Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
ประเทศเวลส์ กำลังจะเป็นประเทศแรกในสหราชอาณาจักร ที่ออกกฎห้ามการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ
เวลส์จะกลายเป็นประเทศแรกในสหราชอาณาจักร ที่ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ หลังจากผ่านกฎหมายที่ครอบคลุมพื้นที่ของโรงพยาบาล โรงเรียน และสนามเด็กเล่น ในปีหน้า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า รัฐบาลเวลส์กล่าวถึงกฎหมายนี้ว่าจะช่วยปกป้องคนที่ไม่สูบบุหรี่จากการควันบุหรี่มือสอง และจะทำให้การสูบบุหรี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติสำหรับเด็กๆ เด็กด้วย โดยที่กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่กลางแจ้งนั้นจะเริ่มต้นจากในโรงพยาบาล ในโรงเรียน และขยับขยายออกไปในที่สาธารณะต่างๆ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในช่วงฤดูร้อนปี 2019 ที่จะถึงนี้ เลขานุการกระทรวงสาธารณะสุข Vaughan Gething กล่าวว่า “ผมภูมิใจที่เวลส์จะเริ่มต้นเป็นผู้นำของสหราชอาณาจักรในการลดการสูบบุหรี่และป้องกันไม่ให้คนหนุ่มสาวเริ่มต้นใช้มันตั้งแต่แรก พวกเราเห็นสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงของทัศนคติต่อการสูบบุหรี่ตั้งแต่ปี 2007 ในตอนนั้นเราได้รับเสียงต่อต้านบ้างในการเปลี่ยนแปลง แต่เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่น่าทึ่งและผมรู้สึกยินดีที่แผนของเราจะขยายพื้นที่ปลอดบุหรี่ไปสู่พื้นที่สาธารณะ ท่ามกลางเสียงสนับสนุนมากมาย นี่เป็นอีกขั้นที่จะทำให้มันถูกต้อง ที่จะทำให้การสูบบุหรี่ไม่ใช่เรื่องปกติในเวลส์” นาย Gething เคยไปเยี่ยมชมแผนกทำคลอดที่โรงพยาบาล Glan Clwyd ซึ่งพนักงานบอกกับเขาว่าพวกเขาได้รับการร้องเรียนจากเหล่าคุณแม่เกี่ยวกับการสูบบุหรี่นอกโรงพยาบาล เมื่อต้องเดินเข้าเดินออกโรงพยาบาลพร้อมอุ้มเด็กน้อยไปด้วย ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลหลายๆ แห่งในเวลส์ได้มีการประกาศและกฎข้อบังคับในการห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณอาคารอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการกับเหล่านักสูบได้อย่างเด็ดขาด แต่หลังจากที่กฎหมายนี้ออกมา จะทำให้เหล่านักสูบมีความผิดทางกฎหมาย แม้ว่าโรงพยาบาลแห่งนั้นจะติดป้ายห้ามหรือไม่ก็ตาม ที่มา dailymail
-
หาาาา!! สาวน้อยบ้องแบ๊วคนนี้เป็น “ประธาน” บริษัทพัฒนาเกมมือถือที่ฮิตสุดๆ ในญี่ปุ่น~
เวลาเซ็งๆ เครียดๆ ไม่รู้จะทำอะไรพวกเราและใครๆ อีกหลายคนก็มักจะต้องหันไปหา เกมโทรศัพท์มือถือ อย่างแน่นอนเลยล่ะ ชาวญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน พวกเขาน่ะชื่นชอบการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกม Azur Lane ที่มีตัวละครเป็นสาวอนิเมะสุดเอ็กซ์ที่ทำหน้าที่เป็น “เรือรบ” ออกมาต่อสู้กันกลางทะเล เกม Azur Lane ดูทรงตัวละครแล้วไม่แปลกใจทำเกมถึงฮิต! ลองมาดู Trailer และ Game play ของเกม Azur Lane กันดีกว่า ไม่ว่าท่านผู้ชมจะชอบหรือไม่ชอบ เปิดตัวมาได้เพียงแค่ 8 เดือน เกมนี้ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ฮิตที่สุดในญี่ปุ่นไปเสียแล้ว แต่ที่ทำให้เกมนี้กลับมีชื่อเสียงขึ้นอีกเป็นสองเท่าก็คือ… ก็คือ!!! “ประธาน“ บริษัทพัฒนาเกมนี้นั่นเอง บริษัท Manjuu ที่ตั้งอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่รับผิดชอบการพัฒนาเกม Azur Lane และล่าสุดรายการหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นก็ได้เผยให้ชาวโลกได้เห็นโฉมหน้าของประธานบริษัทแห่งนี้… Choyan Lin สาวน้อยชาวจีน ประธานบริษัทพัฒนาเกม Azur Lane คิดไม่ถึงเลยว่าประธานฝ่ายพัฒนาเกม Azur Lane นั้นจะเป็น สาวน้อยหน้าใสสุดบ้องแบ๊ว…
-
ก็ซื่อเกิ๊น… เพื่อนขอรูปพาสปอร์ต จะเช็คอินออนไลน์ หนุ่มหน้ามนก็ส่งรูป ‘พาสปอร์ต’ ให้แต้ๆ
ความหน้ามึนของคนอาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ อย่างสองคู่หูชาวสก็อต Ollie และ Dave ในระหว่างที่กำลังเตรียมตัวจะไปเที่ยวเมือง Malia บนเกาะครีต ประเทศกรีซ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อพ่อหนุ่มวัย 21 ปี นามว่า Ollie กำลังยุ่งกับการจัดการทริปสุดวุ่นวายอยู่ และในช่วงจังหวะที่ตัดสินใจจะเช็คอินผ่านระบบออนไลน์ เขาก็ต้องการภาพถ่ายหนังสือเดินทางของเพื่อนรัก Dave ด้วย สองสหาย Ollie และ Dave “ผมได้รับอีเมลในตอนเช้าที่บอกว่าสามารถเช็คอินออนไลน์ได้ ผมก็เลยส่งข้อความไปบอกเพื่อนเพื่อจะเช็คอินและรับบอร์ดดิ้งพาส… ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ตามภาพ ผมต้องการรูปถ่ายหนังสือเดินทาง เพื่อใช้เลขบนหนังสือเดินทางสำหรับการเช็คอิน แต่ไม่รู้ว่าเขาคงคิดเป็นต้องใช้ภาพหลักฐานว่ามีพาสปอร์ต หรือแค่ส่งรูปพาสปอร์ตไปเฉยๆ พอเห็นภาพที่เขาส่งมาให้ผม ระหว่างพักทานมื้อเที่ยงก็ปล่อยขำก๊ากชุดใหญ่กลางโรงอาหารเลย Dave บอกว่ามันเป็นแค่มุกตลกขำๆ แต่ผมว่าเขาคิดแบบนั้นจริงๆ” Ollie ให้สัมภาษณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แหม่ ส่งภาพหน้าพาสปอร์ตแบบนี้มี ใครๆ ก็มีมั้ยล่ะพ่อหนุ่ม ฮร่าาา ถ้าคิดเสียว่าเป็นมุกตลกก็โอเคนะ แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นก็ยินดีกับ Dave อีกที เพราะมันทำให้คนอื่นขำได้จริงๆ โอ๊ยยย จะซื่ออะไรปานนี้… …
-
คุณครูผู้น่ารัก นั่งทำอาหารเช้าหน้าห้องเรียน มอบให้กับนักเรียนที่ไม่มีอาหารพกติดตัวมา…
เรื่องราวเล็กๆ อันน่าประทับใจของคุณครูชาวต่างชาติ ที่มักจะมองในจุดที่ขาดสำหรับนักเรียนอยู่เสมอ อย่างในเรื่องของมื้ออาหารสำคัญที่สุดของวัน นาย Johnston คุณครูวิชาภาษาอังกฤษของโรงเรียน Clear Springs High School รัฐเท็กซัส ต้องการให้ลูกศิษย์ของเขาสามารถสอบผ่านโครงการ AP English ให้ได้ เขาจึงมอบอาหารตอนเช้าด้วยแซนด์วิชแยมเนยถั่ว คุณครูนำโต๊ะมาตั้งกลางโถงทางเดิน และมอบแซนด์วิชให้กับลูกศิษย์ที่ไม่ได้พก หรือลืมนำอาหารเช้าติดตัวมาในวันสำคัญเช่นนี้ Hannah ลูกศิษย์ผู้เก็บภาพอันน่าประทับใจของคุณครูเอาไว้ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า… “คุณครู Johnston มักจะคอยให้ความช่วยเหลือลูกศิษย์เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้ลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ ทั้งทางด้านวิชาการและด้านอื่นๆ ในเช้าวันนั้นเขาทำแซนด์วิชให้นักเรียนในตอนเช้าก่อนเข้าสอบ และผลการสอบในครั้งนี้จะสามารถนำไปเป็นหน่วยกิตสำหรับเข้าเรียนในระดับวิทยาลัยได้ แถมการสอบก็กินเวลานานและน่าเบื่ออีกต่างหาก …ก่อนที่จะเริ่มสอบตอน 7 โมงเช้า คุณครูก็ตั้งโต๊ะและเก้าอี้ มีขนมปังทั้งหมด 3 ชนิด เนยถั่วสูตรธรรมชาติ และแยมองุ่น แน่นอนว่าเขาล้างมือมาก่อนทำแซนด์วิชให้นักเรียนด้วย เขาตั้งใจทำให้นักเรียนก่อนเข้าห้องสอบจริงๆ แถมอาหารที่เขาทำก็มีสารอาหารและพลังงานเพียงพอที่จะช่วยให้ทำข้อสอบได้อย่างเต็มที่ …ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าบุคลากรทางการศึกษาจะใส่ใจกับลูกศิษย์ได้มากขนาดนี้ และบ่อยครั้งก็มักจะถูกมองข้ามไป ฉันรู้สึกยินดีกับคุณครู…
-
สาวโพสต์ ‘ภาพเซลฟี่ในห้องน้ำ’ แต่ชาวเน็ตโฟกัสผิดจุด ทำไมทิชชู่อยู่ห่างจากชักโครกจัง!?
บางครั้งเรื่องฮาๆ มันก็เกิดขึ้นได้ด้วยความบังเอิญ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้… เมื่อวันพฤหัสบดีก่อนหน้านี้ Paula Sophia Garcia Espina สร้างความฉงนงุนงงให้กับโลกโซเชียลปวดหัวไปตามๆ กัน เรื่องมีอยู่ว่าเธอไปเที่ยวที่เม็กซิโก และอัปภาพถ่ายเซลฟี่ในห้องน้ำแบบสุดเซ็กซี่ลงบนโซเชียล “ตอนแรกฉันคิดจะลบภาพนั้นไปซะด้วยซ้ำแต่ก็ไม่ทำ ฉันไม่ได้คิดอะไรมากหรอกนะตอนถ่ายภาพ ที่สนใจก็แค่ท่าโพสต์ให้ภาพมันออกมาดูดี ไม่ได้คิดว่ามันจะมีอะไรอยู่ข้างหลัง” Sophia เล่า แต่แทนที่จะสนใจความเด็ดสะระตี่ของเธอ กลับกลายเป็นว่าชาวเน็ตทั้งหลายกลับให้ความสนใจกับองค์ประกอบแปลกๆ ของห้องน้ำซะงั้น!? “ทำไมม้วนทิชชู่มันถึงอยู่ห่างจากชักโครกขนาดนั้นฟะ? ให้ตายเถอะ” เนี่ย ห่างตั้งขนาดนี้จะเอื้อมไปถึงได้ยังง๊ายยยย!? แล้วมันจะใช้งานได้อย่างไร ชาวเน็ตอีกมากมายถึงกับต้องมาถกเถียงกันอย่างจริงจังเลยทีเดียว “มันทำให้ฉันนึกภาพตอนเอื้อมไปหยิบทิชชู่” บางคนก็ชวนเบี่ยงประเด็น มองไปที่ข้างๆ โถส้วม เห้ย!? ทำไมราวแขวนผ้าเช็ดตัวถึงไปอยู่ตรงนั้น ราวแขวนผ้าเช็ดตัว ที่อยู่ข้างหลังชักโครก แถมยังมีที่เต้าเสียบอยู่ข้างชักโครกอีก ทำไมมันแปลกอย่างนี้ฟระ!? ดูเด่ะ!! ใครมันเป็นคนออกแบบห้องน้ำนี้ฟระ!? คือยังไงเอ็งก็ต้องยืนเพื่อที่จะเอื้อมไปหยิบทิชชู่อ่ะ …
-
หนุ่มขายทุกอย่างที่มี ซื้อจักรยานปั่น 9,600 กม. มาหารักแท้ ได้ครองรักกันนาน 40 ปี!!
‘คุณเชื่อในรักแท้หรือไม่?’ อาจเป็นคำถามที่หลายๆ คนเคยได้ยิน และแต่ละคนก็คงมีคำตอบอยู่แล้วในใจ เช่นเดียวกับเรื่องราวความรักของสองคนนี้ที่แม้ตัวจะอยู่ห่างกันคนละซีกโลก แต่สุดท้ายด้วยพลังแห่งความรัก ทั้งคู่ก็ได้มาเจอกันและครองรักกันมาจนถึงทุกวันนี้ได้ Pradyumma Kumar Mahanandia เป็นหนุ่มชาวอินเดีย เขาเกิดในหมู่บ้านอันห่างไกลความเจริญในปี 1949 ชะตาชีวิตของเขาถูกพยากรณ์เอาไว้ว่าจะได้แต่งงานกับหญิงสาวที่เป็นนักดนตรี และเจ้าของสวนต้นไม้ เกิดราศีพฤษก อาศัยอยู่ในประเทศที่อยู่แสนไกล “ผมเชื่อในคำพยากรณ์นั้น ทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว” Kumar กล่าว เรื่องราวความรักของทั้งสองเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 40 ปีก่อน ในวันที่ 17 ธันวาคม ปี 1975 ตอนนั้น Kumar เป็นศิลปินข้างถนน เขาได้พบกับสาวแสนสวยคนหนึ่ง มีผมสีบลอนด์ ดวงตาสีฟ้า ชื่อว่า Charlotte Von Schedvin เธอมาขอให้เขาช่วยวาดภาพเหมือนให้ “ตอนที่เธอเดินมาหาผม ผมรู้สึกตัวเบามาก ตาของเธอเป็นสีฟ้า กลมโต ตอนจ้องไปในตาของเธอมันรู้สึกเหมือนกับว่าผมถูกมองลึกเข้าไปข้างในถึงจิตวิญญาณ เหมือนกับเครื่อง X-ray เลยทีเดียว” …
-
เสียวเกินห้ามใจ!! หมอเตือน “สำเร็จความใคร่” ทำคนช็อก-ขาดอากาศตาย ปีนึงเป็นร้อย
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยผลสำรวจที่บอกว่าชาวเยอรมันเสียชีวิตปีละกว่า 100 คน เนื่องจากมีการใช้วิธีช่วยตัวเองแบบแปลกๆ ผู้ตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ Harald Voß กล่าวว่าการพยายามสำเร็จความใคร่ด้วยวิธีการทำให้ขาดอากาศหายใจเป็นสาเหตุการตายที่พบได้เป็นปกติ และจากการศึกษาของเขาพบว่ามีผู้คนราวๆ 80 – 100 คน ทั่วประเทศเยอรมันนีเสียชีวิตด้วยสาเหตุนี้ทุกปี จากการรายงานบอกว่ามีชายคนหนึ่งสวมใส่ถุงน่อง เสื้อกันฝน และชุดดำน้ำ (พร้อมๆ กัน) แถมยังครอบถุงพลาสติกไว้ที่หัวด้วย เสียชีวิตในเมืองฮัมบูร์ก หลังจากที่นั่งอยู่ข้างๆ เครื่องทำความร้อนและพยายามที่จะทำให้ชีสที่วางอยู่บนร่างกายละลาย อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่เมืองฮัลเลอ ประเทศเยอรมัน มีการพบศพของชายคนหนึ่งที่มีต้นคริสต์มาสหนีบอยู่กับหัวนมของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามจะกระตุ้นหัวนมของเขาด้วยต้นคริสต์มาส หรือจะเป็นเรื่องของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ทรมานอยู่ในห้องใต้ดินในบ้านตัวเองที่เมืองเฮสเซอ เสียชีวิตโดยที่สภาพศพมีโซ่ตรวนพันอยู่รอบๆ คอและร่างกายของตัวเอง จากผลวิจัยพบว่าในชาวเยอรมันทุกๆ 1 ล้านคน จะมีราวๆ 1-2 คนที่เสียชีวิตด้วยอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มอารมณ์ทางเพศระหว่างกิจกรรมเข้าจังหวะ Harald Voß ได้พูดถึงการขาดอากาศหายใจอย่างเฉียบพลันนี้ว่า “การหมดสติเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นรวดเร็วมากกว่าที่ผู้คนคิด ตัวอย่างเช่น หลอดเลือดในสมองหดตัว มันจะใช้เวลาสูงสุดอยู่ที่ 30 วินาที” นาย Voß บอกว่ากรณีที่คล้ายๆ กันนี้ค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และมีหลายกรณีที่ไม่ได้ถูกรายงานให้ทราบ…
-
สื่อนอกเผย คุณพ่อของเด็กที่ห้อยริมระเบียง มัวแต่เล่น ‘โปเกม่อน โก’ อยู่ข้างนอก…
กลายมาเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงสัปดาห์นี้เลยก็ว่าได้ กับเหตุการณ์ฮีโร่ตัวจริงที่ปีนขึ้นตึกเพื่อไปช่วยชีวิตเด็กชาย จนกระทั่งส่งผลทำให้เขาได้รับสัญชาติ เป็นพลเมืองแห่งฝรั่งเศส พร้อมได้รับหน้าที่การงานเป็นการตอบแทน… อย่างไรก็ตาม ยังคงเกิดความแคลงใจว่า เหตุใดเด็กถึงถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพังจนเกิดอันตรายเช่นนี้ได้ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ของเด็ก กำลังทำอะไรอยู่? ฮีโร่ Mamoudou Gassama วัย 22 ปี เข้าพบประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron ทางด้านอัยการฝรั่งเศส Francois Molins ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ BFM TV ว่า พ่อของเด็กชายวัย 4 ขวบรายนี้ ออกไปชอปปิงข้างนอก และปล่อยให้เด็กชายอยู่บ้านเพียงลำพัง ในส่วนของผู้เป็นแม่นั้น ได้เดินทางออกจากปารีสเพื่อไปเยี่ยมญาติบนเกาะเรอูนียง และหน้าที่ดูแลลูกก็ตกเป็นหน้าที่ของผู้เป็นพ่อ… ซึ่งการกลับมายังอพาร์ทเมนท์ของผู้เป็นพ่อต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากเขามัวแต่เล่นสมาร์ทโฟน เปิดเกมโปเกม่อน โก เล่นไปด้วย ในขณะที่เดินกลับมาและเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ทั้งนี้อัยการได้พิจารณาความผิดของผู้เป็นพ่อ ด้วยโทษจำคุก 2 ปี ฐานละเลยหน้าที่ของผู้ปกครอง จากการตัดสินใจที่ผิดพลาดส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเด็ก และจะตัดสินคดีความดังกล่าวในเดือนกันยายน…
-
หมอคว้าน “สายฉีดก้น” ออกจากรูทวารชายหนุ่ม อ้างเหตุลื่นล้ม มันเลยผลุบเข้าไป!?
ความโชคร้ายของเราจะมาในรูปแบบไหน ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้เลย บางกรณีอาจจะแค่หกล้มฟันหัก โดนหมาวิ่งชนจนบาดเจ็บ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ใครจะไปนึกว่าอุปกรณ์ชำระล้างร่างกายเฉพาะส่วนอย่าง ‘สายฉีดก้น’ ก็สามารถกลายมาเป็นภัยอันตรายที่เข้าไปสิงร่างของคนได้เช่นกัน แถมมันเกิดขึ้นกับมนุษย์จริงๆ ด้วย!? เรื่องราวดังกล่าวเป็นของชายอินเดียวัย 26 ปี ผู้โชคร้ายรายหนึ่ง ที่ต้องรับความช่วยเหลือทางการแพทย์โดยด่วน เนื่องจากสายชำระยาว 6 นิ้วผลุบเข้าไปในช่องรูทวารทะลุไปถึงช่วงลำไส้ เขากล่าวกับแพทย์ว่า ในระหว่างที่กำลังใช้งานอยู่นั้น ก็เกิดเหตุลื่นล้มใส่บนหัวสายฉีดก้นแบบพอดีเป๊ะ อย่างไรก็ตามทางทีมแพทย์ก็ยังตั้งข้อสงสัยอยู่ดีว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือ? อย่างไรก็ตามทีมแพทย์จาก Ram Manohar Lohia Hospital และ Post Graduate Institute of Medical Education and Research ในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ทำการระบุในรายงานทางการแพทย์ไว้ว่า มีความสงสัยในพฤติกรรมของผู้ป่วย ในการนำวัตถุดังกล่าวมาใช้ในการสนองอารมณ์ทางเพศ หลังจากทำการตรวจสอบแล้ว แพทย์พบว่าเขาไม่มีอาการเลือดออกแต่อย่างใด และตัวเขาเองก็ให้การว่า เหตุการณ์ในทำนองนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตเลย ในที่สุดทีมแพทย์ก็ตัดสินใจฉีดยาชา และทำการคว้านสายฉีดก้นออกมาผ่านทางช่องรูทวารของตัวคนไข้ได้สำเร็จ…
-
18 ภาพแห่งการใช้พลาสติกสุดจะฟุ่มเฟือย เปลืองห่อแล้วห่ออีก เอาอีกสักกี่ชั้นล่ะลูกพี่!!
คุณภาพของสินค้าที่ควรคงสภาพความสดใหม่ไว้เสมอ อย่างเช่นในกรณีของสินค้าบริโภค ผัก ผลไม้สด ที่วางขายตามห้างร้านต่างๆ ต้องทำการห่อเอาไว้เสมอ บางกรณีอาจจะรู้สึกว่าห่อทิ้งห่อขว้าง ห่อมากเกินไปจนสิ้นเปลืองและเป็นการสร้างขยะทางอ้อม หากช่วยลดการใช้พลาสติกให้น้อยลงได้ ร่วมด้วยช่วยกันก่อนที่ขยะพลาสติกจะล้นโลกไปมากกว่านี้ ลองมาพิจารณาจำนวนขยะพลาสติกจากห่อสินค้าบริโภคกัน ส้มที่ปอกเปลือกเรียบร้อย พร้อมประทานในกล่องพลาสติก หรือจะห่อทั้งๆ ที่ยังมีเปลือกอยู่แล้ว ห่อธรรมดายังน้อยไป ยัดใส่กล่องพลาสติก ห่อทับอีกชั้น ในความเป็นจริงเปลือกของผลไม้ต่างๆ ก็คือรูปแบบการห่อจากธรรมชาติ ถาดพลาสติกสำหรับพริกสด ซื้อใช้แค่แป๊บเดียว แต่ใช้เวลาย่อยสลายอีกนาน พลาสติกในรูปแบบหลอดก็มีเช่นกัน สินค้าประเภทวัตถุดิบบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องห่อก็ได้ บรรดาแอปเปิ้ลในห่อพลาสติก แกะห่อเสร็จก็ทิ้ง ทุกอย่างถูกห่อทับด้วยพลาสติกที่ไม่จำเป็น ลูกกวาดเม็ดเล็กๆ กับพลาสติกห่อชิ้นเบ้อเร่อ กระป๋องน้ำอัดลมก็ยังโดนห่อ… กล่องยาอม ซ้อนกล่องเล็กๆ อีกทีหนึ่ง ป๊าดดดด หัว USB เล็กๆ กับห่อโคตรเบ้อเร่อ หลอดพลาสติก…
-
ครบรอบ 10 ขวบ พรฮับ สารสนเทศด้านหื่นกระหายศาสตร์ 10 ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง!?
#เหมียวเลเซอร์ ไม่ได้ออกตัวคัดค้านว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์สีชมพูเป็นสิ่งต้องห้ามหรือไม่ เรื่องของธรรมชาติแบบนี้ ถ้าหากรู้สึกกระหายก็ต้องหาที่ลง (หมายถึงอยากเมาต้องหาร้านนั่งดื่ม) จะไปฝืนธรรมชาติมันก็กระไรอยู่… ทั้งนี้ วกกลับมาในเรื่องของหนังสำหรับผู้ใหญ่ ปัจจุบันก็เริ่มเปิดกว้างมากขึ้นแต่ก่อน ไม่จำกัดเฉพาะบนเว็บบอร์ดอีกต่อไป เพราะมีแพลทฟอร์มให้ดูออนไลน์อย่างเปิดเผย เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของ ‘พรฮับ’ 25 พฤษภาคม ในปี 2017 (ปัจจุบัน 11 ขวบแล้ว) แพลทฟอร์มเพื่อมนุษยชาติ พุ่งทะยานเป็นเว็บไซต์อันดับที่ 44 จากเว็บไซต์ยอดฮิตทั่วโลกกว่า 500 เว็บ เรามาดูกันเถอะว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ความนิยมและตรรกะของอุตสาหกรรมนี้ เริ่มต้นมาจากจุดไหนและมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง… ในช่วงระยะเวลา 10 ปี หมวดหมู่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ แนวทางบ้าน (มือสมัครเล่น) เกย์ และ เป่าปี่ หมวดหมู่ที่ได้รับเข้าชมมากที่สุดเป็น แนวทางบ้าน มาตั้งแต่ปี 2007 – 2010…
-
โปสเตอร์รับสมัครตำรวจจากญี่ปุน ที่มาพร้อมกับคำพูดเท่ๆ ทำเอาหลายคนอยากไปสมัคร!!
กลายเป็นกระแสฮือฮาบนโลกออนไลน์ที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก หลังจากที่มีการเผยภาพโปสเตอร์ประกาศรับสมัครตำรวจจากจังหวัดโอซะกะ ที่มาพร้อมกับภาพและข้อความเท่ๆ ที่ทำเอาหลายๆ คนอยากจะสมัครเข้าร่วมกันเลยทีเดียว ภาพโปสเตอร์ประกาศรับสมัครสุดเท่นี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นประเพณีของสถานีตำรวจแห่งนี้ไปเสียแล้ว และมันกลายเป็นสิ่งที่แฟนๆ ต่างเฝ้ารอที่จะได้เห็นประกาศรับสมัครแบบเจ๋งๆ ในแต่ละปี “ก้าวออกมาด้านหน้าชายหนุ่ม หยุดหนีและออกมากันได้แล้ว” หรือจะเป็นแผ่นนี้ “ถึงแม้ว่าคุณไม่สามารถแปลงร่างได้ แต่คุณก็ยังสามารถเป็นแนวร่วมกับความยุติธรรมได้” “มันอาจจะไม่เท่เหมือนที่คุณคิด มันอาจจะยากและเรียกร้องอะไรจากคุณมากกว่าที่คุณคิด แต่เพื่อการปกป้องชาวเมือง คุณทุกคนจำเป็นต้องก้าวออกมา” “นี่คือบุคลิกภาพที่น่าพอใจ” และไม่เพียงแค่โปสเตอร์การประกาศรับสมัครตำรวจเท่านั้น แต่โปสเตอร์ประกาศเชิญชวนต่างๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ยังใส่ใจลายละเอียด และทำออกมาได้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นป้ายประกาศเชิญชวนให้ทุกคนดูแลความปลอดภัยของทรัพย์สินส่วนตัว โดยการนำเหล่าตัวการ์ตูนสุดน่ารักมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือโปสเตอร์ป้องกันอาชญากรรมในเมืองด้วยสัญญาณเตือนโดยใช้เจ้าหนูโคนันเป็นพรีเซนเตอร์ โปสเตอร์สาวน้อยที่เตือนให้ทุกคนระวังเรื่องความปลอดภัย และอย่าลืมล็อครถมอเตอร์ไซค์ทุกครั้ง สาวน้อย Miku ที่ออกมาเตือนชาวเมืองเกี่ยวกับความปลอดภัยในเรื่องของรหัสผ่าน นักสืบจิ๋วโคนันกับอุปกรณ์เตือนภัยเมื่อเกิดอาชญากรรม ที่มา soranews24
-
โรงอาบน้ำญี่ปุ่น เสนอให้คุณได้อาบน้ำไปกับ “ไข่ขี้เกียจ” กว่า 10,000 ลูก!?
การใช้บริการ “เซ็นโตะ” หรือโรงอาบน้ำสาธารณะของญี่ปุ่น ถือเป็นเรื่องปกติของคนที่นั่นเขาเลยล่ะ การแช่น้ำร้อนเปลือยกายต่อหน้ากันและกัน แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติแบบเราๆ ก็อาจจะรู้สึกแปลกๆ หน่อยเพราะไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมนี้ แต่หากคุณอยากจะลองไปแช่น้ำร้อนกับอาบน้ำสาธารณะดูสักครั้งล่ะก็มันก็ควรจะเป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ จริงไหม? งั้นเราจะขอแนะนำโรงอาบน้ำแบบแปลกๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า โกคุราคูยุ ที่โรงอาบน้ำแห่งนี้ได้เชิญชวนแขกทั้งหลายให้เข้ามาลองใช้บริการ ด้วยการใส่ลูกบอลกูเด็นทามะ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อไข่ขี้เกียจ ลงไปในอ่างอาบน้ำกว่า 10,000 ลูก สร้างสีสันให้กับผู้มาใช้บริการไม่น้อย การทำแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากทางโรงอาบน้ำเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการร่วมมือกับทาง Sanrio ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ลูกบอลนับหมื่นให้เราเล่นระหว่างอาบน้ำเท่านั้น แต่แทบจะทุกอย่างในโรงอาบน้ำก็ถูกเปลี่ยนให้เข้ากับเจ้าไข่ขี้เกียจนี้ด้วย ไข่ขี้เกียจที่ตั้งอยู่ตรงแผนกต้อนรับ สติกเกอร์ตามที่ต่างๆ ช่วยเพิ่มบรรยากาศ . นอกจากการตกแต่งแล้ว อาหารที่มีไว้บริการในโรงอาบน้ำก็ถูกตกแต่งในสไตล์ไข่ขี้เกียจเช่นกัน เช่นเนื้อย่าง, อูด้ง, ข้าวหน้าไข่ดิบ, พาสต้าคาโบนารา หรือพาร์เฟต์คาราเมล น่ากินไหมล่ะ? และในทุกๆ เมนูเครื่องดื่ม จะถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับแผ่นรองแก้วที่เป็นลวดลายไข่ขี้เกียจด้วย ของที่ระลึกอื่นๆ ที่มีลวดลายเป็นไข่ขี้เกียจ หากใครอยากลองแช่น้ำไปกับไข่ขี้เกียจและสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ ก็ไปกันได้ที่โรงอาบน้ำโกคุราคูยุ…
-
33 ฉายาลักษณ์ในแต่ละช่วงชีวิต ของเจ้าชายพระนาม “แฮร์รี่ ดยุกแห่งซัสเซกส์”
เมื่อไม่นานมานี้ มีการนำเสนอและพูดถึงอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงในราชวงศ์อังกฤษ หลังจากที่เจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เคิล ร่วมพิธีเสกสมรสอย่างเป็นทางการ… แต่กว่าจะมาถึงในวันนี้ได้ เจ้าชายแฮร์รี่ทรงผ่านอะไรมาบ้างในแต่ละช่วงพรรษาของพระองค์ ซึ่งในช่วงเริ่มต้นตั้งแต่ประสูตินั้น พระราชประวัติของพระองค์ทรงบากบั่นมากในแต่ละครั้ง ทรงออกผจญโลกกว้างครั้นพระเยาว์ รวมไปถึงทรงร่วมพิธีและกิจกรรมทางการกุศลต่างๆ ร่วมกับทางราชวงศ์ และพระองค์ทรงประสบกับปัญหาทางด้านสภาพจิตใจ เนื่องจากสูญเสียพระมารดา ‘ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์’ ในปี 1997 พระองค์ประสูติเมื่อ 15 กันยายน 1984 ฉายาลักษณ์ระหว่างพระองค์ พระมารดา เจ้าหญิงไดอาน่า และพระเชษฐา เจ้าชายวิลเลี่ยม อายุ 1 ปี: เจ้าชายแฮร์รี่ พบกับ สมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งสเปน และสมเด็จพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน พร้อมกับพระบิดา เจ้าชายชาลส์ และพระมารดา เจ้าหญิงไดอาน่า 9 กรกฎาคม ปี 1986 อายุ 2 ปี: เจ้าหญิงไดอาน่าทรงอุ้มเจ้าชายแฮร์รี่ ณ…
-
ญี่ปุ่นออกเครื่องประดับใหม่เอาใจคน (มีแฟน) รักโปเกมอน ด้วยแหวนหมั้นสุดหรูรูป “มิว”
ถ้าหากคุณจะแต่งงานกับใครสักคน คุณจะให้คำจำกัดความของคนๆ นั้นว่าอย่างไร? คนที่ตามหามาทั้งชีวิตอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าคนที่มีค่าที่สุดสำหรับคุณ ฟังไปแล้วรู้สึกรึเปล่าว่ามันคล้ายๆ กับโปเกมอนตัวหนึงอยู่น้า~ ตามหามาทั้งเกม (ตอนโปเกมอนภาคแรกออก) และมีค่าที่สุดสำหรับเรา (ก็มันเก่งที่สุดในเกมเลยมั้ง) ใช่แล้ว “มิว” ยังไงล่ะ!! สงสัยว่าใครสักคนในร้านเครื่องประดับญี่ปุ่น U-Treasure น่าจะคิดอะไรประมาณนั้น เพราะว่าล่าสุดนี้เอง U-Treasure ได้ออกสินค้าใหม่ล่าสุดออกมาเพื่อเอาใจแฟนเกมโปเกมอนโดยเฉพาะ!! มันคือแหวนหมั้น และกำไรข้อมือรูป “มิว” นั่นเอง โดยแหวนหมั้นนั้นจะมีเจ้ามิวตัวน้อยๆ ที่ทำจากทองคำสีชมพูขนาด 18 กะรัต นั่งอยู่บนตัวแหวนที่สามารถเลือกได้ว่าจะให้ทำจาก แพลทินัม หรือทองคำขาวได้ โดยราคาจะต่างกันออกไปตามวัสดุที่เลือก แพลทินัมจะมีราคา 120,000 เยน (ราวๆ 35,300 บาท) และทองคำขาว 110,000 เยน (ราวๆ 32,350 บาท) แต่เจ้าราคาที่เห็นนี้ยังไม่ได้รวมเพรชแบบที่เราเห็นในรูปนะ เพราะเจ้าเพรชนี้จะต้องซื้อแยกต่างหาก และสามารถเลือกขนาดได้ตามใจชอบ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 175,200 เยน (ราวๆ 51,500 บาท)…
-
รางวัลความพยายาม เด็กผู้เดินทางไปงานจบการศึกษาเอง ได้รับรถฟรีจากนักจัดรายการวิทยุ
ถ้าพูดงานสำเร็จการศึกษาเพื่อนๆ จะนึกถึงอะไร? คิดว่าหลายๆ คนคงจะนึกถึงภาพของงานยิ่งใหญ่ที่เป็นความภาคภูมิใจของเหล่าผู้เรียนจบ ภาพการได้ใกล้ชิดกับคนใหญ่คนโตแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และที่ขาดไม่ได้เลยก็คงเป็นภาพของญาติพี่น้องที่แห่กันมารอรับด้วยรอยยิ้มนั่นเอง แต่สำหรับ Corey Patrick วัย 19 ปีจากรัฐอลาบาม่า สหรัฐอเมริกา แล้วดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะนอกจากที่เขาจะต้องเดินไปขึ้นรถบัสไปเรียนตั้งแต่ตี 4 ครึ่งทุกวันตลอดชีวิตการเรียนของเขาแล้ว แม้แต่ในวันสำเร็จการศึกษาเขาก็ยังคงต้องเดินไปขึ้นรถบัสคนเดียวไม่เปลี่ยนแปลง แผ่นหลังของเด็กหนุ่มที่ออกวิ่งไปตามลำพัง มันชวนให้รู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ภาพอันชวนเจ็บปวดหัวใจของ Corey ถูกถ่ายไว้โดยคนขับรถบัสที่ไปส่งเขาในงานสำเร็จการศึกษา และมีการนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนกลายเป็นที่พูดถึงในสื่อโซเชียลไป โดยเหตุผลที่เขาต้องไปโรงเรียนเองทุกวันนั้น ดูเหมือนว่าจะมาจากการที่ครอบครัวของเขาต้องย้ายที่อยู่ไปอยู่ห่างออกไปแถมที่บ้านก็ไม่มีรถจะไปส่ง แต่ Corey ไม่อยากจะย้ายโรงเรียน เขาเลยตัดสินใจที่จะขึ้นรถบัสไปเรียนเองทุกวัน ตื่นตีสี่ครึ่งนั่งรถชั่วโมงกว่าๆ ไปเรียนเองทุกวันจนเรียนจบ เก่งจริงๆ เลย และราวกับเป็นรางวัลของคนมุ่งมั่น ภาพของ Corey นั้นถูกส่งไปถึง Rickey Smiley นักจัดรายการวิทยุในท้องถิ่น ผู้ซึ่งเห็นใจในความลำบากของเด็กในภาพ และขอให้แฟนๆ วิทยุของเขาช่วยหาตัวเด็กคนที่ว่านี้ให้เขา และในตอนที่ได้พบกับ Corey นั่นเอง Rickey ก็ได้ตัดสินใจมอบรถยนต์คันใหม่ให้แก่ครอบครัวของ Corey เพื่อที่เด็กหนุ่มจะได้ไม่ต้องไปเรียนอย่างยากลำบากอีกต่อไป Rickey บอกว่า “ความมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จต้องได้รับการยกย่องและเป็นที่ยอมรับ Corey สอนให้พวกเราเห็นทุกบทเรียนเกี่ยวกับความอดทน…
-
เด็กสาววัย 18 ปี ขอร้องให้หมอ “ตัดขา” ของเธอทิ้ง แม้หมอจะบอกว่า “มันยังดีอยู่” ก็ตาม
บางทีสิ่งที่แพทย์บอกว่าดี มันอาจจะไม่ได้ดีสำหรับเราเสมอไป… ตัวอย่างเช่น หญิงสาววัยรุ่น Megan Jordan วัย 18 ปีคนนี้ ที่หลังจากเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขาซ้ายของเธอก็เหมือนเป็นอัมพาต เธอเดินไม่ได้ เพราะหากลงน้ำหนักไปที่ขาซ้ายเมื่อใด เธอจะเกิดความเจ็บปวดอย่างมาก ขณะเดียวกันแพทย์บอกว่าขาซ้ายของเธอยังเป็นปกติและมีสุขภาพดี และบอกว่าความเจ็บปวดที่เธอรู้สึกนั้นมาจากสมองของเธอเองเสียมากกว่า แต่สาวน้อย Megan นั้นไม่อยากทนทรมานกับความเจ็บปวดนี้อีกแล้ว เธอขอให้แพทย์ “ตัด” ขาซ้ายของเธอทิ้ง เพราะนอกจากเธอจะเจ็บปวดกับมันแล้ว เธอยังต้องนั่งเก้าอี้รถเข็นแทบตลอดเวลา จะเล่นกีฬาก็ไม่สามารถทำได้ สาวน้อย Megan จากชุมชนเฮริฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษกล่าวว่า “นี่มันร่างกายของฉัน ถ้าฉันอยากตัดขาของฉันทิ้ง มันก็จะต้องได้รับการผ่าตัด ความเจ็บปวดที่ฉันได้รับมาตลอดมันเกินจะทนแล้ว การตัดขามันคงเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ฉันหลุดพ้นแล้วล่ะ” “แพทย์ไม่อยากให้ฉันตัดขาทิ้ง พวกเขาคิดว่าความเจ็บปวดที่ฉันรู้สึก มันมาจากสมอง แต่ถึงอย่างไรฉันก็อยากตัดขาอยู่ดี เพราะฉันเคยเล่นกีฬาและออกกำลังกายทุกวัน แต่ตอนนี้ฉันทำไม่ได้เลย การตัดขาทิ้งเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ฉันได้กลับไปทำสิ่งที่ฉันรักอีกครั้ง” ขณะทางแพทย์ได้ตอบรับคำขอของ Megan Jordan เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเธอต้องรออีก 18 เดือนเพื่อเข้ากระบวนการผ่าตัดขาของเธอต่อไป ที่มา: metro และ dailymail
-
สาวโดนคุกคามหนัก เหตุเพราะหน้าตาไม่ดี เรียกความมั่นใจคืนมาด้วยศัลยฯ 450,000 บาท
การที่บุคคลหนึ่งกำเนิดมาด้วยหน้าตาที่ไม่เป็นพิมพ์นิยม ไม่ได้สวยงามตามกระแสความงามที่ถูกกำหนดไว้ อาจกลายมาเป็นปมที่ถูกผู้อื่นหยิบยกมาล้อเลียนได้ หญิงสาวชาวเวียดนาม Kuok เป็นหนึ่งในเหยื่อจากการรังแกดังกล่าว ด้วยลักษณะใบหน้าที่ไม่ได้สวยมาตั้งแต่กำเนิด แต่เธอหาแคร์ไม่ เก็บหอมรอมริบจนมีเงินมากพอที่จะซื้อความมั่นใจกลับคืนมาในนาม ‘ศัลยกรรม’ ชีวิตในช่วงวัยเด็กของเธอนั้น ต่างจะต้องเจอการล้อเลียนและรังแกไม่เว้นแต่ละวัน จากทั้งรูปทรงจมูก ริมฝีปาก อีกทั้งยังไม่มีเพื่อนร่วมชั้นยอมคบหาเลย โดยเฉพาะในเรื่องของการหาคู่ ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากหลายครั้งที่ถูกเรียกว่า ‘อัปลักษณ์’ และ ‘น่ารังเกียจ’ มีครั้งหนึ่งที่เธอเคยลองใช้บริการจัดหาคู่เดต และได้รับคำถากถางจากอีกฝ่ายว่า ‘ถ้าให้ผมแต่งงานกับเธอ ผมคงจะหมดอารมณ์อยากอาหารเป็นแน่แท้’ . ยิ่งนับวัน คำพูดแง่ลบเหล่านี้ก็ยิ่งทำให้เธอสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปเรื่อยๆ แต่แล้วหนทางที่จะกลับมายืนได้อีกครั้งก็เริ่มขึ้นในปี 2016 เมื่อเธอตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองผ่านการศัลยกรรม จากหน้ามือเป็นหลังมือ… ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนใบหน้าของเธอนั้นอยู่ที่ราวๆ 14,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 450,000 บาทกันเลยทีเดียว . ท้ายที่สุดแล้ว Kuok ก็ได้พบกับชายที่คู่ควรกับเธอ หลังจากใช้เวลาในการคบหาดูใจมาตลอด 6 เดือน…
-
เกินกว่าเหตุหรือไม่? ตำรวจนิวเจอร์ซีต่อยศีรษะผู้หญิง หลังจากที่เธอขัดขืนการจับกุม
ที่สหรัฐอเมริกา ได้มีการสอบสวนภายในของทางกรมตำรวจในรัฐนิวเจอร์ซี หลังจากมีวิดีโอแสดงภาพเจ้าหน้าที่ต่อยศีรษะของผู้หญิงคนหนึ่ง จนโด่งดังเป็นกระแสไปในโลกอินเตอร์เน็ต วิดีโอตัวที่ว่านี้ถูกเผยแพรออกมาในวันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม 2018 โดยเป็นภาพการเข้าจับกุม Emily Weinman หญิงสาววัย 20 ปี ซึ่งถูกถ่ายไว้โดย Alexis Hewitt วัย 19 ปีจากนิวเจอร์ซีืในระหว่างที่เธอกำลังนอนอยู่ที่ชายหาด จากภาพในวิดีโอจะเห็นว่า Weinman โดนเหวี่ยงลงบนพื้นทรายในขณะที่เธอต่อสู้ขัดขืนกับเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะถูกตำรวจนายหนึ่งขึ้นคร่อม และต่อยเข้าที่ศีรษะอย่างน้อยสองครั้ง โดยมีเสียงของผู้เห็นเหตุการณ์พยายามบอกให้เธอหยุดขัดขืนการจับกุมเสียที https://twitter.com/HewittLexy/status/1000511462425681921 วิดีโอที่ว่านี้ต่อมาได้มีการนำไปเผยแพร่บนทวิตเตอร์ และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยมีผู้เข้าไปชมแล้วว่า 6 ล้านครั้ง และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ออกมาให้ความเห็นว่ากระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น “รุนแรงเกินกว่าเหตุ” อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจออกมาแถลงการณ์ว่า Weinman ถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหากระทำผิดกฎระเบียบหลังจากที่เธอครอบครองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนชายหาด นอกจากนี้เธอยังถูกตั้งข้อหาขัดขืนการจับกุม จากการคุกคามเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการถุยน้ำลายใส่ โดยในขณะนี้ทางกรมตำรวจ Wildwood ได้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ได้รับทราบจากทางรายงานเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะมีการแจ้งผลให้ทราบกันต่อไป แถลงการณ์จากทางกรมตำรวจ Wildwood ที่มา scmp, bbc
-
งานนี้มีบันเทิง!! เมื่อ Deadpool อยากที่จะข้ามจักรวาลมาจอย Guardians Of The Galaxy
เรียกว่าช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ มีหนังฮีโร่เข้าฉายติดกันถึงสองเรื่องนั่นคือมหากาพย์ฮีโร่ Avengers: Infinity War และฮีโร่สุดเกรียนอย่าง Deadpool และต่อก็จะมีคิวของหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Jurassic World: Fallen Kingdom ที่ Chris Pratt แสดงนำนั่นเอง ซึ่งแฟนของ Marvel ก็น่าจะรู้กันว่าตา Chris Pratt นี้แกแสดงเป็น Star Lord ในเรื่อง Guardians of the Galaxy ซึ่งก็เป็นหนึ่งในฮีโร่ที่มีนิสัยสุดเกรียนเลยทีเดียว ทีนี้จึงทำให้เราคิดว่าถ้าฮีโร่สองคนนี้อย่าง Deadpool และ Star Lord ได้มาเจอกันแล้ว มันจะรื่นเริงบันเทิงใจขนาดไหนกันนะ บางทีถ้ามาเจอกันพวกเขาอาจจะมา Dance-Battle กันก็ได้ และดูเหมือนสิ่งที่เราอยากเห็นก็มีโอกาสเกิดขึ้นด้วยล่ะ เมื่อ James Gunn ผู้กำกับภาพยนตร์ Guardians of the Galaxy ได้ทวีตบอกแฟนๆ ว่าเขาได้ไปชมภาพยนตร์ Deadpool 2 มาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2018 มา …
-
“แมนนี ปาเกียว” ใจป๋า เปลี่ยนชีวิตคนขายไอศกรีมตกอับ ให้เงิน บ้าน และงานการที่ดี
วันนี้เรามาชมเรื่องราวสุดป๋าของนักมวยรุ่นเก๋าอย่าง แมนนี ปาเกียว กันหน่อยดีกว่า ที่จู่ๆ เขาก็ทำการช่วยเหลือคนขายไอศกรีมคนหนึ่งที่ได้ยินมาว่าคุณภาพชีวิตย่ำแย่มากๆ ให้ลืมตาอ้าปากได้เลยทีเดียว แมนนี ปาเกียว นักมวยสากลชื่อดังวัย 39 ปี ผู้ที่คว้าแชมป์ระดับโลกมาแล้ว ในวันนี้เขาได้แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลก ด้วยการยื่นมือเข้าช่วยเปลี่ยนชีวิตของชายขายไอศกรีมอย่างน่าซาบซึ้งใจ แมนนี ปาเกียว นักมวยระดับตำนาน ฉายา “เดอะ แพ็คแมน“ หลังจากที่ปาเกียวได้ยินเรื่องราวของนาย Manong Marciano ชายขายไอศกรีมผู้มีชีวิตที่ต้องต่อสู้กับความยากจนอันแสนลำบาก เขาจึงตัดสินใจ มอบสิ่งที่เขาสามารถมอบให้ได้ เพื่อเปลี่ยนชีวิตชายขายไอศกรีมไปตลอดกาล คลิปวิดีโอด้านบนเป็นคลิปที่เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กของ Jen Manilay เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ขณะที่แมนนี ปาเกียวได้พบกับชายขายไอศกรีม Manong Marciano ผู้โพสต์เล่าว่า เธอได้ซื้อไอศกรีมกับชายคนนี้แล้วนำมาให้ปาเกียว 1 แท่ง แต่แล้วปาเกียวก็บอกว่าให้เรียกชายขายไอศกรีมมาเพื่อพูดคุยด้วย ชายขายไอศกรีมตื่นเต้นมากที่รู้ว่าแมนนี ปาเกียวเรียกเขาไปคุย ปาเกียวให้ค่าไอศกรีมเป็นทิปเพิ่มไปราวๆ 1,800 บาท แต่หลังจากที่รู้ว่าชายคนนี้ต้องทุกข์ทรมานจากอุบัติเหตุและยังมีลูกน้อยอีก 3 คนที่ยังไม่มีเงินส่งเข้าโรงเรียน ปาเกียวจึงสมทบทุนให้อีก 18,000…
-
ชาวโลกฮือฮา พบคิมจองอึน (ปลอม) ยืนถ่ายเซลฟีที่สิงคโปร์ คนแห่ถ่ายรูปเพียบ
ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ จะมีการพบปะพูดคุยกันระหว่าง คิมจองอึน และ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประเทศสิงคโปร์ แต่นัดครั้งนี้ก็ต้องล่มไปเนื่องจากทรัมป์ยังมองว่าคิมจองอึนไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้ (อ่านเนื้อหาในจดหมายได้ที่นี่) ล่าสุดชาวโลกก็ต้องฮือฮา เนื่องจากมีคนพบเห็นคิมจองอึน ยืนถ่ายภาพเซลฟีที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเร็วกว่ากำหนดเดิมด้วยซ้ำ แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ กลับพบว่าคิมจองอึนคนนี้ดันเป็นตัวปลอมที่แต่งกายเลียนแบบผู้นำเกาหลีเหนือต่างหาก ตามรายงานจากเว็บไซต์ Reuters บอกว่าคิมจองอึนปลอมคนนี้ถูกพบเห็นแถวๆ บริเวณโรงแรม Marina Bay Sands นาย Sagar Admuthe หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า “คือเขาดูเหมือนคิมจองอึนตัวจริงมาก แต่หลังจากนั้นผมก็รู้ตัวว่าไม่ใช่ตัวจริง แต่แรกๆ คุณแยกแทบไม่ออกเลยล่ะ” ชายที่มีลักษณะคล้ายท่านผู้นำคนนี้มีชื่อว่า Howard X เป็นลูกครึ่งออสเตรเลีย-จีน ผู้ทำอาชีพนักดนตรีและโปรดิวซ์เซอร์เพลง เขาให้สัมภาษณ์ว่าหลังจากที่คิมขึ้นมาเป็นผู้นำเกาหลีเหนือตอนปี 2011 เขาก็รู้สึกว่าชายคนนี้มีลักษณะใกล้กับตัวเองมาก จนต้องเอาจุดเด่นตรงนี้มาทำอะไรให้เกิดประโยชน์ “ผมว่าชายคนนั้นหน้าเหมือนผมมาก และผมคิดว่า ‘ว๊าว ฉันต้องหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อสร้างเม็ดเงินแล้ว” Howard X ยังบอกอีกว่ารูปลักษณ์ที่เห็นนี้เป็นร่างกายจริงๆ ของเขา ไม่ได้มีการเพิ่มน้ำหนักเพื่อให้เหมือนแต่อย่างใด เพราะหากอ้วนเกินไปก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของเขาได้ Howard…
-
ขวัญใจแม่ยกพ่อมดน้อย Neville Longbottom หรือ Matthew Lewis แต่งงานแล้วจ้า!!
หากใครเป็นแฟนๆ ของสุดยอดนิยายและภาพยนตร์ชื่อดังอย่างพ่อมดน้อย Harry Potter แล้วล่ะก็ เพื่อนๆ ก็จะต้องรู้จักกับหลากหลายตัวที่อยู่ในเรื่องเป็นอย่างแน่นอน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีลักษณะเด่นแตกต่างกันไป ถ้าพูดถึงตัวละครที่เปรียบได้เหมือนกับลูกเป็ดขี้เหร่แล้วล่ะก็ Neville Longbottom ต้องเป็นตัวละครที่คุณคิดถึงกันเป็นชื่อแรกๆ เลยใช่มั้ยล่ะ เมื่อตอนที่เด็กๆ Neville เป็นเด็กอ้วนที่ขี้ขลาดและมักจะถูกแกล้งอยู่เสมอๆ แต่เมื่อเรื่องมีการดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นได้ว่า Neville นั้นเป็นตัวละครที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดมาก จากคนขี้ขลาดก็กลายมาเป็นคนที่กล้าหาญได้ในที่สุด สมกับอยู่บ้าน Gryffindor จริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ตัวละครที่พัฒนาเพียงอย่างเดียว เพราะ Matthew Lewis นักแสดงผู้รับบทก็มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอีกด้วย จากเด็กอ้วนธรรมดาเติบใหญ่เป็นหนุ่มล่ำรูปงามคว้าใจสาวๆ กันเลยทีเดียว และล่าสุดกับการพัฒนาครั้งใหญ่ที่สุดของชีวิต Matthew Lewis นั่นคือเขาได้แต่งงานแล้วจ้า โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมานี้ เขาได้อัปโหลดรูปภาพของเขาที่กำลังเข้าพิธีแต่งงานพร้อมกับ Angela Jones เจ้าสาวแสนสวยที่ประเทศอิตาลี โดยที่ดาราดังชาวอังกฤษได้พบกับฝ่ายเจ้าสาวที่งานเทศกาล Wizarding World ที่จัดใน Universal Studios เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นที่ๆ…
-
จากผู้ลี้ภัยปีนตึกช่วยเด็ก ประธานาธิบดีฝรั่งเศสยกให้เป็นพลเมือง พร้อมให้งานกู้ภัย!!
การกระทำอันกล้าหาญเยี่ยงฮีโร่ สมควรได้รับการยกย่องไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม อย่างในกรณีของชายชาวมาลี ผู้อพยพในประเทศฝรั่งเศส ได้ทำการช่วยชีวิตเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้ด้วยการปีนตึก 4 ชั้นชีวิตเด็กได้สำเร็จ โดยที่ไม่รีรอใดๆ (ข่าวเก่า: หนุ่มปีนไต่ตึกสูง 4 ชั้น ไม่หวั่นตัวเองร่วง จนนายกเทศมนตรีชื่นชม) Mamoudou Gassama วัย 22 ปี ได้รับคำชื่นชมจากทั้งนายกเทศมนตรีและชาวเมืองปารีสอย่างล้นหลาม จากการกระทำอันเสียสละโดยที่ไม่คำนึงถึงสิ่งใด นอกจากชีวิตของเด็กชายผู้ตกอยู่ในอันตราย ล่าสุดนี้ เขาได้เข้าพบกับ Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เพื่อรับประกาศนียบัตรพร้อมเหรียญทองเชิดชูความกล้าหาญและความเสียสละ ในระหว่างนั้น เขาและประธานาธิบดีได้นั่งพูดคุยอย่างเป็นกันเอง โดยที่เจ้าตัวได้บอกไว้ว่า ‘ผมไม่ทันได้คิดอะไร ผมปีนขึ้นไปทันทีและพระเจ้าก็ช่วยผม’ ทางด้านประธานาธิบดี Macron ได้ทำการขอบคุณเป็นการส่วนตัว และพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนสถานะให้ Gassama จากผู้ลี้ภัยกลายมาเป็นพลเมืองของฝรั่งเศสในทันที อีกทั้งประธานาธิบดีจะมอบตำแหน่งหน้าที่การงาน ให้เขาได้เป็นหนึ่งในหน่วยกู้ภัยดับเพลิงประจำกรุงปารีส เพื่อนำทักษะที่เขามีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทางด้านสื่อท้องถิ่นต่างร่วมใจกันทำข่าวยกย่องให้กับวีรบุรษไร้ผ้าคลุมคนนี้ จากวีรกรรมช่วยชีวิตเด็กที่เปลี่ยนชีวิตตัวเขาเองได้ในพริบตา… ที่มา :…
-
คู่รักถึงกับงง พบรั้วสูงเกือบ 2 เมตรล้อมบ้านเอาไว้ หลังกลับมาจากฮันนีมูน
คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ถ้าหากว่าคุณต้องทิ้งบ้านไปนานๆ และกลับมาพบว่าบ้านของคุณมีสภาพที่ไม่เหมือนกับตอนแรก และพบว่าประตูบ้านถูกงัด หรือมีป้ายประกาศบางอย่างมาติดไว้ที่หน้าบ้าน และเรื่องราวของคู่รักชาวอังกฤษคู่นี้ก็คงจะมีความรู้สึกที่ไม่ต่างจากคุณเลย หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับมาจากการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์และพบว่า บ้านของพวกเขาถูกล้อมเอาไว้ด้วยรั้วสูงเกือบ 2 เมตร! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Thomas Entwistle หนุ่มวัย 27 ปี และ Rebekah แฟนสาววัย 24 ปีของเขา หลังจากที่ทั้งคู่พบว่าบ้านของพวกเขาถูกล้อมด้วยรั้วไม้ที่สูงมิดบ้านชั้น 1 และห่างจากตัวบ้านเพียงแค่ 60 เซนติเมตรเท่านั้น ทั้งสองเชื่อว่ากำแพงดังกล่าวเป็นฝีมือของชาวนาเจ้าของที่ดินที่กำลังมีข้อพิพาทกับนักพัฒนาที่ดินที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงที่ดินผืนนี้ Thomas ให้สัมภาษณ์ว่า ครอบครัวของเขาเหมือนกับถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างข้อพิพาทนี้ “นี่คือบ้านในฝันของเรา และมันเหมือนกับฝันร้ายของเราเลย เราถูกจับเป็นตัวประกันของข้อพิพาทนี้ทั้งๆ ที่เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย” Thomas ให้สัมภาษณ์ ทั้งสองซื้อบ้านขนาด 4 ห้องนอนหลังนี้ในราคา 220,000 ปอนด์ (ประมาณ 9 ล้าน 3 แสนบาท) จากโครงการ Persimmon Homes Brook View เมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา แต่หลังจากที่พวกเขาออกไปฮันนีมูนที่สาธารณรัฐโดมินิกันเป็นเวลา 11 วันเมื่อช่วงต้นเดือน…
-
คุณปู่คุณย่าเนเธอร์แลนด์ กับแฟชั่น “เด็กแนว” ฉลองครบรอบวันแต่งงานครึ่งศตวรรษ
วันแต่งงานถือเป็นวันสำคัญที่จะต้องบันทึกลงไปในปฏิทินของคุณในทันที หลังจากที่คุณลงเอยกับใครสักคน และแน่นอนว่าทุกครั้งที่วันสำคัญนี้กลับมาครบรอบอีกครั้ง อย่างน้อยๆ คุณและคนรักก็น่าจะต้องออกไปทำอะไรพิเศษๆ ร่วมกันใช่ไหมล่ะ คุณ Sascha Luna Esmail ช่างภาพสาวชาวจากเนเธอแลนด์ได้ร่วมแสดงความยินดีกับคุณปู่และคุณย่าของเธอในโอกาสครบรอบวันแต่งงานปีที่ 55 ของทั้งคู่ เธอจัดการแปลงโฉมพวกเขาด้วยแฟชั่นแบบชาวสตรีต จนกลายมาเป็นภาพถ่ายสุดน่ารักที่คุณกำลังจะได้เห็นต่อไปนี้… “สำหรับวันครบรอบ 55 ปีของทั้งคู่ ฉันได้จับพวกเขาแต่งตัวและถ่ายภาพแนวสตรีตแฟชั่นออกมา” Sascha Luna Esmail เล่าถึงที่มาของผลงานชุดนี้ ความน่ารักของคุณปู่และคุณย่านั้นบอกได้เลยว่าเท่ไม่แพ้ๆ กับเหล่านายแบบและนางแบบชาวฮิปที่เราเคยเห็นตามนิตยสารทั่วๆ ไปแน่นอน และนี่คือผลงานภาพถ่ายในวันครบรอบวันแต่งงานจากช่างภาพสาว . . ถึงจะเป็นแฟชั่นแบบสตรีต แต่ก็ดูเข้ากับคุณย่าไม่น้อยเลยนะเนี่ย คุณปู่ก็ด้วย!! . . . . . . ลุคเท่ๆ แบบนี้คู่ไหนอยากลองเอาไปทำตามบ้างก็ได้นะ… . ที่มา boredpanda
-
บอร์ด อสมท ถอดซีรีส์ “บังเอิญรัก” ชาวเน็ตลือเพราะ “ความรักของเพศที่สามไม่จรรโลงใจ”
เมื่อนวันที่ 27 พฤษภาคม 2018 ได้มีเหตุการณ์ช็อกวงการแฟนคลับสายวายบนโลกโซเชียลขึ้น เมื่อซีรีส์ บังเอิญรัก หรือ Love By Chance ที่กำกับโดย ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล ต้องถูกถอดออกจากกำหนดการของทาง MCOT HD อย่างกระทันหัน โดยซีรีส์บังเอิญรักเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของชายรักชาย ที่นำแสดงโดย เพิร์ธ ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร และ เซ้นต์ ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา ซึ่งเดิมทีแล้วจะต้องมีการเปิดตัวที่ ช่อง 9 อสมท อย่างเป็นทางการในวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่แล้วกลับมีคำสั่งด่วนจากทาง อสมท ให้ระงับการออกอากาศแบบไม่มีกำหนดก่อนออกอากาศเพียง 3 วัน ซึ่งทำให้เกิดความสับสนจากทางทีมงาน และเหล่าแฟนๆ ที่รอดูซีรีส์เรื่องนี้มาเป็นเวลานานอย่างมาก และนั่นก็ทำให้เกิดข่าวลือที่ว่า ทางบอร์ดบริหารได้ระงับการออกอากาศด้วยเหตุผลว่า ความรักของเพศที่สามมันไม่จรรโลงใจ จนกลายเป็นกระแสการการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกอินเตอร์เน็ตว่าทาง อสมท นั้นกีดกันเพศที่สาม โดยมีเพจเฟซบุ๊กจำนวนมากที่ได้แชร์ข่าวนี้ออกไปเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่า บังเอิญรัก นั้นจะไม่ใช่ซีรีส์ความสัมพันธ์ของเพศที่สามเรื่องแรกที่ได้ออกฉายกับทางช่อง MCOT เพราะก่อนหน้านี้ทาง MCOT ได้นำซีรีส์รูปแบบนี้มาลงเป็นจำนวนหลายเรื่องแล้วเช่น เลิฟซิก และเรื่อง รักออกเดิน แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่มีซีรีส์ความสัมพันธ์ของเพศที่สามถูกถอดออกไปก่อนออกอากาศ …
-
บ่าวสาวขาร็อค… คว้าไม้ประชันจังหวะกลอง ส่งท้ายแบทเทิลประทับใจ กระทืบกลองได้ทั้งคู่!!
ปัจจุบันมักจะมีสีสันเกิดขึ้นในงานแต่ง ที่มากกว่าการจูงมือมาเข้าพิธีวิวาห์ บอกคำมั่นสัญญา สวมแหวนและจูบบ่าวสาว ตามประเพณีสากลที่ยึดปฏิบัติกันมาเนิ่นนาน หากจับคู่สายอาชีพอันเป็นตัวตนของเจ้าบ่าว เจ้าสาว มาใช้ในงานแต่ง ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศความครื้นเครงและสีสันให้ได้มากยิ่งขึ้นได้อย่างคู่รักมือกลองคู่นี้แหละ!! Maya Tuttle และ Dan Pawlovich เพิ่งจะแต่งงานกันไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และในงานแต่งของทั้งคู่ก็ได้ทำการโชว์ทักษะด้านกลองชุด ให้กับแขกเหรื่อภายในงานได้ชมกันอย่างเด็ดดวง!! ยืนกอดเต้นรำกันเฉยๆ มันเชยไปแล้ว ทั้งสองต่างเป็นมือกลองประจำวงดนตรีชื่อดังอยู่แล้ว อย่าง Dan ก็มาจากวง Panic! At the Disco ส่วน Maya ก็เป็นมือกลองของวง The Colourist แค่ชื่อวงก็การันตีฝีมือได้แล้วววว https://www.instagram.com/p/BgfFbSSADhf/ ว่ากันว่าคนที่แต่งงานกันมักถูกแรงดึงดูดจากสิ่งตรงข้าม เพื่อเชื่อมในสิ่งที่ขาดหายไป แต่สำหรับสองคนนี้ต่างแชร์สิ่งที่ชื่นชอบเหมือนๆ กัน จึงเป็นความผูกพันทางจังหวะชีวิตและจังหวะกลอง เพราะแทนที่จะมาจับคู่เต้นรำสวีตหวานแหวว บอกเลยว่าไม่ ไปเอากลองชุดมาตั้งประชันหน้ากัน คว้าไม้ติดตัวมาด้วย บรรเลงจังหวะเปิดแบทเทิลโลดดดด!! ภายหลังจากจบโชว์แล้ว…
-
เด็ก 11 ขวบนอนไร้สติจนต้องเข้าโรงพยาบาล หลังสูบบุหรี่สอดไส้ยาเสพติด
เมื่อวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ในเมือง Bridgend ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวลส์ หนึ่งในสี่ประเทศที่รวมกันเป็นสหราชอาณาจักร ได้เกิดเหตุการณ์เด็กหนุ่มวัย 11 ปีที่มีชื่อว่า Logan Johns-Evans ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลในสภาพไร้สติ มารดาของเขา Jade Johns อ้างว่าลูกชายของเธอนั้นต้องเข้าโรงพยาบาลหลังจากที่สูบบุหรี่ทำมือที่มีการใส่ “Spice” ยาเสพติดสังเคราะห์ซึ่งกำลังระบาดอย่างหนักในประเทศเข้าไป ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม เธอเล่าว่าลูกชายของเธอนั้นทำตัวเหมือนกับถูกสัตว์ประหลาดยึดร่างไม่มีผิด เขามีอาการเหม่อลอยไร้สติคล้ายกับเป็นซอมบี้ตลอดช่วงเย็นของวันอาทิตย์ และไม่ยอมตอบสนองใดๆ เลยในเช้าวันจันทร์ตอนที่เธอไปปลุก แม้ทางทีมแพทย์จะไม่สามารถตรวจพบการเสพติดจากปัสสาวะของเด็กหนุ่มได้ในตอนที่เด็กหนุ่มไปถึงโรงพยาบาล แต่อาการอื่นๆ ทั้งหมดที่ตรวจพบนั้นล้วนแต่เป็นอาการของการเสพ Spice เข้าไปทั้งสิ้น อย่างอัตราการเต้นของหัวใจสูง อาเจียน สับสน และมีพฤติกรรมรุนแรงเป็นต้น Logan Johns-Evans ได้สติขึ้นมาในวันอังคารที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งนับเป็นเวลาราวๆ 33 ชั่วโมงนับตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลไป แต่เขากลับไม่มีความทรงจำใดๆ ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์และคิดว่าตัวเองเพิ่งจะมาถึงโรงพยาบาลเท่านั้น “เป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันไม่เคยสวดภาวนากับพระเจ้าเลยจนกระทั่งวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ ผู้คนจำเป็นต้องรู้ถึงเรื่องนี้เพราะเขากลับมาบ้านในวันอาทิตย์และดื่มชาของเขาตามปกติ ยาตัวนี้มันออกผลแบบล่าช้าได้ มีคนหลายคนเล่าให้ฉันฟังว่ายาตัวนี้ส่งคนหลายคนไปเข้าคุกมาแล้ว เพราะมันไม่สามารถตรวจพบได้ในการทดสอบยาเสพติด” Jade Johns บอกเล่าประสบการณ์ที่เธอต้องพบ…
-
สะพานเป่ยผานเจียง สะพานแขวนที่สูงที่สุดในโลก จากทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน
ประเทศจีนถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เรียกได้ว่ามีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี และการก่อสร้างที่ล้ำหน้ามากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก และในวันนี้ #เหมียวเวจจี้ ก็จะขอพาเพื่อนมารู้จักกับอีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างจากประเทศจีน ที่มีทั้งความสวยงาม แถมยังสามารถคว้ารางวัลระดับโลกมาครองอีกด้วย ซึ่งสถานที่แห่งนั้นก็คือสะพานเป่ยผานเจียง สะพานขึงที่สูงที่สุดในโลก!! สะพานจากทางทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นด้วยเม็ดเงินกว่า 146.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,686 ล้านบาท) และมีการเปิดใช้เมื่อประมาณปลายปี 2016 ที่ผ่านมา สะพานเป่ยผานเจียงมีความยาวด้วยกันทั้งสิ้น 1,328 เมตร และมีการแบ่งช่องทางจราจรออกเป็น 4 ช่องด้วยกัน ตัวละพานมีเสาขนาดยักษ์ 2 เสาที่คอยยึดสะพานอยู่ และมีความสูงจากพื้นดินถึง 565 เมตร และนอกจากจะได้รับการยกให้เป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในโลกแล้ว สะพานเป่ยผานเจียงยังได้รับรางวัล Gustav Lindenthal จากงานสะพานนานาชาติครั้งที่ 35 อีกด้วย ซึ่งเหรียญรางวัลดังกล่าวถือเป็นเหรียญรางวัลด้านการออกแบบทางวิศวกรรม ซึ่งเปรียบได้กับรางวัลโนเบลทางด้านการก่อสร้างเลยทีเดียว ภาพระหว่างการก่อสร้างอาคาร ไปชมบรรยากาศความอลังการของสะพานแห่งนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างเลย… ที่มา marketwatch, China Xinhua News
-
มุมภาพพางง… จากที่เห็นมีกี่คนกันแน่ ชาวเน็ตแคลงใจเหลือเกิน พี่ชายลงทุนใส่ส้นสูงเลยรึ?
ภาพที่ปรากฎในโลกออนไลน์ทั้งสวยงามบ้าง ตลกโปกฮาบ้าง มีมาให้เห็นกันแทบทุกวัน แต่ทว่าภาพชวนทำลายสายตา ทำลายสมอง เพราะเนื่องจากเป็นภาพลวงเหล่านี้ ก็มักจะโผล่ออกมาให้เห็นเช่นกัน… ภาพนี้เป็นภาพถ่ายธรรมดาๆ ที่จะเห็นได้ว่า มีผู้ชายกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับหญิงสาวบนเก้าอี้ แต่สิ่งที่เรากำลังเห็นกันอยู่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอ? เริ่มต้นจากทวิตเตอร์ @Boom_likean808 ได้โพสต์ภาพนี้ไปเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2018 และกลายมาเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตยังหาคำตอบกันไม่ได้!? At first i thought he was wearing the heels pic.twitter.com/GSqurm3AcE — Charles Joseph (@Boom_likean808) May 24, 2018 เรามาวิเคราะห์กันให้เห็นชัดๆ ว่า เอาล่ะ… มีผู้ชายกำลังโอบหลังผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แบบนี้นะ เชื่อเลยว่าคนที่เห็นภาพปุ๊บ มองยังไงก็มองไม่ออก นี่พี่ชายกำลังใส่ส้นสูงจริงๆ เหรอ!? เอาเข้าจริงๆ ก็มองไม่ออกนะ ลองมองดูอีกที ผู้ชายเป็นคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ส่วนผู้หญิงก็เป็นฝ่ายโอบข้างหลังต่างหากล่ะ…
-
เพราะเป็นเด็กต้องช่วย!! หนุ่มปีนไต่ตึกสูง 4 ชั้น ไม่หวั่นตัวเองร่วง จนนายกเทศมนตรีชื่นชม
การจะเป็นฮีโร่ในชีวิตจริงนั้น คุณไม่จำเป็นจะต้องแต่งตัวให้ดูดีมีเอกลักษณ์ ไม่ต้องสวมผ้าคลุมไว้บนบ่า เพราะถ้าหากมัวแต่แต่งตัวอาจจะช่วยชีวิตคนไม่ทันก็เป็นได้!! ใครจะรู้ล่ะว่า ช่วงวินาทีชีวิตของคนที่ตกอยู่ในอันตรายนั้นจะสามารถยื้อเวลาได้นานแค่ไหน… เพราะฉะนั้นแล้วหากใครคนหนึ่งกล้าหาญชาญชัย พร้อมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อช่วยอีกหนึ่งชีวิต ก็ต้องลงมือทันทีไม่ต้องคิดอะไรอื่น เหตุเกิดขึ้นในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ณ บริเวณแฟลตขนาด 4 ชั้น ปรากฎเป็นภาพของเด็กชายวัย 4 ขวบ กำลังห้อยตัวลงมาจากระเบียง โดยที่ไม่มีใครรู้ชะตากรรมว่าเด็กชายจะทนได้อีกนานแค่ไหน . แต่แล้วฮีโร่ในชีวิตจริง ทราบนามว่า Mamoudou Gassama ชาวมาลี ใช้วิชาตัวเบาของตนปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว!! จนกระทั่งสามารถคว้าตัวเด็กชายมาได้สำเร็จ และรอดปลอดภัยทั้งคู่ ท่ามกลางเสียงเชียร์จากประชาชนด้านล่างที่เห็นเหตุการณ์ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทางด้าน Anne Hidalgo นายกเทศมนตรีปารีส ได้กล่าวยกย่องและทำการขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัวด้วย Un grand bravo à Mamoudou Gassama pour son acte de bravoure qui a permis…
-
ส่อแววพลิก… โผล่แชต ‘ยางเยวอน’ สมัครใจรับงานถ่ายนู๊ดเอง ผิดกับที่อ้างถูกบังคับให้ทำ
เมื่อไม่นานมานี้ ‘ยางเยวอน’ นางแบบและยูทูบเบอร์ชาวเกาหลีใต้ ได้ออกมาอัดคลิปวิดีโอพูดถึงเรื่องราวที่เธอโดนคุกคามทางเพศ จากการเซ็นสัญญาถ่ายแบบที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง จนมีภาพหลุดออกมา… (ข่าวเก่า) แต่แล้วข้อมูลลับจากอีกฝั่งถูกเปิดเผยจากแหล่งข่าว Money Today ที่อาจจะเปลี่ยนมุมมองข้อมูล ที่ถูกเปิดเผยจากทางฝั่งผู้เสียหายเพียงฝ่ายเดียว ยางเยวอน ภาพชุดดังกล่าวเป็นหลักฐานแชตผ่านแอปฯ KakaoTalk เป็นการพูดคุยกันระหว่าง ยางเยวอน และบุคคลผู้ถูกกล่าวหา (เอเจนซี่ของสตูดิโอ) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2015 จนถึงวันที่ 30 กันยายน เผยให้เห็นว่าเธอเป็นฝ่ายที่ติดต่อเข้ามาก่อน ทั้งนี้เมื่อทำการสืบจากการแชตดังกล่าว ยังไม่พบเบาะแสหรือเข้าข่ายในเรื่อง ‘การล่วงละเมิดทางเพศ’ และ ‘การกักขัง’ ที่มีการกล่าวหาจากฝั่งยางเยวอน เนื่องจากบทสนทนาชุดนี้ เธอได้ให้ทางเอเจนซี่จัดตารางงาน ทำการจองงานกับทางสตูดิโอเองแทบทั้งสิ้น ตารางงานที่อัดแน่นไปด้วยคิวของ ยางเยวอน ชาวเน็ตและสื่อต่างเริ่มแคลงใจจากวิดีโอที่ ยางเยวอน ได้กล่าวออกมา หลังจากที่ผ่านพ้นการถ่ายครั้งแรก ก็ไม่อยากจะถ่ายต่อแล้ว แต่ถูกบังคับให้ทำต่อจนครบ 5 ครั้ง เพราะถูกข่มขู่ด้วยข้อกฎหมายที่ทางสตูดิโอใช้สัญญามาบีบ จากหลักฐานแชตนี้ พบว่ามีการถ่ายแบบทั้งหมด…
-
จริงเหรอ!? Nicki Minaj เผยใน IG กำลัง “คบหา” กับแร็ปเปอร์รุ่นใหญ่ Eminem…
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างมาก เมื่อแร็ปเปอร์สาวหุ่นสะบึ้มอย่าง Nicki Minaj ได้เผยว่าตนนั้นคบหาดูใจอยู่กับแร็ปเปอร์หนุ่มรุ่นใหญ่อย่าง Eminem เรื่องนี้เป็นข่าวที่ทำให้ชาวเน็ตต่างตกใจและสงสัยกันอย่างมากเนื่องจาก ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพียงแต่มีกลิ่นความรักโชยออกมาเบาๆ ในอินสตาแกรมของ Nicki นั่นเอง https://www.instagram.com/p/BjL_7PAhI5J/?taken-by=nickiminaj เรื่องราวเริ่มขึ้นจากที่ Nicki โพสต์วิดีโอลงบนอินสตาแกรม ร้องเพลง Big Bank ซิงเกิลใหม่ของเธอ ซึ่งในเนื้อเพลงท่อนท้ายๆ มันชวนให้แฟนๆ คิดไปไกลว่าพูดถึง Eminem อยู่หรือเปล่า? หรือว่าทั้งคู่จะแอบกิ๊กกั๊กกันอยู่นะ? จากนั้นก็มีภาพที่ ทวิตเตอร์@hotrodminaj ถ่ายมา เป็นภาพคอมเมนต์ชาวเน็ตในโพสต์วิดีโอดังกล่างในอินสตาแกรมของ Nicki ที่มีชาวเน็ตคนหนึ่งทนไม่ไหว ถามเธอไปตรงๆ เลยว่า “กำลังคบกับ Eminem อยู่เหรอ?” แล้วเจ้าตัวก็ออกมาตอบอยากนิ่งๆ ว่า “Yes (ใช่แล้ว)” ทั้งนี้ชาวเน็ตก็คิดกันไปต่างๆ นานา ดูแล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงบ้าง หรือเป็นการแกล้งเล่นบ้าง ลองมาดูภาพด้านล่างที่ ทวิตเตอร์ @lindaikeji ถ่ายมากันต่อเลยดีกว่า ชาวเน็ตคนเดิมแต่เพิ่มเติมคือมี…
-
ความช่วยเหลือจากชายแปลกหน้าผู้ใจดี ปลอบเด็กสาวที่กำลังดื้อจนสงบ โซเชียลแห่ชื่นชม!!
บางครั้งการเดินทางไปไหนมาไหนกับลูก ก็ถือเป็นเรื่องที่สร้างความลำบากใจให้กับคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่น้อย ยิ่งเป็นการเดินทางบนเครื่องบินยิ่งแล้วใหญ่ การที่ลูกร้องเสียงดังหรือดื้อซน ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาได้โดยไม่ยาก แต่จากไฟลท์บินไปยังเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา Wesley Thomas ได้เดินทางไปกับครอบครัว พร้อมกับหลานสาวตัวน้อย 1 คน ที่ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะทำตัวดื้อรั้น และแน่นอนว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทั้งกับพ่อแม่ และเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ครอบครัวของ Wesly พยายามที่จะปลอบหลานสาวจอมวุ่น เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสารคนอื่นๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งลุกขึ้นมา ทุกคนต่างก็รู้สึกว่า ‘เป็นเรื่องแล้ว’ กลับกลายเป็นว่าเขาลุกขึ้นมาเสนอวิธีการแก้ปัญหาให้ซะอย่างงั้น!? “เธอชอบวาดภาพมั้ย?” เขาถามพร้อมกับเอาแท็ปเล็ตออกมาจากกระเป๋าจากนั้นก็พูดต่อว่า “ผมมีลูกสาว 4 คน และผมเข้าใจปัญหาแบบนี้ดี” . หลังจากนั้นหลานสาวตัวน้อยก็เริ่มเงียบ และวาดภาพในแท็ปเล็ตของคนแปลกหน้าอย่างสนุกสนาน ใบหน้าของเขาตอนที่มองไปยังหลานสาวตัวน้อยของ Wesley เป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เขานำเรื่องราวนี้ไปโพสต์ลงทวิตเตอร์ และพบว่ามีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดหัวใจถึง 373,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 94,000 ครั้งเลยทีเดียว…
-
สาวถูกไฟคลอกก่อนวัน ‘งานพรอม’ เพื่อนๆ เลยเซอร์ไพรส์ ยกมาจัดที่บ้านให้ซะเลย!!
เรื่องราวมิตรภาพอันแสนประทับใจ ที่เพื่อนๆ ได้มอบให้แก่เด็กสาววัย 15 ปีรายหนึ่ง ที่โชคร้ายต้องตกเป็นเหยื่ออุบัติเหตุไฟไหม้จนทำให้ต้องอดไปงานพรอม Korryn Bacher เป็นเด็กสาววัย 15 ปี ที่เรียนในโรงเรียน Glenbard East High School ในเมืองลอมบาร์ด รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเป็นเชียร์ลีดเดอร์ที่มีคนรู้จักมากมายในโรงเรียน และในช่วงใกล้จะปิดเทอมก่อนที่จะเลื่อนชั้นไปสู่ชั้นไฮสคูล เธอตั้งใจที่จะเข้าร่วมงานพรอมเหมือนกันกับเพื่อนๆ ร่วมชั้นคนอื่นๆ และในที่สุดก็มีหนุ่มคนหนึ่งมาขอเธอให้ไปร่วมงานพรอมด้วยกัน คือหนุ่มน้อย Jonathan ที่มาพร้อมกับการเซอร์ไพรส์สุดโรแมนติก แต่โชคร้ายที่ก่อนงานพรอมไม่นาน Korryn ประสบอุบัติเหตุที่เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล จากการเล่นพิเรนทร์ของเด็กผู้ชายคนหนึ่งในงานปาร์ตี้รอบกองไฟ เด็กผู้ชายคนนั้นต้องการที่จะทำให้ไฟลุกแรงขึ้น เขาก็เลยราดน้ำมันลงไป แต่มันเกิดระเบิดขึ้น!! Korryn และเด็กผู้หญิงวัย 11 ขวบ รวมไปถึงเด็กชายที่ราดน้ำมัน ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟคลอก Korryn ได้รับแผลไฟไหม้ระดับสามทั่วทั้งใบหน้า ลำคอ และบริเวณมือทั้งสองข้าง เธอต้องเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 13 วันด้วยกัน “ฉันไม่รู้ว่ามันหนักแค่ไหน จนได้เห็นสภาพของลูกในศูนย์ผู้ป่วย…
-
หนุ่มลองใจ ‘คนไร้บ้าน’ ทำกระเป๋าเงินตก เขาเก็บมาคืน แถมเอาเงินที่ให้ไปซื้ออาหารแจกคนอื่น!!
หนุ่มถ่ายคลิปลองใจ แกล้งทำกระเป๋าเงินตกต่อหน้าคนไร้บ้าน และผลที่ได้คือเรื่องราวน่าประทับใจ… ชายไร้บ้านเก็บกระเป๋าเงินขึ้นและนำมันไปคืนให้กับ Waqas Shah ที่เป็นยูทูบเบอร์ ในกระเป๋ามีเงินอยู่ทั้งหมด 5,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 160,000 บาท “เฮ้นาย! นายทำกระเป๋าเงินตกน่ะ ตกอยู่ตรงนั้น” ชายโฮมเลสเรียก Waqas พร้อมกับชี้นิ้วไปที่จุดเกิดเหตุ “คุณเป็นคนไร้บ้านใช่มั้ยครับ? คุณเอาเงินมาคืนให้ผม” Waqas ตอบกลับไป “การนำมันมาคืนมันก็ถูกแล้วนี่ ผมไม่ขโมยของใครหรอกนะ” ชายโฮมเลสกล่าว “การที่คุณนำมันมาคืนให้ผม ผมจะตอบแทนคุณก็แล้วกัน คุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณที่เอามันมาคืนให้ผมนะครับ” Waqas กล่าว เรื่องราวความประทับใจยังไม่จบอยู่เท่านี้ หลังจากที่ Waqas เดินจากไป กล้องยังคงจับอยู่ที่ชายโฮมเลส ปรากฏว่าเขานำเงินที่ได้เป็นของตอบแทนไปซื้ออาหาร แล้วเอาไปแจกจ่ายให้กับโฮมเลสคนอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกนั้น Waqas เดินตามชายโฮมเลสไปอีกครั้งเพื่อสอบถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ชายโฮมเลสก็ตอบกลับมาว่า “การให้เป็นสิ่งที่เราควรทำ หากเราให้ไปเท่าไหร่…
-
หมับเข้าให้!! ชายมีเรื่องกันบนถนนเลยประนีประนอมด้วยการ ‘จูบปาก’ สุดท้ายหนักกว่าเก่า!!
ปกติแล้วการยั่วให้โกรธหรือโมโหก็อาจจะมีวิธีหลายๆ อย่างเช่น การเต้นแร้งเต้นกา หรือใช้คำพูดที่บันดาลโทสะ แต่ว่ามีชายคนหนึ่งที่ไม่ทำอย่างนั้น เพราะเขาไปยั่วคู่กรณีที่มีเรื่องกันกลางถนนด้วยการ ‘จุ๊บปาก’ ซะอย่างนั้น แล้วที่สำคัญคืออีกฝ่ายหนึ่งไม่ใช่ผู้หญิงด้วย งานนี้ก็เลยบานปลายไปตามระเบียบสิครับท่าน!! โดยเหตุการณ์สุดงงนี้เกิดขึ้นในวันพุธที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ ท้องถนนแห่งหนึ่งในมณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน เมื่อมีกลุ่มชายสองฝั่งกำลังยืนประจันหน้ากันด้วยเหตุขัดแย้งบางอย่าง… จะเอาป่ะล่ะ ในระหว่างนั้นก็มีการโต้เถียงกันไปมา แถมยังมีสิทธิ์จะพร้อมบวกอยู่เสมอถ้าหากดูได้จากลักษณะการยืนของชายทั้งสองกลุ่มนี้ แต่ว่าทันใดนั้นเองก็มีอะไรที่เกินกว่าจะใครจะคาดคิดเกิดขึ้น เมื่อมีชายหัวโจกของกลุ่มๆ นั้นที่กำลังโต้เถียงกับอีกฝ่ายอยู่ดีๆ ดันไปจูบปากของอีกฝ่ายหนึ่งซะอย่างนั้น ซึ่งก่อนที่เขาจะทำการแสดงความรักนี้ก็ได้มีประโยคหนึ่งที่เอ่ยขึ้นมาว่า “ไอ้หน้าโยนี” ร่วมด้วย เป็นไงล่ะ หวานชื่นรื่นรมย์ไหม แน่นอนว่าเมื่อเจออย่างนี้ใครหลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องอาจจะจบลงด้วยดี แต่ว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะว่าชายที่โดนจูบก็รู้สึกไม่พอใจจนลามไปถึงการบันดาลโทสะ ปรี่เข้าไปจะเอาเรื่องกับชายคนดังกล่าวให้ได้ ที่อยู่ดีๆ ดันเอาปากมาประกบซะอย่างนั้น เรื่องราวต่างๆ ดำเนินไปจนเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ จนทำให้ในที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องให้ พร้อมทั้งแยกทั้งสองคนให้กลับบ้านกันแต่โดยดี และทั้งสองเชื่อฟังอย่างง่ายดายยอมจบเรื่องบาดหมางแคลงใจลงในตอนสุดท้าย คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แม้ว่าการจูบคืนดีในกรณีนี้จะไม่ได้ผล แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยทำให้เรื่องต่างๆ ดูเบาบางลงได้เหมือนกันนะ ไม่แน่ว่าครั้งหน้าหากคุณมีเรื่องก็ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูสิ… จูบ…
-
คุณแม่จีนขายลูกสาวของตนเพื่อเงิน 250,000 บาท ก่อนจะนำเงินนั้นไปซื้อเครื่องสำอาง…
ถ้าพูดถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว หลายๆ คนมักจะพูดถึงความรักที่แม่มีให้ลูก เพราะกว่าจะมีเจ้าตัวน้อยออกมาลืมตาดูโลกให้เราเห็นได้นั้น แม่ต้องแบกลูกน้อยไว้ในครรภ์ถึง 9-10 เดือน แถมกว่าจะเลี้ยงลูกจนโตก็เรียกว่าเสียทั้งเวลาและเงินทองไปมากมาย แต่ทฤษฎีความรักที่ยิ่งใหญ่นี้ก็ไม่สามารถใช้ได้กับคุณแม่ทุกๆ คนบนโลก บางคนอาจจะเห็นลูกเป็นอะไรที่ไม่น่าเกิดขึ้นมาหรือบางคนก็อาจจะเห็นลูกเป็นเครื่องมือในการหาเงินเพียงอย่างเดียว เหมือนกับเรื่องของคุณแม่ที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ เป็นเรื่องของคุณแม่คนหนึ่งที่ใช้ลูกเป็นเครื่องมือในการหาเงิน เธอได้ขายลูกทิ้งแถมยังนำเงินที่ได้รับมาไปซื่้อเครื่องสำอางหน้าตาเฉย ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2018 ที่เพิ่งมาผ่านมานี้ คุณแม่คนดังกล่าวได้เดินเข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในเจิ้งโจวเมืองเอกของมณฑลเหอหนาน โดยที่เธอแจ้งความว่า Huahua ลูกสาววัยหนึ่งขวบของเธอนั้นหายตัวไป คุณแม่คนนี้มีนามสกุลว่า Yu มาจากมณฑลยูนนาน เธอบอกว่าเธอมาที่เจิ้งโจวเพื่อที่จะมาเที่ยวและเยี่ยมชมสถานที่ แต่ทันทีที่เธอมาถึงเธอกับลูกสาวของเธอก็ได้พลัดหลงกันที่สถานีรถไฟ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการสืบสวนคดีนี้เป็นเวลา 10 ชั่วโมง ตำรวจก็พบว่าสาวน้อยไม่ได้หายตัวไปเหมือนอย่างที่คุณแม่ได้บอกกล่าว ซึ่งกลับกันเลยเพราะที่ลูกสาวเธอหายไปเป็นเพราะฝ่ายคุณแม่เป็นคนขายลูกสาวออกไปต่างหาก โดยที่คุณแม่คนนี้ได้กล่าวว่าเธอถูกบังคับให้ขายลูกของตัวเองไปด้วยราคา 50,000 หยวนหรือ 250,000 บาทหลังจากที่มาถึงเมืองเจิ้งโจวแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นคุณแม่ก็นำเงินไปชอปปิงซื้อเครื่องสำอางไปด้วยเงิน 30,000 บาทและยังซื้อของอื่นๆ อีกด้วย แต่ด้วยการทำงานที่รวดเร็วของตำรวจ ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2018 ตำรวจก็สามารถแกะรอยตามหาสาวน้อยและส่งเธอคืนสู่อ้อมกอดของพ่อของเธอได้ในที่สุดและยังสามารถจับกุมสองบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าเด็กอีกด้วย จากเหตุการณ์ในคราวนี้คุณแม่คนนี้จึงได้ถูกยกไปเปรียบเป็นคุณแม่ที่เลวร้ายที่สุดแข่งกันกับคุณแม่อีกคนก่อนหน้านี้ที่ได้ใช้ลูกสาวที่ป่วยของตัวเองเป็นเครื่องมือรับบริจาคเงิน แต่แทนที่เธอจะนำเงินที่ได้รับบริจาคมาไปรักษาลูกสาว…
-
อยากนอนวัดญี่ปุ่นไหม? วัดทั่วญี่ปุ่นเตรียมเปิดเป็น Airbnb ให้คุณสามารถไปค้างคืนได้จริงๆ
หากพูดถึงคำว่า “นอนวัด” เราอาจรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะภาพที่อยู่ในหัวของคนทั่วๆ ไปคือการกินอยู่ที่ออกจะลำบากสักเล็กน้อย และสถานที่ที่เราก็รู้กันอยู่ว่ามันคือ “วัด” น่ะนะ แต่เชื่อไหมว่าคำคำเดียวกันนี้เองจะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป หากอยู่ที่ญี่ปุ่น ในญี่ปุ่นเองมีวัดอยู่หลายแห่งที่เปิดเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยวที่อยากจะสัมผัสประสบการณ์แบบสุนทรียศาสตร์และวิถีชีวิตอันเงียบสงบได้เดินทางไปท่องเที่ยวกัน (เชื่อว่าคนไทยกว่า 99% ที่ไปญี่ปุ่น อย่างน้อยต้องเคยไปวัดมาสักแห่ง) และด้วยความที่ธุรกิจ Airbnb (ที่ใครก็ได้สามารถเปลี่ยนบ้านหรือห้องให้กลายเป็นโรงแรมขนาดเล็ก) ได้ขยับขยายธุรกิจเข้าไปในญี่ปุ่น ทำให้เกิดแรงผลักดันอย่างมากมาย จึงเกิดเป็นบริการที่ชื่อว่า “เทระฮาคุ” ที่กำลังจะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2018 ที่จะถึงนี้ อธิบายกันแบบให้เห็นภาพก็คือ เทระฮาคุ คือระบบค้นหาและการจองสำหรับที่เลือกที่พักในวัดทั่วญี่ปุ่น การเข้าใช้ระบบที่ว่านี้ นักท่องเที่ยวแบบเราๆ จะสามารถค้นหา เลือกดู และจองวัดได้อย่างง่ายดายผ่านโน้ตบุ๊กและสมาร์ตโฟน การเปิดบริการแบบนี้จะช่วยเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติได้มาก ซึ่งก็หมายความว่าแหล่งชุมชนนั้นๆ เองจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย เป็นการช่วยพัฒนาชุมชนไปอีกทาง ตอดลระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งวัดและศาลเจ้าต่างๆ ที่ยังคงอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เข้ากับวัตถุประสงค์ต่างๆ จากโรงเรียนไปจนถึงโรงพยาบาลจิตเวช ถ้าหากบริการอย่างเทระฮาคุเติบโตขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งเราอาจได้เห็นวัดกลายเป็นศูนย์กลางและด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าสู่ญี่ปุ่นก็เป็นได้ . . . ที่มา soranews24
-
ตำรวจคูเวตพบยาอี 178 เม็ดบนหลังของนกพิราบที่บินมาจากอิรัก นี่มันพิราบส่งยาชัดๆ
รู้สึกว่าหลังๆ มาเราจะได้เห็นข่าวการขนส่งยาเสพติดด้วยวิธีการแปลกๆ กันมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการซุกไว้ตามซอกรถหรือการยัดไว้ในของลับ หรือทวารหนัก จนบางครั้งก็ถึงกับสงสัยว่าทางตำรวจก็ยังอุตส่าห์ไปหาเจอได้อีกนะ เก่งกันจริงๆ เลย แต่ในครั้งนี้นั้น คงจะบอกว่าเป็นวิธีการใหม่ก็คงพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะว่าการขนส่งยาในครั้งนี้ มีการใช้นกพิราบในการขนยานั่นเอง โดยเจ้าวิธีการขนยาเสพติดสุดโบราณคลาสิกในครั้งนี้นั้น ถูกค้นพบโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประเทศคูเวต ซึ่งมีการติดตามนกต้องสงสัยตัวหนึ่งที่บินมาจากอิรักตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว จากการรายงานของนังสือพิมพ์ในท้องถิ่น นกตัวที่ว่านี้ได้มีการแบกยาอี 178 เม็ดเอาไว้ในถุงผ้าที่ผูกไว้บนหลังของมัน และถูกจับได้ที่อาคารใกล้กับกรมศุลกากรของประเทศ จริงอยู่ว่านกพิราบนั้นมักจะถูกฝึกให้ส่งข้อความมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว แถมยังบินได้ไกลถึง 18,000 กิโลเมตร ด้วยความเร็วราวๆ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีการทำการฝึกนกพิราบเพื่อให้ขนส่งยาเกิดขึ้นจริงๆ ในยุคนี้ เนื่องจากนกพิราบนั้นมีขนาดที่ค่อนข้างจะเล็กจึงไม่สามารถขนส่งยาในปริมาณมากๆ ได้ อีกทั้งยังต้องเสี่ยงกับความไม่แน่นอนที่ว่านกพิราบจะบินไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยหรือไม่อีก ดังนั้นไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในการขนส่งยาเสพติดด้วยนกพิราบกลุ่มใหญ่ก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ จากทางตำรวจ อย่างไรก็ตามการที่มีคนกล้าพอที่จะใช้วิธีสุดโบราณอย่างการใช้นกพิราบมาส่งยานั้นก็เป็นที่สนใจของชาวอินเตอร์เน็ตกันไม่น้อย โดยมีชาวเน็ตจำนวนมากที่ออกมาแสดงความเห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แปลก!! ปกตินกพิราบ (Pigeon) น่าจะมีแค่ “อี” เดียวสิ ว่าแล้วว่านกพิราบมันต้องวางแผนร้ายไว้แน่ๆ ไม่รู้ล่ะ…
-
1 ในอาชีพยอดแย่!? ‘คนงานลอกคลอง’ งานที่ต้องเจอสิ่งสกปรกโดยไร้เครื่องป้องกันใดๆ
“ไม่เลือกงานไม่ยากจน” เป็นประโยคที่เรามักได้ยินอยู่บ่อยๆ ยิ่งสำหรับเด็กจบใหม่ที่ในยุคนี้ที่ชอบโดนผู้ใหญ่ว่ากล่าวว่าชอบเลือกงาน ทำให้หางานยากขึ้นไปอีก แต่ที่เป็นแบบนี้ก็อาจจะเป็นคนรุ่นใหม่นั้นอยากที่จะทำงานที่ตัวเองชอบ ที่ตัวเองถนัดหรือมีความคุ้มค่าต่อการที่จะลงมือและลงแรงทำมัน ซึ่งก็มีหลายๆ อาชีพที่ต้องมีการอุทิศตนทำงานอย่างยากลำบากแต่ค่าตอบแทนที่ได้มาช่างไม่คุ้มเอาเสียเลยให้เราเห็นอยู่บ่อยๆ และอาชีพที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เช่นกัน นั่นคืออาชีพคนงานลอกคลองในประเทศบังกลาเทศ อาชีพสุดโหดที่เผชิญกับสิ่งสกปรกอยู่ตลอดเวลาทำงานเพื่อแลกค่าจ้างเพียงวันละประมาณ 300 บาทต่อวันเท่านั้น ณ เมืองธากา ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่ในประเทศบังคลาเทศ ผู้คนกว่า 14 ล้านคนมักจะประสบกับน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนักและระบบระบายน้ำทำงานได้ไม่ดีพอ รวมถึงเศษขยะที่เข้าไปติดอยู่ในท่อระบายน้ำ จึงต้องมีคนที่รับลงไปขุดลอกเศษขยะต่างๆ นานาที่เข้าไปอุดอยู่ในระบบระบายน้ำ ซึ่งคนงานเหล่านี้พวกเขาล้วนแต่ต้องลงไปขุดลอกคลองโดยตัวเปล่า ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆ จะมีก็เพียงแค่ท่อนไม้ที่เอาไว้ช่วยเท่านั้น ซึ่งดูจากงานแล้วเราก็คงคิดภาพออกว่ามันเป็นงานที่ค่อนข้างลำบาก ไหนจะต้องเผชิญกับสิ่งสกปรก ไหนจะต้องดำน้ำลงไปตัวเปล่าและที่สำคัญคือค่าจ้างของคนงานอาชีพนี้ที่น้อยนิดเพียงวันละ 192 – 320 บาทเท่านั้น นอกจากวิธีการทำงานที่ยากลำบากรวมถึงค่าจ้างที่ได้อันแสนน้อยนิดแล้ว อาชีพคนงานลอกคลองแบบนี้ยังถือว่าเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงอยู่ด้วย ในปี 2016 ที่ผ่านมานี้เอง ในนครมุมไบ ประเทศอินเดีย ได้มีรายงานมีคนงานลอกคลองสองคนได้เสียชีวิตขณะที่กำลังทำงานอยู่ ถึงแม้ว่าทางการจะบอกว่าเป็นสองคนในคนงานหลายสิบคนก็ตาม ก็นับว่ามีความเสี่ยงอยู่ดี เพราะว่าพวกเขาไม่มีเครื่องป้องกันใดๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่เลย ซึ่งเมื่อเทียบวิธีการทำงานที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆ ต้องดำลงไปลอกคลองทั้งตัวเปล่าแล้ว ค่าจ้างที่ได้รับนี่มันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย ทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นอาชีพที่ช่วยให้เมืองๆ หนึ่งผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วมไปได้แท้ๆ…
-
คนขับรถพร้อมใจหยุดให้คุณยายข้ามถนน ทำให้เห็นว่าโลกใบนี้ยังมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเสมอ
คลิปวิดีโอน่ารักๆ นี้ถูกเผยแพร่ทางแฟนเพจ China Xinhua News ซึ่งได้เผยให้เห็นความมีน้ำใจของผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต่างพร้อมใจกันหยุดรถ ให้คุณยายคนหนึ่งข้ามถนน ตามรายงานระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริเวณแยกแห่งหนึ่งในเมืองสือเยี่ยน มณฑลหูเป่ย ซึ่งรถต่างหยุดให้ถึงแม้ว่าสัญญาณไฟจะเป็นสีเขียวก็ตาม คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณยายค่อยๆ เดินข้ามถนนมาอย่างช้าๆ จนกระทั่งคุณตำรวจต้องเข้ามาช่วยพยุงเธอ เป็นเวลาเกือบ 1 นาทีที่รถทั้งคันใหญ่และคนเล็กต่างหยุดรอให้เธอข้าม โดยไม่ได้เร่งหรือพยายามขับตัดหน้าคุณยายเลย ภาพความมีน้ำใจในการใช้ถนนนี้ได้รับความชื่นชมจากโลกออนไลน์อย่างมาก มีผู้แชร์คลิปดังกล่าวมากกว่า 150 ครั้ง และเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอีกมากมาย “ความเอื้ออาทรต่อกัน เป็นคุณธรรมที่ทำให้สังคมมีความสุขมีความอบอุ่น เหมือนสวรรค์ที่เราช่วยกันสร้างได้” ความคิดเห็นจากชาวเน็ตรายหนึ่ง นอกจากนี้หลายๆ คนยังได้บอกเป็นเสียงเดียวกันอีกว่า ภาพที่พวกเขาได้เห็นนั้นช่างเป็นวินาทีที่แสดงให้เห็นความมีน้ำใจที่ยังมีให้เห็นและน่าประทับใจไม่น้อยเลย นี่อาจจะเป็นเหมือนกับเรื่องเล็กๆ ที่เกิดขึ้น แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่าโลกใบนี้ยังมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ ที่มา China Xinhua News
-
สนใจมั้ยล่ะ ‘บ้านบนเกาะส่วนตัว’ ในคอนเนคทิคัต ประกาศขายในราคา 156 ล้านบาท!!
‘ความฝันสูงสุด’ ของใครหลายๆ คน ที่เคยพูดกันเล่นๆ ว่าอยากจะซื้อบ้านบนเกาะเอาไว้ซัก 1 หลัง แต่เพื่อนๆ เคยคิดไหมว่าหากเราจะซื้อบ้านบนเกาะส่วนตัวจริงๆ แล้วราคามันจะประมาณไหน หรือรูปร่างหน้าตาของเกาะ หรือบ้านมันจะเป็นแบบอย่างไรกันนะ? สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาทุกคนไปชมบ้านบนเกาะส่วนตัว ที่ประกาศขายในคอนเนคทิคัต ที่กำลังถูกประกาศขายอยู่ในขณะนี้ บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนเกาะที่มีชื่อว่า ‘เกาะมันฝรั่ง’ หรือ Potato Island เป็นหนึ่งในพื้นที่เกาะเล็กๆ ที่อยู่ในเมืองคอนเนคทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื้อที่บนเกาะมีขนาด 4,450 ตารางเมตร ขนาดพื้นที่ใช้สอยในบ้านมีขนาด 359 ตารางเมตร เป็นบ้านที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ถูกสร้างขึ้นมาในปี 1912 แม้จะมีอายุมากแล้วแต่ก็ได้รับการรีโนเวตใหม่จนออกมาดูทันสมัย และน่าอยู่อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียวล่ะ ในบ้านประกอบไปด้วยเตาผิงไฟที่ทำมาจากหิน, ห้องทำอาหารที่เผยให้เห็นวิวทะเลอันสวยงาม,ระเบียงบ้านรับลมจากทะเล, ห้องนอนที่มีหน้าต่างติดกับทะเล 4 ห้อง, ห้องน้ำ 3 ห้อง แถมยังมีอ่างจากุชชี่ให้ด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนเสริมอื่นๆ อีกมากมาย…
-
หนุ่มวัย 30 ปี ไม่ยอมย้ายออกจากบ้าน จนพ่อและแม่ต้องฟ้องศาล
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ครอบครัวหนึ่งได้ฟ้องร้องลูกชายวัย 30 ปี เนื่องจากเขาไม่ยอมย้ายออกจากบ้าน ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะขอร้องหรือเสนอเงินให้ออกไปก็ตาม Mark และ Christina Rotondo ได้ยืนคำร้องต่อศาลนิวยอร์กเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมาเพื่อขอศาลสั่งให้นาย Michael ลูกชายวัย 30 ปีขนของออกจากบ้าน นี่ไม่ใช่ความพยายามในการไล่ Michael ออกจากบ้านครั้งแรกโดยพ่อแม่ของเขา แต่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาพ่อแม่ของเขาได้ส่งจดหมายฉบับแรกให้หนุ่มวัย 30 ปี เตรียมขนของออกจากบ้าน โดยมีเนื้อความในจดหมายว่า “หลังจากที่คุยกับแม่ของนายแล้ว เราตัดสินใจที่จะให้นายออกจากบ้านในทันที นายมีเวลา 14 วันที่จะย้ายของ และจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาที่นี่อีก เราทำทุกวิถีทางแล้ว และจำเป็นต้องบังคับใช้กฎนี้” จดหมายฉบับแรกที่ทางครอบครัวขอร้องให้เขาย้ายออกจากบ้าน นอกจากจดหมายฉบับแรกแล้ว พ่อแม่ของ Micheal ยังได้ส่งจดหมายอีกกว่า 5 ฉบับเพื่อขอร้องให้เขาออกจากบ้าน รวมทั้งเสนอเงิน 1,100 เหรียญ (35,000 บาท) เพื่อเป็นเงินสำหรับการหาที่พักใหม่ให้กับเขา แต่ชายหนุ่มกลับปฏิเสธ หลังจากการพิจารณาคดีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Micheal ปฏิเสธที่จะย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ของเขา โดยชายหนุ่มอ้างว่าทั้งสองต้องแจ้งเขาล่วงหน้าอย่างน้อย…
-
คุณพระ!! หนุ่มถูกหาว่าข่มขืนสาว เลยควัก ‘กระปู๋’ ออกมากลางศาล เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ซะเลย
ถ้าคุณเป็นคนที่ถูกกล่าวหาว่ามีความผิด แน่นอนว่าคุณจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ให้สังคมและกระบวนการยุติธรรมได้เห็นว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไงใช่ไหมล่ะ และชายคนนี้ก็ต้องทำเช่นนั้นเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้เขาเลยจำเป็นต้องควัก ‘ไอ้จ้อน’ มาโชว์ให้ศาลดู เพื่อลบล้างข้อกล่าวหาที่ว่าเขาไปข่มขืนหญิงสาวคนหนึ่ง!! Desmond James อายุ 26 ปี คือผู้ที่ถูกกล่าวหาดังกล่าว เขาต้องเข้าสู่กระบวนการสืบสวนหาข้อเท็จจริงที่ศาลในเมืองนิวเฮเวน รัฐคอนเนนตทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในคดีนี้ใครจะไปคิดว่ากระปู๋ของเขาจะกลายเป็นกุญแจดอกสำคัญที่นำไปสู่การสอบสวนหาความจริง Desmond James ผู้ถูกกล่าวหา นั่นก็เป็นเพราะว่าผู้หญิงคนที่เป็นผู้ตั้งข้อกล่าวหาข่มขืนให้แก่เขาระบุว่า เธอถูกข่มขืนโดยชายที่มีอวัยวะเพศสีอ่อนกว่าส่วนที่เหลือของร่างกาย จึงทำให้ทนายของ James ปกป้องลูกความของเขาโดยระบุว่าอวัยวะเพศของ James นั้นมีสีที่เข้มกว่าร่างกายของเขาอย่างเห็นได้ชัด จึงได้ขอผู้พิพากษาให้ James ได้พิสูจน์ตัวเอง ด้วยเหตุฉะนี้จึงทำให้ James ได้รับอนุญาตให้ถอดกางเกงออกเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ทนายของเขาพูดนั้นเป็นจริงหรือไม่.. และผู้พิพากษา Elpedio Vitale คือผู้ที่ตอบรับคำขอดังกล่าว โดยเขาระบุว่าคำขอนี้อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 6 ของสหรัฐอเมริกาที่ครอบคลุมสิทธิในการพิจารณาคดี ซึ่งหลักฐานที่บ่งชี้นี้ค่อนข้างเป็นอะไรที่บอบบางและมีความเป็นส่วนตัวสูงจึงไม่ต้องมีใบรับรองหลักฐานใดๆ นั่นเอง เมื่อได้ยินดังนั้นนาย James ที่ยืนอยู่จึงดึงกางเกงของเขาลงทันทีเพื่อให้ศาลพิจารณา ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีหลายเสียงปนเปกันเต็มไปหมดทั้งเสียงหัวเราะและความช็อกที่ได้เห็นของลับเข้าเต็มๆ ลูกตา “ท่านเห็นแล้วใช่ไหมว่าอวัยวะเพศของลูกความผมมีสีที่เข้มกว่าผิวตัวของเขา ด้วยเหตุผลนี้ผมจึงคิดว่าท่านควรให้เขาพ้นผิดได้แล้วนะ” ทนายความของ James กล่าว นอกจากนี้ทนายความของ…
-
หญิงสาวถ่ายรูปคู่กับแม่ทุกวัน ตลอดเวลา 4 ปี จนกระทั่งวันสุดท้ายมาถึง….
ชีวิตของมนุษย์เราย่อมมีการเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นเรื่องธรรมดา แต่ละวันทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ทุกคนไม่ได้มีเวลาที่จะใช้ชีวิตเท่ากัน อยู่ที่ว่าใครจะสามารถใช้ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่นั้นได้มีค่ามากแค่ไหน เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องของสาวน้อยเจ้าของทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า @nanatat07 ที่ได้มาถ่ายทอดเรื่องราวของเธอกับคุณแม่ นับตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามาใช้ชีวิตช่วงวัยมัธยมปลาย “เมื่อวานเป็นวันสุดท้ายของฉันที่โรงเรียนมัธยม เป็นเวลา 4 ปีฉันได้ถ่ายรูปกับแม่ในวันแรกและวันสุดท้ายของการเรียน แม่ไม่สามารถอยู่ได้จนถึงท้ายที่สุด แต่ความเข้มแข็งของเธอทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นในช่วงเวลานี้ ฉันฟันฝ่าทุกความยากลำบากนี้ก็เพื่อแม่นะ!” ไม่มีคำบรรยายใดๆ เพียงแค่เลื่อนดูรูปภาพแต่ละรูปก็สามารถรับรู้เรื่องราวของเธอได้โดยที่ไม่ต้องพูดอะไร ปีที่ 1 หาอะไรหวานๆ ทานตามประสาแม่ลูก ปีที่ 2 ก็ยังพากันไปหาอะไรทานตลอดตามประสาสาวๆ ปีที่ 3 แม่ป่วยเป็นมะเร็ง แต่ก็ยังตระเวนหาของอร่อยๆ กินกับลูกสาวอยู่เสมอ ปีที่ 4 จนกระทั่งวันสุดท้ายของแม่มาถึง… ทวีตต้นฉบับได้รับการรีทวีตไปมากกว่า 594,000 ครั้ง และกดหัวใจไปมากกว่า 125,000 ครั้ง และมีข้อความที่เมนชั่นเข้ามาให้กำลังใจเธอมากมาย #เหมียวบู้บี้ ก็ขอให้สู้ต่อไปนะสาวน้อย https://twitter.com/nanatat07/status/999276328657539072 …
-
พ่อลูกได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังพยายามแจกใบปลิวมากกว่า 180,000 แผ่น ใน 24 ปี
จากความพยายามอย่างไม่ลดละของคุณพ่อ ในที่สุดก็ได้พบเจอกับลูกชายของตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่เขาหายตัวไปเมื่อ 24 ปีก่อน!! คุณพ่อ Li Shunji และภรรยา Du Li พลัดพรากจากลูกชายของตัวเองไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ปี 1994 ขณะที่เขายังอายุได้ 3 ขวบ บนถนนที่แสนวุ่นวายในเมืองซีอาน ประเทศจีน Lei Lei ลูกชายวัย 27 ปี ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตรวจสอบ DNA เพื่อเทียบกับคุณพ่อของตัวเอง ในที่สุดก็ได้พบกับพ่อแม่ที่แท้จริงของตน คุณพ่อเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังว่า “วันนั้นผมออกจากบ้านไปขายผ้าที่ร้าน ผมไม่รู้เลยว่าลูกชายของผมเดินตามออกมาด้วย และมารู้ว่าเขาหายไปก็ต่อเมื่อภรรยาของผมมาหาที่ร้านและถามหาว่าลูกอยู่ที่ไหน ตอนนั้นขาผมชาไปหมด” ขณะเดียวกันทางด้านเด็กชายก็ถูกคู่รักคู่หนึ่งพบเจอ พวกเขาตัดสินใจที่จะรับเด็กคนนั้นมาเลี้ยงเป็นลูก เพราะหาพ่อแม่เด็กไม่พบ ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะคู่รักเลี้ยง Lei เหมือนกับเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง “ย้อนกลับไปในอดีต เทคโนโลยียังไม่ได้พัฒนาเหมือนเช่นทุกวันนี้ ทำให้เราไม่สามารถหาตัวเขาได้โดยง่าย” คุณพ่อเล่า จากนั้นคุณพ่อ Li ก็ตัดสินใจขายกิจการ และเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อตามหาลูกชายของตนเอง…
-
พลเมืองดีผ่านมาเห็น ‘คนมักง่าย’ ทิ้งขยะในที่ดินคนอื่น เลยสั่งให้เก็บขึ้นรถเหมือนเดิม!!
‘ความมักง่าย’ เป็นพฤติกรรมของบุคคลที่มีให้เห็นกันอยู่ทั่วโลก แม้ว่าประเทศนั้นๆ จะมีความเจริญทางเทคโนโลยี และวัฒนธรรมแค่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะเรื่องของการ ‘ทิ้งขยะ’ โดยปกติแล้วหากนำไปทิ้งในที่ที่มีการจัดเอาไว้ให้ หรือเจ้าหน้าที่จากเทศบาลมารับไป ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่การเอาไปทิ้งในที่อื่นที่ไม่ใช่ที่ของตัวเองถือเป็นความมักง่าย เช่นเดียวกันกับครอบครัวสองสามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่เอาขยะจากบ้านตัวเองไปทิ้งในพื้นที่ฟาร์มของคนอื่นในเมือง เวสต์ ยอร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ แต่พวกเขาถูกจับได้เสียก่อน โดยพลเมืองดีที่ผ่านมาเห็นแบบพอดิบพอดี “ผมมาอยู่ได้ถูกที่ถูกเวลาพอดี มันแย่มากๆ ที่ผู้คนคิดว่าพวกเขาสามารถทิ้งขยะในที่ของคนอื่นได้ แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่เอาไปทิ้งที่สวนหลังบ้านของตัวเอง?” หนุ่มพลเมืองดีกล่าว “มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย และผมจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาได้ทำเรื่องที่ไม่ถูกต้องนี้ แล้วผ่านไปเฉยๆ ผมต้องหยุดการกระทำของพวกเขา” พลเมืองดียืนอยู่ตรงที่เดิมเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งคู่เก็บขยะที่นำมาทิ้งกลับไปไว้ที่รถของตนเอง แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็อ้างว่ามีขยะส่วนหนึ่งถูกนำมาทิ้งตรงนี้ก่อนหน้าที่พวกเขาจะนำขยะของตัวเองมาทิ้ง แต่พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าขยะเหล่านั้นยังคงแห้งอยู่ ทั้งๆ ที่ฝนตกหนักมาทั้งคืน “มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ การทิ้งขยะเรี่ยราดแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ผู้คนมักจะนำขยะมาทิ้งที่ตรงนี้ ทั้งโซฟา เก้าอี้ อุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ พวกเขามีสิทธิ์อะไรถึงได้มาทิ้งตรงนี้” “ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ยอมเอาไปทิ้งให้มันเป็นที่เป็นทาง ซึ่งมันไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไรอยู่แล้วด้วย” จากการสอบถามของพลเมืองดีก็พบว่าทั้งสองสามีภรรยาอ้างว่าโรงขยะปิด บอกว่าให้เอามาทิ้งในวันพรุ่งนี้ ทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจเอาขยะมาทิ้งตรงนี้แทน ทางด้านพลเมืองดี ที่ได้ทำการถ่ายคลิปวิดีโอของสองสามีภรรยาผู้มักง่ายมาลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็เพื่อเป็นการเตือนให้ผู้คนตระหนักว่าการทิ้งขยะที่ไหนก็ได้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง…
-
นักเรียนชั้นม.ต้น ของอังกฤษ ถูกส่งตัวกลับบ้าน เพราะ ‘ทรงผมไม่เรียบร้อย’!?
อย่างที่ใครหลายๆ คนรู้กันดีว่า ‘ประเทศอังกฤษ’ ถือเป็นประเทศที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม เป็นแบบเป็นแผน ไม่แตกต่างจากบ้านเราเท่าไหร่นัก จึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดจึงมีเหตุการณ์ที่คล้ายกับในบ้านเราเกิดขึ้น อย่างเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้ คุณแม่ Charlotte Healy ถึงกับงงหลังจากที่ลูกชายถูกส่งตัวกลับมาที่บ้านจากโรงเรียน Thomas More Language College ในเมืองเชลซี ประเทศอังกฤษ เพราะ ‘ทรงผม’ ของเขาไม่เรียบร้อย ทั้งๆ ที่ทรงผมของเขาก็ไม่ได้ฉูดฉาดจี๊ดจ๊าด แบบว่าทำโมฮอว์กพร้อมกับย้อมสีรุ้ง หรือตัดเป็นลายรูปหรรมส์ แต่อย่างใด แต่เพียงเพราะว่า Casey Healy ลูกชายวัย 14 ปีของเธอนั้นมีทรงผมที่ไม่ตรงกับระเบียบของทางโรงเรียนเท่านั้นเอง!! “ทรงผมของเขาก็ไม่ได้มีอะไรที่แปลกนะ ด้านข้างก็ไถเกรียน ส่วนด้านบนก็ยาวกว่าหน่อยนึง แต่เขากลับมาที่บ้าน ซึ่งมันไม่ควรจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น เขาไม่ควรถูกแยกออกมา” “เขากลับมาที่บ้านพร้อมกับความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับทรงผม ทั้งๆ ที่ตลอด 3 ปี ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ เขาไปเข้าเรียนตรงเวลาตลอด” “Casey ยังไม่ได้ไปที่โรงเรียนในวันนี้ และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาขาดเรียน ซึ่งเขาไม่ควรโดนกระทำแบบนี้ด้วยซ้ำ” คุณแม่เล่า…
-
จะกาวไปไหน? บริษัทญี่ปุ่นออกโฆษณาอนิเมะโปรโมต “กาว” ในวันแห่งการ “จูบ”
สำหรับที่ญี่ปุ่นแล้ววันที่ 23 พฤษภาคมถือว่าเป็นวันแห่งการจูบ โดยมีที่มาจากการที่วันที่ 23 พฤษภาคมนั้น เป็นวันที่มีการฉายภาพยนตร์ซึ่งมีฉากจูบเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น และเนื่องในโอกาสวันแห่งการจูบนี้เอง Aron Alpha เจ้าของแบรนด์กาวแห้งเร็วของญี่ปุ่นก็ได้ออกโฆษณาตัวใหม่ “Kimi ni, Kuttsuke!” (ติดไปกับคุณ) ซึ่งเป็นการ์ตูนรักโรแมนติกที่ทำออกมาเพื่อโปรโมตกาวอเนกประสงค์ของบริษัทนั่นเอง อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าคงมีหลายๆ คนที่เริ่มสงสัยกันไม่ใช่น้อยว่าไอ้วันแห่งการจูบเนี่ย มันมาเกี่ยวข้องกับกาวอเนกประสงค์ได้อย่างไรใช่ไหมล่ะ? จะบอกว่าตัวละครในโฆษณาจะเอากาวทาปากจูบกันรึก็คงไม่ใช่? คือจริงๆ แล้วมันเป็นการเล่นคำของทาง Aron Alpha นั่นเอง เพราะตัวคันจิของคำว่าจูบซึ่งในที่นี้ใช้ตัว “接” ซึ่ง สามารถแปลได้ว่าการยึดติด (ด้วยกาว) ได้อีกด้วยดังนั้นจะเอาวันแห่งการจูบมาโฆษณากาวมันจึงเป็นเรื่องที่ไม่แปลกอะไรเลย (รึเปล่าหว่า?) Kimi ni, Kuttsuke! นั้นออกมาในรูปแบบของเทรลเลอร์ที่มีความยาวสามรูปแบบ แบบเต็มที่ยาว 2 นาที แบบย่อที่มีความยาว 30 วินาที และแบบย่อยิ่งกว่าซึ่งยาวเพียง 6 วินาทีเท่านั้น แบบ 2 นาที แบบ 30 วินาที แบบ…
-
น่าทำงานไหม? Microsoft ลงทุนสร้างบ้านบนต้นไม้ เพื่อเพิ่มความสร้างสรรค์และใกล้ชิดธรรมชาติ
จากการศึกษาพบว่าการอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติจะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ สมาธิ และความสุขในการทำงาน เพื่อให้เกิดสภาวะแวดล้อมที่ดีในการทำงาน ทาง Microsoft เลยสร้าง “บ้านต้นไม้” เพื่อให้เหล่าพนักงานได้ทำงานท่ามกลางความสงบและความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง สำนักงานของ Microsoft สุดเก๋แห่งนี้มีขนาดใหญ่ราวๆ 2,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในแปซิฟิกนอร์ธเวส เรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา แวดล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียว และอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ก็ทำมาจากไม้ทั้งนั้น โดยที่ตัวออฟฟิศจะถูกยกสูงขึ้นจากพื้นราวๆ 3.6 เมตร ทั้งหมดนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Pete Nelson ผู้โด่งดังจากรายการทีวี Treehouse Masters และมีประสบการณ์ในการทำบ้านไม้มานานกว่า 20 ปี การสร้างบ้านต้นไม้นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “เขตกลางแจ้ง” ของ Microsoft ที่จะเชื่อมต่อตัวอาคารกับพื้นที่ด้านนอก ให้คนเดินไปมาได้สะดวก ที่นี่จะประกอบไปด้วยม้านั่งแบบกลางแจ้ง ปลั๊กสำหรับเสียบไฟ Wi-fi เก้าอี้โยก เตาผิง หลังคาไม้ ที่ใช้แสงอาทิตย์มาหักเหจนสามารถส่องสว่างในอาคารได้โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟ อีกทั้งยังมีทางลาดสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายด้วย ถ้าคุณทำงานอยู่แล้วเกิดรู้สึกหิว ที่นี่มีโรงอาหารในร่มด้วย และยังมีร้านบาร์บีคิวที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ใกล้ๆ ให้คุณเดินไปซื้อได้แบบง่ายๆ ทั้งหมดทั้งมวลนี้…
-
ชาวอเมริกันช่วยกันแก้จดหมายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งให้ คิมจองอึน ราวกับงานเด็กมัธยม
กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์กันยกใหญ่ เมื่อชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งพากันนำเอาจดหมายที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ขียนถึง คิม จองอึน มาตรวจทานแล้วพบว่ามีการใช้ไวยากรณ์ที่ผิดหลัก จนต้องมีการนำมาแก้กันใหม่พร้อมกับให้เกรด D และ F โดยในจดหมายนี้มีเนื้อหาถึงการยกเลิกการประชุมระหว่าง ทรัมป์ และ คิม หลังจากที่มองว่าทางเกาหลีเหนือมีท่าทีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสหรัฐ และยังขู่กลับอีกว่าทางสหรัฐนั้นมีอาวุธนิวเคลียร์ที่ทรงพลังมากกว่า “จนต้องสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้าว่า หวังว่าจะไม่ต้องใช้มัน” เนื้อหาในจดหมายกล่าวว่า “เราขอขอบคุณอย่างยิ่งที่คุณสละเวลา ความอดทน และความพยายามในการเจรจาหารือเพื่อเตรียมการประชุมสุดยอดที่เดิมจะจัดในวันที่ 12 มิ.ย. ที่สิงคโปร์ ซึ่งเราได้รับข้อมูลมาว่าการพบกันครั้งนี้เป็นการเรียกร้องจากเกาหลีเหนือ แต่สำหรับเรานั่นไม่ใช่ประเด็น ผมตั้งตารอคอยที่จะได้พบคุณ น่าเสียดายที่มีการแสดงออกถึงความโกรธเกรี้ยว และแสดงความเป็นปรปักษ์อย่างชัดเจนจากแถลงการณ์ของคุณเมื่อเร็วๆ นี้ ผมเห็นว่าช่วงเวลานี้คงจะไม่เหมาะสมสำหรับการประชุม การที่คุณพูดถึงศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของคุณ แต่อยากบอกว่าของเรายิ่งใหญ่และทรงพลังมากจนผมต้องสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้า หวังว่าจะไม่ต้องใช้มัน ถ้าคุณเปลี่ยนใจและอยากจะนัดประชุมสูงสุดจริง อย่าลังเลที่จะโทรหรือเขียนจดหมายถึงผม ทั้งโลกและโดยเฉพาะเกาหลีเหนือ ได้สูญเสียโอกาสครั้งสำคัญสำหรับการสร้างสันติภาพ ความรุ่งเรืองและมั่งคั่งไปแล้ว การเสียโอกาสครั้งนี้เป็นความน่าเศร้าทางประวัติศาสตร์โดยแท้จริง” หลังจากที่จดหมายนี้ถูกเปิดเผยสู่โลกออนไลน์ มันก็ถูกแก้ไขด้วยปากกาสีแดงโดยชาวอเมริกันมากหน้าหลายตา พร้อมกับข้อความกำกับไว้ เช่น “เลิกเรียนแล้วมาพบครูด้วย โดนัลด์ คุณจะไม่ผ่านวิชานี้เอานะ ถ้าคุณไม่ปรับปรุงตัวแบบด่วนๆ” แถมยังให้แค่เกรด F กับเจ้าของจดหมายด้วย ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อ Michelle Huete ได้นำจดหมายนี้มาแก้ไขเช่นกัน…
-
หนุ่มจัดช่อดอกไม้เงิน 1.6 ล้านบาทเซอร์ไพรส์วันเกิด แฟนสาวยิ้มแก้มปริ แต่ผิดกฎหมายซะงั้น!!
เมื่อถึงวันเกิดของแฟนสาว ก็เป็นหน้าที่ของหนุ่มอย่างเราๆ ที่จะต้องจัดเซอร์ไพรส์เอาให้เธอประทับใจ บางคนก็ทำของแฮนด์เมด บางคนก็ซื้อของขวัญให้ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้ดีหรือเตรียมอะไรไม่ทัน บางที ‘เงินสด’ อาจจะช่วยคุณได้ เพราะไม่มีใครหรอกที่ไม่ชอบเงิน (จริงไหมล่ะ) แล้วถ้ายิ่งเป็นเงินจำนวนเยอะๆ ล่ะก็ อาจจะทำให้แฟนของเราดีใจแบบสุดๆ ไปเลยก็ได้ เหมือนกับชายคนนี้ที่จัดเตรียมเซอร์ไพรส์แฟนสาวด้วยการเอาเงินมาพับรวมกันเป็นรูปหัวใจขนาดใหญ่ และมันมีมูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่สุดท้ายเหตุการณ์พลิกเพราะผิดกฎหมายแบบงงๆ ซะงั้น โดยการเซอร์ไพรส์ปาร์ตี้วันเกิดของขายหนุ่มที่ทำให้แฟนสาวนี้ มีการรายงานข่าวว่าจัดขึ้นในวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ห้อง VIP ชั้น 61 ของโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองฉงชิง ประเทศจีน และภาพที่เปิดเผยออกมาจากปาร์ตี้ดังกล่าวก็คือภาพของหญิงสาวเจ้าของวันเกิด พร้อมกับแบงค์ 100 หยวน ที่ประดับประดาอยู่เต็มห้องไปหมด แถมยังมีการนำมาจัดเรียงเป็นรูปหัวใจอีกด้วย งานนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมล่ะว่าหญิงสาวคนนี้คงจะยิ้มแก้มแทบปริขนาดไหนกัน การจัดเรียงช่อดอกไม้ด้วยเงินนี้ สื่อ The Cover ได้รายงานว่าต้องใช้พนักงานจัดดอกไม้ 7 คน ร่วมกันทำงานเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมงเลยเพื่อให้การจัดเตรียมทั้งหมดเสร็จสิ้นเรียบร้อยก่อนที่สาวเจ้าคนนี้จะเดินทางมาถึง โดยชายหนุ่มแสนโรแมนติกคนนี้บอกเอาไว้ว่าต้องใช้เงินไปกว่า 334,000 หยวน…
-
สาวแอบยัดกัญชาไว้ใน ‘โยนี’ กว่า 1 กิโล ก่อนห่อแตกปวดท้องเข้าโรงพยาบาลให้หมอช่วย!!
แม้ว่าพืชแสนอารมณ์ดีอย่าง ‘กัญชา’ จะถูกกฎหมายในบางรัฐ บางประเทศ แต่สำหรับพื้นที่ที่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่ ก็จะมีการลักลอบขนส่ง แอบขายกันอยู่เนืองๆ ซึ่งวิธีการต่างๆ เหล่านี้ก็จะมีการพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ตำรวจจับได้ไล่ทันในมุกเดิมๆ ที่เคยใช้ แต่มุกของหญิงสาวคนนี้ตำรวจคงจะคาดไม่ถึงแล้วก็คงไม่ใช่สิ่งที่ใครคิดเอาไว้แน่ๆ เพราะว่าเธอลงทุนเอากัญชากว่า 1 กิโลกรัม ซ่อนเอาไว้ใน ‘โยนี’ ของเธอเอง จนในที่สุดต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยความเจ็บปวดและสิ้นลายนักลักลอบลงอย่างง่ายดาย… โดยหญิงสาวนักลับลอบคนนี้ได้รับการเปิดเผยว่ามีชื่อว่า Gloria โดยในเริ่มแรกนั้นหลังจากที่เธอยัดกัญชาเอาไว้ที่หว่างขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ปรากฏว่าเธอรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในช่องท้องอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอจึงตัดสินใจไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาล Ruben Lenero ในเมือง Mexico City ประเทศเม็กซิโก ให้ช่วยตรวจดูหน่อยว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่าหลังจากที่เธออ้างกับหมอไปว่าเธอกำลังตั้งท้องอยู่ แต่หลังจากที่คุณหมอตรวจไปตรวจมา ก็พบว่าไม่มีสัญญาณหัวใจจากเด็กในท้องที่เธออ้างเอาไว้เลย จึงได้ส่งตัวต่อไปยังแผนกพิเศษสำหรับผู้หญิงในโรงพยาบาล เพื่อหาเหตุผลที่แท้จริง เมื่อเจ้าหน้าที่แผนกพิเศษได้ตรวจดูอย่างละเอียด พวกเขาก็ต้องตะลึงเพราะแทนที่จะพบตัวเด็กอยู่ในท้อง สิ่งที่พวกเขาเจออยู่ในช่องท้องและมดลูกกลับเป็นห่อกัญชาจำนวนมากซะอย่างนั้น และสิ่งนี้เองที่ทำให้เธอเกิดอาการปวดท้องขึ้นมา เพราะว่าห่อกัญชามันดันไปแตกอยู่ภายในตัวของเธอเอง ซึ่งทางแพทย์ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่ากัญชาในห่อเหล่านั้นยังคงเป็นต้นๆ โดยมีดินเป็นกระจุกติดมาด้วยอยู่เลย แต่ในที่สุดแล้วทางแพทย์ก็ได้นำกัญชาทั้งหมดออกมาจากตัวของ Gloria อย่างปลอดภัย และหลังจากพักฟื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัวไปตามระเบียบ Gloria ถูกจับกุมด้วยข้อหา ‘ก่ออาชญากรรมต่อสุขภาพ’ (กฎหมายของที่นั่น) แต่อย่างไรก็ตามในที่สุดทางคณะลูกขุนก็ปล่อยตัวเธอคนนี้กลับบ้านแต่โดยดี เพราะการคุมขังเธอด้วยข้อหานี้ไม่ชอบต่อกฎหมายนั่นเอง ถึงอย่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า…
-
ช่างภาพตามถ่าย “คนเมาผล็อยหลับข้างถนน” สะท้อนความขบขันและสังคมความเครียด
เชื่อว่าคุณน่าจะเคยเห็นภาพของคนเมาแล้วผล็อยหลับตามถนนมาบ้าง หากเป็นคนทั่วๆ ไปเราคงมองผ่านๆ ไป แล้วก็กลับไปทำในสิ่งที่ตัวเองทำกันต่อ โดยไม่ได้คิดว่าภาพเหล่านั้นอาจนำเอามารวมเป็นอัลบั้มภาพแล้วขายได้ นี่เป็นภาพถ่ายของศิลปินที่มีชื่อว่า Pawel Jaszczuk โดยเขาตั้งชื่ออัลบั้มภาพนี้ว่า “HIGH FASHION” โดยภาพทั้งหมดนี้ถูกถ่ายในระหว่างปี 2008-2010 เป็นการรวมภาพของเหล่ามนุษย์เงินเดือนตามท้องถนนในกรุงโตเกียว ที่เมาหนักแล้วเผลอหลับไปตามถนนในท่วงท่าต่างๆ Pawel อธิบายผ่านเว็บไซต์ของเขาว่า ตัวเองพักอยู่ในญี่ปุ่นในช่วงนั้น เขามักจะออกไปปั่นจักรยานตอนดึกๆ ระหว่างตี 1 ถึง ตี 4 เพื่อถ่ายภาพผู้คนในสถานที่ต่างๆ จนกลายมาเป็นภาพอย่างที่เราเห็นเหล่านี้ เขาอธิบายว่าผลงานของเขาไม่ได้ต้องการต่อต้านเหล่านักดื่มแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการที่จะแสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างชายหนุ่มที่ใส่สูทสวยๆ กับถนนสุดสกปรกก็เท่านั้น สุดท้ายเขาหวังว่าจากมุมมองภาพของเขาในอัลบั้ม “High Fashion” จะช่วยสร้างอารมณ์ขัน และเผยให้เห็นสังคมที่เต็มไปด้วยความเครียดและการทำงานอย่างหนักหน่วง หากใครสนใจภาพถ่ายสุดฮาของเขาล่ะก็ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ moom.cat สนนราคาอยู่ที่เล่มละ 1,407 บาท ใครอยากสนับสนุนศิลปินก็จัดไป . . . . . . . . . . ที่มา moom…
-
หนุ่มใหญ่จ่อติดคุก 1 ปี หลังแอบจับบั้นท้ายพนักงานร้านอาหาร
การจับบั้นท้ายภรรยาของคุณอาจจะเป็นเรื่องน่ารักๆ และเป็นแค่การหยอกล้อกันเล่นเท่านั้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณดันทะลึ่งไปหยอกแบบนี้กับสาวๆ นอกบ้านล่ะก็ อาจจะทำให้ได้เข้าไปนอนเล่นในคุกก็ได้นะเออ!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก หลังจากที่ชายคนหนึ่งได้ใช้มือของเขาจับบั้นท้ายของพนักงานสาวในร้านอาหาร หลังจากที่เธอนำเมนูมาให้ ซึ่งขณะนั้นภรรยาของเขากำลังเข้าห้องน้ำอยู่ คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของร้านได้เผยให้เห็นวินาทีที่นาย Clarence H. Locke Jr ได้ใช้มือของเขาเอื้อมไปจับบั้นท้ายของ Jayme Adair พนักงานสาวประจำร้าน Jayme Adair ทำงานที่ร้านอาหารแห่งนี้มาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันตกใจมาก ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ลูกค้าคนนั้นเข้ามาในร้านพร้อมกับภรรยาของเขา ตอนที่ฉันเอาเมนูไปให้เขาและพยายามเดินออกห่างๆ แต่เขาก็ยังเอื้อมมือมาจับก้นของฉันได้” และนี่คือคลิปวิดีโอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พนักงานสาวนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปบอกกับผู้จัดการร้าน ก่อนที่จะแจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับชายที่ลวนลามเธอ “ผู้หญิงบางคนอาจจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ แต่สำหรับฉันมันไม่ยุติธรรม ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดและไม่ควรได้รับสิ่งที่เขาทำกับฉัน” Jayme ให้สัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว Clarence และแจ้งข้อหาล่วงละเมิดทางเพศกับเขา ซึ่งอาจทำให้เขาได้รับโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ 3 ปี ด้วยกัน ความกล้าของ Jayme ทำให้เธอได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานอย่างมาก และเรื่องราวของเธอก็ได้แสดงให้ว่าผู้หญิงไม่ใช่เหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศอีกต่อไป …
-
ประเทศเติร์กเมนิสถาน สั่งห้ามใช้หนังสือพิมพ์ที่มีรูปท่านผู้นำแทนกระดาษชำระโดยเด็ดขาด!!
ข่าวนี้อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ดูตลกในสายตาประเทศอื่นๆ กับการที่ตำรวจถึงกับต้องลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องกระดาษชำระในห้องน้ำทั้งห้องน้ำสาธารณะและห้องน้ำส่วนตัว เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน ตั้งอยู่แถบเอเชียกลาง พรมแดนติดกับคาซัคสถาน อุซเบกิสถาน ที่ประเทศนี้ประชาชนบางส่วนมักจะประหยัดเงินค่ากระดาษชำระในห้องน้ำโดยเลือกที่จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดแทน เรื่องนี้ร้อนไปถึงนาย Gurbanguly Berdymukhammedov ประธานาธิบดีของประเทศเลย สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจห้องน้ำทุกที่ ห้ามให้กระดาษหนังสือพิมพ์ที่มีหน้าของประธานาธิบดีแทนกระดาษชำระโดยเด็ดขาด!!! เรื่องนี้มันเริ่มมาจากที่ว่าประชาชนเริ่มหันมาใช้หนังสือพิมพ์ที่มีรูปหน้าประธานาธิบดีในการเช็ดตูดมากขึ้น ซึ่งมันอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของท่านได้ ซึ่งเคยมีข่าวการเข้าตรวจสอบโรงเรียนแห่งหนึ่งหลังจากพบหลักฐานว่าโรงเรียนแห่งนี้ใช้หนังสือพิมพ์แทนกระดาษชำระ หน้าท่านประธานาธิบดีต้องมาแปดเปื้อน ทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ถูกไล่ออก จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามห้องน้ำทั้งสาธารณะและห้องน้ำใส่วนบุคคลเลยทีเดียว ถึงขั้นที่ว่าในแต่ละพื้นที่จะมีภารโรงพิเศษที่ทำหน้าที่สอดส่องเรื่องกระดาษชำระแล้วรายงานต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แล้วท่านก็เล่นขยันลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ซะขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ทั้งหลายเลยต้องตรวจสอบข้าวของเครื่องใช้ของประชนหากมีรูปล้อเลียนท่านล่ะก็จะถูกยึดทันที เพราะอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ได้ แถมด้วยอีกกรณีหนึ่ง ประธานาธิบดีท่านนี้เคยสั่งแบนการใช้รถสีดำ เพียงเพราะเขาชอบสีขาวอีกด้วย >> อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ ที่มา odditycentral
-
การถ่ายพรีเวดดิ้งสุดล้ำ เทรนด์ใหม่จากญี่ปุ่น แนบสนิทชิดใกล้ ไร้อากาศหายใจ แต่เท่!!
ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งที่เราเห็นกันทั่วๆ ไป ก็คงจะเป็นภาพของเจ้าบ่าว-เจ้าสาวในชุดแต่งงาน ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติกหรือวิวทิวทัศน์สวยๆ พร้อมกับรอยยิ้ม รอยจูบ หรืออ้อมกอด แต่สำหรับเทรนด์ใหม่จากญี่ปุ่นนี้ จะทำให้การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของเราล้ำไปอีกระดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ เทรนด์ใหม่สุกคูลนั้นมีชื่อเรียกว่า Flesh Love เป็นไอเดียของ Haruhiko Kawaguchi ช่างภาพชาวญี่ปุ่น โดยเขากำหนดให้คู่รักเข้าไปอยู่ในถุงพลาสติกปิดผนึกสูญญากาศ จนกลายเป็นภาพที่ดูแปลกตาเราไปเป็นอย่างมาก เทรนด์ใหม่ ของการถ่ายพรีเวดดิ้งเก๋ๆ วิธีการที่เขาใช้สำหรับการถ่ายพรีเวดดิ้งในรูปแบบนี้คือ 1. ร่างกายของคู่รักจะถูกทาด้วยน้ำมันหล่อลื่น ก่อนเข้าไปอยู่ในถุงพลาสติก เพื่อป้องกันการเสียดสี 2. ช่างภาพจะดูดเอาอากาศออกจนหมด และรีบวิ่งเข้ามาถ่ายภาพของคู่รักเป็นจำนวน 2 ภาพ 3. คู่รักจำเป็นต้องกลั้นหายใจนานราวๆ 10 วินาที จากนั้นเขาจึงจะให้ผู้ช่วยรีบแกะถุงพลาสติกออก และยื่นถังออกซิเจนให้ โดยจะมีทีมแพทย์เตรียมเอาไว้เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน Haruhiko บอกว่าเขาต้องการจะสื่อถึงความใกล้ชิดและความรักที่คู่รักแต่ละคนมีให้กัน เขาอธิบายว่า “หนุ่มสาวมีการดึงดูดเข้าหากันและกลายเป็นหนึ่งเดียว ไอเดียการถ่ายภาพของผมนี้จะแสดงให้เห็นถึงพลังของความรัก โดยให้ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งระยะห่างระหว่างกันน้อยเท่าไหร่ พลังแห่งความรักของทั้งสองก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น” และถึงแม้ว่าวิธีการจะดูอันตรายไปสักหน่อย แต่มันก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยความเป็นเอกลักษณ์และสื่อถึงความรักได้อย่างเปี่ยมล้น ทำให้ชาวญี่ปุ่นหลายคนสนใจจะถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันในลักษณะนี้ …
-
เอกซิตโพลไอร์แลนด์เผยชาวไอร์แลนด์ 69% ต้องการให้ยกเลิก “การห้ามทำแท้ง”
เรื่องเกี่ยวกับการทำแท้งนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและพูดได้ยากจริงๆ ว่าเป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่ บางคนก็มองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเด็กในท้องก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดมา ในขณะที่อีกหลายๆ คนก็มองว่าหญิงสาวที่ถูกข่มขืน ควรจะได้รับสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเด็กในท้องของเธอ อย่างไรก็ตามสำหรับประเทศไอร์แลนด์แล้วตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมาการทำแท้งจะถูกห้ามในทุกกรณียกเว้นแต่ทารกในครรภ์จะเป็นอันตรายต่อชีวิตของมารดาเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติมครั้งที่แปดในปี 1983 และการทำแท้งเถื่อนนั้นมีโทษสูงสุดคือการจำคุก 14 ปี อย่างไรก็ตามในปี 2017 ทางสมัชชาประชาชนของไอร์แลนด์ได้มีการให้คำแนะนำแก่รัฐบาลไอร์แลนด์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายฉบับที่ว่า และได้มีการเปิดโหวตเกี่ยวกับการยกเลิกกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่แปดดังกล่าว พร้อมๆ กับข้อกฎหมายการห้ามทำแท้งในทุกกรณี ซึ่งมีการลงคะแนนเสียงไปในวันที่ 25 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา และล่าสุดนี้เองทางเอกซิตโพลจากสำนักข่าว The Irish Times และ RTE ของไอร์แลนด์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยผลโพลการลงคะแนนเสียงที่น่าสนใจว่าราว 69% ของชาวไอร์แลนด์ ต้องการให้มีการยกเลิกกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่แปด โดยที่เมืองดับลิน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศมีผู้ให้การสนับสนุนการยกเลิกการห้ามทำแท้งมากถึง 77% โดยผลเอกซิตโพลจากสำนักข่าว The Irish Times ออกมาว่ามีประชาชนชาวไอร์แลนด์โหวตสนับสนุนให้ยกเลิกกฎหมายห้ามทำแท้งอยู่ที่ 68% และเอกซิตโพลจาก RTE บอกว่ามีชาวไอร์แลนด์โหวตสนับสนุนการยกเลิกกฎหมาย 69.4% จากผลการสำรวจของชาวไอร์แลนด์ 3,000 คน นี่นับเป็นผลโหวตที่น่าทึ่งมากสำหรับประเทศไอร์แลนด์ ที่เป็นประเทศซึ่งมีประชากรส่วนมากนับถือศาสนาคริสต์เลยก็ว่าได้…
-
หญิงชาวจีนรอดจากการถูกลักพาตัว หลังรถคนร้ายเกิดอุบัติเหตุโดยบังเอิญ
กลายเป็นเรื่องฮือฮาที่ประเทศจีนอีครั้ง หลังจากที่สื่อท้องถิ่นได้รายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนที่เมืองเฉิงตู เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยชีวิตสาวที่กำลังถูกลกพาตัวได้โดยบังเอิญ จากรายงานระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยรถที่ลักพาตัวของหญิงสาวรายดังกล่าวได้ชนกับรถอีกคันหนึ่ง เลยทำให้เธอสามารถหนีออกจากรถคันดังกล่าวมาได้ ภาพนิ่งจากคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมเผยให้เห็นภาพของหญิงสาวรายหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่กลางถนน พร้อมกับมีเชื่อกมัดที่ข้อมือ-ข้อเท้าของเธอ รวมทั้งสก๊อตเทปติดอยู่บริเวณปากของเธออีกด้วย พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณสะพาน Gaosheng บนทางหลวงหมายเลข 1 ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุชายคนหนึ่งได้วิ่งหนีออกจากรถคันนั้น และไม่นานหญิงสาวคนดังกล่าวก็หล่นมาจากทางด้านหลังของรถ . คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ Weibo เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนาย Chen ชายต้องสงสัยได้ที่เมืองเหมียนหยาง มณฑลเสฉวน ชายวัย 30 ปี ให้การรับสารภาพว่า เขาลักพาตัวหญิงสาวรายดังกล่าวบริเวณที่จอดรถใต้ดินใกล้ๆ กับทางหลวงหมายเลข 1 และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ที่มา asiaone
-
‘เจ้าหญิงไดอาน่ากับดัสเชสทั้งสอง’ ภาพครอบครัวที่ขาดหายไปแต่เป็นจริงขึ้นมาได้จากศิลปิน!!
ก็ผ่านพ้นไปแล้วด้วยความปีติยินดีจากผู้คนทั้งโลกสำหรับงานเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ ดยุกแห่งซัสเซกซ์ กับนางสาวเมแกน มาร์เคิล ที่จัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ โดยในงานดังกล่าวก็มีเชื้อพระวงศ์ต่างๆ อยู่กันอย่างครบถ้วนทั้งเจ้าชายวิลเลี่ยม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ผู้เป็นพระเชษฐา (พี่ชาย) แคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายเจ้าหญิงองค์น้อยอีกจำนวนมาก แต่ก็ยังมีอยู่บุคคลหนึ่งที่ขาดหายไปจากงานแห่งความสุขครั้งนี้… เจ้าหญิงไดอาน่าสร้างเหตุการณ์ช็อคโลกเมื่อพระองค์จากไปในปี 1997 ด้วยอุบัติเหตุจากทางรถยนต์ขณะที่มีพระชนมายุได้ 36 ปี ซึ่งในขณะนั้นได้บุตรชายทั้งสองนั่นคือเจ้าชายวิลเลี่ยม และเจ้าชายแฮร์รี่เพิ่งจะมีพระชนมายุได้ 15 ปีกับ 12 ปีเพียงเท่านั้น ทว่าในปัจจุบันเจ้าชายทั้งสองได้เติบโตขึ้นอย่างสง่างามและได้ทรงงานอย่างหนัก เพื่อเป็นเกียรติแก่สิ่งที่เจ้าหญิงไดอาน่าได้มอบไว้ให้พร้อมทั้งทำให้ความตั้งใจของพระองค์ในการรักษาจักรวรรดินี้ไว้ยังคงอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย และด้วยการจากไปอย่างไม่มีวันกลับนี้ทำให้เจ้าหญิงไดอาน่า ไม่สามารถอยู่ดูพิธีแห่งความสุขของบุตรทั้งสองนั่นคือเจ้าชายแฮร์รี่ และเจ้าชายวิลเลี่ยม รวมถึงทำความรู้จักกับพระสุณิสา (ลูกสะใภ้) ได้ จึงทำให้ศิลปินคนหนึ่งสรรค์สร้างภาพวาดจากจินตนาการขึ้นมา โดยเป็นภาพของเจ้าหญิงไดอาน่าอยู่พร้อมกับดัชเชสทั้งสองอย่างมีความสุข เจ้าหญิงไดอาน่ากับพระสุณิสาทั้งสอง https://www.instagram.com/p/BjAMSHQlMPK/?taken-by=autumn.ying Autumn Ying คือผู้ที่สร้างภาพแห่งความปีติดังกล่าวขึ้นมา และได้โพสต์ภาพลงในอินสตาแกรมเพื่อให้คนทั้งโลกได้เห็นถึงความงดงามของครอบครัวราชวงศ์นี้ ในรูปนี้มีเจ้าหญิงชาร์ลอตต์องค์น้อยอยู่ด้วย https://www.instagram.com/p/BjFfbi6Faoa/?taken-by=autumn.ying “เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง เจ้าหญิงไดอาน่าไม่สามารถอยู่ดูลูกสะใภ้อันงดงามของเธอได้ ฉันจึงคิดว่าอย่างน้อยภาพเหมือนนี้ก็จะอาจจะสามารถเติมเต็มส่วนที่หายไปได้” Autumn…
-
นายทหาร วางแผนฆ่าภรรยาโดยการตัดสายร่มชูชีพ หวังเงินประกันจำนวน 9 แสนบาท
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ หลังจากที่ทหารหนุ่มรายหนึ่ง ได้วางแผนฆ่าภรรยาของเขาโดยการดัดแปลงร่มชูชีพของเธอ และพยายามที่จะดัดแปลงแก๊สในบ้านของตัวเองเพื่อให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างที่เธอทำงานในบ้านอีกด้วย นาย Emile Cilliers วัย 38 ปีจากหน่วยฝึกกองทัพบกถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า 2 ข้อหาและทำร้ายร่างกายอีก 3 ข้อหา หลังจากที่ภรรยาของเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างการกระโดดร่มเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2015 ที่ผ่านมา Victoria Cilliers ภรรยาสาววัย 40 ปีผู้เคราะห์ร้ายมีอาการกระดูกซี่โครงหัก กระดูกเชิงกรานหัก และได้รับบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลัง หลังเธอประสบอุบัติเหตุจากการกระโดดร่มที่ความสูง 1,200 เมตร จากรายงานระบุว่านาย Cilliers ได้ทำการดัดแปลงร่มชูชีพของภรรยาและตัดสายบางอย่างออกไป ก่อนที่จะชวนเธอไปกระโดดร่มที่ Netheravon Airfield และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์นาย Cilliers ได้พยายามดัดแปลงแก๊สในบ้านให้เกิดอุบัติเหตุกับภรรยาของเขาด้วย ทางด้าน Michael Bowes QC ทนายความของโจทก์ได้ให้การกับศาลว่า นาย Cilliers มีหนี้สินมากกว่า 22,000 ปอนด์ (940,000 บาท) ซึ่งเขาวางแผนซ่าภรรยาครั้งนี้เพราะต้องการเงินประกัน สื่อยังเผยอีกว่านาย Cilliers มีพฤติกรรมนอกใจภรรยาอยู่บ่อยครั้ง และเธอเองก็ยอมรับว่าเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกเซ็กส์คลับแห่งหนึ่ง หลังจากที่พบข้อความในคอมพิวเตอร์ของเขา …
-
คุณแม่ลูกสามเสนอวิธีการดูแลครอบครัว ประหยัดทั้งเงินแถมยังลดน้ำหนักได้ด้วย
การเป็นแม่บ้านในยุคสมัยนี้ถึงแม้ว่าจะมีทุกสิ่งทุกอย่างคอยอำนวยความสะดวกสบาย แต่ทว่าแม่บ้านทั้งหลายก็ต้องมีสกิลในการจัดการสิ่งต่างๆ ในบ้านในระดับหนึ่ง เป็นวิธีเฉพาะตัวที่ต่างคนต่างก็มีวิธีการจัดการของตัวเอง คุณแม่ลูกสามชาวเมือง Ballarat รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย Megan Vanderwaal วัย 31 ปี ก็เป็นแม่บ้านอีกคนหนึ่งที่ต้องเป็นผู้จัดการทุกสิ่งทุกอย่างในบ้าน การเลี้ยงลูก 3 คน และดูแลสามีอีกหนึ่งคนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ลำพังชีวิตแม่บ้านแค่ตื่นมาทำความสะอาดบ้านก็หมดเวลาและพลังกายไปมากแล้ว เหล่าแม่บ้านทั้งหลายจึงประสบปัญหาอ้วน ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือว่าหุ่นหลังคลอดที่ลดได้ยากสุดๆ คุณแม่ลูกสามท่านนี้จึงมีความคิดที่จัดการสิ่งต่างๆ ภายในบ้านด้วยวิธีใหม่ ซึ่งเธอลองทำแล้วมันได้ผลจึงเอาวิธีเหล่านี้มาแบ่งปันให้แม่บ้านทั้งหลายรับรู้กัน วิธีที่ว่านี้ ประหยัดทั้งเวลา เงิน และสามารถช่วยลดน้ำหนัดของเธอภายในระยะเวลา 11 เดือน คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม วิธีการนี้คุณแม่บ้านทั้งหลายสามารถนำไปใช้ได้ โดยเริ่มที่การชอปปิงทีละเยอะๆ เพราะถ้าซื้อของจำนวนเยอะ จะสามารถประหยัดเงินได้มากกว่า แต่ต้องเลือกของที่สามารถเก็บไว้ได้นานๆ นะ . ส่วนจำพวกของสดซื้อมาในปริมาณที่พอใช้ใน 1 สัปดาห์ แบ่งเป็นส่วนๆ แล้วใส่ถุงแช่ช่องฟรีซเอาไว้ เรื่องเมนูอาหารแต่ละมื้อ เธอจะวางแผนเอาไว้แล้วค่อยๆ นำของจากในตู้เย็นออกมาทำทีละมื้อให้กับสามีและลูกๆ ทั้งสาม เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารใหม่ด้วยการหันมาทานผักและผลไม้เป็นของว่าง ทำสมูทตี้ผักผลไม้ดื่มเป็นประจำ …
-
หนุ่มอาหรับลักลอบจะเอาโทรศัพท์เข้าไปในคุกเลยฝังไว้ใน ‘รูตูด’ กว่า 6 เครื่องหูรูดพังหม๊ด!!
สำหรับผู้ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่หลังกำแพงคุกแล้ว ชีวิตของพวกเขาต้องเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะความผิดที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ ทั้งต้องทำทุกอย่างตามตารางเวลาและไม่มีอิสรภาพที่จะติดต่อกับโลกภายนอก ดังนั้นแล้วสิ่งของที่เปรียบเสมือนกับเป็นสมบัติอันมีค่ามหาศาลของพวกเขาก็คือ ‘โทรศัพท์มือถือ’ นั่นเอง และก็แน่นอนว่าสิ่งนี้ย่อมเป็นสิ่งของต้องห้ามที่ไม่สามารถถือครองได้สำหรับนักโทษ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็ยังมีการลักลอบเอาเข้าไปด้วยวิธีใหม่ๆ อยู่เสมอ ทว่ารายล่าสุดที่มีการจับผู้ลักลอบได้กลับทำให้ทั้งโลกต้องตะลึง เพราะมีชายคนหนึ่งที่ยัดโทรศัพท์มือถือกว่า 6 เครื่องเอาไว้ในตูดของตัวเอง!!! การจับกุมนี้เกิดขึ้นโดยตำรวจตะเวนชายแดนของประเทศอิสราเอล เมื่อวันพุธที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยคนที่ยอมอุทิศรูทวารของตัวเองนี้ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ว่าเป็นชายชาวอาหรับคนหนึ่ง ที่พยายามจะปีนรั้วเข้าไปคุกในเมืองเยรูซาเร็มเป็นครั้งที่ 2 สำหรับความผิดครั้งแรกของเขาคนนี้เกิดขึ้นในเย็นวันอังคารที่ 22 พฤษภาคม เมื่อเจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นว่าเขาพยายามจะปีนรั้วใกล้ๆ กับคุก al-Ram ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขตเทศบาล จึงได้นำตัวมาสอบสวนและปล่อยกลับบ้านไปเนื่องมาจากเป็นความผิดครั้งแรก โทรศัพท์ที่ยึดได้จากรูทวารของชายคนนี้ ทว่าเขาก็กลับมาในคืนวันพุธต่อมา และพยายามจะปีนรั้วที่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวเขาไปเข้าคุกเพราะว่าเป็นความผิดที่ซ้ำซ้อนและเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก่อนที่จะเข้าไปในคุกได้ก็แน่นอนว่าจะต้องมีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อหาว่ามีสิ่งแปลกปลอมแอบซ่อนเอาไว้อยู่หรือไม่ ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบอย่างเข้มข้น พวกเขาก็พบว่าในลำไส้ของชายคนนี้มีโทรศัพท์ซ่อนเอาไว้ถึง 6 เครื่องด้วยกัน คุณพระ!! ในที่สุดเมื่อนำภาพเหตุการณ์ทั้งหมดมารวมเข้าด้วยกัน จะเห็นได้ว่าชายชาวอาหรับคนนี้จงใจที่จะถูกจับ เพื่อที่ว่าจะได้เข้าในคุกแล้วแจกจ่ายโทรศัพท์ทั้ง 6 เครื่องนี้ให้แก่เครือข่ายของเขานั่นเอง สุดท้ายแล้วชายชาวอาหรับคนนี้คงต้องไปรับโทษโดยไม่มีอะไรติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว แถมยังอาจต้องติดคุกหัวโตพร้อมกับความเจ็บแสบของรูทวารที่บรรจุโทรศัพท์เข้าไปถึง 6 เครื่อง หูรูดพังหมดแล้ว……
-
พ่อชาวญี่ปุ่นเปลี่ยนภาพวาดของลูกสาววัยอนุบาลให้เป็นเมนูกล่องข้าวกลางวัน น่ารักจ่น!!
เมื่อเด็กๆ อยู่ในวัยหัดขีดเขียน ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็จะเห็นว่าสิ่งที่พวกเขาวาดนั้นส่วนใหญ่ก็จะมีลายเส้นที่คดเคี้ยวไปมาแถมยังไม่ค่อยจะมีระเบียบเหมือนอย่างรูปวาดที่ดี จึงทำให้เราคิดว่าปล่อยผลงานเหล่านั้นทิ้งลงถังขยะไปคงจะดีกว่า แต่ว่ามีคุณพ่อคนหนึ่งที่ไม่คิดอย่างนั้น เพราะถึงแม้ว่ารูปภาพที่ลูกสาววัยอนุบาลของเขาวาดจะไม่ค่อยสวยดึงดูดตานัก ทว่าเขาก็ได้เปลี่ยนมันให้กลายเป็นสิ่งที่เพิ่มความแนบแน่นระหว่างสายใยพ่อลูก ด้วยการเอาภาพวาดไปจัดแจงเป็นหน้าตาอาหารในกล่องข้าวกลางวัน(เบนโตะ) สำหรับลูกเขาซะเลย คุณพ่อคนเก่งคนนี้มีชื่อว่า Takafumi Ozeki ชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงตลกของวงดูโอ้ชื่อว่า The Geese โดยคุณพ่อคนนี้ได้แชร์ภาพกล่องข้าวกลางวันหน้าตาแปลกๆ ที่ถูกถอดแบบมาจากภาพวาดของลูกสาววัยอนุบาลของเขาที่ได้ได้กลายมาเป็นอาหารสำหรับเจ้าตัวน้อยที่สามารถกินได้แบบจริงๆ !! จุดเริ่มต้นของการทำอะไรน่ารักๆ นี้เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2017 เมื่อวันหนึ่งลูกสาวของเขาเดินเข้ามาหาพร้อมกับภาพวาดที่เธอวาดเอาไว้ แล้วขอให้เขาเปลี่ยนมันให้กลายเป็นอาหารในกล่องข้าวกลางวันให้หน่อย และเขาก็ทำเต็มใจทำให้ด้วยความเอ็นดู โดยภาพแรกนั้นเป็นภาพของตัวอะไรซักอย่างที่คล้ายๆ กับเด็กผู้หญิงและมนุษย์กบ และเมื่อเขาได้ทำออกมาให้กลายเป็นจริงแล้วก็ได้นำภาพไปแชร์ในทวิตเตอร์เพื่ออวดฝีมือของลูกสาวซะหน่อย แล้วก็ปรากฏว่ามีคนกดหัวใจพร้อมกับรีทวีตออกไปอย่างล้นหลามเป็นแสนๆ เลยแหละ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาข้าวกล่องกลางวันของ พ่อ-ลูกคู่นี้ก็ถูกผลิตออกมาเรื่อยๆ ในลายต่างๆ ตามที่เด็กหญิงคนนี้จะออกแบบอย่างในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ลูกสาวของเขาก็วาดภาพตัวการ์ตูน Mickey Mouse ขึ้นมาสำหรับเป็นอาหารในกล่องข้าวกลางวันของเธอ จากนั้นก็ลองเปลี่ยนมาวาดแมลงเต่าทองกับนกเพนกวินกันบ้าง ซึ่งในภาพนี้นาย Ozeki ก็รู้สึกได้เหมือนกับว่าลูกสาวของเขาได้มีฝีมือทางด้านการวาดภาพมากขึ้น และมันทำให้เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าในอนาคตลูกสาวของเขาวาดออกมาซะสวยเนี๊ยบ เขาจะทำให้มันสวยเหมือนกับที่เธอวาดได้ไหมเนี่ย.. เริ่มมีการวาดที่แอดวานส์ยิ่งขึ้น โดยลูกสาวแสนซนคนนี้วาดภาพตัวแรคคูนกับหมาน้อยที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวการ์ตูนชื่อว่า Tanukichi-kun…
-
กระทะฟ้าประทาน หล่นใส่หัวคุณตาเข้าอย่างจัง แต่โชคดีที่ไม่ถึงกับสลบและรอดมาได้!!
เคยมีความรู้สึกระแวงในระหว่างการเดินกลางแจ้งหรือไม่ เป็นกังวลในใจว่าจะมีอะไรตกมาใส่หัวเรารึเปล่า ที่เคยคิดในแง่ร้ายมากที่สุด และมีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดก็คงจะเป็น ‘ขี้นก’ จากเสาไฟฟ้ากระมัง? สำหรับคุณตาวัย 81 ปี จากมณฑลเสฉวน กลับเจออะไรที่หนักยิ่งกว่านั้น เพราะในระหว่างที่คุณตากำลังเดินเนิบๆ กลับบ้าน ก็โดนของแข็งตกใส่หัวเข้าอย่างจัง!! เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2018 ณ เล่อซาน มณฑลเสฉวน ในขณะที่คุณตา Wang Juqing กำลังจะเดินกลับบ้านเพื่อไปให้ทันมื้อเย็น เขากลับไปไม่ถึงบ้านแต่ต้องไปโรงพยาบาลแทน ภายในเวลาเสี้ยววินาทีเดียว จู่ๆ กระทะหล่นใส่หัวคุณตาแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งคาดว่าน่าจะตกมาจากอาคารที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียงกัน… คุณตาเองก็ยังเกิดอาการงง แต่เจ็บปวดที่บริเวณศีรษะอย่างรุนแรง ประชาชนที่ผ่านไปมาจึงรีบเข้ามาให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นพร้อมกับเรียกรถพยาบาลให้ โชคดีที่คุณตาเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา ได้รับการเย็บรักษาไปทั้งหมด 17 เข็ม แต่ก็เป็นโชคร้ายของบรรดาญาติๆ ที่ต้องเจอกับค่ารักษาอันแพงหูฉี่ ‘ผมกำลังเดินกลับบ้านไปกินข้าวเย็น แล้วโดนกระทะตกใส่หัวจังๆ’ คุณตาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ในเบื้องต้น ยังไม่มีใครแสดงตัวออกมารับผิดชอบกับกระทะลอยฟ้าชิ้นนี้ และไม่มีใครให้ข้อมูลเบาะแสใดๆ เลย…
-
เปิดประวัติ ท่านหลุยส์ สเปนเซอร์ หลานชายของเจ้าหญิงไดอาน่า หล่อ ดูดี มีชาติตระกูล
พิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล ได้ผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา พิธีเสกสมรสนี้นับได้ว่าเป็นงานที่ใหญ่ระดับโลกเลยก็ว่าได้ เพราะแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานนี้มีแต่ระดับเชื้อพระวงศ์และคนดังทั้งนั้น นอกจากคู่บ่าวสาวแล้ว แขกที่มาร่วมงานสื่อก็ได้ให้ความสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะบุคคลสำคัญต่างๆ ที่ปรากฏตัวอยู่ในงานสุดแสนจะอลังการงานนี้ นอกจากสุภาพสตรีที่แต่งตัวสุดสง่างามแล้ว ยังมีสุภาพบุรุษอีกท่านหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากสื่อมากๆ อีกท่านหนึ่งเนื่องจากออร่าความหล่อ ดูดีมีชาติตระกูล ช่างสะดุดตาสุดๆ ท่านผู้นั้นเปิดตัวมาท่ามกลางสมาชิกตระกูลสเปนเซอร์ หรือตระกูลของเจ้าหญิงไดอาน่า ที่ได้รับเชิญมาร่วมงานในครั้งนี้ เขามีนามว่า Louis Frederick John Spencer หรือ Louis Spencer ด้วยความหล่อสะดุดตาของท่านหลุยส์ สเปนเซอร์ทำให้มีใครต่อใครอยากจะทราบกันแล้วว่า เขาเป็นใครมาจากไหน ท่านหลุยส์ สเปนเซอร์ อายุ 24 ปี เป็นบุตรชายของพระอนุชาของเจ้าหญิงไดอาน่า นับได้ว่ามีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี่ เป็นน้องชายแท้ๆ ของเลดี้คิตตี้ สเปนเซอร์ สาวสวยที่ได้รับความสนใจมากๆ ไม่แพ้กัน . ท่านหลุยส์จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ https://www.instagram.com/p/BjFVJBUhfEM/?taken-by=louis_spencer94 ถึงแม้จะเป็นทายาทขุนนางตระกูลดังแต่ก็ทำตัวเรียบง่าย https://www.instagram.com/p/BjF9QdUBJAh/?taken-by=louis_spencer94 แถมให้อีกรูปหนึ่ง https://www.instagram.com/p/BjFVE9pBp3b/?taken-by=louis_spencer94 กระซิบบอกนิดนึงนะว่าท่านหลุยส์นั้นยังโสดนะคะสาวๆ…
-
ตำรวจจีนโชว์ความเทพของเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ แค่กิน ‘ลิ้นจี่’ แอลกอฮอล์ก็ขึ้นได้!!
เรียกได้ว่าชาวจีนต้องเพิ่มความระมัดระวังกันมากขึ้นแล้วทีนี้ ยิ่งขณะที่หน้าลิ้นจี่มาถึงแล้วด้วย ชาวจีนที่ทานลิ้นจี่เป็นจำนวนมาก บอกเลยว่าไม่ควรขับรถเพราะมันอาจทำให้พวกเขา “ซวย” ได้ นาย Huang ตำรวจจราจรชาวจีนคนหนึ่ง ตัดสินใจถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อแสดงช่องโหว่ของระบบเครื่องมือ เป่าตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ที่เขาใช้ Huang ลองกินลิ้นจี่เข้าไป 2 ลูก แล้วจึงเป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ ผลปรากฏว่ามันขึ้นด้วยแฮะ! ค่าระดับแอลกอฮอล์ของเครื่องมือขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.6 เลยทีเดียว จะกินลิ้นจี่แล้วน้าา อะเป่า ปู้ดดด!! นี่ไง ไฟแดงๆ แบบนี้ แปลว่าแอลกอฮอลขึ้น! นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า ยิ่งลิ้นจี่มีความหวานมากเท่าไหร่ ระดับแอลกอฮอล์ที่เครื่อองวัดได้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการจะตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ในเลือดจริงๆ สำหรับผู้ที่ทานลิ้นจี่หรือของดองมานั้น ก็จำเป็นต้องทำการบ้วนปากก่อนนั่นเอง เอาแล้วทีนี้ ใครกินลิ้นจี่เยอะๆ แล้วขับรถก็ต้องระวังหน่อยนะ หากคุณตำรวจกวักไปเป่าล่ะก็ อาจเคลียร์กันยาวเลยก็ได้… ที่มา: ck101
-
เหมาะสมหรือไม่!? พ่อชาวซาอุฯ บังคับลูกน้อย “สูบบุหรี่” แล้วถ่ายคลิปเอาไว้…
บุหรี่ ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งที่ให้โทษแก่ร่างกายอย่างมาก ผู้ใหญ่หลายต่อหลายคนต้องทุกข์ทรมานกับโรคต่างๆ ที่เกิดจากสารพิษในบุหรี่ แล้วยิ่งถ้าเป็น “เด็กเล็ก” ยิ่งไม่สมควรกับการสูบบุหรี่อย่างยิ่ง เรื่องราวในวันนี้ ขอเสนอเพื่อเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น พ่อ ที่มีการยื่นบุหรี่ที่ตนสูบ ไปให้ลูกน้อยของตนสูบ และถ่ายคลิปเอาไว้ ในคลิปเป็นพ่อชาวซาอุดิอาระเบีย บังคับให้ลูกน้อยสูบบุหรี่ แล้วตนก็ถ่ายคลิปเอาไว้ ในคลิป เสียงของชายผู้เป็นพ่อได้เอ่ยบอกให้ลูกน้อยของตนนั้น “สูบบุหรี่” จากนั้นก็เห็นได้ชัดเจนว่าหนูน้อย (คาดว่า ไม่น่าเกิน 3 ขวบ) ก็ยื่นปากมาคาบบุหรี่แล้วสูบเข้าไปตามที่พ่อบอก เท่าที่เห็น คาดว่าหนูน้อยน่าจะสูบควันบุหรี่เข้าไปเต็มๆ โดยไม่พ่นออกมาเลยแม้แต่น้อย และจากนั้น เสียงของชายคนดังกล่าวก็เอ่ยถามหนูน้อยอีกว่า “อยากสูบอีกไหม?” และหนูน้อยก็พยักหน้าตอบรับ จากนั้น ฝ่ายพ่อก็ยื่นบุหรี่ให้หนูน้อยสูบเป็นครั้งที่สอง ทั้งนี้เองก็ยังไม่ทราบว่าทั้งหนูน้อยและชายคนที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อนั้น คือใครกันแน่ และคนที่ถ่ายคลิปก็ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อที่ถ่ายเอง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมชายคนดังกล่าวได้แล้ว ส่วนตัวผู้ต้องหาเองคาดว่าจะถูกดำเนินคดีในเรื่องของการฝ่าฝืนและบกพร่องในการปฏิบัติตามกฎของการเป็นพ่อแม่และการรักษาสังคมที่ดีงาม แล้วท่านผู้อ่านคิดว่า เหตุการณ์นี้เหมาะสมแล้วหรือไม่ ที่ให้เด็กตัวน้อยอายุไม่ถึง 3 ขวบมาสูบบุหรี่แบบนี้? ที่มา: metro
-
พนักงานบอกเจ้านาย ไม่ว่างพอที่จะไปทำงานได้ ติดธุระมาเป็นร่างทรงให้พระวิษณุอยู่…
หลังจากที่นาย Rameshchandra Fefar ได้รับบรรจุเป็นพนักงานแล้ว ทางหน่วยงานกลับต้องมาตั้งคำถามกับเขาว่า ทำไมถึงโผล่มาทำงานแค่ 16 วันตลอดระยะเวลา 8 เดือน!? Rameshchandra Fefar วิศวกรจากรัฐคุชราต ประเทศอินเดีย ตอบกลับไปด้วยความมั่นใจว่า เขาเป็นร่างทรงร่างที่ 10 ในการประสูติใหม่ของพระวิษณุ และยุ่งเกินกว่าจะไปทำงานหลวง เพราะมีงานของพระเจ้าที่ต้องทำเยอะแยะไปหมด… นาย Rameshchandra เป็นวิศวกรของหน่วยงานด้านการย้ายถิ่นฐานและฟื้นฟูประจำรัฐคุชราต (SSPA) เขาอ้างว่าได้รับความยิ่งใหญ่จากพระผู้เป็นเจ้าครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ปี 1999 จากการอ่านคอลัมน์ดูดวงในหนังสือพิมพ์ เขารู้สึกได้ว่างร่างกายเริ่มถอดจิต และถูกเติมเต็มด้วยพลังความสุขของพระเจ้า แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่จนกระทั่งภรรยาอ่านคอลัมน์ดูดวงให้ฟัง กล่าวว่าเขาจะกลายเป็นผู้นำของเหล่ามนุษย์อันชาญฉลาด พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ แม้จะรู้แล้วว่าได้รับพลังมา ช่วงแรกๆ เขาก็ยังคงไปทำงานตามปกติ แต่แล้วก็เกิดการปลุกพลังเป็นครั้งที่ 2 ในระหว่างเข้าออฟฟิศ!! “ในวันที่ 6 มีนาคม 2010 ผมกำลังทำงานอยู่แล้วก็รู้สึกถึงพลังของพระวิษณุที่เข้ามา ผมได้รับการเชื่อมพลังโดยตรงกับพระผู้เป็นเจ้า วิญญาณของผมกลายมาเป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณอันสูงสุด” เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อ …
-
นางเอกหนังจุ๊กกรู้ว กับรายได้ 85,000 บาทต่อวัน กว่าจะเป็นตัวท็อปวงการ ต้องแลกมาเยอะ!!
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังชมพู หนังผู้ใหญ่ หรือหนังโป๊ ตามที่หลากหลายท่านเรียกกันตามถนัดนั้น ต่อให้ปราบปรามอย่างหมดจด ก็ยังคงเกิดใหม่ได้อยู่ดี เนื่องจากความต้องการของมนุษย์ที่มีไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม ภายหลังเบื้องลึกต่างๆ ในวงการนี้ กลับสร้างรายได้ให้กับนักแสดงนำเป็นกอบเป็นกำ เรียกได้ว่าเปลี่ยนชีวิตพลิกผันไปโดยปริยาย ถ้าหากไต่เต้ากลายมาเป็นแถวหน้าของวงการได้ Kiki Minaj นางเอกหนังแถวหน้าของวงการสื่อลามกอังกฤษ เปิดเผยผ่านสารคดีชุด The Sex Business ว่าการทำงานในอุตสาหกรรมนี้ สามารถสร้างรายได้มากถึง 256,000 บาท (6,000 ปอนด์) สำหรับงานในระยะเวลา 3 วัน โดยก่อนหน้านี้ เส้นทางชีวิตของเธอเริ่มต้นจากการแสวงหาอาชีพมาเป็นนักบัญชี แต่แล้วก็จับพลัดจับผลูมาสู่การเข้าฉากสองต่อสองกับเพศเดียวกันให้กับทางบริษัท Playboy “ฉันไม่ได้เลือกเส้นทางสื่อลามกหรอก เพียงแต่อยากมีชื่อเสียง มันก็แค่นั้น ฉันอยากจะดัง มันเป็นเพราะ Playboy ขายในสิ่งที่มีในตัวฉัน เพราะฉะนั้นเส้นทางที่จะเติบโตได้ ก็คือการเข้าฉากระหว่างชายหญิงที่ให้เงินดีกว่า” “ในวงการนี้ฉันคิดว่าผู้หญิงจริงจังกับงานมากๆ เพราะมันเป็นเรื่องของนักแสดงหญิงล้วนๆ เมื่อผู้คนดูหนังโป๊ระหว่างชายหญิง คนส่วนใหญ่จะดูแต่ผู้หญิง ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการเหยียดเพศในวงการนี้ เรามีเซ็กส์กัน เราจะไม่นำเรื่องพวกนี้มาคาบเกี่ยวในขณะที่กำลังออกลีลาหรอก เพราะในหนังน่ะ คุณคือดาวเด่น”…
-
พ่อแม่ถูกบังคับให้เปลี่ยนชื่อลูก เพราะศาลบอกว่า “ชื่อไม่เหมาะสมกับเพศสภาพ” ?!
เราอาจเคยได้ยินชื่อแปลกๆ ที่ฟังดูเหมือนไม่มีความหมายแต่เป็นเอกลักษณ์ หรือไม่ก็อาจเป็นชื่อที่ดูไม่ค่อยเข้ากับคนคนนั้นสักเท่าไหร่ แบบว่าถ้าจะให้ผู้หญิงชื่อ “สมศักดิ์” อะไรทำนองนั้นก็คงจะรู้สึกพิลึกหูยังไงชอบกล แต่ถึงแม้ว่ามันจะแปลกๆ ไปบ้าง พวกเราก็ยังคงตั้งชื่อกันได้อย่างอิสระ ไม่เหมือนกับในประเทศอิตาลี ที่หากว่าคุณตั้งชื่อลูกไม่ตรงกับเพศสภาพเมื่อไหร่ อาจทำให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันเหมือนอย่างพ่อแม่คู่นี้ สองสามีภรรยาที่ต้องเจอกับหมายศาล เพียงเพราะการตั้งชื่อลูก ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2018 สำนักข่าว Mirror ได้รายงานว่า สองสามีภรรยาชาวอิตาลี Vittoria และ Luca ถูกศาลบังคับให้เปลี่ยนชื่อลูกสาวของตัวเอง เพียงเพราะพวกเขาตั้งชื่อลูกว่า Blu ซึ่งศาลตัดสินว่าไม่เหมาะสมกับเพศสภาพของเธอ Luca บอกว่าเธอเลือกชื่อนี้เพราะต้องการสื่อความหมายเป็นอักษรย่อของคำว่า Bella (ความสวยงาม) , Luminosa (ความสดใส) และ Unica (ความเป็นเอกลักษณ์) แต่ทว่ามันกลับไปตรงกับคำว่า Blu ซึ่งมีความหมายว่าสีน้ำเงินในภาษาอิตาลี ด้วยเหตุนั้นเอง ศาลจึงมองว่านั่นไม่สมควรเป็นชื่อที่ตั้งให้กับลูกสาวของพวกเธอ และบังคับให้ไปเปลี่ยนใหม่ หรือไม่อย่างนั้นศาลจะเป็นคนตั้งชื่อให้เอง ถึงอย่างนั้น สองสามีภรรยาก็มองว่ามันเป็น “การแบ่งแยกที่ไร้สาระ” เพราะขนาดศิลปินดังอย่าง Jay-Z…
-
หนุ่มเอเชียโดนต่อยเข้าเต็มๆ เพราะ ‘มองหน้า’ ชายผิวสีในโรงพยาบาล มึนจนแทบจะล้มตึง!!
บางครั้งอารมณ์อันร้อนแรงของคนเรา ก็เป็นสิ่งที่จุดชนวนให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ตามมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องก็กลายเป็นเรื่องขึ้นมาจนเป็นอะไรที่บานปลายและจบลงไม่สวย เหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่ชายผิวสีคนหนึ่งไปต่อยเข้าที่หน้าของชายอีกคนหนึ่ง ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่า ‘ถูกมองหน้า’ เพียงแค่นั้น แล้วที่สำคัญคือเหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลอีกด้วย!! โดยเหตุการณ์ความหัวร้อนนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล Sunrise ในลาสเวกัส รัฐเนวาด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2018 ซึ่งเรื่องราวในวิดีโอได้เริ่มต้นขึ้นจากชายเอเชียผอมสูงคนหนึ่งที่กำลังยืนเถียงกับชายผิวสีที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง และนอกจากคำโต้เถียงกันไปมา ก็ยังมีการท้าทายเกิดขึ้นจากผิวสีให้ชายชาวเอเชียคนนี้เข้ามาเปิดก่อนสิจะได้จัดกันสักยก ทว่าชายชาวเอเชียคนนี้ก็ยังระงับอารมณ์โกรธได้เป็นอย่างดีและไปนั่งที่เก้าอี้ผ่อนคลายอารมณ์อันคุกรุ่นนี้สักหน่อย เมื่อเห็นดังนั้นชาวผิวสีที่อารมณ์กำลังขึ้นจนหัวร้อนแทบจะไหม้ก็ไม่สบอารมณ์ และสั่งให้ชายเอเชียคนนั้นยืนขึ้นมาเคลียร์กันให้เข้าใจซะหน่อย แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบรับคำท้าของเขาแต่อย่างใด ทันใดนั้นเองชายผิวสีก็บันดาลโทสะเดินเข้าไปต่อยชายชาวเอเชียคนนี้เต็มๆ จนเขามึนไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะลุกขึ้นมาสู้กันไปมาจนกระทั่งเจ้าหน้าที่พร้อมกับบุรุษพยาบาลต้องเข้ามาแยกทั้งสองออกจากกัน เพื่อความปลอดภัยของทั้งคู่และคนไข้คนอื่นๆ ที่มารอคิวรักษาด้วย ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้ามาถึงที่เกิดเหตุและทำการสอบสวนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วก็ได้รับความกระจ่างเมื่อชายผิวสีบอกว่าเป็นเพราะชายชาวเอเชีย ‘มองหน้าหาเรื่อง’ Venessa ผู้โพสต์คลิปดังกล่าวเล่าว่า เหตุการณ์นี้จบลงด้วยชายผิวสีคนนี้ต้องเข้าไปนอนกินข้าวแดงในคุกเนื่องจากข้อหาก่อนเหตุทะเละวิวาท ซึ่งเขาก็อาจได้รับข้อคิดจากเรื่องนี้เต็มๆ ว่าไม่ควรหัวร้อนจนเกิดเป็นเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีกแล้ว ต่อมาก็มีความคิดมากมายจากชาวเน็ตเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการสวดการกระทำของชายผิวสีคนนี้ซะเป็นส่วนมากที่ไปเริ่มการทะเลาะเบาะแว้งนี้ขึ้น วากานด้า… น่าจะทำให้เขาสงบด้วย…
-
ครูให้นักเรียน ป.2 เขียนสิ่งที่ไม่ชอบ และ ‘โทรศัพท์’ คือคำตอบเพราะมันแย่งเวลาของพ่อแม่ไป!!
ว่ากันว่าวัยเด็กเป็นเสมือนกับผ้าขาวที่รอซึมซับสีต่างๆ เข้าไปในตัว ดังนั้นแล้วเราจึงเคยได้ยินกันว่าคำพูดของเด็กเป็นคำพูดที่จริงใจและไร้ซึ่งคำโกหกหลอกลวงใดๆ ทั้งสิ้น และบางครั้งคำพูดของพวกเขาก็ยังสะท้อนให้เห็นด้วยว่า เราหลงลืม ละเลย หรือทำอะไรที่แตกต่างจากเมื่อครั้งอดีตไปบ้างหรือเปล่า… ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีได้เข้าไปอยู่ทุกหย่อมหญ้า จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ใครๆ ต่างก็มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเอาไว้ แชท เล่นเกม อัปโหลดภาพลงโซเชียล ไม่เว้นแม้แต่ผู้เป็นพ่อเป็นแม่คน แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าคำพูดที่กลั่นออกมาจากใจของเด็กๆ เหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนคุณไปตลอดกาลเลยก็เป็นได้ โดยคำพูดของเด็กๆ ที่จะทำให้เราได้กลับมาย้อนดูตัวเองนี้ ได้ถูกเปิดเผยขึ้นโดยคุณครูคนหนึ่งในรัฐหลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเธอได้มอบหมายให้นักเรียนชั้นป. 2 ของเธอเขียนถึงนวัตกรรมใดๆ ก็ได้ที่พวกเขาไม่อยากจะให้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ และผลจากนักเรียน 21 คน ก็มีถึง 4 คนที่บอกว่าสิ่งที่ไม่อยากให้มีบนโลกเลยก็คือ ‘โทรศัพท์มือถือ’ “หนูไม่ชอบโทรศัพท์เลย เพราะพ่อแม่หนูเอาแต่ใช้เวลาอยู่กับมันทั้งวันและทุกวัน การเล่นโทรศัพท์บางครั้งก็กลายเป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ หนูเกลียดโทรศัพท์ของแม่แและหวังเอาไว้ว่าแม่จะไม่มีมือถือ นี่คือนวัตกรรมที่หนูไม่ชอบเลย” นอกจากคำพูดที่ดูง่ายๆ แต่บ่งบอกถึงความจริงนี้แล้ว หนูน้อยก็ยังมีการวาดภาพโทรศัพท์มือถือที่ถูกกากบาท พร้อมกับหน้าที่เอ่ยวาจาออกมาว่า “หนูเกลียดมัน” เอาไว้ด้วย ซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นว่าพ่อแม่ในยุคปัจจุบันอาจจะมีการใช้โทรศัพท์ที่มากเกินไปจนลืมให้เวลากับเด็กๆ ซึ่งอยากให้พ่อแม่หันกลับมาใส่ใจเหมือนเมื่อก่อน โพสต์ของคุณครูคนนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลที่มีการแชร์ต่อกันถึง 200,000 ครั้ง ซึ่งเธอก็หวังเอาไว้ว่าคำพูดของเด็กๆ…
-
หญิงสาวเหยียดชนชาติทหารผ่านศึก “กลับไปจีนซะเหอะ!!” เพราะขับรถช้าไม่ทันใจ
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้มีวิดีโออันหนึ่งโด่งดังจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ของสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง ในหัวข้อที่แสนจะคุ้นเคยอย่างการเหยียดเชื้อชาติ เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ James Ahn นายทหารผ่านศึกของกองทัพอากาศ ผู้มีสายเลือดเกาหลี-อเมริกา กำลังขับรถอยู่ในเมืองฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ในตอนนั้นเองที่เข้าถูกเหยียดชนชาติโดยผู้หญิงคนหนึ่งที่ตะโกนใส่เขาว่า “กลับไปจีนซะเหอะ!!” ตามคำบอกเล่าของ James หญิงสาวคนนี้ตะโกนด่าเขาเพราะว่าเขานั้นขับรถช้าเกินไป ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นเขาขับรถด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด และเธอต่างหากที่ขับรถเร็วเกินอัตรา James เล่าถึงเหตุการณ์ที่เขาพบว่า “ตอนที่ผมเปลี่ยนเลน เธอก็ขับประกบผม และทำทางทางขู่ผม ก่อนจะตัดหน้ารถไปและเหยียบเบรก ผมมารู้ภายหลังว่านี่เป็นความเกลียดชังมากกว่าความโกรธบนท้องถนน” วิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดย James A จะสังเกตว่าหญิงสาวมีการทำท่าตาตี่ซึ่งเป็นการล้อเลียนคนจีน และตะโกนด่าว่า “กลับประเทศของมึงไปซะเหอะ!! นี่มันประเทศของฉันไม่ใช่ของคนจีน โอ้พระเจ้า ไอ้จีนขี้เหร่ ไอ้จีนขี้เหร่!!” วิดีโอเหตุการณ์ระหว่างที่ Jame พยายามขับหนีจากเธอ เธอตะโกนมาจากอีกเลนว่า “กลับไปจีนซะเหอะ!! ไอ้พวกจีนน่ารังเกียจ กลับไปประเทศของมึงเลย! มึงกลับไปที่จีนเลยไป! กลับไปจีนซะไอ้งี่เง่า!” เรื่องนี้ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก โดยมีหลายๆ คนสังเกตว่าการพูดภาษาอังกฤษของหญิงสาวแลดูไม่คล่องเท่าที่ควร แสดงให้เห็นว่าตัวเธอเองนั่นล่ะที่น่าจะเป็นคนที่ย้ายเข้ามาจากประเทศอื่น และออกมาล้อเลียนหญิงสาวกันเป็นการใหญ่ ท่าทางจะไม่เต็ม…
-
เมื่อ Trump ยกเลิกการเจรจาระหว่างประเทศ เหรียญที่ระลึกจึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ดูเหมือนว่าการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาอย่างนาย Donald Trump กับท่านผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ Kim Jong-un ที่เคยถูกกำหนดไว้ที่ประเทศสิงคโปร์จะถูกยกเลิกโดยประธานาธิบดี Trump เข้าเสียแล้ว จะบอกว่าการกระทำของเขาในครั้งนี้นั้นส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับหลายๆ ฝั่งเลยก็ว่าได้ แต่ภายในความสับสนวุ่นวายนั่นเอง เหรียญพิเศษที่ทำขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การเจรจาในครั้งนี้ กลับกลายเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์มากขึ้นมาในสายตาของเหล่านักสะสมไปเสียอย่างนั้น เหรียญที่ระลึกที่ว่านี้ ถูกสร้างขึ้นมาโดยทาง สำนักงานสื่อสารแห่งชาติของทําเนียบขาว (WHCA) ซึ่งถูกวางขายในราคา 24.95 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 800 บาท) และลดราคาลงเหลือ 19.95 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 640 บาท) เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเปิดให้คืนสินค้าจากการยกเลิกการเจรจา อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า ผู้สนับสนุนส่วนใหญ่จะกล่าวว่าพวกเขาต้องการมีมันไว้เป็นมรดกของประวัติศาสตร์การเมือง ไม่ว่าผลการเจรจาจะเป็นอย่างไรก็ตาม และนั่นทำให้ยอดขายของเหรียญที่ว่านี้เพิ่มขึ้นมากจนทาง BBC คาดการณ์ว่าเหรียญที่ว่านี้อาจจะโด่งดังพอๆ กับเหรียญที่เคยออกมาในช่วงปี 1804 ซึ่งถือว่าเป็นเหรียญหายากที่มีมูลค่าสูงมาก The North Korea summit token is going to be the 1804 Dollar of challenge coins. pic.twitter.com/Jc1z7MPhS7…
-
Lil Tay เน็ตไอดอลวัย 9 ขวบ ผู้จุดประเด็นถกเถียงเรื่อง “ความเหมาะสม” ให้แก่สังคม
ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาในวงการอินเทอร์เน็ตต่างประเทศได้มีเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งกลายเป็นกระแสพูดคุยกันอย่างแพร่หลาย และหลายเป็นประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก เธอคือเด็กสาววัย 9 ขวบผู้ใช้ชื่อในวงการออนไลน์ว่า Lil Tay และมีชื่อเสียงจากการออกวิดีโอทำตัวเป็นคนรวยเสเพล ขว้างปาเงินทิ้ง อวดของแบรนด์เนม บ้าน และรถราคาแพงด้วยการใช้ถ้อยคำเสียดสี รุนแรง และไม่เหมาะสม วิดีโอของเธอนั้นมีคนเข้าไปดูมากกว่าหนึ่งล้านครั้ง และมีผู้ติดตามใน Instagram อีกเป็นจำนวนมาก แต่แม้ว่าจะมีผู้ติดตามมากมาย แต่คนส่วนมากกลับออกมาให้ความเห็นต่อการกระทำของเธอในแง่ลบ หนึ่งในความเห็นนั้นรุนแรงจนถึงขั้นที่บอกว่า “สูติบัตรของเธอควรเป็นจดหมายขอโทษจากบริษัทถุงยางอนามัย” เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการกระทำของเด็กสาวนั้นมีจุดที่ดูขัดๆ ในสายตาของหลายๆ คน จนทำให้มีแนวคิดที่ว่าการกระทำของเธอนั้น ทั้งหมดเป็นเพียงการแสดง ที่ถูกกำกับโดยแม่ของเธอ Angela Tian และ Jason Tian พี่ชายวัย 16 ปีเท่านั้น Diomi Cordero ตัวแทนของครอบครัว Tian ออกมาบอกว่า Jason นั้นเป็น “ผู้บงการ” ที่อยู่เบื้องหลัง Lil Tay และพี่น้องทั้งคู่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกัน นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตที่ออกมาเปิดเผยวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่า Jason กำลังฝึกซ้อมน้องสาวของเขาอีกด้วย คลิปวิดีโอที่ว่าจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ @KEEMSTAR Lil Tay being coached…
-
ตำรวจพบชายหนีคดีพาลูกมาหาหมอ แต่กลับช่วยต่อคิว รับยา พาไปบ้าน แล้วจึงจับกุมตัว
ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ความมีมนุษยธรรม สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องที่เราควรต้องมีให้กับทุกคนในสังคม ไม่เว้นแม้แต่กับโจรผู้ร้ายก็ตาม และตำรวจคนนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการทำอย่างนั้นจะช่วยให้โลกของเราสวยงามมากขนาดไหน ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2018 สำนักข่าว China Xinhua News ได้รายงานว่าเมื่อไม่นานมานี้ ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก จากการที่ตำรวจรายหนึ่งพบผู้ร้ายหนีคดีพาลูกชายไปโรงพยาบาล แต่กลับทำในสิ่งที่หลายๆ คนอาจคาดไม่ถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลสตรีและเด็กแห่งหนึ่งในเมืองไห่หนาน ประเทศจีน ตำรวจคนดังกล่าวกำลังทำหน้าที่ตรวจตราความเรียบร้อยจนไปพบเข้ากับชายคนหนึ่งกำลังอุ้มลูกวัย 5 ขวบเข้ามาพบแพทย์ ด้วยประสบการณ์การทำงานของนายตำรวจ เขาจึงเกิดความสงสัยในตัวของชายคนนี้ เพราะเห็นว่ามีท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลกๆ เมื่อเขาเข้าไปตรวจสอบชายคนดังกล่าวถึงได้พบว่าลักษณะรูปพรรณสัณฐานนั้นตรงกับชายแซ่ สวี่ ผู้ต้องหาหลบหนีคดีระดมทุนผิดกฎหมาย ที่เคยสร้างความเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงความมั่นคงสาธารณะกำลังลงประกาศตามจับอยู่ในขณะนั้น แต่ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถยืนยันตัวผู้ร้ายได้แล้ว นายตำรวจกลับยังไม่จับกุมตัวชายคนนี้ เพราะเห็นว่าตัวผู้ร้ายนั้นกำลังดูแลลูกชายที่มีไข้ขึ้นสูง เมื่อเป็นอย่างนั้น สิ่งที่ตำรวจทำก็คือการปล่อยให้ผู้ร้ายอุ้มลูกชายต่อไปตามปกติ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ช่วยเหลือรับบัตรคิว พาเข้าไปตรวจกับแพทย์ จนถึงขั้นตอนรอรับยา จากนั้นก็ช่วยหารถพาเด็กกลับไปส่งที่บ้าน แล้วค่อยจับกุมตัวเขาไปดำเนินคดี เหตุการณ์นี้ได้สร้างความประทับใจให้กับทุกคน โดยเฉพาะกับนายสวี่ที่กล่าวว่าตนเองรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากในการกระทำของเจ้าหน้าที่ และพร้อมที่จะสารภาพความผิดทั้งหมดด้วยความเต็มใจ คลิปการรายงานข่าว…
-
ช่วงวินาทียื้อแย่งกระต่ายป่า ศึกชิงอาหารของน้องจิ้งจอกเดินดิน ปะทะพี่อินทรีเหินฟ้า!!
วงจรการหาอาหารของเหล่าสัตว์ป่าเป็นเรื่องตามธรรมชาติที่เรียกกันว่า ‘ห่วงโซ่อาหาร’ เกิดจากสัตว์ใหญ่ไล่กินสัตว์ที่มีขนาดเล็กกว่าหรืออ่อนแอกว่า และโดยส่วนมากจะลดขนาดลงไปเรื่อยๆ ตามสัดส่วน แต่ทว่าในครั้งนี้ กลับกลายเป็นว่าสัตว์ใหญ่มายื้อแย่งสัตว์เล็กตัวเดียวกัน และผู้ที่แพ้ก็เกือบจะตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียว ในช่วงวินาทียื้อแย่งไม่ยอมปล่อย แต่ก็ต้องยอมเพราะอยากให้เธอได้เจอใครที่ดีกว่าฉัน… . ‘กระต่ายป่า’ อาหารอันโอชะของเจ้าจิ้งจอกแดงตัวหนึ่งบนหมู่เกาะ San Juan รัฐวอชิงตัน กลับต้องมาเจอหัวขโมยติดปีกอย่างอินทรีหัวขาว ฉกชิงทุกโอกาสจากผู้ที่ด้อยกว่า เพื่อขโมยอาหารจากปากจิ้งจอก!! . . “อินทรีตัวนี้เหมือนไม่ค่อยอยากจะลงแรงหาอาหารเท่าไรนัก มันก็เลยหาช่องทางที่ง่ายกว่า ด้วยการออกมาขโมยกระต่ายป่าไปจากจิ้งจอกแดงตัวน้อย แต่มันไม่ง่ายตรงที่เกิดการต่อสู้กันกลางอากาศนี่แหละ” Kevin Ebi ให้สัมภาษณ์กับ Bored Panda . . “ผมเห็นจิ้งจอกแดงคาบกระต่ายมาและกำลังจะเดินข้ามทุ่งหญ้าไป ในระหว่างที่กำลังเก็บภาพก็ได้ยินเสียงอินทรีหัวขาวไล่หลังมา ภาพที่เห็นมันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมรู้ว่ามันต้องการกระต่าย แล้วก็เกิดเป็นภาพอันน่าตื่นตาเช่นนี้ เพราะแทนที่จิ้งจอกจะยอมให้อาหารมื้อค่ำไปง่ายๆ มันกลับขัดขืนจนถูกยกลอยขึ้นฟ้า แต่พอรู้ว่าสู้ไม่ได้ก็ต้องยอมให้ไปแต่โดยดี พร้อมกับตกลงมากระแทกพื้นเจ็บนิดหน่อย” ม่ายยยยยยยยยยยยยย!! . น้องจิ้งจอกบินตัวนี้ ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด…
-
วงในลือสายสุดท้ายก่อนจาก ระหว่างอดีตคนรักและเจ้าชาย เต็มไปด้วยความเศร้าเคล้าน้ำตา…
ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนในเชิงรักใคร่นั้น หากเมื่อถึงเวลาต้องจากกันด้วยสถานะความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้หวนคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยผ่านมาด้วยกัน และคงเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำใจได้ และในก่อนช่วงเวลาวันสำคัญของเจ้าชายแฮร์รี่ประมาณ 1 สัปดาห์ มีข่าวคราวลือกันว่า แฟนเก่าของเจ้าชาย Chelsy Davy ได้ทำการพูดคุยโทรศัพท์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปรากฏตัวเข้าร่วมพิธีเสกสมรส บทสนทนาดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ Chelsy Davy ในวัย 32 ปี อดีตคนรักของเจ้าชายได้รับเชิญมาร่วมพิธีเสกสมรส ซึ่งการพูดคุยกันในครั้งนั้นก็ยังคงความสนิทสนมอยู่เพียงแต่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ทั้งนี้การสนทนาดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านครอบครัวและเพื่อนของเธอให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Vanity Fair ไว้ว่า “เป็นการโทรศัพท์คุยกันครั้งสุดท้าย ก่อนจะแยกทางกันจริงๆ เพราะทั้งคู่ต่างรู้ดีว่า เจ้าชายแฮร์รี่กำลังก้าวไปข้างหน้า Chelsy รู้สึกสะเทือนอารมณ์อยู่ไม่น้อย เธอร้องห่มร้องไห้และเกือบจะไม่ไปร่วมงานเสกสมรสด้วยซ้ำ แต่ท้ายที่สุดเธอก็ไปและให้คำมั่นสัญญากับเจ้าชายว่า จะไม่ทำให้พิธีเสกสมรสวุ่นวาย…” สำหรับ Chelsy นั้นเคยมีช่วงเวลาใกล้ชิดกับเจ้าชายในปี 2003-2010 ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 7 ปี และเดินทางมาร่วมพิธีเสกสมรสด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า เธอมาพร้อมกับ Cressida Bonas อดีตคนรักของเจ้าชายอีกราย และสื่อต่างๆ…
-
สมควรแล้วหรือ?! สาวขวางประตูรถไฟ เพราะมือถือหาย จนผู้โดยสารเดือดร้อนกันยกขบวน
บางครั้งการแก้ปัญหาที่ไม่เหมาะสมอาจกลายเป็นการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และแน่นอนว่าปัญหาที่มีก่อนหน้าอาจกลายเป็นอะไรที่มันยิ่งเลวร้ายไปมากกว่าเดิม กรณีตัวอย่างของสิ่งที่ว่ามานั้น เกิดขึ้นกับรถไฟใต้ดินขบวนหนึ่ง เมื่อหญิงสาวผู้โดยสารพบว่ามือถือของตัวเองถูกขโมยไปขณะเดินทาง เธอเลยแก้ปัญหาด้วยการยืนขวางประตูเอาไว้ไม่ให้ประตูรถไฟปิด เพื่อตามหาโจร หญิงสาวยืนขวางประตูรถไฟ ไม่ให้ใครเข้า-ออก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สถานีกว่างหลานลู่ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่าหญิงสาวกำลังโต้เถียงกับพนักงานประจำสถานีกันอย่างดุเดือด ด้วยท่าทางหัวร้อนแบบสุดๆ เธอโวยวายว่าจะต้องเอามือถือคืนมาให้ได้ก่อน เธอถึงจะยอมหลบทางให้ เมื่อพนักงานและผู้โดยสารคนอื่นๆ กล่าวตักเตือน เธอก็ตะโกนกลับไปว่า “นี่ฉันเป็นผู้เสียหายนะ!” พนักงานก็พยายามเจรจาด้วยเหตุผลว่า “ถ้าเธอทำแบบนี้ ผู้โดยสารคนอื่นอีกนับพันต้องเดือดร้อนไปด้วยนะ” ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่สนใจ โวยวายจะตามหาแต่มือถือของตัวเองเพียงอย่างเดียว ทางฝั่งพนักงานก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักเพราะกลัวว่าจะกลายเป็นการละเมิดกฎหมาย พวกเขาจึงตัดสินใจรอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ สุดท้ายแล้วผู้โดยสารทุกคนเลยต้องเดินทางล่าช้าไปกว่า 20 นาที เหตุการณ์นี้นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ในลงโซเชียล เกี่ยวกับการแก้ปัญหาที่ไม่เหมาะสม สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง “นอกจากแก้ปัญหาของตัวเองไม่ได้แล้ว ยังสร้างปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก” “มือถือหายแล้วสมองหายไปด้วยหรือไง?” คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2018 แน่นอนว่าทุกคนสามารถเจอปัญหากันได้ทั้งนั้น แต่สิ่งสำคัญคือเราจะสามารถแก้ปัญหาที่ว่านั้นได้อย่างไร และไม่ควรจะทำให้ผู้อื่นมาเดือดร้อนไปด้วยโดยไม่สมเหตุสมผล ที่มา: China Xinhua…
-
เศร้า!! เด็กหญิงวัย 1 ขวบ ถูกพ่อบุญธรรมลืมเอาไว้ในรถทั้งวันจนเสียชีวิตจากความร้อนระอุ
เชื่อว่าหลายคนคงเคยสัมผัสกับวินาทีที่เปิดประตูรถที่จอดอยู่กลางแจ้งทั้งวันออก เราจะสัมผัสได้ถึงความร้อนระอุชนิดที่ว่าถ้าเข้าไปอยู่ต้องแทบจะไหม้เลยทีเดียว แต่ว่าก็มีเด็กแบเบาะคนหนึ่งที่ต้องทุกข์ทรมานอยู่ในรถที่ร้อนๆ ทั้งวันจนเธอเสียชีวิต ด้วยต้นเหตุเพราะว่าพ่อลืมว่าเธออยู่ในรถ… เหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดนี้เกิดขึ้นที่เขต East Nashville รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อมีเด็กแบเบาะน่ารักๆ วัยเพียงขวบเดียวคนหนึ่งต้องเสียชีวิตในรถที่ร้อนเหมือนกับเป็นเตาอบตลอดทั้งวัน โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นจากการที่พ่อบุญธรรมของเด็กหญิงคนนี้ ได้พาเธอไปร่วมส่งพี่ๆ เข้าโรงเรียนเนิร์สเซอรี่แห่งหนึ่ง แต่ว่าเมื่อส่งเสร็จแล้วกลับมาที่บ้าน พ่อบุญธรรมคนนี้กลับลืมที่จะพาตัวของเด็กหญิงออกมาจากรถคันดังกล่าว และก็ด้วยความร้อนที่จอดอยู่กลางแจ้งทั้งวันก็ได้ทำให้เด็กหญิงคนนี้ ต้องทนทุกข์ทรมานจนเธอไม่สามารถทนได้ไหวเสียชีวิตลงไปในที่สุด ต่อมาผู้เป็นแม่บุญธรรมมาพบเข้าในตอนเย็นวันพุธที่ 23 พฤษภาคม และรีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาล Monroe Carell Jr. Children’s Hospital อย่างรวดเร็วแต่ก็สายไปเสียแล้วสำหรับการกู้ชีวิตเธอกลับมา ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น และอาจตั้งข้อหากับตัวของพ่อแม่บุญธรรมของเด็กคนนี้ต่อไป ซึ่งก็ต้องรอติดตามดูว่าจะมีบทลงโทษใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่… ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ ที่มา: mirror, wsmv
-
‘เหยินน้อย’ ประกาศแต่งงาน แต่แต่งทั้งทีจะให้ธรรมดาได้ไงต้องจัดทีเดียว 2 คนไปเลย!!
หลายคนคงจะจำชายผู้มีลีลาพริ้วไหวเมื่อมีลูกบอลอยู่ในเท้านามว่า ‘Ronaldino’ ได้เป็นอย่างดี เพราะเขาคนนี้นี่แหละที่ชอบสร้างปรากฏการณ์แปลกๆ ให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกันอยู่เสมอ แต่หลังจากที่ร้างราจากทุ่งหญ้าแห่งความฝันไปแล้วก็ดูข่าวคราวของเขาจะดูเงียบๆ ลงไปบ้าง ทว่ามาวันนี้เขาได้สร้างเรื่องให้เราได้เซอร์ไพรส์กันอีกแล้ว เพราะเขาได้ประกาศว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงทีเดียวถึง 2 คน!! เรียกได้ว่าสร้างเรื่องประหลาดใจให้เราได้บ่อยจริงๆ สำหรับ ‘เจ้าเหยินน้อย’ ที่นอกจากผลงานในสนามที่คล่องแคล่วซะจนเป็นตำนานทีมชาติบราซิล เรื่องนอกสนามเขาก็เด็ดไม่แพ้กัน เมื่อในตอนนี้เขาได้วางแผนเอาไว้ว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงทีเดียว 2 คน นั่นก็คือสาวนามว่า Priscilla Coelho และ Beatriz Souza โดยอันที่จริงแล้วสาวทั้งสองคนนี้ก็อาศัยร่วมชายคาเดียวกับเจ้าเหยินน้อยมาตั้งแต่เดือน ธันวาคม ปี 2017 ที่ผ่านมา ในคฤหาสน์สุดหรู ณ นคร Rio de Janeiro มูลค่ากว่า 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 214 ล้านบาท) แต่เพิ่งจะมีการเอ่ยปากขอแต่งงานกับทั้งสองคนเมื่อเดือนมกราคม Ronaldinho หรือชื่อจริงว่า Ronaldo de Assis Moreira ได้เริ่มคบหาดูใจกับนางสาว Beatriz ในปี 2016 แต่ว่าเขาก็ยังคงมีความสัมพันธ์อยู่กับ Priscilla ตั้งแต่เมื่อหลายปีที่แล้ว…
-
เล่นใหญ่เบอร์แรง ‘เทพธอร์’ เต้นเพลง Wrecking Ball อย่างเมามันกับลูกๆ อบอุ่นจริงจริ๊ง!!
อย่างที่รู้กันดีว่า Chris Hemsworth หรือ เทพเจ้าธอร์ นั้นเป็นนักแสดงผู้มีความสามารถ ผ่านผลงานการแสดงมามากมาย และเรามักจะเห็นเขาผ่านจอภาพยนตร์อยู่บ่อยๆ และเชื่อเลยว่าเพื่อๆ จะต้องอยากเห็นภาพความน่ารักของเขาตอนอยู่กับลูกๆ และครอบครัวอย่างแน่นอน เทพธอร์และครอบครัว เทพธอร์กับภรรยาสุดที่รัก และเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมาท่านเทพเจ้าธอร์ ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอขณะกำลังเต้นเพลง Wrecking Ball ของ Miley Cyrus ร่วมกับลูกๆ ทั้ง 3 คน กับเจ้าตูบอีกตัวหนึ่ง และแล้วความน่ารักก็บังเกิด เพราะพี่แกดูจะอินมากๆ เล่นใหญ่เบอร์แรง จริงๆ เด็กๆ เองก็กระโดดโลดเต้นไปกับจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน รวมไปถึงเจ้าตูบเองก็กระดี้กระด๊าไม่แพ้กันเลยทีเดียว เพื่อนๆ สามารถชมคลิปเหตุการณ์สุดน่ารัก ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า https://www.instagram.com/p/BjJIVmQluol/?hl=th&taken-by=chrishemsworth คลิปดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ลงไปได้แค่ 8 ชั่วโมงแต่มีคนกดเข้าไปดูถึง 5,500,000 ครั้งเลยทีเดียว!! แหม่…
-
หนุ่มเปลี่ยน ‘โรงนาเก่าๆ’ ให้กลายเป็นบ้านใหญ่สุดหรู ขายทอดตลาดกว่า 40 ล้านบาท!?
ใครเล่าจะคิดว่า ‘โรงนาเก่าๆ’ จะสามารถเปลี่ยนสภาพกลายมาเป็นบ้านสุดหรู และน่าอยู่ได้ขนาดนี้!! หลายๆ คนเลือกที่จะเสียเงินก้อนใหญ่ ไปกับการซื้อบ้านหลังใหม่ แต่สำหรับพ่อหนุ่ม Rob Lond-Chaulk แล้ว เขาเลือกที่จะนำเงินก้อนไปใช้ในการปรับปรุงโรงนาเก่าๆ ให้กลายเป็นบ้านสุดหรู!! เขาเปลี่ยนโรงนาในเมืองนอร์ฟอล์ก ประเทศอังกฤษ ให้กลายเป็นบ้าน 4 ห้องนอน 3 ห้องรับแขก มีห้องครัว ระบบทำความร้อนใต้หลังคา และระเบียงที่มองทอดออกไปเป็นวิวภูเขาสีเขียวชอุ่ม ที่สำคัญมีห้องฉายภาพยนตร์ด้วย!! Rob ใช้เวลานานกว่า 1 ปีครึ่ง ในการเปลี่ยนให้โรงนาเก่าๆ นี้ กลายมาเป็นบ้านสุดหรูอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ นอกจากตัวบ้านก็มีการทำโรงจอดรถ และสวนอีกด้วย บ้านหลังนี้รวมไปถึงที่ดินราวๆ 17 เอเคอร์ ถูกตั้งขายผ่านนายหน้าขายบ้าน William H Brown ในราคา 975,000 ปอนด์ หรือราวๆ 42 ล้านบาท .…
-
ชาวเน็ตต่อยอด จากภาพถ่ายเมแกนหน้าพระราชวัง อยากได้ใครต้องไปถ่ายรูปหน้าบ้านเค้า!?
หมั้นหมายสู่การเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ปัจจุบันมีบรรดาศักดิ์เป็นดัชเชสเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องราวความโรแมนติกพลิกชีวิตหญิงสามัญชนรายนี้ ยังคงวนเวียนอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ต… ชีวิตรักอันสุดแสนจะโรแมนติกที่เปลี่ยนชีวิตเมแกน ไม่ว่าจะด้วยความยินดีปรีดา หรือความอยากจะเป็นเหมือนดั่งเธอที่มีชีวิตเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเทพนิยายนิทานเจ้าชายเจ้าหญิง และภาพของเมแกนที่ถ่ายอยู่หน้าพระราชวังบักกิงแฮมเมื่อ 22 ปีก่อน ก็ฮิตเหลือเกิน ด้วยกระแสจะทวิตเตอร์ดังกล่าว พร้อมกับภาพถ่ายของเมแกนเมื่อ 22 ปีก่อน บริเวณหน้าพระราชวังบังกิงแฮม ใครเล่าจะรู้ว่า ในวันนี้เธอจะได้กลายมาเป็นเจ้าหญิงจริงๆ https://twitter.com/EarlCraig06/status/997775641973084160 ตกลงคือ ‘พรหมลิขิต’ ใช่มั้ยห์ (ออกเสียงแบบพี่แด๊กซ์) ย้อนกลับไปตอนนั้นเธอยังมีอายุเพียงแค่ 15 ปี แต่ไม่เคยรู้เลยว่า 22 ปีต่อมาจะได้แต่งงานกับเจ้าชาย และแล้วก็เริ่มกลายมาเป็นความเชื่อว่า ไปนั่งหน้าบ้านใคร ก็จะได้คนนั้นมาเป็นคู่ครอง กรณีนี้ไปนั่งหน้า Disney World แล้วก็ได้หนูมาอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ นายต้องเป็น Mickey แน่นอน!! 22 years ago I sat outside Disney…
-
15 ไอเดียเด็ดๆ สำหรับคาเฟ่กาแฟ บริการเสิร์ฟความล้ำหน้าปี 3018 ทะลุสู่ยุค 5.0
ปฏิเสธไม่ได้ว่ายิ่งอยู่ในวัยเรียนมหาวิทยาลัยหรือวัยทำงาน ใครๆ ต่างก็ต้องการแหล่งพลังงานขั้นที่ 2 นอกเหนือจากการนอน ต้องกระตุ้นตัวเองทำกิจกรรมต่างๆ ให้เสร็จสิ้นภายในแต่ละวัน หากจะแวะไปร้านกาแฟ สั่งปุ๊บ รอจ่ายเงิน คว้าแก้วกาแฟออกมานั่งจิบก็จบเรื่อง ทว่าหากร้านกาแฟเริ่มยกระดับใส่ใจคุณภาพที่นอกเหนือจากกาแฟ ก็ยิ่งช่วยทำให้ลูกค้าอยากจะแวะเติมพลังอยู่เสมอ ก็เพราะมันดีทั้งกาแฟและบริการยังไงล่ะ!! อยากให้ลูกค้าประทับใจ ปริ้นท์หน้าลูกค้าลงบนฟองนมไว้เลยทีเดียว มิติใหม่แห่งกาแฟเย็น แช่แข็งเป็นก้อนทั้งกาแฟและน้ำแข็ง (จะดูดกินต้องรอละลายอีก) มีเวลาว่างระหว่างรอกาแฟ งั้นก็ไปช่วยเก็บขยะบนชายหาดให้หน่อย เดี๋ยวให้กาแฟฟรีแก้วนึง (แคมเปญนี้ดีอยู่นะ) ร้านนี้แจกกากกาแฟฟรี ให้ลูกค้าหยิบไปใช้ทำสวนต่อได้ ลดการใช้ก้านคนพลาสติก เปลี่ยนเป็นเส้นพาสต้าแทน!? บอร์ดถามตอบ กาแฟสูตรไหนใส่อะไรบ้าง เห็นเป็นภาพชัดเจน หรือจากลากเป็นแผนผังส่วนผสมไว้ให้ ก็เก๋ไก๋ชัดเจนไม่น้อย น้ำร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม แยกไว้เฉพาะแต่ละสูตรชากันเลย ฐานร่มด้านนอกร้าน นอกจากจะได้นั่งชาร์จตัวเองแล้ว แวะชาร์จโทรศัพท์ได้ด้วย ยิ่งพูดสุภาพยิ่งได้กาแฟราคาถูก (พูดเพราะๆ กับบาริสต้ายิ่งได้หวานเพิ่ม ฮร่า) อยากเติมครีม เติมอย่างอื่น กดเองได้ทันที…
-
ลูกชายออกตามหาแม่ที่แท้จริงตลอด 12 ปี ก่อนจะมาเจอเพราะ ‘ชื่อร้านอาหาร’
เรื่องราวของลูกชายที่ออกตามหาแม่ของตัวเองมาตลอดชีวิต จนยอมแพ้และคิดว่าไม่เจอแล้วแน่ๆ แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น!! ย้อนเรื่องราวกลับไปในอดีต Nobue Ouchi สาวชาวญี่ปุ่น อาศัยอยู่ในเมืองชิสึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้นเธออายุได้เพียง 19 ปีเท่านั้น เธอตกหลุมรักกับนายทหารชาวอเมริกัน ที่ไปประจำการที่ประเทศญี่ปุ่น ณ ช่วงเวลานั้น ทั้งคู่ตกลงปลงใจที่จะแต่งงานกัน แต่ก่อนหน้านั้นนายทหารกลับถูกเรียกตัวกลับไปที่บ้าน ณ รัฐเซาท์แคโรไลนา เสียก่อน Nobue เสียใจเป็นอย่างมาก เธอเข้าใจว่านายทหารหนุ่มทิ้งเธอไปเพื่อมีชีวิตที่ดีกว่า หลายปีหลังจากนั้นเขาก็ติดต่อกลับมา แต่มันสายไปเสียแล้ว เพราะฝ่ายสาวไม่ต้องการที่จะพูดคุยกับเขาอีกต่อไป แต่นายทหารกลับไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า Nobue ได้ตั้งท้อง ภาพของ Bruce หลังจากที่ลูกของ Nobue คลอดออกมา พ่อของเธอที่เป็นชาวประมง ก็ให้การสนับสนุนเธอและลูก แต่เธอรู้อยู่เต็มอกว่าชีวิตของลูกครึ่งญี่ปุ่นกับอเมริกัน ในหมู่บ้านเล็กๆ นี้ จะต้องเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างแน่นอน เธอเลยตัดสินใจที่จะประกาศหาพ่อแม่ใหม่ให้กับลูก เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดีกว่า และประจวบเหมาะกันกับที่สองสามีภรรยา Edward และ Eleanor Hollywood ก็เป็นทหารจากกองทัพอากาศของสหรัฐเอมริกา ที่มาประจำอยู่ในฐานที่ญี่ปุ่น ทั้งคู่ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะรับลูกของ Nobue มาเลี้ยง…
-
ช่วงสุดท้ายของชีวิต ภาพเจ็บปวดหัวใจของ ‘สิงโตจ้าวป่า’ กับสภาพไร้อำนาจและพลัง
‘สิงโต’ ถือเป็นจ้าวแห่งป่า เป็นตัวแทนของการมีอำนาจ และความยิ่งใหญ่ รูปลักษณ์ของมันสื่อให้เห็นถึงความน่าเกรงขาม เป็นที่หวาดหวั่นของบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ในป่า แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพแห่งความเจ็บปวดหัวใจ ของสิงโตจ้าวป่า ที่ต้องตกอยู่ในสภาพ ‘ไร้พลัง’ Kruger หรือที่รู้จักกันในชื่อ Skybed Scar ในอดีตมันเคยเป็นสิงโตผู้ยิ่งใหญ่ แต่เพราะความแก่ชราของมัน ทำให้ความยิ่งใหญ่ที่มันสร้างมากับมือพังทลายหายไปในพริบตา ทั้งความยำเกรงจากสัตว์อื่น และความสามารถในการปกป้องครอบครัว ช่างภาพวัย 64 ปี นาย Larry Anthony Pannell เฝ้าสังเกตช่วงชีวิตตกอับของอดีตจ้าวป่าเป็นเวลาหลายชั่วโมง เป็นความจริงที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ เส้นคาบเกี่ยวระหว่างชีวิตและความตาย เจ้า Kruger ถูกช้างป่าวิ่งไล่จนต้องหนีกระเจิง สภาพของมันดูอ่อนแอ และไร้ความน่าเกรงขาม จากความหิวโหยที่มันต้องเผชิญ “ชีวิตมันช่างโหดร้ายจริงๆ ทั้งชีวิตการเป็นช่างภาพของผมผ่านอะไรมาตั้งมากมาย ผมเคยเห็นภาพของคนที่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างมาแล้วกับตา จากภัยธรรมชาติ ทั้งดินถล่ม แผ่นดินไหว ไฟป่า หรือแม้แต่อุบัติเหตุจากรถยนต์” “แต่ภาพเหล่านั้นก็ยังไม่ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจเท่ากับภาพชีวิตของสิงโตจ้าวป่าในช่วงสุดท้าย ที่ใกล้กับความตายเข้าไปทุกที” Larry กล่าว “ผมเห็นมันห่างไปไม่กี่เมตรเท่านั้น…
-
ทั้งขำทั้งสงสาร! คุณตาญี่ปุ่นวัย 80 พยายามสร้าง “ที่ดื่มชา” แบบไม่พึ่งถ้วยชา 5555
คุณคิดไว้หรือยังว่าเมื่อคุณแก่ชรา หรือเข้าสู่วัย 60 อัพ คุณจะทำอะไร? นอนเฉยๆ? ทำสวน? เลี้ยงสุนัข? หรือว่าประดิษฐ์สิ่งของ? ถ้าหากว่ายังคิดไม่ออกล่ะลองมาดูตัวอย่างกันหน่อยเป็นไง คุณตาชาวญี่ปุ่นวัย 80 ปีคนหนึ่ง ได้ใช้ชีวิตบั้นปลายด้วยการพยายามสร้างสิ่งมหัศจรรย์ นั่นก็คือ “อุปกรณ์ดื่มชาแบบเร่งด่วน” ข้อแม้ของการประดิษฐ์ในครั้งนี้ก็คือ ห้ามใช้ถ้วยในการดื่ม และเป็นที่มาของอาการฮาน้ำตาไหล เมื่อคุณตาค้นพบสิ่งที่ตัวเองต้องการสร้างแล้ว เขาจึงจัดแจงลงมือทำอย่างไม่รีรอ และแน่นอนว่า เมื่อคิดจะประดิษฐ์สิ่งของใดๆ ก็ตาม ก่อนที่จะประสบความสำเร็จมันก็ต้องผ่านความล้มเหลวกันมาก่อนทั้งนั้น ไอ้ความล้มเหลวในการประดิษฐ์นี่แหละที่เป็นความ ฮา ของงานนี้!! ครั้งแรก คุณตาสร้างตะแกรงใส่ใบชาไว้ที่ปาก แล้วเทน้ำร้อนลอดผ่านลงคอไปเลย น้ำพุ่งเลยครับคุณตา!! ครั้งที่สอง อุปกรณ์ดื่มชาของคุณตาเริ่มมีการเพิ่มสายที่ยาวขึ้น เพื่อให้น้ำชาลดอุณหภูมิลง อั้ยหยาาา เหมืองแด็กน้ำร้องเลยอ่าาา~~ (เหมือนดื่มน้ำร้อนเลยล่ะ) ครั้งที่สาม คณตาเริ่มใส่ใจกับระบบทำความเย็นมากขึ้น ทำให้สายยาวจนวนรอบศีรษะได้ ปรากฏว่าชายังไม่ทันเข้าปากเลยต้องถอดออกแล้ว ชาไหลผ่านสายที ร้อนยันหน้า… ครั้งที่สี่ คุณตายังคงมุ่งมันกับการยืดความยาวของสาย เอาไปแขวนไว้บนที่สูง…
-
ชายออทิสซึ่ม ส่งของขวัญพร้อมโน๊ตขอโทษ รู้สึกผิดกับพฤติกรรมเล็กๆ ที่โมโหร้าย…
การดูแลเอาใจใส่ความรู้สึกของคนรอบข้างเป็นสิ่งที่ดี และคงไม่มีใครคิดว่าบุคคลที่มีอาการป่วย จะสามารถรับรู้และแคร์ความรู้สึกคนอื่นได้เท่าหรือมากกว่าคนทั่วไปเสียอีก… เรื่องราวระหว่าง Ruby King วัย 17 ปี กับเพื่อนบ้าน Christopher ชายออทิสซึ่มไบโพลาร์ในวัย 40 ปี เธอมักจะคอยช่วยเหลือและสนับสนุนในการใช้ชีวิตให้กับเขาอยู่เสมอ โดยช่วงก่อนหน้านั้น Ruby มักจะแบ่งปันอาหารให้กับเขา และพาเขาไปเที่ยวพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ ด้วย แต่ทว่าอาการออทิสซึ่มและไบโพลาร์ ทำให้เขาไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้มากนัก จนเผลอปล่อยอารมณ์โมโหร้ายออกมาอย่างไม่มีเหตุผล Ruby King หลังจากที่ถูก Christopher กราดด่าโมโหใส่ ทำให้ Ruby รู้สึกแย่พอสมควร แต่เธอก็คิดได้ว่า “Christopher เป็นคนที่น่ารัก และสิ่งที่เขาพูดออกมาเป็นเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับใครเลย… เขารู้สึกผิดทันทีที่พูดออกมา แต่มันก็ต้องใช้เวลาในการรักษาแผลใจนิดนึง ฉันไม่ได้โกรธเหมือนอย่างที่เขาคิด ฉันเพียงแค่รู้สึกอัดอั้นในใจก็เท่านั้น” แต่แทนที่จะปล่อยผ่านเลยไป Christopher กลับเลือกที่จะขอโทษเธอด้วยการ์ดคำขออภัย ขนมคุ้กกี้ พร้อมกับดอกไม้ช่อเล็กๆ “ถึง Ruby ผมไม่ชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นและคิดถึงเวลาที่เราได้พูดคุยและเข้าสังคมด้วยกัน บางครั้งผมพูดในสิ่งที่รุนแรงออกไป ผมไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น ผมหวังว่าคุณจะน้อมรับของขวัญแทนคำขอโทษ…
-
งูเลื้อยเข้าหอนักศึกษาหนุ่ม แต่งานนี้ไม่มีกลัวมีแต่ ‘แกง’ เท่านั้น ลาภปากมาถึงที่เลยนะเนี่ย!!
เวลาที่ฝนตกหรือมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น สัตว์อย่าง ‘งู’ ก็จำเป็นที่จะต้องเอาตัวรอดด้วยการแสวงหาที่อยู่ใหม่ เพื่อให้มีความปลอดภัยกับตัวเอง แต่ว่าบางทีการเลื้อยเข้าไปผิดที่ก็อาจจะเจออะไรที่อันตรายกว่า อย่างเช่นเจ้างูตัวนี้ที่เลื้อยเข้าไปในหอนักศึกษาชาย แต่ว่าแทนที่มันจะยึดห้องได้ กลับต้องจบชีวิตลง แถมยังกลายเป็นอาหารที่มาเสิร์ฟให้ถึงที่ซะอย่างงั้น โดยเรื่องราวความซวยของงูตัวนี้เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัย Chongqing Institute of Mechanical & Electrical Engineering ประเทศจีน เมื่อนักศึกษากลุ่มหนึ่งของที่นี่พบว่ามีงูเลื้อยเข้ามาในหอพัก แต่ว่าแทนที่พวกเขาจะกลัวและออกไปอยู่นอกหอพักรอให้เจ้าหน้าที่มาช่วยจัดการ พวกเขากลับทำสิ่งตรงกันข้ามนั่นคือจับงูมาประกอบอาหาร ด้วยการหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วนำไปต้มยำทำแกง พร้อมกับเครื่องเทศต่างๆ กลายเป็นอาหารอันโอชะจานเด็ดดับความหิวซะเลย ต่อมาภาพของต้มยำงูตัวนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ต แต่เมื่อทางมหาวิทยาลัยได้มาเห็นเข้าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณครูคนหนึ่งบอกว่าพวกเขารู้สึกขำไม่ออกเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะว่ามันทำให้ภาพลักษณ์ของสถาบันดูเสียหายนั่นเอง โดยหากจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว สัตว์อย่างงูก็ไม่ได้เป็นที่นิยมกินกันในทุกส่วนของโลก จะมีก็เพียงแต่ประเทศแถบเอเชียเท่านั้นที่เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เรากินเนื้องูกัน และบางทีก็ยังมีความเชื่อกันว่าเนื้องูมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย ในตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่านักศึกษาชายกลุ่มดังกล่าวโดยลงโทษอะไรหรือไม่ แต่ที่รู้ๆ คือตอนนี้งูตัวนั้นได้เข้าไปสู่กระเพาะของพวกเขาด้วยรสชาติเอร็ดอร่อยแล้วเป็นที่เรียบร้อย เลื้อยผิดชีวิตเปลี่ยน.. ที่มา: nextshark
-
สาวน้อยสุดโลลิ คิดว่าตัวเอง ‘อ้วนเกินไป’ บินผ่าตัดเกาหลี ผลลัพธ์กลับ ‘พัง’
Venus Isabelle Palermo หรืออีกฉายาที่รู้จักกันดีว่า Venus Angelic นั้นเป็นเพียงสาวน้อยชาวสวิตเซอร์แลนด์วัย 21 ปีที่หน้าตาอ่อนเยาว์ราวกับเด็ก ป.6 ตัวเธอเองชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างมากและมักจะแต่งหน้า แต่งตัว เป็นสาวคอสเพลย์น่ารักๆ ที่ชาวเน็ตพร้อมใจกล่าวกันว่า เธอคือแม่สาว “โลลิ” ตัวจริง Venus Angelic โลลิที่แท้ทรู น่ารักล่ะซี๊ คาวาอี้เดส!!! เรื่องราวเริ่มต้นที่ว่า… เธอมีความสูง 170 เซนติเมตรและมีน้ำหนัก 54 กิโลกรัม ซึ่งตัวเธอเองกลับมองว่าไอ้น้ำหนัก 54 กก. ที่ว่านี่แหละ คือน้ำหนักที่มากเกินไปสำหรับเธอ เธอมองว่าตัวเองยัง อ้วนเกินไป จากนั้นเธอจึงตัดสินใจเดินทางไปผ่าตัดศัลยกรรมท้องออกที่ประเทศเกาหลี เพื่อทำให้กระเพาะอาหารเล็กลง และทำให้เธอสามารถทานอาหารได้น้อยลงนั่นเอง เรื่องราวเป็นไปอย่างใจเธอต้องการ แพทย์ได้ผ่าตัดเอา ลำไส้ ส่วนท้องของเธอออกไปราว 120 เซนติเมตร ผลสุดท้ายมันทำให้เธอกลายมามีรูปร่างแบบนี้… หมดกันความโลลิ! เป้าหมายของเธอคืออยากรักษาน้ำหนักไว้ที่ 51 กิโลกรัม เพื่อที่จะได้ดูผอมเพรียวเป็นธรรมชาติ แต่ผลกลับผิดคาด…
-
‘Venom Man’ บุรุษผู้มีภูมิต้านทานพิษงู แถมยังต้องเพิ่มพลังด้วยการให้งูกัดสัปดาห์ละครั้ง!!
สัตว์มีพิษอย่าง ‘งูเห่า’ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ต้องเกรงกลัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับมัน เพราะการกัดของมันเพียงครั้งเดียวสามารถล้มสัตว์ใหญ่ๆ ได้เป็นตัวๆ รวมถึงมนุษย์เราด้วย แต่ว่ามีคนๆ หนึ่งที่ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะร่างกายของเขาสามารถทนทานต่อพิษของงูได้ หนำซ้ำเขายังต้องให้งูเห่ากัดทุกๆ สัปดาห์เพื่อให้มีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นด้วย!! Joe Quililan นักจับงูเจ้าของฉายา ‘Venom Man’ วัย 31 ปี จากเมือง Cagayan de Oro ประเทศฟิลิปปินส์ คือคนที่มีพลังวิเศษดังกล่าว เขาเล่าให้ฟังว่าได้ค้บพบพลังนี้ตั้งแต่เขาเริ่มจับงูตัวแรกเมื่อครั้งมีอายุ 14 ปี โดยในตอนนั้นก็เป็นเพราะความอ่อนประสบการณ์ในการจับงู จึงทำให้มีอยู่วันหนึ่งเขาก็ถูกงูเห่าฉกเข้าให้ แต่แทนที่เขาจะเจ็บปวดจนต้องไปโรงพยาบาล เขากลับบอกว่าร่างกายของเขาก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไรเสมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แม้ว่าคนทั่วๆ ไปเมื่อโดนฉกแล้วส่วนมากจะเสียชีวิตก็ตาม Joe ยืนยันว่าการถูกฉกในครั้งแรกของเขานั้น ทำให้เขารู้ว่าตัวเองนั้นมีภูมิต้านทานวิเศษต่อพิษของงูเห่า เขาจึงใช้เวลาหลายปีต่อมาเพื่อทำให้ภูมิต้านทานของเขานี้มีความแข็งแกร่งมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่การจะไปถึงขั้นนี้ได้ Joe ก็ยอมรับว่ามันใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนกัน โดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาต้องเจ็บปวดกับการถูกงูดกัดเป็นร้อยๆ ครั้ง และบางครั้งพิษงูนั้นก็รุนแรงจนเขาต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเหมือนกัน นอกจากนี้เขาก็บอกว่าต้องประสบกับประสบการณ์เฉียดตายกับเรื่องนี้มาแล้วถึง 5 ครั้ง แถมยังมีนิ้วมือนิ้วหนึ่งที่ใช้งานไม่ได้เนื่องมาจากพิษของงู…
-
หนุ่มตกใจ…หลังบังเอิญพบ ‘หลุมหลบภัยจากสงครามโลกครั้งที่ 2’ ที่สวนหลังบ้านของตัวเอง!?
ใครเล่าจะคิดว่า ‘ท่อระบายน้ำในสวนหลังบ้าน’ จะกลายเป็นห้องปฏิบัติการลับในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองไปซะได้!? Chris Scott จากเมืองมิดเดิลสโบรห์ ประเทศอังกฤษ ที่เพิ่งมารู้ตัวว่าในสวยหลังบ้านของตัวเองนั้นมีห้องลับจากสงครามโลกครั้งที่สองซ่อนอยู่ หนุ่มวัย 40 ปี ขอความช่วยเหลือจาก Tony Sizer ช่างในหมู่บ้าน ในการทำความสะอาดและดูดน้ำออกจากห้องนี้จนหมด พบว่าเป็นห้องคอนกรีดที่มีลักษณะเป็นบังเกอร์หลบภัย มี 2 ห้อง มีบันไดและทางหนีอยู่ด้วย “ตอนแรกผมคิดว่ามีนคือท่อระบายน้ำ เพื่อนบ้านแต่ละคนต่างก็บอกว่ามันคือหลุมหลบภัย ผมไม่อยากจะเชื่อเลย” “เรานั่งดื่มชากันอยู่ที่สวนหลังบ้าน ก่อนจะตัดสินใจลงไปสำรวจดู ขนาดของมันใหญ่มากๆ มีทั้งระบบวงจรไฟฟ้า สวิตช์ต่างๆ บนกำแพง แถมยังมีโต๊ะด้วย” Chris เล่า นอกจากนี้ตามรายงานขอเว็บไซต์ Ladbible ยังระบุอีกว่า เจ้าบังเกอร์นี้ถูกสร้างให้สามารถจุคนได้มากกว่า 100 คนเลยทีเดียว จากขนาดความกว้างของห้องหนึ่งที่มี 4*3 เมตร และอีกห้อง 5*3 เมตร นอกจากนี้ยังมีประตู และบันได ที่เอาไว้หลบหนีอีกด้วย แต่มีประตูหนึ่งที่ถูกทำลายไป อาจจะเป็นเพราะถูกระเบิดเล่นงาน …
-
คอสเพลย์สายแบ๊ว ปกป้องสาวโดนล้วงนม “ถ้าอยากจับนม…มาจับของพวกกูนี่!!”
ยุคสมัยนี้การแต่งตัวเป็นตัวละครจากหนังหรือการ์ตูนที่เรียกว่า การแต่งคอสเพลย์ นั้นกลายเป็นที่นิยมกันอย่างมากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและอื่นๆ รวมไปถึงประเทศไทยด้วย สิ่งที่น่าชื่นชมมากที่สุดสำหรับการแต่งคอสเพลย์ก็คือ การที่แต่งด้วยความใส่ใจในรายละเอียด ของชุด และอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไอ้ชุดที่มันเซ็กซี่ๆ เปิดตรงนั้นนิด ปิดตรงนี้หน่อย ยิ่งทำให้ได้ใจผู้คนไปเต็มๆ เลยล่ะ แต่มันก็ดั๊นมี กลุ่มคนนิสัยแย่ กลุ่มหนึ่งที่อดใจไม่ไหวชอบแอบแต๊ะอั๋งเหล่านักคอสเพลย์สาวๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ฮีโร่จึงออกมาปกป้อง นักคอสเพลย์สุดแบ๊วที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @ALL_SSR และเพ่ื่อนของเธอ @futa_free ได้ออกมาปกป้องเหล่าคอสเพลย์เยอร์สาวที่ต้องเสี่ยงกับการถูกลวนลาม โดยการโพสต์ภาพที่พวกเธอสวมชุดสุดน่ารักมุ้งมิ้ง แต่กลับเขียนข้อความเอาไว้อย่างฮา จนกลายเป็นไวรัล พวกเขาเขียนว่า: “เอาจริงๆ ต่อให้สาวๆ แต่งตัวเซ็กซี่ขนาดไหน มันไม่ได้แปลว่าพวกเธอไม่รักนวลสงวนตัว เอามือไปล้วงไปลวนลามอย่างนั้นมันไม่ถูกต้อง ถ้าพวกคุณอยากจับนมใครสักคนจริงๆ ล่ะก็ มาหาพวกเราดูสิ เราจะให้คุณได้สัมผัสและดื่มด่ำกับความรู้สึกสักหน่อย แต่แค่หน่อยเดียวนะ เฉพาะในงานคอสเพลย์เท่านั้นด้วย ♥” เรียกได้ว่าชาวเน็ตถึงกับงงกันเป็นไก่ตาแตก เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้หรอ ให้จับฟรีจริงดิ!? แต่จะว่าไปสาวสองคนนี้ หน้าอกแบน แปลกๆ แฮะ หน้าตาน่ารักคาวาอี้แบบนี้อย่าบอกนะว่าเป็น… ผู้ชาย!!! และมันก็ใช่จริงๆ เสียด้วย ทั้งสองคนนี้เป็นชายหนุ่มสองหน่อที่มีความสามารถในการแต่งหน้าระดับเทพ แถมยังกล้ามโตเป็นมัดเสียด้วย งานนี้เล่นเอาชาวหื่นทั้งหลายไม่กล้าไปแตะเนื้อต้องตัวเลยล่ะจ้า กลัวแล้ววว~ ด้วยความที่เขาทั้งสองออกมาปกป้องเหล่านักคอสเพลย์หญิงด้วยมุกสุดฮา…
-
ภัยเงียบของคนเก่ง ชีวิตของ Ranjan Das ซีอีโอวัย 40 ดูแลสุขภาพดี แต่เสียชีวิตเพราะนอนน้อย
การที่หนึ่งคนจะประสบความสำเร็จในด้านหน้าที่การงานได้ จะต้องทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจไปมากแค่ไหนกัน? และสิ่งที่ทุ่มลงไปนั้น กำลังตอบแทนหรือกำลังบั่นทอนชีวิตของเรากันอยู่… สิ่งที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ คือเรื่องราวของ Ranjan Das นักธุรกิจระดับผู้บริหารอายุน้อย ด้วยวัยเพียง 42 ปี แต่มีหน้าที่การงานและความรับผิดชอบที่ใหญ่โต ซึ่งเขาก็จัดการได้เป็นอย่างดีเสียด้วย Ranjan Das นั้นเป็นกรรมการผู้จัดการและผู้บริหาร ของบริษัทซอฟต์แวร์ SAP ประจำภูมิภาคอินเดีย และเขาก็เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อสุขภาพสูงมากๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ เข้ายิมทุกวันและเป็นนักวิ่งมาราธอนตัวยง ไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่… โดยในทุกๆ วันเขาจะออกวิ่งบนถนนเส้น Carter ย่าน Bandra ในเมืองมุมไบ แต่แล้วในวันหนึ่ง หลังจากที่กลับมาบ้านหลังออกกำลังกายเป็นประจำ เขาล้มลงจากหัวใจวายอย่างรุนแรง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา (ปี 2009) จากการเสียชีวิตของ Ranjan Das กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในบริษัทห้างร้านของอินเดียขึ้นมาทันที เนื่องจากว่าเขามีสุขภาพดีมากๆ เป็นนักกีฬาตัวท็อป แต่กลับเสียชีวิตกระทันหันได้อย่างไร หรือมีสาเหตุมาจากการทำงานหนัก? ทั้งนี้ จากการสืบประวัติการใช้ชีวิตของเขา Ranjan Das เคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ…
-
ชาวญี่ปุ่นโอด…นักท่องเที่ยว ‘แกะสลัก’ ต้นไผ่ ในป่าไผ่อาราชิยามะ เจ้าหน้าที่ต้องจำใจตัดทิ้ง
‘ป่าไผ่อาราชิยามะ’ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เหล่านักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเดินทางไปเยือนเกียวโตเป็นต้องไปเยี่ยมชม แต่เนื่องจากว่ามันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนมากหน้าหลายตาไปเยือน ย่อมทำให้เกิดปัญหาตามมา และปัญหาที่ป่าไผ่อาราชิยามะกำลังเผชิญอยู่นี้ เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้คนญี่ปุ่นมากมายออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจากว่าเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา บริษัท Ebisuya ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการรถลากในป่าไผ่อาราชิยามะ รวมไปถึงช่วยจัดการดูแลด้านต่างๆ ในป่าไผ่แห่งนี้ ได้ทำการโพสต์หน้าเฟซบุ๊กเพจ เป็นภาพของต้นไผ่ที่ถูกสลักเขียนเป็นตัวหนังสือในภาษาต่างๆ มากมาย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งให้แคปชั่นในโพสต์ดังกล่าวว่า “ต้นไผ่ในป่าอาชิรายามะกำลังร้องไห้” ในโพสต์เล่าว่าต้นไผ่ที่ถูกแกะสลักนั้นจะต้องถูกตัดออกไป เหตุเป็นเพราะว่ารอยที่ถูกกรีดของต้นไผ่จะทำให้ต้นไผ่ค่อยๆ ผุพังไปทีละน้อย นั่นหมายความว่าจำนวนต้นไผ่ที่อยู่ในป่าไผ่จะหายไป ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมหลังจากนี้จะไม่ได้ชมความงามที่แท้จริงของป่าไผ่ได้เหมือนในอดีต จากในโพสต์ระบุว่าตอนนี้มีต้นไผ่ที่ต้องตัดไปกว่า 100 ต้นแล้ว!! นอกจากนี้ทางเพจยังได้ทำการขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ว่าหากเห็นการกระทำที่ไม่ถูกไม่ควร อย่างการแกะสลักต้นไผ่นี้ ก็ให้รีบมาแจ้งแก่เจ้าหน้าที่โดยด่วน จากการตรวจสอบบนต้นไผ่แล้วพบว่ามีตัวหนังสือภาษาอังกฤษ, เกาหลี, จีน และบางส่วนก็มีภาษาญี่ปุ่นอยู่ด้วย จากการคาดการณ์นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมยังป่าไผ่ ได้ทำการแกะสลักชื่อของตัวไว้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าตนได้มาเที่ยวยังที่แห่งนี้แล้ว เพราะต่อจากชื่อก็มีการสลักเป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงวัน เดือน ปี ทางด้านเทศบาลของเมืองเกียวโต ก็ได้มีประกาศออกมาเพื่อขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยว ไม่ให้ทำการแกะสลักต้นไผ่เพื่ออนุรักษ์ป่าไผ่ …
-
สกอฟิลด์มาเอง!! นักโทษขุดหลุมลึก 70 เมตรจะแหกคุก สุดท้ายขาดอากาศหายใจตายอนาถ
หากใครเคยดูซีรีส์แหกคุกสุดมันส์อย่าง Prison Break หรือหนังแหกคุกต่างๆ เราก็อาจเห็นได้ว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทายมากจริงๆ ที่สามารถแหกคุกออกมาได้จากแผนที่วางเอาไว้ต่างๆ แต่ว่าเรื่องในแผ่นฟิล์มเหล่านั้นมันได้กลายเป็นเรื่องจริงๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกของเรา เมื่อมีนักโทษคนหนึ่งพยายามจะแหกคุกด้วยการขุดอุโมงค์ใต้ดินเพื่อจะลอดไปยังอีกฝั่งหนึ่งของรั้ว ซึ่งแผนการของเขาก็ดูฉลาดไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ ทว่าใครจะไปคิดว่าสุดท้ายเขาต้องตายจากการขาดอากาศหายใจซะอย่างงั้น!! หลุมสู่อิสรภาพ โดยเรื่องราวของพ่อหนุ่มสกอฟิลด์ในชีวิตจริงนี้เกิดขึ้นที่เรือนจำ Monte Cristo ที่มีระดับความปลอดภัยสูงสุดทางตอนเหนือของประเทศบราซิล เมื่อมีนักโทษชื่อว่า Judson Cunha Evangelista ผู้ต้องหาฆ่าคนตายอายุ 26 ปี พยายามจะหนีออกจากการใช้ชีวิตในลูกกรงด้วยหลุมพรางที่ขุดเอาไว้ใต้ห้องน้ำในห้องขังลึกกว่า 70 เมตร ไหนดูหน่อยซิเป็นยังไงบ้าง แผนการของพ่อหนุ่มคนนี้ดูกำลังจะไปได้สวยและกำลังจะได้สัมผัสกับอิสระที่โหยหา แต่ว่าก็มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นระหว่างที่อยู่ในอุโมงค์นั้น เพราะด้วยความที่มันมีขนาดที่เล็กและคับแคบจึงทำให้ Judson เกิดขาดอากาศหายใจ จนต้องดั้นด้นกลับมาที่ห้องขังอีกครั้งด้วยอาการป่วยอย่างหนัก และด้วยอาการป่วยของเขานี้เองจึงเป็นที่น่าสงสัยของเจ้าหน้าที่ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้นำไปสู่การค้นพบหลุมนี้ในที่สุด!! ยังงี้ต้องกลบให้มิด โดยเจ้าหลุมที่ว่านี้ถูกพบเข้าในวันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งเจ้าหน้าที่ไปเจอเข้าที่บริเวณห้องส้วมภายในห้องขังของนาย Judson แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่ามันมีความลึกมากกว่า 70 เมตรลอดผ่านรั้วไฟฟ้าของเรือนจำ และมีจุดหมายปลายอุโมงค์อยู่ที่บริเวณป่าทึบภายนอกของรั้วคุกนั่นเอง จากการเข้าสำรวจของเจ้าหน้าที่ได้ทำให้เห็นว่า อุโมงค์นี้น่าจะมีการใช้เวลาในการขุดนานนับหลายเดือน และจะต้องมีการร่วมมือกับนักโทษคนอื่นๆ เป็นแน่แท้ เพื่อที่จะทำให้อุโมงค์นี้ประสบความสำเร็จและทำการแหกคุกหมู่ด้วยกัน เพราะภายในอุโมงค์ก็ยังมีถุงใส่ผ้าปูที่นอนหลายใบ สายเคเบิลรวมถึงหลอดไฟติดเอาไว้ที่ส่วนปลายทางด้วย…
-
กองทัพไต้หวันดำเนินคดีสาวคอสเพลย์ เพราะสวมชุดแบบทหารถ่ายภาพเซ็กซี่
สาวไต้หวันโดนดำเนินคดี หลังแต่งชุดคอสเพลย์เป็นทหารสาวแล้วถ่ายภาพเซ็กซี่ เมื่อวันที่ 22 พฤาภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่านักคอสเพลย์สาวชาวไต้หวัน ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กเพจ Momo Cat ได้ถูกกระทรวงกลาโหมของเกาะไต้หวันดำเนินคดี หลังโพสต์ภาพถ่ายเซ็กซี่ขณะสวมใส่ชุดเครื่องแบบของทหารและโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ตเมื่อราวๆ สัปดาห์ก่อน เฟซบุ๊กเพจ Momo Cat นั้นเป็นเพจที่มักจะปล่อยภาพคอสเพลย์แปลกๆ ที่มีความเป็นศิลปะและบางครั้งก็มีภาพที่ออกไปในแนวภาพนู๊ดอยู่บ่อยครั้ง ตามรายงานบอกว่าภาพเซ็กซี่ที่โพสต์ นั้นแวดล้อมไปด้วยอุปกรณ์แบะสถานที่ฝึกซ้อมของค่ายทหารในเถา-ยฺเหวียน ที่อยู่ติดกับกรุงไทเป ด้วยความเซ็กซี่นี้เองทำให้ไปเตะตาเจ้าหน้าที่ในกระทรวงกลาโหมของไต้หวัน ทางโฆษกของกองทัพ Chen Chong-chi กล่าวว่ากองทัพไม่พอใจที่จะเห็นพลเรือนสวมเครื่องแบบทหาร และรู้สึกว่าการกระทำของเพจ Momo Cat เป็นการทำลายภาพลักษณ์ของกองทัพไต้หวันเสียหาย อีกทั้งยังเป็นการละเมิดกฎหมายที่ห้ามไม่ให้พลเมืองสวมใส่ชุดทหาร ทั้งนี้เธอถูกลงโทษโดยการปรับเป็นเงิน 500 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราวๆ 535 บาท) และยังมีรายงานว่าทางกองทัพจะมีการติดตามคดีนี้ต่อไปด้วย แม้ทาง Momo Cat จะลบภาพออกไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีคนเซฟภาพของเธอไว้ได้และนำไปแชร์ต่อๆ กันอีกนับไม่ถ้วน นอกจากที่ไต้หวันแล้ว ที่ประเทศจีนก็เกิดเรื่องราวคล้ายๆ กัน โดยสื่อท้องถิ่นของจีนรายงานว่าทางการจีนได้ระงับการเผยแพร่คลิปวิดีโอของนักคอสเพลย์สาวเซ็กซี่ ที่แต่งตัวเลียนแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา ตามรายงานบอกว่าหญิงสาวรายนี้ได้ตั้งกล้องถ่ายทอดสดพร้อมกับใส่ชุดตำรวจ เพื่อหวังว่าจะดึงดูดผู้ติดตามเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ที่นั่นบอกว่าสิ่งที่เธอทำนั้น…
-
เทรนด์มาใหม่ ถ่ายรูปบิกินี่โชว์ง่ามให้เป็นรูปสามเหลี่ยมช็อกโกแลต Toblerone
เทรนด์สาวทางตะวันตกนี่บอกเลยว่ามันแซ่บจัดจ้านกันซะเหลือเกิน ส่วนตัวแล้ว #เหมียวบู้บี้ ชอบมากๆ เลยตอนที่เวลาส่องไอจีของสาวฝรั่ง แต่ละคนนี่แม่เจ้าโว๊ยยยย หุ่นแซ่บ หน้าแซ่บ ชอบมากกกก >< ช่วงนี้สาวๆ ก็เริ่มมีเทรนด์ใหม่ๆ มาทำให้เราใจคอไม่ค่อยดีกันเท่าไหร่ เทรนด์นี้ถ้าใครหุ่นไปไม่เป๊ะจริงๆ คงต้องโบกมือบ๊ายบายรอเทรนด์ต่อไปที่เหมาะกับเราดีกว่า เทรนด์ใหม่ที่ว่านี้ก็คือเทรนด์ Toblerone tunnell ชื่ออาจจะฟังดูคุ้นๆ เหมือนกับช็อกโกแลตยี่ห้อหนึ่ง นั่นแหละค่ะ ที่มามันเป็นเพราะรูปทรงของช็อกโกแลต Toblerone จะมีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยมนั่นเอง สาวๆ ก็เลยเก็ตไอเดียมาสร้างเทรนด์ใหม่ๆ ให้ได้ทำตามกันนั่นก็คือ การโชว์ความอุดมสมบูรณ์ของหุ่นกัน หุ่นที่ฝรั่งชอบมากเลยก็คือสาวๆ ที่มีบั้นท้ายใหญ่ๆ เรื่องนมไม่สู้แต่เรื่องตูดนี่สู้ตาย ยอมกันไม่ได้เลยค่ะ เทรนด์นี้เริ่มเปิดขึ้นโดยสาวผู้ทรงอิทธิพลของโลกอินเทอร์เน็ตอย่า Kendall Jenner ที่บางครั้งเธอก็จะมาอวดหุ่น เอวเล็กๆ ช่วงก้นบานมีรูปทรงคล้ายสามเหลี่ยมช็อกโกแลต Toblerone ถึงก้นจะเล็กแต่ก็ดูสมส่วนใช้ได้ โชว์ก้นก็ต้องบิกินี่ตัวจิ๋ว บร๊ะละฮึ่ม หุ่นแบบนี้คือเซ็กซี่มากๆ โชว์สามเหลี่ยมช็อกโกแลตด้านหลังแล้วก็โชว์ด้านหน้าบ้าง …
-
ชาวจีนแชร์คลิปรถขนไข่ไก่เจอแดดร้อนจัด จนฟักกลายเป็นลูกเจี๊ยบหน้าตาเฉย!?
เมื่อไหร่ที่อากาศร้อนมันก็ทำให้สิ่งมีชีวิตใช้ชีวิตได้ลำบากขึ้น ยิ่งร้อนมากๆ เข้าก็ยิ่งมีโอกาสที่สิ่งมีชีวิตเกิดอาการฮีทสโตรก (เป็นลมแดด) ได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งมีชีวิตบางชนิดอาจจะต้องการความร้อนที่ว่านั่นก็ได้ เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจจากจีน 嘿嘿 ได้แชร์คลิปวิดีโอที่เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วอินเตอร์ เป็นคลิปของรถบรรทุกขนแผงไข่ไก่คันหนึ่งที่วิ่งอยู่ท่ามกลางแดดร้อนจัด แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือไข่ที่อยู่ในแผงเหล่านั้นดันฟักตัวออกมาเป็นลูกเจี๊ยบ!? ตัวคลิปวิดีโอมีความยาวแค่ 11 วินาที แต่คุณน่าจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีลูกเจี๊ยบ ที่น่าจะมีราวๆ 5 ตัวที่ปรากฏบนคลิป พยายามตะเกียกตะกายออกมาจากเปลือกไข่ และไข่บางใบก็เหลือแต่เปลือกไข่เปล่าๆ แล้ว ไม่มีการระบุแน่ชัดว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่พื้นที่ใดของประเทศจีน แต่ที่เรารู้แน่ๆ คืออากาศในวันนั้นต้องร้อนมากแน่ๆ แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะถูกถ่ายในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน เนื่องจากในขณะนี้กำลังมีข่าวว่าสภาพอากาศที่นั่นร้อนจัดจนผิดปกติจากสภาพอากาศของทุกๆ ปี ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่เลย หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปก็เกิดการถกเถียงกันในโลกอินเตอร์เน็ตว่าไข่เหล่านี้ไม่น่าจะใช่ไข่สำหรับบริโภค แต่เป็นไข่สำหรับการเพาะเลี้ยงมากกว่า จึงเป็นไปไม่ได้ที่ไข่ไก่ธรรมดาๆ จะฟักตัวออกมาเป็นลูกเจี๊ยบแบบนี้ ที่มา odditycentral
-
ชวนชมดีไซน์ลิฟต์แปลกๆ จากโรงแรม และอาคารต่างๆ ว่ามีไอเดียเก๋กู๊ดยังไงบ้าง?
ถ้าเราไปตามห้างสรรพสินค้าหรือตามโรงแรมต่างๆ เราจะเห็นว่าลิฟต์ในหลายๆ ที่มีความคล้ายคลึงกัน นั่นก็คือห้องเล็กๆ ที่มีปุ่มเยอะๆ ให้กด หรือบางที่อาจจะแอดวานซ์ขึ้นมาหน่อยเป็นลิฟต์แก้วให้เราได้เห็นบรรยากาศโดยรอบ วันนี้เราเลยอยากลองพาคุณไปดูรูปแบบลิฟต์แปลกๆ จากหลายที่ ที่มีเทคโนโลยีและการดีไซน์ที่แปลกแตกต่างออกไป จนคุณรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้ขึ้นลิฟต์เลยก็ว่าได้ 1. ลิฟต์ที่ยิ่งขึ้นไปสูงก็ยิ่งแสดงให้เห็นการเจริญเติบโตของอาคารบ้านเรือนในนิวยอร์ก 2. ลิฟต์อควาเรียม ในเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี 3. ลิฟต์นี้มีปุ่มฉุกเฉิน เผื่อในกรณีที่คุณล้มและไม่อาจลุกขึ้นยืนได้ 4. แค่โปสเตอร์ก็สร้างงานอาร์ตได้ 5. ลิฟต์นี้ติดตั้งปุ่มไว้ด้านล่าง เพื่อให้คุณใช้เท้าแตะมันได้ 6. นี่เป็นลิฟต์ในศูนย์ดูแลคนชราแห่งหนึ่ง ที่ติดสติ๊กเกอร์ไว้ด้านหน้า เพื่อลดความตึงเครียดของผู้ป่วย และหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่พวกเขาจะหนีออกไปข้างนอก 7. ประตูลิฟต์ที่ติดสติกเกอร์เหมือนตู้โทรศัพท์ที่มาจากซีรีส์ Dr. Who 8. ลิฟต์นี้รับน้ำหนักได้ 1,000 กิโลกรัม 13 คน หรือ ร่ม 2,000 คัน แมวน้ำ 5 ตัว แก้วช็อต 9,823 แก้ว กีต้าร์ 250 ตัว…
-
ญี่ปุ่นติดป้าย ห้ามให้อาหารนก ด้วยรูปนกกำลังพูดว่า “ไม่ต้องให้อาหารนะครับขอร้อง”
ปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ๆ ก็คือการที่มีนกมารวมกลุ่มกันเพื่อรอกินอาหารที่มนุษย์อย่างเราๆ จะโยนให้มัน จนทำให้มันไปอึเรี่ยราดและสร้างความรำคาญให้กับคนที่ผ่านมาไปผ่านมา นั่นจึงทำให้ต้องมีการติดป้ายเตือนเพื่อกันไม่ให้คนไปให้อาหารมันจนมันติดเป็นนิสัยนั่นเอง ล่าสุดมีคนพบเห็นวิธีการแก้ปัญหาแบบน่ารักๆ ในญี่ปุ่น ที่มีการติดป้ายข้อความ “ห้ามให้อาหารนก” ด้วยรูปนกกำลังพูดว่า “ไม่ต้องให้อาหารนะครับ ขอร้องล่ะ” ภาพนี้ถูกแชร์ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @nihmiu ขณะเดินอยู่ในเมืองฮิโรชิมา เป็นภาพของป้ายห้ามให้อาหารนก โดยมีคำว่า “No!” เพื่อให้ชาวต่างชาติเห็น พร้อมกับข้อความว่า “ฉันอยากอยู่อย่างอิสระโดยไม่ต้องมีมนุษย์มายุ่ง!” อันที่จริงแล้ว การที่จะกำจัดนกเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายมาก เพียงแค่ผสมสารพิษลงในอาหารเม็ดแล้วหว่านให้พวกมันกิน เท่านี้ก็ทำให้จำนวนของพวกมันลดลงแล้ว แต่พวกเขาก็เลือกใช้วิธีที่ละมุนละม่อมกว่านั้น ซึ่งก็ดูน่ารักไปอีกแบบ นอกจากภาพของ @nihmiu แล้ว ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายอื่นๆ ก็เข้ามาแชร์ภาพแนวๆ เดียวกันนี้ให้โลกออนไลน์ได้ดูด้วย เช่น “ฉันหาอาหารเองได้นะ!!” “ขอร้องล่ะอย่าให้อาหารพิราบเลย มันสร้างปัญหาให้กับพิราบในพื้นที่นี้” “อย่าให้อาหารพิราบ!” “หยุดเถอะ ฉันไม่ต้องการอาหารแล้ว พิราบในโตเกียวเด็ดขาดเรื่องนี้มากนะ” และจากภาพต้นฉบับ ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ @quartet1115 นำเอาไปทำเป็นภาพล้อเลียน โดยเปลี่ยนจากภาพนกกลายเป็นภาพคนพร้อมกับข้อความว่า “ขอร้องช่วยให้รายได้มูลฐานกับผู้คนด้วย” (เงินสวัสดิการที่รัฐจ่ายให้ประชาชนที่ไม่มีงานทำเลยฟรีๆ) และมีแคปชั่นด้านล่างภาพว่า “การให้เงินสวัสดิการกับผู้คนหมายถึงการที่คนไม่อยากจะทำงานจะไม่ถูกบังคับให้ทำงานนั่นเอง!” …
-
แม้เจ้าชายแฮร์รี่จะมีคู่ แต่นี่คือ 8 เจ้าชายยังโสดจากรอบโลก ที่คุณยังมีโอกาสเป็นเจ้าหญิงได้
พิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮรี่และเมแกน มาร์เคิลเพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ที่ได้ติดตามก็คงจะได้เห็นพิธีการเสกสมรสตามฉบับที่เหมือนกับตอนจบของเทพนิยาย ทำให้สาวๆ อย่างเราพากันมโนว่าเราจะได้เป็นเจ้าหญิงบ้าง เอาเป็นว่าเรามาดูรายชื่อ 8 เจ้าชายตอนนี้ยังโสด อย่างน้อยเราก็อาจจะพอมีหวังแหละนะ 1. เจ้าชาย ฮุซัยน์ บิน อับดุลลอฮ์ มกุฏราชกุมารแห่งจอร์แดน (HRH Crown Prince Al-Hussein bin Abdullah II) เจ้าชายมีพระชนมายุเพียง 23 พรรษา ทำหน้าที่ในกองทัพของจอร์แดน และยังทรงเป็นผู้นำทางด้านการศึกษาแก่เยาวชนในจอร์แดนอีกด้วย 2. เจ้าชายฟิลิปปอสแห่งกรีซและเดนมาร์ก (HRH Prince Philippos of Greece and Denmark) พระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 ปัจจุบันพระชนมายุ 32 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ 3. เจ้าอัลเบิร์ต วอน ธูร์น อุน แท็กซิส เจ้าชายมีพระชนมายุ 24…
-
คู่รักลุงป้า ‘บงปง’ แต่งตัวเหมือนกันทุกวัน อยู่ร่วมกันมา 38 ปี เตรียมออกแบรนด์เสื้อผ้าแล้ว
หลายๆ ท่านอาจจะเคยได้พบได้เห็นภาพน่ารักๆ ของคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นคู่นี้กันมาบ้างแล้ว ที่มักจะโพสต์รูปภาพคู่ในชุดโทนเดียวกันเป็นประจำ ซึ่งในปัจจุบันก็โด่งดังมากๆ จนมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากถึง 700,000 คน!! bon・pon หรือ (夫妻 ที่แปลว่าสามีภรรยา) คือคู่รักวัยเกษียณชาวญี่ปุ่น ร่วมกันสร้างปรากฎการณ์แห่งความน่ารักของชีวิตคู่สูงวัย แต่ใจยังวัยรุ่น ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่ยังคงสมวัย ทันสมัยและเป็นแนวเสื้อผ้าคู่รัก ทำการโพสต์ผ่านอินสตาแกรมมาตั้งแต่ปี 2016 คุณลุง Tsuyoshi Seki และคุณป้า Tomi Seki คือผู้ที่อยู่ในรูปถ่ายเหล่านั้น และเป็นผู้อัพโหลดความเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมด้วยตนเอง จากการตั้งไอโฟนบนขาตั้งกล้องและแชะรูปภาพน่ารักๆ ร่วมกัน เพื่อแชร์ให้กับชาวเน็ตได้ชื่นชม . และคู่รักในวัย 60 ปี ก็จะปรากฎในชุดแต่งกายสไตล์น่ารักสำหรับชีวิตประจำวัน จับคู่โทนสีให้เหมือนกัน ด้วยความเรียบง่ายเหล่านี้ก็ทำให้ได้รับคำชื่นชมจากทั้งแฟชั่นนิสต้า และผู้ติดตามที่คอยรอชมในอินสตาแกรม . ชื่อเสียงของทั้งคู่ โด่งดังไปจนทั่วอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการให้สัมภาษณ์ผ่านบทความทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสารหลายฉบับในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้ตีพิมพ์หนังสือเป็นของตัวเองถึง 2 เล่มเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบชีวิตการแต่งงาน …
-
คู่รักเกย์ถูกทำร้ายร่างกาย จากการที่เดิน ‘กุมมือ’ กันกลับบ้านหลังจากออกจากไนท์คลับ
ในปัจจุบันของโลกใบนี้ ได้ก้าวเข้ามาสู่ยุคแห่งความอิสระเสรี เปิดกว้างไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องความคิด การกระทำ ศาสนา ชนชั้น สีผิวหรือแม้กระทั่งเรื่องเพศก็อิสระทั้งนั้น แต่เมื่อมีคนที่ยอมรับเสรีและความเปิดกว้างนี้ ก็ย่อมจะมีกลุ่มคนบางคนที่ไม่ยอมรับการเปิดกว้างทางความคิดหรือทางเพศ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายแบบที่เราจะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันในวันนี้ขึ้น โดยที่เรื่องนี้เป็นเรื่องของ Andy Millin ชายอายุ 32 ปี และ Cameron Stringer ชายอายุ 26 ปี คู่รักชาวสก็อตแลนด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2018 ในขณะที่พวกเขากำลังกลับจาก CC Blooms ไนท์คลับใน กรุงเอดินเบอระ ประเทศสก็อตแลนด์เวลาประมาณ 3.00 น. Millin บอกขณะที่กำลังเดินจับมือกันข้ามถนนอยู่ก็ได้มีชายสองคนเดินตามหลังพวกเขามา ซึ่งในตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่จู่ๆ หนึ่งในสองคนนั้นก็วิ่งเข้ามาและถีบ Cameron เข้าที่หลัง ซึ่งสิ่งที่ Millin นึกได้ตอนนั้นคือการช่วย Cameron ออกมาจากเหตุการทำร้ายร่างกายนั้น แต่ชายอีกคนก็ตามเข้ามาสมทบและต่อย Cameron จากด้านหลังอีกที รวมถึงเขาก็ถูกต่อยจนสลบไปด้วย …
-
สิ่งที่สะท้อนผ่าน “ของเล่นเด็ก” เหล่านี้ คือคุณภาพชีวิตของแต่ละบ้านที่ฐานะแตกต่างกัน
Anna Rosling Rönnlund ริเริ่มก่อตั้งทีมนักถ่ายภาพให้ออกไปถ่ายภาพของ 264 ครัวเรือนจำนวน 50 ประเทศ โดยในแต่ละบ้านที่พวกเขาเข้าไปถ่ายนั้นจะใช้เวลาเกือบทั้งวัน พวกเขาต้องถ่ายสิ่งของราว 135 ชิ้นในบ้านนั้นๆ เช่น รองเท้า แปรงสีฟัน หรือแม้แต่ของเล่นที่พวกเขามีให้กับลูกๆ สิ่งของเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึง สภาพความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิต และรายได้ของแต่ละครอบครัว สิ่งที่เราจะนำมาให้ทุกท่านได้พินิจพิจารณากันในวันนี้ก็คือ ภาพของเล่นเด็ก ในแต่ละบ้าน ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางสังคม บางครอบครัวที่มีรายได้หลักแสนต่อเดือน ของเล่นลูกๆ ก็จะเป็นแบบหนึ่ง ส่วนครอบครัวที่มีรายได้ต่อเดือนหลักพัน ก็จะมีของเล่นให้กับลูกๆ อีกแบบที่ต่างกันไป ลองไปชมภาพเหล่านั้นกันเลยดีกว่า… ครอบครัวในประเทศบูร์กินาฟาโซ รายได้ 931 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1 คน/เดือน ของเล่นที่ดีที่สุดของหนูก็คือ ยางรถเก่าๆ ครอบครัวในประเทศบุรุนดี รายได้ 931 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1 คน/เดือน ของเล่นแสนสนุกของผมคือ หัวปลี ครอบครัวในประเทศอินเดีย รายได้ 995 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1…
-
นึกว่าโงกุน… ชาวจีนนำ “สับปะรด” ถวายวัด ผ่านไป 3 วันแปลงร่างเป็น “ซูเปอร์ไซย่า” เฉย!?
ตอนเด็กๆ คุณเคยสงสัยไหมว่า น้ำแดงที่พ่อแม่เราใช้บูชาพระหรือศาลพระภูมินั้น เมื่อเวลาผ่านไป ทำไมปริมาณน้ำมันถึงได้ลดลง หรือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ออกมาดื่มจริงๆ กันนะ!? เหตุการณ์นี้ก็ละม้ายคล้ายคลึงกับความสงสัยในวัยเด็กเหล่านั้นเลยทีเดียว แต่ว่าครั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นในประเทศจีน และไม่ใช่ถวายบูชาด้วยน้ำแดง แต่กลับเป็น “สับปะรด” ชาวเน็ตสาวจากเมืองจีนที่ใช้ชื่อว่า @爆廢公社 ได้ออกมาโพสต์ภาพ “สับปะรด” ที่เธอและครอบครัวนำไปตั้งเพื่อไหว้บูชาที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งหลังจากบูชาเรียบร้อยทุกอย่างก็ดูปกติดี จนกระทั่ง เวลาผ่านไปได้ เพียง 3 วัน สิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องตื่นตระหนกตกใจก็เกิดขึ้น!! เมื่อเธอและครอบครัวกลับไปดูสับปะรดของพวกเขาที่วัดแห่งเดิม พวกเขาก็พบว่า สับปะรดของพวกเขากลายเป็น “ซูเปอร์ไซย่า” ไปเสียแล้ว!!! ผ่ามมม… นึกว่าโงกุนร่างสอง!! ทั้งนี้ก็มีชาวเน็ตผู้มีความรู้เกี่ยวกับพืชออกมาอธิบายเหตุการณ์นี้ว่ามันไม่ได้เป็นซูเปอร์ไซย่าแต่อย่างใด แต่มันเป็นอย่างนี้ต่างหาก… “มันเป็นพืชที่มาจากไร่ บางทีพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสับปะรดไม่หมด เขาก็เอามาวางขายให้ผู้คนนำไปบูชา เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานๆ มันก็จะมีใบงอกขึ้นมามากขึ้นแบบนี้นั่นแหละ” โถ่ สรุปไม่ได้เป็นซูเปอร์ไซย่าหรอกเหรอ นึกว่าจะได้กินสับปะรดร่างสองซะแล้ว… ก็ถือว่าเป็นสีสันเหมือนกันนะ ที่ได้เจอเรื่องราวที่ทำให้ตื่นเต้นได้แบบนี้ ถึงสับปะรดมันจะแปลงร่างไม่ได้จริงๆ ก็เถอะ… ที่มา: ck101
-
ญี่ปุ่นช็อก สั่งอาหารไปนานผิดปกติ ปรากฏว่าพนักงาน “นอนแอ้งแม้ง” อยู่หลังร้าน!!
เรื่องราวในวันนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้เปิดร้านอาหารหรือทำงานด้านบริการได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อเลือกที่จะทำธุรกิจให้บริการลูกค้าแล้วนั้น ควรหยุกพักความสนุกส่วนตัว เช่น การตั้งวงดื่มสุราเอาไว้ให้ถึงเวลาเลิกงานเสียก่อน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อร้านว่า Redang ในย่านโอซากะ ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกค้าต้องไม่พอใจขึ้น เมื่อราวๆ เวลา 6 โมงเย็นลูกค้าต่างพากันเข้ามาสั่งอาหารที่ร้านนี้ ด้วยเมนูขึ้นชื่อ อาหารขึ้นชื่อก็จะหน้าตาประมาณนี้ แต่ลูกค้าก็ต้องงุนงงกับการบริการที่ล่าช้าเป็นอย่างมาก สั่งอาหารไปแล้วทำไมถึงยังไม่ได้อาหารสักที จนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ลูกค้าบางคนจึงแอบเข้าไปส่องดูภายในครัวของร้านอาหารดังกล่าว สิ่งที่พบกลับทำให้พวกเขาถึงกับตกใจ เขาพบเจ้าของร้านอาหารและลูกจ้างอีก 3 คนกำลังนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นครัวราวกับว่าจะขาดใจตาย แต่พอสังเกตดีๆ มันกลับทำให้ลูกค้าทั้งหลายต้องอารมณ์เสียกันเป็นแถบเพราะว่า ทั้งเจ้าของร้านและลูกจ้างนั้นมีสภาพที่ “เมาเหล้า” อย่างหนัก จนต้องเรียกรถพยาบาลมาช่วยเหลือ ที่สำคัญคือ หนึ่งในลูกจ้างมีเด็กหนุ่มวัย 18 ปีรวมอยู่ด้วยทั้งๆ ที่กฎหมายของประเทศญี่ปุ่นนั้นห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีดื่มของมึนเมา เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบพบว่าชายทั้ง 4 คนได้มีการดื่นสุราจนมึนเมามาตั้งแต่ก่อนเปิดร้านแล้ว ส่วนเจ้าของร้านอาหารดังกล่าววัย 48 ปีเองก็มีอาการบาดเจ็บสาหัสจากพิษสุราที่เขาดื่มอีกด้วย แต่รายละเอียดอื่นๆ ยังไม่เผยออกมาให้ทราบ นึกภาพไม่ออกจริงๆ…
-
เมื่อ ‘โซระ อาโออิ’ โดนแกล้งบิดใบปัดน้ำฝน แต่ชาวเน็ตเดือดร้อนหนักกว่าใครมันทำอย่างนี้!!
คงไม่ต้องอธิบายกันมากสำหรับชื่อของ ‘โซระ อาโออิ’ นักแสดงหนัง AV สุดเซ็กซี่ ที่ล้วนแล้วแต่ผ่านหูผ่านตาใครมาหลายต่อหลายคน แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีคนกล้าแกล้งสาวน่ารักๆ อย่างนี้ได้ลงคอ แถมเล่นแรงซะจนข้าวของแทบพังเลยด้วย สำหรับคนไทยเราแล้วก็จะรู้จักเธอคนนี้ในบทบาทของดาราหนังผู้ใหญ่ แต่ว่าสำหรับที่ประเทศญี่ปุ่นโซระกลับเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘นักแสดงสาวเซ็กซี่’ ซะมากกว่า https://instagram.com/p/BijzQMLlPsi/?utm_source=ig_embed และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็มีข่าวคราวที่ทำให้หัวใจของชายหนุ่มต้องแตกสลายกันเป็นแถว เมื่อเธอได้ประกาศแต่งงานกับนักดนตรีหนุ่มชื่อว่า DJ Non ซึ่งเป็นชายที่เธอบอกว่าเขาไม่ได้หล่อไม่ได้รวยอะไรเลย แต่ที่เธอเลือกแต่งงานกับเขาคนนี้ก็เพราะสามารถทำให้เธอสบายใจได้ตลอดเวลา แถมยังช่วยให้เธอได้ลบเรื่องราวที่ไม่ดีทั้งในเรื่องการแสดงหนังผู้ใหญ่ และเรื่องอื่นๆ ได้อย่างหมดจดด้วยนั่นเอง https://www.instagram.com/p/BdaV8lRjaNN/?taken-by=aoi_sola ในตอนนี้ชีวิตของเธอได้พลิกผันออกไปจากเดิม เธอมีความปรารถนาที่อยากจะมีลูกสักคนและเริ่มสร้างครอบครัวอย่างจริงๆ จังๆ ซึ่งในระหว่างนี้เองถ้าหากใครที่คิดถึงก็จะสามารถติดตามเรื่องราวต่างๆ ของเธอได้จากบล็อก ทวิตเตอร์และอินสตาแกรม แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เกิดเหตุที่น่าตกใจขึ้นกับเธอเมื่อเธอดันโดนแกล้งแรงๆ ซะอย่างนั้น โดยโซระได้โพสต์รูปลงในทวิตเตอร์ของเธอ โดยเป็นรูปของใบปัดน้ำฝนของรถของเธอที่บิดเบี้ยวผิดรูปไปอย่างไม่น่าเชื่อ และเธอก็ได้เขียนเล่าเหตุการณ์ให้เห็นภาพว่า ขณะที่เธอกำลังจอดรถอยู่ก็สังเกตเห็นว่ากระจกหน้ารถของเธอมันเหมือนมีเม็ดทรายติดอยู่ จึงจะใช้ใบปัดน้ำฝันทำให้มันใสขึ้นสักนิด ทว่าเมื่อเธอโยกคันโยกก็ต้องตกใจ เพราะมันมีเสียงที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น และเธอก็ได้พบกับต้นเหตุนั่นคือใบปัดน้ำฝนในที่สุด หลังจากที่เธอโพสต์เรื่องราวนี้ลงในโซเชียลมีเดียก็มีชาวเน็ตมาแสดงความเป็นห่วงมากมาย แถมยังมีบางคนที่บอกว่าการแกล้งอย่างนี้มันรุนแรงเกินไป อย่างเช่นความคิดเห็นดังต่อไปนี้ “อย่างนี้มันไม่ใช่การแกล้งแล้ว การทำลายรถที่มีค่าของคุณมันคืออาชญากรรม” “เธอคิดว่ามีใครที่น่าสงสัยไหม บางทีการไปเช็คกล้องวงจรปิดแถวๆ นั้นดูก็ดีเหมือนกันนะ” “อย่างนี้มันให้อภัยกันไม่ได้แล้ว!!…
-
ทางการจีนโหด ทำวิดีโอประจานลูกหนี้ในโรงภาพยนตร์ก่อนหนังจะเล่นอายยันเงาเลยอย่างนี้!!
เคยเป็นกันบ้างไหมที่เวลาให้เงินแก่คนรู้จักยืม แล้วพอถึงเวลานัดจ่ายหนี้กับโดนเบี้ยวแถมทวงยังไงก็ไม่มีวี่แววจะได้คืน สิ่งเหล่านี้มันช่างเป็นอะไรที่เจ็บปวดหัวใจมากจริงๆ สำหรับเจ้าหนี้ทั้งหลาย เพราะเงินก็เงินเราแถมยังต้องไปทวงเช้าทวงเย็นเป็นงานเป็นการไปซะอีก และเมื่อถึงขีดสุดแล้ว เจ้าหนี้หลายคนก็สรรหาวิธีแก้เผ็ดเหล่าคนเหนียวหนี้ด้วยวิธีต่างๆ นานา ซึ่งก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่ถ้าคุณลองเอาวิธีนี้ไปใช้ล่ะก็ ไม่แน่นะว่าคุณอาจจะได้เงินคืนอย่างไวเลยก็ได้ เพราะใครจะไปทนขายหน้าโดนประจานเอาชื่อขึ้นจอภาพยนตร์ได้แบบนี้กันล่ะ!! สำหรับเรื่องการแก้เผ็ดที่ว่านี้เกิดขึ้นที่เขต Hejiang มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ทางการจะนำรูปภาพใบหน้าและชื่อของลูกหนี้ที่เบี้ยวชำระเงินตามที่นัดเอาไว้ มาทำเป็นวิดีโอสั้นๆ ฉายก่อนที่ภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์จะเริ่มขึ้น เพื่อให้เหล่าลูกหนี้รู้สึกอับอายและนำเงินมาคืนโดยเร็ว ซึ่งการทำอย่างนี้พวกเขาเรียกว่า “Reel of Shame” และภายในคลิปนอกจากข้อมูลต่างๆ ของลูกหนีเแล้ว ก่อนที่จะเริ่มก็จะมีตัวการ์ตูนอนิเมชั่นน่ารักๆ ออกมาส่งเสียงเรียกให้ผู้เข้าชมภาพยนตร์มาดูรายละเอียดของลูกหนี้เหล่านี้ เพื่อเป็นการประจานให้ได้รู้โดยทั่วกันนั่นเอง “การประจานในที่สาธารณะอย่างนี้เป็นกลยุทธ์เพื่อใช้ลงโทษพวกคนที่เบี้ยวหนี้ไม่มาชำระให้ตรงเวลา และนอกจากนี้ก็ยังมีวิธีอื่นๆ อีก อย่างการขึ้นทะเบียนแบล๊คลิส รวมถึงจำกัดการท่องเที่ยวด้วย” “สำหรับผู้ที่เข้าชมภาพยนตร์จะเห็นได้ถึงชื่อเสียงเรียงนามของเหล่าคนเหนียวหนี้ ว่ามีใครบ้างแล้วยิ่งเป็นพื้นที่แบบโลคอลอย่างนี้ด้วยแล้ว มันจะทำให้พวกเขาอับอายมากซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราคาดว่าการเก็บหนี้ของเราจะมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น” Li Qiang ผู้กำกับการใช้อำนาจศาลของเขต Hejiang กล่าว วิดีโอการทวงหนี้แบบอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี วิดีโอการประจานในโรงภาพยนตร์นี้ ได้กลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตของประเทศจีนในเวลาอันรวดเร็ว แต่ว่าก่อนหน้านี้ประเทศจีนก็เคยใช้วิธีการประจานในที่สาธารณะมาก่อนแล้ว อย่างเมื่อปีที่แล้วรัฐบาลก็ใช้ข้อมูลจากฐานทะเบียนราษฎร์นำข้อมูลต่างๆ อย่าง ชื่อ เลขประจำตัวประชาชน รูปถ่าย…
-
เผยลุคใหม่ของ ‘เมแกน ดัสเชสแห่งซัสเซกซ์’ เสด็จออกงานหลังพิธีเสกสมรสเป็นครั้งแรก…
กลายมาเป็นที่จับตามมองอย่างยิ่ง หลังชีวิตที่พลิกจากสามัญชนสู่การดำรงตำแหน่งดัสเชส ผ่านพิธีเสกสมรสไปได้ไม่นานนัก ‘เมแกน ดัสเชสแห่งซัสเซกซ์’ เสด็จออกงานอย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมกับลุคใหม่อันเรียบง่าย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ทางสำนักพระราชวังเคนชิงตัน ได้เผยแพร่พระรูปของ เจ้าชายแฮร์รี่ ดยุกแห่งซัสเซกส์ พร้อมกับพระชายา เมแกน ดัสเชสแห่งซัสเซกซ์ เสด็จร่วมงานอย่างเป็นทางการครั้งแรก ณ บริเวณพระราชวังบักกิงแฮม งานการ์เด้นปาร์ตี้ดังกล่าว จัดขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองพระชนมายุ 70 พรรษา แด่ เจ้าฟ้าชายชาร์ล แห่งเวสล์ ก่อนถึงวันคล้ายวันพระราชสมภพในเดือนพฤศจิกายน… โดยเจ้าชายแฮร์รี่ ทรงกล่าวสุนทรพจน์รำลึกถึงเหยื่อจากเหตุการณ์ระเบิดแมนเชสเตอร์ เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการกล่าวอุทิศตนเพื่องานการกุศลของพระบิดา ทรงได้รับเชื้อแห่งพลังงานและความกระตือรือร้นในการทรงงานเพื่อสังคม ในส่วนของ ดัชเชสแห่งซัสเซ็กส์ ทรงมาในฉลองพระองค์แบรนด์ Goat เดรสสีชมพูอ่อน อันเป็นแบรนด์โปรดของ แคเธอริน ดัชเชสแห่งแคมบริดจ์ . .…
-
Lewis Tan หนุ่มผู้รับบทเป็น Shatterstar ในเดดพูล 2 หล่อกล้ามแน่น เห็นแล้วอู๊วววว!!
สำหรับแฟนๆ ที่ไปชมหนังเรื่อง Deadpool 2 มาแล้ว จะรู้กันดีว่าในเรื่องนั้นมันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งการแซวจิกกัดทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ บางตัวละครก็มีการรับเชิญให้คนดังมาเล่น อย่างเช่น ทอม ครูซ ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับ Lewis Tan หนุ่มผู้รับบทเป็น Shatterstar ในหนังเรื่อง Deadpool 2 ขอบอกเลยว่า คนนี้แหละคือคนที่ใช่ แม้จะโผล่มาไม่กี่ฉากก็ตาม ฮร่า Lewis เป็นนักแสดงชาวอังกฤษวัย 31 ปี ก่อนหน้าจะมารับบทเป็น Shatterstar นั้นเขาผ่านการแสดงมาแล้วมากมายหลายเรื่องทั้ง Iron Fist, Olympus has Fallen, ซีรี่ส์ Rush Hour เป็นต้น และความฮอตของพี่แกนั้นขอบอกเลยว่าเป็น ‘ของจริง’ ดูกล้ามแน่ๆ นั่นสิเธอออออวววว์ อ่าห์ เห็นแล้วมันฟินเหลือเกิน เหงื่อไหลไหลย้อย…
-
หนุ่มสวม ‘ชุดครุย’ เซอร์ไพรซ์ครอบครัว หลังทำให้พวกเขาผิดหวังมาตลอด เรียนจบสักที เย้!!
การเรียนจบ ก็ถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งและถือเป็นก้าวสำคัญในชีวิต ที่จะทำให้เราได้มุ่งสู่เป้าหมายต่อไป คือการทำงานและประสบความสำเร็จที่ใหญ่ขึ้นไปอีกในชีวิต แน่นอนว่าสำหรับนักศึกษาแล้วการเรียนให้จบนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายแม้แต่น้อย ต้องมีความมุ่งมั่น และความพยายามที่จะทำมันจริงๆ ถึงจะประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของนาย Hanss Mujica หนุ่มนักศึกษาวัย 24 ปี ที่ต้องประสบกับความล้มเหลวในชีวิตมหาวิทยาลัยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ พยายามอีกครั้งเพื่อทำให้พ่อแม่ของเขาภูมิใจให้ได้ Hanss เล่าว่าตั้งแต่เด็กๆ แล้วเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจในการเรียนเท่าไหร่ “ย้อนกลับไปในช่วงมัธยมปลาย ผมเป็นคนที่ไม่ตั้งใจเรียน และพอมาถึงชั้นมหาวิทยาลัยทุกอย่างมันยากไปหมด รวมไปถึงอุปสรรคต่างๆ มันทำให้ผมต้องถูกพักการเรียนจากมหาวิทยาลัย” แต่จุดเปลี่ยนมันเกิดขึ้นตอนที่เขาต้องบอกข่าวนี้กับพ่อและแม่ให้ได้รับรู้ “หน้าของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวังและเศร้าใจ เหมือนกับตอนที่พี่ชายของผมจากไปโดยไม่หวนกลับ ผมเลยสาบานกับตัวเองเอาไว้ว่า จะไม่ทำให้พวกเขาต้องมีใบหน้าแบบนั้นอีก” Hanss จึงกลับมามุ่งมั่นตั้งใจเรียนอีกครั้ง แม้ว่ามันจะไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดเอาไว้ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถเดินมาถึงปลายทางจนได้ ในที่สุดเขาก็เรียนจบอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่พอจะบอกพ่อแม่ด้วยวิธีธรรมดาๆ มันก็ไม่เซอร์ไพรส์ เขาก็เลยวางแผนที่จะบอกพวกเขาเพื่อสร้างความประทับใจ ครอบครัวของเขาถูกเชิญมาที่มหาวิทยาลัย ก่อนที่จะได้รับกระดาษที่เขียนความรู้สึกของเขาทั้งหมดเอาไว้ ทุกคนได้อ่านมัน และเริ่มร้องไห้ หนุ่มแซมในชุดครุยเดินออกมาข้างหลังพร้อมกับป้ายที่เขียนเอาไว้ว่า “พวกเขายังไม่รู้ว่าผมเรียนจบแล้ว” จากนั้นก็เปลี่ยนป้ายเป็น “ขอบคุณครับคุณพ่อ คุณแม่”…
-
รีวิวดีเวอร์~ ชาวเน็ตแห่คอนเฟิร์ม “ไหว้พระขอแฟน” ที่ฮ่องกง เห็นผลเร็ว ได้ผลจริง 555
ต้องยอมรับเลยว่าสิ่งที่ยากกว่าการเรียนให้จบก็คือ การมีแฟน เนี่ยแหละ โดยเฉพาะหนุ่มจืดสาวจืดอย่างเราๆ แล้วด้วย จะหาแฟนได้จากไหนยังคิดภาพไม่ออกเลย… บางทีแอบคิดจะให้พ่อแม่จับคลุมถุงชนแบบสมัยก่อนก็ท่าจะไม่เวิร์ก ดูเป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชนเกินไปอีก ขนาดเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ว่าก้าวไกล มี แอปพลิเคชันหาคู่ มากมายให้เลือกใช้แล้ว มันก็ยังคงโสดอยู่ดี เอางี้ก็แล้วกัน ทางออกใหม่สำหรับคนไร้คู่ที่กำลังนิยมมากในตอนนี้ การไหว้พระขอพร นั่นเอง หนุ่มสาวชาวไทยที่โสดทั้งหลายกำลังให้ความสนใจกับการหาแฟนวิธีนี้มากๆ ว่ากันว่าเห็นผลจริงยิ่งกว่าแอปฯ หาคู่อีก ว่ากันว่า ไปไหว้พระที่ฮ่องกงแล้วกลับมาได้คู่ชัวร์ป้าบ ตามด้วยทวิตคอนเฟิร์มว่า ขอพรที่นั่นแล้วได้แฟนชัวร์ แถมเลือกสเปกได้อีกด้วยนะเอ้อ! ส่วนใครจะไป เขาแนะนำมาว่าไปที่วัด “หวังต้าเซียน” ขอพรโดยการผูกด้ายแดง ขั้นตอนและวิธีการมีเขียนบอกไว้ด้วยล่ะ ส่วนอีกที่คือวัด “เจ้าแม่กวนอิม” ที่ Impulse Bay เพียงแค่เดินเข้าไปหาแล้วขอพรตรงๆ เลยว่าให้เจอเนื้อคู่ อยากได้ต้องอย่าเขิน!! ส่วนนี่คือ ผลตอบรับจากผู้มีประสบการณ์ตรง ฮ่าๆ . . รีวิวดีมากเว่อร์ อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคนแล้วล่ะนะ ขอให้ทุกท่านจงพบเนื้อคู่โดยเร็ววัน ส่วน…
-
10 ผู้นำประเทศทั่วโลกสุดเฟี้ยว “แหวกแนว” และฉีกทุกกฎของการเป็นผู้นำที่เราเคยเห็นมา
ใครกันที่บอกว่าเป็นผู้นำประเทศแล้วต้องทำตัวอย่างนั้นแต่งตัวอย่างนี้ หรือเป็นหัวหน้างาน ประธานบริษัทต้องทำตัวเรียบร้อย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเราคิดกันไปเองทั้งนั้นว่ามันเหมาะสม เราลองหันมองดูท่านผู้นำรอบๆ ตัวเราดูสิว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วเราต้องการผู้นำแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า? แล้วถ้าเราอยากเปลี่ยน เราต้องการผู้นำแบบไหน แหวกแนว ฉีกกฎภาพลักษณ์เดิมๆ ไปเลยดีไหม? ถ้างั้นเอางี้ก็แล้วกัน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 10 ผู้นำทั่วโลกที่เรียกได้ว่า ฉีกทุกกฎของการเป็นท่านผู้นำ ได้อย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียวเชียว 1. Jacinda Ardern นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ ชาวนิวซีแลนด์รักเธอคนนี้มากๆ จนตั้งเกิดกลุ่มคนที่เรียกว่า สาวก Jacinda ขึ้นมาเลยทีเดียว พวกเขารักในสิ่งที่เธอเป็น ไม่ว่าจะไลฟ์สไตล์ การเล่นมุกตลก หรือการทำให้กัญชาถูกกฎหมาย นอกจากนี้ ในเวลาว่าง Jacinda ยังกลายเป็น DJ สาวที่คอยมิกซ์เพลงได้แบบเฟี้ยวๆ อีกด้วย 2. Jose Mujica อดีตรัฐมนตรีอุรุกวัย เขาเป็นมังสวิรัติตัวเต็ง เขาออกไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฟาร์มโทรมๆ และบริจาคเงินเดือน “เกือบ” ทั้งหมดของเขาให้กับการกุศล เขาและภรรยาไม่ได้มีงานประจำทำ แต่พวกเขาก็หาเงินเลี้ยงชีพโดยการปลูกดอกไม้ขาย เรียกได้ว่าใช้ชีวิตได้อย่างเรียบง่าย มินิมอลสุดๆ…
-
เมียขำลั่นบ้าน ผัวหวังเซอร์ไพร์สครบรอบ ซื้อไฮไลท์กับแปรงมาผิด เจ๊ Rihanna เลยจัดให้ฟรี!!
การเลือกซื้อของใช้แบบสาวๆ สำหรับผู้ชายนั้น เป็นเรื่องที่ยากจริงๆ นะ โดยเฉพาะพ่อบ้านมือใหม่ที่ยังไม่เชี่ยวชาญ ประสบการณ์ยังน้อย ขนาดว่าถามแล้วว่าอยากได้อะไรก็ดันซื้อมาผิดเสียนี่!? และนี่เรื่องราวสุดฮาของ Charlema และ Vince Webb คู่รักข้าวใหม่ปลามันเพิ่งจะแต่งงานกันได้ 1 เดือน ฝ่ายสามีก็อยากจะซื้อของขวัญฉลองครบรอบเล็กๆ น้อยๆ ให้เธอ ก็เลยถามว่าอยากได้อะไร? Charlema และ Vince Webb เธอกล่าวคร่าวๆ ไว้ว่า จริงๆ แล้วก็ไม่อยากได้อะไรเป็นพิเศษ เพราะอยากจะให้เก็บเงินไว้ซื้อบ้าน แต่ก็นะ ด้วยความอยากได้ของสาวๆ เธอชอบแบรนด์เครื่องสำอาง Fenty ของขุ่นแม่ Rihanna ก็เลยเปรยๆ ไปว่าอยากได้แปรงกับไฮไลท์… ในใจเธอก็คืออยากจะได้เป็นของ Fenty แต่ก็ไม่อยากระบุเจาะจงมากนัก เธอบอกสามีว่าไฮไลท์อะไรก็ได้ เอามาเถอะ เขาก็ถามกลับมาว่า ‘เธอแน่ใจแล้วนะ?’ ก่อนที่จะจุ๊บเหม่งออกไปตามล่าหาไอเทม พอได้ของกลับมา ปรากฎว่าเป็น… โป๊ชชชชช!! ปากกาไฮไลท์กับแปรงหวีผม!? เธอไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรสามีเลย เพราะคิดว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดกันได้…
-
ผลสำรวจญี่ปุ่น “ผู้สื่อข่าวสาว” โดนล่วงละเมิดทางเพศมากสุด คนทำเป็นตำรวจ ทนายความ!?
นี่อาจเป็นผลสำรวจที่ชวนให้ตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเว็บไซต์ Japantimes ได้เปิดเผยผลสำรวจว่าหญิงสาวที่ทำงานในวงการสื่อจำนวนมากถูกล่วงละเมิดทางเพศมากกว่า 1 ครั้ง โดยผู้ที่ผู้ล่วงละเมิดทางเพศส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ และทนายความ ตามการสำรวจโดยกลุ่มสมาชิกของสื่อมวลชนและผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศ พบว่าคนในแวดวงสื่อกว่า 102 คนเคยผ่านประสบการณ์การถูกล่วงละเมิดทางเพศ และเกือบทั้งหมดของพวกเขายอมรับว่าโดนล่วงละเมิดมากกว่า 1 ครั้งด้วย การสำรวจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีกระแสข่าวการเปิดโปงอดีตข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลังที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศกับนักข่าวหญิงที่มาขอสัมภาษณ์ ทำให้คนในวงการสื่อมวลชนตื่นตัวและทำการสำรวจว่าคนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศนั้นมีจำนวนเท่าไหร่ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งผลสำรวจถูกเปิดเผยออกมาเมื่อวันพฤหัสที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเหยื่อส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในบริษัทหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และนิตยสาร ในบรรดาผู้ที่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศพบว่า 51 คนเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศมากกว่า 10 ครั้ง 47 คนบอกว่าพวกเขาตกเป้าหมายมากกว่าหนึ่งครั้งแต่น้อยกว่า 10 ครั้ง ช่วงอายุผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศอยู่ที่ 20 ปี กว่า 91 คน และ 30 ปี ถึง 29 คน ส่วนผู้ที่กระทำการล่วงละเมิดทางเพศนั้น มีผู้ตอบแบบสอบถาม 74 คนบอกว่าเป็นบุคคลที่เหล่าสื่อมวลชนต้องเข้าพบระหว่างสัมภาษณ์หรือติดต่อทางธุรกิจ 44 คนบอกว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเจ้านาย และมี 35…
-
เพราะไม่พอใจ “หมา” นั่งกินที่ นำไปสู่การต่อย ‘สาวท้อง’ ก่อนจะกลายเป็นการวิวาทครั้งใหญ่
เรื่องที่เราจะพูดถึงในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่เกิดบนเครื่องบิน ลามต่อมายังอาคารผู้โดยสาร จนกลายมาเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทใหญ่โต สามีภรรยาคู่หนึ่ง ทางฝ่าย Matthew Silvay ผู้เป็นสามีเป็นคนหูหนวกจึงต้องน้องหมาช่วยเหลือไว้ข้างตัวตลอดเวลาไม่เว้นแต่บนเครื่อง ซึ่งน้องหมาของเขาชื่อ Zariel พันธุ์เกรทเดน ทำให้มันค่อนข้างกินพื้นที่มาก ด้วยขนาดของเจ้า Zariel ทำให้มีผู้โดยสารบางคนค่อนข้างไม่พอใจ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Timothy Manley ชายวัย 59 ปี เขาคิดว่าเจ้าหมาตัวนี้กินพื้นที่มากเกินไปและได้ต่อยเข้าที่หัวของเจ้า Zariel อย่างจัง ทำให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงขึ้นระหว่างเขากับ Matthew ตามที่เราได้เห็นไปในคลิปข้างต้นนี้ เรื่องราวบานปลายขึ้นเมื่อทั้งสองฝั่งได้ลงมาถึงสนามบิน Orlando เป็นที่เรียบร้อย ฝ่าย Matthew และภรรยาออกมายืนรอ Manley ที่เกต เพื่อจะเคลียร์เรื่องที่เกิดบนเครื่องบิน แต่ก็ดูว่าสถาณะการณ์จะเลวร้ายลงไปอีกเมื่อ Ramirez ภรรยาที่กำลังท้องอยู่ 20 สัปดาห์ของ Matthew ถูก Manley ชกเข้าที่ท้อง ซึ่งทำให้เขาโกรธมากและก็เกิดเป็นการทะเลาะวิวาทกัน ท่ามกลางเสียงร้องไห้ของลูกๆ อีกสองคน และผู้ที่อยู่แถวนั้นก็พยายามแยกทั้งสองคนอย่างสุดกำลัง ภายหลังจากเหตุการณ์สงบลงได้…
-
เศรษฐีหมดหวังกับรักแท้ จัดเรียลลิตี้ให้ลูกช่วย ‘เฟ้นหาเมียในฝัน’ แห่มาสมัคร 2,000 คน!!
ประโยคที่ว่า ‘เงินแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง’ ก็น่าจะจริงอย่างนั้น หากคุณมีเงิน หยิบยื่นให้ใครก็ตามที่พร้อมจะน้อมรับ สิ่งที่คุณต้องการก็จะโผล่มาอยู่ต่อหน้ากันเลย… อย่างเช่น Konstantin Scherbinin มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของธุรกิจกิจการน้ำมันในวัย 54 ปี ลงทุนเล่นใหญ่ระดับเกมโชว์เรียลลิตี้ เพื่อเฟ้นหาหญิงสาวที่จะเหมาะเจาะพร้อมเป็นคู่ชีวิตให้กับตนเอง ผู้เป็นพ่อจัดตั้งรายการโชว์ดังกล่าวขึ้นมา และจะมอบหน้าที่ตัดสินให้กับลูกสาวทั้ง 3 และลูกชายคนเล็กอีก 1 คน ทำการคัดเลือกหญิงผู้โชคดีจากผู้สมัครทั้งหมด 2,000 คน สู่ตำแหน่งคุณนายในบ้าน Scherbinin (ลูกชายคนโตทำหน้าที่ดำเนินกิจการน้ำมัน) เพื่อให้รายการโชว์นั้นเข้มข้นถึงใจ ก่อนที่จะมาเป็นสาวโสดที่เหมาะสมสำหรับรายการนี้ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องหว่านล้อมสมาชิกในครอบครัวให้เชื่อว่า ‘มีของ’ มากพอที่จะมาเป็นสมาชิกในครอบครัวได้ ระหว่างนั้นก็จะมายืนเรียงกันหน้ากรรมการทั้ง 4 ถูกมองตั้งแต่หัวจรดเท้า วิจารณ์รูปร่างหน้า เสื้อผ้าหน้าผม รวมไปถึงอายุ และโดนปฏิเสธตกรอบด้วยคำถากถางอย่างรุนแรง หนึ่งในผู้เข้าร่วมรายการ Ekaterina นักวอลเลย์บอลหญิงสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว ได้รับคำวิจารณ์จาก Olga ลูกสาววัย…
-
11 ข้อห้ามสำหรับ ‘เมแกน มาร์เคิล’ จากหญิงสามัญชน สู่ตำแหน่งดัชเชสแห่งซัสเซกซ์
ถือเป็นความยิ่งใหญ่สมการรอคอยของเหล่าประชาชนแห่งเกาะอังกฤษ และประชาชนจากทั่วทุกมุมโลก ต่างร่วมปีติยินดีในงานพิธีเสกสมรสระหว่าง เจ้าชายแฮร์รี่ รัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ และพระชายา เมแกน มาร์เคิล อดีตนักแสดงสาวสามัญชนสู่ตำแหน่งในราชวงศ์ ทั้งนี้ หลังพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รีในวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 เสร็จสิ้นลง พระองค์ทรงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ ‘ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์’ จะต้องสละความเป็นสามัญชนเพื่อดำรงตำแหน่งดัชเชส และในการดำรงตำแหน่งเป็นดัชเชสตามพระนามของพระสวามี จำต้องปฏิบัติตนภายใต้กฎของราชวงศ์ด้วย หลังจากที่พระราชวังบักกิ้งแฮมได้ออกแถลงการณ์ดำรงพระยศเรียบร้อยแล้ว จะมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน… 1. ห้ามเซลฟี่ เนื่องจากกฎภายในราชวงศ์ที่มีข้อห้ามดังกล่าว และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ไม่มีพระราชานุญาตให้สามัญชนเซลฟี่ ทั้งนี้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนพระองค์ 2. ห้ามออกไปชอปปิงตามลำพัง หรือการออกพื้นที่สาธารณะเพียงลำพัง หลังจากดำรงตำแหน่งดัชเชสแล้ว การประกอบพระราชกรณียกิจต่างๆ ตามที่สาธารณะนั้น จะต้องมีทีมอารักขาคอยประกบตลอดเวลา และจะเป็นกลุ่มหญิงล้วน 3. ห้ามถือครองบัญชีโซเชียลมีเดียใดๆ ในช่วงก่อนเข้าพิธีเสกสมรส เมแกนเป็นบุคคลที่มีความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียตลอด แต่หลังจากที่ความสัมพันธ์กับเจ้าชายแฮร์รี่เริ่มลึกซึ้งมากขึ้น บัญชีโซเชียลต่างๆ…
-
Kendrick Lamar เชิญแฟนเพลงร้องสดบนเวที แต่หลุดคำต้องห้าม จนกลายเป็นการเหยียดผิว!?
โดยปกติแล้ว จะมีคำทั่วๆ ไปที่คนผิวสีมักจะใช้เรียกกันในหมู่คนสนิทอย่าง Nigga หรือพูดอย่างสุภาพจะเป็น N-word แต่นั่นไม่ใช่ว่าใครๆ ก็พูดได้ เพราะอาจกลายเป็นการไม่ให้เกียรติและเหยียดหยาม อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวกลายมาเป็นที่พูดถึงกันอีกแล้ว อย่างในกรณีของแรปเปอร์ชื่อดัง Kendrick Lamar เจ้าของเพลง HUMBLE. และเพลงประกอบภาพยนตร์ Black Panther: All The Stars อันโด่งดัง ได้กระทำในสิ่งที่พยายามจัดฉากหรือไม่? ในช่วงที่ Kendrick กำลังขึ้นแสดงบนคอนเสิร์ตคืนสุดท้ายของเทศกาลดนตรี Hangout Festival ในสหรัฐฯ เขาได้เชิญแฟนเพลงผิวขาว ทราบชื่อว่า Delaney ขึ้นมาร้องเพลง M.A.A.D City ร่วมกับตน แต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เริ่มเพลง Kendrick สั่งให้ตัดเสียงเพลงออก เนื่องจากเธอหลุดคำต้องห้าม “N-word” ออกมา Delaney ไม่ได้ตั้งใจ เพราะคิดว่าเป็นเพียงคำร้องในเนื้อเพลง แต่กลับกลายเป็นการจุดชนวนปั่นความเกลียดชังต่อหน้าสาธารณชน โดยที่ Kendrick เองนั้นอาจจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ…
-
กัปตันซึบาสะร่วมมือกับ Japan Derby ออกเกม “แข่งม้าแตะบอล” โปรโมทงานแข่งที่จะมาถึง
ตั้งแต่ที่มีการเขียนออกมาครั้งแรกเมื่อปี 1981 การ์ตูนเรื่องกัปตันซึบาสะก็กลายเป็นการ์ตูนที่อยู่คู่กับทางวงการฟุตบอลของญี่ปุ่นมาอย่างช้านาน โดยเนื้อเรื่องหลักของการ์ตูนเรื่องนี้ก็จะเกี่ยวกับการติดตามชีวิตของ โอโซระ ซึบาสะ กับการเล่นฟุตบอลของเขาแบบเกาะติดกันตั้งแต่เด็กยันโต และด้วยความที่เป็นตัวการ์ตูนนี้เอง ทำให้เรื่องกัปตันซึบาสะสามารถทำลูกแตะแปลกๆ ที่ไม่น่าจะทำได้จริงๆ ออกมาให้เห็นกันตั้งแต่สมัยก่อนโน้น แตะบอลลูกเดียวพร้อมๆ กัน แต่ในตอนที่คนเริ่มคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้คงไม่มีทางที่จะมีอะไรแปลกไปได้มากกว่านี้อีกแล้วนั่นเอง ทาง Japan Derby การแข่งขันม้าที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ก็ได้จับมือกับการ์ตูนกัปตันซึบาสะ ออกเกมเล่นฟรี Hissatsu Shoot Derby ออกมาเสียอย่างนั้น จะถามว่ามันแปลกตรงไหนอย่างนั้นรึ? ก็ไอ้เจ้าเกมที่ว่านี้ ได้จับเอากัปตันซึบาสะและผองเพื่อนไปขึ้นขี่ม้าเตะบอลกันยังไงล่ะ ขี่ม้า!? เตะบอล!? จะเอาอะไรก็เอาสักอย่างไม่ได้เหรอ? ดูเหมือนเจ้าเกมที่ว่านี่ จะมีระบบการเล่นเป็นการลงเดิมพันว่าใครจะขี่ม้าเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกตาม แบบฉบับเกมพนันแข่งม้าทั่วๆ ไปนั่นเอง แต่ไหนๆ ก็เอากัปตันซึบาสะมารวมด้วยแล้ว จะให้เกมมันออกมาเป็นเกมแข่งม้าธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับบอลเลยก็คงไม่ดี ดังนั้นตัวเกม Hissatsu Shoot Derby จึงออกมาเป็นอะไรแบบนี้ วิดีโอจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ @siy_______ https://twitter.com/siy_______/status/997667315394080768 Golden Eagle Shot กับ Skylab Hurricane นอกจากตัวเกมแล้ว แคมเปญนี้ยังมาพร้อมกับมังงะตอนพิเศษ 5 ตอนสั้นๆ…
-
ภาพหญิงสาว “หุ่นเซี๊ยะ” น่าเจี๊ยะคนนี้ ไม่บอกจะรู้ไหมว่าเธอคือ… หญิงอายุ 61 ปี!!!
เรื่องของวัยมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ต่อให้เราเป็นหนุ่มสาวที่สวยหล่อกันขนาดไหน วันหนึ่งเมื่อเราแก่ชรา สังขารที่ไม่เที่ยงของเรานั้นก็ย่อมเปลี่ยนเราให้ไปเป็นไปตามวัย ใบหน้าที่เคยใสก็หมองลง ผิวหนังที่เคยนุ่มก็หย่อนคล้อย ความหนุ่มความสาวก็จะกลายเป็นความชราอย่างสมบูรณ์ แต่เรื่องราวในวันนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดเสมอไป ความชราไม่อาจเอาความสาวไปจาก “คุณป้า” ที่ชื่อว่า Chen Meifeng คนนี้ได้เลย แม้ว่าเธอจะมี อายุอานามถึง 61 ปี แล้วก็ตาม แต่รูปลักษณ์ของเธอยังขาวผุดผ่อง ตึงกระชับ ราวดอกไม้แรกแย้มก็ไม่ปาน… Chen Meifeng วัย 61 ปีที่งดงามจนสาววัยรุ่นต้องอาย ล่าสุดเจ๊ใหญ่จากไต้หวัน Chen Meifeng คนนี้ ก็ได้โพสต์ภาพของตัวเองเปรียบเทียบกันระหว่าง ตัวเธอในปัจจุบันกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งดูแล้วตัดสินไม่ได้เลยว่า สวยเหมือนเดิม หรือว่าสวยกว่าเดิมกันแน่!! ปัจจุบัน (ซ้าย) – เมื่อ 20 ปีที่แล้ว (ขวา) และที่เป็นจุดเด่นอันเข้าตาชาวเน็ตแบบจังๆ ก็คือมีภาพของเธอเมื่อปี 2014 (อายุ 57) ที่เผยออกมา ซึ่งเป็นภาพ Chen Meifeng ในชุดบิกินีสีชมพู…
-
สาวๆ กว่า 3,000 คนต่อคิวเพื่อ “วัดหน้าอก” กับนักแสดงหนุ่มสุดหล่อ ว๊ายยยย กรี๊ดดด
ญี่ปุ่นช่างเป็นประเทศที่เข้าใจผู้บริโภคซะจริงๆ ไม่ว่าลูกค้าต้องการอะไรพวกเขาก็สามารถตอบสนองได้ด้วยการตลาดการโฆษณาที่แปลกใหม่อยู่เสมอ และนั่นก็ทำให้พวกเรารู้สึกทึ่งในแนวคิดของพวกเขาอยู่เป็นประจำ อย่างล่าสุดมีห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษโดยการนำเอานักแสดงหนุ่มหล่อมาช่วยวัดหน้าอกให้กับสาวๆ แบบฟรีๆ โอ้ว ว๊าวววว!! เมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา นักร้องและนักแสดงอย่าง Takayuki Yamada (ที่หลายคนอาจคุ้นหน้าจากหนังเรื่อง Crows Zero, Isle of Dogs, 13 Assassins) ได้ปรากฏตัวที่ห้าง Shibuya’s iconic 109 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโปรโมชั่นจากแบรนด์ชุดชั้นใน Funwari Room Bras แม้ว่าในทีแรกที่มีการประกาศว่าจะมีโปรโมชั่นนี้จะทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ไปต่างๆ นานา แต่มันก็ได้ผลแบบถล่มทลาย เพราะมีสาวๆ เข้ารับการวัดหน้าอกกับเขามากถึง 3,000 คน ตั้งแต่เวลาตี 5 ที่ห้างยังไม่เปิด ตามรายงานบอกว่ากิจกรรมจัดขึ้นตั้งแต่เวลา 10 โมงครึ่ง ถึง 5 โมงเย็น นักแสดงวัย 34 ปี วัดหน้าอกให้สาวๆ อย่างพิถีพิถัน นอกจากจะวัดขนาดแล้วเขายังมีหน้าที่คอยแนะนำสีสันที่เหมาะกับผิวพรรณของสาวๆ ด้วย ทั้งดำ ขาว…
-
แค่คนเมาต่อยกันในร้าน McDonald กลับโด่งดังถึงขั้นเฮีย SnoopDogg เอาไปแชร์?!
ความหัวร้อนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา อาจไม่จำเป็นต้องมีที่มาที่ไปอะไรให้ยุ่งยาก ขอเพียงแค่ฤทธิ์ของน้ำมึนเมาทำงาน เพียงเท่านั้นกายาก็พร้อมจะปะทะกับผู้อื่นแล้ว เฉกเช่นเดียวกันกับหนุ่มหมัดเมาทั้ง 4 คนนี้ เรื่องมันมีอยู่ว่าผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อ agrengs ได้แชร์คลิปวิดีโอของชายชาวต่างชาติ 4 คน (มากันฝั่งละ 2) ในสภาพมึนเมา ยืนถกเถียงกันด้วยคำพูดหยาบคาย ภายในร้าน McDonald สาขาเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยไม่ทราบว่าจุดเริ่มต้นของการทะเลาะวิวาทนั้นคืออะไร จับคู่ประชันหน้ากัน ดูเหมือนพร้อมจะง้างหมัดได้ตลอดเวลา เมื่อวาจาดันไม่เข้าหู ความรุนแรงก็จึงเริ่มขึ้นในทันใด หนุ่มแว่นร่างใหญ่พยายามบีบรัดแขนของเด็กหนุ่มเอาไว้ และเหมือนต้องการจะจิกผมอะไรทำนองนั้น เพื่อเป็นการป้องกันตัว เด็กหนุ่มจึงไม่รอช้า ง้างหมัดเข้าใส่ใบหน้าของชายแว่นทันที ซึ่งดูแล้วน่าจะค่อนข้างหนักอยู่พอสมควร เพราะทำเอาชายคนนั้นถึงกับเดินเซหน้าแทบทิ่มพื้นไปเลย แตก!! สวยพี่สวย น่าจะด้วยความตกใจ เด็กหนุ่มเลยสาวหมัดใส่ชายคนนั้นเพิ่มเติมชนิดว่านับจำนวนกันแทบไม่ทัน ก่อนที่จะถูกพวกของชายแว่นคนดังกล่าวเข้ามาดึงออกไป กลายเป็นการเปลี่ยนคู่ชกไปโดยปริยาย 1 2 3 4 .. ช้าๆ หน่อยก็ได้ นับไม่ทันละเนี่ย แต่แน่นอนว่าด้วยความเมา…
-
ชายผิวสีไร้บ้าน โดนจำคุก 3 เดือน เพียงเพราะพยายามจะซื้อเบอร์เกอร์ที่ Burger King
เว็บไซต์ Washingtonpost ได้เปิดเผยเรื่องราวของ Emory Ellis ชายไร้บ้านที่อาศัยอยู่ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐฯ ที่ไปซื้อเบอร์เกอร์ในร้าน Burger King เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 แต่มันดันกลายเป็นเรื่องเป็นราวก็เพราะว่าในขณะที่กำลังจะจ่ายเงิน นาย Ellis ได้ยื่นแบงก์ 10 ดอลลาร์ให้พนักงาน แต่พนักงานของร้านคิดว่านั่นคือแบงก์ปลอม จึงได้ทำการแจ้งจับนาย Ellis ทำให้เขาต้องไปใช้ชีวิตในเรือนจำนานถึง 3 เดือน แต่หลังจากออกมาจากเรือนจำ เขาก็พยายามที่จะต่อสู้คดีเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานเพิ่มเติมว่านาย Ellis ได้ทำการฟ้องร้องร้าน Burger King สาขานั้น เขาเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 32 ล้านบาท เนื่องจากได้รับบริการที่เลือกปฏิบัติในฐานะที่เขาเป็นคนผิวสีและไร้บ้าน การฟ้องร้องนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการถกเถียงกันในระดับชาติ เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อคนผิวสีในธุรกิจต่างๆ และที่สาธารณะ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าชายไร้บ้าน 2 คน ถูกใส่กุญแจมือในร้าน Starbucks ที่ฟิลาเดเฟีย ไปจนถึงข่าวที่หญิงสาวผิวสี 5 คนถูกแจ้งความเนื่องจากเล่นกอล์ฟช้าเกินไป ด้าน Justin…
-
เมื่อดาราสาว “มีประจำเดือน” ไปออกเกมโชว์ แต่ไม่โดนสาดน้ำ จุดกระแสดราม่าในสังคมจีน!?
การเป็นประจำเดือนนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งสำหรับสาวๆ เลยก็ว่าได้ มันเป็นอาการที่ถึงแม้จะเป็นอยู่ทุกเดือนๆ แต่ก็ไม่สามารถทำตัวให้ชินชากับมันจริงๆ เสียที ขนาดมันมาตอนนอนอยู่บ้านเฉยๆ ยังรู้สึกว่าหนักหนาสาหัสแล้ว แต่การเป็นประจำเดือนส่วนมากมันมักจะเป็นในเวลางานด้วยนี่สิ และนั่นก็เป็นสิ่งที่ดาราสาวชาวจีน Yeung Wing ผู้ที่มีชื่อในวงการว่า Angelababy ต้องพบ เมื่อเธอไปออกรายการเกมโชว์ Keep Running ของประเทศจีน นอกจากต้องไปเล่นเกมโชว์ในวันนั้นของเดือนแล้ว รายการในวันนั้น ดันมีการราดน้ำเย็นๆ ใส่ผู้แข่งขันอีกต่างหาก ถึงจะไม่แน่ใจว่าทางรายการรู้เรื่องที่เธอเป็นประจำเดือนในวันนั้นหรือไม่ อย่างไรก็ตามมีผู้ชมชาวจีนจำนวนหนึ่งที่ดูรายการในครั้งนี้ และสังเกตว่า Angelababy นั้นโดนราดน้ำน้อยกว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นมากๆ และหาว่าเกมในครั้งนี้มันมีการเลือกปฏิบัติกันชัดๆ หนึ่งในผู้ชมที่ไม่พอใจถึงกับทิ้งข้อความไว้ว่า “Keep Running มันไม่ใช่ที่สำหรับคนแบบเธอ กลับบ้านไปเล่นเป็นเจ้าหญิงคนเดียวเถอะ” อีกทั้งผู้ชมส่วนมากยังหัวเราะเยาะเย้ยเธอเนื่องจากเธอทำหน้า “เวอร์” และแลดู “ไม่พอใจ”มากๆ ในตอนที่โดนราดน้ำ จนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา Angelababy ก็ได้ตัดสินใจที่จะออกมาเปิดเผยทางโซเชียลมีเดียที่มีผู้ติดตามกว่า 85 ล้านคนว่า เกมโชว์ในวันนั้นถ่ายทำขึ้นในวันแรกของการมีประจำเดือนของเธอนั่นเอง “มันเป็นวันแรกของช่วงประจำเดือน และฉันรู้สึกอึดอัดจริงๆ แต่ฉันก็ไม่ได้พูดว่าฉันไม่สามารถลงน้ำได้นะ มันก็แค่ไม่สนุกเลยที่ต้องไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้นั่น ฉันรู้สึกหนาวและกลัวมากเพราะไม่รู้ว่าคำพูดหรือการกระทำใด จะทำให้โดนราดน้ำ” เดิมทีแล้วประเทศจีนนั้นเป็นประเทศที่ประจำเดือนและผ้าอนามัยนั้นเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างอึดอัดที่จะมีการพูดคุยกัน ดังนั้นการออกมาพูดเรื่องแบบนี้ตรงๆ ของ Angelababy ก็คล้ายๆ กับการทำลายข้อห้ามที่มองไม่เห็นของประเทศดีๆ นี่เอง…
-
สาวฉลองวันแห่งความรัก เลย “กัดลิ้น” แฟนหนุ่มไม่ยอมปล่อย แม้ ตร. ก็ไม่อาจพรากเราไปได้…
ในวันที่ 20 พฤษภาคม ของทุกปีจะเป็นวันแห่งความรักของประเทศจีน หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า I Love You Day ซึ่งเกิดขึ้นมาเพราะว่าเลข “5-2-0” ในภาษาจีนออกเสียงคล้ายๆ กับคำว่า “ฉันรักเธอ” นั่นเอง และในวันดังกล่าวประจำปี 2018 นี้ หญิงสาวคนหนึ่งก็ได้แสดงความรักกับแฟนหนุ่มของตัวเอง ชนิดที่ว่ารักกันปานจะกลืนกินลิ้นเข้าไปเลยก็ว่าได้ เพราะเธอเล่นกัดลิ้นของแฟนเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แม้แต่ตำรวจก็ไม่อาจพรากทั้งสองจากกันได้ หญิงสาวกัดลิ้นแฟนหนุ่ม ไม่ยอมปล่อยให้ใครมาแยกออกจากกันได้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นริมฟุตบาทในเมือง Qianshan มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ซึ่งถ้าเรามองอยู่ห่างๆ ก็คงคิดว่าทั้งสองคนนั้นกำลังจูบปากพลอดรักกันอย่างดูดดื่ม แต่ความจริงแล้วหญิงสาวนิรนามกำลังกัดลิ้นแฟนหนุ่มของตัวเอง จนทำให้เขาถึงกับร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ไม่ว่าจะทำอย่างไร พูดหว่านล้อมเธอมากแค่ไหน แต่เธอคนนี้กลับกัดอยู่อย่างนั้นไม่ปล่อย ราวกับชีวิตนี้ทั้งสองคนคงไม่อาจพรากจากกันได้เลย ด้วยเหตุนั้นเอง เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตากับหญิงสาว เพื่อให้เธอปล่อยลิ้นของแฟนหนุ่มในที่สุด ก่อนที่จะพาไปดำเนินคดี คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีการรายงานว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ก็นับว่าเป็นบุญอย่างมากที่ลิ้นของชายคนนี้ไม่ขาดซะก่อน และชาวเน็ตบางคนยังบอกว่า “ถือเป็นโชคดีจริงๆ ที่ผู้หญิงคนนั้นแค่กัดลิ้น ไม่ได้กัดอย่างอื่น” …
-
หนุ่มเจอโจรดักปล้นหลุยส์ใบละ 50,000 บาท แม้โดนยิงแต่หลบได้ เพราะเหนื่อยมากกว่าจะได้มา
ของของใครใครก็หวงเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นสิ่งของที่มีมูลค่าสูงจะยิ่งรักษาเป็นพิเศษ เช็ดถูแล้วก็เช็ดถูอีกพร้อมที่จะนำออกไปโชว์อย่างเต็มภาคภูมิ อย่างที่ทราบกันมาแล้วว่าสินค้าแบรนด์หรูหรานั้นมีราคาไม่ใช่เล่นๆ และสำหรับคนที่ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง อยากจะได้มาครอบครองก็ต้องเก็บหอมรอมริบกันเหนื่อย กว่าจะคว้าสิทธิ์เป็นเจ้าของได้ แต่บางครั้งสิ่งของมีค่าแบบนี้ก็เหมือนเป็นทุกขลาภ ที่นำพามาทั้งความสุขและความโชคร้ายในคราเดียวกัน… เหมือนกับเรื่องราวของนาย Jerad Kluting วัย 31 ปี จากรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา คนนี้ เขาต้องเจอกับช่วงวินาทีความเป็นความตายระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อมีชายฉกรรจ์รายหนึ่งเดินปรี่เข้ามา พร้อมคว้าปืนจ่อเพื่อปล้นกระเป๋าหลุยส์ที่ติดตัวเขามาด้วย ในวันนั้น Jerad เพิ่งจะเดินกลับบ้านจากการไปชอปปิง แล้วก็เจอกับชายใช้ผ้าปิดปากมีผ้าโพกหัวเอาปืนจ่อหน้า หวังจะให้ส่งกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง มูลค่า 1,700 ดอลลาร์ (54,000 บาท) ที่อยู่ในมือของเขา นอกเสียจาก Jerad จะไม่ยอมแล้วเขายังตะคอกกลับใส่โจรไปว่า ‘เอ็งจะไม่ได้กระเป๋าใบนี้ไปแน่ๆ ข้าต้องทำงานหนักขนาดไหนกว่าจะได้มันมา มันจะเป็นของข้าตลอดไปและมันมีความหมายกับข้ามาก’ เมื่อโจรกุ๊ยได้ยินประโยคนี้ก็เกิดอาการยั๊วะ ลั่นกระสุนออกจากปืนไป 2 นัดเพื่อขู่ให้ยอมส่งกระเป๋า ในช่วงจังหวะนั้นเอง Jerad ตัดสินใจวิ่งหนี และการไล่ล่าก็เกิดขึ้น ‘ในช่วงที่ผมวิ่งหนีขึ้นทางเหนือ เขาวิ่งตามล่าผมและยิงอีก…
-
ตำรวจใช้ประกาศตามหาคนร้ายในเฟซบุ๊ก แต่เจ้าตัวดั๊นมาคอมเมนต์เอง โดนจับง่ายๆ เลยทีนี้
บางครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องงัดวิธีต่างๆ มากมายเพื่อตามจับเหล่าคนร้ายที่กำลังหลบหนีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการสืบเบาะแสจากสถานที่ต่างๆ หรือแม้แต่การประกาศบนเฟซบุ๊กแบบตำรวจจาก West Yorkshire เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางสถานีตำรวจได้ใช้การประกาศตามหาชายหนุ่มอายุ 21 ปีรายหนึ่ง เพื่อหวังให้เหล่าพลเมืองดีแจ้งเบาะแสของเขา แต่ดูเหมือนว่างานนี้คุณตำรวจจะได้สิ่งที่มากกว่าเบาะแสซะแล้ว หลังจากที่เจ้าคนร้ายที่กำลังหลบหนีได้ออกมาคอมเมนต์ด้วยตัวเองซะนี่.. “เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเป็นห่วง Leon SMITH หนุ่มวัย 21 ปีที่ได้รับแจ้งว่าหายตัวไปในเขตพื้นที่ Wheatley เขามีลักษณะผิวขาว รูปร่างปานกลาง ผมบรอนซ์ สวนชุดกีฬาสีดำ เสื้อยืดสีน้ำเงิน” ข้อความจากเฟซบุ๊กของทางตำรวจ หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ได้ไม่นาน ชายหนุ่มที่เจ้าของภาพในประกาศคนหาย ก็ได้ออกมาตอบคอมเมนต์ภาพด้วยตัวเอง “ผมไม่ได้หายไปไหน ผมกำลังถูกตามจับ” คอมเมนต์จากชายหนุ่มที่ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่าเขากำลังถูกตามล่า “พวกเขาเหมือนมีความเป็นห่วงในความปลอดภัยของผม แต่จริงๆ แล้วพวกเขาต้องการจับผมและโยนผมเข้าคุก มาเลยพวกมาจับฉันสิ” คอมเมนต์จากเจ้าตัว . และหลังจากที่เจ้าตัวออกมาตอบคอมเมนต์ด้วยตัวเอง ไม่นานทางสถานีตำรวจก็ได้โพสต์ประกาศบอกหลายๆ คนที่กำลังเป็นห่วงในความปลอดภัยของหนุ่มรายนี้ว่าตอนนี้พวกเขาพบ Leon SMITH แล้ว และสามารถจับกุมตัวได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “พบคนหายไปแล้ว ขอขอบคุณทุกความร่วมมือสำหรับการตามหา Leon Smith เรามีความพยายามอย่างมากเพื่อตามหาชายคนนี้ เรายืนยันว่าเขากำลังถูกตั้งข้อหาและไม่สามารถอธิบายอะไรได้มากกว่านี้อีก” ข้อความจากสถานีตำรวจ ข้อความจากทางสถานีตำรวจ หลังจากที่จับกุมตัว Leon ได้ …
-
เด็กชายร้องเพลงคันทรีในห้างธรรมดาๆ แต่ดังเป็นพลุแตก จนมีค่ายเพลงชวนไปทำเพลง
ทุกวันนี้การทำคลิปสักคลิปนึงให้โด่งดังไปทั่วอินเตอร์เน็ต (หรือที่เราๆ เรียกติดปากว่า “ไวรัลคลิป” นั่นแหละ) เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเนื่องจากไม่มีสูตรตายตัว ว่าต้องทำแบบไหนคลิปถึงจะไวรัลได้ บางคลิปตั้งใจทำเนื้อหากันมากๆ แต่ก็ไม่ดัง ในขณะที่บางคลิปแค่ถ่ายเล่นๆ แต่ดังไปทั่วโลกเลยก็มี อย่างคลิปที่เราจะให้ดูต่อไปนี้เป็นคลิปการร้องเพลงคันทรี ของเด็กชาย Mason Ramsey วัย 11 ขวบ ในห้างสรรพสินค้า Walmart รัฐอิลลินอยส์ ที่ได้ยืนร้องเพลงในชุดสไตล์คาวบอย พร้อมกับเคาะเท้าไปด้วย หนุ่มน้อย Mason Ramsey และคุณยายที่ยืนอยู่ข้างๆ ชมคลิปร้องเพลงของหนุ่มน้อยได้ที่ด้านล่างเลย นี่เราอาจจะเห็นว่าเป็นเพียงคลิปร้องเพลงเล่นๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าด้วยเสียงร้องที่แตกต่างและเนื้อเพลงที่กินใจ ทำให้คนพากันกดดูไปมากถึง 44 ล้านครั้งทีเดียว และมันยังทำให้เหล่ายูทูบเบอร์ในต่างประเทศหลายคนพากันลอกเลียนการร้องของ Ramsey กันมากมาย ความดังของเขาทำให้ Ellen Degeneres พิธีกรชื่อดังเชิญเขาไปออกรายการ Ellen ถาม Ramsey ว่าเขาร้องเพลงในห้อง Walmart แบบนี้เป็นประจำหรือเปล่า? เขาเลยบอกว่า “ใช่ฮะ เพราะ Walmart เป็นห้างเดียวที่มีแถวนั้น” Ramsey มีความฝันอยากจะขึ้นร้องเพลงที่ Grand Ole…
-
ประมวลภาพถ่ายดาวเทียม Before-After หลังภูเขาไฟฮาวายปะทุ เปลี่ยนไปมากเพียงใด
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนคงได้เห็นข่าวคราวการปะทุของภูเขาไฟคิลาเวในเกาะฮาวาย จนทำให้เกิดเถ้าภูเขาไฟพุ่งสูงถึง 9,100 เมตร และมีการอพยพผู้คนในบริเวณใกล้เคียงออกจากที่นั่นโดยด่วน ล่าสุดทาง DigitalGlobe บริษัทด้านเทคโนโลยีที่ดำเนินธุรกิจเครือข่ายดาวเทียมส่วนตัว ได้ออกมาเปิดเผยภาพความเสียหายและความเปลี่ยนแปลงของเกาะฮาวาย หลังจากได้รับผลกระทบจากการปะทุของภูเขาไฟ โดยภาพถ่ายจะอยู่ในช่วงปี 2017 และเปรียบเทียบกับหลังเหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุ นี่เป็นภาพจากย่าน Leilani Estates ในเขต East Rift ใกล้กับภูเขาไฟคิลาเว ได้รับความเสียหายหนักที่สุดจากการปะทุ บริเวณนี้ถูกถ่ายเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมของปีที่แล้ว นี่คือภาพล่าสุด เกิดรอยแยกบนพื้นและมีบ้านจำนวนมากถูกเผา พื้นที่ที่เคยเขียวชอุ่ม ตอนนี้กลายเป็นสีน้ำตาลเถ้าถ่าน ย่าน Leilani Estates ถือเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่เยอะ มีบ้านราวๆ 2,000 หลังคาเรือน . ประชาชนกว่า 1,000 คนยังไม่สามารถหาที่อยู่ได้ ตอนนี้การปะทุยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นักธรณีวิทยาเองก็ยากที่จะคาดเดา ว่ามันจะสงบลงเมื่อไหร่ ที่มา businessinsider
-
เด็กออทิสติกโดนไล่ลงจากรถบัส เพราะว่าคนขับคิดว่าเขา “ไม่เหมือนคนพิการ”
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม 2018 ที่ประเทศอังกฤษได้เกิดเหตุเด็กพิการเป็นโรคออทิสติกถูกไล่ลงจากรถบัสมหาวิทยาลัย เนื่องจากคนขับรถคิดว่าเขาไม่เหมือนคนพิการ Connor McEndoor เด็กหนุ่มวัย 18 ปีผู้มาจากเมือง Middlesbrough เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ ได้ทำการโชว์บัตรประจำตัวผู้พิการของเขาแก่คนขับรถบัส เพื่อที่จะขึ้นไปนั่งบนรถที่จะมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยที่เขาเรียน อย่างไรก็ตามรูปบนบัตรของเขานั้น เป็นรูปของเขาเมื่อ 4 ปีก่อนหน้า ทำให้คนขับไม่เชื่อว่าเขาและเด็กในบัตรเป็นคนคนเดียวกัน เมื่อเป็นแบบนั้นคนขับรถบัสจึงทำการยึดบัตรของเขาไป และกล่าวหาว่าเขาหลอกลวงเจ้าพนักงาน เพราะแท้จริงแล้ว Connor นั้นไม่ได้พิการเลยสักนิด เรื่องในครั้งนี้ทำให้ Connor เด็กหนุ่มผู้มีปัญหาด้านการพูดและการเรียนรู้ อีกทั้งยังต้องทนทรมานจากการสูญเสียความทรงจำและความสับสน ต้องถูกทิ้งให้ยืนอยู่ที่ริมถนน หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จบลงได้ไม่นาน ทางบริษัทรถบัสก็ได้ออกมาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “อย่างเร่งด่วน” และได้ทำการขอโทษ Connor และครอบครัว อย่างไรก็ตาม Sarah Mulgrew มารดาของ Connor ก็ได้มีการออกมาบอกว่าการกระทำที่ลูกชายของเธอได้รับนั้นมันช่างน่าสะอิดสะเอียนมาก และเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้ลูกชายของเธอนั้นอาการแย่ลงไปอย่างมาก เธอมีการเรียกร้องให้มีการให้การศึกษาที่ดีขึ้นแก่คนขับรถบัสในบริษัทเพราะไม่ใช่ว่าความพิการทั้งหมดจะเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด เธอกล่าวในตอนที่ไปรับบัตรของลูกชายคืนที่บริษัทรถบัสว่า “Connor ใช้ภาพนั้นมากว่าสี่ปี เพราะเขาไม่ชอบถ่ายภาพหรือแสดงโชว์ ในวันนั้นเขากลับมาแบบน้ำตาท่วมจนแทบไม่สามารถพูดได้ เขาบอกว่าคนขับรถเอาบัตรของเขาไป และเริ่มสติแตก เราต้องพยายามอย่างมากเพื่อให้เขาสงบลงและหายใจได้อีกครั้ง” Connor McEndoor เคยคิดที่จะฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง และนี่หรือจดหมายที่เขาตั้งใจจะทิ้งไว้ให้แม่ในตอนนั้น ซึ่งเนื้อหาโดยรวมจะเป็นการขอบคุณที่แม่ดูแลเขามาตลอด Sarah เล่าว่าลูกชายของเธออาจจะมีปัญหากับการขึ้นรถบัสไปอีกราวๆ เดือนสองเดือน…
-
เรื่องลืมของเรามันเล็ก เพราะนักบินอวกาศจะใช้กล้องโกโปร แต่ดันลืม ‘เมม’ เอาไว้ที่บ้าน
จะมีสักกี่ครั้งกันที่เกิดเหตุการณ์ ‘ลืม’ ของสำคัญเอาไว้ที่บ้าน หากรู้ตัวแล้วแต่ยังไม่สายเกินไป การวกเลี้ยวกลับไปหยิบของเหล่านั้นที่บ้านก็คงจะไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไรนัก แต่เรื่องการลืมของคุณจะกลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปเลย หากคุณได้อ่านเรื่องราวการ ‘ลืม’ ของนักบินอวกาศจากนาซ่า ขนาดชนิดที่ว่านาซ่าก็พาเธอกลับไปโลกเพื่อของชิ้นเดียวไม่ได้… นักบินอวกาศกับกล้องโกโปรสุดน่ารักของเขา เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นกับ Andrew Feustel นักบินอวกาศนาซ่าในระหว่างที่เขาปฏิบัติหน้าที่นอกสถานีอวกาศ และพยายามจะทำการบันทึกภาพผ่านกล้องโกโปรส่วนตัว แต่ดันเกิดปัญหานิดหน่อยจึงได้สอบถามไปยังศูนย์ควบคุมด้วยใจความว่า… คลิปเหตุการณ์พูดคุยระหว่างนักบินอวกาศและศูนย์ควบคุม นักบิน: เอ่อ (ศูนย์ควบคุม) Houston ผมมีคำถามเกี่ยวกับโกโปรด่วนๆ เลยตอนนี้ ศูนย์ฯ: ฟังอยู่ ว่ามาเลย… นักบิน: กดปุ่มแล้ว ผมเห็นคำว่า ‘No SD’ ผมจำเป็นต้องใช้มันอยู่มั้ย? แล้วถ้ามันกำลังบันทึกภาพอยู่ มันต้องมีแสงสีแดงขึ้นสิ? ศูนย์ฯ: เอ่อ ผมได้ยินมาว่าถ้ามีการ์ด มันจะขึ้นไฟสีแดงในขณะที่บันทึกภาพ นักบิน: ถ้ามันมีคำว่า ‘No SD’ มันจะหมายความว่ายังไง? ศูนย์ฯ: ผมคิดว่ามันหมายถึงไม่มีการ์ดน่ะ เดี๋ยวจะตรวจสอบให้อีกที รอสักครู่ นักบิน: เอาเป็นว่า…
-
โรงเรียนจีนรุกหน้า ติดตั้งกล้องภายในห้อง เพื่อสังเกตสีหน้านักเรียนและใช้ประเมินพฤติกรรม…
ไม่แน่ใจว่าการที่มีกล้องวงจรปิดภายในห้องเรียนนั้น จะช่วยทำให้นักเรียนมีความตั้งใจเรียนเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ และอาจจะช่วยลดปัญหาของเด็กนักเรียนงีบหลับไม่ตั้งใจเรียน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง… Hangzhou No. 11 Middle School โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในเมืองหางโจว กลายเป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ดำเนินการติดตั้งระบบสมาร์ทคลาสรูม ภายใต้ระบบการจัดการและเฝ้าสังเกตการณ์ผ่านกล้องตรวจจับใบหน้า . โดยระบบดังกล่าวถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ในการประเมินพฤติกรรมของนักเรียน ที่อาจจะส่งผลต่อการเรียนในขณะนั้น ระบบกล้องอัจฉริยะนั้นสามารถตรวจจับอารมณ์บนใบหน้ารายบุคคลได้ เช่น โกรธ รำคาญ ตื่นตกใจ และมีความสุข จากนั้นระบบจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์และแยกแยะตามประเภทอารมณ์ที่เกี่ยวข้องเป็น 6 หมวด อ่าน เขียน ฟัง ยืน ยกมือ แม้แต่แอบงีบก็มีเช่นกัน นอกจากระบบจะทำการรายงานผลเป็นรายวันแล้ว คุณครูประจำชั้นยังสามารถตักเตือนนักเรียนรายคนได้ จากการประเมินพฤติกรรมโดยรวมในแต่ละครั้งว่า ใครตั้งใจเรียนหรือไม่ตั้งใจเรียน… “ระบบที่พัฒนาขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงมากพอที่จะจับภาพการแสดงออกทางสีหน้าภายในห้องเรียนได้ อีกทั้งระบบฐานข้อมูลสามารถนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนของทั้งห้อง และที่แน่นอนก็คือ เป็นวิธีที่ได้ผลสำหรับการเช็กชื่อเข้าเรียน” หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนกล่าวกับสื่อจีน เหตุเพราะนอกเหนือจากการเฝ้าดูพฤติกรรมนักเรียนแล้ว การเรียนในแต่ละครั้งจะต้องมีการเช็กชื่อ หากนักเรียนคนไหนขานตอบรับ ระบบก็จะทำการเช็กชื่อลงในฐานข้อมูลให้เสร็จสรรพ . ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ระบบดังกล่าวจะช่วยพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในประเทศจีนได้หรือไม่ …
-
ร้านตู้จะสู้ไหม… จีนเริ่มวางระบบ เครื่องติดฟิล์มหน้าจออัตโนมัติ ทำเงินได้เกือบแสนต่อเดือน!!
ธุรกิจทางด้านอุปกรณ์สื่อสารสมาร์ทโฟน ยังคงครองตลาดอุปกรณ์ประเภทอิเล็กทรอนิกส์ติดต่อกันมาหลายปี ซึ่งปัจจุบันเรามีสมาร์ทโฟนให้เลือกมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ตามงบประมาณที่แต่ละคนมี นอกเหนือจากตัวเครื่องที่ถูกผลิตออกมาแล้ว ผลิตภัณฑ์ปกป้องอุปกรณ์ต่างๆ ก็ผุดออกมาขายก็ให้เพียบ สิ่งแรกที่หลายคนเลือกซื้อเพิ่มเติมก็คือ ฟิล์มกันรอย หรือเคสโทรศัพท์ หากเป็นในประเทศไทยของเรา เชื่อว่าหลายคนคงเลือกติดฟิล์มกันรอยจากร้านที่เราถอยมาใหม่ในทันที หรือไม่ก็เดินไปตามร้านตู้ด้านนอกศูนย์ เพื่อติดฟิล์มกันรอยให้กับหน้าจอโทรศัพท์สุดหวงแหน แต่สำหรับที่จีน ตอนนี้เริ่มมีแนวโน้มที่เปลี่ยนไปแล้ว เหล่าลูกค้าอาจไม่ต้องเดินไปตามร้านตู้กระจกเหมือนแต่ก่อน เพราะเดี๋ยวนี้จีนเริ่มมีการวาง “ตู้ติดฟิล์มอัจฉริยะ” ไว้ให้บริการแล้วล่ะ!! ตู้ติดฟิล์มอัจฉริยะ ตู้นี้ติดตั้งอยู่ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ฉางซา มณฑลหูหนาน โดยเครื่องดังกล่าว สามารถติดฟิล์มได้อย่างแนบสนิทไร้ฟองอากาศ เนียนกริบทุกองศา ใช้เวลาในการติดฟิล์มเพียง 4 นาทีเท่านั้น ส่วนวิธีการใช้ก็ง่ายๆ เพียงแค่เลือกรุ่นโทรศัพท์ที่ต้องการติดฟิล์ม (ในระบบมีมากกว่า 100 รุ่น) จากนั้นก็ชำระเงินผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด หย่อนโทรศัพท์ลงในถาดแล้วก็รอรับเครื่องคืน แหม่… ติดฟิล์มด่วน รอรับได้เลย ทั้งนี้เครื่องนำร่องดังกล่าวได้รับรายงานมาว่า มียอดผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากและทำรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยที่ 15,000 หยวน (ประมาณ 75,000 บาท) กันเลยทีเดียว…
-
นางแบบเกาหลีเผยทั้งน้ำตา ถูกหลอกเข้าวงการ โดนล่วงละเมิดนับ 10 ครั้ง-ภาพหลุดว่อนเน็ต
เรื่องราวอันดำมืดภายใต้สังคมเกาหลีใต้นั้น ถูกเปิดเผยมาเป็นระลอกเรื่อยๆ หลังจากที่เริ่มมีกระแสของ #MeToo ที่กล่าวถึงการถูกกดขี่และข่มเหงของเหล่าคนดังภายในวงการบันเทิง ทั้งจากฟากโลกตะวันตกและตะวันออก และที่หนักหนาสาหัสแต่ยังไม่ถูกเปิดเผยในวงกว้างนัก ก็คือการถูกล่วงละเมิดทางเพศของผู้หญิงชาวเกาหลีใต้ ซึ่งล่าสุดนี้เรื่องราวภัยมืดในวงการ ก็ถูกเปิดเผยออกมาจากปากของ ‘ยางเยวอน’ ยูทูบเบอร์สาวชาวเกาหลีใต้ ยางเยวอน ยูทูบเบอร์และนางแบบชื่อดังชาวเกาหลีใต้ เปิดเผยเรื่องราวของเธอเองผ่านคลิปวิดีโอ เธอเล่าเรื่องผ่านหัวข้อคลิป ‘ฉันเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางเพศ ได้โปรดรับฟังเรื่องของฉันด้วย’ เธอระบุว่า เธอตกเป็นเหยื่อในเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิต หลังจากที่มีภาพเปลือยหลุดออกมาทั่วอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่นานมานี้ และเธอก็รวบรวมความกล้าที่จะเปิดเผยความจริงที่เกิดขึ้น… เธอกล่าวด้วยใจความว่า “ถึงผู้คนที่รักฉันและบอกว่าเหยื่อการกระทำอันไร้ศีลธรรม ไม่ควรจะซ่อนและมัวแต่เจ็บปวด ฉันจึงรวบรวมความกล้าและเปิดเผยว่ามีเหยื่ออีกจำนวนมาก และคนเลวอีกไม่น้อยที่กระทำในสิ่งต่ำตมภายในสังคมเกาหลี” ทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ในช่วงที่ ยางเยวอน มีอายุประมาณ 20 ต้นๆ เธอมีความฝันที่จะเข้าวงการบันเทิงเป็นนักแสดง จึงเริ่มต้นเส้นทางด้วยการเป็นนางแบบพาร์ทไทม์ ผ่านสตูดิโอแห่งหนึ่ง เธอทำการเซ็นสัญญาถ่าย 5 เซต และทราบรายละเอียดเพียงแค่ “เป็นการถ่ายแบบทั่วไป หนึ่งในนั้นจะเป็นแบบเซ็กซี่ พร้อมกับภาพถ่ายประกอบโปรไฟล์ระดับสูงฟรีๆ” ภายหลังจากที่เดินทางมาถ่ายแบบที่สตูดิโอ ทุกอย่างกลับผิดคาดไปหมด ประตูทางออกถูกล็อกเอาไว้ พร้อมกับทีมงานชายอีก…
-
เด็กชายวัย 12 ปีถูกขู่ฆ่า หลังจากฆ่าเมียร์แคตที่ท้องอยู่เพราะไม่สนใจคำเตือนจากสวนสัตว์
โลกและสังคมนั้นถูกตั้งอยู่ในกฎหมาย หากไม่มีกฎหมายมนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์สักเท่าไหร่ แต่ก็มีบ่อยครั้งที่มีคนไม่ปฏิบัติตามกฎและเกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ ถ้าพูดถึงกฎในสวนสัตว์แล้ว เรามักจะเห็นคนที่ไม่สนใจคำเตือนหรือกฎสักเท่าไหร่ เช่นเขาห้ามให้อาหารสัตว์หรือห้ามจับสัตว์ก็ยังทำอยู่ ซึ่งผลลัพธ์ก็อาจจะเป็นการบาดเจ็บของคนหรือสัตว์ก็เป็นไปได้ ซึ่งในกรณีที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูนี้ก็เป็นเรื่องของเด็กชายวัย 12 ปีคนหนึ่งที่ละเลยคำเตือนของทางสวนสัตว์ไปจับสัตว์เข้าและถูกมันกัด เขาจึงสะบัดมือ ด้วยแรงเหวี่ยงนั้นเองทำให้สัตว์ตัวนั้นต้องถึงแก่ความตาย โดยสัตว์ที่ได้ตายไปคือเจ้าเมียร์แคตชื่อว่า Zara ซึ่งเป็นดาวเด่นของสวนสัตว์ Kecskemeti ประเทศฮังการี ที่ได้ย้ายมาเมื่อ 18 เดือนก่อน ที่สำคัญมันท้องอยู่ ด้วยความสัญชาตญาณความเป็นแม่ เมื่อมีอะไรที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาใกล้มันจึงต้องจู่โจมเพื่อปกป้องลูกน้อยในท้องเอาไว้ก่อน หลังจากที่เจ้า Zara ได้ตายไป Tamas Tokovics ผู้อำนวยการสวนสัตว์ Kecskemeti ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า “ใครเป็นคนผิดล่ะ? เด็กในวันนั้นที่ไม่ให้ความหมายต่อชีวิตน้อยๆ และธรรมชาติเลยหรือจะเป็นคุณครูที่ไม่ระวังมากพอหรือจะเป็นพ่อแม่ ผมแน่ใจว่าพวกคุณจำได้ว่ามันเป็นดาวเด่นของสวนสัตว์หลังจากที่มันย้ายเข้ามาได้ปีครึ่ง ด้วยความกระตือรือร้น ความอยากรู้อยากเห็นของมัน มันคว้าใจทุกคนได้อย่างอยู่หมัด” ซึ่งหลังจากที่ Tamas Tokovics ได้โพสต์เฟซบุ๊กไปดังกล่าว ก็ทำให้เกิดกระแสต่อต้านเด็กชายวัย 12 ปีและมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเต็มไปหมด บางคนก็พูดถึงเด็กว่า “น่าจะถูกตบคว่ำไปกับพื้นแรงๆ แบบที่ไม่ต้องได้ตื่นมาอีกครั้งซะมั่ง” หรือจะเป็น “คุณควรตัดคอเด็กออกซะหากเขาไม่มีหัวคิดขนาดนี้” ที่มา The Sun
-
หญิงสาวพบกับทารกที่เธอช่วยชีวิตไว้เมื่อ 20 ปีก่อนเป็นครั้งแรก ดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่
“ฉันรอที่จะได้พบคุณมานานกว่า 20 ปีแล้ว” Azita Milanian พูดกับ Matthew Whitaker ชายที่เธอช่วยชีวิตไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว หลังจากทั้งสองได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เรื่องราวที่เป็นเหมือนกับความทรงจำดีๆ ของทั้งสองคนนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 1998 ในเช้าวันหนึ่งระหว่างที่ Azita ออกวิ่งในภูเขาแห่งหนึ่งที่แคลิฟอร์เนีย ในวันนั้นเจ้าตูบของ Azita พบบางสิ่งบางอย่างที่น่าสงสัยในกองหินที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขา และเมื่อเธอเข้าไปดูก็พบกับเด็กทารกที่ถูกฝังเอาไว้ใต้กองหิน “สุนัขของฉันวิ่งไปที่กองหินนั้นและฉันคิดว่ามันอาจจะพบสัตว์หรืออะไรสักอย่างก็ได้ แต่เมื่อฉันตามมันไป ฉันก็ถึงกับกรีดร้องเมื่อเห็นเด็กทารกที่ถูกห่อด้วยผ้าขนหนู นอนอยู่ในกองหินนั้น” Azita ให้สัมภาษณ์ จุดที่ Azita พบกับ Matthew ครั้งแรกเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โชคดีที่เจ้าหนูน้อยยังมีชีวิตอยู่ Azita พยายามโทรเรียกตำรวจแต่ไม่สำเร็จ เธอจึงขับรถพาเจ้าหนูน้อยไปยังสถานีตำรวจด้วยตัวเอง “ตอนนั้นเขาจับข้อมือของฉันและหยุดร้องไห้ มันเป็นช่วงเวลาแห่งความรู้สึกมากๆ เด็กน้อยคนนี้ยังมีสายสะดือติดอยู่เลย มนุษย์คนไหนกันที่ทำเรื่องแบบนี้ได้” Azita ให้สัมภาษณ์ เด็กน้อยที่ Azita ช่วยชีวิตเอาไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว หลังจากที่ Matthew ได้พบกับครอบครัวบุญธรรมของเขา ทั้งสองก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย รวมถึงแม่แท้ๆ ของ Matthew ด้วย…
-
ภัยร้าย ‘กัญชาสังเคราะห์ K2’ แพร่ระบาดกลางนิวยอร์ก เปลี่ยนนิวยอร์กเกอร์เป็นซอมบี้เดินดิน…
ยังคงเป็นที่ถกเถียงไม่จบไม่สิ้นสำหรับประเด็นเปิดกัญชาเสรีภายในบ้านเรา ในขณะที่ประเทศอื่นๆ เปิดให้ประชาชนสามารถครอบครองและทำเป็นธุรกิจได้ในบางพื้นที่ ทว่ายิ่งเปิดให้เสรีก็ยิ่งมีจำนวนที่มาก ปัญหาบางอย่างก็เริ่มตามมา เพราะสารจากกัญชาธรรมชาตินั้นอาจไม่เพียงพอสำหรับคนบางกลุ่ม จนนำไปสู่การสร้างสารสังเคราะห์ที่รุนแรงกว่าเดิม… จากรายงานในพื้นที่ย่าน Brooklyn ภายในมหานครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งชาวเมืองว่ามีผู้ประสบกับอาการเมายา ลักษณะคล้ายกับซอมบี้นอนพิงอาคารและนอนกองเรี่ยราดบนทางเท้า ไม่ต่ำกว่า 25 ราย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยฉุกเฉินเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ก็พบกับชาวนิวยอร์กเกอร์ในสภาพที่ไร้สติ นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง บางรายพยายามเดินหนีแต่ไม่สามารถประคองตัวได้ การตอบสนองเชื่องช้าอืดอาด หรือไม่ตอบเลยก็มี . ทั้งนี้สภาพไร้สติของผู้เสพยาเกินขนาดนั้น มีสาเหตุมาจาก K2 กัญชาสังเคราะห์ ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมนุษย์ อันเป็นสารเสพติดควบคุมตามกฎหมายของสหรัฐฯ จะให้ความรู้สึกเทียบเทียมกับสาร THC ในกัญชาธรรมชาติ แต่ออกฤทธิ์แรงกว่า พร้อมกับสารหลอนประสาทชนิดอื่น และมีราคาถูกมากๆ เมื่อเทียบกับกัญชาที่ถูกกฎหมาย… . อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนนิวยอร์กเกอร์ในประจักษ์เป็นพยานของสภาพผู้เสพ K2 นั้น แทบจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้เสพนั้นเหมือนกับหลุดออกมาจาก The Walking Dead เลยทีเดียว…
-
อย่างน้อยก็มีประโยชน์!! รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดโครงการพา “คนไม่เอาถ่าน” ไปทำเกษตรที่ฮอกไกโด
คนที่ไม่ได้อยู่ในระหว่างการศึกษา การจ้างงาน หรือการฝึกอบรม หรือที่รู้จักกันในชื่อนีต (NEET) เป็นกลุ่มคนที่พบเห็นกันได้บ่อยในประเทศญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่ประเทศนี้ที่มีอัตราคนทำงานหนักที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก นีตมักจะถูกมองว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในสังคม แต่ยังเป็นภาระอันยิ่งใหญ่ของครอบครัว แถมบางครั้งก็ถูกโทษว่าเป็นผลมาจากการเลี้ยงดูที่ไม่ดีอีกด้วย และด้วยความที่มองเห็นปัญหาเรื้อรังของประเทศอันนี้นี่เอง ทางกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของฮอกไกโดจึงได้ลงทุนกว่า 1,649,000 เยน (ราวๆ 478,000 บาท) ในการนำ “นีต” มาแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานทางการเกษตร ป่าไม้ และการประมงซะเลย เป้าหมายหลักของโครงการในครั้งนี้คือการพาเหล่านีตและคนเก็บตัวออกจากพื้นที่เมืองมายังท้องทุ่งและช่วยเหลือพวกเขาให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้ โครงการนี้ในปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นทดลอง โดยที่ตอนนี้มีสถานที่รองรับในโอซาก้าแล้วสองแห่ง หนึ่งในนั้นคือเมือง อิซุมิซะโนะ ซึ่งในที่นี่เหล่านีตจะได้รับการฝึกอบรมจากองค์กรการกุศล Osaka Young Work Support (OYWS) หลังจากนั้นพวกเขาจะถูกส่งไปทำงานที่เมืองฮิโรซากิในจังหวัดอาโอโมริเป็นคนเก็บแอปเปิล ส่วนสถานที่อีกแห่งคือเมืองโทโยนากาซึ่งกำลังร่างแผนการเกษตรร่วมกับเมืองโทซะในจังหวัดโคจิ ทางกระทรวงคาดว่าในปี 2019 พวกเขาจะสามารถร่วมมือกับทาง OYWS ได้อย่างเต็มที่ และขยายโครงการไปยังเมืองโทคาจิในฮอกไกโด เพื่อช่วยในการทำฟาร์มเพาะปลูก ดูแลโคนม และการผลิตปศุสัตว์ หากเป็นไปได้ด้วยดี โครงการนี้อาจกระตุ้นให้อุตสาหกรรมการเกษตรในญี่ปุ่นหลายแห่งที่จำนวนพนักงานลดลงในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา สามารถกลับมาทำการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้งก็เป็นได้ ที่มา soranews24
-
คนไทยสวมบทฮีโร่ ช่วยเด็กฝรั่งที่กำลังจะจมน้ำ ระหว่างท่องเที่ยวในประเทศเยอรมนี
นี่เป็นภาพเหตุการณ์น่าประทับใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มหนึ่งที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเยอรมนี แล้วเจอกับเด็กคนหนึ่งที่พลัดตกน้ำ จึงรีบกระโดดลงไปช่วยทันทีแม้ตัวเองจะว่ายน้ำไม่เป็นก็ตาม ภาพเหตุการณ์นี้ถูกแชร์ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sutha Onnum เมื่อช่วงดึกของวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในขณะที่กลุ่มคนไทยกลุ่มหนึ่งได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์การเดินสมุทร รัฐเมคเลินบวร์ค-ฟอร์พ็อมเมิร์น ประเทศเยอรมนี พวกเขาก็พบเด็กชายคนหนึ่งพลัดตกลงไปในน้ำ เมื่อเห็นเหตุการณ์เข้า คุณแม็กซ์ หนึ่งในกลุ่มคนไทยที่อยู่ในบริเวณนั้นก็กระโดดลงไปช่วยเด็กแม้ว่าตัวเองจะว่ายน้ำไม่เป็นเลย หลังจากที่จับตัวเด็กไว้ได้ แต่เขาก็ไม่สามารถพาขึ้นฝั่งได้เนื่องจากบริเวณนั้นไม่มีบันไดหรือโป๊ะเรือให้เหยียบขึ้นไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพิพิธภัณฑ์จึงดึงเอาโป๊ะเรือที่อยู่ห่างออกไปเข้ามา เขาจึงจะสามารถพาเด็กชายขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย ระหว่างที่คลิปดำเนินไปเราจะได้ยินเสียงคนพูดอยู่หลังกล้องว่า “พอดีมาเที่ยว มีเด็กตกน้ำ คนไทยแน่นอนจริงๆ” ภาพของคุณแม็กซ์ผู้กระโดดลงไปช่วยเด็ก กดชมคลิปแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย มีข่าวคราวดีๆ เกี่ยวกับคนไทยในต่างแดนมาให้เห็นแบบนี้เราก็รู้สึกปลื้มใจไปด้วยเลย ที่มา Sutha Onnum
-
14 ปียังไม่ลืม เจ้าชาย Harry ส่งคำเชิญให้เด็กกำพร้าที่เขาเคยพบ ให้เข้าร่วมพิธีเสกสมรส
แม้ว่างานพิธีเสกสมรสอันเป็นที่น่าจดจำระหว่างเจ้าชาย Harry และ Meghan Markle ที่โบสถ์ St George จะผ่านมาแล้วหลายวัน แต่ก็ยังมีเรื่องน่าทึ่งและน่าประทับใจออกมาให้แก่ประชาชนได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ โดยที่เรื่องนี้ก็เช่นกันเดียวกัน เป็นเรื่องของเด็กชายกำพร้าชาวเลโซโทที่เจ้าชาย Harry ได้ไปพบเมื่อครั้งที่พระองค์ได้เยี่ยมเยียนประเทศเลโซโท ในปี 2004 ซึ่งถึงจากตอนนั้นเวลาจะผ่านมาถึง 14 ปีแล้วก็ตาม แต่ดยุกแห่งซัสเซกส์ของเราก็ยังไม่ลืมเรื่องราวต่างๆ และยังได้ส่งคำเชิญไปให้กับเด็กคนดังกล่าวให้มาร่วมพิธีเสกสมรสของเขาด้วย ประเทศเลโซโท ที่ที่เจ้าชาย Harry ได้พบกับ Mutsu เด็กกำพร้าที่ตอนนั้นอายุเพียงสี่ขวบ เป็นประเทศที่ต้องพบเจอกับปัญหาโรคเอดส์ ความยากจน และภัยแล้ง ซึ่งหลังจากที่เขาได้เจอ Mutsu ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขาถ่ายรูป ทำกิจกรรม ปลูกต้นไม้ร่วมกัน และเมื่อเจ้าชาย Harry ต้องกลับประเทศอังกฤษไป พวกเขาก็ยังมีการติดต่อกันอยู่เรื่อยๆ Congratulations to the new Duke and Duchess of Sussex, from everyone at @Sentebale…
-
“เซ็กส์ดอลผู้ชาย” อนาคตใหม่สำหรับสาวๆ ขี้เหงา ที่ไม่อยากมีแฟนจริงๆ
ส่วนใหญ่แล้วเซ็กส์ดอลที่เราเห็นกันตามอินเตอร์เน็ตหรือข่าวต่างประเทศ มักจะเป็นเซ็กส์ดอลหญิงสาวที่ทำขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชาย และด้วยความสมจริงทำให้หนุ่มๆ หลายคนเลือกที่จะอยู่กับตุ๊กตามากกว่าอยู่กับคนจริงๆ อย่างที่เราเคยนำเสนอข่าวว่ามีชายชาวญี่ปุ่นอยู่กินกับตุ๊กตายางมาแล้ว (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) แต่ฝั่งสาวๆ เองก็ไม่ต้องรู้สึกน้อยใจไป เพราะว่าบริษัทผู้ผลิตตุ๊กตายางเองก็ให้ความสำคัญกับการผลิตตุ๊กตายางผู้ชายเช่นกัน และมันจะมาพร้อมกับ “หรรมเทียม” (ที่มีส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วย) !? RealDoll เป็นหนึ่งในบริษัทที่กำลังพัฒนาเซ็กส์ดอลอยู่ พวกเขากล่าวว่าพวกเพิ่งเริ่มต้นผลิตหุ่นยนต์เพศชายเนื่องจาก “ความต้องการที่ล้นหลาม” จากผู้หญิงที่ต้องการชายหนุ่มเซ็กส์ดอล ทางบริษัทยืนยันว่าเซ็กส์ดอลของพวกเขาจะไม่ได้เป็นแค่สินค้าที่เหมือนมนุษย์เท่านั้น เซ็กส์ดอลผู้ชายจะไม่มีวันเมาปลิ้น งีบหลับ หรือเหนื่อยหอบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็สามารถใช้เซ็กส์ดอลของพวกเขาได้ตราบเท่าที่อยากใช้ ขอเพียงแค่ชาร์จแบตให้กับเซ็กส์ดอลก็เป็นอันจบ เนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวไกล ยิ่งทำให้การทำวัสดุผิวด้านนอกมีความคล้ายคลึงกับผิวหนังของมนุษย์จริงๆ นอกจากนั้นยังมีการตั้งโปรแกรมเพื่อตอบสนองต่อการสื่อสาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่เรียกว่า “ประสบการณ์ความพึงพอใจสูงสุด” เซ็กส์ดอลหนุ่มๆ จาก RealDoll จะมาพร้อมกับ “ประวัติปูมหลัง” ทุกตัว ซึ่งแต่ละตัวจะมีความแตกต่างกันไป แน่นอนว่าหญิงสาวที่ซื้อเซ็กส์ดอลเหล่านี้ไป แทบไม่ต้องใช้เงินเปย์ หรือหลอกล่อให้ตุ๊กตาเหล่านี้หลงรักคุณเลย เพราะสาวๆ จะได้รับความพึงพอใจเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ร้องขอ ในขณะนี้เซ็กส์ดอลผู้ชายยังคงอยู่ในช่วงพัฒนา หากใครสนใจล่ะก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Realdoll สุดท้ายแล้วเทคโนโลยีนี้จะนำเราไปสู่อะไร? การแทนที่ของผู้ชายจริงๆ การเข้ามาของเซ็กส์ดอลอาจจะทำให้ความปรารถนาในตัวผู้ชายจริงๆ ลดลง หรืออาจทำให้ผู้คนแยกตัวอย่างสันโดษมากขึ้นก็เป็นได้ ที่มา woked
-
เปิดภาพล่าสุดของ ‘เจ็ท ลี’ หลังเผชิญกับอาการเจ็บป่วยอย่างหนัก แทบไม่เหลือเค้าเดิม
หากพูดถึงดาราแอกชั่นจากเอเชียที่มีชื่อเสียงแล้ว หลายๆ คน ก็อาจจะคิดถึง ‘เฉิน หลง’ แต่จริงๆ แล้วยังมีอีกคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันเลย ชายผู้นั้นก็คือ ‘เจ็ท ลี’ นั่นเอง แต่ช่วงหลังๆ มานี้เราจะเห็นได้ว่าเขาได้หายหน้าหายตาไปจากวงการภาพยนตร์เลย และล่าสุดเว็บไซต์ China Morning Post ของประเทศจีนได้เปิดเผยภาพล่าสุดของ เจ็ท ลี ในวัย 55 ปี ที่ดูเปลี่ยนไปมากจนน่าตกใจ ภาพดังกล่าวนี้เป็นภาพตอนที่เขาไปเยี่ยมชมวัดในทิเบต และมีแฟนๆ ถ่ายภาพของเขาเอาไว้ ปรากฏว่าสภาพร่างกายของเขานั้นไม่เหลือเค้าของหนึ่งในนักแสดงคิวบู๊แนวหน้าของเอเชียเลยแม้แต่น้อย ตามรายงานระบุว่าเจ็ท ลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย ประสบกับอาการป่วยเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อระบบการเผาผลาญในร่างกาย นอกจากโรคไทรอยด์เป็นพิษแล้ว เจ็ท ลี ยังมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง นั่นทำให้เขาต้องหายหน้าหายตาไปจากวงการภาพยนตร์คิวบู๊ เพราะไม่สามารถทำกิจกรรมที่สร้างผลกระทบต่อร่างกายได้ ในปี 2013 เจ็ท ลี เผยว่า คุณหมอเตือนเอาไว้ว่า เขาอาจจะต้องนั่งวีลแชร์ไปตลอดชีวิตก็ได้…
-
บริษัทเนเธอร์แลนด์ จัดทริป “เก็บขยะในคลอง” ลดปัญหาขยะ แถมเรียกนักท่องเที่ยวได้เพียบ!?
“การเก็บขยะในคลอง” อาจฟังดูไม่น่าจะใช่เรื่องชวนสนุกเท่าไหร่ แต่คุณเชื่อไหมว่ามีคนเอาไอเดียการเก็บขยะในคลองมาปรับรูปแบบจนกลายเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างดีจนแทบไม่น่าเชื่อ จากปัญหาเศษขยะพลาสติกที่มีมากขึ้นทุกวันๆ และพบเห็นได้ง่ายตามคลอง ทำให้บริษัท Plastic Whale ในอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เกิดแรงบันดาลใจที่จะนำเอามาสร้างเป็นกิจกรรมทัวร์ ที่ให้นักท่องเที่ยว นักเรียน และคนทั่วๆ ไปซื้อแพ็กเกจ แล้วไปเก็บขยะในคลองด้วยกัน แต่ทำไมเราต้องเสียเงินเพื่อไปเก็บขยะ? นั่นก็เพราะว่าพวกเขาจะนำเอาขยะที่เราเก็บได้มาแปรรูปแล้วสอนให้เราออกแบบข้าวของเครื่องใช้จากเศษขยะเหล่านั้น ให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ และยังสามารถนำมันติดตัวกลับบ้านได้ด้วย Marius Smit ผู้ก่อตั้งบริษัท Plastic Whale กล่าวว่า “ผู้คนชอบกันมาก พวกเขาเก็บขยะขึ้นมาบนเรือ พวกเขาได้ตาข่ายตกปลาแล้วพวกเขาก็เริ่มใช้มันเก็บขยะจากคลองในอัมสเตอร์ดัม มันกลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมมากในช่วงที่ผ่านมา” เขาเสริมว่าวัสดุที่เราเก็บได้จากคลองนั้นจะมีหลากหลายรูปแบบ มันอาจจะเคยเป็นส่วนประกอบของอะไรสักอย่างมาก่อน แต่เมื่อเราได้มันมาเราก็สามารถเอาไปดัดแปลงเป็นอย่างอื่นได้ Marius Smit (กลางภาพ) นับตั้งแต่ที่ Plastic Whale ถูกก่อตั้งในปี 2011 ปัจจุบันพวกเขาได้รีไซเคิลขวดพลาสติกไปแล้วกว่า 106,000 ชิ้น สร้างเฟอร์นิเจอร์จากสิ่งของรีไซเคิลมากกว่า 1,000 ชิ้น รูปแบบทัวร์ของ Plastic Whale มีแนวโน้มที่จะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ มีเด็กนักเรียนและนักท่องเที่ยวเป็นพันคน สนใจเข้าร่วมการเก็บขยะเพื่อนำมาสร้างเฟอร์นิเจอร์กับเขาเป็นพันๆ คน…
-
ผู้ไม่ย่อท้อกับชีวิต โชว์ทักษะ แม้ “ไม่มีมือ” ก็สามารถสร้างสรรค์ทุกสิ่งอย่างได้ดังใจคิด
ความรู้สึกท้อแท้เหนื่อยหน่ายกับการใช้ชีวิตสามารถเกิดขึ้นได้กับพวกเราทุกคน ทุกเพศทุกวัย ยิ่งสำหรับคนพิการที่มีความผิดปกติแตกต่างจากผู้อื่นด้วยแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการที่พวกเขาจะได้ทำในสิ่งที่คนทั่วๆ ไปสามารถทำได้ แต่ก่อนที่เราจะยอมแพ้ให้กับใช้ชีวิต #เหมียวตะปู อยากชวนให้เพื่อนๆ ได้มาเห็นทักษะความสามารถของชายนิรนามคนนี้เสียก่อน เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีมือเลยทั้งสองข้าง แต่เขาก็พยายามฝึกฝนจนสามารถทำหลายๆ อย่างได้ไม่แพ้คนอื่นๆ มีตั้งแต่การใช้แขนวาดรูป ใช้ปากวาดภาพก็ยังได้ ใช้แขนวาดวิวทิวทัศน์ กับรายละเอียดอันอ่อนช้อย สวยงาม ใช้ปากเขียนตัวอักษรจีน หรือแม้แต่การทำกับข้าวเองก็ไม่ใช่ปัญหา เราลองไปชมคลิปความสามารถ และผลงานของเขากันแบบเต็มๆ เลยดีกว่า เจ๋งๆ ทั้งนั้นเลยนะเออ (คลิปเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2018) เขาคนนี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคน และหวังว่าเพื่อนๆ เองก็จะก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าได้อย่างไม่ย่อท้อนะ ที่มา: Shanghaiist
-
“ผมก็แค่อยากวิ่ง” พบ Rob Pope นักวิ่งมาราธอนผู้วิ่งข้ามอเมริกาตามหนัง Forrest Gump
“ชีวิตก็เหมือนกับกล่องช็อกโกแลต… คุณไม่มีทางรู้เลยว่ามีอะไรอยู่ในนั้น” บนโลกใบนี้มีคนมากมายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังและการแสดง โดยเฉพาะหนังคลาสสิกแต่เปี่ยมด้วยคุณค่าอย่าง Forrest Gump ภาพยนตร์จากปี 1994 ที่แสดงนำโดย Tom Hanks ไม่ว่าจะในการใช้ชีวิต การเป็นทหาร หรือการออกวิ่ง แต่ก็เหมือนกับที่คนเราไม่สามารถเป็นอะไรตามที่ตัวเองได้แรงบันดาลใจเสมอไป การที่คนเราจะไปวิ่งข้ามอเมริกาเหมือนกับ Forrest Gump นั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เลยเช่นเดียวกัน แต่มันไม่ใช่สำหรับ Rob Pope ชายหนุ่มวัย 39 ปีจากลิเวอร์พูลประเทศอังกฤษ ผู้ซึ่งใช้เวลา 19 เดือน ของชีวิตในการเลียนแบบฉากที่มีชื่อเสียงในเรื่อง Forrest Gump ด้วยการออกวิ่งเป็นระยะทางกว่า 24,000 กิโลเมตรข้ามสหรัฐอเมริกา แถมยังทำมันถึง 4 ครั้ง และกลายเป็นชายคนแรกที่วิ่งข้ามสหรัฐอเมริกาสามครั้งในหนึ่งปี “ผมก็แค่อยากวิ่ง” Rob Pope อ้างอิงคำพูดของ Forrest Gump เมื่อนักข่าวถามถึงเหตุผลที่เขาออกวิ่ง “ผมเคยคิดจะออกวิ่งข้ามสหรัฐอเมริกาครั้งแรกเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ผมพยายามอย่างมากที่จะจัดการวิ่งที่ว่าให้ได้ แต่หลังจากดู Forrest Gump ในคืนหนึ่ง ผมก็นึกอะไรบางอย่างได้” Rob Pope เคยเป็นแชมป์วิ่งมาราธอนของออสเตรเลียในปี 2015 และชนะเคยชนะการวิ่งมาราธอน Liverpool…
-
เพราะเกิดบ่อย…พนักงานผจญเพลิงต้องฝึก ‘เอาแหวนออกจากจู๋’ อย่างจริงจัง!!
บางครั้งการสร้างความสุขให้กับตัวเองนั้นก็สามารถทำได้หลายอย่าง และการใช้ ‘อุปกรณ์ในการช่วยตัวเอง’ ก็ถือเป็นอีกทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะในต่างประเทศที่สามารถหาซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยเฉพาะในประเทศเยอรมนี ที่มีอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้เซ็กส์ทอยเกิดขึ้นบ่อยมาก จนทำให้เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงถึงกับต้องมีการฝึกซ้อมเพื่อแก้ไขปัญหานี้กันแบบจริงจังเลยทีเดียว จากรายงานของเว็บไซต์ Ladbible เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ระบุเอาไว้ว่ามีการจัดงานอบรมขึ้นในเมือง Dresden ประเทศเยอรมนี โดยมีนักผจญเพลิงเข้าร่วมมากกว่า 600 ชีวิต มีการสาธิตนำเซ็กส์ทอยชนิดแหวนสวมหรรม สวมไปที่ดิลโด้ แล้วให้เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงใช้ใบเลื่อยไฟฟ้าตัดออกอย่างระมัดระวัง เซ็กส์ทอยแหวนสวมหรรม เจ้าหน้าที่ผู้ฝึกอบรม Eric Fornerg วัย 39 ปี เล่าว่า “งานนี้เป็นงานที่ค่อนข้างเซนสิทีฟ และยากมาก จึงต้องมีการฝึกอบรมกันอย่างเคร่งครัด” วิธีในการเอาแหวนที่ติดออกนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องใช้ผ้าพันแผลแบบเฉพาะ ที่สามารถทนความร้อนได้มาพันรอบอวัยวะเพศของผู้ชาย เพื่อลดความเจ็บปวดจากความร้อนของสะเก็ดไฟ ที่มาจากการเสียดสีระหว่างใบเลื่อยและแหวนที่เป็นเหล็ก และงานทั้งหมดควรจะใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที หนึ่งในผู้เข้าร่วมอบรม นักผจญเพลิง Matthias Lehnigk วัย 36…
-
17 เรื่องราวความประทับใจ…ที่เกิดขึ้นใน ‘งานแต่งงาน’ ของเจ้าชาย ที่หลายๆ คนอาจพลาดไป
หลังจากพิธีแต่งงานของเจ้าชายแฮรี่ และเมแกน มาร์เคิล ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อย หลายๆ คนต่างก็ประทับใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเรื่องราวความรักของทั้งสองคน สำหรับในบทความนี้ #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปชมโมเมนต์สุดประทับใจ ที่เกิดขึ้นในงานแต่งเมื่อวานที่ผ่านมา เผื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนจะพลาดไป จะมีอะไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลย.. 1. เจ้าชายแฮรี่ และเจ้าชายวิลเลี่ยม เดินลงมาจากรถพร้อมกัน ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันเข้าไปในโบสถ์ เซนต์ จอร์ชส ชาเปล ท่ามกลางเสียงปรบมือของประชาชนที่เข้าร่วมงาน 2. รถของเมแกนขับผ่านผู้ร่วมงานนับพันที่ยืนร่วมแสดงความยินดีทอยู่สองข้างทาง มุ่งหน้าเข้าสู่ปราสาทวินด์เซอร์ 3. ในโบสถ์ชาเปล เจ้าชายแฮรี่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่ากำลังตื่นเต้นอยู่ ใครก็ได้ปลอบเขาที >< 4. แม่ของเมแกน กับน้ำตาของความปลื้มปีติ 5. โมเมนต์สุดน่ารักเมื่อบรรดาเด็กๆ มาถึง และเดินเข้ามาในโบสถ์ชาเปล 6. เมื่อเจ้าสาวเมแกนมาถึงที่หน้าโบสถ์และได้สบตากับเจ้าชายแฮรี่ 7. นี่คือใบหน้าของเมแกนตอนที่ได้เห็นเจ้าชาย 8. เจ้าชายแฮรี่พูดกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ที่เดินมาส่งเจ้าสาว “ขอบคุณครับพ่อ”…
-
‘Lady Kitty’ พระนัดดาแห่ง ‘เจ้าหญิง Diana’ สวยสง่า โชว์ออร่าเปล่งปลั่ง ในพิธีเสกสมรส
ในงานพิธีเสกสมรสที่ยิ่งใหญ่ระหว่างเจ้าชาย Harry และ Meghan Markle ณ โบสถ์ St George ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 ที่เพิ่งผ่านมานี้ ในขณะที่สายตาทุกจับจ้องไปที่คู่บ่าวสาวของงาน แต่ก็ได้มีดาวเด่นที่แสนดึงดูดอีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ที่ไหนไกลนั่นคือ Lady Kitty พระนัดดาแห่งเจ้าหญิง Diana ที่เป็นที่รักของประชาชนนั่นเอง โดยที่ Lady Kitty Spencer วัย 27 ปี ได้มาเข้าร่วมพิธีเสกสมรส ในชุดเดรสสีเขียวมรกตพร้อมกับลวดลายดอกไม้ที่กระโปรงจากแบรนด์แฟชั่น Dolce & Gabbana ตัดกับผมสีบลอนด์และผิวที่ผ่องสง่างาม พร้อมกับสร้อยเพชร กวาดเอาความสนใจไปจากสื่อได้อย่างล้นหลาม Lady Kitty Spencer เกิดวันที่ 28 ธันวาคม 1990 ที่ประเทศอังกฤษ เป็นลูกสาวของ Charles Edward Maurice Spencer ที่ 9 ขุนนางชาวอังกฤษซึ่งเป็นพระอนุชาของเจ้าหญิง Diana กับ Victoria Aitken เธอจึงมีศักดิ์เป็นพระนัดดาของเจ้าหญิง Diana นั่นเอง แม้ว่าจะเกิดในอังกฤษก็ตาม…
-
11 เรื่องที่คุณยังไม่รู้ เกี่ยวกับชุดแต่งงาน “เมแกน มาร์เคิล” สะใภ้คนใหม่แห่งราชวงศ์อังกฤษ
จากงานแต่งงานสุดยิ่งใหญ่ระหว่างเจ้าชาย Harry และฝ่ายเจ้าสาว Meghan Markle ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมานี้ แน่นอนว่าต้องมีแขกผู้เกียรติเข้าร่วมงานกันเต็มไปหมด แต่คนที่เด่นที่สุดและเป็นที่จับตามองกันมากที่สุดก็ต้องไม่พ้นคู่บ่าวสาวเป็นอย่างแน่นอน ถ้าหากพูดถึงงานแต่งงานชุดเจ้าสาวนั้นก็ย่อมเป็นที่สนใจกันมากๆ แน่นอน ยิ่งเป็นงานแต่งของคนมีชื่อเสียงอย่างคู่ที่เรากล่าวถึงแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่พูดถึงชุดแต่งงานนี้ วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อเท็จจริง 12 ประการเกี่ยวกับชุดแต่งงานของดัชเชส Meghan Markle มาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันครับ 1. มีข่าวลือถึงผู้ที่จะมาออกแบบชุดแต่งงานให้เธอมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Ralph & Russo ผู้ที่ออกแบบเครื่องแต่งกายให้เธอถ่ายรูปกับเจ้าชาย Harry ก่อนหน้านี้ หรือจะเป็น Roland Nouret ดีไซเนอร์ผู้ที่เป็นเพื่อนกับ Meghan มานาน รวมถึง Burberry หัวหน้าทีมดีไซน์ของ English Fashion House 2. แต่ถึงแม้ว่าจะมีข่าวลือมากมาย แต่แบรนด์ GIVENCHY ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับชุดแต่งงานของ Meghan แม้แต่ข่าวลือก็ยังไม่มี 3. แต่สุดท้ายชุดนี้สร้างโดย Clare Waight Keller ดีไซเนอร์ของแบรนด์ Givenchy ซะอย่างนั้น ซึ่งเธอและ…
-
เซเวนญี่ปุ่นสั่งอาหารแช่เย็นมาตุนเกินจำนวน เลยวาดการ์ตูนน้ำตาไหลขอร้องให้ช่วยซื้อหน่อย
เรารู้กันอยู่แล้วว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องตัวการ์ตูน ไม่ว่าจะในหน้ากระดาษ หรือการนำเอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่าไปที่ไหนคุณก็จะได้เห็นตัวการ์ตูนแฝงอยู่ในทุกๆ กิจกรรมของพวกเขาตลอดเวลา อย่างล่าสุดเราไปเจอเรื่องราวน่ารักๆ มาจาก 7-Eleven สาขาหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ที่ดันซื้อของมาตุนไว้ในร้านเยอะเกิน จนต้องทำป้ายโฆษณาน่ารักๆ ที่สื่ออารมณ์ออกมาได้ดี จนเราอยากจะยื่นมือเข้าไปช่วยพวกเขาซะเหลือเกิน ภาพต่อไปนี้ถูกแชร์จากผู้ใช้ทวิตเตอร์ @low_sugar เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นภาพป้ายข้อความจากร้าน 7-Eleven ที่มีตัวการ์ตูนทำท่าร้องไห้อยู่ พร้อมกับมีข้อความว่า “พวกเราพลาดและเข้าใจผิด สั่งพาสต้าซอสเนื้อมาตั้ง 87 กล่อง นั่นเลยทำให้ผู้จัดการร้านของเราโกรธมาก ขอร้องล่ะช่วยพวกเราด้วย!” ส่วนกล่องข้อความเล็กๆ ที่ตัวการ์ตูนพูดออกมานั้นแปลได้คร่าวๆ ว่า “ขอร้องช่วยพวกเราด้วย พาสต้าซอสเนื้ออร่อยมากเลยนะ” จากข้อมูลในเว็บไซต์ Soranews ระบุว่าพาสต้าซอสเนื้อนั้นเป็นเมนูที่พบเห็นได้ตามร้านสะดวกซื้อแทบจะทุกแห่ง ทำให้การขายมันให้หมดไปเร็วๆ นั้นเป็นเรื่องที่ยาก (อารมณ์น่าจะคล้ายๆ ข้าวกะเพราหมูบ้านเรา) ยิ่งในร้านมีตัวเลือกอื่นๆ อย่างข้าวห่อสาหร่าย ข้าวห่อไข่ ขนมปัง และซูชิ ยิ่งทำให้การขายพาสต้าซอสเนื้อหมดภายในวันสองวันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากสุดๆ แต่การใช้ตัวการ์ตูนเรียกความสนใจแบบนี้ ก็ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกอยากจะช่วยซื้อขึ้นมาจริงๆ “มันน่ารักมาก ทำให้ฉันอยากจะช่วยซื้อมันเลย” “ลายเส้นการ์ตูนน่ารักเกินไปแล้ว น่ารักเกินกว่าจะเป็นของจริง” “ถ้าเป็นภาพพนักงานร้องไห้จริงๆ ฉันคงซื้อมันแน่ๆ”…
-
เส้นทางรัก เมแกน มาร์เคิล ชีวิตที่เปรียบดั่งนิยาย จากสามัญชนพบรักกับ ‘เจ้าชาย’ ในชีวิตจริง
ผ่านไปแล้วเรียบร้อยกับงานแต่งงานของเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ฝ่ายเจ้าสาวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นดัชเชส และกลายมาเป็นหนึ่งในครอบครัวของราชวงศ์แห่งอังกฤษ สำหรับวันนี้เราไปติดตามชมชีวิตรักของทั้งคู่กันสักหน่อยดีกว่า ว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เมแกน มาร์เคิล (Meghan Markle) เป็นนักแสดงสาวชาวอเมริกัน ชีวิตของเธอนั้นเปรียบดั่งนิยาย ที่ได้มาพบรักกับเจ้าชายรูปงาม และได้ลงเอยด้วยการแต่งงานกันในที่สุด นี่คือเส้นทางความรักของทั้งคู่ จนถึงปัจจุบัน จะเป็นอย่างไร ลองไปติดตามชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้ะ… การพบกัน การพบกันของทั้งคู่นั้นยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ได้รับการคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นการนัดบอด จากคนรู้จักแนะนำให้ทั้งคู่ได้พบกัน คือแฟชั่นดีไซเนอร์ชาวอังกฤษชื่อว่า มิชา โนนู เพื่อนสนิทของเมแกนที่ทำหน้าที่เป็นแม่สื่อ จากคำบอกเล่าของ เมแกนที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC เธอเล่าว่า “ตอนแรกฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเขา และถ้าเขาไม่ถูกใจก็คงจะปล่อยให้ผ่านไป” แต่แล้วในเดือน กรกฎาคมปี 2016 ทั้งคู่ก็ไปดื่มด้วยกันอีกครั้ง “มันกลายเป็นว่าพวกเราพูดคุยกันถึงเรื่องการเดตครั้งต่อไปได้อย่างไม่ลังเล” ไปออกทริปที่แอฟริกา หลังจากที่ไปออกเดตด้วยกันครั้งที่สอง ผ่านไปประมาณไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เจ้าชายก็ตัดสินใจชวนเมแกนไปตั้งแคมป์ดูดาวกันที่ประเทศบอตสวานา ความสัมพันธ์ค่อยขยับไปข้างหน้า “พวกเราแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมา ซึ่งมันสำคัญมากและเป็นโอกาสที่จะทำให้เราได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น” การออกทริปในครั้งนี้มีความหมายต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นอย่างมาก (อัญมณีที่อยู่ตรงกลางแหวนหมั้นที่เจ้าชายให้กับเมแกน เป็นอัญมณีที่มาจากบอตสวานา) ความสัมพันธ์ถูกเปิดเผย หลังจากที่คบกันอย่างลับๆ…
-
แม้ที่อื่นจะร่วงหมดแต่ที่เราเพิ่งบาน!! ชมเทศกาล “ชิบะซากุระ” บานจากพื้นที่ฮอกไกโด
ในตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนกันแล้ว บางพื้นที่ก็มีฝนตกเป็นหย่อมๆ นับว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของนักท่องเที่ยว แต่หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่รู้ตัวช้า หรือช่วงที่ผ่านมาไม่ว่างไปเที่ยวเลยนี่อาจเป็นทางออกของคุณ เพราะที่จังหวัดฮอกไกโดยังคงมีซากุระบานให้คุณได้ชมอยู่นะ สาเหตุที่ซากุระยังคงบานในฮอกไกโดก็เพราะว่าจังหวัดฮอกไกโดนั้นอยู่แทบจะเหนือสุดของญี่ปุ่นเลย ทำให้เวลาที่ภูมิภาคอื่นๆ เข้าสู่ช่วงฤดูร้อน แต่ที่ฮอกไกโดเพิ่งจะเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น ความอัศจรรย์หนึ่งในฮอกไกโดก็คือที่นี่จะมีสวนที่ชื่อว่าฮิกาชิโมโกโตะ ชิบะซากุระ เป็นสวนที่เขาจะปลูกซากุระเอาไว้เกือบครึ่งภูเขาเลยก็ว่าได้ ในทางเทคนิคแล้ว ดอกไม้สีชมพูเหล่านี้อาจจะมีความคล้ายกับซากุระ แต่จริงๆ แล้วมันคือฟล็อกซ์ ไม้ดอกสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งในญี่ปุ่นเองจะเรียกพืชเหล่านี้ว่าชิบะซากุระ มีความหมายว่า “ทุ่งซากุระ” เมื่อมันถูกปลูกไว้ใกล้ๆ กันแบบนี้ก็ยิ่งเพิ่มความสวยงามให้กับผู้ที่พบเห็นมัน . จากข้อมูลที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของสวนชิบะซากุระ บอกว่าในช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะแก่การชมทุ่งชิบะซากุระมากที่สุด ซึ่งเทศกาลชมชิบะซากุระนี้จะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงวันที่ 3 มิถุนายนเลย นอกจากจะมีความสวยงามของดอกไม้แล้วยังมีการแสดงดนตรีและบูธของกินท้องถิ่นมาเปิดขายด้วย เช่นไอศกรีมชิบะซากุระ ชิบะซากุระเบ่งบานจากพื้น . เห็นแล้วมันน่าไปถ่ายภาพจริงจริ๊งงง หากใครสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ shibazakura.net ได้เลย มีแบบภาษาอังกฤษด้วยนะ ที่มา soranews24
-
เปิดภาพความสดใส ‘เจ้าหญิงชาร์ลอตต์’ ผู้ขโมยซีนในพิธีเสกสมรส กับความน่ารักที่สุดในงาน
ก็เป็นที่ผ่านพ้นไปอย่างยิ่งใหญ่สำหรับพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ และนางสาวเมแกน มาร์เคิล ที่จัดขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งภายในงานนี้ก็เต็มไปด้วยความชื่นมื่นในความรักของคู่บ่าวสาว และความยินดีอย่างท่วมท้นของประชาชนชาวอังกฤษรวมถึงทั้งโลก.. น่ารักราวกับเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ แต่ว่านอกจากคู่บ่าวสาวที่เป็นที่น่าจับตามองภายในงานนี้แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์เล็กๆ จากเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระธิดาพระองค์แรกในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ กับแคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ที่ได้เข้าร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าชายแฮร์รี่ และได้ทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับนางสาวเมแกนด้วย มีแลบลิ้นหยอกล้อกับสื่อด้วย เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงแต่งกายด้วยชุดกระโปรงสีขาวน่ารักพร้อมกับมงกุฎดอกไม้อันแสนงดงาม โดยเมื่อผนวกเข้ากับความสดใสของพระชันษา 3 ปีด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เจ้าหญิงคนนี้ดูโดดเด่นขึ้นราวกับเป็นนางฟ้าน้อยๆ เลยก็ว่าได้ ขณะอยู่กับราชวงศ์และครอบครัว เด็กสาววัย 3 ขวบกับความแสนซนตามประสา ขณะอยู่กับเจ้าชายจอร์จ พระเชษฐา (พี่ชาย) เห็นแล้วเหมาะสมกับการเป็นเจ้าหญิงจริงๆ ทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วยนะ สดใสทั้งคู่เลย เห็นแล้วรู้สึกโลกสดใส ไปแล้วนะ บ๊ายบายนะจ๊ะ ที่มา: metro, goodhousekeeping
-
8 ข้อเท็จจริงที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับ “Meghan Markle” ดัสเชสแห่งซัสเซกส์
วันที่ 19 พฤษภาคม 2018 ที่เพิ่งผ่านมานี้เองก็มีเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งเกิดขึ้น นั่นคือการพิธีเสกสมรสของราชวงศ์ระหว่างเจ้าชาย Harry กับ Meghan Markle ณ โบสถ์ St George กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งก็เป็นที่ปลาบปลื้มของประชาชนทั่วราชอาณาจักรเป็นอย่างมาก ทางด้านเจ้าชาย Harry เพื่อนๆ น่าจะรู้จักและได้ยินชื่อเสียงบ่อยๆ อยู่แล้ว แต่สำหรับ Meghan เพื่อนๆ อาจจะยังไม่รู้จักเธอดีเท่าไรนัก ฉะนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อเท็จจริง 8 ประการเกี่ยวกับ Meghan Markle ที่ ณ เวลานี้กลายเป็นดัสเชสแห่งซัสเซกซ์แล้ว มาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันครับ ไปดูกันเลย 1. ชื่อจริงๆ ของเธอคือ Rachel หญิงงามวัย 36 ปี ที่สร้างชื่อเสียงมาจากการเป็นนักแสดงในบท Rachel Zane ในซีรีส์ Suits แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่า Rachel ยังเป็นชื่อจริงของเธออีกด้วย โดยที่จะกล่าวชื่อเธอเต็มๆ ยศล่ะก็ต้องเป็น Rachel Meghan Markle…
-
หนูน้อย Tyler วัย 11 ขวบ โชว์ความสามารถสะกดคำอังกฤษ แม่ให้กินดิกต์เป็นอาหารหรือไง!!
เรามักจะได้ยินประโยคที่ว่า “เด็กฉลาดชาติเจริญ” แต่สำหรับเด็กคนนี้คงต้องเรียกว่าฉลาดเกิ๊นนน เพราะน้องแกเล่นโชว์ศักยภาพการใช้ภาษาได้อย่างเหนือชั้น ราวกับโดนคุณแม่บังคับให้รับประทานดิกชันนารีไปตั้งแต่เด็กยังไงยังงั้น เรากำลังพูดถึงหนูน้อย Tyler วัย 11 ขวบ หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการ Genius Junior ทางช่อง NBC ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรายการประลองปัญญาสำหรับเด็กอายุระหว่าง 8-12 ขวบ รายการ Genius Junior ในรายการนั้นจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 อย่างด้วยกัน ซึ่งในการแข่งขันรอบที่ 3 กับหัวข้อ Talking Dictionary เจ้าหนู Tyler ได้เป็นตัวแทนของทีม Brainy Bunch เข้ามาแข่งในหมวดนี้ ทีม Brainy Bunch (คนกลางคือ Tyler) โดยในหมวดดังกล่าวจะให้ตัวสะกดมาไม่ครบ แล้วพิธีกรจะบอกว่าคำนี้มีทั้งหมดกี่ตัวอักษร ให้เด็กเติมตัวสะกดที่หายไปด้วยตนเอง แถมตอนตอบยังต้องสะกดจากหลังไปหน้าอีกด้วย ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเจ้าหนู Tyler แต่อย่างใด เพราะเขาสามารถตอบทุกข้อได้อย่างฉะฉานรวดเร็ว คือดูแล้วก็เกิดความคิดขึ้นมาเลยว่า “ตอนเด็กๆ…
-
เผยค่าตั๋วชม “บัวขาว” ที่ฮ่องกง ตั้งแต่ 60,000-360,000 บาท!! (อยากไปดูคงต้องขายรถ)
ในยุคนี้คงจะแทบไม่มีใครไม่รู้จัก บัวขาว – สมบัติ บัญชาเมฆ สุดยอดนักชกชาวไทยที่โด่งดังไปไกลทั่วโลก มีรายได้ต่อการขึ้นชกทีนึงนี่คือซื้อบ้านได้เป็นหลังๆ เลย ล่าสุดบัวขาวกำลังจะได้ขึ้นชกกับหนุ่มนักชกสัญชาติออสเตรเลีย Victor Nagbe ผู้มีฝีมือเก่งกาจไม่ใช่น้อย ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อนบัวขาวเคยเอาชนะไปอย่างฉิวเฉียด ต่างกันไม่กี่คะแนน อีกหนึ่งคู่หยุดโลก Nagbe คือนักชกที่มีสไตล์อันครบเครื่อง ความคล่องแคล่ว ความแข็งแกร่ง และไหวพริบนั้นเรียกได้ว่าเป็นนักชกอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ แต่แน่นอนว่าบัวขาวของพวกเราชาวไทยเองก็แข็งแกร่งไม่แพ้ใครเช่นเดียวกัน ด้วยความที่ทั้งสองมีประวัติอันน่าเกรงขามขนาดนี้ มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาตั๋วเข้าชมการชกของทั้งคู่ในศึก All Star Fight ครั้งที่ 4 ณ ฮ่องกง (ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2018) พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก แพงสุดพุ่งไปเกิน 300,000 บาท!! โดยราคาค่าตั๋วของ 1 โต๊ะ (นั่งได้ 10 คน) แมตช์นี้แบ่งออกเป็น สีเขียว – 360,000…
-
ชมลุค ‘ป๋าเบค’ และภรรยา เข้าร่วมพิธีสมรสเจ้าชายแฮร์รี่ – เมแกน โอ้โห ปังสุดๆ
ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับงานแต่งงานที่ทั่วโลกต่างจับตามอง ระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ในงานที่น่าจดจำเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องมีบุคคลมากมายเข้าร่วมพิธี และแขกที่มาร่วมในงานแล้วดูโดดเด่นสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้นรูปหล่อตลอดกาล ‘ป๋าเบค’ หรือ เดวิด เบคแฮม นี่แหละ พ่วงมาด้วยภรรยา วิคตอเรีย เบคแฮม ทั้งสองคนเดินทางมาถึงในพิธีก่อนที่พิธีจะเริ่ม และเพียงเท่านี้ก็ทำให้งานแต่งงานในครั้งนี้ดูน่าจับตามองสุดๆ แล้วล่ะ พิธีแต่งงานระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกนมาร์เคิล จัดขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 เวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศอังกฤษ (ตรงกับบ้านเรา 18.00 น.) นอกจากเดวิด เบคแฮม และภรรยาแล้ว ก็มีคนดังชาวอังกฤษมากมายเข้าร่วมพิธีแต่งงานในครั้งนี้ รอยยิ้มพิมพ์ใจ งานคู่แบบนี้ทำเอาคนดังคนอื่นๆ ดับหมดเลย จินตนาการว่าตัวเองเป็นวิคตอเรีย เลิศทั้งคู่ สวมแว่นซะหน่อยนึง อย่าส่งสายตาแบบนั้นสิ หัวใจชุ้นจะวายยยยย ที่มา…
-
หนุ่มอเมริกันตะโกน “เหยียด” คนสเปนในร้านอาหาร จนลูกครึ่งเอเชียต้องเข้ามาห้ามไว้
ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ได้มีคลิปหนึ่งที่กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก นั่นคือวิดีโอที่เผยให้เห็นว่าหนุ่มทนายความชาวอเมริกันคนหนึ่งตะโกนและตะคอกใส่พนักงานร้านอาหารชาวสเปน หลังจากที่พวกเขาเหล่านั้นพูดภาษาสเปนกับลูกค้า ทนายคนนั้นมีชื่อว่า Aaron Schlossberg ในวันนั้นเขาได้เข้าไปใช้บริการร้านอาหาร Fresh Kitchen ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ก่อนที่เขาจะได้ยินว่าพนักงานพูดคุยกับลูกค้าโดยมีภาษาสเปนแซมเข้ามา ทนาย Aaron ผู้ออกมาโจมตี และใช้คำพูดเหยียดพนักงานที่พูดภาษาสเปน Aaron แสดงท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจึงโวยวายขึ้นมาและบอกกับทุกคนว่าตนเองต้องการจะติดต่อกับ กรมตรวจคนเข้าเมืองของประเทศ (ICE) เชื่อว่าพนักงานเหล่านี้เข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย เพราะพวกเขาพูดภาษาสเปนกับลูกค้าบางคนให้เราได้ยิน ทนายหนุ่มตะโกนขึ้นมาว่า “ที่ได้ยินตอนนี้คือ คนนั้นก็พูดสเปน โน่นก็สเปน เธอคนนั้นก็พูดสเปน แต่ เฮ้ย นี่มันอเมริกานะเว้ย!!” เขายังพูดต่อไปว่า “เราต้องจ่ายค่าสวัสดิการให้คนเหล่านี้ ต้องจ่ายค่าแรงให้อีก อย่างน้อยพวกเขาก็จะต้องพูดภาษาอังกฤษ” Aaron ขณะโวยวายใส่ผู้จัดการร้าน ระหว่างนั้น เราจะเห็นว่ามีหนุ่มหน้าตาเอเชียคนหนึ่งเข้ามาห้ามทนายที่พูดจาเหยียดชนชาติ ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ Hyunsik Kong ผู้จัดการร้านอาหารดังกล่าว ลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน Kong เล่าว่าทนายคนนี้โมโหและโวยวายขึ้นมา ใช้คำพูดรุนแรงกับพนักงานเหล่านั้นเพียงเพราะพวกเขาพูดภาษาสเปนกับลูกค้าบางคน Kong…
-
พิพิธภัณฑ์ British นำ “รองเท้า” โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จัดแสดง ฉลองตำแหน่งดาวซัลโว
ถ้าหากว่าคุณเป็นแฟนของฟุตบอลอังกฤษหรือเป็นแฟนคลับของทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลล่ะก็ จะต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อของนักเตะจากอียิปต์อย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์ อย่างแน่นอน และหลังจากที่เปิดตัวกับหงส์แดงเพียงฤดูกาลแรก พี่แกก็ได้แสดงให้แฟนบอลได้เห็นแล้วว่าดาวเตะค่าตัวสุดแพงผู้นี้เล่นได้คุ้มค่าเงินทุกปอนด์ที่จ่ายไปแค่ไหน ซึ่งไม่เพียงเท่านั้นเขายังคว้าตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีคไปครองอีกด้วย ซึ่งการประสบความสำเร็จในครั้งนี้เป็นผลให้รองเท้าคู่เก่งของเขาถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ British Museum ในกรุงลอนดอนเลย ในฤดูกาลนี้ซาลาห์ ลงเล่นเกมในลีคให้กับลิเวอร์พูลไปทั้งหมด 38 นัด ทำได้ 32 ประตูด้วยกัน และรวมทุกการแข่งขันดาวเตะจากอียิปต์ผู้นี้กระหน่ำยิงไปทั้งสิ้น 44 ประตู คุณ Neal Spencer ฝ่ายดูแลวัตถุโบราณของอียิปต์และซูดานกล่าวว่า รองเท้าของซาลาห์จะทำให้ส่วนจัดเก็บโบราณวัตถุของอียิปต์ในพิพิธภัณฑ์ British Museum เป็นที่รู้จักมากขึ้น “รองเท้าคู่นี้บอกเล่าเรื่องราวของสัญลักษณ์อียิปต์สมัยใหม่ ที่เกิดขึ้นในอังกฤษและทั่วโลก มันถูกจัดแสดงร่วมกับวัตถุโบราณของอียิปต์โบราณชิ้นอื่นๆ” Neal Spencer กล่าว นอกจากนี้ทางฝ่ายดูแลยังได้บอกอีกว่าซาลาห์ คือคนที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักกับอียิปต์เหมือนกับสิ่งที่ฟาโรห์ทำ โดยการพาทีมชาติเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย “รองเท้าคู่นี้จะทำให้โปรเจกต์โบราณวัตถุของเราบอกเล่าเรื่องของอียิปต์ในศตวรรษที่ 20 และ 21 ได้ ตอนนี้คอลเลคชั่นของเรามีวัตถุมากมายทั้งจากกีฬา วงการบันเทิง และงานออกแบบต่างๆ มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้คนได้เรียนรู้เกี่ยวกับแต่ละช่วงเวลาของประวัติศาสตร์อียิปต์” Neal Spencer กล่าวทิ้งท้าย อ่า… และสำหรับแฟนลิเวอร์พูลก็คงต้องติดตามกันต่อไปแล้วล่ะว่า ฟาโรห์ของเราจะสร้างประวัติศาสตร์พาพลพรรคหงส์แดงเป็นเจ้ายุโรปสมัยที่ 6…
-
โฉมใหม่ของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ โมเดลสไปเดอร์แมนในชุดซามูไร จากญี่ปุ่น
ถ้าหากว่าคุณได้ดูภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของจักรวาลมาร์เวลอย่าง Avengers: Infinity War อาจจะเกิดความตื่นตระหนกตกใจอย่างรุนแรงหลังจากที่ตัวโกงสุดแข็งแรงของเราดีดนิ้วเพียงครั้งเดียวก็ได้ แต่ในระหว่างที่กำลังรอชมเรื่องราวตอนต่อไปของทีม Avengers กันอยู่นั้น วันนี้ #เหมียวเวจจี้ ก็มีชุดสุดเจ๋งของไอ้แมงมุมจากทางฝั่งญี่ปุ่นมาให้ได้ชมกัน แอ่นแอ้น!! ชุดสไปเดอร์แมนแบบซามูไรนี้ เป็นหนึ่งในของเล่นชุดใหม่จากทาง Tamashi Nations บริษัทผลิตโมเดลชื่อดังจากญี่ปุ่น ผลงานชิ้นนี้เป็นฝีมือการออกแบบของ Takayuki Takeya ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบชุดสไปเดอร์แมนซามูไรเมื่อปีที่แล้ว แต่ผลงานในคราวนี้เขากลับเลือกใช้สีดำราวกับจะให้ดูคล้ายกับคู่ปรับอย่างวีนอม นอกจากชุดเกราะสีดำสุดเท่แล้ว โมเดลในชุดนี้ยังมาพร้อมกับอาวุธคู่กายแบบญี่ปุ่นโบราณอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโซ่ หรือดาบคาตานะ และอาวุธอื่นๆ อีกมากมาย โมเดลนี้จะออกวางจำหน่ายในชื่อ Onmitsu Black Spider-Man โดยมีขนาดความสูง 19 เซนติเมตร และวางจำหน่ายในราคาประมาณ 2,700 บาท ซึ่งใครสนใจอยากเป็นเจ้าของล่ะก็เข้าไปสั่งซื้อออนไลน์กันได้ที่ p-bandai ที่มา soranews24
-
เด็กออทิสซึมเปลี่ยน ‘การ์ดไร้ค่า’ ให้กลายเป็นงานศิลปะงดงาม พร้อมจัดแสดงเพื่อการกุศล
หากย้อนกลับไปในวัยเด็ก ‘การ์ด’ ถือเป็นของเล่นที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยเล่น แต่พอเบื่อแล้ว หมดความสนุกกับมัน หลายๆ คนก็เลือกที่จะทิ้งมันไป แต่สำหรับเด็กหนุ่มผู้ป่วยเป็นโรคออทิสซึมวัย 17 ปีชื่อว่า เจมส์ โอเวน โธมัส จากเมืองนอร์ธ ยอร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ แล้วเขากลับนำมันมาสานต่อสร้างเป็นผลงานศิลปะแสนงดงาม เจมส์ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคออทิสซึม (Autism) ตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ ชีวิตในวัยเด็กของเขาก็เหมือนกับเด็กๆ ทั่วไป คือซื้อการ์ดมาเล่น และเก็บสะสมเอาไว้ แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปจำนวนการ์ดที่สะสมก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เจมส์เริ่มมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรกับมันดี เพื่อไม่ให้มันกลายเป็นแค่ของเก็บสะสมเพียงอย่างเดียว และในที่สุดก็ปิ๊งไอเดียเปลี่ยนการ์ดเหล่านั้นให้กลายเป็นงานศิลปะสุดงดงามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว “คุณจะต้องเข้มแข็ง เพื่อจะแตกต่าง และทางที่จะทำให้ผมเข้มแข็ง ผมคิดว่ามันคือการทำงานศิลปะ” ผลงานศิลปะของเจมส์นั้นถูกจัดแสดงที่ศูนย์อุทยานแห่งชาติยอร์กเชียร์ ในวันที่ 7 มีนาคม ถึง 30 เมษายน ปี 2018 ที่ผ่านมา เพื่อหาเงินไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศล …
-
นินจาหนุ่มแอบอาศัยอยู่บ้านยายแก่กว่า 6 เดือนก่อนจะถูกจับได้ นี่เอ็งจะเนียนไปไหน??
บางครั้งบ้านของเราเองที่เราคิดว่าปลอดภัยก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป แล้วยิ่งถ้าเป็นบ้านที่มีแต่คนแก่อาศัยอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ อาจจะต้องมีการตรวจสอบให้ดีมากยิ่งขึ้น ไม่งั้นอาจจะเป็นเหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่มีเด็กหนุ่มเนียนไปแอบอาศัยอยู่บ้านของคุณยายคนหนึ่ง โดยที่เธอไม่รู้แม้แต่น้อยว่าชายคนนี้อยู่ในบ้านเธอมาแล้วถึง 6 เดือน!! เรื่องที่ว่านี้เกิดขึ้นที่เมืองฮิเมจิ ประเทศญี่ปุ่น และเด็กหนุ่มวัย 20 ปีผู้ก่อเหตุ ก็ได้รับสมญานามว่าเป็น ‘นินจาแห่งยุคโมเดิร์น’ จากความเนียนของเขาที่สามารถอาศัยอยู่บ้านของคนอื่นได้มานานเป็นเดือนๆ โดยไม่ถูกจับได้ โดยวิชานินจาของเด็กหนุ่มนี้ได้ถูกเปิดโปงขึ้นในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมีลูกชายของคุณยายเจ้าของบ้านวัย 90 ปีกลับมาเยี่ยมเยียนคุณยายคนนี้และอยู่กินอาหารเย็นด้วยกันตามประสาครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทว่าระหว่างที่อาศัยอยู่ในบ้านนั้น ลูกชายคนนี้ก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ แปลกๆ ดังมาจากชั้นที่สองของบ้าน เขาจึงเดินขึ้นไปหาคำตอบว่าเสียงที่ว่านี้มันมีที่มาจากอะไรกันแน่ ซึ่งในตอนแรกเขาก็สันนิษฐานเอาไว้ว่าเป็นหนูหรือสัตว์อะไรหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ซึ่งเมื่อเขาเปิดประตูห้องนอนชั้นบนห้องหนึ่งออก สิ่งที่เขาเห็นมันก็ทำให้เขาช็อกจนแทบล้มทั้งยืน เพราะสิ่งที่เขาเห็นก็คือผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอยู่บนฟูกในห้องนั้น แต่ว่าเขาก็ยังมีสติพอที่จะไม่กระโตกกระตากไปและปิดประตูห้องนั้นเอาไว้ดังเดิม จากนั้นเขาก็ลงไปถามแม่ของเขาว่าใครกันนะที่อยู่ชั้นที่สองของบ้าน ทว่าแม่ของเขาก็งงกับสิ่งที่ลูกชายพูดว่าพูดเรื่องอะไรกัน ข้างบนไม่มีใครอยู่สักหน่อย ลูกชายคนนี้จึงมั่นใจว่าแม่ของเขาไม่รู้เรื่องนี้แน่ๆ จึงโทรศัพท์หาตำรวจแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้นให้พวกเขาได้รับรู้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ก็ได้จับกุมตัวชายคนนี้เอาไว้ได้เป็นที่สำเร็จและนำตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ว่าชายคนนี้ก็ไม่ให้ความร่วมมืออย่างใดๆ ทั้งไม่เปิดเผยชื่อจริง และอื่นๆ แต่ว่ามีอยู่สิ่งหนึ่งที่ชายคนนี้ยอมบอกออกมาก็คือ ระยะเวลาที่อยู่ในบ้านหลังนี้ โดยเขาสารภาพว่าได้เข้าบ้านของคุณยายวัย 90 ปีคนนี้ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2017 เมื่อเวลาประมาณ…
-
แค่หล่อก็พอ หนุ่มเกาหลีไลฟ์ “อ่านหนังสือสอบ” ไม่พูดอะไรสักคำ คนติดตาม 300,000!?
แค่ได้ชื่อว่าเป็นคนหน้าตาดี ชีวิตของคุณก็ดูจะราบรื่นกว่าคนธรรมดาไปหลายเท่าทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเข้าหาคน การเป็นที่จับตาของคนทั่วๆ ไป และแม้ว่าคนหน้าตาดีจะทำทุกอย่างเหมือนกับที่คนหน้าตาธรรมดาๆ ทำ แต่เชื่อเถอะว่าพวกเขาจะได้รับความสนใจมากกว่าเราๆ แน่นอน เมื่อไม่นานมานี้ได้มียูทูบเบอร์ที่ใช้ชื่อว่า 봇노잼 (บอทโนแจม) กลายเป็นที่พูดถึงในเกาหลีใต้อย่างมากเนื่องจากการไลฟ์อ่านหนังสือ ใช่ อ่านหนังสือแบบเพียวๆ เลย ความยาวในการไลฟ์ของเขาจะอยู่ที่ราวๆ 6 ชั่วโมงกว่าเกือบ 7 ชั่วโมง โดยจะไลฟ์ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ และแทบจะทุกคลิปของเขาจะไม่มีการพูดคุยใดๆ เลย มีแค่การตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเท่านั้น แต่เพราะว่ายูทูบเบอร์รายนี้มีใบหน้าอันหล่อเหลาพอตัว ทำให้สาวๆ กดไปดูไลฟ์ของเขาเป็นแสนวิว (สูงสุดคือ 432,126 วิว) และมียอดคนกดติดตามเขากว่า 300,000 คน โดยที่แทบจะไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากปากเขาเลย มีรายงานว่าการตั้งใจอ่านหนังสืออย่างขะมักเขม้นของเขานั้น ก็เพื่อเอาไปใช้สอบเป็นตำรวจในเกาหลีใต้นั่นเอง ทำให้สาวๆ หลายคนเกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะตั้งใจเรียนเหมือนเขาบ้าง สาวๆ หลายคนเมื่อเห็นไลฟ์ของเขาก็จะกดเข้าไปดูและชื่นชมในความตั้งอกตั้งใจของหนุ่มหล่อคนนี้อย่างล้นหลาม โดยที่หลายๆ คนมองว่าเขามีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคนดังอย่าง อิม ซีวาน (ซ้าย) นักร้องบอยแบนด์จากวง ZE:A (เจอา) และ ยุก ซองแจ…
-
ลุงหื่นถูกจับ หลังเขานั่ง “สาวหรรมส์” ยิ้มโชว์ฟันขาวกลางรถเมล์ แบบไม่แคร์สายตาประชาชี
ไม่ว่าจะเป็นแห่งหนใดบนโลกใบนี้ พวกเราก็มีโอกาสที่จะได้เจอะเจอกับคนโรคจิตหื่นกามที่ปะปนอยู่ร่วมกับคนทั่วไป ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะอยู่ร่วมกับเราไม่ได้เลย แต่การแสดงพฤติกรรมทางเพศชนิดว่าไม่แคร์สื่อ (เหมือนยิ่งมีคนมองก็ยิ่งชอบ) จะกลายเป็นสิ่งที่รบกวนลูกตาของเราเหลือเกิน เหมือนอย่างสิ่งที่ชายคนนี้ทำ เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2018 ได้มีการเผยแพร่คลิปลงในสื่อโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นชายคนหนึ่งทอกระดอกควักน้องชายมานั่งสาวอย่างเพลินจิต กลางรถเมล์ที่กำลังแล่นอยู่ในเมืองโกลกาตา ประเทศอินเดีย คุณลุงผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ในตอนแรกนั้นผู้หญิงที่ถ่ายคลิปมาโพสต์เล่าว่า เธอและหญิงสาวอีกคนที่นั่งใกล้ๆ กันรู้สึกเหมือนกับกำลังโดนชายคนนี้คุกคามด้วยสายตา แล้วเธอก็เห็นว่าเขากำลังนั่งสาวว่าวติดลมบนอยู่กลางรถเมล์ เธอจึงตัดสินใจถ่ายคลิปนี้เอาไว้ คลิปของเธอในเฟซบุ๊กถูกรับชมไปมากกว่า 2 ล้านครั้ง และเจ้าของคลิปก็ได้ส่งต้นฉบับไปให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้สามารถเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุอนาจารได้ในที่สุด ไร้ซึ่งความอายใดๆ แถมแกยังหันมายิ้มโชว์ฟันขาวให้กล้องด้วยนะ ชายคนนี้มีชื่อว่า Asit Roy อายุ 50 กว่าๆ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาก่อเหตุในทำนองนี้ เพราะเหล่าผู้ชมคลิปวิดีโอต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าตนเองเคยตกเป็นเหยื่อมาแล้วหลายต่อหลายคน ดังเช่นตัวอย่างคอมเมนต์ด้านล่าง “เราเคยตกเป็นเหยื่อและพยายามประท้วงในสิ่งที่เขาทำ ขอให้คนขับรถเมล์ช่วยห้ามปรามก็กลับถูกปฏิเสธ” “15 วันก่อนหน้านี้เราเคยต้องเจอกับสิ่งที่เขาทำอนาจาร อุจาดตา แต่ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ได้เพราะว่าไม่มีหลักฐาน แต่คลิปวิดีโอนี้จะช่วยให้เราสามารถเรียกร้องหาความยุติธรรมได้ในที่สุด” คลิปดังกล่าวที่ถูกเผยแพร่กระจายไปทั่วโลกโซเชียล ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ออกมาชี้แจงกับทุกคนว่า “พวกเรากำลังดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอย่างตั้งใจ พยายามตามหาเหยื่อทุกคน” “ตอนนี้เราควบคุมตัวเขาเอาไว้แล้ว และให้ความสำคัญต่อการสืบสวนในคดีนี้เป็นอย่างมาก…
-
‘Bon&Pon’ คู่รักตายายชาวญี่ปุ่น คู่รักที่แต่งตัวเหมือนกันมาตลอดเวลา 30 ปี
อินสตาแกรมที่ชื่อว่า bonpon511 คือพื้นที่สำหรับการบันทึกความทรงจำคือคู่รักชาวญี่ปุ่นคู่หนึ่ง คุณตาคุณยายทั้งคู่มีอายุ 60 ปีแล้ว แต่เรื่องอายุไม่ได้เป็นข้อจำกัดสำหรับโลกออนไลน์ ตายายคู่นี้จึงได้เลือกใช้พื้นที่ของโลกออนไลน์มาใช้เป็นพื้นที่ในการบันทึกรูปภาพของพวกเขาเอาไว้ ทั้งคู่เพิ่งจะฉลองครบรอบ 38 ปีวันแต่งงานไปเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา นับได้ว่าเป็นเวลาที่ยาวนานมากๆ สำหรับชีวิตคู่คู่หนึ่งที่ต้องร่วมสุขร่วมทุกข์กันมา https://www.instagram.com/p/BimjpAygJpy/?taken-by=bonpon511 คุณตาคุณยายมักจะแต่งตัวด้วยชุดเสื้อผ้าน่ารักๆ เข้าคู่กันอยู่เสมอ เป็นชุดคู่ที่น่ารักมากๆ ใส่ทุกวัน ทุกโอกาส น่ารักกกก หวานจนสาวๆ หนุ่มๆ แถวนั้นอิจฉาไปเลย ไม่ว่าจะออกไปไหนก็ต้องแต่งชุดเหมือนๆ กัน เขาจะได้รู้ว่าเป็นแฟนกัน >< คุณตาคุณยายไม่ได้เพิ่งจะมาแต่งชุดคู่กันเพื่อถ่ายรูปลงโซเชียล แต่ทั้งคู่ทำแบบนี้มาเกือบ 30 ปีแล้ว คุณตาบอกว่า “มันเริ่มต้นขึ้นโดยบังเอิญ” เมื่อทั้งคู่เริ่มสังเกตว่า พวกเขาแต่งตัวคล้ายๆ กันในทุกวัน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรสนิยมที่เหมือนๆ กันของคุณตาคุณยาย ทั้งคู่ก็เลยเริ่มใส่ชุดเหมือนๆ กันเวลาออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แล้วบันทึกรูปภาพเก็บเป็นความทรงจำเอาไว้ จนกระทั่งยุคอินเตอร์เน็ตมาถึงก็เริ่มหันมาเก็บความทรงจำนี้ไว้ในโลกออนไลน์ ที่ที่ทุกอย่างจะไม่มีวันหายไป จับมือกันไว้ตลอด https://www.instagram.com/p/BhsQwdTDBBU/?taken-by=bonpon511 เที่ยวที่ไหนก็จะมีกันและกันอยู่เคียงข้างเสมอ https://www.instagram.com/p/BgtAKk4D9Cd/?taken-by=bonpon511 …
-
หัวหน้าบาทหลวงชิลีทุกคน ตัดสินใจออกจากตำแหน่ง หลังมีข่าวอื้อฉาวเรื่องการล่วงละเมิด
ในวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์หัวหน้าบาทหลวงที่กำลังรักษาตำแหน่งจำนวน 31 คน และที่เกษียณอายุแล้วอีก 3 คนได้ตัดสินใจยืนเอกสารลาออกจากตำแหน่ง การตัดสินใจในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่มีการเรียกประชุมฉุกเฉินเป็นเวลาสามวันของทางวาติกันหลังจากที่ได้รับจดหมายการร้องเรียนกว่า 2,300 ฉบับที่ร้องเรียนเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และการกลบเกลื่อนคดีในโบสถ์ที่ชิลี คดีที่กว่านี้เกิดขึ้นจากการที่หัวหน้าบาทหลวง Juan Barros โดนกล่าวหาว่าช่วยกลบเกลื่อนคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กๆ จำนวนมากของบาทหลวง Fernando Karadima เมื่อช่วงปี 80-90 โดยที่เชื่อกันว่าทางโบสถ์ที่ชิลีนั้นรู้ถึงการกระทำของบาทหลวง Karadima แต่ก็เลือกที่จะนิ่งเฉยไม่ทำอะไร สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสยังได้มีการกล่าวหาหัวหน้าบาทหลวงของชิลีอีกว่า พวกเขาทำลายหลักฐานของคดีอาชญากรรมทางเพศ กดดันนักสืบผู้สืบสวนคดี และละเลยที่จะคุ้มครองเด็กๆ จากนักบวชเฒ่าหัวงู ซึ่งทางผู้ถูกกล่าวหา บาทหลวง Karadima ที่ขณะนี้อายุได้ 87 ปีก็ยังไม่เคยยอมรับความผิดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนหัวหน้าบาทหลวง Barros เองก็บอกว่าบาทหลวง Karadima นั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรผิด ดังนั้นการตัดสินใจลาออกพร้อมกันทั้งประเทศในครั้งนี้ จึงอาจจะมองได้ว่าเป็นการยอมรับในความผิด และแสดงความรับผิดชอบพร้อมกันเป็นหมู่คณะของทางหัวหน้าบาทหลวงในชิลีก็ว่าได้ โดยจากเนื้อความในจดหมายนั้น ทางเหล่าหัวหน้าบาทหลวงบอกว่า “เราได้วางตำแหน่งของเราไว้ในพระหัตถ์ของพระบิดาและจะปล่อยให้พระองค์ทรงตัดสินพวกเราทุกคนอย่างอิสระ… เราต้องการที่จะขออภัยสำหรับความเจ็บปวดที่เกิดกับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ พระสันตะปาปา คนของพระเจ้า…
-
ทหารหนุ่มเพิ่งรู้ว่า ภรรยาขายลูกไป แต่บอกว่าลูกตายแล้ว แถมตัวเองก็ไม่ใช่พ่อของเด็ก!?
เจ้าหน้าที่ทหารชาวสหรัฐอเมริกาที่ไปประจำการอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ถึงกับเข่าทรุด หลังได้รับข่าวว่าลูกของตัวเองที่เพิ่งคลอดนั้นเสียชีวิตหลังจากนั้นได้ไม่นาน แต่หลังจากผ่านไปได้เดือนเดียวเจ้าหน้าที่ Steven Garcia วัย 24 ปีก็ทราบความจริงว่า ลูกชายของตนนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ถูกขายไปให้คนอื่นโดยฝีมือของภรรยาตัวเอง และความจริงที่พีคยิ่งไปกว่านั้นคือ เจ้าหน้าที่ Steven ไม่ใช่พ่อของเด็กคนนั้นด้วย!! เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ Steven ได้รับคำสั่งให้ไปประจำการที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เขาได้รับข่าวว่า Marina Garcia วัย 31 ปี ภรรยาของเขาคลอดลูก และลูกที่คลอดออกมาเสียชีวิตในวันนั้น “พี่สาวของผมโทรมา และแจ้งข่าวร้ายให้ทราบ ตอนนั้นผมเศร้ามาก และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ก็ได้แต่ร้องไห้กันสองคนกับภรรยาผ่านทางโทรศัพท์” เจ้าหน้าที่ Steven เล่า แต่กลายเป็นว่า ทารกน้อยเกิดที่รัฐแอริโซนา เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ Marina ได้มอบลูกของตนให้กับเพื่อนที่คบกันมายาวนานชื่อว่า Leslie และ Alex Hernandez เรื่องราวทั้งหมดเริ่มแดงออกมาที่ถนนหลวงแห่งหนึ่งของรัฐแอริโซน่า เจ้าหน้าที่จราจรได้เรียกให้รถคันหนึ่งจอด…
-
นักเรียนชาวไนจีเรียโดนจับขึงไม้กางเขน และเฆี่ยนโชว์หน้าโรงเรียน เนื่องจากมาสาย
เชื่อว่าหลายๆ คนคงมีประสบการณ์โดนทำโทษเพราะมาโรงเรียนสายในวัยเด็กกันมาบ้างไม่มากก็น้อย การลงโทษนั้นอาจจะหนักเบาแตกต่างกันไปแล้วแต่โรงเรียนและคุณครู บางที่ก็อาจจะให้นั่งหน้าเสาธง ตัดคะแนน หรือเก็บขยะ ถ้าจะหนักหน่อยก็คงเป็นการตีด้วยไม้เรียวแบบสมัยก่อน ซึ่งถ้าทำในปัจจุบันก็คงเป็นที่ถกเถียงกันพอสมควร แต่การใช้ไม้เรียวตีก็กลายเป็นเรื่องที่ดูเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ที่ประเทศไนจีเรียได้มีเหตุครูสามคนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม เนื่องจากพวกเขาจับนักเรียนสองคนขึงไม้กางเขน และเฆี่ยนตีที่ด้านบริเวณด้านหน้าของ โรงเรียนเอกชนในเมือง Abeokuta รัฐ Ogun เมื่อเช้าวันพุธที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา โฆษกตำรวจแห่งรัฐโอกูน นาย Abimbola Oyeyemi เปิดเผยว่า นายตำรวจคนหนึ่งลาดตระเวนไปพบกับนักเรียนสองคนโดนผูกติดอยู่กับไม้กางเขนทำมือ จึงได้ขอให้ครูใหญ่กับเจ้าของโรงเรียนปล่อยพวกเด็กๆ แต่ก็ถูกปฏิเสธ Oyeyemi บอกว่า การกระทำของพวกคุณครูนั้นราวกับเป็นคนเถื่อนก็ไม่มีผิด เพราะเมื่อถามถึงเหตุผลพวกครูก็บอกว่าที่ลงโทษนักเรียนนั้น ก็เพราะเด็กๆ มาเรียนสายเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็นท่าทางไม่ดีจึงได้ตัดสินใจเข้าไปช่วยเด็กทั้งสอง แต่ก็โดนพวกครูลงมือทำร้ายร่างกายด้วยแส้เฆี่ยนม้า ท้ายที่สุดผู้ต้องสงสัยก็ถูกกำลังเสริมของทางตำรวจเข้าควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา โดยทางตำรวจท้องถิ่นกล่าวว่าโดยเบื้องต้นครูใหญ่ เจ้าของโรงเรียน และครูอีกหนึ่งคนจะได้รับการตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายโดยเจตนา ส่วนทาง Oyeyemi เองก็ให้ความเห็นกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า “การกระทำนี้ไม่ใช่การสั่งสอนอีกต่อไป มันเป็นเพียงการกระทำที่ป่าเถื่อน ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับ และไม่ควรให้อภัยอย่างเด็ดขาด” ที่มา bbc, cnn
-
จิตแพทย์เผยผลสำรวจพบว่า ผู้คนพยายามหาทางรักษาอาการ “ติดหนังโป๊” กันมากขึ้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความเร็วของอินเตอร์เน็ตดูจะเป็นสิ่งที่พัฒนาอย่างเห็นได้ชัด จากที่แต่ก่อนต้องมาต่อเน็ตบ้านทุกๆ 2 ชั่วโมง ก็กลายมาเป็นไฮสปีดอินเตอร์เน็ต ที่รวดเร็วจนเราไม่ต้องรอคอยอะไรอีกแล้ว และเมื่อมันมีความเร็วมากขึ้น ก็ทำให้เหล่าหนุ่มสาวทั้งหลายสามารถเข้าถึงสื่ออย่างภาพเซ็กซี่หรือหนัง AV ได้ง่ายขึ้น โดยที่เราไม่ต้องไปหายืมจากเพื่อนแล้วส่งต่อให้เพื่อนคนอื่นๆ ได้ดูต่อไป ยิ่งยุคนี้มีเทคโนโลยีหนังโป๊แบบ VR ที่ช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนได้มีอะไรกับนักแสดงในหนังจริงๆ ยิ่งทำให้หลายคนเสพติดมันเข้าไปใหญ่ แต่ปัญหาก็คือหลายๆ คนอาจไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีอาการเสพติดหนังโป๊อยู่ เมื่อผู้คนเข้าถึงสื่อเหล่านี้ได้ง่ายๆ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดอาการเสพติดหนังโป๊มากขึ้น ด้านนักจิตบำบัด Rob Watt ได้ออกมาเปิดเผยว่าในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ได้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่มีอาการเสพติดหนังโป๊เข้ามาปรึกษาที่คลินิกของเขา ซึ่งตัวเลขของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเกือบ 100% “อาการเสพติดเซ็กส์ในวันนี้แทบจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับผู้ป่วยเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้เลย” Watt กล่าว “พวกเรากำลังเผชิญหน้ากับผู้คนที่มีพฤติกรรมเสพติดหนังโป๊โดยไม่รู้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งเป็นเด็กรุ่นใหม่ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น คุณสามารถหาหนังโป๊ได้เร็วขึ้น ดีขึ้น ชัดขึ้นไปเรื่อยๆ” นอกจากนี้เขายังเปรียบเทียบการดูหนังโป๊ ว่าช่วยให้สมองหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่าโดปามีนได้เหมือนกับการเสพโคเคน 1 แถว ในรอบหลายปีมานี้ได้มีดาราคนดังหลายคนออกมายอมรับว่าตนเองมีพฤติกรรมเสพติดหนังโป๊เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น Terry Crews นักแสดงจากซีรีส์ Brooklyn Nine-Nine และผลงานล่าสุด Deadpool 2 …
-
Steam เอาจริง!! ส่งเมลหาค่ายเกมผู้ใหญ่หลายค่าย ลั่นถ้าไม่เซนเซอร์เนื้อหาจะถอดเกมออก
ช่วงหลังมานี้ดูเหมือนว่าจะมีเกมประเภท “สำหรับผู้ใหญ่” และ “โป๊เปลือย” โผล่ออกมาใน Steam กันมากมายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Nekopara, Huniepop หรือเกมจากค่ายเกมเด็กไม่ดีชื่อดัง Illusion อย่าง VR Kanojo จนทำให้หลายๆ คนคิดว่านี่คงเป็นยุคที่เราจะได้ซื้อหาเกมลามกกันอย่างเปิดเผยแล้วไปตามๆ กัน แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าเกมลามกพวกนี้จะสามารถเอามาลงใน Steam ได้ก็ต่อเมื่อมีการ “ตัด” เนื้อหาส่วนที่ไม่เหมาะสมออกไปแล้วเท่านั้น จนกลายเป็นที่มาของคำว่าเวอร์ชัน “เด็กดี” ที่เรียกกันอย่างติดปากนั่นเอง แต่แน่นอนว่าในเมื่อเกมมันออกแบบมาให้มีฉากอย่างว่า การที่ตัดฉากเหล่านั้นออกไปบางครั้งก็อาจจะทำให้ไม่มีคนซื้อเอาได้ ดังนั้นค่ายเกมหลายค่ายจึงได้เลือกที่จะออกแพตช์ 18+ ที่จะนำตัวเกมแบบเต็มๆ ที่ไม่มีการตัดใดๆ กลับมาให้โหลดกันที่หน้าเว็บไซต์หลักกัน ซึ่งก็กลายเป็นเรื่องถกเถียงกับทาง Steam มาทีหนึ่งแล้ว และล่าสุด เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมานี้เองก็ได้มีทวีตจากทางผู้พัฒนาเกมแนวๆ นี้หลากหลายค่ายที่ออกมาบอกว่า พวกตนได้รับจดหมายติดต่อจากทาง Valve ผู้เป็นเจ้าของ Steam ซึ่งมีใจความว่า ให้ทำการลบเนื้อหาทางเพศทั้งหมดออกจากเกม ไม่อย่างนั้นเกมของพวกเขาจะถูกถอดออกจาก Steam นั่นเอง โดยค่ายที่ได้ออกมายืนยันว่าได้รับจดหมายที่ว่านี้ได้แก่ค่าย HuniePot…
-
หนุ่มขอแฟนแต่งงาน ในวันรับปริญญาของเธอ แต่ชาวเน็ตกลับไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
วันที่เราเรียนจบรับปริญญาคงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในชีวิตของใครหลายๆ คน และยิ่งถ้ามันถูกรวมกับอีกหนึ่งเหตุการณ์พิเศษในชีวิต วันนั้นก็จะกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตอย่างแน่นอน เหมือนดั่งช่วงเวลาของทั้งสองคนนี้ นี่คือเรื่องราวของพ่อหนุ่ม James Clark วัย 23 ปี และแฟนสาว Marquell ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เป็นเพียงแค่คนรักกัน แต่ปัจจุบันแปรเปลี่ยนไปเป็นคู่หมั้นกันแล้ว หลังจากที่ชายหนุ่มตัดสินใจขอสาวคนนี้แต่งงานในวันรับปริญญาของเธอ James และ Marquell เหตุการณ์นี้คงเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์เอามากๆ James พูดกับเธอว่า “ผมรู้สึกภูมิใจกับแฟนสาวคนนี้เหลือเกิน เธอทั้งเก่ง มีความสามารถ และฉลาดเอามากๆ” “ฉันอยากบอกว่าเราคบกันมานานถึง 6 ปี ผ่านความยากลำบากต่างๆ นานามาด้วยกัน แต่เธอก็ยังอยู่เคียงข้างผมมาโดยตลอด วันนี้ผมจึงอยากมอบของขวัญสุดพิเศษยินดีให้กับความสำเร็จในครั้งนี้ของเธอ ซึ่งผมจะขอใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น” เขากล่าวปิดท้าย หลังจากนั้นชายหนุ่มก็คุกเข่าลงไปพร้อมกับยื่นแหวนออกมามอบให้กับหญิงสาวเพื่อขอเธอแต่งงาน เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดแห่งความอิจฉาและความยินดีจากทุกคนได้เป็นอย่างดี เขาคุกเข่าขอเธอแต่งงาน และแน่นอนว่าเธอตอบตกลง คลิปการขอแต่งงานของชายคนนี้ (โพสต์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2018) Baby, I love you…
-
เครื่องบินโบอิ้ง 737 ตกที่ประเทศคิวบา มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน และเจ็บสาหัสอีก 3 คน
เมื่อวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2018 เมื่อเวลา 12.08 นาฬิกาตามเวลาในท้องถิ่น ได้เกิดเหตุการณ์เครื่องบินตกใกล้กับบริเวณสนามบินนานาชาติ Jose Marti ในฮาวานา ประเทศคิวบา ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เครื่องบินโบอิ้ง 737-201 ของสายการบิน Aerolineas Damojh ที่บรรทุกผู้โดยสาร 110 คนและลูกเรือ ได้เดินทางออกจากฮาวานาไปยัง Holguin ที่อยู่ทางตะวันออกของคิวบา แต่หลังจากเครื่องบินออกตัวไปได้ไม่นาน ตัวเครื่องก็เกิดปัญหาบางอย่างขึ้นและพุ่งลงสู่พื้น เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 3 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนมากเป็นผู้โดยสารชาวคิวบา และลูกเรือชาวเม็กซิกัน ทางเจ้าหน้าที่ของเม็กซิโกกล่าวว่าเครื่องบินดังกล่าวสร้างขึ้นเมื่อปี 1979 และได้ผ่านการตรวจสอบเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ประธานาธิบดีของคิวบานาย Miguel Diaz-Canel เองก็ได้ออกมากล่าวหลังจากที่ไปยังจุดตกของเครื่องบินว่า “ถือเป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะนี่เป็นอุบัติเหตุทางอากาศที่เลวร้ายมากๆ แถมดูเหมือนจะมีผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากด้วย” แม้ว่าปี 2017 ที่ผ่านมาจะเป็นปีที่มีตัวเลขอุบัติเหตุต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน แต่ในปี 2018 กลับมีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งมาก อย่างเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็เพิ่งจะมีข่าวเครื่องบินตกที่แอลจีเรียไป…
-
สาววัย 19 ประกาศ ‘ขายเวอร์จิ้น’ เพราะอยากลิ้มลองรสรักจาก ‘ชายผู้มากประสบการณ์’
เพื่อนๆ หลายคนคงเคยเห็นข่าวการประกาศ ‘ขายเวอร์จิ้นตัวเอง’ ของสาวๆ ในต่างประเทศกันอยู่บ่อยๆ แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วจะมีจุดประสงค์เพื่อหาเงินไปเรียนต่อ แต่รายนี้มาแปลก เพราะเธอประกาศขายความเวอร์จิ้น เพราะว่าไม่ค่อยมีเวลาว่างและต้องการที่จะเปิดประสบการณ์ครั้งแรกด้วยความประทับใจ จากผู้เชี่ยวชาญผู้ผ่านสนามรบมาแล้วหลายครั้ง Alice Hayson หญิงสาวชาวสเปนวัย 19 ปี ได้ทำการโพสต์ขายความเวอร์จิ้นลงเว็บไซต์ประมูล เพื่อที่จะยกมันให้กับคนที่มากประสบการณ์ “ฉันคิดว่ามันคือการตัดสินใจที่ดีสำหรับฉัน เพราะฉันไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเซ็กส์เลย และฉันเองก็สนใจที่จะเปิดโลกทางด้านนี้” “และแน่นอนว่า ผู้ชายมากประสบการณ์จะช่วยให้ฉันได้เรียนรู้โลกทางด้านนี้ได้ดียิ่งขึ้น เพราะมันคือครั้งแรกของฉัน ฉันอยากให้มันเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ” Alice กล่าว Alice เป็นนักศึกษาวิชาภาษาอังกฤษ และทำงานเป็นนางแบบ ซึ่งเธอเล่าว่าในเวลาปกตินั้นเธอจะสนใจแต่เรื่องการเรียนเท่านั้น ไม่ได้ชายตามองผู้ชายเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้ฉันโตขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้มองหาความรักแต่อย่างใด ฉันจึงตัดสินใจที่จะขายมัน และมันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉัน” “เมื่อหลายเดือนก่อน ฉันเห็นผู้หญิงขายความบริสุทธิ์ผ่านทางออนไลน์ และพบว่าพวกเธอทำเงินได้อย่างมหาศาล ฉันก็เลยมานั่งคิด และศึกษาดูว่าพวกเธอทำอย่างไรกันนะ” “จนในที่สุดฉันก็ตัดสินใจที่จะขายมัน และตอนนี้ก็มีคนให้ราคามาแล้วที่ 9 ล้านบาท” Alice เล่า อย่างไรก็ตาม เวลาในการประมูลยังคงดำเนินต่อไป และราคา…
-
นักท่องเที่ยวมาเยอะไป พระญี่ปุ่นฟ้องวัด 2.5 ล้าน เพราะโดนใช้งานหนักจนล้มป่วย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งในภูเขาโคยะ จังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่พระวัย 40 ปีรูปหนึ่งได้ทำการฟ้องร้องคณะกรรมการของทางวัดว่า มีการทำร้ายจิตใจและไม่มีการจ่ายค่าแรง พร้อมเรียกค่าชดเชยจำนวน 8 ล้าน 6 แสนเยน (2 ล้าน 5 แสนบาท) พระรูปดังกล่าวระบุว่า ได้เริ่มทำงานที่วัดนี้ในปี 2008 โดยในแต่ละวันจะต้องตื่นก่อนตี 5 เพื่อเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยว และผู้แสวงบุญที่มาเข้าพักในชุคุโบะ ซึ่งเป็นที่พักสำหรับผู้แสวงบุญ แถมยังต้องทำกิจของสงฆ์ไปด้วย งานที่หนักและสิ่งที่พระรูปนี้ต้องรับผิดชอบ ทำให้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2015 ซึ่งเป็นช่วงที่ฉลองครบรอบ 1,200 ปีของวัด พระสงฆ์รูปนี้ต้องทำงานหนักติดกันนานถึง 64 วัน ช่วงเดือน มี.ค.–พ.ค. และต้องทำงาน 32 วันแบบไม่ได้หยุดเลยในช่วงเดือน ก.ย.–ต.ค. ก่อนที่จะต้องหยุดทำงานในวัดเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2016 ทางด้านทนายความของฝ่ายโจทก์เผยว่า คณะกรรมการของทางวัดพยายามโน้มน้าวและบอกว่าการทำงานอย่างหนักนี้คือส่วนหนึ่งของการฝึก แต่อย่างไรก็ตามทางฝ่ายทนายก็มองว่าลูกความของเขาควรได้รับค่าตอบแทนในการทำงานหนักครั้งนี้ด้วย ภูเขาโคยะถูกเลือกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 2004 และที่นี่มีวัดตั้งอยู่มากกว่า 117…
-
ชาวอังกฤษออกมานอนค้างคืนหน้าพระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อตั้งตารอพิธีอภิเษกสมรส
เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงช่วงเวลาพิเศษที่ชาวอังกฤษ และผู้คนทั่วโลกจะได้เห็นภาพพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่แห่งเวลส์ และเมแกน มาร์เคิล พระคู่หมั้น ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคม เวลา 12.00 น. (18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ที่โบสถ์เซนต์จอร์จ ในพระราชวังวินด์เซอร์ จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ แต่ก่อนที่จะถึงช่วงเวลาแห่งความพิเศษนี้ เราก็มีภาพของเหล่าพสกนิกรที่ออกมาตั้งแคมป์ เพื่อรอพิธีอภิเษกสมรสกันอย่างคึกคักให้ได้ชมกัน ซึ่งบางคนออกมารอข้ามวันเลยทีเดียว!! และนี่คือภาพของเหล่าฝูงชนที่กำลังตั้งตารอพิธีอภิเษกสมรสครั้งสำคัญนี้!! ภาพของชาวอังกฤษที่มาตั้งตารอพิธีอภิเษกสมรสตั้งแต่ช่วงดึกของเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริเวณถนนหน้าพระราชวังวินด์เซอร์ และถึงแม้ว่าอากาศจะเย็น แต่พวกเขาก็ไม่หวั่น ยังคงรอคอยช่วงเวลาแห่งความพิเศษนี้ด้วยรอยยิ้ม . พื้นที่ริมถนนถูกจับจองเอาไว้ เพื่อให้ได้เห็นขบวนเสด็จได้ชัดๆ ซึ่งหนึ่งไฮไลต์ของงานอภิเษกครั้งนี้ ก็คือขบวนเสร็จและรถพระที่นั่งเปิดประทุนของทั้งสองพระองค์ที่แล่นไปยังพระราชวังวินด์เซอร์ โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที พลแม่นปืนของหน่วยตำรวจ ที่เตรียมพร้อมสำหรับงานนี้ สนาม Wembley ที่จะมีศึกนัดชิงถ้วย FA Cup ในคืนนี้เองก็ถูกประดับไปด้วยไฟสีธงชาติ เพื่อร่วมฉลองด้วยเช่นกัน และนี่คือภาพบรรยากาศบริเวณถนนหน้าพระราชวังวินด์เซอร์ เมื่อช่วงเย็นวันที่…
-
เอางี้เลย? แท็กซี่สุดหื่น ระหว่างรับค่าโดยสารดันฉวยโอกาสล้วงดูหน้าอกผู้โดยสารสาวด้วย!?
ในขณะที่บ้านเรามีข่าวคราวเกี่ยวกับคนขับแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสารอยู่บ่อยครั้ง ในต่างแดนเองก็มีเช่นกัน พวกเขาไม่ได้รีบไปส่งรถหรือเติมแก๊ส แต่ถึงขั้นกระทำอานาจารกับผู้โดยสารเลย เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวแท็กซี่สุดหื่นที่ถูกดำเนินคดีและยึดใบอนุญาตขับขี่แท็กซี่ เนื่องจากแอบฉวยโอกาสล้วงดูหน้าอกของผู้โดยสารสาวรายหนึ่ง จากการรายงานบอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 15 พฤษภาคม ที่เมืองเล่อซาน ประเทศจีน หลังจากที่คนขับแท็กซี่พาหญิงสาวรายหนึ่งไปส่งยังที่ทำงานของเธอ เธอจึงค้นกระเป๋าเพื่อหาเงินค่าโดยสาร เมื่อยืนเงินให้กับคนขับแท็กซี่แล้ว เขาจึงบอกกับเธอว่า “คุณสวยมาก” พร้อมกับใช้มือเอื้อมไปจับคอเสื้อของหญิงสาวเพื่อส่องดูหน้าอกของเธอ เมื่อเจอการกระทำสุดหื่นกามแบบนั้นเข้า หญิงสาวก็รู้สึกตกใจและเอามือมาปิดหน้าอกของเธอทันที ก่อนจะรีบลงรถแท็กซี่ไป ถึงแบบนั้นคนขับแท็กซี่ก็ยังคงยิ้มกรุ้มกริ่มกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำลงไป หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ได้ไม่นาน ในวันเดียวกันนั้นเองคลิปนี้ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ตผ่านแอปฯ WeChat และในช่วงบ่ายของวันนั้นสำนักงานขนส่งของเมืองก็ได้ออกมาแถลงการณ์ว่าคนขับแท็กซี่ที่ปรากฏอยู่ในคลิปนั้นถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่แท็กซี่ไปแล้วเรียบร้อย และยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนด้วย จากการสอบสวนพบว่าคนขับแท็กซี่คือชายแซ่เหอ วัย 43 ปี เขาถูกจับกุมและถูกคุมขังอยู่ 10 วันก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา ถือเป็นโชคดีของหญิงสาวมากที่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นกับเธอ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ที่หญิงสาววัย 21 ปี ถูกคนขับแท็กซี่ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต แต่ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเธอได้ส่งข้อความอธิบายรูปร่างคนร้ายให้เพื่อนของเธอว่ามีลักษณะเหมือนคนวิกลจริต แถมคนขับยังบอกเธอว่าเธอสวยมากด้วย ซึ่งมีความคล้ายกับเหตุการณ์ครั้งนี้แม้จะเป็นคนขับแท็กซี่คนละคนก็ตาม ที่มา shanghaiist
-
เกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนครั้งที่ 22 ของปีที่เท็กซัส มีผู้เสียชีวิต 10 คน บาดเจ็บ 10 คน
ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์กราดยิงขึ้นในโรงเรียนมัธยมปลาย Santa Fe ที่รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อเวลาประมาณ 7.30 นาฬิกาตามเวลาในท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บอีก 10 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน ผู้ต้องสงสัยของคดีที่เกิดขึ้นคือเด็กหนุ่มวัย 17 ปีชื่อ Dimitrios Pagourtzis โดยทางตำรวจกล่าวว่าเด็กหนุ่มจะต้องได้รับโทษในคดี ฆาตกรรมหมู่และทำร้ายร่างกายข้าราชการ Dimitrios Pagourtzis ผู้ต้องสงสัย อาวุธที่ผู้ต้องสงสัยใช้ก่อเหตุประกอบไปด้วยปืนลูกซองและปืนลูกโม่ .38 ที่ขโมยมาจากพ่อ จากปากคำของพยาน คนร้ายจะมีการปล่อยตัวคนที่เขาชอบและเลือกยิงคนที่เขาเกลียดเป็นพิเศษภายในการก่อเหตุครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าเด็กหนุ่มได้มีการวางแผนไว้ในบันทึกประจำวัน คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเดิมทีแล้วเขาตั้งใจว่าจะจบชีวิตตัวเองหลังจากก่อเหตุ แต่ก็เปลี่ยนใจยอมมอบตัวเพราะว่าไม่กล้าพอที่จะฆ่าตัวตาย หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางทำตรวจยังมีการตรวจพบระเบิดแสวงเครื่อง และระเบิดขวดในบริเวณที่เกิดเหตุอีกจำนวนหนึ่ง แต่ในปัจจุบันยังไม่มีความแน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและครอบครัวของผู้เสียชีวิตโดยบอกว่า “เหตุกราดยิงในโรงเรียนนั้น เกิดขึ้นในประเทศมานานเกินไปแล้ว” …
-
วิธีแสนธรรมดา ที่ทำให้หมู่บ้านเล็กๆ จากญี่ปุ่นกลายเป็นหมู่บ้านปลอดขยะของโลก
ปริมาณขยะ ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณของประชากรโลก และไม่ใช่แค่กรุงเทพมหานครบ้านเราเท่านั้นที่กำลังประสบปัญหานี้ แต่ในหลายๆ แห่งในโลกนี้ก็กำลังประสบปัญหานี้เช่นกัน แต่ไม่น่าเชื่อว่าเมืองเล็กๆ อย่าง Kamikatsu จากทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น จะกลายเป็นเมืองแห่งแรกของโลกที่ปลอดขยะ!! แถมยังใช้วิธีที่ไม่ซับซ้อนอย่างการแยกขยะธรรมดาๆ เท่านั้น ย้อนกลับไปเมื่อปี 2003 โครงการคัดแยกขยะของที่นี่ได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากที่พวกเขาตระหนักได้ว่า การเผาขยะนั้นส่งผลเสียกับสภาพแวดล้อมอันสวยงามของเมือง โครงการเมืองปลอดขยะของที่นี่เริ่มต้นขึ้น และแน่นอนว่าการจะบรรลุเป้าหมายนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ที่จะให้ผู้คนหลายพันคนหันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน พวกเขาทำการแบ่งประเภทของขยะออกเป็น 34 ประเภทด้วยกัน และต้องใช้เวลาอยู่นานเพื่อทำความเข้าใจกับชาวเมือง และมีการตรวจสอบอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าขยะทั้งหมดถูกคัดแยกอย่างถูกต้อง ขยะจำนวนมากหลังจากที่ได้รับการคัดแยกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถูกนำไปรีไซเคิลเป็นของใช้ต่างๆ มากมาย อย่างเช่นชุดกิโมโนเก่าๆ ก็จะถูกแปลงร่างเป็นตุ๊กตาหมีสำหรับหนูๆ และยังมีการแลกเปลี่ยนฟอร์นิเจอร์เก่าๆ หรือข้าวของเครื่องใช้ระหว่างชาวเมืองด้วยกันฟรีๆ อีกด้วย . ทุกวันนี้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของขยะที่นี่ ถูกนำไปเข้ากระบวนการแปรรูป รียูส และรีไซเคิล ส่วนขยะที่ไม่สามารถนำไปเข้ากระบวนการได้จะถูกนำไปฝังกลบเอาไว้ ที่นี่ไม่มีรถขยะคันใหญ่ๆ ที่เราเคยเห็นกัน ซึ่งชาวเมืองแต่ละคนจะต้องนำขยะที่พวกเขาทำการคัดแยกไว้แล้ว ไปทิ้งไว้ที่จุดคัดแยกด้วยตัวเอง วัสดุที่ถูกนำมารีไซเคิลเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันของชาวเมือง …
-
เจ้าของบ้านถ่ายภาพประณามชายที่มาแอบ “อึ๊” หน้าบ้าน แต่เจ้าตัวกลับทำเฉย!!
ปัญหาเหล่าสัตว์เลี้ยงที่ชอบแอบมาปล่อยของเสียหน้าบ้านเรานั้น คงจะเป็นสิ่งที่สร้างความปวดหัวให้กับหลายๆ คนซึ่งต้องตื่นเช้ามาพบกับกองสิ่งปฏิกูลหน้าบ้านไม่น้อยเลยทีเดียว แต่การได้เจออุนจิของเหล่าน้องหมา อาจจะยังถือเป็นเรื่องโชคดีของคุณก็ได้ เพราะเจ้าของบ้านรายหนึ่งที่ประเทศออสเตรเลียกลับเจออะไรที่มันรุนแรงกว่านั้นอีก!! เจ้าของบ้านจากดินแดนจิงโจ้รายนี้ ถึงขั้นต้องประกาศตามล่าหาตัวหนุ่มผู้สร้างความเดือดร้อนรายนี้กันเลยทีเดียว หลังเขาสามารถถ่ายภาพของคนร้ายที่กำลังแอบปล่อยอึเอาไว้ที่หน้าบ้านของเขา เหตุการณ์ชวนปวดหัวสำหรับเจ้าของบ้านนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่มันเกิดมากกว่า 30 ครั้งในรอบ 1 ปีจนสุดท้ายเจ้าของบ้านถึงขั้นต้องตัดสินใจตั้งกล้องเพื่อจับภาพคนร้ายกันเลยทีเดียว และแล้วในที่สุดความพยายามที่จะล่าตัวเจ้าของที่เอาทองมาฝากไว้ที่บ้านของเขาก็ประสบผลสำเร็จ หลังจากกล้องสามารถจับภาพของหนุ่มรายหนึ่งที่กำลังปล่อยของเสียออกจากก้นของเขาได้ “ก่อนที่กล้องจะถ่ายภาพจะมีแสงสีแดงขึ้นก่อน ชายคนนั้นเหมือนรู้ตัวว่ากำลังจะถูกถ่าย เขาหันมามองกล้องและพูดว่าสวัสดี จากนั้นผมจึงถ่ายภาพเขาไว้และเดินหนีไป” Steve Smith เจ้าของบ้านกล่าว ภาพของชายคนดังกล่าวถูกทำเป็นใบประกาศพร้อมกับแจกจ่ายให้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น Steve พบว่าชายคนดังกล่าวอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับบ้านของเขา ซึ่งหลังจากเกิดเหตุดังกล่าว Steve ยังคงเห็นเขาออกมาวิ่งในละแวกนั้นทุกๆ เช้าเป็นปกติ จากรายงานระบุว่า Steve และเพื่อนบ้านคนอื่นๆ พยายามพูดคุยกับชายคนดังกล่าวหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เจ้าของบ้านให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขากำลังรอคอยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ และหวังว่าใบประกาศที่เผยแพร่ออกไปนั้นจะช่วยให้เขาไม่กล้าทำแบบนั้นอีก อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยถึงแรงจูงใจ หรือจุดประสงค์ของชายนิรนามผู้นี้ ที่มา news, metro
-
Kitten Kay Sera หญิงสาวจากฮอลลีวูด ที่ใส่เสื้อผ้าสีชมพูสีเดียว มานานกว่า 30 ปี
สีสันของเสื้อผ้า หรือข้าวของเครื่องใช้ถือเป็นสิ่งแรกๆ ที่ทำให้เราตัดสินใจเลือกที่จะเป็นเจ้าของมัน และสำหรับคุณผู้หญิงหลายๆ คน สีชมพูอาจจะถือเป็นหนึ่งในสีสุดโปรดของคุณเลยก็ว่าได้ และ Kitten Kay Sera สาวจากฮอลลีวูดผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน เธอชื่นชอบสีหวานๆ นี้จนได้รับฉายาว่า “The Pink Lady Of Hollywood” เลย สาววัย 38 ปีผู้นี้หลงใหลการสวมเสื้อผ้าสีชมพูมานานกว่า 30 ปี ตลอดเวลาเกือบทั้งชีวิตเธอไม่เคยสวมเสื้อผ้าสีอื่นเลยนอกจากสีชมพู และความหลงใหลในสีชมพูของเธอก็ดูเหมือนว่าจะลามไปยังข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ในบ้านด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุกรณ์แต่งบ้าน เตาไมโครเวฟ หรือแม้แต่น้องหมาของเธอก็ด้วย การได้อยู่ท่ามกลางสีชมพูสดใสคือความฝันของสาววัยใกล้ 40 ปีผู้นี้ เธอทุ่มเงินมากว่า 1.5 ล้านเหรียญ (ประมาณ 48 ล้านบาท) เพื่อเปลี่ยนให้โลกใบเล็กๆ ของเธอกลายเป็นสีชมพู “ในแต่ละปี ฉันจะใช้เงินประมาณ 28,000 เหรียญ (900,000 บาท) เพื่อซื้อของใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า ผ้าปูที่นอน พรม และของประดับบ้านอื่นๆ” หญิงสาวให้สัมภาษณ์ .…
-
บ้านเพื่อผู้ยากไร้ สร้างจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ งบ 200,000 แถมใช้เวลา 1 วันเท่านั้น!!
ปัญหาการขาดแคลนที่พักอาศัย ดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่โลกของเรากำลังเผชิญอยู่ จากรายงานเผยว่ามีผู้คนทั่วโลกมากกว่า 1.2 ล้านคน กำลังประสบปัญหาที่ว่านี้ ICON บริษัทเอกชนจากรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น พวกเขาได้ร่วมมือกันออกแบบบ้านที่ใช้เวลาและทุนในการสร้างต่ำได้สำเร็จ โครงการบ้านแบบประหยัดของ ICON สามารถสร้างในพื้นที่เพียงแค่ 60 ตารางเมตร แถมยังใช้เวลาในการสร้างเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น บ้านจากการออกแบบของบริษัทนี้ คือบ้านที่สร้างจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ แต่ความพิเศษของมันนอกจากใช้พื้นที่และเวลาในการสร้างที่น้อยแล้ว ยังมีราคาถูกกว่าบ้านแบบเดียวกันกว่าครึ่งหนึ่ง ICON ตั้งเป้าไว้ว่าบ้านของพวกเขานั้นจะต้องมีราคาไม่เกิน 4,000 เหรียญ (ประมาณ 120,000 บาท) และพวกเขากำลังร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อสร้างบ้านให้กับผู้ต้องการที่พักอาศัยในประเทศแถบอเมริกาใต้ “เรากำลังสร้างบ้านให้กับคนในชุมชนที่ประเทศเฮติ เอลซัลวาดอร์ และโบลิเวีย” Alexandria Lafci ผู้ร่วมก่อตั้ง New Story องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรกล่าว . โครงสร้างส่วนต่างๆ ของบ้านถูกพิมพ์มาจากโรงงานก่อนที่จะนำไปประกอบในพื้นที่ โดยบ้านหนึ่งหลังจะประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำ บ้านจากเครื่องพิมพ์สามมิตินี้ไม่เหมือนกับหลังอื่นๆ เนื่องจากมันใช้ซีเมนต์เป็นวัสดุหลักในการพิมพ์แทนที่จะใช้พลาสติกแบบทั่วๆ ไป และนอกจากนี้ในแต่ละขั้นตอนการสร้างบ้านแต่ละหลังประหยัดทรัพยากรและแรงงานอีกด้วย…
-
โซเชียลระอุ!! ดราม่าโจทย์คณิตเด็กประถม ‘การเล่นเกมคือการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์’
ใครเล่าจะรู้ว่า ‘การบ้านของเด็กประถม’ จะกลายมาเป็นประเด็นดราม่า ที่ถกเถียงกันทั่วโลกโซเชียลของประเทศญี่ปุ่น เรื่องมันเริ่มมาจากทวิตเตอร์ของชาวญี่ปุ่นชื่อว่า @HiZiRi_DIESEL ได้โพสต์ภาพของโจทย์การบ้านของเด็กประถมข้อหนึ่ง ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นประเด็นดราม่ากันทั่วเน็ต โจทย์มีอยู่ว่า “ในตอนเช้า คุณใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที ในการเล่นเกม, ในตอนบ่าย คุณใช้เวลา 2 ชั่วโมง 50 นาทีในการเล่นเกม รวมทั้งหมด คุณเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปทั้งหมดเท่าไหร่?” ซึ่งเป็นการทดสอบความรู้ของเด็กๆ ว่าใน 1 ชั่วโมงนั้นมี 60 นาที และหากคำนวณดูแล้วก็จะได้คำตอบว่า 4 ชั่วโมง 40 นาที แต่กลับกลายเป็นว่าชาวเน็ตทั้งหลายก็ตั้งประเด็นดราม่ากันขึ้นมา เพราะมองว่าโจทย์ที่ครูตั้งขึ้นมานั้นเป็นการดูถูกวงการเกมเป็นอย่างยิ่ง เพราะดูเหมือนว่าคุณครูจะไม่เข้าใจว่า ‘เวลาที่ใช้ในการเล่นเกม’ กับ ‘เวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์’ นั้นมันไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหลายคนก็วิจารณ์ว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่อันตรายต่อความคิดของเด็กเป็นอย่างมาก ซึ่งคุณ @HiZiRi_DIESEL ก็ได้เขียนแคปชั่นในโพสต์ดังกล่าวว่า “เป็นการดูถูกผู้คนที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมเกมเป็นอย่างยิ่ง” ซึ่งอุตสาหกรรมเกมนั้นถือเป็นส่วนสำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย จนมีคนเข้ามากดชื่นชอบถึง 84,200 ครั้ง และ รีทวีตไปอีกกว่า…
-
บ๊างบางง “ตึกกระดาษ” ในไต้หวัน เมื่อพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย ตึกเลยผอมเพรียวแบบนี้
ไม่รู้ว่าคนที่ผ่านไปๆ มาๆ ใน ประเทศไต้หวัน จะพบเจอกันบ้างหรือเปล่า ที่มีตึกและบ้านรูปทรงเป็นแผ่นแนวตั้งแบนๆ อยู่เกลื่อนกลาด หากใครเห็นมาก็คงต้องสงสัยกันบ้างแหละว่ามันคืออะไร มันเป็นรสนิยมการสร้างบ้านแบบใหม่ของชาวไต้หวันหรืออย่างไรกันนะ? ชาวไต้หวันเรียกสิ่งก่อสร้างแบนๆ เหล่านี้ว่า “ตึกกระดาษ” ช่างเป็นชื่อที่เหมาะจริงๆ ก็ผอมบางซะขนาดนั้น ชาวเน็ตบางรายถ่ายภาพมาถามในโลกโซเชียลว่า ในตึกแบนๆ บางๆ พวกนี้ มันอาศัยอยู่ได้จริงๆ เหรอ? แล้วถ้ามีพายุไต้ฝุ่นหรือเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา ตึกแบนๆ เหล่านี้คงเป็นอันตรายน่าดูเลยล่ะ จริงไหม? ซึ่งมันก็ถูกที่หลายๆ คนจะคิดเช่นนี้ แต่ว่าเจ้าตึกกระดาษพวกนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเท่ๆ หรอกนะ มันมีเหตุผลของมันอยู่… ชาวไต้หวันเล่าว่าเนื่องจากช่วงหนึ่งมีการขยายถนน รัฐบาลมีการเวนคืนที่ดิน แต่ก็ยังมีบางคนที่่ไม่ยอมย้ายหนียังคงปักหลักบ้านและตึกของตัวเองอยู่อย่างนั้น แต่เนื่องจากการปฏิรูปบ้านเมืองใหม่ ตึกใหญ่ที่เคยมีก็กลายเป็นว่าไปตั้งทับที่ดินของรัฐเสียอย่างนั้น จึงมีการแปลงโฉมตึกต่างๆ เสียใหม่ให้เข้ากับพื้นที่ที่ตนครอบครอง ทั้งนี้เมื่อถนนมีการขยายตัว ก็มักจะมีพื้นที่เป็นสามเหลี่ยมมุมแคบบริเวณขอบถนน ซึ่งเมื่อพื้นที่ที่ใช้ได้เป็นรูปทรงนี้ไปเสียแล้ว ตึกต่างๆ รวมไปถึงบ้านจึงออกมาเป็นแบนๆ แบบนี้ด้วยนั่นเอง ถึงอยู่ลำบากก็ต้องอยู่ให้ได้ เพราะถ้าไม่อยากอยู่ที่แคบๆ มันก็จะเป็นการทำให้พื้นที่ตรงนั้นไร้ประโยชน์ ฉะนั้น ถึงพื้นที่จะแคบ ก็เลือกที่จะก่อสร้างอะไรบางๆ อย่าง…
-
สุดยอดงานดีไซน์ ‘ลูกบาศก์จักรวาลใสแจ๋ว’ บรรจุภัณฑ์น่าเชยชม ยัดดวงดาวนับล้านเท่าฝ่ามือ
งานฝีมือ งานคราฟต์อันน่าสนใจนั้นขึ้นอยู่กับอะไรบ้างเอ่ย? หากคำถามนี้ผุดขึ้นมาแล้วขอให้ท่านผู้อ่านนึกคำตอบไว้อยู่ในใจ จะเกี่ยวข้องกับขนาดด้วยหรือไม่นั้น เรามาดูกัน… นอกเหนือจากจินตนาการสิ่งที่เราเคยพบเคยประสบบนโลกแล้ว ลองนึกถึงอวกาศภายนอกโลกอันแสนกว้างใหญ่ จะมีดินแดนที่แปลกตาแปลกใจสำหรับเราอีกหรือไม่? สิ่งที่กล่าวไปข้างต้นนั้น ถูกบรรจงสรรค์สร้างผ่านงานฝีมือของ Seiradou ศิลปินสร้างงานแฮนด์เมดสายละเอียด กับงานลูกบาศก์บรรจุจักรวาลแฟนตาซี มีขนาดเล็กเพียงเท่าฝ่ามือเท่านั้น!! . ภายในลูกบาศก์สี่เหลี่ยมใสกิ๊งนี้ บรรจุไปด้วยชิ้นส่วนของนาฬิกาข้อมือและฟันเฟืองขนาดเล็ก พร้อมกับให้นิยามเหมือนดั่ง ‘การจัดเรียงดวงดาวนับล้าน’ หรือ ‘ดินแดนชายขอบทางช้างเผือก’ デザフェスで展示する【銀河 幽縁地】の動画バージョンです❗️ 写真では分からなかった構造や立体感を少しでもお伝えできればと思います🌟#レジン pic.twitter.com/cb64mFNcM8 — 星羅堂🌟 (@seiradou12) May 9, 2018 การจัดฉากที่เรียงรายในผลงานชิ้นนี้ เปรียบได้เหมือนดั่งซากปราสาท ระบบสุริยะ และดินแดนมหัศจรรย์ในโลกสตีมพังค์จักรกลไอน้ำ (ลูกผสมของวิทยาศาสตร์และความวินเทจ) และผลงานชุดนี้ก็ได้รับเชิญไปโชว์ในงาน Tokyo Design Festival ด้วย นอกเหนือจากทรงลูกบาศก์สี่เหลี่ยมแล้ว ก็ยังมีทรงอื่นๆ มาด้วยเช่นกัน คอนเซปต์ของระบบสุริยะ . . …
-
ย้อนชม “ชุดแต่งงานเลอค่า” แห่งราชวงศ์อังกฤษ ก่อนงานแต่งเจ้าชายแฮร์รี่ในวันพรุ่งนี้!!
ใกล้เข้าไปทุกทีกับเหตุการณ์ที่ผู้คนทั่วโลกต่างรอคอย งานอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เคิล พระคู่หมั้น ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม 2018 นี้ แน่นอนว่าการจัดงานจะต้องยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมทั้งมีผู้เข้าร่วมงานมากมายจนถึงกับต้องมีการจับจองที่นั่งเพื่อเข้าชมงานเลยทีเดียว และก่อนจะถึงวันงาน #เหมียวหง่าว ก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ย้อนรอยไปชมชุดเจ้าสาวที่ใช้ในงานอภิเษกสมรสของราชวงศ์อังกฤษ ว่าจะมีความเลิศหรูอลังการขนาดไหน ไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… ชุดเจ้าสาวของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 พระราชพิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบาระ ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤจิกายน ปี 1947 ชุดเจ้าสาวของพระองค์ออกแบบโดยท่านเซอร์ นอร์แมน ฮาร์ตเนลล์ เป็นชุดสีงาช้างที่ทำขึ้นมาจากผ้าซาติน ประดับประดาไปด้วยไข่มุก และอัญมณีชิ้นเล็กๆ รวมแล้วกว่า 10,000 ชิ้น ที่นำเข้ามาจากอเมริกา ตัวผ้าชายกระโปรงที่มีความยาวกว่า 13 ฟุต (4 เมตร) ตัวผ้ามีการนำอัญมณีและไข่มุกต่างๆ รวมทั้งดอกกุหลาบ มาปักเป็นรูปดวงดาวตลอดทั้งผืน…
-
ญี่ปุ่นเจ๋ง Asahi ออกเครื่องดื่มใหม่ กาแฟลาเต้ “สีใส” ไร้คาเฟอีน ใสจนนึกว่าน้ำเปล่า!!
พอพูดถึงกาแฟแล้ว แน่นอนว่าหลายคนต้องคิดถึง “สีดำ” อย่างแน่นอน แล้วถ้าบอกว่าเป็นกาแฟนมแบบลาเต้ล่ะ คุณก็คงต้องตอบว่า “สีน้ำตาลอ่อน” กันแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ? แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มใหม่ของ Asahi ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน ถึงจะบอกว่าเป็นเครื่องดื่มกาแฟลาเต้ แต่เครื่องดื่มขวดนี้กับไม่มีสี!! แถมยังใสราวกลับน้ำเปล่าอีกด้วย… ช่วงก่อนหน้านี้ถ้าใครได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นล่ะก็ จะพบว่าตามร้านค้าหรือร้านสะดวกซื้อจะมีน้ำรสชาติต่างๆ วางขายเป็นเวอร์ชันใสๆ เต็มไปหมด เช่น น้ำพีชใส น้ำองุ่นใส น้ำส้มใส หรือแม้แต่โยเกิร์ตใสก็มีมาแล้ว งานนี้ถึงตา กาแฟลาเต้ใส ครองตลาดบ้างล่ะ!! แต่รู้หรือไม่ว่า ที่ยิ่งไปกว่าสีใสๆ ของมันก็คือการที่มันเป็นเครื่องดื่มกาแฟลาเต้ที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยวิธีต่างๆ ทางวิศวกรรมและเคมี จนกลายเป็นกาแฟลาเต้รสชาติละมุน ใส ไร้น้ำตาล แถมไม่มีคาเฟอีนอีกด้วย!! นี่คือหนึ่งขวดในขนาด 600 มิลลิลิตร ด้านหลังขวดก็เขียนรายละเอียดต่างๆ บอกเอาไว้ ห่างส่องดูจากก้นขวดจะเห็นได้ชัดเลยว่า “ใส” ราวกับน้ำเปล่าแน่ะ และนี่คือเครื่องดื่มไอเดียบรรเจิดจาก Asahi แถมบนฝามีลูกศรชี้ด้านเปิดขวดเสียด้วย …
-
แม่ลงทุนเปลี่ยนชื่อลูก ไม่ใช่เพราะเรื่องดวงชะตา แต่เพราะดันเกิดปัญหากับรอยสัก?!
รอยสัก คือสิ่งที่เราจะต้องคิดไตร่ตรองกันให้ดีก่อนที่จะมีไว้ติดตัว เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถลบออกไปได้ง่ายๆ และอาจต้องติดอยู่บนผิวหนังของเราไปจนวันตาย ซึ่งหากมันเกิดความผิดพลาดขึ้นมาเมื่อไหร่ สิ่งนั้นก็อาจไม่ได้กระทบแค่เรา แต่อาจกระทบถึงคนรอบข้างเราไปด้วยก็ได้ ตัวอย่างของความผิดพลาดเรื่องรอยสักครั้งนี้เกิดขึ้นในเมือง Kyrkhult ประเทศสวีเดน เมื่อคุณแม่ Johanna Giselhäll Sandström วัย 30 ปี ต้องการจะสักชื่อลูกทั้งสองคน Nova กับ Kevin เอาไว้ที่แขน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ชื่อลูกชาย แทนที่จะเป็น Kevin กลับได้มาเป็น Kelvin ซะอย่างนั้น!! ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2018 สำนักข่าว Blekinge Läns Tidning รายงานว่า ในตอนแรกที่เธอเห็นความผิดพลาดตรงชื่อลูกชาย หัวใจของเธอก็แทบจะหยุดเต้น อยากจะเป็นลมล้มลงไปซะเลย พอสังเกตเห็นปุ๊บ เธอก็รีบมุ่งกลับไปยังร้านสักในทันที แต่ช่างสักก็ทำได้แค่เพียงหัวเราะและคืนเงินให้กับเธอเท่านั้น เนื่องจากว่าตอนที่ไปสัก คุณแม่แค่เพียงพูดชื่อลูกของเธอโดยไม่มีการสะกดคำใดๆ ให้กับช่าง และช่างเองก็ไม่ได้ถาม ประมาณว่าต่างคนต่างคิดว่าไม่มีส่วนไหนผิดพลาด ในตอนนั้นเธอคิดออกแต่เพียงว่าจะต้องไปลบรอยสักนี้ออก แต่กระบวนการดังกล่าวเต็มไปด้วยความยุ่งยาก ความเจ็บปวด จนอาจกลายเป็นแผลเป็นที่ติดตัวเธอไป หรือไม่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพง …
-
ถึงจะเมาแต่อย่าเก๋าให้มาก.. ออกเกะไปจับตูดสาว สุดท้ายโดนไล่กระทืบซะสร่างเลย
บางครั้งเราอาจจะเมาจนทำบางสิ่งบางอย่างไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดเป็นส่วนหนึ่งของประโยคที่ว่า “อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา” แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะคิดอย่างนั้น เพราะถึงแม้คุณจะเมามากขนาดไหน แต่ถ้าทำสิ่งที่ไม่ดีไปก็อาจจะโดนรุมกระทืบได้ เหมือนอย่างชายคนนี้ เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในเขตฉงชิ่ง ประเทศจีน เมื่อกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพของกลุ่มผู้ชายเดินออกมาจากร้านคาราโอเกะ แล้วจู่ๆ หนึ่งในนั้นก็เดินไปบีบก้นของหญิงสาวชุดแดงอย่างหน้าตาเฉย เมาๆ แล้วดันทะลึ่งไปบีบก้นสาวซะอย่างนั้น กลุ่มผู้ชายยังคงเดินพูดคุยกันต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แน่นอนว่าพฤติกรรมนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้ชายหนุ่มที่มากับสาวชุดแดงคนนั้นเป็นอย่างมาก เขาจึงปรี่เข้าไปหาชายที่มาจับก้นสาวของเขา หลังจากนั้นเรื่องราวก็บานปลาย มีผู้ชายจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ชายขี้เมาคนนั้น เกิดเป็นเหตุจลาจลโดนกระทืบชนิดว่ายับยู่ยี่ ตำรวจจะเข้าไปห้ามก็ห้ามไม่อยู่ ชุลมุนวุ่นวาย หนุ่มทะลึ่งโดนรุมกระทืบอย่างไม่เป็นปี่เป็นขลุ่ย สุดท้ายแล้ว ตำรวจจึงพาทุกคนในเหตุการณ์ไปสอบสวน ทำให้ชายที่บีบก้นหญิงสาวต้องโทษจำคุก 15 วัน ส่วนคนอื่นๆ นั้นไม่มีการรายงานโทษแต่อย่างใด คลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2018 เหล่านักดื่มทั้งหลายต้องอย่าลืมว่า จงให้เรากินเหล้า ไม่ใช่ให้เหล้ากินเรา เพื่อป้องกันไม่ให้ความเมาสร้างปัญหาบานปลายเหมือนกรณีของชายคนนี้ ที่มา: shanghaiist
-
ช่างภาพจับจังหวะ ความงดงามที่ลงตัวของ ‘นาระและผืนอวกาศ’ ครั้งเดียวที่อาจเกิดในชีวิต
ความงดงามทางธรรมชาติบนโลกของเรา สามารถรับรู้ได้ผ่านเลนส์จากช่างกล้องทั่วโลกที่ร่วมแชร์กัน ภายใต้สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ในหลากหลายประเทศ ทั้งนี้ภาพที่จะออกมาในรูปแบบที่เหมือนและคล้ายกัน ยากที่จะหาความสวยงามที่สัมผัสได้ด้วยตา เนื่องจากเห็นมุมซ้ำๆ เดิมๆ มาเยอะแล้ว ทว่าชาวเน็ตญี่ปุ่นเริ่มใช้แฮชแท็ก ในการเชิญชวนเหล่าช่างภาพมาร่วมแชร์ภาพถ่ายสุดประทับใจ กับช่วงเวลาที่ไม่สามารถหาถ่ายได้อีกแล้ว และจะเป็นความบังเอิญเพียงครั้งเดียวที่จะเกิดขึ้นในชีวิต อย่างเช่น ทริปสุดแสนประทับใจที่สุด หรือได้ใกล้ชิดกับดาราคนดังที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ แต่ส่วนใหญ่แล้วภาพที่แชร์กันจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเสียมากกว่า ตัวอย่างเช่นภาพถ่ายสุดอลังการจากจังหวัดนาระ อันเลื่องชื่อไปด้วยกวาง Nori Yuasa ช่างภาพผู้เป็นเจ้าของภาพได้แชร์ภาพดังกล่าว พร้อมกับอธิบายว่า เป็นความโชคดีอย่างมากที่ได้ภาพนี้มา นั่นก็คืออย่างแรกไม่มีใครอยู่ในภาพเลย อย่างที่สองมีหมอกและลมแรงช่วยสร้างบรรยากาศความวังเวง และหลังจากที่หมอกจางหายไปจากทางเดินด้านหน้า เผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เป็นเบื้องหลังอันแสนอลังการ นอกเหนือจากภาพแห่งความโชคดีแล้ว เขาก็ยังมีภาพถ่ายธรรมชาติสวยๆ อีกมากมายเลยล่ะ หากใครชื่นชอบความสวยงามแนวนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด ติดตามกันได้ในทวิตเตอร์ @m_roadster ได้เลยนะจ๊ะ . . นอกจากนี้ยังมีภาพถ่ายอื่นๆ จาก #二度と撮れない写真を貼れ ด้วยนะจ๊ะ . . . ที่มา…
-
สาวผู้ได้ฉายา บาร์บี้แห่งเอเชีย ไลฟ์สไตล์ชิคๆ ทุกอย่างต้องเป็นสีชมพู รวมถึงขนหมาด้วย
เชื่อว่าตอนเด็กๆ ผู้หญิงเกือบ 90% คงจะคุ้นเคยกันดีกับตุ๊กตา ‘บาร์บี้’ ตุ๊กตาผู้หญิงสุดน่ารักที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเด็กๆ มักจะจับบาร์บี้มาแต่งตัว ทำผม เล่นบทบาทสมมติกัน เรียกได้ว่าเป็นของที่มันต้องมีสักตัวในชีวิตเด็กผู้หญิง Catherina Lauren สาวชาวกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เรียกว่าคลั่งไคล้ หลงใหลในบาร์บี้มากๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่บาร์บี้เป็น เธอก็พยายามที่จะเสกให้ชีวิตของเธอเป็นเหมือนกับตุ๊กตาที่เธอโปรดปรานที่สุด “ฉันรักตุ๊กตาบาร์บี้มาก ฉันเล่นตุ๊กตาบาร์บี้มาตลอดตั้งแต่เป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆ และทุกอย่างต้องเป็นสีชมพู” Catherina กล่าว หมาของเธอชื่อว่าเจ้า Candy ก็เป็นสีชมพู (ขอเตือนก่อนว่าการย้อมสีขนหมาอันตรายต่อน้องมากๆ นะจ๊ะ) เธอมักจะโพสต์เรื่องราวของเธอลงบนอินสตาแกรม ชีวิตที่หรูหรา ทั้งเครื่องบินเจ็ท รถสปอร์ตส่วนตัวและภาพเซ็กซี่ๆ ของเธออวดชาวเน็ตอยู่เสมอ เธอใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นบาร์บี้มากๆ ถึงขั้นยอมเจ็บตัวเพื่อศัลยกรรมถึง 5 ครั้ง เพื่อให้หน้าและหุ่นใกล้เคียงกับบาร์บี้มากที่สุด รวมไปถึงการเสริมหน้าอกคัพ F บร๊ะละฮึ่ม แต่การศัลยกรรมครั้งหนึ่งก็สร้างอันตรายให้กับชีวิตเธอ เธอบอกว่าเธอเคยเสริมก้นด้วยซิลิโคน แต่มันดันติดเชื้อจนต้องผ่าออก แต่เธอก็ไม่เข็ด ยังวางแผนที่จะศัลยกรรมอีกจนกว่าจะพอใจ เธอทำให้ชีวิตของเธอดูรวยเหมือนกับเป็นเจ้าหญิงบาร์บี้ ดูแลหุ่นตัวเองจนรูปร่างเป็นทรงนาฬิกาทราย ย้อมผมสีบลอนด์…
-
สื่อนอกรายงาน The Lord of the Rings ฉบับซีรีส์ จะเป็นเนื้อเรื่องชีวิตวัยหนุ่มของอารากอน!!
สำหรับแฟนๆ The Lord of the Rings ต้องขอบอกเลยว่านี่อาจจะเป็นข่าวดีแบบสุดๆ สำหรับพวกคุณเลยก็ว่าได้ เพราะล่าสุดมีข่าวมาว่าตอนนี้ Amazon กำลังวางแผนที่จะสร้างทีวีซีรีส์ชุด LOTR ที่เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่ใช้ทุนสูงที่สุดในโลก โดยคาดว่าน่าจะมีต้นทุนที่สูงถึง 1,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว (หรือราวๆ 33,000 ล้านบาทไทย) ทวิตเตอร์ TheOneRing.net ที่เป็นทวิตเตอร์ของแฟนพันธุ์แท้ LOTR ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง คล้ายๆ กับเว็บไซต์ Pottermore ของ Harry Potter ได้ระบุเอาไว้ว่าพวกเขาได้รับการยืนยันจากหลายๆ แหล่งข่าวแล้วว่า Amazon Studios กำลังวางแผนที่จะสร้างซีรีส์ทีวีเรื่องใหม่ที่มีมูลค่าสูงกว่า 33,000 ล้านบาท โดยในซีซั่นแรกจะโฟกัสไปที่ อารากอน สมัยตอนหนุ่มๆ โดยเนื้อหาของเรื่องไม่ได้มีการเชื่อมต่อไปยังตอนจบของหนังแต่อย่างใด แต่จะเล่าถึงช่วงชีวิตของอารากอนตั้งแต่โดนจับกุมโดย เอลรอนด์ ที่เป็นเอลฟ์กึ่งมนุษย์ลอร์ดแห่งริเวนเดลล์ จากนั้นเขาก็รู้ตัวว่าตนนั้นมีสายเลือดของกษัตริย์ไหลเวียนอยู่ จนกระทั่งได้พบรักกับ อาร์เวน เอลฟ์สุดสวย (ลูกสาวของเอลรอนด์)…
-
หน้าปกนิตยสาร Nat Geo กับความหมายสุดลึกล้ำ แฝงไปด้วยความเจ็บปวดของธรรมชาติ…
National Geographic เป็นอีกหนึ่งสื่อที่นำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงปัญหาของสภาพแวดล้อมที่ถูกรุกรานจากมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่ายังไม่สามารถทำให้ผู้คนตื่นตัวได้เลย… และล่าสุดนี้ก็ได้เปิดแคมเปญ Planet or Plastic? เพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายได้รับรู้ว่า ปัญหาของขยะพลาสติกนั้นลุกลามไปทั่วทุกแห่ง และในอีกไม่ช้านานจะกลืนกินธรรมชาติอันสวยงามไปพร้อมกับอารยธรรมของมนุษย์ ปกนิตยสาร National Geographic ประจำเดือนมิถุนายน 2018 ในแคมเปญ Planet or Plastic? แคมเปญดังกล่าวนั้นมีจุดมุ่งหมายที่จะพยายามเปลี่ยนการใช้พลาสติกในปัจจุบัน ซึ่งทาง NG ก็ปรับตัวเข้ากับนโยบายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . . ยกตัวอย่างเช่น การส่งนิตยสารผ่านห่อกระดาษแทนที่จะเป็นห่อพลาสติก ถึงแม้จะไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยก็ช่วยลดปริมาณลงได้บ้าง โดยแคมเปญนี้พุ่งเป้าไปที่ถุงพลาสติก ขวดพลาสติก และหลอดพลาสติก ที่เป็นผลิตภัณฑ์เจ้าปัญหา . ภาพเนื้อหาภายในปกนี้ เผยให้เห็นภาพอันทรงพลังและรับรู้ได้ถึงความเสียหายจากขยะพลาสติกในปริมาณ 9 ล้านตันที่ถูกทิ้งในทุกๆ ปี ส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตตามวิถีธรรมชาติ . . อาจจะต้องใช้เวลานานหลายปี เพื่อที่จะลดปริมาณการใช้พลาสติกได้อย่างเห็นผล ทางด้านนักวิทยาศาสตร์และทีมนักวิจัยต่างค้นคว้าเกี่ยวกับปัญหาในระยะยาวของขยะพลาสติก…
-
ปริศนาลับสมองจากญี่ปุ่น “จะแบ่งแอปเปิล 2 ผลให้คน 3 คนเท่าๆ กันได้อย่างไร?”
เล่นทวิตเตอร์อยู่ดีๆ ก็มีปัญหามาให้ได้ลับสมองกันซะอย่างงั้น… เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งจู่ๆ ก็โพสต์ภาพออกมาให้ได้ชาวเน็ตได้ขบคิดกันว่า “จะแบ่งแอปเปิลสองผลให้กับคน 3 คนเท่าๆ กันได้อย่างไร โดยใช้มีดเพียงเล่มเดียวและใช้ได้ครั้งเดียวเท่านั้น” ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @omahuko ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมทายปัญหาดังกล่าว ปัญหานี้ทำให้ชาวเน็ตผู้ไม่ชอบความท้าทายต้องเข้ามาให้คำตอบกันจำนวนมาก เช่น: “เอาแอปเปิลไปปั่นและคั้นทำเป็นน้ำแอปเปิลซะ” “เอามีดไปขาย แล้วเอาเงินไปซื้อแอปเปิลเพิ่มอีกลูก” “เป่ายิงฉุบกัน ใครชนะก็เอาแอปเปิลทั้งหมดไป” แล้วคนนี้ก็มาตอบด้วยคำตอบสุดโหดว่า “ทำให้มันเหลือ 2 คนซะสิ” และนั่นทำให้ชาวเน็ตอีกคนจุดประกายคำตอบใหม่ขึ้น ซึ่งก็โหดไม่แพ้กัน แต่มีความสร้างสรรค์เพิ่มมาหน่อย เขาตอบว่า “นำแอปเปิลทั้งสองมาตั้งเป็นแนวตั้งไว้บนหัวของคนใดคนหนึ่ง แล้วใช้มีดผ่าครึ่งตั้งแต่แอปเปิลลงมาจนถึงตัวคน จะทำให้คุณได้รับ แอปเปิล 4 ชิ้น แถมตอนนี้คุณก็มีคน 4 คนพอดี” เรียกได้ว่าคำตอบของแต่ละคนเริ่มดาร์กลงเรื่อยๆ บ้างก็บอกให้นำมีดมาแทงตัวเอง อะไรทำนองนั้น จนกระทั่งได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งเข้ามาตอบด้วยวิธีที่เป็นผู้เป็นคน แบบที่ไม่ต้องมีใครตายเลยสักคน คุณ @SF64052250 เข้ามาตอบว่าแบ่งแอปเปิลแต่ละผลเป็น 3 ส่วนสิ แล้วผ่าแอปเปิลทั้งสองผลภายในครั้งเดียวให้ออกมาเป็น 1 ส่วน 3 ผล ที่นี้มันก็จะออกมาเป็น…
-
หญิงกล่าวหาตำรวจ ‘ใช้อำนาจข่มขู่และเหยียดสีผิว’ เจอหลักฐานจากกล้องเจ้าหน้าที่ เงิบ…
การรักษาสิทธิส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่พึงกระทำ หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ประชาชนสามารถทำการฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายได้… แต่ก่อนที่จะดำเนินไปถึงศาล การเรียกร้องขอความเห็นใจจากสังคมมักจะเกิดขึ้นก่อน คล้ายๆ กับเป็นการหาพวกเพื่อใช้โจมตีอีกฝ่าย เหตุการณ์ในวันที่ 27 เมษายน 2018 หญิงผิวสีนามว่า Dawn Hilton-Williams ถูกตำรวจเรียกให้จอดข้างถนน และเธอก็ทำการไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กหลังเกิดเรื่อง เล่าเรื่องราวในฝั่งของเธอว่า “ฉันถูกตำรวจใช้อำนาจรังแกและเหยียดสีผิว ข่มขู่ให้ออกมาจากรถ ในขณะที่ฉันกำลังใช้ความเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมงในเขตความเร็ว 65 ไมล์ต่อชั่วโมง” Dawn พยายามเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับความรู้สึกแย่ต่อเจ้าหน้าที่ เธอกลัวที่จะถูกยิง ถูกช็อต หรือคล้ายกับกรณี Sandra Bland หญิงผิวสีที่ถูกตำรวจข่มขู่ให้ออกมาจากรถ และพบเป็นศพในห้องขัง… เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า “ฉันต่อต้านเรื่องพวกนี้มาเยอะ ฉันต่อสู้มามากมาย เรื่องแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก” คลิปที่เธอไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก Brian Roberts และหลังจากที่ไลฟ์สดของเธอกลายเป็นกระแสในสังคมออนไลน์ Brian Roberts นายอำเภอเขต Brunswick County ได้รับโทรศัพท์พร้อมกับความเกลียดชังจากผู้คนมากมาย…
-
หนุ่มแชร์ภาพไปพักโรงแรม ‘ภาพที่ใช้โฆษณา vs ความเป็นจริง’ กลายเป็นกระแสดังทั่วเน็ต
ในวันหยุดยาว การวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อพักผ่อนก็ถือเป็นแผนที่ใครๆ ต่างก็วางเอาไว้ แต่บางครั้งเราก็ต้องดูให้ดีก่อนนะว่าที่พักที่เราจองเอาไว้นั้นเป็นอย่างไร อ่านรีวิวเยอะๆ ประกอบการตัดสินใจ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นเช่นเหตุการณ์นี้ได้!! เรื่องมีอยู่ว่าชาวเน็ตรายหนึ่งนามว่า @jennykershawx ได้โพสต์ภาพของที่พักที่ตัวเองไปเที่ยวในประเทศเวียดนาม เปรียบเทียบกันให้เห็นแบบจะจะ ระหว่างในเว็บจองที่พัก vs ความเป็นจริง พร้อมกับอีโมจิเป็นรูปหัวเราะทั้งน้ำตา ภาพในเว็บจอง ความเป็นจริง โพสต์ของเขาได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก จนมีคนเข้ามากดไลก์ 151,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 72,800 ครั้งเลยทีเดียว ชาวเน็ตหลายคนที่ได้เห็นภาพในโพสต์แล้วต่างก็ตกใจ เมื่อเห็นถึงความแตกต่างระหว่างภาพที่ใช้โฆษณาและความเป็นจริงของสระว่ายน้ำในโรงแรม แต่ก็มีบางส่วนที่บอกว่า “จริงๆ แล้วถ้าคุณเลื่อนไปอีกภาพในเว็บไซต์ Booking ของโรงแรม ก็จะเห็นว่าสระว่ายน้ำมันมีขนาดเล็กอยู่แล้วนะ แต่คุณก็ยังเลือกที่จะไปเพราะอยากดังใช่มั้ยล่ะ?” แต่ก็มีคนมาตอบกลับไปว่า “ภาพนี้น่ะเหรอ? มันก็ชวนให้เข้าใจผิดอยู่นะ” บางคนก็มาแซวว่า “ดูสิ มันเล็กซะจนไม่สามารถใส่ตัว E ลงไปในคำว่า ‘WELCOME’ ตรงบันไดได้” หลายคนก็เข้ามาแซวกันอย่างสนุกสนาน “นี่มันคือการคลิกเบตที่เหนือชั้นจริงๆ” “มันคือฉันตอนถ่ายภาพลงเฟซบุ๊ก vs…
-
สาวจีนโดนจับได้ว่าขโมยของ ไม่รู้ทำไง แก้ผ้านอนกลางถนนเลยละกันเอ๊า!!
เหตุการณ์นี้้เกิดขึ้นที่ผ่านชอปปิงแห่งหนึ่งในเมือง Yiwu มณฑลเจ้อเจียง เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งตัดสินใจลงไปนอนแก้ผ้าอยู่กลางถนนหลังจากที่เธอถูกจับได้ว่าขโมยของ จากรายงานของเว็บไซต์ Shanghaiist ระบุว่าหญิงสาวคนดังกล่าว กำลังยืนโต้เถียงกับเจ้าของร้านและพยายามจะเดินหนีฝูงชนที่กำลังยืนมุงเธออยู่ การโต้เถียงระหว่างหญิงสาวและเจ้าของร้านดำเนินไปเรื่อยๆ ก่อนที่วิดีโอจะตัดมาให้เห็นภาพของเธอที่กำลังนอนอยู่กลางถนน พร้อมกับร่างกายที่เปลือยเปล่า เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เห็นเหตุการณ์พยายามหาผ้ามาปกปิดร่างกายของเธอ แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวขโมยจะไม่สนใจ พร้อมกับโยนผ้าที่คลุมร่างกายเธอออกไป และนี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ในลักษณะนี้มักเกิดขึ้นบ่อยในประเทศจีน โดยก่อนหน้านี้มีชายคนหนึ่งที่พยายามจะขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับอ้างว่าเขาเป็นชาวต่างชาติและให้พาตัวเขาไปที่สถานกงศุลในนครเซียงไฮ้แทน และนอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่หญิงสาวรายหนึ่งที่มีปากเสียงกับแฟนหนุ่มของเธอ พร้อมกับถอดกางเกงตัวเองออก และสั่งให้ฝ่ายชายคุกเข่าตรงหน้าของเธอ ท่ามกลางผู้คนที่กำลังพลุกพล่านในสถานีรถไฟใต้ดินที่นครเซี่ยงไฮ้ ที่มา shanghaiist
-
แรงไปป๊ะ!? ชาวเน็ตวิจารณ์ หลังเห็นคลิปหนูน้อย ถูกรุมแกล้งในวันเกิดอย่างรุนแรง
การแกล้งเพื่อนตอนเป่าเค้กวันเกิดอาจจะเป็นเรื่องสนุกของหลายๆ คน แต่คงจะไม่ดีแน่ถ้าหากการแกล้งนั้นรุนแรงจนเกินไป และยิ่งแย่เข้าไปอีกถ้าหากเหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นกับเด็กตัวเล็กๆ คลิปวิดีโออันน่าสะเทือนขวัญที่ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ได้เผยให้เห็นหนูน้อยรายหนึ่งที่กำลังถูกผู้ใหญ่รุมแกล้ง หลังจากที่เขาเป่าเค้กวันเกิดเรียบร้อยแล้ว ตามรายงานระบุว่าคลิปวิดีโอนี้ถูกถ่ายขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย และถูกเผยแพร่เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหนูน้อยในคลิปวิดีโอถูกกลุ่มผู้ใหญ่นำไข่ โยเกิร์ต และเค้กราดลงบนหัวเขา และรุมแกล้งอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่ากลุ่มคนที่รุมจะดูมีความสุขและสนุกกับสิ่งที่พวกเขาทำ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหนูน้อยที่เปื้อนไปด้วยไข่และเค้กจะดูไม่ค่อยมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นสักเท่าไหร่ และนี่คือคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คลิปวิดีโอดังกล่าวมีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านครั้ง และมีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนมากไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เจ้าหนูน้อยได้รับ บางคนบอกว่าเขารู้สึกหดหู่อย่างมากหลังจากที่ได้ชมคลิปวิดีโอ “ดูเหมือนเขาไม่มีความสุขเอามากๆ พวกเขาทำให้เด็กคนนี้รู้สึกหดหู่ มันเป็นเรื่องที่แย่มากๆ ” ความเห็นจากชาวเน็ตรายหนึ่ง ส่วนบางคนก็บอกว่า “เด็กน้อยผู้น่าสงสาร…พวกผู้ใหญ่พวกนั้นควรจะถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกาย” ที่มา thesun
-
หญิงสาวถูกงูเห่ากัด หมองูแนะ “เอาขี้วัวกลบร่าง” สุดท้ายตายเพราะขาดอากาศหายใจ
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย หลังจากที่หญิงสาวรายหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ หลังจากเธอใช้ขี้วัวพอกตัวเพื่อขับพิษงูตามคำแนะนำของหมองู นาง Devendri หญิงวัย 35 ชาวอินเดีย ถูกงูกัดเข้าที่ข้อมือของเธอในระหว่างออกไปหาฟืน หญิงสาวเคราะห์ร้ายรีบนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกกับสามีของเธอ ก่อนที่เขาจะพาเธอไปพบหมองู แทนที่จะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล นาย Murarey หมองูผู้แนะนำวิธีการรักษาอันแปลกประหลาดให้กับสามีของเธอ โดยเขาอ้างว่าวิธีนี้จะช่วยดูดพิษงูได้เป็นอย่างดี ฝูงชนมากมายต่างมุงดูวิธีการดูดพิษงูของนาย Murarey โดยหมองูได้ทำการนำขี้วัวพอกไว้ที่ตัวเธอเป็นเวลานานกว่า 75 นาทีจนเธอขาดอากาศหายใจตายในที่สุด ชายหนุ่มเชื่อว่าวิธีการรักษาของหมองูรายนี้จะได้ผล และเขาไม่คิดว่ามันจะทำให้เธอตาย “ตอนแรกเราบดยาพอกเอาไว้ที่แขนของเธอแต่หมองูแนะนำให้เราเอาขี้วัวพอกตัวเธอเอาไว้ เรามั่นใจว่าเขาสามารถช่วยเธอได้ และผมไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเป็นอะไรไป ผมมั่นใจว่าวิธีการรักษาแบบนี้จะได้ผล แต่มันก็กลับเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น” นาย Mukesh สามีของผู้ตายกล่าว . นาย Murarey อ้างว่าเขาคือหมองูผู้มีชื่อเสียงในละแวกนั้น และยอมรับว่าหญิงสาวรายดังกล่าวขาดอากาศหายใจตาย “ผมคิดว่างูที่กัดเธอน่าจะเป็นงูเห่า และใช่แล้วเธอตายเพราะขาดอากาศหายใจ” หมองูให้สัมถาษณ์ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจ Kakod บอกว่าพวกเขาไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และไม่มีใครมาแจ้งความแต่อย่างใด ที่มา dailymail
-
พ่อแอบดูนมสาว แล้วโดนถ่ายภาพโดยบังเอิญ ลูกสาวต๊กกะใจ พ่อตรูดังซะแล้ว!?
บางครั้งเรื่องราวฮาๆ มันก็เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของคุณพ่อ Dennis Leavey จากเมืองควีนส์ รัฐนิวยอร์ก ท่านนี้ ที่จู่ๆ ก็กลายเป็นมีม ที่แชร์กันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลจากความผิดพลาดของตัวเอง เรื่องมันมีอยู่ว่านางแบบสาวคนหนึ่งถ่ายภาพเซลฟี่แล้วก็โพสต์ลงทวิตเตอร์ แต่กลายเป็นว่าในภาพที่เธอโพสต์นั้นมันติดคุณพ่อ Dennis มาด้วย!! และในภาพก็เป็นเหตุการณ์ที่คุณพ่อกำลังจ้องมาที่หน้าอกของนางแบบสาวพอดิบพอดี เธอโพสต์ภาพพร้อมกับข้อความว่า “ว้าว อะไรจะแย่งซีนเบอร์นั้น” ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย จนกลายเป็นไวรัล มีคนเข้ามากดไลก์มากถึง 28,500 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 5,700 ครั้งเลยทีเดียว อืมมม์ ของเขาดีจริงๆ ชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็เข้ามาแซวคุณพ่อกันไปต่างๆ นาๆ “เมื่อคุณแอบเห็นความลับของคนอื่น แล้วโดนจับได้ ก็จะมีท่าทางประมาณนี้แหละนะ” “ฮ่าๆๆๆ เขาเหมือนผมเลย” หลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ภาพต้นเหตุนั้นถูกโพสต์ ก็เหมือนกับว่ากระแสความฮาจะเงียบลงไปแล้ว แต่ทันใดนั้นเองเมื่อลูกสาวของคุณพ่อ Dennis ซึ่งก็คือคุณ Alex…
-
หนุ่มหูหนวก-ซึมเศร้า ถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อตเสียชีวิต ขณะปีนลงเพราะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ…
นับว่าเป็นเรื่องราวอันสุดแสนสะเทือนใจอย่างมาก เมื่อชายหนุ่มหูหนวกคนหนึ่ง ปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าแรงสูงเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ขณะที่เขาเปลี่ยนใจกำลังจะปีนลง กลับถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อตจนตกลงมาเสียชีวิต นาย Victor Jose Arroyo Gonzalez หนุ่มอายุ 20 ปีผู้มีปัญหาทางการได้ยิน ปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าแรงสูงใจกลางเมืองบาร์รังกิยา ในโคลอมเบีย พร้อมบอกว่าจะกระโดดลงมาเพื่อจบชีวิตตนเอง แต่เหตุการณ์ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านในละแวกพากันออกมาช่วยกันหว่านล้อมให้ Gonzalez เปลี่ยนใจไม่ฆ่าตัวตาย ซึ่งก็เป็นผลสำเร็จ ขณะที่ Gonzalez ล้มเลิกการฆ่าตัวตายและกำลังจะปีนลงจากเสาไฟนั้น เขาก็บังเอิญไปสัมผัสเข้ากับสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เกิดประกายไฟลุกวาบ ตามมาด้วยกลุ่มควันโขมงจากการไหม้ และแล้วร่างชายหนุ่มก็ร่วงหล่นลงมา ร่างกายไร้วิญญาณหล่นลงมาเกี่ยวกับสายไฟด้านล่าง ทำให้ตัวของเขาหมุนตลบจนกระทั่งถึงพื้นดิน ท่ามกลางสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกของประชาขน เมื่อตรวจสอบจุดที่ชายหนุ่มหล่นลงมาทำให้พบว่า เสียชีวิตคาที่ มีคนบอกว่านาย Gonzalez ปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าแล้วตะโกนออกมาว่า “ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว ฉันรับมือกับมันไม่ได้อีกแล้ว” ทำให้ภายหลังทราบว่านาย Gonzalez นั้นต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับโรคซึมเศร้ามากเป็นเวลานาน ซ้ำยังเคยปีนตึกสูงเพื่อฆ่าตัวตายมาแล้วอีกด้วย โรคซึมเศร้านั้นเป็นโรคทางจิตที่ค่อนข้างร้ายแรง หากผู้ป่วยไม่ได้รับการดูแลที่ดีจากหมอและคนรอบข้าง ก็มีโอกาสฆ่าตัวตายได้สูงมากๆ ที่มา: metro
-
คุณพ่อจัดงานปาร์ตี้ฉลองกับเพื่อนๆ ก่อนที่จะ “ฆ่าตัวตาย” เพราะทุกข์ทรมานจากโรคซึมเศร้า
คุณพ่อ John Clayton นักวิจัยวัย 41 ปี ได้จัดงานปาร์ตี้ขึ้นกับเพื่อนฝูง ก่อนที่จะตัดสินใจปลิดชีพตนเองเนื่องจากต้องทนทุกข์กับความเจ็บป่วยทางจิตที่เรียกว่า โรคซึมเศร้าหลังมีลูก (Postnatal Depression) หลังจากที่ John ให้กำเนิดลูกชายของเขา Hugo เขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคซึมเศร้าชนิดนี้ โดย Vicky Clayton อดีภรรยาวัย 38 ปีของเขาก็บอกว่าสุขภาพจิตของ John ย่ำแย่ลงหลังจากให้กำเนิดบุตรเมื่อ 5 ปีที่แล้ว Vicky ผู้เป็นภรรยาเองก็มีอาการซึมเศร้าหลังมีลูกเช่นกัน แต่พอเธอทราบว่า John สามีของเธอก็มีอาการ ทั้งคู่จึงตัดสินใจย้ายที่อยู่ใหม่ เธอเล่าว่า “การต้องกลายเป็นพ่อคนนั้นเป็นเรื่องใหญ่สำหรับ John มากเลยทีเดียว บางที่ฉันก็ลืมไปว่าผู้ชายเองก็เป็นโรคซึมเศร้าหลังมีลูกได้เหมือนกัน” แต่หลังจากที่ลูกน้อย Hugo มีอายุได้ราวๆ 9 เดือน John และ Vicky ก็แยกทางกัน แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกัน แถมยังช่วยกันเลี้ยงลูกอีกด้วย จากนั้นในปี 2016 John…
-
คุณพ่อห้ามใจตัวเองไม่อยู่ กัดลูกชาย 4 ขวบเสียชีวิต อ้างเพราะ ‘หมั่นเขี้ยว’ อย่างรุนแรง…
เวลาที่เราเห็นอะไรแล้วรู้สึกถูกใจในความน่ารัก มันจะมีอาการแบบว่าขัดฟัน มีความงุ้ยๆ แล่นเข้ามาในหัวอย่างพรั่งพรูแทบจะหยุดไม่ไหว ต้องพุ่งเข้าไปเล่นด้วยทุกที…แบบว่าน่ารักปานจะกลืนกินได้ แต่ทว่าเหตุของ ‘ความหมั่นเขี้ยว’ กลายมาเป็นบ่อเกิดแห่งความสูญเสียได้อย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากการที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ของคุณพ่อรายหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย ชายวัย 28 ปี ผู้เป็นพ่อของเด็กชายวัย 4 ขวบ ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม จากการกัดลูกชายของตนเองเพื่อแสดงความรัก ในระหว่างออกมาเที่ยวบริเวณชายหาด Losari เมืองมาคัซซาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ทางสื่อท้องถิ่นเปิดเผยว่าเขาทำการกัด (ขบ) ตัวเด็ก เพราะกลัวว่าลูกจะไม่สนใจในตัวเขา และเขาก็ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเอง จากความน่ารักและความหมั่นเขี้ยวที่มี จนต้องกัดตามตัวลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายหลังเพียงไม่นานนัก เด็กชายถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในบริเวณใกล้เคียงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนเบื้องต้น ผู้เป็นพ่อให้การว่าประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ ตำรวจไม่ยอมปักใจเชื่อ เพราะดูท่าทางจากผู้เป็นพ่อแล้วเขากำลังโกหก จนผลชันสูตรศพของเด็กก็เผยความจริงออกมา… “เราได้ทำการชันสูตรศพแล้วพบว่า มีบาดแผลหลายแห่งบนร่างกาย และร่องรอยบาดแผลเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างแน่นอน” โฆษกตำรวจกล่าว ท้ายที่สุดแล้ว ผู้เป็นพ่อจึงยอมรับสารภาพว่าเขาเป็นคนกัดลูกชายหลายต่อหลายครั้ง จนเป็นเหตุทำให้ลูกชายเสียชีวิต.. กรณีดังกล่าวนั้นเกิดจาก ‘ความหมั่นเขี้ยว’ (Gemes ในภาษาอินโดนีเซีย) เป็นอาการที่อยากจะเข้าไปขบ หยิก บีบ…
-
ฝ่าบาทให้สัมภาษณ์ไปไหนก็ต้องทำแต่ท่าไขว้แขน ‘ถ้าไม่อยากทำก็ต้องไม่ออกจากบ้าน’!!
จากกระแสความฮิตฮอตอย่างล้นหลามของภาพยนตร์เรื่อง Black Panther ที่ทำให้ Chadwick Boseman กลายมาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะของฝ่าบาทผู้ปกครองประเทศวากันดา แน่นอนว่าจากกระแสดังกล่าวก็ทำให้เขาถูกจับตามองจากแฟนๆ เป็นอย่างมาก และพอไปออกงานที่ไหนก็จะต้องทำท่า “วากันดาฟอร์เอเวอร์” ที่ต้องเอาแขนไขว้กันเป็นรูปตัว X เป็นท่าทักทายของชาววากันดาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปออกงาน หรือมีคนพบเจอกันตามท้องถนน หรือแม้แต่ไปพูดในงานรับปริญญาของบัณฑิต ก็ยังต้องทำท่าดังกล่าว เป็นใครใครก็ต้องเบื่อเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ? และแน่นอนว่าชาวเน็ตทั้งหลายเองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน จนไปแคปภาพมาแซวกันไปต่างๆ นาๆ ว่า ให้ตรูทำท่าวากานดา ฟอร์เอเวอร์อยู่นั่นแหละ ตรูก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะเฟร้ย!! ใหม่ๆ หลังๆ และล่าสุดฝ่าบาท Chadwick ก็ได้รับเชิญไปออกรายการ Jimmy Kimmel ร่วมกันกับเหล่าฮีโร่จากอเวนเจอร์คนอื่นๆ อย่าง Chris Hemsworth, Josh Brolin, Sebastian Stan และ Karen Gillan ซึ่งตัวของฝ่าบาทเองก็เผยถึงความรู้สึกของตัวเองออกมา พร้อมกับได้รับเสียงปรบมือชอบใจของแฟนๆ ในห้องส่งอย่างล้นหลาม พอเริ่มรายการ Jimmy Kimmel ก็แซวก่อนเลยว่าคุณต้องทำท่าแขนไขว้กัน…
-
สาวนักคอสฯ เปิดภาพอดีตตัวเอง กับการยอมจ่าย 2,000,000 บาท แลกกับความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น!!
ปัจจุบันในเรื่องของการทำศัลยกรรมพลาสติกนั้น กลายมาเป็นเรื่องปกติในสังคมไม่ว่าจะทั้งในประเทศไทยของเราเอง หรือในต่างประเทศต่างก็ต่างได้รับการยอมรับมาขึ้น แต่จะมีสักกี่คน ที่ยอมเปิดเผยเรื่องราวในอดีตของตนเองว่า เคยผ่านมีดหมอมาก่อน ผ่านมากี่ครั้ง และทำส่วนไหนไปแล้วบ้าง เพราะว่าภาพปัจจุบันที่เห็นกับภาพก่อนโดนผ่า แทบจะไม่อยากจะเชื่อสายตากันเลยล่ะ 【コスプレ】アイドルマスターシンデレラガールズ 一ノ瀬志希/スターリースカイブライト photo:KHさん(@Thundermare )#コスプレ #cosplay #デレマス #しきにゃん #一ノ瀬志希 pic.twitter.com/Z8Pzm1bY4Y — 水野めいみ🧸 (@meme_metan) March 13, 2018 . อย่างเช่นนักคอสเพลย์สาวชาวญี่ปุ่นผ่านทวิตเตอร์ @meiji1111111 เธอไม่ได้ปรับแต่งลุคภายนอกของตัวเองจากวิก พร็อพต่างๆ หรือเมคอัพแต่งหน้าเท่านั้น เพราะเธอลงทุนที่จะเปลี่ยนแทบทั้งตัวเลย… 口ゴボゴリラ横顔は死ぬほど働いて会社辞めて沢山課金して血反吐と鼻血垂れ流して1ヶ月流動食しか食べれない生活我慢すれ治ります pic.twitter.com/PjNunPvHWR — 水野めいみ🧸 (@meme_metan) April 30, 2018 เธอทำการทวีตภาพในอดีตก่อนที่จะทำการศัลยกรรม เทียบกับหลังการทำศัลยกรรม ภาพร่างกายแต่ละส่วนที่ผ่านมีดหมอ และประกาศว่าตอนนี้ตัวของเธอเองนั้นเป็น ‘เวอร์ชั่นที่ 3’ แล้ว และมาไกลจากเวอร์ชั่นแรกแบบสุดขอบจักรวาล ตัวตนในเวอร์ชั่นแรกสุด!! 完全な無課金アバダーはこちらです…
-
แบรนด์ญี่ปุ่นออก “ชุดว่ายน้ำ” เอาใจสาวสายโมเอะ เห็นความโลลิมาแต่ไกล เฮือกก~
ใครอยากเที่ยวทะเลบ้างยกมือขึ้นหน่อยเร๊ววว!! สาวๆ คนไหนที่กำลังอยากไปเที่ยวทะเลแล้วก็กำลังมองหาชุดว่ายน้ำสวยๆ น่ารักๆ อยู่ วันนี้แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่ชื่อว่า M Kigyo ของญี่ปุ่นได้ออกชุดว่ายน้ำสุดน่ารักสไตล์ โลลิ ออกมาให้สาวๆ ได้จับจองกันแล้ว โดยครั้งนี้ทางแบรนด์ก็ได้ไอเดียการออกแบบมาจากนิทานของทางฝั่งตะวันตกเขานู่นแหละ เท่าที่เห็นก็จะมีเรื่อง หนูน้อยหมวกแดง สโนว์ไวท์ และ อลิซในดินแดนมหัศจรรย์ สโนว์ไวท์ – หนูน้อยหมวกแดง – อลิซในดินแดนมหัศจรรย์ เริ่มกันที่ชุดของ หนูน้อยหมวกแดง เลยดีกว่า ทั้งชุดก็จะประกอบด้วย 4 ชิ้น ได้แก่ เสื้อคลุมมีฮู้ด เสื้อบิกินี่ กระโปรงสั้น และกางเกงบิกินี่นั่นเอง . . ที่ยิ่งกว่านั้น มีชุด หนูน้อยหมวกดำ มาเป็นแขกพิเศษด้วยล่ะ เอาล่ะ ต่อกันด้วยชุดของ อลิซในดินแดนมหัศจรรย์ กันเลย ขณะที่ชุดหนูน้อยหมวกแดงมีราคาราวๆ 7,000 บาทไทย ชุดอลิซจะมีราคาเพียง 5,700…
-
สาวแชร์ประสบการณ์ ‘ต่อขนตาถาวร’ จากช่างเสริมสวย แพ้กาวจนขนตาร่วงเป็นกระจุก
การมีขนตาสวย ยาว งอน เด้ง คงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หญิงสาวทั้งหลายปรารถนาที่จะมี การต่อขนตาจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ มีทั้งแบบขนตาปลอมสำหรับต่อชั่วคราว ใช้แล้วทิ้ง กับต่อขนตาแบบถาวรที่อยู่ได้นานยิ่งกว่า ใครสะดวกแบบไหนก็จัดไป แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป นี่คือประสบการณ์จาก Lucy Williams สาวชาวเมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย ที่ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์หลังจากที่เธอได้ไปต่อขนตาถาวรมา เธอติดต่อช่างเสริมสวยรายหนึ่งให้มาทำการต่อขนตาถาวรให้กับเธอ เรื่องที่ไม่คิดก็เกิดขึ้นหลังจากที่เธอต่อขนตาถาวรเสร็จได้ไม่นาน ขนตาของเธอเริ่มร่วงเป็นกระจุกๆ พร้อมกับขนตาปลอมที่เพิ่งต่อไป ประกอบด้วยเปลือกตาที่เริ่มบวม จนเธอแทบจะขับรถไม่ได้ นอกจากขนตาจะร่วงเกือบหมดแล้วยังมีอาการเจ็บปวด แสบ คัน ที่บริเวณเปลือกตาอีกด้วย อาการเหล่านี้เกิดมาจากการที่เธอแพ้กาวต่อขนตาอย่างรุนแรง เธอไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดนี้ได้อีกต่อไปจึงได้ไปหาช่างเสริมสวยคนนั้นอีกครั้ง แต่กลับถูกบอกว่าเธอดูแลขนตาที่ต่อไปไม่ดีเอง แต่ทว่า Lucy ไม่ใช่คนเดียวที่เจอเหตุการณ์นี้ มีลูกค้าเก่าๆ ของช่างเสริมสวยคนนี้เกิดอาการเหมือนกันหลายราย นั่นก็การการติดเชื้ออย่างรุนแรง Tahlia Rae สาวอีกคนหนึ่งที่มีอาการแพ้กาวต่อขนตาแบบเดียวกัน เธอบอกว่าเธอต้องทุกข์ทรมานอย่างมาก หลังจากที่ต่อขนหาไปไม่นานก็เริ่มคันดวงตา ปวดแสบปวดร้อน วันรุ่งขึ้นก็ติดเชื้อไปตามระเบียบ ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนสาวๆ ไว้ว่า การต่อขนตาปลอมอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพดวงตาอย่างแรง อาจถึงขั้นติดเชื้อจนตาบอด หรือแม้กระทั่งสูญเสียขนตาธรรมชาติไปอย่างถาวรก็มี…
-
โป๊ะแตก!! หนุ่มเผลอถือกัญชาออกหน้ากล้อง ก่อนหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
ว่ากันว่าถ้าหากใครได้อยู่ใกล้ๆ ต้นไม้แล้วจะเป็นคนที่อารมณ์ดี เบิกบานและเฮฮาไม่น้อยเลยทีเดียว และพ่อหนุ่มน้อยรายนี้ก็คงจะยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าคนรักต้นไม้เป็นคนตลกอารมณ์ดีจริงๆ นะเออ หลังจากที่เขาทำเรื่องฮาๆ ออกหน้ากล้อง คลิปวิดีโอการรายงานข่าวของสถานีแห่งหนึ่ง ที่กำลังรายงานข่าวเกี่ยวกับการลักลอบปลูกกัญชาในพื้นที่ชนบทของอังกฤษ แต่แล้วนักข่าวหนุ่มของเราก็ต้องถึงกับอึ้ง เมื่อหนุ่มรายหนึ่งเผลอถือตัวอย่างออกมาให้ผู้ชมได้เห็นแบบไม่ได้ตั้งใจ “เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีการตรวจพบต้นกัญชาที่ปลูกโดย Neil และ Yvette Hartley มากกว่า 90 ต้น บ้านเล็กๆ ในชุมชนที่เงียบสงบเหล่านี้คือสถานที่ที่พวกเขาใช้ปลูกต้นกัญชา” นักข่าวหนุ่มรายงาน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะหันไปชี้ให้ผู้ชมได้เห็นกับกระท่อมที่อยู่ทางด้านหลัง ทันใดนั้นเองหนุ่มรายหนึ่งก็ได้เดินออกมาจากซอยพร้อมกับถือกระถางต้นไม้ออกมา แต่เรื่องก็อาจจะจบเพียงเท่านี้ถ้าหากว่าเขาไม่ทำท่าตกใจ ก่อนที่จะอุ้มกระถางต้นไม้วิ่งหนีไป งานนี้ผู้ชมทางบ้านเลยรู้เลยว่าที่นี่แอบปลูกกัญชากันจริงๆ ไปชมความฮาที่คลิปด้านล่างได้เลย… Neilวัย 45 ปีและ Yvette วัย 48 ให้การยอมรับกับศาลว่าพวกเขาปลูกกัญชาจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามกัญชาทั้งหมดที่ปลูกไว้นั้นใช้รักษามะเร็ง และใช้ในการสกัดยาเท่านั้น ขณะนี้คดีความดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคดี ซึ่งถ้าหากผลการตัดสินออกมา ทั้งสองจะได้รับโทษจำคุกนาน 22 เดือน พร้อมกับทำกิจกรรมเพื่อสาธารณะอีก 150 ชั่วโมงด้วยกัน ที่มา dailymail
-
ชายหนุ่มวัย 22 โดนครอบครัวลงโทษ “ควักลูกตา” เพราะเขาอยากแต่งงานกับสาวที่ชอบ!?
เรื่องของความรัก การแต่งงาน ควรจะเป็นการตกลงปลงใจระหว่าง 2 คน แต่บางครั้ง บางคนก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากคนในครอบครัวญาติสนิทมิตรสหายก่อน และบางครั้งมันมันก็กลายเป็นปัญหาใหญ่โตถึงขั้นเลือดตกอย่างออกก็มี Abdul Baqi ชายหนุ่มวัย 22 ปี จากปากีสถาน มีความหวังที่อยากจะหมั้นหมายแต่งงานกับหญิงสาวที่ตนเองชอบพอ เขาพยายามหว่านล้อมให้ทางครอบครัวช่วยไปสู่ขอเพื่อทำพิธีหมั้นกับครอบครัวของฝั่งแฟนสาว Abdul Baqi ก่อนเกิดเหตุ แต่ทว่าความต้องการของเขากลับขัดใจผู้เป็นพ่อ Dost Muhammmad วัย 70 ปี และพี่ชายทั้ง 4 รายนาม Abdul Ghani, Abdul Sattar, Abdul Rehman และ Abdul Karim พวกเขาร่วมกันจับตัวเขามัดขังไว้ในห้อง และควักนัยน์ตาออกทั้ง 2 ข้าง!! พวกเขาจับผู้เป็นแม่ไปขังไว้อีกห้องหนึ่ง เพื่อที่ไม่ให้มาขัดขวางการลงโทษในครั้งนี้ได้ จากนั้นพวกเขาก็ลงโทษด้วยวิธีการสุดแสนจะโหดร้าย โดยใช้ช้อนและมีด ปาด แทง เสียบและงัดนัยน์ตาออกมา สำหรับนาย…
-
หนุ่มทนไม่ไหว รถขับผ่านหน้าบ้านเร็วเกิน เลยทำ ‘กล้องจับความเร็ว DIY’ ติดหน้าบ้านซะเลย!!
สำหรับคนที่มีบ้านอยู่ติดกับถนนใหญ่ จะรู้กันดีว่ามันอันตรายแค่ไหน เพราะรถที่ผ่านไปผ่านมานั้นมันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน ทั้งๆ ที่มีป้ายเตือนให้กำหนดความเร็วเพราะเป็นพื้นที่ชุมชน เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มชื่อว่า Jim Dyke วัย 32 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Clows Top เมือง Worcestershire ประเทศอังกฤษ ซึ่งบ้านของเขาอยู่ติดถนนและมีกฎหมายกำหนดไว้ว่าห้ามใช้ความเร็วเกิน 30 ไมล์ต่อชั่วโมง (50 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ในเขตชุมชน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ขับ 60 ไมล์ต่อชั่วโมง (90-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง) กันทั้งนั้น เมื่อความอดทนมาถึงขีดจำกัด เขาก็เลยต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับเขาและครอบครัว ด้วยการ ‘สร้างเครื่องตรวจจับความเร็วของปลอม’ มาติดที่หน้าบ้านซะเลย!! โดยการใช้ท่อน้ำ กระจก และไม้ สร้างเป็นกล้องจับความแบบ DIY ง่ายๆ ขึ้นมา ใช้งบไปประมาณ 25 ปอนด์ หรือ 1,000 บาทไทย เขาเล่าว่า “กล้องนี้ผมตั้งไว้ที่สวนหน้าบ้านของผม ติดกับรั้วบ้านเลย ให้มันดูสมจริงที่สุด จริงๆ…
-
“น้ำตาแห่งความยินดี” ของชายผู้ใช้เวลา 30 ปี พิสูจน์ความบริสุทธิ์ จับมือร้องไห้กับผู้พิพากษา
วินาทีแห่งความปลื้มปีติของอดีตผู้ต้องหารายหนึ่ง ที่ต้องโทษจำคุกนานถึง 17 ปี ได้จับมือของผู้พิพากษาแนบไว้กับศีรษะของเขาพร้อมกับร้องไห้ดีใจ หลังจากที่เธอช่วยให้เขาได้พบกับอิสระภาพอีกครั้ง นาย John Bunn หนุ่มใหญ่วัย 41 ปี ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่เมือง Brooklyn เมื่อปี 1991 และถูกจำคุกตั้งแต่อายุ 14 ปี ย้อนกลับไปในวันที่เกิดเหตุ Bunn และ Rosean Hargrave เด็กอีกคนหนึ่ง ถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ Rolando Neischer และเพื่อนร่วมงานของเขา Robert Crosson ก่อนที่จะขโมยรถและหลบหนีไป เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ Neischer เสียชีวิตในทันที ในขณะที่คู่หูของเขารอดมาได้ และเป็นพยานเพียงคนเดียวในคดีนี้ ต่อมา Robert กล่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นเด็กวัยรุ่นผิวสีสองคน หลังทำการสอบสวน กลับกลายเป็นว่า Bunn และ Rosean ต้องกลายเป็นแพะรับบาปในคดีนี้ คดีฆาตกรรมของ Bunn ถูกรื้อฟื้นอีกครั้งเมื่อปี 2016 หลังจากมีการพบว่าเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าว มีข้อผิดพลาดในการสืบสวนสอบสวนและปฏิบัติงานไม่ตรงตามหลัก ก่อนที่วันอังคารที่ผ่านมา เขาจะถูกศาลสั่งให้พ้นจากข้อกล่าวหา การต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์เป็นไปอย่างยาวนานเกือบ 30 ปี และในวันที่ได้พบกับอิสระภาพอีกครั้งก็ทำให้ Bunn ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่…
-
เผยโฉม ‘Bae Yu Jin’ นางแบบลูกครึ่งผิวสี ไนจีเรีย-เกาหลี ทุบทุกนิยามความสวยเวทีแฟชั่น!!
ค่านิยมทางด้านความสวยความงามในปัจจุบัน ไม่อาจตีความหรือนิยามในระดับสากลได้อีกต่อไป เนื่องจากว่าสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละคน แต่ละท้องที่ แต่ละประเทศ… เมื่อพูดถึงเกาหลีใต้ล่ะ? ท่านผู้อ่านจะคิดถึงความงามแบบไหน ชายหนุ่มโอปป้าหน้าตี๋เรียวคม หรือจะเป็นสาวเกาหลีสูงยาวเข่าดี ใบหน้าขาวผ่องตามพิมพ์นิยม แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้คือภาพจำไปแล้ว https://www.instagram.com/p/Bglz-smAHvD/ แต่สำหรับวงการนางแบบเกาหลีใต้นั้นเริ่มนำความงามที่แตกต่างเข้ามา นั่นก็คือนางแบบลูกครึ่งผิวสี ไนจีเรีย-เกาหลีใต้ และมีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า Bae Yu Jin https://www.instagram.com/p/BhtbFAoF3S0/ เธอมีคุณพ่อเป็นชาวไนจีเรีย และมีคุณแม่เป็นชาวเกาหลีใต้ เกิดและเติบโตอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ปัจจุบันทีอายุ 17 ปี และเริ่มต้นเข้าสู่วงการนางแบบเมื่อปี 2017 https://www.instagram.com/p/BatSiEYF8Jt/ ชาวเน็ตเกาหลีใต้เริ่มสังเกตเห็นความงามภายในตัวตนของเธอ และเริ่มมีกระแสพูดถึงในโลกออนไลน์ของเกาหลีใต้ จำนวนแฟนคลับก็เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว Bae Yu Jin และ Han Hyun Min สำหรับ Bae Yu Jin นั้นถือว่าเป็นนางแบบผิวสีลูกครึ่งเกาหลีใต้คนที่ 2 ที่แจ้งเกิดบนเวทีแคทวอล์กภายในประเทศ…
-
หญิงชราใกล้ 129 ปี รู้สึกสังเวชตนเองที่อยู่มานานขนาดนี้ คล้ายเป็นบทลงโทษจากพระเจ้า
เมื่อไม่นานมานี้เกิดเป็นข่าวใหญ่โตไปทั่วโลก หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ David Goodall ตัดสินใจจบชีวิต 104 ปีของตนด้วยวิธีการการุณยฆาตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เหตุเพราะสุขภาพที่ถดถอย จนไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว… และความคิดในเชิงดังกล่าวก็เกิดขึ้นกับ Koku Istambulova หญิงชราจากรัฐเชเชน ชาวรัสเซียวัย 128 ย่างเข้าสู่ปีที่ 129 กล่าวว่าวันเกิดที่กำลังจะมาถึงไม่ใช่อะไรนอกเสียจากเป็น ‘บทลงโทษ’ จากพระเจ้า และด้วยอายุที่เข้าใกล้ 129 ปี นั้นทางรัฐบาลรัสเซียได้ประกาศว่า เธอจะเป็นหญิงชราที่มีอายุมากที่สุดในโลกในวันที่ 1 มิถุนายนที่กำลังจะมาถึงนี้ (คุณยายเกิดในปีค.ศ. 1889) สำหรับคุณยาย Istambulova นั้น ผ่านช่วงเวลาประวัติศาสตร์มาอย่างโชกโชน อย่างเช่นในช่วงอายุ 27 ปี ก็เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติรัสเซีย อายุ 55 ปี ก็เป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง และ 102 ปี เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย ในช่วงสงครามเธอจำได้ว่ารถถังของฝ่ายนาซีเยอรมัน วิ่งผ่านหน้าบ้านของเธอด้วย และเคยถูกสตาลินเนรเทศพร้อมกับชาวบ้านเชเชน ย้ายไปหลบที่คาซัคสถานและไซบีเรีย เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าให้ความร่วมมือกับพวกนาซี …
-
ลูกค้าเดือดเถียงพนักงานไฟแล่บ ดูแววท่าจะแพ้ ‘ล้างลำไส้’ กลางร้าน ปาอาวุธชีวภาพใส่!!
บ่อยครั้งภายในร้านค้าหรือร้านอาหารต้องให้บริการลูกค้ามากหน้าหลายตา อารมณ์ของลูกค้าแต่ละคนก็มีขีดจำกัดไม่เท่ากัน ยิ่งเป็นในต่างประเทศ หากเกิดความไม่พอใจ อาจมีการต่อว่าตำหนิอย่างรุนแรงตามมา… เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศแคนาดา ภายในร้านอาหาร Tim Hortons เป็นการฉะหน้ากันระหว่างลูกค้าขี้โมโหกับพนักงานแคชเชียร์หน้าร้าน ซึ่งโดยเบื้องต้นแล้วยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการปะทะครั้งนี้ แต่ภาพเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ได้ กลายมาเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง หลังจากที่ลูกค้ารายนี้ชี้หน้าด่าพนักงานด้วยความไม่พอ แถมดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอม และตัวเองกำลังจะแพ้… เถียงยังไม่ทันขาดคำ เธอตัดสินใจล้างลำไส้ตัวเอง ถกกางเกงลงกลางร้านพร้อมดำเนินการ ‘ล้างลำไส้’ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว อาวุธชีวภาพที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเธอ ถูกคว้าขึ้นมาจากพื้นและปาใส่หน้าพนักงานทันที!! ก่อนที่จะคว้ากระดาษเช็ดมือมาเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรก และปาใส่พนักงานซ้ำอีกรอบ ภายหลังจากเกิดเรื่องไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Royal Canadian Mounted Police ที่รับผิดชอบในท้องที่ ยืนยันว่าได้ทำการจับกุมและปล่อยตัวลูกค้าคนดังกล่าวไปเป็นการชั่วคราวแล้ว เพราะต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาการตั้งข้อหาเสียก่อน คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร้าน สำหรับประเทศแคนาดา หากประชาชนกระทำอนาจารในที่สาธารณะ ด้วยเหตุจงใจเหยียดหยามหรือรุกรานผู้อื่น อาจถูกตัดสินมีความผิดตามข้อกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ที่มา: barstoolsports, dailymail
-
เด็กน้อยสุดจะกลั้น ถอดกางเกงชิ้งฉ่องตอนพ่อแม่กำลังขอแต่ง หมดกันความโรแมนติก
ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของเหล่าคู่รักและควรค่าที่จะได้รับการจดจำมากที่สุดนั่นก็คือ ช่วงเวลาของการขอแต่งงาน เมื่อความรักของแต่ละฝ่ายมาถึงจุดที่สุกงอมจนคิดว่าน่าจะมาลองเริ่มต้นการใช้ชีวิตด้วยกัน การขอแต่งงานเป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มชีวิตคู่ อย่างเช่นคู่รักจากเมืองเบย์ซิตี้ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา Kevin Przytula กับ Allyssa Anter ที่ได้คบหาดูใจกันมาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทั้งสองต่างก็มีลูกติด 1 คน Kevin มีลูกสาว อายุ 11 ปี ชื่อว่า Kayleigh และ Allyssa มีลูกชายอายุ 3 ปี ชื่อน้อง Owen และช่วงเวลาดีๆ ของคู่รักคู่นี้ก็มาถึง เมื่อ Kavin ตัดสินใจจะขอ Allyssa แต่งงาน เขาได้วางแผนกับลูกสาวไว้ และให้เธอถ่ายคลิปวิดีโอเก็บเอาไว้ด้วย ทั้งคู่เดินมาและหยุดที่หน้าน้ำพุ โดยมีลูกชายตัวน้อยยืนเล่นอยู่ข้างหลัง ช่วงเวลาสุดโรแมนติกก็เกิดขึ้นเมื่อ Kevin คุกเข่าลงและขอแต่งงาน เหมือนโลกทั้งใบเหลือเพียงแค่เขาและเธอสองคน หลังจากที่เขาขอเธอแต่งงาน ทั้งคู่ก็มองตากันอย่างหวานซึ้ง ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะตอบตกลงแบบไม่ลังเลใดๆ แต่ทั้งคู่ลืมไปว่า มีลูกชายเดินเล่นอยู่ข้างหลัง…
-
ส่องชีวิตคู่รักนักเดินทาง ที่มีผู้ติดตามมากว่า 100,000 คน พร้อมภาพสวยๆ จากทั่วโลก
Hannah Spelt และ Nick Noordijk คู่รักนักเดินทางที่โด่งดังบนโลกออนไลน์อย่างมาก ปัจจุบันมีผู้ร่วมติดตามการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกของพวกเขามากถึง 130,000 คน ทั้งสองเริ่มออกเดินทางเมื่อปี 2016 และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายผ่านเรื่องราวที่พวกเขาเขียนเอาไว้ในเว็บไซต์ส่วนตัว รวมถึงอินสตาแกรมด้วย และถ้าหากว่าอาชีพนักเดินทางคืออาชีพที่คุณใฝ่ฝันล่ะก็ ลองมาชมเรื่องราวของทั้งสองผ่านบทสัมภาษณ์จากสื่อต่างประเทศ รวมถึงวิถีชีวิตของการเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จของพวกเขาได้เลย… ทั้งสองเล่าวว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเขาสนใจการเดินทางมากกว่าการทำงานธรรมดาทั่วๆ ไปนั้นเริ่มต้นหลังจากที่ได้ออกเดินทางแบบแบ็คแพ็คเกอร์นานถึง 4 เดือน “ตอนนั้นเรามีผู้ติดตามประมาณ 5,000 คน และมีคนถามเราเกี่ยวกับการเดินทางมากมาย เราจึงตัดสินใจออกเดินทางเรื่อยๆ และทำให้พวกเขารู้จักเรามากขึ้น” หลังจากออกเดินทางได้ประมาณ 1 ปี พวกเขาก็ได้รับค่าตอบแทนก้อนแรก มันทำให้พวกเขาเริ่มเชื่อว่าการเดินทางก็สามารถหาเงินและสร้างรายได้ได้เช่นกัน ทั้งสองผ่านการเดินทางมาแล้วมากมายหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของพวกเขาก็คือการได้ท่องเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซค์ เพราะมันทำให้พวกเขาได้สัมผัสกับความสวยงามของสถานที่ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด “คุณสามารถชมสถานที่ต่างๆ ได้มากกว่าการนั่งรถโดยสารกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ซึ่งคุณไม่สามารถหยุดที่ไหนที่คุณอยากหยุดก็ได้” ความสวยงามของบอลลูนที่ Cappadocia ตุรกี พวกเขาก็เคยไปสัมผัสมาแล้ว และหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนมักจะสงสัยนั่นก็คือวิถีชีวิตของเหล่าบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวนั่นเอง ทั้งสองเล่าว่ามันค่อนข้างส่งผลกับชีวิตของพวกเขาอย่างมาก และการเป็นคู่รักนักเดินทางพวกเขาก็ต้องแยกเรื่องงานและความรักออกให้ชัดเจน ถึงแม้จะเป็นบล็กเกอร์นักเดินทางมาประมาณ 2 ปี แล้ว แต่ก็ยังมีบางประเทศที่ทั้งสองยังไม่เคยไปสัมผัสอย่างเช่นประเทศญี่ปุ่น และนั่นก็คือหนึ่งในลิสต์การเดินทางที่พวกเขาจะต้องไปเยือนสักครั้ง …
-
สถานีตำรวจในสหรัฐฯ ปล่อยภาพคนร้ายที่ถูกจับทั่วอเมริกา ที่มีใบหน้าแปลกสุดๆ
ทุกครั้งที่มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ในสหรัฐฯ ตำรวจจะนำตัวพวกเขามาถ่ายรูป Mugshot (หรือการถ่ายภาพผู้ต้องหาตั้งแต่ไหล่ขึ้นไป) เพื่อบันทึกภาพเหล่าผู้กระทำความผิดลงในระบบ ซึ่งก็มีผู้ต้องหาหลายคนที่ทำหน้าทำตาอยู่หลายแบบระหว่างการถ่ายภาพ ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ภาพของเหล่าผู้ต้องหาชุดล่าสุด ที่ให้เราเกิดความสงสัยในภาพใบหน้าอันคล้ายคลึงและมีจุดร่วมเหมือนๆ กันของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ทรงผม ลักษณะฟัน และดวงตาที่เบิกโพลง Michael Whitington (ซ้าย) ขณะยิ้มแย้มเหมือนมีความสุขแปลกๆ หลังถูกจับข้อหาปล้นแบงก์ และ Noel D Dawson Jr (ขวา) ที่ทำหน้าตาถมึงทึง หลังถูกจับเพราะใช้ขวานไล่สับใส่ครอบครัวหนึ่ง นาย Alan Dale Lee ถูกจับในข้อหาเสพยาเสพติดและได้รับขนานนามว่า ‘Dracula’ จากตำรวจในฟลอริดา ภาพเหล่านี้ถูกปล่อยออกมาจากสถานีตำรวจเมืองโมลตัน รัฐแอละบามา โดยที่บางภาพนั้นไม่ได้ระบุไว้ว่าคนในภาพเป็นใคร แต่พวกเขาก็ตัดสินใจปล่อยมันออกมาเพราะเห็นว่าภาพเหล่านี้ตลกดี ภาพนี้ไม่ระบุว่าผู้กระทำผิดเป็นใคร แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นขั้วตรงข้ามของกันและกัน . . นาย Michael Shoemaker ถูกจับในข้อหาใช้ปืนยิงลูกชายของตัวเอง …
-
รวบยูทูบเบอร์คู่รัก เพราะถ่ายคลิปตั้งแคมป์จับสัตว์ป่า “ใกล้สูญพันธุ์” มาทำอาหารกิน
แม้คดีเสือดำในบ้านเราอาจจะยังไม่เป็นที่กระจ่างชัดมากพอ (เนื่องจากหลายๆ สาเหตุ) แต่ที่ประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างกัมพูชานั้นได้มีการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษแล้ว เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro รายงานว่า 2 ยูทูบเบอร์คู่รักชาวกัมพูชาอย่าง Ah Lin Tuch และ Phoun Raty ได้ถ่ายคลิปวิดีโอการตั้งแคมป์ใกล้บ้านที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พร้อมกับแสดงวิธีการถลกหนัง แล่เนื้อ และนำสัตว์ป่าหลายชนิดมาทำอาหารและเผยแพร่ลงในยูทูบโดยอ้างว่าเป็นการสอนวิธีการเอาตัวรอดในป่า คลิปดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ชมและชาวกัมพูชาเป็นอย่างมาก จนมีการนำคลิปของพวกเขาไปรายงานต่อกระทรวงสิ่งแวดล้อม ตามรายงานบอกว่าสัตว์ที่พวกเขานำมาทำอาหารนั้นมีตั้งแต่ กบ กิ้งก่าขนาดใหญ่ งูจงอาง ปลากระเบน ปลาฉลาม และนกอีกหลายสายพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครอง กระทรวงสิ่งแวดล้อมและคุ้มครองธรรมชาติของกัมพูชาเปิดเผยว่า ตอนนี้พวกเขาได้นำตัวทั้ง 2 คนมาดำเนินคดีแล้ว เบื้องต้นพบว่าสัตว์ที่พวกเขาฆ่าและนำมาทำอาหารนั้นไม่ได้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ แต่เป็นสัตว์ที่ถูกจัดให้สัตว์ที่ได้รับการคุ้มครอง ซึ่งในบรรดาสัตว์ทั้งหมดมีเพียงแค่ “เสือปลา” เท่านั้นที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ . ภาพขณะที่เธอนำเอาสัตว์มาทำอาหาร . . ด้านนาง Ah Lin Tuch หลังถูกดำเนินคดีก็ได้ออกมาขอโทษสังคมโดยอ้างว่าเธอและสามีรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้ว่าสัตว์ที่พวกเธอกินเข้าไปจะส่งผลต่อระบบนิเวศอย่างไรบ้าง…
-
สาวผู้หลับนอนกับ ‘ปั๋วของคนอื่น’ มากกว่า 100 คน เพื่อทำให้ชีวิตครอบครัวของพวกเขาดีขึ้น!?
อย่างที่เรารู้กันดีว่าเรื่องของ ‘ชีวิตคู่’ เป็นเรื่องของคนสองคน หากเมื่อไหร่ที่มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องก็เท่ากับว่าชีวิตคู่ขอคุณมีความเสี่ยงที่จะเดินทางไปถึงจุดจบ แต่สำหรับ Gweneth Lee สาววัย 47 ปี แล้วกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะเธอนอนกับ ‘สามีของคนอื่น’ เป็นอาชีพ และเปิดเผยว่าการทำแบบนั้นเป็นการช่วยเหลือชีวิตของพวกเขาอีกด้วย!! Gweneth เล่าว่าเธอทำแบบนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ที่สามีของเธอ Robert เสียชีวิตไป เธอหลับนอนกับผู้ชายที่มีครอบครัวมากมาย และรับรายได้ไปเหนาะๆ ปีละ 4 ล้านบาท จากการทำแบบนั้น Gweneth และอดีตสามี Robert Gweneth เล่าว่าทุกอย่างมันเริ่มต้นเมื่อเธอตัดสินใจสมัครเว็บไซต์ IllicitEncounters.com ซึ่งเป็นเว็บหาคู่สำหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มมีสัมพันธ์กับผู้ชายมากกว่า 100 คน บ้างก็เป็นนักธุรกิจ บ้างก็เป็นผู้กำกับหนัง บ้างก็เป็นคนรวยที่มีเครื่องบินส่วนตัวเป็นของตัวเองก็มี นอกจากนี้เธอยังเล่าว่า “พวกเขามักจะเสนอค่าเครื่องบินให้ฉัน เวลาที่ติดต่อมาจากต่างประเทศ และบางครั้งฉันก็เป็นคนออกเอง” “มีครั้งหนึ่งที่ผู้ชายคนหนึ่งนัดฉันไป ขณะนั้นเขาไปเที่ยวร่วมกับครอบครัว ภรรยาและลูกของเขาที่นิวยอร์ก ฉันต้องไปจองโรมแรมที่อยู่ห่างจากที่พักของเขาประมาณ 16…
-
โจรใจโหดดักปล้นชิงทรัพย์หญิงสาว ทิ้งอาวุธคาใบหน้าเหยื่อ แต่รอดชีวิตมาได้หวุดหวิด…
*ภาพประกอบเนื้อข่าวต่อไปนี้มีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน* ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทั้งผู้ชายหรือผู้หญิงการเดินในสถานที่เปลี่ยวและมืด อาจตกเป็นเป้าหมายของเหล่าโจรที่คอยจ้องชิงทรัพย์ได้ทุกเมื่อ และสิ่งที่เกิดขึ้นอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นได้… เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นกับสาววัย 19 ปี ไม่ระบุนาม หลังจากที่เธอเสร็จสิ้นงานผู้ช่วยผู้จัดการร้านและกำลังเดินทางกลับ ในช่วงคืนวันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2018 เธอได้เผชิญหน้ากับโจรที่หวังปล้นทรัพย์ พยายามแย่งกระเป๋าถือที่ติดมือเธออยู่… ท่ามกลางช่วงจังหวะชุลมุน เธอพยายามขัดขืนสุดแรงเกิด โจรร้ายนี้จึงเข้าประชิดตัวก่อนที่จะทำการปักมีดลงบนใบหน้าของเหยื่อ ชิงกระเป๋าถือพร้อมสิ่งของมีค่าและหนีออกจากสถานที่เกิดเหตุ ในบริเวณย่านอุตสาหกรรม Bukit Tengah รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ประมาณเวลา 21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า เธอเดินผ่านซอยมืดและเปลี่ยวจึงเป็นเหตุทำให้โจรเลือกลงมือ “เธอขัดขืนและยื้อกับชายคนหนึ่งที่พยายามชิงทรัพย์… เขาใช้มีดแทงเข้าที่ใบหน้าของเธอและก็หนีไป ทิ้งมีดปักไว้อยู่อย่างนั้น ส่วนเหยื่อก็ได้รับความช่วยเหลือจากประชาชนพลเมืองดี” ภาพที่เห็นจากจุดเกิดเหตุ เผยให้เห็นสภาพของเหยื่อหญิงสาวในสภาพที่นั่งนิ่งและมีสติ แม้จะมีมีดปักอยู่แก้มด้านขวาของเธอก็ตาม ในขณะที่พลเมืองดีกำลังพยายามทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้… ทางด้านโฆษกตำรวจในพื้นที่กล่าวว่า กำลังทำการตามล่าตัวชายวัยฉกรรจ์ผู้ลงมือชิงทรัพย์ของหญิงสาวรายนี้ โดยที่เปิดเผยว่าเหยื่อได้รับบาดเจ็บทั้งบริเวณหน้าท้องและคอ แก้มด้านขวาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกมีดแทง อย่างไรก็ตาม เหยื่อได้รับการรักษาฉุกเฉินหลังจากเกิดเหตุแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรอคำให้การจากเธออยู่ …
-
พ่อวัย 37 ปี ถูกแจ้งข้อหาข่มขืนลูกสาว เบื้องต้นไม่ยอมรับ ก่อนจะจำนนด้วยผลตรวจ DNA
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหนุ่มอเมริกันรายหนึ่ง หลังจากที่ถูกจับกุมในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศลูกสาววัย 20 ปีของตัวเอง จนลูกสาวตั้งท้อง นาย Gregory Michael St. Andre จากรัฐมิชิแกนถูกแจ้งข้อหาร่วมประเวณีกับคนในครอบครัวและล่วงละเมิดทางเพศในระดับ 3 หลังจากที่ผลตรวจ DNA พบว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้องลูกสาวตัวเอง การสืบสวนสอบสวนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่แม่ของเด็ก ได้แจ้งความกับตำรวจหลังจากที่ลูกสาวของเธอให้กำเนิดเด็กทารกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเธอสงสัยว่าลูกสาวของเธอนั้นถูกล่วงละเมิดทางเพศ Michelle Truszkowski ป้าของหญิงสาวได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก “มันเทำให้ครอบครัวของเราต้องแตกสลาย นี่เป็นการกระทำที่น่าขยะแขยงและเขาควรได้รับโทษ” ผู้เป็นป้ากล่าว ภรรยาของ St. Andre ได้ยื่นคำร้องขอหย่า เธอบอกว่าตัวเธอเองเชื่อว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศมานานกว่า 5 ปี แล้ว แต่เธออ้างว่าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย ในตอนแรกผู้ต้องหาได้ให้การปฎิเสธ พร้อมบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขาไม่ได้ข่มขืนลูกสาวตัวเอง เขาแค่เอาถ้วยใส่อสุจิให้เธอเท่านั้น และไม่รู้ว่าเธอทำอะไรกับมันหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่บอกว่าคำให้การของผู้ต้องหานั้นไม่ตรงกับลูกสาวของเขา นาย St. Andre ถูกตั้งข้อหาเมื่อประมาณต้นเดือนพฤษภาคม ก่อนที่ได้รับการประกันตัวด้วยเงิน 5,000 เหรียญ (160,000 บาท) อย่างไรก็ตามเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อัยการได้เรียกตัวเขาอีกครั้งเพื่อขอตรวจ DNA ก่อนจะเพิ่มวงเงินประกันเป็น 60,000 เหรียญ…
-
รู้หรือไม่!? เสื้อยืดสีเทาของ Mark Zuckerberg ที่เราเห็น ตัวละ 12,000 เลยนะจ๊ะ!
คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับ ชายผู้เปลี่ยนโฉมหน้าของการสื่อสารโลกอย่าง Mark Zuckerberg อย่างแน่อน และนอกจากความเก่งของพ่อหนุ่มคนนี้แล้ว สิ่งที่เรามักจะเห็นกันอย่างชินตานั่นก็คือยูนิฟอร์มของพี่แกนั่นเอง CEO ของเฟซบุ๊กผู้นี้ มักจะปรากฏตัวออกมาพร้อมกับเสื้อยืดสีเทา เสื้อฮูดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบ จนเป็นภาพที่หลายๆ คนชินตา และยกย่องว่าพี่มาร์กของเรานี่ช่างแต่งตัวเรียบง่ายซะจริงๆ แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าการจะคอสเพลย์เป็นพี่มาร์กของเราให้เหมือนเป๊ะๆ นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องถูกๆ เพราะคุณจะต้องมีเงินอย่างน้อยๆ 10,000 บาท! เว็บไซต์ Business Insider เผยว่า เสื้อยืดสีเทาที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ นั้น ไม่ใช่เสื้อยืดธรรมดาๆ ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านเสื้อทั่วไปหรอกนะ แต่มันคือเสื้อยืดคอลเลคชั่นที่เขาสั่งพิเศษจาก Brunello Cucinelli แบรนด์หรูจากอิตาลี ที่สนนราคาประมาณ 300-400 เหรียญ (ประมาณ 9,600-12,000 บาท) ต่อตัวเลยทีเดียว และเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาทางด้าน Klaus Buchroithner ผู้บริหารจาก Vresh Clothing ก็ได้เกิดไอเดียเจ๋งๆ ขึ้น เพื่อให้แฟนๆ ของ CEO หนุ่มรายนี้ได้มีเสื้อสีเทาเท่ๆ ใส่ แถมยังได้ร่วมทำบุญอีกด้วย โดยทาง Buchroithner…
-
คู่รักค้นพบเซฟในสวนหลังบ้านที่เต็มไปด้วย ทอง หยกและเงินจำนวนกว่า 1.6 ล้านบาท!!
ทุกๆ วันที่ 1 และวันที่ 16 ของแต่ละเดือน เรียกได้ว่าเป็นวันแห่งความหวังของคนไทยทั้งหลายเลยก็ว่าได้เพราะว่ามันคือ วันหวยออก วันที่เราฝากความหวังไว้กับสลากกินแบ่งว่าเราได้เงินจากการเสี่ยงทายเลข เผื่อได้รางวัลที่ 1 มาอาจจะเป็นเศรษฐีได้โดยไม่รู้ตัว เงินนี่ถ้าลอยมาจากฟ้าหรือขุดมาจากใต้ดินได้ฟรีๆ ก็ดีสินะ เมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ Matthew และ Maria Colonna-Emanuel คู่รักจากเกาะสแตเทน รัฐนิวยอร์ก ได้ทำความสะอาดที่สวนหลังบ้านของพวกเขา ในขณะที่สองสามีภรรยากำลังช่วยกันทำความสะอาดสวน ก็ต้องพบปัญหาเมื่อกวางแทะต้นไม้ซะเสียหาย จึงต้องหาต้นไม้ใหม่มาปลูกแทน แต่พอพวกเขาไปดูที่ต้นไม้ที่กวางแทะจนหมดนั้น สายตาก็พลันไปพบเจอกับกล่องใบหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน มันคือตู้เซฟเก่าๆ ใบหนึ่งซึ่งข้างในนั้นน่าจะซ่อนอะไรไว้อยู่ คู่รักจึงขุดกล่องใบนั้นขึ้นมา มันเป็นตู้เซฟที่อดีตเคยเป็นสีขาว แต่ตอนนี้มันอยู่ในสภาพเก่าและมีสนิมขึ้นโดยรอบ ด้วยความอยากรู้ว่าข้างในมีอะไร เผื่อที่ว่าจะสามารถส่งคืนกลับเจ้าของได้ จึงได้พยายามเปิดตู้เซฟใบนี้ พอเปิดมันออกได้ก็พบว่ามีสมบัติมากมายที่ซ่อนอยู่ในนั้น ภายในเซฟเต็มไปด้วยอัญมณีทั้งหยก เพชร พลอย ทับทิม ทอง และเงินสดกว่า 52,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 1.66 ล้านบาท พร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่งที่ระบุชื่อเจ้าของ เจ้าของเซฟใบนั้นคือเพื่อนบ้านของเขานั้นเอง เพื่อนบ้านถูกโจรปล้นไปเมื่อ…
-
หญิงโทรแจ้งตำรวจ…เพราะเห็นชายผิวสี ‘ไขประตูเข้าบ้านของเขาเอง’!? เงิบสิครับ
จากเหตุการณ์ หญิงสาวโทรแจ้งตำรวจเพราะครอบครัวผิวสีจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวในสวนสาธารณะ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตมากมายให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาก็มีรายงานข่าวลักษณะเดียวกันผ่านทางเว็บไซต์เดลี่เมล ระบุว่ามีผู้หญิงผิวขาวรายหนึ่งโทรแจ้งตำรวจ หลังเห็นชายผิวสีพยายามไขกุญแจเข้าบ้านที่อยู่ข้างๆ บ้านของเธอ แต่เรื่องมันพีคตรงที่ว่า บ้านหลังนั้นเป็นของ ‘ชายผิวสี’ คนดังกล่าว ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อไม่นานมานี้เอง!! นาย Michael Hayes เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้ทำการถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์เอาไว้และโพสต์ลงเว็บไซต์ยูทูบ จนมีคนให้ความสนใจและเข้ามาชมมากกว่า 1.4 ล้านครั้ง เขาเล่าในคลิปว่าหญิงสาวคนดังกล่าวบอกว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นี่ และขอให้เขาย้ายออกไปเสีย “เพื่อนบ้านวิ่งออกมาที่หน้าบ้าน ขณะที่ผมกำลังพยายามที่จะเปิดประตูบ้าน แล้วตะโกนว่า ‘มึ*ทำเหี้*อะไร!?’” “ผมพยายามอธิบายให้เธอฟังอย่างใจเย็นว่าผมมีหลักฐานการเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้นะ ที่มานี่ก็เพราะว่าผมจะตรวจดูบ้านเท่านั้นเอง” เขาเขียนเล่าตอนต้นคลิปวิดีโอ Hayes เล่าต่อว่าเธอกรี๊ดใส่เขาแล้วก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ “เธอโกหกว่ารู้จักกับเจ้าของบ้าน และเจ้าของบ้านที่เธอรู้จักก็ไม่ชอบให้ใครมาทำอะไรกับบ้านหลังนี้ อย่างไรก็ตามผมมีหลักฐานมายืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่าผมสามารถเข้าบ้านหลังนี้ได้” “เธอโทรแจ้งตำรวจต่อหน้าผม ผมก็เลยตัดสินใจที่จะรอพวกเขามา เพราะผมไม่มีอะไรปิดบัง” เขาถ่ายคลิปวิดีโอขณะรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ขณะเดียวกันผู้หญิงคนดังกล่าวก็ตะโกนด่าเขาจากระเบียงบ้าน “รีบเข้าไปในบ้านแล้วก็ขโมยของที่แกต้องการไปซะ เร็วๆ เข้า รีบหน่อย!! เสร็จแล้วก็รีบหนีไปซะ”…
-
โคตรเทพ!! มาดูการใช้ Visual Effects สร้างแต่ละฉากในเรื่อง Avengers: Infinity War
ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่แสนตื่นตาตื่นใจนั้นแน่นอนว่าคอมพิวเตอร์กราฟิกหรือ Visual Effect (VFX) นั้นมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์เหนือจินตนาการเรื่องต่างๆ จากค่าย Marvel ต้องบอกเลยว่ากว่าจะออกมาเป็นฉากต่อสู้สุดมันส์หรือฉากใช้พลังสุดเท่นั้นต้องผ่านความยากลำบากของเหล่าทีมงาน VFX มาก่อนทั้งนั้น โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Avengers: Infinity War โดยผู้นำทีม VFX ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ Dan Deleeuw โดยกว่าจะออกมาเป็นฉากสุดเท่แต่ละฉากได้นั้นต้องผ่านกระบวนการร่างและเรนเดอร์เก็บรายละเอียดต่างๆ มากมาย วันนี้จึงขอนำเสนอตัวอย่างการสร้าง VFX ในแต่ละฉากมาให้ชมเป็นน้ำจิ้มๆ แล้วคุณจะรู้ว่าคอมพิวเตอร์กราฟิกนั้นเป็นหัวใจสำคัญของภาพยนตร์เลยจริงๆ Iron Man ฉบับร่าง และนี่คือ Iron Man ที่ปรากฏในหนัง องค์ประกอบรายละเอียดภายในหน้ากาก Iron Man เมื่อหน้ากากมีรอยแตกจะเห็นโครงสร้างแสนละเอียดอยู่ภายใน Thanos เวอร์ชันเกือบสมบูรณ์ ขาดเพียงแต่งแสงและเงาให้สมจริง และนี่คือผลงานที่ทำออกมาให้พวกเราได้รับชมกัน สมจริงสุดๆ ดูการร่างใบหน้าของ Thanos หากทำเป็นเกม ภาพนี้ถือว่าทำได้โอเคทีเดียว แม้ว่าแสงเงายังไม่สมจริงและดูมันๆ ไปหน่อย…
-
สื่อนอกเผย หัวหน้า ISIS ระดับสูง ผู้สั่งประหารเผานักบินในกรงทั้งเป็น ถูกจับกุมตัวได้แล้ว!!
ความวุ่นวายบนผืนแผ่นดินซีเรียยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงในเร็ววัน มันยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เปรียบเสมือนดั่งนรกบนดิน มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก… อีกทั้งยังมีการแสดงเจตนาอันร้ายแรง ประกาศศักดาให้โลกได้รับรู้ของความเหี้ยมโหดเกินมนุษย์ของกลุ่ม ISIS ที่มักจะมีการปล่อยภาพคลิปวิดีโอประหารตัวประกันผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเบื้องหลังเหล่านั้นมีผู้บัญชาการกลุ่ม ISIS ระดับสูงคอยบงการอยู่ และครั้งหนึ่งที่โลกได้จดจำความโหดร้ายจากการกระทำอันโหดเหี้ยม เผานักบินเชลยชาวจอร์แดนทั้งเป็นในกรง จากปี 2015 บัดนี้ 1 ใน 4 ผู้บัญชาการระดับสูง ถูกจับกุมตัวในอิรักแล้ว… Saddam al-Jamal หนึ่งในผู้นำระดับสูงของกลุ่ม ISIS ถูกจับกุมตัวได้แล้ว (ภาพจากการแถลงข่าวผ่านฝั่งรัฐบาลอิรัก) เว็บไซต์เดลี่เมลเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2018 Saddam al-Jamal หนึ่งในผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่ม ISIS ถูกจับกุมตัวและคุมขังจากการกระทำที่เชิดชูลัทธิแห่งความตาย นิยมความโหดเหี้ยมด้วยการตัดหัวนักโทษและเชลยศึก ทางด้านหน่วยความมั่นคงประเทศจอร์แดน เชื่อว่าเขาเป็นผู้ชักใยการฆ่าอันโหดเหี้ยมที่เกิดขึ้นกับนักบิน Muath al-Kasasbeh ในปี 2015 ของกองทัพอากาศจอร์แดน ที่ถูกยิงเครื่องตกในเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย Muath al-Kasasbeh นักบินชาวจอร์แดนที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งภายหลังจากที่ถูกยิงตกไม่กี่สัปดาห์ ISIS ได้ปล่อยวิดีโอคลิปที่เผยให้เห็นนักบินวัย…
-
นักออกแบบนำ ‘ภาพวาดของเด็ก’ ทำเป็นเกมเล่นได้จริง ครูแอโรบิคชวนหัวร้อนจะรอดมั้ยหว่า!?
กาลเวลาที่แปรเปลี่ยนเวียนผัน อุตสาหกรรมต่างๆ ก็พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีบ่อยครั้งที่มักจะนำเรื่องราวในอดีตมาปัดฝุ่นเกลาให้ทันสมัยเข้ากับยุคเช่นกัน… ยกตัวอย่างจากนิตยสารสายเกม Velikiy Drakon จากประเทศรัสเซีย (ปิดตัวไปแล้วในปี 2003) ที่จะมีคอลัมน์เปิดโอกาสให้แฟนคลับได้ส่งแฟนอาร์ทเข้ามา ภาพวาดต้นฉบับจากปี 1995 ซึ่งในช่วงปี 1995 นั้นมีเด็กคนหนึ่งส่งภาพวาดด่าน 3 ชั้นในเกมในจินตนาการของตัวเองเข้ามา ลักษณะเหมือนคุกใต้ดินที่ผู้กล้าจะต้องหาทางออกไปยังด่านต่อไป แทบจะถอดแบบมาจากเกมแส้ Castlevania ไม่มีผิด มีทั้งค้างคาว ใยแมงมุม โลงศพใส่ผี… อะต้าาาาาาา!! Ilya Chentsov นักออกแบบสายอินดี้ จึงได้หยิบยกภาพดังกล่าวที่มีอายุมากถึง 23 ปี นำมาชุบชีวิตให้กับมันอีกครั้งทำออกมาเป็นเกมที่เล่นได้จริง มาในชื่อรัสเซียยาวเหยียด ‘Возвращение в замок злого колдуна’ (ชื่อย่อ BB33K) แปลเป็นไทยได้ประมาณ ‘หวนคืนสู่ปราสาทพ่อมดผู้ชั่วร้าย’ ภัยอันตรายแฝงมาทุกย่างก้าว หนึ่งในความท้าทายของงานนี้ ต้องทำให้แน่ใจว่าทุกชิ้นส่วนในงานต้นฉบับจะต้องขยับได้ ไร้การเสริมเติมแต่งใดๆ และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็ดูน่าทึ่งไม่น้อยเลย… อย่างเช่นหยดน้ำที่ตกลงมาจะกลายเป็นแอ่งน้ำได้…
-
หนุ่มได้รับข้อความจาก ‘พ่อที่เสียไปแล้ว’ นึกว่าเรื่องเหนือธรรมชาติ ทำไมแม่ไม่บอกก่อน!?
เมื่อหลายคนเชื่อว่ามีโลกแห่งความตายอยู่ หากคนๆ หนึ่งเสียชีวิตไป วิญญาณของเขาจะยังคงวนเวียนอยู่ในสังคมมนุษย์ทุกวันนี้อยู่ บางคนอาจเห็น บางคนอาจไม่เห็น สำหรับคนที่เห็น ว่ากันว่าวิญญาณเหล่านั้นจะมาปรากฎในหลายๆ รูปแบบ ทั้งเห็นภาพลางๆ ตาฝาด ได้กลิ่นคาวเลือด หูแว่วได้ยินเสียงหลอน และประสบการณ์อื่นๆ อีกมากมาย แต่เดี๋ยวนี้มันต้องพัฒนาไปตามกระแสโลกบ้าง ใครมันจะไปคิดล่ะว่าคนที่เสียชีวิตไปแล้ว จะสามารถส่งข้อความกลับมาหาคนที่ยังอยู่ได้ เฮ้ย… ไม่น่าเป็นไปได้มั้ง ตั้งเวลาส่งข้อความไว้รึเปล่า หรือว่าเจ้าตัวส่งมาในเวลานั้นจริงๆ? เหตุเกิดขึ้นกับนาย Stephen วัย 37 จากเมืองวุร์สเตอร์ ประเทศอังกฤษ เศร้าโศกเสียใจกับการที่มะเร็งปอดพรากชีวิตคุณพ่อของเขาไปเมื่อ 6 ปีก่อน จู่ๆ ก็มีข้อความจาก ‘พ่อ’ ส่งมาหาเขาซะงั้น ‘ทดสอบ’ นี่พ่อกำลังจะทดสอบอะไร พ่อเสียไปแล้วนะ!? ‘ทดสอบ’ คำสั้นๆ เพียงคำเดียวที่เขาได้รับ จากเบอร์ของคุณพ่อ ปล่อยให้เขาครุ่นคิดอยู่สักพัก นี่มันเกิดเรื่องเหนือธรรมชาติหรืออย่างไรกัน คุณพ่อจะลุกออกมาจากหลุมศพแล้วกดส่งข้อความแบบนี้เนี่ยนะ? เฉลยยยย คุณแม่: แม่จะลองส่งข้อความจากโทรศัพท์พ่อดูว่ามันยังใช้ได้รึเปล่า คุณลูก: แล้วทำไมแม่ไม่ลองกับเครื่องตัวเองเล่า…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจ 70 นายมาส่งเด็กชายที่โรงเรียน เพราะพ่อของเขา ‘เสียชีวิตในหน้าที่’
วัยเด็กถือเป็นวัยที่ต้องการความรักความอบอุ่นจากครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่หากมีคนในครอบครัวเสียไป เด็กเหล่านั้นต้องใช้ความพยายามในการมีชีวิตอยู่มากกว่าเด็กคนอื่นๆ เช่นเดียวกันกับเด็กชาย Dakota Pitt วัย 5 ขวบ ที่สูญเสียพ่อไปจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจ เขาจึงขอร้องให้เพื่อนร่วมงานของคุณพ่อไปส่งที่โรงเรียน จึงกลายเป็นเรื่องน่าประทับใจ เรียกน้ำตาจากชาวเน็ตได้มากมาย Rob Pitt คุณพ่อของเด็กชาย Dakota เป็นนายตำรวจวัย 45 ปี เขาออกไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม และถูกผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวปลิดชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ Dakota ต้องหยุดเรียน และเพิ่งจะกลับไปเรียนที่โรงเรียนประถมในรัฐอินเดียอาน่า และเมื่อวานนี้ เด็กชายขอให้เพื่อนร่วมงานของพ่อไปส่งที่โรงเรียน คุณแม่จึงติดต่อไปหาเพื่อนๆ ที่สถานีตำรวจและปรากฏว่าพวกเขาตกลงมาส่ง Dakota ไปโรงเรียนมากกว่า 70 คน!! พวกเขายืนอยู่เต็มสองข้างทาง ขณะที่เด็กชายเดินผ่านพร้อมกับสวมเสื้อที่มีตราตำรวจของคุณพ่อติดอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มอบเสื้อของหน่วย SWAT ให้กับเด็กชาย เจ้าหน้าที่ยังบอกกับ Dakota อีกว่าพวกเขาจะคอยอยู่ข้างหลังเสมอ และหากมีอะไรให้ช่วยเหลือก็บอกได้ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ Kelli Jones พี่สาวของคุณพ่อของเด็กชายกล่าวว่า “เขาจะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าพ่อของเขาน่ะเป็นฮีโร่ตัวจริง และสายเลือดไม่ใช่สิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นครอบครัวเพียงอย่างเดียว และพวกเราก็เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขา”…
-
โคตรเจ๋ง!! โชว์รูมโตโยต้า เอารถที่ถูกชน “พังยับ” มาจอดโชว์ กลยุทธ์โฆษณาสุดเหนือชั้น
ปกติแล้วเวลาที่เราเข้าชมโชว์รูมรถยนต์ เราจะเห็นว่ามีรถยนต์รุ่นต่างๆ ถูกจัดแสดงอย่างงดงาม โดยรถแต่ละคันนั้นก็จะต้องมาในลักษณะที่สมบูรณ์ไร้รอยขีดข่วน แต่ไม่ใช่สำหรับโชว์รูม Toyota of Surprise โชว์รูมโตโยต้าในรัฐแอริโซนาที่ได้นำรถรุ่น 2018 Camry LE. ที่สภาพ พังยับเยิน ทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรถมาตั้งโชว์ในโชว์รูม เรื่องราวมีอยู่ว่าในเช้าวันเดียวกันนั้นเอง นาย Ramon Suarez หนึ่งในพนักงานของโชว์รูมกำลังขับรถคันนี้ไปรับลูกค้าที่สนามบิน แต่กลับเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน นาย Ramon ถูกรถบรรทุกชนเข้าอย่างจังจากด้านหลัง และแรงกระแทกนั้นทำให้เขาพุ่งไปชนท้ายรถอีกคันที่อยู่ด้านหน้า เรียกได้ว่าเป็นการชนประกบหน้าหลังแบบแซนด์วิชกันเลยทีเดียว แต่นาย Ramon กลับเดินออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัยและไร้บาดแผล ทั้งที่ก็ไม่ได้คล้องพระหรือว่าเจิมรถมาแล้วแต่อย่างใด ซึ่งนี่เป็นเพราะระบบความปลอดภัยเวอร์ชันใหม่ที่โตโยต้าใส่ลงไปกับรถรุ่นนี้นั่นเอง ที่ทำให้บริเวณห้องโดยสารรวมทั้งประตูทั้ง 4 ด้านยังสามารถใช้ได้ปกติ แม้จะถูกชนอัดทั้งหน้าและหลัง ทางโชว์รูม Toyota of Surprise แห่งแอริโซนาก็เลยขอยืมรถของนาย Ramon ที่ถูกชนยับ มาวางโชว์เพื่อเป็นกลยุทธ์โฆษณาระบบนิรภัยของรถรุ่นนี้เลยก็แล้วกัน ป้ายเขียนว่า “อย่าสัมผัสกระจก” . เรียกได้ว่าเป็นการโฆษณาที่มีความเรียลสุดๆ ไปเลย ใครเข้าโชว์รูมมาเห็นรถพังยับแบบนี้เป็นต้องสนใจแน่นอนเลยล่ะ ที่มา: Toyota of Surprise
-
คุณแม่คิดว่าลูกสาวไม่สามารถพูดได้มาตลอด 5 ปี แต่ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเมื่อเธอพูดคำแรก
เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องสุดประทับใจของผู้ที่เป็นแม่ที่ชื่อว่า Briana Blankenship ชาวรัฐแอละบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา กับ Taylor ลูกสาวตัวน้อยวัย 5 ขวบ ลูกสาวของเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติก คุณหมอบอกว่าเธออาจจะไม่สามารถพูดได้ แต่คนเป็นแม่ก็ยังคงมีความหวังลึกๆ ว่าสักวันจะได้ยินเสียงน้อยๆ ของลูกสาวให้ชื่นใจสักครั้ง เนื่องจากว่าลูกสาวของเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติกและมีความผิดปกติทางด้านการประมวลผลทางประสาทสัมผัส วิธีการสื่อสารของแม่ลูกจึงต้องใช้ภาษามือและท่าทางที่สามารถเข้าใจได้ง่าย ผู้เป็นแม่ได้หาวิธีการรักษาลูกสาวด้วยวิธีการบำบัดแบบต่างๆ ทั้งการใช้โปรแกรมใน iPads ช่วยในเรื่องของการสื่อสาร ถึงแม้ว่าจะเป็นออทิสติกแต่หนูน้อยก็มีความสามารถพิเศษคือสามารถสะกดคำต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้คุณแม่ยังเลือกใช้กีฬายิมนาสติกมาเป็นตัวช่วยอีกด้วย และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริงในขณะที่คุณแม่กำลังจะพาเธอไปเรียนยิมนาสติกเพื่อพัฒนาเรื่องกล้ามเนื้อและประสาทสัมผัส คุณแม่บอกกับเธอว่ากำลังจะพาลูกไปเข้าคลาสสายจึงต้องซื้ออาหารจานด่วนจากร้านไดรฟ์ทรูกินกันก่อน ลูกสาวตัวน้อยของเธอก็หัวเราะคิกคักและยิ้มออกมาเพราะเธอรู้ว่าเธอจะได้ทานมันฝรั่งทอด เมนูโปรดของเธอนั่นเอง ทันใดนั้นเธอก็พูดออกมาหนึ่งคำ “Momma” (แม่) Briana แทบไม่เชื่อหูตัวเอง เธอถามว่า “เมื่อกี๊หนูพูดว่า Momma เหรอ?” แล้วหนูน้อยพูดอีกครั้งว่า “Momma” เธอจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือมาบันทึกวิดีโอทันที เสียงน้อยๆ เปล่งตามออกมา “Momma” พร้อมกับหัวเราะคิกคัก คงไม่ต้องบอกว่าคุณแม่นั้นดีใจมากแค่ไหน พอเธอบันทึกวิดีโอเสร็จแล้ว น้ำตาก็ไหลออกมาเต็มหน้าจนพนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น พอเธอได้รับอาหารแล้วก็โทรเล่าให้สามีและคุณแม่ของเธอฟัง ก่อนจะโพสต์คลิปวิดีโอลงในเฟซบุ๊กของเธอพร้อมกับแท็กสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ด้วย …
-
เพิ่มสีสันการดื่มชาตอนเช้าด้วย “ถุงชากบ” จากญี่ปุ่น ที่อาจทำให้คุณสดชื่นขึ้น…
หากคุณอยากเพิ่มสีสันให้กับถ้วยชาให้แตกต่างไปจากเดิมล่ะก็ นี่อาจจะเป็นถุงชาที่เหมาะกับคุณก็ได้ เพราะนี่คือถุงชารูปแบบใหม่ที่มีรูปลักษณ์เหมือนกบ แถมสีสันของชาที่ได้ก็แตกต่างไปด้วย ช่วงเดือนมิถุนายนถือเป็นฤดูฝนของญี่ปุ่น โดยปกติแล้วจะมีกบออกมารับน้ำฝนกันซะเยอะ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นไอเดียในการทำถุงชารูปกบในชื่อว่า Ocean-teabag และนอกจากนั้นสีของชาที่ได้ยังกลายเป็นสีฟ้าที่เหมือนกับน้ำฝนด้วย ให้ความรู้สึกสบายตามากขึ้น ส่วนผสม สีฟ้าที่ได้จากชานั้นไม่ใช่สีผสมอาหาร แต่เป็นสีที่ได้จากดอกอัญชัน ฉะนั้นจึงมั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอน นอกจากนี้ยังมีใบสเปียร์มินต์และใบสะระแหน่เพื่อเพิ่มความสดชื่น หน้าตาของเจ้ากบเมื่อแช่อยู่ในน้ำ . หน้าตาของถุงชาก่อนที่เราจะนำลงไปแช่น้ำร้อน หากใครสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Village Vanguard ได้เลย สนนราคาอยู่ที่ 1,820 เยน หรือประมาณ 530 บาท ต่อถุงชา 4 ถุง เหมาะแก่การซื้อไปดื่มเอง หรือจะซื้อเป็นของขวัญก็น่ารักไปอีกแบบนะ นอกจากถุงชารูปกบแล้ว ยังมีถุงชารูปแบบอื่นๆ ด้วยนะ ถุงชาหมี ถุงชารูปปลา ถุงชารูปแมว ที่มา soranews24
-
รายที่สองของวงการ Toshinobu Matsuo นักแสดง Kamen Rider ถูกจับข้อหายาเสพติด
Kamen Rider นั้นสำหรับหลายๆ คนแล้วคงเป็นแบบอย่างของคนดีที่รักในความยุติธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีของเด็กๆ และเป็นตัวอย่างฮีโร่ผู้ปกป้องผู้อ่อนแออย่างแน่นอน แต่แล้วความเหล่า Kamen Rider ผู้ขาวสะอาดก็ต้องมีเรื่องให้เสียชื่อเสียงกันจนได้เมื่อมีข่าว Tsunenori Aoki นักแสดงจาก Kamen Rider ถูกจับ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้หลายๆ คนต้องภาวนากันว่าอย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเลยเถอะ แต่ก็ราวกับเคราะห์ซ้ํากรรมซัดวงการ Kamen Rider เหลือเกิน เพราะเมื่อวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลกรุงโตเกียวได้ทำการเข้าจับกุมนาย Toshinobu Matsuo วัย 40 ปี นักแสดงผู้มีบทบาทในซีรีส์ Kamen Rider หลายภาคเป็นรายที่สองของวงการ บทบาทที่ Toshinobu Matsuo ได้รับในการแสดงซีรีส์ Kamen Rider นั้นได้แก่ Armadillo Orphnoch ซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์ประหลาดจากซีรีส์ Kamen Rider Faiz และ Kamen Rider Kabuki หนึ่งในแปด Kamen Rider ตัวหลักจาก Kamen Raider…
-
บรรณารักษ์ในสหรัฐฯ วอนผู้ใช้บริการ เลิกใช้ชีส เบค่อน ใบเลื่อย และเปลือกกล้วยคั่นหนังสือ
ทุกคนน่าจะเคยนำเอาของสิ่งต่างๆ ใกล้ตัวมาใช้เป็นที่คั่นหนังสือเมื่อเวลาที่เราผละจากหนังสือแล้วไปทำธุระอย่างอื่น อาจจะเป็นการเอาเศษกระดาษมาคั่นไว้ อ้าหน้านั้นไว้แล้วพลิกคว่ำ หรืออาจจะพิสดารกว่านั้นก็สุดแล้วแต่ แต่หากเป็นหนังสือตามห้องสมุดหรือร้านเช่าก็ควรจะระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมันอาจจะสร้างความปวดหัวให้กับเหล่าบรรณารักษ์ได้ นี่เป็นเรื่องราวความคับข้องใจของบรรณารักษ์สาว Anna Holmes ที่ทำงานอยู่ในห้องสมุดแห่งหนึ่งในวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา เธอได้ออกมาทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เกี่ยวกับกลุ่มผู้ใช้บริการผู้น่ารักที่มาใช้บริการยืมหนังสือ แต่ดันเอา “ชีส” มาใช้แทนที่คั่นหนังสือ Holmes ได้ทวีตไว้ว่า “ถึงผู้ใช้บริการที่น่ารัก ขอร้องล่ะว่าหยุดใช้ชีสมาเป็นที่คั่นหนังสือ ขอร้องจริงๆ พวกเรามีที่คั่นหนังสือให้ยืมแบบฟรีๆ นะ หรือจะใช้อะไรก็ได้ขอแค่มันไม่เน่าเสียน่ะ” หลังจากนั้นก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า John McGraw เข้ามาตอบทวีตของเธอว่า “ผมยังเจอใบเลื่อยข้างในหนังสือ ‘Inside Every Woman’ (ข้างในผู้หญิงทุกคน) ด้วย” ผู้ใช้ทวิตเตอร์ Suzy the Shelf Elf ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ชวนคลื่นไส้นี้เช่นกันว่า “ผมมีความรู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับการใช้อาหารเป็นที่คั่นหนังสือเหมือนกัน กรณีนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผมเกือบจะอ้วกในที่ทำงาน เพราะมันเป็นอะไรที่น่าขยะแขยงมาก” พร้อมกับโพสต์ภาพเปลือกกล้วย ที่ผู้ใช้บริการนำมาคั่นหนังสือจนหนังสือเสียหาย การกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดสำหรับคนที่ทำงานเกี่ยวกับหนังสือเลยก็ว่าได้ ทำให้เหล่าบรรณารักษ์และคนในทวิตเตอร์หลายคนเห็นอกเห็นใจเธอ พร้อมกับมีบางคนเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ว่าพวกเขาเองก็เคยเจออะไรแปลกๆ แบบนี้เช่นกัน โดยสิ่งแปลกปลอมที่ถูกใช้เป็นที่คั่นหนังได้แก่ บรอกโคลี,…
-
อยากปังต้องใจถึง!! คู่รักยอมจ่ายเงินเป็นล้าน เพื่อจ้างช่างถ่ายพรีฯ ให้ได้ระดับฮอลลีวูด
ในยุคสมัยที่การ ‘อวด’ เป็นสิ่งที่ใครๆ เค้าก็ทำกัน เพื่อให้ชาวบ้านชาวเมืองได้รับรู้วิถีชีวิต ไลฟ์สไตล์ รสนิยม ผ่านรูปถ่ายที่ดูดี มีความแกรนด์ ไม่เป็นแกนแถวบ้าน นั่นจึงทำให้หลายคนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อ ‘ความสมบูรณ์แบบ’ ความเวอร์วังอลังการนี้มีอยู่จริง และมันก็เกิดขึ้นในวงการรับถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของคู่รักชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโลเคชั่น เสื้อผ้าหน้าผม อุปกรณ์ประกอบฉาก การจัดท่าทางต่างๆ ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 12,700 บาท ยันไปถึง 31 ล้านบาท!! Olivia Martin-McGuire หนึ่งในช่างภาพที่อยู่ในแวดวงถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ในเมืองเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่าธรุกิจการถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่ กำลังเติบโตและมาแรงมากๆ และเป็นธุรกิจที่มีความจริงจังสูง ถ้าให้เปรียบเทียบเนื้องานก็อาจจะเป็นงานถ่ายภาพระดับฮอลลีวูดกันเลยทีเดียว “เจ้าสาวจะใส่เดรสที่ดูฟุ่มเฟือยเอามากๆ เพราะจะต้องมีหลากเฉดสี ไม่ใส่ส้นสูงก็รองเท้าผ้าใบหลายต่อหลายคู่ เพื่อวิ่งและเดินไปถ่ายในโลเคชั่นใหม่ๆ หาฉากใหม่ๆ… ในส่วนของเจ้าบ่าวก็จะมาในชุดสูทสุดสง่าเช่นกัน จะมีทีมงาน ช่างภาพ และสไตล์ลิสเดินตามต้อยๆ อย่างไม่ขาดสาย” เธอให้สัมภาษณ์กับ Daily Mail โลเคชั่นยอดนิยม ก็มักจะเห็นหลายคู่จ้างช่างภาพมาถ่ายเหมือนกัน เธอเผยว่าช่วงที่เคยรับงานนั้นก็มีหลากหลายรสชาติ โดยหนึ่งในโลเคชั่นยอดนิยมสำหรับบ่าวสาวก็คือ…
-
โกรธใครมา… หญิงชี้หน้าด่าชูนิ้วกลาง ไล่ชายอัฟกันกลับประเทศ ถูกลงดาบไล่ออกหลังคลิปหลุด!!
การให้ความเคารพผู้อื่นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับใครก็ตามที่ยังคงมองผู้คนจากภายนอก ภาพลักษณ์ภาพจำที่คนคนนั้นมีเชื้อชาติแตกต่างไปจากตน ต่อให้เป็นพลเมืองในชาติเดียวกันภายหลังก็ตามที… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนาย Monir Omerzai และผองเพื่อน ที่ต้องเผชิญหน้ากับหญิงชาวแคนาดานามว่า Kelly Pocha ภายในร้านอาหาร Denny ณ เมืองเลทบริดจ์ รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา หญิงแคนาดาเดือด ใช้วาจาและกิริยารุนแรงไล่กลับประเทศ คลิปทั้งหมดถูกบันทึกและเผยแพร่ผ่านโลกอินเทอร์เน็ตมาได้ไม่นานนัก และกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็ว เมื่อนาย Omerzai ผู้มาจากอัฟกานิสถานเมื่อ 13 ปีที่แล้ว พร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน ใช้ภาษาท้องถิ่นพูดคุยภายในร้าน ก็เจอกับคู่กรณี Pocha เดือดดาลชี้หน้าด่าแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย “หุบปากเน่าๆ ของเอ็งซะ” Pocha เปิดบทสนทนาที่ดูเหมือนจะเป็นการด่าในต้นคลิป “พวกเอ็งรู้มั้ยว่า กำลังเผชิญหน้ากับหญิงชาวแคนาดาตัวจริง กรูจะปีนข้ามโต๊ะไปต่อยปาก*งเดี๋ยวนี้แหละ” แม้ว่าทางฝั่ง Omerzai จะคลี่คลายความเดือดด้วยเสียงหัวเราะกลบเกลื่อน แต่อีกฝั่งไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้น “กลับประเทศ*งไปเลย พวกกรูไม่ต้องการพวก*งอยู่ที่นี่” ฝ่ายผู้เป็นสามีของนาง Pocha ก็ห้ามปรามทั้งภรรยาตัวเอง และบอกให้อีกฝ่ายใจเย็น…
-
แฟชั่นเป้ “สะพายนม” จากสาวญี่ปุ่น อาจกำลังจะกลายเป็นกระแสแฟชั่นใหม่ก็ได้นะเนี่ย!
กระเป๋าสะพายหลัง คือกระเป๋าที่มีสายสองเส้นสำหรับสวมแขนทั้งสองข้าง โดยสายนั้นจะคล้องอยู่บริเวณหัวไหล่ แต่วันนี้สาวญี่ปุ่นนางหนึ่งได้สะพายกระเป๋าในอีกวิธี แถมเป็นวิธีที่หนุ่มๆ เห็นเป็นต้องชอบเสียด้วย!! ชาวเน็ตเรียกมันว่าการ “สะพายนม” เอ๊ะ! มันเป็นยังไงกันแน่นะ ไปดูกันเลย Yui Okada ผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @dotetinyui ได้ออกมาโพสต์ภาพที่เธอใช้กระเป๋าสะพายหลังมาสะพายในลักษณะที่ไม่ได้คล้องกับไหล่ แต่มันคล้องกับ เอ่อ… ตรงกลางของหน้าอก! เธอเขียนว่า “นี่คือการสะพายกระเป๋าด้วยหน้าอก” https://twitter.com/dotetinyui/status/995194350714765312 ในโปรไฟล์ของเธอ Okada บอกว่าเธอเป็นคนที่ทำดีวีดีคอสเพลย์สไตล์ผู้ใหญ่ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการแต่งกายเป็นตัวการ์ตูนสไตล์วาบหวิวอะไรทำนองนั้น บางคนบอกว่ามันดูท่าทางจะเจ็บ แต่เธอบอกว่ามันไม่เจ็บ เพราะเธอไม่ได้ทำแบบนี้ตลอด เธอแค่ทำเพื่อความตลกและความบันเทิงเท่านั้นเอง แถมยังใจดีสำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจว่าสายมันคล้องอยู่ตรงไหนกันแน่ เธอจึงโพสต์ภาพเพิ่มเติม แบบ “ถอดเสื้อ” เพื่ออธิบายให้เห็นชัดๆ อ่อ มันคล้องอยู่แบบนี้นี่เอง https://twitter.com/dotetinyui/status/995444434861871104?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F05%2F15%2Fbusty-cosplayers-boobpack-has-fans-hoping-it-becomes-japans-next-fashion-trend%25e3%2580%2590photos%25e3%2580%2591%2F&tfw_creator=NatsuKazeOtoko ทั้งนี้ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์กันมากมายเช่น: “นี่เป็นไอเดียที่เยี่ยมยอดมากๆ” “บะลั่กกั่กเสียจริงๆ” “นี่มันจะทำให้เกิดเทรนด์ใหม่หรือเปล่า?” “ทีนี้หน้าอกของผู้หญิงก็มีหน้าที่ใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว” และ “สายกระเป๋าน่ารักจังเลย” Okada บอกว่านี่เป็นเพราะความเซ็กซี่ของเธอ ถึงได้มีผู้ติดตามมากมายขนาดนี้ ขณะที่เหล่าผู้คอสเพลย์คนอื่นๆ ทุ่มเทให้กับการแต่งหน้าหรือทำผม https://twitter.com/dotetinyui/status/989274659337064449?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F05%2F15%2Fbusty-cosplayers-boobpack-has-fans-hoping-it-becomes-japans-next-fashion-trend%25e3%2580%2590photos%25e3%2580%2591%2F&tfw_creator=NatsuKazeOtoko …
-
จักรยานที่ถูกทิ้งร้างในประเทศจีน กลับกลายเป็นภาพถ่ายที่ ‘งดงาม’ อย่างไม่คาดคิด
เป็นเวลากว่า 18 เดือนที่ประเทศจีนต้องประสบกับปัญหารถจักรยานสาธารณะเกลื่อนเมือง ในเมื่อที่จอดจักรยานมีไม่เพียงพอ มันก็ต้องถูกนำมาวางขวางทางเดินหรือทางเข้าอาคารต่างๆ ไว้เกลื่อนกลาด ฉะนั้น จึงมีการเก็บกวาดบ้านเมือง โดยการนำจักรยานที่เป็นส่วนเกินเหล่านั้น ไปทิ้งร้างไว้ยังพื้นที่โล่งกว้างสำหรับเก็บจักรยานเหล่านี้ เมื่อมีจักรยานที่ไม่ใช้ถูกนำมาวางรวมกันเป็นจำนวนมาก มันกลับทำให้เกิดภาพที่สวยงามจากระยะไกลได้อย่างไม่น่าเชื่อ ภาพเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลย ภาพจักรยานสาธารณะที่ถูกทิ้งในมณฑลเหอเฝย์ สวยงามในลวดลายคล้ายกระแสน้ำ ส่วนในเมืองหนานหนิง จักรยานเหล่านี้ถูกจอดไว้ในที่ไม่เหมาะสมและผิดกฎหมาย สีน้ำเงินกับลายที่คล้ายระลอกคลื่น ในนครหนานจิง จักรยานสาธารณะนับหมื่นถูกนำมากองรวมกันไว้ที่พื้นที่จอดรถ สีที่ผสมผสานในความยุ่งเหยิงกลับคุมโทนเหลืองแดง Bluegogo จักรยานสาธารณะในกรุงปักกิ่ง ถูกทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก จึงถูกนำมารวมกันไว้ที่นี่ จักรยานถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ในสีน้ำเงินสไตล์ Bluegogo ส่วนภาพนี้คือจักรยานที่ถูกทิ้งไว้ในเมือง อู่ฮั่น จักรยานจำนวนมหาศาลทำให้เหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลแห่งจักรยาน เซี่ยงไฮ้ เช่นเดียวกับภาพนี้ที่มีจักรยานรายล้อมอยู่ทั่วพื้นดิน เขตทงโจว ในปักกิ่ง จักรยานถูกวางเรียงอย่างเป็นระเบียบตามแนวขอบถนน สุดท้าย จักรยานสาธารณะจากหลากหลายบริษัทผู้ให้บริการ ในเซี่ยงไฮ้ สุสานแห่งจักรยานดูเหงา วังเวง และน่ากลัว จักรยานที่ถูกทิ้งร้างอย่างไรค่า กลับมีคุณค่าในเชิงความงามจากภาพถ่าย อย่างไรก็ตาม…
-
เด็กหญิงทิ้งโน๊ตเจ็บปวดหัวใจ ‘ฉันเกลียดแม่’ เนื่องในวันแม่ มอบให้แด่มารดาผู้ใจร้าย…
วันสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับผู้เป็นบิดามารดา นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้บอกความรู้สึกในใจของลูกที่มีต่อบุพการี โดยส่วนมากแล้วจะเป็นในทำนองของความรัก ความเมตตาที่ได้รับ และตอบแทนกลับด้วยคำขอบคุณ โซเชียลมีเดีย โลกออนไลน์ต่างรวมแชร์ความรู้สึกที่มีเกี่ยวกับแม่ รู้สึกยินดีที่ได้เป็นลูกของแม่ แต่ทว่าเด็กหญิงคนหนึ่ง กลับต้องเสียน้ำตาและมาพร้อมกับความชิงชังผู้เป็น ‘มารดา’ ของตนเอง… โน๊ตเล็กๆ รูปทรงหัวใจ ที่อัดแน่นไปด้วยข้อความถึงคุณแม่ผู้ใจร้าย ถูกนำมาแชร์ผ่านกรุ๊ปพ่อแม่ชาวฮ่องกง ที่ไว้ใช้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องลูกๆ สิ่งที่ถูกเขียนภายในนั้น มีใจความว่า “ถึงแม่ผู้ใจร้าย ทุกวันที่แม่คอยบอกให้ทำแต่การบ้าน มันทำให้หนูรู้สึกรำคาญถึงขั้นอยากตาย หนูเกลียดแม่! ขอให้วันแม่นี้เป็นวันที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก จากลูกสาวของแม่” ทางด้านสมาชิกกลุ่มผู้ที่พบเจอกับกระดาษโน๊ตใบนี้ ได้ให้แคปชั่นเอาไว้ว่า “แม่ของเธอคงจะใจสลายหากได้เห็นเข้า” ภายในโน๊ตนั้นมีรูปหัวใจเพียงน้อยนิด และมีรูปวาดใบหน้าโกรธพร้อมกับคำว่า ‘Hate’ ถูกประทับไว้ อีกทั้งยังมีการลงชื่อ Wan Kiu-sheung อันเป็นชื่อของเด็กหญิงผู้เขียนเอาไว้… จากโน๊ตเพียงชิ้นเดียวก็กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงของชาวเน็ตว่า ‘การกดดันทางด้านการเรียนกับลูกนั้นส่งผลกระทบกับความสุขของเด็กหรือไม่’ รวมไปถึงชาวเน็ตหลายท่านรู้สึกเป็นห่วงตัวเด็กคนดังกล่าว เพราะเธออาจจะประสบกับโรคซึมเศร้าเข้าให้แล้ว สำหรับสังคมพ่อแม่ชาวฮ่องกงนั้น รู้ดีว่าเด็กๆ ในยุคปัจจุบันจะต้องเจอกับปริมาณการบ้านที่มากกว่าเดิม ผิดไปจากยุคที่พวกเขาเคยเรียนรู้และผ่านกันมา… “ผมมักจะบอกให้ลูกสาวทำการบ้านทบทวนบทเรียนทุกวัน ถ้าหากว่าเธอไม่ทำ ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้าผมปล่อยปละละเลย เธอจะไม่ทำแน่ๆ…
-
คุณตำรวจทำร้ายร่างกายลูกสาวอย่างรุนแรง หลังเธอทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับครู
ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ได้เผยให้เห็นหนุ่มรายหนึ่งที่กำลังทำร้ายร่างกายลูกสาวของเขาอย่างรุนแรง หลังจากที่เธอแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวกับคุณครู จากการรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่าชายคนดังกล่าวคือนายตำรวจรายหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้กำลังถูกสั่งพักงานเนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา โดยภาพจากคลิปได้แสดงให้เห็นว่านายตำรวจท่านนี้ ได้ทำร้ายร่างกายลูกสาวของเขาโดยการดึงผม และใช้เข็มขัดฟาดเข้าที่หน้าของเธอ ก่อนที่จะผลักเธอไปที่มุมห้องและตะคอกใส่เธอ ในขณะนั้นมีผู้อยู่ในเหตุการณ์ 2 คน แต่ทั้งคู่ไม่ได้เข้าให้การช่วยเหลือเด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายและยังคงนั่งทำงานของพวกเขาต่อไป โดยภายหลังทางโรงเรียนได้ออกมาแถลงว่า หญิงสาวรายหนึ่งกำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งเธอเองมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยของเธอ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายตำรวจรายดังกล่าวถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย และถูกสั่งพักงานตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา และในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้อยู่ “ขณะนี้ทางโรงเรียนกำลังปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น” โฆษกจากทางโรงเรียนแถลง “หญิงสาวที่คุณเห็นอยู่ในคลิปวิดีโอเธอกำลังตั้งท้องอยู่ ซึ่งเธอไม่แน่ใจว่านายตำรวจท่านนั้นจะมีอาวุธหรือไม่ และตัวเธอเองก็ห่วงความปลอดภัยของตัวเองกับลูกในท้องอีกด้วย” ทางโรงเรียนกล่าวเพิ่มเติม จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า หลังจากการพิจารณาคดี ถ้าหากคุณพ่อรายนี้ไม่มีความผิดจริง เขาก็สามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้ง ที่มา ladbible
-
ศิลปินสาว สร้างโมเดลสัตว์ 3 มิติแสนละเอียด จากเศษกระดาษมากกว่า 600 ชิ้น!!
ผลงานศิลปะการตัดกระดาษสุดประณีต ที่เรากำลังจะพาทุกคนไปชมนี้เป็นผลงานของคุณ Lisa Lloyd ศิลปินสาวชาวอังกฤษผู้มากความสามารถ และผ่านประสบการณ์การทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์มามากกว่า 18 ปี “ฉันเริ่มออกแบบการพับกระดาษตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และทำมันมาตลอดระหว่างที่ฉันทำโปรเจกต์ด้านกราฟิกดีไซน์และแอนนิเมชั่น การออกแบบโมเดลกระดาษช่วยทำให้ฉันได้ผ่อนคลาย และฉันก็ชอบมันมากๆ” ศิลปินสาวกล่าว และหลังจากนั้นตัวเธอเองก็ได้เข้าร่วมกลุ่มกับศิลปินกระดาษคนอื่นๆ และเริ่มสร้างผลงานศิลปะจากกระดาษแบบ 3 มิติที่ยากและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ผลงานการออกแบบกระดาษ 3 มิติชิ้นที่เธอภูมิใจและตั้งใจมากที่สุดก็คือ เจ้านกกระจอกสีสันสวยงามชิ้นหนึ่ง ซึ่ง Lloyd บอกว่าเธอใช้เวลาทำนานถึง 5 วันเลยทีเดียว “ฉันพยายามศึกษาท่าทางการบินของนกจากหนังสือมากมาย มันเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะทำให้มันออกมาสมจริง” ชิ้นส่วนของกระดาษเล็กๆ จำนวนมากที่ถูกนำมาประกอบกันเป็นส่วนลำตัวของนก และไม่เพียงแค่นั้นเธอยังทำปีของเจ้านกน้อยให้ออกมาดูสมจริงสุดๆ อีกด้วย โมเดลกระดาษรูปผึ้ง คือผลงานชิ้นแรกของศิลปินสาวรายนี้ . . แต่ละชิ้นประกอบไปด้วยกระดาษชิ้นเล็กชิ้นน้อย ที่ถูกนำมาปะติดปะต่อกันจนกลายเป็นผลงานที่เต็มไปด้วยรายละเอียด . “กิ้งก่าคาเมเลี่ยนและผึ้ง เป็นผลงานที่ทำจากกระดาษสามเหลี่ยมชิ้นเล็กๆ มากกว่า 600 ชิ้น” Lloyd กล่าว . . …
-
“มันวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว” หนุ่มมัดเชือกสุนัขไว้กับรถ แล้วลากไปตามทางในวันฝนพรำ
การพาสุนัขไปเดินเล่นถือเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของคนเลี้ยงสุนัขเลย เพราะพวกมันก็ต้องการออกไปสูดอากาศ ไปออกกำลังกายบ้าง แต่ควจะเป็นวิธีที่ถูกต้องด้วย คลิปวิดีโอที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2018 เป็นคลิปของสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกพาออกมาวิ่งเล่นนอกบ้านท่ามกลางฝนพรำที่เมืองปวยบลา ประเทศเม็กซิโก เท่านั้นยังไม่พอเจ้านายของมันยังนั่งอยู่บนรถเก๋งแบบสบายใจ โดยที่ไม่สนใจเลยว่าเจ้าสุนัขของเขาจะเหนื่อยหอบแค่ไหน จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นภาพของรถ Toyota Avanza สีเงิน วิ่งไปตามถนนในวันฝนตกพร้อมกับนำเชือกจูงสุนัขผูกติดไว้กับประตูรถแล้วลากสุนัขไปตามทางจนเกิดเป็นภาพที่ชวนสลดใจ จากนั้นไม่นานก็มีผู้ใช้รถคนอื่นขับตามมาใกล้ๆ ก่อนจะถ่ายคลิปวิดีโอการกระทำสุดโหดร้าย แล้วตะโกนว่า “เฮ้! ให้สุนัขเข้าไปในรถเถอะ เอาสุนัขขึ้นรถ” แม้จะได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังมา แต่เจ้าของสุนัขก็ยังคงเพิกเฉยและขับต่อไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร จากนั้นพลเมืองดีก็ตะโกนต่อว่า “ให้สุนัขขึ้นรถ มันเปียกไปหมดแล้ว ผมบอกให้คุณเอาสุนัขขึ้นรถไง และคุณก็ไม่สนใจผม มันกำลังเจ็บนะ มันวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว” จากคลิปจะเห็นว่าสุนัขนั้นอ่อนแรงและพยายามจะหยุดวิ่งอยู่ตลอดเวลา แต่เนื่องจากไม่สามารถต้านทานแรงของรถยนต์ได้ มันจึงถูลู่ถูกังไปกับถนนเรื่อยๆ และเกือบจะถูกล้อรถทับอยู่แล้ว สุดท้ายรถคันดังกล่าวจึงจอดข้างทาง และเจ้าของสุนัขก็ลงมาเดินท่ามกลางสายฝนร่วมกับสุนัขของเขา ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่าง ทั้งนี้ไม่มีรายงานว่าเจ้าของสุนัขรายดังกล่าวถูกตำรวจดำเนินคดีหรือไม่ แต่เจ้าของคลิปวิดีโอยืนยันว่าวิดีโอต้นฉบับนั้นสามารถบันทึกป้ายทะเบียนรถคันดังกล่าวเอาไว้ได้…
-
หนูน้อยพิการแต่กำเนิด ‘ไม่มีมือ’ แต่กลับคว้าชัยชนะการประกวด “คัดลายมือ” ได้สำเร็จ
เด็กสาวจากรัฐเวอร์จิเนียได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า การที่เธอเกิดมาพิการก็ไม่ได้ทำให้เธอยอมแพ้ เด็กหญิงวัย 9 ขวบนามว่า Anaya Ellick เธอไม่เคยคิดว่าเธอจะด้อยกว่าคนอื่น ถึงแม้เธอจะเกิดมาโดย “ไม่มีมือ” ก็ตาม เธอบอกว่า “หนูว่าหนูทำอะไรหลายอย่างได้ ถ้าหากหนูใช้ความพยายาม” ซึ่งไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นเป็นความจริง เพราะล่าสุดเธอได้คว้าเอาชัยชนะการประกวดคัดลายมือในงานประกวด Zaner-Bloser National Handwriting contest เมื่อวันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2018 . เธอเอาชนะการประกวดมาได้ภายใต้การร้องขอพิเศษสำหรับผู้พิการ ในการเขียนภาษาอังกฤษตัวเขียน (Cursive) และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ชัยชนะมาครอบครองเมื่อปี 2016 เธอก็ชนะรายการนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเช่นกัน เธอกล่าวว่า “หนูมีความสุขมากๆ และทีแรกหนูคิดว่าแม่ล้อเล่นที่บอกว่าหนูชนะการประกวดอีกแล้ว” นอกจากนี้ Anaya ยังมีความคิดที่จะเข้าแข่งขันกีฬาในอนาคตด้วย ถึงแม้เธอจะพิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่ความฝันและความพยายามตามความฝันของเธอนั้น กลับเป็นสิ่งที่พาให้เธอประสบความสำเร็จ ที่มา: wfla
-
หนังสั้น ‘Angry River’ กับเส้นทางเลือกจุดจบทั้ง 5 แบบ ขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นคนแบบไหน…
คงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรมากนัก หากคุณจะเคยได้ยินหรือได้ดูภาพยนตร์สั้นที่มีทางเลือกให้กับผู้ชมได้เลือกกันมาบ้างแล้ว ให้อารมณ์ร่วมเหมือนผู้ชมได้ตัดสินชะตาชีวิตตัวละคร ที่จะนำไปสู่หนทางจุดจบแบบไหน… แต่สำหรับภาพยนตร์สั้น The Angry River นี้มีจุดเด่นที่เหมือนและแตกต่างจากภาพยนตร์สั้นอื่นๆ ตรงที่มีทางเลือกเส้นทางดำเนินเรื่องเช่นกัน แต่การเลือกเส้นทางนั้นขึ้นอยู่กับ “พฤติกรรมความสนใจของผู้ชม” เพราะ The Angry River จะไม่ให้คุณเลือกเส้นทางผ่านเมาส์หรือคีย์บอร์ดใดๆ แต่จะจับสายตาของผู้ชมที่มองจอ สนใจสิ่งใดเป็นพิเศษ ก็จะเลือกดำเนินเรื่องให้เหมาะสมตามความสนใจนั้นๆ Armen Perian ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนึ่งในทีมตัดต่อที่เคยพูดไว้เมื่อ 3 ปีก่อน มันเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดูบ้าบอ แต่ก็เติบโตอยู่ในหัวของเขามาตลอด ด้วยความก้าวหน้าของระบบปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันก็ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้จริง เส้นเรื่องของภาพยนตร์ทั้ง 5 แบบ 5 มุมมอง “พวกเรานั่งกันอยู่นานมากๆ ในตอนนั้น ระหว่างการตัดต่ออันยากลำบาก บางคนก็พูดขึ้นมาว่า ‘นี่กรูหวังว่าพวกเราจะสามารถตัดต่อหนังในหัวของตัวเองได้บ้าง’ มันก็เลยกลายมาเป็นไอเดียที่ฝังลึกอยู่ในหัวของผม” Armen นึกย้อนถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นก่อนให้กำเนิด The Angry River เพื่อให้การสร้างภาพยนตร์ที่ตอบสนองได้เป็นไปตามต้องการ ทางผู้สร้างก็ได้ร่วมมือกับ Crossbeat New York บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีการตรวจจับดวงตา…
-
ทหารจับ ‘แก๊งค้าเซ็กส์ทอย’ ประกาศกร้าว เป็นสิ่งบ่อนทำลายชาติและเยาวชน ต้นเหตุข่มขืน!!
ในขณะที่บางประเทศเปิดเสรีทางด้านการแสดงออกทางเพศ อุปกรณ์ช่วยคลายอารมณ์ความกำหนัดไม่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่ทว่าในอีกหลายประเทศสิ่งเหล่านี้คือ ‘ของต้องห้าม’ ล่าสุดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจากประเทศกัมพูชาทำการจับกุมแก๊งค้าเซ็กส์ทอย ประกอบไปด้วยชาย 4 หญิง 1 มายืนเรียงกันหน้าของกลางอันเป็นสินค้าเถื่อน แก๊งค้าเซ็กส์ทอยถูกจับกุมจากการจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายบนเฟสบุ๊ก รวมไปถึงการจำหน่ายสื่อลามกอนาจารต่างๆ เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แม้ว่ากรุงพนมเปญจะมีย่านโคมแดงที่ใหญ่โตภายใน แต่สำหรับเซ็กส์ทอยก็ยังคงเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายทั้งในกัมพูชา และประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การจับกุมในครั้งนี้ ได้ของกลางเป็นทั้งดิลโด้ยาง โยนียาง เครื่องสั่นกว่า 50 ชิ้น ยาปลุกใจเสือป่านับไม่ถ้วน ขวดยาหล่อลื่นอีกจำนวนมาก พร้อมทั้งแผ่น DVD สื่อลามกอีก 50 แผ่น แน่นอนว่าจับกุมมาได้แล้ว ตามธรรมเนียมของตำรวจแถวๆ นี้ จะต้องนำผู้ต้องหามายืนเรียงกัน พร้อมกับแถลงการณ์การจับกุมของหัวหน้า โดยมีพลโท Rath Streang จากกองทหารรักษาการณ์ของกัมพูชา ออกมาซักถามผู้ต้องหาและชี้แนะ… “เขมรนั้นมีความสุภาพ และมีประเพณีอันดีงาม ในศตวรรษที่ 21…