Category: ข่าวคราวรอบโลก

The Beer Wall คือร้านเหล้าที่โด่งดังของเมืองบรูช ประเทศเบลเยี่ยม ทุกๆ วันที่นี่จะเต็มไปด้วยเหล่านักดื่มจำนวนมาก ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่แห่เข้ามาดื่มด่ำกับเบียร์ชั้นเลิศ แต่เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้ทางร้านต้องประสบกับปัญหาใหญ่มานานหลายปี ปัญหาที่ว่านั้นก็คือ “ปัญหาลูกค้าขโมยแก้วกลับบ้าน” เนื่องจากว่าทางร้านนั้นมีแก้วหลากหลายแบบไว้คอยบริการ ไม่ว่าจะเป็นแก้วทรงสูงดูย้อนยุค แก้วเหมือนที่ใช้ในโบสถ์ แก้วทรงนาฬิกาทราย หรือแม้แต่แก้วทรงกะลามะพร้าวก็ยังมี นั่นจึงทำให้บางคนฉวยโอกาสหยิบติดไม้ติดมือกลับไปซะอย่างนั้น   ด้านหน้าร้านเต็มไปด้วยเบียร์หลากหลายยี่ห้อ วางเอาไว้ตามชื่อร้าน The Beer Wall (หมายความว่า กำแพงเบียร์)   Philip Maes เจ้าของร้านเหล้าดังกล่าวบอกว่า แก้วเหล้านั้นสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายของที่ระลึกข้างๆ แท้ๆ แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กลับเลือกที่จะเอาของร้านกลับไปแบบฟรีๆ เดินออกไปอย่างหน้าตาเฉย เขายังบอกอีกว่า “โรงแรมจะมีคนขโมยผ้าขนหนู ในร้านอาหารจะมีคนขโมยกระปุกเกลือ สำหรับร้านเหล้าก็คงเป็นแก้วเนี่ยแหละ ลูกค้าบางคนคิดว่าการที่พวกเขาจ่ายเงินซื้อเครื่องดื่มจะสามารถนำเอาแก้วกลับไปเป็นที่ระลึกได้” ตอนนี้บางคนอาจคิดว่า “แก้วแค่ไม่กี่ใบถูกขโมยไปไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่นี่นา?” แต่ Philip บอกว่าในแต่ละปีร้านของเขาถูกขโมยแก้วไปอย่างต่ำ 4,000 ใบ เฉลี่ยแล้วมีคนมาขโมยทุกวัน วันประมาณ 10 ใบเป็นอย่างต่ำ     เขายังเล่าอีกว่าแก้วที่ถูกขโมยบ่อยที่สุดคือแก้วที่ไว้ใช้เสิร์ฟเบียร์ Brugse Zot เบียร์ชื่อดังที่มีเฉพาะเมืองนี้ ด้วยความที่มันมีเอกลักษณ์…

ไม่รู้ว่าช่วงนี้ในโลกอนาคตมีการอพยพหรืออย่างไร ทำไมมีข่าวว่านักท่องการเวลาย้อนเวลามาช่วงนี้กันบ่อยเหลือกัน ส่วนมากพวกเขาก็จะมาอัดคลิปเล่าเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคต บ้างก็มีรูปถ่ายมายืนยันด้วย แต่ครั้งนี้นักท่องการเวลาคนใหม่ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับอาหารที่พวกเขาจะได้กินกันในอนาคตเมื่อถึงปี 2200 หรืออีกประมาณ 200 ปีข้างหน้า ซึ่งเราก็คงนึกภาพไม่ออกกันว่าหน้าตาอาหารจะออกมาเป็นอย่างไร หลายคนอาจจะคิดว่าอาหารมันต้องแฟนซีมากแน่ๆ มันต้องมีฟองลอยๆ ต้องเป็นเส้นสีรุ้งๆ แต่หนุ่มนักท่องการเวลาคนนี้ได้ทำลายฝันของเราทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย เพราะอาหารที่เขานำมาจากอนาคต เป็นแค่แคปซูลเล็กๆ เท่านั้น     หนุ่มคนนี้อ้างว่าเขาชื่อ W.D. Davis และพยายามปกปิดตัวตน เขาได้เล่าถึงอาหารที่นำมาว่าภายในแคปซูลนั้นบรรจุทุกอย่างที่คุณต้องการภายในหนึ่งสัปดาห์ เหมือนว่ารัฐบาลในอนาคตสร้างมาเพื่อแก้ปัญหาความอดอยาก นอกจากนี้เขายังเล่าอีกว่าในอนาคตนั้นไม่มีโรคภัยใดๆ แล้ว ไม่มีหมอ เพราะทุกคนมียาที่สามารถกินแล้วรักษาได้ด้วยตัวเอง     การสัญจรในอนาคตก็เหมือนกับที่เราคาดไว้ นั่นก็คือรถที่สามารถบินขึ้นไปบนอวกาศได้ ที่มาพร้อมกับชุดอวกาศ เรื่องโจรขโมยบัตรเครดิตก็จะไม่มีอีกต่อไป เพราะว่าทุกคนจะมีชิปที่ฝังอยู่ในแขน เวลาจะใช้ก็แค่เอาแขนไปสแกนที่ตู้ ATM ได้เลย     แต่ใช่ว่ามันจะน่าอยู่เหมือนโลกยูโทเปียเสียทีเดียว เพราะว่าในตอนนั้นก็มีปัญหาเกี่ยวกับประชากรล้นโลก สงคราม และโลกร้อนอีกด้วย ซึ่งทางแก้ก็คือย้ายคนไปอยู่ดาวเคราะห์ดวงอื่นเช่นดาวอังคารหรือดาวเทียม และบางคนก็อาศัยอยู่ใต้น้ำเหมือนอควาแมนด้วย โดยคนจะอาศัยอยู่ในโดมแก้วแล้วสามารถเห็นบรรยากาศใต้ท้องทะเล     Davis ยังพูดถึงการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาวด้วยว่าจริงๆ แล้วพวกเขาอาศัยอยู่กับพวกเรามานานโดยที่เราไม่รู้ตัว.. ยังไงก็ฟังหูไว้หูก่อนแล้วกัน เพราะว่าช่วงนี้มีคนอ้างว่ามาจากโลกอนาคตเยอะมากๆ จนน่าสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…

เมื่อหลายปีก่อน บ้านเราเคยมีเหตุการณ์แพนด้าฟีเวอร์ ที่หลายๆ คนถึงกับต้องจองตั๋วเครื่องบินเพื่อมาชม ช่วงช่วง หลินฮุ่ย กันที่เชียงใหม่ ถึงขนาดมีเพลงหมีแพนด้าออกมาเลยนะเออ แต่ไม่ใช่มีแค่บ้านเราเท่านั้นที่เห่อแพนด้า เพราะที่ญี่ปุ่นก็มีเหตุการณ์แบบนี้เช่นเดียวกัน ที่สวนสัตว์อูเอโนะในโตเกียวได้มีลูกแพนด้าเกิดใหม่ ทำให้ผู้คนตื่นเต้นอยากเจอจนต้องมาเข้าแถวกันราวกับมารอดูคอนเสิร์ต     ด้วยความที่เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่เคยสร้างเสียงฮือฮาเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วกับลูกแพนด้ายักษ์ และตอนนี้ทางสวนสัตว์เปิดให้เข้าเยี่ยมชมแล้ว นั่นก็คือเจ้า Shan Shan แพนด้าที่ทำให้คนรักสัตว์ทั่วญี่ปุ่นหลั่งไหลมาชมความน่ารักของมัน ทางสวนสัตว์อูเอโนะได้มีทางเข้าสามทางด้วยกัน แต่สำหรับใครที่อยากมาดูเจ้าแพนด้า ต้องเข้ามาทางประตูหลัก ซึ่งทางพนักงานได้ทำการตั้งคิวไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายและจำกัดการเข้าดูเพื่อให้แพนด้าไม่รู้สึกเครียดจนเกินไป โดยแต่ละวันนั้นจะมีตั๋วเพียงแค่ 9,500 ใบเท่านั้น การมาต่อแถวรอดูแพนด้านั้นไม่ต่างจากต่อแถวรอเข้าสวนสนุกเลย ผู้คนมากันแต่เช้า ตั้งแถวตามกรวย โดยสวนสัตว์นั้นจะเปิดในเวลา 9.30 น.     วงกลมเหลืองๆ คือประตูทางเข้า ทำให้เห็นว่าแถวมันยาวมากๆ และผู้คนก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากเช่นกัน   แถมในภาพนั่นยังเป็นวันวันพฤหัสบดีอีกด้วย อย่าลืมไปหลายคนก็ต้องไปทำงาน ไปเรียน แต่ก็มีคนที่สละเวลามาดูน้องหมีแพนด้า   และเมื่อลองไปถามพนักงานสวนสัตว์ว่าจัดการคิวทั้งหมด 9,500 คนนั้นใช้เวลากี่ชั่วโมง ก็ได้คำตอบมาว่าเสร็จตอนประมาณ 11 โมงเช้า ซึ่งก็ถือว่าเร็วมากๆ แต่ถ้ามาในวันหยุดก็ไม่แน่นะ   ปิดท้ายด้วยคลิปน้องหมีแพนด้าที่ใครๆ…

บางครั้งรูปแบบของความสัมพันธ์ก็ไม่ได้มีเฉพาะแบบ ‘ชู้สาว’ เท่านั้น การที่เพศตรงข้ามเข้ามาคุยดีๆ ด้วยก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาอยากจะจีบหรืออยากจะสานสัมพันธ์เพื่อต่อยอดไปถึงการมีอะไรกันเสมอไป เช่นเดียวกันชายหนุ่มคนนี้ที่พอมีสาวคนหนึ่งมาคุยดีด้วยหน่อย ก็เข้าใจผิดคิดว่าเธอต้องการทำเรื่องอย่างว่าด้วย ทักไปคุยกับเธอกะสานต่อแต่สุดท้ายก็ต้องเงิบแถมไม่พอไปด่าเค้าทิ้งท้ายอีกต่างหาก     เรื่องมีอยู่ว่าชายหนุ่มชื่อว่า Brad ทักแชตไปคุยกับสาวคนหนึ่งที่เขาเจอตอนทานอาหารเย็นทั้งคู่คุยกันถูกคอมาก ก็เลยตัดสินใจทักไปเพื่อต่อยอดความสัมพันธ์แบบตรงไปตรงมา หนุ่ม : “จะมาหามั้ย? ไม่ได้จะทำให้รู้สึกอึดอัดนะ แต่แบบว่ามายิ้มกันน่ะ” ทางด้านสาวก็รีบตอบกลับไปเพื่อแสดงความชัดเจนเลยว่า “ฉันมีแฟนแล้วน่ะ”     พอเจอแบบนี้หนุ่มถึงกับเสียความมั่นใจ ถามกลับอย่างเร็วไว หนุ่ม : “แล้วที่เธอทำดีกับฉันล่ะ?” สาว : “มันผิดด้วยเหรอที่ฉันเป็นคนดีน่ะ”   หนุ่ม : “ก็ไม่ผิดหรอก แต่มันผิดตรงที่ว่าเธอทำให้คนอื่นเข้าใจผิด บ้าเอ๊ย โง่ชะมัด” สาว : “ยังไงเหรอ?” หนุ่ม : “ก็เธอหัวเราะทุกมุกของฉัน แถมมาคุยกับฉันตอนเที่ยงอีก” สาว : “ก็ฉันเป็นคนดี” เข้าเรื่องตรงๆ เลยก็แล้วกัน หนุ่ม : “งั้นเธอก็ไม่ได้อยากจะมีอะไรกันงั้นสิ??” สาว : “ส่วนไหนที่ทำให้นายคิดว่าฉันอยากจะทำแบบนั้นล่ะ?”…

ความรักและความห่วงใยที่มีให้กันจะนำมาซึ่งการช่วยเหลือที่แสนอบอุ่นหัวใจ เหมือนอย่างความรักของพ่อลูกคู่นี้ เมื่อเด็กสาวตัวน้อยมีความตั้งใจ พยายามเพิ่มน้ำหนักของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตพ่อของเธอ นี่เป็นเรื่องราวของคุณพ่อชาวจีนที่ชื่อว่า Luo Changming ผู้ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว AML ตั้งแต่ปี 2016 จนทำให้เขาต้องเสียค่าใช้จ่ายไปมากกว่า 985,000 บาท ในการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด   คุณพ่อผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง   วันเวลาผ่านไป จู่ๆ อาการของเขาก็กลับมากำเริบอีกครั้งในช่วงต้นปี 2018 จนทำให้แพทย์บอกกับเขาว่า ความหวังเดียวที่จะสามารถรักษาอาการของเขาได้คือ การปลูกถ่ายไขกระดูกจากคนในครอบครัว แต่โชคร้ายที่พ่อและแม่ของเขาอายุมากเกินไป ส่วนน้องสาวก็พบว่ามีความไม่เข้ากันของไขกระดูก นั่นจึงทำให้ไม่สามารถปลูกถ่ายจากคนเหล่านั้นได้   เขายังคงรอความหวังในการปลูกถ่ายไขกระดูก   ความหวังเดียวของเขาจึงตกไปอยู่ที่ลูกสาวตัวน้อยวัย 11 ปีที่มีชื่อว่า Zhenzhen แต่ทว่าเธอนั้นมีน้ำหนักเพียง 29 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ แพทย์บอกว่าเธอไม่สามารถปลูกถ่ายไขกระดูกได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เธอตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักของตัวเองให้ได้มากที่สุด เพื่อจะช่วยชีวิตพ่อของเธอ   เด็กสาวตัดสินใจกินเข้าไปเยอะๆ เพื่อเพิ่มน้ำหนักของตัวเอง   Luo Xiaolan แม่ของเด็กสาวเล่าว่า “ฉันบอกกับเธอว่า ‘ตอนนี้ลูกคือคนเดียวที่จะช่วยพ่อได้ ลูกอยากช่วยพ่อมั้ย?’ แล้วลูกสาวฉันก็ตอบกลับมาอย่างหนักแน่นว่า ‘อยากสิคะ หนูไม่กลัวอยู่แล้ว’”…

คงไม่มีใครอยากจะปล่อยให้มีคนเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาของตัวเอง แต่จะมีซักกี่คนที่มีความกล้ามากพอยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคนเหล่านั้น เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มคนนี้ เรื่องราวของเขาเกิดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคม 2018 ตำรวจหนุ่มคนดังกล่าวมีชื่อว่า Abdusalam Abulati เขากำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเมือง Kuqa บนเขตปกครองตัวเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ระหว่างที่เขากำลังตรวจตราอยู่นั้น ก็ได้เจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมาต่อหน้าต่อตา   เจ้าหน้าที่ Abdusalam กำลังตรวจพื้นที่โดยรอบอยู่   จู่ๆ ก็มีผู้หญิงออกมานั่งตรงบริเวณหน้าต่างชั้นสองของตึก ตรงบริเวณที่ Abdusalam และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ กำลังลงตรวจพื้นที่อยู่ เพียงชั่วอึดใจเดียว หญิงสาวนิรนามก็โดดลงมา ทำให้ตำรวจหนุ่มตัดสินใจพุ่งเข้าไปใช้ร่างกายของตัวเองรับร่างเธอไว้ในทันที   เขารีบวิ่งเข้าไปรับเธอในทันที โดยที่ไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองเลย   คลิปจากกล้องวงจรปิดทำให้เราเห็นว่า ตำรวจหนุ่มคนนั้นถึงกับล้มนอนลงไปด้วยความเจ็บปวด จากการที่เขาใช้ร่างกายเป็นเบาะรับแรงกระแทกให้กับหญิงสาว     จากการสอบถามคนในละแวกนั้นทำให้ทราบว่า ผู้หญิงคนนั้นโดดลงมาจากตึกเพราะต้องการจะฆ่าตัวตายหลังจากที่ทะเลาะกับแฟนหนุ่มของตัวเอง แต่โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ Abdusalam อยู่ในสถานที่เกิดเหตุพอดี เธอจึงไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย     ภาพจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นการช่วยเหลือสุดระทึก    ในขณะเดียวกัน ตำรวจหนุ่มกลับบาดเจ็บสาหัส กระดูกสันหลังบริเวณช่วงล่างของเขาแตกหัก…

ปัจจุบันนั้น การที่คนรุ่นใหม่ๆ จะหันหน้าเข้าหาวัดหรือเข้าไปฟังบทสวดยาวๆ สักครั้งหนึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะคนรุ่นใหม่จะรู้สึกว่าบทสวดตามวัดมันน่าเบื่อ ฟังแล้วมันง่วง ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเกือบทุกที่ไม่เว้นแม้แต่กับวัดญี่ปุ่น… ยิ่งไปกว่านั้นปัญหาดังกล่าวมันไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนทั่วไป แม้แต่ตัวคนที่อาศัยอยู่กับวัดมาตลอดอย่าง Gyosen Asakura ที่ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสรุ่น 17 ของวัดในจังหวัดจังหวัดฟุกุอิ ก็ยังรู้สึกแบบเดียวกัน     Gyosen เล่าว่าวัดของเขาอยู่มานานแล้ว และครอบครัวก็เป็นคนสร้างมันขึ้นมาพร้อมกับอยากจะรักษามันไว้ ซึ่งเขาที่เป็นลูกจึงต้องรับช่วงต่อ เพียงแต่ในช่วงวัยรุ่นเขากลับรู้สึกว่าสิ่งที่เขาอยู่กับมันทุกๆ วันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เขาจึงตัดสินใจหนีจากมัน หนีเพื่อออกไปเจอกับโลกข้างนอก     ในตอนที่เขาหนีออกมานั้น Gyosen วัยหนุ่มได้หันไปศึกษาเกี่ยวกับเพลง การเป็นดีเจและการเป็นช่างจัดไฟ ซึ่งในตอนที่เขากำลังเป็นดีเจอยู่นั้น วันหนึ่งเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเพลงที่เขาทำกับบทสวดที่เขาต้องทนฟังมาตลอด มันมีบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกัน บางอย่างที่ว่านั่นก็คือ บทเพลงและบทสวดทั้งคู่ล้วนพยายามจะสื่อสารสิ่งดีๆ ให้กับผู้ฟัง นับแต่นั้นเขาก็กลับมาที่วัดที่ครอบครัวตั้งใจปกป้องมันมากว่า 540 ปี และรับหน้าที่สืบทอดมันต่อในฐานะเจ้าอาวาสรุ่นที่ 17 เพียงแต่ปัญหามันอยู่ที่ ตอนที่เขากลับมาและเดินทางทิศทางเดิมมันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย คนกลับน้อยลงๆ ด้วยซ้ำ     วินาทีนั้น Gyosen จึงคิดว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าเขานำสิ่งที่เขาออกไปศึกษาช่วงทีหนีจากวัดไปมาผสมเข้ากับบทสวดด้วยการนำทำนองเพลงเทคโนผสมเข้ากับมัน     ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจากบทสวดอันแสนหน้าเบื่อ เมื่อมันรวมเข้ากับทำนองเพลงอิเล็กทรอนิกส์และผสมเข้ากับแสงสีที่ฉายลงไปบนวัด ซึ่งเดิมทีวัดก็มีการตกแต่งที่สวยงามอยู่แล้ว…

ทุกวันนี้เกมออนไลน์สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย เด็กเล็กๆ ก็สามารถดาวน์โหลดเกมมาเล่นเองได้โดยไม่ต้องให้ผู้ใหญ่สอน และผู้ใหญ่บางคนก็คิดว่าเกมที่ลูกเล่นคนไม่มีพิษภัยอะไรมากมาย แต่มันขึ้นชื่อว่าเป็นเกมออนไลน์ ก็ต้องเจอกับผู้คนทั่วโลกเป็นธรรมดา บางครั้งเราก็ไม่อาจทราบได้ว่าคนที่เข้ามาจะมาดีหรือมาร้าย เหมือนอย่างกรณีที่คุณแม่คนนี้เจอ ถือว่าเป็นบทเรียนของเธออีกบทหนึ่งเลยก็ว่าได้ คุณแม่ไม่ประสงค์ออกนามจากเมือง Merseyside ในประเทศอังกฤษ เธอเล่าว่าเธอรู้สึกมวนท้องหลังได้ฟังคนแก่ในเกมออนไลน์ที่ชื่อว่า Fortnite: Battle Royale พูดจาไม่ค่อยดีกับลูกชายวัย 12 ปีของเธอ     โดยในเหตุการณ์นั้น ฝ่ายชายแก่พยายามที่จะพูดโน้มน้าวและยื่นข้อเสนอจะมอบเงินให้เด็กชาย เพื่อที่จะให้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายให้ ซึ่งคุณแม่ได้บันทึกการสนทนาด้วยเสียงนั้นไว้ในมือถือเป็นที่เรียบร้อย สำนักข่าว Liverpool Echo ยังรายงานอีกว่าชายแก่คนนี้ขอให้เด็กชายส่งรูปภาพตัวเองตอนเปลือยให้เขา และพูดกับเด็กชายว่าเขาจะ “ตายอย่างช้าๆ” อีกด้วย คุณแม่ได้บอกกับนักข่าวว่าในตอนนั้นเธออยู่ในห้องถัดไปตอนที่ได้ยินเสียงอันน่าขนลุกที่ขอให้ลูกชายเธอทำอะไรต่างๆ เธอก็เลยรีบวิ่งไปที่ห้องลูกชายทันที     “ฉันวิ่งไปที่ห้องลูกชายแล้วบอกกับเขา (คนในเกม) ว่าลูกชายของเธออายุแค่ 12 ปีนะ และถามว่าที่เขาทำมันไม่น่ารังเกียจเหรอ ที่คุยกับเด็กอายุ 12 ปีแบบนี้ และเขาก็ตอบมาว่า ไม่ เขาไม่สนใจ นั่นทำให้ฉันแแทบบ้าเลยล่ะ หัวฉันร้อนไปหมดและบอกกับลูกให้ออกเกมมาซะ พร้อมกับโทรหาตำรวจ” คุณแม่เล่า     คุณแม่ยังเล่าอีกว่าลูกชายเธอไม่รู้ว่าเป็นเพื่อน(ในเกม)กับชายแก่คนนี้ตอนไหน แต่เขาก็ยังขอรูปเปลือย เธอก็เลยบันทึกการสนทนาไว้ส่งให้กับตำรวจ ทำให้ตอนนี้คุณแม่รู้สึกกังวลกับการเล่นเกมของลูกมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนลูกชอบพูดคุยกับเพื่อนๆ…

การทำโทษคนที่ทำผิดนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในสังคม เพียงแต่บางครั้งการลงโทษมันก็อาจจะดูรุนแรงเกินไป เช่นความผิดเล็กน้อยแต่ลงโทษรุนแรงราวกับทำคดีฆาตกรรม หรือการลงโทษเด็กๆ ที่โหดร้ายเกินไป ล่าสุดได้มีสำนักข่าวในประเทศอินโดนีเซียรายงานว่า มีการแจ้งความการลงโทษที่เกินกว่าเหตุของคุณครูท่านหนึ่งในโรงเรียนประถมในจังหวัดสุมาตราเหนือ ได้สั่งให้นักเรียนของตนเลียไปที่ส้วมสกปรกถึง 12 ครั้ง ด้านผู้ปกครองที่ได้ทราบเรื่องจากลูกตัวเองก็หัวเสีย ก็ไม่รอช้าเดินทางไปยังโรงเรียนและร้องเรียนกับทางอาจารย์ใหญ่ทันทีว่าสิ่งที่ลูกตัวเองโดนนั้นมันเกินกว่าเหตุ แต่เมื่อไปถึงผู้ปกครองคนดังกล่าวก็ต้องแปลกใจ เพราะการลงโทษดังกล่าวนั้นได้รับการอนุมัติให้สามารถทำได้โดยไม่มีการลงโทษอาจารย์แต่อย่างใด     ผู้เป็นพ่อได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ลูกชายผมเล่าให้ฟังว่าเขาถูกบังคับให้เลียส้วมถึง 12 ครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นเขาถึงกับต้องอ้วกออกมาหลังจากเลียไป 4 ครั้ง” ด้านผู้เป็นแม่ก็ออกมาเสริมว่า “ฉันโมโหและผิดหวังมากๆ ที่ทางโรงเรียนอนุญาตให้มีการลงโทษแบบนี้ นี่คือไม่มีวิธีลงโทษแบบอื่นแล้วเหรอ?” ส่วนเหตุผลที่ทำให้นักเรียนคนดังกล่าวถูกลงโทษนั่นก็เพราะว่าเขาลืมทำการบ้าน ฉะนั้นการลงโทษด้วยการเลียส้วมจึงเกิดขึ้น ซึ่งทำให้หลายคนต่างพากันสงสัยว่าการทำแบบนี้มันถูกแล้วอย่างนั้นเหรอ และถ้าจะลงโทษสั่งให้ไปทำความสะอาดเฉยๆ มันก็ควรจะเพียงพอแล้วหรือเปล่า?     เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทั้งในท้องถิ่น และบนโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน… ด้าน Joni Walker Manik จาก Sergei Bedagai Regency Education Board ก็ออกมาบอกว่า ทางบอร์ดบริหารได้สั่งย้ายครูคนดังกล่าวไปยังโรงเรียนอื่นเรียบร้อยแล้ว ส่วนเหตุผลที่ต้องสั่งย้ายแทนที่จะลงโทษด้วยวิธีอื่นนั้น Joni ให้เหตุผลว่าคนเรานั้นสามารถผิดพลาดกันได้ ฉะนั้นการสั่งย้ายจึงเพียงพอแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความทางสมาคมปกป้องครูคนดังกล่าวแต่อย่างใด…   ที่มา…

สุนัขไม่ได้อยู่เพื่อรอความช่วยเหลือหรือรอความรักจากมนุษย์ไปวันๆ แต่บางตัวได้ตอบแทนมนุษย์และสังคมด้วยการทำตัวให้เป็นประโยชน์ เหมือนกับน้องหมาตัวนี้ที่ทำงานร่วมกับนักดับเพลิง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในอันตราย แต่น่าเศร้า… มันได้จากไปอย่างสงบแล้วในสัปดาห์นี้     สุนัขตัวนี้คือ Negro มันทำงานเคียงข้างเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก Iquique Fire Department มานานกว่า 10 ปี Negro จะอยู่ประจำที่สถานีในฐานะนับดับเพลิงที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และจะคอยต้อนรับเจ้าหน้าที่ด้วยการกระดิกหางเมื่อพวกเขากลับมาจากปฏิบัติหน้าที่     ในแต่ละวันนั้น แม้ว่านักดับเพลิงจะเจอสถานการณ์ที่เลวร้ายหรือตึงเครียดแค่ไหน เมื่อกลับมาเจอน้องหมาในสถานี พวกเขาจะลืมความทุกข์เหล่านั้นไปชั่วขณะหนึ่ง และมีความสุขกับการได้เล่นกับ Negro จนกระทั่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีประกาศจากทางสถานีดับเพลิงว่าสุนัขแสนรู้ได้จากไปแล้วในวัย 14 ปี เนื่องจากปัญหาสุขภาพ     ทางสถานีดับเพลิงบอกว่า “บ่ายวันนี้ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของเราได้ลาโลกไปแล้ว มันคือนักดับเพลิง 4 ขาของเรา ขอบคุณสำหรับหลายปีที่อยู่กับเรา เราจะจดจำเธอตลอดไป”     และเพื่อเป็นเกียรติกับ Negro ที่ได้ทำนหน้าที่อย่างดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา คณะกรรมการของสถานีดับเพลิง Iquique Fire Department จึงตัดสินแต่งตั้งให้มันเป็นนักผจญเพลิงกิตติมศักดิ์ และร่วมไว้อาลัยให้มันเป็นครั้งสุดท้าย     พวกเขาได้จัดงานศพให้น้องหมาในสถานีดับเพลิง เพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง Jorge Tapia…

คนส่วนใหญ่คงไม่มีใครที่จะมีความคิดแก้ผ้าเดินออกไปท่ามกลางอุณหภูมิที่เย็นจัดจนถึงขั้นมีหิมะตก แต่หญิงสาวชาวยูเครนคนนี้กลับทำอย่างนั้นทุกสัปดาห์ เพราะเธอบอกว่ามันคือเคล็ดลับแห่งความเยาว์วัย?! เธอคนนี้มีชื่อว่า Inna Vladimirskaya วัย 32 ปี หญิงสาวผู้เปลือยกายออกไปวิ่งเรียบแม่น้ำ Dnieper ในเมืองเคียฟ ประเทศยูเครนทุกสัปดาห์ มายาวนานกว่า 9 ปี ท่ามกลางอุณหภูมิอันเย็นยะเยือก   ภาพของ Inna ที่ถูกถ่ายโดยช่างภาพชาวเช็ก David Tensinsky ผู้สนใจในวิธีการรักษาความเยาว์วัยของเธอ   Inna เล่าว่าทุกสัปดาห์เธอจะออกมาวิ่งในขณะที่หิมะกำลังโปรยปราย จากนั้นจึงจะลงไปแช่ในแม่น้ำที่มีน้ำแข็งจับตัวกันอยู่รอบๆ เธอเชื่อว่าวิธีการนี้ทำให้ตัวเองสามารถคงความเยาว์วัยและสุขภาพที่ดีของตัวเองเอาไว้ได้ โดยยกตัวอย่างถึงตัว วอลรัส สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในอากาศอันหนาวเหน็บ พวกมันมีหน้าตาที่อ่อนกว่าวัยเพราะอุณหภูมิที่ติดลบ และสิ่งนั้นเธอเชื่อว่ามันส่งผลให้กับมนุษย์เช่นเดียวกัน     นอกจากการแก้ผ้าออกไปวิ่งและว่ายน้ำในอากาศอันหนาวเหน็บจะช่วยให้เธอหน้าเด็กแล้ว Inna ยังบอกอีกว่ามันช่วยเสริมสร้างในเรื่องของสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย เธออธิบายว่า “การลงไปแช่ในน้ำที่เย็นจัดช่วยให้เลือดลมไหลเวียนเข้าสู่อวัยวะภายในต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันและเพิ่มส่วนของกล้ามเนื้อ” รวมถึงการแก้ปัญหาสุขภาพหลายๆ อย่างเช่น ช่วยบรรเทาอาการเจ็บกล้ามเนื้อและข้อต่อ เพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายเพื่อแก้ปัญหารอยเหี่ยวย่นบนผิวหนัง     แต่แม้ว่าวิธีการจะดูแปลกและอันตรายไปซะหน่อย ถึงอย่างนั้น Inna ก็บอกว่าทุกครั้งเธอจะทำให้มั่นใจอยู่เสมอว่าตัวเองไม่ได้แช่น้ำนานจนเกินไป จากนั้นจึงขึ้นจากน้ำแล้วไปทำตัวให้แห้ง ก่อนที่จะเข้าไปปรับอุณหภูมิภายในรถของตัวเอง    …

หลายคนอาจเคยได้ยินสุภาษิตที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” แต่ครั้งนี้ไม่มีอะไรล่ม มีแต่ทองหล่นมาจากเครื่องบิน แล้วทองมันจะไปอยู่ที่ไหนได้ล่ะ? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเครื่องบนขนส่ง Nimbus Airlines AN-12 ที่ขึ้นจากสนามบิน Yakutsk ในรัสเซีย แต่ระหว่างที่ไต่ระดับความสูงอยู่นั้น ส่วนของประตูก็หลุดออกมา ทำให้ของที่อยู่ข้างในไหลออกมาซึ่งได้แก่ ทอง แพลตตินัม และเพชร     ทองบางแท่งถูกพบหล่นอยู่ไกล 26 กิโลเมตรห่างจากสนามบิน ตำรวจจึงรีบไปที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะตามมา ลองนึกภาพว่าวันนี้เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งของคุณ ตื่นว่าเปิดม่านหลังบ้านรับแสงอาทิตย์ แต่แล้วก็พบว่ามีแท่งทองมูลค่า 16 ล้านตกอยู่หลังบ้านจะทำยังไงกับมันดี?     จากรายงายของสนามบิน Yakutsk ได้กล่าวว่า หลังจากที่เครื่องบินบินขึ้นไปแล้ว ประตูทางด้านซ้ายของเครื่องบินก็พังและปลิวหายไป นักบินก็เลยตัดสินใจบินกลับมาที่สนามบินนี้อีกครั้ง ก่อนจะขึ้นบินฝ่ายเทคนิคก็ได้ทำการยืนยันแล้วว่าเครื่องบินพร้อมสำหรับการบิน ทำให้เครื่องบินตัดสินใจบินขึ้นไป     โชคไม่ดีที่ใครที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้อาจได้รับผลพวงจากเหตุการณ์นี้ไปด้วย จนบางคนก็พูดติดตลกว่าจะจองตั๋วเครื่องบินไปที่สนามบิน Yakutsk เพื่อไปหาทอง สำหรับใครที่หวังจะรวยทางลัดก็ลองหาตั๋วเครื่องบินไปดูนะ บางทีมันก็อาจจะเจอของดีโดยที่ไม่คาดคิดก็เป็นได้   ที่มา ladbible

กฎหมายจราจรที่เข้มแข็งจะต้องถูกนำมาใช้อย่างสม่ำเสมอ ไม่มีข้อยกเว้นให้กับผู้ใดที่ฝ่าฝืนกฎหมายทั้งสิ้น ซึ่งในเรื่องเหล่านี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย กรณีจากต่างประเทศมีให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอยู่ตลอด ตัวอย่างครั้งนี้ก็มาจากประเทศจีน เมื่อชายวัยกลางคนจอดรถในที่ห้ามจอด ถูกล็อคล้อเอาไว้และกำลังจะถูกยก แต่ดันโวยวายเข้าข้างตัวเองสุดทาง…     ชายวัย 54 ปี จากเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ได้รับการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ารถยนต์ของเขานั้นถูกล็อคล้อเอาไว้ เนื่องจากจอดในที่ห้ามจอด และจะให้เวลา 10 วันเพื่อไปทำการจ่ายค่าปรับเสีย     แต่หลังจากที่คุณลุงพยายามไกล่เกลี่ย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยปลดล็อคล้อให้ไม่เป็นผล ถึงวันที่ต้องยกรถไปสถานีตำรวจ คุณลุงก็คว้าค้อนติดมือมาพร้อมกับทุบรถยนต์ของตัวเองทั้งตัวถังและกระจก ก่อนที่จะหลบหนีหายไปในภายหลัง     ตำรวจชี้แจงว่า เขาเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวมา 8 ปีแล้ว และการที่มาทำลายทรัพย์สินของตัวเองแบบนี้ เพื่อจะกล่าวเป็นนัยๆ ว่า ‘ใครก็จะเอารถข้าไปไม่ได้’     ภายหลังทำการตรวจสอบประวัติ เจ้าหน้าที่ก็พบว่า คุณลุงรายนี้ทำการฝ่าฝืนกฎจราจรมาหลายครั้ง ค้างค่าปรับกว่า 240 รายการ ทั้งจอดในที่ห้ามจอดและฝ่าไฟแดง รวมๆ แล้วเป็นเวลา 6 ปี ถูกตัดคะแนนใบขับขี่ 766 แต้ม และค้างปรับรวมมูลค่าแล้ว 170,000…

การที่คุณเป็นคนสุขภาพดีเรื่อยมา ไม่ได้หมายความว่าวันพรุ่งนี้คุณจะไม่ป่วย ถ้าเกิดจู่ๆ คุณก็เลิกสนใจสุขภาพไม่แน่ว่าวันต่อมา ชีวิตของคุณอาจจะเปลี่ยนไปจากโรคภัยที่มาอย่างกะทันหันก็เป็นได้ อย่างเช่นหญิงชาวจีนวัย 47 ปี จากมณฑลเหอหนานที่ตอนแรกก็พบว่าตัวเองสุขภาพดีมากๆ จนกระทั่งเมื่อช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา เธอได้เดินทางกลับมายังบ้านและกำลังจะกลับไปทำงานยังเมืองกว่างโจวในมณฑลกวางตุ้งก็พบว่าตัวเองนั้นป่วยอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เธอจึงเดินทางไปพบแพทย์และตรวจร่างกายก็เจอลิ่มเลือดในสมอง หญิงสาวคนดังกล่าวตกใจมากๆ เพราะเธอนั้นสุขภาพดีมาตลอดไม่เคยป่วย จนกระทั่งหมอได้ถามว่าช่วงก่อนหน้าเธอทำอะไรหนักๆ มาหรือเปล่า     จากการสอบถามแพทย์ก็ได้รู้ว่า ช่วงที่เธอกำลังเดินทางกลับมายังเมืองกว่างโจวเธอต้องนั่งรถไฟเป็นเวลานาน ซึ่งในช่วงนั้นคนก็แน่นและเธอไม่รู้จะทำอะไรจึงใช้โทรศัพท์มือถือในการฆ่าเวลา ด้วยความที่คนบนรถไฟแน่นมากๆ ทำให้เธอขยับมากไม่ได้ เธอจึงต้องนั่งจ้องโทรศัพท์อยู่อย่างนั้นกว่า 20 ชั่วโมง แพทย์จึงทำการผ่าตัดและจัดการลิ่มเลือดในสมองของเธอ ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่ถึงเกือบ 3 เซนติเมตร โดยแพทย์ก็ได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะรักษาเธอจนหาย     ด้านแพทย์จากโรงพยาบาล Hospital of Jinan University ในเมืองกว่างโจวก็บอกว่า เธอนั้นนั่งในท่าเดิมนานเกินไป ฉะนั้นจึงอยากจะฝากเตือนคนอื่นๆ ว่าไม่ควรจะอยู่ในท่าเดิมที่นานเกินไปโดยเฉพาะเหล่าวัยรุ่นที่ปัจจุบันมักจะใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือนานๆ ฉะนั้นเราจึงควรจะขยับบ่อยๆ เล็กน้อยก็ยังดี ส่วนหญิงสาวในเหตุการณ์นี้อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตามแพทย์ก็บอกว่าเธอยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการจ้องโทรศัพท์อยู่ดีนั่นเอง     ที่มา nextshark

ใครเล่าจะคิดว่าการส่งน้องหมาขึ้นเครื่องบินเพื่อย้ายบ้าน จะเกิดความผิดพลาดขึ้นจนส่งให้มันบินไกลไปถึงญี่ปุ่น ทั้งที่ตัวเจ้าของยังอยู่ที่สหรัฐอเมริกาอยู่เลย… เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2018 เว็บไซต์ DailyMail รายงานว่า Joseph และ Kara Swindle สองสามีภรรยาได้ย้ายที่อยู่อาศัยจากรัฐ Oregon ไปยังเมือง Wichita รัฐ Kansas กับลูกสาววัย 2 ขวบ 1 คนและลูกชายวัย 7 ขวบอีก 1 คน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาคุณ Kara และลูกๆ นั่งเครื่องบินไปยังเมือง Kansas City ที่อยู่ในรัฐ Missouri จากนั้นก็เดินไปยังสำนักงานอำนวยความสะดวกของสายการบิน United Airlines เพื่อรับเจ้าหมาสายพันธุ์ German Shepherd วัย 10 ปี ของครอบครัวที่ชื่อว่า Irgo ที่พวกเขาส่งมันขึ้นเครื่องบินนำหน้ามาก่อนหน้านี้แล้ว     แต่พอไปถึงสำนักงาน ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ดั๊นส่งตัวเจ้าหมามาให้พวกเขาผิดตัว กลายเป็นว่าที่ส่งมาให้น่ะคือสายพันธุ์ Great Dane…

เมื่อวันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมา หลายคนคงจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับคลิปหลุดที่กล่าวอ้างว่าเป็นผู้จัดการบริษัทผลิตไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ในจีน กำลังมีอะไรกับเพื่อนร่วมงานสาวบนโต๊ะทำงานอย่างเมามัน ซึ่งสื่อทั้งไทยและเทศน์หลายสำนักก็ต่างพากันรายงานกันยกใหญ่ว่าคลิปดังกล่าวนั้นเป็นคลิปหลุดที่ตัวผู้จัดการบริษัท Southern Power Grid เผลอทำหลุดเพราะลืมปิดกล้องหลังประชุมผ่านวิดีโอคอลเสร็จ     แน่นอนว่าด้วยความที่ตัวเนื้อหาน่าสนใจและน่าตื่นเต้น บวกเข้ากับแนวทางที่น่าสนใจว่าเป็นคลิปหลุดแถวโจ๊ะๆ กันบนโต๊ะทำงานอีกพลอตน่าสนใจใครๆ ก็อยากจะหาวาร์ปมาดู แต่ล่าสุดทางสื่อจีนได้ออกมาบอกแล้วว่าข่าวที่ปล่อยออกมานั้น ปลอม!! เรื่องราวดังกล่าวนั้นได้รับการยืนยันผ่านสื่อใหญ่จากจีนอย่าง Shanghaiist ซึ่งพวกเขาได้ออกมาอัปเดตแล้วว่าข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องปลอมที่กุขึ้นมาโดยชายแซ่ Tang และหญิงแซ่ Wang โดยทั้งคู่มีอายุเฉลี่ย 30 ปี     ปัจจุบันทั้งคู่นั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่จากเมืองกว่างโจวจับตัวและตั้งข้อหากุข่าวปลอมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อธิบายว่าคลิปที่เราเห็นนั้นเป็นคลิปหลุดที่เก่ามากแล้วในจีน ส่วนแรงจูงใจของทั้งสองก็มาจากการที่ทั้งคู่ไปได้ยินข่าวซุบซิบในบริษัทดังกล่าวจนทำให้คิดสนุกเลยเล่นให้มันใหญ่จนเป็นเรื่องเป็นราวนั่นเอง     สุดท้ายแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าคลิปหลุดดังกล่าวนั้นเก่าขนาดไหน และเป็นคลิปของใคร เอาเป็นว่าถ้านักล่าในตำนานคนไหนสามารถหาต้นต่อหรือคลิปเต็มๆ ได้ก็อย่าลืมเอามาแชร์กันนะ…   ที่มา shanghaiist

ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นกระแสกระแสหนึ่งที่มาแรงมาก ก็คือกระแสที่คนๆ หนึ่งจะแบมือและให้เพื่อน แฟนหรือใครก็ตามนำคางมาวางเกยที่มือของพวกเขา ด้วยความน่ารักน่าชังนี้จึงทำให้มันกลายเป็นกระแสที่นิยมของวัยรุ่นชาวเอเชียไปเลย   วิดีโอแสดงกระแสนำคางมาเกยที่มือเหมือนที่กล่าวมา    แต่ที่ล้ำกว่ากระแสการวางคางไว้บนมือ ก็คือเมื่ออาทิตย์ก่อนได้มีหญิงสาวหน้าตาน่ารักหุ่นเซ็กซี่ได้โพสต์วิดีโอลงเพจเฟซบุ๊กของตน โดยในวิดีโอแทนที่เธอจะนำมือมาไว้บนคางตามกระแสนิยม แต่เธอกลับนำหน้าอกมาแทนให้จับแทน เรียกได้ว่าสร้างความน่าอิจฉา เอ๊ย!! สร้างเสียงฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์เลยทีเดียว     โดยเธอคือนางแบบชาวไต้หวันที่รู้จักกันในชื่อ Yui Yui (辛尤里) เธอได้อัปโหลดวิดีโอที่มีมือของคนๆ หนึ่งกวักมือเรียกเธอเข้ามาหาและได้ทำการจับหน้าอกของเธอในที่สาธารณะของฮ่องกงและประเทศไต้หวันเช่นข้างถนน ในรถบัสและในสถานีรถไฟ ด้วยจำนวนผู้ติดตามในเฟซบุ๊กกว่า 30,000 คนและในอินสตาแกรมอีกว่า 19,200 คน ทำให้วิดีโอของเธอถูกแชร์ต่อกันไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นวิจารณ์การกระทำของเธอย่างมากมาย โดยเราจะยกตัวอย่างมาให้เพื่อนๆ ชมกันครับ   “นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของมวลมนุษยชาติเลยนะ ผู้หญิงควรจะมีเกียรติมากกว่านี้ และผู้ชายก็ไม่ควรที่จะแนะนำชักชวนให้ผู้หญิงทำอะไรแบบนี้”   “ศักดิ์ศรีของเธออยู่ที่ไหนอ่ะ? เธอไม่มีความเคารพในตัวเองเลย น่าอายจัง”   “ทำไมถึงทำให้ตัวเองโดนดูถูกและดูงี่เง่าแบบนั้นล่ะ”   วิดีโอที่เธอได้โพสต์และกลายเป็นกระแสไปทั้งทั่วโลกออนไลน์    ซึ่งก็ได้มีทนายชาวฮ่องกงท่านหนึ่งได้ออกมาเตือนนางแบบสาวอยู่เหมือนกันว่าการทำแบบนี้อาจทำให้เธอถูกจับกุมในข้อหากระทำอนาจารในที่สาธารณะ ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุก 7 ปี   แต่สุดท้ายนี้เธอจะถูกลงโทษอะไรหรือไม่ก็ต้องติดตามกันต่อไป…

เมื่อสัปดาห์ก่อน หญิงสาวน้ำใจงามคนหนึ่งจากลาสเวกัส ได้พบเข้ากับลูกแมว 3 ตัวที่เพิ่งเกิด อยู่ในพุ่มไม้ โดยไม่มีแมวของพวกมันอยู่ข้างๆ ต่อมาหญิงสาวจึงได้ติดต่อไปยัง Nikki Martinez นักช่วยเหลือและผู้อุปถัมภ์แมวตัวยง เพื่อขอความช่วยเหลือ     Nikki เล่าว่า “วันนั้น Marti พาสุนัขของเธอไปเดินเล่น แต่แล้วเจ้าหมาก็เดินเข้าไปในพุ่มไม้ เธอจึงเดินตาม ก่อนจะพบแมวน้อย 3 ตัวที่สายสะดือยังติดตัวอยู่” ตอนที่มีคนโทรขอความช่วยเหลือ Nikki ออกไปทำธุระนอกเมือง แต่เธอได้แนะนำหญิงสาวคนนั้นว่าให้ดูแลมันจนกว่าเธอจะกลับมา     Marti จึงรีบไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้ออาหารแมวและอุปกรณ์ต่างๆ ของแมวมา จากนั้นก็เริ่มให้การดูแลมิ้วน้อยทั้ง 3 ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง แค่นั้นยังไม่พอ เธอยังพามันไปทำงานด้วย เพื่อที่จะได้ดูแลมันต่อได้ หญิงสาวบอกว่า “คืนที่ฉันเจอพวกมัน มันตัวแข็งและเย็นไปหมด เพราะมันถูกทิ้งให้อยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น”     หลังจากที่ลูกแมวได้อยู่ในมือ Nikki แล้ว เธอก็ได้วางกับดักไว้ตรงที่ลูกแมวถูกทิ้ง โดยหวังว่าแม่แมวจะกลับมาหา แต่ก็ไร้วี่แวว ลูกแมวอายุ 24 ชั่วโมง พวกมันอ่อนแอมาก เพราะไม่ได้กินนมแม่ซึ่งมีแอนติบอดีที่จำเป็น และไม่ได้รับความอบอุ่นตั้งแต่แรกเกิดด้วย…

ทุกการช่วยเหลือย่อมส่งผลดีเสมอ ไม่เกิดกับผู้รับก็เกิดกับผู้ให้ และแน่นอน มันคุ้มค่า…เพราะแบบนี้ ชายหนุ่มคนหนึ่งจึงตัดสินใจที่จะไม่มองข้ามแมวจรจัดตัวหนึ่งไป ขณะที่ Davy Gallant จากเมืองคิวเบค ประเทศแคนาดา อยู่ระหว่างทางกลับบ้านกับลูกชาย Toby พวกเขาก็สังเกตเห็นแมวจรจัดตัวหนึ่งเดินอยู่ใกล้ริมถนน     Davy บอกว่า “มันเป็นแมวตัวเล็ก มีแต่หนังหุ้มกระดูก เราเลยตัดสินใจหยุดรถ เหมือนกับทุกครั้งที่เรามักจะทำเสมอเมื่อเห็นสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ” นั่นหมายความนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Davy หยุดรถเพื่อสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเคยช่วยเหลือแมวและสุนัขนับไม่ถ้วน รวมทั้ง CousCous แมวที่อยู่กับเขามานานถึง 14 ปี ก่อนจะล่วงลับไป     ปกติเมื่อเจอสัตว์ถูกทิ้ง Davy จะทำให้พวกมันใจเย็นลง ถ้ามันวิ่งเข้ามาหา เขาก็จะหาบ้านให้ แต่ถ้ามันวิ่งหนีไป เขาก็จะติดต่อศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่นให้มาช่วย สำหรับเจ้าเหมียวที่เขาเพิ่งเจอล่าสุดนี้ มันวิ่งมาหาเขา พร้อมทั้งเรียกร้องความสนใจและขอให้ลูบตัวมัน มันน่ารักมากและอ้อนไม่หยุดเลย โดนเจ้าเหมียวอ้อนซะขนาดนั้น เขาจึงตัดสินใจพามันกลับบ้านด้วย ก่อนจะตั้งชื่อให้มันว่า Barley     คาดว่าเจ้าเหมียวน่าจะไม่ได้กินอาหารแมวมานานแล้ว มันเลยกินอะไรไม่ลง Davy จึงต้องทำให้อาหารนุ่มลงเพื่อให้มันกินได้ง่ายขึ้น เนื้อตัวของ Barley มีแต่หมัดเต็มไปหมด ครอบครัวจึงใช้น้ำอุ่นอาบน้ำให้มัน ทำให้หมัดของมันหายไปจนหมดในหลายวันต่อมา    …

ตามปกติแล้วเมื่อพูดถึงปัญหาขยะในหลายๆ ประเทศ ส่วนใหญ่มักจะต้องพากันบ่นว่าขยะนั้นมีมากเกินไป แต่ว่าสำหรับประเทศสวีเดนแล้วกลับตรงกันข้าม เพราะพวกเขาคงอยากจะบอกว่า ‘ขอขยะเยอะๆ’ แทนเสียมากกว่า ที่ต้องบอกแบบนั้นก็เพราะว่าประเทศสวีเดน สามารถหาทางออกให้กับปัญหาขยะล้นได้อย่างสมบูรณ์ 100% ด้วยการนำขยะทั้งหมดไปรีไซเคิลและผลิตเป็นพลังงานให้กับประเทศ จนถึงขั้นขยะหมดประเทศและต้องขอนำเข้าขยะจากประเทศอื่นๆ แทน     ส่วนสาเหตุที่ทำให้ประเทศสวีเดนสามารถที่จะจัดการปัญหาดังกล่าวได้อย่างอยู่หมัด เพราะมีการวางแผนจัดการปัญหาขยะและนำมารีไซเคิลตั้งแต่ปี 1975 และนั่นทำให้จิตสำนึกของประชากรสวีเดนรู้ตัวว่าก่อนจะทิ้งอะไรต้องแยกขยะก่อนเสมอ     ไม่เพียงแต่เรื่องการปลูกจิตสำนึกมาเป็นเวลานานแล้ว ปัจจุบันในทุกๆ บ้านของชาวสวีเดน ก็จะมีถังขยะที่ไว้ใช้แยกขยะประเภทต่างๆ ส่วนถ้าบริเวณไหนที่เป็นชุมชนก็จะมีโรงงานแยกขยะอยู่ใกล้ๆ เสมอในระยะ 300 เมตร     ปลายทางของขยะที่ถูกแยกออกมานั้นจะถูกนำไปรีไซเคิลทั้งหมด ส่วนเศษขยะจากอาหารก็จะถูกเปลี่ยนเป็นปุ๋ยหรือแก๊ซธรรมชาติแทน ด้านขยะเคมีหรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ ก็จะมีรถบรรทุกแยกขยะพิเศามาคอยรับอีกต่อ เรียกว่าทางการไม่ปล่อยให้ของเหลือทุกชิ้นต้องถูกย่อยสลายไปอย่างเปล่าประโยชน์      นอกจากทางการสวีเดนจะรณรงค์และคอยจัดการปัญหาขยะภายในประเทศแล้ว ปัจจุบันยังมีบริษัทเอกชนอีกมากมายที่เริ่มให้ความสนใจ และหันมาสนับสนุนโครงการรีไซเคิลขยะของสวีเดนอยู่ตลอด ยกตัวอย่างเช่น H&M ที่เปิดรับบริจาคเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วของเหล่าลูกค้า ซึ่งคนที่นำมาบริจาคก็จะได้รับคูปองพิเศษเพื่อเลือกใช้ซื้อของที่ร้านดังกล่าวนั่นเอง     อย่างไรก็ตาม ถ้าประเทศอื่นๆ คิดอยากจะเอาอย่างนั้นคงจะต้องเริ่มจากการปลูกจิตสำนึกอันดีกันก่อน เพราะประชากรบางประเทศนั้นยังเลือกที่จะทิ้งขยะเรี่ยราด ไม่ก็ขับรถไปบนท้องถนนแล้วเปิดกระจกทิ้งลงข้างทางเสียทุกครั้งไป ฉะนั้นถ้าพฤติกรรมประเภทที่ว่ามายังคงอยู่ต่อไป ก็ไม่รู้ว่าปัญหาขยะนั้นจะหมดไปเมื่อไหร่เหมือนกัน……

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2018 ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอโดยผู้ใช้เฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Christopher B. Haynes เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดน่ารักที่กำลังจะกลายเป็นที่พูดถึงกับการปรากฏกายของ เอลซ่า ราชินีจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Frozen แต่เอลซ่าในที่นี้ ไม่ใช่เจ้าหญิงแสนสวยแต่อย่างใด กลับเป็นชายคนหนึ่งที่ควรได้รับการยกย่องว่าเป็น ฮีโร่ จากความดีที่เขาได้ทำ ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเถอะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 13 มีนาคม 2018 หลังจากที่พายุหิมะได้พัดพามาถล่มที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา หิมะหนาๆ ได้ตกลงมาจนเป็นเหตุทำให้รถของตำรวจแห่งเมืองบอสตันคันหนึ่งต้องติดหล่มและไม่สามารถเดินทางต่อไปได้     ท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวเหน็บนั้น คงจะไม่มีใครอยากจะออกไปช่วยรถตำรวจคันนี้ แต่ทันใดนั้นเองก็มีหนุ่มสวมวิกผมยาวสีเงิน พร้อมชุดเดรสสีฟ้าเหมือนกับเจ้าหญิงเอลซ่าจากเรื่อง Frozen มาช่วย     ผู้ชมที่เฝ้ามองอยู่ที่หน้าต่างร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองได้ทำการถ่ายวิดีโอคลิปแห่งการช่วยเหลือสุดน่ารักนี้แล้วนำมาเผยแพร่ในเวลาต่อมา     Chris Haynes ผู้ถ่ายคลิปและผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่ทุกคนกำลังออกมาแฮงเอาท์ที่บาร์ของร้านนี้ เอลซ่าจำแลงก็มาที่ร้านในค่ำคืนนี้ด้วย ในร้านไม่มีใครรู้ว่ามีรถตำรวจกำลังติดหล่มหิมะอยู่หน้าร้าน แต่พอเอลซ่าจำแลงรายนี้รู้เข้า เขาก็วิ่งออกไปช่วยเหลือในทันที     หลังจากที่คลิปวิดีโอได้เผยแพร่ออกไป ก็ได้มีการสืบข้อมูลว่าเอลซ่าจำแลงนางนี้เป็นใคร จากข้อมูลบอกว่าเขาชื่อว่านาย Jason Triplett อายุ 37…

การตลาดที่ประสบความสำเร็จนั้นมักจะมีกลวิธีเด็ดๆ ในการดึงดูดลูกค้าเสมอ ซึ่งกลวิธีที่ส่วนใหญ่มักใช้ได้ผลคือการแจกของฟรี และอีกวิธีหนึ่งก็คือการใช้ความเซ็กซี่เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ซึ่งก็มีกลุ่มคนจำนวน 5 คน ที่มีนักเรียนหญิง 3 คนรวมอยู่ในนั้นด้วย ได้นำทั้งสองวิธีมารวมกันโดยการเสนอให้จับหน้าอกฟรี ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม เด็กนักเรียนหญิงมัธยมปลายอายุ 16 ปี ทำการสร้างจุดสนใจให้กับคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ในละแวกสถานีรถไฟชิบูยะ ใกล้กับรูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ โดยแต่งตัวชุดบันนี่เกิร์ล พร้อมถือป้ายที่เขียนข้อความว่า “จับหน้าอกฟรี” และพูดกับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาบริเวณนั้นว่า “จับหน้าอกของพวกเราได้ตามต้องการ”     ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่สนใจข้อเสนอของเด็กนักเรียนเหล่านั้น แต่ทางสำนักงานตำรวจของโตเกียวนั้นรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก หลังจากสำนักงานสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษด้านความปลอดภัยชุมชน ได้มีการตรวจสอบประวัติของเด็กนักเรียนทั้ง 3 คน รวมไปถึงเด็กนักเรียนชายวัย 18 ปีและ 23 ปี ที่เป็นคนถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ พวกเขาทั้งหมดนั้นโดนข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งที่ก่อให้เกิดความรำคาญหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับสาธารณะ แต่เนื่องจากไม่ได้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นเงิน จึงไม่สามารถตั้งข้อหาค้าประเวณีได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ได้รับผลประโยชน์…   ชุดบันนี่เกิร์ลกับป้ายที่เขียนข้อความว่า “จับหน้าอกฟรี“   จากการสืบสวนพบว่าเด็กนักเรียนหญิงทั้ง 3 คนนั้น…

เดิมทีแล้วข่าวเรื่องข่มขืนและฆาตกรรมนั้นเป็นเรืองน่าหดหู่อยู่แล้ว แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้กลับน่าหดหู่ขึ้นไปอีก เมื่อมีชายวัย 26 ปีได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราคุณยายวัย 72 ปี ก่อนที่จะใช้หมอนกดหน้าเธอจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต Craig Keogh ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนและฆาตกรรม Jane Hings ขณะที่เมาสุราและยาเสพติดในวันที่ 24 กันยายน 2017 แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ให้การปฏิเสธข้อหาฆ่าข่มขืนและชิงทรัพย์ ทางศาล Birmingham Crown ได้รับทราบมาว่า Jane นั้นถูกพบว่าเสียชีวิตบนเตียงของเธอในบ้านบังกะโลที่หมู่บ้าน Fleckney เมืองสแตฟฟอร์ดเชียร์ ประเทศอังกฤษ     อัยการ Mary Prior กล่าวว่า Keogh ได้ออกเที่ยวกลางคืนที่เมือง Oadby ก่อนที่จะนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านและได้เดินมาที่บ้านของ Jane บนถนนอลิซาเบ็ธ ก่อนที่จะทำการงัดเข้ามา Prior กล่าวว่าเขาได้ทำการข่มขืนกระทำชำเรา Jane ก่อนที่จะฆ่าเธอและขโมยแหวนแต่งงานจากนิ้วของเธอไป รวมถึงกระเป๋าเงิน กระเป๋าถือและเงินสดจำนวนหนึ่งไป เธอกล่าวว่า “Craig Keogh ได้งัดเข้าไปในบ้านของ Jane Hings ในขณะที่เธอกำลังหลับอยู่ ก่อนที่จะข่มขืนขณะที่เธอกำลังมีชีวิตและฆ่าเธอด้วยหมอนที่หนุนอยู่”  …

วิดีโอเกมถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถสร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ให้ความบันเทิงกับเราได้ หากแบ่งเวลาในการเล่นได้เหมาะสม ก็จะช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ และระบายความเครียดได้ดี แต่ก็มีบ่อยครั้งที่วิดีโอเกมตกเป็นเป้าของสังคม โดนกล่าวหาว่าเป็นตัวการทำให้อนาคตของชาติ มีความก้าวร้าวและเป็นเหตุของความรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเนื้อหาของบางเกมที่ให้ผู้เล่นได้ทำการตีรันฟันแทง ล่าสุดจากเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียน ประธานาธิบดีสหรัฐ Donald Trump ได้ออกมาให้ความเห็นว่าวิดีโอเกมนั้นเป็นบ่อเกิดของความรุนแรง (ข่าวเก่า)   และนี่คือวิดีโอที่ Donald Trump ได้โชว์ระหว่างที่นัดพบกับผู้ผลิตเกมเพื่อเสนอด้านรุนแรงของเกมให้สังคมเห็น    เมื่อมีฝั่งที่ไม่สนับสนุนก็ย่อมมีฝั่งสนับสนุนเช่นกัน เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2018 Games For Change กลุ่มการเคลื่อนไหวทางสังคม ที่ใช้เกมเป็นสื่อกลางในการพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้น ทำการโพสต์วิดีโอด้านที่สวยงามของวิดีโอเกม เพื่อโต้ตอบกับวิดีโอของ Donald Trump ที่ชี้ให้เห็นแต่ความรุนแรง ประธานของ Game for Change ให้สัมภาษณ์ทางอีเมล์ว่า “พวกเราทำวิดีโอนี้ขึ้นเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา มันเป็นเหมือนจดหมายที่ส่งความรักถึงผู้ผลิตเกมและสื่อกลาง เราหวังว่ามันจะช่วยแสดงให้เห็นถึงความงามและเพลิดเพลินที่ได้จากวิดีโอเกม ในรูปแบบที่แตกต่างไปจากวิดีโอของทำเนียบขาว”   . .   โดยทางกลุ่มเกมเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้เลือกใช้ฉากที่ Ellie จาก The…

‘ความรัก’ บางครั้งมันก็ไม่ได้เจาะจงกับเฉพาะแค่ว่าต้องเกิดกับ ‘คู่รักกัน’ เท่านั้น คำนิยามของความรัก แท้จริงนั้นมีความหมายที่กว้างมากๆ แต่สิ่งที่เรารู้กันดีก็คือ หากมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เมื่อนั้นย่อมเกิดสิ่งดีๆ ตามมาเสมอ เช่นเดียวกันกับคู่รักคู่นี้… ชุดภาพงานแต่งงานระหว่างหญิงสาววัย 25 ปี กับคุณปู่วัย 87 ปี ที่กำลังถูกพูดถึงในโลกอินเตอร์เน็ตของชาวจีนอย่างกว้างขวาง     บุคคลในภาพฝ่ายชายคือคุณปู่ ฝูฉีฉวน และฝ่ายหญิงคือ ฝูเสว่เว่ย เมื่อได้เห็นภาพแล้วหลายๆ คนเองต่างก็ตัดสินกันไปแล้วต่างๆ นานา บ้างก็มีทัศนคติทางด้านลบกับเรื่องราวดังกล่าว แต่แท้จริงแล้วชุดภาพงานแต่งงานนี้ มีเบื้องหลังสุดประทับใจอยู่     บุคคลในภาพทั้งสองคนมีความสัมพันธ์เป็นปู่กับหลาน โดยที่คุณปู่เลี้ยงฝูเสว่เว่ยมาตั้งแต่เล็กๆ แล้ว เพราะพ่อแม่ของเธอมักจะต้องทำงานหนักอยู่เสมอ ทำให้ไม่มีเวลามาเลี้ยงดูเธอเลย ก่อนที่จะแยกทางกันไปภายหลัง ฝูเสว่เว่ยรักคุณปู่มาก เพราะทุกครั้งที่เธออยากได้อะไร คุณปู่ก็มักจะตามใจอยู่เสมอ ทำให้เธอตั้งใจเอาไว้ว่าเมื่อไหร่ที่เธอมีลูก ก็อยากที่จะให้พวกเขาจดจำใบหน้าของคุณปู่ได้ เพราะเขาคือผู้มีพระคุณสำหรับชีวิตของเธอ แต่พอมาถึงเมื่อปี 2015 คุณปู่เกิดป่วยเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง ทำให้ฝูเสว่เว่ยกลัวว่า คุณปู่อาจอยู่ได้อีกไม่นานและอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นภาพวันแต่งงานของเธอ     ต่อมาในปี 2017 คุณปู่ฝูฉีฉวนอาการย่ำแย่ลงจนถึงกับต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ฝูเสว่เว่ยจึงตัดสินใจชวนคุณปู่ไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วยกันในเดือนธันวาคมเมื่อปีที่ผ่านมา…

เจ้าของที่สุดโหด ไล่ผู้อาศัยออกจากห้องเช่าโดยการ ‘โยนข้าวของ’ ของผู้อาศัยออกนอกหน้าต่าง ทำให้ Donna Newby คุณแม่วัย 41 ปี ที่เป็นผู้เสียหายต้องช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตนกลับมาที่ห้องเช่าของตน แล้วพบว่าข้าวของถูกโยนทิ้งลงมาจากชั้นสองท่ามกลางสายฝน บริเวณพื้นด้านนอกห้องเช่าย่าน Drylaw กรุงเอดินเบอะระ ประเทศสกอตแลนด์ สิ่งของที่ถูกโยนออกมากองไว้ก็จะมี โทรทัศน์ 5 เครื่อง เตียงโซฟา และของเล่นของเด็ก     ทั้งนี้คุณแม่ Donna กล่าวว่า “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้น พวกเขาไม่มีสิทธิ์มาทำกับข้าวของของฉันแบบนี้ เจ้าของที่ยังสั่งให้คนกลับมาขนของเหล่านี้ออกไปอีกด้วย พวกเขาเอาไปทั้งของเล่นเด็ก เก้าอี้ทารก เปลเด็ก ของเล่นทำครัว เครื่องประดับ อัญมณี และเตาผิงของน้องสาวที่เสียไปแล้วของฉัน ของเหล่านี้มันหามาทดแทนไม่ได้เสียด้วย เพราะมันเป็นความทรงจำเดียวที่ฉันมี” Donna กล่าวว่าเธอถูกไล่ที่ในวันพุธที่ 7 มีนาคม 2018 ซึ่งเจ้าของที่บอกเธอว่าเธอมีเวลาถึงวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2018 ในการเก็บข้าวของออก แต่เธอกลับต้องมาพบว่าข้าวของของเธอถูกโยนทิ้งออกมานอกหน้าต่างในวันศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2018 โดยเจ้าของที่ David Love ซึ่งเป็นนักมวยในเอดินเบอะระ ได้พาผู้ช่วยมาอีก 3…

ตามท้องถนนสิ่งที่จะเกิดบ่อยๆ เมื่อมีรถวิ่งผ่านเส้นทางนั้นก็คือหลุม ซึ่งบ้างก็เป็นหลุมเล็ก บ้างก็ใหญ่ แต่ทุกหลุมก็สามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้เหมือนกัน แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องทำต่อมาคือแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อทำการแก้ไขซ่อมแซม เช่นกันกับถนนที่เขต North West England ในประเทศอังกฤษ ที่มีหลุมใหญ่ปรากฏขึ้น จึงแจ้งไปยังกรมทางหลวงเพื่อให้มาดูแล แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้พวกเขาตะลึง เพราะกรมทางหลวงบอกว่า หลุมยังไม่ใหญ่พอ จึงยังไม่มีการซ่อมแซมใดๆ     ทวิตเตอร์ของเทศบาลเขต Cheshire West และ Chester โพสข้อความว่า “เราได้รับแจ้งว่ามีการพบหลุมลึกกว่า 50 มิลลิเมตรบนถนนและทางเท้า เราจะทำการตรวจสอบภายในห้าวัน เพื่อทำการประเมินความเสียหายและกำหนดการซ่อมแซม” และทางเทศบาลก็ส่งเจ้าหน้าที่ Darren มาทำการตรวจสอบ ซึ่งผลการตรวจสอบออกมาว่า “หลังจากการที่ได้ไปสำรวจถนนที่ได้รับแจ้งว่ามีปัญหา เจ้าหน้าที่ดาร์เรนได้ทำการตรวจสอบและอธิบายผลว่าหลุมที่เกิดมีขนาดน้อยกว่า 50 มิลลิเมตร ดังนั้นจึงยังไม่ต้องมีการซ่อมแซมแต่อย่างใด”     แน่นอนว่าสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวเน็ตมากมาย และทวีตนี้ก็กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตล้อต่อกันไป เราจะยกตัวอย่างคอมเมนต์ชาวเน็ตมาให้เพื่อนชมกันนะครับ   “เครื่องวัดระดับมันไม่ได้บอกถูกต้องเสมอไปนะโว้ย!! ถนนใน Cheshire นี่มันกลายเป็นความอับอายและยังอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักปั่นจักรยานอีก”   “สงสัยต้องหลุมขนาดนี้เขาถึงจะยอมมาซ่อมให้”   “ดาร์เรน ดาร์เรน ดาร์เรนนนน ขึ้นมาได้ละโว้ย และเรียกให้คนอื่นเอาเครื่องวัดระดับแบบใหญ่ที่สุดมาให้ด้วย”…

เป็นปัญหายอดฮิตสำหรับหญิงและชายหลายต่อหลายคู่ สำหรับการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สนใจ เพราะเอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือหรือเล่นเกม บางครั้ง คนรักกันเมื่ออยู่ด้วยกัน ก็ย่อมต้องการความสนใจ และความเอาใจใส่จากกันและกัน แต่เมื่ออีกฝ่ายหนึ่ง กลับไปสนใจสิ่งอื่นมากกว่า มันจึงเป็นปัญหาที่หลายๆ คู่คงจะเข้าใจดี แต่วันนี้ เรามีตัวอย่างเป็นคลิปวิดีโอมาให้ชมกัน ในวิดีโอนี้ แสดงถึงวิธีการที่ฝ่ายหญิงใช้จัดการฝ่ายชาย เมื่อฝ่ายชายไม่สนใจเธอ เพราะเอาแต่สนใจโทรศัพท์มือถือ เป็นวิธีที่ใช้แล้วมั่นใจได้ระดับหนึ่งเลยว่า ฝ่ายชายคงจะไม่อยากสนใจอย่างอื่นมากกว่าคนรักของตนเองอีกแล้วล่ะ   ว่าแต่วิธีที่เธอใช่จะเป็นวิธีอะไร และใช้ได้ดีขนาดไหน ไปรับชมกันตามคลิปวิดีโอด้านล่างนี้กันได้เลย…    ภาพวิดีโอนี้ถูกถ่ายที่เจียมูซิ มณฑลเฮย์หลงเจียง ของประเทศจีน เนื้อหาภายในคือ ฝ่ายชายกำลังเล่นเกมโทรศัพท์มือถืออย่างใจจดใจจ่อ โดยไม่สนใจฝ่ายหญิงเลยแม้แต่น้อย จากนั้น ฝ่ายหญิงจึงเดินเข้าไปหาฝ่ายชาย พร้อมใช้กล้องถ่ายมายังสิ่งที่เธอถือนั่นก็คือ “กาวดักหนู” และแน่นอน เธอไม่ได้ถือมาเฉยๆ เธอนำกาวดักหนูเข้าไปแปะเข้ากับใบหน้าของฝ่ายชายอย่างจัง พร้อมกดให้แนบแน่น โทษฐานที่ฝ่ายชายไม่สนใจเธอ และเอาแต่สนใจเกมโทรศัพท์ ขึ้นชื่อว่ากาวดักหนู แน่นอนว่ามันต้องมีความเหนียว ชนิดที่ว่ายึดติดหนูไว้ได้อยู่หมัด เมื่อมันถูกแปะลงบนใบหน้า มันจึงยึดแน่นเข้ากับใบหน้า จนดึงออกยาก จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่า ฝ่ายชาย ดึงกาวดักหนูออกมาแล้ว แต่กาวจำนวนมากยังติดใบหน้าเขาอยู่   สนใจแต่เกมดีนักใช่มั้ย?   ป้าบ…

ใครก็ตามที่รับสุนัขมาเลี้ยงแล้ว จะรู้สึกผูกพันกับมันจนไม่อยากแยกจากกัน แต่ด้วยเหตุผลหรือเงื่อนไขบางอย่างทำให้เจ้าของสุนัขหลายๆ คนต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเลย เช่นเดียวกับ Lewis Jimenez ที่ต้องทำให้สิ่งที่ยากที่สุดเมื่อ 4 เดือนก่อน เพราะเขาต้องพาน้องหมาพิตบูล Titus กลับไปอยู่ในศูนย์พักพิง ที่ที่เขาเคยรับเลี้ยงมันมา แต่ต่างจากคนทั่วไป ที่นำสัตว์เลี้ยงมาทิ้งแล้วไม่เคยกลับไปหาพวกมันอีก Jimenez กลับไปหา Titus อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยมันไว้ลำพังอีก     ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 Jimenez รับเลี้ยง Titus ตอนที่มันอายุได้ 2 ปี ที่ Austin Animal Center ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงในเขตเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจรับเลี้ยงพิตบูล แต่เมื่อเห็นอาสาสมัครพา Titus เดินเล่นในสนาม เขาตกหลุมรักมันทันที Jimenez บอกว่า “ผมเห็นมันกระโดดและดูมีความสุขมากๆ ผมคิดผมต้องการสุนัขตัวนี้” กระทั่ง 5 ปีต่อมา Jimenez และ Titus กลายเป็นเจ้าของและสัตว์เลี้ยงที่แยกจากกันไม่ได้ “มันเปรียบเหมือนลูกชายคนโตของผม และมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม” เจ้าของกล่าว     แต่เมื่อปีที่แล้ว มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นและบีบให้พวกเขาต้องแยกออกจากกัน Lewis บอกว่าไม่สามารถดูแล Titus ได้อีกแล้ว Jennifer Olohan ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารและสื่อของศูนย์พักพิงบอกว่า…

บางทีการให้ความช่วยเหลือกับใครเพียงเล็กน้อยมันอาจจะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนที่ถูกช่วยเหลือก็เป็นได้ เหมือนกับพลเมืองดีในเมืองซาซคาทูน ประเทศแคนาดา ที่ได้ยินเสียงร้องเมี๊ยวม๊าวใกล้กับโรงรถของเขา เมื่อไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นลูกแมวน้อย 8 ตัว ลูกแมวทั้งหมดถูกจับวางอยู่ในกล่อง พวกมันกำลังพยายามไขว่คว้าหาความอบอุ่น ชายคนนั้นเลยพาพวกมันเข้าบ้านก่อนมองหาช่องทางเพื่อช่วยเหลือพวกมันต่อไป     ต่อมาศูนย์ช่วยเหลือแมวข้างถนน SCAT Street Cat Rescue ได้รับแจ้งเกี่ยวกับแมวน้อยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พวกเขาจึงรีบไปหามิ้วน้อยพวกนั้นทันที SCAT “คืนนั้นเป็นคืนที่อากาศติดลบ 20 องศาเซลเซียส มีลมกระโชกแรงเนื่องจากพายุหิมะในฤดูหนาวพัดเข้ามา” “ลูกแมวทั้งหมดอยู่ในภาวะตัวเย็นเกินไปและเซื่องซึม หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป จะเป็นอันตรายกับแมวได้ ดังนั้นจึงต้องทำให้ร่างกายพวกมันอบอุ่นอย่างรวดเร็ว”     แม้จะอยู่ในกล่องเดียวกัน แต่พวกมันเกิดจาก 2 ครอก กลุ่มหนึ่งอายุประมาณ 5 สัปดาห์ ในขณะที่อีกกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากลูกแมวมีถึง 8 ตัว ทาง SCAT จึงต้องให้พวกมันแยกกันอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ต่างๆ โดยจะมีคนคอยดูแลพวกมันตลอดเวลา     หลังจากที่ได้รับการดูแลสักพัก ลูกแมวส่วนใหญ่กลับมาแข็งแรงอีกครั้งและสามารถกินอาหารได้ดี แต่ 2 ในนั้นต้องใช้เวลามากขึ้นในการปรับตัว ต่อมาผู้ดีแลได้ตั้งชื่อให้มิ้วน้อย 4 ตัวที่โตกว่า Ingrid Bergman  Isaac…

เซ็กส์ทอยคืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการตอบสนองความต้องการทางเพศที่หลากหลาย แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ควรจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ เรื่องของความปลอดภัยในการใช้งาน ไม่อย่างนั้นอาจต้องประสบปัญหาเหมือนอย่างชายคนนี้ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2018 เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับชายนิรนามวัยประมาณช่วง 30-40 ปี จากไต้หวัน เขารีบเข้าพบแพทย์เป็นการด่วน หลังจากที่แท่งหรรษาของเขาดันไปติดอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ จนทำให้ฉี่ออกมาเป็นเลือด   ภาพเอ็กซเรย์เผยให้เห็นวัตถุแปลกปลอมในกระเพาะปัสสาวะ   แพทย์ในโรงพยาบาลจึงทำการนำมันออกมา โดย Jiann Bang-bing หัวหน้าแผนกวิชาระบบทางเดินปัสสาวะของโรงพยาบาลทหารผ่านศึกในเขต Kaohsiung บอกว่า สิ่งที่พวกเขาพบคือแท่งพลาสติกความยาว 20 เซนติเมตร (เท่ากับ 7.87 นิ้ว) และถึงหนา 1 เซนติเมตร   แท่งหรรษาที่ถูกพบในกระเพาะปัสสาวะของคนไข้   หลังจากนั้นคนไข้คนดังกล่าวก็ไม่กล้ากลับมาพบหมอ เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติมและนำของเล่นของเขากลับไป จนกระทั่งผ่านไปกว่า 2 วัน เขาจึงกลับมาพร้อมกับเล่าให้แพทย์ฟังว่า เหตุผลที่เจ้าสิ่งนี้ไปติดอยู่ด้านในเป็นเพราะเขาใช้มันแหย่เข้าไปทางท่อปัสสาวะ เพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศของตัวเอง นั่นจึงทำให้มันหลุดเข้าไปถึงด้านใน ไม่สามารถเอาออกมาเองได้ และมันก็เข้าไปทำให้เกิดการอักเสบ มีเลือดปนมากับน้ำปัสสาวะของเขา หลังจากนั้นเขาก็กลับไปพักรักษาตัวต่อที่บ้าน รอวันให้อวัยวะบริเวณนั้นกลับมาฟื้นฟูแข็งแรงดังเดิม…

หลายครั้งที่เราเห็นลูกสัตว์ป่าตัวน้อยถูกทิ้งให้อยู่ลำพังไร้เงาแม่ ซึ่งเหตุผลมักจะมาจากการที่ลูกตัวนั้นอาจจะอ่อนแอเกินไป เช่นเดียวกับเรืื่องราวที่ถูกแชร์ในเพจเฟซบุ๊ก Town of Carroll Police Department ที่มีการพบแม่หมีดำทิ้งลูกน้อยไว้กลางถนน เพราะมันอ่อนแอเกินไป     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Bretton Woods รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อแม่หมีและลูกๆ 4 ตัวกำลังข้ามถนน จนรถที่กำลังขับมารวมทั้งรถตำรวจต้องจอดให้พวกมันเดินข้าม แต่ทันใดนั้นลูกหมีตัวหนึ่งก็หยุดเดินและนั่งลงกลางถนน ขณะที่ลูกหมีตัวอื่นๆ ยังคงเดินตามแม่ต่อไป…     แม่หมีพยายามเดินกลับมาตามลูกน้อยที่นั่งอยู่กลางถนน แต่มันไม่ยอมลุกขึ้นเลย ดูเหมือนว่ามันอ่อนแอและเหนื่อยเกินไปที่จะเดินต่อ ในที่สุดแม่หมีก็ตัดสินใจทิ้งลูกที่อ่อนแอตัวไว้กลางถนนอย่างนั้น ก่อนจะพาลูกๆ อีก 3 ตัวที่เหลือเดินหายเข้าไปในป่า     แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นในสังคมของสัตว์ป่า แต่มันก็สร้างความสะเทือนใจให้ผู้ที่พบเห็นไม่ใช่น้อย แน่นอนว่าตำรวจที่เห็นเหตุการณ์ไม่สามารถทิ้งหมีน้อยไว้ตรงนั้นได้ เขาจึงพามันขึ้นรถและเอากลับไปดูแลที่สถานีตำรวจเป็นการชั่วคราว     จริงๆ แล้ว แม่หมีตัวนั้นมีลูกถึง 5 ตัว แต่ก่อนหน้านี้มันได้ทิ้งลูกตัวหนึ่งไว้ใกล้กับถังขยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ช่วยเหลือมันเหมือนกัน ลูกหมีทั้งสองตัวจะได้รับการฟื้นฟูภายใต้การดูแลของ Fish and Game และหากสภาพร่างกายพร้อมแล้ว พวกมันจะถูกส่งกลับไปอยู่ในป่าต่อไป     อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เตือนว่าถ้าคุณเห็นสัตว์ป่าถูกทิ้งเช่นนี้อย่าเข้าไปรับพวกมันมาเองเด็ดขาด…

ความหวังของสัตว์เลี้ยงในศูนย์พักพิงคือการถูกรับเลี้ยง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข และมีอิสระในการวิ่งเล่น รวมทั้งแสดงความรักต่อครอบครัว แต่มีหลายเหตุผลที่ทำให้สัตว์หลายตัวถูกละเลย เช่น เป็นโรค อายุมาก ลักษณะนิสัย จนต้องใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เป็นเวลาหลายปี บางตัวถึงกับหมดหวัง เหมือนกับ Cesara ที่ถูกส่งไปอยู่ในที่พักพิงสาธารณะขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ก่อนจะถูกจัดอยู่กลุ่มรอการุณยาฆาต เพราะมันป่วยเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจ     อย่างไรก็ตามองค์ก่อนช่วยเหลือสุนัข Dog Star Rescue ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข พร้อมมอบชีวิตใหม่ให้ ตัดสินใจที่จะให้โอกาสนั้นกับ Cesara หลังจากที่ได้รับการรักษา ในไม่ช้าน้องหมาก็ถูกส่งไปอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐเซาท์แคโรไลนา เพื่อที่จะหาบ้านใหม่     เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี Cesara ผู้น่าสงสารก็ยังคงรอครอบครัวใหม่ที่นั่นเหมือนเดิม ขณะที่  Dog Star Rescue ก็ทำงานกันอย่างไม่รู้จักเหนื่อย เพื่อหาบ้านให้มัน แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าเอาเสียเลย Megan Casagrande จาก Dog Star Rescue บอกว่า “เรื่องราวของ Cesara ถูกโพสต์ในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เว็บไซต์ และช่องทางอื่นๆ แต่มันไม่เคยได้รับโอกาสเลย”  …

ความรักของพ่อและแม่ที่มีต่อลูกๆ มักจะยิ่งใหญ่เสมอ แต่บางทีนั้นความรักที่มีมันมากเกินจนกลัวที่จะสูญเสียลูกไป ก็อาจจะทำให้คนเป็นแม่ต้องลงมือทำอะไรบางอย่างที่ร้ายแรงได้เลยทีเดียว Lesley Speed คุณแม่วัย 44 ได้ทำการฆาตกรรมลูกชายวัย 7 ขวบที่ชื่อว่า Archie Spriggs ด้วยการรัดคอ หลังจากศาลได้ตัดสินให้ Matthew Spriggs อดีตสามีของเธอได้รับสิทธิในการเลี้ยงดูบุตรชายคนดังกล่าว     โดย Darren Jones สามีคนปัจจุบันของเธอเป็นคนพบร่างอันไร้วิญญาณของเด็กชายนอนอยู่บนเตียง 2 ชั้น ที่บ้านในเขต Church Stretton เมือง Shropshire ประเทศอังกฤษ พร้อมๆ กับร่างไร้สติของ Lesley Speed โดยที่บนร่างกายของเธอนั้นมีบาดแผลที่เกิดจากของมีคมเป็นจำนวนมาก  เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัว Speed ไปยังโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาในทันที ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พ้นขีดอันตราย ต่อมาเธอก็ถูกจับข้อหาฆาตกรรม ทางศาลได้อ่านจดหมายที่พบในบ้านของเธอ ภายในจดหมายกล่าวว่าเธอยอมเห็นลูกชายของเธอตายมากกว่าต้องให้เขาไปอยู่กับพ่อของเขา     ก่อนหน้านี้ Lesley Speed ได้ถูก Matthew Spriggs ฟ้องร้องขอสิทธิเลี้ยงดูจากศาล เนื่องจากเขาพบว่า Speed มักทำร้ายร่างกายบุตรชาย จนในที่สุด ศาลก็ตัดสินให้ Archie…

ความรักคือสิ่งที่สวยงามและไม่มีอะไรจะสามารถพรากสิ่งนี้ออกไปจากใจของเราได้ เช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนี้ที่แม้เขาจะรู้ดีว่าแฟนสาวของตัวเองอาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไม่นาน แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่กับเธอไปจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต กลายเป็นเรื่องราวอันแสนประทับใจที่ทำให้ใครต่อใครถึงกับต้องยิ้มทั้งน้ำตา หนุ่มชาวจีนคนนี้มีชื่อว่า Chen Junyi เขาคบกับแฟนสาว Xu Yuting มาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี แต่ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังมีความสุขอยู่กับการสร้างช่วงเวลาอันแสนน่าจดจำด้วยกันนั้น วันหนึ่งกลับพบว่าหญิงสาวอาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวและแฟนหนุ่มเป็นอย่างมาก     เรื่องราวอันน่าเศร้านี่เริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2017 เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่า Yuting ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (โรคลูคีเมีย) นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอพร้อมจะจากโลกนี้ไปได้ทุกเมื่อ และเธอก็จำเป็นต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเขต Yanjiao มณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน แพทย์ยังบอกกับเธออีกว่าค่ารักษาเยียวยาอาการป่วยของเธอนั้นสูงถึง 1.5 ล้านหยวน หรือประมาณ 7.4 ล้านบาทเลยทีเดียว จึงทำให้เธอรู้สึกกังวลกับเงินค่ารักษาที่แพงมาก     เมื่อแฟนหนุ่มทราบถึงอาการป่วยของเธอ เขาก็ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับเวลาอันน้อยนิดที่เธอมีเหลืออยู่ Junyi จึงตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำ เพื่อมาดูแลแฟนสาวของตัวเองไม่ห่างไปไหน ไม่ใช่เพียงแค่การยอมสละเวลาและหน้าที่การงานของตัวเอง แต่เขายังยอมขายของมีค่าของตัวเองไปเกือบทั้งหมดเพื่อนำเงินมาช่วยค่ารักษาของเธออีกด้วย และถึงแม้ว่ามันจะยังคงไม่มากพอ แต่เขาและเธอก็ต่างไม่ยอมแพ้ต่อช่วงเวลาอันโหดร้ายนี้     แต่แล้วอาการของหญิงสาวก็ทรุดตัวลงจนน่าเป็นห่วง และนั่นจึงทำให้แฟนหนุ่มทำในสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าเขาจะไม่จากเธอไปไหน ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์…

ในช่วงฤดูใบไม่ผลิของประเทศญี่ปุ่นแบบนี้ ร้านกาแฟสตาร์บัคของญี่ปุ่นได้เชิญชวนให้ทุกคนได้ลิ้มลองประสบการณ์การชิม “กาแฟขาว” เมนูเครื่องดื่มสูตรใหม่อันเป็นเอกลักษณ์     สตาร์บัคของญี่ปุ่นได้ทำการออกเมนูเครื่องดื่มชนิดใหม่แก่เหล่านักดื่มโดยที่เรียกมันว่า “ประสบการณ์กาแฟขาว” และบอกว่ามันจะเป็นวิธีใหม่ในการเสพย์ความเพลิดเพลินกับกาแฟ ซึ่งเจ้าประสบการณ์กาแฟขาวที่ว่านี้ มีให้เลือกอยู่สองแบบ ได้แก่   The Mousse Foam Latte วางขายในแบบร้อน และเย็น ในขนาด tall เท่านั้น ราคา 440 เยน (ราวๆ 120 บาท)   นี่เป็นกาแฟแบบมีฟองนมซึ่งใช้ “โฟมมูส” ที่ทำจากนมพร่องมันเนยเป็นครั้งแรกของสตาร์บัคของญี่ปุ่น จากข้อมูลของสินค้านั้นโฟมมูสจะมีความข้นและนุ่มมาก บวกกับรสชาติที่รุนแรงของคาราเมลและกาแฟเอสเพรสโซ 2 ช็อตในแก้ว เชื่อว่าจะถูกปากคอกาแฟอย่างแน่นอน แถมหน้าตาก็น่าดูไม่เบาอีกด้วย   The White Brew Coffee and Macadamia Frappuccino ขนาด tall เท่านั้น ราคา 590 เยน (ราวๆ 170 บาท)   แม้ว่ากาแฟปั่นแก้วนี้จะดูเป็นสีขาวราวกับหิมะ…

เราอาจเคยมีความคิดว่าคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คงไม่เข้ามาช่วยเหลือเราง่ายๆ หรอก แต่เหตุการณ์นี้จะช่วยเปลี่ยนความคิดนั้นไปโดยปริยาย เพราะเด็กสาวคนหนึ่งในประเทศจีนที่กำลังจะจากโลกนี้ไป กลับได้รับการช่วยเหลือจากชาวเน็ตที่ไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนที่ Song Shurui เด็กสาววัย 17 ปีในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน กำลังเผชิญกับความเจ็บปวดแสนสาหัสจากอาการปอดติดเชื้อภายหลังการปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อรักษา โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) ในช่วงเดือนธันวาคม 2017     สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด คุณหมอถึงกับบอก Dai Qinjia แม่ของเธอไว้ก่อนเลยว่า มีโอกาสน้อยมากที่ Song จะเยียวยากลับมาหายเป็นปกติได้ เธออยู่ในจุดที่อาจจะจากโลกนี้ไปได้ทุกเมื่อ คนเป็นแม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เธอเฝ้าดูแลลูกสาวอยู่ข้างเตียงไม่ห่างไปไหนนานเป็นเวลานับสัปดาห์ เธอบอกว่า “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกสาวฉันกำลังจะตาย ฉันจะทำทุกหนทางเพื่อช่วยเธอด้วยทุกอย่างที่ฉันมี”     ในตอนนั้นยาเพียงตัวเดียวที่จะสามารถช่วยเหลือเด็กสาวได้คือยาที่มีชื่อว่า Cidofovir แต่ว่ายาตัวนี้กลับไม่สามารถหาได้ในพื้นแผ่นดินใหญ่ของประเทศจีนที่พวกเธออาศัยอยู่ ถึงอย่างนั้นคุณแม่ก็ไม่ย่อท้อ Dai ตัดสินใจโพสต์ขอความช่วยเหลือลงไปในโลกโซเชียล หวังให้มีพลเมืองดีซักคนหยิบยื่นโอกาสให้ลูกสาวของเธอได้กลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง แล้วในที่สุดสวรรค์ก็มีตา คุณแม่ได้รับการตอบกลับจากชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เธอจึงรีบโทรติดต่อหาเขาในทันที   ข้อความจากชาวเน็ตหลายๆ คน   ชายผู้ไม่เอ่ยนามคนนี้เล่าว่า “ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตี 2 Dai โทรมาสอบถามถึงข้อมูลตัวยาดังกล่าว…

ทุกการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ มันอาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและอาจเปลี่ยนโลกทั้งใบของใครสักคนไปเลยก็ได้ ด้วยเหตุนี้ คุณครูคนหนึ่งจึงหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เจ้ามิ้วน้อยที่ร้องขอความเห็นใจ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตของมันตลอดกาล     ขณะที่ Kimberly คุณครูจาก Maui รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังเดินไปสนามหญ้า อยู่ดีๆ เธอก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้อง จึงมองหาต้นเสียงนั้น แล้วก็พบมิ้วน้อยตัวหนึ่งที่มีอาการติดเชื้อบริเวณตาอย่างรุนแรง คุณครูไม่สามารถทิ้งแมวไว้ตรงนั้นได้ เพราะดูจากอาการแล้วมันไม่น่าจะเอาตัวรอดได้ด้วยตัวเอง     Kimberly บอกว่า “ลูกแมวอายุประมาณ 4 สัปดาห์ ฉันเห็นมันอยู่ตัวคนเดียว ฉันจึงอุ้มมันขึ้นมาแล้วเอาผ้าห่อไว้ ก่อนจะให้มันนอนลงในกล่อง” คุณครูได้ตั้งชื่อให้มิ้วน้อยว่า Pretzel และพามันกลับบ้าน เพื่อที่จะหาคนดูแลมันต่อไป…เมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็ได้เช็ดทำความสะอาดตาให้ ป้อนน้ำ ป้อนอาหาร รวมทั้งให้ยา และดูแลมันตลอดทั้งคืน     หลังจากนั้นไม่นาน Morty สุนัขของ Kimberly ก็ได้เข้าไปทักทายมิ้วน้อย “ตอนแรกฉันค่อนข้างกังวลว่าสุนัขจะทำอย่างไรกับ Pretzel” คุณครูกล่าว Morty มีความเป็นมิตรกับน้องแมว มันเข้าไปเลียหน้ามิ้วและเดินตามน้องไปทั่วบ้าน ทั้งสองตัวจึงกลายเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่ตอนนั้น     มิ้วน้อยเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและเป็นตัวของตัวเอง มันชอบเดินสำรวจสิ่งต่างๆ ภายในบ้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น บางทีทั้งแมวและแมวจะเล่นต่อสู้กัน…

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ชอบเล่นซุกซน ชอบปีนขึ้นไปบนที่สูง บางตัวอาจจะเก่งจนลงมาเองได้ แต่บางตัวเนี่ยสิ ขึ้นได้แต่ลงมาไม่ได้ พาตัวเองไปลำบากแท้ๆ เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ไปติดอยู่บนต้นไม้สูงในย่าน Buffalo ของนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ทาสของมันกำลังหาคนมาช่วย แต่ไม่มีใครสนใจเลย     แมวตัวนั้นมีชื่อว่า Alice มันหนีออกจากบ้านเพราะครอบครัวนำสุนัขมาเลี้ยงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มันปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้สูง และไม่สามารถลงมาได้ เมื่อ Jessica Williams เจ้าของของ Alice พบแมวตัวเองอยู่บนต้นไม้สูง เธอได้ขอความช่วยเหลือจากผู้คนและหน่วยงานที่น่าจะช่วยได้     Alice บอกว่า “มีศูนย์ดับเพลิงอยู่ใกล้บ้าน เราไปที่นั่น 2 ครั้ง แต่ไม่มีใครสนใจเราเลย เรายังโทรไปหาหน่วยงานอื่นๆ ร่วมทั้งกรมควบคุมสัตว์ และทุกคนที่เราพอจะนึกได้” ขณะเดียวกัน Jessica และแฟนหนุ่มของเธอ Daniel Pilarski พร้อมกับครอบครัวพยายามเกลี้ยกล่อมเจ้าเหมียวให้ลงมา โดยการวางอาหารแมวไว้ข้างล่าง   พวกเขามีบันไดสูง แต่ขาดแค่คนที่จะปีนขึ้นไปและพาเจ้าเหมียวลงมา   ผ่านไปกว่า 9 วัน ที่ครอบครัวพยายามขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานท้องถิ่นและองค์กรต่างๆ แต่ไม่เป็นประโยชน์ Tammy Hanna แม่ของ Daniel จึงตัดสินใจเผยแพร่เรื่องนี้ในเฟซบุ๊ก เมื่อ Tristan Lambright…

คววมหวังของสุนัขในที่พักพิงคืออยากมีคนรับเลี้ยง อยากมีบ้านของตัวเอง อยากมีครอบครัว อยากมีคนให้รัก และอยากมีคนที่วิ่งเล่นไปด้วยกัน ด้วยเหตุนี้ ศูนย์พักพิง Knox County Humane Society ในรัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงสร้างบรรยากาศให้น้องหมารู้สึกเหมือนได้อยู่บ้าน     เจ้าหน้าที่ใน Knox County Humane Society ไมว่าจะเป็นแผนกจัดเอกสารหรือรับโทรศัพท์ เก้าอี้ที่พวกเขานั่งมักจะมีเจ้าพิทบูล Buster มานั่งด้วยเสมอ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าหน้าที่ลุกจากเก้าอี้ น้องหมาจะยึดเก้าอี้ตัวนั้นเป็นของตัวเองทันที Erin Buckmaster ผู้อำนวยการศูนย์พักพิงบอกว่า “มันชอบที่จะอยู่กับเราในออฟฟิศ จนมาวันหนึ่ง ช่างในท้องถิ่นได้บริจาคเก้าอี้มาให้ เราเลยตัดสินใจมอบมันให้กับ Buster ตั้งแต่วันนั้น มันก็ไม่มานั่งกับเราเลย”     Buster มีความสุขกับเก้าอี้ของมันมาก Buckmaster จึงคิดว่าสุนัขตัวอื่นๆ ก็น่าจะมีความสุขเช่นกัน ถ้าพวกมันมีเก้าอี้เป็นของตัวเอง เธอบอกว่า “ผู้คนมักจะทิ้งเก้าอี้เก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้ว ดังนั้นมันน่าจะเป็นเรื่องง่ายที่เราจะจัดหาเก้าอี้เหล่านั้นมาให้สุนัขที่นี่”     หลังจากนั้น ทางศูนย์พักพิงก็เลยประกาศรับบริจาคเก้าอี้เก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้ว ทำให้มีคนบริจาคทั้งเก้าอี้เข้ามา จนตอนนี้ สุนัขกว่า 10…

ในวันที่ 15 กันยายน 2017 ที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในรถไฟใต้ดินขบวนหนึ่ง ที่กำลังวิ่งผ่านถนน Edgware ในนครวินเมสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อจู่ๆ ก็เกิดระเบิดขึ้นบริเวณท้ายขบวนของรถไฟ จนทำให้เกิดเปลวไฟขนาดใหญ่สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้โดยสารทุกๆ คนในบริเวณที่เกิดเหตุ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกเผยแพร่โดยตำรวจนครบาลเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2018 จะเห็นได้ว่าภายในขบวนรถไฟนั้น มีผู้โดยสารอยู่ประมาณ 93 ราย กำลังเดินทางไปยังที่หมาย โดยไม่ได้เอะใจเลยแม้แต่น้อยว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น   ผู้โดยสารทุกคนไม่รู้เลยว่า จะเกิดการระเบิดขึ้นภายในขบวน   เพียงไม่กี่วินาทีก็มีเปลวไฟวิ่งมาจากท้ายขบวน ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์รู้สึกตกใจและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก หลายๆ คนก้มหมอบลงไปกับพื้น ก่อนที่จะวิ่งตรงไปยังทางออกทั้งสองด้านของรถไฟ ไม่สนใจกระเป๋าหรือข้าวของของตัวเองที่วางทิ้งไว้กับพื้น เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมาก ได้รับอาการบาดเจ็บจากเปลวไฟที่เผาไหม้เสื้อผ้าและร่างกายของพวกเขา รวมถึงสภาพจิตใจที่ยังคงหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   คลิปเหตุการณ์ที่ถูกถ่ายไว้จากกล้องวงจรปิดภายในรถ    Stephen Nash หนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายบอกว่า สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีแสงสว่างสาดเข้ามา และรอบข้างก็เต็มไปด้วยเปลวเพลิง… เขาเล่าว่า “ผมกระเด็นลงไปนอนกับพื้น รอบๆ เต็มไปด้วยเปลวไฟที่มีความร้อนสูง ตอนนั้นผมคิดว่าผมคงเสียหูไปแล้ว และหัวของผมคงกำลังไหม้อยู่ จากนั้นผมก็สลบไปไม่กี่วินาที ก่อนที่จะตื่นขึ้นมารีบถีบตัวไปยังประตูทางออก…

แมวแก่มักจะถูกมองข้ามจากการช่วยเหลือหรือการรับเลี้ยง อาจจะเพราะผู้คนกลัวว่าพวกมันให้ความสุขได้ไม่เต็มที่  อีกไม่นานมันก็จากไป หรือกลัวต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ เพราะยิ่งแก่ก็ยิ่งมีโรคภัยไข้เจ็บมาก เช่นเดียวกับ Charlie แมววัย 13 ปี ที่สูญเสียการเคลื่อนไหวด้วยขาหลัง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลสัตว์มันจึงพยายามลากขาหลังของตัวเองเพื่อที่จะเดิน     Charlie ถูกนำตัวไปยัง The Cat Doctor ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสำหรับแมวโดยเฉพาะ ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่มันไม่สามารถใช้ขาหลังได้ สัตวแพทย์ Miriam บอกว่า “ครั้งแรกเราคิดว่ามันเป็นภาวะเลือดแข็งในเส้นเลือดจนเส้นเลือดอุดตัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น มันจะเลวร้ายมาก”     แต่หลังจากที่ทำการเอ็กซเรย์แล้ว พบว่า Charlie เป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลัง ถึงจะไม่ร้ายแรงเท่าที่คิดไว้ แต่อาการของโรคก็อยู่ในขั้นร้ายแรงจนมันไม่สามารถเคลื่อนไหวขาหลังได้ และมันก็ยังพอมีทางรักษา ทีมแพทย์ไม่แน่ใจว่าเจ้าเหมียวจะตอบสนองต่อการรักษาอย่างไร เพราะเจ้าของคนเดิมของมันก็มีอายุมากและมีปัญหาในการเคลื่อนไหวเหมือน ที่สำคัญ เธอไม่รู้ว่าจะดูแลมันได้ดีเท่าที่ควรหรือเปล่า     ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเหมียวอาศัยอยู่ในบ้านที่มีบันไดหลายขั้น ดังนั้นหากรักษาไปแล้วปล่อยมันกลับบ้าน ก็กลัวว่ามันจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บหนักว่าเดิมอีก อย่างไรก็ตาม The Cat Doctor ยินดีจะทำการรักษาให้ และหวังจะทำให้แมวตัวหนึ่งมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขและได้รับการดูแลเท่าที่มันควรจะได้รับ     Charlie…

เคยเห็นฉากลงโทษในหนังยากูซ่าหรือเปล่า ฉากจำพวกที่ลูกน้องทำงานมาพลาดแล้วก็โดนตัดนิ้วไปทีล่ะนิ้วๆ มันเป็นความน่ากลัวของวงการนี้ ที่ว่ากันว่าอ้างอิงมาจากความเป็นจริง ดังนั้นไม่แน่นะว่าเรื่องราวในครั้งนี้ก็อาจจะมีต้นกำเนิดที่คล้ายๆ กันก็ได้     ช่องแคบ Beshennaya คือพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างจากเขตแดนของประเทศจีนเข้าไปทางพรมเดนของรัสเซียราวๆ 30 กิโลเมตร ในบริเวณใกล้ๆ กับเมือง Khabarovsk ทางตะวันออกของไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ซึ่งในที่นั้นเองชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้พบกับมือที่ถูกตัด 27 คู่ฝังอยู่ในน้ำแข็ง หลังจากที่ได้ทราบเรื่อง เหล่าพนักงานสืบสวนได้รุดไปยังช่องแคบแห่งนี้เพื่อสืบสวนที่มาของมือลึกลับทั้ง 54 ข้างเหล่านั้น     มือ 53 ข้างจากทั้งหมดนั้นถูกเก็บไว้ในถุงเป็นอย่างดีและทิ้งไว้ให้หิมะทับถมบนเกาะระหว่างแม่น้ำอามูร์ โดยมีมือหนึ่งข้างตกแยกอยู่อีกที่หนึ่ง ทางตำรวจได้ทำการนำมือที่พบทั้งหมดออกมาเรียงเพื่อการถ่ายภาพหลักฐาน และเริ่มทำการสืบสวน แม้ว่าพื้นที่ที่พบซากมือเหล่านั้นจะอยุ่ใกล้กับจุดที่คนนิยมไปตกปลาแต่กลับไม่มีผู้ใดที่พบเห็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติเลย อีกทั้งยังไม่มมีใครรู้ว่ามือพวกนี้ถูกตัดขาดได้อย่างไรหรือทำไมมันถึงมาอยู่ในที่แห่งนี้ได้     อย่างไรก็ตามมีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่หลายข้อ หนึ่งในนั้นคือการตัดมือนี้เป็นบทลงโทษของขโมยในความเชื่อของทางศาสนา และอีกข้อหนึ่งนั้นสันนิษฐานว่าเป็นการตัดแขนจากศพของคนที่เสียชีวิตไปนานแล้วจากโรงเก็บศพของโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลอื่นๆ จากรายงานของทางสำนักข่าวท้องถิ่นที่ว่า มีการพบเศษชิ้นส่วนของอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงพยาบาลบนซากมือเหล่านั้น เช่นถุงมือยาง รองเท้าพลาติก และผ้าพันแผล ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ามือเหล่านี้จะถูกตัดออกจากร่างที่ถูกนำไปขายต่อในตลาดมืด เพื่อให้ยากต่อการตามหาจากรอยนิ้วมือ     ในเวลานี้ทางตำรวจได้ทำการส่งมือที่พบไปตรวจสอบลายนิ้วมือ และดีเอนเอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางตำรวจหวังว่าจะได้รับข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเต็มในเร็วๆ นี้   ที่มา ladbible

บางครั้งโลกโซเชียลก็สามารถสร้างเรื่องราวดีๆ ได้มากกว่าที่คุณคิด…   เฉกเช่นเดียวกันกับเด็กสาววัย 17 ปี ที่ได้บังเอิญสร้างธุรกิจให้กับคุณพ่อผู้พิการของตัวเอง จากการแชร์โพสต์เพียงแค่โพสต์เดียวเท่านั้น!! คุณ Christopher Gonzales พ่อหม้ายลูกสองจากเมือง Las Vegas ที่ต้องกลายเป็นผู้พิการ เพราะเขาประสบกับอุบัติเหตุในขณะทำงานเป็นพนักงานที่ไซต์ก่อสร้างเมื่อหลายปีก่อน     คุณ Christopher ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังจากการตกลงมาจากตึกชั้น 5 ทำให้ร่างกายบางส่วนกลายเป็นอัมพาตไป จากการบาดเจ็บในครั้งนี้ทำให้เขาไม่สามารถทำงานอื่นๆ ได้ และต้องคอยรับเงินจากประกันสังคมเพียงอย่างเดียว   อุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของ Christopher มีเวลาว่างมากยิ่งขึ้น เขาเริ่มหันมาสนใจทำงานอดิเรกอย่างการวาดภาพ ทาสี และ งานไม้ในโรงรถแทน   “วันหนึ่งผมเห็นภาพงานแกะสลักโลโก้แบรนด์กีฬา แล้วก็คิดขึ้นมาในใจว่า ‘แบบนี้เราก็ทำได้’ ผมก็เลยเริ่มลงมือทำมาตั้งแต่ตอนนั้น” Christopher เล่า     พอเริ่มทำไปมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มมีผู้คนให้ความสนใจ โดยเริ่มแรกก็เป็นคนในครอบครัว จากนั้นเรื่องราวก็ถูกนำไปบอกต่อๆ กัน จนกลายเป็นอาชีพเล็กๆ ที่สร้างรายได้ต่อเดือนพอประทังชีวิต งานแต่ละชิ้นที่ Christopher ทำนั้น ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 9 ชั่วโมง เขาเล่าว่ามันค่อนข้างลำบาก…

การปล้นนั้นแท้จริงแล้วต้องใช้ความกล้ามากกว่าที่คิด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่โจรบางคนที่ใจไม่นิ่งพอ ทำพลาดในการปล้นร้านค้าอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็กลับตัวกลับใจล้มเลิกการปล้น และบางครั้งก็เผลอสร้างช่องโหว่ จนทำให้การปล้นนั้นพังไม่เป็นท่า…     เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา เมื่อนาย Itsuo Kushida วัย 64 ปี ได้พกพาอาวุธมีดเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ในบริเวณแขวง Edogawa กรุงโตเกียว ซึ่งในขณะนั้น ที่ส่วนหน้าของร้านมีพนักงานสาววัย 24 ปี ประจำอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น Kushida เดินไปยังแคชเชียร์ที่หญิงสาวประจำอยู่ ชี้มีดในมือใส่และบอกเธอด้วยความตื่นเต้นว่า “ส่งเงินมา 30,000 เยน (9,000 บาท)” แม้ว่าจะเป็นการลั่นเปิดฉากปล้นที่สั้นและห้วนไปบ้าง แต่ก็ยังคงไว้ด้วยเจตนาที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม การที่เขาใส่จำนวนเงินที่ต้องการลงไปเลยนั้น ทำให้การกระทำของเขานั้นเหมือนสั่งกดเงินกับตู้ ATM อัตโนมัติ ก็คงมีผิดนัก…     แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การปฎิบัติตัวของเขานั้นแปลกเกินไป (เพราะมีการระบุจำนวนเงินในการปล้น) จนทำให้พนักงานหญิงเข้าใจผิดว่า นาย Kushida นั้นกำลังทำการแกล้งเธอขำๆ อยู่เท่านั้น… แทนที่จะส่งเงินให้ เธอจึงตอบเขากลับไปว่า “知らないです” (Shiranai desu)…

‘ที่นี่บราซิล อะไรก็เกิดขึ้นได้’ ชายหนุ่มคนหนึ่งแม้จะถูกมีดปักเข้ากลางหลัง แต่ยังนั่งดื่มต่อไปโดยไม่แสดงท่าทีตกใจเลยแม้แต่น้อย…   [บทความนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่รุนแรง เพราะฉะนั้นคิดดูให้ดีก่อนจะตัดสินใจเลื่อนลงไปอ่านนะจ๊ะ]   Elionardo Nascimento วัย 22 ปี ในวันเกิดเหตุเขาไปดื่มกับเพื่อนๆ แบบปกติในบาร์แห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศบราซิล หลังจากที่ดื่มไปสักพักก็มีชายปริศนาวิ่งมาที่ด้านหลังของเขา แล้วก็เอามีดแทงลงไปจนเกือบมิดด้าม ขณะนั้นนาย Elionardo ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง!?     เขาเล่าว่า “ตอนนั้นผมกำลังเดินออกมาที่หน้าร้านเพื่อคุยกับเพื่อนที่ยืนอยู่หน้าร้าน ผมยังถือเครื่องดื่มในมืออยู่เลย แต่แล้วจู่ๆ ก็มีคนวิ่งเข้ามาทางด้านหลังของผม… ผมไม่ทันได้เห็นตัวของเขาด้วยซ้ำ แต่รู้สึกว่ามีคน ‘ต่อย’ เข้ามาที่หลัง จนทำให้ผมเกือบจะล้มลงไปเลยทีเดียว ตอนนั้นผมยังงงๆ อยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จนเพื่อนๆ บอกว่า ‘มีมีดปักอยู่ที่หลังนาย’ ผมแทบจะไม่อยากเชื่อเลย” มีคนถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์เอาไว้ได้ และในคลิปก็ดูเหมือนว่านาย Elionardo เองก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาหรือตกใจอะไรเลยแม้แต่น้อย พี่แกก็ยังยืนชิลรอให้รถพยาบาลมารับอยู่เลย   คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่มีคนบันทึกเอาไว้   หลังนำตัวส่งโรงพยาบาลแพทย์ผ่าตัดแจ้งว่าเขาเกือบไม่รอดซะแล้ว เพราะแผลจากมีดนั้นห่างอวัยวะสำคัญอย่างกระดูกสันหลังไปไม่กี่เซ็นติเมตรเท่านั้น “ตลอดเวลาผมไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย หรือมันอาจจะอยู่ในช่วงช็อกอยู่ก็เป็นได้ ผมรู้แต่ว่าต้องตั้งสติเพราะมันไม่มีอะไรหนักหนาสาหัสเลยแม้แต่น้อย ไม่จำเป็นต้องตกใจ เพราะไม่เช่นนั้น เหตุการณ์อาจจะแย่กว่านี้ก็ได้” Elionardo เล่าเสริม…

ถ้าให้พูดถึงอาชีพนักทดสอบสินค้า เราคงจะเคยได้ยินคนที่ต้องทดสอบหลากหลายรูปแบบที่ใครได้ยินก็อยากทำใช่ไหมละ เช่นทดลองนอนเตียง ทดลองถุงยาง ทดลองรับประทานอาหาร ทดลองเกม และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นคนเปิดรับสมัครให้คนมาทดสอบตุ๊กตายาง ลองสอดใส่จริง อารมณ์จริง บอกเล่าด้วยปากจริงๆ ซึ่งวันนี้โอกาสนั้นได้มาถึงแล้ว เพราะบริษัทผลิตเซ็กส์ดอลล์ในเมืองลอนดอน ได้เปิดหาชายหนุ่มให้มาทดลองสินค้าของพวกเขา แถมยังมีค่าจ้างด้วยนะ!     ซึ่งนอกจากค่าจ้างปกติแล้ว บริษัทดังกล่าวยังยื่นข้อเสนอให้ผู้ทดสอบสามารถเป็นสมาชิกยิมใกล้ๆ บริษัทฟรีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีวันหยุดให้อีก 22 วัน เป็นไงละ สบายๆ ใช่ไหม แต่ที่เด็ดกว่าคือเมื่อคุณเข้าทำงานกับบริษัทแล้ว เพื่อนๆ และสมาชิกในครอบครัวจะสามารถสั่งซื้อตุ๊กตาในราคาที่ถูกลงด้วยนะ โอกาสแบบนี้หาได้ไม่ง่ายเลยทีเดียว     ส่วนขั้นตอนการทำงานก็ไม่มีอะไรเลย เพียงแค่ผู้เข้าร่วมงานจะต้องทดสอบสินค้าอย่างจริงจัง พร้อมคอยรายงานผลหลังการใช้ว่าเป็นอย่างไร มีคุณภาพดีหรือไม่พึงพอใจตรงไหน Richard Thorne หนึ่งในเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของบริษัทเซ็กส์ดอลล์ก็บอกว่า การเข้ามาร่วมงานกับพวกเขาถือเป็นโอกาสอันสำคัญก่อนที่จะเข้าไปสู่วงการหนังผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว     ฉะนั้นถ้าใครสนใจก็คงต้องติดต่อเขาไปโดยตรงแล้วละ เพราะบริษัทเปิดรับสมัครถึงแค่ 20 มีนาคมนี้เท่านั้นนะ!!   ที่มา thesun, unilad

บางครั้งคนที่เข้ามารับตำแหน่งผู้นำก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีความสามารถเสมอไป เพราะผู้นำบางคนตอนเข้ามาก็อาจจะพูดและรับปากกับคนของตนเป็นอย่างดีเพื่อให้ได้เข้ามา แต่พอเข้ามาจริงๆ กลับมัวหลงในอำนาจและลืมคำสัญญานั้นไป ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องดังกล่าว ส่วนใหญ่ในประเทศที่มีการโหวตผู้นำ ชาวเมืองก็มักจะเลือกโหวตคนอื่นแทนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่สำหรับประเทศอย่างโบลิเวียกลับไม่ทำอย่างนั้น เพราะที่นี่มีการลงโทษผู้นำประเภทดังกล่าวได้แสบสันกว่าเยอะด้วยวิธีที่เรียกว่า ‘การลงโทษโดยสังคม‘ ล่าสุดนั้นการลงโทษดังกล่าวได้เกิดขึ้นที่หมูบ้านทางเหนือของประเทศโบลิเวีย โดยชาวบ้านได้จับตัว Javier Delgado ผู้ใหญ่บ้านที่เข้ามาทำหน้าที่แต่กลับผิดสัญญาและปฎิบัติงานให้ชุมชนไม่ดีพอตามที่กล่าวอ้าง ใส่เครื่องคุมขังและประจารต่อหน้าสาธารณชน     การคุมขังนาย Javier นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ไม่ยอมทำตามคำร้องที่ชาวเมืองส่งไปให้เขา และเขายังโกหกชาวบ้านอีกหลายๆ อย่าง ด้านนาย Javier ก็บอกกับสื่อว่า เขาถูกจับแบบนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว และเขาก็เป็นเพียงคนไม่กี่คนในโบลิเวียที่ถูกทำแบบนี้ ซึ่งเขายังบอกอีกว่า ในครั้งที่ 3 เขาไม่มีโอกาสแม้จะพูดหรือร้องขอความเป็นธรรมกับตนเองเลยสักครั้ง     แต่ต่อให้เขาสามารถอธิบายเหตุผลได้ แต่การถูกลงโทษโดยสังคมถึง 3 ครั้งนั่นหมายความว่า เขาจะต้องมีข้อบกพร่องมาตลอดการเข้ารับหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านของเขาที่กินเวลามากว่า 2 ปี ด้านชาวบ้านก็ให้นิยามของนาย Javier ว่า “ama qhuilla, ama llulla, ama…

เป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วกับการทำศัลยกรรม เพื่อให้ใบหน้าดูดีขึ้นหรือเหตุผลอื่นๆ ด้วยค่านิยมที่เปลี่ยนไปในสังคม รวมถึงการลดลงของค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอีกต่อไป… แต่ก็ใช่ว่าการทำศัลยกรรมจะเป็นที่ยอมรับในทุกแวดวง เพราะอย่างแวดวงการศึกษาในประเทศจีน กลับเลือกที่จะสั่งห้าม และปฏิเสธรับผู้ที่ทำศัลยกรรมเข้ามาศึกษาภายในสถาบัน     Dong Lian คณบดีวิทยาลัยศิลปะการแสดง ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ ภายใต้มหาวิทยาลัยซานตง ประเทศจีน กล่าวประกาศอย่างเป็นทางการ ผ่านการประชุมสอบคัดเลือกของวิทยาลัย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า… “เราตัดสินใจที่จะสั่งห้ามรับผู้สมัครเรียน ที่ผ่านการทำศัลยกรรมสำหรับการเข้าสอบคัดเลือกเรียนในปีนี้ เพราะอาชีพอย่างนักแสดงหรือพิธีกร ที่จะต้องดึงความสนใจจากผู้ชมนับล้าน หากทำการศัลยกรรมมา แม้จะเล็กน้อยแค่ไหน มันจะส่งผลต่อการแสดงสีหน้าของคุณอย่างเห็นได้ชัด”     แม้ว่าคุณสมบัติ ‘ความดูดีจากภายนอก’ จะเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับวงการบันเทิง ทางฝ่ายรับสมัครจะทำการปฏิเสธผู้สมัครที่ผ่านการศัลยกรรมมาแล้ว รวมไปถึงการใช้เครื่องสำอางที่มากเกินไป จะทำให้นักแสดงที่ทางวิทยาลัยคาดหวังให้เป็นนั้นด้อยคุณค่าลง     “นักศึกษาควรจะยึดมั่นในความสวยตามธรรมชาติ และมุ่งพัฒนาทักษะทางด้านการงานอาชีพของตน เราจะไม่รับนักศึกษาที่แต่งหน้าจัด แม้จะด้วยเหตุผลปกปิดแผลเป็นก็ตาม คุณภาพทางด้านวิชาชีพและความสามารถ คือสิ่งที่สำคัญกว่า” คณบดีกล่าวเสริม     ในปีที่ผ่านมา มีผู้สมัครเข้าเรียนวิทยาลัยการแสดงแห่งนี้กว่า 9,000 ราย โดยจะทำการคัดเลือกเหลือเพียงแค่…

เมื่อวันที่ 17 มกราคมปี 2018 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนาย Lamarr Chambers วัย 24 ปี ในเอสเซ็กซ์ ประเทศอังกฤษ หลังต้องสงสัยว่าเขาเป็นตัวกลางในการจัดหายาเสพติดให้กับผู้เสพ แต่พอจับได้ก็ไม่พบหลักฐานแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สันนิษฐานเอาไว้ว่าเขาน่าจะกลืนมันลงไป จึงควบคุมตัวนาย Lemarr เอาไว้เพื่อรอตรวจสอบอุจจาระ แต่เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า ถึง 24 วัน ก็ยังไม่ ‘อึ๊’ ออกมาสักที จนทำลายสถิติของประเทศอังกฤษไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     อ่าข่าวเก่าได้ที่ : ผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดทำลายสถิติในอังกฤษ ด้วยการทำให้ตำรวจรอเขาอึกว่า 24 วัน   แต่เรื่องมันยังไม่จบเพียงเท่านี้เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ Ladbible ได้รายงานว่าสถิติของนาย Lamarr ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงตอนนี้ ปาเข้าไปก็ 47 วันแล้วที่เขาไม่ยอมเข้าไปอึ๊ในห้องน้ำเลยแม้แต่น้อย!! จนเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับถอดใจยอมแพ้ และปล่อยตัวเขาออกมาจากห้องขัง เพื่อนำตัวไปตรวจสอบและรักษาที่โรงพยาบาล เพราะเกรงว่าร่างกายของหนุ่ม Lamarr จะได้รับอันตราย     ท่านรองผู้บังคับบัญชาการตำรวจแห่งชาติของประเทศอังกฤษ BJ…

เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีการพัฒนามาเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมื่อก่อนใครจะคิดว่าจะมีพาหนะบนพื้นดินอย่างรถยนตร์ และใครจะไปคิดว่ารถยนตร์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงมาตลอด อนาคตอาจจะเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนกันก็ได้ และนี่ก็เป็นอีกก้าวของเทคโนโลยี เชิญพบกับเจ้า “Flippy” หุ่นยนต์ทำเบอร์เกอร์ที่อาจจะช่วยให้การใช้บริการร้านฟาสต์ฟู้ดของคุณรวดเร็วขึ้นไปอีก ด้วยความสามารถในการทำเบอร์เกอร์ได้ 300 ชิ้นต่อหนึ่งชั่วโมง     Flippy คือหุ่นยนต์แขนเดียวที่มีความสามารถในการกลับด้านเบอร์เกอร์อย่างรวดเร็ว มันถูกออกแบบมาให้ทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟในห้องครัว ซึ่งในขณะนี้เจ้า Flippy กำลังจะได้เข้าประจำการเป็นครั้งแรกในร้านเบอร์เกอร์ชื่อดัง CaliBurger สาขาแคลิฟอร์เนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ พวกเขามีแผนการที่จะส่งเจ้า Flippy ไปทำงานในร้าน CaliBurger สาขาใหม่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในอนาคตอีกด้วย     แน่นอนว่าเจ้า Flippy ไม่ใช่มนุษย์ ทำให้มันสามารถทำงานได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและยังสามารถคำนวณเวลาพลิกเบอร์เกอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบรวมถึงยังสามารถเตือนพนักงานว่าเวลาไหนที่ควรจะใส่ชีสลงไปบนเนื้ออีกด้วย   .   หุ่นยนต์ดังกล่าวถูกพัฒนาโดยบริษัทพัฒนาหุ่นยนต์ Miso Robotics โดยมีการใช้ Miso AI เทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างมุมมองที่ใช้ความร้อนแบบสามมิติและแบบธรรมดาเข้าด้วยกัน ทำให้เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้มีความสามารถในการตรวจสอบเบอร์เกอร์และอาหารอื่นๆ ได้ Flippy มีตะหลิวไว้ใช้สองอันซึ่งอันหนึ่งจะไว้พลิกเนื้อและอีกอันหนึ่งสำหรับอาหารอื่นๆ และนอกจากจะเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมมาให้ทำอาหารที่สมบูรณ์แบบ มันก็ยังสามารถทำความสะอาดอุปกรณ์ทำอาหารได้อีกด้วย     ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมการผลิตของอเมริกาจะมีการจ้างงานลดลง 80 เปอร์เซ็นในช่วง 30…

คู่รักหลายๆ คู่พอคบกันได้สักพักหนึ่งก็จะเริ่มปล่อยปละละเลยไม่ดูแลเอาใจใส่ตัวเอง แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็พากันน้ำหนักขึ้นไปเป็นสิบกิโลฯ ซะแล้ว (T T) เช่นเดียวกับคู่รัก Eli และ Kelly Wenninger ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน เพราะหลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เลือกทานแต่อาหารฟาสต์ฟู้ดจนวันหนึ่งฝ่ายชายก็รู้ตัวว่าน้ำหนักพุ่งเกิน 180 กิโลฯ ไปเป็นที่เรียบร้อย!!   ภาพตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆ ทั้งคู่ยังไม่แปลงร่าง   นี่คือภาพก่อนที่จะลดน้ำหนัก   นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ทั้งคู่จี๊ดมากยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจหันมาดูแลตัวเองและลดน้ำหนัก ก็คือ “ไม่มีใครจำฉันได้ แม้แต่กระทั่งเพื่อนๆ ก็ยังจำไม่ได้ เพราะน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น” Kelly เล่า เธอก็เลยไปปรึกษากับสามีว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ พวกเขาร่วมมือกันวางแผนการทานอาหาร และออกกำลังกาย ตัดนิสัยการชอบทานอาหารฟาสต์ฟู้ดออกไป     ในช่วงแรกทุกอย่างมันช่างยากลำบากเสียเหลือเกิน แค่วิดพื้น 3 ครั้งก็เต็มทนแล้ว แต่ก็ยังไม่ละความพยายามจนเวลาผ่านพ้นไป 1 ปี นี่คือผลที่ได้!!   Eli ลดน้ำหนักไปได้กว่า 113 กิโลกรัม ส่วน Kelly ลดไปได้ 29 กิโลกรัม…

การใช้บริการการขนส่งอะไรก็ตามที่ต้องมีการใช้ร่วมกับผู้อื่น ควรคำนึงถึงเรื่องมารยาทและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นเป็นอันดับแรก กริยาท่าทางที่ไม่เหมาะไม่เพียงแต่รบกวนคนรอบข้างแล้ว ยังส่งผลต่อเรื่องความนิยมในบริการขนส่งนั้นๆ อีกด้วย ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีข่าวพฤติกรรมแปลกๆ บนเครื่องบินหลายข่าว ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารที่หยิบกกน.มาผึ่งลมกลางเครื่องบิน และคราวนี้ได้มีคนโพสต์วิดีโอของผู้โดยสารคนที่สำเร็จความใคร่โดยใช้ผ้าห่มปิดบังอวัยวะเพศขึ้นบนเว็บ LiveLeak     รายงานข่าวระบุว่าคลิปวิดีโอดังข่าวถูกถ่ายในประเทศบราซิล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารรายหนึ่งแต่งตัวสวมเสื้อเชิ้ต ทำท่าทางที่เหมือนกับสำเร็จความใคร่ พร้อมกับโทรศัพท์มือถือในมือ ผู้โดยสารอีกคนหนึ่งที่ทำการบันทึกคลิปวิดีโอไว้เห็นความผิดปกติจึงลุกขึ้นและหันกล้องไปทางชายคนดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลถึงคนอื่นๆ บนเครื่อง เพราะบริเวณนั้นมีผู้โดยสารหญิงอยู่ใกล้ๆ ด้วย     วินาทีเหตุการณ์ที่เขาสำเร็จความใคร่บนเครื่องบิน <span data-mce-type=”bookmark” style=”display: inline-block; width: 0px; overflow: hidden; line-height: 0;” class=”mce_SELRES_start”></span>   ซึ่งเหตุการณ์คราวนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการทำอนาจารกันบนเครื่อง เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้มีการจับกุมนักศึกษาอายุ 20 ปีที่แก้ผ้าดูหนังชมพูและสำเร็จความใคร่ บนสายการบินที่บินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปยังเมืองดากา ประเทศบังคลาเทศ ข้อมูลจากสื่อนอกรายงานว่า ผู้โดยสารคนดังกล่าวเป็นนักศึกษาวัย 20 ปี จากมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย ซึ่งการกระทำของเขานอกเหนือจากที่กล่าวไว้แล้วในตอนต้น ก็ยังเดินโทงเทงเข้าห้องน้ำบ้าง ปัสสาวะเรี่ยราดบริเวณที่นั่ง แถมยังจู่โจมพนักงานต้อนรับบนเครื่องด้วย…

ในขณะที่หลายๆ ประเทศยังคงมีปัญหาเรื่องผลดีผลเสียและไม่ยอมให้กัญชาเป็นพืชถูกกฎหมายเสียที แต่บางประเทศกลับไม่รอช้าและเร่งแซงหน้าประเทศอื่นๆ ไปอย่างไม่เห็นฝุ่น อย่างที่หลายคนรู้กันว่าปัจจุบันกัญชานั้นเริ่มที่จะถูกบัญญัติให้เป็นพื้นทางการแพทย์ที่ถูกกฎหมาย และเริ่มมีการปลูกเพื่อใช้ในด้านดังกล่าวอย่างแพร่หลาย และใครจะคิดว่าสหราชอาณาจักร ตอนนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ประเทศสหราชอาณาจักรนั้นได้ผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์แล้วมากกว่า 95 ตัน ซึ่งนำโด่งคู่ค้าอย่างแคนาดาที่มีกำลังผลิตอยู่ที่ 80.7 ตันต่อปี     แต่แม้ว่าจะมีจำนวนการผลิตที่เยอะขนาดนั้น ทางการอังกฤษก็ไม่ได้อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปสามารถเสพกัญชาได้อย่างเสรี เพราะกัญชาที่ปลูกอย่างถูกกฎหมายจะถูกนำไปผลิตยา Savitext ซึ่งเป็นยาจำพวกแรกที่ใช้กัญชาเป็นส่วนผสมหลัก และมีผลในการรักษาโรคเส้นเลือดตีบหลายๆ ประเภท ฉะนั้นผู้จะจัดซื้อได้จะต้องมีใบอนุญาตเสียก่อน อย่างไรก็ตามด้าน Steve Rolles นักวิเคราะห์ในสหราชอาณาจักรก็บอกว่า แม้กัญชาจะได้รับอนุญาตให้ใช้ในการแพทย์เป็นหลัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทางการจะสามารถควบคุมไม่ให้มันแพร่ออกไปสู่ประชาชนทั่วไปได้เลย     เพราะการที่สหราชอาณาจักรถือเป็นประเทศที่ส่งออกกัญชาเยอะที่สุด ฉะนั้นปัญหาการรั่วไหลจะตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นทางการจึงจำเป็นจะต้องหารือและช่วยกันหาทางออกในเรื่องนี้กันต่อไปนั่นเอง…   ที่มา ladbible, sky

จากที่ #เหมียวเลเซอร์ ได้นำเสนอข้อมูลอีกด้านภายในสังคมเกาหลีใต้ (ข่าวเก่า) ที่ผู้หญิงมักจะตกเป็นเหยื่อของสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ใช้กำลังข่มเหงและกดขี่อย่างรุนแรง จนแทบจะมีสถานะไม่ต่างไปจากทาสเลย… และแล้วก็มีประเด็นใหญ่โตเกี่ยวกับด้านดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า นักการเมืองรุ่นใหญ่ของเกาหลีใต้ มีดีกรีเป็นเป็นถึงอันดับสองในพรรครัฐบาลปัจจุบัน และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชุงช็องใต้ ถูกแฉว่าเขาได้ ‘ทำการข่มขืน’ จากเลขานุการส่วนตัวของเขาเอง   Ahn Hee-jung นักการเมืองเกาหลีใต้อันดับสองของพรรครัฐบาลปัจจุบัน และผู้ว่าราชการจังหวัดชุงช็องใต้   นาย Ahn Hee-jung ออกมายอมรับผ่านสื่อโซเชียลมีเดียผ่านเพจของตนเอง ด้วยใจความดังต่อไปนี้… “ผมขอโทษทุกๆ คน ก่อนอื่น ผมทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด ผมขอโทษสำหรับ Kim Ji-Eun (เลขา) ผมอยากจะขออภัยสำหรับการกระทำอันโง่เขลา… กับความสัมพันธ์ของเลขานุการที่ไม่ถูกต้องตามข้อตกลง มันเป็นความผิดของผมเพียงฝ่ายเดียว ผมขอรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และหยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกอย่าง ผมขอโทษอีกครั้งจากใจ… นาย Ahn Hee-jung”   โพสต์แถลงขอโทษและลาออกจากตำแหน่ง   ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้น เริ่มต้นมาจากอดีตเลขานุการส่วนตัว Kim Ji-eun ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ JTBC ในช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 5 มีนาคม 2018…

การเลือกใช้สินค้าอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าผู้ใช้ควรจะทดลองก่อนที่จะใช้สินค้านั้่นๆ เผื่อว่าจะอาจจะเกิดอาการแพ้และเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เหมือนกับเหตุการณ์ของสาวน้อยวัย 14 ปีที่จะได้มาพูดถึงต่อไปนี้ เรื่องราวเริ่มต้นที่สาวน้อยที่ชื่อว่า Angel ได้ไปซื้อแผ่นมาส์กยกกระชับใบหน้ามาจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมือง Loganholm รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2018 ตามประสาวหญิงที่เข้าสู่วัยสาวแล้วอยากจะรักสวยรักงาม     แต่เธอก็ไม่ได้คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับเธอ เพราะหลังจากที่เธอลองใช้มาส์กกระชับใบหน้าที่เขียนข้างซองว่า Raspberry Leaf Botanical Eye Mask เธออ่านวิธีใช้ข้างซองและทำตามนั่นก็คือแปะไว้ที่ใต้ดวงตาเป็นเวลา 15-20 นาที แต่กลับมีอาการบวมอย่างหนัก     เธอบอกว่าเธอทิ้งมันไว้แค่ 5 นาทีแล้วเอาออกเพื่อที่จะทดลองเฉยๆ แต่ทว่าเมื่อตื่นมาตอนรุ่งขึ้นก็ต้องพบกับใบหน้าที่เปลี่ยนไป นั่นก็คืออาการบวมเป่งของใบหน้าที่ตาด้านขวา นอกจากนี้ตาด้านซ้ายก็ไม่สามารถลืมตาขึ้นได้อีกด้วย จึงรีบแจ้งให้กับนาง Clare Boulton ผู้เป็นแม่ในทันที     เด็กสาวต้องหยุดเรียนเนื่องจากความเจ็บปวดบนใบหน้าที่เธอไม่สามารถเปิดตาด้านซ้ายได้ และต้องปวดแสบปวดร้อนหลังจากใช้มาส์กหน้าที่ซื้อมา     คุณแม่ได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยัง Kmart ผู้จัดจำหน่ายมาส์กหน้าชิ้นนี้ เธออ้างว่าเธอไม่ได้รับความสนใจจากพนักงานและได้รับเงินคืนเพียง 6 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 188 บาทเท่านั้น     สิ่งที่คุณแม่ต้องการนั้นก็คือให้ทาง…

ช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ในประเทศไทยได้มีข่าวของคนที่ออกล่าสัตว์ที่เสี่ยงสูญพันธุ์ ซึ่งขึ้นบัญชีเป็นสัตว์คุ้มครองอย่าง “เสือดำ” ซึ่งก็ถูกกระแสต่อต้านกันอย่างมากมาย แต่ขณะเดียวกันในหมู่บ้าน Bankelang ที่อยู่ทางตอนเหนือหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซียก็ได้มีการฆ่าเสือสุมาตราซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเช่นเดียวกัน     เจ้าหน้าที่ได้กล่าวไว้ว่าชาวบ้านเจอกับปัญหาที่มีเสือเข้ามาป้วนเปี้ยนในบริเวณหมู่บ้านมาร่วมเดือนแล้ว แถมยังมีข่าวลือที่ว่าเจ้าเสือตัวที่ว่าอาจจะเป็นเสือสมิงที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นคนได้อีกด้วย และเมื่อสองสัปดาห์ก่อนได้มีชาวบ้านเข้าไปในป่าเพื่อจะยืนยันเกี่ยวกับข่าวลือ ซึ่งผลก็คือถูกกัดจนเป็นแผลสาหัส และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2018 เจ้าเสือตัวนี้ก็ได้ถูกพบอีกทีในบริเวณหมู่บ้าน คราวนี้ชาวบ้านตัดสินใจที่จะล่อมันไปที่ใต้ถุนบ้าน ก่อนที่เสือตัวดังกล่าวจะถูกชาวบ้านแทงและถูกยิงโดยตำรวจท้องถิ่นจนถึงตาย Hotmauli Sianturi หัวหน้าของสำนักงานอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม (BBSKDA) ได้กล่าวว่า “เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อพยายามไปจับไม่ให้เจ้าเสือเข้าไปที่หมู่บ้าน และเพื่อไปเจรจาโน้มน้าวชาวบ้านไม่ให้ฆ่าเสือด้วย เราอธิบายให้พวกเขาฟังแล้วว่าเสือเป็นสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์นะ แต่มันก็ไม่ได้ผล”     ชาวบ้านได้มัดซากเสือไว้กับม้านั่งและยกมันขึ้นด้วยเชือกไปแขวนอยู่กับเพดานที่ศาลาหมู่บ้านและเมื่อวิดีโอของเจ้าเสือออกมามันก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจาณ์กันไปอย่างรวดเร็ว BBSKDA ได้ติดขอความร่วมมือจากตำรวจใจจังหวัดให้ร่วมมือกันนำเอาซากของเจ้าเสือมาชันสูตรและพวกเขายังแจ้งอีกว่าซากที่เหลือมีอวัยวะภายในหลายชิ้นหายไป คาดว่าจะถูกขายและนำเอาไปทำเป็นยาบำรุง ซึ่งชาวบ้านก็ยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ในเรื่องนี้ แต่ตามกฎหมายในอินโดนีเซีย การฆ่าสัตว์ป่าคุ้มครองมีโทษจำคุก 5 ปี     เสือสุมาตราได้มีการพิจารณาเป็นสัตว์ที่เสี่ยงสูญพันธุ์โดยสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนเหลือเพียง 400 ถึง 500 ตัวในป่าเท่านั้น   ที่มา Coconuts,…

การขึ้นโดยสารยานพาหนะสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดๆ ก็ตามควรที่จะมีความเกรงใจกับผู้โดยสารท่านอื่นๆ ที่โดยสารมาด้วย เพราะไม่ใช่ว่าตัวของเราจะสามารถทำอะไรๆ ก็ได้ตามใจตัวเองอยู่ตลอดเวลา… และแล้วเหตุการณ์วิบัติก็เกิดขึ้นกับสายการบินมาลินโดแอร์ เที่ยวบินที่ OD162 เส้นทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ไปสู่นครธากา บังกลาเทศ เมื่อผู้โดยสารรายหนึ่งเปลื้องผ้าล้อนจ้อนกลางเครื่อง และรับชมภาพยนตร์สีชมพูอย่างเปิดเผย!!     ข้อมูลจากสื่อนอกรายงานว่า ผู้โดยสารคนดังกล่าวเป็นนักศึกษาวัย 20 ปี จากมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย ซึ่งการกระทำของเขานอกเหนือจากที่กล่าวไว้แล้วในตอนต้น ก็ยังเดินโทงเทงเข้าห้องน้ำบ้าง ปัสสาวะเรี่ยราดบริเวณที่นั่ง แถมยังจู่โจมพนักงานต้อนรับบนเครื่องด้วย     พยานในเหตุการณ์เล่าว่า ชายคนดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวต่อพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หลังจากที่ถูกขอร้องให้สวมเสื้อผ้าด้วยถ้อยคำที่สุภาพ และกระทำการรุนแรงต่อหัวหน้าพนักงานต้อนรับ และยิ่งร้ายแรงมากขึ้นจากการที่ผู้โดยสารคนดังกล่าว พยายามที่จะกอดกับพนักงานต้อนรับในระหว่างที่กำลังเดินจะไปเข้าห้องน้ำ     เพื่อไม่ให้เหตุการณ์วุ่นวายไปมากกว่านี้ ทางพนักงานต้อนรับจึงมีความจำเป็นต้องควบคุมตัวผู้โดยสารรายนี้ โดยการมัดมือของเขาไว้ด้านหลังตลอดการเดินทาง เมื่อเครื่องบินลงจอดถึงปลายทางแล้ว เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวอย่างรวดเร็ว และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทางสายการบินมาลินโดแอร์ยืนยันว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และการปฏิบัติบนเที่ยวบินดังกล่าวถือว่าเป็นการเฝ้าระวังพฤติกรรมก่อกวนผู้โดยสารท่านอื่นๆ   อย่าทำแบบนี้กับใครอีกเข้าใจมั้ย หมายถึงพี่หื่นนะจ๊ะ!? ที่มา : straitstimes, nst, thesundaily, thestar, ladbible

เมื่อพูดถึงงานศพ เราก็มักจะนึกถึงการสูญเสียใครสักคนไป จะด้วยสาเหตุใดก็ล้วนสร้างความเศร้าโศกให้กับเครือญาติเสมอ แต่ว่านอกจากความเสียใจแล้ว งานศพก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะว่าบางครั้งก่อนที่ผู้ตายจะจากไป พวกเขาก็มักจะมีความต้องการในการจัดพิธีศพให้กับตัวเองให้สมเกียรติ หรือบางทีอาจจะมีเหตุการณ์ที่หลายคนคาดไม่ถึงเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน เช่นปาฎิหารย์แปลกๆ หรือไม่ก็มีสัตว์มาห้อมล้อม อย่างไรเช่นอะไรแบบนี้…   งานศพเล็กๆ ของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตอยู่กับเหล่าสุนัขจรจัดและให้อาหารพวกมัน ฉะนั้นในวันที่เธอจากไปพวกสุนัขจรจัดจึงพากันมาเฝ้าพิธีของเธอ   สุนัขตัวในภาพได้จากไป ซึ่งเจ้าของมันชอบที่จะเล่นขว้างบอลด้วยกัน ฉะนั้นเพื่อส่งมอบความสุขต่อให้คนอื่น เขาจึงแชร์ลูกบอลให้คนเลี้ยงสุนัขได้ทำกิจกรรมแบบเดียวกับเขา   ผู้เสียชีวิตเป็นแฟน Star Wars ตัวยง ฉะนั้นก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้บอกกับครอบครัวว่าให้จัดงานศพเป็นธีมหนังที่เขาชอบและมี Storm Trooper มานำขบวน   พ่อเจ้าของภาพนั้นร้องขอให้ลูกชายจัดงานศพให้แบบชาวไวกิ้ง และเมื่อเขาจากไปลูกชายจึงสร้างเรือไวกิ้งทำมือขึ้นมาแล้วเผาไปกับแม่น้ำตามแบบของชาวไวกิ้ง   งานศพอันสมเกียรติของสุนัขตำรวจที่ต้องจากไปเพราะถูกคนร้ายแทงเข้าอย่างโหดร้าย   เจ้าของภาพเล่าว่า คุณย่าของเธอนั้นได้เย็บผ้าปูที่นอนมาให้กับทุกคนที่มาร่วมงานเป็นจำนวน 100 ผืน ก่อนที่เธอจะจากไป และเธอยังเก็บแยกไว้พิเศษอีก 4 ผืนสำหรับลูกหลานที่ยังไม่เกิดมาด้วย   พนักงาน UPS พากันมาให้กำลังใจเพื่อนร่วมงานที่ต้องเสียลูกสาวไปก่อนวัยอันควร   ชาวเมืองพากันมาร่วมไว้อาลัยให้แก่คนไร้บ้านที่เพิ่งจากไป และปัจจุบันเขาไม่มีครอบครัวเหลืออยู่   แม่ของหนูน้อยในรูปได้โพสต์ว่า สามีของเธอนั้นได้เสียชีวิตระหว่างงาน…

เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องสุดอำมหิต ที่ชายหนุ่มคนหนึ่งได้ทำการแทงวัยรุ่นสาวจนเสียชีวิต แล้วให้เหตุผลที่ทำว่า เขานั้นเพราะ “ชื่นชอบการฆ่า” Shea Heeley วัย 19 ปี ได้หลอกล่อหญิงสาว วัย 16 ปี นามว่า Leonne Weeks ไปในที่ลับตาคนในย่าน Dinnington ใน South Yorkshire ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะแทงเธอ 28 ครั้งโดยไม่มีเหตุผล ในเดือนมกราคม 2017     Heeley ได้รับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่าจริงซึ่งเขาต้องถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 24 ปีครึ่ง ศาล Sheffield Crown ได้รับข้อมูลมาว่า Heeley ได้พยายามตีสนิทกับเหยื่อ หรือสาว Leonne มาร่วมปี ก่อนที่จะทำการฆ่า และจงใจตีสนิทเธอเพื่อสนองความพึงพอใจของตนที่ “ชื่นชอบการฆ่า” ทางศาลยังทราบด้วยว่าหลังจากที่ Heeley ถูกจับกุม เขาบอกกับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลจิตเวชว่า “ผมชอบสิ่งที่ผมทำลงไปนะ ก็แค่ฆ่าเอง ผมน่ะชอบการฆ่า“     ผู้พิพากษา Paul Watson กล่าวว่า…

ในประเทศญี่ปุ่น ช่างฝีมือทำงานอย่างหนัก เพื่อสืบทอดประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายศตวรรษจากบรรพบุรุษของพวกเขาในรูปแบบของงานฝีมือดั้งเดิม ทั้งสิ่งก่อสร้าง สิ่งทอ หรือแม้แต่ในวงการเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร อย่างไรก็ตามจากเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา และยุคสมัยที่เริ่มเข้าสู่ความทันสมัยมากขึ้นแล้ว นี่อาจจะเป็นสัญญาณสำหรับพวกเขาว่าถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจเหล่านี้จะต้องปลดปล่อยตัวเองจากแนวคิดเดิมๆ     บริษัทสายเลือดญี่ปุ่นที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายยุคเอโดะ (ปี ค.ศ. 1603-1868) Wajima Kirimoto ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเหล่านั้น เดิมทีแล้วพวกเขานั้นขึ้นชื่อเรื่อง เครื่องปั้นดินเผา Wajima ซึ่งเป็นงานฝีมือท้องถิ่นที่ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักจากจังหวัดอิชิคะวะ แต่ในเวลานี้นั้น พวกเขากำลังจะออกสินค้ารูปแบบใหม่ และมันกำลังเป็นที่สนใจจากผู้คนในญี่ปุ่นเลยทีเดียว สินค้าชิ้นนี้มีชื่อเรียกว่า “Iki” (มีความหมายว่า “ลมหายใจ” “ความมีสไตล์” และ “ความสด” แล้วแต่บริบท) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผิวมนุษย์ และมีคุณ Kohei Kirimoto วัย 25 ปี ทายาทรุ่นที่แปดของ Wajima Kirimoto รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการการผลิต     ทางบริษัทกล่าวว่า วัฒนธรรมการทานอาหารญี่ปุ่นนั้น มีการใช้ปากแตะกับชามมากกว่าวัฒนธรรมการทานอาหารแบบอาหารตะวันตก และนี่เป็นแรงผลักดันในการสร้างผลงานชิ้นใหม่ทั้งห้ารูปแบบนี้ “เพื่อให้ริมผีปากได้สัมผัสความเนียนนุ่มราวกับแตะไปบนผิวมนุษย์”     ชิ้นงานเหล่านี้นั้นมีการอธิบายว่าให้ความรู้สึกเวลาสัมผัสที่ “ใกล้เคียงกับผิวมนุษย์” และมีการโฆษณาที่ดึงดูดความสนใจ ด้วยการวางเครื่องใช้เหล่านั้นข้างๆ ร่างที่เปลือยเปล่าของผู้หญิง…

ในประเทศไทยมีหลายผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายคนที่เลือกจะแต่งตัวแบบน้อยชิ้นและใช้ความเซ็กซี่เพื่อเรียกยอดไลก์ ยอดแชร์ ซึ่งก็อาจทำไปเนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการหรือต้องการให้คนรู้จักตัวเองก็ว่ากันไป แต่เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ล่าสุดบล็อกเกอร์จีนวัย 19 ปีได้ถูกจับและถูกตัดสินใจจำคุก หลังจากที่มีผู้ชายหลายสิบคนเข้ามาหาเธอถึงห้องที่โรงแรมเนื่องจากเธอได้เสนอที่จะมีเซ็กส์ฟรีๆ กับคนที่ติดตามเธออยู่     ในวันที่ 1 มีนาคม 2018 หญิงสาวคนนี้ได้ใช้ยูสเซอร์เนมชื่อ Qianjin Yeye โพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดียและได้ให้ที่อยู่พร้อมกับเลขห้องของเธอที่โรงแรม Hilton Hotel เมืองซานหย่าที่อยู่ในมณฑลไห่หนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน โพสต์สั้นๆ ของเธอกลายเป็นกระแสไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ในโพสต์มีใจความว่า “มาหาฉันสิ… ฟรีเซ็กส์นะ… ห้อง 6316” และก็มีวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่าเธอสวมเพียงชุดชั้นในรออยู่ในห้องของโรงแรม     ตำรวจมณฑลไห่หนานได้กล่าวว่าผู้หญิงคนนี้ได้โพสต์ข้อความลงใน Weibo และ WeChat ซึ่งเป็นโซเชียลที่นิยมกันในประเทศจีน ทำให้มีชายหลายสิบคนได้เข้ามาในโรงแรมและไปเคาะประตูห้องเธอ ซึ่งก็มีหลายคนที่ไปถามแผนกต้อนรับว่าแขกคนไหนกันที่พักอยู่ในห้อง 6316 ซึ่งข่าวลือในโซเชีนลมีเดียลืมกันว่ามีคนกว่า 3,000 คนที่เข้าไปในโรงแรม Hilton เนื่องจากมาตามข้อเสนอของบล็อกเกอร์สาว แต่ภายหลังเธอก็ได้โพสต์ลงใน WeChat ในเชิงร้องขอให้หลายๆ คนหยุดแชร์ข้อเสนอของเธอ โดยที่เธออ้างว่ามันก็แค่มุขตลกเท่านั้นๆ     ทางโรงแรมได้แจ้งเรื่องไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ณ เวลา 22.00 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาสองชั่วโมงหลังจากที่เธอได้แชร์โพสต์แรกลงโซเชียลมีเดีย…

ไม่มีใครชอบเสียงของนาฬิกาปลุกในยามเช้าหรอก ไม่ว่ามันจะมาจากนาฬิกา หรือว่าโทรศัพท์ที่วางไว้ใกล้ๆ แม้ว่าพวกมันจะสามารถปลุกคุณได้ตามหน้าที่ของพวกมันจริงๆ แต่บางครั้งพวกมันก็น่ารำคาญ และให้ความรู้สึกที่แสนจะเย็นชา นึกดูสิว่าถ้าพวกเราต้องเจออะไรแบบนั้นอยู่ทุกวัน ชีวิตยามเช้าของเราจะสดใสไปได้อย่างไร มันน่าจะดีกว่ารึเปล่าถ้าเราสามารถตื่นขึ้นมาในยามเช้าด้วยอะไรที่อบอุ่นกว่านี้ เหมือนกับเมื่อยามที่เรายังเป็นเด็กที่คุณแม่ของเราปลุกเราอย่างอ่อนโยน (ถึงบางครั้งอาจจะไม่อ่อนโยนเท่าไหร่) แม้ว่านั่นอาจจะไม่ทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าตื่นเต็มตา แต่อย่างน้อยมันก็ไม่เย็นชาเหมือนเครื่องมือที่ไร้ชีวิต     ในเดือนมีนาคมนี้ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของญี่ปุ่น “au“ กำลังจะนำวัยเด็กของพวกเรากลับมาอีกครั้งด้วยบริการ Morning Call ตัวใหม่ล่าสุดที่มีพนักงานทั้งหมดมาจากเหล่าคุณแม่ของชาวญี่ปุ่น     บริการนี้ มีเป้าหลายหลักอยู่ที่เด็กนักเรียนมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น ที่กำลังจะจบการศึกษาในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ และจากการที่เคยตื่นสายได้ในมหาวิทยาลัย พวกเขาก็จะต้องกลับไปพบกับชีวิตที่ต้องตื่นเช้าอีกครั้ง จากผลสำรวจของ au ร้อยละ 80.8 ของเด็กมหาวิทยาลัยกังวลว่าจะไม่สามารถลากตัวเองออกจากเตียง และไปที่ออฟฟิศได้ทันเวลา และร้อยละ 67.3 ยังบอกด้วยว่าจะต้องฝึกการตื่นเช้าในเดือนมีนาคม เว็บไซต์ของบริการนี้ในปัจจุบันมีคุณแม่ 10 คนที่สามารถผู้ใช้บริการจะสามารถเลือกได้ โดยที่พวกเธอเป็นคุณแม่ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป เช่น   Tomoe Fushimi อายุ 52 ปี เจ้าของพื้นที่ในฟุกุโอกะ มีลูกสาวหนึ่งคน และมีเสียงราวกับชนชั้นสูงในอะนิเมะ   Hinata Fuyuno อายุ 64 ปี “หญิงสาวผู้อดทน”…

บนโลกอินเทอร์เน็ตมีการสอนเทคนิควิชาเคล็ดลับ ‘ไลฟ์แฮก’ ต่างๆ มากมายหลายอย่าง ซึ่งในบางกรณีที่เราไม่เคยรู้ว่ามันก็ทำแบบนี้ได้ด้วย และมันสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมากไปอีก แต่ว่าไลฟ์แฮกทั้งหลายนั้น จะใช้งานจริงได้หรือไม่ ก็อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคนแล้วล่ะ อย่างพ่อหนุ่ม Lawrence Guo ลูกครึ่งอเมริกัน-เอเชีย จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กำลังอยู่ในช่วงพักผ่อนกับเพื่อนร่วมก๊วน และกำลังหาทางเพื่อเปิดขวดไวน์ เนื่องจากว่าเหล็กไขจุกพังจนใช้งานไม่ได้…   Lawrence Guo   Guo นึกขึ้นได้ว่า เขาเคยดูคลิปวิดีโอสอนการเปิดขวดไวน์แบบไม่ต้องใช้เหล็กไขจุก แต่เป็นการใช้เครื่องเป่าไฟขนาดเล็กแทน ซึ่งวิดีโอไลฟ์แฮกในทำนองเดียวกัน ก็มีหลายคนทำออกมาเผยแพร่เต็มโลกออนไลน์ไปหมด   ตัวอย่างการสอนเปิดขวดไวน์ด้วยเครื่องเป่าไฟขนาดเล็ก   ด้วยวิธีที่นึกขึ้นได้ เขาก็หยิบไฟแช็กขึ้นมาลองใช้ดู แต่อนิจจา ด้วยแรงไฟที่ยังไม่มากพอ(เขาคิดอย่างนั้นอ่ะนะ) มันเลยไม่สำเร็จ เขาก็เลยชักชวนเพื่อนมาใช้ไฟจากเตาแก๊สแทน !?     จังหวะที่กำลังใช้ไฟขนาด เบา-ปานกลาง พวกเขาก็ค่อยๆ เอียงคอขวดเข้าหาเปลวไฟอย่างช้าๆ…   และแล้วผลก็เป็นไปตามคาด เปิดจุกขวดไวน์ได้ แต่อยู่ในสภาพที่ขวดแตกคามือนี่สิ มันอันตรายมากๆ เลยนะนั่น!!   อย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่า เตาแก๊สนั้นไม่สามารถใช้แทนเครื่องเป่าไฟขนาดเล็ก แม้จะสามารถควบคุมความแรงในช่วงเวลาหนึ่งได้ แต่แรงไฟก็ยังคงมากกว่าอยู่ดี…

ถือว่าเป็นข่าวใหญ่โตอีกหนึ่งเรื่อง แต่กลับไม่เป็นที่พูดถึงภายในประเทศไทยมากนัก เมื่อสื่อจากประเทศญี่ปุ่นเองได้ทำการรายงานเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจส่งออกและนำเข้าปลาจากจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น มาสู่ประเทศไทย The Japan Times รายงานเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2561 โดยระบุว่าเรือขนส่งสินค้าปลาลิ้นหมา ได้เดินทางถึงประเทศไทยเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นครั้งแรกที่มีการส่งออกปลาจากฟุกุชิมะตั้งแต่เกิดเหตุภัยพิบัติฟุกุชิมะไดอิชิในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554     Kanji Tachiya หัวหน้าสมาคมประมงจากเมืองโซมะ จังหวัดฟุกุชิมะ กล่าวว่า “พวกเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถส่งออกปลาจากจังหวัดของเราไปสู่ทั่วโลก และเราจะทำการส่งออกปลาที่ปลอดภัยเท่านั้น” จังหวัดฟุกุชิมะทำหน้าที่สนับสนุนสินค้าและธุรกิจในเครือประมง โดยไม่ได้กล่าวถึงความปลอดภัยจากการปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีมากนัก     โดยเมื่อวันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2561 สินค้าประเภทปลาน้ำหนัก 110 กิโลกรัมถูกส่งไปยังประเทศไทย จากท่าเรือเมืองโซมะ ปลาดังกล่าวถูกนำมาใช้ในภัคตาคารอาหารญี่ปุ่น 12 แห่งในกรุงเทพฯ ในวันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งการส่งออกปลาในครั้งนี้ทำให้ประเทศไทยจะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางส่งออกหลักในอนาคต ข้อมูลจากจังหวัดฟุกุชิมะ ตัวอย่างสุ่มของปลานั้นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยของประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ซึ่งหลังจากเกิดเหตุภัยพิบัติ…

[มีภาพและเนื้อหาที่ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม]     เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2018 ขณะที่สองแม่ลูกออกไปเดินเล่นบริเวณเขต Whinless Down woodland เมือง Dover ในประเทศอังกฤษ คุณแม่ Sarah Hair วัย 35 ปี ก็ได้ถ่ายรูปให้กับลูกสาวตัวน้อยของเธอ Amaya วัย 5 ขวบ จากนั้นทั้งคู่ก็พบเห็นถุงใส่ถ่านไม้ใบหนึ่งอยู่บริเวณใกล้ๆ กับ Amaya ด้วยความสงสัยหนูน้อยจึงชี้ไปยังถุงน่าสงสัยนั้นพร้อมกับมองเข้าไปข้างในถุง จึงทำให้พบกับซากสัตว์ที่ตายจากการถูกตัดหัวและเผา     Sarah กล่าวว่า “เรามองไปข้างในถุงแล้วก็เห็นว่าเป็นสัตว์ที่ถูกเผาจนตาย ขนาดตัวน่าจะประมาณแมวหรือไม่ก็กระต่าย มันอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เพราะมันไม่มีหนอนหรือแมลงเลย มีแค่รอยไหม้เท่านั้นเอง เริ่มแรกฉันคิดว่ามันเน่า แต่มันคงไม่น่าจะนานขนาดที่มันจะเน่า หัวของพวกมันหายไป เหลือไว้แต่ขน” Sarah กล่าวว่าเธอมาที่ป่าแห่งนี้เพราะเมื่อเย็นวันก่อนได้ยินว่ามีไฟไหม้เกิดขึ้น เธอจึงมาเพื่อเก็บภาพของป่าในส่วนที่ถูกไฟเผาไหม้ไป แต่ว่าไม่มีร่องรอยของไฟไหม้เลยในละแวกใกล้เคียงกับบริเวณที่พบถุงดังกล่าว     ทีแรกเธอคิดว่าน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของใครสักคนที่ตาย แล้วก็มาทำการเผาแบบลวกๆ ที่นี่ แต่เมื่อเธอเผยแพร่ภาพเหล่านี้ลงไปบนอินเทอร์เน็ต ผู้คนต่างก็เข้ามาบอกว่าการกระทำนี้เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ เธอจึงแจ้งตำรวจเพราะคิดว่าต้องมีใครสักคนที่รับผิดชอบและสืบหาความจริง “มันเป็นสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น” เธอกล่าว…

อย่างที่เรียกกันว่า ‘คู่กันแล้วก็คงไม่มีทางที่จะแคล้วคลาดกัน’ ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลกันสักแค่ไหน ไม่ได้พบเจอกันทุกวัน แต่สุดท้ายแล้วโลกทั้งใบก็จะโคจรให้ทั้งสอง กลับมาคู่กันได้อย่างสวยงาม… เรื่องราวพรหมลิขิตสุดน่ารักนี้เกิดขึ้นกับคู่รักชาวออสเตรเลีย Grace Jennings-Edquist และ Ben Cerini ในปัจจุบันย้ายมาอาศัยอยู่ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยที่ฝ่ายหญิงเพิ่งจะค้นพบว่าเธอเคยเจอสามีมาก่อนหน้านั้นนานมากแล้ว!!   Ben Cerini และ Grace Jennings-Edquist   ก่อนหน้านั้นทั้งสองคิดว่าเพิ่งจะรู้จักกันเมื่ออายุ 23 ปี จนกระทั่ง Grace ไปขุดรูปถ่ายเก่าขึ้นมาแล้วก็พบว่าเธอเคยเจอเขามาก่อนหน้านั้นนานมากๆ นานจนลืมว่าเคยรู้จักกัน “ฉันคิดว่าเคยเจอสามีครั้งแรกก็ตอนอายุ 23 ปี แต่ฉันเพิ่งเจอรูปถ่ายที่เราทั้งคู่อยู่ในงานปาร์ตี้เล็กๆ นั่นแหละตัวฉันเอง ในชุดเดรสสีขาว กำลังกรอกตาใส่ (ว่าที่) สามีอยู่” Grace กล่าวในทวิตเตอร์     ในตอนนี้ทั้งคู่มีอายุ 29 ปีแล้ว และยังรู้สึกมึนงงกับสิ่งที่เพิ่งจะรู้ เพราะแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อนแล้วจริงๆ “เราพยายามที่จะสืบเสาะค้นหาว่าภาพถ่ายนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะ Ben อยู่ในเมือง Adelaide ไม่นานนักในช่วงที่เขายังเป็นเด็ก” Grace ให้สัมภาษาณ์กับเว็บไซต์…

ถ้าใครที่ติดตามข่าวคราวในยุโรปก็คงจะทราบดีว่า ตอนนี้กลุ่มประเทศยุโรปนั้นกำลังเผชิญกับภาวะอากาศหนาวมากๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานมากๆ แล้วแม้จะมีหิมะตกเป็นปกติก็ตาม ล่าสุดคลองอันลือชื่อในเมืองอัมสเตอร์ดัมได้กลายเป็นน้ำแข็งไปทั้งหมด งานนี้ชาวเมืองที่ตอนแรกพากันหมกตัวอยู่ในบ้านเพราะความหนาวก็เปลี่ยนใจหยิบรองเท้าสเก็ตออกมาเล่นน้ำแข็งบนคลองกันยกใหญ่สร้างความสนุกสนานให้กับทุกคนสุดๆ   ผู้คนต่างพากันให้ความสนใจเพียบ!!   ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่หรือแม้แต่สุนัข ทุกคนต่างพากันตื่นเต้นและตบเท้าลงไปเดินเล่นบนพื้นน้ำแข็งกันเพียบ ซึ่งช่วงเวลาอันแสนวิเศษนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักที่ชาวเมืองจะได้เลิกใช้เรือและหันมาเดินเท้ากันบนพื้นน้ำนั่นเอง   สุนัขยังลงมาเดินชิลๆ เลย   นอกจากนี้ทาง The KNSB สมาคมสเก็ตน้ำแข็งก็ออกมาสนับสนุนและคอยเตือนผู้คนว่า น้ำแข็งที่เกิดจากการแข็งตัวของคลองดังกล่าว อาจจะไม่แข็งแรงมากนัก ฉะนั้นพวกเขาก็เตือนให้ชาวเมืองระมัดระวังและเฝ้าดูกันและกันไว้ให้ดี เพราะอาจจะมีภัยที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็ได้   สนุกไม่สนุกลองดูผู้คนในคลิปนี้ซะก่อน    ส่วนความสนุกนี้จะอยู่ไปอีกนานหรือเปล่านั้นก็ยังไม่มีใครทราบ แต่ชาวเหมือนชาวเมืองอัมสเตอร์ดัมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่นักว่ามันจะหมดเมื่อไหร่ เพราะพวกเขาขอแค่ให้ได้มีความสุขกับลานสเก็ตขนาดใหญ่ในช่วงตอนนี้ก็เพียงพอแล้วนั่นเอง…   นอกจากคนที่ลงมาเล่นบนลานสเก็ตธรรมชาติแล้ว บางคนก็เลือกจะเดินลงมาเก็บภาพบรรยากาศที่หาไม่ได้บ่อยๆ   ซิ่งไปเลยพวก!!   ที่มา ladbible

อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ จากต่างประเทศ เมื่อครั้งสภาพอากาศในประเทศอังกฤษและบริเวณใกล้เคียงในช่วงนี้ ต้องประสบกับสภาพอากาศหนาวรุนแรง มีหิมะตกหนักอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้สะดวกเหมือนช่วงอื่นๆ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นปัญหาของผู้คนส่วนใหญ่ และเช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ทางด้านสาธารณสุข เมื่อไม่อาจเดินทางได้สะดวก อาจจะคงตัดใจไม่ไปทำงาน แต่ศัลยแพทย์ท่านนี้ปฎิเสธทุกปัญหา เพราะยังคงมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ!!     ศัลยแพทย์หญิงผู้ไม่เปิดเผยนาม ได้ทำการเดินฝ่าดงหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก เป็นระยะทางรวม 12.8 กิโลเมตร (8 ไมล์) จากเขต Anniesland ในเมือง Glasgow ไปยังเมือง Paisley เขต Renfrewshire ของประเทศสกอตแลนด์ ในวันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม 2018 ตามวันเวลาท้องถิ่น การกระทำเพื่ออุทิศให้กับงานครั้งนี้ ถูกเปิดเผยโดยนาย Andy Renwick ศัลยแพทย์ด้านลำไส้ ผู้เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอ และการเดินมาทำงานในครั้งนี้ก็เพื่อมาทำการผ่าตัดให้คนไข้ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ที่ต้องการการรักษาภายในวันนั้น…     “เธอเดินมาจากเขต Anniesland มายังเมือง Paisley โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที ผมเห็นเธอเดินเข้ามา เธอสวมใส่แว่นตากันหิมะ พร้อมกับชุดหนาแน่นทั้งส่วนบนและล่าง…

การสูญเสียสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกย่อมทำให้ระบบนิเวศย่ำแย่ลง เพราะสัตว์แต่ละชนิดย่อมมีความสำคัญต่อสภาพแวดล้อมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บก สัตว์ปีก หรือสัตว์น้ำก็ตาม ล่าสุด บนชายหาดในเมือง Kent ประเทศอังกฤษได้มี “ปลาดาว” นับหมื่นตัวถูกน้ำพัดขึ้นมาเกยตื้น กระจายอยู่เต็มหาด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นผลพวงมาจากพายุหิมะ “Beast from the East”     Lara Maiklem ช่างภาพวัย 47 ปี ได้พาลูกแฝดวัย 5 ขวบของเธอ Edie และ Beau เข้าไปช่วยเหลือปลาดาวเหล่านี้ โดยการน้ำพวกมันโยนกลับลงทะเล “พายุหิมะทำให้สิ่งมีชีวิตมากมายต้องตาย” Lara กล่าว “พวกเราช่วยพวกมันให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่มันมีจำนวนมากเกินไป” เธอยังเล่าอีกว่า “มันไม่ได้มีเพียงแค่ปลาดาวนะ มันมีปลาแล้วก็เม่นทะเลอีกด้วย ฉันว่าต้องมีคนเห็นกุ้งล็อบสเตอร์ติดมาด้วย”     Lara ผู้ที่ปัจจุบันกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเก็บของตามชายหาดและชายฝั่งแม่น้ำ ได้บอกว่า ปลาดาวที่เกยตื้นนั้นกินพื้นที่ตั้งแต่ Ramsgate ไปจนถึงชายหาดใกล้เคียง Broadstairs เหล่านกนางนวลและนกชนิดอื่นๆ ล้วนมาบินอยู่รอบๆ สัตว์เกยตื้นเหล่านี้ เพราะแน่นอนว่าสัตว์เกยตื้นไม่มีทางรอดชีวิตได้อย่างแน่นอน    …

สุนัขคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ เพราะมันพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าของมีความสุข แม้บางครั้งจะต้องเสี่ยงด้วยชีวิตตัวเองก็ตาม เหมือนกับ Rex สุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด วัย 2 ปี ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าสุนัขนั้นรักมนุษย์ของมันมากกว่าตัวเองจริงๆ     ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี 2018 ได้เกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าบ้าน Javier Mercado วัย 16 ปี ใน  Des Moines ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะนั้นเด็กหนุ่มอยู่บ้านคนเดียว กับสุนัข Rex เท่านั้น เมื่อ Javier ได้ยินเสียงจากนอกบ้าน เขาจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วก็เห็นรถที่เขาไม่รู้จักจอดอยู่     Javier บอกว่า “จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงประตูเลื่อนแตก เพราะมันทำจากกระจก Rex วิ่งลงบันไดไปและเริ่มเห่า ก่อนจะได้ยินเสียงชายคนหนึ่งร้องว่า ‘หมากัดฉัน!! เอามันออกหน่อย’” เด็กหนุ่มรวบรวมสติ โทรหา 911 แล้วรีบไปหลบในตู้เสื้อผ้า… สักพัก Rex เดินขึ้นมาที่ห้องในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีเลือดไหลเต็มพื้น     ไม่นานหลังจากนั้น โจรที่อยู่ชั้นล่างก็ตามสุนัขขึ้นมาและเริ่มค้นห้องนอนทุกห้อง จนกระทั่งมาถึงห้องที่ Javier…

ความต้องการทางเพศเป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาตั้งแต่กำเนิด แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ควรที่จะปลดปล่อยอารมณ์ดังกล่าวออกมาให้เหมาะสม อย่าให้อารมณ์เป็นตัวตัดสินเพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องดูด้วยว่าเราสมควรทำอย่างนั้นกับใคร อย่าให้ต้องเหมือนกับพ่อลูกสองคนนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2018 คุณพ่อ Justin Bunn วัย 39 ปี ถูกพบเห็นว่ามีเพศสัมพันธ์กับลูกสาว Taylor วัย 19 ปี บริเวณสวนหลังบ้านที่อยู่ห่างจากตัวบ้านไปเกือบๆ 5 กิโลเมตร ในเมือง Panama รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา   Taylor ลูกสาววัย 19 ปี   พยานผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเล่าว่า ทั้งสองคนนั้นกำลังมีเซ็กส์กันอยู่ในท่ามิชชันนารีตรงบริเวณดังกล่าว และนั่นจึงทำให้พวกเขาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาเรื่องของความไม่เหมาะสม นาย Justin ให้การกับตำรวจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงความพยายามของอีกฝ่ายซึ่งก็คือลูกสาวของเขาเพียงคนเดียว ในขณะที่มีการรายงานว่าทางด้านลูกสาวเองก็เผยให้เห็นว่าพยายามเสนอตัวอยากมีอะไรกันกับพ่อของเธอมาหลายครั้ง   Justin ผู้เป็นพ่อ   สุดท้ายแล้วศาลจึงตัดสินให้ผู้เป็นพ่อเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงินราวๆ 157,000 บาท ส่วน Taylor เสียค่าปรับเป็นเงินราวๆ 31,000 บาท   บันทึกการรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ   เรื่องนี้สามารถมองได้จากหลายมุมมอง แต่ที่แน่ๆ…

หากชาวประชาเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นทหาร หรือตำรวจ ก็พร้อมช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ…   เป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกก็ตามเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่เหล่านี้ เขาก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนเสมอ เช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (Royal Marine) ของประเทศเวลส์ได้ให้การช่วยเหลือกับคนขับรถบรรทุกที่ขับไปไหนไม่ได้เนื่องจากติดหล่มหิมะ     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประเทศเวลส์ รถบรรทุกของบริษัท Owen Group เกิดอุบัติเหตุขับมาติดอยู่บริเวณที่มีหิมะตกหนาทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ ตัวของรถบรรทุกคาดว่าน่าจะมีน้ำหนักเกือบ 40 ตัน ได้รับการช่วยเหลือจากเหล่าเจ้าหน้าที่นาวิกโยธินที่กำลังฝึกอยู่ใกล้ๆ กัน ก็เลยตัดสินใจรวมพลกันมาช่วยใช้แรงดันเจ้ารถบรรทุกคันดังกล่าวออกไปสู่ถนน     มีผู้เห็นเหตุการณ์ผ่านมาทางนี้พอดีก็เลยเก็บภาพเหตุการณ์สุดประทับใจนี้เอาไว้ จากภาพจะพบว่ามีทหารเพียงแค่ 20 คนเท่านั้น ช่วยกันดันรถที่มีน้ำหนักมากกว่า 40 ตัน!! การช่วยเหลือสำเร็จเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี เจ้าหน้าที่ทุกคนยังยืนโบกมือบ๊ายบายให้กับคนขับรถบรรทุกเพื่ออวยพรให้เขาเดินทางอย่างปลอดภัย     ทางด้านโฆษกของบริษัท Owens Group  ก็ได้ออกมากล่าวขอบคุณเหล่านาวิกโยธินที่ให้การช่วยเหลือ “ต้องขอขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือของหน่วย Royal Marine ในวันนี้เป็นอย่างยิ่ง เราภูมิใจกับกองกำลังทหารของประเทศเรามาก”     และนี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกที่เหล่าประชาชนในอังกฤษได้รับการช่วยเหลือจากทหาร เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนพายุ Emma พัดถล่มสหราชอาณาจักรทำให้หิมะตกอย่างหนัก ผู้คนไม่สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนถนนสายหลักทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษมากมายหลากหลายครั้ง ผู้คนมากกว่าร้อยคนได้แต่ยืนอยู่เฉยๆ เพราะไม่สามารถขยับเขยื้อนรถของตัวเองไปไหนได้ และพวกเขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากกองกำลังทหารทั้งหมด…

หัวหน้ากองทหารสหรัฐกล่าวว่าการทำสงครามกับเกาหลีเหนืออาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของนักรบชาวอเมริกันประมาณ 10,000 คนในช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งวัน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากสงครามในอิรักและอัฟกานิสถานรวมกันถึง 3,000 คน     พวกเขาได้รับรู้ข้อมูลอันน่ากังวลนี่หลังจากเข้าร่วมการประชุมลับที่ฮาวาย โดยมีจุดประสงค์หลักที่การคาดคะแนสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีอยู่ โดยการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ ซึ่งได้ทำการศึกษาสถานการณ์หลายๆ รูปแบบ โดยมีเสนาธิการทหารบกนายพล Mark Milley และผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษนายพล Raymond Thomas เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย พวกเขายังได้สรุปอีกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตของพลเรือนทั้งสองฝ่ายอาจจะมีจำนวนนับแสน หรือมากกว่านั้น     ปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีทหารประมาณ 28,500 นายประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ ในขณะที่ขณะเมืองหลวงของเกาหลีใต้หรือกรุงโซลซึ่งอยู่ในระยะยิงปืนใหญ่ของ Kim Jong un มีประชากรอยู่ราวๆ 24 ล้านคน จากข้อมูลทั้งหมด นายพล Milley กล่าวว่า “ความโหดร้ายป่าเถื่อนของเรื่องที่อาจจะเกินขึ้น มันรุนแรงเกินกว่าประสบการณ์ทั้งชีวิตของทหารคนหนึ่งเสียอีก”   ทหารเกาหลีเหนือที่ร่วมเดินสวนสนามที่เมืองเปียงยาง   ตามรายงานระบุว่าผู้นำกองทัพยังมองอีกว่าจะต้องใช้หน่วยรบพิเศษจำนวนมากเพียงใดในการจู่โจมเป้าหมายพื้นที่ปล่อยขีปนาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ นอกจากนั้นยังมีสถานการณ์อื่นๆ เช่นโอกาสที่กองทัพสหรัฐฯ อาจต้องทำการต่อสู้ในอุโมงค์เช่นเดียวกับที่เคยทำในสงครามเวียดนาม     แม้ว่าความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ดูเหมือนจะลดลงในช่วงหลายสัปดาห์หลังการเข้าร่วมโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ในเกาหลีใต้ แต่เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานั้น Kim Jong un ได้กล่าวหาสหรัฐฯ และญี่ปุ่นว่า “จะทำให้เกิดสงครามรุนแรงขึ้น”…

พ่อแม่ทุกคนมีวิธีการสั่งสอนลูกๆ ของตัวเองแตกต่างกันไป ซึ่งการลงโทษเด็กที่ทำผิดด้วยวิธีการตีก็ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้นถ้ามันรุนแรงมากจนเกินไปเหมือนอย่างที่คุณพ่อคนนี้ทำ นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างมาก นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 ที่เมือง Ya Long เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน เมื่อคุณพ่อแซ่ Wei วัย 38 ปี ทุบตีลูกสาววัย 10 ขวบด้วยกิ่งไม้อย่างรุนแรง ในขณะที่เด็กคนนั้นกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด   ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อคุณพ่อทุบตีลูกสาวอย่างหนัก   เหตุการณ์ดังกล่าวถูกถ่ายเก็บเอาไว้โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้เราเห็นถึงความโหดและป่าเถื่อนของคุณพ่อที่ลงโทษลูกสาวด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม   ลูกสาวนอนร้องไห้และส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด   หลังจากที่เขาตีลูกไปที่บริเวณศีรษะ หลัง และก้นของเธอ คุณพ่อคนนี้ก็ลากเธอไปผูกติดกับท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ก่อนที่จะขับรถลากเธอออกไปตามพื้นถนน โดยที่ไม่มีใครเข้าไปห้ามเลย   คุณพ่อลากเธอไปผูกไว้กับท้ายรถมอเตอร์ไซค์   จากนั้นเขาก็ขับลากเธอออกไปตามพื้นถนน โดยที่ไม่มีใครเข้าไปห้าม   คลิปความรุนแรงที่เกิดขึ้น    หลังจากนั้นคลิปที่ถ่ายเอาไว้ก็ส่งไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในเขตดังกล่าว ทำให้พวกเขารีบกระจายกำลังออกตามหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ผ่านไปเพียง 20 นาที เจ้าหน้าที่ก็พบกับสองพ่อลูกในตลาด จึงจับกุมตัวผู้เป็นพ่อเอาไว้ และพาเด็กสาวไปรักษาบาดแผลที่สถานพยาบาล Ya…

เรื่องราวแปลกประหลาดเกิดขึ้นเมื่อ กล้องวงจรปิด CCTV ได้จับภาพของชายหนุ่มนิรนามคนหนึ่ง ที่กำลังขึ้นคร่อมบนหลังรถจักรยานยนต์ไว้ได้ และได้กลายเป็นวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย ในภาพวิดีโอที่ถูกถ่ายมาได้นั้น แสดงให้เห็นว่ามีชายคนหนึ่ง เข้ามาข้างในโชว์รูมรถจักรยานยนต์ แล้วขึ้นใบนั่งบนเบาะนั่งพร้อมกับถอดกางเกงออก   ชายหนุ่ม กับพฤติกรรมพิลึกบนรถจักรยานยนต์   จากคลิปจะเห็นได้ว่าชายคนดังกล่าว ทำกางเกงหลุดลงไปหลายครั้ง และได้มีการขยับรถจักรยานยนต์ไปด้านหน้ามายังกึ่งกลางของโชว์รูม หากสังเกตดีๆ จะพบว่า เมื่อเขาได้ยินเสียงที่มาจากห้องติดกัน เขาจะหยุด และใส่เสื้อผ้า แต่พอเขารู้สึกว่า ไม่มีใครอยู่แล้ว เขาก็กลับมาทำพฤติกรรมอนาจารอีกครั้ง   นี่คือจังหวะที่เขาเหมือนได้ยินเสียงจากห้องข้างๆ เขาหยุดทำ และหันหน้าไปมอง   เรามาชมคลิปวิดีโอจากกล้อง CCTV กันดีกว่า    วิดีโอดังกล่าวโด่งดัง และมีผู้ที่เข้ามาชมกว่า 54,000 ครั้ง หลังจากที่ทำการเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ตเพียง 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ชาวเน็ตที่เข้ามารับชมวิดีโอนี้ ต่างก็เข้ามาให้ความเห็นตลกๆ กันเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “ผู้ที่ถูกข่มขืนน่าจะชื่อว่า ซู ซุกิ” ส่วนอีกความเห็นก็กล่าวว่า “ดูสิว่าเขาไม่แม้แต่จะพลอดรักก่อน มาถึงก็ใส่เลย”   ยังไม่ทราบผู้กระทำเป็นใคร แต่ก็อาจคาดเดาได้ว่า ชายในคลิปไม่น่าจะมีอารมณ์และความต้องการทางเพศที่ปกติ…

ภาพเหตุการณ์สุดระทึก เมื่อชาวบ้านในประเทศบราซิลได้สังเกตว่าสุนัขที่พวกเขาเลี้ยงไว้นั้นได้หายตัวไป ชาวบ้านต่างไม่รอช้ารีบกระจายกำลังกันออกตามหาเจ้าตูบทันที ชาวบ้านใช้เวลาไม่นานในการตามตัวสุนัขของพวกเขา ซึ่งทั้งหมดได้ไปเจอเจ้าตูบสีดำบริเวณริมน้ำ โดยที่สภาพของมันเรียกว่าไม่ดีเลย เพราะเจ้าอนาคอนด้าขนาดใหญ่กำลังรัดตัวเพื่อที่เตรียมพร้อมจะปลิดชีพและลากไปกินในน้ำ   ชาวบ้านใจกล้า ลงไปลากเจ้างูยักษ์ขึ้นมา หวังว่าสุนัขของพวกเขาจะรอดพ้นจากความตาย   เพียงแต่ว่าเมื่อสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขที่ชาวบ้านรัก ทุกคนจึงตัดสินใจเข้าไปดึงหางเจ้าอนาคอนด้าตัวต้นเหตุขึ้นมาอย่างไม่เกรงกลัว และทุกคนต่างพากันใช้ไม้หรืออุปกรณ์ต่างๆ ฟาดลงไปที่เจ้างูยักษ์หวังให้มันรีบปล่อยสุนัขของพวกเขาออกมา   ในตอนแรกทุกคนยังไม่ได้ใช้ไม้ฟาดมัน แต่พวกเขาอยากจะลองเขย่าๆ ให้มันยอมปล่อยด้วยตัวเองดูก่อน   ในคลิปเราจะเห็นว่า งูนั้นเริ่มรัดสุนัขไปทั้งตัวแล้วทำให้เราตัดสินจากสายตาได้ว่า สุนัขอาจจะตายแล้วก็ได้ แต่ไม่เลย เพราะหลังจากชาวบ้านจัดการฟาดไม้ลงไปที่ตัวงูจนสุดท้ายมันยอมปล่อย สุนัขตัวดังกล่าวรีบวิ่งออกให้ห่างจากงูตัวแสบอย่างรวดเร็วด้วยสัญชาติญาณของมัน   เพื่อให้เจ้างูยักษ์ยอมปล่อย ไม้ถือเป็นตัวช่วยหลักที่ชาวบ้านเลือกใช้เพราะไม่อยากฆ่ามัน   ส่วนสุดท้ายแล้ว เจ้างูอนาคอนด้ายักษ์จะมีชะตาชีวิตเป็นอย่างไร ชาวบ้านจะจับมันไปกินไหม หรือว่าพวกเขาตัดสินใจปล่อยมันกลับไป ก็ไม่มีใครทราบและให้คำตอบได้นั่นเอง…      ที่มา dailymail

ทุกวันนี้มีเรื่องชวนปวดหัวมากมายเสียเหลือเกิน แม้แต่ในเรื่องของขนาดถุงยางก็กลายมาเป็นใหญ่หลวงระดับประเทศได้เช่นกัน เพราะสิ่งที่มีอยู่นั้นมันดันใช้งานจริงไม่ได้นี่สิ!! เว็บไซต์ South China Morning Post รายงานเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2018 เกี่ยวกับเรื่องของนาย David Parirenyatwa รมว. กระทรวงสาธารณสุข ประเทศซิมบับเว ได้พูดถึงเรื่อง ‘ถุงยาง’ จากประเทศจีน ระหว่างการโปรโมตแคมเปญป้องกันเชื้อ HIV ในกรุงฮาราเร   นาย David Parirenyatwa รมว. กระทรวงสาธารณสุข ประเทศซิมบับเว   “ในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้นั้นมีอัตราการติดเชื้อ HIV สูงที่สุด และเรากำลังพยายามโปรโมตการใช้ถุงยางอยู่ด้วย และเยาวชนคนรุ่นใหม่นั้น ก็มีถุงยางขนาดมาตรฐานที่ตัวเองชอบ แต่ปัญหามันติดอยู่ตรงที่เราไม่ได้ผลิตเอง” “เราใช้วิธีนำเข้าถุงยางมาจากประเทศจีน และเริ่มมีข้อร้องเรียนตีกลับมาว่าถุงยางเหล่านั้นมีขนาดที่เล็กเกินไป” นาย Parirenyatwa กล่าวไว้บางส่วนระหว่างการโปรโมต     ซึ่งนอกเหนือจากจะบ่นให้ฟังแล้ว เขาก็ยังแนะนำให้บริษัทเอกชนภายในประเทศ หันมาลงทุนเพื่อผลิตถุงยางเอง แทนที่จะเลือกนำเข้าจากจีนเพียงอย่างเดียว ด้านนาย Zhao Chuan ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผลิตถุงยาง Beijing…

ความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยของคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้น ไม่อาจอธิบายให้เห็นได้ชัดเจนเท่ากับภาพของการกระทำแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร จะมีอายุมากพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว แต่ก็ยังคงตามห่วงอยู่เสมอ     อย่างเช่นในเรื่องราวของคุณแม่วัยชรา 70 ปี จากประเทศสิงคโปร์ กับรักที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่เธอได้มอบให้กับลูกสาวอย่างสม่ำเสมอ โดยที่เธอนั้นได้นั่งรถเมล์ไปยังอพาร์ตเมนต์ของลูกสาวทุกวันตลอด 3 ปีที่ผ่านมา… เมื่อมาถึงอพาร์ตเมนต์ของลูกสาวแล้ว แม้จะไม่มีลิฟต์ใดๆ เธอก็ยังคงเดินเท้าขึ้นไปยังชั้น 7 จนถึงประตูหน้าห้องของลูกสาวเธอ เพื่อนำอาหารกับข้าวกับปลามาส่งให้ลูกได้รับประทาน     เหล่าเพื่อนบ้านสังเกตเห็นพฤติกรรมของคุณแม่ท่านนี้อยู่เสมอ โดยที่เธอจะมายืนอยู่หน้าประตูห้องทุกช่วง 16.00 น. ตะโกนเรียกชื่อลูกสาวเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้เห็นหน้าลูก เพื่อนบ้านวัย 30 ปี ได้เปิดเผยว่าลูกสาวนั้นมีอายุ 40 ปีแล้ว “ฉันได้ฟังเรื่องจากคุณยายมาว่า ตั้งแต่ที่ลูกสาวสูญเสียสามีไป ท่าทีของลูกสาวก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคน จะหมกตัวอยู่แต่ในห้องทั้งวันและไม่ยอมออกไปไหนเลย คุณยายจึงต้องมาส่งข้าวส่งอาหารให้ทุกวันแบบนี้”     เมื่อนักข่าวได้ลงพื้นที่ก็พบกับคุณยายในช่วงเวลา 16.00 น. จริง โดยในวันนั้นคุณยายตะโกนเรียกลูกสาวดั่งเช่นเคย แต่ก็ไร้วี่แววการตอบรับจากลูกสาว จึงลงมานั่งพักก่อนที่จะกลับไปเรียกอีกครั้งในช่วง 18.00 น. 15…

[คำเตือน: มีภาพและเนื้อหาที่กระทบกระเทือนจิตใจ ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม]     ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนเกาะซูลาเวซี ประเทศอินโดนีเซีย ถูกเรียกว่าเป็น “หมู่บ้านผีดิบ” เพราะที่นั่น มีพิธีกรรมสุดประหลาดอย่างหนึ่ง ที่มีการขุดญาติหรือสมาชิกในครอบครัวที่ “ตาย” ไปแล้ว ขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอีกครั้ง พิธีกรรมดังกล่าว เป็นพิธีกรรมของชาว Torojan ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านจะมีการขุดศพของญาติและสมาชิกในครอบครัวที่ตายไปแล้ว ขึ้นมาชะล้างทำความสะอาดและแต่งองค์ทรงเครื่อง เพื่ออาศัยอยู่ในบ้านอีกครั้ง   ขุดขึ้นมา อาบน้ำ แต่งตัว สูบบุหรี่ และใช้ชีวิตร่วมกัน . .   ศพนั้นถูกขุดขึ้นมานำมาไว้ในบ้านนานนับทศวรรษ และทางครอบครัวก็จะใช้ชีวิตร่วมกับศพคนรักของพวกเขา โดยมองว่าเขายังไม่ได้ตาย แต่เขาแค่ “ป่วย” จนกว่าทางครอบครัวจะสามารถจัดพิิธีศพตามความเชื่อได้อย่างสมเกียรติที่ชื่อว่า Rambu Solo จึงจะสามารถยอมรับได้จริงๆ ว่าศพนั้นได้ตายไปแล้ว ชาว Torojan ทำกับคนรักที่พวกเขาขุดขึ้นมาเหมือนกับว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว (ที่ยังมีชีวิต) พวกเขาพูดคุย ให้น้ำ ให้อาหาร และแน่นอนว่า ยามเข้านอน ก็นอนด้วยกัน   ไม่ว่าจะศพผู้ใหญหรือเด็ก ก็ถูกนำขึ้นมาแต่งตัว และใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว…

Malcolm Ong ชายชาวสิงคโปร์ที่เริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็นพนักงานแผนก IT ให้กับบริษัทแห่งหนึ่งเมื่อ 20 ปีก่อน เขาเล่าว่ารอบๆ ตัวเขามีแต่คอมพิวเตอร์ มีแอร์และมีเพื่อนร่วมงานที่นั่งมองไปที่จอเหมือนๆ กัน แต่แล้ววันหนึ่งเขาได้ไปพูดคุยและคลุกคลีอยู่กับชาวนาและชาวประมงในประเทศ ซึ่งนั่นทำให้เขาได้รับความรู้และจุดประกายความสนใจในท้องทะเลแก่เขา จากจุดนั้นเองเขาจึงตัดสินใจว่าเขาจะออกจากงานและใช้ความรู้ด้านวิศวกรรมที่เรียนจบมาใช้ร่วมกับการเลี้ยงปลาของเขา     แต่ใช่ว่าหนทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาย Malcolm เล่าว่าตอนที่เขาออกจากงานเดิมมา และเริ่มเข้าสู่วงการนี้ทุกคนต่างพากันดูถูกว่าเขาจะทำมันได้เหรอ ซึ่งเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถทำมันได้และทำได้ดีด้วย เริ่มจากการเพาะเลี้ยงด้วยการนำเทคโนโลยีและความรู้ที่เขามีมาช่วย โดยเขาเล่าว่าปกติคนทั่วไปจะนับจำนวนลูกปลาที่มาจากฟาร์มอนุบาลด้วยมือหรือการคาดคะเน แต่ตัวเขาได้เขียนโปรแกรมที่สามารถจับภาพและนับปลาได้อัตโนมัติขึ้นมา ซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ     นอกจากนี้ปลาที่เขาเลี้ยงยังมีขนาดและความสดที่สูงมากๆ จนเขานั้นสามารถที่จะนำปลาจากฟาร์มไปขายยังสถานที่ต่างๆ มากมายทั่วสิงคโปร์ ซึ่งนั่นรวมถึงร้าน Candlenut ร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชเชอร์ลิน ก็ยังเป็นลูกค้าประจำของเขาด้วย     ซึ่งด้วยความคิดบวกและไม่ยอมแพ้ต่อความฝันของเขา ได้สอนให้เรารู้ว่าจงอย่ายอมแพ้และจงพิสูจน์ให้คนที่ดูถูกเห็นว่า เราไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิด ซึ่งนั่นจะเป็นตัวผลักดันให้เราไปสู่ความสำเร็จ…     ที่มา greatbigstory

เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับอึ้งกิมกี่ไปเลยทีเดียวหลังมีสายประหลาดจากชายหนุ่มโทรเข้ามาแจ้งว่า “ภรรยาของผมปวดท้องหนังมากแถมมีก้อนขนาดใหญ่อยู่ที่ท้องช่วยส่งรถพยาบาลมาที”    สายนี้โทรเข้ามาโดยนาย Gereth Williams วัย 34 ปี ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2018 เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ หลังจากที่คู่รักของเขา Rhiannon Oldham วัย 30 ปี เริ่มตะโกนส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับกุมมือเอาไว้ที่ท้อง     Gareth พูดผ่านโทรศัพท์ว่า “ช่วยด้วยครับ ภรรยาของผมเจ็บปวดมาก คล้ายกับว่าเธอกำลังจะคลอดลูก แต่เธอไม่ได้ท้องนะ” “เธอมีก้อนเนื้อขนาดใหญ่อยู่ที่บริเวณท้อง มันปูดออกมา แต่ผมแน่ใจว่าเธอไม่ได้ท้อง” เขากล่าวย้ำกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง   แต่หลังจากนั้นต่อมาพบว่า แฟนสาวของเขาให้กำเนิดลูกชาย แถมยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมีน้ำหนักแรกเกิด 2.2 กิโลกรัม ชื่อว่า Phillip   Gareth เล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า “ก่อนหน้านี้ผมหมั้นกับแฟนสาวของผมในวันวาเลนไทน์ และเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากนั้นในอีก 3 วันต่อมา” นอกจากนี้เขายังเล่าต่ออีกว่าเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ Rihiannon บอกว่าเธอเจ็บท้องตลอดเวลา แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่สนใจมัน    …

บางครั้งการศึกษาอาจกลายเป็นสิ่งที่สร้างความเครียดและแรงกดดันอันมหาศาลให้กับเด็กๆ ทั้งหลาย จนพวกเขาคิดว่าตนเองไม่อาจแบกรับสิ่งเหล่านั้นได้จนถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย เหมือนอย่างเด็กคนนี้ที่ตัดสินใจโดดลงมาจากตึกสูง 15 ชั้น เพียงเพราะว่าตนเองทำการบ้านไม่เสร็จ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นช่วงปลายกุมภาพันธ์ 2018 เมื่อเด็กหญิงอายุ 12 ปีที่กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในเมือง Fuzhou มณฑลเจียงซี ประเทศจีน โดยคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกมาทำให้เราเห็นภาพของเธอกำลังนั่งห้อยขาเตรียมจะโดดจากหน้าต่างชั้นบนสุดของอาคารที่พักอาศัย   เด็กสาววัย 12 ปี ขึ้นไปนั่งอยู่ริมหน้าต่างชั้นบนสุด หวังจะฆ่าตัวตาย   หลังจากนั้นเธอก็โหนตัวกับหน้าต่างก่อนที่จะโดดลงมาในที่สุด ท่ามกลางสายตาของผู้อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมาก   เธอเปลี่ยนท่าทางพร้อมจะโดดลงมา   เด็กสาวร่วงลงมาอย่างน่ากลัว ท่ามกลางสายตาของผู้คนจำนวนมาก   แต่สุดท้ายเธอก็รอดมาได้ด้วยการช่วยเหลือของทีมกู้ภัยที่เอาเบาะลมมาวางเตรียมไว้ก่อนแล้ว ทำให้การโดดลงมาจากตึก 15 ชั้นครั้งนี้ทิ้งไว้เพียงแค่บาดแผลเล็กน้อยบริเวณหูของเธอเท่านั้นเอง   เบาะลมรอรับตัวของเธอเอาไว้ ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรรุนแรง   มีแค่แผลบริเวณหูที่ไม่หนักหนาสาหัสอะไรเท่านั้น   ภายหลังแม่ของเด็กสาวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่า ลูกของเธอโดดตึกเพราะว่าความเครียดที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ลูกสาวของเธอทำการบ้านช่วงปิดเทอมฤดูหนาวไม่เสร็จ เธอจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายก่อนที่จะถึงวันต่อไปซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียน   คลิปเหตุการณ์ของเด็กคนนี้ที่พยายามฆ่าตัวตาย เพราะทำการบ้านไม่เสร็จ    นี่เป็นตัวอย่างของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการสร้างแรงกดดันให้กับเด็กมากเกินไป แน่นอนว่าการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เด็กมีความรู้และฝึกระเบียบวินัย แต่สิ่งต่างๆ…

เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2017 ทางสื่อญี่ปุ่นได้รายงานว่า โนบุฮิโระ วาสึกิ อาจารย์ผู้วาดการ์ตูน ‘ซามูไรพเนจร’ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงโตเกียวเข้าจับกุมตัว เนื่องจากครอบครองภาพยนตร์เนื้อหาลามกเกี่ยวกับเด็ก (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018 ตามเวลาท้องถิ่น สื่อประเทศญี่ปุ่น Nikkan Sports ได้รายงานว่าอาจารย์โนบุฮิโระ ในวัย 47 ปี ถูกสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 200,000 เยน (ประมาณ 60,000 บาท) ในข้อหาละเมิดกฎหมายสื่อลามกเด็กในประเทศ   อาจารย์ โนบุฮิโระ วาสึกิ ผู้วาดการ์ตูน ‘ซามูไรพเนจร’   สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น การครอบครองสื่อลามกเกี่ยวกับเด็กมีโทษสูงสุดคือจำคุก 1 ปี หรือถูกสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 1,000,000 เยน อันเป็นข้อกฎหมายที่ถูกบัญญัติขึ้นครั้งล่าสุดในปี 2014     หลักฐานในการเข้าจับกุมนั้น ถูกพบอยู่ภายในบ้านและออฟฟิศที่ทำงานของอาจารย์โนบุฮิระ เป็นแผ่นดีวีดีจำนวนหนึ่ง โดยมีภาพของเด็กหญิงขึ้นปก และคาดว่าน่าจะมีอายุต่ำกว่า 15 ปี นอกเหนือจากนี้ ตามรายงานยังกล่าวอีกว่าอาจารย์โนบุฮิระได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังถูกจับกุมว่า…

ในการตัดสินคดีความร้ายแรงต่างๆ นั้น ผู้ต้องหาจะรู้อยู่แก่ใจตนเองว่าได้กระทำการอันใดลงไป และหลังจากศาลได้ทำการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็จะทำการพิพากษาโทษแก่ผู้ก่อคดีตามสมควร ซึ่งในคดีความของนาย Vernon Madison วัย 67 ปี กลับไม่ได้เป็นไปตามนั้น เขาถูกพิพากษารับโทษประหารชีวิตไปเมื่อ 30 ปีก่อน และจะถูกประหารในปี 2016 แต่ด้วยเหตุที่เขาถูกลบความจำจากอาการช็อกหลายต่อหลายครั้ง ทางทนายความจึงขอเลื่อนวันประหารชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้!?   Vernon Madison   นาย Madison จะได้รับการประหารในเดือนพฤษภาคม 2016 จากการก่อคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจในปี 1985 ภายหลังไม่นานก่อนที่สำนวนคดีจะถูกสรุป ทนายความของเขาได้ทำการยื่นอุทธรณ์ไว้ว่า… ลูกความของเขาประสบกับโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการช็อกหลายครั้ง ส่งผลทำให้ระบบประสาทเสียหาย และจำอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับอาชญากรรมในครั้งนั้น   ภาพของนาย Madison ในปี 1985   ศาลจึงทำการเลื่อนการประหารออกไป เนื่องจากสภาพจิตใจของนักโทษนั้นยังไม่สามารถประหารได้ จนกว่าตัวนักโทษจะมีความเข้าใจในบทลงโทษ และเหตุผลที่พวกเขาต้องได้รับโทษ และหลังจากนั้นการประหารนาย Madison ก็ประสบกับโรคเลื่อนแล้วเลื่อนอีกตลอด 2 ปี ที่ถูกตัดสิน โดยครั้งแรกที่นาย Madison มีอาการช็อกนั้นเกิดขึ้นในปี 2015…

การเซลฟี่ในยุคสมัยปัจจุบันกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับไปโดยปริยายแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะไปไหนหรือไปทำอะไร คนเราก็อยากจะถ่ายรูปตัวเองพร้อมกับสถานการณ์ ณ ตอนนั้น เพื่อนำมาแชร์ให้กับคนรู้จักได้รับรู้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่คงไม่มีใครเซลฟี่รูปตัวเองแบบหนักหน่วงและต่อเนื่องได้เท่าพ่อหนุ่ม Junaid Ahmed วัย 22 ปีคนนี้แล้วล่ะ และที่หนักขนาดนั้นเป็นเพราะว่า เจ้าตัวเผยถึงจำนวนการเซลฟี่อยู่ที่ขั้นต่ำ 200 รูปต่อวัน!!   Junaid Ahmed   Junaid Ahmed อดีตนักศึกษาสาขาแฟชั่นและอดีตนายแบบ วัย 22 ปี จากเมืองปีเตอร์โบโรห์ ประเทศอังกฤษ มีความลุ่มหลงกับการเซลฟี่เป็นอย่างมาก โดยที่เขานั้นจะใช้เวลาเตรียมตัวเซลฟี่ประมาณ 3 ชั่วโมง ได้จำนวนรูปภาพอย่างต่ำหลัก 200 รูป จากนั้นจะคัดเลือกรูปที่ดูดีที่สุดและอัปโหลดสู่อินสตาแกรม     เขาจะใช้เวลาแต่งหน้าทำผมหน้ากระจกก่อนเสมอ หลังจากนั้นก็จะทำการเซลฟี่อย่างต่อเนื่องทุกๆ วัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 50,000 คน จะได้เห็นในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจนำเสนอ ซึ่งนอกเหนือจากการแต่งหน้าแล้ว เขาก็ได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าอีกหลายส่วนด้วย     “เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมโพสต์รูปภาพไปแล้ว ภายใน 1 หรือ 2 นาทีแรกก็จะได้รับจำนวนไลก์เกิน…

แม้ปัจจุบันเราจะหาคณะละครสัตว์ดูได้ยากขึ้นทุกวันๆ แต่ใช่ว่าการแสดงดังกล่าวนั้นจะหายไปจากโลก เพราะคณะละครสัตว์มากมายในต่างประเทศยังคงเดินสายแสดงโชว์ตามที่ต่างๆ ต่อไป ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ทว่ามันจะติดอยู่ตรงที่ พวกเขานั้นยังคงใช้สัตว์ป่ามาเป็นเครื่องมือในการแสดงอยู่นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทางการอังกฤษจึงประกาศว่าปี 2020 จะแบนไม่ให้คณะละครสัตว์ใช้สัตว์ป่าอีกต่อไป โดยผลการประกาศนั้นเกิดขึ้นหลังจากมีการสำรวจกว่า 94.5% ที่เห็นด้วยกับการแบนดังกล่าว     นอกจากนั้นทางการยังคาดหวังว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ จะช่วยให้พวกเขาสามารถต่อสู้กับกระบวนการทารุณสัตว์ได้ดียิ่งขึ้นจากการที่คณะละครสัตว์มักจะทารุณสัตว์ด้วยวิธีต่างๆ ทั้งการลงโทษ การให้พวกสัตว์อดอาหารหรือการกักขังพวกมันไว้ จากบันทึกของทางการยังคงพบว่ามีสัตว์อีก 19 ตัวที่ยังถูกใช้ในการแสดงโชว์ภายในอังกฤษ ซึ่งประกอบด้วย กวางเรนเดียร์ 6 ตัว ม้าลาย 4 ตัว อูฐ 3 ตัว แรคคูน 3 ตัว ซีบู 1 ตัว นกแก้วมาคอว์ 1 ตัวและจิ้งจอก 1 ตัว     และแม้ว่ากฎหมายจะบังคับใช้ในปี 2020 แต่ว่าเกินครึ่งประเทศในสหราชอาณาจักรได้ทำการปฎิเสธให้มีการแสดงละครสัตว์เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนั่นยังรวมถึงประเทศอีกกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงอีกหลายๆ ประเทศในยุโรป ลาตินอเมริกาและอีกหลายประเทศในเอเชีย   .…

เมื่อตอนเพื่อนๆ ยังเด็ก เพื่อนๆ เคยมีความฝันที่อยากจะออกตามล่าหาขุมทรัพย์กันบ้างรึเปล่า ส่วนตัว #เหมียวฝึกหัด ตอนเด็กออกสำรวจที่อันตรายๆ อยู่บ่อยๆ เจ็บตัวกลับมาก็บ่อย โดนคุณแม่ดุเป็นประจำ ฮ่าๆ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 ได้มีคุณพ่อท่านหนึ่งที่ได้เติมเต็มความฝันการตามหาขุมทรัพย์ของเด็กๆ ให้แก่ลูกสาวของเขาที่กำลังจะเกิดมา เมื่อรู้ว่าภรรยาของเขาท้อง ว่าที่คุณพ่อก็เกิดไอเดียเจ๋งๆ ขึ้นมา แทนที่จะให้ของขวัญทั่วไปแก่ลูกน้อย เขากลับวางแผนที่ต้องใช้เวลาถึง 6 ปี ไหนตามไปดูพวกเขาหาสมบัติกันดีกว่า     เมื่อคุณพ่อชาวอังกฤษรู้ว่าภรรยาตั้งท้อง เขาก็ได้คิดอะไรเจ๋งๆ ให้กับลูกของเขาออก โดยต้องย้อนกลับไปก่อนที่ลูกสาวของเขาจะเกิด เขาตัดสินใจซ่อนบางสิ่งเอาไว้ในบ้านเพื่อให้ลูกได้ค้นหาและเขาก็รอจนลูกสาวอายุ 6 ปีจึงจะบอกเรื่องนี้แก่เธอ และเมื่อได้เวลาที่เหมาะสมแล้ว เขาจึงออกอุบายให้เธอไปช่วยทำความสะอาดหีบเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยขยะที่มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ข้างใน โดยที่ระหว่างการทำความสะอาดคุณแม่และคุณยายก็ได้เฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา สาวน้อยทำความสะอาดไปจนเจอกับเศษกระดาษแผ่นใหญ่ที่อยู่ก้นหีบ   . .   มันคือแผนที่ขุมทรัพย์นั่นเอง สาวน้อยดีใจมากๆ เธอรีบวิ่งแจ้นมาบอกพ่อของเธอและขอให้เขาช่วยหาว่านี่มันคือแผนที่ที่ไหน ซึ่งต่อมาเธอก็ได้รูว่านี่คือแผนที่บ้านของเธอเอง เธอจึงรีบนำมันไปที่ห้องโถงเพื่อจะเริ่มค้นหาขุมทรัพย์โดยทันที   .   ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อของเธอ สาวน้อยก็ได้ตระหนักว่าเจ้าขุมทรัพย์นี้ตำแหน่งมันอยู่แถวห้องนอนของเธอเอง เธอจึงรีบตรงไปที่ห้องนอน ซึ่งครอบครัวทั้งหมดก็ตามไปด้วย จากนั้นเธอก็ได้เริ่มลงมือการค้นหาห้องลับ แต่ว่าหาจนแล้วจนเล่าก็ยังไม่พบกับอะไรสักอย่าง…

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ครั้งหนึ่งประเทศ “จีน” ได้มีการจัดพิธีศพด้วยความสนุกสนาน โดยการจ้างหญิงสาวนักเต้น “เปลื้องผ้า” มาแสดงในงาน เพราะถือว่าเป็นการส่งวิญญาณสู่สวรรค์ในอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ปัจจุบันทางการประเทศจีนเริ่มมีการปราบปรามการจัดพิธีในลักษณะนี้ ย้อนไปเมื่อเดือนมกราคม 2018 กระทรวงวัฒนธรรมแห่งประเทศได้ประกาศการรณรงค์ใหม่ขึ้นมาต่อต้าน “การแสดงที่ต่ำช้าและอนาจาร” ในพิธีสมรส งานศพ หรือในงานวัดก็ตาม โดยจะมุ่งเน้นไปที่มณฑลที่รักความบันเทิงอย่าง เหอหนาน อานฮุย เจียงซู และเหอเป่ย สายด่วนหมายเลขใหม่ได้ถูกสร้างขึ้น เพื่อให้ผู้คนได้โทรไปรายงานถึงการจัดพิธีศพที่ไม่เหมาะสม ผู้ที่รายงานดังกล่าวจะได้รับเงินรางวัลอีกด้วย     การแสดงนักเต้นเปลื้องผ้าในงานศพแบบนี้ เริ่มเป็นที่สนใจตั้งแต่ปี 2006 เมื่อกลุ่มชาวนาในหมู่บ้านเล็กๆ ของมณฑลเจียงซูได้เชิญชวนให้คณะนักเต้นเปลื้องผ้ามาเข้าร่วมแสดงในงานศพ ในรายงานเล่มหนึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้กล่าวว่า “นักเต้นบางคนก็จะเข้ามาถอดกางเกงของผู้ชมออก และชวนให้เต้นด้วยกัน ขณะที่บางคนก็แสดงการอาบน้ำกลางแจ้ง หรือเปลือยกายเล่นกับงู” หลังจากที่เหตุการณ์เหล่านี้กลายเป็นข่าวใหญ่ หน่วยงานรัฐในท้องถิ่นก็ทำการปราบปรามและกำจัด พิธีศพที่ “อนาจาร” เหล่านี้     แต่จากนั้นไม่นาน พิธีอนาจารแบบเดิมก็กลับมาโด่งดังอีกครั้งในปี 2015 หลังจากที่มีภาพของการแสดงในพิธีศพแห่งหนึ่งในย่านชนบทของมณฑลเหอเป่ยหลุดออกไปสู่สายตาของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในภาพเป็นหญิงสาวนักเต้น กำลังทำการรูดเสาอยู่บนเวที และเชิญชวนชายที่โศกเศร้ากับงานศพขึ้นไปเต้นด้วยกันและเปลื้องผ้า ขณะเดียวกัน ผู้ชมจำนวนมากที่เข้าร่วมงานนั้นก็รวมไปถึงคนชราและเด็กเล็กด้วย ทั้งนี้ทางกระทรงวัฒนธรรมของจีนเองได้มีการตอบโต้ต่อความบันเทิงลามกนี้ด้วยการออกแผนกำจัด เพราะมองว่ามันคือสิ่งที่ “บั่นทอนบรรยากาศทางสังคม”…