Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
นักศึกษาใช้ทักษะ ‘วิศวะ’ สร้างอุปกรณ์แพทย์ ช่วยชีวิตผู้ป่วยเบาหวาน กลางเวหาได้สำเร็จ!!
สำหรับผู้มีโรคประจำตัวมักจะรู้สึกเกร็งทุกครั้งที่ต้องขึ้นเครื่อง ซึ่งในกรณีนี้มักจะต้องนำยาประจำตัวติดมาด้วย หากลืมหรือไม่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนเข้าเกท คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ หากเที่ยวบินนั้นมีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพโดยสารมาด้วย อาจจะช่วยให้อุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานรายนี้ กลับผิดคาดไปจากที่คิด เพราะคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้คือ “นักศึกษาวิศวะ” Karttikeya Mangalam อาจจะฟังดูแล้วเกิดอาการงง เหตุเกิดในระหว่างเที่ยวบินจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สู่เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย Karttikeya Mangalam นักศึกษาสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจากสถาบัน IIT Kanpur กำลังเดินทางกลับภูมิลำเนาหลังจากเสร็จสิ้นโปรแกรมแลกเปลี่ยนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขาพบว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินถามหาผู้โดยสารที่เป็นแพทย์ เนื่องจากหนึ่งในผู้โดยสารนาม Thomas วัย 30 ปี ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 กำลังเกิดอาการกำเริบ เนื่องจากขาดอินซูลินในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจาก Thomas ลืมเครื่องฉีดอินซูลินไว้ในถาด ระหว่างผ่านเข้าเกทตรวจสอบความปลอดภัยที่สนามบินนานาชาติเชเรเมเตียโว ซึ่งเขารับอินซูลินเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อ 5 ชั่วโมงที่แล้ว จนระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติทำให้เขาเริ่มหน้ามืด Karttikeya เขียนบอกเล่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น… แม้จะมีนายแพทย์โดยสารมาด้วย และเขาก็ประสบกับโรคเบาหวานเช่นกัน เขามีอุปกรณ์รักษาติดตัวมาแต่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ Thomas เพราะปริมาณและส่วนประกอบของสารเคมีที่แตกต่างกัน นอกจากนี้เข็มฉีดอินซูลินของ…
-
สาวจีนแปลงกายตัวเองเป็น ‘โมนาลิซา’ ด้วยการแต่งหน้า เนียนราวออกมาจากภาพวาด!!
การเป็น Makeup Artist นี่มันก็น่าสนุกเหมือนกันเนาะ แทนที่จะเป็นการวาดภาพในกระดาษก็เป็นการสร้างสรรค์มันขึ้นบนใบหน้าของคนแทน Makeup Artist สาวชาวจีนนามว่า เหอ วัย 26 ปีได้โพสต์ผลงานของเธอลงบนเว็บไซต์ Miaopai ที่เธอได้แต่งหน้าของตัวออกมาเป็นผลงานชิ้นเอกของ ลีโอนาร์โด ดาร์วินชี ที่เรารู้จักกันดี “โมนาลิซา” นั่นเอง เธอโพสต์ออกมาเป็นคลิปวิดีโอวิธีการแต่งหน้าตั้งแต่เริ่มต้นจนจบออกมาเป็นใบหน้าของโมนาลิซา และคลิปวิดีโอดังกล่าวก็กลายเป็นไวรัลด้วยยอดจำนวนผู้ชมกว่า 20 ล้านครั้ง!! โดยความสามารถของเธอไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เธอยังแต่งหน้าของตัวเองเป็นคนดังๆ อีกหลายคน เช่น เทย์เลอร์ สวิฟต์ เคท แบลนเชตต์ และ ทิลดา สวินตัน อีกด้วย คลิปวิดีโอการแต่งของศิลปินชาวจีนผู้นี้ นี่คือ “เหอ” Makeup Artist ที่กำลังมีชื่อเสียงกระฉ่อนในโลกอินเทอร์เน็ต เธอมาจากมณฑลฉงชิ่ง และกำลังเป็นบล็อกเกอร์ความงาม ปัจจุบันมีอายุ 26 ปี เธอบอกว่าเธอชื่นชอบการทำศิลปะบนใบหน้ามากที่สุดเลยล่ะ “เมื่อใดที่คุณเห็นว่าใบหน้าคือกระดาษวาดภาพ จินตนาการของคุณก็จะไม่สิ้นสุด” . เริ่มมาแล้ว …
-
มืออาชีพ!! นักข่าวสาวสะบัดเสื้อคลุมออกฉับพลัน เพราะเพิ่งเห็นว่าตัวเองออกอากาศอยู่
คำว่า “มืออาชีพ” นั้น น่าจะเป็นคำที่เหมาะสำหรับเรียกนักข่าวสาวคนนี้ก็เป็นได้ เพราะนี่คือช่วงเวลาของนักข่าวสาวคนหนึ่ง ที่ไม่รู้ตัวว่าเธอกำลังออกอากาศอยู่ ทำให้เธอไม่ทันตั้งตัว แต่เธอก็สามารถตั้งตัวได้แบบทันท่วงทีและกลับมารายงานข่าวได้เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของนักข่าวสาว Maria Ryabova ที่ขณะนั้นรายงานข่าวอยู่ในเมืองยจโน-ซาฮาลินสค์ ประเทศรัสเซียรัสเซีย ที่มีอากาศหนาวเย็น ทำให้เธอต้องเอาเสื้อโค้ตมาสวมใส่ไว้ก่อนที่จะถึงเวลาออกอากาศจริง แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเวลาออกอากาศดันมาถึงโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว โปรดิวเซอร์ที่อยู่หลังกล้องจึงตะโกนใส่เธอว่า “ถอดโค้ตของคุณออก โยนมันไปที่พื้นเลย” เธอจึงรีบถอดมันออกอย่างทุลักทุเลแล้วโยนใส่พุ่มไม้ใกล้ๆ ก่อนจะหันมาตั้งหลักกับหน้ากล้อง เมื่อเธอตั้งสติได้แล้วก็เริ่มยิ้มและรายงานข่าวเกี่ยวกับวันแห่งชัยชนะของรัสเซีย (Victory Day) ที่ถือเป็นวันหยุดราชการสำคัญ ซึ่งนับเป็นวันครบรอบของการสิ้นสุดของมหาสงครามของผู้รักชาติ (Great Patriotic War) ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มา metro
-
ชาวปาเลสไตน์เข้าปะทะกับทหารอิสราเอลที่ฉนวนกาซา มีผู้บาดเจ็บกว่า 2,700 ราย
เรื่องราวของความขัดแย้งของชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ที่ฉนวนกาซานั้น เป็นหนึ่งในความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นความขัดแย้งที่ไม่มีวี่แววที่จะทุเลาลงได้เลย และล่าสุดนี้เอง ก็ได้เกิดเหตุการณ์การปะทะกันรุนแรงของกลุ่มผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์และกองทหารของประเทศอิสราเอลขึ้น ซึ่งทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 58 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 2,700 คน นี่เป็นการปะทะกันที่รุนแรงที่สุดของทั้งสองฝ่ายตั้งแต่สงครามในปี 2014 ชนวนของความรุนแรงในครั้งนี้ เชื่อว่ามาจากการที่สหรัฐอเมริกาได้ทำการย้ายสถานทูตจากกรุงเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเล็ม ซึ่งถูกมองว่าเป็นการเลือกที่จะสนับสนุนชาวอิสราเอล และทำให้มีการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมา นักข่าวในพื้นที่รายงานว่าทางกองทหารของอิสราเอลได้ทำการยิงกระสุนจริงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วง อีกทั้งยังมีการใช้รถถัง เครื่องบินรบ และโดรนทิ้งแก๊สน้ำตา ในการสลายการชุมนุมในครั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ได้ออกมาประณามการกระทำของทางอิสราเอลว่าเป็นการสังหารหมู่ที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม และเรียกร้องให้ทางนานาชาติเข้าแทรกแซงความขัดแย้งในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามทางกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล หรือ IDF ได้ออกมากล่าวหาทางปาเลสไตน์ว่ากลุ่มก่อการร้ายฮามาสซึ่งควบคุมกาซาอยู่ในปัจจุบันนั้นเป็นผู้ “นำการก่อการร้าย” ในครั้งนี้ โดยการชักนำผู้ประท้วงกว่า 35,000 คน เข้าทำการก่อการร้ายในสถานที่หลายแห่งตลอดแนวรั้วชายแดน และเป็นเหตุผลที่ทำให้กองทัพต้องออกปฏิบัติการ ทางกองทัพกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าทางผู้ประท้วงนั้นได้มีการใช้ระเบิดขวด เผายาง และขว้างปาก้อนหินใส่กองทหารที่ประจำการอยู่ที่รั้วชายแดนทำให้การสลายการชุมนุมในครั้งนี้ เป็นสิทธิที่ถูกต้องของการปราบปรามความไม่สงบ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่แบ่งแยกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจนจากต่างประเทศทางอเมริกา และแอฟริกาใต้ ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการก่อการร้ายของผู้ประท้วง ในขณะที่ทาง EU เยอรมนีและตุรกีออกมาบอกว่าการรับมือผู้ชุมนุมของอิสราเอลนั้นเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ สถานที่ตั้งของสถานทูตอเมริกา ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุราวๆ 80 กิโลเมตร…
-
ดอกไม้ไฟแบบใหม่!? จีนใช้โดรนกว่า 1,374 ตัว บินขึ้นฟ้า แสดงแสงสีงดงามยามค่ำคืน
ถ้าการชมการแสดงดอกไม้ไฟหรือระบำน้ำพุมันดูน่าเบื่อสำหรับคุณแล้วล่ะก็ นี่อาจเป็นการแสดงรูปแบบใหม่ที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นตาตื่นใจขึ้นมาก็ได้ เพราะนี่คือการแสดงแสงสีโดยใช้โดรน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานแสดงโชว์แสงสีด้วยโดรนที่เมืองซีอาน ประเทศจีน โดยใช้โดรนทั้งหมด 1,374 ตัว ในการควบคุมเพื่อให้ไปในทิศทางต่างๆ บนอากาศยามค่ำคืน ราวกับว่าท้องฟ้าเกือบครึ่งกลายเป็นหน้าจอ LED ขนาดยักษ์ โดยในตอนแรกที่มีการปล่อยโดรนบินขึ้นไปบนฟ้า เหล่าโดรนก็รีบจัดเรียงตัวเป็นรูปคล้ายกับกำแพงของเมืองซีอาน โดยขนาดความยาวของพื้นที่จัดแสดงโดรนทั้งหมดนั้นยาวถึง 13.74 กิโลเมตรทีเดียว ในบรรดาโดรนทั้ง 1,374 ตัว จะมีโดรนพิเศษอยู่ 74 ตัว เป็นเหมือนตัวแทนของ 74 ประเทศที่ให้ความร่วมมือกับประเทศจีน เป็นสัญลักษณ์ว่า “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” การแสดงสุดอลังการครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 15 นาที แต่ต้องใช้ทุกมากถึง 10.5 ล้านหยวน (ประมาณ 52 ล้านบาท) และด้วยความสวยงามและจำนวนที่มากขนาดนั้น ก็ทำให้พวกเขาได้รับการจดบันทึกจาก Guiness World Records ว่ามีการใช้ยานพาหนะไร้คนขับบินลอยอยู่ในอากาศมากที่สุดในโลก ชมการแสดงโดรนแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย…
-
คุณครูเดือดปุดๆ จับเด็กนักเรียนทุ่มลงกับโต๊ะ หลังถูกสาวหมัดเข้าใบหน้าจังๆ
คลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ความรุนแรงในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้เผยให้เห็นคุณครูท่านหนึ่ง จับนักเรียนของเขาทุ่มลงกับโต๊ะกลางห้องเรียน หลังจากที่ถูกเด็กคนดังกล่าวทำร้าย เหตุการณ์ความวุ่นวายในห้องเรียนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นักเรียนรายดังกล่าว ยืนท้าทายคุณครูของเขาอยู่ที่หน้าห้องเรียนด้วยการผลักหน้าอก ก่อนที่จะปล่อยหมัดเข้าที่บริเวณหน้าของคุณครูเต็มๆ คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 30 วินาทีนี้เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งหลังจากที่นักเรียนรายดังกล่าวถูกจับทุ่มลงกับโต๊ะก็ได้คุณครูรายดังกล่าวก็ได้เข้าไปกระหน่ำหมัดใส่ที่หน้าของเขาไม่ยั้ง จนเพื่อนๆ ในห้องต่างเข้าต้องเข้ามาห้ามทั้งคู่ และถึงแม้ว่าจะถูกเพื่อนนักเรียนในห้องช่วยกันข้ามแล้ว แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะยังไม่ยอมหยุดง่ายๆ ทั้งสองยังคงทะเลาะวิวาทกันต่อ คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2017 ซึ่งมันกลายมาเป็นประเด็นพูดถึงอีกครั้งหลังจากที่มีการเผยแพร่ในเว็บไซต์ World Star Hip Hop เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่กลายเป็นประเด็นอีกครั้ง ก็มีผู้คนจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคุณครูในครั้งนี้ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยฝ่ายที่เห็นด้วยบอกว่าสิ่งที่คุณครูทำลงไปนั้นถูกต้องแล้ว เพราะตัวเขาเองเป็นฝ่ายที่ถูกทำร้ายก่อน “ฉันว่าคุณครูเป็นฝ่ายถูกนะ เพราะเขาเป็นคุณครูไม่ใช่กระสอบทราย” ความเห็นจากฝ่ายที่เห็นด้วยกับคุณครู ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกลับบอกว่า คุณครูท่านนี้น่าจะมีวิธีการรับมือที่ดีกว่านี้ และไม่ควรตอบโต้แบบนี้ “จากประสบการณ์ด้านศิลปะการต่อสู้มานาน ฉันคิดว่าการจับทุ่มนั้นเป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผล สิ่งที่คุณครูควรทำคือการผลักเขาออกไป” ความคิดเห็นจากชาวเน็ตรายหนึ่ง อืม… ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพื่อนๆ จะมีวิธีการรับมืออย่างไรกันบ้างนะ?? …
-
เหมาะสมหรือไม่?? ชาวเน็ตตั้งคำถาม หลังสาวเผยคลิปเด็กวัย 4 ขวบโชว์การใช้ปืน
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันบนโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากที่สาวรายหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอของหนุ่มน้อยวัย 4 ขวบ ที่ขึ้นลำปืนไรเฟิลพร้อมกับบอกว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า Kendall Jones ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนให้ประชาชนสามารถครอบครองอาวุธปืนได้อย่างถูกกฎหมายในสหรัฐ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคมผ่านมา ในคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นว่า Jones ได้พูดกับหนูน้อยว่า “ไหนบอกฉันสิว่าเธอจะทำอย่างไรกับปืนนี่” และจากนั้นเจ้าหนูน้อยก็ทำการขึ้นลำกล้องปืนและทำเหมือนกับว่าปืนกระบอกนั้นคือของเล่นของเขา หญิงสาวผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งและการล่าสัตว์ผู้นี้บอกว่า คลิปวิดีโอที่เธอถ่ายนั้นเป็นภาพที่น่ารักมากๆ โดยหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ก็มีผู้เข้าชมมากกว่า 10 ล้านครั้ง และหลายๆ คนก็ต่างแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย “เรากำลังอยู่ในโลกที่โหดร้าย” ความคิดเห็นจากนักเขียนรายหนึ่งเกี่ยวกับคลิปวิดีโอนี้ ในขณะที่คนอื่นๆ บอกว่านี่เป็นภาพที่แย่มากๆ และเจ้าหนูคนนี้น่าจะเล่นของเล่นอย่างอื่นเช่นเลโก้ หรือไม้เบสบอลแทน แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีบางคนที่เห็นด้วยกับคลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมกับออกมาบอกว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเด็กจะได้เรียนรู้ว่ามันทำงานอย่างไร และป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น “ถ้าหากว่าคุณเป็นเจ้าของปืน มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะสอนเด็กๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยและวิธีใช้ปืน” ความคิดเห็นจากชาวเน็ตรายหนึ่ง และนี่คือคลิปวิดีโอที่ว่านั้น แล้วเพื่อนๆ ล่ะมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง กับคลิปวิดีโอนี้?? ที่มา mirror
-
ชีวิตเสวยสุขของ ‘พ่อบ้าน’ เงินไม่ขาด-งานบ้านไม่พร่อง กับสามีผู้มีอันจะกิน เปย์ไม่ยั้ง…
วิถีชีวิตของคนเรานั้นไม่สามารถเลือกได้แต่เกิด แต่เป็นการกำหนดทางเดินชีวิตของตนหลังจากนั้น ว่าจะไปในทิศทางไหน เราสามารถกำหนดได้เอง แต่ใครเล่าจะมีความสุขได้เท่า Efren Style ชายผู้ทำหน้าที่เป็น ‘พ่อบ้าน’ อย่างแท้จริงแห่งเมือง San Marino รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขามาพร้อมกับเบ้าหน้าชุบทอง 24K มีเข็มกลัดแบรนด์ Chanel กระเป๋า Vuitton และชุดแหวกอกโชว์เนื้อใส่ออกงาน ชีวิตตั้งแต่ปี 2007 ของ Efren นั้น มีเพียงแค่ กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ทำความสะอาดทั่วไป ทำอาหาร และออกไปช็อปปิ้งสินค้าในตระกูลแบรนด์ดัง Armani, Louis Vuitton, Chanel และ Gucci ตามประสางานดูแลบ้าน ส่วนเงินที่ได้มาทั้งหมดนั้นก็มาจาก Christopher นายแพทย์ด้านชีวเคมีและเป็นสามีผู้มั่งคั่ง คอยทำหน้าที่จ่ายเงินให้ออกไปซื้อของอยู่เป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่า ‘มีเงินใช้ไม่ขาดมือ’ Christopher และ Efren “ผมจะตื่นก่อนสามีเสมอ หรือไม่ก็ตื่นพร้อมกันเพื่อให้แน่ใจว่าชุดทำงานและอาหารเช้านั้นพร้อมแล้ว ก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน… …
-
เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟออกมาขอโทษประชาชน เนื่องจากทำรถไฟออกเร็วไป 25 วินาที
กลายเป็นเรื่องธรรมดาๆ สำหรับคนไทยไปแล้ว เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ระบบขนส่งมวลชนใดๆ ก็ตาม ที่มาช้ามาเลต แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นแล้ว การมาสายหรือออกรถเร็วเกินไปถือเป็นเรื่องผิดพลาดมาก แม้จะเพียงแค่ 25 วินาทีก็ตาม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา รถไฟ West Japan Railways (หรือที่หลายๆ คนรู้จักในชื่อรถไฟ JR West) ได้ขับออกจากชานชาลาที่สถานีโนโตกาวะ จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น ในเวลา 7:11:35 นาฬิกา ซึ่งความจริงแล้วรถไฟขบวนนี้ควรจะออกจากชานชาลาในเวลา 7:12 นาฬิกา นั่นเท่ากับว่ารถไฟขบวนนี้ออกเร็วไป 25 วินาที ด้วยเหตุนี้ทำให้ทาง JR West ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณะ โดยมีข้อความว่า “ความเสียหายอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารของเราถือเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้อย่างแท้จริง” ปัญหาการออกจากชานชาลาเร็วกว่าปกตินี้เกิดจากการที่นายสถานีเข้าใจผิดว่าควรจะออกจากสถานีในเวลา 7.11 นาฬิกา จึงทำการปิดประตูรถไฟทั้ง 12 ขบวนในเวลานั้น แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้ตัวในทันทีว่าเข้าใจผิด เขามองลงไปที่ชานชาลา แต่กลับไม่เห็นใครยืนอยู่ตรงนั้นเลย เขาจึงตัดสินใจที่จะปล่อยรถไฟออกไป แทนที่จะเปิดประตูและปิดมันอีกครั้ง (เพราะหากทำการเปิดประตูใหม่เพื่อรับคน อาจจะทำให้รถไฟออกช้ากว่าเวลาที่กำหนดได้) …
-
แรปเปอร์สาววัย 9 ขวบ แชร์ภาพชีวิตหรูหราอวดรวยผ่าน IG ผ่านการผลักดันของแม่
นี่อาจเป็นตัวอย่างของคำว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” ได้อย่างชัดเจน เพราะจากกรณีที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ ส่งผลกระทบร้ายแรงจนถึงขั้นที่แม่ของเด็กสาวคนนี้ต้องลาออกจากงานเลยทีเดียว เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวรายหนึ่งที่ชื่อว่า Lil Tay แรปเปอร์ตัวน้อยวัย 9 ขวบ เธอกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในสังคมออนไลน์ของต่างประเทศ นั่นก็เพราะว่าเธอทั้งโพสต์รูปและคลิปวิดีโอที่สื่อไปในเชิงการอวดรวย . https://www.instagram.com/p/BgxA0ydDfPY/?taken-by=liltay Lil Tay เปิดตัวครั้งแรกบนอินสตาแกรมเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ด้วยภาพขณะที่เธอนั่งอยู่บนรถ Hummer สีดำ พร้อมกับถือเงินเป็นฟ่อน นอกจากภาพถือเงินแล้วยังมีการถ่ายรูปคู่กับรถหรูอีกหลายคัน พร้อมกับข้อความโอ้อวดความรวยและดูถูกคนจนอย่างเห็นได้ชัด “ฉันมี iPhone X พวกจนๆ อย่างพวกแกล่ะมีอะไร?” หนึ่งในข้อความจากคลิปวิดีโอที่เธอถ่ายเอาไว้ในอินสตาแกรม ต่อมาเธอได้ถ่ายคลิปวิดีโอเพื่ออวดรถหรูของเธอพร้อมกับบอกว่า “รถห่านนี่ทำให้ฉันต้องจ่ายไปตั้ง 2 แสนเหรียญดอลลาร์ (6.3 ล้านบาท) ฉันแค่ 9 ขวบ ไม่มีใบขับขี่ แต่ฉันจะขับรถสปอร์ตคันนี้ อิห่านเอ้ย แม้แต่แรปเปอร์ที่คุณชอบยังทำแบบนี้ไม่ได้เลย” https://www.instagram.com/p/BidTWGajyZl/?taken-by=liltay ทั้งภาพและคลิปต่างๆ ที่เธอถ่าย พยายามจะสื่อว่าเธอเป็นแรปเปอร์อายุ 9 ขวบ เธอรวยมาก…
-
นักร้องสาววัย 38 ทำให้โลกประจักษ์บนพรมแดง ‘เปลือยสาธารณะคือศิลปะ ไม่ได้อยากเด่นดัง’
การแสดงออกของมนุษย์ในยุคสมัยปัจจุบัน ทุกอย่างสามารถทำได้หากไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายต่อผู้อื่น แต่ปัจจุบันก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงว่า อิสระในการแสดงออกที่มากเกินไปนั้น ‘เหมาะสม’ กับสิ่งที่สื่อออกมาหรือไม่ อย่างในประเด็นของ Bleona Qereti นักร้องชาวแอลเบเนียวัย 38 ปี ที่เข้าร่วมงานประกาศรางวัล Oscar 2018 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมกับชุดเดรสโปร่งใสไร้บรา เห็นหน้าอกอย่างชัดเจน Bleona Qereti ใส่ชุดเดรสโปร่งใส เผยให้เห็นหน้าอก ในงานประกาศรางวัล Oscar 2018 สิ่งที่เธอทำลงไปนั้น เป็นการประกาศทางอ้อมเกี่ยวกับเรื่องสองมาตรฐานเกี่ยวกับผู้หญิง ในวงการอุตสาหกรรมความบันเทิง และได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระแสของ #MeToo ที่เปิดเผยเรื่องราวอื้อฉาวมากมาย Bleona กล่าวว่าเธอไม่รู้สึกเสียใจที่ใส่ชุดนี้ไปร่วมงานพรมแดง Oscar แถมยังชื่นชอบในความคิดสร้างสรรค์ของชุดดังกล่าวด้วย “เหล่าผู้หญิงถูกกดขี่มาอย่างยาวนาน ถูกเปรียบเทียบเป็นวัตถุแบบผิดๆ โดยเหล่าผู้ชายในโลกอุตสาหกรรมแห่งความบันเทิง และฉันก็แต่งชุดนั้นในนามแคมเปญ #MeToo พวกเขาต้องเข้าใจว่าฉันมีอิสระ และสามารถเฉิดฉายความเป็นตัวตนที่แท้จริง” “ผู้หญิงทุกคนควรจะมีความสุขกับสิ่งที่พวกเธอเป็น ถ้านักร้องชายสามารถเปลือยท่อนบนได้ แล้วทำไมผู้หญิงจะทำบ้างไม่ได้ล่ะ?” นอกจากนี้เธอกล่าวว่า ไม่ใช่เฉพาะสองมาตรฐานระหว่างชายกับหญิง ผู้หญิงด้วยกันเองก็ยังเป็นโดยยกตัวอย่างของ Kim…
-
ชายสี่หมี่เหลือง หาเรื่องรุมกระทืบคู่เกย์จากเหตุแห่ง “ความเกลียดชัง” ต้องโทษจำคุก 30 ปี!!
ปัจจุบันมีการรณรงค์เกี่ยวกับความเท่าเทียม เพื่อลบล้างความเกลียดชังออกไป และมองคนที่แตกต่างจากเราไป แม้ภายนอก รสนิยมทางเพศอาจจะไม่เหมือนกัน แต่เนื้อแท้ภายในก็คือเพื่อนมนุษย์เฉกเช่นเดียวกัน… รวมไปถึงการให้ความเคารพ สิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรพึงมี ไม่อาจไปละเมิดสิทธิส่วนตัวใดๆ ได้ ตราบใดที่ยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทางกายและจิตใจ แต่สุดท้ายแล้วก็มักจะมีการลงมือทำร้ายผู้อื่นเพียงเพราะ “ความเกลียดชัง” DO YOU RECOGNIZE THESE 4 SUSPECTS? These suspects are responsible for the brutal attack that follows. Occurred Sunday night after Miami Beach Gay Pride at 6 Street/Ocean Drive. Call Crime Stoppers: https://t.co/rYWIrW8nIR. pic.twitter.com/NQthfFMIrB — Miami Beach Police (@MiamiBeachPD) April 10, 2018 …
-
อดีตสาวป่วยโรคคลั่งผอม เปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ เพื่อลูกน้อยที่เธอรอคอย…
ผู้หญิงทุกคนมีความเป็นแม่อยู่ในตัวเองเสมอ ถึงแม้ว่าตอนที่เป็นสาวๆ จะใช้ชีวิตแบบสุดสวิงริงโก้ขนาดไหน แต่พอถึงเวลาที่เธอต้องมาใช้คำว่า แม่ แล้ว พวกเธอก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะกำเนิดขึ้นมา เรื่องราวของ Emma O’Neil สาววัย 28 ปี จากเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ผู้ที่เคยป่วยเป็นโรค Anorexic หรือโรคคลั่งผอม โรค Anorexic หรือโรคคลั่งผอม เป็นโรคทางจิตอย่างหนึ่งที่ผู้ป่วยโรคนี้จะมีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ ผู้ป่วยจะมีความวิตกกังวลเรื่องน้ำหนักของตัวเองมาก กลัวน้ำหนักขึ้น จึงควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนัก ลามไปจนทำให้ร่างกายเริ่มปฏิเสธอาหารทำให้ขาดสารอาหาร น้ำหนักตัวลดจนเห็นหนังหุ้มกระดูก ถึงแม้ว่าเธอจะคลั่งผอมแค่ไหนตอนสมัยที่เป็นวัยรุ่น แต่ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมาเจอกับ Jonathan สามีของเธอ เป็นจุดเริ่มต้นที่เธออยากจะสร้างครอบครัว แต่ด้วยโรคคลั่งผอมของเธอ ส่งผลให้ร่างกายเธอผอมเกินไป ร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะมีบุตรได้ เคยมีคนบอกกับเธอว่าด้วยร่างกายแบบนี้เธอไม่มีวันจะตั้งท้องได้หรอก เธอจึงตระหนักได้ว่าถ้าอยากจะมีลูกเธอต้องเอาชนะโรคที่เธอเป็นอยู่ให้ได้ เธอจึงเริ่มการบำบัดโรคคลั่งผอมของเธอ โดยได้รับความร่วมมือจากสามีของเธอเป็นอย่างดี ด้วยพลังแห่งความรักจากสามีและครอบครัวที่เข้ามาดูแลเธอเรื่องของอาหารจนกระทั่งเธอเริ่มแข็งแรงขึ้น และข่าวดีของเธอก็เข้ามา เธอตั้งครรภ์ลูกคนแรก และมันก็เป็นอีกหนึ่งพลังที่ทำให้เธอฮึดสู้ขึ้นไปอีก พยายามที่จะบำรุงร่างกายของตัวเองให้แข็งแรง เธออ้างว่าเธอมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้เป็นเพราะน้ำมันกัญชา ในที่สุดเธอก็เป็นคุณแม่อย่างสมใจอยากด้วยการคลอดลูกคนแรกชื่อว่า India-Rose…
-
วันเดียว 7 ล้านวิว โฆษณาสุดซึ้งจากไทย ดังในจีนอีกครั้งเนื่องในวันแม่สากล
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทั่วโลกต่างพากันร่วมแสดงความรักต่อคุณแม่กันอย่างมากมาย เนื่องจากในวันแม่สากล ซึ่งจะมีขึ้นทุกวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมนั่นเอง และเพื่อเป็นการร่วมฉลองกับวันสำคัญนี้ ทางสื่อชื่อดังจากประเทศจีนเองก็ได้มีการโพสต์คลิปโฆษณาคลิปหนึ่งจากบ้านเรา ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าชมมากถึง 7 ล้านครั้งหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกโพสต์เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง คลิปโฆษณาชิ้นดังกล่าวพูดถึงเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งที่หนีออกจากบ้าน หลังจากที่เธอมีปากเสียงกับแม่ วันหนึ่งในระหว่างที่เธอกำลังร่อนเร่อยู่บนถนน และได้เจอร้านขายกับข้าวร้านหนึ่ง ซึ่งเจ้าของร้านได้เรียกเธอเอาไว้พร้อมกับทำกับข้าวให้ทานฟรีๆ เรื่องราวของเธออาจจะเคยผ่านตาหลายๆ คนมาแล้ว เนื่องจากโฆษณาชิ้นนี้ได้ถูกเผยแพร่ในบ้านเราเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว และมีผู้เข้าชมมากถึง 8 ล้านครั้ง และนี่คือคลิปโฆษณาดังกล่าว ชาวเน็ตจำนวนมากได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคลิปวิดีโอนี้ บางคนบอกว่านี่เป็นคลิปที่ทำให้เขานึกถึงอาหารฝีมือคุณแม่เลยทีเดียว ในขณะที่หลายๆ คนก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณแม่มากมาย “การทำอาหารให้ถูกใจลูกๆ นั้นถือเป็นหนึ่งในปัญหาของแม่ แต่จริงๆ แล้วพวกเธอกำลังพยายามทำให้พวกเรารู้สึกดีมากเท่าที่จะทำได้ และนั่นก็เต็มไปด้วยความรักที่มอบให้กับเรา” คอมเมนต์จากชาวเน็ตรายหนึ่ง ความรักของคุณแม่นั้นเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกสามารถรับรู้ได้ไม่ต่างกัน ถึงแม้ว่าจะมาจากสังคมที่แตกต่างกันก็ตาม…. ที่มา China Xinhua News
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นฮือฮา… หลังหนุ่มรายหนึ่งบอกว่า “ตัวต่อยักษ์” ก็เป็นสัตว์เลี้ยงได้นะ!!
สำหรับใครที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรือหอพักล่ะก็ การจะมีสัตว์เลี้ยงคู่ใจอย่างน้องหมาหรือน้องแมวสักตัวนั้นอาจจะไม่เรื่องง่ายเลย เพราะปัญหาหลักๆ เลยก็คือขนาดของห้องพักที่แคบเกินไปนั่นเอง และแน่นอนเมื่อเจอปัญหาแบบนี้ หลายๆ คนก็อาจจะหันไปมองหาเหล่าสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ อย่างนก หรือปลาสวยงามมาเลี้ยงเป็นเพื่อนแทนใช่ไหมล่ะ.. แต่ถ้าหากว่าคุณไม่อยากได้ยินเสียงนกร้อง หรือขี้เกียจเปลี่ยนน้ำตู้ปลาล่ะก็ เรามีสัตว์เลี้ยงสุดแหวกจากประเทศญี่ปุ่นมาแนะนำให้รู้จักกัน!! พบกับเจ้าตัวต่อยักษ์ เพื่อนคู่ซี้ที่กำลังโด่งดังบนโลกอินเตอร์เน็ต ภาพของสัตว์เลี้ยงน่ารัก(สำหรับบางคน)นี้ถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์ของประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @togenanafushi จากประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับแมลงของเขา หนุ่มผู้หลงใหลแมลงผู้นี้บอกว่า เจ้าต่อยักษ์เป็นสัตว์ที่น่าหลงใหลมาก และสีสันของมันก็สวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว แถมยังใช้พื้นที่ในการเลี้ยงไม่มากอีกด้วย ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายดังกล่าวยังได้เผยอีกว่า เจ้าตัวต่อยักษ์เหล่านี้ไม่ได้มีพฤติกรรมที่จะทำร้ายเจ้าของแต่อย่างใด เนื่องจากพวกมันไม่ต้องคอยปกป้องรังของตัวเอง นอกจากนี้พวกมันยังบินออกมาต้อนรับแสงอาทิตย์ยามเช้า ซึ่งคุณ @togenanafushi บอกว่าเสียงหึ่งๆ ที่ได้ยินนั้นเหมือนนาฬิกาปลุกในตอนเช้าเลย แต่อย่างไรก็ตามก็ได้มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ บางคนไม่เชื่อว่าเจ้าต่อยักษ์นี้จะสามารถเป็นสัตว์เลี้ยงได้ ในขณะที่บางคนก็บอกว่าการที่จะเลี้ยงเจ้าสัตว์ชนิดนี้จะต้องใช้ความกล้ามากๆ เลย “อืมมม ตอนนี้ฉันเลี้ยงผึ้งไว้ที่บ้าน แต่ไม่แน่บางทีฉันอาจจะหาตัวต่อยักษ์นี้มาเลี้ยงบ้างก็ได้นะ” คอมเมนต์จากชาวเน็ตท่านหนึ่ง อืม… ถ้าหากใครคิดจะเลี้ยงบ้างล่ะก็ อาจจะต้องศึกษากันดีๆ หน่อยล่ะนะ เพราะพวกมันก็เป็นสัตว์ที่อันตรายไม่น้อยเลย ที่มา soranews24
-
โจรอุกอาจ ปล้นครอบครัวและเด็กที่ยืนรอนอกโรงเรียน ถูกคุณแม่ตำรวจใจเด็ดยิงสวนดับ!!
หากเอ่ยถึงชื่อประเทศบราซิล ที่นี่มักจะถูกนึกถึงในเรื่องของเหล่านักเตะฝีเท้าดีชื่อกระฉ่อนโลกในวงการฟุตบอล แต่ทว่าเรื่องของอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับผู้คนในบราซิล ก็ไม่เป็นรองในชื่อเสียของที่นี่เลย… ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการลักเล็กขโมยน้อย เกิดการวิ่งราวฉกชิงทรัพย์ไปต่อหน้าต่อตากลางวันแสกๆ จนไปถึงเกิดเหตุปล้นซึ่งหน้าพร้อมกับอาวุธปืนข่มขู่เอาชีวิต เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นกับเด็กและครอบครัวที่กำลังยืนรออยู่หน้าบริเวณโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมือง Sao Paulo จู่ๆ ก็มีชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธปืน .38 เดินเข้ามาเพื่อหวังที่จะปล้นทรัพย์ข่มขู่ประชาชนในบริเวณนั้น กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ เผยให้เห็นช่วงวินาทีการลงมือของโจรรายดังกล่าวในเวลาประมาณ 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อทางโรงเรียนจัดงานวันแม่ประจำปี . Katia da Silva Sastre ผู้เป็นแม่และตำรวจ วัย 42 ปี อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว เธอไม่ลังเลที่จะใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่หน้าอกและขาของนาย Elivelton Neves Moreira วัย 21 ปี ในระยะเผาขนถึง 3 นัด จนเขาเสียชีวิตภายในวันเดียวกันที่เกิดเหตุ ณ โรงพยาบาล ภายหลังจากเหตุการณ์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว Sastre ได้รับเชิดชูจากการกระทำอันกล้าหาญจากหน่วยงานรัฐ มอบช่อกล้วยไม้สีม่วงช่อใหญ่แทนคำขอบคุณ ซึ่งเธอได้รับเชิดชูในฐานะฮีโร่ของประชาชน…
-
ครอบครัวระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีโบสถ์ 3 แห่งในอินโดนีเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างต่ำ 13 ราย
ในวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม 2018 ได้เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายขึ้นที่โบสถ์ 3 แห่งที่เมืองสุบารายา ในหมู่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างต่ำ 13 ราย และผู้บาดเจ็บอีกราว 41 ราย เบื้องต้นทางตำรวจเชื่อว่าผู้ก่อเหตุในหลังนี้คือครอบครัวที่มีสมาชิก 6 คน ประกอบด้วย พ่อ แม่ และพี่น้องชายหญิง 4 คน ซึ่งเชื่อว่าเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย Jamaah Ansharut Daulah ที่ให้การสนับสนุน ISIS จากในอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง Tito Karnavian ได้ออกมาเปิดเผยว่า หัวหน้าครอบครัวนักวางระเบิด Dita Sopriyanto ได้ขับรถตู้ไปส่งภรรยา Puji Kuswat และลูกสาวสองคน ซึ่งอายุ 9 และ 12 ปี ที่ Indonesian Christian Church ก่อนที่ภรรยาของเขาจะพาลูกๆ เดินเข้าไปในตัวโบสถ์และทำการจุดชนวนระเบิด หลังจากนั้นผู้เป็นพ่อก็ขับรถไปยังด้านหน้าของ Pentecost Central Church…
-
ผู้เชี่ยวชาญชี้กัปตัน MH370 จงใจหลบเรดาร์ ระหว่างข้ามไทย-มาเลเซีย นานนับชั่วโมง…
ชื่อของ MH370 เที่ยวบินที่หายไปอย่างลึกลับจนกลายเป็นประเด็นระดับโลก ที่ยังคงไม่สามารถระบุสาเหตุได้แน่ชัดว่าเกิดขึ้นจากเหตุอะไร ซึ่งเป็นระยะเวลามานานกว่า 4 ปีแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม 2014 ชะตากรรมของเครื่องบิน Boeing 777 และผู้โดยสารพร้อมลูกเรือ 239 ชีวิต ยังคงสูญหายแม้หลายฝ่ายจะพยายามทำการค้นหาแล้วก็ตาม MH370 เที่ยวบินจากกัวลาลัมเปอร์มุ่งหน้าสู่ปักกิ่ง ปัจจุบันยังมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายฝ่าย หลายประเทศร่วมกันวิเคราะห์หาสาเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนี้ค้นพบว่าช่วงเวลาสุดท้ายของเที่ยวบิน เป็นการจงใจทำให้เครื่องบินดิ่งลงสู่พื้นโลก… Larry Vance กล่าวในรายการ 60 Minutes ออกอากาศทางช่อง CBS ของสหรัฐอเมริกา โดยที่เขาเชื่อว่า ความสอดคล้องในชั่วโมงสุดท้ายของเครื่องบินนั้นเกี่ยวเนื่องกับการฆ่าตัวตาย เขาเชื่อว่านักบินพยายามที่จะนำเครื่องดิ่งลงสู่พื้นเพื่อที่จะฆ่าตัวเอง โดยการนำเครื่องบินไปสู่พื้นที่ห่างไกลให้ได้มากที่สุด ทำให้หายไปจากจอเรดาร์จนไม่มีใครตามหาได้ “โชคร้าย ที่เขาฆ่าคนอื่นบนเครื่องด้วย และเขาตั้งใจที่จะให้เป็นแบบนั้น ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่อย่างใด” อดีตเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทางคมนาคมออสเตรเลีย Martin Dolan กล่าวว่า “ทุกอย่างถูกวางแผนเอาไว้แล้ว เขาจงใจทำให้เกิดขึ้น พร้อมกับถูกยืดเวลาในการลงมือ” Simon Hardy…
-
คุณตาวัย 71 ลงมือสังหารภรรยา ลูกสาว และหลานทั้ง 4 ก่อนจบชีวิตตัวเองตาม…
ความรุนแรงในครอบครัวถือว่าเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก และเกิดขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ ในสังคมมนุษย์ บ้างก็จบลงด้วยอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ถ้ากรณีร้ายแรงอาจจะมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น เหมือนอย่างกรณีนี้ ที่ถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญเป็นอย่างมากและถือว่าเป็นฆาตกรรมหมู่ที่รุนแรงที่สุดในออสเตรเลียในรอบ 22 ปี จากโศกนาฏกรรมฆ่ายกครัวทั้งหมดรวม 7 ศพได้แก่ Peter Miles วัย 61 ปี Cynda ภรรยาวัย 58 ปี Katrina Miles ลูกสาววัย 35 ปี และหลานๆ Taye, Tyland, Ayre และ Kadyn Cockman อีก 4 คน ล่าสุดนาย Aaron Cockman อดีตสามีของ Katrina Miles และเป็นพ่อแท้ๆ ของเด็กๆ ทั้งสี่ได้ออกมาให้ความเห็นว่าเขาเชื่อว่า Peter Miles ผู้เป็นพ่อตาของเขานั้นเป็นคนทำ โดยที่ยังได้วางแผนเรื่องนี้มาอย่างยาวนานแล้วด้วย “ผมเสียทุกอย่างในชีวิตไปแล้ว” Aaron ยังบอกอีกว่าจากการสืบสวนของตำรวจ ได้ตั้งข้อสงสัยเบื้องต้นว่า Peter…
-
คุณครูสั่งทำโทษหนูน้อยวัย 4 ขวบ โดยให้เพื่อนรุมปาก้อนหิน เพื่อสั่งสอนเขา…
คลิปวิดีโออันน่าสะเทือนใจที่ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์คลิปนี้ ได้แสดงให้เห็นวิธีการทำโทษของครูพี่เลี้ยงรายหนึ่ง ที่ให้เด็กๆ วัย 4 ขวบรุมขว้างก้อนหินใส่เพื่อนที่ทำความผิด คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่งในรัฐอาร์คันซอ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเขาได้รับคลิปวิดีโอชิ้นนี้ทางอีเมลจากอาจารย์อีกท่านหนึ่งผู้อยู่ในเหตุการณ์ ตามรายงานของ Fox 13 TV พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ในระหว่างที่ตัวเธอเองและพี่เลี้ยงอีกคนกำลังอยู่ด้านนอกศูนย์รับเลี้ยงพร้อมกับเด็กๆ คนอื่นๆ ได้สังเกตเห็นกลุ่มเด็กน้อยวัย 4 ขวบกำลังขว้างก้อนหินใส่เด็กน้อยอีกคนหนึ่ง พยานให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า เด็กๆ เหล่านี้ถูกคุณครูสั่งให้ขว้างก้อนหินใส่เพื่อนของเขาเพื่อเป็นการสั่งสอน จากรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่ามีเด็ก 6 คนที่กำลังปาก้อนหินใส่เพื่อนของเขาที่กำลังคุกเข่าและร้องไห้อยู่ และนี่คือคลิปวิดีโอจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับคลิปวิดีโอให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมสังเกตเห็นเด็กประมาณ 6 คนที่กำลังข้างก้อนหินใส่เพื่อนของเขาซึ่งกำลังร้องไห้อยู่ และจากนั้นก็ได้ยินเสียงบอกว่า ‘เขาได้เรียนรู้ที่จะหยุดแล้ว โอเค พอแค่นี้ก่อน’ ดังออกมาจากในคลิป” อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการทำโทษเด็กน้อยในครั้งนี้ ส่วนทางคุณครูผู้ต้องหาได้ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ตัวเด็กๆ ได้ขว้างก้อนหินจริงๆ แต่เธอไม่ได้สั่งให้เด็กๆ ขว้างใส่เพื่อนแต่อย่างใดซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้อยู่ …
-
จัดอันดับ 15 นักฆ่าที่น่ากลัวที่สุดในโลก ฉลามรั้งท้าย แถมมีมนุษย์ติดเข้ามาด้วย…
ในธรรมชาตินั้นเต็มไปด้วยเหล่าสัตว์นักล่าที่แสนดุร้ายและอันตรายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิงโต ฉลาม รวมถึงพวกเสือด้วย!! แต่เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่านอกจากสัตว์นักล่าที่เรายกตัวอย่างมาแล้ว ในโลกของเรานั้นยังมีพวกสัตว์อีกมากมายที่คร่าชีวิตมนุษย์ต่อปีได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่าทำเอาเจ้าฉลามและสิงโต ตกกระป๋องกันเลยทีเดียว… การจัดอันดับดังกล่าวนี้ได้แสดงให้เราได้เห็นผลลัพธ์อันน่าทึ่งของเหล่าสัตว์ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกต่อปีมากที่สุด 15 อันดับ ซึ่งภาพกราฟิกดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยนักธุรกิจชื่อดังระดับโลกอย่างบิล เกตส์ โดยอันดับที่ 15 คือสัตว์นักล่าที่แสนดุร้ายอย่างฉลาม ที่ฆ่าผู้คนประมาณ 10 รายต่อปี ส่วนสัตว์ที่ดุร้ายอย่างสิงโตและจระเข้นั้นอยู่ในอันดับที่ 13 และอันดับ 10 และรองชนะเลิศอันดับ 1 และผู้ชนะเลิศตกเป็นของมนุษย์และสัตว์ตัวเล็กที่แสนน่ารำคาญอย่างเจ้ายุง!! ซึ่งทั้งสองสามารถคร่าชีวิตผู้คนได้มากกว่าปีละ 475,000 ราย และ 725,000 ราย ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลว่าในแต่ละปีนั้น มีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้มาลาเรียมากถึง 725,000 รายต่อปี โดยเชื้อโรคดังกล่าวมียุงเป็นพาหะนำโรคนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ นี้จะเป็นเพชฌฆาตที่พรากชีวิตพวกเรามากที่สุดในโลก “ไข้มาลาเรียคุกคามประชากรโลกมากกว่าครึ่ง และทำให้เกิดการสูญเสียมูลค่าหลายพันล้านเหรียญต่อปี” มหาเศรษฐีวัย 62 ปีกล่าวผ่านเว็บไซต์ของเขา ส่วนในอันดับ 2 ที่ที่ตกเป็นของมนุษย์ก็เนื่องจากเหตุการณ์ฆาตกรรมและการก่อสงครามนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคอื่นๆ ที่ติดอันดับต้นๆ…
-
หนุ่มลองใจว่าแฟนสาวเหมาะแก่การเป็นภรรยาหรือไม่ แต่กลับโดนชาวเน็ตประณามซะยับ?!
บางครั้งพวกเราอาจเคยมีความคิดอยากทดสอบหรือลองใจแฟนของเรา ว่าพวกเขาเหมาะจะเป็นคู่ชีวิตของเราหรือไม่ แต่ความคิดในลักษณะนั้นอาจนำมาสู่การทดสอบแปลกๆ ที่ดูไม่ค่อยจะเข้าท่าเท่าไหร่ เหมือนอย่างที่ชายคนนี้ทำก็เป็นได้ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า The Liveman โพสต์เรื่องราวเอาไว้ว่า เขาได้พาแฟนสาวไปที่บ้านเป็นครั้งแรกและต้องการจะทดสอบความเป็นศรีภรรยาของเธอ เขาจึงทำให้ห้องครัวของตัวเองดูรกรุงรัง สภาพห้องครัวที่เขาทำให้ดูรก เพื่อทดสอบแฟนสาวของตัวเอง หลังจากที่แฟนสาวกลับไปแล้ว เขาก็พบว่าเธอไม่ได้ทำความสะอาดห้องครัวรกๆ ของเขาเลยแม้แต่น้อย เขาจึงมานำเรื่องนี้มาบอกกับผู้คนในโซเชียลว่า “เธอไม่มีความเป็นศรีภรรยาเอาเสียเลย เธอสอบตกการเป็นแฟนที่ดีไปเสียแล้ว” โพสต์ที่เขาเล่าเอาไว้ในทวิตเตอร์ การทดสอบของเขาในครั้งนั้นกลับไปจุดประเด็นให้ชาวเน็ตจำนวนมากรู้สึกไม่เห็นด้วย แทบทุกคนต่างพูดกันไปในทิศทางเดียวกันว่าการทดสอบนั่นมันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย มันเอามาทดสอบอะไรไม่ได้หรอก แถมมันยังทำให้ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกแย่กับเขามากกว่าเดิมซะอีก ชาวเน็ตคนนี้คิดว่าแฟนสาวคนนั้นคงคิดในใจเหมือนกันว่า ผู้ชายคนนี้ไม่มีความเป็นสามีที่ดีเอาซะเลย ฉันคงจะต้องคอยทำความสะอาดไปทั้งชีวิตแน่ๆ ถ้าเลือกเขา “ลองคิดดูว่า ถ้าฝ่ายชายไปบ้านแฟนเป็นครั้งแรก แล้วเจอบิลเงินค้างจ่ายเต็มไปหมด เราจะเสนอจ่ายให้เธอทันทีเลยมั้ย? เธออาจแค่ต้องการทดสอบเราเหมือนกันก็ได้นะ” “แขกที่มาบ้านเป็นครั้งแรก งานของเธอไม่ใช่การทำความสะอาด ถ้าคุณคิดว่าแฟนสาวต้องทำอย่างนั้น คุณคิดผิดแล้วล่ะ โตๆ กันได้แล้ว ช่วยเป็นเจ้าบ้านและคนที่ดีกว่าเดิมทีเถอะ” “เธอเป็นแฟนที่ใช้ไม่ได้ได้ยังไง? ในเมื่อนั่นไม่ใช่บ้านของเธอ” …
-
คุณพ่อวัย 35 ปี ลงโทษลูกๆ ที่ไม่ยอมล้างจาน ด้วยการ “ยิง” สุนัขของพวกเขาจนตาย
คุณพ่อวัย 35 ปี ถูกแจ้งข้อหาทารุณสัตว์ หลังจากที่เขายิงสุนัขทั้งสองตัวของลูกสาวตาย เนื่องจากต้องการทำโทษที่เธอไม่ยอมล้างจาน นาย Jeffrey Don Edwards จากรัฐโอคลาโฮมาถูกจับกุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากกระทำการอันโหดร้ายกับสุนัขของลูกสาวเขา ลูกสาววัย 17 ปีของนาย Edwards ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า พ่อของเธอโกรธมากที่เห็นบ้านสกปรกและมีจานที่ไม่ได้ล้างอยู่เต็มอ่างล้างจาน สุนัขทั้งสองตัวของเธอหายตัวไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยลุงของหญิงสาวบอกว่าพ่อของเธอได้ทำการยิงสุนัขทั้ง 2 ตัวทิ้งเพื่อเป็นการลงโทษที่เธอไม่ยอมทำงานบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าร่างของสุนัขทั้ง 2 ตัวนั้นถูกพบอยู่ใกล้ๆ ตัวบ้าน ส่วนทางด้านนาย Edwards ได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าในตอนนั้นตัวเขาเองกำลังทำงานอยู่และไม่ได้ให้การใดๆ เพิ่มเติม นาง Danielle Depee อดีตภรรยาของนาย Edwards ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกๆ ทั้งสองของเธอรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมาก และพวกเขาไม่คิดว่าพ่อจะใช้วิธีนี้ลงโทษ “ลูกๆ ของฉันคิดว่าพ่อของเขาควรได้รับโทษในสิ่งที่เขาทำ และตอนนี้พวกเขาไม่อยากที่จะยุ่งกับ Edwards แล้ว” อดีตภรรยาให้สัมภาษณ์ Jeffrey Don Edwards หย่ากับภรรยาของเขาเมื่อปี 2007 และอาศัยอยู่กับลูกสาววัย 17 ปี กับลูกชายวัย…
-
เชิญมาขวัญผวา!! กับคลิปวิดีโอ “ผีสาว” สุดหลอนทั้ง 5 จากต่างประเทศ
คำเตือน!! บทความต่อไปนี้ไม่เหมาะสำหรับคนขวัญอ่อนนะจ๊ะ ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ชอบเรื่องสยองขวัญล่ะก็ อาจจะรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องราวที่ #เหมียวเวจจี้ นำมาฝากกันในวันนี้ก็ได้ เพราะเรามีคลิปวิดีโอหลอนๆ มาให้ได้ชมกันยังไงล่ะ นี่คือคลิปวิดีโอผีสาวสุดหลอนทั้ง 5 คลิปที่ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ซึ่งบอกเลยว่าถ้าใจไม่แข็งพอเราขอเตือนอีกครั้งว่าอย่ากดดูเลย แต่ถ้าหากไม่กลัวล่ะก็จะมัวรออะไรกันอยู่… 1. เด็กหญิงชาวญี่ปุ่นกับกระจกปริศนา ความหลอนของคลิปวิดีโอนี้อยู่ตรงวินาทีที่ 22 ถ้าหากคุณลองสังเกตที่กระจกด้านหลังเจ้าหนูน้อยดีๆ ล่ะก็ บอกได้คำเดียวเลยว่าขนลุกแน่นอน!! 2. หญิงสาวปริศนาในบ้าน คลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมปี 2007 คลิปนี้ ได้เผยให้เห็นภาพของหญิงสาวลึกลับ พร้อมกับชุดสีขาวที่เธอโผล่ออกมาในทุกๆ ที่ของบ้านหลังนี้ 3. เด็กหญิงในบ้านร้าง คลิปวิดีโอจากครอบครัวหนึ่งที่ได้ยินเสียงประหลาดในห้องใต้ดินของพวกเขา ก่อนที่จะตัดสินใจลงไปค้นหาต้นตอของเสียงนั้น และได้พบกับเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่คาดว่าจะเป็นลูกสาวของเจ้าของบ้านคนก่อนที่เสียชีวิตในห้องใต้ดินนี้ 4. หญิงสาวที่เดินทะลุกำแพงได้ คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของโมเทลแห่งหนึ่ง ได้เผยให้เห็นภาพที่น่าประหลาดใจ เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งที่จู่ๆ เธอก็สามารถเดินทะลุกำแพงได้ซะงั้น!! 5. หญิงสาวผู้เศร้าโศก ชายหนุ่มรายหนึ่งได้อัดคลิปวิดีโอชิ้นนี้ ซึ่งได้เผยให้เห็นเงาของหญิงสาวรายหนึ่งที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ในห้องที่ว่างเปล่า ทำเอาเสียวสันหลังกันไปเลย… ที่มา blankexit
-
นางแบบวัย 23 ถูกสุนัขกัดเข้าที่หน้า แถมไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าของ!!
คำเตือน!! บทความต่อไปนี้อาจมีภาพที่ทำให้คุณไม่สบายใจ เหตุการณ์อันน่าสยองนี้เกิดขึ้นกับ Suzel Mackintosh หญิงสาววัย 23 ปี หลังจากที่เธอถูกสุนัขเข้าที่หน้า จนได้รับบาดเจ็บและต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนานว่า 1 สัปดาห์ บาดแผลบริเวณใบหน้าของเธอทำให้แพทย์ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการรักษา เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าของเธอได้รับความเสียหายอย่างมาก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากเธอเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่เมืองทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย หญิงสาวเล่าว่าสุนัขตัวนั้นกระโดดเข้ามาเข้ามากัดเธอในระหว่างที่เธอกำลังเก็บของจากในรถ “เจ้าสุนัขก่อนกัดเข้าที่หน้าของฉัน ตอนนั้นฉันไม่ได้ทำอะไรแย่ๆ หรือกระตุ้นมันเลย และหลังจากนั้นฉันก็รู้สึกว่าจมูกและแก้มของฉันห้อยลงมา” หญิงสาวให้สัมภาษณ์ Mackintosh ยอมรับว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้ความฝันในการเป็นนางแบบของเธอยากลำบากขึ้น และการรักษาตัวในโรงพยาบาลก็ทำให้เธอรู้สึกเสียใจไม่น้อย สาววัย 23 ปีพยายามอย่างมากเพื่อกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง และล่าสุดเธอได้ร่วมแสดงในคลิปวิดีโอชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีผู้เข้าชมมากกว่า 2 ล้านครั้ง แต่เนื่องจากแผลเป็นใบหน้าจึงทำให้เธอได้รับคำสบประมาทจากผู้ชม Mackintosh มีวิธีที่จะรับมือกับคำวิจารณ์เหล่านั้น และเธอเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดต่างๆ เกี่ยวกับแผลเป็นของเธอ พร้อมกับวางแผนที่จะช่วยประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว “ฉันอยากจะทำให้ผู้หญิงทุกๆ คนรู้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คุณก็ยังสามารถทำในสิ่งที่คุณต้องการได้เสมอ” นางแบบสาวกล่าว ความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง ทำให้เธอสามารถผ่านเรื่องราวร้ายๆ นี้ไปได้ Mackintosh บอกว่าเธอเองไม่เคยได้รับการขอโทษหรือความรับผิดชอบใดๆ…
-
เจ้านายเอ๋ย!! หนุ่มงงเล่นกับหมาอยู่ดีๆ บังเอิญโดนหมา ‘ยิงปืน’ ใส่ นี่จะฆ่าแกงกันเลยรึไง๊
ในโลกนี้คงจะไม่มีอะไรที่ทำให้เราผ่อนคลายอารมณ์ดีไปกว่า การได้เล่นกับสัตว์เลี้ยงแสนรักอีกแล้ว เพราะความน่ารักไร้เดียงสาของพวกมันทำให้โลกใบนี้ดูสวยขึ้นจากวันที่แย่ๆ ได้ แต่ว่าบางทีเราก็ควรจะระมัดระวังให้ดีไม่อย่างนั้นอาจจะต้องซวยเหมือนหนุ่มคนนี้ ที่เล่นกับหมาอยู่ดีๆ กลับโดนหมายิงปืนใส่ขาเฉยเลย!! เรื่องมีอยู่ว่า Richard Remme ชายอเมริกันวัย 51 ปี จากเมือง Fort Dodge กำลังเล่นกับเจ้า Balew หมาลูกผสมพิทบูล-ลาบาดอร์ อย่างสนุกสนานบนโซฟา แต่ในระหว่างนั้นเองไม่รู้ว่าเล่นกันอีท่าไหน เจ้าหมาตัวนี้ถึงได้บังเอิญไปปลดเซฟตี้ปืนที่เหน็บอยู่ตรงเอวของเขาเข้า แล้วยิงเข้าใส่ขาของชายหนุ่มคนนี้เต็มๆ ดอกจนมีเลือดไหลออกมาเป็นทาง “ตอนแรกผมก็นอนเล่นอยู่บนโซฟานั่นแหละ แล้วไอ้เจ้า Balew มันก็กระโดดขึ้นมาบนตัก ผมเลยโยนมันลงไปบนพื้น แต่มันก็กระโดดขึ้นมาอีกที แล้วทีนี้แหละที่มีเสียงดังปัง!! เกิดขึ้นและผมก็รู้สึกเจ็บๆ ที่ขาอย่างกับโดนอะไรสักอย่าง เฮ้ย! หมาผมมันยิงปืนเข้าที่ขาของผมนี่หว่า” “เห็นได้ชัดเลยว่าในจังหวะแรกที่มันกระโดดขึ้นมาบนตักผม มันก็บังเอิญไปปลดเซฟตี้เข้าอย่างไม่ตั้งใจ แล้วครั้งที่สองที่มันกระโดดขึ้นมาเท้าข้างหนึ่งของมันคงไปโดนไกปืนเข้า และผลก็ออกมาอย่างที่เห็น ผมโดนหมาตัวเองยิงเข้าอย่างจัง” Richard ให้สัมภาษณ์กับสื่อ The Messenger หลังจากที่รู้ตัวว่าเขาโดนหมาของตัวเองยิงเข้า เขาก็รีบโทรแจ้ง 911 ให้มาช่วยเหลือเป็นการด่วน ซึ่งก็ไม่มีเรื่องร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้นและเขาก็พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่เขาก็ยังบอกด้วยว่าเจ้าหมาดูจะรู้สึกผิดอยู่หน่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ “เจ้า Balew มันมานอนอยู่ข้างๆ…
-
ชาวเมืองโอ๊คแลนด์รวมตัวออกมาจัด ‘ปาร์ตี้บาร์บีคิว’ ณ จุดเกิดเหตุ ‘สาวโทรแจ้งตำรวจ’
สืบเนื่องจากประเด็นเรื่องการเหยียดผิวของ หญิงสาวที่โทรแจ้งตำรวจเพราะครอบครัวผิวสีจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวในสวนสาธารณะ เข้าไปอ่านข่าวเก่าได้ที่ : สาวโทรแจ้งตำรวจ เพราะเห็น ‘ครอบครัวผิวสี’ มาจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวในสวนสาธารณะ ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2018 เว็บไซต์เดลี่เมล ได้รายงานว่ามีความเคลื่อนไหวของชาวเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ร่วมกันออกมาปิ้งบาร์บีคิวจัดปาร์ตี้กันที่ริมทะเลสาบ Merritt กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งริมทะเลสาบนั้นเป็นสถานที่เกิดเหตุที่ครอบครัวผิวสี ถูกหญิงสาวโทรแจ้งตำรวจว่าพวกเขามาปิ้งบาร์บีคิวพร้อมกับใช้ถ่าน โดยอ้างว่าสถานที่นั้นห้ามใช้ถ่านปิ้งบาร์บีคิว จนกลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโซเชียล ชาวเน็ตหลายคนที่ได้ชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวต่างก็ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งกับการกระทำของหญิงสาว ตามรายงานระบุว่าในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ชาวเมืองโอ๊คแลนด์จำนวนมากออกมาปิ้งย่างกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับมีการอัปคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีการแคปชั่นคลิปวิดีโอเอาไว้ว่า “นี่คือสิ่งที่คนผิวสีในโอ๊คแลนด์ทำ เมื่อหญิงสาวผิวขาวโทรแจ้งตำรวจ เพราะเห็นครอบครัวผิวสีจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว” จากในคลิปวิดีโอจะพบว่าในกลุ่มคนที่มาร่วมงานปาร์ตี้ประกอบไปด้วยทั้งคนผิวสี และผิวขาวมากมาย หลังจากที่ชาวเน็ตคนอื่นๆ ที่ได้เห็นคลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้ ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “หญิงสาวคนนั้นทำให้เกิดคลื่นพลังที่ออกมาต่อต้านและสิ่งนี้เลยเกิดขึ้นมา ขอขอบคุณความเกลียดชังของเธอนะ” คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่า เรื่องของการ ‘เหยียดผิว’ นั้นไม่ได้เป็นที่ยอมรับของคนจำนวนมาก และผู้คนก็ออกมาทำอะไรบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ที่มา : dailymail,…
-
เปิดตำนานชายหนุ่มผู้แลก “คลิปหนีบกระดาษ” ไปเรื่อยๆ จนได้บ้านมาทั้งหลังในเวลา 1 ปี
เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเรื่องเล่าของชายหนุ่มผู้แลกสิ่งของจากคลิปหนีกระดาษไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นข้าวของใหญ่ๆ ที่มีมูลค่าแล้วไปจบด้วยการแลกบ้านทั้งหลังมาบ้างแน่ๆ ถึงมันจะดูเหลือเชื่อแต่นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับนาย Kyle MacDonald เมื่อปี 2005 เรื่องราวทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยการที่นาย MacDonald เที่ยวเดินเอาของไปแลกดาดๆ แต่เกิดจากการที่เขาอยากจะมีบ้านสักหลังนึง เขาจึงนึกถึงเกม Bigger, Better (เกมที่จะให้ผู้เล่นจับกลุ่มกันแล้วแลกสิ่งของไปเรื่อยๆ เมื่อหมดเวลา ใครมีของที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในมือเป็นผู้ชนะ) แล้วนำเอาไอเดียนั้นมาลองทำดู ด้วยความที่ MacDonald ทำงานเป็นบล็อกเกอร์อยู่แล้ว เขาจึงนำเอาไปเดียการแลกสิ่งของไปโพสต์ลงในเน็ต แล้วตั้งชื่อมันว่า One Red Paper Clip จนมีคนให้ความสนใจล้นหลามและอยากจะลองแลกสิ่งของกับเขาดูบ้าง “หลายคนถามผมว่าทำยังไงถึงสามารถประชาสัมพันธ์ออกไปในวงกว้างได้ขนาดนั้น? คำตอบง่ายๆ เลยก็คือ ‘ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน’” MacDonald ให้สัมภาษณ์ กับ BBC 14 กรกฎาคม 2005 สิ่งแรกที่เป็นจุดตั้งต้นของเขาก็คือคลิปหนีบกระดาษสีแดง เขาได้นำเอาคลิปหนีบกระดาษไปแลกกับปากการูปปลา ในวันเดียวกันนั้นเอง เขานำปากการูปปลาไปแลกกับลูกบิดประตูแกะสลักที่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน 25 กรกฎาคม 2005 เขาเดินทางไปเมืองแอมเฮิร์ส รัฐแมสซาชูเซตส์ กับเพื่อน เพื่อนำเอาลูกบิดประตูไปแลกกับเตาปิกนิก (พร้อมเชื้อเพลิง) 24…
-
ตบมันเลยค่ะพี่!! ชมการแข่งขันสุดโหด “แข่งตบหน้า” การแข่งขันที่เหมาะกับตัวร้ายในละคร
เดี๋ยวนี้โลกของเราชักมีการแข่งขันแปลกๆ ขึ้นเรื่อยๆ หากใครยังจำกันได้ เมื่อคราวที่แล้วเราได้นำเสนอการแข่งขัน Air Sex ไปแล้ว (อ่านเรื่องราว Air Sex ได้ที่นี่) วันนี้เราเลยอยากจะมานำเสนอการแข่งขันแปลกๆ อีกอันที่ชวนอึ้งไม่แพ้กัน นั่นคือ Slaping Contest หรือการแข่งตบหน้านั่นเอง ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการแข่งขันตบหน้านั้นเริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อไหร่และที่ประเทศไหนเป็นที่แรก แต่มีคำบอกเล่าว่าการแข่งขันตบหน้านี้ เคยเป็นที่นิยมของเหล่าทหารโซเวียตในสมัยที่ยังไม่ล่มสลาย เพื่อใช้เป็นเกมกีฬาแก้เบื่อในค่ายทหาร การแข่งขันตบหน้าเกิดขึ้นในหลายๆ แห่ง ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ รัสเซีย หรืออินเดียก็ตาม แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือกติกาที่กำหนดไว้ว่าต้องตบให้คู่ต่อสู้ล้มลงไปหรือน็อคเอาต์จึงจะเป็นผู้ชนะและผ่านเข้าสู่รอบต่อไป หากทั้งสองฝ่ายยังคงทนแรงตบได้ก็จะสลับกันตบไปเรื่อยๆ ในการแข่งขันหลายครั้ง มักจะมีผู้เข้าแข่งขันที่แข็งแกร่งมากจนสามารถน็อคคู่ต่อสู้ได้ในการตบครั้งเดียว ทำให้พวกเขาเหล่านั้นลงไปนอนหมดสติอยู่ที่พื้นท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้ชมมากมาย และเมื่อการแข่งขันจบลงพวกเขาก็จะลุกขึ้นมาแล้วจับมือกันเพื่อแสดงน้ำใจนักกีฬา (จะเรียกว่ากีฬาก็ทะแม่งๆ อยู่) ตัวอย่างการแข่งขันตบหน้าในอินเดีย ที่ดูมีการออกแอกชั่นมากกว่าที่อื่นๆ ตัวอย่างการแข่งขันตบหน้าในสหรัฐเมื่อปี 2015 ส่วนนี่เป็นภาพการแข่งขันตบหน้าปีล่าสุดที่จัดกันในรัสเซีย เห็นแล้วน่าจะส่งตัวร้ายในละครบ้านเราไปร่วมแข่งขันกับพวกเขาด้วยจริงๆ แต่ใครจะเอาก็เอาเถอะ เราขอบายนะ ที่มา Beasts of Gym , unilad
-
ตำรวจสาวลาป่วย แต่ดันโผล่สตรีมเกมด้วยชุดวาบหวิว งานนี้กลายเป็นประเด็นไปทั่วทั้งเน็ต!!
อาชีพตำรวจเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ให้ดี เพราะว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของบ้านเมือง แต่ว่ามีตำรวจหญิงคนหนึ่งที่ลาป่วยแต่กลับไปสตรีมเกมในโลกออนไลน์ด้วยชุดวาบหวิว ก่อให้เกิดเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาถึงเรื่องความเหมาะสม?? โดยเรื่องราวมีอยู่ว่าจ่าตำรวจหญิง Leanne Carr ได้ขอลาป่วยเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ในระหว่างที่หยุดอยู่นั้นเอง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความว่างหรือเพราะความเป็นเกมเมอร์ในตัวเธอ จึงทำให้เธอจัดแจงสตรีมมิ่งขณะเล่นเกม ‘Fortnite’ ด้วยชุดวาบหวิวเผยให้เห็นถึงชุดชั้นในแสนจะเซ็กซี่ที่อยู่บนเรือนร่างของเธอ จ่าสาวคนนี้ได้รับฉายาจากชาวสตรีมมิ่งว่าเป็น ‘ราชินีสับปะรด’ เนื่องมาจากชุดชั้นในที่เธอใส่จะเป็นลายสับปะรดเป็นส่วนมาก และในช่วงเวลาที่สตรีมเกมอยู่นั้นเองเธอก็มักจะเอ่ยขอการโดเนทจากผู้ที่ติดตามชมอยู่อีกด้วย ในตอนนี้ถึงแม้ว่าตำรวจสาวแห่งเคาร์ตี้ Lincolnshire ประเทศอังกฤษจะกลับมาทำหน้าที่ตามปกติแล้ว แต่สิ่งที่เธอทำในวันลาป่วยของเธอก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ในประเด็นของความเหมาะสม โดยผู้บังคับบัญชาของเธอกล่าวว่า ในขณะนั้นเธอขอลาป่วยเนื่องจากความเครียดจากงานสอบสวนภายใน และเธอก็กลับมาทำงานแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งในเรื่องของคำวิจารณ์นั้นตอนนี้ก็กำลังหาทางแก้ไขให้เหมาะสมที่สุด การสตรีมเกมของเธอไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายข้อใด แต่ถึงอย่างนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กล่าวว่าได้เฝ้าระวังสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีการลงโทษอย่างแน่นอนถ้าหากมีความประพฤติที่มิชอบมิควร “เมื่อเจ้าหน้าที่หยุดงานไปเนื่องจากอาการป่วย ก็จะมีเพียงการสื่อสารธรรมดาๆ เท่านั้นที่ยังคงเอาไว้ พวกเขาสามารถทำอะไรตามที่ใจต้องการไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวพักผ่อนหรืออะไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่พวกเขาควรได้รับ” Suzanne Davies ผู้กำกับฝ่ายสืบสวน กล่าว แต่ถึงแม้ว่าเธอจะกลับมาทำงานแล้ว ทว่าเธอก็ยังคงหาเวลาไปสตรีมเกมได้ดังเดิม และในหน้าทวิตเตอร์ของเธอก็มักจะมีการโปรโมทการสตรีมมิ่งให้กับผู้ติดตามเกือบ 3,000 คนอีกด้วย ในตอนนี้เธอกำลังเป็นที่จับจ้องถึงเรื่องสื่อออนไลน์อยู่ แต่กระนั้นทางกรมตำรวจ Lincolnshire ก็บอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะมีชีวิตที่ส่วนตัวบ้าง ตราบเท่าที่การกระทำเหล่านั้นไม่ได้ละเมิดต่อกฎหมายข้อใด ซึ่งถ้ามีอย่างนั้นจริงๆ ก็จะมีการสืบสวนและลงโทษอย่างแน่นอน ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ Carr ก็ยังคงทำการสตรีมเกมของเธออย่างต่อเนื่อง ส่วนชาวเน็ตก็พูดคุยกันเป็นวงกว้างถึงการกระทำของเธอ…
-
Amalia Ulman ศิลปินสาวลวงโลก ผู้แสดงให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมของโลกโซเชียล
โลกอินเตอร์เน็ตนั้นเต็มไปด้วยอิสระ ผู้คนสามารถทำอะไรก็ได้ภายในหน้ากากของความไร้ตัวตน นั่นเป็นเหตุผลที่โลกโซเชียลนั้นเต็มไปด้วยการหลอกลวงและเรื่องที่ไม่เหมาะสม การกระทำที่ไม่ดีโดนนำไปให้เป็นแบบอย่าง ผู้ร้ายกลายเป็นเน็ตไอดอล และผู้คนเริ่มทำทุกอย่างเพื่อปุ่ม Like ที่ไม่มีความหมายใดๆ เป็นยุคสมัยที่คนเปลื้องผ้าต่อหน้ากล้องเพื่อให้ใครสักคนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ากล่าวชม นั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ Amalia Ulman ศิลปินชาวอาร์เจนตินาแสดงให้โลกเห็นในผลงานของเธอเมื่อปี 2014 ผลงานของเธอที่ว่า มันไม่ใช่รูปวาด ไม่ใช่งานปั้น แต่เป็นการแสดงเพื่อสะท้อนสังคม หรือถ้าพูดให้ชัดเจนกว่านั้นก็คงเป็น การหลอกลวงเพื่อสะท้อนสังคม Amalia Ulman ได้เปิดแสดงเป็นเวลา 4 เดือนใน Instagram ผ่านการโพสต์เรื่องราวการใช้ชีวิต โดยสร้างบุคลิกปลอมๆ มาใช้เป็นตัวละครที่มีเรื่องราวในรูปแบบแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ “เด็กสาวน่ารัก” “Sugar Babe (สาวที่รับจ้างเป็นเพื่อนหรือแฟน)” และ “นางฟ้าในชีวิตจริง” โดยแต่ล่ะบุคลิกจะมีการอัพเดตสถานะที่เข้ากับนิสัยที่กำหนด อย่างบุคลิก Sugar Babe จะมีการโพสต์ภาพกึ่งๆ นู้ดของตัวเองเพื่อเรียกให้มีคนมาซื้อบริการของเธอ หรือเด็กสาวน่ารักจะมีการถ่ายภาพการไปเที่ยวที่ต่างๆ เป็นต้น เป้าหมายหลักของเธอคือการสะท้อนสภาพของสังคมปัจจุบันออกมาให้เห็นจริงๆ ทั้งจุดยืนของผู้หญิงหรือความเท่าเทียม แต่โดยที่เธอไม่รู้ตัวอีกสิ่งที่ผลงานของเธอแสดงออกมานั้น ก็คือความง่ายดายของผู้คนบนอินเตอร์เน็ตที่จะหลงเชื่อในอะไรบางสิ่ง การถูกชักจูงโดยใครบางคนที่ไม่มีอยู่จริงและการหลอกลวงจากสังคมที่ตรวจสอบตัวตนไม่ได้ Amalia Ulman…
-
สาวโทรแจ้งตำรวจ เพราะเห็น ‘ครอบครัวผิวสี’ มาจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวในสวนสาธารณะ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหาการเหยียดผิวในประเทศอเมริกานั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำ และเรามักจะเห็นตามข่าวอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะหยิบมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้… เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2018 เว็บไซต์เดลี่เมลรายงานว่าหญิงสาวคนหนึ่งถูกถ่ายคลิปวิดีโอขณะกำลังโทรแจ้งตำรวจ เพราะมีครอบครัวผิวสี มาย่างบาร์บีคิวกินกันอย่างมีความสุขที่สวนสาธารณะในเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ตามรายงานระบุว่า หญิงสาวคนดังกล่าวบอกว่าครอบครัวนั้นใช้ถ่านในการปิ้งย่างบาร์บีคิว ซึ่งสถานที่ตรงนั้นอยู่ข้างทะเลสาบ Merritt และเป็นสถานที่ที่อนุญาตให้ทำการปิ้งย่างได้ หนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์ชื่อว่า Michelle Snider พบเห็นความปกติ และคิดว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะสร้างความรังควานให้กับครอบครัวผิวสี ด้วยการโทรศัพท์แจ้งตำรวจ เธอก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ คลิปวิดีโอถูกนำไปโพสต์ลงโซเชียล และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ในคลิปดังกล่าว Snider ถามคำถามกับหญิงสาวที่โทรแจ้งตำรวจว่า “ทำไมคุณถึงโกรธนัก ที่พวกเขามาย่างบาร์บีคิวกันตรงนั้น?” ทางด้านหญิงสาวก็ตอบว่า “เพราะมันสร้างค่าใช้จ่ายให้กับเมืองของเรา เมื่อเด็กๆ ได้รับบาดเจ็บจากถ่านที่พวกเขาใช้ในการปิ้งย่าง” พอโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้สักพักหญิงสาวก็เดินหนีไปหาตำรวจที่อยู่ตรงร้านขายของชำที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่ง Snider ก็เดินถ่ายคลิปตามไปด้วย จากนั้นหญิงสาวก็เริ่มร้องไห้ และบอกเจ้าหน้าที่ว่าเธอ ‘ถูกคุกคาม’ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็เข้าไปไกล่เกลี่ยสถานการณ์ และไม่ได้ทำการปรับครอบครัวผิวสีแต่อย่างใด พื้นที่ริมทะเลสาบ Merritt…
-
ปริศนาการหายตัวไปของหนุ่ม ที่จู่ๆ ก็ ‘วิ่งหายเข้าไปในป่า’ แล้วก็ไม่มีใครเจออีกเลย ตลอด 4 ปี
ข่าวการหายตัวไปของผู้คนนั้นมีมาให้เราเห็นกันได้ทุกวัน บ้างก็ถูกลักพาตัวไป บ้างก็ถูกพบอีกทีเมื่อรู้ว่ากลายเป็นเหยื่อฆาตกรรม แต่ส่วนน้อยนักที่จะหายตัวไปเองและไม่ยอมกลับมาอีกเลย เช่นเดียวกับเคสที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว หรือในปี 2014 หนุ่มชาวเยอรมันคนหนึ่งหายตัวไป และปัจจุบันก็ยังไม่พบว่าหายไปอยู่ที่ไหน จากการเปิดเผยกล้องวงจรปิดก็ยิ่งสร้างความแปลกใจให้กับเจ้าหน้าที่ และครอบครัว เป็นอย่างมากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ นาย Lars Mittank นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ได้เข้าร่วมกรุ๊ปทัวร์ไปเที่ยวในวันหยุดที่ Golden Sands ประเทศบัลแกเรีย หลังจากที่ไปถึงที่นั่นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เขาก็ตัดสินใจจะบินกลับบ้านเพื่อไปชมฟุตบอลกับเพื่อนๆ แต่เขาเกิดได้รับบาดเจ็บจนแก้วหูทะลุเสียก่อน จึงไม่สามารถนั่งเครื่องบินกลับได้ แต่เพื่อนๆ ก็ตัดสินใจที่จะอยู่รอกลับพร้อมกับเขา และรอให้รักษาอาการที่หูจนหายดีเสียก่อน พวกเขาจึงตัดสินใจเช่าโรงแรมถูกๆ เพื่อรอการรักษา และนั่นเองพฤติกรรมแปลกๆ ของ Lars ก็เริ่มต้นขึ้น แม่ของเขาเล่าว่าได้รับข้อความแปลกๆ จากลูกชาย บอกว่ามีผู้ชาย 4 คน กำลังตามเขาอยู่ พร้อมกับถามแม่ว่ายาของเขาอยู่ไหน พร้อมกับบอกให้แม่ยกเลิกบัตรเครดิตของเขาอีกด้วย ตามรายงานระบุว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่โรงแรม พบว่านาย…
-
James Harrison “วีรบุรุษแขนทองคำ” ผู้ช่วยชีวิตเด็กกว่า 2 ล้านคนโดยการบริจาคโลหิต
อะไรคือสิ่งที่จะตัดสินคนคนหนึ่งว่าเป็นฮีโร่ ความกล้าหาญอย่างนั้นหรือ? พลังเหนือมนุษย์ใช่หรือเปล่า? หรือว่าจะเป็นผ้าคลุมที่โบกไสว? ไม่ใช่หรอก…การที่คนเราจะเป็นฮีโร่ได้ไม่จำเป็นต้องมีพลังเหนือมนุษย์ หรือจิตใจที่กล้าหาญด้วยซ้ำ ขอเพียงแค่สิ่งที่คุณทำได้ช่วยเหลือใครสักคนหรืออะไรบางสิ่งไว้ เท่านั้นก็มากพอที่จะให้คุณเป็นฮีโร่ได้แล้ว นี่คือเรื่องราวของฮีโร่ผู้ได้รับฉายาว่า “ชายผู้มีแขนทองคำ” เขาคือ James Harrison ชายสูงอายุวัย 81 ปีชาวออสเตรเลีย ชายผู้ช่วยชีวิตเด็กๆ กว่า 2 ล้าน 4 แสนคน ด้วยการบริจาคเลือดอย่างต่อเนื่องแทบทุกสัปดาห์ เป็นเวลากว่า 60 ปี เลือดของ Harrison นั้นมีความพิเศษ ในเลือดของเขานั้นมีแอนติบอดีต่อต้านโรค ซึ่งสามารถใช้ในการสร้างยาที่เรียกว่า Anti-D ซึ่งมีความสามารถในการต่อต้านโรค Rhesus ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เม็ดเลือดของแม่เข้าทำร้ายทารกในครรภ์ได้ วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของ Harrison นั้น เริ่มมาจากการผ่าตัดครั้งใหญ่ที่หน้าอก เมื่อตอนที่เขาอายุได้เพียง 14 ปี เขารอดชีวิตจากการผ่าตัดครั้งนั้นด้วยเลือดที่มีผู้บริจาคเข้ามาให้แก่โรงพยาบาล ดังนั้นเขาจึงสาบานกับตัวเองว่าจะมาเป็นผู้บริจาคเลือดเมื่อหายดี หลายปีต่อมาหลังจากวันนั้น ทีมแพทย์ก็พบว่าเลือดของเขานั้นมีแอนติบอดีพิเศษ ทำให้เขาเปลี่ยนมาบริจาคเลือดพลาสมา (หรือที่เรียกว่าน้ำเลือด) เพื่อที่จะช่วยเหลือชีวิตให้มากที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าเลือดแบบพิเศษของเขามาจากไหน แต่หลายๆ คนเชื่อว่ามันมาจากการผ่าตัดเมื่อตอนที่เขาอายุ 14…
-
ชาวบ้านชาวฟิลิปปินส์แตกตื่น พบ “สัตว์ประหลาด” เกยตื้น เชื่อเป็นสัญญาณสิ่งเลวร้าย
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2018 เวลาหัวค่ำตามเวลาในท้องถิ่น ได้มีการพบซากสัตว์ประหลาดความยาว 20 ฟุต (ราวๆ 6 เมตร) ลอยมาเกยตื้นที่ชายฝั่งที่ Oriental Mindoro ในประเทศฟิลิปปินส์ ชาวบ้านกลุ่มที่ค้นพบซากขนาดใหญ่ที่ว่านี้ กล่าวว่ามันมีกลิ่นที่ราวกับมาจากนอกโลก เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ปรากฏชื่อ และตั้งชื่อให้มันว่า “กล็อบสเตอร์” ทางนาวิกโยธินของฟิลิปปินส์ได้เข้าทำการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตตัวนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่พวกเขาหวังว่าจะได้คำตอบในเร็วๆ นี้ว่าตกลงเจ้ากล็อบสเตอร์ตัวนี้เป็นตัวอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตามการเกยตื้นในครั้งนี้สร้างความไม่สบายใจแก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยมีชาวบ้านส่วนหนึ่งที่เชื่อว่าการปรากฏตัวของเจ้ากล็อบสเตอร์ตัวนี้จะนำมาซึ่งเรื่องร้ายๆ ในอนาคต ผู้อาศัยในพื้นที่ Tam Maling กล่าวว่า “แผ่นดินไหวกำลังจะเกิดขึ้นที่ Oriental Mindoro เจ้ากล็อบสเตอร์ตัวนี้ต้องเป็นสัญญาณของสิ่งร้ายๆ เป็นแน่ ขอให้ทุกคนช่วยภาวนาให้พวกเราปลอดภัยด้วยเถอะ” ชาวบ้านยังเสริมอีกว่า “ผู้คนต่างตื่นตระหนกกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะมันมีคำพูดที่สืบทอดกันมาของพวกเราว่า เมื่อสิ่งมีชีวิตจากส่วนลึกที่สุดของมหาสมุทรเริ่มปรากฏตัวขึ้น มันจะนำมาซึ่งสิ่งที่ไม่ดีต่อพวกเรา” ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ภาครัฐจากสำนักการประมงและทรัพยากรน้ำในภูมิภาค Mimapora จะทำการกำจัดซากสิ่งมีชีวิตดังกล่าวให้เรียบร้อย โดยพวกเขาเชื่อว่านี้อาจเป็นซากปลาวาฬที่ตายแล้วก็เป็นได้ แต่ตัวจริงของเจ้ากล็อบสเตอร์ตัวนี้จะเป็นอะไรนั้น เราก็ยังคงที่จะต้องทำการติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิดนั่นเอง ที่มา thesun
-
เกิดเหตุไล่แทงคนบนถนนพลางตะโกน “Allah Akbar” ที่ปารีส ตำรวจเชื่อเป็นการก่อการร้าย
เมื่อวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้เกิดเหตุชายคนหนึ่งใช้มีดวิ่งไล่แทงประชาชนบนท้องถนนระหว่างที่ตะโกน “Allah Akbar” คำภาษาอารบิกที่แปลว่า “พระเจ้ายิ่งใหญ่ที่สุด” เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาประมาณสามทุ่มครึ่งตามเวลาในท้องถิ่น ซึ่งเป็นเวลาที่มีผู้คนพลุกพล่าน และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย และผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 ราย นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุยังพยายามที่จะเข้าไปในร้านอาหารและบาร์หลายแห่ง แต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากประตูถูกบล็อกจากคนที่เข้าไปหลบในร้าน ตำแหน่งสถานที่เกิดเหตุจาก BBC New ผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญในเวลาต่อมาโดยนายตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ หลังจากที่ไม่สามารถหยุดผู้ก่อเหตุด้วย Stun-Gun โดยนายกเทศมนตรีเมืองปารีส Anne Hidalgo ได้ยกย่องความกล้าหาญ และความเป็นมืออาชีพของตำรวจผู้ลงมือนอกจากนี้เธอยังกล่าวขอบคุณหน่วยฉุกเฉินที่มาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และคอยดูแลผู้บาดเจ็บอีกด้วย ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดการสืบสวนคดีนี้ในฐานะคดีการก่อการร้าย โดยทางกลุ่มผู้ก่อการร้าย ISIS ได้ออกมาอ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามการกล่าวอ้างในครั้งนี้ไม่ได้มีหลักฐานยืนยันแต่อย่างไร ในขณะนี้หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของกรุงปารีส ได้ทำการลงพื้นที่สอบสวนเพื่อหาหลักฐานเพื่อเติมเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งทางภาครัฐก็ได้เตรียมการรับมือกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แล้วเช่นกัน ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นฝีมือของทาง ISIS จริงๆ หรือไม่นั้น เรายังคงต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด …
-
หนุ่มได้ยินเรื่องเล่าว่าเอา ‘ขรี้’ ยัดตู้ ATM แล้วเงินจะไหลออกมา งานนี้ทำจริงก็ติดคุกสิครับ!!
ความที่คนเราอยากรวยนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร เพราะการมีเงินทองนั้นนำมาซึ่งความสะดวกสบายต่างๆ อย่างมากมาย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องใช้วิธีที่สุจริตถึงจะได้เงินมาใช้จ่ายอย่างสบายใจ และคงไม่มีใครอยากรวยทางลัดด้วยวิธีสกปรกๆ อย่างชายคนนี้ ที่เอาน้ำมันเครื่องไปเทราดและใช้ ‘ขรี้’ ยัดใส่เครื่อง ATM เพื่อหวังว่ามันจะคายเงินออกมา!! เรื่องราวชวนอ้วกนี้เกิดขึ้นที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน เมื่อมีชายคนหนึ่งที่ทราบชื่อภายหลังว่านามสกุล Lü ทำการอุจาดด้วยการเอาน้ำมันเครื่องไปเทใส่ตู้ ATM เท่านั้นยังไม่พอยังเอาถุงบรรจุ ‘ขรี้’ ยัดใส่เครื่อง ATM เพื่อหวังว่ามันจะพ่นเงินออกมาให้เขาได้เป็นเศรษฐีอย่างรวดเร็ว โดยภาพจากกล้องวงจรปิดในหลายๆ พื้นที่ได้จับภาพการกระทำของเขาเอาไว้ได้ ซึ่งชายคนนี้จะเริ่มต้นขึ้นด้วยการมาด้อมๆ มองๆ ที่ตู้ ATM ก่อน จากนั้นก็จะเริ่มสาดน้ำมันเครื่องใส่ตู้เอทีเอ็มหรือใส่ในช่องต่างๆ แต่ว่าเมื่อดูแล้วไม่ได้ผล เขาก็จะงัดไม้ตายออกมานั่นก็คือการยัดถุงพลาสติกบรรจุอุจจาระเข้าไปในช่องช่องหนึ่งของตู้ เพื่อหวังว่าเจ้าสิ่งปฏิกูลนี้มันอาจจะดลบันดาลเงินเป็นฟ่อนๆ ให้กับเขาได้ ชายหนุ่มคนนี้ตระเวนเอาวิธีสุดพิสดารของเขาไปทำตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ทั่วทั้งเมืองถึง 3 ครั้งด้วยกันในเดือนที่แล้ว และครั้งสุดท้ายนี้เองที่ทำให้เขาถูกจับกุมในที่สุด Lü ได้ให้รับคำสารภาพว่า ที่ทำพฤติกรรมสุดห่ามอย่างนี้ก็เพราะเคยได้ยินมาว่าวิธีนี้จะทำให้เครื่อง ATM ขัดข้องแล้วมันจะปล่อยเงินออกมาทำให้เขาเป็นเศรษฐีได้โดยง่าย วิดีโอขณะทำภารกิจของหนุ่มคนนี้ ตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเรื่องนี้เขาไปได้ยินมาจากใคร แต่เขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นคำด่าทอพร้อมกับต้องไปนอนในคุกซะมากกว่า……
-
เตรียมเงินไว้ให้พร้อม!! เพราะรองเท้ารุ่นใหม่สุดน่ารักจาก New Balance กำลังจะมา!!
ช่วงนี้ในหลายๆ พื้นที่ของประเทศไทยกำลังมีฝนฟ้าคะนอง ใครที่ต้องออกไปไหนมาไหนบ่อยๆ ล่ะก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยล่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายจนต้องนอนป่วยอดสนุกกันเอานะ แต่นอกจากสุขภาพร่างกายที่ต้องเอาใจใส่กันเป็นพิเศษแล้ว ช่วงนี้ ดูเหมือนว่าสุขภาพของกระเป๋าเงินเองก็ต้องดูแลให้ดีและเตรียมพร้อมอีกด้วยนะ… เพราะไม่อย่างนั้นคุณอาจจะพลาดรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสัตว์ เอ้ย!! ล่าสุดจาก New Balance ที่กำลังจะปล่อยออกมากระชากเงินในกระเป๋าคุณสาวๆ ก็ได้!! รองเท้าสีสันสุดน่ารักที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ก็คือ New Balance 608 Retro นั่นเอง รุ่นพิเศษที่กำลังจะออกมาเอาใจเหล่าสาวๆ นี้จะมาในโมเดลสุดคลาสสิคอย่าง 608 ซึ่งจะมี 3 สีด้วยกันคือ น้ำเงิน-เหลือง ชมพูอ่อน และเขียวอมฟ้า-ชมพูช็อคกิ้งพิงค์ เรียกได้ว่าน่ารักและน่าเป็นเจ้าของจริงจริ๊ง!! IU ดารานักร้องสาวชาวเกาหลีที่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับรองเท้าคอลเลคชั่นใหม่ของ New Balance สีสดใสที่ตัดกับพื้นสีขาวสุดคลาสสิคของรุ่น 608 มันช่างน่าจับจองจริงๆ สวยพี่สวย!! . รองเท้าคอลเลคชั่นใหม่ของทาง New Balance นี้จะวางจำหน่ายที่ประเทศเกาหลีในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ส่วนใครที่ไม่อยากพลาดล่ะก็ สามารถเข้าไปเกาะติดรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ nbkorea กันได้เลย หรือถ้าหากสาวๆ คนไหนมีโอกาสบินไปเกาหลีใต้ช่วงนั้นพอดีจะหิ้วติดไม้ติดมือมาก็ไม่ว่ากันนะจ๊ะ แต่สำหรับแฟนคลับชาวไทยอย่างพวกเราถ้าอยากเป็นเจ้าของล่ะก็ อาจจะต้องใช้ความพยายามกันหล่อยล่ะนะ…
-
แพรวพราว!! หนุ่มหลอกสาวออกเดทแล้วชิ่งค่าอาหาร ทำอย่างนี้มาแล้ว 3 ปีมีเหยื่อนับสิบราย!!
โดยปกติแล้วการออกเดทกันครั้งแรก หลังจากที่กินข้าวพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันอย่างมีความสุข ฝ่ายชายก็มักให้เกียรติด้วยการออกค่าอาหารให้เสมอ แต่มีชายคนหนึ่งที่ทำตรงกันข้าม เพราะว่าเขาหลอกให้หญิงสาวหลายรายเลี้ยงข้าวแบบฟรีๆ ด้วยการชิ่งหายไปหน้าตาเฉย และที่น่าทึ่งก็คือเขาทำอย่างนี้มาอย่างน้อย 3 ปีแล้ว!! โดยชายหนุ่มพราวเสน่ห์ร้ายคนนี้มีชื่อว่า Paul Gonzales เขาอาจจะไม่ใช่คนแรกๆ ที่ทำพฤติกรรมกินฟรีแล้วชิ่ง แต่ว่าเขาอาจจะได้รับการจารึกชื่อของตัวเองในประวัติศาสตร์ว่าเป็นคนทำพฤติกรรมแย่ๆ อย่างนี้บ่อยที่สุด เพราะเขาทำมาถึง 3 ปีเต็มๆ โดยชื่อของเขาได้เริ่มเป็นที่โจษจันกันในเมือง Pasadena รัฐแคลิฟอร์เนีย ในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เมื่อเขาหลอกหญิงสาวสองคนให้ไปออกเดทกินอาหารด้วยกัน (คนละเดทกันนะ) แล้วก็หาข้ออ้างเหตุผลต่างๆ นานาขอออกไปข้างนอก แล้วก็หายเข้ากลีบเมฆเหลือเพียงบิลค่าอาหารไว้ให้ฝ่ายหญิงจ่ายแทน ทำมาบ่อยจนออกเป็นข่าวเลยนะ ซึ่งเหยื่อหนึ่งในสองคนได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เธอได้เอาข้อมูลของชายคนนี้ไปสืบค้นบนโลกออนไลน์แล้วก็พบว่ามีหญิงสาวอย่างน้อยสองคนก่อนหน้าเธอที่โดน Paul หลอกเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อเมื่อเร็วๆ นี้เล่าให้ฟังว่า เธอได้พบกับ Paul ผ่านทางแอปพลิเคชั่นหาคู่แห่งหนึ่ง แล้วก็ได้ตกลงปลงใจไปออกเดทกับเขา ซึ่งทุกๆ อย่างก็เหมือนกับคู่เดทปกติทั่วๆ ไป ที่พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ก็มีอยู่จุดหนึ่งที่เขาอ้างว่าจะไปเอาสายชาร์จโทรศัพท์ที่รถซะหน่อย ทว่าเขาก็ไปแล้วไปลับไม่ได้เข้ามาในร้านอีกเลย และทิ้งให้เธอต้องจ่ายค่าอาหารจำนวน 130 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,100 บาท) แต่เพียงผู้เดียว…
-
ลูกค้าเหนียวหนี้ไม่ยอมจ่ายค่าน้ำ บริษัทเลยแก้เผ็ดเอา ‘พีระมิด’ ไปตั้งประจานหน้าบ้านเสีย!!
บางครั้งมันก็เป็นเรื่องที่เจ็บใจซะเหลือเกินสำหรับการ ‘ทวงหนี้’ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่ยืมเงินไป หรือว่าค่าอะไรจ้างๆ ที่เราควรจะได้รับ ซึ่งบางคนอาจจะใช้วิธีอันสุขุมนุ่มลึกอย่างการพูดจาดีๆ หรือใช้ไม้แข็งอย่างการข่มขู่ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าลูกนี้จะสำนึกคืนเงินเสียที งานนี้จึงต้องหาวิธีแก้เผ็ดให้มันสาแก่ใจซะหน่อย ถ้าหากคุณยังหาวิธีเอาคืนไม่ได้ล่ะก็ ลองเลียนแบบเรื่องราวนี้ดูก็ได้ เพราะมันสร้างความอับอายให้กับเหล่าผู้คนเหนียวหนี้ได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เมื่อบริษัทแห่งหนึ่งไม่ได้รับเงินค่าจ้างจากลูกค้าสักที พวกเขาเลยเอาพีระมิดหนัก 3 ตันไปตั้งประจานเอาไว้หน้าบ้านหรูของเขาซะเลย!! โดยเหตุการณ์ทวงหนี้แบบเจ็บแสบนี้เกิดขึ้นจากความที่บริษัท Samara Utility Systems Ltd บริษัทจัดการสาธารณูปโภค พยายามหลายต่อหลายครั้งในการเก็บเงินจากลูกค้าคนหนึ่งที่มีบ้านอยู่ในหมู่บ้าน Zubchaninovka เมืองซามารา ประเทศรัสเซีย ลูกค้าคนที่ว่านี้มีหนี้ที่ค้างชำระต่อบริษัทแห่งนี้อยู่ 50,000 รูเบิล (ประมาณ 25,000 บาท) ซึ่งทางบริษัทก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะเก็บเงินในส่วนที่พวกเขาควรจะได้ ทั้งการส่งจดหมายเตือนไปหลายต่อหลายครั้ง พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ รวมถึงส่งคนไปพูดคุยเจรจาเพื่อหาข้อยุติ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้เงินคืนแม้แต่แดงเดียว ในที่สุดแล้วเมื่อความอดทนสิ้นสุดลง บริษัทแห่งนี้จึงใช้ไม้เด็ดจัดการกับลูกค้า ด้วยการเอาพีระมิดคอนกรีตหนักกว่า 3 ตันและมีความสูง 1.5 เมตรไปวางไว้ข้างหน้าบ้านของลูกค้าคนนี้ซะเลย เพื่อเป็นการเตือนความจำให้กับเขาว่ายังมีหนี้ที่จะต้องจ่ายอยู่นะจ๊ะ พีระมิดที่ว่านี้ได้ถูกวางเอาไว้หน้าบ้านสุดหรูของลูกค้าในวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา และมันได้สร้างความอับอายขายขี้หน้าให้กับเจ้าของบ้านเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากรูปร่างแปลกๆ ของมันแล้วก็ยังมีข้อความที่แปลได้ว่า ‘มีลูกหนี้อาศัยอยู่ที่นี่’ และ…
-
Boston Dynamics พัฒนาหุ่นใหม่ ออกไปวิ่งจ็อกกิ้งในสวนสาธารณะได้ โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์
Boston Dynamics ชื่อนี้กับเรื่องเกี่ยวกับหุ่นยนต์นั้น จะเรียกว่าเป็นของที่มาคู่กันเลยก็ว่าได้ เพราะนี้คือนักพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีชื่อเสียงในการทำหุ่นยนต์ที่สามารถเดินได้ด้วยตัวเอง และเจ้าของความกลัวของผู้คนหลายคนในต่างประเทศในฐานะของผู้ที่สร้างหุ่นยนต์ที่สามารถเอาชนะ “การขัดขวางคำสั่ง” ของมนุษย์ได้ การทดลองส่วนใหญ่ของ Boston Dynamics มีจุดประสงค์หลักในการที่จะทำหุ่นยนต์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ ในทุกสภาพพื้นที่ที่มนุษย์จะเดินไปได้ Atlas รุ่นแรกๆ ที่เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2013 และล่าสุดนี้เอง Boston Dynamics ก็ประสบความสำเร็จในการทำหุ่นยนต์เดินสองขาตัวใหม่ล่าสุด ชื่อของมันคือ Atlas รุ่นใหม่ที่สูง 175 เซนติเมตร และหนักราวๆ 80 กิโลกรัม Atlas สามารถเดินไปในสวนสาธารณะ กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ตีลังกากลับหลัง วางของซ้อนกัน และป้องกันตัวเองเบื้องต้นได้ แถมยังสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ด้วยความรวดเร็วมากกว่ารุ่นก่อนๆ มาก จะสังเกตว่าเครื่องกีดขวางนั้น ไม่จำเป็นต้องมีสีหรือสัญลักษณ์พิเศษใดๆ แล้ว นี่นับว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์ที่มีขนาดใกล้เคียงกับคนจริงเลยก็ว่าได้ แถม Boston Dynamics ก็ยังไม่คิดที่จะหยุดการพัฒนาเทคโนโลยีของพวกเขาไว้แค่นี้ ไม่แน่นะว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นหุ่นยนต์ที่ขนาดเท่ากับมนุษย์ เข้ามามีบทบาทในชีวิตของพวกเราอีกมากเลยก็ได้ ที่มา theguardian, theverge, bbc
-
หนุ่มจับได้…พนักงานร้าน Subway แอบเอา ‘เบคอน’ ยัดใส่ในแซนด์วิชมังสวิรัติ ถัมเพื่อครายยย!?
พนักงานร้าน Subway ถูกถ่ายคลิปวิดีโอขณะกำลังแอบเอาเบคอนยัดใส่ในแซนด์วิชมังสวิรัติ… นาย Merdud Takalobughashi แรปเปอร์ที่รู้จักกันในชื่อ Mic Righteous ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมกับเคลมว่าพนักงานคนหนึ่งของร้าน Subway ได้แอบเอาเบคอนใส่ในแซนด์วิชมังสวิรัติ แรปเปอร์หนุ่มเล่าว่า ตอนเขาพยายามที่จะถ่ายภาพเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น พนักงานพยายามจะทำลายหลักฐาน เขาตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปที่หลังเคาน์เตอร์ ก็พบว่ามีเบคอนอยู่ในที่ใส่อาหารจริงๆ (สามารถเข้าไปชมคลิปวิดีโอได้ที่นี่) Merdud นำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสต์ลงในทวิตเตอร์พร้อมกับแคปชั่นว่า “ผมจับได้ว่าพนักงานที่ร้าน Subway เอาเบคอนใส่เข้าไปในชีส และเมื่อผมหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย เขาพยายามที่จะซ่อนเบคอนเอาไว้ที่หลัง LOL” นอกจากนี้เขายังเตือนไปถึงคนที่เป็นมุสลิม หรือคนที่กินมังสวิรัติ หรือคนที่แพ้เบคอน ไม่ให้มาใช้บริการร้าน Subway ที่สาขาสถานีรถไฟ Victoria Coach ในลอนดอนอีกด้วย พอรู้เรื่องดังกล่าวทางด้านโฆษกของ Subway ก็ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวว่า “การเสิร์ฟอาหารที่มีคุณภาพที่พึงพอใจของลูกค้า ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แต่จากที่เราเห็นในคลิป มีวัตถุดิบหลายอย่างอยู่ในที่ใส่อาหาร บางทีเบคอนที่ตกลงไปนั้นอาจจะเป็นเพราะอุบัติเหตุก็เป็นได้” “และถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น พนักงานทำแซนด์วิชควรจะนำที่ใส่อาหารนั้นไปเปลี่ยนใหม่ พนักงานทุกคนถูกฝึกให้ทำแบบนั้น” …
-
จีนเลือกที่จะสร้างถนนแคบลง เพราะไม่อยากไปตัดต้นอัลมอนด์เก่าแก่อายุ 402 ปี
โดยปกติของการสร้างถนนแล้ว หากถนนเส้นนั้นมีต้นไม้โผล่อยู่กลางถนน หรืออยู่ด้านข้างแต่ต้นใหญ่เกะกะถนน ก็จะมีการตัดออก หรือล้อมแล้วยกไปปลูกไว้ที่อื่นเพื่อให้สามารถสร้างถนน ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นการสร้างถนนที่หลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อต้นไม้ นี่เป็นเรื่องราวของต้นอัลมอนด์ต้นหนึ่ง อายุ 402 ปี ในเมืองหนานหยิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน ที่ขึ้นอยู่บริเวณกึ่งกลางของถนน ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงมันอยู่มาก่อนที่จะมีการก่อสร้างถนน แต่ด้วยความที่มันมีอายุเก่าแก่มาก ทำให้ทางภาครัฐเลือกที่จะไม่ตัดมันออก ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ CGTH บอกว่าต้นอัลมอนด์ต้นนี้มีอายุเก่าแก่มากจึงไม่อยากตัดมันทิ้ง และแม้จะมีการคิดหาทางเพื่อล้อมแล้วยกมันไปปลูกไว้ที่อื่นในปี 2016 เพื่อจะได้สามารถขยายถนนให้กว้างขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเนื่องจากลำต้นของมันทรุดโทรมมากและยังเป็นพันธุ์ไม้หายาก หากขุดยกมันไปปลูกที่อื่นก็อาจจะทำให้มันตายได้ ทำให้ทางภาครัฐต้องปล่อยมันไว้แบบนั้นแล้วสร้างถนนที่แคบลง และหาทางดูแลรักษาให้มันอยู่ได้นานๆ แทน ซึ่งปัจจุบันมันก็ยังคงผลิใบออกมาเรื่อยๆ และกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองจนได้ฉายาว่า “ผู้ตั้งถิ่นฐานที่อายุยืนที่สุด” ที่มา cgtn , China Xinhua News
-
เพราะแฟนอยู่ไกล…สาวตัดสินใจไม่ร่วม ‘งานพรอม’ แต่แต่งเป็น ‘สลอต’ มาป่วนคนอื่นแทน!!
สำหรับต่างประเทศแล้ว ‘งานพรอม’ ถือเป็นงานสำคัญ ที่จะจัดขึ้นหลังจากจบชั้นไฮสคูล และเป็นการแยกย้ายกันไปตามวิถีชีวิตของตัวเองต่อไป ในงานนี้สาวๆ หนุ่มๆ ก็จะมีการสารภาพรักกัน และชวนกันไปงานพรอม สาวๆ ก็จะแต่งตัวในชุดงานราตรีให้สวยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สำหรับ Brianna สาววัย 18 ปี จากรัฐเซาท์แคโรไลนา เธอเลือกที่จะไม่เข้าร่วม ไม่สวมชุดราตรีสวยๆ ไปร่วมงานพรอม แต่กลับสวมชุด ‘สลอต’ ไปป่วนโฟโต้บอมบ์เพื่อนๆ ทุกคนแทน และสาเหตุที่ทำแบบนั้นก็เพราะแฟนหนุ่มของเธออาศัยอยู่กันคนละซีกโลกที่อัมสเตอร์ดัม และนั่นทำให้เธอตัดสินใจเดินสายฮาแกล้งเพื่อนๆ ซะเลย พี่ชายของ Brianna ชื่อว่านาย Cameron Ludlum เล่าว่า “แฟนของน้องสาวผมอาศัยอยู่ที่อัมสเตอร์ดัม และชุดสลอตนี้ก็เป็นชุดที่เขาซื้อให้กับเธอ เขาบอกว่าเจ้าตัวสลอตนี้มันเหมือนกับเธอ เพราะเป็นตัวขี้เกียจ แต่ขณะเดียวกันก็น่ารัก” Cameron โพสต์เรื่องราวของน้องสาวตัวเองลงบนทวิตเตอร์พร้อมกับแคปชั่นว่า “น้องสาวของผมตัดสินใจไม่ไปร่วมงานพรอม เพราะแฟนหนุ่มของเธออยู่ที่อัมสเตอร์ดัม เธอก็เลยแต่งเป็นสลอตไปโฟโต้บอมบ์ใส่ทุกคน” ทางด้าน Brianna ก็เล่าถึงความรู้สึกของตัวเองว่า “ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ…
-
เปิดตัว ‘หลินลี่ & แอโร่’ ฮีโร่มาร์เวล ‘สัญชาติจีน’ สองคนแรกของโลก!!
และนี่คือสองซูเปอร์ฮีโร่สัญชาติจีนจาก Marvel ที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของ Marvel และ NetEase ที่เป็นแพลตฟอร์มคอมมิกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน Lin Lie และ Aero สองซูเปอร์ฮีโร่ กำลังจะเปิดตัวครั้งแรกในสัปดาห์นี้ และดูเหมือนว่าเราอาจจะได้เห็นร่องรอยบางอย่างที่จะเชื่อมโยงไปถึงฮีโร่ร่วมสังกัดใน Marvel ชื่อดังที่เรารู้จักกันดีอย่าง Hulk และ Iron Man เอาล่ะเรามาทำความรู้จักกับฮีโร่ทั้งสองตัวนี้ดีกว่า Lin Lie เป็นตัวเอกในคอมมิกที่มีชื่อแปลว่า “นักรบสามอาณาจักร” โดยจะเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 18 ปี ที่บังเอิญเจอดาบโบราณ และหยิบมันขึ้นมาต่อสู้กับวายร้ายที่มีชื่อว่า Chiyou ซึ่งมีเป้าหมายในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ ส่วนคอมมิกอีกเรื่องชื่อว่า Cyclone มีตัวเอกคือ Aero หรือที่รู้จักกันในชื่อ Lei Ling เธอเป็นสถาปนิกในช่วงกลางวัน แต่ในช่วงเวลากลางคืนเธอทำหน้าที่เป็นฮีโร่ช่วยปกป้องเมืองจากเหล่าวายร้ายด้วยพลังพิเศษในการควบคุมอากาศได้ แม้ว่าจะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการว่าฮีโร่สัญชาติจีนทั้งสองตัวนี้ จะมีโอกาสได้ร่วมออกสู้กับทีม Avengers หรือไม่ แต่จากฉากในคอมมิกก็พบว่ามี Easter Egg อยู่…
-
เที่ยวเถอะครับ!! สตาฟสวนสัตว์กราบขอร้องให้คุณไปเที่ยว เพราะไม่งั้นจะไม่มีเงินเดือน
ชาวญี่ปุ่นดูจะมีวิธีเรียกลูกค้าหรือการสร้างจุดสนใจได้แตกต่างจากประเทศอื่นๆ อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาสาวๆ ออกมาเต้นหน้าร้านให้ลูกค้าดู หรือการออกแอกชั่นท่าทางให้มันๆ ไว้ก่อน เพื่อให้คนสนใจพวกเขา และล่าสุดเราก็ไปเจอการเรียกลูกค้าแบบแปลกๆ จากญี่ปุ่นอีกแล้ว แม้ว่าจะอยู่ภายใต้ความกดดันเล็กๆ ก็ตาม… เรื่องที่เรานำมาเล่าในวันนี้เป็นเรื่องของสวนสัตว์น้ำ Katsurahama Aquarium ในจังหวัดโคชิ ประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดทำการมาตั้งแต่ช่วง 1930 เป็นต้นมา เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า – 5 ทุ่ม แต่ปัญหาก็คือว่าในระยะหลังมานี้นักท่องเที่ยวที่สวนสัตว์น้ำแห่งนี้ลดลงอย่างน่าใจหาย ทำให้เจ้าหน้าที่ที่นี่ต้องออกมาโพสต์ข้อความวิงวอนผ่านทวิตเตอร์พร้อมกับท่าทางสุดฮา เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง เพราะไม่อย่างงั้นพวกเขาจะไม่มีเงินเดือนนั่นเอง ข้อความจากทวิตเตอร์ของพวกเขาเขียนไว้ว่า “ขอร้องล่ะครับ ช่วยกลับมาเที่ยวและสนุกที่สวนสัตว์น้ำที่นี่ที ถ้าไม่มีลูกค้าเลยอยู่แบบนี้พวกเราจะไม่ได้เงินเดือนนะครับ พวกเราจะได้เงินเดือนเท่ากับจำนวนลูกค้ารายหัวนะ” พร้อมกับแฮชแท็ก #layingourselvesatyourfeet ที่สื่อถึงการโค้งคำนับอย่างถ่อมตัวที่สุดเท่าที่จะทำให้ได้ แต่ถ้าสังเกตดีๆ หนุ่มคนกลางกลับทำมากกว่าการโค้งคำนับ คือการที่เขายกมือขึ้นมาไว้บนหัว และคนขวาที่ยกลำตัวขึ้นมาเพื่อสื่อว่าเขาทุ่มสุดตัวยิ่งกว่า… นอกจากนั้นยังมีอีกหลายทวีตตามมา “\เราไม่ได้ได้เงินเดือนเท่ากับจำนวนลูกค้ารายหัวหรอก” เพื่อสื่อว่าข้อความก่อนหน้านี้เป็นการล้อเล่น และมากไปกว่านั้น… ฉะนั้นหากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น แถวๆ จังหวัดโคชิล่ะก็ อย่าลืมแวะไปทักทายพวกเขาด้วยนะ ที่มา soranews24
-
สาวเจอโรคจิตโชว์ของลับอยู่ด้านหลัง เธอรายงานคนขับ แต่กลับถูกบอกให้ย้ายที่!!
เรื่องราวอันน่ากลัวนี้เกิดขึ้นกับ Karlah Daly หญิงสาวรายหนึ่ง หลังจากที่เธอได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของหนุ่มโรคจิตรายหนึ่งที่กำลังช่วยตัวเองอยู่ทางด้านหลังเธอ หญิงสาวอ้างว่าเธอได้บอกคนขับรถเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ นอกจากบอกให้เธอย้ายที่นั่ง และนี่คือคลิปวิดีโอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. บนรถบัสสายหนึ่งในเมือง Yorkshire ประเทศอังกฤษ Daly ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในตอนแรกชายหนุ่มในชุดสีแดงที่เราเห็นนั่งอยู่ทางด้านหลังของรถบัสคันดังกล่าว แต่หลังจากที่ผู้โดยสารลงหมดแล้ว เขาจึงขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ เธอ หญิงสาวเล่าว่าเธอสังเกตบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นได้จากกระจกหน้าต่างที่สะท้อนอยู่ข้างๆ “ฉันเห็นบางอย่างกำลังขยับอยู่ ที่สะท้อนมาจากกระจกหน้าต่าง และเมื่อฉันมองไปรอบๆ ฉันก็เห็นเขาจ้องมาที่ฉันและกำลังช่วยตัวเองอยู่” หญิงสาวให้สัมภาษณ์ หลังจากที่เห็นดังนั้น หญิงสาวได้หยิบโทรศัพท์มือถือมาเพื่อบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอร้องให้หนุ่มคนนั้นหยุดการกระทำของเขา แต่เขากลับไม่หยุดพร้อมกับมองมาที่เธอและบอกเธอในขณะที่กำลังจะลุกหนีว่า “ผมรักคุณ” Daly บอกกับสื่อว่า ในขณะนั้นมีผู้โดยสารชายอีกคนอยู่บนรถกับเธอด้วย แต่เขาไม่ได้เข้าช่วยเหลือแต่อย่างใด หญิงสาวจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากคนขับรถ แต่เขากลับบอกให้เธอย้ายที่นั่ง “เขาบอกฉันเพียงแค่ว่าย้ายมานั่งที่ตรงบันได และไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเลย” หญิงสาวให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตามหลังจากที่คลิปวิดีโอของเธอถูกเผยแพร่ออกไป ทางตำรวจของจาก West Yorkshire กำลังทำการสืบสวนเรื่องนี้อยู่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการจับกุมแต่อย่างใด ที่มา mirror
-
พ่อบ้านเกือบซวย ภรรยาเจอ ‘เล็บปลอม’ ในรถคิดว่านอกใจ นำไปสู่การสืบสวนยิ่งกว่าโคนัน!!
‘ชีวิตคู่’ หากมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ย่อมทำให้เกิดการระหองระแหงเป็นธรรมดา และบางครั้งมันก็สามารถนำไปสู่จุดจบของความสัมพันธ์ได้เลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับสามีรายนี้ ที่ถูกแฟนสาวของตัวเองจับได้ว่ามีชู้ เพราะเธอบังเอิญพบ ‘เล็บปลอม’ แปลกๆ ในรถของเขา ซึ่งเธอไม่เคยใช้และไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ไปๆ มาๆ พอสืบสาวราวเรื่องไปก็พบว่ามันมีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่ และความซวยก็ดั๊นมาตกอยู่ที่พ่อบ้านท่านนี้ที่เกือบจะถูกภรรยาบอกเลิกเลยทีเดียว เรื่องมีอยู่ว่านาย Muhannad Kaddour จากเขตเลย์ตันสโตน ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองลอนดอน กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หลังภรรยาของเขาพบ ‘เล็บปลอม’ ตกอยู่ในรถยี่ห้อ Lexus RX400 ของเขา แถมยังไม่พอคุณภรรยายังบอกอีกว่าในรถมีกลิ่นของกัญชาอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่คุณพ่อบ้านไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนเลยในชีวิต คุณพ่อลูกสองยังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง และเริ่มที่จะสืบดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับรถของเขากันแน่!? แล้วก็ต้องพบกับเรื่องแปลกประหลาดที่แม้แต่เขาเองก็ยังไม่เชื่อสายตา จากการเฝ้าจับตาดูที่รถของตัวเองที่จอดอยู่หน้าบ้านตลอดเวลาก็พบว่า มีหนุ่มสาวสองคนเข้าไปอยู่ในรถของเขา พร้อมกับพี้กัญชาอย่างสบายอารมณ์ พอเสร็จกิจก็ขโมยของที่ถูกลืมทิ้งเอาไว้ในรถอีกด้วย!! พ่อบ้าน Kaddour เองก็ยังแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะทุกครั้งตอนออกจากรถเขาก็กดรีโมตล็อกรถเรียบร้อย แต่ไหงสองคนนั้นถึงยังเข้าไปในรถได้ล่ะนี่ จากการสันนิษฐานก็น่าจะเป็นเพราะว่าหัวขโมยทั้งสองคนนั้นใช้อุปกรณ์ในการรบกวนสัญญาณ ขณะกดรีโมตเพื่อล็อกรถนั่นเอง หลังจากที่รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว Kaddour ก็วางแผนที่จะจับกุมหัวขโมย เขาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารวบตัวทั้งคู่ขณะที่กำลังใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขอยู่บนรถของเขา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเลือกที่จะปล่อยตัวคนร้ายไปซะงั้น!? “หัวขโมยสองคนนี้เข้ามาอยู่ในรถของผม ขโมยของของผม ทำให้รถสกปรก เล่นยากันในรถ…
-
ต้องสลดกันอีกกี่ครั้ง!! มีคดีเผาเหยื่อข่มขืนที่อินเดียอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 ในเวลาสัปดาห์เดียว
เริ่มต้นจากคดีหนุ่มอินเดียโมโหที่โดนลงโทษลุกนั่งร้อยครั้งจากคดีข่มขืน เลยทุบตีพ่อแม่และเผาเหยื่อทั้งเป็น ต่อด้วยคดีเผาเหยื่อคดีข่มขืนสาวชาวอินเดียวัย 17 ปีในวันเดียวกัน ล่าสุดนี้ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2018 นี้เองก็ได้มีรายงานของเหยื่อความรุนแรงในรูปแบบนี้อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นครั้งที่สามในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ การชุมนุมประท้วงของเด็กนักเรียนหญิงในวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่เกิดคดีข่มขืนต่อเนื่องสองคดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเกิดคดีที่สามขึ้นมาอีก เหยื่อของคดีในครั้งนี้เป็น เด็กสาววัย 16 ปีผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Jujharpur ในย่านซาก้าของรัฐมัธยประเทศ โดยเธอถูกราดน้ำมัน และจุดไฟเผาจนถึงแก่ความตาย หลังจากถูกข่มขืนโดยชายวัย 28 ปีซึ่งเป็นเพื่อนร่วมหมู่บ้าน ทางตำรวจออกมาเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาของคดี นาย Ravi Chadhar ได้ทำการบุกเข้าไปข่มขืนเหยื่อที่ตอนนั้น อยู่ในบ้านเพียงลำพัง หลังจากการข่มขืนเสร็จสิ้น เด็กสาวได้ขู่ Chadhar ว่าจะฟ้องเรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่ ดังนั้นด้วยความกลัว Chadhar จึงตัดสินใจราดน้ำมันจุดไฟเผาเธอจนถึงแก่ความตายเพื่อเป็นการปิดปาก ร่างของเธอถูกพบโดยน้องชายของเธอที่เล่นอยู่นอกบ้าน หลังจากที่เขาเห็นควันไฟลอยออกมาจากในตัวบ้าน ทางตำรวจเปิดเผยว่า “ตอนนั้นผู้ปกครองของเด็กสาวเดินทางไปที่ Bandri (ห่างออกไปราวๆ 25 กิโลเมตร) และน้องชายของเธอกำลังเล่นอยู่นอกบ้าน เขาเห็นควันไฟลอยออกมาจากในบ้านจึงได้รีบวิ่งไปยังที่เกิดเหตุ ในตอนนั้นเองที่เขาเห็นผู้ต้องหายืนอยู่ใกล้ๆ กับตัวบ้าน”…
-
เห็นแล้วจั้กจี้ ภาพการนำเอา “ปลายสำลี” ออกมาจากหู จากที่มันติดอยู่ในนั้นนานกว่า 2 ปี!!
เรามักจะใช้ คอตตอนบัด (ไม้ปั่นหู หรือ Cotton Bud) ในการแหย่เข้าไปในรูหู ปั่นให้ขี้หูหลุดออกมาเป็นก้อน แต่เราต้องอย่าลืมสังเกตให้ดีว่าตอนดึงออกมาตรงปลายของมันยังอยู่อยู่หรือเปล่า เพราะไม่อย่างนั้นมันอาจไปติดอยู่ด้านในเหมือนชายคนนี้ ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2018 สำนักข่าว Mirror ได้รายงานเกี่ยวกับกรณีของชายนิรนามคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่า ภายในหูของเขามีส่วนปลายของคอตตอนบัดติดอยู่ในนั้นนานกว่า 2 ปี ปลายสำลีคาอยู่ในหูของเขานานกว่า 2 ปี ชายคนนี้เพิ่งรับรู้ถึงสิ่งแปลกปลอมในตอนที่เขาออกไปว่ายน้ำ หลังจากนั้นตัวคอตตอนบัดที่คาอยู่ด้านในก็เกิดอาการพองตัว ทำให้เขารู้สึกเจ็บบริเวณด้านในหู และได้ยินเสียงอู้อี้ๆ ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบตรงไปหาผู้เชี่ยวชาญเป็นการด่วน และนั่นจึงทำให้เขาได้พบกับ Neel Raithatha เจ้าของฉายา “Wax Whisperer” (ประมาณว่าเชี่ยวชาญด้านขี้หู) ณ คลินิก Hear ในเมือง Oadby ประเทศอังกฤษ ภาพในตอนที่ผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือชายคนนี้ Neel จึงทำการสอดกล้องเข้าไปด้านในจนพบกับตัวปัญหาในครั้งนี้ ซึ่งเขาบอกว่ามันคาอยู่ในนั้นมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี แต่โชคดีที่มันไม่ได้ทำร้ายส่วนแก้วหูหรือเยื่อแก้วหูของคนไข้เลย หลังจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญก็ใช้เวลาราวๆ หนึ่งนาที ตั้งใจนำมันออกมาอย่างพิถีพิถันและละเอียดอ่อน เพื่อไม่ให้ไปเกี่ยวหรือดึงทำลายเยื่อแก้วหู…
-
ศาลสั่งห้ามหญิงอังกฤษร้องเพลง เพราะถูกเพื่อนบ้านร้องเรียน ว่าเสียงเหมือน “แมวจมน้ำ”
เรื่องฮาๆ นี้เกิดขึ้นในเมืองนอร์วิช ประเทศอังกฤษ เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งถูกศาลสั่งห้ามไม่ให้ร้องเพลง เพราะถูกเพื่อนบ้านร้องเรียนว่าเสียงของเธอไม่ไพเราะและเหมือนกับเสียง “แมวจมน้ำ” ด้วย!? เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Odditycentral ได้รายงานว่าเมื่อปี 2014 นาง Heather Webb วัย 48 ปี ได้ก่อการร้ายเล็กๆ อย่างการร้องเพลงภายในอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง เสียงร้องของเธอนั้นดูจะดังจนลอยไปเข้าหูเพื่อนบ้านผู้ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เท่าไหร่ ทำให้เขาต้องส่งเรื่องร้องเรียนไปยังสภาท้องถิ่น แต่เธอไม่ได้ถูกปรับหรือตั้งข้อหาอะไร เพียงแต่ได้รับคำตักเตือนเท่านั้น จากนั้นในปี 2016 เพื่อนบ้านคนเดิมก็ได้ร้องเรียนไปยังสภาท้องถิ่นอีกครั้งเกี่ยวกับเสียงร้องเพลงของเธอ ที่ดังจนมารบกวนห้องข้างๆ แต่ Heather ก็ไม่ถูกดำเนินการใดๆ จนในที่สุด ในเดือนธันวาคมเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งจากหน่วยงานท้องถิ่นห้ามไม่ให้เธอร้องเพลงในอพาร์ตเมนต์ของเธออีก เนื่องจากส่งเสียงรบกวนแก่เพื่อนบ้าน แต่เธอกลับไม่ฟังและยังคงทำการเปิดคอนเสิร์ตเล็กๆ ของเธอต่อไป จึงมีคำสั่งห้ามไม่ให้นาง Heather “กระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดสัญญาณเตือนภัยหรือความเครียด” เป็นเวลา 2 ปี รวมไปถึงการห้าม “เล่นดนตรี ร้องเพลง…
-
จากการถูกบูลลี่สู่การเปิดเผยความงาม ถึงแม้จะผมแดงแต่ก็ไม่ได้แปลว่าต้องแตกต่าง
ปัญหาเรื่องการบูลลี่หรือการกลั่นแกล้งกันในสังคมต่างๆ ยังมีข่าวมาให้เห็นการอยู่ตลอด ซึ่งคงไม่มีใครที่อยากจะกลายเป็นฝ่ายที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างแน่นอน และการบูลลี่ในสังคมยังเป็นปัญหาที่ไม่สามารถหาวิธีแก้ได้ Bianca Duimel ชาวนิวซีแลนด์ก็เป็นคนหนึ่งที่ออกมาต่อต้านการบูลลี่กันในสังคม หลังจากที่เธอได้พบเจอเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนของลูกสาวเธออีกที สาวน้อยถูกบูลลี่ในโรงเรียนเพียงเพราะว่าเธอนั้นมีผมสีแดง Bianca Duimel ผู้ริเริ่มโปรเจกต์การถ่ายภาพ Bianca จึงอยากจะใช้เรื่องราวของสาวน้อยนี้ออกมาถ่ายทอด ด้วยจุดประสงค์ที่ว่า ในฐานะศิลปินเธอต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อสร้างความแตกต่างในทางบวก เธอเริ่มต้นโปรเจกต์การถ่ายภาพโดยการใช้นางแบบนายแบบที่มีผมสีแดงตั้งแต่ทารก เด็กหัดเดิน เด็กชาย เด็กหญิงและสาวๆ เพื่อนำไปจัดทำหนังสือชื่อว่า Red Matters หลังจากที่จัดทำหนังสือภาพไปก็ได้การตอบรับที่ดีเยี่ยม จึงได้มีการวางแผนที่จะออกเล่มที่ 2 ในปลายเดือนพฤษภาคมและเล่มที่ 3 ก็อยู่ในระหว่างการถ่ายทำ หนังสือเล่มนี้ได้รับการสนับสนุนรูปภาพที่ส่งเข้ามาทั้งทางอีเมลและทางเฟซบุ๊ก หลายๆ คนต้องการที่จะมีส่วนร่วมในหนังสือเล่มนี้ เริ่มมีคนผมแดงมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองว่าพวกเขาเจออะไรมาบ้างในชีวิต อย่างเช่นการถูกกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าจะแตกต่าง แต่ทุกสิ่งก็มีมุมที่สวยงามในตัวเอง เด็กน้อยผมแดงก็น่ารักในฉบับของเขา . . โปรเจกต์นี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างโปรเจกต์ที่ออกมาต่อต้านการบูลลี่ในสังคม มนุษย์ทุกคนเกิดมาย่อมมีความแตกต่างกันอยู่เสมอ แต่ความแตกต่างนั้นมันไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องแปลกแยกจากมนุษย์คนอื่นๆ ทุกคนเท่าเทียมกัน อย่าแบ่งแยกกัน และปัญหาเรื่องการกลั่นแกล้งกันควรจะหมดไปในสังคม ที่มา dailymail
-
สาวถูกเห็บกัด และเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เพราะไม่สามารถกินเนื้อสัตว์ได้อีกต่อไป!!
การถูกแมลงสัตว์กัดต่อย เป็นเรื่องที่เราควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าสัตว์นั้นมีพิษหรือเราแพ้สารอะไรที่อยู่ในตัวของมันบ้างหรือเปล่า และบางทีมันอาจทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไปเลยก็ได้ เหมือนกับสาวคนนี้ที่โดนเห็บชนิดหนึ่งกัด ซึ่งมันทำให้เธอกลายเป็นคนที่ไม่สามารถกินสัตว์เนื้อแดงได้อีกต่อไป… นี่คือเรื่องราวของสาวชาวโอคลาโฮมาชื่อว่า Nancy Phelps ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับปัญหาสุขภาพอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีที่ผ่านมาจากการโดนแมลงชนิดหนึ่งกัด เธอเริ่มมีสุขภาพที่แย่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างบริเวณใบหน้าและลิ้นของเธอเกิดอาการบวมขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ และเธอต้องเข้าออกโรงพยาบาลอีกนับครั้งไม่ถ้วน เพราะว่ามีบ่อยครั้งที่เธอต้องประสบกับอาการหายใจไม่ออก อาการต่างๆ เริ่มร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเธอก็นึกได้ว่ามันน่าจะเกิดมาจากความที่เธอถูกกัดโดยเห็บที่มีชื่อว่า Lonestar Tick ขณะที่เธอกำลังเล่นอยู่กับหลานๆ ที่สนามหลังบ้านในปี 2017 โดยอาการเริ่มแรกที่ปรากฏก็คือเริ่มมีผื่นแดงขึ้นตามตัว รวมถึงยังปวดท้องอยู่บ่อยๆ ซึ่งในตอนแรกเธอก็คิดว่าไม่มีอะไรและเป็นอาการทั่วๆ ไปที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่ว่าพอเข้าฤดูใบไม้ร่วมในปีนั้นเธอก็เริ่มมีอาการช็อกจากการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxia Shock) จนทำให้ชีวิตของเธอส่วนใหญ่ต้องหมดไปกับการรักษาโรคท่ี่เกิดขึ้น ในเวลาต่อมาคุณหมอหลายคนได้ลงความเห็นว่า เห็บที่กัดเธอในครั้งนั้นได้ทิ้งอาการ Alpha Gal Allergy เอาไว้ในตัวเธอ ส่งผลให้เธอมีอาการแพ้ต่อผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ซึ่งหากสาว Phelps กินอะไรก็ตามที่มาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมล่ะก็ เธอจะมีอาการแพ้แสดงออกมาอย่างชัดเจนจากใบหน้าและลิ้นที่บวมขึ้น และเธอต้องคอยฉีดยาควบคุมอาการนี้ให้คงที่เอาไว้ หนึ่งเข็มตลอดทุกๆ 2 สัปดาห์ด้วย “พิซซ่าคืออาหารที่ฉันรักมาโดยตลอด แต่ว่าต่อไปนี้มันคงไม่มีอีกแล้ว” Phelps กล่าว สำหรับในตอนนี้ยังไม่มียารักษาโรคภูมิแพ้ชนิดนี้ได้ แต่อาการก็อาจจะเบาบางลงเมื่อเวลาพ้นไป ซึ่ง Phelps ก็ออกมาเตือนทุกคนว่าให้เอาเรื่องของเธอเป็นอุทาหรณ์และป้องกันตัวเองให้ดีๆ เพราะหากคุณเป็นโรคนี้ล่ะก็จะต้องทนทุกข์ทรมานมากๆ…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าช่วยเหลือเจ้าหนูน้อยวัย 3 เดือนที่หยุดหายใจในรถได้ทันเวลา…
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ DailyMail ได้รายงานเหตุการณ์อันแสนน่าประทับใจที่เกิดขึ้นในรัฐฟลอริดา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าช่วยเหลือเด็กทารกที่หมดสติในรถได้ทันเวลา คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ต และได้เผยให้เห็นวินาทีแห่งชีวิตของเจ้าหนูน้อย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา บนถนนสาย 17 เมือง Ocala นาง Nechole Crowell ได้เปิดไฟฉุกเฉินของเธอ ก่อนที่จะนำรถเข้าจอดที่ข้างทาง และโชคดีที่รถของเจ้าหน้าที่ Jeremie Nix อยู่ตรงนั้นพอดี จึงทำให้นายตำรวจหนุ่มของเราเข้าทำ CPR และช่วยเหลือเจ้าหนูน้อยวัย 3 เดือนได้ทันก่อนที่จะนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา “เจ้าหน้าที่ Nix ได้ทำการปฐมพยาบาลเด็ก ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาล ตอนนี้เจ้าหนูน้อยอยู่ในการดูแลของแพทย์และได้รับการรักษาอย่างเต็มที่” รายงานจากทางสถานีตำรวจ นอกจากนี้ทางสถานีตำรวจยังได้เผยอีกว่า เพราะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวช่วยให้เจ้าหนูมีชีวิตรอดได้ ส่วนทางด้านนาง Crowell แม่ของเจ้าหนูน้อยก็ได้ออกมากล่าวขอบคุณการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ผ่านเฟซบุ๊กของเธอว่า “เมื่อวานนี้ลูกของฉันเกิดหยุดหายใจ ฉันกับพี่สาวสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่จอดรถอยู่ที่ตรงริมถนน เราจึงได้ขอให้เขาช่วย และด้วยความคิดอันแสนรวดเร็วของคุณตำรวจที่ช่วยลูกชายฉันเอาไว้ เขาพูดกับฉันว่า ไม่ต้องกังวล เขาจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าลูกชายของฉันจะปลอดภัย” ไปชมวินาทีการช่วยชีวิตเจ้าหนูน้อยได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าจดจำสำหรับหญิงสาวอย่างมาก ซึ่งตัวเธอเองรู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมากเลยทีเดียว “ฉันอยากให้โลกรู้ว่ายังมีตำรวจดีๆ อยู่…
-
สาวอ้างกิน ‘Haagen-Dazs’ เจอเศษแก้วบาดเลือดเต็มปาก แต่กลับได้บัตรกำนัลแค่พันเดียว
คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบในของหวานแสนอร่อยที่มีชื่อเรียกว่า ‘ไอศกรีม’ เพราะไอ้เจ้าขนมหวานเย็นนี้มันช่างมีรสชาติที่หอมหวานแสนอร่อย และบางทีมันก็ยังทำให้อารมณ์ของเราดีขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจ ทว่าบางครั้งมันก็สามารถสร้างความทุกข์ให้กับเราได้เหมือนกัน เหมือนกับเหตุการณ์ที่มีสาวจีนคนหนึ่งกำลังเพลิดเพลินกับการกินไอศกรีม แต่เธอกลับต้องเลือดท่วมปากจากเศษแก้วที่ปะปนอยู่ในไอศกรีมซะอย่างงั้น!! หญิงสาวผู้โชคร้ายคนนี้ได้รับการเปิดเผยว่ามีนามสกุลว่า Guo เธอเล่าว่าเหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อเธอเกิดอยากกินไอศกรีมขึ้นมา จึงเดินเข้าไปที่ร้าน Haagen-Dazs ภายในศูนย์การค้า Metro City ย่าน Xujiahui ประเทศจีน จากนั้นเธอก็จัดแจงสั่งเมนูพิเศษชื่อว่า “Spring Exclusive Menu” ราคา 248 หยวน (ประมาณ 1,250 บาท) ในเวลาไม่นานนักไอศกรีมตามสั่งของเธอก็มาเสิร์ฟอยู่ต่อหน้า และแน่นอนว่ารอช้าไม่ได้เพราะเดี๋ยวไอศกรีมจะละลายเสียก่อน เธอจึงตักไอศกรีมกินด้วยความเอร็ดอร่อย แต่ว่าทันใดนั้นเองระหว่างที่เคี้ยวอยู่นั้น เธอก็รู้สึกได้ว่ากัดโดนอะไรแข็งๆ เข้า ในตอนแรกเธอก็ไม่คิดอะไรเพราะคิดว่าเป็นธรรมดาที่อาจมีสะเก็ดน้ำแข็งปะปนมาบ้าง แต่ว่าในเวลาต่อมาเธอก็พบว่าตัวเองมีเลือดไหลออกมาเต็มปากไปหมด และไม่สามารถห้ามเลือดให้หยุดไหลได้ เมื่อผู้จัดการร้านเห็นดังนี้ จึงได้พานางสาว Guo ไปโรงพยาบาลโดย และหมอก็พบว่าเลือดที่ไหลออกมานั้นเกิดมาจากมีเศษอะไรบางอย่างไปบาดเข้าที่บริเวณลิ้นนั่นเอง หลังจากที่เธอปลอดภัยและสามารถห้ามเลือดได้แล้ว ทางร้านก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการมอบบัตรกำนัลมูลค่า 200 หยวน (ประมาณ 1,000 บาท) เป็นการปลอบใจ และขณะเดียวเดียวกันทางร้านก็ได้สืบสวนอย่างเต็มที่ว่ามีอะไรอยู่ในไอศกรีมถ้วยนั้นกันแน่ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ต Guo ก็ออกมากล่าวว่าเธอไม่อยากได้ความเห็นอกเห็นใจจากทางร้านรวมถึงบัตรกำนัล แต่เธออยากจะได้ค่าทำขวัญเป็นจำนวน…
-
หญิงสาวผู้เกิดมาพร้อมกับ ‘กระดูก’ อันแสนบอบบาง แค่สะอึก / จาม ก็ทำให้หักได้
Marie Holm Laursen สาววัย 21 ปี ผู้เกิดมาเป็นโรคกระดูกเปราะกรรมพันธุ์ ซึ่งเป็นความผิดปกติของยีนที่ผลิตสารที่พบในข้อต่อ และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกระดูก Marie อาศัยอยู่ในเมือง Aarhus ประเทศเดนมาร์ก เธอป่วยเป็นโรคนี้ตั้งแต่อายุได้ 1 สัปดาห์ เธอเล่าถึงตอนที่รู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคนี้ว่า วันนั้นเธอไปหาหมอเพราะเวลาเธอขยับขาไปมาก็จะมีเสียงแตกคล้ายกับว่ากระดูกหัก คุณหมอจึงพาเธอเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์แบบเต็มตัว และพบว่ามันเป็นเสียงกระดูกของเธอที่หัก รวมไปถึงมีร่องรอยของกระดูกหักเต็มไปหมดทั้งตัว เขาจึงสรุปว่าเธอเป็นโรคกระดูกเปราะบาง ตั้งแต่เกิดมาเธอเคยกระดูกหักไปแล้วมากกว่า 500 ครั้ง เพียงแค่ขยับผิดท่า ไอ จาม สะอึก หรือถูกกอดแรงเกินไป ก็ทำให้กระดูกของเธอหักได้แล้ว “ประสบการณ์ที่แย่ที่สุดในชีวิตของฉันคือการตกเก้าอี้รถเข็นเมื่อปี 2013 กระดูกในร่างกายของฉันหักเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงมีเลือดออกในสมอง แม้แต่คุณหมอก็ไม่แน่ใจว่าฉันจะรอดจากอุบัติเหตุในครั้งนั้นได้หรือเปล่า” Marie เล่า ชีวิตในวัยเด็กของ Marie นั้นเป็นอะไรที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก เธอเล่าว่าผู้คนมักจะมองเธอด้วยสายตาประหลาด แถมยังมีคนแอบซุบซิบนินทาอยู่บ่อยครั้ง แต่ปัจจุบันเธอเลือกที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านั้น “ผู้คนไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ และฉันจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อบอกให้พวกเขารู้” Marie กล่าว “โรคที่ฉันเป็นมันส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของฉัน เพราะความเปราะบางของมัน ทำให้ฉันต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ” “ส่วนสำคัญที่ทำให้ฉันสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขเหมือนในทุกวันนี้ก็คือครอบครัวและเพื่อนๆ…
-
สาวตกหลุมรักหนุ่ม….ส่งข้อความหา 65,000 ครั้ง แอบเข้าบ้าน บุกถึงที่ทำงาน
‘ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก’ เป็นเทคนิคการจีบที่สามารถใช้มัดใจหนุ่มหรือสาวที่คุณหมายปองได้อย่างชะงัดบ้างไม่ชะงัดบ้าง แต่บางครั้งการตื๊อมากเกินไปก็อาจจะเป็นผลร้ายจนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาได้ เช่นเดียวกันกับสาววัย 31 ปีคนนี้ ที่ตื๊อหนุ่มหลังจากที่เพิ่งเดทกันครั้งแรกด้วยการส่งข้อความให้เขามากกว่า 65,000 ครั้งเลยทีเดียว!! Jaqueline Ades สาววัย 31 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจับกุมที่เมือง Pheonix เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยข้อหาข่มขู่และคุกคาม รวมไปถึงสร้างความลำบากใจ ความอึดอัดใจให้กับผู้อื่น ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา ตามรายงานระบุว่าเธอพบกับชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในเมือง Paradise Valley ผ่านเว็บไซต์หาคู่เดทตั้งแต่ปี 2017 ทั้งสองคนตกลงปลงใจไปเดทด้วยกัน 1 ครั้ง และดูเหมือนว่า Ades จะตกหลุมรักชายหนุ่มคนดังกล่าว จึงเริ่มลงมือจีบเขา จากคำให้การณ์ของชายที่ตกเป็นเหยื่อการถูกตื๊อของเธอเล่าว่า คำแนะนำตัวเองในโซเชียลมีเดียของ Ades ระบุว่าเธอเป็นช่างแต่งหน้า และเธอก็มีพฤติกรรมแปลกๆ คือส่งข้อความมาหาเขาเป็นจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่าวันละ 500 ข้อความ เมื่อปีที่ผ่านมามีครั้งหนึ่งที่ Ades ขับรถมาจอดหน้าบ้านของเขาและส่งข้อความหา จนเขาทนไม่ไหวเลยตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจ และล่าสุดเมื่อเดือนก่อนหน้านี้ ชายผู้ตกเป็นเหยื่อแจ้งตำรวจจับเธออีกครั้ง เพราะเขาเช็กกล้องวงจรปิดแล้วพบว่า…
-
ให้มันได้อย่างนี้… หนุ่มสุดจะซวย รถแสนรักเป็นรอยขูดฟ้าประทาน เพราะหมาแมวทะเลาะกัน
ใครต่อใครต่างก็รักรถของตัวเองทั้งนั้น (รึเปล่า?) หากเกิดเป็นรอยเพียงแค่นิดเดียว ก็อาจะทำให้รู้สึกหงุดหงิด จนไม่อยากจะทำอะไรต่อไปทั้งวันเลยทีเดียว… เพราะด้วยมูลค่าตัวรถที่สูง กว่าจะเก็บหอมรอมริบเงินแต่ละสตางค์ จะต้องมาเสียค่าทำสี เก็บรอยยิบย่อยต่างๆ ให้หมดจด รถไม่สวยไม่ได้ ต้องเสียตังค์ดูแลเพิ่ม!! รอยขูดสุดช้ำ ทำน้ำตาอาบสองแก้ม อย่างความซวยของหนุ่มรายหนึ่งในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ที่รีบโทรแจ้งตำรวจ เนื่องจากพบรอยขูดขีดบาดลึกบนรถยนต์แสนรักของตนในช่วงวันที่ 16 เมษายน โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งนี้ การสืบสวนจึงเริ่มต้นขึ้นซึ่งสิ่งแรกที่พอจะสืบหาได้ก็คือกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้น ซึ่งภายหลังก็สามารถระบุตัววายร้ายได้ เจ้าหน้าที่แจ้งให้เจ้าของรถทราบว่า ผู้ร้ายก็คือ ‘หมา 2 ตัว’ เหตุที่ทำให้ หมา 2 ตัวลงมือทำลายทรัพย์สินเนื่องจากพวกมันเห็นตุ๊กตาแมวที่วางอยู่หน้ารถ จึงพยายามตะเกียกตะกายขึ้นบนกระโปรงรถ หวังจะไปฟัดตุ๊กตาให้สิ้นซาก แรงจูงใจข้างต้นนั้น เจ้าหน้าที่คาดว่าเจ้าหมาคงจะเคยผ่านศึกกับแมวจริงๆ มาก่อน พอเห็นตุ๊กตาแมวปุ๊บ จึงเกิดบันดาลโทสะ หงุดหงิดคิดจะกำจัดคู่อริทางสายพันธ์ุให้หมดไปนั่นเอง ต้นเหตุที่ทำให้เจ้าหมาบันดาลโทสะ!! คลิปเหตุการณ์ทำลายทรัพย์สินสุดสะเทือนใจ โดยเฉพาะคนรักรถ อย่างไรก็ตาม ไม่มีบทสรุปของคดีทำลายทรัพย์สินเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด แต่ทำให้เราได้รู้ว่า การวางตุ๊กตาแมวไว้หน้ารถ…
-
สุดหวาดเสียว… ทารกตัวน้อยหลุดมาเดินเล่นอยู่ขอบหน้าต่าง บนตึกสูง 5 ชั้น!!
การเลี้ยงดูเอาใจใส่ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับการดูแลเด็กทารก ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อให้พวกเขาเติบใหญ่เป็นคนดี มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ แต่มันยังรวมถึงเรื่องความปลอดภัยไม่ให้พวกเขาต้องไปอยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบเด็กคนนี้ นี่คือภาพเหตุการณ์ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2018 ณ อาคารที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่งในเมืองฉางชุน ประเทศจีน เมื่อชาวบ้านพบเห็นเด็กน้อยวัยแบเบาะยืนเกาะอยู่ตรงบริเวณขอบหน้าต่างบนชั้น 5 ของตึกอย่างน่าหวาดเสียว ชาวบ้านพบเด็ก ยืนอยู่ริมขอบหน้าต่าง บนชั้นที่ 5 ของตึก พยานผู้เห็นเหตุการณ์คนแรกบอกว่าเธอได้ยินเสียงเด็กร้องหาแม่ จนเมื่อแหงนขึ้นไปถึงได้พบภาพชวนเสียวสันหลังนี้ ก่อนที่จะร้องเรียกให้หลายๆ คนคิดหาทางช่วย ผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกคนบอกว่าเด็กน้อยดูไม่ได้กลัวอะไรเลย กลับยิ้มๆ มีความสุขเมื่อเห็นว่ามีคนมองไปหา และตะโกนบอกว่า “อย่าขยับนะเจ้าหนู อย่าขยับ” เด็กน้อยเกาะอยู่อย่างนั้น แล้วก็พยายามขยับไปขยับมา ระหว่างนั้นชาวบ้านส่วนหนึ่งก็เอาฟูกและผ้าห่มมากางรอไว้เผื่อเด็กจะตกลงมา ในขณะที่อีกส่วนรีบมุ่งตรงไปยังห้องของเด็กน้อยและพยายามจะพังประตูเข้าไปช่วยเหลือ (ไม่มีการรายงานว่าผู้ปกครองของเด็กอยู่ภายในห้องด้วยหรือไม่) ท้ายที่สุดหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถเข้าห้องแล้วยื่นมือไปคว้าเด็กกลับเข้าไปได้ ทำเอาชาวบ้านทุกคนต่างโล่งใจไปตามๆ กัน สุดท้ายก็มีคนขึ้นไปคว้าตัวกลับเข้าห้อง คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว เรื่องราวนี่คงเป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นว่าการเลี้ยงลูกจำเป็นต้องใช้ความเอาใจใส่ที่สูง ไม่ควรปล่อยปละละเลย และต้องดูแลความปลอดภัยรอบๆ บ้านกันให้ดี ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์อาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนอย่างเด็กน้อยคนนี้ก็เป็นได้ …
-
หนุ่มจ่ายค่าเลิก 10 ล้านบาท แฟนสาวกลับปฏิเสธ ไม่ใช่ว่าไม่อยากเลิก แต่ “แค่นี้ไม่มากพอ”!!
บางคนอาจมองว่า เงิน เป็นสิ่งที่สามารถซื้อทุกอย่างได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินต่างๆ หรือแม้แต่การต้องตัดความสัมพันธ์กับใครสักคน เงินก็อาจกลายเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ตัวอย่างของสิ่งที่ว่ามานั้นเกิดขึ้นในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ณ ผับแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2018 สาวสวยวัยประมาณ 20 ปีกว่าๆ เดินเข้าไปในร้านพร้อมกับเพื่อนอีกคน ซึ่งพนักงานร้านถึงกับบอกว่าทั้งคู่แต่งตัวดูดีมีฐานะเอามากๆ ภาพจากกล้องวงจรปิด หลังจากที่สาวๆ ทั้งสองคนกำลังนั่งดื่มอยู่ จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มมาดเท่วัยใกล้ๆ กัน เดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง แล้วตรงไปร่วมโต๊ะกับ 2 สาวในทันที หลังจากที่คุยกันไปได้สักพักก็เกิดปากเสียงกัน ก่อนที่ฝ่ายชายจะลุกออกไปโดยทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ ส่วน 2 สาวก็ออกไปหลังจากนั้นไม่นานโดยที่ไม่ได้เอากระเป๋าเดินทางไปด้วย พนักงานร้านพบกระเป๋าเดินทางที่ทิ้งไว้จึงลองตรวจดู เมื่อเปิดมาก็เจอกับเงินสดจำนวนมากนับรวมกันได้ถึง 2 ล้านหยวน (ประมาณ 10 ล้านบาท) พนักงานเปิดกระเป๋า พบเงิน 2 ล้านหยวน พนักงานแจ้งไปกับผู้จัดการร้านแล้วจึงค่อยโทรไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในวันต่อมาเจ้าหน้าที่ก็มาเก็บเอากระเป๋าไปที่สถานี หลังจากนั้นชายหนุ่มที่กำลังตามหากระเป๋าอยู่ก็ตรงไปยังสถานีตำรวจของเมือง ทุกคนถึงได้รู้ว่าชายเจ้าของกระเป๋านั้นมีอายุเพียงแค่ 23…
-
ร้านอาหารจีนจัดโปรโมชั่น ‘ลอดช่องกรงได้ส่วนลด’ ยิ่งช่องเล็กได้กินอาหาร + เบียร์ฟรี!!
‘การทำธุรกิจ’ ส่วนใหญ่แล้วมีเป้าหมายหลักในการแสวงหาผลกำไร แต่ก็มีบางธุรกิจที่ไม่ได้มองแค่ผลกำไรเป็นหลักแต่ยังใส่ใจผู้บริโภคอีกด้วย เช่นเดียวกันกับร้านอาหารแห่งนี้ ที่มีโปรโมชั่นลดราคาให้กับลูกค้าที่สามารถลอดช่องเล็กในระดับที่แตกต่างกัน และยิ่งลอดช่องได้เล็กเท่าไหร่ก็จะได้รับส่วนลดมากขึ้นตามไปด้วย ร้านอาหารแห่งนี้อยู่ในเมืองจี่หนาน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศจีน โดยมีนาย Zhao Long เป็นเจ้าของร้าน และเขาเล่าถึงจุดประสงค์ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อทำให้ลูกค้าตระหนักถึงความสำคัญของการไดเอทแบบสนุกสนาน และรางวัลใหญ่ที่สุดก็คือ หากลูกค้าท่านใดสามารถลอดช่องที่เล็กที่สุดที่มีความแคบ 15 เซนติเมตรไปได้ จะได้ทานอาหารและเครื่องดื่มฟรี! คุณ Zhao เล่าว่า “หลายคนเคยบอกผมว่า พวกเขาต้องล้มเลิกแผนการลดน้ำหนักไป เพราะแค่พวกเขาไม่สามารถเลิกดื่มเบียร์ได้ เพราะฉันนั้น การทำแบบนี้อาจจะช่วยเตือนให้พวกเขากลับมาตั้งใจลดน้ำหนักต่อไปก็ได้” และนี่คือระบบการให้คะแนนของร้าน ช่องที่แคบที่สุดมีความกว้าง 15 เซนติเมตร หากผ่านไปได้ทานทั้งอาหารและเบียร์ฟรี!! ระดับต่อมามีความกว้าง 18 เซนติเมตร หากลอดผ่านไปได้ ได้เบียร์ฟรี 5 แก้ว ระดับที่ 3 มีความกว้าง 25 เซนติเมตร หากผ่านได้ ได้เบียร์ฟรี 1 แก้ว และสุดท้ายกว้าง 30…
-
หาดทรายแก้วจากจังหวัดนางาซากิ หาดทรายที่ทำจากแก้วจริงๆ ไม่ใช่ของก๊อปเกรด A
จังหวัดนางาซากิ ดินแดนจากทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากอาหารที่แสนอร่อยแล้ว เทศกาลไหว้พระจันทร์ของที่นี่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งงานเทศกาลที่น่าไปสัมผัสสุดๆ เลย และวันนี้เราก็มีอีกสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจของจังหวัดจากทางใต้แห่งนี้มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน นั่นก็คือ หาดทรายแก้วจากเมืองโอมูระ นั่นเอง ซึ่งความพิเศษของที่นี่ก็คือหาดทรายที่เต็มไปด้วยเศษแก้วระยิบระยับแทนผืนทรายขาวๆ เหมือนชายหาดที่เราเคยเห็นทั่วๆ ไปยังไงล่ะ แบบนี้!! หาดทรายแก้วที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียวแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่อุทยาน Morizono ซึ่งนอกเหนือจากความน่าทึ่งของที่นี่แล้ว คุณยังได้ชมความสวยงามของอ่าว Omura ที่อยู่ตรงหน้าอีกด้วย เศษแก้วมากมายเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการสลายตัวของสาหร่ายตามชายหาด ซึ่งจะส่งกลิ่นเหม็นในช่วงหน้าร้อนนั่นเอง ซึ่งพวกเขาได้ทำการลบขอบและความคมของมันออกจนหมด ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าคุณสามารถเดินชมความสวยงามของที่นี่ได้แบบปลอดภัยหายห่วงเลย อย่างไรก็ตามเราอาจจะต้องแสดงความเสียใจสำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวจะไปเล่นน้ำที่นี่ เพราะตอนนี้ทางการได้สั่งห้ามลงเล่นน้ำเพื่อเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติของที่นี่ แต่อย่างไรก็ตามคุณยังสามารถนำเสื่อและข้าวกล่องไปปิคนิคได้อยู่ . และนอกจากหาดทรายแก้วแห่งนี้แล้ว ที่จังหวัดนางาซากิแห่งนี้ก็ยังมีกิจกรรมน่าสนใจให้คุณได้ทำอีกมากมายด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตหรูๆ ในปราสาท หรือจะลองเช่าเกาะส่วนตัวพักผ่อนชิลๆ ก็มีให้เลือกนะเออ ที่มา soranews24
-
ครอบครัวถูกผีคุกคาม ข้าวของขยับเอง มีมวลพลังงานสีดำติดตาม จะใช้ชีวิตอย่างไรดีล่ะนี่
บนโลกของเรายังมีอีกหลายสิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร โดยเฉพาะเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของภูติผีปีศาจ หรือปรากฏการณ์เร้นลับหลายๆ อย่าง เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ เหตุการณ์แปลกๆ ดังกล่าวเกิดขึ้นกับครอบครัวที่อยู่ด้วยกัน 3 คน พ่อ แม่และลูกชายในเมือง Gravesend ประเทศอังกฤษ เมื่อพวกเขาพบว่า มีบางสิ่งบางอย่างอาศัยร่วมกันกับพวกเขาในบ้าน และนั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการสักเท่าไหร่ ภาพในตอนที่พวกเขากำลังใช้เวลาอยู่ในห้องครัว ทั้ง 3 คนนั้นเชื่อว่ามีผีสิงสถิตอยู่รอบๆ ตัว ทำให้หลายๆ ครั้งเวลามีเพื่อนมาบ้านก็มักจะเกิดอะไรแปลกๆ สร้างความขวัญผวาให้กับแขกทุกคนอยู่เสมอ ด้วยเหตุนั้นเอง Robert คุณพ่อวัย 55 ปีจึงตัดสินใจติดกล้องวงจรปิดเอาไว้แต่ละจุด และนั่นเองที่ทำให้พวกเขาได้พบเหตุการณ์ประหลาดมากมาย จู่ๆ แก้วก็ขยับเอง ทั้งๆ ที่เขาดูแล้วว่าพื้นโต๊ะไม่ได้เปียกอะไรเลย เก้าอี้หมุนมา เหมือนกับมีคนต้องการจะนั่ง หลังจากที่ได้เห็นข้อพิสูจน์เหล่านั้น ทุกคนก็เกิดอาการหวาดกลัวขึ้นมาในทันที Robert บอกว่า “บ้านหลังนี้มันประหลาดเกินกว่าที่จะอยู่ได้ เพื่อนและเพื่อนบ้านไม่กล้ามาเที่ยวหา โดยเฉพาะช่วงตอนกลางคืนที่ทำเอาไม่มีใครอยากจะไปไหนมาไหนภายในบ้านเลย แม้แต่การเข้าห้องน้ำ” บางครั้งเวลาที่เพื่อนมาหา ก่อนกลับพวกเขาจะตะโกนบอกวิญญาณในบ้านว่า “ไปก่อนนะ” ซึ่งนั่นมักจะทำให้จู่ๆ ประตูก็ปิดเองราวกับเป็นการส่งแขก …
-
ไปค่ะพี่!! จีนเปิดโรงเรียนสอนเป็น ‘เน็ตไอดอล’ ปากกาหนังสือไม่ต้องแค่สมาร์ทโฟนก็พอ
กลายเป็นที่ฮอตฮิตกันซะเหลือเกินในทุกวันนี้สำหรับ ‘เน็ตไอดอล’ หรือเหล่าคนดังในอินเทอร์เน็ต พวกเขาเหล่านี้คือผู้ที่มีผู้ติดตามมากๆ ในโลกออนไลน์ และก็สามารถสร้างประโยชน์จากจุดนี้จนกลายเป็นอาชีพได้ง่ายๆ อย่างรับโปรโมทสินค้า รีวิวผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่การสตรีมมิ่งสด ดังนั้นแล้วเราจึงเห็นได้ว่าวัยรุ่นหลายคน ก็มีความอยากจะเป็นคนเด่นคนดังในโลกไซเบอร์ แต่ถ้าทำยังไงก็ยังไม่ได้ผลล่ะก็ ขอแนะนำให้บินไปที่ประเทศจีน เพราะว่าตอนนี้พวกเขาได้มีโรงเรียนที่เปิดสอนให้เป็นเน็ตไอดอลเกิดขึ้นแล้ว!! โรงเรียนที่ว่านี้ตั้งอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหู่เป่ย ประเทศจีน ซึ่งเมื่อวันอังคารที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา พวกเขาได้ปฐมฤกษ์เปิดสอนเคล็ดลับการเพิ่มความเด่นดังในโลกไซเบอร์ ให้แก่เหล่าเน็ตไอดอลสาวสวยกว่า 60 คนที่ตบปากรับคำมาเข้าร่วม โดยทางโรงเรียนอ้างว่าพวกเขาจะช่วยสอนในเรื่องของการแสดงออก การตระเตรียมท่าทางต่างๆ มุมกล้อง และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อให้พวกเธอดูสมบูรณ์สวยที่สุดเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้อง แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดของหลักสูตรได้รับการเปิดเผยว่าเป็นอย่างไรบ้าง การจะมาเรียนที่นี่ไม่ต้องเอาหนังสือ ปากกาดินสอหรือเครื่องเขียนใดๆ ติดตัวมาเลย เพราะสิ่งที่จะต้องใช้ก็มีเพียงแค่ไม้เซลฟี่กับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพียงเท่านั้น คุณก็จะสามารถเข้าร่วมหลักสูตรการเป็นเน็ตไอดอลได้แล้ว โดยทางนักวิเคราะห์หลายคนของจีนได้คาดการณ์เอาไว้ว่า มูลค่าของตลาดสตรีมมิ่งออนไลน์จะพุ่งทะยานมากถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.4 แสนล้านบาท) เลยทีเดียว และเซเลบริตี้บางคนบนโลกออนไลน์อาจจะสามารถทำเงินได้ถึง 20,000 – 60,000…
-
ภูเขาไฟในอินโดฯ ปะทุ ทำให้ต้องอพยพในรัศมี 3 กิโลเมตร หรือนี่เป็นคำเตือนจากธรรมชาติ!!
หลังจากที่เคยมีข่าวเรื่องภูเขาไฟระเบิดที่ฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อไม่นานมานี้ ก็ดูเหมือนว่าโลกของเรากำลังเอาคืนเราอยู่หลังจากที่ทำร้ายมันมานาน เพราะว่าได้เกิดเหตุภูเขาไฟปะทุขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย บ้านใกล้เรือนเคียงกับประเทศเรานี่เอง!! โดยเหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุเริ่มเกิดขึ้นในวันนี้ (วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2561) ในเวลา 7.32 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่รอยต่อระหว่างจังหวัดชวากลางและเมืองยกยาการ์ตา ในประเทศอินโดนีเซีย การปะทุที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นความสูงถึง 5,500 เมตร นอกจากนี้ก็ยังมีฝุ่นขี้เถ้า และธุลีภูเขาไฟร่วมด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระหว่างที่ความร้อนกำลังปะทุอยู่ในภูเขาไฟ นี่คือคำอธิบายจากศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีภัยพิบัติทางธรณีวิทยาของประเทศอินโดนีเซีย ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทำให้มีความจำเป็นต้องอพยพชาวบ้านที่อยู่ในรัศมี 3 กิโลเมตรจากปล่องภูเขาไฟ Merapi เพื่อความปลอดภัยจากสิ่งที่อาจตามมาหลังจากที่เกิดการปะทุขึ้น ทางศูนย์วิจัยกล่าวว่าก่อนการที่จะมีการปะทุเกิดขึ้น ทางศูนย์สามารถสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของปล่องภูเขาไฟได้ ก่อนที่จะเกิดการปะทุขึ้นในที่สุด สำหรับภูเขาไฟ Merapi เป็นภูเขาไฟที่ยังคงมีพลังอยู่มากที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย และก็มีประชาชนหลายพันคนอาศัยอยู่บริเวณใกล้ๆ กับภูเขาไฟนี้ แต่ถึงอย่างนั้นทางด้านผู้เชี่ยวชาญว่าการปะทุของภูเขาไฟลูกนี้ยังจัดว่าอยู่ในระดับปกติ และมีระยะอันตรายเพียงแค่รัศมี 3 กิโลเมตรจากปล่องภูเขาไฟเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเป็นคำเตือนให้เราใส่ใจโลกให้มากขึ้น เพราะว่าภายในสัปดาห์เดียวกันก็เกิดภูเขาไฟปะทุครั้งใหญ่ในสองทวีปเลยทีเดียว ที่มา: dailymail
-
ชาวเน็ตประท้วง กรณีสาวซูดานโดนโทษประหารเพราะแทงสามีที่จะข่มขืนเธอ
Noura Hussein หญิงสาววัย 19 ปีชาวซูดาน ถูกตัดสินประหารชีวิต จากคดีแทงสามีถูกที่เธอโดนบังคับให้แต่งงานด้วยจนถึงแก่ความตาย หลังจากที่สามีพยายามที่จะข่มขืนเธอ เดิมทีแล้วในประเทศซูดานนั้น การข่มขืนคู่แต่งงานนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมาย แถมอายุของผู้หญิงที่จะแต่งงานได้ก็อยู่ที่เพียง 10 ปีเท่านั้น ซึ่งนั่นทำให้โทษของเธอรุนแรงมาก เพราะในทางกฎหมายแล้วสามีของเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่ถึงแม้จะพ่ายแพ้ในทางกฎหมายแต่ Noura Hussein ก็ได้รับการสนับสนุนโดยผู้คนจำนวนมากที่เชื่อว่าการกระทำของเธอเป็นเพียงการป้องกันตัวและไม่ควรที่จะได้รับโทษที่หนักขนาดนี้ ซึ่งแม้แต่ในวันที่มีการตัดสินโทษของ Hussein เอง ก็มีคนแห่ไปให้กำลังใจกันมากมายจนล้นห้องพิจารณาคดี “ตอนนี้ศาลเต็มแล้ว โดยผู้คนที่สนับสนุน Noura Hussein ในการตัดสินครั้งสุดท้าย” https://twitter.com/sodfadaaji/status/994530925139591169 Hussein โดนบังคับให้แต่งงานตอนอายุได้ 15 ปี เธอจึงหนีออกมาจากบ้านและไปอยู่กับป้าเป็นเวลา 3 ปีก่อนที่จะถูกพ่อของเธอหลอกให้กลับมาที่บ้านและจับตัวเธอส่งให้ครอบครัวสามี อย่างไรก็ตาม Hussein ยังไม่ยอมที่จะแต่งงานทางบ้านของสามีจึงทำการจับตัวเธอไว้ และให้สามีลงมือข่มขืนเธอ ด้วยความที่โดนขืนใจนั่นเอง ในวันต่อมาเมื่อสามีจะข่มขืนเธออีกครั้ง Hussein จึงได้ตัดสินใจที่จะแทงเขาด้วยมีดจนถึงแก่ความตาย ก่อนที่จะหนีกลับไปหาพ่อแม่ และโดนจับส่งตำรวจโดยคนในบ้านตัวเอง หลังจากผลการตัดสินออกมาก็ทำให้มีเสียงการวิพากษ์วิจารณ์ในคำตัดสินออกมาเป็นจำนวนมาก เหล่าผู้คนที่สนับสนุน Hussein นั้นออกมาแสดงความเห็นต่อต้านการตัดสินกันมากมายทั่วโลกอินเตอร์เน็ต จนมีเสียงสนับสนุนเธอกระจายออกไปทั่วทั้งโลก ผ่านทางแฮชแท็ก JusticeforNoura และ…
-
‘ออกแบบ’ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง พร้อมชุดเรียบแต่หรู เฉิดฉายบนพรมแดงเมืองคานส์!!
จากผลงานที่ได้แสดงให้คนไทยทั้งประเทศได้เป็นที่รู้จักในภาพยนตร์ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ (Bad Genius) ของทางค่าย GDH ในปี พ.ศ. 2560 ไปแล้ว แถมหนังเรื่องดังกล่าวก็ถูกผลักดันนำไปฉายในอีกหลายประเทศ จนกลายเป็นการแจ้งเกิดของนักแสดงนำ ‘ออกแบบ’ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง กันเลยทีเดียว!! ซึ่งหลังจากที่ภาพยนตร์ได้ออกฉายไปแล้ว น้องออกแบบ ก็มีฐานแฟนคลับทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น แถมล่าสุดนี้ เธอก็ได้เดินทางไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 71 ณ ประเทศฝรั่งเศสด้วย . โดยในครั้งนี้เธอมาในชุดสุดหรูของแบรนด์ CHANEL Métiers d’Art Paris Hamburg 2017/18 Collection เป็นคอลเลคชั่นที่เน้นงานฝีมือชั้นสูง ชุดของออกแบบใช้ช่างฝีมือปักด้วยมือทั้งชุด เสริมสร้างความสง่าให้น้องออกแบบ ทำให้สื่อต่างชาติจับตามองเป็นพิเศษด้วยลุคของชาวเอเชียที่โดดเด่นมาแต่ไกล . . และนอกจากนี้ออกแบบยังได้เป็น Guest Speaker ร่วมพูดคุยในหัวข้อ How Women Are Changing The…
-
นักศึกษาถอดเสื้อผ้าระหว่างพรีเซนต์วิทยานิพนธ์ เพราะอาจารย์ท้วงว่า ‘กางเกงสั้นเกินไป’
ในเรื่องของ ‘การแต่งกาย’ ให้ถูกกาละเทศะ ถือเป็นเรื่องที่ยังคงมีการถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้ง ไม่ใช่แค่ในบ้านเราแต่ต่างประเทศเองก็ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องนี้กันอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกันกับ Letitia Chai สาวชาวอเมริกันชั้นปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัย Cornell University ที่สวมกางเกงขาสั้นไปนำเสนอวิทยานิพนธ์ต่อหน้าอาจารย์และนักศึกษาคนอื่นๆ แต่อาจารย์กลับทักเรื่องกางเกงของเธอ Chai จึงตัดสินใจถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่ชุดชั้นในแล้วนำเสนอวิทยานิพนธ์ต่อ เพื่อเป็นการประท้วงถึงสิทธิ์ในการแต่งกายของตัวเอง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ผ่านมา และมีการถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวเก็บเอาไว้ด้วย จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างได้เลยจ้า… Chai เล่าว่า “สิ่งแรกที่อาจารย์พูดกับฉันคือเรื่องการสวมเสื้อผ้า ‘มันสั้นเกินไปนะ’ แถมอาจารย์ยังบอกอีกว่าสิ่งที่ฉันทำนั้นมันทำให้นักศึกษาผู้ชายหันไปสนใจอย่างอื่นที่ไม่ใช่เนื้อหาที่ฉันจะนำเสนอ แต่เป็นร่างกายของฉันเอง!!” “อาจารย์บอกว่าฉันเป็นคนสร้างภาพเหล่านั้นขึ้นมาเองด้วยการแต่งตัว ฉันก็เลยบอกอาจารย์ไปว่าฉันมั่นใจเลยว่าฉันจะไม่ยอมเปลี่ยนลุคหรือภาพลักษณ์ของตัวเองเพื่อทำให้เธอหรือคนอื่นๆ สบายใจหรอกนะ” นอกจากนี้ Chai ยังเล่าอีกว่านักศึกษาชายคนอื่นๆ ก็เห็นด้วยกับอาจารย์ ซึ่งอาจารย์คนดังกล่าวก็บอกว่าจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไปฟ้องแม่ของเธอ ซึ่ง Chai ก็ตอบว่า “แม่ของฉันเป็นอาจารย์ที่สอนเกี่ยวกับเฟมินิสต์และความเท่าเทียมทางเพศ เธอคงไม่ว่าอะไรกับกางเกงขาสั้นของฉัน” ทางด้านอาจารย์ Maggor ก็ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ฉันไม่ได้บังคับให้นักศึกษาสวมใส่ชุดอะไร หรือกำหนดว่าชุดไหนจะต้องเป็นชุดที่ถูกระเบียบหรือเหมาะสม แต่ฉันแค่บอกให้พวกเขาคิดเอาเอง และตัดสินใจด้วยตัวเอง”…
-
สรุปข้อมูลเบื้องต้น การพบกันของ Trump กับ Kim Jong Un ที่สิงคโปร์ 12 มิถุนายนนี้!!
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมานั้น ได้มีการออกมาประกาศกำหนดการการเดินทางไปพบกันของสองผู้นำยักษ์ใหญ่ นาย Donald Trump แห่งสหรัฐอเมริกา และ Kim Jong Un ผู้นำของเกาหลีเหนือ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2018 ที่ประเทศสิงคโปร์ ประกาศนี้เผยแพร่ออกมาทางทวิตเตอร์ของ Donald Trump โดยมีข้อความว่า “การพบปะกันระหว่าง Kim Jong Un และตัวผมจะมีขึ้นที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ เราทั้งสองจะพยายามทำให้มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับสันติภาพของโลก!” The highly anticipated meeting between Kim Jong Un and myself will take place in Singapore on June 12th. We will both try to make…
-
ใครสอนให้ทำแบบนี้!!? ญี่ปุ่นวาง “หุ่นแม่ลูก” ไว้หน้าไซต์ก่อสร้าง แต่กลับหลอนคนยามค่ำคืน
การเฉลิมฉลองในวันสำคัญนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่…ทำแบบนี้มันก็เกินไป๊!! ทวิตเตอร์ชื่อว่า @ken1hatsumi ได้เผยแพร่ภาพที่เขาถ่ายมาจากไซต์ก่อสร้างแถวสถานีรถไฟโกตันดะ แขวงพิเศษชินางาวะ เป็นภาพที่ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไร ก็แค่ “หุ่น” แม่และลูกที่ยืนอยู่ข้างๆ หมวกซามูไรคาบูโตะ โดยด้านหลังจะเขียนว่า “ขอบคุณครับแม่” นี่เป็นการตกแต่งเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลวันเด็ก ซึ่งตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี แต่สำหรับผู้ที่ผ่านไปมากลับมองว่า มันชวนขนหัวลุกอย่างไรก็ไม่รู้… หากยังมองไม่เห็นว่ามันน่ากลัวตรงไหน ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @setsunaiotona ก็ได้ออกมาแถลงไขว่าให้ลองคิดดูสิ หากว่าเขตก่อสร้างนี้ไม่ใช่อย่างที่เราเห็น ถ้ามันเป็นสถานที่ที่แม่ลูกคู่นี้ตายล่ะ แปลว่าสิ่งที่เราเห็นเป็น “หุ่น” แม่ลูก ก็อาจจะไม่ใช่หุ่น แต่อาจจะเป็นคำสาปหรืออะไรสักอย่างจากภายในตึก…ก็เป็นได้~ ต่อมีผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกรายหนึ่งชื่อว่า @sunny4050 และ @FrankSTK ออกมาเผยภาพในบริเวณเขตก่อสร้างเดียวกัน ที่ถ่ายไว้ก่อนวันเด็ก ในภาพจะแตกต่างจากภาพแรกเล็กน้อย ซึ่งมันดูน่ากลัวกว่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินผ่านในเวลากลางคืน ลองนึกภาพยามเดินผ่านในตอนกลางคืน หุ่นแม่ไร้หน้าตัวที่ยืนกับลูกซึ่งเป็นหุ่นที่มาพร้อมกับ หัวที่โยกได้ แถมสามารถ หันหน้ามองผู้ที่เดินผ่าน ได้ด้วย!!! ลูกหัวโยกได้! แถมมองตามได้ด้วย!? สรุปแล้ว หุ่นเหล่านี้ไม่ได้มีเจตนาเชิงพาณิชย์หรือตั้งใจทำให้กลัวใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ว่ามันถูกนำมาวางเพื่อเฉลิมฉลองงานวันเด็กรวมไปถึงโอกาสสำคัญอื่นๆ อีกด้วย แล้วมันยังจะต้องวางแบบนี้ไปจนกว่าการก่อสร้างจะเสร็จ… ร่วมฉลองวันสำคัญมันก็น่ายินดีอยู่หรอก แต่ใครสั่งใครสอนให้ฉลองแบบนี้ ไม่กลัวคนเดินผ่านเขาหัวใจวายเหร๊อออ!!! ที่มา:…
-
สวนสัตว์โดนสั่งปรับ เพราะเอาหมีน้อยไปกิน ‘ไอติม’ ที่ร้าน Dairy Queen หนูก็อยากกิงบ้างอ่ะ!!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าบนโลกใบนี้จะมีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อมีสวนสัตว์ส่วนตัวแห่งหนึ่งในประเทศแคนาดาถูกสั่งปรับเงิน เนื่องจากพวกเขาทำผิดในข้อหาเอาหมีน้อยแสนน่ารักไปกินไอติมที่ร้าน Dairy Queen โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า!! โดยสวนสัตว์ที่ว่านี้มีชื่อว่า Discovery Wildlife Park ตั้งอยู่ห่างออกไปทางตอนเหนือของเมือง Calgary รัฐแอลเบอด้า 112 กิโลเมตร ซึ่งได้ก่อปัญหาให้กับตัวเองด้วยการพาลูกหมีสุดแสนจะน่าเอ็นดูออกไปกินไอติมที่ร้าน Dairy Queen สาขา Calgary ที่เป็นแบบร้านไอติมแบบไดรฟทรู หลักฐานในการเอาผิดสวนสัตว์แห่งนี้ก็คือ ภาพวิดีโอที่มีผู้ถ่ายเอาไว้เผยให้เห็นว่ามีหมีชื่อว่า Berkley วัย 1 ปีของสวนสัตว์แห่งนี้ กำลังกินไอติมอย่างเอร็ดอร่อยจากพนักงานที่ยื่นมือมาป้อนให้ถึงปาก ซึ่งเจ้าหมีตัวนี้ก็เลียแพล่บๆ อย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถยนต์คันหนึ่ง เมื่อวิดีโอดังกล่าวได้แพร่สู่โลกอินเทอร์เน็ต ก็ได้มีการวิพากย์วิจารณ์อย่างมากมายถึงความอันตรายและความเหมาะสมว่าถ้าหากหมีเกิดหลุดออกมาจากเบาะคนนั่งผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร… ในเรื่องนี้ทางสวนสัตว์ก็ออกมาโต้แย้งกับคำครหาต่างๆ โดยพวกเขาบอกเอาไว้ว่าเจ้า Berkley ไม่ใช่หมีป่าที่มีความดุร้าย เพราะมันเกิดที่สวนสัตว์แห่งนี้และคลุกคลีกับคนอยู่ตลอด และที่สำคัญคือมันยังถูกล่ามโซ่เอาไว้ด้วย นอกจากนี้พวกเขายังบอกอีกด้วยว่าในตอนที่พวกเขาเอาเจ้าหมีตัวนี้ไปกินขนมหวานแสนอร่อย ก็เป็นช่วงเวลาที่ร้าน Dairy Queen ยังไม่เปิดทำการให้แก่ประชาชนทั่วไป จึงไม่น่าจะมีอันตรายใดๆ เกิดขึ้น รวมถึงการเอาหมีออกไปในครั้งนั้นทุกๆ อย่างก็เป็นไปตามที่ได้วางแผนกันเอาไว้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามสวนสัตว์แห่งนี้ก็ถูกแจ้งข้อหาสองข้อ นั่นก็คือข้อแรกพวกเขาผิดกฎหมายที่ว่าไม่แจ้งให้กับทางการได้รับรู้ว่าจะนำสัตว์ออกนอกพื้นที่ และข้อที่สองซึ่งเป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ปี 2017…
-
เหตุการณ์แปลกประหลาด ‘กวางนาระ’ ไม่ยอมกิน ‘ขนมเซมเบ้’ เอาไปจ่อที่จมูกก็ยังไม่สน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เคยไปเยือนเมือง ‘นาระ’ ประเทศญี่ปุ่นมาก่อน จะรู้กันดีว่าคำเล่าลือว่ากวางที่นั่นมีนิสัยไม่ดี ชอบมาขู่ขออาหารกินจากนักท่องเที่ยวด้วยพฤติกรรมก้าวร้าว และดูเหมือนว่าพวกมันจะฉลาดไม่น้อยเพราะเทคนิคในการออดอ้อนขออาหารนั้นขอบอกเลยว่าน่ารักน่าเอ็นดูเอามากๆ (เหรอ!?) ทั้งเดินเอาเขามาชนเพื่อขออาหาร หรือคาบไปจากมือซะดื้อๆ เลยก็มี บางตัวก็ทำนิสัยเป็นจิ๊กโก๋ไถอาหารจากนักท่องเที่ยวซะอย่างนั้น ซึ่งอาหารที่เอาให้เจ้ากวางนั้นก็จะมีวางขายตามจุดต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ เป็นขนมเซมเบ้แบบพิเศษ ที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของเจ้ากวางทั้งหลายเป็นอย่างมาก แต่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลับมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เพราะเจ้ากวางทั้งหลายที่นาระ กลับปฏิเสธขนมเซมเบ้สุดอร่อยจากนักท่องเที่ยวซะงั้น!? ต่อให้เอาไปจ่อที่จมูกก็ทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนมาอยากกินจนถึงขั้นทำร้ายนักท่องเที่ยวก็มี มันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Brise_Marine พบว่าเจ้ากวางที่เมื่อก่อนหิวโหยเซมเบ้สุดอร่อยราวกับว่าเป็นซอมบี้อยากกินสมองคน แต่ตอนนี้กลับไม่แม้แต่จะแยแสเสียด้วยซ้ำ เว็บไซต์ Soranews24 ได้ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่หาชมได้ยากมากๆ แต่มันไม่ได้มีสาเหตุมาจากอาการป่วยของพวกมันแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงโกลเด้น วีค ที่มีวันหยุดติดกันถึง 7 วันของประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าทุกครั้ง และในช่วงนั้นกจะมีคนให้อาหารเหล่ากวางทั้งหลายมากกว่าปกติ มันก็เลยกินเยอะเกินไปจน ‘อิ่ม’ ก็เท่านั้นเอง เอามาวางไว้รอบตัวก็ยังไม่แยแส กินไปขนาดนั้น ใครไม่เบื่อก็แย่แล้ว ที่มา :…
-
ห้อยพระไรเนี้ย!! ลุงสุดชิลขับรถกลับบ้านกับ ‘ผึ้ง’ 3,000 ตัว ไม่เป็นอะไรแม้แต่รอยขีดข่วน!!
‘ผึ้ง’ สัตว์ตัวน้อยนิดแสนน่ารักที่มีพิษสงแสนร้ายกาจ เชื่อเลยว่าถ้าหากเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากเผชิญหน้ากับมันโดยตรงหรือเฉียดใกล้แม้แต่น้อย เพราะว่ามันเหมือนกับเอาชีวิตไปทิ้งซะเปล่าๆ แต่มีเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้นเมื่อมีชายคนหนึ่งขับรถกลับบ้านไปกับผึ้ง 3,000 ตัวแบบชิวๆ แถมยังไม่เป็นอะไรแม้แต่รอยขีดข่วน!! โอ้โห ผึ้ง 3,000 ตัวหรือนี่ เขาซื้อผึ้งป่ามาจำนวนทั้งหมด 18,000 ตัว ซึ่งก็ได้จัดเก็บไว้ในกล่องเป็นอย่างดีเพื่อความปลอดภัย Wallace นำกล่องผึ้งทั้งหมดใส่ไปในหลังรถของเขา แต่ว่าก็มีอยู่ 3 กล่องที่ไม่สามารถยัดเข้าไปได้หมด เพราะเนื่องจากว่าพื้นที่มันเต็มแน่นเอี้ยดซะจนไม่สามารถเอาอะไรเข้าไปได้อีกแล้ว อยู่กันทุกซอกทุกมุมเต็มไปหมด ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะเอาไปไว้ไหนดี เขาจึงได้ตัดสินใจเอามันมาไว้ในห้องโดยสารเดียวกับเขา เพราะถึงอย่างไรมันก็อยู่ในกล่องอย่างปลอดภัยอยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรที่น่าห่วง จากนั้นเขาก็ออกเดินทางกลับบ้านด้วยความสบายใจ ในระหว่างทางกลับบ้านนั้นเอง ด้วยความเมื่อยล้าจากการขับรถและท้องไส้ที่กำลังบ่งบอกว่าต้องมีอะไรบางอย่างลงไปให้ย่อย เขาจึงตัดสินใจจอดรถกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารพื้นถิ่นแห่งหนึ่งด้วยความเอร็ดอร่อย โดยไม่รู้แม้สักนิดว่ามีอะไรกำลังรอคอยเขาอยู่… ไม่เป็นไร ลุงเอาอยู่ เมื่อกินอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญแล้วกลับมาที่รถ เขาก็ตกใจจนแทบช็อกเพราะว่ามีกล่องใบหนึ่งในสามกล่องที่เขาเอามาไว้ในห้องโดยสาร เกิดเปิดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และได้ปลดปล่อยผึ้งจำนวน 3,000 ตัวออกมาบินว่อนอยู่เต็มรถของเขาไปหมด “ก็ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจะเอามันไว้ตรงไหน แต่เมื่อผมกลับมาที่รถก็ต้องพบว่ามีผึ้งบินอยู่ในรถของผมเต็มไปหมด จนทั้งรถกลายเป็นสีดำเลย ตอนนั้นผมก็คิดนะว่าจะทำยังไงกับมันดี แต่ผมก็ไม่อยากเสียผึ้งของผมไป เพราะกล่องนึงมันมีค่าถึง 165 ดอลลาร์ (ประมาณ…
-
แม่นๆ หน่อย!! โจรขโมยของแต่ดั๊นไป ‘ฉี่’ กระเด็นติดฝารองนั่ง งานนี้เลยต้องนอนคุกตามระเบียบ
การริจะเป็นโจรขโมยที่ดี ก็จะต้องมีความแนบเนียนและไม่ทิ้งหลักฐานใดๆ ไว้ให้คนข้างหลังตามจับได้ มิฉะนั้นแล้วอาจจะต้องไปนอนในคุกเหมือนคุณโจรคนนี้ ที่โดนจับได้เพราะดันไปฉี่ใส่ชักโครกแล้วกระเด็นไปติดฝารองนั่ง จนเป็นหลักฐานให้ตำรวจตามสืบหาตัวได้ในที่สุด… โดยเรื่องราวโจรแสนชุ่ยที่ว่านี้เปิดเผยจากสื่อ Mirror ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2018 และเกิดขึ้นที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อมีนักย่องเบาคนหนึ่งงัดแงะเข้าไปที่บ้านของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เพื่อที่จะขโมยของและนำสินทรัพย์ไปแปรเป็นทุนซะหน่อย แต่ในระหว่างนั้นเองเจ้าขโมยคนนี้ก็ดันเกิดปวดฉิ้งฉ่องขึ้นมา เลยจัดการตัวเองด้วยการไปเอามันออกที่ชักโครกด้วยความสบายใจว่าเจ้าของไม่อยู่บ้าน และมีเวลาเหลือเฟือสำหรับการกวาดทรัพย์สินของผู้เคราะห์ร้ายคนนี้ไปให้เกลี้ยง ในเวลาต่อมาเมื่อเจ้าของบ้านกลับมาที่บ้าน ก็ต้องพบว่าสิ่งของต่างๆ ถูกขโมยไปเรียบร้อยแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบและหาตัวผู้กระทำความผิดนี้ให้หน่อย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็ทำการตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆ และพวกเขาก็ไปพบหลักฐานเด็ดเข้าให้ นั่นก็คือ ‘น้ำฉี่’ ที่ยังคงติดอยู่บริเวณฝารองนั่งของชักโครก ซึ่งงานนี้มันได้กลายเป็นสิ่งที่นำไปสู่การจับกุมได้อย่างง่ายดาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บน้ำฉี่นี้ แล้วนำไปตรวจสอบกับฐาน DNA เพื่อจะระบุตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งในเวลาไม่นานนักกับการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเอาตัวหัวขโมยคนนี้เข้าซังเตได้เป็นที่เรียบร้อย เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้กลายเป็นเรื่องตลกโปกฮาไปโดยปริยาย และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เอาภาพหลักฐานในการจับกุมครั้งนี้ โพสต์ลงในโลกอินเทอร์เน็ตพร้อมกับแคปชั่นว่า ‘ทีหลังเล็งให้แม่นๆ หน่อย’ ด้วย ดีนะไม่ขรี้เลยอ่ะ… ที่มา: mirror
-
โจรฉลาดเพ้นท์หน้าตัวเอง ‘สีเขียวปั๊ด’ หวังพรางใบหน้าคนจำไม่ได้ คิดเสียว่าเป็นแมลงทับ
เมื่อนึกถึงอะไรเขียวๆ มีตัวเป็นสีเขียวๆ คุณจะนึกถึงอะไร ที่ไม่ใช่ชายหนุ่มผอมแห้ง ที่เวลาโมโหแล้วจะเขียวไปทั้งตัว กางเกงขยายใหญ่แต่ไม่ขาด โบยความเกรี้ยวกราดทำลายข้าวของไปทั่ว… เคสแปลกๆ นี้เกิดขึ้นจริงที่ประเทศรัสเซียที่ทุกอย่างจะเหนือความคาดหมายของเราไปพอสมควร เนื่องจากโจรรายหนึ่งเลือกใช้วิธีพรางตัวให้ยากต่อการระบุตัวตน ด้วยการ ‘ทาหน้าและมือเป็นสีเขียว’ นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ปล้นของมหาโจรวายร้าย เป็นเพียงโจรระดับชุมชนที่ต้องการจะวิ่งราวกระเป๋าตังค์ของเหยื่อภายในสถานีรถไฟใต้ดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมือง Krasnodar ได้รับรายงานจากเหยื่อที่ถูกฉกกระเป๋าไป ในระหว่างที่เธอกำลังรอรถไฟ แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ส่งคนลงพื้นที่ ทำการสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์เกี่ยวกับตัวผู้กระทำผิด ได้เบาะแสที่โดดเด่นแต่ผิดปกติจากคนทั่วไป นั่นก็คือ ‘ใบหน้าของผู้ร้ายเป็นสีเขียวทั้งหน้า’ แม้ว่าภายในเมืองจะมีประชากรมากถึง 750,000 คนอาศัยอยู่ ก็ไม่ได้เป็นปัญหายากเย็นสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะระบุตัวคนร้ายและทำการจับกุมตัวได้อย่างรวดเร็ว โจรหน้าเขียววัยเยาว์รายนี้ถูกจับเร็วมาก ชนิดที่ว่ายังไม่มีเวลาจะเอาของมีค่าออกมาจากกระเป๋าตังค์เหยื่อเลยด้วยซ้ำ แฮร่!! และโจรหน้าเขียวแมลงทับในวัย 23 ปี ได้ให้การกับตำรวจว่า ที่เขาตั้งใจทาหน้าให้เป็นสีเขียวก็เพราะว่ามั่นใจว่าจะไม่มีใครจำเขาได้ แต่ก็นะถ้าจะลงทุนแล้วล้มเหลวขนาดนี้… ก็ฟาดข้อหาวิ่งราวทรัพย์พร้อมกับได้สิทธิ์ไปนอนในคุกเสียเถิด ที่มา : юфоут.мвд.рф, odditycentral
-
จากเหตุอีกาฉลาด ขโมยบัตรเครดิตซื้อตั๋วรถไฟ ถูกจับตัวแล้ว… และคนจับก็โดนจับต่ออีกทอด
คดีสะเทือนสายตาอันไม่น่าเชื่อนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีเหตุ ‘อีกา’ ที่ไม่ใช่ Crow Zero ไปต่อยตีกับใคร แต่มันดันฉลาดเกินไป จนมาขโมยบัตรเครดิตของคน เพื่อไปใช้ซื้อตั๋วรถไฟแบบเก่งยิ่งว่าเคนจิเสียอีก… (ข่าวเก่า) จากความแสบของเจ้าอีกาตัวนี้ ในพื้นที่ของสถานีรถไฟ Kinshichō ก็ยิ่งทำให้เป็นที่เลื่องลือว่าควรจะระมัดระวังสิ่งของมีค่าของตนให้มากขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นการจะได้ทรัพย์สินกลับคืนมาครบถ้วนแทบจะเป็นไปไม่ได้ แม้ทางการรัฐและเอกชนจะมีวิธีป้องกันรับมือมากแค่ไหน ก็ไม่อาจสู้จำนวนอีกาที่มีได้… แต่แล้วล่าสุด เจ้าอีกา (ที่คาดว่าจะเป็นตัวเดิม) ถูกจับตัวได้แล้ว โดยเป็นการโพสต์รายงานจากชาวทวิตเตอร์ @yuruhuwa_kdenpa แต่การจับกุมอีกาในครั้งนี้ไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด แต่เป็นผู้หญิงรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น หลังจากที่เห็นเจ้าอีกาตัวนี้วนเวียนแถวๆ สถานี เธอก็รู้สึกว่ามันน่าจะมีความสุขกว่าถ้าไปอยู่ตามธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น และเธอก็ถือวิสาสะจับมันมา… และคิดว่าหลังจากที่ดูแลจนมีสุขภาพดี พร้อมที่จะออกสู่โลกกว้าง เธอวางแผนจะพามันไปปล่อยแถวๆ ภูเขา ในจังหวัดนะงะโนะ เนื่องจากมีสภาพอากาศที่ดีกว่า อดซ่าส์เลยยยยย… อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เจ้าอีกาจอมแสบหมดอิสระอยู่ในกรง หญิงคนดังกล่าวก็ต้องเจอกับข้อกฎหมายเข้าให้ เนื่องจากนายสถานีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ต้องการจับมัน และการจับอีกาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการอนุรักษ์สัตว์ป่าและการจัดการของประเทศญี่ปุ่น อาจจะต้องโทษสูงสุดด้วยการจำคุก 1 ปี หรือถูกสั่งปรับเป็นเงิน 1,000,000…
-
แม่ตื่นมาพบว่า ‘สนามหญ้าหน้าบ้าน’ หายไปทั้งแถบ ถูกยกเค้าไปเฉ๊ย เอาไปทำไรแว๊!?
‘การถูกขโมยขึ้นบ้าน’ เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เพราะทรัพย์สินมีค่าต่างๆ กว่าจะเก็บหอมรอมริบมาได้ แต่จู่ๆ กลับมาถูกคนแปลกหน้าชิงไปซะงั้น แถมยังเสี่ยงชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกายอีกต่างหาก เช่นเดียวกันกับครอบครัว Scorer จากเมืองลิฟวิงสตัน ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเขตเวสต์ โลเธียน ประเทศสก็อตแลนด์ ที่ถูกขโมยยกเค้าเอา ‘สวนหน้าบ้าน’ หายไปทั้งแถบ!! เหตุเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมาคุณ Sue Scorer ตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วก็พบว่าสวนหน้าบ้านของเธอหายไปทั้งหมด และมันแปลกตรงที่ว่าหายไปแต่สวนอย่างเดียว ของเล่นอื่นๆ ที่มีค่าทั้งแทรมโปลิน รวมไปถึงของเล่นต่างๆ ของลูกกลับถูกทิ้งเอาไว้ “ฉันตื่นขึ้นมาตอนเช้าตามปกติ พอมาล้างมือที่อ่างล้างหน้า ฉันตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อมองผ่านออกไปทางหน้าต่างแล้วพบว่า แทรมโปลินมันถูกเอาไปวางไว้อีกด้านหนึ่งของสนามหญ้า” คุณแม่ Sue เล่า “ฉันเปิดหน้าต่างออกไปเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น และก็พบว่าหญ้าหน้าบ้านอีกฝั่งมันหายไป เหลือไว้แต่พื้นดินเท่านั้น ฉันคิดว่าตัวเองฝันไป รู้สึกช็อกมากๆ ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น ก็เลยโทรแจ้งตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” เธอเล่าเสริม คุณ Sue อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มานานกว่า 6 ปี และสนามหญ้าหน้าบ้านนี้เป็นสนามหญ้าเทียมที่เธอซื้อมาติดตั้งไว้หน้าบ้านเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งเสียเงินไปประมาณ 3,000…
-
อดีตดาวเอวี ‘Emiri Okazaki’ เผยเคยได้เงินเดือนละ 5 ล้าน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยบางอย่าง…
‘เฮ้ยๆ คนนี้รหัสไรวะ’ นี่อาจจะเป็นคำพูดง่ายๆ แต่ความหมายสุดลึกล้ำที่ใครหลายคนเข้าใจกันดีว่าเป็นรหัสของ ‘หนังเอวี’ หรือหนังผู้ใหญ่ที่เราชื่นชอบ ซึ่งสำหรับหนังประเภทนี้ก็เป็นที่โจษจันกันว่าถ้าจะเด็ดที่สุดก็ต้องเป็นของประเทศญี่ปุ่น เพราะว่าแดนปลาดิบแห่งนี้มีอุตสาหกรรมหนังเอวีขนาดใหญ่ที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่เยอะมากๆ เลยนั่นเอง แต่รู้หรือไม่ว่าสำหรับค่าตอบแทนของเหล่านางเอกที่ต้องแสดงลีลาสงครามใต้สะดือ แม้ว่าจะสามารถหาได้ถึงเดือนละเป็นล้านๆ แต่ว่าก็ต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่างเช่นเดียวกัน ซึ่งคนที่มาบอกเล่าความจริงในเรื่องนี้ก็คืออดีตดาราเอวีชื่อดังที่หากเห็นหน้าปุ๊บใครหลายคนต้องร้องว่า ‘อ๋อ’ ออกมาเลยทีเดียว Emiri Okazaki อดีตดาราสาวเอวีวัย 27 คือผู้ที่มาให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ เธอเข้าวงการหนังผู้ใหญ่ตั้งแต่ 2011 และทำงานอยู่ที่อุตสาหกรรมนี้เป็นเวลาถึง 5 ปีเต็มๆ ก่อนที่จะรีไทร์ตัวเองออกมา โดยช่วงก่อนที่เธอจะมาเข้าวงการนี้ รู้หรือไม่ว่าเธอเคยเป็นถึงนางแบบชื่อดังมาก่อน ทว่าจุดเปลี่ยนในการหันเหเข้าสู่การถ่ายหนังผู้ใหญ่ก็เกิดขึ้นในวัย 21 ปี เมื่อเธอเริ่มตั้งคำถามถึงเส้นทางอาชีพของตัวเองว่าจะเป็นอย่างไร… “ฉันอยากจะประสบความสำเร็จกับบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิง ในตอนนั้นฉันรู้สึกว่า โอ้ นี่ฉันก็อายุ 21 ปีแล้วนะ ฉันเข้าวงการนางแบบมาตั้งแต่อายุ 16 ปีแล้วดูเหมือนกับว่าฉันกำลังย่ำอยู่กับที่ โดยไม่มีการก้าวหน้าใดๆ เลย” “ฉันรู้ว่าวงการนี้ไม่สามารถทำให้ฉันบรรลุสิ่งที่ต้องการได้ มันรู้สึกล้มเหลว รู้สึกว่าแก่เกินอายุจริงๆ ของฉัน และสุดท้ายฉันก็เข้าใจว่าอาชีพของฉันกำลังมุ่งหน้าสู่จุดจบแล้ว” Emiri ให้สัมภาษณ์กับแชนแนล Asian…
-
ชีวิตในวันสุดท้ายของนักวิทย์ 104 ปี ไม่ลังเล ไม่มีมื้อสุดท้าย ขอเพลงบีโธเฟ่นบรรเลงปิดฉาก…
‘ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือก’ หนึ่งในประโยคที่ใช้กับการเลือกที่จะใช้ เลือกที่จะซื้อ หรือเลือกที่จะกระทำบางสิ่ง และสำหรับนักวิทยาศาสตร์วัย 104 ปี David Goodall เขารู้สึกว่าใช้ชีวิตมามากเกินพอแล้ว และเขาก็เลือกที่จะตาย (ข่าวเก่า) จากที่ทางแคมดัมบ์ได้รายงานไปก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์ David Goodall ได้เดินทางมาถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 10 พฤษภาคม 2018 ตามเวลาท้องถิ่นสวิตเซอร์แลนด์ 10.00 น. หรือ 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย คือเวลาที่เขาจะดับนาฬิกาชีวิตของตัวเองลง ศาสตราจารย์แถลงต่อหน้าสื่อต่างๆ ไว้ว่า ในวาระก่อนจะยุติชีวิตนี้ จะไม่มีอาหารมื้อสุดท้าย ไม่มีความลังเลใดๆ และขอเพียงบรรเลงเพลงซิมโฟนีหมายเลข 9 ของบีโธเฟนเป็นการปิดฉากชีวิต ก่อนหน้านั้นศาสตราจารย์ Goodall ได้ออกมาเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์ของมหาวิทยาลัยบาเซิล พร้อมกับลูกหลานที่เดินทางติดตามมาด้วย เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในวาระสุดท้ายของชีวิต . Daniel Goodall วัย 30 ปีกล่าวกับสื่อว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้มาร่วมอยู่ตรงนี้…
-
รถบรรทุก ‘ช็อกโกแลต’ คว่ำบนทางด่วนโปแลนด์ เหี้ยจ้าดล้าดกลางถนน ความหวานปกคลุมไปทั่ว
กลายเป็นเรื่องฮือฮาในโลกโซเชียลต่างประเทศเลยทีเดียว เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ‘รถขนช็อกโกแลตคว่ำ’ กลางถนน จนทำให้ช็อกโกแลตไหลหลากพาความหวานปกคลุมไปทั่ว เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 สำนักข่าวของช่อง TVN24 รายงานว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นบนทางหลวงสาย A2 ของประเทศโปแลนด์ รถบรรทุกช็อกโกแลตปริมาณ 24 ตัน พุ่งชนทางกั้นขอบถนนจนรถคว่ำตะแคงลง ทำให้ช็อกโกแลตที่ขนมาทั้งหมดหกไหลปกคลุมทั่วถนน ตามรายงานนอกจากคนขับรถที่บาดเจ็บจากแรงกระแทกจนแขนหัก ซึ่งขณะนี้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บคนอื่นๆ อีก แต่จากอุบัติเหตุดังกล่าวทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก เพราะช็อกโกแลตที่เคลือบอยู่บนถนนนั้นสร้างความลำบากให้กับเจ้าหน้าที่ในการกำจัดมันออกไปจากถนน เจ้าหน้าที่ Bogan Kowalski ผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิงกล่าวว่ากรณีนี้มันแย่ยิ่งกว่าปัญหาหิมะปกคลุมถนนเสียอีก โดยเฉพาะยิ่งถ้าปล่อยเอาไว้จนมันแข็งตัว พวกเขาใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็สามารถทำให้ถนนสามารถกลับมาใช้งานได้ปกติ แม้จะทำให้รถติดแต่ดูเหมือนว่าประชาชนหรือชาวเน็ตที่ได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ต่างก็แซวให้กลายเป็นเรื่องตลกไปซะงั้น บ้างก็บอกว่า “ช็อกโกแลตหกตั้ง 24 ตันนะ นายจะกำจัดมันออกไปหมดเลยอย่างนั้นเหรอ น่าเสียดายจริงๆ” บางส่วนก็จะมุ่งหน้าไปที่เกิดเหตุทันที “รอก่อน ฉันกำลังมุ่งหน้าไปที่เกิดเหตุแล้วไปช่วยใช้ลิ้นเลียทำความสะอาดให้” บ้างก็ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ “บอกตำรวจทางหลวงของโปแลนด์นะ…
-
ลูกสาวมีงานเลี้ยงธีมยุคกลาง ไม่อยากเป็นเจ้าหญิง ขอเป็น ‘ไวกิ้ง’ ผ่าทุกภาพลักษณ์ความนิยม!!
ทุกวันนี้เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า เด็กๆ สมัยใหม่ยังคงยึดติดกับภาพลักษณ์เกี่ยวกับเพศอยู่หรือไม่ โดยในแง่ของเจ้าชาย เจ้าหญิง ที่จะเกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาว่าใคร เพศอะไร มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์อย่างไร… อย่างในเรื่องของลูกสาววัย 7 ขวบของนาย Dan Snow พิธีกรรายการประวัติศาสตร์ ที่กำลังเตรียมแต่งตัวไปร่วมงานเลี้ยงธีมยุคกลางที่โรงเรียน เด็กส่วนใหญ่เลือกจะแต่งตามลักษณะเพศของตัวเอง เช่นเด็กชายเป็นอัศวิน เด็กหญิงจะเป็นเจ้าหญิง… สำหรับลูกสาว Zia แล้ว เธอกลับมีความคิดที่แตกต่างออกไป เธออยากจะแต่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือสแกนดิเนเวียนสุดเจ๋ง หรือ นักรบไวกิ้งหญิง The Red Girl โดยมีการอ้างอิงถึงเหตุกาณ์ในช่วงศตวรรษที่ 12 ช่วงสงครามไอริช Cogad Gáedel re Gallaib – War of the Irish with the Foreigners นักรบไวกิ้งหญิงผู้เกรียงไกร ไม่เพียงแค่เธอแต่งตัวเป็นนักรบไวกิ้งแล้ว เธอยังร่วมแชร์ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ให้กับเพื่อนคนอื่นๆ ด้วย เพราะคุณพ่อได้สอนเธอว่า มีนักรบหญิงมากมายที่เสียสละเข้าร่วมสงครามในศตวรรษที่ 10…
-
หนุ่มเมกันขับรถบรรทุกชนตำรวจตายแต่รอดจากคุก เอ๊ะ!! คล้ายๆ กับประเทศไหนกันนะ??
บางครั้งโลกของเราก็ไม่ยุติธรรมเสมอไป บางทีคนที่ไม่มีความผิดก็ถูกจองจำอย่างไม่เป็นธรรม หรือคนที่มีความผิดก็รอดพ้นจากการทำโทษไปได้ อย่างกรณีนี้ที่มีคนขับรถบรรทุกชนตำรวจตายด้วยความประมาท แต่กลับไม่ต้องไปรับการใช้กรรมในคุกแต่อย่างใด?? โดยเรื่องที่ว่านี้เป็นเรื่องราวของ Robert Maldonado คนขับรถบรรทุกวัย 49 ปีที่ก่อเหตุขับรถบรรทุกพุ่งเข้าชนรถตำรวจของ Nicholas Lee เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานอยู่ในขณะนั้น Robert Maldonado ผู้ต้องหาในคดีนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ทางแยกระหว่างถนน Loma Vista Drive และ Robert Lane ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2014 เวลาประมาณ 8.00 น. และเขาก็ถูกจับกุมตัวไปด้วยข้อหาฆาตกรรมผู้อื่นด้วยยานยนต์ (เป็นกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย) สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ Lee ที่เสียชีวิตไปนั้นทำงานเป็นตำรวจมานานกว่า 16 ปี ซึ่งการโดนชนของเขาในครั้งนั้นทำให้เขาเสียชีวิตในทันที นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่นั่งไปด้วยได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นเดียวกัน Lee นายตำรวจที่เสียชีวิต จากการกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เผยความจริงให้เห็นว่า Robert ผู้ที่เป็นเจ้าของบริษัทรถบรรทุกและผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ มีความผิดในฐานที่ไม่ดูแลรักษาและตรวจสอบยานพาหนะให้ตรงกับใบอนุญาตผู้บริการของเขา จึงทำให้เกิดเหตุเบรคไม่สามารถใช้งานได้และนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงนี้ในที่สุด จากการรายงานของสื่อ ABC7 การตัดสินโทษของเขามีขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โทษที่เขาได้รับก็คือคุมประพฤติเป็นระยะเวลา 5 ปี…
-
“Mr. Kite” ผลงานใหม่เรื่องที่ 3 จากผู้สร้าง “Your Name” เผยฉากหลังเป็นสิงคโปร์
หลังจากที่สร้างสุดยอดผลงานอนิเมะที่ทำเงินรวมจากทั่วโลกได้มากที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมาอย่าง Your Name ไปนั้น Makoto Shinkai ก็ออกผลงานใหม่ๆ ออกมาให้เห็นกันเป็นระยะๆ ตั้งแต่ตอนนั้นมา ไม่ว่าจะเป็นอนิเมะสั้นเรื่อง Warm Winter Canada (あったかい、冬カナダ) หรือ Weaving Poems of the Seasons (詩季織々) ที่จะมีเนื้อหาอยู่ในประเทศจีน และล่าสุดนี้เอง Makoto Shinkai ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับอนิเมะสั้นเรื่องใหม่ซึ่งจะเป็นมิวสิควิดีโอของบทเพลงใหม่จากนักร้องดูโอ้ J-pop วง Sukima Switch และได้รับการรังสรรค์โดยสตูดิโอ CoMix Wave Films ที่อยู่เบื้องหลังงานภาพของเรื่อง Your Name มิวสิควิดีโอตัวนี้มีชื่อว่า Mr. Kite ชื่อเดียวกับบทเพลงบทใหม่ของ Sukima Switch และเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของสาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่รับหน้าที่เป็นวิศวกรผู้ช่วยเหลือการสร้างรถไฟใต้ดินในสิงคโปร์ นอกจากนั้น มิวสิควิดีโอ Mr. Kite ตัวนี้ยังเป็นถูกใช้ประกอบโฆษณา 30 วินาทีของบริษัท วิศวกรรมโยธา Taisei อีกด้วย ดังนั้นจะเรียกว่ามิวสิควิดีโอตัวนี้ เป็นวิดีโอตัวเต็มของโฆษณาก็ไม่ผิดนัก มิวสิควิดีโอ Mr. Kite จาก Daisuki…
-
ฮีโร่ตัวน้อยแต่ใจใหญ่!! Austin Perine เด็กชายวัย 4 ขวบผู้ออกแจกอาหารให้กับคนไร้บ้าน
ในการ์ตูนหรือภาพยนตร์ต่างๆ เราจะเห็นได้ว่าเหล่าซูเปอร์ฮีโร่หลายๆ คนมักจะมีพลังพิเศษ (หรือรวย) และพวกเขาก็จะใช้พลังพิเศษนั้นต่อสู้กับเหล่าร้ายพิทักษ์ประชาชน แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว คนเราไม่ได้มีพลังวิเศษเหมือนในภาพยนตร์และการ์ตูน ฮีโร่ที่จะปรากฏตัวให้เราเห็นจึงไม่ได้มาในรูปแบบสวมผ้าคลุมและบินไปบินมา แต่มาในรูปความใจดีหรือเอื้ออาทร พบกับ Austin Perine เด็กชายวัยสี่ขวบผู้ออกผดุงความยุติธรรมโดยการให้ความช่วยเหลือแก่คนไร้บ้านในเมือง Birmingham รัฐแอละแบมา Austin นั้นมีแรงบันดาลใจที่จะให้ความช่วยเหลือเหล่าคนไร้บ้านมาจากตอนที่เขาได้ดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับลูกแพนด้าตัวน้อยซึ่งถูกแม่ของมันทิ้งและไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน และหลังจากค้นพบถึงปัญหาความขาดแคลน ความหิวโหยและไม่มีที่อยู่อาศัย ซูเปอร์ฮีโร่ตัวน้อยนี้จึงตัดสินใจที่จะใช้เงินที่ตัวเขาเก็บมาเพื่อไปซื้อของเล่นไปกับการแจกจ่ายแซนวิซไก่ให้กับเหล่าคนไร้บ้านแทน ซึ่งในแต่ละสัปดาห์ Austin จะกลายร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ชื่อ “President Austin” เพื่อออกมาให้ความช่วยเหลือแก่เหล่าคนไร้บ้าน โดยที่ TJ Perine คุณพ่อของหนูน้อยได้กล่าวถึงชื่อฮีโร่ของลูกชายว่า “ชื่อนั้นมันเป็นความคิดของ Austin เพราะเขาคิดว่าที่เขาทำอยู่นั่นเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีสมควรทำ” แม้จะตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ในทุกๆ ที่เขาได้ไปแจกจ่ายอาหารให้กับคนไร้บ้านต่อเละที่เจ้าหนูจะทิ้งคำพูดประจำตัวให้แก่พวกเขาฟังว่า “อย่าได้ลืมที่จะแสดงความรัก” และทุกๆ การโพสต์โซเชียลมีเดีย Austin จะแฮชแท็ก #ShowLove อยู่เสมอ เรื่องราวความดีของ Austin ลือเลื่องไปถึงสำนักข่าว CBS จนพวกเขาถึงกับต้องถ่อมาทำวิดีโอของฮีโร่ตัวน้อยเลยล่ะ เรามาลองชมวิดีโอของทาง CBS…
-
อุบัติเหตุบนทางหลวงทำ ‘รถติด’ ขนาดหนัก สาวเบื่อ เลยออกมา ‘อาบแดด’ ฆ่าเวลาซะเลย!!
เมืองหลวงของประเทศไทยอย่าง กรุงเทพมหานคร ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอัตรารถติดสูงติดอันดับต้นๆ ของโลก ดังนั้นเราจึงทราบดีว่ารถติดนั้นมันทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้างไม่ว่าจะเป็นมลพิษ ความเครียด ความไม่สะดวกสบายรวมถึงยังเสียเวลาไปโดยไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอีกด้วย และเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมานี้ก็ได้มีอุบัติเหตุรถยนต์ไฟท่วมเกิดขึ้นบนทางหลวงหมายเลข M62 ที่อยู่ทางตอนบนของประเทศอังกฤษ จากอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก รถที่ใช้ทางหลวงแทบจะไม่ขยับเป็นชั่วโมงๆ และนั่นทำให้หญิงสาวคนหนึ่งคิดว่าไหนๆ ก็เสียเวลาไปละ จึงเอาเวลาที่รอไปทำอย่างอื่นดีกว่า โดยที่สิ่งที่เธอทำคือการออกมาอาบแดดนั่นเอง Lily Willetts คุณแม่ลูกสองนั่นเอง เธอกำลังอยู่เดินทางไปมากับ Sam Wadsworth สามีของเธอก่อนที่จะมาติดแหงกอยู่บนทางหลวง M62 หลังจากรถไม่ขยับไปไหนอยู่ 3 ชั่วโมง คุณแม่วัย 27 ปีคนนี้จึงคว้าผ้าห่มหลังรถและนำไปปูแล้วนอนอาบแดดกลางถนนเสียเลย Lily ให้สัมภาษณ์ว่าเพราะอากาศตอนนั้นมันดีมากๆ เธอจึงตัดสินใจหาอะไรดีๆ ทำดีกว่า แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มี Lily คนเดียวที่คิดจะหาอะไรต่างๆ ทำยามที่รถติด เราไปชมกันดีกว่าว่าคนอื่นๆ จะทำอะไรฆ่าเวลากันบ้างนะครับ แก๊งนี้ก็ออกมาอาบแดดเหมือนกันนาจา ออกไปเล่นกีฬารอก็เข้าท่านะ สายชิลก็มา เอ้า!! ชนนนนน…
-
นักศึกษาตกใจ เจอ “แจ็ค หม่า” แอบย่องมานั่งฟังบรรยายในห้องเรียนด้วย!?
กลายเป็นเรื่องฮือฮาเล็กๆ ในหมู่นักศึกษาจีนเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคนแอบเห็นว่ามีมหาเศรษฐีรายหนึ่งแอบย่องเข้ามานั่งเรียนในห้องเรียนด้วยแบบเนียนๆ เว็บไซต์ hangzhou.zjol.com.cn ได้รายงานว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา แจ็ค หม่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท Alibaba Group ได้เข้าไปฟังบรรยายในห้องเรียนร่วมกับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยครูหังโจว (Hangzhou Normal University) ซึ่งเขาเคยเป็นศิษย์เก่าของที่นี่ด้วย ในการเดินทางไปฟังบรรยายครั้งนี้เป็นการไปแบบเงียบๆ แบบไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เขาจึงแต่งตัวให้มิดชิดและใส่หมวกเพื่อให้คนไม่สังเกตเห็นเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีคนจำใบหน้าของเขาได้และพยายามถ่ายรูปของเขา เมื่อแจ็ค หม่าเห็นเข้าก็พยายามโบกไม้โบกมือเพื่อบอกให้นักศึกษาในห้องตั้งใจฟังบรรยายและอย่าถ่ายรูปของเขา แต่ก็ยังคงมีคนที่สามารถถ่ายรูปของเขาเอามาลงอินเตอร์เน็ตได้ หนึ่งในนักศึกษาที่นั่งฟังบรรยายในวันนั้นบอกว่าแจ็ค หม่า นั่งฟังอย่างตั้งใจ และบอกให้นักศึกษาคนอื่นๆ อย่าสนใจเขามากนัก ซึ่งหลังจากฟังได้ไม่กี่นาทีเขาก็ออกจากห้องเรียนไปโดยที่นักเรียนแถวหน้าแทบไม่ได้สังเกตเห็นเขาเลย ทั้งนี้มีรายงานว่าวิชาที่แจ็ค หม่าเข้าไปนั่งฟังนั้น เป็นวิชา “เทคโนโลยีดิจิตัลขับเคลื่อนประเทศจีน” ซึ่งเป็นวิชาที่ทาง Alibaba มีส่วนร่วมในการออกแบบและสนับสนุนเงินทุนในการศึกษานั่นเอง ที่มา hangzhou , xuehua
-
ลูกค้าจ่ายค่าซาลาเปาเกินมา 700,000 ร้านวอนสื่อช่วยตามหา กลับมารับเงินคืนด้วย…
ความรีบหรือความหลงลืมอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดอย่างมหาศาลได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องจำนวนตัวเลขเงินทองในการทำธุรกรรมออนไลน์ หากเพิ่มมาเพียงแค่ตัวเดียวอาจจะเสียเป็นเงินหลายหลักเลยล่ะ!! อย่างกรณีของลูกค้ารายหนึ่งจากเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ที่ได้ทำการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นผ่านสมาร์ทโฟน แต่ชะเอิงเอย เขาดันใส่รหัสผ่านตัวเลข 6 หลักของตัวเองลงในช่องจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้ร้านซาลาเปาแทน มันก็เลยกลายเป็นเรื่องที่ใหญ่โตพอสมควร เนื่องจากรหัส 6 หลัก กลายมาเป็นจำนวนเงิน 6 หลักมูลค่า 147,258 หยวน (ประมาณ 740,300 บาท) จากราคาซาลาเปาที่ตกเพียงลูกละ 1 – 1.5 หยวน (5 – 7 บาท) การจ่ายเงินอันผิดพลาดนี้เกิดขึ้นในวันที่ 2 เมษายน 2018 แต่ทว่าทางเจ้าของร้านซาลาเปา เหอหลิวจู เพิ่งจะมารู้เรื่องในช่วงปลายเดือนเมษายน เพราะพบความผิดปกติในบัญชีรับเงินรายเดือน… เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว เขาก็ตกใจกับจำนวนเงินที่ชำระเข้ามาในยอดเดียวที่สูงเป็นแสน ซึ่งคาดว่าน่าจะความเข้าใจผิดของลูกค้าที่ต้องใส่เป็นจำนวนเงินชำระ แต่ดันใส่เป็นรหัสผ่านของตัวเองมาแทน ที่น่าสงสัยไปยิ่งกว่านั้นก็คือ ลูกค้ายังไม่รู้ตัว ไม่มีการติดต่อกลับมาที่ร้านซาลาเปาเลย นี่ขนาดว่าเจ้าของร้านรู้ช้าแล้ว เจ้าของเงินยังไม่รู้ตัวเลย……
-
จีนเปิดใช้ระบบขนส่ง ART ลูกผสมรถไฟและรถเมล์ สร้างง่าย ราคาถูก และใช้พลังงานไฟฟ้า!!
โลกที่พัฒนาก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น การพัฒนาด้านอื่นๆ ตามมาด้วยเช่นกัน อย่างในเรื่องของระบบคมนาคมของประเทศจีนนี้ ได้ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อรองรับอนาคตกันแล้ว ระบบขนส่งอัจฉริยะ ART – Autonomous Rail Rapid Transit ลูกผสมระหว่างรถเมล์และรถไฟ ได้เปิดทดลองใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยจะประเมินในรอบแรกเป็นช่วงเวลา 3 เดือนในเมืองจูโจว มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ก่อนหน้านี้ทางบริษัท China Railway Rolling Stock Corp ได้ทำการโปรโมทระบบขนส่งอัจฉริยะมาตั้งแต่ปี 2017 และเปิดตัวไปในช่วงเดือนตุลาคม สำหรับรถโดยสารอัจฉริยะนี้พัฒนาโดยทีมวิจัยของบริษัท CRRC Zhuzhou Locomotive Co Ltd นำจุดเด่นของรถโดยสารและรถไฟมาผสมผสานกัน ให้กลายมาเป็นระบบขนส่งยุคใหม่ สามารถควบคุมการวิ่งตามเส้นปะสีขาวบนท้องถนน ไม่จำเป็นต้องสร้างรางเหล็กแบบเดิม มาพร้อมกับอุปกรณ์การควบคุมทันสมัย ระบบไร้คนขับ ระบบเซ็นเซอร์ที่สามารถอ่านค่าและวิเคราะห์เส้นทางได้อัตโนมัติ และจะจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง .…
-
นวัตกรรมใหม่แห่งอาหาร “ผักแผ่น” จากญี่ปุ่น กินเปล่าๆ ก็ได้ แช่น้ำแล้วห่ออาหารก็ได้
คุณยังจำความรู้สึกสะอิดสะเอียดตอนแรกๆ ที่ฝึกกินผักตอนเด็กได้ไหม? หรือแม้แต่ทุกวันนี้ก็ยังคงมีผู้ใหญ่ที่ไม่ชอบกินผักอยู่ อาจจะเพราะกลิ่นและรสสัมผัสของมันที่ไม่ได้อร่อยเหมือนกับการเคี้ยวเนื้อสัตว์นั่นเอง นี่อาจเป็นตัวช่วยสำหรับคุณในอนาคตก็ได้นะ เพราะนี่คือ VEGHEET (หรือแปลง่ายๆ ก็คือผักแผ่นนั่นแหละ) เกิดจากการนำผักไปบดแปรรูป แล้วอบแห้ง ทำให้กลายเป็นแผ่นๆ อย่างที่เห็น มันถูกคิดค้นโดยบริษัท Isle Corporation ตั้งอยู่ในเมืองฮิราโดะ จังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ผักแผ่นนี้มีส่วนผสมของวุ้น (AGAR) มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ไม่ละลายในน้ำเย็น และมีความยืดหยุ่น ฉะนั้นคุณจึงสามารถนำมันไปแช่ในน้ำเพื่อให้อ่อนตัวแล้วนำไปห่ออาหาร ผักแผ่นนี้จะมีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ กรอบๆ (หากไม่ได้แช่น้ำ) และเมื่อเคี้ยวก็จะเกิดรสหวานที่มาจากผักที่แผ่ซ่านไปทั่วปาก แต่หากคุณนำเอาผักแผ่นไปแช่น้ำ มันก็จะนุ่มและยืดหยุ่นได้ สามารถนำเอามันไปห่อข้าว หรือเอาไปทำก๋วยเตี๋ยวหลอดได้ และแม้จะเป็นเด็กก็สามารถกินเจ้าผักแผ่นนี้ได้ง่ายๆ และยังเหมาะกับการนำไปจัดปาร์ตี้ต่างๆ ด้วย หากสนใจอยากจะซื้อผักแผ่นมาลองกินล่ะก็ สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน Ito Yokado Oimachi หรือจะซื้อผ่านเว็บไซต์ yokaro-bussan ในราคา 350 เยน (ราวๆ 102 บาท) 1 ห่อบรรจุ 5…
-
‘ชาวผิวสี’ สองคนกลายป็นแพะ ติดคุกฟรี 26 ปี หลังถูกกล่าวหาว่าลักพาตัวและข่มขืน
เรื่องของการตัดสินผิดพลาดจนทำให้คนบริสุทธิ์ต้องติดคุก ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เฉพาะในบ้านเราเท่านั้น ในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่เรียกได้ว่าเป็นประเทศมหาอำนาจของโลกอย่าง ‘สหรัฐอเมริกา’ เองก็มีเหตุการณ์แบบนี้ให้เห็นอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของชายหนุ่มผิวสีสองคนที่ถูกตัดสินจำคุกฟรีเป็นเวลา 26 ปี ในข้อหาข่มขืน ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ก่อเหตุแต่อย่างใด จากรายงานของเว็บไซต์ นิวยอร์กไทม์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2018 ระบุเอาไว้ว่านาย VanDyke Perry และ นาย Gregory Counts ถูกศาลตัดสินให้พ้นข้อกล่าวหาแล้วในวันจันทร์ที่ผ่านมา ย้อนกลับไปในปี 1991 ในวันเกิดเหตุ ขณะที่นาย Perry อายุ 21 ปี และ Counts อายุ 19 ปี ถูกกล่าวหาว่าลักพาตัวและข่มขืนหญิงสาวที่ Central Park ร่วมกันกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ในขณะที่ไม่มีหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึง Perry และ Counts กับการกระทำดังกล่าว แต่กลับกลายเป็นว่าฝ่ายหญิงที่ตกเป็นเหยื่อไม่ได้ให้ความร่วมมือกับทางอัยการเท่าไหร่นัก และหลังจากนั้นทั้งสองคนก็ตกเป็นผู้ต้องหา และต้องรับโทษชั้นหนึ่งของคดีข่มขืน ส่วนชายอีกคนไม่ได้รับข้อกล่าวหาแต่อย่างใด Perry…
-
ผัวโหดฆ่าเมียแถมพยายามตัดคอ เพียงเพราะเมีย ‘อยากย้ายบ้าน’ ก่อนที่แยกกันอยู่ตลอดกาล..
บ้านเป็นเสมือนกับสวรรค์วิมานบนเดิน เพราะว่ามันเป็นสถานที่ส่วนตัวของเราที่จะทำอะไรก็ได้ แถมยังมีครอบครัวอันอบอุ่นอยู่ในสถานที่แห่งนี้ด้วย แต่ว่าบางครั้ง ‘บ้าน’ ก็อาจทำให้เกิดเรื่องเศร้าขึ้นมาได้เหมือนกับเหตุการณ์นี้ ที่มีชายคนหนึ่งทำการฆ่าเมียของเขาเพียงเพราะเมียอยากย้ายบ้านเท่านั้นเอง แถมยังไม่พอยังพยายามจะตัดหัวอีกด้วย… หน้าตาของ Donny Eaton ผู้ก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้ โดยเหตุการณ์ที่น่าเศร้านี้้เกิดขึ้นที่เขต Cobb County รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อชายนามว่า Donny Eaton ได้ทำการฆาตกรรม Roxanne Tenore ภรรยาวัย 66 ปีของเขาอย่างโหดเหี้ยม สาเหตุที่เป็นที่มาของการปลิดชีวิตเริ่มขึ้นความที่ Roxanne ภรรยาของเขาอยากจะไปใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่กับลูกๆ หลานๆ ของเธอในรัฐฟลอริด้า ขณะที่ตัวของ Donny เองนั้นไม่อยากไปและอยากจะอยู่ที่จอร์เจียบ้านที่อยู่มาตลอดมากกว่า Roxanne ภรรยาของเขา เรื่องนี้ได้กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่ จนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลงจากการที่ Roxanne ได้บอกกับสามีของเธอว่าได้ซื้อบ้านใหม่ที่รัฐฟลอริด้าเอาไว้แล้ว เมื่อได้ยินดังนั้นความโมโหก็ได้เข้าควบคุมร่างของชายคนดังกล่าว และเขาก็ได้ควักเอามีดพกมาแทงเข้าที่หัวและคอของฝ่ายหญิงจำนวนหลายแผลจนเธอสิ้นใจคามือของสามีเธอเอง และเท่านั้นคงยังไม่สาแก่ใจเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกว่า Donny ได้พยายามจะตัดหัวของ Roxanne ออกจากร่างด้วย หลังจากนั้นด้วยความสำนึกต่อสิ่งที่ได้ทำลงไป ฆาตกรคนนี้จึงออกจากบ้านแล้วขับรถไปยังหลุมศพของแม่เขาที่อยู่บริเวณใกล้ๆ เพื่อระบายความเสียใจกับสิ่งที่ตนได้ทำลงไป ก่อนที่เขาจะเรียกตำรวจมาและสารภาพถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในที่สุด.. ใช้มีดพกเป็นอุปกรณ์ในการคร่าชีวิต “Donny ปลิดชีวิตของภรรยาเขาไปอย่างน่าสยดสยอง เขาพยายามจะตัดหัวของเธอให้หลุดจากบ่า…
-
ไบฟอร์สทำงาน!! Pornhub เผยมีการค้นหา ‘Avengers’ มากขึ้น 356% ลองทายสิใครนำทีมนะ
ทันทีที่สุดยอดภาพยนตร์จากจักรวาล Marvel อย่าง The Avengers เข้าฉาย ก็เกิดเป็นกระแสไปทั่วโลกถึงความสนุก ความมันส์ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้ฟาดฟันกับศัตรูเพื่อช่วยโลกเอาไว้ แต่ว่าบางคนคงอยากจะเห็นมากไปกว่าลีลาการบู๊ล่ะมั้ง เพราะมีผลสำรวจออกมาเผยว่ามีการค้นหาคำว่า ‘Avengers’ ในเว็บโป๊มากขึ้นถึง 356%!! โดยเว็บโป๊ที่ว่านี้ก็คือเว็บขวัญใจมหาชนอย่าง Pornhub ที่ได้ออกมาเผยว่าตั้งแต่ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง ‘The Avengers: Infinity War’ เข้าฉายในโรง ก็ทำให้มีคนไปเซิร์ชคำว่า ‘Avengers’ มากขึ้นถึง 356% เมื่อเทียบการค้นหาเฉลี่ยในแต่ละวันก่อนหน้านี้เลยทีเดียว “ตามประวัติแล้ว ตัวละครของค่าย DC อย่าง Harley Quin, Wonder Woman หรือ Batman จะมีการถูกเซิร์ชมากกว่าของค่าย Marvel แต่ว่า Avengers กับตัวละครที่เกี่ยวข้องก็ได้ทำเรื่องประหลาดใจเมื่อมีการเซิร์ชชื่อที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาถึง 6 ล้านครั้งในปี 2017″ ทีมวิเคราะห์ของ Pornhub กล่าว และแน่นอนว่าหากใครที่เคยเซิร์ชหาเรื่องนี้เหมือนกัน ก็จะพบกับหนังล้อเลียนในเวอร์ชั่นของสงครามใต้สะดือ จากค่ายหนังผู้ใหญ่ต่างๆ อย่างมากมายให้คุณสามารถดูได้อย่างฉ่ำตาสบายตัวเลยล่ะ มาถึงตรงนี้ก็คงอยากรู้ล่ะสิว่าใครคือคนที่ถูกค้นหามากที่สุด และมันคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Black Widow สายลับสุดเซ็กซี่ได้รับบทบาทโดยเจ๊ Scarlett Johansson…
-
ชายหนุ่มเดินไกล 300 กิโลฯ ช่วยชีวิตคนไว้ถึง 350 คน ตระหนักถึง ‘ความเหงาที่ฆ่าคนได้’
บนโลกอันแสนกว้างใหญ่ มีผู้คนหลายพันล้านชีวิตอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์แห่งนี้ แต่ทว่าความกว้างใหญ่กลับทำให้จิตใจของคนตัวเล็กๆ รู้สึกได้ว่า ‘เหงา’ เหลือเกิน อาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยของตัวบุคคล แต่รู้หรือไม่ว่า ‘ความเหงา’ สามารถคร่าชีวิตคนได้เลยทีเดียว เพราะยิ่งเหงามากก็ยิ่งส่งผลต่อสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ จนถึงขั้นลงมือทำในสิ่งที่ใครๆ ก็ไม่อาจคาดคิดได้… จากรายงานด้านสุขภาพของประชาชนของประเทศเดนมาร์ก เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าชาวเดนมาร์กจำนวน 350,000 คน ประสบกับภาวะเหงาบ่อยครั้ง และจากสถิติคนเหงา 16% ของประชากรเดนมาร์กทั้งหมด ก็เพิ่มจำนวนเป็น 50% ภายในเวลาไม่กี่ปีเท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวลพอสมควร นาย Patrick Cakirli จึงเล็งเห็นปัญหาความเหงาที่อาจคร่าชีวิตของคนได้ เขาจึงริเริ่มโครงการเดินคล้ายพี่ตูน ที่ไม่ใช่การระดมทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์ให้โรงพยาบาล แต่เป็นโครงการ March Against Loneliness หรือขบวนเดินต่อต้านความเหงานั่นเอง เริ่มต้นในวันที่ 12 จนถึงวันที่ 26 เมษายน เขาได้เดินได้ระยะทางรวม 300 กิโลเมตร จากกรุงโคเปนเฮเก้น สู่เมือง ออร์ฮูส ซึ่งการเดินในครั้งนี้เป็นครั้งที่…
-
ลูกค้าคอมเพลนไม่อยากให้ ‘กลุ่มรักร่วมเพศ’ เข้าร้าน ผู้บริหารโต้กลับ ‘อย่ามาที่นี่อีก’
โดยปกติทั่วไปตามห้างร้านหรือบริษัทต่างๆ มักจะมีกล่องรับความคิดเห็นจากลูกค้าวางไว้เสมอ ซึ่งเป็นแนวคิดที่อยากให้ผู้เข้ามาใช้บริการได้ออกความคิดเห็น เพื่อนำไปปรับปรุงการบริการที่ดียิ่งขึ้น ในบางครั้งก็เป็นคำติชมที่เกี่ยวข้องกับทางร้านโดยตรง แต่บางครั้งก็เป็นการติชมเพื่อเอาความรู้สึกส่วนตัวของลูกค้า หวังจะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ตนไม่ชอบนอกเหนือจากการบริการของทางร้าน กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @Yuto_yumi_ ผู้ทำงานอยู่ในร้านค้าแห่งหนึ่ง และได้เห็นจดหมายตอบกลับจากฝ่ายบริหาร ที่มีต่อข้อเสนอแนะของลูกค้าเกี่ยวกับ ‘กลุ่มรักร่วมเพศ’ หรือ LGBT ซึ่งข้อความตอบกลับแทบจะไม่น่าเชื่อว่าจะตอบลูกค้าที่ทางบริษัทเคารพได้ถึงขนาดนี้ รายละเอียดของลูกค้าที่แจ้งเข้ามา มีใจความคร่าวๆ ว่า “อย่าให้พวกกลุ่มรักร่วมเพศเข้ามาในร้าน ระยะหลังๆ ฉันเข้ามาที่นี่บ่อยเพราะมีสินค้าราคาถูกและหลากหลาย แต่รู้สึกแย่กับสิ่งที่เจอ อย่างเมื่อวานมาที่ร้านก็เห็นคู่เกย์เดินจับมือกันออกมาจากลานจอดรถชั้น 1… ปัจจุบันคนพวกนี้ยิ่งมีจำนวนเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้รู้สึกแย่ ห้างร้านไม่คิดจะจัดการกับคนเหล่านี้สักหน่อยเหรอ? เห็นมามากพอแล้ว ถ้าไม่จัดการอะไรก็จะไม่มาที่นี่อีก แล้วจะแฉบนอินเทอร์เน็ตให้ด้วย” จากคำคอมเพลนดังกล่าวนั้น ถือว่าดูรุนแรงพอสมควร อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของร้านค้าได้ หากมีคนเห็นพ้องคล้อยตามคำขู่ แต่ทว่าผู้บริหารกลับไม่คิดแบบนั้น…เพราะจดหมายจากสำนักงานใหญ่ชี้แจงชัดเจนว่า “จากข้อสรุปทั้งหมดทางบริษัทขอชี้แจงว่า “กรุณาอย่ามาที่ร้านแห่งนี้อีก” บริษัทของเราไม่ได้คำนึงว่าลูกค้าจะมีรสนิยมรักร่วมเพศหรือไม่ แต่ทุกคนคือลูกค้าของเรา และลูกค้าทุกคนมีความสำคัญ แต่ถ้าหากดูถูกผู้อื่นแล้ว เราจึงไม่อาจต้อนรับท่านได้อีก เพราะฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามาที่ร้านของเราอีก และที่สำคัญพนักงานของเราบางส่วนก็เป็นหนึ่งในกลุ่มรักร่วมเพศ และเราไม่มีนโยบายไล่ออกจากกรณีนี้ หากท่านมีความรู้สึกแบบนี้อยู่ ทางบริษัทไม่ได้ตั้งใจจะโต้แย้งท่าน… เพียงแค่ขอร้องว่าอย่าแสดงวาจาหรือกระทำการเหยียบย่ำผู้อื่นต่อหน้ากันแบบนี้ จึงขอความกรุณามาเพียงเท่านี้” …
-
ขุ่นแม่ Rihanna กับ ‘หมวกท่านโป๊ป’ ในงานพรมแดง Met Gala สุดท้ายไม่พ้นโดนดราม่า!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอยากกว้างขวางในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กของต่างประเทศ กับกรณีของขุ่นแม่ Rihanna แต่งกายไม่เหมาะสมไปร่วมงาน Met Gala งานดังกล่าวนี้เป็นงานเลี้ยงแบบหรูหราที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเรี่ยไรเงินไปพัฒนาพิพิธภัณฑ์ Metropolitan Museum of Art’s Costume และสำหรับปีล่าสุดก็เพิ่งจัดไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สำหรับปีนี้ก็มาในธีม “Heavenly Bodies : Fashion and the Catholic Imagination” หรือ “ร่างกายอันศักดิ์สิทธิ์ : แฟชั่นและจินตนาการในนิกายคาทอลิก” แน่นอนว่าระดับ Rihanna แล้ว การแต่งตัวมาร่วมงานจะต้องเป็นที่ฮือฮาและเป็นที่จับจ้องของทุกคน เธอมาในชุดสีขาวที่ปักลวดลายสวยงาม แต่ที่ดูเด่นที่สุดก็คือหมวกที่มีรูปทรงคล้ายกับหมวกของนักบวชนิกายคาทอลิก “มันดูแพงมาก และมันคงจะเป็นบาปมหันต์หากเราไม่สวมมัน” Rihanna กล่าวถึงหมวกดังกล่าวกับนิตยสาร Vogue แน่นอนว่าหลังจากที่ภาพของเธอในชุดนั้นถูกเผยแพร่ออกไปในอินเตอร์เน็ตก็กลายมาเป็นดราม่าจนได้ เพราะชาวเน็ตหลายคนต่างก็เห็นว่ามันไม่เหมาะสม “@rihana ฉันรักเธอนะ แต่การมาสวมหมวกท่านโป๊ปมาร่วมในงาน MetGala นั้นถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากสำหรับฉัน ในฐานะที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยครอบครัวที่นับถือนิกายคาทอลิก การล้อเลียนศาสนาคริสต์อันเป็นที่รักของเราในงานนั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่สุภาพและน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก” ชาวเน็ตท่านหนึ่งโพสต์ในทวิตเตอร์ ชาวเน็ตอีกรายหนึ่งก็ตัดพ้อถึงกรณีที่เคยมีดราม่าเรื่องชุดพื้นเมืองของชาวอเมริกัน “เมื่อคุณไม่สามารถสวมชุดพื้นเมืองอเมริกันในวันฮาโลวีน…
-
ผู้คนแตกตื่น หลังเกิดรอยแยกเป็นหลุมลึกที่นิวซีแลนด์ เผยชั้นหินเก่าแก่ 60,000 ปี
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้เกิดเหตุรอยแยกของแผ่นดินที่ประเทศนิวซีแลนด์ จนทำให้เห็นถึงชั้นหินใต้ดินที่มีอายุเก่าแก่กว่า 60,000 ปี!! เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ National Geographic ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอของฟาร์มหนึ่งในเมืองโรโตรัว ประเทศนิวซีแลนด์ ที่ถูกฝนชะล้างชั้นหินปูนภายใต้พื้นดิน จนทำให้ชั้นผิวดินถล่ม เกิดเป็นหุบเหวลึก จากการสำรวจของนักธรณีวิทยาพบว่าหุบเหวนั่นมีอายุเก่าแก่มากถึงราวๆ 60,000 ปี และยังทำให้พวกเขาค้นพบรอยต่อของภูเขาไฟที่สงบลงแล้ว จากหลุมลึกทำให้ชาวบ้านต้องพาวัวในฟาร์มที่เลี้ยงไว้หลบออกจากพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันหล่นลงไปในหลุม และระวังไม่ให้คนขับรถหรือมอเตอร์ไซค์ตกลงไปในหลุมดังกล่าว ด้าน Brad Scott นักธรณีวิทยาที่เชี่ยวชาญทางด้านภูเขาไฟ ได้ให้ความเห็นว่านี่เป็บหลุมที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เขาเคยเห็นมาเลย นี่ไม่ใช่หลุมลึกที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในนิวซีแลนด์ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีบันทึกเอาไว้ว่ามีการเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วถึง 9 ครั้ง แต่ไม่มีหลุมไหนที่ลึกเท่านี้มาก่อน สาเหตุของการเกิดหลุมลึก หลุมลึกจะเกิดขึ้นก็เมื่อน้ำฝนได้ชะล้างชั้นหินปูนใต้ดินไป ทำให้เกิดเหตุแผ่นดินยุบตัว ในกรณีดังกล่าวเมื่อถูกชะไปนานๆ แต่ยังไม่ยุบ พอยุบทีหนึ่งก็เลยกลายเป็นหลุมใหญ่เผยว่าชั้นหินปูนนั้นหายไปจนหมดแล้วนั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ที่มา nationalgeographic , XinhuaNewsAgency , express , livescience
-
ดราม่าข้ามประเทศ!! “ชาวไทย” ย่ำโขดหินสาหร่าย ฝ่ายไต้หวันแนะ “อย่าทำแบบนี้เลย..”
ตามสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามในแบบเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละประเทศ เป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ต่างก็อยากจะได้รูปถ่ายสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกหรือความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาสัมผัส ณ ช่วงเวลานั้นๆ คงจะไม่ผิดเท่าไหร่นัก ถ้าหากว่าการยืนถ่ายรูปของเราไม่ได้เป็นการทำลายธรรมชาติ แต่ทว่าหลายต่อหลายครั้งก็จะเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนไทยหรือชาวต่างชาติก็ตาม โขดหินสาหร่าย ชายทะเลเหลาเหม่ย ประเทศไต้หวัน อย่างเช่นในกรณีของโขดหินสาหร่ายจากประเทศไต้หวัน ณ ชายทะเลเหลาเหม่ย รายละเอียดถูกเปิดเผยผ่านจากเพจ Drama-Addict มีชาวไต้หวันร้องเรียนเข้ามาว่า… มีนักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขึ้นไปเหยียบบนโขดหินที่มีสาหร่ายเกาะ อีกทั้งยังถ่ายรูปมาเผยแพร่ผ่านโซเชียลด้วย . ทางด้านชาวเน็ตฝั่งไทยก็ได้ออกมาย้ำเตือนให้กับผู้อื่นได้รับทราบว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ถือเป็นการทำลายธรรมชาติ และไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างเพราะจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ชาวเน็ตบางส่วนก็โต้แย้งว่า การขึ้นไปเหยียบสาหร่ายแบบนี้ไม่น่าจะทำให้สาหร่ายตายได้ และไม่มีป้ายตักเตือนเป็น ‘ภาษาไทย’ ในบริเวณนั้น . . อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายและความเสียหายต่อสถานที่ท่องเที่ยวไปมากกว่านี้ จึงมาการตักเตือนส่งผ่านมายังเพจดัง เพื่อย้ำเตือนว่าไม่ควรขึ้นไปเหยียบสาหร่ายบนโขดหินโดยเด็ดขาด หากยังละเลยก็อาจจะต้องมีการทำป้ายเตือนเป็นภาษาไทย อาจจะมองได้ทางอ้อมว่า เป็นการเหมารวมพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งหมด อันที่จริงแล้ว มีการทำป้ายเตือนไว้ในบริเวณดังกล่าวด้วย เพียงแต่ไม่ใช่ภาษาไทย . . ที่มา…
-
รวยเกิ๊น!! มหาเศรษฐีไนจีเรีย ลงทุนซื้อบ้านสุดหรูให้ลูกชาย เพื่อเป็นของขวัญอายุ 6 ขวบ
หลายๆ คนอาจจะมีการจัดงานวันเกิดให้กับตัวเองในวันคล้ายวันเกิดทุกปีๆ โดยตามธรรมเนียมปฎิบัติแล้วเราก็จะมีการซื้อเค้ก มีการเป่าเทียน และมีการมอบของขวัญให้กับเจ้าของวันเกิด ยิ่งเจ้าของวันเกิดเป็นเด็กแล้วของขวัญที่ควรจะได้ก็มีอยู่แค่ไม่กี่อย่าง แต่กับมหาเศรษฐีคนนี้กลับมอบของขวัญให้กับลูกชายด้วยสิ่งของที่มีมูลค่ามหาศาล ขนาดที่ว่าบางคนทำงานทั้งชีวิตก็ยังซื้อได้ยากเลย… ว็บไซต์ naija ของประเทศไนจีเรีย ได้นำเสนอเรื่องราวของนาย Ismaila Mustapha หรือที่ชาวเมืองรู้จักเขาในนาม Mompha มหาเศรษฐีไนจีเรีย เขาซื้อบ้านหลังใหญ่ในเมืองดูไบให้กับลูกชายของตัวเอง เนื่องในโอกาสที่มีอายุครบ 6 ขวบ…6 ขวบ!! ตามรายงานบอกว่านาย Mompha ได้ถ่ายภาพลูกชายลงในอินสตาแกรมเมื่อวันจันทร์ที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นภาพการฉลองวันเกิดให้กับลูกชายวัย 6 ขวบ แต่งานฉลองของเขาไม่ธรรมดา เพราะมีการซื้อบ้านในดูไบให้กับลูกชายและมีการเรียกเขาว่า “เด็กหนุ่มเจ้าของบ้าน” Mompha ได้โพสต์อวยพรวันเกิดลูกชายลงในอินสตาแกรมพร้อมกับข้อความว่า “มีพ่อแม่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีสิทธิพิเศษ ที่จะได้รับของขวัญเป็นลูกชายแบบลูก ผมขอบคุณพระเจ้าทุกวันสำหรับพรสุดวิเศษที่พระองค์ประทานให้กับแม่และพ่อที่มีลูกเข้ามาในชีวิตของเรา สุขสันต์วันเกิดกับลูกชายที่ดีที่สุดในโลก มีอายุยืนและร่ำรวยนะ” Mompha มองว่าการมีบ้านเป็นของตัวเองนั้นเป็นความสุขแบบหนึ่งที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ไม่สามารถวัดได้ด้วยจำนวนเงิน เพราะไม่ว่าชีวิตของคุณจะเจอเรื่องดีหรือแย่ คุณก็ยังคงมีที่ให้กลับไปพัก นั่นก็คือบ้านนั่นเอง ฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจซื้อบ้านให้กับลูกชายสุดที่รักของเขา ความร่ำรวยของครอบครัว ที่ถูกส่งผ่านมายังลูกชาย…
-
กองทัพร่วมไนจีเรีย บุกเข้าช่วยเหลือเชลยกลุ่มก่อการร้าย Boko Haram กว่า 1,000 คน
ในวันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา กองทัพร่วมไนจีเรียได้บุกเข้าช่วยเหลือเชลย Boko Haram กว่า 1,000 คน จากภายในฐานที่มั่นของ Boko Haram ในรัฐบอร์โน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย กองทัพไนจีเรีย นี่เป็นการบุกช่วยตัวประกันครั้งใหญ่ที่สุด ตั้งแต่การบุกเข้าปล่อยเด็กนักเรียนหญิงที่ถูกลักพาตัวโดย Boko Haram กว่า 100 คน ในเมือง Dapchi ในรัฐ Yobe เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา การช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นการดำเนินการร่วมกันของกองทัพแคเมอรูน และไนจีเรีย ในฐานะกองกำลังร่วมข้ามชาติ (Multinational Joint Task Force หรือ MNJTF) โดยทำการเข้าช่วยตัวประกันจาก Malamkari, Amchaka, Walasa และ Gora ซึ่งเป็นหมู่บ้านของเขตพื้นที่รัฐบาลท้องถิ่น Bama เสนาธิการทหารบกของไนจีเรีย พลโท Tukur Buratai โฆษกทหาร Texas Chukwu…
-
หายใจทางไหน!? 10 อันดับศิลปินเกาหลี ออกมาเต้นในรายการ ด้วยสปีดแบบ x2!!
นี่ก็ผ่านนับสิบปีแล้ววัฒนธรรม K-pop ก็ยังคงคุกรุ่นอยู่ในหัวใจชาวไทยจำนวนมากมาตลอด แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ศิลปินบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปของเกาหลีกลายเป็นที่นิยม ก็คือภาพลักษณ์ประกอบกับความสามารถของพวกเขา “การเต้น” เป็นหนึ่งความสามารถอันโดดเด่นของศิลปินเกาหลีที่ทำให้หนุ่มสาวไทยหัวใจเกาหลีต้องกรี๊ดกร๊าด วันนี้ เห็นว่ามีรายการหนึ่งในเกาหลีได้ท้าให้เหล่าศิลปินบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปได้ออกมาเต้นในเพลงของตัวเอง โดยต้องเต้นในความ เร็วที่มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า ซึ่งเดิมทีแล้วคำท้าทายนี้เริ่มต้นมาจากรายการ Weekly Idol คิดออกไหมล่ะครับว่า ภาพมันจะออกมาเป็นอย่างไร โชคดีที่ทางแชแนลยูทูบ 내연순 ได้ทำการรวบรวม 10 อันดับบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปที่เต้นด้วยความเร็ว x2 ได้ดีที่สุดออกมา จะมีวงไหนและเป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลย อันดับที่ 10 วง iKON อันดับที่ 9 วง Highlight อันดับที่ 8 วง Wanna One อันดับที่ 7 วง MAMAMOO อันดับที่ 6 วง BTS อันดับที่ 5…
-
อยู่ยากจริง!! คนขับแท็กซี่ ใช้มีดขู่ผู้โดยสาร ที่ให้ “รีวิวแง่ลบในแอปฯ” ใครไม่กลัวก็บ้าแล้ว
เดี๋ยวนี้ความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังสถานีที่ต่างๆ ของเรามีเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่ต้องคอยยืนโบกรถ แต่ปัจจุบันก็มีแอปฯ ที่ใช้เรียกรถให้ไปส่งเราอย่าง Grab หรือ Uber ทำให้การใช้ชีวิตมันดูเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเยอะเลยใช่ไหมล่ะ ซึ่งก็แน่นอนว่าเมื่อใช้บริการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อาจจะมีการให้คะแนนหรือการรีวิวว่าการใช้บริการนั้นเป็นอย่างไร โดยก็จะมีทั้งสองด้านทั้งดีและไม่ดี แต่ไม่แน่นะว่าหากคุณรีวิวไม่ประทับใจคนขับล่ะก็คุณอาจจะเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ก็ได้ ที่คนขับรถเอามีดมาจี้ผู้โดยสารเพราะว่ารีวิวให้ว่าไม่ดี?? โดยเรื่องที่เป็นประเด็นนี้เกิดขึ้นที่มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เมื่อมีพลเมืองดีสามารถบันทึกภาพคนขับรถของ Didi Chuxing (แอปฯ ให้บริการแท็กซี่รายใหญ่ของจีน) ขณะที่เขากำลังใช้มีดทำครัวจ่อผู้โดยสารเอาไว้ เพราะว่าไม่พอใจกับการกระทำบางอย่าง ซึ่งในวิดีโอที่บันทึกไว้ จะเห็นได้ว่าคนขับรถกำลังบังคับให้ผู้โดยสารลบการรีวิวที่เป็นแง่ลบให้กับเขาออกจากแอปพลิเคชันซะ แล้วจากนั้นก็ยังให้ผู้โดยสารคนผู้โชคร้ายคนนี้เขียนรีวิวในแง่บวกให้กับการบริการของเขาอีกด้วย และแน่นอนว่าผู้โดยสารคนดังกล่าวก็ต้องทำตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ก็มีมีดรออยู่นิ) เขาจึงยอมทำตามที่คนขับรถว่าแต่โดยดี จึงทำให้ท้ายที่สุดแล้วคนขับรถก็ปล่อยเขาไปอย่างไม่มีการทำร้ายร่างกายใดๆ เกิดขึ้น วินาทีที่คนขับใช้มีดอีโต้ข่มขู่ผู้โดยสาร แต่ก็ด้วยหลักฐานที่โผล่ไปทั่วโลกของอินเทอร์เน็ต จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมชายคนขับรถนี้ได้อย่างทันควัน และก็นำตัวไปเข้าสู่กระบวนการสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจได้ไม่น้อยว่า เราควรจะระวังเอาไว้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะเป็นคนขับรถที่ทางแอปพลิเคชันรับรองก็ตามแต่ เพราะว่าอารมณ์ของคนนั้นไม่ว่าจะใช้แอปฯ อะไรก็คงไม่สามารถระงับอยู่ เราจึงต้องป้องกันไว้เป็นการดีที่สุด… น่าหวาดเสียวแทนจริงๆ ที่มา: medium
-
เชิญชม ชนเผ่าในปาปัวนิวกินี ที่เชื่อว่า ‘วิญญาณจระเข้’ จะแหวกว่ายอยู่ในตัว…
ในพื้นที่บนโลกที่เราไม่เคยไปหรือไม่รู้จัก อาจซ่อนความอัศจรรย์เอาไว้มากมายก็เป็นได้ อย่างเช่นที่นี่ ปาปัวนิวกินี สถานที่อันเป็นแหล่งอาศัยของชนเผ่า Sing-Sing ที่ถือหอก และมีความเชื่อว่าพวกเขามีจิตวิญญาณแห่งจระเข้เวียนว่ายอยู่ในตัว วันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมภาพถ่ายทรงพลังอันน่าหลงใหล ด้วยฝีมือการถ่ายของช่างภาพ Trevor Cole ที่ได้เก็บภาพความงดงามของเผ่า Sing-Sing แห่งปาปัวนิวกินีมาให้เราทุกคนได้รับชมกัน ชนเผ่า Sing-Sing บางกลุ่ม จะทาใบหน้าด้วยสีดำ ขาว เหลืองและแดง Sing-Sing นั้นแบ่งออกเป็นอีกหลายเผ่าย่อยๆ เผ่า Kangunaman Tribesmen จะมีรอยแผลเป็นลวดลายหนังจระเข้ที่ดูองอาจและแข็งแกร่ง เผ่านักรบ Huli Wigmen จะสวมเครื่องประดับศีรษะ เพื่อเป็นสัญญาณพร้อมรบ หรือเผ่า Kunai ที่จะมีการแต่งกายเป็นเอกลักษณ์และเพียบพร้อมไปด้วยหอก ธนู และขวาน ยามใดที่แต่ละเผ่ารวมตัวกันเป็นหนึ่ง พวกเขาจะเรียกตัวเองว่า Sing-Sing ศัตรูอันตรายของการมีอยู่ของเผ่านี้คือ น้ำท่วมและป่าที่กำลังลดลง สมาชิกชนเผ่าราว 65,000 คน อาศัยอยู่ที่บริเวณ Tari Basin…
-
เจ้าหน้าที่เตรียมยิงเสือ หลังเด็กชายวัย 3 ขวบถูกเสือดาวลากไปกินในอุทยานที่ยูกันดา
เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม ได้เกิดเหตุการณ์เสือดาวโจมตีเด็กทารกขึ้นที่อุทยานแห่งชาติในประเทศยูกันดา เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในระหว่างที่ทารกวัย 3 ขวบชื่อ Elisha Nabugyere กำลังได้รับการดูแลโดยพี่เลี้ยงในห้องพนักงาน ภายในอุทยานแห่งชาติ Queen Elizabeth อุทยานแห่งชาติ Queen Elizabeth ในระหว่างที่ดูแลเด็กอยู่นั่นเอง พี่เลี้ยงก็ได้ออกไปทำธุระนอกห้องพนักงาน โดยที่ไม่รู้ตัวว่า Elisha ได้เดินตามเธอออกมาด้วย ในตอนนั้นเองก็มีเสือดาวโผล่ออกมาลากตัวเด็กชายเข้าไปในพุ่มไม้ หน่วยป่าไม้ของอุทยานกล่าวกับทางผู้สื่อข่าวว่า “พี่เลี้ยงได้ยินเสียงเด็กร้องขอความช่วยเหลือ จึงรู้ตัวว่าเด็กเดินตามออกมา แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เพราะเสือดาวได้หายไปในพุ่มหญ้าแล้ว” บริเวณพุ่มหญ้าแบบเดียวกับที่เชื่อว่าเสือเข้าไปหลบซ่อน ซากศพของเด็กผู้เสียชีวิตถูกพบในวันรุ่งขึ้นโดยหน่วยค้นหาของทางอุทยานแห่งชาติ จากสภาพศพแล้วเชื่อว่าเด็กน้อยถูกกินโดยเสือดาวตัวที่ว่า หลังจากที่เ-ขาโดนลากออกไปจากพี่เลี้ยง “พวกเราค้นหาเด็กทันทีหลังจากนั้นแต่กว่าเราจะพบกะโหลกศีรษะของเด็กมันก็ในเช้าวันต่อมาแล้ว” ทางอุทยานกล่าวเสริม ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการออกติดตามตัวเสือดาวตัวที่ก่อเหตุในครั้งนี้อยู่ เพื่อที่จะนำตัวมันออกไปกำจัดต่อไป “การล่าสัตว์ในครั้งนี้มีเป้าหมายในการจับเสือดาวและเอามันออกจากป่า เพราะเมื่อเสือดาวได้กินเนื้อมนุษย์สักครั้งแล้ว มันจะมีความเป็นไปได้สูงมากที่มันจะอยากกินมนุษย์คนอื่นๆ จนอาจกลายเป็นอันตรายได้” เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการล่ากล่าว ส่วนร่างของเด็กนั้นในขณะนี้ได้ทำการส่งไปให้แก่ Francis Nabugyere คุณพ่อของเขาเป็นที่เรียบร้อย และจะได้รับการนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป ที่มา mirror, independent
-
ลูกสาวถูกฆาตกรรม คนร้ายยังลอยนวล พบพิรุธของพ่อเพียงครั้งเดียว ปิดฉากคดีเกือบ 10 ปี…
เรื่องราวอันน่าสลดใจภายในสถาบันครอบครัวที่ได้ชื่อว่าน่าไว้ใจมากที่สุด และควรจะเป็นที่ที่มอบความรักและความอบอุ่น กลับกลายมาเป็นนรกภายในจิตใจของผู้เป็นลูก… คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญของ Shafilea Iftikhar Ahmed วัย 17 ปี ชาวปากีสถาน อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เธอหายตัวไปจากบ้านเมื่อเดือนกันยายนปี 2003 และถูกพบเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่ริมแม่น้ำ Kent มณฑล Cumbria ในปี 2004 Shafilea Iftikhar Ahmed หายตัวไปเมื่อปี 2003 และถูกพบอีกครั้งในปี 2004 ในสภาพร่างไร้วิญญาณ โดยเบื้องลึกแล้วเธอเริ่มถูกกดขี่จากพ่อแม่ในช่วงที่ก่อนจะหายตัวไป จนกระทั่งเป็นเวลานานร่วมสัปดาห์ คุณครูที่โรงเรียนจึงทำการแจ้งตำรวจ ถึงขั้นสื่อใหญ่ช่วยกันปลุกระดมให้ผู้คนช่วยกันออกตามหาเธอทั่วทั้งประเทศ ภาพของเจ้าหน้าที่กำลังทำการชันสูตรศพที่พบข้างแม่น้ำ Kent ในเดือนกุมภาพันธ์ 2004 ศพของเธอถูกพบอยู่ริมแม่น้ำ Kent ในมณฑล Cumbria ห่างจากเมือง Warrington ที่บ้านของเธอตั้งอยู่ 110 กิโลเมตร ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการชันสูตรศพและพบว่าเป็นการจงใจซ่อนศพ สร้อยคอและแหวนเพชรที่หลงเหลืออยู่ถูกระบุถึงตัวผู้เป็นพ่อเป็นแม่ แต่เนื่องจากสภาพศพที่แทบไม่หลงเหลือแล้ว จึงไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ …
-
เคล็ดลับชูรักสุดซึ้งของ Brad Pitt ที่กล่าวถึง Jolie ช่วงป่วยหนักจากมะเร็ง “เป็นเรื่องแต่ง”
ช่วงนี้เริ่มจะมีการนำข้อความของ Brad Pitt ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่คู่ควงอยู่กับหวานใจ Angelina Jolie มาเผยแพร่กันอีกครั้ง ในหัวข้อ ‘จดหมาย บันทึกลับของ Brad Pitt กล่าวถึงภรรยา’ หรือ ความลับของความรัก ที่เขียนโดย Brad Pitt ใจความของบันทึกดังกล่าวเป็นการกล่าวถึง ช่วงที่ Jolie กำลังป่วยและย่ำแย่กับโรคมะเร็งเต้านม ต้องเข้ารับการผ่าตัดจนมีน้ำหนักลดลงอย่างมาก ด้วยใจความดังต่อไปนี้… “ภรรยาของผมป่วย เธอประสบกับความวิตกกังวลจากปัญหาเรื่องงาน ชีวิตส่วนตัว ความล้มเหลวและปัญหาเกี่ยวกับเด็กๆ เธอน้ำหนักลดลงไป 13 กิโลกรัม จนเหลือเพียง 40 กิโลกรัมในวัย 35 ปี เธอซูบผอมและร้องไห้ไม่หยุด เธอไม่ได้เป็นผู้หญิงที่มีความสุขอีกต่อไป เธอทรมานจากอาการปวดหัว เจ็บปวดหัวใจ เจ็บปวดหลังและซี่โครงอย่างต่อเนื่อง เธอนอนไม่หลับเหมือนแต่ก่อน จะผล็อยหลับก็เพียงแค่ช่วงเช้า และเธอเหนื่อยง่ายมากๆ ในเวลากลางวัน ความสัมพันธ์ของเราอยู่บนปากเหวที่ใกล้จะแตกหักเต็มทน… ความงดงามของเธอหายไป เธอมีถุงใต้ตา เธอไม่สนใจที่จะดูแลตัวเอง…
-
เฉียบ!! ทีมอเวนเจอร์แสดงความผูกพันในมิตรภาพด้วยการ ‘สักลายเดียวกัน’ เอากับเขาสิ!!
เป็นเวลานานหลายปีทีเดียวที่เหล่านักแสดงทีม The Avengers ซุปเปอร์ฮีโร่จากจักรวาล Marvel ได้ออกมาวาดลวดลายกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ในจอภาพยนตร์ ดังนั้นแล้วความที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมาตลอดระยะเวลาดังกล่าว จึงทำให้เกิดมิตรภาพและความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นเกิดขึ้น และตอนนี้พวกเขาก็ได้สร้างเครื่องหมายขึ้นมาเพื่อยืนยันความเป็นเพื่อน ด้วยการสักลายเป็นรูปเดียวกัน!! จากภาพยนตร์หลักๆ 3 เรื่องในระยะ 6 ปีที่ผ่านมา (ยังมีแจมๆ กันในบางเรื่องด้วยนะ) จึงทำให้นักแสดงหลักของ The Avenger อย่าง Chris Hemsworth, Robert Downey Jr, Scarlett Johansson, Jeremy Renner และ Chris Evans มีความซี้กันแบบแน่นปึกจนได้สร้างสัญลักษณ์เอาไว้ระลึกถึงความเป็นเพื่อนของพวกเขากันด้วยรอยสัก!! โดยรอยสักที่ว่านี้มีการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายๆ กับตัว A สัญลักษณ์ของทีม Avengers ผสมผสานกับเลข 6 (จำนวนสมาชิก The Avenger รุ่นแรก) และสุดท้ายก็มีรูปลูกศรที่อาจจะสื่อถึงความเป็นจักรวาลภาพยนตร์ Marvel ที่ได้นำพาให้พวกเขามารู้จักกัน มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะงงว่า ถ้าเลข 6 หมายถึงจำนวนคน แล้วอีกคนหายไปไหนล่ะ โดยอีกคนที่ว่านี้ก็คือ Mark…
-
เจ้าสาวใจแกร่ง แม้จระเข้กัด “แขนขาด” ก็ต้องเข้าพิธีวิวาห์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าให้ได้!!
ถ้าการแต่งงานคือความใฝ่ฝัน อุปสรรคใดๆ ก็ไม่อาจขัดขวางพิธีแห่งความสุขนี้ได้ คู่รักชายหญิงคู่หนึ่งได้ออกไปล่องเรือแคนูที่แม่น้ำแซมบีซีและเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีอุบัติเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น ฝ่ายหญิงถูก จระเข้ งับเข้าที่แขนจนขาด Jamie Fox เจ้าบ่าวชาวอังกฤษและเจ้าสาว Zanele Ndlovu อดีตนักกีฬาเทนนิสทีมชาติ ได้ไปล่องเรือแคนูที่แม่น้ำแซมบีซีบริเวณด้านบนของน้ำตกวิกตอเรีย และแล้วจระเข้ก็โจมตีขึ้นมาจากด้านล่าง เนื่องจากเรือแคนูที่เป็นแบบเป่าลม เมื่อจระเข้งับมันจึงแฟบลง นั่นทำให้ฝ่ายหญิง Zanele ถูกกัดบาดเจ็บรุนแรงที่แขนซ้าย แถมยังต้องสูญเสียแขนขวาไปเลยอีกด้วย Jamie พยายามช่วยเหลือเธอแต่ขณะนั้นเธอเสียเลือดจำนวนมาก จนเขาคิดว่าวันนั้นเข้าต้องเสียเจ้าสาวของเขาไปเสียแล้ว ชายหนุ่มพยายามหาอะไรมารัดแผลแล้วพาเธอไปส่งยังโรงพยาบาล ทีมแพทย์ผ่าตัดจึงเข้ามาช่วยเธอไว้ได้ทัน แต่นั่นก็ทำให้เธอต้องเสียแขนขวาไปเกือบทั้งหมด แต่นั่นไม่ทำให้เธอพลาดการเข้าร่วมพิธีวิวาห์ของเธอที่ตั้งใจจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วัน แถมทางโรงพยาบาลยังอนุญาตให้ใช้โบสถ์ของโรงพยาบาลเพื่อดำเนินพิธีวิวาห์ได้อีกด้วย มีท่านอธิบดีมาเป็นประธานในงานพิธีวิวาห์ของทั้งสอง เมื่อเธอเซ็นชื่อจดทะเบียน ทั้งโบสถ์ก็กังวานไปด้วยเสียงปรบมือจากญาติๆ และผองเพื่อน Jamie สวมแหวนแต่งงานให้กับ Zanele ที่มือข้างซ้ายแทน แขกที่เข้าร่วมงานกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องราวความรักที่น่าจดจำอย่างยิ่ง พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขารักกันขนาดไหน ถึงจระเข้จะกัด ก็ไม่สามารถขัดขวางได้” ส่วนตัวของ Jamie ฝ่ายสามีเองก็กล่าวชมภรรยาใจแกร่งคนนี้ว่า “ผมภูมิใจในตัวเธอมากจริงๆ…
-
บริษัทสตาร์ตอัป สร้างบ้านพักในป่าให้คนไปสโลว์ไลฟ์ แต่ไม่บอกว่าอยู่ที่ไหน ไปหาเอาเอง…
ไม่ว่าคุณจะประกอบธุรกิจใดๆ ก็ตาม จะเป็นร้านอาหาร ที่พัก หรือสถานประกอบการต่างๆ การบอกให้กลุ่มลูกค้าหรือผู้มาใช้บริการรู้ถึงสถานที่ตั้งก็เป็นจุดหนึ่งที่คุณควรทำ เพราะมันจะทำให้พวกเขามาใช้บริการของคุณได้ง่ายขึ้น (ก็แน่ล่ะถ้าไม่รู้จะไปหาได้ยังไง) แต่มีธุรกิจสตาร์ตอัปอยู่แห่งหนึ่ง ที่เปิดให้บริการโดยที่ไม่บอกถึงสถานที่ตั้งให้ผู้ใช้บริการรู้ แต่ให้ไปตามหากันเอาเอง… ธุรกิจสตาร์ตอัปที่ว่านี้มีชื่อว่า Slow Cabins ในประเทศเบลเยียม ได้เปิดให้บริการบ้านพักตากอากาศในป่าอยู่หลายแห่งกระจายตัวออกไปตามป่า แต่กลับไม่ยอมเปิดเผยถึงที่ตั้งใดๆ ให้คนอื่นทราบ “มันเป็นโอกาสที่จะได้ผ่อนคลายและรู้สึกชื่นชมยินดีไปกับชีวิตสโลว์ไลฟ์ในป่า บ้านพัก Slow Cabins ของเรายั่งยืนโดยการสร้างพลังงานอิสระ เมื่อคุณมาถึงคุณจะเหมือนแบตเตอรี่ที่ได้รับการชาร์จ เหมือนถังน้ำที่ได้รับการเติมจนเต็ม นี่จะทำให้คุณได้ใช้ชีวิตแบบพอเพียงและแทบไม่มีผลกระทบต่อสิ่งใดเป็นเวลาหลายวันเลย (แม้ในช่วงเดือนที่หนาวเย็นของปีก็ตาม)” เว็บไซต์ของ Slow Cabins ระบุ เมื่อคุณได้เห็นการใช้พลังงานต่างๆ ตลอดการเข้าพักของคุณ คุณจะตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและได้เห็นด้วยว่าคุณทิ้งอะไรไว้บ้าง ทางบริษัทได้ให้คำแนะนำสำหรับกิจกรรมในท้องถิ่นและสถานที่สวยๆ ที่คุณควรไปดู ตลอดจนตัวเลือกของการสั่ง “อาหารอร่อยๆ” สำหรับช่วงเช้าและช่วงค่ำ น้ำจากบนภูเขาถูกกรองให้เหมาะสมสำหรับการดื่ม อีกทั้งยังมีการนำเอาน้ำฝนมากรองให้สามารถนำไปใช้ทำอาหาร ล้างหน้า และอาบน้ำได้ด้วย ทั้งนี้บ้านหลังนึงจะมีขนาดความกว้างอยู่ที่ 34 ตารางเมตร เหมาะสำหรับการพักตั้งแต่ 1-3 คน ทั้งหมดนี้ฟังดูน่าสนใจและน่าไปพักแล้วใช่ไหมล่ะ?…
-
เปิดความสัมพันธ์ของสาวญี่ปุ่นและแฟนหนุ่ม (ผู้ชอบแต่งหญิง) ราวกับการมีเพื่อนสาวอีกคน
ในสังคมที่เปิดกว้างมากขึ้นทำให้ผู้คนเริ่มกล้าที่จะเปิดเผยตัวตนและรสนิยมต่างๆ ต่อสาธารณชน อย่างในญี่ปุ่นเองที่ตอนนี้หนุ่มสาวชื่นชอบการแต่งตัวแบบข้ามเพศ (Cross-Dressing) โดยที่พวกเขาก็ยังคงเป็นมีรสนิยมทางเพศเหมือนเดิมตามเพศสภาพ เพียงแต่แค่ชื่นชอบการแต่งตัวเท่านั้น Akira เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 24 ปี ก็เป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบการแต่งตัวข้ามเพศนี้เหมือนกัน และถึงแม้เขาจะชอบแต่งหญิงแบบนี้ แต่เขาก็มีแฟนสาวที่คบหากันอยู่อย่าง Megumi Okamoto วัย 35 ปี แม้จะมีเรื่องของช่องว่างระหว่างวัยสำหรับ Akira และ Megumi อยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางความรักของพวกเขาได้ หรือแม้แต่การชอบแต่งหญิงของเขา Megumi เองก็ยอมรับได้ และสนุกไปด้วยกันกับเขา เว็บไซต์ข่าวในญี่ปุ่นอย่าง Soranews ได้ติดต่อทั้งสองคนเพื่อมาพูดคุยกัน ทำให้รู้ว่าพวกเขาเองมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและกำลังจะแต่งงานกันในเร็ววันนี้แล้วด้วย Megumi เล่าว่าพวกเขาเจอกันในงานอีเวนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นงานที่รวมเอาเหล่าผู้ชื่นชอบการแต่งชุด Cross-Dressing ไว้ด้วยกัน เธอบอกว่าเธอประทับใจในตัว Akira เพราะเขาสามารถเต้นรูดเสาได้อย่างสวยงามพร้อมกับสะพายกระเป๋านักเรียนไว้ที่หลัง ปัจจุบัน Megumi เปิดร้านเสริมสวยที่ชื่อว่า Raar ซึ่งเชี่ยวชาญในการแต่งหน้าให้กับคนที่ชอบแต่งตัว Cross-Dressing ด้วย และ Akira ก็ได้เข้าไปทำงานที่นั่นกับเธอหลังจากที่คบหาดูใจได้สักระยะหนึ่งแล้ว นอกจากการที่ Akira ชอบแต่งหญิงไปตามงานอีเวนต์หรืองานประกวดต่างๆ แล้ว…
-
“มันก็เค็มๆ ดีครับ” เจ้าของฟาร์มแมลงสาบ ชิมโชว์ให้ดูว่าสะอาดจริง ขายได้โลละ 3,000
แมลงสาบ ดูน่าจะเป็นสัตว์ที่มวลมนุษยชาติจัดให้เป็นสัตว์ที่น่ารักน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมันมีสีน้ำตาล ท้องลายๆ มีหนวด และชอบอาศัยอยู่ตามท่อระบายน้ำ หากพบเห็นพวกมันที่ไหนล่ะก็ จะต้องรีบกำจัดโดยเร็ว แต่พวกคุณรู้หรือไม่ว่าเจ้าแมลงสุดน่าเกลียดนี้ ดันมีมูลค่ามากในประเทศจีน เพราะที่นั่นมีการเปิดเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์แล้วขายมันในราคากิโลกรัมละ 3,000 บาทเลยทีเดียว!! สำนักข่าว China Xinhua News ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลี่ปิงไฉ วัย 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านเจิ้ง ตำบลฮวาทาน อำเภออี๋ปิน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้เปิดฟาร์มพาสื่อไปเที่ยวชมแมลงสาบที่เขาเลี้ยงเอาไว้ ฟาร์มแมลงสาบแห่งนี้เป็นแหล่งทำเงินชั้นดีของชาวบ้าน เนื่องจากสามารถขายได้ราคาดี ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 600 หยวน (หรือประมาณ 3,000 บาท) ฟาร์มแมลงสาบแห่งนี้มีพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร สามารถเลี้ยงแมลงสาบได้ราวๆ 1.5 ล้านตัว มีวิธีเลี้ยงในระบบปิด ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ 27 องศาฯ มีความชื้นราวๆ 70% อาหารที่ใช้เลี้ยงพวกมันคือข้าวโพดผง ผสมกับนมผง ข้าวสาลีผง แอปเปิล…
-
อดีตเศรษฐีนีใจบุญ รับเลี้ยงเด็กกำพร้ากว่า 118 ชีวิต ถูกจับกุมในข้อหาแบล็คเมล์และต่อต้านรัฐ
เรื่องราวของหญิงอดีตเศรษฐีนีใจบุญ ผู้รับเลี้ยงเด็กกำพร้ากว่า 118 ชีวิต แต่โชคชะตากลับตอบแทนด้วยมะเร็งร้ายกลับมาให้เธอ (ข่าวเก่า) มิหนำซ้ำยังถูกจับกุมและคุมขัง เนื่องจากพฤติกรรมการแบล็คเมล์และขัดขืนต่อคำสั่งราชการ!! ปัจจุบัน Li Lijuan ในวัย 48 ปี อดีตเจ้าของเหมืองแร่เหล็กจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ถูกจับกุมเมื่อช่วงวันเสาร์ในกรุงปักกิ่ง ช่วงระหว่างที่เธอเข้ารับการรักษามะเร็ง โดยได้รับการยืนยันจากนาย Han Wen ผู้เป็นลูกชายแล้ว นาง Li ถูกจับกุมในข้อหาละเมิดคำสั่งจัดการสังคม การบีบบังคับ และข้อหาทางอาชญากรรมอื่นๆ โดยทางเว็บไซต์ The Paper ได้ทำการรายงานเอาไว้พร้อมกับรายละเอียด ที่ทางการทำการอายัดบัญชีธนาคารของเธอ มีเงินอยู่ภายในนั้นมากถึง 20,000,000 หยวน (100,000,000 บาท) และสกุลเงินสหรัฐฯ อีก 20,000 ดอลลาร์ เงินจำนวนดังกล่าวนั้นมาจากการเปิดรับบริจาคที่ผ่านมาตลอด 21 ปี เพื่อนำมาใช้เป็นทุนในการบริหารจัดการสถานสงเคราะห์ของเธอ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่านาง Li เคยทำการแบล็คเมลเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 70,000 หยวน…
-
เปิดประวัติขุ่นแม่ของ ‘Elon Musk’ นางแบบผู้คร่ำหวอดมายาวนาน 70 แล้วยังเฟี้ยวสุดๆ!!
หากพูดหนึ่งในบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกนี้ บางคนอาจจะนึกถึง Mark Zuckerberg, Bill Gates หรือ Steve Job แต่ก็มีอีกคนที่เพื่อนๆ อาจจะได้ยินชื่อไม่บ่อยเท่าที่กล่าวมา นั่นคือ Elon Musk นั่นเอง ถ้าพูดถึง Elon Musk นั้นบางคนอาจจะไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร แต่ถ้าบอกว่าผู้ก่อตั้ง PayPal, Tesla และ SpaceX ล่ะคงต้องร้องอ๋อเลยใช่มั้ย ด้วยความอัจฉริยะของเจ้าตัวและเทคโนโลยีล้ำๆ ทำให้หลายๆ คนได้ยกเขาไปเปรียบกับกับ Tony Stark หรือ Iron Man ฮีโร่สุดฮิตของเราเลยแหละ แถมยังเคยโผล่ไปเป็น Cameo ในภาพยนตร์เรื่อง Iron Man 2 ด้วยนะ แต่นอกเหนือจากความอัจฉริยะและเทคโนโลยีแล้ว พี่แกยังมีครอบครัวที่น่าสนใจอีกด้วยนะ นั่นคือคุณแม่ Maye Musk หรือนามสกุลเก่า Maye Haldeman ลูกครึ่งแคนาดาแอฟริกาใต้ ผู้ที่โลดแล่นในวงการนางแบบมายาวนานกว่า 50 ปี โดยที่…
-
สาวเอา “ฉี่” ไปอุ่นไมโครเวฟร้าน 7-Eleven สุดท้ายระเบิดตู้ม ชิ้งฉ่องกระจาย กลายเป็นโกโก้ครันช์!!
ไมโครเวฟ คือสิ่งอำนวยความสะดวก ช่วยให้เราสามารถอุ่นอาหาร ต้มมาม่า หรืออะไรอีกหลายต่อหลายอย่าง แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องระวังในเรื่องของการใช้งาน ไม่อย่างนั้นมันอาจเกิดระเบิดขึ้นได้ เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อ Angelique Sanchez สาววัย 26 ปี นำเอาตัวอย่างปัสสาวะไปอุ่นในร้าน 7-Eleven จนกระทั่งเกิดระเบิดขึ้นมา สร้างความตกใจและชวนอ้วกให้กับทุกคน Angelique สาวผู้ก่อเหตุ เรื่องมันมีอยู่ว่าในวันที่ 3 พฤษภาคม 2018 Angelique กำลังรอตรวจร่างกายและตรวจปัสสาวะอยู่ในคลินิกแห่งนี้ ของเมือง Aurora รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เพื่อนำผลตรวจดังกล่าวไปใช้สมัครงาน แต่เหมือนว่าเธอจะกลัวการตรวจฉี่เป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าเธอใช้สารเสพติดอยู่เป็นประจำ ทำให้ระหว่างรอเข้าตรวจเธอก็เดินออกมาจากคลินิก ตรงไปยังร้าน 7-Eleven ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งหากออกไปราวๆ 800 เมตร หลังจากนั้นเธอก็นำเอาปัสสาวะเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟของทางร้าน เพื่อให้ความร้อนช่วยทำให้การตรวจฉี่ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่จู่ๆ ก็เกิดระเบิดเสียงดัง “ปัง!!” ทำให้พนักงานทุกคนรีบปรี่เข้ามาดูสิ่งที่เกิดขึ้น พนักงานเล่าว่าภาพที่พวกเขาได้เห็นคือน้ำสีเหลืองๆ กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ พร้อมกับมีหยดออกมาติ๋งๆ จากด้านในเตาไมโครเวฟ แล้วพอทุกคนได้กลิ่นปุ๊บก็รู้ได้ในทันทีเลยว่ามันคือฉี่ ไม่อยากคิดภาพตามเลยจริงๆ…
-
หนุ่มใหญ่ล้มละลาย เลยเผาข้าวของตัวเองให้หมด ยืนจิบกาแฟหน้าบ้านชิลๆ รอตำรวจมาจับ
เราคงนึกไม่ออกว่าถ้าวันหนึ่งตัวเองกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ถูกธนาคารเข้ามายึดทรัพย์สินทุกอย่างไปจนหมด ในตอนนั้นเราจะทำอย่างไรกันดี? แต่ที่แน่ๆ คืออย่าทำเหมือนชายคนนี้เลยจะดีกว่านะ เขาคนที่เรากำลังพูดถึงนี้มีชื่อว่า John Cartwright หนุ่มใหญ่วัย 65 ปี จากเขต Cornwall ประเทศอังกฤษ เขานั้นกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ข้าวของทุกอย่างจึงจำเป็นต้องถูกยึดไป แต่ด้วยความโมโหก็เลยเผาทุกอย่างซะเลย เผาซะหมด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาดับไฟแทบไม่ทัน เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในตอนที่บริษัทขนของ Movecorp ได้รับการติดต่อจากธนาคารให้เข้าไปช่วยยึดเอาข้าวของทั้งหมดที่บ้านของ John แล้วในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2018 รถตู้ของบริษัทดังกล่าวก็ได้เดินทางเข้าไปขนทุกอย่างในบ้านขึ้นรถ แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ John เอาน้ำมันไปเทราดจนทั่วท้ายรถตู้คันนั้น ก่อนจะจุดไฟเผาด้วยความโมโห ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้อยู่ท้ายกระบะ ชายล้มละลายก็เดินเข้าไปในบ้านแล้วก็ชงชา เอาออกมายืนจิบอยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้านอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร รอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมตัว ท่าทางของลุงแกก็ชิลเกิ๊นนน James Tennant ผู้บริหารของ Movecorp บอกว่าข้าวของทั้งหมดที่ขนขึ้นรถวอดวายไปเป็นที่เรียบร้อย โดยไม่ทราบว่ามันมีมูลค่ารวมเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ คือรถตู้ที่ถูกเผาไปด้วยนั้นต่ำๆ ก็มากกว่า 1,500,000 บาทแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่นั้น…
-
หนุ่มๆ ว่าไง!? Anri Okita สาวใหญ่ขวัญใจมหาชน กลายเป็น “คุณแม่” ไปเสียแล้วว!!
เรื่องราวในวันนี้ อาจทำให้ชายหนุ่มครึ่งจักรวาลต้องใจสลายเลยก็เป็นได้ เพราะว่าสาวใหญ่อย่าง Anri Okita ดาราหนังอย่างว่า กลายเป็นคุณแม่ไปแล้วสดๆ ร้อนๆ โดยเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 Anri ได้โพสต์ภาพของเธอกับลูกลงในอินสตาแกรม anri_okita พร้อมบอกว่า เมื่อสองสามวันที่แล้วตัวเธอราวกับได้รับปาฏิหาริย์จากสวรรค์ เทพธิดาตัวน้อยนั้นทำให้เธอมีความสุขอย่างมาก ลูกสาวของเธอลืมตาดูโลกได้อย่างแข็งแรงและสมบูรณ์ Anri ก็ยังขอบคุณแฟนๆ และทุกกำลังใจที่คอยมอบให้กับเธอเสมอ Anri Okita และลูกสาวตัวน้อย . เมื่อเธอประกาศข่าวว่าเธอกำลังตั้งครรภ์และล่าสุดก็มีลูก เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องราวที่แวดวงชายฉกรรจ์พูดถึงในอินเทอร์เน็ตจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็มีทั้งผู้ที่คอมเมนต์ในแง่บวก เช่น “ยินดีด้วย”, “ขอให้มีความสุขมากๆ” หรือ “คุณต้องเป็นแม่ที่ดีแน่ๆ” เป็นต้น แต่ขณะเดียวกันก็มีคอมเมนต์ในแง่ไม่สร้างสรรค์ด้วย เช่น “ลูกคุณจะโตมาเป็นนางเอกเอวีแบบคุณหรือเปล่า?”, “ช่วยถ่ายคลิปตอนสร้างลูกมาให้ดูหน่อยได้ไหม?” หรือ “ฉันรอหนังเอวีเรื่องต่อไปของคุณอยู่นะ” เป็นต้น และอีกหนึ่งคอมเมนต์ที่มาชื่นชมประกอบกับเอาฮาก็คือ “ลูกคุณโชคดีนะเนี่ย คงมีนมกินไปจนอายุ 10 ขวบได้เลยล่ะ” . . . . .…
-
หอศิลป์ที่ฝรั่งเศสเปิดให้เข้าชมแบบนู้ด ไม่ใช่งานศิลป์นู้ด แต่เป็นคนดูต่างหาก
เคยรู้สึกว่าจู่ๆ อยากจะถอดเสื้อผ้าเดินในอาร์ตแกลอรี่ไหม เอาเข้าจริงๆ หลายคนก็คงตอบว่าไม่ แต่ถ้าเกิดว่าจู่ๆ มีคนตอบว่าใช่ขึ้นมาล่ะก็ ลองไปที่หอศิลป์ Palais de Tokyo ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสดูสิ เพราะว่าหอศิลป์แห่งนี้ ได้เปิดกิจกรรมให้ผู้เข้าชมแก้ผ้าเดินชมหอศิลป์ได้นั่นเอง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น หอศิลป์ Palais de Tokyo ได้เปิดให้ผู้เขาชมสามารถฝากข้าวของและเสื้อผ้าทั้งหมดไว้ที่ห้องรับฝากของ ก่อนที่จะเดินเข้าชมงานศิลปะต่างๆ ในหอศิลป์แห่งนี้ได้ โดยงานในครั้งนี้จัดขึ้นก่อนวันประกาศเปิดหอศิลป์จริงๆ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นจากผู้เข้าชมทั่วไปและแขกจากต่างประเทศ ดังนั้นในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ทั้งหอศิลป์จะมีเพียงผู้มาเข้าร่วมกิจกรรมที่เปลือยกายกันมา และพนักงานประจำหอศิลป์ที่ใส่เสื้อผ้าเท่านั้น เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีพิพิธภัณฑ์ในกรุงปารีส ที่ให้การสนับสนุนกลุ่มนิยมการเปลือยกาย ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมดราวๆ 2.6 ล้านคนทั่วฝรั่งเศส และดูเหมือนว่าการจัดงานในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีอีกด้วย แขกผู้เปลือยกายเข้ารวมงานในครั้งนี้ บอกกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า พวกเขาชอบประสบการณ์ครั้งนี้มาก ซึ่งตอนแรกอาจจะมีบางคนอึดอัดใจ แต่การเปลือยกายจะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับงานศิลปะที่แตกต่างออกไป นอกจากนี้พวกเขายังเชิญชวนให้ผู้คนลองออกมาเปลือยกายกันดูสักครั้งอีกด้วย ที่มา cnn
-
นักพากย์ชื่อดังเผยเคยยากจนถึงขั้นกิน ‘ทิชชู่’ กับซีอิ๊วประทังชีวิต ความจนน่ากลัวจริงๆ…
ความยากจนเป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อยากจะพบเจอ เพราะว่าเราจะต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากจนบางครั้งถึงขั้นอดมื้อกินมื้อก็มีให้เห็นกันในสังคมปัจจุบัน และแน่นอนว่าเรื่องนี้หากหลีกเลี่ยงได้ก็มีใครอยากพบเจอกับมันแน่นอน แต่บางครั้งชีวิตก็ไม่อาจเลือกได้เสมอไปแม้แต่กับนักพากย์เสียงชื่อดังคนนี้ก็ตาม… หากใครที่เป็นแฟนอนิเมะแล้วล่ะก็ อาจจะต้องเคยได้ยินเสียงของ Aya Hirano ที่ปัจจุบันมีอายุ 30 ปีอย่างแน่นอน เธอเป็นนักพากย์เสียงที่โด่งดังมากๆ ในวงการอนิเมะญี่ปุ่น และจุดที่เป็นเสมือนกับเป็นพลุส่องให้เธอได้เฉิดฉายก็คือการพากย์เสียงเป็น Haruhi Suzumiya ในเรื่อง ‘The Melancholy of Haruhi Suzumiya’ และ Konata Izumi ในเรื่อง ‘Lucky Star’ ทว่าก่อนที่เธอจะมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่สวยงามราวกับมีกลีบกุหลาบโรยเอาไว้ เธอต้องหาเลี้ยงตัวเองเพียงลำพังตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กๆ บางมื้อก็มีอาหารกิน ขณะเดียวกันบางครั้งก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้มีอะไรลงไปในกระเพาะน้อยๆ ของเธอบ้างยามหิวโหย โดยเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตเธอ ได้ถูกสัมภาษณ์โดย Kansai TV ในปี 2014 ซึ่งเธอก็ได้เผยออกมาจนหมดเปลือกว่าชีวิตก่อนที่จะสามารถเข้าวงการได้ของเธอนั้น มีความลำบากและลำเค็ญขนาดไหน.. “ในเวลานั้นบางครั้งฉันก็ไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่แดงเดียว มันบีบบังคับทำให้ฉันต้องกินทิชชู่ที่เหยาะด้วยซอสถั่วเหลืองอันน้อยนิดเข้าไป เพราะพลังแห่งความหิวโหยมันน่ากลัวจริงๆ” Hirano กล่าวให้สัมภาษณ์ ซึ่งเพราะด้วยความที่ Kansai TV เป็นช่องโทรทัศน์ส่วนภูมิภาคจึงทำให้แฟนๆ บางส่วนของเธอเพิ่งจะได้รับรู้กับความลำบากนี้และก็รู้สึกดีใจที่เธอสามารถเอาชนะความลำบากเหล่านั้นมาได้ จนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวงการอนิเมะญี่ปุ่นในปัจจุบัน มาลองฟังเสียงพากย์ที่เธอให้ไว้ในเรื่อง “The…
-
IKEA รณรงค์ต่อต้านการแกล้ง เปรียบ “ต้นไม้ที่ถูกชม vs ต้นไม่ถูกแกล้ง” อัตราโตต่างกัน
การกลั่นแกล้งหรือ Bullying ถือว่าเป็นภัยเงียบๆ ที่อยู่คู่กับสังคมยุคใหม่มาอย่างยาวนาน เพียงแต่ว่าไม่ค่อยจะมีใครใส่ใจสักเท่าไหร่ เวลาเจอเหตุการณ์ตรงๆ หลายๆ คนก็นึกว่าพวกเขาแค่หยอกล้อเล่นกันเฉยๆ ไม่มีอะไรมาก จนบางทีผู้ถูกแกล้งอาจจะถึงขั้นจบชีวิตลงเลยก็เป็นได้ และเพื่อต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงภัยร้ายนี้ทาง IKEA บริษัทขายเครื่องเรือนและของใช้ภายในบ้านจากประเทศสวีเดนจึงได้เริ่มโครงการใหม่ขึ้นมา โดยที่จะโครงการนี้ทาง IKEA จะนำต้นไม้สองต้นไปทำการติดตั้งที่โรงเรียนซึ่งต้นไม้ต้นแรกจะถูกเลี้ยงด้วยถ้อยคำชื่นชมและคอยให้กำลังใจ ส่วนอีกต้นหนึ่งจะถูกกลั่นแกล้งด้วยวาจาที่มีแต่ความเกลียดชัง นักเรียนแต่ละคนจะได้รับอนุญาตให้สามารถแชร์ความรัก ความรู้สึกดีที่ตนมีให้แก่ต้นไม้ต้นแรก และแชร์ความรู้สึกแย่ๆ ให้กับต้นที่สองได้ ไม่ว่าจะผ่านทางคำพูดหรือจะอัดเสียงเอาก็ตาม ซึ่งต้นไม้ทั้งสองต้นนี้ได้รับสารอาหารเท่าๆ กันไม่ว่าจะเป็นน้ำ แสงแดดหรือปุ๋ย สิ่งเดียวที่ต่างกันก็คือวาจาจากนักเรียนทั้งหลายที่มอบให้แก่พวกมัน และเมื่อผ่านไป 30 วันผลก็จะแสดงออกจากชัดเจน เอาล่ะไปชมกันเลยครับ แบ่งต้นไม้เป็น 2 ต้น โดยที่ฝั่งซ้ายเป็นต้นที่ถูกแกล้ง ส่วนฝั่งขวาเป็นต้นที่คนรัก . . ต้นนี้คือต้นที่ได้รับคำชมเชย ดูเหมือนเด็กๆ จะรักมันกันมาก ส่วนนี่คือต้นที่ถูกแกล้ง แหม่…แบดบอยประจำโรงเรียน ท่าทางพร้อมรังแกเจ้าต้นนี้มากๆ . การกลั่นแกล้งมันผิดนะโว้ย!! . และเมื่อผ่านไป 30…
-
สาวจำต้องออกเรือนไปศึกษาต่อ ทิ้งโน๊ตไว้ให้แม่เพื่ออำลา น้ำตานองหน้าโหยหาลูก…
ความรู้สึกของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ในช่วงที่รู้ว่าลูกจะต้องออกไปเผชิญโลกกว้างด้วยตัวเอง จากที่เคยเห็นหน้ากันอยู่ทุกวี่ทุกวัน แล้วเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งต้องห่างไกลกันเป็นระยะเวลานาน ก็คงจะรู้สึกใจหายไม่ใช่น้อย… อย่างในกรณีที่ลูกจะต้องออกไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย หากนักศึกษาคนใดที่บ้านอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยก็จะเป็นที่จะต้องอาศัยหอพัก เพื่อย่นระยะเวลาในการเดินทางไปเรียน อย่างเช่นเรื่องราวน่ารักๆ ของ Victoria Nguyen นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ได้แชร์รูปภาพคุณแม่ของเธอเอง พร้อมกับโน๊ตที่เธอทิ้งไว้ให้เธอ เพื่อเป็นการบอกลาว่านกน้อยจะออกจากรังเพื่อไปร่ำเรียนแล้วนะ… ทวีตของเธอกล่าวไว้ว่า “ฉันมักจะกลับไปเยี่ยมที่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว ฉันทิ้งโน๊ตไว้ให้คุณแม่ได้อ่านแล้วสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้น” ‘แม่จ๋า หนูรักแม่นะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง หนูคิดถึงแม่นะ’ คุณแม่ถึงกับนำโน๊ตมาแปะบนหน้าผากตัวเองเลย จากนั้นเธอก็ได้แชร์ข้อความจากคุณแม่ที่ส่งมา ด้วยความหวังที่ว่าภาพของเธอนั้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกคนอื่นๆ เป็นเด็กดีขึ้นมาบ้าง และได้รู้ความจริงภายหลังว่า คุณแม่ต้องทานข้าวเพียงลำพังหลังจากที่เธอไม่อยู่ และแน่นอนว่าชาวเน็ตที่ได้มาเห็นทวีตดังกล่าว ต่างก็รู้สึกไปในทางเดียวกัน บางคนถึงร้องไห้กับความรักที่คุณแม่มีให้ต่อลูกสาวคนนี้ ชีวิตที่ต้องห่างจากครอบครัว หมั่นรักษาเอาไว้ให้ดีน้า รักคุณพ่อคุณแม่เยอะๆ ที่มา : @HELLOHUE, nextshark
-
หนุ่มเมาต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุกนานถึง 6 เดือน เหตุเพราะดันไป “อึลงหลุมสนามกอล์ฟ” !!
สำหรับนักดื่มทั้งหลาย เราเชื่อว่าตลอดช่วงชีวิตแห่งการร่ำสุราจะต้องเคยพลั้งพลาดจนเผลอไปก่อเรื่องอะไรแปลกๆ เอาไว้กันบ้างอย่างแน่นอน ซึ่งเหตุผลของการกระทำเหล่านั้นมันก็เกิดจากระดับแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดของพวกเราน่ะแหละ ไม่รู้หรอกนะว่าเพื่อนๆ ได้ไปทำอะไรมาหนักหนาขนาดไหน หรือหลังจากนั้นต้องโดนอะไรไปบ้าง แต่หากลองเทียบกับชายคนนี้ดู สิ่งที่เราได้เจอมาอาจจะดูเบาลงไปเลย เพราะหนุ่มอาการมึนเมาวัย 22 ปีคนนี้ดันไปอึลงหลุมสนามกอล์ฟ แถมยังต้องโทษเข้าไปในนอนในคุกอีกถึง 6 เดือน!! หน้าตาของหลุมสนามกอล์ฟ ที่ปกติมีไว้ให้ลูกกอล์ฟ ไม่ได้มีไว้ให้อุจจาระ จากการรายงานบอกว่ากล้องวงจรปิดในสนามกอล์ฟ Parc Coed Helen เมือง Caernarfon ประเทศเวลส์ จับภาพของ Philip Blakemore ที่กำลังอยู่ในอาการมึนเมา เข้าไปนั่งยองๆ เหนือหลุมสนามกอล์ฟสำหรับเด็ก ก่อนที่จะอึลงไป สิ่งที่เขาทำมันดูน่าขยะแขยงก็จริง แต่หลายๆ คนคิดว่ามันดูเหมือนไม่น่าร้ายแรงอะไรมากมาย ที่ไหนได้การกระทำของเขาทำให้ต้องขึ้นไปให้ปากคำถึงชั้นศาล กับผู้พิพากษาในศาล Llandudno เลยทีเดียว Philip พ่อหนุ่มผู้สร้างปัญหาจากความเมามาย Dafydd Roberts ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายของ Philip บอกกับทางผู้พิพากษาว่าลูกความของตนนั้นตกอยู่ในอาการมึนเมาและมักจะทำเรื่องโง่ๆ อยู่บ่อยครั้ง (นี่เป็นข้อแก้ตัวที่ดีที่สุดที่พอจะหาได้) และขอร้องให้ศาลอย่าตัดสินโทษจำคุกแก่ลูกความของเขาเลย แต่ถึงอย่างไร กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย…
-
หนุ่มฉลองกินบิ๊กแมคครบ 30,000 ชิ้น กินมันแทบทุกวันนานกว่า 40 ปี!! รับเกียรติบัตรไปเล้ยยย
มันคงไม่แปลกที่พวกเราแต่ละคนจะมีเมนูอาหารที่ชื่นชอบอยู่ในใจ แต่ถ้าลองคิดดูว่าต้องกินอาหารจานนั้นซ้ำๆ ไปเกือบทุกวัน เพื่อนๆ คิดว่าจะทำอย่างนั้นไปได้นานสักเท่าไหร่กันเชียว? หากใครคิดภาพไม่ออกว่าจะมีคนทำอย่างนั้นจริง เราขอแนะนำให้รู้จักกับหนุ่มใหญ่วัย 62 ปี อดีตผู้คุมเรือนจำในสหรัฐอเมริกา ที่มีชื่อว่า Don Gorske เจ้าของสถิติ Guinness World Records ของการกิน Big Mac (เมนูเบอร์เกอร์ของร้าน McDonald’s) Don ชายผู้กินแต่เบอร์เกอร์เมนูนี้ไปเป็นจำนวนมาก ตลอดช่วงชีวิตของเขา สถิติดังกล่าวถูกบันทึกเอาไว้ในปี 2016 โดยตั้งแต่ที่เขาเริ่มกิน Big Mac มาตั้งแต่ปี 1972 จนถึงวันบันทึกสถิติ เขากินเบอร์เกอร์แบบเดียวกันนี้ไปแล้วถึง 28,788 ล่าสุดเขาได้ทำขยายสถิติของตัวเองเพิ่มขึ้นไปอีก โดยในวันที่ 4 พฤษภาคม 2018 เขาได้มาเฉลิมฉลอง Big Mac ชิ้นที่ 30,000 ในร้าน McDonald’s สาขา Fox Valley รัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็นสาขาเดียวกันกับที่เขาเริ่มกินเมื่อ 46…
-
‘วิชาแห่งชีวิต’ ในโรงเรียนมัธยม ฟักไข่ไก่และเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ก่อนจะกลายมาเป็นอาหาร…
ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนมัธยมการเกษตรและป่าไม้ Izumo ในจังหวัดไซตามะ ได้ทำการเปิดสอนวิชาแห่งชีวิต หลักสูตรระยะเวลา 6 เดือน ที่จะให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการฟักไข่และเลี้ยงไก่ ก่อนที่จะนำมาทำเป็นอาหารเพื่อรับประทาน โดยเมื่อปีที่แล้ว วิชาดังกล่าวได้เริ่มเปิดสอนเมื่อเดือนตุลาคม โดยการนำไข่ไก่จำนวน 60 ฟองมาเตรียมไว้ในเครื่องฟักไข่ โดยมีอาจารย์คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ทั้งการล้างไข่ การจัดวางไข่ไว้ในถาด รวมไปถึงการควบคุมความชื้นและอุณหภูมิในเครื่องฟัก และ 3 สัปดาห์ต่อมา เหล่านักเรียนจะต้องมาคอยสังเกตการณ์ไข่เหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่าไข่แต่ละฟองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พร้อมจะฟักออกมาได้ และเมื่อฟักออกมาเป็นตัวได้สำเร็จ นักเรียนแต่ละคนก็จะต้องเลี้ยงไก่ตัวนั้นให้ดี โดยที่รู้อยู่แล้วว่าท้ายที่สุดจะต้องนำมันมาทำเป็นอาหาร… นักเรียนจะต้องรับผิดชอบการเจริญเติบโตของไก่ทั้งหมด ตั้งแต่การให้อาหาร เปลี่ยนน้ำเป็นประจำ ควบคุมอุณหภูมิให้ไก่ พร้อมกับบันทึกทำรายงานการเจริญเติบโตของมันไปด้วย แต่ด้วยความใกล้ชิดก็แปรเปลี่ยนมาเป็นความผูกพัน ยิ่งเลี้ยงดูมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยง แม้จะรู้ผลตอนท้ายหลังจบคอร์สก็ตาม… บางรายพยายามไม่ใกล้ชิดกับไก่มากนัก ด้วยเหตุผลข้างต้น อย่างเช่น Arakawa Yumesui หนึ่งในนักเรียนที่เรียนคอร์สดังกล่าวในปีที่แล้ว… เธอกล่าวกับสำนักข่าว Nippon TV ว่า เธอไม่กล้าที่จะตั้งชื่อให้ไก่เพราะกลัวผูกพันกับมัน ถึงกระนั้น…
-
คู่รักเหวอ ได้รับข้อความจากเพื่อนบ้าน เลิกโชวหน่มน๊ม และป๋องแป๋งเล็กๆ ของสามีได้แล้ว
บางครั้งการอยู่ในบ้านตัวเอง ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถทำทุกๆ อย่างได้อย่างอิสระนะ เพราะหากเพื่อนบ้านของคุณได้รับผลกระทบหรือได้เห็นอะไรบางอย่างในบ้านของคุณ พวกเขาก็อาจจะต้องส่งข้อความมาเตือน เหมือนอย่างเรื่องต่อไปนี้ก็ได้ นี่เป็นเรื่องราวของคู่รักจาก นิวแคสเซิล ประเทศอังกฤษ อย่าง Karin Stone วัย 33 ปี และสามี Jay วัย 34 ปี ที่ได้รับกระดาษข้อความที่เขียนด้วยลายมือจากเพื่อนบ้านรายหนึ่ง โดยในข้อความเขียนไว้ว่า “คุณช่วยปิดผ้าม่านของคุณหน่อย เมื่อคุณใส่หรือไม่ใส่เสื้อผ้าน่ะ พวกเราเบื่อที่จะเห็นก้นใหญ่ๆ นมบึ้มๆ และจู๋อันเล็กๆ เต็มทีแล้ว และพวกเราจะรายงานเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานรัฐสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย จากเพื่อนบ้านของคุณ” จากข้อความดังกล่าวทำให้พวกเขาถึงกับหวาดกลัวตรงคำว่า “เพื่อนบ้านของพวกคุณ” โดยที่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเพื่อนบ้านที่ว่านี้เป็นใคร และพยายามตอบกลับข้อความนั้นด้วยการเขียนข้อความตอบกลับ ตามคำบอกเล่าของพวกเขาบอกว่ากระดาษดังกล่าวถูกส่งมาเมื่อวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา และยังแนบคำขู่ที่จะรายงานความไม่เหมาะสมของพวกเขาด้วย ตอนนี้ Karin ผู้ทำอาชีพเป็นผู้จัดการของออฟฟิศแห่งหนึ่ง และ Jay ที่ทำงานเป็น DJ ได้เขียนข้อความตอบกลับลงในกระดาษแล้วนำไปติดไว้ที่หน้าต่างเพื่อให้พวกเพื่อนบ้านมาเห็น โดยในกระดาษเขียนเอาไว้ว่า “เลิกมองพวกเราผ่านหน้าต่างได้แล้ว จากเพื่อนบ้านของคุณเอง” Karin ให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ว่า…
-
สาวน้อยมะกัน สอบติดมหาวิทยาลัยกว่า 113 แห่ง แถมได้ทุนการศึกษาอีก 143 ล้านบาท
นี่เป็นเรื่องราวของ Jasmine Harrison วัยรุ่นสาววัย 17 ที่มีความสามารถในการสอบทำคะแนน จนสอบติดมหาวิทยาลัยกว่า 113 แห่งได้พร้อมๆ กัน!? ตามการรายงานจากเว็บไซต์ Dailymail บอกว่า Jasmine จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมในรัฐนอร์ธแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ด้วยคะแนนเฉลี่ย 4.00 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2018 และทำการยื่นใบสมัครไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เธอแทบไม่ต้องกังวลกับอนาคตของเธอเลย เพราะเธอได้รับข้อเสนอจากมหาวิทยาลัยต่างๆ มากมายและยังได้ทุนการศึกษาจากเงินบริจาครวมๆ มูลค่าแล้วกว่า 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราวๆ 143 ล้านบาท) Jasmine ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เมื่อตอนที่ฉันได้รับอีเมล 2-3 อันแรก ฉันก็แบบ ‘โอเค นี่มันเกิดขึ้นจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย’ ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้นะเนี่ย” แต่สิ่งที่เหลือเชื่อก็คืออีเมลตอบรับเข้ามหาลัยที่เธอได้รับนั้นไม่ได้มีแค่ 2-3 ฉบับ แต่มากถึง 113 ฉบับ จนทำให้เธอแทบจะอ่านมันไม่หมดเลยทีเดียว เธอบอกว่าจากคำแนะนำและเทคนิคของคุณครูที่โรงเรียน ทำให้เธอสามารถส่งใบสมัครไปยังมหาลัยต่างๆ กว่า…
-
สองวัยรุ่นสุดจะซน สัปดนปัสสาวะทิ้งไว้ในลิฟต์หน้าตาเฉย เพื่อนสาวก็ดี๊ดีปิดกล้องให้อีกแหนะ…
พฤติกรรมการอยู่ร่วมกันกับบุคคลอื่นในสังคม คือสิ่งที่ควรประพฤติและปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อที่จะได้ไม่เดือดร้อนคนอื่นๆ ที่จะต้องมาใช้อุปกรณ์อื่นๆ ร่วมกับเรา ทั้งนี้อย่างเช่นในเรื่องง่ายๆ อย่างการทิ้งขยะ เราก็ควรจะทิ้งในที่ที่จัดเอาไว้แล้ว หรือการขึ้นลิฟต์สาธารณะก็ไม่ควรจะทิ้งอะไรเอาไว้เป็นเบื้องหลัง ถ้าคนอื่นมาใช้ต่อก็อาจจะรู้สึกแย่ไปได้ทั้งวัน ล่าสุดนี้ ลิฟต์ในประเทศจีนกลายมาเป็นสถานที่ปิดตายสุดอันตรายไปเสียแล้ว เนื่องจากมีบุคคลนิยมปัสสาวะทิ้งไว้ในลิฟต์กันบ่อยเสียเหลือเกิน ไม่ทราบว่าอาจจะทนไม่ไหว รีบเข้าลิฟต์ก่อนแทนที่จะรีบเข้าห้องน้ำแทนไม่อาจทราบได้ ภาพที่เห็นดังต่อไปนี้ จะเห็นได้ว่ามีชายสองคนพร้อมกับหญิงอีกหนึ่งราย เดินเข้ามาในลิฟต์ ทันใดนั้นไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลง ก็ถกกางเกงลงและออกอาวุธที่พัฒนามาเป็นชุดตามมุมของตัวเอง… ฝ่ายผู้หญิงเห็นเป็นเช่นนี้แล้ว เธอก็พยายามปกปิดความสัปดนของทั้งสอง ด้วยการเอามือมาปิดกล้องในลิฟต์ แต่อนิจจาไม่ทันที่จะปิดก็เห็นพฤติกรรมชวนอาเจียนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หากคุณจินตนาการไม่ออกว่าการปัสสาวะนั้นส่งผลร้ายแรงแค่ไหน นอกจากจะส่งกลิ่นหอมเหมือนยากันคนแล้ว อาจจะรุนแรงไปถึงขั้นทำให้ลิฟต์เสียกันเลยทีเดียว เดือดร้อนคนอื่นๆ ที่จะต้องใช้งานอีกต่างหาก และกรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เด็กซนคนหนึ่งปัสสาวะใส่แผงควบคุมลิฟต์แบบไม่ยั้ง ส่งผลทำให้ลิฟต์เสีย ควบคุมไม่ได้ และขังเขาเอาไว้ในนั้นแทน… ที่มา : miaopai, youku, shanghaiist
-
งี้ก็มีด้วย!? เจ้าของเก่าถูกฟ้องร้องโดย ‘น้องม้าที่ถูกละเลย’ เรียกค่าเสียหายกว่า 3.3 ล้านบาท
หลากหลายกรณีของการละเลยสัตว์เลี้ยงในต่างประเทศ หากเจ้าของผู้ดูแลไม่พร้อมที่จะเลี้ยงอีกต่อไป มีการนำไปปล่อยตามสถานที่ต่างๆ โดยที่มีผู้พบเห็นเป็นพยานแจ้งทางการ ก็จะถูกสั่งปรับกันไปตามระเบียบ… อย่างในกรณีของหญิงชาวรัฐออริกอน ที่ดันทิ้งน้องม้าตัวน้อยไว้นอกอาคารเลี้ยงตลอดทั้งช่วงฤดูหนาว โดยที่ไม่มีการดูแลที่เพียงพอ ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานต่อสัตว์ ถึงขั้นโดนเจ้าม้าตัวนี้ฟ้องกลับด้วยมูลค่า 3,300,000 บาท คุณอาจจะตกใจตรงที่ว่า ‘ม้า’ เป็นผู้ฟ้อง แต่สิ่งที่กล่าวมานั้นเกิดขึ้นจริงๆ สำหรับรัฐออริกอนแล้วเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ปี 2014 โดยที่ศาลสูงแห่งรัฐได้กำหนดให้ สัตว์ กลายเป็นเหยื่อของคดีอาชญากรรมต่างๆ ได้ และได้รับสิทธิ์ปกป้องขั้นพื้นฐานทุกประการเหมือนมนุษย์ อีกทั้งยังมีทนายความคอยให้การแทนในนามของสัตว์ตัวนั้นๆ ด้วย จากข้อมูลของทีมกฎหมายของกลุ่ม Animal Legal Defense Fund ในเมือง Portland เจ้าม้าตัวน้อย Justice วัย 8 ขวบ ต้องเผชิญกับความเจ็บปวด จากการที่เจ้าของเก่าไม่ดูแลและไม่ใส่ใจ และสมควรจะได้รับเงินจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปรักษาและดูแลต่อไปในอนาคต โดยเมื่อปี 2017 ภายใต้การดูแลจากเจ้าของเก่า Gwendolyn Vercher วัย 51 ปี ทิ้งเจ้า Justice เอาไว้ข้างนอกอาคารในช่วงฤดูหนาว…
-
ทารกหญิงต้องนอนปางตายหลังจากที่โดนบอลกระแทกหัว ตอนนี้กำลังต่อสู้เพื่อชีวิตอยู่
เมื่อวันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา McKenna Hovenga เด็กสาวตัวน้อยวัยเพียง 7 เดือน ได้ถูกพาส่งเข้าโรงพยาบาลในรัฐไอโอวา สหรัฐอเมริกา หลังจากที่ศีรษะโดนกระแทกอย่างแรงโดยลูกซอฟต์บอล แพทย์ของโรงพยาบาลต้องทำงานอย่างหนักเพื่อต่อสู้กับอาการชักเนื่องจากแผลเลือดออกในสมองสองแห่งของน้อง Hovenga และพ่อแม่ของเธอ Kassy และ Lee กำลังรอคอยการอย่างมีความหวังให้อาการของลูกสาวดีขึ้น เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ Kassy พาลูกน้อยของเธอไปดูการแข่งขันซอฟต์บอลของคุณพ่อ ก่อนที่ลูกบอลที่โยนออกสนามจะกระแทกเขากับศีรษะของเด็กน้อย ภาพ X-ray แสดงให้เห็นรอยยุบบนกะโหลกศีรษะของ Hovenga สองวันหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุที่น่าเศร้าในครั้งนี้ Lee ก็ได้โพสต์ภาพสองภาพของลูกสาวที่กำลังยิ้มพร้อมกับแคปชั่นที่ว่า “ผมกลัวว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นรอยยิ้มของเธอ ได้ยินเธอหัวเราะ และได้จับเธอไว้ แต่รูปพวกนี้ก็ให้ความหวังผมเป็นอย่างมากในตอนนี้ ฉันรู้สึกขอบคุณทุกคำอธิษฐาน และการสนับสนุนที่เราได้รับจากทั่วไอโอวา และอเมริกา” ในขณะเดียวกันนั่นเองเพื่อนๆ และครอบครัวของน้อง Hovenga ก็สามารถรวบรวมเงินค่ารักษาได้กว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 630,000 บาท) จากการแชร์เรื่องราวของเด็กสาวลงบนเพจเฟซบุ๊ก Healing for McKenna จากสถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะไม่ได้มีอาการชักมาเป็นเวลา 48 ชั่วโมงแล้ว…
-
มันคือปาฏิหาริย์!! เด็กชาย ‘ฟื้นจากความตาย’ หลังจากวันที่พ่อแม่เพิ่งตัดสินใจบริจาคอวัยวะ
“การบริจาคอวัยวะ” ถือว่าเป็นการเสียสละอวัยวะของคนคนหนึ่งเพื่อให้แก่อีกคนหนึ่ง ซึ่งคนที่ได้รับอวัยวะไปก็จะเสมือนกับได้ชีวิตใหม่เข้ามา โดยอาจจะรับบริจาคจากคนที่มีชีวิตอยู่หรือไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้วก็ทำได้ แต่ส่วนมากแล้วหลายๆ คนมักเซ็นยินยอมมอบอวัยวะหลังจากเสียชีวิตไปแล้ว เหมือนอย่างกับคุณแม่ท่านนี้ Jennifer Reindl ที่ได้ยอมรับว่าลูกชายเธอคงไม่กลับมาอีกแล้ว และได้ยินยอมเซ็นสัญญาการบริจาคอวัยวะของลูกชายไป โดยที่จะมีเด็กห้าคนที่ได้รับประโยชน์จากการบริจาคอวัยวะในครั้งนี้ แต่หลังจากวันที่เธอเซ็นยินยอมบริจาคนั้น ปาฏิหาริย์ก็ได้เกิดขึ้น Trenton McKinley ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอกลับมามีปฏิกิริยาแล้วฟื้นคืนจากความตายมาได้ เรียกเอาคุณแม่น้ำตาซึมไปเลย ย้อนกลับไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับ Trenton McKinley ตอนที่เขากำลังเล่นกับเพื่อนๆ ในบ้านของเพื่อนคนหนึ่ง ในขณะที่กำลังขี่รถรถพ่วงขนาดเล็กที่ถูกลากโดยรถบักกี้อยู่นั้น จู่ๆ เพื่อนของเขาก็เบรกอย่างกะทันหันและทำให้รถพ่วงพลิกคว่ำ หนูน้อย Trenton กระแทกลงอย่างแรงกับพื้นคอนกรีตและรถพ่วงก็กระเด็นมากระทบกับหัวของเขา จากนั้นเขาก็สลบไป ทันทีที่คุณแม่มาถึงโรงพยาบาลก็ได้รับแจ้งว่าลูกชายเสียชีวิตไปเป็นเวลา 15 นาทีก่อนที่ชีพจรจะกลับมาเต้นแต่แพทย์ก็ได้บอกเธออีกว่าหนูน้อยจะไม่กลับมาเป็นปกติอีกแล้ว เขาบอกว่าเขามีอาการสมองขาดออกซิเจน หากยังมีชีวิตอยู่เขาจะต้องอยู่นิ่งๆ นอนเหมือนผัก หลังจากวันนั้นคุณพ่อและแม่ของ Trenton จึงได้ตัดสินใจทางเลือกอันสุดจะขมขื่นที่จะบริจาคอวัยวะของลูกให้กับเด็กๆ ที่ต้องการอวัยวะอยู่จะดีกว่า แต่ในวันต่อมาก็ได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น เมื่อคุณแม่ก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณหมอ รายงานว่าสมองของ Trenton กลับมามีสัญญาณอีกครั้งแล้ว ก่อนที่คุณหมอจะถอดเครื่องมือช่วยหายใจนี่เอง แม้ว่าหนูน้อยจะกลับมามีชีวิตเหมือนเดิมแล้ว แต่เขาก็ยังต้องพัฒนาทักษะต่างๆ อีกหลายอย่างเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตดังเดิมได้ แต่อย่างไรก็ตามการที่เขากลับมาได้อีกครั้งแบบนี้…
-
สลด… ‘ผู้กำกับหนังมือดี’ ถูกยีราฟใช้คอฟาด ‘เสียชีวิต’ ขณะถ่ายทำซีรีส์ที่แอฟริกาใต้
ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือสารคดีที่เกี่ยวกับสัตว์หรือต้องมีฉากที่สัตว์ออกมาล้วนมีความอันตรายทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นฉากที่ถ่ายสัตว์กินพืชที่ดูเหมือนกับไม่มีอันตรายก็ตาม เหมือนดังเรื่องการเสียชีวิตของ Carlos Carvalho ผู้กำกับชาวแอฟริกาใต้วัย 47 ปี ผู้ซึ่งเสียชีวิตจากการตกจากที่สูงเนื่องจากถูกยีราฟนามว่า Gerald เอาหัวโหม่งใส่เขา ขณะที่กำลังถ่ายทำซีรีส์ “Wild at Heart” ในวันที่ 2 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา ได้มีเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นกับวงการภาพยนตร์ เมื่อนาย Carlos Carvalho ผู้กำกับมือทองดีกรีผู้ชนะรางวัล Silver Lion ในปี 2003 จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานหรือจะเป็นรางวัล African Movie Academy Cinematography Award ปี 2014 อีกด้วย โดยที่ Drikus van der Merwe ผู้ช่วยของเขาที่ถือกล้องอยู่อธิบายเหตุการณ์ว่า “ผมอยู่ข้างๆ เขาตอนที่ถูกยีราฟฟาดคอมาและกระแทกเข้ากับหัวเขาอย่างจัง จนเขาลอยไปกองอากาศประมาณ 4 หรือ 5 เมตรได้ เจ้ายีราฟมาจากไหนไม่รู้ แล้ว Carlos ก็ไม่ทันได้เห็นและไม่รู้ว่าจะถูกโจมตีด้วย”…
-
คุณพ่อสุดเถื่อน ถูกแมงมุมกัดขา ด้วยความเจ็บปวดคว้า “เลื่อยไฟฟ้า” ตัดขาตัวเองทิ้ง!
(คำเดือน: บทความมีภาพและเนื้อหารุนแรงและควรใช้วิจารณญาณในการรับชม) เรื่องราวน่าสะเทือนใจ สำหรับเตือนภัยให้ทุกท่านได้ระมัดระวังกันในวันนี้ คือเรื่องราวเกี่ยวกับคุณพ่อลูกสอง ที่ต้อง “ตัดขาทิ้ง” เนื่องจากถูก แมงมุมแม่ม่าย กัดเข้าที่ขา Andy Perry วัย 46 ปีเล่าว่าอาการบาดเจ็บนั้นสาหัสรุนแรงจนทำให้เขาต้องตัดสินใจ “ตัดขา” ตัวเองทิ้งด้วย เลื่อยไฟฟ้า ก่อนที่ทีมศัลยแพทย์จะเข้ามาทำการผ่าตัด Andy ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักภูมิสถาปนิก ปัจจุบันเชื่อว่าเขาเป็นคนแรกที่เสียขาไปเพราะเหตุถูกแมงมุมพิษกัด หลักถูกกัดเขาต้องทรมานกับการเจ็บปวดและปวดหลังรุนแรงถึง 48 ชั่วโมง แถมยังต้องทำงานออกแบบรั้วกันใน Thorpe Astley เมือง Leicestershire อีกด้วย จากนั้นอาการบาดเจ็บกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นจากภาวะติดเชื้อและไตล้มเหลว จนกระทั่งเขาต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เขาจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาแบบฉุกเฉิน พร้อมให้ยาและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานนับสัปดาห์ ขาและเท้ามีอาการบวมรุนแรง . Andy ตัดสินใจใช้เลื่อยไฟฟ้าตัดขาตนเองทิ้ง หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์อาการติดเชื้อเริ่มทุเลาลง แต่เขากลับต้องพบเจอกับอาการ บวมน้ำเหลือง แทน นั่นทำให้ผิวหนังของเขาหลุดลอก จากนั้นเขาจึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและตัดขาออกให้สั้นเหนือเข่าขึ้นมา ปัจจุบันเขาต้องนั่งเก้าอี้รถเข็น ทำให้ไม่สามารถทำงานและเล่นกับลูกหลานได้สะดวกอย่างเคย แถมยังต้องคอยรับการรักษาประจำวันอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่านี่เป็นพิษของ…
-
ชื่นชมน้ำใจ “คนขับรถเมล์” อุ้มหญิงชราขึ้นรถ พาไปนั่ง พอถึงป้ายก็อุ้มลงไปส่งอีก
ผู้สูงอายุ ย่อมต้องการการดูแลและความช่วยเหลือมากกว่าคนทั่วไป เราจึงมักจะเห็นว่ามีคนคอยช่วยเหลือพวกเขาในหลายๆ เรื่อง อย่างเช่น ตอนที่ต้องข้ามถนน หรือแม้แต่ตอนที่ต้องขึ้นรถเมล์เหมือนอย่างในเหตุการณ์นี้ การช่วยเหลือเล็กๆ อันแสนอบอุ่นหัวใจดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้ด้วยกล้องวงจรปิดของรถเมล์ ที่เมือง Zunyi ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2018 เมื่อคนขับรถตัดสินใจลงไปช่วยอุ้มหญิงชราขึ้นมา คนขับรถเห็นหญิงชรากำลังจะเดินขึ้นมาบนรถ มันคงเป็นเรื่องยากหากจะให้หญิงชราคนดังกล่าวเดินขึ้นมาบนรถด้วยตัวเอง และอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ คนขับรถสาวจึงลงไปแบกเธอพาขึ้นรถมา พร้อมกับหาที่นั่งให้พร้อมสรรพ เธออาสาลงไปช่วยแบกหญิงชราขึ้นมาเอง หลังจากนั้น เมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่หญิงชราจะต้องลงไป คนขับรถก็เดินไปช่วยแบกเธอขึ้นหลังอีกรอบพาเธอลงไปด้านล่าง สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารทุกๆ คน รวมถึงคนในโลกโซเชียลที่ได้ชมเหตุการณ์นี้ พอถึงที่หมาย เธอก็ช่วยอุ้มหญิงชราลงไปอีกรอบ . แม้นี่อาจดูเหมือนเป็นการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ แต่มันกลับสามารถเติมเต็มความประทับใจและความอบอุ่นหัวใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมากจริงๆ คลิปจากกล้องวงจรปิดของเหตุการณ์ดังกล่าว การช่วยเหลือนั้นไม่ได้สำคัญที่ว่าต้องช่วยเหลือเยอะหรือน้อยมากเพียงใด ขอแค่เราได้ลงมือทำในสิ่งนั้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็คงจะคุ้มค่ามากกว่าที่เราเคยคาดคิดเอาไว้อย่างแน่นอน ที่มา: cgtn
-
ฮีโร่ของจริง!! ตำรวจจีนช่วยชีวิตผู้คนจากรถยนต์อันบ้าคลั่ง แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยชีวิตก็ตาม
‘ตำรวจ’ คืออาชีพที่เสียสละเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง แต่ก็ไม่น่าจะเกิดเหตุน่าเศร้าขึ้นเช่นเหตุการณ์ในประเทศจีนเหตุการณ์นี้ เมื่อมีนายตำรวจคนหนึ่งพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อจะช่วยประชาชนให้รอดพ้นจากความตาย จนสุดท้ายเขาก็ต้องจบชีวิตของตัวเองลงไปอย่างที่ไม่มีใครคาดถึง… เหตุน่าเศร้าที่เกิดขึ้นนี้ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องราวของนายตำรวจจราจรวัย 50 ปีคนหนึ่งในเขต Jingshan มณฑลหูเปย์ ประเทศจีน ที่ได้เสียสละตัวเองช่วยคนเดินถนนให้รอดพ้นจากรถยนต์คันหนึ่งที่พุ่งขึ้นมาบนทางเท้าอย่างบันดาลโทสะและไม่มีใครคาดคิด รถยนต์ที่ได้คร่าชีวิตของนายตำรวจผู้นี้ไปตลอดกาล วิดีโอที่คนเดินถนนอีกฝั่งคนหนึ่งได้ถ่ายเหตุการณ์เอาไว้ จะเห็นได้ว่ามีรถยนต์คันหนึ่งที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วไถลขึ้นพุ่งไปยังทางเท้าไปชนคนที่อยู่บริเวณนั้นอย่างน่ากลัว และด้วยความที่บริเวณดังกล่าวเป็นถนนย่านธุรกิจที่มีผู้คนขวักไขว่ จึงทำให้มีคนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เยอะเลยทีเดียว ซึ่งในจังหวะที่รถยนต์กำลังจะขึ้นทางเท้านั้นเอง Liu Guibi นายตำรวจฮีโร่ ก็ได้ช่วยชีวิตคนคนหนึ่งไว้ด้วยการผลักคนคนนั้นให้ออกจากทางที่รถกำลังจะพุ่งเข้ามาหา และเขาก็กลายเป็นผู้โชคร้ายรับเคราะห์จากรถยนต์คันนี้แทนจนเสียชีวิตในที่สุด แต่ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่ารถยนต์กำลังจะพุ่งเข้ามาชนตัวเองและนำเอาชีวิตไป แต่คำพูดสุดท้ายในชีวิตเขาก็ยังคงแสดงออกถึงความเป็นตำรวจอย่างแท้จริง โดยก่อนที่ร่างของเขาจะกลายเป็นร่างไร้วิญญาณเขาก็จะได้ตะโกนออกมาว่า ‘หลีกออกไปซะ’ และนั่นก็ได้ทำให้ผู้คนรู้สึกเศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากเลยทีเดียว วินาทีที่รถคันดังกล่าวได้พุ่งเข้าชนผู้คน โดยภายหลังได้มีการจับกุมชายคนขับรถดังกล่าวเอาไว้ได้ และทางตำรวจก็ได้ออกมาเผยว่า ผู้ก่อเหตุการณ์ในครั้งนี้มีนามสกุลว่า Tang วัย 28 ปี ซึ่งผลจากการขับรถอย่างบ้าระห่ำของเขาก็ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีกถึง 4 คนด้วยกัน ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาบันดาลโทสะเช่นนี้ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้มีอาการเมามายจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดใดๆ ระหว่างการรับสารภาพเลย ความเสียหายจากสิ่งที่เกิดขึ้น ความเสียสละในครั้งนี้ของนายตำรวจ ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตเป็นอย่างมากถึงความอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น รวมถึงความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ ถึงแม้ว่าจะต้องกลายเป็นผู้เคราะห์ร้ายแทนก็ตาม……
-
หนุ่มเกือบตาย เพราะตำรวจเข้าใจผิดว่าขโมย ‘เมนทอส’ เลยควักปืนมาจ่อซะอย่างอย่างงั้น
บางทีความเข้าใจผิดก็อาจทำให้เกิดอันตรายกับทั้งตัวเองและผู้อื่น แถมยังนำไปสู่เหตุการณ์ที่เลวร้ายได้ เหมือนกับเจ้าหนุ่มรายนี้ที่เกือบจะต้องไปลงโลงซะแล้ว เพราะตำรวจเข้าใจผิดว่าเขาขโมย ‘เมนทอส’ เลยควักปืนออกมาขู่ ทั้งๆ ที่เขาจ่ายเงินไปแล้วแท้ๆ!! Jose Arreola คือชื่อของหนุ่มดวงซวยคนดังกล่าว ซึ่งเขาได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังว่า ในวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา เขาได้เดินเข้าไปในร้านมินิมาร์ทของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่าน Orange County ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อจะซื้อเมนทอสรสมินต์มาไว้อมเล่นแก้เซ็งซะหน่อย โฉมหน้าของผู้เกือบต้องพลีชีพให้เมนทอส ทุกๆ อย่างในวันนั้นก็เป็นไปอย่างปกติธรรมดา เขาจ่ายเงินจำนวน 1.19 ดอลลาร์ (ประมาณ 37 บาท) เพื่อเป็นค่าตัวของเมนทอสแท่งหนึ่ง จากนั้นเขาก็เอามันมาเก็บไว้ในกระเป๋าเหมือนกับทุกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้ไอ้เจ้าลูกอมอันนี้มันเกือบจะทำให้ร่างของเขาต้องไร้วิญญาณไปตลอดกาล.. หมั๊บเข้าให้ นั่นก็เป็นเพราะว่าขณะที่เขายืนซื้อเมนทอสอยู่นั้น ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ยืนข้างหลังเขาก็เข้าใจผิดว่า Arreola ตั้งใจจะขโมยลูกอม จึงควักปืนออกมาขู่แล้วตะโกนใส่ว่า ‘วางมันลงซะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ’ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็ได้สร้างความฉงนงงงวยปนตกใจแบบที่ว่า นี่ตูทำอะไรผิดฟะ!! เห้ย เห้ย ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยพี่ Arreola จึงพยายามอธิบายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นว่าเขาจ่ายเงินไปแล้วสำหรับเจ้าเมนทอสแท่งนี้ ประกอบกับพนักงานของร้านก็ช่วยยืนยันว่าเขาได้จ่ายเงินแล้วจริงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนั้นจึงเก็บปืนพกของเขาใส่ปลอกดังเดิม และนั่นได้สร้างความใจชื้นให้กับ Arreola ว่าจะไม่ต้องตายเพราะเมนทอสแท่งเดียวแล้ว…
-
ลอนดอนระส่ำ เด็กหนุ่ม 3 คนถูกยิงกลางวันแสกๆ ปีนี้ดับ 62 คน แต่คนร้ายยังลอยนวล!?
กรุงลอนดอนที่หลายคนเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก หารู้ไม่ว่า เพียงครึ่งปีแรกของปี 2018 กลับมีเหยื่อผู้เสียชีวิตจากการฆาตกรรมรวม 62 รายแล้ว อย่างเช่นเหตุการณ์ล่าสุด เมื่อบ่ายของวันที่อาทิตย์ที่ผ่านมา (6 พฤษภาคม 2018) มีรายงานว่าหนุ่มน้อยวัย 13 ปีถูกอาวุธปืน “ยิงเข้าที่ศีรษะ” ในช่วงเวลากลางวันแสกๆ บริเวณตอนเหนือในเขตลอนดอนตะวันตก ส่วนเด็กหนุ่มอีกรายวัย 15 ปีเองก็ถูกพบว่าบาดเจ็บจากการถูกยิงบนถนนเส้นเดียวกันในเขตแฮร์โรว์ของกรุงลอนดอน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสืบสวนว่าทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีอะไรเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เด็กหนุ่มทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นทราบว่าทั้งสองรายไม่มีอาการบาดเจ็บรุนแรงจนถึงชีวิต แต่ไม่ถึง 24 ชั่วโมงต่อมาเด็กหนุ่มวัย 17 ปีอีกรายหนึ่งกลับถูกยิง เสียชีวิตกลางกรุงลอนดอน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เด็กหนุ่มคนแรก (วัย 13 ปี) มีอาการบาดเจ็บสาหัสจาก “กระสุนลูกปราย” ที่ได้สร้างบาดแผลฉกรรจ์ไว้ที่บริเวณศีรษะของเขา คนขายของผู้ที่เดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์ได้กล่าวว่า “เด็กหนุ่มช่างโชคดีที่รอดมาได้” เพราะเขาเห็นว่าเด็กหนุ่มคนนี้ถูกยิงเขาที่บริเวณด้านหลังของศีรษะ เขายังเล่าอีกว่าเขาเห็นผู้คนมุงดูชายผิวดำคนหนึ่งที่นอนฟุบอยู่กับพื้น “เขาก้มหน้าเข้าหาพื้น ทำให้มองไม่เห็นใบหน้าของเขาเลย เห็นแค่เพียงว่าเสื้อยืดสีขาวของเขานั้น เต็มไปด้วยรอยเลือด ฉันนั่งลงอย่างใจเย็น และรอจนกว่าทีมแพทย์จะมารับตัวเขาไป” . …
-
โค้ววว… ลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเล 16,000 กิโลฯ เพื่อมาเจิมงานศิลป์ มูลค่า 95,000,000 บาท!?
ความบ้าบิ่นของมนุษย์เป็นสิ่งที่ยากจะเข้าถึงได้ เมื่อเราเป็นคนปกติทั่วไปไม่ได้คิดร้ายอะไร หากจะกระทำบางสิ่งมันต้องมีเหตุผลที่มากพอที่จะทำ แต่คงไม่ใช่เรื่องแบบนี้แน่ๆ… มนุษย์เพศชายคนหนึ่งวัย 40 ปี ได้ลงทุนเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเหาะเหินเดินอากาศมาไกลกว่า 16,000 กิโลเมตร จากประเทศอังกฤษ มายังเมือง Aspen รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา เพียงเพื่อมาทำลายงานศิลปะ 1 ชิ้น!? เหตุการณ์เจิมงานศิลปะ โดนกรีดไป 2 ที เหตุการณ์สุดแสนจะเกินบรรยายนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ปี 2017 ชายปริศนาสวมใส่แว่นกันแดด กางเกงยีนสีดำ แจ็กเก็ตสีดำ พร้อมหมวกและถุงมือ เคราเคิวไม่โกน เดินเข้ามายังแกลอรี่ศิลปะ Opera Gallery ตรงดิ่งสู่งานศิลป์ที่มีชื่อว่า “Untitled 2004” ที่วาดโดย Christopher Wool ตีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 95,000,000 บาท (3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ยังไม่ทันไร เขาก็ควักวัตถุมีคมที่ซ่อนเอาไว้ใต้เสื้อกรีดใส่งานศิลปะชิ้นดังกล่าวไป 2 ปื้ดก่อนที่จะเผ่นแนบหนีเข้ากลีบเมฆหายวับไปยิ่งกว่าจอมโจรคิดส์ การสืบสวนใช้เวลาเป็นปี…
-
ไม่ผิดคาด… ปูตินขึ้นเป็นประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สี่ หลังอยู่ในอำนาจมาถึง 18 ปี
นายวลาดิเมียร์ ปูติน กำลังจะทำพิธีการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของรัสเซียในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ หลังจากที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นี่นับเป็นการเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 4 ของชายผู้ที่กุมอำนาจสูงสุดของประเทศมาเป็นเวลา 18 ปีแล้ว ไม่ว่าจะในตำแหน่งผู้นำ นายก หรือประธานาธิบดี จนทำให้คู่แข่งทั้งหลายขนานนามเขาว่าเป็นกษัตริย์แห่งรัสเซียเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ไม่ได้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเท่าไหร่นัก เพราะเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมาก็มีเหตุตำรวจจลาจลเข้าเผชิญหน้ากับผู้ประท้วงต่อต้านการขึ้นเป็นประธานาธิบดีของเขาเกิดขึ้น และมีความกลัวว่าอาจจะเกิดการจราจรขึ้นเมื่อเขาขึ้นเป็นประธานาธิบดีก็ได้ แม้ว่าวลาดิเมียร์ปูตินจะชนะการเลือกตั้งไปด้วยคะแนนเสียงกว่า 76% ซึ่งนับว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมาตั้งแต่ที่เขาเข้ารับการเลือกตั้ง แต่ก็มีกระแสข่าวจำนวนมากที่บอกว่าผลคะแนนในครั้งนี้นั้นมาจากการโกงการเลือกตั้ง วลาดิเมียร์ปูตินเป็นอดีตสายลับรัสเซียที่ผันตัวมาเป็นประธานาธิบดี แม้แต่ผู้นำฝ่ายค้านที่รู้จักกันดีที่สุดของประเทศอย่าง Alexei Navalny ก็ถูกห้ามไม่ให้ออกมาทำการตอบโต้ วลาดิเมียร์ ปูติน เนื่องจากคดีความที่ Navalny โดนลงโทษในเรื่องการฉ้อฉล ซึ่งตัวเขาเองออกมาปฎิเสธว่าไม่ได้ทำ และอ้างว่าเป็นการสร้างข่าวของปูตินเพื่อแรงจูงใจทางการเมือง ถึงอย่างนั้นก็ตาม Navalny กลับถูกจับจากการเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านวลาดิเมียร์ปูติน เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม จากเหตุการณ์ประท้วงที่เกิดขึ้น มีการจับกุมผู้ประท้วงมากกว่า 1,000 ครั้งใน 19 เมืองทั่วรัสเซีย โดยเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ประท้วงอยู่ในมอสโก วลาดิเมียร์ปูตินได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 2000 และได้รับเลือกอีกครั้งในปี 2004 ก่อนที่จะก้าวลงจากตำแหน่งในปี 2008 และทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้การอุปถัมภ์ของ Dmitry Medvedev ซึ่งเป็นลูกน้องของเขา เพราะตามกฎหมายเขาจะสามารถเป็นประธานาธิบดีติดต่อกันได้เพียง 2 สมัย…
-
United Airline ต้องชดเชยให้ผู้โดยสาร จากเหตุแอร์ฯ เมาแล้วสบถ ‘รัดไม่แน่น -ึง-ิบหายแน่’
คำพูดคำจาของพนักงานบริการถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังมากที่สุด เนื่องจากลูกค้าคงไม่อยากได้ยินคำที่ทำให้รู้สึกไม่ดี นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่าบริการทุกระดับประทับใจ (รึเปล่า?) และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2018 ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา เที่ยวบินสายการบินลูกของบริษัท United Airline มุ่งหน้าสู่รัฐนอร์ทดาโคตา กลับต้องเจอกับเหตุการณ์ชวนปวดหัว เมื่อพบกับแอร์ฯ สาว ในสภาพเมามายไม่ได้สติระหว่างเที่ยวบิน Erika Gorman หนึ่งในผู้โดยสายเปิดเผยว่า แอร์สาวไม่ทราบชื่อใช้คำพูดและวาจาหยาบคายในระหว่างให้คำแนะนำด้านความปลอดภัย ด้วยการบอกว่า “ถ้าคุณรัดเข็มขัดไม่แน่น ชีวิต-ิบหายแน่นอน” แถมยังเดินเข้ามาใกล้หน้าผู้โดยสารรายหนึ่งแทบจะแนบชิดหน้ากันเลยทีเดียว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็ถูกบันทึกเอาไว้ได้ทั้งหมด นาย Gorman ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบินดังกล่าว ถึงกับขั้นที่ต้องเข้าไปบอกกัปตันในห้องเครื่องว่ามีแอร์ฯ ที่คุมสติตัวเองไม่ได้ อยู่บนเที่ยวบินนี้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับรถพยาบาลก็มาดักรอถึงที่ ทันทีที่เครื่องลงจอด ทางด้าน United Airlines ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ทำการออกแถลงการขอโทษต่อลูกค้าที่ซื้อตั๋วของสายการบิน Trans States Airlines เที่ยวบินที่ 4689 จากเมือง Denver สู่เมือง Williston และจะทำการชดใช้โดยการคืนเงินค่าตั๋วให้กับผู้โดยสารทุกคนโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ…
-
นักธุรกิจยั๊วะจัด จองปอร์เช่ 8 ล้านพร้อมออปชั่นเสริม แต่ไม่ได้ตามสั่ง ขับชนโชว์รูมซะเลย
เมื่อกล่าวถึงมูลค่าของราคารถยนต์แต่ละคันนั้นไม่ใช่เล่นๆ ต่อให้เป็นนักธุรกิจมีเงินมากมายมหาศาลก็ตาม เพราะถ้าหากได้รถยนต์ที่ไม่ถูกต้องตามสเปก แต่จ่ายเงินออกไปแล้ว ก็ต้องมีน้ำโหกันบ้าง ว่าทำไมถึงไม่ได้ตามที่ต้องการทั้งๆ ที่จ่ายเงินไปแล้ว เหมือนเรื่องนี้… เรื่องราวชวนหงุดหงิดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศไต้หวัน เมื่อนักธุรกิจวัย 42 ปี แซ่ Chu ผู้เป็นลูกค้าชั้นเลิศของแบรนด์ Porsche ได้ทำการสั่งจองรถรุ่น Panamera Sport Turismo ผ่านตัวแทนจำหน่ายในเดือนมกราคมปี 2017 พร้อมกับออปชั่นเสริม 4D Chassis Control ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 6,200,000 บาท บวกกับออปชั่นที่เขาต้องการก็จะมีราคาพุ่งสูงไปถึง 7,970,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งทางผู้ช่วยของเขาก็ได้ทำการจองรถรุ่นดังกล่าวพร้อมออปชั่นที่เขาต้องการด้วยการวางเงินมัดจำ 2,100,000 บาท แต่เมื่อรถที่สั่งจองไว้เดินทางมาถึงโชว์รูมในเดือนพฤศจิกายน กลับไม่มีของตามที่เขาสั่งเอาไว้เลย ทางด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลับบอกว่าคนมาจองไม่ได้บอกรายละเอียดออปชั่นเสริม อาจเป็นเพราะผู้ช่วยที่มาติดต่อลืมสั่งของเพิ่ม… เมื่อเจอแบบนี้ Chu ก็เกิดอาการยั๊วะจัด ปฏิเสธที่จะจ่ายค่ารถที่ยังคงค้างอยู่และเรียกร้องขอค่ามัดจำคืน ซึ่งทางโชว์รูมก็ปัดความรับผิดชอบ ไม่คืนค่ามัดจำตามคำร้องหากไม่ตกลงตามสัญญาการซื้อขาย โดยให้เวลากลับไปตัดสินใจ 5 วัน ไม่นานนัก รถ Porsche Cayenne สีขาวก็วิ่งเข้าพุ่งชนโชว์รูม…
-
เดี๋ยวพี่เดี๋ยว!? หนุ่มแบกปลาโลมาจากชายหาด เดินกลับบ้านชิลๆ ตำรวจออกตามจับให้วุ่น
ในเวลานี้ที่ประเทศจีนมีคลิปเหตุการณ์อันหนึ่งกำลังกลายเป็นกระแสไปทั่วอินเตอร์เน็ตจีนอยู่ มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการโพสต์ลงบน Miaopai เว็บไซต์แบ่งปันวิดีโอของจีน และได้รับยอดชมกว่าหกล้านครั้ง ในวิดีโอนั้น มีภาพของชายคนหนึ่งกำลังอุ้มปลาโลมาพาดไหล่ที่ชายหาดชื่อดังแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้งซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน และทำให้เจ้าหน้าตำรวจของจีนในต้องออกตามหาชายคนที่ว่าเป็นการเร่งด่วน พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าปลาโลมาที่ว่าได้ถูกพบเกยตื้นอยู่บนชายหาดที่เกาะ Hailing และดูเหมือนจะกำลังจะตาย ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะเดินเข้ามาแบกมันขึ้นหลัง และเอามันขึ้นรถของเขาก่อนจะขับออกไป วิดีโอเหตุการณ์ในครั้งนี้จาก Shanghaiist ชาวเน็ตของประเทศจีนได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่ทำแบบนี้ ควรจะโดนลงโทษแบบไหน” หรือ “ถ้าคุณจะสามารถขนาดนั้น ก็ไปขโมยฉลามจากทะเลดีกว่าไหม? ดูซิจะเป็นยังไง? ไม่ต้องมายุ่งกับโลมาก็ได้” จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายว่าปลาโลมาจัดเป็นสัตว์คุ้มครองของจีน ไม่ว่ามันจะยังมีชีวิต หรือตายไปแล้ว การกระทำที่ถูกต้องก็น่าจะเป็นการแจ้งเรื่องต่อตำรวจ ไม่ใช่การแบกมันกลับไปเช่นนี้ ทางตำรวจยังกล่าวอีกว่าชายคนนี้จะต้องรับโทษความผิดทางอาญาหากหาตัวพบ และในตอนนี้ได้มีการแถลงการณ์จากฝ่ายความมั่นคงสาธารณะของจีนว่าจะมีการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วนแล้ว ส่วนจะหาตัวชายคนดังกล่าวพบไหม และโลมาจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด ที่มา bbc, medium
-
หนุ่มอินเดียโมโหที่โดนลงโทษลุกนั่งร้อยครั้งจากคดีข่มขืน เลยทุบตีพ่อแม่และเผาเหยื่อทั้งเป็น
ในวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา นาย Dhanu Bhuiyan และผู้สมรู้ร่วมคิดจำนวนหนึ่งได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีเผาเด็กสาววัย 16 ปีทั้งเป็นในรัฐฌารขัณฑ์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของอินเดีย จากข้อมูลของทางตำรวจ หญิงสาวรายนี้ถูกฆ่าหลังจากที่ผู้ปกครองของเธอแจ้งผู้อาวุโสของหมู่บ้านว่าเธอถูกข่มขืน จากการให้ปากคำของพ่อแม่ เหยื่อรายนี้เชื่อว่าถูกลักพาตัวจากบ้านของเธอขณะที่พ่อแม่ของเธอกำลังเข้าร่วมงานแต่งงานของคนรู้จัก จากนั้นเธอก็ถูกข่มขืนโดยชายสองคนในป่าใกล้ๆ หมู่บ้าน Raja Kendua ทางหมู่บ้านได้ทำการลงโทษผู้ลงมือที่จับได้ทั้งสองคนด้วยการให้ลุกนั่งร้อยครั้ง และจากค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000 รูปี (ราวๆ 23,700 บาท) ทำให้ชายทั้งสองคนที่โมโหกับการลงโทษในครั้งนี้มากรวบรวมพรรคพวกรวมทั้งหมด 18 คน เข้าทำร้ายร่างกายผู้ปกครองของเหยื่อ ก่อนที่จะเผาหญิงสาวผู้เป็นเหยื่อทั้งเป็น “ทั้งสองตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าบุกรุกเข้าไปในบ้านเหยื่อ ทำร้ายร่างกายผู้ปกครองของเธอ และจุดไปเผาหญิงสาวทั้งเป็น ด้วยความช่วยเหลือของผู้สมรู้ร่วมคิดจำนวนหนึ่ง” Ashok Ram เจ้าหน้าที่ประจำสถานีตำรวจท้องที่กล่าว มารดาของเหยื่อที่ต้องใจสลายกับการจากไปของลูกสาว ในขณะนี้ตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาได้เป็นจำนวน 15 คน จากทั้งหมด 18 คนแล้ว และกำลังตรวจสอบความเกี่ยวข้องของแต่ล่ะคนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนาย Bhuiyan ซึ่งเป็นตัวการหลักถูกจับได้ในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของญาติพี่น้อง อย่างไรก็ตามผู้ต้องสงสัยยังไม่ได้ให้ปากคำเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในอินเดียนั้น สภาผู้สูงอายุในหมู่บ้านจะมีอิทธิพลอย่างมากพื้นที่ชนบทของอินเดีย และมักจะได้รับหน้าที่ในการยุติข้อพิพาทโดยไม่ต้องผ่านระบบตุลาการที่มีราคาแพง แต่ก็ไม่ได้มีอำนาจในทางกฎหมายจริงๆ อย่างไรก็ตามจากเรื่องในครั้งนี้ทำให้ ผู้อาวุโสในหมู่บ้านหลายคนถูกตั้งข้อหาออกคำสั่งผิดกฎหมาย และปลอมแปลงหลักฐาน…
-
ผู้โดยสารแชร์คลิปน้ำทะลักเข้า 50 ห้องพักบนเรือสำราญ ราวกับน้ำตกขนาดย่อมๆ
หากคุณว่าภาพเหตุการณ์ทั้งหมดนี้คล้ายกับภาพจากหนังมหันตภัยสักเรื่องแล้วล่ะก็คงจะไม่เกินเลยนัก เพียงแต่เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจริงๆ เว็บไซต์ ABDNews ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ว่าเรือสำราญ The Carnival Dream ที่เดินทางออกจากรัฐนิวออร์ลีนส์เพื่อไปท่องคาบสมุทรแคริเบียนเป็นเวลา 7 วัน ได้เกิดเหตุระบบดับเพลิงขัดข้องจนทำให้มีน้ำรั่วออกมายังโถงทางเดิน เกิดเป็นทะเลขนาดย่อมๆ ภายในเรือ ภาพเหตุการณ์บางส่วนถูกบันทึกและเผยแพร่ลงในเฟซบุ๊กของ Maria DeAnn Haase หนึ่งในผู้โดยสารที่เดินทางไปด้วยในวันนั้น เป็นคลิปที่เผยให้เห็นภาพทางเดินที่เต็มไปด้วยน้ำที่รั่วออกมาจากระบบดับเพลิงที่ทะลักออกมาอย่างต่อเนื่องคล้ายน้ำตก และยังมีภาพของเหล่าลูกเรือที่พยายามช่วยกันตักน้ำใส่ถังเพื่อไปเททิ้งด้วย Maria ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า “เรากำลังเจอน้ำท่วมบนเรือสำราญ เราได้ยินเสียงไวโอลินและเครื่องเงินทั้งหลายหล่นลงมากระแทกพื้น มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้เนี่ย” คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุน้ำรั่วได้ไม่นาน ลูกเรือก็ได้ช่วยกันทำความสะอาดจนเกือบจะกลับมาปกติ โดยทางเจ้าหน้าที่บนเรือแจ้งว่าจะทำการซ่อมระบบดับเพลิงใหม่และการล่องเรือครั้งต่อไปจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งนี้ได้มีการชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้โดยสารทุกคน โดยจะมีการคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อตั๋วเดินทางในทริปนี้แบบเต็มจำนวน และจะได้รับส่วนลดในการซื้อตั๋วการเดินทางครั้งต่อไป 50% และยังมีบริการส่งผู้โดยสารทั้งหมดกลับบ้านด้วยเครื่องบินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วย โฆษกของเรือ Carnival ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกล่าวขอบคุณลูกเรือทั้งหมด “เราขอขอบคุณแขกของเราที่เข้าใจ และขอโทษจากใจจริง และเราขอขอบคุณลูกเรือของเราในการดำเนินการอย่างรวดเร็วและการทำงานอย่างหนักด้วย” ทั้งนี้ เรือสำราญ…
-
“กรูจะเอาตี*ยัดตู*เอ็ง” สาวเถียงกับคอลเซนเตอร์สายการบิน เจอเมสเสจส่งมางี้อีก เดือดสิ!!
Marla Margolis ใช้บริการสายการบิน American Airlines เดินทางจากบอสตัน ไปยังไมอามี เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมากับครอบครัวของเธอ เพื่อเข้าร่วมฉลองในพิธี Bar mitzvah ของชาวยิว แต่กลับกลายเป็นว่าเธอลืมกระเป๋าที่ข้างในมีเสื้อผ้าของลูกชายเอาไว้บนเครื่องบิน หลังจากที่รู้ตัวก็ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงแล้วหลังจากเครื่องแลนดิ้ง Marla จึงตัดสินใจโทรหาทางสายการบินเพื่อพูดคุยกับฝ่ายบริการลูกค้า เธอแจ้งถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ทางฝ่ายสายการบินก็บอกให้เธอทำเรื่องการขอคืนผ่านทางออนไลน์และรอการตอบกลับเท่านั้น “สิ่งที่ฉันต้องทำคือไปพูดกับคนจริงๆ ที่สนามบิน ฉันไม่ต้องการรอถึง 48 ชั่วโมงเพื่อที่จะได้ของกลับมา” เธอกล่าว การพูดคุยผ่านสายโทรศัพท์เพื่อเจรจากลับกลายเป็นเรื่องที่ไร้ผล ทำให้ Marla ตัดสินใจวางสายลง แต่แล้วจู่ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนี้กลับทำให้เธอรู้สึกแย่มากๆ เพราะจู่ๆ ก็มีข้อความจากเบอร์แปลกส่งมาว่า “ตรูจะเอาตรีนยัดเข้าไปในตรู๊ดของแก นังก**หรี่” ทางด้าน Marla ที่ได้เห็นข้อความดังกล่าวจึงสันนิษฐานในทันทีเลยว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่เป็นแน่ เธอจึงตอบกลับไปว่า “เรื่องนี้จะถึงหู CEO ของคุณอย่างแน่นอน” Marla พยายามติดต่อกลับไปที่เบอร์ดังกล่าว แต่ก็ได้ยินแต่เสียงตอบรับอัตโนมัติเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้เธอยังติดต่อเพื่อแจ้งเรื่องนี้ให้กับทางสายการบินทราบ ก็ได้รับคำตอบว่าพวกเขาจะทำการตรวจสอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นให้ถึงที่สุด หลังจากผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ก็มีข้อความจากเบอร์เดิมส่งมาอีกว่า “แกมีความสุขกับการถูกชั้นเอาตรีนยัดตรู๊ดแกมั้ย?”…
-
สาวสวยปลดเข็มขัดนิรภัยเพื่อถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน วินาทีต่อมาอุบัติเหตุก็ได้นำเอาชีวิตเธอไป…
เพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่รถบนท้องถนน จึงได้มีการติดตั้ง ‘เข็มขัดนิรภัย’ เอาไว้ในรถยนต์ เพื่อให้มันช่วยเซฟเราไม่ให้พุ่งออกนอกตัวรถหรือป้องกันไม่ให้ตัวเราไปกระแทกเข้ากับอะไรแข็งๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็มีเหตุน่าเศร้าเกิดขึ้นจากการละเลยสิ่งสิ่งนี้ เมื่อมีสาวสวยคนหนึ่งตัดสินใจปลดเข็มขัดนิรภัยออกเพื่อจะไปเซลฟี่กับเพื่อน แต่ว่าอีกไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นและทำให้ตัวของเธอพุ่งกระเด็นออกนอกรถจนเสียชีวิตคาที่…. โดยทางเว็บไซต์ nypost ได้เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวว่า เกิดขึ้นในปลายเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เมื่อสาวสวยชื่อว่า Kailee Mills จากเมือง Houston ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกเดินทางกับเพื่อนๆ อีก 3 คนเพื่อจะไปร่วมงานปาร์ตี้ฮัลโลวีน แต่ระหว่างที่นัั่งรถอยู่นั้นเธอก็บังเอิญอยากจะถ่ายเซลฟี่กับเพื่อนๆ ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์คซักหน่อย เธอเลยปลดเข็มขัดนิรภัยที่คุ้มครองเธออยู่เพื่อจะได้ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ได้อย่างถนัดถนี่ซะหน่อย จากการรายงานของสื่อ KRIV ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับพวกเธอ เมื่อไม่อีกกี่วินาทีหลังจากนั้นได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นและได้ทำให้ Kailee สาววัย 16 ปีเสียชีวิตลง ในระยะที่ห่างจากบ้านของเธอเพียงไม่กี่ช่วงตึกเท่านั้น “รถของพวกเธอไหลถลาออกนอกถนน ขณะที่ลูกสาวของผมพุ่งกระเด็นออกไปนอกตัวรถแล้วเสียชีวิตในทันที แต่ว่าเพื่อนๆ ของเธอที่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่รอดชีวิตทั้งหมดและได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” David Mills พ่อของเด็กสาวผู้เสียชีวิตกล่าว สำหรับสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะรถขับมาด้วยความเร็วแล้วเกิดสูญเสียการควบคุมจึงได้เกิดอุบัติเหตุที่น่าเศร้านี้ขึ้น จากการรายงานของ KTRK หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางครอบครัว Mills ก็ได้ออกมาช่วยรณรงค์ให้คาดเข็มขัดนิรภัยให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัยของทุกคนเอง นอกจากนี้พวกเขายังได้ก่อตั้งมูลนิธิ Kailee…
-
ภาพอบอุ่นหัวใจ ‘องค์หญิงชาร์ล็อตต์’ จุมพิตหน้าผาก ‘เจ้าชายหลุยส์’ สมาชิกใหม่ของครอบครัว
เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมาถือเป็นวันที่น่ายินดีของประชาชนชาวอังกฤษ และครอบครัวของดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เพราะเป็นวันประสูติของเจ้าชายตัวน้อย ภาพของเจ้าชายถูกโพสต์ลงอินสตาแกรมอย่างเป็นทางการของสำนักพระราชวังเคนซิงตัน โดยมีพระนามว่า เจ้าชายหลุยส์ อาร์เธอร์ ชาร์ลส์ (Louis Arthur Chalres) เป็นพระโอรสพระองค์ที่ 3 ของเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ และ แคเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พร้อมกับแคปชั่นว่า “ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแชร์ภาพของเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ และเจ้าชายหลุยส์ ภาพนี้ถูกถ่ายโดยดัชเชสที่พระราชวังเคนซิงตัน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ในวันครบรอบวันเกิดขององค์หญิงชาร์ล็อต ท่านดยุคและดัชเชส ต้องการขอบคุณทุกท่านสำหรับข้อความสุดน่ารัก ที่เข้ามาอวยพรวันเกิดของเจ้าชายและเจ้าหญิง” ภาพของเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์จุมพิตต้อนรับพระอนุชา นอกจากนี้ยังโพสต์ภาพของเจ้าชายหลุยส์ที่สวมชุดสีขาว ดูแล้วน่ารักยิ่งนัก ครอบครัวแสนอบอุ่น อย่างไรก็ตาม #เหมียวหง่าว ก็ขอแสดงความยินดีกับครอบครัวของท่านดยุคและท่านดัชเชส ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะจ๊ะ ^^ ที่มา : unilad
-
ในที่สุดก็ได้เลือกตั้ง!!! สรุปภาพรวม หลังจาก ‘เลบานอน’ เลือกตั้งครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี…
ด้วยเหตุความไม่สงบที่ประเทศซีเรียซึ่งเป็นประเทศใกล้เคียง บวกกับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งใหม่ ทำให้การเลือกตั้งของเลบานอนนั้นไม่ได้ถูกจัดขึ้นมาตั้งแต่ในปี 2009 แล้ว อย่างไรก็ตามในเดือนวันที่ 6 พฤษภาคม 2018 นี้เลบานอนก็สามารถจัดการเลือกตั้งขึ้นได้สำเร็จจนได้ หลังจากที่มีการเลื่อนมาถึง 2 สมัย การเลือกตั้งในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนระบบการลงคะแนนเสียง โดยลดจำนวนหัวเมืองลง และอนุญาตให้ชาวต่างชาติได้ลงคะแนนเสียงเป็นครั้งแรก การลดจำนวนของหัวเมือง และใช้ลงคะแนนเสียงแบบสัดส่วน เชื่อว่าจะทำให้มีการกระจายที่นั่งไปทั้งในกลุ่มคริสเตียนและชาวอิสลามได้ดีขึ้น เนื่องจากเลบานอนมีอำนาจทางการเมืองร่วมกันระหว่างศาสนาต่างๆ และมีจำนวนที่นั่งในรัฐสภาแบ่งไประหว่างชาวคริสเตียน และชาวมุสลิมมาเป็นเวลานานแล้ว โดยนี่จะเป็นการลงคะแนนเสียงสำหรับที่นั่งทั้งหมด 128 ที่นั่งในรัฐสภา ซึ่งมีการเปิดให้ลงคะแนนเสียงไปจนถึงเวลา 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และผลนับคะแนนอย่างเป็นทางการจะประกาศออกมาในวันจันทร์ที่ 7 หรือวันอังคารที่ 8 แม้นักวิเคราะห์คาดว่ารายละเอียดในช่วงต้นจะออกมาภายในคืนวันอาทิตย์ที่ 6 นี้ อย่างไรก็ตามภายในบรรดาผู้ลงสมัครเลือกตั้งนั้นก็ยังมีกลุ่ม Hezbollah กลุ่มติดอาวุธที่ถือว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายจากทางสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ลงสมัครอยู่ด้วย โดยพวกเขากำลังพยายามเพิ่มตัวแทนของตนเองเข้าไปในรัฐสภาอยู่ เรื่องนี้ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้กลายเป็นที่จับตามองของทางสหภาพยุโรปเป็นอย่างมาก และมีการส่งผู้สังเกตการณ์ออกไปยังพื้นที่ที่มีการเลือกตั้งทั้งหมดในประเทศ อย่างไรก็ตามรัฐสภาที่จะได้รับการเลือกตั้งใหม่ในครั้งนี้นั้น จะต้องพบกับปัญหามากมายที่รอพวกเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนผู้ลี้ภัยที่เดินทางเข้ามาในประเทศนับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในซีเรีย และปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ …
-
อยู่กันไงเนี่ย!! นักวิทย์เผยคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศสูงสุดในรอบ 800,000 ปี!!
มลพิษในอากาศเป็นปัญหาสำคัญที่ประเทศไทยเรากำลังเผชิญกันอยู่ อย่างเรื่องหมอกควัน ฝุ่นละอองต่างๆ แต่รู้ไหมว่าปัญหานี้กำลังเกิดขึ้นทั่วทั้งโลก และก็มีเรื่องที่น่าตกใจมากยิ่งขึ้น เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในขณะนี้ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลกได้ไต่ระดับขึ้นสูงที่สุดในรอบ 800,000 ปี!! แล้ว โดยเรื่องที่น่าทึ่งนี้ได้รับการเปิดเผยจากการอ่านค่ากราฟตามข้อมูลของหอดูดาวเมานาลัว ในรัฐฮาวาย เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาซึ่งก็ได้พบว่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีค่าเฉลี่ยสูงถึง 410 ppm (ในล้านส่วน) เป็นระยะเวลาตลอดทั้งเดือน และนี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของหอดูดาวนี้ที่ได้อ่านค่าความเข้มข้นขนาดสูงเช่นนี้!! นอกจากนี้สถาบัน The Scripps Institution of Oceanography ได้กล่าวว่าในยุคสมัยก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม ค่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศไม่เคยเกิน 300 ppm มาโดยตลอดระยะ 800,000 ปีที่ผ่านมา แต่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาความเข้มข้นของก๊าซชนิดนี้ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง.. จะเห็นได้ดีจากกราฟเส้นโค้งคีลิง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศตลอดระยะหลายทศวรรษที่ผ่านมา ว่าในตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปเช่นใดบ้างจากครั้งในอดีต โดยจากกราฟจะเห็นได้ว่ามีความเข้มข้นมากขึ้นถึง 30% จากการวัดครั้งแรกในปี 1958 ซึ่งในขณะนั้นวัดได้เพียง 315 ppm เท่านั้น ทว่าในปี 2013 ก็ได้แตะตัวเลข 400 ppm เป็นครั้งแรก ขณะที่ในช่วงก่อนปี 1800 มีค่าเฉลี่ยเพียงแค่ 280…
-
พ่อดุว่าเป็นเด็กขี้เกียจ “ไม่ยอมลุกจากเตียง” ลูกเลยย้ายไปนอนบนหน้าต่างสูง 15 เมตรแทน!!
มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกกับการที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะดุด่าสั่งสอนลูกบ้างในบางครั้ง เพื่อหวังให้ลูกปรับปรุงตัว ก้าวเดินไปในทางที่ดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าลูกจะเชื่อฟังกันตั้งแต่แรกเสมอไป จนอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นในความคิดห่ามๆ ของพวกเขา ตัวอย่างการต่อต้านของลูกๆ สามารถดูได้จากเหตุการณ์นี้ ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2018 มีการรายงานข่าวในประเทศจีนว่า พบเด็กชายคนหนึ่งนอนอยู่บนหลังคาหน้าต่างอาคารที่พักอาศัย ในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ซึ่งตรงจุดนั้นสูงเหนือพื้นดินไปกว่า 15 เมตร . นั่นจึงทำให้ครอบครัวพยายามกล่อมให้เด็กออกมาจากจุดนั้น ก่อนที่จะโทรตามให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาช่วยเหลือ ทุกคนจึงช่วยกันพูดจาหว่านล้อม และส่งทีมขึ้นไปรอรับ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ช่วยเด็กลงมาได้อย่างปลอดภัย และเมื่อถามถึงสาเหตุว่าทำไมเขาถึงขึ้นไปนอนอยู่บนนั้น ถึงได้ทราบคำตอบว่ามันเกิดจากการที่พ่อของเด็กต่อว่าลูกชายในเรื่องที่เขาขี้เกียจ ไม่ยอมลุกออกจากเตียงไปทำอะไร เด็กชายวัย 15 คนนี้ก็เลยขึ้นไปนอนประชดครอบครัวซะเลย เปลี่ยนจากการนอนไม่ยอมลุกจากเตียง เป็นการนอนไม่ยอมลุกออกจากหลังคาหน้าต่างแทน สุดยอดไปเลยจริงๆ ความคิดเจ้าหนูคนนี้…..แหม่ คลิปการรายงานข่าว ช่วยเหลือเด็กคนนี้ การที่เด็กแสดงพฤติกรรมต่อต้านนั้นอาจจะมีบ้างสำหรับบางครอบครัวอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดีเสมอไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างภายหลัง ที่มา: China Xinhua News
-
‘Taylor Swift’ เซอร์ไพรส์แฟนคลับตัวน้อย หลังพลาดคอนฯ เพราะเข้ารักษาแผลไฟไหม้
ถ้าพูดถึงศิลปินหญิงผู้หญิงที่มีชื่อเสียงและมากไปด้วยความสามารถในยุคสมัยนี้แล้ว ชื่อของ Taylor Swift คงต้องเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายๆ คนคิดถึงอย่างแน่นอน เป็นอย่างที่หลายๆ คนรู้ว่า Taylor Swift นั้นถือว่าเป็นศิลปินหญิงที่มีความสามารถหลากหลายเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลง แต่งเพลงหรือจะเล่นดนตรีเธอนั้นสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ยังมีอีกด้านที่เพื่อนๆ หลายคนไม่รู้อีกด้วยนั่นคือเธอเป็นคนที่มีจิตใจดีเหลือเกินอีกด้วย อย่างเช่นในเคสนี้ เธอได้เข้าไปเยี่ยมแฟนคลับตัวน้อยวัย 8 ขวบ Isabella McCune ที่ได้รับบาดแผลไฟไหม้เนื่องจากเหตุการณ์ระเบิดจากวัน St.Patrick Isabella McCune สาวน้อยแฟนคลับ Taylor ผู้พลาดคอนเสิร์ตที่สเตเดียมของ University of Phoenix เนื่องจากเธอต้องเข้ารับการรักษาแผลไฟไหม้ที่เปรียบเสมือนกับฝันร้าย ต้องได้รับการผ่าตัดกว่า 11 ครั้งและต้องเข้ารับการปลูกถ่ายผิวที่ไหม้ซึ่งเสียหายไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย แม่ของเธอ Lilly McCune กล่าวว่าเพียงแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าก็สร้างความเจ็บปวดให้แก่เธอได้แล้วและระหว่างที่เปลี่ยนเสื้อผ้า สตาฟก็มักจะถามว่ามีอะไรที่พวกเขาสามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของเธอได้หรือไม่ ซึ่งหนูน้อยก็บอกว่าหากเธอได้ฟังเพลงของ Taylor ก็จะช่วยบรรเทาอาการต่างๆ พวกเขาเลยเปิดเพลงให้แก่เธอเสมอ และเมื่อเรื่องนี้ได้ยินไปถึงหูของนักร้องสาวชื่อดัง เธอก็ได้เข้าเดินทางเข้ามาพบกับสาวน้อยทั้งๆ ที่ตารางงานของเธอนั้นอัดแน่นอยู่ตลอดเวลา Lilly ได้กล่าวว่า “เธอได้นำกระเป๋าใส่ของสารพัดจากทัวร์มาให้สาวน้อย เธอกล่าวว่าที่เธอมาพบกับสาวน้อยในวันนี้ก็เพราะว่าเธอนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของสาวน้อยและรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ…
-
ใจจะวาย!! สาววาง ‘ดิลโด้’ ทิ้งเอาไว้บนโต๊ะ โชคดีแม่ดั๊นมาเจอแล้วคิดว่าเป็น ‘ยางลบ’ ซะนี่!!
บางทีของใช้แบบส่วนตั๊วส่วนตัว เราก็ควรจะเก็บเอาไว้ให้มิดชิดอย่าง กางเกงใน เสื้อยกทรง หรือว่าของเล่นเพิ่มความหรรษาอย่าง ‘ดิลโด้’ ที่ใครไปพบเข้าก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ แม้แต่คนในครอบครัวเองก็ตามเถอะ และคุณคงไม่โชคดีเหมือนกับสาวคนนี้ทุกครั้งไป… เรื่องสุดฮานี้เกิดขึ้นกับสาวน้อยคนหนึ่งจากเมือง Cambridge ประเทศอังกฤษ เมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่จะมาเรียน เธอได้เคลียร์กระเป๋าเอาสิ่งของที่ไม่ใช้ออก และหนึ่งในนั้นก็มี ‘ดิลโด้’ อุปกรณ์แห่งความหฤหรรษ์ของเธออยู่ด้วย แต่มันพีคก็ตรงที่เธอบังเอิญจำได้ว่าเธอวางมันหราเอาไว้บนโต๊ะกลางห้องของเธอเอง และอีกสิ่งหนึ่งที่เธอรู้ว่ามันต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนก็คือ แม่ของเธอจะต้องขึ้นไปทำความสะอาดห้องแล้วพบเข้ากับเจ้าแท่งสั่นนี้อย่างแน่แท้ ด้วยความเดือดเนื้อร้อนใจที่ตัวเองไม่สามารถไปเก็บมันให้เข้าที่เข้าทางได้เพราะอยู่ที่มหาวิทยาลัย เธอจึงตัดสินใจส่งขอความไปขอความช่วยเหลือจาก Chris พี่ชายของเธอในทันที สาวน้อย: นี่พี่จะกลับบ้านกี่โมง หนูอยากให้พี่ช่วยย้ายบางอย่างที่อยู่บนโต๊ะของหนูให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะมันคือ ‘ดิลโด้’ ซึ่งหนูคิดว่าแม่ต้องเห็นแน่ๆ ตอนที่ขึ้นมาทำความสะอาด มันคงเป็นเรื่องที่ฮาที่สุดในรอบปี แต่อย่าให้มันเกิดขึ้นเลย!! Chris: 5555+ พี่กลับบ้านอีกทีก็เย็นๆ แหละน้อง พี่มั่นใจ 100% เลยว่าแม่ต้องเจอของดีอันนี้อย่างแน่นอน เป็นโชคร้ายสำหรับสาวน้อยคนนี้จริงๆ เพราะ Chris กว่าจะกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเขารู้ว่าแม่ทำความสะอาดบ้านเสร็จแล้วและอาจพบเข้ากับดิลโด้แล้วก็เป็นได้ “ในตอนแรกที่น้องสาวส่งข้อความนี้มาให้ มันก็ทำให้ผมฮาจนน้ำตาแทบไหล เพราะกว่าผมจะกลับบ้านอีกทีก็คงค่ำๆ นู่นแหละ ผมรู้ว่าแม่คงจะต้องเจอเข้ากับจู๋ปลอมของเธอเข้าให้แล้ว และมันทำให้ผมหยุดหัวเราะไม่ได้เลย” Chris กล่าว แล้วก็เป็นอย่างที่ทั้งคู่คิด…
-
นี่มันฝันร้ายชัดๆ !! สาวตื่นมากลางพร้อมกับอาการคันหู ก่อนจะพบว่าในหูมี ‘แมลงสาบ’
มันคงเป็นฝันร้ายของหลายๆ คนบนโลกใบนี้ หากการที่เผลอหลับไปแล้วแมลงต่างๆ นานา เข้าไปอยู่ในร่างกายของคุณ และพยายามจะทำอะไรสักอย่างกับร่างกายของคุณโดยที่คุณไม่อาจรู้ได้ เหมือนอย่างหญิงสาวจากรัฐฟลอริดาคนนี้ Katie Holley ต้องเผชิญกับฝันร้ายที่หลายๆ คนไม่อยากเจอ เมื่อหลังจากที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามันมีอะไรที่ไม่ปกติอยู่ในหูของเธอ ใช่แล้วมันคือ… แมลงสาบ… ในเดือนเมษายนที่เพิ่งผ่านมา Katie บอกว่าเธอตื่นขึ้นกลางดึกพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ ที่หูซ้ายของเธอ ซึ่งเมื่อเธอได้ลองสอดที่แคะหูเข้าไป สิ่งที่ได้ติดที่แคะหูออกมาก็คือเศษของเล็กๆ สีน้ำตาลเข้มสองชิ้น ซึ่งในต่อมากเธอก็รู้ว่านั่นคือเศษของขาแมลง นั่นก็แปลว่ามีแมลงกำลังทำอะไรกับรูหูของเธออยู่นั่นเอง เธอเริ่มหายใจเร็วและแรงกว่าปกติและรีบไปที่ห้องน้ำ ก่อนที่สามีของเธอจะรีบหาแว่นของตัวเองแล้วรีบตามเธอเข้าไปในห้องน้ำ สามีของเธอนั้นพยายามที่ดูเข้าไปในหูของเธอ และก็พบว่า ณ ที่นั้นมันมีแมลงสาบพยายามจะขุดหูของเธออยู่จริงๆ และด้วยเครื่องมือที่บ้านของเธอไม่สามารถที่จะนำเจ้าแมลงตัวร้ายออกมาจากหูของเธอได้ เธอจึงตัดสินใจที่จะไปโรงพยาบาลดีกว่า ณ ห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล เธอบอกหมอว่ารู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังตะเกียกตะกายอยู่ในหู หมอจึงได้ตัดสินใจใช้ยาชาเพื่อที่จะฆ่าแมลงสาบและแบ่งร่างของแมลงเป็นสามส่วนและนำมาออกมาได้สำเร็จ แต่นั่นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของปัญหา เมื่อเธอยังคงรู้สึกหนักหูของเธอมาตลอดเก้าวันหลังจากที่หมอได้นำแมลงสาบออกมา เธอจึงได้กลับเข้าไปพบแพทย์อีกครั้งและพบว่าจริงๆ แล้วมันยังมีชิ้นส่วนของแมลงสาบให้เอาออกเหลืออีกหกส่วน เธอได้ถูกส่งตัวไปให้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ENT (ตรวจหูตาจมูก) เขาได้ใช้เครื่องมือที่เป็นเหมือนกับกรรไกรทรงโค้งเพื่อไปคีบส่วนหัว ตัวและหนวดของแมลงสาบออกมา แพทย์ ENT ได้บอกว่าเคสที่แมลงเข้ามาอยู่ในหูแบบนี้เขาก็เจอได้อย่างต่ำเดือนละครั้งเลยล่ะ และ Katie นี่ก็เป็นรายที่สองของวันที่มารักษาอาการแบบนี้ ในที่สุดก็ผ่านพ้นกันไปสักทีสำหรับฝันร้ายของ…
-
Kim Kardashian เอาอีกแล้ว!! เปลือยกายทาดินเหนียวถ่ายแบบ และเอาไปทำขวดน้ำหอม!?
ขึ้นชื่อว่าข่าวของเจ๊ Kim Kardashian มันก็มีโอกาสประมาณครึ่งหนึ่งแล้วที่จะออกมาเป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซี่ๆ หรือโป๊ๆ เปลือยๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าว โพสต์รูปเปลือยตัวเปื้อนกากเพชร เมื่อปลายปี 2017 หรือ โชว์โป๊จนชาวเน็ตทำเวอร์ชันเด็กดีให้ เมื่อต้นปีนี้ ซึ่งก็แน่นอนว่าข่าวของเธอในครั้งนี้ก็ไม่พ้นเรื่องเซ็กซี่โป๊เปลือยอีกนั้นล่ะ เมื่อ Kim Kardashian ได้ออกมาโชว์เรือนร่างของเธออีกครั้งเพื่อโปรโมตน้ำหอมตัวใหม่ของตนเอง คราวนี้เธอมาในสภาพทาดินเหนียวตั้งแต่คอลงไปถึงเข่า และได้โพสต์ภาพเหล่านั้นลงบน Instagram ของเธอที่ชื่อ kkwfragance พร้อมๆ กับลิงก์ไปยังเว็บไซต์หลัก แม้ว่าจะมีการเบลอภาพหัวนมและของลับเพื่อป้องกันไม่ให้ผิดกฎของทาง Instagram ก็ตาม แต่ภาพที่ออกมาก็เรียกเสียงตอบรับจากแฟนๆ ของเธอได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับเหล่าแฟนๆ หนุ่มๆ มีผู้คนมากมายออกมาเอ่ยชมเรือนร่างของ Kim กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แม้ว่าจะมีคนบางส่วนมองว่าเป็นการใช้เรือนร่างเพื่อขายสินค้าก็ตาม แต่มันยังไม่จบอยู่เพียงเท่านั้น เพราะเจ้าดินเหนียวที่ทาอยู่บนร่างของเธอนั้น ถูกนำไปทำเป็นแม่พิมพ์ขวดน้ำหอมตัวใหม่ที่ว่าด้วย “เราทำแม่พิมพ์จากร่างกายของฉัน และทำให้มันเป็นขวดน้ำหอม @kkwfragrance” Kim บอกกับแฟนๆ ใน Instagram ก็ตามที่เห็นนั่นล่ะ คุณหนุ่มๆ คนไหนสนใจจะซื้อเรือนร่างของ Kim Kardashian มาครอบครองก็สามารถทำได้แล้วผ่านทางเว็บไซต์หลักของ kkwfragrance ได้เลย ที่มา mirror
-
จากแหล่งข่าวใกล้ชิดกับ ‘Selena Gomez’ เผย เธอยังคงคิดถึง ‘Justin Bieber’ อยู่ตลอด
หากเพื่อนๆ ยังจำได้ ในช่วงที่ผ่านมาสองสามเดือนนี้ จะมีข่าวอยู่ข่าวหนึ่งที่ทำให้แม่ยกอย่างเราๆ ฟินกันตัวแตก นั่นคือข่าวที่ Justin Bieber และ Selena Gomez อดีตแฟนหนุ่มแฟนสาวกลับมาคบกันอีกครั้งหนึ่ง สร้างเสียงฮือฮาให้กับแฟนๆ อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แต่ข่าวรีเทิร์นก็มีให้แฟนๆ ได้ดีใจกันไม่นานเท่าไหร่ก็มีข่าวเลิกรากันให้แฟนๆ ใจสลายกันอีกครั้ง ซึ่งมหากาพย์เรื่องราวความรักของสองคนนี้ก็ยังไม่จบอยู่ดี เมื่อมีรายงานว่า Selena นั้นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าคิดถึงแฟนเก่าและคิดถึงแต่เรื่องของเขา โดยที่แฟนๆ จะเห็นได้ว่า Selena นั้นกำลังเตรียมตัวที่จะปล่อยซิงเกิลใหม่ที่ชื่อเพลงว่า “Back to You” ซึ่งแฟนๆ ต่างคาดการณ์ว่าความหมายของเพลงนี้ต้องเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับ Justin Bieber แน่ๆ แถมเพื่อโปรโมตซิงเกิลใหม่ Selena ยังได้อัปโหลดรูปภาพใหม่บนอินสตาแกรมโดยที่มีแคปชั่นว่า “ฉันอยากกอดเธอ ในวันที่ไม่สมควรทำ…” ซึ่งน่าจะเป็นประโยคในเนื้อเพลงใหม่ของเธอ และก็มีอีกหนึ่งที่มาที่มีความใกล้ชิดกับ Selena ให้สัมภาษณ์ว่า “Selena นั้นยังคงแคร์ Justin อยู่มากๆ เขาจะเป็นรักจริงครั้งแรกของเธอตลอดไป และเธอก็คิดถึงเขาตลอดเวลาด้วย เธอคิดว่าเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากๆ คนหนึ่งที่เธอรู้จักและเธอก็ฟังเพลงของเขาแทบทุกวัน แม้ว่าตอนนี้เรื่องราวของพวกเขาจะไม่ได้เพอร์เฟกต์ แต่การที่ได้ฟังเพลงของเขาก็สามารถเก็บเขาไว้ใกล้กับใจของเธอได้”…
-
ชายหนุ่มเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป หลังจับได้คาหนังคาเขาว่า “ภรรยากำลังมีอะไรกับชายอื่น”
เราอาจเคยเห็นฉากการนอกใจในหนัง ในละคร หรือบางคนก็อาจได้เจอกับตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าความรู้สึกในตอนนั้นของผู้ที่ต้องพบว่าคนที่เรารักแอบไปมีอะไรกับคนอื่น มันคงเป็นสิ่งที่ไม่อาจอธิบายมาเป็นคำพูดได้เลย จนกลายเป็นการกระทำที่เราจะต้องรู้สึกเสียใจในภายหลัง Ira van den Heuvel คือหนึ่งในคนที่ต้องเจอกับเหตุการณ์อันเลวร้ายแบบนั้น เมื่อเขาจับได้คาหนังคาเขาว่าภรรยาของตัวเองกำลังมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นอยู่ และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปหลังจากนั้น เขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเมือง Green Bay รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกาว่า ในวันนั้นเขาออกไปทำงานตั้งแต่เช้า และต้องไปแจกใบปลิวต่อในช่วงหัวค่ำ แต่โชคดีที่เขาได้ไปเดินแจกอยู่บริเวณอาคารใกล้ๆ กับบ้านของตัวเอง เขาจึงตั้งใจที่จะแวบไปหาภรรยาและลูกชายที่บ้านสักเล็กน้อยในช่วงพักเบรค พอเขาถึงหน้าบ้านก็เห็นว่ามีรถกระบะคันใหญ่จอดอยู่ตรงทางเข้าออกของบ้าน ซึ่งเขาไม่เคยเห็นรถคันนี้มาก่อนเลย เขาจึงพยายามเช็กดูตรงประตูบ้านว่ามีร่องรอยของผู้บุกรุกหรือเปล่า Ira รู้สึกโล่งใจที่ไม่พบว่ามีการบุกรุกแต่อย่างใด จนกระทั่งเขาเดินไปถึงหน้าประตู เขาก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากหน้าต่างห้องนอนใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ชายหนุ่มเล่าว่า “ผมจำได้ว่านั่นคือเสียงครางของภรรยาในตอนที่พวกเรามีอะไรกัน แต่ตอนนั้นผมกลับได้ยินเสียงครวญครางของผู้ชายคนหนึ่งดังออกมาพร้อมๆ กันด้วย หืมมม อย่างนี้แล้วจะทำไงดี? จะทำไงดีล่ะ?” เขาเห็นว่าประตูแง้มอยู่เล็กน้อย เขาจึงตัดสินใจถีบประตูเข้าไปพร้อมกับพูดออกมาดังๆ ว่า “ที่รัก ผมกลับมาบ้านแล้ว” สิ่งที่เขาเห็นในตอนนั้น หลายๆ คนอาจมองว่ามันเป็นเหมือนกับในหนังตลกหลายๆ เรื่อง เพราะเขาต้องเจอกับแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่ง เปลือยกายรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ ในตอนนั้น…
-
โค้กญี่ปุ่นออกลายใหม่เป็นสาวๆ จากเรื่อง Ohenro อนิเมะจากสตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลัง Fate
ประเทศญี่ปุ่นกับตัวการ์ตูนเป็นของคู่กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ว่ากันว่าไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทไหน ก็จะต้องมีมาสคอตเป็นตัวการ์ตูน หรือไม่ก็มีการวาดตัวการ์ตูนจากสินค้านั้นๆ สักตัวสองตัว และแน่นอนว่าถ้าเป็นสิ่งที่จะสามารถเพิ่มยอดขายทางการค้าได้แล้ว มีหรือที่ผู้ผลิตจะไม่ทำ โดยเฉพาะผู้ผลิตเครื่องดื่มโคล่ารายใหญ่อย่างโคคาโคล่า หรือโค้ก ที่เคยออกสินค้าขายเฉพาะในญี่ปุ่นมามากมายอย่าง โค้กลายดอกซากุระ หรือโค้กลายสถานที่ท่องเที่ยว และในคราวนี้ก็ถึงเวลาของโค้กรูปแบบใหม่ ที่ออกขายเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ด้วยขวดที่ออกแบบมาเป็นลวดลายของ Megumi, Chiwa และ Mao สามตัวละครเอกจากอนิเมะเรื่อง Ohenro (おへんろ) ที่ผลิตโดยสตูดิโอ Ufotable ผู้อยู่เบื้องหลังอนิเมะซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Fate นั่นเอง Ohenro ชื่อของอนิเมะบนขวดนั้น แปลตรงๆ ได้ว่า “ผู้แสวงบุญ” และแน่นอนว่าอนิเมะเรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของการติดตามตัวเอกทั้งสาม ที่กำลังออกเดินทางไปตามวัด 88 แห่งบนเกาะ Shikoku หนึ่งในสี่เกาะใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวเชิงศาสนาที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันอีกด้วย จากซ้ายไปขวา Megumi, Chiwa และ Mao Megumi นั้นใส่หมวกที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้แสวงบุญใน Shikoku ส่วนสะพานด้านหลังมีชื่อว่าสะพาน Onaruto ซึ่งเชื่อมต่อระหว่าง Honshu ที่เป็นเกาะหลักของญี่ปุ่นกับเกาะ Shikoku อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการที่จะเป็นเจ้าของขวดโค้กสุดพิเศษขวดนี้…
-
ยอดโจร!! ขับรถกระชากกระเป๋าหญิงชรา ปล่อยเธอนอนเจ็บไม่สนใจ เจริญๆ นะพ่อหนุ่ม..
ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง ขโมยขโจรชุกชุมอยู่ในทุกแห่งหน โดยที่เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนเหล่านั้นจะทำเรื่องไม่ดีอะไรให้กับใครบ้าง พอคิดดูแล้วมันช่างเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากเหลือเกิน นี่จึงเป็นตัวอย่างของความโหดร้ายที่เกิดขึ้น ในเมือง Nashville รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา บริเวณลานจอดรถของโบสถ์ Lebanon Church of Christ โจรหนุ่มคนหนึ่งตัดสินใจกระชากกระเป๋าหญิงชราวัย 70 ปี โดยที่ไม่ดูดำดูดีเธอเลย หญิงชราผู้ตกเป็นเหยื่อ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 เวลาช่วงเที่ยงของวันนั้น กล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าหญิงชราผู้ตกเป็นเหยื่อกำลังเดินอยู่บริเวณลานจอดรถ ก่อนที่จะมีชายหนุ่มขับรถมาจอดข้างๆ เธอ ชายหนุ่มในรถคันนั้นถามเธอว่ามีที่พักที่ไหนอยู่ใกล้ๆ บ้าง ด้วยความใจดีหญิงชราจึงเดินเข้าไปพูดคุยและบอกทางกับเขาใกล้ๆ แต่แล้วชายหนุ่มก็คว้ากระเป๋าของเธอพร้อมกับขับรถไปข้างหน้าเพื่อจะกระชากให้หลุดออกมาจากแขนของเธอ โดยที่หญิงชราก็พยายามขัดขืนอย่างสุดความสามารถ แต่แน่นอนว่าหญิงชราวัย 70 ปีไม่มีทางจะสู้แรงของชายหนุ่มและแรงของรถได้ นั่นจึงทำให้กระเป๋าของเธอถูกกระชากไปได้ในที่สุด และเธอก็ล้มเอาหน้าลงกับพื้น นอนนิ่งไปด้วยความเจ็บปวด ผ่านไปไม่กี่วินาที เธอก็ลุกขึ้นมาดูอาการบาดเจ็บของตัวเองเพียงลำพัง ซึ่งจากการรายงานของตำรวจบอกว่าเธอมีแผลลึกที่ศีรษะและบริเวณข้อมือ รวมถึงกระดูกมือแตกอีกหลายชิ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถระบุตัวคนร้ายได้แล้ว เขามีชื่อว่า Gilbert D. Ostring Jr. วัย…
-
‘สุนัขถูกยิง’ และถูกทิ้งให้ตายบนถนน ได้รับการช่วยเหลือจนมีชีวิตใหม่ที่สดใสอีกครั้ง
คุณอาจจะเคยได้ยินเรื่องน่าทึ่งเกี่ยวกับสัตว์มาแล้วมากมาย แต่จะบอกว่าเรื่องราวของ Nugget สุนัขวัย 2 ปี เป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจที่สุด เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อมีคนโทรแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Second Chance Rescue NYC ว่าพบสุนัขนอนทรมานอยู่บนถนน ดูเหมือนกับมันถูกยิงมา เจ้าหน้าที่ของ Second Chance จึงมุ่งหน้าไปหาสุนัขทันที พวกเขาพยายามช่วยชีวิตมันอย่างสุดความสามารถ และได้ยินมาว่ามันชื่อ Nugget เจ้าหน้าที่พยายามเรียกให้เจ้าของสุนัขมาช่วย แต่พวกเขาไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับสุนัขตัวนี้อีกต่อไป และขอให้พามันไปทิ้งในศูนย์พักพิงสัตว์ นอกจากนี้ เจ้าของเดิมยังไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับรอยกระสุนบนร่างกายน้องหมา ทำให้ผู้ดูแลในศูนย์พักพิงรู้สึกเศร้าใจมาก ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ ขณะที่เจ้าของทอดทิ้งสุนัขตัวเองอย่างไม่ใยดี นั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Nugget ต้องการเจ้าของมากที่สุด… เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจพามันไปที่สถานพยาบาล เพื่อปฐมพยาบาลฉุกเฉินให้มันพร้อมทั้งเอ็กซ์เรย์ เพื่อตรวจสอบอวัยวะภายใน เมื่อผลเอ็กซ์เรย์ออกมาพบว่า กระสุนปืนได้ทะลุผ่านอวัยวะสำคัญของมันเกือบทุกส่วน… แม้ว่าสถานการณ์ของ Nugget จะไม่ค่อยดีนัก แต่มันเป็นมิตรและอ่อนโยนกับเจ้าหน้าที่ทุกคน… ตอนนี้น้องหมาจำเป็นต้องรับการผ่าตัดเพื่อเอากระสุนออก แค่เนื่องจากบาดแผลมันรุนแรงมาก เลยมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง โชคดีที่ผู้สนับสนุนบางคนได้ยินเรื่องราวของน้องหมาผ่านทางโซเชียล พวกเขาเลยระดมเงินจนเพียงพอต่อการผ่าตัดช่วยชีวิต Nugget อย่างไรก็ตามระหว่างผ่าตัดนั้น พวกเขาก็ได้พบกับปัญหาใหญ่ เพราะกระสุนได้เจาะทะลุท้อง…
-
ครอบครัวอยู่ร่วมกับเสือ 7 ตัว นานกว่า 8 ปี และรักพวกมันเหมือนคนในครอบครัว…
ปกติแล้ว เสือถือเป็นสัตว์อันตรายที่มนุษย์อย่างเราไม่ควรเข้าใกล้ เพราะมันอาจจะทำอันตรายเรา หรือเอาอาจจะตกเป็นอาหารของมันได้ แต่ชายคนนี้กลับอาศัยอยู่กับเสือถึง 7 ตัว อย่างใกล้ชิดและยอมรับมันในฐานะส่วนหนึ่งของครอบครัว… ย้อนกลับไปเมื่อปี 2005 Ary Borges ได้ทำสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิด นั่นคือการพาเสือ 2 ตัว เข้ามาอยู่ในบ้านของเขา Ary เชื่อว่าเขาได้ทำสิ่งที่เหมาะสมกับเสือทั้งสองตัว เพราะเป็นการช่วยไม่ให้พวกมันต้องเผชิญชีวิตที่เต็มไปด้วยอันตรายที่มีอยู่ในธรรมชาติ เขาตั้งชื่อให้เสือสองตัวนี้ว่า Dan กับ Tom และพามันไปอยู่ในบ้านที่ Maringa ประเทศบราซิล ร่วมกับภรรยาและลูกสาวอีก 3 คน ก่อนหน้านี้ Ary ไม่เคยเลี้ยงเสือมาก่อน แต่เขายินดีที่จะเรียนรู้วิธีการดูแลพวกมัน และทำให้ทั้งสองมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามที่พวกมันสมควรได้รับ เขาได้เตรียมบ้านครอบครัวโดยการสร้างระบบรักษาความปลอดภัย กรงกลางแจ้งขนาดใหญ่ เพื่อทำให้เสือทั้งสองมีอิสระมากที่สุด แม้จะมีที่กลางแจ้งที่กว้างขวาง แต่เสือสองตัวนี้ก็ยังคงชอบที่จะเข้าไปเล่นในบ้านเสมอ โดยที่ Ary ไม่กังวลเลยว่าลูกสาวทั้ง 3 จะอยู่ร่วมกับเสือได้หรือเปล่า หลังจากที่เข้ามาอยู่ในบ้านได้ไม่นาน Dan และ Tom ก็เริ่มกินอาหารร่วมกับครอบครัว Borges แล้วก็นอนเล่นบนพื้น เหมือนแมวเหมียวทั่วไป …
-
เจ้าตูบเหยียบรถไฟฟ้าพุ่งเข้าร้านโทรศัพท์ เจ้าของถึงกับงงนี่เอ็งทำอะไรลงไปฟะเนี่ย!!
สัตว์โลกแสนน่ารักอย่าง ‘น้องหมา’ เป็นสัตว์เลี้ยงที่สุดแสนจะมหัศจรรย์ เพราะความฉลาดของมันเป็นอันรู้กันว่ามีมากขนาดไหน แต่ว่าบางทีความฉลาดเกินไปของมันก็อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นมาได้ เหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่เจ้าตูบดันทะลึ่งขับรถพุ่งเข้าชนร้านขายของซะอย่างงั้น!! เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้เกิดขึ้นที่เมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดได้จับภาพวินาทีระทึกขวัญนี้เอาไว้ได้ทั้งหมดเลย เย้ย อะไรมันพุ่งเข้ามาในร้านฟะเนี่ย!! โดยกรณีสุดแสนจะโชคร้ายนี้เกิดขึ้นที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นก็เป็นเฉกเช่นวันธรรมดาปกติทั่วๆ ไป แต่ว่าจู่ๆ ก็มีรถไฟฟ้าคันหนึ่งพุ่งเข้ามาทางประตูอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วกวาดเอาตู้เก็บสินค้าแตกกระจายระเนระนาดไปจนหมด ก่อนที่จะหยุดนิ่งเข้ากับผนังของร้าน พัง พังหมดแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะสร้างความช็อกให้กับพนักงานที่อยู่หลังเคาน์เตอร์อยู่เหมือนกัน เพราะว่าเธอยืนหนึ่งไปอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะไปปรึกษากับชายอีกคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของร้านว่า มันเกิดอะไรขึ้น และเจ้ารถคันนี้มันเข้ามาในร้านได้อย่างไรกัน เป็นเจ้าตูบนี่เองที่เป็นตัวการเรื่องทั้งหมด ทว่าในเพียงอึดใจเดียว คำตอบของคำถามทั้งหมดก็ได้ถูกไขให้กระจ่างเมื่อมีหมาตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากที่นั่งฝั่งคนขับซะอย่างงั้น!! เจ้าของรถไฟฟ้าเข้ามาในร้าน แล้วเคลียร์สิ่งที่หมาของเขาทำลงไป ต่อมาความจริงทั้งหมดจึงได้เปิดเผยออกมาว่า รถคันนี้เป็นของคนขับรถคนหนึ่งที่จอดเอาไว้บริเวณร้านขายผลไม้ใกล้ๆ กับร้านขายโทรศัพท์แห่งนี้ แต่ว่าทางคนขับไม่ได้ดับเครื่องยนต์และทิ้งหมาเอาไว้ในรถ เพราะคิดว่าจะลงไปซื้อของครู่เดียว ทว่าเจ้าตูบดันไปเหยียบคันเร่งเข้า จึงได้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นนั่นเอง เป็นภาระต้องเข็นออกอีก กลับบ้านเอ็งโดนดีแน่ แต่ก็ยังมีความโชคดีอยู่ที่ว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใดๆ เลยในเหตุการณ์สุดประหลาดเช่นนี้ ซึ่งทางร้านและเจ้าของรถก็ได้ตกลงเรื่องค่าชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกันเรียบร้อยแล้ว……
-
หอมกลิ่นมาดาม… หนุ่มจีนปิ๊งไอเดียหมอนรูป “ก้น” ให้คุณหนุนนอนได้อย่างสบายใจ
ในชีวิตนี้คุณเคยนอนหนุนตักของใครสักคนไหม? อย่างน้อยๆ ก็อาจจะเคยนอนตักพ่อตักแม่มาบ้าง มันให้ความรู้สึกอบอุ่นจนที่ประเทศญี่ปุ่นถึงขั้นมีการผลิตหมอนรูปทรงตักออกมาให้คนลองซื้อไปหนุนกันเลย และด้วยความคิดสุดบรรเจิดของมนุษยชาติ ก็ได้มีคนคิดค้นหมอนรูปแบบใหม่ออกมาอีกแล้ว จะว่าไปมันก็ใกล้เคียงกับหน้าตักนะ เพียงแต่มันเป็น “ก้น” นั่นเอง… หมอนที่คุณได้เห็นอยู่นี้มีชื่อว่า The Buttress หรือแปลง่ายๆ ได้ว่าก้นนั่นแหละ มันถูกออกแบบโดยชาวจีนที่ชื่อว่า Jiayang Guo “The Buttress ทำมาจากยางพาราธรรมชาติและมีรูปทรงเป็นก้นขนาดใหญ่ที่สวยงาม มันไม่ใช่แค่มีรูปร่างเหมือนก้น แต่ยังให้ความนุ่มสบายสำหรับศีรษะและเหมาะกับผู้ใช้ทุกคน” นาย Jiayang กล่าว หมอน The Buttress นั้นสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้แบบ 100% ป้องกันภูมิแพ้และไรฝุ่น นอกจากนี้ทางเว็บไซต์ของผู้ผลิตยังยืนยันอีกว่าหมอนก้นใบนี้สามารถนอนหนุนได้ทุกตำแหน่ง รวมถึงการเอาหน้า “ซุก” ลงไปก็ทำได้เช่นกัน ทีมงานที่ประดิษฐ์หมอนนี้ขึ้นมากล่าวถึงไอเดียแรกเริ่มของหมอนนี้ว่า “วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่บอสของเราเอนตัวลงเพื่องีบหลังจากที่เพิ่งคุยกับแฟนของเขา บอสของเราก็รู้สึกว่าเขานอนได้ง่ายมากขึ้นถ้าเขาวางมือลงบนก้นของเธอ” ไม่มีตูดจริงๆ ก็ตีหมอนไปก่อน แต่น่าเสียดายที่หลังจากประดิษฐ์หมอนนี้ขึ้นมาแล้ว Jiayang ก็เลิกกับแฟนสาวไปอย่างน่าเศร้า แต่เขาก็ยังทำหมอนนี้ต่อไปและบอกด้วยว่าหากใครซื้อเจ้าหมอน The Buttress ไปล่ะก็ ได้ของแถมเป็นชุดชั้นในและน้ำหอมที่คล้ายกับที่แฟนเก่าของเขาเคยใช้ (แน่นอนว่ามันคือของใหม่) ใครสนใจลองเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ kickstarter ของพวกเขาได้เลย…
-
หนุ่มอินเดียเล่นพิเรนทร์ จอดแวะข้างทางพยายามเซลฟี่กับหมี แต่โดนขย้ำจนเสียชีวิต
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหารุนแรงที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] แม้ว่าหมีจะเป็นสัตว์ที่ถูกนำเสนอในสื่อหลายๆ แบบว่าเป็นสัตว์ขนปุยที่ดูน่ารักใจดี (เช่นในการ์ตูน) แต่ในความเป็นจริงมันเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้ายและเอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะทุกวันนี้เรายังเห็นข่าวคราวว่าคนถูกหมีทำร้ายร่างกายอยู่ไม่ขาด ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2018 เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่ามีชายหนุ่มชาวอินเดียรายหนึ่งถูกหมีเข้าทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เนื่องจากพยายามที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเซลฟี่กับมัน ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มรายนี้มีชื่อว่า Prabhu Bhatara ในวันเกิดเหตุเขาได้นั่งรถตู้กลับจากงานแต่งงานของเพื่อนคนหนึ่ง ในระหว่างทางรถตู้ได้จอดข้างทางบริเวณหมู่บ้านปาปาดาฮานดิ รัฐโอริศา เพื่อให้ผู้โดยสารแวะเข้าห้องน้ำ ในตอนนั้นเหมือนนาย Prabhu จะเห็นหมีบาดเจ็บตัวหนึ่งนั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เขาเลยเดินเข้าไปใกล้ๆ หวังที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพร่วมกับมันแบบใกล้ๆ เมื่อคนบนรถเห็นเข้าทุกคนก็พยายามส่งเสียงเตือนเขาว่าการถ่ายภาพแบบนั้นมันอันตราย แต่การเตือนของทุกคนดูจะช้าเกินไปเพราะเขาเข้าใกล้เจ้าหมีจนถูกมันโจมตีเข้าแล้ว ชายหนุ่มถูกหมีกัดก่อนจะเหวี่ยงร่างของเขาไปมา แม้ในระหว่างนั้นจะมีสุนัขเห่าและคนส่งเสียงเพื่อไล่เจ้าหมีแต่ก็ไม่มีทีท่าที่เจ้าหมีจะหยุดง่ายๆ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ต้องรีบเข้ามายิงยาสลบเจ้าหมี เพื่อให้มันสงบลงแล้วเข้าไปกู้คืนร่างของชายหนุ่ม นี่เป็นการเสียชีวิตด้วยการถ่ายรูปกับสัตว์เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ในรัฐโอริศา ก่อนหน้าในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2017 มีชายวัย 50 ปีพยายามเข้าไปถ่ายภาพเซลฟี่กับช้างตัวหนึ่ง แต่ก็ถูกมันเหยียบจนเสียชีวิต และในเดือนเดียวกันนั้นเองก็มีข่าวว่าเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิตเนื่องจากพยายามถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกับมัน ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่ ที่มา mirror , nypost
-
เจ้าหน้าที่พบศพ ‘หนุ่มผิวเผือก’ ชิ้นส่วนร่างกายหายไป คาดถูกนำไปใช้ใน ‘พิธีมนตร์ดำ’
เด็กหนุ่มผิวเผือกถูกพบกลายเป็นศพฝังอยู่ใต้ดินในประเทศมาลาวี ชิ้นส่วนของร่างกายบางส่วนของเขาหายไป ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเขาไว้ได้ถึง 11 ราย ศพของนาย McDonald Masambuka วัย 22 ปี ถูกพบฝังอยู่ใต้ดิน ทางใต้ของประเทศมาลาวี ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังหายตัวไปก่อนหน้านี้นานหลายสัปดาห์ เขาเป็นหนึ่งในคนผิวเผือกที่ตกเป็นหนึ่งเหยื่อการถูกฆาตกรรมจากทั้งหมด 22 คน ในรอบ 4 ปีล่าสุดของประเทศมาลาวี จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าการตายของพวกเขาเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ โดยเชื่อว่าชิ้นส่วนของคนผิวเผือกสามารถนำไปใช้ทำเป็นยาเวทมนตร์ได้ กลุ่มคนที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยมีทั้งบาทหลวง ตำรวจ และคนปรุงยามืออาชีพ ซึ่งประชาชนของประเทศมาลาวีเองก็ออกมารณรงค์ให้ทำการประหารชีวิตของคนที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมในครั้งนี้ คุณพ่อ Thomas Muhosha นักบวชนิกายคาทอลิก หนึ่งในผู้ต้องสงสัย ขณะเดียวกันรัฐบาลของประเทศมาลาวี ได้ประกาศยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ล่าสุดก็กำลังอยู่ในช่วงพิจารณาว่าจะนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง นาย Peter Mutharika ประธานาธิบดีของประเทศมาลาวี ที่รับปากว่าจะนำเรื่องของการนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้อีกครั้ง ทางด้านองค์กรช่วยเหลือเหล่าบุคคลผิวเผือกหรือ Association of People with Albinism ที่ดูแลเหล่าคนผิวเผือกมากกว่า…
-
ครอบครัวเพิ่งมารู้ตัวว่า ‘ลูกชาย’ ที่เลี้ยงมาตลอด 38 ปี ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตัวเอง!?
ย้อนกลับไปในปี 1980 คุณ Radigena และ Geraldo Gaspar สองสามีภรรยาเดินทางกลับบ้านจากโรงพยาบาลพร้อมกับลูกชายที่เพิ่งให้กำเนิดมาชื่อว่า Romualdo อย่างไรก็ตามวันเวลาผ่านไป เขาค่อยๆ เติบโตขึ้นมาและพบว่าหน้าตาของเขาไม่เหมือนใครในครอบครัวเลยแม้แต่น้อย นาย Romualdo จึงตัดสินใจไปตรวจ DNA และพบว่าเขาไม่ใช่ลูกของพ่อแม่ที่เลี้ยงมาตลอดทั้งชีวิต หลังจากที่ผลออกมาแล้ว ทุกคนในครอบครัวก็มาปรึกษากันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พวกเขาเดินทางไปขอดูบันทึกเหตุการณ์ในโรงพยาบาล Monsenhor Genesio ที่เมือง Juruaia และพบว่าในวันเกิดเหตุมีเด็กผู้ชายสองคนเกิดในเวลาไล่เลี่ยกัน เด็กชายคนหนึ่งคือคนที่ครอบครัว Gaspar พากลับไปที่บ้าน ส่วนอีกคนหนึ่งถูกตั้งชื่อว่า Noel ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นลูกชายของพวกเขา แต่น่าเศร้านักเพราะในบันทึกระบุเอาไว้ว่าเด็กชาย Noel นั้นเสียชีวิตลงหลังจากนั้น 1 ปี ขณะเดียวกัน Romualdo เองก็ไม่รู้มาก่อนว่าตนเองนั้นมีน้องสาวแท้ๆ อยู่ ซึ่งก็คือ Nelma Rezende พอได้ทราบข่าว เธอก็ร่วมมือกับสามีของเธอออกตามหาพี่ชาย พวกเขาตรวจ DNA กันอีกครั้งและพบว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของนาย Romualdo ก็คือพ่อแม่ของ Nelma…
-
ตัวอย่างอันเลวร้าย.. เมื่อคุณแม่ประเคนบาทา เพราะเด็กสาวไม่ยอมให้ลูกของเธอแซงคิว
พ่อแม่และผู้ปกครองคือบุคคลสำคัญในการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ แต่ในบางครั้งมันก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เมื่อคุณแม่ชาวจีนคนหนึ่งได้แสดงกิริยาที่ไม่อาจรับได้ต่อหน้าลูกของเธอ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นที่เมือง Changsha ประเทศจีน ได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทขึ้นขณะที่โรงเรียนแห่งหนึ่งพาเด็กจำนวนมากไปเข้าต่อคิวเล่นสไลเดอร์ (กระดานลื่น) หลังจากนั้นคุณแม่สวมหมวกแดงคนหนึ่งก็พาลูกชายมา หวังจะให้ลูกของเธอเข้าไปแทรกกลางระหว่างแถวหรือก็คือพยายามให้ลูกของเธอได้แซงคิวนั่นเอง แต่ว่าเด็กหญิงที่ยืนต่อคิวอยู่ปฏิเสธไม่ให้ลูกชายของคุณแม่คนดังกล่าวเข้ามาแซงได้ เด็กหญิงคนนั้นจึงตอบคุณแม่หมวกแดงไปว่า “อย่าแซงคิวสิคะ ทุกๆ คนเขาก็ต่อคิวรอกันทั้งนั้น” ประโยคนั้นสร้างความไม่พอใจต่อคุณแม่คนดังกล่าวเป็นอย่างมาก ตอนแรกเธอทำเหมือนกับว่าเดินจากไปเฉยๆ แต่จู่ๆ ก็หันกลับมาพุ่งถีบเด็กผู้หญิงจนล้มลงไป พร้อมกับเตะซ้ำอย่างแรง คุณแม่หมวกแดงทั้งถีบ ทั้งเตะซ้ำ หลังจากเหตุการณ์นั้นถึงทราบว่า เด็กผู้หญิงที่โดนถีบอย่างแรงมีชื่อว่า Meng Meng วัย 9 ขวบ ซึ่งตอนนี้ต้องเผชิญกับฝันร้ายเพราะไม่สามารถลืมเหตุการณ์ในวันนั้นได้ แม่ของ Meng Meng ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เธอต้องการให้ผู้หญิงหมวกแดงคนนั้นแสดงตัวออกมา และเข้ามาขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายหลังทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 19 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องของการดำเนินคดี แต่นี่ถือว่าเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก…
-
ชายอังกฤษผู้เคยถูกแม่ชีข่มขืน ได้พบกับลูกเป็นครั้งแรกหลังจากที่แยกกันอยู่กว่า 62 ปี
Edward Hayes ชายชราวัย 76 ปีได้พบกับลูกสาวของเขาเป็นครั้งแรก หลังจากที่เวลาผ่านไปกว่า 62 ปี เมื่อตอนที่เขาอายุได้เพียง 12 ปี เขาเคยถูกข่มขืนต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 3 ปีโดยแม่ชีคนหนึ่ง ที่ Lytham St Annes มณฑลแลงคาสเชอร์ ประเทศอังกฤษ ในช่วงยุค 50 ภาพของ Edward ในวัย 76 ปี Edward บอกว่าแม่ชีคนดังกล่าวในที่สุดก็ตั้งครรภ์ และเขาเชื่อว่าเธอถูกส่งกลับไปยังประเทศไอร์แลนด์ด้วยความอับอายขายหน้า ส่วนตัวเขาใช้ชีวิตต่อไปจนแก่ใน Carlisle โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าลูกของเขานั้นเป็นอย่างไรต่อไป ภาพของ Edward ในตอนเด็ก เรื่องราวของเขาได้ถูกแชร์ออกไปตามสื่อต่างๆ จนกระทั่งมีคนสะกิดใจกับชื่อของแม่ชีที่เคยข่มขืนเขา ซิสเตอร์ Mary Conleth หรือชื่อจริงที่ว่า Bessie Veronica Lawler ได้เดินทางมาที่ Guildford ในกรุงลอนดอนเพื่อคลอดลูกสาว ก่อนที่จะกลับมายัง Lytham โดยหวังว่าจะพบกับ Edward อีกครั้ง เมื่อเธอไม่สามารถหา Edward พบ Conleth ก็กลับไปที่ไอร์แลนด์…
-
ชีวิตแสนสุขของชายผู้อาศัยอยู่ในปราสาท (ทราย) ใช้ชีวิตเยี่ยงราชา ไม่เสียเงินสักบาท!?
เรื่องราวชีวิตของชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในปราสาทสุดหรูริมทะเล แถมไม่เสียเงินในการอยู่อาศัยเลยแม้แต่บาทเดียว!! ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Marcio Mizael Matolias หนุ่มชาวบราซิลวัย 44 ปี ที่หลีกเลี่ยงการจ่ายค่าเช่าในเมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ด้วยการอาศัยอยู่ในปราสาท…..ทราย ที่ทำขึ้นมาเองมาแล้วกว่า 22 ปี แทนที่จะซื้อหรือเช่าบ้านอยู่ แต่เขากลับสร้างสรรค์ปราสาททรายบนชายหาด Barra da Tijuca แล้วอาศัยอยู่ที่นั่น Matolias เป็นชายโสดไม่มีภรรยาและลูก เขาสวมมงกุฎและทำท่าทางเหมือนกับว่าเป็นราชาผู้เป็นเจ้าของปราสาท จนนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่มาหาต่างก็แวะเข้ามาถ่ายรูปด้วยและยกฉายาให้เขาเป็น ‘The King’ “ผมเติบโตมาในอ่าว Guanabara ผมอยู่กับหาดทรายมาตั้งแต่เด็ก ผู้คนมักจะจ่ายเงินราคาแสนแพงเพื่ออาศัยอยู่ใกล้ๆ กับทะเล แต่ผมไม่มีเงินและตอนนี้ผมก็มีชีวิตที่ดีเหมือนกันนะ” Matolias เล่า ปราสาททรายที่เขาสร้างขึ้นมานั้นไม่เหมือนกับปราสาททรายที่สร้างขึ้นมาในงานประกวดทั่วๆ ไป แต่เขาจะทำห้องสำหรับอยู่อาศัยไว้ข้างในด้วย ซึ่งจะมีพื้นใช้สอยอยู่ราวๆ 3 ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งภายในก็จะมีหนังสือมากมาย และที่นอนสำหรับการพักผ่อน “บางครั้งมันก็ทำให้ผมกลัวเหมือนกันนะข้างในนั้น เพราะมันแคบมาก ผมชื่นชอบในความไม่จีรังยั่งยืนของมัน ฉะนั้นมันเลยทำให้ผมไม่ยึดติดเหมือนกับคนอื่นที่บอกว่า สิ่งนี้เป็นของฉัน สิ่งนั้นเป็นของฉัน” …
-
รีวิว “ทัวร์กัญชา” ในเขตพิเศษ “คริสเตียเนีย” แห่งเมืองโคเปนเฮเกน แม้ข้างทางก็มีกัญชาปลูก
สำหรับผู้ที่ชอบในเรื่องของสมุนไพร (อะแฮ่ม กัญชา) ก็คงจะรู้กันดีว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในบ้านเราและในหลายๆ ประเทศทั่วโลก จึงมีหลายๆ คนที่พยายามขวนขวายที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศที่อนุญาตให้มีการบริโภคสมุนไพรสีเขียวนี้ได้อย่างเสรี ในประเทศเดนมาร์กเองก็ถือว่ากัญชาเองเป็นสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน แต่มีเขตพิเศษเขตหนึ่งที่ชื่อคริสเตียเนีย (Christiania) ในเมืองโคเปนเฮเก้น ที่ซึ่งคุณสามารถหาซื้อกัญชาและทุกๆ อย่างเกี่ยวกับมันได้อย่างง่ายดาย เมื่อไม่นานมานี้ได้มีเพจที่ชื่อว่า TreeHC ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่คริสเตียเนียมา และได้แบ่งปันประสบการณ์ชวนเคลิ้มกับพวกเรา จะสวยงามและน่าไปเที่ยวขนาดไหนเราลองมาดูกันเลยครับ คริสเตียเนียมีพื้นที่ราวๆ 240 ไร่ เป็นเขตพิเศษที่มีเหล่าฮิปปี้รวมตัวกันอยู่มาก มีประชากรราวๆ 850-900 คน อดีตเคยเป็นที่ตั้งของค่ายทหารเก่ามาก่อน สถานที่แห่งนี้เคยเป็นพื้นที่รกร้างของกองทัพโคเปนเฮเก้น ถูกคนหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งเข้ายึดครอง ก่อร่างชุมชนแห่งเสรีภาพที่ประกาศปกครองตนเอง และแสดงจุดยืนในการต่อต้านสงคราม และนิวเคลียร์เป็นเมืองอิสระปกครองกันเองไม่ขึ้นต่อรัฐ เป็นดินแดนแห่งเสรีชนหรือฮิปปี้ ทางเข้าเขตคริสเตียเนีย ธงประจำเมืองคริสเตียเนีย กฎในเขตคริสเตียเนียมีสามข้อ 1. จงมีความสุข 2. ห้ามวิ่ง 3. ห้ามถ่ายรูป เนื่องจากเป็นเขตเสรี จึงมีต้นกัญชาให้เราพบเห็นได้ตามข้างทาง ในเขตคริสเตียเนียจะมีรถสามล้อที่ขายกัญชา และนี่คือภายในรถสามล้อที่ว่านั่น อุปกรณ์ภายใน . .…
-
คุณครูสาวถูกไล่ออก หลังมีคลิปเธอ “ยืนกระทืบเท้าบนโต๊ะ” เพื่อปลุกนักเรียนที่แอบงีบ
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าคุณครูสาวจากรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ถูกเชิญออกจากโรงเรียน หลังแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างการกระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนโต๊ะนักเรียนแล้วกระทืบโต๊ะ และยังมีการดึงผมเด็กนักเรียน เพื่อปลุกให้เขาตื่นจากการงีบในห้องเรียน ตามรายงานบอกว่าคุณครูสาวรายนี้มีชื่อว่า Lisa Houston เป็นครูที่สอนหนังสือในโรงเรียนแห่งนี้มานานกว่า 27 ปี แต่หลังจากที่คลิปเหตุการณ์ของเธอถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคำสั่งให้เธอออกจากการสอนหนังสือทันที คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ที่เธอยืนอยู่บนโต๊ะของนักเรียนคนหนึ่งที่หลับในห้องเรียน ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมห้องที่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้พร้อมกับเสียงหัวเราะ ต่อมาเธอก็ได้ใช้เท้าเขี่ยไปที่นักเรียน มีการหยิบผมของเขาขึ้นมาเพื่อปลุกให้ตื่น จากนั้นเธอก็ได้กระทืบลงไปบนโต๊ะอยู่หลายครั้ง Houston ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่าสิ่งที่แสดงออกไปนั้นไม่ได้เกิดจากความโมโห แต่เป็นเพราะเธอทำแบบนั้นเป็นประจำอยู่แล้ว “ถ้าคุณไปถามเด็กๆ คนไหนก็ตามที่เรียนกับฉัน พวกเขาจะบอกคุณว่าฉันหยอกล้อพวกเขา ทำให้พวกเขาตื่นตัวและหัวเราะตลอด” นอกจากนี้เธอยังเสริมอีกว่าสถานการณ์จริงๆ มันไม่ได้ดู “เลวร้าย” เท่ากับที่คลิปวิดีโอแสดงให้เราเห็น “ถ้าคุณไม่รู้ถึงสถานการณ์จริงๆ คุณจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันไม่ใช่การกระทำที่มุ่งร้าย มันก็แค่สนุกๆ กัน ฉันอยากให้สาธารณชนรู้ว่าฉันรักนักเรียน และพวกเราก็สามัคคีกันดีมากๆ ฉันคงไม่ทำอะไรที่มันทำร้ายเขาหรอก” ด้านนาย…
-
หลอนจริงไม่ติงนัง… ช่างซ่อมพบศพ ติดอยู่หลังกำแพงห้องน้ำ ในห้างสรรพสินค้า
คุณคิดว่าปกติแล้วควรมีอะไรอยู่ในห้องน้ำห้างสรรพสินค้าบ้าง? กระดาษทิชชู่ ชักโครก อ่างล้างมือ โถปัสสาวะ อะไรประมาณนั้นสินะ แต่ว่าห้องน้ำแห่งนี้มันกลับมีอะไรที่มากกว่านั้น และเหนือความคาดหมายของทุกคนไปอย่างแน่นอน สิ่งที่ว่ามานั้นถูกพบในห้างฯ The Core เมือง Calgary ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2018 ช่างซ่อมบำรุงได้เข้าไปตรวจสอบห้องน้ำหญิงชั้น 4 ใกล้กับบริเวณศูนย์อาหาร แต่กลับพบศพของชายคนหนึ่งติดอยู่บริเวณด้านหลังกำแพงห้องน้ำ เจ้าหน้าที่รายงานว่าช่างซ่อมบำรุงคนดังกล่าวได้รับแจ้งว่าชักโครกภายในห้องน้ำหญิงไม่ยอมฉีดน้ำอัตโนมัติ จึงเข้าไปเลื่อนเปิดแผ่นโลหะปิดผนังบริเวณด้านหลังชักโครก ทำให้เจอศพของผู้ชายคนนั้นเข้า บริเวณที่ช่างซ่อมบำรุงพบศพ ปัจจุบันตำรวจยังคงไม่สามารถระบุตัวตนของศพดังกล่าวได้ แต่คาดว่ามีอายุประมาณ 20 ปี และดูแล้วน่าจะเข้ามาในห้องน้ำหญิงตอนกลางคืนวันที่ 27 เมษายน 2018 ก่อนที่จะปีนเข้าไปในช่องลมด้านบน จนกระทั่งติดอยู่บริเวณช่องว่างระหว่างกำแพง ทำให้เสียชีวิตลงในที่สุด ทางด้านช่างซ่อมบำรุงที่พบศพก็รู้สึกเสียขวัญ และจำเป็นต้องพักงานชั่วคราว เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายศพออกไป สร้างความขวัญผวาให้กับทุกคนที่กำลังเดินเล่นอยู่ภายในห้างฯ นับว่าเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย ใครจะไปคิดว่าห้องน้ำที่เราเข้าไปใช้บริการจะมีร่างของคนตายอยู่ด้านหลัง ไม่แน่ว่าห้องน้ำในบ้านเราอาจมีอะไรลี้ลับซ่อนเอาไว้อยู่เหมือนกัน ก็เป็นได้… ที่มา: globalnews , theguardian , new.qq
-
หนุ่มถูกพ่อเพื่อนสาวทำร้ายเพราะไปรังแกเธอ ‘ขอความเป็นธรรม’ อ้างเขาเองก็ถูกรังแก!!
เด็กหนุ่มวัย 14 ปี ถูกพ่อของเพื่อนผู้หญิงที่เขากลั่นแกล้งทำร้ายร่างกาย เขาเล่าว่าตนเองต้องตกอยู่กับฝันร้ายและอ้างว่าตกเป็นเหยื่อของการถูกรังแก เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2561 เว็บไซต์เดลีย์เมลรายงานว่า เด็กหนุ่มไม่สามารถเปิดเผยชื่อเนื่องจากข้อกฎหมาย ถูกบีบคอโดยนาย Mark Bladen วัย 53 ปี ที่ลานสเกตบอร์ด Brisbane เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา จากข้อมูลที่ถูกเปิดเผยโดยทนายความของเด็กหนุ่ม ระบุเอาไว้ว่าเขาต้องตกเป็นเหยื่อของการรังแกตั้งแต่ถูกทำร้ายร่างกายในครั้งนั้น “ผมรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ร้องไห้ทุกคืนและฝันร้ายอยู่บ่อยครั้ง ใบหน้าของชายที่บีบคอผมยังติดอยู่ในหัว” “ผมเป็นแค่เด็กอายุ 14 ปี และการเรียนของผมก็ตกลงเพราะประสบการณ์อันเลวร้ายที่ต้องผมเจอ ผมต้องพยายามที่จะใช้ชีวิตอยู่กับมัน เป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ” ทางด้านนาย Mark และภรรยา ก็ออกมาเล่าว่าก่อนหน้านี้ ลูกสาวของเขาต้องใช้ชีวิตตกอยู่ในความกลัว และภาวะซึมเศร้า หลังจากถูกรังแกที่โรงเรียน เขาเล่าว่า ตัวเขาเองไม่ได้จงใจรังแกเด็กชายคนดังกล่าว แต่ที่ทำไปก็เพราะลูกสาวของตัวเองถูกล้อว่าเป็น ‘คิงคอง’ และถูกเอาครีมโกนหนวดมาหลอกให้กินในวันคริสต์มาสโดยเด็กหนุ่มคนนั้น “เมื่อผมถามว่าใครเป็นคนแกล้ง ลูกสาวผมของผมร้องไห้และบอกว่าเขาอยู่ที่ลานสเกต และผมก็บอกว่าแค่นี้แหละ เดี๋ยวพอจะไปพูดกับเขาเอง”…
-
นักข่าวสาวถูกแฟนบอล ‘ลวนลาม’ ขณะถ่ายทอดสด เพราะคิดว่าเธอจะไม่ตอบโต้.. เงิบเด้!!
นักข่าวสาวช่อง Fox Sports Mexico ใช้ไมโครโฟนทุบแฟนบอลที่เข้ามาลวนลามเธอผ่านการถ่ายทอดสด จนกลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโซเชียลเน็ตเวิร์ก… Maria Fernanda Mora ได้ทำการรายงานข่าวอยู่หน้าสนามกีฬา Guadalajara เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศหลังจากที่ทีมฟุตบอลเจ้าบ้านเอาชนะทีม Toronto ไปได้ แฟนบอลทุกคนต่างก็ดีใจ ขณะที่ Maria ก็มาทำหน้าที่รายงานภาพบรรยากาศของชัยชนะ ซึ่งๆ แฟนบอลหลายคนต่างก็เข้ามาร่วมกันดีใจที่หน้ากล้อง แต่ดูเหมือนว่าแฟนบอลผู้ชายคนหนึ่งกระโดดโลดเต้นเข้ามาใกล้ชิดกับเธอมากเกินไป และได้กระทำการบางอย่างที่ Maria ไม่อาจรับได้ เธอจึงหันกลับไปใช้ไมโครโฟนทุบเข้าที่ตัวของแฟนบอลคนดังกล่าว แน่นอนว่าการถ่ายทอดสดในครั้งนี้มีแฟนๆ ช่องกีฬา Fox รับชมอยู่ทั่วโลก จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายถึงการกระทำของเธอ ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… หลังจากเกิดเหตุ Maria ก็ออกมาโพสต์ผ่านทวิตเตอร์เพื่อบอกเล่าถึงความรู้สึกของเธอกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “สิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันในวันนั้น เป็นเรื่องที่ผู้หญิงนับพันคนต้องพบเจอทุกวัน ตามพื้นที่สาธารณะ แต่สิ่งที่แตกต่างเมื่อมันเกิดขึ้นกับฉันขณะถ่ายทอดสดอยู่นั้นคือฉันตัดสินใจที่จะปกป้องตัวเอง การกระทำของฉันเป็นการเปิดเผยความจริง ให้กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียล” เธอเล่าต่อว่า “ตอนแรกฉันคิดว่าการจับและลูบคลำนั้นมันอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุก็ได้ เพราะทุกคนเข้ามาเบียดกันเพื่อเข้ากล้อง ฉันก็เลยไม่สนใจและพูดดำเนินรายการต่อไป”…
-
คลิปที่นักศึกษาถ่ายเหตุการณ์ 9/11 “เครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรด” กลับมาเป็นไวรัลอีกครั้ง…
หนึ่งในเหตุการณ์วินาศกรรมสะเทือนขวัญไปทั่วโลก ในวันมหาวิปโยคที่สุดแห่งมวลมนุษยชาติ คือเหตุการณ์เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ ณ วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 (หรือ 9/11) โดยกล่าวกันว่าเป็นความผิดของกลุ่มอัลกออิดะฮ์ โดยมี อุซามะฮ์ บิน ลาดิน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 2,996 ราย เวลาผ่านมาแล้วเกือบ 17 ปี แต่ทว่าภาพจำจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำของญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น และชาวอเมริกันเป็นส่วนใหญ่ แต่แล้วคลิปวิดีโอฟุตเทจส่วนตัว ก็กลับโผล่ออกมาอีกครั้ง อันเป็นมุมกล้องจากอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยนิวยอร์ก Caroline Dries ในขณะที่อยู่ในหอพักชั้น 32 อาคาร 200 Water Street ปัจจุบัน Caroline ทำงานทางด้านโปรดิวเซอร์และเขียนบทสื่อโทรทัศน์ตามรายการต่างๆ เช่น Smallville, Melrose Place และ The Vampire Diaries คลิปวิดีโอเหตุการณ์ 9 /11 ที่กำลังกลายเป็นกระแสไวรัลอีกครั้ง…
-
สาวถ่ายรูปบันทึก ‘ความเปลี่ยนแปลง’ ทุกวันตลอดระยะเวลา 8 ปี จากละอ่อนน้อยสู่สาวสะพรั่ง
ความอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของธรรมชาติ ก็คือการ ‘เจริญเติบโต’ ของสิ่งมีชีวิตที่แหละ แต่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยสังเกตเห็นและให้ความสำคัญกับมันสักเท่าไหร่ แต่สำหรับหญิงสาวคนนี้ เธอบันทึกทุกช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง ด้วยการถ่ายเซลฟี่หน้าตัวเองทุกวันเป็นเวลากว่า 8 ปี!! Eadington นักศึกษาวิชาการออกแบบวัย 22 ปี จากรัฐแคนซัส ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ที่เมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ ภาพถ่ายแรกตอนอายุได้ 14 ปี และเธอเริ่มต้นทำภารกิจการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นประจำทุกวันตั้งแต่อายุ 14 ขวบ แล้วก็เอามาทำเป็นคลิปวิดีโอแบบ Timelapse เพื่อให้เห็นถึงการเติบโตของเธอเป็นระยะเวลา 8 ปี “ฉันเคยเห็นจากในอินเตอร์เน็ตว่าเคยมีคนทำแบบนี้มาก่อน และฉันก็คิดว่ามันน่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นพัฒนาการเติบโตของตัวเอง ว่าจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ซึ่งสิ่งที่ยากที่สุดของการทำแคมเปญนี้ก็คือการจัดหน้าให้ตรงกันเพื่อที่จะนำไปทำเป็นวิดีโอ” Eadington กล่าวถึง ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 8 ปี ตั้งแต่เริ่มถ่ายภาพมา และนี่คือคลิปวิดีโอ Timelapse ที่เธอทำขึ้นมาโดยมีความยาวแค่ 3 นาทีเท่านั้น คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก มียอดวิวเพิ่มขึ้นมาถึง 250,000…
-
“สิ่งที่เศร้าที่สุดก็คือถูกห้ามตาย” อาจารย์วัย 104 ปี มีชีวิตอยู่มานาน จนไม่อยากอยู่แล้ว…
ผู้คนส่วนใหญ่นั้นมักคิดว่าอยากจะมีชีวิตอยู่ไปนานๆ มีอายุที่ยั่งยืนจนกว่าจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา อย่างน้อยๆ ก็ขอให้อยู่ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สำหรับศาสตราจารย์ David Goodall นักพฤกษศาสตร์และนักนิเวศวิทยาวัย 104 ปี จากประเทศออสเตรเลีย มีความตั้งใจอันแน่วแน่ว่า “อยากฆ่าตัวตาย” ศาสตราจารย์ David Goodall ในวัยหนุ่ม เพราะด้วยการใช้ชีวิตมานานผ่านสงครามโลกถึง 2 ครั้ง ฟุตบอลโลกอีก 20 ครั้ง ได้ดูมนุษย์คนแรกเหยียบบนดวงจันทร์ ก็ถือว่ามากเกินพอแล้ว… เพราะเขารู้สึกเสียใจที่มีอายุมากถึงขนาดนี้ เขาได้กล่าวคำขอพรในวันเกิดครบ 104 ว่า ถ้าหากขอพรได้หนึ่งข้อ เขาจะขอให้พรนั้นเป็นความตาย “ผมรู้สึกไม่มีความสุข ผมอยากตาย มันไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าเลย แต่สิ่งที่น่าเศร้าก็คือถูกห้ามให้ตายนี่แหละ” เขากล่าวกับสำนักข่าว ABC คำถามก็คือผู้คนจะสามารถหาสถานที่หรือบุคคลเพื่อช่วยบรรลุถึงแก่ความตายได้หรือไม่ เพราะประเด็นดังกล่าวยังคงเป็นที่ถกเถียงไปทั่วโลก สำหรับการการุณยฆาตนั้นยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศออสเตรเลีย นั่นก็รวมไปถึงรัฐที่ Goodall อาศัยอยู่ด้วย ซึ่งยังไม่รวมไปถึงประเทศอื่นๆ ที่รณรงค์ป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบางประเทศที่รองรับความต้องการเหล่านี้อยู่ ซึ่งเป้าหมาย Goodall…
-
‘ฉันคือเจ้าหญิง’ สาวเผยชีวิตที่ถูกแม่เลี้ยงด้วย “เงิน” และ “ของแบรนด์เนม” แทนความรัก
หลายคนคงอยากจะมีชีวิตที่มีเงินใช้ไม่ขาดมือ อยากได้อะไรก็สามารถนำมันมาครอบครองได้เพียงแค่ใช้เงินซื้อ ไม่ต้องพยายามทำอะไรมากมายชีวิตก็สุขสบาย แต่ที่ความจริงข้อหนึ่งคือ เงินไม่สามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ นี่คือชีวิตของสาววัย 15 ปีที่ชื่อว่า Nicolette ที่ได้มาเปิดเผยชีวิตของเธอในรายการ Dr.Phil Nicolette ใช้ชีวิตอยู่กับ Nina คุณแม่ของเธอที่เมือง Beverly Hills รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอผู้เกิดมาเพรียบพร้อมทุกอย่างกับไลฟ์สไตล์ชีวิตที่หลายๆ คนอิจฉา ชีวิตที่สิ่งต่างๆ สามารถซื้อได้ด้วยเงิน สิ่งที่แม่ได้มอบให้กับเธอนอกจากเงินและความสุขสบายในชีวิตแล้ว เธอไม่ต้องไปโรงเรียนเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ เธอเรียนที่บ้าน มีคนขับรถส่วนตัว พี่เลี้ยงส่วนตัว และเทรนเนอร์ส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงิน ทำให้เธอสามารถใช้จ่ายอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายๆ คนอาจจะเริ่มอิจฉาชีวิตของสาวน้อยคนนี้แล้ว แต่ทว่าชีวิตของเธอนั้นขาดสิ่งที่เงินไม่สามารถซื้อได้นั่นก็คือ เวลาจากแม่ของเธอเอง แม่ของเธอเลี้ยงดูเธอด้วยเงินจนเธอเริ่มตกสู่วังวน ตกเป็นทาสของแบรนด์เนมไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ซึ่งแต่ละชิ้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท . ตลกร้ายยิ่งกว่านั้น สาวน้อยคนนี้เริ่มถูกครอบงำด้วยสิ่งของ เธอใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อชดเชยในสิ่งที่แม่ไม่สามารถให้เธอได้…
-
หนุ่มพยายามหยอดคำหวานเพื่อชนะใจ นร. สาวแลกเปลี่ยน งัดทุกคำที่รู้ออกมาใช้ให้หมด!!
ความมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลยนะ แม้ว่าการที่จะพยายามเริ่มความสัมพันธ์ในรูปแบบไหนก็ตาม หากเรามีความรู้สึกดีๆ อยากจะบอกกับอีกฝ่าย ต่อให้เป็นการใช้ภาษาต่างประเทศก็ถือว่าเป็นหนึ่งในการฝึกฝนเช่นกัน อย่างนักเรียนชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ต้องการจะใช้ทักษะทางด้านภาษาอังกฤษให้เกิดประโยชน์ เพื่อหยอดคำหวานเกี้ยวสาวนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวเยอรมันที่มาอยู่ในคลาสเดียวกัน ฮร่าาาา เรื่องราวของ Carolin Marie ยูทูบเบอร์ ช่างภาพ และนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวเยอรมันวัย 18 ปี ได้มีโอกาสแวะไปในห้องเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น และแนะนำตัวให้กับเพื่อนๆ ในห้องได้รู้จัก ซึ่งก็จะมีช่วงเวลาที่ให้เพื่อนๆ ได้ถามคำถามเธอด้วย แต่แล้วก็มีนักเรียนชายผู้กล้า ลุกขึ้นถามเธอในสิ่งที่แตกต่างจากเพื่อนคนอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง ใช้วิถีความเซียนในการเนียนจีบเธอแบบน่ารักสุดๆ “ผมขอถามคุณหน่อยได้มั้ย?” เขาเริ่มต้นบทสนทนา และเธอก็ตอบ “ได้สิ” จากนั้นก็เริ่มด้วยการบอกว่า “เนี่ย มีคนดีๆ อยู่นะ” พร้อมกับชี้ไปที่เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนที่จะชี้กลับมาที่ตัวเองว่า “โดยเฉพาะตัวผม” แหม๊… หมอนี่มันร้ายกาจจริงๆ “แล้วถ้าคุณมีแฟนในห้องนี้ คนไหนจะเหมาะสมที่สุด?” . ด้วยความเขินก็ทำได้แค่เพียงบอกว่า “ทุกคนน่ารักมากๆ เลย ฉันตัดสินใจไม่ได้จริงๆ” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโมเม้นท์น่ารักๆ จากประเทศญี่ปุ่น…
-
หมาป่าถูกพบเห็นใน ‘เดนมาร์ก’ เป็นครั้งแรกในรอบ 200 ปี แต่ไม่ทันไรก็ถูกนายพรานยิงตาย!?
[คำเตือน : บทความนี้มีเนื้อหาและรูปภาพที่รุนแรง อาจกระทบต่อจิตใจของคุณได้ โปรดพิจารณาก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านนะครับ] เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ Independent รายงานว่ามี ‘หมาป่า’ ปรากฏตัวให้เห็นในเมือง Jutland ประเทศเดนมาร์ก เป็นครั้งแรกในรอบ 200 ปี!! แต่แล้วจู่ๆ ก็ถูกนายพรานใช้ปืนยิงจนเสียชีวิต ตามรายงานระบุว่า เหตุการณ์ในวันนั้นมีนักข่าวสองคนกำลังถ่ายคลิปวิดีโอของเจ้าหมาป่าสุดหายากวิ่งผ่านทุ่งนาข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่ง แต่แล้วจู่ๆ เสียงปืนก็ดังขึ้น พร้อมกับการล้มลงของหมาป่าตัวนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Guillaume Chapron จากคณะการเกษตรและวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย Swedish University กล่าวว่าการฆ่าหมาป่าตัวนั้นถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เป็นอย่างมาก “หมาป่าไม่ได้มีสัญญาณว่าจะทำร้าย หรือแสดงออกถึงพฤติกรรมดุร้าย ก่อนที่จะถูกยิงเลยแม้แต่น้อย” “ส่วนสาเหตุของการยิงนั้นน่าจะมาจากการเข้าใจผิด จากความเชื่อของมนุษย์ว่าสัตว์นักล่าไม่ควรจะมาอยู่ในที่อยู่ของมนุษย์” “ผมไม่คิดว่าเรามีปัญหากับหมาป่านะ แต่เรามีปัญหากับนายพรานต่างหากล่ะ และบุคคลเหล่านั้นควรจะหยุดทำกับหมาป่าตัวอื่นๆ ด้วย” รองศาสตราจารย์กล่าว และล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำการจับกุมนายพรานวัย 66 ปี ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ยิงปืนได้แล้ว โดยตั้งข้อหาว่า ‘ละเมิดกฎหมายว่าด้วยการล่าสัตว์’ ทางด้านโฆษกของเจ้าหน้าที่ตำรวจเดนมาร์กได้ออกมาแถลงว่า…
-
หนุ่มชาวโปแลนด์ผู้รอดชีวิตจาก ‘มะเร็ง’ สู่การเป็นนายแบบสายดาร์ก ดูแล้วเท่ไม่เบา!!
เรื่องราวชีวิตของนาย Adam Curlykale หนุ่มชาวโปแลนด์ที่รอดชีวิตมาจากโรคมะเร็งร้าย สู่การเป็นนายแบบที่ถ่ายแบบแนวดาร์กได้อย่างมืดมนสุดๆ จากความชอบส่วนตัวของเขาที่ทำการสักทั่วทั้งตัวมากกว่า 90% ของร่างกายรวมไปถึงดวงตา มันเริ่มเกิดขึ้นหลังจากที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งชนะ หลายๆ คนอาจจะเป็นห่วงเรื่องรูปลักษณ์ของเขาที่ดูแปลกไปจากมนุษย์มนา แต่ตัวของ Adam เองไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกมั่นใจมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ และต้องการที่จะเปิดเผยตัวเองผ่านวงการนายแบบรูปแบบใหม่ และขอบอกเลยว่าแม้มันจะดูดาร์ก แต่ขณะเดียวกันก็เจ๋งไม่เบาเลยล่ะ “ในการเปลี่ยนแปลงแต่ละอย่างย่อมมีความเสี่ยงที่ถูกขับไล่ออกไปจากสังคม และต้องจมปลักอยู่กับความโดดเดี่ยว แต่คุณไม่สามารถมาเปลี่ยนหรือครอบงำมุมมองของผมที่มีต่อโลกใบนี้ได้” Adam กล่าว สำหรับเขาแล้วการสักทั้งตัวมันทำให้เขากลายเป็นมากกว่ามนุษย์ หรือยอดมนุษย์อย่างที่ใครนิยามเอาไว้ “รอยสักทำให้ผมสามารถค้นพบตัวเองได้อีกครั้ง ผมรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองสวยงาม ผมเป็นคนออกแบบรอยสักแต่ละที่ เลือกได้ว่าจะสักอะไรไว้ตรงไหน เพราะมันคือร่างกายของผม” “ผมมีมุมมองที่เฉพาะเจาะจงเป็นของตัวเอง และผมก็ค่อยๆ ทำมันไปทีละเล็กละน้อย ชีวิตน่ะมันสั้นนะ ผมเลิกคิดไปแล้วล่ะว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้บ้าง ชีวิตมันคือตรงนี้และตอนนี้ต่างหาก” . . . . . แม้จะดูหม่นๆ ไปบ้างแต่ขอบอกเลยว่างานถ่ายแบบของเขามันเจ๋งริงๆ ภาพสวย องค์ประกอบสวย บวกกับการคุมโทนที่เพอร์เฟกต์ .…
-
หญิงผู้เสพติดการเป็น ‘เมียเก็บต่อเนื่อง’ ของชายล่ำซำหลายราย จากที่ปั๋วเริ่มนอกใจเธอก่อน…
ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันหว่า? จากเหตุที่ว่าทำไมคนเราถึงสามารถยอมเป็นเมียเก็บ ภรรยาน้อย ของผู้อื่นได้อย่างเต็มใจแถมยังมีความรู้สึกชอบกับสถานะแบบนี้อีก… นางแบบสาววัย 26 ปี เผยถึงวิธีการแก้แค้นแฟนหนุ่มของตัวเอง หลังจากที่ค้นพบว่าเขาแอบไปมีกิ๊กเล่นชู้ เธอก็ทำให้สถานะของตัวเองกลายเป็นเมียเก็บของชายร่ำรวยทรัพย์หลายราย Lacey Jay เล่าว่าอดีตแฟนหนุ่มของเธอแอบไปเดตกับสาวอื่นโดยที่เธอไม่รู้ และผลกระทบที่ตามมาเธอก็เลยเข้าไปติดบ่วงบาศพิศวาทกับชายร่ำรวย รวมไปถึงนายหน้าซื้อขายหุ้นที่แต่งงานแล้ว ที่อายุมากกว่าเธอถึง 10 ปี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็เริ่มสานความสัมพันธ์ฉันเมียเก็บกับผู้ชายรวยทรัพย์ 3 คน คนแรกอายุ 35 หย่าเมียแล้ว คนที่สองอายุ 40 สถานะโสด แต่ดูอ่อนกว่าวัยไป 15 ปี และคนที่สามอายุ 35 แต่งงานแล้วแต่เปิดกว้าง โดยที่เจอกันผ่านเว็บไซต์หาคู่ สำหรับคนที่ต้องการอะไรแบบนี้… “ตอนนี้ฉันเสพติดการมีชู้แล้วล่ะ ฉันสัมผัสถึงรสชาติของชายร่ำรวยมีอายุและฉันคิดว่าหยุดไม่ได้แล้ว พวกเขาเป็นผู้ชายที่อยากจะเล่นชู้แบบนี้ก่อนที่ฉันจะเข้ามาเสียอีก” Jay กล่าว “มันเกิดขึ้นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เมื่อแฟนของฉันเริ่มนอกใจก่อน ฉันเริ่มสงสัยเขาก็ตอนที่มีพิรุธเปลี่ยนรหัสโทรศัพท์และออกไปข้างนอกกับเพื่อนบ่อยกว่าเดิม ฉันอยากจะเชื่อใจเขาอยู่นะ แต่เพื่อนของฉันมาบอกเบาะแสในคืนหนึ่ง แล้วก็จับได้แบบคาหนังคาเขา หมอนั่นสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว แต่เขาก็ยังปฏิเสธที่จะบอกรหัสโทรศัพท์ไม่ยอมให้ฉันเช็ก…
-
ให้ตายสินายนี่มัน Ruffalo ชัดๆ ย้อนดูปฏิกิริยาสปอลย์ชุดใหญ่ Infinity War ‘เราจะ…กันหมด’
*เนื้อหามีการสปอยล์เนื้อเรื่องของภาพยนตร์ Infinity War ท่านใดยังไม่ได้รับชม กรุณาแบกรับความเสี่ยงด้วยตัวท่านเอง* กระแสยังคงแรงดีไม่มีตกกับสุดยอดภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จากค่าย Marvel กับภาคล่าสุดของ Avengers: Infinity War ด้วยเรื่องราวที่เข้มข้นยิ่งกว่าซุปที่เคี่ยวมานานกว่า 7 วัน… #เหมียวเลเซอร์ เองก็ไม่อยากจะกล่าวถึงตัวภาพยนตร์มากเท่าไหร่นัก เพราะอยากจะให้ทุกท่านได้ไปสัมผัสกับเนื้อหาภายในด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากใครที่ดูมาแล้ว… สิ่งที่กำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ คงจะเหมาะกับท่านพอสมควร ฮร่าาา คำเตือน: ใครยังไม่ได้ชมภาพยนตร์ มีสปอยล์จริงๆ นะ!! ก่อนที่ Infinity War จะออกฉายไปทั่วโลก ในปี 2017 ก็ได้มีการสัมภาษณ์นักแสดงผู้รับบทบาทภายในเรื่องมาพูดคุยสัพเพเหระทั่วไปตามประสาของโลกบันเทิง แต่ทว่ามีนักแสดงคนหนึ่งที่อาจจะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษในช่วงต่อไปนี้นั่นก็คือพี่ยักษ์ตัวเขียว Mark Ruffalo ใจเย็นพ่อหนุ่มตัวเขียว… อะไรวะ!? เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าปีที่แล้ว พี่ Mark ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ Good Morning America ในงาน D23Expo เมื่อเดือนกรกฎาคมร่วมกับ Don Cheadle…
-
‘ป๋าเบค’ ถึงกับหลั่งน้ำตา หลังบรู๊คลินบินจากนิวยอร์ค ‘เซอร์ไพรส์วันเกิด’ ถึงที่ลอนดอน
สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว การถูกลูกๆ เซอร์ไพรส์ หรือแสดงความรักให้ ย่อมเป็นความสุขที่มากกว่าสิ่งใด โดยเฉพาะในวันที่แสนพิเศษอย่าง ‘วันเกิด’ เช่นเดียวกันกับ เดวิด เบคแฮม ที่เพิ่งฉลองครบรอบวันเกิดครบรอบ 43 ปี ในวันที่ 3 พฤษภาคมร่วมกับครอบครัวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ดูเหมือนว่า บรู๊คลิน ลูกชายคนโตของเขาอยู่ที่นิวยอร์คและไม่สามารถเดินทางมาได้ แต่แล้วจู่ๆ ประตูหน้าร้านก็เปิดขึ้น พร้อมกับการมาถึงของลูกชาย (คลิกดูคลิปตรงนี้เลย) “ลูกมาทำอะไรที่นี่เนี่ย?” เดวิดกล่าวทั้งน้ำตา ตอนที่บรู๊คลิน เดินมากอดด้านหลังของผู้เป็นพ่อ “พ่อโอเคมั้ยเนี่ย? สุขสันต์วันเกิดนะครับ ผมเพิ่งมาถึงเลย” บรู๊คลิน กล่าว ขณะเดียวกันแม้แต่น้องสาวคนสุดท้อง ฮาร์เปอร์ ก็พูดขึ้นมาว่า “หนูไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าบรู๊คลินจะมาด้วย” ส่วนทางด้าน วิคตอเรีย เบคแฮม ผู้เป็นภรรยาที่อยู่เบื้องหลังการถ่ายคลิปวิดีโอสุดประทับใจนี้ เขียนแคปชั่นของวิดีโอดังกล่าวว่า “การเซอร์ไพรส์ที่ใหญ่ที่สุดในวันนี้ ขอต้อนรับกลับบ้านจ้ะ @brooklynbeckham สุขสันต์วันเกิด @davidbeckham รักคุณมากๆ เลยนะคะ จุ๊บๆ” .…
-
ลูกค้าคอมเพลนโดน ‘พนักงานส่งของ’ เขียนโน้ตแจ้ง ‘รับโทรศัพท์ด้วย!!’ พร้อมหน้าโกรธ
หลายๆ ครั้งที่เราสั่งของให้มาส่งที่บ้านแต่ไม่มีใครอยู่ เจ้าหน้าที่ที่นำของมาส่งหากไม่เอาฝากไว้กับเพื่อนบ้านก็จะนำกลับไปก่อนแล้วให้เราไปรับของที่ไปรษณีย์หรือบริษัทส่งของนั้นๆ แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ ต้องขอบอกเลยว่ากำลังกลายเป็นประเด็นที่ค่อนข้างร้อนแรงในต่างประเทศเลยทีเดียว เมื่อพนักงานส่งของ Amazon มาส่งของแล้วหาเจ้าของบ้านไม่เจอ ติดต่อก็ไม่ได้ เลยเอาพัสดุฝากไว้กับเพื่อนบ้าน พร้อมเขียนโน้ตเอาไว้ว่า ‘รับโทรศัพท์ด้วยเซ่!!’ แถมวาดภาพใบหน้าโกรธเอาไว้ด้วย การกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับนาย David Kirk จากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษเป็นอย่างมาก เขาเล่าว่า “ตอนพนักงานเอาของมาส่งให้กับเพื่อนบ้านเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เพื่อนบ้านยังไม่กล้าออกไปรับของเลย เพราะดูเหมือนว่าพนักงานคนั้นจะโมโหมากๆ” นอกจากนี้ยังมีการพูดจาด้วยคำหยาบคาย David จึงตัดสินใจเขียนคอมเพลนหน้าเพจเฟซบุ๊กของ Amazon ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเขียนว่า “คุณคิดว่าการแจ้งเตือนการส่งของไม่ถึงมือผู้รับ พร้อมกับใบหน้าโกรธจากพนักงานส่งของของ Amazon เป็นเรื่องรับได้หรือไม่?” ซึ่งทาง Amazon ก็ตอบกลับมาว่า “เราได้นำข้อมูลเหตุการณ์นี้แจ้งไปยังฝ่ายที่รับผิดชอบแล้ว ซึ่งการตรวจสอบนี้เป็นเรื่องของภายใน ดังนั้นคุณอาจจะไม่ได้รับการติดต่อกลับแจ้งถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นได้” แน่นอนว่านาย David เดือดดาลมาก เขาถามกลับไปยังบริษัทว่ามันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้หรือ? พร้อมกล่าวว่า “สำหรับผมแล้วผมบอกได้เลยว่าไม่ ผมรับไม่ได้ และผมเชื่อว่าลูกค้าคนอื่นๆ ของคุณก็คงเห็นด้วยกับผม แต่เหตุการณ์แบบนี้มันก็ยังเกิดขึ้นกับผมในวันเสาร์ที่ผ่านมา” …
-
สาวเปิดเผยประสบการณ์ ‘เสพติดเซ็กส์’ มาตลอดชีวิต และเธอขาดมันไม่ได้…
อาการเสพติดการมีเซ็กส์ ไม่เหมือนกับการเสพติดแอลกอฮอล์ หรือ ยาเสพติดแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโรค หรืออาการเจ็บป่วยอีกด้วย และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ 1 ใน 3 ของคนที่เสพติดการมีเซ็กส์นั้นเป็นผู้หญิง ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถที่จะหาความช่วยเหลือจากที่ไหนได้เลย… ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Erica Garza สาววัย 35 ปี ที่เคยมีประสบการณ์เสพติดการมีเซ็กส์มาก่อน เธอเล่าว่าทุกอย่างมันเริ่มขึ้นตั้งแต่เธออายุได้ 12 ปี เธอเริ่มช่วยตัวเองบ่อยครั้ง และเริ่มดูหนังผู้ใหญ่ กิจกรรมความชอบเรื่องเซ็กส์ของเธอดำเนินไปได้ด้วยดี จนกระทั่งอายุ 13 ปี ตอนชั้นมัธยมต้นปีที่ 1 เธอป่วยเป็นโรคกระดูกสันหลังคดงอจึงต้องใส่อุปกรณ์ช่วยเพื่อรักษาอาการดังกล่าว และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอถูกกลั่นแกล้งที่โรงเรียน จากความเครียดที่เกิดขึ้นทางออกทางเดียวที่เธอสามารถทำได้ ณ ตอนนั้น คือ ‘การช่วยตัวเอง’ และ ‘การดูหนังผู้ใหญ่’ “เมื่อฉันใกล้จะถึงจุดสุดยอด ทุกความเครียด ความกังวล มันหายออกไปจากหัว ทำให้ฉันหันมาพึ่งการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ เพื่อขจัดความรู้สึกที่ไม่ดีออกไป” Erica กล่าว และหลังจากนั้นไม่นาน ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยากเกินที่จะควบคุม ความต้องการทางเพศของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอเริ่มติดต่อหาคู่นอนผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเป็นคนแปลกหน้ามากมายหลายคน…
-
J.K. Rowling ออกมาแสดงความเสียใจต่อการ ‘ปลิดชีพ’ Dobby เอลฟ์ผู้ซื่อสัตย์
ถ้าพูดถึงภาพยนตร์หรือนิยายพ่อมด-แม่มดแล้ว คงไม่มีใครที่จะไม่คิดถึง Harry Potter สุดยอดซีรีส์แฟนตาซี เวทมนตร์ที่ขายดีอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งภาพยนตร์ภาคสุดท้ายอย่าง Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 ก็ปิดตำนานได้อย่างสวยงาม ผ่านมาแล้ว 7 ปีสำหรับหนังภาคสุดท้าย และเพื่อนๆ รู้กันหรือไม่ว่าเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่เพิ่งผ่านมานี้เป็นวันครบรอบสงครามแห่ง Hogwarts สงครามที่ทำให้เกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งทุกๆ วันที่ 2 ของแต่ละปี J.K. Rowling นักเขียนผู้ให้กำเนิดซีรีส์นี้ก็จะออกมาขอโทษแสดงความเสียใจต่อการจากไปของตัวละครที่เป็นที่รักของผู้อ่านและตัวนักเขียนเอง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2015 ในปีนั้นเธอได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการจากไปของคู่แฝดของ George อย่าง Fred Weasley “วันนี้ฉันอยากที่จะพูดว่า: ฉันขอโทษจริงๆ เกี่ยวกับ Fred *ก้มหัวยอมรับต่อความโกรธของคุณ*” ต่อมาในปี 2016 เธอก็ได้แสดงความเสียใจต่อการจากไปศาสตราจารย์ Remus “Moony” Lupin ผู้ซึ่งเป็นมนุษย์หมาป่าด้วย “วนกลับมาอีกแล้วกับวันครบรอบสงครามแห่ง…
-
คนขับรถเมล์ประท้วงคู่แข่ง วิ่งเส้นทางทับซ้อนกัน ค่าโดยสารก็ถูกกว่า งั้นขับให้ฟรีก็แล้วกัน!?
กลายมาเป็นเรื่องที่แทบจะพูดไม่ออกบอกไม่ถูกกันเลยทีเดียว เมื่อการเกิดใหม่ของคู่แข่งทางธุรกิจบริการรถโดยสารประจำทางของเมืองโอกายามะ ประเทศญี่ปุ่น ที่เพิ่งจะมาใหม่เพียงไม่กี่สัปดาห์ แต่เริ่มจะแซงหน้าด้านบริการเจ้าเก่าไปแล้ว… กลุ่มผู้ขับรถประจำทางของเมืองโอกายามะจากบริษัท Ryobi Group ที่ได้ครองถนนหนทางภายในเมืองมาอย่างยาวนาน จึงทำการประท้วงเหตุการณ์ดังกล่าว ด้วยการขับรถไปตามเส้นทางของตน และปฏิเสธการเก็บค่าโดยสารในทุกกรณี (ขึ้นฟรี!!) ไม่รับค่าโดยสารค่ะ!! เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Megurin บริษัทเดินรถเกิดใหม่อันเป็นคู่แข่งโดยตรง ได้เปิดให้บริการในเส้นทางทับซ้อนกับรถบริการของบริษัท Ryobi Group ในวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา อัตราค่าโดยสารก็ถูกกว่า แถมหน้าตาของรถก็ดูน่ารักกว่าด้วย!! รถโดยสารประจำทางดำเนินการโดยบริษัท Megurin . ด้วยเหตุนี้ทางด้านพนักงานขับรถของบริษัท Ryobi จึงรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามอยู่ หากปล่อยแบบนี้ต่อไปต้องแย่แน่ๆ ก็เลยทำการประท้วงไปยังฝ่ายบริหารผ่านพื้นที่สาธารณะ จากกรณีคู่แข่งใหม่ที่เกิดขึ้น แต่แทนที่จะนัดกันหยุดงาน กลับนัดกันมาเดินรถตามปกติ อีกทั้งได้นำผ้าขาวมาคลุมเครื่องเก็บค่าโดยสาร คนขับประกาศชัดเจนหลายต่อหลายครั้งบนรถโดยสารว่า จะไม่รับค่าโดยสารใดๆ ทั้งสิ้น กี่ป้ายก็ไม่ต้องจ่าย โดยสารฟรีตลอดเส้นทาง!! แม้ว่าการเดินรถโดยไม่เก็บค่าโดยสารนั้น จะส่งผลดีต่อผู้โดยสาร เป็นการกระทำที่ได้ใจประชาชนแถมยังได้พื้นที่โฆษณาไปฟรีๆ แต่ก็ยังมีชาวเน็ตบางส่วนที่มองว่าเป็นการประท้วงที่ผิดจุด และอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์บริษัทในระยะยาว แถมยังเป็นการประท้วงที่อาจจะไปไม่ถึงระดับผู้บริหารเลยด้วยซ้ำไป… …
-
งานที่แย่ที่สุดในบริษัทเฟซบุ๊ก “ผู้ตรวจสอบเนื้อหารุนแรง” เหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีใครใส่ใจ
บนโลกอินเทอร์เน็ตอันไร้ขอบเขตใดๆ ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะเสพสื่อต่างๆ ตามความชื่นชอบหรือความสนใจของตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด และด้วยความไร้ขอบเขตเหล่านี้ โลกอินเทอร์เน็ตจึงมีสภาพเป็นสีเทา ที่มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีอยู่ โดนเฉพาะบนเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ค และเพื่อให้สังคมกลุ่มหนึ่งอยู่ภายใต้การควบคุม เนื้อหาที่ถูกเผยแพร่ออกมาจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ก็จะต้องผ่านผู้ดูแลตรวจสอบเสียก่อน เพื่อไม่ให้ความไม่จรรโลงใจไปกระทบกับจิตใจของผู้อื่นในวงกว้าง งานดังกล่าวก็คือ งานตรวจสอบเนื้อหาของผู้ดูแลระบบหลังบ้านของเฟซบุ๊ก โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อคอยจัดการ ‘ตรวจสอบและลบ’ เนื้อหาที่ถูกแจ้งละเมิดเข้ามาทุกๆ วัน เป็นพันๆ เคส หนึ่งในผู้ดูแลทางด้านดังกล่าวนามว่า Laura เปิดเผยว่า งานดังกล่าวเป็นงานที่สำคัญที่สุด และแย่ที่สุดในเฟสบุ๊ก อีกทั้งยังไม่มีใครใส่ใจอะไรกับงานนี้เลย… เนื่องจากการทำงานของเธอจะต้องเจอกับ เนื้อหาที่ล่อแหลมและกระทบกระเทือนจิตใจ อย่างเช่น การตัดหัว สื่อลามกเด็ก การทารุณกรรมสัตว์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ตรวจสอบเนื้อหาจะต้องพบเจอทุกวัน จากการรายงานเข้ามาของผู้ใช้งานของเฟซบุ๊ก เธอเปิดเผยว่าตัวผู้ทำงานจะกลายมาเป็นเครื่องจักร ที่คอยทำการกดปุ่มถัดไป ปุ่มใช่หรือไม่ใช่ กระบวนการดังกล่าวจะวนลูปกลายมาเป็น กดถัดไป ตัดสินใจ และกดถัดไป ตัดสินใจ หลายต่อหลายครั้งภายในหนึ่งวัน สำหรับ…
-
“ลายมือ เหมือนไก่เขี่ยชัดๆ…” ฮาลั่นห้องประชุม เมื่อ “ปูติน” อ่านเอกสารลายมือตัวเองไม่ออก
ช่วงนี้กระแสของทรัมป์ และสองผู้นำเกาหลีเหนือ-ใต้ กำลังมาแรง แย่งพื้นที่ข่าวของฝั่งรัสเซียไปซะเกือบหมด… แต่ล่าสุดในการประชุมสภานิติบัญญัติ ในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ประเทศรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็ทำให้ทั้งที่ประชุมและชาวโลกหัวเราะได้อีกครั้ง ระหว่างการประชุมอย่างเคร่งเครียด จู่ๆ ท่านปูตินของเราก็นั่งนิ่ง อ้ำๆ อึ้งๆ จ้องมองกระดาษโน้ตของตนราวกับว่ามันเป็นจดหมายบอกเลิกสมัยเรียนชั้นมัธยมซะอย่างนั้น ไม่ได้แค่จ้องอยู่แค่ 2-3 วินาที แต่จ้องนานนับ 10 วินาทีกันเลยทีเดียว!!! ถึงขั้นที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องชำเลืองมาดูว่าท่านประธานาธิบดียังสบายดีอยู่นะ ทะ ทะ ท่าน ท่านโดนลอบวางยาพิษรึเปล่า!!? เปล่า… คือ ผมอ่านลายมือตัวเองไม่ออก นี่มันตัวหนังสือไก่เขี่ยแบบเด็กหัดเขียนชัดๆ ผ่าม!!!! คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.. และนั่นก็ทำให้ทั้งห้องประชุมหัวเราะขึ้นมาทันที ซึ่งปูตินก็ยอมรับตรงๆ เลยว่าตนนั้นอ่านลายมือที่ตนเองเขียนมาไม่ออก นี่มันไก่เขี่ยชัดๆ ไม่ใช่คนเขียนแล้ว พร้อมกันนี้ยังบอกว่า สงสัยตอนที่จนโน้ต ตนเองคงจะรีบไปหน่อย ขอให้ที่ประชุมโปรดให้อภัย แต่ยอมรับตรงๆ แบบนี้…
-
Boerne 0.5k งานวิ่งเพื่อคนขี้เกียจ วิ่งแค่ 500 เมตร… แต่จัดเต็ม ‘โดนัทและเบียร์’ ฟรี!!
ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นยุคทองแห่งการใส่ใจสุขภาพตัวเองเลยก็ว่าได้ และจากการที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น เริ่มกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ร่วมถึงมีกิจกรรมออกกำลังกายอย่างเช่นงานปั่นจักรยานหรืองานวิ่งผุดขึ้นกันมาเป็นดอกเห็ด และถ้าคุณเป็นคนที่โปรดปรานการดื่มเบียร์เป็นที่สุด แต่ก็อยากที่จะออกกำลังกายด้วย แต่ก็แอบขี้เกียจ เราขอเชิญให้คุณรู้จักกับงานวิ่งแห่งนี้ “Boerne 0.5k” ก็ตามชื่อของมัน งานนี้จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม 2018 ที่จะถึงนี้ในเมือง Boerne รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ได้มีการจัดงานวิ่งระยะ 0.5 กิโลเมตรหรือ 500 เมตรนี้ขึ้น โดยรายได้จากค่าสมัครจะมีการบริจาคไปให้แก่ Blessing in a Backpack องค์กรการกุศลที่มีส่วนช่วยเหลือจัดหาอาหารให้กับเด็กผู้ด้อยโอกาส ถึงแม้ว่า 500 เมตรทางผู้จัดคาดว่าผู้เข้าแข่งขันจะใช้เวลาราวๆ 10 นาทีก็สามารถวิ่งจนจบระยะได้แล้ว แต่ถึงจะเป็นระยะทางสั้นๆ แต่ทางผู้จัดก็ได้เตรียมมืออาชีพไว้ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนสเทรนเนอร์หรือหน่วยแพทย์และเต็นท์พยาบาลที่รองรับกรณีฉุกเฉินตลอดเวลา ในการสมัครเข้าร่วมงานวิ่งงานนี้เพื่อนๆ จะต้องจ่ายค่าสมัครประมาณ 800 บาท โดยที่จะได้รับเสื้อ สติ๊กเกอร์ รูปเวลาเข้าเส้นชัยและเหรียญรางวัล มาพูดถึงส่วนที่ดีที่สุดของรายการนี้กันบ้าง อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าเบียร์ฟรี!! โดยที่จะมีเบียร์ไว้ให้บริการ ณ จุดเริ่มต้นและเส้นชัย โดยที่ระหว่างทางก็จะมีจุดพักที่เตรียมกาแฟและโดนัทไว้รออีกด้วย โอ้โห!!…
-
กลุ่มรักษ์โลกระดมเงินได้ 15 ล้าน เพื่อเอาไปทำหน้า “ทรัมป์” บนภูเขาน้ำแข็ง แล้วดูมันละลาย
ไม่รู้ว่านี่จะถือเป็นการประชดประชันหรือตลกร้ายดี เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีกลุ่มอนุรักษ์ชาวฟินแลนด์ที่เรียกตัวเองว่า Melting Ice ได้ออกมาระดมทุนกว่า 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15 ล้านบาท เพื่อจะแกะสลักใบหน้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ลงบนภูเขาน้ำแข็ง เนื่องจากทรัมป์ไม่เชื่อว่าโลกของเราประสบกับภาวะโลกร้อนอยู่จริงๆ โปรเจกต์นี้มีชื่อว่า Project Trumpmore เพื่อระดมทุนสร้างรูปปั้นแกะสลักยักษ์ของทรัมป์ลงบนภูเขาน้ำแข็ง คล้ายกับการแกะสลักบนภูเขารัชมอร์ นิโคลาส ปิเอโตร ประธานกลุ่ม Melting Ice กล่าวว่า “ปัญหาโลกร้อนนั้นเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ ยังคงมีคนคิดว่านี่เป็นปัญหาจริงหรือไม่? เราอยากจะสร้างอนุสาวรีย์สำหรับเราทุกคน เพื่อที่เราจะได้เห็นว่าประติมากรรมเหล่านั้นอยู่ได้นานแค่ไหนก่อนที่มันจะละลาย คนส่วนใหญ่มักเชื่ออะไรสักอย่างเมื่อพวกเขาเห็นด้วยสายตาของตัวเองเท่านั้น” หากกลุ่มอนุรักษ์เหล่านี้สามารถรวบรวมเงินได้สำเร็จ พวกเขาจะถ่ายทำสารคดีการก่อสร้างและนำไปออกอากาศสด พวกเขาตั้งใจไว้ว่าอนุสาวรีย์นี้จะมีความสูงอยู่ที่ราวๆ 35 เมตร ส่วนสาเหตุที่พวกเขาเจาะจงว่าอยากจะสร้างอนุสาวรีย์ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็เพราะว่าเขามักจะพูดออกสื่ออยู่บ่อยๆ ว่าภาวะโลกร้อนนั้นเป็นเพียง “เรื่องหลอกลวง” และมักจะพูดอยู่บ่อยๆ ว่าอากาศหนาวนั้นเป็นตัวพิสูจน์ว่าโลกของเราไม่ได้ร้อนขึ้น ยกตัวอย่างเช่นในช่วงกุมภาพันธ์ 2014 ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า “พายุหิมะและอุณหภูมิหนาวจัดที่บันทึกไว้อย่างมหาศาลในสหรัฐ ที่เหล่าบรรดานักหลอกลวง เปลี่ยนชื่อจากภาวะโลกร้อนเป็น ‘การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ’” หรืออย่างในปี 2012 เขาเคยทวีตว่า “แนวคิดของภาวะโลกร้อนนั้นถูกสร้างโดยชาวจีน เพื่อที่จะทำให้สหรัฐฯ ไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ในด้านการผลิต” …
-
สาววัย 26 ปีผู้มีใบหน้าบกพร่องแต่กำเนิด เฉิดฉายทางด้านความงามนิยม สู่นางแบบมืออาชีพ
“ทำให้โลกได้จดจำไว้ว่าทุกคนมีความสวยงามในตัวเอง” ประโยคดังกล่าวเป็นคำพูดของ Ilka Brühl หญิงสาววัย 26 ปี จากประเทศเยอรมนี ผู้ไขว่คว้าโอกาสเพื่อเผยแพร่พลังด้านบวกและความสามารถของเธอ ด้วยการเล่าเรื่องราวของตัวเอง . ตั้งแต่วันที่เธอได้ลืมตาดูโลกใบนี้ Ilka ต้องผ่านชีวิตอันยากลำบาก “ฉันเกิดมาพร้อมกับใบหน้าแหว่งและจมูกผิดรูป นอกจากนี้ดวงตาด้านขวาก็ยังขาดท่อน้ำตา ขาดความชุ่มชื้นของดวงตาข้างขวาตามธรรมชาติอย่างถาวร ไม่มีน้ำตาออกจากดวงตาด้านขวาเลย…” . ปัจจุบัน หลังจากที่เธอผ่านการผ่าตัดนับครั้งไม่ถ้วน Ilka ก็แข็งแกร่งมากขึ้น เป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง แบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์ของเธอให้ผู้อื่นได้รับรู้ ด้วยความหวังที่จะเป็นกำลังใจให้ผู้คนรักตัวเองให้มากขึ้น เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เธอเริ่มเป็นนางแบบให้กับหมู่เพื่อนช่างภาพ “มีการตอบรับที่ดีมากๆ เลยล่ะ ยิ่งทำให้ฉันมีกำลังใจที่จะแสดงตัวตนในแบบที่ฉันเป็น บริสุทธิ์และไร้การตกแต่ง” Ilka ได้แบ่งปันรูปถ่ายของเธอเอง เพื่อกระตุ้นในผู้คนกล้าที่จะออกมาจากความกลัวของตัวเอง และกล้าที่จะแสดงความงามที่แท้จริงออกมา “มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่จะขี้เหร่ได้ ด้วยการทำตัวให้ดูขี้เหร่ ไม่มีใครต้องหลบซ่อนเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองหรอก” . . . . .…
-
ทฤษฎีใหม่ ‘โลกนี้ไม่มีแรงโน้มถ่วง’ ประกาศกร้าวกลางงานประชุมครั้งแรกของชาวโลกแบน!!
เปิดตัวเปิดใจกันออกมาแล้ว กับกลุ่มผู้ที่มีความเชื่อว่าโลกนั้น “แบนราบ” ในปัจจุบันก็เริ่มมีการรวมตัวรวมกลุ่มกันในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และเริ่มมีความยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการจัดงานประชุมอย่างเป็นทางการ!! อย่างที่ประเทศอังกฤษ ก็เพิ่งจะมีการจัดงานประชุมของกลุ่มผู้เชื่อในทฤษฎีโลกแบนเป็นครั้งแรก แถมยังมีการเปิดเผยถึงทฤษฎีใหม่ที่พิสูจน์ข้อกังขาที่ว่า โลกนี้ไม่มีแรงโน้มถ่วงอีกต่างหาก… ผู้คนกว่า 200 ชีวิตเข้าร่วมการประชุม Flat Earth UK Convention ในครั้งนี้ โดยจัดงานที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ด้านผู้จัดงานได้ทำการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านโลกแบนมาเป็นผู้พูดหลักภายในงานหลายท่าน และหนึ่งในผู้พูดที่พีคที่สุดก็คือนาย Dave Marsh เพราะเขายืนกรานว่า สามารถหักล้างกฎการเคลื่อนที่ของโลกได้ เพียงแค่ใช้กล้องและแอปพลิเคชั่นเท่านั้น!! “งานวิจัยของผมหักล้างทฤษฎี Big Bang จนสิ้น เพราะทฤษฎีครั้งนี้จะสนับสนุนแนวที่คิดที่ว่าแรงโน้มถ่วงไม่มีอยู่จริง และพลังที่จริงแท้ที่สุดในธรรมชาติก็คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเท่านั้น” Dave Marsh กล่าวเรียกความสนใจจากแขกในงาน เขาได้อธิบายไว้คร่าวๆ ว่า เขาพิสูจน์ด้วยการใช้กล้องส่องดูดวงจันทร์ วัดระยะเวลาการเดินที่จะกลับมาสู่ตำแหน่งเดิมในแต่ละวัน และในแต่ละครั้งจะมีความคลาดเคลื่อนของเวลาอยู่เสมอ ซึ่งอาจจะไม่มีแรงโน้มถ่วงเข้ามาเกี่ยวข้อง… อย่างไรก็ตาม ทางด้าน Tom นักข่าวจาก Ladbible ที่ได้เข้าไปร่วมงานเปิดเผยว่ากลุ่มผู้เชื่อว่าโลกแบนต่างให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และพวกเขาก็เป็นมิตรมากๆ…
-
ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงๆ “จดหมายปฏิเสธรับเข้าทำงาน” สุดละมุน แถมมีของขวัญปลอบใจให้…
การเอาใจใส่ความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามนับว่าเป็นเรื่องที่น้อยคนนักจะมองเห็น ยิ่งเป็นเรื่องของบริษัทที่กำลังมองหาคนมาร่วมงานด้วย แต่ต้องตอบปฏิเสธกลับไป เนื่องจากเหตุผลร้อยแปด มักจะจบสั้นๆ เพียงแค่บอกว่าไม่รับ หรือไม่ติดต่อกลับเลย… สำหรับบริษัท Kagome บริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับมะเขือเทศ (ซอสมะเขือเทศและน้ำมะเขือเทศ) กลับมีวิธีการปฏิเสธผู้มาสมัครงานที่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง และดูน่ารักซะด้วยสิ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @tutuanna888 ออกมาเปิดเผยว่า ได้รับการตอบกลับจากบริษัท Kagome โดยที่ไม่ได้มาในรูปแบบของอีเมล แต่บริษัทส่งกล่องพร้อมกับโน้ตข้อความภายในกล่อง และของขวัญปลอบใจมาให้แทน!! โน้ตดังกล่าวมีใจความดังต่อไปนี้… “พวกเราอยากจะขอขอบคุณอย่างจริงใจ สำหรับการมาสมัครร่วมงานกับบริษัท Kagome พวกเรารู้สึกซาบซึ้งในความสนใจของท่านที่มีต่อเราในฐานะพนักงานคนหนึ่ง และสำหรับเวลาที่ใช้ไปกับการกรอกแบบฟอร์มสมัครงานและเตรียมความพร้อมของเรซูเม่ เพื่อเป็นตัวแทนความขอบคุณ เราจึงขอส่งผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาให้ท่านโดยเฉพาะ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะคิดถึงบริษัท Kagome ในทางที่ดีต่อไปในอนาคตภายภาคหน้า” ภายในชุดกล่องแห่งความห่วงใยนี้ ประกอบไปด้วยจดหมายแสดงความขอบคุณ ที่มาพร้อมกับไก่ปรุงรสมะเขือเทศ และขวดน้ำมะเขือเทศ 100% ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัททั้งหมด และยังมีข้อความเล็กๆ ที่เขียนติดบนกล่องไว้ว่า… “ของเหล่านี้ไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากนัก แต่ขอให้มีความสุขกับสิ่งเหล่านี้พร้อมครอบครัว เพื่อน หรือคนที่คุณรัก” โดยก่อนหน้าที่จะได้รับกล่องนี้…
-
สยอง!! ช่างสักออสซี่โดนรวบ หลังทำการ “ผ่าตัดอวัยวะเพศ” ของหญิงสาว โดยไม่มีใบอนุญาต
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] เว็บไซต์ Dailymail ได้รานงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในออสเตรเลียได้เข้าจับกุมชายวัย 37 ปีคนหนึ่ง เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ที่ชายหาดเซนทรัลโคสต์ ประเทศออสเตรเลีย ในข้อหาตัดแต่งอวัยวะเพศหญิงโดยไม่มีใบประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ที่ถูกต้อง ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มรายนี้ถูกหญิงสาววัย 33 ปี ร้องเรียนตั้งแต่เมื่อปี 2016 และมีการย้ายที่ทำงานเพื่อหนีคดี แต่สุดท้ายก็ถูกจับกุมในที่สุด ภาพตัวอย่างผลงานของช่างสักวัย 37 ปี จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของชายหนุ่มพบว่าเขาได้เขียนข้อความอ้างตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดตกแต่งร่างกายมนุษย์และทำงานมานานกว่า 10 ปีแล้ว ชายหนุ่มยืนยันว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดลิ้นให้เป็น 2 แฉก การเจาะหู และการกำจัดสะดือ มีการโชว์ผลงานที่เขาเคยทำมา ไม่ว่าจะเป็นการฝังลูกปัดซิลิคอนไว้ใต้ผิวหนัง การสร้างรอยแผลเป็นปลอมๆ การสักลงบนเหงือก หรือแม้แต่การเปลี่ยนสีบนตาขาว ทั้งนี้การผ่าตัดปรับเปลี่ยนอวัยวะในร่างกายคนไม่ใช่สิ่งที่กฎหมายรองรับในรัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่หากคุณอยากจะประกอบอาชีพเป็นช่างสักหรืออะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวกับผิวหนัง คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข ภาพลิ้นของหญิงสาวรายหนึ่งที่เคยมาผ่าลิ้นกับชายคนนี้ ภาพใบหูที่ถูกตัด หนึ่งในผลงานของเขา อย่างไรก็ตามช่างสักรายนี้ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวเพื่อออกมาต่อสู้คดีในชั้นศาลในวันที่ 15 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ที่มา dailymail
-
เล่นใหญ่รัชดาลัย!! ‘Blake Lively’ ลบรูปใน IG ซะเกลี้ยง แฟนๆ แตกตื่นนึกว่าโดนแฮ็ก
Blake Lively นักแสดงสาวสวยที่หลายๆ คนรู้จักกันดี โดยที่ผ่านมาไม่นานนี้กับภาพยนตร์เรื่อง The Shallows ในบทตัวเอก Nancy แต่ประเด็นคราวนี้ไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้ มันอยู่ที่ว่าเมื่อเร็วๆ มานี้อินสตาแกรมของคุณ Blake ของเรานั้นมีการลบภาพทั้งหมดในบัญชีออกไป สร้างความแตกตื่น ตระหนก ตกใจให้กับแฟนคลับเป็นอย่างมาก หลายคนตีโพยตีพายกันไปว่าบัญชีโดนแฮ็กรึเปล่า หรือจะเป็นเพราะเสียใจที่เลิกกับ Ryan Reynolds แล้ว หรือคู่รัก LivelyReynolds จะถึงคราวอวสานแล้วกันแน่นะ!? แฟนๆ ก็ได้แต่สงสัยว่า “มันเกิดอะไรขึ้นกับอินสตราแกรมของ Blake Lively กันนะ?” “หาก Blake Lively กับ Ryan Reynolds เลิกกัน ฉันจะบล็อคผู้ชายทุกคนในโทรศัพท์และโซเชียลมีเดียด้วย เพราะว่ามันทำให้ฉันสูญเสียศรัทธาในความรัก’” และก็ได้มีคนสังเกตว่าในอินสตาแกรมของเธอยังคงติดตามคนอยู่ 28 คน ซึ่งเมื่อเข้าไปดูแล้วก็พบว่า 28 คนนั้นมีสิ่งเดียวที่เหมือนกัน นั่นคือมีชื่อคือ “Emily Nelson” ทั้งสิ้น ซึ่งก็ยิ่งสร้างความงุุนงงให้กับแฟนคลับยิ่งขึ้นไปอีก รวมถึงเจ้าของชื่อ…
-
ยังจะสูบอีกหรือ… เปรียบเทียบปอดของคนสูบบุหรี่ กับปอดคนไม่สูบ แค่สีก็ต่างกันชัดเจนแล้ว
แม้จะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องมายาวนานมากๆ กับการลดถึงขั้นงดสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีของประชากรชาวโลก ในปัจจุบันก็ยังคงมีจำนวนผู้สูบบุหรี่เพิ่มขึ้นสวนทางกับการรณรงค์เพื่อสุขภาพอยู่ดี… การสูบบุหรี่นั้นเป็นความต้องการส่วนบุคคลที่เลือกจะสูบ แน่นอนว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของตนเอง ซึ่งอาจจะยังมองไม่เห็นภาพว่า ในอนาคตข้างหน้าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเองบ้าง? Amanda Eller นางพยาบาลจากมหาวิทยาลัย Western Carolina University ได้ทำการโพสต์วิดีโอคลิปเผยให้เห็นว่า สภาพของปอดที่มีสุขภาพดีไม่ได้สูบบุหรี่นั้นเป็นอย่างไร และนำมาเปรียบเทียบข้างๆ กันกับปอดของผู้สูบบุหรี่ 1 ซองต่อวัน ต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี เพียงแค่เห็นสีของปอดทั้งสองชิ้น ก็ทำให้รู้และแยกแยะได้ทันทีว่าปอดของผู้สูบบุหรี่และไม่สูบเป็นแบบไหน ซึ่งนอกเหนือจากสีของปอดภายนอกแล้ว ระบบการทำงานของปอดก็ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดยิ่งกว่าเดิม ปอดของผู้สูบบุหรี่ ปอดของผู้ไม่สูบบุหรี่ ทางพยาบาลได้นำเครื่องเป่าลมเข้าไปในปอด เพื่อจำลองประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะ ผลก็คือปอดที่สูบบุหรี่จะไม่สามารถกักเก็บลมเอาไว้ได้ นั่นหมายถึงการหายใจที่ถี่มากกว่าปกติ ส่วนปอดที่มีสุขภาพดีจะสามารถกลั้นหายใจได้นานกว่าอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม นโยบายลดปริมาณผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกยังคงใช้วิธีในการเพิ่มภาษีบุหรี่ เพราะยังคงเล็งเห็นว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ถ้าหากว่าไม่มีเงินซื้อบุหรี่ก็จะเลิกสูบไปเอง แต่ทว่ามีงานวิจัยบางส่วนที่มองสวนทางเนื่องจากการเพิ่มภาษีบุหรี่แพงเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะส่งผลทำให้เกิดยาสูบเถื่อนมากยิ่งขึ้น ที่มา : @amanda.orr.56, ladbible
-
วันแรงงานสุดร้อน นักศึกษาพากัน “เปลือยกาย” ลงเล่นน้ำทะเลในสก๊อตแลนด์!
สำหรับคนไทยเรา คงจะหยุดพักผ่อนกันถ้วนหน้าในวันแรงงานที่ผ่านมา แต่สำหรับ นักศึกษา ในประเทศสก๊อตแลนด์กลับไม่คิดจะพักผ่อนอยู่เฉยๆ ออกมารวมตัว “เปลื้องผ้า” เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน เหล่านักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ ออกมาเปลือยกายลงเล่นน้ำกันในช่วงเช้าของวันหยุดแรงงานและเตรียมตัวสำหรับวันหยุดประจำปี Bank Holiday ที่กล่าวกันว่าสำหรับปีนี้นั้นร้อนสุดๆ (25 องศาเซลเซียส) นักศึกษาสาวรวมตัวกันลงเล่นน้ำทะเลเหนืออย่างสดชื่นเบิกบานในช่วงเช้า เหล่านักศึกษาหนุ่มสาว ต่างพร้อมใจกันออกมาชุมนุมที่ ชายฝั่งไฟฟ์ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมประจำปีในสก๊อตแลนด์ พวกเขาสลัดเสื้อผ้าทิ้ง ก่อนที่จะออกมาเล่นน้ำ ถ่ายรูป และเล่นโต้คลื่นกันในทะเลเหนืออย่างสนุกสนาน พวกเขาเชื่อว่ามันจะทำให้พวกเขามีโชคชัยในการสอบ จากก่อนหน้านี้ที่สหราชอาณาจักรได้ประสบปัญหาทางสภาพอากาศที่เลวร้าย ทั้งลมและฝนที่กระหน่ำจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่หลังจากนั้น เมื่อฟ้าเปิด แสงอาทิตย์อันอบอุ่นก็สาดส่องมายังชายฝั่งไฟฟ์ได้อย่างเต็มที่ ทำให้เหล่าหนุ่มสาวชาวสก๊อตแลนด์เลือกที่จะลงไปสัมผัสบรรยากาศการเล่นน้ำท่ามกลางแสงแดดยามเช้า แสงแดดอบอุ่นในยามเช้าของสก๊อตแลนด์ อากาศจะเป็นเช่นไรก็ตาม นักศึกษาหนุ่มสาวก็ต่างวิ่งกรูกันลงไปในทะเล น้ำทะเลอันหนาวเย็น ช่วยให้พวกเขารื่นรมย์กับแสงอาทิตย์อุ่นๆ นักศึกษาที่ออกมาแช่น้ำทะเล ในเช้าวันหยุดของวันแรงงาน และส่วนมากก็จะมีการถ่ายรูปคู่กับ ธงชาติของสก๊อตแลนด์ เหล่าสาวๆ ที่เปลือยช่วงบนก็ใช้ธงสก๊อตแลนด์ปกปิดเอาไว้ก่อนถ่ายรูปร่วมกัน นักศึกษาบางคนก็เปลือยทั้งร่างกาย ลงสู่ทะเลอันหนาวเหน็บ ชายฝั่งไฟฟ์ เป็นแหล่งรวมตัวกันของเหล่านักศึกษาทั้งหนุ่มและสาว ในวันแรงงาน…
-
นักศึกษาสาววัย 20 ขายเวอร์จิ้นตัวเอง รับทรัพย์แน่นๆ ที่ 45 ล้านบาท เผยว่าถูกใจคนซื้อด้วยนะ!!
เรื่องของการค้าขายสินค้าที่เกิดขึ้นนั้นมาจากอุปสงค์และอุปทาน ยิ่งของมีน้อยแต่ความต้องการมีมาก มูลค่าก็จะสูงไปตามกลไกตลาด แต่ถ้าหากของที่นำมาขายนั้นกลายเป็นสิ่งที่อยู่ในร่างกายคนแทนล่ะ แถมมีเรื่องของมูลค่าทางจิตใจมาเกี่ยวข้องอีก? ของที่ว่านั้นก็คือ ความบริสุทธิ์ของหญิงสาวหรือที่เราเรียกกันว่า “เวอร์จิ้น” นั่นแหละ สำหรับต่างประเทศแล้วการจะขายของแบบนี้ไม่ถือว่าผิดกฎหมายแต่อย่างใด มีเพียงแค่ความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคนเท่านั้นที่จะมองว่าถูกหรือผิด นักศึกษาสาววัยเพียง 20 ปี นามว่า Jasmine จากเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้ประกาศขายเวอร์จิ้นของตัวเองผ่านเอเจนซี่ Cinderella Escorts แม้ว่าเธอจะมาจากครอบครัวเคร่งศาสนาก็ตาม แต่จุดประสงค์สำหรับการขายในครั้งนี้ เธอก็ทำเพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัว และจะนำไปเป็นทุนทำธุรกิจพร้อมกับท่องเที่ยวรอบโลก และการประกาศขายในครั้งนี้ ไม่มีการตั้งราคาที่ตายตัว ทางเอเจนซี่ใช้ระบบประมูลมูลค่าซึ่งผู้ชนะก็คือ นายธนาคารจากย่าน Wall Street แห่งนิวยอร์ก ด้วยราคาสุดท้ายที่ 1,200,000 ยูโร หรือประมาณ 45 ล้านบาท!! ทางด้าน Jasmine และผู้ชนะประมูลนั้นต่างได้พบกันเป็นที่เรียบร้อย โดยนอกเหนือจากความราบรื่นในการส่งมอบตัวแล้ว เรื่องของความสัมพันธ์ก็ยิ่งพัฒนามากขึ้นกว่าเดิม เพราะเธอดันมีเคมีเข้ากับเขาซะด้วยสิเนี่ย… “ฉันรู้สึกแฮปปี้ดีที่ได้ขายเวอร์จิ้นและได้พบกับลูกค้าแล้วล่ะ บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นรู้สึกกังวลนิดหน่อยแต่ท้ายที่สุดแล้วฉันก็ชอบเขานะ…
-
มหาวิทยาลัยปิ๊งไอเดียติดตั้ง “ห้องระบาย” เอาไว้ให้นักศึกษา เข้ามาปลดปล่อยอารมณ์
การระบายอารมณ์ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะทำให้เราลดความเครียดหรืออารมณ์ที่กำลังพุ่งแบบสุดโต่งลงได้ แต่การระบายก็ต้องทำให้ถูกที่ถูกเวลาด้วย ถ้าไประเบิดใส่คนอื่นก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่สำหรับมหาวิทยาลัยแห่งยูทาห์แห่งนี้ได้มีการจัดการอารมณ์ให้กับนักศึกษาอย่างดี โดยห้องนี้มีชื่อว่า ‘Cry Closet’ หรือ ห้องร้องไห้นั่นเอง ที่จะให้คนได้เข้าไปร้องไห้ได้อย่างเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการบ้าน ข้อสอบสุดหิน หรือแม้กระทั่งค่าเทอมที่แพงหูฉี่ เลยทำให้ใครหลายคนมีอาการเครียดจนอยากจะระบายออกมา แต่ก็คงไม่มีใครอยากจะร้องไห้ให้คนอื่นดูนักหรอก ที่นี่ก็เลยจัดห้องให้ร้องไห้กันแบบส่วนตัวกันไปเลย ซึ่งห้องนี้ต้องอยู่ในห้องสมุด จริงๆ แล้วโปรเจกต์นี้เกิดขึ้นจากนักเรียนที่ชื่อว่า Nemo Miller จากชั้นเรียนช่างไม้ ซึ่งภายในห้องนั้นก็จะมีตุ๊กตาน่ารักๆ ให้คนที่เข้าไปในห้องได้กอดขณะร้องไห้ ไม่ว่าจะเศร้ามาจากเรื่องอะไรก็ตาม ทั้งสอบตก โดนทิ้ง แน่นอนว่าคุณไม่สามารถจมอยู่ในห้องนี้ได้นานเป็นวัน เพราะว่าเขาให้คุณใช้งานห้องนี้ได้แค่ 10 นาทีเท่านั้น นั่นหมายความว่าทุกคนย่อมมีเรื่องที่ต้องระบายเหมือนกัน ไปมีใครมีทุกข์ไปมากกว่าใคร โดยห้องนี้ยังมีกฎติดไว้ที่หน้าห้อง ซึ่งกฎก็เป็นอะไรที่เข้าใจง่าย เพียงแค่ใช้ได้คนละ 10 นาที พอใช้เสร็จก็ปิดไฟแล้วก็ออกไป ด้วยการที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย และจุดประสงค์การใช้งานก็ตรงต่อความต้องการ ทำให้ผลงานของเขาเป็นที่ชื่นชอบและโด่งดังอย่างมากในโลกโซเชียล แต่หลายคนก็สงสัยในบางจุด เช่นถ้าเราไปอยู่ในห้องแล้ว คนข้างนอกยังจะได้ยินเสียงเราอยู่รึเปล่านะ? ที่มา odditycentral
-
ข่าวด่วน!! รถไฟเหาะสวนสนุกญี่ปุ่น หยุดกะทันหัน ผู้เล่น 30 คนอยู่ในสภาพกลับหัว
ข่าวด่วน!! เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 รายการข่าวญี่ปุ่นได้รายงานข่าวเหตุการณ์ เครื่องเล่นรถไฟเหาะใน Universal Studio Japan ประเทศญี่ปุ่น ได้หยุดกะทันหัน ทำให้ผู้โดยสารประมาณ 30 คนค้างอยู่ด้านบนในสภาพกลับหัว . ที่นี่คือสวนสนุกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และเชื่อว่าหลายๆ คนที่ได้ไปเที่ยวประเทศนี้จะต้องเคยไปเล่นกันมาก่อน ภายในภาพจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่เร่งมือเข้าช่วยเหลือผู้เล่นที่ค้างอยู่ด้านบนในทันที ทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น . สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจทำให้หลายๆ คนขยาดกับการเล่นรถไฟเหาะไปอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าเคยดูหนังเรื่อง Final Destination มาด้วยแล้วก็คงไม่ต้องพูดถึง แต่ท้ายที่สุดก็ถือว่าโชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรล่ะนะ ที่มา: กลุ่มคนชอบตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น
-
พิพิธภัณฑ์ฝรั่งเศสแทบสตั๊น เมื่อพบว่างานศิลป์รวมมูลค่า 6,000,000 บาท เป็นของปลอมเกินครึ่ง!!
จะเป็นอย่างไรเมื่อในสถานที่อย่างพิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปะ ที่มั่นใจได้ว่างานศิลปะที่นำมาวางตั้งให้ประชาชนได้รับชมนั้นเป็นของจริงแท้แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับที่นี่… เพิ่งจะรู้ว่างานศิลปะที่มีอยู่เป็นของปลอมเกินกว่าครึ่ง! พิพิธภัณฑ์ชุมชน Terrus Museum ในเมือง Elne ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยจัดตั้งขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ศิลปิน Étienne Terrus นำภาพวาดที่มีอายุมากกว่า 20 ปี มูลค่ารวมทั้งหมดกว่า 6,000,000 บาท มาจัดเก็บไว้ที่แห่งนี้ แต่แล้วเมื่อนักประวัติศาสตร์ศิลปะ Eric Forcada มาตรวจสอบคอลเลคชั่นงานศิลป์ทั้งหมดในช่วงที่พิพิธภัณฑ์กำลังปรับปรุงใหม่ สังเกตเห็นว่าภาพอาคารที่อยู่ในงานแต่ละชิ้น ถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากศิลปินเสียชีวิตไปแล้ว “บนงานชิ้นหนึ่ง ลักษณะเฉพาะของหมึกถูกลบออกไปในช่วงที่ผมกำลังใช้ถุงมือสีขาวปัดไปมา และในระดับรูปแบบงานศิลป์ มันหยาบกระด้าง และฐานฝ้ายรองที่ใช้ก็ไม่เหมาะกับผืนผ้าใบที่ใช้โดย Terrus แถมยังมีความเคลื่อนในช่วงยุคสมัยของภาพอีก” จากข้อสงสัยของ Forcada ทางด้านคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องต้องกันว่า งานศิลป์ของ Terrus ทั้งหมด 140 ชิ้นที่มีอยู่ มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 82 ชิ้นที่เป็นของปลอม Yves Barniol นายกเทศมนตรีประจำเมือง Elne ถึงกับรู้สึกช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น…
-
[18+] ชมการแข่งขัน Air Sex (สมมติว่าคุณมีเซ็กส์) ใครเหมือนและได้อารมณ์ที่สุด ชนะไปเลย!!
หลายคนอาจจะเคยเห็นกางแข่งขัน Air Guitar มาบ้างแล้ว มันคือการแข่งขันดีดกีตาร์โดยไม่มีกีตาร์ หากใครดีดหรือลีดได้มันสุดๆ ก็จะเป็นผู้ชนะไป การแข่งขันแนวนี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่การดีดกีตาร์เท่านั้น แต่ยังลามไปถึงการแข่งขันแนว 18+ อย่างการมีเพศสัมพันธ์แบบล่องหนด้วย!? กางแข่งขันที่ว่านี้มีชื่อว่า Air Sex เดิมทีแล้วมันมีต้นกำเนิดมาจากโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2006 โดยหนุ่มๆ กลุ่มหนึ่งผู้เบื่อหน่ายและไม่มีแฟนไว้ข้างกาย โดยการแข่งขันนี้จะให้หนุ่มสาวสวมเสื้อผ้าและทำท่าทางเหมือนกำลังมีเพศสัมพันธ์ โดยที่ต้องจินตนาการว่ามีคู่ขาล่องหนอยู่ตรงหน้า บ่อยครั้งที่มักจะมีการเตรียมเพลงมาเปิดก่อนที่จะทำการแสดง เพื่อปลุกเร้าผู้ชม (คล้ายๆ เพลงเปิดตัวนักมวยปล้ำ) จากการแสดงครั้งนั้นทำให้เกิดความสนใจในผู้คนวงกว้าง ลามไปจนถึงนิตยสารในญี่ปุ่นอย่าง Weekly Playboy ที่นำเอาเรื่องนี้ไปตีพิมพ์ในปี 2006 ต่อมาในเดือนมกราคมปี 2007 ได้มีคนนำเอาคลิปการแข่งขัน Air Sex World Championship ไปอัปโหลดลงใน Youtube ทำให้การแข่งขันนี้เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ จนช่อง BBC ของอังกฤษได้หยิบเอาเรื่องนี้ไปใส่ไว้ในสารคดีที่ชื่อว่า Japanorama และออกอากาศเดือนมีนาคม 2007 วิดีโอเกี่ยวกับ Air Sex นั้นถูกนำมาเปิดโชว์ในงาน JACON 2007…
-
เปิดตัวเที่ยวบินธีม Toy Story เอาใจแฟนคลับ แถมสร้างบรรยากาศสนุกๆ ให้ผู้โดยสาร
หากใครเป็นแฟนการ์ตูนชุด Toy Story แล้วล่ะก็ นี่อาจจะทำให้คุณกรี๊ดแบบสุดๆ เลยก็ได้ เพราะนี่คือเครื่องบินที่ถูกตกแต่งเป็นลวดลายตัวละคร Buzz Lightyear เท่านั้นยังไม่พอ ข้างในก็ยังถูกตกแต่งให้มีธีมเดียวกัน ราวกับว่าคุณได้หลุดเข้าไปอยู่ในการ์ตูนเรื่องนี้เลย เครื่องบินที่คุณได้เห็นนี้เป็นเครื่องบินของสายการบิน China Eastern Airlines โดยได้เริ่มเที่ยวบินแรกจากเซี่ยงไฮ้ไปยังปักกิ่งเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา การตกแต่งในธีม Toy Story นั้น แทบจะครอบคลุมทั้งลำ ตั้งแต่ด้านนอกตัวเครื่อง เบาะบนที่นั่ง ถาดอาหาร ช่องเก็บของเหนือศีรษะ นี่ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีการตกแต่งเครื่องบินให้มีธีมในจีนแผ่นดินใหญ่ ท้ายลำมีนายอำเภอ Woody ด้วยนะ ด้านในตัวเครื่องถูกตกแต่งในธีม Toy Story ตั้งแต่เก้าอี้ยันเพดานเลยทีเดียว . . และก่อนที่คุณจะขึ้นเครื่อง บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอินก็ถูกตกแต่งด้วยลวดลาย Toy Story ด้วยนะ ดูจากภายนอกแล้วสวยงามน่ารักมาก ช่วยสร้างบรรยากาศสนุกสนานให้กับผู้โดยสารได้ดีจริงๆ . สำหรับใครที่เป็นแฟนแอนิเมชันเรื่องนี้ก็อดใจรอกันอีกนิดเดียวเท่านั้น เพราะ…
-
ระยะเผาขน… เจ้าบ่าวนั่งกลางงานแต่ง ถูกยิงไม่ทันได้ตั้งตัว แขกเหรื่อยัง ‘งง’ ว่าเกิดอะไรขึ้น!?
*เนื้อหาดังต่อไปนี้มีความรุนแรง โปรดระมัดระวังในการอ่านและรับชม* ท่ามกลางงานบุญงานเฉลิมฉลองต่างๆ คงจะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น อย่างเช่นในงานแต่งที่ประเทศอินเดียครั้งนี้ แทนที่จะมีความสุขทั้งเจ้าบ่าวและแขกผู้ร่วมงาน กลับกลายเป็นความป่าเถื่อนในทันที เจ้าบ่าวป้ายแดง Sunnil Verma วัย 25 ปี กำลังอยู่ในพิธีเฉลิมฉลองในรัฐอุตตรประเทศ อินเดีย ท่ามกลางวงของแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง แต่แล้วหนึ่งในมือปืนที่แฝงตัวมาก็ควักปืนยิงเจ้าบ่าวกลางหน้าอกอย่างไม่ลังเล และไม่มีใครสังเกตเห็นเลย… วิดีโอระทึกขวัญนี้ถูกบันทึกไว้โดยช่างภาพในงานแต่ง เผยให้เห็นชายสวมใส่เสื้อสีแสด ทำการขึ้นลำและหันปากกระบอกปืนยิงมาที่เจ้าบ่าว ทางด้านเจ้าบ่าวทำได้เพียงแค่มองไปยังจุดกำเนิดวิถีกระสุน ก่อนที่จะกำหน้าอกของตนเอาไว้ เนื่องจากถูกยิงเข้าอย่างจังในระยะเผาขน อย่างไรก็ตามมือปืนผู้ก่อเหตุสามารถหลบหนีไปได้ และเจ้าบ่าวนั้นไม่อาจทนพิษบาดแผลได้ไหวจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำการสอบสวนและตามตัวมือปืนมารับโทษให้ได้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือตั้งใจฆาตกรรมกันแน่… คลิปภายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มา : expressdigest, dailymail
-
ปัญหาน่าเศร้าของญี่ปุ่น หญิงชราก่อคดีหวังเข้า “คุก” เพราะ ‘ฉันจะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว…’
ประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าดูจะเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรม แต่เมื่อหลายๆ สิ่งเปลี่ยนไป ประชากรของประเทศกลับต้องประสบปัญหาที่น่าเศร้า… ประชากรในประเทศญี่ปุ่น 27.3 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด เป็นผู้สูงวัยที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และสิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้คือการก่ออาชญากรรมของผู้สูงอายุนั่นเอง จากสถิติแล้วมีการแจ้งความและจับกุมผู้สูงอายุในญี่ปุ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะ หญิงชรา ที่มีอัตราการก่อคดีสูงกว่ากลุ่มประชากรอื่นๆ เช่นกัน ราวๆ 1 ใน 5 ของจำนวนนักโทษนั้นเป็นผู้สูงอายุ และส่วนมากนักโทษหญิงสูงวัย 9 ใน 10 คน ถูกระบุว่าต้องโทษคดี ขโมยของในร้านค้า สาเหตุที่พวกเธอต้องลงมือก่อคดี หรือว่าขโมยของ ก็เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของประเทศญี่ปุ่น จากปี 1980 ที่การดูแลผู้สูงอายุนั้นเป็นหน้าที่สำคัญของครอบครัวและชุมชน เปลี่ยนแปลงมาจนถึงปี 2015 ที่กลับกลายเป็นว่าผู้สูงอายุต้อง อาศัยอยู่ตามลำพังเพิ่มมากขึ้น ราว 6 ล้านคนหรือมากกว่า 6 เท่าเลยทีเดียว จากการสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่นในปี 2017 พบว่าครึ่งหนึ่งของนักโทษหญิงชราในคดีขโมยของนั้นต้อง อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว และอีก 40 เปอร์เซ็นต์ไม่มีครอบครัวหรือไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเครือญาติ พวกเขาเหล่านี้มักพูดว่า พวกเขาไม่เหลือที่พึ่งอีกแล้วยามที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ…
-
นักโต้คลื่นทำลายสถิติโลก โชว์ลวดลายบนกำแพงคลื่นสูงกว่า 24 เมตร เท่าตึก 8 ชั้น!!
กีฬาโต้คลื่น ถือว่าเป็นกิจกรรมทางน้ำที่ต้องใช้ทักษะส่วนตัวค่อนข้างสูง เพราะผู้เล่นจำเป็นต้องฝึกการทรงตัว รู้จักเทคนิคต่างๆ อีกมากมาย เนื่องจากว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ต้องโลดแล่นอยู่บนกำแพงคลื่นที่กำลังเคลื่อนไหว แต่สำหรับ Rodrigo Koxa นักโต้คลื่นชาวบราซิลกลับสามารถทำในสิ่งที่เหนือกว่าคนทั่วไป เมื่อเขาสามารถทำลายสถิติโลกกลายเป็นเจ้าของฉายา นักโต้คลื่นผู้สามารถไต่กำแพงคลื่นสูงที่สุดในโลก Koxa ทำลายสถิติ โต้คลื่นสูงที่สุดในโลก ในเดือนพฤศจิกายน 2017 Koxa สามารถขึ้นไปโลดแล่นอยู่บนกำแพงคลื่นสูง 80 ฟุต (ประมาณ 24.38 เมตร) ได้สำเร็จ ทำลายสถิติเก่าที่ Garrett McNamara นักโต้คลื่นชาวอเมริกันเคยทำไว้ 78 ฟุต (ประมาณ 23.77 เมตร) ในปี 2011 การทำลายสถิติในครั้งนี้ เกิดขึ้นบริเวณชายหาดในเมือง Nazaré ประเทศโปรตุเกส ความสุดยอดของเขาได้โด่งดังไปไกลในวงการโต้คลื่น ทำให้ Koxa ได้รับถ้วยรางวัลเป็นนักโต้คลื่นที่ใหญ่ที่สุด ประจำปี 2017 จากกลุ่ม Big Wave Awards ของสหรัฐอเมริกา ไม่จบเพียงแค่นั้น…
-
พูดจริงหรือประชด!? ปธน.เกาหลีใต้ ชม Donald Trump ควรได้ “รางวัลโนเบล” สาขาสันติภาพ
เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Independent ได้เปิดบทสัมภาษณ์ของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ อิน ที่กล่าวถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ควรได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ สำหรับความพยายามของเขาที่จะยุติความขัดแย้งในโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ มุน แจ อิน กล่าวถึง โดนัล์ด ทรัมป์ ว่า “เขาสมควรได้รับเครดิตอย่างมากในการทำให้เกิดการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและใต้” ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังจากที่มีการแยกตัวออกไปนานหลายสิบปี “ประธานาธิบดีทรัมป์ควรได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ สิ่งที่เราต้องการก็คือสันติภาพเท่านั้น” ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นาย มุน แจ อิน ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่ในรัฐสภา หลังจากลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อทั้งสองประเทศให้คำมั่นสัญญาอย่างเป็นทางการว่าจะยุติสงครามเกาหลีที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 1950 ในขณะที่นาย มุน กล่าวยกย่องบทบาทของ ทรัมป์ ในการรวมทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน แต่ผู้เชี่ยวชาญกลับมองว่า ทรัมป์ ไม่สมควรได้รับเครดิตและคำชมขนาดนั้น ทีเจ เพิร์ลแมน ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่าประธานาธิปดีของสหรัฐ “ควรได้รับเครดิต แต่ไม่มากขนาดนั้น” เพราะเนื่องจากเขามองว่ามาตรการการคว่ำบาตรของจีนที่มีต่อเกาหลีเหนือเมื่อปลายปี 2017 นั้นมีความสำคัญและผลกระทบมากกว่า …
-
ผู้โดยสารอึดอัด.. เปิด “ประตูฉุกเฉินเครื่องบิน” หวังจะรับลม สูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนเดินทาง
สำหรับใครที่เคยขึ้นเครื่องบินก็จะเข้าใจว่า หลายๆ ครั้งเราจำเป็นต้องขึ้นไปนั่งรออยู่บนเครื่องก่อนจะออกบิน ซึ่งภายในจะร้อนและอึดอัดเล็กน้อย จนทำให้เรารู้สึกอยากเปิดหน้าต่างออกไปรับลมกันซะหน่อย แต่แน่นอนว่าหน้าต่างบนเครื่องบินนั้นไม่ได้มีไว้ให้เราเปิดได้ แต่ถ้าอยากจะออกไปรับลมจริงๆ ก็คงต้องรอทำเหมือนอย่างชายคนนี้ดู ในวันที่ 29 เมษายน 2018 หนุ่มจีนแซ่ Chen วัย 25 ปีได้ทำเรื่องที่เหนือความคาดหมายก่อนเครื่องจะออกบินในเวลาเที่ยงคืนของวันนั้น เมื่อเขารู้สึกร้อนและอึดอัด อยากออกไปสูดอากาศ และการแก้ปัญหาของเขากลายเป็นการเปิดประตูฉุกเฉินซะอย่างนั้น ประตูฉุกเฉินถูกดึงเปิดออก เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจให้กับทุกคนบนเครื่องบินเป็นอย่างมาก เพราะพอเขาดึงปุ๊บ ประตูก็หลุดออกมา แล้วตัวสไลเดอร์สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินก็ไหลออกมาด้านข้างเครื่อง สไลเดอร์สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินถูกกางออกมาอัตโนมัติ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมตัวเขาไว้ในที่เกิดเหตุ… หนุ่มแซ่ Chen บอกกับตำรวจว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เขาเพียงต้องการจะเปิดหน้าต่าง โดยไม่รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่ข้างๆ ประตูฉุกเฉิน และไม่รู้ว่านั่นมันคือกลอนสำหรับเปิดประตู สุดท้ายแล้วผู้ก่อเหตุก็ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุกนาน 15 วัน และทางสายการบินที่ดูแลอยู่ก็เรียกร้องขอปรับเงินเขาเป็นจำนวนกว่า 340,000 บาท นอกจากนั้นยังคาดว่าเขาคงโดนขึ้นบัญชีดำของการเดินทางในประเทศจีนอีกด้วย โชคยังดีที่ชายคนนี้เปิดประตูฉุกเฉินก่อนเครื่องออก เพราะถ้าพี่แกดันไปเปิดตอนอยู่บนฟ้า มันคงวุ่นวายกว่านี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ที่มา: medium
-
เมื่อบุคคลไม่มีเชื้อเอเชีย ใส่กี่เพ้าเคล้าดราม่าไปร่วมงานพรอม ชาวเน็ตติงถึงความเหมาะสม!!
เอกลักษณ์ของชุดประจำเชื้อชาตินั้นยังคงเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันว่า ควรจะให้บุคคลเชื้อสายอื่นได้มีโอกาสสวมใส่ได้หรือไม่ หรือในอีกประเด็นหนึ่งก็คือการนำชุดไปใส่ในงานต่างๆ นั้นมีข้อจำกัดอยู่มากน้อยแค่ไหนกัน… อันเนื่องมาจากประเด็นที่ชาวเน็ตต่างชาติกำลังพูดถึงกันอยู่ก็คือ ชุดกี่เพ้า อันเป็นชุดเอกลักษณ์เฉพาะของชาวจีน มีหญิงรายหนึ่งสวมใส่ชุดนี้ไปร่วมงานพรอม แต่กลับถูกวิจารณ์อย่างหนักเนื่องจากการใส่ชุดกี่เพ้าไปงานพรอมนั้นไม่เหมาะสม และลามไปจนถึงไม่มีเชื้อสาย ‘เอเชีย’ เรื่องมันเกิดขึ้นจาก @daumkeziah ได้ทำการโพสต์รูปภาพของเธอในชุดกี่เพ้าเข้าร่วมงานพรอม มองผิวเผินทั่วไปก็คงจะเป็นชุดสวยๆ ที่ใส่ออกงานอยู่แล้ว แต่ทว่าหลังจากโพสต์ถูกรีทวีตไปเป็นจำนวนมาก ข้อความที่มองกลับในฝั่งตรงข้ามก็มีเยอะเช่นเดียวกัน แบบนี้ไม่โอเค ฉันคงไม่ใส่ชุดประจำชาติเกาหลี ญี่ปุ่น หรือชุดประจำชาติอื่นๆ และฉันเป็นชาวเอเชีย ฉันจะไม่ใส่ชุดประจำชาติไอร์แลนด์ สวีเดน หรือกรีก ด้วยเช่นกัน มันมีประวัติศาสตร์อยู่เบื้องหลังชุดเหล่านี้อยู่นะ เศร้าใจจัง วัฒนธรรมเอเชียไม่ใช่เรื่องสุนทรียะที่คุณจะเอามาใช้ได้ ความตั้งใจของเธอไม่ตรงประเด็น การตัดสินใจอันย่ำแย่นี้เป็นการยึดครองทางวัฒนธรรมและเป็นการสร้างภาพวัฒนธรรมของเราให้คนขาว กรุณาดูรางเหง้าตัวเองด้วย วัฒนธรรมของเราไม่ได้เป็นชุดไปงานพรอมนะ! อย่างไรก็ตามเธอพยายามอธิบายว่าไม่ได้ตั้งใจลบหลู่วัฒนธรรมชาวจีน เพียงแค่ชื่นชมและจะไม่ยอมลบเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด มันก็เป็นแค่ชุด และมันก็สวยมากๆ แม้จะมีใครบอกกล่าวไปแล้ว ว่าเธอไม่ใช่ชาวเอเชีย จะเป็นการดีกว่าที่เธอจะยอมฟังชาวเอเชียแท้ๆ เพราะเธอกำลังบอกว่าชื่นชมวัฒนธรรมของพวกเขาอยู่นะ ชาวเน็ตบางรายก็เข้ามาย้ำอีกรอบว่า เพราะท่าทางของเธอนั่นแหละ… …
-
เด็กหนุ่มวัย 13 ต๊กกะใจ มีขนขึ้นที่ด้านหลังยาวเฟื้อย ขนชาวบ้านเชื่อว่าอาจเป็นเทพจุติลงมาเกิด
เด็กชายชาวอินเดียคนนี้มีชื่อว่า Sohail Shah วัย 13 ปี ผู้ที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางร่างกาย เพราะเขามีขนงอกออกมาที่หลังคล้ายกับหาง จนชาวบ้านเชื่อว่าเขาอาจจะเป็นเทพจุติลงมาเกิด ตามรายงานจากเว็บไซต์ Dailymail บอกว่าหางของเขานั้นมีความยาวราวๆ 45 เซนติเมตร ชาวบ้านเชื่อว่าขนหรือหางที่งอกออกมานั้น ทำให้เขากลายเป็นร่างอวตารของลิงหนุมาน ซึ่งหลังจากที่เรื่องของเขาถูกพูดถึงในวงกว้าง ก็ทำให้ชาวบ้านจากหมู่บ้านข้างๆ แห่กันมาดูเขาและสวดขอพร ชาวบ้านหลายคนขนเอาผลไม้เช่นกล้วยและมะม่วงใส่ถุงมาให้กับ Sohail เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับที่เขาจะให้ศีลให้พรกับชาวบ้าน เขากลายเป็นคนดังในโรงเรียน คนที่นั่นให้ความสนใจเขาเป็นพิเศษโดยเฉพาะคุณครู ที่แทบจะไม่เคยดุด่าเขาเลย เพราะกลัวว่าจะไปทำให้พระเจ้าที่สถิตอยู่ในตัวเขาโกรธเกรี้ยว ยังไม่มีการเผยสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมเด็กหนุ่มคนนี้ถึงมีขนงอกออกมาที่หลัง แต่น่าจะเป็นผลมาจากความผิดปกติของท่อประสาท เพราะในช่วงเดือนแรกที่เด็กเกิดมาจะมีโครงสร้างที่เรียกว่าหลอดประสาทซึ่งจะก่อให้เกิดกระดูกสันหลังและระบบประสาท แต่ Sohail อาจเกิดมาพร้อมกับหางเนื่องจากข้อบกพร่องของหลอดประสาทเรียกว่า Spina Bifida ซึ่งเกิดจากการที่กระดูกสันหลังไม่ได้ถูกพัฒนาอย่างถูกต้อง Sohail เล่าว่าเขารู้สึกดีมากที่กลายเป็นคนดังและที่รักของคนอื่นๆ และยังบอกอีกว่าเขาไม่คิดจะตัดหางนี่ออกด้วย “ผมไม่ได้รู้สึกอายกับหางนี่เลย ผมเกิดมาพร้อมกับมันและมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว ผมเห็นคนปฏิบัติกับผมเหมือนเป็นพระเจ้าตั้งแต่ผมเกิด ผมเลยไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่อะไร พวกเขาเรียกผมว่าหนุมานและลูบเท้าผมเพื่อขอพร” นอกจากนี้เขายังเล่าอีกว่าหากเขาออกไปเดินตามท้องถนน ผู้คนจะเข้ามาขอพรกับเขาพร้อมกับผลไม้ นั่นทำให้เขารู้สึกพิเศษเข้าไปอีก ทางครอบครัวของ Sohail…
-
มุมมองการใช้ชีวิตของคนในฮ่องกง ห้องเล็กเท่ารูหนู แต่ค่าเช่ารายเดือนเกือบ 1 หมื่นบาท
ฮ่องกง คือเขตปกครองพิเศษของจีนที่ขึ้นชื่อว่ามีเศรษฐีอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เปรียบเหมือนกับเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความหรูหรา มั่งคั่ง แต่เบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ของสถานที่แห่งนี้คือการใช้ชีวิตอย่างยากลำบากของผู้คนที่ต้องอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ ห้องเช่าเล็กๆ ที่ถูกเรียกว่า “บ้านโลงศพ” เพราะมีขนาดพอให้เราได้นั่งๆ นอนๆ บ้างเท่านั้นเอง คนจำนวนไม่น้อยจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในห้องเช่าที่มีขนาดเท่ารูหนู ในหลายๆ แห่งมีพื้นที่แค่ 46 ตารางเมตร แต่กลับต้องอาศัยอยู่ร่วมกันกว่า 30 ชีวิต ไม่ต้องคิดภาพกันเลยว่ามันจะคับแคบและอึดอัดมากขนาดไหน คนจำนวนมากต้องแบ่งพื้นที่อาศัยกันในพื้นที่ที่มีอยู่จำกัด . ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในห้องเช่าเหล่านั้นมักจะเป็นผู้สูงอายุในวัยเกษียณ คนหาเช้ากินค่ำ ผู้มีความผิดปกติทางจิต คนติดยา หรือแม้แต่ครอบครัวธรรมดาๆ ที่ไม่สามารถหารายได้ได้เพียงพอต่อการอยู่อาศัยในที่ดีๆ . คนจำนวนมาก กลับถูกอัดให้มาอาศัย ใช้สิ่งต่างๆ ร่วมกันในห้องแคบๆ บางคนอาจคิดว่า สำหรับคนที่มีงานมีการเป็นหลักแหล่ง ทำไมพวกเขาถึงจำเป็นต้องมาอาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ แบบนี้ แทนที่จะออกไปหาห้องเช่าที่มีความสะดวกสบายมากกว่า? นั่นก็เป็นเพราะว่าราคาค่าเช่าต่อเดือนของที่พักอาศัยในฮ่องกงถือว่าสูงเอามากๆ นั่นเอง ลองคิดดูว่าห้องนอนขนาดความกว้าง 60 เซนติเมตร ยาว 170 เซนติเมตร อย่างที่เราเห็นในภาพนี้ ส่วนใหญ่มีค่าเช่าอยู่ที่…
-
สาวถูกตำรวจเรียกสอบสวนเพราะเป็น ‘คนอ้วนและผิวสี’ หลังทำให้ ผดส. ข้างๆ ไม่พอใจ
ในทุกวันนี้โลกเรานั้นถูกบอกต่อกันมาว่าเป็นยุคแห่งความเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเพศชายเพศหญิงก็มีสิทธิเหมือนๆ กัน จะผิวดำผิวขาวหรือจะผิวเหลืองก็สามารถทำอะไรได้เท่าเทียมกัน แต่ในคำบอกเล่าแสนสวยงามนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมีคนบางคนที่ไม่ยอมรับในความเท่าเทียมที่กำลังเกิดขึ้น บางคนยังยึดติดกับกฎแบบเดิม เหมือนอย่างง Amber Phillips หญิงอายุ 28 คนนี้ ในขณะที่เธอนั่งเครื่องบินสายการบิน American Airlines จาก North Carolina กลับไปยัง Washington DC เธอมีปัญหากับผู้โดยสารผิวขาวคนหนึ่ง ซึ่งถึงขั้นต้องเรียกตำรวจมาจับเลยทีเดียว ในวันที่ 26 เมษายน 2018 Amber ได้ทวีตเรื่องราวที่เธอประสบมาลงในทวิตเตอร์โดยมีใจความดังนี้ ‘นี่เป็นมุมมองของฉันคืนนี้นะเพราะฉันไปทำให้ผู้หญิงผิวขาวรู้สึกไม่สบายใจเพราะไปบันทึกเหตุการณ์ที่เธอพยายามจะฉีกหน้าฉันบนเครื่องบิน และนำชีวิตของฉันรวมถึงผู้โดยสารท่านอื่นไปเสี่ยงอันตราย’ โดยที่เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เธอนั่งติดกับผู้โดยสารผิวขาวคนหนึ่งซึ่งเนื่องจาก Amber ตัวค่อนข้างใหญ่จึงทำให้แขนของเธอไปชนกับแขนของผู้หญิงผิวขาวคนดั่งกล่าว โดยเธอถูกบอกอย่างเสียงดังว่าให้เธอย้ายไปนั่นที่อื่นได้มั้ย นั่นทำให้เธอกลัวมากๆ Amber จึงได้ทำการถ่ายรูปและวิดีโอของหญิงคนดังกล่าวไว้หลังจากที่เครื่องบินมาถึงที่หมายแล้ว แต่เมื่อเธอลงมาแล้วนั่งรถรับส่งเพื่อจะไปยังสถานีเธอกลับต้องถูกตำรวจเรียกไปสอบสวน เพราะผู้หญิงผิวขาวนั้นโกหกว่าเธอถูก Amber ทำร้าย โดยที่ตำรวจคนแรกนั้นไม่ยอมให้เธอพูดโต้ตอบแม้แต่จะอธิบายว่าในเหตุการณ์จริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น และเมื่อตำรวจคนที่เธอเข้ามาหาเธอและพูดว่ากล่าวตักเตือนเธอเหมือนกับเธอเป็นเด็ก และเมื่อเธอถามว่าเธอจะถูกจับกุมมั้ย เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่าไม่ แต่เมื่อเธอถามอีกว่าเธอไปได้หรือยัง เจ้าหน้าที่กลับตอบว่าคุณต้องรอก่อนเพราะว่าเราไม่สามารถปล่อยให้คุณออกไปตอนนี้ได้ มันจะอันตรายกับคนอื่น ซึ่งหลังจากที่เธอได้โพสต์เรื่องนี้ลงในทวิตเตอร์ก็สร้างความถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์และ American Airlines ก็ได้เข้ามาแสดงความรับผิดชอบโดยตอบว่า “พวกเราอยากทำให้โลกนี้มันเล็กลงและครอบคลุมสถานที่มากขึ้น…
-
เด็กชายชาวญี่ปุ่นขู่จะแทงพนักงานในโรงเรียน เพราะบังคับให้ใส่ชุดนักเรียนราคาแพง
ดูเหมือนว่าการแต่งกายไปโรงเรียนนั้น จะเป็นปัญหาในหลายๆ ประเทศมากกว่าที่คิด ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะมีข่าว เด็ก 7 ขวบโดนทำโทษเพราะ “ทรงผมไม่เหมาะสม” จากครูที่ “ย้อมผมสีชมพู” กันไป คราวนี้ก็มีข่าว เด็กชายชาวญี่ปุ่นขู่จะแทงพนักงานในโรงเรียน เพราะโดนบังคับให้ใส่ชุดนักเรียนราคาแพงอีก เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อโรงเรียนประถมศึกษา Taimei ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชอปปิงสุดหรูของ Ginza ได้ออกนโยบายให้นักเรียนทุกคนในโรงเรียนต้องแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบนักเรียนที่ผลิตโดยแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของอิตาลี Giorgio Armani เดิมทีแล้วราคาชุดนักเรียนของญี่ปุ่นนั้นก็ค่อนข้างที่จะสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยหากจะซื้อชุดนักเรียนครบทุกฤดูในโรงเรียนปกติ ผู้ปกครองบางครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายมากถึง 100,000 เยน (ราวๆ 30,000 บาท) เลยทีเดียว ดังนั้นการตัดสินใจของโรงเรียน Taimei จึงไม่ค่อยจะเป็นที่พอใจของชาวญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับเด็กชายวัย 14 ปีผู้กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมต้นในจังหวัด Tochigi จากการเปิดเผยข้อมูลของตำรวจ เด็กหนุ่มได้ทำการเขียนข้อความขู่ลงบนอินเตอร์เน็ตว่า “(โรงเรียนประถมศึกษา Taimei) ควรปล่อยให้นักเรียนแต่งตัวมาเรียนตามปกติ ถ้าพวกมันไม่ทำผมจะออกไปจะแทงพวกมันด้วยมีดเอง” แม้จะดูเหมือนข้อความล้อเล่น แต่ด้วยความเป็นห่วงในความปลอดภัยของคนในโรงเรียน อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน Taimei จึงตัดสินใจแจ้งเรื่องนี้กับทางตำรวจ ซึ่งต่อมาสามารถสืบสาวกลับไปยังเด็กหนุ่มผู้เป็นคนเขียนข้อความได้ เด็กหนุ่มให้การรับสารภาพโดยบอกว่าทำไปเพราะเขาคิดว่า “มันเป็นเรื่องที่ผิดที่จะสั่งให้เด็กสวมเครื่องแบบที่มีราคาแพงทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นเพียงเด็กประถมเท่านั้น” ดูเหมือนว่าทางโรงเรียนจะมีการยื่นฟ้องต่อนักเรียนหนุ่มที่กระทำผิดในข้อหาเกี่ยวกับการคุกคาม แต่ในขณะนี้ดูเหมือนว่าคดีจะปิดลงไปด้วยดีแล้ว อย่างไรก็ตามจากกระแสที่เกิดขึ้นนั้น คาดว่าโรงเรียนประถม Taimei อาจจะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องนโยบายการแต่งกายเป็นแน่ โดยเฉพาะจากชาวอินเตอร์เน็ตของญี่ปุ่น…
-
เอาเรื่อง… หญิงถูกห้ามเข้าสนามบอล จำใจต้องแปลงกายเป็นชาย เพื่อเข้าเชียร์ขอบสนาม!!
ด้วยวัฒนธรรมและกฎระเบียบข้อปฏิบัติของแต่ละประเทศ บางสิ่งบางอย่างที่เรามองว่าเป็นเรื่องทั่วไป ใครๆ ก็มีสิทธิ์ทำได้ กลับแตกต่างจากประเทศอิหร่านอย่างสิ้นเชิง โพสต์ต้นเรื่องดังกล่าวมาจากเว็บไซต์ Reddit พร้อมกับรูปภาพของแฟนบอลที่มีลักษณะคล้ายกับผู้ชาย นั่งเรียงกันอยู่ 5 คน ซึ่งทั้งหมดนั้นคือผู้หญิงแท้ๆ!! ภาพดังกล่าวถ่ายมาจากสนามกีฬาอะซาดี เมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน เป็นช่วงเฉลิมฉลองถ้วยของสโมสร Persepolis ที่สามารถคว้าอันดับที่ 11 ของลีคอิหร่านมาได้ และแน่นอนว่าทางสนามมีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้าร่วมแมตช์หรือกิจกรรมใดๆ ของฟุตบอลชายเลย จากข้อมูลของเว็บไซต์ Daily Sabah รายงานว่า มีผู้หญิงประมาณ 35 ราย พยายามเข้าร่วมการแข่งขันดาร์บี้แมตช์ระหว่างสโมสร Esteqlal และ Persepolis ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางด้าน จันนี อินฟันตีโน ประธานฟีฟ่าผู้อยู่ในประเทศอิหร่าน ณ ช่วงเวลานั้นได้เข้าร่วมชมเกมฟุตบอลในครั้งนั้นด้วย และมีรายงานว่าเขาได้รับคำมั่นสัญญาจากประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน รูฮานี ที่จะอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถเข้าร่วมชมฟุตบอลในสนามได้ในอนาคต แต่ทว่าในช่วงนี้ผู้หญิงชาวอิหร่านก็ยังคงต้องแปลงร่างเป็นผู้ชายเพื่อเข้าร่วมเชียร์ถึงขอบสนามไปก่อน อย่างเช่นผู้ใช้อินสตาแกรม zeinab_perspolisi_ak8 ที่ได้โพสต์รูปของตัวเธอเองแต่งหน้าให้เป็นผู้ชายครึ่งซีก แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงอิหร่านต้องพยายามขนาดไหนที่จะเข้าไปดูบอล! …
-
จะดูโว้ย! แฟนบอลถูกห้ามเข้าสนาม แต่ไม่อาจห้ามความชื่นชอบ เช่ารถเครนยกสูงดูคนเดียวก็ได้
ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็แล้วแต่ หากถูกสั่งห้ามหรือปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกิจกรรมใดก็ตาม ก็คงคิดว่าหมดสิทธิ์เดินคอตกกลับบ้าน อดดู อดร่วมงานสำคัญที่ตั้งใจมาเป็นแน่แท้… แต่หาใช้ห้ามกับแฟนบอลชาวตุรกีผู้นี้ไม่ ที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าสนามเพื่อเข้าร่วมชมแมตช์ฟุตบอลของ Denizlispor สโมสรอันเป็นที่รักกับสโมสร Gaziantepspor แทนที่จะใช้วิธีแอบเนียนเข้าไปพี่แกไม่อยากเหนื่อยขนาดนั้น เล่นไปเช่าของสูงมาโชว์เหนือซะ!! จากการรายงานของเว็บไซต์ BirGun รายงานว่าแฟนบอลชาวตุรกีท่านนี้ ได้ทำการเช่ารถเครนยกสูงบริเวณด้านนอกสนาม เพื่อที่จะร่วมดูและเชียร์ทีมของตนเองในการแข่งขันลีค TFF First League โดยแทบไม่ต้องง้อใครอื่นกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวไม่ได้เปิดเผยว่าเขาถูกสั่งห้ามเข้าสนามด้วยเหตุผลใด แต่ที่แน่ๆ ก็คือการใช้เงินในครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าเพราะสามารถซัดเข้าประตูไปได้ถึง 5 – 0 สาแก่ใจตัวเองสุดๆ ที่นั่งชั้นพิเศษ สบายใจสุดๆ! แต่เท่าที่เห็นจากภาพภายในสนาม ที่นั่งยังคงเหลือว่างอีกเพียบ เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ยอมให้แฟนคลับเดนตายท่านนี้ได้ไปนั่งเชียร์ในสนามเหมือนกับคนอื่นๆ เขา ทั้งที่แฟนๆ บางคนแทบจะขายไตซื้อตั๋วเพื่อมาดูการแข่งขันถึงขอบสนาม และพี่แกก็ทำเช่นเดียวกัน ฮร่าาาา ที่มา : birgun, ladbible
-
อพยพนักเรียนกว่า 500 ชีวิต คิดว่าแก๊สรั่ว แต่พอหาจนทั่ว พบว่าต้นเหตุคือเจ้า “ทุเรียน” นี่เอง
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2018 เวลาประมาณบ่าย 3 โมงเย็น (ตามเวลาท้องถิ่น) ได้เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นในอาคารห้องสมุดของสถาบันเทคโนโลยี Royal Melbourne (RMIT) ประเทศออสเตรเลีย หลังจากที่นักเรียนได้กลิ่นประหลาดคล้ายกับมีแก๊สรั่วภายในอาคารดังกล่าว อาคารห้องสมุด RMIT ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้คุณครูและนักเรียนกว่า 500 ชีวิต จำเป็นต้องอพยพออกมาและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเป็นการด่วน เพื่อป้องกันการสูญเสียและอาจเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ตามมาได้ เนื่องจากว่าภายในอาคารนั้นเต็มไปด้วยสารเคมีอันตรายในห้องแล็บวิทยาศาสตร์ เมื่อนักดับเพลิงมาถึงจึงเข้าไปสำรวจภายในตัวอาคาร ตามหาต้นตอของกลิ่นที่นักเรียนอ้างว่าเป็นกลิ่นแก๊สรั่ว จนกระทั่งพวกเขาได้ไปเจอกับที่มาของกลิ่นนั้น แต่ว่ามันกลับไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่ทุกคนคิด หน่วยนักดับเพลิงบอกว่า “หลังจากที่เราค้นหาจนทั่วแล้ว เราถึงได้พบว่ากลิ่นที่ว่านั้นไม่ใช่กลิ่นแก๊สรั่วหรือกลิ่นของสารเคมีอันตราย แต่มันเป็นกลิ่นแก๊สของ ‘ทุเรียน’ ผลไม้ที่มีกลิ่นฉุนรุนแรง ซึ่งมันเหลือเป็นเศษทิ้งไว้ในกระดาษลังภายในอาคาร” ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ที่คนไทยหลายๆ คนชื่นชอบ พวกเขาบอกว่ากลิ่นของเจ้าราชาแห่งผลไม้นี้ได้ลอยไปตามทางของช่องแอร์ ทำให้ทุกคนได้กลิ่นนี้กันอย่างทั่วถึง เกิดเป็นที่มาของการหนีตายในครั้งนี้ หลังจากนั้น หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจึงเข้าไปกำจัดกลิ่นและเคลียร์พวกเศษทุเรียนออกไปจากอาคารจนหมด ก่อนที่จะเปิดอาคารให้ใช้ตามปกติได้ในตอน 6 โมงเย็นวันเดียวกัน กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ถูกรายงานออกไปในหลายสำนักข่าว ในบางประเทศมีการห้ามไม่ให้นำทุเรียนเข้าตามสถานที่สาธารณะ…
-
ชมบ้านหรูที่พ่อหนุ่ม Justin Bieber หมายปอง ราคากว่า 340 ล้านบาท!! อลังการงานสร้างเว่อร์
คงไม่มีใครไม่รู้จักศิลปินหนุ่ม Justin Bieber ผู้สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปไกลทั่วโลก ด้วยเสียงร้อง ความเท่ และหน้าตาอันหล่อเหลา ครองใจได้ทั้งสาวอ่อนและสาวแก่ Justin Bieber นักร้องหนุ่มวัย 24 ปี ด้วยความโด่งดังของเขา จึงไม่แปลกที่จะต้องเป็นหนึ่งในคนดังที่มีเงินเก็บอยู่มากมายมหาศาลและพร้อมจะใช้มันซื้อความสุขให้กับตัวเอง โดยมีข่าวล่าสุดออกมาว่าเขากำลังมองหาบ้านสักหลังในเมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าการจะหาบ้านให้ถูกใจและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุดคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่แล้วพ่อหนุ่ม Justin ก็ได้มาเจอกับบ้านหลังนี้ที่ทำให้เขารู้สึกถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก กับราคาที่เผยออกมาว่าสูงถึง 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 340 ล้านบาท บ้านราคาสูงกว่า 340 ล้านบาท ที่นักร้องคนนี้หมายปอง ภาพบรรยากาศภายในบ้าน ถ้าจะให้เรียกว่าคฤหาสน์คงจะเหมาะกว่า เพราะนี่คือบ้าน 2 ชั้นบนเนื้อที่ประมาณ 183 ตารางวา เพียบพร้อมไปด้วยกระจกบานใหญ่ล้อมรอบตัวบ้านเอาไว้ มีระเบียงส่วนตัวยื่นออกมาให้รับลมในยามค่ำคืน ภาพทั้งหมดนี้เป็นการนำเสนอของทางบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มุมพักผ่อนหย่อนใจโอ่โถง กว้างขวาง มันถูกพัฒนาโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Ramtin Ray Nosrati…
-
บ้านหรือนรก? เจ้าของบ้านผู้ไม่เคยเก็บกวาดอะไรเลย แถมเลี้ยงแมวโดยไม่ให้อาหารด้วย!!
การที่เรารับเลี้ยงสัตว์ตัวหนึ่งมา เราก็ต้องพร้อมที่จะดูแลเหมือนกับคนในครอบครัว เลี้ยงด้วยความรัก เพราะว่าเราเป็นคนเดียวที่จะสามารถดูแลมันได้ตลอด แต่สำหรับหญิงสาวที่ชื่อว่า Celia Hart วัย 54 ปี เธออาจจะไม่ได้คิดเหมือนกันกับเรา เพราะไม่นานมานี้เธอเพิ่งขึ้นศาลหลังจากที่เธอได้ทิ้งแมว 2 ตัวไว้ลำพังในบ้านที่ Margam, Port Talbot แสนสกปรก ในสภาพไร้อาหารและน้ำดื่ม เธอถูกตัดสินให้มีความผิดจากกฎหมายคุ้มครองสัตว์ เนื่องจากเธอทิ้งแมวสองตัวชื่อว่า Domino และ Moses ไว้ในบ้านที่ไม่สามารถบรรยายถึงความสกปรกของมันได้เลย นี่คือสภาพบ้านที่ไม่สามารถเรียกว่าบ้านได้ . Celia Hart ถูกตัดสินคุมขัง 12 สัปดาห์ รองลงอาญาอีก 12 เดือน รอบำเพ็ญประโยชน์ 20 วัน อีกทั้งยังถูกแบนไม่ให้เลี้ยงสัตว์อีก 10 ปี และค่าปรับอีก 18,000 บาท เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ Moses นั้นได้ตายไปเนื่องจากขาดอาหารและน้ำดื่ม แต่ Domino ยังรอดมาได้ จึงรีบเข้าช่วยเหลือและทำการรักษาอย่างเร่งด่วน จนตอนนี้มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งและได้บ้านหลังใหม่เรียบร้อยแล้ว Gemma Cooper…
-
ตำรวจอเมริการอดชีวิตจากการโดนแก๊งลากไปฆ่าในป่า เพราะสุนัขเข้ามาช่วยไว้ทัน
ฮีโร่ไม่จำเป็นต้องสวมผ้าคลุมเสมอไป พวกเขาอาจจะเป็นเพียงคนธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแค่ช่วยเหลือใครบางคนหรือทำในสิ่งที่ถูกต้อง และในบางครั้งฮีโร่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นมนุษย์เลยด้วยซ้ำ ในระหว่างการลาดตระเวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ Todd Frazier จากลองบีช กรมตำรวจมิสซิสซิปปี อเมริกา ได้พบกับคนที่ดูเหมือนจะหมดสติอยู่ในรถ เมื่อเขาไปดูว่าคนขับเป็นอะไรเขาก็ถูกดึงความสนใจโดยชายอีกชายสองคนที่เดินเข้ามาหา ก่อนที่จะรู้ตัวว่ามันเป็นกับดักที่วางไว้โดยแก๊งท้องถิ่น พวกเขาจัดการใช้กำลังล็อกตัวเจ้าหน้าที่ Todd และลากเขาเข้าไปในป่าโดยวางแผนที่จะกรีดคอของเขา โชคดีที่เจ้าหน้าที่ผู้โดนโจมตีนั้นพกอุปกรณ์บนเข็มขัด ซึ่งทำให้เขาสามารถเปิดกรงของ Lucas สุนัขตำรวจที่อยู่ห่างออกไปได้ ราวกับมันรู้ว่าคู่หูกำลังตกอยูในอันตราย ทันทีที่กรงเปิดออก Lucas ก็พุ่งออกจากกรงเพื่อวิ่งไปหาเจ้าหน้าที่ Todd ทันที “มันรู้ว่าผมตกอยู่ในอันตราย ผมได้ยินมันวิ่งมา ผมอาจจะมองไม่เห็นอะไรเพราะเลือดเข้าตาอยู่ แต่ผมได้ยินมันใกล้เข้ามา มันขู่และเห่าราวกับเป็นหมาป่าไม่มีผิด… ในตอนนั้นเองผมก็คิดในใจว่า เดี๋ยว Lucas จะจัดการพวกแกเอง” เจ้าหน้าที่ Todd เล่าถึงเหตุการณ์ที่เขาพบเจอ “ลูคัสกระโดดออกจากรถและไล่กัดทั้งสามคนจนพวกเขาวิ่งหนีไป มันเป็นวีรบุรุษของผมเลย” Lucas ประสบความสำเร็จในการปกป้องชีวิตของเจ้าหน้าที่ Todd แม้ว่าต้องแลกกับบาดแผลบนตัวของพวกเขาก็ตาม Lucas มีแผลเอ็นฉีกขาด และฟันหลุดไปสองสามซี่ ส่วนเจ้าหน้าที่ Todd นั่นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งสองถูกส่งแยกไปยังโรงพยาบาลของคน และของสัตว์ Lucas…
-
คู่รักบินไกลกว่า 6,500 กม. นาน 15 ชั่วโมง ไปๆ มาๆ กลับมาที่จุดเริ่มต้นซะงั้น!!
ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีจะไปไกลมาก เชื่อมโยงคนทุกคนเข้าด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามแต่ มันก็ไม่มีอะไรสามารถเอาชนะภัยธรรมชาติได้หรอก เหมือนอย่างที่เครื่องบินไม่สามารถเอาชนะลมอันรุนแรงได้ มีคู่รักคู่หนึ่งที่ดูเหมือนจะหัวร้อนมากๆ หลังจากอดทนนั่งเครื่องบินกว่า 15 ชั่วโมง เป็นระยะทางกว่า 6,500 กม. แต่สุดท้ายก็ได้กลับไปที่จุดเริ่มต้น เพราะว่าสภาพทางอากาศไม่เอื้ออำนวยเลย Paul Davies วัย 71 ปี และภรรยาของเขา Ana รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ท่องเที่ยวจากเมือง Bristol ไปยัง Madeira แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อสภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ ทำให้แผนที่ต้องไปลงจอดที่เกาะ Portuguese ต้องเปลี่ยนเป็นที่ Lisbon แทน แถมต้องรอกว่าชั่วโมงและเหลืออีกครึ่งทาง Paul กล่าวว่า “หลังจากรออยู่เป็นชั่วโมง เราก็ได้กลับไปที่ Madeira และบินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น แถมตอนนั้นยังมีเครื่องบินอีก 8 ลำที่ยังลงจอดไม่ได้บินวนอยู่อีกด้วย” สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ลงจอด Madeira หรือ Lisbon แต่เขาพาไปลงที่ Porto แทน พวกเขานั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสารพร้อมกับผู้โดยสารคนอื่นอีก 39 คน หลังจากนั้นกัปตันก็เอาเครื่องขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไปไหนไม่ได้ไกล แล้วไปลงจอดที่ Bristol จุดเริ่มต้นอีกครั้ง “เราเดินทางกว่า…
-
เสื้อไม่ต้อง!! หนุ่มบราซิลคลั่งไคล้ทีมฟุตบอลที่รัก “สักเสื้อทีม” ลงบนตัวม่างเลย
รอบๆ ตัวเราคงจะมีคนที่คลั่งไคล้ฟุตบอลมากๆ ให้ได้เห็นกัน คนเหล่านั้นมักจะมีเสื้อของทีมในดวงใจ หรือมีของที่ระลึก หรืออะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวข้องกับทีมที่พวกเขารัก แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าสักบนตัวเป็นลวดลายของทีมที่รัก และจะมีสักกี่คนที่เลือกรอยสักเป็น “เสื้อทีม” ทั้งตัว… นี่เป็นเรื่องราวของ Jose Mauricio dos Anjos วัย 33 ปี ชาวบราซิลที่คลั่งไคล้ทีมฟุตบอลอย่าง Flamengo (ฟลาเมงโก) เอามากๆ จนถึงขนาดที่ว่า เขาลงทุนเอาลวดลายบนเสื้อบอลของสโมสรนี้เมื่อปี 2015 มาเป็นลายสักบนตัวของเขา ทำให้เหมือนกับว่าเขาสวมเสื้อบอลของทีมที่รักอยู่ตลอดเวลา ตามรายงานจากเว็บไซต์ Metro บอกว่านาย Jose ต้องใช้เวลานานกว่า 90 ชั่วโมงในการสักลายเสื้อลงบนร่างกาย และไม่ได้เสร็จภายในวันเดียวด้วย แต่ต้องค่อยๆ ไปสักเพิ่มทีละนิดทีละหน่อย นาย Jose บอกว่าเขาต้องทนเจ็บกว่า 32 ครั้ง เพื่อที่จะให้ได้ลวดลายของเสื้อทีมที่สมบูรณ์ และเมื่อเขากลายเป็นข่าวดังไปทั่วบราซิล เขาก็กลายเป็นคนดังที่ใครๆ ต่างก็พูดถึง ชายหนุ่มรายนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ผู้คนถามผมว่าผมไม่รู้สึกแปลกบ้างเหรอที่ดูเหมือนคนใส่เสื้อทีม Flamengo ตลอดเวลา แต่ผมก็เฉยๆ นะ…
-
ภาพของเจ้าชายวิลเลียม “ชูนิ้วกลาง” กลายเป็นไวรัล แต่จริงๆ มันคือมุมกล้องนะจ๊ะ
เชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นภาพนี้คงตกใจเอามือทาบอกที่เห็นเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์แสดงกิริยาที่ดูก้าวร้าว ชูนิ้วกลางให้ใครก็ไม่รู้ แถมมีกล้องจับภาพได้ด้วย งานนี้คงต้องมีดราม่าแล้วล่ะ ภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายขณะที่กำลังมีข่าวดีว่าเจ้าชายวิลเลียมได้มีบุตรคนที่ 3 แต่ภาพที่ออกมาเหมือนเจ้าชายกำลังอารมณ์ร้อน ชูนิ้วกลางให้นักข่าว แถมภาพนี้ทำให้หลายคนเห็นแล้วรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แต่ช้าก่อน…อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจากภาพภาพเดียว เพราะภาพนี้เป็นเพียงมุมกล้องที่ทำให้เข้าใจผิดได้อย่างง่ายดาย ความจริงแล้วเจ้าชายวิลเลียมไม่ได้ชูนิ้วกลางอย่างที่ทุกคนคิด แต่เป็นการชูสามนิ้วขึ้นมาต่างหากล่ะ ภาพนี้ถ่ายในขณะที่เจ้าชายวิลเลียมเดินออกมาจาก Lindo Wing of St. Mary’s Hospital เมื่อวันจันทร์ที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากการประสูติของโอรสองค์ที่ 3 เจ้าชายหลุยส์ หลังจากที่กำลังเข้าไปในรถก็ได้คุยกับนักข่าวว่า “เรามีความสุขและรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก กังวลสามเท่าแล้วตอนนี้” ในช่วงที่พระองค์พูดว่า “สามเท่า” นั้นก็ได้ชูสามนิ้วขึ้นมาด้วย และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของภาพที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดไปขนาดนี้ ตอนนี้คนทั้งโลกก็ได้ชมประโฉมของโอรสองค์ใหม่ของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีนแล้ว ต้องรอดูว่าในอนาคตเราจะได้เห็นช่วงเวลาน่ารักๆ แบบนี้อีกหรือไม่ ที่มา unilad
-
พบกับปราสาทแต่งงานสุดเด้งดึ๋ง ที่จะทำให้วันพิเศษของคุณ พิเศษยิ่งขึ้นกว่าเดิม!!
ในวันที่สุดแสนพิเศษอย่างเช่นวันแต่งงาน เราก็อยากจะให้ทั้งเราและแขกที่มาด้วยมีความสุขไปกับงานที่เราตั้งใจจัดขึ้น บรรยากาศเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ดังนั้นเราก็ต้องมีของที่เอาไว้ทำให้ทุกคนมีความสุข ถ้าตอนนี้คุณมีวงดนตรีดีๆ อาหารอร่อยๆ สถานที่จัดสวยๆ สำหรับงานแต่งแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนมีนั่นก็คือปราสาทเด้งดึ๋งสุดอลังการอันนี้ ที่จะทำให้งานแต่งงานของคุณดูมีสีสันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม A Wedding Wonderland ผู้จัดงานแต่งแห่งนี้ได้สร้างสรรค์งานแต่งให้สนุกยิ่งขึ้น ด้วยการยกเอาปราสาทเด้งดึ๋งนี้เข้ามามีส่วนร่วมในงานแต่งด้วย ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งผ่านการกระโดดโลดเต้นแบบที่ไม่ต้องอายแขกในงาน โดยผู้จัดนั้นได้ออกแบบปราสาทแห่งนี้ได้อย่างสวยงามและหลากหลายลวดลาย อีกทั้งถ้าคุณไม่ได้อยากเล่นมัน แค่ตั้งเอาไว้เฉยๆ ก็จะเพิ่มบรรยากาศให้กับงานแต่งได้เป็นอย่างดี แต่ตอนนี้ทาง A Wedding Wonderland นั้นจะจัดงานเฉพาะทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษในรัศมี 50 ไมล์ เท่านั้น ใครอยากจะให้มาจัดก็คงต้องเป่ากันเองแล้วล่ะ ตัวปราสาทก็มีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ . . . . . . . ไม่เพียงเท่านั้นยังมีกำแพงน่ารักๆ เอาไว้ให้ถ่ายรูปอีกด้วยนะ . ถ้าใครชอบงานแต่งสไตล์สนุกสนานก็ลองเอาไอเดียนี้ไปใช้กันได้นะ รับรองว่าแขกในงานต้องกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งแน่นอน ที่มา unilad
-
พบหญิงสาวยัดปืนพกโผล่เข้าไปใน “อวัยวะเพศ” ของตัวเอง ขณะจอดรถรอไฟแดง
เหตุการณ์นี้เรียกได้ว่ามันเกิดขึ้นเหนือความคาดหมายมากๆ ปกติแล้วเวลาเราจะเอาของอะไรสักอย่างซ่อนเพื่อหนีความผิด ก็มักทิ้งมันไปเลย แต่นี่เล่นเอายัดเข้าไปในอวัยวะเพศซะงั้น หญิงสาวจากมิสซูรีคนหนึ่งนามว่า Anika Watt ถูกพบว่าเธอได้ซุกซ่อนปืนพกไว้ในอวัยวะเพศของเธอขณะที่กำลังติดไฟแดงอยู่ เธอถูกพบว่ามีความผิดฐานมีอาวุธไว้ในครอบครองและครองครองยาเสพติดอีกด้วย Anika วัย 27 ปี ถูกจับในสองข้อหาดังกล่าว หลังพบว่าเธอพยายามที่จะซ่อนอาวุธปืน Kimber .380 จากตำรวจไว้ในอวัยวะเพศขณะติดไฟแดงอยู่ที่ทางหลวง ซึ่งปืนถูกพบโดยตำรวจขณะค้นตัว นั่นทำให้เธอได้รับข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและถูกนำตัวขึ้นศาล Circuit Court in McLean County ในรัฐอิลลินอยส์ พร้อมทั้งถูกตัดสินให้จำคุก 10 ปี จากการครอบครองปืน และคุมขังอีก 15 ปีจากการครอบครองยาเสพติด แต่อาจได้ลดโทษเนื่องจากเธอได้ยื่นคำร้องต่อศาล ถ้าสงสัยว่าปืนมันใหญ่ขนาดไหน ปืน Kimber .380 มีความยาวประมาณ 5.6 นิ้ว และมีน้ำหนักประมาณ 3.7 ขีด แล้วนึกดูว่าเธอต้องยัดมันไว้ในตัวเธอเอง คงเป็นอะไรที่หนักเอาการ ที่มา unilad
-
เหล่านักเรียนร่วมแรงร่วมใจเหวี่ยง จนกลายเป็นการ “กระโดดเชือก” พร้อมกัน 120 เส้น!!
การออกกำลังกายด้วยการ กระโดดเชือก เป็นทั้งเรื่องง่ายและเรื่องยากสำหรับแต่ละคน เพราะใช่ว่าเราจะมีทักษะในด้านนี้ติดตัวกันมาตั้งแต่แรก หากแต่มันขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและการจับจังหวะของการกระโดดให้ดี ในขณะที่หลายๆ คนยังคิดว่าการกระโดดเชือกเป็นเรื่องยากอยู่ แต่สำหรับนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาโดยตลอด จนทำให้สามารถกระโดดหลบเชือกที่เหวี่ยงมาพร้อมกันถึง 120 เส้นได้เลยทีเดียว เด็กหนุ่มทำการกระโดดเชือกกว่า 120 เส้น ที่เพื่อนๆ เป็นคนเหวี่ยง นี่คือผลงานของโรงเรียนมัธยม Huaying ในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ในวันที่ 13 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา เมื่อนักเรียนจำนวน 240 คนร่วมกันเหวี่ยงเชือกจำนวน 240 เส้น โดยมีนักเรียนคนหนึ่งเป็นคนกระโดดหลบเชือกเหล่านั้น เด็กหนุ่มสวมหมวกนิรภัยพร้อมกับทำการกระโดดเชือก 120 เส้นได้มากถึง 158 ครั้ง ซึ่งในตอนแรกนักเรียนตั้งเป้าว่าจะทำให้ได้ 200 ครั้ง และก่อนหน้านี้ในตอนที่ซ้อมกันก็ได้มากถึง 187 ครั้ง คลิปการกระโดดเชือก 120 เส้น คนโดดว่าเก่งแล้ว คนเหวี่ยงนี่เผลอๆ อาจจะยิ่งกว่า Shi Kaihong คุณครูพละศึกษาของโรงเรียน…
-
PewDiePie ยูทูบเบอร์ชื่อดังประกาศหมั้นกับแฟนสาวแล้ว หลังคบกันมานาน 7 ปี!!
ถ้าพูดชื่อ Felix Kjellberg หลายคนอาจจะสงสัยว่าเขาเป็นใครกันนะ แต่ถ้าบอกว่า PewDiePie เชื่อว่าหลายคนอาจจะอ๋อขึ้นมาทันทีเลย เพราะเขาคือยูทูบเบอร์ที่โด่งดังเป็นอย่างมาก ถ้าใครติดตาม PewDiePie มานานก็คงจะทราบว่าเขามีแฟนสาวที่คบกันมานานแล้วที่ชื่อว่า Marzia Bisognin ซึ่งเธอก็ทำช่องยูทูบเช่นกันในชื่อ Marzia โดยการประกาศหมั้นนั้นได้ถูกประกาศขึ้นในโซเชียลมีเดียของทั้งคู่ด้วยการโพสต์ภาพ พร้อมทั้งคำบรรยายว่า ‘Felix proposed!’ โดยในภาพนั้นเราจะเห็นเหมือนว่า PewDiePie กำลังจะก้มมาจูบแฟนสาวของเขาด้วย เป็นอีกมุมหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้เห็นจากหนุ่มยูทูบเบอร์คนนี้ นอกจากนี้อีกจุดที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้ก็คือแหวนหมั้นนั่นเอง ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างดีว่าทั้งคู่กำลังจะมีข่าวดีในอนาคต แฟนๆ เชื่อว่า PewDiePie นั้นได้สวมแหวนให้เธอในตอนที่พวกเขากำลังท่องเที่ยวอยู่ที่ญี่ปุ่น เพราะช่วงนี้เขากำลังลงคลิป Vlog ในช่วงกำลังท่องเที่ยวในญี่ปุ่นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งคู่คบกันมานานถึง 7 ปี ซึ่งตัวเลขนี้เป็นการคาดการณ์ของแฟนๆ เพราะว่าเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2011 PewDiePie นั้นถือว่าประสบความสำเร็จทางด้านการเป็นยูทูบเบอร์เป็นอย่างมาก ทุกคลิปที่เขาโพสต์ลงต้องมียอดคนดูไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านวิว ซึ่งนี่แหละที่ทำให้เขาโด่งดังและมีรายได้มหาศาล แต่เมื่อปี 2017 อันดับการหารายได้ของเขาก็ตกลงไปหลังจากมีดราม่าคลิปที่เขาพูดออกแนวเหยียบเชื้อชาติ อีกทั้งยังมีความติสต์แตกด้วยการออกมาบอกว่าการที่เขาเล่นเกมให้คนอื่นดูนั้นเขาไม่ค่อยมีความสุขเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ยังไงซะข่าวนี้ก็ถือเป็นข่าวดี เพราะว่าเห็นคบกันมาตั้งนานแล้ว อีกไม่นานเราก็น่าจะได้เห็นภาพงานแต่งของเขา นึกไม่ออกเลยว่าจะงานจะออกมาเป็นอย่างไร แฟนๆ หลายคนก็ออกมาแสดงความดีใจให้กับเขามากมาย “พิวดี้พายขอมาร์เซียแต่งงาน…
-
เด็ก 7 ขวบโดนทำโทษจากเหตุ “ทรงผมไม่เหมาะสม” จากครูที่ “ย้อมผมสีชมพู”
เวลาใกล้ๆ ช่วงเปิดเทอมนั้น ในบ้านเราก็มักที่จะมีการถกเถียงกันเรื่องทรงผมนักเรียนออกมาให้เห็นกันเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นทำไมต้องตัดผม หรือทำไมไม่ยกเลิกผมทรงนักเรียนไปเลย… เรื่องเหล่านี้นั้น เป็นประเด็นถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน และดูเหมือนว่าจะเป็นประเด็นไปอีกหลายปีเช่นกัน แต่เชื่อไหมล่ะว่าเรื่องผมไม่เหมาะสมอะไรแบบนี้จะไม่ได้มีแต่เพียงในบ้านเรา แถมเรื่องในครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในอังกฤษ ประเทศที่เราคิดว่าเด็กๆ จะมีอิสระในการไว้ทรงผมที่ต้องการเลยด้วย เรื่องราวครั้งนี้เกิดขึ้นกับ Lucian Smith เด็กหนุ่มวัยเจ็ดขวบ ผู้ถูกลงโทษจากครูโรงเรียน Templars Academy ในเมืองวิทแธม มณฑลเอสเซ็กซ์ ประเทศอังกฤษ เนื่องจากเขาไปโรงเรียนในสภาพทรงผมกันลายสุดเฟี้ยว พ่อของเขา Darren Smith และแม่ Stephanie Harman กล่าวว่าพวกเขาคิดว่าผมของลูกจะยาวทันเวลาที่เขากลับมาจากช่วงวันหยุดอีสเตอร์ เลยปล่อยให้เขาตัดผมแบบนี้ แต่สุดท้ายมันก็ยาวไม่ทัน การลงโทษที่ลูกชายของพวกเขาได้รับเป็นการกักบริเวณ ซึ่งนั่นหมายความว่า Lucian จะไม่สามารถใช้เวลาพักร่วมกับเพื่อนๆ ของเขาได้ ซึ่งแม้พ่อแม่ของเขาจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก เรื่องที่พ่อแม่ของ Lucian รับไม่ได้จริงๆ คือคุณครูผู้ที่ลงโทษ Lucian นั้น ก็ย้อมผมของตัวเองเป็นสีชมพูเหมือนกันต่างหาก “นี่เป็นกรณีของคำกล่าวที่ว่า ‘ทำตามที่ฉันพูดไม่ใช่อย่างที่ฉันทำ’ ชัดๆ ถ้าคุณรับงานเป็นครู คุณก็ต้องเป็นแบบอย่าง และรับผิดชอบต่อกฎของคุณเอง คุณไม่สามารถบอกเด็กๆ ให้ทำสิ่งหนึ่ง ในขณะที่คุณกำลังทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกันได้ นี่มันการหลอกลวงชัดๆ” Darren กล่าว…
-
อวยเกม Frostpunk เกมดีๆ ที่อยากให้คุณได้ลองเล่น ขายได้กว่า 250,000 ชุดใน 3 วัน
ในปี 1886 ได้เกิดพายุหิมะลึกลับพัดไปทั่วโลก… แม้ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน แต่มันก็ทำให้อุณหภูมิโลกตกลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งไปตลอดกาล… พวกเราออกเดินทางขึ้นไปทางเหนือ ด้วยความหวังของการอยู่รอด ที่นั่นเอง เมืองซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายของมนุษย์ชาติก็ถูกสร้างขึ้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมืองนี้ต้องอยู่รอดต่อไป Frostpunk เป็นเกมสร้างเมืองแบบสตรีมพังค์ และเอาชีวิตรอดหลังวันสิ้นโลก ซึ่งมีเนื้อเรื่องอยู่ในจักวาลคู่ขนานที่โลกของเราจะปกคลุมด้วยหิมะ และความหนาวเย็นตลอดเวลา Frostpunk ได้รับการพัฒนาขึ้นโดย 11-bit Studios เจ้าของผลงานเกมบอกเล่าชีวิตเหยื่อสงครามยอดเยี่ยมอย่าง This War of Mine ในเกมนี้ คุณจะได้รับบทบาทเป็นผู้นำที่ได้รับการไว้วางใจจากประชาชนให้ควบคุม และดูแลเมืองแห่งสุดท้ายของมนุษยชาติ โดยที่นอกจากการที่คุณจะต้องดูแลทรัพยากรต่างๆ และสร้างเมืองที่เหมาะสมกับความต้องการของประชาชนเหมือนกับเกมสร้างเมืองทั่วๆ ไป ใน Frostpunk คุณยังต้องดูแลเครื่องทำความร้อนที่เป็นศูนย์กลางของเมืองให้ทำงานอยู่ตลอดเวลาไม่อย่างนั้นผู้คนทั้งเมืองจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ และยังต้องค่อยรักษาระดับ “ความหวังในการใช้ชีวิต” ของผู้คนในเมืองอีกด้วย… เพราะเพื่อที่จะให้เมืองสามารถอยู่รอดต่อไป ความหวังของผู้คนจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คุณจะต้องเลือกระหว่างการใช้แรงงานเด็ก กับการที่เด็กได้อยู่อย่างมีความสุขแต่เมืองต้องขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก การฝังศพอย่างถูกต้องตามศาสนา หรือการเก็บศพไว้ใช้งานต่อไป แต่ขอให้จำไว้ว่าไม่ว่าคุณจะทำอะไรลงไป ทุกสิ่งล้วนแต่จะมีผลกระทบเข้าสักวัน Frostpunk นั้นได้รับคะแนนในระดับสูงจากนักวิจารณ์เกมหลากหลายเจ้า ด้วยเนื้อหาเกมที่หนัก กดดัน และท้าทายผู้เล่น…
-
เปิดภาพยุค 90s สไตล์รัสเซีย ที่เต็มไปด้วยแหล่งเสื่อมโทรม การแต่งตัวแปลกตา และเด็กสูบบุรี่
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1990 เป็นต้นมา อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากสหภาพโซเวียตกลายเป็นประเทศแยกย่อยต่างๆ หนึ่งในนั้นได้แยกตัวออกมากลายเป็นประเทศรัสเซีย ในช่วงนั้นเองรัสเซียก็ต้องผ่านช่วงเวลาอันยากลำบาก และการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่าง แต่โชคดีที่ช่วงเวลาเหล่านั้นไม่ได้หายไปตามกาลเวลา แต่ถูกบันทึกไว้ได้โดย ช่างภาพที่ชื่อว่า Lise Sarfati Lise ใช้ชีวิตอยู่ที่รัสเซียในช่วงปี 1989 ถึง 1998 เธอออกถ่ายภาพตามมอสโก โนริลสค์ และวอร์คูตา โดยเป็นภาพเหตุการณ์ ผู้คน และสถานที่ต่างๆ ซึ่งภาพเหล่านั้นไม่เคยถูกตีพิมพ์หรือเผยแพร่สู่สาธารณะมาก่อน ภาพแต่ละภาพของเธอบอกเล่าเรื่องราวได้ทรงพลัง และหลากหลายมาก ทั้งเด็กๆ ข้างทางกำลังสูบบุหรี่ ไปจนถึงคนข้ามเพศ และกลุ่มวัยรุ่นขณะวิ่งหนีออกจากค่ายศึกษาก็มีให้เห็นในงานของเธอ ภาพของกลุ่มวัยรุ่นตามสถานที่รกร้าง เด็กๆ จับกลุ่มกันสูบบุหรี่ การทดลองแปลกตา . . . . . . . การแต่งตัวของหญิงสาวขณะใช้โทรศัพท์สาธารณะ ภาพเด็กขณะถือปืน . . . เด็กๆ…
-
สรุปการตายของน้อง Alfie เมื่อโรงบาลชนะคดี ถอดเครื่องช่วยหายใจ พ่อแม่ได้แต่ยืนหลั่งน้ำตา
นี่เป็นโศกนาฏกรรมของเด็กชายวัย 23 เดือนที่เสียชีวิตหลังจากใช้เวลากว่าหนึ่งปีในโรงพยาบาล และได้รับความสนใจอย่างมากจากทั้งผู้คนและสื่อมวลชน เด็กคนนี้มีชื่อว่า Alfie Evans เกิดมาในฐานะบุตรชายของ Tom Evans และ Kate James จาก Bootle ใน Merseyside เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2016 เด็กชายถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเด็ก Alder Hey ในลิเวอร์พูลเมื่อเดือนธันวาคมปี 2016 หลังจากมีอาการชัก และต้องนอนเป็นรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แพทย์ที่วินิจฉัยอาการบอกว่าเขามีอาการระบบประสาทเสื่อมสภาพ แต่ก็ไม่สามารถระบุอาการอย่างชัดเจนได้ พ่อแม่ของ Alfie และโรงพยาบาลมีการโต้เถียงกันเกี่ยวกับอาการของเด็กน้อยเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี จนมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ทางพ่อแม่ของเด็กนั้นต้องการที่จะนำตัวลูกชายไปรักษาที่กรุงโรมในอิตาลี เพราะโรงพยาบาลอิตาเลียนซึ่งเชื่อมโยงกับวาติกันได้แนะนำการดำเนินการเพื่อช่วยให้ Alfie หายใจและทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ในอีก “ช่วงเวลาหนึ่ง” ส่วนทางโรงพยาบาลบอกว่า การรักษา Alfie ต่อในอิตาลีนั้น ไม่ได้เป็นการรักษาทางวิทยาศาสตร์ มีเรื่องของความเชื่อและสิ่งศักด์สิทธิ์มาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่เรื่องที่ดี พวกเขาให้เหตุผลว่ามันทั้ง “ไร้ประโยชน์” “โหดร้าย” และยัง “ไร้มนุษยธรรม” จึงห้ามไม่ให้มีการย้ายโรงพยาบาลเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์…
-
ลูกคุณไม่น่ารักสำหรับทุกคน!! หนุ่มโดนเด็กเตะ 3 ครั้งบนรถบัส ทนไม่ไหวเอาคืนชุดใหญ่
คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2018 นี้ กำลังถูกแชร์และพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ของจีน หลังจากที่หนุ่มชาวเสฉวนนามว่า “เกา” ทำร้ายต่อยตีเด็กชายบนรถบัส ภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นได้ว่าเด็กชายวัย 7 ขวบ โหนเสารถบัสเล่น ก่อนที่จะเตะไปบริเวณมือของชายคนดังกล่าว 3 ครั้ง จากนั้นหนุ่มเกาจึงลุกขึ้นและตอบโต้ด้วยความรุนแรง ทั้งต่อย จับพาด และกระทืบเด็กคนดังกล่าว คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื้อหาอาจจะมีความรุนแรง แต่เด็กเพียงบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ถึงตาย ผลสแกนกะโหลก กราม และใบหน้าปกติ จึงขอนุญาตลงคลิปเพื่อประกอบข่าวนะครับ… www.facebook.com/hxmaster/videos/1744831065592579/ ลิงค์คลิปอีกช่องทาง http://tv.on.cc/hk/index.html?i=CHI180427-13929-1111-M&d=1524840694 หลังจากเขาทำร้ายเด็ก ก็มีผู้คนบนรถบัสมาห้ามปรามและรุมต่อว่าเขาทันที พร้อมกับได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า เด็กชายคนดังกล่าวอยู่ระหว่างทางกลับบ้านจากโรงเรียนเพียงลำพัง หลังจากโดนทำร้ายร่างกายได้พาเด็กไปตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์ระบุว่าไม่มีอาการบาดเจ็บที่เป็นอันตราย ผลสแกนกะโหลดศรีษะ กราม และลำคอปกติ โดยมีเพียงรอยฟกช้ำที่ใบหน้าเท่านั้น . ชาวเน็ตที่ได้เห็นคลิป ส่วนใหญ่ก็พุ่งประเด็นไปที่นายเกา ว่าเป็นผู้ใหญ่ควรจะมีความอดทนอดกลั้น หากไม่พอใจน่าจะบอกเด็กชายดีๆ ให้หยุดเล่น หรือเปลี่ยนที่นั่ง มีหลายวิธีที่ดีกว่านั้นในการรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว…
-
แพทย์รีบเอา “ตะเกียบ” ออกจากจู๋หนุ่ม หลังเพื่อนเสียบเข้าไปตอนที่เขาเมาหนัก
หนุ่มๆ หลายคนอาจจะอ่านพาดหัวแล้วก็รู้สึกเสียวแว่บขึ้นมาเลย แน่นอนล่ะ เพราะว่ากล่องดวงใจของเรานั้นมันเป็นจุดศูนย์รวมความรู้สึกทั้งหลายเอาไว้ แค่จินตนาการก็เจ็บแล้ว ว่าแต่หนุ่มที่มีตะเกียบเสียบเข้าไปแบบนี้จะรู้สึกยังไงนะ หนุ่มวัย 42 ปีจากเมือง Dong Nai ประเทศเวียดนาม ได้เข้ารับการรักษาหลังจากมีตะเกียบยาวกว่า 10 เซนติเมตรเข้าไปติดในจู๋ของเขาจนทำให้เจ็บปวดเป็นอย่างมาก แพทย์จึงรีบทำการนำตะเกียบออกอย่างเร็วไว เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่เขาเมาอย่างหนักจนทำให้วูบหลับไป หลังจากนั้นเพื่อนที่อยู่กินด้วยกันในวงเหล้าไม่รู้นึกอะไร แกล้งเขาด้วยการเอาตะเกียบเสียบเข้าไปตรงท่อปัสสาวะ คุณหมอ Tran Phuong ที่ประจำอยู่โรงพยาบาล Saigon-Dong Nai ITO Hospital ที่ที่หนุ่มคนนี้เข้ามารับการรักษาเล่าว่าไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงมากนัก ตัวตะเกียบนั้นยาวประมาณ 10 เซนติเมตร แต่ส่วนที่ตะเกียบแทงเข้าไปนั้นลึกประมาณ 1.18 นิ้วเท่านั้น ถือว่าโชคดีที่ไม่แทงเข้าไปลึกกว่านี้ ไม่งั้นอาจจะเกิดอันตรายได้ จนสุดท้ายแล้ว แพทย์ก็สามารถช่วยเหลือชายหนุ่มได้สำเร็จ สามารถเอาตะเกียบออกมาได้ ส่วนชายหนุ่มก็ต้องรักษาตัวอีกสักพัก ส่วนเหตุผลที่เพื่อนเอาตะเกียบไปยัดก็เพราะเพื่อความสนุกก็เท่านั้นเอง ว้อททททททท!! ที่มา dailymail
-
หนุ่มญี่ปุ่นเปลี่ยนก้อนดินกลมๆ ธรรมดา ให้มันเนียนจนน่าเอาแก้มไปลูบไล้เหลือเกิน!!
ช่วงก่อนหน้านี้มีกระแสหนึ่งที่โด่งดังเป็นอย่างมากในโลกอินเตอร์เน็ตนั่นก็คือการปั้นฟอยล์ให้กลายเป็นลูกเหล็ก ซึ่งก็ได้มียูทูบเบอร์หลายคนนำไปทำตามกันเยอะมากๆ และวันนี้ก็ได้กำเนิดสิ่งใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว นั่นก็คือ “การปั้นดิน” Dorodango เป็นสิ่งที่เด็กญี่ปุ่นหลายคนคงเคยผ่านมา มันคือการสร้างลูกกลมๆ จากดินโคลน ซึ่งก็เป็นการละเล่นในวัยเด็ก ปั้นซ้ำไปซ้ำมาจนมันแข็งและขึ้นเงาจนสวยงาม แต่การปั้น Dorodango นั้น ปัจจุบันก็เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา ศาสตราจารย์ Fumio Kayo นักจิตวิทยาผู้ชื่นชอบการละเล่นของเด็กๆ ก็ได้ทำให้มันกลับมาเป็นกระแสอีกครั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก Bruce Gardner ปรมาจารย์ทางด้านศิลปะก็สนใจด้วยเช่นกัน จึงพยายามทดลองการทำ Dorodango ในหลายๆ แบบ โดยใช้ดินที่แตกต่างกันออกไปเพื่อดูว่าอันไหนเวิร์คที่สุด และนี่ก็คือวิธีการทำของเขา เริ่มจากการเก็บดินมา แยกหินแยกทราย ขึ้นรูป แล้วก็ปั้นซ้ำไปซ้ำมา ใช้เวลาปั้นประมาณ 30 นาที แต่การปั้นดินนี้ก็คือการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง แต่อาจจะต้องเบามือหน่อยนะ ไม่งั้นมันจะแตกเอาง่ายๆ จากนั้นก็ทิ้งให้แห้งในถุงประมาณ 20 นาที จากนี้ก็จะเป็นกระบวนการขัดให้เงาแล้ว ขัดๆๆๆๆ แล้วก็จะออกมาเป็นแบบนี้ สีของมันก็จะแตกต่างไปตามชนิดของดินที่ใช้…
-
นักเรียนจีนถูกมีดแทงกว่า 7 คน ผู้ก่อเหตุอ้าง เพราะถูกกลั่นแกล้งในวัยเด็กเลยเป็นปมฝังใจ
ในขณะที่อเมริกาต้องรับมือกับเหตุกราดยิงในโรงเรียนบ่อยครั้ง ในจีนเองก็เกิดเหตุทำนองเดียวกัน แต่เปลี่ยนจากการใช้ปืนเป็นมีดแทน เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2018 เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นที่เมืองมี่จี มณฑลซานซี ทางตอนเหนือของประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มใช้มีดเข้าทำร้ายร่างกายเด็กๆ ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก สำนักข่าว BBC ได้รายงานว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างเวลา 18.10 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาที่เด็กๆ เลิกเรียนแล้วและกำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เจ้าหน้าที่เผยว่าชายหนุ่มรายนี้แซ่เสี่ยว วัย 28 ปี เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าแรงจูงใจของเขาคือการแก้แค้น เพราะเมื่อครั้งที่เขายังเป็นนักเรียนมัธยต้น เขาเคยถูกเพื่อนๆ กลั่นแกล้งมาก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 7 คน เป็นเด็กผู้หญิง 5 คน และเด็กผู้ชาย 2 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 12 คน โดยเด็กๆ ที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที แต่ไม่มีการระบุเลขอายุที่แน่ชัด คาดว่าอยู่ในระหว่าง 12-15 ปี ในขณะนี้ผู้ลงมือก่อเหตุได้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ภาพของผู้ก่อนเหตุในครั้งนี้ขณะถูกควบคุมตัวไปสอบสวน ภาพจากสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นภาพของเด็กนักเรียนที่นอนอยู่บนพื้น โดยมีผู้คนยืนตกตะลึงอยู่รายรอบ …
-
ดราม่าเกิด เมื่อ PETA ประณามการ “ตกปลา” ใน Far Cry 5 “ปลาก็มีความรู้สึกนะ!!”
People for the Ethical Treatment of Animals หรือ PETA คือองค์กรที่ต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์บนโลกมาเป็นเวลายาวนาน อย่างไรก็ตามด้วยความที่องค์กรนี้ค่อนข้างที่จะหนักไปทางการป้องกันการทารุนสัตว์ในทุกๆ ด้าน ทำให้มีอยู่หลายครั้งที่มีการกระทบกระทั่งกับวงการอื่นๆ อยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวงการเกม PETA เคยออกมาบอกว่าตัว Zerglings จากเกม Starcraft ก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะ หรือการใช้หนังหมาป่ามาประดับชุดเกราะของ Space Wolves จากซีรีส์ Warhammer 40K การยิงสุนัขในเกม Call of Duty และอื่นๆ อีกมากมาย ผลจากข้อกระทบกระทั่งเหล่านี้ ทำให้เหล่านักเล่นเกมหลายๆ คนมีมุมมองที่ไม่ค่อยจะดีต่อองค์กรนี้สักเท่าไหร่ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ PETA กับวงการเกมต้องมีการถกเถียงกันเกิดขึ้น เมื่อทาง PETA ได้ออกมาประณามเกม Far Cry 5 เกมแนวเดินยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งของค่ายเกมยักษ์ใหญ่ Ubisoft ไม่ใช่จากการสังหารคนและสัตว์ป่าเป็นจำนวนมาก แต่เป็นระบบตกปลาของเกมต่างหาก โดยเนื้อหาหลักๆ ของการประณามครั้งนี้นั้น มีการบอกว่าเกม Far Cry 5 นั้นมีการลดความสำคัญของความเจ็บปวดที่ปลาได้รับจากการตกปลาในชีวิตจริง ทาง…
-
กลับมาแล้ว!! เชิญรับชมตัวอย่าง F4 ฉบับ 2018 พร้อมยลโฉม 5 นักแสดงนำของเรื่อง
หากพูดถึงซีรีส์ยอดฮิตของไต้หวันในสมัยก่อน หลายๆ คนคงจะต้องนึกถึงชื่อของ F4 (Meteor Garden) ซีรีส์ของ 4 หนุ่มบอยแบนด์ที่เคยมีชื่อเสียงอย่างมากในบ้านเรา ภายใต้ชื่อ รักใสใสหัวใจ 4 ดวง เมื่อปี 2001 F4 เวอร์ชั่นต้นฉบับที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา กระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก ทำให้หลังจากนั้นมีหนุ่ม F4 ผุดขึ้นมาอีกหลายต่อหลายเวอร์ชั่น และล่าสุดเมื่อปี 2017 ได้มีการประกาศว่าพวกเขาจะสร้าง F4 รีเมคเวอร์ชั่น 2018 ขึ้นมา เรียกเสียงฮือฮาให้กับเหล่าผู้คลั่งไคล้ซีรีส์ทั้งหลาย งานประกาศเปิดตัว F4 รีเมคเวอร์ชั่น 2018 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2018 หนึ่งในนักแสดงนำของซีรีส์เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ได้ถ่ายคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นตัวอย่างของซีรีส์เรื่องดังกล่าว ภายในงานเปิดตัวกับบริษัท Tencent ที่ประเทศจีน เราลองไปชมตัวอย่างสั้นๆ นี้กันเลย คลิปตัวอย่างสั้นๆ ในงานเปิดตัว (หากใครดูไม่ได้ ให้กดที่ลิงก์ Instagram) Regram: @meteorfever…
-
“คาสโนวี่แห่งเกาหลี” ผู้คบหากับผู้ชายเกือบ 200 คนในระยะเวลาแค่ไม่ถึง 2 ปี!!
เราอาจเคยเจอผู้ชายที่เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก คบผู้หญิงแป๊บๆ แล้วก็เปลี่ยนไปคบคนใหม่ ซึ่งคำที่เรามักจะใช้เรียกผู้ชายเหล่านั้นคือคำว่า คาสโนวา แต่ล่าสุดรายการ Mars People XFile ของช่อง tvN ในประเทศเกาหลีใต้ ได้นำเสนอเรื่องราวของสาวคนหนึ่งที่ทำพฤติกรรมไม่ต่างจากการเป็นคาสโนวาสักเท่าไหร่ Han Mirim คือสาวคนดังกล่าวที่ควรได้รับสมญานามว่า คาสโนวี่ (คาสโนวาที่เป็นผู้หญิง) เป็นอย่างมาก เพราะช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เธอได้คบกับผู้ชายไปแล้วเกือบ 200 คน!! Mirim หญิงสาวที่มาออกรายการ เธอคนนี้ได้เล่าเรื่องของตัวเองออกรายการว่าเธอเป็นคนที่ค่อนข้างมุ่งเน้นในเรื่องของวัตถุนิยม ทำให้หลายๆ ครั้งเธอบอกเลิกกับผู้ชายเพียงเพราะว่าเขาไม่ยอมเลี้ยงข้าวเธอ ไม่ยอมซื้อของขวัญให้ ไม่มีรถยนต์ขับ หรือบางคนไม่ยอมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กับเธอเท่านั้นเอง บางคนนั้นอาจได้คบกับเธอแค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง เพียงเพราะว่าเขาไม่ยอมออกเงินให้กับหญิงสาว อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายต่อหลายคนที่ยอมทำอย่างนั้น เธอบอกว่าจากผู้ชายเกือบ 200 คนนั้น ตัวเองได้รับของขวัญมาเยอะแยะมากมาย รวมเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านวอน หรือประมาณ 29 ล้านบาท ข้าวของเครื่องใช้ที่เธอได้รับจากหนุ่มๆ ที่เคยคบมาทั้งหมด …
-
นักวิทย์ “เก็บสมองหมู” ให้มีชีวิต โดยไม่มีร่างกายได้สำเร็จ หรือนี่อาจต่อยอดสู่มนุษย์ได้!?
เคยดูหนังที่มีการเปลี่ยนสมองกันไหม? เคยคิดหรือเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคนเราสามารถย้ายสมองของเราไปอยู่ในร่างใหม่ได้จะเป็นอย่างไร… เชื่อไหมล่ะว่าในเวลานี้ คนเราสามารถผ่านสิ่งสำคัญในการย้ายสมองมาได้ข้อหนึ่งแล้ว เพราะในตอนนี้ เราสามารถรักษาสมองหมูไว้นอกร่างกายได้แล้ว!! นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยเยลอ้างว่าได้พัฒนาเทคนิคที่ช่วยรักษาเนื้อเยื่อสมองของสุกรเป็นระยะเวลานานหลังจากการตัดหัว แม้ดูเหมือนว่าสมองจะไม่ได้รู้สึกตัวอยู่ แต่เทคนิคใหม่นี้ก็อาจจะนำไปสู่การรักษาในรูปแบบใหม่ก็เป็นได้ โดยพวกเขาบอกว่าสามารถทำการรักษาสมองของหมูให้มีชีวิตอยู่นอกร่างกายได้ถึง 36 ชั่วโมง นักวิจัยที่กล่าวว่าพวกเขาทำการทดลองกับหมูกว่า 100 ตัวที่ได้รับมาจากโรงเชือด และอ้างว่าสามารถฟื้นฟูสมองของหมูที่ตายไปแล้วตราบใดที่ยังไม่นานกว่าสี่ชั่วโมง โดยใช้เทคนิคที่ชื่อ BrainEx ที่ฟื้นการไหลเวียนโลหิตในเนื้อเยื่อสมอง และทำให้มันกลับมามีชีวิต… อย่างน้อยๆ ก็ในทางกายภาพ ที่ต้องบอกว่าการคืนชีพนั้นเป็นเพียงทางกายภาพ ก็เพราะว่าสมองของหมูที่ได้มานั้นไม่มีสัญญาณบ่งบอกถึงกิจกรรมในแง่ของคลื่นสมอง คือว่าง่ายๆ ว่าสมองนั้นไม่ได้รู้สึกตัวอยู่นั่นเอง อย่างไรก็ตามนักวิจัยสามารถตรวจสอบได้ว่าเซลล์กว่าพันล้านเซลล์ในสมองนั้น ยังอยู่ในภาพที่ดี เพียงแต่เนื้อเยื่อสมองที่ดี ไม่ได้หมายความว่าสักวันหมูจะรู้สึกตัวขึ้นมา หมูตัวที่ว่านี้มีสภาพคล้ายผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ และกลายเป็นเจ้าชายนิทราไป จนทำให้ในตอนนี้ยังมีหลายๆ ฝ่ายที่ไม่มั่นใจว่าการทดลองในครั้งนี้ควรจะถือว่าหมูตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่จริงหรือไม่ Steve Hyman จากสถาบันในเคมบริดจ์ให้ความเห็นกับการทดลองครั้งนี้ว่าว่า “สมองเหล่านี้อาจได้รับความเสียหาย แต่ถ้าเซลล์ยังมีชีวิตอยู่ มันก็นับได้ว่าเป็นอวัยวะที่ยังมีชีวิต คล้ายๆ กับการรักษาไตนั่นล่ะ” แต่เมื่อถามว่าการทดลองในครั้งนี้จะสามารถเอาไปใช้ในการรักษามนุษย์ได้หรือไม่ เป็นไปได้ไหมว่าคนเราจะเปลี่ยนร่างกายทั้งตัวโดยเหลือแค่เพียงสมอง และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ Hyman ก็ตอบมาว่า “มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย” อย่างน้อยก็จากสิ่งที่คนเราพบในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้เรายังคงตั้งความหวังกันได้…
-
สรุป 6 ข้อสำคัญจาก “ปฏิญญาปันมุนจอม” สัญญาแห่งมิตรภาพ ระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้!!
ข่าวของประชุมหารือด้านมิตรภาพระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ รวมถึงการเซ็น “ปฏิญญาปันมุนจอม เพื่อสันติภาพ ความรุ่งเรือง และการรวมชาติบนคามสมุทรเกาหลี” เป็นประเด็นที่สำคัญ หลายคนอาจจะงงๆ ว่า “คิม จ็อง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือ และ “มุน แจ อิน” ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มีข้อตกลงอะไรร่วมกันในการเซ็นครั้งนี้ ทางทีมข่าวแคทดั๊มบ์สรุปเนื้อหาคร่าวๆ ให้เข้าใจอย่างง่ายผ่านสรุป 6 ข้อดังนี้ 1. ทางการทหารและสงคราม เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ตกลงที่จะยุติการกระทำซึ่งเป็น “ปฏิปักษ์” ต่อกันในทุกทาง ทั้งทางบก น้ำ อากาศ ในทุกด้าน และยังจะจัดการประชุมทางการทหารร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เรื่องนี้มีความคืบหน้าและคงอยู่ รวมถึงการหารือจัดตั้ง “เขตประมงร่วม” เพื่อก่อประโยชน์ให้ทั้งสองประเทศอีกด้วย 2. เขตปลอดทหาร มีการตกลงกันว่าจะแปลงสภาพเขตปลอดทหาร บริเวณพรมแดนของทั้งสองประเทศให้กลายเป็น “เขตสันติภาพ” นั่นหมายถึงว่าจะไม่มีการประจันหน้าและปล่อยความคุกคามใส่กัน เช่น โฆษณาเสียงชวนเชื่อ เป็นต้น 3. ทางด้านเศรษฐกิจ ตกลงกันว่าจะนำเร่งจัดการด้านศุลกากรระหว่าง 2 ประเทศให้แล้วเสร็จ…
-
สาวจีนผงะ!! เจอ “หางหนู” โผล่อยู่ในไอติม เรียกร้องค่าเสียหายกว่า 2 แสนบาท
หญิงสาวชาวจีนถึงกับช็อค หลังจากพบว่ามีหางหนูโผล่ออกมาจากไอติมไส้ถั่วแดงที่เธอเพิ่งซื้อมาจากร้านค้า!? สื่อท้องถิ่นในจีนได้รายงานว่าหญิงสาวแซ่หยาง จากมณฑลเจียงซู เมืองหวายอัน ได้ออกไปซื้อไอติมแท่งไส้ถั่วแดงที่ร้านค้าเมื่อวันอังคารที่ 24 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอกินเข้าไป 2-3 คำ เธอก็พบว่าในไอติมมีส่วนผสมแปลกๆ นอกจากถั่วแดง ส่วนผสมที่ว่านี้มีลักษณะเป็นแท่งยาวและมีขน เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นหนอนผีเสื้อหรืออะไรสักอย่าง จึงได้เรียกเพื่อนๆ มาช่วยดูและถ่ายคลิปเอาไว้ เมื่อเพื่อนของเธอเห็นวัตถุแปลกปลอมชิ้นนี้ จึงพยายามดึงมันออกจากไอติมแล้วก็พบว่ามันไม่ใช่หนอนแต่เป็นหางของหนูตัวหนึ่ง แม้ว่านางสาวแซ่หยางจะรู้สึกสะอิดสะเอียนในตอนแรก แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มมองเห็นโอกาสในไอติมแท่งนั้น เธอกลับไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เธอซื้อไอติมแท่งนั้นมา และนำเอาไปติมแท่งนั้นกลับไปด้วยและเรียกร้องค่าชดเชย ในทีแรกทางร้านได้ยื่นข้อเสนอเป็นไอติมแท่งจำนวนมากให้กับเธอเพื่อเป็นการขอโทษ แต่เมื่อไม่ได้ผลทางร้านจึงพยายามเสนอเงินชดเชยให้กับเธอเป็นจำนวน 800 หยวน (ราวๆ 4 พันบาท) แต่เมื่อไม่ได้ผลอีก เขาเลยเพิ่มเป็น 2,000 หยวน (เกือบ 10,000 บาท) แต่ดูเหมือนหยางจะยังไม่พอใจกับเงินจำนวนดังกล่าว เธอจึงยื่นคำขาดว่าขอเป็นค่าชดเชย 50,000 หยวน (เกือบ 250,000 บาท) ให้สมกับที่เธอได้กินไอติมรสหนูไป แต่ดูเหมือนทางร้านจะไม่ยอมตกลงด้วยจึงต้องให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย เป็นที่น่าเสียดายที่เธอจะไม่ได้เงินมากขนาดนั้น เพราะหลังจากการไกล่เกลี่ยแล้ว นางสาวแซ่หยางจะได้เงินชดเชยไปเพียง 1,000 หยวน…
-
สาวจีนสุดซวย ถูกสุนัขหล่นมาจากไหนไม่รู้ กระแทกหัวสลบไป ส่วนเจ้าหมาวิ่งเล่นต่อเฉย!?
บางทีการระมัดระวังตัวก็ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยเสมอไป ในเมื่อบางครั้งความซวยมันก็ไม่ได้เกิดจากเรา แต่มันเกิดจากสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย เหมือนอย่างหญิงสาวคนนี้ที่ถูกจับภาพได้ด้วยกล้องวงจรปิดในเมืองกว่างโจว เป็นเหตุการณ์ที่เธอกำลังเดินอยู่ แล้วจู่ๆ ก็มีสุนัขตัวใหญ่หล่นมาจากที่ไหนไม่รู้ หล่นใส่หัวของเธอเข้าอย่างจัง ทำให้เธอล้มลงไปนอนนิ่ง ส่วนสุนัขที่ตกลงมากลับวิ่งต่อไปได้ คาดว่าสุนัขนั้นหล่นลงมาจากตึกสองชั้นที่เห็นในคลิปนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หญิงสาวคนนั้นสลบทันทีที่โดนสุนัขหล่นลงมาทับส่วนศีรษะ โชคดีที่หญิงสาวที่อุ้มเด็กข้างหน้าไม่โดนไปด้วย หลังจากนั้นเธอก็ถูกนำส่งคลินิกอย่างเร่งด่วน เพราะว่าเธอไม่ได้สติเลย แต่หลังจากผ่านการรักษาไปเพียง 12 นาทีเท่านั้น เธอก็ฟื้นขึ้นมา พร้อมถูกส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่เพื่อตรวจสอบว่าได้รับผลกระทบจากการถูกกระแทกครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งผลตรวจออกมาพบว่ากระดูกที่ต้นคอร้าวไป 3 ชิ้น ในส่วนของสุนัขที่เราเห็นในคลิปว่าหลังจากตกลงมาแล้ววิ่งได้ต่อนั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการค้นหาบริเวณใกล้เคียง แต่ก็ไม่พบตัวเลย ซึ่งก็ได้มีการสอบถามคนในบริเวณนั้นก็พบว่ามีคนรู้จักสุนัขตัวนี้ แต่หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็ไม่มีใครเห็นอีกเลย นี่ก็เป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่าซวยที่สุดแล้ว เพราะไม่มีใครรู้ได้เลยว่าจะมีสุนัขหล่นลงมาจากฟ้าแบบนี้ หวังว่าสุนัขจะมีเจ้าของและได้รับการเยียวยาในเร็ววันนะ ที่มา medium
-
ปลื้มปริ่ม!! Steve Irwin ได้รับเกียรติประทับชื่อใน Hollywood Walk Of Fame แล้ว
เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่พิธีกรรายการสารคดีชื่อดังอย่าง Steve Irwin ได้จากไปอย่างสงบ หลังจากอุบัติเหตุในการถ่ายทำ ทำให้แฟนๆ ทั่วโลกเศร้าโศกเสียใจกันเป็นจำนวนมาก เมื่อไม่นานมานี้ ชื่อของเขาก็ได้ถูกประทับไว้ที่ Hollywood Walk Of Fame ซึ่งทางเดินที่จะประทับชื่อบุคคลในวงการบันเทิงผู้ทรงเกียรติไว้ให้ผู้คนได้ระลึกถึง พิธีนั้นได้จัดตั้งขึ้นโดยมี Terri ภรรยา และลูกทั้งสองคนได้แก่ Bindi และ Robert มาร่วมในพิธีด้วย พร้อมทั้งแฟนๆ อีกนับไม่ถ้วนรอคอยที่จะพบเจอครอบครัวผู้รักสัตว์ครอบครัวนี้ Bindi ลูกสาวผู้ทำงานในวงการโทรทัศน์และนักอนุรักษ์ธรรมชาติได้หลั่งน้ำตาหลังจากได้เห็นแฟนๆ มาคอยให้กำลังใจ พร้อมทั้งกล่าวว่าคุณพ่อต้องดีใจมากๆ ที่ได้มายืนอยู่จุดนี้ “ฉันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าเรื่องนี้จะเป็นจริงได้ และเราก็ยังจะสานต่องานของพ่อให้ถึงที่สุด” Bindi กล่าว “นอกจากคุณพ่อจะเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติที่สุดยอดแล้ว คุณพ่อยังทำหน้าที่พ่อได้ดีที่สุดเลยครับ” Robert ลูกชายกล่าวเสริม Steve Irwin นั้นเป็นพิธีกร ดูแลสวนสัตว์ และนักอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่ปี 1996 จนถึง 2007 ซึ่งรายการที่ทำให้เขาโด่งดังก็คือ The Crocodile Hunter นั่นเอง นอกจากนี้เขายังเป็นพิธีกรในอีกหลากหลายรายการไม่ว่าจะเป็น Croc Files, The Crocodile Hunter Diaries และ New Breed…
-
ฆาตกรฆ่าข่มขืนลอยนวลกว่า 40 ปี ตำรวจไม่ปล่อยเข้ากลีบเมฆ งมเข็มในมหาสมุทรปิดฉากคดี!!
เป็นเวลานานร่วม 40 ปี หลังจากเกิดคดีสะเทือนขวัญที่ชื่อว่า “Golden State Killer” ที่แผ่ขยายความน่ากลัวไปทั่วบริเวณรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการข่มขืนผู้หญิงเป็นจำนวนมาก และลงมือฆ่าเหยื่อไม่ต่ำกว่า 12 ราย และเมื่อวันพุธที่ 25 เมษายน 2018 ตามเวลาท้องถิ่น ทางการได้ประกาศปิดคดีสะเทือนขวัญที่ยาวนานหลายสิบปี ด้วยการจับกุมนาย Joseph James DeAngelo วัย 72 ปี ด้วยโทษประหารชีวิต หลังจากพบเบาะแสการตรวจดีเอ็นเอ… การจับกุมนาย DeAngelo นั้นกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นการปิดฉากคดีอาชญากรรมที่กินระยะเวลายาวนานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จุดเริ่มต้นของความโหดร้ายแผ่ขยายไปทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียมานานหลายสิบปี ตั้งแต่ช่วงปี 1970 ไปจนถึงปี 1980 ทำให้หลายครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวรวมไปถึงชุมชนผู้อาศัยในรัฐเช่นกัน หลังจากนั้นอาชญากรก็หยุดก่อเหตุ และหายตัวเข้ากลีบเมฆไป ทิ้งไว้เพียงแค่เบาะแสเล็กน้อยที่ยากต่อการสืบสวน Joseph James DeAngelo ในวัย 72 ปี และแล้วร่องรอยชิ้นเล็กๆ ก็กลับย้อนมาสู่นาย DeAngelo อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้อาศัยอยู่ในเมือง…
-
รู้จักกับ Reika Saiki นักกล้ามสาวผู้แต่งคอสเพลย์เป็น Chun-Li ราวหลุดออกมาจากเกม!!
การแต่งคอสเพลย์นั้นไม่ใช่แค่ว่ามีชุดก็สามารถใส่ได้เลย เพราะเราต้องเข้าถึงจิตวิญญาณของตัวละครนั้นๆ ด้วย จะได้ทำให้คนอื่นเชื่อว่าคุณคือตัวละครนั้นจริงๆ และวันนี้จะพาไปรู้จักกับสาวนักคอสเพลย์ระดับฮาร์ดคอร์ อีกทั้งเธอยังเป็นนักเพาะกายอีกด้วยนะ แต่เอ.. ตัวละครที่เหมาะกับเธอจะเป็นอะไรดีล่ะที่มีส่วนประกอบของผู้หญิงมีกล้าม แน่นอนว่าต้องเป็น Chun-Li แห่งเกม Street Fighter แน่นอน หญิงสาวคนนี้เธอชื่อว่า Reika Saiki เธอได้โพสต์ภาพตัวเองคอสเพลย์เป็น Chun-Li ลงในทวิตเตอร์ แล้วหลังจากนั้นภาพก็ถูกรีทวีตไปจำนวนมาก เพราะว่าสรีระร่างกายของเธอนั้นเหมาะกับการแต่งเป็นตัวละครนี้สุดๆ Chun-Li ในเกมนั้นเรียกได้ว่าเป็นสาวโหดนักโดดเตะ ที่มาพร้อมกับกล้ามขาที่ผู้ชายเห็นเป็นต้องกลัว ซึ่งภาพที่เธอโพสต์นั้นได้โชว์กล้ามขาที่เหมือนกับ Chun-Li เป๊ะๆ . . นอกจากนี้เธอยังเคยเป็นนักมวยปล้ำลีกมืออาชีพของญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งตอนนั้นเธออายุเพียง 23 ปีเท่านั้น นี่มันนักสู้ของแท้เลยนี่นาาาา . ทุกวันนี้เธอก็ยังออกกำลังกายอยู่เป็นประจำเพื่อรักษาหุ่นให้กำยำเหมือนเดิม นอกจากมุมแข็งแรงของเธอแล้ว เธอก็มักจะโพสต์ภาพเซลฟี่แบบผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ซึ่งนั่นทำให้เราได้เห็นว่าเธอก็มีความเป็นผู้หญิงเหมือนกันนะ แถมสวยซะด้วย . . ถ้าใครอยากติดตามเธอล่ะก็ ตามไปได้เลยที่ทวิตเตอร์ @saikireika นะจ๊ะ ที่มา soranews24
-
ชายผู้ติดอยู่ในร่างเด็ก อาการผิดปกติที่ทำให้เขาหยุดเจริญเติบโต แม้จะมีอายุ 23 ปีแล้วก็ตาม…
โดยธรรมชาติแล้ว ทุกชีวิตเมื่อเกิดมาจนผ่านไปจนถึงระยะเวลาหนึ่ง ร่างกายก็จะเจริญเติบโตขึ้นตามอายุด้วย แต่สำหรับชายชาวอินเดียผู้นี้แล้ว หากใครเห็นเขาเป็นครั้งแรก ก็คงจะคิดว่าเป็นเด็กในช่วงแรกเกิด ซึ่งในความเป็นจริงเขามีอายุ 23 ปีแล้ว… Manpreet Singh วัย 23 ปี จากทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ประสบกับอาการผิดปกติที่ทำให้เขาต้องติดอยู่ในร่างกายแบบเด็ก มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ราวๆ 5 กิโลกรัมเท่านั้น แม้จะมีอายุถึงหลัก 20 แล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม เขามีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมในช่วงแรกเกิดปี 1995 และหยุดการเจริญเติบโตก่อนที่เขาจะหัดเดินและหัดพูดได้ และปัจจุบันเขาก็ต้องได้รับการดูแลเหมือนเด็กน้อยอยู่ตลอด โดยที่มีคุณลุงและคุณป้าคอยพาไปทุกที่ ด้านนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า Manpreet อาจจะเป็นโรคกลุ่ม Laron Syndrome อาการผิดปกติหายาก แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากทางครอบครัวยังไม่มีเงินมากพอที่จ่ายเพื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 220,000 บาท สำหรับผู้เป็นโรคกลุ่ม Laron นั้นจะขาดฮอร์โมนที่ชื่อว่า Insulin-like Growth Factor 1 (IGF-1) ที่ทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ให้เจริญเติบโตและแบ่งตัวออกเป็นเซลล์ใหม่ Manpreet…
-
ชาวเน็ตสงสัย… เครื่องซักผ้าพังง่ายเพราะอะไร ความจริงที่พบก็คือ ‘เครื่องซักผ้ากินเรียบ’
สิ่งที่หลายๆ คนอาจจะเคยนึกสงสัยกันมาบ้างแล้วว่า บางครั้งการซักผ้าผ่านเครื่องของเรา อาจจะไม่ได้เสื้อผ้าบางส่วนกลับมา หลายครั้งเราคิดว่าเราอาจเผลอทำตกตระกร้า หรือไม่ก็โดนพัดปลิวไปกับสายลม… แต่ต้นเหตุที่แท้จริงอยู่ใกล้ตัวจนเรานึกไม่ถึงกันเลยแหละ เพราะเมื่อชาวเน็ตนามว่า Cathy Hinz ผู้จัดการอาคารหอพัก ได้ลงมาตรวจสอบเครื่องซักผ้าประจำหอ ก็เจอกับกองขุมทรัพย์จำนวนมหาศาล เธอและสามีสังเกตเห็นว่าเครื่องซักผ้าเครื่องหนึ่งเสีย ไม่สามารถปฏิบัติตามหน้าที่ของมันเองได้ ก็เลยต้องงัดแงะเพื่อหาสาเหตุของการเสียในครั้งนี้ โดยเริ่มจากการแงะด้านล่างเครื่องก่อน จนพบว่า… กองถุงเท้านั้นอุดตันอยู่เพียบ! ทั้งถุงเท้า ชุดชั้นใน บัตรเครดิต ต่างลงมากองอยู่ส่วนใต้เครื่อง และเมื่อสามีของเธอถอดตัวปั๊มน้ำออก ก็ยังเจอกับเศษเงินอีก 7 ดอลลาร์ หากใครยังปักใจเชื่อว่าเครื่องซักผ้าจะไม่มีทางกินเสื้อผ้าของคุณไปได้ ภาพเหล่านี้อาจจะเป็นข้อพิสูจน์ให้คุณได้บ้าง ไม่มากก็น้อย บัตรเครดิตก็ยังมา!! ท้ายที่สุดแล้วเธอกล่าวปิดท้ายว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานตรวจเช็กสภาพเครื่องทำความสะอาดทั้งเครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน และสารพัดเครื่องล้างอัตโนมัติ เพิ่งจะเจอกับกรณีนี้เป็นครั้งแรกกับตัวเองเลยล่ะ ใครที่มีเครื่องซักผ้าไว้ในครอบครอง ก็ลองไปตรวจสอบกันดูนะจ๊ะ เผื่อจะเจออะไรแบบนี้บ้าง ที่มา: boredpanda
-
เหมาะสมหรือไม่ ความเห็นของชาวต่างประเทศต่อหนังสือเพศศึกษาเด็กที่มีภาพสมจริง
The Amazing True Story of How Babies Are Made (เรื่องจริงที่น่าทึ่งของการให้กำเนิดเด็ก) เป็นหนังสือภาพผลงานของ Fiona Katauskas นักวาดการ์ตูนชาวออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการวางขายอยู่ใน Kmart ในฐานะหนังสือ “สำหรับเด็ก” หนังสือภาพเล่มที่ว่านั้นได้กลายเป็นกระแสใหญ่โตในโลกอินเตอร์เน็ต หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Auburn 2144 ได้ออกมาให้ความเห็นว่าหนังสือเล่มที่ว่านั้นไม่เหมาะสมสำหรับการขายในฐานะหนังสือสำหรับเด็กเป็นอย่างมาก เนื่องจากภาพที่มีความสมจริงเป็นอย่างมาก และการใช้คำของหนังสือ Auburn 2144 กล่าวว่า “โอเคคค… ใครก็ได้บอกทีว่าทำไมหนังสือแบบนี้ถึงไปขายอยู่ใน Kmart ออสเตรเลีย ในฐานะหนังสือเด็กได้ ดูที่ภาพกับการใช้คำสิ” ในหนังสือนั้น มีการวาดภาพการร่วมเพศของหนุ่มสาวอย่างชัดเจน และมีการบรรยายด้วยการใช้คำที่ค่อนข้างจะตรง แม้ไม่มีการใช้คำหยาบ แต่ก็ใกล้เคียงกับความเป็นหนังสือสำหรับการเรียนการสอนเสียมากกว่าการเป็นหนังสือภาพอยู่มาก การใช้คำในหนังสือนั้นมีทั้งการใช้คำว่า “เซ็กส์” “Penis” (องคชาต) “Vagina” (ช่องคลอด) อีกทั้งยังมีการบรรยายการร่วมเพศอย่างชัดเจนทั้งการแข็งตัว และการเปียกแฉะ ชาวเน็ตที่ต่างประเทศนั้นให้ความเห็นกับหนังสือเล่มนี้ แยกออกเป็นสองรูปแบบใหญ่ๆ คือเหล่าคนที่สนับสนุนหนังสือที่มีเนื้อหาตรงตัวและถูกต้องตามความเป็นจริง แม้เป็นหนังสือเด็กก็ตาม และฝั่งที่คิดว่าหนังสือเล่มที่ว่านี้ อาจจะเร็วเกินไปสำหรับเด็กๆ…
-
สุดฉงน.. ชาวบ้านอเมริกันพบ “วัตถุประหลาด” ลอยเหนือน้ำ ยังไม่มีผู้รู้อธิบายได้ว่าคือสิ่งใด!?
สิ่งมีชีวิตหน้าตาแปลกประหลาดยังคงมีให้เราค้นพบได้ในทั่วทุกมุมโลก เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าธรรมชาตินั้นเต็มไปด้วยความสวยงามอันน่าอัศจรรย์ บวกกับวิวัฒนาการแห่งความแปลกใหม่ และเจ้าสิ่งนี้ก็อาจรวมอยู่ในกลุ่มสัตว์แปลกที่ไม่เคยมีใครเจอแบบนั้นก็ได้ ในวันที่ 22 เมษายน 2018 ช่องยูทูบที่ชื่อว่า Disclose Screen ได้โพสต์คลิปที่พวกเขาถ่ายเจอสิ่งๆ หนึ่งรูปร่างหน้าตาประหลาด ลอยโผล่ขึ้นมาในทะเลสาบ Gaston County รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา นี่มันคืออะไร หรือจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่ไม่เคยเห็น ความน่าประหลาดใจไม่ใช่แค่รูปร่าง แต่ที่แปลกจริงๆ คือภายในคลิปเผยให้เห็นว่าเจ้าตัวสีฟ้าความยาวประมาณ 1.2 เมตรนี้กำลังว่ายน้ำอยู่ ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่เราอาจไม่เคยมีโอกาสได้เห็นกันมาก่อน นำไปสู่หลากหลายความคิดเห็นของชาวเน็ต Stephanie Robinson “ฉันคิดว่ามันต้องเป็นศพนกยูงแน่นอน ตรงส่วนบนเป็นเหมือนกับเท้าของมัน คือมันกำลังลอยหงายท้องอยู่ และอาจมีอะไรบางอย่างลากมันไปใต้น้ำก็ได้” Michael Eldridge “มันไม่ใช่ปลา มันเป็นแค่หุ่นบังคับ เพราะคุณจะมีโอกาสเห็นปลาขึ้นมาลอยเหนือน้ำได้ก็แค่ตอนมันตายเท่านั้น ฉันรู้ได้จากประสบการณ์การตกปลามาเกือบตลอดทั้งชีวิต” Joanne B “แปลกจริงๆ ตอนแรกมันดูเหมือนกับถุงพลาสติก แต่เมื่อซูมดูใกล้ๆ ถึงรู้ว่ามันคือสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาด ลองคิดดูว่าอาจมีคนเลี้ยงมันมา ก่อนที่จะเอาไปปล่อยในทะเลสาบแล้วมันก็เติบโตในที่สุด” คลิปสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาด จากสำนักข่าว Mirror (เนื่องจากคลิปต้นฉบับไม่สามารถดูได้ในประเทศไทย) …
-
รู้หรือไม่.. “การงีบหลับทับแขน” ทุกวัน อาจทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดได้!! เช่นเดียวกับเธอคนนี้
การงีบหลับโดยใช้แขนตัวเองแทนหมอน เป็นสิ่งที่พวกเราหลายๆ คนนิยมทำกันมาตั้งแต่เด็ก เวลาที่เรารู้สึกอยากพักผ่อนในห้องเรียนสักแป๊บ หรือแม้แต่ตอนพักจากการทำงาน เรียกว่าเป็นท่ายอดฮิตสำหรับการงีบหลับโดยเฉพาะ แต่รู้หรือไม่ว่า หากทำท่าทางที่ว่านั้นบ่อยๆ เป็นเวลานาน มันอาจทำลายสุขภาพร่างกายของเราได้มากกว่าที่คิด จนถึงขั้นอาจต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด เช่นเดียวกันกับหญิงสาวคนนี้ ท่าทางการงีบหลับที่คนส่วนใหญ่นิยมทำกัน สาวแซ่จาง วัย 28 ปี คือพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งในเมืองฮาร์บิน ประเทศจีน เธอเป็นคนที่ชอบงีบหลับตอนพักเที่ยงเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอก็จะงีบหลับทับแขนซ้ายของตัวเองอยู่ทุกวันมาเป็นระยะเวลาหลายต่อหลายปี เมื่อไหร่ที่ตื่นมาก็จะรู้สึกเจ็บและชาบริเวณปลายนิ้วอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปี 2018 เธอตื่นขึ้นมาจากการงีบหลับและพบว่าเธอไม่รับรู้ความรู้สึกใดๆ จากแขนซ้ายของตัวเองเลย ซึ่งอาการดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่เธอเคยเจอมาก่อนและจะหายไปเองหลังจากผ่านไป 1-2 นาที แต่ทว่าในครั้งนี้มันกลับไม่หายไปจนทำให้ไม่สามารถใช้งานแขนซ้ายได้เลย แม้แต่การหยิบของเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ด้วยเหตุนั้น Zhang จึงเข้ารับการตรวจกับแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่า เส้นประสาทเรเดียล (ส่วนปลายแขน ไว้ควบคุมการเคลื่อนไหวข้อมือและนิ้ว) บริเวณแขนข้างซ้ายของเธอได้รับความเสียหายอย่างหนัก อันเป็นผลมาจากการที่งีบทับแขนตัวเองทุกวัน สาวแซ่ Zhang พนักงานออฟฟิศที่งีบทับแขนตัวเองทุกวัน ในความจริงแล้วอาการเจ็บหรือชาบริเวณปลายนิ้วนั้นสามารถแก้ได้ด้วยการหมั่นบริหารร่างกายตรงบริเวณนั้นอยู่เป็นประจำ แต่ Zhang กลับไม่เคยทำอย่างนั้นและฝืนใช้งานอย่างหนัก จนกลายเป็นเพิ่มแรงบีบคั้นตรงส่วนเส้นประสาทดังกล่าว ความเสียหายทำให้เธอไม่สามารถขยับแขนซ้ายได้ในที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นอาการขั้นรุนแรงของเธอคนนี้ก็สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวอีกด้วย สุดท้ายแล้วแพทย์หลายๆ…
-
หื๊มม!!? Gwyneth Paltrow นักแสดงจาก Iron Man ออกมาแนะเทคนิคมีเซ็กส์แบบ “ทรีซัม”
ทั้งที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วกลับยิ่งดังระเบิดขึ้นไปอีกสำหรับสาวสวยอย่าง Gwyneth Paltrow หลังจากที่ได้เข้ามารับบท “Pepper Potts” หวานใจฮีโร่เกราะเหล็ก Iron Man ของเรานี่เอง Gwyneth Paltrow ผู้รับบทเป็น Pepper Potts ใน Iron Man ด้วยความที่ Gwyneth ก็มีอายุอานามราว 45 ปีแล้ว เธอจึงมักชอบที่จะแบ่งปันเทคนิคต่างๆ ในการใช้ชีวิต เขียนลงบนนิตยสารของเธอที่ใช้ชื่อว่า GOOP เพื่อให้พวกเราได้นำไปใช้ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหาร การดูแลสุขภาพ หรือแม้แต่เรื่องของ “เซ็กส์” ใครจะรู้ล่ะว่า Gwyneth ที่รับบทเป็นสาวใสหวานใจ Iron Man แบบนี้ เธอจะมีชีวิตเซ็กส์ที่จัดจ้าน ครั้งหนึ่งเธอเคยแนะนำสาวๆ ให้นำ “จิ๊มิ” ไปอบไอน้ำ แถมยังแนะให้หาซื้อ “จู๋ปลอม” ทองคำราคากว่า 4 แสนบาทมาตกแต่งห้องนอนอีกด้วย นักแสดงสาว Gwyneth ดีกรีรางวัลออสการ์คนนี้ เคยถูกถามว่า “คนเราควรทรีซัม (ซั่ม 3 คน) กันหรือไม่?” และเธอตอบในนิตยสารเล่มใหม่ของเธอว่า…
-
แพทย์งุนงง หลังพบหนังยางฝังอยู่ในแขนของเด็กวัย 4 ขวบ ราวกับโดนเล่นของใส่!!
พวกเราบางคนอาจเคยเจอกับเรื่องราวที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่ามันเกิดอย่างนั้นได้อย่างไร เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กน้อยวัย 4 ขวบคนนี้ เมื่อพบ “หนังยาง” อยู่ใต้ผิวหนังบริเวณแขนของเธอ ราวกับว่าเธอโดนไสยศาสตร์เสกของเข้าตัว เด็กหญิงคนดังกล่าวมีชื่อว่า Le Le เธออาศัยอยู่กับตายายในเมือง Linquan มณฑลอานฮุย ประเทศจีน โดยเมื่อช่วงต้นปี 2018 ตายายพบเห็นรอยแดงประหลาดเป็นวงรอบๆ แขนของเธอ ทั้งสองคนจึงพาเด็กหญิงไปเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลในเมือง ซึ่งหมอไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือรอยอะไรและวินิจฉัยเป็นเพียงแค่อาการติดเชื้อหรืออาการภูมิแพ้ทั่วไปเท่านั้น รอยรอบๆ แขนของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ พอวันเวลาผ่านไป อาการดังกล่าวกลับยิ่งแย่ลงไปมากกว่าเดิม ทำให้พ่อแม่ของเธอตัดสินใจพาไปเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเด็กของมหาลัยแพทย์ซีเจียง เมืองหางโจว พวกเขาได้พบกับนายแพทย์ Ye Wensong ซึ่งได้ทำการอธิบายว่ารอยแปลกๆ นั้นน่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากหนังยาง แน่นอนว่าเมื่อพ่อแม่ได้ยินอย่างนั้น พวกเขาก็ดูจะไม่ค่อยเชื่อหมอเท่าไหร่ เพราะคิดว่าถ้าเป็นหนังยางจริง ตอนที่มันรัดไว้ก็น่าจะมีคนบอกให้เอาออกหรือสังเกตเห็นกันมาตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ตอนแรกพวกเขาจะไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ยอมให้ลูกสาวนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล จนกระทั่งได้เจอกับผลลัพธ์อันน่าประหลาดใจ เพราะแพทย์สแกนพบหนังยางอยู่ในแขนของเธอจริงๆ และทำการผ่าตัดเอาออกมาในที่สุด แพทย์จำเป็นต้องผ่าตัดเอาหนังยางออกมา นี่มันคือการโดนเล่นของใส่ชัดๆ!! แต่ความจริงแล้วแพทย์อธิบายว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นจากการที่คนเฒ่าคนแก่ (ตายายของเด็กสาว) นำเอาสายสิญจน์หรือหนังยางไปมัดข้อมือหรือมัดแขนของเธอเอาไว้เพื่อเป็นสิริมงคล แต่นั่นอาจกลายเป็นการทำร้ายเด็กไปโดยไม่รู้ตัว นายแพทย์…