chiltern Edge Secondary School ได้สอบถามไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องว่า ถ้าให้ลูกชายใส่ขาสั้นไปโรงเรียนจะได้หรือไม่ คำตอบก็คือ’ ไม่’ เพราะไม่ได้อยู่ในนโยบายเครื่องแบบถูกระเบียบ แต่มีทางออกที่ได้รับแนะนำกลับมาก็คือ นโยบายเครื่องแบบถูกระเบียบนั้นไม่กำจัดทางด้านเพศสภาพ เพราะฉะนั้นเด็กผู้ชายสามารถใส่กระโปรงของเด็กผู้หญิงได้ และเด็กผู้หญิงก็สามารถใส่กางเกงขายาวได้เช่นกัน หากต้องการ… “ฉันได้รับแจ้งมาว่ากางเกงขาสั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบ น่าละอายจริงๆ ที่เราไม่อาจเปิดกว้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ไม่ได้อยากจะให้ลูกใส่อะไรสีฉูดฉาดหรือยีนเดฟ ก็แค่อยากให้ได้ใส่ขาสั้นที่เหมาะสมสำหรับช่วง 2 เดือนต่อปี (ฤดูร้อน) มันไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร ฉันรับรู้มาว่าที่ผ่านมา ทางโรงเรียนอื่นอนุญาตให้เด็กชายใส่กระโปรงได้ ก็เลยถามว่าลูกชายของฉันสามารถทำแบบนั้นได้มั้ย และทางโรงเรียนก็ตอบว่าได้” ในช่วงนี้ที่ประเทศอังกฤษเริ่มมีอากาศร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึง 26 องศาเซลเซียส…
-
นิตยสาร TIME เล่นใหญ่สร้าง “ภาพปกลอยฟ้า” ด้วยฝูงโดรนกว่า 900 ตัว!
เรียกได้ว่าเล่นใหญ่กันสุดๆ เลยทีเดียวสำหรับ นิตยสารชื่อดังอย่าง Time Magazine เพราะล่าสุดได้มีการทำปกนิตยสารที่ลอยอยู่กลางเวหาแบบไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน จากงานพิมพ์ลงกระดาษด้วยเส้นและอักษรอันเป็นเอกลักษณ์ คราวนี้เปลี่ยนมาใช้ “โดรน” กว่า 900 ตัวบินขึ้นไปบนฟ้าแล้วเรียงตัวกันเป็นภาพของปกนิตยสาร Time นอกจากจะใช้โดรนบินเรียงกันเป็นภาพปกแล้ว ภาพนี้ยังถูกถ่ายโดยโดรนอีกด้วย D. W. Pine หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของนิตยสาร Time กล่าวว่าตลอด 95 ปีของ Time นี่เป็นครั้งแรกที่มีการใช้โดรนสร้างภาพปก มันแสดงให้เห็นถึงยุคสมัยและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ฝูงโดรนจำนวน 958 ตัวบินอยู่ 100 เมตรเหนือเมือง Folsom รัฐแคลิฟอร์เนีย เหล่าทีมงานก็ต้องพบเจอกับความท้าทายต่างๆ เช่น กระแสลม ที่ทำให้โดรนไม่บินไปตามรูปทรงที่วางไว้ และมันก็ออกมาเป็นแบบนี้ ปกนิตยสารกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า และนี่ก็คือภาพปกนิตยสาร Time ล่าสุด ลองมาดูเบื้องหลังกันดีกว่า ภาพเคลื่อนไหวขณะที่โดรนทั้ง 958 ตัวกำลังบิน…
-
สาวเป็นโรควิตกกังวล เขียนรายละเอียดให้แฟนหนุ่มได้อ่าน เพื่อให้เข้าใจในสิ่งที่เป็นอยู่…
อาการหรือโรคที่เกี่ยวกับทางด้านจิตใจภายใน เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ยากและยากที่จะเข้าใจได้สำหรับบุคคลที่ไม่ได้เป็น เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาอารมณ์หรือความรู้สึกนึกคิดของผู้ป่วยได้ และควรจะรับมืออย่างไร… ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกเผยว่า โรควิตกกังวล เป็นโรคทางจิตที่มีผู้ป่วยมากที่สุดในอัตรา 1 ต่อ 13 คนทั่วทั้งโลก ความวิตกกังวลเหล่านี้ จะทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันได้ยากมากขึ้น แม้จะเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ก็ตาม Kelsey Darragh Kelsey Darragh ได้แชร์ประสบการณ์เผยถึงโรควิตกกังวลของเธอ พร้อมกับเขียนรายละเอียดลงในสมุด เพื่อให้แฟนหนุ่มได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเธอและโรคนี้ เธอได้จดรายการ 15 สิ่งที่ควรทำเพื่อรับมือกับอาการของเธออย่างถูกต้อง “ฉันเป็นโรคแพนิคกับโรควิตกกังวล แฟนฉันไม่ได้เป็น แต่เขาต้องการที่จะเข้าใจมันเพื่อที่เขาจะช่วยฉันได้ ฉันก็เลยทำลิสต์มาให้ แชร์ให้กับคนที่คุณรักเพื่อเป็นแนวทางนะ” เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคทางจิตใจ เธอจึงทำลิสต์สิ่งที่ควรปฏิบัติต่อผู้ป่วยให้แฟนหนุ่ม เพื่อที่จะรับมือได้อย่างถูกวิธี 15 สิ่งที่คุณสามารถช่วยให้ฉันก้าวผ่านอาการแพนิควิตกกังวลไปได้ 1) ต้องรู้ก่อนว่าฉันกลัวจริงๆ แต่อธิบายไม่ถูกว่าคืออะไร เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งสติแตกหรือรำคาญกันเลยนะเธอจ๋า 2) หายามาให้ทันทีหากรู้ว่าอยู่ใกล้ๆ และต้องให้มั่นใจด้วยว่าฉันกินจริงๆ 3) การฝึกหายใจอาจจะทำให้รู้สึกหงุดหงิด แต่ก็จำเป็นสำหรับการควบคุมตัวฉันเอง ให้หายใจเป็นจังหวะพร้อมกับเธอ 4) ให้คำแนะนำอย่างอ่อนโยนเกี่ยวกับสิ่งที่เราจะทำด้วยกันได้ เพื่อเบี่ยงเบนอาการกลัวออกไป (อย่าบอกว่าต้องทำหรือควรทำอย่างนู้นอย่างนี้)…
-
ผอ.โรงเรียนในเท็กซัส ใส่ผ้ากันเปื้อนลงมาช่วยเสิร์ฟอาหารเด็ก เนื่องจากพนักงานไม่พอ
ตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนดูจะเป็นตำแหน่งที่ไม่น่าจะได้ทำงานที่ต้องใช้แรงเท่าไหร่ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าบริหารจึงต้องทำงานเกี่ยวกับการบริหารโรงเรียน แต่ใครเลยจะรู้ว่าผู้บริหารในบางโรงเรียนนั้นทำงานที่หนักกว่านั้น ถึงขั้นลงมาช่วยแม่ครัวในโรงอาหารเลยทีเดียว นี่เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน Mead Elementary School เมืองแซนแอนโทนีโอ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีนักเรียนราวๆ 400 คนต่อคิวกันเพื่อรับอาหารเช้า แต่เนื่องจากมีพนักงานในโรงอาหารยืนให้บริการเพียงคนเดียว ทำให้เด็กๆ ได้รับอาหารช้า เมื่อ Annette Lopez ผู้ซึ่งทำหน้าที่เป็นผอ.ของโรงเรียนนี้เห็นเข้า เธอเลยสวมเน็ตคลุมผม ผ้ากันเปื้อน และถุงมือ แล้วเข้ามาทำหน้าที่แจกจ่ายอาหารแบบทันที ภาพดังกล่าวถูกแชร์ผ่านทวิตเตอร์ของโรงเรียน Mead Elementary เอง พร้อมกับข้อความว่า “จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อโรงอาหารมีพนักงานน้อย? ผอ.สวมเน็ตคลุมผม ถุงมือ และผ้ากันเปื้อนเพื่อช่วยเสิร์ฟอาหารเช้าไง” หลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกได้ผอ. Annette Lopez ก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเธอ “เมื่อคุณให้บริการนักเรียนหลายๆ คน มันไม่มีทางเลยที่จะให้บริการได้ในแถวเดียว ฉันชอบงานและเด็กๆ ก็ดูสนุกดี มีเด็กคนนึงบอกว่า ‘เฮ้ ฉันรู้จักคุณ’ ฉันเลยบอกว่า ‘ใช่ ฉันคือผอ.นี่แหละ’” ดูเหมือนว่าเด็กๆ ในโรงเรียนจะรู้สึกดีที่ได้เห็นผอ.ของพวกเขาเข้ามาทำงานแบบใกล้ชิดขนาดนี้และไม่ถือเนื้อถือตัวกับพวกเขา เมื่อทวีตดังกล่าวเริ่มโด่งดัง…
-
Disney เล่นใหญ่!! เอาเหล่าเจ้าหญิงมาคอมเมนต์คุยกันหลังปล่อยเทรลเลอร์ Wreck-It Ralph 2
จากความเดิมคราวที่แล้วในข่าว “ตู้หูว!! Wreck-It-Ralph 2 ปล่อยภาพใหม่ เอาใจแฟนๆ รวมตัวเจ้าหญิง Disney น่าดูฝุดๆ” เราได้กล่าวถึงภาพใหม่ๆ ที่ได้ปล่อยออกมา ซึ่งทำให้เราได้เห็นถึงการรวมตัวของเจ้าหญิง Disney ซึ่งเหมือนกับการรวมตัวของทีม Avengers อย่างไรอย่างนั้น มาวันนี้ทาง Disney ก็ได้ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่ของแอนิเมชันเรื่อง Wreck-It-Ralph 2 มาให้แฟนๆ ที่รอชมอยู่ได้ดูกัน ซึ่งเทรลเลอร์ที่ออกมานั้นก็น่าสนใจเอามากๆ เจ้า Ralph และ Vanellope ของเราได้ไปผจญภัยในโลกอินเตอร์เน็ต แน่นอนว่าต้องได้เจอกับตัวละครจากเรื่องต่างๆ ของ Disney เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Iron Man, Eeyore จาก Winnie the Pooh แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ตัวเทรลเลอร์เพียงอย่างเดียว เพราะมาคราวนี้ Disney เขาเล่นใหญ่มากอ่ะคุณผู้ชม ด้วยในตัวเทรลเลอร์นั้นมีฉากรวมตัวของเจ้าหญิงมาให้เราได้เห็นกันอยู่ด้วย ทาง Disney จึงได้นำแอกเคาต์เพจเฟซบุ๊กของเจ้าหญิงมาคอมเมนต์ใต้วิดีโอกันอย่างสนุกเฮฮา เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ Moana: ฉันคือโมอาน่า และฉันอนุมัติเทรลเลอร์นี้…
-
พระจริงหรือไม่ ชาวเน็ตวิจารณ์หนัก กรณีคลิปหลุดพระเที่ยวสถานบันเทิง
อันว่าพวกเรานั้นเกิดมาในประเทศไทย เชื่อว่าหลายๆ ท่านก็น่าจะมีความผูกพันกับพุทธศาสนากันไม่น้อย ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เราจะมองว่าเหล่าพระภิกษุสงฆ์ ควรที่จะเป็นที่เคารพ และปฏิบัติตนให้น่าเลื่อมใส แต่แล้วก็ต้องมีข่าวฉาวของวงการพระสงฆ์กันอีกครั้ง เมื่อมีวิดีโอภาพพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของพระภิกษุหลุดออกมาในโลกออนไลน์ วิดีโอจากเพจ เรารักพุทธศาสนา เครดิตคุณ Adrian Choong วิดีโอที่ว่านี้เป็นภาพของพระภิกษุรูปหนึ่ง ที่มีการไปเที่ยวเตร่ภายในสถานบันเทิงที่ไม่ได้มีการระบุชื่อ และมีการจับเนื้อต้องตัวสีกา ซึ่งผิดหลักศาสนาและกฎข้อห้ามของสงฆ์อย่างเห็นได้ชัด สังฆาทิเสส 13 ข้อ 2 “ภิกษุมีความกำหนดอยู่ จับต้องกายหญิง ต้องสังฆาทิเสส” การกระทำให้ครั้งนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในสังคมออนไลน์ และทำให้มีชาวอินเตอร์เน็ตจำนวนมากออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น บ้างก็บอกว่านี่เป็นภิกษุที่จะทำให้ศาสนาเสื่อมจริงๆ . . แต่ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเหมือนกันที่มองว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำของพระปลอม ที่จงใจออกมาทำลายศาสนา . . . อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังไม่มีฝ่ายไหนที่ออกมายืนยันว่าภิกษุที่เห็นในคลิปนั้น แท้จริงแล้วเป็นพระภิกษุจริงๆ หรือไม่ และถ้าหากว่านี่เป็นเพียงการกระทำของพระปลอมที่จงใจทำให้เกิดความไม่น่าเลื่อมใสทางศาสนาจริงๆ แล้วล่ะก็ จะมีหน่วยงานใดที่ออกมาดูแลจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นไหม ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องมีการติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด ที่มา เพจเฟซบุ๊ก ไลค์นิวส์ ประเทศไทย และ เรารักพุทธศาสนา เครดิตคุณ Adrian Choong
-
สาวญี่ปุ่นเผยภาพตัวเองก่อนศัลยกรรมราคา 1.6 ล้านบาท มาไกลยิ่งกว่าดาวอังคาร…
ความสวยนั้นอาจเป็นที่ถกเถียงกันว่า สวยภายในดีกว่าหรือภายนอกดีกว่า ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รูปร่างหน้าตานั้นสำคัญจริงๆ ขณะที่บางคนเมื่อถูกถามว่าทำไมสวยขึ้น ก็อาจจะตอบไปว่า เข้าวัดทำบุญบ่อย สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน หรือเอาหน้าอังหม้อข้าวมา แต่สาวญี่ปุ่นคนหนึ่งออกมาเผยให้เห็นเลยว่า ทำบุญสวยชาติหน้า แต่ทำหน้าสวยชาตินี้!! Hayakawa สาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @Hykw0__0 ได้ออกมาโพสต์ภาพเปิดเผยให้เห็นใบหน้าตัวเองก่อนและหลังทำการศัลยกรรม เปรียบเทียบความแตกต่างว่าเธอมาไกลขนาดไหน… ผ่าม!! เธอเปิดเผยด้วยว่าไปทำอะไรมาบ้าง เธอบอกว่าทำตา เสริมจมูก แล้วก็ปรับเปลี่ยนโครงหน้าให้มีลักษณะวีเชป (V-Shaped) เหมือนกันนักแสดงชาวจีน เธอใช้เวลากว่าหนึ่งปีลดน้ำหนักตัวเองจาก 82 กิโลกรัมให้เหลือเพียง 52 กิโลกรัมเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ออกมาบอกเลยว่าเธอคนเดิมแทบไม่เหลืออีกแล้ว!! ผิวขาวนวลตามธรรมชาติของชาวญี่ปุ่น ประกอบใบหน้าที่ดูอ้อนความรัก แถมใบหน้าจิ้มลิ้ม ปากนิด จมูกหน่อย และตาดวงโตเป็นประกาย แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เธอก็เสียไปมิใช่น้อยเช่นกัน เธอทุ่มเงินไปกว่า 1.6 ล้านบาท แต่สำหรับตัวเธอเองแล้ว เงินจำนวนนั้นถือว่าคุ้มค่าอย่างมากเลยทีเดียว Hayakawa ได้กลายเป็นคนใหม่ไปแล้ว นิสัยเธอจะเป็นอย่างไรเราไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอกลายเป็นที่มีรูปลักษณ์อันงดงามซึ่งมาพร้อมกับความมั่นใจ และอาจเปลี่ยนชีวิตเธอได้เลยทีเดียว ดูใบหน้าและดวงตาของเธอสิ… ทำบุญสวยชาติหน้า…
-
ศิลปินใช้รอยสักแบบลบออกได้ สร้างกำลังใจและรอยยิ้มให้เด็กๆ ในโรงพยาบาล
การจะยอมให้ลูกๆ มีรอยสักติดตัวนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่รับได้ยากสำหรับบางครอบครัว แต่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ พวกเขากลับใช้ศิลปะบนเรือนร่างนี้ ช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับเด็กๆ ที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล Benjamin Lloyd ศิลปินสักที่ได้รับมอบหมายหน้าที่นี้จากทางโรงพยาบาลเด็ก Starship ประเทศนิวซีแลนด์ ให้ใช้หมึกสักแบบชั่วคราว ในการสร้างความสุขให้กับเหล่าเด็กๆ ซึ่งหมึกที่ว่านี้สามารถลบออกได้ง่ายๆ . กิจกรรมดังกล่าวของทางโรงพยาบาล ไม่เพียงแค่ทำให้เจ้าหนูๆ ชื่นชอบเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความสุขกับรอยสักเท่ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยในการสักครั้งนี้ ศิลปินหนุ่มของเราได้ใช้อุปกรณ์ในการทำแอร์บรัชมาใช้สร้างสีสันบนผิวหนังให้เหล่าเด็กๆ และนอกจากนี้สีที่พวกเขาใช้ยังปลอดภัยและไร้สารพิษอีกด้วย Benjamin เริ่มต้นการเพ้นต์นี้ให้กับผู้ใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาทำเพื่อความสนุกเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานมีบางคนแนะนำให้เขาเอาศิลปะดังกล่าวมามอบความสนุกให้กับเหล่าเด็กๆ ที่โรงพยาบาล งานศิลปะของ Benjamin ช่วยให้เด็กๆ ผ่อนคลายจากความเครียดในอาการป่วยของพวกเขา และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เงินแต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมานั่นก็คือรอยยิ้มของพวกเด็กๆ ที่ทำให้เขามีความสุขอย่างมาก งานศิลปะบนเรือนร่าง ที่ช่วยเพิ่มกำลังใจให้กับเด็กๆ ในโรงพยาบาล และนอกจากโรงพยาบาลแห่งนี้แล้ว Benjamin ยังได้นำงานศิลปะของเขาไปมอบความสุขให้กับเด็กๆ ในที่อื่นๆ อีก อย่างเช่นที่องค์กรสนับสนุนเด็กที่มีปัญหาทางด้านพัฒนาการ การทำเพื่อเด็กๆ ของ Benjamin ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากบนโลกออนไลน์ มีผู้คนจำนวนมากที่ให้เงินสนับสนุนค่าอุปกรณ์สำหรับเขา งานเพ้นต์ของ…
-
นักวาดญี่ปุ่นโดนจับโป๊ะ วาด Dragon Ball ได้เหมือนกับกัปตันอเมริกาไม่มีผิด!?
บางครั้ง นักวาดการ์ตูนก็อาจจะมีการแสดงความเคารพต่อต้นแบบหรือแรงบันดาลใจของพวกเขา โดยการวาดตัวละครของผู้อื่นด้วยลายเส้นตัวเอง ซึ่งผลงานส่วนใหญ่ที่ออกมาก็ทำให้แฟนๆ ชื่นชอบเป็นอย่างมาก แต่บางครั้ง การวาดให้เกียรติการ์ตูนที่ตนเองชอบ อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ อย่างปกนิตยสาร V Jump ของญี่ปุ่นที่ชาวเน็ตตาดีดันไปเจอแล้วรู้สึกว่ารูปหน้าปกมันแปลกๆ คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน ปกนิตยสาร V Jump ที่มี Goku จาก Dragon Ball กำลังปะทะกับ Yuya Sakaki จาก Yu-Gi-Oh! ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นซึ่งใช้ชื่อว่า @Hahihuhegay ออกมาโพสต์ภาพแล้วบอกว่า ท่ายืนของ Goku ในปกนิตยสาร V Jump มันทำให้นึกถึงหนังสือคอมมิก Captain America อย่างไรไม่รู้ เขาเขียนว่า “หรือนี่จะเป็นความบังเอิญ?” ชาวเน็ตเริ่มเปรียบเทียบภาพ แสดงให้เห็นว่ามัน “คล้ายกันมาก” การวาดภาพให้ความเคารพผู้อื่นอาจเป็นสิ่งน่าชื่นชม แต่การลอกเลียนแบบที่ผิดกฎหมายเช่นนี้เป็นเรื่องอาจส่งผลต่อชื่อเสียงของทั้งการ์ตูน Dragon Ball และตัวผู้วาดที่ชื่อว่า Toyotaro เองด้วย ชาวเน็ตอีกคนลองนำมาภาพมาเปรียบเทียบโดยการวางทับกันพบว่า…
-
นางแบบสาวรัสเซีย ยื่นข้อเสนอที่จะมีเซ็กส์กับตำรวจ 2 นาย หากปล่อยเธอไป
การจะทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้ จะต้องเป็นคนที่มีวินัย ซื่อสัตย์ และไม่หวั่นไหวต่อสิ่งยั่วยวนใจ ดูอย่างเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัสเซียเหล่านี้เป็นตัวอย่าง ที่เข้าจับกุมหญิงสาวสุดเซ็กซี่ แม้เธอจะยอมเอาตัวเข้าแลกแต่ก็ยังคงยึดมั่นในหน้าที่ตลอดเวลา เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอเรื่องราวของ Kira Mayer วัย 24 ปี นางแบบสาวสุดเซ็กซี่ที่โด่งดังในโลกอินสตาแกรมและมีผู้ติดตามมากถึง 150,000 คน Kira ถูกตัดสินให้ถูกจำคุกเป็นเวลา 2 เดือน หลังจากพยายามเสนอเซ็กส์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแลกกับการที่เธอจะไม่ต้องถูกจับฐานไม่มีใบขับขี่ ย้อนกลับไปในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2017 เธอได้ก่อเหตุขับรถชนแล้วหนี ทำให้เธอถูกยึดใบอนุญาตขับขี่และถูกสั่งห้ามไม่ให้ขับรถยนต์เป็นเวลา 15 เดือน แต่เธอก็ฝ่าฝืนคำสั่งและนำรถออกมาขับอีกเรื่อยๆ จนล่าสุดเธอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจใบขับขี่ จึงพบว่าเธอไม่มีใบขับขี่และถูกสั่งห้ามขับรถ ทางเจ้าหน้าที่จึงบอกว่าเธออาจจะถูกสั่งห้ามไม่ให้ขับรถอีกเลยตลอดชีวิต และเขียนใบสั่งให้กับเธอ เมื่อเห็นแบบนั้นเธอเริ่มสติแตกแล้วตะโกนในตำรวจ เธอพยายามที่จะแย่งเอาใบสั่งนั้นมาจากตำรวจ จนเกิดเป็นการต่อสู้กันที่มีทั้งการข่วนและเตะ ก่อนจะพยายามขับรถหนีแต่ก็ไม่สำเร็จ เธอจึงพยายามจะติดสินบนแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะยอมมีเซ็กส์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแบบทีละคนหรือแบบเซ็กส์หมู่ก็ได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับปฏิเสธข้อเสนอของเธอและควบคุมตัวเธอไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แม้ Kira จะปฏิเสธที่จะพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 2 เดือน …
-
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอเต้นตีลังกากลับหลัง ก่อนทำปืนลั่นใส่คนที่มายืนดูจนได้รับบาดเจ็บ
ในวันที่ 2 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมาในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เวลา 00.45 am. ตามเวลาในท้องถิ่นได้เกิดเหตุเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่กำลังว่างจากการปฏิบัติบังเอิญทำปืนลั่นใส่คนในสถานบันเทิง หลังจากที่เขาเต้นกลางกลุ่มผู้คนและทำปืนตกจากซอง วิดีโอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ถูกโพสต์ลงบนทวิตเตอร์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @RyanHaarer พร้อมกับข้อความที่ว่า: “เอฟบีไอคนนี้กำลังเต้นอยู่ที่บาร์ใน Denver เมื่อวันเสาร์ เขากระโดดตีลังกากลับหลังก่อนจะทำปืนตก และปืนลั่นไปโดนชายคนหนึ่งตอนที่เขาเก็บมันขึ้นมา (ดูเหมือนผู้ชายที่โดนจะไม่เป็นไรมาก)” ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดย @RyanHaarer https://twitter.com/RyanHaarer/status/1003084052226822153 ภาพในคลิปนั้นจะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่เอฟบีไอกำลังเต้นอยู่กลางกลุ่มคนที่มามุงดูอย่างเมามัน ก่อนที่จะตีลังกากลับหลังจนทำให้ปืนในซองตกลงบนพื้น และในตอนที่เขาจะเก็บมันขึ้นมา ปืนกระบอกที่ว่าก็ลั่นใส่หนึ่งในกลุ่มคนที่มามุงดูเขาเต้น การตีลังกากลับหลังที่ทำให้ปืนตกจากซองใส่ ชายคนที่โดนปืนลั่นใส่ได้รับการนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา โดยตามการรายงาน แผลที่เขาได้รับไม่มีความอันตรายถึงชีวิตแต่อย่างใด กรมตำรวจเดนเวอร์กล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “แรงสั่นสะเทือนจากการเต้นทำให้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ กระเด็นออกจากเข็มขัดรัดเอว และลั่นกระสุนออกไปในตอนที่เจ้าหน้าที่เก็บมันขึ้นมา” วินาทีที่ปืนลั่น โฆษกตำรวจ Marika Putnam ได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า “เหยื่อของเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้รับส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเป็นอย่างดี ส่วนเจ้าหน้าที่ผู้ก่อเหตุได้ถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจ และส่งตัวต่อไปยังหัวหน้าฝ่ายเอฟบีไอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” สถานที่ตั้งของบาร์ที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวหรือว่าโทษที่เขาจะได้รับจากทางกรมตำรวจแต่อย่างใด ที่มา bbc, kdvr
-
วัยรุ่นเมกันป่วยเป็นโรค “กล้ามเนื้อลายสลาย” เพราะออกกำลังกายมากเกินไป!?
ใครๆ ก็บอกว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องดี (ซึ่งมันก็ดีจริงๆ นั่นแหละ) แต่การออกกำลังกายที่หนักหน่วงเกินไปจนเกิดขอบเขตที่ร่างกายจะรับไหว ก็อาจทำให้คนคนนั้นตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายก็เป็นได้ Jared Shamburger วัย 17 ปี วัยรุ่นพลังเหลือจากรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ชื่นชอบการออกกำลังกาย แต่แทนที่การออกกำลังกายจะทำให้เขาสุขภาพดีโดยมีผลข้างเคียงเป็นการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ มันกลับส่งผลให้เขาเป็นโรคร้ายแรง Jared เล่าว่าเขาเพิ่งไปสมัครสมาชิกยิมมาใหม่เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากพ่อของเขาและพี่ชาย ที่ออกกำลังกายเล่นเวทกันมาเป็นปีๆ แล้ว “ผมต้องตามให้ทันพวกเขาและใหญ่ให้เท่าพวกเขาให้ได้ ผมต้องเล่นหนักๆ เลย” เจ้าตัวเล่า แต่หลังจากที่เขาใช้เวลาประมาณ 90 นาทีในการยกน้ำหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาก็พบว่าตัวเองมีอาการปวดอย่างรุนแรง และแม้จะผ่านระยะเวลาไปพักหนึ่งความเจ็บปวดที่ว่าก็ดูจะไม่หายไป ทำให้ Judy แม่ของเขาพยายามค้นหาในอินเตอร์เน็ตว่าอาการที่ว่านี้คืออะไร? จากข้อมูลหลายๆ อย่างพบว่าลูกชายของเธอน่าจะป่วยเป็นโรค Rhabdomyolysis หรือภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อลายส่วนที่เสียหายสลายตัวแล้วปล่อยสารที่อยู่ภายในเซลล์เข้าสู่กระแสเลือดจนอาจทำให้ไตวายได้ อาการของโรคนี้ได้แก่ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ หลังส่วนล่าง หรือต้นขา และปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลแดง “ในกรณีที่ร้ายแรง มันอาจส่งผลให้ตายได้เลย” Judy กล่าว ส่วนสาเหตุนั้นเกิดได้จากหลายอย่าง ทั้งการติดเชื้อ การบาดเจ็บ รวมถึงการออกกำลังกายอย่างหนักเกินไป โชคดีที่โรคนี้มีทางรักษาอยู่หลายรูปแบบ เช่นการให้ยา การฟอกไตหรือการผ่าตัด ซึ่ง Jared…
-
มิจฉาชีพเผย 9 วิธีที่ช่วยให้บ้านของคุณไม่ตกเป็นเป้าหมายของการถูกงัด
ทุกครั้งเวลาที่เราต้องจากบ้านไปเป็นเวลานานๆ อาจจะไปทำงาน ไปเที่ยว หรือไปที่ไหนก็ตามแต่ เราคงมีความรู้สึกกังวลว่าจะมีขโมยขโจรมางัดบ้านแล้วขนเอาทรัพย์สินไปในระหว่างที่เราไม่อยู่ ซึ่งจะว่าไปแล้วมันเป็นอะไรที่น่าเจ็บใจมาก ด้วยเหตุนี้อดีตหัวขโมย 2 คนที่เคยถูกจับในอังกฤษ จึงได้รวบรวมข้อมูลแล้วกลั่นมันออกมาเป็น “9 วิธีช่วยป้องกันหัวขโมยขึ้นบ้าน” เพื่อเผยแพร่ให้ผู้คนตื่นตัวและทำตาม เพื่อลดโอกาสที่บ้านจะถูกงัดระหว่างที่เราไม่อยู่บ้าน บางข้อเผยถึงวิธีลดความน่าสนใจของบ้าน การสร้างเสียงแจ้งเตือนปลอมๆ ในบ้านเพื่อให้โจรตกใจ หรือการลดการโพสต์รูปกิจกรรมต่างๆ บนโซเชียลเพื่อไม่ให้โจรรู้ว่าเราอยู่บ้านหรือไม่ โดยข้อมูลเหล่านี้ได้รับความร่วมมือจากเว็บไซต์ Bark.com เว็บไซต์ที่รวบรวมเอาข้อมูลผู้เชี่ยวชาญด้านบริการต่างๆ มาไว้ให้คนอ่านกัน มีอะไรบ้างเราลองมาไล่ดูกันทีละข้อๆ เลย 1. พกพาสปอร์ต บัตรประชาชน และใบขับขี่ไว้กับตัวเสมอ เวลาที่คุณออกไปไหนมาไหน คุณควรจะพกมันติดตัวไว้ตลอดเวลา แม้บางครั้งคุณจะไม่ได้ใช้มันก็ตาม เพื่อลดโอกาสที่เหล่าหัวขโมยจะรู้ตัวตนของคุณ เนื่องจากทุกวันนี้โลกเราสามารถหาข้อมูลบุคคลใดก็ได้เพียงแค่คลิก Google 2. หากไม่มีสุนัขเฝ้าบ้าน ลองบันทึกเสียงสุนัขเห่าดู เสียงสุนัขเห่าจะทำให้หัวขโมยต้องคิดหนักหากจะงัดบ้านของคุณ เพราะพวกเขาจะคิดว่ามีคนอยู่ภายในบ้าน และหากจะบุกเข้ามาก็อาจสร้างความตื่นตกใจและเสียงดังได้ 3. ติดตั้งกลอนประตูคุณภาพดี การตรวจสอบว่ากลอนประตูของคุณยังแน่นหนาดีอยู่หรือเปล่า เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้บ้านของคุณไม่ถูกงัดได้โดยง่าย หากเบ้าเริ่มหลวมแล้วก็หากลอนที่มีคุณภาพดีๆ มาติดแทน หรืออาจจะเพิ่มจุดล็อกที่ 2 ที่ 3 เพิ่มเข้ามา เพื่อให้หัวขโมยรู้สึกว่าการงัดบ้านของคุณไม่ใช่เรื่องง่าย…
-
ภาพความรุนแรงจากเหตุภูเขาไฟระเบิดในกัวเตมาลา หนักสุดใน 44 ปี เสียชีวิตแล้ว 25 ราย!!
เมื่อวานนี้ (วันที่ 3 มิถุนายน 2018) ภูเขาไฟ Fuego ในประเทศกัวเตมาลา ได้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายออกไปเป็นวงกว้าง ฝุ่นควัน และเถ้าถ่านลอยออกไปครอบคลุมทุกพื้นที่ใกล้เคียง จากการรายงานเผยว่าการระเบิดในครั้งนี้ทำให้มีเถ้าถ่านลอยสูงขึ้นไปในอากาศกว่า 6,000 เมตร กระจายออกไปในรัศมีโดยรอบราวๆ 50 กิโลเมตร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชากรกว่า 1.7 ล้านคน การระเบิดของภูเขาไฟ Fuego . นี่ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 ที่ภูเขาไฟลูกนี้เกิดการระเบิดขึ้นมาในปี 2018 แต่ทว่าครั้งนี้กลับเป็นการระเบิดที่รุนแรงมากที่สุดในรอบ 44 ปี ฝุ่นควันจำนวนมากนั้นกระจายออกไปกระทบถึง Guatemala City เมืองหลวงของประเทศ และทำให้ต้องสั่งปิดท่าอากาศยานนานาชาติในเมืองชั่วคราว เนื่องจากว่าไม่สามารถนำเครื่องบินขึ้นลงได้ คลิปตอนที่ลาวาไหลออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ . รันเวย์ของสนามบิน ถูกปิดชั่วคราว เจ้าหน้าที่และกองกำลังของภาครัฐจำเป็นต้องเร่งช่วยเหลือและอพยพชาวบ้านในบริเวณโดยรอบ โดยล่าสุดอพยพออกไปแล้วกว่า 3,100 ราย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีผู้บาดเจ็บแล้วอย่างน้อย 300 คน และเสียชีวิตไปอีก 25…
-
นักทำเครื่องประดับชาวออสเตรเลีย ใช้เวลา 15 ปี สร้าง “ดิลโด้” ราคากว่า 50 ล้าน!!
ถ้าหากให้คุณจินตนาการสิ่งของที่มีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาทล่ะก็ หลายๆ คนก็อาจจะนึกถึงรถสปอร์ตราคาแพง หรือคฤหาสน์หลังงามแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ แต่บนโลกนี้อาจจะมีของมูลค่า 50 ล้านบาทที่คุณคาดไม่ถึงอีกหลายอย่างก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นแท่งหรรษาผลงานการออกแบบของ Colin Burn นักออกแบบเครื่องประดับชาวออสเตรเลียผู้นี้ แนวคิดการออกแบบแท่งหรรษาชิ้นนี้ เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจในการสร้างบางสิ่งบางอย่าง ที่ทำให้ผู้คนมองเห็นคุณค่าเกี่ยวกับเรื่องเพศ Burn ใช้เวลามากกว่า 15 ปีในการสร้างเซ็กส์ทอยชิ้นนี้ “ผู้คนจำนวนมากยอมจ่ายเงินเพื่อสินค้าราคาแพงอย่างรถสปอร์ต แต่จะมีสักกี่คนที่ยอมจ่ายเงินเพื่อเจ้าแท่งนี้” Colin ช่างออกแบบเครื่องประดับผู้มากประสบการณ์กล่าว เซ็กส์ทอยราคาสูงชิ้นนี้ประกอบด้วยเพชรมากกว่า 2,000 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีไพลินและเพชรสีชมพูหายากอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามบนแท่งแพลตตินั่มสุดหรู และถูกลบคมออกเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ สนนราคาของเจ้าแท่งนี้อยู่ที่ 1.8 ล้านเหรียญ (ประมาณ 54 ล้านบาท) ซึ่งทำให้มันกลายเป็นเซ็กส์ทอยที่แพงที่สุดในโลก “ไข่มุกที่อยู่ตรงยอดของเซ็กส์ทอยชิ้นนี้ คือกุญแจสำคัญที่ทำให้มันเป็นที่ชื่นชอบ นอกจากนี้มันยังมีระบบปรับความเร็ว และนอกจากนี้เพชรที่ถูกประดับอยู่ด้านนอกยังเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความหรูหราอีกด้วย” Burn ให้สัมภาษณ์ ขณะนี้ Burn กำลังเดินทางอยู่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อมองหาสถานที่จัดแสดงเซ็กส์ทอยของเขาชิ้นนี้ รวมถึงชิ้นอื่นๆ ก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็น Casanova แท่งหรรษาที่ทำจากทองมูลค่า 1 ล้านบาท…
-
ขนลุกซู่!! คุณแม่ตื่นขึ้นมาพบภาพตัวเองในโทรศัพท์ โดยไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร
บางครั้งหลังหลังจากการปาร์ตี้อย่างหนักหน่วง เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาคุณอาจจะพบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาคุณเผลอสารภาพรักผ่านข้อความกับใครบางคนก็เป็นได้ หรือไม่แน่คุณอาจจะพบภาพรั่วๆ ของตัวเองที่ถูกเพื่อนแอบถ่ายเอาไว้ก็เป็นได้ แต่ถ้าหากว่าคุณไม่ได้ไปปาร์ตี้มาล่ะก็ การตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามีบางอย่างที่ผิดปรกติเกิดขึ้นกับโทรศัพท์ของคุณ คงจะเป็นเรื่องที่น่าสงสัยไม่น้อยเลยทีเดียว เหตุการณ์อันแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นกับ Debra Demetriou หญิงสาวชาวอังกฤษผู้หนึ่ง หลังจากที่เธอพบภาพของตัวเองในโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายภาพของเธอทั้งๆ ที่เธออยู่บ้านคนเดียว ภาพดังกล่าวคือภาพของตัวเธอเองในขณะที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ซึ่งถูกถ่ายจากมุมด้านล่างโดยโทรศัพท์ของเธอเอง และนี่คือภาพที่ว่านั้น “ตอนนั้นไม่มีใครอยู่บ้านเลย ฉันรู้สึกขนลุกมากที่เห็นรูปนั้น ฉันรู้ว่านี่อาจจะเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก แต่โทรศัพท์ของฉันอยู่ใต้หมอนตลอดเวลาจนกระทั่งตอนเช้า จากภาพที่คุณเห็นมันไม่ใช่ภาพที่ฉันถ่ายเองแน่ๆ ตอนนั้นตาของฉันเปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง ซึ่งถ้าหากมีใครเข้ามาในห้องฉันต้องรู้ แต่ฉันแน่ใจอย่างมากว่าไม่มีใครอยู่ในบ้าน” Debra ให้สัมภาษณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดกลัวให้กับ Debra อย่างมาก Sammy Rawlinson ผู้เชี่ยวชาญด้านเรื่องอาถรรพณ์ได้ตรวจสอบภาพดังกล่าวแล้ว และพบว่านี่คือภาพที่น่ากลัวภาพหนึ่ง “พวกวิญญาณมักจะทำสิ่งที่เรียกร้องความสนใจจากเรา ถ้าหากว่ามีใครในบ้านของเธอที่เพิ่งเสียชีวิตไปล่ะก็ อาจจะเป็นไปได้ว่าเขากำลังพยายามทำให้เธอสนใจ” Sammy กล่าว อย่างไรก็ตาม Debra ให้สัมภาษณ์ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องราวแปลกๆ ขึ้นกับเธอ แต่ก่อนหน้านี้หมอดูบอกกับเธอว่าภาพถ่ายในวันเกิดของลูกชายเธอ มีใครบางคนในครอบครัวที่จากไปแล้วรวมอยู่ด้วย เพื่อนของเธอให้คำแนะนำว่าควรแจ้งตำรวจ แต่ Debra ปฏิเสธพร้อมกับได้โพสต์ภาพดังกล่าวลงในโลกออนไลน์เพื่อให้ชาวเน็ตช่วยหาคำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่มา dailymail
-
สาวเจอแมงมุมตัวเบ้อเริ่ม ไม่รู้จะทำไง…เลยสั่งอาหารเดลิเวอรรี่ ให้คนส่งมาช่วยเอามันออกไป
แต่ละคนบนโลกในนี้ย่อมที่จะมีงานอดิเรก ความชอบและความกลัวที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะกลัวอะไรแปลกๆ อย่างหมา แมวหรืออะไรอื่นๆ แต่เรื่องความกลัวที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้คือเจ้าสิ่งมีชีวิตแปดขาที่สามารถพ่นใย ใช่แล้วนั่นคือเจ้าแมงมุมนั่นเอง เราเชื่อว่าคงมีหลายๆ คนที่กลัวแมงมุมจนขึ้นสมองเหมือนกับ Demi Sweeney สาววัย 22 ปีจากมหาวิทยาลัย Bournemouth คนนี้ที่เหลือบไปเจอเข้ากับแมงมุมตัวใหญ่ยักษ์ข้างนอกห้องของเธอเมื่อสัปดาห์ก่อน เธอบอกว่าเธอตื่นมาประมาณ 10 โมงเช้าก็พบว่าไม่มีคนอยู่ในบ้านแล้วและเธอก็เห็นเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวอย่างใหญ่ที่อยู่ประตูห้องเธอ ถ้าเธอเดินผ่านมาต้องโดดมาหาเธอเป็นอย่างแน่เลย ด้วยที่ไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน เธอจึงได้ส่งข้อความหาครอบครัวและเพื่อน ซึ่งคำแนะนำที่ได้กลับมาก็คือลองสั่งอาหารแล้วให้คนส่งมาจัดการกับเจ้าแมงมุมให้สิ เธอจึงไม่รอช้ารีบส่งข้อความหา Deliveroo Help บริษัทเดลิเวอร์ลี่โดยทันที โดยที่เธอส่งข้อความไปว่า “สวัสดีค่า (มันอาจดูเหมือนบ้านะแต่เชื่อเถอะนี่ซีเรียสจริงๆ) ฉันเป็นโรคกลัวแมงมุมมาก และมันก็มีอยู่ตัวนึงที่บ้านของเราใกล้ๆ กับประตู หากฉันสั่งอาหารมา จะเป็นไปได้มั้ยที่คนส่งจะช่วยจัดการมันออกไป?” ซึ่งทาง Deliveroo Help ก็ตอบกลับว่า “เฮ้ Demi ขอบคุณที่ติดต่อเรามา คุณสามารถลงคำขอจัดการแมงมุมลงในช่อง ‘delivery note’ ได้นะตอนที่คุณสั่งอาหารน่ะ และเรื่องเพียงอย่างเดียวที่เรากลัวก็คือคนส่งอาหารของเราอาจจะอาจจะน่ากลัวกว่าแมงมุม… ฉันหวังว่านี่จะช่วยคุณได้นะ ได้โปรดบอกให้ฉันรู้หากมันมีอะไรอย่างที่ฉันสามารถช่วยคุณได้” เมื่อคนส่งอาหารมาถึงก็ได้เข้ามาจัดการกับเจ้าแมงมุมยักษ์ออกไปให้…
-
ครูวิทยาศาสตร์มัธยมต้น ต้องสงสัยในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ หลังนำลูกสุนัขไปให้เต่ากิน
ในโลกที่มีผู้คนมากหน้าหลายตานั้น เราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าคนที่เราเจอจะเป็นคนแบบไหน บางครั้งคนมีหน้าที่การงานดีๆ แต่งตัวเรียบร้อย ก็อาจจะไม่ใช่คนที่ใจดีเสมอไปก็เป็นได้ เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ Robert Crosland ครูวิทยาศาสตร์ประจำโรงเรียนมัธยมต้น Preston ในรัฐไอดาโฮ สหรัฐอเมริกา ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ เมื่อวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 เดือน และปรับ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 160,000 บาท) จากการรายงานของสื่อท้องถิ่น Crosland ได้นำลูกสุนัขไปให้เต่ากินต่อหน้านักเรียนในห้อง เพื่อเป็นการสอนเกี่ยวกับเต่าสแนปปิ้งซึ่งเป็นสัตว์สายพันธุ์ที่รุกรานเข้ามาในรัฐไอดาโฮ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความเห็นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นแบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน โดยทาง PETA องค์กรพิทักษ์สัตว์ที่มีชื่อเสียง ได้ออกมากล่าวหา Crosland ว่าเป็น “คนพาลที่ไม่ควรได้รับอนุญาตให้อยู่ใกล้เด็กๆ” ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่ของหนึ่งในนักเรียนผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ออกมาบอกว่า “ไม่มีเด็กคนไหนที่โกรธหรือหวาดกลัวกับสิ่งที่ครูคนนี้ทำ พวกเขาเห็นสภาพร่างกายของลูกสุนัขตัวนั้นกับตา มันป่วยมาก และไม่ยอมกินอาหารจนกำลังจะตาย เด็กที่อยู่ที่นั่น รู้สึกว่าสิ่งที่ Crosland ทำนั้นมีมนุษยธรรมและถูกต้องแล้ว พวกเขาเข้าใจชีวิตและความตายกันดี” อย่างไรก็ตามในขณะนี้ได้มีการเรียกร้องให้มีการไล่…
-
เป็นเรื่องใหญ่!! เมื่อ ‘ชายผิวสี’ ถูก ‘หนุ่มผิวขาว’ ขับรถชนเสียชีวิต ก่อนเหยียดด้วย N-Word
ถ้าถามว่าทำไมบนโลกใบนี้ถึงมีการทำความดีน้อยกว่าทำความไม่ดี ก็อาจจะเป็นหลายๆ คนคิดว่าการทำความดีนั้นมันยากกว่าทำไม่ดีแถมยังเห็นผลไม่เร็วเท่ากับการทำไม่ดีอีกด้วย เหมือนอย่างเรื่องของพลเมืองดีผู้ชายผิวสีวัย 31 ปีคนนี้ ที่กำลังลงไปเก็บกวาดเศษไม้ต่างๆ ที่ขัดขวางการจราจรอยู่บนทางด่วนเพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ แต่โชคไม่ดีที่เขาได้ถูกรถชนเข้าจนเสียชีวิต แต่ประเด็นที่ใหญ่โตกว่านั้นคือ ผู้ที่ขับรถคันดังกล่าว เป็นหนุ่มผิวขาววัย 18 ปี ที่นอกจากจะไม่ให้เกียรติผู้เสียชีวิตแล้ว และยังใช้ N-Word ในการสนทนาในแอป Snapchat อีกด้วย Sherell “Rell” Lewis ชายผิวสีอายุ 31 ได้จอดรถของตนเพื่อลงนำไม้ที่ระเกะระกะอยู่บนทางด่วนออกไปจากถนน แต่ก็ถูกรถกระบะ Chevrolet ปี 2003 ที่ขับโดย Matthew Martin หนุ่มผิวขาววัย 18 ปีพุ่งเข้าชนอย่างจัง ไม่นานต่อมา Rell ก็ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล Byrd Regional Hospital ซึ่งวันนั้นเป็นวันเกิดของเขาเสียด้วย การสืบสวนเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ แต่มีบางสิ่งที่หลุดออกมา และทำให้เรื่องวุ่นวายขึ้นไปกันใหญ่ นั่นคือเป็นภาพบทสนทนาของ Matthew Martin โดยที่ภาพบทสนทนาที่หลุดออกมานั้น Matthew ได้เรียก Rell ว่า “Nigger” ซึ่งเป็นคำหยาบใช้เรียกคนผิวสี…
-
วินาทีประทับใจ คุณตาเตือนคุณยาย เผลอกั๊กที่นั่งบนรถไฟ โลกนี้ยังมีเรื่องดีๆเสมอ
ทุกครั้งเวลาที่เราจะต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะ เราควรจะคำนึงถึงมารยาทในการใช้บริการร่วมกับคนอื่น แม้ว่าคุณจะเป็นผู้สูงอายุแล้วก็ตาม เรื่องราวต่อไปนี้เรื่องราวชวนยิ้มของสองตายายจากประเทศจีน ที่คุณยายดันนั่งเก้าอี้ควบถึง 2 ที่นั่ง แต่คุณตาก็พยายามบอกให้คุณยายขยับมานั่งใกล้ๆ เพื่อเหลือที่นั่งให้กับคนอื่นบ้าง ตามรายงานบอกว่าหลังจากที่คุณยายนั่งลงควบ 2 ที่นั่งแบบไม่ตั้งใจ คุณตาจึงได้กล่าวตักเตือน ก่อนจะดึงเธอเข้ามาใกล้ๆ อย่างนุ่มนวล คลิปดังกล่าวถูกส่งต่อกันอย่างแพร่หลายในเว็บไซต์ Weibo ของจีน จนทำให้ชาวเน็ตพากันกล่าวชื่นชมทั้งสองตายาย ว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นแม้จะเล็กน้อยแต่ก็น่าชื่นชม “นี่มันอบอุ่นหัวใจมาก ดูคุณยายไม่ได้ตั้งใจจะนั่งควบ 2 ที่นั่ง คุณตาเลยค่อยๆ ดึงคุณยายมาใกล้ๆ ทำให้เห็นถึงความรักและความคิดความอ่าน” “นี่คือคนที่แก่อย่างมีคุณภาพ ดูแล้วมีความสุขจัง” “ยังคงมีคนแก่อีกมากนะ ที่สมควรได้รับความเคารพจากเรา” ชมคลิปน่ารักๆ ได้ที่นี่เลย แม้จะอายุเยอะแล้ว แต่คุณตาก็ยังไม่ลืมนึกถึงเรื่องสิทธิของผู้อื่น แบบนี้ยอดเยี่ยมมากๆ ที่มา China Xinhua News
-
อีหนู เอ็งลืมไข่!! บนรถโดยสารฮ่องกง หญิงสาวลืมของหน้าตาคุ้นๆ อ๋อ “ไข่สั่น” นั่นเอง!!?
ขอเตือนผู้อ่านทุกคนเลยก็แล้วกันว่า เมื่อขึ้นรถโดยสารไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ควร ตรวจสอบทรัพย์สิน ของตนเองให้ดีก่อนลงจากรถ เพราะหากลืมล่ะก็ มันอาจก่อความลำบากให้คุณได้ หลายคนอาจลืมกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ หรืออาจจะเป็นสิ่งของสำคัญ แต่เหตุการณ์ล่าสุด ทางเฟซบุ๊ก 巴士台 HK Buses Channel ได้เผยภาพที่ถูกถ่ายมาจากรถโดยสารในฮ่องกง ผู้ถ่ายภาพพบว่าหญิงสาวคนหนึ่งลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วออกจากรถไปโดยลืมอะไรบางอย่างที่กำลังเสียบสายชาร์จอยู่กับตัวรถ และไอ้ของสิ่งนั้นมันก็ดูคุ้นตาๆ ยังไงชอบกล เฮ้ย!!? นะ…นี่มัน ผ่ามม!! ไข่สั่น 5555555 ชาวเน็ตก็มีเข้ามาคอมเมนต์กันฮาๆ มากมาย เช่น “อย่าเอาไปทิ้งนะ” “เบาะเปียกเลยสินะ” “เธอพอใจแล้วเธอไป” “อยากรู้จักสาวคนนี้จริงจริ๊ง” “หลุดไปก็ไม่รู้สึกหรอกมั้ง ถ้ามันหลวม…” เอาเป็นว่าพยายามอย่าลืมของไว้ในสถานที่สาธารณะก็แล้วกันเนอะ ถ้าเป็นคนรู้จักมาเจอเข้าคงเขินแย่เลย ฮ่าๆ ที่มา: 巴士台 HK Buses Channel via ck101
-
คลิปเด็กโดนบีบคอ-ผลักล้ม ดราม่าทั่วเน็ต แท้จริงแล้วเป็น “เด็กแสบ” แถมคดีพลิก!!
บางครั้งเด็กก็ไม่ได้น่ารักสมวัยเสมอไป…ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการได้รับการอบรมสั่งสอนและสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาด้วย เฉกเช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้ เรื่องมีอยู่ว่าชายคนหนึ่งถูกถ่ายคลิปวิดีโอขณะผลักเด็กชายคนหนึ่งล้มจนร้องไห้จ้าละหวั่น คลิปตอนแรกเป็นคลิปสั้นๆ แสดงฉากของเด็กโดนบีบคอและผลักล้ม โดยไม่มีคำอธิบาย ทำให้คลิปนี้เป็นไวรัล ชาวเน็ตมากมายหลายคนต่างก็คอมเม้นต์ตำหนิการกระทำของเขาไปต่างๆ นาๆ ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันไม่ถูกต้อง เพราะเป็นผู้ใหญ่จะไปรังแกเด็กตัวเล็กๆ ได้อย่างไร แต่ไม่นานคลิปก็ถูกลบไปเพราะเป็นการแสดงความรุนแรงต่อเด็ก แต่แล้วเกมก็พลิกเมื่อมีอีกคลิปวิดีโอหนึ่ง ที่ถ่ายมาให้เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะเกิดการใช้กำลัง คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกโพสต์โดยเฟซบุ๊กชื่อว่า Martha Kelly พร้อมแคปชั่นเล่าเหตุการณ์ว่า “นี่เป็นวิดีโอของเด็กที่ทำลายรถที่จอดอยู่ทุกคัน Sean (ชายที่ผลักเด็ก) พยายามจะหยุดเขา และโทรหาแม่ของเขาเพื่อให้มารับตัวกลับบ้านไป แต่กลับกลายเป็นว่ามีแต่คนอัปคลิปเหตุการณ์ตอนที่เขาผลักเด็กอย่างเดียว” จากคลิปจะเห็นว่าเจ้าหนูที่โดนผลักนั้นจริงๆ เป็นไอ้ตัวแสบสุดๆ พยายามหาเรื่อง Sean เดินเอาตัวชน จนถึงลงมือทำร้ายร่างกายเขาก่อนด้วย!! อีกทั้งยังมีการใช้คำพูดที่รุนแรง ทั้งด่าทอผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าเป็น ‘ก*หรี่’ รวมไปถึงคำสบถหยาบคายมากมาย คลิปวิดีโอดังกล่าวมีความรุนแรง ไม่สามารถ Embed มาลงได้ ใครที่จะชมสามารถคลิกที่ภาพ หรือลิงก์นี้ได้เลยครับ… หลังจากที่ได้ชมคลิปเหตุการณ์นี้แล้วชาวเน็ตหลายคนต่างก็ให้ความเห็นกันไปต่างๆ นาๆ…
-
สองนักบินใช้เงินที่เก็บมาตลอดทั้งชีวิต เพื่อช่วยเหล่าเหลือเหล่าผู้อพยพในทะเล
เมื่อพูดถึงเรื่องของ ‘เงินเก็บ’ หลายๆ คนคงจะมีเอาไว้เพื่อปรนเปรอความสุขให้กับตัวเองในอนาคต… แต่สำหรับนักบินชาวฝรั่งเศสสองคนนี้ เขากลับนำเงินเก็บทั้งหมดที่มีไปใช้กับการช่วยเหลือผู้อื่น และนี่คือเรื่องราวของ Jose Benavente และ Benoit Micolon สองนักบินที่ใช้เงินเก็บของตัวเองทั้งหมดเป็นมูลค่ากว่า 4.7 ล้านบาท ซื้อเครื่องบิน 1 ลำ เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพที่ลอยลำอยู่กลางทะเล จากรายงานขององค์กร United Nations High Commissioner for Refugees (UNHCR) จากปี 2016 มีผู้คนมากกว่า 66 ล้านคนพลัดถิ่นของตัวเอง ในจำนวนนั้นมี 22.5 ล้านคนเป็นผู้อพยพ และอีก 40.3 ล้านคนเป็นคนพลัดถิ่นภายในประเทศ และอีก 2.8 ล้านคนเป็นผู้ลี้ภัย การเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นเส้นทางการอพยพที่เป็นที่นิยม และแน่นอนว่ามันไม่ได้ปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย จากรายงานในปี 2017 มีผู้อพยพมากกว่า 3,139 รายสูญหายไป เพราะหลงทางจากการข้ามทะเลอันแสนกว้างใหญ่ และในปีล่าสุดยังผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงครึ่งปีก็มีรายงานผู้สูญหายไปแล้วมากกว่า 600…
-
19 ของภาพเกี่ยวกับของกินที่ญี่ปุ่น ที่จะมาทำให้เห็นกันว่าคนญี่ปุ่นมีการกินที่ล้ำลึกขนาดไหน
ถ้าพูดถึงญี่ปุ่นคนเราจะนึกถึงอะไร นินจา? ซามูไร? หรือว่าอนิเมะ สำหรับคนส่วนมากแล้ว เมื่อพูดถึงประเทศญี่ปุ่นพวกเขาก็มักจะคิดถึงของกินเป็นอย่างแรก ไม่ว่าจะเป็นปลาดิบ ข้าวปั้น หรือราเมนเป็นต้น เพราะประเทศญี่ปุ่นนั้นมีวัฒนธรรมการกินที่ล้ำลึกที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้ และในวันนี้เอง #เหมียวศรัทธา ก็จะพาเพื่อนๆ ไปชม 19 ของภาพเกี่ยวกับอาหารการกินของญี่ปุ่น ที่จะมาทำให้เพื่อนๆ ได้เห็นกันว่าญี่ปุ่นนั้น มีการกินที่ล้ำลึกขนาดไหน ประการแรกเลยนะ ที่ญี่ปุ่นน่ะมีเครื่องขายอัตโนมัติแทบทุกที่ เวลาเข้าไปในร้านหลายๆ ร้านก็จะให้สั่งอาหารกับเครื่องแบบนี้ด้วย แต่เวลาทำอาหารใช้คนนะ มีแพนเค้กสำเร็จรูปให้ซื้อ แถมยังมี Kit Kat รสชีสเค้ก สตรอว์เบอร์รี่ที่นี่มีให้เลือกหลายสีหลายระดับความสุกด้วยนะ ถึงจะแพงนิดหน่อยก็เถอะ เชื่อไหมว่านี่อาหารโรงพยาบาล อันนี้ด้วย อันนี้ไข่ต้มในน้ำพุร้อน นึกว่าไข่เยี่ยวม้าไปแว๊บหนึ่ง อันนี้ขนมปังพาสต้า มันฝรั่งทอดเคลือบช็อกโกแลตก็มีนะ ถ้าชอบแปลกๆ หน่อยก็หอยทากนี่เลย ซูชิที่ขายตามห้าง ชีสในทาโก้เป็นรูปดาวด้วยนะ …
-
Razan Al-Najjar เทพธิดาแห่ง ‘ฉนวนกาซา’ จากฮีโร่บนดินสู่นางฟ้าบนสรวงสวรรค์
‘ฮีโร่’ ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษหรือผ้าคลุมหลากสี เฉกเช่นเดียวกันกับเรื่องราวของแพทย์อาสาหญิงนามว่า Razan Al-Najjar เธอเป็นทั้งลูก เป็นทั้งพี่สาว ภรรยา แม่ เพื่อร่วมงาน เป็นเพื่อน แต่ที่มากกว่านั้นคือเธอเป็น ‘ฮีโร่’ ในชีวิตจริง Razan เป็นแพทย์อาสาที่ทำงานอย่างหนักอยู่ในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นอาณาบริเวณเล็กๆ ที่ติดต่อกับประเทศอิสราเอลและอียิปต์ ที่เรียกว่าเป็นฉนวนกาซาเพราะว่าเป็นอาณาเขตที่กำหนดขึ้นจากข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์ หลังที่สงครามของทั้งสองประเทศจบลง ให้เป็นเขตกันชนระหว่างคู่อริทั้งสองฝ่ายก็ว่าได้ แต่ฉนวนกาซากลับกลายเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และปัจจุบันก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในพื้นที่นี้ โดยชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซาพยายามเรียกร้องให้ประเทศอิสราเอลเปิดให้พวกเขาได้กลับคืนสู่มาตุภูมิของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน หลังบรรพบุรุษของพวกตนถูกขับไล่ออกมาเมื่อ 70 ปีก่อน Razan เป็นแพทย์อาสาวัย 21 ปี ที่เสี่ยงชีวิตเข้ามาช่วยเหลือเหล่าผู้ประท้วงเหล่านั้น เธอต้องวิ่งหลบห่ากระสุนที่ยิงมาจากฝั่งอิสราเอลเพื่อช่วยเหลือพวกเขา มีเพื่อนร่วมงานของเธอไม่ต่ำกว่า 100 คนต้องเสียชีวิตไปจากเมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดเธอจากการช่วยเหลือผู้คนได้ ในทุกๆ วันเธอยังคงออกไปช่วยเหลือเหล่าผู้ประท้วงอย่างต่อเนื่องโดยไม่ย่อท้อ ยังคงมีผู้ถูกคุมขัง และคนที่ได้รับความลำบากอีกมากมายในฉนวนกาซาแห่งนี้กว่า 2…
-
Alfie เตรียมออกรองเท้าสุดแปลกที่ผสมผสานระหว่างสไตล์ Croc และถุงเท้าในคราวเดียว!!
เพื่อนๆ เคยมีปัญหาเวลาที่อยากใส่ถุงเท้าก่อนที่จะสวมรองเท้าแต่ชอบลืมเอาถุงเท้ามาเป็นประจำเลยรึเปล่า ซึ่งปัญหาที่ตามมาจากการไม่สวมถุงเท้าแล้วใส่รองเท้าก็อาจจะทำให้บางคนมีกลิ่นเท้าได้ หากเพื่อนๆ พบเจอปัญหาแบบนี้นั้น เราขอแนะนำให้รู้จักรองเท้าสายพันธุ์ใหม่ โดยการนำถุงเท้ามารวมกับรองเท้าสไตล์ Croc นั่นเอง รองเท้าสไตล์ Croc เป็นรองเท้าที่รูปร่างนั้นสะดุดตาหลายๆ คน เพราะด้วยตัวที่ทรงโตและใหญ่เทอะทะ แต่จุดเด่นของรองเท้าแบบนี้คือใส่สบายมาก สามารถยืนได้ทั้งวัน (เขาว่ามางี้อ่ะนะ) ทำให้รองเท้าสไตล์แบบ Croc กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เช่นกันกับในประเทศไทย ที่เราจะเห็นช็อปของ Croc ได้ตามห้างใหญ่ๆ อย่างเช่นเซนทรัลสาขาต่างๆ แต่รองเท้าที่เราจะนำมากล่าวถีงวันนี้เป็นแค่เพียงรองเท้าสไตล์ Croc แต่ไม่ได้ผลิตโดย Croc ซึ่งแบรนด์ที่ผลิตนั้นคือแบรนด์ Alfie แบรนด์จากมหานครนิวยอร์ก โดยที่เจ้ารองเท้าแปลกๆ ที่เราเห็นนี้ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างถุงเท้าและรองเท้าเอาไว้ด้วยกันในผลิตภัณฑ์เดียว Rob Cristofaro ผู้ก่อตั้งแบรนด์กล่าวว่า “รองเท้าสไตล์นี้เกิดขึ้นมาจากกระแสแฟชั่นส่วนหนึ่ง ความเป็นจริงอีกส่วนหนึ่งและอยากที่จะทำให้สัมผัสถึงบรรยากาศสมัยที่ผมยังเด็กๆ เจ้าถุงเท้ายาวนี่เป็นเหมือนสัญลักษณ์สำหรับผมที่เติบโตมาในนิวยอร์กในยุค 70 ในเมืองมิวยอร์กเราจะเห็นเด็กที่มักจะใส่ถุงเท้ากับรองเท้าแตะ Adidas คอนเซ็ปต์นี้จะกลายเป็นอีกระดับหนึ่งของ Croc สไตล์ที่ผสมผสานด้วยวัสดุดิบที่กล่าวมาข้างต้น” ที่ผ่านมา Alfie มารองเท้ารุ่นหนึ่งที่ได้ชื่อว่า Art Croc สนนราคาที่…
-
สวีเดนเริ่มแล้ว ฝังชิปขนาดเท่าเมล็ดข้าวลงในข้อมือ เพื่อใช้แทนบัตรประชาชน กุญแจ และเงินสด
เราคงจะเคยเห็นในหนังไซไฟหลายๆ เรื่อง ที่ตัวละครมีการฝังชิปหรือวัตถุอิเล็กทรอนิกส์ลงในร่างกาย เพื่ออำนวยความสะดวก ซึ่งแนวคิดที่ว่านั้นเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความเป็นจริงพอสมควรเมื่อครั้งอดีต แต่ในปัจจุบันมันสามารถทำได้จริงแล้ว เว็บไซต์ Businessinsider ได้รายงานว่าในขณะนี้มีชาวสวีเดนนับพันคน ได้ทำการฝังไมโครชิปขนาดเท่าเมล็ดข้าว ลงในใต้ผิวหนังของพวกเขา เพื่อใช้มันแทนเงินสด บัตรเครดิต ตั๋วเดินทาง กุญแจเข้าออกตามที่ต่างๆ หรือแม้แต่ข้อมูลบัตรประชาชนก็สามารถใส่เข้าไปในไมโครชิปที่ว่านี้ได้ด้วย ไมโครชิป ตามรายงานบอกว่าเทคโนโลยีนี้เริ่มมีการพัฒนาครั้งแรกเมื่อปี 2015 และเริ่มมีการนำไปทดลองใช้ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้คนมากถึง 3,000 คนที่ยอมฝังชิปที่ว่านี้ลงในผิวหนัง เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน Ulrika Celsing หญิงสาวชาวสวีเดนวัย 28 ปี หนึ่งในคนที่ฝังไมโครชิปนี้ลงในมือเล่าว่าเธอรู้สึกสะดวกมากขึ้น มันสามารถใช้แทนบัตรสมาชิกยิมหรือใช้เปิดปิดออฟฟิศได้ เจ็บเหมือนมดกัดนิดเดียว? ขั้นตอนการฝังชิปลงในผิวหนังนั้น จะให้ความรู้สึกเจ็บเหมือนเจาะหู หรือโดนแมลงต่อย จากนั้นจึงใช้เข็มฉีดเอาไมโครชิปเข้าไปยังบริเวณข้อมือ Ulrika Celsing เผยกับสื่ออย่าง AFP ว่าขั้นตอนในการทำนั้นทำให้รู้สึกเหมือนกับโดนแมลงต่อยเท่านั้น แต่ใช่ว่ามันจะไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย Ben Libberton นักชีวเคมีที่ทำงานอยู่ในแล็บทางตอนใต้ของสวีเดนกล่าวว่า บางครั้งการฝังชิปก็อาจทำให้เกิดอาหารติดเชื้อได้ในบางราย หรือมีปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกายได้บ้าง การเพิ่มขึ้นของ Biohacking ในตอนนี้ Biohacking (การปรับเปลี่ยนร่างกายโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย)…
-
พลังแห่งความรัก ช่วยให้หนุ่มป่วยด้วยโรค Anorexia กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง…
Dorian Toucere หนุ่มชาวฝรั่งเศสที่ต้องเผชิญกับโรค Anorexia จนน้ำหนักตัวของเขาลดเหลือแค่ 44 กิโลกรัม แต่ด้วยความรักและกำลังใจจากแฟนสาวของเขา ทำให้ชายหนุ่มสามารถเอาชนะโรคร้ายนี้ได้และกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 Dorian เริ่มมีอาการเบื่ออาหาร หลังจากที่เขาเลิกกับแฟนเก่า จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหดหู่และความเครียด เขากินข้าวแค่วันละ 2 มื้อ โดยมีเพียงแค่เนื้อไก่และผักเท่านั้นเอง “ตอนนั้นผมเป็นโรคซึมเศร้า มันรู้สึกแย่มากๆ ตอนเช้าผมไม่กินข้าวเลย และจะกินแค่อกไก่กับผักเท่านั้นในตอนเที่ยง” ชายเล่าเรื่องราวของเขาเมื่อตอนที่ตกอยู่ในอาการป่วย หลังจากที่ถูกอาการป่วยเล่นงานอย่างหนัก Dorian เริ่มทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ร่างกายเขากลับมาแข็งแรงอีกครั้ง “ผมกินทุกอย่างที่แม่ผมกิน และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาทีบนลู่วิ่ง และเพาะกายอีกประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที” Dorian 4 ปีหลังเริ่มออกกำลังการและหันมาดูแลตัวเอง ทำให้ชายหนุ่มเริ่มกลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง และไม่เพียงเท่านั้นเขายังได้พบกับ Sophie แฟนสาวคนใหม่ของเขาด้วย . “เธอช่วยให้ผมในการยอมรับกับร่างกายตัวเอง ผมกลับมีความสุขและกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์ ด้วยความรักจากแฟนสาว ทำให้ Dorian สามารถเอาชนะโรคร้ายได้ และกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ทุกวันนี้เขาออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยอดอาหารอีกเลย …
-
หนุ่มเห็นคนทำร้ายผู้หญิง เลย “กระโดดเฮดบัตลอยฟ้าใส่” อย่างกับซูเปอร์แมน
บางครั้ง ‘ซูเปอร์ฮีโร่’ ไม่จำเป็นต้องมีพลังพิเศษ หรือผ้าคลุมหลากสีสัน… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะหยิบมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ เป็นเรื่องราวของพลเมืองดีรายหนึ่งกระโดดเข้ามาช่วยเหลือหญิงสาวผู้ถูกทำร้ายร่างกายโดยแฟนหนุ่มของตัวเอง แน่นอนว่าโดยทั่วไปการที่ผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกายโดยผู้ชาย แล้วมีการอ้างขึ้นมาว่า ‘เรื่องของผัวเมีย ใครอย่างยุ่ง’ ก็จะทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะหลีกเลี่ยง ไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์สักเท่าไหร่ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ Ladbible รายงานว่ามีการบันทึกภาพกล้องวงจรปิดเผยให้เหตุการณ์ที่น่าหดหู่เกิดขึ้นกรุงอิสตันบูลประเทศตุรกี เนื่องจากว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังทำร้ายร่างกายภรรยาของตัวเอง ฝ่ายหญิงร้องไห้ และส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งมีซูเปอร์ฮีโร่รายหนึ่งพุ่งเข้ามาช่วยเหลือราวกับว่าเป็น ‘ซูเปอร์แมน’ ใช่แล้วล่ะเพื่อนๆ อ่านไม่ผิดหรอก ก็เพราะว่าพี่แกเล่นกระโดดพุ่งเข้ามาทำการ ‘เฮดบัต’ ใส่ผู้ชายที่ทำร้ายร่างกายผู้หญิง ราวกับว่าเป็นซูเปอร์แมนบินเข้ามายังไงยังงั้นเลย!! ตามรายงานระบุว่าคู่สามีที่หย่ากันไปแล้ว กำลังเดินออกมาจากการเข้าไปรับฟังการตัดสินคดีที่ศาลยุติธรรมในกรุงอิสตันบูล แต่หลังจากที่เดินออกมาก็มีปากเสียงกันเกิดขึ้น จนเป็นเหตุให้เกิดการลงไม้ลงมือ สุดท้ายตามรายงานระบุว่าฝ่ายชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเรียบร้อยแล้ว ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ที่มา : dailymail, ladbible
-
สองนักบินอวกาศรัสเซีย สาธิตการเตะบอลแบบไร้แรงโน้มถ่วงในอวกาศ ต้อนรับบอลโลก
นี่เป็นภาพความสนุกสนานที่อยู่ห่างจากโลกของเราออกไปสักเล็กน้อย ของนักบินอวกาศชาวรัสเซีย ที่โชว์การเตะฟุตบอลบนอวกาศในแบบไร้แรงโน้มถ่วง เพื่อต้อนรับเทศกาลฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียเองเป็นเจ้าภาพในการจัดปีนี้ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ RT ได้รายงานว่า 2 นักบินอวกาศชาวรัสเซีย Anton Shkaplerov และนาย Oleg Artemyev ได้สาธิตการเตะฟุตบอลแบบไร้แรงโน้มถ่วง บนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่โดยหน่วยงานด้านอวกาศที่ชื่อว่า Roscosmos จากภาพจะเห็นว่าทั้ง 2 คน ผลัดกันเป็นคนเตะและเป็นโกล โดยในแต่ละครั้งจะออกมาทุลักทุเลสักหน่อย เนื่องจากการตั้งหลักเพื่อเตะนั้นทำได้ยาก ทั้งนี้การทดสอบดังกล่าวได้มีการใช้ลูกฟุตบอลที่มีลวดลายของฟุตบอลโลก 2018 อย่างเป็นทางการ เป็นลูกฟุตบอล Telstar 18 จาก Adidas ที่ถูกส่งขึ้นไปเพื่อทดสอบโดยเฉพาะ และมีการวางแผนว่าจะนำกลับมาสู่พื้นโลกในวันที่ 3 มิถุนายนด้วย โชว์ลูกเตะในอวกาศ ที่แม้แต่ซึบาสะยังอึ้ง ชมคลิปแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย ที่มา rt
-
จากภาพล่าสุดของป๋า Johnny Depp แฟนๆ ต่างพากันเป็นห่วง เพราะดูผอมเกินไป!!
เพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้จัก Johnny Depp กันอยู่แล้ว เขาเป็นนักแสดงมากความสามารถ และเรามักจะจำเขาได้ในบทบาทของกัปตัน Jack Sparrow จากเรื่อง Pirates of the Caribbean นั้นเอง แต่จากภาพล่าสุดของเขา ที่ถ่ายรูปคู่กับแฟนคลับ ทำให้เห็นว่าสภาพของเขาดูเปลี่ยนไปมาก จนทำให้แฟนๆ หลายคนต่างก็เป็นห่วงว่าเขาอาจจะ ‘ป่วย’ อยู่ก็เป็นได้ เนื่องจากว่า Depp ได้ห่างหายไปนานจากจอภาพยนตร์ และไม่ค่อยได้ออกสื่อเลย พอมาเห็นอีกทีก็เลยทำให้บรรดาแฟนๆ ถึงกับตกใจและเป็นห่วงไปตามๆ กัน Johnny Depp อายุ 54 ปี ถ่ายรูปกับแฟนคลับสาวคนหนึ่ง ก่อนที่จะเขาจะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับวง The Hollywood Vampires ซึ่งเป็นวงดนตรีของเขา หลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์ลงในโลกออนไลน์ แฟนๆ หลายคนต่างก็อิจฉาผู้หญิงในรูป แต่ส่วนใหญ่แล้วตกใจเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเขามากกว่า บ้างก็ว่า “ผมคิดว่าฮีโร่ของผมกำลังป่วยอยู่นะ” บางคนก็คอมเมนต์ว่า “ให้ตายเถอะ นั่นใช่ Johnny…
-
ผลสำรวจสาวญี่ปุ่น มากถึง 31% เคยนอกใจแฟน และ 6% เคยถูกจับได้อีก!?
เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Mecha Comic ได้จัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นชาวเน็ต ว่าพวกเขาเคยมีประสบการณ์ในการนอกใจหรือเคยโดนคนรักนอกใจมาบ้างหรือเปล่า? จากคำถามนี้มีผู้เข้ามาตอบแบบสอบถามดังกล่าวกว่า 1,737 คน ทำให้ได้ความคิดเห็นที่หลากหลายและน่าสนใจมาก เดี๋ยวเราจะมาไล่ดูกันว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจากเหยื่อของการถูกนอกใจกันก่อน มีหญิงสาวราวๆ 38% บอกว่าแฟนหรือสามีของพวกเธอเคยนอกใจ ส่วน 35% บอกว่าพวกเธอสามารถจับไต๋พวกเขาได้ด้วยว่ากำลังนอกใจอยู่ มาที่ฝั่งของคนนอกใจซะเองกันบ้าง มีหญิงสาวราวๆ 31% บอกว่าพวกเธอเป็นฝ่ายนอกใจแฟนหนุ่มก่อน เมื่อถามว่าทำไม? ส่วนใหญ่มักตอบว่าต้องการเป็นที่สนใจของใครสักคน (มีคนตอบตัวเลือกนี้ถึง 43%) รองลงมาบอกว่าเบื่อความสัมพันธ์ที่จืดชืด ต้องการความสัมพันธ์ที่น่าตื่นเต้นมากกว่านี้ (มีคนเลือกตอบข้อนี้ 26%) และรองลงมาคือโทษว่ากิ๊ก (หรือชู้) เป็นฝ่ายเริ่มก่อน (มีคนเลือกข้อนี้ 19%) นอกจากนี้แบบสอบถามยังถามหญิงสาวว่า “การกระทำแบบไหนที่พวกคุณรู้สึกว่าเป็นการนอกใจบ้าง” ผลที่ออกมาก็คือ 9% บอกว่าออกไปกินข้าวหรือไปทำอะไรด้วยกัน 2 ต่อ 2 กับคนอื่น 19% บอกว่าเดินจับมือกัน 27% บอกว่าจูบ 29% บอกว่ามีเซ็กส์กัน 3% อื่นๆ …
-
ภาพหาชมยากของคฤหาสน์ “คิม จองอึน” ใกล้กับกรุงเปียงยาง จากฝีมือช่างภาพรัสเซีย
หลายๆ คนอาจจะเคยได้เห็นภาพของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศเกาหลีเหนือกันมาหลายครั้งแล้ว แต่เชื่อแน่ๆ ว่ายังมีอีกสถานที่หนึ่งที่น้อยคนนักจะเคยเห็น อย่างเช่นคฤหาสน์ของท่านผู้นำคิม จองอึน นั่นเอง ภาพถ่ายของคฤหาสน์หรูที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับกรุงเปียงยางนี้ เป็นฝีมือการถ่ายภาพของ Valery Sharifulin ช่างภาพชาวรัสเซีย ที่ได้มีโอกาสติดตาม Sergei Lavrov ทูตของรัสเซียเพื่อเข้าพบผู้นำของเกาหลีเหนือ สื่อต่างประเทศรายงานว่า การพบกันระหว่างคิมจองอึน และ Lavrov ครั้งนี้มีความเกี่ยวข้องกับการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีอีกด้วย “เราเริ่มการพูดคุยเกี่ยวกับการแก้ปัญหานิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี และปัญหาที่ว่านี้จะไม่มีทางแก้ได้เลยถ้าหากไม่มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ” นาย Lavrov ให้สัมภาษณ์ ภาพคฤหาสน์ของผู้นำเกาหลีเหนือโดยช่างภาพชาวรัสเซียนี้ ได้เผยให้เห็นความหรูหรา และความยิ่งใหญ่ของที่นี่อย่างมาก ซึ่งโดยปรกติแล้วการเข้ามาในสถานที่แห่งนี้จะต้องมีการตรวจตราอย่างเข้มงวด และจะต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้น นาย Lee Young-kuk อดีตบอดี้การ์ดของคิมจองอึนที่แปรพักตร์เคยให้สัมภาษณ์ว่า ผู้นำเกาหลีเหนือมีคฤหาสน์อยู่ในเมืองหลวงมากถึง 8 แห่งด้วยกัน และนี่คือภาพบรรยากาศรอบๆ คฤหาสน์ที่คิมจองอึน ใช้ต้อนรับนาย Lavrov . รูปปั้นของหญิงชาวเกาหลี ที่ประดับอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ ถนนทางเข้าคฤหาสน์ . .…
-
เสื้อสุดคาวาอี้ ลาย “แฮมสเตอร์แก้มตุ่ย” เห็นแล้วหมั่นเขี้ยว อยากบีบแก้มเล่นเลยฮะ
เสื้อยืดธรรมดาทั่วๆ ไป มีลายอยู่ด้านหน้านิดๆ หน่อยๆ บางทีมันก็ไม่อาจดึงดูดสายตาของเราได้ แต่ช่างน่าแปลกใจว่าทำไมเสื้อยืดลาย “แฮมสเตอร์แก้มตุ่ย” จากประเทศญี่ปุ่นนี้ มันถึงตรึงสายตาเราเอาไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เสื้อลายแฮมสเตอร์ ที่สามารถดึงดูดหนุ่มๆ ได้อย่างน่าประหลาด เสื้อยืดลายแฮมสเตอร์นี้เป็นไอเดียของ Mocolle บริษัทเสื้อผ้าในประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องการจะนำเสนอในเรื่องของความน่ารักและเสน่ห์ของเจ้าแฮมสเตอร์ตัวน้อย แต่หากเราได้ลองมาดูอีกที เราจะเห็นว่าความพิเศษของเสื้อตัวนี้นั้นไม่ได้มีแค่ความน่ารักของลายบนเสื้อเพียงอย่างเดียว ไม่เชื่อเราลองไปสังเกตดูกันให้ดีๆ สิ ทำไมมันถึงได้ดูมีเสน่ห์มากขนาดนี้กันน้าาา งั่ม งั่ม งั่ม แก้มเต่งเสียจริง เมื่อเสื้อลายนี้ถูกสวมใส่โดยนางแบบสาว Saki Miyamoto เจ้าแฮมสเตอร์ก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นลวดลายแบบ 3 มิติในบัดดล มีความรู้สึกว่าแก้มของมันดูอ้วนตุ๊ต๊ะ แก้มตุ่ยน่าบีบมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก ทำเอามือไม้ผมนี่สั่นไปหมดเลยฮะ Saki นางแบบสาวสุดคาวาอี้ งืออออ ผมนี่ตั้งใจมอง… ตาเลยฮะ . ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ยอดบริจาคสำหรับการผลิตเสื้อตัวนี้พุ่งสูงถึง 394,630 เยน (ประมาณ 115,000…
-
สักตัวไหม? แบรนด์เสื้อผ้าญี่ปุ่น GU ดีไซน์กางเกงแบบใหม่ มี “กระเป๋าที่เป้า” ด้วย!?
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร และต้องการให้คนสนใจคุณอยู่ตลอดเวลา กางเกงนี้น่าจะเหมาะกับคนอย่างคุณมาก ตอนนี้คงต้องบอกว่าแบรนด์เสื้อผ้าอย่าง Uniqlo นั้นเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่โด่งดังไปทั่วโลกแล้ว ซึ่งมีการตั้งสาขาย่อยในหลากหลายประเทศ แต่ล่าสุดได้มีการแตกแบรนด์ลูกออกมาชื่อว่า GU โดยจุดเด่นของแบรนด์นี้คือการผลิตเสื้อผ้าที่มีราคาถูกลงมาให้คนสามารถซื้อได้ง่ายมากกว่าเดิม จุดที่แต่งต่างกันอีกจุดหนึ่งก็คือเสื้อผ้าของ GU นั้นจะมีการดีไซน์ที่แปลกกว่าเล็กน้อย ซึ่งบางครั้งจะเป็นการทดลองการดีไซน์อะไรที่แหวกแนวไปเลยเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า อย่างไรก็ตามมันอาจจะโดดเด่นไปสักนิดสำหรับเสื้อผ้าบางแบบ… กางเกงตัวนี้ได้รับการออกแบบโดยดีไซนเนอร์ที่ชื่อว่า Kim Jones มองจากข้างหลังเราอาจจะเห็นเป็นกางเกงทรงกระบอกทั่วๆ ไป ที่สามารถใส่ทำงานได้ในชีวิตประจำวัน แต่พอดูใกล้ๆ เราจะเห็นว่ามีซองสีขาวๆ ยื่นออกมาตรงเป้า ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าในส่วนที่เป็นเหมือนกระเป๋ายื่นๆ ตรงนั้นควรจะปล่อยมันเอาไว้ว่างๆ หรือควรจะใส่อะไรเข้าไปดี แต่ไม่ว่าคุณจะใส่อะไรเข้าไป มันก็จะไปตุงๆ อยู่ที่เป้าแล้วกระเด้งกระดอนไปมากับจุ๊ดจู๋ของคุณอยู่ดี ชาวเน็ตในญี่ปุ่นพยายามช่วยกันคลายข้อสงสัย ว่ากระเป๋าส่วนที่ยื่นออกมามันควรจะมีไว้ทำอะไรกันแน่? และหลายๆ คนก็ลงความเห็นว่า มันคงจะมีเอาไว้เพื่อให้ใส่กล้วยเข้าไป หากคุณคิดว่ากางเกงตัวนี้สวย แปลก และอยากจะเป็นเจ้าของแล้วล่ะก็ สามารถสั่งโดยตรงได้กับเว็บไซต์ของ GU ได้เลย สนนราคาอยู่ที่ 990 เยน หรือประมาณ 290 บาทเท่านั้น …
-
รถยก รถลากหลบไป กะอิแค่แบกรถยนต์กลับ “3 ล้อ” ก็ทำได้สบายๆ อยู่แล้วไอ้น้องงง!!
เวลาที่รถพัง ไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ด้วยตัวเอง เราก็จำเป็นที่จะต้องโทรเรียกรถลาก หรือรถยกให้มาช่วยขนรถของเราไป แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น (มั้ง?) นี่คือภาพที่ถูกถ่ายโดยกล้องติดรถ ขณะที่ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังขับรถ 3 ล้อ พร้อมกับแบกรถยนต์เอาไว้ด้านหลัง เห็นแล้วก็แอบหวาดเสียวมิใช่น้อย รถ 3 ล้อยกรถยนต์ไปแบบชิลๆ ชิคๆ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมือง Huzhou City ประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ทางหลวง Xiong Youfu ได้ติดตามรถคันดังกล่าวไปจนถึงสุสานรถยนต์แห่งหนึ่ง ทว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่พบกับมีเพียงแค่รถยนต์คันสีดำที่ถูกแบกมา ไม่มีร่องรอยของรถ 3 ล้อให้เห็นแล้ว เมื่อตามจากป้ายทะเบียนรถ เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปสอบถามข้อมูลกับชายแซ่ Ke เจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว โดยเขาบอกว่าตนเองได้ขายรถคันนั้นไปในราคา 800 หยวน (เกือบ 4,000 บาท) ให้กับชายแซ่ Shen หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้พบกับหนุ่มแซ่ Shen เจ้าของรถ 3 ล้อภายในคลิป ซึ่งเขาเล่าว่าตนเองต้องการนำรถยนต์ที่ซื้อมาไปทำเป็นเศษเหล็กที่สุสานรถ แต่เนื่องจากว่าต้องการประหยัดเงิน ไม่อยากจ้างรถยกหรือรถลาก เขาจึงตัดสินใจแบกมันขึ้นรถ 3 ล้อ…
-
สาวเล่าประสบการณ์บนเครื่องบิน หนุ่มข้างๆ เปิดหนังโป๊ดูพร้อมรูดหนอน ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น?!
บางคนอาจมองว่าการเดินทางบนเครื่องบินดูน่ากลัว เพราะต้องขึ้นไปอยู่ที่สูง แต่สำหรับหญิงสาวคนนี้ เธอกลับคิดว่ามันน่าขยะแขยง เพราะเธอต้องมาเจอกับผู้โดยสารข้างๆ โชว์พฤติกรรมอนาจารอย่างโจ่งแจ้ง หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Elly Shariat ผู้ที่โพสต์เรื่องราวทั้งหมดลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว ขณะกำลังเดินทางบนเครื่องบินและชายหนุ่มด้านข้างก็กำลังรับชมหนังโป๊ใน iPad พร้อมกับนั่งรูดหนอนของตัวเองโชว์ให้เธอดู โพสต์ของเธอในทวิตเตอร์ส่วนตัว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นขณะที่ Elly กำลังเดินทางอยู่กับสายการบิน Southwest Airlines ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2018 เธอนั้นได้นั่งคั่นกลางระหว่างชาย 2 คน คนหนึ่งหลับลึกไปตลอดการเดินทาง ส่วนอีกคนที่นั่งอยู่ติดหน้าต่างกลับควัก iPad ขึ้นมาเปิดหนังโป๊แบบไม่เสียบหูฟัง พร้อมกับทอกระดกออกมารูดอย่างเพลิดเพลิน ด้วยความที่เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้ ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี กลัวว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัย เธอจึงตัดสินใจซื้อไวไฟของทางเครื่อง และเล่าเรื่องราวไปเรื่อยๆ ผ่านทางทวิตเตอร์ เธอเชื่อว่า Pornhub ก็คงจะรู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่เธอต้องเจอ ต่อให้ชายคนนี้จะดูวิดีโอของเว็บไซต์พวกเขาก็ตาม เธอเล่าว่าตลอดการเดินทางอันยาวนานเกือบ 5 ชั่วโมง ชายคนนี้ก็นั่งรูดหรรมส์โชว์เธออยู่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีพนักงานสังเกตเห็น Elly ยังบอกอีกว่า ชายคนนั้นไม่ได้มีไอ้จ้อนที่ยาวใหญ่อะไรเลย เผลอๆ เล็กกระจึ๋งเดียวซะด้วยซ้ำไป…
-
ค.คนรักรถ หนุ่มจีนขอร้องให้ครอบครัว นำร่างของเขาฝังไปพร้อมกับรถสุดรัก…
ถ้าหากว่าคุณสังกัดสมาคม ค.คนรักรถล่ะก็ การได้ใช้เวลาเช็ดๆ ถูๆ เจ้ารถแสนรักไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ในวันหยุดล่ะก็ คงจะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุขไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับหนุ่มชาวจีนผู้นี้ นอกจากการเช็ดถูรถในวันหยุดแล้ว เขายังต้องการที่จะจากโลกใบนี้ไปพร้อมๆ กับรถคันโปรดอีกด้วย เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ shanghaiist ได้รายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน นาย Qi หนุ่มจีนมีความชื่นชอบรถยนต์เป็นพิเศษ และเป็นหนึ่งในคนที่รักรถมากๆ เขาได้ขอให้ครอบครัวใช้รถยนต์สุดรักเป็นโลงศพและฝังมันไปพร้อมกับร่างของตัวเอง คลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่โดยสำนักข่าว Beijing News ได้แสดงให้เห็นรถ Hyundai Sonata รถคันโปรดของนาย Qi ที่กำลังถูกฝังลงไปในหลุมศพของเขา คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมาก มีชาวเน็ตหลายๆ คนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือบางคนกลับตั้งข้อสงสัยว่า หลุมศพของนาย Qi จะสร้างความลำบากให้นักโบราณคดีในอนาคตหรือไม่ “จะมีใครไปขุดมันขึ้นมาภายใน 1-2 วันนี้มั้ยนะ ” ความเห็นจากชาวเน็ตรายหนึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ อืม… นี่ก็คงจะไม่ต่างจากหลุมศพคนโบราณที่เอาข้าวของเครื่องใช้ฝังไปด้วยหรอกว่าไหม?? ที่มา shanghaiist
-
เครื่องบินลงจอดฉุกเฉิน หลังกลิ่นตัวผู้โดยสารทำพิษ เป็นลม-อ้วกแตกระนาว…
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศรายงานว่าเครื่องบินลำหนึ่งจำเป็นต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากผู้โดยสารเกิดอาการเวียนหัวและทนไม่ไหวกับกลิ่นตัวของชายรายหนึ่งที่เหม็นเหมือนกับคนไม่ได้อาบน้ำมาประมาณ 1 สัปดาห์ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนเครื่องโบอิ้ง 737 ของสายการบิน Transavia ที่กำลังเดินทางไปยังเกาะ Gran Canaria ประเทศสเปน จากรายงานเผยว่ากลิ่นตัวของชายคนดังกล่าวส่งกลิ่นเหม็นอย่างมาก จนผู้โดยสารรายอื่นๆ ถึงกับเป็นลมและบางคนถึงขั้นอ้วก หลังจากที่เครื่องบินออกจากสนามบิน Schiphol ประเทศเนเธอร์แลนด์ ลูกเรือของสายการบินพยายามกักตัวของชายคนดังกล่าวเอาไว้ในห้องน้ำ ก่อนที่นักบินจะนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินในเมือง Faro ประเทศโปรตุเกส ภาพถ่ายจากผู้โดยสารรายหนึ่ง เผยให้เห็นทีมแพทย์ที่กำลังนำตัวชายคนดังกล่าวขึ้นรถบัสของทางสนามบิน นาย Piet van Haut หนึ่งในผู้โดยสารจากเที่ยวบินดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า กลิ่นในเครื่องบินนั้นทำให้เขาเหลือทนเอามากๆ “มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อาบน้ำมาหลายสัปดาห์ มีผู้โดยสารหลายคนเป็นลมและบางคนถึงกับอ้วก” นาย Piet ผู้โดยสารชาวเบลเยียมให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตามทางด้านสายการบินให้เหตุผลในการลงจอดครั้งนี้ว่าเป็นเหตุผลทางการแพทย์ แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นเหตุผลทางการแพทย์ของผู้โดยสารคนอื่นๆ หรือชายเจ้าของกลิ่นสาบ “เครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉินเนื่องจากเหตุผลทางการแพทย์ และเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับกลิ่นที่เกิดขึ้นบนเครื่อง” คำแถลงการณ์จากโฆษกของสารการบิน อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่สายการบิน Transavia ต้องลงจอดฉุกเฉินเพราะกลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นครั้งแรก แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในระหว่างเส้นทางจากดูไบถึงอัมสเตอร์ดัมก็ต้องลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากผู้โดยสารรายหนึ่งไม่สามารถหยุดผายลมได้ และสร้างความเดือดร้อนให้ผู้โดยสารรายอื่นๆ ที่มา mirror, foxnews, standardmedia
-
จัดไป 5 ดาว!! คนแห่ให้คะแนนเรตติ้งถนนบ้านนอก หลังสาวโพสต์โชว์นมลง Google Maps
เมื่อเราเข้า Google Maps มันก็จะมีให้เราลงภาพ กดให้ดาว รีวิวสถานที่นั้นๆ เพื่อให้คนอื่นๆ ได้เข้ามาเห็นว่ามันน่าไปมากขนาดไหน หรือที่นั่นมีอะไรให้ได้ชมกัน ด้วยฟังก์ชั่นนั้นเอง จึงทำให้ถนนบ้านนอกเส้นหนึ่งในเขต Pingtung ไต้หวัน (สาธารณรัฐจีน) กลับกลายเป็นถนนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลังมีนักท่องเที่ยวสาวโพสต์คลิปโชว์นมรีวิวถนนเส้นนั้น สาวโชว์หวิว อัปลง Google Maps ในตอนแรกนั้น ถนนเส้นนี้แทบจะเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักเลย จนกระทั่งนักท่องเที่ยวสาวคนหนึ่งได้อัปวิดีโอขณะที่เธอแอบๆ โชว์นมอยู่ข้างถนน ลงไปใน Google Maps ของถนนเส้นนั้น มองซ้ายขวาไม่มีใคร เธอก็เลยแอบโชว์จุกเบาๆ คลิปความยาวแค่ 18 วินาที แต่ทำให้ถนนเส้นหนึ่งมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ เพียงไม่นาน ถนนเส้นนี้ก็กลับกลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ผู้คนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น รีวิว และให้เรตติ้งเป็น 5 ดาว แถมยังบอกอีกว่าพวกเขาจะหาโอกาสไปถนนเส้นนี้ให้ได้ “ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะไปในที่แห่งนั้น แต่ตอนนี้ผมเริ่มอยากไปละ ดูๆ แล้วน่าจะเป็นพื้นที่ที่คึกคักแน่ๆ เลย” “มันเป็นสถานที่ที่ดีมากๆ ผมรู้สึกอยากไปเที่ยวสถานที่อันแสนวิเศษแห่งนี้…
-
ส่งไปให้ถึง BTS!! จดหมายสุดซึ้ง จากครอบครัวของสาวแฟนคลับ ผู้ต้องจากโลกนี้ไปด้วยโรคร้าย
BTS หรือ Bangtan Boys เป็นกลุ่มนักร้องชายของเกาหลีที่มีสมาชิกเจ็ดคน ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย Big Hit Entertainment ในปี 2013 และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจนได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มนักร้องชายที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเกาหลีใต้เลยทีเดียว และแน่นอนว่าความโด่งดังของพวกเขานั้น จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าขาดขุมพลังจากฐานแฟนๆ ที่มีชื่อเรียกกันว่า “ARMY” กลุ่มแฟนคลับที่มีสมาชิกในทวิตเตอร์มากกว่า 2 ล้านคน แต่แล้วล่าสุดนี่เองกลับมีข่าวน่าเศร้าเกิดขึ้นกับเหล่าแฟนๆ ของ BTS เมื่อเกิดเหตุการณ์สมาชิกในกลุ่ม ARMY ต้องทนความเจ็บป่วยด้วยโรคร้าย และ Thanh Long พี่สาวของเธอก็ได้ส่งข้อความหนึ่งออกมา โดยหวังว่าเรื่องราวของน้องสาวของเธอจะไปถึงทาง BTS https://twitter.com/lukewaltham/status/1002691673401511936 ในจดหมายนั้นมีข้อความโดยสรุปว่า “สวัสดีทุกๆ คน โดยเฉพาะสมาชิก ARMY จากทั่วโลก ฉันชื่อ Thanh Long วันนี้ฉันมีเรื่องจะมาเล่าพร้อมกับมีเรื่องจะขอร้อง น้องสาวของฉัน Ha Thanh Chu เป็นหนึ่งในสมาชิก ARMY ที่ตอนนี้อายุ 20 ปี และอาศัยอยู่ใน Hai ba Trung ที่กรุงฮานอย เธอเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยสถาปัตยกรรมศาสตร์ฮานอย และชอบ V มากๆ เธอรักในทุกสิ่งที่เป็น BTS…
-
หนุ่มพลาดเผาบ้านตัวเอง เพียงเพราะต้องการฆ่าแมงมุมแค่หนึ่งตัว กลายเป็นคนไร้บ้านในบัดดล…
แมงมุม คงเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่คนส่วนใหญ่ต่างพากันขยาด ด้วยหน้าตาและรูปลักษณ์ที่ดูน่ากลัวนิดๆ แถมมันยังชอบโผล่มาแกล้งเราถึงในบ้าน สร้างใยสร้างครอบครัวกันเต็มไปหมด เมื่อเป็นอย่างนั้น พวกเราส่วนใหญ่จึงคิดพยายามหาทางกำจัดมันออกไป บางคนอาจใช้แก้วครอบแล้วเอามันไปทิ้งนอกบ้าน แต่ชายคนนี้กลับใช้แก๊สกระป๋องในการแก้ปัญหา จนกลายเป็นการเผาบ้านตัวเองในที่สุด บ้านวอดวาย เพียงเพราะแมงมุมตัวเดียว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับบ้านหลังหนึ่งในเมือง Tucson รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เมื่อชายคนหนึ่งต้องเจอกับปัญหากวนใจ จากแมงมุมหนึ่งตัวที่มาสร้างใยเต็มบ้านของเขาไปหมด เขาจึงตัดสินใจใช้แก๊สกระป๋องพ่นไฟไล่ล่าเจ้าแมงมุมตัวดังกล่าว นำไปสู่เหตุเพลิงไหม้ไฟลุกบ้านทั้งหลัง จนเขาต้องรีบอุ้มหญิงชราที่อาศัยด้วยกันอยู่ในบ้านออกมาด้วย (ไม่มีการรายงานว่าหญิงชราเป็นอะไรกับเขา) หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจำนวนมากจึงต้องรีบเข้ามาควบคุมสถานการณ์นานเกือบ 12 นาที จนกระทั่งไฟดับ เหลือเพียงโครงสร้างของบ้านที่วอดวายไปเกือบทั้งหลัง ด้วยเหตุนั้นเอง จึงทำให้ชายหนุ่มและหญิงชรากลายเป็นคนไร้บ้านไปในทันที เพียงเพราะต้องการฆ่าแมงมุมตัวเดียว… โชคดีที่องค์กรอาสาสมัคร Red Cross ได้ช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้ ทั้งสองจึงได้มีที่พักอาศัยชั่วคราวไปก่อน การรายงานข่าว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 15 ตุลาคม 2017 เหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เพราะก่อนหน้านั้นชายคนหนึ่งในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ก็เคยใช้ไฟแช็กกับสเปรย์สีพ่นไฟใส่เจ้าแมงมุม จนเผาบ้านตัวเองมาแล้วเหมือนกัน นักดับเพลิงจากสถานีดับเพลิงในเมืองซีแอตเทิลออกมาบอกว่า วิธีการใช้ไฟไล่ฆ่าแมงมุมเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างมาก ทางที่ดีควรคิดหาวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่านี้…
-
ขายคลาสสิก Ferrari รุ่นเก๋า กลายเป็นรถที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก กว่า 2 พันล้านบาท!!
เพื่อนๆ อาจเคยสงสัยว่ารถที่มีราคาแพงที่สุดในโลกนั้นจะมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่? วันนี้ #เหมียวตะปู จึงนำคำตอบมาให้กับเพื่อนๆ ทุกคน และให้ได้ชมรถคันนั้นไปพร้อมๆ กันเลย เจ้านี่คือรถ Ferrari สุดคลาสสิกที่มีชื่อว่า 4153 GT ซึ่งปัจจุบันมันได้ถูกบันทึกว่าเป็นรถที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก ถูกซื้อไปด้วยเงินจำนวนกว่า 52 ล้านปอนด์ หรือมากกว่า 2 พันล้านบาท!! 4153 GT รถที่ได้ชื่อว่ามีราคาแพงมากที่สุดในโลก นี่คือรถ Ferrari รุ่น 250 GTO ที่ถูกผลิตขึ้นมาในปี 1963 โมเดล The Holy Grail เครื่องยนต์ V12 มีค่าแรงม้ามากกว่า 300 bhp เร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุดมากกว่า 280 กม./ชม. รถรุ่นเดียวกันนี้ถูกผลิตออกมาเพียงแค่ 36 คัน ในช่วงปี 1962-1964…
-
ศิลปินสาวฝันอยากมี “ลูกมนุษย์หมาป่า” เลยออกแบบและสร้างมันขึ้นมาแบบสมจริงสุดๆ
ผลงานที่คุณกำลังจะได้เห็นต่อไปนี้เป็นฝีมือการสร้างสรรค์แบบหลอนๆ ของศิลปินที่ชื่อว่า Asia Eriksen วัย 34 ปี จากรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ชื่นชอบอะไรชวนขนลุกและดูเหมือนเธอจะสามารถนำเอาความชอบแบบแปลกๆ มาสร้างเป็นชิ้นงานจริงๆ ได้ด้วย นาง Eriksen ใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน เพื่อสร้างสิ่งที่เธอตั้งชื่อให้มันว่า Werepups หรือลูกมนุษย์หมาป่า เป็นสัตว์ในจินตนาการที่มักโผล่ออกมาในหนังฮอลลีวูดหลายๆ เรื่อง ศิลปินสาวบอกว่าไอเดียในการสร้าง Werepup นั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ที่เธอยังเป็นเด็ก ตอนนั้นเธอได้ดูหนังเรื่อง Silver Bullet (กระสุนเงินเพชฌฆาต) หนังสยองขวัญที่เคยออกฉายเมื่อปี 1985 นั่นทำให้เธอชื่นชอบตัวละครมนุษย์มาป่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่แม้เวลาจะผ่านเลยมาจนถึงวัยที่เธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะทำให้ฝันวัยเด็กกลายเป็นจริงได้ยังไง จนเธอได้มาเจอกับสามีที่ทำงานเป็นนักทำเทคนิคพิเศษ นั่นทำให้เธอเริ่มหาวัตถุดิบที่นำมาใช้สำหรับสร้างลูกมนุษย์หมาป่าได้ สิ่งที่โดดเด่นในผลงานของเธอก็คือความสมจริงของผลงานของเธอ ที่ดูเหมือนเด็กที่มีชีวิตจริงๆ โดยเธอบอกว่ามันเหมือนกับสิ่งที่เธอเคยจินตนาการเอาไว้เมื่อสมัยเด็กเลย ส่วนที่ต้องใช้เวลานานก็คือตอนที่ต้องลงสีด้วยมือ เพื่อให้มันดูเหมือนผิวหนังจริงๆ และยิ่งเวลาที่ต้องปักเส้นขนลงไปทีละเส้นๆ ด้วยมือ นั่นยิ่งทำให้เธอต้องเสียเวลากับมันนานเป็นเดือนเลยทีเดียว “มันไม่มีทางลัดถ้าคุณอยากได้อะไรที่สมจริงและทำให้มันคงอยู่ตลอดไป” ศิลปินสาวกล่าว . ที่มา odditycentral
-
ศัลยแพทย์บราซิล ประสบความสำเร็จในการใช้หนังปลาแทนช่องคลอดให้ผู้ป่วย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศบราซิล หลังจากที่ Jucilene Marinho สาววัย 23 ปีได้เข้ารับการศัลยกรรมช่องคลอดของเธอ เนื่องจากอาการป่วยด้วยโรค Mayer-Rokitansky-Küster-Hause (MRKH) ซึ่งอาการของโรคดังกล่าว ส่งผลให้เธอไม่มีปากมดลูก มดลูก และรังไข่ตั้งแต่เกิด และนั่นหมายความว่าเธอไม่สามารถมีลูกได้เลย การศัลยกรรมครั้งนี้ทางทีมแพทย์จากมหาวิทยาลัย Federal University of Ceara involved ได้ใช้หนังปลาทิลอาเพีย ปลาน้ำจืดสายพันธุ์หนึ่งที่พบมากในทวีปแอฟริกา ทีมศัลยแพทย์ได้ใช้เนื้อเยื่อของปลาชนิดดังกล่าวใส่เข้าไปในร่างกายของเธอ และใช้มันแทนเนื้อเยื่อของช่องคลอด ซึ่งภายหลังการรักษานาน 3 สัปดาห์ เธอคือผู้ป่วยรายแรกจาก 4 รายที่ออกโรงพยาบาล Marinho รู้สึกประทับใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก เธอกล่าวว่า “คนในครอบครัว และเพื่อนของฉันรู้สึกยินดีกับเรื่องนี้มาก มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ เพราะทุกๆ อย่างกำลังผ่านไปด้วยดีและไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ เลย ฉันพอใจมาก” การศัลยกรรมครั้งนี้นอกจากจะสร้างความรู้สึกดีให้กับเธอแล้ว มันยังทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนหนุ่มดีขึ้นอีกด้วย และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้มีโอกาสมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเขาหลังจากที่คบกันมาเป็นเวลาปีกว่า ถึงแม้ว่าจะป่วยด้วยโรค MRKH ตั้งแต่เกิด Marinho ก็มีชีวิตวัยเด็กที่แทบไม่ต่างจากคนอื่นๆ และเมื่อถึงวัยมีประจำเดือนเธอกลับมีอาการปวดท้องแต่ไม่มีประจำเดือนเหมือนคนอื่นๆ ซึ่งอาการป่วยนี้ทำให้เธอทุกข์ทรมานใจอย่างมาก “ฉันร้องไห้และคิดว่าโลกของฉันคงจะจบลงแล้ว ฉันมีความฝันว่าอยากมีครอบครัวและมีลูกตัวเล็กๆ น่ารัก แต่ทุกอย่างก็ไม่สามารถเป็นไปได้เพราะอาการป่วยของฉัน” หญิงสาวให้สัมภาษณ์ …
-
นักวิทย์พบวิธีการตรวจเลือดแบบใหม่ ที่คาดการณ์มะเร็งได้ถูกต้องถึง 90 เปอร์เซ็นต์
ถือเป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์อีกขั้นหนึ่ง หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกา สามารถค้นพบวิธีการตรวจหาโรคมะเร็งจากการตรวจเลือดแบบง่ายๆ ได้ โดยวิธีการนี้ทำให้ทราบโอกาสการเกิดมะเร็งถึง 10 ชนิดจากผลตรวจเลือด หลักการทำงานของผลวิเคราะห์ครั้งนี้คือ การเก็บเนื้อเยื่อ DNA ของเซลล์มะเร็งที่กำลังเจริญเติบโตในกระแสเลือดนั่นเอง โดยจากผลการศึกษาในผู้คนมากกว่า 1,400 คน พบว่ามีความถูกต้องมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน จากรายงานเผยว่าผู้เข้าทดสอบ 4 คนที่ไม่มีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งมีผลการทดสอบที่เป็นบวก พบว่าหญิง 2 รายจากผู้เข้าทดสอบทั้ง 4 ป่วยเป็นมะเร็งรังไข่และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกหลังจากการตรวจ 1 เดือน Cleveland Clinic จากรัฐโอไฮโอได้นำเสนอการค้นคว้านี้ในการประชุม American Society of Clinical Oncology ในเมืองชิคาโก และหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถใช้ได้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ทางด้านดอกเตอร์ Eric Klein หัวหน้าทีมวิจัยได้กล่าวว่า วิธีการนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถค้นหาวิธีการรับมือกับมะเร็งได้ก่อนและมันอาจจะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้เพิ่มมากขึ้น “มะเร็งส่วนมากจะถูกตรวจพบในระยะสุดท้าย แต่วิธีการ liquid biopsy นี้จะช่วยให้เราตรวจพบล่วงหน้าก่อนอย่างน้อยเป็นเดือนหรือเป็นปี ก่อนที่ผู้ป่วยจะมีอาการ” ดอกเตอร์ Eric Klein กล่าว การตรวจเลือดด้วยวิธีนี้จะทราบผลภายในสองสัปดาห์หลังจากการตรวจ…
-
20 ภาพเบื้องหลังของกองถ่ายค่ายหนังมาร์เวล สิ่งที่คุณเคยเชื่อ อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้!?
ในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องที่เราดูกัน เบื้องหลังการถ่ายทำมักจะใช้คนแสดงประกอบเอฟเฟกต์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาด้วยมือ แต่เดี๋ยวนี้อะไรก็เปลี่ยนไปแล้วตั้งแต่มีคอมพิวเตอร์ถือกำเนิดขึ้นบนโลก!! ด้วยธีมของภาพยนตร์ค่ายมาร์เวลที่มีตัวละครเหนือมนุษย์อยู่เยอะ เทคนิคการสร้างก็ต้องมีรูปแบบที่แตกต่างจากภาพยนตร์ทั่วไปเสียหน่อย แล้วเบื้องหลังของพวกเขาจะเป็นเช่นไร มาดูกันเถอะ โทนี่กับธานอส หน้าฉากเป็นศัตรูกัน หลังฉากนี่ซี้กันยิ่งกว่า ในส่วนของเนบิวล่า ก่อนจะใส่ชุดต้องพึ่งพาความลื่นนนน ส่วนหัวก็ต้องใช้เป็นหน้ากากครอบทั้งหัวเลย สำหรับกาโมร่า ดันต้องมานั่งทนทาถูทาถู กลิ่นยาหม่องแบบนี้ ตัวตนที่แท้จริงของ Korg จาก Thor: Ragnarok และสภาพที่แท้จริงของฮัลค์ สองสหายปีเตอร์และโทนี่จาก Infinity War นี่แหละ Rocket….หืออออ!? ความจริงแล้วตัว Rocket แสดงโดย Sean Gunn (เล่นเป็น Kraglin ด้วย) แต่ Bradley Cooper เป็นคนให้เสียง และภาพตอนที่ Rocket กำลังซึมเศร้าจากการสูญเสีย Groot ไป รู้หรือไม่ว่า…
-
หนุ่มเล่าความจริงผ่านกระดาษ A4 ‘ข้อตกลงการใช้งาน’ จากเหล่าแอปฯ ชื่อดังยอดนิยม…
“I Agree” (ฉันยินยอม) คือโปรเจกต์จากนักออกแบบหนุ่ม Dima Yarovinsky ในความพยายามที่จะโชว์เนื้อหาความยาวในสิ่งที่เรียกว่า ‘ข้อตกลงการใช้งาน’ ที่ทุกคนจะต้องอ่านและยอมรับก่อนใช้งานบริการออนไลน์รูปแบบต่างๆ บนโลก โปรเจกต์นี้ได้ยกรายละเอียดข้อตกลงการใช้งานของแอปฯ ชื่อดังหลากหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็นอินสตาแกรม เฟสบุ๊ก สแนปแชท และทินเดอร์ นำมาแสดงในงาน Visualizing Knowledge 2018 Conference ที่เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ . “ผมนำเนื้อหาใน ‘ข้อตกลงใช้งาน’ จากบริการออนไลน์ที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน ผมปริ้นท์ใส่กระดาษ A4 ขนาดปกติ พร้อมกับตัวอักษรและขนาดมาตรฐานตามเอกสารข้อกฎหมาย… หลังจากที่ปริ้นท์เงื่อนไขเหล่านี้เสร็จ ก็นำมาแขวนไว้ในแกลอรี่ นับจำนวนคำทั้งหมดของแต่ละแอปฯ รวมถึงคำนวณเวลาที่จะใช้ในการอ่านรายละเอียดเงื่อนไขของแต่ละแอปฯ เขียนติดไว้บนพื้น เป้าหมายของผมมีเพียงแค่อยากให้เห็นว่า ข้อความเล็กๆ ไร้ประโยชน์ แต่แฝงไปด้วยอันตรายเหล่านี้ คือสิ่งที่เราต้องก้มหน้ายอมรับจากเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่” นอกจากนี้ Yarovinsky ได้เพิ่มเติมข้อมูลเอาไว้ว่า ผู้คนโดยเฉลี่ยแล้วจะมีความสามารถในการอ่าน 200 คำต่อนาที…
-
ขนหัวลุก…ภาพถ่ายครอบครัว กับแขกไม่ได้รับเชิญ ยืนเกาะไหล่ชวนหลอน ทำเอานอนไม่หลับ
เราอาจเคยเห็นภาพถ่ายวิญญาณกันมาบ้างแล้ว ซึ่งในตอนแรกเราอาจคิดว่าเป็นเพียงแค่การตัดต่อไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่ใช่เรื่องภูตผีปีศาจ เช่นเดียวกับคุณแม่คนนี้ จนกระทั่งเธอได้เจอกับตัวเอง Laura Watson คุณแม่ลูกสองจากเมือง Newcastle ประเทศอังกฤษ เธอคือคนหนึ่งที่ไม่เคยเชื่อเรื่องผีหรือวิญญาณเลย แต่แล้วเธอก็ได้เจอกับเหตุการณ์ขนหัวลุก หลังถ่ายภาพครอบครัวและเห็นว่ามีเด็กปริศนาอยู่ในภาพด้วย บนสุดคือ Jack (16) หลานชาย ด้านล่างคือลูกสาว Charlotte (15) และ Byrin (9) ซึ่งด้านหลังของเขา เหมือนมีเด็กปริศนาอีกคนยืนเกาะไหล่อยู่ ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2018 เธอและครอบครัวได้ออกไปปิกนิกกันอย่างสนุกสนาน บริเวณป่า Plessy Woods Park จนกระทั่งตอนเดินกลับ เธอก็ได้ถ่ายภาพลูกๆ และหลานสาวขณะปีนต้นไม้เล่นกัน ถ่ายเสร็จเธอก็ไม่ได้เอะใจอะไร กลับบ้านไปพร้อมกับครอบครัวทุกคน จนกระทั่งเอารูปลงคอมพิวเตอร์ถึงสังเกตเห็นว่ามีใบหน้าปริศนาอยู่ตรงด้านหลังลูกชายคนเล็ก ซึ่งเธอไม่คิดว่าจะมีเด็กอยู่ด้านหลังของเขาในตอนนั้น ภาพที่เห็นสร้างความหวาดผวาให้กับเธอและทุกคนในบ้านเป็นอย่างมาก เธอได้ส่งรูปนี้ไปให้กับทุกคนที่ไปด้วยกันในวันนั้น โดยที่ต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีเด็กคนไหนไปยืนอยู่ด้านหลังของ Byrin ในเวลานั้นอย่างแน่นอน Laura ยังเล่าอีกว่าในวันนั้นพวกเธอพาหมาไปเดินเล่นด้วย แต่ทุกอย่างก็ยังดูปกติดี ไม่ได้มีอะไรผิดสังเกตแต่อย่างใด จนกระทั่งเธอกลับมาเห็นภาพนี้ที่ถ่ายไว้ (คนมักเชื่อว่าสุนัขมีสัมผัสที่หก เห็นผีได้)…
-
มาสคาร่าทำพิษ… หญิงเผยสภาพเปลือกตาตัวเอง ตลอด 25 ปี ไม่ล้างให้สะอาดก่อนเข้านอน
*คำเตือน ภาพประกอบภายในเนื้อหาอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจได้ กรุณาทำใจก่อนดูภาพ* ก่อนเข้านอนเราควรจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน ทั้งการอาบน้ำอาบท่า ล้างส่วนต่างๆ ของร่างกายให้สะอาด ถอดอุปกรณ์ภายนอกที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้หมด จะได้นอนหลับสบายๆ กรณีที่ทำพิษกับร่างกายที่เห็นบ่อยๆ มักจะเป็นคอนแทกต์เลนส์ ด้วยสาเหตุของความขี้เกียจบ้าง ความเหนื่อยล้าระหว่างวัน สุดท้ายเลยเผลอนอนทั้งๆ ที่ยังใส่คอนแทกต์เลนส์อยู่ Theresa Lynch ในเรื่องของเครื่องสำอางก็ร้ายแรงไม่แพ้กัน ถ้าหากล้างไม่สะอาด หรือไม่ล้างก่อนเข้านอน อย่างเช่นนาง Theresa Lynch วัย 50 ปี ที่ล้างมาสคาร่าไม่หมดจดมาตลอด 25 ปี… เธอเริ่มรู้สึกระคายเคืองเปลือกตามากขึ้น หลังจากที่น้ำยาหยอดตาเริ่มไม่เห็นผล ท้ายที่สุดก็ต้องไปพบกับแพทย์จนค้นหาสาเหตุที่แท้จริงเจอ… พบว่าเริ่มมีการก่อตัวของนิ่วเยื่อตาบริเวณเปลือกตา หลังจากนั้นจะรอช้าไม่ได้แล้ว เธอต้องเข้ารับการรักษานำนิ่วเยื่อตาออก ผ่านกระบวนการผ่าตัดเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อรักษาสภาพดวงตาก่อนที่จะร้ายแรงถึงขั้นตาบอด ทางด้าน Dana Robaei แพทย์ผู้รักษาได้เผยภาพเปลือกตาของคนไข้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับประชาชน ผลจากการเข้านอนโดยที่ไม่ล้างเครื่องสำอางให้หมด ทำจนติดเป็นนิสัยที่ส่งผลเสียต่อร่างกายได้…
-
ร้านอาหารสั่งแบนเด็กชายพิการไร้แขน ไม่ให้เข้าร้าน เพราะเขาใช้เท้าในการทานอาหาร
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาแล้วเพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง บางคนอาจเกิดมาฐานะยากจน บางคนอาจเกิดมาร่างกายไม่สมบูรณ์ ถึงแม้ว่าใครจะขาดอะไรไปแต่ทุกคนก็ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์เหมือนกัน เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องของร้านอาหารแห่งหนึ่งที่สั่งแบนเด็กชายพิการแขนไม่ให้เข้าร้านเพราะเขาใช้เท้าในการทานอาหาร คุณแม่ของเด็กชาย William Bancroft อายุ 3 ปี เด็กชายผู้เกิดมาไร้แขนชาวรัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้บอกเล่าเรื่องราวของลูกชายของเธอขณะที่ได้ไปใช้บริการร้านแพนเค้กแห่งหนึ่ง ครอบครัวนี้ได้ไปรับประทานอาหารเช้าที่ร้านแห่งนี้ ก็ได้ทำตัวเหมือนกับปกติ แต่ผู้จัดการได้เดินมาบอกว่า เด็กน้อยไม่สามารถนั่งบนโต๊ะได้เนื่องจากปัญหาด้านสุขอนามัย เด็กชาย William เกิดมาไร้แขน แต่เขาก็สามารถใช้เท้าแทนมือ เขาใช้เท้าในการรับประทานอาหารด้วยตัวเองได้ตามปกติ นอกจากนี้ผู้จัดการยังห้ามเด็กชายใช้เท้ากดที่เครื่องกดน้ำเชื่อมอีกด้วย ฝ่ายทางคุณแม่ก็ยืนยันแล้วว่าลูกชายของเธอล้างเท้าแล้วอย่างแน่นอน คุณแม่ถามกับผู้จัดการว่า ความแตกต่างระหว่างมือกับเท้าคืออะไร คุณถามลูกค้าทุกคนหรือเปล่าว่าเขาล้างมือไหมก่อนที่จะกดเครื่องจ่ายน้ำเชื่อม สุดท้าย ผู้จัดการก็กล่าวขอโทษต่อครอบครัวนี้ แต่ความรู้สึกทุกอย่างมันเสียไปแล้ว “ทุกคนจ้องมองมาที่เราและเห็นทุกอย่าง ทางร้านกำลังจะเสิร์ฟอาหารของเรา แต่เราก็ตัดสินใจเดินออกมา เนื่องจากว่าพวกเขาเลือกปฏิบัติเพราะเด็กชายไม่มีแขน” คุณแม่กล่าวเพิ่มเติมว่า เธอเคยไปร้านอาหารหลายแห่ง แต่ไม่เคยมีร้านไหนพูดแบบนี้มาก่อน มีแต่คนประหลาดใจที่เด็กชายสามารถรับประทานอาหารได้ด้วยเท้า เธอแชร์เรื่องราวนี้ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว จนทางร้านต้องส่งข้อความมาเพื่อขอโทษ ทางสำนักงานใหญ่ได้ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น และให้สัญญาว่าจะไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด นอกจากนี้จะทำการฝึกอบรมพนักงานให้ดีกว่านี้ด้วย เพื่อให้การบริการของร้านอาหารนี้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับการให้บริการผู้พิการ ที่มา unilad
-
หมั่นไส้จัด.. กล้องจับภาพ ชายหนุ่มแอบ “บ้วนน้ำลาย” ลงแก้วเจ้านาย ฟองฟอดเลยทีนี้!!
เราอาจเคยรู้สึกไม่พอใจใครบางคน จนอยากทำเรื่องแย่ๆ กับคนคนนั้น ทั้งแบบต่อหน้าหรือว่าลับหลังก็ตาม เฉกเช่นเดียวกันกับชายคนนี้ เมื่อหนุ่มอินเดียรู้สึกไม่พอใจหัวหน้างานของตัวเอง เขาจึงตัดสินใจแอบบ้วนน้ำลายใส่แก้วของเจ้านาย โดยไม่ทราบเลยว่าทุกอย่างนั้นถูกแอบถ่ายเก็บไว้หมดแล้ว คุณเห็นเส้นอะไรขาวๆ นั่นหรือไม่ นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2018 ณ ออฟฟิศแห่งหนึ่งในเมือง Aligarh ประเทศอินเดีย หลังจากที่เพื่อนร่วมงานสงสัยว่าชายหนุ่มในคลิปมีท่าทางแปลกๆ ไปอยู่หลายวัน ด้วยเหตุนั้นเอง หัวหน้างานสาวจึงตัดสินใจแอบตั้งกล้องถ่ายพฤติกรรมของเขาไว้ จึงทำให้เห็นฉากชวนอ้วกในตอนที่เขามาเติมน้ำให้กับเธอ เดินเข้ามาพร้อมกับกระติกน้ำสีเหลือง เมื่อเขามองไปรอบๆ แล้วเห็นว่าไม่มีใคร เขาก็เลยบ้วนน้ำลายใส่แก้วเหล็กของเจ้านายตัวเอง ก่อนที่จะออกไปเสิร์ฟให้แบบเนียนๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากเติมน้ำจนเต็มแก้ว จู่ๆ เขาก็บ้วนน้ำลายลงไป เรียกว่าเป็นวิธีการแก้เผ็ดที่ง่ายดาย แต่คงทำให้เราสะใจอยู่ไม่น้อย ในขณะที่คนโดนคงจะไม่รู้เรื่องอะไร กินน้ำลายของชายคนนี้ไปหลายต่อหลายวัน และจากเหตุการณ์นี้เอง จึงทำให้เขาถูกไล่ออกจากบริษัท ซึ่งได้รับการยินยอมทางกฎหมาย โดย Prem Kumar Singh ผู้พิพากษาเขตเป็นคนยืนยันในเรื่องนี้ คลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ . แม้ว่าเราอาจไม่ชอบหรือเกลียดขี้หน้าใครบางคนอยู่บ้าง แต่ทางที่ดีเราควรจะต้องใช้วิธีคลายความรู้สึกนี้อย่างมีสติ…
-
ตำรวจถูกเรียกให้มาไล่คนไร้บ้านป่วนในร้าน เขากลับทำตรงข้าม ซื้ออาหารเลี้ยงให้แทน…
ปัญหาของคนไร้บ้านในต่างประเทศยังคงเกิดขึ้นในทุกๆ วัน ส่วนมากแล้วพวกเขาเหล่านี้มักจะมาในรูปแบบของการขออาหารหรือเศษเงิน บางรายก็อาจจะไปนั่งเล่นดนตรี นั่งขอข้างถนน ไม่เข้าไปรบกวนตามสถานที่ต่างๆ ส่วนในครั้งนี้เป็นเรื่องของนายตำรวจ CJ Mullinax ในเขต Horry County รัฐเซาท์แคโรไลนา ผู้ได้รับแจ้งเหตุจากลูกค้าในร้านอาหาร Hardee’s ให้ไปจัดการคนไร้บ้านที่เข้ามาขอเศษอาหารจากลูกค้า ทันทีที่เขาเดินทางมาถึง นายตำรวจเลือกที่จะไม่ทำตามคำร้องขอจากทางร้าน นั่นก็คือการไล่คนไร้บ้านออกไป แต่เขาเลือกที่จะควักเงินตัวเองและซื้ออาหารมอบให้กับคนไร้บ้านรายนี้ “ตำรวจท่านนี้ซื้ออาหารให้ชายไร้บ้าน และเขาควบคุมสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม” คำชื่นชมจากพนักงานร้าน Victoria Paige Summer ที่โพสต์วิดีโอคลิปของนายตำรวจท่านนี้ กำลังยืนอยู่พร้อมชายไร้บ้านบริเวณหน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน ในส่วนของพนักงานร้าน ได้ทำการมอบอาหารให้กับชายคนนี้มาหลายวันแล้ว และเชื่อว่าที่มีเหตุโทรแจ้งตำรวจน่าจะมาจากลูกค้าเป็นฝ่ายโทรแจ้ง “ฉันรู้สึกตื้นตันมากที่ได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความอ่อนน้อม ฉันก็เลยอยากจะเก็บภาพในช่วงเวลานี้เอาไว้ และแสดงให้ทุกคนได้เห็น… นายตำรวจเห็นในมุมที่แตกต่าง เพราะชายคนนี้กำลังหิว เขาเป็นคนไร้บ้าน และไม่มีโอกาสในส่วนที่คนอื่นมี และการกระทำแบบนี้ไม่ได้ทำให้คุณลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ลงเลย” Summer กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ WMBF ประชาชนในเมือง Myrtle Beach ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง…
-
รัฐมนตรีกระทรวงกีฬารัสเซีย เผยมุมมองต่อ ‘eSports’ ยอมรับว่าเป็นกีฬา ส่อการเติบโต…
ในขณะที่ประเทศแถวๆ นี้ยังคงมองว่าเกมเป็นเพียงกิจกรรมที่ไม่สร้างคุณประโยชน์ใดๆ ให้กับผู้เล่น ถึงแม้จะมีการจัดการแข่งขันระดับประเทศ มีนักกีฬาออกไปสร้างชื่อเสียงนอกประเทศมาแล้วก็ตาม… ทั้งนี้การออกไปแข่งขันตามรายการต่างประเทศ ในฐานะนักกีฬา eSports ต่างต้องตามหาสปอนเซอร์เอง ทำการฝึกซ้อมอย่างหนักไม่ต่างจากนักกีฬาทั่วไป ในอีกหนึ่งประเทศที่กำลังให้ความสนใจกีฬา eSports กับมุมมองใหม่ๆ ที่เริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยคิดว่าเป็นเพียงเกมการแข่งขันธรรมดา ก็กลายมาเป็นที่ยอมรับว่าสามารถให้คำจำกัดความว่าเป็นกีฬาเช่นกัน ณ งาน St.Petersburg International Economic Forum เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2018 ได้จัดสัมมนาในหัวข้อ Cybersport: Global Trends in Sports and Business เทรนด์กีฬาไซเบอร์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจากจะเชิญเหล่านักธุรกิจภาคเอกชนและทีมกีฬาอย่าง ESForce, PepsiCo, Virtus.pro และ Spartak Moscow มาร่วมแสดงความคิดเห็นต่อแนวโน้มดังกล่าวแล้ว ภาครัฐอย่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬารัสเซียเองก็ได้ให้ความคิดเห็นที่น่าสนใจมากๆ “พวกเราถกเถียงกันมานาน และผมเชื่อว่าเราตัดสินใจถูกต้องแล้ว เพราะมันไม่เกี่ยวข้องว่าจะเป็นภาครัฐหรือใครก็ตาม ที่ยอมรับ eSport…
-
สาวเอเชียถูกเหยียด “ชอบกินหมาแมวใช่ไหม?” ได้รับเงินชดใช้เกือบ 3 แสนบาท!!
เชื่อว่าหลายคนอาจไม่เข้าใจว่าการกระทำหรือคำพูดแบบใดบ้างถึงจะเรียกว่าเป็นการ “เหยียด” คนอื่น ฉะนั้น มันก็อาจมีบ้างทีที่เราจะพูดอะไรออกไปแล้วไปเหยียดคนอื่นเข้าโดยไม่ได้เจตนา ขณะเดียวกันก็มีคนที่ตั้งใจจะพูดเหยียดคนอื่นจริงๆ คนที่ชอบเหยียดคนอื่น ซึ่งทำให้ผู้อื่นต้องเจ็บช้ำน้ำใจ ก็สมควรจะชดใช้ในสิ่งที่เขากระทำลงไป อย่างเช่นเหตุการณ์ต่อไปนี้… หญิงสาวชาวเอเชียที่เข้าไปทำงานยังบริษัทบัญชีแห่งหนึ่งในไอร์แลนด์ เมื่อราวๆ เดือนกรกฎาคม 2017 เพียงเดือนแรกที่เธอเข้าทำงาน เพื่อนร่วมงานเพศชายก็เข้ามาถามด้วยความเหยียดว่า “ผมได้ยินมาว่าแมวและหมาเป็นอาหารจานหลักของชาวเอเชียนี่ คุณชอบทานมันใช่ไหม?” คำถามนั้นทำให้หญิงสาวเสียความรู้สึกอย่างมาก เธอไปรายงานกับผู้จัดการด้วยน้ำตา จากนั้นผู้จัดการจึงรับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ โดยการทำให้ชายที่เหยียดเธอต้องออกมาขอโทษ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน หญิงสาวคนนี้ก็ลาออกจากตำแหน่งงานเดิม และก็ได้ยอมรับคำขอโทษของเพื่อนร่วมงานที่เคยพูดจาเหยียดเธอ แต่เรื่องราวกลับใหญ่โตไปถึงองค์กร Workplace Relations Commission (WRC) ที่ขอให้บริษัทชดใช้ให้เธอเป็นจำนวนเงินราว 296,000 บาท ขณะในระหว่างการสอบสวน ทางองค์กรก็ทราบมาอีกว่า เพื่อนร่วมงานชายคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมเหยียดแบบอื่นอีก เขาได้แอบถ่ายรูปของสาวเอเชียคนนี้และส่งไปให้เพื่อนของเขาดู แถมเธอยังบอกว่า บางครั้งแอบเห็นเพื่อนของเขาคนหนึ่งเรียกเธอว่า “แม่สาวร่องสวย” นอกจากนี้ ชายคนเดิมยังมีพฤติกรรมเหยียดอื่นๆ อีกมากมาย เช่น พูดว่า “ผมคงจะได้หญิงสักคนในคืนที่คุณไปเที่ยว เพราะที่ที่คุณไปผมก็จะไปด้วยเหมือนกัน”…
-
คุณครูเห็นนักเรียนหลับในห้อง ไม่ดุและปล่อยให้เป็นแบบนั้น สอนบทเรียน ‘ใจเขาใจเรา’
เรื่องราวจากคุณครู Monte Syrie รัฐวอชิงตัน ที่ต้องเจอกับปัญหาของเด็กไม่ตั้งใจเรียน แอบงีบหลับอยู่ในห้องระหว่างสอน แต่ทว่าเขากลับไม่รู้สึกโกรธใดๆ และปล่อยให้เป็นแบบนั้นตามธรรมชาติของเด็ก… Monte Syrie คุณครู Syrie ได้แชร์เรื่องดังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า แทนที่จะปลุกและว่ากล่าวนักเรียนคนนั้นในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ครูรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอรู้สึกเหนื่อยจากงานที่บ้าน และกิจกรรมนอกหลักสูตรต่างๆ เขาจึงตัดสินใจให้เธอได้พักผ่อนอย่างที่เธอควรจะได้… เขาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และสอนสิ่งที่นอกเหนือจากภาษา ในแง่ของความเมตตาและกรุณา เขาเล่าเรื่องราวของ Meg นักเรียนหญิงที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของเขา “เมื่อวาน Meg หลับในห้องเรียน ผมปล่อยให้เธอนอน ผมไม่มองเป็นเรื่องส่วนตัว เธอมีชั่วโมงเรียนคณิตซ่อม ทำงานฟาร์มที่บ้าน เป็นเหนื่อยจากการวิ่ง 4*400 อึดอัดกับชีวิตวัยรุ่น และมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ ชั่วโมงสอนของผมก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งในชีวิตเธอ ไม่ใช่ทั้งชีวิตเธอ… เธอไม่ได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าให้ห้องเรียนเมื่อวาน เธอไม่ส่งการบ้านเรียงความ เธอรู้ตัวเองดี ผมก็รู้ แต่ผมไม่ได้ต่อว่าเธอ เพราะมันไม่จำเป็น เธอส่งงานผ่านทางอีเมลให้ผมเมื่อคืนประมาณสามทุ่ม เธอส่งมาเอง ผมรู้ว่าพวกเราทุกคนล้วนมีความเชื่อนี้ ความเชื่อที่ว่า… …
-
ชาวเน็ตกล่าวหาเพื่อนของ ‘เด็กสาวผิวสี’ ที่ไม่ยอมจับมือกับเธอ จนคุณแม่ต้องออกมาแถลง
ทุกวันนี้มีเมื่อโลกเปิดกว้างและให้อิสระกับมนุษย์มากขึ้น ความไม่เท่าเทียมด้านเพศ อายุ สีผิวหรืออีกต่างๆ นานาจึงได้ค่อยๆ หายไป แต่เรื่องของการเหยียดหรือ Racist นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมาก เพียงแค่ทำอะไรไม่ถูกใจคนอื่นก็อาจมองว่าเป็นพวกเหยียดไปได้เลย เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2018 ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญเป็นการกราดยิงในโรงเรียน Santa Fe และเพื่อที่จะแสดงการสนับสนุนสร้างขวัญกำลังใจและแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งน้ำเดียวกัน ในเกมที่ Houston Rockets แข่งกับ Golden State Warrior ทาง NBA จึงได้ให้เหล่าเด็กๆ ร่วมมาร้องเพลงชาติด้วยกันก่อนแข่ง แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเมื่อภาพที่ถ่ายออกมามีเด็กสาวผิวสีคนหนึ่งไม่ถูกจับมือจากเด็กสาวผิวขาว เลยกลายเป็นประเด็นถกเถียงกัน ทวิตเตอร์ของ NBA ได้แชร์รูปภาพดังกล่าวก่อนจะกลายเป็นประเด็น ซึ่งต่อมาก็มีชาวเน็ตสังเกตเห็นว่าทำไมไม่มีใครจับมือกับเด็กสาวผิวสีคนที่อยู่ทางขวาของภาพเลย “แต่ทำไมไม่มีใครจับมือกับเด็กสาวผิวสีนั่นเลย” “พวกเหยียดผิวมีอยู่จริง TT” “Santa Fe คือเมืองที่มีแต่พวกเหยียด มีพวกผิวสีอย่างเราไม่มาก ก็นั่นแหละไม่น่าประหลาดใจเลย” แต่ว่าดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่ได้เกี่ยวกับการเหยียดเลยสักนิด คุณแม่ของเด็กผิวสีคนนั้นจึงออกมาตอบกลับชาวเน็ต “เด็กผิวสีนั่นคือลูกสาวฉันเอง ดูเหมือนคนจะพยายามจะพยายามทำให้เกิดดราม่าเกี่ยวกับเหยียดผิวนะ เด็กผิวขาวนั่นคือเพื่อนของเธอ…
-
ผู้ประกาศข่าวสาวชาวญี่ปุ่น รายงานข่าวปกติ แต่ทำไมสายตามันมองแต่ “ขา” ของเธอเนี่ย!?
เมื่อเร็วๆ นี้มีกระแสฮือฮาอย่างมากสำหรับชาวเน็ตญี่ปุ่น เมื่อสาวน้อยที่เป็นผู้ประกาศข่าวรายงานพยากรณ์อากาศคนหนึ่งกลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางโดยชายหนุ่มบนโลกอินเทอร์เน็ต ถึงตอนนี้เพื่อนๆ คงจะงงใช่ไหมล่ะว่า มันเกิดอะไรขึ้น ก็แค่รายงานสภาพอากาศมันจะไปน่าสนใจตรงไหน? เอาล่ะ เราขอให้ทุกคนดูภาพด้านล่างนี้ให้ดี แล้วตอบอีกทีว่า มันมีเงื่อนงำอะไรกันแน่ ทำไมคนถึงสนใจกันเยอะจัง… คาดว่าเพื่อนๆ คงมีคำตอบอยู่ในใจกันแล้วใช่ไหมล่ะ คำตอบก็คือ ขาคู่นั้น ของเธอนั่นเองที่มันทำให้เธอกลายเป็นประเด็นโด่งดังในโลกอินเทอร์เน็ตของชาวญี่ปุ่น ชาวเน็ตต่างบอกว่า “นี่เป็นขาที่ทรงพลังที่สุดที่เคยเห็นมาเลยล่ะ” ทั้งความขาว ความยาว และความเรียว เรียกได้ว่าไม่แพ้ซูเปอร์โมเดลของญี่ปุ่นเลยนะเนี่ย ชื่อของเธอก็คือ Ami Yamazaki ซึ่งในปี 2018 นี้เธอก็มีอายุเข้าปีที่ 21 เท่านั้น (ห๊ะ!?) ชาวเน็ตญี่ปุ่นต่างแชร์ภาพและวิดีโอในช่วงที่ Ami ออกมาประกาศข่าวกันอย่างล้นหลาม คลิปวิดีโอขณะ Ami รายงานสภาพอากาศ แต่เห็นเธออาโนเนะแบบนี้บอกเลยว่าเธอไม่ได้มาขายรูปร่างหน้าตา ในการคัดเลือกผู้ประกาศข่าวในปี 2014 เธอเป็นผู้ชนะและได้รับการคัดเลือกมาเป็นผู้ประกาศข่าว จากผู้สมัครทั้งหมด 10,315 คน! และในปี 2015 เธอเปิดตัวออกมาในฐานะผู้ประกาศข่าวรายงานสภาพอากาศ ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงเป็นอยู่เพราะผลงานของเธอนั้นดีเยี่ยมและเสมอต้นเสมอปลาย .…
-
หนุ่มกดสัญญาณเตือนไฟไหม้ เพราะอยากดู ‘หน้าอกของเพื่อนร่วมงานเด้ง’ ขณะวิ่งหนีไฟ
หนุ่มผู้ทำหน้าที่เป็นบุรุษพยาบาลในโรงพยาบาล Highbury Hospital ในเมืองนอตติงแฮม กำลังจะถูกพักงานตลอดชีวิต (แปลง่ายๆ ว่าไล่ออก) เพราะไปก่อคดีลวนลามทางเพศหลายกระทงตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2016 รวมถึงการกดสัญญาณเตือนไฟไหม้ในโรงพยาบาล เพียงเพราะอย่างดู ‘เต้า’ ของเพื่อนร่วมงานผู้หญิง ‘เด้ง’ ตอนพวกเธอวิ่งหนีไฟ!? เหตุการณ์ย้อนกลับไปในปี 2012 นาย Aaron Kibaja คุณพ่อลูก 4 ถูกลงโทษทางวินัย หลังจากที่ทำการกดสัญญานเตือนภัยในโรงพยาบาล จากการสอบสวนพยานต่างๆ ก็ทำให้ทราบว่าสาเหตุที่ทำไปนั้น เป็นเพราะเขาต้องการที่จะมอง ‘หน้าอก’ ของเพื่อนร่วมงานผู้หญิงเด้งไปมาขณะวิ่งหนีไฟเท่านั้น!! เพราะมีคนพบเห็นว่าตอนที่เพื่อนร่วมงานผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังวิ่งหนีไฟไหม้ จู่ๆ นาย Aaron ก็ทำท่าล้อเลียนตอนที่เธอกำลังวิ่ง รวมไปถึงท่าทางของหน้าอกที่กำลังเด้งอยู่ นอกจากนี้เพื่อนร่วมงานผู้หญิงคนอื่นก็ให้การเพิ่มเติมอีกว่า Aaron นั้นมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศอย่างชัดเจนในบริเวณตรงระเบียงทางเดิน หรือห้องสำหรับเจ้าหน้าที่ ในปี 2015 เมื่อเพื่อนร่วมงานกลับมาจากที่ทำงาน หลังจากที่ต้องพักไปเพราะอาการเจ็บข้อมือ จู่ๆ Aaron ก็มาพูดกับเธอว่า “สามีของเธอจะต้องหงุดหงิดแน่ๆ เพราะเธอไม่สามารถช่วยสามีสำเร็จความใคร่ด้วยมือได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังใช้ปากได้ล่ะนะ”…
-
ก็คนมันชอบ!! คุณแม่ลูกสองจ่ายกว่า ‘400,000’ แปลงโฉมตัวเองให้เหมือนตุ๊กตายาง
ที่ผ่านมาเราคงเคยเห็นข่าวที่คนบางคนอยากที่จะดูเหมือนตุ๊กตา ก็เลยพยายามทำตัวให้เหมือนตุ๊กตาไม่ว่าจะเป็นการเลือกเสื้อผ้า การแต่งตัวหรือแม้แต่ทำศัลยกรรม แต่ว่าคุณผู้หญิงที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้ เธอมาเหนือกว่าทุกคนที่เราเคยได้นำมาให้ชม เพราะว่าตุ๊กตาที่เธออยากที่จะเป็นไม่ใช่ตุ๊กตาธรรมดา แต่เป็นตุ๊กตายาง!! โดยที่เรื่องนี้เป็นเรื่องของ Cindy Moore คุณแม่ลูกสอง วัย 31 ปี ที่ได้ใช้จ่ายเงินไปทั้งหมดกว่า 400,000 บาท เพื่อรังสรรค์หน้าตาและร่างกายให้เหมือนกับตุ๊กตายาง โดยที่ศัลยกรรมที่เธอได้ทำไปแล้วได้แก่เสริมหน้าอก ยืดผม และฉีดปากให้อวบอิ่ม (ต้องทำสามครั้งต่อเดือน) จนตอนนี้ตัวเธอก็รูปร่างเหมือนกับตุ๊กตาที่เดินได้พูดได้ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงแม้ว่าเธอจะดูเปลี่ยนไปจนเหมือนกับตุ๊กตายางขาดนี้แล้ว Cindy ก็ยังคงที่อยากจะทำศัลยกรรมเพิ่ม โดยที่เธอกล่าวว่าเธอต้องการที่จะทำหน้าอกเพิ่มและอาจจะทำหน้าท้องด้วย แต่เธอนั้นโชคดีที่ผิวของเธอดีทำให้ไม่ต้องโบท็อกซ์เพิ่ม Cindy ตกหลุมรักกับรูปร่างแบบนี้ตั้งแต่เธออายุเพียง 19 ปี ซึ่งก่อนศัลยกรรมเธอมีหน้าอกอยู่ที่ไซส์ A แต่ตอนนี้หน้าอกของเธอได้กระโดดไปยังไซส์ Double F เสียแล้ว “ฉันยังมีเรื่องที่ต้องให้ทำอีกเยอะ ฉันพยายามที่จะลดน้ำหนักเพื่อให้ดูเหมือนกับตุ๊กตายางให้มากขึ้น ฉันชอบเวลาที่ฉันเห็นคนอื่นมองมาที่ฉัน มันทำให้ฉันคิดว่าฉันดูสวยงาม” Cindy ได้กล่าว และตอนนี้ในเฟซบุ๊กของเธอมีเพื่อนมากกว่า 5,000 คนและผู้ติดตามอีก 3,000 คน ส่วนในอินสตาแกรมก็มีผู้ติดตามกว่า 4,000 คน…
-
ตู้หูว!! Wreck-It-Ralph 2 ปล่อยภาพใหม่ เอาใจแฟนๆ รวมตัวเจ้าหญิง Disney น่าดูฝุดๆ
Avengers: Infinity War ถือเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เหล่าผู้คนตั้งหน้าตั้งตาคอยการรวมตัวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่จากเรื่องต่างๆ ของ MCU ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Walt Disney Studio หากพูดถึง Disney อีกหนึ่งผลงานที่โด่งดังของเขาที่เราจะไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ นั่นคือเหล่าเจ้าหญิงจากแอนิเมชันหลากหลายเรื่องของพวกเขานั่นเอง ด้วยความที่ตั้งแต่เรายังเด็กยันเราโตขึ้นมาก็โตขึ้นมาพร้อมๆ กับเจ้าหญิง Disney หลายๆ เรื่อง ทำให้เราคิดว่ามันจะดีและน่าดูขนาดไหนกันเชียวนะถ้าเจ้าหญิงของแต่ละเรื่องมาเจอกันจริงๆ แต่ดูเหมือนความคิดนั้นจะไม่ใช่เพียงแค่ความฝันอีกแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมานี้เองทวิตเตอร์ของ Disney UK ได้โพสต์ภาพจากแอนิเมชันเรื่อง Wreck-It-Ralph 2 ซึ่งในภาพนั้นเจ้าหญิง Disney ได้มารวมอยู่ด้วยกัน ตู้หูวววววว Von Schweetz, meet the Princesses 👑🍬 Check out this sneak peek from the new trailer for #WreckItRalph2 #RalphBreaksTheInternet, coming soon! pic.twitter.com/AOtmERpgNX — Disney…
-
‘สไปดี้ฝรั่งเศส’ ได้งานตามสัญญา เข้าเยี่ยมชมหน่วยงานกู้ภัยวันแรก พร้อมรับทุกสถานการณ์
สถานการณ์สร้างฮีโร่และความถูกที่ถูกเวลา สามารถเปลี่ยนชีวิตของตัวเองได้ในพริบตา จากกรณีของ Mamoudou Gassama ชายวัย 22 ปี ผู้อพยพชาวมาลีในกรุงปารีส ที่ช่วยเหลือเด็กห้อยตัวอยู่ริมระเบียงตึกได้สำเร็จ หลังจากนั้นเขาก็ได้เข้าพบและรับคำชื่นชมจากประธานาธิบดี Emmanuel Macron พร้อมกับได้รับสถานะพลเมืองฝรั่งเศสในทันที Gassama เข้ารับเอกสารยืนยันการเป็นพลเมืองฝรั่งเศส ซึ่งนอกเหนือจากนั้นแล้ว ข้อเสนอที่เขาได้รับก็คือการเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฝึกหัดระยะ 10 เดือน ประจำหน่วยดับเพลิงและกู้ภัยของกรุงปารีส ซึ่งอาจจะได้เริ่มงานในไม่ช้านี้… “ผมจะทำทุกอย่างเท่าที่ความสามารถของผมมี” Gassama ให้สัมภาษณ์กับสื่อ และภาพของเขาก็ปรากฏอยู่บนสื่อของประเทศฝรั่งเศส ในระหว่างเข้าเยี่ยมชมสำนักงาน Paris Fire Brigade ในวันแรกของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ พร้อมเรียนรู้งานและฝึกฝนการปฏิบัติหน้าที่ . หลังจากที่ประธานาธิบดี Macron ได้พูดคุยกับฮีโร่ไปแล้ว เขาก็ยังกล่าวเพิ่มเติมไว้ในเฟสบุ๊กของเขาว่า “หน่วยงาน Paris Fire Brigade รู้สึกยินดีและพร้อมที่จะรับเขาเข้าร่วมทีมด้วย” . ทางด้านครอบครัวของเด็กชายที่ได้รับการช่วยชีวิตเอาไว้ ต่างรู้สึกยินดีและยกย่องการกระทำของเขา ด้วยการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและการปีนป่ายอันคล่องแคล่ว และทางคุณยายของเด็กชายที่ได้เห็นคลิปนั้นรู้สึกขนลุกและต้องการที่จะขอบคุณเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก …
-
มีความโลลิ~ สาวน้อยชาวญี่ปุ่นโตเร็วเกิ๊น อยู่ชั้นประถมแต่มีส่วนสูงถึง 175 ซม.!!
งงใจ ทำไมเด็กสมัยนี้โตไวจังเลยหืมมม!? เรื่องราวที่เราอยากเล่าให้ฟังในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ เด็กสาวชั้นประถม อ๊ะ อย่าเพิ่งคิดอะไรไม่ดี ไม่ได้จะชวนกันหื่นกามหรอกนะวันนี้ เพียงแต่น้องคนนี้ดูโตเกินวัยมากไปก็เท่านั้นเอง ลองดูภาพนี้สิ ทั้งคู่เป็นเด็กวัยเดียวกัน… ชื่อของสาวน้อยตัวสูงคนนี้ก็คือ Rino Natsume ภาพด้านบนเป็นภาพที่เธอถ่ายเอาไว้เมื่อตอนมีอายุเพียง 6 ขวบ!! ซึ่งตอนนั้นความสูงของเธอก็ปาเข้าไป 174 ซม. แล้ว ว่ากันว่าในช่วงวัยเด็กนั้น เด็กผู้หญิงจะมีพัฒนาการเติบโตเร็วกว่าเด็กผู้ชายมาก แต่นี่มันเร็วเกินไปแล้ว… สูงยาวเข่าดีเฟร่อ~ . บางคนอาจหลงลืมไปเลยว่านี่หรือคือเด็ก “ชั้นประถม” ปัจจุบันสาวโลลิขายาวคนนี้ (ไม่เผยอายุ) ได้กลายเป็นนางแบบให้นิตยสาร ニコ☆プチ ของญี่ปุ่นไปแล้วด้วย นั่นทำให้เธอยิ่งเป็นที่รู้จักในโลกอินเทอร์เน็ตมากขึ้น และทำเอาชาวเน็ตญี่ปุ่นต่างช็อกกับหน้าใบหน้าเด็กประถมของเธอแต่มีส่วนสูงระดับเด็กมหาวิทยาลัย… อย่าลืมว่าเธอยังอยู่ในช่วงพัฒนาการของร่างกาย พูดง่ายๆ ก็คือ เธอยังสูงได้อีก!! ป่านนี้สาวน้อยคนนี้อาจจะสูงเกิน 175 ไปแล้วก็เป็นไปได้ ซึ่งเด็กในวัยเดียวกับเธอนั้นเรียกได้ว่า ไม่มีใครสูงเท่าเธอแล้วล่ะ อย่าว่าแต่เด็กวัยเดียวกันเลย Rino Natstume นั้นสูงกว่า ความสูงเฉลี่ยของผู้ใหญ่เพศชายชาวญี่ปุ่น อีกแน่ะ…
-
สาวถ่ายรูปเลียนแบบ Tom Holland สุดท้ายได้เจอตัวจริง โดนเจ้าตัวถาม นี่เธอใช่มั้ย?
สำหรับคนเป็นแฟนคลับของเหล่านักแสดง หรือดารา การได้พบเจอกับพวกเขาสักครั้งคงจะเป็นความฝันที่กลายเป็นจริง เช่นเดียวกันกับ Tori Bernal เด็กสาววัย 19 ปี จากรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเป็นช่างภาพฝีมือฉมัง และที่สำคัญเธอยังเป็นแฟนคลับตัวยงของหนัง Spiderman อีกด้วย!! โดยเฉพาะ Tom Holland ซึ่งเป็นดาราที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษ ด้วยความที่เป็นติ่งแบบขั้นสุด เธอก็เลยตัดสินใจทำโปรเจ็กต์เล็กๆ ขึ้นมา ด้วยการลอกเลียนการถ่ายแบบของ Tom ใน GQ Shoot เมื่อปี 2017 ไม่วาจะเป็นเสื้อผ้า วิวด้านหลัง เธอพยายามจัดมันออกมาจนมีความใกล้เคียงกับของจริงเกือบ 100% ซึ่งทั้งสถานที่ อุปกรณ์ และเสื้อผ้าเหล่านี้ เธออาศัยจากการหาซื้อใหม่บ้าง บางส่วนก็เอาของใช้ในบ้านตัวเอง หรือไม่ก็ไปยืมสถานที่ที่บ้านของเพื่อน และเธอทำมันออกมาได้เป๊ะมากๆ!! . และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ ไม่กี่วันหลังจากที่ชุดภาพถ่ายของ Tori กลายเป็นกระแสไวรัล โด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล เธอก็มีโอกาสได้พบกับ Tom…
-
เน็ตไอดอลสาวฝรั่ง ประกาศแต่งกับแฟนเกาหลี คอมเม้นท์เหยียดแรงยิิ่งกว่าคำยินดี…
ในอีกฟากโลกทางตะวันตกนั้นปัญหาการเหยียดผิวยังคงมีอยู่ รวมไปถึงการเหยียดเชื้อชาติอย่างชาวเอเชีย ที่มักจะถูกเหมารวมเป็น ‘คนจีน’ ก็ยังคงมีอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะในโลกออนไลน์หลังแป้นคีย์บอร์ด ที่ใครจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็ได้ จากโพสต์ของคนกลางที่กลายมาเป็นเหยื่อทางความคิดของตน… Lisa Vannatta และแฟนหนุ่ม Jay หลังจากที่สตรีมเมอร์สาว Lisa Vannatta ได้ทำการเปิดตัว Jay แฟนหนุ่มชาวเกาหลีให้กับเหล่าแฟนคลับได้รับรู้ ก็เกิดเป็นประเด็นอ่อนไหวขึ้นมาทันทีในทำนอง ‘ผู้ชายเอเชียไม่คู่ควรกับหญิงผิวขาว’ หรือ ‘เธอตกอับถึงกับต้องคว้าผู้ชายเอเชียมาเป็นแฟน’ และอีกครั้งเมื่อเธอโพสต์ภาพถ่ายผ่านอินสตาแกรม พร้อมกับแคปชั่นประกาศแต่งงาน https://www.instagram.com/p/BjDw1GnACFA/ โดยก่อนหน้านี้ หลังจากที่เธอเปิดตัวคบกับแฟนหนุ่มชาวเกาหลี เธอต่างต้องพบเจอกับความคิดเห็นเชิงลบอย่างรุนแรง และมีเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ‘พวกโรคไข้เหลือง’ จนไปถึง ‘นังทรยศเชื้อชาติ’ ในส่วนของ Jay ก็เจอหนักไม่แพ้กัน แถมโดนด่าบ่อยกว่าแฟนสาว ทั้ง ‘เอเชียสั้นป้อม’ ‘พวกผิดเพศ’ ‘เจ๊ก’ และ ‘ไอ้โชคช่วยแย่เม็ด’ และสารพัดคำด่าเปรียบเทียบต่างๆ นานาน พ่อหนุ่มน่าสงสาร แต่งงานกับสาวผิวขาวมีปัญหากับพ่อ แฟนเธอคือ PSY?…
-
สาวรอดจากการถูกแฟนทำร้ายร่างกายซ้ำไปซ้ำมา เพราะแอบส่งข้อความให้สัตวแพทย์
ชีวิตคู่ อาจจะเป็นความฝันสูงสุดของใครหลายคนในโลกใบนี้ ซึ่งหลายคนที่ว่านั้นก็อาจมีความคิดเกี่ยวกับชีวิตคู่จะสดใสและงดงามเหมือนกับในนิทานหรือนิยาย แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้ได้ว่าชีวิตคู่บางทีแล้วมันอาจจะไม่ได้เป็นไปด้วยความสวยงามที่เปรียบกับเส้นทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ เหมือนกับ Carolyn Reichle หญิงวัย 28 ปี จากเมือง DeLand รัฐฟลอริดา ที่ได้อาศัยอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกับแฟนหนุ่มของเขา Jeremy Floyd ซึ่งเธอก็เป็นฝ่ายถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายมาตลอด Jeremy Floyd วัย 39 ปี ผู้ต้องหาในคดีนี้ จนกระทั่งเธอได้ออกอุบาย พยายามขอร้องแฟนหนุ่มให้เธอได้พาน้องหมาของเธอไปหาหมอ ฝ่ายแฟนหนุ่มก็อนุญาต แต่เขายืนยันว่าเขาต้องตามเธอไปพร้อมกับพกปืนติดตัวด้วย ซึ่งเมื่อได้ไปถึงคลินิก เธอก็ได้ขอแฟนของเธอไปห้องน้ำและช่วงเวลานั้นเอง เธอก็ได้แอบส่งเศษกระดาษที่เขียนข้อความอธิบายสถาณการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่ให้กับพนักงาน เมื่อพนักงานคลินิกได้รับกระดาษใบที่เธอส่งมา พวกเขาก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่และตำรวจโดยทันทีและตำรวจก็ได้มาถึงทันเวลาและทำการเข้าจับกุม Floyd พร้อมยึดอาวุธปืนของเขา “เรียกตำรวจให้ที แฟนของฉันเขาข่มขู่ทำร้ายฉัน เขามีปืนด้วย โปรดอย่าให้เขารู้” Floyd ผู้ต้องหาในครั้งนี้ได้ทำร้ายร่างกาย Reichle ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยังกีดกันเธอไม่ให้ออกจากบ้านไปไหนรวมถึงยังข่มขู่เธอด้วยอาวุธปืนของเขาอีก และในคืนวันพุธที่ 23 พฤษภาคมก็มีการรายงานมาว่าทั้งสองคนได้มีการต่อสู้กันและมีเสียงปืนเกิดขึ้นข้างในบ้านหลังนั้นด้วย โดยภายหลังเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ไปสืบสวนเพิ่มเติมที่บ้านของพวกเขาก็พบกับรูกระสุนสองรูอยู่ที่ผนังบ้าน สุดท้ายนี้ Floyd ก็ได้ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว, ทำร้ายผู้อื่นโดยอาวุธปืน, ครอบครองปืนโดยผิดกฎหมาย,…
-
ชมภาพ ‘ห้องนอน’ ของสาวๆ แต่ละประเทศรอบโลก เพราะมันเป็นอะไรที่มากกว่าที่สำหรับนอน!!
เมื่อกล่าวถึง ‘ห้องนอน’ สำหรับสาวๆ แล้วถือเป็นเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัว ที่ถ้าหากว่าคุณไม่สนิทกับเธอจริงๆ ล่ะก็ จะไม่มีโอกาสได้เห็นมันเลยทีเดียว เพราะมันสามารถบ่งบอกถึงความเป็นตัวเองของพวกเธอได้เลยทีเดียว ทั้งนิสัย รสนิยม หรือความชอบต่างๆ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอีกด้วย สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมห้องนอนของสาวๆ จากทั่วโลกกัน จากผลงานที่มีชื่อว่า Riverboom Riverboom เป็นผลงานภาพสะสมของสองศิลปิน Gabriele Galimberti และ Edoardo Delille ที่ได้เดินทางไปทั่วโลก และถ่ายภาพห้องนอนของสาวๆ ที่มีอายุอยู่ในช่วง 18-30 ปี ทำให้เห็นว่า ‘ห้องนอน’ ไม่ใช่เพียงแค่ห้องที่เอาไว้นอนหลับเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่เอาไว้ เล่น, อ่าน, เขียน, ทำงาน, รัก, และฝัน อีกด้วย นอกจากนี้ห้องนอนยังทำหน้าที่เป็นเสมือนกับกระจกที่สะท้อนให้เห็นถึง ประวัติศาสตร์ ตัวตน อุปนิสัย วัฒนธรรม ที่อยู่เบื้องหลังพวกเธอ เป็นกระจกที่มีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งแต่ละคนมีความแตกต่างกัน Aisha อายุ 25 ปี จากอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์…
-
เอางี้เลยนะ… สาวนั่งเล่นขอบสระ แต่อนิจจา เอามีดโกนมาโกนขนหน้าแข้งด้วย!?
การใช้บริกาสระว่ายน้ำร่วมกับคนอื่นๆ เราจะต้องมีความเกรงใจซึ่งกันและกัน และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เขาตั้งไว้ เพื่อที่เราจะได้ใช้บริการนั้นๆ ได้อย่างมีความสุข… เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยคลิปชวนเหวอของหญิงสาวรายหนึ่ง ขณะนั่งอยู่บนขอบสระว่ายน้ำแล้วโกนขนหน้าแข้งไปด้วย ทำให้ผู้คนในบริเวณนั้นถึงกับอึ้งในสิ่งที่เธอทำเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าเหตุกาณณ์นี้เกิดขึ้นในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ได้ระบุว่าเกิดขึ้นที่สระว่ายน้ำหรือโรงแรมไหน จากภาพเผยให้เห็นหญิงสาวในชุดว่ายน้ำสีเขียว กำลังนั่งอยู่บนขอบสระว่ายน้ำแบบสบายใจโดยมีคนอื่นๆ อยู่ใกล้กับเธอ ก่อนจะหยิบเอามีดโกนหนวดออกมาแล้วโกนขนหน้าแข้งของเธอลงในสระว่ายน้ำ คลิปวิดีโอนี้ถูกถ่ายโดยผู้มาใช้บริการรายหนึ่ง และโพสต์มันลงในเว็บไซต์ Reddit จนกลายเป็นที่สนอกสนใจของชาวเน็ตไปทั่ว เมื่อชาวเน็ตได้เห็นพฤติกรรมชวนอี๋นี้ ก็พากันแสดงความคิดเห็นและวิจารณ์ไปต่างๆ นานา “มันน่ารังเกียจมาก” “ลองจินตนาการถึงการดื่มน้ำที่ไหลเข้าปากโดยไม่ได้ตั้งใจเวลาที่คุณว่ายน้ำ…พร้อมกับขนที่เธอโกนออกมา” “ผมเคยเป็นไลฟ์การ์ดที่ YMCA ผมเลยเคยเห็นอะไรหลายๆ อย่างมาจนได้เห็นวิดีโอนี้ ถ้าสระว่ายน้ำสาธารณะจะสอนอะไรผมสักอย่าง ก็คือผู้คนน่ารังเกียจเหมือนสัตว์ไม่มีผิด” “ฉันคงไม่ลงว่ายน้ำในสระว่ายน้ำสาธารณะอีกแล้วเมื่อได้เห็นคลิปนี้” ชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย ที่มา dailymail
-
17 นวัตกรรมสุดเจ๋งในญี่ปุ่น ที่คุณอยากให้มีในบ้านเรา บร๊ะเจ้าจอร์จ มันยอดมว๊ากกก!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ประเทศญี่ปุ่น’ เป็นประเทศที่มีนวัตกรรมต่างๆ มากมาย และมันมักจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่านักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมนวัตกรรมเจ๋งๆ จากประเทศญี่ปุ่น ที่เพื่อนๆ อยากจะให้มันมีอยู่ในประเทศเราอย่างแน่นอน จะมีอะไรบ้าง ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. ปุ่มเปิดเสียงในห้องน้ำ ที่จะช่วยกลบเสียงเวลาทำธุระของคุณ 2. กระดาษเช็ดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ที่มีรหัสไวไฟแจกด้วย 3. หน้าจอในห้องน้ำที่บอกว่าห้องไหนว่าง ห้องไหนไม่ว่าง จะได้เดินไปเข้าได้ถูก 4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบกล่อง ที่จะช่วยให้คุณได้ซึมซับความเป็นเด็กอีกครั้ง 5. ขั้นบันไดที่บอกแต่ละขั้นว่าคุณผลาญพลังงานแคลอรี่ไปเท่าไหร่ 6. ตู้หยอดเหรียญที่ขายไข่สดๆ จากฟาร์ม 7. ติดตั้งอุปกรณ์กันไฟฟ้าสถิตตรงปุ่มลิฟต์ เพื่อกันไม่ให้คุณถูกไฟดูด 8. เป๊ปซี่สีชมพู!! 9. โค้กรสพีชชชชช 10. รถขนของที่สามารถเปิดได้ทั้งด้านข้างและด้านหลัง 11. ตู้เก็บของแช่เย็นในชอปปิงเซนเตอร์…