Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
ความคิดเห็นชาวเน็ต หลังเห็นภาพ “ผู้นำเกาหลีเหนือ-ใต้” เดินจับมือหนุงหนิงข้ามพรมแดน!!
ข่าวใหญ่ของวันนี้ คือการที่ “คิม จอง อึน” กลายเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรก ที่ก้าวเท้าเข้าไปยังพรมแดนของประเทศเกาหลีใต้ในรอบ 65 ปี นับจากสงครามเกาหลีในปี 1953 สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นสัญญาณที่ดีมากที่สุดของความสัมพันธ์สองประเทศเกาหลีเลยทีเดียว… การเยือนเกาหลีใต้ครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อประชุมความร่วมมือของสองชาติ กระชับความสัมพันธ์ และหลายคนมองไปถึงโอกาสรวมชาติของสองเกาหลีที่อาจจะเป็นไปได้จริง แม้จะยังไม่มีการรวมชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่ชาวเน็ตสังเกตเห็นก็คือ “ความกะหนุงกะหนิง” ของท่านคิม และท่านมูน แจ อิน ผู้นำของเกาหลีใต้ ทั้งสองจึงกลายเป็นคู่จิ้นคู่ใหม่ไปซะแล้ว… และนี่คือปฏิกิริยาจากชาวเน็ตบางส่วน หลังจากได้เห็นภาพความสัมพันธ์อันดีครั้งนี้เผยแพร่ออกไป… มีคนจิ้นจริงๆ นะ… ชาวเน็ตท่านนี้มีความเจ้าบทเจ้ากลอน… เฉียบ!! ทั้งหมดนี้คือผลงานลุงทรัมป์ และลุงทรัมป์จะเป็นประธานาธิบดีที่เจ๋งสุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน เพราะเขาผลักดันดีลนี้จนสำเร็จ!! พี่โดนตัวไหนมาครับ… คำว่าอันธพาลอันนี้ คงไม่ได้หมายถึงลุงแถวบ้านผมใช่ไหม!? รวมถึงเกิดมีมฮาๆ ที่เกิดจากความสัมพันธ์ครั้งนี้ ท่านมูน แจ อิน: จะบอกอะไรให้นะ พุงของท่าน มันใหญ่แบบนี้เลย!!…
-
ครอบครัว Tim Bergling ‘Avicii’ เผยสาเหตุการเสียชีวิต เพราะเขาไม่อาจแบกรับได้อีกต่อไปแล้ว…
เรื่องราวน่าเศร้ากับการจากไปของดีเจชื่อดังระดับโลก Avicii หรือ Tim Bergling ดีเจชาวสวีเดนวัย 28 ปี ที่ถูกพบเป็นร่างไร้วิญญาณในระหว่างทริปพักผ่อนของเขาในเมืองมัสกัต ประเทศโอมาน เมื่อช่วงวันศุกร์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา Avicii ได้ประกาศหยุดทัวร์คอนเสิร์ตในปี 2016 เนื่องจากประสบกับปัญหาสุขภาพร่างกายเรื้อรัง อีกทั้งยังมีสัญญานความปวดร้าวภายในจิตใจเกิดขึ้นด้วย Avicii หรือ Tim Bergling ดีเจชื่อดังชาวสวีเดน เสียชีวิตในวัย 28 ปี อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน ทางสำนักข่าวและสื่อทางด้านบันเทิงต่างคาดเดาไปถึงกรณีทางด้านอาชญากรรม การลอบสังหาร และการฆ่าตัวตาย ในวันที่ 26 เมษายน 2018 ทางด้านครอบครัวของ Tim Bergling ได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกแก่สาธารณะ โดยที่โฆษกไม่ได้ยืนยันว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่ โดยมีใจความดังต่อไปนี้… ภาพของ Avicii พร้อมคุณแม่ Anki Liden และคุณพ่อ Klas Bergling ระหว่างออกทัวร์ครั้งสุดท้ายในสวีเดน ‘ทิมผู้เป็นที่รักของเรานั้น คือผู้แสวงหา ศิลปินผู้มีจิตวิญญาณอันบอบบาง…
-
จิตแพทย์เตือนพ่อแม่ทุกวันนี้ “ผลักดันลูกมากเกินไปไหม!?” ปล่อยให้พวกเขาได้เล่นบ้าง…
ตื่นเช้ามืด – แต่งตัว – ออกจากบ้าน – เรียน – เลิกเรียน – ไปเรียนพิเศษ – กลับบ้าน – ตื่นเช้า… ถ้าข้อความข้างบนทำให้คุณรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นตัวเองล่ะก็ คุณคือเด็กไทยอย่างแน่นอน เพราะเราอยู่ในประเทศที่มีการแข่งขันสูง การสอบวัดผลและคะแนนมีผลต่อชีวิตของเรามาก (หากเราและทางบ้านให้ค่ากับมัน) นั่นทำให้เด็กกว่าครึ่งค่อนประเทศต้องเรียนอย่างหนัก ซ้ำยังต้องออกไปหาสถานที่เรียนพิเศษนอกโรงเรียนด้วย แม้ลึกๆ เราจะรู้สึกอิจฉาในประเทศต่างๆ ที่ไม่ต้องมาเรียนหนักๆ แบบบ้านเรา และยังมีเวลาเอาไปทำกิจกรรมอย่างอื่น แต่พวกเขาก็ต้องเจอกับปัญหาที่แตกต่างกันไป เพราะอย่างใน “ออสเตรเลีย” เองกำลังประสบกับปัญหาที่เหล่าพ่อแม่ผลักดันเด็กๆ ให้ไปทำกิจกรรมอื่นๆ นอกห้องเรียนมากเกินไป จนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของเด็กๆ เอง ก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยหลายๆ ชิ้นที่บ่งชี้ว่าการสนับสนุนให้เด็กๆ (ตั้งแต่ 4 ขวบเป็นต้นไป) ทำกิจกรรมต่างๆ นอกห้องเรียน จะช่วยให้พวกเขาทำกิจกรรมในห้องเรียนได้ดีขึ้นไปด้วย เช่นการว่ายน้ำ การเต้นรำ การปั้นเครื่องปั้นดินเผา การทำสวน เล่นดนตรี หรือวิชาคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้การทำกิจกรรมนอกห้องยังช่วยให้เด็กๆ พัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ…
-
นายแบบโดนแอบถ่าย แกล้งไม่เห็นจนมีคนมาโพสต์ถาม เจ้าตัวตอบ ‘ถามก่อนก็ได้ ไม่กัดจ้า’
ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องจะต้องมีกล้องติดเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว แน่นอนว่าทุกคนก็สามารถเข้าถึงสมาร์ทโฟนได้แล้วเช่นกัน และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือใครจะถ่ายอะไร ตอนไหน หรืออย่างไรก็ได้ ปัญหาที่ตามมาอีกขั้นก็คือการแอบถ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบุคคลสาธารณะ ที่มีชื่อเสียงทั้งในโลกแห่งความจริงและในโลกออนไลน์ เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ถูกพบในสถานที่ไหน ก็มักจะโดนแอบถ่ายอยู่เสมอ… Nyle DiMarco อย่างเช่นนายแบบ Nyle DiMarco ผู้ชนะจากรายการ America’s Next Top Model ซีซั่น 22 ได้ออกไปใช้บริการขนส่งมวลชนแบบคนทั่วไป นั่งรถไฟใต้ดินอย่างที่ใครๆ เขาก็ทำกัน… สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะทำกันก็เกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อ Loiba ผู้ฝึกสอนบราซิลเลียนยิวยิตสู ผู้ที่นั่งอยู่ในตู้โดยสารเดียวกันกับเขา แอบแชะภาพนายแบบเอาไว้โดยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันแบบต่อหน้าต่อตา โดยที่ตอนแรกเธอยังไม่แน่ใจว่าเขาเป็นใคร แต่เห็นว่าหล่อเหลาเอาการก็เลยอยากจะแชะภาพเก็บเอาไว้ จนกระทั่ง Nyle ได้โพสต์ภาพของตัวเองลงในโซเชียล และ Loiba ก็เข้ามาโพสต์ภาพที่เธอแอบถ่ายเขาเอาไว้พร้อมแคปชั่น ‘ถ้านี่เป็นคุณล่ะก็ ตัวจริงหล่อมากๆ เลยนะ’ ภาพที่โดนแอบถ่ายมา… Loiba ออกมาถามเจ้าตัวในโลกโซเชียล แต่หารู้ไม่ว่านายแบบคนนี้ก็มีความแสบใช่ย่อย เพราะเขาก็แอบถ่ายภาพ…
-
คุณลุงเบื่อเมียเกินจะทนไหว สร้างเครื่องทำอาหาร ‘ตามใจ’ อยากได้รสแบบไหน ไปสั่งมันนู่น!!
ความจุกจิกจู้จี้ขี้บ่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้สำหรับชีวิตคู่ เป็นธรรมดาที่ว่าคนสองคนมักจะมีอะไรที่ตะขิดตะขวงใจอยู่เสมอ อีกฝ่ายทำแบบนั้นก็รู้สึกไม่ชอบ พอตัวเองทำแบบนี้อีกฝ่ายก็ไม่พอใจเหมือนกัน ด้วยปัญหาความจู้จี้แบบนี้แหละ ก็เกิดขึ้นกับคุณลุงนักประดิษฐ์ชาวจีนเช่นกัน ที่มักจะบ่นในเรื่องฝีมือการทำอาหาร ต่อให้ทำรสชาติออกมาแบบไหนก็ไม่ถูกใจคุณภรรยาเสียที… คุณลุง เหอชิง ผู้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทแคเทอริงจากนครเซี่ยงไฮ้ ได้ทำการสร้างสรรค์เครื่องผัดกับข้าวอัตโนมัติเครื่องนี้ โดยใช้ระยะเวลาในการผลิตนานถึง 8 ปี จากต้นเหตุที่โดน ‘เมียบ่น’ ว่าไม่อร่อยบ้าง ไม่เค็มบ้าง จืดเกินไป บางทีก็ไม่สุก ในระหว่างการคิดค้นและผลิตเครื่องผัดกับข้าวตัวนี้ เขาก็ต้องเจอกับอุปสรรคมากมายรายวัน ไหนจะต้องมาออกแบบ ไหนจะต้องทนเมียบ่นทุกวัน แต่ด้วยความพยายามที่มีเพื่อพาตัวเองให้หลุดพ้นจากโซ่ตรวนห้องครัว เขาก็ทำได้สำเร็จ!! . ซึ่งหลังจากที่เครื่องผัดกับข้าวนี้ออกมาเป็นตัวเป็นตนแล้ว เมียของเขาก็ไม่เคยบ่นถึงเรื่องฝีมือทำอาหารอีกเลย แถมยังชอบเจ้าเครื่องนี้อีกต่างหาก นับว่าประสบความสำเร็จสูงสุดของการเป็นพ่อบ้านแล้วล่ะ สำหรับเครื่องผัดกับข้าวนั้น ก็ได้ไปประจำการในงานแสดงมหกรรมเทคโนโลยีนานาชาติที่เซี่ยงไฮ้ด้วย โดยการทำอาหาร 1 จาน จะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 นาที และมาพร้อมกับระบบล้างอัตโนมัติในตัว เบื่อเมียบ่น…ให้มันไปบ่นกับเครื่อง คุณลุงเหอชิงกล่าวปิดท้ายกับผู้สื่อข่าวไว้ว่า…
-
เกาหลีใต้ประกาศสั่งห้ามสอน ‘ภาษาอังกฤษ’ ในเด็กเล็ก หวั่นกระทบต่อภาษาแม่
ในปัจจุบันนี้ ถือว่าโลกนั้นได้เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคแห่งการคบค้าสมาคม แต่ละประเทศเปลี่ยนจากการก่อสงครามมาเป็นการแข่งกันทางเศรษฐกิจกันแทน ซึ่งจากการที่ธุรกิจหลายๆ ธุรกิจมีการร่วมมือจากหลายประเทศ ทำให้ภาษากลางที่สื่อสารนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก และในเวลานี้เวลาที่ชื่อว่าเป็นภาษาสากลของโลกก็คือ “ภาษาอังกฤษ” แต่ ณ ตอนนี้หนึ่งในประเทศชั้นนำของโลกอย่างเกาหลีใต้กลับแบนภาษาอังกฤษ ไม่ให้สอนในช่วงชั้นประถมศึกษาที่ 1 และ 2 เพราะเกรงว่าจะกระทบด้านลบมากกว่า โดยที่คำสั่งห้ามนี้มีผลมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 โดยรัฐบาลได้กล่าวว่าได้ผ่านคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในปี 2016 โดยที่กังวลว่าการสอนภาษาอังกฤษจะไปกระทบต่อการใช้ภาษาเกาหลี “ว่าตามผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา อายุที่ควรที่จะเรียนภาษาอังกฤษอยู่ที่ ป.3 ก่อนที่จะเริ่มภาษาอังกฤษควรที่จะพัฒนาทักษะทางสังคมและเพิ่มความรู้ความเข้าใจเสียก่อน แต่ก็มีพ่อแม่หลายคนที่คิดว่ายิ่งเรียนภาษาที่สองเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี” Kwon Ji-young ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายการศึกษาเด็กเล็กได้กล่าวไว้ ในเกาหลีใต้ โรงเรียนเด็กเล็กที่มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษจะไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโรงเรียนบริบาล แต่พวกเขาจะเปิดในฐานะสถานศึกษาของเอกชนแทน โดยที่เฉลี่ยแล้วครอบครัวของคนเกาหลีจะมีรายได้อยู่ที่ 485,000 บาทต่อปี ในขณะที่โรงเรียนเตรียมบางแห่งต้องจ่ายค่าเล่าเรียนถึง 47,000 ต่อเดือน ถึงแม้ว่าสถานศึกษาที่เปิดสอนภาษาอังกฤษจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่หากครอบครัวของเด็กมีกำลังพอที่จะจ่าย พ่อแม่ก็นิยมส่งลูกไปเรียนในที่ที่จะได้เรียนภาษาอังกฤษอยู่ดี Hwang Hee-jung คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ได้บอกว่า “ฉันคิดว่าการพูดอังกฤษได้สำคัญมากๆ เพราะว่าการเข้ามหาวิทยาลัยมันยากมากๆ และเด็กนักเรียนต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษในระดับสูงถึงจะผ่าน” ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการสั่งห้ามสอนภาษาอังกฤษนี้จะทำให้มีคุณครูประมาณ 7,000 คนต้องตกงาน และจะกลายเป็นว่าเด็กที่อยู่ในครอบครัวรายได้น้อยก็มีข้อเสียเปรียบในการแข่งขันทางการศึกษาไปเลย…
-
14 สิ่งอำนวยความสะดวกเด็ดๆ เหมาะสำหรับสายเมาควบคุมได้ ทำไมไม่มีแบบนี้ทุกที่ว้า!?
การออกไปท่องราตรีเพื่อผ่อนคลายหรืออะไรก็ตามแต่ ในท้ายที่สุดแล้วเราก็ควรที่จะประคองสติให้อยู่ครบเสมอ ไม่ใช่ว่าเมาหัวราน้ำกลายมาเป็นภาระให้คนรอบข้าง ต้องหอบร่างพาไปนอนบนเตียง ดีไม่ดีทำอาเจียนจนปวดเศียรเวียนเกล้าไปตามๆ กัน ฮร่าาาา… แต่อย่างน้อยๆ ทางร้านต่างๆ ก็จะมีบริการเสริมพิเศษสำหรับลูกค้าผู้น่ารัก ที่จะมาสนุกสนานยามค่ำคืน ทั้งนี้ก็เพื่อมอบความสะดวกและบริการอันแสนประทับใจ จะได้กลับมาเมาที่ร้านอีกครั้ง เพราะของแบบนี้มันดีจริงๆ นะแกร๊ หน้าจอตลาดหุ้นเบียร์ ราคาจะผันผวนทุกๆ 15 นาที ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทาน หน้าจอแสดงออฟชั่นเบียร์แต่ละชนิด มีส่วนผสมอะไรบ้าง และเหลือปริมาณเท่าไหร่สำหรับเสิร์ฟคืนนี้ แกนทิชชู่ประดับบาร์ พร้อมกับช่องเสียบสาย USB ชาร์จโทรศัพท์ในตัว ตู้ล็อกเกอร์ให้เช่าพร้อมสายชาร์จภายในตู้ ไม่ต้องกลัวโทรศัพท์หายแถมได้ชาร์จไฟอีกต่างหาก รางวัลสำหรับสายเมารับผิดชอบ เมาแล้วไม่ขับรถกลับเอง รับคูปองส่วนลดสำหรับครั้งต่อไป หมอนรองหัวประดับหน้าโถฉี่ รู้สึกหัวหนักไประหว่างค่ำคืนนี้ แวะมาเอนได้นะจ๊ะ กระจกใสส่วนบนในห้องน้ำ ยืนผ่อนคลายไปด้วย ได้ดูทีวีไปพลางๆ โถที่มีไว้ใช้สำหรับปากโดยเฉพาะ จะได้ไม่ต้องไปเรี่ยราดเลอะเทอะข้างนอก (มีราวจับให้ด้วยนะ) ชุดแม่เหล็กสุดวิเศษ เสิร์ฟเครื่องดื่มลอยฟ้า!! ถาดรองสำหรับผู้สั่งอาหารมารับประทานหน้าบาร์ ดูเหมาะดีนะ…
-
ญี่ปุ่นจัดงานฉลอง 108,000 คน เตรียมอาสาเก็บขยะ 20 คน ไอ๊หยาดั๊นเก็บขยะได้แค่ 6 ถุง!!
ล่าสุดที่ญี่ปุ่นมีการจัดงานเฉลิมฉลอง หลังจากที่ Yuzuru Hanyu นักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ต สามารถคว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกฤดูหนาวมาได้ติดต่อกันถึง 2 สมัย หนุ่ม Hanyu วัย 23 ปีของเรานั้นมีแฟนคลับเยอะมาก ด้วยหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม รูปร่างดี เป็นนักกีฬา จึงมีบรรดาพ่อยกแม่ยก และคนในเมืองมาร่วมงานกว่า 108,000 คนเลยล่ะ!! งานใหญ่ คนเยอะขนาดนี้ ก็ต้องมีการเตรียมรับมือเรื่อง “ขยะ” ที่จะตามมา เพราะฉะนั้นทีมงานจึงได้เตรียมอาสาสมัครซึ่งเป็นนักเรียนมหาวิทยาลัยจำนวน 20 คน มาคอยเดินเก็บขยะ แผนงานคร่าวๆ ก็คือ พวกเขาจะมีถุงขยะใบยักษ์คนละ 3 ใบ รวมเป็นถุง 60 ใบ คอยเดินตามขบวนพาเหรดจากจุดสตาร์ทไปยังจุดสิ้นสุด ห่างจากขบวนประมาณ 100 เมตร ถ้ามีขยะพวกเขาก็จะได้ช่วยกันเก็บใส่ถุงเหล่านั้น พอจบการเดินพาเหรดฉลองก็ถือว่าเสร็จสิ้นงาน ไม่ต้องมาเคลียร์ทีหลังอีกนั่นเอง ตอนแรกพวกเขากังวลมาก เพราะงานเมื่อ 4 ปีก่อนมีคนมาแค่ราวๆ 1,000 คน แต่ปีนี้มีมามากขึ้น 100 เท่า ถุงขยะจะเพียงพอหรือไม่!?…
-
คนขับรถสิบล้อร่วมใจ จอดเรียงกันใต้สะพาน 13 คัน หวังจะช่วยชีวิตชายคิดสั้นเพียง 1 คน
เมื่อช่วงวันที่ 24 เมษายน 2018 เวลาประมาณ 01.00 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา ในบริเวณย่าน Oak Park รัฐมิชิแกน มีการประกาศเตือนภัยจากตำรวจในพื้นที่ เนื่องจากมีชายรายหนึ่งกำลังยืนอยู่ปลายสะพาน พร้อมที่จะกระโดดลงมาบนทางด่วน… เมื่อมีการประกาศออกไปแล้ว ทางกลุ่มคนขับรถสิบล้อกลุ่มหนึ่งก็ได้ขับรถของตน รุดมายังที่เกิดเหตุในทันที พร้อมกับการจอดรถเรียงกันเป็นแถวเคียงข้างตลอดทั้งสองฝั่งถนนเป็นจำนวน 13 คัน โดยคาดคะเนถึงทุกจุดที่ชายคนดังกล่าวเลือกที่จะกระโดดลงมา Sgt. Jason Brockdorff จากสถานีตำรวจ Huntington Woods Police Department กล่าวถึงการรับมือสถานการณ์ดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ตำรวจและคนขับรถสิบล้อถูกฝึกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือจำนวนของคนขับรถสิบล้อที่มาช่วยในเหตุการณ์ครั้งนี้ “การซักซ้อมถูกนำมาใช้งานจริงหากมีผู้ประสงค์จะกระโดดฆ่าตัวตาย พวกเราพยายามใช้วิธีแบบนี้ทุกครั้ง เพื่อลดระยะห่างความสูงจากด้านบนลงมาสู่ด้านล่าง ถ้าหากพวกเขากระโดดลงมา” Brockdorff กล่าวถึงวิธีการรับมือต่อเหตุฉุกเฉิน . สถานการณ์ความตึงเครียดลากยาวประมาณ 4 ชั่วโมงไปจนถึงช่วงเช้าตรู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อรถสิบล้อมาจอดเรียงกันใต้สะพานแล้ว ตำรวจจึงมีเวลามากพอที่จะเกลี้ยกล่อมชายคนดังกล่าวได้มากขึ้น …
-
ไอซ์แลนด์รับสมัคร “เพื่อนคู่หู” ทำงาน “เที่ยวรอบโลก” ที่พักฟรี เงินเดือน 120,000 บาท!!
สายการบินต้นทุนต่ำสัญชาติไอซ์แลนด์ Wow Air เปิดรับสมัครตำแหน่งงานพิเศษ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นงานในฝันของใครหลายคนเลยทีเดียวล่ะ!! ในประกาศของสายการบิน ระบุว่าต้องการรับสมัคร “เพื่อนคู่หูคู่ฮา 2 คน เพื่อทำงานถ่ายวิดีโอและเขียนบล็อกตลอดการท่องเที่ยวในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้!!” รายละเอียดของงานคร่าวๆ ก็คือ – คู่หูที่ผ่านการคัดเลือก 2 คน จะต้องย้ายไปอยู่ไอซ์แลนด์ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน – 15 สิงหาคม 2018 – จะได้ที่พักฟรีในย่านใจกลางเมืองหลวง Reykjavik – มีเงินเดือนให้เดือนละ 120,000 บาท – ใช้ไอซ์แลนด์เป็นเบสสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศแถบยุโรปและอเมริกาเหนือ พร้อมบันทึกประสบการณ์ดีๆ ในการท่องเที่ยว สภาพอพาร์ทเมนต์ที่คุณจะได้พักฟรี ตัวแทนสายการบิน Wow Air บอกกับทางเว็บไซต์ Insider ว่าผู้ผ่านการคัดเลือกนั้น สามารถเลือกจุดหมายปลายทางของพวกเขาได้เอง ไม่ว่าจะเป็น Barcelona, Los Angeles, Stockholm, หรือ New York…
-
มาชม Trailer Infinity War ที่ทำขึ้นใหม่ด้วย “ตัวละครอนิเมะ” ดูแล้วขนลุกเลยว่ะแกร๊!!
เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่อลังการมากสำหรับการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Avengers: Infinity War ที่กำลังเข้าฉายอยู่ ณ ขณะนี้ เมื่อเหล่าซูเปอร์ฮีโร่จากค่าย Marvel ที่เราติดตามกันมานานแสนนาน ต้องมารวมพลังกันประมือกับวายร้ายสุดเก่งกาจอย่าง Thanos พร้อมสมุนสุดโหดอีกเป็นขบวน จึงเป็นที่สนใจของแฟนๆ Marvel และคอหนังเป็นอย่างมาก ขณะที่เราตื่นเต้นกับการที่ตัวละครจากภาพยนตร์ฮีโร่เรื่องต่างๆ เข้ามารวมอยู่ในหนังเรื่องเดียวกันเพื่อต่อสู้กับวายร้าย ทางแชแนลยูทูบ Anime Mirchi ก็ปิ๊งไอเดียสุดเท่ นำตัวละครจากอนิเมะญี่ปุ่น มารวมพลังกันต่อสู้กับวายร้าย ราวกับว่าเป็น Avengers เวอร์ชันอนิเมะกันเลยทีเดียว บอกเลยว่า เนียนสุดๆ เมื่อโลกอนิเมะถูกรุกรานโดยวายร้าย เหล่าขุนพลแห่งการ์ตูนจึงต้องร่วมมือกันต่อสู้เพื่อปกป้องโลกและขับไล่วายร้ายให้ออกไป ดราก้อนบอล! นารูโตะ! วันพีซ! คิลลาคิล! บลีช! ฟูลเมทัลอัลเคมิสต์! และ แอทแท็คออนไททัน! รวมพลังงง นารูโตะก็มา วันพีซก็ไม่น้อยหน้า (มาเต็มจอเล๊ยยย) อินุยาชิกิ อิจิโร่ มาในบทบาทของ โทนี่ สตาร์ก หรือ Iron Man ของเรานั่นเอง และความหวังของพวกเขาทุกคน ชายที่แข็งแกร่งที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก โกคู!! …
-
สาวล่ำ กล้ามเป็นมัด “ชกหน้า” ชายหื่นจนมือแดง เหตุ “แต๊ะอั๋ง” ก้น ชาวเน็ตพากันชื่นชมเพียบ
ผู้หญิงไม่ได้อ่อนแอกันทุกคนนะ ขอเตือนท่านชายว่าจะซ่ากับใครต้องดูให้ดีๆ นะจ๊ะ Leanna Carr หญิงสาววัย 26 ปีจากรัฐโคโรลาโด สหรัฐอเมริกา ได้เล่าว่าขณะที่เธอเดินไปตามถนนในกรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ชายหื่นคนหนึ่งก็เข้ามาล่วงละเมิดทางเพศ “จับก้น” ของเธอจากด้านหลัง Leanna Carr นักยกน้ำหนัก วัย 26 ปี เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนักยกน้ำหนักสาว Leanna ได้กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ต หลังจากที่เธอได้โพสต์บนทวิตเตอร์ของเธอว่า “ขณะที่ฉันเดินไปตามถนนในดับลิน ก็มีชายคนหนึ่งมาจับก้นฉันจากด้านหลัง จากนั้นเขาก็หัวเราะเยาะฉัน แล้วพูดว่า ‘เธอเป็นชาวอเมริกันนี่ เธอน่าจะชอบอะไรแบบนี้นะ’ ตอนนั้นฉันไปเที่ยวคนเดียวเสียด้วย ฉันเลยตอบชายคนนั้นไปด้วยการชกเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างจังเลยล่ะ” Leanna โพสต์พร้อมแนบรูปกำปั้นของเธอที่แดงก่ำจากการมันใช้สั่งสอนชายหื่นขี้เหยียดคนนั้นให้รู้สำนึก ขนาดกำปั้นยังแดงขนาดนี้ ไม่รู้ว่าใบหน้าของชายคนนั้นจะอยู่ในสภาพไหนกันแน่ ภายหลังเธอบอกกับสำนักข่าว The Independent ว่าในเวลานั้น เธอรู้สึกทั้งตกใจทั้งโมโหจนสุดท้ายเธอปล่อยหมัดชกหน้าชายคนนั้นเสียเลย Leanna Carr กล่าวว่า “ฉันไม่เคยเป็นคนใช้ความรุนแรงมาก่อน และฉันก็ไม่เคยชกใครมาก่อนเลยด้วย แต่ตอนนั้นมันทนไม่ไหวจริงๆ อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านมาก ฉันเลยชกชายคนนั้นเข้าที่โหนกแก้มอย่างจัง” ทั้งนี้…
-
“ใส่ถุงขยะก็ยังดูดี” จากคำชมแอบประชด กลายมาเป็นชุดพรอมถุงดำ พร้อมเชิดใส่เรียงคน!!
หลายต่อหลายครั้งที่คำพูดคำจาจากคนอื่น อาจจะกลายมาเป็นยาพิษที่บั่นทอนจิตใจเรา หากลองนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันให้เราเดินต่อได้ จะสามารถไปในทิศทางไหนได้บ้าง? Amber Scholl Amber Scholl ยูทูปเบอร์สาวสวยมีผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้านคน กลายมาเป็นปรากฏการณ์บนโลกออนไลน์ในทันที หลังจากที่ความคิดสร้างสรรค์ด้านแฟชั่นจากสมองและสองมือ บวกกับบุคลิกอันสวยแซ่บของเธอ ก็กลายมาเป็นคลิปวิดีโอที่เกิดมาจากคอมเมนต์ของชาวเน็ตท่านหนึ่งที่บอกว่า “ต่อให้ Amber ใส่ถุงขยะ ก็ยังดูดีได้” และเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าความจริงจะเป็นอย่างไร เอาถุงขยะมาใส่แล้วจะยังดูดีอยู่หรือไม่? เธอก็ลงมือทำชุดทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ตั้งแต่ไปเลือกซื้อวัสดุต่างๆ จากร้านค้า ไปจนถึงกรรมวิธีผลิตชุดเดรสขึ้นมาจริงๆ ฮายยยย… สวัสดีชาวโซเชียลแคม วันนี้ดิฉันจะมาเลือกซื้อถุงขยะนะคะ พร้อมกับเทปกาวอีกสองม้วน แล้วก็ที่ขาดไม่ได้ เดรสสีดำโล้นๆ แบบนี้! ได้ของมาแล้ว ก็นั่งดูเฉยๆ เดี๋ยวมายากลจะเสกชุดออกมาเอง อุปกรณ์ที่ใช้หลักๆ ก็คือ ถุงขยะ! เทป กรรไกร และกาว (ใช้แปะนะ ไม่ต้องเอาไปดม) …
-
เมื่อเด็กชายออทิสติก นำเครื่องอัดเสียงใส่กระเป๋าไปโรงเรียน ทำให้ครูถูกไล่ออกถึง 2 คน!!
เรื่องราวของเด็กชาย Camden Davis วัย 12 ปี จากรัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ผู้เข้าเรียนในโรงเรียน Hope Academy ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยสถานศึกษาแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับสอนนักเรียนผู้ที่มีความต้องการเป็นพิเศษ จากคำโปรโมทหน้าเว็บไซต์ของโรงเรียนกล่าวถึง “การให้กำลังใจ ความสัมพันธ์เชิงบวก และจดจำความสำเร็จของนักเรียน” Camden Davis วัย 12 ปี โรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ Hope Academy Camden เป็นเด็กที่ป่วยเป็นโรคออทิสติกอย่างหนัก และ Milissa ผู้เป็นแม่ของเขาก็ได้พาเข้าเรียนที่ Hope Academy แห่งนี้โดยหวังว่าทางโรงเรียนจะช่วยสนับสนุนและเข้าใจสิ่งแวดล้อม ที่จะผลักดันให้ลูกชายสามารถเรียนรู้ในทางของตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม คุณแม่เริ่มสังเกตเห็นสัญญาแห่งความเครียดในตัว Camden หลังจากที่กลับมาจากโรงเรียน และนั่นทำให้เธอรู้ได้ว่าจะต้องมีอะไรผิดปกติแล้วแน่ๆ โดยปกติแล้วลูกชายจะมีความสุขและสดใสอยู่เสมอ จนช่วงหลังลูกชายเริ่มมีความฉุนเฉียวและปัสสาวะบนเตียงอยู่บ่อยครั้ง คุณแม่พยายามติดต่อไปยังทางผู้บริหารของโรงเรียน แต่กลับไร้วี่แววใดๆ ในวันหนึ่ง คุณแม่ตัดสินใจที่จะแอบใส่เครื่องบันทึกเสียงไว้ในกระเป๋าของลูกชาย เพื่อที่จะค้นหาต้นเหตุที่ทำให้ลูกชายรู้สึกไม่สบายใจ อย่างที่เขาไม่สามารถระบายออกมาเองได้ แล้วก็ได้พบกับความจริงที่ว่า…
-
เทศบาลทำเป็นเนียน ตัดต่อนายกเทศมนตรีลงไปตรวจงานก่อสร้าง โดนชาวเน็ตพาไปเที่ยวแทน!!
เมื่อมีการตกลงว่าจ้างจากฝ่ายราชการแล้ว ในขณะที่ทำการก่อสร้างหรือต่อเติมอะไรก็ตามแต่ จะต้องมีการตรวจงานก่อนที่จะทำการส่งมอบเพื่อเป็นการปิดงานแต่ครั้ง และระบบแบบนี้ก็มีในประเทศบราซิลเช่นเดียวกัน เมื่อนายกเทศมนตรี José Arno Appolo do Amaral ประจำเมือง Alvorada รัฐรีอูกรันดีดูซูล ประเทศบราซิล ต้องออกมาตรวจงานก่อสร้างพัฒนาเทศบาล โดยส่งร่างทรงของตัวเองมาแทน… ภาพดังกล่าวที่เห็นต่อไปนี้ โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กของเทศบาลเมือง Alvorada เป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่าท่านนายกเทศมนตรี พร้อมกับปลัด Valter Slayfer มาตรวจงามขุดลอกคลอง พร้อมกับแคปชั่นบอกรายละเอียดงานยาวเหยียดเป็นหางว่าว แน่นอนว่าจะเห็นท่านนายกเทศมนตรียืนอยูทางซ้าย พร้อมชี้นิ้วเหมือนจะสั่งการอะไรบางอย่าง ส่วนปลัดก็ยืนเอามือไพล่หลังในเสื้อสีชมพู แต่แล้วก็ไม่รอดพ้นชาวเน็ตสายตาดี สังเกตเห็นว่าภาพถ่ายนี้ดูแปลกๆ ทั้งตำแหน่งที่ยืนบนถนน รวมไปถึงสีโดยรวมทั้งภาพ… และภาพดังกล่าวก็ถูกแชร์นำไปตัดต่อเพิ่มเติมอีกเพียบ กลายมาเป็นมีมตลกล้อเลียนท่านนายกเทศมนตรีไปโดยปริยาย ทางด้านเทศบาลเมืองก็รีบลบภาพต้นฉบับออกไป แต่กลับกลายเป็นว่าสายไปเสียแล้ว ทางโฆษกเทศบาลเมืองได้ให้คำอธิบายผ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Correio do Povo ไว้ว่า ภาพดังกล่าวไม่มีการดัดแปลงแต่อย่างใด แต่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงต้องลบภาพออกจากเพจของเทศบาลเมือง แต่ยังยืนยันว่างานขุดลอกได้ดำเนินการไปแล้ว แม่เอ็งชื่ออะไรฟะ!? …
-
สาวทิ้งแฟนวัยรุ่น ไปคบชายรุ่นพ่อ บอกเซ็กส์ไม่ใช่ปัญหา เพราะ “โล้สำเภาดุ”
เรื่องความรักนั้นไม่ค่อยจะเกี่ยวอายุสักเท่าไหร่ แต่คนโดยทั่วๆ ไปแล้วก็มันจะมีแฟนที่อายุไล่เลี่ยกัน หรือห่างกันอย่างน้อยก็ไม่เกิน 4-5 ปี แต่เธอคนนี้ที่มีแฟนเป็นชายลูก 3 แถมยังมีอายุห่างกับเธอถึง 27 ปีเลยทีเดียว หญิงสาวรายนี้มีชื่อว่า Avalon Garvey วัย 19 ปี เธออาศัยอยู่ในเวสยอร์กไชร์ ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในประเทศอังกฤษ เธอเล่าว่าเธอได้พบรักกับ Doug Traser ชายวัย 44 ปี จากซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านทางโลกออนไลน์เมื่อเดือนมิถุนายน 2016 ฝ่ายหญิงยอมรับว่า Doug Traser นั้นมีอายุที่มากกว่าพ่อแท้ๆ ของเธอเสียอีก แต่ถึงจะมีช่องว่างทางอายุขนาดนี้ แต่ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันในทันที ในขณะนั้น Avalon ยังศึกษาอยู่ชั้นปี 1 ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของนอร์ธยอร์กไชร์ เธอบอกว่าในตอนนั้นเธอกำลังคบหาดูใจกับคนในรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ จนกระทั่งเธอได้มาเจอ Doug เธอจึงเลิกกับแฟนหนุ่มไป Avalon เผยถึงสิ่งที่ทำให้เธอประทับใจในตัวเขาก็คือเขาเป็นคนซื่อตรง เพราะ Doug บอกอายุที่แท้จริงกับเธอและบอกด้วยว่าเขามีลูกๆ 3 คน ทั้งคู่เริ่มแชตคุยกัน และฝ่ายชายก็บินมาหาเธอที่เวสยอร์กไชร์ สำหรับ Avalon แล้ว เธอแทบจะตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น เธอยอมรับว่าพวกเขามีอะไรกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน…
-
หมู่บ้านในนอร์เวย์มีกฎหมาย ห้าม “ตาย” ในหมู่บ้าน เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ
ความตายนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อเราเกิดมาและใช้เวลาอยู่บนโลกได้ระยะเวลาหนึ่ง เราก็ต้องจากไป และคนที่เหลืออยู่ก็ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ แต่หากคุณตายไม่ถูกที่ล่ะก็ คุณอาจจะมีความผิดทางกฎหมายได้นะ… หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ที่ชื่อว่า ลองเยียร์เบียน ได้รับการจดบันทึกว่าไม่เคยมีใครเสียชีวิตที่นี่มาตั้งแต่ช่วงปี 1950 แล้ว ในทางปฏิบัติแล้วมันก็มีคนเกิดและตายในหมู่บ้านนี้เหมือนกับที่อื่นๆ แต่การตายในหมู่บ้านแห่งนี้ถือว่าผิดกฎหมาย คนส่วนใหญ่มักจะบินออกจากถิ่นฐานก่อนที่พวกเขาจะตายเพื่อใช้ชีวิตในวันสุดท้ายของพวกเขาที่อื่นมากกว่า สาเหตุที่มันเป็นแบบนั้นก็เพราะว่าหมู่บ้านลองเยียร์เบียนนั้นตั้งอยู่ตรงหมู่เกาะสฟาลบาร์ ใกล้กับวงกลมอาร์ติก (คือวงกลมละติจูดที่อยู่เหนือที่สุด ในบรรดา 5 วงกลมละติจูดหลักบนแผนที่โลก) ซึ่งแน่นอนว่าอากาศบนนั้นจะมีความหนาวเย็นมาก แม้ว่าคุณจะเสียชีวิตและถูกฝังไปแล้ว แต่ร่างกายของคุณจะถูกแช่แข็งและไม่สลายไปง่ายๆ ย้อนไปในปี 1918 ตอนนั้นเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดไปทั่วโลก (ตอนนั้นใช้ชื่อว่าไข้หวัดสเปน) ด้วยโรคนี้ทำให้คนราวๆ 50-100 ล้านคนป่วยและเสียชีวิต คิดเป็น 5% ของประชากรโลกเลย ซี่งในจำนวนทั้งหมดมีคนในหมู่บ้านลองเยียร์เบียนอยู่ด้วย 11 คน พวกเขาถูกฝังลงบนเกาะ แต่ชาวบ้านค้นพบว่าชั้นดินที่ฝังศพนั้นไม่ได้ทำให้ศพเน่าเปื่อยเลยตั้งแต่เมื่อปี 1950 ชาวเมืองเลยหยุดการฝังศพและเปลี่ยนกฎหมาย ว่าห้ามมีการฝังศพเนื่องจากลัวว่าโรคร้ายจะระบาด เรื่องนี้ได้เคยมีการพิสูจน์มาแล้วโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เดินทางไปที่เกาะนั่นในยุค 90 แล้วขุดศพขึ้นมาเพื่อสำรวจ แต่ปรากฎว่าหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ดันเสียชีวิตเนื่องจากโรคที่หลงเหลือจากศพ นอกจากกฎหมายห้ามตายบนเกาะนั่นแล้ว ยังมีกฎหมายห้ามเลี้ยงแมวบนเกาะนั้นด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะไปทำอันตรายให้กับนกบนเกาะ ถ้าหากคุณเป็นพวกรักแมวล่ะก็อาจจะต้องเสียใจกันเล็กน้อย…
-
แนะนำเบื้องต้น เกม Harry Potter: Hogwarts Mystery ปล่อยให้โหลดแล้วทั้ง iOS & Android
หากผู้อ่านคนใดที่เป็นแฟนๆ ภาพยนตร์ นิยายหรือเกมของพ่อมดน้อย (ที่ตอนนี้ไม่น้อยแล้ว) อย่าง Harry Potter แล้วล่ะก็คงอยากที่จะให้มีผลงานต่อยอดออกมาอีกเรื่อยๆ เลยใช่หรือไม่ และตอนนี้ คำขอที่เพื่อนๆ หวังเอาไว้ก็ประสบผลสำเร็จแล้ว เพราะว่าวันนี้ (25 เมษายน 2561) ทาง Jam City, Inc ได้ปล่อยเกมมือถือ Harry Potter: Hogwarts Mystery ให้ได้ดาวน์โหลดแล้วทั้งที่ App Store และ Play Store Harry Potter: Hogwarts Mystery จะเป็นเกมแรกในตระกูลพ่อมดน้อยที่เราสามารถสร้างตัวละครของตัวเองและพาตัวเรานั้นไปโลดแล่นและผจญภัยอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์ในฐานนักเรียนแห่งโรงเรียนเวทมนตร์ Hogwarts ในเกมนี้ เพื่อนๆ จะได้สร้างตัวละครตามแบบฉบับของเรา ไม่ว่าเราชอบแบบไหนก็สามารถปรับแต่งได้หมด ไม่ว่าจะเป็น หน้าตา ทรงผม เสื้อผ้าหรือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ อีกมากมาย และแน่นอนว่าก่อนที่เราจะเข้าเป็นนักเรียนของ Hogwarts อย่างเต็มตัว เราต้องผ่านการเลือกบ้านจากหมวกคัดสรรเสียก่อน…
-
ชายหนุ่มไปลองใช้ชีวิตอยู่ในสลัมของนครมุมไบ 5 วัน แล้วดูสิ เขาเปลี่ยนไปมากขนาดไหน?
นี่เป็นประสบการณ์อันล้ำค่าของนาย Jacob Laukaitis เขาเล่าว่าเมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว เขาได้เดินทางไปเที่ยวที่มหานครมุมไบ ประเทศอินเดียเป็นเวลา 2 วัน เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินเท้าไปในเมืองสลัม แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปถึงในเมืองจึงไม่รู้ว่าคนที่นั่นมีความเป็นอยู่ยังไง ภาพของ Jacob เมื่อครั้งที่เขาได้ไปเยือนอินเดียเป็นครั้งแรก และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็ได้กลับไปที่นั่นอีกครั้ง เขาตัดสินใจเดินทางไปที่แหล่งชุมชนธาราวี ซึ่งเป็นแหล่งเสื่อมโทรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เขาพักอาศัยอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 5 วัน เพื่อให้เข้าถึงวิถีชีวิตของคนที่นั่นว่ามีความเป็นอยู่กันยังไง และแม้จะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่นั่นก็ทำให้เขาได้รับประสบการณ์ที่จินตนาการไม่ถึง “ประสบการณ์นี้มันเปิดหูเปิดตาผมมากกว่าที่ผมจินตนาการไว้ เพราะผมได้ใช้เวลากับคนท้องถิ่น ที่ซึ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าของผมให้เหมือนกับวีถีชีวิตของพวกเขา” Jacob เล่า จากมุมมองของคนภายนอกแต่ละคนอาจจะภาพติดอยู่ในหัวเกี่ยวกับชุมชนแออัดในอินเดีย ว่าจะต้องมีเด็กๆ ผอมโซ บางคนต้องนอนตามข้างถนน บางคนไม่ได้เรียนหนังสือ บางคนต้องนอนรอบๆ เศษเนื้อเศษอาหาร และอีกมากมาย นาย Jacob เล่าว่าเรื่องที่เราๆ ได้ยินมามันก็ไม่ผิดนัก โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงสุขอนามัย ตัวอย่างเช่นในชุมชนธาราวี มีคนบอกว่าที่นั่นมีห้องน้ำน้อยมาก เฉลี่ยแล้วจะมี 1 ห้องน้ำ/คน 1,000 คน จากภาพเราจะเห็นว่าห้องน้ำที่โน่นดูเล็กและยากต่อการใช้งาน Jacob…
-
โคตรว้าว!!! เตรียมพบกับสวนสนุกธีม Ghibli แฟนๆ เตรียมเก็บเงินรอไว้ได้เลย
ทุกวันนี้เราก็ได้เห็นสวนสนุกธีมต่างๆ มากมายจนแทบนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นธีม Disney ธีม Star Wars หรือแม้กระทั่งธีม Marvel แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันขาดอะไรไปบ้าง เอ๊ะ!? หรือว่าจะเป็นสวนสนุกธีม Ghibli ที่ขาดหายไป?? ใช่แล้ว สำหรับแฟนการ์ตูนของอาจารย์ Hayao Miyazaki เจ้าของ Studio Ghibli ก็คงสังเกตว่าในปัจจุบันนั้นยังไม่มีสวนสนุกในธีมการ์ตูน Ghibli เลย แต่ไม่ต้องเสียใจไป เพราะตอนนี้สวนสนุกที่พวกเรากำลังใฝ่ฝันนั้นกำลังสร้างอยู่ที่เมืองนากาคุเตะ จังหวัดไอชิ ประเทศญี่ปุ่น แถมตอนนี้ยังมีการปล่อยรูปคอนเซ็ปต์อาร์ทออกมาอย่างเป็นทางการแล้วด้วย รวมไปถึงข้อมูลเบื้องต้นถึงสถานที่ที่ใช้สร้างและข้อมูลพื้นที่ส่วนต่างๆ ภายในสวนสนุก . ในส่วนของทางเข้าจะต้อนรับผู้เยี่ยมชมด้วยธีมการ์ตูนเรื่อง Howl’s Moving Castle ซึ่งจะประกอบไปด้วยลิฟต์สไตล์สตีมพังค์ที่จะพาผู้เยี่ยมชมเข้าไปยังในสวนสนุก และจะได้เห็นวิวภายนอกเป็นแบบจำลองร้านขายของโบราณ Chikyuya จากเรื่อง Whisper of the Heart . นอกจากนั้นยังมีบ้านแบบจำลองขนาดจริงจากเรื่อง My Neighbor Totoro ที่ถูกสร้างขึ้นมาในงานนิทรรศการในเมืองนากาคุเตะเมื่อปี 2005…
-
สุดสะพรึง!! คุณแม่วัย 38 เจอถุงยางใช้แล้วในถุงผัก หลังจากที่ทำกับข้าวให้คนในบ้านกินไปแล้ว
โดยปกติแล้วการเจอถุงยางอนามัยใช้แล้วที่ถูกทิ้งไว้ตามพื้นถนน หรือการเจอสิ่งแปลกปลอมอยู่ในอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาก็เป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงพอแล้ว ลองนึกสภาพถ้าเจอถุงยางอนามัยใช้แล้วในอาหารที่ซื้อมาดูสิ… เหตุครั้งนี้เกิดเมื่อ Chrissie Gilbert คุณแม่วัย 38 ปีได้ซื้อผักคะน้าฝรั่งจากห้างสรรพสินค้า Tesco มาเพื่อทำอาหารมื้อใหญ่ให้กับ Paul สามีของเธอกับ Robin และ Sam ลูกๆ ของเธอ แต่เมื่อเธอแกะถุงผักที่เหลืออยู่หลังจากที่ได้ทำอาหารให้กับครอบครัวออกมาเพื่อแบ่งให้กับ Bubble และ Squeak หนูตะเภาทั้ง 2 ตัวของเธอ ก็พบกับถุงยางอนามัยที่เปื้อนคราบและมีขนหยิกๆ ติดอยู่ในถุงผัก หลังจากที่ทาง Tesco ได้ทำการตรวจสอบ ก็ได้มีการยืนยันว่าถุงยางอนามัยที่พบนั้นเป็นถุงยางอนามัยที่ถูกใช้แล้ว และมันถูกนำมาใส่หลังจากที่เธอซื้อมาแน่ๆ Chrissie และครอบครัวก็ได้พากันไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ทางโรงพยาบาลก็ได้ให้ข้อมูลว่าโอกาสที่จะติดโรคนั้นมีน้อยมาก เธอกล่าวว่า “ฉันยืนงงไปพักใหญ่ขณะที่มองดูข้างในถุงและกำลังสงสัยว่ามันคืออะไร จึงได้หยิบมันออกมา ฉันตกใจมากและโยนมันลงกับพื้น ดูจากคราบก็เห็นได้ชัดเลยว่ามันเป็นถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว” ทางฝั่งบริษัทผู้ผลิต Emmett UK ผู้ที่ส่งออกผักคะน้าฝรั่งให้กับ Tesco ก็ได้ออกมาแถลงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าไม่มีทางที่ถุงยางอนามัยจะเข้าไปอยู่ในผลิตภัณฑ์เนื่องจากมีกระบวนการผลิตและเก็บเกี่ยวค่อนข้างละเอียด ทำให้ Chrissie ไม่พอใจอย่างมาก…
-
เปิดใจสาว “ไม่อยากนอนกับปั๋ว” เพราะต้องเผื่อที่นอนให้ “แมว” ไว้กอดนุ่มนิ่มอุ่นใจกว่า
ชีวิตคู่ของคนเรานั้นเป็นปกติธรรมด๊าธรรมดาอยู่แล้วที่จะต้องนอนอยู่ร่วมเตียงเดียวกัน (นอนเฉยๆ นะ!) ยิ่งถ้ามีการแบ่งเตียงออกเป็นสองซีกอย่างชัดเจนยิ่งดี จะได้หลับฝันดีเป็นสองเท่า… เมื่อมีสัตว์เลี้ยงสุดพิเศษเข้ามาอีกหนึ่งตัว สำหรับคู่อื่นคงไม่มีปัญหาอะไรกับการที่ให้สัตว์เลี้ยงขึ้นมานอนด้วย แต่นั่นไม่ใช่กับหญิงสาวคนนี้ เพราะว่าจะต้องมีหนึ่งคนหรือหนึ่งตัวต้องไปนอนบนพื้น Holly Brockwell หญิงสาวนักเขียนด้านเทคโนโลยีวัย 32 ปี ผู้มีความสุขกับการได้ฟัดน้องเหมียว Mwari ทุกๆ คืน แต่กรรมดันไปตกที่แฟนหนุ่ม Zack Fox วัย 26 ปี ที่ต้องไปนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเตียง เพราะเธอไม่ยอมให้เขานอนบนเตียงเดียวกับเจ้าเหมียว!! น้องเหมียว Mwari ทางออกสำหรับปัญหานี้ก็คือ ต้องไปนอนแยกห้องกัน โดยที่เธอตั้งข้อตกลงกับแฟนหนุ่มว่า ควรจะแบ่งที่นอนให้น้องเหมียวสำหรับห้องเธอ เพราะมันตัวเล็กและกำลังน่ารักมากๆ จนกว่ามันจะโตกว่านี้ แล้วค่อยแยกห้องสำหรับเจ้า Mwari ทีหลัง และเป็นที่น่าแปลกใจมากๆ ถึงแม้จะไม่ได้นอนด้วยกันทุกคืน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนก็ไม่ได้จืดจางลงแต่อย่างใด แถมยังเพิ่มทวีคูณขึ้นทุกวันเพราะมีเจ้าเหมียวมาอยู่ด้วยนี่แหละ โดยทั้งคู่จะแบ่งพื้นที่ส่วนกลางสำหรับช่วงเวลาตอนเย็นของทั้งสองเอาไว้ Holly จะนอนกอดรัดฟัดเจ้าเหมียวพร้อมกับนั่งดูทีวีบนโซฟา พอ Zack กลับจากทำงานมา เธอก็จะหลบไปอยู่ในห้องนอนพร้อมแมว…
-
เหล่า ‘ขุ่นแม่’ แชร์รูปตัวเองหลังคลอดเทียบกับ ‘เจ้าหญิง Kate’ หลังคลอด ทำไม๊เธอดูดีจัง!?
เมื่อวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา ได้มีข่าวหนึ่งที่เป็นที่ฮือฮาในประเทศอังกฤษเป็นอย่างมาก นั่นคือดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ Catherine Elizabeth Middleton หรือที่เรารู้จักกันในนามของ Kate Middleton ได้มีพระประสูติทายาทพระองค์ที่ 3 แล้ว โดยในเวลา 11:01 น. ตามเวลาท้องถิ่นมีรายงานว่าทรงมีประสูติกาลทายาทองค์ที่ 3 ซึ่งเป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ผู้มีน้ำหนักหลังคลอดอยู่ที่ประมาณ 3.8 กิโลกรัม แต่ประเด็นที่เราจะนำมากล่าวคราวนี้ หาได้ใช่เรื่องพระรัชทายาทไม่ แต่เป็นเรื่องที่เจ้าหญิง Kate เพิ่งจะผ่านการคลอดบุตรออกมาเพียงแค่ 7 ชั่วโมงเท่านั้น แต่รูปร่างและสภาพของเธอนั้นยังสดสวยงดงามราวกับไม่ได้ผ่านความเจ็บปวดในการคลอดบุตรมาแต่อย่างใด เรื่องนี้จึงทำให้ชาวเน็ตและเหล่าคุณแม่หลายๆ คนถึงกับตะลึงในความงดงามของเธอ โดยที่ก็ได้มีคนออกมาโพสต์รูปเปรียบเทียบสภาพของพวกเธอกับเจ้าหญิง Kate กันยกใหญ่ เราจึงได้หยิบยกนำเอาความน่ารัก ความฮาของคุณแม่ทั้งหลายมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ ไปรับชมกันเลย “สิ่งที่คิด vs ความเป็นจริง” “ฉันจะไม่ใส่รองเท้าส้นสูงหรือแต่งหน้าตอนที่ออกจากโรงพยาบาลแน่นอน” “Kate Middleton หลังจากเพิ่งคลอด vs ฉันหลังจากเพิ่งคลอด…
-
เปิดเมนูอาหารในการประชุม “ผู้นำเกาหลีเหนือ-ใต้” กินแบบคิม ไปดูว่าคิมกินอะไร!?
ว่ากันว่าผลลัพธ์ในการประชุมสำคัญต่างๆ บางครั้งแค่การนำเสนออาหารก็สามารถที่จะชี้ชะตาได้ และดูเหมือนมันจะจริง เพราะว่าการประชุมระดับโลกของสองชาติเกาหลีเหนือและใต้นั้น ต่างคัดสรรเมนูชั้นเยี่ยมเพื่อใช้ในการประชุมครั้งนี้ โดยสำนักข่าว Reuters ได้มีการเปิดเผยว่าผู้นำเกาหลีเหนือ ‘คิมจองอึน‘ นั้นเป็นคนเลือกเมนูที่จะใช้เสิร์ฟในการประชุมครั้งนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งเมนูที่เขาเลือกนั้นก็เป็น ‘โรสตี‘ อาหารจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนสาเหตุที่ผู้นำคิมได้เลือกอาหารดังกล่าวแทนที่จะเป็นอาหารต้นตำหรับเกาหลีเหนือก็เพราะ โรสตีนั้นเป็นอาหารที่ตัวผู้นำคิมเองชอบและกินมันมาเมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็กที่อาศัยและโตในประเทศสวิสเซอร์แลนด์นั่นเอง ด้วยอาหารดังกล่าวที่ส่งมอบความรู้สึกในวัยเด็กจากผู้นำที่ปกติเราต่างเห็นมุมมองโหดๆ ของเขามาตลอดถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทำให้โลกต้องตะลึงและรับรู้ถึงความจริงใจของเขาในการประชุมนี้เลยก็ได้ว่า และไม่เพียงแค่อาหารวัยเด็กของผู้นำคิมเท่านั้น ‘ปลาดอลี่อบ‘ ที่เป็นอาหารวัยเด็กของผู้นำ ‘มุนแจอิน‘ ที่เกิดและเติบโตที่เมืองปูซาน เมืองชายทะเลขึ้นชื่อเกาหลีใต้ อีกหนึ่งในอาหารที่ทางเกาหลีเหนือภูมิใจนำเสนอนั่นก็คือ หนึ่งอาหารขึ้นชื่อประจำชาติอย่าง ‘บะหมี่เย็น‘ สไตล์เปียงยาง ซึ่งผู้นำเกาหลีใต้มุนแจอินที่รู้ว่าจะมีเมนูนี้ ก็ได้เจาะจงให้หัวหน้าเชฟจากทางเกาหลีเหนือจากภัตตาคารอ๊กริว-กวาน ร้านอาหารขึ้นชื่อในกรุงเปียงยาง เป็นคนทำเมนูนี้โดยเฉพาะ ยังไม่หมดเท่านั้น อาหารชั้นดีย่อมต้องเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องดื่มชั้นเยี่ยม ซึ่งสองเกาหลีได้ขอนำเสนอเครื่องดื่มมีชื่อของสองชาติ โดยเกาหลีใต้ได้ส่ง ‘ไวน์อาซาเลีย‘ ไวน์ที่ทำจากดอกไม้ท้องถิ่นของทางเกาหลีใต้เข้าประกวด ส่วนเกาหลีเหนือก็ไม่น้อยหน้าขอส่ง ‘มุนเบจู‘ เหล้ากลั่นจากลูกแพร์ป่า ที่แม้จะหากินได้ในเกาหลีใต้แต่ก็ถือเป็นเครื่องดื่มที่มีต้นกำเนิดมาจากเกาหลีเหนือ ซึ่งจากเมนูที่กล่าวมานั้นจะทำให้เราเห็นว่า นอกจากการประชุมที่อาจจะตึงเครียดแล้ว อาหารที่ทั้งสองชาติต่างพากันนำเสนอเพื่อใช้ในการประชุมนั้นต่างเลือกกันมาอย่างตั้งใจเลยทีเดียว เพราะการประชุมสำคัญแบบนี้ถ้ามีอาหารที่ดีและถูกปาก…
-
กระแสแรง!? นี่คือ ‘7 เซ็กส์ทอย’ ลิมิเต็ด Avengers: Infinity War แฟนพันธ์แท้ต้องมี!!
เรียกได้ว่ากระแสแรงตั้งแต่ยังไม่ฉายกันเลยทีเดียวกับภาพยนตร์อภิมหาฟอร์มยักษ์ที่พวกเราโหยหารอกันมาอย่างยาวนานกับ Avengers: Infinity War ซึ่งด้วยกระแสของภาพยนตร์เรื่องนี้จึงทำให้มีหลายๆ ธุรกิจออกแบบผลิตภัณฑ์เกาะกระแสที่เป็นลิมิเต็ดลวดลาย Inifinity War กันให้พรึ่บ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า น้ำเต้าหู้ หรือของเล่นต่างๆ ซึ่งกระแสนี้ก็ไม่ใช่มีแค่ของเล่นธรรมดาที่เกาะกระแส เพราะว่า… บริษัทของเล่นผู้ใหญ่ก็เอากับเขาด้วย!! ใช่แล้วพวกเขาได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ “เซ็กส์ทอย” รุ่นใหม่ ธีมเหล่า Avengers เอาใจแฟนคลับฮีโร่ Marvel ไปเต็มๆ โดยที่บริษัทที่ผลิตเจ้าเซ็กส์ทอยเหล่านี้ก็คือบริษัท Geeky Sex Toys บริษัทจากประเทศออสเตรเลีย ผู้ซึ่งชอบเกาะกระแสดังๆ เป็นที่สุด และเมื่อปีที่แล้วพวกเขาก็ได้ทำเซ็กส์ทอยในธีมของ Star Wars ด้วยเช่นกัน แต่ในคราวนี้พวกเขาก็ได้ออกแบบเซ็กส์ทอยของเหล่าฮีโร่ผู้พดุงความยุติธรรม ขวัญใจเด็กๆ รวมถึงเด็กโค่งอย่างเราๆ ในเซ็กส์ทอยชุด “Indulgers: Pleasure War” ซึ่งหน้าตาของของเล่นผู้ใหญ่ที่พวกเขาออกแบบมานั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เราไปชมด้วยกันเลยครับบ แท่งมุขจิ้มประตูหลัง Captain Anal มีฟังก์ชั่นปลดโล่ด้วยนะ จงหวาดกลัวกับพลังของดิลโด้เทพสายฟ้า Möan-lnir ซะ!! ผู้หญิงคนใดยกได้แสดงว่าเป็นคนที่คู่ควร!! หากยังไม่หนำใจ ชอบใหญ่ๆ ก็จัดไปกับจู่ยักษ์เขียว…
-
อุตส่าห์ไว้ใจ!! เด็กสาวทานข้าวกับเพื่อนชาย มัวแต่เล่นมือถือ โดนมอมยา พาไป “ข่มขืน”
ต่อไปนี้สาวๆ โปรดระมัดระวังตัวกันให้มากขึ้น เพราะคนร้ายอาจจะมาในคราบของ “เพื่อนสนิท” ก็เป็นได้ มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ ที่ผ่านมา ในเขตเป่าซาน นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กล้องวงจรปิดของร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งได้ถ่ายติดภาพคู่หนุ่มสาววัยรุ่นที่กำลังทานอาหารอยู่ภายในร้าน และเผยให้เห็นพฤติกรรมน่าสงสัยของฝ่ายชาย จากภาพ ฝ่ายชายอาศัยจังหวะฝ่ายหญิงก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ แอบนำยาบางอย่างใส่ลงไปในแก้วน้ำของฝ่ายหญิง เมื่อเธอดื่มน้ำจากแก้วดังกล่าว เธอก็เริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ มึนงง และไม่มีแรงพอที่จะทรงตัวได้เอง . จากนั้น ฝ่ายชายก็ประคองพาตัวฝ่ายหญิงไปยังห้องของโรงแรมที่ได้จองเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และทำการ ล่วงละเมิดทางเพศ ในที่สุด สถานการณ์ล่าสุดรายงานออกมาแล้วว่า ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเรียบร้อยแล้ว หลังจากการตรวจสอบ พบว่าชายหนุ่มคนดังกล่าว แซ่กู้ เป็นเพื่อนกับฝ่ายหญิง โดยทั้งสองรู้จักกันบนรถไฟใต้ดินราวหนึ่งปีที่แล้ว . ทั้งนี้ ยังทราบมาอีกว่า ทั้งสองคนเคยไปเที่ยว ทานข้าว และดูคอนเสิร์ตด้วยกันหลายครั้ง และยังมีการจับไม้จับมือกันอีกด้วย ทั้งหมดนี้จึงทำให้ฝ่ายชายคิดกับฝ่ายหญิงไกลเกินกว่าเพื่อน เขาจึงตัดสินใจสั่งซื้อยากล่อมประสาทจากอินเทอร์เน็ต เพราะอยากทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและฝ่ายหญิงพัฒนาไปอีกขั้น นี่แหละนะ คนที่เราไว้ใจอาจจะร้ายที่สุดก็ได้! ที่มา: New.qq
-
22 การเปลี่ยนแปลงจากคนไซส์บิ๊กแทบเดินไม่ไหว กลายเป็นหุ่นที่ราวกับปาฏิหาริย์
ดูจะเป็นเรื่องง่ายมากที่เราจะหาข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองไม่ต้องออกกำลังกาย ก็แหม่แค่ก้าวขาออกจากบ้านมันก็ร้อนแล้ว กว่าจะเลิกงานก็เย็นก็ค่ำ วันเสาร์อาทิตย์หยุดทั้งทีก็อยากจะพักผ่อนยาวๆ เราก็เลยปล่อยให้ร่างกายมันเป็นไปตามกลไกธรรมชาติ แต่การปล่อยเนื้อปล่อยตัวก็คงไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ต่อเมื่อร่างกายของคุณมันฟ้องด้วยตัวเองผ่านโรคต่างๆ และอาการเหนื่อยง่าย และเชื่อเถอะว่าการลุกขึ้นมาออกกำลังกาย สลัดไขมันทิ้งมันไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรสำหรับคุณเลย ต่อไปนี้คือการเปลี่ยนแปลงตัวเองของคนไซส์บิ๊กจนกลายเป็นคนผอม มีตั้งแต่เป็นร้อยโลจนเหลือเพียง 70-80 กิโลเลยก็มี ลองไปดูกันเลย 1. Christina Philips เคยหนัก 321 กิโลกรัม แต่ลดเหลือ 83 กิโลกรัมเท่านั้น 2. Amber Rachdi เคยหนักมากถึง 299 กิโลกรัม เธอลดเหลือ 107 กิโลกรัม 3. จาก 362 กิโลกรัม Marla Mccants สามารถลดน้ำหนักลงไปจนเหลือ 136 กิโลกรัม 4. จากที่ Amber Rachdi เคยหนัก 299 กิโลกรัม เหลือ 107 กิโลกรัม…
-
หนุ่มแต่งตัวเลียนแบบ Forrest Gump ไปวิ่งแข่งมาราธอนที่ลอนดอน แถมทำลายสถิติโลกด้วย!!
ฉากหนึ่งที่โด่งดังมาในโลกภาพยนตร์ ก็คือฉากการวิ่งของตัวละคร Forrest Gump จากภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump เมื่อปี 1994 ที่ตัวเอกจะออกวิ่งมาราธอนไปทั่วสหรัฐอเมริกาเรื่อยๆ แบบไม่หยุด โดยสวมหมวกสีแดง เสื้อยืดสีเหลือง และกางเกงวิ่งสีแดงพร้อมกับผมเผ้าและหนวดที่รุงรัง ภาพจากหนังเรื่อง Forrest Gump ฉากการวิ่งนั้นกลายเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้กับคนไปทั่วโลก ให้ออกมาทำบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เช่นนาย Rob Pope ชายอังกฤษที่ลงทุนแต่งตัวเหมือนตัวละคร Forrest Gump แล้วไปลงวิ่งแข่งมาราธอนที่งาน London Marathon เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา ตามรายงานของ BBC บอกว่านาย Rob นั้นวิ่งมาราธอนจบภายในเวลา 2 ชั่วโมงกับ 36 นาที ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก!! แต่อาจจะไม่ใช่คนที่เร็วที่สุด เพราะก่อนหน้านี้เคยมีชาวเคนย่าที่ชื่อ Dennis Kimetto เคยทำได้สูงสุดคือ 2:02:57 ชั่วโมง ในการแข่งวิ่งมาราธอนที่กรุงเบอร์ลิน แต่ยังไงก็ตามแล้วได้มีการจดบันทึกไว้ว่านาย Rob ถือเป็นคนที่แต่งกายแบบ Forrest Gump แล้ววิ่งมาราธอนได้เร็วที่สุดในโลก ฉะนั้นสถิติของนาย Dennis…
-
‘Kanye West’ ปล่อยภาพรองเท้ารุ่นใหม่ ‘Yeezy Slides’ แต่ด้วยรูปทรงคุ้นตา ชาวเน็ตล้อตรึม!!
หากเราพูดถึงรองเท้าสตรีทแวร์ หรือรองเท้าแฟชั่นเท่ๆ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่นึกถึงรองเท้าสุดแพงจากค่ายสามขีด Adidas Yeezy Yeezy เป็นรองเท้าที่หลายๆ คนคงได้ยินชื่อเสียงมาจากการราคาที่อภิมหาแพงของมัน ซึ่งเราจะเห็นว่ามีคนนำมันมาขายด้วยราคา 20,000 กว่าบาทขึ้นไปอยู่บ่อยๆ ซึ่งการที่มันมีราคาแพงขนาดนี้คงอาจจะเป็นเพราะว่าคนที่มีส่วนร่วมในการออกแบบนั้นเป็นศิลปินแร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง Kanye West ก็เป็นได้ และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็ได้ทวีตข้อความพร้อมกับอัปโหลดรูปภาพของรองเท้าที่คาดว่าจะเป็น Yeezy รุ่นใหม่ โดยที่เขาให้แคปชั่นว่า “Yeezy Slides” . และด้วยรูปร่างของรองเท้าที่คุ้นหูคุ้นตาเป็นอย่างดี ทำให้ชาวเน็ตได้โพสต์หยอกล้อรองเท้าคู่ใหม่ของตา Kanye กันเต็มไปหมด เราจะยกตัวอย่างมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ “Yeezy Slides” “ถึงมันจะทำให้ฉันเดินได้ ฉันก็จะไม่ใส่มันเด็ดขาด” (สำหรับคนที่งง คือคนคนนี้เป็นผู้พิการ ตัวเขาไม่สามารถที่จะเดินได้ด้วยตัวเอง) . “คุณย่าฉันชอบมันมากๆ เลยล่ะ เพราะมันช่วยให้เธอไม่ลื่นล้ม ขณะ ที่อาบน้ำอยู่” “ใช้แค่เครื่องปรินต์ 3 มิติ ฉันก็สร้างรองเท้าเวอร์ชั่นของตัวเองได้” “นี่มันมุกใช่มั้ย?” “มันดูเหมือน Croc เวอร์ชันสลิปเปอร์ที่พวกเราใส่กันในปี 2004…
-
สุนัขถูกทิ้งในที่จอดรถ หวาดกลัวจนตัวสั่น แต่แล้วความรักก็ทำให้มันยิ้มได้อีกครั้ง
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีคนเห็นสุนัขตัวหนึ่งอยู่ใกล้กับถนนที่มีการจราจรอันวุ่นวายในในแฮร์ริสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีโซ่คล้องคอมันไว้และผูกติดไว้กับรั้ว มันนั่งอยู่ตรงนั้นตัวเดียวเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง คาดว่าน่าจะมีใครบางคนทิ้งมันไว้ที่นั่น ต่อมาคนที่เห็นเจ้าได้โทรไปหา Janine Guido ผู้ก่อตั้งและประธาน Speranza Animal Rescue พร้อมกับส่งรูปถ่ายเจ้าหมาไปให้ พอได้รับแจ้งแบบนั้น Guido รีบขับรถออกไปทันที เพื่อไปรับเจ้าหมาผู้น่าสงสารตัวนั้นมา เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ก็อยู่ที่นั่นแล้ว และเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง (ที่เป็นเพื่อนกับ Guido) ได้จับสุนัขตัวนั้นขึ้นรถบรรทุกของเขา Guido เล่าว่า “ฉันไปหา Fred (เจ้าหน้าที่คนนั้น) แล้วถามเขาว่า ‘มันเป็นยังไงบ้าง?’ เขาทำท่าทางอึดอัดและขยับเล็กน้อย ฉันเลยพูดว่า ‘โอเค ขอฉันดูมันหน่อยได้มั้ย?’” เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดประตูด้านหลังของรถบรรทุก สิ่งที่เห็นคือ สุนัขพิตบูลที่กำลังสั่นไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว Guido บอกว่า “ภาพที่เห็นคือ สุนัขผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง มันก้มหน้าลงและมีแววตาที่เศร้ามาก ฉันมองไปที่หางของมัน มันแข็งมากและไม่ยอมขยับเลย รู้เลยว่ามันกลัวมากแค่ไหน” ต่อมา Guido ตั้งชื่อให้มันว่า Vincent……
-
โชเน็นจัมป์ฉลอง 50 ปี ทำกาแฟกระป๋องลายการ์ตูน ให้แฟนพันธุ์แท้สะสม 40 แบบ!!
เชื่อว่าในบรรดาคนที่ติดตามการ์ตูนญี่ปุ่น คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ยอดนิยมอย่าง โชเน็นจัมป์เป็นแน่ เพราะนี่คือนิตยสารมังงะที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่นที่มีมังงะชื่อดังตีพิมพ์อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดราก้อนบอล วันพีซ บลีช นารูโตะ และเกมกลคนอัจฉริยะเป็นต้น และนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์เล่มนี้ก็เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1968 เสียด้วย นั่นหมายความว่าปีนี้จะเป็นปีที่มีการฉลองครบรอบ 50 ปีของนิตยสารโชเน็นจัมป์นั่นเอง และแน่นอนว่าในโอกาสการฉลองครั้งยิ่งใหญ่แบบนี้ ย่อมต้องมีการจัดกิจกรรมหรือออกสินค้าอะไรมาเป็นธรรมดา ในปีนี้นิตยสารโชเน็นจัมป์ได้ทำการจับมือกับบริษัท Georgia ผู้ผลิตกาแฟกระป๋องรายใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อออกสินค้ากาแฟกระป๋องรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมกับตัวการ์ตูนยอดนิยมจากทางโชเน็นจัมป์นั่นเอง สินค้ารูปแบบใหม่ทั้ง 40 แบบ โดยเจ้าสินค้าตัวที่ว่านี้คือกาแฟกระป๋องที่มีการ พิมพ์ตัวการ์ตูนที่ตัดมาจากบรรดามังงะยอดนิยมของโชเน็นจัมป์ และมีการเปลี่ยนบทพูดไปเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับตัวกาแฟมากขึ้น แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เพราะในทุกๆ กระป๋องของกาแฟที่ว่านี้จะมีรหัสที่สามารถนำไปใส่ในแอปพลิเคชันโชเน็นจัมป์ในมือถือ เพื่ออ่านการ์ตูนตอนที่มีการนำรูปมาขึ้นบนกระป๋องฟรีหนึ่งตอน แถมถ้าหากว่ามีการใช้รหัสที่ว่านี้ 5 ครั้งในระหว่างวันนี้ ถึงวันที่ 3 มิถุนายน คุณยังมีสิทธิ์ลุ้นรับกาแฟกระป๋องลายพิเศษที่หาไม่ได้ด้วยวิธีอื่นอีก 5 แบบ และถ้าใส่รหัสอีก 5 อันภายในวันที่ 4-16 มิถุนายน คุณก็จะมีสิทธิ์รับกาแฟกระป๋องลายพิเศษไปอีก 5 แบบ รวมทั้งหมดเป็น 10 แบบ ซึ่งจะนำมาส่งให้คุณถึงที่บ้าน (ถ้าคุณอยู่ในญี่ปุ่นอ่ะนะ) ตัวอย่างรูปภาพกระป๋องก็มีดังนี้เลย Izuku Midoriya จาก My Hero…
-
ชมความสวยงามอันน่าทึ่ง จากงาน “ประกวดเรียงหิน” ของยุโรป แต่ละคนฝีมือระดับพระกาฬ
หินที่เราเหยียบย่ำไปมา บ้างก็ขว้างเล่น และดูเหมือนไม่มีค่า หารู้ไม่ว่ามันคือ “พระเอก” ของงาน ประกวดเรียงหิน ที่จัดขึ้นในประเทศสกอตแลนด์เลยทีเดียวเชียวล่ะ งานดังกล่าวชื่อว่า Second European Stone Stacking and Rock Balancing Competition ฟังไม่ผิดหรอกครับ งานนี้น่ะ เป็นการประกวด “เรียงหิน” จริงๆ เป็นการนำหินมาตั้งวางเรียงกันโดยใช้เพียงมือและมือเท่านั้นเป็นอุปกรณ์ บอกเลยว่างานนี้ ภาพสวยๆ ของหินที่ถูกเรียงเป็นรูปร่างต่างๆ อาจทำให้คุณคาดไม่ถึงเลยว่า “หิน” มันสามารถนำมาทำแบบนี้ได้ด้วยอย่างนั้นหรือ? ทำได้ไงล่ะเนี่ย!? มือต้องนิ่ง และต้องใช้ความอดทนพยายามอย่างมาก นี่คือภาพจริงไม่ได้ตัดต่อนะจ๊ะ เรียกได้ว่า เป็นทักษะการรักษาสมดุลที่เหนือมนุษย์มากๆ ยัง… ยังจะวางเพิ่มเข้าไปอี๊ก ผู้เรียงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ประกอบกับต้องค่อยๆ วางหินลงเบาๆ แหม่ วางหินเป็นวงล้อเชียว เจ๋งสุดๆ ขออย่าให้ลมพัดมาทีเถ๊อะะ ภาพนี้ถ่ายออกมาได้สวยสดงดงามมากเลยทีเดียว ผู้เรียงหิน…
-
หนุ่มเล่าเหตุระทึก “หนีงู ปะทะหมี เจอฉลาม” แต่รอดมาได้หมด เอ็งทำได้ไง?!
ความโชคร้ายหรือความซวยเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะหญิงชาย สาวแก่แม่ม่าย ลูกเล็กเด็กแดง หรือแม้แต่คนแก่คนเฒ่าคราวปู่ย่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถเจอกับความซวยได้ทั้งนั้น แต่ที่แน่ๆ คือเราคงจะไม่ซวยไปมากกว่าชายคนนี้อย่างแน่นอน นี่คือเรื่องราวของหนุ่มชาวอเมริกันวัย 20 ปีที่ชื่อว่า Dylan McWilliams จากรัฐโคโลราโด ชายที่เรียกได้ว่าดวงกุดอย่างแท้จริง เพราะเขาต้องเจอกับสิ่งมีชีวิตเพชฌฆาตโจมตีถึง 3 ครั้ง ในช่วงระยะเวลาที่ไม่ห่างกันมากนัก Dylan หนุ่มโชคร้าย แต่ลูกชายไม่ได้ทำตัวแหลกเหลว จุดเริ่มต้นในความโชคร้ายของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 4 ปีก่อน Dylan ได้ออกไปปีนเขาในรัฐยูทาห์ ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็ได้เจอกับ งูหางกระดิ่ง หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ขึ้นชื่อเรื่องของความอันตราย เข้ามาโจมตี โชคดีที่รอยกัดนั้นไม่ได้รุนแรงอะไรมากนัก เด็กหนุ่มจึงนอนป่วยไปแค่ 2 วันแล้วก็กลับมาหายเป็นปกติ แต่หลังจากนั้นความโชคร้ายก็เริ่มตามมาอย่างไม่หยุดหย่อน ในปี 2017 Dylan ออกไปเข้าค่ายฤดูร้อนที่รัฐโคโลราโด ระหว่างที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่กลางแจ้ง จู่ๆ ก็มี หมีดำ เข้ามากัดที่บริเวณหลังศีรษะของเขา ตอนนั้นเด็กหนุ่มจึงป้องกันตัวเองด้วยการต่อยใส่เจ้าหมีสุดแรงและต่อยซ้ำเข้าไปที่ตาของมัน จนสามารถหลุดรอดจากคมเขี้ยวมาได้ในที่สุด แต่นั่นก็ทำให้เขาต้องเย็บบริเวณหนังหัวไปถึง 9 เข็ม …
-
หมดยุค “หมูเจ ไส้กรอกเจ” ฝรั่งเศสแบนชื่ออาหารวีแกนที่คล้ายเนื้อ ฝ่าฝืนปรับ 12 ล้าน
หลายคนก็คงเคยได้ยินหรือเคยทานเมนูมังสวิรัติ ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอกมังสวิรัติ เบคอนมังสวิรัติ หรือเนื้อสัตว์เทียมที่ทำมาจากพืช แต่การที่มันไม่ได้ทำจากเนื้อสัตว์จริงๆ ทำให้ทางประเทศฝรั่งเศสต้องร่างกฎหมายใหม่เพื่อไม่ให้มีการนำคำศัพท์เกี่ยวกับเนื้อมาใช้ในชื่อเมนูมังสวิรัติ ในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าทั่วไปในประเทศฝรั่งเศสจะไม่อนุญาตให้ใช้คำว่า เบอร์เกอร์ สเต๊ก ไส้กรอก หรือเนื้อไร้มันในชื่อผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ประเภทนมที่เป็นนมมังสวิรัติด้วยเช่นกัน Jean-Baptiste Moreau นักการเมืองชาวฝรั่งเศสผู้ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ได้พลักดันกฎหมายดังกล่าว จากการหารือในศาลยุติธรรมยุโรปว่าผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองหรือเต้าหู้จะไม่สามารถนำมาวางขายในตลาดว่าเป็นนมหรือเนยได้ Moreau ได้ทวีตรูปภาพร่างกฎหมายใหม่ในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาพร้อมกับข้อความว่า “มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องต่อสู้กับข้ออ้างแบบผิดๆ ผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นชีสหรือสเต๊ก จะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากสัตว์เท่านั้น” ซึ่งใครที่ฝ่าฝืนกฎหมายจากการแบนครั้งนี้จะถูกปรับเป็นเงินจำนวน 264,000 ปอนด์หรือประมาณ 1,160,000 บาทเลยทีเดียว ✅??Adoption de mon amendement pour mieux informer le #consommateur sur son alimentation!Il est important de lutter contre les fausses allégations:nos produits doivent être désignés correctement:les termes…
-
เกาหลีใต้ สั่งปิด “ลำโพงยักษ์” บริเวณชายแดนเกาหลีเหนือ หลังความสัมพันธ์ไปได้ด้วยดี
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนคงจะทราบกันดีว่า ประเทศเกาหลีเหนือและใต้นั้นได้เริ่มมีการพูดคุยอย่างสันติมากขึ้น มีการเดินทางไปเยือนกันทั้งเหนือไปใต้และใต้เดินทางไปเหนือ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็เรียกว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว และเมื่อผลลัพธ์ของการเจรจาทั้งสองประเทศนั้นมีทิศทางที่ดี ทั้งสองเกาหลีจึงเริ่มจะทยอยหยุดการยุยงประชาชนของตัวเองให้เกลียดกันหรือสร้างข่าวโจมตีกันแล้ว โดยล่าสุดเป็นคิวของลำโพงประกาศขนาดยักษ์ที่เกาหลีใต้ติดตั้งไว้ที่ชายแดน ลำโพงขนาดยักษ์ดังกล่าวนั้นเป็นการประกอบเข้าด้วยกันของลำโพงจำนวนหลายสิบตัว ซึ่งจุดประสงค์นั้นก็ใช้เพื่อเผยแพร่ทุกอย่างที่เป็นเกาหลีใต้ให้ชาวเกาหลีเหนือได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นข่าว เพลง โฆษณาชวนเชื่อและอื่นๆ อีกมากมาย ลำโพงดังกล่าวนั้นได้ถูกปิดตัวลงแล้วโดยชาติเกาหลีใต้เอง ไม่ใช่เกาหลีเหนือมาปิดแต่อย่างใด ซึ่งเท่ากับว่านี้เป็นสัญญาณที่ดีมากๆ ที่จะทำให้ความรุนแรงในชายแดนและกองกำลังทหารของสองชาติมีความตึงเครียดและโอกาสสู้รบกันน้อยลง อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลำโพงดังกล่าวนั้นถูกปิดตัวลง เพราะว่าเจ้าลำโพงยักษ์ที่ว่านั้นถูกติดตั้งเมื่อนานมาแล้วนับตั้งแต่สงครามเกาหลี จนกระทั่งปี 2004 ทางเกาหลีใต้ได้ปิดลำโพงดังกล่าวลง ซึ่งต่อมาในปี 2015 หลังมีเหตุทหารเกาหลีใต้บาดเจ็บเพราะถูกเกาหลีเหนือจับไป ทางการเกาหลีใต้จึงเริ่มเปิดลำโพงดังกล่าวอีกครั้งจนช่วงท้ายปี 2015 จึงสั่งปิดตัวลงอีกครั้ง แต่ว่าการปิดตัวนั้นก็ทำได้ไม่นาน เพราะต่อมาในปี 2016 ลำโพงก็กลับมาทำงานอีกครั้งหลังมีข่าวเกี่ยวกับการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ทว่าสุดท้ายแม้จะเปิดปิดหลายต่อหลายครั้ง แต่การปิดลำโพงดังกล่าวในครั้งนี้รวมถึงการพูดคุยของเกาหลีเหนือกับชาติต่างๆ ทั่วโลกดูจะเป็นสัญญาณว่าลำโพงนี้คงจะต้องถูกปิดตัวลงอย่างถาวร ถ้าการพูดคุยทุกอย่างนั้นเป็นไปได้ด้วยดีนั่นเอง ที่มา nytimes, bbc
-
เหวอสิครับ.. เปิดคลิปจากห้องโดยสาร ‘กระจกหน้าต่างเครื่องบิน’ หลุดกลางอากาศ บาดเจ็บ 3 ราย!!
เหตุการณ์ฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ทุกเวลา ไม่เว้นแม่แต่ตอนที่เรากำลังเดินทางอยู่บนเครื่องบิน เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เมื่อจู่ๆ หน้าต่างเครื่องบินบานหนึ่งก็หลุดออกมาระหว่างที่มันกำลังแล่นอยู่กลางอากาศ สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้โดยสารทุกคน สำนักข่าวหลายแห่งได้รายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในวันที่ 22 เมษายน 2018 เมื่อเครื่องบินลำหนึ่งของสายการบิน Air India ที่กำลังเดินทางจากเมือง Amristar ไปยังสนามบิน Delhi ประเทศอินเดีย ซึ่งใช้เวลาเดินทางแค่ราวๆ 30 นาที แต่ในระหว่างนั้นก็กลับมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น กระจกหน้าต่างหลุดออกมา ขณะที่เครื่องกำลังบินอยู่บนฟ้า โดยหลังจากที่เครื่องบินลำดังกล่าวขึ้นสู่ท้องฟ้าที่ระดับความสูง 15,000 ฟุต (สูงเหนือพื้นโลกประมาณ 4.5 กิโลเมตร) ทันใดนั้นหน้าต่างบานหนึ่งของเครื่องบินลำดังกล่าวก็หลุดออกมาอย่างน่าตกใจ ในวินาทีนั้นผู้โดยสารเต็มลำจำนวน 240 คนก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาในทันที เพราะคงไม่มีใครเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้กันมาก่อน ต่างพากันขวัญผวาจนบางคนถึงกับร้องไห้ออกมา ด้วยเหตุนั้น จึงทำให้พนักงานบนเครื่องรีบเข้าไปจัดการแก้ปัญหา โดยแอร์โฮสเตสสาวพยายามที่จะดันหน้าต่างกลับเข้าไปในตำแหน่งเดิม พร้อมกับปลอบขวัญผู้โดยสารหญิงที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างให้ใจเย็นๆ เพราะในขณะนั้นเธอคนนี้รู้สึกช็อกเอามากๆ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย ซึ่งได้เข้ารับการรักษาในทันทีหลังจากที่เครื่องลงจอด และโชคดีเป็นอย่างมากที่เครื่องบินลำดังกล่าวไม่ได้เกิดปัญหาใดๆ ตามมาในภายหลัง เรื่องของหน้าต่างที่หลุดออกมาขณะที่กำลังบินอยู่นั้นจะถูกตรวจสอบและสืบสวนหาสาเหตุกันต่อไป โดยเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายอธิบดีการบินพลเรือน (DGCA) และ…
-
สุนัขตกเป็นเหยื่อ “การประลองหมา” ได้รับความช่วยเหลือออกมา ตอนนี้มีแต่รอยยิ้มอันสดใส
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ ทุกชีวิตย่อมต้องการความรักและอยากมีชีวิตที่ดีด้วยกันทั้งนั้น แต่ดูเหมือนว่าคนบางกลุ่มจะปฏิบัติกับสัตว์ราวกับมันเป็นเพียงสิ่งของ เพราะแบบนี้จึงทำให้สุนัขที่ชื่อ Stormy ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์พาเข้าไปใน Almost Home Animal Haven ด้วยสภาพที่ย่ำแย่มากๆ เห็นได้ชัดว่ามันถูกทารุณกรรมอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้ มีคนพบ Stormy อยู่กับลูกหมาอีก 3 ตัว ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ที่นั่นมันถูกทรมานและทำร้ายสารพัดอย่าง แม้กระทั่งตอนที่เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์เข้าไปช่วยเหลือ Stormy เจ้าของก็ไม่ยอมปล่อยมัน ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องบุกเข้าไปและนำตัวสุนัขทั้งหมดในนั้นออกมา หลังจากที่สัตวแพทย์ได้ตรวจร่างกายของเจ้าหมาพบว่า มันมีบาดแผลมากมาย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการต่อสู้กับสุนัข ที่ร้ายกว่านั้น คุณหมอเชื่อว่ามันถูกใช้เป็นเหยื่อล่อในการประลองสุนัข ตัวแทนจากศูนย์พักพิงอธิบายถึงอาการบาดเจ็บของ Stormy ว่า “มันมีบาดแผลที่ดูเหมือนกับว่าถูกเฉือนด้วยมีด มันถูกล่ามโซ่ไว้ในโรงรถ และมีรอยโซ่รอบคอของมัน” ตอนนี้ทั้ง Stormy และสุนัขตัวอื่นๆ อยู่ในการดูแลของสัตวแพทย์ เมื่อพวกมันหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว ผู้ดูแลหวังว่ามันได้ไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่อบอุุ่นและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง สำหรับการต่อสู้สุนัขนั้นนับว่าเป็นความรุนแรงที่สามารถพบได้ทั่วโลก แม้ว่าในหลายประเทศจะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ก็ยังมีองค์กรใต้ดินจำนวนมากที่เปิดดำเนินการอย่างลับๆ ในการต่อสู้นั้น พวกเขาจะมีสุนัขที่เป็นเหยื่อ เพื่อดูว่าสุนัขตัวไหนที่สามารถล้มหรือฆ่าเหยื่อตัวนั้นได้ ส่วนเจ้าภาพในจัดการต่อสู้ในลักษณะนี้ พวกเขาจะมีความสามารถในการหลบซ่อน เพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ปัจจุบัน Stormy อยู่ระหว่างการฟื้นฟูร่างกาย…
-
ตำรวจช่วยไซบีเรียนหลงทางด้วยการเปิด ‘เพลงโปรด’ ของมัน จนได้เจอเจ้าของในที่สุด
การเจอหมาหลงทางนั้น ยากที่จะบอกว่ามันมาจากไหนและเป็นหมาของใคร หากพวกมันไม่มีปลอกคอหรือชิปที่จะระบุตัวตนมันได้ แต่สำหรับเจ้าหมาไซบีเรียนตัวนี้ เสียงร้องเพลงของมันทำให้มันได้กลับไปเจอกับเจ้าของอีกครั้ง หลังจากหลงทางมา ตามรายงานของ Daily Mail บอกว่าเจ้าของได้มาแจ้งความว่าสุนัขไซบีเรียนของเขาหายออกไปจากบ้านในเมือง Beer Sheva ทางตอนใต้ของประเทศอิสราเอล ต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งพบสุนัขไซบีเรียนอยู่ในทุ่งนานอกโบราณสถานใน Beersheba วัยรุ่นกลุ่มนั้นจึงพาเจ้าหมาผู้หิวโหยไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปยังชายคนหนึ่งที่เคยมาแจ้งว่าสุนัขของเขาหายไป เพื่อความแน่ใจ ชายคนนั้นจึงจึงเสนอวิธีทดสอบ เพื่อให้แน่ใจว่ามันเป็นหมาของเขาหรือเปล่า เขาบอกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเพลงโปรดของสุนัขของเขา ถ้ามันร้องเพลงนั้นได้ แสดงว่ามันคือหมาของเขาแบบไม่ต้องสงสัยเลย ว่าแล้วเจ้าหน้าที่ก็เปิดเพลงโปรดของเจ้าหมา ซึ่งเป็นเพลงประกอบรายการโชว์ Shemesh ของอิสราเอลที่ออกอากาศเมื่อปี 2014 ทันทีที่เพลงนั้นขึ้น เจ้าไซบีเรียนก็ดูตื่นตัวทันที ก่อนที่จะเปล่งเสียงตามเพลงนั้นอย่างไม่น่าเชื่อ ดูมันมีความสุขมากที่ได้ร้องเพลงโปรดของตัวเอง หรือบางทีเพลงนี้อาจทำให้มันคิดถึงบ้านก็ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้สึกทึ่งและดีใจมาก พวกเขาจึงรีบติดต่อกลับหาชายเจ้าของหมาคนนั้น ก่อนที่เจ้าของจะรีบขับรถมาหาน้องหมาที่หายไปของเขา ทันทีที่ได้พบกัน ทั้งสุนัขและเจ้าของดูดีใจมากที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง สุนัขเลียหน้าเจ้าของที่กำลังร้องไห้ด้วยความดีใจ ต้องบอกเลยว่ามันคือภาพความประทับใจที่ยากเกินจะบรรยายเป็นคำพูด เจ้าของบอกว่า “ผมร้องไห้มาตลอดทั้งทางที่มาที่นี่” จากนั้นเขาก็กอดหมาของเขาและได้พูดกับเจ้าหน้าตำรวจว่า “คุณได้ทำสิ่งที่เยี่ยมมากๆ ขอบคุณ ขอบคุณมากจริงๆ” ที่มา animalchannel
-
เจ้าเหมียวเดินทางกว่า 19 กิโลฯ เพื่อกลับไปหาเจ้าของที่รัก แต่กลับถูกปฏิเสธ!?
แมวบางตัวอาจจะชอบออกไปเที่ยวที่อื่นมากกว่าอยู่ในบ้าน แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่รักบ้านหรือรักทาสหรอกนะ มันคงแค่อยากไปทักทายเพื่อนหรือเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้นเอง เหมือนกับ Toby แมวส้มวัย 7 ปี ที่ออกไปเที่ยวและตัดสินใจเดินทางกลับไปหาเจ้าของที่รักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีระยะทางกว่า 19.3 กิโลเมตร แต่เมื่อมันกลับมาถึง ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะเจ้าของพามันไปยังศูนย์พักพิงและขอให้เจ้าหน้าที่ทำการการุณยฆาตมัน!! ทางสถานพักพิงไม่สามารถทำแบบนั้น พวกเขาจึงติดต่อไปยัง SPCA of Wake County ซึ่งเป็นสถานพักพิงที่ไม่มีการการุณยฆาตสัตว์ใน Raleigh รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้ช่วยหาบ้านใหม่ให้แมวตัวนี้ “แน่นอน เราตอบตกลงทันที” ทาง SPCA กล่าว จากการตรวจสุขภาพพบกว่าเจ้าแมวส้มเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว (FIV) ดังนั้นมันจึงต้องอยู่ร่วมกับแมวตัวอื่นที่เป็นโรคเดียวกันในศูนย์พักพิง ตั้งแต่นั้นมามันก็รอคอยบ้านที่แสนอบอุ่น และเมื่อมีใครก็ตามเข้ามาเยี่ยมศูนย์พักพิง Toby จะรู้สึกตื่นเต้นเสมอ เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงอธิบายเกี่ยวกับ Toby ว่า มันเป็นแมวที่น่ากอดและเต็มไปด้วยความรัก มันรักสัตว์เลี้ยงทุกตัวและชอบเล่นกับของเล่น มันชอบเดินไปหาเพื่อนมนุษย์เพื่อเรียกร้องความสนใจจากพวกเขา และมันยังชอบให้มนุษย์ลูบหัวด้วย Toby อยากได้ความรักจากครอบครัวทุกวัน และให้มันนอนเตียงเดียวกับพวกเขา ทางศูนย์พักพิงได้โพสต์ภาพและข้อมูลเหล่านี้ลงในโซเชียล โดยหวังว่าจะมีครอบครัวที่เหมาะสมและรักมันมารับเลี้ยงในสักวันหนึ่ง ในที่สุด วันศุกร์ที่แล้ว ความฝันของ Toby ก็เป็นจริง……
-
สุนัขเป็น ‘โรควิตกกังวล’ เจ้าเหมียวจึงเข้ามาอยู่เพื่อนและทำให้มันคลายกังวลลง
สำหรับสัตว์ในศูนย์พักพิงแล้ว พวกมันอาจไม่ได้ต้องการอาหารราคาแพง ที่นอนหรูๆ หรือเจ้าของที่เพียบพร้อม แต่มันต้องการแค่ความรักและความอบอุ่น ที่จะไม่ทำให้มันต้องรู้สึกหวาดกลัวหรือโดดเดี่ยว เหมือนกับ Samantha Kreisler ที่เดินเข้าไปในศูนย์พักพิงสัตว์ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นสภาพของสุนัขผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง มันเป็นสุนัขที่ร่างกายผอมแห้ง มีสภาพผิวที่น่ากลัว และน่าสงสารมาก มันทำให้หญิงสาวรู้สึกไม่ดีเลยที่ได้มาเห็นสุนัขในสภาพแบบนี้ ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงเตือนว่าสุนัขตัวนี้ยากที่ใครจะรับมือกับมัน แต่เมื่อมองเข้าไปในตามันแล้ว มันช่างดูเศร้าและเหงาจนเธอปฏิเสธไม่ลง ต่อมาหญิงสาวทราบว่าน้องหมาชื่อ Lucy ซึ่งเป็นชื่อที่เจ้าหน้าที่ตั้งให้ มันเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง จัดอยู่ในเคสที่รุนแรงมากๆ เลยถูกเรียกว่า ‘Lady Eczema’ Samantha จึงพาเจ้าหมาไปหาหมอเพื่อรักษาโรคต่างๆ พร้อมกันนี้เธอยังมอบความรักให้มัน เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจ แต่น่าเศร้าที่ดูเหมือนว่าสภาพจิตใจของมันยังแย่อยู่มาก หญิงสาวสังเกตเห็นว่า Lady แสดงความกังวลออกมาอย่างชัดเจน ตอนที่เธอทิ้งมันไว้ลำพังเพื่อไปทำธุระอย่างอื่นในเวลาสั้นๆ Samantha จึงตัดสินใจพามันไปด้วยทุกที่ แต่ก็ทำแบบนั้นได้แค่ไม่นาน เพราะเมื่อหญิงสาวเรียนในระดับอุดมศึกษา เธอก็ไม่สามารถพามันไปด้วยได้อีก เมื่อเป็นเช่นนี้ หญิงสาวจึงต้องหาวิธีอื่น หลังจากที่คิดมาสักพัก เธอก็ตระหนักได้ว่า ‘ทำไมไม่หาเพื่อนสักตัวให้ Lady ล่ะ?’ เพื่อนที่เหมาะสมกับ Lady คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก Kitty แมวที่กำลังต้องการเพื่อนเพื่อที่จะได้เป็นตัวของตัวเอง…
-
‘สุนัขผู้โชคดีที่สุด’ ใช้ไหวพริบอันสุดยอด เอาตัวรอดจากต้นไม้หักได้อย่างหวุดหวิด!!
ความโชคดีไม่ได้เกิดกับทุกคนเสมอไป และไม่ได้ทุกครั้งที่เราต้องการ แต่มันบังเอิญเกิดขึ้นกับ Sprocket สุนัขผู้โชคดีที่รอดจากเหตุฟ้าผ่า!! เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีพายุที่รุนแรงพัดถล่มบ้านของ Sprocket ในเมืองออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เจ้าหมาออกไปถ่ายที่สนามหลังบ้าน Ben Lucier ผู้เป็นเจ้าของเฝ้าดูน้องหมาอยู่ตลอดเวลา และเมื่อเห็นท่าไม่ดี เขาก็พยายามตะโกนเรียกสุนัขให้เข้าบ้าน แต่ดูเหมือนเจ้าหมาจะไม่สนใจ จนกระทั่งต้นไม้ต้นหนึ่งเริ่มเอียงลงมาเพราะแรงพายุ ซึ่ง Sprocket กำลังเดินอยู่ใต้ต้นไม้นั้นพอดี แต่โชคดีที่มันได้ยินเสียงแตกหักของต้นไม้ เมื่อได้ยินเสียงแบบนั้น เจ้าหมารีบวิ่งออกจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ต้นไม้ขนาดจะโค่นมาหลังจากนั้นเพียงนิดเดียว เจ้าของบอกว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะสัญชาตญาณการตอบสนองอันรวดเร็วของ Sprocket เราอาจต้องพบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ก็ได้” นี่นับว่าเป็นความเฉลียวฉลาดและความโชคดีที่ทำให้ Sprocket รอดมาได้อย่างหวุดหวิด และไม่มีคนอื่นในบ้านได้รับบาดเจ็บด้วย เจ้าของบอกว่า “เราอาจจะต้องทำความสะอาดบ้านกับหนักเลย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด Sprocket ปลอดภัยแล้ว” ใครเลี้ยงหมา ควรสอดส่องเจ้าตูบตลอดเวลานั้น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติแบบนี้ เพราะความโชคดีไม่ได้เกิดกับทุกคนเสมอไป ที่มา thedodo
-
เด็กชายวัย 8 ขวบ ฝึกฝนวิทยายุทธวันละ 4 ชั่วโมงครึ่ง จนเลียนแบบ ‘บรูซ ลี’ ได้เหมือนเป๊ะๆ
พวกเราทุกคนจะมีไอดอลในดวงใจกันมาตั้งแต่เด็กและหวังอยากจะเป็นเหมือนคนคนนั้น ไม่ต่างกับเด็กชายวัย 8 ขวบคนนี้ที่มีสุดยอดปรมาจารย์กังฟู บรูซ ลี เป็นไอดอล ทำให้เขาตั้งใจฝึกฝนวิทยายุทธอย่างหนักมาโดยตลอด จนสามารถเลียนแบบฮีโร่ในดวงใจของตัวเองได้แล้ว เด็กคนนี้มีชื่อว่า Ryusei Imai จากเมือง Nara ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน 2018 ได้มีการโพสต์คลิปลงไปในเฟซบุ๊กชื่อว่า Ryuji Imai กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมากในโลกโซเชียล ด้วยการโชว์ควงกระบองสองท่อนได้เหมือนกับบรูซ ลี แบบเป๊ะๆ เด็กชายวัย 8 ขวบผู้มีบรูซ ลีเป็นไอดอลในดวงใจ จุดเริ่มต้นในแรงบันดาลใจของเขาเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่อายุเพียงแค่ 4 ขวบ ครอบครัวของเด็กน้อยนั้นเป็นแฟนคลับของบรูซ ลี ทำให้เขาได้นั่งดูหนังของดารายอดกังฟูคนนี้มาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก อย่างเช่นเรื่อง Way of the Dragon และ Enter The Dragon หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มฝึกฝนเพื่อให้เป็นเหมือนกับไอดอลของตัวเอง โดยทุกๆ 6 โมงเช้า Ryusei จะลุกมาฝึกฝนอยู่นานชั่วโมงครึ่งก่อนไปโรงเรียน และเมื่อกลับมาที่บ้านในตอนเย็นเขาก็จะออกวิ่งเพื่อเป็นการวอร์มอัพ จากนั้นจึงเริ่มฝึกวิทยายุทธ การเตะ และกระบองสองท่อนต่ออีก…
-
ลูกชาย 12 หายตัวไป ที่ไหนได้แอบขโมย ‘บัตรเครดิตแม่’ จองตั๋วบินไปเมืองนอก นอนโรงแรมหรู!!
เด็กชายวัย 12 ปีแอบขโมยบัตรเครดิตของแม่จองไฟลท์บินจากออสเตรเลียไปอินโดนีเซีย พร้อมทั้งจองโรงแรมหรูระดับ 4 ดาวเป็นเวลา 5 วัน 4 คืน และเพิ่งกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย เว็บไซต์ Ladbible รายงานว่าเด็กชายวัย 12 ขวบ ไม่ทราบชื่อ ได้วางแผนเป็นอย่างดีเพื่อแอบหนีไปเที่ยวต่างประเทศ เขาขโมยบัตรเครดิตของแม่ จากนั้นก็ทำการเสิร์ชหาสายการบินที่อนุญาตให้เด็กอายุเท่าเขาสามารถขึ้นเครื่องได้โดยที่ไม่ต้องมีคำยินยอมจากผู้ปกครอง แล้วก็จองตั๋วเครื่องบิน ตามรายงานระบุอีกว่า เด็กชายใช้มารยาเด็กน้อยหลอกล่อคุณยายให้ทำพาสปอร์ตให้กับเขา พอสำเร็จก็ขึ้นรถไฟเพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน หลังจากที่ไปถึงที่โรงแรมเขาแจ้งกับพนักงานโรงแรมว่าเดี๋ยวพี่สาวของเขาจะตามมา ในอีก 3-4 วัน นั่นทำให้เขาต้องเช็กอินและอาศัยอยู่ที่โรงแรม All Seasons Hotel ในเมือง Denpasar ประเทศอินโดนีเซียก่อน ขณะเดียวกันที่บ้านก็รู้แล้วว่าเขาหายตัวไป และไม่ได้ไปโรงเรียนเป็นเวลาหลายวัน ก็เลยตัดสินใจไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกชายหายไป คุณแม่เล่าว่าเธอรู้สึกตกใจ และเหนื่อยหน่ายใจเป็นอย่างมาก “ฉันไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี ถึงความรู้สึกที่รู้ว่าเขาหนีไปเที่ยวต่างประเทศ” เกิดเป็นคำถามว่าเขาซื้อตั๋วเครื่องบิน และนั่งเครื่องบินจากซิดนีย์ ไปเพิร์ธ แล้วบินต่อไปที่เมือง Denpasar ได้อย่างไร โดยที่ไม่มีใครเอะใจว่าเขาเป็นเด็กอายุ…
-
สาวส่งข้อความไปลางานบอกป่วย จริงๆ นั่งก๊งเหล้า เจอบอสสวน ‘ตรูนั่งอยู่โต๊ะตรงข้ามเนี่ย’
เมื่อกล่าวถึงการออกไปนั่งดื่ม ถ้าเอาแต่พอดีมันก็ถือเป็นการผ่อนคลายที่โอเคไม่เบา แต่ถ้าหยุดไม่อยู่ ปล่อยไหลตามน้ำไปเรื่อยๆ ล่ะก็ มีหวังเช้าวันต่อมาจบไม่สวยแน่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาก่อนเข้างานกะกลางคืน!! เช่นเดียวกันกับหญิงสาวคนนี้ที่ออกไปดื่มที่ผับแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ โดยที่ไม่ได้แคร์เลยว่าอีกเดี๋ยวก็จะถึงเวลาทำงานของเธอแล้ว ก็เลยส่งข้อความไปลาเจ้านาย ด้วยข้ออ้างที่ว่า ‘ป่วย’ ไปทำงานไม่ไหว หญิงสาวคนดังกล่าวเป็นพนักงานของบริษัท Level ที่ตั้งอยู่ในเมืองโบลตัน ประเทศอังกฤษ เธอส่งข้อความหาคุณ John ที่เป็นเจ้านายของเธอว่าไม่สามารถไปเข้างานกะกลางคืนของวันนั้นได้ โดยอ้างว่าอาเจียนทั้งวันเลย และคิดว่าไม่น่าจะทำงานไหว “สวัสดีค่ะ จะเป็นอะไรไหมหากดิฉันจะหาคนไปทำงานแทนกะของฉันในคืนนี้ เพราะวันนี้ทั้งวันฉันรู้สึกอยากอาเจียนไม่หยุดเลย และตอนนี้ก็ยังไม่โอเคขึ้นเลย คิดว่าไม่น่าไปทำงานไหว ต้องขอโทษด้วยที่แจ้งให้ทราบช้า” แต่ทันใดนั้นเจ้านายก็ตอบกลับไปว่า “เอ่อ ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตรงข้ามกับคุณที่ร้าน Rose and Crown อยู่นะ” แบบนี้ก็เงิบสิครับ ฮร่าๆ บริษัท Level ได้ชี้แจงรายละเอียดถึงคำสารภาพของเธอว่า “เธอบอกว่าเธอไปนั่งดื่มเบียร์กับเพื่อนๆ แต่เธอไม่ได้ดื่มสักแก้ว จากนั้นเพื่อนก็บังคับให้เธอดื่ม และเธอก็รู้ว่าถ้าหากดื่มแล้วก็ไม่ควรที่จะไปทำงานในสภาพนั้น ก็เลยจำเป็นต้องทักมาโกหกกับบอสเพื่อขอลางาน” “เธอบอกว่าเธอถูกแฟนหนุ่มของเธอนอกใจเมื่อตอนกลางวันก็เลยไปนั่งที่บาร์ แทนที่จะมาทำงาน แต่น่าเสียดายจริงๆ ที่วันนั้นบอสก็ไปนั่งที่ร้านนั้นด้วย”…
-
หนุ่มญี่ปุ่น คิดค้นไอเดียสร้าง ‘พลังงานบาเรีย’ สุดเจ๋ง ราวกับว่าใช้พลังได้จริงๆ
หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเห็นวงการคอสเพลย์นั้นมักจะมีไอเดียในการสร้างสรรค์การแต่งตัวที่ออกมาเหมือนกับในการ์ตูนหรือในเกมได้อย่างแนบเนียน เช่นเดียวกันกับในครั้งนี้ที่คอสเพลเยอร์รายหนึ่งนะวิธีการสร้างพร็อพ ‘พลังงานบาเรีย’ สุดเจ๋ง ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่แสนพิเศษที่ต้องเสียเงินเสียเวลาสร้างขึ้นมาแต่อย่างใด แถมยังไม่ต้องใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์อะไรเลย แต่ผลงานที่ได้ออกมานั้นราวกับหลุดมาจาก CG ระดับฮอลลีวูด!! ผ่ามมมม.. เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า ARuFa_FARu ชาวญี่ปุ่น ได้ทำการสร้างโล่พลังงานบาเรียขึ้นมาโดยใช้อุปกรณ์พื้นๆ อย่าง ‘แท่งเรืองแสง’ เพียงเท่านั้น!! พี่แกก็เผยไต๋วิธีการให้ได้ชมกัน และมันก็ง่ายมากๆ เลยแค่นำแท่งเรืองแสงมาผูกกับเชือก แล้วเอาปลายเชือกอีกด้านมาผูกกับข้อมือของตัวเอง แล้วก็เหวี่ยงมันให้เป็นวงกลมไปรอบๆ ข้อมือ จากนั้นก็ให้ช่างภาพถ่ายภาพแชะ…โดยใช้โหมดเบลอสักเล็กน้อยเพื่อให้เจ้าพลังงานนั้นมันดูสมูธยิ่งขึ้น มันก็จะออกมาเป็นภาพพลังงานบาเรียอันแสนงดงามราวกับว่าหลุดมาจากในการ์ตูน แต่อย่าลืมแบมือออกมาไว้ด้วยล่ะ จะได้เนียนๆ เหมือนกับว่าเรากำลังปล่อยพลังงานบาเรียนั้นออกมาจากมือ อยากได้โล่พลังงานสีอะไรก็เปลี่ยนสีแท่งเรืองแสงให้เป็นสีนั้นซะ หรืออยากได้หลายๆ สีผสมกันก็ย่อมได้ ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดไลก์มากกว่า 122,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 62,300 ครั้งเลยทีเดียว แหม่ ต้องขอบอกเลยว่าไอเดียง่ายๆ แต่ใครเล่าจะคิดว่ามันสามารถเอามาใช้ถ่ายภาพเจ๋งๆ ได้แบบนี้ ต้องขอซูฮกเลยที่คิดขึ้นมาได้ ฮร่าๆ ที่มา : soranews, ARuFa_FARu
-
‘The Rock’ ส่งของขวัญสุด ‘เซอร์ไพรส์’ ให้สุดยอดแฟนคลับที่ชวนเขาไปงานพรอม
หากใครที่เป็นแฟนคลับมวยปล้ำ ย่อมต้องเคยได้ยินชื่อของ “The Rock” นักมวยปล้ำกล้ามโตสุดเท่ ที่มีท่าไม้ตายคือ “ศอกมหาชน” นั่นเอง แต่ในวันนี้นักมวยปล้ำคนนั้นได้เดินหันหลังให้กับเวทีและแจ้งเกิดในอาชีพใหม่ด้วยในนาม Dwayne Johnson นักแสดงผู้มากความสามารถที่ครองตำแหน่งนักแสดงชายที่มีรายได้สูงสุดประจำปี 2016 ไปครอง และแน่นอนว่าการเป็นดาราดังที่มีรายได้มากขนาดนี้ได้ ย่อมมีแฟนคลับที่ชื่นชอบในตัวของเขามากมายเต็มไปหมด รวมถึง Katie Kelzenberg สาวน้อยคนนี้จาก Stillwater Area High School รัฐมินนิโซตาก็เช่นกัน เธอนั้นคลั่งไคล้ในตัวของ Dwayne เอามากๆ และเธอก็เป็นพี่ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมแล้ว ซึ่งในเร็วๆ นี้ก็กำลังจะมีงานพรอมที่เหมือนกับงานเลี้ยงส่งของรุ่นเธอ เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะชวน Dwayne นั้นไปเป็นคู่ในงานพรอม @TheRock PROM?! pic.twitter.com/VyHhrpVQYe — katie k (@katiekelzenberg) April 15, 2018 หากชมวิดีโอไม่ได้ให้คลิกที่นี่ ซึ่งไม่นานหลังจากที่เธอได้โพสต์วิดีโอขอให้ Dwayne ให้ไปร่วมงานพรอม พ่อหนุ่มตัวโตกล้ามล่ำก็ได้แอบทำเซอร์ไพรส์เธอโดนอัดเสียงมากระจายผ่านห้องประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน โดยที่เขาได้กล่าวว่า “ผมกำลังจะเริ่มการประกาศของเช้าวันศุกร์นี้ด้วยความน่าสนุกเล็กน้อยกับความน่าตื่นเต้นอีกนิดๆ พวกคุณอาจจะคิดว่า อะไรนะ? The Rock…
-
เปิดดูแค็ตตาล็อกจอง IKEA ตั้งแต่ยุค 50s ดูกันว่าบ้านสวยๆ ในสมัยก่อนมีหน้าตาเป็นยังไง?
IKEA เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่จำหน่ายพวกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มีสาขาไปทั่วโลก ในบ้านเราเองก็มีอยู่หลายแห่งทีเดียว แต่กว่าจะกลายเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าสูงถึง 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐแบบทุกวันนี้ พวกเขาก็ผ่านอะไรมาไม่น้อยเหมือนกัน หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วแบรนด์ IKEA นั้นถูกก่อตั้งโดยชาวสเปนที่ชื่อว่า Feodor Ingvar Kamprad เมื่อปี 1943 หรือราวๆ 75 ปีก่อน ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น IKEA เน้นการควบคุมต้นทุน รายละเอียด และการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง บริษัทนี้เป็นที่รู้จักกันในด้านการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่มีความโมเดิร์น มีความเรียบง่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปเจอเข้ากับสมาชิกเว็บไซต์ Pinterest ที่ชื่อ Smörgås Pinners ซึ่งเป็นบัญชีทางการของ IKEA ที่เอาไว้ใช้สื่อสารกับกลุ่มลูกค้า 1951 แต่ที่มันทำให้น่าสนใจก็เพราะว่าเขาได้มีการปล่อยภาพแค็ตตาล็อกสินค้าของพวกเขาเอง สมัยที่วางขายเมื่อปี 1951 จนถึงปี 2000 ที่ทำให้เห็นถึงสีสันที่พวกเขาใช้ ดีไซน์ที่คนในยุคนั้นนิยามไว้ว่านี่แหละคือความโมเดิร์นในยุคนั้น และความเปลี่ยนแปลงหลังจากนั้นทีละเล็กทีละน้อย 1955 1957 …
-
ชายหนุ่มลงมือปลูกต้นไม้ในสวนทั้งที่ทำไม่เป็น เพราะสัญญากับภรรยาไว้ก่อนเธอจะเสียชีวิต
ผู้คนมักจะเปรียบเปรยความรักเป็นเหมือนกับการปลูกต้นไม้ ที่ต้องพรวนดิน นำต้นไม้มาลง และคอยรดน้ำให้มันเจริญงอกงาม ซึ่งมันคงจะเป็นกิจกรรมที่อบอุ่นหากเราได้ทำมันกับคนที่เรารัก แต่บางคนก็ไม่มีโอกาสได้ทำมัน… นี่เป็นเรื่องราวของคู่รักชาวเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาคบหาดูใจกันมานานกว่า 7 ปี เมื่อดอกไม้แห่งความรักเบ่งบาน พวกเขาก็วางแผนว่าจะปลูกต้นไม้ในสวนหน้าบ้านด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่ภรรยาของเขาเกิดประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียก่อน การที่ต้องสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักไปทำให้ชายหนุ่มเสียใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็เลือกที่จะลุกขึ้นแล้วออกไปเติมเต็มความฝันสุดท้ายของเขาและภรรยา นั่นก็คือการปลูกต้นไม้ในสวนหน้าบ้าน แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้เรื่องการปลูกต้นไม้เลยก็ตาม เมื่อต้องทำในเรื่องที่เขาเองไม่มีความรู้เลย เขาจึงต้องพึ่งพา Google ทำให้รู้ว่าการปลูกอะไรสักอย่างมันไม่ง่ายเลย ชายหนุ่มเริ่มเตรียมสนามหญ้าหน้าบ้านสำหรับการปลูกดอกไม้ครั้งแรกของเขา ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง แต่ทุกๆ อย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง เมื่อเขาได้ไปพบกับคนทำสวนและคนจัดสวน 2-3 คน ที่ให้คำแนะนำเรื่องการทำสวน การพรวนดิน หลังจากนั้นสวนของเขาก็เริ่มผลิบานให้เห็น เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของความฝันที่ภรรยาของเขาวาดเอาไว้ มีคนเดินผ่านไปผ่านมาหน้าบ้านของเขาอยู่หลายคน บางคนเดินผ่าน บางคนหยุดดู แต่มีชายแปลกหน้าอยู่คนนึงหยุดดูและเดินเข้าไปทักทายเขาถึงในบ้าน ก่อนจะหยิบยื่นเอาต้นไม้ให้เขาเอาไปปลูกต่อ เมื่อพูดคุยกันจึงพบว่าชายแปลกหน้าคนนั้นเองเพิ่งจะสูญเสียลูกชายที่มีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการสวนพฤกษศาสตร์ เพื่อเป็นการทำจิตใจให้สงบและไม่จมอยู่กับความเศร้า เขาเลยนำเอาต้นไม้และพืชผักในเรือนกระจกของเขาไปแจกจ่ายให้คนอื่นๆ ดูแลต่อ การลองผิดลองถูกของเขา ทำให้ได้รับบทเรียน และฝีมือที่เพิ่มมากขึ้น จากจุดนั้น ทำให้เกิดเป็นมิตรภาพระหว่างชายหนุ่ม 2…
-
สตรีมเมอร์สาว ทำโยคะกับ ‘แฟนหนุ่มชาวเอเชีย’ กลับถูกกลุ่มคนเข้ามารุมคอมเมนต์ ‘เหยียด’
บนโลกนี้มีปัญหาเกี่ยวกับเพศ วัฒนธรรมหรือชาติพันธุ์กันมากมาย แต่หนึ่งในปัญหาสำคัญที่เรายังไม่สามารถแก้ไขได้ก็คือการเหยียด ปัญหาการเหยียดจริงๆ แล้วมีมานมนานมากแล้วตั้งแต่อดีตกาล ตั้งแต่สมัยประเทศไทยยังมีทาสหรือต่างประเทศยังมีการล่าอาณานิคมอยู่ ซึ่งการเหยียดก็ได้ลามมาถึงปัจจุบัน โดยที่ Lisa Vannatta สตรีมเมอร์เว็บไซต์ Twitch ชื่อดังที่รู้จักกันในนาม STPeach เธอและแฟนหนุ่มของเธอได้ตกเป็นเป้าของการเหยียดหลังจากที่ได้โพสต์วิดีโอการทำ Couples Yoga Challenge หรือโยคะคู่รักนั่นเอง “Couples Yoga Challenge” คือคำท้าทายที่เป็นเทรนด์ไปทั่วโลกออนไลน์ โดยที่จะให้คู่รักแต่ละคู่มาถ่ายวิดีโอการทำโยคะด้วยกัน และอัปโหลดลงในโซเชียลมีเดียอย่างยูทูบหรือเฟซบุ๊ก และแน่นอนว่า STPeach และ Jay แฟนหนุ่มได้ตกลงยอมรับคำท้าครั้งนี้และก็พร้อมถ่ายวิดีโอและอัปโหลดลงในยูทูบเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา แต่ ณ เวลาที่วิดีโอได้ถูกอัปโหลดลงในยูทูบแทนที่จะมีคนเข้ามาชื่นชมกลับกลายเป็นมีคนเข้ามาเหยียดแฟนของเธอกันเต็มไปหมด รวมถึงในอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอด้วย เราจะยกตัวอย่างมาให้ได้ชมกันครับ “เชี่ยนี่แม่งโชคดีฉิบหายเลยว่ะ แต่ตูเดาว่ามันไม่รู้วิธีเยหญิงด้วยซ้ำ” “คนทรยศต่อชาติพันธุ์! ฉันขอให้เธอถูกแทงข้างหลัง กระปู๋ของฉันใหญ่กว่าเจ้าหมอนั่นแน่นอน” “เชี่ยจีนเอ๊ย” ซึ่งคนที่เข้ามาร่วมเหยียดไม่ใช่มีเพียงชาวอเมริกาอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีชาวสเปนที่เข้ามาร่วมให้ความเห็นในเชิงที่บอกว่าไอ้ชาวเอเชียคนนี้มันโชคดีสุดๆ ไปเลยว่ะ .…
-
อบอุ่นหัวใจ….ลูกกตัญญูพาแม่วัย 92 ปี ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ไปทำงานด้วยทุกวันไม่ยอมห่าง
เรื่องราวของชายผู้ทำอาชีพเป็นพนักงานส่งของวัย 52 ปี ในประเทศจีน ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ด้วยการพาคุณแม่ของตัวเองที่มีอายุ 92 ปี และป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ไปทำงานด้วยในทุกๆ วัน Cai Yujun ชายผู้ทำหน้าที่เป็นพนักงานส่งของ เขามักจะพาคุณแม่ของตัวเองก็คือคุณยาย Yang Suxiu ไปทำงานด้วย ตามรายงานของเว็บไซต์ CGTN ระบุว่าเธอป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ตั้งแต่เมื่อ 7 ปีก่อน แทนที่จะทิ้งแม้ที่ป่วยหลงๆ ลืมๆ เอาไว้ที่บ้าน ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงพาคุณแม่ไปทำงานด้วยทุกๆ วัน ด้วยการทำเบาะหลังจักรยานให้นั่งสบายขึ้น พร้อมกับใช้เชือกมัดติดกับตัวเอาไว้เพื่อความปลอดภัย “แม่ของผมทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อครอบครัว และนี่คือความรับผิดชอบของผมที่ต้องดูแลเธอ แม้ว่ามันจะยากลำบากสักแค่ไหนก็ตาม” Cai ย้ายมาอาศัยอยู่ที่เมืองเฉิงตูพร้อมกับครอบครัว และภรรยา เมื่อราวๆ 20 ปีก่อน ทั้งสองคนได้งานเป็นพนักงานขนส่งที่ร้านคอมพิวเตอร์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นคุณแม่ของเขายังไม่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ “ตอนนั้นคุณแม่ยังไม่ป่วยเป็นอะไร เธอก็จะอยู่ที่บ้านคอยดูแลความเรียบร้อย ว่างๆ ก็จะออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้านเพื่อแก้เบื่อ” แต่แล้วทุกสิ่งก็เริ่มเปลี่ยนไป อาการของโรคอัลไซเมอร์เริ่มมาเยือนคุณยาย Yang เธอเริ่มมีความจำเลอะเลือน แถมยังสูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง…
-
เกิดเหตุยิงปืนในโรงเรียนที่ฟลอริด้า ในวันเดินรณรงค์ต่อต้านการใช้อาวุธปืน มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา หน่วย S.W.A.T. ของฟลอริด้าได้รับการแจ้งเหตุชายคนหนึ่งเปิดฉากยิงปืนในโรงเรียนมัธยมปลาย Forest ที่เมือง Ocala รัฐฟลอริด้า และเข้าจับกุม Sky Bouche ผู้ต้องสงสัยวัย 19 ปีซึ่งในปัจจุบันไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนไปอยู่ในความดูแลของตำรวจ Sky Bouche ผู้ต้องสงสัยวัย 19 ปี ตามรายงานที่ได้รับจากนายอำเภอ Billy Woods เหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้มีนักเรียนวัย 17 ปีคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าจนต้องมีการพาเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยทางอำเภอได้ทำการเตือนประชาชนให้อยู่ห่างจากพื้นที่และแจ้งให้พ่อแม่ให้มาพบลูกในสถานที่อื่นเป็นที่เรียบร้อย ทางตำรวจเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรของโรงเรียนได้ยินเสียงปืนดังใน เวลา 8:39 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น เขาได้ทำการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ และเข้าทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยภายในเวลาเพียงสามนาที Woods กล่าวว่านี่เป็นการยิงโดยเจตนา แต่จะไม่อาจบอกได้ว่าผู้ต้องสงสัยเข้าไปในโรงเรียนได้อย่างไร หรือว่ารู้จักกับเหยื่อหรือไม่ “แม้ว่าเราจะได้ข้อสรุปโดยรวมแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องสอบสวนกันต่อไป” Woods กล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่ประชุมแถลงข่าว “มีรายละเอียดมากมายที่เรายังไม่รู้” เหตุการณ์ยิงปืนในโรงเรียนครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในระหว่างการเดินรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงโดยการใช้อาวุธปืนพอดี และเป็นวันครบรอบ 19 ปี เหตุการณ์การสังหารหมู่ที่โรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์อีกด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จึงทำให้มีการยกเลิกการเดินรณรงค์ในบริเวณนั้นทั้งหมดอย่างช่วยไม่ได้ไป ที่มา cnn, foxnews, independent
-
หนุ่มอ้วนพุงโต ใช้เวลาเพียง 6 เดือน เปลี่ยนตัวเองเป็นแชมป์นักเพาะกายสุดล่ำ
หากใครกำลังมองหาแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักหรืออยากกลับไปหุ่นดีอีกครั้งหนึ่ง เราขอชวนให้ได้ลองมารับรู้เรื่องราวของ Zhang Shuai ชายหนุ่มวัย 22 ปี ผู้ใช้เวลาเพียง 6 เดือน เปลี่ยนแปลงความอ้วนของตัวเองให้กลายเป็นกล้ามเนื้อที่สวยงาม Shuai เป็นนักศึกษาของสถาบันเทคโนโลยี Heilongjiang เมืองฮาร์บิน ประเทศจีน และเคยเป็นนักกีฬาดาวเด่นของวงการบาสมาก่อน จนกระทั่งในปี 2016 เขาได้รับบาดเจ็บจนต้องเลิกล้มการเล่นบาสไปอย่างน่าเศร้า Shuai ชายผู้เคยเป็นนักกีฬาดาวเด่น แต่กลับบาดเจ็บจนรูปร่างกลายเป็นอย่างนี้ ความเสียใจของเขาในตอนนั้นนำไปสู่อาการของโรคซึมเศร้า เขาเริ่มกินไม่หยุดและแทบไม่ออกกำลังกายใดๆ เลย เพียงแค่ 6 เดือนน้ำหนักเขาก็เพิ่มขึ้นถึง 40 กิโลกรัม กลายเป็นคนที่ดูไม่ออกเลยว่าเป็นนักกีฬามาก่อน จนกระทั่งช่วงปลายปี 2017 เขาเกิดความคิดที่จะหยุดพฤติกรรมดังกล่าว และตั้งใจที่จะกลับไปมีหุ่นดีเหมือนเดิม Shuai จึงเริ่มกลับมาออกกำลังกายและควบคุมอาหารของตัวเองอย่างเข้มงวด เขาเริ่มออกกำลังกายอย่างหนัก จากความตั้งใจของเขาในตอนนั้น ทำให้ช่วงเวลาเพียงแค่ 6 เดือนก็สามารถลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 30 กิโลกรัม และไม่ใช่เพียงแค่น้ำหนักที่ลดลง เพราะเขายังได้หุ่นที่สุดยอดกลับมาอีกด้วย ที่มาของกล้ามเนื้อสุดล่ำเกิดจากการที่เขาเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับการเพาะกาย ด้วยเหตุนั้นเองชายหนุ่มจึงยกเวทออกกำลังกายอย่างหนัก ทำให้กล้ามขึ้นมาเป็นมัดๆ …
-
‘อาร์แซน เวงเกอร์’ จากชายผู้เข้ามาสร้างความสำเร็จให้อาร์เซนอล…สู่การจากลาอันเจ็บปวด
“เขาดูเหมือนกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัย สวมเสื้อแจ็คเก็ตตัวใหญ่ กับแว่นหนาเตอะ ดูไม่เห็นแววเลยว่าจะเก่งเรื่องฟุตบอล” นั่นเป็นความรู้สึกของ เอียน ไรท์ หนึ่งในยอดตำนานดาวยิงสูงสุดของทีมอาร์เซนอล ต่อโค้ชคนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาคุมทีมในปี 1996 และโค้ชคนนั้นก็คือ อาร์แซน เวงเกอร์ ที่ย้ายมาจากทีมสโมสรนาโงย่า แกรมปัส ของลีกญี่ปุ่น ในช่วงนั้นในเกาะอังกฤษยังไม่มีใครรู้จักเขาแม้แต่คนเดียว “หลังจากที่ผ่านไปแค่ไม่กี่วันความคิดของผมก็เปลี่ยนไป วิธีการเตรียมพร้อมในทีม การฝึกฝน จากเดิม ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เขาเป็นคนที่น่าประทับใจมาก เป็นคนที่ฉลาด” เอียนกล่าว หลังจากย้ายเข้ามาฤดูกาลแรก เวงเกอร์ ซื้อนักเตะคนสำคัญเข้ามาสู่ทีม นั่นก็คือ ปาทริค วิเอร่า หนึ่งในตำนานคนสำคัญที่ช่วยให้อาร์เซนอลกวาดแชมป์มากมายในช่วงนั้น เขาสร้างเอกลักษณ์รูปแบบการเล่นให้กับทีม ซึ่งก็คือการต่อบอลอันสวยงาม รวดเร็ว และแม่นยำ จนกลายมาเป็นซิกเนเจอร์ของอาร์เซนอลอย่างทุกวันนี้ หลังจากย้ายมาแค่ 2 ปี ในฤดูกาลที่ 1997 – 1998 ที่เข้ามาคุมทีม เวงเกอร์ก็พาทีมอาร์เซนอลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก พ่วงด้วยแชมป์เอฟเอคัพได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์อีกครั้งในฤดูกาล 2001-2002 ก่อนที่จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้จัดการทีมคนแรกและคนเดียวที่คุมทีมลงเล่นโดยที่ไม่แพ้ทีมใดในลีกเลยทั้งฤดูกาลและจบด้วยการเป็นแชมป์ในฤดูกาล…
-
เด็กหญิง 7 ขวบป่วยเป็นมะเร็ง ต้องผ่าตัดกลับขา ด้วยความหวังที่เธอจะกลับมาเต้นอีกครั้ง
คงไม่มีใครที่อยากจะเกิดมาแล้วป่วย ทุกคนต่างก็อยากจะเกิดมามีสุขภาพที่ดีกันทั้งนั้น แต่ทว่าไม่มีใครเลือกเกิดได้ ในเมื่อเราไม่สามารถกำหนดโชคชะตาได้ ก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เป็นอยู่ เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของเด็กหญิง Amelia Eldred อายุ 7 ขวบ ชาวเมืองแทมเวิร์ท รัฐนิวเซาท์เวลล์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ต้องประสบกับโรคร้ายตั้งแต่อายุยังน้อย ในเดือนสิงหาปี 2017 สัปดาห์แรกแห่งวันหยุดฤดูร้อน ขณะที่หนูน้อยเข้าร่วมการแสดงละครเวที เธอมีอาการแปลกๆ คือขาเริ่มบวม นาง Eldred และนาย Richard พ่อแม่ของเธอพยายามประคบให้ แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ขาของเธอยังบวมอยู่ร่วมสัปดาห์ หลังจากนั้นพ่อแม่ก็พาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลเด็ก มีการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ผลออกว่ามีชิ้นเนื้อที่มันส่งผลร้ายแรงกับร่างกายของเธอ เนื้องอกขนาด 10 ซม. บนกระดูกต้นขาเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งที่ชื่อว่า Osteosarcoma Osteosarcoma คือมะเร็งกระดูกที่สามารถพบได้มากที่สุดในวัยเด็ก ส่วนมากจะเป็นชนิดที่ร้ายแรง สามารถลุกลามไปยังเนื้อเยื่อส่วนอื่นได้อย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หนูน้อยได้เข้ารับการรักษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแห่งโรงพยาบาล Royal Orthopedic การรักษาเธอต้องมีการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้องอกออกไป หนูน้อยต้องตัดขาในส่วนที่เป็นเนื้อร้ายออก แล้วเอาขาของเธอต่อเข้าไปที่เดิม แต่แทนที่จะเป็นการต่อขาแบบธรรมดา กลับกลายเป็นการต่อขาแบบกลับหลังแทน การต่อขาแบบกลับหลัง…
-
เรื่องราวสุดสลด เมื่อลูกสาวถูกแม่ทิ้งไป เพียงเพราะเธอป่วยเป็นมะเร็งขั้นรุนแรง
พ่อแม่ผู้ปกครองคือคนสำคัญที่จะช่วยดูแลและเยียวยารักษาเด็กๆ หรือลูกของตัวเอง พวกเขาไม่ได้เพียงแค่มีอิทธิพลต่อร่างกายการเจริญเติบโตของเด็ก แต่มันยังรวมถึงเรื่องจิตใจ ซึ่งคงไม่มีเด็กคนไหนจะอยากถูกพ่อแม่ทิ้งไปเหมือนกับเธอคนนี้ เด็กหญิงคนดังกล่าวมีชื่อว่า Gong Miao ชื่อเล่น Miaomiao วัย 9 ขวบ เธอต้องเจอกับความทุกข์ทรมานและความรู้สึกผิด หลังจากที่ถูกแม่แท้ๆ ของตัวเองทิ้งไปเพราะอาการป่วยของเธอ Miaomiao เด็กหญิงที่ต้องเผชิญกับอาการป่วย เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2017 Miaomiao มีอาการของไข้หวัดที่รุนแรงเป็นอย่างมาก ทำให้เธอถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเด็กเมืองฮาร์บิน ประเทศจีน และหมอก็ได้วินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นโรค Acute Lymphoblastic Leukemia (ALL) รูปแบบของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่รุนแรงเป็นอย่างมาก ตั้งแต่นั้นมาเด็กหญิงคนนี้จึงต้องทุกข์ทรมานกับอาการป่วยที่ถาโถมเข้าใส่ เจ็บปวดตามร่างกาย หายใจไม่สะดวก เหนื่อยล้า ทำให้เธอต้องเข้ารับการทำเคมีบำบัดในโรงพยาบาล The First Affiliated Hospital of Harbin Medical University ด้วยอาการที่น่าเป็นห่วง แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่าอาการป่วยของเธอก็คือ 3 เดือนหลังจากที่หมอวินิจฉัยอาการป่วยของเธอ Zhao Huanhuan…
-
พยาบาลสาวบอดี้สแลมใส่ผู้ต้องหา หลังขัดขืนการจับกุม และทำร้ายตำรวจจนสลบ
เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจเมือง Portage สองคน ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายในขณะพยายามจับกุม Jacob R. Hellenbrand ชายผู้ต้องสงสัยในคดีคุมประพฤติ และละเมิดทัณฑ์บน อย่างไรก็ตาม Olivia J. Boomsma หญิงคนหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัย ได้เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วยการ รั่วหมัดต่อยเจ้าหน้าที่ตำรวจ Brian Loewenhagen ในระหว่างที่เขาพยายามจะใส่กุญแจมือ Jacob ทำให้เจ้าหน้าที่ Loewenhagen ได้รับบาดแผลฟกช้ำจำนวนมาก ภาพของ Jacob R. Hellenbrand (ซ้าย) และ Olivia J. Boomsma (ขวา) เมื่อเห็นดังนั้นสิบเอก Eric Walters จึงได้ทำการเข้ามาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ Loewenhagen ด้วยการกดร่างของ Olivia ลงกับพื้น แต่ก็โดน Jacob ที่หลุดออกจากการจับกุม เตะเข้าอย่างแรงที่ใบหน้าจนหมดสติไป ในตอนนั้นเอง Vanessa Guerra นางพยาบาลจากโรงพยาบาล Divine Savior ที่เห็นเจ้าหน้าที่หมดสติไป ก็รีบเข้ามาดูอาการของสิบเอก Walters ก่อนที่เธอจะพบว่า Olivia เริ่มที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ Loewenhagen และขู่ว่าเธอมีมีดอยู่ในกระเป๋า …
-
ฉลามน้ำจืดหายาก “ฉลามแม่น้ำคงคา” ถูกพบเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี……ที่ตลาด
ปลาฉลามแม่น้ำคงคา หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ Glyphis gangeticus คือปลาฉลามน้ำจืดสายพันธุ์หายากที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำคงคาสมชื่อ พวกมันเป็นหนึ่งในปลาฉลามที่หายากที่สุดในโลกและเสียต่อการสูญพันธุ์เป็นอย่างมาก ซึ่งถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายในปี 2006 แต่เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมานักศึกษามหาวิทยาลัย ได้พบกับฉลามจำนวนมากถูกชำแหละขายในตลาดขายปลาที่ท่าเรือ Sassoon ในมุมไบ หนึ่งในนั้นคือฉลามเพศเมียขนาด 8 ฟุต 7 นิ้ว (ราวๆ 260 ซม.) ที่มีจมูกกลม ตาเล็ก โครงร่างดูแข็งแรง และครีบกว้าง แม้จะมีลักษณะคล้ายฉลามวัวทั่วไป แต่เขาก็สงสัยว่ามันจะเป็นว่าฉลามตัวที่ว่านั้นคือ ปลาฉลามแม่น้ำคงคา และได้ทำการถ่ายรูปของปลาฉลามที่ว่าไว้ ก่อนที่มันจะถูกชำแหละขายในราคาสูง ฉลามแม่น้ำมีความลึกลับมาก มันจะมีตาเล็ก และครีบกว้างมาก ภาพที่ว่านั้นได้รับการยืนยันว่าฉลามตัวในภาพนั้นเป็นปลาฉลามแม่น้ำคงคาจริงๆ โดยงานวิจัยที่ได้รับเงินทุนจากมูลนิธิ Save Our Seas ในเวลาต่อมา และถูกนำไปตีพิมพ์ในวารสารชีววิทยาปลาเมื่อไม่นานมานี้ โดยที่มีหลายๆ คนเชื่อว่าปลาฉลามตัวในภาพนั้น อาจจะเป็นปลาฉลามตัวสุดท้ายของสายพันธุ์นี้ก็เป็นได้ ผู้เชี่ยวชาญยังคงพยายามหาตำแหน่งที่แน่ชัดที่ฉลามแม่น้ำคงคานี้ถูกจับขึ้นมา โดยหวังว่าพวกเขาจะสามารถพบปลาฉลามแม่น้ำคงคาที่ยังไม่ถูกล่าอีก ตามการคาดการนั้น ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันถูกจับมาจากที่ไหนสักแห่งตามแนวทะเลอาหรับ “เมื่อพิจารณาถึงสถานะที่ใกล้สูญพันธุ์ของสัตว์ชนิดนี้และความหายากของปลาฉลามชนิดนี้ ทำให้จำเป็นต้องมีการดำเนินการจัดการเร่งด่วนเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรของมัน ทั้งในด้านการจัดหาที่อยู่อาศัยที่อุดมสมบูรณ์ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้แก่ชาวประมงในพื้นที่” ผู้เขียนงานวิจัยกล่าว ที่มา dailymail, foxnews, express, ibtimes
-
หนุ่มอเมริกาโมโหร้าย เอาพิซซ่าตบหน้าแฟนสาว หลังจากมีปากเสียงกันบนรถ
เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา Kenneth Evans ชายหนุ่มวัย 24 ปีผู้อาศัยอยู่ใน Brookfield รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ถูกจับโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากที่เขาก่อคดีทำร้ายร่างกายแฟนสาว และทำลายข้าวของ Kenneth Evans ผู้ต้องหาในคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมือง Brookfield กล่าวว่า Evans ได้มีปากเสียงกับแฟนสาววัย 23 ปีของเขา และตะคอกใส่เธอหลายครั้ง ก่อนที่จะใช้มือดึงศีรษะของเธอในระหว่างที่เธอกำลังขับรถ และใช้พิซซ่าตบเข้าที่หน้าของเธอ ในตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความ และไปถึงเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุนั้น พวกเขากำลังอยู่ที่บ้านใน Masuary รัฐโอไฮโอ โดยที่ทางตำรวจเล่าว่า Evans ปิดประตูอย่างรุนแรงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ตะโกนด้วยน้ำเสียงรุนแรง และดูฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก ที่ถนนหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ยังพบยางรถที่ทางเหยื่อให้การว่า Evans โยนออกไปในการทะเลาะกับเพื่อนบ้านที่พยายามเข้ามาห้ามการใช้ความรุนแรงของเขา เธอกล่าวอีกว่า Evans ได้ทำการทุบกล่องจดหมายทิ้งด้วย Evans ถูกจับในข้อหาใช้ความรุนแรงในครอบครัว แต่แม้ว่าเรื่องจะไปถึงมือเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ Evans ก็ยังคงมีพฤติกรรมก้าวร้าวและอารมณ์แปรปรวน เขาสลับอารมณ์ไปมาระหว่างการร้องไห้และหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแม้ตอนที่อยู่ในสถานีตำรวจ และมีการลุกขึ้นต่อยกำแพงจนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาห้ามไว้ ทางตำรวจเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่ผู้ต้องหาเมาสุราอย่างหนักแต่ไม่ได้มีการใช้สารเสพติดใดๆ โดยทาง Evans ได้ให้การว่าเขาบันดาลโทสะทำลายข้าวของก็จริง แต่ไม่ได้ลงมือกับแฟนอย่างที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด…
-
หญิงสาวทนไม่ไหว ‘ตัดพวงเครื่องปรุง’ ของอดีตสามี เมาแล้วกลับมาขอมีอะไรด้วย!?
บางครั้งการทะเลาะ มีปากเสียงใส่กัน หรือความเกลียดชังที่เรามีต่ออีกฝ่าย สิ่งเหล่านั้นอาจกลายเป็นชนวนของความรุนแรง นำไปสู่การกระทำที่เหนือความคาดหมายเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เมื่อหญิงสาววัย 47 ปีใช้มีดทำครัวตัดพวงสวรรค์ของสามีเก่าของเธอ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเดือนตุลาคมปี 2017 สาวรัสเซียที่ชื่อว่า Lira Plaksina ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว หลังจากที่เธอใช้มีดทำครัวตัดองคชาตและอัณฑะของอดีตสามีวัย 44 ปี Lira หญิงสาวผู้ก่อคดีในครั้งนี้ ในวันที่เธอมาเข้ารับฟังการตัดสินของศาล จากการสอบถามกับคนในหมู่บ้าน Vasilyevo ประเทศรัสเซีย ละแวกที่ตั้งของบ้านหญิงสาว ชาวบ้านบอกว่าสมัยก่อนเธอและสามีเก่าอาศัยอยู่ด้วยกัน มีปากเสียงทะเลาะกันตลอด และนั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทั้งคู่แยกทางกันในที่สุด โดยสามีได้ออกไปใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ จนกระทั่งในวันนั้นสามีเก่าก็เดินทางมาที่บ้านของเธอด้วยความมึนเมา ซึ่งเธอให้การกับศาลว่าเขาพยายามที่จะเรียกร้องขอมีอะไรกับเธอ และใช้กำลังคุกคาม เธอจึงจำเป็นต้องใช้มีดทำครัวตัดอวัยวะสืบพันธุ์ของเขาเพื่อเป็นการป้องกันตัว แต่จากหลักฐานหลายๆ อย่าง ศาลได้สันนิษฐานว่าหญิงสาวตัดเอาไอ้จ้อนของชายหนุ่มออกไปในตอนที่เขาเมาแล้วนอนหลับอยู่บนโซฟาบ้านเธอเท่านั้นเอง จึงตัดสินให้เธอต้องโทษจำคุก 4 ปีสำหรับการกระทำดังกล่าว บ้านที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามแทนที่เธอจะสะเทือนใจกับการต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุกนานถึง 4 ปี เธอกลับโบกมือให้กับคนที่มาให้กำลังใจเธอภายในศาล พร้อมกับมีการส่งจูบให้แบบชิลๆ ไม่ทุกข์ร้อนแต่อย่างใด ทางด้านผู้เสียหายก็ยังคงไม่มีการรายงานใดๆ เพิ่มเติม แต่ที่แน่ๆ คือเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างมากและมีอาการบาดเจ็บบริเวณสะโพกพ่วงมาด้วย ส่งจูบราวกับไม่ทุกข์ร้อนใดๆ…
-
คู่รักโชว์ ‘นั่งเทียน’ ขณะกำลังซิ่งรถบนทางด่วน ลีลาและความมันยิ่งกว่าเดอะฟาสต์เสียอีก!!
อารมณ์ทางเพศเป็นสิ่งที่สามารถผุดขึ้นมาได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนกินข้าว อาบน้ำ ดูหนัง นอนอยู่บนเตียง ยิ่งถ้ามีเพศตรงข้ามหรือคนรักอยู่ข้างกายด้วยแล้ว มันก็จะยิ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศให้มากกว่าเดิม จนทำให้เราอาจต้องปลดปล่อยมันออกมาบ้างด้วยหลากหลายวิธี อย่างเช่นการมีอะไรกันขณะขับรถบนทางด่วนเป็นต้น!! ตัวอย่างของการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศดังกล่าว มีให้เห็นในเว็บไซต์สำนักข่าว Mirror เมื่อพวกเขาโพสต์คลิปการสหวีวี่วีของหนุ่มสาวขณะที่กำลังขับรถอยู่บนทางด่วนในประเทศไต้หวัน วันนี้อาจเป็นวันเกิดของหญิงสาวก็ได้ เพียงแต่เธอไม่อยากเป่าเทียน เธอเลยนั่งเทียนแทน คลิปที่ว่านี้ถูกเผยแพร่ออกไปในวันที่ 20 เมษายน 2018 เผยให้เห็นหญิงสาวภายในรถสวมเสื้อสีขาวกำลังนั่งควบคนขับ พร้อมกับโยกขยับขึ้นๆ ลงๆ รักษาระดับความถี่ให้คงที่ ไม่ต้องบอกก็คงพอเดากันได้ว่าทั้งสองคนนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รู้ตัวว่ามีคนมาเทียบข้างถ่ายทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ อีกหนึ่งการสร้างความหฤหรรษ์ให้กับชีวิตรัก ในคลิปเราจะเห็นได้ว่าบนทางด่วนนั้นพวกเขาจำเป็นต้องใช้ความเร็วในการขับรถไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งต่ำสุดจะอยู่ที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามกฎหมายในไต้หวัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการร่วมรักของพวกเขาแต่อย่างใด หลังคารถ Ford อาจจะไม่สูงมาก แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขา ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงของไต้หวันรายงานว่า คู่รักหนุ่มสาวสองคนจำเป็นต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 26,000 บาท ในข้อหาขับรถอันตราย ซึ่งดูแล้วคงจะไม่ค่อยคุ้มกับการได้อ๊อดอ๊อดกันในรถเท่าไหร่แหละนะ สามารถเข้าไปดูคลิปเต็มๆ จากลิงก์ด้านล่างได้เลยจ้าาา นับว่าเป็นความสามารถอันน่าทึ่ง แต่ไม่ควรเอาไปทำตามเป็นอย่างมาก เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและของทุกคนที่กำลังใช้รถใช้ถนน…
-
บล็อกเกอร์อยากให้สาวๆ มั่นใจตัวเอง เลยจิกกัดสุดฮา ‘ภาพในไอจีกับชีวิตจริง’ มันทำง๊ายง่าย!!
อย่างที่รู้กันดีว่าในปัจจุบันนั้นมีเทคโนโลยีและวิธีมากมายที่ทำให้รูปภาพออกมาสวยและดูดี โดยเฉพาะเหล่าสาวๆ ทั้งหลายที่กว่าจะอัปโหลดภาพแต่ละทีก็ต้องมานั่งเช็ก นั่งแต่งให้ภาพนั้นออกมาสวยที่สุดก่อนที่จะโพสต์ลงไปบนโซเชียลมีเดีย และ Chessie King สาวบล็อกเกอร์อินสตาแกรมชื่อดัง ก็เบื่อกับเรื่องต่างๆ เหล่านี้เหลือเกิน เธอก็เลยออกมาแฉถึงวิธีการสร้างภาพหรือทำให้รูปร่างของตัวเองดูดี ซึ่งมันไม่ยากเลยแม้แต่น้อย และบางครั้งก็อาจไม่ต้องพึ่งโปรแกรมโฟโตชอปเสียด้วยซ้ำ ที่ทำไปแบบนั้นไม่ใช่ว่าเธอหมั่นไส้เสียทีเดียว แต่เธอกำลังรณรงค์ให้ผู้หญิงทั้งหลายหันมาภูมิใจในร่างกายของตัวเอง สร้างความมั่นใจให้กับสาวๆ ให้พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ เพราะภาพที่เห็นในไอจี สาวๆ สวยๆ หุ่นดีๆ น่ะ มันทำได้ทั้งนั้น “นี่คือร่างกายของฉัน ไม่จำเป็นต้องหามุมกล้อง หรือแสงแฟลช แค่ฉันและร่างกายของฉันก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองปังที่สุดในโลกแล้ว เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ฉันมักจะกังวลอยู่เสมอเวลาจะโพสต์รูปของตัวเองลงไป ว่าภาพแต่ละภาพนั้นต้องเพอร์เฟกต์ ฉันต้องดูดี ต้องผอม ต้องหุ่นดี” “แต่ปัจจุบันฉันคิดว่าสิ่งที่ต้องมาก่อนก็คือความสุขของฉัน ซึ่งก่อนหน้านั้นที่ทำไปฉันก็รู้คำตอบแล้วว่ามันไม่ใช่ เราเกิดมาเพื่อเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เกิดมาเพื่อเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ ฉะนั้นเราควรจะโฟกัสที่ความสุขมากกว่า” Chessie King กล่าว และวิธีในการรณรงค์เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับสาวๆ ก็คือการโพสต์ภาพแสดงให้เห็นถึงวิธีการสร้างภาพสวยๆ ขึ้นมาแบบง่ายๆ แบบตลกขำขัน ที่เห็นแล้วดูน่ารักจนใครเห็นก็ต้องยิ้มตาม เป้าหมาย – เป้าหมาย? สองภาพนี้ต่างกันแค่มุมกับท่าโพสต์เท่านั้นเอง “ตอนผอมก็บอกว่าผอมไป พอกินเยอะขึ้นก็หาว่าอ้วนเกินอีก” …
-
สาวป่วยโรคซึมเศร้า บอกเล่าวิธีการรักษาที่แปลกแต่ได้ผล ทำให้พูดแง่ลบน้อยลง
ปัญหาสุขภาพจิตอย่างโรคซึมเศร้า โรคขี้กังวล และอารมณ์แปรปรวนนั้นไม่อาจมองข้ามได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีการเปิดกว้างและยอมรับว่าเป็นโรคอย่างหนึ่งของมนุษย์แล้ว และใครก็ตามที่กำลังประสบอยู่ก็ไม่จำเป็นจะต้องทนทรมานอย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป… แต่ทว่าวิธีการรักษานั้นยังไม่มีแนวทางที่แพร่หลายมากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์ การรับยาปรับสารเคมีในสมอง แต่ก็คงไม่แปลกเท่ากับวิธีของนักบำบัดรายหนึ่งที่ทำกับชาวเน็ตท่านนี้! เรื่องบอกเล่าจากผู้ใช้เว็บบล็อก Tumblr นามว่า anarchetypal เล่าถึงนักบำบัดที่ชื่อ Paul กับวิธีการรักษาโรคซึมเศร้าของเธอที่ไม่ได้ให้ยา ไม่ได้ให้คำปรึกษา แต่เป็นการยิงปืน Nerf Gun ใช่แล้วล่ะ มันคือปืนอัดลมยิงลูกดอกโฟม! ปืนลมยิงลูกดอกโฟม Nerf Gun เมื่อเธอไปหานักบำบัดตามนัด ก็ต้องพบกับวิธีการรักษาที่คาดไม่ถึง! . “เมื่อฉันได้เห็นโพสต์เกี่ยวกับนักบำบัด มันทำให้ฉันจำได้ว่า Paul นักบำบัดคนเก่า ที่ฉันคิดว่าเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ที่ยังมีชีวิต และเป็นผู้ที่ไม่ยอมแพ้กับความงี่เง่าของฉันแม้แต่วินาทีเดียว” “ฉันไปหา Paul ในช่วงหน้าร้อนปี 2016 แล้วฉันก็แสดงความงี่เง่าตามปกติ อย่างการพูดแย่ๆ เกี่ยวกับตัวเอง และ Paul ก็จ้องมาที่ฉัน จากนั้นก็ตัดบทและพูดว่าเขามีอุปกรณ์ใหม่ที่จะช่วยให้ผู้คนหลาบจำกับการพูดในแง่ลบ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง” “แล้วฉันก็ทำเป็นว่า เอาเลย…
-
หนุ่มซื้อรถมือสองเพื่อขับรถไปเที่ยวหาเพื่อนที่ ‘ต่างเมือง’ เพราะราคาของมันถูกกว่า ‘ตั๋วรถไฟ’
เมื่อพูดถึงการซื้อรถสักคันหนึ่ง หลายๆ คนอาจจะมีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็อยากจะซื้อเพราะว่าช่วยให้การเดินทางสะดวก บางคนก็ซื้อเพื่อแสดงถึงความมั่นคงทางการเงิน เป็นต้น แต่สำหรับพ่อหนุ่มคนนี้ ตัดสินใจที่จะซื้อรถมือสองเอาไปขับออกทริปเที่ยว เพราะราคาของรถมันถูกกว่าค่าตั๋วรถไฟ!? นาย Tom Church วัย 27 ปี ซื้อรถที่มีอายุมากกว่า 21 ปี เพื่อขับข้ามเมืองจากลอนดอนไปบริสตอลเป็นระยะทางกว่า 160 กิโลเมตร โดยจะแวะไปเที่ยวหาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน แต่กลายเป็นว่าค่าตั๋วรถไฟนั้นมันแพงเหลือเกิน โดยตั๋วไปกลับมีมูลค่าสูงกว่า 9,640 บาท พ่อหนุ่มทอมก็เลยปิ๊งไอเดียสุดเจ๋งขึ้นมา ด้วยการหาซื้อรถมือสองเก่าสักคันหนึ่ง และพอมาคำนวณดูแล้วก็พบว่าทั้งค่ารถ ค่าภาษี ค่าประกันรถ และค่านำมัน รวมๆ กันแล้วได้ 9,140 บาท ถูกกว่าค่าตั๋วรถไฟตั้ง 500 บาท!! ตั๋วรถไฟ รถมือสองคันดังกล่าวเป็นรถ Hoda Civic รุ่นปี 1997 ที่มีเลขไมล์มากกว่า 217,000 กิโลเมตร …
-
เมก้าเคลฟเวอร์!! แม่นางโปรยใบสั่งปลอมให้ตัวเอง เพื่อกันตำรวจแจกใบจริงในที่ห้ามจอด
หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง สำนวนโวหารแบบนี้รู้สึกคุ้นๆ กันบ้างรึเปล่า? ในเมื่อไม่อาจห้ามปรามได้ ก็ต้องใช้วิธีเดียวกันเพื่อตอบโต้นี่แหละ แต่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ควรทำเท่าไหร่นัก กรณีของหญิงรายหนึ่งจากเมืองซูโจว ประเทศจีน ได้สรรหาวิธีสุดแสนจะหัวหมอ เพื่อที่จะให้ตัวเองสามารถจอดในที่ห้ามจอดได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าปรับ นั่นก็คือ ทำใบสั่งปลอมแปะใส่รถตัวเอง!? เพราะเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ จะตรวจสอบรายละเอียดเพียงแค่วันที่ของใบสั่งเท่านั้น ซึ่งถ้าหากว่าแม่นางถูกจับได้ว่าเป็นใบสั่งปลอม เธอก็จะอ้างว่าเธอไม่รู้ เธอถูกแกล้ง… ช่างแยบยลเสียจริงๆ แต่แล้วจอมยุทธ์ก็ต้องมีพลั้งพลาด เมื่อมีผู้พบเห็นว่าเธอปลอมแปลงใบสั่งติดบนรถตัวเอง จนในที่สุดแล้วก็ถูกจับได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ซุ่มอยู่ในรถ เพราะเธอดันไปจอดหน้ารถตำรวจนั่นเอง! ภาพจากกล้องหน้ารถเป็นหลักฐานมัดตัวเธอได้อย่างดี เผยให้เห็นว่าพอเธอจอดเสร็จ ก็จะลงมาแปะใบสั่งปลอมบนกระจกรถ ก่อนที่จะเดินออกไปทำธุระ ปล่อยให้รถจอดในที่ห้ามจอดอยู่อย่างนั้น… สุดท้ายแล้ว แม้จะถูกจับได้คาหนังคาเขา เธอก็ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยที่ไม่รู้ว่ามีหลักฐานจากกล้องหน้ารถของตำรวจอยู่ แล้วก็ได้ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการและ ‘ใบสั่งของจริง’ ไปตามระเบียบ ที่มา : miaopai, odditycentral, nextshark
-
โอละแม่… ชาวเน็ตสงสัย ใบหน้าป้ายหาเสียงของนักการเมืองหญิง ทำไมถึงผิดเพี้ยนเพียงนี้
เป็นธรรมดาของวงการโฆษณา เพื่อให้ได้ภาพที่สามารถดึงดูดผู้คนได้มากที่สุด ก็ต้องผ่านกรรมวิธีปรุงแต่งกันเสียก่อน นั่นจึงเกิดเป็นคำที่ว่า “ภาพนี้ตกแต่งเพื่อการโฆษณา” และสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นกับวงการเมืองเช่นเดียวกัน อย่างนาง Wang Zhiya ผู้สมัครชิงตำแหน่งการเมืองท้องถิ่นในเมืองไทเป ไต้หวัน ได้ทำการโพสต์ภาพของตนยืนคู่กับป้ายหาเสียง แต่… ไหงดูไม่เหมือนกันเลยล่ะ อันเนื่องมาจากชาวเน็ตที่ได้เห็นภาพที่เธอถ่ายคู่กับป้ายตัวเองนั้น ดูแปลกตาไปอย่างมากเมื่อเทียบกับตัวจริงที่ยืนอยู่ข้างกัน ถึงกับแสดงความคิดเห็นเชิงสงสัยว่า “นี่เธอออกมาช่วยหลานสาวเล่นการเมืองรึเปล่า” ในขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนก็ได้ทำการค้นคว้าเพิ่มเติม และพบว่านาง Wang นั้นเคยเล่นมิวสิควิดีโอเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งถ้าเทียบกับปัจจุบันนี้เธอก็เปลี่ยนไปมากแล้ว อย่างไรก็ตามนาง Wang ไม่ได้นิ่งนอนใจ อ่านและตอบกลับความคิดเห็นที่เข้ามาเล่นตลกกับภาพของเธอ พร้อมกับเผยเพิ่มเติมว่า “โลกแห่งความจริงมันโหดร้าย การแต่งภาพนี่แหละที่ทำให้สวยงาม” นอกจากนี้ก็สัญญาว่าจะทำการแต่งภาพให้ดูใกล้เคียงมากกว่านี้ และจะเริ่มออกกำลังกายเพิ่มให้เข้ารูปและมีรูปร่างที่ดีอย่างที่ตัวเองหวังเอาไว้ ที่มา : nextshark
-
นายแบบน้อยวัย 4 ขวบ มาอย่างมืออาชีพ แม้จะโดนดักล้มอยู่กลางเวที ต้องฉีกยิ้มแล้วเดินต่อ!!
ความเป็นมืออาชีพนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่น้อยคนนักจะมีอยู่ เนื่องจากจะต้องมีประสบการณ์และความชำนาญการทางด้านอาชีพของตนสูง เพื่อพร้อมจะรับทุกปัญหาและทุกสถานการณ์ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี ในวงการนางแบบนายแบบก็เช่นเดียวกัน หากเกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างการเดินแบบกลางเวที ที่มักจะเกิดเหตุบ่อยๆ อย่างเช่น เดินหกล้มหรือเดินสะดุด ทำให้สูญเสียความมั่นใจกลางเวที วิธีที่ดีที่สุดก็คือยืนหยัดเดินต่อจนจบคิวของตน… นายแบบตัวน้อย Zhang Yaoyang วัย 4 ขวบ ซึ่งจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็เกิดขึ้นกับหนูน้อยนายแบบ Zhang Yaoyang วัย 4 ขวบคนนี้ ในระหว่างงานเดินแฟชั่นโชว์ของเด็กในเมืองเซี่ยงไฮ้ และเหตุการณ์นี้ก็ถูกบันทึกไว้ได้และกลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์จีนอย่างรวดเร็ว ในช่วงที่น้อง Zhang จะต้องเดินออกไปกลางเวทีตามทางที่กำหนดไว้ กลับมีเพื่อนายแบบน้อยอีก 2 คนที่กุมมือกันแน่นไม่ยอมปล่อยมาขวางทางเข้าให้ เพราะถูกกำชับมาไว้แบบนั้นว่าห้ามปล่อยมือกันเด็ดขาด . . ด้วยความซื่อของน้องๆ ก็เดินชนกันเข้าอย่างจัง ฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมปล่อยมือกัน ส่วนอีกฝ่ายก็ดึงดันจะเดินข้ามไปให้ได้ ท้ายที่สุดแล้ว ก็ลงไปนอนเทกระจาดกันกลางเวทีเลยทีเดียว . แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ใช่เสียงร้องไห้ แต่เป็นรอยยิ้มอันสดใสของเด็กๆ ที่พร้อมจะเดินแบบต่ออย่างมืออาชีพ แม้จะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่น้องก็ไม่แสดงให้เห็นออกมาเลย… …
-
เด็กชายวัย 12 ปี กับความสามารถในการ ‘แฮ็กขั้นเทพ’ จนรัฐบาลเนเธอร์แลนด์อยากได้ไปทำงาน!!
ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับเด็กชายวัย 12 ปี ที่ไม่ธรรมดา เพราะเขาคือ ‘แฮ็กเกอร์’ รุ่นจิ๋ว ที่สามารถรู้รหัสในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของคุณได้อย่างง่ายดาย!! Reuben Paul เรียนอยู่ชั้นเกรด 6 (หรือเทียบเท่ากับ ป.6 ของบ้านเรา) ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ขอบอกไว้เลยความสามารถของเขาไม่ได้แค่แฮ็กเล่นแบบเด็กๆ ธรรมดาเท่านั้น แต่สามารถแฮ็กข้อมูลยูสเซอร์เนม และพาสเวิร์ด Twitter ของนักข่าว CBS ที่ไปสัมภาษณ์ได้เลยทีเดียว Paul มีชื่อในวงการอีกชื่อว่า “Cyber Ninja” เขาถูกเชิญไปพูดตามงานต่างๆ ทั่วโลก ทั้งสิงคโปร์, เนเธอร์แลนด์ และที่เท็กซัส “มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะต้องสร้างระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ขึ้นมาใหม่ เพราะมันชัดเจนมากๆ ว่าสิ่งที่เราทำมาตลอดนั้นมันไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย” นี่คือสิ่งที่ Paul พูดในงานประชุมเทคโนโลยีที่ไปร่วมล่าสุดในเท็กซัส เขาบอกว่า บลูทูธ และการเชื่อมต่อไวไฟ ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้มันง่ายต่อการแฮ็กเป็นอย่างมาก “ผมจะไม่ยอมต่อไวไฟสาธารณะที่ผมไม่รู้จักอย่างแน่นอน เพราะอาจมีบางคนแฮ็กเข้าไปและวางยาพิษเอาไว้” เขากล่าวในการสัมภาษณ์กับนักข่าว CBS “ขนาดเด็ก 12 ขวบอย่างผมยังทำได้…
-
แอร์โฮสเตสสาวตัดสินใจลาออก เพื่อเดินตามความฝัน ผันตัวมาเป็น “ดาวโป๊เว็บแคม”
การทำตามความฝันอาจจะเป็นอีกหนึ่งในภารกิจของชีวิตที่หลายๆ คนได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ อาจจะเป็นเรื่องความชอบส่วนตัว หรือการอยากออกไปลองทำอะไรใหม่ๆ เพิ่มรสชาติให้กับชีวิต อีกหนึ่งเรื่องราวการทำตามความฝันเรื่องนี้ อาจจะจุดประกายให้คุณกล้าที่จะออกไปลองทำตามความคิดของคุณก็ได้นะ ใครจะไปรู้ อิอิ… Laura Birbeck อายุ 27 ปี คือผู้หญิงทั่วไปที่มีชีวิตธรรมดาๆ เหมือนกับทุกคน อาชีพของเธอคือ แอร์โฮสเตสแห่งสายการบินบริติชแอร์เวย์ แต่ทว่าการเป็นแอร์โฮสเตสของเธอมันช่างน่าเบื่อเหลือเกิน เธอทำงานให้กับสายการบินแห่งนี้เป็นระยะเวลา 2 ปี ทั้งบินใกล้ บินไกล ทำมาหมดแล้ว งานของเธอค่อนข้างจะเหนื่อย เพราะต้องเดินทางและคอยบริการผู้โดยสารเกือบทุกวัน เธอจึงเริ่มหาความสุขให้กับชีวิตของเธอเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน หลังจากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย Laura ก็มักจะท่องโลกอินเตอร์เน็ตด้วยแล็ปท็อปเครื่องโปรดของเธอ พกพามันไปทุกที่ไม่ว่าจะที่ไหนของโลก และสิ่งที่เธอทำนั่นก็คือการโชว์ความเซ็กซี่ในเว็บแคม งานอดิเรกยามว่างของเธองานนี้ กลับทำให้เธอคิดว่า เธอน่าจะหันมาเอาดีทางนี้มากกว่า เพราะเธอมีความสุขกับมัน ฉะนั้นเธอจึงตัดสินใจเดินเครื่องเต็มที่ หันมาอุทิศเวลาให้กับมัน เปลี่ยนจากงานอดิเรกให้เป็นงานหลักไปซะเลย เธอตัดสินใจลาออกจากการเป็นแอร์โฮสเตสเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นดาวโป๊เว็บแคมอย่างเต็มตัวด้วยการร่วมงานกับ Studio 66 TV การไลฟ์สดที่ผู้ชมสามารถโทรหาพูดคุยกับสาวๆ รายได้ก็จะมาจากยอดวิวและการจ่ายเงินแบบโทเค็น เรื่องการเปลี่ยนอาชีพจากแอร์โฮสเตสมาเป็นดาวโป๊…
-
อดีตศาสตราจารย์อ้าง “ผมวิวัฒนาการไปได้อีกขั้น” หลังจากทานผลไม้อย่างเดียว 8 ปี
เมื่อเดือนกันยายน 2009 Mizuki Nakano อดีตศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยโตเกียว ได้ตัดสินใจทำการทดลองอันน่าสนใจ ด้วยการทานแต่ผลไม้ทุกๆ วัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยไม่ทานอย่างอื่นเลย แม้แต่น้ำเปล่า เพราะเขาต้องการพิสูจน์ความเชื่อที่ว่าการทานแต่ผลไม้จะมีผลเสียต่อร่างกาย เพราะน้ำตาลที่สูง และการขาดสารอาหาร Nakano บอกว่าความเชื่อพวกนี้ไม่ได้มีหลักฐานพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างไร ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะทานแต่ผลไม้ เป็นเวลาแรมปี จนรายการ Matsuko’s Unknown World ซึ่งเป็นรายการวาไรตี้โชว์ของญี่ปุ่นได้นำเรื่องของเขาไปออกรายการในปี 2015 จนเรื่องของเขากลายเป็นกระแสระดับชาติไป หลังจากวันนั้น เรื่องราวของ Nakano ก็เงียบหายไป จนทำให้คนจำนวนมากเชื่อว่าเขาอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากอาการขาดสารอาหาร ไม่ก็น้ำตาลในเลือดสูง แต่ในวันที่ 17 เมษายน 2018 ที่ผ่านมานั่นเอง Nakano ก็กลับมาอีกครั้งในรายการ Matsuko’s Unknown World นอกจากเรื่องที่ว่าเขายังไม่ตายแล้ว Nakano ยังดูสบายดี แม้ว่า Matsuko ผู้ดำเนินรายการจะบอกว่าเขาดูมีความหงุดหงิด และอาจจะมีอาการตับเสียหายก็ตาม เขายังกล่าวอีกด้วยว่าจากการที่เขาทานแต่ผลไม้ต่อเนื่องมากว่า 8 ปี นั้น ทำให้เขาไปถึง “ก้าวต่อไปในวิวัฒนาการของมวลมนุษย์” อีกด้วย เขาอ้างว่าได้ให้นักวิจัยคนหนึ่งตรวจสอบร่างกายของเขาและพบว่า…
-
วันพักผ่อนของครอบครัวหมดไปกับการช่วย ‘หมาจรจัด’ แต่มันคุ้มค่าจนไม่อาจลืม
เมื่อ 2 ปีก่อน Laurie Webster และครอบครัวจากรัฐอิลลินอย ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังอยู่ระหว่างการพักผ่อนในวันหยุดบนชายหาดในเมือง Cancun ประเทศเม็กซิโก ในคืนแรกของการไปเที่ยวไป ขณะที่ครอบครัวออกจากรีสอร์ตเพื่อไปทานมื้อค่ำ แต่แล้วก็มีบางอย่างสะดุดตาเข้า และมันทำให้รู้สึกแย่มากๆ สิ่งนั้นคือ สุนัขผู้น่าสงสารกำลังยืนอยู่ทางเท้าเพียงลำพัง เห็นได้ชัดว่ามันกำลังอยู่ในสภาพที่ทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก Webster บอกว่า “มันขดตัวเป็นวงกลม มีขนบางจุดขาดหายไป มันนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น ขณะที่ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาโดยไม่สนใจมันเลย” นั่นคือโมเมนต์ที่ลำดับความสำคัญของการมาเที่ยวพักผ่อนของครอบครัวเปลี่ยนไป… “ลูกสาวของฉันมองมาที่ฉันแล้วพูดว่าเราต้องทำบางอย่างแล้วล่ะแม่” Webster กล่าว ปกติแล้วครอบครัว Webster ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสัตว์และอุปถัมภ์สัตว์ตกทุกข์ได้ยากมากมายในสหรัฐอเมริกา แต่ในกรณีที่อยู่ต่างประเทศแบบนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าต้องขอความช่วยเหลือจากใคร แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกเขาหยุดพยายาม… ลูกสาวของ Webster ได้พาสุนัขตัวนั้นไปยังศูนย์พักพิงที่อยู่ใกล้ๆ และด้วยความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ในนั้น พวกเขาเริ่มโทรหาหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง Webster บอกว่า “เราพยายามโทรหาหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่วันนั้นเป็นกลางดึกของคืนวันอาทิตย์ และศูนย์ช่วยเหลือก็อยู่ไกลมาก” “เมื่อเป็นเช่นนั้น เราเลยโทรหาสัตวแพทย์ โชคดีที่มีคลินิกแห่งหนึ่งเปิด 24 ชั่วโมง เราจึงนั่งแท็กซี่พาเจ้าหมาไปยังที่นั่นทันที” ที่นั่นเป็นสำนักงานสัตวแพทย์ที่ดำเนินการโดยคุณหมอ Antonio…
-
เกาะเล็กๆ กลางทะเลญี่ปุ่น ถูกพบแร่ธาตุหายาก 16 ล้านตัน ใช้ไปได้ถึง 700 ปี!?
เกาะมินามิโทริ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากชายฝั่งญี่ปุ่นไปประมาณ 1,000 กิโลเมตร จะไม่ใช่เพียงแค่เกาะที่ถูกมองข้ามอีกต่อไป… ทีมนักสำรวจและนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลญี่ปุ่น ค้นพบแร่ธาตุสำคัญอยู่ในดินโคลนใต้ท้องทะเลรอบๆ เกาะดังกล่าว แร่ดังกล่าวนั้นสามารถใช้เป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ของยุคนี้ ทั้งเลนส์กล้อง หน้าจอโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์เรดาร์ อาวุธ ตัวนำไฟฟ้า หรือกระทั่งดาวเทียม และที่สำคัญคือปริมาณมหาศาลถึง 16 ล้านตัน!! ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ต้องใช่แร่ธาตุหายากเป็นส่วนประกอบ แร่ธาตุเหล่านั้นหลักๆ ประกอบไปด้วย.. – Yttrium ที่ปริมาณใช้ได้ 780 ปี – Europium ปริมาณใช้ได้ 620 ปี – Terbium ปริมาณใช้ได้ 420 ปี และ – Dysprosium ปริมาณใช้ได้ 730 ปี หรือในอีกความหมายหนึ่งที่สื่อต่างชาติให้คำนิยามไว้ก็คือ “แหล่งแร่มหาศาลที่สามารถป้อนให้โลกใบนี้ได้ตลอดไป” แร่ธาตุ Yttrium …
-
มารู้จักกับ Stratolaunch เครื่องบินที่ ‘ใหญ่ที่สุดในโลก’ พร้อมเตรียมบินกลางปีนี้!!
คงไม่มีใครไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็นเครื่องบินกันมาก่อน ส่วนหนึ่งเพราะขนาดที่ใหญ่โตมโหฬารจนไม่แปลกที่เราจะสามารถมองเห็นมันได้ง่ายๆ เวลาที่บินผ่านหัวเราไป แต่ถ้าใครคิดว่าเครื่องบินที่เห็นปกติมันใหญ่มากแล้วล่ะก็ เราขอให้ลองมาดูเครื่องบินลำนี้เสียก่อน นี่คือเครื่องบินที่ชื่อว่า Stratolaunch เป็นเครื่องบินที่ได้รับสมญานามว่า “ใหญ่ที่สุดในโลก” ด้วยขนาดช่วงปีกที่กว้างถึง 117 เมตร ทำเอา Airbus A380 ที่สามารถจุคนได้ 800 คนนั้นดูเล็กลงไปทันตาเห็น Stratolaunch เครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ช่วงปีกกว้าง 117 เมตร เครื่องบิน Airbus A380 มีช่วงปีกกว้าง 79.75 เมตร เจ้าเครื่องบินลำนี้เป็นผลงานสร้างของ Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Microsoft โดยสร้างมันขึ้นมาเพื่อไว้ใช้สำหรับการขนส่งจรวดหรือจานดาวเทียม ขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศด้านบนของโลก การสร้างเครื่องบินลำดังกล่าวเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2011 โดยพวกเขาตั้งงบไว้มากกว่า 9,000 ล้านบาท แต่เมื่อสร้างเสร็จถึงได้รู้ว่างบที่ใช้มันสูงมากกว่านั้นเยอะ ตัวเครื่องบินประกอบด้วย 28 ล้อ 2 ห้องคนขับ และเครื่องยนต์อีก 6 ตัว…
-
นายกสหราชอาณาจักร ประกาศแบนหลอดพลาสติก คอตตอนบัด และอื่นๆ อีกเพียบ
ถ้าคุณคือคนที่รักในการใช้คอตตอนบัด รักในการดูดน้ำจากหลอดพลาสติกและที่สำคัญคุณกำลังอาศัยหรือมีแผนไปอยู่อังกฤษ คุณคงต้องเตรียมรับมือกับการใช้ชีวิตใหม่ที่ไม่มีสิ่งของดังกล่าว เพราะอังกฤษเตรียมแบนของใช้ดังกล่าวแล้ว!? เพราะล่าสุด ‘เทเรซา เมย์‘ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรได้ออกมาประกาศว่า เธอจะให้ประชากรในประเทศหันไปสนใจและดูแลโลกให้มากขึ้น ด้วยการแบนของใช้ที่ทำจากพลาสติกอย่างหลอด คอตตอนบัดและที่คนแก้วน้ำ ซึ่งเธอให้เหตุผลว่าเธอจะพยายามให้ประชาชนลดการใช้สินค้าที่ไม่เป็นมิตรต่อโลกให้มากที่สุด ซึ่งนอกจากของที่กล่าวมาแล้ว เธอยังคาดว่าจะจัดการของใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเช่นแก้วน้ำหรือขวดน้ำเป็นต้น นอกจากนี้ เธอยังบอกว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลต่อภาคธุรกิจน้อยกว่าการขึ้นภาษีเสียอีก และเธอก็แนะนำให้คนเริ่มหันไปผลิตของใช้ทดแทนที่ทำจากไม้หรือวัสดุย่อยสลายง่ายต่างๆ แทน ของใช้พลาสติกจำพวกใช้แล้วทิ้งถือเป็นเป้าหมายหลักในการแบนครั้งนี้ . เทเรซายังให้เหตุผลอีกว่าในหนึ่งปีนั้น พลาสติกถือเป็นวัสดุอันดับต้นๆ ที่ถูกทิ้งลงทะเลโดยมีสถิติรวมอยู่ที่ 12 ล้านตันเลยทีเดียว ฉะนั้นเพื่อรักษาโลกและระบบนิเวศทางทะเล เธอจึงต้องเริ่มการเปลี่ยนแปลงนี้ อย่างไรก็ตาม การแบนสินค้าพลาสติกดังกล่าวนั้นไม่ได้เริ่มทันที เพราะเธอบอกว่าเธอเข้าใจและอยากจะให้เวลาประชาชนได้ปรับตัวและหาทางเลือกอื่นก่อน ซึ่งการแบนนี้จะส่งผลจริงในปี 2019 และจะยังมีผลแค่ในประเทศอังกฤษเท่านั้น แต่เธอก็หวังว่าการแบนนี้จะส่งผลดีและขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในสหราชอาณาจักรเช่น เวลส์และสกอตแลนด์เป็นต้น ที่มา ladbible, dailymail
-
ลุงญี่ปุ่นสุดจะทน ท้าเพื่อนร่วมงาน “ดวลวิชามีด” หลังถกเถียงตอนทำงานเก็บขยะ ห๊ะ!?
การดวลนั้นเป็นการต่อสู้ที่เปี่ยมไปด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรีซึ่งอยู่คู่กับประวัติศาสตร์ซามูไรของชาวอาทิตย์อุทัยมาอย่างช้านาน อย่างไรก็ตามวัฒนธรรมของการต่อสู้ตัวต่อตัวที่เดิมพันด้วยชีวิตนั้น ได้เลือนหายไปกับกาลเวลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการให้ความสำคัญกับชีวิตที่มากขึ้น และข้อบังคับทางกฎหมายเพื่อสันติสุขของผู้คนนั่นเอง เรื่องในครั้งนี้เกิดขึ้นในเช้าวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานเก็บขยะสองคนออกไปทำงานในพื้นที่อำเภอโทโยโนะจังหวัดโอซากะ โดยที่คนหนึ่งเป็นชายวัยราวๆ 50 ปี และผู้ขับอีกคนเป็นพนักงานที่มีตำแหน่งสูงกว่าในวัย 46 (ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องการขับรถเร็วกว่ากำหนด เมื่อได้เป็นคนขับรถขนขยะ) ชายวัยราวๆ 50 ปีที่นั่งอยู่ข้างคนขับจึงตัดสินใจที่จะเตือนเพื่อนร่วมงานของตนเองว่าให้ลดความเร็วลง และเส้นทางที่เขากำลังใช้นั้น ไม่ใช่เส้นทางเดียวกับที่ควรจะเป็น แต่คนขับกลับไม่ยอมฟัง จนในที่สุดจากคำเตือนก็บานปลายไปสู่การถกเถียงรุนแรง ในที่สุดคนขับรถก็ทนไม่ไหวและขอลางานในวันนั้น ปล่อยให้ชายที่อายุมากกว่าต้องทำงานบนถนนเส้นนั้นเพียงลำพัง แต่แทนที่จะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ชายวัย 46 กลับเดินทางไปยังร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อมีดสองเล่ม และกลับมายืนรอเพื่อนร่วมงานอยู่ที่บริเวณที่จอดรถของสำนักงาน เมื่อเพื่อนร่วมงานผู้อายุมากกว่ากลับมาถึง ชายวัย 46 ก็โยนถุงที่มีมีดสองเล่มลงบนพื้น และบอกให้เพื่อนร่วมงานลงมาจากรถ และเลือกมีดที่ชอบมาหนึ่งเล่ม โชคดีที่ดูเหมือนเพื่อนร่วมงานของเขาจะใจเย็นว่า และเลือกที่จะติดต่อตำรวจแทนที่จะเริ่มการดวลมีดที่ว่า ชายวัย 46 โดนจับในข้อหาเกี่ยวกับอาวุธในเวลาต่อมา และในการสอบปากคำเขาก็ให้การว่า เขารู้สึกว่าเพื่อนร่วมงานของเขากำลังดูถูกประสบการณ์การทำงานของเขาอยู่ และเมื่อไม่สามารถพูดให้เข้าใจได้ เขาจึงตัดสินใจว่าทางเดียวที่พวกเขาจะจบการโต้เถียงที่ว่าได้ คือการประลองมีดนั่นเอง นอกจากการลงโทษทางกฎหมายที่เขาต้องได้รับแล้ว ดูเหมือนว่าชายหนึ่งผู้ก่อเหตุจะต้องถูกพักงานไปอีกเป็นเวลา 6 เดือนจากทางบริษัทของเขาด้วย ที่มา soranews24, nhk, sankei
-
เพื่อนแกล้งจนเกือบตาย… โดนผลักล้มลงถนน หัวห่างจากล้อรถบัสไปแค่ไม่กี่เซน!!
การล้อเล่นกับเพื่อนหรือแกล้งกันขำๆ เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ผลที่ตามมาในบางครั้งอาจจะเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่าที่คิด เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 12 เมษายน 2018 เมื่อกล้องวงจรปิดของเมือง Czechowice-Dziedzice ประเทศโปแลนด์ เผยให้เห็นภาพของวัยรุ่นสาว 2 คนกำลังเดินกันอยู่บนทางเท้า โดยที่มีรถบัสขับมาอยู่ใกล้ๆ มันคงจะไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายอะไรถ้าพวกเธอเดินไปตามปกติ แต่จู่ๆ หญิงสาวคนขวามือก็กลับเกิดความคิดที่จะแกล้งเพื่อนเล่นขำๆ เธอจึงผลักเพื่อนของเธอไปทางถนนที่มีรถบัสขับมาข้างๆ การแกล้งเล่นทั่วๆ ไปเกือบจะกลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรม เพราะหญิงสาวที่ถูกผลักกระเด็นล้มลงไปตรงพื้นถนน ทำให้ศีรษะของเธอห่างจากล้อรถบัสเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร คือถ้าโดนทับก็คงไม่ต้องถามว่าจะเป็นอย่างไร เพื่อนแกล้งกันขำๆ แต่เกือบขำไม่ออกแล้ว เพื่อนสาวที่เกือบจะกลายเป็นฆาตกรก็ถึงกับแสดงอาการตกใจเป็นอย่างมาก เพราะดูแล้วเธอคงไม่ตั้งใจที่จะทำให้เพื่อนของเธอต้องเฉียดตายขนาดนี้ เธอจึงรีบประคองเพื่อนขึ้นมาและกอดปลอบขวัญกันและกัน รถบัสที่ขับผ่านไปถึงกับจอดด้วยความตกใจ ส่วนคนที่ขับรถยนต์ผ่านมาและเห็นเหตุการณ์ก็รีบลงมาดูอาการของหญิงสาวว่าเธอเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า ก่อนจะเรียกรถพยาบาลมาเป็นการด่วน คนขับรถผ่านมาจอดดูอาการของหญิงสาวที่ล้มลงไป สุดท้ายวัยรุ่นสาวเฉียดตายก็ได้รับการรักษาแผลเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดจากการล้มลงกับพื้นเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสใดๆ ส่วนเพื่อนที่แกล้งเธอก็ถูกเจ้าหน้าที่ปรับเงินเป็นจำนวนราวๆ 2,640 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจเมืองดังกล่าว Dziennik Zachodni ก็รู้สึกว่าโทษปรับเงินนั้นไม่เพียงพอกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาตั้งใจที่จะแจ้งข้อหาว่านี่คือการทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงชีวิต และถ้าเป็นอย่างนั้น เพื่อนที่เป็นคนผลักจะต้องได้รับโทษติดคุกนานเป็นปีเลยทีเดียว …
-
กรณีซ้ำซ้อน!? ผู้จัดการฟิตเนสเรียกตำรวจจับชายผิวสีที่ใช้พาสชั่วคราวจนตนโดนไล่ออกเอง
การเหยียดสีผิวยังคงมีอยู่ในสังคมมนุษย์เราในปัจจุบัน ถึงแม้จะมีการเปิดกว้างเปิดแนวคิดใหม่ๆ แล้วก็ตาม สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นปัญหาที่ฝังรากลึก และไม่อาจทำให้หายไปได้เสียที… อย่างในกรณีล่าสุดก็คือ พนักงานสตาร์บักส์แจ้งตำรวจจับ 2 ชายผิวสีในร้าน เหตุเพราะขอเข้าห้องน้ำ แต่ไม่สั่งกาแฟ และตามมาด้วยผู้จัดการฟิตเนสแห่งหนึ่ง แจ้งตำรวจมาจับชายผิวสีที่ทำทีเข้ามาหาเพื่อนด้วยพาสชั่วคราว… เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2018 มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของผู้จัดการฟิตเนสของบริษัท L.A. Fitness ในเมือง Secaucus รัฐนิวเจอร์ซีย์ ทำการโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มารวบตัวชายผิวสีสองราย โดยให้เหตุผลว่าทั้งสองไม่ได้เป็นสมาชิกของฟิตเนสอย่างถูกต้อง ทั้งๆ ที่หนึ่งในนั้นคือ สมาชิกที่ใช้บริการมานานต่อเนื่องถึง 8 ปี และอีกคนหนึ่งก็ใช้พาสเข้าใช้งานฟิตเนส 4 วัน ตามกฎระเบียบของฟิตเนส เพื่อนผู้เป็นสมาชิกฟิตเนสมา 8 ปี (ซ้าย) และนาย Tshyrad Oates (ขวา) นาย Tshyrad Oates คือผู้ที่ถูกกล่าวหาจากผู้จัดการฟิตเนส เผยให้เห็นว่าพาส 4 วันที่เขาใช้งานนั้นถูกต้องตามกฎ เพื่อที่จะเข้ามาออกกำลังกายพร้อมกับเพื่อนผู้ที่เป็นสมาชิกของฟิตเนสแห่งนี้มาอย่างยาวนาน…
-
‘ก็น้องดูเหมือนอายุ 13 แล้ว’ ข้ออ้างของชายวัย 40 หลังถูกจับกุม เล่นจ้ำจี้เด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์
รสนิยมความชื่นชอบเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น เรื่องของความชอบ ‘เด็ก’ ก็ยังคงมีอยู่ในสังคม แต่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงต่อเยาวชน กฎหมายคุ้มครองเด็กจึงต้องมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก ทั้งนี้กฎหมายในแต่ละประเทศจะกำหนดช่วงอายุที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม หากผู้ถูกกระทำยังคงเป็นเด็ก ก็ถือว่ามีความผิดโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น เว็บไซต์ Yahoo ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดเผยเรื่องราวคดีฉาวของชายวัย 46 ปี ชาวเมืองนาโงย่า จังหวัดไอชิ หลังถูกจับกุมตัวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวน ก็พบว่าภายในโทรศัพท์ของเขานั้นมีภาพโป๊ของเด็กหญิงอยู่จำนวนหนึ่ง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นภาพของเด็กหญิงวัย 12 ปี กำลังเรียนในระดับชั้นประถม 6 ซึ่งเขานั้นได้พบกับเด็กคนดังกล่าวผ่านบริการอัปโหลดวิดีโอในโลกออนไลน์ โดยในช่วงเดือนมกราคม เขาได้เดินทางไปยังจังหวัดเอฮิเมะ เพื่อไปหาเด็กหญิงและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอภายในโรงแรม… นายว่า… น้องอายุ 13 แล้วงั้นรึ!? เจ้าตัวยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่สำหรับตัวเขาเองนั้นไม่รู้เลยว่าเธอยังเป็นเด็กอยู่ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเธอมีอายุเท่าไหร่ และให้การกับนักสืบไว้ว่า “ผมมีเพศสัมพันธ์กับเธอ และคิดว่าเธอน่าจะอายุ 13 แล้ว” สำหรับในประเทศญี่ปุ่น อายุที่ยอมให้ร่วมประเวณีได้ก็คือ 13 ปี ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประมวลกฎหมายอาญาของแต่ละจังหวัดด้วย อย่างเช่นห้ามมีเพศสัมพันธ์หรือกระทำลามก…
-
อภินิหารคนคุกพิชิตแมว…ฝึกเหมียวให้ลักลอบนำโทรศัพท์มาใช้ในคุก อะไรจะเก่งปานนั้น!?
ระบบการรักษาความปลอดภัยภายในคุกนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว เนื่องจากทุกอย่างที่ดูผิดปกวิสัย อาจจะก่อให้เกิดเหตุร้ายแรงตามมาได้ หนึ่งในปัญหาของคุกระดับสากลโลกก็คือ การลักลอบนำโทรศัพท์มาใช้ภายในคุก แต่ก็คงไม่มีประเทศไหนเหมือนคอสตาริกา เพราะล่าสุดต้องเจอกับกรณีใช้ ‘แมว’ เป็นตัวกลางในการลักลอบขนส่งโทรศัพท์เข้ามาในคุก! เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 17 เมษายน 2018 กระทรวงยุติธรรมประเทศคอสตาริกา ได้เผยแพร่วิดีโดคลิปของการดักจับแมว ในระหว่างที่มันกำลังจะแอบเข้าไปในคุก La Reforma ในจังหวัดอาลาคูเอลา โดยเจ้าแมวตัวนี้ มีห่อลักษณะแปลกๆ ถูกติดเทปไว้บริเวณหน้าท้องและคล้องไว้ที่คอของมัน ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่แกะหีบห่อออกจากเจ้าเหมียวได้ เปิดดูข้างในห่อก็พบว่าเป็น โทรศัพท์มือถือ พร้อมที่ชาร์จแบตฯ แบตฯ สำรอง และหูฟัง… ทางด้านกระทรวงยุติธรรมไม่ได้เปิดเผยว่าเจ้าแมวตัวนี้ ถูกจับได้ที่บริเวณไหน ที่เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นห่อแปลกๆ ได้อย่างไร แต่กล่าวไว้ว่ามันคือ ‘แมวที่ถูกฝึกมา’ เป็นตัวที่สอง หลังจากที่จับตัวแรกไปได้ก่อนหน้านี้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนก็เคยมีการใช้นกพิราบ บินมาส่งโคเคน 14 กรัม และกัญชา 14 กรัม ให้กับนักโทษภายในคุก และเจ้าหน้าที่ก็สามารถทำการจับกุมนกพิราบตัวนั้นได้เสียก่อน……
-
เผยเบื้องหลัง ‘ธุรกิจขายบริการผิดกฎหมาย’ ที่เปิดโดยอดีตตำรวจ และคุณอาจไม่เคยรู้!!
ธุรกิจการ ‘ขายบริการทางเพศ’ ถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีเรื่องราวเบื้องหลังมากมายที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และด้วยความที่เป็นธุรกิจสีเทา ทำให้ไม่ค่อยมีการเปิดเผยเรื่องราวภายในแบบละเอียดของธุรกิจค้าบริการทางเพศเท่าไหร่ แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวเบื้องหลังธุรกิจขายบริการทางเพศในประเทศอังกฤษ ที่มีเจ้าของเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากคำบอกเล่าของสาวขายบริการที่ทำงานอยู่ในนั้น Louise จบการศึกษาระดับอนุปริญญาด้านชีววิทยาทางทะเล แต่ชีวิตของเธอกลับพลิกผันกลายมาเป็นสาวขายบริการ และเธอจะมาเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอผ่านทางสารคดีสั้นๆ ของช่อง BBC สถานขายบริการดังกล่าวถูกเปิดอยู่ในแฟลตสไตล์วิคตอเรีย ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ในห้องจะมีห้องนอนสองห้องไว้เปิดบริการ สถานบริการเหล่านี้มีการวางระบบเอาไว้อย่างดีเยี่ยม ทั้งการต้อนรับและระบบการจองเพื่อลดความเขินอายที่จะมาใช้บริการ แม้ธุรกิจการขายบริการทางเพศจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในประเทศอังกฤษ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าห้ามเปิดเลย เพราะทางการมักทำเป็นมองข้ามซ่องเหล่านี้ไป ตราบเท่าที่หญิงที่มาค้าบริการไม่ได้ถูกบังคับ และมีการดูแลรักษาความปลอดภัยที่ดี ซึ่งนาย Karl วัย 45 ปีเจ้าของสถานขายบริการดังกล่าวก็มั่นใจว่าเขาทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมาและได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด เอาล่ะเรามาเข้าเรื่องของฝั่งสาวผู้ขายบริการกันบ้าง Louise เล่าว่าที่เธอเลือกทำอาชีพเป็นสาวขายบริการก็เพราะว่าเธออยากทำ “มีคนมากมายที่คิดว่าผู้หญิงขายตัวจะเป็นคนที่อยากหาเงินไปซื้อยาเสพติด หรือไม่ก็ถูกข่มขู่ ลักพาตัวมา ฉันมีความสุขกับงานแบบนี้มาก และฉันจะไม่ทำมันเด็ดขาดถ้าฉันไม่อยากทำ” ในแต่ละวัน Louise จะรับแขกประมาณ 8-9 ครั้ง ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุด ซึ่งในช่วงแรกนั้นเธอจะต้องเดินทางไปให้บริการแขกตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือโรงแรม และมันทำให้เธอรู้สึกกังวลถึงความปลอดภัยของตัวเอง “มันอาจจะไม่ปลอดภัย…
-
ทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว คนแปลกหน้านับร้อยจึงมาร่วมไว้อาลัย
หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่สองจบลง จนถึงปัจจุบันก็ผ่านล่วงเลยมานานกว่า 73 ปีแล้ว ทำให้ผู้คนที่มีชีวิตอยู่ในช่วงนั้นเหลือน้อยลงเต็มที โดยเฉพาะเหล่าทหารหาญที่เข้าร่วมรบในสงคราม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วต้องเสียชีวิตจากการต่อสู้เพื่อประเทศของตนเอง และส่วนที่รอดมาได้ หากพวกเขายังมีชีวิตอยู่ ก็คงมีอายุเลยหลัก 85-90 ปีกันหมดแล้วล่ะ อย่างเช่น คุณปู่ Leonard John King วัย 94 ปี อดีตกองกำลังหน่วย Royal Air Force (RAF) ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจและความกล้าหาญเพื่อช่วยปลดปล่อยยุโรปจากพลังอำนาจของฝ่ายอักษะ แต่เมื่อไม่นานมานี้คุณตา Leonard ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 94 ปี อย่างโดดเดี่ยวในหมู่บ้าน Southend-on-Sea เมือง Essex ประเทศอังกฤษ เขาไม่มีญาติ หรือคนรู้จักหลงเหลืออยู่เลย งานศพของเขาถูกจัดขึ้นที่สุสาน Southend Crematorium เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา โดยที่ไม่มีผู้ร่วมงานแม้แต่คนเดียว จะมีก็แต่ผู้ทำพิธีกรรมเท่านั้น เมื่อเห็นดังนั้นแล้วองค์กร SSAFA องค์กรการกุศลที่ให้การช่วยเหลือกับทหารผ่านศึก ก็ได้ประกาศให้ทุกคนทราบผ่านทวิตเตอร์ว่าวันนี้เป็นวันจัดพิธีศพให้กับคุณตา “ทหารผ่านศึกที่เคยอยู่ในหน่วย RAF เสียชีวิตในวัย 94 ปี เขาไม่มีทั้งเพื่อนสนิทและครอบครัว…
-
ผลงานทีมครีเอทีฟไทย สร้างความร้อนแรงให้โฆษณา ‘ไก่ KFC’ จนฝรั่งแห่ชื่นชม!!
ลองคิดดูสิว่าถ้าหากคุณเป็นครีเอทีฟที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบโฆษณา แล้วได้รับมอบหมายงานให้คิดโฆษณาเจ๋งๆ เกี่ยวกับ ‘ไก่ทอด’ คุณจะทำอย่างไร? แน่นอนว่าหากเป็นคนส่วนใหญ่ก็จะคิดหาวิธีที่จะมุ่งเน้นไปที่ความอร่อย ความกรอบที่เป็นเอกลักษณ์ของไก่ทอด ให้คนมากัดให้เห็นๆ กันไปเลยว่าไก่ทอดนั้นมันกรอบแค่ไหน เป็นต้น แต่สำหรับครีเอทีฟโฆษณาจากทีม Illusion CGI Bangkok ที่สร้างสรรค์ผลงานโฆษณาชิ้นเยี่ยม เปลี่ยนไก่ทอดเคเอฟซีแบบเผ็ดร้อน ให้กลายเป็นควันระเบิดอันร้อนแรง ที่ใครเห็นแล้วเป็นต้องอยากกัดเข้าไปสักคำเพื่อสัมผัสกับรสชาติอันร้อนแรงนั้น Illusion CGI Bangkok เป็นบริษัทครีเอทีฟสัญชาติไทยที่มีคุณ สุรชัย พุฒิกุลาง เป็นผู้ก่อตั้ง และได้รับมอบหมายให้สร้างผลงานโฆษณาใหม่ของเคเอฟซีขึ้นมา โดยที่ไม่ให้มันเหมือนเดิม แต่เป็นอะไรที่แตกต่าง ทีมงานได้ร่วมงานกับ John Koay ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ จาก Ogilvy & Mather ที่อยู่เบื้องหลังงานโฆษณาเจ๋งๆ ของเคเอฟซีมาแล้วมากมาย John เล่าว่า “พวกเรานั่งที่โต๊ะ แล้วก็กิน KFC พร้อมกับคิดว่าเราจะโชว์ความเผ็ดร้อนของผลิตภัณฑ์โดยที่ไม่จำเจซ้ำซากแบบเดิม อย่างคนกินไก่ทอดแล้วเผ็ดน้ำตาไหล หรือกินเสร็จแล้วต้องแลบลิ้นออกมา จากนั้นเราก็มองไปที่ผลิตภัณฑ์ แล้วก็สังเกตเห็นว่าไก่ทอดมันมีลักษณะเหมือนกับอะไรสักอย่าง…” จากนั้นก็เริ่มนำความคิด และไอเดียนั้นมาทำให้เป็นความจริง ทำตามสิ่งที่ John ได้พูดเอาไว้ ทีมงาน Illusion CGI…
-
อีกหนึ่งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ‘สี จิ้นผิง’ เตรียมเดินทางไปเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก!?
หลังผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน สร้างปรากฎการแปลกใหม่มากมายทั้งการออกเดินทางไปยังจีน ซึ่งเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก รวมถึงการพูดคุยกับผู้นำเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เรื่องเซอร์ไพรส์ยังไม่หมดเท่านั้น ล่าสุดทาง CNN รายงานว่าพวกเขาได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวไม่เผยนามแห่งหนึ่งว่า สีจิ้นผิง ผู้นำจีนเตรียมเดินทางไปยังกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือเพื่อพบคิมจองอึนบ้าง หลังผู้นำเกาหลีเหนือยอมออกจากประเทศเป็นครั้งแรก แผนการเดินทางดังกล่าวนั้นลือว่าจะอยู่ในช่วงพฤษภาคมถึงช่วงต้นเดือนมิถุนายน ส่วนทั้งสองจะไปเจอกันและพูดคุยเรื่องอะไรนั้นยังไม่มีสื่อใดรายงานออกมา แต่นี้ก็ถือเป็นการเดินทางไปเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกของสีจิ้นผิงเช่นกัน ซึ่งสื่อหลายสำนักก็พากันสงสัยว่าทิศทางความเป็นไปของเกาหลีจะมุ่งไปในทิศทางใด เพราะอยู่ดีๆ ผู้นำเกาหลีเหนือก็ออกพบปะชาติต่างๆ อย่างต่อเนื่องและมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นทั้งการพบกันของเกาหลีเหนือและใต้ และการพบกันของผู้นำสหรัฐอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้น การพบปะกันของชาติมหาอำนาจทั้งสองอย่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ก็ดูจะเป็นไปได้ด้วยดี หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความว่า ไมก์ ปอมเปโอ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ ได้เดินทางไปนำร่องก่อนและผลลัพธ์ก็ออกมาน่าพอใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างนั้นยังไม่มีการคาดเดาที่แน่นอน เราคงต้องทำได้แต่ลุ้นว่าในช่วงสองเดือนที่จะถึงนี้ ทิศทางที่เกาหลีเหนือกำลังจะเดินไปจะมีผลลัพธ์ที่ออกมาดีนั่นเอง ที่มา CNN, shanghaiist
-
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ Netflix กำลังโตแซงค่ายหนังใหญ่อย่าง Warner หรือ Sony แล้ว!?
ในปัจจุบันนั้นเราไม่สามารถปฎิเสธได้เลยว่า Netflix นั้นกำลังเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เป็นเพียงผู้ให้บริการระบบสตรีมมิ่ง จนตอนนี้โตขนาดที่สามารถสร้างหนังและซีรีส์ของตัวเองขึ้นมาได้ ยิ่งล่าสุดทาง The Hollywood Reporter ได้รายงานว่าในปีที่ผ่านมาทาง Netflix นั้นมีอัตราการเติบโตที่ไวมากๆ จนไม่จำเป็นจะต้องหลบอยู่ในเงาของค่ายใหญ่ต่างๆ อย่าง Warner Bros, 21st Century Fox, Sony อีกต่อไป เพราะว่ามูลค่าทางการตลาดของบริษัทดังกล่าวนั้นเติบโตขึ้จากปีที่แล้ว 1.02 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (3.1 ล้านล้านบาท) เป็น 1.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.5 ล้านล้านบาท) ซึ่งเทียบกับบริษัทสื่ออื่นๆ ที่มีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านี่น ด้วยจำนวนมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ Netflix ก็เหลือเพียงแค่ Disney และ Comcast เท่านั้นที่มูลค่าทางการตลาดมากกว่า แต่ถึงจะบอกว่าเหลือถึง 2 ค่าย ที่ต้องไล่ตามแต่มูลค่าก็ไม่ได้ห่างกันมากเลย เพราะอีกแค่ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 24 พันล้านบาท…
-
สายพลิ้ว!! ‘มหาโจร’ แหกคุกหลบหนี ‘ตำรวจกว่า 6,600 นาย’ หายไปราวกับสายลม
หากนักโทษหลายๆ คนที่ถูกจับกุมและคุมขังอยู่ในคุกไม่ต้องการที่จะรอเวลาให้พ้นโทษอย่างปกติ สิ่งที่พวกเขาจะทำก็คงเป็นการ “แหกคุก” นั่นเอง และโดยปกติในภาพยนตร์หรือการ์ตูนที่เกี่ยวกับการแหกคุก เรามักเห็นฉากและวิธีการแหกคุกรวมถึงวิธีหลบหนีแบบล้ำๆ น่าตื่นเต้น เกินจริงจนหลายๆ คนคิดว่ามันสามารถเกิดขึ้นจริงได้เหรอนี่ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการหลบหนีแบบอลังการนั้นมีอยู่จริงๆ เพราะว่า “โคตรหัวขโมย” ชาวญี่ปุ่นได้หลบหนีออกมาจากคุกและหายตัวไปอย่างง่ายดาย ราวกับเขาไม่เคยมีตัวตนอยู่มาก่อนเลย โดยสุดยอดหัวขโมยคนนั้นคือ Tatsuma Hirao ผู้ที่ถูกตัดสินให้จำคุกห้าปีครึ่งในเรือนจำที่มีความปลอดภัยต่ำในเมืองอิมาบาริ จังหวัดเอฮิเมะ ซึ่งไม่นานมานี้ได้มารายงานว่าตั้งแต่เขาแหกคุกออกมาเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2018 ก็ได้ก่อเหตุลักทรัพย์อย่างหลายครั้ง มีรายงานว่าในช่วงที่จอมโจรผู้เชี่ยวชาญวัย 27 ปีคนนี้แหกคุกออกมา เขาสามารถเล็ดลอดผ่านสายตาของยามที่เข้ากะอยู่ ณ ลานต่อเรือของคุกได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแน่นอนว่าทางเรือนจำไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่นอน เขาได้ส่งตำรวจจำนวนประมาณ 6,600 คนออกมาตามล่าหา Hirao เพื่อหยุดย้ั้งการทำอาชญากรรมเพื่อความสนุกของเขา แต่ตำรวจทั้งหลายก็ต้องพบเจอกับความยากลำบากในการค้นหาเป็นอย่างมาก เนื่องจากภูมิประเทศของเป็นเนินสูงชัน ทำให้ยากต่อการให้เฮลิคอปเตอร์ค้นหา รวมถึงยังมีบ้านที่ไม่มีคนอยู่อีกกว่า 1,000 หลังที่ต้องทำการขออนุญาตเจ้าของก่อนถึงจะเข้าไปสำรวจได้ พื้นที่กว่า 22 ตารางกิโลเมตรมีประชากรอาศัยอยู่ 22,000 คน ซึ่งมีรายงานว่าชาวบ้านต้องเผชิญกับความหวาดกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ Hirao…
-
ประธานาธิบดียูกันดาออกมาเตือนเรื่องการออรัลเซ็กส์ ด้วยเหตุผลที่ว่า ปากเขามีไว้ใช้กิน!!
กลายเป็นปัญหาระดับชาติ เมื่อ Yoweri Museveni ประธานาธิบดียูกันดาได้ออกมาบอกประชาชนของเขาให้หยุดทำออรัลเซ็กส์ เพราะว่าปากของมนุษย์มีไว้ใช้กินอาหาร ไม่ใช่เพื่อใช้กระทำทางเพศ คำพูดดังกล่าวนั้นถูกกล่าวผ่านที่ประชุมว่า “พวกเรารู้ดีว่าเซ็กส์นั้นเขาทำกันที่ไหนอย่างไร แต่สำหรับปากนั้นไม่ใช่ ปากมีไว้กินอาหาร” ซึ่งนอกจากคำพูดดังกล่าวแล้ว ประธานาธิบดียูกันดายังบอกอีกว่าวิธีการดังกล่าวนั้นเป็นวิธีที่คนนอกพยายามจะเผยแพร่เข้ามาในประเทศของพวกเขา เขาบอกว่าคนนอกพยายามจะชักจูงวิธีที่ไม่ดีมาให้ชาวยูกันดา ซึ่งมันไม่ใช่วัฒนธรรมดั้งเดิมของที่นี้และเขาก็ไม่เห็นด้วยกับมัน ฉะนั้นเขาจึงเตือนประชาชนให้ควรรู้ว่าเซ็กส์ควรทำอย่างไร และปากควรใช้เพื่ออะไร อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องเซ็กส์และเพศในยูกันด้านั้นไม่ได้เพิ่งถูกพูดถึงเป็นครั้งแรก เพราะย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ทางยูกันดานั้นได้ร่วมลงนามในกฎหมายต่อต้านรักร่วมเพศด้วย ซึ่งนั่นจึงทำให้การเป็นเกย์หรือเพศทางเลือกอื่นๆ ในยูกันดาเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายทันที และถ้าพบว่ายังมีผู้ใดฝ่าฝืนก็จะถูกลงโทษสถานหนัก และแม้ว่าเมื่อไม่นานมานี้จะมีกระประท้วงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในสภา แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้นำคนนี้ได้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงก็จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ล่าสุด Yoweri Museveni ที่ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 1986 ได้เพิ่มลิมิตอายุการดำรงตำแหน่งของตน ทำให้เขาสามารถที่จะอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปได้อีกนานเลยทีเดียว… ที่มา ladbible, dailymail
-
จีนลดปัญหาพวกชอบข้ามถนนผิดกฎหมายด้วยเครื่องยิงสเปรย์ เกินเส้นเมื่อไหร่ โดน!!
ปัญหาการข้ามถนนไม่ดูสัญญานนั้น ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลากหลายประเทศโดยเฉพาะกับจีน แม้ว่ารัฐจะหาทางแก้ยังไง ประชาชนผู้ชอบแหกกฎก็ยังไม่วายที่จะหาทางข้ามถนนแบบไม่ดูรถเช่นเคย มาคราวนี้จีนได้นำเสนอไอเดียใหม่ เพื่อจัดการเหล่านักแหกกฎด้วยเครื่องสเปรย์น้ำใกล้ถนนพร้อมกับสัญญานไฟ ซึ่งเริ่มติดตั้งแล้วในเมืองหวงฉี มณฑลหูเป่ย์ ก่อนหน้านี้จีนได้ลองใช้หลายวิธีมากๆ ทั้งบังคับใส่หมวกสีเขียวเพื่อให้คนอาย ที่กั้นเหมือนสถานีรถไฟ แต่ทุกอย่างล้วนไม่เป็นผลในระยะยาว มาดูกันว่าที่กั้นนี้จะช่วยได้ไหม หลายคนคงสงสัยว่าแล้วเจ้าเครื่องสเปรย์น้ำดังกล่าวนั้น มันจะกันคนที่แหกกฎได้อย่างไรเพราะดูผ่านๆ แล้วมันก็คงไม่ใช่น้ำร้อนหรือน้ำพิเศษอะไรเป็นแค่น้ำธรรมดา ซึ่งถูกอยู่ที่ว่าน้ำจากเครื่องดังกล่าวนั้นเป็นน้ำธรรมดา แต่ความแรงของมันนั้นไม่ธรรมดาตามเลย เพราะแค่คุณก้าวข้ามไปเพียงนิดเดียวขาของเหล่านักแหกกฎก็จะเปียกและสร้างปัญหาตามมาทันที ใครโดนก็ต้องตกใจ และรู้ได้ทันทีว่ายังไม่ได้รับการอนุญาตให้ข้ามถนน ควรรอสัญญานไฟก่อน เราสามารถที่จะสังเกตไฟสัญญานได้ง่ายๆ โดยการมองแสงสีเขียวและแดงที่ฉายผ่านน้ำที่ฉีดออกมา แน่นอนว่ามีคนไม่เชื่อและได้ลองไปถ่ายคลิปเพื่อพิสูจน์ความเจ๋งของเจ้าเครื่องฉีดน้ำมาแล้ว ส่วนผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ได้ดีเยี่ยมสุดๆ แต่ก็เรียกว่าอยู่ในระดับน่าพอใจพอสมควรเลยทีเดียวล่ะ มีคนไปลองโดนมาแล้ว มีป้าท่านหนึ่งในคลิปไม่ยอมฟัง จะแหกกฎเลยโดนเข้าไปเต็มๆ !! ที่มา shanghaiist
-
บรูโน่เดือด! ปาผ้าใส่แฟนเพลง ที่ใช้โทรศัพท์ระหว่างคอนเสิร์ต แต่ดันคิดว่าเป็นที่ระลึก…
วัฒนธรรมการชมคอนเสิร์ตหรือตามการแสดงสดต่างๆ ในยุคปัจจุบัน ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร ตั้งแต่การมาของโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้ทุกคนเข้าถึงการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของตนเองให้ผู้อื่นได้รับรู้ เนื่องจากในตอนนี้ หากสังเกตดีๆ ผู้ชมส่วนใหญ่มักจะหยิบโทรศัพท์พร้อมเปิดกล้อง ยืนชูสูงๆ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศระหว่างการแสดง แทนที่จะซึมซับและสนุกไปกับการแสดงของศิลปินที่ตนเองชื่นชอบ… อย่างในประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีศิลปินระดับโลกเข้ามาทำการแสดงสดมากมาย แฟนคลับที่นี่ก็มีหลากหลายสไตล์ แต่ก็ไม่อาจหยุดความชอบของพวกเขาได้ โดยที่ล่าสุดนี้ Bruno Mars ก็ได้มาทำการแสดง ณ Saitama Super Arena ยิงยาวตั้งแต่วันที่ 11 ถึง 15 เมษายน ที่ผ่านมา และบัตรก็ขายหมดทุกรอบ เหตุการณ์ที่ชวนปวดหัวก็เกิดขึ้น เมื่อมีหนึ่งในแฟนคลับผู้โชคดีอยู่แถวหน้าเวที กำลังมีความสุขกับการได้อัดคลิประหว่างคอนเสิร์ต แต่แล้วจู่ๆ Bruno เห็นว่าเธอกำลังใช้โทรศัพท์อยู่ เขาจึงคว้าผ้าเช็ดหน้าปาใส่เธอแบบไม่ลังเล! อย่างไรก็ตาม แฟนคลับที่โดนเขาปาผ้าใส่นั้น ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เธอเป็นถึงนางแบบที่มีคนติดตามหลายพันคนบนโลกออนไลน์เสียด้วย แต่แทนที่เธอจะรู้สึกผิด กลับใจเต้นรัวๆ เพราะได้ ผ้าเช็ดหน้าจาก Bruno พร้อมกับแคปชั่นว่า “OMG!!!…
-
หมอแนะนำให้ ‘การุณยฆาต’ แมวจรป่วยหนัก แต่หญิงสาวเลือกรักษามัน และได้ผลที่คุ้มค่า
หลายครั้งที่สัตวแพทย์ต้องจำใจทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ นั่นคือ การการุณยฆาตสัตว์ที่อาการย่ำแย่ และไม่คุ้มค่ากับการรักษา เหมือนกับกรณีของ Jon Snow เจ้าเหมียวที่ถูกพบตอนที่กำลังใกล้ตาย… สัตวแพทย์แนะนำให้ปล่อยมันไป เพราะมันป่วยหนักมาก คุณหมอบอกว่ามันเป็นโรคช่องท้องอักเสบและโรคหวัดแมวจากเชื้อเฮอร์ปีส์ นอกจากนี้ หมอคิดว่ามันน่าจะเป็นโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบด้วย ซึ่งเป็นอันตรายจนถึงตายได้ แต่แล้วหญิงสาวที่ชื่อ Rachel Brown ก็มาเจอกับแมวตัวนี้ เธอไม่อยากให้มันถูกการุณยฆาต และตัดสินใจที่จะรักษามัน เมื่อหญิงสาวยืนยันจะทำเช่นนั้น คุณหมอก็ได้ทำการรักษาเจ้าเหมียวสุดชีวิตเช่นกัน ตั้งแต่วันนั้น อาการเจ้าเหมียวก็ค่อยๆ ดีขึ้น จนกระทั่ง 5 วันผ่านไป ผลการทดสอบออกมาเป็นปกติ ทำเอาทุกคนทึ่งมาก … Jon Snow อยู่ระหว่างพักฟื้น และมันจะกลับบ้านไปพร้อมกับ Rachel ปัจจุบัน Rachel และ Jon Snow กลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน พวกเขาชอบกอดกันและชอบถ่ายรูปด้วยกันเป็นประจำ Rachel ได้สร้างเพจเฟซบุ๊กสำหรับเจ้าเหมียวโดยเฉพาะ และมีแฟนๆ มากมายเข้ามาติดตาม นอกจากนี้ หญิงสาวยังใช้เพจนี้ในการช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หญิงสาวได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวของ Jon…
-
ความจริงสุดพีคของ 15 คนดังระดับโลก รู้แล้วอาจมองพวกเขาเปลี่ยนไปเลยก็ได้…
คนดัง เซเลบ หรือว่าดาราฮอลลีวูดนั้นก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกับพวกเรา เพียงแต่ว่าพวกเขาได้รับความสนใจและความชื่นชอบจากผู้คนจำนวนมหาศาลทั่วทั้งโลกเท่านั้นเอง ดังนั้น มันก็ต้องมีบ้างที่เหล่าคนดังเหล่านี้ มีเรื่องราวแปลกๆ พีคๆ ที่อาจทำให้เราต้องตกใจ วันนี้เราลองไปดูกันดีกว่าว่า คนดังแต่ละคนมีเรื่องพีคๆ อะไรให้เรารับรู้กันบ้าง… 1. Angelina Jolie Angelina Jolie ได้มีเซ็กส์แบบรุนแรงหรือ ซาดิสม์และมาโซคิสม์ แบบล้ำเกินไป เธอใช้ “มีด” เป็นส่วนประกอบในการมีเซ็กส์เพราะถึงอารมณ์มากที่สุด เธอบอกว่า “แค่เซ็กส์และอารมณ์มันไม่พอ มันต้องถึงเนื้อถึงตัว ฉันเลยหยิบมีดมากรีดแฟนของฉัน และเขาก็กรีดฉันคือ เราทั้งคู่จมในกองเลือดมันทำให้หัวใจฉันเต้นระรัว และเมื่อใดก็ตามที่ฉันติดอยู่กับปัญญหา ฉันมักจะกรีดตัวเองมันทำให้ฉันมีแผลเป็นเต็มไปหมด” 2. Christopher Walken ก่อนที่ Christopher Walken จะมาเป็นนักแสดง เขาเคยเป็นคนฝึกสิงโตมาก่อน เขาเคยอยู่ในคณะละครสัตว์และแสดงร่วมกับสิงโตเพศเมียที่ชื่อว่า Sheba 3. Katy Perry เพลง I Kissed a Girl ของ Katy Perry นั้นมีแรงบันดาลใจมาจากสาว Scarlett…
-
แฟนหนุ่มใจดีชวนไปดู Infinity War ซื้อตั๋วให้เสร็จสรรพ พร้อมกฎเหล็ก 6 ข้อละเอียดยิบ!!
การจะได้ไปดูภาพยนตร์ที่เฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนานในวันแรก เป็นความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว ไหนจะต้องคอยหลบสปอยล์เล็กๆ น้อยๆ การคาดเดาต่างๆ นานาจากนักวิจารณ์ทั้งหลายอีก เพราะด้วยความต้องการที่จะซึมซับเนื้อหาด้วยตัวเอง นอกจากจะต้องหลบสปอยล์เนื้อหาจากโลกออนไลน์แล้ว ระหว่างการชมภาพยนตร์ก็ไม่อยากจะให้เสียบรรยากาศจากผู้ชมท่านอื่นด้วยนี่แหละ! เรื่องราวเล็กๆ จากพ่อหนุ่ม Stanley T ที่เผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์เอาไว้ เกี่ยวกับแฟนคลับตัวยงของ The Avengers ที่ชวนแฟนตัวเองไปชมภาคล่าสุด Infinity War ที่กำลังจะเข้าฉาย แค่เธอตอบว่า ‘ไปจ้า’ แทนที่จะจบ กลับกลายเป็นร่ายกฎอีกยาวเหยียด แถมจริงจังเสียด้วย แทนที่จะขอร้องให้ไปดูด้วยกันเฉยๆ แบบเงียบๆ แฟนหนุ่มก็ตีกรอบกฎเหล็กให้อย่างกับเป็นคุณพ่อกำลังบอกลูกสาวที่จะไปออกเดตครั้งแรกกันเลยทีเดียว ฮร่าาา ลองมาดูกันสิว่า พ่อหนุ่มแฟนเดนตายคนนี้ตีกรอบแฟนสาวผู้น่าสงสารไว้อย่างไรบ้าง… ข้อหนึ่ง จะซื้อทุกอย่างให้ตามต้องการก่อนเข้าดูหนัง ขนมหวาน ป็อบคอร์น เครื่องดื่ม แม้แต่ฮอทดอกก็ซื้อให้ได้ แต่จะขออะไรเพิ่มหลังจากเข้าดูหนังไม่ได้ ข้อสอง ไม่พูดระหว่างดูหนัง ผมไม่อยากถูกดึงความสนใจ มีคำถามงั้นเหรอ? จดเอาไว้ก่อน เดี๋ยวจะตอบให้หลังหนังจบ ข้อสาม ไม่กุมมือกันระหว่างดูหนัง มันจะดึงความสนใจผมไป…
-
หนุ่มถูกลงโทษจำคุก 3 เดือน จากการข่มเหงเพื่อนร่วมชั้น ทั้งทางวาจาและร่างกายตลอด 9 ปี
ทุกวันนี้การกลั่นแกล้ง การรังแกข่มเหงผู้อื่น ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกประเทศ และไม่มีทีท่าว่าจะหายไปจากสังคมเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะในยุคที่มีสังคมออนไลน์เติบโตเป็นดอกเห็ด ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว การสร้างบัญชีปลอมขึ้นมากลั่นแกล้งใครสักคนจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย และป้องกันได้ยาก… กรณีของนาย Jiang Qi วัย 25 ปี ได้ทำการกลั่นแกล้งนางสาว Wang Jingjing ผู้เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาตั้งแต่ปี 2009 ในขณะที่เรียนอยู่ในช่วงชั้นมัธยมปลาย เธอได้รับความทุกข์ทรมานทั้งจากคำพูดวาจาเหยียดหยาม และการกระทำล่วงเกินทางร่างกายด้วย นอกเหนือจากนั้น การกลั่นแกล้งถูกแพร่กระจายสู่โลกออนไลน์ ปล่อยข่าวลือในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเธอ โดยอ้างว่า Wang นั้นทำงานเป็นหญิงบริการ มีเงินใช้จ่ายไม่ขาดมือ จนถึงขั้นมีนักเรียนคนอื่นเข้าไปตบหน้าเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากที่ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียน . Wang ถึงขั้นประสบกับโรคซึมเศร้าหลังจากกลายมาเป็นเหยื่อความรุนแรง มีรายงานว่าเธอพยายามคิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม อดีตอันแสนโหดร้ายก็ยังคงตามหลอกหลอนเธออยู่ แม้จะเรียนจบระดับมัธยมปลายเข้าสู่รั้ววิทยาลัยแล้ว เพราะเพื่อนชายคนนี้ก็ยังตามหาจนเจอ และโพสต์คำพูดเหยียดหยามทั้งในกระทู้ออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ Wang ตัดสินใจที่จะตอบโต้กลับบ้าง เธอเก็บภาพหลักฐานในสิ่งที่นาย Jiang ทำการโพสต์ลงไปทั้งหมด 14 ภาพในเว็บไซต์โซเชียล Zhihu…
-
คุณพ่อลูก 9 ฟ้องหย่าภรรยา หลังพบความจริงว่า ‘ตนเป็นหมัน’ แล้วนั่นมันลูกใคร!?
ความจริงอันแสนปวดร้าวนั้นเป็นสิ่งที่ยากจะทำใจยอมรับได้ หากสิ่งที่เคยเชื่อมาโดยตลอดกลับไม่เป็นไปตามที่คิด ก็คงจะต้องให้กาลเวลาช่วยบรรเทาความเจ็บปวดกันไป อย่างเรื่องของชายชาวโมรอคโค ที่จำใจต้องฟ้องภรรยาของตนเองเนื่องจากผิดประเวณี หลังผ่านการตรวจสุขภาพร่างกายของตัวเองมาเรียบร้อย และพบว่าตนนั้นเป็นหมัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นพ่อของลูกทั้ง 9 คนที่เขาเข้าใจว่าเป็นลูกมาโดยตลอด!? ชายคนดังกล่าวเป็นอาจารย์ ในเมืองสิดิ สลิมาเนะ ประเทศโมรอคโค พบกับความจริงที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อตรวจพบถุงเล็กๆ บนลูกอัณฑะด้านขวา ไม่ได้ส่งผลร้ายแรงถึงชีวิต แต่มันทำให้เขาเป็นหมันมาตั้งแต่ก่อนที่จะแต่งงานกับภรรยาคนดังกล่าวมา 35 ปี และควรจะเป็นพ่อของเด็กทั้ง 9 คน… สื่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Al-Massae รายงานว่าเขาไม่ได้ตั้งใจฟ้องภรรยาในทันทีที่พบความจริงครั้งแรก เขาทำการตรวจร่างกายหลายครั้ง จนมั่นใจว่าเขาไม่อาจมีลูกได้มานานกว่า 50 ปีแล้ว และเมื่อความจริงปรากฎขึ้น เขาได้ทำการติดต่อทนายเพื่อฟ้องภรรยาฐานผิดประเวณี ต้องการหย่าและปฏิเสธการเป็นพ่อของเด็กทั้ง 9 คน ทางด้านศาลได้รับพิจารณาเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว มีหลักฐานการฟ้องทางด้านวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจน ทั้งการขาดสเปิร์มที่สมบูรณ์ รายงานระบบทางเดินปัสสาวะ และการวิเคราะห์ทางชีววิทยาที่แสดงให้เห็นว่าถุงเล็กๆ บนอัณฑะด้านขวานั้นคือสาเหตุที่ทำให้เป็นหมันจริง และบทลงโทษของการผิดประเวณีในโมรอคโคนั้น ฝ่ายภรรยาก็จะต้องได้รับโทษจำคุกกันไปตามระเบียบ และเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องเลี้ยงดูเด็กทั้ง 9 คนที่เกิดมาด้วย… ที่มา: elfarodeceuta,…
-
10 ข้อเท็จจริงของนักวิ่งขวัญใจคนใหม่ Yuki Kawauchi ผู้ชนะงานวิ่ง Boston Marathon
Boston Marathon เป็นรายการวิ่งมาราธอนที่ประสบความสำเร็จรายการแรกของโลก และมีชื่อเสียงโด่งดังอันดับต้นๆ ที่จัดขึ้นในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา แต่ในวันที่ 16 เมษายน 2018 ที่ผ่านมานี้กับ Boston Marathon ประจำปี 2018 ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญกันมาก เพราะผู้ชนะในปีนี้เป็นชาวเอเชียและชาวญี่ปุ่นคนแรกในรอบ 31 ปีที่ได้รางวัลนี้มาครอง ซึ่งเมื่อครั้งก่อนที่ชาวเอเชียได้รางวัลครั้งล่าสุดก็เป็นคนญี่ปุ่นเช่นกันด้วย Yuki Yamauchi นักวิ่งน่องเหล็กจากญี่ปุ่นและเขายังมีฉายาประจำตัวว่า “Citizen Runner” หรือนักวิ่งพลเมืองเพราะว่าเขาไม่ใช่นักวิ่งมืออาชีพและยังทำงานฟูลไทม์เป็นมนุษย์เงินเดือนเสียด้วย ฮั่นแน่! เริ่มสนใจข้อประวัติของเขากันแล้วใช่มั้ย วันนี้ #เหมียวโคบี้ ก็ได้นำเรื่องราวเจ๋งๆ ของเขามาให้อ่านกันด้วยล่ะ ไปรับชมกันครับ 1. อย่างที่รู้กันว่ายูกิไม่ได้เป็นนักวิ่งอาชีพ เขาทำงานเป็นข้าราชการในเวลา 13.00 – 21.00 น. เป็นเวลา 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งเวลาเขาซ้อมก็หาเวลาว่างจากการทำงานประจำนี่แหละ 2. นอกจากชัยชนะในวันนี้แล้ว Yuki ยังครองสถิติโลกอื่นๆ ด้วย เช่นวิ่งมาราธอนด้วยเวลาต่ำกว่า 2…
-
วิจารณ์กันสนั่น!! วงไอดอลสาวญี่ปุ่นทำการแฟนเซอร์วิสโดยการจูบปากกับแฟนคลับ!?
กระแสที่โด่งดังในช่วงนี้ คงไม่พูดถึงวงเกิร์ลกรุ๊ป ไอดอลสุดคาวาอี้อย่าง BNK48 เห็นทีคงไม่ได้ เรียกได้เมื่อ BNK48 ได้มาทำการเปิดตัวในประเทศไทยได้สักพัก ก็ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้กับคนทั้งประเทศ หลังจากที่ไอดอลกรุ๊ปไม่เคยประสบความสำเร็จเลยมาก่อน และถ้าพูดถึงไอดอล ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงประเทศต้นกำเนิดอย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในขณะนี้มีการแข่งขันของวงไอดอลในตลาดสูงมากๆ ทำให้หลายๆ วงต้องงัดกลยุทธ์เด็ดออกมามัดใจแฟนๆ ให้ได้มากที่สุดบางวงก็มีการให้จับมือกับไอดอลได้ หรือบางวงก็มีของพิเศษให้เป็นต้น แต่วงที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้เองพวกเธอมีทีเด็ดมากกว่านั้น เพราะว่าพวกเธอมีการทำแฟนเซอร์วิสโดยการให้แฟนคลับมาจูบกับไอดอล!! ใช่ครับเพื่อนๆ อ่านไม่ผิด จูบปากไอดอลจริงๆ เพียงแต่จะมีแผ่นอะคริลิคใสแสนบางกั้นอยู่ระหว่างบุคคลทั้งสอง วงไอดอลวงนี้คือวง The Banana Monkeys เกิร์ลกรุ๊ปที่มีสมาชิกน่ารักน่าหยอกจำนวน 4 คน ซึ่งมีสมาชิกคนหนึ่งอายุน้อยกว่า 15 ปีเสียด้วย พวกเธอได้ทำการแฟนเซอร์วิสให้แฟนๆ ที่ผ่านไปมาในย่านที่พวกเธอมาแสดงสดโดยการที่จะให้แฟนคลับมาจูบกับพวกเธอได้ แต่มีข้อแม้คือต้องจูบกันผ่านแผ่นอะคริลิคใสที่กั้นขวางอยู่ และเมื่อเหตุการณ์แฟนเซอร์วิสนี้ ถูกแชร์ออกมาในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตหลากหลายคนให้ความสนใจโดยที่ส่วนใหญ่จะให้ความเห็นในเชิงไม่เหมาะสมอย่างเช่น “มันมีกฏหมายคุ้มครองเยาวชนไม่ใช่หรอ ทำไมถึงได้ท้าทายกันนะ, นี่ดูเหมือนเป็นการล่วงเกินทางเพศ, ผู้จัดการวงทำอะไรกันอยู่? ทำไมถึงให้ทำแบบนี้กันได้?” แต่ก็มีคนที่เห็นชอบและออกมาปกป้องการทำแฟนเซอร์วิสแบบนี้เหมือนกันเช่น “แล้วมันเป็นปัญหาตรงไหนอ่ะ ดูหน้าสมาชิกแต่ละคนสิ มีแต่รอยยิ้มทั้งนั้น, ดูดีๆ มันมีแผน่อะคริลิคใสป้องกันจากการถูกตัวอยู่นะ” …
-
เพราะธรรมดาโลกไม่จดจำ ช่างภาพเปลี่ยนภาพถ่ายทั่วไปให้แฟนตาซีด้วยโฟโตชอป
การจะถ่ายภาพให้มันน่าจดจำนั้น นอกจากการเลือกมุมกล้อง การวางเฟรม และแสงแล้ว การตกแต่งภาพก็สำคัญ ซึ่งการตกแต่งภาพนั้นก็จำแนกออกไปอีกหลายแบบ ทั้งการแต่งให้มันดูเนียน ดูสมจริง หรือดูแฟนตาซีเซอร์เรียลไปเลย ผลงานภาพถ่ายต่อไปนี้เป็นของช่างภาพที่ชื่อว่า Katrina Yu เธอเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ แต่ภาพถ่ายแต่ละภาพของเธอนั้นต้องเล่าเรื่องได้ด้วย “ฉันชอบเล่าเรื่องราว บางครั้งความชอบนี้มันก็เข้ามาอยู่ในผลงานภาพถ่ายด้วย ฉันอยากจะโชว์ภาพก่อนและหลังตกแต่ง เพื่อพิสูจน์ว่ามันไม่ต้องใช้อะไรที่แฟนตาซีเพื่อสร้างภาพในจินตนาการของคุณเลย และท้ายที่สุดแล้วข้อจำกัดเดียวของเราคือจินตนาการของเราเอง” Katrina Yu เขียนเล่าเรื่องของเธอผ่านเว็บบอร์ด Boredpanda คำอธิฐานมากมายทำให้ดวงดาวโน้มต่ำลงมาหา ดวงจันทร์ไม่จำเป็นต้องเต็มดวงเพื่อให้พวกเรารักมัน การปรากฏกาย หิ่งห้อย เสียงดนตรียามค่ำคืน การค้นหา ตกหลุมรัก ฟ้าหลังฝนมักมีสายรุ้งเสมอ ฝนดาวตก นกหนังสือ สัญญาณความทุกข์ กลับบ้าน Saving Grace การประชดประชัน รักตัวเองคือการผจญภัย อย่ารบกวน…
-
ส่องชีวิต Bindi ลูกสาว Steve Irwin จากเด็กน้อยสู่นักอนุรักษ์สาว ผู้เดินตามรอยเท้าของพ่อ
ผ่านมาเกือบ 12 ปีแล้ว สำหรับการจากไปของชายผู้ได้ฉายาว่าเป็น “นักล่าจระเข้” อย่าง Steve Irwin แต่ถึงแม้ตัวของเขาจะจากไป แต่ก็ยังคงมีภรรยาและลูกๆ ที่น่ารัก คอยสืบทอดเจตนารมณ์และสิ่งต่างๆ ที่เขาสร้างเอาไว้ ก่อนหน้านี้หากใครยังจำกันได้ เราเคยได้หยิบเอาเรื่องของ Robert ลูกชายคนเล็กในตระกูล Irwin มานำเสนอ (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) คราวนี้เราจะมาอัปเดตชีวิตของลูกสาวอย่าง Bindi กันบ้าง . ปัจจุบัน Bindi มีอายุ 19 ย่างเข้า 20 แล้ว ซึ่งเธอก็เดินตามรอยพ่อไม่ต่างจากน้องชาย เธอแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ ความรักในธรรมชาติและสัตว์ป่า รวมไปถึงเสน่ห์แบบเดียวกับที่พ่อของเธอเคยแสดงให้คนทั้งโลกเห็น Steve เริ่มปูทางให้กับ Bindi ตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นทารกวัย 6 เดือน ในตอนนั้น Steve อุ้มเธอไว้ในแขนขณะถ่ายทำรายการแล้ววางเธอลงบนหลังของจระเข้พร้อมกับพูดว่า “คุณกำลังรับชมรายการ Animal Planet กับจระเข้และครอบครัวของเรา!” หลังจากนั้น Bindi ก็เริ่มเดินเข้าสู่วงการบันเทิงที่ละเล็กทีละน้อย ด้วยการแสดง การร้องเพลง หรือแม้แต่เข้าร่วมรายการเต้น Dancing With…
-
ปิดตำนาน 35 ปี ร้านเกมชื่อดังในญี่ปุ่น เพราะปัญหาสุขภาพ คนดังวงการเกมให้กำลังใจเพียบ
จากประสบการณ์ของ #เหมียวฟิ้น ที่เคยไปเดินในญี่ปุ่นมาบ้าง ทำให้เห็นว่าร้านขายเกมต่างๆ ในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างใหญ่และครบวงจรทีเดียว เนื่องมาจากการซื้อขายเกมแบบถูกลิขสิทธิ์บ้านเค้าค่อนข้างที่จะแข็งแรง ไม่เฉพาะแต่กับแผ่นเกม แม้แต่พวก CD เพลงที่ออกวางขายมาหลายปีแล้ว เราก็ยังสามารถหาซื้อกันได้ที่ญี่ปุ่น กลับมาที่เรื่องร้านขายเกมกันต่อครับ ล่าสุดเราไปเจอข่าวคราวการปิดตัวของร้านขายแผ่นเกมร้านนึงเข้า แต่สาเหตุไม่ได้มาจากการขาดทุนหรือยอดขายลดลง แต่เป็นเพราะเรื่องของสุขภาพคนขายเอง แต่สิ่งที่ทำให้ข่าวนี้น่าสนใจก็เพราะว่าในวันปิดร้าน มีเหล่าผู้บริหารค่ายเกมดังและคนแวดวงเกมมาร่วมให้กำลังใจกันอย่างล้นหลามทีเดียว เว็บไซต์ Kotaku ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา ร้านเกมชื่อดัง Games Maya ที่เปิดทำการมาอย่างยาวนานกว่า 35 ปี ได้ปิดตัวลง ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว ร้าน Games Maya ดูจะไม่ใช่ร้านที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่เนื่องจากเจ้าของร้านอย่างคุณ Hisako Akitani มีอัธยาศัยที่ดี ตั้งราคาขายที่เหมาะสม มีสินค้าให้เลือกมากมาย มันจึงกลายเป็นร้านที่ไม่ว่าใครก็แวะเวียนเข้าไปดูเสมอ ในกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นเองก็มีหลายคนที่เติบโตมาและเข้าไปทำงานในอุตสาหกรรมเกมจริงๆ ซึ่งหลายๆ คนถึงกับได้เป็นผู้บริหารระดับสูงเลยก็มี หลายครั้งที่คุณ Hisako มักจะถูกเชิญไปงานแถลงข่าวเปิดตัวเกมต่างๆ จนเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของคนวงการเกมมาอย่างยาวนาน แต่หลังจากเปิดทำการมา 35 ปี เธอก็ตัดสินใจที่จะปิดตัวกิจการนี้ลง เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพและคุณหมอแนะนำให้เธอหยุดทำงานเพื่อดูแลสุขภาพของตนเอง…
-
ยูทูบเบอร์ชาวสเปนต้องโทษจำคุก 2 ปี หลังเอายาสีฟันใส่ในโอรีโอ้ให้คนไร้บ้านกิน
หลายครั้งหลายหนที่เราได้เห็นภาพของเหล่ายูทูบเบอร์ หรือกลุ่มคนที่สร้างสรรค์คลิปวิดีโอ ออกมาในแนวห่ามๆ หน่อย บางครั้งก็เกินขอบเขตของศีลธรรมจนต้องมีการออกมาประณามกันผ่านโลกออนไลน์ และแทบจะน้อยครั้งมากที่เราได้เห็นกลุ่มคนเหล่านั้นถูกลงโทษอย่างจริงๆ จังๆ แต่จากข่าวนี้อาจจะกลายเป็นตัวอย่างให้เหล่าผู้คนที่สร้างสรรค์คลิปได้กลับมาทบทวนผลงานของตัวเองดีๆ ก่อนจะปล่อยออกไป เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวว่ายูทูบเบอร์ชาวสเปนถูกตัดสินจำคุก หลังเล่นแผลงบีบยาสีฟันลงในคุกกี้โอรีโอ้แล้วให้คนไร้บ้านกิน ยูทูบเบอร์ชาวสเปนรายนี้มีชื่อว่านาย Kanghua Ren วัย 20 ปี มีผู้ติดตามในยูทูบมากกว่าล้านคนบนยูทูบ ตามรายงานบอกว่าเขาได้เจอกับชายไร้บ้านวัย 52 ปีอยู่ข้างถนน และหยิบยื่นคุกกี้โอรีโอ้ที่สอดไส้ด้วยยาสีฟันให้กับเขากิน “บางทีผมอาจจะทำเกินไปหน่อยนะ แต่มองในแง่ดี นี่อาจจะช่วยให้เขาทำความสะอาดฟันของเขาก็ได้ ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้ทำความสะอาดมันตั้งแต่ที่เขาจนนั่นแหละ” ข้อความบางช่วงที่ Kanghua Ren กล่าวไว้ในวิดีโอ การกินยาสีฟันเข้าไปแบบนั้น นอกจากจะไม่ช่วยทำความสะอาดฟันเท่าไหร่แล้ว ยังอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้อีกด้วย ซึ่งหลังจากที่เขาได้โพสต์คลิปดังกล่าวออกไปแล้ว ก็เกิดกระแสด้านลบเข้ามาอย่างมากมาย ต่อมาเขาได้อัดคลิปวิดีโอตัวใหม่แล้วอัปโหลดลงในช่องของเขา มีเนื้อหาชี้แจงว่า “ผู้คนพูดถึงคลิปตลกที่ผมทำกับคนไร้บ้านได้เวอร์มาก ผมมั่นใจว่าถ้าผมทำกับคนปกติพวกเขาคงไม่ด่าแบบนั้น” พร้อมกันนี้ยังบอกด้วยว่ามันไม่ใช่การวางยาพิษ เพราะเขาได้ทดลองกับพี่ชายตัวเองมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มองแบบนั้น จึงได้ออกหมายเรียกเพื่อสืบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เขาถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมต่อความซื่อสัตย์สุจริต และยังต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 30,000 ยูโร (หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท) และโทษจำคุก 2 ปี นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่านาย Kanghua…
-
เรื่องเล่าจากชายแท้ ที่หันมาชอบ “ผู้ชาย” กลายเป็นเกย์อย่างสมบูรณ์ หลังจากกิน “ยาแก้ปวด”
คุณคิดว่าชายแท้ทั้งแท่ง จะสามารถเปลี่ยนใจเป็นชายที่ชอบเพศเดียวกันได้ด้วยสาเหตุอะไรบ้าง? ต่อให้คุณคิดคำตอบออกมามากมายขนาดไหน ก็คงไม่คิดว่า ชายหนุ่มจะสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นเกย์ได้เพียงเพราะ “ยาแก้ปวด” อย่างแน่นอน เพราะมันฟังดูไม่น่าเชื่อสุดๆ แต่มีชายคนหนึ่งนามว่า Scott Purdy วัย 23 ปี ได้ออกมาเล่าว่าตัวเขาเอง จากคนที่ชอบผู้หญิงกลับกลายมาเป็นชอบผู้ชายด้วยกัน หลังจาก กินยาแก้ปวดยี่ห้อหนึ่ง เข้าไปหลังตนได้รับบาดเจ็บจากการขับรถโกคาร์ท Scott Purdy วัย 23 ปี Scott เล่าว่าหลังจากที่ข้อเท้าเขาหักเขาก็กินยาแก้ปวดชนิด Lyrica เข้าไปเพื่อลดอาการบาดเจ็บ แต่หลังจากนั้นเขารู้สึกว่าฤทธิ์ของยาได้ทำมากกว่าการลดความบาดเจ็บ แต่มันทำให้เขา สูญเสียความหลงใหลในเพศหญิง และกลับไปบอกเลิกแฟนสาวที่คบกันมาหกเดือนทันที Scott กล่าวว่า “ผมสังเกตเห็นว่าผมไม่มีอารมณ์ทางเพศกับผู้หญิง แต่ผมกลับต้องการความสนใจจากเพศชายแทน ก่อนหน้านี้ ผมคบกับแฟนมาหกเดือน และผมก็ไม่เคยสนใจจะคบหากับเพศชายมาก่อนเลย” ขณะเดียวกัน มีคำอธิบายออกมาว่ายา Lyrica นั้นเป็นยาที่มักใช้รักษาอาการลมชักซึ่งจะไปลดความเจ็บปวดที่โยงถึงสมอง และจะช่วยลดความวิตกกังวล ซึ่งแน่นอนว่ายามีผลข้างเคียงอยู่หลายอย่าง การสูญเสียอารมณ์ทางเพศ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ทั้งนี้ Scott ก็ไม่ได้เป็นกังวลเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศที่เปลี่ยนไปของตนเอง แต่กลับออกมาเตือนให้หลายๆ คนมีความระมัดระวังในการใช้ยามากขึ้น “ผมคิดว่าผู้คนควรรู้เรื่องนี้ หากใครจะต้องรับยาอะไรก็ตามในอนาคต…
-
สุนัขถูก ‘ล่ามโซ่’ ไว้หลังบ้าน คู่รักเลยเข้าช่วยเหลือ พร้อมเติมเต็มความสุขให้
เป็นเวลาหลายปีที่คู่รักต้องเจ็บปวดกับการเฝ้ามองเพื่อนบ้านทำร้ายสุนัขโกลเด้นตัวเอง มันถูกล่ามโซ่ไว้ข้างนอกทุกวัน ถ้ามันเห่า เจ้าของจะใช้สก็อตเทปรอบปาก ทำให้มันเจ็บปวดและหายใจลำบาก สำหรับคู่รักคู่นี้ พวกเขาเป็นคนรักสุนัขและเลี้ยงสุนัขโกลเด้นไว้เหมือนกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม่พวกเขาถึงรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นเพื่อนบ้านทำร้ายสุนัข คู่รักตัดสินใจโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหมายังคงถูกล่ามโซ่ไว้ที่สนามหลังบ้าน และอยู่อย่างโดดเดี่ยวด้วยความหวาดกลัวเช่นเดิม จนกระทั่งไม่นานมานี้ เจ้าหมาเริ่มรู้สึกหมดหวังที่จะได้รับการช่วยเหลือ มันเอาแต่นอนบนคอนกรีตด้วยอาการเซื่องซึมและหดหู่ Animal Advocates Society องค์กรช่วยเหลือสัตว์บอกว่า “สุนัขตัวนี้อยู่ในสภาพที่แย่มาก เห็นได้ชัดว่ามันถูกทำร้าย มันไม่ไว้ใจใครเลย มันวิ่งไปวิ่งมาอย่างบ้าคลั่ง และมันกำลังจะถูกฆ่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า!!” เหตุการณ์นี้ดำเนินมาเป็นเวลาหลายปี จนคู่รักไม่อาจทนเห็นได้อีกต่อไป และเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหมาตัวนี้เลย คู่รักจึงตัดสินใจเข้าไปช่วยเหลือมันด้วยตัวเอง พวกเขาแอบกระโดดข้ามรั้วไป ปลดโซ่ให้เจ้าหมา และพากมันกลับบ้านด้วย ก่อนจะตั้งชื่อให้มันว่า Alfie แม้จะอายุยังน้อย แต่ Alfie ได้รับความทุกข์ทรมานในชีวิตอย่างมหาศาล ด้วยเหตุนี้เองทำให้มันไม่เชื่องเลยแม้แต่น้อย Animal Advocates Society บอกว่า “สภาพของ Alfie ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มันเลยอ่อนไหวง่าย ดังนั้นจึงต้องใช้เวลานานกว่าจะทำให้มันเชื่องเหมือนโกลเด้นทั่วไป” แต่โชคดีที่มันเจอเจ้าของใหม่ที่มีความอดทนและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อมัน พวกเขาทำให้แน่ใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจาก Alfie…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ “ลูกนกฮูก” ที่กำลังจะตาย และทำให้มันโผบินได้อีกครั้ง
สัตว์หลายตัวต้องเสียชีวิตอย่างทรมานและโดดเดี่ยว หากไม่ได้รับการช่วยเหลือทันเวลา ดังนั้นมันคงจะดีถ้าเราไม่มองข้างชีวิตน้อยๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ เหมือนอย่างเรื่องนี้ที่เกิดเมื่อสัปดาห์ผ่านมาในสวนสาธารณะใน Longmeadow รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ใครคนหนึ่งพาสุนัขเดินเล่น และเจอเข้ากับบางอย่างที่ทำให้รู้สึกเศร้าใจ มันคือลูกนกฮูกในสภาพเปียกปอนและหนาวสั่นอยู่บนพื้น เห็นได้ชัดว่ามันตกลงมาจากรัง และไม่สามารถบินกลับขึ้นไปได้ ที่สำคัญมันดูหมดหวังอย่างสิ้นเชิง แต่แล้วสิ่งที่เจ้านกฮูกน้อยไม่คาดหวังก็เกิดขึ้น เมื่อมีใจดียื่นมือเข้าไปช่วยเหลือมัน โดยคนที่เจอนกฮูกตัวนี้ได้ติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจใน Longmeadow Police Department เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ Peter MacElhiney จึงขับรถไปหานกฮูกน้อยทันที MacElhiney บอกว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ช่วยเหลือลูกนกฮูก ปกติ หลังจากช่วยเหลือนกเสร็จ เราแค่ต้องปล่อยมันกลับสู่ธรรมชาติ” “แต่สำหรับนกฮูกน้อยตัวนี้ มันอยู่ในสภาพเปียกปอน ตัวเย็น และอ่อนแอมาก ถ้าปล่อยไปตอนนี้มันอาจจะถูกสัตว์นักล่าโจมตีได้ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจพามันไปอยู่ในที่ปลอดภัย” เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่นกฮูกน้อยไว้ในกล่องและพามันกลับไปยังสถานีตำรวจ จากนั้นก็ติดต่อไปยัง Thomas Ricardi ผู้จัดการของ Massachusetts Birds of Prey Rehab Facility เพราะรู้ว่าเขาจะช่วยสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ตัวนี้ได้ เป้าหมายของ MacElhiney คือทำให้นกฮูกน้อยโตมาด้วยสุขภาพแข็งแรง…
-
สุนัขถูก ‘ล่ามโซ่’ ตั้งแต่เจ้าของล่วงลับไป มนุษย์จึงเข้าช่วย จนมันกลับมายิ้มได้อีกครั้ง
สัตว์เลี้ยงหลายๆ ตัวต้องเผชิญชีวิตตามลำพัง หลังจากที่เจ้าของล่วงลับไปแล้ว เพราะไม่มีใครรับเลี้ยง หรือไม่มีใครสนใจมัน เหมือนกับสุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้ ที่ถูกล่ามโซ่อยู่ในบ้านหลังเสียเจ้าของไป และอาจจะไม่มีใครได้รู้เลยว่ามันอยู่ในนั้น หาก 2 สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้น สิ่งแรกคือสัญญาณเตือน…ผู้คนที่เข้ามารีโนเวทบ้านใน Little Haiti เมืองไมแอมี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา บังเอิญสะดุดเข้ากับระบบแจ้งเตือนของบ้าน และเสียงเตือนนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งที่สองตามมา คือ สุนัขบูลด็อกชื่อ Frances ลุกขึ้นยืนบนหัวบันไดของห้องถัดไป และจังหวะนั้น Claire Morera หนึ่งในคนงานก็สังเกตเห็นมัน Morera เดินเข้าไปหา Frances แล้วเธอก็เห็นภาพที่ไม่น่าเชื่อ เจ้าหมาอยู่ในสภาพผอมแห้ง ทั่วร่างเต็มไปด้วยเห็บ และยังมีอาการติดเชื้อที่ตาด้วย เท่านั้นยังไม่พอ มันยังถูกล่ามด้วยโซ่ขนาดใหญ่ และดูเหมือนว่ามันจะอยู่ทิ้งอยู่ในนั้นมาสักพักหนึ่งแล้ว Morera ได้ถ่ายภาพเจ้าหมาตัวนั้นเอาไว้แล้วโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก จากนั้นเธอก็แท็กหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่นที่ชื่อ 100+ Abandoned dogs of Everglades Florida โดยมี Jan Stenger เป็นหนึ่งในอาสาสมัครในนั้น Stenger บอกว่า “เช้าวันนั้นเรากำลังไปช่วยเหลือสัตว์อีกตัวหนึ่ง แต่เมื่อดูในแผนที่แล้ว Frances อยู่ห่างออกไป 14…
-
ชาวเน็ตไทยเปิดประเด็น ‘ดูถูก’ ประเทศกัมพูชา นำไปสู่ดราม่า ด่ากันยับ หยุดไม่อยู่แล้ววว!!
กำลังกลายเป็นประเด็นเด่นประเด็นร้อนเลยทีเดียวเชียวกับกรณีของชาวเน็ตมือดีคนหนึ่ง ที่อยู่ดีๆ ก็ไปคอมเมนต์ด่าคอมเมนต์ของชาวกัมพูชาแบบเสียๆ หายๆ เหยียดชนชาติ แล้วก็เกิดการถกเถียงกันจนกลายเป็นดราม่า เรื่องราวมันเริ่มต้นจากเน็ตไอดอลชื่อดังชาวฟิลิปปินส์นามว่า Ranz Kyle ได้มาเที่ยวสงกรานต์ที่ประเทศไทย และเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมาพี่แกก็โพสต์ภาพลงบนแฟนเพจเฟซบุ๊กเพื่ออวดแฟนๆ พร้อมกับแคปชั่นว่า “วันสุดท้ายของสงกรานต์ เราไปร่วมเทศกาลและไปเต้นทุกที่กันเถอะ” โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากแฟนคลับของเขาเป็นอย่างมากจนมีคนเข้ามากดไลก์ถึง 43,000 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 4,783 ครั้งเลยทีเดียว แต่เรื่องก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร จนมีคอมเมนต์ของชาวเน็ตรายหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นคนไทยไปพิมพ์ตอบในคอมเมนต์ของชาวกัมพูชาในภาพของเน็ตไอดอลคนดังกล่าวเพื่อเชิญชวนไปเที่ยวสงกรานต์ที่ประเทศกัมพูชาบ้าง คอมเมนต์ที่ชาวเน็ตไทยไปตอบมีความว่า “ใครอยากจะไปที่ประเทศของเธอกัน ทั้งยากจน ยังไม่พัฒนา การเดินทางก็ยากลำบาก แถมอันตราย ที่พักก็ไม่ได้มาตรฐาน แถมยังสกปรก ผู้คนท้องถิ่นที่นั่นไร้วัฒนธรรมและไม่มีศีลธรรม” (ตอนนี้คอมเมนต์นั้นได้ลบไปแล้ว) เท่านั้น แหละชาวเน็ตทั้งกัมพูชาก็เดือดดาลมาด่าประเทศไทยแบบเหมารวม ชาวเน็ตไทยบางส่วนก็เข้าไปผสมโรงด่าตอบโต้ชาวเน็ตกัมพูชาอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ แต่ก็มีชาวเน็ตบางส่วนที่เข้าไปขอโทศแทนชาวไทยที่ทำพฤติกรรมแย่ๆ “ถึงประเทศไทย ที่คุณบอกว่าประเทศกัมพูชารถติดเดินทางลำบาก มีอุบัติเหตุเยอะ โปรดลืมตาขึ้นมามองความจริงบ้างเถอะ” “ถึงชาวไทย คุณเคยเรียนประวัติศาสตร์มาก่อนหรือไม่? คุณครูของคุณได้บอกมั้ยว่าวัฒนธรรมของบ้านคุณน่ะขโมยของเขมรมา นี่คือภาพของวัดแห่งหนึ่งในเขมรไม่ใช่ที่อยุธยา” “สงกรานต์ที่ประเทศกัมพูชายังคงความเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมอยู่ ไม่เหมือนกับสงกรานต์ของไทย ที่มีการเต้นแบบไม่น่าดูชม แถมใส่เสื้อผ้าไม่มิดชิดอีก”…
-
สุดฮา!! เจ้าหมาหน้าซึม เพราะถูกตำรวจจับหลังวิ่งไล่กวาง กลายเป็นกระแสไปเลย
น้องหมาหลายๆ ตัวมักมีนิสัยที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ บางตัวก็สงบเสงี่ยม เชื่อฟังเจ้าของเป็นอย่างดี บางตัวก็ซุกซนจนข้าวของที่บ้านพังเสียหาย และเจ้าหมาที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ชมในวันนี้เป็นเจ้าหมาที่มีความซุกซนเกินขีดจำกัด แถมยังไม่ยอมเชื่อฟังเจ้าของอีกต่างหาก จนทำให้สุดท้ายแล้วมันต้องมาหน้าจ๋อยอยู่ในกรงหลังรถตำรวจจนได้ และความฮาก็เริ่มจากตรงนั้นนั่นเอง ในวันที่ 15 เมษายน 2018 ที่ผ่านมามีได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งชื่อว่า @emmethompsonn ได้โพสต์รูปและข้อความสุดฮาว่า “มีคนบางคนแจ้งตำรวจให้มาจับหมาของฉัน เพราะว่ามันวิ่งไปไล่กวางและฉันก็รู้นะว่าเรื่องนี้มันซีเรียสแต่พอเห็นหน้ามันในรถตำรวจแล้วฉันรู้สึก ฟหกดา่สว (อธิบายไม่ได้)“ โดยในเหตุการณ์ก่อนเจ้าหมามึนตัวนี้จะถูกจับ พ่อของเธอได้พาเจ้า Finn ออกไปเดินเล่นในพื้นๆ แถวๆ บ้านและได้ปลดสายจูงของมันออกตามปกติซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้มันไม่ปกติก็ตรงที่ว่าเจ้า Finn ดั๊นไปได้กลิ่นของกวางและออกวิ่งไล่โดยทันที โดยที่ไม่สนใจเสียงเรียกหรือนกหวีดจากเจ้านายเลยแม้แต่นิดเดียว ดูหน้ามันดีๆ แล้วได้อารมณ์ทำไมตูต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย และภายหลังพ่อของเธอก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจว่าเขาเจอตัว Finn แล้วหลังจากที่มันวิ่งไล่จับเจ้ากวางอย่างบ้าคลั่ง โดยตำรวจกล่าวว่า “มันเป็นนักวิ่งที่เร็วมากๆ มันพยายามที่จะวิ่งไล่จับเจ้ากวาง แต่มันตัวเล็กกว่า สุดท้ายมันก็ยอมแพ้และเจ้ากวางก็หนีไปได้” และหลังจากที่เธอได้แชร์ภาพของเจ้า Finn หมาหน้ามึน ณ หลังรถตำรวจลงทวิตเตอร์ ก็มีชาวเน็ตให้ความสนใจกับทวีตของเธอเต็มไปหมด โดยที่ตอนนี้ถูกรีทวีตไปแล้วกว่า 182,000 ครั้งและก็มีคนเข้ามาให้ความเห็นกันเต็มไปหมด เดี๋ยวเราจะยกตัวอย่างมาให้ชมกันครับ…
-
ใครว่าคนญี่ปุ่นไม่มีขโมย? ล่าสุดชาวญี่ปุ่นพบต้นซากุระถูกตัดแหว่งในโอซาก้า
ญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ค่อนข้างซื่อตรง มีระเบียบวินัย เรื่องลักเล็กขโมยน้อยนี่แทบจะไม่มีเลย แต่จากข่าวที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้อาจทำให้คุณเริ่มเปลี่ยนความคิดก็ได้นะ เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน 2018 ที่ผ่านมา สำนักข่าวท้องถิ่นในญี่ปุ่นได้รายงานว่ามีคนพบเห็นต้นไม้กว่า 25 ต้น กิ่งไม้ 18 กิ่ง ถูกตัดแหว่งในสวนสาธารณะ Kanokita Park ในเมืองฮิงาชิโอซะก้า ซึ่งในบรรดาต้นไม้ที่ถูกตัดไปมีต้นซากุระรวมอยู่ด้วยหลายต้นทีเดียว ในตอนแรกชาวเมืองคาดว่าน่าจะเป็นหน่วยงานรัฐที่เข้ามาจัดการกับต้นไม้เหล่านั้น อาจด้วยเหตุผลว่ากิ่งก้านเหล่านั้นเน่าเสีย ใกล้หักหรืออะไรก็ตามแต่ แต่กลายเป็นว่าไม่มีหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเลย จากหลักฐานจึงคาดได้ว่าน่าจะเป็นหัวขโมยที่แทบจะไม่เคยมีเลยในญี่ปุ่น ในขณะที่หลายๆ คนกำลังตื่นเต้นกับฤดูซากุระบานในญี่ปุ่น พากันเอาเสื่อออกไปกางพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อชมความงามของดอกไม้ แต่กลับมีหัวขโมยมาแอบตัดไป จนทำให้ชาวเมืองเกิดความสงสัยว่าตัดไปทำไม และจะเอาไปไว้ที่ไหน? มีการวิเคราะห์กันจากรอยตัดต้นไม้ ว่ามีความเรียบเนียนคล้ายกับการใช้เครื่องมือระดับโรงงาน จึงน่าจะไม่ใช่หัวขโมยทั่วๆ ไป “ฉันไปสวนสาธารณะ Kanokita Park มา เป็นสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่โดนตัดซากุระไป รอยตัดใหม่ๆ บนผิวหน้ามันดูเจ็บปวดและแย่มาก มันอยู่ตรงกลางสวนสาธารณะเลย” ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่น @Norikyuu กล่าว . . …
-
ชาวเน็ตแซะ ‘บ๊วบบ๊วบ = กินไส้กรอก’ เปรียบเทียบโจมตีคนกินผัก ดูผิดประเด็นเลยเถิด…
เป็นเรื่องราวที่เกิดข้อถกเถียงกันไม่รู้จบสิ้นเสียที ระหว่างคนกินเนื้อกับคนกินผัก ที่มักจะยกเรื่องราวการกินของแต่ละฝ่ายมาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียกันอยู่เสมอ… ไม่ว่าใครจะกินอะไร หรือกินอย่างไร ก็ควรให้บุคคลนั้นเป็นผู้ตัดสินใจเลือกเอง และไม่ควรที่จะไปก้าวก่ายคนอื่นที่คิดไม่เหมือนตน เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องชวนผิดใจกันได้ง่ายๆ อย่างเช่นเรื่องของสาวมังสวิรัติ Toni Eade จากเมืองทาวส์วิลล์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย กำลังแชทคุยกับเพื่อนชายรายหนึ่งเกี่ยวกับการกินผัก แต่แล้วพ่อหนุ่มหน้าซื่อใจคดคนนี้ กลับยกประเด็นมาเปรียบเทียบแบบแถข้างๆ คูๆ เพราะเขาดันไปยกเทียบว่า การบ๊วบ (สำเร็จความใคร่ด้วยปาก) ก็เหมือนกับการนำเนื้อเข้าปาก ฉะนั้น ชาววีแกนที่เคยทำการบ๊วบ ก็เหมือนกับละเมิดกฎของตัวเองไปแล้ว หนุ่มหน้ามนยกตัวอย่างเชิงมโนโวหารขึ้นมาว่า “เธอจะกำไส้กรอกแล้วรูดมันในขณะที่อยู่ในปากมั้ยล่ะ? ก็ไม่ เธอไม่ควรที่จะเอามันเข้าปากเสียด้วยซ้ำ เพราะเจี้ยวก็คือเนื้อ อยู่ในปากนั่นแหละ ผมไม่ได้เกลียดคุณเพราะเป็นวีแกนหรอกนะ เพียงแค่พูดเฉยๆ ว่าทำไมถึงไม่ชอบ” เธอตอบกลับไปว่า “งั้นก็อย่ามาเป็นวีแกนเลย ฉันไม่ต้องการความคิดเห็นของคุณที่เคยได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เก็บไว้กับตัวเองเถอะ ปล่อยให้ฉันเป็นในแบบที่เป็นเถอะ” “ผมก็ส่วนผม คุณก็ส่วนคุณ แต่ความรักที่เราก็ยังคงเหนียวแน่นเหมือนเดิม” “เหรอ? ฉันไม่เคยคิดจะโจมตีกับสิ่งที่คุณเลือกเลยนะ แต่คุณกลับมาทำร้ายฉันเสียอย่างนี้” หลังจากจบบทสนทนาดังกล่าวไปแล้ว เธอเคยคิดว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทและไว้ใจได้ แต่หลังจากนี้ก็ไม่มีอีกต่อไป เพราะเขาไม่เคารพความคิดของเธอ แล้วทำไมเธอถึงจะต้องเคารพเขาด้วย…
-
ครูสั่งห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ นักเรียนเลยพกเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ามาเลย!!
ลูกเล่นตุกติกของกลโกงข้อสอบนั้น มีทุกยุคทุกสมัยเสียจริง ตั้งแต่วิธีการจดโน้ตเล็กๆ เก็บในกระดาษใบน้อย การบอกข้อที่ถูกต้องผ่านโค้ดลับต่างๆ สารพัดวิธีที่คนอยากจะโกงข้อสอบนั้นสุดจะคิดได้… ยิ่งในสมัยนี้ เทคโนโลยีทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และการมาของสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้ค้นหาข้อมูลตามที่ต้องการได้ ก็ไม่แปลกที่จะถูกสั่งห้ามใช้ ห้ามพกเข้าห้องสอบไปตามระเบียบเพื่อป้องกันการโกง อีกหนึ่งเหตุผลที่มักจะใช้อ้างก็คือ ใช้โทรศัพท์เพื่อฟังเพลงระหว่างทำข้อสอบ Eric Saueracker คุณครูชาวแคนาดาท่านนี้ ก็รู้ในความต้องการของนักเรียนเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่อาจไว้ใจได้ว่าจะแอบใช้หาคำตอบกันหรือเปล่า ก็เลยสั่งห้ามไม่ให้พกเข้าห้องสอบ เพื่อให้การสอบวิชาฟิสิกส์นั้นเป็นไปตามที่หวังไว้ แต่แล้วนักเรียนคนหนึ่งก็ทำให้เขาปวดใจกับวิถีโบราณ เพราะดันนำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้าห้องสอบแทนนี่สิ! ในขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ นำ แผงกั้นมาวางไว้หน้าตัวเองเพื่อกันคนอื่นลอกคำตอบ แต่หมอนี่ดันใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงเปิดเพลงของ Kanye West อัลบั้ม The College Dropout ตลอดเวลาที่ทำข้อสอบเลย ฮร่าาาา ทางด้านนาย Eric คุณครูผู้สอนให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ในระหว่างการทำข้อสอบมิดเทอมของวิชาฟิสิกส์ คำตอบในข้อสอบมีในอินเทอร์เน็ต เพราะฉะนั้นก็ต้องห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ…. ผมพูดติดตลกไปว่า สามารถนำเครื่องเล่นเทปหรือซีดีเข้ามาได้ หากอยากจะฟังเพลง แล้วก็มีนักเรียนคนหนึ่งถามว่านำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ามาได้รึเปล่า?” “ผมก็คิดว่าทำไมจะไม่ได้ล่ะ เจ้านี่มันหัวหมอชะมัดผมก็บอกไปว่าโอเคไม่มีปัญหา แล้วเขาก็เอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาจริงๆ ลากสายยาว…
-
รู้หน้าไม่รู้ใจ!! แฟนสาวขาโหดโปรไฟล์ดี ถูกตัดสินจำคุกเจ็ดปีครึ่งจากการทารุณแฟนหนุ่ม
หากชีวิตคู่จะไปกันได้ด้วยดี ชีวิตของคนทั้งสองคนต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่างเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตคู่นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง ความเคารพซึ่งกันและกัน ความเข้าใจ ความไม่เอารัดเอาเปรียบและอีกมากมาย และถ้าชีวิตคู่ขาดหรือมีอะไรบางอย่างที่มากเกินไปก็มักจะจบไม่สวย เหมือนอย่างเธอคนนี้ Jordan Worth สาวสวยอายุ 22 ปีที่ต้องถูกศาลตัดสินให้จำคุกข้อหาทารุณกรรมและปฏิบัติกับแฟนหนุ่มของตัวเองราวกับทาสในเรือนเบี้ย น่าแปลกใจอย่างมากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะแฟนสาวขาโหดคนนี้ที่ผ่านมาเธอมีประวัติที่ดีมาตลอด ไม่ว่าจะมีครอบครัวที่น่ารักและสนับสนุนเธอมาตลอด ผลการศึกษาก็อยู่ในระดับสูง เธอยังจบจากมหาวิทยาลัย University of Hertfordshire ด้วยเกียรตินิยมอันดับสองในสาขาศิลปกรรมและยังมีจิตใจงดงามอยากเป็นคุณครูเพื่อจะได้สอนเด็กๆ แถมยังเป็นอาสาสมัครที่มีส่วนร่วมในการดูแลสัตว์ที่ไม่เป็นที่ต้องการรวมถึงยังช่วยระดมทุนเพื่อเด็กยากไร้ในแอฟริกาอีกด้วย แต่ถึงโปรไฟล์ของเธอจะสุดยอดขนาดนี้ แต่พออยู่ที่บ้านใน Bedfordshire เธอกลับแสดงอีกด้านหนึ่งของเธอ โดยกลายเป็นคนที่ชอบควบคุมและบงการคู่ชีวิตของเธอ ทั้งคู่พบกันที่โรงเรียนตั้งแต่ปี 2012 ณ ในตอนที่อายุเพียง 16 ปีเท่านั้นและภายหลังก็เริ่มต้นความสัมพันธ์และค่อยๆ ก้าวเดินไปด้วยกัน ในตอนแรกเธอเพียงควบคุมการแต่งตัวของเขาเท่านั้น แต่มันก็ลามมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ควบคุมเฟซบุ๊ก จะไปไหนต้องได้รับความเห็นจากเธอกก่อนและจนสุดท้ายกลายเป็นความรุนแรง ว่าตามที่ศาลว่ามาความรุนแรงที่เธอทำกับแฟนหนุ่มถึงขั้นที่ทำให้เขาเป็นภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ซึ่งมีการสะสมน้ำหล่อสมองไขสันหลังที่ผิดปกติและทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอลง รวมถึงเธอยังได้ใช้ของต่างๆ ตีเขารวมถึงยังใช้มีดเพื่อทำร้ายของเขา โดยที่ไม่ยอมพาเขารักษาที่โรงพยาบาลอีกด้วย สุดท้ายชีวิตสุดน่ารันทดของแฟนหนุ่มก็ได้สิ้นสุดสักที ยามที่เพื่อนบ้านได้โทรเรียกตำรวจหลังจากที่ได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากบ้านของพวกเขา และเมื่อรถพยาบาลมาถึงพวกเขาก็สังเกตเห็นได้ว่าตามมือแขนและขาของฝ่ายชายมีรอยไหม้เต็มไปหมด เมื่อถึงมือหมอก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นแผลไฟไหม้ระดับที่สาม ซึ่งเป็นระดับที่รุนแรงที่สุด…
-
ประเทศจีนดำเนินติดตั้งเสากั้นตามทางเท้า เพื่อลดปัญหาคนไร้บ้านชอบมานอนกองรวมกัน
ทุกประเทศย่อมมีปัญหาอยู่เสมอ แต่หนึ่งในปัญหาที่หลายๆ ประเทศไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือปัญหาความยากจนและคนไร้บ้าน แม้แต่ในประเทศที่เจริญไปด้วยเทคโนโลยีและวัฒนธรรมอย่างสหรัฐอเมริกาหรือประเทศญี่ปุ่นก็ยังมีคนจรจัดหรือคนไร้บ้านให้เห็นกัน ซึ่งบางทีพวกเขาก็ไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับคนไร้บ้านของจีน ถึงแม้ว่าไม่รู้ว่าพวกเขาทำความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีมาตรการจัดการกับปัญหาคนไร้บ้านที่มักจะมาหลับนอนอยู่บนทางเท้า เจ้าหน้าที่ประจำเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้างได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยจัดการกับปัญหาคนไร้บ้านที่ชอบมานอนบนทางเท้าในเมือง โดยที่วิธีการจัดการไม่ใช่นวัตกรรมที่ทันสมัยหรืออย่างใด เพียงแค่ได้ทำการติดตั้งเสาไปบนทางเท้าหลายๆ อันเพื่อที่จะไม่ให้เหลือพื้นที่ที่จะพอให้คนไร้บ้านมาหลับนอนได้ อ้างอิงตามรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่น มีคนไร้บ้านประมาณ 10 คนที่ได้เริ่มตั้งรกรากอยู่บนทางเท้ามาตั้งแต่ปี 2016 พวกเขาได้ทำการปูเสื่อและฟูกพร้อมสำหรับการหลับนอน เจ้าหน้าที่ยังได้รายงานอีกว่าคนไร้บ้านเหล่านี้เป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพและความปลอดภัย จนในที่สุดจึงต้องตัดสินใจที่จะจัดการแก้ปัญหาในที่สุด ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว (2017) คนไร้บ้านโดยส่วนมากที่ได้ตั้งรกรากอยู่ในบริเวณทางเท้าได้ถูกย้ายให้ไปอาศัยอยู่ในอาคารที่ไม่มีคนอาศัย เสาที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตั้งในครั้งนี้ พวกเขาได้บอกว่าเป็นเพียงแค่ทางออกชั่วคราวเท่านั้น และในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้คิดหาทางแก้ปัญหาคนไร้บ้านในระยะยาวอยู่ โดยอาจจะเป็นการเพิ่มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หรือการเพิ่มเติมอุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้งขึ้นมาแทน อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีเสาตั้งเต็มไปหมดตามทางเท้า แต่ก็ยังเหลือคนไร้บ้านอยู่จำนวนหนึ่งหรือสองคนที่ยังคงตั้งหลักปักฐานอยู่ในที่เดิมของพวกเขา ถือว่าเป็นไอเดียที่แปลกจริงๆ หรือบางทีแล้วคนออกแบบวิธีแก้ไขปัญหานี้อาจได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าหน้าที่จากเมืองฉางชุนในปี 2014 ที่ใช้ที่ล็อกรถเพื่อมาระงับกิจกรรมเต้นที่รบกวนคนอื่นไปทั่วของเหล่าป้าๆ ในจีนก็เป็นไปได้นะ ที่มา Medium
-
พวกที่คิดว่าโลกแบน เสนอทฤษฎีว่า ประเทศออสเตรเลียก็ไม่มีอยู่จริงๆ เหมือนกัน!?
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยได้ยินหรือได้รับรู้เรื่องราวของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่มีความเชื่อว่าโลกของเราไม่ได้กลม แต่มีลักษณะที่เป็นแผ่นจาน และยังพยายามหาหลักฐานต่างๆ นานาเพื่อมาหักล้างกับทฤษฎีต่างๆ ที่นักวิทยาศาสตร์คิดหาคำตอบกันด้วย ล่าสุดเราได้ไปเจออีกทฤษฎีหนึ่งที่ชวนทึ่งของชาว Flat Earthers (กลุ่มคนที่เชื่อว่าโลกแบน) เพราะนอกจากพวกเขาจะเชื่อว่าโลกแบนแล้ว พวกเขายังเชื่อด้วยว่าประเทศออสเตรเลียไม่มีอยู่จริง!? ย้อนกลับไปในปี 2006 ได้มีคนไปตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ Theflatearthsociety (เว็บไซต์เครือข่ายสังคมสำหรับคนเชื่อว่าโลกแบน) โดยมีข้อความบอกว่า “พวกคุณส่วนใหญ่คงจะถูกเลี้ยงดูมาให้เชื่อว่ามีดินแดนในจินตนาการอย่างออสเตรเลีย ฉันทายว่าพวกคุณทั้งหลายคงจะได้เรียนรู้มาจากโรงเรียนแน่ๆ ฉันมาที่ที่เพื่อบอกความจริง เอาล่ะ ความจริงก็คือประเทศออสเตรเลียมันไม่มีอยู่จริง ทุกสิ่งที่คุณได้ยินเกี่ยวกับมันถูกสร้างขึ้นมาทั้งนั้น และรูปภาพทั้งหลายที่คุณเคยเห็นก็เป็นของปลอมที่รัฐบาลทำขึ้นมา ฉันเชื่อว่าคุณคงจะได้คุยกับผู้คนบนอินเทอร์เน็ตที่อ้างว่าพวกเขามาจากประเทศออสเตรเลียมาบ้างแล้ว แต่จริงๆ แล้วพวกเขามีเจ้าหน้าที่รัฐบาลลับๆ ที่คอยสอดส่องบนอินเทอร์เน็ตเพื่อทำให้ความเชื่อปลอมๆ เหล่านี้กลายเป็นความจริงอยู่ เราไม่แน่ใจว่าทำไมรัฐบาลถึงสร้างดินแดนจินตนาการขึ้นมา หรือทำไมมันถึงพยายามโน้มน้าวให้ทั้งโลกเชื่อว่าทวีปนี้มีจริง แต่เราสามารถบอกคุณได้ว่าเรารู้ข้อเท็จจริงที่ออสเตรเลียไม่ได้มีอยู่จริง มาร่วมกับเราสิเพื่อบอกให้ทั้งโลกรู้ความจริง” นอกจากนี้ยังมีนักทฤษฎีสมคบคิดอีกหลายคนที่ออกมาให้ความเห็นในทำนองเดียวกัน อย่างเช่น Shelley Floryd เธอบอกว่าประเทศออสเตรเลียนั้นถูกประกอบสร้างขึ้นมาจากการเรนเดอร์ของคอมพิวเตอร์ เพื่อหลอกให้ทั้งโลกเชื่อ รวมไปถึงประวัติศาสตร์ของออสเตรเลียที่ถูกแต่งขึ้นมาแบบหลอกๆ ด้วย . ที่มา unilad
-
นักวิทย์ฯ คิดค้นเอนไซม์แบบใหม่ที่ “กัดกิน” ขวดพลาสติกได้ แก้ปัญหาพลาสติกล้นโลก
นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นสสารที่มีความสามารถในการ “กัดกิน” พลาสติก จนอาจนำไปสู่การแก้ไขปัญหาพลาสติกล้นโลกได้ในอนาคต ทุกวันนี้หลายๆ ประเทศพยายามหาทางที่จะลดปริมาณพลาสติกลง ซึ่งหลายๆ บริษัทก็เริ่มปรับตัวด้วยการลดปริมาณพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ของตัวเองลงเพื่อให้ง่ายต่อการกำจัดทิ้ง แต่ล่าสุดดูเหมือนว่ามนุษย์โลกจะมีทางออกที่ดีกว่าการกำจัดทิ้งแล้ว ด้วยการใช้สสารแบบใหม่ ที่มีคุณสมบัติในการกัดกินพลาสติกจนแทบไม่หลงเหลือเศษซากเลย สารที่ว่านี้มีพื้นฐานอยู่บนเอนไซม์ที่ชื่อว่า “ตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวภาพ” (Biological Catalyst) ในครั้งแรกที่มีการพัฒนา เจ้าสสารตัวนี้ถูกก่อร่างสร้างตัวมาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ภายในศูนย์วิจัยรีไซเคิลที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2016 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มันสามารถย่อยสลายพลาสติกได้ พลาสติกเป็นสิ่งที่ไม่ย่อยสลายตามธรรมชาติ และการค้นพบแบคทีเรียที่กินพลาสติกในปี 2016 กลายเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ยกย่องมาก เพราะมันจะกลายเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยมและถูกนำไปใช้ต่อๆ ไป ในขณะที่พยายามยืนยันการอ้างสิทธิ์เหล่านี้ศาสตราจารย์ John McGeehan นักชีววิทยาจาก University of Portsmouth และเพื่อนร่วมงานของเขาบังเอิญสร้างเอนไซม์ที่กัดกินพลาสติกโดยบังเอิญ จนต่อยอดกลายเป็นเอนไซม์ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ เจ้าสสารตัวนี้ถูกขนานนามว่า PETase มันมีความสามารถในการย่อยสลายพลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate หรือพลาสติกที่ถูกนำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ต่างๆ) เอนไซม์ตัวนี้จะเข้าไปเร่งปฏิกิริยาในการย่อยสลายในพลาสติกที่ปกติแล้วจะใช้เวลาหลายร้อยปี การปรับแต่งเอนไซม์ที่ผลิตตามธรรมชาตินี้ทำให้ทีมวิจัยสามารถผลิตสิ่งที่มีความสามารถในการย่อยสลายพลาสติกได้ดีกว่าสิ่งที่พบตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์แนะนำให้นำสสารใหม่นี้เข้ามาช่วยรีไซเคิลขวดพลาสติกจำนวนหลายล้านตันด้วยการทำลายขวดพลาสติกลงเป็นชิ้นๆ ระหว่างที่มีการตรวจสอบโครงสร้างของเอนไซม์ตัวนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามปรับแต่งส่วนที่คิดว่าเกี่ยวข้องกับการย่อยพลาสติกไปด้วย การทำเช่นนี้จะช่วยย่อยสลายพลาสติก…
-
หลอนจัด!! กล้องวงจรปิดจับภาพประตูโรงรถเปิดเอง แถมยังมีไม้กวาด ‘ลอยออกมา’
ความเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณนั้นคือสิ่งที่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล บางคนอาจเชื่อว่ามันมีอยู่จริงหรือบางคนก็อาจมองว่ามันเป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์คิดไปเอง แต่ไม่ว่าพวกเราจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ยังไง #เหมียวตะปู ก็อยากจะชวนเพื่อนๆ ให้ลองมาชมเหตุการณ์นี้กันดูก่อน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงจอดรถของสถานีตำรวจนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อในเช้าวันที่ 12 เมษายน 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่าประตูโรงรถของพวกเขามันเปิดค้างไว้ได้อย่างไร เพราะจำได้ว่ามันปิดใช้งานมานานหลายวันแล้ว และตอนกลางคืนก็ไม่น่าจะมีใครเปิดเข้าไปทำอะไร พวกเขาจึงลองไปเช็กกล้องวงจรปิดดู ภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นว่าตอนแรกโรงรถยังคงปิดอยู่ตามปกติ แทนที่พวกเขาจะได้จับโจรที่แอบลอบเข้ามาในยามวิกาล แต่สิ่งที่พวกเขาได้เห็นกลับเป็นเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกที่ไม่อาจหาคำใดมาอธิบายได้ กล้องวงจรปิดเผยให้เห็นช่วงรุ่งสางเวลาประมาณตี 5 ครึ่งของวันเดียวกันนั้น จู่ๆ ประตูโรงรถดังกล่าวก็เปิดขึ้นมาเองโดยที่ไม่มีใครอยู่ในสถานที่นั้นเลยแม้แต่คนเดียว จู่ๆ มันก็เลื่อนเปิดขึ้นมาเอง ทั้งๆ ที่ตอนนั้นไม่มีใครอยู่เลย ไม่ใช่เพียงแค่นั้นเพราะหลังจากที่ประตูเปิดขึ้นไปได้เกินครึ่ง ทันใดนั้นก็มีไม้กวาดค่อยๆ ลอยออกมาช้าๆ ก่อนที่จะไปพาดอยู่ตรงกำแพงแล้วก็ล้มลงไป เหมือนว่ามีใครสักคน (หรือว่าอะไรบางอย่าง) จับมันเอาไว้ก่อนจะปล่อยมันลงกับพื้น ไม้กวาดลอยออกมาจากโรงรถตอนที่มันเปิดไปได้ประมาณครึ่งเดียว หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีมันก็ล้มลงไป วันต่อมา เจ้าหน้าที่ได้โพสต์ความหลอนในครั้งนี้ลงไปในโซเชียลมีเดีย ทำให้มียอดเข้าชมมากกว่า 200,000 คน พร้อมด้วยคอมเมนต์มากมายที่มีทั้งบอกว่า “มันน่ากลัวสุดๆ ไปเลย” กับบางคอมเมนต์ที่บอกว่า “มันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ” Bass…
-
ครูพิเศษชาวสิงคโปร์โดนตัดสินโทษ หลังช่วยเด็กโกงข้อสอบ GCE แบบทันสมัยในปี 2016
ทุกๆ คนรู้กันดีว่าการโกงข้อสอบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี หากว่าเราโกงข้อสอบแล้ว ไม่เพียงแค่ว่าเราไม่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าหน้าที่ แต่เรายังไม่ซื่อสัตย์ต่อความสามารถที่ตัวเรามีจริงๆ อีกด้วย ถึงอย่างนั้นการโกงข้อสอบกลับมีออกมาให้เห็นกันอยู่ร่ำไป แถมยังมีวิธีที่ซับซ้อนและทันสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย เมื่อวันจันทร์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา Tan Jia Yan ครูสอนพิเศษสาวชาวสิงคโปร์ วัย 32 ปีได้ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจากคดีมีส่วนร่วมในการช่วยนักเรียนชาวจีน 6 คนของเธอโกงข้อสอบ GCE (General Certificate of Education หรือ ประกาศนียบัตรการศึกษาทั่วไป) ระดับ O (Ordinary Level หรือ ระดับสามัญ) ในปี 2016 วิธีการของเธอคือ Tan Jia Yan จะเข้าร่วมการสอบ GCE ในฐานะผู้สมัครแบบส่วนตัว และจะใช้การวิดีโอคอลติดต่อไปยังนักเรียนของเธอและทำการบอกคำตอบให้แก่พวกเขา โดยที่ฝั่งนักเรียนจะมีการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์บลูทูธ และหูฟังขนาดเล็กสีเนื้อเข้าไปในห้องสอบ การโกงข้อสอบในครั้งนี้ถูกเปิดเผยหลังจากที่ผู้คุมสอบได้ยินเสียงประหลาดจากหนึ่งในนักเรียนของเธอและทำการค้นตัวนักเรียนคนดังกล่าว Tan Jia Yan โดนข้อหาเกี่ยวกับการโกงข้อสอบเป็นจำนวน 27 กระทง โดยที่ 26 กระทงนั้นมาจากเหตุการณ์สอบ GCE และอีกหนึ่งกระทงจากคดีช่วยนักเรียนวัย 20 ปีโกงข้อสอบภาษาอังกฤษเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2016 …
-
‘สุนัขหลงป่า’ เอาตัวรอดด้วยตัวเองนานเป็นปี ในที่สุดก็มีคนเข้าไปช่วยมันออกมา…
ในเดือนตุลาคม ปี 2016 Bandit สุนัขตัวสีดำวัย 3 ปี ได้หนีออกจากคลินิกสัตว์ในการ์ดิเนอร์ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าหมาหนีไปอยู่ห่างจากที่ที่มันหลบหนีไปประมาณ 16 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตป่าหนาทึบ และมันก็อยู่ที่นั่นเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง แต่ไม่มีใครรู้เลย… จนกระทั่งเดือนที่แล้ว มีคนขับมอเตอร์ไซค์ผ่านแถวนั้น และสังเกตเห็น Bandit โดยยังคงใส่ปลอกคอที่ครอบครัวให้ไว้ คนขับมอเตอร์ไซค์คนนั้นจึงติดต่อไปยัง Nicole Asher จาก Buddha Dog Rescue and Recovery (BDRR) ทันที Asher บอกว่า “ทันทีที่เราได้รับแจ้ง เราได้ลงพื้นที่วางกับดักพร้อมซ่อนกล้องไว้ เพื่อเฝ้าดูการเคลื่อนไหวและพามันออกจากป่า” เธอบอกว่าอีกว่า “เมื่อฉันได้ยินว่ามันสวมปลอกคออยู่ ฉันอยากรู้จริงๆ ว่ามันเป็นหมาของใคร มาจากไหน และก็หวังว่ามันจะได้กลับไปหาครอบครัวอีกครั้ง” หลังจากที่วางกับดักและเฝ้าสังเกตมันตลอด 5 วันเต็ม ในที่สุด Bandit ก็เดินเข้ามาในกรงขนาดใหญ่ที่ Asher วางไว้ และเธอสังเกตเห็นว่ามันช่างเป็นหมาที่ขี้เล่นอะไรเบอร์นี้ Asher ไม่รอช้า…
-
‘เหมียวขี้อาย’ ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ จนได้มาเจอ ‘เหมียวส้มๆ’ ทำให้มันมั่นใจขึ้นทุกวัน
เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว Friends for Life Rescue Network กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ท้องถิ่นในลอสแอนเจลิสได้รับแจ้งเกี่ยวกับลูกแมวจำนวนหนึ่งและแม่ของพวกมันที่ต้องการความช่วยเหลือ ครอบครัวแมวกลุ่มนี้อาศัยอยู่ใต้ที่ทิ้งของขยะของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองมอนเตเบลโล ก่อนจะมีพลเมืองดีช่วยเหลือลูกแมวได้บางตัว ส่วนแม่แมวและ Brosnan ลูกแมวที่ขี้อายที่สุด เอาแต่ซ่อนตัว ไม่ยอมให้มนุษย์เข้าใกล้ และไม่ยอมเข้าหากับดักของอาสาสมัครที่จะเข้าไปช่วยเหลือด้วย Jacqueline DeAmor ผู้ร่วมก่อตั้ง Friends for Life Rescue Network กล่าวว่า “หลังจากที่เราพยายามมา 1 สัปดาห์ ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจวางกับดักพวกมัน” “ครั้งแรกมีแต่แม่แมวเท่านั้นที่ออกมาจากที่ซ่อน แต่ Brosnan ดูหวาดกลัวมากและไม่ยอมออกมาจากที่ซ่อนใต้ที่ทิ้งขยะเลย” Jacqueline กล่าว อาสาสมัครรอมิ้วน้อยเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในที่สุดแมวน้อยก็ยอมออกมาจากที่ซ่อน และเข้ามากินอาหารกับแมว จังหวะนั้นเอง เจ้าหน้าที่ได้รวบทั้งสองตัวพร้อมกัน ทั้งแม่แมวและลูกๆ ทุกตัวได้เข้าไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ แต่ Brosnan ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว และไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เช่นเดิม Jacqueline บอกว่า “มันก้าวร้าวมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง มันไม่เข้ามาใกล้ฉันเลย ดังนั้นฉันจึงไม่ได้แตะมันเลยในหนึ่งเดือนแรก” เธอบอกอีกว่า…
-
ชายส่งอาหารทำอนาจาร ‘โชว์ของลับ’ ให้เด็กหญิง 8 ขวบดู ขณะอยู่ในลิฟต์เพียงลำพัง!!
หลายๆ คนอาจเป็นห่วงเวลาที่ต้องปล่อยให้เด็กตัวเล็กๆ เดินขึ้นลงบันไดหรือบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้าด้วยตัวเอง เพราะกลัวว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุตกลงมาได้ ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะให้เด็กๆ เหล่านั้นใช้ลิฟต์กันจะดีกว่า โดยที่ไม่เคยเอะใจมาก่อนเลยว่าลิฟต์นั้นอาจอันตรายกับเด็กมากกว่าที่เราคิด ตัวอย่างความน่ากลัวของการปล่อยให้เด็กใช้ลิฟต์เพียงลำพังนั้นเกิดขึ้นในอาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่ง เขต Changning นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อเด็กหญิงวัย 8 ขวบอยู่ในลิฟต์เพียงลำพัง ก่อนที่ชายส่งอาหารจะตามเข้ามาพร้อมกับโชว์ของลับให้เธอดู ชายส่งอาหารโชว์ของลับให้เด็กหญิง 8 ขวบดูในลิฟต์ ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 10 เมษายน 2018 เผยให้เห็นการทำอนาจารของชายคนนี้ โดยที่เด็กพยายามหันหน้ามองไปทางอื่น แต่เขาก็จะตามสายตาของเธอไป ตั้งใจจะอวดของลับของตัวเองให้จงได้ เขาพยายามเปลี่ยนมุมไปตามสายตาของเธอ วันต่อมาผู้ดูแลอาคารจึงประกาศถามผู้พักอาศัยทุกคนว่า มีใครบ้างที่ได้สั่งอาหารในช่วงเวลาประมาณ 15.50น.-16.00น. เพื่อจะตามหาชายส่งอาหารคนนั้นมาดำเนินคดี จนกระทั่งวันที่ 12 เมษายน 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมชายหื่นกามแซ่ Hu คนนั้นได้ในที่สุด โดยเขาให้การสารภาพว่าตนเองคือคนที่เห็นในกล้องวงจรปิด และถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป คลิปที่ถูกถ่ายจากกล้องวงจรปิด (กดเล่นตรงปุ่มมุมซ้ายล่างนะ) <span data-mce-type=”bookmark” style=”display: inline-block; width: 0px; overflow:…
-
แม่แมว ‘คาบลูกๆ มาให้มนุษย์’ ที่ไว้ใจ ก่อนจะยึดบ้านชายหนุ่มเป็นบ้านตัวเองเฉย
เมื่อ 7 สัปดาห์ก่อนมีคนเห็นแมวจรจัดท้องตัวหนึ่งอยู่แถวๆ ฮุสตัน รัฐเท็กซัส ก่อนจะเจอมันอีกครั้งใน 2 สัปดาห์ต่อมา แต่ตัวมันเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นหมายความว่ามันคลอดลูกแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันไปคลอดลูกไว้ตรงไหน hambuhguh สมาชิก Imgur คนที่เจอแมวจรจัดตั้งท้องตัวนั้นบอกว่า “Cali เป็นแมวจรจัดที่หลงมาแถวๆ บ้านของผม มันท้องและมันก็เป็นอัธยาศัยดีมาก” แต่เมื่อเจ้าเหมียวกลับมาอีกครั้ง และมันไม่ได้อยู่ในสภาพที่ท้องแล้ว เขารู้ได้ทันทีว่าต้องตามหาที่ที่มันเอาลูกไปซ่อน หญิงสาวใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ ในที่สุดเธอก็เจอลูกๆ ของมัน และไม่น่าเชื่อว่า Cali จะคาบลูกๆ ไปให้เพื่อนมนุษย์คนนี้ด้วยตัวมันเอง มันคาบลูกๆ ไปไว้ในบนระเบียงบ้านของชายหนุ่ม จากนั้นก็ใช้เวลาอยู่กับลูกที่นั่น เมื่อไหร่ก็ตามที่มันต้องการพัก มันก็จะเดินไปหามนุษย์ที่ออฟฟิศของเขา ตอนนี้ลูกแมวอายุ 5-6 สัปดาห์แล้ว พวกมันถูกจับจองไปเลี้ยงแล้ว และมันจะถูกรับเลี้ยงเป็นคู่ เมื่อลูกแมวอายุมากพอ พวกมันจะถูกจับทำหมัน ส่วนตัวแม่นั้น มันคิดว่าบ้านของ hambuhguh เป็นบ้านของมันเรียบร้อยแล้ว… …
-
สุนัขกลัวจน ‘น้ำลายไหล’ หลังถูกเจ้าของทิ้ง แต่แล้ว ความรักก็ทำให้มันยิ้มได้อีกครั้ง
ในศูนย์พักพิงสัตว์นั้นเต็มไปด้วยสัตว์เลี้ยงมากมายที่ต้องการความรักจากมนุษย์ และบางตัวนั้นก็มีสายตาที่แสนเศร้าเกินกว่าจะมองข้ามมันไปได้ เช่นเดียวกับ Belle สุนัขจากศูนย์พักพิง Trio Animal Foundation (TAF) ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าหมาอยู่ในกรงด้วยสภาพที่น่าสงสาร น้ำลายของมันไหลเป็นทางยาวไปถึงพื้น ใบหน้าของมันเปียกโชกไปด้วยน้ำลาย สายตาของมันแข็งกระด้าง ในขณะที่ลำตัวของมันสั่นด้วยความหวาดกลัว… ต่อมาผู้ช่วยเหลือได้รู้ว่ามันเพิ่งอ้วกเมื่อไม่กี่นาทีก่อน และรู้อีกว่าน้องมากรู้สึกหวาดกลัวมาก หลังจากที่ถูกเจ้าของนำมาทิ้งไว้ในศูนย์พักพิงแห่งนี้ Brigid Nolan แพทย์และผู้อำนวยการของศูนย์พักพิง TAF กล่าวว่า “ไม่มีใครสามารถปลอบโยนมันได้ ในใจมันคงจะร้องว่า ‘ช่วยด้วยๆ’ และมันก็เสียใจมาก” เมื่อเห็นว่าสุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้รู้สึกหมดหวัง Nolan และทีมงานก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปแบบนี้ได้ พวกเขาเดินเข้าไปหาน้องหมาในกรง… แม้ว่าสุนัขจะอยู่ในอาการหวาดกลัวและสั่นตลอดเวลา แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปหา มันก็เริ่มส่ายหางเล็กน้อย นั่นแสดงว่ามันรู้สึกดีใจ จากนั้นพวกเขาก็พาน้องหมาออกจากกรงและย้ายไปอยู่ในห้องส่วนตัวของมันเอง เพื่อทำให้มันรู้สึกสบายตัวและผ่อนคลาย Nolan บอกว่า “มันยังดูกังวลอยู่มาก มันไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอน แต่ตื่นตัวตลอดเวลา” ไม่กี่วันต่อมา หลังจากเจ้าหน้าที่มอบความรักความอบอุ่นให้อย่างสม่ำเสมอ Belle ก็เริ่มเดินเข้ามาหาพวกเขา และมันก็เผยความน่ารักออกมาให้ได้เห็น Nolan บอกว่า “มันเผยรอยยิ้มให้เราเห็น…
-
นักบิน ‘ส่งสุนัขสูงวัยไปยังบ้านอุปถัมภ์’ เพื่อให้มันได้ใช้เวลาที่เหลืออย่างมีความสุขที่นั่น
สุนัขที่อายุมากมักจะถูกมองข้ามเสมอ อาจจะเป็นเพราะพวกมันเชื่องช้า ไม่กระตือรือร้น และเสียค่าใช้จ่ายมากมายในการดูแลรักษา แต่จริงๆ แล้ว แม้อายุจะมากแค่ไหน พวกมันก็ต้องการความรักและอยากมีครอบครัวเหมือนลูกหมาทั่วไป เหมือน Ashlyn สุนัขสูงวัยจากศูนย์พักพิงใน North Carolina อาการของมันแย่มากๆ เจ้าหมาตัวนี้น้ำหนักน้อยมาก แถมยังทรมานจากการเป็นเนื้องอกอีก แต่นั่นไม่สายเกินไปที่มันจะได้พบกันรักแท้ นับว่าเป็นความโชคดีเมื่อเจ้าหน้าที่จาก New England Humane Society (NEHS) (ศูนย์พักพิงที่ Ashlyn อยู่ )ได้พบกับบางคนที่มีบ้านสมบูรณ์แบบ และเหมาะสำหรับ Ashlyn ในการใช้ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตที่นั่น ขณะเดียวกัน Paul Steklenski ผู้ก่อตั้ง Flying Fur Animal Rescue (FFAR) ได้ตัดสินใจอาสาพาเจ้าหมาไปยังบ้านหลังดังกล่าว ขณะที่เขาบินอยู่กลางอากาศ Ashlyn นั่งข้างๆ อย่างสงบ และ Steklenski ก็เริ่มคิดว่านี่อาจจะเป็นการเดินครั้งสุดท้ายของเจ้าหมาตัวนี้ก็ได้ ปกติแล้ว Steklenski มักจะบินพาสุนัขไปยังบ้านใหม่เสมอ เดือนหนึ่งก็ประมาณ 15-30 ตัว แต่เขารู้สึกสนใจเจ้าหมาแก่ตัวนี้มากเป็นพิเศษ ช่วง 2 ชั่วโมงแรกที่นั่งเครื่อง Ashlyn ดูเป็นกังวลเล็กน้อย…
-
งานแต่งเจ้าชายแฮร์รี่มาแปลก เพราะพระองค์ไม่เชิญนักการเมืองมา แต่สามัญชนมาเพียบ!?
ทุกครั้งที่มีงานแต่งงานของคนที่สูงศักดิ์หรือคนที่มีชื่อเสียง เหล่านักการเมืองจากชาติต่างๆ มักจะเป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่ถูกเชิญไปร่วมงานเสมอๆ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับงานแต่งของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ซึ่งหลายคนก็น่าจะทราบกันดีแล้วว่างานแต่งของพระองค์นั้นกำลังจะเริ่มขึ้นในเร็ววันนี้แล้ว ซึ่งทางราชสำนักก็ได้ออกมาประกาศรายชื่อแขกที่จะได้รับเชิญให้มายังงานดังกล่าว โดยรายชื่อนั้นต่างสร้างความตกใจให้กับสื่อมวลชนมากๆ นั่นก็เพราะในรายชื่อนั้นไม่มีนักการเมืองอยู่แม้แต่คนเดียว แถมในรายชื่อยังมีสามัญชนทั่วไปได้รับเชิญมางานมากถึง 1,200 คน ไม่ว่าจะเป็นเด็กสาวผู้รอดชีวิตจากเหตุระเบิด เจ้าของร้านขนมเพื่อสังคม คุณครูโรงเรียนประถม เด็กชายผู้อุทิศชีวิตให้องค์กรการกุศลและอื่นๆ อีกมากมาย หนูน้อยเอมีเลีย ทอมป์สัน วัย 12 ขวบ เหยื่อจากเหตุระเบิดที่เมืองแมนเชสเตอร์ ได้รับเชิญให้ร่วมพิธีเสกสมรสด้วย รูเบน ลิเธอร์แลนด์ เด็กชายผู้อุทิศตัวให้กับชุมชนคนหูหนวกและแม่ของเขา ส่วนสาเหตุที่งานแต่งของเจ้าชายแฮร์รี่ต่างจากงานเมื่อครั้นเจ้าชายวิลเลี่ยมนั่นก็เพราะ เจ้าชายแฮร์รี่ไม่ใช่คนที่จะต้องรับตำแหน่งต่อ แต่เจ้าชายวิลเลี่ยมจะต้องรับหน้าที่เป็นหน้าเป็นตาต่อราชวงศ์ฉะนั้นจึงต้องมีบุคคลสำคัญมานั่นเอง นอกจากนี้เจ้าชายแฮร์รี่ยังต้องการความหลากหลายทั้งด้านอายุ เชื้อชาติและการงาน พระองค์จึงโฟกัสที่สามัญชนเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ก็จะมีเพื่อนสนิททั้งของพระองค์และเมแกนมาร่วมงานด้วย เจ้าของร้านขนมเพื่อกาลกุศลที่ตอนแรกที่เธอได้รับเชิญ เธอนึกว่าเธอถูกแกล้ง ส่วนงานจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ก็คงต้องติดตามกันต่อไป ซึ่งมันคงจะเป็นงานแต่งของเชื้อพระวงศ์ที่น่าสนใจที่สุดงานหนึ่งตั้งแต่มีมาเลยก็ว่าได้ ที่มา bbc, fortune
-
งงกันทั้งบาง หลังมีหนุ่มเปลือยที่อยู่ดีๆ ก็เดินเข้าไปในปั๊มพร้อมกับดิลโด้ที่คาอยู่ตรงตรูด
กลายเป็นกระแสพูดถึงกันอย่างหนาหูบนโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อมีคนปล่อยคลิปของชายคนหนึ่งที่เดินแก้ผ้าเข้าไปยังปั๊มน้ำในสภาพเปลือยเปล่าพร้อมกับตะโกนลั่น ทำให้หลายคนพากันสงสัยว่าชายคนนี้ไปมีอาการผิดปกติหรือเปล่า คลิปดังกล่าวนั้นถูกถ่ายที่เมืองบัวโนสไอเรสในประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งภายในคลิปชายคนดังกล่าวนั้นได้เดินเข้าไปใจกลางปั๊มน้ำมันโดยที่ไม่สนสิ่งรอบข้างแม้ว่าเจ้าตัวจะเปลือยอยู่ก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น คนที่เห็นเหตุการณ์ยังสังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติอื่นๆ อีกด้วย . นั่นก็คือเซ็กส์ทอยที่เสียบขาอยู่บริเวณก้นของเขา ซึ่งสีหน้าของชายแปลกหน้าคนดังกล่าวดูทรมานจากเซ็กส์ทอยที่เสียบคาอยู่มากๆ เพราะเขาตะโกนเรียกหาหมอให้มาช่วยตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม แม้ชายคนดังกล่าวจะตะโกนดังแค่ไหน ตีขาตัวเองเพื่อลบความเจ็บปวดอย่างไร แต่รอบข้างก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเขาเลยแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แต่เพียงคุยอยู่ห่างๆ แม้ว่าสุดท้าย เจ้าหน้าที่จะทำท่าเหมือนพยายามช่วยเหลือ แต่เขาก็ปฎิเสธท่าเดียว สุดท้ายแล้วหลังที่ทีมแพทย์เดินทางมาถึง ชายคนดังกล่าวก็ได้แพทย์เข้าช่วยเหลือและพูดคุยกับเขา โดยผลลัพธ์นั้นทำให้เขาใจเย็นลงและสามารถเอาเซ็กส์ทอยที่ติดอยู่ออกไปได้ แพทย์ได้คาดการณ์ว่า ชายคนดังกล่าวน่าจะมีอาการป่วยทางจิตจึงทำให้เขาเกิดคลั่งขึ้นมา ทีมแพทย์ยังบอกอีกว่า พวกเขารู้สึกผิดหวังมากๆ ที่แม้จะมีคนทำท่าทางเจ็บปวดอยู่ตรงหน้า ผู้คนก็ยังเลือกปฎิบัติและไม่เข้าไปช่วยปล่อยให้เขาทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ที่มา ladbible
-
โรงเรียนสอนขับรถสุดเหี้ยม ใช้มือถือนักเรียนมาตีเส้น ถ้าถอยพลาดก็บอกลาได้เลย…
การจะเปิดโรงเรียนสอนขับรถในปัจจุบันนั้น ถ้าจะสอนแค่ให้ขับเป็นนั้นถือเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว แต่ถ้าจะสอนให้นักเรียนมีวินัยและตั้งใจ ถอยรถเข้าออกได้แม่นยำนั้น บางครั้งผู้สอนก็ต้องใช้ไม้แข็งเพื่อสอนพวกเขา เช่นเดียวกันสถาบันสอนขับรถในมณฑลซานตง ประเทศจีน ที่เห็นควรสอนให้นักเรียนมีความตั้งใจและระวังในการขับขี่มากกว่าปกติ พวกเขาจึงคิดค้นเทคนิคการสอนที่จะทำให้เหล่านักเรียนที่มาเรียนต้องระวังมากกว่าเดิมไปตลอดชีวิตขึ้น วิธีดังกล่าวนั้นก็ง่ายแสนง่าย โดนโรงเรียนได้ให้นักเรียนที่มาเรียนใช้โทรศัพท์ของทุกคนมาวางไว้บนเส้นจุดจอดรถ จากนั้นก็ให้นักเรียนทุกคนหัดถอยหลังเข้าที่จอดรถโดยไม่กินเส้นของช่องข้างๆ ถ้าพลาดทีก็เตรียมซื้อเครื่องใหม่กันได้เลย แน่นอนว่าผลลัพธ์ของการล้ำเส้นข้างๆ ก็คือจะทำให้รถทับโทรศัพท์มือถือของตนเองและนักเรียนทุกคนไปในทันที แต่ใครจะคาดคิดว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้สร้างความกดดันให้นักเรียนเท่าที่ควรเลย ดูสนุกกันใหญ่ ลุ้นกันมากๆ ว่าจะมือถือจะโดนทับไหม เพราะจริงๆ แล้วไอเดียการเอาโทรศัพท์มาตีเส้นนั้น มันเป็นไอเดียของนักเรียนทุกคนที่เข้ามาเรียนขับรถยังโรงเรียนดังกล่าว โดยทุกครั้งที่มีนักเรียนคนหนึ่งสอบถอยหลังเข้าช่องจอดรถ นักเรียนคนอื่นก็จะลุ้นกันอย่างสนุกสนาน แต่ถึงจะสนุก แต่ทุกคนนั้นก็ตั้งใจสุดชีวิต เพราะไม่อยากให้มือถือของตนเองพัง ซึ่งทางโรงเรียนสอนขับรถดังกล่าวก็ดีใจและยินดี ที่จะได้เห็นนักเรียนของพวกเขามีความสามารถในการขับขี่และใช้ท้องถนนได้อย่างดีเยี่ยมนั่นเอง… อาจจะมีโรงเรียนสอนขับรถแถวๆ นี้ สนใจจะเอาไปใช้บ้างมั้ยเนี่ย!? ที่มา shanghaiist
-
ดีไซเนอร์จีนออกแบบแฟชั่นชุดดำน้ำ ให้มี “ถุงน่อง” ช่วยเพิ่มความอบอุ่นขณะอยู่ใต้น้ำ
แฟชั่นเป็นสิ่งที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อความสวยงาม เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเจ้าคำว่าแฟชั่นนี่เองมันก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เฉพาะเสื้อผ้าที่เราใส่กันอยู่ทุกวี่ทุกวันหรอกนะ เพราะแม้จะเป็นชุดดำน้ำที่ไม่น่าจะผสมผสานแฟชั่นลงไปได้ ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้เช่นกัน เมื่อราวๆ ปีสองปีก่อนได้มีช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Manabu Koga คิดค้นถุงน่องใต้น้ำขึ้นมา เพื่อให้สาวๆ ได้สวมใส่มันในใต้น้ำแล้วถ่ายออกมาเป็นภาพสวยๆ เพื่อนำไปจัดแสดงในนิทรรศการภาพถ่ายของเขา ต่อมาไอเดียถุงน่องใต้น้ำของช่างภาพชาวญี่ปุ่นก็ได้ถูกดีไซเนอร์ชาวจีนหยิบยืมไปเพื่อดัดแปลงมันให้กลายเป็นถุงน่องสำหรับการดำน้ำจริงๆ ในชื่อแบรนด์ Bestdive และใช้วัสดุแบบพิเศษที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับผู้สวมใส่อีกด้วย ต่อมา Manabu Koga ก็ได้ไปเจอเข้ากับถุงน่องดำน้ำนี้เข้า เขารู้สึกชื่นชอบสินค้าชิ้นนี้มากจนแชร์มันลงในทวิตเตอร์ของตัวเอง ถุงเท้าดำน้ำชิ้นนี้ถูกทำมาจากยางและผ้ายืดที่มีความหนา 2 มิลลิเมตร ให้ความยืดหยุ่นและทนทาน เหมาะกับการเคลื่อนไหวเช่นการดำน้ำ และยังให้ความอบอุ่นกับผู้สวมใส่ แฟนๆ บางส่วนของ Manabu Koga มองว่าถุงเท้าดำน้ำชิ้นนี้เป็นเพียงสินค้าก็อปเท่านั้น แต่แฟนๆ บางส่วนกลับมองว่ามันคือสิ่งที่น่าสนใจมาก และยังสนใจในวัสดุที่นำเอามาทำอีกด้วย หากใครสนใจลองไปชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ taobao.com เลย สนนราคาอยู่ที่ 1,490 ต่อ 1 คู่ เมื่อชุดดำน้ำสุดเซ็กซี่และแหวกแนวชิ้นนี้ถูกพูดถึงมากขึ้น ชาวเน็ตก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา “มันเยี่ยมมากที่เขาใช้วัสดุแบบชุดดำน้ำ” “ฉันชอบความหนาของมันนะ และก็ยังอยากได้ดีไซน์แบบ Koga…
-
ประกาศผู้ชนะ Gif ยอดเยี่ยมแห่งปี 2017 กับภาพหนุ่มกะพริบตา ในงานออสการ์ฉบับชาวเน็ต
แม้ว่าตอนนี้จะเข้าสู่เดือนที่ 4 ของปี 2018 แล้ว และงานประกาศรางวัลใหญ่ๆ ก็เริ่มจะผ่านพ้นไปกันจนหมด แต่สำหรับงาน Shorty Awards 2017 นั้นกลับเพิ่งจะมีการประกาศผลเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา หลายคนอาจจะสงสัยว่า ไอ้เจ้า Shorty Awards ที่ว่านั้นมันคืองานอะไร ซึ่งถ้าให้อธิบายง่ายๆ มันก็คืองานประกาศรางวัลสำหรับคอนเทนต์บนโลกอินเทอร์เน็ตในหมวดหมู่ต่างๆ โดยไม่สนว่าคุณเป็นคนดังแค่ไหนหรือเป็นตัวการ์ตูนหรือเปล่า ขอแค่มันเกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตก็พอ หรือจะให้เรียกง่ายๆ ว่าเป็นรางวัลออสการ์สำหรับชาวเน็ตก็ไม่ผิดซะทีเดียว ซึ่งในปีนี้นั้นก็ถือเป็นการจัดงานปีที่ 10 แล้ว ซึ่งการประกาศรางวัลนั้นก็มีรางวัลมากมายได้ถูกมอบให้กับบุคคลต่างๆ มากมาย แต่ที่แปลกกว่าคือ นอกจากบุคคลแล้วทาง Shorty Awards ยังได้มอบรางวัลให้กับอีโมจิ มีม และภาพกิฟ หรือ Gif ด้วย ซึ่งผู้ชนะจากหมวดทั้ง 3 ได้แก่ อีโมจิประจำปี 2017 ได้แก่ ยูนิคอร์น!! มีม ประจำปีได้แก่ มีมแฟนหนุ่มมองสาวอีกคน หรือ…
-
หนุ่มแอบบุกเข้าไปในร้านขายเกม แต่กล้องดันจับหน้าพี่แกได้ เพราะเอาถุงพลาสติกคลุมเฉยๆ
ตามปกติแล้ว การที่ใครสักคนหนึ่งบุกเข้าไปในร้านค้าเพื่อปล้นหรือขโมยของบางอย่างออกมา โจรเหล่านี้มักจะคิดอย่างรอบคอบด้วยการอำพรางใบหน้าอย่างดีหรือศึกษามุมของกล้องวงจรปิดมาก่อน แต่นั่นไม่ใช่สำหรับโจรคนนี้อย่างแน่นอน เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาตี 1 ของวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทางร้าน Gamestop นั้นเพิ่งจะได้เผยแพร่ภาพโจรคนหนึ่งบุกเข้ามาในร้านสาขา St. Marys ในรัฐจอร์เจียประเทศสหรัฐอเมริกา ภาพที่เราเห็นนั่นก็คือชายคนดังกล่าวงัดร้านเข้ามาพร้อมกับใช้ถุงพลาสติกใสคลุมหน้าของเขา ซึ่งภาพดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตถึงกับสงสัยว่าโจรคนดังกล่าวคิดว่าถุงพลาสติกที่เขาใช้มันสามารถปกปิดใบหน้าได้จริงๆ อย่างนั้นเหรอ? ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเมือง St. Marys ก็ออกมาเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ชายคนดังกล่าวนั้นดูเหมือนจะพยายามปิดบังใบหน้าให้คล้ายกับ Mr. Freeze ในเรื่อง Bat Man หรือว่าพี่แกมาตามหา God of War ภาคใหม่กันนะ!? แต่ดูแล้วน่าจะตามหาเกม Bat Man มากกว่าหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รายงานว่าชายคนดังกล่าวไม่ได้ขโมยอะไรออกไปแต่อย่างใด และยังมีการหยอกโจรคนนี้เล่นๆ ว่า ก่อนที่เขาจะบุกไปในร้าน Gamestop เขาคงกำลังหาวิธีอำพรางใบหน้าอยู่แน่ๆ เพราะมีภาพของชายคนดังกล่าวไปเดินอยู่แถวๆ แผนกเครื่องสำอางนั่นเอง สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ได้บอกว่า ถ้าใครรู้จักหรือพบเห็นชายคนดังกล่าวก็สามารถให้แจ้งไปที่เพจ…
-
พิธีศักดิ์สิทธิ์ในอินเดีย ลากรถยนต์ไปไกลกว่า 30 เมตร ด้วย “องคชาต” เท่านั้น!!?
ในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ผู้คนจำนวนมากได้มารวมตัวกันเพื่อรับชมการลากรถด้วย “องคชาต” ที่กระทำโดยนักบวชในศาสนาท่านหนึ่ง (มีคลิปด้านล่าง) นักบวชดังกล่าวได้ฉายาว่า Penis Baba ผู้ที่ลากรถยนต์ได้ด้วยการใช้เชือกผูกระหว่างรถและองคชาต ของเขา เพียงกำลังของอวัยวะเพศ เขาสามารถลากรถได้ไกลกว่า 30 เมตร ภายใต้ผ้าขาวที่เขานุ่งห่ม ปลายเชือกด้านหนึ่งถูกมัดเอาไว้กับของลับ Penis Baba หันหน้าเข้าหารถ พร้อมเดินถอยหลังอย่างช้าๆ เพื่อลากรถให้ค่อยๆ ไหลไป ประชาชนหลายร้อยคนต่างรวมตัวกันเพื่อดูการกระทำที่เกี่ยวกับศาสนานี้ โดยชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งกล่าวว่า “ตอนเด็กๆ Penis Baba นั้นเคยหายตัวไปบำเพ็ญตบะและฝึกวิชาอยู่หลายปี” แต่ไม่รู้ว่าไปฝึกอะไรมาถึงกลับมาแสดงพลังขององคชาตได้แบบนี้ Penis Baba อธิบายว่า “นี้ไม่ใช่งานศิลปะ นี่เป็นพลังที่พระเจ้าประทานให้กับผู้อุทิศตน” ชมคลิปเหตุการณ์ได้ด้านล่างได้เลย ขณะเดียวกันก็พบว่า ในเมืองอัลลอฮาบาด ทางด้านเหนือของอินเดีย ผู้ที่เรียกตัวเองว่า สาธุ ท่านหนึ่งออกมาลากรถบรรทุกเล็กๆ ด้วยองคชาตเช่นเดียวกัน แต่ที่แตกต่างกับ Penis Baba คือชายที่เรียกตัวเองว่าสาธุนี้เปลือยกาย ใส่เพียงรองเท้าแตะคู่หนึ่งเท่านั้น…
-
แคมเปญรณรงค์สุดเจ๋งจากนิวซีแลนด์ ว่าด้วยเรื่องการเล่นน้ำอย่างมีสติ มิฉะได้เจอยมทูตแน่!!
ร้อนๆ แบบนี้นอกจากสงกรานต์บ้านเราแล้ว ทะเลก็คงจะเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ใครๆ ก็อยากจะไปเพื่อคลายร้อน ใส่ชุดบิกินี่สวยๆ หรือพักผ่อนหย่อนใจ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการลงเล่นน้ำทะเลนอกจากสร้างความสุขแล้ว มันยังมีอย่างอื่นด้วย เพราะบางครั้งถ้าเราลงไปเล่นอย่างขาดสติหรือไม่ได้ระวังถึงอันตรายที่จะเกิด ทะเลก็จะเป็นที่อีกสถานที่หนึ่งที่มอบความตายให้กับคุณได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ทางการนิวซีแลนด์จึงออกแคมเปญที่ช่วยให้ประชาชนระวังถึงภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากบริเวณชายหาด เพราะประเทศนิวซีแลนด์นั้นมีสถิติคนตายจากการจมน้ำหรืออันตรายที่เกิดขึ้นจากการเล่นน้ำบ่อยมากๆ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำเมื่อปีที่แล้วเป็นชายหนุ่มอายุ 15-34 ปี ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วในนิวซีแลนด์มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำปีละ 105 คนเลยทีเดียว แคมเปญที่ว่านั่นก็คือ ‘The Swim Reaper‘ ซึ่งเป็นโฆษณาที่ใช้ตัวยมทูตซึ่งเป็นตัวแทนแห่งความตายมาเดินเล่นบนชายหาด รวมถึงคอยเตือนว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำก่อนลงเล่นน้ำ เพราะถ้าพลาดอาจจะส่งผลให้ยมทูตตนนี้แวะไปหาคุณได้!! ลงมาเล่นน้ำกับเขาสิตัวเอง พี่เขามารอรับคนตายที่ชายหาดทุกวันเลยนะ เฝ้ามองว่าอาจจะมีคนติดมาแถวๆ ซอกหิน เป็นไปได้ก็อย่าเจอกันเลยจะดีกว่า… ในส่วนของคำแนะนำสำหรับคนที่อยากแวะมาเจอกับความตาย พี่แกก็ได้ให้คำแนะนำไว้หลายวิธีเลยไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำด้วยการใส่กางเกงยีนส์ หรือจะเป็นการกระโดดลงน้ำที่มีท่อนไม้แหลมๆ อยู่ข้างใต้ ไม่ก็อาจจะเป็นการว่ายน้ำแรงๆ แล้วไปชนเข้ากับหิน ทุกวิธีล้วนสามารถพาคุณมาพบกับพี่ Swim Reaper ได้หมด อยากมาเจอกันไวๆ ก็รับกางเกงยีนส์จากพี่ยมทูตลงไปเล่นน้ำได้เลย …
-
มาดูการปฏิกิริยาของสาวๆ เมื่อ “หนุ่มรูปงาม” ชวนไป “ซั่ม” ด้วยวาจาน่าเกลียด
ไม่ว่าใครก็ต้องชอบคนที่ดูดี จริงไหม? จากคำถามนี้ ชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งที่เรียกตนเองว่า Germanlifter จึงได้ทำการทดลองที่น่าสนใจขึ้นมาชิ้นหนึ่ง นั่นคือการ สมัครบัญชีปลอมของแอป Tinder (แอปหาคู่เดต) เพื่อไปดูปฏิกิริยาของสาวๆ ที่มีต่อชายหนุ่มรูปงามแบบเขา เขาเขียนเล่าว่า “มันน่าทึ่งมากที่ เมื่อผม ปัดขวา กับสาวคนไหนก็ตาม ผมจะได้รับการจับคู่ทันที โดยที่ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่ผมปัดขวาแล้วจะไม่มีการจับคู่” (สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจ ปัดขวา = ชอบ สมมติว่าคุณปัดขวาที่สาวคนหนึ่งที่เธอเองก็ปัดขวาคุณเอาไว้เหมือนกัน แอปก็จะจับคู่คุณและสาวคนนั้นให้ได้มาคุยกันนั่นเอง) Germanlifter แต่สังคมของแอปหาคู่แบบ Tinder แน่นอนว่าผู้คนก็ต้องมองหาคู่จากรูปลักษณ์ภายนอกอยู่แล้ว จึงไม่อาจเหมารวมได้ว่าเมื่อคนเราเจอกันจริงๆ จะเป็นเหมือนกับที่เจอในแอป แต่ผลลัพธ์ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือ หลังจากที่ Germanlifter ได้แชตกับสาวๆ เขาทำการทดลองอีกครั้ง โดยการพิมพ์อะไรไปก็ได้ จะลามก หยาบช้า หรือว่ามั่วซั่วขนาดไหนก็ยังคงขอเบอร์สาวๆ เหล่านั้นได้อยู่ดี เขาบอกว่า “ไม่ว่าผมจะพิมพ์อะไรออกไป ผมก็ยังได้เบอร์สาวพวกนั้นอยู่ดี สาวๆ ที่ผมคุยส่วนมากเธอจะเริ่มเข้ามาคุยก่อน และมักจะตอบอย่างรวดเร็วเมื่อผมส่งข้อความไป แต่เอาจริงๆ ผมก็ถูกปฏิเสธอยู่ 2-3 ครั้งนะ นั่นเป็นเพราะว่า ผมเริ่มการสนทนาด้วยคำว่า ‘มาเย**กันเถอะ’” เขาใช้รูปพวกนี้เป็นภาพโปรไฟล์บน…
-
ชายโสดผู้เป็นเกย์ได้รางวัล “ยอดคุณพ่อ” หลังจากที่รับเลี้ยงเด็กพิการ 4 คน
Benjamin Carpente คือชายวัย 33 ปี ผู้เป็นหนุ่มโสดรักร่วมเพศอาศัยอยู่ในเมือง Shepley ที่ West Yorkshire ประเทศอังกฤษ เขาได้กลายเป็นบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนอังกฤษจำนวนมาก หลังจากที่เขาได้ รับเลี้ยงเด็กพิการ 4 คน เมื่อ 10 ปีก่อนเมื่อเขาได้รับลูกคนโตของเขา Jack เด็กชายผู้เป็นโรคออทิสติกและโรคย้ำคิดย้ำทำ ซึ่งนั่นหมายความว่าทั้งครอบครัวควรปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของ Jack “บ่อยครั้งที่เด็กที่มีความต้องการเพิ่มเติมจะถูกมองข้ามจากผู้อุปการะ” Benjamin กล่าว Jack ลูกชายคนโตของครอบครัว “อย่างไรก็ตามผมเข้าใจว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถดูแลเด็กที่มีความจำเป็นเพิ่มเติมได้” แม้ว่าจะพูดแบบนั้นแต่ Benjamin ก็รับเลี้ยง Ruby ผู้มีปัญหาในการเคลื่อนไหว และความพิการทางร่างกาย กับ Lilly น้องสาวของเธอที่หูหนวกและมีความบกพร่องอย่างรุนแรง ทำให้คนทั้งบ้านต้องเรียนภาษามือเพื่อให้สื่อสารกับเธอได้ และ Joseph สมาชิกคนสุดท้องของครอบครัววัย 2 ปีที่มีอาการดาวน์ซินโดรม และมีความต้องการที่ซับซ้อนหลายอย่าง Ruby ที่มีความพิการทางร่างกาย Lilly น้องสาวของ Ruby ที่หูหนวกและมีความบกพร่องอย่างรุนแรง Joseph สมาชิกคนสุดท้องที่มีอาการดาวน์ซินโดรม Benjamin บอกว่าเขาต้องใช้เวลาถึง 3 ปีในการโน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเขาจริงจังกับการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม…
-
ชาวอุยกูร์โอด โดนบังคับโหลดแอปลบรูป “อันตราย” ทุกวันนี้ยังเซ็นเซอร์กันไม่พออีกเหรอ
เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้นผู้คนจากกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์ซึ่งเป็น ประชากรของเขตปกครองตนเองซินเจียง ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศจีนได้ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาถูกทางการจีนโดนบังคับให้โหลดแอปพลิเคชันมือถือ Jingwang Weishi แปลตรงๆ ว่าโปรแกรมทำความสะอาดเว็บ หน้าตาของแอปพลิเคชัน Jingwang Weishi โปรแกรม Jingwang Weishi ที่ว่านี้ได้รับการยืนยันจากทีมกองทุนเทคโนโลยีเปิดของ Radio Free Asia แล้วว่า มีการบันทึกข้อมูลโทรศัพท์เช่น หมายเลข IMEI หมายเลขโทรศัพท์ รุ่นของโทรศัพท์ และผู้ผลิตโทรศัพท์เป็นต้น นอกจากนี้มันยังมีการค้นข้อมูลภายในโทรศัพท์เพื่อหาลายนิ้วมือของเจ้าของ ภาพถ่ายในเครื่อง การบันทึกเสียง และวิดีโออีกด้วย Jingwang Weishi จะเปรียบเทียบสิ่งที่พบกับฐานข้อมูลภายในขนาดใหญ่ และถ้าในเครื่องมีไฟล์ที่ถูกระบุว่า “อันตราย” แอปจะส่งข้อความไปยังผู้ใช้โทรศัพท์เพื่อบอกให้ลบไฟล์ดังกล่าว นักวิจัยกล่าวอีกว่าแอปนี้ยังทำการส่งข้อมูลทุกชิ้นที่พบในมือถือไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก โดยไม่มีการเข้ารหัสใดๆ เลย ภาพกล้องวงจรปิดเหนือเขตปกครองตนเองซินเจียง Jingwang Weishi จะมุ่งเน้นไปที่ไฟล์มัลติมีเดียซึ่งถูกมองว่าเป็นการส่งเสริมลัทธิการก่อการร้าย แต่คนในพื้นที่หลายคนบอกว่าภาพและวิดีโอธรรมดาๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนาหรือวัฒนธรรมของพวกเขา บางครั้งก็จะถูกมองว่าเป็นไฟล์ที่อันตรายเช่นเดียวกัน มีข่าวลือว่าชาวอุยกูร์หลายพันคนโดนจับตัวไปในคุกเพื่อการศึกษาการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยยังไม่ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรรมใดๆ ด้วยซ้ำ กองกำลังของประเทศที่ประจำการสอดส่องดูแลห้างสรรพสินค้าในซินเจียง เป็นเวลานานแล้วที่จีนได้เพิ่มการเฝ้าระวังทั้งในด้านมนุษย์ และเทคโนโลยีในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นระยะๆ โดยที่ทางรัฐบาลกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับพื้นที่ แห่งนี้เพื่อรักษาความปลอดภัยของชาติ แม้ว่าคนส่วนมากจะกล่าวนี่เป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนก็ตาม …
-
วินาทีเฉียดตาย!! ชายออสซี่เติมเศษไม้เข้าเตาย่าง กลับระเบิดตู้ม กลายเป็นโกโก้ครั้นช์
ในโลกนี้มีอยู่หลายที่ยากต่อการควบคุมของมนุษย์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือภัยธรรมชาติ ที่เราจะเห็นได้ว่ามันเกิดขึ้นอยู่ทุกปีไม่เว้นช่วงกันเลย ภัยธรรมชาตินี้สามารถแบ่งออกเป็น 8 ประเภทใหญ่ๆ คือ วาตภัย อุทกภัย ธรณีภัย อัคคีภัย มลพิษภัย โรคภัย อาหารภัยและโจรภัย โดยภัยร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในประเทศไทยได้แก่อุทกภัย ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไปเราจะเห็นได้ว่ามันเกิดขึ้นอยู่ในทุกปีที่ผ่านมาและเป็นปัญหาสะสมมาแสนนาน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการตัดไม้ทำลายป่าหรืออาจจะเป็นเพราะการทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางของคนไทย ถึงแม้ว่าอุทกภัยจะถือว่าเป็นภัยอันดับหนึ่งที่เราต้องเผชิญ แต่ในวันนี้ภัยที่เราจะมาพูดถึงได้แก่อัคคีภัยและไม่ใช่อัคคีภัยที่เกิดจากธรรมชาติด้วย มันคืออัคคีภัยที่เกิดขึ้นจากคนอยากรู้อยากลองนี่แหละ จากในวิดีโอสุดสะพรึงได้แสดงให้เห็นถึงภาพเหตุการณ์น่ากลัว ที่เกิดขึ้นในชานเมือง Blaxlands Ridge ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซิดนีย์ เมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างปาร์ตี้บาร์บีคิว ชายเสื้อขาวคนดังกล่าวกำลังเติมเชื้อเพลิงให้กับเตาย่างเนื้อของเขาซึ่งก็ดูเหมือนการปาร์ตี้ที่สงบสุขดี แถมยังมีโชว์ยกหัวนิ้วโป้งขึ้นแล้วลงให้เพื่อนเขาดูเสียด้วย แต่พอเมื่อเขานำเศษไม้ที่อยู่ในถังสีฟ้าโยนเข้าไปในกองเพลิงมันกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด การที่เขาโยนเชื้อเพลิงไปแบบนั้นมันทำให้กองไฟปะทุและเกิดเป็นการระเบิดครั้งใหญ่ ซึ่งเปลวเพลิงที่ระเบิดออกมาได้กลืนร่างเขาไปทั้งตัว วินาทีที่เขานำเศษไม้โยนเข้าไปในเตาบาร์บีคิว ตู้ม!! ระเบิดอย่างรุนแรง หลังจากถูกกองระเบิดเพลิงกลืนไป เดชะบุญที่เขาไม่เป็นอะไรมากและรีบวิ่งออกมาตั้งหลักในพื้นที่ปลอดภัยก่อนที่จะถอดเสื้อของตนออกและสำรวจดูว่ามีตรงไหนที่บาดเจ็บบ้างหรือไม่ เขาได้รีบไปยังห้องฉุกเฉินโดยทันที ในเบื้องต้นพบว่าเขามีแผลไหม้อย่างรุนแรง และต้องรับการรักษาและฟื้นตัวในโรงพยาบาล โกยสิครับ จังหวะนี้ ถือว่าเป็นโชคดีที่เขาบาดเจ็บไม่ถึงแก่ชีวิต และนี่เป็นอีกเหตุการณ์ที่คงช่วยเตือนใจให้เพื่อนๆ ระมัดระวังตัวเวลาต้องใช้ฟืนใช้ไฟกันนะครับ ที่มา…
-
พนักงานสตาร์บักส์แจ้งตำรวจจับ 2 ชายผิวสีในร้าน เหตุเพราะขอเข้าห้องน้ำ แต่ไม่สั่งกาแฟ
เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอชายผิวสี 2 คนถูกแจ้งจับในร้านสตาร์บักส์ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในวิดีโอดังกล่าวถูกโพสต์ลงทวิตเตอร์ของผู้ใช้ที่มีชื่อว่า Melissa DePino ภายในวิดีโอแสดงให้เห็นว่าชายผิวสี 2 คนได้ถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือและคุมตัวออกจากร้านกาแฟไป และมีเสียงตะโกนร้องจากลูกค้าคนอื่นๆ ที่ตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด Melissa โพสต์พร้อมกับคำบรรยายว่า “ตำรวจจับชาย 2 คนนี้เพราะว่าพวกเขายังไม่ได้สั่งกาแฟ พวกเขากำลังรอให้เพื่อนอีกคนมา พวกเขาถูกจับใส่กุญแจมือทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเราคนผิวขาวก็สงสัยว่าทำไมเหตุการณ์แบบนี้ถึงไม่เกิดขึ้นกับเราบ้าง” @Starbucks The police were called because these men hadn’t ordered anything. They were waiting for a friend to show up, who did as they were taken out in handcuffs for doing nothing.…
-
ชาวบ้านเหวอ!! ภาพของสัตว์ประหลาดสูงกว่า 2 เมตร ไม่มีใครรู้ว่ามันคือตัวอะไรกันแน่
เราอาจเคยได้ยินเรื่องเล่าหรือตำนานเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดต่างๆ ที่มีอยู่ในความเชื่อของแต่ละท้องที่ ซึ่งยังคงพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่ เช่นเดียวกันกับเจ้าตัว “ครึ่งคนครึ่งสัตว์” นี้ที่โผล่มาสร้างความหวาดผวาให้กับทุกๆ คน ด้านล่างนี้คือภาพของสัตว์ประหลาดที่บังเอิญถูกถ่ายเอาไว้ได้ผ่านกล้องวงจรปิด ภายในเมือง Santa Fe ประเทศอาร์เจนตินา สิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาด ถูกถ่ายผ่านกล้องวงจรปิดในเมือง จากการรายงานของคนในท้องถิ่นบอกว่า มันเป็นสิ่งมีชีวิตปริศนาเดิน 4 ขา ความสูงราวๆ 7 ฟุต (ประมาณ 210 เซนติเมตร) ลักษณะเหมือนอูฐ ม้า และกระต่ายผสมกัน นอกจากนั้นมันยังออกมาล่าสุนัขในเมืองไปแล้วถึง 2 ตัว ได้แก่สุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดและพิทบูลอย่างละตัว ภาพของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ถูกโพสต์ลงไปในยูทูบผ่านแชแนล UFOmania ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย มีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่าเขาเคยเห็นสิ่งมีชีวิตตัวเดียวกันนี้ในปี 2005 เจ้าของคอมเมนต์เล่าว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวเหมือนกับจิงโจ้ สามารถกระโดดข้ามสะพานคอนกรีตไปได้ไกลราว 4.5-6 เมตรเลยทีเดียว และยังมีอีกความคิดเห็นหนึ่งที่บอกว่าในฟิลิปปินส์จะเรียกสิ่งมีชีวิตตัวนี้ว่า ASWANG มันคือคนที่กลายร่างเป็นสุนัขปีศาจ อีกทั้งยังอาจกลายเป็นแมวหรือนกยักษ์ได้ด้วย เรียกว่าประหลาดสุดๆ คลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไป อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีการพิสูจน์ได้ว่ามันคือตัวอะไรกันแน่…
-
หนุ่มโดนบอกเลิก หลังมอบเงินกว่า 200,000 บาท ให้แฟนสาวไป ‘ทำนม’ เป็นของขวัญวันเกิด
ความรักและการสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนอาจเป็นเรื่องยาก แต่ที่ยากกว่าคือการรักษาความสัมพันธ์นั้นเอาไว้ให้นาน เพราะบางครั้งสิ่งที่เราทำไปด้วยความหวังดีก็อาจกลายเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับอีกฝ่าย เช่นเดียวกันกับการกระทำของชายคนนี้ เขาคนนั้นมีชื่อว่า Erik วัย 32 ปี ชายผู้อาศัยอยู่ในกรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เขาคือหนึ่งในผู้ร่วมรายการ Back With The Ex เพื่อหวังที่จะกลับไปคืนดีกับแฟนเก่าของเขา Lauren Erik ชายผู้ต้องการกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า ทั้งสองให้สัมภาษณ์กับทางรายการว่าเลิกรากันมาแล้วถึง 6 ครั้งด้วยกัน โดย Lauren บอกว่า “ฉันรัก Erik มากและรักเขามาตลอด ฉันพยายามจะคิดว่าเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว” Lauren ได้พูดถึงเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เธอมองว่าอีกฝ่ายยังคงมีความคิดแบบเด็กๆ แถมยังเป็นเหมือนกับการบังคับควบคุมเธออีกต่างหาก นั่นคือตอนที่ Erik มอบของขวัญวันเกิดให้กับเธอ Lauren แฟนเก่าของ Erik เธอเล่าว่า “มีอยู่ปีหนึ่ง เขามอบของขวัญวันเกิดให้กับฉันเป็นซองจดหมายที่ข้างในมีเช็คเงินสดจำนวนกว่า 240,000 บาท พร้อมกับโบรชัวร์การศัลยกรรมเสริมเต้านม” ของขวัญวันเกิดชิ้นนั้นทำให้เธอรู้สึกว่ามันไม่โอเค ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าทั้งคู่ไม่เคยคุยเกี่ยวกับเรื่องการเสริมเต้านมมาก่อนเลย ตัวเธอจึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากและอาจคิดว่าเขากำลังดูถูกเธออยู่ ก่อนที่จะตัดสินใจบอกเลิกเขาไป ขณะเดียวกัน ฝ่ายชายมองว่าของขวัญดังกล่าวก็ดีอยู่แล้วและคิดว่าเธอมองมันในแง่ลบมากจนเกินไป…
-
เมนูสุดพิสดาร กับ ‘แฮมเบอร์เกอร์เนื้อแมงมุมทารันทูล่า’ เรียกได้ว่าใครจะกล้าแดร๊ก!!
แฮมเบอร์เกอร์ ที่เราเห็นกันทั่วๆ ไป คือขนมปังแผ่นกลมๆ สองแผ่นประกบกันมีไส้ต่างๆ คั่นกลาง อย่างเช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ปลา ไก่ย่าง บวกกับผักนานาชนิด ถ้าพิเศษหน่อยก็อาจจะเพิ่มชีสหรือเพิ่มหรือเนื้ออีกสักก้อนสองก้อนว่ากันไป แต่สำหรับเบอร์เกอร์ในร้าน Bull City Burger มันกลับพิเศษมากยิ่งกว่านั้นไปอีกขั้น ร้านเบอร์เกอร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Durham รัฐนอร์ธแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา พวกเขาได้คิดเมนูใหม่ขึ้นมา เอาใจเหล่าลูกค้าที่ชอบกินอะไรแบบพิสดารๆ กับแฮมเบอร์เกอร์เนื้อวัวโปะด้วยแมงมุมทารันทูล่า!! เบอร์เกอร์แมงมุมทารันทูล่าย่าง!! หลายๆ คนดูแล้วคงรู้สึกว่ามันไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่ และไม่คิดว่ามันจะสามารถกินได้จริงๆ แต่เจ้าเมนูพิสดารนี้สามารถกินได้จริงๆ โดยมันคือเมนูพิเศษสำหรับเทศกาล Exotic Meat Month จากทางร้านที่จัดขึ้นทุกปี เดือนเมษายน 2018 นี้พวกเขาเลยเสนอสุดยอดเมนูเบอร์เกอร์แมงมุมทารันทูล่า ซึ่งอาหารจานดังกล่าวนั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 935 บาท และจะแถมเสื้อยืดให้ฟรีอีกหนึ่งตัว เสื้อที่จะได้รับ หากคุณตัดสินใจเข้าร่วมการกินเมนูเบอร์เกอร์แมงมุม ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นเมนูที่มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 18 ชุด โดยปัจจุบันมีคนสั่งรับประทานไปแล้ว 9 คน…
-
Justin Bieber ต่อยชายเมายา เพื่อช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกบีบคอในงานเทศกาลดนตรี
Coachella Valley Music and Arts Festival หรือเรียกง่ายๆ ว่า Coachella Party คือเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่อลังการในสหรัฐอเมริกา จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13-22 เมษายน 2018 ในเขต Empire Polo Club รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา งาน Coachella Party จัดขึ้นทุกปีในช่วงสงกรานต์บ้านเรา ในปีนี้ งานเทศกาลดังกล่าวยังคงเต็มไปด้วยเหล่าวัยรุ่นและศิลปินคนดังจำนวนมากที่เข้ามาร่วมสนุกกันภายในงาน หนึ่งในนั้นคือนักร้องหนุ่มผู้มีชื่อเสียง Justin Bieber ชายที่สาวๆ หลายคนหมายปอง แต่ในงานนี้เขาไม่ได้แค่มาร่วมสนุกไปกับเสียงดนตรีเพียงอย่างเดียว เพราะเขายังได้โชว์ความเป็นสุภาพบุรุษช่วยเหลือหญิงสาวเอาไว้ด้วย Justin Bieber นักร้องหนุ่มขวัญใจมหาชน สำนักข่าว TMZ รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2018 Justin และดาราหนุ่ม Patrick Schwarzenneger ได้เข้างานมาพร้อมกับเพื่อนๆ ของพวกเขา พบปะเหล่าแฟนคลับและเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลง…
-
พ่อมีความสัมพันธ์กับลูกสาวจนตั้งท้อง ตัดสินใจฆ่าลูกชาย ลูกสาว แล้วฆ่าตัวตายตาม
สืบเนื่องจากเรื่องที่คุณพ่อ Steven Pladl วัย 42 ปี มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ Katie Fusco วัย 20 ปี ลูกสาวในไส้ของตัวเองที่พลัดพรากจากกันไปจนเธอท้อง ทำให้ทั้งคู่ถูกจับในข้อหาร่วมประเวณีกันในครอบครัวตัวเอง (Incest) ต่อมานาย Steven จะถูกประกันตัวออกมาในภายหลังด้วยวงเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 31 ล้านบาท โดยมีข้อแม้ว่าต้องเลิกติดต่อกับ Katie โดยเด็ดขาด และให้ส่ง Bennett ลูกชายวัย 7 เดือนที่เกิดมาจากเธอไปให้แม่ของ Steven เลี้ยงดู (อ่านข่าวเก่าได้ ที่นี่) สำนักข่าว BBC รายงานว่านาย Steven Pladl ได้ลงมือฆ่า Katie และพ่อบุญธรรมของเธอ ก่อนที่จะฆ่าลูกชายที่เกิดจาก Katie ในภายหลัง สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเมืองเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านแม่แท้ๆ ของนาย Steven Pladl โดยเธอเป็นฝ่ายโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐนอร์ธแคโรไลนาด้วยตัวเอง เธอบอกว่านาย Steven โทรมาสารภาพกับเธอว่าเขาได้ลงมือฆ่า Katie Pladl และ Anthony Fusco วัย…
-
เหมาะสมหรือไม่!? แม่เชียร์ให้ลูกสาววัย 2 ขวบ “ดื่มเบียร์” บอกพ่อห้ามเข้ามายุ่ง…
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลอาจจะทำให้ใครหลายๆ คนรู้สึกสนุกสนานก็จริง แต่หากว่าเป็นช่วงเวลาที่คุณมี ลูกน้อย ล่ะ คุณจะยอมให้เขามาเกี่ยวข้องกับของมึนเมาแบบนี้หรือเปล่า? วันนี้ เราอยากให้ท่านผู้ชมช่วยกันวิเคราะห์ว่ามันเหมาะสมหรือไม่ที่ แม่ปล่อยให้ลูกน้อยวัย 2 ขวบของตนเอง “ดื่มเบียร์” ขณะที่ตนกำลังมึนเมาและสนุกสนาน เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่จากผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งที่เผยว่าอดีตคู่รักของตนได้ปล่อยให้ลูกน้อยของตนดื่มเบียร์ Carling lager จากกระป๋อง บนทวิตดังกล่าวเขาเขียนข้อความว่า “ดูสิ่งที่เธอทำกับลูกผมสิ เอาของมึนเมาให้ลูกกิน แถมห้ามไม่ให้ผมเข้าไปยุ่งอีกต่างหาก ช่วยกันแชร์หน่อยนะครับ ส่งเสริมลูกในทางที่ผิดแบบนี้ต้องประจาน” คลิปวิดีโอ เหตุการณ์ที่คุณแม่เชียร์ให้ลูกน้อยของตนดื่มเบียร์ หลังจากที่คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ตผู้ใช้ทวิตเตอร์ต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็น เช่น คนหนึ่งบอกว่า “ฉันใจสลายมากๆ ฉันรู้สึกเสียใจมากกับสิ่งที่หนูน้อยได้รับ” อีกคนกล่าวว่า “ใจสลายจริงๆ เด็กน้อยผู้น่าสงสาร แม่แบบนี้ไม่ควรมีลูกอีก ทำหมันไปเลย!” อย่างไรก็ตามผู้คนพยายามผลักดันให้ฝ่ายผู้เป็นพ่อต่อสู้เพื่อที่จะได้เข้าไปดูแลลูกน้อยของตน โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตท่านหนึ่งกว่าว่า “คุณต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกฎหมายของสตรี แล้วก็ใช้วิดีโอทั้งหมดที่เกี่ยวกับการกระทำของฝ่ายผู้เป็นแม่มาใช้เป็นหลักฐาน เผื่อว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับคุณ ฉันรู้สึกแย่และใจหายมากเมื่อดูวิดีโอของคุณ คุณต้องรีบนำหนูน้อยออกมาจากแม่ที่ชั่วร้ายโดยเร็วเลยนะ” หนูน้อยยกกระป๋องดื่ม ขณะนี้ เรื่องดังกล่าวได้มีรายงานถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองก็ได้เข้าพูดคุยกับฝ่ายผู้เป็นแม่เรียบร้อยแล้วและยืนกรานว่าจะสืบหาข้อเท็จจริงและข้อสรุปสำหรับเรื่องนี้ให้ได้ แล้วท่านผู้ชมคิดอย่างไรกับเหตุการณ์นี้กันบ้าง? คิดว่าเหมาะสมหรือเปล่าที่ให้เด็กน้อยวัยเพียง…
-
งามไส้!! ตำรวจนอกเครื่องแบบปลอมตัวเตรียมจับยา ดันปะทะกับตำรวจนอกเครื่องแบบอีกเขต
เป็นเรื่องปกติที่ตำรวจจะทำหน้าสุดความสามารถเพื่อจับผู้ร้ายและรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน แต่บางทีการปฏิบัติการที่เกินหน้าที่นั้นก็อาจทำให้เป็นอันตรายต่อประชาชนรอบข้างหรือแม้กระทั่งกับตำรวจด้วยกันเองเช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้ก็มีเหตุการณ์ที่ตำรวจนอกเครื่องแบบได้ปลอมตัวเป็นพ่อค้ายาเสพติดเพื่อปฏิบัติการล่อซื้อ แต่โชคไม่ดีที่ดันปฏิบัติการชนกับตำรวจนอกเครื่องแบบอีกเขตที่ปลอมตัวเป็นผู้ซื้อ ทำให้เกิดเหตุใช้ความรุนแรงขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อตำรวจนอกเครื่องแบบเขต 12 ปะทะกับตำรวจนอกเครื่องแบบจากเขต 11 ซึ่งก็มีกล้องตัวหนึ่งจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ James Craig หัวหน้าตำรวจเมืองดีทรอยต์ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “พวกเขาโผล่ออกมาเหมือนกับตำรวจในหนังตลก ถือว่าเป็นเรื่องน่าอับอายในวงการตำรวจมากๆ” นอกจากปฏิบัติการจะล่มอย่างไม่เป็นท่าแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตอีกด้วย เนื่องในช่วงปี 1800 ก็เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทำให้มีตำรวจเสียชีวิตถึง 2 คน แต่โชคดีที่ครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บรุนแรง โดยปกติแล้วงานตำรวจนอกเครื่องแบบนั้นเป็นงานที่ยากมาก เนื่องจากต้องทิ้งชีวิตปัจจุบันเพื่อไปใช้ชีวิตใหม่ และต้องปกปิดตัวตนของตัวเองไว้เป็นความลับ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตำรวจนอกเครื่องแบบของดีทรอยต์นั้นเก็บความลับดีเกินไป ทางด้านคนในชุมชนได้แสดงความเห็นว่า “ยาเสพติดนั้นเป็นปัญหาในชุมชนของพวกเรามาหลายปีแล้ว เมืองดีทรอยต์นั้นมีอัตราการเกิดอาชญากรรมเยอะมาก ผมว่าพวกคุณควรสื่อสารกันให้ดีกว่านี้ ผมไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่สื่อสารกัน” Craig กล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่างยังคงอยู่ภายใต้การสืบสวนสอบสวนต่อไป คลิปวิดีโอที่มีนายตำรวจคนหนึ่งบันทึกเอาไว้ได้ ถึงแม้ว่าเราจะเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ในภาพยนตร์มาบ้าง แต่เมื่อเกิดขึ้นในชีวิตจริงแล้ว มันอันตรายมากๆ อาจทำให้มีคนเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ที่มา Talkofweb, Dangerous
-
ผู้กำกับ Thor 3 ออกมาบอกว่าประเทศนิวซีแลนด์บ้านเกิดของเขา มีนิสัยชอบ ‘เหยียด’ สุดๆ
ปัญหาการเหยียดชาติพันธ์ เหยียดสีผิว เหยียดอะไรก็ตามนั้นยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นทุกมุมโลก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คนจะออกมาพูดความเท่าเทียมเพียงใด หรือแม้แต่ประเทศที่ใครก็บอกว่าน่าอยู่แค่ไหนก็ยังคงมีการเหยียดอยู่เช่นเคยไม่เปลี่ยน นิวซีแลนด์ ประเทศที่ใครๆ ก็พากันบอกว่าการศึกษาดี ภูมิทัศน์สวยงามน่าอยู่นั้น เราเชื่อไหมว่าประเทศดังกล่าวนั้นมีการเหยียดชาติพันธ์อย่างจริงจังอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ถูกบอกเล่าโดย Taika Waititi ผู้กำกับ Thor 3 อันโด่งดังและยังเป็นคนนิวซีแลนด์แท้ๆ แถมยังเป็นชาวมาวรีขนานแท้ด้วย โดยเขาบอก ประเทศของเขานั้นมีนิสัยเหยียดสุดๆ เพราะถ้าคุณเป็นชนพื้นเมืองพวกเขาก็จะมองคุณต่างออกไป หรือแม้แต่การเป็นคนท้องที่เดียวกันก็ยังโดนเลย เขาได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Dazed ว่า “ผมคิดว่านิวซีแลนด์คือประเทศที่สุดยอดที่สุดในโลก แต่เป็นเรื่องของการเหยียดนะ เพราะที่นี้มีการเหยียดที่แบบสุดๆ แม้พวกเขาจะรู้ว่าชนเผ่าเมารีอ่านออกเสียงยังไง แต่พวกเขาก็จะปฎิเสธที่จะอ่านให้มันถูกเสมอ และถ้าคุณเป็นชาวโพลีนีเซียน มันจะมีการวิเคราะห์รูปร่างหน้าตาเสมอ มันไม่เกี่ยวกับสีผิวหรอกนะ แต่แบบว่า ทุกคนจะพยายามมองคุณแล้วสังเกตรายละเอียดให้ได้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้” ยังไม่หมดเท่านั้น เขาบอกว่าชาวออกแลนด์จะรู้สึกผิดต่อพฤติกรรมในอดีตของบรรพบุรุษเกินควร โดยเฉพาะเวลาที่ชาวออกแลนด์เจอชนเผ่าพื้นเมือง พวกเขามักเข้ามาพูดประมาณว่า “นี่พวกเธอสบายดีนะ พวกเธอเติบโตมาอย่างดีใช่ไหม แล้วชนเผ่าของพวกเธอโอเคใช่ไหม” ด้วยเหตุนี้ Taika จึงพยายามหาทางที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวให้ได้ โดยเขาได้เข้าร่วมแคมเปญต่อต้านการเหยียดในนิวซีแลนด์ขึ้น และเจ้าตัวก็หวังว่ามันจะช่วยเปลี่ยนอะไรบางอย่างในประเทศได้ไม่มากก็น้อยนั่นเอง… …
-
หนุ่มจีนประชดแฟนตัด ‘หรรมส์’ ของตัวเองทิ้ง น้อยใจที่ถูกต่อว่า ขนาดตัวเล็กไม่โอ่อ่า…
การประชด ถือเป็นวิธีสุดฮิตของเหล่าคู่รักวัยรุ่นมักจะเลือกทำกัน เพราะส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเมื่อทำให้ตัวเองดูน่าสงสารหรือการประชดประชันจะได้รับความสนใจจากคู่ของตน แต่กลับกันแล้ว ถ้าการประชดดังกล่าวมันกลายเป็นความรุนแรงที่ยากจะแก้ไขอย่างเช่นกรณีของนักศึกษาจีนจากเมืองกว่างโจว ที่เขาประชดแฟนสาวหลังมีอะไรกันแล้วแฟนสาวบอกว่าไอ้นั้นของเขามันเล็ก หนุ่มจีนคนดังกล่าวจึงจัดการหั่นปิกาจูของตัวเองทิ้ง เพื่อประชดให้แฟนเห็นว่าถ้าของเขามันเล็กนักก็อย่ามีมันเลยดีกว่า ซึ่งหลังจากตัดปิกาจูออกไป เขาก็เดินออกมานอกหอพักด้วยสภาพเปลือยเปล่าท่อนล่าง พร้อมกับเลือดที่อาบไปทั้งขา อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นมีที่มาที่ไปแท้จริงอย่างไรไม่มีใครทราบ แต่ทางวิทยาลัย Guangdong Peizheng College ในกว่างโจว ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุก็ออกมายืนยันว่าเหตุการณ์เลือดอาบขาของหนุ่มคนนี้เกิดขึ้นจริง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารช่วงเวลา 14.00 น. ในวันดังกล่าว แต่สาเหตุนั้นไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้นและมันเกิดจากการที่แฟนสาวบอกว่าเขาเล็กจริงไหม ส่วนอาการและวิธีการแก้ไขปัญหานั้น ทางวิทยาลัยได้บอกว่าหนุ่มคนดังกล่าวปลอดภัยดี และสภาพจิตใจของเขาก็ดีขึ้นตามลำดับ พร้อมกับแนะนำให้พยายามอย่าไปยุ่งกับภาพหรือคลิปอะไรก็ตามที่อาจทำให้เขาไม่สบายใจ แม้ว่าข่าวของเขาจะถูกส่งต่อและพูดถึงกันไปต่างๆ นานาแล้วก็ตาม สุดท้ายแล้ว ถ้าเกิดเขาหั่นปิกาจูทิ้ง แล้วเกิดทั้งคู่เลิกกันในอนาคตเขาจะรู้สึกเสียใจที่ประชดแฟนเก่าไหมนะ จะแก้ไขก็ไม่ได้แล้วด้วย… ที่มา weibo, shanghaiist
-
นศ.ได้อีเมลเตือน ให้ระวังเสือในพื้นที่ กะตอบเอาฮา ‘นั่นมันแม่ผมเอง’ เผลอส่งให้ทั้งคณะ!?
เรื่องของภัยอันตรายเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรงขึ้น หน่วยงานต่างๆ ก็ต้องทำการแจ้งเตือนให้ประชาชนคนทั่วไปรับทราบล่วงหน้าเสียก่อน… แต่ทว่าความหวังดีนั้น กลับกลายเป็นการเล่นตลกของเด็กหนุ่มนักศึกษาไปได้เสียนี่ เมื่อทางมหาวิทยาลัยร่อนอีเมลเตือนภัยสัตว์ป่าในพื้นที่มหาวิทยาลัย แล้วดันไปตอบกลับด้วยข้อความเหมือนตอบแชตซะงั้น Caleb Diaz Caleb Diaz วัย 23 ปี จากมหาวิทยาลัย Southern Oregon University หนึ่งในนักศึกษาที่ได้รับอีเมลแจ้งเตือนจากคณะ โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับเสือพูม่าหลุดเข้ามาในบริเวณใกล้เคียงมหาวิทยาลัย หากพบเห็นให้โทรเรียก 911 ในทันที “ในวันศุกร์ช่วงบ่ายๆ เราได้อีเมลแจ้งเตือนเกี่ยวกับเสือพูม่า แล้วผมกับรูมเมทก็มองหน้ากันเหมือนกับว่า มันดูคล้ายหญิงแก่ๆ ไม่ใช่สัตว์หรอก” Diaz ให้สัมภาษณ์กับทาง Buzzfeed เขาก็เลยเล่นมุกตลกตบกลับไป ทำการตอบกลับอีเมลนั้นโดยไม่คิดอะไร เพราะคิดว่ามันส่งได้สำเร็จ “ผมไม่ได้คิดว่าข้อความนั้น จะถูกส่งไปทั่วทั้งคณะเลย” ‘นั่นคือแม่ของผมเอง’ ใจความสั้นๆ ที่ถูกส่งไปทั่วทั้งคณะ… เขาคิดเอง เออเองว่าระบบจะทำการบล็อกไม่อนุญาตให้นักศึกษาส่งอีเมลตอบกลับไปทั่วทั้งคณะ และคิดว่าน่าจะมีผู้ดูแลระบบคอยจัดการอยู่ ซึ่งหลังจากร่อนอีเมลตอบกลับไปแล้ว ก็ไม่ได้รับอีเมลใดๆ เพิ่มเติม ทั้งตัวเขาและเพื่อนรูมเมทอีกคน แต่พอในเช้าวันถัดมา…
-
หญิงถูกจับมีผงขาวไว้ในครอบครอง ปฏิเสธทันควันอ้าง ‘สายลม’ พัดเข้ามาในกระเป๋า!?
ทุกวันนี้ปัญหายาเสพติดก็ยังคงเกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา ต่างก็ระดมกำลังเพื่อกำจัดกันอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าเมื่อมีการกวนขันของเจ้าหน้าที่ เหล่าผู้ค้า ผู้เสพทั้งหลายก็โดนจับกันเป็นจำนวนมาก ทว่าหญิงรายหนึ่งกลับดื้อดึงปฏิเสธข้อหามียาเสพติดไว้ครอบครอง อ้างว่าไม่ได้ซื้อไม่ได้ขาย ไม่ได้ตั้งใจเอามาเก็บไว้ในกระเป๋า แต่เป็น ‘สายลม’ ต่างหากที่พัดพามันเข้ามาในกระเป๋า!? คดีเด็ดนี้เกิดขึ้นกับนาง Kennecia Posey วัย 26 ปี หนึ่งในผู้โดยสารบนรถยนต์ที่กำลังแล่นอยู่บนถนนในรัฐฟลอริดา และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ Fort Pierce เรียกตรวจค้นในวันที่ 21 มีนาคม 2018 Kennecia Posey ตามรายงานของตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใกล้รถของผู้ต้องสงสัย และได้กลิ่นคล้ายกับกัญชามาจากข้างในตัวรถ และในระหว่างที่ทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ก็พบผงขาวกับกัญชาถูกแยกเป็นสองถุง ใส่ไว้ในกระเป๋าของนาง Posey ที่วางไว้บนตักของตัวเอง เมื่อถูกสอบสวนเกี่ยวกับยาเสพติดดังกล่าวแล้ว Posey ยอมรับว่ากัญชาเป็นของเธอเอง แต่ผงขาวเนี่ยไม่ใช่ของเธอ “ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับโคเคนพวกนี้ วันนี้ลมแรงมาก มันจะต้องบินว่อนผ่านกระจกรถเข้ามาในกระเป๋าของฉันแน่ๆ” วันนั้นลมมันแรงจริงๆ นะ!! (ภาพประกอบเนื้อหา ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อข่าว) เธอถูกตัดสินจำคุกในความผิดทางอาญา…
-
เทรนด์ดูคนกินข้าวมันเอ๊าท์ ต้องมาเจอกระแส ‘ดูคนทำการบ้าน’ ก็ทำคนเดียวเงียบๆ มันเหงานี่!!
ในโลกยุคออนไลน์อะไรๆ ก็ต้องมองผ่านหน้าจอไปเสียหมด ทั้งด้านการบันเทิงพักผ่อนหย่อนใจ ดูหนังฟังเพลง ดูคนเล่นเกม ดูคนกินข้าว จนกระทั่งลามมาถึงดูคนทำการบ้าน!? ใช่แล้วล่ะ คุณอ่านไม่ผิดหรอก เพราะในขณะนี้ ‘การดูคนทำการบ้าน’ กำลังกลายมาเป็นกระแสในประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะ ถึงขั้นออกอากาศผ่านในรายการโชว์ช่วงเช้ากันเลยทีเดียว สำหรับคลิปที่ถูกนำมาออกอากาศผ่านรายการนั้น เป็นคลิปของนาย Hajime Shacho หนึ่งในยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวญี่ปุ่น ที่มีผู้ติดตามมากถึง 6.1 ล้านคน และคลิปการทำการบ้านของเขานั้นถูกปล่อยออกมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2016 มีคนดูไปแล้วกว่า 3 ล้านครั้ง แต่ทว่าคลิปนี้ไม่ใช่คลิปแรก ที่เกิดเป็นกระแสของ “Benkyou douga” (勉強動画) โดยในช่วงนั้นก็มีคลิปคนทำการบ้านเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี ส่วนใหญ่จะตั้งชื่อคลิปว่า “Ore to issho ni benkyou suru douga” (俺と一緒に勉強する動画) หรืออาจจะตั้งชื่อแค่ “Study With Me” สั้นๆ ไม่ก็…
-
หญิงสาวเผย ถูกจองจำเป็นทาสเซ็กส์นาน 11 ปี ตั้งท้องและแท้งถึง 5 ครั้ง แต่ก็รอดมาได้!!
ความรุนแรงในรูปแบบความสัมพันธ์นั้นเป็นสิ่งที่ยากเกินจะคาดเดา ภายนอกเราอาจจะไม่รู้ว่าระหว่างคนสองคนนั้น กำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเขามีความสุขกับการได้อยู่ด้วยกันอย่างที่เห็นผิวเผินหรือไม่… เรื่องราวของ Michelle Knight วัย 36 ปี หนึ่งในเหยื่อทั้ง 3 ที่ถูกนาย Ariel Castro ลักพาตัวมายังบ้านของเขา ที่กลายเป็นบ้านเขย่าขวัญนานนับสิบปี Michelle Knight เธอให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Dr. Phil หลังจากที่รอดพ้นจากเหตุการณ์ทุกข์ทรมานมาได้ ซึ่งในปัจจุบันเธอได้พบกับคู่ชีวิตที่พร้อมจะดูแลเธอ และได้ทำการแต่งงานเป็นที่เรียบร้อยมาตั้งแต่ปี 2016 แต่เมื่อกล่าวถึงช่วงชีวิตที่ถูกจองจำ เธอเล่าย้อนไปเมื่อปี 2002 เธอถูกนาย Ariel Castro ลักพาตัวและจองจำอยู่ภายในบ้าน ก่อนที่จะมีเหยื่ออีก 2 ราย นั่นก็คือ Amanda Berry และ Gina DeJesus ถูกลักพาตัวมาเพิ่ม Ariel Castro โดยเหตุการณ์เริ่มต้นที่เธอกำลังจะไปตามนัดของสถานสงเคราะห์ เพื่อจะไปรับลูกชาย Joey วัย 2 ขวบกลับมาเลี้ยงดู…
-
ผู้ลงสมัครนายกเทศมนตรีญี่ปุ่น ชูนโยบายใช้ AI เข้ามามีบทบาททางการเมือง!!
อย่างที่รู้กันดีว่าการหาเสียงของเหล่าพรรคการเมือง หรือตำแหน่งสำคัญเพื่อบริหารส่วนต่างๆ ของบ้านเมือง เหล่าผู้สมัครก็จะนำนโยบายต่างๆ มาปราศรัยเพื่อเรียกคะแนนจากประชาชน ซึ่งผู้สมัครแต่ละคนก็จะมีนโยบายที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับผู้เข้าแข่งขันชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมืองทามะ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ได้ทำการเสนอนโยบายที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก คือการใช้ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หรือ AI เข้ามามีบทบาทหน้าที่ทางการเมือง และผู้อยู่เบื้องหลังนโยบายนี้ก็คือนาย Michichito Matsuda วัย 44 ปี เขาได้กล่าวปราศรัยเอาไว้ว่า “เมืองทามะนั้นเคยเป็นเมืองที่เจริญมากๆ ของญี่ปุ่นเมื่อ 40 ปีก่อน ปัจจุบันนี้อายุของประชากรได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับกันจำนวนของประชากรไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม ฉะนั้น และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารในปัจจุบัน ผมจึงคิดว่าควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของระบบ AI เป็นตัวกำหนดนโยบายต่างๆ โดยการเก็บข้อมูลต่างๆ ในเมือง มาประมวลผลเพื่อทำหนดนโยบายทางการเมืองได้อย่างชัดเจน และแม่นยำ” และนี่ไม่ใช่การหาเสียงครั้งแรกของเขา โดยการชูนโยบายที่จะใช้ AI ในการบริหารงานส่วนต่างๆ แต่ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเขาได้พ่ายแพ้ให้กับ Hiroyuki Abe ที่ได้รับเสียงโวตมากถึง 31,828 ครั้ง ส่วน Michichito ได้รับคะแนนไปแค่ 3,509…
-
จากใบหน้า ‘Mark Zuckerberg’ ขณะเข้าพบวุฒิสภา ชาวเน็ตมือดีเลยทำมีมแซวกันใหญ่
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีคดีหนึ่งที่เป็นที่โด่งดังในต่างประเทศ คือมีการเปิดเผยว่าข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 80 ล้านบัญชีถูกล้วงออกไปใช้โดยบริษัทที่ปรึกษาทางการเมืองของอังกฤษ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อสองปีก่อน และเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้หลากหลายคนไม่พอใจ และทำให้คนดังหรือเจ้าของธุรกิจหลายรายเลือกที่จะลบเฟซบุ๊ก เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลกันมากมาย ส่วนในวันนี้ (วันที่ 10 เมษายน 2018 ตามเวลาท้องถิ่น) Mark Zuckerberg ได้เดินทางเข้าพบกับวุฒิสภาสหรัฐฯ เพื่อให้การเกี่ยวกับความผิดพลาดนี้ ซึ่งก็จบลงด้วยการที่เขากล่าวขอโทษเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกล้วงออกไป แต่ประเด็นครั้งนี้ก็คือ การแสดงออกภายในระหว่างการเข้าพบวุฒิสภาของตา Mark เพราะว่าสีหน้าและท่าทางของเขานั้นเหมือนกับหุ่นยนต์ไม่มีผิด ด้วยการแสดงออกที่เตะตาชาวเน็ตแบบนี้ จึงไม่พลาดที่พวกเขาจะนำภาพของ Mark Zuckerberg มาทำมุขหรือทำเป็นมีมแซวกันไปทั่วโลกออนไลน์ ตามรูปที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมในวันนี้ครับ 1. ปรับเปลี่ยนรอยยิ้มได้อย่างง่ายดาย 2. Zuckerberg รูปโปรไฟล์ vs Zuckerberg เมื่อเข้าพบวุฒิสภา 3. *จิบน้ำนิดหน่อย* ก่อนจะคิดว่ามนุษย์ก็ดื่มน้ำเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนี่หว่า 4. วุฒิสภา:บอกเราเกี่ยวตัวเองที่พวกเราไม่รู้มาหน่อยสิ คุณ Zuckerberg Zuckerberg: ผมคือโมเดลรุ่น 255.03-5 บลาๆๆ ที่ถูกดีไซน์มาเพื่อสำรวจความอ่อนแอในรูปแบบของประชากรมนุษย์ วุฒิสภา:…
-
เมื่อ ‘หมอแปลก’ มาเยือนเกาหลี ‘ยกมือไหว้’ ทักทายแฟนๆ ถูกกล่าวหาว่าเหยียดเชื้อชาติ!!
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลทั้งบ้านเรา ที่เกาหลี และลามไปทั่วโลก… กรณีของดาราชื่อดัง Benedict Cumberbatch หรือพี่หมอแปลก ได้เดินทางมายังประเทศเกาหลีใต้เพื่อโปรโมตภาพยนตร์ Avengers ภาคล่าสุด ที่กำลังจะเข้าฉายในเร็วๆ นี้ ตอนเดินออกมาจากเกตก็มีแฟนๆ มาต้อนรับมากมาย พี่แกก็ ‘ไหว้’ เพื่อเป็นการทักทาย แต่ผ่านไปไม่ทันไร ก็กลายเป็นเรื่องดราม่าซะได้!? เพราะจู่ๆ มีแฟนๆ ชาวเกาหลีไปโพสต์ดราม่าในทวิตเตอร์ว่าพี่ Benedict น่ะ เหยียดเชื้อชาติเฉยเลย ภาพการไหว้ที่กลายเป็นดราม่า… ประเด็นเหยียดเชื้อชาติที่ชาวเน็ตเกาหลีกล่าวถึง “Benedict Cumberbatch มาเยือนเกาหลี แต่ทักทายแฟนๆ แบบนี้ ทำให้แฟนๆ ชาวเกาหลีผิดหวังเพราะว่าเราไม่ได้ทักทายกันแบบนี้ แต่คนดังมากมายพอมาเที่ยวที่นี่มักจะทำแบบนี้ ซึ่งพวกเขาไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย” “ถึงคนขาวทั้งหลาย การประกบมือสองข้างไว้ด้วยกันแล้วกล่าวทักทายเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำในทวีปเอเชีย นอกเสียจากว่าคนที่คุณเจอน่ะเป็นพระ ไอ้พวกขี้เหยียด” บ้างก็ถึงกับเขียนข้อความทับลงไปบนภาพเลย “นี่ไม่ใช่วัฒนธรรมของเกาหลี” อย่างไรก็ตาม มีคนที่ไม่ได้คิดเหมือนกับกลุ่มคนข้างบน ออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อปกป้อง Benedict โดยบอกว่าที่เขาทำมันก็ไม่ได้ถึงกับผิดร้ายแรงขนาดเหยียดเชื้อชาติสักหน่อย …
-
หนุ่มถูก ‘ผู้ชาย’ ปฏิเสธความรัก ก่อนจะกลับมาพบรักกันอีกครั้ง เมื่อเขาแปลงร่างเป็น ‘ผู้หญิง’
เรื่องราวความรักของสาวข้ามเพศ ที่ก่อนหน้านี้เธอเคยตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งในสมัยที่ยังมีรูปร่างหน้าตาเป็นผู้ชายอยู่ แต่ถูกปฏิเสธกลับไป ก่อนที่จะกลับมาพบรักกับชายคนเดิมอีกครั้งในร่างของผู้หญิง!? Erin Anderson วัย 22 ปี เธอมีความใฝ่ฝันที่จะอยากเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่เด็กๆ จนถึงตอนนี้ฝันของเธอก็กลายเป็นจริง หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอก การเทคฮอร์โมนเป็นเวลา 2 ปี และการผ่าตัดอื่นๆ ที่กำลังจะตามมาอีกในอนาคต ก่อนหน้านี้เธอได้ตกหลุมรักกับชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่านาย Jared Norris วัย 28 ปี ขณะที่ตอนนั้นยังเป็นมีรูปร่างเป็นผู้ชายและใช้ชื่อว่า Aaron อยู่ แต่มันก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด แรกเริ่มเดิมที Erin (สมัยที่เป็น Aaron) ได้แอดเฟซบุ๊กไปหาพ่อหนุ่ม Jared แล้วก็ทักไปว่า “เฮ้ วอทซับ” แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ กลับมาเลย “เป็นเวลากว่าสองปีผ่านไป จู่ๆ เขาก็มากดไลก์รูปภาพของฉันบนอินสตาแกรม แต่ตอนนั้นรูปร่างหน้าตาของฉันได้เปลี่ยนไปแล้ว” “ฉันเลยมานั่งคิดดูว่าจะสานต่อดีมั้ย สุดท้ายก็เลือกที่จะทักไป ผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีเขาก็ตอบกลับมา จากนั้นเราก็เริ่มคุยกัน นัดเจอกัน แล้วก็เดตกัน” แม้ว่าทั้งคู่จะตกลงปลงใจคบกันแล้ว และ…
-
เพียงภาพเดียว…หนุ่มโพสต์ภาพ ‘เซลฟี่’ บนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ เพื่อตอบโต้แนวคิด ‘โลกแบน’
โดยปกติแล้วพวกเราคงรู้กันอยู่แล้วว่า ‘โลกกลม’ จากการเรียนการสอนในวิชาวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็กๆ แต่ในช่วงหลังๆ ที่ผ่านมานี้ได้มีกลุ่มคนที่เชื่อว่า ‘โลกแบน’ ผุดขึ้นมา ซึ่งพวกเขาจะมีแนวคิด ทฤษฎีต่างๆ ที่นำมาสนับสนุนความคิดดังกล่าว จากงานประชุม Flat Earth International Conference ที่จัดขึ้นในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เหล่าบุคคลที่เชื่อว่าโลกแบนได้เข้าร่วมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในงานก็ได้มีการอธิบายโดยอ้างอิงหลักต่างๆ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าโลกนั้นแบน ไม่ได้กลมอย่างที่ NASA หรือนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังทั้งหลายได้กล่าวเอาไว้ บ้างก็บอกว่าคลิปวิดีโอต่างๆ หรือภาพถ่ายของโลกจากนอกอวกาศนั้นเป็นเพียงภาพตัดต่อ ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด บ้างก็อ้างว่าถ้าโลกมันกลมจริงทำไมเส้นขอบฟ้าที่เราเห็นถึงได้ตรงล่ะ!? ในช่วงพักหลังๆ มากนี้มีข่าวว่าเหล่าคนที่เชื่อว่า ‘โลกแบน’ มากมายหลายคน พยายามที่จะพิสูจน์ความเชื่อของตัวเองว่าเป็นความจริง ด้วยการส่งจรวดออกไปนอกโลกอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็ไม่เป็นผล แน่นอนว่ามันอาจจะดูเหมือนไกลเกินเอื้อม เพราะเงินทุนของคุณต้องหนา ค่าใช้จ่ายในการสร้างจรวด หรือจะอาศัยหน่วยงาน หรือบริษัทที่ทำหน้าที่ในการส่งจรวดขึ้นไป ก็สูงมากพอๆ กับความสูงของชั้นบรรยากาศโลกเลยล่ะ แต่ล่าสุดสมาชิกเว็บไซต์ Reddit ชื่อว่า amazed_spirit ได้โพสต์รูปภาพพร้อมกับใส่แคปชั่นว่า “รุกฆาตแล้ว เหล่าคนที่เชื่อว่าโลกแบนทั้งหลาย” โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพถ่ายเซลฟี่จากบนยอดเขา Everest ของนักปีนเขาที่สามารถขึ้นไปพิชิตบนจุดที่อยู่สูงสุดบนโลกได้…
-
แม่ออกมาขอโทษออกสื่อ หลังลูกชาย ‘ใส่เสื้อแม็คก็อป’ อ้าขาเป็น M Leg ไปที่โรงเรียน
คุณแม่ Shelly McCullar ถึงกับเขินและไปไม่เป็น หลังที่ลูกชาย Anthony กลับมาจากโรงเรียน แล้วพบว่าเสื้อที่เขาใส่ไปเมื่อตอนเช้านั้นมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด!? จากเดิมที่ลูกชายของเธอเข้าใจว่าเจ้าเสื้อตัวนี้มันสกรีนรูปตัว M สีเหลือง ที่เป็นสัญลักษณ์ของร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอย่าง McDonald’s แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะจริงๆ แล้วตัว M บนเสื้อดังกล่าวนั้นเป็นของล้อเลียน มีลักษณะเป็นรูปของขาสองข้างที่แยกออกจากกันเป็นรูปตัว M โชว์กลางหว่างขาให้เห็น พร้อมกับใส่เส้นสูง มีคำว่า ‘I’m lovin’ it’ ซึ่งไม่ได้หมายความถึงตัวอาหารฟาสต์ฟู้ด แต่หมายถึงชอบอย่างอื่นต่างหาก… ทางคุณแม่พอได้ทราบเรื่องดังกล่าวก็รีบขอโทษขอโพยทางโรงเรียนและคนอื่นๆ อย่างเร็วไว เธอได้โพสต์ลงบนเฟซบุ๊กว่า “ต้องขอโทษอีกครั้ง กับคุณครูและเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนประถม Travis Elementary เป็นอย่างสูง ซึ่งฉันขอสาบานเลยว่าฉันไม่รู้เลยว่าลูกใส่เสื้อแบบนี้ไปโรงเรียน” พร้อมกับโพสต์วิดีโอของ Anthony ที่อธิบายให้ฟังว่าที่จริงแล้วเป็นการเข้าใจผิด ในคลิปเขาพูดว่า “ผมคิดว่ามันคือ McDonald’s และคิดว่ามันคงไม่เป็นอะไรถ้าจะใส่ไปที่โรงเรียน” ลองไปชมคลิปวิดีโอที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… “ฉันแค่อยากจะอธิบายให้ฟังว่าฉันจะไม่ให้ลูกสวมเสื้ออะไรแบบนี้แน่นอน แต่เสื้อตัวนี้เป็นเสื้อที่เพื่อนของฉันซื้อมาให้ Anthony…
-
สาวเมาลั่นวาจาเหยียดชนชาติ “ไล่กลับประเทศ” หลังขอน้ำดื่มฟรีกับพนักงานไม่สำเร็จ
เนี่ยแหละนะ เวลาที่แอลกอฮอล์เข้าร่างกายจนมึนเมา คนเราก็มักจะทำอะไรออกไปโดยไม่คิด ซึ่งบางครั้งมันก็อาจจะนำไปสู่สิ่งเลวร้ายอันเป็นภัยต่อตนเองและผู้อื่นได้ อย่างเช่นเหตุการณ์นี้ ที่หญิงสาวคนหนึ่ง เชื่อว่าน่าจะอยู่ในช่วงวัย 20 ปีกว่าๆ ได้เข้ามายังร้านขายไก่ทอดแห่งหนึ่งขณะที่ตนกำลังเมามาย และได้กระทำการเหยียดหยามพนักงานขาย ทั้งไล่กลับประเทศบ้านเกิดและถ่มน้ำลายใส่ ทั้งนี้ เนื่องมากจากหญิงสาวคนดังกล่าวถูกพนักงานขายปฏิเสธที่จะให้น้ำดื่มกับเธอฟรีๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นในร้านขายไก่ทอดชื่อว่า Chicken Stop ในเมืองเชฟฟีลด์ ประเทศอังกฤษ หลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอจากพนักงานเผยว่าหญิงคนดังกล่าวใช้วาจารุนแรงโดยกล่าวว่า “พวกเรามาจากอังกฤษนะเว้ยเพื่อน กลับประเทศแอลจีเรียของแกไปไป๊ แกน่ะมันตัวอัปยศ …พวกเราเกิดและเติบโตในประเทศอังกฤษ และเราก็โคตรเชื่อมั่นในประเทศบ้านเกิดเลยว่ะ” ภายหลังทราบว่า ผู้กระทำมีนามว่า Amina “ถุ้ยย” เธอถ่มน้ำลายใส่พนักงานหนุ่ม ลองมาชมวิดีโอเหตุการณ์จริงกันเถอะ ทั้งนี้ก็มีชาวเน็ตมาให้ความเห็นต่างๆ นานาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น: “น่าโมโหจริงๆ ที่วิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่ว คือเราต้องฟังเรื่องราวจากทั้งสองฝ่ายอะ แค่วิดีโออันเดียวมันอาจตัดสินอะไรไม่ได้ เราเห็นได้ชัดเลยนี่ว่าฝ่ายหญิงเหมือนไม่พอใจเอามากๆ” “เธอนั่นแหละสร้างความอัปยศให้กับชนชาติตัวเอง” “เราเชื่อว่าชายที่อยู่หลังเคาท์เตอร์น่าจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้หญิงที่ด่านะ” “ภายหลังมีรายงานออกมาว่า หญิงคนนี้ชื่อ Ameena Khan อาศัยอยู่แถวถนนโบว์ฟีลด์ ดูเหมือนว่าหญิงคนนี้จะมีพฤติกรรมก้าวร้าวอยู่เสมอ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน”…
-
หมาไส้กรอกตัวน้อยพบ “ทารก” ถูกทิ้งในท่อระบายน้ำ จึงทำให้ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน
ใครกันนะที่บอกว่าว่าเจ้าตูบเป็นได้แค่เพื่อนยามเหงาเท่านั้น วันนี้ เจ้าตูบตัวหนึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันเป็นนักสำรวจตัวน้อยที่สามารถช่วยเหลือชีวิตมนุษย์คนๆ หนึ่งเอาไว้ได้เลยทีเดียว Charmaine Keevy วัย 63 ปีต้องตะลึงกับภาพที่เห็น เมื่อเจ้า Georgie หมาไส้กรอกของเธอ ส่งเสียงเห่าและพาเธอไปพบกับทารกถูกทิ้งอยู่ ในเมืองพอร์ตเอลิซาเบท ประเทศแอฟริกาใต้ มองไกลๆ คุณ Keevy คิดว่าเจ้าตูบของเธอเห่าแมวที่นอนส่งเสียงร้องอยู่ แต่พอลองเข้าไปมองดูใกล้ๆ กลับพบว่าเป็นเด็กทารกเพศหญิงถูกทิ้งเอาไว้และกำลังนอนร้องไห้อยู่ภายในท่อระบายน้ำ เธอจึงรีบโบกรถที่ผ่านไปมาแถวนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งได้ความช่วยเหลือจากคุณ Cornie Viljoen ที่จอดรถเพื่อช่วยกันนำทารกออกมาจากท่อระบายน้ำ คุณ Viljoen ในวัย 60 ปีเป็นผู้ที่มุดเขาไปในท่อระบายน้ำที่ลึกราว 2 เมตร เพ่ื่อนำตัวทารกออกมา และนั่นทำให้เขาตกใจมากเพราะว่าบริเวณรอบๆ ตัวเด็กมีฝูงมดแดงล้อมอยู่เต็มไปหมด . Viljoen กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าใครกันนะที่ช่างใจไม้ไส้ระกำทำกับเด็กทารกได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็ดีใจนะที่เราสามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้” เมื่อนำตัวเด็กทารกส่งเข้าโรงพยาบาล แพทย์จึงพบว่าเธอมีอาการตัวเย็นเกินปกติ และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หลังจากนั้นแพทย์ก็ตั้งชื่อให้กับเด็กสาวคนนี้ว่า Grace April คุณ Keevey กล่าวว่า…
-
หญิงออสซี่ถูกจับ หลังหลอกญาติๆ ว่าเป็นมะเร็ง แล้วหอบเงินบริจาก 1 ล้านบาทหนีไป!!
ในปัจจุบันนั้นมีเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อขอรับบริจากเงินเกิดขึ้นมากมาย โดยผู้รับบริจากนั้นมักจะสร้างขึ้นเพื่อหาเงินไปช่วยเหลือในส่วนต่างๆ ตามแต่ที่ตนคิด โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นการรับบริจากเงินเพื่อช่วยเหลือการรักษาโรคหรือช่วยคนจร แน่นอนว่าการรับบริจาคด้วยเหตุผลดังกล่าวนั้นมักจะได้ผลเสมอๆ จนเป็นเหตุให้หลายคนใช้วิธีดังกล่าวหลอกเอาเงินจากผู้หวังดี ซึ่งการหลอกหลวงแนวดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะบนเว็บไซต์รับบริจาคเท่านั้น แต่บางคนถึงกับลงทุนหลอกคนรอบตัวว่าป่วยและเดือดร้อนเรื่อเงินเพื่อหลอกเอาเงินค่ารักษา Hanna Dickenson วัย 24 ปี จากประเทศออสเตรเลียก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เลือกจะหลอกครอบครัวและญาติว่าตนป่วยเป็นมะเร็ง เพื่อหวังให้ได้รับเงินสนับสนุนค่ารักษาเป็นเงินกว่า 31,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือเกือบ 1 ล้านบาท ซึ่งเงินก้อนดังกล่าวนั้นไม่ได้มาจากเพียงญาติและครอบครัวเพียงอย่างเดียว เพราะหลังเรื่องแดงขึ้นมา เหล่าญาติๆ ก็ทราบว่ามีการขอเรี่ยไรเงินจากเพื่อนฝูงมาช่วยเหลือค่ารักษา Hanna อีกด้วย แต่ความจริงกลับเปิดเผยหลังมีคนเห็น Hanna ยังคงใช้ชีวิตตามปกติบนโลกโซเชี่ยลของเธอ ด้วยเหตุนี้เหล่าญาติๆ จึงออกหมายศาลเพื่อตามจับเธอ โดยทางศาลได้ให้นิยามการกระทำของเธอว่าน่ารังเกียจ อย่างไรก็ตาม Hanna Dickenson ได้ออกมารับสารภาพในท้ายที่สุดว่า เธอหลอกเอาเงินจากทุกคนจริงๆ นั่นจึงทำให้เธอถูกตั้งข้อกล่าวหา 7 ข้อหาด้วยกัน David Starvaggi ผู้พิพากษาได้กล่าวถึงพฤติกรรมของ Hanna ว่า “การกระทำของเธอมันน่ารังเกียจ เพราะเธอได้ทำลายน้ำใจของเพื่อนมนุษย์ที่หยิบยื่นให้กับเธอ มีคนมากมายตัดสินใจจะช่วยเหลือและมอบโอกาสให้ ซึ่งพวกเขายินดีจะมอบสินน้ำใจที่ได้จากการทำงานอย่างหนักให้แก่เธอ แต่เธอกลับทำลายมัน” ที่มา…
-
หวยใต้ดินของจริง เพราะมันคือรถที่ฝังไว้ในดิน ผู้โชคดีที่มาขุดมัน 50 ปีข้างหน้าเอาไปเลย!!
อ่านแล้วอาจจะไม่เชื่อ แต่หวยใต้ดินจากประเทศเม็กซิโกนี้คือเรื่องจริง เพราะว่าทางเมือง Ojinaga ได้คิดค้นหวยสุดแหวกขึ้นมา จากเดิมผู้ชนะจะได้รางวัลไปในทันที แต่คราวนี้ผู้ชนะจะต้องให้ญาติพี่น้องในอีก 50 ปีเป็นคนมารับแทน เหตุการณ์หวยใต้ดินที่ว่าเริ่มจากเทศกาล El IV Reencuentro Ojinaguense ที่จัดขึ้นทุกปีในเมือง เพียงแต่ครั้งนี้ชาวเมืองรู้สึกว่าการงานเทศกาลแจกของธรรมดามันไม่สนุกอีกต่อไป ฉะนั้นชาวเมืองจึงช่วยกันรวมเงินคนละนิดละหน่อยมาซื้อรถคันใหม่ที่เดิมทีผลิตภันฑ์ในเมืองดังกล่าวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาเล่นกิจกรรมสนุกกันๆ โดยชาวเมืองตั้งกฎว่า รถที่ผลิตออกมาสดๆ ร้อนๆ ในปี 2018 นี้จะกลายเป็นของรางวัลให้กับครอบครัวที่จำได้ว่าเคยมีมันอยู่ในอีก 50 ปีข้างหน้า ตัวรถนั้นจะถูกฝังไว้ใต้พื้นคอนกรีตใจกลางเมือง ที่สร้างมาอย่างดีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากตัวรถแล้วภายในรถจะมีจดหมายจากปี 2018 ของชาวเมืองถึงคนในอีก 50 ปีข้างหน้าที่มาขุดเอารถคันดังกล่าวไป แม้ว่าการฝังรถไว้ 50 ปีจะเป็นเรื่องที่ดูหน้าสนุก แต่ก็ยังมีชาวเมืองบางกลุ่มรู้สึกว่าการทำแบบนี้มันช่างไร้ประโยชน์ เพราะว่าการจะเอารถออกมาได้นั้นจำเป็นจะต้องทุบพื้นคอนกรีดออก แถมยังต้องนำเครนมายกรถขึ้นอีกมันเป็นพิธีการที่ยุ่งยาก กลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยยังบอกอีกว่า การทำแบบนี้เป็นการเปลืองงบประมาณเปล่าๆ ทำไมรัฐถึงไม่เอาเงินที่ซื้อรถไปบริจาคให้คนที่เลือดร้อนโดยตรงแทน อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนเห็นด้วยก็ย่อมมีคนไม่เห็นด้วย เช่นชายคนหนึ่งที่ต้องเดินทางไปดูแลลูกต่างเมืองตลอดเวลาได้บอกว่า เมื่อผ่านไป 50 ปี ลูกชายหรือเขาอาจจะเป็นผู้โชคดีได้ใช้รถคันดังกล่าวก็ได้ …
-
คสอ.ทำพิษ หนุ่มสูญเงิน 30 ลบ. เพราะโอนไปให้ ‘แฟนสาวแสนสวย’ ที่จริงๆ แล้วอายุ 42 ปี
โลกอินเทอร์เน็ต ถือว่าเป็นโลกเสมือนขนาดใหญ่และมีอิสระมากกว่าโลกแห่งความจริง ในโลกนี้คุณสามารถที่จะเป็นใครก็ได้ จะเขียนประวัติขึ้นมาอย่างไรก็ทำได้ และนั่นคือข้อเสียของโลกออนไลน์ ทำให้คนไม่ดีใช้ช่องโหว่ตรงนี้ในการหลอกหลวงคนอื่นๆ ได้หลายครั้ง ไม่ว่าจะทำเป็นชวนไปลงทุนหรือหลอกลวงในรูปแบบความรักก็ตาม เหมือนกับสิ่งที่ Li Xiaoqing โดนกระทำ เขาต้องเสียเงินไปกว่า 30 ล้านบาทเพราะนำไปลงทุนให้กับคนที่คิดว่าเป็น ‘แฟนสาว’ อายุยี่สิบกว่าๆ ของเขา ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเธออายุ 42 ปี เรียกได้ว่าเจอพลังเวทมนตร์แห่งเครื่องสำอางหลอกเอาเต็มๆ เมื่อวันที่ 22 เดือนมีนาคม 2018 Li Daqing พี่ชายของ Li Xiaoqing ได้เดินทางไปสถานีทำตรวจที่เมืองเซินเจิ้น และบอกกับพวกเขาว่าเขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าเงินเป็นล้านๆ ได้หายไปจากบัญชีที่เอาไว้ทำธุรกิจของครอบครัว เขาสงสัยในตัวน้องชาย ผู้ที่รับผิดชอบเรื่องธุรกิจการเงิน จนสุดท้ายน้องชายก็ได้รับสารภาพว่าเขาได้ให้เงินไปกับ Wang Sanjie แฟนสาว ‘แสนสวยและเยาว์วัย’ ของเขา ผู้ที่อ้างว่ามีความรอบรู้เรื่องลงทุนเป็นอย่างดี แต่จริงๆ ไม่ได้มีแค่เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาโอนเงินไปให้เธอ มันมีอีกหลายเหตุผลไม่ว่าจะเป็นเพราะเธอบอกมาอีกว่าต้องการเงินไปรักษาคุณแม่ที่กำลังเผชิญกับโรคหลอดเลือดสมองและยังบอกอีกว่าครอบครัวของเธอติดหนี้พนันก้อนโตจากมาเก๊า จากปี 2016 ถึงปลายปี 2017 Li Xiaoqing…
-
สาวแชร์รีแอคชันสุดฮาของขุ่นแม่ เมื่อพบว่าฝารองนั่งที่ซื้อมามีสีฟ้า ซึ่งไม่เข้ากับห้องที่บ้านสุดๆ
เพื่อนๆ มีพ่อแม่ที่ไม่ค่อยทันเรื่องเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่บ้างหรือไม่ ซึ่งบางทีพวกเขาก็งงกับวิธีใช้มัน ซึ่งเวลาเราได้เห็นก็จะเป็นภาพที่ทั้งสงสารและตลกไปพร้อมๆ กัน เหมือนกันกับคุณแม่คนนี้ Marie Stent คุณแม่วัย 48 จากเมือง St Neots จากเขต Cambridgeshire ประเทศอังกฤษ เธอได้ซื้อฝารองนั่งชักโครกขณะที่ได้ไปเยี่ยมลูกสาวเธอที่เขต Sheffield แต่พอเธอเปิดกล่องออกมากลับต้องงงเป็นไก่ตาแตก เพราะฝารองนั่งชักโครกมันดั๊นเป็นสีฟ้านี่สิ พอคุณแม่ท่านนี้เห็นว่าฝารองนั่งที่ซื้อมาเป็นสีฟ้า เธอได้โวยวายว่า “โอ้ พระเจ้า! มันเป็นสีฟ้า ฉันคิดว่าซื้อสีขาวมาซะอีก” เธอรู้สึกโศกเศร้าเสียใจ และได้แต่ยอมรับกับความจริงว่าฝารองนั่งที่เธอซื้อมันไม่ได้เข้ากับการแต่งห้องน้ำด้วยสีมอคค่าของเธอเลย จะคืนก็คืนไม่ได้ ใบเสร็จมันหายไปแล้ววว จนกระทั่งลูกสาวอายุ 18 ของเธอ Amber ได้เดินลงมาดู พอเห็นแบบนี้เธอก็เลยนำฉลากมาดูและเริ่มหัวเราะแม่ของตัวเองซะอย่างงั้น เพราะไอ้ที่ฟ้าๆ นั่นมันเป็นแค่พลาสติกกันกระแท่เท่านั้น และพอเธอลอกมันออกโชว์แม่ของเธอ แม่ของเธอแทบจะคลั่งไปเลย เพราะในหัวของเธอก่อนหน้านี้มีแต่ความคิดว่ามันเป็นฝารองนั่งสีฟ้าอย่างเดียว และด้วยความฮาของรีแอคชั่นของคุณแม่ Amber จึงได้ตัดสินใจที่จะแชร์ประสบการณ์ฮาๆ นี้ลงในทวิตเตอร์ โดยทีเธอโพสต์รูปพร้อมกับแคปชั่นว่า “แม่ฉันซื้อฝารองนั่งราคา 40 ปอนด์ (1,800 บาท) มาจาก…
-
เป็นเรื่อง! รูปปั้น ‘จิ๋นซีฮ่องเต้’ ไซส์ยักษ์ในจีนล้มหน้าฟาด หรือนี่จะเป็นลางบอกเหตุ!?
กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตกันเลยทีเดียว หลังจากที่รูปปั้นทองแดงขนาด 19 เมตรของ ‘จิ๋นซีฮ่องเต้‘ จักรพรรดิองค์แรกของประเทศจีนได้ล้มลงมาจากแท่นหินขนาดใหญ่ จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบเข้าไปตรวจสอบทันที เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นมีพายุลูกใหญ่และลมที่พัดแรงมากพัดผ่านบริเวณรูปปั้นดังกล่าวในมณฑลซานตง จึงส่งผลให้รูปปั้นดังกล่าวล้มลงมาหน้าฟาดลงกับพื้นจนมีสภาพที่ดูไม่ได้ จากภาพ เราจะเห็นว่าหน้าของรูปปั้นบนเป็นแผ่นเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักหลังเกิดเหตุ คนงานจำนวนมากก็รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับเครนทันที เพื่อที่จะรีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะว่ารูปปั้นดังกล่าวนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นภาพลักษณ์ของเมือง คนงานคนหนึ่งก็ได้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ไม่ว่ายังไง นี่ก็เป็นสิ่งที่คุณปิดบังสายตาของประชาชนไม่ได้ คุณจะปิดข่าวยังไง เดี๋ยวนี้ทุกคนมีโทรศัพท์ แถมได้รูปส่งต่อกันไปได้รวดเร็วอีก” เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับภาพลักษณ์ของผู้นำจีนครั้งล่าสุด นับตั้งแต่รูปปั้นทองคำขนาด 32 เมตรของเหมา เจ๋อตงเมื่อปี 2016 ภาพของรูปปั้นดังกล่าวเมื่อปี 2015 ซึ่งอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และน่าเกรงขาม สุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่าการที่รูปปั้นจักรพรรดิองค์แรกล้มลงแบบนี้ จะเป็นลางบอกเหตุอะไรกับจีนหรือเปล่า เพราะด้วยความที่รูปปั้นดังกล่าวนั้นเป็นหน้าเป็นตา และยังเป็นรูปปั้นของคนสำคัญอีก หรือว่ามันเป็นลางบอกว่าจีนกำลังจะมีปัญหาใหญ่เข้ามา? ที่มา shanghaiist, bbc
-
ครูโพสต์บ่น ‘ลูกคุณไม่ได้น่ารัก สปอยล์ลูกซะเละ’ แถมแฉโรงเรียน ไม่มีใยดีใดๆ กับครูเลย…
ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา จะมีการวางระบบทางสังคมพื้นฐานมาเป็นอย่างดี แต่ทว่าความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีอยู่จริง เพราะเมื่อกาลเวลาผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็ย่อมเสื่อมตามเช่นกัน… อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ แต่สำหรับปัญหาของระบบการศึกษานั้นเริ่มสั่นคลอนมากขึ้นทุกวัน เมื่อคุณครูท่านหนึ่งจากรัฐเท็กซัส ได้ทำการโพสต์เพื่อระบายความในใจ เกี่ยวกับเหตุการณ์อันน่าหดหู่ที่กำลังเกิดขึ้นในโรงเรียนของเธอ Julie Marburger Julie Marburger คุณครูสอนระดับชั้นเกรด 6 (ป.6) ของโรงเรียน Cedar Creek Intermediate School ได้หมดความอดทนในวิชาชีพของตัวเอง หลังจากที่ทำงานในฝันงานนี้มานับสิบปี… “มันคือความฝันของฉัน ตั้งแต่จำความได้ว่าอยากจะมีห้องเรียนเป็นของตัวเอง และตอนในใจของฉันแหลกสลายหลังจากที่ไม่ได้รับแยแสใดๆ ใน 2 ปีที่ผ่านมา” พ่อแม่ไม่ให้ความเคารพคุณครู และเด็กๆ ก็แย่ยิ่งกว่า ผู้บริหารโรงเรียนก็เอาใจผู้ปกครอง นั่นจึงทำให้เธอไม่อาจปฏิบัติตามวิชาชีพที่ถูกจ้างมาเพื่อ ‘สอนเด็ก’ ได้ เธอลาออกจากการสอน และได้แสดงให้เห็นว่าทำไมเธอถึงหมดกำลังใจที่จะเป็นครู เนื่องจากความบกพร่องของผู้ปกครอง ผู้บริหารโรงเรียน และการสนับสนุนของภาครัฐ… โพสต์ดังกล่าวของเธอถูกแชร์ไปกว่า 400,000 ครั้งในโลกออนไลน์ พร้อมกับได้รับความเห็นใจจากเพื่อนร่วมวิชาชีพครูที่กำลังประสบปัญหาเดียวกัน Julie เชื่อว่าครูท่านอื่นเริ่มลาออกตามๆ กัน เพราะวิกฤตในระบบการศึกษาที่กำลังเสื่อมลง…
-
ตามไปส่อง “แฟชั่นเกาหลีใต้ ยุค 90” เทรนด์การแต่งกายในสมัยนั้น ที่หาดูได้ยากยิ่ง…
ย้อนกลับไป สมัยที่ความเป็นเกาหลีและวัฒนธรรม K-Pop ยังไม่แพร่หลายไปทั่วโลก กรุงโซลดูมีความเรียบง่ายกว่าปัจจุบัน เช่นเดียวกับ “การศัลยกรรมพลาสติก” ซึ่งยังไม่นิยมแพร่หลายนัก “เกาหลีในยุค 70 และยุค 80 นั้น ยังไม่มีกระแสแฟชั่นแบบยุคนี้เลย จนกระทั่งในยุค 90 ที่ฉันค่อนข้างจะมั่นใจว่าเราอยู่ในประเทศซึ่งพัฒนาแล้วอย่างแท้จริง” – Woo Youngmi แฟชั่นดีไซน์เนอร์กล่าว และช่วงยุค 90 ก็คือรอยต่อของการเป็น “ประเทศกำลังพัฒนา” ไปสู่ “ประเทศพัฒนา” ของเกาหลีใต้อย่างแท้จริง และแฟชั่นในยุคนี้ก็มีการตื่นตัวอย่างมา จนกระทั่งส่งผลมาสู่เกาหลียุคใหม่แบบที่เราเห็นกัน และนี่คือภาพหาดูยากจากยุคนั้นนั่นเอง… . . . . . . . . . . . . . . . . นับว่าเป็น “เกาหลีใต้” ที่ดูแปลกตาไปจากปัจจุบันมากจริงๆ ที่มา: vintag
-
ยูทูบเบอร์ดักรอคนในป่าฆ่าตัวตายที่ญี่ปุ่น จนสามารถช่วยชีวิตคนคิดสั้นได้สำเร็จ
ชื่อเสียงของป่าฆ่าตัวตายหรือป่าอะโอะกิงะฮะระ ในประเทศญี่ปุ่นนั้นกลายเป็นชื่อที่โด่งดังไปทั่วโลกหลังจากที่ยูทูบเบอร์อย่าง Logan Paul เข้าไปถ่ายคลิปห่ามๆ ที่นั่น จนทำให้ชาวญี่ปุ่นและคนทั่วโลกก่นด่ากันมากมาย จากนั้นเป็นต้นมาได้มีการพยายามปรับภูมิทัศน์ของป่าแห่งนี้ และโปรโมตเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้คนอยากมาท่องเที่ยวมากกว่าฆ่าตัวตาย ล่าสุดมียูทูบเบอร์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่านาย Saito Taicho ได้เข้าไปในป่าอะโอะกิงะฮะระเพื่อถ่ายคลิปเช่นกัน แต่เขาก็ค่อนข้างกังวลว่าคลิปนี้จะถูกต่อว่าหรือเปล่า จึงเกิดความลังเลในใจ “บอกตรงๆ เลย ผมค่อนข้างรู้สึกขัดแย้งในตัวเองมากเกี่ยวกับว่า ผมควรจะอัปโหลดหรือไม่อัปโหลดคลิปวิดีโอนี้ลง Youtube ดี แต่ผมหวังว่ามันจะช่วยผู้คนที่ต้องรับมือกับความเจ็บปวดและความเศร้าทุกวัน เพื่อตระหนักว่าชีวิตของพวกเขามีค่า ผมเลยอัปโหลดมัน” Saito กล่าว จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่านาย Saito กำลังยืนอยู่ตรงบริเวณจุดจอดรถบัส พร้อมกับถือป้ายที่มีข้อความว่า Free Hugs (กอดฟรี) เพื่อรอดูว่าจะมีใครที่มีท่าทีเป็นบุคคลที่มีอาการซึมเศร้าและมีโอกาสเดินเข้าป่าเพื่อฆ่าตัวตายหรือไม่? ถ้าเจอใครที่เข้าข่ายตามนี้เขาก็จะเดินเข้าไปหาคนๆ นั้นในป่า พูดคุยกับเขา พยายามโน้มน้าวให้เขาคนนั้นพิจารณาสิ่งที่จะทำใหม่อีกครั้ง Saito บอกว่าแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาอยากทำคลิปนี้ก็เพราะไปเห็นป้ายที่ถูกติดไว้ตามข้างทางในป่าอะโอะกิงะฮะระ ที่มีข้อความมากมายพยายามเตือนใจผู้คนที่คิดฆ่าตัวตายว่า ไม่ว่าความเศร้าเสียใจของพวกคุณจะมากขนาดไหน แต่ชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งก็ยังเป็นสมบัติอันล้ำค่าอยู่ดี “ผมไม่ได้ทำเล่นๆ นะ” Saito กล่าวหลังจากที่ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่งในการยืนรอที่ป้ายรถบัส จากนั้นไม่นานเขาสังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินลงมาจากรถโดยที่ไม่ได้ถือกล้อง กระเป๋า หรือสิ่งใดๆ ติดตัวมาเลย แถมยังไม่ได้ใส่เสื้อสำหรับเดินป่ามาด้วย …
-
ลูกน้องขอเข้างานสาย เหตุเพราะอยากดูหมา เจ้านายไม่ว่าแถมบอก ‘เอาสิ ไม่ต้องรีบนะ’
ความลำบากใจของคนวัยทำงานส่วนใหญ่ เมื่อมีเหตุจำเป็นที่จะต้องขอลา ขอเข้างานสาย ด้วยเหตุสุดวิสัย หากเจ้านายไม่แคร์อะไร ต่อให้อ้างเหตุผลร้ายแรงแค่ไหนก็ไม่ได้อยู่ดี แต่ถ้าหากได้เจ้านายใจดีนี่ ยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์กันเลย… แต่เหตุขอลาส่วนใหญ่จะเป็นในเชิงความจำเป็น เช่น ตัวเองป่วย พ่อป่วยแม่ป่วย รถเสีย รถติด หม้อหุงข้าวพัง ไฟดับ น้ำไม่ไหล ฯลฯ ร้อยแปดพันล้านเหตุผลเหล่านี้ แต่สำหรับหญิงคนนี้นี่สิ เธอขอเข้างานสายด้วยเหตุผลว่า ‘อยากอยู่ดูหมา’ เรื่องราวสุดน่ารักนี้เป็นของ Jenn กับเจ้านายของเธอ ที่บอกเล่าผ่านเว็บไซต์ Imgur โดยในเช้าวันหนึ่งที่เธอกำลังจะไปทำงาน มีเหตุขัดข้องนิดหน่อยที่จะทำให้เธอไปทำงานสาย พร้อมกับส่งข้อความไปแจ้งเจ้านายว่า ‘วันนี้ฉันจะเข้างานสายนิดหน่อยนะ’ เจ้านายก็บอกว่า ‘โอเคจ้า ทุกอย่างเป็นปกติรึเปล่า? เพราะเธอมักจะมาตรงเวลาหรือมาก่อนประจำนะ’ เธอตอบด้วยเหตุผล ‘ตอนนี้หมาของฉันกำลังหลับแล้วมันดูน่ารักมากๆ ฉันต้องใช้เวลาถ่ายรูปมันเก็บเอาไว้ ก่อนจะเตรียมตัวไปทำงาน’ พร้อมกับส่งภาพเจ้า Miller ในสภาพหลับใหลยามเช้า แทนที่เจ้านายจะโมโหเกิดอาการยั๊วะ ‘ดูเจ้าหนูนั่นสิ เอาเลยเต็มที่ไม่ต้องรีบ ผมจะให้ Miller คอยรับสายแทนในระหว่างที่คุณไม่อยู่…
-
หลานสาวปลื้มใจ… ยายตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ 5 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อที่จะคุยกับหลานตัวเอง
อุปสรรคทางด้านภาษานั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายๆ คน แต่ทว่าถ้าหากเราลองเปิดใจที่จะเรียนรู้ หมั่นฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและคนอื่นด้วยนะ… อย่างเช่นเรื่องราวน่ารักของคุณยายชาวเวียดนามท่านหนึ่ง ที่ถูกเปิดเผยออกมาจากใจหลานสาวให้ชาวเน็ตได้ชื่นชม กับความพยายามเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองทุกวัน เพื่อจะคุยกับหลานสาวให้ได้ Tracy Vu ได้ทำการทวีตข้อความพร้อมรูปภาพของคุณยายในวันที่ 25 มีนาคม 2018 เธออาศัยอยู่ในเมืองแดลลัส รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ด้วยใจความว่า… “คุณยายของฉันใช้เวลา 4 ถึง 5 ชั่วโมงต่อวันในการเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะคุยกับฉันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ถ้านี่ไม่ใช่ความรัก ฉันก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วล่ะ” Tracy Vu นั้นมีเชื้อสายเวียดนามก็จริง เธอเติบโตในสหรัฐอเมริกา และพบว่าภาษาเวียดนามนั้นยากเกินไปสำหรับเธอ แม้จะพยายามพูดและเรียนรู้ แต่ก็ยังไม่รู้คำศัพท์และวลีอีกหลายตัว ทางฝั่งคุณยายนั้น กลับจดโน๊ตแทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ วลี และประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเวียดนาม . แบบว่าจดได้โหดมากๆ ตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง!! เมื่อชาวเน็ตเห็นความน่ารักของคุณยายขนาดนี้ ต่างก็รู้สึกอมยิ้มในความน่ารัก และหลงรักคุณยายเข้าไปแล้ว… …
-
เพื่อนไม่อยากทนทุกข์จากมะเร็ง หนุ่มยินดีขับรถทับ แต่สุดท้ายจบที่ ‘การฆาตกรรม’
ในเบื้องต้นแล้วทุกท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘การุณยฆาต’ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งการกระทำดั่งกล่าวคือการทำให้หนึ่งชีวิตนั้นจากไปอย่างสงบ ด้วยจุดประสงค์ที่ว่าไม่อยากปล่อยให้พวกเขาเหล่านั้นต้องทนกับความเจ็บปวดอีกต่อไป… ซึ่งกรณีแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ด้วยความยินยอมระหว่าง ผู้รับการการุณยฆาตและผู้ลงมือการุณยฆาต จะต้องมีเอกสารเซ็นยินยอมที่ชัดเจน และจะไม่มีผลทางคดีความใดๆ ในภายหลัง แต่แล้วมันกลับเกิดผิดเพี้ยนไป เมื่อชายหนุ่มชาวจีนถูกเพื่อนป่วยโรคมะเร็ง ขอร้องให้จบชีวิตเธอเสียที เพราะไม่อยากทนอยู่กับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว หญิงแซ่ Wu ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกในปี 2008 และเข้ารับการรักษาแบบเคมีบำบัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าไม่อาจแบกรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไปแล้ว และได้ขอร้องในเพื่อนชายแซ่ Xu ขับรถทับร่างเธอเสีย เพื่อไม่ให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาณอีกต่อไป ในช่วงเดือนพฤษภาคมของปี 2017 Xu เองก็ตกลงปลงใจที่จะทำตามคำขอ ซึ่งทางด้านสามีของนาง Wu นั้นก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนชายคนนี้จะไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรในภายหลัง… และแล้ววันตัดสินชีวิตก็เกิดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน 2017 ภาพจากกล้องภายในรถ เผยให้เห็นว่าเขาขับรถเพื่อเหยียบร่างของนาง Wu กลางถนนในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุไปแล้ว Xu ก็ได้ทำการโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนของเขาเสียชีวิตแล้ว และกระทำการถอยรถเหยียบซ้ำอีกหนึ่งรอบ …
-
คำตัดสินจากศาล ‘ทำจิตใจบอบช้ำ = ลงมือฆ่า’ เมื่อแฟนหนุ่มบีบบังคับ ให้เธอต้องดับชีวิตลง…
ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวนั้นใกล้ตัวเราเกินกว่าจะรู้สึกได้ ซึ่งกว่าจะรู้ว่ากำลังถูกคุกคามอย่างรุนแรงจนสภาพร่างกายและจิตใจไม่สามารถแบกรับต่อไปได้ไหว มันก็อาจจะสายเกินไปสายแล้ว คดีความตัวอย่างของการทำร้ายจิตใจในรูปแบบทางความสัมพันธ์ ระหว่างอดีตทหารกับหญิงสาวผู้ถูกกระทำ ทั้งทำร้ายร่างกายและบั่นทอนจิตใจผ่านวาจา จนทำให้ฝ่ายหญิงตัดสินใจปลิดชีพตนเอง ซึ่งทำให้ได้รับโทษเทียบเท่ากับการลงมือฆาตกรรม… อดีตทหาร Steven Gane วัย 31 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากพฤติกรรมบีบบังคับหรือควบคุมอีกฝ่าย จากความสนิทสนมทางความสัมพันธ์ ผลการตัดสินของศาล ทำให้ Gane นั้นได้รับโทษจำคุกเป็นระยะเวลา 4 ปี 3 เดือน ในข้อหาเป็นต้นเหตุทำให้นาง Kellie Sutton วัย 30 ปี ทำการฆ่าตัวตาย หลังจากที่ต้องทรมานกับความเจ็บทางร่างกายและจิตใจมาอย่างยาวนาน Steven Gane Philip Grey ผู้พิพากษาได้กล่าวกับเขาว่า “พฤติกรรมของคุณ ชักจูงให้ Kellie Sutton ทำการแขวนคอในเช้าวันนั้น คุณทำร้ายเธอ และทำลายจิตใจของเธอ” Kellie Sutton ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำสำนวนในครั้งนี้มาตั้งเป็นบรรทัดฐานใหม่ เพื่อใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบีบบังคับและควบคุมเหยื่อ…
-
จากการช่วยผู้หญิงตามหากระเป๋าที่หายไป สู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตคนไร้บ้านคนหนึ่งไปตลอดกาล
การทำความทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องรอ เป็นประโยคที่ได้ยินบ่อยๆ และเพื่อนๆ คิดบ้างหรือไม่ว่า หากประชากรในโลกนี้แต่ละคนร่วมมือกันทำความดีกันเพียงคนละหนึ่งอย่าง โลกของเราจะสวยงามและน่าอยู่ขึ้นอีกแค่ไหนกัน การที่เราจะทำความดีให้แก่เพื่อนร่วมโลกสักคน เราก็สามารถทำได้ แม้ว่าไม่ได้มีบุญคุณต่อกันหรือรู้จักกันมาก่อนก็ตาม เหมือนอย่างชายคนนี้ Jimmy Gilleece ชายผู้อาศัยอยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เขาเป็นเจ้าของบาร์ Jimmy’s at Red Dogs เขาได้ช่วยผู้หญิงที่ทำกระเป๋าตังหาย จนกลายเป็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนชีวิตของคนคนหนึ่งไปตลอดกาล นี่คือ Jimmy และลูกของเขา และนี่คือบาร์ของเขา และนี่คือมาสคอตบาร์ของเขา เท่ใช่ป่ะล่ะ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Jimmy ได้รับข้อความจากผู้หญิงที่มาจากรัฐนิวเม็กซิโก ว่าเธอนั้นได้ลืมกระเป๋าสตางค์ที่มีแหวนมูลค่า 300,000 กว่าบาทอยู่ข้างใน Jimmy จึงได้ช่วยเธออย่างไม่รีรอ เขาได้ไปเปิดดูวิดีโอจากกล้องวงจรปิด และพบว่ากระเป๋าใบนั้นถูกเด็กชายคนหนึ่งเอาไป เขาจึงนำภาพของขโมยไปให้ตำรวจดู ขณะเดียวกับที่ผู้หญิงเจ้าทุกข์ก็ได้ไปแจ้งความไว้เช่นกัน วันหนึ่งได้รับข้อความว่าของหาย เลยรีบมาดูกล้องวงจรปิด พบว่ามีเด็กหนุ่มเอามันไปเขาจึงนำภาพนี้ไปให้ตำรวจดู และด้วยความช่วยเหลือจากตำรวจท้องถิ่น ไม่นานนักก็สามารถตามหาเด็กชายที่ต้องสงสัยว่าเป็นหัวขโมยเจอ Rivers Prather เด็กชายคนดังกล่าวมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้นและเป็นคนไร้บ้าน เหตุผลที่เขาขโมยกระเป๋าไปก็เพราะเขาไม่มีเงินไปซื้ออาหาร ซึ่งหลังจากที่เขาเอาเงินจากกระเป๋าสตางค์ออกมาทั้งหมดแล้ว เขาก็ได้ขว้างกระเป๋าใบนั้นลงไปในทะเล…
-
สาวเสิร์ฟกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หลังเพื่อนร่วมงานเซอร์ไพรส์ ให้เธอได้กลับไปเจอ ‘แม่’ อีกครั้ง
เวลาที่เราต้องเดินทางไปเรียนหรือไปทำงานไกลบ้าน ความรู้สึกหนึ่งที่เราต้องเจอคือ ความคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัวที่รอเราอยู่ เช่นเดียวกันกับหญิงสาวคนนี้ที่ถึงแม้ว่าเธอจะห่างบ้านมานานมากแล้วก็ตาม แต่เธอก็ไม่อาจห้ามความรู้สึกนั้นเอาไว้ได้เลย เธอมีชื่อว่า Mary Keaulana-Riotutar หญิงสาวที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเมือง Laredo รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เธอเข้ามาทำงานเป็นสาวเสิร์ฟอยู่ในร้านอาหารที่มีชื่อว่า Cheddar’s Scratch Kitchen Mary หญิงสาวผู้ห่างบ้านมาทำงานในรัฐเท็กซัส Mary เดินทางจากรัฐฮาวาย มาใช้ชีวิตและทำงานอยู่ในรัฐเท็กซัสนี้นานถึง 5 ปีแล้ว โดยที่ไม่ได้กลับไปยังบ้านเกิดของตัวเองเลยแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงคิดถึงบ้านอยู่เสมอ แต่โชคดีที่เธอยังคงมีเพื่อนร่วมงานที่คอยดูแลเอาใจใส่เธอมาตลอด ราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน เธอเล่าว่า “ฉันทายว่าเหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันสามารถอยู่ไกลบ้านได้นานขนาดนี้ ช่วยให้ฉันลืมความเจ็บปวดจากการคิดถึงคนในครอบครัวเพียงคนเดียวซึ่งก็คือแม่ของฉันไปได้บ้าง นั่นคงเป็นเพราะเพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทของฉันทุกคน” ร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่ จนกระทั่งในคืนวันหนึ่งขณะที่ Mary กำลังทำงานอยู่ เพื่อนร่วมงานของเธอ แม้แต่คนที่ไม่ได้ทำงานในวันนั้น ทุกคนมารวมตัวกันพาเธอเข้าไปในห้องครัวของร้าน ก่อนที่จะมอบของขวัญที่วิเศษที่สุดให้กับหญิงสาวคนนี้ เพื่อนๆ ทุกคนมารวมตัวกัน และพาเธอเข้ามาในห้องครัว เพื่อนร่วมงานของเธอคนหนึ่งพูดเปิดขึ้นมาว่า “พวกเรามารวมตัวกันเป็นครอบครัวได้ก็เพราะเรารักเธอมาก มาก มากจริงๆ” จากนั้นคนต่อไปก็ระบายความในใจที่เขียนเอาไว้ในกระดาษโน้ตว่า “Mary เธอทุ่มเทให้กับบริษัทนี้และพวกเราทุกคนที่เป็นเหมือนครอบครัว…
-
ด้วยความรักที่มีต่อลูก คุณพ่อลดน้ำหนัก 50 กก. เพื่อบริจาคไตให้ลูกชายที่กำลังรอการรักษา
เมื่อคุณมีลูก คุณจะรู้สึกได้ว่า เพื่อลูกอันเป็นที่รักของคุณแล้ว คุณย่อมสามารถทุ่มเทและเสียสละเพื่อเขาได้เสมอ อย่างเช่นคุณพ่อท่านหนึ่งที่เคยเป็นคนอ้วนมากๆ แต่กลับต้องมาลดน้ำหนักถึง 50 กิโลกรัม เพียงเพราะว่าเขาจะได้สามารถบริจาค “ไต” ให้กับลูกชายที่ของเขาที่กำลังป่วยอยู่ได้ คุณแม่ Irene, คุณพ่อ Barry, และลูกสาว Jennifer Barry Stokes คุณพ่อวัย 61 ปี ครั้งหนึ่งเคยมีน้ำหนักถึง 127 กิโลกรัม ซึ่งแพทย์บอกเขาว่าเขามีน้ำหนักตัวมากเกินไปที่จะสามารถบริจาคไตให้กับ Alan ลูกชายวัย 32 ปีของเขาได้ Alan ป่วย และการรักษาด้วยเคมีบำบัดหลายต่อหลายครั้งมันได้ทำให้เกิดความเสียหายกับไตของเขา ซึ่งเขาต้องการได้รับการปลูกถ่ายไตใหม่ คุณพ่อจึงเข้ายิมออกกำลังกายอย่างหนักและต่อเนื่อง มีการจ้างเทรนเนอร์ และมีการควบคุมอาหารการกิน จนตอนนี้เขามีน้ำหนักประมาณ 76 กิโลกรัม ซึ่งหมายถึงว่าเขาสามารถที่จะบริจาคไตใหักับลูกชายของเขาได้แล้วนั่นเอง Alan ผู้เป็นลูกชายนั้นต้องทรมานกับมะเร็งชนิดที่พบเจอได้ยากมาตั้งแต่เด็ก และพวกเขาก็ทราบมาว่าการปลูกถ่ายไตนั้น อวัยวะใหม่ที่เข้ากันได้ดีที่สุดควรมาจากสมาชิกครอบครัว โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อ Barry ผู้เป็นพ่อจึงตัดสินใจลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ปัจจุบัน Alan มีสุขภาพที่ดีขึ้น และเขากำลังศึกษาในระดับปริญญาเอกด้าน Artificial Intelligence…
-
เผ็ดเจียนตาย!! หนุ่มวัย 24 ทานพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกในงานแข่ง จนปวดหัวต้องเข้าโรงบาล
เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมามีชายวัย 34 ปีคนหนึ่งต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการ “ปวดหัวฟ้าผ่า” (Thunderclap Headaches) หลังจากที่เขาทานพริกที่ได้ชื่อว่าเผ็ดที่สุดในโลกภายในงานแข่งขันทานอาหาร พริกชนิดนี้มีชื่อว่า Carolina Reaper ซึ่งมีการวัดความเผ็ดไว้ที่ 1,569,300 สโกวิลล์ (หน่วยวัดความเผ็ด) เทียบกับพริกขี้หนูของประเทศไทยที่มีความเผ็ดอยู่ที่ 15,000 – 30,000 สโกวิลล์ เรียกได้ว่าเผ็ดนรกแตกกันเลยทีเดียว ทางโรงพยาบาลบอกว่าชายคนดังกล่าวมีอาการจี้ขึ้นสมอง และปวดคอทันทีที่ทานพริกชนิดนี้เข้าไป และมีอาการปวดหัวต่อเนื่องไปอีกหลายวัน จนกระทั่งในที่สุดก็ทนไม่ไหวและต้องเข้าปรึกษากับโรงพยาบาล ทางทีมแพทย์ยังบอกอีกด้วยว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบว่าการทานพริกจะสามารถทำให้มีการปวดหัวแบบนี้ได้ Dr. Kilothungan Gunasekaran จากภาควิชาอายุรศาสตร์ ศูนย์การแพทย์บาสเซ็ต ในนิวยอร์ก กล่าวว่า “ชายอายุ 34 ปีที่ไม่มีประวัติโรคร้ายแรง ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินเพราะอาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้น อาการของเขาประกอบด้วยอาการน้ำลายแห้ง แต่ไม่มีอาการอาเจียน และปวดหัวเป็นพักๆ ทันทีหลังจากที่เขากิน Carolina Reaper หนึ่งในพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก” ผู้ป่วยบอกแพทย์ว่าเขาไม่มีอาการรู้สึกเสียวซ่า หรืออ่อนแอใดๆ รวมทั้งไม่ได้มีอาการพูดไม่ชัดหรือการสูญเสียการมองเห็นชั่วคราว แม้ว่าจะมีความดันสูงเล็กน้อยที่ 134/69 ก็ตาม การสแกนเผยให้เห็นหลอดเลือดแดงหลายเส้นในสมองของเขามีการหดตัว ซึ่งถือว่าเข้าข่าย กลุ่มอาการ RCVS (Reversible cerebral vasoconstriction syndrome) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่หลอดเลือดในสมองจะหดตัวลงชั่วคราวเป็นพักๆ …
-
เพื่อความรักที่แท้ทรู… หนุ่มอินเดียปั่นจักรยานข้ามทวีปเพื่อไปหาสาวคู่ชีวิตกว่า 3,500 กม.
มีคนเขาว่ากันว่า เพื่อรักแท้แล้ว มนุษย์ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ซึ่งก็น่าจะจริงตามที่ว่ากันไว้เพราะความรักเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถออกแบบมันได้ เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นหากคิดว่าเจอกับรักแท้แล้วจึงต้องพยายามอย่างที่สุดเพื่อไขว่คว้ามันมา เหมือนอย่างเรื่องของชายคนนี้ ที่ได้ปั่นจักรยานข้ามทวีปเพื่อเดินทางไปหาหญิงอันเป็นที่รัก ซึ่งไม่ว่าลำบากลำบนขนาดไหน เขาก็ไม่คิดที่จะย่อท้อ นี่สิรักแท้ที่แท้ทรู ชายคนนี้ชื่อว่า PK Mahanandia ชายผู้โชคร้ายเกิดมาภายในวรรณะจัณฑาลในประเทศอินเดีย ตัวตนของเขาเป็นเหมือนกับสิ่งที่ไม่สมควรมีอยู่ ถูกรังเกียจ เหยียดหยามและกดขี่ ที่แม้แต่จะเข้าห้องเรียนยังทำไม่ได้ เขาเล่าว่าตัวของเขามีฐานะต่ำกว่าหมาและวัวอีกด้วยซ้ำ เวลาที่เขาไปใกล้กับวัดผู้คนก็จะกว้างก้อนหินใส่เขา เวลาที่เขาจากจะเรียนรู้อะไรต่างๆ ก็ทำได้แค่นั่งฟังอยู่นอกห้องเรียนเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง จากการมาของผู้เยี่ยมชมโรงเรียน มันได้เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล นั่นคือมีเด็กสาวชาวยุโรปพร้อมกับผู้ตรวจสอบโรงเรียนชาวอังกฤษมาเยี่ยมโรงเรียน ผู้ตรวจสอบมอบพวงมาลัยให้กับเด็กสาว แต่แทนที่เด็กสาวจะนำพวงมาลัยคล้องคอตัวเอง เธอกลับนำมันไปให้กับ Mahanandia พร้อมยังลูบหัวและบอกอีกว่า “ผมหยิกของเธอน่ารักดีนะ” แน่นอนว่า Mahanandia มีความสุขมากและก็เป็นเวลาเดียวกับที่น้ำตาไหล มันเหมือนกับเสียงสว่างเพียงนิดเดียวที่ส่องเข้ามาในชีวิตอันมืดมน เขารีบกลับบ้านไปบอกแม่ว่าเขาตกหลุมรักผู้หญิงผิวขาว อะไรก็ตามที่เธอบอกกับเขาในวันนั้นมันจะอยู่กับเขาตลอดไป เมื่อได้ยินดังนั้น แม่ของเขาจึงได้ทำนายชะตากรรมจากลายมือของเขาและได้ผลว่าเขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงผิวขาว มาจากแผ่นดินไกล ซึ่งเธอจะมีราศีพฤษภ มีความเกี่ยวข้องกับเสียงดนตรีและเป็นเจ้าของป่าอีกด้วย ต่อมาในปี 1975 Mahanandia ได้กลายเป็นนักเรียนศิลปะ แต่ด้วยฐานะยากจนทำให้เขาต้องนอนหลับตามตู้โทรศัพท์ ป้ายรถเมล์เป็นส่วนมาก…
-
เหตุการณ์สลด รถโรงเรียนประสบอุบัติเหตุตกเหว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน
กลายเป็นข่าวที่สร้างความเศร้าสลดไปทั่วอินเดีย หลังสื่อท้องถิ่นรายงานถึงอุบัติเหตุรถโรงเรียนตกเหวในหุบเขา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นนักเรียนอายุไม่เกิน 10 ขวบ เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งสถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่ห่างจากนคร Shimla 325 กิโลเมตร ซึ่งรถโรงเรียนคันดังกล่าวนั้นเดินทางมาจากโรงเรียน Wazir Ram Singh Pathania Memorial school ในเขต Kangra รัฐหิมาจัลประเทศ พร้อมกับผู้โดยสาร 40 คน Santosh Patyalg เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นรายงานว่า “รถคันดังกล่าวได้ตกลงไปหุบเหวลึกกว่า 61 เมตร ซึ่งส่งผลให้เด็กนักเรียน 27 คน อาจารย์ 2 คนและคนขับเสียชีวิตทันที” นอกจากนี้ผู้เห็นเหตุการณ์ยังได้เล่ากับสื่อท้องถิ่นด้วยเช่นกันว่า พวกเขาเห็นรถลื่นไถลไปจนกับมุมถนน จากนั้นก็ตกลงไปดังภาพที่เห็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งกันกู้ซากและพยายามช่วยเหลือผู้โดยสารที่รอดชีวิตให้เร็วที่สุด . ด้าน Narendra Modi นายกรัฐมนตรีอินเดียที่ได้รับข่าวดังกล่าวก็รีบออกมาแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตทันที โดยเขาได้ทวีตข้อความว่า “ผมขออธิษฐานและขอแสดงความเสียใจแก่ผู้เสียชีวิตรวมถึงญาติจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย”…
-
คนผิดหรือยีราฟผิด หลังมีคลิปยีราฟเอาหัวมุดเข้าไปในรถจนกระจกแตกทั้งบาน!?
กลายเป็นคลิปไวรัลที่ถูกพูดถึงกันอย่างหนาหู เมื่อคู่รักชาวอังกฤษคู่หนึ่งเดินทางไปยัง สวนสัตว์เปิด West Midland Safari Park ในวุร์สเตอร์เชอร์ เคาท์ตีของประเทศอังกฤษ และถูกยีราฟตัวหนึ่งบุกเข้ามาในรถ ตัวคลิปนั้นจะโชว์ให้เราเห็นภาพที่ทั้งสองขับรถเข้าไปยังสวนสัตว์เปิด ซึ่งทั้งสองได้เปิดกระจกรถทิ้งไว้จนกระทั่งยีราฟตัวหนึ่งสังเกตเห็น มันเดินตรงเข้ามาและใช้หน้ามุดเข้าไปในตัวรถเพื่อมองหาอาหารด้วยท่าทีขี้เล่น แต่แล้วเหตุการณ์ที่แม้แต่คนถ่ายภาพยังคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น ทางเจ้าของรถได้ปรับกระจกรถขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเจ้ายีราฟจะไม่สนใจเท่าไหร่ ซึ่งเมื่อยีราฟไม่ยอมเอาหน้าออก กระจกที่เลื่อนขึ้นจึงบีบเข้ากับศีรษะของยีราฟจนแตกออก ทำให้ทั้งคนและยีราฟตกใจเป็นอย่างมาก หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ในตอนแรกคนก็ตั้งคำถามว่าใครผิด แต่ผ่านไปสักระยะชาวเน็ตก็เริ่มพากันแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าคู่รักทั้งสองนั่นแหละทำผิด โดยเฉพาะแฟนหนุ่ม ซึ่งถ้าเราดูดีๆ เราจะเห็นว่าแฟนหนุ่มได้เอามือเลื่อนไปกดปุ่มปิดกระจกรถ จนเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว “คนอยู่ในรถบ้าหรือเปล่า เลื่อนกระจกขึ้นขณะที่หัวยีราฟยังอยู่ในรถเนี่ยนะ? ฉันไม่สนใจกระจกหรอกนะว่ามันจะเป็นยังไง ที่ฉันสนคือตาของยีราฟต่างหาก!!” นอกจากนี้ชาวเน็ตก็ยังพากันเป็นห่วงเจ้ายีราฟกันยกใหญ่ ว่ามันบาดเจ็บไหม ตาของมันเป็นอะไรจากกระจกหรือเปล่า พร้อมกับบ่นคู่รักต่อกันอีกยกใหญ่ “พวกเราน่าจะเห็นตรงกันนะว่าเหตุการณ์นี้ ยีราฟคือผู้เสียหาย” . อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากทางสวนสัตว์เปิด West Midland Safari Park ก็ได้ออกมาบอกถึงอาการของยีราฟตัวดังกล่าวว่า “หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว พวกเราได้เข้าไปตรวจเช็กสภาพของเจ้ายีราฟทันที…
-
เด็กชายวัย 10 ขวบ แอบย่องขึ้นรถไฟเดินทางไกล 300 กิโลฯ เพราะอยากไป Disneyland
ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความฝันอยากเดินทางไปในที่ที่เราอยากจะไป ไม่เว้นแม้แต่กับเด็ก 10 ขวบชาวจีนคนนี้ เมื่อเขาอยากไปเที่ยว Disneyland ในเซี่ยงไฮ้เป็นอย่างมาก จนถึงขนาดแอบขึ้นรถไฟไปเพียงลำพัง เดินทางไกลกว่า 300 กิโลเมตรเพื่อทำให้ฝันเป็นจริง นี่เป็นเรื่องราวของเด็กชายวัย 10 ขวบที่เดินทางจากบ้านในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ไปยังนครเซี่ยงไฮ้เพียงลำพัง เพราะเขาต้องการจะไปเที่ยว Disneyland สักครั้งในชีวิต Disneyland สถานที่แห่งความฝันของใครหลายๆ คน เด็กคนนี้แอบขึ้นรถไฟในวันที่ 5 เมษายน 2018 โดยการบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าพ่อแม่ของเขารออยู่ในรถไฟแล้ว ก่อนที่จะไปถึงนครเซี่ยงไฮ้ในช่วงดึกของวันนั้น ด้วยความที่มันดึกมากแล้ว เขาจึงไปนอนพักอยู่ทางเดินใต้ดิน พอตื่นมาตอนเช้าวันถัดไป เขาก็ออกไปเที่ยวเล่นอยู่บริเวณริมน้ำที่เรียกว่า Bund ใจกลางเซี่ยงไฮ้ แล้วค่อยนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินเดินทางสู่ Disneyland สถานที่ในฝันสำหรับเขา แต่แน่นอนว่าการที่เด็กชายพยายามจะเข้าไปในสวนสนุกเพียงลำพังย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เจ้าหน้าที่จึงทำการกักตัวเขาไว้ที่บริเวณหน้าประตู ซักถามว่าพ่อแม่เขาอยู่ไหน ทำไมถึงมายืนอยู่คนเดียว เด็กชายวัย 10 ขวบ กับการเดินทางไกลเพียงลำพัง ถึงอย่างนั้นเด็กคนนี้ก็ยังไม่ยอมแพ้ ขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือคนแถวนั้นเป็นผู้ปกครองของเขาให้หน่อย เพื่อที่เขาจะได้เข้าไปในสวนสนุก แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ตำรวจพยายามถามข้อมูลจากเด็กคนนี้ แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบเธอไป…
-
เล่นรูบิกเฉยๆ มันธรรมดาไปแล้ว!! เจอเจ้าหนุ่มนี่ทำลายสถิติการแก้รูบิกขณะโยนอยู่ถึงสามอัน
“รูบิก (Rubik)” คือของเล่นรูปทรงลูกบาศก์ ที่ในขนาดมาตรฐานมีด้านทั้งหมดหกด้าน แต่ละด้านก็มีทั้งหมดเก้าส่วนย่อย ซึ่งรูบิกถือว่าเป็นของเล่นที่มียอดขายสูงสุดในโลกอีกด้วย การเล่นรูบิก ผู้เล่นจะต้องทำการหมุนส่วนย่อยต่างๆ ทั้งเก้าชิ้นที่เป็นสีเดียวกัน ย้ายไปรวมกันอยู่ในด้านใดด้านหนึ่ง ทำซ้ำๆ กันให้ครบทั้งหกด้านก็จะถือว่าจบเกม ผู้เล่นจะได้ประโยชน์จากการเล่นรูบิกมากมาย อาทิ ได้ฝึกสมาธิ ความอดทน ไหวพริบ บ่อยครั้งที่เราเห็นงานแข่งขันเรียงรูบิก ไม่ว่าจะเป็นทั้งตามอินเทอร์เน็ตหรือในบ้านเราก็ตาม โดยที่เวลาเร็วที่สุดในโลกในเรียงลูกบาศก์รูบิกจะอยู่ที่เพียง 4.69 วิเท่านั้นเองถือว่าเร็วมากๆ เลยล่ะ แต่สถิติเรียงรูบิกที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมวันนี้มีสถิติอยู่ที่ 5 นาที 6 วินาที 61 เซนติวินาที(100 เซนติวินาที = 1 วินาที) ดูจากเวลาแล้วอาจจะสงสัยกันว่า เอ้า!? ละมันเร็วตรงไหนเนี่ย!? แต่ต้องขอบอกเลยว่าสถิติข้างบนที่เห็นนี้เป็นสถิติของการเรียงลูกรูบิก 3 ลูกขณะโยนรูบิกขึ้นแบบ Juggling ด้วยนะ รู้แบบนี้เริ่มรู้สึกถึงความสุดยอดของสถิตินี้แล้วใช่ม้าาา งั้นเราลองไปดูการทำลายสถิติครั้งนี้กันดีกว่าครับ โฉมหน้าของ Que Jianyu เด็กหนุ่มผู้ได้จารึกสถิติครั้งนี้ไว้ กรรมการได้ให้เขาสำรวจสีของรูบิกก่อนเริ่มจับเวลา อุปกรณ์จับเวลาพร้อม!! …
-
ช่างตัดผมหนุ่มสุดซวย เพียงเพราะตัดผมผู้หญิงไม่เป็น ถูกฟ้องเหยียดเพศเฉยเลย…
ความซวยนั้นไม่เข้าใครออกใครจริงๆ อย่างเช่นที่ช่างตัดผมหนุ่มคนต้องพบเจอกับความซวยที่มาเยือนอย่างงงๆ เพียงเพราะเขาไม่สามารถตัดผมให้กับเด็กผู้หญิงได้ เนื่องจากเขาไม่ได้เรียนมา… Sam Rahim ช่างตัดผมหนุ่มของร้าน Hunters Hill Barber Shop บนชายฝั่งตอนเหนือของนครซิดนีย์ วันหนึ่งในเดือนธันวาคม 2017 เขาได้พบหญิงที่พาลูกสาวเข้ามาในร้านเพื่อจะตัดผม เธอถาม Sam ว่าสามารถตัดผมให้ลูกสาวเธอได้หรือไม่ และด้วยความที่ Sam เคยตัดแต่ผมผู้ชายเท่านั้น เขาจึงไม่กล้าที่จะรับปาก และทำให้เขาปฏิเสธออกไปอย่างสุภาพ และนั่นทำให้หญิงสาวโมโหโกรธา รวมถึงไม่ยอมรับคำปฏิเสธจาก Sam แม้ว่าเขาจะให้เหตุผลไปแล้วก็ตามว่า ที่เขาไม่สามารถตัดผมให้กับลูกสาวของเธอได้ก็เพราะว่าเขาไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ ไม่ได้เรียนมา และไม่เคยทำมาก่อน นอกจากนี้เขายังแนะนำว่ามีร้านเสริมสวยผู้หญิงอยู่ใกล้ๆ ถึงสามร้าน เดินไปเพียงนาทีเดียวก็ถึง แต่มันกลับทำให้หญิงสาวโกรธเกรี้ยวมากขึ้น และหลังจากนั้น Sam ก็ถูกเรียกตัวไปยังคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม ด้วยสาเหตุที่ว่าเขาละเมิดกฎการแบ่งแยกชนชั้นและถูกกล่าวหาว่าทำให้เด็กสาวต้องอับอายขายหน้า Sam กล่าวว่า “เธอคงจะอับอายขายหน้ากว่านี้อีกนะ ถ้าต้องไปโรงเรียนด้วยทรงผมที่ช่างตัดผมชายตัดให้” หลายท่านคงเห็นชัดเจนว่าเรื่องนี้ Sam ทำถูกต้องแล้ว แต่ความซวยมาหาเขาเองแท้ๆ ยังโชคดีที่ Sam ไม่ได้ต่อสู้เรื่องนี้อยู่คนเดียว ทาง The…
-
เพื่อนโจรวางช่อดอกไม้ทำที่เคารพศพให้โจรที่โดนแทงตาย แถมปิดถนนเดือดร้อนชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมานาย Henry Vincent หัวขโมยวัย 37 ได้เสียชีวิตลงในโรงพยาบาลหลังจากที่ถูกแทงโดยนาย Richard Osborn-Brooks ชายวัย 78 ปีผู้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยเงินบำนาญกับภรรยาผู้พิการ ในระหว่างที่เขาลักลอบเข้าไปขโมยของ Richard Osborn-Brooks เจ้าของบ้าน (ซ้าย) กับ Henry Vincent หัวขโมยผู้เสียชีวิต (ขวา) หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางศาลได้มีการละเว้นโทษของนาย Richard ในคดีฆ่าคนตายโดยบอกว่าเป็นการลงมือเพื่อป้องกันตัว ทำให้บรรดาคนที่รู้จักของ Vincent ไม่พอใจเป็นอย่างมาก พวกเขาได้รวมตัวกันเพื่อนำช่อดอกไม้ไปวางที่รั้วบ้านของนาย Richard ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุไปราวๆ 18 เมตร ทำให้พื้นที่ในบริเวณที่ว่ากลายเป็นที่เคารพศพของนาย Vincent ไป . . เนื้อความในช่อดอกไม้นั้นมีตั้งแต่การแสดงความเสียใจต่อนาย Vincent ที่จากไป เรื่อยไปจนถึงจดหมายจากลูกสาวของเขาและจดหมายที่ระบุว่าเพื่อนๆ ของเขาจะทำการล้างแค้นให้แก่เขาให้ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเนื้อความในจดหมายที่พบสร้างความไม่สบายใจให้แก่ชาวบ้านในละแวกนั้นมาก ชาวบ้านบางส่วนถึงกับออกมาบอกว่าการกระทำที่ทำเหมือนกับว่านาย Vincent เป็นเหยื่อคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ว เขามีความคิดที่จะทำร้ายร่างกายคนชรา และคนพิการมันเป็นอะไรที่น่าขยะแขยงมาก นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่ออกมาบอกด้วยว่าเหล่าเพื่อนๆ ของนาย Vincent ได้ออกมาทำการปิดถนน สร้างความเดือดร้อนจนต้องมีการขอร้องให้ตำรวจทำอะไรสักอย่าง อย่างไรก็ตามทางตำรวจได้ออกมาบอกว่าการสร้างที่เคารพศพแก่คนตายในครั้งนี้ไม่ได้ขัดต่อหลักกฎหมายทำให้ทางตำรวจไม่สามารถรื้อถอนที่เคารพศพนี้ออกไปได้ สถานการณ์ล่าสุดของเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ทนไม่ไหวกับการปิดถนนได้เข้าไปพยายามทำลายที่เคารพศพของนาย Vincent …
-
บอกลาออฟฟิศแล้วมาดู 12 อาชีพแปล๊กแปลก สำหรับคนที่ต้องการสีสันในชีวิต
คุณรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตการทำงานทุกวันนี้อยู่หรือเปล่า? หัวหน้าใจร้าย เพื่อนร่วมงานเอาเปรียบ งานซ้ำจำเจ นั่งอยู่แต่ในออฟฟิศ มันคงจะน่าเบื่อใช่ไหมล่ะ? หลายๆ คนเมื่อรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตการทำงานก็มักจะมองหางานใหม่ๆ ที่สนุก และไม่จำเจ หากใครกำลังคิดแบบนี้อยู่ล่ะก็ เรามีอาชีพมาเสนอคุณ 12 อาชีพ ที่รับรองว่าแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครๆ รับรองว่าไม่เบื่อหน่ายแน่นวลลล ส่วนจะมีอาชีพอะไรบ้างนั้น ไปชมพร้อมๆ กันเลย… 1. นักแกะหมากฝรั่ง อาชีพนี้มีจริงๆ ในสหรัฐอเมริกา ประเทศที่ผู้คนอาศัยอยู่มากมาย ทำให้มีหลายคนที่เคี้ยวๆ หมากฝรั่งแล้วก็ไม่รู้จะทิ้งที่ไหน ก็ถ่มถุยเอาไว้แถวนั้น หรือไม่ก็เอาไปแปะเอาไว้ตามสถานที่สาธารณะ ดังนั้นจึงเกิดอาชีพ นักแกะหมากฝรั่ง ขึ้นเพื่อคอยไล่เก็บไล่แกะหมากฝรั่งออกจากที่สาธารณะ 2. นักพิสูจน์กลิ่น อย่าเพิ่งยี๊กันนะ การดมกลิ่นไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น อย่างเช่นบริษัท Proctor & Gamble ที่ต้องว่าจ้างนักพิสูจน์กลิ่นมาเพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ขจัดกลิ่นของบริษัท ว่าสามารถขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้หมดจดหรือไม่ 3. นักชิมอะโวคาโด หากว่าคุณชอบทานอะโวคาโดล่ะก็ ในประเทศออสเตรเลียจะมีอาชีพนักชิมอะโวคาโดที่เพียงคุณชิมเพื่อคัดเลือกอะโวคาโดชั้นดีสำหรับร้านอาหาร คุณก็จะได้รับค่าจ้าง …สุดยอดไปเลยยย 4. เพื่อนเจ้าสาวรับจ้าง…
-
หนุ่มไทยหนัก 120 โล พบรักกับพยาบาลสาวสวย แต่ชาวเน็ตต่างชาติไม่ค่อยยินดีกับเรื่องนี้
รักแท้ เป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนาแต่บางครั้งเราก็อาจรู้สึกท้อแท้หลังจากผ่านความผิดหวังมาหลายต่อหลายครั้ง เกิดความคิดขึ้นมาว่า “หรือรักแท้จะไม่มีอยู่จริง?” แต่แท้จริงแล้วไม่ว่าใครต่างก็มีโอกาสได้พบกับสิ่งนี้ ไม่เว้นแม้แต่ชายหนุ่มที่มีน้ำหนักกว่า 120 กิโลกรัม เขาคนนั้นมีชื่อว่า นาย ภูวดล คำไทย หรือ บอล ชายผู้สูงแค่ 155 เซนติเมตร หนักกว่า 120 กิโลกรัม ถ้าพูดจริงๆ เขาถือว่าเป็นชายที่มีรูปร่างอ้วนใหญ่มากๆ คนหนึ่ง เพราะเหตุนั้นจึงทำให้เขามักจะถูกคนรอบข้างกลั่นแกล้งมาอยู่เสมอ บอลและแฟนสาวของเขา หลายคนอาจมองว่าเขาคงไม่สามารถพบรักแท้กับหญิงสาวคนไหนได้ จนกระทั่งเขาได้เจอกับ เชอร์รี่ หรือ คุณสิริภา บุญรักษา พยาบาลสาวสวยที่ไม่ได้รังเกียจรูปร่างหน้าตาของเขาเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คบหาดูใจมานานกว่า 10 ปี จนกระทั่งในปี 2016 ทั้งสองจึงได้ตัดสินใจแต่งงานกันในที่สุด เพื่อเป็นตัวพิสูจน์ความรักและสัญญาว่าจะอยู่ดูแลกันตลอดไป . เชอร์รี่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า “ฉันเข้าใจว่าเข้าไม่ใช่คนที่หน้าตาดีแต่อย่างใด รวมถึงเขามีรูปร่างที่อ้วน แต่เขาเป็นคนที่มีจิตใจดีมาก นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” “เขาเป็นคนที่เอาใจใส่มาก แม้เขาจะไม่ชอบผู้หญิงผมสั้น แต่ก็จะชมฉันว่าน่ารักอยู่เสมอถึงแม้ฉันจะไปซอยผมมาก็ตาม เราแบ่งปันทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกันทั้งสุขและทุกข์ ทั้งหมดนั้นคือประเด็นหลักสำหรับความรักของเราทั้งสอง” เธอกล่าว…
-
ถึงกับผงะ.. ชาวประมงบนเกาะห่างไกล พบ ‘ปลาหมึก’ ใหญ่ยักษ์ ยาวเกือบ 2.5 เมตร!!
ปลาหมึก เป็นสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่พวกเรานิยมนำมาประกอบอาหารหลากหลายชนิด และเป็นหนึ่งในอาหารที่หลายๆ คนชื่นชอบ ปลาหมึกทั่วไปที่เราเห็นๆ กันก็จะมีขนาดอยู่แค่ประมาณ 1 ฝ่ามือ แต่ว่าชาวประมงบนเกาะอันห่างไกลของประเทศฟิลิปปินส์ พวกเขากลับผมปลาหมึกที่มีความยาวถึง 8 ฟุต หรือเกือบ 2.5 เมตร!! เจ้าหมึกความยาวเกือบ 2.5 เมตร!! เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2018 ชาวประมงบนเกาะแห่งหนึ่งในเขต Tawi-tawi ประเทศฟิลิปปินส์ ได้ทำการลากเอาเจ้าปลาหมึกกล้วยขนาดใหญ่ยักษ์ขึ้นฝั่งมา ความยาวเกือบ 2.5 เมตร กว้างกว่า 45 เซนติเมตร สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านทุกๆ คน . Harold Eduardo Curtis หนึ่งในชาวประมงของเกาะแห่งนี้บอกว่า เขาไม่ใช่คนที่ตกมันขึ้นมาได้ แต่รู้จักกับชาวประมงที่เป็นเจ้าของผลงานนั้น และการเอาเจ้าสิ่งนี้ขึ้นมาจากท้องทะเลนั้นเป็นเรื่องที่ลำบากมากเหลือเกิน ด้วยน้ำหนักที่มหาศาลของเจ้าหมึกแล้ว . เขายังบอกอีกว่า “ความสวยงามของเจ้าหมึกตัวนี้อยู่ที่ความสะอาดเรียบเนียนของมัน มันดูสดใสและขาวมาก ดูแล้วมันคือปลาหมึกที่มีสุขภาพดีและยังเด็กอยู่ เนื้อของมันจะต้องอร่อยแน่ๆ”…
-
เล่นผิดคนแล้ว… เมื่อแก๊งสแกมเมอร์ดั๊นมาหลอกคนจริง งานนี้มีโดนตอกหน้าหงาย
ปกติของการใช้โทรศัพท์ บางทีเราอาจจะเจอกับคนแปลกหน้าหรือเบอร์แปลกโทรหรือส่งข้อความมาหาเพื่อหลอกเอาข้อมูลที่สำคัญของเราไป โดยที่คนพวกนี้ถูกเรียกรวมๆ ว่า ‘แก๊งสแกมเมอร์ (Scammer)’ แก๊งสแกมเมอร์นั้นจะมีการเข้ามาหาคุณได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหลอกว่าเป็นคนใหญ่คนโตสามารถช่วยคุณเรื่องนี้ๆ ได้นะ หรืออาจจะมาหาในรูปแบบชวนลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน แต่รูปแบบที่เราจะพูดถึงในวันนี้ถูกเรียกว่า ‘โรแมนซ์สแกม (Romance Scam)’ พวกโรแมนซ์สแกมนี้จะเข้ามาหาคุณในรูปแบบหนุ่มสาวที่หน้าตาดี ชีวิตดี การเงินมั่นคง โดยที่อาจจะเจอจากแอปพลิเคชันหาคู่อย่าง Tinder หรือพวกเขาอาจจะส่งข้อความมาหาคุณแอปฯ อื่นๆ เป็นต้น และบุคคลที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูในวันนี้ ก็ถูกพวกโรแมนซ์สแกมส่งข้อความมาหา แต่แทนที่เขาจะคล้อยตามไปกับรูปลักษณ์ที่สวยงาม เขากลับตรอกหน้าอีกฝ่ายไปได้อย่างฮา ซึ่งจะฮาขนาดไหนเราไปชมกันเลยครับ (โดยจะแทนสแกมเมอร์ด้วย A และเจ้าของเรื่องด้วย B นะครับ) A: สวัสดีค่า B: นี่ใครครับ? A: ฉันชื่อ Gwen คุณล่ะ? B: คุณไปเอาเบอร์นี้มาจากไหน? A: ฉันไปได้มาจากเว็บนัดเดตน่ะ B: ผมไม่ได้ใช้เว็บนัดเดตอะไรทั้งนั้นอ่ะ ได้โปรดอย่าส่งข้อความมาหาผมอีกนะ ขอให้มีวันที่ดี A: ทำไมล่ะ? ฉันแค่อยากจะรู้เกี่ยวกับอีกฝ่ายให้มากแล้วหาที่ที่เราจะได้นัดเจอกัน…
-
มาดูโรงแรมแห่งแรกใน “อวกาศ” กับค่าห้องคืนละ 25 ล้านบาท พร้อมเปิดบริการปี 2022!!
ปกติแล้วโรงแรมหรูๆ ระดับ 4-5 ดาว คนธรรมดาอย่างเราๆ ก็เรียกได้ว่ายากที่จะเข้าไปพักอยู่แล้ว ในขณะที่มหาเศรษฐีบางคนก็พักจนเบื่อกันเลยทีเดียว แถมตอนนี้มันยิ่งล้ำไปมากกว่านั้นเยอะ มหาเศรษฐีทั้งหลายคงจะไม่เบื่ออีกต่อไป เพราะมีประกาศออกมาว่า โรงแรมหรูแห่งใหม่ ได้เกิดขึ้นแล้วใน “อวกาศ” และมีกำหนดเปิดรับแขกเข้าพักในปี 2022!! โรงแรมดังกล่าวมีชื่อว่า The Aurora Station ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Orion Span ในรัฐเท็กซัส ด้วยฝีมือทีมพัฒนาที่มากประสบการณ์ด้านสำรวจอวกาศจากองค์การ NASA ในโรงแรมอวกาศนี้จะผู้ดูแลอยู่สองคนด้วยกัน ส่วนห้องพักก็มีไว้สำหรับแขก 6 คน ส่วนราคาเข้าพักนั้นก็ย่อมเยาเพียง 296 ล้านบาท!! โดยจะเข้าพักเป็นเวลา 12 วัน ซึ่งหากมีโอกาสได้ไปเพียงครั้งเดียวในชีวิตก็เพียงพอแล้ว แขกผู้เข้าไปพักนั้นใช่ว่าจะกระทำการต่างๆ ได้ตามอำเภอใจ เพราะทุกคนที่จะเข้าไปพักยังโรงแรม Aurora Station แห่งนี้จะต้องเข้ารับการฝึกฝนการใช้ชีวิตในอวกาศอย่างจริงจังเป็นระยะเวลา 3 เดือนเสียก่อน ทั้งนี้ Frank Bunger ผู้บริหารใหญ่และผู้ก่อตั้งบริษัท Orion Span ก็ได้อธิบายว่า “เมื่อเปิดตัวเป็นทางการแล้ว…
-
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!! จีนเรืองอำนาจคว้าชัยชนะ และกลายเป็นอันดับ 1 ด้านพลังงานสะอาด
นับตั้งแต่ที่ปัญหาโลกร้อนรุนแรงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกเริ่มหายไป ประเทศชั้นนำมากมายทั่วโลกก็เริ่มตระหนักได้ว่าการผลิตพลังงานในปัจจุบันนั้นสร้างผลเสียให้กับโลกของเรามากขนาดไหนไม่ว่าจะด้วยน้ำมันหรือถ่านหินก็ตาม นั่นจึงส่งผลให้ชาติมากมายหันมาเดินหน้าและใส่ใจในพลังงานธรรมชาติกันมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากลม น้ำหรือแม้แต่แสงแดดก็ตาม แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ได้ทำมันเฉยๆ เพราะมันยังคงขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันเช่นเคย ในปี 2017 ที่ผ่านมา จีนถือเป็นประเทศที่นำหน้าในเกมการแข่งขันเรื่องพลังงานสะอาดไปอย่างขาดลอย ซึ่งทาง UN ก็ออกมาบอกว่า เมื่อนับแค่พลังงานสะอาดเท่านั้นมารวมกัน ทั้งโลกนั้นสามารถผลิตพลังงานเพิ่มได้ถึง 157 กิกะวัตต์ในปีเดียว ซึ่งพลังงานสะอาดที่ฮิตมากๆ ในช่วงนี้คงจะหนีไม่พ้นพลังงานแสดงอาทิตย์ เพราะจากตัวเลขข้างต้นนั้น 100 กิกะวัตต์ มาจากพลังงานแสดงอาทิตย์ ส่วนอีก 50 มาจากพลังงานลม ซึ่งเจ้าพลังงานที่ว่านี้ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้จีนกลายเป็นผู้นำเลยก็ว่าได้ เพราะว่าในปี 2017 มีการลงทุนเกี่ยวกับพลังงานสะอาดจากทุกชาติในโลกรวมกันได้ 279.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 8,750 ล้านบาท แต่จีนได้ลงทุนแผงพลังงานแสงอาทิตย์ไปมากถึง 126.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 3,940 ล้านบาท ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งจากเงินลงทุนในพลังงานทั้งหมดจากทุกประเทศทั่วโลก และแน่นอนว่า 86.5 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนทั้งหมดนั้นเป็นเงินที่ลงทุนกับแผงโซลาร์เซลล์นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจีนจะเป็นผู้นำ อเมริกาจะเป็นตาม หรืออินเดียที่ตั้งเป้าจะเป็นผู้ชนะให้ได้ ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่ดีต่อโลกแทบทั้งสิ้น เพราะนี่คือการแข่งขันผลิตพลังงานสะอาดที่ปลอดภัยและเป็นมิตร…
-
‘ลูกชาย’ ถึงกับปาดน้ำตา เมื่อพ่อนำรูปของเขาและ ‘แฟนหนุ่ม’ อวดคนอื่นๆ อย่างภูมิใจ
แม้ในปัจจุบันสังคมของเราจะเปิดกว้างในเรื่องของเพศทางเลือกมากยิ่งขึ้น แต่การที่คนในครอบครัวโดยเฉพาะคนเป็นพ่อจะยอมรับกับสิ่งที่ลูกเป็นได้นั้น ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆ ครอบครัว ถึงอย่างนั้นก็คงจะไม่ใช่กับครอบครัวนี้อย่างแน่นอน เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2018 ลูกชายของครอบครัวดังกล่าวได้โพสต์ภาพลงในทวิตเตอร์ เผยให้เห็นคนเป็นพ่อที่สามารถยอมรับเขาได้อย่างแท้จริง แม้ว่าเขาจะเป็น “เกย์” ก็ตาม คุณพ่อ Louis Sr. และลูกชายที่เป็นเกย์ ลูกชายและแฟนหนุ่มของเขา คุณพ่อที่ชื่อว่า Louis Sr. นั้นทำงานอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขาเป็นคนที่สนิทกับลูกค้าที่เข้ามากินอาหารในร้านมากๆ จนทำให้ลูกค้าหลายๆ คนถามถึงลูกชายสุดที่รักของเขา เกี่ยวกับการที่ลูกเป็นเกย์และมีแฟนหนุ่มที่ชื่อว่า Christian เมื่อถูกถามอย่างนั้น แทนที่เขาจะเกิดความไม่พอใจหรือรู้สึกไม่ดี เขากลับส่งข้อความไปหาลูกชาย บอกให้ส่งรูปของตัวเองกับแฟนหนุ่มมาให้พ่อหน่อย เพื่อที่เขาจะสามารถนำไปอวดคนอื่นๆ ได้ แชทที่พ่อทักมาขอรูปของเขาและแฟนหนุ่มไปอวดเพื่อน การกระทำเล็กๆ ของคุณพ่อ ทำให้ลูกชายรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่าพ่อจะนำความรักของเขาและแฟนหนุ่มไปแชร์ให้คนอื่นๆ รับรู้แบบนี้ Louis Jr. ลูกชายของพ่อที่ยอมรับในเพศของเขา บอกกับทางสำนักข่าว BuzzFeed ว่า “พ่อไม่ได้แค่ยอมรับที่เราทั้งสองคนเป็นเกย์ แต่เขายังให้การยอมรับกับความรักของเราทั้งสองคนอีกด้วย”…
-
มิ้วน้อยถูกทิ้ง จนมดเกาะเต็มตัว ในที่สุดมันก็ได้รับการช่วยเหลือและเริ่มต้นชีวิตใหม่
เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แมววัย 4 สัปดาห์ตัวหนึ่งถูกพบขณะเดินไปตามถนนนในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย สภาพของเจ้าเหมียวดูอ่อนแรง เนื่องจากไม่ได้กินอะไรมานาน มันอ่อนแอเกินกว่าที่จะยืนด้วยตัวเองได้ นอกจากนี้ยังมีมดมากมายไต่อยู่บนตัวมันด้วย ตอนที่ชายคนหนึ่งมาเจอมิ้วน้อยตัวนี้ ก็พบว่ามันไม่สามารถลืมตาได้ เขาจึงตัดสินใจพามันกลับบ้านและทำความสะอาดเนื้อตัวให้ ก่อนจะตั้งชื่อมันว่า Gaius Gaius จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์เพื่อความอยู่รอด ชายคนนั้นจึงพามันไปหากลุ่มช่วยเหลือในท้องถิ่นที่ชื่อว่า Cat Rescue 901 เพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่ตกใจมาก เพราะมิ้วน้อยมีน้ำหนักไม่ถึงครึ่งกิโลด้วยซ้ำ และจากสภาพดังกล่าวพอสรุปได้ว่ามันถูกแม่ทิ้งก่อนจะหย่านมด้วยซ้ำ มันเลยดิ้นรนเอาชีวิตรอดเพียงลำพังตั้งแต่เกิด พนักงานได้อาหารกับ Gaius และห่มผ้าห่มให้เพื่อทำให้ร่างกายของมันอบอุ่น นอกเหนือจากนี้พวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรมันได้เลย ขึ้นอยู่กับว่ามิ้วน้อยจะสู้ต่อไปได้มากแค่ไหน ผ่านไปแค่คืนเดียว ปรากฏว่าน้ำหนักของ Gaius เพิ่มขึ้นถึง 25% และภายใน 4 วัน น้ำหนักของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งอยู่ในเกณฑ์ปกติของแมววัยเดียวกัน นอกจากนี้ มันยังแข็งแรงมากขึ้นจนสามารถเดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ได้ด้วย แม้ว่าร่างกายของ Gaius ยังคงเปราะบาง แต่มันก็ฟื้นตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อสุขภาพของมิ้วน้อยกลับมาแข็งแรงเต็มที่แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการหาบ้านหลังใหม่ให้ แน่นอนว่าด้วยความน่ารักของมัน การหาบ้านที่แสนอบอุ่นจึงไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน …
-
สุนัขแสนรู้นำทางตำรวจไปช่วยเจ้าของที่กำลังนอนหมดสติ จนรอดพ้นอันตราย
ใครที่เลี้ยงสุนัขจะรู้ดีว่าพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรู้ ซื่อสัตย์ และฉลาดมากพอที่จะรู้ว่ามันควรทำอะไรในสถานการณ์ต่างๆ เหมือนกับ John Boy สุนัขที่ทำทุกวิถีเพื่อช่วยเหลือเจ้าของที่กำลังหมดสติ เรื่องนี้เริ่มขึ้นในวันที่อากาศหนาวเหน็บ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ Jeff Gonzalez ลาดตระเวนอยู่บนถนน Autumn Ridge รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นบางอย่างแปลกๆ สิ่งนั้นคือ John Boy สุนัขสีดำตัวหนึ่งกำลังเดินไปมาบนทางเท้าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ มันดูกระวนกระวายและหวาดกลัว Gonzalez จึงตัดสินใจเข้าไปหามัน เพราะคิดว่ามันหลงทาง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดรถข้างๆ สุนัขตัวนั้น และเมื่อ John Boy เห็นเขา มันก็เริ่มเห่าเสียงดัง แต่ยังดูกระวนกระวายเหมือนเดิม ยิ่งรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้เข้ามาเพื่อช่วยมัน มันก็เริ่มกระดิกหาง ทำให้ Gonzalez เห็นถึงความเป็นมิตรของมัน เขาจึงลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหามันใกล้ๆ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก้าวลงมาบนทางเท้า เจ้าหมาเริ่มออกวิ่ง จน Gonzalez คิดว่ามันคงกลัวมนุษย์แน่ๆ แต่แล้วมันก็หยุดวิ่งและมองกลับมาที่คุณตำรวจ นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตระหนักได้ว่าสุนัขตัวนี้ต้องการให้เขาตามมันไปแน่ๆ John Boy นำทาง Gonzalez มาจนกระทั่งใกล้บ้านหลังหนึ่ง และที่นั่นเองที่เจ้าหน้าที่เห็นผู้หญิงคนกำลังนอนหมดสติอยู่บนเก้าอี้ที่ระเบียงหน้าบ้านของเธอ Gonzalez บอกว่า “ครั้งแรกผมคิดว่าเธอตายแล้ว…
-
นางแบบใจโหด มีพฤติกรรมทารุณกรรมสัตว์ แม้แต่สุนัขของตัวเองก็ยังทำได้ลงคอ…
การทารุณกรรมสัตว์นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงและไม่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มคนรักสัตว์หรือในสังคมทั่วไป เนื่องจากเป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณต่อสัตว์ที่ไม่รู้ประสีประสา ซึ่งก็มีนางแบบคนหนึ่งได้ทำร้ายร่างกายสุนัขของเธอเองในลิฟต์ แต่โชคดีที่มีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ Keevonna C’Ante Wilson นางแบบวัย 24 ปี ได้ทำร้ายร่างกายสุนัขพันธุ์ชิสุของเธอที่ชื่อว่า Chastity ในลิฟต์หลังจากที่พามันออกไปเดินเล่น เธอเป็นนางแบบบนอินสตาแกรมที่ใช้ชื่อว่า @themissingkeee ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 40,000 คน แต่ว่าบัญชีของเธอถูกปิดเรียบร้อยแล้วจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น . ตอนนี้สุนัขพันธุ์ชิสุตัวดังกล่าวนั้นถูกรับเข้าโครงการคุ้มครองสัตว์โดยศูนย์บริการสัตว์ Miami-Dade สัตวแพทย์ได้ตรวจสอบและพบว่ามีอาการสมองช้ำและบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลังและช่องท้อง หลังจากที่ Wilson ถูกคุมตัว เธอได้จ่ายค่าปรับเป็นจำนวน $5,000 หรือประมาณ 150,000 บาท . จากเหตุการณ์อันโหดร้ายที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยหัวร้อนไปตามๆ กัน พากันแสดงความคิดเห็นบนทวิตเตอร์กับการกระทำแย่ๆ ของเธอ #keevonnawilson น่าขยะแขยง!!! ฉันหวังว่าเธอจะถูกสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งกับสัตว์เลี้ยงทุกชนิด การกระทำก็ไม่ต่างอะไรกับหน้าตา #keevonnawilson ฉันหวังว่าเธอจะโดนต้อนจนมุมและโดนเตะเข้าที่หัวเหมือนที่เธอทำกับหมาของเธอ นังขยะไร้ค่า #keevonnawilson คุณมันไอ้พวกซาดิสม์สกปรก Keevonna Wilson…
-
ไซบีเรียนถูก ‘ล่ามโซ่’ นาน 15 ปี ในที่สุดก็ได้เจอคนที่รัก และพร้อมทำให้มันลืมอดีต
หลายครอบครัวเลี้ยงสุนัขเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง ดูแล ให้ความรัก ให้ข้าว ให้น้ำ พามันเดินเล่น และให้มันนอนด้วยทุกคืน แต่บางครอบครัวนอกจากจะไม่เลี้ยงดูและให้ความรักแล้ว ยังพาสุนัขมาลำบาก ทรมานด้วยวิธีการต่างๆ นานา เหมือนกับที่เจ้าไซบีเรียนตัวนี้เจอ… Cloud เป็นสุนัขไซบีเรียนผู้น่าสงสารที่อาศัยอยู่กับครอบครัวใจที่ละเลยมันเป็นเวลา 15 ปี มันเติบโตมาในฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย แต่มันไม่เคยได้รับอนุญาตให้เข้าบ้านเลย เพื่อนบ้าน และคนอื่นๆ ไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่า Cloud ถูกล่ามโซ่ไว้ตรงนั้น จนกระทั่งหลังคาบ้านของครอบครัวพังลงมา เนื่องจากมีสภาพทรุดโทรมมาก เมื่อพนักงานฉุกเฉินมาถึง พวกเขาก็ต้องตกใจที่เห็นสุนัขถูกล่ามโซ่ไว้ข้างนอก… จริงๆ แล้ว เพนซิลเวเนียมีกฎหลายอย่างเกี่ยวกับการดูแลสุนัข แต่เห็นได้ชัดว่าครอบครัวนี้กำลังทำร้ายสุนัข กฎหมายคุ้มครองสัตว์ในรัฐเพนซิลวาเนียระบุเอาไว้ว่า การล่ามโซ่สุนัขเกิน 9 ชั่วโมงต่อวันนั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ หากข้างนอกมีอุณหภูมิต่ำหรือเย็นเกินไป ต้องไม่ล่ามโซ่สุนัขนานกว่า 30 นาที และพื้นที่ที่ล่ามสุนัขไว้ต้องไม่เป็นแหล่งขยะมูลฝอยด้วย แต่สำหรับ Cloud มันถูกล่ามโซ่ไว้ข้างนอกตลอดชีวิต มันต้องอยู่ท่ามกลางหิมะ และอยู่ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยอุจจาระของมัน บ้านของมันคือหลังคารถเก่าๆ ซึ่งไม่ได้ช่วยให้มันรู้สึกอุ่นเลยสักนิด เมื่อกลุ่มช่วยเหลือจาก Hillside…
-
พ่อชาวญี่ปุ่นถูกจับ หลังพบว่าเขาขังลูกชายไว้ในกรงนาน 20 ปี เพียงเพราะลูกป่วยทางจิต!?
Yoshitane Yamasaki คุณพ่อวัย 73 ปีจากจังหวัดเฮียวโงะได้ถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุม หลังจากที่มีการสืบพบว่าชายคนดังกล่าวได้กักขังลูกชายวัย 42 ปีมาแล้วกว่า 20 ปี!! เจ้าหน้าที่ได้รายงานว่า ตอนที่ไปถึงพวกเขาก็ต้องพบกับชายวัยกลางคนอยู่ในกรงสูง 1 เมตร และกว้างไม่ถึง 2 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะพอสำหรับให้คนอาศัยอยู่ ข้อมูลทั้งหมดนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการเปิดเผยทั้งหมด เพราะยังคงอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน แต่จากการสอบสวนเบื้องต้นนั้นก็พบว่า สาเหตุที่ผู้เป็นพ่อตัดสินใจขังลูกไว้ก็เพราะลูกของเขานั้นมีอาการป่วยทางจิต และกักขังไว้ในกระท่อมเล็กๆ ถัดจากบ้านของนาย Yoshitane ผู้เป็นพ่อนั้นได้ให้ปากคำกับสื่อท้องถิ่นว่า “ผมจำเป็นจะต้องขังเขาไว้เพราะเขาป่วยทางจิตและอาจจะออกไปสร้างปัญหาได้ ฉะนั้นผมจึงต้องจำใจทำแบบนี้ แน่นอนว่าผมป้อนข้าวและอาบน้ำเขาอย่างสม่ำเสมอ” อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการดูแลอย่างดีและกักขังเพราะเหตุจำเป็นก็ยังถือเป็นความผิดอยู่ดี แม้ว่าตอนนี้จะมีการตั้งข้อหาว่ากักขังบุตรชายไว้ 36 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการตั้งข้อหาที่ไม่ร้ายแรงมากนัก อาจจะเพราะด้วยเหตุผลที่เขาทำเพราะความจำเป็นก็ได้ ด้านตัวบุตรชายของนาย Yoshitane ได้ถูกนำส่งไปรับการดูแลรักษาต่อเพื่อตรวจเช็กสุขภาพหลังที่ได้รับผลจากการก้มตลอดเวลาแล้ว โดยอาการนั้นตอนนี้เริ่มมีท่าทีดีขึ้นตามลำดับนั่นเอง ที่มา afp, dailymail
-
รู้หรือไม่ แม่มด ‘เฮอร์ไมโอนี่’ เคยแอบมีความสัมพันธ์กับทั้ง พ่อมด ‘มัลฟอย’ และ ‘เนวิลล์’
ความรักในวัยเด็กเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ยิ่งถ้าเราต้องใช้เวลาอยู่กับคนคนนั้นบ่อยๆ ด้วยแล้ว เราคงจะต้องเกิดความสนใจในตัวอีกฝ่ายมากขึ้นสักวัน ไม่เว้นแม้แต่กับเหล่านักเรียนโรงเรียนเวทมนตร์จากหนังเรื่อง Harry Potter เรื่องราวความสัมพันธ์อันใสซื่อนี้เกิดขึ้นกับแม่มด เฮอร์ไมโอนี่ ที่แสดงโดย Emma Watson เมื่อการออกไปถ่ายหนังเวทมนตร์เรื่องนั้นกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเกิดตกหลุมรักพ่อมด มัลฟอย ที่แสดงโดย Tom Felton Emma เผยเรื่องราวความรักของเธอในครั้งนั้นกับทางนิตยาสาร Seventeen ว่า “ในสองภาคแรก ฉันรู้สึกสนใจในตัวของ Tom มากจริงๆ เขาเป็นรักครั้งแรกของฉันเลยก็ว่าได้” เธอยังบอกอีกว่าหนุ่ม Tom เองก็รับรู้ถึงเรื่องนี้ และทุกครั้งที่พวกเธอพูดย้อนวันวานในครั้งนั้นขึ้นมา ทั้งสองมองมันเป็นเพียงเรื่องตลกของวัยเด็ก อีกทั้งตอนนี้ทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เมื่อถามทางฝั่งผู้ที่รับบทเป็นมัลฟอยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครั้งนั้น ว่ามีอะไรเกิดขึ้นมาบ้างหรือเปล่า เขาก็ตอบกลับมาด้วยท่าทางอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “ไม่มีนะ” ถึงอย่างนั้น Tom ก็ไม่ใช่คนเดียวที่มีความสัมพันธ์กับ Emma ระหว่างการถ่ายทำ เพราะแม้แต่ Matthew Lewis ผู้รับบทเป็น เนวิลล์ ลองบัตท่อม เขาก็บอกว่าตัวเองเคยสานสัมพันธ์กับ Emma…
-
เมาคลีตัวจริง!! ชายที่ถูกหมาป่ารับเลี้ยงกว่า 12 ปี รับเกลียดการใช้ชีวิตในแบบมนุษย์…
ที่ผ่านมาเรามักจะรู้จักเรื่อง “เมาคลี ลูกหมาป่า” ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกเมาป่าเก็บไปเลี้ยง แต่ใครจะไปคาดคิดเล่า ว่าในชีวิตจริงก็มีคนถูกหมาป่ารับไปเลี้ยงเช่นกัน โดยเขาคนนั้นชื่อว่า Marcos Rodriguez Pantoja ผู้ซึ่งเกิดในประเทศสเปนตั้งแต่ปี 1946 และได้กล่าวว่าได้ใช้ชีวิตช่วงเด็กอาศัยอยู่กับหมาป่าเป็นเวลากว่า 12 ปี แม่ของ Marcos เสียชีวิตตั้งแต่เขาอายุได้สามขวบและเขายังต้องถูกขายไปให้กับคนเลี้ยงแกะ ผู้ซึ่งอาศัยอยู่คนเดียวกลางภูเขา Sierra Morena และโชคร้ายของเขาไม่ได้หมดลงเพียงเท่านั้น เพราะคนเลี้ยงแกะที่เขาไปอยู่ด้วยกลับเสียชีวิตจากเขาไปอีกในตอนที่เขาเพิ่งจะอายุเจ็ดปีเท่านั้นเอง และในช่วงเวลานี้ช่วงที่เขาถูกรับไปเลี้ยงโดยฝูงหมาป่า ผู้ที่เปรียบเสมือนกับพี่ชาย น้องชายและคุณแม่ที่ดูแลเลี้ยงดูเขามาอย่างดี การใช้ชีวิตกับฝูงหมาป่านั้น เขาต้องนอนหลับอยู่ในถ้ำร่วมกันกับค้างคาว งู รวมถึงกวาง และเขายังได้เรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดจากการใช้ชีวิตในป่าใหญ่ จนกระทั่งอายุสิบเก้าปี ยามได้ค้นพบกับเขาโดยบังเอิญและได้พาเขาจากบ้านในป่าอันเป็นที่รักมา ซึ่งภายหลังเขาได้บอกว่าเขารู้สึกคิดถึงที่นั่น และเมื่อต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เขาได้บอกว่าเขาต้องต่อสู้กับความหนาวเย็นของโลกมนุษย์ เพราะในตอนที่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับหมาป่า แม้ว่าอุณหภูมิจะต่ำ แต่เขาก็สามารถวิ่งเล่นด้วยเท้าเปล่าเปลือยครึ่งตัวบนกับเหล่าฝูงหมาป่าที่คอยให้ความอบอุ่นได้ ในตอนที่เขาถูกพาออกมาจากป่า มนุษย์ปกติอาจมองว่านั่นคือ ‘ความช่วยเหลือ’ แต่จริงๆ แล้ว ณ วินาทีนั้น ‘โลก’ ของ Marcos ก็ได้พังทลายลง และเขาไม่สามารถรู้สึกถึงความสุขได้เหมือนตอนที่เขาอยู่หมาป่า เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาทั้งถูกโกง…
-
ดูไว้อย่าเอาไปทำตาม!! หนุ่มโดดจากรถไฟลงแม่น้ำ หวิดชนพื้นคอนกรีต ห่างไปไม่กี่เซน
เราอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เพราะเราเกิดมาแค่หนเดียว” อย่างที่ภาษาอังกฤษคือคำว่า YOLO (ย่อมาจาก You Only Live Once) แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่การที่เราต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงเหมือนอย่างชายคนนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2018 เพจ Brown Cardigan ได้โพสต์คลิปวิดีโอ เผยให้เห็นชายคนดังกล่าวเล่นไม่เข้าท่า โดดลงมาจากหลังคารถไฟ ตกไปในแม่น้ำ หวิดเสาคอนกรีตไปแค่นิดเดียว รถไฟนั้นวิ่งมาด้วยความเร็ว ในขณะที่เขาย่อตัวอยู่บนหลังคาบริเวณท้ายขบวน ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครและขึ้นไปตรงนั้นได้อย่างไร ชายนิรนาม ไม่มีใครทราบว่าเขาขึ้นไปได้อย่างไร จนกระทั่งรถไฟขับมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำ Swan River เมือง Feemantle ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย จู่ๆ ชายหนุ่มก็โดดจากตรงนั้นลงไปในแม่น้ำ กระโดดลงมาแบบไม่คิดชีวิต ด้วยความเร็วของรถไฟ จึงทำให้จังหวะที่เขากระโดดลงมาเอียงไปทางด้านเดียวกับทางที่รถไฟแล่นไป ส่งผลให้เขาลงไปตรงจุดที่ไม่ได้คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งหากจากเสาคอนกรีตไปไม่กี่เซนเท่านั้นเอง ความเร็วของรถไฟ ทำให้ตัวเขาปลิวไปตาม . หลังจากนั้นหลายๆ คนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันไปในหลากหลายทาง บางคนมองว่าเขาเจ๋ง…
-
ผู้หญิงนับพันเข้าร่วมเทศกาลขุดหา ‘เซ็กส์ทอย’ งานที่ผู้ชายก็เข้าร่วมได้ แต่ต้องแต่งตัวติดเรต
ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาในต่างประเทศถือว่าเป็นช่วงหยุดอีสเตอร์ เราก็จะเห็นการเล่นซ่อนไข่อีสเตอร์และให้คนหาไข่ให้เจอ ซึ่งในประเทศเบลเยียมก็มีเทศกาลแบบนี้เช่นกัน แต่ขอบอกว่าไข่อีสเตอร์ของประเทศนี้มันไม่ธรรมดา… ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นมีงาน Kanamara Matsuri เทศกาลแห่ขบวน “จู๋” ทางด้านเบลเยียมก็ไม่น้อยเพราะในไข่อีสเตอร์ที่ได้ทำการฝังเพื่อให้คนมาขุดหานั้นมี “เซ็กส์ทอย” ซ่อนอยู่ข้างใน จากในวิดีโอด้านบนเราจะเห็นได้ว่ามีผู้หญิงนับพันคนได้เข้าร่วมเทศกาลค้นหาเซ็กส์ทอยที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน ในหมู่บ้าน Wépion ประเทศเบลเยียม โดยที่เทศกาลนี้มีการริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2010 แสดงว่านี่ก็ปาเข้าปี 8 ของการล่าหาเซ็กส์ทอยแล้ว ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานนับจำนวนได้กว่า 4,000 คนและแน่นอนว่าส่วนมากนั้นเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะให้ผู้หญิงเข้าร่วมได้อย่างเดียวนะ เพราะเทศกาลนี้หากคุณผู้ชายอยากจะร่วมงานด้วยก็สามารถทำได้ เพียงแต่คุณต้องแต่งตัวใส่ชุดให้ติดเรตๆ เข้าไว้ . . “เทศกาลที่น่าเหลือเชื่อนี้เป็นการเฉลิมฉลองให้แก่เสรีภาพของเหล่าสตรี ซึ่งอย่างที่พวกคุณเดากัน มันร่วมถึงเรื่องเพศด้วยล่ะ” นี่คือคำโฆษณาก่อนถึงวันจริง ผู้จัดงานนี้ได้กล่าวว่า จุดประสงค์ของงานนี้คือการเฉลิมฉลองเสรีภาพของสตรี ซึ่งในงานจะมีการฝังสมบัติเอาไว้ประมาณ 800 อันเพื่อให้เหล่านักขุดทั้งหลายมาขุดมันขึ้นไป และเมื่อตอนริเริ่มกิจกรรมดูจะไม่สวยงามเท่าไหร่ Nicolas Bustin หัวหน้าของบริษัท Soft Love บริษัทเซ็กส์ทอยที่เป็นผู้จัดงานบอกว่าบริษัทของเขาโดยร้องเรียนอย่างรุนแรงเป็นประจำ โดยที่มีอีเมลมากกว่า 1,000 อีเมลและมีโทรศัพท์เข้ามาอีกกว่า 400 สายของคนที่นับถือนิกายคาทอลิกที่ร้องเรียนข้ามา . .…
-
10 เรื่องของผู้นำเกาหลีเหนือ ‘คิมจองอึน’ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน จากคำบอกกล่าวของเพื่อนในชั้นเรียน
ผู้นำประเทศเกาหลีเหนือ คิมจองอึน ก็ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำที่สร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าผู้นำประเทศถ้วนหน้า เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเป็นคนอารมณ์ร้อนและลือกันว่าเขาเป็นคนสั่งประหารลุงของเขาเพื่อยึดอำนาจ ทำให้เป็นที่จับตามองของคนทั้งโลก ถึงแม้ว่าสื่อทั้งหลายจะพยายามขุดประวัติโดยการสัมภาษณ์อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขา แต่ก็ไม่มีใครพบหลักฐานสมุดเรียนหรือหนังสือรุ่นของเขาเลย มีแต่ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ จากวงในเพียงเท่านั้น ซึ่งอาจยังไม่เคยนำเสนอที่ไหนมาก่อน 1. เขารักรองเท้า Air Jordans ของเขามาก คิมวัยหนุ่มนั้นก็คงไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะได้พบปะกับอดีตนักบาสทีม Chicago Bull อย่าง Dennis Rodman แต่ก็คงเป็นหนึ่งในเป้าหมายชีวิตของเขา ทำให้เขาทุ่มเทเปลี่ยนทั้งอพาร์ตเมนต์ของเขาให้เป็นธีมบาสเกตบอล โดยเฉพาะทีม Chicago Bull และเขายังใช้เวลาว่างในการสเกตภาพไมเคิล จอร์แดน รองเท้าคู่โปรดของเขาก็คือ Air Jordan ทั้งรุ่นที่ใช้สำหรับบนพื้นไม้ปาร์เกต์และพื้นปูน 2. เขามีชื่อปลอม เมื่อเขาไม่อยากถูกมองว่าเป็นลูกของผู้นำประเทศเกาหลีเหนือ เขาจึงถูกส่งไปเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์ ที่โรงเรียน Liebefeld Steinhölzli โดยใช้ตัวตนปลอมชื่อว่า พัคอึน เป็นลูกของเอกอัครราชทูตของประเทศเกาหลีเหนือ 3. เขาชอบภาพยนตร์แอ็กชัน ในปี 2009 เพื่อนของคิมได้ให้สัมภาษณ์ว่าคิมเป็นคนที่ค่อนข้างไม่เข้าสังคม โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง เมื่อเขาไม่ได้ดูกีฬาบาสเกตบอล เขาก็มักจะดูภาพยนตร์แอ็กชันและเล่นเกม Playstation…
-
หนุ่มโดนทำร้ายร่างกาย เหตุเพราะแฟนสาวแซวว่า ‘หรรมส์เล็ก’ นำไปสู่การทะเลาะวิวาท!!
จากรายงานของเว็บไซต์ Ladbible เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2018 ที่ผ่านมาพบว่า นาย Garth Murphy ถูกทำร้ายร่างกายจนใบหน้าเละเทะไปหมดหลังมีปากเสียงกับแฟนสาวเพราะเธอแซวเขาเรื่องอวัยวะเพศ ในวันเกิดเหตุนาย Garth กับแฟนสาวกำลังนั่งดูรายการจากช่อง Channel 4 ที่ชื่อว่า Naked Attraction เป็นรายการหาคู่เดทแบบที่ให้ผู้ร่วมรายการนั้นถอดเสื้อผ้าออกให้หมด รายการดังกล่าว แต่แล้วจู่ๆ Jade แฟนสาวก็หันมาแซวเรื่องขนาดน้องชายของเขา และก็มีปากเสียงกันจนฝ่ายสาวถึงกับหยิบโทรศัพท์เขวี้ยงใส่แฟนหนุ่มเลยทีเดียว ตามรายงานระบุเอาไว้ว่าหลังจากนั้นก็มีการต่อสู้กันเกิดขึ้น ฝ่ายแฟนสาวพุ่งตรงเข้ามาข่วนที่หน้าของเขา ก่อนที่นาย Garth จะสวนกลับไปด้วยการต่อยถึง 2 ครั้งเพื่อป้องกันตัวเอง เขาเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “มันเป็นสิ่งที่แย่มากๆ เพราะมันเหมือนกับการโบกธงแดงล่อกระทิงเลย เธอกลายเป็นบ้าขาดสติแล้ววิ่งเข้ามาข่วนที่หน้าของผม ผมก็เลยต้องป้องกันตัว” “ผมต่อยเธอไปสองหมัด ก่อนที่จะผลักเธอลงไปที่โซฟาแล้วผมก็พูดขึ้นว่า ‘พอได้แล้ว!!’ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ ตี 2 – ตี 3 ในเมืองลอนดอน ผมคิดว่าผมควรจะไปเข้านอนก่อน เผื่อว่าตื่นมาแล้วเธอจะสงบลงบ้าง จากนั้นเราค่อยมาคุยกันต่อ” …
-
ตัวอักษรญี่ปุ่นฮิรางานะ ‘あ’ ตัวแรกของโลกที่สามารถครางได้!? คิดได้ยังไงกันล่ะนี่?
ปกติแล้วเรามักจะเคยเห็นตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นมามากมายในชีวิตประจำวันของเรา บางคนก็เคยเห็นผ่านๆ ตามาบ้าง บางคนก็เรียนด้านภาษามา แต่ก็คงไม่มีใครเคยเห็นตัวอักษรตัวนี้ ที่สามารถครางได้ด้วย!? ตัวอักษรฮิรางานะของภาษาญี่ปุ่น あ ที่อ่านว่า อะ เป็นอักษรตัวแรกของภาษาญี่ปุ่นที่คนเรียนภาษาญี่ปุ่นต้องเจอ นอกจากลักษณะของมันที่ดูน่ารักกว่าอักษรตัวอื่นๆ แล้ว มันยังถูกใช้เป็นตัวอักษรบ่งบอกถึงความรู้สึกในหลายๆ สถานการณ์อีกด้วย ไม่นานมานี้ก็มีกลุ่มคนจำนวน 6 คนที่ทำงานภายใต้ชื่อ Team Panai ได้สร้างตัวอักษร ขึ้นมาด้วยวัสดุโฟมที่นอกจากจะมีความยืดหยุ่นแล้วยังตอบสนองต่อการสัมผัสอีกด้วย เมื่อสัมผัสแล้วเจ้าตัวอักษร あ ก็จะร้อง “อ๊ะ” ออกมา ซึ่งเสียงร้องนั้นก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าเราสัมผัสมันอย่างไร หากแตะหรือตีมัน ก็จะเป็นเสียง “อ๊ะ!” สั้นๆ แต่ถ้าหากลูบมันเบาๆ ก็จะเป็นเสียงคราง “อ๊าาา~” ยาวๆ จุดประสงค์ที่ Team Panai ได้สร้างตัวอักษรที่ครางได้ออกมานั้นก็เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงตัวอักษร 1 ตัวที่สามารถสื่อความหมายได้หลายความหมาย และเป็นวิธีที่น่าสนใจในการสอนเด็กๆ เกี่ยวกับการแสดงอารมณ์ผ่านตัวอักษรเพียงแค่ตัวเดียว ไปชมคลิปเสียงครางของเจ้าตัวอักษร あ ได้ที่นี่เลย ที่มา Soranews2
-
งานนี้ก็มีฮา!! ศิลปินทั้งทิ้งคำใบ้ก็แล้ว ทั้งบอกอาชีพก็แล้ว แฟนเพลงข้างๆ ก็ยังจำเขาไม่ได้…
ในโลกนี้ไม่ว่าใครหน้าไหน ย่อมต้องมีนักดนตรีคนโปรดแน่นอน และความฝันสูงสุดของเราก็คือการได้พบกับนักดนตรีคนโปรดแบบตัวเป็นๆ แต่ยิ่งกว่านั้นก็คือการได้เข้าใกล้ชิดศิลปินคนโปรดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ได้ทำกิจกรรมอะไรด้วยกัน มันต้องเป็นโมเมนต์ที่น่าอิจฉาสำหรับคนอื่นๆ แน่นอน แต่กับ Alicia สาวผู้ชื่นชอบ Dotan นักดนตรีชาวเนเธอร์แลนด์ที่เราจะกล่าวถึงในบทความนี้ เธอได้พลาดโอกาสอันล้ำค่านั้นไปเสียแล้ว เพราะศิลปินคนโปรดของเธอนั้นได้นั่งอยู่ข้างๆ เธอในสายการบินไฟลต์หนึ่ง แต่เธอกลับไม่รู้เลย ทั้งๆ ที่ศิลปินคนนั้นก็ได้ทั้งใบ้อะไรต่างๆ นานา เธอก็ยังไม่รู้ ซึ่งเมื่อ Dotan ได้นำประสบการณ์ที่พบเจอแฟนเพลงผู้ที่ไม่รู้จักตนมาทวีตลงโซเชียลมีเดีย เรื่องนี้ก็กลายเป็นประสบการณ์ฮาๆ ไปเลยสิครับ จะฮาขนาดไหนเราตามไปดูกัน นี่คือ Dotan นักดนตรีชาวเนเธอร์แลนด์ อายุ 31 ปี ผู้ซึ่งจะมาเล่าเรื่องครั้งนี้ให้เราได้ชมกัน “โอเค.. ตอนนี้ผมอยู่บนเครื่องบินนะและก็เจอเด็กสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ผม ซึ่งเธอฟังเพลงอัลบั้มของผม ทุกเพลงเลย” “มันค่อนข้างทั้งงงและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะตอนที่เธอถามผมว่าผมทำอาชีพอะไร” เอ้า! งานนี้งงสิครับ ฟังเพลงของเขาอยู่แต่ดันมาถามเจ้าตัวว่าทำงานอะไร “ผมก็เลยตอบไปว่าผมเขียนเพลงน่ะ แต่ดูเหมือนเธอก็ยังจับใจความอะไรไม่ได้ บทสนทนาจบลงและเธอก็ฟังเพลงของผมต่อ” “ต่อมาผมตระหนักได้ว่าเธอฟอลโลว์ผมบนทวิตเตอร์ด้วย… โอเค… สวัสดีเพื่อนร่วมเครื่อง ขอบคุณสำหรับการฟังเพลงของผมพร้อมร้องไปด้วยเบาๆ นะ” …
-
สาวพบ ‘แรคคูนหัวติดขวด’ เลยช่วยมันเอาไว้ จนมันได้กลับเข้าป่าอย่างปลอดภัย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ Megan O’Connor กำลังสุนัขของเธอไปเดินเล่นในหุบเขาใกล้กับโตรอนโต ประเทศแคนาดา เธอก็สังเกตเห็นบางอย่างที่ดูสะดุดตา หญิงสาวตัดสินใจเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เพื่อตรวจสอบว่ามันคืออะไรกันแน่ และสิ่งที่เห็นคือ สัตว์ขนฟูกำลังดิ้นรนอยู่หญ้าแห้ง เพราะมีขวดพลาสติดครอบหัวมันอยู่ O’Connor บอกว่า “ตอนแรก ฉันไม่แน่ใจว่ามันคือสัตว์ชนิดไหน มันยังหายใจอยู่ แต่หัวของมันติดอยู่ในขวดแน่นมาก” จากนั้นหญิงสาวจึงได้โทรแจ้งกลุ่มช่วยเหลือจาก Toronto Wildlife Centre และพวกเขาก็มีถึงที่รับแจ้งอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่หลายคนได้จับตัวสัตว์ตัวนั้นไว้ ในขณะที่อีกคนตัดขวดที่ครอบอยู่บนหัวมัน เมื่อดึงขวดออกได้ก็พบว่าสิ่งมีชีวิตนั้นคือ แรคคูน เมื่อเห็นหน้าของมันชัดเจอแล้ว พวกเขาสังเกตเห็นว่าที่จมูกของมันมีแผลเล็กน้อย และมีมายองเนสเลอะทั่วหน้า เพราะขวดที่ติดหัวของมันดูเหมือนจะเป็นขวดมายองเนส เจ้าหน้าที่จึงพาแรคคูนตัวนี้กลับไปดูแลที่ศูนย์เป็นเวลา 5 วัน เพื่อนทำความสะอาดตัวให้ พร้อมกับรักษาแผลที่จมูกของมัน หลังจากนั้นไม่นาน อาการของเจ้าแรคคูนก็ดีขึ้น ความเครียดของมันก็ลดลงเช่นกัน มันจึงถูกส่งกลับเข้าไปป่าในวันจันทร์ที่ผ่านมา O’Connor รู้สึกโล่งใจมากที่แรคคูนปลอดภัยและได้กลับสู่ธรรมชาติอีกครั้ง แต่เธออดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเรื่องแบบนี้คงจะเกิดขึ้นอีกเป็นแน่ ถ้าคนเรายังทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางแบบนี้ สัตว์บางตัวที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ หรือช่วยได้ไม่ทันเวลา พวกมันอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือไม่ก็เสียชีวิตไปเลยก็ได้ ดังนั้น…
-
เกษตรกรรม 4.0 หนุ่มชาวไร่โชว์ภาพนั่งรถไถพร้อมเล่น Stardew Valley ไปด้วยแบบชิลๆ
เมื่อเราพูดถึงอาชีพเกษตรกรรม หลายคนคงนึกภาพแบบชาวไร่ชาวนา ที่หน้าดำคร่ำเครียดกับพืชผัก คงจะไม่มีใครนึกถึงเกษตรกรที่นั่งชิลๆ บนรถไถพร้อมกับเล่นเกมอ่านหนังสือแบบชิลๆ ทั้งวันแน่ๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าเกษตรกรแบบที่เราพูดถึงมันมีจริงๆ นะ อย่างภาพที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ เป็นภาพระหว่างการทำงานของเกษตรกรคนหนึ่งในประเทศแคนาดา ที่นั่งอยู่บนรถแทรกเตอร์ พร้อมกับเล่นเกมปลูกผักอย่าง Stardew Valley ไปด้วย (นี่มันทำฟาร์มแบบ Inception เลยนะเนี่ย) ภาพนี้ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Reddit เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2018 โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า ZoMgPwNaGe หรือชื่อจริงคือ Tim ที่ทำฟาร์มอยู่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเล่าผ่านหน้าเว็บบอร์ดว่าฟาร์มของเขานั้นมีลูกจ้างเพียง 1 คนถ้วน ซึ่งงานส่วนใหญ่เขาก็เป็นคนทำเองทั้งหมด และยังมีการใช้สารเคมีต่างๆ ให้น้อยที่สุด หากใครสงสัยว่าทำไมเขาถึงเล่นเกมไปด้วยได้ระหว่างขับรถแทรกเตอร์ นั่นก็เพราะรถของเขามีระบบพวงมาลัยอัตโนมัติกับระบบ GPS ที่ทำให้เขาไม่ต้องจับมันตลอดเวลา และหากดูจากรูปก็คงจะเห็นพื้นที่สุดลูกหูลูกตาที่สามารถงีบหลับไปได้หลายทีเลย “ความเร็วโดยเฉลี่ยของผมน้อยกว่า 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ จริงๆ แล้วชาวไร่ทุกคนมีระบบพวงมาลัยอัตโนมัติอยู่แล้ว อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีหนังสือไว้ฆ่าเวลาเบื่อๆ บ้างแหละ” Tim เขียนบอกไว้ในช่องคอมเมนต์ …
-
พบวาฬเกยตื้นบนหาดในสเปน ผ่าท้องพบเศษพลาสติกมากถึง 29 กิโลกรัม!?
ทุกครั้งที่มีการออกมารณรงค์ไม่ให้ทิ้งขยะลงในทะเล เรามักจะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว แต่ความจริงมันใกล้มากกว่าที่คุณคิดเสียอีก และมันทำให้สิ่งมีชีวิตในทะเลตายจากไปอย่างน่าสลดทีเดียว เว็บไซต์ Unilad ได้รายงานว่ามีวาฬสเปิร์มตัวหนึ่งขึ้นมาเกยตื้นที่แหลม Palos ประเทศสเปนเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่น่าสะพรึงก็คือ มีเศษพลาสติกอยู่ภายในท้องของมันมากถึง 29 กิโลกรัมเลยทีเดียว ตามข่าวบอกว่าภายในท้องของมันมีทั้งถุงพลาสติก เศษตาข่าย และกระป๋องเต็มไปหมด ด้านนาย El Valle นักชีววิทยาทางทะเล ได้วิเคราะห์ซากของปลาวาฬและสรุปว่าปลาวาฬเสียชีวิตจากพลาสติกที่ปิดกั้นระบบย่อยอาหารซึ่งไม่สามารถขับออกไปได้ ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่าวาฬค่อยๆ ติดเชื้อในช่องท้องจนทำให้มันตายในที่สุด การตายของวาฬตัวนี้ทำให้กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อมเปิดตัวแคมเปญรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับสิ่งมีชีวิตทางทะเล จากการประเมินขององค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อม Greenpeace พบว่าในแต่ละปีจะมีการทิ้งเศษพลาสติกลงในทะเลราวๆ 12.7 ล้านตัน ซึ่งเป็นจำนวนที่มหาศาลจนทำให้สัตว์น้ำหลายล้านตัวต้องตายไปในแต่ละปี เศษพลาสติกที่ลอยในทะเล หากมีขนาดใหญ่ก็จะทำให้สัตว์สำลักจนตาย แต่หากมีชิ้นเล็กมันก็จะสะสมอยู่ในกระเพาะจนตายเช่นกัน แต่หากมันล่องลอยอยู่ในน้ำเป็นเวลานานแต่ยังไม่มีสัตว์ตัวไหนมากินมัน มันก็จะค่อยๆ ถูกน้ำทะเลกัดกร่อน และซึมซับเอาสารพิษเข้าไป และเมื่อเหล่าสัตว์น้ำมากินพลาสติกเหล่านั้นเข้าไปก็จะทำให้เกิดการกลายพันธุ์ได้ และมันก็จะแพร่มาสู่มนุษย์เมื่อเรากินมันเข้าไปเรื่อยๆ เริ่มเห็นแล้วใช่ไหมว่ามันส่งผลกระทบกับเรายังไงบ้าง? ที่มา unilad
-
เอาแล้วล่ะสิ!! มีภาพหลุด Brooklyn Beckham จูจุ๊บกับสาวอื่น แล้ว Chloe ล่ะมีไหน!?
หลังจากที่เพิ่งมีข่าวว่าคืนดีกันไปแล้วระหว่างพ่อหนุ่ม Brooklyn Beckham กับสาว Chloe Moretz เมื่อไม่นานมานี้ แต่แล้วจู่ๆ เรื่องราวของทั้งคู่ก็เงียบหายไป ไม่เห็นการอัปเดตอะไรร่วมกันอีกเลย แต่แล้วล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2018 เว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานว่าทั้งคู่เลิกกันแล้ว แถมยังมีภาพหลุดของฝ่ายชายไปจูจุ๊บกับหญิงอื่นซะแล้ว!? ตามรายงานระบุเอาไว้ว่า Brooklyn วัย 19 ปี ถูกพบเจออยู่ในร้านสักแห่งหนึ่งใน West Hollywood เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็พบหญิงสาวปริศนารายหนึ่งอยู่ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ทั้งคู่ก็จูจุ๊บกันอย่างหวานแหววออกสื่อ ราวกับว่ามีซัมติงต่อกันและกัน จนชาวเน็ตถึงกับเกิดข้อสงสัยว่า “แล้ว Chloe ล่ะอยู่ไหน!?” หลังจากสักเสร็จก็เดินออกมาจากร้าน รอยสักใหม่โดยฝีมือของช่างสักชื่อดัง Dr. Woo เดินตามกันมาติดๆ . . ขณะนี้ตามรายงานไม่ได้บอกว่าหญิงสาวดังกล่าวนั้นเป็นใคร หรือมีความสัมพันธ์อย่างไรกับพ่อหนุ่ม Brooklyn แต่ก็เป็นที่น่าสงสัยเหมือนกันว่าความสัมพันธ์กับแม่สาว Chloe สรุปแล้วเป็นอย่างไรกันแน่…
-
รู้จักลัทธิ Haring Bakal ในฟิลิปปินส์ ที่เชื่อว่าการกินอวัยวะมนุษย์ช่วยให้มีพลังเหนือมนุษย์
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณ] ว่ากันว่าในประเทศอย่างฟิลิปปินส์มีลัทธิสุดประหลาดอย่างการกิน “อวัยวะของมนุษย์” เพราะพวกเขามีความเชื่อกันว่ามันจะช่วยเพิ่มพลังและเป็นยาอายุวัฒนะได้!? ลัทธินี้มีชื่อว่า Haring Bakal (หรือ Iron King) กลุ่มคนที่มารวมตัวกันนั้นมีความเชื่อว่าอวัยวะส่วนที่ยังหลงเหลือของมนุษย์ที่เสียชีวิตแล้วจะช่วยมอบพลังเหนือมนุษย์ให้กับพวกเขากินมันเข้าไป หรือหากอมไว้ในปากเฉยๆ ก็จะช่วยให้พวกเขาหายตัวได้ สมาชิกของลัทธิ Haring Bakal บอกว่าพวกเขาจะแอบไปขโมยเศษอวัยวะมนุษย์ตามสุสานต่างๆ หรือบางครั้งก็ซื้อมันมาอย่างผิดกฎหมาย จากภาพ มีบางช่วงที่สมาชิกของลัทธิโชว์ให้เห็นถึงกระดูกสะบ้าหัวเข่า โดยที่พวกเขาจะนำเอาไปฟอกสีก่อนแล้วจึงนำเอาไปแช่ในน้ำมันมะพร้าว Angelito ‘Rambo’ Oreta หนึ่งในสมาชิกของลัทธินี้บอกด้วยว่านอกจากพวกเขาจะเอามากินแล้ว พวกเขายังเอาอวัยวะต่างๆ มาทำเป็นเครื่องประดับแฟชั่นด้วย บางคนเอาทำเป็นเข็มขัดรอบเอว บางคนเอามาห้อยคอ แม้หลายๆ อย่างจะดูไม่สมเหตุสมผลสำหรับคนทั่วไป แต่พวกเขาก็เชื่อว่าในอวัยวะต่างๆ จะมีดวงวิญญาณที่คอยปกป้องคุณหากมีการสวดอธิษฐานให้ ดวงวิญญาณเหล่านั้นก็จะปกป้องคุณและครอบครัวของคุณจากสิ่งอันตรายได้ ในทางกลับกัน หากไม่มีการสวดอธิษฐาน ดวงวิญญาณเหล่านั้นอาจจะหันกลับมาทำร้ายคุณเองก็ได้ ปัจจุบันกลุ่ม Haring Bakal มีสมาชิกรวมๆ กันแล้วกว่า 100 คน มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารรวมอยู่ในนั้นด้วย ที่มา dailymail
-
สื่อญี่ปุ่นรายงาน Tsunenori Aoki นักแสดงจาก Kamen Rider ถูกจับเพราะจับหน้าอกสาว!?
เชื่อว่าฮีโร่ในวัยเด็กของใครหลายๆ คน ต้องมี “ไอ้มดแดง” รวมอยู่ในนั้นแน่ๆ เพราะพวกเขาคือฮีโร่ที่เป็นต้นแบบของความดี คอยผดุงความยุติธรรม แต่หากวันหนึ่งพวกเขาดันทำผิดซะเองล่ะจะเป็นยังไง? เว็บไซต์ Soranews24 ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตเซะตะงะยะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าจับกุมนักแสดงหนุ่มอย่างนาย Tsunenori Aoki วัย 30 ปี หลังได้รับแจ้งเหตุจากหญิงสาวว่าถูกนาย Aoki จับหน้าอกเข้า ตามรายงานบอกว่านาย Aoki นั้นนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งจนถึงเวลาราวๆ ตี 1 ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกมาแล้วจับหน้าอกของหญิงสาว 4 คน ภายในเวลาเพียง 30 นาที หลังจากถูกจับกุมนาย Aoki ได้กล่าวว่า “ผมมีงานยุ่งมากๆ และผมดื่มมากไปหน่อย” จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หน้าที่การงานของเขาสะดุดอย่างจัง เพราะในเร็วๆ นี้เขากำลังจะมีภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และจะเปิดให้ชมรอบสื่อในวันที่ 14 เมษายนนี้ ก็มีอันต้องยกเลิกไปก่อนเพราะข่าวของเขา Tsunenori Aoki นั้นเป็นนักแสดงที่แฟนๆ…
-
ประตูกระจกแตกเป็นเสี่ยง สร้างบาดแผลให้กับเด็ก 4 ขวบ คำถามคือใครต้องรับผิดชอบ?
บางครั้งเวลาที่พ่อแม่พาเด็กไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ อย่างเช่นห้างสรรพสินค้า พวกเขาอาจไม่สามารถควบคุมความซนของเด็กคนนั้นเอาไว้ได้ตลอด จนกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งที่คาดคิดตามมาได้ เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร้าน Apple Store ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดได้บันทึกเหตุการณ์ของเด็กน้อยคนหนึ่งที่กำลังเล่นซนอยู่กับประตูกระจก ขณะที่แม่ของเขากำลังพูดคุยกับพนักงานอยู่ใกล้ๆ กัน ภาพของเด็กที่ถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องวงจรปิด ลูกชายวัย 4 ขวบที่ชื่อว่า Meng Meng เล่นกับประตูกระจกอยู่กับเด็กผู้ชายอีกคน ซึ่งดูแล้ววัยน่าจะไล่เลี่ยกัน แล้วระหว่างที่ทั้งสองกำลังดันกระจกไปมาอยู่นั้น จู่ๆ มันก็แตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ ต่อหน้าต่อตาเขาเลย คุณแม่รีบหันไปดูด้วยความตกใจ ก่อนจะเข้าไปอุ้มตัวลูกและกลับมาหยิบโทรศัพท์ที่วางลืมไว้ตรงเคาน์เตอร์ แล้ววิ่งออกจากร้านไปในทันที หลังจากนั้นก็ได้มีการรายงานว่า คุณแม่คนดังกล่าวต้องการจะเอาเรื่องกับทางร้าน Apple Store เพราะเศษประตูกระจกที่แตกออกมาได้ฝากรอยแผลให้กับเด็กไว้ทั่วใบหน้า เธอบอกว่าลูกของเธอไม่ได้มีแค่แผลเป็นจำนวนมากเท่านั้น แต่สิ่งนี้ยังทำให้ลูกของเธอไม่สามารถเข้ากับสังคมเพื่อนในโรงเรียนได้ กลายเป็นเด็กเก็บตัวไม่มีใครเข้ามาพูดด้วย เธอจึงเรียกร้องต้องการเงินทำขวัญเป็นจำนวน 200,000 หยวน หรือเกือบ 1,000,000 บาท บาดแผลทั่วใบหน้าที่เกิดจากเศษกระจก ทางด้านผู้จัดการร้านดังกล่าวก็ออกมาบอกว่า…
-
ภาพครอบครัวสุขสันต์ของ Chris Hemsworth คนอะไร๊เล่นกับลูกอย่างกับไม้เกาหลัง!?
หากเราพูดถึงผู้ชายที่ “เซ็กซี่” ที่สุดในโลก อันดับต้นๆ ที่เรานึกถึงต้องไม่พ้นนักแสดงหนุ่มกล้ามล่ำๆ หน้ามนๆ อย่าง Chris Hemsworth แน่นอน Chris Hemsworth นักแสดงชาวออสเตรเลีย เราจะรู้จักเขาดีจากการแสดงบท ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า ภาพยนตร์จากค่ายมาร์เวล ซึ่งด้วยความสูง กล้ามล่ำๆ หุ่นแมนๆ แบบนี้เรียกได้ว่าคงไม่มีใครที่จะเหมาะสมกับบทนี้ไปมากกว่าเขาแล้ว นอกจากภาพลักษณ์ที่เราติดมาจากภาพยนตร์เรื่องธอร์ เราจะเห็น Chris ในรูปแบบหล่อ เท่ และมีความทะนงตนในฐานะของบุตรแห่งโอดิน แต่เขายังมีมุมอีกด้านหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้เห็น นั่นคือเวลาที่เขาอยู่กับครอบครัว เขาจะกลายเป็นคุณพ่อและคุณสามีที่น่ารักเป็นอย่างมาก เวลาปาปารัสซีแอบถ่ายรูปของพวกเขาตอนที่ไปเที่ยว ไปพักผ่อนด้วยกัน ก็จะเห็นเป็นภาพครอบครัวแสนอบอุ่นตลอดเวลา และรูปที่ถูกแอบถ่ายได้คราวนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ Chris ไปเที่ยว พักผ่อนที่ Byron Bay ประเทศออสเตรเลีย พร้อมกับภรรยาสุดที่รัก Elsa Pataky ผู้ที่แต่งงานกันมาแล้วกว่าเจ็ดปีพร้อมกับลูกสาวแสนน่ารักและลูกชายฝาแฝดอีกด้วย ซึ่งคราวนี้พวกเขาไม่ได้มาเที่ยวกันเพียงครอบครัวเดียวเท่านั้น แต่ยังชวนครอบครัวของเพื่อนซี้นักแสดงอย่าง Matt Demon ที่ควงภรรยาที่แต่งงานมาแล้วสิบสองปี Luciana Barroso มาด้วย แต่ประเด็นรูปที่ถูกมาคราวนี้ ไม่ใช่รูปภาพครอบครัวแสนสุขแบบเดิมอีกแล้ว เพราะว่าการเล่นกับลูกสาวของหนุ่ม Chris นั้นถือว่าเป็นที่น่าสนใจมากๆ ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปชมรูปข้างล่างพร้อมกันเลยดีกว่าครับ …
-
ลุ้นระทึก!! เด็กสาววัย 12 ปี โดดลงมาจากตึก 4 ชั้น หนีจากการถูกข่มขืน สุดท้ายรอดชีวิต
บางคนอาจเคยต้องตกอยู่ในวินาทีแห่งการเอาตัวรอด หนีจากอันตรายที่พยายามเข้ามาหาเรา เช่นเดียวกับเด็กสาววัย 12 ปีคนนี้ที่เธอถึงกับเสี่ยงชีวิตให้ตัวเองรอดจากการถูกข่มขืน วันที่ 6 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานเกี่ยวกับคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณรอบนอกของเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เมื่อเด็กสาวคนดังกล่าวตัดสินใจกระโดดลงมาจากตึก 4 ชั้น โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก เด็กสาวนั่งอยู่บนตึกสูง 4 ชน ชาวบ้านเริ่มสังเกตเห็นว่าเธอขึ้นไปอยู่บนนั้นก็ตอนที่รองเท้าข้างหนึ่งของเด็กสาวตกลงมาใกล้ๆ ทำให้ช่างซ่อมรถที่กำลังทำงานอยู่แหงนหน้าขึ้นไปมองเห็นเด็กสาวนั่งอยู่ตรงบริเวณชั้น 4 ทำท่าเหมือนจะโดดลงมา ในตอนแรกสุดนั้นไม่มีใครรู้ว่าเธอต้องการจะทำอะไร บางคนคิดว่าเธอต้องการจะฆ่าตัวตาย แต่ถึงอย่างนั้นชาวบ้านทุกคนก็รีบช่วยกันนำเอาผ้าคลุมรถมามัดรวมกัน ขึงเป็นผ้ารองรับเด็กสาวที่จะโดดลงมา แล้วเธอก็ตัดสินใจโดดลงมาที่บริเวณผ้าที่ขึงเอาไว้ แต่ว่าเนื่องจากมันไม่มีความหนาหรือแข็งแรงมากพอ จึงทำให้ร่างของเด็กสาวทะลุลงไปกระแทกกับพื้น จนกระดูกบริเวณหลังของเธอหัก อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเด็กสาวก็รอดชีวิตมาได้และถูกนำตัวเข้ารับการรักษาต่อไป หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและสอบถามกับเด็กสาวคนนั้นเกี่ยวกับสาเหตุที่เธอโดดลงมาจากตึกสูงถึง 4 ชั้น ทำให้ทราบเรื่องราวว่าก่อนหน้านี้เธอถูกผู้ชายคนหนึ่งมาถามทาง และหลอกให้เธอนำทางเขาไปยังตึกที่กำลังก่อสร้างอยู่ เมื่อไปถึง ชายหนุ่มคนนั้นก็พยายามที่จะขืนใจเธอ เด็กสาวจึงรีบหนีจากการถูกคุกคามทางเพศ และตัดสินใจโดดลงตึก 4 ชั้นเพื่อไม่ให้ชายคนดังกล่าวตามเธอมาได้ คลิปเหตุการณ์ที่ถูกถ่ายเอาไว้…
-
เด็กหญิงวัย 5 ขวบจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ช่วยเหลือ ‘ทหารผ่านศึก’ ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม!!
บางครั้งเหล่าทหารหาญทั้งหลายแม้ภายนอกพวกเขาจะดูเข้มแข็ง แต่ภายในก็มีมุมอ่อนแอเฉกเช่นเดียวกัน… และนี่เองก็เป็นสิ่งที่ เด็กหญิงวัย 5 ขวบครึ่ง ที่ถูกเรียกว่า Tempy Pattinson จากเมือง Darlington ประเทศอังกฤษ มองเห็นภายในตัวของเหล่าชายชาติทหารและเธอก็เลือกที่จะไม่มองข้ามไปและตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือพวกเขา Tempy ได้เข้าร่วมกับองค์กร Help for Heroes เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือและให้การสนับสนุนเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และเจ็บป่วยจากการรับใช้กองทัพของประเทศอังกฤษ โดยทางองค์กรมีการจัดกิจกรรมช่วยเหลือมากมาย มีครั้งหนึ่งที่ Tempy ไปลงสมัครแข่งว่ายน้ำ 100 เมตร หรือการลงแข่งขันไตรกีฬาเพื่อเรี่ยไรเงินบริจาค นอกจากนี้ก็มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Facing It Together ที่ Tempy และทีมงานจะติดต่อไปยังทหารผ่านศึกเพื่อให้มานั่งคุยกันต่อหน้าและเธอก็จะบอกว่าพวกเขาน่ะคือฮีโร่ตัวจริง เพื่อเติมเต็มความหมายในชีวิตที่ขาดหายไปให้กับเหล่าทหารหาญอีกครั้งหนึ่ง นายทหาร Simon Brown วัย 38 ปี เคยรับใช้กองทัพมานานกว่า 13 ปี ก่อนจะได้รับบาดเจ็บหนักจากการไปประจำการที่อิรักเมื่อปี 2006 ในวันเกิดเหตุที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป Simon ได้ออกไปทำภารกิจเพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารจำนวน 7 คนที่ถูกจับตัวไป และเขาสามารถช่วยเหลือมาได้ถึง 6…
-
สาวผู้ชนะการประกวด ‘บั้นท้ายสวยที่สุดในจีน’ เผย ตั้งแต่นั้นชีวิตดี๊ดีย์ขึ้นมากราวกับว่าฝันไป…
ผ่านมาแล้วเป็นเวลากว่า 1 ปี หลังจากที่ Gao Qian สาวชาวจีนวัย 20 ปี ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวด ‘สาวบั้นท้ายสวยที่สุด’ ที่จัดขึ้นในห้างสรรพสินค้าในเมืองเสิ่นหยาง และได้รับเงินมูลค่ากว่า 25,000 บาทกลับบ้านไป แต่มันไม่ใช่แค่นั้น หลังจากวันที่เธอได้รับตำแหน่งชื่อเสียงของเธอก็โด่งดังไปทั่วประเทศ จนทำให้มีแฟนๆ เข้ามากดติดตามในโซเชียลเน็ตเวิร์กมากกว่า 2 ล้านรายเลยทีเดียว ทุกวันนี้ Gao กลายเป็นฟิตเนสโค้ชที่มีชื่อเสียง และทำธุรกิจเกี่ยวกับการสตรีมมิ่งออกกำลังกาย สร้างรายได้มากมาย จนสามารถซื้อรถที่เธอใฝ่ฝันอยากได้มาตลอด อพาร์ตเมนต์ริมทะเลที่เธอต้องการ หรือแม้แต่ห้องออกกำลังกายส่วนตัว แต่ทุกวันนี้เธอก็ยังคงดูแลตัวเองเหมือนเดิมไม่ได้ลดน้อยลง โดย Gao เล่าว่าเธอออกกำลังกายวันละ 6 ชั่วโมงทุกวันในยิม ซึ่งเธอจะเน้นท่าสควอต (Squat) และลังค์ (Lunges) เป็นหลัก เหมือนก่อนที่เธอเข้าแข่งขัน เพื่อเสริมกล้ามเนื้อบริเวณบั้นท้ายให้ดูกระชับอยู่ตลอดเวลานั่นเอง Gao เล่าว่าไม่ว่าเธอจะออกไปที่ไหนก็ต้องหลีกเลี่ยงการสวมกางเกงแบบเล็กกิ้ง หรือแบบรัดๆ โดยจะเปลี่ยนไปสวมกางเกงที่มีต้นขาใหญ่ๆ แทน เพื่อปิดบังบั้นท้าย เพราะไม่เช่นนั้นจะมีฝูงชนรุมกันหันมาดูและจ้องไปที่บั้นท้ายอันสวยงามของเธอ …
-
นี่คือเหตุผลว่าทำไม ‘ศพผู้ก่อการร้ายบินลาเดน’ ถึงไม่เคยถูกนำมาเปิดเผยออกสื่อ
Osama Bin Laden (บินลาเดน) คือชื่อของผู้ก่อการร้ายที่หลายๆ คนยังคงจดจำกันได้เป็นอย่างดี จากเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน 2001 หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์ 9/11 เขาคือผู้นำของการจี้เครื่องบินให้พุ่งเข้าชนตึก World Trade Center ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา คร่าชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์ดังกล่าวถูกถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก กลายเป็นหนึ่งในเหตุวินาศกรรมที่เลวร้ายที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ก่อนที่ผู้ก่อการร้ายคนนี้จะถูกปลิดชีพด้วยฝีมือของทหารสหรัฐในวันที่ 2 พฤษภาคม 2011 บินลาเดน ผู้นำการก่อการร้าย เหตุวินาศกรรม 9/11 ทว่าตอนนี้ผ่านมาได้ประมาณ 7 ปี เรากลับได้ยินเพียงคำพูดยืนยันว่าบินลาเดนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มก่อการร้าย อัลกออิดะฮ์ ได้จบชีวิตลงไปแล้ว แต่เรากลับไม่เคยเห็นภาพศพของเขามายืนยันคำพูดที่ว่านั้นเลย ทั้งๆ ที่ผู้ก่อการร้ายคนอื่นๆ จะมีรูปภาพการตายของพวกเขาออกมายืนยันอย่างชัดเจน ทาง ฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐ ได้ออกมายืนยันว่าพวกเขามีรูปการตายของผู้ก่อการร้ายคนนี้อยู่จริงๆ เพียงแต่ไม่สามารถนำออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ เนื่องจากว่ากองกำลังสหรัฐที่เข้าไปปลิดชีพบินลาเดนนั้นไม่ได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และสาดกระสุนใส่ร่างของบินลาเดนมากเกินความจำเป็น Matt Bissonette หนึ่งในทหารของหน่วย Naval Special Warfare…
-
พบกับเด็กชายวัย 13 ขวบ ว่าที่ ‘ผู้ว่าการรัฐเวอร์มอนต์’ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์!!
ใช่แล้วล่ะเพื่อนๆ อ่านไม่ผิดหรอก ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับเด็กชาย Ethan Sonneborn วัย 13 ปี ได้ทำการสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการของรัฐเวอร์มอนต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา นั่นเป็นเพราะว่าที่รัฐเวอร์มอนต์นั้นเป็นหนึ่งในสองรัฐ ที่ไม่ได้กำหนดอายุขั้นต่ำของผู้สมัครเป็นผู้ว่าการของรัฐแต่อย่างใด และแน่นอนว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นไม่ได้เป็นเรื่องล้อเล่น แต่ Ethan นั้นมีความตั้งใจที่จะสมัครเป็นผู้ว่าการรัฐจริงๆ “ผมคิดว่าวิธีการที่ดีที่สุดในการต่อสู้เพื่อให้กลุ่มคนหนุ่มสาวได้มีสิทธิ์มีเสียงในการพัฒนาและทำหน้าที่ในระบบการทำงานก็คือการเอาชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้” Ethan กล่าว Ethan กำลังศึกษาอยู่เกรด 8 หรือเทียบเท่ากับชั้นมัธยมปีที่ 2 ของบ้านเรา เขาจะต้องแข่งขันกับนักการเมืองพรรคริพับลิกันอย่าง Phil Scott วัย 59 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้รับตำแหน่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทางด้าน Rebecca Kelley โฆษกของนาย Scott ก็ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนที่มีความสนใจที่จะทำงานที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย และสำหรับทุกคนที่มีไอเดียและต้องการที่จะทำให้รัฐเวอร์มอนต์พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นย่อมเป็นที่ต้อนรับของที่นี่อยู่แล้ว” “เช่นเดียวกันกับเป้าหมายของเรา ที่ต้องการที่จะดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มีความสามารถในการทำงาน เข้ามาทำงานในรัฐของเรา” จากการพูดปราศรัยในปี 2017 Ethan ได้ชูนโยบายการเข้มงวดกับกฎหมายครอบครองปืนเป็นหลัก เพราะเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับรัฐบ้านเกิดของเขา โดยให้เหตุผลว่าคนในวัยแบบเขานั้นแหละที่จะเป็นเสียงในการสนับสนุนเรื่องพวกนี้ได้ เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง หลายๆ…
-
‘Houtong’ หมู่บ้านในไต้หวัน มี ‘แมวมากกว่าคน’ นี่มันสวรรค์ของทาสแมวชัดๆ
สำหรับคนรักแมวหรือทาสแมวทั้งหลาย คุณจะต้องอยากไปอยู่หมู่บ้าน Houtong แน่ๆ เลย เพราะมันคือหมู่บ้านที่มีแมวมากกว่าคนซะอีก หมู่บ้าน Houtong ซ่อนอยู่ท่ามกลางหุบเขาทางตอนเหนือของไต้หวัน เดิมเคยเป็นหมู่บ้านเหมืองแร่ แต่ปัจจุบันเต็มไปด้วยแมวนับร้อยตัว หมู่บ้านนี้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกโดย Jian Peiling ก่อนที่เธอจะผันตัวมาเป็นช่างภาพแมว และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Mrs. Kitten Peiling จะต้องดูแลประชากรแมวจำนวนมหาศาล ดังนั้นเธอจึงต้องจัดหาอาสาสมัครเพื่อให้การสนับสนุนแมวเหล่านี้ พร้อมทั้งฉีดวัคซีนให้พวกมัน ในปี 2008 Peggy Chien หนึ่งในคนของพื้นที่และเป็นคนที่ชื่นชอบแมว ได้เริ่มโพสต์ภาพความพยายามของหมู่บ้านในการดูแลแมวจรจัด ตั้งแต่นั้นมาก็มีแมวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะแบบนี้เอง ส่งผลให้มีแมวในหมู่บ้านมากกว่า 200 ตัว จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านอาหาร ล่าสุดในหมู่บ้านดังกล่าว ประชากรแมวมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของประชากรมนุษย์ และมีผู้คนนับล้านในแต่ละปีที่เดินทางมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมเหล่าแมวเหมียวทั้งหลาย แมวพวกนี้ไม่ใช่แมวจรจัดนะ พวกมันได้รับการดูแลอย่างดีจากคนในหมู่บ้านและอาสาสมัครจากภายนอก พร้อมสัตวแพทย์ที่เข้ามาตรวจร่างกายพวกมันเป็นประจำ บางตัวถูกฝังไมโครชิปในตัวด้วย ใครก็ตามที่เข้ามาในหมู่บ้าน Houtong จะเห็นแมวอยู่ทั่วทุกทิศทาง พวกมันมักจะทักทายนักท่องเที่ยวด้วยความเป็นมิตรเสมอ …
-
เฟซบุ๊กเตรียมออกฟีเจอร์ใหม่ Unsend ให้คุณลบข้อความได้ แม้จะส่งไปแล้วก็ตาม
คุณเคยไหม? ระหว่างที่แชตคุยกับอีกฝ่ายผ่านเฟซบุ๊ก อาจจะเป็นเพื่อน ครูบาอาจารย์ คนที่แอบชอบ หรือเจ้านาย คุณดันเผลอพิมพ์อะไรสักอย่างออกไป แล้วดันมารู้สึกเสียใจทีหลังว่า “ตูไม่น่ากดส่งไปเลยโว้ยยย!!” แม้จะมากดลบทีหลังก็ไม่ทันซะแล้ว และคุณก็ได้ทำลายความสัมพันธ์นั้นลงไปเป็นที่เรียบร้อย เรามีตัวอย่างสถานการณ์สมมติที่คนส่งข้อความอยากจะให้มีปุ่ม “ลบ” ณ เดี๋ยวนั้นเลย นี่ก็ด้วย แทบจะแทรกแผ่นดินหนี โอ๊ยยยยย กดลบทันไหม!! ถ้าคุณเคยเจ็บช้ำกับการส่งอะไรแบบนั้นออกไปล่ะก็ ตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกดีขึ้นก็ได้ เพราะมีข่าวออกมาว่าตอนนี้ทาง Facebook กำลังเตรียมที่จะปล่อยฟีเจอร์ใหม่ ที่ช่วยให้คุณกดลบข้อความที่ส่งไปแล้วได้ ราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลย Facebook ได้ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ว่าเตรียมที่จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่างการกดลบข้อความที่ถูกส่งผ่านระบบข้อความ Messenger โดยฟีเจอร์ที่ว่านี้จะยังอยู่ในระหว่างการทดสอบและพัฒนา และจะพร้อมเปิดให้ใช้งานได้ในเดือนหน้านี้ ตัวแทนจาก Facebook ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง Business Insiders ว่า “เราได้มีการหารือเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้มาหลายครั้ง และผู้คนใช้ฟีเจอร์ Secret Message (การส่งข้อความลับ) ที่มีความสามารถในการลบข้อความโดยอัตโนมัติ ตอนนี้เราจะขยายขอบเขตในการลบข้อความออกไปอีก มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยจนกว่ามันจะพร้อม” ในขณะเดียวกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้มีแหล่งข่าวกว่า 3…
-
หญิงผู้ใช้ชีวิตในห้องปลอดเชื้อ 13 ปี แพ้แทบทุกอย่างบนโลก แม้จะกอดคนรักก็ยังไม่ได้
ตามปกติแล้วการที่คนเราต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ สิ่งที่ควรจะมีติดตัวอยู่กับทุกคนคืออิสระในการไปไหนมาไหน สัมผัสอะไรก็ได้ตามใจต้องการ… สำหรับ Juana Munoz วัย 53 ปี จากเมืองกาดิซ ประเทศสเปน กลับต้องใช้ชีวิตที่แตกต่างจากคนอื่น ถูกตัดขาดจากอิสระที่หวังเอาไว้ เพราะทุกสิ่งจากโลกภายนอกอาจคร่าชีวิตเธอได้ ทำได้แค่เพียงมองผ่านจากตู้กระจกปลอดเชื้อที่เป็นบ้านของเธอมาตลอด 13 ปี หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง 4 ชนิด ทั้งอาการแพ้สารเคมีหลายชนิด โรคไฟโบรมัยอัลเจีย อาการล้าเรื้อรัง และภูมิแพ้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้เธอไม่เหลือทางเลือกใดๆ จนจำเป็นต้องตัดขาดตัวเองออกจากโลกทั้งใบ เพื่อมาอาศัยอยู่ในตู้กระจกแบบนี้ เธอจะไม่สามารถออกจากตู้กระจกนี้ได้ ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามกฎที่เข้มงวด และใครก็ตามที่จะเข้ามาหาเธอ ต้องชำระล้างร่างกายให้ปลอดจากสารเคมี และสวมเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติเท่านั้น สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือ คนในครอบครัวไม่สามารถแตะเนื้อต้องตัวเธอได้เลย ถึงขั้นที่ว่าการกอดอาจทำให้เธอตายได้ มีเพียงแค่ลูก 2 คน ที่ได้รับอนุญาตให้กอดเธอได้ 2 ครั้งต่อปี และการกอดแต่ละครั้งจะต้องผ่านการเตรียมการหลายวัน ฝันร้ายของ Juana เริ่มต้นเมื่อ 29 ปีก่อน จากมันฝรั่งที่ปลูกในสวนหลังบ้าน เมื่อเธอจับมันฝรั่งลูกนั้น…
-
เด็กสาววัย 17 โมโห เนื่องจากถูกบังคับให้ปิดจุกด้วยพลาสเตอร์ หลังไม่ใส่บรามาโรงเรียน
เด็กนักเรียนสาววัย 17 ปีได้ตัดสินใจไปโรงเรียนโดยที่ไม่สวมใส่บราข้างใน ทำให้เธอถูกคุณครูเรียกเข้าพบจากการกระทำของเธอ แต่อะไรเป็นสิ่งดลใจให้เธอทำแบบนั้นกันล่ะ? Lizzy Martinez เด็กสาววัย 17 ได้สวมใส่เสื้อยืดสีเทาแบรนด์ Calvin Klein หลวมๆ ไปยังคลาสเรียนเมื่อวันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2018 ที่โรงเรียน Braden River High School ในเมืองเบรเดนตัน รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้ถูกเรียกไปตักเตือนเนื่องจากการที่เธอไม่สวมบรานั้นทำให้เด็กผู้ชายเสียสมาธิ เธอกล่าวว่า Violeta Velazquez คณบดีที่โรงเรียนได้บอกกับเธอว่าได้รับเรื่องมาจากคุณครูคนอื่นว่าเธอนั้นไม่สวมบรามาโรงเรียน Lizzy ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันรู้สึกว่าถูกลุกล้ำสิทธิเมื่อทางคณบดีถามฉันว่าได้สวมชุดชั้นในมาหรือไม่ เมื่อฉันตอบกลับไปว่าไม่ได้ใส่ เธอก็ถามกลับมาอีกว่าทำไมถึงไม่ใส่ ฉันนั่งร้องไห้อยู่ในห้องพยาบาลเพราะว่าถูกสั่งให้นำพลาสเตอร์แปะแผลมาเพื่อปิดหัวนม” เธอได้บอกกับ Kari Knop แม่ของเธอกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้แม่ของเธอก็โกรธกับสิ่งที่ทางโรงเรียนสั่งให้เธอทำเพราะว่าไม่มีกฎของทางโรงเรียนข้อไหนที่กล่าวถึงการแต่งกายดังกล่าว Lizzy และ Kari ได้ติดต่อกับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่เขาก็ได้ตอบกลับมาว่าจะมีการเพิ่มกฎการแต่งกายเข้าไปในกฎของโรงเรียน ทำให้เธอรู้สึกโกรธเนื่องจากความไม่ยุติธรรมและผิดกฎหมาย เธอกล่าวว่าถ้าเด็กผู้หญิงโดนบังคับให้สวมใส่บรา เด็กผู้ชายก็ต้องสวมใส่ด้วยเช่นกัน “มันเป็นเรื่องผิดกฎหมายหากบังคับให้ผู้หญิงต้องทำตามกฎระเบียบการแต่งกาย ในขณะที่เด็กผู้ชายไม่ต้องทำตามกฎอะไรเลย…
-
สาวญี่ปุ่นโดนเชิญออกจากเวทีซูโม่ขณะช่วยชีวิตคน เพราะเป็นเวทีศักดิ์สิทธิ์ห้ามผู้หญิงเข้า?
แม้ว่าทุกวันนี้จะมีการเรียกร้องให้ชายหญิงมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น แต่ก็ยังมีหลายวัฒนธรรมในหลายประเทศ ที่ยังกีดกันเพศหญิงอยู่ เนื่องจากธรรมเนียมปฏิบัติหรือการสืบทอดบางอย่างมาตั้งแต่ครั้งอดีต ทำให้มีบางพื้นที่ที่ผู้หญิงไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้อยู่ อย่างกรณีล่าสุดที่เว็บไซต์ Newyorkpost ได้รายงานว่า สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบใช้ชื่อว่า とろんぼーん ได้โพสต์คลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ระหว่างพิธีเปิดการแข่งขันซูโม่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีนาย Maizuru Mayor Ryozo Tatami นายกเทศมนตรีท้องถิ่น วัย 66 ปี ขึ้นมากล่าวเปิดงาน แต่ในระหว่างนั้นเองเขากลับมีภาวะตกเลือด และหมดสติลงไปบนเวที ทำให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่โดยรอบต้องรีบเข้ามาดูอาการของเขา ในตอนนั้นเองได้มีหญิงสาว 2 คนรีบขึ้นไปช่วยปั๊มหัวใจให้กับนายกเทศมนตรี แต่เมื่อคลิปวิดีโอดำเนินไปถึงนาทีที่ 0.45 กลับมีการประกาศออกเสียงตามสายเพื่อขอให้ผู้หญิงที่อยู่บนเวทีซูโม่เดินออกมา แม้ว่าพวกเธอจะพยายามช่วยชีวิตของนายกเทศมนตรีก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นพวกเธอก็ไม่ได้เดินออกมาในทันที ยังคงทำการช่วยปฐมพยาบาลอยู่อีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องจากบนเวทีซูโม่เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อนุญาตให้หญิงสาวเข้าไปได้ และหลังจากเกิดการณ์ดังกล่าวขึ้น ได้มีการรายงานเพิ่มเติมจากสื่อท้องถิ่นว่าทางทีมงานผู้จัดการแข่งขันได้มีการนำเอาเกลือมาโรยบนเวที เนื่องจากพวกชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าเกลือจะช่วยไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปได้ ไม่นานหลังจากที่คลิปเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป มันก็ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ เนื่องจากผู้คนในอินเทอร์เน็ตมองว่าการโรยเกลือไล่บนเวทีเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับผู้ที่พยายามจะช่วยชีวิตคนอื่นเอาไว้ “ชั้นคิดว่าเราควรจะโรยเกลือบนหัวของประธานสมาคมซูโม่มากกว่า” ข้อความหนึ่งจากทวิตเตอร์ ประธานสมาคมซูโม่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างนาย Hakkaku ต้องออกมากล่าวขอโทษต่อกรณีที่เกิดขึ้น นาย Hakkaku กล่าวว่า “ผู้ตัดสินอยู่ในอารมณ์ไม่พอใจและได้ประกาศออกไปแบบนั้น แต่มันไม่เหมาะสมเลยที่จะโต้ตอบแบบนั้น เพราะสถานการณ์มันอาจอันตรายถึงชีวิตได้ เราขอโทษจากก้นบึ้งหัวใจ และต้องขอบคุณอย่างสุดซึ้งกับผู้หญิงที่เข้าไปช่วยปฐมพยาบาลเขาด้วยครับ” หลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วเรียบร้อย…
-
ลาก่อนตาของข้า!! สาวญี่ปุ่นน่ารักคิกขุ แท้จริงแล้วเป็นนักกล้ามปลอมตัวมาต่างหาก
ว่ากันว่าเครื่องสำอางก็เหมือนกับคทาเวทมนตร์ของสาวๆ ที่หากว่ามีฝีมือพอแล้ว คุณจะสามารถเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างบนใบหน้าให้เป็นอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นดารา คนสวย หรือนางแบบ เผลอๆ จะเปลี่ยนใบหน้าของคนเป็นบางสิ่งที่ไม่ใช่คนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยด้วยซ้ำ เรื่องในคราวนี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้ทวิตเตอร์ @Tats_Gunso ผู้มีชื่อจริงว่า Tatsuma Sugawara นักเพาะกายมืออาชีพ และนักแสดง เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของ Macho 29 กลุ่มนักเพาะกายที่ทำงานร่วมกับร้านเนื้อย่าง Macho Nikuya ร้านเนื้อย่างที่ให้ชายหนุ่มรูปงามล่ำบึกมาเสิร์ฟเนื้อ (เนื้อจริงๆ ไม่ได้เปรียบเทียบ) ให้กับคุณ นอกจากนี้เขายังได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันเพาะกายหลายรายการ และถือว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในสายงานของเขาอีกด้วย… แล้วคนแบบนี้มาเกี่ยวข้องยังไงกับเรื่องของเครื่องสำอางที่ว่าไว้ข้างบนงั้นเหรอ? เรื่องราวมันมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา Sugawara ได้โพสต์วิดีโอคลิปหนึ่ง และมันได้กลายเป็นกระแสไปทั่วโซเชียลมีเดียของญี่ปุ่นไปในเวลาไม่นานหลังจากนั้น ซึ่งวิดีโอที่ว่านั้นไม่ได้เป็นภาพของหน้าตาหรือมัดกล้ามของเขาแต่อย่างไร แต่เป็นภาพของสาวงามคนหนึ่งต่างหาก ภาพของสาวงามที่ว่า ภาพของสาวงามสุดน่ารักคนนี้ทำให้ชาวเน็ตของญี่ปุ่นจำนวนมากต้องตกหลุมรักกันไปตามๆ กัน ว่าแต่เธอคนนี้เป็นใครกัน เธอเป็นแฟนสาวคนใหม่ของ Sugawara อย่างนั้นเหรอ มันใช้เวลาไม่นานเลยที่เหล่าผู้ที่เข้าไปดูวิดีโอนี้จะไขข้อสงสัยนั้นออก เฮ้ย!? แขน!! เพราะเมื่อกล้องเริ่มทำการซูมออกเพื่อแสดงให้เห็นตัวของหญิงสาวคนนั้นทั้งตัว ชาวเน็ตก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาอึ้งอย่างถึงที่สุด สาวน้อยหน้าตาคิขุอาโนเนะคนนั้น.. แขนขาใหญ่พวกตรูอีก เฮ้ยนี่มันเกิดอะไรขึ้น!? จะบอกว่าเดี๋ยวนี้นักกล้ามเขาบ้ากล้ามกันมากจนขนาดมีแฟนก็ยังต้องมีแฟนแบบกล้ามๆ อย่างนั้นเหรอ? …
-
คุณแม่ชาวอเมริกันให้กำเนิดฝาแฝด 2 คู่ ติดกัน โอกาสมีเพียง 1 ใน 10 ล้านคนเท่านั้น
การตั้งครรภ์แฝด คือการตั้งครรภ์ที่มีจำนวนทารกมากกว่า 2 คนขึ้นไป อาจจะเป็นแฝด 2 แฝด3 แฝด 4 หรือมากกว่านั้น แต่ในการตั้งครรภ์แฝดนั้นก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย เพียงแค่ 1 ใน 100 เท่านั้น Casey Saunders คุณแม่ลูกสองอายุ 27 ปี ชาวรัฐโคโรลาโด สหรัฐอเมริกา เมื่อ 10 ปีที่แล้วเธอได้ให้กำเนิดเด็กชายฝาแฝด 2 คนที่ชื่อว่า Hayden และ Cameron ซึ่งนี่ก็คงเป็นเรื่องปกติในการเกิดลูกแฝดทั่วไป แต่ทว่า ข่าวดีของเธอกับสามีก็กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ได้ตรวจแล้วรู้ว่าเธอตั้งท้องอีกรอบ ซึ่งในครั้งนี้ก็เป็นเด็กฝาแฝดอีกครั้งด้วย เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ตอนแรกเธอคาดว่าน่าจะเป็นลูกคนเดียว แต่กลับมีอีกหนึ่งคนเพิ่มขึ้นมา เธอได้เข้ารับคำปรึกษาจากทางแพทย์จึงได้รู้ว่า ทารกแฝดที่อยู่ในครรภ์ของเธอนั้นเป็นแฝดแบบ Monochorionic/Monoamniotic twins คือแฝดที่ใช้รกและถุงน้ำคร่ำชุดเดียวกัน ทำให้โอกาสเกิดการพันกันของรก รกพันตัวอ่อน จึงมีโอกาสที่จะรอดชีวิตน้อยลง โดยฝาแฝดประเภทนี้มักรู้จักกันในชื่อ Mo-Mo twins นี่เป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ มีโอกาสเพียงแค่ 1 ใน 10 ล้านเท่านั้น …
-
iPhone ลูกค้าระเบิดไฟลุกหลังนำไป “เปลี่ยนแบตเตอรี่” กับศูนย์ซ่อมเถื่อน
iPhone ถือว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั่วโลก ทำให้มีทั้งร้านค้าและศูนย์บริการกระจายออกไปในแต่ละที่ จึงวางใจได้ทุกครั้งเวลาที่โทรศัพท์มีปัญหาก็สามารถเอามันไปซ่อมได้ไม่ยาก แต่ทางที่ดีเราควรจะนำมันไปซ่อมกับศูนย์บริการของเขาจริงๆ ไม่อย่างนั้นอาจต้องโชคร้ายเหมือนหญิงสาวรายนี้ก็เป็นได้ นี่เป็นเรื่องราวที่ถูกโพสต์ลงไปในโลกโซเชียลประเทศจีน เมื่อสาวแซ่ Ren รายหนึ่งนำโทรศัพท์ iPhone ของตัวเองไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ กับร้านที่ประกาศออกมาว่าเป็นศูนย์ตัวแทนบริการหลังการขายอย่างเป็นทางการของบริษัท Apple (ผู้ผลิต iPhone) ในช่วงเดือนมกราคม 2018 ที่ผ่านมา ภาพจากกล้องวงจรปิด ในตอนที่เธอเข้าไปติดต่อขอเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่แล้วหลังจากที่เธอใช้ไปได้ไม่นาน เธอก็พบว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์ของเธอกลับมามีปัญหาอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 3 เมษายน 2018 เธอจึงนำมันกลับไปร้านเดิมเพื่อทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่อีกครั้ง ในระหว่างที่เธอกำลังนั่งรออยู่ภายในร้านนั้น จู่ๆ โทรศัพท์ของเธอก็เกิดระเบิดขึ้นมา พร้อมไฟลุกวาบอย่างน่ากลัว ทำให้หญิงสาวได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย อยู่ดีๆ โทรศัพท์ของเธอก็ระเบิด บาดแผลที่เธอได้รับจากการระเบิด สิ่งที่น่าสงสัยอีกอย่างก็คือ ในขณะที่ไฟจากการระเบิดกำลังลุกท่วมโต๊ะอยู่ ทุกคนต่างตกใจหลบออกมาจากบริเวณดังกล่าว แต่กลับมีพนักงานคนหนึ่งที่ดูไม่ทุกข์ร้อนหรือแทบจะไม่ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ใช้มือดับไฟบนโต๊ะอย่างหน้าตาเฉยราวกับเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน พนักงานคนหนึ่งดูใจเย็น ไม่ค่อยมีอาการตกใจใดๆ ภายหลังเหตุการณ์ระเบิดนี้ ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อสอบถามไปยังฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัท Apple ก่อนที่จะได้รับคำตอบว่า ร้านดังกล่าวไม่ใช่ศูนย์ซ่อมที่ได้รับใบอนุญาตจาก…
-
‘สาวไทยขายบริการ’ เดินทางไปถึงไต้หวัน ก่อนถูกจับหลังพบว่าเธอเป็นคนแพร่เชื้อ HIV
แน่นอนว่าการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เราไม่ได้รู้จักหรือคุ้นชินมาก่อน อย่างเช่นการซื้อบริการทางเพศกับคนที่ขายบริการ สิ่งสำคัญที่เราจะต้องใส่ใจในเรื่องนั้นคือความปลอดภัย ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะติดเชื้อ HIV หรือโรคทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ไปโดยไม่รู้ตัว นี่คือตัวอย่างของสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อสาวไทยขายบริการที่ใช้ชื่อว่า Patty วัย 24 ปี เดินทางไปยังประเทศไต้หวันเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2018 โดยใช้วีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยว เข้าไปอาศัยอยู่ในเขต Taitung ภาพถ่ายของหญิงสาวที่ใช้ชื่อว่า Patty แต่ความจริงแล้วเธอไม่ได้เพียงแค่มาเที่ยวอย่างเดียว เธอกลับนัดลูกค้าเอาไว้เป็นจำนวนมาก ติดต่อกันผ่านทางแอป LINE โดยสำนักข่าว Taiwan News รายงานว่าระหว่างช่วงวันที่ 13-22 มีนาคม หญิงสาวคนนี้ออกไปเจอกับลูกค้าหนุ่มๆ จำนวนนับไม่ถ้วน หลังจากนั้นเธอก็ถูกเจ้าหน้าที่ของไต้หวันเข้าจับกุมตัว หลังจากที่เธอชักชวนชายหนุ่มให้มามีเซ็กส์กับเธอหลายต่อหลายคน ก่อนที่เธอจะถูกควบคุมตัวไปตรวจร่างกาย จนกระทั้งวันที่ 2 เมษายน 2018 ผลตรวจออกมาว่าสาวคนนี้มีเชื้อ HIV ซึ่งสามารถติดต่อกันได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ เชื้อไวรัส HIV เป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบบภูมิต้านทานล้มเหลว และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ได้ในเวลาต่อมา เมื่อทราบผลตรวจ ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบทำการกระจายข่าวให้เหล่าลูกค้าหนุ่มๆ…
-
จำเอาไว้!! สายชาร์จมีไว้เสียบโทรศัพท์ อย่าคิดไปเสียบเข้า ‘ท่อปัสสาวะ’ เหมือนชายคนนี้
รูปัสสาวะของผู้ชายนั้นมีไว้เพียงเพื่อขับของเหลวออกมา มันไม่ควรจะมีอะไรแทงสวนเข้าไปถ้าไม่จำเป็น ไม่อย่างนั้นอาจต้องถึงกับเข้าโรงพยาบาลตามชายคนนี้ไปเลยก็ได้ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2018 ชายคนดังกล่าวอายุกว่า 60 ปีต้องเดินทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล Dalian ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน เป็นการด่วน หลังจากที่เขาเอาสายชาร์จโทรศัพท์ความยาวประมาณ 90 เซนติเมตร สอดเข้าไปในท่อปัสสาวะตัวเอง แล้วดึงออกมาไม่ได้ สายชาร์จความยาว 90 เซนติเมตรติดอยู่ในหรรมส์คนไข้ นายแพทย์ Gao Zhanfeng ผู้เชี่ยวชาญทางด้านท่อปัสสาวะประจำโรงพยาบาล เขาได้ทำการสแกนตรวจสอบบริเวณกระเพาะปัสสาวะของคนไข้รายนี้ พบว่าสายชาร์จหนาประมาณ 0.2 นิ้วที่ถูกสอดเข้าไปพันกันเป็นปมอยู่ ทำให้คนไข้ไม่สามารถดึงออกมาได้และมีอาการเจ็บปวดแสนสาหัส ภาพสแกนขณะทำการรักษา นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้คนไข้พยายามดึงมันออกมาด้วยตัวเอง จนทำให้มีเลือดออกในกระเพาะปัสสาวะเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม แพทย์ก็สามารถนำสายชาร์จเส้นดังกล่าวออกมาได้สำเร็จ ด้วยวิธีการใช้เลเซอร์ตัดสายชาร์จและดึงออกมาเป็นสองส่วน แพทย์ใช้เลเซอร์ ผ่าสายชาร์จออกเป็นสองส่วน และเอาออกมาได้ในที่สุด ทางด้านคนไข้นั้นก็บอกกับหมอว่าเขาสอดสายชาร์จเข้าไปในท่อปัสสาวะ เพราะต้องการหยุดอาการคันบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของโรคต่อมลูกหมากอักเสบ จากการรายงานยังบอกอีกว่าเขาล้างสายชาร์จด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว ก่อนที่จะสอดมันเข้าไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อเป็นอย่างมาก เขาจึงต้องรอรักษาตัวและตรวจร่างกายเพิ่มเติมต่อไป …
-
นักศึกษาถูกจวกหนักหลังปลิดชีพผีเสื้อ เพื่อนำปีกมาสร้างผลงาน ‘สัญญะแห่งการเกิดใหม่’
ศิลปะอยู่รอบตัวเรา ความสุนทรีย์เหล่านี้มักจะถูกหยิบยกขึ้นมา เพื่อสะท้อนเป็นชิ้นงานตามสไตล์ของศิลปินด้วยเช่นกัน อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นในมุมมองไหน… แต่แล้วเมื่อการกระทำของนักศึกษาสาวชาวจีน ได้กลายมาเป็นจุดชนวนแห่งความขัดแย้งบนโลกออนไลน์ หลังจากที่เธอได้นำปีกของผีเสื้อกว่า 500 ตัวมาใช้เพื่อสร้างผลงานสื่อถึง “การเกิดใหม่” Li Zheng นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิยาลัย Quanzhou Normal University ได้สร้างชุดงานศิลป์จากการใช้ปีกผีเสื้อเป็นวัสดุหลัก จัดเรียงอย่างพิถีพิถันอันเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์จบของตัวเอง เธอและเพื่อนได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษา ให้สร้างงานศิลปะที่โด่งดังขึ้นมาใหม่ด้วยวัสดุที่แตกต่าง เธอจึงเลือกผลงานของ Vincent Van Gogh แต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้วัสดุแบบไหนเพื่อสร้างงานชิ้นดังกล่าว… ระหว่างที่ทำการค้นคว้าวิจัย Li Zheng ได้พบกับศิลปินที่ใช้ปีกผีเสื้อในงานศิลป์ และในวัฒนธรรมส่วนมาก แมลงตัวเล็กๆ เป็นเหมือนดั่งตัวแทนแห่งการเกิดใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับโปรเจกต์จบของเธอเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นเธอจึงทำการรวบรวมผีเสื้อกว่า 500 ตัว ใช้สีสันบนปีกเล็กๆ นำมาร้อยเรียงเป็นภาพชิ้นงานของ Van Gogh รวมไปถึงภาพวาดของตัวเขาเองด้วย . ไม่ต้องสงสัยเลยว่า งานของเธอนั้นดูสวยงามอลังการตามเนื้อผ้า แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกไม่ดีกับการที่เธอใช้ปีกของผีเสื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ นำมาสร้างงานที่สื่อถึงการเกิดใหม่ Li…
-
สาวรักสัตว์เสี่ยงชีวิตตนเอง เพื่อดูแลวัวที่ถูกทอดทิ้ง ในพื้นที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสี…
ผู้ที่อุทิศและทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจไปกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หากจะต้องฝ่าฟันอันตรายที่อาจจะหมายถึงชีวิตก็ตาม พวกเขาก็ยอมที่จะเสี่ยงเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ดั่งหญิงสาวชาวญี่ปุ่นผู้นี้ ที่ยอมสละเวลาส่วนตัวในทุกๆ วัน เดินทางมายังเขตอันตรายในจังหวัดฟุกุชิมะ เพื่อมาป้อนน้ำป้อนอาหาร คอยดูแลเหล่าวัวทั้ง 11 ตัวที่ถูกทอดทิ้งจากเหตุการณ์ภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ ภัยพิบัติในปี 2011 นั้น พรากชีวิตผู้คนไปร่วม 20,000 ราย และผู้คนอีกจำนวน 160,000 ราย จำเป็นจะต้องย้ายออกจากพื้นที่ภูมิลำเนาไปสู่พื้นที่ปลอดภัย เหลือเพียงแต่สัตว์น้อยใหญ่ที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ปศุสัตว์ในเขตกัมมันตรังสีส่วนใหญ่ เป็นวัวจำนวน 3,500 ตัว และกลายเป็นวัวนิวเคลียร์แห่งฟุกุชิมะไปโดยปริยาย ได้รับการปนเปื้อนจนส่วนใหญ่ล้มตายไปตามๆ กัน รวมไปถึงอดตายและถูกการุณยฆาต Tani Sakiyuki หญิงสาวผู้อุทิศตนเดินทางมายังเขตปนเปื้อน เพื่อมาดูแลวัวจำนวนที่เหลืออยู่ ตามปกติแล้วเธอทำงานอยู่ในกรุงโตเกียวเมื่อ 7 ปีก่อน แต่หลังเกิดเหตุภัยพิบัติ เธอก็ได้ย้ายมาทำงานในสาขาที่ใกล้กับเขตอันตรายและเปลี่ยนมาทำงานกะกลางคืนแทน เพื่อที่จะสามารถมาดูแลวัวทั้ง 11 ตัวได้ในทุกๆ วัน เธอให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากรายงานข่าวเกี่ยวกับสัตว์ที่อดอยาก และชาวไร่ชาวนาก็พยายามช่วยเหลือพวกมัน แม้ว่ารัฐบาลจะสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปก็ตาม เธอจึงรู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือ “ถ้าฉันไม่ทำ…
-
ชายผู้เติบใหญ่ได้ เพราะหมาป่าช่วยเลี้ยงดูถึง 12 ปี พอกลับมาอยู่กับคน ดันรู้สึกใช้ชีวิตยาก…
ช่วงวัยเจริญเติบโตนั้น สิ่งแวดล้อมและการรับรู้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยพัฒนาความคิดและทักษะการใช้ชีวิตให้แก่บุคคลนั้นๆ ต่อไป แต่สำหรับนาย Marcos Rodríguez Pantoja เขาไม่ได้เติบโตท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ได้เติบโตในสังคมของมนุษย์ เพราะเขาดันไปคลุกคลีกับเหล่าหมาป่ามานานถึง 12 ปีเลยทีเดียว ย้อนไปเมื่อปี 1946 ในเมืองกอร์โดบา ประเทศสเปน นาย Marcos Rodríguez Pantoja สูญเสียแม่ไปเมื่ออายุเพียงแค่ 3 ขวบ และถูกพ่อทิ้งอย่างไม่ใยดี แถมส่งไปให้ผู้หญิงอื่นเลี้ยงดูในเมืองใกล้เคียง และด้วยความที่เขายังเป็นเด็ก ก็เลยถูกส่งตัวขึ้นไปบนภูเขาสูง เพื่อไปทำหน้าที่แทนคนเลี้ยงแกะกว่า 300 ตัว แทนชายแก่คนเก่า เขาจำความได้ว่าชายแก่สอนวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ สอนก่อไฟให้ จนในปี 1954 ชายแก่ก็ได้เสียชีวิตลง ในขณะที่ Marcos ยังมีอายุไม่ถึง 8 ขวบ และเขาต้องใช้ชีวิตต่อไปเพียงลำพัง ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Marcos นั้นใช้ชีวิตอยู่รอดท่ามกลางฝูงหมาป่าได้อย่างไร จนเมื่อเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเจอกับเขา ในเวลา 12 ปีให้หลัง คำพูดของเขาก็เปล่งเสียงออกมาคล้ายกับสัตว์…
-
สองพี่น้องฟ้องกันเอง เพราะอีกฝ่ายชอบสะสมขยะในบ้าน บ่อเกิดเชื้อราและหนูล้นเต็มห้อง!!
การจะต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นนั้น สิ่งแรกที่เราจะต้องคำนึงถึงก็คือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะว่าที่อยู่อาศัยนั้นก็จะกลายมาเป็นพื้นที่ส่วนรวม และจะมีการแบ่งพื้นที่ส่วนตัวระหว่างกันในภายหลัง ทว่าหากการใช้พื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป ต่อให้เป็นคนในครอบครัวก็ตาม บางทีมันก็เหลืออดหมดความอดทนแล้ว กล่าวว่าตักเตือนตั้งกี่ครั้งไม่ยอมฟัง มันก็ต้องฟ้องด้วยข้อกฎหมายกันไปเลย!! สภาพภายนอกบ้านยังดูดี สองพี่น้องชาวแมนแฮตตัน ในนครนิวยอร์ก Andrew Lindsay Cohen และพี่ชาย James อาศัยในบ้านหลังเดียวกันหลังจากได้รับเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรษ แต่ทว่าฝ่ายพี่ชายดันอ้างตนเป็นเจ้าของบ้าน โดยที่เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่ปี 2011 และไม่เคยจ่ายค่าเช่าเลยแม้แค่ครั้งเดียว แต่พอเข้ามาข้างในแล้ว… ฝั่งน้องชาย Andrew แทบจะอยู่ไม่ได้เนื่องจากพี่ชาย นำกองเอกสาร เศษขยะ ของเก่าๆ สารพัดกล่อง และสิ่งของเหม็นเน่าสกปรกเข้ามาทิ้งภายในบ้าน จนไม่สามารถเดินเข้าไปภายในบ้านได้เลย ยิ่งนานวันเชื้อราก็งอกเงยบนพื้นบ้านเต็มไปหมด แทบจะไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ ผลกระทบที่ตามมาก็คือ จากแหล่งที่อยู่อาศัยของคนก็กลายมาเป็นแหล่งพักพิงของหนู อันตรายเกินกว่าที่มนุษย์จะอยู่อาศัยได้แล้ว บอกได้เลยว่าเละ!! น้องชายผู้อมทุกข์จึงตัดสินใจฟ้องพี่ชายตัวเอง ยื่นต่อศาลสูงแมนแฮตตันในวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2018 ด้านพี่ชาย James ก็ยังคงอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้านอยู่…
-
ชายหนุ่มขยันผิดทาง ซัดโคเคนต่อเนื่อง 10 ปี ทำสองงานจุนเจือหนี้ แบกร่างเกินจะรับไหว…
ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป ประโยคปลอมประโลมจิตใจเพื่อที่เราลุกขึ้นสู้ชีวิต ขยันทำมาหากินเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ให้อยู่รอดพ้นไปในแต่ละเดือน… แน่นอนว่า ยิ่งทำงานหลายอย่าง ก็ยิ่งมีรายได้ที่มากขึ้น แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยพละกำลังของร่างกายและจิตใจ มากกว่าปกติหลายเท่าตัว Jake Scicluna ตัวอย่างจากนาย Jake Scicluna วัย 35 ปี ชายชาวอังกฤษ ผู้ขยันขันแข็งทำงานหาเงินเพื่อชดใช้หนี้ของตัวเอง โดยที่เขาทำอาชีพเป็นคนเฝ้าประตูไนท์คลับ พร้อมกับเปิดร้านสักเป็นของตัวเองในเวลาเดียวกัน เนื่องจากเคยนำบ้านไปจำนองกับเพื่อนเพื่อหาเงินทุนมาหมุนเวียน จากหน้าที่การงานดังกล่าว เขาจึงเลือกใช้โคเคนเป็นตัวเสริมกำลังให้กับตัวเอง แน่นอนว่ายาเสพติดนั้นอาจจะช่วยรีดพลังในร่างกายออกมาได้ ในทางกลับกันมันก็ย่อมบั่นทอนและทำลายร่างกายของเขาอย่างช้าๆ ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่เขาทำ 2 งานควบคู่กันไป การสูดโคเคนเข้าจมูกอย่างต่อเนื่อง ก็ทำลายระบบหลอดเลือดในจมูก และทำให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมา เขาประสบกับอาการหายใจไม่ออกถึงขั้นนอนล้มพับอยู่ภายในบ้านของตนเอง แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วเขาก็เสียชีวิตในโรงพยาบาลของเช้าวันถัดมา… ผลของการชันสูตรพบว่า ปริมาณของโคเคนที่อยู่ในร่างกายของเขานั้นมีจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นจำนวนมากพอที่จะทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นจนถึงตายได้ ทางด้านคุณแม่ Susan กล่าวว่า “โคเคนคือยาเสพติดที่เลวร้ายที่สุด เขาทำงานเป็นคนเฝ้าประตูไนท์คลับในเวลากลางคืน และโคเคนก็ทำให้เขาตื่นตัวตลอดเวลา จากนั้นก็มาเปิดร้านสักเป็นของตัวเอง…
-
‘คนขับรถบัสประจำโรงเรียน’ ช่วยถักผมเปียให้เด็กสาวทุกเช้า หลังรู้ว่าแม่ของเธอเสียไป
บางครั้งเรื่องราวดีๆ ก็เกิดขึ้นด้วยการช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า… เช่นเดียวกันกับเด็กสาวรายหนึ่งที่เพิ่งสูญเสียคุณแม่ไป ทำให้ทุกเช้าเวลาไปเรียนผมของเธอมักจะยุ่งเหยิงและไม่เป็นทรงเพราะพ่อของเขาไม่รู้วิธีในการจัดการกับผม แต่จากการช่วยเหลือของพนักงานขับรถบัสประจำทาง ที่ถักเปียผมให้เธอทุกวัน หลังจากที่รับรู้ว่าแม่ของเธอเพิ่งสูญเสียไป กลายเป็นเรื่องที่น่าประทับใจไม่ว่าใครต่างก็ต้องน้ำตาตกไปตามๆ กัน เด็กสาว Isabella Pieri วัย 11 ปี เพิ่งสูญเสียคุณแม่ไปจากการป่วยเป็นโรคร้ายที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมากๆ ทำให้เธอต้องอาศัยอยู่กับคุณพ่อเพียงสองคนเท่านั้น และจากการที่คุณพ่อเป็นผู้ชายและต้องทำงานหาเงินอย่างหนัก จึงไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับผมของลูกดี เขาก็เลยตัดสินใจพาลูกสาวไปตัดผมจนสั้นเหมือนกับว่าเป็นเด็กผู้ชาย และเมื่อเธอไว้ผมจนกลับมายาวอีกครั้ง ก็ตั้งใจว่าจะดูแลมันด้วยตัวเอง แต่มันก็ยังดูเก้ๆ กังๆ จนในที่สุดคุณ Tracy Dean พนักงานขับรถบัสประจำโรงเรียนก็อาสาให้การช่วยเหลือเปียผมให้กับเธอ Tracy เล่าว่าในวันแรกสาวน้อย Isabella ใช้เวลารวบรวมความกล้าอยู่นานกว่าจะเดินเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือกับเธอ เพราะหลายๆ ครั้ง Tracy มักจะช่วยเด็กผู้หญิงคนอื่นเปียผมอยู่บ่อยครั้ง และตอนนี้ในทุกๆ เช้า Tracy ก็จะมาเปียผมให้กับหนูน้อย Isabella ทุกวันก่อนไปโรงเรียน เธอให้สัมภาษณ์กับช่อง KSL-TV ว่า “ฉันทำกับเด็กๆ ทุกคนเหมือนกับเป็นลูกสาวของตัวเองก็เพราะว่า เมื่อ…
-
ฉุนจัด…เด็กสาวทำโทรศัพท์เพื่อนพัง ถูกเรียกค่าเสียหาย เลยพกเงินมาฟาดหน้า-โยนลงพื้น
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลของประเทศจีนอยู่ ณ ขณะนี้ กับกรณีคลิปวิดีโอของเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งเอาเงินตบหน้าของเพื่อนที่เป็นผู้ชายแล้วก็โยนใส่หน้า แต่จริงๆ แล้วเรื่องดังกล่าวนั้นมีเบื้องหลังซ่อนอยู่ ตามรายงานของเว็บไซต์ Shanghaiist ได้ระบุเอาไว้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่เมืองหวงซาน มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ก่อนหน้านี้ได้มีการทะเลาะกันเพราะเด็กนักเรียนหญิงทำโทรศัพท์ของนักเรียนชายพัง ซึ่งฝ่ายนักเรียนชายก็บอกให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหาย และด้วยความโมโหนักเรียนหญิงก็นำเงินจำนวนกว่า 6,450 บาท มาให้ แต่แทนที่จะให้ด้วยวิธีธรรมดาๆ กลับเอาเงินฟาดหน้าอย่างรุนแรงไปหลายครั้ง แล้วจบลงด้วยที่การโยนเงินจำนวนดังกล่าวลงพื้น โดยที่ขณะเกิดเหตุมีเพื่อนนักเรียนมากมายหลายคนยืนรุมล้อมอยู่รอบๆ นักเรียนชาย โดยที่เขาไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้เลยแม้แต่น้อย และจากรายงานล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้ามาสอบสวนเรื่องดังกล่าวอยู่ ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร… ลองไปชมคลิปวิดีโอกันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…. ส่วนชาวเน็ตหลายคนที่ได้ทราบเรื่องราวนี้แล้วก็ให้ความเห็นกันมากมาย บ้างก็บอกว่า “เด็กก็คือเด็ก ที่พวกเขาทำแบบนี้ก็เพราะว่าผู้ใหญ่เป็นคนสอนพวกเขานั่นแหละ” บ้างก็ว่า “นี่คือความล้มเหลวของพ่อแม่” บางคนก็ตั้งข้อสงสัยว่า “เด็กไปเอาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาจากไหน ก่อนหน้านี้ฉันเคยอ่านข่าวเกี่ยวกับคุณแม่ที่หาเงินได้เดือนละ 9,900 บาท แล้วลูกของเธอทำเงินหายก็เลยทำโทษด้วยการตบหน้า แสดงว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้จะต้องมีเงินเยอะ และเลี้ยงดูลูกด้วยเงินแน่ๆ” แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวล่ะมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง…
-
หมีถูกช่วยออกจากการกักขัง ได้รับอิสระ และมีความสุขกับการได้เล่นหิมะอีกครั้ง
หลายต่อหลายครั้งที่เราได้ยินได้อ่านข่าวเกี่ยวกับหมีที่ถูกมนุษย์ไปจับขังไว้ในกรงแคบๆ และไม่ได้ให้ความรัก ความอบอุ่นกับพวกมัน แถมมันยังไม่ได้กินอาหารตามที่เหมาะสมด้วย เช่นเดียวกับเจ้าหมี Tomi ที่ได้รับการช่วยเหลือเมื่อปี 2016 สภาพของมันแย่มาก จนหน้าที่ไม่แน่ใจว่ามันจะกลับมาสู่สภาวะปกติได้หรือเปล่า Claire LaFrance ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของ Four Paws กล่าวว่า “Tomi ถูกขังอยู่ในกรงพื้นคอนกรีตแคบๆ ซึ่งอยู่นอกร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศแอลเบเนีย เจ้าหมีถูกเลี้ยงด้วยเบียร์และขนมปังขาว และถูกใช้เป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการร้านอาหารดังกล่าว ผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือเชื่อว่าเจ้าหมีน่าจะถูกขังในกรงแคบๆ และสกปรกนี้มาตั้งแต่ตอนมันเป็นเด็กแล้ว หรือประมาณ 2 ปีก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือ Tomi อาจจะมองเห็นสิ่งแวดล้อมข้างนอกได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่มันสัมผัสได้ตลอดเวลาคือความเย็นและความแข็งของพื้นคอนกรีต หลังจากที่เจ้าหน้าที่ Four Paws รู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาได้ขอความร่วมมือจากรัฐบาลต่างๆ ทั่วยุโรป เพื่อให้เจ้าของปล่อย Tomi กลับสู่ป่า แทนที่จะเอามันมาหาผลประโยชน์แบบนี้ ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหมีก็ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากกรงแคบๆ ได้สำเร็จ และถูกพาตัวยัง Bear Sanctuary Prishtina ที่สำหรับรองรับหมีที่ได้รับการช่วยเหลือ เมื่อมาถึง Tomi กวาดตามองไปรอบๆ เพื่อดูความแตกต่างระหว่างที่ที่มันเคยอยู่ กับที่ที่มันไม่คิดว่าจะได้สัมผัสในชีวิตนี้ มันสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด…
-
กวางน้อยหัวติดในชามแก้ว มองไม่เห็นทาง เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยเหลือจนมันได้กลับเข้าป่า
สำหรับชาวนิวเจอร์ซีย์แล้ว การเห็นกวางปรากฏตัวที่สนามหลังบ้านนั้นนับเป็นเรื่องปกติมาก โดยเฉพาะในช่วงที่เข้าสู่ฤดูร้อน จะเห็นบ่อยเป็นพิเศษ แต่ล่าสุด หนึ่งในเจ้าของบ้านใน Colts Neck นิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดความประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อกวางที่เห็นดูไม่เหมือนตัวที่ผ่านๆ มา ร่างกายของมันก็เหมือนกวางทั่วไปนั่นแหละ แต่เมื่อดูที่หัว มันกลับมีลักษณะกลมๆ ผิดปกติ ราวกับว่ามันกำลังใส่หมวกนักบินอวกาศ อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าของบ้านลองเข้าไปดูใกล้ๆ จึงได้รู้ว่ากวางน้อยตัวนี้กำลังมีปัญหา เพราะที่เห็นกลมๆ นั้นคือชามแก้ว มันคงจะเอาหัวมุดเข้าไปในนั้นแล้วออกมาไม่ได้ เจ้าของบ้านรู้ว่าเจ้ากวางคงไปไหนไม่ได้แน่ๆ เพราะมันถูกเพื่อนฝูงทิ้ง แถมยังมีชามครอบหัวจนทำให้มองอะไรไม่เห็น มันเลยเดินวนไปวนมาอยู่แถวนั้น ในที่สุดเขาเลยติดต่อเจ้าหน้าที่ Monmouth County SPCA (MCSPCA) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก NJ Division of Fish and Wildlife เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับตัวเจ้าของกวางไว้ได้ ก่อนจะพยายามนำชามแก้วออกจากหัวมันให้จนสำเร็จ ทาง MCSPCA บอกว่า “เจ้ากวางเคราะห์ร้ายหัวติดอยู่ในชามแก้วเป็นเวลาถึง 4 วัน มันไม่ได้กินน้ำหรืออาหารเลย ที่สำคัญ สายตาทั้ง 2…
-
เจ้าหน้าที่จัดทำอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึง ‘แรดขาวเหนือตัวผู้ตัวสุดท้ายของโลก’ ที่ล่วงลับไป
เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใสในเคนยา และเป็นวันที่มีเรื่องน่าประทับใจเกิดขึ้น นั่นคือการจัดพิธีรำลึกถึง Sudan แรดขาวเหนือตัวผู้ตัวสุดท้ายของโลก Sudan วัย 45 ปี ได้เสียชีวิตลงจากความเจ็บป่วยตามอายุของมันเมื่อเดือนที่ผ่านมา นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ใน Ol Pejeta Conservancy ที่คอยดูแลมันตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ เศร้าใจอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่จึงรวมตัวกันทำอนุสรณ์สถานหินสลักชื่อ Sudan แล้ววางไว้ใต้ร่มเงาของต้นไม้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงมัน เจ้าหน้าที่ Ol Pejeta Conservancy เขียนในเฟซบุ๊กว่า “เช้าวันนี้เราได้จัดพิธีอันเป็นเกียรติให้กับ Sudan แรดขาวเหนือตัวผู้ตัวสุดท้ายของโลก” ก่อนหน้านี้ หลายหน่วยงานพยายามทำการผสมพันธุ์ให้เจ้าแรดตัวนี้ เพื่ออนุรักษ์เผ่าพันธุ์ของมันต่อไป แต่ไม่สำเร็จ ดังนั้นเหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายจึงวางแผนที่จะนำอสุจิและไข่ของแรดขาวเหนือมาทำการผสมเทียม แล้วนำไปฝากไว้ในท้องของแรดขาวที่เป็นสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน ปัจจุบันอสุจิของแรดขาวเหนือถูกเก็บไว้ในห้องปฏิบัติการกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นความหวังครั้งสุดท้ายที่จะช่วยรักษาเผ่าพันธุ์ของมัน นอกจากนี้ Sudan ยังเป็นสัตว์ตัวสำคัญที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงภัยคุกคามที่แรดทุกหนทุกแห่งต้องเผชิญ เนื่องจากมีคนกลุ่มหนึ่งต้องการนอของพวกมัน เมื่อก่อนเคยมีแรดนับล้านอยู่ในแอฟริกาและเอเชีย แต่ตอนนี้นับรวมแรด 5 สายพันธุ์ เหลือเพียงแค่ 30,000 ตัวเท่านั้น แม้ Sudan…
-
7-Eleven รับสมัคร “คนกินขนมหวาน” เงินเดือน 150,000 บาท จะรอช้าอยู่ใย…
ยุคนี้เป็นยุคออนไลน์ ห้างร้านต่างๆ ก็ต้องหันมาโปรโมทผ่านทางสื่อโซเชียลกันอย่างคับคั่ง ซึ่งก็ต้องใช้ช่องทางต่างๆ นานา รวมถึงการใช้ “เน็ตไอดอล” ด้วยเช่นกัน นั่นทำให้ 7-Eleven ประเทศญี่ปุ่น เปิดรับสมัครตำแหน่ง Dream Seven Sweets Ambassador หรือตัวแทนกินขนมหวานของทางร้านโดยเฉพาะเลยล่ะ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกนั้น จะได้รับสัญญาทำงาน 1 ปี ซึ่งมีเงินเดือนให้ราวๆ เดือนละ 150,000 หรือตกรายปีก็รวมประมาณ 2 ล้านบาทกันเลยทีเดียว แต่ตำแหน่งงานที่เงินดีแบบนี้ ก็ต้องคัดเลือกกันเข้มข้นหน่อยล่ะ โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ ขั้นตอนแรก ผู้สมัครจะต้องกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ เพื่อสมัครเป็น Seven Sweets Ambassador และให้ข้อมูลโซเชียลเน็ตเวิร์กของตนเอง ขั้นตอนที่สอง ผู้สมัครต้องไปเลือกขนมหวานที่ตนเองชอบในร้าน 7-Eleven พร้อมกับนำมาถ่ายรูปอัพโหลด จะคิดมุมกล้อง ท่าทาง หรือแคปชั่นยังไงก็ได้ให้โดนใจคณะกรรมการที่สุด พร้อมติดแฮชแท็ก #ドリームセブンスイーツアンバサダー (#DreamSevenSweetsAmbassador) ขั้นตอนที่สาม ผู้สมัครสามารถส่งผลงานกี่ครั้ง กี่แบบก็ได้ แต่หลังจากวันที่ 13 พฤษภาคม…
-
ซุปก๋วยเตี๋ยวมีกลิ่นแปลกๆ เมื่อติดกล้องวงจรปิด พบว่าที่แท้ถูกร้านคู่แข่งมา ‘ฉี่’ ใส่หม้อ!!
การเป็นเจ้าของธุรกิจต่างๆ ย่อมต้องมีคู่แข่งทางการตลาดเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ควรที่จะยึดมั่นทำการค้าขายอย่างสุจริต อย่าไปคิดอิจฉาจนถึงกับต้องทำอะไรที่มันเลวร้ายเหมือนอย่างชายคนนี้ เรื่องราวสุดช็อกที่ว่ามานั้นถูกรายงานผ่านสำนักข่าว Shanghaiist เมื่อเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวท้องถิ่นของเมือง Haikou มณฑลไห่หนาน ประเทศจีน รู้สึกว่าน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวของเขานั้นมีกลิ่นที่แปลกไปจากเดิม และเริ่มคิดว่าอาจโดนใครบางคนเล่นไม่ซื่ออยู่ เจ้าของร้านจึงตัดสินใจติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ภายในร้าน แล้วสิ่งที่เขาเห็นก็ทำเอาอ้วกแทบพุ่งออกมาเลย มีชายคนหนึ่งแอบเข้ามาทำอะไรสักอย่างภายในร้าน ช่วงเช้าวันที่ 28 มีนาคม 2018 วันต่อมาหลังจากที่เขาติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ เผยให้เขาเห็นภาพของเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวอีกแห่งที่เปิดอยู่ข้างๆ กัน ย่องเข้ามาทำอะไรสักอย่างกับหม้อก๋วยเตี๋ยวของเขา ชายหนุ่มที่ถูกจับภาพไว้เอาอะไรสักอย่างใส่ลงไปในหม้อก๋วยเตี๋ยวหม้อแรก ก่อนที่จะเปิดฝาหม้อที่สองขึ้นมา จากนั้นถกกางเกงลง แล้วก็ฉี่ลงไปในน้ำซุปของหม้อนั้น น้ำปัสสาวะอุ่นๆ ไหลลงไปรวมกับน้ำซุป สุดท้ายแล้วจึงทำให้เขารู้สักทีว่าทำไมน้ำซุปถึงได้มีกลิ่นแปลกๆ พิกล เพราะสิ่งที่ถูกใส่เข้าไปในหม้อแรกคืออุจจาระ ส่วนหม้อที่สองก็คือฉี่อุ่นๆ ที่เพิ่งออกมาจากร่างกายของชายผู้ก่อเหตุ ภายหลังการเข้าจับกุมตัวของตำรวจ ชายผู้ก่อเหตุให้การว่าเขารู้สึกอิจฉาที่เห็นร้านนั้นขายดีกว่าร้านตัวเอง ก็เลยจัดการนำของเสียไปปล่อยใส่หม้อก๋วยเตี๋ยวซะเลย คลิปจากกล้องวงจรปิด หลังจากอ่านข่าวนี้อาจทำให้บางคนรู้สึกขยาดการกินก๋วยเตี๋ยวไปอีกพักใหญ่เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามไม่ว่าเราจะรู้สึกไม่ชอบอีกฝ่ายมากแค่ไหน เราก็ไม่ควรที่จะทำอะไรแบบนี้อยู่ดีนะ ที่มา: medium
-
สาวอวบโดนนินทากลัวว่าเธอจะซื้อ ‘คัพเค้ก’ ทั้งหมด เลยจัดให้แบบสาสมเหมาหมดทั้งร้าน!!
เรื่องราวของหญิงสาววัย 19 ปี ที่ถูกนินทาขณะกำลังต่อแถวซื้อคัพเค้กในร้านเบเกอรี่ เธอก็เลยเอาคืนกลุ่มคนที่นินทาเธออย่างเจ็บแสบมันช่างสาแก่ใจช้อยยิ่งนัก!! เรื่องมีอยู่ว่า Vega Blossom สาวเจ้าของเรื่องได้ทำการต่อคิวรอซื้อขนมในร้านเบเกอรี่สุดโปรดของเธอที่อยู่ในเมืองบัลปาราอีโซ รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่แล้วจู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงนินทาที่ดังมาจากแถวข้างหลังเธอว่า “เรามาภาวนาไม่ให้นังอ้วนนี่ซื้อคัพเค้กจนหมดกันเถอะ” แน่นอนว่าเป็นใครได้ยินก็ต้องโกรธกันเป็นธรรมดา แต่ด้วยความมีสติของ Vega เธอได้ตัดสินใจที่จะแก้แค้นกลุ่มคนนิสัยไม่ดีเหล่านั้น เธอได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Daily Mail ถึงความรู้สึกในวันนั้นว่า “เมื่อฉันได้ยินสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูด มันทำให้ฉันรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาตอนนั้นเลย มันทำร้ายความรู้สึกของฉันมากๆ” “คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ทำไมคำพูดของพวกเขาถึงสร้างความเจ็บปวดใจให้กับเราได้ถึงเพียงนี้ ฉันคิดกับตัวเองแต่ก็เก็บมันเอาไว้ข้างใน พร้อมทั้งคิดหาวิธีที่จะเอาคืนคนพวกนี้บ้าง ไม่ใช่ในทางที่ทำให้พวกเขารู้สึกแย่ แต่ฉันแค่อยากจะสอนบทเรียนให้กับพวกเขา” พอถึงคิวของ Vega เธอก็เลยบอกกับพนักงานว่าขอเหมาคัพเค้กทั้งหมดที่มีในร้าน 20 ชิ้น เป็นมูลค่ากว่า 1,700 บาท ขณะกำลังจะเดินออกจากร้านพร้อมกับคัพเค้กที่ถืออยู่เต็มมือ เธอก็จ้องไปที่บุคคลที่กล่าวคำนินทาต่อเธอพร้อมกับบอกว่า “ช่วยเปิดประตูให้ฉันหน่อยได้มั้ยคะ? พอดีว่าฉันถือของเต็มมือเลยไม่มีมือว่างไปเปิดประตูน่ะ” และหนึ่งในนั้นก็เปิดประตูให้ก่อนที่จะเดินตาม Vega ออกมานอกร้าน ซึ่งแฟนของเธอก็ยืนรออยู่ข้างนอกนั่นเอง เธอก็เลยพูดกับผู้หญิงที่นินทาเธอไปก่อนหน้านี้ว่า “ฉันคิดว่าถ้าหากคุณคิดจะพูดอะไรที่มันไม่ดีออกมาก็อย่าพูดดีกว่านะ และฉันจะไม่ขอโทษที่ซื้อคัพเค้กทั้งหมดมา”…
-
พิธีศักดิ์สิทธิ์…กับปลัดขิกอันเขื่อง~ มารู้จักกับพิธีแห่ “องคชาต” ของญี่ปุ่นกันเถอะ!!
ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นนอกจากจะโดดเด่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว วัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นเองยังมีเอกลักษณ์และน่าสนใจอย่างยิ่ง อย่างเช่นในวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2018 ที่ผ่านที่ ที่เมืองคะวะซะกิ ในจังหวัดคะนะกะวะ ได้มีพิธีเฉลิมฉลองสุดแปลก แถมเป็นพิธีอันยิ่งใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมงานนับหมื่นคนทีเดียว การเฉลิมฉลองดังกล่าวก็คือสิ่งที่เรียกว่า คะนะมะระ มัทสึริ (Kanamara Matsuri) เป็นงานฉลอง “องคชาต” ที่จัดขึ้นทุกปีในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน ณ บริเวณศาลเจ้าคะนะยะมะ มีการเดินขบวนพาเรดแห่งองคชาตสีชมพูที่เรียกว่า มิโคะชิ ไปตามท้องถนน มีการทานอมยิ้มและขนมหวานรูปทรงองคชาต พร้อมทั้งประติมากรรมรูปทรงองชาตอื่นๆ อีกมากมาย นักท่องเที่ยวหรือใครก็ตามที่เข้ามาร่วมขบวนพิธีก็จะมีส่วนร่วม โดยการสวมใส่ “องคชาต” มีทั้งเป็นแบบหมวก หน้ากาก แว่น และจมูก บางคนก็ถือกระเป๋ารูปปลัดขิก หรือขึ้นขึ่ปลัดขิกไม้อันเขื่อง จุดประสงค์ของการเฉลิมฉลององคชาตในครั้งนี้ก็คือเพื่อรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงการเพิ่มจำนวนประชากร และการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องและปลอดภัย พร้อมทั้งยังระดมเงินบริจาคให้กับผู้ป่วย HIV อีกด้วย จุดเด่นของงานคือ องคชาตเหล็ก ที่ตั้งอยู่ในศาลเจ้าคะนะยะมะ อันเป็นที่เคารพบูชาของเหล่าสาวขายบริการ ที่มักจะเข้ามาขอพรให้ตนนั้นรอดจากการติดโรค สาวๆ ในงานก็พากันอม…อมยิ้ม ที่จริงพิธีเฉลิมฉลองนี้มีตำนานมากตั้งแต่…
-
ซูเปอร์สตาร์แห่ง Bollywood ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี หลังคร่าชีวิตสัตว์ป่าสงวนในประเทศอินเดีย
บนโลกของเรามีสัตว์สงวนอยู่หลากหลายชนิด ซึ่งเหตุผลที่ต้องมีการขึ้นทะเบียนสัตว์สงวน ก็เพื่อจะอนุรักษ์เผ่าพันธุ์ของสัตว์เหล่านั้นเอาไว้ เพราะฉะนั้นหากใครที่ทำผิดกฎหมายดังกล่าว เข่นฆ่าสัตว์เหล่านั้นไปโดยไร้เหตุผล คนคนนั้นก็สมควรที่จะได้รับโทษเฉกเช่นเดียวกับนักแสดงหนุ่มคนนี้ Salman Khan วัย 52 ปีดาราบอลลีวูดชื่อดังจากประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2018 เขาถูกตัดสินให้จำคุกนาน 5 ปี หลังจากที่เขานั้นเคยพรากชีวิตของ Blackbuck หนึ่งในสัตว์ป่าสงวนของประเทศอินเดียในปี 1998 Salman นักแสดงที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในอินเดีย ชายคนนี้คือนักแสดง นักร้อง และพิธีกรรายการทีวีซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในประเทศอินเดีย หนังที่เขาเคยเล่นนั้นทำเงินได้เป็นหลายพันล้านบาท แต่ในปี 1998 เขาได้กระทำความผิดเอาไว้ในตอนที่เดินทางไปถ่ายหนังเรื่อง Hum Saath-Saath Hain บริเวณรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ใกล้กับพื้นที่คุ้มครองสัตว์ป่า จากการรายงานในชั้นศาลบอกว่า ตอนนั้นเขาพักอยู่ใกล้กับหมู่บ้าน Bishnois พื้นที่ที่ชาวบ้านนับถือสิ่งมีชีวิตทุกชนิด และสัตว์ในบริเวณนั้นเป็นสัตว์สงวนที่ได้รับการคุ้มครอง แต่เมื่อ Salman เห็นฝูง Blackbuck เขากลับคว้าปืนยิงพวกมันตายไปสองตัว ชาวบ้านที่เป็นพยานทั้ง 28 คนเล่าว่า พวกเขารีบวิ่งออกไปจากกระท่อมทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงปืน…
-
พี่ไปคึกอะไรมา!? Conor McGregor โดนตำรวจหมายหัว หลังยกพวกไล่ตีนักชก UFC
Conor McGregor นักชก MMA ชื่อเสียงก้องโลก ตกเป็นข่าวดังอีกครั้ง หลังจากมีคนเผยแพร่คลิปที่เขานำพรรคพวกไปล้อมและทำลายรถของนักชกอีกคนหนึ่ง เหตุการณ์รุนแรงนี้ เกิดในระหว่างการแถลงข่าวก่อนการชก UFC 223 ที่กำลังจะจัดขึ้น โดยเป็นศึกของสองนักชก Max Holloway และ Khabib Nurmagomedov คลิป McGregor นำทัพยกพวกไล่ตี Nurmagomedov อีกคลิปหนึ่ง จากภายในรถคันดังกล่าว ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ในวันอังคาร มีการเปิดเผยภาพหลุดของการปะทะฝีปากกันของ Nurmagomedov มีปัญหาถกเถียงกันอย่างรุนแรงในล็อบบี้โรงแรม กับทาง Artem Lobov ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ของ McGregor สาเหตุนั้นคาดเพราะในการชกไฟท์หน้า ผู้ชนะระหว่าง Holloway และ Nurmagomedov จะเป็นผู้ครอบครองเข็มขัดแชมป์ในรุ่นไลท์เวท ซึ่งตอนนี้ McGregor ครอบครองอยู่นั่นเอง คลิปปะทะในโรงแรมก่อนหน้านี้… งานนี้ McGregor เลยอาจจะถือโอกาสมาเอาคืน และเป็นคนโยนของเข้าใส่รถบัส จนทำให้กระจกหน้าต่างแตก และมีผู้ที่อยู่ภายในซึ่งเป็นทีมงานได้รับบาดเจ็บ ตำรวจที่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีกลุ่มคนราวๆ 25 คนกำลังมีเรื่องกัน ได้รีบมายังที่เกิดเหตุในทันที รวมถึงรถฉุกเฉินเพื่อมารักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย รายงานข่าวระบุว่าทางตำรวจมาไม่ทันกับที่ McGregor จากไปซะก่อน…
-
สาวแฉห้างดัง เบื้องหน้าสุดหรู แต่คุณภาพชีวิตพนักงาน “ห่วย” ยิ่งกว่าหนังสยองขวัญ!!
เรื่องราวที่เป็นดราม่าบนโลกออนไลน์ประเทศฟิลิปปินส์ หลังที่หญิงสาวนามว่าคุณ Jennifer Maranon ออกมาโพสต์ถึงคุณภาพชีวิตและสุขอนามัยของพนักงานห้างสรรพสินค้าชื่อดังของประเทศ เธอบอกว่าเธอกำลังจะผ่านเข้าทำงานกับห้าง Landmark แห่งนี้ แต่เมื่อเธอได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของพนักงานที่เธอรู้สึกว่ามันแย่ เธอจึงยอมปฏิเสธงานทันที โพสต์ของเธอ… ในโพสต์ของเธอบรรยายว่าฉากหลังนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นที่เลี่ยงไม่ได้ พื้นเปียกโชก ฝ้าเพดานที่พร้อมจะพังตลอดเวลา ห้องน้ำไม่ได้สุขอนามัย และอื่นๆ อีกมากมาย เธอยังบอกว่าส่วนห้องน้ำกับล็อกเกอร์ของพนักงานหญิงก็ไม่มีอะไรกั้น เพราะฉะนั้นย่อมส่งกลิ่นมายังห้องล็อกเกอร์ ที่ทุกคนจะต้องใช้เปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าแต่งตัว . . นอกจากนี้ เธอยังบอกอีกว่าเธอจำเป็นต้องออกมาโพสต์เรื่องดังกล่าว เพราะเชื่อว่าพนักงานที่ทำงานอยู่คงไม่มีใครกล้ามาพูดถึงประเด็นนี้ เนื่องจากจะทำให้กระเด็นจากงานนี้ได้… . . . . . . . เธอไม่ได้เพียงแต่แฉบนโลกออนไลน์ เพราะก่อนหน้านี้เธอก็แจ้งไปยังฝ่ายบุคคลของบริษัทแล้ว แต่ฝ่ายบุคคลแจ้งกลับมาว่า สภาพดังกล่าวผ่านการตรวจสอบมาตรฐานของหน่วยงานด้านแรงงานของประเทศ (DOLE) แต่เมื่อเธอติดต่อไปยังหน่วยงานดังกล่าว กลับไม่พบว่ามีการตรวจสอบสถานที่ทำงานนี้แต่อย่างใด (อ่าว!?) ห้างที่ตกเป็นข่าว “ฉันเป็นกังวลเรื่องพนักงานที่ทำงานห้าง Landmark เพราะสถานการณ์แบบนี้มันรับไม่ได้จริงๆ” Marañon กล่าวผ่านสื่อต่างชาติ “พวกเขามีกฎเข้มงวดกับพนักงานมาก แต่สิ่งอำนวยความสะดวกนั้นกลับไม่มีมาตรฐานสูงตามกฎเลย…
-
ซื้อรถไม่ยากอีกต่อไป แค่มี “เงิน+มือถือ” แล้วเดินไปที่ตู้ขาย แค่นี้ก็เรียบร้อย!!
ไม่ว่าจะชาติไหนๆ การจะไปออกรถสักคันหนึ่งนั้น นอกจากเรื่องเงินแล้วเรื่องเอกสารต่างๆ ก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องแม่นยำและเตรียมให้พร้อม ซึ่งหลายคนก็คงอาจจะรู้สึกว่ามันยุ่งยากซะเหลือเกิน แต่ปัญหาดังกล่าวกำลังจะหมดไปกับเทคโนโลยีใหม่ Alibaba Group Holding Ltd จับมือกับบริษัทรถชั้นนำอย่าง Ford เปิดตัวระบบซื้อรถแบบใหม่ที่ทำให้คุณสามารถซื้อพาหนะคู่ใจได้ด้วยแค่ปลายนิ้วเท่านั้น!! โดยสองยักษ์ใหญ่ได้ทำการสร้างตู้ขายรถอัตโนมัติขึ้นมาใจกลางเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ซึ่งตัวตู้ขายรถนั้นจะมีโมเดลรถจาก Ford ให้เลือกซื้อถึง 42 แบบ และนั่นยังรวมถึงรถสไตล์ SUV และ Mustang ด้วย สุดยอดไปเลยใช่ไหม ยัง ยังไม่หมดเท่านั้น นอกจากการซื้อผ่านตู้ได้แล้วคนที่สนใจยังสามารถทดลองขับรถจากตู้โชว์ได้ด้วย แต่แน่นอนว่าใช่ว่าทุกคนจะลองได้ เพราะคุณจะต้องเป็นลูกค้าประจำที่มีคะแนนในการใช้จ่ายอยู่ในเกณฑ์ดีจึงจะสามารถลองได้นั่นเอง กลับมาที่ส่วนของขั้นตอนการซื้อรถกันบ้าง ผู้ที่ต้องการซื้อรถจากตู้ขายรถสามารถทำได้ด้วยการโหลดแอป Tmall หรือ Taobao มา จากนั้นก็ทำการเชื่อมบัญชีของเราเข้ากับแอปดังกล่าว เมื่อคุณต้องการซื้อรถคุณก็แค่สแกนหน้าของคุณลงไปบนแอป จากนั้นเดินทางไปยังตู้ขายรถและสแกนใบหน้าอีกครั้งหนึ่งหลังจากแน่ใจว่าจะซื้อรถคันนั้นจริงๆ ระบบจะใช้เวลาราว 10 นาที จากนั้นทุกอย่างก็เรียบร้อย ง่ายสุดๆ ไม่ต้องมีคนมาคอยสั่งคุณให้ทำนั้นทำนี้แม้แต่คนเดียว . ระบบตู้ขายรถ…
-
สาวโพสต์ ‘แฟนหนุ่มแซะว่าอ้วน’ ชาวเน็ตแนะทิ้งเขาซะ แล้วเปลี่ยนตัวเองให้มันเสียดาย!!
เรื่องของลักษณะภายนอกทางร่างกาย คือความพึงพอใจของแต่ละคน ต่อให้คนอื่นจะมองว่าดีหรือไม่ดี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับใจของตัวเองล้วนๆ… แต่กลับกันแล้ว หากคนที่คุณรักควรจะเป็นฝ่ายที่ช่วยสนับสนุนไม่ว่าจะให้มั่นใจตัวเองหรือสนับสนุนให้ออกกำลังหายเพื่อหุ่นและสุขภาพที่ดี กลายมาเป็นคนที่ถากถางเราเอง มันก็เปรียบได้เหมือนดั่งการถูกมีดกรีดแทงลึกลงไปที่กลางใจกันเลยทีเดียว Shelby Johnson เรื่องราวของ Shelby Johnson หญิงสาวผู้เคยมีน้ำหนักที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาก่อน จนกระทั่งเพิ่มน้ำหนักตัวให้กลับมาในระดับสุขภาพดี คงไว้ที่ 54 กิโลกรัมโดยประมาณ แต่หลังจากนั้นแล้วแฟนหนุ่มเริ่มไม่อยู่เคียงข้างเธอเหมือนเดิมอีกต่อไป ภาพของ Shelby กับน้ำหนัก 54 กิโลกรัม Shelby ได้นำเรื่องราวของตัวเองเผยแพร่ในทวิตเตอร์ หลังจากที่ได้รับคำวิจารณ์จากคนที่ตัวเองไว้ใจ ได้ชื่อว่าเป็นคนรัก โดยมองและตำหนิจากรูปภาพที่เธอโพสต์รูปถ่ายตัวเอง เปรียบเทียบน้ำหนักส่วนเกิน กับหน้าท้องที่เริ่มยื่นออกมามากกว่าของเขา โดยใช้คำว่า ‘บวมเบียร์’ บางส่วนของข้อความที่ทำร้ายจิตใจว่า เขาเคยบอกเธอแล้วว่าน้ำหนักที่มันเพิ่มมาน่ะเธอต้องลดได้แล้ว จนทำให้เธอเริ่มน้อยใจ คิดว่าอีกฝ่ายจะหมดรักเพราะแค่เรื่องน้ำหนัก แฟนหนุ่มตอบว่าไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่แน่ แต่ย้ำว่าหน้าท้องของเธอ “บวมเบียร์” คำว่าบวมเบียร์ ฟังผิวเผินอาจจะเป็นคำเปรียบเทียบขนาดพุงของผู้ชาย แต่สำหรับผู้หญิงแล้วจะรู้สึกอย่างไร เธอจึงทวีตออกไปว่า “ฉันเว่อร์ไปรึเปล่าที่รู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดแบบนี้ ฉันรู้สึกท้อแท้และไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่บอกว่ารักฉัน…
-
มุมลับน่ารักของคุณแม่ แอบถ่ายภาพ ‘คุณพ่อกุมมือลูกสาว’ โดยที่ทั้งสองไม่เคยรู้เลย…
ความรักสามารถถ่ายทอดและแสดงออกมาได้หลากหลายรูปแบบ แม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักในครอบครัว ที่ถึงแม้ว่าในช่วงเวลาหนึ่งที่เราอาจจะยังไม่รู้สึก แต่บางคนอาจจะสัมผัสได้อยู่ตลอดเวลา… ชุดภาพสุดน่ารักน่าเอ็นดูนี้ถูกเผยแพร่โดย MrsIronbad สมาชิกเว็บไซต์ Reddit อันเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ลับเล็กๆ ของเธอ ด้วยการแอบถ่ายภาพลูกสาวตัวน้อย ในช่วงที่อยู่กับคุณพ่อมาตั้งแต่วัยเด็กในปี 2014 ภาพแห่งความประทับใจใบแรก คุณแม่จะเก็บภาพช่วงเวลาที่คุณพ่อกุมมือลูกสาว และเวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ความลับสุดน่ารักนี้ เริ่มขึ้นในปี 2014 . เผยให้เห็นว่าลูกสาวค่อยๆ เติบโต โดยที่ความรักของพ่อไม่เคยลดลง และฝ่ายสามีเองก็เลิกเล่นโซเชียลมีเดียทั้งหมด . และความลับนี้จะยังคงอยู่รอดปลอดภัย… จากคุณสามี . คุณแม่ชาวฟิลิปปินส์ได้สร้างคอลเลคชั่นภาพสุดน่ารักนี้ โดยที่ฝ่ายสามีไม่เคยรับรู้และไม่เคยจับได้ เพราะคุณสามีเลิกเล่นโซเชียลมีเดียแล้ว และความลับของคุณแม่ก็จะถูกเก็บรักษาเอาไว้ จนกว่าจะถึงวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกสาว เพราะคุณแม่มีแผนจะเซอร์ไพรส์ให้กับทั้งสองอยู่… . เธอกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ฉันวางแผนทำวิดีโอคลิปเกี่ยวกับรูปภาพพวกนี้ เพื่อไว้ใช้เปิดในวันเกิดอายุครบ 18 ปีของเธอ หรือไม่ก็เก็บเอาไว้เซอร์ไพรส์ในงานแต่ง” .…
-
คู่รักตื่นมาหาไข่ในวันอีสเตอร์ ถูกเซอร์ไพรส์ด้วย ‘แมวน้อย’ ที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้
เมื่อไม่กี่วันก่อน เพื่อนๆ ชาวคริสต์คงได้ฉลองวันอีสเตอร์กันไปแล้ว ซึ่งกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยในวันนี้คือการหาไข่อีสเตอร์ เช่นเดียวกับ Mike Shirley-Donnelly และภรรยา Delicaye ที่เริ่มต้นวันอีสเตอร์เมื่อปี 2016 ด้วยการเก็บกวาดสนามหลังบ้านที่เต็มไปด้วยใบไม้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ทำการซ่อนไข่ไว้ตามจุดตางๆ ก่อนจะตื่นมาหาในเช้าวันอาทิตย์ แต่แล้ว ระหว่างหานั้น พวกเขาก็เจอกับบางสิ่งที่ทำเอาเซอร์ไพรส์กว่าไข่ที่ถูกซ่อนซะอีก สิ่งเซอร์ไพรส์ที่ว่านั้นคือ ลูกแมวที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ และพวกเขารู้ว่าหากปล่อยเอาไว้แบบนี้พวกมันอาจจะไม่รอด หรือไม่ก็ถูกสัตว์จากที่อื่นทำร้ายแน่ๆ คู่รักไม่รู้ว่าลูกแมวเหล่านี้มาจากไหน และไม่แน่ใจว่าแม่ของพวกมันจะกลับมาหาหรือเปล่า พวกเขาเลยจับมิ้วน้อยทั้ง 5 วางไว้ในกล่องกระดาษ พร้อมกับปูผ้านุ่มๆ ไว้ให้ คู่รักไม่สามารถรับเลี้ยงแมวน้อยได้ เพราะ Delicaye เป็นภูมิแพ้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็พยายามทำในสิ่งที่ทำได้ ก่อนจะโทรปรึกษาเพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์ว่าจะทำยังไงกับพวกมันต่อไป เพื่อนคนนั้นบอกว่าแมวที่เพิ่งเกิดใหม่จะไม่เป็นอันตรายกับคนเป็นโรคภูมิแพ้ จนกว่าพวกมันจะหย่านมและเริ่มเลียทำความสะอาดตัวเองได้ เมื่อได้ฟังดังนั้น Shirley-Donnelly กับภรรยาจึงตัดสินใจรับพี่น้องแมวทั้ง 5 ตัว มาเลี้ยงในบ้านทันที เนื่องจากทั้งคู่ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน พวกเขาเลยโทรไปหา Town Cats องค์กรช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่น เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลลูกแมวที่ถูกต้อง นับตั้งแต่นั้นมา วันอีสเตอร์ของครอบครัว Shirley-Donnelly ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล… …
-
พี่มาร์ก!! ไหนบอกข้อมูลเฟซบุ๊ก 50 ล้านที่หลุดไป ไหงวันนี้หนักขึ้น คาดสูงถึง 87 ล้าน
จะเรียกว่าเป็นวิกฤตใหญ่ของทาง ‘เฟซบุ๊ก‘ และ ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก‘ เลยก็ได้ เพราะถ้าใครได้ตามข่าวคงจะจำกันได้ว่าเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้มีข่าวเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 50 ล้านคน แต่นั่นมันคืออดีต… เพราะว่าตอนนี้ทางเฟซบุ๊กได้ออกมารายงานแล้วว่ามีข้อมูลรั่วไหลจากแคมเปญต้นเหตุเป็น 87 ล้านคนแล้ว ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่หนักหนามากๆ ทางเฟซบุ๊กได้ยืนยันว่าข้อมูลกว่า 97% ที่ถูกนำไปใช้นั้นคือผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา แต่ทาง BBC ได้คาดการณ์ว่าในรายชื่อที่หลุดไปนั้น มีประมาณ 1.1 ล้านคนมาจากสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ทางเฟซบุ๊กยังบอกอีกว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ถูกดึงข้อมูลไปใช้นั้นล้วนเปิดข้อมูลเป็นแบบสาธารณะ ผลคือทำให้ข้อมูลเหล่านั้นถูกดึงออกไปใช้เป็นแบบสำรวจและเปรียบเทียบกับข้อมูลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทางเฟซบุ๊กนั้นได้ปิดใช้งานและจัดการในส่วนนี้เรียบร้อยแล้ว ตัวมาร์กเองก็ยอมรับว่าเขานั้นเคยมีมุมมองที่แคบเกินไป อย่างการที่เขาคิดว่าเขาได้คิดค้นเครื่องมือมาให้คนใช้แล้ว ฉะนั้นผู้ใช้จะต้องรับผิดชอบในการใช้เครื่องมือด้วยตัวเอง ซึ่งเขาบอกว่าเขาจะเปลี่ยนแนวคิดซะใหม่และหันมาเอาใจใส่ผู้ใช้ของเขาให้มากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 87 ล้านคนที่กล่าวมานั้น เป็นตัวเลขที่มาร์กได้คาดว่าจะเป็นจำนวนที่สูงที่สุดและไม่มีมากไปกว่านี้แล้ว แถมเขายังบอกว่ามันอาจจะมีจำนวนไม่ถึงด้วยซ้ำ สุดท้ายแล้ว แม้ว่ามาร์กจะออกมายอมรับตรงๆ แต่ว่าการที่ตัวเลขนั้นมันมีมากกว่าเดิม ก็ถือเป็นการสร้างความไม่มั่นใจให้แก่ผู้ใช้งาน แต่ไม่ว่ายังไง มาร์กก็ยืนยันว่าเขาจะอยู่ตรงนี้และจะเป็นคนจัดการปัญหาทั้งหมดด้วยตัวเขาเอง… ที่มา cnn, bbc,…
-
ลูกชายรู้ตัวว่าเป็นผู้หญิง จึงเปลี่ยนตัวตนตามใจหวัง และคุณแม่ก็เพิ่งรู้ใจตัวเองเช่นกัน…
เรื่องเพศในปัจจุบันนั้นเริ่มเปิดกว้างมากขึ้นจากแต่ก่อน ในเมื่อเพศสภาพที่เกิดมาไม่ตรงกับในสิ่งที่ใจต้องการ ลักษณะทางกายภาพก็สามารถเปลี่ยนแปลงตามมาได้ในภายหลัง… อย่างเช่นเรื่องของ Corey และ Eric Maison อดีตลูกชายและคุณแม่ ที่เพิ่งจะรู้ตัวตนที่หัวใจเรียกร้อง และกลายมาเป็นคุณพ่อกับลูกสาวข้ามเพศคู่แรกของโลก Corey และ Eric Maison ทั้งสองต่างรู้สึกไม่สบายใจกับสภาพร่างกายของตนหลังจากที่ Corey ได้ลืมตาดูโลกมานานหลายปี ซึ่งในช่วงอายุ 11 ปี ก็เริ่มรู้ว่าหัวใจอยากจะเป็นหญิง แต่รู้สึกกลัวที่จะต้องบอกความจริงกับผู้เป็นพ่อและแม่ ทว่าอีกด้านหนึ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน Erica ผู้เป็นแม่ในขณะนั้น ก็รู้สึกว่าใจของเธอต้องการที่จะเป็นผู้ชายมาโดยตลอด จนกระทั่ง 4 ปีให้หลัง ทั้งสองก็กลายมาเป็นคู่หูพ่อลูกสาว ที่พากันเผชิญหน้าและก้าวข้ามอุปสรรคด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งอย่างภาคภูมิ Corey ในขณะที่ยังเป็นลูกชาย Erica (ปัจจุบันคือ Eric) ได้รับความมั่นใจมากขึ้นกับการเปลี่ยนผ่านตัวตน จากผู้หญิงมาเป็นผู้ชายอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้เห็น Corey เจริญเติบโตในฐานะลูกสาวอย่างที่เธอรู้สึกมาโดยตลอด ซึ่งในตอนแรก Eric ก็กลัวว่าสามีและลูกๆ จะรู้สึกอย่างไรกับการตัดสินใจแบบนี้ เมื่อ…
-
นักเรียนในสหรัฐฯ ใส่ของแปลกๆ มาในกระเป๋าเพียบ หลังมีกฎใช้กระเป๋าใสเฝ้าระวังอาวุธ
นับจากเหตุกราดยิงในรัฐฟลอริด้าก็ผ่านมาพักใหญ่ๆ แล้ว นักเรียนก็เริ่มที่จะกลับมาเรียนกันอีกครั้ง แต่ความหวาดกลัวนั้นก็ยังคงอยู่กับผู้ปกครองและอาจารย์ ด้วยเหตุนี้โรงเรียนจึงออกกฎใหม่ออกมาให้นักเรียนสวมใส่กระเป๋าสีใสมาเรียน แน่นอนว่ามันดูเหมือนจะเป็นวิธีการป้องกันนักเรียนพกอาวุธมาที่ดูเข้าท่าอย่างหนึ่ง แต่กลับกันแล้วนักเรียนในโรงเรียน Stoneman Douglas รัฐฟลอริด้ากลับไม่ปลื้มอย่างที่คิด เพราะนักเรียนนั้นต่างให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า แทนที่รัฐหรือโรงเรียนจะไปช่วยกันคิดและจัดการปัญหาการซื้อขายอาวุธ แต่กลับมาจัดการที่ปลายเหตุด้วยการให้นักเรียนพกกระเป๋าสีใส่มาแทน กลายเป็นว่านักเรียนจะพาอะไรมาก็ถูกคนอื่นเห็นกันหมด ด้วยเหตุนี้ เหล่านักเรียนจากโรงเรียนดังกล่าว จึงคิดวิธีการแก้เผ็ดและเล่นสนุกกับกระเป๋าใสขึ้นมาให้เราได้ดูกัน เธอคนนี้บอกว่าไอ้เจ้ากระเป๋าใสเนี่ย มันมีค่ายิ่งกว่าชีวิตของเธอเสียอีก เพราะแทนที่จะจัดการปัญหาที่ต้นเหตุ ดันมาแก้ปัญหาตรงนี้ซะได้ หนุ่มคนนี้เอากระเป๋าปกติใส่ไว้ในกระเป๋าใสอีกทีหนึ่ง ซึ่งเขาบอกว่ามันน่าขำสิ้นดี เป็นการเล่นคำระหว่าง Fucking Stupid กับ Ducking เพื่อทำให้มันดูไม่หยาบคายเกินไป ฮร่าๆ ใครก็ตามที่ผุดไอเดียไอ้เจ้ากระเป๋าบ้านี่ขึ้นมา รู้ไว้ซะแม่นายเป็นโสเภณี ในกระเป๋านี้มีทุกอย่างที่นักการเมืองเป็นห่วง จะยกเว้นก็แค่เงินเท่านั้นที่ไม่มี ในที่สุด ฉันก็จะทำทีว่ามีการบ้านมาส่งทั้งๆ ที่ไม่มีไม่ได้แล้วสินะ บางคนก็สื่อว่าการต้องมาทำอะไรแบบนี้เหมือนอยู่ในคุกเลย นอกจากการที่นักเรียนต้องใช้กระเป๋าสีใสแล้ว พวกเขายังต้องถูกตรวจกระเป๋าด้วยนะ…ตรวจกระเป๋าใส อะไรคือจุดประสงค์ของการค้นกระเป๋าทั้งๆ ที่ใช้กระเป๋าใส? สุดท้ายแล้ว…
-
คุณแม่ใจแกร่งสู้เพื่อลูกสาววัย 9 ขวบ ถูกแอบนำภาพไปสนับสนุนทำแท้ง ต้องแก้แค้นให้สาสม…
เชื่อว่าผู้เป็นแม่ย่อมรักลูกของตัวเองอย่างสุดหัวใจ ไม่ว่าลูกของตนเองจะเป็นแบบไหน มีสภาพเป็นอย่างไร เพราะนั่นคือดวงใจของแม่อีกหนึ่งดวงที่ไม่อาจทำร้ายได้เลย… แต่ว่าในโลกยุคปัจจุบันที่มีอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึงแล้ว การวิจารณ์คนอื่นจากหลังคีย์บอร์ดจึงเกิดขึ้นทั่วทุกสังคม มีการนำรูปภาพของบุคคลอื่นหยิบยกขึ้นมาพูดถึงและไม่ให้เกียรติอย่างสนุกมือ และน้อง Sophia วัย 9 ขวบก็คือหนึ่งในเหยื่อของกลุ่มคนเหล่านี้ Sophia เกิดมาพร้อมกับการพัฒนาใบหน้าที่ผิดปกติ รวมไปถึงทั้งมือและเท้า เมื่อเธอมีอายุครบได้ 1 ขวบ เธอก็ถูกวินิจฉัยว่าเป็นกลุ่มอาการเรตต์ ความผิดปกติทางสมองที่ส่งผลต่อด้านพัฒนาการภาษาและการเคลื่อนไหวของเด็ก นั่นจึงทำให้น้องต้องได้รับการดูแลจากครอบครัวตลอด 24 ชั่วโมง “เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 22 ครั้ง ให้อาหารผ่านทางสาย ถ่ายผ่านถุงอุจจาระ เธอมีอาการช็อกบ่อยครั้งเนื่องจากพัฒนาการที่ผิดปกติ และโรคเรตต์” Natalie Weaver ผู้เป็นแม่ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว CNN ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เรื่องราวของ Sophia ถูกเปิดเผยไปในวงที่กว้างมากขึ้น คุณแม่พยายามอธิบายให้ผู้คนเข้าใจถึงอาการของลูกสาวของเธอ แต่ไม่นานนักเหล่านักเลงคีย์บอร์ดก็เริ่มพุ่งเป้ามาที่ลูกสาวของเธอ “ผู้คนมักจะตามหาคุณและทำร้ายคุณ พวกเขาจะหาหนทางแสดงความโหดเหี้ยมอยู่เสมอ และฉันมักจะเจอคนที่แนะนำว่าให้ฆ่าลูกของฉันซะ ทำให้เธอไปสบายเสียที” หนึ่งในผู้ไม่หวังดีที่อยากจะสร้างกระแสร้าย ไม่เพียงแค่แชร์รูปภาพของน้อง Sophia…
-
แม่สาวนักประดิษฐ์ ผลิตนาฬิกาข้อมือ LED แห่งความจ๊าบ เพื่อนไม่มีให้ยืม ต้องสร้างเองนะคะ!!
สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวันสำหรับผู้คนทั่วไป ถ้าคุณพอใจกับงานออกแบบที่ผู้ผลิตจัดมาให้ เพียงแค่คุณมีเงินก็สามารถซื้อมาได้แล้ว ในส่วนของการใช้งานจริงก็ต้องนำไปลองใช้กันอีกที แต่หากคุณต้องการความแตกต่างแบบสุดโต่ง ที่มาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์และฝีมืออยู่ในตัว อย่างนั้นคุณอาจต้องสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาด้วยตนเอง เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ . นักออกแบบสาวชาวญี่ปุ่น FRISK_P มีความคิดที่อยากจะได้นาฬิกาที่มีความจ๊าบและแตกต่างจากเรือนอื่นๆ จะไปยืมเพื่อนมาใส่มันก็รู้สึกยังไงๆ อยู่ เอาเป็นว่าสร้างเองเลยก็แล้วกัน นาฬิกาข้อมือหน้าปัดแบบเขียน . จุดเริ่มต้นไอเดียก็คือ ‘สร้างนาฬิกาข้อมือที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน’ บวกกับความชื่นชอบในสไตล์งานออกแบบสตีมพังก์ แนวย่อยของนิยายวิทยาศาสตร์ ที่ผสมกลิ่นอายเครื่องจักรในยุควิคตอเรียศตวรรษที่ 19 กับเทคโนโลยีปัจจุบัน หน้าปัดแบบอนาล็อกแต่รันด้วยระบบดิจิทัล . และงานนาฬิกาเรือนนี้ของเธอ ก็ดูแปลกตาและมีขนาดที่ใหญ่โตกว่านาฬิกาข้อมือทั่วไป แต่ต้องยอมรับเลยว่าดูเฉี่ยวและเจ๋งมากๆ ทั้งรูปแบบการแสดงผลเวลาผ่านไฟ LED ใช้ความเป็นอนาล็อกผสมดิจิทัล หรือจะเป็นแบบอนาล็อกเพียวๆ ก็มีเช่นกัน นอกเหนือจากนาฬิกาข้อมือแล้ว เธอยังสร้างอุปกรณ์อื่นๆ ในแนวสตีมพังก์อีกเพียบ ให้อารมณ์ย้อนยุคทางด้านเวลาแต่ผสานเทคโนโลยีความก้าวหน้าเอาไว้ได้อย่างลงตัว แม้แต่แมวของเธอก็ยังไม่รอดเลย ฮร่าาาา… ที่มา : @FRISK_P,…
-
ภาพมันฟ้อง เมื่อหนุ่มแกล้งล้มทำทีเหมือนโดนชน หวังจะฮุบเงิน ดีนะมีกล้องหน้า
ตามปกติแล้ว ถ้าเราพูดถึงเหตุการณ์แกล้งล้ม หรือแกล้งถูกชนเพื่อหวังเรียกร้องเงินนั้น เรามักจะคิดถึงชาวจีนที่เคยฮิตทำอะไรทำนองนี้มาเมื่อหลายปีก่อน แน่นอนว่ามีคนมากมายที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้และต้องเสียเงินไป ล่าสุดการหลอกหลวงในลักษณะดังกล่าวได้กลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับเกิดขึ้นที่เมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษแทน ซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกลางดึก โดยมิจฉาชีพนั้นได้ทำทีปั่นจักรยานในที่มืดๆ จากนั้นเมื่อเห็นว่ามีรถขับเข้ามาใกล้ก็จะทำทีล้มลงทันที เพียงแต่ครั้งนี้ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปตามที่หนุ่มมิจฉาชีพคิด เพราะว่านอกจากเขาจะล้มลงไม่เนียนอย่างการแกล้งล้มที่ห่างเกินไป ประจวบกับหนุ่มที่ขับผ่านมาบังเอิญติดกล้องบันทึกเหตุการณ์ไว้ งานนี้มิจฉาชีพคนนี้ถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว ชายหนุ่มที่ขับรถตามหลังมิจฉาชีพคนดังกล่าวได้ยื่นหน้าออกไปและพูดว่า “ขอโทษนะ ผมมีกล้องติดอยู่ข้างหน้า คุณอยากจะลุกแล้วปั่นต่อไปไหม?” เมื่อหนุ่มมิจฉาชีพเห็นท่าไม่ดีจึงลุกขึ้นแล้วตะโกนออกมา “ฟัค ยู” จากนั้นเขาก็หันกลับไปหยิบจักรยานและเดินหนีไปในทันที ราวกับรู้ว่าถ้ายังดึงดันจะหลอกต่อคงท่าไม่ดีแน่ๆ . สุดท้ายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวก็เล่าว่า ตอนแรกที่เขาเห็นชายคนนี้อยู่ดีๆ ก็ล้มลงเขารู็สึกเป็นห่วงนึกว่าชายคนนี้จะเป็นอะไร จนกระทั่งเห็นท่าของเขาค่อยๆ ล้มลงไปนอนอย่างไม่ค่อยเนียน วินาทีนั้นเขารู้ได้ทันทีว่าโดนแน่ๆ แต่โชคดีที่มีภาพเหตุการณ์เก็บไว้ ซึ่งเขาก็ได้เตือนทุกคนที่อ่านเรื่องของเขาว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมันมาหลากหลายวิธีมากๆ ฉะนั้นการมีกล้องหน้ารถติดตัวจึงเป็นเรื่องที่ไม่แย่ซะทีเดียว ที่สำคัญปัจจุบันมันก็ไม่แพงแล้วด้วยนั่นเอง ที่มา dailymail
-
นักวิทย์ค้นพบผีเสื้อกลางคืนพันธุ์ใหม่ ตั้งชื่อให้คล้ายทรัมป์ เพราะมีขนทองและจู๋เล็ก…
เวลาที่นักชีววิทยาค้นพบสายพันธุ์ใหม่ของสัตว์แต่ละประเภทแล้ว ก็จะต้องทำการตั้งชื่อให้สอดคล้องกับบางสิ่งบางอย่าง เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและนำไปใช้ศึกษาต่อได้ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของสัตว์แต่ละตัวนั้น ก็จะถูกหยิบยกมาเชื่อมโยงด้วยเช่นกัน อย่างสายพันธุ์ของผีเสื้อกลางคืนตัวใหม่ล่าสุดนี้ ได้ชื่อคล้ายกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันไปครองด้วยแหละ!! Neopalpa donaldtrumpi Vazrick Nazari นักชีววิทยาชาวแคนาดา ผู้ตั้งชื่อให้ผีเสื้อกลางคืนตัวนี้ว่า Neopalpa donaldtrumpi เนื่องจากลักษณะของเกล็ดเปล่งประกายออกเป็นโทนสีเหลืองอ่อน คล้ายกับโดนัลด์ ทรัมป์ มีสีบนร่างกายเป็นสีขาว และสีของปีกจะเป็นสีน้ำตาลหรือสีเทา รายละเอียดที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งก็คือ องคชาตของมันนั้นมีขนาดที่เล็กกว่า Neopalpa neonata สายพันธุ์ญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดที่สุดของมัน สำหรับผีเสื้อกลางคืน donaldtrumpi สามารถพบเจอได้ในบริเวณทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ยาวไปจนถึงรัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย ประเทศเม็กซิโกกันเลยทีเดียว จุดที่พบเจ้า donaldtrumpi คือสามเหลี่ยมสีเหลือง Nazari นั้นหวังว่าประธานาธิบดีคนปัจจุบัน จะเล็งเห็นถึงการอนุรักษ์ระบบนิเวศอันบอบบางนี้ด้วย เพราะยังคงมีอีกหลากหลายสายพันธุ์ที่ยังไม่ได้รับการค้นพบ บางส่วนก็ยังไม่สามารถหาคำอธิบายที่เหมาะสมได้ และควรค่าแก่การรักษาเอาไว้เพื่อลูกหลานในอนาคตต่อไป ที่มา : zookeys, nbcnews,…
-
หนุ่มแคนาดาลดน้ำหนัก 150 กิโลกรัม หลังต้องนั่งสองเก้าอี้บนเครื่องบิน แถมทำคนอื่นลำบาก
เชื่อว่าคนที่มีน้ำหนักเยอะๆ หลายคนคงอยากจะหันมาออกกลังกายควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักอยู่ไม่น้อย (หากใครที่พอใจอยู่แล้วก็ถือว่าโอเคนะ) แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคของการลดน้ำหนักก็คือแรงใจนี่แหละ ที่ยากจะเอาชนะ นาย Tony Bussey คุณพ่อลูกหนึ่งจากแคนาดา ก็เป็นคนที่ยังไม่สามารถเอาชนะใจเพื่อลดความอ้วนลงได้ แต่ชีวิตของเขาก็มาถึงจุดเปลี่ยน ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคมปี 2016 เกิดเหตุไฟไหม้ป่ารุนแรงในเขต Fort McMurray รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ทำให้ผู้คนกว่า 88,000 คน ต้องอพยพออกจากเมืองด้วยวิธีต่างๆ เป็นการด่วน หนึ่งในนั้นคือการนั่งเครื่องบิน แต่ด้วยความที่ Tony เป็นคนอ้วนที่มีน้ำหนักมากถึง 257 กิโลกรัม ทำให้การเข้าไปนั่งในเก้าอี้บนเครื่องบินเป็นเรื่องยากลำบากมาก จนเจ้าหน้าที่ต้องเปิดเก้าอี้อีกตัวให้เขานั่ง เท่ากับว่าเขาใช้เก้าอี้ไป 2 ตัวด้วยคนๆ เดียว นอกจากนี้ร่างกายอันใหญ่โตของเขายังทำให้ผู้โดยสารคนอื่นๆ ขยับเขยื้อนได้ลำบากด้วย เมื่อต้องเห็นคนอื่นๆ ต้องมาลำบากเพราะความอ้วนของตัวเอง Tony เลยตัดสินใจลดความอ้วนทันทีหลังจากที่การอพยพครั้งนั้นผ่านพ้นไป เขาหยุดกินพวกไก่ทอดแล้วหันมากินผักแทน เขาเริ่มเดินและเพิ่มความระยะทางและระยะเวลาไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ 5 นาที 50 นาที ไปเรื่อยๆ “น้ำหนักของผมหายไป 147 กิโลกรัม…
-
รวม 19 ภาพย้อนรอยประวัติศาสตร์สุดสลด กลุ่มนาซีสังหารโหดชาวโปแลนด์
เมื่อเรานึกถึงกลุ่ม Nazi ที่นำโดย Adolf Hitler เราก็คงนึกถึงสิ่งเลวร้ายที่พวกเขาเคยทำกับมวลมนุษยชาติเอาไว้ ซึ่งสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวจำนวนกว่า 6 ล้านชีวิตทั่วยุโรป แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เนื่องจากโดยรวมแล้วศัตรูที่กลุ่มนาซีได้สังหารลงไปในสนามรบนั้นมีจำนวนประมาณ 11 ล้านคนต่างหาก ซึ่งหนึ่งในกลุ่มผู้โชคร้ายที่ไม่ใช่ชาวยิวนั้นก็คือพลเมืองชาวประเทศโปแลนด์ ในตอนที่กลุ่มนาซีนั้นได้ทำการสังหารและยึดครองโปแลนด์ภายใต้แนวคิดแบบ Lebensraum ซึ่งเป็นนโยบายและแนวทางปฏิบัติของลัทธิล่าอาณานิคมตั้งถิ่นฐาน โดยการที่กลุ่มนาซีรุกรานประเทศโปแลนด์ในปี 1939 นั้นก็เพื่อหวังที่จะกำจัดชาวโปแลนด์และชาวสลาฟจำนวนนับสิบล้านคนที่อาศัยอยู่ในทวีปยุโรปตะวันออก เพื่อที่จะตั้งถิ่นฐานสำหรับคนสายเลือดเยอรมันบริสุทธิ์ รูปภาพอันน่าเศร้าสลดเหล่านี้ถูกถ่ายภายในสลัมของชาวยิวที่สร้างขึ้นโดยพวกนาซีในช่วงสังหารหมู่ ซึ่งเป็นภาพที่ค่อนข้างรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม พลเมืองชาวโปแลนด์ 6 คนยืนเรียงกันต่อหน้าพลปืนของนาซี ทหารนาซีกำลังจะยิงชายผู้หนึ่งในช่วงสังหารหมู่ Piaśnica Kazimiera Mika เด็กหญิงชาวโปแลนด์วัย 12 ขวบกำลังร่ำไห้กับการสูญเสียพี่สาว Andzia ที่ถูกสังหารระหว่างช่วงที่โดนบุกรุกทางอากาศ ทหารนาซีกำลังล้อเลียนผู้นับถือนิกายคาทอลิกภายในโบสถ์ของชาวโปแลนด์ มือของเหยื่อที่ยื่นออกมาจากเตาเผาในค่ายกักขังที่สร้างมาเพื่อขังและสังหารหมู่ชาวโปแลนด์ Czesława Kwoka เด็กหญิงชาวโปแลนด์ ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกวัย 14 ขวบที่ถูกส่งไปยังค่าย Auschwitz ภาพนี้ถูกถ่ายเมื่อเธอถึงที่ค่ายและกำลังจะถูกเจ้าหน้าที่ทุบตีด้วยไม้ เธอเสียชีวิตในค่ายเมื่อปี 1943 ทหารนาซีทำการประหารชาวโปแลนด์ที่เป็นสมาชิกองค์กรใต้ดินจำนวน 56…