Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
พยาบาลนางฟ้าบริจาคน้ำนมให้แก่ลูกชายที่แม่ป่วยเป็นมะเร็ง จนไม่สามารถให้นมเองได้
อาหารที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเด็กแรกเกิดที่สุดก็คือ ‘น้ำนมของแม่’ เพราะว่าเป็นอาหารสำหรับเด็กที่มีสารอาหารต่างๆ ที่เด็กแรกเกิดต้องการอย่างครบถ้วน อีกทั้งยังเป็นการสร้างสายใยความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่ว่าด้วยโรคภัยไข้เจ็บบางอย่าง ก็ทำให้คุณแม่บางคนไม่สามารถที่จะให้นมแก่ลูกของตัวเองได้ เช่นเดียวกับคุณแม่คนนี้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่ก็เหมือนฟ้าประทานให้เจอได้พบกับพยาบาลใจดี ที่ยอมบริจาคน้ำนมของตัวเธอเองเพื่อให้ลูกน้อยของผู้ป่วยคนนี้ ได้มีโอกาสกินนมเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ เค้า!! นางฟ้าผู้บริจาคน้ำนม (คนซ้ายมือ) เรื่องราวดีๆ นี้เกิดขึ้นที่รัฐเนแบรสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อมีนางฟ้าใจดีชื่อว่า Jaclyn Kenney พยาบาลที่ทำงานอยู่ที่ศูนย์การแพทย์เนแบรสกา ตัดสินใจบริจาคน้ำนมมากกว่า 1,000 ออนซ์ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งชื่อว่า Ashley Chesnut กับลูกชายวัย 5 เดือนของเธอชื่อว่า Easton สำหรับ Chesnut ผู้เป็นแม่วัย 30 ปีนั้น เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเมื่อไม่นานมานี้ จึงทำให้เธอเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถให้นมแก่ลูกชายได้ ซึ่งอันที่จริงก่อนหน้านี้เธอก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างระหว่างที่ให้นมลูกคนนี้ เพราะว่าเธอมีอาการเจ็บปวดที่อกอย่างมากราวกับมีอะไรมาแทงเลยก็ว่าได้ Easton เด็กน้อยวัย 5 เดือนแสนน่ารัก “มันเจ็บเหมือนกับถูกรถไฟชนเลย มันเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทง ในตอนนั้นฉันไม่สามารถขยับตัว ไม่สามารถหายใจหรือพูดคุยใดๆ ได้เลย” Chesnut กล่าว หลังจากพบว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองประเภท Non-Hodgkin ทางทีมแพทย์บอกกับเธอว่า เธอจะต้องหยุดการให้นมบุตรเพื่อเริ่มต้นการรักษาได้แล้ว “การให้นมแก่ลูกเป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับฉันมาก ฉันรักทุกวินาทีที่ได้ใช้อยู่กับลูกของฉัน…
-
เด็กหนุ่มอึ้ง ไม่รู้ใครส่งพัสดุปริศนาให้ พอเปิดออกเจอ จิ๊มิ๊กระป๋องรูปเท้า!?
ถ้าจู่ๆ มีคนส่งของขวัญมาให้เราฟรี ไม่ว่าใครก็คงดีใจกันทั้งนั้นแหละ ของฟรีใครๆ ก็ชอบ แต่ถ้าเกิดคุณได้รับของที่ไม่มีชื่อผู้ส่งทั้งที่ไม่ได้อยู่ในเทศกาลเฉลิมฉลองใดๆ แถมยังเปิดออกมาเจอเท้าคนข้างเดียวอีก ลองนึกดูสิว่าจะน่าตกใจแค่ไหน!! Logan Clayton หนุ่มที่ได้รับพัสดุประหลาด คนที่ได้รับพัสดุชวนฉงนนี้คือหนุ่ม Logan Clayton จากประเทศแคนาดา เขาก็เป็นนักศึกษาหนุ่มทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้รับพัสดุที่ไม่ระบุชื่อผู้ส่งมาชิ้นหนึ่ง แต่มันระบุชื่อผู้รับเป็นชื่อเขาแน่นอน ตัวเขาเองก็ไม่ได้สั่งของเลยสักชิ้นด้วยจึงสงสัยไม่น้อยเลยว่ามีอะไรอยู่ในกล่องกันแน่ เมื่อเปิดกล่องออกดูหนุ่มก็ถึงกับผงะถอยหนีเลย เพราะสิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือเท้าหนึ่งข้างไม่ผิดแน่ๆ เขากลัวว่ามันจะเป็นเท้าคนจริงๆ ที่โรคจิตสักคนส่งมาแกล้งกัน แต่เมื่อลองมองให้ดีแล้วก็เลยรู้ว่ามันเป็นของปลอมนี่เอง และที่น่าแปลกใจก็คือมีรูคล้ายอวัยวะเพศของผู้หญิงที่ส่วนข้อเท้าด้วย เฮ้ยใครส่งเท้ามาให้ฟระ ตกใจหมด พอลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ตแล้วก็ทราบว่าพัสดุที่เขาได้รับมีชื่อเรียกว่า Vajankle ซึ่งเป็นจิมิกระป๋องรูปทรงเท้าที่ทำเลียนแบบมาได้เหมือนจริงสุดๆ เลย นอกจากนี้แล้วมันยังมีราคาสูงถึง 200 ดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 5,000) เชียวนะ แพงแบบนี้นี่เองถึงได้ทำออกมาได้เนียนสมราคา อ๋อ ที่แท้มันไม่ใช่เท้าแต่เป็นจิ๊มิ๊ปลอมนี่เอง หยึย เขาเล่าว่า “ผมค่อนข้างมั่นใจเลยว่าเพื่อนสักคนหนึ่งต้องส่งมันมาแกล้งผมแน่นอน แต่ถึงเพื่อนจะเป็นคนส่งมาให้มันก็ยังน่าตกใจอยู่ดี เพราะมันราคาแพงตั้ง 200 ดอลลาร์แคนาดาเลยนะ เพื่อนของผมก็ไม่ค่อยมีเงินกันไม่น่าจะส่งของแพงมาให้กันเล่นๆ ได้”…
-
คุณแม่ไม่พอใจร้านอาหารตั้งชื่อเมนู ‘เบอร์เกอร์รุมโทรม’ เพราะมันส่อไปในเรื่องเพศ!!
เนื่องจากในปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างสูงขึ้น ทำให้ร้านอาหารหลายแห่งต้องหาความเป็น ‘ซิกเนเจอร์’ ให้กับร้านของตัวเองอย่าง การสร้างเมนูแปลกๆ หรือการจัดบรรยากาศร้านให้แตกต่างจากร้านอื่นออกไป ซึ่งวิธีเหล่านี้ก็สามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดีทีเดียว- แต่ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากลูกค้าได้เช่นเดียวกัน นั่นก็คือการคิดชื่อเมนูแปลกๆ ที่ใครได้ฟังอาจจำต้องขำ หรืออึ้งกับความคิดของเจ้าของร้าน แต่ว่ามีเมนูแปลกๆ เมนูหนึ่งที่ไปทำให้คุณแม่คนหนึ่งโกรธอย่างเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะเธอคิดว่านั่นคือคำพูดที่ส่อไปในทางที่ไม่ดีต่อผู้ที่พบเห็นนั่นเอง ร้านอาหารต้นเรื่อง โดยผู้ที่มีความไม่พอใจต่อชื่อเมนูนี้ก็คือคุณแม่ชื่อว่า Anita Robinson ซึ่งเธอบอกเอาไว้ว่าชื่อเมนู ‘เบอร์เกอร์รุมโทรม'(Gangbang Burger) ที่ขายภายในร้าน Khan Pizza เมืองฮัลล์ ประเทศอังกฤษ มันช่างเป็นชื่อที่เสมือนกับต้องการจะบอกว่าความรุนแรงทางเพศเป็นเรื่องที่สามารถยอมรับได้อย่างปกติอย่างไงอย่างงั้น และเธอก็ขอให้ทางร้านนี้เปลี่ยนชื่อเมนูนี้ซะเถอะ สำหรับเมนู ‘เบอร์เกอร์รุมโทรม’ นี้มีส่วนประกอบหลักๆ ก็คือ ไก่จำนวน 4 ชิ้นประกบกับ หัวหอม เห็ด ไข่และตบท้ายบนสุดด้วยชีส แต่ในขณะนี้เมนูนี้ได้ถูกเอาออกจากป้ายของร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ป้ายปิดประกาศเมนูนี้ ขณะเดียวกัน Asfand Khan ผู้จัดการร้านอาหารแห่งนี้ก็ยืนยันว่า ชื่อดังกล่าวเป็นชื่อเล่นที่ทางร้านตั้งให้เพื่อความตลกเท่านั้น และไม่ได้ตั้งใจที่จะส่อไปในทางที่ไม่ดีแต่อย่างใด “ฉันคิดว่ามันเป็นสิทธิของพวกเขานะที่จะตั้งชื่อเมนูอย่างนั้น แต่ฉันก็ไม่อยากที่จะต้องมาอธิบายแก่เด็กๆ ว่าคำว่า ‘รุมโทรม’ มันคืออะไรตอนที่พวกเขาเห็นมันเด่นหราอยู่บนป้ายเมนู” “ดังนั้นฉันจึงต้องเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป เพราะว่ามันไม่มีภาพไปในทางที่บวกแต่อย่างใดในคำพูดนี้ ซึ่งถ้ามันถูกเรียกว่า ‘เบอร์เกอร์ทรีซั่ม’ มันก็คงจะแตกต่างกันออกไป แต่มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น” Robinson…
-
สาววัยรุ่นอายุ 13 ปี ก่อเหตุตบหน้า “หญิงวัยกลางคน” กลางถนนในกรุงลอนดอน
แม้ทุกคนจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าความรุนแรงไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงให้เห็นอยู่เป็นประจำ เมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศอังกฤษเองก็เกิดเหตุใช้ความรุนแรงที่ไม่ทราบเหตุผลขึ้น โดยเด็กสาววัยรุ่นอายุ 13 ปีคนหนึ่งได้เข้าไปตบหน้าหญิงวัยกลางคนอย่างโจ่งแจ้ง คลิปนี้ถูกเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตและมีคนรับชมจำนวนมาก เหตุเกิดขึ้นกลางถนน Hounslow Hign ที่พลุกพล่านในกรุงลอน ประเทศอังกฤษ คลิปวิดีโอนี้ถูกอัปโหลดลงในอินสตาแกรมเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานี้เอง การใช้ความรุนแรงครั้งนี้ถูกบันทึกภาพไว้ด้วยกล้องมือถือของคนที่อยู่ในบริเวณนั้น จะเห็นได้ว่านอกจากเด็กสาวและหญิงสาวแล้ว ยังมีวัยรุ่นชายอยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์นั้น และน่าจะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งเห็นเหตุการณ์จากด้านหลังกล้องมือถือด้วย ในช่วงแรกของคลิปวิดีโอสาววัยรุ่นซึ่งสวมชุดนักเรียนอยู่ตะคอกใส่หญิงสาวว่า “แกกำลังพูดถึงใครอยู่” ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าหญิงสาวอาจจะพูดบางอย่างกับเธอก่อนหน้านี้หรือไม่ได้พูดก็ได้ แต่กล้องบันทึกภาพไว้ได้ไม่ทัน หญิงวัยกลางคนเองก็ไม่ได้ตอบอะไร เธอเพียงแค่ส่ายหน้าด้วยท่าทางตื่นกลัว แต่เด็กสาวรุ่นก็ตบหน้าเธออย่างแรง ทางด้านหญิงสาวทำได้เพียงกรีดร้องด้วยความตกใจและยืนร้องไห้อยู่นิ่งๆ เท่านั้น หลังจากที่สาววัยรุ่นตบหน้าหญิงสาวแล้วเธอก็เดินหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที ส่วนหญิงวัยกลางคนก็มีคนที่อยู่ในบริเวณนั้นเข้ามาช่วยเหลือและให้กำลังใจเธอ คลิปวิดีโอจบลงเพียงเท่านี้ คลิปวิดีโอนี้ถูกอัปโหลดลงในโปรแกรมสแนปแชต โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า Skye หลังจากนั้นไม่นานคลิปวิดีโอก็ถูกนำไปเผยแพร่ต่อในอินสตาแกรมและมีคนเข้าไปชมมากกว่า 200,000 คนแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2018 เวลา 16.10 น. ทางด้านสาววัยรุ่นมีอายุเพียง 13 ปี ส่วนหญิงสาวที่โดนตบนั้นมีอายุประมาณ…
-
เหมียววัย 18 ปี ถูกทิ้งพร้อมจดหมายสุดสะเทือนใจ ในที่สุดก็ได้บ้านใหม่ที่แสนอบอุ่น
ผู้คนมักจะเอ็นดูและหลงใหลสัตว์เลี้ยงเมื่อมันยังเป็นเด็กน้อยๆ แต่เมื่อพวกมันอายุมากขึ้นหรืออยู่ในวัยแก่ หลายครั้งพวกมันมักจะถูกละเลย เพียงเพราะไม่สามารถให้ความสุขกับมนุษย์ได้เหมือนตอนเป็นเด็ก ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ทำให้แมวผู้น่าสงสารวัย 18 ปี ถูกเจ้าของนำมาทิ้งไว้หน้าศูนย์พักพิง Kershaw County Humane Society รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเจ้าหน้าที่ของศูนย์พักพิงมาถึงในตอนเช้า พวกเขาเห็นแมวตัวหนึ่งอยู่ในกล่อง พร้อมแนบจดหมายที่อ่านแล้วสะเทือนใจสุดๆ จดหมายฉบับนั้นเขียนไว้ว่า “ฉันชื่อ Tori อายุ 18 ปี ฉันไม่ชอบใช้กระบะทราย แต่ฉันเป็นเพื่อนที่น่ารักและซื่อสัตย์ เจ้าของฉันมีทารกแรกเกิด และพวกเขาเหนื่อยที่จะดูแลฉันทุกวัน มันเป็นเรื่องหนักใจสำหรับพวกเขาที่ต้องพาฉันมาอยู่ในศูนย์พักพิง แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ปัญหาเดียวของฉันคือ ฉันไม่ชอบใช้กระบะทราย ฉันมีปัญหากับเล็บเท้าขวา ดังนั้นอย่าจับมันโดยไม่ใช้ถุงมือหรือผ้าขนหนู ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะกัดคุณ ขอบคคุณที่รับฉันไปอยู่ด้วย” หลังจากที่อ่านจดหมายแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาเจ้าเหมียวไปหาสัตวแพทย์ เพื่อรักษาแผลที่เท้าของมัน และไม่นานหลังจากนั้น ดูเหมือนมันจะรู้สึกดีขึ้น ความจริงที่โหดร้ายคือ ยังมีแมวอีกหลายตัวที่ถูกเจ้าของทิ้งด้วยเหตุผลเดียวกับ Tori เมื่อพวกมันมีอายุมาก อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์มุ่งมั่นที่จะหาบ้านอันอบอุ่นให้มันต่อไป พวกเขาบอกว่า “Tori เป็นแมวที่น่ารักมาก เช่นเดียวกับแมวตัวอื่นๆ เราจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยมัน…
-
โรงเรียนญี่ปุ่น จ้างแบรนด์ดังตัดชุดยูนิฟอร์ม แถมเก็บเงินผู้ปกครองร่วม 20,000 เป็นค่าชุด
เมื่อลูกของเราอยู่ในวัยเล่าเรียน ฤดูเปิดเทอมก็อาจจะเป็นช่วงเวลาที่น่าปวดหัวของคนที่เป็นพ่อแม่ซะจริงๆ เพราะว่ามันจะต้องมีค่าใช้จ่ายอย่างมากมายตามมา ทั้งค่าเทอม ค่าขนมให้ลูกไปโรงเรียน รวมถึงเรื่องของเสื้อผ้านักเรียนก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องเช่นเดียวกัน ในเรื่องของชุดนักเรียน พ่อแม่หลายคนก็อาจจะเลือกเสื้อผ้าที่ตัวใหญ่ๆ หน่อยเพื่อจะได้ใส่ไปอีกหลายปี ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัว แต่ก็มีโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่แทบจะทำให้พ่อแม่ของเด็กนักเรียนตาถลนออกจากเบ้า เพราะโรงเรียนแห่งนี้กำลังจะวางแผนให้นักเรียนใช้ชุดของแบรนด์หรูระดับโลก!!! โรงเรียน Taimei โรงเรียนที่ว่านี้มีชื่อว่า Taimei โรงเรียนสำหรับเด็กชั้นประถมศึกษาภาครัฐในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่กำลังวางแผนจะใช้เสื้อผ้าจากแบรนด์อิตาลีอย่าง Giorgio Armani มาเป็นชุดสำหรับนักเรียนของพวกเขา และด้วยเหตุนี้ก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้ปกครองประมาณ 80,000 เยน (ประมาณ 23,000 บาท) ซึ่งจะมากกว่าค่าใช้จ่ายปัจจุบันถึง 3 เท่าตัวเลย และที่สำคัญคือสำนักงานใหญ่ของแบรนด์ Armani นี้ตั้งอยู่ที่ย่านกินซ่า ที่มีระยะห่างจากโรงเรียน Taimei เพียง 200 เมตร เท่านั้น แบรนด์ดังที่จะมาออกแบบชุดนักเรียนให้ “มันเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์จริงๆ ฉันสงสัยว่าทำไมแบรนด์หรูอย่างนี้ ถึงถูกเลือกมาใช้เป็นชุดสำหรับเด็กๆ ของโรงเรียนรัฐกันนะ” คุณแม่คนหนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนามกล่าว ในจดหมายถึงผู้ปกครองเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา คุณครูใหญ่ Toshitsugu Wada ได้กล่าวเอาไว้ว่าโรงเรียน Taimei แห่งนี้เป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งในย่านกินซ่า และตัดสินใจที่จะนำเครื่องแต่งกายที่ได้รับการออกแบบโดย Armani มาใช้เพื่อสร้างบรรยากาศที่เหมาะสำหรับการเรียนภายในโรงเรียนแห่งนี้ขึ้น…
-
เจ้าของกับเพื่อนสี่ขา ป่วยเป็น “มะเร็ง” พร้อมๆ กัน พวกเขาเลยเดินหน้าสู้มันไปให้ได้!!
บางครั้งชีวิตอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการ ทางที่เราเดินอาจไม่ได้ราบเรียบเสมอไป แต่เราจะผ่านมันไปได้ หากมีใครสักคนพร้อมจะอยู่เคียงข้างเราในสถานการณ์เหล่านั้น เช่นเดียวกับ Sara Page วัย 54 ปี กับสุนัขของเธอ Freyja อายุ 9 ปี ที่ป่วยเป็นมะเร็งในเวลาเดียวกัน และทั้งคู่ยืนยันที่จะสู้มันไปด้วยกัน เจ้าหมา Freyja ถูกวินิจฉันว่าเป็นมะเร็งชนิดที่รักษาไม่หาย และในอีก 9 เดือนต่อมา Page ได้ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมด้านซ้าย สำหรับน้องหมานั้น คุณหมอบอกว่ามันมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 6 เดือนเท่านั้น แต่มันคือกำลังใจสำคัญสำหรับเจ้าของในการเอาชนะโรคร้ายนี้ เพราะมันทำให้เธอหัวเราะได้แม้จะสูญเสียผมระหว่างทำคีโม อย่างไรก็ตามดูเหมือน Freyja จะสู้ชีวิตมากกว่าที่ทุกคนคิด เพราะต่อนี้มันต่อสู้กับโรคมะเร็งมานานถึง 4 ปี หลังจากที่หมอบอกว่ามันจะอยู่ได้อีกไม่นาน เจ้าของบอกว่า “เราไม่รู้ว่าอนาคตของ Freyja จะเป็นอย่างไร เพราะมันเป็นมะเร็ง แต่มันไม่เคยแสดงอาการใดๆ ที่บ่งบอกว่าป่วยเลย” ก่อนหน้าที่ Page จะรู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง เธอเล่าให้ฟังว่า “ตอนที่เรากำลังนั่งดูทีวี แล้วมีแมวปรากฏขึ้นบนจอ Freyja ดูลุกลี้ลุกลนใหญ่เลย มันกระโดดและเห่าอย่างบ้าคลั่ง” “ในระหว่างนั้นมันเอามือแตะที่หน้าอกซ้ายของฉัน นั่นทำให้ฉันตระหนักได้ว่าต้องไปตรวจเต้านม เพราะเดือนก่อนหน้านั้นฉันเคยถามหมอว่ามีโอกาสจะเป็นมะเร็งหรือไม่” …
-
17 ภาพ ที่เผยให้เห็นอีกด้านของสรรพสิ่ง จะทำให้มุมมองของคุณที่มีต่อโลกเปลี่ยนไป
ทุกวันนี้การที่เรามีความรู้สึกคุ้นชินกับอวัยวะในร่างกายตัวเอง หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว จนไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือเห็นความแตกต่าง นั่นอาจเป็นเพราะเรามองสรรพสิ่งเพียงด้านเดียว แต่หากเราลองมองให้ลึกลงอีกนิด ใส่ใจรายละเอียดอีกหน่อย คุณอาจจะเห็นถึงความแตกต่าง ความแปลกใหม่ จนทำให้มุมมองของคุณที่มีต่อโลกนี้เปลี่ยนไป 1. ลวดลายของลูกตาที่ผ่านการผ่าตัด แฟนสาวของผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งเพิ่งได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา และนี่คือรอยเย็บของเธอ 2. ภายในของการกีตาร์ที่ดูเหมือนอพาร์ตเมนต์หรู ภาพนี้ได้จากการถ่ายโดยกล้อง GoPro ที่ช่างภาพหย่อนลงไป 3. ด้านหลังเวทีของโรงละคร Cuvillé ถ่ายโดย Klaus Frahm 4. ภายในของไข่มุก Atrina vexillum ถ่ายโดย Alain.R.Truong 5. คุณเคยสงสัยหรือไหมว่าพวกเขาติดตั้งเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่เหล่านี้อย่างไร? 6. โครงสร้างภายในของเต่า ถ่ายโดย Colin Keates สำหรับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ 7. ขาของนักปั่นจักรยาน หลังเข้าร่วมปั่นใน Tour de France 8. นี่คือด้านล่างของเรือรบ USS Independence (LCS-2) 9. ภายในของเครื่อง Redbox 10. ภายในของลูกโบว์ลิ่ง 11. นี่คือเบื้องหลังความงดงามของดอกไม้ไฟที่เราเคยเห็น 12. ภายในของระเบิดมือ…
-
20 ภาพการ์ตูน “ความสุขของการอยู่คนเดียว” ผ่านลายเส้นแบบน่ารัก จากศิลปินเกาหลี
บางครั้งเราอาจจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตท่ามกลางเพื่อนฝูง หรือท่ามกลางสังคมที่เต็มไปด้วยแสงสี จนลืมไปว่าการอยู่คนเดียวและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายก็มีความสุขได้เช่นกัน ความเรียบง่ายที่ว่านี้ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ Aeppol ศิลปินชาวเกาหลีวาดภาพอันน่ารักเพื่อถ่ายทอดความเงียบสงบ ความงามของธรรมชาติ และความสุขที่สามารถหาได้ง่ายๆ จากการอยู่คนเดียว ภาพวาดของ Aeppol เผยให้เห็นความฝันของเราหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่ต้องการหนีจากสังคมอันวุ่นวายและอยากใกล้ชิดกับธรรมชาติ บางคนยุ่งอยู่กับการทำงานตลอดทั้งวันหรือทั้งสัปดาห์ จนไม่มีเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อน แต่ภาพเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายจนอยากปล่อยวางทุกอย่างไว้สักพัก ปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปกับจินตนาการที่ไม่มีสิ้นสุด ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่เร่งรีบ ชื่นชมความงามของธรรมชาติ คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ธรรมชาติชะล้างใจได้ดีเสมอ อย่าลืมดูแลตัวเอง ความสุขจากการนั่งรับลมเย็นๆ นั่งฟังเสียงฝนกระทบหลังคา สัมผัสธรรมชาติในยามค่ำคืน จินตนาการก่อนนอนสู่ฝันที่สวยงาม จิบชาร้อนๆ ยามบ่าย ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ หากิจกรรมให้ร่างกายได้ขยับบ้าง ลองถามใจตัวเองดู ว่าแท้จริงแล้วเราต้องการชีวิตแบบไหน? ไม่จำเป็นต้องทานอาหารหรู ราคาแพง แต่ลองชิมฝีมือตัวเองดูบ้าง…
-
ธรรมดาโลกไม่จำ 20 การโฆษณาบนบันไดเลื่อน สร้างสรรค์ แหวกแนว ตรึงตาตรึงใจแน่นอน
การโฆษณาถือเป็นเครื่องมือสื่อสารทางการตลาดเพื่อบอกกล่าวให้ผู้บริโภครู้สึกถึงคุณค่าและความแตกต่างของสินค้านั้นๆ แต่ถ้าโฆษณาแบบทั่วไปก็เกรงว่าโลกจะไม่จำ ด้วยเหตุนี้ บริษัทต่างๆ จึงมักจะออกการโฆษณาสินค้าให้มีความสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และต้องตาต้องใจผู้บริโภคมากที่สุด หนึ่งในสถานที่ที่มีการติดป้ายโฆษณามากที่สุดคือ บันไดเลื่อน แต่ถ้าเอาป้ายไปติดไว้เฉยๆ คนอาจจะไม่สนใจหรือไม่มองด้วยซ้ำ ดังนั้นบางบริษัทต่อไปนี้จึงงัดไม้เด็ด ชนิดที่ว่าไม่มีใครไม่สนใจแน่นอน 1. จะกลับแล้วหรอ ซื้อโดนัทยัง? 2. พร้อมจะไปผจญภัยในป่าบราซิลกับเรามั้ย? 3. มานวดกับเราสิ 4. ผมสวย ตรงทุกเส้น ต้องแพนทีน 5. ปากกาไฮไลต์ สีชัด ติดนาน ต้องสตาร์บีโล บอส 6. คิดจะพักคิดถึงคิทแคท 7. เพลิดเพลินไปกับแอปที่ไม่สิ้นสุด 8. เห็นภาพก็รู้เลยว่า Hubba Bubba เค้ายาวจริงๆ 9. ถ่านหมดอย่าลืมนึกถึงเรา ดูราเซล 10. ห้องสมุดไร้ขีดจำกัด 11. ความหนืดของชีส แค่ไหนก็ไม่พอ…
-
ประเด็นดราม่า ผู้โดยสารหนุ่มเดือดดาล หลังแอร์โฮสเตสไม่ยอมยกกระเป๋าขึ้นเก็บให้!?
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2018 เพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า 小榴槤網 ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นเหตุการณ์หนึ่งบนสายการบิน Scoot ของประเทศสิงคโปร์ เป็นภาพของชายหนุ่มร่างใหญ่ที่กำลังโมโหใส่แอร์โฮสเตสสาวคนหนึ่ง หลังจากที่เธอไม่ยอมช่วยเก็บกระเป๋าให้กับเขา จากการตรวจสอบกับทางสายการบิน Scoot บอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 21 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา บนเที่ยวบิน TR180 ที่กำลังเดินทางจากประเทศสิงคโปร์ ไปเมืองหนานจิง ประเทศจีน คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินของสายการบิน Scoot คลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ลงไปนั้นได้มีการเล่าเรื่องราวเอาไว้อย่างคร่าวๆ ว่า ในตอนนั้นชายร่างใหญ่ที่เราเห็นกำลังถือแก้วน้ำอยู่ เขาจึงขอให้แอร์โฮสเตสสาวช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปเก็บไว้ให้ที่เหนือหัว ซึ่งเธอก็ได้ปฏิเสธเขาไปอย่างสุภาพ และนั่นก็ทำให้ผู้โดยสารนี้เกิดความรู้สึกไม่พอใจ ท่าทีที่น่ากลัวของเขา ทำให้พนักงานคนนั้นตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าแอร์โฮสเตสผู้ดูแลเที่ยวบินนี้ เธอจึงเข้ามาพูดคุยกับผู้โดยสารหนุ่มเป็นภาษาจีนกลางว่า “คุณผู้ชายคะ คุณมีร่างกายที่กำยำดี ฉันสามารถช่วยถือแก้วให้คุณได้ในตอนที่คุณกำลังเก็บกระเป๋า” หากฟังในคลิปเราจะได้ยินหัวหน้าสาวคนนี้พูดว่า “ถ้ามือคุณเจ็บ เราจะรีบช่วยคุณอย่างแน่นอน” และเราจะได้ยินว่าชายหนุ่มตอบกลับไปว่า “ผมยังคงไม่พอใจกับสิ่งนี้” ผู้โดยสารหนุ่มยังคงแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์อยู่ แอร์โฮสเตสสาวจึงบอกกับเขาว่า “ถ้าคุณยังยืนกรานอย่างนั้น เดี๋ยวฉันจะขอให้พนักงานดูแลด้านความปลอดภัยมาเป็นคนทำให้” ท้ายที่สุดแล้วชายหนุ่มก็ยกกระเป๋าขึ้นไปเก็บด้วยตัวเอง ในขณะที่แอร์โฮสเตสยืนถือแก้วน้ำให้กับเขา แล้วค่อยคืนให้หลังจากที่เขาเก็บกระเป๋าเสร็จ ก่อนที่จะเดินจากไปในทันที สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจทำให้หลายๆ…
-
ทางการรัสเซียจับกุมนักวิทยาศาสตร์หลังจากที่พยายามใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขุด Bitcoin
ในปัจจุบันสกุลเงินดิจิตัลหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Bitcoin นั้น เป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเจ้าสิ่งนี้มันสามารถที่จะนำมาแลกเป็นเงินในชีวิตจริงได้ เราจึงอาจจะเคยได้ยินคำว่าขุดเหมืองหรือว่าขุด Bitcoin ที่ใช้เรียกสำหรับการหาสกุลเงินดังกล่าวมาใช้ แต่เนื่องจากว่าการขุดเหมืองจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง นั่นจึงทำให้ประเทศรัสเซียเกิดการจับกุมกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ขึ้น หลังจากที่พวกเขาพยายามจะใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในโรงงานผลิตหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซียในการขุดหา Bitcoin เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมือง Sarov เขตหวงห้ามทางตะวันตกของประเทศรัสเซีย สถานที่ตั้งของศูนย์หัวรบนิวเคลียร์แห่งชาติ โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ก็คือคนที่ทำงานอยู่ในสถานที่แห่งนั้น จากการรายงานบอกว่า มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งจากทั้งหมด 20,000 คนที่ทำงานอยู่ในศูนย์ดังกล่าว พยายามจะใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีไว้สำหรับการผลิตหัวรบนิวเคลียร์ มาขุด Bitcoin ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นั้นไม่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อป้องกันการถูกบุกรุกจากภายนอก แต่นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้กลับพยายามเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และนั่นจึงทำให้มีการแจ้งเตือนดังขึ้น ส่งผลให้ศูนย์ความปลอดภัยแห่งชาติรีบส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบโดยด่วน กลายเป็นเหตุอาชญกรรมระดับประเทศเลยทีเดียว เหล่านักวิทยาศาสตร์ที่ไม่มีการระบุว่ามีกี่คนนั้นจึงถูกจับในข้อหา “พยายามใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อเหตุผลส่วนตัว” และตอนนี้ก็ยังไม่มีการรายงานเกี่ยวกับโทษที่พวกเขาจะได้รับ ได้มีการอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความพิเศษของคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไว้อีกว่า มันมีประสิทธิภาพสูงถึง 1 Petaflop หรือก็คือสามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 ล้านล้านจุดต่อวินาที เรียกว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดคอมพิวเตอร์ของรัสเซียจริงๆ เรื่องของเงินๆ ทองๆ นี่คงเป็นสิ่งที่แทบทุกคนล้วนแต่ยังคงต้องการมันมาใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ควรจะคิดทำอะไรให้รอบคอบ และควรจะหามันมาอย่างสุจริตจะดีกว่านะ ที่มา: bbc
-
เปิดไอจีบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อจาก 50 Shades Freed ที่พระเอกจ้างมาอารักขาเมียตัวเอง
หากพูดถึงหนังรักโรแมนติกเรตอาร์ที่ทำให้คนดูกระชุ่มกระชวยกันได้ทั่วโลก ทุกคนก็คงนึกถึงภาพยนตร์ตระกูล Fifty Shades แน่ๆ เพราะบทรักของ Mr.Grey และ Anastasia ที่เราได้เห็นในสองภาคแรกนั้นมันช่างเร่าร้อนเกินบรรยาย ล่าสุด Fifty Shades Freed ซึ่งเป็นภาคบทสรุปของเรื่องราวรักนี้ก็เพิ่งเข้าฉายในโรงภาพยนต์บ้านเราเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานี้เอง แต่หลังจากได้ดูภาคนี้แล้วสาวๆ หลายคนกลับเมิน Mr.Grey สุดหล่อที่รับบทโดยนักแสดงหนุ่ม Jamie Dornan ไปซะอย่างนั้น แล้วหันไปหลงรักบอดี้การ์ดหนุ่มที่หล่อกระชากใจไม่แพ้พระเอกกันแทน หล่อเบอร์นี้ต้องทำความรู้จักกันสักหน่อยแล้ว! Brant Daughery ผู้รับบท Luke Sawyer บอดี้การ์ดสุดฮอต คนที่รับบทเป็น Luke Sawyer บอดี้การ์ดหน้าหล่อนั้นตัวจริงมีชื่อว่า Brant Daughery เขาเป็นหนุ่มอเมริกาจากรับโอไฮโอ ปัจจุบันอายุ 32 ปี แม้จะอายุขึ้นเลขสามแล้ว แต่ความเท่ของเขาก็ยังสามารถขโมยหัวใจของสาวๆ หลายคนไปจนพวกเธอไม่สนใจพระเอกหนังกันเลยทีเดียว เขามีผลงานด้านภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อปี 2008 ในหนังสั้นเรื่อง Suspened ก่อนจะมาแสดงเป็นบอดี้การ์ดใน Fifty Shades Freed เขาเป็นที่รู้จักดีในบทของ Noel Kahn…
-
พลิกโฉมการประกวด เมื่อหนูน้อยดาวน์ซินโดรม สามารถคว้าแชมป์ประกวดภาพถ่ายได้เป็นครั้งแรก!?
Lucas Warren หนูน้อยผู้ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรมที่ทำลายหน้าประวัติศาสตร์การประกวดถ่ายรูป เมื่อเจ้าหนูคนนี้สามารถเอาชนะและกลายเป็นแชมป์คว้าเงินรางวัลก้อนโตจากการประกวด Gerber Baby Photo Contest 2018 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี (Gerber Baby Photo Contest นั้นเป็นการแข่งขันจัดประกวดภาพถ่ายของหนูน้อยวัย 1 ถึง 6 ขวบ ที่มีความน่ารักจากทั่วอเมริกา โดยผู้ชนะก็จะได้เงินรางวัลก้อนโต ส่วนตัวผู้จัดประกวดนั่นก็คือบริษัท Garber ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนั้นที่ผลิตของใช้และอาหารสำหรับเด็กมาแล้วเกือบ 100 ปี!!) แน่นอนว่านับตั้งแต่มีการประกวดมา ผู้ชนะล้วนเป็นเด็กปกติไม่ได้มีอาการป่วยอะไรเลยแต่อย่างใด แต่สำหรับ Lucas Warren วัย 18 เดือนที่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรมนั้นถือเป็นการปฎิวัติวงการเลย เพราะมันถือเป็นเครื่องยืนยันว่าต่อให้จะป่วยหรือไม่ป่วยความไร้เดียงสาของเด็กๆ ถือเป็นที่สุดจริงๆ Lucas นั้นได้ชนะผู้เข้าประกวดคนอื่นๆ กว่า 140,000 คน ซึ่งจะทำให้หนูน้อย Lucas กลายเป็นผู้ชนะคนแรกที่เป็นดาวน์ซินโดรมและคว้าเงิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) ไปครอง โดยพ่อแม่ของหนูน้อยบอกว่าเงินก้อนนี้จะกลายเป็นการศึกษาให้กับลูกของพวกเขา …
-
ฝูงอัลปาก้าท้องผู้น่าสงสาร ถูกหมาล่าเนื้อบุกเข้ามาในฟาร์ม เล่นเอาพวกมันหนีกันแทบไม่ทัน!!
แม้จะเป็นเรื่องราวของสัตว์ขนฟูคอยาวอย่างอัลปาก้า ทางทีมตำรวจจากฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พวกเขารีบเข้าไปช่วยเหลือเหล่าอัลปาก้าทันทีหลังได้รับแจ้งว่ามีหมาล่าเนื้อฝูงใหญ่หลุดเข้าไป… Nigel Beckwith เจ้าของฟาร์ม Herts Alpacas ในฮาร์ตฟอร์ดเชอร์เล่าว่า เขานั้นจะต้องปิดฟาร์มของเขาเป็นการชั่วคราวจนกว่าเขาจะขจัดความเครียดออกให้เหล่าอัลปาก้าทั้ง 65 ตัวให้ได้เสียก่อน ฟาร์มจึงจะเปิดทำการได้อีกครั้ง ส่วนสาเหตุของความเครียดนั้นก็มาจากการที่ฟาร์มของเขาถูกฝูงสุนัขล่าเนื้อขนาดใหญ่บุกเข้ามา ซึ่งมีอัลปาก้าถึง 24 ตัวที่กำลังตั้งท้องอยู่ และการเกิดความเครียดจากเหล่าสุนัขล่าเนื้ออาจจะส่งผลต่อสุขภาพของเหล่าอัลปาก้าน้อยก็เป็นได้ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งและเข้ามาจัดการ Nigel ก็ได้ทราบว่าสุนัขล่าเนื้อดังกล่างนั้นมาจาก Puckeridge Hunt ซึ่งเป็นชมรมเลี้ยงสุนัขล่าเนื้อและทำกิจกรรมล่าสัตว์เป็นหลัก หลังจากที่กลุ่มดังกล่าวได้จัดการต้อนสุนัขของพวกเขากลับไปจนหมด พวกเขาได้ออกมาบอกว่ากลุ่มของพวกเขาได้ขอโทษขอโพยกันยกใหญ่ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาไม่คาดคิดว่าสุนัขล่าเนื้อจะออกจากเส้นทางและลักลอบเข้าไปยังฟาร์มดังกล่าว ซึ่งด้าน Nigel ที่ได้รับผลกระทบไปแล้วก็บอกว่า ทาง Puckeridge Hunt กลับไม่ได้มาขอโทษเขาด้วยตัวเอง นั่นจึงทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเขาเลยนั่นเอง… สงสารสุดก็เหล่าอัลปาก้าท้องนี่และ ที่มา metro
-
มนุษย์ช่วยสุนัขจาก ‘การต่อสู้หมา’ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่กลายเป็นแรงบันดาลให้ผู้คนนับล้าน
สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฉลาด น่ารัก และซื่อสัตย์กับมนุษย์เสมอ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบางคนถึงรักน้องหมามากเท่ากับคนในครอบครัว อย่างไรก็ตาม มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เห็นสุนัขเป็นเพียงแค่สัตว์ทั่วไปเท่านั้น และพยายามจะหาประโยชน์จากพวกมัน พร้อมทั้งทารุณมันสารพัดเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการ การต่อสู้สุนัข (Dogfighting) เป็นหนึ่งในวิธีที่มนุษย์ทำกับสุนัข เพื่อความบันเทิงและแสวงหากำไรจากผู้เข้าชม ทั้งๆ ที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายและไร้มนุษยธรรม การฝึกสุนัขเพื่อต่อสู้ ไม่เพียงแต่ทารุณกรรมพวกมันเท่านั้นแต่หลายตัวถูกฆ่าตายด้วย บางคนเรียกกิจกรรมประเภทนี้ว่า “กีฬา” ซึ่งเป็นการบังคับให้สุนัขต่อสู้กันเอง Oogy เป็นหนึ่งในสุนัขเหล่านั้น ที่ผ่านการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน Oogy เป็นหมาพันธุ์โดโกอาร์เจนติโน มันได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจด้วยสภาพที่ค่อนข้างแย่ เพราะมันถูกทิ้งในกรงที่ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร และมีเลือดออก น้องหมาถูกกัดและถูกจู่โจมจนทำให้หูซ้ายของมันฉีดขาด แลเพื่อที่จะช่วยชีวิตมัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพา Oogy ไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษา ต่อมาในระหว่างที่น้องหมาพักฟื้น ครอบครัว Levin อยู่ที่นั่นพอดี เพราะพาน้องแมวที่รักของพวกเขามาเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย แต่แล้ว เมื่อครอบครัวได้พบกับ Oogy ขณะที่มันถูกพาไปเดินเล่นเพื่อบำบัดหลังการผ่าตัด พวกเขารู้สึกเศร้าและหดหู่อย่างเห็นได้ชัด ด้วยอดีตที่เลวร้ายของมัน พวกเขาไม่แน่ใจว่าน้องหมาจะก้าวร้าวหรือเปล่า แต่ครอบครัว Levin คิดว่าไว้แล้วว่าไม่ว่ามันจะเป็นยังไง พวกเขาก็จะรักมัน พวกเขาได้ปรึกษาสัตวแพทย์ในเครื่องนี้ และได้คำตอบว่า…
-
คลิปภรรยาไม่ทันสังเกตว่า “สามีเมาตกรถ” ขณะที่เธอขับ แถมขับเลยออกไปไกลมาก
ตอนเด็กๆ เราอาจจะสงสัยว่าทำไมเวลานั่งรถยนต์ พ่อแม่ถึงชอบบอกให้เราล็อคประตูให้ดีทั้งที่เรานั่งอยู่ข้างในแท้ๆ โดยคำตอบของปัญหาดังกล่าวนั้นก็ง่ายมากๆ นั่นก็เพื่อความปลอดภัยของเรายังไงละ มิเช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาแบบข่าวนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางดึกวันในมณฑลเจียงซู ซึ่งกล้องวงจรปิดได้จับภาพรถคันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วปานกลาง โดยในตอนแรกนั้นมันก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรจนกระทั่งอยู่ดีๆ ก็มีชายคนหนึ่งเปิดประตูออกจากรถร่วงลงมานอนอยู่กับพื้นในสภาพไร้สติ ชายคนดังกล่าวได้แต่นอนรอให้ภรรยากลับมารับในสภาพที่ไร้สติ โชคยังดีที่เป็นกลางดึกทำให้ไม่มีรถผ่านไปมา จากนั้นต้องใช้เวลาอีกหลายนาทีกว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวจะทราบว่ามีคนตกลงจากรถและเลี้ยวกลับมารับ จากรายงานของ Suzhou police ก็ทำให้เราได้ทราบว่าชายที่ตกลงมานั้นเป็นสามีที่เพิ่งจะเมาหนักจากงานเลี้ยงฉลอง ส่วนคนที่ขับรถนั้นคือภรรยาของเขา ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตัวสามีอยู่ดีๆ ก็เปิดประตูรถออกมานั่นก็เพราะเขาต้องการจะอ้วก เพียงแต่เขาไม่อยากจะอ้วนในรถจึงตั้งใจจะเปิดประตูแค่นิดหน่อย แต่ด้วยความที่เขาเมาหนักมากและรถก็เคลื่อนที่มันจึงเกิดเป็นเหตุการณ์อย่างที่เห็น โชคดีนะที่ชายคนดังกล่าวนั้นไม่เป็นอะไรมาก บวกกับที่ถนนนั้นไม่มีรถสวนไปมา มิเช่นนั้นรับรองว่าชายคนนี้อาจจะต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตก็เป็นได้… ที่มา shanghaiist
-
ไปดูวิธีแกล้งกันแบบญี่ปุ่นในวันที่หิมะตก ด้วยการปั้นรูปหน้าคนเป็นสิบๆ อัน แล้วแปะตรงรถ
หนึ่งในกระแสไวรัลสุดหลอนจากญี่ปุ่นที่เห็นแล้วจะต้องรู้สึกว่า “โชคดีนะที่ไทยไม่มีหิมะ” โดยเรื่องราวนี้มันเริ่มขึ้นจากชาวเน็ตญี่นคนหนึ่งได้เอาหน้ากากไม้ที่นิยมใช้ในการแสดง Noh เป็นแม่พิมพ์หิมะหลายๆ อัน งานนี้แค่คิดก็หลอนแล้ว ชาวเน็ตคนดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า @skull0502 โดยเขาได้ทวีตภาพรถของครอบครัวตัวเองที่ถูกเขาเอาหิมะรูปหน้าคนแปะไว้อยู่เต็มรถไปหมด นี่ขนาดเราเห็นภาพชัดๆ ปกติมันยังดูสยองแปลกๆ ลองคิดดูว่าถ้าเดินผ่านที่มืดๆ ไฟสลัวๆ หน่อย อื้อหื้อ ไม่อยากจะคิด นอกจากนี้เจ้าตัวยังเล่าอีกว่า หลังจากที่สร้างผลงานดังกล่าวไว้ตอนเช้าแล้ว เขายังแอบมาถ่ายภาพผลงานเดิมในตอนเช้าอีกด้วย ซึ่งเราจะเห็นว่าหิมะนั้นตกลงมาทับทมเยอะกว่าเดิม…เอาจริงๆ นะ แบบนี้มันดูหลอนกว่าแบบแรกอีก!! ทวีตดังกล่าวนั้นตอนนี้มีคนเข้ามากดชอบและรีทวีตแล้วกว่า 64,000 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้ามาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลอนสุดๆ ยิ่งตอนมันละลายและมีหิมะทับๆ จนเป็นผืนเดียวกันนี่อย่างหลอน!! อย่างไรก็ตาม การเอาหน้ากากญี่ปุ่นมาทำเป็นรูปหน้าคนแบบนี้ไม่ใช่ว่ามันเพิ่งจะเคยเกิดขึ้นหรอกนะ เพราะย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ชาวเน็ตที่ชื่อ @Kiyo_kxcxhxc ก็เคยทำมาก่อนแล้วและผลลัพธ์มันก็คล้ายกันเป๊ะ!! (จะว่าไปมันเหมือนหน้าคนในวิหารไร้หน้าใน GOT เลยนะเนี่ย) ที่มา rocketnews24
-
บริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมฟ้องหญิงสาว ที่อ้างว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาทำให้ผมของเธอเสียหาย
บริษัท Hair Monat ผู้ผลิตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ได้ทำการฟ้องร้องหญิงสาวที่ชื่อว่า Vickie Harrington อายุ 54 ปี ชาวรัฐโคโรไลนา หลังจากที่เธอกล่าวหาว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอผมร่วงและเกิดรอยแผลไหม้บนหนังศีรษะ ทางบริษัทต้องฟ้องร้องเพราะว่าโพสต์ของผู้หญิงคนนี้สร้างความเสื่อมเสียให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยทางบริษัทได้กล่าวว่า สินค้าของบริษัทผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัยสำหรับทุกสภาพเส้นผม Vickie Harrington โพสต์ของ Vickie ที่ทำให้เกิดการฟ้องร้องนี้มีใจความว่า “ถ้าคุณรู้ว่าใครใช้สินค้าเหล่านี้ โปรดเตือนพวกเขาว่า มีผู้ใช้กว่า 800 คนสูญเสียเส้นผมและเกิดแผลบนหนังศีรษะ เมื่อคุณหยุดใช้สินค้าชนิดนี้” Vickie กล่าวว่า เธอซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม Monat มาจากเพื่อนบ้าน หลังจากที่เธอใช้ครั้งแรก เธอประทับใจมาก แต่พอเธอหยุดใช้สักพักก็พบว่าผมของเธอเริ่มร่วง เธอจึงถามเพื่อนบ้าน และก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า มันคือขั้นตอนของการดีท็อกซ์เส้นผม เธออ้างว่า การดีท็อกซ์เอาสารเคมีทั้งหลายออกจากเส้นผมตามที่เพื่อนบ้านบอกนั้นมันไม่ใช่ เพราะเส้นผมของเธอคือผมธรรมชาติไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรใดๆ เลย เธอจึงหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างถาวร Vickie ได้ทำการขอคืนเงินจากทางบริษัท แต่ทางบริษัทปฏิเสธที่จะคืนเงินเต็มจำนวน เนื่องจากว่าเธอซื้อไปเกิน 30 วันแล้ว…
-
ร้านชาบูในจีนมาพร้อมกับสาวเสิร์ฟนุ่งบิกินี่ ผู้ชายก็กล้ามเน้นๆ อิ่มทั้งตาและท้องเลยทีเดียว
ธุรกิจร้านอาหารเดี๋ยวนี้ นอกจากจะถึงดูดลูกค้าด้วยรสชาติอาหาร บรรยากาศของร้าน และราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว การให้บริการก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน สำหรับเรื่องการบริการนั้น แต่ละร้านอาจมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างร้านชาบูแห่งหนึ่งในเมืองเหอเฟย มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ที่มาพร้อมกับสาวเสิร์ฟนุ่งบิกินี่ และพนักงานชายที่โชว์เรือนร่างส่วนบน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่คลิปที่ถ่ายในร้านชาบูแห่งหนึ่ง เผยให้เห็นภาพพนักงานสาวในชุดบิกินี่กำลังเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทั่วสื่อสังคมออนไลน์ของจีน วันต่อมา พนักงานของร้านดังกล่าวออกมาเปิดเผยว่าหญิงสาวที่นุ่งบิกินี่กับหนุ่มๆ โชว์ท่อนบนที่เห็นในคลิปนั้นไม่ใช่พนักงานประจำของทางร้าน แต่เป็นคนที่ทางร้านจ้างมาให้บริการลูกค้าประจำ และตอนนี้บริการนั้นก็ไม่มีแล้ว ไปกินอาหารแล้วมีผู้ชายกล้ามโตแบบนี้มายืนข้างๆ กลัวจะงับผิดที่เหลือเกิน อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่าน ร้านอาหารทั่วประเทศจีนมักจะจัดให้มีบริการแบบนี้ โดยจ้างผู้หญิงนุ่งบิกินี่และให้ผู้ชายโชว์กล้ามมาเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร แน่นอนว่าไม่ใช่แค่การเพิ่มอรรถรสในการทานอาหารเท่านั้น แต่ร้านอาหารส่วนใหญ่มียอดขายพุ่งขึ้นหลายเท่าหลังจากให้บริการแบบนี้ เจอแบบนี้แล้ว ผู้ชายจะยังสนใจอาหารบนโต๊ะอยู่อีกหรือ? อาหารเอาไว้ก่อน ขอดูเด็กเสิร์ฟแป๊บ อื้มมม อร่อยจริงๆ ไม่ใช่อาหารนะ หมายถึงผู้น่ะ ที่มา medium
-
ห่านตาบอดไบเซ็กชวล ตกหลุมรักคู่รักหงส์ ก่อนจะเสียชีวิตตามกันในวัย 40 ปี
ขึ้นชื่อว่าความรักแล้ว ไม่ว่ามันจะเกิดกับใครหรือเป็นไปในรูปแบบไหน มันย่อมเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ ความรักในสัตว์ก็เช่นกัน Thomas ห่านไบเซ็กชวลตาบอดจาก Waikanae ประเทศออสเตรเลีย ได้ตกหลุมรักหงส์ดำชื่อ Henry และมันได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันกว่า 24 ปี แต่แล้วความยุ่งเหยิงก็เกิดขึ้นในความรักของทั้งคู่ เมื่อหงส์สาวที่ชื่อ Henrietta ปรากฏตัวขึ้นมา และได้ขโมยหัวใจของ Henry ไป สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ Thomas กลายเป็น กขค ทันที แต่แทนที่มันจะหนีไปจาก มันกลับช่วยทั้งคู่เลี้ยงลูกน้อย 68 ตัว นานถึง 6 ปี ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้ ทำให้ผู้คนในท้องถิ่นต่างให้ความสนใจและพากันเฝ้าดูชีวิตรักของพวกมัน แต่แล้ว ความสุขนั้นก็สิ้นสุดลง เมื่อ Henry เสียชีวิตในปี 2009 และ Henrietta หนีไปหาหงส์ตัวอื่น ทิ้งให้ Thomas อยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่นานหลังจากนั้น Thomas ได้ทำหน้าที่พ่อที่เลี้ยงดูลูกๆ ของตัวเอง แต่ยังไม่ทันไรก็ถูกห่านอีกตัวที่ชื่อ George ขโมยลูกไป ต่อมาในปี 2013 Thomas ถูกนำตัวไปยัง Wellington Bird Rehabilitation Trust…
-
‘Pornhub’ ไล่แบนคลิปโป๊ที่สร้างมาจากโปรแกรม ‘Deepfake’ เพราะขัดต่อศีลธรรม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ Deepfakes โปรแกรมจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถสลับใบหน้าของดาราหนังโป๊กับดาราที่มีชื่อเสียงและคนดังคนอื่นๆ ได้ จนสร้างความเดือดร้อนให้กับเหล่าดาราดังทั้งหลาย อ่านข่าวเก่า Deepfakes ภัยเงียบที่เปลี่ยนหน้าดาราหนังโป๊ให้กลายเป็นหน้าดาราดังได้แนบเนียน ล่าสุด Pornhub หนึ่งในเว็บไซต์ที่เผยแพร่วิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ก็ไม่ได้นิ่งเฉย แต่เริ่มเคลื่อนไหวด้วยการแบนคลิปโป๊ที่สร้างมาจากโปรแกรม Deepfake แม้จะเป็นเว็บไซต์ที่เผยแพร่หนังโป๊ แต่ Pornhub ไม่เห็นด้วยกับการสลับใบหน้าของนักแสดงหนังโป๊กับดาราดัง เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไร้ศีลธรรม Corey Price รองประธานของ Pornhub กล่าวว่า “หากเราพบยูเซอร์ไหนสร้างหนังโป๊จาก Deepfake เราจะทำการลบออกทันที คลิปไหนก็ตามที่มีเนื้อหาขัดแย้ง หรือละเมิดข้อกำหนดในการให้บริการของเรา รวมทั้งคลิปที่ไม่ได้รับความยินยอม เราจะนำออกจากแพลตฟอร์มโดยเร็วที่สุด” “เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยของลูกเพจทุกคน เราจำเป็นต้องต่อต้านสื่อลามกที่เราเชื่อว่าเป็นรูปแบบของการคุกคามทางเพศ และจะลบออกทันทีโดยไม่ต้องรอการยินยอมจากเจ้าของคลิป” ขณะเดียวกัน หนึ่งในผู้สร้างคลิปจาก Deepfakes ได้อธิบายไว้ใน Reddit ว่าทำไมต้องนำใบหน้าดารามาสลับกับใบหน้าของนักแสดงหนังโป๊ว่า “คนดังมีความความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติกับผู้ชม ผู้คนดูหนังของพวกเขาและฟังเพลงของพวกเขา แม้จะเป็นความรู้สึกคุ้นเคยเพียงด้านเดียว และเกิดเป็นสถานะ ‘สาวข้างห้อง’ ขึ้น (เป็นคำเปรียบเทียบว่าเป็นสาวที่ชายหนุ่มแอบชอบอยู่ห่างๆ และไม่กล้าเข้าไปพูดคุยหรือทำความรู้จัก) ซึ่งทำให้เกิดความคิดขึ้นว่าพวกเขาคงไม่เล่นหนังโป๊หรอก แล้วเราก็จะเกิดคำถามอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิตเวลาดูหนังหรือฟังเพลงของคนดังว่า ‘พวกเขาจะเป็นอย่างไรนะ ถ้าอยู่ในสภาพเปลือย?’ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเทคโนโลยีตัวนี้จึงมีประโยชน์กับพวกเขา” ทางด้านรัฐบาลได้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับสื่อลามกว่า “การแบ่งปันข้อมูลส่วนตัว…
-
คุณครูก๊อปปี้ทรงผมของนักเรียนหญิง เพราะว่ามันช่างน่าร้ากกกกกก ซะเหลือเกิน
เรื่องราวน่ารักๆ ที่ถูกนำมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ กลายเป็นกระแสไวรัลยอดฮิตในทวิตเตอร์ที่มีผู้รีทวีตกว่า 43,000 ครั้ง มียอดกดชื่นชอบกว่า 148,000 ครั้ง เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนประถมศึกษา Lakeview ในชูการ์แลนด์ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาภาพของคุณครูสาวที่ทำผมทรงเดียวกับนักเรียนหญิงธรรมดาๆ นี้กลับกลายเป็นภาพสุดประทับใจให้แอบอมยิ้มตามกับความน่ารักนี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @JArdoin_814 ทวีตว่า “คุณครูคนนี้ นางสาว Bishop จากโรงเรียน Lakeview แห่งเมืองชูการ์แลนด์ เธอชอบทรงผมของนักเรียนหญิงของเธอคนหนึ่งมากๆ แต่ไม่มีใครคิดว่าเธอจะชอบถึงขนาดไปทำทรงผมเหมือนนักเรียน พอทำมาแล้วก็เหมือนกันเป๊ะ น่ารักสุดๆ” Leigha Bishop คุณครูผู้อยู่ในภาพบอกว่า เธอชอบผมเปียของนักเรียนตัวน้อยของเธอมากๆ แต่นักเรียนของเธอไม่คิดว่าคุณครูจะชอบถึงขนาดก๊อปปี้ทรงผมของเธอมาแบบเป๊ะๆ “เด็กน้อยไม่เชื่อว่าฉันอยากจะทำมันจริงๆ แต่พอเธอกกลับบ้านเธอก็บอกให้กับแม่ของเธออย่างภูมิใจว่าคุณครูนั้นชอบทรงผมสุดเท่ของเธอ” Leigha กล่าว ความน่ารักของภาพนี้ถูกโฟกัสไปที่รอยยิ้มอันสดใสของเด็กน้อยที่ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจสุดๆ มันเป็นอีกหนึ่งความฝันของเด็กน้อยที่จะถูกคุณครูชื่นชม และคิดว่าใครหลายๆ คนคงจะเคยอยากให้คุณครูรักเราแบบนี้ คุณครูสาวกล่าวขอบคุณเจ้าของทวิตเตอร์ เธอไม่คิดว่าเรื่องราวเล็กๆ นี้จะเป็นที่ชื่นชอบของคนในทวิตเตอร์มากขนาดนี้ นอกจากยังมีคอมเมนต์อีมากมายที่กล่าวชื่นชมว่าคุณครูช่วยเติมเต็มให้เด็กหญิงได้มีความสุขผ่านยิ้มน่ารักๆ ของเธอ ที่มา distractify
-
นักกิจกรรมเข้าช่วยเหลือสุนัขกว่า 600 ชีวิตก่อนถูกนำไปฆ่าเพื่อไปเป็นอาหาร
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าวจีนได้รายงานว่า มีอาสาสมัครด้านการปกป้องสิทธิและเสรีภาพในสัตว์ได้รวมตัวกันเพื่อหยุดรถบรรทุกที่กำลังจะนำเหล่าสุนัขจำนวนกว่า 600 ตัวส่งไปที่โรงฆ่าสัตว์ในเมืองหางโจว ประเทศจีน เหล่าอาสาสมัครได้เจรจากับคนขับรถบรรทุกและขอช่วยเหลือสุนัขเหล่านั้นไว้ คนขับรถบรรทุกบอกว่า เขาทำหน้าที่ขับรถบรรทุกเพื่อนำสุนัขเหล่านี้ไปส่งยังโรงฆ่าสัตว์เท่านั้น และเขาจะได้รับเงินประมาณ 1 ล้านบาทสำหรับค่าตัวสุนัขเหล่านี้ สุนัขทั้งหมดถูกนำตัวมาจากเมือง Linyi ในมณฑลซานตง เป็นระยะทางกว่า 600 กิโลเมตรที่มันต้องอยู่ด้วยกันอย่างแออัด บางตัวเริ่มอ่อนแรง บางตัวก็พยายามตะกุยตะกายเพื่อเอาชีวิตรอด ส่วนบางตัวก็เสียชีวิตไปขณะขนส่ง สุนัขทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือในการฉีดวัคซีนและย้ายไปยังที่พักพิงชั่วคราว อาสาสมัครทั้งหลายร่วมกันประสานงานจัดการหาเงินทุนมาช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ ถึงแม้ว่าการช่วยเหลือสัตว์ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ แต่ยังมีสุนัขอีกมากมายที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ยังมีรายงานอีีกหลายฉบับที่บอกไว้ว่าสุนัขที่ถูกช่วยเหลือจากโรงฆ่าสัตว์บางตัวก็ต้องขาดสารอาหารตายเนื่องจากว่าไม่มีงบประมาณและการจัดการดูแลอย่างเหมาะสม . . อย่างเช่นกรณีของการช่วยเหลือสุนัขในเมืองหางโจวเมื่อเดือนมิถุนายน 2017 ที่ได้มีการช่วยเหลือสุนัขมากกว่า 1,000 ตัว ที่จะถูกฆ่าในเทศกาลกินเนื้อหมา แต่ 2 เดือนต่อมาพบว่ามีสุนัขเหลือเพียง 400 ตัว นอกนั้นคือเสียชีวิตจากการจขาดสารอาหารและมีสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ สุนัขขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา แต่เราก็ยังสงสัยว่า ทำไมถึงต้องมีความนิยมบริโภคเนื้อสุนัข ในแต่ละปี…
-
คู่รักไม่กล้าส่งตัวอ่อนผ่าน FedEx เพราะกลัวแตก เลยไปส่งเองพร้อมถ่ายภาพชุดสุดฮา!!
หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับการส่งของผ่านทางไปรษณีย์ หรือช่องทางอื่นๆ เช่น ของหาย ของชำรุด เป็นต้น จนทำให้รู้สึกกังวลเมื่อต้องใช้บริการการขนส่งเหล่านั้นอีกครั้ง เหมือนกับ Samantha และ Mickey Clark ที่ต้องการส่งตัวอ่อนของพวกเขาผ่านทาง FedEx แต่ก็กลัวว่าของจะได้รับความเสียหาย เลยตัดสินใจส่งเองซะเลย Samantha เล่าให้ฟังว่า “เราสองคนอยากมีลูก เราทำการปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF) เพื่อที่จะตั้งครรภ์ แต่เราทั้งคู่ต่างรู้ว่าฉันมีปัญหาในการตั้งครรภ์ตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว” “ฉันถูกวินิจฉัยว่าเป็น PCOS (อาการถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่) โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ อีกเล็กน้อย” ทั้งคู่เลือกที่จะจัดงานแต่งแบบเรียบง่ายในราคาประหยัด และเริ่มมองหาลูกบุญธรรม การอุปภัมถ์เด็ก รวมไปถึงรักษาภาวะการมีบุตรยาก Clarks บอกว่า “เราพร้อมที่จะเปิดรับทุกช่องทางที่พระเจ้าทรงนำเรา” ในระหว่างที่ทั้งคู่พยายามมีลูกด้วยกันนี้ Clarks จำเป็นต้องย้ายตัวอ่อนไปยังคลินิกแห่งใหม่ที่อยู่อีกรัฐหนึ่ง โดยต้องส่งผ่าน FedEx หรือไม่ก็ UPS “ผมไม่ไว้ใจระบบการขนส่งใดๆ เพราะที่ผ่านมาผมได้เห็นวิดีโอมากมายเกี่ยวกับการบริการที่ไม่ประทับใจของบริษัทขนส่ง จนทำให้ข้าวของได้รับความเสียหาย” Clarks กล่าว ดังนั้นคู่รักจึงมองหาช่องทางอื่นที่จะส่งตัวอ่อนไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกัน นักพันธุศาสตร์ที่ดูแลพวกเขาอยู่แนะนำว่าคู่รักส่วนใหญ่มักจะไปส่งด้วยตัวเอง เมื่อได้ฟังแบบนั้น Samantha กับ Clark…
-
สังคมคนเล่น Overwatch ไทยดราม่า ทำแผนที่ประเทศไทยออกมา แทบไม่มีความเป็นไทย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา เกมส์ออนไลน์ประเภทเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Overwatch ได้นำแผนที่ใหม่ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยเพิ่มเข้าไปในเกมส์ด้วย แผนที่ใหม่ที่ว่านั้นก็คือ Ayutthaya (อยุธยา) ซึ่งเป็นแผนที่ที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยให้ชาวเกมจากทั่วทุกมุมโลกได้เห็น แม้ว่าตัวแผนที่จะมีความสวยงามตระการตา แต่มันก็ทำให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์กันในกลุ่มผู้เล่นชาวไทยขึ้น โดยส่วนใหญ่นั้นมีความคิดเห็นว่าแผนที่ของประเทศไทยนั้นมันดูไม่มีความเป็นไทยเอาซะเลย กลุ่มผู้เล่นที่ว่านี้คือสมาชิกของกลุ่มเฟซบุ๊กที่ชื่อ Overwatch Thailand Community (สังคมผู้เล่นเกมส์ Overwatch ในประเทศไทย) โดยหลังจากที่มีการเพิ่มแผนที่ Ayutthaya เข้ามาในเกมส์ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เล่นตลอดเลย ทางผู้ดูแลกลุ่มจึงลองตั้งโพลเพื่อสอบถามความเห็นผู้เล่นอย่างเป็นทางการ คลิปวิดีโอโปรโมตกิจกรรมเทศกาลตรุษจีน พร้อมกับแผนที่ Ayutthaya จากประเทศไทยของเกมส์ Overwatch ผลจากการออกความเห็นของสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊ก 959 คนได้ผลสรุปว่า 60.9 เปอร์เซ็นต์คิดว่า ‘เหมือนเขมรมากกว่า’, 17.6 เปอร์เซ็นต์คิดว่า ‘นี่แหละอยุธยาเลย’, ส่วนอีก 6.5 เปอร์เซ็นต์คิดว่าแผนที่นั้นเป็น ‘นครวัดกัมพูชา’ และอีก 3.6 เปอร์เซ็นต์นั้นไม่สนใจให้ความเห็น ชาวเน็ตนอกกลุ่ม Overwatch Thailand Community…
-
คู่รักทำสถิติ ‘จูบ’ กันมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
การออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกอาจจะเป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายๆ คน และมันคงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียวถ้าหากว่าที่สวยงามเหล่านั้นมีคนรู้ใจของคุณไปด้วย ภาพของคู่รักชาวอินโดนีเซียและยูเครนคู่นี้ อาจจะทำให้หลายๆ คนที่มีคู่รู้สึกเขินไม่น้อยเลยทีเดียว (แต่สำหรับคนโสดก็อาจจะรู้สึกอิจฉาก็ได้นะ ฮ่าๆ) หลังจากที่พวกเขาได้เดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกด้วยกัน และร่วมบันทึกความประทับใจด้วยการจูบกันตามสถานที่ต่างๆ คุณ Shyam และ Anna สองสามีภรรยาใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการเดินทางมากกว่า 40 ประเทศไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย และนอกจากการบันทึกภาพความประทับใจของสถานที่ต่างๆ แล้ว พวกเขายังบันทึกภาพการจูบพร้อมกับของขึ้นชื่อของสถานที่เหล่านั้นอีกด้วย อ่า… และต่อไปนี้คือภาพของทั้งคู่จากสถานที่ต่างๆ จะน่ารักน่าอิจฉาแค่ไหน ไปชมกันเลย เริ่มกันที่ประเทศสิงคโปร์ . . จากนั้นก็อินโดนีเซีย . การจูบกันบนยอดเขาในประเทศอินโดนีเซีย และก้อนกำมะถัน ฉากหลังและสิ่งของที่ฝ่ายหญิงถือ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามแต่ละสถานที่ . . ส่วนภาพนี้จากประเทศฟิลิปปินส์ . ข้ามไปต่อที่ประเทศเกาหลีใต้ . …
-
Lonnie Johnson นักวิทยาศาสตร์จาก NASA ชายผู้อยู่เบื้องหลังปืนฉีดน้ำยี่ห้อดัง
ถ้าหากพูดถึงวันสงกรานต์ สิ่งหนึ่งที่ทุกๆ คนนึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้นการได้พบปะสังสรรค์กับเหล่าญาติๆ และกิจกรรมเล่นน้ำนั่นเอง เจ้ากิจกรรมที่ว่านี้สร้างความสนุกสนานให้กับพวกเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะ?? และถ้าหากพูดถึงการเล่นสาดน้ำแล้วล่ะก็ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือปืนฉีดน้ำนั่นเอง!! และวันนี้เราจะขอพาทุกคนมารู้จักกับชายผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบปืนฉีดน้ำยี่ห้อดังอย่าง Super Soaker ซึ่งขอบอกไว้ก่อนเลยว่าดีกรีของนักออกแบบผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว พบกับเรื่องราวอันน่าสนใจของคุณ Lonnie Johnson นักวิทยาศาสตร์จาก NASA และกองทัพสหรัฐผู้ให้กำเนิดเจ้าปืนฉีดน้ำยี่ห้อนี้!! ย้อนกลับไปเมื่อปี 1982 คุณ Lonnie Johnson ได้เริ่มต้นการออกแบบปืนฉีดน้ำกระบอกแรกของเขา ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาไม่ได้ทำหน้าที่แค่ออกแบบเจ้าปืนฉีดน้ำนี้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงปืน Nerf Gun ตลอดจนเครื่องแปลงพลังงานความร้อนอีกด้วย นอกจากเป็นนักออกแบบของเล่นแล้ว คุณ Johnson ยังทำงานในโครงการยานสำรวจกาลิเลโอของ NASA และโครงการเครื่องบินทิ้งระเบิด Stealth Bomber ของกองทัพสหรัฐอีกด้วย “ผมเริ่มต้นออกแบบ Super Soaker ครั้งแรกโดยใช้เวลาว่างของผม ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน หรือที่บ้าน หรือทุกๆ ที่ ซึ่งในตอนนั้นผมกำลังทำโครงการลับสุดยอดอย่าง Stealth Bomber ของทางกองทัพสหรัฐอยู่ด้วย” คุณ Johnson ให้สัมภาษณ์ นอกจากนี้นักออกแบบมากความสามารถของเรายังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า แต่เดิมนั้นเขาตั้งชื่อให้กับสิ่งประดิษฐ์ของเขาว่า The Drencher ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมันเนื่องจากปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ในตอนแรกคุณ Johnson…
-
สถิติเผย การช่วยตัวเองเป็นเหตุทำให้ผู้คนในเยอรมนีเสียชีวิตกว่า 100 คนต่อปี!?
ว่ากันว่าสัญชาติญาณทางเพศของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่หักห้ามได้ยาก การเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นเป็นเรื่องทางธรรมชาติ ฉะนั้น “การช่วยตัวเอง” เพื่อระบายความต้องการทางเพศออกมาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก และก็ไม่มีใครคาดคิดด้วยว่าการช่วยตัวเองจะเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ มีการศึกษาใหม่ออกมาซึ่งผลลัพธ์ของมันพบว่า การช่วยตัวเองได้ทำให้ชาวเยอรมันเสียชีวิต 80 ถึง 100 รายต่อปี เนื่องจากการถึงจุดสุดยอดนั้นทำให้เกิดความเสี่ยงจนถึงชีวิตได้ จากบันทึกของ The Legal Medicine ในเมืองฮัมบูร์ก เยอรมนี แสดงให้เห็นถึงผู้เสียชีวิต 40 ราย จากการช่วยตัวเองตั้งแต่ปี 1983 ถึงปี 2003 ซึ่งผู้เสียชีวิตมีตั้งแต่อายุ 13 ปี ไปจนถึงอายุ 79 ปี ปัจจัยสำคัญของการเสียชีวิตที่พบมากที่สุดในผู้เสียชีวิตดังกล่าวก็คือการกั้นออกซิเจนของตนเองขณะกำลังมีความรู้สึก “ถึงจุดสุดยอด” อาการแบบนี้ถูกเรียกว่า Auto Erotic Asphyxiation การเสียชีวิตลักษณะนี้กลายเป็นสิ่งผิดปกติ และแพร่หลายมากขึ้นเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังพบในกลุ่มที่มีรสนิยมทางเพศที่หลากหลาย ชายคนหนึ่งถูกพบว่าเสียชีวิตหลังจากที่พยายามละลายชีสใส่ตนเอง ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายหนึ่งถูกพบว่าเสียชีวิตหลังจากหนีบดวงไฟต้นคริสต์มาสไว้กับหัวนมของเขา นายแพทย์ Harald Voß ได้เตือนถึงสิ่งที่ถูกมองข้ามในอาการ Auto Erotic Asphyxiation…
-
Leo Jonah นายแบบ ‘ผิวเผือก’ ชาวอังกฤษผู้ไม่ยอมแพ้ จากลูกเป็ดขี้เหร่สู่นายแบบ Vogue
หน้าตาและบุคลิกภาพอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับอาชีพนายแบบและนางแบบ แต่ในบางครั้งสิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจจะเป็นรองเรื่องของความสามารถและความพยายามก็ได้!! เหมือนกับเรื่องราวของนายแบบหนุ่มชาวอังกฤษผู้นี้ Leo Jonah ถือเป็นหนึ่งในนายแบบที่ประสบความสำเร็จในวงการแฟชั่นไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากผลงานที่มากมายแล้ว ล่าสุดเขายังได้มีโอกาสขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นชื่อดังอย่าง Vogue อีกด้วย แต่ทว่ากว่าที่จะมีวันนี้ได้นายแบบหนุ่มของเราก็ต้องผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะชีวิตในวัยเด็ก ที่ต้องอดทนกับการถูกล้อว่า “ลูกเป็ดขี้เหร่” เนื่องจากโรคผิวเผือกนั่นเอง Leo เริ่มทำงานในวงการแฟชั่นที่เขาชื่นชอบอย่างหนัก นายแบบหนุ่มของเราเคยผ่านงานในวงการนี้มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นงาน London Fashion Week มิวสิควิดีโอของศิลปินดัง หรือได้ขึ้นปกนิตยสาร Vogue ประเทศรัสเซีย เมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 ที่ผ่านมา โรคทางพันธุกรรมนี้สร้างความลำบากให้กับ Leo ไม่น้อย นายแบบหนุ่มให้สัมภาษณ์ว่า “ในตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมไม่ได้อยากจะเป็นคนผิวเผือกเลย มันสร้างปัญหาให้กับผมอย่างมาก ผมไม่ค่อยชอบสายตาที่พวกเขามองมาที่ผมเลย ตอนนั้นผมอยากจะหายตัวไปจริงๆ “ แต่ทว่าเมื่อโตขึ้น Leo ก็พบว่าโรคทางพันธุกรรมนั้นไม่อาจจะหยุดยั้งเขากับวงการแฟชั่นได้ “มีบางอย่างที่คอยฉุดรั้งผม และในขณะเดียวกันก็มีบางอย่างที่ผลักดันให้ผมก้าวไปข้างหน้า และตอนนี้ผมสามารถพูดได้อย่างมั่นใจแล้วว่าผมรักในตัวตนและสิ่งที่ผมเป็น และผมจะไม่เปลี่ยนแปลงมันเพื่ออย่างอื่น” นายแบบหนุ่มให้สัมภาษณ์ การยอมรับในตัวเอง ทำให้ Leo กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ . นอกจากจะประสบความสำเร็จในวงการแฟชั่นแล้ว…
-
ครอบครัวตะลึง ตื่นมาเจอจิ้งจกยักษ์นอนเอกเขนกอยู่ในสระน้ำหลังบ้าน สบายเชียวนะเอ็ง!!
สำหรับบ้านในฝันของใครหลายคน ก็อาจจะเป็นบ้านหลังใหญ่โตที่มีความสวยงาม พร้อมทั้งรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด รวมถึงอาจจะมีสระน้ำเอาไว้ให้เราคอยว่ายน้ำออกกำลังกาย หรือกระโดดน้ำเล่นเมื่อมีอากาศร้อนในเดือนเมษายน ซึ่งหากคิดภาพตามมันก็คงจะดีไม่น้อยทีเดียว แต่หากเราต้องประสบชะตากรรมเดียวกับครอบครัวนี้ บางทีฝันของเราอาจจะเปลี่ยนไปอีกแบบเลยก็ได้ เพราะใครจะไปคิดล่ะว่าในเช้าวันหนึ่งที่เราตื่นมาอย่างสดใส จะต้องมาพบกับจระเข้ตัวเป้งนอนอืดอยู่ในสระน้ำหลังบ้านเรา!!! เข้ามาทำม๊ายย โดยเหตุการณ์จระเข้บุกบ้านครั้งนี้ เกิดขึ้นที่เมือง Boca Raton ทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดา ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา เมื่อมีครอบครัวแห่งหนึ่งต้องถึงกับผงะ หลังจากเดินไปหลังบ้านแล้วเจอกับจระเข้ยาวกว่า 2.4 เมตร กำลังนอนเอกเขนกอย่างสบายใจอยู่ในสระน้ำหลังบ้านของพวกเขา ซึ่ง Matt Fino เจ้าของบ้านผู้พบเหตุการณ์นี้เป็นคนแรกได้เล่าให้ฟังว่า ในทุกๆ เช้าเขาจะพาเจ้าหมาแก่ชื่อว่า Charlie ออกไปเดินเล่นเสมอๆ เพื่อให้มันออกไปทำธุระส่วนตัวอย่างการขับถ่ายต่างๆ แต่ว่าในเช้าวันนั้นมีสิ่งหนึ่งที่ดูแตกต่างกันออกไป เพราะเขาไปพบจระเข้ตัวเขื่องเข้าให้ บ้านที่เกิดเหตุสยองดังกล่าว ทันใดนั้นเอง เขาจึงรีบวิ่งไปปลุก Janet Rosa ภรรยาของเขาด้วยความตื่นตกใจในสิ่งที่ได้เห็นมา เพราะไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง “ฉันยังอยู่บนเตียงอยู่เลยตอนที่ Matt วิ่งกรี๊ดเข้ามา ในตอนนั้นทุกคนในบ้านต่างก็วิ่งออกไปดูว่ามันจริงอย่างที่เขาพูดหรือไม่ มีหรือที่ฉันจะพลาดน่ะ” Rosa กล่าว ซึ่งสาเหตุที่มีจระเข้หลุดมาในบ้านในครั้งนี้ พวกเขาก็คาดกันว่าน่าจะเป็นเพราะจากการที่บ้านของพวกเขาอยู่ใกล้กับลำคลอง เจ้าจิ้งจกยักษ์ตัวนี้จึงน่าจะเดินมาจากสถานที่ดังกล่าว เรียบร้อยโดนรวบเลย และแน่นอนว่า พวกเขาได้เรียกเจ้าหน้าที่มาจัดการเอาตัวของมันให้ออกไปจากตัวบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
-
โรงเรียนในญี่ปุ่นสนับสนุน LGBT เปิดให้นักเรียนแต่งยูนิฟอร์มไม่ตรงเพศกำเนิดได้
ปัจจุบันโลกของเราเปิดรับกระแส LGBT หรือก็คือกลุ่มคนที่เพศไม่ตรงเพศกำเนิดมากกว่าแต่ก่อนมาก ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ของประเทศเรา ก็อนุญาตให้บัณฑิตที่เป็นกลุ่มรักร่วมเพศแต่งชุดบัณฑิตผู้หญิงมารับปริญญาได้แล้ว ในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีความเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนกลุ่ม LGBT เช่นกัน โดยโรงเรียน Kashiwanoha Middle School ได้อนุญาตให้นักเรียนชั้นมัธยมต้นทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศใด แต่งกายชุดนักเรียนของผู้ชายหรือผู้หญิงมาโรงเรียนก็ได้ โรงเรียนที่ว่านี้อยู่ในเมืองคาชิวะ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น มีจุดเริ่มต้นมาจากโรงเรียน Kashiwanoha Elementary School ที่เปิดเมื่อปี 2012 โดยมีการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนในชั้นประถมศึกษาเท่านั้น ในปีนี้นักเรียนกลุ่มแรกที่เข้าเรียนก็กำลังจะจบชั้นประถมศึกษา และเพื่อรองรับนักเรียนเข้ามาเรียนในชั้นมัธยมศึกษาต่อ จึงได้สร้างโรงเรียนมัธยม Kashiwanoha Middle School ขึ้นมา ความพิเศษของโรงเรียนนี้ก็คือการให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาและชั้นมัธยมศึกษา ใช้สระว่ายน้ำและโรงอาหารร่วมกันและยังข้ามไปใช้ตึกเรียนร่วมกันด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับนักเรียนประถมก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในระดับมัธยมนั่นเอง แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือทางโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนที่กำลังจะเข้าศึกษาในระดับมัธยม ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็สามารถเลือกใส่ชุดนักเรียนของอีกเพศหนึ่งได้ตามความสบายใจของนักเรียนเองเลย ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสนับสนุนแนวคิดเรื่องการเปิดรับ LGBT ที่มีมากขึ้นนั่นเอง ในตอนแรกทางโรงเรียนอยากจะให้นักเรียนแต่งชุดอะไรมาเรียนก็ได้ด้วยซ้ำ ทว่าทางด้านผู้ปกครองกว่า 90 เปอร์เซ็นต์มีความต้องการให้ลูกของตนสวมใส่ชุดนักเรียน ทางโรงเรียนจึงทำตามความต้องการนั้นนั่นเอง บุคลากรที่โรงเรียนเองก็พยายามเลือกชุดที่ดูเป็นกลางมากที่สุดเพื่อไม่ให้ชุดดูค่อนไปทางเพศใดเพศหนึ่งมากเกินไป จึงไม่ได้ใช้ชุดนักเรียนกะลาสีที่มีความเป็นผู้หญิง และชุดเสื้อแจ็คเก็ตคอตรงที่ดูมีความเป็นผู้ชาย สุดท้ายจึงเลือกใช้เสื้อเชิ๊ตสีขาวแล้วสวมทับด้วยแจ็คเก็ตแทน นักเรียนสามารถเลือกที่จะใส่กางเกงสแล็กหรือกระโปรงได้ตามใจชอบ และก็สามารถเลือกที่จะผูกคอเสื้อด้วยเนกไทหรือโบว์ก็ได้เช่นกัน แม้ว่าโรงเรียนบางแห่งจะให้นักเรียนหญิงผูกเนกไทได้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีโรงเรียนไหนอนุญาตให้ผู้ชายผูกโบมาก่อนเลย ทางโรงเรียนหวังว่ากฎระเบียบการแต่งกายแบบใหม่นี้จะช่วยลดช่องว่างระหว่างเพศ และเพิ่มความสบายใจในการแต่งตัวให้กับนักเรียนทุกคนได้ พวกเขาจะได้มาโรงเรียนด้วยความรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วย…
-
กีฬา ‘ซูโม่’ แบบสโลวโมชั่น เสน่ห์ของศิลปะการต่อสู้ที่เป็นมากกว่าการจับทุ่ม
หนึ่งในการต่อสู้หรือกีฬาที่เชื่อว่าเราจะต้องเคยได้ยินชื่อกันมาอย่างแน่นอน นั่นคือ ซูโม่ กีฬาต่อสู้ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้พวกเราคิดถึงภาพของชายร่างใหญ่สองคนถอดเสื้อเข้าห่ำหั่นกันด้วยท่าจับทุ่มต่างๆ นานา การต่อสู้ดังกล่าวได้กลายเป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับชายสองคนจากช่องยูทูบ The Slow Mo Guys ที่มักจะนำเอากิจกรรมต่างๆ มาทำให้กลายเป็นภาพสโลโมชั่น และในครั้งนี้พวกเขาก็ได้นำกีฬาซูโม่มาเป็นหัวข้อหลัก เพื่อศึกษาถึงลักษณะการเคลื่อนไหวและความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในคลิปเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 พวกเขาได้นำนักซูโม่สองคนขึ้นมาประชันกัน คนแรกคือ Yama นักซูโม่น้ำหนัก 272.15 กิโลกรัม ถูกเรียกว่าเป็นชายที่หนักที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และเคยรับบทเป็นหนึ่งในนักฆ่าของเรื่อง John Wick: Chapter 2 อีกคนคือ Byamba น้ำหนัก 167.82 กิโลกรัม แชมป์โลกซูโม่ 4 สมัย ซึ่งเคยไปโผล่ในรายการทีวีของประเทศอเมริกา ชื่อว่า The Bachelorette การห่ำหั่นกันของนักซูโม่ Byamba (คนซ้าย) และ Yama (คนขวา) นักซูโม่ทั้งสองคนได้แสดงศิลปะการต่อสู้ที่รุนแรงและหนักหน่วง ทำให้หลายๆ…
-
สาวโดนหักคะแนนงาน เพราะ ‘ออสเตรเลีย’ ไม่ใช่ประเทศ!? งานนี้เถียงกันยาว
สำหรับนักศึกษาแล้วเกรดคือตัวตัดสินความเป็นความตายเลยทีเดียว ดังนั้นเราต้องทุ่มเทแรงที่มีทั้งหมดลงไปในงาน เพื่อทำให้อาจารย์เห็นถึงความสามารถแล้วให้เกรดที่ดีที่สุดกับเรา สาว Ashley Arnold เองก็ต้องการเกรดสวยๆ เช่นกัน เธอเลือกทำงานวิจัยด้านจิตวิทยาออนไลน์เกี่ยวกับประเทศออสเตรเลียส่งให้กับอาจารย์ ทว่าเธอโดนอาจารย์ถีบตกม้าตายตั้งแต่ต้น เพราะอาจารย์เข้าใจว่าออสเตรเลียมันไม่ใช่ประเทศ มันเป็นทวีปต่างหาก งานนี้สาวเลยต้องอธิบายกับอาจารย์กันยาวเลยว่ามันเป็นทั้งประเทศและก็ทวีปด้วย นักเรียนสาว Ashley Arnold Arnold สาวหน้าใสอายุ 27 ปีค่ะ กำลังเรียนออนไลน์จากที่บ้านในรัฐไอดาโฮ เพื่อคว้าปริญญาด้านจิตวิทยาออนไลน์ของมหาวิทยาลัย Southern New Hampshire University มาไว้ในมือให้ได้ และสำหรับวิชาสุดท้ายที่เธอจ่ายค่าเล่าเรียนไปเกือบ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31,000 บาท) เธอได้รับมอบหมายให้ส่งโครงร่างของงานซึ่งจะเปรียบเทียบวัฒนธรรมออนไลน์ในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ อีกประเทศหนึ่ง สาวคนนี้จึงเลือกทำงานในหัวข้อการใช้โซเชียลมีเดียของคนในประเทศ โดยประเทศที่เธอจะใช้เปรียบเทียบก็คือประเทศออสเตรเลียนั่นเอง ทว่าในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานี้ อาจารย์ของเธอตีงานของเธอกลับมาพร้อมกับให้เกรด F กับเธอเพราะอาจารย์ของเธอเข้าใจว่าประเทศออสเตรเลียไม่ใช่ประเทศ มันเป็นทวีปจึงไม่ควรนำมาทำงานนี้แต่แรก Arnold เล่าว่า “ตอนแรกฉันคิดว่าอาจารย์แกล้งฉันเล่นอยู่แน่ๆ แต่หลังจากอ่านอีเมลไปเรื่อยๆ ฉันก็เริ่มแน่ใจว่าอาจารย์เข้าใจแบบนั้นจริงๆ” อาจารย์ของเธอจบการศึกษาปริญญาเอกด้านจิตวิทยามา เธอจึงแทบไม่อยากเชื่อว่าอาจารย์จะไม่รู้ว่าจริงๆ…
-
สองพี่น้องชาวบราซิล ฉีดสารเคมีอันตรายเข้าไปในร่างกาย จนมีแขนขนาดใหญ่กว่า 25 นิ้ว!!
สำหรับคนที่อยากมีกล้ามแล้ว การออกกำลังกายและการควบคุมอาหารดูจะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด เพราะกว่าที่กล้ามจะขึ้นได้ก็ต้องใช้สิ่งพวกนี้ควบคู่กับการใช้เวลาอยู่ระยะประมาณหนึ่ง และต้องใช้ความอดทนร่วมด้วย แต่ก็มีบางครั้งที่คนเรามักจะหาทางลัดให้กับตัวเองด้วยวิธีการต่างๆ เหมือนกับพี่น้องสองคนนี้ที่ฉีดสารเคมีเข้าสู่ร่างกายของตัวเอง จนในตอนนี้พวกเขามีกล้ามแขนใหญ่ถึง 25 นิ้วเลยทีเดียว Geraldo ผู้เป็นน้องทางด้านซ้ายมือ กับ Pereira ผู้เป็นพี่ทางด้านขวา โดยพี่น้องคู่หูนักเพาะกล้ามนี้มีชื่อว่า Tony ‘Hulk‘ Geraldo ผู้น้องและ Alvaro ‘Conan‘ Pereira ผู้เป็นพี่ ที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขายอมฉีดสารเคมีที่เป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกายตั้งแต่สมัยยังเป็นหนุ่มๆ เพื่อจะทำให้กล้ามของพวกเขาใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นสองศรีพี่น้องคู่นี้ยังได้สารภาพอีกด้วยว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่การใช้สารเคมีดังกล่าว เป็นสิ่งพวกเขาทั้งคู่เสพติด ทว่าในตอนนี้พวกเขาได้อยู่ภายใต้การควบคุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กล้ามแขนขนาดยักษ์ของทั้งคู่ แต่นอกจากการฉีดสารเคมี ก็ยังมีข้อดีอยู่ที่พวกเขายังออกกำลังกายแบบปกติเป็นเวลาทุกวัน และมีการควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดร่วมด้วย สำหรับในเรื่องนี้ Geraldo ได้อธิบายว่าเขาต้องทานอาหารทุกๆ 3 ชั่วโมง ซึ่งอาหารที่เขาทานนั้นก็เป็นจำพวก ไข่ มันเทศ และเนื้อ ที่ต้องทำจำนวนรวมกันให้ได้ถึง 4,000-6,000 แคลลอรี่ต่อวัน เพื่อให้ร่างกายของเขาเกิดความพัฒนาขึ้น ตัวยา Potenay B12 ที่พวกเขาฉีด …
-
สาววัย 14 ปีเขียนแอปฯ ช่วยยายที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ จนในตอนนี้กำลังพัฒนาขึ้นเพื่อทั่วโลก
โรคอัลไซเมอร์หรือโรคความจำเสื่อม เป็นโรคที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ซึ่งอาการของโรคก็อาจจะทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้จำอะไรไม่ค่อยจะได้ หลงลืมเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต จึงทำให้มีเด็กสาวคนหนึ่งตัดสินใจเขียนแอปพลิเคชั่นขึ้นเพื่อช่วยยายที่ป่วยเป็นโรคที่ว่านี้ซะเลย หลังจากที่ต้องทนเห็นคุณยายสุดที่รักประสบปัญหาเรื่องการหลงๆ ลืมๆ จากอาการของโรคอัลไซเมอร์มานานและดูมีอาการที่หนักขึ้นเริื่อยๆ เด็กสาววัย 14 ปีชื่อว่า Emma Yang จึงใช้สกิลการเขียนโค้ดโปรแกรมของเธอเขียนแอปฯ หนึ่งขึ้นมาเพื่อจะช่วยเตือนความจำต่างๆ ให้กับคุณยาย โดยอาการป่วยเรื้อรังของยายเธอนั้น ได้เริ่มแสดงให้เห็นในตอนที่ Emma มีอายุประมาณ 7-8 ปี ซึ่งในตอนนั้นเธอก็บอกว่ายังเป็นช่วงที่เธอกำลังเรียนรู้การเขียนโค้ดใหม่ๆ อยู่เลย “จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเผชิญมาของฉันก็ทำให้รู้ว่า อาการของโรคนี้มันไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยเท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบต่อครอบครัวและเพื่อนๆ อีกด้วย” “ในตอนที่ฉันมีอายุประมาณ 11-12 ปี ฉันก็เริ่มมีความสนใจที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อจะช่วยให้สังคมของเราน่าอยู่ขึ้น ด้วยการช่วยเหลือผู้คนต่างๆ ทั่วทั้งโลกใบนี้” Emma กล่าว โดยแอปฯ ที่เธอทำขึ้นนี้มีชื่อว่า “Timeless“ ซึ่งจะเป็นแอปฯ ที่ทำให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์สามารถจดจำคนที่พวกเขารักได้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ซึ่งวิธีการทำงานของมันก็เพียงแค่เรานำโทรศัพท์ของเราไปแสกนใบหน้าของคนนั้นๆ ระบบก็จะแสดงให้เห็นเลยว่าบุคคลนั้นเป็นใคร และมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้ป่วยนั่นเอง “ฉันเห็นสิ่งมากมายที่ระบบ AI และเทคโนโลยีจดจำใบหน้าสามารถทำได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ถูกนำมาใช้ในด้านของสุขภาพมากขึ้น” Emma กล่าว ซึ่งแอปพลิเคชั่นที่สำเร็จออกมานี้…
-
บริษัท Mondelez International เปิดรับสมัคร ‘นักชิมช็อกโกแลต’ อาชีพในฝันของคอขนมหวาน
แถวนี้มีใครชอบทานช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจบ้างไหม เราเองก็ชอบทานช็อกโกแลตมากเลย ไม่ว่าจะเป็นดาร์กช็อกโกแลตขมๆ มิลค์ช็อกโกแลตหวานๆ หรือจะเป็นช็อกโกแลตสอดไส้อะไรก็ชอบทั้งนั้น คอช็อกโกแลตกันเองน่าจะรู้ดีว่าถึงมันจะแสนอร่อย แต่ช็อกโกแลตก็มีราคาอยู่พอสมควร ถ้าหาซื้อมากินทุกวันคงจนแน่ แต่ตอนนี้เขากำลังเปิดรับสมัครอาชีพ ‘นักชิมช็อกโกแลต’ อยู่นะ ถ้าเราสมัครติดล่ะก็จะได้กินช็อกโกแลตฟรีทุกวัน แถมได้ค่าจ้างอีกด้วย บริษัทที่เปิดรับสมัครนักชิมช็อกโกแลตนี้ก็คือบริษัท Mondelez International ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ขนมหวานที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่างคุกกี้ช็อกโกแลตสอดไส้ Oreo และช็อกโกแลตนม Milka ที่ขายอยู่ตามร้านสะดวกซื้อในบ้านเรา โดยตามประกาศนั้นจะรับสมัครนักชิมช็อกโกแลตและเครื่องดื่มโกโก้ 1 ตำแหน่ง และนักชิมช็อกโกแลตอีก 3 ตำแหน่ง รวมทั้งสิ้น 4 ตำแหน่งด้วยกันซึ่งมีทั้งงานแบบฟูลไทม์และพาร์ตไทม์ โดยแบ่งเวลาทำงานเป็น 2 ช่วงคือวันอังคารถึงวันพฤหัสเวลา 9.30-12.00 น. และวันจันทร์ถึงวันพฤหัสเวลา 15.00-17.00 น. แต่จะได้ทำงานเวลาไหนก็แล้วแต่หน้าที่ด้วย ทางบริษัทแจ้งว่านักชิมช็อกโกแลตจะได้ทำงานแค่ประมาณ 7.5-8 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ และจะได้รับค่าจ้าง 9 ปอนด์ (ประมาณ 400 บาท) ต่อชั่วโมง ถึงจะดูไม่เยอะเท่าไหร่แต่ถ้านับว่าได้กินช็อกโกแลตใหม่ๆ ที่ยังไม่มีขายฟรีด้วยแล้วก็คุ้มสุดๆ การจะไปสมัครทำงานในหน้าที่นักชิมช็อกโกแลตนั้น ไม่จำเป็นต้องจบจากสาขาใดสาขาหนึ่งโดยเฉพาะ เพียงแค่คุณมีใจรักช็อกโกแลตก็มากพอจะไปสมัครทำงานได้แล้ว…
-
เด็ก 7 ขวบ เอาชนะโรคออทิสติกได้ด้วยโยคะ แถมยังยึดเป็นอาชีพทำเงินได้กว่า 5 แสนบาท
สำหรับในวัยเด็กของใครหลายคนนั้น ก็คงจะเป็นวัยที่เรากำลังเล่นซนกับเพื่อนๆ อยู่อย่างสนุกสนาน โดยไม่คิดถึงอะไรในวันข้างหน้า แต่ว่ามีเด็กวัยเพียง 7 ขวบคนหนึ่งที่มีความพิเศษกว่าเด็กทั่วๆ ไป เพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้ก็คือการเล่นโยคะ และกิจกรรมที่เขาทำอยู่นี้ก็ทำให้เขาสามารถเอาชนะโรคออทิสติกของตัวเองมาได้ และที่สำคัญคือเขามีความเชี่ยวชาญ ถึงขั้นเป็นคุณครูสอนโยคะที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศจีนเลยทีเดียว โดยชื่อของเด็กคนเก่งคนนี้ก็คือ Sun Chuyang จากเมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน โดยเขาได้เริ่มรู้จักกับการเล่นโยคะมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน และก็ทำมันเรื่อยมา จนกระทั่งในปี 2017 เขาก็มีความเชี่ยวชาญจนถึงขั้นได้รับใบรับรองอย่างเป็นทางการ ในการเป็นครูโยคะมืออาชีพเลยทีเดียว ซึ่งในงานของเขานั้น ก็จะมีหน้าที่สอนโยคะให้กับเด็กคนอื่นๆ ในคลาสเรียนที่ในปัจจุบัน เขาได้ฝึกสอนให้แก่นักเรียนแล้วมากกว่า 100 คน และสามารถทำรายได้ให้กับเขาไปแล้วกว่า 100,000 หยวน (ประมาณ 500,000 บาท) แต่กว่าจะถึงจุดนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับเขาเลย เพราะว่าในตอนที่ Sun มีอายุ 2 ขวบนั้น เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคออทิสติก จนทำให้แม่ของเขาต้องออกจากงานเพื่อจะใช้เวลามาดูแลเขา และช่วยให้เขาสามารถเอาชนะโรคที่เกิดขึ้นนี้ได้ ซึ่งในที่สุดแล้ว คุณแม่คนเก่งก็แนะนำให้เขารู้จักกับการเล่นโยคะ แล้วก็พบว่าเขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้เป็นอย่างดี ทว่าในช่วงแรกๆ นั้นคุณครูที่สอนโยคะให้กับ Sun…
-
‘จะแต่งเมื่อไหร่?’ หนุ่มถูกเพื่อนบ้านถามซ้ำบ่อย ลงมือฆาตกรรมเพื่อจบความหงุดหงิดใจ
เมื่อมีอายุใกล้จะเข้าวัยสู่วัยกลางคน คนโสดหลายคนก็อาจจะโดนคำถามที่ว่า ‘เมื่อไหร่จะแต่งงานทีลูกมีเต้ากับเขาซะที’ ซึ่งคำถามนี้อาจเป็นคำถามที่มักจะได้ยินอยู่บ่อยๆ และอาจทำให้ใครรู้สึกหงุดหงิดได้ แต่คงไม่เท่ากับชายคนนี้ที่ถูกถามคำถามนี้ซ้ำๆ จนเกิดความโมโหนำไปสู่การฆ่าคนถามซะเลย โศกนาฎกรรมสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นที่ Kampung Pasir Jongeon ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 19 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา โดยฆาตกรมีชื่อว่า Faiz Nurdin ชาวอินโดนีเซีย ที่ได้ลงมือฆาตกรรมสาววัย 32 ปี ชื่อว่า Aisyah จากจุดเริ่มต้นคำถามที่ว่า ‘ทำไมถึงไม่แต่งงาน’ เพียงเท่านั้น จากการรายงานระบุไว้ว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเริ่มต้นจากการที่ สาวคนนี้ได้ไปหา Faiz ที่บ้านของเขา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่ไปมาหาสู่กันเสมอ และก็มีพูดคุยกันตามปกติ แต่ก็มีประโยคหนึ่งที่ Aisyah ได้บอกกับเขาว่าให้รีบแต่งงานได้แล้ว เพราะคนอื่นๆ ในวัยเดียวกันต่างก็มีครอบครัวกันไปจนหมด ซึ่งตัวแทนของนาย Faiz ได้ออกมาบอกว่า ชายคนนี้รู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่ได้ยินประโยคดังกล่าว พร้อมกับคำถามที่ว่า ‘ทำไมถึึงยังไม่แต่งงาน’ มันไปแทงใจดำของเขาเข้าอย่างจัง เลยเป็นเหตุให้เขาก่อการฆาตกรรมดังกล่าวขึ้น โดยหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันวันนั้น ก็มีครั้งหนึ่งที่นาย Faiz ได้มีโอกาสไปที่บ้านของสาวคนนี้บ้าง และเมื่อสบโอกาสอันดีแล้ว เขาก็ผลัก Aisyah…
-
หนุ่มชาวนิวยอร์กอุทิศบ้านของตัวเองเพื่อเป็นสถานรับเลี้ยงแมวกว่า 300 ชีวิต
แม้แมวเหมียวจะเป็นสัตว์เลี้ยงน่ารักที่เยียวยาจิตใจมวลมนุษย์ได้ แต่การดูแลมันหลายตัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะแมวต้องการความใส่ใจตลอดเวลา ไหนจะต้องเสียค่ายาค่าอาหารให้มันอีก บางครั้งการเลี้ยงแมวหลายตัวจึงไม่ใช่คำตอบสำหรับใครหลายคน ทว่าชายคนนี้ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากในการดูแลน้องเหมียวเลย เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจและกำลังทรัพย์ดูแลพวกมันอย่างดี แถมยังยกบ้านทั้งหลังให้น้องเหมียวไปเลย ที่บ้านของเขาไม่ได้มีแมวเยอะธรรมดานะ มันมีเยอะมว๊ากกก นับแล้วกว่า 300 ตัวแน่ะ! ผมชื่อ Christ Arsenault เจ้าของบ้านแมวแสนอบอุ่นหลังนี้ครับ ชายคนนี้ชื่อว่า Christ Arsenault เขาเป็นชายอายุ 58 ปีที่อาศัยอยู่เกาะลอง ประเทศสหรัฐอเมริกา บ้านของเขาไม่ได้เริ่มต้นจากการเลี้ยงแมวเหมียวจนมันคลอดลูกหลานออกมาเยอะขนาดนี้หรอกนะ เหตุผลที่เขาเริ่มเลี้ยงแมวนั้นซึ้งกินใจกว่านั้นเยอะ จุดเริ่มต้นในการเลี้ยงแมวของเขาเกิดขึ้นเมื่อปี 2006 ตอนนั้น Eric ลูกชายวัย 24 ปีของเขาเพิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ เขารู้สึกเสียใจกับการจากไปของลูกชายมาก ตอนนั้นเองเขาก็รู้ข่าวว่ามีคนเจอลูกแมวในตู้รถไฟจำนวนมาก เขาเล่าว่า “มันมีลูกแมวอยู่ในนั้น 30 ตัว แล้วผมเห็นก็รู้เลยว่าพวกมันป่วยอยู่ ถ้าเกิดปล่อยทิ้งเอาไว้พวกมันต้องตายหมดแน่ๆ ผมเลยเอาพวกมันกลับบ้านมาหมดเลย … แมวพวกนี้ทำให้ผมไม่หมกมุ่นกับการตายของลูกชาย” ยอมยกบ้านทั้งหลังให้กับเจ้าเหมียวไป ตอนนี้มันมีกันมากกว่า 300 ตัวแล้ว เขานำพวกมันกลับมารักษาจนหายดี แมวพวกนั้นจึงติดเขาแจเลย พวกแมวได้รับความรักจากเขา…
-
คลิปตัวใหม่ภายหลังการขอโทษของ Logan Paul กลับทำให้ยูทูบถูกกดดันให้ลบวิดีโอของเขา
ในช่วงปลายปี 2017 ได้มีคลิปวิดีโอที่สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับคนในโลกโซเชียล เป็นคลิปของยูทูบเบอร์ชื่อดังในยูทูบ Logan Paul แสดงท่าทีที่ไม่ให้ความเคารพและหยาบคายต่อศพของคนที่แขวนคอตาย ซึ่งเขาบังเอิญไปเจอในป่าของประเทศญี่ปุ่น ภาพจากคลิปที่เขาบังเอิญไปเจอศพคนผูกคอตายในญี่ปุ่น คลิปดังกล่าวได้กลายเป็นที่โจษจันจากหลายๆ ฝ่าย และนั่นจึงทำให้ Logan ถูกลงโทษจากชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาต่อว่าในสิ่งที่เขาทำลงไป รวมถึง Google ที่ถอดเขาออกจากงานโฆษณาที่จะได้รับ ส่วนทางยูทูบก็ล้มเลิกโปรเจกต์หนังที่จะทำร่วมกัน The Thinning: New World Order ภาคต่อของหนังเรื่อง The Thinning เมื่อปี 2016 ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะชาวเน็ตก็ยังพูดถึงอีกหลายๆ คลิปของเขาที่แสดงให้เห็นถึงความไม่เคารพต่อสถานที่ บางคลิปมีการทำลายข้าวของสาธารณะ หรือทำให้เกิดการจราจรที่ปั่นป่วนในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ผู้ให้บริการอย่างยูทูบจำเป็นต้องลบคลิปเหล่านั้นออกไป อย่างไรก็ตาม Logan ก็ได้ออกมากล่าวขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และเขาก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC ว่า ประสบการณ์หลายๆ อย่างที่ได้รับในครั้งนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากจริงๆ เขารู้สึกเจ็บปวดจากการถูกโจมตีอย่างหนักในสิ่งที่เขาทำตอนที่เห็นศพคนฆ่าตัวตาย และบอกว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เขาได้เรียนรู้ในสิ่งต่างๆ มากขึ้น ในตอนที่ให้สัมภาษณ์ เขาเรียกตัวเองว่า “เป็นคนดีที่ตัดสินใจไปในทางที่ผิด” และอธิบายเกี่ยวกับภาพของคนตายที่ยังคงคุกคามตัวเองในหลายๆ อย่าง…
-
แบบนี้ก็ได้เหรอ…หนุ่มหวังฮุบเงินเพื่อน เลยเอามีดฟันตัวเอง อ้างว่าโดนปล้นไปหมดแล้ว!?
คนบางกลุ่มเป็นพวกที่ชอบมองหาหนทางที่จะคอยเอาเปรียบคนอื่นอยู่เสมอ แต่บางครั้งมันก็อาจจะไม่ได้สำเร็จเสมอไป เพราะบางครั้งการหลอกลวงหรือเสแสร้งเหล่านั้นก็ไม่อาจรอดสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์นี้ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2018 ได้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งโทรแจ้งตำรวจว่าตัวเองถูกโจรทำร้ายและขโมยเงินกว่า 45,000 บาทไป พอไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ก็ได้เจอกับเด็กหนุ่มคนดังกล่าวนอนอยู่ที่พื้น พร้อมกับแผลเหมือนโดนมีดฟันเข้าที่กลางหลัง พวกเขาจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ระหว่างที่หมอกำลังรักษาอาการบาดเจ็บของเขาอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้สอบปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และถามเกี่ยวกับรูปพรรณสันธานของคนร้ายว่ามีลักษณะรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร รอยแผลบริเวณกลางหลัง ที่เหมือนกับว่าถูกมีดฟันมาอย่างจัง แต่แล้วเด็กหนุ่มก็กลับตอบด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน ซึ่งสิ่งนี้ก็ไม่อาจรอดสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ นั่นจึงทำให้สุดท้ายทุกคนได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วเด็กหนุ่มไม่ได้ถูกปล้นอย่างที่กล้าวอ้างในตอนแรก และรอยแผลตรงกลางหลังก็เป็นสิ่งที่เขาทำมันด้วยตัวเอง โฉมหน้าของเด็กหนุ่มที่อ้างว่าตัวเองโดนปล้น สุดท้ายแล้วเด็กหนุ่มให้การสารภาพว่า เขาใช้มีดฟันหลังของตัวเองและอ้างว่าถูกปล้นก็เพื่อที่จะหลอกฮุบเงินจำนวนกว่า 45,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เขารับมาจากเพื่อนๆ แต่แล้วกลอุบายดังกล่าวก็ไม่อาจทำให้เขารอดพ้นเงื้อมมือของผู้รักษากฎหมายไปได้เลย ปัจจุบันยังคงไม่มีการรายงานเกี่ยวกับโทษที่เขาต้องได้รับจากการสร้างสถานการณ์หลอกๆ ครั้งนี้ อย่างไรก็ตามนี่คงจะทำให้เขาเข็ดและไม่หาเรื่องเจ็บตัวไปอีกนาน แล้วพวกเราก็คงต้องสังเกตกันให้ดีเวลาที่ฝากเงินไว้กับเพื่อน แล้วพวกเขาอาจจะอ้างกับเราว่าถูกขโมยอะไรทำนองนี้ ที่มา: new.qq
-
มนุษย์ลุงชาวจีนจู่ๆ ก็โยนอาหารลงบนพื้นในรถไฟ แล้วก็ขอให้พนักงานทำความสะอาดมาเก็บ
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2018 ได้มีคลิปวิดีโอหนึ่งถูกโพสต์ลงไปในโซเชียลมีเดียของประเทศจีน จนกลายเป็นกระแสที่โด่งดังอย่างมาก นั่นคือคลิปที่เผยให้เห็นคุณลุงคนหนึ่งทิ้งอาหารของตัวเองลงไปบนพื้น เพียงเพราะต้องการให้พนักงานมาทำความสะอาด นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นบนขบวนรถไฟในประเทศจีน ขณะที่คุณลุงชาวจีนคนนี้กำลังรับประทานอาหารอยู่ในตู้ห้องอาหาร และได้ถกเถียงกับพนักงานให้บริการบนรถไฟเกี่ยวกับเรื่องการทำความสะอาดพื้นทางเดิน ในตอนแรกนั้นพนักงานเห็นว่ามีอาหารถูกทิ้งเอาไว้บนพื้น เขาจึงถามกับผู้โดยสารว่าใครเป็นคนทำอย่างนี้ ก่อนที่คุณลุงในคลิปจะแสดงตัวบอกว่าตัวเองเป็นคนทำ โดยพูดว่า “ถ้าฉันอยากจะสร้างความสกปรก ฉันก็จะสร้างความสกปรก” พนักงานจึงถามคุณลุงไปว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น คุณลุงตอบกลับมาว่าการทำความสะอาดคือสิ่งที่พนักงานให้บริการต้องมาทำอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงตะโกนออกมาว่า “มาเก็บกวาดสิ!! พวกแกควรมาทำงานของตัวเองได้แล้ว” หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็กลับเลวร้ายมากกว่าเดิม เพราะลุงคนนี้กลับเอาไข่ทั้งฟองมาแบ่งครึ่งแล้วโยนลงไปบนพื้น จากนั้นก็ตามด้วยอาหารทั้งจานเทลงไปหน้าตาเฉย คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในตอนที่คุณลุงคนดังกล่าวทิ้งอาหารลงบนพื้น คลิปวิดีโอดังกล่าวได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนรู้สึกไม่พอใจ พวกเขาจึงตามหาจนพบว่าชายคนนี้เป็นใคร และเชื่อว่าเขาคงจะไม่มีโอกาสได้เดินทางบนรถไฟไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน นอกจากนั้น นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในรถไฟของประเทศจีน เพราะเมื่อปีก่อนก็เคยมีคลิปวิดีโอหนึ่งที่เผยให้เห็นชายแก่พยายามโปรยขยะไปทั่ว หลังจากที่พนักงานเดินไปบอกให้เขาหยุดทิ้งเม็ดแตงโมลงบนพื้น คลิปเหตุการณ์ที่เคยเกิิดขึ้นเมื่อปี 2017 การรับผิดชอบและคิดถึงส่วนร่วมเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ที่มา: medium
-
หนุ่มชนะการแข่งขันด้วยการกินซีกมะนาวกว่า 117 อัน พร้อมรับเงินรางวัลกว่า 25,000 บาท
ปกติน้อยคนที่จะกินมะนาวแบบเพียวๆ ดูดกินจากซีกของมันโดยตรง เพราะเรารู้ดีว่ามันมีความเปรี้ยวมากขนาดไหน แต่ในประเทศจีนกลับมีการจัดการแข่งขันกินมะนาวซีกขึ้นมา และผู้ชนะของรายการนี้ก็สามารถกินไปได้มากถึง 117 ชิ้นเลยทีเดียว!! การแข่งขันดังกล่าวถูกจัดขึ้นในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 ในเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งผู้ชนะในครั้งนี้เป็นชายหนุ่มสุดโหด ผู้สามารถนั่งกินมะนาวซีกไปได้ 117 ชิ้น เห็นตอนแข่งแล้วยังแอบรู้สึกเปรี้ยวปากแทนเลย โฉมหน้าของผู้ชนะในการแข่งขันกินมะนาวซีก ภายหลังการแข่งขัน ผู้ชนะก็ได้พูดถึงความรู้สึกของตัวเองว่า “ริมฝีปากและลิ้นของผมเต็มไปด้วยบาดแผลพุพอง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรู้สึกมีความสุขอยู่ดี” อย่างน้อยเขาก็ได้รับเงินรางวัลกว่า 25,000 บาทเป็นของตอบแทนล่ะนะ เขาตั้งใจว่าจะหยุดกินมะนาวไปซักระยะหนึ่งในช่วงตรุษจีนปีนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ชื่นชอบอาหารรสจัดอย่างมาก ทำให้การกินมะนาวครั้งนี้ก็ไม่สามารถทำให้เขาเลิกกินเปรี้ยวไปได้แต่อย่างใด ภาพบรรยากาศการแข่งขันที่ชวนน้ำลายไหลมากจริงๆ อย่างไรก็ตาม การกินในลักษณะนี้จะเรียกว่าเป็นการทำร้ายตัวเองก็คงไม่แปลก เพราะปกติแล้วคนเราไม่ควรกินมะนาวเกินหนึ่งลูกต่อวัน เพราะมันมีค่าความเป็นกรดที่สูง ทำให้ฟันของเราอาจถูกกัดเซาะได้ นอกจากนั้นวัยผู้ใหญ่ไม่ควรบริโภควิตามินซีมากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งในมะนาวหนึ่งลูกจะมีมากกว่า 50 มิลลิกรัม นั่นเลยทำให้หลายๆ คนรู้สึกเป็นห่วงสุขภาพของผู้ชนะคนนี้ซะเหลือเกิน ผู้ใช้ Weibo (โซเชียลมีเดียของจีน) รายหนึ่งถึงกับบอกเลยว่า “เขาคงต้องเอาเงินรางวัล 25,000…
-
หนุ่มเปลี่ยนสวนหลังบ้าน เป็นห้องเก็บของใต้ดิน ใครๆ ก็หาว่าบ้า… ทั้งที่ยังไม่เห็นตอนจบ!?
บางครั้งการคิดทำอะไรที่ยิ่งใหญ่หรือดูไกลตัว อาจทำให้คนภายนอกมองว่าเราเพ้อฟัน ไร้สาระ ซึ่งนั่นก็เป็นสิทธิของเขาที่จะคิดแบบนี้ แต่เราอย่าไปหวั่นไหวกับคำพูดนั้นก็พอ เหมือนกับ Wayne Martin ที่ขุดหลุมทั้งลึกและกว้างไว้ที่หลังบ้านของเขา เพื่อจะทำเป็นห้องเก็บของใต้ดิน แต่เพื่อบ้านกลับคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว อย่างไรก็ตาม Wayne ยังคงมุ่งมั่นทำตามสิ่งที่ต้องการต่อไป เขาสั่งซื้อตู้คอนเทนเนอร์มือสองทางออนไลน์ ขนาด 6 เมตร ในราคาประมาณ 60,000 บาท จากนั้นก็ได้จ้างบริษัทผลิตภัณฑ์ถังบำบัดน้ำเสียของท้องถิ่นมาทำให้ เพราะถูกกว่าจ้างคนทำ และปลอดภัยกว่าเช่ารถเครนมาทำเอง ให้ใช้รถยกนำตู้คอนเทนเนอร์หย่อนลงในหลุมที่ขุดเอาไว้ และก่อนที่จะทำการถมดินกลบ เขาได้ตรวจสอบภายในอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรูรั่วให้น้ำซึมเข้ามาได้ ต่อมาเขาได้สร้างบันไดคอนกรีตตรงกับประตูตู้คอนเทนเนอร์เพื่อใช้สำหรับขนส่งของ แต่การทำบันไดในสภาพเช่นนี้ต้องอาศัยโครงสร้างที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง Wayne จึงจ้างคนอื่นมาทำให้แทนที่จะลงมือทำด้วยตัวเอง ขั้นต่อถัดไปคือการวางคาน ซึ่งต้องให้อยู่ในระดับเดียวกับด้านบนของตู้คอนเทนเนอร์และหัวบันได ในระหว่างที่เขาดำเนินการไปเรื่อย เพื่อนบ้านต่างสงสัยว่าเขาจะทำอะไรกันแน่ ทำเป็นที่หลบภัย เอ๊ะ หรือจะเป็นทำเป็นถ้ำ… มาถึงจุดนี้ ทุกอย่างเริ่มดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น Wayne ได้นำโครงเหล็กไว้บนหลังคาของตู้คอนเทนเนอร์เพื่อเตรียมเทปูน ก่อนจะเทปูนสูงขึ้นไป 6 นิ้ว ให้ครอบคลุมทุกส่วน ด้านบนของตู้คอนเทนเนอร์จะเห็นท่อพีวีซีขนาด 12 นิ้ว 2 อัน…
-
ตำรวจจีนเริ่มใช้ ‘แว่นตาอัจริยะ’ สามารถระบุตัวตนประชาชน เพื่อเข้าถึงคนร้ายได้ง่ายขึ้น!!
ปัจจุบันเทคโนโลยีของมนุษย์เรานับว่าก้าวหน้ามาไกลมาเลยทีเดียว มีอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งช่วยทำให้ชีวิตของมนุษย์เรานั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ในด้านของตำรวจเองก็ไม่แพ้กัน เพราะในยุคนี้มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดไฮเทค ที่ออกมาเพื่อช่วยให้จับผู้ร้ายได้ง่ายขึ้นมาก ลักษณะคล้ายกับที่เคยเห็นผ่านตาในภาพยนตร์ก็คงจะไม่ผิดนัก และอุปกรณ์ที่ว่านี้ก็คือ แว่นตาไฮเทค Smartglasses โดยทางตำรวจขนส่งในเมืองเจิ้งโจวของประเทศจีน ได้ลองนำมาใส่แล้วไปประจำการที่สถานีรถไฟ ในช่วงวันตรุษจีนซึ่งเป็นช่วงที่เรียกได้ว่ามีผู้คนพลุกพล่านที่สุด โดยเจ้าแว่น Smartglasses มีเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้สวมใส่นั้นสามารถตรวจจับและระบุตัวตนของผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายได้ทำการสวมแว่นตาดังกล่าว แล้วไปประจำที่ประตูทางออกด้านตะวันออกของสถานี เมื่อพบเจอผู้ต้องสงสัย กล้องที่ติดอยู่กับแว่นตาจะทำการเก็บภาพใบหน้าของผู้ต้องสงสัยเหล่านั้น เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่เก็บไว้ในสำนักงานใหญ่ จากนั้นระบบจะทำการแสดงข้อมูลที่สำคัญของผู้ต้องสงสัยเหล่านั้นขึ้นมา ประกอบไปด้วย ชื่อ สัญชาติ เพศ และที่อยู่ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งกลับมาปรากฏบนแว่นที่เจ้าหน้าที่สวมใส่อีกครั้ง ทั้งนี้แว่นยังสามารถระบุได้ว่าผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวนั้นกำลังหนีคดีอยู่หรือไม่ อีกทั้งยังระบุโรงแรมหรือที่พักที่บุคคลนั้นๆ กำลังเข้าพัก รวมไปทั้งข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ต้องสงสัยอีกด้วย ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้นคาดว่ามีประชาชนประมาณ 390 ล้านคน เดินทางโดยรถไฟในช่วงเวลา 40 วัน ถึงอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเจิ้งโจวเอง ก็สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้ถึง 7 ราย มีตั้งแต่คดีชนแล้วหนี…
-
ลูกสะใภ้แชร์เรื่องราวคุณแม่สามี ‘อุ้มท้องแทน’ และความดีงามที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
เมื่อแต่งงานกันแล้ว คู่รักส่วนใหญ่ก็อยากมีลูก เพื่อจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เหมือนกับ Kayla Jones วัย 29 ปี กับสามี Cody จากรัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการเริ่มต้นครอบครัวอบอุ่นด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่ฝ่ายหญิงได้ผ่าตัดมดลูกบางส่วนออก เมื่อตอนอายุเพียง 17 ปี และนั่นทำให้ความฝันในการอยากมีลูกจึงเป็นไปได้ยาก ภาพนี้ดูเหมือนจะเป็นการถ่ายรูปครอบครัวทั่วไป แต่สังเกตดูที่ป้ายสิ (ซ้าย: ขนมปังของพวกเขา ขวา: เตาอบของเธอ) Kayla จึงหาทางออกด้วยการหาแม่อุ้มบุญ เธอบอกว่า “รังไข่ของฉันบางส่วนที่ไม่ดีถูกผ่าตัดออก ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถมีลูกเองได้ นั่นเป็นเหตุผลที่สามีกับฉันต้องการแม่อุ้มบุญ” หลังจากที่พยายามหาแม่อุ้มท้องทั่วสารทิศ ก็ยังไม่สามารถหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมได้ ในที่สุดทั้งคู่เลยตัดสินใจมองหาคนที่อยู่ใกล้ตัวแทน… สองสามีภรรยา Kayla และ Cody ฝ่ายหญิงบอกว่า “ฉันกับสามีแต่งงานกันเมื่อปี 2012 และแม่ยายของฉันมักจะพูดเล่นบ่อยๆ ว่าเธอจะเป็นแม่อุ้มบุญให้กับเรา ดังนั้นเมื่อเราหาแม่อุ้มบุญไม่ได้ ในที่สุดเราก็ตกลงที่จะเลือกแม่สามีแทน” เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น ทั้งคู่ก็ได้เข้าไปพูดคุยกับ Patty ผู้เป็นแม่สามี ซึ่งเธอเองก็ยินดีมากที่ทั้งสองเลือกเธอ แต่ต้องผ่านการทดสอบ การวิจัย และการวินิจฉัยจากแพทย์ก่อน …
-
ความดีไม่มียกเว้น… ชายมอบเสื้อให้คนไร้บ้าน ถูกใบสั่งตามถึงบ้าน เพราะจอดในเลนรถเมล์
ในวันเทศกาลเฉลิมฉลองอย่างวันคริสต์มาส ไม่ว่าใครก็อยากจะทำให้คนรอบข้างมีแต่ความสุขและสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกันทั้งนั้น อดีตทหารนายหนึ่งซึ่งขับรถผ่านมาเห็นชายไร้บ้านก็อยากมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนไร้โอกาสเช่นกัน เขาจึงจอดรถเพื่อมอบเสื้อผ้าและอาหารให้กับชายไร้บ้าน แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันเขาก็โดนใบสั่ง เพราะในจังหวะนั้นเขาจอดรถในเลนของรถประจำทาง… Lee Williamson อดีตทหารที่ทำงานเป็นช่างไม้และทำงานกับองค์กรการกุศล ในวันคริสต์มาส เขาจอดรถเพื่อเอาเสื้อผ้าไปมอบให้กับชายไร้บ้านคนหนึ่ง นาย Lee Williamson อดีตทหารวัย 43 ปีเล่าว่าขณะที่เขากำลังขับรถกลับจากการส่งลูกสาวในวันคริสต์มาส เขาเห็นชายไร้บ้านคนหนึ่งนอนอยู่ข้างถนน ด้วยความที่เขาทำงานกับองค์กรการกุศลด้วย เขาเลยอยากจะช่วยเหลือชายคนนั้น เขาจึงจอดรถที่ข้างทางแล้วเดินเข้าไปหาชายไร้บ้าน เพื่อมอบหมวก ถุงมือ ผ้าพันคอและอาหารให้กับเขา ชายไร้บ้านคนนั้นรู้สึกซึ้งใจจนไม่รู้จะพูดขอบคุณได้อย่างไร จากนั้นเขาก็กลับไปที่รถแล้วขับกลับบ้านไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัวตามปกติ ทว่าต่อมาในวันที่ 3 มกราคม 2018 ก็มีใบเรียกค่าปรับจากทางการส่งมาถึงบ้านเขา แจ้งให้เขาไปเสียค่าปรับจำนวน 70 ปอนด์ (ประมาณ 3,000 บาท) โทษฐานที่เขาจอดรถในเลนที่ทำไว้สำหรับรถประจำทางเท่านั้น ใบเรียกเก็บค่าปรับที่เขาได้รับ เนื่องจากจอดรถในที่จอดรถประจำทาง หลังจากนั้นเขาจึงเขียนอีเมลล์ไปอธิบายสาเหตุของการกระทำในครั้งนั้น ทางการก็คงจะเข้าใจเขาแล้วยกเลิกใบเก็บค่าปรับแน่นอน ทว่าในวันที่ 30 มกราคม 2018 เขากลับได้รับจดหมายตอบกลับจากทางการว่า แม้จะเป็นการกระทำไปด้วยเจตนาดี แต่ก็ยังคงต้องปรับเขาเพราะเขาทำผิดกฎจราจรเหมือนเดิม พอ Williamson…
-
รู้ตัวเมื่อสาย… สาวแชร์ภาพสุดท้ายบนเตียงพยาบาล ให้ตระหนักถึงเวลาที่เหลือแค่ 4 เดือน
มะเร็งเป็นโรคที่ฆ่าชีวิตคนไทยมากเป็นอันดับ 3 รองจากโรคหัวใจและอุบัติเหตุ เนื่องจากเราไม่สามารถคาดเดาว่าจะเป็นมะเร็งได้เมื่อไหร่ หลายๆ คนที่ดูสุขภาพแข็งแรง กลับเสียชีวิตเพราะเป็นโรคมะเร็งมากมาย สิ่งที่ทำได้มีเพียงแต่หมั่นไปตรวจร่างกายบ่อยๆ และรักษาให้ทันท่วงทีเพียงเท่านั้น ซึ่งก็เหมือนกับเรื่องของ Amy Redhead สาวสุขภาพดี ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่เธอกลับได้รับคำวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ และเธอจะมีชีวิตอยู่ได้ในไม่กี่เดือนที่เหลือเท่านั้น โดยที่เธอตัดสินใจแชร์รูปตัวเอง เพื่อที่จะให้ผู้คนตระหนักถึงเจ้าโรคร้ายนี้ Amy เป็นชาวเมือง West Midlands จากอังกฤษ เธอรู้สึกถึงความเจ็บที่หน้าท้อง จึงได้ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล และจบลงด้วยการค้นพบก้อนเนื้อที่ท้อง เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งลุกลามไปที่ปอดด้วย ร่างกายมีสภาพที่ย่ำแย่ลงจากก่อนหน้านี้มาก และจะต้องรับการรักษาอยู่ในบ้านพักรับรอง แต่ Amy ไม่ยอมเข้ารับการทำคีโมเพื่อยืดอายุของเธอ เพราะอยากจะใช้ชีวิตจนวันสุดท้ายแบบดังเดิมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และตอนนี้เธอก็ใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักเกี่ยวกับโรคมะเร็งที่กำลังจะกลืนชีวิตเธอในอีก 4 เดือนข้างหน้า Emily น้องสาวของ Amy กล่าวว่า “Amy เป็นคนหัวแข็ง ไม่แปลกใจเลยที่เธอปฏิเสธการทำคีโม ซึ่งหมอบอกว่าการคีโมทำได้เพียงแค่ยืดอายุของเธอเท่านั้น เธอบอกว่าเธอเหลือเวลาน้อยลงแล้ว เธออยากจะใช้ชีวิตอย่างที่เธอเป็น นั่นแหละคือสิ่งที่เธอเลือก” “พวกเราดีใจที่ได้ฉลองวันเกิดกับเธอ วันคริสมาสต์ วันปีใหม่ และวันเกิดอายุครบ…
-
‘พ่อไม่เคยอยู่บ้าน’ คำตอบจากการบ้านเด็กชาย ทำให้ได้รู้ถึงความห่างเหินของพ่อลูก…
สำหรับหลายครอบครัว คุณพ่อหรือคุณแม่อาจไม่มีเวลาอยู่กับลูกเพราะต้องทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหารายได้ส่งเลี้ยงครอบครัว แต่ก็ยังมีคู่ชีวิตของตนคอยอยู่ดูแลลูกรักไม่ให้ขาดความอบอุ่นแต่อย่างใด ลักษณะของครอบครัวแบบนี้อาจจะดูไม่มีปัญหาอะไร ทว่าคำตอบจากการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนคนหนึ่งกลับชี้ให้เห็นว่าครอบครัวมีปัญหาใหญ่เสียแล้ว… แทนที่จะตอบว่ามีคนในครอบครัว 4 คนอย่างที่คุณครูได้ทราบมา แต่เด็กชายกลับตอบว่าครอบครัวของเขามีเพียง 3 คน เพราะไม่นับพ่อที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน การบ้านวิชาคณิตศาสตร์ ถามว่าคนในครอบครัวมีจำนวนกี่คน เด็กชายตอบอย่างหนักแน่นว่า 3 คน การบ้านวิชาคณิตศาสตร์ที่ว่านี้เป็นของเด็กชายสกุล Luo ครอบครัวของเขามีกันทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วยพ่อ แม่ เขาและน้องสาวอีกคนหนึ่ง พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันในชุมชนต้าหวู่ มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน วันหนึ่งเด็กชายได้นำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์กลับมาบ้านด้วย แม่ของเขาสังเกตเห็นคำถามข้อแรกที่ถามว่า ‘มีคนในครอบครัวจำนวนกี่คน’ ซึ่งเด็กชายตอบไว้เพียง 3 จึงเรียกมาสอบถามดูว่าเขานับเลขผิดหรืออย่างไร แต่เด็กชายกลับยืนยันหนักแน่นว่า “3 คนเป็นคนตอบที่ถูกต้องแล้ว เพราะพ่อไม่เคยอยู่บ้านเลย” พอได้ยินแบบนั้นคุณแม่ก็รู้สึกหัวเสียมาก จากนั้นจึงส่งรูปการบ้านนี้ไปให้คุณตำรวจ Luo Jian ผู้เป็นพ่อของเด็กชายได้ดู ครอบครัว Luo มีคุณพ่อ คุณแม่ ลูกชายและลูกสาว รวมแล้ว 4 คน ตัวคุณพ่อนั้นทำงานเป็นตำรวจ…
-
หนุ่มสักรูป ‘คลื่นหัวใจสุดท้ายของแม่’ พร้อมใจความสุดซึ้ง ทำเอาชาวเน็ตน้ำตาซึม…
การที่คนรอบข้างของเราไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง หรือญาติๆ จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ยากจะทำใจได้ และหลายๆ คนก็มักจะมีบางสิ่งที่เอาไว้รำลึกถึงอยู่เสมอ อย่างเช่น Thomas Resch อายุ 21 ปี เขาสูญเสียแม่ผู้เป็นที่รักและเคารพ และเขาก็ได้เลือกที่จะสักข้อความสุดท้ายพร้อมกับรูปของคลื่อนหัวใจสุดท้ายของแม่ไว้กับตัวเอง Thomas Resch หนุ่มผู้อาศัยอยู่ใน Maryville รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเสีย Deborah คุณแม่ของเขาไปจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งเธอเคยมีอาการแบบดังกล่าวมารอบหนึ่งแล้ว แต่เคราะห์ดีที่ครั้งนั้นเธอสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ แต่ว่าครั้งนี้ไม่มีปฏิหาริย์เหมือนครั้งก่อน หัวใจของเธอหยุดเต้นและเสียชีวิตลงเมื่อเดือนมกราคม 2018 Thomas ได้ตัดสินใจโพสต์รูปเขากับแม่ของเธอลงในทวิตเตอร์ โดยที่ในทวีตดังกล่าวมีข้อความประมาณนี้ “วันนี้ ผมเสียเพื่อนสนิทที่สุดของผมไป ผมโชคดีที่ได้อยู่กับแม่มา 21 ปี แต่ผมก็รู้ว่าแม่จะรอผมด้วยอ้อมกอดอันยิ่งใหญ่ของแม่ ผมจะไม่ลืมเรื่องต่างๆ ที่แม่สอนผม วิธีที่จะหัวเราะ วิธีที่จะเข้มแข็ง วิธีที่จะซื่อสัตย์ และวิธีที่จะรัก หลับให้สบายนะครับคุณแม่ของผม” หลังจากที่ Deborah ฟื้นจากหัวใจหยุดเต้นครั้งแรก เธอต้องเข้ารับการรักษา สมองของเธอขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงเป็นเวลานานขณะที่เธอหัวใจหยุดเต้น นั่นส่งผลตรงๆ ต่อการใช้มือของเธอ…
-
บรรยากาศภายในฐานยิงขีปนาวุธ บนดินสภาพเป็นแค่หลุม ลึกลงไปไม่ต๊ะติ๊งโหน่งนะ!?
ในทุกวันนี้ที่เราเห็นข่าวเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอยู่บ่อยๆ ทำให้เราคิดว่าสงครามนิวเคลียร์อาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว บางคนอาจจะเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหลุมหลับภัยนิวเคลียร์กันเอาไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าจริงๆ แล้วฐานยิงนั้นจะเป็นแบบไหนกัน!? ฐานควบคุมขีปนาวุธที่เราจะพาไปชมในวันนี้คือ Minuteman Missile National Historic Site ที่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ณ ปัจจุบัน ตั้งอยู่ในรัฐเซาท์ดาโคตา สหรัฐอเมริกา ในช่วงรุ่งเรืองของที่นี่มีพนักงานของกองทัพอากาศหลายพันคนเข้าออกที่นี่บ่อยๆ เลยล่ะ “Minute Men” หรือเจ้าหน้าที่ประจำการ จะถูกแบ่งออกเป็น 8 ทีม พวกเขาจะผลัดกันเข้าเวรในฐานนี้ และจะใช้เวลาว่างในการเล่นเกมยิงเรือรบ (Battleship) หรือไม่ก็อุ่นอาหารเพื่อมากินหน้าทีวี แน่นอนว่าความน่าตื่นเต้นของที่นี่คือคุณจะได้ใช้ชีวิตอยู่ใต้ดิน ซึ่งภายในนั้นจะมีห้องควบคุมขีปนาวุธ และมีมุมที่เอาไว้นั่งเล่นด้วย พูดถึงความกว้างของมัน สถานที่นี้มีพื้นที่กว้างถึง 2.5 กิโลเมตรเลยทีเดียว และเป็นที่เก็บขีปนาวุธ Minuteman II ด้วย ทางเข้าหลุมฐานควบคุมขีปนาวุธ พูดถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงอยากที่จะชมว่าบรรยากาศใต้ดินของ Minuteman Missile National Historic Site จะเป็นยังไงบ้าง ช่างภาพ Adam Reynolds ก็ได้นำภาพถ่ายภายในมาเผยแพร่ให้ได้ชมกันแล้ว มุมพักผ่อน…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแมวจากสถานสงเคราะห์มาเลี้ยงหวังจะให้มันช่วยงาน จะรอดเร๊ออ!?
ทุกครั้งทีพูดถึงสัตว์คู่ใจเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สัตว์ชนิดแรกที่เราจะต้องคิดถึงก่อนเลยนั่นก็คือ ‘สุนัข’ แต่ใช่ว่าพี่ๆ ตำรวจจะเป็นแฟนบอยสุนัขกันทุกคน เพราะว่าบางคนนั้นก็ถือตัวเป็นทาสแมวเช่นกัน ยกตัวอย่างได้อย่างสถานี Port Lavaca Police Department ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นต้น ล่าสุดทางสถานีดังกล่าวนั้นได้ไปรับเลี้ยงแมวตัวหนึ่งมาจากสถานสงเคราะห์สัตว์ ซึ่งพวกเขาต้องการหาสัตว์มาเป็นผู้ช่วยประจวบกับความเป็นทาสแมว เจ้าเหมียวตัวหนึ่งก็เลยตกเป็นจำเลยต้องถูกรับมาเลี้ยงที่สถานีนั่นเอง เจ้าเหมียวตัวนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า Captain โดยมันมีหน้าที่คอยช่วยเหลือเหล่าเจ้าหน้าที่ในกรม และมันยังมีหน้าที่ในการสอดส่องเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ด้วยว่ากำลังอู้หรือเปล่า ตั้งใจทำงานเจ้ามนุษย์!! ซึ่งแม้จะมีการมอบหน้าที่ให้เจ้า Captain อย่างชัดเจน แต่ด้วยความเป็นแมวเจ้าเหมียวก็หาได้แคร์ไม่ เรียกว่ามันป่วนไปทั่วเลยละ แถมยังตกเจ้าหน้าที่ให้มาเป็นแฟนคลับมันได้ตั้งหลายคนเลยทีเดียว ตกได้แล้ว 1 คน ตกได้อีกคนแล้ว อย่าลืมซื้อบัตรจับมือเหมียวนะ เหยื่อคนที่สามที่ดูแล้วก็ไม่น่ารอด อย่างไรก็ตาม แม้เจ้า Captain จะอยู่ไม่ค่อยสุข แต่เหล่าเจ้าหน้าที่ก็เห็นว่ามันคือผู้นำตามชื่อของมัน และมันก็ยังเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นเหล่าตำรวจทาสแมวทั้งหลายจึงจัดการหาเสื้อผ้ามาให้มันใส่สมกับยศนั่นเอง ยูนิฟอร์มสุดคูล มีชื่อด้วยนะ เก้าอี้ประจำตำแหน่ง …
-
ใครบอกผู้หญิงเล่นเกมไม่เก่ง โปร Starcraft หญิงคนแรกที่สามารถเอาชนะยักษ์ใหญ่เกาลีใต้ได้!!
หลายคนคงจะเคยเห็นข่าวตามสื่อต่างๆ ที่ออกมาบอกว่า ‘ผลวิจัยชี้! ผู้หญิงนั้นเล่นเกมเก่งน้อยกว่าผู้ชาย’ อะไรทำนองผ่านตากันมาบ้างใช่ไหมละ แต่วันนี้เราจะมาดูกันว่ามันไม่จริงเลย!! Sasha ‘Scarlett’ Hostyn หญิง (ข้ามเพศ) ชาวแคนาดาคนนี้กำลังตกเป็นเป้าสายตาของวงการเกมระดับโลก หลังจากที่เธอได้คว้าแชมป์การแข่งขัน Starcraft 2 รายการ ‘IEM PyeongChang 2018 pre Winter Olympic‘ ที่เมืองพย็องชังประเทศเกาหลีใต้ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า มันตกเป็นข่าวใหญ่ตรงไหนคนเป็นแชมป์ก็มีเยอะแยะมากมาย คำตอบคือใช่ ถ้ามันเป็นเกมอื่นมันจะไม่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลย แต่มันดันเป็น Starcraft 2 ซึ่งเกมดังกล่าวนั้นเป็นเกมแนว RTS ที่เรียกว่าเกาหลีใต้ชูให้เป็นเกมประจำชาติและแทบจะครองแชมป์เกือบทุกรายการเลยทีเดียว ยิ่งมาคราวนี้คนได้แชมป์ดันเป็นผู้หญิงอีก สื่อก็จับจ้องมาที่เธอกันอย่างไม่ละสายตาเลยทีเดียว แม้แต่สื่อกีฬาหลักอย่าง ESPN ยังไม่พลาดจะรายงานเรื่องของเธอ Scarlett นั้นเป็นผู้เล่นที่ใช้เผ่า Zerg (เอเลี่ยนหน้าตาน่าเกลียด) เป็นหลัก ซึ่งในรอบชิงเธอจะต้องเจอกับ Kim ‘sOs’ Yoo ผู้เล่นชาวเกาหลีใต้ที่เล่นเผ่า Protoss (เอเลี่ยนทันสมัย) เป็นหลักและยังเป็นผู้เล่นเกม…
-
ชาวนาช่วยอัลปาก้ากว่า 50 ตัวให้มีชีวิตใหม่ แล้วพวกมันก็มาช่วยเด็กกลุ่มเสี่ยงตอบแทน!!
ถ้าคุณพูดถึงสัตว์ที่ไว้ใช้สำหรับบำบัด คุณมักจะคิดถึงสัตว์ชนิดกันไหน? หมา แมว ม้าและอื่นๆ อีกมากมาย แต่คุณเคยคิดไหมว่าอัลปาก้าก็สามารถเป็นหนึ่งในสัตว์บำบัดได้เช่นกัน? Emma สาวสวยนักปีนเขาได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้บังเอิญกับกลุ่มนักเดินเขาและอัลปาก้ากว่า 20 ชีวิตที่กำลังเดินไปด้วยกันอย่างช้าๆ บนยอดเขา Cat Bells ในชนบทของประเทศอังกฤษ เธอเล่าว่าเธอค่อยๆ ปีนยอดเขาดังกล่าวไปกับกลุ่มคนและฝูงอัลปาก้า ซึ่งเธอบอกว่านี่ถือเป็นครั้งแรกเลยที่มีอัลปาก้าสามารถปีนเขามาได้สูงขนาดนี้ และที่ยอดเขานั้นเองเธอได้พูดคุยกับ Terry Barlow ชายผู้เป็นคนนำคณะทัวร์กับเหล่าสัตว์ขนปุยนี้มาปีนเขานั่นเอง Emma บอกว่าหลังจากพูดคุยเธอได้รู้ว่า Terry นั้นอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับยอดเขา Cat Bells แห่งนี้กับภรรยา โดยแรกเริ่มเขาก็ไม่ได้เลี้ยงอัลปาก้าแต่อย่างใด จนกระทั่งเขาตัดสินใจช่วยเหลือเหล่าอัลปาก้าที่เติบโตมาอย่างไร้ความรัก โดนทิ้งหรือโตมาผิดปกติมาเลี้ยง ซึ่งรู้อีกทีก็มีจำนวนมากกว่า 58 ตัวเข้าไปแล้ว อัลปาก้าบนยอดดอย…. อัลปาก้าก็น่ารัก วิวรอบๆ ก็สวยงาม ขนพวกมันดูปุยๆ ตลกดีเหมือนกันนะ ด้วยเหตุนี้ Terry ที่มองเห็นศักยภาพของเจ้าอัลปาก้าทั้งหมดที่เขาเลี้ยงว่า พวกมันนั้นเป็นสัตว์ที่ดูน่ารักและดูตลกในเวลาเดียวกัน ซึ่งมันน่าจะช่วยให้ความสุขกับคนได้ไม่มากก็น้อย เขาจึงเริ่มกิจการใหม่ด้วยการให้อัลปาก้าเป็นสัตว์บำบัด…
-
“SuperShe” เกาะส่วนตัวสำหรับสาวๆ เท่านั้น เหล่าชายฉกรรจ์อย่าได้เฉียดแม้ปลายก้อย!!
สำหรับกลุ่มเพื่อนสาวๆ ก็มีบางครั้งที่อยากจะออกไปเที่ยวด้วยกันแบบไม่คิดอะไร ไปใช้ชีวิตอย่างสนุก ออกไปผจญภัยให้เต็มที่โดยไม่แคร์สายตาใครๆ แต่ก็ด้วยความที่โลกนี้มีสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า ‘ผู้ชาย’ อยู่ร่วมด้วย ก็ทำให้บางครั้งสาวๆ อาจจะดูไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะต้องคอยเก็บอาการต่างๆ ไม่ให้ออกนอกหน้าจนเกินไป แต่หากใครอยากปลดปล่อยตัวเองไปสนุกแบบสุดๆ นี่อาจเป็นสวรรค์สำหรับสาวๆ เลยก็ได้ เพราะมีเกาะแห่งหนึ่งที่ไม่อนุญาตให้ผู้ชายหน้าไหนเข้าไปได้ และเกาะที่ว่านี้ก็มีชื่อบ่งบอกความเป็นตัวเองได้แบบสุดๆ นั่นก็คือ SuperShe ตั้งอยู่ที่นอกชายฝั่งของประเทศฟินแลนด์ โดยเกาะ SuperShe นี้ เกิดขึ้นจากความคิดของสาวอเมริกันชื่อว่า Kristina Roth ตัดสินใจลงทุนสร้างรีสอร์ทสำหรับผู้หญิงเท่านั้น เนื่องมาจากเธอได้ตระหนักว่าการที่มีผู้ชายอยู่รายล้อมผู้หญิงนั้น มันเป็นเรื่องที่กวนใจเธอซะจริงๆ นอกจากนี้เธอยังพบอีกด้วยว่า ผู้หญิงมักจะให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่าตัวของตัวเองเสมอ เธอจึงเกิดปิ๊งไอเดียสร้างรีสอร์ทแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อให้สาวๆ ได้พักผ่อนโดยโนแคร์โนสนใดๆ ทั้งสิ้น “เมื่อเห็นหนุ่มหล่อเดินมา ผู้หญิงมักจะหยิบลิปสติกออกมาทาทันที ฉันจึงเกิดความคิดนี้ขึ้นมาเพื่ออยากจะบอกกับสาวๆ ทั้งหลายว่า ‘เฮ้ โฟกัสไปที่ตัวของตัวเองบ้าง’” Kristina กล่าวกับสื่อ The New York Post จุดกำเนิดไอเดียการสร้างเกาะสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เกิดมาจากความที่ครั้งหนึ่ง Kristina ได้ไปเที่ยวเกาะแสนสวยที่อยู่นอกชายฝั่งของประเทศฟินแลนด์ แล้วเธอดันไปตกหลุมรักกับชายท้องถิ่นคนหนึ่ง และเขาคนนี้นี่เองที่เป็นคนบอกกับเธอว่ามีเกาะแห่งหนึ่งที่กำลังปักป้ายขายอยู่ตอนนี้ ซึ่งในตอนแรกเธอก็ไม่ได้สนใจมันมากนัก “พ่อแม่ของเขาเป็นเจ้าของหมู่เกาะมากมาย…
-
ส่องชีวิตน้องหมารุ่นลูกหลานในเขต ‘เชอร์โนบิลล์’ ถูกมนุษย์ทิ้งไว้ตอนอพยพเมื่อปี 1986
เหตุการณ์สำคัญระดับโลกที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1986 ที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาตร์นั่นก็คือเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิด ประเทศยูเครนระเบิดออกมา เป็นเหตุทำให้กัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมา ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 เมษายน 1986 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลได้เกิดเหตุข้อผิดพลาดของระบบหล่อเย็นจนกลายเป็นระเบิดขนาดใหญ่ ทางการจึงต้องสั่งประกาศอพยพมนุษย์ในเมืองกว่า 120,000 รายออกจากเมืองอย่างเร่งด่วน ผลพวงจากกัมมันตภาพรังสีแผ่วงกว้างออกไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในเมือง ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองร้างในที่สุด . จากการอพยพในครั้งนั้น ชาวบ้านต้องสละทรัพย์สินทั้งหมด ทิ้งบ้านทิ้งเมืองของตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอด รวมไปถึงการทิ้งเหล่าสัตว์เลี้ยงทั้งหลายให้ต้องเผชิญกับกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกมา สุนัขทั้งหลายที่ถูกทิ้งไว้ บางส่วนก็ต้องถูกกำจัด และมีบางส่วนที่หลบหนีหายไปในป่า จนกระทั่งหลายปีต่อมาพวกมันออกลูกออกหลานจนมีจำนวนหลายร้อยตัว และได้กลับเข้ามายึดครองพื้นที่เมืองร้างแห่งนี้ สุนัขทั้งหลายที่อยู่ในเมือง ได้รับการดูแลโดย Clean Futures Fund (CFF) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่คอยดูแลและสนับสนุนผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุอุตสาหกรรมในครั้งนั้น มูลนิธิ CFF ได้คาดการณ์ว่าอาจจะมีสุนัขจรจัดที่อยู่ในเมืองนี้มากกว่า 250 ตัวและอีกหลายร้อยตัวที่อาศัยอยู่ในป่า จึงได้จัดตั้งคลีนิกสัตว์เฉพาะกิจขึ้นมา ณ เมืองร้างแห่งนี้เพื่อคอยดูแลรักษา ฉีดวัคซีน ทำหมันให้กับสุนัขเหล่านี้ สุนัขที่อยู่ในเมืองนี้ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากกัมมันตภาพรังสีที่ยังตกค้างอยู่ในพื้นที่ ส่งผลทำให้สุนัขในเมืองนี้มีอายุสั้น…
-
คุณแม่สวมชุดคอร์เซ็ทวันละ 23 ชั่วโมง ต่อเนื่องกว่า 3 ปี เพื่อคงสภาพเอวนาฬิกาทราย!!
ผู้หญิงทุกคนต่างก็มีความรักสวยรักงามอยู่ในตัว เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงนั้นจะสรรหาวิธีต่างๆ ที่จะทำให้ตัวเองดูสวย และไม่ได้เป็นการทำเพื่อคนอื่น แต่เป็นการทำเพื่อตัวเองมากกว่า เช่นเดียวกับคุณแม่ลูกแฝด Diana Ringo อายุ 39 ปี ชาวเมือง Chula Vista รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ได้หาวิธีในการที่จะเปลี่ยนแปลงหุ่นหลังคลอดของตัวเองให้กลับมาเป๊ะเหมือนตอนที่เป็นสาวๆ คุณแม่ใช้วิธีต่างๆ เช่นการออกกำลังกายและการอดอาหาร แต่มันก็ไม่ได้ผลตามที่เธอหวังไว้ เธอจึงต้องหาวิธีใหม่ที่เห็นผลเร็วกว่า นั่นก็คือการสวมชุดคอร์เซ็ทรัดเอวไว้ให้ดูผอม และมันก็ได้ผลตามที่เธอหวังเอาไว้จริงๆ จากความอดทนที่เธอพยายามที่จะใส่ชุดคอร์เซ็ทวันละ 23 ชั่วโมง และจะถอดออกเฉพาะตอนที่อาบน้ำกับช่วงเวลาออกกำลังกายเท่านั้น โดยตลอดระยะเวลา3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เธอสามารถลดขนาดเอวจาก 27 นิ้วกลายมาเป็น 18 นิ้วได้ (จะบางเกินไปแล้ว!!) “เมื่อไหร่ที่ฉันสวมชุดคอร์เซ็ท ฉันรู้สึกว่าฉันเซ็กซี่มากๆ และฉันก็รู้สึกดีสุดๆ ด้วย ฉันเคยรู้สึกไม่มีความสุขกับหุ่นของฉันเพราะว่าตอนนั้นฉันอ้วนมาก… ถึงแม้ความอ้วนนั้นจะไม่ได้ทำร้ายสุขภาพของฉันสักเท่าไหร่ แต่ฉันรู้สึกว่าไขมันเหล่านั้นมันทำให้ฉันมีรูปร่างเหมือนผู้ชาย” Diana กล่าว Diana มีชุดคอร์เซ็ทประมาณ 45 ชุด…
-
เด็กๆ ถูกสั่งห้าม ‘ไฮไฟว์’ กับคุณตาผู้พาข้ามถนน หวั่นอาจทำให้เกิดปัญหาจราจรตามมา…
การ ‘ไฮไฟว์’ หรือก็คือการแปะมือกันของคนสองคน เป็นสิ่งที่ผู้ดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งทำกับเด็กๆ มานานแล้ว แต่ล่าสุดหัวหน้าของเขาก็มีคำสั่งห้ามให้เด็กๆ ทำแบบนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของเด็กเองและคุณตาด้วย จึงเป็นเหตุทำให้ผู้ปกครองและเด็กๆ ทักท้วงกันใหญ่เลย… Colin Spencer ชายวัย 83 ปี ทำหน้าที่เป็นคนดูแลให้เด็กๆ มา 14 ปีแล้ว เขาทำงานให้โรงเรียน St. George’s CE Primary ในชุมชน Heaviley ของเมือง Stokeport ประเทศอังกฤษ โดยปกติแล้วเขาจะไฮไฟว์กับเด็กๆ เพื่อเป็นการทักทายและให้กำลังใจพวกเขานั่นเอง Colin Spencer คุณลุงใจดีของเด็กๆ ผู้มีฉายาว่า ‘Lolly’ ทว่าเมื่อไม่นานมานี้หัวหน้าของเขามีคำขอร้องไม่ให้เด็กๆ และผู้ปกครองทำไฮไฟว์กับคุณตาอีกเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่ามันจะทำให้คุณตาและเด็กๆ ไม่สนใจท้องถนนจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ คุณตาเล่าว่า “ผมบอกกับผู้จัดการว่าผมทำแบบนี้มาตั้ง 14 ปีแล้ว แล้วเด็กๆ ก็ชอบมันมากด้วย แต่เธอบอกว่าผมควรจะหยุดทำแบบนั้นเพราะมันเป็นการก่อกวนสมาธิของผมและเด็กๆ เวลาข้ามถนน” เขามีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้เด็กๆ เวลาข้ามถนน เมื่อผู้ปกครองได้ทราบข่าวนี้พวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน…
-
ทรงขัดใจพ่อ… ลงโทษลูกสาวด้วยการหั่นผมสั้น โทษฐานที่ทำไฮไลท์ผมฉลองวันเกิด!!
ธรรมชาติของเด็กผู้หญิงเมื่อเริ่มโตเป็นสาว ก็มักจะเริ่มสนใจเรื่องความสวยความงามเป็นธรรมดา ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับคนทั่วไป แต่มันเป็นเรื่องที่ดูแปลกและดูขัดใจสำหรับพ่อคนหนึ่ง เขาจึงสั่งลงโทษลูกสาวที่ไปทำไฮไลท์ผม ด้วยการสั่งให้ตัดผมสั้นรองทรงเหมือนกับเด็กผู้ชายซะเลย!! โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเด็กสาวที่วัยรุ่นมีชื่อว่า Kelsey และได้รับการเปิดเผยออกมาจาก Christin Johnson แม่ของเธอ โดยแม่ของเด็กสาวผู้โชคร้ายคนนี้ได้โพสต์ภาพของลูกสาวเธอลงในเฟซบุ๊ก พร้อมกับเขียนรายละเอียดเอาไว้ว่า เธอได้อนุญาตให้ลูกสาวของเธอสามารถทำไฮไลท์ผมของเธอเพื่อฉลองวันเกิด ทว่าเมื่อเธอกลับมาที่บ้านอีกทีก็ต้องพบว่าลูกสาวของเธอกลับมีผมสั้นเหมือนเด็กผู้ชายไปซะแล้ว และนี่คือผลมาจากการที่ Schaffen Frederick ผู้เป็นพ่อ และ Sarah Murray แม่เลี้ยงของ Kelsey สั่งทำโทษเนื่องมาจากการทำไฮไลท์ผมนั่นเอง “นี่คือภาพของลูกสาวฉันในตอนที่ฉันพาเธอไปส่งที่บ้านในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และอีกสองภาพคือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ซึ่งเธอบอกว่าเป็นเพราะการที่ฉันพาเธอไปทำไฮไลท์ผมเพื่อฉลองวันเกิด” ตามการรายงานจากสื่อ Fox8 ระบุว่าในตอนนี้ Colby Carroll เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐโอไฮโอ กำลังร่วมมือกับหน่วยงานช่วยเหลือเด็ก เดินหน้าสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อจะตั้งข้อหาพ่อกับแม่เลี้ยงที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ในข้อหาทารุณเด็ก โพสต์ของคุณแม่ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในเวลาอย่างรวดเร็ว โดยหลังจากที่เธอโพสต์ในวันที่ 31 มกราคมที่ 2018 จนถึงตอนนี้ก็มีผู้คนแชร์ไปแล้วกว่า 24,000 ครั้ง และดูจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมาเธอได้ออกมาบอกว่า ตอนนี้ลูกสาวของเธอได้รอยยิ้มกลับคืนมาแล้ว ด้วยการใช้วิกปกปิดผมที่รอวันให้ยาวกลับมาดังเดิมอีกครั้งหนึ่ง “ฉันต้องขอขอบคุณสาวๆ ทั้งหลายที่ร้าน Lady Jane’s ที่ทำให้ลูกสาวของฉันกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง โดยเฉพาะ Haylee…
-
เฮีย Elon ตบสมาคมโลกแบนหน้าหงาย ด้วยคลิปวิดีโอ ‘พิสูจน์โลกกลม’ เพียงแค่คลิปเดียว
ทฤษฎีที่ว่าโลกของเรามีรูปทรง “แบน” นั้น ได้พัฒนากันมาเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนาน จนกลับมามีบทบาทอีกครั้งในช่วงเวลาปัจจุบัน เนื่องจากค้นพบหลักฐานที่ทำให้สงสัยว่าโลกนั้นกลมจริงๆ หรือเปล่า และมันก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย เพราะว่าทฤษฎีโลกแบนนี้มีผู้เข้าร่วมอุดมการณ์แนวคิดดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ยิ่งมีผู้คนเชื่อมากขึ้นทฤษฎีก็ยิ่งมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นตามไปด้วย สำหรับทฤษฎีโลกแบนนั้นทุกอย่างดูมีความก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ แต่มันต้องมาชะงักเข้าก็วันนี้… นั่นก็เป็นเพราะว่า Elon Musk ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Tesla Motor และเป็นประธานผู้ก่อตั้ง SpaceX ได้ออกมาตอกย้ำความจริงเกี่ยวกับทฤษฎีโลกแบน ที่อุตส่าห์รวบรวมหลักฐานกันมาเป็นเวลานาน ด้วยคลิปวิดีโอเพียงคลิปเดียวเท่านั้น Elon Musk เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา Elon ได้ส่งจรวดตัวใหม่ของบริษัทซึ่งมีชื่อว่า Falcon Heavy ขึ้นไปโคจรรอบโลก ด้วยเหตุผลทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ แต่มันกลับทำให้เหล่าสมาชิกผู้ที่เชื่อว่าโลกแบนนั้นกลับต้องหน้าหงายกันซะอย่างนั้น… กลุ่มผู้เชื่อทฤษฎีโลกแบนนั้น นอกจากจะเชื่อว่าโลกของเรามรูปทรงแบนเหมือนจานแล้ว ยังเชื่อว่าทฤษฎีโลกกลมเป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นโดยองค์การนาซาและรัฐบาลของโลกเพื่อหลอกลวงประชาชน ภาพจำลองลักษณะของโลกแบน ถึงแม้จะไม่เห็นว่าประโยชน์ของการหลอกลวงครั้งนี้คืออะไร กลุ่มคนเชื่อทฤษฎีโลกแบนก็ยังเชื่อว่า ปัจจุบันที่เราเห็นว่าโลกกลมนั้น เป็นเพราะเราถูกหลอกโดยภาพปลอมจากจานดาวเทียมอยู่ดี อย่างไรก็ตามทฤษฎีโลกแบนก็ได้ทำการรวบรวมหลักฐานมาเป็นเวลาหลายปี จนทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมาสนใจ รวมไปถึงตัวของ Elon ซึ่งเขาต้องการที่จะติดตามทฤษฎีโลกแบนว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน!? ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน…
-
นักกอล์ฟสาวถูกคุกคาม ขู่เอาชีวิตจากกรณีใส่เสื้อโชว์ ‘เนินภูผา’ มากเกินไปในสนาม!?
นักกอล์ฟหญิง Paige Spiranac ได้ถูกคุกคาม และข่มขู่ด้วยการหมายเอาชีวิต โดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย แต่นั่นเป็นเพราะรูปลักษณ์ของเธอในฐานะนักกีฬากอล์ฟต่างหาก… เธอกล่าวว่าชื่อเสียงของเธอที่ทำให้มีผู้ติดตามใน Instagram มากมายนั้นได้กลายเป็นผลทางลบกับชีวิตเธอเข้าแล้ว “ฉันและครอบครัวถูกคุกคาม ฉันถูกขู่เอาชีวิต ผู้คนรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของฉัน เป็นแบบนี้ทุกครั้งเมื่อฉันเล่นกอล์ฟ” เธอบอกว่าที่เป็นแบบนี้ น่าจะเป็นเพราะว่าเธอไม่เหมือนนักกอล์ฟคนอื่นๆ ในเรื่องของการแต่งการกาย ซึ่งมันส่งผลให้เธอต้องเรียกร้องความเป็นธรรมของการแต่งกายในรายการแข่งขันกอล์ฟ LPGA กันเลยทีเดียว เพราะในรายการดังกล่าวการแต่งกายถูกจำกัดให้แต่งกายมิดชิด คอเสื้อกว้างและต่ำ รวมไปถึงกระโปรงและกางเกงขาสั้นทุกชนิดจะถูกห้าม เนื่องจากเป็นการเปิดเผยสรีระมากเกินไป Spiranac เป็นคนแรกที่ออกไปต่อต้านการจำกัดรูปแบบการแต่งกาย เพราะเธอบอกว่านี่เป็นสิ่งที่ก่อความลำบากให้กับนักกีฬา โดยที่เธอได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่า… “ฉันรักกีฬากอล์ฟ มันเป็นกีฬาที่ยอดเยี่ยม แต่มีหลายสิ่งที่ควรเปลี่ยนแปลง มันควรจะก้าวหน้าและเปิดกว้างกว่านี้ การที่ฉันออกไปโต้แย้งคนอาจเกลียดฉันมากขึ้น แต่มันนำมาซึ่งประเด็นเจรจาที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ฉันแค่ต้องการให้ผู้คนรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อต้องการเล่นกีฬา ฉันรู้ว่าไม่ใช่ฉันแค่คนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ ข้อจำกัดพวกนี้มันคงเป็นเหตุผลที่คนไม่ค่อยอยากมาเล่นกีฬากอล์ฟล่ะมั้ง” . . ถึงแม้ Spiranac จะเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพอยู่ แต่เธอกำลังพักช่วงกีฬากอล์ฟเอาไว้ก่อน แล้วเข้าสู่วงการสื่อบันเทิง แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ลงแข่งขัน เธอกล่าวว่าเธอก็ไม่ควรได้รับการข่มขู่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม… . . .…
-
คุณครูอาสารู้สึกผูกพันกับนักเรียนเจ้าปัญหา หลังหมดสัญญาสอน ก็รับเขาเป็นลูกบุญธรรม…
คุณครูและนักเรียนเป็นความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่งที่มีความผูกพันกันมาก เพราะคุณครูหลายคนมักจะเอ็นดูลูกศิษย์เหมือนเป็นลูกแท้ๆ และนักเรียนเองก็รู้สึกว่าคุณครูเป็นผู้มีพระคุณของเขาเช่นกัน แต่คงมีครูน้อยคนนักที่จะมีสายใยลึกซึ้งกับลูกศิษย์ อย่างคุณครูสาว Chelsea Haley เธอรู้สึกถูกชะตากับนักเรียนที่ดูแลอยู่มากๆ ถึงขนาดที่ว่ารับเขามาเป็นลูกบุญธรรมเลยล่ะ… คุณครูสาว Chelsea Hailey และ Jerome Robinson นักเรียนเจ้าปัญหาของเธอ Haley เป็นคุณครูขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Teach For America ซึ่งจะส่งอาสาสมัครไปตามโรงเรียนที่มีค่าจ้างต่ำ เพื่อช่วยเหลือด้านการสอนในโรงเรียน โดยมีเป้าหมายให้นักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน เธอถูกส่งมาสอนที่โรงเรียนระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่งในกรุงแบตันรูซ รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และที่นี่เองทำให้เธอได้พบกับนักเรียนเจ้าปัญหาชั้นเกรด 4 (เทียบเท่าป. 4) เป็นครั้งแรก และเขาก็คือหนุ่มน้อย Jerome Robinson Robinson เป็นนักเรียนที่มีปัญหามาก เขาไม่ตั้งใจเรียนและยังเคยถูกพักการเรียนด้วย ปัญหาของเขาน่าจะเกิดจากการที่ครอบครัวของเขายากจน และเพิ่งเสียคนในครอบครัวไปไม่นาน ตอนนี้เขาอาศัยอยู่ที่บ้านกับตา ยาย คุณแม่ และน้องชาย Jace เธอเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Teach For America สอนหนังสือโดยไม่แสวงหาผลกำไร Haley เข้าร่วมโครงการในปี 2013…
-
เจ้าเหมียวจรหน้ามึน กลับมายิ้มร่าได้อีกครั้ง จากความเมตตาของมนุษย์ หน้าไม่บูดแล้ว…
ไม่สำคัญว่าเราจะมีหน้าหรือรูปลักษณ์ภายนอกจะเป็นอย่างไร แต่เราทุกคนล้วนต้องการความรักและอยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกันทั้งนั้น เหล่าสัตว์ก็เช่นกัน… เจ้าเหมียวหน้ามึนวัย 6 ขวบ ถูกพบในละแวกใกล้เคียงในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา แม้จะอยู่รอดจากฤดูหนาวอันโหดร้ายมาได้ แต่มันก็ยังมีอาการป่วยและต้องการความช่วยเหลืออยู่ดี ภายหลังมันก็ถูกส่งตัวไปที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Chatons Orphelins Montréal เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก “คนแถวนั้นให้อาหารมัน แต่ไม่มีใครดูแลมันอย่างจริงจังเลยสักคน มันต้องสู้กับความหนาวเย็นในฤดูหนาวเพียงลำพัง” Celine Crom จาก Chatons Orphelins Montréal กล่าว พวกเขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า Barney และเริ่มให้การรักษาทางการแพทย์ที่จำเป็น ซึ่งหลังจากที่ตรวจสุขภาพแล้วพบว่า ความสามารถในการดมกลิ่นของมันไม่ค่อยดี และมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาด้วย นอกจากนี้มันยังมีปัญหาในการหายใจผ่านทางจมูก เพราะรูจมูกของมันเกิดการอุดตัน มีปรสิตและไรในหู ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับแมวจรจัด หูข้างหนึ่งของมันแข็งกระด้างในสภาพที่พับลง ฟันของมันหายไปสองสามซี่ และยังพบรอยแผลทั่วร่างกายที่เกิดจากการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด อย่างไรก็ตาม แม้สภาพของ Barney จะย่ำแย่แค่ไหน แต่มันทำตัวน่ารักกับทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือมัน “มันมีนิสัยที่น่ารักมาและชอบเข้าหาเราเพื่อขอความรัก” Celine กล่าว น้องแมวต้องอยู่ในคลินิกเพื่อรับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากหมอ เพราะมันเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง มันชอบร้องเมี๊ยวๆ เมื่ออยู่กับพนักงานหรืออาสาสมัคร และไม่เคยขัดขืนเวลาที่คุณหมอรักษาให้ ดวงตาของ Barney…
-
22 ความเป๊ะแบบเด๊ะๆ ช่วยสนองให้เหล่าผู้ชื่นชอบ ‘ความเพอร์เฟกต์’ สัมผัสความฟิน อ่าห์!!
ใครๆ ก็คงจะชอบความเพอร์เฟกต์ โดยเฉพาะคนเจ้าระเบียบ พวกเขาไมใช่แค่ชอบแต่จะรู้สึกฟินด้วยเวลาเห็นอะไรที่ลงตัวเป๊ะ ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม และนี่คือความเป๊ะ ทั้งตั้งใจและบังเอิญ เหล่าผู้ชอบความเพอร์เฟกต์ต้องฟินมากแน่ๆ ขนาดเราเห็นแล้วยังร้อง อ่าห์ อื้มม งื้มม เลย… 1. เป๊ะตั้งแต่ทะเล ชายหาด และต้นไม้ ผสานฉากเป็นที่เดียวกัน!! 2. อู้ววว เห็นแล้วฟิ๊นฟิน หมายถึงผู้ชายอ่ะ!! 3. เล่นเอาน้องหมางง นึกว่าส่องกระจก 4. กลมกลืนไปกับฉากหลัง 5. มนุษย์เหยี่ยว 6. ใส่ลำโพงยังไงให้ดูน่าเกรงขาม 7. “เก็บตะวัน ที่เคยส่องฟ้า…” สงสัยตั้งนานว่าไปเก็บมายังไง เจอคำตอบในภาพนี้ละ 8. ก็คนมันเป๊ะอะ 9. เหมือนเอาทะเลมาห่มอะ 10. อย่าลืมม้วนตัวกลับด้วยหละ 11. นางเงือกอาบแดดนานไปหน่อย…
-
งดงามไร้ที่ติ!! 19 ผลงานภาพถ่ายจากโดรน การันตีด้วย ‘รางวัลชนะเลิศ’ ในสาขาต่างๆ
ในโลกเรานี้เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม แต่น่าเสียดายที่หลายๆ สถานที่เราไม่มีโอกาสได้ไปเห็น หรือได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง และมีทางเลือกสัมผัสภาพถ่ายมุมสูงจากสมาคมถ่ายภาพจากโดรนแทน SkyPixel หนึ่งในสมาคมคนรักโดรนที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ได้แบ่งปันผลงานของพวกเขาให้คนทั่วโลกได้ชื่นชมความงดงามในมุมใหม่ๆ และเมื่อเร็วๆ นี้ พวกเขาได้จัดประกวดภาพทางอากาศที่ดีที่สุดแห่งปี 2017 ซึ่งผลงานของผู้ชนะในแต่ละสาขานั้น ช่างงดงามซะเหลือเกิน การประกวดในครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้บุคคล 2 กลุ่มส่งเข้าประกวด คือ ช่างภาพมืออาชีพ และ มือสมัครเล่นที่รักในการถ่ายภาพ โดยแบ่งรางวัลออกเป็น 3 สาชา คือ ภูมิทัศน์ พอร์ตเทรต และภาพบอกเล่าเรื่องราว โดยไม่รวมเข้ากับ Grand Prize ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ Above The Polar Bear โดย Florian Ledoux ผู้ชนะ Grand Prize Santa Maddalena Village In Front Of The Geisler โดย Valentin Valkov รางวัลที่ 3 สาขาภูมิทัศน์ จากกลุ่มช่างภาพมืออาชีพ…
-
สามีไต้หวันถูกยกให้เป็นฮีโร่ หลังกระโดดบังไม่ให้ลูกและภรรยารับอันตรายจากเหตุแผ่นดินไหว
ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถจะควบคุมได้ สิ่งที่จะทำได้ก็มีเพียงแค่ป้องกันตัวเอง เมื่อมีภัยต่างๆ มาเยือนเพียงเท่านั้น ซึ่งในช่วงเวลาอย่างนี้หลายคนก็คงจะหนีเอาชีวิตรอด ก่อนที่จะไปช่วยเหลือคนอื่น แต่ก็มีชายคนหนึ่งที่ยอมเสี่ยงชีวิตด้วยการเอาตัวเองไปปกป้องภรรยาพร้อมกับลูกน้อย จนกลายเป็นวิดีโอสุดประทับใจอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตในตอนนี้ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นที่เขตปกครองพิเศษไต้หวัน เมื่อคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา เมื่อมีแม่คนหนึ่งกำลังนอนกับลูกน้อยอยู่บนเตียงในบ้านหลังหนึ่ง แต่ว่าในขณะนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ถึง 6.4 แมกนิจูดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าด้วยการสั่นไหวที่รุนแรงของมัน ก็ต้องทำให้คุณแม่คนนี้ตื่นขึ้นมาอย่างแน่นอน ทันทีที่เธอรู้สึกตัว เธอก็รีบเอื้อมมือไปอุ้มลูกน้อยมาไว้อยู่ในอ้อมอกก่อนเพื่อความปลอดภัย หลังจากนั้นภาพในวิดีโอก็ได้แสดงให้เห็นว่า สามีของเธอที่กำลังทำงานอยู่อีกมุมห้องอีกแห่งหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาแล้วใช้ลำตัวเป็นเสมือนเกราะกำบังให้แม่ลูกคู่นี้ปลอดภัยในที่สุด และทันทีที่สามีคนนี้คุ้มครองภรรยาพร้อมลูกๆ ของเขาไปจนถึงเตียง กล้องที่กำลังจับภาพอยู่ก็ดับลงด้วยแรงการสั่นสะเทือน ของภัยพิบัติในครั้งนี้ ซึ่งถึงแม้จะไม่สามารถทราบได้ว่ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้บ้าง แต่ก็คาดกันว่าพวกเขาดูเหมือนจะปลอดภัยกันดี และต่อมาวิดีโอฟุตเทจนี้ก็ได้เป็นที่โด่งดังบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ซึ่งหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน รวมทั้งยังมีตึกอีกหลายตึกที่ทรุดตัวลงในเขตพื้นที่ Hualien และยังคงมีผู้คนอีกหลายคน ติดอยู่ในอาคารเหล่านี้ รวมถึงยังมีคนอีกประมาณ 60 คนที่สูญหายไป โดยในตอนนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังออกช่วยค้นหาผู้ประสบภัยในบริเวณพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติครั้งนี้อยู่ วิดีโอระทึกขวัญขณะที่สามีกำลังปกป้องภรรยาพร้อมกับลูกของเขา ที่มา:…
-
คู่รักช่วยเหลือชีวิตแมวปากแหว่งจากข้างถนนให้มีชีวิตรอดอีกครั้งด้วยความรัก
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ New Life Animal Rescue ประจำเมือง Marlton รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการติดต่อจากหญิงสาวรายหนึ่งที่ขอความช่วยเหลือให้กับลูกแมวน้อยมีอาการปากแหว่งเพดานโหว่ มันไม่สามารถกินนมได้ ทำให้มันมีขนาดตัวเล็กมากๆ และอาจจะไม่มีชีวิตรอด คู่รักที่ช่วยเหลือเจ้าแมวตัวนี้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่า พวกเขาพบเจอแมวท้องอยู่ข้างถนน จึงได้รับเจ้าแมวตัวนั้นมาเลี้ยง แต่พอมันคลอดลูกก็พบว่ามีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งมีปัญหาทางด้านสุขภาพ คือมีอาการปากแหว่งจนไม่สามารถกินอะไรได้เลย คู่รักพยายามที่จะเอานมป้อนให้มันแต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงได้ขอให้ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ให้คำแนะนำในการดูแลเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ส่งตัวมันมาที่ศูนย์ก่อนเพื่อให้ทางสัตวแพทย์ช่วยดูแล เจ้าเหมียวมีอาการปอดบวม และมีน้ำหนักที่น้อยมากๆ ทางสัตวแพทย์จึงต้องช่วยเหลือให้มันได้รับสารอาหารเพียงพอให้ร่างกายแข็งแรงก่อนถึงจะช่วยทำการรักษาในขั้นต่อไป เจ้าเหมียวต้องได้กินอาหารทุกๆ 3 ชั่วโมง รวมไปถึงป้อนยาปฏิชีวนะรักษาอาการปอดบวม โชคดีที่การรักษาเจ้าเหมียวมีผลออกมาน่าพึงพอใจ มันแข็งแรงขึ้นภายใน 2 วันครึ่ง แมวน้อยเริ่มลืมตา และโชว์ความขี้อ้อนออกมา Brea ผู้ที่ช่วยเหลือชีวิตเจ้าเหมียวบอกว่า มันชอบคลานเข้าไปในเสื้อเพื่อหาความอบอุ่นจากเธอ ตอนนี้มันอายุประมาณ 24 วันแล้ว ร่างกายแข็งแรงขึ้นตามลำดับ มีน้ำหนัก 286 กรัม และฟันซี่เล็กๆ เริ่มงอก …
-
เด็กหนุ่มซื้อภาพจากร้านขายของเก่ามา 60 บาท ก่อนจะรู้ความจริงว่ามันมีมูลค่าหลายหมื่น!!
คนที่ชอบสะสมของเก่าคงจะรู้ดีว่า บรรดาของเก่าๆ นั้น ยิ่งนับวันมูลค่าของมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า สิ่งของเหล่านั้น มันหาไม่ได้อีกแล้วในยุคปัจจุบัน คนที่ชื่นชอบ ต่างก็อยากจะเก็บสะสมไว้เป็นเพื่อคุณค่าทางจิตใจ อย่างเช่นเด็กชายคนนี้ที่เขาชื่นชอบในการสะสมของเก่าตั้งแต่อายุยังน้อย เขาใช้เวลาว่างจากการเรียนเปลี่ยนจากการเล่นกับเพื่อนๆ มาเป็นการตระเวนเข้าร้านของเก่าต่างๆ ที่อยู่ในเมือง เขาคิดว่ามันเป็นอีกหนึ่งการผจญภัยที่เขาชื่นชอบ ชีวิตของเขาถูกนำมาเปิดเผยในรายการ Antiques Roadshow เด็กชายเปิดเผยว่าเขานั้นชอบสะสมนั้นส่วนมากจะเป็นของเก่าๆ เช่นเงินสเตอร์ลิง แก้ว หรือภาพวาดศิลปะ ในรายการนี้จะเป็นรายการที่ให้นำสิ่งของมาเปิดประมูล ซึ่งในวันนี้เด็กชายนำภาพวาดศิลปะที่เขาซื้อมาในราคา 2 ดอลลาร์หรือประมาณ 60 บาทมาโชว์ในรายการ เขาบอกว่าภาพวาดนี้เขาเห็นว่ามันสวยดีจึงขอให้คุณพ่อช่วยประมูลมันมา แต่เขาคงไม่คิดว่า ภาพวาดที่เขาซื้อมานั้นจะเป็นผลงานของสุดยอดจิตกรในปี 1944 Albert Neuhuys ภาพวาดสีน้ำนี้ถูกวาดขึ้นมาบ่งบอกชีวิตครอบครัวของคนในสมัยนั้น . พิธีกรถามเด็กหนุ่มว่า “คิดว่าภาพวาดนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ในการประมูลวันนี้?” ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะประมาณ 150 เหรียญ หรือประมาณ 4,700 บาท แต่พอพิธีกรบอกความจริงว่า ภาพศิลปะเก่าๆ นั้นมีมูลค่าถึง 47,000 บาทเลยทีเดียว นั่นทำให้เขาตะลึงไปเลย…
-
นกทะเลผู้โดดเดี่ยว Nigel สิ้นใจอย่างสงบ ท่ามกลางเพื่อนนกปลอมที่ทำจากคอนกรีต
ข่าวอันน่าเศร้ากับการเสียชีวิตของนกที่ถูกขนานนามว่าเป็นนกที่เหงาที่สุดในโลก เจ้า Nigel นกทะเลตัวเดียวแห่งเกาะ Mana ชายฝั่งแนวตะวันตกของนิวซีแลนด์ สาเหตุที่มันได้รับการขนานนามว่า เป็นนกที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เจ้า Nigel นกบินมาเยือนยังเกาะ Mana แห่งนี้เพียงตัวเดียว ทั้งๆ ที่เกาะแห่งนี้ไม่มีนกทะเลอยู่เลย มีเพียงรูปปั้นนกปลอมที่เรียงรายอยู่รอบเกาะที่นักวิจัยชายฝั่งได้นำมาจัดตั้งไว้ตั้งแต่ปี 1990 เพื่อล่อให้นกตัวจริงมาอาศัยอยู่ที่นี่ นกตัวอื่นๆ เคยบินมายังเกาะแห่งนี้ แต่ทว่ามันไม่หลงกลนักวิจัย มันจึงบินหนีไป ยกเว้นเจ้า Nigel ที่เชื่อว่านกปลอมเหล่านั้นเป็นนกจริงๆ เจ้า Nigel พยายามที่จะผูกมิตร เกี้ยวพาราสีกับเหล่านกที่ทำมาจากคอนกรีตรอบเกาะ มันหลงเสน่ห์ความงามของนกเหล่านั้นจนไม่ยอมไปไหนมาตลอด 3 ปี ถึงแม้ว่านกเหล่านั้นจะไม่เคยตอบกลับมันแม้ครั้งเดียว มันจึงได้ชื่อว่าเป็นนกผู้โดดเดี่ยวที่สุดในโลก แต่เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยได้พบกับข่าวร้าย เมื่อ Ranger Chris Bell เดินไปพบซากศพของเจ้า Nigel นอนสิ้นใจอยู่ท่ามกลางเพื่อนปลอมๆ ของมัน …
-
น้องวัวหนีสุดใจ เอาชีวิตรอดจากโรงเชือด ซ่อนตัวอยู่ในป่า จนผู้คนร่วมไถ่ชีวิตคืนให้…
เจ้า Hermien วัวตัวหนึ่งจากเมือง Lettle ประเทศเนเธอแลนด์ ที่กำลังเป็นที่สนใจจากคนในโลกออนไลน์กับเหตุการณ์ที่มันพยายามจะหนีออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ตอนที่รถบรรทุกกำลังพามันและเพื่อนๆ ไปปลิดชีพ เจ้าวัวคงจะรู้ตัวว่าถ้ามันไม่หนี มันก็จะต้องถูกฆ่าเอาเนื้อมาทำอาหารแน่ๆ มันจึงใช้พลังและความคิดของมันในการหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอด มันจึงหนีออกไปพร้อมกับพี่สาวของมัน แต่น่าเสียดายที่พี่สาวของมันนั้นโดนยิงด้วยยาสลบเสียก่อน เจ้าวัวไร้ที่พึ่ง ไม่รู้จะไปทางไหนจึงได้ซ่อนตัวอยู่บริเวณชายป่า จนชาวบ้านไปเจอเข้ากับวัวที่มีป้ายชื่อติดอยู่ตรงหู จึงคิดว่ามันคงจะเป็นวัวที่หนีออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ จึงได้ช่วยกันระดมทุนเพื่อที่จะไถ่ตัวมันไว้ไม่ให้มีคนมาตามฆ่าด้วยการติดแฮชแท็ก #JeesuisHermien, #GoHermien และ #MeKoe เพื่อเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือ การช่วยเหลือเจ้าวัวในครั้งนี้ประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว เงินจำนวนกว่า 1.8 ล้านบาทถูกนำมาเพื่อช่วยเหลือเจ้า Hermien จากโรงฆ่าสัตว์ เจ้าวัวก็ปลอดภัยและไม่ต้องกลัวที่จะถูกฆ่าอีกต่อไป แต่ทว่ามันยังเลือกที่จะซ่อนตัวอยู่ในป่า และออกมาเดินเล่นตอนค่ำๆ หรือไม่ก็จนกว่ามันจะแน่ใจว่าไม่มีใครแอบซุ่มทำร้ายมัน เป็นเวลากว่า 6 สัปดาห์แล้วที่เจ้าวัวยังซ่อนตัวอยู่ในป่า Edo Hamersma สัตวแพทย์ชาวดัตช์กล่าวว่าที่เป็นแบบนี้คงเป็นเพราะว่ามันอาจจะยังฝังใจและกลัวว่ามนุษย์จะทำร้ายมันอีก สัตวแพทย์จึงลงความเห็นกันว่า ควรจะปล่อยให้มันอยู่ตามลำพังอีกสัก 2-3 อาทิตย์ก่อนที่จะพามันไปอยู่ในสถานรับเลี้ยงอย่างเหมาะสม เป็นกำลังใจให้เจ้าวัวหายวิตกกังวลและกลับมารักมนุษย์เหมือนเดิมนะ ที่มา odditycentral
-
ใครๆ ก็ชอบเลี้ยงสัตว์… ครอบครัวแบ่งพื้นที่ให้น้องเข้ ได้พักพิงอิงอาศัยมานานกว่า 20 ปีแล้ว
ถ้าพูดถึงสัตว์เลี้ยงเราก็คงจะนึกถึงการเลี้ยงสัตว์น่ารักๆ ไว้เฝ้าบ้าน หรือเล่นกับมันคลายเหงา อาจจะเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ เช่นหมา แมว กระต่าย ปลา แต่คงไม่มีใครนึกว่าจะมีคนเลี้ยงสัตว์ที่เรียกว่า ‘จระเข้’ ไว้เฝ้าบ้านหรอกนะ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วกับครอบครัวของนาย Muhammad Iwan อายุ 41 ปี ชาวอินโดนีเซีย ที่รับเลี้ยงน้องเข้ตัวนี้มาตั้งแต่ปี 1997 รวมๆ แล้วก็ 20 ปีกว่าๆ แล้ว น้องเข้ตัวนี้ชื่อว่าเจ้า Kojek เจ้าของมันเล่าว่า เขาไปเจอเจ้าจระเข้ตัวนี้ที่ชายหาดทะเลสาบ Pangandaran ตอนที่ชาวประมงกำลังแบกมันขึ้นมา ตอนนั้นมันเป็นลูกจระเข้ตัวเล็ก เขาเห็นแล้วถูกชะตาจึงขอซื้อมันมาในราคา 25,000 รูเปียห์หรือประมาณ 56 บาทเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็พาเจ้า Kojek เข้าบ้านในฐานะของสัตว์เลี้ยง ซึ่งคนในครอบครัวก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร น้องเข้ตัวนี้ก็เลยได้อยู่อาศัยร่วมกับคนในครอบครัวมาเป็นเวลา 20 ปี จากจระเข้ตัวน้อยก็กลับกลายมาเป็นจระยักษ์ไซส์บึ๊กบึ้มน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม Muhammud บอกว่าตั้งแต่เลี้ยงมาน้องไม่เคยทำร้ายเขาและคนในครอบครัวเลย…
-
สื่อนอกยกย่อง 10 “ยูนิฟอร์มแอร์โฮสเตส” สวยงามที่สุดในโลกของปีล่าสุด…
เมื่อกล่าวถึงชุดยูนิฟอร์มที่มีความโดดเด่น และสวยงาม จนทำให้ผู้พบเห็นสะดุดตา หนึ่งในนั้นคงจะหนีไม่พ้นอาชีพพนักงานต้อนรับของสายการบินต่างๆ หรือแอร์โฮสเตสอย่างแน่นอน เพราะนอกจากชุดยูนิฟอร์มจะสวยจับตาแล้ว มันยังเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้สาวๆ และหนุ่มๆ ใฝ่ฝันอยากจะเข้ามาทำงานในอาชีพนี้มากขึ้นอีกด้วย และล่าสุดทางเว็บไซต์ Confessionsofatrolleydolly ก็ได้ทำการยกย่อง 10 ชุดยูนิฟอร์มของสายการบินจากทั่วโลกที่สวยงามที่สุด ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีเครื่องแบบพนักงานต้อนรับของสายการบินไหนกันบ้าง สายการบินอลิตาเลีย (Alitalia) มาเริ่มต้นกันที่เครื่องแบบของสายการบินอลิตาเลีย (Alitalia) ที่ถูกออกแบบขึ้นมาโดย Ettore Bilotta โอต์กูตูร์ดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลีชื่อดังพร้อมกับทีมงานเกือบ 500 คนจากทั่วอิตาลี ที่ได้มาสร้างสรรค์ชุดยูนิฟอร์มให้กับทางสายการบินซึ่งไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงมายาวนานกว่า 20 ปี โดยชุดดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคทองของแฟชั่นอิตาเลียนในทศวรรษที่ 50 และ 60 อีกด้วย สำหรับเครื่องแบบนี้ได้รับการเปิดตัวเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2016 ณ งานแคทวอล์คที่จัดขึ้นที่ Nazionale Spazio Eventi ในกรุงโรม ภายในชื่อ “Alitalia Collection” สายการบินวูเอลลิง (Vueling Airlines) สำหรับสายการบินนี้ ทางลูกเรือมีบทบาทสำคัญในการออกแบบชุดเครื่องแบบของพวกเขาด้วย โดยทางทีมเจ้าหน้าที่สายการบินกว่า…
-
หนุ่มสายปั่น โพสต์ ‘ผู้หญิงสนใจเรื่องกีฬา เพื่อให้ตัวเองดูเท่’ เจอคนลองภูมิบ้างเหวอเลย
ถ้าอยากจะดูเท่และอินเทรนด์ในสายตาคนอื่น การโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนั้นก็ช่วยคุณได้ไม่น้อยเลย แต่ถ้าอยากแค่เกาะกระแสโพสต์ไปแบบไม่มีความรู้ก็ระวังหน้าแตกเหมือนหนุ่มคนนี้ล่ะ ช่วงนี้เป็นฤดูแข่งขันอเมริกันฟุตบอล Super Bowl จึงมีคนให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากมาย ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อ ETHAN ก็อยากดูเจ๋งและติดเทรนด์กับเขาบ้าง ก็เลยทวีตถึงการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลกึ่งดูถูกผู้หญิงด้วย ทวีตของ ETHAN เขาทวีตว่า “ผมล่ะเกลียดพวกผู้หญิงที่แกล้งทำเป็นรู้ดีเรื่องอเมริกันฟุตบอลเพื่อให้ดูเจ๋งจริงๆ การที่พวกเธอทำแบบนั้นมันดูโคตรโง่เลย” หนุ่ม Alexander Romero บังเอิญว่าทวีตของ ETHAN ก็ไปเตะตาหนุ่มวัย 19 ปี Alexander Romero จากเกาะลองไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเข้า จริงๆ แล้ว Romero ไม่ได้รู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัวเลย เพียงแค่ผ่านมาเห็นทวีตนี้เท่านั้นเอง เขาบอกว่า “ผมเห็นทวีตงี่เง่านี่แล้วก็รู้สึกขำมาก เพราะผมเห็นคนแบบนี้มาเยอะแล้ว พวกเขาทำเหมือนกับว่ารู้จักอเมริกันฟุตบอลดี ทั้งที่จริงๆ แล้วพวกเขากลับไม่มีความรู้เหมือนที่ตัวเองพูดไว้” Alexander Romero ไปตอบทวีตของ ETHAN ที่เขียนว่า “การแข่งขันนี่มันดุเดือดมากจริงๆ #superbowl” เขาจึงอยากลองภูมิ ETHAN เล่นๆ โดยการเข้าไปคอมเม้นต์ทวีตที่…
-
แมวเหมียว 24 นิ้วเท้าโหยหาความอบอุ่น อ้อนอาสาสมัครให้กอดไม่ยอมปล่อยเลย งุ้ยยย
แมวแต่ละคนตัวเกิดมามีลักษณะไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นขนาดตัว สีขน และลักษณะนิสัย แต่พวกมันทุกตัวก็ต้องการความรักทั้งนั้น เจ้า Chubbles ก็เป็นแมวตัวหนึ่งที่ต้องการคนดูแลเช่นกัน และมันมีบางอย่างที่พิเศษกว่าแมวปกติทั่วไปด้วย เจ้าเหมียวตัวนี้น่ะมีนิ้วเท้าตั้ง 24 นิ้วแน่ะ! น้องเหมียว Chibbles แมวขี้อ้อน 24 นิ้วเท้า เหมียว Chubbles ถูกส่งมาอยู่ที่สถานพักพิงสัตว์ Genesee County Animals ที่ิอยู่ในเมืองฟลินต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา มันมีอายุประมาณ 7-10 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีนิสัยขี้อ้อนมาก สิ่งที่มันแตกต่างกับแมวตัวอื่นอย่างเห็นได้ชัดก็คือนิ้วเท้าของมันนั่นเอง เพราะว่าเท้าหน้าแต่ละข้างของมันมีนิ้วเท้าถึง 7 นิ้ว และเท้าหลังแต่ละข้างก็มีนิ้วเท้า 5 นิ้ว อุ้มเค้าอย่างนั้นแหละ รู้สึกดีจังเลย อาสาสมัครที่อยู่ที่นั่นอธิบายว่า “มันเป็นแมวนิสัยน่ารักที่ชอบให้คนอุ้ม แต่มันมีนิ้วเท้าตั้ง 24 นิ้วแน่ะ แมวทั่วไปน่ะมีนิ้วเท้าแค่ 18 นิ้วเท่านั้นเอง“ เจ้าเหมียวไม่ได้เป็นแมวตัวแรกที่มีนิ้วเท้าเยอะแต่อย่างใด แต่แมวที่มีนิ้วเท้ามากกว่าปกติก็ยังคงพบเห็นได้ยากอยู่ดี ตามสถิติโลกที่บันทึกในปี 2002 แล้วก็เคยมีแมวเหมียว Jake ที่มีนิ้วเท้ามากถึงข้างละ…
-
ลุงทำบัตรปชช. หาย กลายเป็น ‘คนไร้บ้าน’ ได้รับความช่วยเหลือจนกลับมายืนได้อีกครั้ง!
การโจรกรรมตัวตนนั้นไม่ใช่เรื่องตลกแม้แต่นิดเดียว ซึ่งในบางกรณี โจรพวกนี้อาจไม่ได้ขโมยแค่เงินของคุณ พวกเขายังสามารถขโมยทั้งชีวิตคุณไปได้อีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับ John Helinski จากเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาค้นพบว่าบัตรประจำตัวประชาชนของตัวเองถูกขโมย เขาไม่รู้ว่าจะไปขอความช่วยเหลือที่ไหน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพลเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ว่าเขานั้นเกิดในประเทศโปแลนด์ และเขาไม่มีใบสูติบัตรเพื่อยืนยันตัวตน เมื่อเงินของเขาถูกโจรกรรมไปจนหมด เขาจึงถูกบังคับให้ออกจากบ้าน ไม่มีที่อยู่อาศัย เขาเลยกลายเป็นคนไร้บ้าน ต้องนอนในกล่องกระดาษใต้ม้านั่งบนถนนแทมปาเป็นเวลากว่า 3 ปี อย่างโดดเดี่ยว ถูกลืมโดยสิ้นเชิงและไม่มีตัวตน วันหนึ่งในปี 2015 John ได้ตัดสินใจเข้าไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือคนไร้บ้านที่เพิ่งก่อตั้งชื่อว่า Community Housing Solutions Center ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าการที่เขาเดินเข้าประตูนั้นไปจะเป็นก้าวแรกที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปในทางที่ดีขึ้น เขาได้รับการช่วยเหลือโดย Charles Inman นักสังคมสงเคราะห์ที่พยายามช่วยเขาอย่างเต็มที่ในการหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาและทำไมเขาถึงกลายเป็นคนไร้บ้าน “เขาจำเป็นต้องมีบัตรประชาชน แต่พวกเราไม่สามารถทำให้เขาใหม่ได้หากไม่มีใบสูติบัตรเพื่อยืนยัน” Charles อธิบาย แต่เขาไม่ยอมแพ้ให้ John ต้องกลับไปอยู่ข้างถนน เขากล่าวว่า “ผมไม่มีตัวเลือกนอกจากการทำให้สำเร็จ” Charles ยังได้รับความช่วยเหลือจาก Dan McDonald ตำรวจจากสำนักงานตำรวจแทมปา…
-
เด็กหญิงวัย 11 ให้กำเนิดลูกของพี่ชายวัย 14 ไม่ผิดกฎหมายสเปนเพราะยังไม่บรรลุนิติภาวะ
เป็นเรื่องราวที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากเมื่อเด็กหญิงวัย 11 ปี ให้กำเนิดบุตรชาย ที่มีพ่อเป็นพี่ชายวัย 14 ปีของเธอเอง ณ เมืองมูร์เซียทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เด็กหญิงคนหนึ่งได้เข้าไปยังโรงพยาบาล Virgen de la Arrixaca เพื่อขอให้รักษาอาการ “ปวดท้อง” ของเธอ แต่สุดท้ายผลปรากฏว่าเธอกลับคลอดเด็กชายออกมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนข้อเท็จจริงและพบว่า พ่อของเด็กก็คือพี่ชายของเธอเอง โดยมารดาของทั้งคู่นั้นเป็นชาวโบลิเวียที่อพยพเข้ามานั่นเอง ข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเผยออกมาว่า ฝ่ายพี่ชายนั้นมีอายุเพียง 13 ปีขณะที่ เธอตั้งครรภ์ ฉะนั้น ทั้งคู่จึง “ไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ” เนื่องจากมีอายุต่ำกว่าที่กฎหมายของสเปนครอบคลุม ส่วนคุณแม่วัย 11 ปี กับบุตรชายของเธอถือว่ามีอาการปกติดี รายงานท้องถิ่นกล่าวว่า ขณะที่เด็กหญิงและพ่อแม่ตัดสินใจไปโรงพยาบาลนั้นพวกเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องการตั้งครรภ์เลย คิดเพียงแค่ว่าน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ที่ทำให้ปวดท้องมากเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ผลการตรวจ DNA ก็ได้ยืนยันคำกล่าวของครอบครัวที่ว่าพ่อของเด็กก็คือฝ่ายพี่ชายวัย 14 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ Manuel Villegas หัวหน้าเจ้าหน้าที่งานสุขภาพของภูมิภาคได้ออกมาอธิบายว่า “เรื่องนี้เป็นคดีที่พิเศษ พวกเราทำได้เพียงแค่รอเท่านั้น เมื่อการสืบสวนทำให้สิ่งต่างๆ กระจ่างขึ้นเราถึงจะรู้ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง และควรช่วยเหลืออย่างไร”…
-
หนุ่มเมาแล้วซิ่งแลมโบฯ ปาดเข้าใต้ท้องรถเทรลเลอร์ ไม่เป็นอะไรซักแอะ!?
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อหากจะบอกว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้มีผู้คนเสียชีวิตเกิดขึ้นอย่างมากมาย(โดยเฉพาะในบ้านเรา) ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นส่วนหนึ่งก็มาจากความประมาท หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แล้วขับรถอย่างไม่มีสตินั่นเอง แต่คงไม่ใช่กับเหตุการณ์ของชายคนนี้ ที่ขับรถสปอร์ตสุดหรูพุ่งมุดเข้าไปใต้รถบ้านแบบต่อพ่วง ชนิดที่เรียกได้ว่าพังยับเยิน แต่กลับเดินออกมาแบบไม่เป็นอะไรสักนิด แถมคนที่นั่งกับเขาไปด้วยก็ไม่เป็นอะไรเช่นกัน แถมยังได้กลับบ้านแบบงงๆ อีกด้วย ขอมุดซะหน่อย โดยเหตุการณ์ชวนงงนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 2.10 น. ของคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา เมื่อรถยนต์ Lamborghini สุดหรู รุ่น Gallardo Superleggera สีเขียวมะนาวของนาย Cesar Castro Rodriguez เกิดนึกสนุกมุดไปอยู่ใต้ท้องรถเทรลเลอร์ จากฤทธิ์แอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับ สภาพเละแบบซื้อใหม่ยังง่ายกว่า เมื่อทางตำรวจรู้ถึงอุบัติเหตุครั้งนี้ จึงได้เร่งเข้ามาตรวจสอบ แต่ก็พบว่านาย Cesar ในตอนนั้นไม่มีร่องรอยความบาดเจ็บใดๆ เกิดขึ้นบนร่างกายของเขาเลย หนำซ้ำในตอนที่ตำรวจไปถึงเขายังไปนั่งอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของรถ เพื่อดูแลเพื่อนร่วมทางวัย 25 ปีของเขาด้วย นาย Cesar เจ้าของรถคันงามนี้ ทว่าเมื่อตำรวจเผลอมองไปทางอื่นแป๊บเดียว เพื่อนร่วมทางของนาย Cesar ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ก่อนที่ทางตำรวจจะพบเขาอีกทีอยู่ที่บ้านของเขาในย่านเวสต์มินสเตอร์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางตำรวจก็ไม่ระบุว่าผู้โดยสารคนนี้เดินทางกลับไปยังบ้านได้อย่างไรด้วย…
-
ช่างภาพใจกล้า ที่จะพาคุณแอบเข้าไปชม ‘กระสวยอวกาศ’ ยุคสงครามเย็นของโซเวียตที่ถูกทิ้งร้างมากว่า 30 ปี
หลายคนคิดว่าสถานที่รกร้างนั้นมักจะเต็มไปด้วยความลึกลับและน่ากลัว โดยที่ไม่มีใครเข้าไปสัมผัสหรือค้นหาจริงๆ เลยว่าข้างในสถานที่รกร้างนั้นๆ จะมีอะไรซ่อนอยู่ ผิดกับช่างภาพคนนี้ David de Rueda ที่พกความกล้ามาอย่างเต็มเปี่ยมในการแอบเข้าไปสำรวจพื้นที่ที่ถูก “ทิ้งร้าง” เช่น สถานีเรดาร์ โรงผลิตพลังงานไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้แต่เศษซากยานอวกาศของโซเวียต และสิ่งที่ David พบก็คือ กระสวยอวกาศ 2 ชิ้นที่เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Buran (ภาษารัสเซียแปลว่าพายุหิมะ) มันตั้งอยู่ในศูนย์ปล่อยอวกาศยานไบโคนูร์ ในคาซัคสถาน มันถูกทิ้งร้างมากว่า 30 ปีแล้ว แต่เมื่อ David ค้นพบแหล่งเก็บกระสวยอวกาศในปี 2015 เขาได้เพลิดเพลินกับการสำรวจมันในทุกซอกทุกมุม David กล่าวว่า “การมาสำรวจครั้งแรกของเขานั้นเขาคิดว่าเขาอาจจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็มาอีกจนได้ เพื่อที่จะมาสำรวจโรงเก็บกระสวยอีกแห่ง ที่ที่เก็บกระสวยรุ่นทดลอง Energia-M เอาไว้” จากคำกล่าวของ David ที่ว่า “สิ่งก่อสร้างที่ถูกทิ้งร้างแบบนี้มันเป็นการผจญภัยที่ไม่สิ้นสุดจริงๆ” พวกเราก็อย่ารอช้า ไปชมภาพถ่ายที่เขาเก็บมาฝากกันเลยดีกว่า… แค่การเดินทางเข้าไปในโรงเก็บกระสวยมันก็เป็นเหมือนการผจญภัยในตัวมันเองอยู่แล้ว เพราะนอกจากระยะทางไกลแล้วยังต้องเดินฝ่าพื้นที่ต้องห้ามอีกด้วย โรงเก็บกระสวยนั้นอยู่ใกล้กับสถานที่ที่มีผู้คนจึงต้องระวัง แถมการใช้ชีวิตหลบซ่อนในทุ่งหญ้า Kazakh Steppe นั้นแสนหฤโหดในฤดูหนาว …
-
เจ้าหน้าที่จับแก๊งลักลอบล่าสัตว์ เชื่อเป็นการล่าเสือและหมีครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์
สัตว์ป่าเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความสมดุลให้กับโลกใบนี้ แต่ก็ด้วยความสนุก ความโลภ หรือว่าความเชื่อบางอย่างก็ทำให้มนุษย์ผู้ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ ต่างก็ทำร้ายสัตว์เหล่านี้เพื่อจุดประสงค์บางประการ และเมื่อไม่นานมานี้ ก็มีข่าวที่ทำให้เราต้องเศร้าสลดหดหู่ใจขึ้นไปอีก เมื่อทางการชายแดนประเทศจีนได้เข้าทำการจับกุมขบวนการลักลอบค้าสัตว์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการลักลอบขนอวัยวะของสัตว์อย่าง เสือและหมี ครั้งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์เลยทีเดียว!! โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้รับการเปิดเผยในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงกลางของประเทศรัสเซีย(FSB) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้เข้าทำการจับกุมผู้ลักลอบล่าสัตว์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานเป็นซากสัตว์ป่าต่างๆ นับร้อยชิ้น พร้อมทั้งปืนไรเฟิลล่าสัตว์ Saiga ด้วย การจับกุมครั้งเกิดขึ้นขณะที่พวกนักลักลอบกำลังเดินข้ามทะเลสาบน้ำแข็ง Khanka จากประเทศรัสเซียเพื่อจะเข้ามายังประเทศจีน และหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าค้นรถลากของพวกเขาในเวลาต่อมา ซึ่งสิ่งที่พบก็ทำให้ต้องผงะ เพราะว่าพวกเขาได้พบหนังของเสือโคร่งไซบีเรีย ที่เป็นสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์จำนวน 5 ผืน พร้อมทั้งอุ้งเท้าของหมีสีน้ำตาลและหมีควายรวมกันถึง 867 ชิ้นอยู่ในรถลากคันดังกล่าว นอกจากนี้ก็ยังมีกรงเล็บ อวัยวะภายใน หาง และอวัยวะเพศของกวางชนิดต่างๆ รวมถึงไขมันและอวัยวะต่างๆ ของกบอีกหลายสิบกิโลกรัมอีกด้วย ซึ่งสาเหตุที่มีการลักลอบแบบนี้เกิดขึ้นก็เพราะว่า ในประเทศจีนมีความนิยมการทานอุ้งเท้าหมีเป็นอย่างมาก โดยมีความเชื่อว่าอุ้งเท้าหมีจะเป็นยาอายุวัฒนะ รวมถึงยังสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ จึงทำให้ราคาอุ้งเท้าหมีพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมากนั่นเอง สำหรับอาชญากรกลุ่มนี้…
-
‘หนูอยากตาย’ คุณแม่หัวใจสลาย เมื่อพบกับโน้ตใต้เตียงลูกสาว เพราะถูกรังแกบ่อยครั้ง
Naomi O’Neill คุณแม่วัย 28 ปี จากเมืองลิเวอร์พูลประเทศอังกฤษ แทบใจสลายเมื่อวันหนึ่งเธอพบเจอกระดาษโน้ตของลูกสาววัย 8 ปี Millie ที่เขียนว่า “หนูอยากตาย” Naomi กล่าวว่าขณะที่เธอเข้าไปเก็บที่นอนให้ลูกสาว เธอก็พบกระดาษโน้ตใบหนึ่งที่ปลายเตียง ในกระดาษเขียนด้วยลายมือที่เร่งรีบเหมือนตื่นตระหนก น่าจะเป็นเพราะว่า Millie ไม่อยากไปโรงเรียนอีก Naomi พบว่าลูกสาวของตนเองถูกรังแกมาร่วมสัปดาห์ และทราบอีกว่ามีนักเรียนคนหนึ่งขู่ Millie ว่าจะ “ฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว” ของเธอ Naomi ต้องการให้ Millie ย้ายโรงเรียน เพราะเธอมีอาการหวาดกลัวการไปโรงเรียน อีกทั้งยังพยายามทำร้ายตัวเองหากไม่ยอมให้เธออยู่บ้าน นอกจากนี้ Millie ยังไม่ยอมทานข้าว ไม่ยอมแต่งตัวแบบที่เคยแต่ง เพราะอยากเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเอง ในกระดาษโน้ตที่ Millie เขียน มีใจความว่า “หนูเสียใจเพราะว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่พวกเขาเอาแต่แกล้งหนูแบบนี้ ไม่ควรมีเด็กคนไหนควรถูกกลั่นแกล้งจนรู้สึกแบบนี้ มันทำให้หนูเสียใจ และไม่เหมือนเดิม ไม่สำคัญ โมโห โง่ และก็เจ็บปวด” “มีอีกหลายอย่างที่พวกเขาทำ แต่หนูไม่อยากเขียนออกมา” ส่วนอีกด้านหนึ่งของกระดาษเขียนว่า…
-
ชายตาบอดกับโรคกลัวสุนัข ได้รับม้านำทางเป็นคนแรกของอังกฤษ ช่วยในการใช้ชีวิตประจำวัน
สำหรับผู้พิการทางสายตาหรือตาบอดนั้น ชีวิตประจำวันของพวกเขาก็จำเป็นจะต้องมีสิ่งนำทางเพื่อที่จะไปไหนมาไหน ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเราก็อาจจะเคยเห็นการใช้สัตว์อย่าง หมา เป็นสิ่งนำทางให้แก่คนตาบอดทั้งหลาย แต่ถ้าคนตาบอดเกิดเป็นโรคกลัวหมาขึ้นมาก็คงจะแย่ และอาจต้องใช้วิธีแก้ปัญหาเหมือนกับชายคนนี้ ที่ใช้ม้าแคระสำหรับการนำทางเป็นคนแรกแห่งเกาะอังกฤษ!! โดยชายผู้พิการทางสายตาผู้ที่ว่านี้มีชื่อว่า Mohammed Salim Patel จากเมืองแบล็กเบิร์น ประเทศอังกฤษ ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่ใช้ม้าแคระสายพันธุ์ American Miniature Horse ชื่อว่า Digby วัย 8 เดือนเพื่อช่วยในการใช้ชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป ชายวัย 23 ปีคนนี้เป็นผู้ที่ประสบปัญหาทางด้านสายตาจากโรคจอตามีสารสี(Retinitis Pigmentosa) ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางพันธุกรรม ที่จะไปสกัดกั้นเซลล์ในเนื้อเยื่อด้านหลังดวงตา และทำให้เขาตาบอดในที่สุด “ตอนที่ผมสูญเสียการมองเห็นไป ผมรู้ว่าต้องมีอะไรสักอย่างใช้นำทาง แต่ผมก็ค่อนข้างแตกต่างจากคนตาบอดทั่วๆ ไปที่ใช้หมานำทาง ก็เพราะว่าผมกลัวหมามากๆ เลยน่ะสิ มันจึงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผมทีเดียว ที่ได้รู้ว่ามีม้าที่สามารถฝึกใช้นำทางได้” “มันคงต้องผ่านการฝึกสัก 2-3 ปีก่อนที่จะมาอยู่กับผม มันเป็นเรื่องที่น่าดีใจสำหรับผมจริงๆ” Patel กล่าว โดยในตอนนี้เจ้า Digby ก็ได้อาศัยอยู่ที่ นอร์ทยอกเชอร์ ร่วมกับผู้ฝึกสอนม้าชื่อว่า Katy Smith และเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา…
-
ช่างภาพบังเอิญถ่ายรูป “หญิงสาวคลอดลูก” ในทางเดินโรงบาลพอดี เกิดเป็นชุดภาพสุดประทับใจ…
(คำเตือน: ในบทความอาจมีภาพหรือเนื้อหาที่ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม) เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อช่างภาพคนหนึ่งนามว่า Tammy Karin ได้บังเอิญไปพบคุณแม่ชาวเมืองแคนซัสที่ชื่อว่า Jes Hogan บนทางเดินระหว่างห้องฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่คุณแม่ Jes กำลังจะคลอดลูกพอดี ขณะที่คุณแม่ Jes อยู่ที่บ้านก็เกิดรู้สึกว่ามดลูกหดตัวรุนแรง เธอคิดว่าเธอจะต้องคลอดแน่ๆ จึงรีบให้คุณพ่อ Travis รีบขับรถพาไปโรงพยาบาลโดยด่วน คุณพ่อไม่รอช้าคว้าพวงมาลัยได้จึงมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วพร้อมกับบีบแตรเพื่อขอทางไปด้วย เมื่อถึงโรงพยาบาลทารกน้อยชื่อว่า Max ก็เหมือนกับว่าอยากออกมาดูโลกเต็มที จึงทำให้คุณแม่ Jes ถึงกับต้องคลอดออกมาขณะนั้น แต่กลับไม่มีใครเข้ามาช่วยเธอเลยมีเพียง Tammy ช่างภาพที่เห็นเหตุการณ์ ที่ช่วยรีบไปแจ้งทางโรงพยาบาลว่ามีผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามา ทารกกำลังออกมา เธอรีบบอกให้สามีของเธอรีบเข้ามาช่วย “เขาออกมาแล้ว” Jes กล่าว “ฉันต้องถอดกางเกงออกเพราะฉันรู้สึกว่าร่างกายฉันดันหัวทารกออกมาแล้ว ฉันจึงรีบบอกสามีว่า ‘Travis จับไว้เร็ว!’ จากนั้นร่างกายฉันก็ดันตัวทารกออกมาแบบที่ไม่สามารถควบคุมได้เลย” เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นบนทางเดินระหว่างห้องฉุกเฉิน Tammy ซึ่งได้ตามนางพยาบาลมาได้ทันเวลาจึงได้เก็บภาพเหตุการณ์เอาไว้ จนกระทั่งเจ้าหนู Max ออกมาเผชิญกับโลกอย่างเต็มตัว เวลาราวตี 3 พยาบาลก็มาถึงและเห็นเหตุการณ์นี้พอดี ร่างกายของ Jes ผลักดันตัวทารกออกมาอย่างควบคุมไม่ได้…
-
ภาพเก่าเล่าใหม่ ศิลปินทำภาพเก่าแก่อายุ 100 ปีให้กลับมามีสีสัน ย้ำเตือนถึงเหตุการณ์ประท้วงเรียกร้องสิทธิสตรี
เนื่องจากวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานั้น เป็นเครื่องย้ำเตือนให้นึกถึงภาพเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นในวันเดียวกันนี้แต่เป็นในปี 1918 ที่สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ได้ยินยอมให้หญิงที่มีอายุเกิน 30 ปี มีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง Tom Marshall ช่างภาพคนหนึ่งที่ชื่นชอบในประวัติศาสตร์จึงต้องการแสดงให้เห็นถึงความพยายามและความยากลำบากของสตรีในการเรียกร้องสิทธิของตนท่ามกลางสังคมที่มีการแบ่งแยกเพศ Tom ได้นำภาพเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์กว่า 100 ปีเหล่านั้นมาเติมสีสันให้มีชีวิตชีวามากขึ้น เพื่อเตือนใจคนยุคปัจจุบันและทำให้สังคมปัจจุบันไม่มีการแบ่งแยกเพศหรือชนชั้นอีก Millicent Fawcett (1847-1929) – ผู้รณรงค์ด้วยสันติภาพ Millicent Fawcett เป็นผู้ที่รณรงค์ให้สตรีมีสิทธิเข้าถึงการศึกษา เธอก่อตั้งสมาคมสิทธิสตรี (NUWSS) ขึ้นมาเพื่อทำการรวบรวมกำลังสตรีให้ดำเนินการรณรงค์ด้วยวิธีสันติเช่น การเขียนจดหมาย แจกจ่ายใบปลิว และนิตยสาร ที่มีเนื้อหาเป็นการเรียกร้องสิทธิของสตรี แต่ก็มีสมาชิกของกลุ่มบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีที่อ่อนโยนของ Fawcett ในปี 1903 Emmeline Pankhurst จึงแยกตัวจากกลุ่ม NUWSS แล้วก่อตั้งสหพันกฎหมายและสังคมของสตรี (WSPU) โดยมีคติประจำกลุ่มก็คือ “สิ่งที่สำคัญคือการกระทำ ไม่ใช่คำพูด” Emmeline Pankhurst ถูกจับกุมขณะพยายามที่จะแสดงตนร้องทุกข์กับพระเจ้าจอร์จที่ 5 ในเดือนพฤษภาคม ปี…
-
ครอบครัวยอมสละทุกสิ่ง เพื่อดูแลสุนัขจรจัดทั้งหมด 3,000 ตัว ให้พวกมันได้มีชีวิตที่ดี
ถ้าเกิดคุณเป็นคนรักสัตว์มากๆ แล้วเกิดมีสุนัขตัวหนึ่งบาดเจ็บ คุณพร้อมที่จะสละเงินจำนวนหนึ่งมาช่วยมันไหม ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดมันมีมากถึง 3,000 ตัวละ คุณจะยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อแลกกับความสุขอันยิ่งใหญ่ของพวกมันไหม คุณอาจจะคิดว่ามันไม่มีหรอกคนที่จะทำแบบนั้น ขนาดคนที่เลี้ยงไว้ 100 หรือ 500 ตัวยังลำบาก จำนวนขนาดนั้นพวกเขาจะดูแลทั่วถึงได้อย่างไร? ถ้าคุณกำลังคิดแบบนัั้นอยู่ละก็ คุณต้องคิดใหม่แล้วเพราะครอบครัวชาวไต้หวันผู้เป็นเจ้าของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Mrs. Hsu’s Sanctuary ที่ก่อตั้งเมื่อ 5 ปีก่อนสามารถทำได้ พูดไปมันอาจจะดูเหมือนง่ายนะ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ง่ายเลยแถมยังเริ่มยากขึ้นอีกต่างหาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ประเทศไต้หวันเพิ่งจะมีแบนการการุณยฆาต ทำให้จากเดิมที่สัตว์ในศูนย์ช่วยเหลือมีสุนัขอยู่ในการช่วยเหลือกว่า 3,000 อยู่แล้วนั้น ตอนนี้พวกมันกลับเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เพราะกฎหมายดังกล่าว . อย่างไรก็ตามทางศูนย์ก็ไม่ได้ยอมแพ้แต่อย่างใด พวกเขายังคงช่วยกันดูแลเจ้าตูบทั้งหมดต่อไปด้วยวิธีต่างๆ นานา ทั้งการทำหมัน และทำวีลแชร์ราคาถูกให้พวกมัน นอกจากนี้แม้ว่าศูนย์นี้จะเริ่มต้นจากการเป็นกิจการของครอบครัว Hsu แต่ใช่ว่าจะมีแต่คนในครอบครัวหรอกนะที่มาดูแลพวกมัน เพราะว่าอาสาสมัครมากมายต่างพาสมัครเข้ามาช่วยเหลือศูนย์แห่งนี้ด้วยจุดประสงค์คล้ายกันคือ พวกเขารักสุนัข ยกตัวอย่างเช่น Angel Wang อาสาสมัครที่เข้ามาเป็นส่วนร่วมที่ศูนย์แห่งนี้เมื่อ 4 ปีก่อนด้วยเหตุผลเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เธอใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ศูนย์เพื่อดูแลสุนัข…
-
น้องเหมียวใจงาม นำทางมนุษย์ผู้ขับรถหลงทาง มืดแปดด้านเพราะ GPS จอว่างเปล่า…
คนรักแมวมากมายพยายามจะให้เหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงรักแมว บางคนบอกรักแมวเพราะความขี้อ้อนของพวกมัน ในขณะที่บางบอกว่าแมวคือเพื่อนที่มีความหมายกับชีวิต เพราะแบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมผู้คนถึงยอมเป็นทาสแมวกันนัก แต่สำหรับผู้ใช้ทวิตเตอร์ @zc31s_Monster จากประเทศญี่ปุ่น เขามีประสบการณ์กับแมวที่น่าประทับใจกว่าที่หลายคนเคยเจอ ขณะที่ขับรถฝ่าความมืดในป่า 山の中探検してたら猫が道案内してくれた? このあと無事に国道まで出れた? pic.twitter.com/7y44ZJ7EMl — りゅうちゃん@モンエナスイスポ (@zc31s_Monster) 5 กุมภาพันธ์ 2561 ดูคลิปไม่ได้คลิ๊กที่นี่ @zc31s_Monster เล่าว่าคืนหนึ่งเขากับเพื่อนได้ขับรถไปตามถนนเล็กๆ ที่ไม่ใช่เส้นทางหลัก แต่แทนที่จะเป็นเหมือนทางทั่วๆ ไป มันกลับเป็นถนนลูกรังที่พวกเขาไม่คุ้น และแม้จะมี GPS แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่โชคดีที่อยู่ดีๆ ก็มีแมวจรจัดตัวหนึ่งโผล่มา ไม่ได้แค่มาทักทาย แต่มันได้นำทาง @zc31s_Monster กับเพื่อนกลับไปยังเส้นทางหลัก หลายคนคิดว่าแมวตัวนี้แค่วิ่งหนีรถเท่านั้น แต่ลองดูดีๆ สิ มันยังหันมามองเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่ารถของ @zc31s_Monster ยังตามมันทันอยู่ นอกจากนี้มันไม่ได้หลบหนีเข้าป่าด้วย ทั้งที่หนีไปได้ ซึ่งระหว่างที่นำทางนั้น มันหยุดพัก 2 ครั้ง ก่อนจะนำรถมนุษย์ไปตามทางลูกรัง ท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงไฟจากหน้ารถเท่านั้น พักแป๊บนะ …
-
กุ้งเครย์ฟิชเพศเมียพัฒนาไปอีกขั้น เมื่อพวกมันสามารถ “โคลนนิ่งตัวเอง” ได้ตามธรรมชาติ!?
หลายคนที่อ่านแล้วอาจจะงงว่า ห๊ะ!? การโคลนนิ่งมันทำได้ตามธรรมชาติด้วยเหรอ แล้วมันเป็นไปได้ยังไงกัน…ซึ่ง คำตอบก็คือมันเป็นไปได้ และมันเป็นไปแล้วจริงๆ แรกเริ่มเดิมทีรูปแบบการโคลนนิ่งของกุ้งเครย์ฟิชสายพันธุ์ที่ชื่อว่า Marmorkrebs นั้นถูกค้นพบเมื่อปี 1995 ซึ่งนั่นทำให้มันสามารถขยายพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว จนเวลาต่อมาพวกมันกลายเป็นปัญหาที่หนักมากๆ โดยมันเริ่มระบาดจากประเทศเยอรมนี จากนั้นก็ลามไปทั่วยุโรปและแอฟริกา และด้วยปัญหาดังกล่าวทำให้นักอนุรักษ์ออกมาแบนเจ้ากุ้งสายพันธุ์นี้เด็ดขาด โดยห้ามซื้อขาย ห้ามเลี้ยงดูและที่สำคัญห้ามปล่อยลงแม่น้ำตามธรรมชาติเด็ดขาด!! อย่างไรก็ตาม แม้เราจะเรียกว่ามันเป็นการโคลนนิ่งเพราะมันมียีนส์เหมือนแม่ทุกประการ แต่จริงๆ มันก็คือการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติอย่างหนึ่งของกุ้งเครย์ฟิชโดยไม่จำเป็นจะต้องพึ่งตัวผู้ แต่พวกมันก็ยังสามารถจะออกไข่ได้ด้วยตัวเอง แถมลูกที่ออกมาก็จะเหมือนกับตัวมันทุกประการ นอกจากนี้นักวิทย์ยังได้ยกตัวอย่างอีกว่า กุ้งเครย์ฟิชนั้นไม่ใช่สัตว์เพียงชนิดเดียวที่มีความสามารถในการออกลูกแบบนี้ โดยยังมี ฉลามหัวค้อน, แมลงสาบ , เพลี้ยอ่อน, แมงกระพรุน, จิ้งเหลนหางแส้, ตัวต่อ และมังกรโคโมโดก็สามารถทำได้เช่นกัน แม้ว่าเจ้ากุ้งสายพันธุ์นี้จะถูกห้ามให้เพาะเลี้ยง จำหน่ายหรือปล่อยกลับธรรมชาติในปัจจุบันก็ตาม แต่ดูเหมือนมันจะสายเกินไปเสียแล้ว เพราะตอนนี้ประเทศมาดากัสการ์กำลังประสบปัญหาจำนวนกุ้งเครย์ฟิชที่มีมากเกินไป ซึ่งนั่นทำให้พวกมันกลายเป็นตัวการสำคัญในการทำลายระบบนิเวศน้ำจืดในเกาะ สุดท้ายแล้ว แม้ว่ามันดูเหมือนจะสร้างแต่ปัญหา แต่ความจริงมันก็มีประโยชน์เช่นกัน เพราะ Dr Frank Lyko หัวหน้าทีมวิจัยโรคมะเร็งจากประเทศเยอรมนีได้บอกว่าพวกเขาอยากจะใช้กุ้งพวกนี้มาเป็นตัวศึกษาเกี่ยวกับเนื้องอกนั่นเอง… ภาพของเหล่ากุ้งเครย์ฟิชที่ถูกจับได้จำนวนมาก ซึ่งทีมวิจัยพิสูจน์แล้วว่าพวกมันทั้งหมดมี DNA เดียวกัน ทีมา…
-
หนุ่มจีนผู้คลั่งเครื่องบินมาตั้งแต่เด็ก ลงทุนสร้างเครื่องบินโดยสารแบบโฮมเมดด้วยตัวเอง!!
หากเราชื่นชอบหรือคลั่งอะไรสักอย่าง ไม่สำคัญว่ามันจะใหญ่หรือเล็ก อย่าปล่อยให้มันอยู่แค่ในความคิด แต่จงลงมือทำ แล้วจะรู้ว่าการทำความคิดให้ออกมาเป็นสิ่งที่จับต้องได้นั้นมันให้ความรู้สึกภูมิใจแค่ไหน เหมือนกับ Zhu Yue เกษตรกรชาวจีนผู้มีความคลั่งไคล้เครื่องบินมาตั้งแต่เด็ก และใฝ่ฝันที่อยากมีเครื่องบินเป็นของตนเองในสักวันหนึ่ง อาจจะดูเหมือนเป็นอะไรที่ค่อนข้างออกแนวเพ้อฝันและไกลตัวมากๆ แต่ Zhu ไม่ให้สิ่งเหล่านี้มาเป็นอุปสรรคในการทำสิ่งที่รัก ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจลงมือสร้างเครื่องบินเจ็ท Airbus A320 ด้วยตัวเอง ที่โรงงานแห่งหนึ่งในเขตอุตสาหกรรมของเมืองไคหยวน ในมณฑลเหลียวหนิงในตอนเหนือของจีน Airbus A320 เป็นเครื่องบินจำลองที่มีความยาว 37.84 เมตร กว้าง 36 เมตร และสูง 12 เมตร เขาใช้เหล็ก 40,000 กิโลกรัม และทุ่มเงินไปแล้วประมาณกว่า 4,000,000 บาท เครื่องบินจำลองดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤษภาคมปีนี้… แม้ว่านี่จะเป็นเพียงเครื่องบินจำลอง แต่อย่างน้อย Zhu ก็ไม่ได้ปล่อยให้ความฝันอยู่แค่ในความคิด . . ความคิดจะสำเร็จได้ ก็ด้วยการลงมือทำ ที่มา designyoutrust
-
แสนจะเซ็ง ‘เพื่อนยืมรถหรู’ ไปขับบ่อย เลยแก้ปัญหา แปะลายสติ๊กเกอร์สนิมจนไม่อยากยืมเลย
บางทีเราไม่ใช่คนขี้เหนียวนะ แต่เพ่ื่อนบางคนนี่สิ ขี้ยืมซะเหลือเกิน ยืมแม้กระทั่งของที่เรารักและหวงมากที่สุด ไอ้เราจะปฏิเสธไปตรงๆ ก็กลัวจะทำลายความเป็นเพื่อน ถ้าเป็นคุณจะปฏิเสธยังไง? Zhang เป็นอีกหนึ่งคนที่มีเพื่อนขี้ยื้มมมขี้ยืม แล้วไม่ได้ยืมแค่ของเล็กๆ น้อยๆ แต่พี่แกเล่นยืมรถหรูที่เขาหวงมากที่สุด รถหรูที่ว่านี้คือ Maserati Ghibli ที่ Zhang ซื้อมาในราคาราวๆ 4.3 ล้านบาท มันอาจจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ชายหนุ่มชอบรถรุ่นนี้มาก เลยจัดมาในที่สุด ขณะที่เดียวกัน Chang เพื่อของเขาก็ชอบรถรุ่นนี้เหมือนกัน แต่แทนที่จะเก็บเงินซื้อเอง เขากลับมายืมรถของ Zhang ไปขับซะงั้น แถมยืมบ่อยด้วยนะ คงเอาไปอวดสาวๆ ละมั้ง ส่วนหนุ่มผู้เป็นเจ้าของไม่กล้าปฏิเสธ เลยได้แต่เฝ้ามองคนอื่นเอารถตัวเองไปขับด้วยความเป็นทุกข์ แต่แล้วร้าน 4S ก็แนะทางแก้ปัญหาให้ ทางร้าน 4S แนะนำให้ Zhang ทำรถหรูให้ดูเก่าๆ ด้วยการหาสติ๊กเกอร์มาแปะ นั่นทำให้รถคันหรูของเขาดูเหมือนรถเก่าๆ ที่ถูกทิ้งร้างมาหลายปี ปรากฏว่าตั้งแต่ติดสติ๊กเกอร์แบบนี้ ไม่มีเพื่อนคนไหนกล้ามายืมอีกเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดดูภายในของรถ มันช่างสวนทางกับภายนอกเหลือเกิน เพราะข้างในทั้งใหม่ สะอาด และหรู สมกับราคามาก…
-
เซอร์ไพรส์!! เมะสาวยูทูบหลุดร่างที่แท้จริง เป็นชายวัยกลางคน แต่แฟนคลับก็ยังคลั่งไคล้
ในปัจจุบันนอกจากเหล่ายูทูบเบอร์เป็นอาชีพที่คนส่วนมากให้ความสนใจมาก เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองสนใจ และยังมีคนคอยติดตามเป็นจำนวนมาก เหมือนเป็นเซเลบออนไลน์อย่างไรอย่างนั้น ในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำหน้าที่เหมือนยูทูบเบอร์ แต่พวกเขาส่วนมากเลือกที่จะไม่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของตัวเอง พวกเขาจึงใช้โปรแกรมแปลงตัวเองให้ออกมาเป็นตัวการ์ตูนน่ารักแทน คนกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า Virtual Youtuber (ยูทูบเบอร์เสมือนจริง) วิดีโอตัวอย่างของ Nora Cat ผู้เป็น Virtual Youtuber ที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น Virtual Youtuber ในประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะใช้ตัวการ์ตูนสาวน้อยน่ารักแทนตัวเองกันทั้งนั้น โดยตัวละครเหล่านี้จะเลียนแบบท่าทางของผู้ออกอากาศแล้วแปลงเป็นการเคลื่อนไหวของตัวการ์ตูนแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังแปลงเสียงที่พูดออกมาได้ตามต้องการอีกด้วย Nora Cat เองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เธอเป็นยูทูบเบอร์เสมือนจริงที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2017 ที่ผ่านมานี้เอง เธอใช้ตัวละครเป็นสาวน้อยหูแมวในชุดสไตล์โกธิคสีดำ ที่มีผมยาวสวยสีขาว แม้จะเปิดตัวมาได้ไม่นานแต่เธอก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ตอนนี้เธอมีผู้ติดตามกว่า 55,000 คนแล้ว เธอเคยพูดไว้ตอนออกอากาศครั้งหนึ่งว่า “ถ้าเกิดเธออยากตกหลุมรักกับตัวละครเสมือนจริง ก็ตกหลุมรักเลย ฉันจะไม่ทรยศความรู้สึกของเธอแน่นอน ถ้าทุกคนรู้สึกว่าฉันมีเสน่ห์ ฉันก็จะทำตัวให้มีเสน่ห์เพื่อทุกคนต่อไป” ทว่าเมื่อไม่นานมานี้เองระหว่างที่ Nora Cat ออกอากาศสดอยู่นั้นโปรแกรมแปลงหน้าตาของเธอก็เกิดข้อผิดพลาดขึ้น ทำให้ตัวละครการ์ตูนหายไปแล้วเผยตัวจริงของเขาให้ผู้ติดตามเห็นชั่วขณะหนึ่ง ตอนนั้นเองชาวเน็ตจึงได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วตัวการ์ตูนสาวน้อยน่ารักที่เห็นอยู่บ่อยๆ เป็นผู้ชายโอตาคุวัยกลางคนต่างหาก ช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ …
-
สมุดจดบันทึกเวอร์ชันหนุ่มหล่อจากอนิเมะ พร้อมมอบรางวัลให้คุณทุกครั้งที่เปิดหน้าถัดไป
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สามารถเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นกลายเป็นสาวน่ารัก หรือคนหล่อคนสวยได้หมด เช่นเปลี่ยนเรือให้กลายเป็นสาวๆ หน้าตาน่ารัก เปลี่ยนดาบให้กลายเป็นหนุ่มหล่อ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องพื้นๆ ที่พบได้ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะ อย่างเช่นภาพนี้ ใครจะรู้ว่าตัวละครน่ารักแบบนี้ จะมีต้นแบบมาจากเรือ!? และวันนี้ก็ได้มาถึงคราวของสมุดจดบันทึกแล้ว แต่ก่อนอื่นคงต้องถามเพื่อนๆ ว่าเคยซื้อสมุดมาเพื่อจะจดอะไรซักอย่าง แล้วไม่ได้ใช้ต่อ เพราะไม่มีแรงจูงใจในการจดบันทึกไหม เพราะต่อไปนี้การจดบันทึกอะไรต่างๆ จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เมื่อ Toriru มีสมุดจดบันทึกเวอร์ชั่นหนุ่มหล่อจากอนิเมะขายให้เพื่อนๆ ได้ซื้อมาใช้กันแล้วจ้า เจ้าสมุดบันทึกนี้ถูกเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า “Ikemen Notebook” (คำว่า Ikemen แปลว่าหนุ่มหล่อ) โดยที่เจ้าสมุดนี้เวลาเปิดออกมาที่หน้าแรกก็จะยังคงเหมือนสมุดธรรมดา แต่ความพิเศษของมันที่จะทำให้คุณมีแรงจูงใจในการที่จะใช้มันจดเรื่อยๆ อยู่ที่ทุกๆ สองหน้านี่ล่ะ ที่หน้าสองในด้านล่างของหน้ากระดาษ ก็จะรูปมีหนุ่มหล่อ คอยโปรยคำหวานๆ ให้คุณๆ ผู้หญิงได้เคลิ้มกันเลยทีเดียวล่ะ พูดมาขนาดนี้แล้ว เราไปดูตัวอย่างการใช้งานเจ้าสมุดนี้กันเลยดีกว่า “เฮ้… มันก็ไม่ผิดหรอกนะที่เธอจะตั้งใจจด แต่ช่วยมองมาที่ผมบ้างสิ” “โอ้! เธอซื้อสมุดใหม่มาหรอ? ผมไม่เคยใช้ของตัวเองหมดเลยอ่ะ… งั้นเรามาพยายามใช้มันให้หมดกันเถอะนะ” “เธอยังอยู่ที่หน้าแปดอีกหรอเนี่ย? ทำไมชักช้าแบบนี้ ปากกาโดนผีสิงรึไง?” แน่นอนว่าหนุ่มๆ…
-
พลเมืองดีเปลี่ยนชีวิตชายไร้บ้าน แต่งหน้าทำผม พร้อมเริ่มต้นการเป็นพนง. ทำความสะอาด
เพื่อนๆ เคยคิดกันบ้างหรือเปล่าว่าต้องทำอย่างไรให้โลกใบนี้มันน่าอยู่ขึ้น ส่วนตัว #เหมียวฝึกหัด คิดว่าถ้ามนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ มีน้ำใจให้แก่กัน เพียงแค่คนละนิดหน่อย โลกใบนี้ก็จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะแล้ว อย่างเช่นในเรื่องนี้ มีพลเมืองดี 3 คนได้ช่วยเหลือชายไร้บ้านคนหนึ่ง และการมีน้ำใจในครั้งนั้นของทั้ง 3 คน ก็ได้เปลี่ยนชีวิตของชายไร้บ้านคนหนึ่งไปตลอดกาล Robert Maxwell อายุ 35 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Hull เขาติดยาและใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนใน Birmingham มากว่า 9 เดือน แต่จู่ๆ วันหนึ่งเขาได้พบกับ Waqar Salim, Humzah Shah และ Wakas Khalid ชายสามคนผู้เป็นหุ้นส่วนกัน พวกเขาได้ยื่นโอกาสให้กับ Robert ช่วยให้เขามีงาน มีที่อยู่ และช่วยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเขา โดยเริ่มแรกเลยก็ต้องเริ่มจากการตัดผมเสียก่อน พวกเขาพา Robert ไปที่ Metroflex Gym สถานที่ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นที่ทำงานของ Robert นั่นเอง ตอนนี้ Robert มีแรงบรรดาลใจในการใช้ชีวิตแล้ว เขาบอกว่าต้องขอบคุณเพื่อนๆ…
-
ญี่ปุ่นทำพิพิธภัณฑ์หินหน้าคน โอ้โห… หน้าคนดังเต็มไปหมด
คนเราย่อมมีงานอดิเรกไม่เหมือนกัน บางคนสะสมเหรียญ บางคนสะสมธนบัตร และคนที่เราจะกล่าวถึงนี่สะสมหิน ฟังดูปกติใช่มั้ยล่ะ แต่หินที่เธอสะสมเป็นหินที่มีรูปร่างคล้ายกับหน้าของคน แถมสะสมเยอะจนสามารถตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ได้เลย คนที่เราพูดถึงนี้คือคุณ Yoshiko Hayama ผู้อาศัยอยู่ในจังหวัดไซตามะอยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งงานอดิเรกของเธอนั้นโดดเด่นมากๆ นั่นคือการเสาะหาหินที่รูปร่างคล้ายกับหน้าของคน โดยที่พิพิธภัณฑ์ที่เธอสร้างขึ้นมาถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เดียวในโลกที่สะสมหินหน้าคน ซึ่งเจ้าหินต่างๆ ที่คุณ Hayama คัดเลือกมาให้อยู่ในพิพิธภัณฑ์ของเธอ จะเป็นหินที่มีรูปร่างใบหน้าคล้ายกับดาราดังหรือคนที่มีชื่อเสียงของต่างประเทศ ดูเผินๆ เหมือนเป็นแนวคิดที่แปลกประหลาด แต่ภายใต้เรื่องประหลาดๆ นี้ ก็มีเรื่องราวซึ้งๆ ของคุณ Hayama ซ่อนอยู่ คุณ Hayama ได้เริ่มงานอดิเรกสะสมหินเพราะเธอทำตามพ่อของเธอ และถึงเขาจากไปแล้วไปแล้ว คุณ Hayama ก็ยังคงสะสมหินต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ที่เธอจะไปเสาะหาก้อนหินก็คือแถวลำธารใกล้ๆ ที่เธออาศัยอยู่นั่นเอง เจ้าหินที่มีรูปร่างคล้ายหน้าคน ที่ญี่ปุ่นเรียกมันว่า “Jinmenseki” ซึ่งก็แปลได้ว่า หินหน้าคน นั่นเอง ซึ่งหินที่จะเป็น Jinmenseki ได้ ต้องมีตา ปาก และจมูกด้วย มันค่อนข้างหายากเลยล่ะที่จะได้หินครบทั้งสามปัจจัย คุณ Hayama ยังบอกต่อว่า…
-
โคมไฟรูปแมวเหมียวสุดหลอน หากได้ซื้อไปครอบครองรับรองต้องมีฝันร้ายบ้างแน่ๆ
การที่เรามีโคมไฟวางไว้แถวหัวเตียง จะทำให้เราสะดวกยิ่งขึ้น เพราะเมื่อมีโคมไฟ เราก็ไม่ต้องเดินไปปิดไฟที่สวิตช์ไฟ เพียงแค่เอื้อมมือไปปิดไฟที่โคมไฟก็สามารถเปิด-ปิดไฟได้ตามต้องการแล้ว แต่ว่าเจ้าโคมไฟที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูวันนี้ เชื่อเถอะว่าเพื่อนๆ อาจไม่ได้อยากได้มันสักเท่าไหร่ ซึ่งมันคือโคมไฟ Felix โคมไฟรูปร่างเหมือนแมวเหมียว ที่ถูกออกแบบโดย Studio Job ถึงมันจะรูปร่างเหมือนแมวเหมียวจริงๆ แต่ว่าเอาเข้าจริงๆ มันค่อนข้างหลอนเลยล่ะ เจ้าโคมไฟ Felix ถูกออกแบบมา 3 ลาย คือดำล้วน ขาวล้วน และขาวดำ และเมื่อคุณเปิดไฟ ตาของเจ้าแมวเหมียวก็จะส่องสว่าง บวกกับหางที่ตั้งของมัน ลองนึกถึงภาพเมื่อคุณลืมปิดไฟ แล้วกลับมาที่บ้านตอนมืดแล้วสิ เปิดประตูบ้านเข้ามาเจอตัวอะไรไม่รู้ตาส่องแสง มันจะสร้างความน่ากลัวแก่คุณได้ดีเลยล่ะ ฮ่าๆ แต่ความแปลกของมันไม่หมดแค่นั้น การที่คุณจะทำให้ตาของมันเรืองแสงได้ ต้องไปเปิดสวิตช์ที่อยู่บริเวณใต้หาง หรือก็คือไข่ของมันนั่นแหล่ะ… แถมไข่ของมันยังถูกทำสีเป็นสีทองอีกด้วยนะ เรียกว่าเด่นเตะตาเลย ฮ่าๆๆ สำหรับใครอยากจะได้เจ้าโคมไฟนี้ไปเป็นของขวัญให้ทาสแมว หรือคนที่อยากจะซื้อมันไปตั้งที่บ้านเพื่อเอาไว้แกล้งคนอื่นๆ ล่ะก็ เจ้าโคมไฟตัวนี้จะออกจำหน่ายเดือนเมษายน 2018 และสนนราคาอยู่ที่เพียงประมาณ 9,000 บาทเอ๊งงงง ย้ำว่าเองงงงง ไข่ทองคำนั่นแหล่ะคือสวิตช์เปิดปิดไฟ ลายดำปนขาว…
-
เหล่าประติมากรรมที่ฉีกกฎเกณฑ์ของแรงโน้มถ่วง เห็นแล้วถึงกับงุนงงว่ามันสร้างมาได้ไง
ประติมากรรมถือว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ซึ่งหลายๆ งานที่เราเห็นส่วนมากจะสื่อไปถึงความแข็งแรงมากกว่า สังเกตได้ว่าตั้งแต่สมัยกรีก โรมัน ประติมากรรมต่างๆ มักจะถูกสร้างขึ้นเพื่อสื่อถึงพลัง อำนาจ ความยิ่งใหญ่ แต่ว่าก็มีบางส่วนเช่นกันที่สื่อถึงด้านอื่นๆ และวันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับประติมากรรมที่ออกแบบมาฉีกกฎเกณฑ์ของแรงโน้มถ่วง ที่เมื่อเพื่อนๆ เห็นต้องถึงกับงุนงง แล้วถึงกับต้องพิจารณาอีกทีว่าเอ็งสร้างมันออกมาได้ยังไงกันแน่ ว่าแล้วก็มาชมกันเลยดีกว่า ชื่อผลงาน: The Force Of Nature ศิลปิน: Lorenzo Quinn ชื่อผลงาน: Wire Fairies ศิลปิน: Robin Wight ชื่อผลงาน: Trans Ī Re ศิลปิน: Fredrik Raddum ชื่อผลงาน: Wursa ศิลปิน: Daniel Firman ชื่อผลงาน: Floating Stone ศิลปิน: Smaban Abbas ชื่อผลงาน: Wurf VI ศิลปิน Anna Borgman กับ Candy…
-
17 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘แอฟริกา’ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ และเข้าใจผิดเกี่ยวกับที่นี่มาโดยตลอด
หลายคนคิดว่าเมื่อไปแอฟริกาแล้ว พวกเขาจะเห็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ป่า เห็นสัตว์ป่าเดินตามถนน เห็นถนนที่สกปรก และที่อยู่อาศัยแบบชัวคราว (Makeshift housing) แต่จริงๆ แล้ว แอฟริกามีความหลากหลายมากกว่านั้น ซึ่งในวันนี้ทุกคนจะได้รู้จักทวีปนี้มากขึ้น เพื่อลบล้างความเข้าใจผิดบางอย่างที่ผ่านมา ความเชื่อที่ 1 ไม่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในแอฟริกา แอฟริกาเป็นที่รู้จักในฐานะทวีปที่ประกอบด้วยประเทศกำลังพัฒนา แต่นั่นไม่ได้หมายความทวีิปนี้มีวิถีชีวิตแบบยุคกลาง เพราะ 90% ของชาวแอฟริกันมีโทรศัพท์มือถือ แถมยังมีโปรแกรมเมอร์ที่สร้างแอปพลิเคชันและแกดเจ็ตของตนเองอีกด้วย นอกจากนี้บางประเทศในแอฟริกายังมีโรงงานการผลิตที่พัฒนาไปอย่างมาก มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ เช่น การผลิตรถยนต์ภายในประเทศ . ความเชื่อที่ 2 แอฟริกาเป็นทะเลทรายเขตร้อน บ่อยครั้งเมื่อมีคนได้ยินแอฟริกา พวกเขาจะนึกถึงภาพของทะเลทรายที่ร้อนระอุและแห้งแล้ง แต่จริงๆ แล้ว แอฟริกามีพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์มากอย่างเหลือเชื่อ มียอดเขาคิลิมันจาโรและยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและทุ่งหญ้าสะวันนาอยู่ทั่วทวีป แอฟริกามีการแบ่งเขตอุณหภูมิที่ชัดเจน และอุณหภูมิรายปีเฉลี่ยอยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตรของทวีปแทบจะไม่เกิน 27 องศาเซลเซียส ความเชื่อที่ 3 มีเฉพาะคนผิวสีเท่านั้นที่อาศัยในแอฟริกา เรามักจะคิดว่าในแอฟริกามีเฉพาะคนผิวสีเท่านั้นอาศัยอยู่ ความจริงก็คือทวีปแอฟริกามีประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคนซึ่งมีสีผิวและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ความหลากหลายนี้มาจากบรรพบุรุษของพวกเขา เนื่องจากมีผู้อพยพจำนวนมากมาจากอเมริกาและเอเชียที่ยังอยู่ในแอฟริกา หลังจากการประหัตประหารทางการเมือง ความเชื่อที่ 4 แอฟริกาเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า รายการทีวี ภาพยนตร์ และการ์ตูนจำนวนมากมักจะทำให้เราเข้าใจว่าแอฟริกามีสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติและสามารถถูกผู้คนโจมตีได้อย่างง่ายดาย…
-
แฟนคลับมือใหม่ มารู้จัก Super Junior ผ่านแฮชแท็กฮา “#ความรู้เบื้องต้นของSJที่รู้ไปก็ไร้ประโยชน์”
สำหรับชาวแฟนคลับวงไอดอลเกาหลี เรารู้ว่าคุณไม่หยุดแต่กริ๊ดกร๊าดหรือหลงใหลในความสามารถและใบหน้าของพวกเขา แต่หลายๆ คน โดยเฉพาะติ่งตัวจริงคงจะไปสืบค้นประวัติอย่างละเอียด จนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพวกเค้า เหมือนกับเอลฟ์ (ELF ย่อมากจาก Ever Lasting Friend) ซึ่งคือชื่อกลุ่มแฟนคลับของ SUPER JUNIOR ที่ไม่ใช่แค่รู้ประวัติของสมาชิกวง แต่ยังล่วงรู้ไปถึงมุมรั่วๆ ของพวกเค้า แม้แต่เรื่องหลังเวทีก็ไม่เว้น หากแฟนคลับมือใหม่คนไหนอยากรู้จัก SJ มากยิ่งขึ้น ลองตามแฮชแท็ก #ความรู้เบื้องต้นของSJที่รู้ไปก็ไร้ประโยชน์ ดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าบอยแบนด์กลุ่มนี้ เขาเป็นยังไงกันบ้าง อย่าทะเลาะกันเลย ไปทะเลาะกับแฟนคลับวงอื่นนู่น แต่ต้องชนะนะ โถ่ววว นึกว่าไปแก้แค้น ที่ไหนได้… ปาร์คสำออยไม่ใช่สมาชิกใหม่นะ เขาคืออีทึกคนดีคนเดิมของเรานี่เอง นี่ถ้าไม่มาสารภาพ ยุนโฮคงจะคิดว่าตัวเองบาดเจ็บเพราะซ้อมแน่ๆ งือ ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ (ซาแซง คือแฟนคลับที่คลั่งไคล้ศิลปินเกินพอดี มีพฤติกรรมล้ำเส้นและก่อกวนจนศิลปินที่ตนชื่นชอบได้รับความเดือดร้อน) เพื่อนเอาไว้ทีหลัง เงินต้องมาก่อน ขี้ยืมนักใช่มั้ย เปลี่ยนลุคแม่งเลย ทะเลาะกันแรงแค่ไหน…
-
รวมความเห็นชาวต่างชาติ หลังได้ทราบข่าว “เสี่ยเปรมชัย” โดนจับเพราะตั้งแคมป์ล่าเสือดำ!?
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงสองสามที่ผ่านมา หลังจากที่นายเปรมชัย กรรณสูต ซีอีโอบริษัท อิตาเลียนไทย ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ่านข่าวเก่า เจ้าหน้าที่บุกจับ ประธาน บ.อิตาเลียนไทย ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พบซากเสือดำคาแคมป์!! ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้น แต่สื่อต่างชาติก็มีการนำเสนอข่าวดังกล่าวให้ทั้งคนไทยในต่างแดน หรือคนต่างประเทศได้รับทราบด้วย ตัวอย่างเช่น… BBC The New York Times The Washington Post ชาวต่างชาติเองก็ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้อย่างแพร่หลายเช่นกัน และนี่คือความเห็นส่วนหนึ่ง… คนมีเงินเหล่านี้ฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของตัวเอง เกิดมาเป็นคนซะเปล่า คนแบบนี้น่าจะถูกโยนเข้าไปในป่า แล้วให้เป็นฝ่ายถูกล่าบ้างนะ เรื่องนี้จะจบด้วยการฟ้องร้องหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คุณจำคดีที่ทายาทกระทิงแดงชนตำรวจจนเสียชีวิตได้หรือไม่? แต่ประเด็นนี้ผู้เส่ียชีวิตคือสัตว์ ไม่ใช่มนุษย์ด้วยซ้ำ ฉันไม่อยากคาดหวังเลย ฉันไม่เข้าใจเลยว่าการฆ่าสัตว์ที่สวยงามเช่นนี้ ทำให้พวกเขามีความสุขได้อย่างไร? ฉันหวังว่าพวกเขาจะได้รับบทลงโทษสาสมกับสิ่งที่ทำลงไปนะ พวกคนรวยก็งี้แหละ ชอบคิดว่าตัวเองอยู่เหนือกฎหมาย คนไร้ปราณีแบบนี้น่าจะถูกโยนเข้าไปในกรงเสือเพื่อเป็นอาหาร ดูสิ จะรู้สึกยังไง กฎหมายไทยไม่สามารถบังคับใช้กับคนรวยได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่ถ้าเป็นคนจนที่ทำแบบเดียว…
-
ทีเซอร์เรียกน้ำย่อย ‘Bleach เทพมรณะ’ ฉบับคนแสดง คาดออกฉายช่วงเดือนกรกฎาคมปีนี้!!
หากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องไหนได้รับความนิยมมากมักจะมีการนำมาทำเวอร์ชันไลฟ์แอคชั่น หรือก็คือเวอร์ชันที่ใช้คนจริงแสดงด้วย ครั้งนี้ก็ถึงตาของการ์ตูนแอคชั่นแฟนตาซียอดนิยมที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Bleach เทพมรณะ บ้างแล้ว พระเอก Kurasaki Ichigo รับบทโดย Sota Fukushi การตูนเรื่องเทพมรณะเองก็เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากเช่นกัน โดยเนื้อเรื่องจะเป็นการต่อสู้ของ Kurosaki Ichiko เด็กหนุ่มที่มีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณ แต่นอกนั้นก็เป็นเพียงหนุ่มนักเรียนธรรมด๊าธรรมดา จนกระทั่งเขาได้พบกับยมทูตสาว Kuchiki Rukia ที่กำลังต่อสู้กับวิญญาณร้ายอยู่ จึงเกิดอุบัติเหตุให้เขาได้จับพลัดจับผลูกลายมาเป็นยมทูตด้วยนั่นเอง ตัวเอกหญิง Kuchiki Rukia รับบทโดย Hana Sugisaki (ด้านซ้ายคือเวอร์ชั่นยมทูต ด้านขวาคือเวอร์ชั่นมนุษย์) ในเวอร์ชันไลฟ์แอคชั่นนี้พระเอก Kurosaki Ichiko จะรับบทโดยนักแสดงหนุ่ม Fukushi Sota ส่วนตัวละครเอกหญิง Kuchiki Rukia นั้นจะแสดงโดยนักแสดงสาว Sugisaki Hana นักแสดงทั้งสองคนจะฟาดฟันเหล่าวิญญาณร้ายให้เพื่อนๆ ได้ดูเอง นอกจากนี้ยังมีคลิปตัวอย่างสั้นๆ ปล่อยมายั่วน้ำลายแฟนการ์ตูนเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวคลิปวิดีโอมีความยาว 21 วินาที ซึ่งจะนำเสนอตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น และตอนจบคลิปก็ประกาศวันกำหนดฉายเทพมรณะเวอร์ชันไลฟ์แอคชั่นในวันที่ 20 กรกฎาคม 2018…
-
ครอบครัวมีลูกทั้งหมด 13 คน เป็นชายล้วน ตอนนี้กำลังรอคนที่ 14 หวังว่าพวกเขาจะได้ลูกผู้หญิง
คู่รักบางคนวาดฝันอยากมีลูกสักคนหรือสองคน บางคนอาจจะหวังไว้มากหน่อยเป็นลูก 4 คน แต่คุณเคยคิดไหมว่าจะมีครอบครัวไหนในโลก ที่วาดฝันว่าอยากมีลูกผู้หญิงแต่ทำยังไงก็ไม่ได้สักที จนรู้ตัวอีกทีก็มีลูกชาย 13 คนแล้ว!? Jay และ Kateri Schwandt ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 สองสามีภรรยาจากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ตกเป็นข่าวใหญ่โตว่าพวกเขาให้กำเนิดบุตรชายคนที่ 13 …ใช่คุณอ่านไม่ผิดหรอก ลูกคนที่ 13 จริงๆ คือตอนนี้ลูกชายในบ้านรวมกันก็ตั้งทีมฟุตบอลได้สบายๆ ทั้งคู่เล่าว่าพวกเขาอยากได้ลูกสาวที่พวกเขาเป็นคนให้กำเนิดเอง แต่จนแล้วจนรอดนับตั้งแต่ลูกคนแรก Tyler ที่อายุปาเข้าไป 24 ปีแล้ว ลากยาวมาจนถึงลูกคนสุดท้องที่กำลังจะอายุ 2 ขวบ พวกเขาก็ยังไม่ได้ลูกสาวเสียที นอกจากนี้สื่อยังถามทั้งคู่ว่าพวกเขารู้ยังไงกับการมีลูกชายถึง 13 คน แล้วพวกเขามีเงินมากพอจะดูแลทั้งหมดหรือเปล่า ซึ่งตัว Kateri ก็ตอบว่า “ถ้าคุณมีลูกไปแล้ว 3 คน การมีลูก 10 คนก็ไม่ต่างกันแล้ว และถ้าคุณถามฉันว่ามันรู้สึกอย่างไร ฉันก็ตอบได้แค่ว่ามันโกลาหลสุดๆ บ้านคุณจะหนวกหูมากขึ้น นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วละ”…
-
หนุ่มเผลอทำ ‘iPhone 8’ ตกไปในส้วม พอจะล้วงขึ้นมาแขนก็ดันติด มันจะซวยอะไรขนาดน๊านน
จะเป็นอย่างไรถ้าเกิดคุณเผลอทำของมีค่าตกลงไปในส้วมขณะที่คุณกำลังถ่ายหนักหรือเบาอยู่ คุณจะยอมเอื้อมมือไปล้วงมันขึ้นมาไหม หรือคุณจะทำใจปล่อยมันไป? แล้วถ้ามันเป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่อย่าง ‘iPhone 8‘ ละ คุณจะทำอย่างไร? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงในคืนวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 ที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง โดยสื่อท้องถิ่นของจีน lznews.gov.cn ได้รายงานว่า ชายชาวจีนแซ่ Tan ได้เดินทางไปเที่ยวและแวะดื่มกับเพื่อนๆ ที่โรงแรมในเมืองหลิวโจว แต่ว่าในขณะที่หนุ่มแซ่ Tan แวะไปเข้าห้องน้ำเขาได้เผลอทำโทรศัพท์ iPhone 8 ของเขาตกลงไปในส้วมนั่งยอง งานนี้หนุ่มคนดังกล่าวจึงยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้โทรศัพท์ราคาแพงมูลค่ากว่า 8,000 หยวน (ประมาณ 40,000 บาท) ของเขาต้องหายไปแบบนี้ เขารีบเอามือล้วงลงไปเพื่อควานหาโทรศัพท์ของเขาทันที… วินาทีที่หนุ่มชาวจีนกำลังคิดถึงแต่มือถือของเขาอยู่นั้น ไม่นานนักเขาก็ค้นพบว่าแขนทั้งแขนดันติดอยู่กับตัวส้วมและไม่สามารถดึงออกมาได้ จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 20 นาทีในสภาพดังกล่าว โชคยังดีที่แม้จะเป็นกลางดึก แต่ยังคงเป็นกะสุดท้ายของภารโรงที่เข้ามาทำความสะอาดทำให้ชายแซ่ Tan คนนี้ถูกพบตัวและได้รับการช่วยเหลือทันทีจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ซึ่งแขนของเขานั้นเต็มไปด้วยบาดแผลทำให้เขาต้องส่งตัวไปทำแผลต่อทันที อย่างไรก็ตามแม้เขาจะถูกช่วยไว้ได้ แต่ iPhone 8 ของเขาดันไม่รอดกลับมาด้วย ซึ่งจากเรื่องราวครั้งนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่มาช่วยฝากเตือนทุกคนผ่านสื่อไว้ว่า ถ้าเกิดใครบังเอิญเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันพยายามอย่าสอดมือลงไปในส้วมเป็นอันขาด…
-
ดีไซน์นั้นสำคัญ… นักออกแบบโพสต์ภาพอธิบาย ว่าการออกแบบเจ๋งๆ ให้ชีวิตง่ายขึ้นอย่างไร!?
เราเคยคิดไหมว่าการดีไซน์นั้นสำคัญยังไง หลายคนอาจจะคิดว่าการดีไซน์นั้นก็เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว ซึ่งการดีไซน์เพื่อความสวยงามก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียว แต่ว่าบางครั้งเราจะต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการดีไซน์ผลงานแต่ละชิ้นด้วย เช่นถ้าเราจะดีไซน์ของใช้งานจริงๆ เราก็จะต้องคำนึงถึงการใช้งาน ความสะดวก หรือถ้าดีไซน์ป้ายเราก็จะต้องคำนึงถึงเป้าหมายที่เราอยากจะสื่อผ่านป้ายของเรา ด้วยเหตุนี้ Marcin Wichary ดีไซน์เนอร์ที่ได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกและตกหลุมรักกับดีไซน์ต่างๆ ตั้งแต่แรกเห็น จึงออกมาบอกว่าการดีไซน์มันสำคัญจริงๆ โดยเฉพาะ UI (ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้) ของป้ายหรือเครื่องมือต่างๆ ที่ควรจะทำให้มันเข้าใจง่ายแม้จะไม่เข้าใจภาษานั้นๆ ก็ตาม ซึ่งเขาก็ได้ยกตัวอย่างมากมายมาให้เราได้ดูกันด้วย… อย่างแรกคือปุ่มกดตู้ ATM ที่ใช้ปุ่มกดแบบแมคคานิคอล ซึ่งมันทำให้เรากดง่ายมากๆ เช่นเดียวกับปุ่มเปิดปิดไฟ ที่ต่อให้คุณไม่เข้าใจว่าคำอธิบายเขียนว่าอะไร แต่รูปสามารถตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจน ตู้ขายของอัตโนมัติที่แสดงให้เห็นว่าจำนวนเงินที่เรายอดเข้าไปซื้ออะไรได้บ้าง ผ่านสัญญานไฟที่โชว์ขึ้นมา บัตรเดินทางที่เข้าใจง่ายว่าใช้กับอะไรและซื้อได้ง่ายๆ จากตู้ขาย ป้ายแจ้งเตือนในโรงแรมที่เป็นแม่เหล็ก ทำให้ประหยัดกระดาษและที่สำคัญมันไม่ตกหายด้วย ป้ายบอกชั้นที่บอกอย่างชัดเจนว่าชั้นไหนมีอะไร แถมดูสวยงาม ป้ายเตือนให้ท่านชายนั่งหุบขา พูดไม่เยอะแต่ให้ภาพมันบอก สร้างแรงบันดาลใจในการเดินขึ้นบันไดด้วยจำนวนแคลอรีที่เผาผลาญไปในแต่ละก้าว ส่วนถ้าใครกลัวว่าไปต่างประเทศแล้วกลัวจะอ่านป้ายสถานีบนรถไฟไม่ออก ไม่ต้องห่วงญี่ปุ่นแก้ปัญหาได้ (ดูลิงก์ต้นฉบับได้ที่ mwichary) 5. The (Tokyo)…
-
พิธีเสกสมรสของเจ้าหญิงมาโกะ ถูกเลื่อนถึงปี 2020 เหตุ ‘ยังเตรียมการไม่พร้อม’
พิธีเสกสมรสของ เจ้าหญิงมาโกะ พระราชนัดดาองค์ใหญ่ (หลานสาวคนโต) ของ จักรพรรดิอะกิฮิโตะ นั้นได้ถูกเลื่อนระยะเวลาออกไปจนถึงปี 2020 เนื่องจาก “การเตรียมการยังไม่พร้อม” ตามกำหนดการแล้ว เจ้าหญิงมาโกะ วัย 26 ชันษา และ เค โคะมุโระ วัยเดียวกันนั้นจะเข้าพิธีหมั้นอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมภายในเดือนมีนาคม 2018 ก่อนพิธีเสกสมรสที่เดิมทีจะจัดขึ้นในวันที่ 4 เดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ทั้งคู่ชี้แจงกับองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีว่า การเฉลิมฉลองที่เกี่ยวกับพิธีเสกสมรสของทั้งคู่ จะถูกเลื่อนไปจนกว่าจะถึงปี 2020 ดังนั้นจึงทำให้หมายกำหนดการของสมาชิกราชตระกูลในปีถัดไปนั้นแน่นเนื่องจากการสละราชสมบัติขององค์จักรพรรดิ เจ้าหญิงมาโกะตรัสว่า “ข้าพเจ้าต้องขออภัยอย่างยิ่ง ที่สร้างปัญหาใหญ่ให้กับทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือในพิธีเสกสมรสของพวกเราอย่างเต็มใจ” หน่วยงานตัวแทนสมาชิกของราชตระกูลออกมาชี้แจงว่า ทั้งคู่ยังต้องการเข้าพิธีเสกสมรสอยู่ และปฏิเสธว่าการเลื่อนวันพิธีนั้นไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นในนิตยสารที่เกี่ยวกับปัญหาการเงินของฝ่ายชายแต่อย่างใด องค์จักรพรรดิอะกิฮิโตะได้ทรงสร้างความตกใจให้กับประเทศครั้งหนึ่งเมื่อปี 2016 โดยการตรัสถึงการสละราชบัลลังก์เนื่องด้วยเหตุทางพระชนมพรรษาและสุขภาพ วันที่ 30 เมษายน 2019 เป็นกำหนดที่พระองค์จะสละราชสมบัติหลังจากได้ครองราชย์ในดินแดนญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ ทั้งนี้ องค์ฟ้าชายนะรุฮิโตะ พระราชโอรสองค์โตขององค์จักรพรรดินั้นจะได้ขึ้นเสวยสิริราชสมบัติบนบัลลังก์เบญจมาศต่อไป ขณะเดียวกันการเสกสมรสของเจ้าหญิงมาโกะหมายความถึงการสละฐานันดรศักดิ์ในราชวงศ์ แต่พระองค์ก็หาได้สนพระทัยไม่ เนื่องจากพระองค์ประทับพระทัยในตัวของโคะมุโระตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ทอดพระเนตรเห็น “รอยยิ้มที่เจิตจ้าดั่งแสงตะวัน” ของเขา…
-
นักท่องเที่ยวแห่ทำตามความเชื่อ นำเงินยัดใส่เสาศาลเจ้า “อิสึกุชิมะ” หวั่นทำให้พังในเร็ววัน…
ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวกันมากที่สุดอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากความโดดเด่นด้านองค์ประกอบทางทัศนียภาพ อาหาร และศิลปะวัฒนธรรม ตัวอย่างก็เช่น ย่านอะกิฮะบะระ หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่น หรือจะเป็น เมืองฮะโกะเนะ สำหรับผู้ที่สนใจในน้ำพุร้อนและการแช่ออนเซ็น เกาะมิยาจิมะ ในเมืองฮิโรชิมานั้นเองก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นกัน เพราะเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาอันเต็มไปด้วยผืนป่าเขียวชอุ่มและศาลเจ้าเก่าแก่กว่าร้อยปี ที่นั่น นอกจากจะมีกวางออกมาเดินให้เห็นในเมืองกันแล้ว ยังมีสิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของเกาะ นั่นก็คือ ซุ้มประตูโทะริอิ แห่งศาลเจ้าอิสีกุชิมะ ที่โผล่ขึ้นมากลางน้ำ เมื่อยามน้ำลดลงคุณสามารถเดินไปยังบริเวณขาตั้งของซุ้มประตูได้ เสาซุ้มประตูสีส้มนี้เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ . และด้วยความที่ช่วงล่างของซุ้มประตูนั้นต้องอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน เสาไม้ก็เริ่มแตกและโก่งงอ แถมนักท่องเที่ยวบางกลุ่มมีความเชื่อในการนำ “เหรียญ” เข้าไปยัดในรอยแตกร้าวของเสา ซึ่งทำให้เกิดภาพที่ไม่สวยงามและส่งผลเสียต่อซุ้มโทะริอิอีกด้วย ทั้งนี้ผู้ใช้ Twitter ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า @riyusuisuiriyu ได้เผยแพร่ภาพสภาพปัจจุบันของเสาโทะริอิ พร้อมกับคำวิงวอนให้หยุดความเชื่อการยัดเหรียญดังกล่าว ในโพสต์ของเธอมีใจความว่า “หากยังทำเช่นนี้ต่อไป เสาโทะริอิจะต้องพังแน่ๆ ดูที่เหรียญเหล่านั้นสิ ผู้คนนำมันไปยัดไว้ในรอยแตกซึ่งมันก็จะยิ่งแตกมากขึ้นกว่าเดิม ฉันไม่อยากให้เสาโทะริอินี้กลายเป็นเพียงอดีตมรดกของโลกหรอกนะ จงจำไว้ นี่คือศาลเจ้า ไม่ใช่ของเล่นในสวนสนุก” ความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่เชื่อว่าการบริจาคเหรียญด้วยวิธีการโยนหรือใส่เข้าไปในกล่องนั้นจะนำมาซึ่งโชคลาภ สุขภาพ และพรต่างๆ คงไร้ค่า และศาลเจ้าอายุนับศตวรรษก็คงจะสูญสลาย หากความเชื่อผิดๆ ที่ว่าการนำเหรียญไปยัดในเสาไม้โทะริอิที่แตกจะนำมาซึ่งสิ่งเดียวกันนั้นยังคงแพร่หลายต่อไป การไปเที่ยวในสถานหนึ่งๆ…
-
เจ้าของบ้านต้องเล็มต้นไม้ เพราะเพื่อนบ้านร้องเรียนว่ามันใหญ่เกิน แสงแดดแทบไม่ส่องถึงบ้าน
ปกติแล้วเราเคยแต่ได้ยินการถกเถียงที่ว่ากิ่งไม้ที่ยื่นเข้ามาในรั้วบ้านเราถือว่าเป็นของเราหรือไม่ แต่ว่าเหตุการณ์ในวันนี้นั้นยิ่งกว่านั้นอีก เพราะมันไม่ได้มาเป็นกิ่งก้าน แต่มันมาเป็นพุ่มอันมโหฬาร และมันก็ไม่ได้แผ่เข้าไปในบ้านใครหรอกนะ เพียงแต่ว่ามันแค่มีขนาดใหญ่เกินจนไปบังแดดบ้านอื่นหมดเลยต่างหาก พุ่มไม้ดังกล่าวเป็นพืชจำพวกสนที่มีขนาดสูงราว 12 เมตร และเรียงเป็นแนวยาวกว่า 30 เมตร ที่ทำให้ผู้คนที่อาศัยในละแวกใกล้เคียงต้องบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาต้องย้ายไปใช้ส่วนหลังบ้านเสียมากกว่าเพราะส่วนหน้าบ้านนั้นโดนพุ่มไม้นี้บดบังแสงอาทิตย์จะหมด ทั้งนี้จึงทำให้เกิดการระดมทุนและร้องเรียนปัญหาพุ่มไม้ใหญ่นี้กับสภาท้องถิ่นของเมืองสวอนซีประเทศเวลส์ จนทำให้ Susan Rogers วัย 61 ปีผู้เป็นเจ้าของบ้านอันเป็นที่อยู่ของพุ่มไม้ยักษ์นี้ถูกสั่งให้ตัดกิ่งไม้ออกบ้างเพื่อจำกัดความสูงไม่ให้บังแสงอาทิตย์ที่จำเป็นสำหรับบ้านหลังอื่นๆ Beryl Robbins ผู้ประสานงานในพื้นที่ ขององค์กร Neighbourhood Watch ได้กล่าวว่า “การพยายามคุยกับคุณ Rogers ถึงปัญหาต้นไม้กล่าวไม่ประสบความเสร็จ เราจึงต้องติดต่อคุณ Jennifer Raynor เพื่อที่จะหาทางลดความสูงของพุ่มไม้นี้ พุ่มไม้ยักษ์นี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คน เพราะนอกจากจะบดบังทัศนียภาพแล้วยังทำให้พวกเขาไม่ได้รับแสงสว่างและแสงแดดเท่าที่ควรอีกด้วย” Raynor กล่าวว่า “คุณ Rogers ต้องทำอะไรสักอย่างกับมัน ผู้ตรวจการให้เวลาเธอ 3 เดือนเพื่อตัดกิ่งพุ่มไม้เหล่านี้ เธอยังเหลือเวลาอีกมากก่อนจะถึงการเปิดฤดูทำรังของนก” Louise Gibbard สมาชิกสภาท้องถิ่นกล่าวว่า “พุ่มไม้นี้ส่งผลเสียต่อสังคม ผู้ตรวจการได้ลงไปเยี่ยมบ้านที่ประสบปัญหาและเห็นว่าพุ่มไม้ยักษ์นั้นด้วยตัวเอง เราต้องการให้การจัดการเรื่องนี้เริ่มขึ้นอย่างเร็วที่สุด” ปัจจุบันกำลังรอความเห็นจากคุณ Rogers เจ้าของบ้านและเจ้าของพุ่มไม้สนยักษ์ดังกล่าว…
-
พ่อบังคับลูกสาวไปเรียนในวันวาเลนไทน์ ทั้งที่เธอไม่อยาก จนกระทั่งได้รู้เหตุผลงานนี้มีซึ้ง!!
วาเลนไทน์ก็ใกล้เข้ามาทุกวัน เหล่าคนมีคู่ก็ต่างพากันเตรียมตัวหาซื้อของขวัญเพื่อมอบให้กับคนที่ตัวเองชอบกันยกใหญ่ ส่วนคนโสดก็ได้แต่อิจฉาตาร้อนกันไป ยิ่งช่วงมัธยมที่เป็นวัยรุ่นยิ่งแล้วใหญ่ ตามันลุกเป็นไฟจนไม่อยากไปโรงเรียนเลยทีเดียว Miss Sanders ก็เป็นชาวเน็ตอีกคนที่เคยรู้สึกว่าไม่อยากจะพากายหยาบตัวเองไปโรงเรียนในวันวาเลนไทน์เลย โดยเธอได้เล่าเรื่องในสมัยมัธยมผ่านทวิตเตอร์ของตนเองว่า การที่เป็นสาวโสดแบบเธอถ้าไปโรงเรียนวันนั้น เธอจะต้องรู้สึกอิจฉาคนอื่นแน่ๆ ที่ได้มอบของขวัญให้กับคนที่ตัวเองชอบแต่เธอกลับไม่มีสิทธิ์นั้น ด้วยเหตุนี้เธอจึงบอกกับพ่อว่า เธอจะไม่ไปโรงเรียนในวันวาเลนไทน์เด็ดขาดด้วยเหตุผลดังกล่าว งานนี้คนเป็นพ่อได้ยิน มีเหรอที่จะยอมให้ลูกตัวเองขาดเรียนด้วยเหตุผลดังกล่าว งานนี้เขาจึงบังคับลูกสาวยกใหญ่ว่ายังไงลูกก็ต้องไปเรียน!! โฉมหน้าของชาวเน็ตผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ นั่นจึงทำให้เมื่อถึงวันวาเลนไทน์ เธอจึงต้องไปโรงเรียนอย่างปฎิเสธไม่ได้ แต่เชื่อไหมว่าพอถึงวันวาเลนไทน์จริงๆ กลับมีพนักงานส่งของมาเคาะประตูห้องเรียนพร้อมเอาของขวัญเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ ช่อดอกไม้ไซส์ยักษ์และกล่องช็อกโกแลตที่กินกี่วันก็ไม่หมดมาให้ งานนี้ทุกคนในห้องเรียนก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่ โดยอาจารย์ในชั้นเรียนก็ถามพนักงานว่า “เออ ไม่ทราบว่าของพวกนี้เอามาให้ใครเหรอ” ทุกคนในห้องต่างคิดในใจว่าต้องเป็นของตัวเองแน่ๆ จนกระทั่งพนักงานตอบกลับมาว่า “Miss Sunshine” เธอก็รู้ได้ทันทีว่าของขวัญนี้เป็นของเธอและมันมาจากพ่อ เพราะมีแค่พ่อเท่านั้นทีเรียกเธอแบบนี้ หลังจากเธออ่านจดหมายที่แนบว่ากับของขวัญซึ่งเขียนว่า “สุขสันต์วันวาเลนไทน์ ด้วยรัก พ่อ..” งานนี้ทำเอาเธอถึงกับหลั่งน้ำตา นับแต่วันนั้นมาเธอบอกว่าไม่ว่าจะผู้ชายคนไหนก็ต้องหลบไป เพราะรักแรกของเธอคือพ่อนั่นเอง ซึ่งนับจากวันนั้นเธอก็ได้รับของขวัญจากพ่อทุกๆ ปี ช่างเป็นความรักของพ่อลูกที่สุดยอดจริงๆ ที่มา…
-
Amazon โฆษณาเสื้อผ้าสไตล์จีน โดยให้เด็กฝรั่งเป็นนายแบบแล้วทำท่าดึงตาให้ตี่
เมื่อเดือนก่อนหลายคนคงจะจำได้เกี่ยวกับปัญหาเหยียดเชื้อชาติของแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ Uniqlo ซึ่งกลายเป็นชนวนที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจจนบุกพังร้านกันเป็นเรื่องราวใหญ่โต และมาวันนี้ทาง Amazon ก็เลยไม่น้อยหน้าขอเอาบ้าง ล่าสุด Amazon ซึ่งเป็นระบบซื้อสินค้าออนไลน์ก็ได้วางขายเสื้อผ้าสไตล์จีนลงบนเว็บ แน่นอนว่าถ้าการขายเสื้อผ้าปกติหรือต่อให้เอานายแบบนางแบบที่ไม่ใช่คนจีนมาใส่ตามปกติมันก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าพวกเขากลับไม่ทำแบบนั้น Amazon UK ได้ใช้เด็กผิวขาวมาเป็นแบบเสื้อผ้าดังกล่าว พร้อมกับให้หนูน้อยทำท่าดึงตาให้ตี่ ซึ่งการทำท่าทางดังกล่าวนั้นบ่งบอกได้ถึงการล้อเลียนและเหยียดเชื้อชาติมากๆ ซึ่งมันทำให้ชาวเน็ตมากมายต่างไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าว งานนี้ทาง Amazon เห็นท่าไม่ดีจึงรับลบสินค้าดังกล่าวออกจากหน้าร้านค้าทันที แต่การลบออกก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทดังกล่าวจะสำนึกผิดแต่อย่างใด เพราะพวกเขาไม่ได้ออกมากล่าวขอโทษอะไรต่อสื่อเลยแม้แต่น้อย จะเหลือก็แต่ชาวเน็ตที่ได้แต่สงสัยว่าทำไมบริษัทใหญ่ๆ แบบนี้ถึงพลาดได้ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ เสื้อผ้าเด็กดังกล่าวก็ไม่ใช่สินค้าเพียงชิ้นเดียวที่สื่อไปทางการเหยียดเชื้อชาติบนเว็บ Amazon เพราะถ้าเราไปหาดูดีๆ เราจะพบว่ามีสกินค้าในแนวเดียวกันอยู่เพียบเลยละ หนังสือล้อเลียนชาวจีน หนวดปลอมแบบชาวจีน แต่ให้คนผิวขาวมาเป็นแบบ และก็ไม่ได้มีแต่ Amazon หรอกนะที่ล้อเลียนเรื่องตาตี่ของชาวจีน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีเว็บไซต์ซื้อของออนไลน์มากมายที่พลาดปล่อยให้สินค้าเหยียดเชื้อชาติหลุดออกมาวางขาย ยังไม่หมดเท่านั้น เหล่าคนดังมากมายก็ยังเคยทำท่าตาตี่ล้อเลียนชาวจีนอีกด้วย เช่นภาพของ Miley Cyrus สมัยก่อน หรือจะเป็น Gigi Hadid ที่ทำท่าตาตี่…
-
ความรักจากทาสมนุษย์ ที่เปลี่ยนความหวาดกลัวของเจ้าเหมียวให้กลายเป็นความอบอุ่น
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 ผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อว่า a7madib ได้โพสต์เรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าเหมียวตัวหนึ่งที่ได้รับการช่วยเหลือจากลูกพี่ลูกน้องของเขา ทำให้มันสามารถโตขึ้นมาได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู เรื่องราวของเจ้าเหมียวเริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูหนาวเมื่อ 1 ปีก่อน ตอนนั้นมันยังเป็นเพียงแค่ลูกแมวจรจัดไร้ทางสู้ วิ่งเข้าไปหลบความหนาวเย็นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าแมวน้อยจรจัดที่ได้รับการช่วยเหลือตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ในตอนนั้นเจ้าเหมียวยังคงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันวิ่งหนีผู้คนเพื่อหาที่หลบซ่อนตัว ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือจากลูกพี่ลูกน้องของเขาและภรรยาของลูกพี่ลูกน้องที่เป็นเจ้าของร้านที่เจ้าเหมียวเข้าไปซ่อนตัว สองสามีภรรยาตัดสินใจรับมันไปเลี้ยงและตั้งชื่อให้มันว่า Lilly แมวน้อย Lilly สมาชิกใหม่ของบ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ในตอนที่ทั้งสองพามันกลับบ้านเป็นครั้งแรก เจ้าเหมียวยังคงตื่นกลัวและฝากรอยข่วนเอาไว้ให้กับพวกเขามากมาย แถมยังทิ้งระยะห่างไม่ยอมเข้าใกล้มนุษย์ ทั้งคู่จึงทำได้เพียงวางจานข้าวและน้ำเอาไว้ให้ แล้วก็จัดที่นอนเล็กๆ ไว้ในตู้เสื้อผ้า มันอาจเคยเจอกับเรื่องราวอันเลวร้ายมาก่อน ทำให้เกิดความกลัวขึ้นมาในตอนแรก วันเวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์ ระหว่างนั้นพวกเขาก็พยายามเข้าหาเจ้าเหมียวอยู่เสมอ จนกระทั่งมันเริ่มที่จะกล้าออกมาจากตู้เสื้อผ้าแล้วก็เล่นไปตามประสาลูกแมว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้มนุษย์ซักเท่าไหร่ ความไว้ใจจำเป็นต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ จนกระทั่งวันเวลาผ่านไปนานถึง 4 เดือน เจ้าแมวน้อยถึงสามารถปรับตัวเข้ากับคนในบ้านได้ แล้วมันก็กลายเป็นที่รักของทุกคนที่ได้พบเห็น มันทั้งเป็นมิตรและน่ารัก บวกกับขนที่ฟูฟ่อง จนทำให้พวกเขาคาดเดากันว่ามันต้องมีเชื้อสายเมนคูนผสมอยู่ในตัวแน่ๆ เลย มันไม่ได้เป็นมิตรแค่กับคนเท่านั้น…
-
สตูดิโอหนังจัดประกวดสาวหน้าอกสวย เพื่อที่จะได้รับจ้างแสดงแสตนด์อินบทเปลือย
เนื่องในโอกาสที่เทศกาลฤดูใบไม้ผลิกำลังใกล้เข้ามา นักแสดงตัวแทนก็กำลังขาดตลาด ทำให้สตูดิโอหนังของจีนต้องจัดงานประกวดเพื่อค้นหาหญิงสาวที่ “หน้าอกสวย” และเหมาะสำหรับการแสดงที่สุด สตูดิโอหนังแห่งนี้เป็นศูนย์รวมผู้ผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของจีน จนเป็นที่รู้จักกันในนาม “Chinawood” ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางผืนดินใจกลางมณฑลเจ้อเจียง และล่าสุดก็ได้ทำการสร้างชื่อให้กับสตูดิโออีกครั้งโดยการจัด งานประกวดนางแบบหน้าอกสวย ที่ไม่เคยมีมาก่อน บร๊ะ! . . . . ฮึ่มมม…! . . . . บุคลิกดี… . เพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบสับปะรดก็วันนี้แหละ . . หญิงสาวจากกว่า 10 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศจีนได้มาเข้าร่วมการประกวดครั้งนี้ โดยผู้เข้าร่วมประกวดจะถูกประเมินและตัดสินโดยการทำตั้งแต่ทุบลูกโป่งให้แตกด้วยหน้าอกไปจนถึงการเหน็บสมาร์ตโฟนไว้บนร่องอกเลยทีเดียว . . ช่างเป็นมือถือสมาร์ตโฟนที่โชคดีจริงๆ ท้ายที่สุด หญิงสาวคนหนึ่งจากฉงชิ่งก็คว้าชัยชนะไป เธอถูกว่าจ้างให้เป็นนักแสดงตัวแทนสำหรับเผยเรือนร่างหากเหล่านักแสดงหญิงตัวจริงไม่ต้องการเผยหน้าอกของตน โดยในการจ้างงานดังกล่าว เธอสามารถทำเงินได้ 10,000 หยวน (ราว 50,000 บาท) ต่อวัน …
-
นี่สิเด็ด… โจรดวงกุดหวังจะขโมยรถ ถูกเจ้าของพร้อมพลเมืองดี ยืนล้อมรอบคันจนเขินไปหมด
เรื่องราวของโจรหนุ่มดวงกุด ที่กำลังพยายามจะขโมยรถกระบะ แต่ทว่าในจังหวะที่เขากำลังหาวิธีสตาร์ตรถอยู่นั้น เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกที พี่โจรของเราก็ต้องเกิดอาการเกร็งเลยทีเดียว หลังจากที่เจ้าของรถและพลเมืองดีได้ล้อมรถคันดังกล่าวเอาไว้ งานนี้ทำเอาหัวขโมยของเราถึงกับไปไม่เป็นเลย คุณ Greg Johnson ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าในระหว่างที่เขากำลังจะเข้าไปซื้ออาหารเที่ยงในร้าน Subway เขาได้เห็นเจ้าของรถคันดังกล่าวเดินเข้ามาหาตน เพื่อคุยเกี่ยวกับรถที่กำลังถูกโจรพยายามขโมยอยู่ “ตอนที่ผมมองออกไปนอกหน้าต่างร้าน ผมคิดว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ มีกลุ่มชายที่กำลังยืนล้อมรถ และชายคนหนึ่งที่พยายามจะขับรถคันนั้นออกไป ส่วนเจ้าของรถก็ดูจะไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเท่าไหร่ด้วย ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพ” เจ้าของคลิปวิดีโอผู้อยู่ในเหตุการณ์กล่าว ภายในคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นกลุ่มของพลเมืองดีกำลังยืนล้อมรถกระบะอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นได้มีชายคนหนึ่งได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนี่คือคลิปวิดีโอในจังหวะที่หัวขโมยมือใหม่พยายามจะขโมยรถคันนี้ “ชายหนุ่มกำลังจะขโมยรถ ซึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามสตาร์ตเครื่องอยู่ เขาดูเป็นคนมีจริยธรรมในอาชีพดีนะ เพราะว่าเขาไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง” คุณ Johnson กล่าว และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้ทำการทุบกระจกรถเพื่อเปิดประตู และจับหัวขโมยหนุ่มผู้นั้น หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนว่าหัวขโมยมีอาวุธมีดติดตัวด้วยจึงมีการใช้ปืนช็อตไฟฟ้า แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ หัวขโมยหนุ่มที่กำลังนั่งรอชะตากรรมของตัวเองอยู่ในรถ จากรายงานของเจ้าหน้าที่เผยว่า คนร้ายคือนาย Brady Alook วัย 19 ปีซึ่งภายหลังการจับกุมเขาถูกตั้งขอหาทั้งหมด 5 ข้อหาด้วยกันคือ พยายามขโมยรถ ครอบครองอาวุธในที่สาธารณะ มีอุปกรณ์งัดแงะไว้ในครอบครอง มีสารเสพติดในครอบครอง และพยายามหลบหนีการจับกุม …
-
27 เรื่องราวในครอบครัวสุดโหด มันส์ ฮา ที่ชาวเน็ตต่างเอามาแชร์กันให้อ่านแบบขำค้าง
สิ่งที่เราจะต้องเจอมาตั้งแต่เล็กจนโตก็คือครอบครัว สังคมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น และความทรงจำน่ารักๆ ที่คอยเติมเต็มหัวใจดวงน้อยๆ ของเราอยู่เสมอ วันวานที่ยังหวานอยู่เหล่านั้น เมื่อคิดถึงทีไรก็คงจะอดยิ้มกันไม่ได้ซักที เหมือนกับเรื่องราวมากมายที่ถูกแชร์ลงมาในโลกโซเชียล เผยให้เห็นถึงความสุขและความฮาในอดีต เพื่อบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าครอบครัวคือสิ่งที่สวยงามมากขนาดไหน ว่าแล้วราก็ลองไปดูเรื่องราวของพวกเขากันเลย นี่เป็นภาพตอนปี 1980 ในตอนที่ชาวเน็ตคนนี้ยังเป็นเด็กแล้วหัวดันไปติดอยู่กับรั้ว แต่แทนที่พ่อแม่จะช่วย พวกเขากลับถ่ายรูปเก็บเอาไว้ซะอย่างนั้น คุณแม่พยายามช่วยลูกๆ ผ่านด่านสุดหินในเกม Super Mario Land คุณพ่อไม่ไว้ใจเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติว่ามันจะทำความสะอาดได้ดี เขาก็เลยคลานตามเจ้าเครื่องนั้นซะเลย ภรรยาที่มักจะหลับตอนดูหนังด้วยกันเสมอ และวันนี้เธอก็พยายามจะหลอกคนอื่นๆ ว่าเธอไม่ได้หลับ จงอย่าทิ้งโทรศัพท์เอาไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ “คุณยายของฉันลองดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรก ในขณะที่คุณยายอีกคนคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ” คุณน้าไม่มีกระเป๋าสำหรับเจ้าเหมียว เธอก็เลยสร้างมันขึ้นมาซะเอง พี่น้องถ่ายรูปย้อนวันวาน เพื่อเป็นการฉลองวันเกิดให้กับคุณยายที่มีอายุครบ 90 ปีบริบูรณ์ ลูกน้อยที่ใช้เวลาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ในการออกสำรวจโลกของเขา ชุดฮาโลวีนของพ่อและแม่ ตามธีม Game of…
-
ปธน. ฟิลิปปินส์ สั่งบดขยี้รถหรูลักลอบนำเข้า ตัดช่องทางประมูล ตามนโยบายปราบคอร์รัปชัน
ในแต่ละประเทศมักจะมีนโยบายเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้า เพื่อป้องกันการคอร์รัปชัน และหากใครที่ละเมิดกฎก็ต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอน ล่าสุดในฟิลิปปินส์ได้มีการทำลายรถสปอร์ตและรถหรูอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 37 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายปราบคอร์รัปชันของประเทศ การทำลายดังกล่าวนี้เป็นคำสั่งของประธานาธิบดี Rodrigo Duterte ซึ่งทำให้มีทั้ง Jaguars BMWs และ Corvette Stingray ถูกบดขยี้ที่ลานศุลกากรในกรุงมะนิลา ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่ารถหรูเหล่านี้ถูกยึดโดยรัฐบาล หลังจากมีการตรวจสอบพบว่ารถเหล่านี้ถูกลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย หนึ่งในรถที่ถูกทำลายคือ 2000 Jaguar สีฟ้า ที่มีป้ายทะเบียนของอังกฤษ โดยจดทะเบียนเป็นรถออฟโรด และ MOT (คล้ายกับการตรวจสภาพรถประจำปี) หมดอายุไปแล้วในปี 2012 ประธานาธิบดี Duterte ผู้เฝ้าดูการบดขยี้รถหรูด้วยตัวเอง กล่าว่า “เราจะมอบเศษรถเหล่านี้ให้กับผู้รับซื้อเศษเหล็ก พวกเขาอาจจะไม่มีรถแบบนี้ แต่พวกเขาสามารถใช้ชิ้นส่วนบางอย่างในการทำของเล่นออกมาได้” ทั้งนี้สำนักงานศุลกากรของฟิลิปปินส์ได้ยึดรถลักลอบนำเข้ามูลค่า 92 ล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะสินค้าลักลอบนำเข้าที่ตรวจยึดมาได้มูลค่าทั้งหมดมากกว่า 27,000 ล้านบาท Carlos Dominguez รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า “ถ้าคุณคิดจะหลีกเลี่ยงภาษีในฟิลิปปินส์ ขอให้หยุดซะ เพราะคุณจะไม่มีทางประสบความสำเร็จ”…
-
ตำรวจรวบตัวหนุ่มวัยรุ่น จากคลิปโยนลูกแมวลงทะเลสาบ หลังถูกแชร์ต่ออย่างกว้างขวาง!!
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] การทารุณกรรมสัตว์เป็นสิ่งที่ไม่อาจถูกยอมรับได้ในสังคม แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งนี้ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งได้แสดงความป่าเถื่อน โดยการโยนลูกแมวตัวน้อยลงไปในทะเลสาบ ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวคือสิ่งที่เกิดขึ้นมานานกว่า 1 ปีมาแล้ว เผยให้เห็นภาพของเด็กหนุ่มวัยรุ่นโยนลูกแมวตัวน้อยไปอย่างแรงจนทำให้มันตกลงไปในทะเลสาบ ตอนเริ่มคลิป คนที่กำลังถ่ายอยู่พูดว่า “ยินดีต้อนรับนะเจ้าพวกตูดหมึก และนี่คือ Felipe เจ้าเหมียวเหินฟ้า” ก่อนที่ชายในคลิปจะโยนแมวออกไป ลูกแมวลอยไปไกลและร่วงลงน้ำในที่สุด โดยไม่มีใครทราบว่ามันเป็นตายร้ายดีอย่างไรแล้ว แม้เวลาจะผ่านมานานเป็นปี แต่ในที่สุดช่วงต้นปี 2018 คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวก็ถูกนำมาแชร์ในโลกโซเชียลอีกครั้ง โดย Nicole Pinheiro หญิงสาวที่เป็นคนแชร์คลิปรู้สึกสะเทือนใจอย่างมากหลังจากที่เธอได้เห็นภาพความน่าสงสารของเจ้าแมว Nicole บอกว่า “ฉันถึงกับจิตหลุดไปเลย ฉันเอาคลิปนี้ไปให้แม่ดู เธอถึงกับร้องไห้ออกมาและแทบจะไม่อยากเชื่อว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นบนโลกของเรา” เธอยังพูดอีกว่า “ไม่เกี่ยวว่าเขาจะเล่นสนุกทั่วไป อยากหาอะไรมาอัปลงโซเชียลมีเดีย หรือไม่ว่าเพราะอะไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้วโดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลเหล่านั้นเลย และมันยังคงไม่น่าให้อภัยไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เขาก็คือคนที่ทำในสิ่งที่ผิด” การรายงานข่าว และคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวิดีโอดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสขึ้นมา จึงทำให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยด่วน จนกระทั่งตำรวจในเขต Stanislaus รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้สืบสาวไปเจอผู้กระทำผิดที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนมัธยม Patterson จากคลิปวิดีโอ…
-
ญี่ปุ่นเตรียมเปิด Paisura Cafe คาเฟ่ที่พนักงานสาว จะสะพายกระเป๋าผ่านร่องภูเขา ฮึ่มมม!!!!
ผู้หญิงนั้นมีเสน่ห์อยู่หลายอย่างที่ชวนให้น่ามอง แต่เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ผู้หญิงมักไม่รู้คือเวลาที่ตัวของพวกเธอสะพายกระเป๋าสะพายข้างแล้วสายกระเป๋าพาดไปกลางหน้าอกนั่นน่ะ จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ที่ผู้ชายหลายคนต้องมักต้องแอบเหลียวมองเลยเชียวล่ะ และด้วยเสน่ห์แบบที่ว่ามา ทำให้ชาวญี่ปุ่นหัวใสเล็งที่จะเปิดร้านคาเฟ่ที่มีพนักงานผู้หญิงใส่กระเป๋าพาดกลางหน้าอก โดยที่มันจะได้ชื่อว่า “Paisura Cafe” คำว่า Paisura เป็นการเล่นคำระหว่างคำว่า Pai (ぱい) ใน Oppai (おっぱい) ที่แปลว่าหน้าอก กับคำว่า Sura (スラ) จากว่า Surasshu (スラッシュ) ซึ่งคือเครื่องหมาย “/” (สแลช) ในสำเนียงญี่ปุ่น ซึ่งพอรวมเป็นคำว่า Paisura ก็จะหมายถึงเหล่าผู้หญิงที่มีสายกระเป๋าสะพาย เข็มขัดนิรภัย หรืออะไรก็ตามที่พาดอยู่กลางอก ซึ่งเจ้าสายที่คาดอยู่กลางอก ซึ่งพวกสายเหล่านั้นมันจะมีลักษณะเป็นตัว “/” นั่นเอง Paisura Cafe นี่ถูกจัดขึ้นโดย Muchi Cafe ซึ่งสถานที่ที่จะตั้งคาเฟ่ขึ้นนั้นยังไม่แน่นอน แต่ผู้จัดคาดหวังที่จะจัดอยู่แถวๆ สถานีชินจูกุ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว ดังนั้นแฟนๆ ของ Paisura Cafe จะสามารถเดินทางมาที่ร้านได้สะดวกแน่นอน และทางคาเฟ่จะเริ่มเปิดบริการในวันที่ 25 มีนาคม…
-
สองหนุ่มรวยเกิ๊น อัดคลิปโชว์การเผาเงินให้เห็นกันสดๆ สุดท้ายโดนตำรวจปรับ 5,000 บาท
เราอาจเคยมองว่าการอวดรวยคือการที่คนคนหนึ่งขับรถหรูๆ แต่งเสื้อผ้าแพงๆ หรือคอยเที่ยวแจกเงินให้คนอื่นไปทั่ว ซึ่งความเป็นจริงแล้วการที่พวกเขาทำอย่างนั้นมันก็อาจไม่ได้หมายถึงการอวดความร่ำรวยเสมอไป แต่สำหรับสิ่งที่หนุ่มชาวจีนสองคนนี้ทำ มันคือพฤติกรรมที่เรียกว่าการอวดรวยอย่างเห็นได้ชัด เพราะพวกเขาเล่นเอาเงินมาเผาโชว์ ซะเหมือนกับเผากระดาษทิชชู่กันอย่างหน้าตาเฉยเลย หนุ่มชาวจีนที่เผาเงินเหมือนเห็นเป็นเศษกระดาษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเดือนมกราคม 2018 ในเขตเทียนฉาง มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ขณะที่หนุ่มๆ ชาวจีนกลุ่มหนึ่งกำลังดื่มฉลองให้กับงานขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อนจนเริ่มเมากันได้ที่ พวกเขาจึงเริ่มเถียงกันว่าใครรวยกว่ากัน หลังจากนั้นการแข่งขันเผาเงินโชว์ก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อชายสองคนได้หยิบเอาแบงก์ 100 หยวน (ประมาณ 500 บาท) ออกมา ก่อนที่จะจุดไฟแช็กเผาเงินกันอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งก็ได้ถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียของประเทศจีน คลิปหนุ่มชาวจีนเผาเงินโชว์ เพื่อวัดว่าใครรวยกว่า พวกเขาเผาเงินกันไปหลายต่อหลายใบ ทำเหมือนกับว่ามันเป็นเพียงแค่เศษกระดาษทิชชู่ยังไงยังงั้น และคลิปของพวกเขาก็ได้กลายเป็นกระแสจนทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องยื่นมือเข้ามาตรวจสอบ สุดท้ายแล้ว ชายทั้งสองคนที่เราได้เห็นจากในคลิปก็ต้องเสียค่าปรับให้กับเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ในข้อหาทำลายทรัพย์สินสกุลเงิน ซึ่งดูแล้วก็คงจะไม่ได้กระทบกับสถานะทางการเงินของพวกเขาเลยซักนิด ตอนเผาเงินทีละ 500 บาทก็ยังนั่งหัวเราะกันอยู่เลย แม้ว่าการอวดรวยอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผิด หากไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน แต่ที่แน่ๆ คือเวลาจะทำอะไรก็ควรที่จะมีการไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบหรือความมึนเมาเป็นตัวกำหนดจะดีกว่านะ ที่มา: medium
-
ศิลปินผู้เปลี่ยนผลงานขนหัวลุก ให้กลายเป็นรอยสักที่จะฝังความน่ากลัวเอาไว้บนเรือนร่าง
หากใครชื่นชอบการสร้างงานศิลปะบนเรือนร่างแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ได้รู้จักกับช่างสักชาวฝรั่งเศสที่ใช้ชื่อว่า Jeanchoir เจ้าของร้านสัก Sombre Tache ในเมือง Marseille ประเทศฝรั่งเศส ผู้มากด้วยความสามารถและได้ฝากผลงานอันสวยงามเอาไว้มากมาย ความพิเศษของรอสักที่เขาสร้างขึ้น คือรูปร่างที่เกิดมาจากจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด ผสมผสานกันระหว่างแรงบันดาลใจจากผลงานแนวสัตว์ประหลาดต่างดาวของศิลปิน HR Giger บวกกับความเป็นตัวของตัวเอง ทำให้ Jeanchoir สามารถให้กำเนิดความหลอนที่จะฝังอยู่บนร่างกายได้อย่างหลากหลาย ด้วยความเชื่อของเขาที่ว่าพระเจ้านั้นไม่มีอยู่จริง ทำให้เขาสร้างผลงานที่ออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ชวนขนหัวลุกแบบแปลกๆ แต่ก็ยังคงเอาไว้ซึ่งความสวยงาม และนี่ก็คือตัวอย่างผลงานอันน่าประทับใจของช่างสักคนนี้ รูปแบบที่เกิดจากจินตนาการที่มีความหลอนซ่อนอยู่ด้านใน ภาพวาดเหล่านั้นถูกนำไปฝังเอาไว้บนร่างกายของมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวและโหดร้าย แต่ยังคงความสวยงามเอาไว้ เมื่อได้มาอยู่บนเรือนร่าง การสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบ ทำให้ผลงานของเขาเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก เขาไม่เชื่อเรื่องของสวรรค์หรือพระเจ้า และสิ่งนั้นก็ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านรอยสักเหล่านี้ การเก็บรายละเอียดทุกอย่าง ทำให้ผลงานดูสมจริงและตระการตา ผลงานรอยสักที่จะทำให้ทุกคนสงสัยว่ามันคือตัวอะไร? นับว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินผู้มากไปด้วยฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ หากใครอยากได้รอยสักผลงานของเขามาฝากเอาไว้บนเรือนร่างก็คงต้องเดินทางไปไกลถึงประเทศฝรั่งเศสกันเลยทีเดียว โดยทุกคนสามารถติดตามผลงานของเขาได้ที่อินสตาแกรม jeanchoir_tattoo ที่มา: sobadsogood
-
หนุ่มผิวสีถูกร้านกักตัว กล่าวหาว่าขโมยเสื้อกันหนาว แม้บริสุทธิ์แต่ไม่มีคำขอโทษสักคำ!?
ในปัจจุบัน คนบางกลุ่มยังคงยึดถือในเรื่องของความแตกต่าง มองว่าตนเองอยู่เหนือกว่าผู้อื่นเพียงเพราะเรื่องของเชื้อชาติหรือสีผิว ทำให้เกิดการเหยียดคนที่เป็นเชื้อชาติอื่นๆ เหมือนอย่างเหตุการณ์ที่ชายคนนี้ต้องเจอเพียงเพราะว่าเขาเป็นคนผิวดำ เขาคนนี้มีชื่อว่า James Conley III วัย 29 ปี หนุ่มผิวสีที่เป็นลูกค้าประจำของแบรนด์เสื้อผ้า Old Navy แต่วันหนึ่งเขาก็ต้องเจอกับการโดนดูถูกจากร้านเสื้อผ้าที่ตนเองชื่นชอบ James ได้โพสต์สิ่งที่เกิดขึ้นลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2018 เรื่องราวมีอยู่ว่าในวันนั้น เขาได้เข้าไปเลือกซื้อเสื้อผ้าของร้าน Old Navy สาขาหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า Jordan Creek รัฐไอโอวา สหรัฐอเมริกา ซึ่งในตอนนั้นเขาก็ใส่เสื้อแบรนด์เดียวกันไปด้วย โพสต์ของเขาที่พูดถึงการโดนเหยียดสีผิว จากนั้นเขาก็ถูกผู้จัดการร้านที่ชื่อ Beau Carter เรียกตัวไป เพื่อจะตรวจสอบเสื้อหนาวสีน้ำเงินตัวที่เขาใส่อยู่ เพราะเกิดการตั้งข้อสงสัยว่าเขาได้ขโมยเสื้อตัวนี้ไปหรือเปล่า ทั้งๆ ที่จริงเสื้อตัวนี้ James ได้มาเป็นของขวัญวันคริสต์มาสในปีที่ผ่านมานี่เอง James (คนซ้าย) ถูกผู้จัดการร้านเรียกไปตรวจสอบว่าเสื้อที่เขาใส่คือตัวของทางร้านหรือเปล่า ผู้จัดการร้านชี้แจงกับเขาว่า “เวลาที่มีลูกค้าใส่เสื้อของ Old Navy เดินเข้ามาในร้าน…
-
I-MAGAZINE จัดอันดับ 55 สาวหน้าสวยแห่งเอเชีย “ออกแบบ-ดาวิกา-ลิซ่า” ติดอันดับด้วย
I-MAGAZINE เป็นนิตยสารแฟชั่นและความงามที่ได้วางขายในหลายประเทศ ได้ประกาศผลอันดับ Fashion Face Award 2017 หรืออันดับของคนที่มีหน้าตาสวยงามเหมาะแก่การถ่ายแฟชั่นที่สุดประจำปี 2017 Fashion Face Award จะเลือกเอาดาราศิลปินมาจัดอันดับ โดยจะมีช่างภาพ, ดีไซน์เนอร์, ช่างแต่งหน้า, สไตล์ลิสต์ รวมถึงทีมงานของนิตยสาร I-MAGAZINE ทั้งหมดกว่า 350 คน จาก 30 ประเทศ เป็นคนคัดเลือก โดยจะคัดเลือกจากด้วยผลโหวตจากกว่า 10,000 ภาพและวิดีโอที่ถูกตีพิมพ์ในปี 2017 ซึ่งในประเภท Asian Female ได้ถูกจัดอันดับเป็น 55 สาวสวยแห่งเอเชีย และในประเภทนี้เองมีสาวไทยติดอันดับไปด้วยกันถึง 3 คน ได้แก่ ออกแบบ ชุติมณฑน์, ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ และ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ส่วนใครจะติดอันดับอะไรเราไปชมกันเลย อันดับที่ 32 ได้แก่ ออกแบบ…
-
ชายหนุ่มที่เปลี่ยนตัวเองเป็นผู้หญิงได้เหมือนมาก ถึงขนาดประกวดสาวงามจนเข้ารอบสุดท้าย
กลายเป็นเรื่องฮือฮาสำหรับกองประกวด Miss Virtual Kazakhstan หลังจากที่พวกเขาพบว่าผู้เข้าประกวดที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายรายหนึ่ง ไม่ใช่หญิงสาวแต่หลายเป็นหนุ่มวัย 22 ปีไปได้ซะนี่!! จุดเริ่มต้นของการเข้าประกวดนางงานของ Eli Diaghilev นายแแบบหนุ่มวัย 22 ปีชาวคาซัคสถานรายนี้ เกิดขึ้นจากความคิดของเขาที่ว่าปัจจุบันความงามแบบผู้หญิงสมัยก่อนนั้นค่อนข้างหาได้ยาก เพียงแค่แต่งหน้าทำผม และหาแอปแต่งรูปดีๆ แค่นี้ก็ทำให้พวกเธอสวยได้แล้ว ซึ่งผู้ชายเองก็สามารถทำแบบนี้ได้เช่นกัน Diaghilev จึงตัดสินใจที่จะแปลงโฉมตัวเองให้กลายเป็น Arina Aliyeva เพื่อเข้าประกวดนางงานในครั้งนี้ Diaghilev เริ่มโพสต์ภาพของเขาในชื่อของ Arina Aliyeva ลงบนโลกออนไลน์ เขาเฝ้ารอดูกระแสตอบรับจากชาวเน็ตที่มีต่อความงามของนางแบบสาวที่เขาปลอมตัว และดูเหมือนว่าการแปลงโฉมของชายหนุ่มครั้งนี้จะได้ผลเกินคาด เมื่อเขาสามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการประกวด Miss Virtual Kazakhstan ได้ แต่ทว่าหลังจากที่มีการประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้าย Diaghilev ก็ได้ปล่อยคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นความจริงว่า ตัวเขาเองนั้นเป็นผู้ชายที่ปลอมตัวมา ชายหนุ่มอธิบายถึงที่มาของการเข้าประกวดครั้งนี้ว่า สิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้าประกวดนั่นก็คือ มันเป็นวิธีที่จะทำหญิงสาวสามารถเผยความงามของพวกเธอออกมาได้ และเขาหวังว่าเรื่องราวของเขาเองจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ด้วย “ผมรู้สึกมีความสุขอย่างมากที่ได้เห็นปฏิกิริยาของผู้คนในคาซัคสถานและได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ คน ผมไม่ได้ตังใจจะหลอกลวงผู้คน แต่ผมอยากทำให้พวกเขารู้ว่าความสวยงามพื้นฐานนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่เป็นธรรมชาติและสิ่งที่พวกเขาเป็นต่างหาก” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์ แน่นอนว่าหลังจากที่ชายหนุ่มได้สารภาพว่าจริงๆ แล้วเขาคือผู้ชายที่ปลอมตัวมา ทางกองประกวดก็ได้ตัดชื่อของเขาออกและนำผู้เข้าประกวดคนอื่นเข้ามาแทนในตำแหน่งของเขา และการเข้าร่วมการประกวดของเขาครั้งนี้ก็อาจจะทำให้หลายๆ คนเริ่มตั้งข้อสงสัยกันว่า ความสวยงามที่แท้จริงของผู้หญิงคือตรงไหนกันแน่? ที่มา odditycentral
-
เด็กสาวปั่นประสาทพี่ จัดสลับอักษรวงโปรด “The Beatles” จะกลายเป็นคำว่าอะไรได้บ้าง!?
เมื่อคุณมีพี่น้อง การกลั่นแกล้งกันจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย มันเหมือนว่าการได้กวนตรีนพี่ๆ น้องๆ ตัวเองนี่กลายเป็นหน้าที่สำคัญที่เราต้องพยายามทำอยู่เป็นประจำ ซึ่งก็ถือว่าเป็นสีสันชีวิตทำให้ครอบครัวไม่เหงากันไป และแน่นอนคนที่มีประสบการณ์ถูกแกล้งจากพี่ๆ น้องๆ ก็มีอยู่กันทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือผู้ใช้ Tumblr ชื่อว่า Jennifer Wilbur เธอได้แชร์ประสบการณ์ฮาๆ ที่ถูกแกล้งโดยน้องสาวตัวแสบของเธอ ต้องบอกก่อนว่า Jennifer ชอบ The Beatles เอามากๆ และได้แปะชื่อวงสุดรักเอาไว้ที่ประตูห้องของเธอ และแน่นอนว่าน้องสาวที่รักของ Jennifer หาได้แคร์ไม่ เธอจะต้องหาเวลาในแต่ละวันเพื่อจะมาสับเรียงชื่อวงสุดรักเป็นประโยคใหม่ๆ อยู่เสมอๆ จน Jennifer ถึงกับพูดว่า “ฉันยอมแพ้ที่จะทำมันกลับเป็นปกติแล้วล่ะ” เพื่อนๆ คิดว่าคำว่า The Beatles จะสามารถเรียงเป็นคำใหม่ๆ อะไรได้บ้างล่ะ เพื่อนๆ ลองเลื่อนลงไปดู แล้วจะรู้ว่าน้องสาวของ Jennifer นี่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่เบาเลยล่ะ ฮ่าๆ จาก “สี่เต่าทอง” กลายเป็น “เขากินโต๊ะ” ไปซะได้ หรือจะกลายเป็นเขากินอาหาร “เสียงบ่นพวกนี้” “เข็มขัดนิรภัย”…
-
รองเท้าแตะสำหรับรอง ‘รองเท้า’ อีกหนึ่งชั้น ปกป้องไอเท็มสุดรักของคุณไม่ให้แปดเปื้อนพื้น
สำหรับคนที่ชอบรองเท้าเอามากๆ เวลาที่ได้ซื้อรองเท้าใหม่ที ก็จะรักหวงแหนเจ้ารองเท้าใหม่เอามากๆ แทบจะไม่ให้รองเท้าเปื้อน แม้แต่จะเอาใส่ออกไปเหยียบพื้นข้างนอกก็ยังไม่ค่อยจะอยากเลย บางคนรักมากๆ ถึงขั้นเอาไปนอนด้วยเลยก็มีนะ ฮ่าๆ และเพื่อตอบโจทย์คนที่ไม่อยากให้รองเท้าคู่ใหม่แสนรักต้องเหยียบพื้นที่ไม่สะอาด แบรนด์รองเท้าจากประเทศจีน SANKUANZ ก็ได้ทำสิ่งที่เหล่าผู้รักรองเท้าต้องออกมาแล้วโดยเจ้าสิ่งนั้นคือรองเท้าแตะสำหรับรองเท้าอีกชั้นหนึ่งเพื่อที่รองเท้าอันเป็นที่รักจะได้ไม่ต้องพบเจอกับพื้นอันสกปรกอีกต่อไป โดยที่มันได้เปิดตัวในงาน Paris Men’s Fashion Week ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูหนาวของปี 2018 SANKUANZ ได้นำเจ้ารองเท้าแตะของรองเท้าออกมาโชว์ตัว โดยที่มันมีสองสีได้แก่สีดำและสีเขียวมะกอก เราลองไปชมรูปในวันเปิดตัวของมันเลยดีกว่า จ๊าบๆ ไปเลย . มีสีอื่นให้เลือกด้วย แต่ว่ามันจะตอบโจทย์คนรักรองเท้าได้ขนาดไหนกันนะ เพราะเมื่อนำมาใส่ทับรองเท้าแล้ว มันทำให้รองเท้าดูใหญ่ไปเลย และก็มันค่อนข้างหนักด้วย ทำให้มีความเห็นฮาๆ เกี่ยวกับมันออกมาเต็มเลยเช่น เอาไว้ขว้างใส่หัวน้องสาวเวลาเธอมากวนฉัน เอาไว้คั่นประตูให้เปิดอยู่ตลอดเวลาตอนลมแรง เป็นต้น และหากนึกภาพคนที่รักรองเท้ามากๆ ไม่ออกต้องดูนี่เลย มันจะตอบโจทย์ของคนรักรองเท้ามั้ย ก็ต้องพิสูจน์ ที่มา Pedestrian via Designtaxi
-
สาววัย 18 เชิดเงินพ่อ 15 ล้านบาท ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก อยู่สุขสบายแถมเปย์ชายหนุ่ม
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2017 สำนักข่าว Supchina ได้รายงานถึงประเด็นร้อนในโลกโซเชียลของจีน เหตุการณ์ที่คุณพ่อออกมาโพสต์ระบายหลังจากที่ส่งลูกสาวตัวไปเรียนประเทศแคนาดาแต่ลูกสาวกลับเชิดเงินหนีแล้วใช้ชีวิตแบบหรูหราโดยไม่ติดต่อกลับมาเลย โพสต์นี้ถูกโพสต์ไปเมื่อวันที่ 11 มกราคม โดยผู้ใช้บัญชีที่ชื่อว่า คุณพ่อตกงานผู้รอคอยลูกสาวกลับมา ซึ่งเจ้าของบัญชีคือชายวัย 55 ปีผู้ที่มาใช้พื้นที่ในโลกโซเชียลเพื่อตามหาลูกสาวกลับมา . คุณพ่อบอกว่า เขาหย่ากับภรรยาตั้งแต่ลูกสาวอายุ 7 ขวบ เขาอยากจะชดใช้ความผิดที่เขาทำลายชีวิตครอบครัวแสนสุขด้วยการตามใจเธอทุกอย่าง ซึ่งลูกสาวก็ได้ขอให้คุณพ่อส่งเธอไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดา โดยเธอได้บอกว่าเธอนั้นได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยในประเทศนั้นแล้ว คุณพ่อก็จัดแจงนำเงินที่เขาสะสมมาทั้งชีวิตไว้เป็นค่าเล่าเรียนให้กับลูกสาวสุดที่รักเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านหยวนหรือประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้คงจะเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในต่างประเทศของเธอ จนกระทั่งถึงเวลาที่ลูกสาวต้องจากบ้านไป ในสัปดาห์แรกที่เธอไปอยู่ เธอจัดการปิดบัญชีธนาคารเพื่อนำเงินที่พ่อให้ไว้ไปใส่ในบัญชีที่เธอเปิดไว้ในต่างประเทศ ทำให้ผู้เป็นพ่อเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของลูกสาว นอกจากนี้คุณพ่อก็ยังรู้มาอีกว่า ลูกสาวได้ใช้เงินในการเช่าโรงแรมระดับ 5 ดาว ทานอาหารร้านไฮเอนด์ เสียเงินไปกับสินค้าแบรนด์เนมและติดผู้ชาย แทนที่จะสนใจการเรียน . คุณพ่อเห็นเช่นนั้นจึงได้ส่งข้อความไปตักเตือนลูกสาวว่า “ถ้าลูกไม่ฟังพ่อ พ่อจะบอกทุกคนใน Weibo และลูกจะกลายเป็นคนที่ไม่ดีจนไม่มีใครอยากคบ”…
-
เรื่องราวสุดโหดร้ายของ “แฝดสาม” ที่ถูกแยกออกจากกันเพื่อทำการทดลองอะไรบางอย่าง
โดยปกติแล้วฝาแฝดที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา มักจะมีรูปร่างลักษณะ ท่าทางและรสนิยมที่คล้ายกัน แต่ถ้าพวกเขาถูกจับแยกออกจากกันตั้งแต่ยังเป็นทารกล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น? ในปี 1980 เมื่อ Robert Shafran ได้เข้ามาอยู่ที่วิทยาลัย Sullivan County Community ที่รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เขารู้สึกสับสนและถูกครอบงำด้วยเหล่าผู้คนมากมายที่เขาไม่เคยพบเจอ เข้ามากอดต้อนรับเขากันอย่างอบอุ่น เข้ามาทักทายราวกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน และเรียกเขาว่า Eddy ความรู้สึกแปลกๆ ของเขาก็ได้เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อพบกับเพื่อนร่วมห้องชื่อว่า Michael Domitz กลายเป็นว่าเพื่อนร่วมห้องคนก่อนของ Michael เมื่อปีที่แล้วนั้นคือ Eddy Galland ชายหนุ่มที่มีรูปร่างเหมือนกับ Robert รวมไปถึงวิธีการเดิน การพูด และลักษณะท่าทางอีกด้วย ราวกับว่าทั้งคู่คัดลอกกันมาแบบสำเนาถูกต้องเลยทีเดียว หลังจากที่ Michael ได้รู้ว่า Robert มีวันเกิดวันเดียวกับเพื่อนร่วมห้องคนเก่าของเขา และถูกรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมมาเหมือนกัน เขาจึงตัดสินใจพาทั้งคู่มาพบกัน หลังจากที่ทั้งคู่ได้มาพบกัน Robert และ Eddy ก็ได้รู้ว่าพวกเขาคือพี่น้องคู่แฝดที่ถูกพรากจากกันเมื่อแรกเกิด ทั้งคู่เกิดวันที่ 12 กรกฎาคม 1961ที่เกาะลอง รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และถูกรับเลี้ยงโดยคนละครอบครัว …
-
คาเฟ่ปฏิเสธออร์เดอร์ของหญิงสาว ที่ต้องการจะซื้อเครื่องดื่มให้กับคนไร้บ้าน!?
Lindsey Winson นักศึกษาสาขาจิตวิทยาและสังคมอายุ 31 ปี และ Stuart Henderson แฟนหนุ่มอายุ 38 ปี ไปรับประทานอาหารเช้าที่ Argo Lounge ในเมืองปีเตอร์โบโร ประเทศอังกฤษ เวลาประมาณ 9.45 น. เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา ในขณะที่เธอกำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ เธอก็พบกับคนไร้บ้านอายุประมาณ 20 ปีนั่งอยู่ข้างนอกตรงทางเดิน เธอจึงเดินเข้าไปคุยและให้เงินกับชายผู้นั้นไปจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ให้เงินแล้ว เธอก็เดินกลับเข้าไปในร้านเพื่อขอซื้อกาแฟร้อนกับผู้จัดการให้ชายคนนั้นได้ดื่ม แต่เธอกลับถูกปฏิเสธออกมา Lindsey กล่าวว่า “ฉันถามเหตุผลและได้คำตอบมาว่าพวกเขามีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดและสร้างความวุ่นวายข้างนอก เลยปฏิเสธที่จะให้อาหารหรือเครื่องดื่มร้อนๆ” เธอถามทางร้านว่าพวกเขาเคยมีปัญหากับชายผู้นี้หรือไม่ และผู้จัดการก็ตอบว่าใช่ เธอจึงบอกผู้จัดการว่าชายคนนั้นเล่าให้ฟังว่าช่วยทำความสะอาดหลังจากที่มีคนไร้บ้านอีกคนปัสสาวะไปทั่วเมื่อคืนก่อน ผู้จัดการยอมรับว่าเขาก็เห็นว่าชายคนนั้นช่วยทำความสะอาดจริงๆ แต่ก็ยังปฏิเสธที่จะขายให้เพราะเป็นนโยบายของทางร้าน ทางด้านคนไร้บ้านก็บอกกับเธอว่าพนักงานของร้านได้เทน้ำไปทั่วเพื่อไม่ให้พวกเขานอนที่นี่ Stuart แฟนหนุ่มของเธอ ได้โพสต์จดหมายของเขาที่ส่งถึง Justin Carter กรรมการผู้จัดการของร้าน Argo ลงเฟซบุ๊ก และได้มีการแชร์ต่อกันไปกว่า…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังหนุ่มใช้แมวเป็นฟองน้ำ จุ่มน้ำแล้วเอาไปทำความสะอาดรถ
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว Metro ได้มีการรายงานเกี่ยวกับคลิปวิดีโอที่กำลังกลายเป็นกระแสในประเทศรัสเซีย ภายในคลิปเผยให้เห็นภาพของชายคนหนึ่งที่กำลังกลั่นแกล้งแมวจรจัด ด้วยการเอามันมาใช้แทนฟองน้ำล้างรถ คลิปของเจ้าเหมียวที่ถูกใช้แทนฟองน้ำล้างรถ <span data-mce-type=”bookmark” style=”display: inline-block; width: 0px; overflow: hidden; line-height: 0;” class=”mce_SELRES_start”></span> จากการรายงานบอกว่าเจ้าแมวจรจัดตัวนี้ไปเดินอยู่บนกระโปรงหน้าของรถคันสีดำที่เห็นภายในคลิป ซึ่งจอดอยู่ในเมือง Krasnodar ทำให้ชายที่เป็นเจ้าของรถไม่พอใจและจับมันมาเล่นสนุก โดยการเอามันจุ่มลงไปในน้ำแล้วใช้ล้างรถของตัวเอง เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายเก็บไว้โดยเพื่อนของเขาที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน เพราะตลกกับคำพูดของเพื่อนที่กำลังใช้แมวล้างรถที่บอกว่า “นี่เป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับการล้างไฟหน้าเลย” พวกเขาได้นำคลิปวิดีโอนี้โพสต์ลงไปในโลกโซเชียล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ชาวเน็ตบางคนถึงกับพยายามโทรแจ้งตำรวจ และนั่นจึงทำให้ชายทั้งสองคนยอมลบคลิปออกไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต พร้อมกับความคิดเห็นที่ไม่พอใจในสิ่งที่พวกเขาทำ Ashlea Wolff “น่าเศร้าเสียจริงที่ต้องมาเห็นคนให้ความสำคัญกับสิ่งของมากกว่าสิ่งมีชีวิต หวังว่าพวกเขาจะได้ชดใช้สิ่งที่ทำอยู่ในคุกเข้าซักวัน นั่นคือโทษที่เบาที่สุดแล้วที่เขาควรได้รับ” Zoe Ann “เอาจริงๆ ฉันเป็นคนเกลียดแมวนะ แต่ฉันก็ไม่มานั่งทำร้ายมันอย่างป่าเถื่อนแบบนี้หรอก พวกเขาเหล่านั้นสมควรที่จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป” Chris Lane “ชายใจทรามที่มัวแต่ยืนถ่ายวิดีโอก็สมควรถูกจับเหมือนกัน เพราะความเลวร้ายแบบนี้ไม่สมควรที่จะได้รับการให้อภัยใดๆ…
-
อุทาหรณ์คนฟังเพลง สาวรัสเซียชาร์จโทรศัพท์ระหว่างอาบน้ำ เผลอทำร่วงลงอ่างช็อตทั้งร่าง…
การเสียบปลั๊กหรือใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอาจเกิดเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ Kseniya P เด็กหญิงชาวรัสเซียวัย 12 ปี เสียชีวิตจากการนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปฟังเพลงในขณะที่อาบน้ำหลังจากเลิกเล่นบาสเกตบอลที่โรงเรียน จากการสืบสวนพบว่า ในขณะที่เธอฟังเพลงอยู่นั้น แบตเตอร์รี่โทรศัพท์ของเธอก็หมด เธอจึงได้เสียบสายชาร์จในห้องน้ำเพื่อฟังเพลงต่อ แต่ว่าโทรศัพท์ของเธอที่เชื่อมต่อกับสายชาร์จก็หล่นลงไปในอ่างอาบน้ำ ทำให้เธอเสียชีวิตในทันที แม่ของเธอที่กำลังทำอาหารเย็นอยู่ก็รู้สึกกังวลเนื่องจากเสียงของลูกสาวนั้นได้เงียบไปสักพัก หลังจากที่เธอเข้าไปดูก็พบว่าลูกสาวของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว และพบโทรศัพท์ลอยอยู่ในอ่างอาบน้ำ แม่ของเธอจึงรีบโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากเธอเสียชีวิตไปนานแล้ว . Kseniya เป็นลูกสาวคนเดียวในครอบครัว เธอเป็นเด็กที่ชื่นชอบในการเล่นกีฬา รักในการเต้นและเป็นนักสกี อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Bolshoe Gryzlovo ในเขต Serpukhovsky เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย แม่ของเธอทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่ง และพ่อของเธอทำงานเป็นคนขับรถ ทางโรงเรียนสอนเต้นของเธอรู้สึกเสียใจอย่างมากกับการจากไปของเธอ ผู้เป็นดวงดาวอันสวยงามของทุกคนที่นี่ ซึ่งได้เสียชีวิตลงในวัยแค่เพียง 12 ปี และ Anna เพื่อนของเธอกล่าวว่าเหตุครั้งนี้เป็นโศกอนาถกรรมอันน่าสลด . ทางด้านผู้ปกครองก็ได้มีการแสดงความเห็นเข้ามามากมายถึงเรื่องความเสี่ยงในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะอยู่ในห้องน้ำ ความเห็นจากผู้ปกครองท่านหนึ่งกล่าวว่า “นี่คนอื่นไม่รู้เกี่ยวกับกฎความปลอดภัยและอธิบายให้เด็กๆ ฟังเหรอ ว่าการใช้ไฟฟ้าในขณะที่อาบน้ำเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ จะต้องได้ยินข่าวแบบนี้อีกกี่ครั้ง” และมีอีกบางส่วนที่กล่าวว่า…
-
เจ้าม้าน้อยชอบหนีออกมาจากบ้านเพราะเหงา จนสุดท้ายก็มีครอบครัวที่พร้อมแก้เหงาให้
เช้าวันอาทิตย์วันหนึ่ง สองสามีภรรยา Collum ได้เห็นสัตว์บางชนิดวิ่งอยู่บนถนนที่เขากำลังขับรถอยู่ พวกเขาคิดว่าเป็นเจ้าหมาที่กำลังวิ่งหนีเชือกจูงของตนเอง แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ก็พบว่ามันคือม้าแคระอเมริกันสีน้ำตาลขาว ซึ่งกำลังวิ่งหนีด้วยความกลัวอะไรบางอย่าง ด้วยความที่มันวิ่งขึ้นมาบนถนน ฝ่ายสามี Craig ได้ล่อมันมาใกล้ๆ ด้วยฟาง เพราะกลัวมันจะถูกรถชน เมื่อวันก่อนหน้านี้ ครอบครัว Collum ยังได้พาม้าของเขา 2 ตัวไปเก็บเข้าคอกเพื่อที่จะได้อยู่รอดในฤดูหนาว โดยเมื่อทั้งคู่เห็นเจ้าม้าแคระตัวนี้พวกเขาจึงคิดได้ว่าต้องหาที่พักอาศัยที่อบอุ่นและปลอดภัยให้กับมัน เจ้าม้าแคระตัวนี้ชื่อว่า Benjamin ซึ่งที่จริงแล้วมันเป็นม้าของบ้านที่อยู่ถัดจากบ้านของพวกเขาไป 3 หลัง เมื่อทั้งคู่ไปแจ้งเจ้าของบ้านว่าม้าของพวกเขาหนีไป ก็ไม่มีใครติดต่อเข้ามาเพื่อรับเจ้า Benjamin กลับไป ฝ่ายภรรยา Connie Collum กล่าวว่า “พวกเรารอที่บ้านหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่มีใครมารับตัวมัน พวกเราจึงพยายามหาที่พักที่สบายและปลอดภัยให้กับมัน” เมื่อเจ้าของเจ้า Benjamin กลับมา คู่สามีภรรยาจึงทราบว่า เจ้าม้าแคระตัวนี้มีนิสัยชอบหนีออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน มันออกไปทุกครั้งเมื่อเห็นว่ารั้วบ้านไม่แข็งแรง พวกเขาเล่าว่าครั้งหนึ่งเจ้า Benjamin เคยออกไปไกลถึง 8 กิโลเมตร แถมมีไม้หนามติดหัวและหูเต็มไปหมด “หนามที่ติดมามันทำให้เจ้า…
-
หนุ่มออกเที่ยวยุโรปแบบฟรีๆ แค่ควงสาวผ่านแอปฯ ได้ฟาดไปแล้วตั้ง 21 คนแหนะ!?
เรื่องราวในวันนี้รับรองได้เลยว่าหนุ่มๆ หลายคนต้องอ้าปากค้างแน่นอนเพราะว่ามีชายคนหนึ่งได้ไปเที่ยวประเทศต่างๆ ทั่วยุโรปแบบไม่ต้องเสียค่าที่พักสักแดงเดียว เครื่องมือชนิดเดียวของเขาคือแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า “Tinder” ก่อนจะเข้าเรื่อง เรามาทำความรู้จักเจ้าแอป Tinder นี้กันก่อนดีกว่า มันเป็นแอปพลิเคชันหาคู่เดตออนไลน์ ภายในแอปเราจะสามารถใส่รูปและรายละเอียดของตัวเราได้ เมื่อเริ่มต้นแอปจะเริ่มทำการค้นหาผู้คนที่อยู่ในระยะที่เรากำหนดไว้ ทีนี้หากเราถูกใจใครก็เพียงแค่กดถูกใจ หากว่าทางฝั่งโน้นกดถูกใจเราเช่นกัน เราก็จะได้แมตช์กัน การแมตช์ก็คือการที่คนสองคนที่กดถูกใจกันและกันได้เริ่มต้นสนทนากันนั่นเอง เรื่องราวก็คือ หนุ่มชาวเบลเยี่ยมที่ชื่อว่านาย Anthony Botta วัย 25 ปีคนนี้ ได้ใช้แอป Tinder เพื่อค้นหาคู่เดต แถมยังจ่ายเงินซื้อสิทธิพิเศษในแอปเพื่อให้สามารถค้นหาผู้คนจากต่างประเทศได้ด้วยแน่ะ เมื่อเขาพบคู่เดตแล้ว เขาจะขอให้สาวเจ้าบ้านนั้น “เลี้ยงค่าที่พัก” ให้เขา ซึ่งเขาบอกว่าบางครั้งก็ไปได้สวย บางครั้งก็ห่วยสุดๆ แต่เขาก็ได้ “เรียนรู้อะไรต่อมิอะไรมากมาย” จากการเดินทางครั้งนี้ ประเทศที่เขาไปก็ประกอบไปด้วย เบลเยี่ยม ฮอลแลนด์ ออสเตรีย ฮังการี โปแลนด์ สโลวาเกีย และสาธารณรัฐเช็ค Anthony กล่าวว่าบางครั้งเขาก็ไม่ได้เลือกคนที่ชอบเสมอไปหรอก ที่เขาต้องการจริงๆ มันก็คือ “ที่พัก” บางวันเขาต้องกดถูกใจทุกคนที่ปรากฏบนหน้าจอเพราะไม่รู้ว่าจะพักที่ไหน เขาบอกว่าการเดินทางทำให้เขาแทบไม่มีเวลาตอบข้อความในแอป Tinder จนสุดท้ายการสนทนาเป็นไปเพียงแค่ เริ่มทักทายด้วยคำว่า…
-
ไม่อยากให้ทุกข์ใจ…คุณพ่อพาลูกสาวไปเยี่ยมหลุมศพพี่ชาย ที่ถูกฆาตกรรมเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
ภาพสุดสะเทือนใจของผู้เป็นพ่อที่พาลูกสาววัย 4 ของเขามายังหลุมที่เธอไม่รู้จัก ซึ่งแน่นอนว่าหนูน้อยคงได้แต่ตั้งข้อสงสัยว่าพ่อพาเธอมายังที่ใด และหลุมศพที่เธอยืนอยู่ต่อหน้าคือหลุมศพของใคร… ภาพของผู้เป็นพ่อที่ตัดสินใจจะบอกความจริงแก่หนูน้อยที่ไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องราวอันโหดร้ายในอดีต Ralph Bulger คือชายผู้อยู่ในภาพดังกล่าว โดยภาพนี้ได้ถูกบันทึกที่สุสานแห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ โดยเขาได้พาลูกสาวคนเล็กวัย 4 ขวบมายังหลุมศพของพี่ชาย James Bulger ที่หากยังมีชีวิตอยู่ปัจจุบันจะมีอายุครบ 25 ปี แน่นอนว่าหนูน้อยวัย 4 ขวบ และ James นั้นไม่เคยพบกัน เพราะเขานั้นได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1993 เมื่อตอนที่เขาอายุเพียง 2 ขวบ เท่านั้น ส่วนสาเหตุการตายของ James นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในคดีฆาตกรรมที่โหดที่สุดคดีหนึ่งในเกาะอังกฤษเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเมื่อตอนที่เขาอายุ 2 ขวบ ขณะเดินเล่นอยู่ในศูนย์การค้า เขาได้ถูกเด็กชายวัย 10 ขวบสองคน Jon Venables และ Robert Thompson ลักพาตัวและ 2 วันต่อมาก็ถูกพบเป็นศพบริเวณรางรถไฟ (คดีดังกล่าวทำให้ Jon และ Robert ถือเป็นฆาตกรที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ) …
-
การออกไปเที่ยวในยุคใหม่ ถ่ายรูปให้คนอื่นดูได้ ก็กลายเป็น ‘มุมนิยม’ ไปโดยปริยาย
การได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ ถือว่าเป็นการเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่เรา และการไปเที่ยวในที่ใหม่ๆ นั้นเราก็ย่อมอยากถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ ซึ่งแต่ละสถานที่มักจะมีมุมให้ถ่ายรูป และนักท่องเที่ยวส่วนมากก็ชอบที่จะถ่ายในมุมยอดนิยมนั้นๆ ด้วย โดยประเด็นอยู่ที่ช่างภาพที่ชื่อว่า Oliver KMIA ในขณะเดินทางอยู่เขาก็สังเกตเห็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบไปแย่งกันถ่ายรูปกัน จนเกิดปิ๊งไอเดียในการรวบรวมภาพของเหล่านักท่องเที่ยวที่ถ่ายในมุมเดียวกันมาทำวิดีโอ . เขาก็ได้ทำการโพสต์วิดีโอที่รวมภาพของนักท่องเที่ยวความยาว 2 นาทีลงใน Instagram โดยที่ให้ชื่อ Instravel ในวิดีโอจะประกอบไปด้วยรูปของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน ที่ได้ถ่ายรูปในมุมมุมเดียวกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่ารูปของแต่ละคนดูคล้ายนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เพียงใด ว่าแล้วก็ไปดูวิดีโอที่เค้าทำขึ้นมาเลยดีกว่าว่าแต่ละคนถ่ายรูปออกมามันจะคล้ายกันเพียงใด ไม่แน่ว่าในวิดีโอนี้อาจจะมีรูปของเพื่อนๆ อยู่ก็ได้นะ ที่มา Petapixe
-
คุณแม่ซื้อชุดและของประดับหวานแหววมากมายไว้ให้ลูกที่จะคลอด แต่กลับได้ลูกชายซะงั้น
เรื่องราวสุดเงิบของ Annie Lightfoot คุณแม่มือใหม่วัย 36 ที่แสดงความดีใจต่อการตั้งครรภ์ของตัวเองมากๆ ซึ่งเมื่อตอนที่เธอรู้ตัวว่าตัวเองท้อง เธอก็คาดหวังว่าเธอจะได้ลูกสาวแน่ๆ จนกระทั่งเมื่อเธอมีอายุครรภ์ได้ 20 สัปดาห์ เธอจึงเดินทางไปอัลตร้าซาวด์และได้คำตอบกลับมาว่า ลูกของเธอน่าจะเป็นผู้หญิงชัวร์ๆ ตามที่เธอคาดไว้ งานนี้คุณแม่มือใหม่ก็ดีใจสุดๆ พร้อมเดินทางไปซื้อข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็กในธีมสีชมพูมาเพียบ พร้อมกับตั้งชื่อลูกว่า Coco ไว้แล้วอีกด้วย เตรียมของใช้สีชมพูมาเพียบ!! จนกระทั่งเมื่อถึงวันคลอด แพทย์ก็เดินมาบอกกับเธอว่า “ลูกชายของคุณคลอดออกมาด้วยสุขภาพที่แข็งแรงดีนะ” งานนี้ Annie ถึงกับเงิบพร้อมถามแพทย์ย้ำแล้วย้ำอีกว่าที่เรียกลูกชายนี่คือชัวร์ใช่ไหม เพราะเธอมั่นใจว่าลูกของเธอเป็นผู้หญิงนั่นเอง แพทย์ก็ยืนยันกับเธอว่า ลูกของเธอเป็นลูกชายจริงๆ ไม่ผิดพลาด ซึ่งนั่นทำให้ Annie ช็อกไปพักใหญ่ๆ เพราะเธอคาดหวังว่าจะได้ลูกสาว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ชอบลูกชายที่เกิดมานะ เธอปลาบปลื้มพอสมควรเลย แถมยังคิดชื่อใหม่ให้ทันทีว่า Reuben เซอร์ไพรส์ไหมฮะแม่ที่ป๋มเป็นปู้จาย แต่แม้เธอจะตั้งสติได้แล้ว Annie ก็ยังคาใจอยู่ดี เพราะเธอมั่นใจและคิดมาตลอดว่าตัวเธอจะได้ลูกสาว ขนาดไปอัลตราซาวด์ก็บอกว่าเธอจะได้ลูกสาว แต่ผลลัพธ์มันดันกลับด้านซะได้ งานนี้เล่นเอาเธอวิตกไปพักใหญ่ๆ เพราะของใช้ที่ซื้อมาชุดใหญ่ไฟกระพิบก็ดันเป็นสีชมพูหวานแหววซะนี่ สุดท้ายแม้ว่าเธอจะได้รับการยืนยันพร้อมตั้งสติว่าเธอได้ลูกชาย แต่เธอก็ยังคงหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะมีลูกคนที่สองและเป็นผู้หญิง ซึ่งด้วยความหวังดังกล่าวทำให้เธอตัดสินใจเก็บข้าวของเครื่องใช้สีชมพูทั้งหมดไว้ เผื่ออนาคตเธอจะได้ลูกสาวนั่นเอง……
-
หายนะแห้งแล้งกำลังมาเยือน Cape Town เทียบจากภาพถ่ายดาวเทียมตั้งแต่ 2011 จนถึงตอนนี้…
แม้ในปัจจุบันเทคโนโลยีกำลังก้าวไปข้างหน้า แต่ธรรมชาติกลับสวนทางกับความก้าวหน้าของมนุษย์ เพราะปัจจุบันทรัพยากรธรรมชาติและภูมิประเทศมากมายเริ่มจะเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ ตั้งแต่น้ำแข็งที่ละลายไปจนถึงแม้น้ำที่แห่งเหือด ยิ่งล่าสุดได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมจากปี 2011 ของเมือง Cape Town ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศแอฟริกาใต้ออกมาเพื่อเทียบกับภาพของปี 2018 ซึ่งผลความต่างที่เราได้เห็นนั้นเล่นเอาหลายคนอึ้งไปตามๆ กัน ภาพแรกนั้นมาจากเดือนมกราคมปี 2011 ซึ่งเราจะเห็นว่าตัวเมืองและทะเลสาบยังมีน้ำและความอุดมสมบูรณ์เต็มไปหมด ตัวภาพยังคงโทนสีเขียวไว้อย่างชัดเจน กลับกันในปี 2018 เดือนเดียวกัน ภาพกลับเปลี่ยนโทรสีไปอย่างชัดเจน ทะเลสาบที่เคยมีน้ำอยู่เต็มก็เริ่มจางหายไปจนแทบจะมองไม่เห็นแล้ว ดั่งที่เห็นจากภาพ ตัวทะเลสาบดังกล่าวเคยมีบริมาณน้ำที่มากถึง 126 ล้านแกลลอน แต่ปัจจุบันกลับมีปริมาณแค่ 13% จากที่เคยมีทั้งหมด ในปี 2015 หลายๆ จุดในเมืองก็ยังคงมีสีเขียวให้เราได้เห็นอยู่เยอะพอสมควร ต่อมาในปี 2016 สถานะการณ์รอบตัวเมืองก็ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ว่าน้ำกลับแห้งลงอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งช่วงปลายปี 2017 น้ำในทะเลสาบเริ่มหายไป อาจจะด้วยการสูบน้ำไปทำเกษตรกรรม หรืออะไรก็ตาม ซึ่งมันดันไปส่งผลระยะยาวให้กับปี 2018 ดังที่เห็นข้างบน ทางการได้คาดการว่าจะเกิดเหตุการณ์ Day Zero…
-
ยิงมาชนกลับไม่โกง!! นายพรานถึงกับเงิบ หลังยิงห่านตายแต่มันดันตกใส่หัวเขาจนสลบซะได้
Robert Meilhammer นายพรานวัย 51 ปี เจ้าของเรื่องราวได้ออกไปล่าสัตว์กับกลุ่มเพื่อนนายพรานของเขาตามปกติที่ Easton Maryland ในรัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ทว่าวันนี้มันไม่เหมือนเคยเพราะมันมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น!! เพราะในระหว่างที่เขากำลังออกล่า เขาได้ยิงเจ้าห่านแคนาดาตัวหนึ่ง แน่นอนว่ามันเข้าเป้าจังๆ เพียงแต่ Robert ไม่ได้กะระยะที่ห่านจะตกลงมา ซึ่งไม่รู้ว่าด้วยความซวยหรือกรรมตามสนองเจ้าห่านก็ตกลงมาใส่หัวของเขาอย่างจัง สื่อท้องถิ่นได้รายงานว่า ห่านที่ตกใส่หัวของพรานคนดังกล่าวได้สร้างบาดแผลให้กับเขาพอสมควรเลยทีเดียว แถมเจ้าตัวก็สลบไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นบอกว่า เขาโชคดีมากที่ไม่ได้ออกไปล่าคนเดียว ไม่งั้นกว่าเขาจะตื่นขึ้นมาจากอาการสลบ อาการของเขาอาจจะหนักกว่านี้ก็เป็นได้ Candy Thomson เจ้าหน้าที่ตำรวจจากรัฐแมริแลนด์ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CBS ว่า “ห่านตัวดังกล่าวนั้นมีขนาดที่ใหญ่มากๆ ซึ่งดูจากขนาดสายตาแล้วพวกเราคาดว่ามันน่าจะหนักราว 4 กิโลกรัมหรืออาจจะมากถึง 6 กิโลกรัมเลยก็ว่าได้ และด้วยการที่มันบินสูงถึง 32 เมตรแน่นอนว่าถ้ามันตกใส่หัวใครสักคน มันจะต้องสร้างบาดแผลให้คนๆ นั้นแน่ๆ” สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็บอกว่า เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยากมากๆ ฉะนั้น Robert คงจะโชคร้ายมากๆ ที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้นั่นเอง ตอนที่ตื่นขึ้นมา Robert คงจะเลิกยิงห่านไปอีกนานเลย…
-
หนุ่มจีนสร้างรถถังปลอมขึ้นมาเอง เพิ่งจะทดสอบบนถนนได้แป๊บเดียว ถูกสั่งทำลายและยึดใบขับขี่…
เชื่อว่าตอนเด็กๆ หลายคนคงจะเคยวาดฝันว่าโตมาอยากเป็นเจ้าของยอดพาหนะทางการทหารอย่าง เครื่องบินหรือเรือดำน้ำ กันใช่ไหมละ หรืออย่างน้อยก็อาจจะเป็นแค่ขอรถถังคันเล็กๆ สักคันมาจอดไว้ที่บ้านก็เพียงพอแล้ว หนุ่มจีนคนนี้ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน หนุ่มคนนี้คือนาย Hwang ซึ่งเป็นคนจากเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เขาได้วาดฝันว่าอยากจะมีรถถังสักคัน เขาจึงเริ่มสร้างรถถังขึ้นมาจากเศษซากรถเก่าๆ พร้อมเผยแพร่ภาพที่เขากำลังขับรถถังคันงามไปบนท้องถนนลงบนโลกโซเชียลในกลุ่มเพื่อนของเขา พร้อมบอกว่าเขาใช้เวลา 2 เดือนเพื่อสร้างมันขึ้นมา!! แต่หลังจากใช้เวลากว่า 2 เดือนในการสร้างความภาคภูมิใจของเขาก็ต้องดับลง เมื่อเขาตัดสินใจนำมันออกไปทดสอบบนถนนจริง และบังเอิญเจอเข้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ!? สื่อจีนได้รายงานเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2018 ว่า เจ้าหน้าที่ได้จับรถถังคันดังกล่าวระหว่างที่กำลังติดไฟแดงไว้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ถามถึงใบอนุญาตของรถและใบขับขี่ของนาย Hwang แต่ตัวเขาก็ไม่สามารถจะตอบได้เพราะตัวส่วนที่เป็นรถนั้นเขาได้ซื้อมันมาจากร้านขายของเก่านั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทำให้นาย Hwang ต้องถูกยึดใบขับขี่และยึดรถถังคันดังกล่าวพร้อมกับถูกปรับเป็นเงิน 1,750 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 8,800 บาทในข้อหาสร้างความวุ่นวายบนท้องถนนและทำให้ตนเองและผู้อื่นอาจจะตกอยู่ในอันตราย ไม่หมดเท่านั้น หลังจากถูกจับถูกปรับและรื้อรถ นาย Hwang ยังถูกพาไปยังสถานีตำรวจพร้อมเข้ารับการอบรมณ์เรื่องขับขี่อย่างปลอดภัยอีกด้วย งานนี้เขาคงจะสำนึกไปอีกยาวเลยทีเดียว หมดกันรถถังในฝัน ที่มา nextshark, weibo
-
คุณแม่เข้ารถไม่ได้ แถมมีหมาปั๊กติดอยู่ข้างใน แต่สุดท้ายมันกดกระจกให้แม่จนเปิดได้สำเร็จ
บ่อยครั้งที่เราจะเห็นคลิปวิดีโอที่สัตว์เลี้ยงโดนขังอยู่ในรถ ซึ่งถ้าถูกขังเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนจนเสียชีวิตได้ จากวิดีโอที่ถูกแชร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา ถูกถ่ายโดยเจ้าของหมาปั๊กทั้ง 2 ตัว ที่ถูกขังไว้ในรถพร้อมกับกุญแจรถของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถเปิดประตูรถได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองคาลการี รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา . ในคลิปวิดีโอได้แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวเจ้าของหมาปั๊กทั้ง 2 นี้กำลังพูดคำสั่งหลอกล่อให้เจ้าหมานั้นช่วยกดปุ่มลดกระจกให้เพื่อที่จะปลดล็อคประตูรถยนต์ได้ในขณะที่เธออยู่ข้างนอกท่ามกลางหิมะ เธอสั่งเจ้าหมาว่า “ที่ไฟสีน้ำเงิน มาที่ไฟสิน้ำเงิน มาเร็วลูก กดที่ไฟสีน้ำเงินสิ” หลังจากนั้นเจ้าหมาปั๊กตัวที่ใส่เสื้อกั๊กสีแดงก็ได้เดินมาตรงกระจกเพื่อฟังเสียงของเจ้าของมัน โชคดีที่เท้าของมันไปโดนปุ่มลดกระจกที่มีไฟ ทำให้กระจกประตูหลังจึงเปิดออกมาทำให้เจ้าหมา 2 ตัวนั้นปลอดภัย ได้รับคำชมจากเจ้าของ “ดีมากจ้ะ เด็กดี” ตอนนี้ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไปไหน และขังเจ้าปั๊กทั้ง 2 ตัวไว้นานเท่าไร แต่ก็โชคดีที่มันปลอดภัย ไม่ได้รับอันตรายใดๆ โชคดีที่เจ้าหมาทั้งสองตัวนั้นปลอดภัย ไม่งั้นคงต้องทุบกระจกเพื่อช่วยมันออกมาแน่ๆ เลย ที่มา Dailymail
-
กระแสเกมเสมือนจริงในญี่ปุ่น ให้ผู้เล่นตัดขาดจากโลก เข้าไปสัมผัสความสนุกแบบเต็มตัว
ในยุคสมัยนี้ เกือบทุกคนจะต้องเคยเล่นวิดีโอเกมกันมาบ้างแล้วผ่านเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ในสมาร์ตโฟน แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถเข้าไปเป็นผู้เล่นในนั้นได้โดยตรง เหมือนกับว่าเราอยู่ในเกมนั้นจริงๆ ไอเดียดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น กับเหล่าเกมเสมือนจริง ที่ท้าทายให้เราพาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของเกมในชีวิตจริง ใช้ร่างกายเป็นตัวตัดสินว่าเราจะสามารถผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้หรือไม่ เกมเสมือนจริงในลักษณะนี้มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2007 ในตอนที่เด็กนักเรียนคนหนึ่งพูดความรู้สึกเกี่ยวกับการที่ตัวเองได้เล่นเกมแนวหลบหนีหรือไขปริศนาว่ามันสนุกมากขนาดไหน ทางบริษัท Scrap ผู้พัฒนาเกมของประเทศญี่ปุ่นได้ฟังความรู้สึกของเด็กคนนั้นก็เกิดไอเดียที่จะดึงเอาเกมมาอยู่ในโลกของความเป็นจริง เพื่อให้เหล่าผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมสามารถรับเอาประสบการณ์เหล่านั้นได้โดยตรง เหมือนกับเข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง หลังจากนั้นเกมเสมือนจริงแนวการหลบหนีไขปริศนาก็ถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคม 2007 ในพื้นที่จังหวัดเกียวโต ซึ่งในตอนนั้นผลตอบรับที่ได้ก็เป็นไปอย่างดีเยี่ยม ทำให้ทางบริษัทเริ่มที่จะกระจายเกมประเภทนี้ออกไปเป็นวงกว้าง มีการจัดงานนำเสนอเชิญชวนผู้เล่นไปทั่วประเทศ เวลาผ่านไป ทางบริษัทก็ได้กระจายเกมเสมือนจริงนี้ออกไปให้ชาวญี่ปุ่นได้เล่นกันกว่า 15 แห่งทั่วประเทศ และยังมีบางเกมที่ถูกส่งไปตั้งให้ได้เล่นกันในต่างประเทศอีก 7 แห่ง ได้แก่ นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส โตรอนโต้ และอีกหลายๆ ที่ โดยมีภาษาอังกฤษรองรับให้กับเหล่าผู้เล่นจากทั่วโลก Akira Baba อดีตศาสตราจารย์นักประวัติศาสตร์เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว ก็บอกว่า ความสนุกของเกมเสมือนจริงเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้เทคโนโลยีล้ำๆ แต่มันคือการที่ทำให้ผู้เล่นได้เข้าไปสัมผัสด้วยร่างกายและสมองของตัวเอง เขาทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มมีคนเอามาทำจริงๆ โดยเขาเสริมว่า หนึ่งในความสนุกที่สุดของการได้เข้าไปเล่นเกมด้วยตัวเองก็คือตอนที่ผู้เล่นรู้สึกประสบความสำเร็จหลังจากจบเกม บวกกับความรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากชีวิตจริงที่การพัฒนาในเรื่องต่างๆ จะเห็นผลได้ช้า…
-
ชายรัสเซียรอดตายจากฝูงหมาป่า 5 วัน อาศัยการกินหิมะ และก่อไฟจากไฟแช็กเล็กๆ
การหลงป่ามันเป็นเรื่องที่น่ากลัว และเมื่อดวงอาทิตย์ได้ลับฟ้าไป มันก็จะน่ากลัวเพิ่มขึ้น และถ้าคุณหลงป่าในช่วงหน้าหนาวที่หิมะตกล่ะก็ได้ ถือว่าวิกฤตสุดๆ เลย เนื่องจากสภาพอาการที่โหดร้าย และยังมีสัตว์อยู่รอบๆ คุณ ทำให้การเอาตัวรอดของคุณนั้นยากขึ้น แต่ว่ามันก็ใช่ว่าจะรอดไม่ได้ มีชาวรัสเซียคนหนึ่งได้รอดจากการหลงป่าถึง 5 วัน ภายใต้อุณภูมิ -30 องศาเซลเซียส เขาคนนั้นคือช่างตัดไม้นามว่า Andrey Anufriev เขาหลงป่าใกล้ๆ กับเขตชุมชน Snezhinsk ในเมือง Chelyabinsk ประเทศรัสเซีย Anufriev เป็นหนึ่งในคนตัดไม้ที่เข้าไปตัดไม้ในป่าที่ช่วงนั้นเต็มไปด้วยหิมะปกคลุมหนาไปหมด ซึ่งหลังจากที่เขาหายตัวไป เพื่อนร่วมงานของเขาก็ได้ออกค้นหา แต่ไม่พบ พวกเขาจึงได้แจ้งบริการฉุกเฉิน Anufriev กล่าวว่า “ผมเห็นรอยเท้าเต็มไปหมด แต่ไม่มีซักทางที่เป็นทางที่ถูก ป่าในตอนนั้นมันเหมือนกับรังปลวกที่จะมีทางหลายๆ เส้นทาง มันเหมือนกับเขาวงกตที่ไม่มีที่สิ้นสุด บางครั้งที่ผมเดินเข้าไปในหิมะ มันสูงถึงเอวผมเลยล่ะ” . และเมื่อดวงอาทิตย์ลับฟ้าไป เขาที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ แต่เนื่องจากเขาเป็นคนสูบบุหรี่ก็เลยพกไฟแช็คติดตัวไว้ จึงใช้มันในการจุดไฟช่วยชีวิตเขาไว้ และช่วยให้เขารอดพ้นจากพวกหมาป่า เขากล่าวว่า “ผมมีแค่ไฟแช็คอันเดียวในกระเป๋า ผมจำตอนผมเข้าแคมป์สมัยเด็กๆ ได้ ผมก็เลยสามารถก่อไฟและหากิ่งไม้เติมเรื่อยๆ และผมก็เจอกระป๋องโลหะอยู่ในกระเป๋า ผมเลยใช้มันละลายหิมะเพื่อใช้ดื่ม ส่วนอาหารการกินอื่นๆ…
-
ว่าไงนะ!? คู่รักอ้างพลังพิเศษ สามารถสื่อสารกับเหล่าสัตว์เลี้ยงได้ แค่มองตาก็รู้ใจ
เหล่าคนที่มีพลังพิเศษมักจะปรากฏตัวให้เราได้เห็นแต่ในภาพยนตร์หรือการ์ตูนที่ถูกสร้างจากจินตนาการ แต่ใครจะไปเชื่อว่าความสามารถเหนือมนุษย์แบบนั้นอาจจะมีอยู่จริงๆ บนโลกของเรา เหมือนอย่างคู่รักสองคนนี้ที่บอกว่าตนเองมีพลังจิตสามารถติดต่อสื่อสารกับสัตว์นานาชนิดได้ Susie Shiner วัย 50 ปี และแฟนหนุ่ม Paul Braithwaite วัย 43 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Chepstow ประเทศเวลส์ ทั้งคู่คือคนที่บอกว่าตัวเองมีพลังจิตสามารถติดต่อสื่อสารกับสัตว์หลายๆ ชนิดได้ ผ่านรูปและชื่อของสัตว์ตัวนั้นๆ Paul และ Susie คู่รักที่บอกว่าตัวเองมีพลังจิต สามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ Susie บอกว่าขอแค่เพียงเธอได้เห็นภาพของสัตว์ตัวนั้นและได้รู้จักชื่อของมัน เธอก็สามารถรับรู้ความรู้สึก ความคิด คำพูด หรือแม้แต่ภาพในหัวของสัตว์ตัวดังกล่าวได้ และเธอก็จะส่งต่อสิ่งนั้นกลับไปหาเจ้าของของมันผ่านการบอกเล่า เธอเล่าให้ฟังถึงการสื่อสารกับสัตว์หลายๆ ครั้ง อย่างเช่นเจ้าหมาสายพันธุ์ English Bull Terrier ตัวหนึ่งที่เคยบอกกับเธอว่า มันรู้สึกอายมากแค่ไหนที่ต้องแต่งชุดเหมือนกับหมาตัวเมีย ม้าตัวหนึ่งก็เคยทำให้เธอได้เห็นภาพของเจ้าของมันที่กำลังร้องไห้อยู่ตรงขนของมัน เพราะเสียใจที่ต้องเสียคนในครอบครัวไป หรือแม้แต่สัตว์ที่ตายไปแล้ว Susie ก็สามารถติดต่อกับมันได้ อย่างกรณีของเจ้าหมาที่นอนอยู่ในหลุมศพ มันได้ส่งชื่อๆ หนึ่งมาให้กับเธอผ่านทางความคิด ซึ่งนั่นเป็นชื่อของหมาอีกตัวที่อาศัยอยู่บนถนนเส้นเดียวกันกับมัน Susie…
-
การตลาดหลอกๆ ให้ลูกค้าซื้อ ‘มันจูซูชิ’ กลับไปเปิดข้างในก็เจอขนมมันจูแห่งความผิดหวัง
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์มากๆ เรามักเห็นผลิตประภัณฑ์ต่างๆ ทำแพ็กเกจน่ารักๆ อย่างเช่น Coca-Cola ก็ได้ปรับแพ็กเกจในช่วงซากุระบาน ซึ่งมันช่วยให้มันน่าซื้อขึ้นมาอีกเยอะ แต่ในวันที่ 29 มกราคม 2561 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นชื่อ @mizuryu ได้แชร์เรื่องราวของตัวเองที่ได้ไปซื้อขนมมันจูที่แพ็กเกจสวยงามเป็นรูปซูชิล่อหน้าล่อใจ แต่พอเขากลับบ้านไปเปิดกลับต้องเสียใจ น้ำตาตกใน เพราะมันสวยแต่รูปจูบไม่หอม… โดยคุณ @mizuryu ได้พบกับผลิตภัณฑ์ที่รูปลักษณ์ดึงดูดผู้บริโภคมากๆ ซึ่งเรียกว่า “Sushi Manju” สำหรับคนที่ไม่รู้ว่ามันจูคืออะไร มันจูคือขนมของญี่ปุ่นที่จะปั้นเป็นก้อนกลมๆ แป้งด้านนอกทำมาจากแป้งข้าวเจ้าหรือบางทีอาจจะเป็นแป้งโซบะและข้างในก็จะเป็นไส้ถั่วแดง และเมื่อเขาเห็นเจ้า Sushi Manju ซึ่งลดเหลือราคาประมาณ 90 บาท เขาก็ได้หยิบมันทันที เขากล่าวว่า“ฉันตื่นเต้นมาก และเมื่อฉันได้เห็นมันฉันก็ซื้อมันทันที” และด้วยรูปของซูชิน่ากินบนกล่องมันทำให้เราอยากที่จะเห็นของข้างในมากๆ เมื่อสิ่งเหล่านี้มันขึ้นชื่อว่าเป็นมันจู ก็ย่อมทำให้สงสัยว่าพวกเขาจะทำยังไงให้มันจูออกมาเป็นรูปซูชินะ ความรู้สึกจะเหมือนตอนกินซูชิมั้ยนะ และรสชาติมันจะเป็นยังไง มันง่ายมากๆ ที่จะจินตนาการถึงว่าตอนนั้นในหัวของ @mizuryu คิดอะไรอยู่ น่าจะเหมือนกับที่พิมพ์ข้างบนนี้แน่ๆ เขานั้นตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในมากๆ และเมื่อเขาได้กลับถึงบ้านก็ไม่รอช้าที่จะเปิดกล่อง และนี่คือสิ่งที่เขาพบในกล่อง เอิ่ม… ไม่มีคำบรรยายเลยใช่มั้ยล่ะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราและ @mizuryu คาดหวังแน่ๆ แน่นอนว่ามันคือมันจูตามที่กล่องบอก แต่ว่ามันไม่ได้ใกล้เคียงกับรูปในแพ็กเกจเลยสักนิด แทนที่มันจะดูเหมือนซูชิตามกล่อง มันกลับแค่มีภาพของเหล่าเนื้อปลา…
-
เจ้าเหมียวพลังจิตแห่งรัสเซีย ผู้คนต่างให้ความสนใจ จนมีค่าตัวสูงถึง 2,600,000 บาท!!
บางคนอาจจะไม่ได้เชื่อเรื่องของพลังจิตหรือว่าญาณทิพย์ ทำให้ไม่เชื่อในคำพูดของหมอดูหรือผู้ที่อ้างตัวว่ามีพลังพิเศษ แต่สำหรับเรื่องราวนี้มันยิ่งกว่าคำว่าน่าเหลือเชื่อไปอีกขั้น เพราะพลังพิเศษในลักษณะเดียวกันนั้นมันกลับไม่ได้อยู่ในตัวของมนุษย์ แต่ดันไปอยู่ในตัวแมวซะได้ นี่คือเรื่องราวของเจ้าแมวพลังจิตที่ชื่อว่า Charles Utkins ซึ่งถูกบอกเล่าผ่านเจ้าของเก่าของมัน Dmitry R ชายชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในเมือง Blagoveshchensk ประเทศรัสเซีย ผู้ต้องเจอกับความอัศจรรย์หลายๆ อย่างที่เขาบอกว่ามันเกิดขึ้นมาจากความสามารถของเจ้าเหมียว เจ้าแมวพลังจิต Charles Utkins Dmitry ได้รับเลี้ยงเจ้าแมวตัวนี้ต่อจากน้าของเขาที่ตายไป แล้วหลังจากนั้นเขาก็ต้องเจอกับความพิศวงหลายๆ อย่างของมัน เขาเล่าว่าเจ้าเหมียวสามารถเข้าไปอยู่ในห้องที่ถูกปิดตายเอาไว้ได้โดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่มีใครไปเปิดประตูให้มันเลย ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเจ้าเหมียวยังมีความสามารถในการอ่านใจอีกด้วย และที่หนักกว่าการอ่านความคิดของเขาได้ก็คือ การที่มันสามารถกำหนดความคิดของเขาให้เป็นไปตามที่มันต้องการ เจ้าของเก่าที่ชื่อว่า Dmitry R เขาเล่าว่า “ก่อนที่ผมจะได้มาเจอกับ Charles ผมไม่เคยเชื่อเรื่องพลังเหนือธรรมชาติเลย แต่เจ้าแมวตัวนี้กลับสามารถบังคับและควบคุมความคิดของผมได้ เพื่อคอยเติมเต็มความสุขให้กับมัน และทำให้ผมรู้สึกอับอายมากที่ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ” เขายกตัวอย่างถึงเหตุการณ์หนึ่งที่ถูกเจ้าแมวควบคุมความคิด เขาบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่ชอบกินปลาและไส้กรอกอย่างมาก แต่อยู่มาวันหนึ่งเขากลับต้องลุกขึ้นมาตั้งแต่ตี 5 โดยที่ในหัวมีแต่ความต้องการอยากจะกินปลากับไส้กรอกมากๆ จากนั้นเขาจึงออกไปซื้อทั้งสองอย่างนั้นกลับมา ก่อนที่จะเอามาใส่จานให้เจ้าแมวกิน และเมื่อ Charles เริ่มกิน…
-
‘ฉันเอ็นดูสามีของลูกชาย’ คุณแม่เปิดเผยความสุขที่ยอมรับได้ กับลูกชายที่มีคนรัก 2 คน
คุณ Debbie McKinnon หญิงสาววัย 45 ปีให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้เธอเริ่มที่จะรักสามีและแฟนหนุ่มของลูกชายเธอแล้ว คุณแม่วัย 45 ปีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งหลังจากพิธีวิวาห์ของ Ross ลูกชายวัย 27 ปีของเธอกับแฟนหนุ่ม Iain Waddell วัย 33 ปี หลังจากที่คบหาดูใจกันมาเป็นเวลานาน แต่ทว่าความดีใจของเธอก็หายไปในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ในตอนที่ลูกชายของเธอบอกว่า เขากำลังคบกับแฟนหนุ่มอีกคนคือนาย Pav Gill วัย 24 ปี แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ใช้เวลาทำความเข้าใจ เธอก็เริ่มเรียนรู้ที่จะรักชายหนุ่มทั้งสองคนของลูกชายเธอ และกลายเป็นคุณแม่สามีที่น่าภูมิใจที่สุด คุณ Debbie, Ross ลูกชายของเธอ (คนกลาง), Iain สามีของลูกชายเธอ (เสื้อสีแดง) และ Pav แฟนหนุ่มของลูกชายเธอ (เสื้อลาย) หญิงวัย 45 ปีจากสกอตแลนด์ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันเป็นกังวลว่าลูกชายของฉันจะถูกทิ้งให้นอนบนเตียงคนเดียวและร้องไห้ในตอนกลางคืน เพราะคู่รักของเขาออกไปนอนอีกห้องกับคนอื่น แต่ Ross บอกกับฉันว่า ในระหว่างที่เขาและ Iain มีความรักกันอย่างลึกซึ้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถมีเซ็กส์หรือความสัมพันธ์กับคนอื่นได้” แม่ของ Ross ให้สัมภาษณ์อีกว่า Pav เองก็ยังคงไปร่วมงานแต่งงานของทั้งคู่ ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็เป็นแฟนกันและรักกันเป็นอย่างดี “ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นสิ่งสวยงามมาก” หญิงวัย 45 ปีกล่าว …
-
หนุ่มชาวจีนหัวใส ลงทุนขโมย ‘ถนนคอนกรีต’ ความยาวกว่า 800 เมตรไปขาย
ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นอะไรก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้เกือบทั้งหมด นั่นจึงทำให้เราต้องคอยเฝ้าระวังดูแลทรัพย์สินต่างๆ เอาไว้ให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกฉกฉวยไปได้โดยไม่รู้ตัว เหมือนอย่างพื้นถนนแห่งหนึ่งในประเทศจีน จากการรายงานข่าวภายในประเทศจีนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 บอกว่าได้มีชายแซ่ Zhu ลงทุนขโมยถนนคอนกรีตความยาวกว่า 800 เมตรไปขายซะอย่างนั้น ทำเอาชาวบ้านถึงกับงงไปพักหนึ่งเลยว่าถนนดังกล่าวมันหายไปได้อย่างไร การหายไปของถนนคอนกรีต ในตอนแรกนั้น ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของมณฑลเจียงซู เริ่มเกิดความสงสัยว่าถนนคอนกรีตเส้นดังกล่าว จู่ๆ ก็กลายเป็นเส้นทางโล่งๆ ซะอย่างนั้น พวกเขาจึงทำให้การแจ้งไปที่ภาครัฐตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2018 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะพบว่าถนนเส้นนี้ถูกขโมยไปอย่างผิดกฎหมายโดยฝีมือของชายแซ่ Zhu หัวขโมยในครั้งนี้ได้ไปยืมรถตักหินและรถบรรทุกขนาดใหญ่มารื้อเอาพื้นคอนกรีตความยาวกว่า 800 เมตรออกไป ก่อนที่จะนำมันไปขายให้กับโรงงานหิน ซึ่งคอนกรีตจำนวนกว่า 500 ตันที่เขาขโมยไปได้ถูกขายไปในราคาแค่ประมาณ 25,000 บาทเท่านั้นเอง นาย Zhu บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าถนนเส้นดังกล่าวยังคงใหม่อยู่ แล้วมันก็ดันมาเปิดใกล้ๆ กับบ้านของเขา ทำให้ตัวเองมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ การโจรกรรมในครั้งนี้ได้กลายเป็นที่กล่าวขวัญของชาวเน็ตในประเทศจีนหลายๆ คน โดยส่วนใหญ่ก็ต่างรู้สึกทึ่งกับไอเดียของโจรหนุ่มคนนี้ “ถ้าผมสามารถเอาถนนความยาว 800…
-
ภรรยาให้สามีปั๊มตราให้ หากในวันนั้นเธออารมณ์ดี เพื่อแก้ไขการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
การที่จะใช้ชีวิตคู่ได้อย่างยืนยาวนั้น ต้องรู้จักยอมกันเสียบ้าง ถ้าฝ่ายหนึ่งเป็นไฟ อีกฝ่ายหนึ่งต้องยอมเป็นน้ำ ช่วยกันพัฒนาแต่ละฝ่ายให้กลายเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น เพื่อจะได้รักษาสมดุลระหว่างคนสองคนให้ยั่งยืน ซึ่งในข่าวนี้มีสามี ภรรยา ชาวญี่ปุ่นได้ทำการพัฒนาชีวิตคู่ไปด้วยกัน โดยที่ฝ่ายภรรยาจะให้สามีปั๊มตราลงในตารางในวันที่เธอไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียว โดยที่เธอหวังว่าการทำแบบนี้จะช่วยให้เธอสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น และสามีของเธอก็ยอมรับเงื่อนไขนี้ด้วย โดยที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @c__i__y__o ได้โพสต์ภาพแสตมป์ที่ถูกปั๊มพร้อมกับข้อความว่า “มันค่อนข้างน่าอาย แต่ว่าฉันนั้นเป็นคนที่อารมณ์ร้อน ค่อนข้างขี้หงุดหงิด ฉันอยากที่จะแก้ไขมัน” “ดังนั้นฉันเลยทำตารางแสตมป์ขึ้นมา และให้สามีของฉันปั๊มแสตมป์ในวันที่ฉันไม่ได้มีอารมณ์ฉุนเฉียว ข้อความที่เขาเขียนให้ฉัน ทุกๆ สัปดาห์มันช่างดีและเต็มไปด้วยความรักเหลือเกิน” แสตมป์ที่ปั๊มเป็นรูปหัวใจและข้างในเป็นตัวคันจิที่แปลว่ารักด้วยนะ หวานเหลือเกินนน ถือว่าเป็นเรื่องดีมากๆ ที่เธอตระหนักถึงอารมณ์ของเธอและต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงมัน ส่วนสามีของเธอก็ยอมช่วยเหลือให้เธอผ่านมันไปได้ เพราะหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของชีวิตคู่ก็คือการช่วยให้อีกฝ่ายกลายเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเก่านี่แหล่ะ และนี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีเลย ฝ่ายหญิงบอกว่าข้อความที่ฝ่ายชายทิ้งไว้ให้ทุกอาทิตย์นั้นพิเศษ และเต็มไปด้วยความรักมากๆ เรามาดูกันดีกว่าว่าเขาจะเขียนถึงเธออย่างไรกันบ้าง “มันสนุกมากๆ เพียงแค่ผ่อนคลายและใช้เวลาช่วงหยุดหน้าหนาวไปด้วยกัน ช่วยกันทำมันให้เป็นปีที่ดี ทำมันให้เป็นที่ที่สนุก กินอาหารมากมาย และหัวเราะด้วยกันมากๆ” “ผมต้องกลับไปทำงานหลังจากช่วงหยุดนี้ แต่ต้องขอบคุณกับความช่วยเหลือของคุณนะ ที่ทำให้ทุกอย่างมันง่าย ทุกๆ ครั้งที่ผมได้กินเบนโตะที่คุณทำ ผมก็รู้สึกว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียว ผมต้องขอบคุณคุณจริงๆ ได้ไปเข้ายิมตอนวันอาทิตย์และได้ไปกินซ่าอีก ผมจะตั้งหน้าตั้งตารอสัปดาห์ต่อไปนะ” “ข้อความของวันที่ 20: คุณตัดผมแล้วดูน่ารักมากๆ ดูดีมากๆ…
-
ประเทศญี่ปุ่นประสบความสำเร็จ ในการส่งจรวดที่เล็กที่สุดพร้อมบรรทุกดาวเทียมสู่นอกโลก
กลายเป็นเรื่องฮือฮาของวงการวิทยาศาสตร์อีกครั้ง หลังจากที่มีรายงานว่าองค์การสำรวจอวกาศประเทศญี่ปุ่น หรือ Japanese Aerospace Exploration Agency (JAXA) ได้ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมด้วยจรวด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา จากรายงานเผยว่าการปล่อยจรวดความเร็วเหนือเสียง SS-520 ที่บรรทุกดาวเทียม TRICOM-1R ที่มีขนาดเล็กเพียงแค่ 13.6 นิ้ว ครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ถึงแม้ว่าภารกิจก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาจะพบความผิดปรกติทางเทคนิคและล้มเหลวไปก็ตาม เจ้าจรวด SS-520 ที่ทำหน้าที่ในการปล่อยดาวเทียมครั้งนี้มีความสูงด้วยกันทั้งสิ้น 10 เมตร มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร และมีน้ำหนักรวมเชื้อเพลิงเท่ากับ 2.6 ตัน ในขั้นตอนแรกของการปล่อยจรวดดังกล่าว ตรงส่วนครีบด้านล่างของมันจะบรรจุเชื้อเพลิง Hydroxyl-Terminated Polybutadiene (HTPB) แบบแข็งประมาณ 1.5 ตัน ซึ่งจะช่วยให้จรวดดังกล่าวพุ่งขึ้นจากพื้นในมุมที่ถูกต้อง และหลังจากนั้นอีกประมาณครึ่งนาที ถึงจะมีการเปิดใช้งานเชื้อเพลงในส่วนที่ 2 และ 3 วินาทีที่จรวด SS-520 กำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า นอกจากจะบรรทุกดาวเทียม TRICOM-1R ที่มีน้ำหนักประมาณ 140 กิโลกรัมแล้ว จรวดดังกล่าวยังนำอุปกรณ์ถ่ายภาพและเครื่องรับสัญญาณวิทยุไปกับมันด้วย ไปชมวินาทีที่เจ้าจรวด SS-520 กำลังพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…
-
ชมแฟชั่นการไว้ผมยาวของทหารเยอรมันในยุค 1970s เฟี้ยวจนได้ชื่อ “German Hair Force”
การเป็นทหารไม่ว่าจะชาติไหนๆ ปกติเรามักจะเห็นพวกเขาไว้ผมสั้นกันเสมอ อาจจะด้วยกฎหรือเหตุผลต่างๆ ที่ห้ามไว้ผมยาวจึงทำให้เราหาดูทหารผมยาวได้ยากนั่นเอง แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 1970s เราจะได้เห็นแฟชั่นทหารไว้ผมยาวอย่างแน่นอน นั่นก็เพราะทางกองกำลังเยอรมันที่ชื่อ Bundeswehr นั้นได้อนุญาตให้ทหารในกองทัพไว้ผมยาวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของความชอบส่วนหรือจะตามแฟชั่นก็แล้วแต่ ผมสวยใช่ไหมละ ผมพี่คนนี้อย่างกับหลุดมาจากอนิเมะ เมื่อมันมาถึงจุดที่หนุ่มๆ ดูแลสุขภาพผมแบบเดียวกับสาวๆ อย่างไรก็ตามใช่ว่าทุกคนจะไว้ผมยาวแค่ไหนก็ได้ หรือจะปล่อยผมที่ไหนได้ตามใจ เพราะทางกองทัพได้ตั้งกฎว่าคนที่ไว้ผมยาวจะต้องมีผมที่ยาวไม่เกินไปและคนไว้ผมยาวทุกคนจะต้องสวมตาข่ายคลุมผม . แน่นอนว่านโยบายการอนุญาตนี้ของกองทัพสร้างความพอใจให้กับนายทหารมากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันกลับสร้างปัญหาพอสมควรเลย เพราะทหารเริ่มไม่ค่อยสนใจในกฎเท่าที่ควร เริ่มจะขาดระเบียบในการสวมตาข่ายเพราะพวกเขารู้สึกว่ามันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพผม นานวันไปก็มีนายทหารมากมายเริ่มสนใจผมมากกว่าหน้าที่ . งานนี้คิดว่ากองทัพจะจัดการปัญหาอย่างไร? นานวันเข้ากองทัพผมยาวนี้เริ่มถูกล้อเลียนมากขึ้น นั่นทำให้พวกเขาได้ถูกกองกำลังอื่นตั้งชื่อเล่นให้ว่า ‘German Hair Force‘ และเมื่อมันหนักข้อมากขึ้น แถมยังสร้างปัญหาเรื่องความสกปรกและความคล่องตัว ทำให้สุดท้ายนโยบายนี้ก็ถูกยกเลิกในปี 1972 และกลับไปบังคับให้ไว้ผมสั้นดังเช่นเคย… สั่งห้ามสิครับ กลับไปไว้ผมสั้นดังเดิม สงสัยเวลาคลุมผมแล้วมันอึดอัดหรือเปล่านะ ที่มา designyoutrust, spiegel
-
“ผมไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด” พ่อนักยิมนาสติกสาวกล่าว หลังพุ่งเข้าชกหมอที่ล่วงละเมิดเธอ
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2018 ได้มีการพิพากษาโทษของนาย Larry Nassar อดีตแพทย์ผู้ดูแลนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในข้อหาล่วงละเมดทางเพศเด็กสาวจำนวนมากกว่า 150 คน ตลอดระยะเวลาการทำงานกว่า 20 ปี แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้สร้างความสะเทือนใจอย่างมาก โดยเฉพาะกับครอบครัวของเหยื่อที่ต้องมารับรู้กับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของพวกเขา เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้คุณพ่อคนหนึ่งถึงกับฟิวส์ขาด พุ่งเข้าใส่ผู้ต้องหาด้วยความโมโห ในขณะที่เขากำลังให้การกับศาล Larry ผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวกว่า 150 คน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในศาลเขต Eaton รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา โดยคุณพ่อ Randall Margraves รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากหลังจากที่ได้ทราบว่าลูกสาวทั้งสามคนของเขาเคยถูกผู้ต้องหาลวนลามและคุกคามทางเพศ Randall ได้ถามผู้พิพากษา Janice Cunningham ว่าเขาขออยู่ในห้องเพียงลำพังกับผู้ต้องหา (ที่เขามองว่าเป็นปีศาจ) ซัก 5 นาทีได้หรือไม่ คำตอบที่ได้ก็คือไม่อย่างแน่นอน จากนั้นเขาจึงต่อเวลาขออยู่กับผู้ต้องหาแค่ 1 นาที แต่คำตอบก็ยังคงเป็นไม่อีกเหมือนเดิม Randall คุณพ่อของลูกสาวที่ตกเป็นเหยื่อ หลังจากที่ถูกปฏิเสธไม่ให้อยู่กับผู้ต้องหา ทันใดนั้นอารมณ์ที่พุ่งพล่านของคนเป็นพ่อก็เกิดปะทุขึ้นมา Randall รีบพุ่งเข้าไปหานักโทษก่อนที่จะง้างมือขึ้นเหนือหัว…
-
นักท่องเที่ยวสาวขอเงินค่าห้องที่เกินคืน กลับเจอพนง. อ้างขอทำออรัลแลก ถึงจะยอมให้คืน…
เหตุการณ์ผิดปกติครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวชาวต่างชาติคนหนึ่งไปเที่ยวที่บาหลี แล้วเกิดผิดพลาดขณะทำการจองโรงแรม จึงเข้าไปขอคืนเงิน แต่ทางพนักงานโรงแรมกลับขอแลกด้วยการทำ “ออรัลเซ็กส์” ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Aneta Bake ได้ออกมาเผยแพร่เหตุการณ์ที่เธอประสบมาเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับสาวๆ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อเธอตั้งใจจะไปเที่ยวประเทศอินโดนีเซีย เธอจึงได้จองที่พักไว้ เป็นโรงแรมแห่งหนึ่งในบาหลี แต่การจองเกิดผิดพลาดเธอจองห้องพักเกินไป 1 คืน ขณะที่เธอกำลังจะเช็กเอาต์ออกจากโรงแรมนั้น เธอได้เข้าไปขอเงินคืนในส่วนของห้องพักที่จองเกินมากับพนักงานชายคนหนึ่ง ในเวลานั้น เพื่อนของเธอ 2 คนออกไปสูบบุหรี่ด้านนอก เหลือเพียงเธอและพนักงานชายคุยกันอยู่ตามลำพัง เธอจึงพยายามขอพันกงานชายว่า “พอมีหนทางที่เธอจะได้เงินค่าห้องพักคืนหรือไม่?” ทางด้านพนักงานชายจึงย้อนกลับด้วยคำถามว่า “แล้วถ้ามี จะให้อะไรตอบผมล่ะ” เธอก็ตอบไปว่า “รอยยิ้มและการขอบคุณที่จริงใจไง” สุดท้ายพนักงานชายคนนี้ก็เผยออกมาว่า “งั้นขอเป็นทำออรัลเซ็กส์ให้ผมได้ไหม?” จากนั้นหญิงสาวจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน หลังเริ่มการบันทึกวิดีโอ เธอก็ถามย้ำอีกครั้งว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้เงินคืน พนักงานหนุ่มก็ตอบเช่นเดิมว่าให้เธอทำการออรัลเซ็กส์ให้เขาแลกกับการคืนเงิน ซึ่งเป็นเงินของเขาเอง ไม่ใช่เงินของโรงแรม เขากล่าวว่านี่ไม่ใช่ความผิดของโรงแรม เมื่อได้ยินดังนี้เธอจึงพยายามติดต่อหัวหน้าและผู้จัดการในระดับสูงของโรงแรมเพื่อจัดการเรื่องนี้ เนื่องจากเธอกังวลว่าหากเหยื่อรายอื่นเป็นคนที่ไม่เข้มแข็งเท่าเธอหรือต้องการเงินคืนจริงๆ จะยอมรับข้อเสนอจนกลายเป็นเรื่องเลวร้ายไปในที่สุด สุดท้ายประธานบริษัทพร้อมทั้งผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าก็ลงมาขอโทษหญิงสาวคนนี้พร้อมทั้งบอกว่าจะไล่พนักงานคนนี้ออกทันที และให้สัญญาว่าจะจัดการไม่ให้เกิดเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก เธอจึงได้นำคลิปวิดีโอที่เธอบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ มาเผยแพร่ลงบนเฟซบุ๊กของเธอเองเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้หญิงคนอื่นๆ รวมไปถึงเพื่อเตือนใจให้ระมัดระวังเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นกับคนที่น่าจะเป็นที่พึ่งให้กับเราได้ นี่คือคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงสาว สาวๆ…
-
โผล่อีก!! มือดีสร้างวิดีโอเกมล้อเลียน Logan Paul แต่ว่าในตอนนี้ได้ถูกระงับไว้เรียบร้อยแล้ว
เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักกับชายที่ชื่อว่า Logan Paul (โลแกน พอล) ที่ได้สร้างเรื่องราวอันโด่งดังบนโลกอินเทอร์เน็ต หลังจากที่เขาโพสต์วิดีโอที่เขาและเพื่อนเดินทางเข้าไปในป่าอาโอกิกาฮาระ ประเทศญี่ปุ่น แล้วไปพูดจาล้อเลียนถากถางศพ ที่คาดว่าน่าจะมีสาเหตุชีวิตมาจากการฆ่าตัวตายในป่านั้น จนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงเรื่องความเหมาะสม และในกรณีล่าสุด ก็มีมือดีนำเหตุการณ์ของเขามาสร้างเป็นวิดีโอเกมลงในคอนโซลอย่าง Xbox แต่ถึงอย่างไรทางบริษัทผู้พัฒนารวมถึงดูแลอย่าง Microsoft ก็ได้ออกมาระงับเกมดังกล่าวเอาไว้แล้ว โดยเกมล้อเลียนวิดีโอของ Logan นี้ ได้ถูกพัฒนาและออกสู่สายตาชาวโลกด้วยโครงการ Xbox Live Creators Program ซึ่งเป็นโครงการที่จะให้นักพัฒนาเกมรายย่อยสามารถ นำเกมไปขายบนแพลตฟอร์ม Xbox และ Windows 10 ได้รวดเร็วกว่าเดิม (แต่ก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการว่าจะสามารถขายได้จริง) ในเกมดังกล่าวนั้น ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Logan ที่ต้องวิ่งลัดเลาะไปยังจุดต่างๆ ภายในป่าอาโอกิกาฮาระ เพื่อเสาะหาเหยื่อผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย จากนั้นก็ตัวเกมก็จะมีการจำลองการอัปวิดีโอขึ้นสู่แชนแนล เพื่อเรียกยอดวิวจากชาวเน็ตนั่นเอง ถึงตอนนี้ทาง Microsoft ก็ได้ดึงเกมล้อเลียนนี้ออกจากโครงการ Xbox Live Creators Program แล้ว เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นเกมที่อาจจะสร้างผลกระทบต่อสังคมได้ นอกจากนี้ตัวเกมก็ทำให้ทาง Microsoft เล็งเห็นอีกว่าจะต้องพัฒนาระบบคัดกรองเกมขึ้นอีกขั้น เพื่อไม่ให้เกมประเภทนี้หลุดรอดออกมาสู่สายตาของทั้งโลกได้อีก …
-
รูปปั้นเด็กยืนฉี่ในสถานีรถไฟของญี่ปุ่น กับความเป็นเจ้าพ่อแฟชั่น เปลี่ยนทุกแบบ ได้ทุกแนว!!
ก่อนหน้านี้เราอาจเคยเห็นน้ำพุมาอย่างหลากหลาย ซึ่งหนึ่งในรูปแบบของน้ำพุที่น่าจดจำมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น “รูปปั้นน้ำพุเด็กยืนฉี่” เพราะมันช่างน่ารักเสียเหลือเกิน แถมยังสามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่ได้พบเห็น ในสถานีรถไฟ Hamamatsuchō กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็มีรูปปั้นแบบนี้อยู่เช่นเดียวกัน แต่มันกลับมีความพิเศษมากกว่าที่ไหนๆ เพราะเจ้ารูปปั้นตัวนี้มันยังสามารถเปลี่ยนชุดเพิ่มสีสันให้กับตัวเองได้ด้วย จนเรียกว่าเป็นเจ้าพ่อแฟชั่นของเด็กยืนฉี่เลยก็ได้ เจ้ารูปปั้นตัวนี้จะเปลี่ยนการแต่งตัวไปตามเทศกาลหรือวันสำคัญต่างๆ ทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร เรียกความสนใจได้ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นด้วยกันเอง มันจะเจ๋งและน่ารักขนาดไหน เราลองไปดูกันเลย รูปปั้นเด็กยืนฉี่กับคอสตูมดอกทานตะวันรับหน้าร้อน ในเทศกาลคริสต์มาส เราก็จะได้เจอกับซานต้าตัวน้อย ชุดรับลมหนาว ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังใกล้เข้ามา การแต่งกายสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นก็มีมาให้เห็น อยู่สถานีรถไฟ จะไม่มีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลมันก็กระไรอยู่ เมื่อไหร่ที่มีสัตว์ประหลาดโผล่ขึ้นมา ข้าจะไปจัดการกับมันเอง เจ้าชายตัวน้อยหนีวังมาเดินเล่น หน้าร้อนทั้งที ก็ต้องมีพัดคู่กายมาช่วยดับความร้อน พนักงานดับเพลิงจิ๋ว มีสายยางฉีดน้ำเป็นของตัวเอง แต่งตัวแบบนี้ ไม่ต้องกลัวเปียกฝนนะ น่าจะต้องกลัวเปียกฉี่มากกว่า นอกจากการแต่งตัวแล้ว ยังมีของมาตกแต่งที่จัดเต็มไม่แพ้กัน การแต่งกายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน โดดเด่นและไม่ซ้ำกันเลย นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ช่วยเติมเต็มรอยยิ้มให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดีเลยจริงๆ …
-
สถาปนิกหนุ่มรีโนเวท ‘โรงงานร้าง’ อายุกว่า 100 ปี ให้กลายเป็นคฤหาสน์สุดแสนอลังการ
โรงงานร้างหลายๆ แห่งถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าชวนหลอน จนทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยอยากจะเข้าใกล้สถาปัตยกรรมเหล่านั้นกันซักเท่าไหร่ แต่สำหรับเขาคนนี้กลับคิดต่างออกไป เพราะเขาเลือกที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวและเปลี่ยนแปลงให้มันกลายเป็นบ้านอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง เรากำลังพูดถึงหนุ่มสถาปนิกที่ชื่อว่า Ricardo Bofill โดยในปี 1975 ชายหนุ่มได้ไปปีนเขาอยู่แถวเขต Sant Just Desvern นอกเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน จนบังเอิญไปพบเข้ากับโรงงานร้างแห่งหนึ่ง โรงงานร้างอันเก่าแก่ ปัจจุบันมีอายุมากกว่า 100 ปี สถานที่แห่งนั้นคือโรงงานซีเมนต์อันเก่าแก่ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ 100 ปีก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะถูกปล่อยให้ร้างเอาไว้จนกลายเป็นสถาปัตยกรรมชวนหลอน ซึ่งแม้จะเป็นอย่างนั้น Ricardo ก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไรเลย แต่เขากลับตัดสินใจซื้อตึกนั้นเอาไว้เป็นของตัวเองทันที สถาปนิกหนุ่มเคยเล่าว่า เขาหลงใหลไปกับความสวยงามของพื้นผิวและโครงสร้างของอาคาร ทำให้เกิดไอเดียที่จะปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้มันกลายเป็นคฤหาสน์ส่วนตัว สถาปนิกหนุ่มตัดสินใจดัดแปลงโรงงานดังกล่าวให้กลายเป็นบ้าน หลังจากที่เขาทำสัญญาซื้ออาคารเป็นที่เรียบร้อย การก่อสร้างก็ได้เริ่มต้นขึ้นทันที ระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับความลับหลายๆ อย่างที่ซ่อนอยู่ในสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็น ปล่องควันที่เป็นเอกลักษณ์ ห้องปฏิบัติการ หรือแม้แต่อุโมงค์ใต้ดินที่มีความยาวหลายกิโลเมตร Ricardo ใช้เวลานานกว่า 2 ปีเต็มในการรีโนเวทอาคารทั้งหมด โดยที่ยังรักษาโครงสร้างเดิมเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เหตุผลหนึ่งก็เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และอีกเหตุผลก็เพื่อรักษาความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเอาไว้ การก่อสร้างดำเนินไปจนเสร็จสิ้น และอาคารนี้ก็ได้ถูกเรียกว่า La…
-
คุณแม่คนแคระกล่าวตัดพ้อ หลังโดนศาลสั่งปรับข้อหา ‘พาลูกไปโรงเรียนสาย’
ความผิดปกติของร่างกายอาจเป็นสิ่งที่ส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตมากกว่าที่เราเคยคาดคิดกันเอาไว้ เหมือนอย่างคุณแม่คนนี้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาเพียงเพราะว่าร่างกายของเธอไม่เหมือนกับคนทั่วไป เธอมีชื่อว่า Michelle Harris สาวแคระวัย 32 ปี ผู้ถูกแจ้งขอกล่าวหาว่าเธอคือสาเหตุที่ทำให้ลูกชายวัย 7 ขวบต้องไปโรงเรียนสาย และเธอต้องขึ้นให้การต่อศาลในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2018 ที่จะถึงนี้ ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกแจ้งโดยผู้อำนวยการโรงเรียนประถมไนติงเกล เขต South Woodford ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ลูกชายของเธอกำลังศึกษาอยู่ Michelle และลูกชาย Michelle ผู้เป็นนักเขียนอิสระและเป็นคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกชายเพียงลำพังได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “ฉันเป็นคนแคระ ฉันไม่สามารถไวกว่านี้หรือวิ่งเหมือนคนอื่นๆ ได้ ปกติฉันก็ตื่น 6 โมงครึ่งทุกวัน และเมื่อไหร่ที่ฉันตื่นขึ้นมา สะโพกของฉันก็จะเกิดอาการเจ็บอยู่เสมอ” หลายๆ คนแนะนำให้เธอตื่นให้เช้ากว่าเดิม เพื่อพาลูกมาถึงโรงเรียนให้ตรงเวลา แต่ปัญหาร่างกายคือสิ่งที่ทำให้เธอทำแบบนั้นไม่ได้ เธอมีส่วนสูงแค่ราวๆ 1 เมตร มีปัญหาในเรื่องของข้อเสื่อมที่เป็นส่วนหนึ่งของอาการ Pseudoachondroplasia ทำให้กระดูกต่างๆ ของเธอโตมาผิดปกติ กระดูกสันหลังโค้งงอ หัวเข่าผิดรูป และจะต้องเข้ารับการผ่าตัดบริเวณสะโพกอยู่เสมอ ร่างกายที่ย่ำแย่ทำให้เธอต้องเจอกับความเจ็บปวดแสนสาหัส ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาเธอจำเป็นต้องอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายอาการเจ็บเหล่านั้น ไม่สามารถจะทำอะไรได้รวดเร็วเหมือนคนอื่นๆ คุณแม่แคระต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง…
-
ประสบการณ์ขนหัวลุก ของชายที่บีบเอาตุ่มของเหลวออกจากใบหน้าด้วยตนเอง
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] พวกเม็ดสิวหรือตุ่มแปลกปลอมที่มาผุดขึ้นบนในหน้าของเรา คือสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะมีไว้ประดับกันอย่างแน่นอน พวกเราจึงเลือกที่จะกำจัดมันออก บางคนอาจจะไปใช้บริการของคลินิก หรือบางคนก็อาจจะกำจัดมันด้วยตัวเองเหมือนอย่างเขาคนนี้ ชายคนนี้มีชื่อว่า Fred Ward วัย 23 ปีจากเมือง Ontario ประเทศแคนาดา เขาคนนี้มีอาการติดเชื้อ Staphylococcal (หรือรู้จักกันในชื่อแบคทีเรีย Staph) ทำให้เขาต้องเจอกับปัญหาตุ่มไขมันที่เกิดขึ้นมาตามร่างกาย อาการติดเชื้อบนผิวหนัง ทำให้มีตุ่มของเหลวโตขึ้นมา ในครั้งนี้เขาต้องเจอกับตุ่มที่ดูเหมือนกับสิวหัวช้างผุดขึ้นมาบริเวณใบหน้าของเขาอยู่อย่างนั้นนานถึง 4 วัน ซึ่งถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาก็คงเลือกที่จะไปให้หมอเอามันออก แต่เขาเกิดเปลี่ยนใจเลือกที่จะบีบมันออกมาด้วยสองมือของตัวเอง Fred เข้าไปในห้องน้ำที่บ้านเพื่อจะบีบเอาเจ้าสิ่งแปลกปลอมนี้ออกมา ก่อนที่เพื่อนของเขาจะถ่ายภาพทุกอย่างเอาไว้ ซึ่งชวนให้กินข้าวกันไม่ลงเสียเหลือเกิน เขาพยายามบีบมันออกมาอยู่หลายนาที แต่เนื้อในก็ยังออกมาไม่หมดแล้วก็ห้อยต่องแต่งอยู่ตรงคางของเขาอย่างนั้น ชายหนุ่มจึงตัดสินใจใช้แหนบดึงหัวมันออกมาซะเลย คราวนี้แหละเราจึงได้เห็นก้อนของเหลวทะลักออกมาอย่างน่ากลัว สุดท้ายก็เหลือเพียงบาดแผลเล็กๆ ที่ไม่ได้เห็นชัดอะไรมาก ก็เรียกว่าเป็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่ายินดีแหละนะ ลิงก์วิดีโอ การบีบสิวของเขาแบบจัดเต็ม Fred เล่าว่าก่อนหน้านี้เขาเคยมีตุ่มในลักษณะเดียวกันผุดขึ้นมามากกว่า 10 ครั้ง โดยเขาก็จะไปให้ผู้เชี่ยวชาญกำจัดมันออกตลอด ซึ่งมันก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เลย และทำให้เขาต้องกินยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งมาโดยตลอด พอเมื่อมีตุ่มเกิดขึ้นมาอีก เขาก็ไม่อาจทนรอจะไปหาหมอได้…
-
นวัตกรรม ‘อูเบอร์มนุษย์’ สิ่งที่จะทำให้คุณสามารถไปทุกงานได้ โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
พวกเราส่วนใหญ่อาจต้องเคยเจอกับความรู้สึกที่ไม่อยากออกจากบ้าน แต่จำเป็นที่จะต้องออกไปทำอะไรซักอย่างหนึ่ง จนสุดท้ายก็ต้องจำใจออกไปเองอยู่ดี ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปหากคุณได้มาลองใช้เจ้าสิ่งประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Chameleon Mask นี่คือสิ่งประดิษฐ์ของนักวิจัยชาวญี่ปุ่น Jun Rekimoto ที่ได้นำมันออกมาเปิดตัวในงาน MIT Tech Review’s EmTech เมื่อเดือนมกราคม 2018 ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยถ้าจะอธิบายง่ายๆ เลย สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้มันก็คือ “อูเบอร์มนุษย์” นั่นแหละ นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้คุณไปร่วมงานต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องออกจากบ้าน เหตุผลที่มันเปรียบเป็นอูเบอร์มนุษย์ก็เพราะว่า มันคือสิ่งที่ช่วยให้คุณไม่ต้องออกไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง แต่สามารถร่วมงานหรืออีเวนต์ต่างๆ ได้แม้จะนอนอยู่ที่บ้าน ซึ่งการทำงานของมันก็เข้าใจได้แบบง่ายแสนง่าย คือให้คนคนหนึ่งเป็นตัวแทนของเราสวมหน้ากากที่มีการแสดงผลแบบเฟซไทม์อยู่ตลอดเวลาเท่านั้นเอง เมื่อตัวแทนได้สวมหน้ากาก Chameleon Mask เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้เราก็จะสามารถสั่งการในเรื่องของทิศทางผ่านการเชื่อมต่อระยะไกล แถมเรายังสามารถรับรู้ทุกอย่างผ่านหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ แล้วเวลาพูดคุยกับใครมันก็จะออกมาเป็นเสียงของตัวคุณเองจริงๆ หลังจากนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องพลาดงานสำคัญอะไรที่เกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว Jun บอกว่า สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้สามารถให้คุณเข้าร่วมงานสำคัญต่างๆ ได้ อย่างเช่นวันรายงานตัวของลูกๆ หรือการประชุมของบริษัท แม้ว่าคุณอาจจะกำลังอยู่ต่างประเทศก็ตาม ก่อนหน้านี้หลายๆ คนอาจเคยเห็นหุ่นยนต์ควบคุมระยะไกลที่ใช้เป็นตัวแทนของเรากันไปก่อนแล้ว แต่ Jun บอกว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาสามารถทำให้ลูกค้าทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมและสมจริงมากกว่านั้นอย่างแน่นอน…
-
10 อาการเจ็บปวดที่หลายๆ ครั้งคุณอาจมองข้าม แต่ตอนนี้ควรหันมาสนใจมันได้แล้วนะ!!
หากคุณเคยรู้สึกเจ็บปวดร่างกายส่วนไหนเป็นพิเศษ เช่นอยู่ๆ ก็ปวดหัว เจ็บหน้าอก หรือปวดหลัง บ่อยครั้งที่เรามักจะคิดว่ามันเกิดจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ หรืออาจจะเกิดจากสภาพร่างกายที่อ่อนแอในช่วงนั้นของเรา เดี๋ยวมันก็คงหายไปเอง ทว่าทางที่ดีแล้วถ้ามีอาการที่ว่ามานี้คุณควรจะไปตรวจร่างกายเสียหน่อยจะดีกว่านะ เพราะอาการเจ็บปวดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้อาจจะบ่งบอกได้ว่าร่างกายของคุณกำลังมีปัญหาที่ร้ายแรงกว่าซ่อนอยู่ก็ได้ ลองไปดูกันว่าอาการไหนที่บ่งบอกว่าคุณอาจจะป่วยได้บ้าง 1. ปวดหัวแบบเฉียบพลัน ถ้าจู่ๆ คุณก็รู้สึกปวดหัวแบบรุนแรงจนแทบทนไม่ได้ มันอาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณเป็นโรคหลอดเลือดในสมองโป่งพอง ถ้าหากคุณเป็นโรคนี้แล้วปล่อยมันทิ้งไว้อาจจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตกเลยก็ได้นะ 2. ปวดฟันเมื่อดื่มหรือกินของเย็น หากคุณเกิดอาการนี้แสดงว่าผิวชั้นนอกของฟันคุณอาจจะถูกทำลาย ส่งผลให้เส้นประสาทถูกกระทบโดยตรงเวลาคุณกินของเย็นหรือร้อนมากๆ นอกจากจะทำให้คุณปวดจี้ดแล้วคุณยังมีโอกาสติดเชื้อจากแบคทีเรียจนเชื้อลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกายด้วย ควรพบหมอฟันโดยด่วน 3. ปวดหรือชาบริเวณมือหรือแขน เมื่อคุณรู้สึกเจ็บหรือชาฝ่ามือ ข้อมือ หรือนิ้วมือ โดยเฉพาะนิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วกลาง คุณอาจจะมีโอกาสเป็นโรคเส้นประสาทกดทับบริเวณข้อมือ และถ้าทิ้งไว้นานๆ อาจจะทำให้มือของคุณใช้การไม่ได้ไปเลย 4. เจ็บหน้าอก อาการเจ็บอกเป็นสัญญาณเบื้องต้นของโรคหัวใจ มักจะเกิดจากการที่หัวใจมีออกซิเจนไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ยิ่งถ้าอาการเจ็บนี้ไล่ไปถึงไหล่ คอ หรือขากรรไกรก็ยิ่งชัดเจนว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูง 5. ปวดบริเวณกลางหลัง ถ้าคุณรู้สึกปวดหลังแล้วยังมีไข้หรือรู้สึกวิงเวียนศรีษะตามมาด้วย ก็แสดงว่าไตของคุณอาจจะติดเชื้อ…
-
คุณหมอ Evan หล่อล่ำ ชวนชาวเน็ตปกป้องตัวนิ่มที่ถูกล่า งานนี้เรามาโฟกัสที่คุณหมอกันเถ๊อะ!!
ทุกวันนี้สัตว์ป่ากำลังลดน้อยลงเรื่อยๆ การเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์แต่ละชนิดน่าจะช่วยให้เราเข้าใจและอนุรักษ์พวกมันได้ดีขึ้น แต่คลิปวิดีโอให้ความรู้จากคุณหมอ Evan Antin ช่างเข้าใจยากเหลือเกิน ไม่ใช่เพราะอธิบายเนื้อหาไม่รู้เรื่องนะ แต่เพราะคุณหมอทำให้เราโฟกัสกับเนื้อหาไม่ได้เลยต่างหาก คลิปวิดีโอให้ความรู้เรื่องตัวนิ่มจากคุณหมอ ในคลิปวิดีโอนี้คุณหมอกำลังแนะนำให้ชาวเน็ตรู้จักกับตัวนิ่ม (Pangolin) กัน เขาพยายามอธิบายว่าแม้ว่ามันจะมีเกล็ดมันก็ไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลานหรอกนะ แต่มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่คล้ายคลึงกับตัวสลอธต่างหาก เขาอยากให้คนดูคลิปเข้าใจว่าเกล็ดจากตัวนิ่มและแรดนั้นไม่ได้มีผลวิจัยทางแพทย์รับรองว่ามันจะทำให้คุณอายุยืนขึ้น หรือรักษาโรคได้ เขาจึงอยากให้ทุกคนหยุดล่าสัตว์พวกนี้ก่อนมันจะสูญพันธุ์ เอ่อ … จะคุณหมอทำแบบนี้แล้วจะให้ดิฉันโฟสกัสกับตัวนิ่มได้ยังไง!? แต่เราก็ต้องดูคลิปกันอยู่ตั้งหลายรอบกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่คุณหมอพูด นั่นก็เพราะเวลาฟังคุณหมออธิบายสมาธิเราดันไปจดจ่อกับคุณหมอแทน โอ๊ย ใครจะไปมีอารมณ์โฟกัสกับตัวนิ่มเล็กๆ ในเมื่อคุณหมอพูดด้วยเสียงหล่อ และโชว์กล้ามน่ากัดแบบนี้ ชาวเน็ตเองก็มีปัญหานี้เหมือนกับเราเป๊ะเลย ก็เวลาคุณหมอยิ้มแต่ละทีมันสะกดใจสุดๆ เลยนี่นา ไม่เชื่อลองไปดูความเห็นชาวเน็ตสิ ตั้งใจฟังไม่ได้เลยโว้ย กล้ามแขนกับกล้ามไหล่แน่นๆ นั่นมันเร่าร้อนและดึงดูดความสนใจเกินไป จะมีใครสมบูรณ์แบบกว่านี้ไหม เป็นทั้งหมอ หนุ่มหล่อ หนุ่มกล้าม แล้วยังรักสัตว์อีก งื้อออ คิดเหมือนกันเลย ถึงเขาจะพูดเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับสัตว์แต่ฉันก็ทำได้แค่สนใจร่างกายที่เซ็กซี่และกำยำของเขา ฮ่าๆๆ เอาล่ะในเมื่อเราฟังคลิปสาระความรู้จากเขาไปแล้ว ก็คงไม่เสียหายอะไรถ้าจะเข้าไปหาดูอะไรเพิ่มเติมในเฟซบุ๊กของเขาเสียหน่อย ลองไปดูรูปของคุณหมอกันเลยจะได้รู้จักเขากันดีมากขึ้น ตอนอยู่ในชุดคุณหมอโคตรหล่อเลยอ่า …
-
สิงโตจากสวนสัตว์ South Lakes Safari Zoo ในอังกฤษ เสียชีวิตหลังกินเนื้อที่ปนเปื้อนสารพิษ
กลายเป็นเรื่องฮือฮาในประเทศอังกฤษอีกครั้ง เมื่อสื่อต่างประเทศได้รายการเสียชีวิตของเจ้า Nero สิงโตวัย 4 ปี หลังจากมันบริโภคเนื้อที่มีสารพิษปนเปื้อน จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในเดือนกรกฎาคมปี 2017 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สวนสัตว์ South Lakes Safari Zoo สวนสัตว์ที่ได้ชื่อว่าแย่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ต้องถูกตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากที่ทางสภาท้องถิ่นปฏิเสธที่จะปรับปรุงสวนสัตว์ และพบสัตว์ป่าล้มตายมากถึง 486 ตัวตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2013 นาย John Woodcock สมาชิกของสภาเมือง Barrow-Furness ในมณฑลคัมเบรีย ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสวนสัตว์แห่งนี้ให้สัมภาษณ์ว่า “ควรมีการตั้งข้อหาเกี่ยวกับการดูแลสิงโตของที่นี่ จะต้องมีใครซักคนที่ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้” เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาสวนสัตว์แห่งนี้ถูกตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และถูกปรับเป็นเงินมากถึง 300,000 ปอนด์ (ประมาณ 13 ล้านบาท) สำหรับมาตฐานด้านคุณภาพ และความปลอดภัยของพวกสัตว์ จากรายงานระบุว่าพวกสัตว์ต่างๆ ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่แสนยากลำบากในสวนสัตว์แห่งนี้ อย่างเช่นเสือจากัวร์ตัวหนึ่งที่ต้องแทะอุ้งเท้าของแรดที่ตายแล้ว หรือซากของลูกเสือดาวหิมะในกรงที่อยู่ในสภาพถูกสัตว์ตัวอื่นกิน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะประสบปัญหาอย่างมากมาย แต่เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2017 ที่ผ่านมาสวนสัตว์แห่งนี้ก็ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากที่ถูกเทคโอเวอร์โดยเหล่าพนักงานของสวนสัตว์ ทางด้านโฆษกของสวนสัตว์ก็ได้ออกมากล่าวถึงการจากไปของเจ้า Nero สิงโตวัย 4…
-
เตรียมพบ Back to the Future ฉบับมังงะ โดยคนวาดเดียวกับ One Punch Man เร็วๆ นี้!!
หากจะทำหนังสือการ์ตูนคุณภาพดีออกมาสักเล่ม นอกจากจะต้องมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามและสนุกสนานแล้วภาพการ์ตูนที่สวยงามและมีเสน่ห์เองก็มีส่วนมากเช่นกัน การที่ซีรีส์ไซไฟอมตะได้ Yusuke Maruta นักวาดการ์ตูนชื่อดังมาวาดให้จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง Maruta เป็นนักวาดการ์ตูนที่มีความสามารถและมีชื่อเสียงมาก เขาเป็นคนวาดการ์ตูนอเมริกันฟุตบอล Eyeshield 21 ที่โด่งดัง และก็เป็นคนวาดการ์ตูนแอคชั่นยอดนิยมเรื่อง One Punch Man อีกด้วย ล่าสุดก็มีข่าวออกมาแล้วว่า Maruta จะเป็นคนวาดเวอร์ชั่นหนังการ์ตูนของซีรีส์ไซไฟอมตะนิรันดร์กาลเรื่อง Back to the Future ซีรีส์นี้เป็นภาพยนต์เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาที่มีคนตกหลุมรักมาแล้วนับไม่ถ้วน ถ้าหากใครเคยได้ดูภาพยนต์เรื่องนี้แล้วคงจะเข้าใจว่าทำไมคนถึงได้ตกหลุมรักการผจญภัยของตัวเอก Marty McFly และนักวิทยาศาสตร์ Dr. Emmett Brown. มากขนาดนี้ ภาพหนังสือการ์ตูน Back to the Future ที่ Maruta เป็นคนวาด นอกจากนี้แล้วแฟนๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อกับเนื้อเรื่องเดิมๆ ด้วย เพราะ Maruta ไม่ได้เอาซีรีส์นี้มารีเมกแต่อย่างใด แต่หนังสือการ์ตูนที่เขาจะวาดออกมาเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ของ Marty McFly กับ Dr.Emmett Brown ต่างหาก…
-
เจ้าเหมียวไม่ยอมห่างจากลูกน้อยสมาชิกใหม่ ตามติดตั้งแต่อยู่ในท้องยันคลอดเลยทีเดียว
แมวเนี่ย มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าทึ่งนะ บางตัวอาจจะดูนิ่งๆ วันๆ เอาแต่หลับ ไม่สนโลก แต่จริงๆ แล้วมันมีจิตใจที่อ่อนโยน โดยเฉพาะหากมันได้ชอบหรือรักใครไปแล้ว มันจะไม่ยอมปล่อยให้ห่างเลย เหมือน Squinty เจ้าเหมียวขนฟูที่แสนจะน่ากอด และมันชอบไปนอนหนุนท้อง Elly Zupko เป็นประจำขณะที่เธอตั้งครรภ์ Zupko กล่าวว่า “ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะความอบอุ่นจากท้องโตๆ ของฉัน เลยทำให้มันชอบมานอนหนุนเป็นประจำ และดูเหมือนว่ามันจะรู้ว่ามีบางอย่างกำลังเปลี่ยนไป เพราะเราได้เปลี่ยนบ้านให้เป็นที่ที่เหมาะกับเด็ก แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะรู้ว่าอะไรมากกว่านั้นนะ” สำหรับเจ้าเหมียว Squinty ตัวนี้ Zupko ได้ช่วยเหลือมันมาเมื่อปี 2003 หลังจากที่เจ้าของเดิมไม่ต้องการมันแล้ว หลังจากที่พามันไปส่งโรงพยาบาลสัตว์ และไม่สามารถจ่ายค่าผ่าตัดได้ แฟนหนุ่มของ Zupko ที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลสัตว์ดังกล่าวบอกว่า Mango (ชื่อเดิมของเจ้าเหมียว) เป็นแมวที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอที่นี่ ในฐานะสัตวแพทย์ ชายหนุ่มต้องการช่วยแมวทุกตัวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้น Zupko และแฟนหนุ่มจึงตัดสินใจออกค่าผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตเจ้า Mango และพามันกลับมาอยู่บ้านด้วย หลังจากที่น้องแมวอาการดีขึ้น มันก็เริ่มสำรวจรอบๆ บ้านด้วยความอยากรู้อยากเห็นเหมือนแมวทั่วไปที่อยู่ในวัยเดียวกัน แต่ครอบครัวเพิ่งมารู้เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ว่ามันเป็นแมวหูหนวก “ก่อนหน้านี้เราไม่รู้เลยว่ามันหูหนวก เราคิดว่ามันอยากอยู่ห่างๆ และนอนหลับเงียบๆ คนเดียว แต่แล้วเราเพิ่งรู้ว่าที่ผ่านมามันไม่เคยได้ยินเราเลย” Zupko บอก ต่อมาครอบครัวได้เปลี่ยนชื่อ…
-
ช่างภาพจับภาพของเจ้าเสือ ตอนมันกระโดดได้แบบพอดิบพอดี เหมือนกับเป็นทิกเกอร์ยังไงอย่างงั้น!!
วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน เป็นวัดชื่อดังที่ตั้งอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี หรือเป็นที่รู้จักของต่างชาติในนาม Tiger Temple ที่ได้ชื่อนี้เพราะทางวัดนั้นมีการเลี้ยงเสือหลายตัว ซึ่งเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่ประเด็นอยู่ที่คุณ David Ogden ช่างภาพซึ่งได้เข้ามาเที่ยวที่วัด ได้ถ่ายภาพเจ้าเสือในจังหวะที่มันกระโดดขึ้นจากน้ำตก ในรูปเหมือนมันสามารถใช้หางในการยืนแทนขาได้เลย ซึ่งดูไปก็เหมือนเจ้าเสือ Tigger ในการ์ตูน Winnie The Pooh นี่สิจึงทำให้มันกลายเป็นกระแสไปเลย . แต่ที่จริงแล้ว ภาพนี้มันถูกถ่ายตั้งแต่ปี 2014 แล้วล่ะ แต่ว่าคุณ Ogden เพิ่งจะมาเจอ เมื่อตอนที่เค้าไปค้นรูปเก่าๆ เข้า และหลังจากที่โพสต์รูปลง โซเชียลมีเดีย ก็มีการเปรียบเทียบเจ้าเสือในข่าวกับเจ้า Tigger กันเต็มไปหมดเลย David Ogden ผู้ซึ่งมาจากรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “ผมถึงกับงงไปเลยว่าทำไมถึงเพิ่งมาเจอกับภาพนี้ เพราะเร็วๆ นี้ผมได้จัดเรียงภาพถ่ายของผม และภาพเดียวที่โดดเด่นออกมาก็คือภาพนี้แหละ มันเหมือนกับแสงไฟในความมืดเลย” กลุ่มของ David ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ David Ogden Photographic Ministry ซึ่งมีคนติดตามกว่าล้านคนในเฟซบุ๊ก ซึ่งกลุ่มของพวกเขานั้นได้ตระเวนไปถ่ายรูปในหลายๆ ที่เช่น นามิเบีย แซมเบีย บอตสวานา แอฟริกาใต้ ซิมบับเว และประเทศไทย …
-
ผู้หญิง 9 คนที่อยู่ในวัย 50++ แต่ยังคงเช้งวับไม่เปลี่ยนแปลง เป็นกำลังใจให้สาวๆ หันมาดูแลตัวเอง
การที่คุณจะดูแลรูปร่างของร่างกายให้ดูดีอยู่ตลอดนั้นมันมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้อง เช่น อายุ การที่คุณอายุมากขึ้นเรื่อยๆ การที่จะรักษารูปร่างมันจะยากขึ้นมากๆ เพราะว่าร่างกายของคุณจะเผาผลาญน้อยกว่าตอนยังหนุ่มยังสาว เนื่องจาก Metabolism ทำงานได้น้อยลง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่สามารถรักษาหุ่นได้นะ แม้ว่าร่างกายเราจะอายุมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังสามารถที่จะดูดีได้ แต่เพียงอาจจะยากขึ้น วันนี้เราเลยนำผู้หญิง 9 คนที่อายุปาไปมากกว่า 50 ปีแล้วแต่พวกเธอยังคงรักษาหุ่นได้ดีอยู่ เพื่อให้กำลังใจแก่พวกคุณ ว่าคุณก็สามารถทำแบบพวกเธอได้ Yolanda Hadid อายุ 54 ปี Yoland Hadid แม่ของสองนางแบบ Gigi และ Bella Hadid ที่ผ่านมาเธอมีชีวิตที่ค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากถูกโรคภัยรุมเร้า พบกับปัญหาหย่าร้าง และต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่ว่าเธอผ่านมันมาได้เพราะเป้าหมายเดียวคือความต้องการเลี้ยงลูกให้ได้ดี ซึ่งตอนนี้มันก็สำเร็จแล้วล่ะ Sharron Davis อายุ 55 ปี Sharron เคยเป็นนักว่ายน้ำที่คว้าเหรียญเงินในโอลิมปิกในปี 1980 เธอบอกว่า “ฉันได้ยินบ่อยๆ ว่าอายุมากขึ้น Metabolism จะทำงานช้าลง คุณก็ต้องเปลี่ยนแปลงการการใช้ชีวิตหน่อย ต้องกระตือรือร้นอยู่ตลอด และขยับให้มากๆ…
-
เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีสุขภาพที่ดี ไม่มีโรคอ้วน อาจเริ่มง่ายๆ จาก “อาหารการกิน”!?
ถ้าใครเคยได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เคยสังเกตกันไหมว่ามีแต่คนหุ่นดีเต็มไปหมด ไม่ค่อยได้พบเห็นคนอ้วนเลย แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา กลับตรงกันข้าม จากการสำรวจพบว่าอัตราเฉลี่ยของคนวัยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอ้วนในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นสูงถึง 30% ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีเพียง 3.5% เท่านั้น . อาหารการกินของคนในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างจากของอเมริกามาก จำนวนร้านอาหารจานด่วนในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีน้อยกว่าถึง 15 เท่า จึงทำให้คนชาวญี่ปุ่นเลือกที่จะกินอาหารอย่างอื่นที่หลากหลายกันมากกว่า แม้ว่าจะมีร้านอาหารจานด่วนอยู่บ้าง ก็ยังมีร้านข้าวสำหรับคนวัยทำงานที่มีเมนูง่ายๆ อย่างข้าวหน้าเนื้อ ซุปมิโสะ และอีกหลายเมนูที่ให้สารอาหารอย่างครบถ้วน มีราคาประหยัดและสะดวกรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งในร้านสะดวกซื้อของประเทศญี่ปุ่นก็มีอาหารที่ดีต่อสุขภาพและราคาถูกให้เลือกมากมาย เช่น ข้าวปั้น สลัด หรือซุป เปรียบเทียบกับร้านสะดวกซื้อของอเมริกาในราคาเดียวกัน จะเลือกซื้อได้เพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของทอดที่เต็มไปด้วยไขมัน ของหวาน และของที่ไม่ดีต่อสุขภาพอีกมากมาย นอกจากนั้นร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นมีอยู่แทบจะทุกที่ มีจำนวนกว่า 55,000 ร้าน ซึ่งหมายความว่ามีจำนวนร้านสะดวกซื้อต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตรมากกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับอเมริกา ถ้าหากคุณเพิ่งเลิกงาน คุณสามารถเลือกว่าจะเข้าร้านเบอร์เกอร์คิง หรือเลือกที่จะเข้าร้านซูชิข้างๆ หรือแม้กระทั่งร้านข้าวหน้าเนื้อที่มาพร้อมกับซุปเต้าหู้ หัวหอมและผักกาด ซึ่งความหลากหลายนี้จะทำให้ง่ายต่อการกินอาหารที่สุขภาพดีกว่า เนื่องจากคุณจะไม่ต้องทนเบื่อกินอาหารแบบเดิมในร้านเดิมๆ ทุกวัน…
-
แม่แจ้งความลูกสาวหายไป มาเจออีกทีโผล่อยู่ในรายการโทรทัศน์ซะงั้น!?
ความจริงอันน่าเศร้าของคดีคนหายคือ ในกรณีส่วนใหญ่พวกเขาไม่ได้หายไปไหนหรอก แต่พวกเขาเสียชีวิตต่างหาก ตามกฎหมายในการที่จะประกาศว่าเสียชีวิตแล้วนั้นจะต้องพบศพก่อน ถ้าไม่มีการพบศพก็จะมีแค่ประกาศว่าเป็นผู้สูญหาย Rebekah Martinez ได้ถูกประกาศว่าเป็นผู้สูญหายโดยแม่ของเธอเมื่อวันที่ 18 เดือนพฤษจิกายน 2017 แต่โชคดีที่เธอไม่ได้หายสาบสูญหรือได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ครั้งสุดท้ายที่แม่ของ Rebekah ได้ข่าวเกี่ยวกับเธอคือเธอได้ออกจากบ้านที่เมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อไปทำงานที่ฟาร์มกัญชาในเขตฮัมโบลต์ แม่ของเธอได้โทรศัพท์หาตำรวจในพื้นที่เพื่อแจ้งรายงานคนหายกับตำรวจ ซึ่งทางเพจ The Northcoast Journal ก็ได้นำรูปของเธอไปเผยแพร่รวมกับรูปของคนอื่นๆ ที่หายตัวไป หลังจากที่ได้มีการโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทางเพจ The Northcoast Journal ก็ได้ถามผู้ใช้งานในเพจว่ามีใครรู้จักบุคคลในภาพบ้างไหม Amy Bonner O’Brien จากประเทศตรินิแดด ได้สังเกตเห็นว่าหนึ่งในบุคคลที่สูญหายนั้นมีใบหน้าที่เธอรู้สึกคุ้นๆ อยู่ คนที่เธอจำได้คือผู้เข้าร่วมแข่งขันในรายการ The Bachelor เธอจึงรีบโทรศัพท์เพื่อแจ้งทางตำรวจให้ทราบว่าหนึ่งในบุคคลที่สูญหายนั้นอยู่ในรายการโทรทัศน์ . ก่อนหน้าที่ Rebekah จะหายไป เธอได้โพสต์ลงโซเชียลมีเดียของเธอว่าจะไม่ได้ยุ่งกับโซเชียลมีเดียและโทรศัพท์ของเธอสัก 2-3 สัปดาห์ แต่แม่ของเธอไม่เห็นข้อความนั้น จึงได้เกิดเป็นเรื่องวุ่นวายขึ้น และมีความเห็นบนทวิตเตอร์มากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…
-
หนุ่มรู้สึกเหนื่อยล้า เลยเดินเข้าป่า เจอ ‘กระท่อมไม้’ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ
สำหรับคนที่รักความสงบ รักธรรมชาติ หรือแม้แต่คนที่เหนื่อยจากการทำงาน มันจะดีแค่ไหนถ้ามีสถานที่อันเงียบสงบให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มโดยไม่มีใครมารบกวน John “JT” Tredgold รองประธานฝ่ายการผลิตเบเกอรี่ที่ Semifreddi’s ใน Oakland รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศนสหรัฐอเมริกา เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการสถานที่แบบนั้น JT เป็นคนที่รักงานตัวเอง แต่เขารู้สึกเหนื่อยและไม่มีที่ไหนที่จะทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้ตามที่ต้องการเลย ดังนั้นเขาจึงเริ่มออกเดินทางตลอด 6 เดือนเพื่อหาสถานที่ที่สมบูรณ์แบบนั้น เขาคิดถึงสถานที่หลายแห่งที่น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของเขา แต่แล้ว JT ก็ไปหยุดลงที่กระท่อมเล็กๆ ในชนบทแห่งหนึ่ง กระท่อมนี้อยู่นอกเมือง ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 ชั่วโมง และแน่นอน มันเหมาะสำหรับ JT มาก “มันเป็นกระท่อมที่ดูเรียบง่าย แต่ผมสนใจที่การออกแบบและสัดส่วนของมัน แล้วผมก็ชอบมันมาก” JT กล่าว กระท่อมดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1959 มีเนื้อที่เพียง 30 ตารางเมตรเท่านั้น มันอาจจะเป็นกระท่อมเล็กๆ แต่มันไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน เพราะภายในมีทุกอย่างที่คุณต้องการ ชั้นบนของกระท่อมมีห้องนอนที่สวยงามน่าอัศจรรย์ใจ ภานในห้องมีสกายไลท์ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติที่อยู่ล้อมรอบกระท่อม JT บอกว่า “เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า จะเห็นแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านต้นไม้…
-
ตำรวจเข้าจับกุมเด็กสาวและคุณพ่อข้อหาแต่งงานและมีลูกกัน จนแม่แท้ๆ ต้องเป็นฝ่ายหย่าเอง
เด็กสาวมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพ่อแท้ๆ จึงถูกจับทั้งพ่อและลูกเพราะผิดกฎหมายของที่นั่น … Steven Walter Pladl อายุ 42 ปี และลูกสาว Katie Rose Pladl อายุ 20 ปีถูกตำรวจจับกุมตัวในบ้านที่เมืองไนต์เดล รัฐนอร์ธแคโรไลนา หลังอดีตภรรยาแจ้งตำรวจว่าพวกเขามีลูกด้วยกันเอง Katie พลัดพรากจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเธออายุ 18 เธอก็พยายามใช้โซเชียลมีเดียตามหาพ่อแม่แท้ๆ จนพบพวกเขาเข้า เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2016 เธอจึงย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันกับพ่อ แม่และพี่น้องอีก 2 คน ลูกสาว Katie Rose Pladl หลังจากที่เธอย้ายเข้าไปอยู่ได้เพียง 3 เดือน แม่ของเธอก็ขอหย่ากับพ่ออย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 พอเธอออกจากบ้านไปเขาก็ย้ายไปนอนกับ Katie ในห้องของเธอแทน ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2017 เธอได้เข้าไปอ่านบันทึกของลูกอีกคนหนึ่ง จึงได้พบความจริงว่าสามีของเธอทำ Katie ท้องและต้องการให้ลูกอีก 2 คนนับถือ Kaite เป็นแม่เลี้ยงทั้งที่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นพี่น้องกัน…
-
หนุ่มแบกความฝันของพ่อผู้ล่วงลับไปรอบโลก หลังจากที่เขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
เราทุกคนต่างมีความฝันที่อยากให้มันเป็นจริงสักครั้งในชีวิต แต่ด้วยเงื่อนไข อุปสรรค และภาระหน้าที่ ทำให้หลายๆ คนไม่สามารถบรรลุฝันของตัวเองได้ เช่นเดียวกับคุณพ่อของ Logan Dodds ผู้มีความฝันอยากเดินทางรอบโลก แต่เขาต้องจากโลกนี้ไป ทั้งที่ยังไม่ได้ทำความฝันนั้น Dodds วัย 26 ปี บอกว่าเขารู้สึกเหมือนโลกหยุดอยู่ที่เดิม หลังจากที่พ่อซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาจากไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เขาบอกว่าคุณพ่อทำงานอย่างหนักทั้งชีวิตเพื่อครอบครัวที่เขารัก จนกระทั่งล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง และเสียชีวิตในที่สุด ชายหนุ่มเล่าว่า “ผมไม่ค่อยพูดหรอกว่าทำไมผมถึงออกเดินทาง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงตัดสินใจทำวิดีโอนี้เพื่อพ่อของผม” “เมื่อผู้คนเห็นการเดินทางของผม พวกเขาคงจะคิดว่ามันเป็นแค่การเดินทางทั่วไปและผมต้องการโชว์ให้โลกเห็นเท่านั้น แต่จริงๆ มันมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น” “พ่อของผมล่วงลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วด้วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง และเขายังไม่เคยออกเดินทางตามที่เขาวาดฝันเอาไว้” “เขาเสียสละทำงานเพื่อให้ครอบครัวอยู่ดีกินดี และวางแผนที่จะเดินทางทั่วโลกกับคุณแม่ที่รักของผม แต่แล้วโรคร้ายก็มาพรากคุณพ่อไปจากเรา” เขาบอกอีกว่าการจากไปของพ่อทำให้ชีวิตเขาพลิกผันอย่างมาก เขาเลยตัดสินเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เพื่อทำบางอย่างกับชีวิต ตลอดการเดินทางนั้นเขาพบว่ามันช่างเต็มไปด้วยความรู้สึกอิสระและสดชื่น ที่สำคัญที่สุดคือเขารู้สึกเหมือนมีคุณพ่อเดินทางไปเคียงข้างเขา “ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตผมก็เปลี่ยนไป ตอนนี้ผมมีความสุขกับทุกลมหายใจ พ่อของผมไม่เคยได้สำรวจโลกกว้าง ดังนั้นผมจึงออกเดินทางต่อไปเพื่อเราสองคน” ชายหนุ่มกล่าว…
-
ไปดีฝ่า!! ผอ.สั่งอพยพนักเรียนกว่า 400 คน หลังมีงูหลุดออกมาจากห้องแล็บของโรงเรียน
เราอาจจะเคยโรงเรียนหลายแห่งที่มีความจำเป็นต้องปล่อยให้นักเรียนกลับบ้านก่อนเวลา เนื่องมาจากเหตุด้านสภาพอากาศ ภัยพิบัติต่างๆ แต่ว่าคงจะไม่มีใครเคยพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ เมื่อมีโรงเรียนแห่งหนึ่งจำเป็นต้องยกเลิกการเรียนการสอนเด็กๆ กว่า 400 คน เนื่องจากมีงูหลุดออกมาจากห้องแล็บวิทยาศาสตร์ซะอย่างงั้น โรงเรียนที่เกิดเหตุในครั้งนี้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนมัธยม Brentwood ในรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อมีงูสายพันธุ์ โบอา คอนสตริกเตอร์ ชื่อว่า Boe ที่อยู่คู่โรงเรียนมามากกว่า 20 ปี เกิดอยากเปลี่ยนทัศนียภาพหนีออกจากกรงขังหายไปอย่างไร้ร่องรอย การหายไปของเจ้า Boe ในครั้งนี้ส่งผลให้ Dr. Brian Lane ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เป็นห่วงในความปลอดภัยของเด็กๆ เขาจึงตัดสินใจส่งนักเรียนจำนวน 400 คนกลับบ้านทันที ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ปล่อยเด็กกลับบ้าน นอกจากนี้ทางสื่อ KTVI St. Louis ยังรายงานอีกด้วยว่า การหายไปของงูตัวนี้ไม่มีคุณครู หรือนักเรียนได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และการอพยพครั้งนี้ก็เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ปฏิบัติการค้นหาเจ้า Boe ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยความร่วมมือกันระหว่างศูนย์ควบคุมสัตว์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการใช้เครื่องมือพิเศษอย่าง กล้องถ่ายภาพความร้อนร่วมด้วย และในที่สุดพวกเขาก็พบเจ้า Boe ซ่อนตัวอยู่ภายใต้พื้นบอร์ด พร้อมทั้งพันตัวเองเอาไว้กับท่ออันหนึ่ง จึงได้ช่วยกันนำตัวงูขึ้นมาได้อย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ไปแอบทำไมตรงนั้นล่ะ ในตอนนี้เจ้างูตัวดังกล่าวได้กลับคืนสู่กรงขังอย่างปลอดภัย…
-
หนุ่มต่อสู้โชคชะตาเอาชนะมะเร็งได้ 2 รอบ กลายมาเป็นนักเพาะกายสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น
สำหรับผู้ที่ผ่านโรคร้ายอย่างมะเร็งมาได้ ก็ต้องให้การยอมรับว่าพวกเขาเหล่านี้มีหัวใจที่แกร่งดั่งหินผาเลยทีเดียว รวมถึงหนุ่มนักเพาะกายรายนี้ ที่สามารถเอาชนะโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขาถึง 2 ครั้งได้ และในตอนนี้เขาก็ได้เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับผู้คนนับพันคน ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ นั่นเอง นี่คือเรื่องราวของชายวัย 23 ปีชื่อว่า James Kearsley จากรัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวครั้งแรกในปี 2014 แต่เขาก็สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายในชีวิตในครั้งนั้นมาได้ด้วยการรักษาแบบเคมีบำบัด ช่วงเวลาที่เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด หลังจาก 5 เดือนของการบำบัดด้วยเคมี โรคมะเร็งก็ได้หายไปจากร่างกายของชายคนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเมื่อร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้น เขาก็เริ่มฟื้นฟูกล้ามเนื้อทีี่หายไประหว่างที่ป่วยอยู่ให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง “หลังจากอาการต่างๆ บรรเทาลง ผมก็เริ่มกลับไปที่ยิมอีกครั้ง และในตอนนี้ผมก็อยากจะบอกทุกคนว่า ควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลร่างกายทั้งด้านกายภาพ รวมถึงจิตใจที่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการรักษาตัว” “ตอนที่ผมยังอายุน้อยๆ ชีวิตของผมเกี่ยวข้องกับกีฬามาโดยตลอด แต่ว่าหลังจากที่ผมเรียนวิทยาลัยผมก็ไม่ได้ย่างก้าวไปในวงการนั้นอีกเลย” James กล่าว ดูดีขึ้นมาทันทีเลย James เริ่มเป็นคนโด่งดังในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก หลังจากที่เขาโพสต์ถึงความมานะบากบั่นในการต่อสู้กับสิ่งที่โรคมะเร็งได้ฝากเอาไว้กับร่างกายของเขา ซึ่งในระยะเวลาเพียงแค่ 16 เดือนเท่านั้นหลังจากที่การรักษาโรคมะเร็งสิ้นสุดลง เขาก็ลงแข่งขันประกวดเพาะกายครั้งแรกในเดือนกันยายน ปี 2015 ชีวิตของเขาดูเหมือนกำลังจะรุ่งโรจน์อีกครั้ง แต่แล้วก็มีโชคร้ายเกิดขึ้นกับ James อีกรอบหลังจากที่ทางแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขากลับมาเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านการประกวดมาเพียงแค่เดือนเดียว ทว่าเขาก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาที่ดูเหมือนจะกลั่นแกล้งเขา โดย…
-
คนขับรถบรรทุกขับรถตะลุยลงไปสร้างความเสียหายให้กับ ‘มรดกโลกที่มีอายุ2พันปี’
หากพูดถึงหนึ่งในมรดกโลกที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องเคยได้ยินชื่อของ เส้นนัซกา (Nazca Line) หนึ่งในมรดกโลกที่เต็มไปด้วยปริศนาและความอัศจรรย์ ซึ่งปรากฏอยู่บนทะเลทรายนัซกา ประเทศเปรู กินพื้นที่ไปมากกว่า 520 ตารางกิโลเมตร ภาพของสัตว์หรือพืชพันธุ์ที่แสดงออกมาให้เห็น ถูกพิสูจน์ว่ามันมีอายุมานานถึง 1,500 – 2,000 ปีเลยทีเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มันได้กลายเป็นมรดกโลกอันล้ำค่าในปี 1994 มรดกโลกเส้นนัซกา ลวดลายที่ถูกวาดลงบนทะเลทราย มีอายุราวๆ 2,000 ปี แต่ในช่วงเดือนมกราคม 2018 ก็ได้เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อคนขับรถบรรทุกที่ชื่อว่า Jainer Flores ตัดสินใจขับรถลุยลงไปในเขตพื้นที่มรดกโลกดังกล่าว จนสร้างความเสียหายให้กับลายเส้นอันเก่าแก่เหล่านั้น ก่อนที่จะถูกจับไปดำเนินคดีด้วยข้อหาละเลยป้ายเตือน Jainer คนขับรถบรรทุกที่สร้างความเสียหายให้กับมรดกโลกชิ้นนี้ จากการรายงานบอกว่า เขาขับรถเข้าข้างทางเพื่อจะลงไปเช็กดูล้อรถของตัวเอง ซึ่งเขาอ้างว่าไม่เห็นป้ายที่บอกว่าพื้นที่นี้เป็นเขตหวงห้าม จึงขับรถลงไปในที่สุด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัยโดยรอบเองก็พยายามเข้ามาเตือนเขา แต่นั่นมันก็สายไปเสียแล้ว รถบรรทุกที่ดันตะลุยเข้าไปในเขตหวงห้าม . กระทรวงวัฒนธรรมของเปรูได้ออกมาบอกว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้ฝากร่องรอยเอาไว้เป็นรอยล้อยาวประมาณ 100 เมตร สร้างความเสียหายให้กับเส้นนัซกาถึงสามส่วนด้วยกัน”…
-
เปิดตัว Icon รถไฟเหาะแห่งใหม่ในอังกฤษที่น่ากลัวที่สุด ดูแค่ภาพก็ใจหวิวๆ แล้ว !?
สำหรับคนที่ชื่นชอบในการไปสวนสนุก แล้วนั่งรถไฟเหาะ คงจะต้องสนใจสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากอีกไม่นานก็จะมีเครื่องเล่นใหม่กำเนิดขึ้นมาให้พวกเราได้สัมผัสกัน เครื่องเล่นที่ว่านั้นก็คือรถไฟเหาะที่มีชื่อว่า Icon ที่ตั้งอยู่ในสวนสนุก Blackpool Pleasure Beach ในประเทศอังกฤษ มีมูลค่ากว่า £16.25 ล้าน หรือประมาณ 720 ล้านบาท รถไฟเหาะ Icon ถูกสร้างโดยมีแรงบันดาลใจมาจากเครื่องเล่น Wild Mountain ที่เป็นรถไฟเหาะเก่าแก่สร้างจากไม้ที่เพิ่งถูกรื้อถอนไปหลังจากที่เปิดให้เล่นมากว่า 60 ปี และถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่ดีที่สุดในยุคนั้น ความเสียวของรถไฟเหาะนี้คือการที่มันมีตัวเร่งความเร็วถึง 2 ตัว ทำให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ราวกับว่าอยู่บนรถ Formula 1 แต่ว่าอยู่บนอากาศ รางของมันได้ตัดผ่านเข้าไปข้างใต้รางรถไฟเหาะของอีกเครื่องเล่นที่ชื่อ The Big One ด้วยความเร็วกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนั้นมันยังตัดผ่านเครื่องเล่นกว่า 14 อย่าง และยังมีรางที่ชันลงมากว่า 25 เมตรอีกด้วย Amanda Thompson ผู้จัดการสวนสนุก Blackpool Pleasure…
-
เทรนด์ใหม่ในญี่ปุ่น “กางเกงในซูเปอร์โลวไรซ์” เน้นความต่ำ แต่ไม่น่าใส่สบายนะ ถัมเพื่อครายยยย!?
เทรนด์แฟชั่นเป็นสิ่งที่ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ โดยเฉพาะแฟชั่นเสื้อผ้าผู้หญิงแล้วต้องมีอะไรแปลกใหม่ตลอดเวลาเพื่อมาประชันความสวยงามกันให้ได้ เมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมาแฟชั่นเสื้อผ้าที่ฮิตติดตลาดอีกอย่างก็คือกางเกงโลวไรซ์ หรือในอีกชื่อหนึ่งก็คือกางเกงเอวต่ำนั่นเอง เพราะมันช่วยให้เห็นช่วงเอวและสะโพกของหญิงสาวมากขึ้น พูดอีกแบบก็คือยิ่งต่ำก็ยิ่งเซ็กซี่นั่นแหละ มาในปี 2018 ในประเทศญี่ปุ่นก็ได้อัปเกรดความเซ็กซี่กันไปอีกระดับหนึ่ง โดยเน้นหลักการเดียวกับกางเกงเอวต่ำนี่แหละ แต่ทำให้มันต่ำลงไปยิ่งกว่าเดิมเยอะ จนเกิดเป็นกางเกงใน ‘ซูเปอร์โลวไรซ์’ ขึ้นมา กางเกงในซูเปอร์โลวไรซ์ ต่ำอะไรขนาดนั้นแม่คู๊ณ กางเกงในซูเปอร์โลวไรซ์ หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่ากางเกงในเอวโคตรต่ำนี้เป็นสินค้าของแบรนด์ Predator Rat จากเดิมที่กางเกงในเอวต่ำนั้นต่ำลงจนแทบจะเห็นไรขนอยู่แล้ว กางเกงในเอวโคตรต่ำนี้ลดขอบลงไปจนแทบจะเห็นส่วนสงวนของสาวๆ เลย กางเกงในอะไรทำไมใส่แล้วไม่ปิดก้น ดูแล้วกางเกงในแบบใหม่นี้ไม่น่าจะสวมใส่สบายตัวสักเท่าไหร่หรอก ก็ดูสิว่าสวมแล้วแก้มก้นโผล่ออกมาอย่างกับไม่ได้ใส่อะไรเลยสักนิดเดียว เห็นแล้วทนดูอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ จากในภาพจะเห็นได้ว่าพอนางแบบสวมกางเกงในซูเปอร์โลว์ไรซ์แล้ว มันไม่ได้ปกปิดร่องก้นของเธอเลย เวลาใส่กางเกงคงเห็นอะไรต่อมิอะไรหมดเป็นแน่แท้ ใครจะใส่กางเกงในตัวนี้ต้องระวังนิดนึง ดูท่าจะหลุดง่าย พอเปลี่ยนมุมมองมาทางด้านหน้าดูน่าหวาดเสียวกว่าทางด้านหลังเสียอีกอีก เพราะมันช่วยโอบอุ้มของสงวนของหญิงสาวไว้เพียงนิดเดียวเท่านั้น ถ้าใครจะใส่สงสัยจะต้องไปบวชชีกันก่อนด้วยละมั้ง แล้วลองนึกถึงเวลาที่เราใส่กางเกงในตัวนี้เดินไปไหนมาไหนดูสิ มันเล็กขนาดนี้จะไปเกาะอยู่ได้ยังง๊ายย เดินไปเดินมาดีไม่ดีกางเกงในจะหลุดลงไปอยู่ที่ข้อเท้าแบบไม่รู้ตัวเอานะเนี่ย อิอิ ว้าววว มียกทรงซูเปอร์โลวไรซ์ให้ใส่คู่ด้วย ผมนี่มองตาไม่กระพริบเลยครับ นอกจากกางเกงในซูเปอร์โลวไรซ์แล้ว ทางแบรนด์ก็ยังทำยกทรงซูเปอร์โลวไรซ์มาให้ใส่คู่กันด้วย ถ้าให้พูดตรงๆ คงต้องบอกว่ามันช่วยปกปิดหน้าอกมากกว่าแผ่นปิดหัวนมแค่นิดเดียวเอง แถมไม่น่าจะช่วยรักษาทรงด้วย เห็นแล้วเป็นห่วงจนอยากเอามือไปโกยให้นมไม่โผล่มาแทน แม้ว่ากางเกงในซูเปอร์โลวไรซ์นี้จะใช้ผ้าน้อยจนใส่แล้วแทบจะเห็นอะไรต่อมิอะไรหมดจดก็ตาม…
-
พาชมโรงงานในจีน ผู้ให้กำเนิด “สมาร์ตเซ็กส์ทอย” หุ่นยนต์พูดได้ ล้างจานก็ยังได้
เทคโนโยยีในปัจจุบันมีการพัฒนาที่รวดเร็วเสียจนพวกเราจับตามองกันไม่ทัน โดยเฉพาะเทคโนโยยีด้านการทำหุ่นยนต์หรือการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์นั้น เรียกได้ว่าเข้าใกล้กับภาพหุ่นยนต์ในอุดมคติมากเข้าไปทุกที ล่าสุดทางประเทศจีนก็ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ผสมผสานเข้ากับตุ๊กตายาง เพื่อทำให้พวกเธอสามารถโต้ตอบกับเจ้าของ และเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างได้ด้วย . บริษัท Exdoll ซึ่งมีตั้งอยู่ในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน เป็นบริษัททำตุ๊กตายางชั้นนำของจีนที่ผลิตตุ๊กตายางได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการของลูกค้า โดยมีราคาเริ่มต้นแค่เพียงตัวละ 400 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 12,500 บาท) เท่านั้น แต่เมื่อเร็วๆ นี้ทางบริษัทได้สร้างตุ๊กตายางรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Xiaodie โดยตุ๊กตายางรุ่นใหม่นี้มีความสามารถที่พิเศษกว่ารุ่นเก่าก็คือมันถูกติดตั้งเทคโนโลยีการโต้ตอบกับมนุษย์เข้าไปด้วย ทำให้พวกเธอสามารถคุยกับเจ้าของได้เหมือนกับ Siri โปรแกรมโต้ตอบจากบริษัท Apple เลยก็ไม่ปาน . นอกจากนี้แล้ว Xiaodie ยังมีีความสามารถในการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ เธอจึงสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมเล่นเพลง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องล้างจานได้ เท่านี้เราก็สามารถสั่งให้มันเปิดโปรแกรมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เองด้วย ทั้งหมดนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 4,000 ดอลลาร์สหัรฐ (ประมาณ 125,000 บาท) อีกทั้งตุ๊กตายางที่แสนสมาร์ตตัวนี้ยังสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของเราได้ด้วย ผู้ผลิตชี้แจงว่าภายใน 1 ปีหลังจากซื้อเธอไป เธอจะสามารถเลียนแบบสีหน้าท่าทางได้ และจะจดจำเสียงของเจ้าของแล้วมองตามเจ้าของได้ด้วย . Wu Xingliang ผู้อำนวยการด้านการตลาดของบริษัท…
-
ภาพผู้ป่วยเอดส์ในยุค 90 ช่วงที่เอดส์แพร่ระบาด กับการรักษาด้วยการให้กำลังใจ
ย้อนกลับไปในปี 1993 Gideon Mendel หนึ่งในช่างภาพหนุ่มได้รับโอกาสเข้าไปทำการบันทึกภาพในโรงพยาบาล Middlesex ในวอร์ดผู้ป่วยโรคเอดส์ เขาใช้เวลาในการเข้าไปเก็บภาพนานประมาณ 3 สัปดาห์ก็ได้เห็นชีวิตของทั้งผู้ป่วย หมอและพยาบาลในมุมมองที่เปลี่ยนไป ในช่วงนั้นผู้ป่วยโรคเอดส์ส่วนมากอยู่ในวัยหนุ่มสาวโดยเฉพาะชายรักชาย ทัศนคติของคนอื่นที่มองผู้ป่วยโรคนี้ไม่ค่อยดีมากนัก ทำให้ช่างภาพคนอื่นๆ ที่ถูกเชิญมาบันทึกภาพไม่ค่อยกล้าที่จะเข้ามาสัมผัส แต่นาย Gideon เป็นผู้ที่กล้าก้าวผ่านประตูมาเพื่อสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง ที่โรงพยาบาลแห่งนี้แพทย์และพยาบาลใช้วิธีรักษาที่ดีมากๆ นั่นก็คือการให้กำลังใจผู้ป่วย ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มียารักษา การให้กำลังใจเป็นหนึ่งสิ่งที่จะเยียวยาได้ดีที่สุดแตกต่างจากบ้านเราที่ผู้ป่วยโรคเอดส์จะถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี เป็นคนน่ารังเกียจ ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานทัศนคติแบบนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ดูแลผู้ป่วยเหมือนเพื่อนและคนในครอบครัว ลบภาพความน่ากลัวของโรคให้เปลี่ยนมาเป็นภาพแห่งความรัก สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้โดยไม่รังเกียจ แพทย์และพยาบาลเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด น้อยคนนักที่จะได้เห็นภาพในมุมนี้ ก้าวข้ามผ่านกำแพงความกลัว เปลี่ยนมุมมองลบๆ ที่มีอยู่ โชคร้ายที่คนเหล่านี้ไม่ทันได้ใช้ยารักษาเหมือนในปัจจุบัน ยารักษาโรคที่สำคัญที่สุดคือการรักษาจิตใจ ที่มา demilked
-
หญิงสาวออกมาเตือนผู้หญิงให้ระวังร้านทำเล็บ หลังเล็บปลอมเกือบทำให้เธอเสียนิ้วไป
การดูแลตัวเองกับสาวๆ นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ออก เพราะสำหรับบางคนนั้นไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมทุกอย่างเรียกได้ว่าจะต้องเป๊ะกันเลยทีเดียว และอีกหนึ่งสิ่งที่สาวๆ หลายคนให้ความใส่ใจเป็นพิเศษนั่นก็คือการทำเล็บนั่นเอง ในปัจจุบันการหาร้านสปาเล็บอาจจะไม่ใช่เรื่องยาก และค่อนข้างได้รับความนิยมจากคุณผู้หญิงไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทว่าบางครั้งภัยอันตรายก็อาจจะมาในรูปของเล็บปลอมก็ได้ เหมือนกับเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่งที่เกือบเสียนิ้วของเธอไปหลังจากการทำเล็บ ประสบการณ์อันน่าจดจำนี้เกิดขึ้นกับ Lowri-Anne Wilson หลังจากที่เธอได้ใช้บริการร้านทำเล็บแห่งหนึ่งเวลส์ แต่หลังจากที่ติดเล็บปลอมแบบอะคริลิคได้เพียงแค่ไม่กี่วัน หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับเล็บของเธอ “หลังจากที่ฉันทำเล็บมาได้ 2 วัน ฉันเริ่มมีอาการปวดที่นิ้วโป้งข้างซ้าย” หญิงสาวให้สัมภาษณ์กับสื่อ หลังจากนั้นไม่นานดูเหมือนว่าอาการปวดของเธอจะแย่ลง เมื่อเล็บที่มีอาการเริ่มบวมขึ้น อาการเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอตัดสินใจรีบไปโรงพยาบาลทันที ซึ่งเมื่อได้รับการวินิจฉัยแล้ว แพทย์บอกกับเธอว่าตอนนี้นนิ้วมือของเธอมีอาการติดเชื้อ และมีหนองอยู่ด้านใน หญิงสาวตัดสินใจกลับไปที่ร้านทำเล็บเดิมอีกครั้งเพื่อเอาเล็บปลอมออก แต่ทางร้านปฏิเสธที่จะทำให้ Wilson จึงต้องกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อเข้ารับการผ่าตัดบริเวณนิ้วโป้งซ้าย เพื่อเอาเล็บปลอมเจ้าปัญหาออก จากรายงานระบุว่าหญิงสาวโชคดีอย่างมากที่รีบมาพบแพทย์ก่อน เพราะไม่เช่นนั้นเชื้อดังกล่าวจะกินนิ้วของเธอไปเรื่อยๆ และอาจจะทำให้เธอจำเป็นต้องตัดนิ้วโป้งซ้ายทิ้ง ภาพของนิ้วโป้งซ้ายเธอ หลังจากที่ถอดเล็บปลอมออก (ใครใจแข็งกด ทีนี่ เลย) ตอนนี้คุณแม่ลูก 4 ของเรากำลังพักรักษาตัวด้วยการทานยาปฏิชีวนะ และเธอได้ให้สัมภาษณ์ว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนที่น่าจดจำสำหรับเธอไม่น้อยเลยทีเดียว “นี่คือการทำศัลยกรรมครั้งแรกของฉันเลย บางครั้งคุณอาจจะได้เคยได้ยินเกียวกับอันตรายของเล็บปลอมแบบอะคริลิค แต่คุณไม่มีทางรู้ได้เลยจนกว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง” Wilson ให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตามการทำเล็บปลอมแบบอะคริลิคนั้น ค่อนข้างที่จะปลอดภัยไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าหากว่าร้านดังกล่าวมีอุปกรณ์ที่ได้มาตฐาน อย่างไรก็ตามสื่อต่างประเทศได้เผยถึงตัวเลยที่น่าสนใจเกี่ยวกับร้านทำเล็บในสหรัฐอเมริกา ซึ่งระบุว่า…
-
ศิลปินทำ ‘บ้านนก’ แบบเนียนๆ กลมกลืนไปกับสถานที่ เพื่อทำให้เหล่านกไม่ถูกจับตามอง
งานศิลปะจากความคิดสร้างสรรค์นั้นบางทีก็ไม่ได้มีแค่ความสวยงามอย่างเดียวเท่านั้น แต่บางทีมันก็มีประโยชน์อีกด้วย ทั้งต่อสิ่งแวดล้อมโดยการลดขยะลง และให้ประโยชน์แก่เหล่าสัตว์โลกต่างๆ Thomas Dambo ศิลปินและนักออกแบบชาวเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ผู้ที่มีไอเดียสร้างสรรค์ในการนำขยะหรือวัสดุจากการรีไซเคิลที่สามารถหาได้ตามถังขยะในเมืองมาสร้างเป็นผลงานต่างๆ ซึ่งครั้งนี้เขาได้นำไม้อัดที่ได้มาจากการรีไซเคิลมาสร้างบ้านที่อยู่อาศัยสำหรับนก และใช้เทคนิคต่างๆ ในการทาสีเพื่อให้ดูกลมกลืนเข้ากับสิ่งรอบข้าง ยากที่จะสังเกตเพื่อปกป้องมันจากนกตัวอื่นๆ ในละแวกไม่ให้มันเข้ามารบกวนหรือทำอันตราย 25 ภาพเหล่านี้คือตัวอย่างผลงานที่เขาได้สร้างสรรค์ขึ้นมา ซึ่งมองดูแล้วเจ้าบ้านนกเหล่านี้ กลมกลืนกับสิ่งรอบข้างได้อย่างแนบเนียนเลยทีเดียว บ้านนกที่กลมกลืนไปกับป้ายหน้าบ้าน . กลมกลืนกับประตูได้อย่างแนบเนียน แถมยังทาสีสนิมได้เหมือนจริงสุดๆ มีเจ้านกตัวน้อยเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย แบบนี้คงไม่โดนนกใหญ่ตัวอื่นๆ รังแกแน่นอน . ถึงแม้จะไม่มีธรรมชาติรอบๆ ก็กลายเป็นป้ายซะเลย . . มีความกลมกลืนเบาๆ ว่าแต่มาตั้งหน้าเซเว่นแบบนี้ จะมีนกเข้ามาอยู่ไหมเนี่ย ทาสีได้เหมือนกับปูนจริงๆ . ดูจากรูปซ้าย แทบจะมองไม่เห็นเลยว่ามีบ้านนกอยู่ เนียนมากๆ . . . . มองหาตั้งนาน ไปแอบเนียนอยู่ตรงมุมขวาบนของป้ายนั่นเอง . ดูแล้วไม่แน่ใจว่าเป็นบ้านนกใสๆ…
-
ศิลปินติดลูกโป่งสวยๆ ใจกลางกรุงนิวยอร์ก นี่มันเป็นสวรรค์สำหรับคนรักลูกโป่งเลยนะเนี่ย
เมื่อมีงานสำคัญต่างๆ สิ่งที่ขาดเลยไม่ได้เลยก็คือการตกแต่งสถานที่ ซึ่งหลายครั้งก็มีการตกแต่งที่แปลกๆ เพื่อพยายามจะเรียกผู้ชมให้มากที่สุด และคราวนี้อีกก็เช่นกัน เมื่อมีศิลปินท่านหนึ่งตกแต่งสถานที่ด้วยลูกโป่ง จนออกมาเป็นภาพสุดสวยที่ใครได้ดูก็ต้องหลงรักเลยล่ะ โดยศิลปินที่ว่าเป็นชาวนิวยอร์กที่ชื่อว่า Jihan Zencirli หรือชื่อในวงการว่า Geronimo ในคราวนี้เธอได้รับมอบหมายให้จัดแต่งด้วยสิ่งที่เธอถนัดนั่นก็คือ การใช้ลูกโป่ง ซึ่งสิ่งที่เธอได้จัดทำขึ้นก็มีความสวยงามโดยทั้งมีการเรียงสีเพื่อความสบายตา หรือใช้สีที่ตัดกับตัวตึกเพื่อให้อารมณ์อีกแบบหนึ่ง รวมถึงเธอยังต้องใช้ความเป็นศิลปินของเธอในการดูองค์ประกอบต่างๆ ของตึกใกล้เคียงเพื่อดูว่ามันจะสามารถเข้ากับลูกโป่งของเธอได้หรือไม่อีกด้วย โดยงานศิลปะสุดสวยของเธอนี้ได้มีความร่วมมือกับบริษัท New York City Ballet เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะประจำปีที่จัดขึ้น ณ บริเวณ Lincoln Center ใจกลางมหานครแมนฮัตตัน ที่มีการจัดเป็นประจำเรื่อยมาตั้งแต่ปี 1964 และเธอเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ถูกเลือกในงานนี้อีกด้วย งานศิลปะครั้งนี้มีการเปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 มกราคม และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2018 ที่จะถึงนี้ ซึ่งระหว่างในระยะเวลาดังกล่าวจะมีโชว์สุดพิเศษมาแสดงให้ผู้คนได้รับชมถึง 2 โชว์ด้วยกัน หากใครมีโอกาสได้ไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็อย่าลืมไปเยี่ยมชมลูกโป่งสวยๆ เหล่านี้กันนะ มีการจัดวางสีอย่างเป็นระเบียบ สีสันหลากหลายชวนให้มองดูซะจริงๆ เพิ่มมิติภายในงานได้อีกเยอะเลย มันช่างจ้าซะเหลือเกิน แม่คุณเอ้ย เพิ่มความสวยงามให้รูปปั้นได้เหมือนกันนะเนี่ย ใครรักลูกโป่งนี่อาจจะเป็นสวรรค์เลยก็ได้ เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ อย่างแน่นอน…
-
เกิดอุบัติเหตุใหญ่กลางเมืองเซี่ยงไฮ้ หลังรถตู้พุ่งชนร้านกาแฟ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 18 ราย
จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ เมื่อประมาณช่วงเช้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน หลังรถตู้ที่กำลังลุกไหม้คันหนึ่งได้พุ่งเข้าชนร้าน Starbucks ทางด้านตะวันตกของถนน Nanjing เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บถึง 18 ราย เว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยว่านาย Chen คนขับรถตู้วัย 40 ปีได้สูบบุหรี่ระหว่างที่กำลังขับรถตู้คันดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการบรรทุกวัตถุไวไฟที่ผิดกฎหมาย สภาพของรถตู้ที่กำลังลุกไหม้ จากการตรวจสอบขั้นต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านาย Chen พยายามที่จะจุดบุหรี่สูบ ซึ่งทำให้เขาเสียการควบคุมรถก่อนที่มันจะไถลข้ามทางเท้าเข้าไปชนร้านกาแฟชื่อดังเมื่อประมาณ 9 นาฬิกา การพุ่งเข้าชนร้านกาแฟดังกล่าวเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย และหลังจากนั้นไม่นานไฟในรถตู้คันดังกล่าวก็เกิดการปะทุออกมาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานดับเพลิงกำลังช่วยกันระงับเหตุร้ายที่เกิดขึ้น หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีผู้บันทึกคลิปวิดีโอไว้ได้ ซึ่งภายในคลิปเผยให้เห็นพนักงานดับเพลิงที่กำลังช่วยชีวิตของผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ และดับเพลิงในรถตู้ที่กำลังลุกไหม้ มีรายงานว่าเหตุการณ์รถตู้พุ่งชนในย่านกลางเมืองครั้งนี้ไม่ใช่ฝีมือกลุ่มก่อการร้ายแต่อย่างใด และขณะนี้สื่อต่างประเทศกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งถ้าหากมีความคืบหน้าทางเราจะรายงานให้ทราบต่อไป วินาทีที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่มา medium
-
ความงามของน้ำตกไนแอการายามค่ำคืน ท่ามกลางอากาศอันหนาวเย็น ติดลบกว่า 20 องศา
น้ำตกไนแอการา คือหนึ่งในสถานที่อันแสนสวยงามและมีชื่อเสียงในเขตประเทศแคนาดา เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งความสวยงามของมันนั้นสามารถแสดงออกมาให้เห็นได้ในหลากหลายรูปแบบ แม้แต่ตอนที่อากาศหนาวจัดจนแทบจะจับตัวกันเป็นน้ำแข็ง ความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ในยามค่ำคืนได้ถูกถ่ายเอาไว้โดยฝีมือของช่างกล่องจากเมืองโตรอนโต้ Adam Klekotka ซึ่งเขาได้ใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ในการออกมาเก็บภาพความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบกว่า 20 องศาเซลเซียส น้ำตกไนแอการายามค่ำคืน ที่มีทั้งความสวยงามและอลังการในเวลาเดียวกัน เขาเล่าว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเห็นความสวยงามของมันในยามค่ำคืนในช่วงเดือนมกราคม 2018 สิ่งที่เจอมันช่างสวยงามตระการตาและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก น้ำตกยังคงไหลผ่านลงมา แม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะแสดงให้เห็นถึงความหนาวเหน็บมากขนาดไหน Adam ยังบอกอีกว่าความหนาวเย็นคืออุปสรรคที่ทำให้เขาต้องถูกน้ำแข็งกัดไปทั่วมือ เพราะตอนถ่ายรูปไม่สามารถใส่ถุงมือกดปุ่มเล็กๆ ได้ อีกทั้งยังต้องคอยเช็ดเลนส์อยู่ทุกๆ 2 วินาที เนื่องจากมีหยดน้ำมาเกาะติดเต็มไปหมด บรรยากาศที่ดูเหมือนอยู่บนดาวดวงอื่น แม้การเก็บความทรงจำครั้งนี้จะยากลำบากมากขนาดไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ได้ภาพอันสวยงามและมีความหมายกลับมาเป็นของรางวัลจากความทุ่มเท นับว่าเป็นสิ่งที่คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม . เพื่อนๆ คนไหนที่ชื่นชอบผลงานของช่างภาพผู้มากฝีมือและความพยายามคนนี้ ก็สามารถเข้าไปติดตามเข้าได้ในอินสตาแกรม Xar เลยนะครับ ที่มา: thisiscolossal
-
เปิดเมนูลับ Subway ประเทศญี่ปุ่น นั่นก็คือแซนวิชด์ยักษ์ที่ใหญ่กว่าขนาดปกติถึง 8 เท่า!!
สำหรับชีวิตที่เร่งรีบในแต่ละวัน ทำให้เรื่องของอาหารก็เป็นเรื่องที่ต้องรวดเร็วด้วยเช่นกัน ดังนั้นหลายคนจึงเลือกอาหารที่สามารถหยิบแล้วกินได้เลย ซึ่งอาหารอย่างแซนวิชด์ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ผู้คนทั้งหลายต่างชื่นชอบกัน เพราะว่านอกจากจะเป็นอาหารที่สะดวกต่อการพกพาแล้ว มันยังมีอร่อยในแบบที่กัดไปคำเดียวแต่ได้รสชาติหลายๆ อย่างพร้อมๆ กันอีกด้วย ดังนั้นจึงมีคนมากมายที่หลงรักในอาหารชนิดนี้ ถึงขนาดที่ว่ากินเท่าไหร่ก็ไม่สามารถต้านทานความอร่อยของมันได้ และในวันนี้ดูเหมือนความฝันของพวกเขาเหล่านี้จะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว เพราะมีร้านแฟรนไชส์แห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่สร้างแซนวิชด์ให้ออกมาใหญ่ถึงขนาดปกติถึง 8 เท่า!!! โอ้โห จะกินหมดไหมเนี่ย สำหรับคอแซนวิชด์แล้วก็คงจะรู้จักกับร้าน Subway เป็นอย่างดี ซึ่งพวกเขาได้สร้างมิติใหม่ในการกินแซนวิชด์ขึ้นมาด้วยการสร้างสิ่งที่เรียกว่า Giant Sub ที่มีขนาดใหญ่กว่าแซนวิชด์แบบปกติถึง 8 เท่า ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูลับที่ไม่มีขึ้นอยู่บนลิสต์รายชื่อเมนูอาหารภายในร้าน แต่แค่เพียงคุณเอ่ยชื่อเมนูนี้เท่านั้น พนักงานร้าน Subway ในประเทศญี่ปุ่นก็ยินดีที่ทำให้เป็นพิเศษเลยล่ะ โดยเมนูนี้ถูกค้นพบขึ้นโดยผู้สื่อข่าวที่มีชื่อว่า Meg นั่นเอง ห่อมาทีนี่ใหญ่กว่าข้าวหลามอีกนะเนี่ย การค้นพบครั้งนี้่เกิดขึ้นจากการที่ Meg ได้ไปที่ร้าน Subway แห่งหนึ่งในละแวกบ้านของเธอแล้วเอ่ยปากขอสั่งเมนู Giant Sub นี้แล้วจะมารับอีกภายใน 2 วันข้างหน้า และเมื่อเธอมารับของที่สั่งไว้ก็ถึงกับต้องตกตะลึงกับกล่องขนาดใหญ่ที่บรรจุแซนวิชด์ที่เธอสั่งเอาไว้ภายในนั้น น่ากินไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะ โดยจริงๆ แล้วร้าน Subway ประเทศญี่ปุ่นมีแซนวิชด์ยักษ์นี้ให้บริการในหลากรสหลายสไตล์ถึง 4…
-
เจ้าชิบะเศร้า หลังเสียเพื่อนรักขนปุยไป แต่แล้วน้องแมวตัวใหม่ก็เข้ามาเติมเต็มสิ่งที่หายไป
การที่เราเห็นหมาแมวทะเลาะกันบ่อยๆ นั่นไม่ได้หมายความหมากับแมวทุกตัวจะเป็นศัตรูกัน เพราะพวกมันบางตัวรักกันยิ่งกว่าเผ่าพันธุ์ตัวเองซะอีก เหมือนเจ้าเหมียวตัวส้มที่เข้ามาอยู่กับครอบครัวใหม่ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 17 เดือนที่แล้ว ที่นั่นมันได้พบกับน้องหมาชิบะของบ้าน และพวกมันรักกันตั้งแต่แรกเห็น สำหรับเจ้าชิบะ Gaku มันเติบโตมากับเจ้าเหมียว Tarawo พวกมันเป็นเพื่อนรักที่ตัวติดกันตลอด จนน้องหมาพลอยคิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของแมวไปแล้ว แต่แล้ว Tarawo ก็มาจากไปในวัย 15 ปี ทำให้น้องหมาเสียใจมากและรู้สึกว่ามีบางอย่างหายไปจากชีวิตของมัน… กระทั่งหนึ่งเดือนต่อมา เจ้าของ Gaku ได้ไปเจอกับแมวตัวหนึ่งที่กำลังต้องการบ้าน ซึ่งแม้ว่าจะอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ให้เจ้าเหมียวที่จากไป แต่พวกเขาไม่อยากเห็นน้องหมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยไม่มีเพื่อน ในที่สุดวันที่ 12 สิงหาคม 2016 ครอบครัวก็ตัดสินใจพาแมวน้อยตัวนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะสมาชิกใหม่ และตั้งชื่อให้มันว่า Torajiro แน่นอน Gaku รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เจอเพื่อนใหม่ แต่ Torajiro ดูไม่ค่อยคุ้นเคยกับหมาสักเท่าไหร่ ดังนั้นน้องหมาเลยใช้เวลาตลอดทั้งวันในการเอาชนะใจมัน การมีเจ้าเหมียวตัวใหม่เข้ามา ทำให้เจ้าชิบะนึกถึงเพื่อนรักผู้ล่วงลับ ดังนั้นมันจึงสร้างมิตรภาพครั้งใหม่กับ Torajiro และหัวใจของมันก็ได้รับการเติมเต็มอีกครั้ง หลังจากพยายามเอาใจมาทั้งวันทั้งคืน เช้าวันต่อมาครอบครัวก็ตื่นมาเห็นพวกมันนอนหลับไปด้วยกัน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาทั้งสองก็กลายเป็นพี่น้องที่ต้องกอดกันตลอดเวลา พวกมันต้องการกันและกัน “ต้องขอบคุณ Torajiro ที่นำความสุขมาสู่ครอบครัวเรา” เจ้าของกล่าว…
-
คุณพระ!! สวนสัตว์ในจีนสุดโหดเหี้ยม นำลูกสุนัขไปเป็นอาหารสำหรับงูเหลือมซะได้
(บทความนี้อาจมีภาพที่มีเนื้อหารุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม) สำหรับสถานที่อย่าง “สวนสัตว์” นั้น นอกจากจะเป็นสถานที่ที่เอาไว้เก็บรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เปิดให้ผู้คนเข้าชมเพื่อให้เราได้รู้จักกับสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด แต่ว่าอาจจะเกิดเรื่องที่ทำให้นักท่องเที่ยวอึ้งเหมือนกับเหตุการณ์นี้ เพราะว่ามีสวนสัตว์แห่งหนึ่งในประเทศจีนที่ให้อาหารงูด้วยลูกหมาเป็นๆ ซะอย่างงั้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อมีกลุ่มผู้คนกลุ่มหนึ่งไปเที่ยวที่สวนสาธารณะในมณฑลเหอหนาน ซึ่งภายในสวนแห่งนี้ก็มีสวนสัตว์ขนาดเล็กรวมอยู่ด้วย และแล้วนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็ถึงกับต้องผงะ เมื่อพวกเขาเข้าไปในบ้านงูแล้วพบว่าทางสวนสัตว์แห่งนี้ให้กำลังให้อาหารงูเหลือมขนาดยักษ์ด้วยลูกหมาน้อยแสนน่ารัก ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องปกติที่พบเห็นกันได้บ่อยๆ พวกเขาจึงถ่ายคลิปวิดีโอนี้เก็บไว้ พร้อมกับอัปโหลดขึ้นสู่โลกออนไลน์ในเวลาต่อมา โดยภายในคลิปวิดีโอเราจะสามาถเห็นได้ว่ามีงูเหลือมตัวหนึ่ง กำลังเข้ารัดลูกหมาสีขาวที่กำลังหมดสติด้วยาสลบหรือว่าเสียชีวิตไปแล้วก็ไม่อาจทราบได้ ขณะที่อีกคลิปหนึ่งก็มีลูกหมาตัวสีน้ำตาลกำลังนั่งอยู่บนพื้นใกล้ๆ กับบ่องูเหมือนกับว่ากำลังนั่งรอชะตากรรมการตายอยู่ วิดีโอของหมาที่ถูกจับไปไว้ในกรงงูเหลือม หลังจากคลิปวิดีโอนี้ได้ถูกเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ ก็มีพนักงานของสวนสาธารณะ Pingdingshan Riverside ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ในสวนสัตว์สาธารณะแห่งนี้ เป็นสวนสัตว์ขนาดเล็กที่มีเอกชนเป็นเจ้าของรวมถึงบริหารงาน การกระทำต่างๆ ของสวนสัตว์แห่งนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับสวนสาธารณะแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานคนดังกล่าวก็ได้บอกเพิ่มว่าในขณะนี้ สวนสัตว์แห่งนั้นได้เลิกให้อาหารงูด้วยลูกหมาแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าพวกเขาให้อะไรแก่งูเหลือมเป็นการทดแทน ซึ่งก็มีการสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นลิงหรือว่าลูกหมูก็อาจเป็นไปได้ อนุสาวรีย์ลาที่ตั้งอยู่หน้ากรงเสือ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์คล้ายกันในอดีต ซึ่งนี่ไม่ใช่กรณีแรกที่มีเหตุการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้น เพราะเมื่อปีที่แล้วสวนสัตว์แห่งหนึ่งในนครฉางชา ก็มีการให้อาหารเสือด้วยลาที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งในภายหลังสวนสัตว์ดังกล่าวก็ได้ออกมาอธิบายว่า เหตุการณ์ที่ลาถูกจับเข้าไปอยู่ในกรงเสือนั้น เป็นการแก้แค้นโดยผู้ถือหุ้นที่ไม่พอใจคนหนึ่งของสวนสัตว์ และด้วยความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นนี้ ทางสวนสัตว์แห่งจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ลาขึ้นมาตั้งอยู่บริเวณกรงเสือ…
-
หนุ่มปั่นจักรยานร่วม 10,000 กิโลฯ จากแอฟริกาไปจีน เพื่อช่วยเหลือเหล่าคนยากจน
พี่ตูน หรือ ตูน บอดี้สแลม กลายเป็นฮีโร่ของพวกเราชาวไทย หลังจากที่เขามุ่งมั่นวิ่งจากใต้สุดไปยังเหนือสุดของประเทศเพื่อระดมเงินสร้างโรงพยาบาล เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่โลกนี้ยังมีคนเหมือนพี่ตูนอีกหลายคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำเพื่อผู้อ่ื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน หนึ่งในนั้นคือ Yuan Jianglei ด้วยความที่อยากช่วยเหลือชุมชนที่ยากจนในประเทศเบนินในแอฟริกาตะวันตก Yuan จึงระดมเงินด้วยการขี่จักรยานจากแอฟริกาไปยังบ้านเกิดของเขาในประเทศจีน ร่วมระยะทางกว่า 16,000 กิโลเมตร และต้องใช้เวลาเกือบปี ตามกำหนดการของ Yuan วันที่ 26 เดือนนี้ เขาต้องเดินทางกลับไปยังประเทศเบนิน เพื่อทำตามคำสัญญาที่จะติดตั้งสถานีพลังงานแสงอาทิตย์และสร้างบ่อน้ำที่นั่น ตามรายงานของ Youth Daily บอกว่า Yuan เดินทางไปเบนินครั้งแรกเมื่อปี 2014 หลังจากที่เขาสำเร็จการศึกษาด้านการสื่อสารมวลชน ที่นั่นเขาใช้เวลากว่า 2 ปี ในการสอนภาษาจีนในสถาบันขงจื้อในเบนิน ซึ่งเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนามากที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกา ในเดือนกันยายนปี 2016 Yuan ได้เริ่มปั่นจักรยานข้าม 16 ประเทศ ภายในเวลา 360 วัน เพื่อกลับไปยังบ้านเกิดของเขา ชายหนุ่มบอกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมากๆ เพราะเขาอยากเห็นโลกที่ถ่ายทอดเรื่องราวและบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง ระหว่างทางที่เขาเดินทาง เขาได้เห็นธรรมชาติที่สวยงาม และได้เจอผู้คนที่เป็นมิตรกับเขา Yuan บอกว่ามันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทำเขาได้คิดทบทวนหลายๆ อย่างที่ผ่านมา ขณะที่เขาปั่นจักรยานไปถึงมอริเตเนีย เหลือเวลาอีกแค่…
-
Deepfakes ภัยเงียบที่เปลี่ยนหน้าดาราหนังโป๊ให้กลายเป็นหน้าดาราดังได้แนบเนียน
หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นดาราดังอย่าง Natalie Portman, Emma Watson, Taylor Swift และคนอื่นๆ โผล่ในเว็บไซต์หนังโป๊อย่างโจ่งแจ้ง บางคนอาจจะคิดว่าเป็นคลิปหลุดที่ได้จากการการแฮ็กบัญชีโซเชียล โทรศัพท์ถูกขโมย หรือเพราะนักแสดงคนนั้นเต็มใจที่จะเล่นหนังโป๊เอง… แต่จริงๆ แล้ว คลิปโป๊เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถสลับใบหน้าของดาราหนังโป๊กับดาราที่มีชื่อเสียงและคนดังคนอื่นๆ ได้ เทคโนโลยีดังกล่าวนี้เป็นแอปที่เรียกว่า Deepfakes ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่าง ‘ของปลอม’ กับ ‘การเรียนรู้เชิงลึก’ ซึ่งปรากฏในสื่อออนไลน์ครั้งแรกในเดือนธันวาคม ปี 2017 เมื่อผู้ใช่ Reddit เริ่มโพสต์วิดีโอที่เห็นใบหน้าดาราดังอย่างชัดเจน ยูเซอร์ดังกล่าวจึงลองเสิร์ชภาพหน้าดาราดังนั้นใน Google และหาคลิปในยูทูบ พร้อมกับฝึกใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อที่จะได้รู้ว่าใบหน้าของดาราดังจะเป็นยังไงเมื่ออยู่ในสถานการณ์ต่างๆ จากนั้นเขาก็นำรูปที่ได้ไปสลับกับใบหน้าของดาราหนังโป๊ในวิดีโอ ผลที่ได้คือใบหน้าของดาราดังมีความคล้ายกับดาราหนังโป๊ ในเดือนมกราคม ปรากฏการณ์นี้เปลี่ยนไปอย่างไม่คาดฝันเมื่อผู้ใช้ Reddit รายอื่นๆ ได้เผยแพร่แอปพลิเคชันที่ช่วยให้คนไม่มีความรู้ด้านเทคนิค สร้างวิดีโอ Deepfake ของตนเองขึ้นมา ผู้สร้างบอกว่า นับตั้งแต่มีการเปิดให้ดาวน์โหลดแอปดังกล่าว พบว่ามีการดาวน์โหลดไปมากกว่า 100,000 ครั้ง และมีคลิปใหม่ๆ ที่ถูกอัปโหลดอีกนับสิบ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ Deepfakes ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม…
-
ย้อนอดีต 14 ปีแห่ง Facebook ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ หน้าตาเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน…!!?
สำหรับ Facebook ตอนนี้ก็ยังคงครองตำแหน่ง Social Network ที่ใหญ่ที่สุดของโลกอยู่ และตอนนี้ก็มีอายุครบ 12 ปีแล้วล่ะ นับตั้งแต่ที่ Mark Zuckerberg ได้เขียนมันขึ้น ในหอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของเขาในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี 2004 สมัยก่อน Facebook ไม่ได้ใช้ชื่อนี้ แต่เป็น TheFacebook.com (ดูแปลกๆ ใช่มั้ยล่ะ?) แต่สำหรับตอนนี้เราก็คงคุ้นเคยกับคำว่า facebook.com เฉยๆ โดเมนที่มีผู้ใช้งานราวๆ 1 พันล้านคนต่อวัน!!! วันนี้เหมียวก็อยากจะพาเพื่อนๆ ไปย้อนอดีตกันตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เริ่มก่อตั้ง Facebook ว่าหน้าโฮมเพจของพวกเขานั้น เป็นอย่างไรในแต่ละช่วง… ออริจินัลโฮมเพจของเฟซบุ๊คเป็นแบบนี้ (thefacebook) ในปี 2004 มีรูปเล็กๆ ของ Al Pacino อยู่มุมซ้ายบนด้วยล่ะ ในปี 2005 โฮมเพจได้ลิสต์ชื่อของเหล่าโรงเรียน-วิทยาลัยที่เข้าร่วม และแน่นอน รูปของ Al Pacino ในปี 2006…
-
Cape Town หนึ่งในเมืองใหญ่ของโลกที่กำลังจะเจอกับปัญหา ‘ขาดน้ำ’ เป็นเมืองแรก
Cape Town เมืองหลวงของประเทศแอฟริกาใต้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและธรรมชาติอันสวยงาม บวกกับความเจริญก้าวหน้าที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่ทั้งผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยงต่างพากันชื่นชอบ แต่หนึ่งในเมืองอันยิ่งใหญ่ของโลกตอนนี้กลับต้องเจอกับปัญหาใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ปัญหาที่ว่านั้นคือ “ปัญหาการขาดแคลนน้ำ” ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่การคาดเดาโดยไม่มีที่มาที่ไป แต่พวกเขาถึงกับสามารถคำนวณได้เลยว่าจะไม่มีน้ำให้ใช้กันตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ จากการวัดผลและทดสอบหลายๆ อย่าง ทำให้ผู้เชี่ยวชาญออกมาประกาศว่าเมืองแห่งนี้จะไม่มีน้ำใช้ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2018 เป็นต้นไป หรือก็คือเหลือเวลาให้เตรียมใจอีกเพียงแค่ประมาณ 3 เดือนเท่านั้นเอง โดยพวกเขาเรียกวันนั้นว่าเป็นวัน Day Zero วันที่ประชากรกว่า 4 ล้านคนจะไม่มีน้ำไว้ใช้สำหรับสาธารณูปโภค สำหรับสาเหตุของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ เป็นผลมาจากการที่อ่างเก็บน้ำใหญ่ที่สุดของเมืองได้แก่ เขื่อน Theewaterskloof กำลังประสบปัญหาน้ำแห้งในเร็ววัน เขื่อนแห่งนี้คือสถานที่ที่สามารถจุน้ำได้มากถึง 480,000 ล้านลิตร แต่ปัจจุบันน้ำในเขื่อนกลับเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 13 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณน้ำทั้งหมด เรื่องของปริมาณน้ำที่ลดลงอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญได้เล็งเห็นมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2014 จากการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทดสอบดูว่า น้ำที่มีอยู่เต็มเขื่อนจะสามารถใช้ได้นานขนาดไหน ผลก็คือมันสามารถทำให้ประชากรในเมืองมีน้ำใช้ได้แค่ประมาณ 1 ปี จากการคาดการณ์ของเหล่าผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่าปัญหานี้เกิดขึ้นได้จาก 3 สาเหตุ…
-
เจ้าของบ้านเถียงกับช่างไฟ ‘ฉันรวย ฉะนั้นฉันเป็นฝ่ายถูก’ ผลลัพธ์โดนไฟช็อตเกือบตาย
พวกเราทุกคนทราบกันดีว่า ระบบไฟฟ้าภายในบ้านคือสิ่งสำคัญที่ควรจะต้องให้ความใส่ใจ เพราะมันอาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยของเจ้าสิ่งนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วช่างไฟทั้งหลายย่อมมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้กันทั้งนั้น เช่นเดียวกับช่างไฟคนนี้ที่ได้ไปช่วยปรับปรุงและเปลี่ยนระบบกระแสไฟฟ้าให้กับบ้านหลังหนึ่ง โดยในระหว่างการทำงาน เขาก็ได้เตือนเจ้าของบ้านในเรื่องของความปลอดภัยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เขากลับถูกโต้แย้งใส่ด้วยคำพูดที่ว่า “ฉันรวย ฉะนั้นฉันเป็นฝ่ายถูก” เรื่องราวนี้ถูกบอกเล่าผ่านเว็บไซต์ BoredPanda เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2018 เมื่อทีมงานช่างไฟฟ้าได้เดินทางไปช่วยกันเปลี่ยนแปลงระบบไฟให้กับบ้านของหญิงสาวที่น่าจะค่อนข้างมีฐานะ เรื่องมีอยู่ว่าสาวเจ้าของบ้านต้องการที่จะให้ช่างไฟกลุ่มนี้ช่วยออกแบบเส้นทางการไลน์สายไฟที่ดูซับซ้อนภายในบ้านของเธอ และต้องการที่จะให้พวกเขาติดตั้งแผงระบบโซลาร์เซลล์โดยไม่ให้เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าโดยรวม เพราะเธอไม่ต้องการที่จะเสียเงินให้กับบริษัทผู้ให้บริการที่คอยจ่ายไฟมาให้ที่บ้านของเธอ โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้น ในตอนนั้นช่างไฟมองว่าความต้องการของเธอมันช่างเป็นเรื่องที่ดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย พวกเขาแนะนำเธอไปว่าการทำอย่างนั้นมันคือการสิ้นเปลืองพลังงานและฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุ แต่แล้วสาวเจ้าของบ้านก็กลับพูดออกมาว่า “ฉันรวย ฉะนั้นฉันเป็นฝ่ายถูก” เมื่อเป็นอย่างนั้นพวกเขาจึงต้องทำตามในสิ่งที่เธอบอก เมื่อติดตั้งทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย ช่างไฟก็หันไปเตือนเธอว่าอย่าเพิ่งไปยุ่งหรือไปแตะอะไรก็ตาม เพราะพวกเขายังติดตั้งกันไม่เสร็จ เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง แต่หญิงสาวกลับเลือกที่จะไม่สนใจคำเตือนของพวกเขา เพราะหลังจากที่ช่างไฟจากไป เธอก็ดันไปเปิดใช้งานระบบไฟต่างๆ ซะอย่างนั้น หลังจากนั้นเธอก็ส่งอีเมล์มาหาเหล่าช่างไฟด้วยความโมโห บอกว่าเธอต้องเกือบตายหลังจากที่เปิดใช้ระบบไฟเหล่านั้น อีกทั้งยังกล่าวหาว่าพวกเขาไม่เอาใจใส่และขาดจรรยาบรรณต่อหน้าที่การทำงาน ทั้งๆ ที่พวกเขาก็บอกเธอไปแล้วว่าอย่าเพิ่งไปยุ่งกับพวกระบบไฟฟ้าเหล่านั้น เจ้าของบ้านสาวคนนั้นไม่สนใจในคำพูดของพวกเขาเลย เธอตัดสินใจยื่นฟ้องร้องต่อศาลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งช่างไฟฟ้าก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร และพวกเขาก็พร้อมที่จะยื่นหลักฐานตามสัญญาที่คุยกับเธอเอาไว้ในตอนแรกว่าห้ามไปยุ่งกับระบบไฟเหล่านั้นเด็ดขาด จนกว่าจะติดตั้งเสร็จ …
-
25 ภาพสะเทือนอารมณ์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกทั้งสุขและเศร้า
มีภาพมากมายที่ทำให้คุณเลื่อนผ่านโดยไม่ลังเล แต่มีบางภาพที่ทำให้เราหัวเราะ ร้องไห้ และติดอยู่ในความทรงจำของเรา รวมไปถึงเปลี่ยนมุมมองของเราที่มีต่อโลกด้วย เช่นเดียวกับภาพเหล่านี้ที่แม้จะเป็นเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่มันทำให้เราเกิดความรู้สึกด้านบวก และยากที่จะลบออกไปจากความทรงจำ 1. ขอบคุณมากเพื่อน! 2. ความสุขของเด็กน้อยเมื่อได้เจอตัวละครในฝัน 3. Margaret Bekema ลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาดูแลครอบครัว และเธอได้รับใบปริญญาในหลายสิบ(?)ต่อมา เมื่อเธออายุ 97 ปี 4. เมื่อลูกน้อยได้เห็นหิมะครั้งแรก 5. นี่คือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่… เมื่อมนุษย์ ไม่มีความแตกต่าง 6. แม้จะทำคีโมมาตลอดทั้งวัน แต่เธอก็ยังถ่ายรูปฉลองวันเกิด 21 ปีอย่างร่าเริง 7. คุณยายวัย 96 ปี กับการคุยผ่านเฟซไทม์ครั้งแรก 8. คู่รักที่เพิ่งหมั้นกันเมื่อคืน วันนี้พวกเค้ายิ้มอย่างมีความสุขจนแก้มแทบปริ 9. เมื่อน้องหมาไปชายหาดครั้งแรก หนีคลื่นหรอลูก? 10. เด็กน้อยเป็นโรค Hypotrichosis เขาเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล…
-
สองหนุ่มซิดนีย์เปิดศึกสู้กันบนรถไฟ ซัดกันอลเวง สุดท้ายหักมุมจบลงด้วยกอดสุดอบอุ่น
การใช้ความรุนแรงไม่ใช่การแก้ปัญหา สิ่งที่เราควรทำคือการให้อภัยต่างหาก … การใช้ชีวิตในสังคมทำให้เราจำเป็นต้องเจอคนที่มีความคิดแตกต่างจากเราในหลายรูปแบบ ซึ่งอาจจะทำให้เราเกิดความขัดแย้งกันก็ได้ แต่เราไม่ควรจะใช้กำลังเข้าแก้ไขความไม่เข้าใจในตัวอีกฝ่าย การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้นไม่ได้ต้องการผู้ชนะ แต่ต้องการให้คนในสังคมประนีประนอมต่อกันต่างหาก ชาย 2 คนในคลิปวิดีโอนี้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าแม้จะขัดแย้งกันขนาดไหนสุดท้ายก็สามารถให้อภัยแก่กันได้ เฮ้ย จะหาเรื่องกันเหรอไงวะ แบบนี้ต้องโดน คลิปวิดีโอนี้เผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Judita Aku-wei Winter เขาบังเอิญอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวพอดีจึงสามารถถ่ายคลิปนี้ไว้ได้ เรื่องเกิดขึ้นที่รถไฟสายหนึ่งภายในเมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในตอนเริ่มต้นจะเห็นว่าชายแก่ที่สวมเสื้อสีน้ำเงินและชายหนุ่มที่สวมเสื้อสีชมพูกำลังมีปากเสียงกันอยู่ แต่ก็ไม่อาจทราบได้ว่าพวกเขาทะเลาะเรื่องอะไรกันเพราะเริ่มคลิปมาก็ด่ากันเสียแล้ว หลังจากที่ชายแก่ชี้นิ้วด่าชายหนุ่มได้ไม่นาน ชายหนุ่มก็หมดความอดทนแล้วลุกขึ้นมาแลกหมัดกัน พวกเขาตีกันนัวเนียจนทำให้คนรอบข้างหนีไปหมดเลย คงเพราะกลัวว่าจะโดนลูกหลงนั่นแหละ คลุกวงในกันจนข้ามไปถึงที่นั่งอีกฝั่งเลยทีเดียว แต่คนถ่ายคลิปก็ยังคงตั้งใจถ่ายทั้งคู่ต่อไม่ได้วิ่งหนีไปเหมือนคนอื่น ชายทั้งสองกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันชนิดที่ว่าฝ่ายชายหนุ่มถูกจับล็อกขาชี้ฟ้าเลย แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ถีบชายแก่จนกระเด็นออกจากกันไปคนละทาง จากนั้นเหมือนว่าชายหนุ่มจะได้สติขึ้นมาว่าพวกเขาไม่ควรจะมาต่อยตีกันเหมือนเด็กๆ แบบนี้เลย เขาจึงพยายามหาทางประนีประนอมกับชายแก่ ชายหนุ่มบอกว่า “เอาล่ะ ตอนแรกคุณเป็นคนเริ่มหาเรื่องผมก่อนนะ แต่ผมไม่อยากให้วันนี้กลายเป็นวันแย่ๆ ไป ผมแค่พยายามจะกลับบ้านไปพักผ่อนเพื่อเอาแรงไปทำงานพรุ่งนี้แค่นั้นเอง ผมอยากให้คุณรู้ว่าถ้าคุณยอมจบเรื่อง ผมก็จะจบเหมือนกัน” เอาล่ะใจเย็นนะพวก ฉันว่าเรามาคุยกันดีกว่า พอชายแก่ได้ฟังดังนั้นแล้วเขาเองก็ใจเย็นลงบ้างเหมือนกัน ทั้งคู่คงสำนึกได้ว่าการกระทำของตัวเองช่างโง่เขลาและไร้ประโยชน์สิ้นดี สุดท้ายทั้งคู่ก็เลยยอมขอโทษกัน แล้วก็กอดกันเพื่อคืนดีด้วย ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าคนเพิ่งจะตีกันไปหมาดๆ จะคืนดีกันได้ง่ายขนาดนี้…
-
เจ้าสิงโตยอดนายแบบ หล่อโคตรๆ หล่อสุดๆ ราวกับหลุดมาจากหนังไลอ้อนคิง!!
การโพสท่าถ่ายภาพเป็นสิ่งที่เรามักจะทำกันอยู่เสมอ เพื่อให้ได้รูปที่ทำให้เราออกมาดูดีมากที่สุด แต่สำหรับเจ้าสิงโตตัวนี้กลับมีความพิเศษมากกว่านั้น เพราะการโพสท่าของมันเกิดขึ้นมาจากสัญชาตญาณการเป็นนายแบบล้วนๆ นี่คือภาพของเจ้าสิงโตหนุ่มสุดหล่อที่อาศัยอยู่บนที่ราบ Namiri ในอุทยานแห่งชาติเซเรนเกตี ประเทศแทนซาเนีย ซึ่งมันได้กลายมาเป็นขวัญใจของช่างภาพชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ชื่อว่า Alex Kirichko สิงโตหนุ่มที่ได้กลายเป็นขวัญใจของช่างกล้อง Alex หนุ่มช่างกล้องวัย 52 ปีบอกว่า “ผมตั้งใจมาถ่ายรูปโดยรอบของบริเวณพื้นที่ราบแห่งนี้ เพื่อเก็บภาพของเหล่าสิงโตและเสือชีตาห์จำนวนมาก” ชายคนนี้เลือกที่จะเก็บภาพสิ่งต่างๆ ในเช้าวันใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่มีลมพายุพัดผ่านมาพอดี และแรงลมอันมหาศาลก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับเจ้าสิงโตตัวนี้ ลีลาท่าทางเหมือนกับกำลังถ่ายโฆษณาแชมพู เขาเล่าว่า “ตอนที่ผมได้เจอกับมัน ผมคิดได้อย่างเดียวคือว่าเจ้าสิงโตคงกำลังโพสท่าให้ผมอยู่แน่นอน ตอนนั้นผมรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นช่างภาพสายแฟชันยังไงยังงั้นเลย” จะไม่ให้เขาคิดอย่างนั้นได้อย่างไร ก็ลองดูภาพของเจ้าสิงโตตัวนี้ดูสิ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแววตา ท่าทางการยืน หรือแม้แต่แผงคอที่ปลิวไสวไปกับสายลม ทุกอย่างนั้นล้วนแต่ทำให้มันกลายเป็นสิงโตที่ดูดี มีสง่าราศีเสียจริงเชียว สายตาที่แสนดุดัน ถ้าเป็นผู้ชายก็คงทำสาวๆ ใจละลายได้ในพริบตา สมแล้วที่มันได้ฉายาว่า จ้าวป่า เพราะเป็นสัตว์ที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามจนทำให้สัตว์อื่นต้องยอมสยบ บวกกับความหล่อเหลาเอาเรื่องขนาดที่ตัวเมียที่ไหนมาเห็นก็คงต้องใจละลายอย่างแน่นอน ที่มา: metro
-
เครื่องแต่งกายสุดแปลก ควรค่าแก่การนำไปเดินแบบแฟชั่นวีค ไอเดียล้ำเลิศ…แต่ใครจะกล้าใส่!?
เสื้อผ้าทุกชิ้นมีความสวยงามในแบบของมันเอง การมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าแต่ละชิ้นให้เข้ากันจนดูดีก็เป็นความท้าทายหนึ่งของผู้สวมใส่ว่าจะทำให้มันออกมาดูดีได้ขนาดไหน แต่ถ้าหากคุณได้มาเห็นเสื้อผ้าแปลกๆ พวกนี้แล้วคุณอาจจะปวดหัวจนอยากกุมขมับเลยก็ได้ มองดูยังไงมันก็มิกซ์แอนด์แมตช์ยากเหลือเกิ๊น สงสัยต้องเป็นแฟชั่นนิสต้ามืออาชีพก่อนถึงจะเข้าใจความสวยงามของมันได้ 1. หมวกไหมพรมทั่วไปมันดูจืดเกินไป ลองใส่หมวกไหรพรมอันนี้ดู คุณจะสวยงามและฉลาดไปพร้อมๆ กันเลย ไม่เชื่อก็ดูมันสมองนี่สิ 2. พบกับอุปกรณ์ทำความสะอาดมิติใหม่ ที่จะทำให้คุณกวาดฝุ่นได้แบบไม่ต้องก้มตัวลงเลย รองเท้าไม้กวาดนี้จะทำให้คุณทำความสะอาดบ้านได้ง่ายขึ้น … รึเปล่า? 3. หากใส่รองเท้าคู่นี้ คุณจะไม่ต้องพกกล่องข้าวกลางวันอีกต่อไป ถ้าหิวก็เพียงแค่ถอดรองเท้าแล้วกินได้เลย (เฮ้ย ไม่ได้!!) 4. ชุดไหมพรมเต็มตัวนี้คงเป็นสวรรค์ของคนรักชุดไหมพรมเลยทีเดียว แม้จะใส่คู่กับกางเกงไม่ได้ แต่รับประกันความอบอุ่น เหมาะจะใส่ในหน้าหนาวเป็นที่สุด 5. ถ้าคุณผู้หญิงอยากลองประสบการณ์มีขนดกเหมือนผู้ชายก็ลองใส่ชุดว่ายน้ำตัวนี้ดูได้ แต่ในสายตาผู้ชายแล้วอาจจะไม่น่าดูเท่าไหร่นะ 6. การเอาขวดมารีไซเคิลไม่เคยตกกระแส แม้จะเอามาทำเป็นรองเท้าก็ดูใช้ได้ แถมยังวาดลวดลายได้ตามใจชอบอีกด้วย เวิร์ก 7. ชุดนี้ก็รีไซเคิลมาเหมือนกัน ผู้หญิงอาจจะนึกไม่ค่อยออก แต่ผู้ชายหลายคนคงจะรู้ว่ามันทำมาจากอะไร ฮ่าๆๆๆ 8. บอกไม่ถูกเลยว่าป้าแกอยากจะดูนุ่มนวลหรืออยากจะแต่งแนวพังก์กันแน่ มันเข้ากันตรงไหนว๊า 9.…
-
นักวาดมังงะหัวใจสลาย เมื่อเห็นหนังสือการ์ตูนขายไม่ออก ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ทำกระดาษชำระ
ธุรกิจหนังสือการ์ตูนในญี่ปุ่นนั้นมีพื้นฐานจากกระดาษมาเป็นเวลาช้านาน และสร้างความภาคภูมิใจให้ศิลปินหรือนักวาดการ์ตูนมาเสมอ อย่างไรก็ตาม เมื่อธุรกิจสื่อดิจิตัลได้เข้ามามีบทบาทในวงการการ์ตูน ทำให้ผู้คนหันไปอ่านผ่านเว็บไซต์แทนการซื้อหนังสือการ์ตูนมาอ่าน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หนังสือการ์ตูนนับร้อยนับพันเล่มที่ถูกขีดเขียนขึ้นอย่างประณีตขายไม่ออก และนำไปสู่จุดจบที่ทำลายหัวใจศิลปินเจ้าของผลงานเหล่านั้นมากๆ Rensuke Oshikiri หนึ่งในศิลปินมังงะและเจ้าของผลงานการ์ตูนเร่ื่อง Hi Score Girl ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า “วันหนึ่งผมเดินเข้าไปในโรงงานตีพิมพ์หนังสือการ์ตูน Kodansha ผมได้เห็นวิธีที่พวกเขาจัดการกับหนังสือการ์ตูนที่ชำรุดและขายไม่ออกอย่างไร้ความปราณี” “หนังสือการ์ตูนคือจิตวิญญาณของผู้สร้าง แต่มันกลับถูกทำให้ฉีกเป็นชิ้นๆ ถูกบีบอัด เพื่อจะนำไปรีไซเคิลเป็นกระดาษชำระ ที่เจ็บที่สุดคือ ผมเห็นผลงานตัวเองอยู่ในนั้นด้วย” ภาพที่ Oshikiri โพสต์ลงในทวิตเตอร์เป็นภาพหนังสือการ์ตูนที่เรียงซ้อนกันเป็นภูเขา ซึ่งอยู่ในคลังสินค้าส่วนที่ไม่ได้ใช้แล้วและถูกนำไปทิ้งในเครื่องบดเพื่อทำลาย แม้เบื้องหลังการทำลายหนังสือการ์ตูนดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ แต่กลับไม่เป็นที่พูดถึงมากนัก มีเพียงชาวเน็ตบางส่วนเท่านั้นที่แสดงความคิดเห็น ดังนี้ “พวกเขาหาทางเก็บหนังสือพวกนี้ด้วยวิธีที่ใช้เงินน้อยๆ แล้วค่อยๆ ทะยอยขายออกไปทีละนิดไม่ได้รึไง” “มันเป็นเร่ื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะต่อให้วางขายหนังสือเหล่านั้นต่อไปก็ต้องเสียค่าเช่าที่อยู่ดี อีกอย่างหนังสือก็ขายไม่ออกด้วย” “ทำไมต้องทำให้มันเป็นขยะ ฉันหวังว่าพวกเขาจะบริจาคให้ห้องสมุดหรืออะไรสักอย่างทำนองนี้” “พวกเขาควรจะลดราคาลงมาครึ่งหนึ่งหรือทำอะไรสักก่อนที่จะทำลายมันแบบนี้” “โลกความจริงมันก็โหดร้ายงี้แหละ” ที่มา rocketnews24
-
คุณแม่อธิบายว่าทำไมถึงหัวเสียจนต้องตีลูก หลังลูกทำตั๋วรถไฟราคา 5 หยวนหาย
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2018 ที่ผ่านมานี้ในเว็บไซต์ Pear Video ซึ่งเปรียบเสมือนยูทูบของประเทศจีน ได้มีคนอัปโหลดคลิปวิดีโอของคุณแม่คนหนึ่งที่ตีลูกชายเพราะเขาทำตั๋วรถไฟหาย ในคลิปเธออธิบายถึงสาเหตุของการตีลูกให้ชาวเน็ตฟังด้วย ชาวเน็ตได้ฟังแล้วก็พูดไม่ออกเลย โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นในรถไฟใต้ดินในเมือง Nanchang มณฑล Jiangxi ประเทศจีน คุณแม่ท่านหนึ่งเดินทางมากับลูกชายของเธอ แต่จู่ๆ เธอก็โกรธลูกชายแล้วทุบเขาที่หลัง ทำให้คนในรถไฟหันมาสนใจเธอกันหมดเลย คนที่อยู่ใกล้ๆ ก็เลยนำมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ตอนที่เธอตีลูกนั้นเธอพูดว่า “ทำไมพูดแล้วไม่ยอมฟังเลย เวลาที่บอกว่าอย่าเล่นก็ห้ามเล่น เข้าใจไหม!” จากนั้นเรื่องก็ดูเหมือนจะสงบลง แต่ผ่านไปสักพักเธอก็ตีลูกอีกครั้งหนึ่งและด่าลูกไม่หยุดเลย คนที่เห็นเหตุการณ์อยู่จึงทนดูไม่ได้ เมื่อแม่และลูกลงจากรถไฟใต้ดินแล้ว คนที่ถ่ายคลิปอยู่จึงเข้าไปสอบถามเหตุการณ์จากคุณแม่ เธอจึงอธิบายว่าสาเหตุที่เธอตีลูกไปเพราะโมโหที่เขาทำตั๋วรถไฟราคา 5 หยวน (ประมาณ 25 บาท) หายไปนั่นเอง พอได้ฟังแล้วหญิงที่อยู่ข้างๆ ก็เลยแนะนำว่าแค่ซื้อตั๋วใหม่เสียก็จบแล้ว ทว่าคุณแม่กลับตอบมาว่า “ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก” เธออธิบายต่อว่าแม้ว่าเงินจำนวนนั้นอาจจะดูไม่มากสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับเธอแล้วเงินจำนวนนั้นมีค่ามากกว่าที่คนอื่นคิด เธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีเงินเดือนเพียง 900 หยวน (ประมาณ 4,500 บาท) เท่านั้น แต่ค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกชายแต่ละเดือนก็ปาเข้าไป 1,000 หยวน…
-
หนุ่มวิ่งสู้ฟัดหนีตำรวจอลม่านแทบตาย สุดท้ายก็ถูกจับได้เพราะมัวแต่หยุดเล่นกับแมว
ถ้าเกิดเราเป็นโจรผู้ร้ายที่กำลังโดนตำรวจไล่วิ่งกวดอยู่ล่ะก็ เราก็ต้องวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตอย่างแน่นอน ในวินาทีนั้นก็คงคิดแต่เพียงว่าจะทำยังไงไม่ให้ตัวเองโดนตำรวจจับติดคุก และคงไม่มีอารมณ์แวะเล่นกับสัตว์เหมือนกับชายคนนี้ที่โดนจับกุมหลังจากที่หลบหนีมาอย่างอุตลุด และสิ่งที่ทำให้เขาโดนจับก็เป็นเพราะว่ามัวเล่นกับแมว!! ย้อนกลับไปในเช้าวันหนึ่งของปี 2014 ชายชื่อว่า Daniel Pinedo-Velapatino ได้ถูกจับกุุมในสารพัดข้อหาทั้งขโมยเงิน ขโมยรถ พังรถตำรวจ มียาเสพติดไว้ในครอบครอง พยายามหลบหนี รวมถึงลักลอบเข้าไปในบ้านของคู่รักคู่หนึ่งอีกด้วย ซึ่งจากคดีทั้งหมดทำให้เงินค่าประกันตัวของเขามีมูลค่าสูงถึง 76,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.3 ล้านบาท) เลยทีเดียว แต่ถ้าดูผิวเผินเขาก็คงเหมือนกับอาชญากรทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้เขาดูพิเศษกว่าคนอื่นก็เพราะ การไล่ล่ากว่าจะได้ตัวเขามานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่กลับต้องมาจนมุมด้วยความรักสัตว์ของตัวเขานั่นเอง หน้าตาของ Daniel โจรที่ถูกจับเพราะเล่นกับแมว โดยเรื่องราวแสนสนุกของหนุ่มวัย 21 ปีคนนี้เริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 5.30 น. ของเช้าวันอังคารวันหนึ่ง เมื่อเพื่อนของเขาเห็นว่าเขาเดินออกจากห้องของโรงแรม Boca Raton หลังจากที่เมื่อคืนเสพยากันอย่างเมามัน แต่ว่าเขากลับไม่ไปมือเปล่า เพราะว่า Daniel ได้หยิบเงินจำนวน 15,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.7 แสนบาท) ติดมือกลับบ้านไปด้วย เขาจึงนำเรื่องไปบอกกับตำรวจให้ช่วยตามเงินของเขากลับมาให้หน่อย ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ทางตำรวจจากกรม Delray Beach ก็พยายามจะหยุดรถยี่ห้อ Lexus ของนาย Daniel…
-
ค้นพบเมืองใหญ่ของ “มายา” ที่หายไป บ้าน 60,000 หลัง หรือนครแห่งทองคำมีจริง!?
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานการค้นพบเมืองโบราณ คาดว่าเป็นซากอารยธรรมจากชาวมายาที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต การค้นพบนี้เกิดขึ้นที่ประเทศกัวเตมาลา เมืองแห่งนี้เป็นที่รู้จักในนามของ Tikal, Holmul และ Witzna ถูกค้นพบด้วยการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์และโดรน แล้วพบกับเครือข่ายสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ป่ารกทึบพื้นที่ 2,100 กิโลเมตร การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่นี้สำคัญต่อวงการโบราณคดีเป็นอย่างยิ่ง จากหลักฐานที่ได้คือการค้นพบเมืองโบราณที่เคยเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว พบแท่นหินที่เป็นรากฐานของอาคารบ้านเรือนกว่า 60,000 หลัง รวมไปถึงโครงสร้างพีระมิดสูง 7 ชั้น และกำแพงเมือง ป้อมปราการ คูน้ำ ทางยกระดับขนาดใหญ่ โดยคาดว่ามีจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ประมาณ 10-15 ล้านคน อารยาธรรมมายามีความเก่าแก่ราว 3,000 ปี ครอบคลุมพื้นที่อเมริกากลาง ทางตอนใต้ของเม็กซิโกและประเทศกัวเตมาลา รวมไปถึงพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้เชื่อว่าชาวมายามีความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรม คณิตศาสตร์ สถาปัตกรรมและดาราศาสตร์ อารยธรรมมายาคืออาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองมากๆ ในอดีต เหล่านักวิจัยพบว่าอาณาจักรมายาที่ถูกค้นพบนี้กว้างและซับซ้อนกว่าที่คาดการณ์เอาไว้อย่างมาก สามารถเทียบเท่าได้กับอารยธรรมกรีกและจีนโบราณได้เลย เทคโนโลยีที่ใช้ในการค้นหาในครั้งนี้คือเทคโนโลยี LiDAR หรือ Light Imaging, Detection And Ranging เป็นการสำรวจด้วยแสงเลเซอร์และโดรน นอกจากนี้เทคโนโลยีนี้ยังถูกนำมาใช้ในการค้นหาทางโบราณคดีอื่นๆ…
-
พบวัตถุยักษ์หนัก 40 กิโลกรัมที่เปรู ตกลงมาจากฟ้า นักวิทย์คาดอาจเป็นชิ้นส่วนดาวเทียม
กลายเป็นที่ฮือฮากันอีกครั้งหลังจากที่มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมาได้มีวัตถุประหลาดจากท้องฟ้า หล่นลงกลางทุ่งนาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศเปรู ติดกับประเทศบราซิล วัตถุขนาดใหญ่ดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวบ้านอย่างมาก ซึ่งจากรายงานระบุว่ามันมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 2 เมตร 70 เซนติเมตรและมีน้ำหนักมากถึง 40 กิโลกรัมเลยทีเดียว หลังจากที่พบวัตถุลึกลับดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่ได้ทำการแจ้งทางกองทัพอากาศเปรู Peruvian Air Force หรือ FAP ให้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้ และก่อนที่หลายๆ คนจะคิดว่านี่เป็นชิ้นส่วนจาก UFO ทางด้าน FAP ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า วัตถุทรงกลมขนาดใหญ่นี้อาจจะเป็นชิ้นส่วนของถังเชื่อเพลิงจากดาวเทียม SL-23 ก็ได้ “จากการวิเคราะห์เบื้องต้น มันอาจจะเป็นถังเชื้อเพลิงของกระสวยอวกาศเก่า ซึ่งมันถูกปลดประจำการแล้ว และพูดง่ายๆ เจ้าวัตถุทรงกลมนี้ก็คือขยะอวกาศนั่นเอง” ผบ. Pedro Palza จากหน่วยการบินและอวกาศของ FAP กล่าว และขณะนี้ท่านผบ. และทีมงานกำลังสืบถึงที่มาที่แท้จริงของเจ้าวัตถุแปลกประหลาดนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบวัสดุเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นของจีน อเมริกา หรือไม่ก็รัสเซีย แต่อย่างไรก็ตามคุณ Alejandro Fonesca นักอุตุอนิยมวิทยาจากมหาวิทยาลัย Federal do Acre ประเทศบราซิลกลับมีความคิดเห็นเกี่ยวกับวัตถุก้อนดังกล่าวแตกต่างออกไป Fonesca เชื่อว่าวัตถุก้อนดังกล่าวนั้นอาจจะมีอายุมากกว่าดาวเทียม หรือวัตถุในอวกาศที่มนุษย์สร้างขึ้น…
-
คลองในเมืองเวนิสแห้งขอด ผลกระทบจากพระจันทร์สีเลือดและฝนไม่ตกเป็นเวลานาน
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว Dailymail รายงานภาพข่าวคลองที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี แห้งขอดจนเหลือแต่โคลนตม เรือไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ซึ่งได้รับผลกระทบมาจากปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือดและฝนไม่ตกมานาน สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงฤดูหนาวประกอบกับปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทำให้น้ำในคลองแห่งเมืองเวนิสลดลงจนแห้งขอด เรือกอนโดลาทั้งหลายต้องจอดแน่นิ่งบนพื้นโคลนเพราะไม่สามารถสัญจรไปไหนมาไหนได้ จากรายงานพบว่าปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วที่น้ำในคลองเมืองเวนิสแห้งขอด ส่งผลกระทบกับการขนส่งด้วยเรือกอนโดลาที่เป็นซิกเนเจอร์ของเมืองนี้ แต่นักท่องเที่ยวก็ยังมาท่องเที่ยวในเมืองไม่ขาดสาย สวนทางกับอัตราประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่ปี 1951 จำนวนประชากรของเมืองเวนิสลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 175,000 คนเหลือเพียง 55,000 คน เนื่องจากปัจจัยหลายๆ อย่างทั้ง ราคาที่ดิน อัตราค่าครองชีพ ความเจริญจากการที่กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว การพังทลายของอาคารจากน้ำกัดเซาะทำให้ชาวเมืองดั้งเดิมย้ายออกไปตั้งถิ่นฐานที่อื่น ภายในคลองแห้งขอด มีแต่โคลนจนเรือไม่สามารถสัญจรไปมาได้ . . ในบางปีเมืองเวนิสก็ประสบเหตุน้ำท่วมบ่อยๆ จากปรากฏการณ์น้ำทะเลยกตัวสูงหรือที่เรียกกันว่า Acqua Alta ทำให้ประชากรในเมืองได้รับความเดือดร้อนบ่อยครั้ง เรือกอนโดลาที่ต้องจอดทิ้งไว้เฉยๆ . ที่มา dailymail
-
สายเปย์ที่แท้ทรู เหล่าสาวๆ ชาวจีนจ่ายเงินให้แฟน AI รวมกันมากกว่า 1,000 ล้านบาท!?
กลายเป็นเรื่องฮือฮากันอย่างมากในประเทศจีน เมื่อมีการเปิดเผยว่าสาวๆ เกมเมอร์ชาวจีนจำนวนมากได้เติมเงินในเกมในมือถือที่ชื่อว่า Love and Producer ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ ซึ่งเกมดังกล่าวนั้น จะทำให้ผู้เล่นได้มีโอกาสเป็นแฟนกับตัวเอกหนุ่มสุดฮอต และไม่เพียงแค่นั้นเกมที่ว่านี้ยังมาพร้อมกับมุมมองของบุคคลที่ 1 อีกด้วย เกม Love and Producer ที่กำลังโด่งดังอย่างมากในประเทศจีน จากรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่าเกมดังกล่าวมีจำนวนผู้ออนไลน์มากกว่า 2 ล้านคนต่อวันเลยทีเดียว โดยมันเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2017 และได้รับความนิยมอย่างมากในแอปสโตร์ของประเทศจีน โดยผู้เล่นจะต้องซื้อไอเทมต่างๆ ภายในเกมเพื่อสานความสัมพันธ์และพิชิตใจของพระเอกหนุ่ม จากผลสำรวจพบว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่นั้นเป็นสาวจีนอายุประมาณ 20 ปี และเพียงแค่เดือนมกราคมที่ผ่านมา พวกเธอจ่ายเงินเพื่อเปย์ AI หนุ่มรวมกันไปแล้วมากว่า 200 ล้านหยวน หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท!! เกม Love and Producer จะให้ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นโปรดิวเซอร์รายการทีวีสาว ที่จะต้องรับหน้าที่ช่วยให้รายการของบริษัทคุณพ่อกลับมาฮิตอีกครั้ง และพวกเธอก็มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์กับเทพบุตรหนุ่มสุดหล่อทั้ง 4 คนได้แก่ Li Zeyan ผู้บริหารบริษัทคอมพิวเตอร์หนุ่มผู้เข้มแข็ง แต่ลึกๆ ข้างในเป็นคนอ่อนไหว, Bai Qi เจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่พร้อมจะปกป้องคนรักของเขา, Xu Mo หนุ่มนักวิทย์ผู้เพียบพร้อมไปด้วย IQ และ…
-
ภาพของคุณแม่ที่รับมือกับ ‘โรคมะเร็ง’ กับ ‘การเลี้ยงลูก’ ไปพร้อมๆ กัน มันเหนื่อยเกินจะบรรยาย
แม่คือคนเดียวที่ทำเพื่อลูกได้ทุกอย่าง แม้จะอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายแค่ไหน หรือร่างกายอ่อนล้าเพียงใด แต่พวกเขาก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบให้ลูก เหมือนกับภาพของ Laura Corrigan คุณแม่ลูกสองที่อยู่ในสภาพหมดแรงและหลับคากองเลโก้ โดยที่ยังมีของเล่นอยู่ในมือเธอ ภาพสุดสะเทือนใจนี้ถ่ายโดย Max ลูกชายวัย 6 ขวบของเธอ หลังจากที่ฝืนร่างกายมาเล่นเลโก้กับลูก ทั้งที่กำลังต่อสู้กับมะเร็งร้าย เมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่ผ่านมา การเป็นพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกน้อยมันก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว แต่นี่เธอเป็นแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งแล้วยังต้องดูแลลูกอีก นั่นทำให้เธอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าระหว่างเล่นกับลูกชายทั้งสองคน (อีกคนคือ Finn วัย 19 เดือน) Laura บอกว่า “ลูกชายของฉันเป็นคนถ่ายภาพนั้น มันคืออาการของความเหนื่อยล้า เพราะตอนนั้นฉันอยู่ในช่วงที่รักษาด้วยการรังสีบำบัดและเคมีบำบัด” คุณแม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2017 หลังจากที่เพิ่งคลอดลูกชายคนที่ 2 ได้เพียง 9 เดือน ก่อนหน้านี้เธอทรมานจากการถ่ายเป็นเลือด ปวดลำไส้ และเข้าห้องน้ำบ่อยผิดปกติ… ทางคุณหมอบอกว่าโรคนี้หาได้ยากมากในคนวัยเดียวกับเธอ เกือบ 1 ปี หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัย Laura เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด เพื่อจะลดขนาดเนื้องอกหลักและส่วนอ่ื่นในปอดของเธอ พร้อมกันนั้นเธอยังต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คนที่กำลังอยู่ในวัยซุกซนด้วย เธอบอกว่า…
-
หนุ่มคนจริงไม่อิงซีซี ขับรถเก่า Yamaha Mate 80 ข้ามทะเลทรายโกบี ด้วยใจอันมุ่งมั่นไม่หวั่นใดๆ!!
การเดินทางไกลข้ามจังหวัด หรือข้ามประเทศด้วยรถมอเตอร์ไซค์นั้นอาจะเป็นความฝันของหลายๆ คนที่มีใจรักในเจ้าสองล้อนี้ แต่ทว่าบางครั้งข้อจำกัดบางอย่างก็อาจจะทำให้ความฝันนั้นเป็นอันต้องล้มเลิกไปเลยทีเดียว แต่ถ้าหากว่าคุณได้รู้เรื่องราวของ Ys Liu ผู้นี้ล่ะก็ นี่อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับการเดินทางไกลด้วยมอเตอร์ไซค์ของคุณก็ได้ พบกับเรื่องราวของหนุ่มชาวจีนผู้ไม่สนซีซี ที่เดินทางกว่า 3,500 กิโลเมตรข้ามทะเลทรายโกบี ด้วยรถ Yamaha Mate 80 (หรืออีกชื่อคือ Yamaha CY80) นวัตกรรมสองล้อจากปี 1993!! ทะเลทรายโกบีตั้งอยู่บริเวณรอยต่อทางตอนใต้ของประเทศมองโกเลีย กับทางตอนเหนือของประเทศจีน ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในทะเลทรายที่มีพื้นที่กว้างใหญ่แห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว พื้นที่ที่กว้างถึง 1.3 ล้านตารางกิโลเมตร หรือเกือบๆ 3 เท่าของประเทศไทย ทำให้การเดินทางข้ามดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ Ys Liu ชายหนุ่มนักผจญภัยที่มาพร้อมกับจักรยานยนต์รุ่นคุณแม่ผู้นี้ ซึ่งทางด้านคุณ Ys Liu ได้นำเรื่องราวการผจญภัยของเขามาเผยแพร่ในกลุ่ม Horizons Unlimited Motorcycle Adventure Travellers หนุ่มนักผจญภัยของเราได้โพสต์ภาพการเดินทางพร้อมข้อความว่า “Yamaha Mate 80 ในมองโกเลีย นี่คือรถที่ถูกผลิตขึ้นในปี 1993 และนี่คือทริปการเดินทางข้ามทะเลทรายโกบีระยะทางกว่า 3,500 กิโลเมตร ด้วยตัวคนเดียว!!”…
-
สาวอัดคลิปตอนโดนตำรวจเรียก ที่ไหนได้เป็นพ่อตัวเอง แถมตอนจบดันซึ้งซะงั้น!?
หากคุณเคยพบเจอประสบการณ์การถูกตำรวจเรียกให้จอดข้างทาง คุณก็คงจะรู้ว่ามันน่าตกใจขนาดไหน เพราะปกติแล้วเวลาตำรวจเรียกรถให้จอดก็คงเป็นเพราะต้องขอตรวจใบขับขี่เราหรือไม่ก็เพราะเราทำผิดกฎจราจรแน่ๆ แม้ว่าคนทั่วไปจะรู้สึกเช่นนั้นแต่กับสาวคนนี้นั้นแตกต่างออกไป เมื่อฟังจากคำพูดในคลิปวิดีโอของเธอแล้ว คงจะถูกรถตำรวจเรียกบ่อยจนชินแน่ๆ ครั้งนี้เธอก็เลยถ่ายคลิปประสบการณ์โดนตำรวจเรียกที่น่ารักกึ่งฮามาให้เราได้ชมกัน สาวเจ้าของคลิป โดนตำรวจเรียกเป็นประจำ หญิงสาวเจ้าของคลิปคนนี้ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่ชื่อว่า ‘These police will pull you over for literally anything’ (ตำรวจพวกนี้จะโบกให้คุณจอดรถด้วยเหตุผลอะไรก็ได้ทั้งนั้น) ในยูทูบ คลิปวิดีโอของเธอก็ทำให้ชาวเน็ตยิ้มในความน่ารักไปตามๆ กัน คลิปนี้จึงกลายเป็นกระแสไวรัลที่มีคนชมไปแล้วกว่า 2.2 ล้านครั้งเชียวนะ ในคลิปนั้นเธอกำลังขับรถอยู่บนถนนตามปกติ แต่เมื่อมองไปทางด้านหลังก็เห็นว่ามีรถตำรวจคันหนึ่งเปิดไฟสัญญาณเรียกเธอให้จอดรถตรงข้างทาง เธอจึงจอดรถแล้วรอถ่ายคลิปรอให้ตำรวจเดินมาหา ขอตรวจดูใบอนุญาติขับรถด้วยครับ พอเธอเลื่อนกระจกรถลงตำรวจคนนั้นจึงขอตรวจดูใบขับขี่รถยนต์ ทะเบียนรถยนต์ และประกันรถยนต์ของเธอ ซึ่งก็ดูเป็นเรื่องปกติทั่วไปไม่ได้แปลกแต่อย่างใด แต่มันจะเป็นเรื่องปกติก็ต่อเมื่อคุณและตำรวจคนนั้นไม่รู้จักกันเท่านั้น ในกรณีนี้ตำรวจไม่จำเป็นต้องตรวจเอกสารเธอสักใบด้วยซ้ำเพราะอันที่จริงแล้วพวกเขารู้จักกันดีทีเดียว จากนั้นหญิงสาวจึงตอบแบบตลกปนเหนื่อยใจว่า “โธ่ พ่อ! เราคุยกันหลายครั้งแล้วนะว่าพ่อไม่ควรเรียกให้หนูจอดทุกครั้งที่พ่อเห็นรถหนู” พ่อจะทำอย่างนี้ไม่ด๊ายยยยยย ตัวคุณพ่อเองก็รู้ตัวดีว่าเขาทำเกินไปหน่อยที่เรียกเธอจอดเพียงเพราะว่ารู้จักกันเป็นส่วนตัว แต่เขาเองก็เรียกด้วยความหวังดี เขาตอบเธอแบบเป็นห่วงปนรู้สึกผิดว่า “พ่อก็แค่อยากมั่นใจว่าลูกสบายดีแค่นั้นเอง” สาวได้ยินแบบนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นเลย โอ้ยยย ทำไมคุณพ่อถึงได้น่ารักแบบนี้ แต่ถึงจะเป็นห่วงก็อย่าใช้รถตำรวจเรียกจอดแบบนี้ได้ไหม…
-
หญิงสาวผู้รักความเป็นระเบียบมากที่สุดในโลก จนกลายเป็นที่ปรึกษาด้านความเป็นระเบียบ
บางคนอาจมองข้ามเรื่องของความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยของสิ่งต่างๆ รอบตัว ซึ่งมักจะเป็นเพราะความขี้เกียจหรือการที่บอกว่าตนเองไม่ค่อยมีเวลา แต่สำหรับเธอคนนี้กลับไม่อาจละเลยในสิ่งเหล่านั้นจนทำให้เธอได้รับสมญานามว่า “สาวที่มีความเป็นระเบียบมากที่สุดในโลก” เธอคนนี้มีชื่อว่า Marie Kondo สาวชาวญี่ปุ่นผู้รักในความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยมาตั้งแต่อายุได้เพียง 5 ขวบ เธอเล่าว่าในตอนนั้นเธอมักจะใช้เวลาอยู่กับการจัดบ้านของตัวเองแทนที่จะออกไปเล่นกับเพื่อนๆ Kondo สาวชาวญี่ปุ่นผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่รักความสะอาดมากที่สุดในโลก ตอนที่เธอเรียนอยู่ชั้นประถม ทุกๆ วันเธอจะคอยจัดชั้นหนังสือในห้องเรียนตอนเวลาพัก และเมื่อกลับถึงบ้านเธอก็จะแยกสิ่งต่างๆ ของตัวเองว่าจะเก็บอันไหน หรือจะทิ้งอันไหน ในตอนนั้นเธอจะทิ้งทุกอย่างที่เริ่มดูเก่าและไม่สะอาด ทำให้เธอมองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งของใดๆ จนกระทั่งตอนที่เธอเรียนมัธยมปลาย เธอก็เริ่มเข้าใจในสิ่งนั้นและรับรู้ว่าตนเองทำผิดมาโดยตลอด Kondo เริ่มเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าในสิ่งต่างๆ เธอเข้าใจแล้วว่าสิ่งของทุกอย่างมีความหมาย และถ้าหากสิ่งนั้นยังสามารถทำให้เธอรู้สึกถึงความสุขได้ เธอก็จะยังคงเก็บมันเอาไว้และดูแลรักษามันเป็นอย่างดี เธอบอกว่า “เมื่อไหร่ที่คุณจับสิ่งๆ หนึ่งอยู่ สิ่งสำคัญคือการรับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีให้กับสิ่งๆ นั้นว่า คุณยังรู้สึกมีความสุขกับมันอยู่หรือไม่” นั่นหมายควาว่าความรู้สึกและการรับรู้ของตัวเองคือสิ่งสำคัญ พอตอนที่เธออายุ 18 ปี เธอได้เข้าไปทำงานพาร์ตไทม์ในศาลเจ้าชินโต ตามลัทธิที่เธอนับถือ และยังเป็นสิ่งที่ช่วยฝึกฝนการจัดระเบียบสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ ทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจกับงานที่ทำเป็นอย่างมาก Kondo เล่าว่า “เรามักจะรู้สึกสดชื่นเวลาเดินผ่านประตูศาลเจ้า นั่นเป็นเพราะว่าบริเวณนั้นจะถูกจัดให้มีความเป็นระเบียบอยู่และสะอาดอยู่เสมอ และฉันคิดว่าบ้านของเราเองก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นแบบนั้นได้เช่นเดียวกัน”…
-
ชายผู้ถูกยกย่องเป็นฮีโร่ หลังพลีชีพร่วมกับเด็กชาวยิวเกือบ 200 คนในห้องรมแก๊ส
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1940 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นพวกนาซีได้ทำการกวาดล้วงชาวยิวที่อาศัยอยู่ในแถบประเทศโปแลนด์และประเทศเยอรมันด้วย ทำให้โลกของเราต้องสูญเสียประชากรไปหลายแสนคนเลยทีเดียว นับเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดใจอย่างยิ่ง ทว่าในเหตุการณ์ที่ดูสิ้นหวังนั้นก็ยังมีแสงสว่างส่องประกายเจิดจ้าอยู่ เขาคือ Janusz Korczak ผู้อุทิศชีวิตให้กับเด็กๆ แม้ว่าเขาจะช่วยชีวิตเด็กจากการกวาดล้างของนาซีไม่ได้ แต่เขาก็ยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อให้เด็กเหล่านั้นรู้สึกสบายใจจนวาระสุดท้ายของชีวิต Henry Goldszmit เกิดที่กรุงวอร์ซอว์ในสาธารณรัฐโปแลนด์ ตัวเขาเป็นชาวโปแลนด์ที่มีเชื้อสายชาวยิว แต่ว่าเป็นที่รู้จักมากกว่าในชื่อ Janusz Korczak เขาเป็นทั้งแพทย์ คุณครู นักเขียน และนายทหารอีกด้วย แต่เขาโดดเด่นมากในฐานะนักกิจกรรมสังคม เนื่องจากเขาเป็นคนที่รักเด็กมากเขาจึงใช้เวลาส่วนมากในชีวิตอุทิศให้กับเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอนหนังสือหรือการเรียกร้องสิทธิต่างๆ ให้กับเด็กด้วย เขาเคยกล่าวว่า “พวกเด็กๆ เองก็มีสิทธิที่จะได้รับความเคารพและความอ่อนโยนจากผู้ใหญ่ เพราะพวกเขาเองก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกับผู้ใหญ่อย่างเรา” นอกจากนี้ในปี 1912 เขาก็ได้ร่วมก่อตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในกรุงวอร์ซอวร์เพื่อช่วยเหลือเด็กชาวยิวที่ไม่มีที่พึ่งอีกด้วย เขาทั้งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งที่นี่และยังเป็นคนดูแลเด็กๆ เองอีกต่างหาก ทว่าในปี 1939 บ้านเด็กกำพร้าชาวยิวของเขาก็ได้รับผลกระทบจากการกวาดล้างชาวยิวของนาซี โดยทหารได้สั่งให้เด็กที่อาศัยอยู่ที่นั่นทั้งหมดจำนวน 192 คนย้ายเข้าไปอยู่ในค่ายมรณะในเมือง Treblinka ประเทศเยอรมันด้วยอำนาจเผด็จการ แม้ว่า Korczak จะไม่มีความจำเป็นต้องไปอยู่ในค่ายมรณะด้วย แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจจะทิ้งเด็กที่อยู่ในความดูแลให้ไปลำบากกันเองได้ เขาจึงอาสาจะไปอาศัยอยู่ที่นั่นกับเด็กๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขา …
-
เผยตัวเลขถุงยางในโอลิมปิกฤดูหนาว 110,000 ชิ้น จะแจกให้นักกีฬาได้ใช้คนละ 37 ชิ้น!!
กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว คือการแข่งขันกีฬาหลากหลายประเภท ซึ่งประเทศเกาหลีใต้ถูกรับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในปีนี้และกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ทำให้นักกีฬาจากประเทศต่างๆ เริ่มทยอยเดินทางไปเตรียมตัวกันเป็นที่เรียบร้อย สำหรับในปีนี้ ทางเจ้าภาพก็ได้เตรียมความพร้อมไว้หลายๆ อย่าง เช่น หมู่บ้านนักกีฬาที่ตั้งอยู่ในเมือง Pyeongchang และ Gangneung ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภคครบครัน นอกจากความสะดวกสบายของที่พักอาศัยแล้ว เจ้าภาพยังมีการบริการอีกหนึ่งสิ่งที่เรียกได้ว่าสำคัญอย่างมากเหมือนกัน นั่นคือการแจกจ่ายถุงยางให้กับเหล่านักกีฬาไปใช้กันแบบฟรีๆ รวมแล้วกว่า 110,000 ชิ้น เมื่อลองนำจำนวนถุงยางอันมหาศาลมาหารด้วยจำนวนของนักกีฬาที่จะเข้ามาประมาณ 3,000 คน ทำให้เฉลี่ยแล้วนักกีฬาทุกคนจะได้รับถุงยางไปใช้กันประมาณ 37 ชิ้นเลยทีเดียว เรียกว่าสุขกายสบายใจทั้งชายและหญิงจริงๆ ทุกคนสามารถหยิบไปใช้ได้จากตะกร้าที่แขวนเอาไว้ตามห้องน้ำในหมู่บ้านนักกีฬา ถุงยางเหล่านี้ได้รับการบริจาคโดยบริษัทผู้ผลิตยาง Convenience Co ทำให้มั่นใจได้ว่ามันจะปลอดภัยต้องสุขอนามัยทางเพศสัมพันธ์ของทุกคนอย่างแน่นอน จุดประสงค์ของการแจกจ่ายถุงยางในครั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV และแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อการเป็นเจ้าบ้านที่ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการแจกถุงยางในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพราะความเป็นจริงมันมีการแจกจ่ายแบบนี้มาตั้งแต่การแข่งขันในปี 1992 ซึ่งภายหลังก็เริ่มมีการแจกในปริมาณที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่าน่าจะเป็นผลกระทบมาจากการที่แอปนัดเดตสาวได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา แต่นอกจากนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว มันยังเป็นการแจกจ่ายที่เยอะที่สุดของงานโอลิมปิกฤดูหนาวอีกด้วย โดยครั้งที่มีการแจกจ่ายเยอะที่สุดในโอลิมปิกฤดูร้อน คือตอนที่บราซิลเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันเมื่อปี 2016 ซึ่งจากการรายง่านข่าวของประเทศบอกว่าพวกเขาได้แจกถุงยางไปมากกว่า 450,000 ชิ้นเลยทีเดียว…
-
พบกับการดูหนังโป๊ในรูปแบบใหม่ แค่เข้าไปดูหนังโป๊ก็ได้เงินตรามาใช้ฟรีๆ ดีไปป่าวเพ่!?
ในยุคที่อินเตอร์เน็ตรุ่งเรืองแบบนี้เราจะค้นหาอะไรก็ง่ายไปเสียหมด ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงสื่อลามกอย่างหนังโป๊ด้วยเช่นกัน แม้ว่าในประเทศไทยหนังโป๊จะผิดกฎหมาย แต่ในบางประเทศนั้นธุรกิจหนังโป๊เป็นสิ่งถูกกฎหมายซึ่งสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลเลย นอกจากนี้จากการสำรวจของทางประเทศอเมริกาแล้ว พบว่าผู้ชายกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในช่วงอายุ 18-30 ปีดูหนังโป๊เป็นเรื่องปกติอีกด้วย ซึ่งน่าจะพอตีความได้ว่าในประเทศอื่นเองก็มีคนรับชมหนังโป๊อยู่จำนวนมากพอสมควรเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ธุรกิจหนังโป๊ในปัจจุบันนั้นมักจะหาเงินจากการที่คนดูหนังโป๊เข้าไปชมโฆษณาในเว็บไซต์ ซึ่งไม่มีผลประโยชน์อะไรกับฝั่งคนดูเลย ทว่าในวันนี้มีคนคิดระบบใหม่ที่คุณสามารถรับชมหนังโป๊แล้วยังได้เงินจากการดูด้วย ฟังน่าสนใจใช่ไหมล่ะ บริษัทที่เสนอการดูหนังโป๊รูปแบบใหม่นี้ชื่อว่า Vice Industry Token พวกเขามีความตั้งใจที่จะแก้ไขรูปแบบหนังโป๊ที่ให้คนเข้าไปดูฟรีเพื่อรับค่าชมโฆษณา ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อทางเว็บไซต์เท่านั้น ทางบริษัทอยากจะสร้างเว็บไซต์แบบบล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นระบบที่ผู้ใช้งานทุกคนจะมีบัญชีเป็นของตัวเองซึ่งทางเว็บไซต์เป็นคนดูแลให้ จากนั้นถ้าผู้ใช้ทำตามภารกิจที่ทางเว็บไซต์ให้ไว้ได้ก็จะได้รับเงินไปใช้ฟรีๆ โดยภารกิจที่ว่านี้ก็จะมีตั้งแต่การเข้าไปตอบคอมเมนต์ในหนัง นำหนังไปแชร์ให้ผู้อื่น หรือการโหวตให้คะแนนในเว็บไซต์เป็นต้น ภารกิจเหล่านี้จะทำให้คนดูหนังโป๊ให้ความสนใจกับหนังมากขึ้น ส่งผลให้การเก็บข้อมูลจากผู้ใช้เพื่อมาพัฒนาผลงานหนังโป๊มีประสิทธิภาพตามมานั่นเอง ส่วนเงินตราที่ทางบริษัทจะแจกให้ผู้เข้าชมนั้นเรียกว่า VIT ซึ่งเป็นสกุลเงินตราจำลองเฉพาะของเว็บไซต์ในเครือของบริษัท โดยเงินที่ว่านี้สามารถสะสมนำไปใช้ดูหนังโป๊แบบสมาชิกพรีเมี่ยม รวมทั้งใช้ซื้อสินค้าหรือบริการจากเว็บไซต์ในเครือได้ด้วย Stuart Duncan ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารสูงสุดของบริษัท Vice Industry Token บอกว่าเขาต้องการใช้ระบบเงินตราจำลองรูปแบบใหม่นี้เพื่อดึงความสนใจและการตอบรับจากคนดูหนังโป๊มากขึ้น เขากล่าวว่า “ใครก็ดูหนังโป๊กันทั้งนั้นแหละ มันเป็นธุรกิจใหญ่ของโลกเราเลย แต่ระบบที่ใช้โฆษณาเป็นตัวหาเงินนี้มีจุดบกพร่องและมีการฉ้อโกงอยู่มาก การที่ผมนำระบบที่เรียกความสนใจจากคนดูเข้ามาใช้น่าจะทำให้เกิดประโยชน์กับทุกคนมากขึ้น” นอกจากการเข้าชมหนังโป๊และการทำสิ่งที่ทางบริษัทกำหนดไว้ให้…
-
หนุ่มทำแหวนหมั้นที่เป็นมรดกครอบครัวแฟนสาวหายไป แต่แล้วก็ได้กลับมาอย่างน่าเหลือเชื่อ
สำหรับหลายๆ คน การขอคนรักแต่งงานคือหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของชีวิต และมันเป็นวันที่คุณจะไม่มีวันลืม ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบที่สุด รวมไปถึงแหวนขอแต่งงาน บางคนอาจจะซื้อแหวนมาใหม่ ในขณะที่บางคนอาจจะใช้แหวนมรดกของตระกูล เหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ที่จะใช้แหวนหมั้นของครอบครัวขอแฟนสาวแต่งงาน แต่โชคร้าย เขาดันทำมันหาย… Nico Bellamy วัย 27 ปี กำลังวางแผนจะขอแฟนสาว Caitie Schlisserman แต่งงาน หลังจากที่คบหาดูใจกันมานานแล้ว ในระหว่างที่วางแผนอย่างลับๆ Stuart Schlisserman พ่อของแฟนสาว ก็ได้เซอร์ไพรส์ Nico ด้วยการเอาแหวนหมั้นของยายของ Caitie ให้เขา Nico บอกว่า “ผมคิดว่าเขาคาดหวังว่าสักวันผมจะขอลูกสาวเขาแต่งงาน หลังจากที่เราคบกันมา 7 ปี และเขาอยากให้ลูกสาวได้รับสมบัติที่เป็นมรดกสืบทอดของครอบครัว” จากนั้นชายหนุ่มก็นำแหวนดังกล่าวเก็บไว้ในตู้นิรภัย และรอเวลาที่เหมาะสมในการขอแต่งงาน ตอนนี้เขายังไม่พร้อม เพราะต้องการรอให้มีการวางแผนทริปวันหยุดในฝันของพวกเค้าก่อน เมื่อเวลาผ่านไป ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ โดยจ้างคนขับรถมาช่วยขนของ และเพื่อให้แน่ใจว่าแหวนจะอยู่ใกล้ๆ เขา ชายหนุ่มจึงเอาแหวนออกมาจากตู้นิรภัย เขาเอาแหวนใส่ในถุงพลาสติก แล้วใส่ไว้ในกล่องอีกที ก่อนจะเอาใส่เป้สะพายหลัง เมื่อถึงเวลาที่เขาจะเอาแหวนออกมา Nico ตกใจมากเมื่อพบว่ากระเป๋าเป้ที่เขาสะพายแหวนนั้นซิปเปิดออก และแหวนก็หายไป!! ชายหนุ่มเททุกอย่างออกจากกระเป๋า…
-
ชาวทวิตเตอร์จุดกระแส ใช้แกนกระดาษทิชชู่วัดขนาดกระปู๋ดูสิ สะดวก รวดเร็ว เชื่อถือได้!?
สำหรับท่านชายหลายท่านการมีขนาดจู๋ที่ใหญ่ยาวกว่าคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจยิ่งนัก เพราะมีค่านิยมว่าถ้าจู๋ของชายคนไหนใหญ่ก็จะแสดงถึงเสน่ห์และความสามารถด้านกีฬาบนเตียงด้วย ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลีลาบนเตียงเองก็เป็นส่วนหนึ่งของความสุขในชีวิต เวลาหญิงสาวบางคนมองชายหนุ่มก็เลยพยายามสังเกตว่าน้องชายขนาดเข้าขั้นหรือเปล่า บางคนก็สังเกตดูจากขนาดมือ เท้า หรือจมูกของผู้ชายเพราะเชื่อว่ามันมีความสัมพันธ์กับขนาดจู๋นั่นเอง แต่ถ้าให้คุณผู้ชายทั้งหลายวัดขนาดกันโต้งๆ ไปเลยจะรู้ผลง่ายกว่าใช่ไหมล่ะ ผู้ใช้ทวีตเตอร์ @urasahou ก็เลยจุดกระแสการวัดขนาดกระปู๋ ด้วยการโพสต์เสนอวิธีกับท่านชายง่ายๆ โดยใช้แค่แกนกระดาษทิชชู่เท่านั้น ทวีตของ @urasahou เขาทวีตไว้ว่า “ฉันเจอวิธีวัดขนาดกระจู๋ง่ายๆ เข้าก็เลยอยากจะเอามาแบ่งปันให้ทุกคนได้ใช้กัน แค่ใช้แกนกระดาษทิชชู่วัด แล้วอ้างอิงตามเกณฑ์ในภาพนี้ก็จะรู้ขนาดทันที ถ้าใครที่มั่นใจว่าใหญ่ก็ลองทำดูสิ อาจจะทำให้รู้ว่าจริงๆ ตัวเองก็ไม่ได้ใหญ่ก็ได้นะ?” ตามจริงแล้ววิธีการใช้แกนกระดาษทิชชู่มาวัดขนาดน้องชายนั้นไม่ได้เป็นวิธีที่เพิ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่แต่อย่างใด แต่ผู้ใช้งานทวิตเตอร์คนนี้ได้นำมันมาจุดกระแสอีกครั้งหนึ่งก็เท่านั้นเอง แล้วดูจากยอดรีทวีตที่มีเกือบ 35,000 ครั้งแล้วก็มีคนให้ความสนใจมากพอสมควร วิธีการวัดขนาดโดยใช้แกนกระดาษทิชชู่นี้ก็ทำได้ไม่ยาก แค่เพียงแกะแกนกระดาษทิชชู่ออกมาจากม้วน หลังจากนั้นก็บิ้วอารมณ์จนน้องชายแข็งชูชันเต็มที่ ทีนี้ก็เสียบมันเข้าไปในแกนกระดาษทิชชู่จนสุดโคนได้เลย หลักการวัดว่าจู๋ของคุณใหญ่หรือไม่ใหญ่นั้นจะดูจากส่วนที่โผล่พ้นแกนกระดาษทิชชู่ออกมาเป็นหลัก ถ้าหากว่าปลายกระปู๋โผล่พ้นขอบออกมาประมาณ 2 เซนติเมตร แสดงว่าคุณมีขนาดน้องชายอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และถ้าปลายจู๋ของคุณโผล่พ้นขอบออกมาเกิน 4 เซนติเมตรล่ะก็แปลว่าคุณมีขนาดที่ใหญ่มโหฬารเลยทีเดียว ในทางกลับกันถ้าเกิดเสียบจนมิดแล้วยังไม่มีอะไรโผล่พ้นแกนกระดาษทิชชู่ออกมา ก็แปลว่าน้องชายของคุณมันเล็กจิ๋วนั่นเอง อย่างไรก็ตามวิธีการใช้แกนกระดาษทิชชู่วัดขนาดจู๋ของคุณผู้ชายมันไม่ได้มาตรฐานสักเท่าไหร่หรอกนะ เพราะว่าแกนกระดาษทิชชู่แต่ละยี่ห้อก็ย่อมมีขนาดไม่เท่ากันอยู่แล้ว ถ้าใช้แกนจากทิชชู่ม้วนใหญ่แกนก็ต้องยาวกว่าทิชชู่ม้วนเล็กแน่ๆ นอกจากนี้มันยังวัดได้แต่ความยาวคร่าวๆ อย่างเดียว ใช้วัดเส้นรอบวงไม่ได้ด้วย ดังนั้นหากคุณผู้ชายอยากจะลองวัดขนาดของจู๋ดูจริงๆ…
-
หญิงชาวออสเตรเลีย อยู่บ้านกับจระเข้ 5 ตัว เลี้ยงแบบโคตรชิวยังกับเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว
ไม่ว่าใครถ้าเกิดได้เจอสัตว์นักล่าอย่างจระเข้เข้าก็คงจะหวาดผวาหนีเอาชีวิตรอดกันทั้งนั้น แต่หญิงสาวคนนี้แตกต่างออกไป เธอรักจระเข้เป็นชีวิตจิตใจเลย นอกจากเธอจะไม่กลัวมันแล้วเธอยังเลี้ยงจระเข้ไว้เป็นสัตว์เลี้ยงที่บ้านตั้ง 5 ตัวแน่ะ หญิง Vicki Lowing อาศัยอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ประเทศออสเตรเลีย เธอมีความสนใจในสัตว์เลื้อยคลานมากเป็นพิเศษ เธอจึงนำพวกมันมาเป็นสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้าน เลี้ยงปล่อยกันเหมือนหมาแมวแบบไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่ออายุได้แค่ 4 ปีเธอก็เริ่มเลี้ยงจิ้งเหลนที่คนทั่วไปไม่ค่อยเลี้ยงกันแล้ว จากนั้นตอนอายุ 10 ขวบเธอก็เปลี่ยนมาเลี้ยงงู แล้วพอโตเป็นสาววัย 23 ปีเธอจึงเริ่มเลี้ยงจระเข้ตัวแรก Vicki Lowing สาวผู้มีใจรักจระเข้และเลี้ยงพวกมันไว้ที่บ้าน หญิงคนนี้เลี้ยงทั้งจระเข้น้ำเค็มและจระเข้น้ำจืด เธอคอยหาข้อมูลเพิ่มเติมเดี่ยวกับพวกมันตลอดเวลาทำให้เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงจระเข้คนหนึ่งเลย นอกจากนี้เธอยังมีใบอนุญาติเลี้ยงจระเข้ไว้ในครอบครองด้วย เธออธิบายถึงจระเข้ที่เลี้ยงไว้ว่า “จระเข้พวกนี้ถูกมนุษย์จับมาเลี้ยงไว้ ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถใช้ชีวิตรอดในธรรมชาติได้ แม้ว่าฉันเองอยากจะให้พวกมันคืนสู่ธรรมชาติเหมือนกัน” เธอจึงดูแลขระเข้พวกนี้เรื่อยมาเพื่อให้มันอยู่อย่างสุขสบายที่สุด ถึงการเลี้ยงจระเข้จะเป็นภาระด้านค่าใช้จ่ายกับเธออยู่พอสมควร เนื่องจากจำเป็นต้องสร้างบ่อน้ำเค็มและน้ำจืดให้พวกมันอาศัยอยู่ แต่เธอก็รักพวกมันมากจนมองว่าเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องเล็กน้อยไป Johnie เองค่ะ สิ่งที่ชอบทำคือขึ้นไปนอนกับแม่บนเตียง จระเข้ที่เธอเลี้ยงไว้ตัวแรกมีชื่อว่า Johnie มันเป็นจระเข้น้ำจืดตัวเมียที่รักเธอมาก ก่อนที่มันจะโตจนถึงวัยผสมพันธุ์มันเข้ามานอนกับเธอบนเตียงทุกวันเลย แล้วเธอก็พามันใส่สายจูงไปเดินเล่นในชานเมืองเหมือนสัตว์เลี้ยงปกติเลยด้วย จนถึงตอนนี้มันก็มีอายุได้ 22 ปีแล้ว เธอบอกว่ามันเป็นจระเข้ที่เชื่องที่สุดเพราะว่าตอนเธอเริ่มเลี้ยงมันนั้นไม่มีจระเข้ตัวอื่นอยู่เลย มันจึงดูเธอเป็นแบบอย่างทำให้มีนิสัยเหมือนมนุษย์มากขึ้น จากนั้นเธอจึงรับ Fovian จระเข้ตัวผู้เข้ามาเลี้ยงเพิ่ม…
-
คุณตาคุณยายช่วยชีวิตสุนัขพิตบูล มันเลยตอบแทนช่วยชีวิตพวกเขาคืน ด้วยสุขภาพที่ดีขึ้น!!
การรับอุปถัมภ์สัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ นอกจากจะทำให้เจ้าสัตว์เหล่านั้นมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว มันยังช่วยให้เราคลายเหงาเหมือนมีเพื่อนเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง ทว่าบางทีการรับสัตว์มาเลี้ยงก็อาจจะได้อะไรมากกว่านั้น เหมือนกับตายายคู่นี้ ที่ช่วยชีวิตของหมาตัวหนึ่งออกมาจากสถานสงเคราะห์ แต่ใครจะไปรู้ว่าในที่สุดแล้วเจ้าหมาที่ว่านี้ก็ตอบแทนผู้มีพระคุณด้วยการทำให้สุขภาพของพวกเขาดีขึ้น!!! Jingles หมาพันธุ์พิตบูลผู้น่าสงสาร เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองปีที่เมื่อ เมื่อ Anne กับ Vic Tenaglia ผู้เฒ่าสองคนจากรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจจะรับเลี้ยงหมาตัวหนึ่งจากสถานสงเคราะห์ที่มีชื่อว่า Brandywine Valley SPCA โดยหมาตัวที่พวกเขาเลือกนั้นก็คือ หมาพันธุ์พิตบูลวัย 2 ปีชื่อว่า Jingles ที่ได้รับการช่วยเหลือมาโดยสถานสงเคราะห์ระหว่างที่มันกำลังต่อสู้กับหมาตัวอื่นๆ ถึง 11 ตัวเลยทีเดียว ในตอนที่มาอยู่ใหม่ ยังมีรูปร่างผอมแห้งอยู่เลย ในขณะที่เจ้า Jingles อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์แห่งนั้นมันดูไม่มีความสุขนัก ด้วยเหตุที่มาจากการประสบการณ์ในอดีตที่มันเคยเผชิญมา ซึ่งมันทั้งผอมแห้งแรงน้อย มีบาดแผลต่างๆ ตามตัว รวมถึงมีอาการวิตกกังวลให้เห็นอยู่บ่อยๆ โดยจะสังเกตได้จากที่มันมักจะกัดอุ้งเท้าหรือหางตัวเองบ่อยๆ และด้วยชื่อเสียงของหมาพันธุ์พิตบูลที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้ในตอนแรก Anne ก็ยังลังเลที่จะรับมันมาเลี้ยง ทว่าก็ด้วยภาพอันแสนน่าสงสารของมันก็ได้ทำให้เธอใจอ่อนในที่สุด เพราะเธอรู้ว่าไม่สามารถทิ้งเจ้าหมาตัวนี้ให้อยู่ที่สถานสงเคราะห์ได้ลงคอ อยู่กับเจ้าของใหม่ ใจดีจัง ถึงแม้ว่าการได้มาอยู่กับครอบครัวใหม่จะเป็นจุดเปลี่ยนอย่างหนึ่งในชีวิตของมัน แต่ก็ด้วยเจ็บปวดอันความโหดร้ายในอดีตที่ยังคงตามมาหลอกหลอนอยู่ ทำให้มันมักจะกัดอุ้งเท้าหรือหางอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สามารถสื่อถึงความกังวลของมันได้ คู่ตายายคู่นี้จึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือหมาตัวนี้ และสิ่งที่พวกเขาเลือกที่จะใช้ก็คือการพามันไปเดินเล่นนั่นเอง…
-
แฟนสาวฉุนขึ้นหน้า ตัดจู๋ของฝ่ายชายทิ้ง จากการที่เขาชื่นชมผู้หญิงคนอื่นว่าสวย…
สาวๆ หลายคนอาจเคยเกิดความรู้สึกไม่พอใจเล็กๆ น้อยๆ เวลาที่แฟนหนุ่มของตัวเองชื่นชมผู้หญิงคนอื่น จนบางครั้งก็เกิดความน้อยใจหรืออาจจะเปลี่ยนไปจนกลายเป็นความโกรธแล้วทำในสิ่งที่รุนแรงเกินกว่าที่ใครเคยคาดคิด เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว Daily Mail ได้รายงานข่าวของหญิงสาวสุดโหดที่ตัดไอ้จ้อนของแฟนหนุ่ม เพียงเพราะว่าเขาดันไปชื่นชมหน้าตาและรูปร่างของผู้หญิงคนอื่น สาวโหดผู้โกรธจัดจนตัดไอ้จ้อนของแฟนหนุ่ม เธอคนนี้มีชื่อว่า Zhanna Nurzhanova ช่างเสริมสวยวัย 36 ปี ที่อาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มในเมือง Astana ประเทศคาซัคสถาน ซึ่งในวันหนึ่งเธอก็พบว่าแฟนหนุ่มของตัวเองได้ส่งรูปผู้หญิงคนอื่นไปให้น้องสาวของเขาดู แฟนหนุ่มไม่ได้แค่ส่งรูปไปทางโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว แต่เขายังพูดชื่นชมเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นอีกด้วย ซึ่งฝ่ายชายก็ยังบอกว่าคนในรูปเป็นเพียงแค่คนรู้จักเท่านั้นเอง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ Zhanna รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจวางยานอนหลับแฟนของเธอ ก่อนที่จะฉีดยาชาให้กับบริเวณหว่างขา แล้วจึงใช้กรรไกรตัดไอ้จ้อนของเขาซะ หลังจากนั้นเธอจึงขับรถพาแฟนหนุ่มไปโรงพยาบาลใกล้ๆ หวังจะให้แพทย์ช่วยดูอาการบาดเจ็บของเขา หมอที่โรงพยาบาลจึงทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาจับกุมตัวเธอไป จากการรายงานข่าวท้องถิ่น ไม่มีการแจ้งว่าเธอต้องเสียค่าปรับไปเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ คือเธอโดนโทษจำคุก 3-6 ปี และที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือ ไอ้จ้อนของแฟนหนุ่มไม่สามารถนำกลับมาต่อใหม่ได้ เนื่องจากบาดแผลที่สาหัสจนเกินไป Astana เมืองหลวงของประเทศคาซัคสถาน …
-
‘สัญญาจะขุนอย่างดี’ นศ.หนุ่มรับเลี้ยงแมววันตรุษจีน รับรองว่าสบายยิ่งกว่าโรงแรม 5 ดาว!!
สำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2018 ที่ใกล้จะมาถึงนี้ หลายๆ คนที่มีเชื้อสายจีนคงกำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัว แต่สำหรับนักศึกษาหนุ่มในมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง เขาเลือกที่จะหารายได้เสริมแบบน่ารักๆ เรียกได้ว่าเป็นงานที่ตอบโจทย์อย่างมากสำหรับเหล่าทาสแมวทั้งหลาย เด็กหนุ่มคนนี้ใช้นามแฝงว่า Xiao Tang ปัจจุบันเรียนอยู่ในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน และเขาก็ได้เกิดไอเดียที่จะหารายได้พิเศษเสริมจากการเลี้ยงแมวในช่วงวันหยุดยาว 7 วันของเทศกาลตรุษจีน นักศึกษาหนุ่มผู้รับเลี้ยงเจ้าเหมียวในช่วงวันหยุดตรุษจีน เขาได้ประกาศลงไปทางโลกออนไลน์ว่า ในช่วงวันหยุดนั้น ตนเองจะไม่กลับบ้านเกิดที่มณฑลยูนนาน จึงเปิดรับดูแลลูกแมวแลกกับค่าขนมนิดๆ หน่อยๆ โดยที่สัญญาว่าเขาจะดูแลพวกมันอย่างดีเหมือนกับเป็นลูกของตัวเองยังไงยังงั้น เขารับประกันเลยว่าเหล่าเจ้านายเหมียวทั้งหลายจะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอน เพราะเขาจะดูแลพวกมันเหล่านั้นด้วยอาหารเลิศรสทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ ปลา โยเกิร์ต ข้าวโพด และสลัด บริการทุกระดับประทับใจ ราวกับว่าพวกมันได้เข้ามาพักในโรงแรม 5 ดาว อาหารเลิศรสแต่ละอย่าง จะถูกเสิร์ฟให้กับเจ้าเหมียวไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน . นอกจากเรื่องของอาหารแล้ว เขายังสัญญาอีกว่าจะดูแลเจ้าแมวทุกตัวอย่างทะนุถนอม ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม โดยที่เขาบอกว่าสามารถรับดูแลได้มากที่สุดแค่ 4 ตัวเท่านั้น เพื่อการบริการที่ยอดเยี่ยม รับประกันเลยว่า เจ้านายเหมียวของทุกคนจะต้องพึงพอใจกับการมาพักผ่อนในครั้งนี้อย่างแน่นอน นับว่าเป็นอีกหนึ่งลู่ทางการหารายได้ที่ดูน่าสนใจไม่ใช่น้อย…
-
เจาะลึก “A$AP Eva” ผู้อยู่เบื้องหลังสร้อยทอง และเครื่องประดับระยิบระยับของชาว Hip-hop
สร้อยทอง จิวเวลรี่ และของที่ส่องประกาย แบบที่ชาวฮิปฮอปเรียกว่า “บลิงบลิง” นอกจากจะเป็นเครื่องประดับที่สร้างความมั่นใจแล้ว ยังถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกฐานะของผู้สวมใส่ด้วย พูดเคร่ื่องประดับแล้ว ทำให้นึกถึง A$AP Eva หรือ Chiokva “Eva” Sam เจ้าของร้านเครื่องประดับอันโด่งดังในหมู่ชาวฮิปฮอป จนแทบไม่มีใครไม่รู้จัก น่าสนใจขนาดนี้ เรามาเจาะลึกเบื้องหลังของร้านนี้กันดีกว่าว่าเริ่มขึ้นมาเมื่อไหร่ อย่างไร และกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ปี 1988 Eva ได้เปิดร้านเครื่องประดับครั้งแรก จากการยืมเงินพี่ชายกว่า 3 ล้านบาท โดยใช้ชื่อว่า Popular Jewelry Inc. สำหรับตัว Eva นั้น ครอบครัวของเธอหนีไปยังบ้านเกิดในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ทำให้เธอเกิดในมาเก๊าและอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาจนทุกวันนี้ ภายในผนังของร้านเต็มไปด้วยรูปภาพโพลารอยด์ของศิลปินที่เข้ามาเลือกซื้อจิวเวลรี่ ซึ่งวัฒนธรรมการแปะรูปภาพคนดังเหล่านี้เป็นที่นิยมในหมู่วัฒนธรรมคนจีน ที่มักจะให้ความสำคัญกับเหล่าเซเลบริตี้มากกว่าชาวตะวันตก Cappadonna สมาชิกวงฮิปฮอปในตำนาน Wu Tang Clan คือผู้ที่เผอิญเดินเข้ามาในร้าน และถูกอกถูกใจงานจิวเวลรี่เหล่านี้เป็นอย่างมาก และเขายังได้ชักจูงให้สมาชิกคนอื่นๆ ในวง มาเลือกซื้อจิวเวลรี่ที่ร้านนี้อีกด้วย ต่อมา เมื่อยุคทองของฮิปฮอปผ่านพ้นไป กิจการของร้านก็ซบเซาลง เธอก็ยังคงประคองตัวเองมาได้ จนกระทั่งยุค…
-
คุณแม่ลูก 9 ตัดสินใจทิ้งครอบครัว ออกเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่กับคนรักใหม่ชาวแอฟริกัน
ชีวิตของเราเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จนทำให้บางครั้งเราอาจจะต้องเลือกที่จะทำสิ่งหนึ่งและต้องทิ้งอีกสิ่งไป เหมือนกับสิ่งที่คุณแม่คนนี้ต้องเจอ และเธอก็ตัดสินใจเลือกที่จะไปใช้ชีวิตอยู่กับคนรักใหม่แทนที่จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวเดิมของตัวเอง นี่คือเรื่องราวการตัดสินใจของคุณแม่ลูก 9 ในเมือง Tyneside ประเทศอังกฤษ ที่ชื่อว่า Heidi Hepworth วัย 44 ปี ผู้ตัดสินใจทิ้งครอบครัวของตัวเองไปใช้ชีวิตอยู่กับคนรักใหม่ชาวแกมเบีย Mamadou Salieu Jallow วัย 32 ปี ในเมือง Banjul ประเทศแกมเบีย Heidi และ Mamadou คนรักใหม่เชื้อสายแอฟริกัน Heidi เล่าว่าเธอได้เริ่มคุยกับ Mamadou ครั้งแรกในเฟซบุ๊กเมื่อเดือนมกราคม 2017 ด้วยสถานะเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งระหว่างนั้นเธออาศัยอยู่กับ Andrew ผู้เป็นสามีและลูกๆ อีก 9 คนของเธอ ทั้งสองคุยกันผ่านโซเชียลเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเธอกับสามีเริ่มแย่ลงไปทุกทีและจบลงด้วยการแยกทางในเดือนพฤษภาคม พอเวลาผ่านไป เธอและคนรักใหม่ยังคงพูดคุยกันอยู่เสมอ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เกินกว่าคำว่าเพื่อน และเธอเองเชื่อว่านี่คือรักแท้อย่างแน่นอน ในเดือนตุลาคม Heidi จึงตัดสินใจตีตั๋วเดินทางไปหา Mamadou…
-
ภาพแห่งความอัปยศจากอดีต ความรุนแรงของขบวนการ ‘ค้าทาส’ ราวกับพวกเขาไม่ใช่มนุษย์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โลกของเราในอดีตนั้นมีความรุนแรงรวมถึงความไม่เที่ยงธรรมเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของกลุ่มคนที่ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็น ‘ทาส’ โดยทาสส่วนใหญ่นัั้นจะเป็นคนผิวสีที่ถูกนำมาใช้แรงงานราวกับว่าพวกเขาไม่ใช่มนุษย์ รวมถึงยังมีการทารุณกรรมต่างๆ อีกด้วย แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีของมนุษยชาติที่เรื่องเหล่านี้ได้เลือนหายไปเป็นเวลานานแล้ว และฝากไว้เพียงความทรงจำอันเป็นบทเรียนสำหรับคนรุ่นหลังเท่านั้น เช่นเดียวกับรูปภาพเหล่านี้ที่สะท้อนให้เห็นถึงความลำบากของทาสในยุคนั้นอีกด้วย ชีวิตประจำวันของทาสในอเมริกา ที่ต้องเก็บฝ้ายหามรุ่งหามค่ำ ก่อนที่จะมีการประกาศเลิกทาส โดยชุดภาพที่ทุกท่านกำลังจะได้เห็นนี้ เป็นภาพที่ถูกถ่ายขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 150 ปีก่อน ซึ่งจะเผยให้เห็นถึงความเป็นจริงอันโหดร้าย ที่กลุ่มทาสในประเทศสหรัฐอเมริกาต้องทนทุกข์ทรมานกับการกดขี่ ทำร้ายร่างกายและใช้แรงงาน ภาพเหล่านี้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในวันครบรอบ 153 ปีของการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 13 ซึ่งลงนามโดยประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1865 เป็นการประกาศเลิกทาสท่ามกลางสงครามกลางเมือง โดยใช้อำนาจยามสงครามของตน มิใช่กฎหมายที่ผ่านรัฐสภาคองเกรส และนี่คือภาพในสมัยก่อนที่จะประกาศเลิกทาส ซึ่งทำให้เราได้เห็นว่าทาสนั้นมีความลำบากขนาดไหน… การทำร้ายทาสเป็นเรื่องที่ดูธรรมดามากในสมัยนั้น และนี่คือภาพของคนงานเก็บฝ้ายคนหนึ่งในรัฐจอร์เจีย ทาสหลายคนต้องอดทนทำงานหนักทั้งวัน ในการเก็บฝ้ายในพื้นที่ของบางรัฐอย่างเช่น ในรัฐจอร์เจีย ประธานาธิบดีลินคอล์นได้เซ็นสัญญาปลดปล่อยทาสทั้งหมดในสหภาพตั้งแต่เดือนมกราคมปี 1863 แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 13 ในปี 1865 นั้นทำขึ้นเพื่อจะขยายอาณาเขตของกฎหมายให้ครอบคลุมทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา ทาสส่วนใหญ่ในสมัยนั้นเป็นคนผิวสี การเก็บฝ้ายกลายเป็นงานหลักของทาสไปโดยปริยาย…
-
บริษัทช็อกโกแลตในญี่ปุ่นซื้อหน้าโฆษณา เพื่อขอให้ผู้หญิงหยุดซื้อช็อกโกแลตให้เพื่อนร่วมงาน
ใกล้วันวาเลนไทน์ทีไร หนุ่มๆ สาวๆ มักจะหาซื้อช่อดอกไม้หรือไม่ก็ช็อกโกแลตมามอบให้คนที่รักหรือคนที่แอบชอบเพื่อบอกความในใจ แต่ปีนี้ดูเหมือนว่า ช็อกโกแลตน่าจะได้รับความนิยมน้อยลงในประเทศญี่ปุ่น เพราะมีการโฆษณาให้ผู้หญิงญี่ปุ่นเลิกซื้อช็อกโกแลตให้ผู้ชายในวันวาเลนไทน์ ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม Asahi Shuzo ผู้ผลิต Dassai ซึ่งเป็นสาเกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น บริษัทลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ ใจความว่าให้ลูกค้าเลิกจ่ายเงินเยอะๆ ไปกับการซื้อสาเกของเราสักที และตอนนี้ Godiva ผู้ผลิตช็อกโกแลตของญี่ปุ่น ดูเหมือนจะยืมลูกเล่นของ Asahi Shuzo เพื่อโฆษณาขอให้ผู้คนในญี่ปุ่นซื้อช็อกโกแลตน้อยลงในวันวาเลนไทน์ปีนี้ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า ในญี่ปุ่นนั้นการที่ผู้หญิงให้ของขวัญผู้ชายด้วยช็อกโกแลตถือเป็นเรื่องธรรมดามาก และเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ (ส่วนผู้ชายจะให้คืนในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกว่า White Day) นอกจากให้ช็อกโกแลตกับแฟนหรือสามีแล้ว ผู้หญิงยังให้สิ่งที่เรียกว่า Giri Choco ที่หมายถึง ช็อกโกแลตตามมารยาท ให้กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้า เพื่อขอบคุณพวกเขาสำหรับมิตรภาพ การสนับสนุน ความร่วมมือ และการทุ่มเททำงานตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา แต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา Godiva ได้ทำการโฆษณาในหนังสือพิมพ์ Nihon Keizaki…
-
หัวใจดั่งเพชร!! คุณแม่ยอมขายน้ำนมของตัวเอง เพื่อนำเงินไปรักษาลูกน้อยที่กำลังป่วยอยู่
ความรักของแม่ที่มีต่อลูกนั้น เป็นความรักสุดแสนที่ยิ่งใหญ่ที่ใครๆ ต่างก็รู้กันดี เป็นความรักที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนและยังเป็นสิ่งที่แสนจะบริสุทธิ์อีกด้วย มีหรือที่ถ้าหากลูกเกิดป่วยขึ้นแล้วคนเป็นแม่จะทนดูอยู่เฉยๆ ได้ เหมือนกับแม่คนนี้ที่ถึงจะไม่มีเงินไว้ใช้รักษาลูกที่นอนป่วยอยู่ที่โรงยาบาล แต่เธอก็พยายามดั้นด้นทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกของเธอได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด แม้ว่าจะต้องขายน้ำนมอยู่ริมถนนก็ตาม!! เรื่องราวของคุณแม่หัวใจยิ่งใหญ่คนนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา โดยเกิดขึ้นที่ถนนแห่งหนึ่งในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน มีภาพถ่ายภาพหนึ่งเผยให้เห็นถึงคุณแม่ที่นั่งคุกเข่าให้นมเด็กทารกอยู่บริเวณริมถนน พร้อมกับสามีของเธอที่ถือป้ายโฆษณาว่า “น้ำนมเพื่อช่วยเหลือลูกสาวของเรา ราคาเพียงแค่ 10 หยวน(ประมาณ 50 บาท) ต่อ 1 นาทีเท่านั้น” นอกจากนี้ในป้ายโฆษณาดังกล่าว ยังอธิบายถึงความจำเป็นของทั้งคู่ที่ต้องทำอย่างนี้อีกด้วย ซึ่งในป้ายมีข้อความดังต่อไปนี้ “สวัสดีค่ะ ฉันเป็นคุณแม่สุขภาพดีวัย 24 ปี ที่เพิ่งให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝดสองคน ในตอนนี้ฉันต้องการเงินอย่างเร่งด่วนเพื่อจะไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกสาวที่กำลังป่วยอย่างหนัก ฉันสามารถให้น้ำนมนอกสถานที่ได้ และยังเปิดรับคนทุกช่วงอายุอีกด้วย ขอบคุณมากจริงๆ สำหรับการช่วยเหลือของทุกคนค่ะ” ซึ่งในส่วนท้ายของป้ายนี้ ทั้งคู่ก็ได้ติดรูปของลูกสาวของพวกเขาเอาไว้ รวมทั้งยังมีค่ารักษาพยาบาลที่ผ่านมา และใบรับรองความช่วยเหลือความยากจนที่ออกให้โดยทางการอีกด้วย หลังจากภาพนี้ได้แพร่กระจายออกไปในโลกออนไลน์ ก็ทำให้สื่อ Southern Metropolis Daily เข้าไปสัมภาษณ์คนแม่วัย 24…
-
หญิงสาวถูกชกหน้าอย่างแรง หลังบีบแตรใส่ชายที่เดินขวางหน้ารถเธออยู่บนทางเท้า
การใช้รถใช้ถนน ไม่ว่าจะบนถนนรถวิ่งหรือบนทางเท้า อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นเสมอ และบางครั้งไม่ใช่แค่อุบัติเหตุ แต่รวมไปถึงเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ที่ไม่ได้เกิดจากยานพาหนะเสมอไป แต่เกิดจากความอารมณร้อนของผู้คนมากกว่า อย่างกรณีนี้ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในสื่อโซเชียลของจีน เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งถูกชายแปลกหน้าชกเข้าที่หน้าอย่างแรง จากรายงานของ Pear Video ระบุว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อ Liang เธอกำลังพยายามหาที่จอดรถหน้าร้านแห่งหนึ่งในเมืองฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน Liang ขับรถช้าๆ บนทางเท้าพร้อมกับมองหาที่จอดรถ แต่ขณะนั้นมีชายคนหนึ่งเดินขวางทางอยู่ หญิงสาวเลยบีบแตรใส่เขาเพื่อให้เขาหลบทางให้หน่อย (เธออ้างว่าได้ทำมันอย่างสุภาพ) แต่ดูเหมือนชายคนนั้นจะไม่สนใจเธอเลย หญิงสาวเลยตะโกนบอกเขาอีกครั้งเพื่อให้เขาช่วยหลีกทางหน่อย แต่ชายคนนั้นกลับจงใจเดินไปตรงกลางทางเท้า เพื่อไม่ให้เธอผ่านไปได้ หญิงสาวเริ่มรู้สึกรำคาญ เธอเลยบีบแตรใส่เขาอีก 2 ครั้ง (ครั้งนี้เธอบอกว่าได้ลดความสุภาพลง) ชายคนนั้นจึงหันมาพร้อมตะโกนด่าเธอ แถมยังเตะหน้ารถเธอด้วย อย่างไรก็ตาม ในที่สุด Liang ก็สามารถขับผ่านชายคนนั้นมาได้ แต่ก็ยังหาที่จอดรถไม่ได้อยู่ดี และขณะที่เธอพยายามจะออกจากตรงนั้น ชายคนเดิมก็เข้ามาหาและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า “ไม่ได้กำลังหาที่จอดรถอยู่หรอกเหรอ!?” จากนั้นการโต้เถียงก็เกิดขึ้น โดยที่ชายคนนั้นได้เตะรถหญิงสาวอีก 3 ครั้ง จนเธอต้องลงจากรถ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกัน Liang ได้จับเสื้อชายคนนั้นไว้ เพื่อไม่ให้เขาหนีไป นั่นทำให้ผู้ชายคนนั้นหันมาชกหน้า จนเธอต้องปล่อยมือ และที่เขาก็วิ่งหนีไปทันที …
-
Logan Paul กลับมาขอความเป็นธรรม เขาก็เจ็บปวด-ขอพ่อแม่เข้มกับเด็กเล็กดูคลิปบนยูทูบ
หลังจากที่หายหน้าหายตาไปเกือบเดือนเนื่องจากกรณีดราม่าเกี่ยวกับศพของคนฆ่าตัวตายในป่าอาโอกิกาฮาระ ล่าลุดหนุ่มโลแกน พอล ของเราก็ได้ปล่อยคลิปวิดีโอที่แสดงให้ทุกคนตระหนักถึงการฆ่าตัวตายที่ได้รับกระแสตอบรับในด้านดีไม่น้อยเลยทีเดียว (อ่านข่าวเก่า Logan Paul กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับคลิปเกี่ยวกับ “การฆ่าตัวตาย” ที่ชาวเน็ตต่างชื่นชม) และล่าสุดยูทูบเบอร์หนุ่มของเราก็ได้ปรกฎตัวทางทีวีอีกครั้ง เพื่อให้สัมภาษณ์ในรายการ Good Morning America เกี่ยวกับการกลับมาครั้งที่สองของเขา “ผมคิดว่าผมได้เรียนรู้ประสบการณ์หลายอย่างจากเรื่องที่เกิดขึ้น และทำให้เข้าใจในการสื่อสารเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายและการทำความเข้าใจที่ถูกต้อง” ยูทูบเบอร์หนุ่มให้สัมภาษณ์ กับ Michael Strahan ผู้ดำเนินรายการ นอกจากนี้โลแกน พอล ยังได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวหลังจากที่เกิดกระแสดราม่า จนเขาต้องสูญเสียรายได้มหาศาล พร้อมกับบอกว่าเขาเองก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกันหลังจากกรณีดังกล่าว “มีผู้คนมากมายเกลียดผม และสั่งให้ผมไปตาย บางคนบอกผมว่าทำไมนายไม่ฆ่าตัวตายซะเองเลย มันเป็นช่วงเวลาที่แย่มากๆ เลยทีเดียว” โลแกน พอลให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตามทางด้านยูทูบเบอร์หนุ่มของเรายังได้พูดถึงการเข้าถึงสื่อออนไลน์ของเหล่าเด็กๆ และความเหมาะสมในการรับชมของพวกเขาอีกด้วยว่าผู้ปกครองเองก็ควรที่จะมีส่วนในการควบคุมเด็กๆ ด้วยเช่นกัน “ผมคิดว่าพ่อแม่ควรให้คำแนะนำกับพวกเด็กๆ อย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังดู ผมไม่ใช่คนเลว แต่ผมคือคนที่ตัดสินใจผิดพลาด” โลแกน พอลให้สัมภาษณ์ จากการจัดอันดับของนิตยสาร Frobes เมื่อปี 2017 โลแกน พอลสามารถทำเงินได้มากถึง 12.5 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามเมื่อถูกความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมที่ทางกูลเกิลลงโทษเขา ยูทูบเบอร์หนุ่มของเรากลับเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ทำให้ผู้ดำเนินรายการจึงเลี่ยงที่จะถามเขาเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาหลังจากที่เกิดเรื่องดังกล่าว…
-
ภาพความน่ารักของแม่เสือที่ สั่งสอนลูกตัวเองท่ามกลางหนองน้ำ อย่างน่ารักน่าเอ็นดู…
เสือ คือสัตว์ป่าที่พวกเรามักจะเห็นแต่ในด้านของความดุร้าย คอยล่าสัตว์อื่นกินเป็นอาหารอยู่เสมอ ทำให้เราอาจจะไม่เคยเห็นสัญชาตญาณการใช้ชีวิตอันแสนน่ารักของพวกมัน อย่างเช่นการที่แม่เสือฝึกฝนและสั่งสอนลูกๆ เหมือนอย่างเหตุการณ์ต่อไปนี้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอุทยานเสือแห่งชาติ Tadoba Andhari อุทยานที่ใหญ่ที่สุดในรัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย เมื่อแม่เสือ Maya กำลังสั่งสอนและฝึกฝนลูกของตัวเองด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูอยู่กลางหนองน้ำ แม่เสือที่ตัวเล็กกว่า กำลังสั่งสอนลูกชายของตัวเอง . ภาพของสองแม่ลูกนี้ถูกถ่ายเก็บเอาไว้ได้โดยฝีมือของ Pratik Humnabadkar ชายหนุ่มวัย 29 ปีผู้ทำงานในบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้มาเจอกับเหตุการณ์นี้ เพราะมันเป็นภาพที่หาชมได้ยากมากจริงๆ เพื่อนๆ บางคนอาจคิดว่าเสือสองตัวในภาพกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ความจริงแล้วมันคือการที่แม่เสือสั่งสอนลูกของตัวเอง ก่อนที่ลูกเสือหนุ่มตัวนี้จะต้องออกไปใช้ชีวิตละสร้างแหล่งที่อยู่เพียงลำพัง มันจึงจำเป็นต้องฝึกฝนการป้องกันตัวเอาไว้ เสือสองตัวที่เล่นต่อสู้กันท่ามกลางความชุ่มฉ่ำ . Pratik อธิบายว่า “ปกติแล้วเสือจะทิ้งแม่ของมันไปในตอนที่อายุได้ประมาณ 2-3 ขวบ เพื่อหาไปสร้างแหล่งอาศัยของตัวเอง ทำให้เราได้เห็นภาพการต่อสู้กันระหว่างมันกับแม่ เพื่อเป็นการฝึกให้เสือหนุ่มค่อยๆ เรียนรู้การเอาตัวรอดจากการถูกจู่โจมในสถานการณ์ต่างๆ ได้” เสือทั้งสองตัวต่อสู้กันยาวนานถึง 20 นาที และจบลงโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ กันเลย ก่อนที่ภาพทั้งหมดจะถูกเผยแพร่ผ่านสำนักข่าว Daily…
-
รู้จักกับเมือง Monowi ในอเมริกา เมืองแสนเหงาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า และผู้อยู่อาศัย 1 คน
หากเพื่อนๆ คนไหนต้องการจะหลีกหนีความวุ่นวาย มุ่งสู่การใช้ชีวิตแบบเงียบสงบ เพลิดเพลินไปกับความเรียบง่าย เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับเมือง Monowi รัฐเนแบรสกา สหรัฐอเมริกา ซึ่งบอกเลยว่ามันตรงกับความต้องการของคุณมากๆ อย่างแน่นอน เพราะเมืองนี้มีประชากรอาศัยอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น!! เมื่ออ้างอิงตามข้อมูลประชากรของอเมริกาในปี 2010 ยืนยันแล้วว่าที่นี่มีคนอาศัยอยู่แค่คนเดียวจริงๆ เธอคนนั้นมีชื่อว่า Elsie Eiler สาววัย 84 ปี ผู้ที่ยังคงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางเมืองเล็กๆ อันแสนเดียวดาย ป้ายชื่อเมือง และจำนวนประชากรที่เหลืออยู่ Elsie เล่าว่าเมือง Monowi ไม่ได้เป็นเมืองที่เงียบเหงามาตั้งแต่แรก หากย้อนกลับไปในช่วง 1930s ที่นี่เคยมีประชากรอาศัยอยู่ด้วยกันกว่า 150 คน และเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างเส้นทางรถไฟ Elkhorn ทำให้มีผู้คนสัญจรไปมาอยู่เสมอ ภายในเมืองตอนนั้นประกอบด้วยร้านขายของชำ 3 แห่ง ร้านอาหารอีกมากมาย หรือแม้แต่คุกที่นี่ก็ยังมี ซึ่งในยุคนั้น Elsie อาศัยอยู่ในฟาร์มที่ตั้งอยู่เขตรอบนอกของเมืองและได้เจอกับ Rudy สามีในอนาคตของเธอ ตอนที่ทั้งคู่กำลังเรียนอยู่ชั้นประถม เมื่อทั้งสองเรียนจบมัธยม พวกเขาก็ต้องแยกย้ายกันไป Rudy ได้ไปเป็นทหารรับใช้ชาติช่วงสงครามเกาหลี ในขณะที่ Elsie มุ่งหน้าสู่เมืองแคนซัส…
-
เจ้าเหมียวถูกช่วยเหลือมา กลายมาเป็นคุณแม่ให้กับน้องๆ ต่างฝ่ายช่วยเยียวยาให้กันและกัน
ความสูญเสียเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครๆ ต่างก็ไม่อยากจะให้เกิดขึ้นกับตัวเองทั้งนั้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับให้ได้ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่สามารถมีใครมาทดแทนกันได้ แต่ก็คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อยถ้าหากจะมีบางสิ่งมาเติมเต็มช่องว่างที่หายไปจากการสูญเสีย เหมือนกับแมวตัวหนึ่งที่ได้รับการช่วยเหลือ ก่อนจะมาทำหน้าที่เป็นแม่ให้กับแมวที่ถูกทิ้งถึงสองตัวด้วยกัน!! โดยเรื่องราวอบอุ่นหัวใจครั้งนี้เกิดขึ้นในวันขึ้นปีใหม่ปี 2018 ที่ผ่านมาเมื่อ Karen Timmons นักช่วยเหลือสัตว์ที่อาศัยอยู่ในนครฟิลาเดลเฟีย ได้รับการติดต่อให้ไปช่วยเหลือลูกแมวจำนวน 7 ตัวที่ถูกทิ้งเอาไว้ เมื่อครอบครัวที่ดูแลพวกมันอยู่ได้ย้ายออกไป “Nate สามีของฉันกับฉัน ตั้งใจจะเอาอาหารไปให้พวกมัน เพื่อจะดูให้แน่ใจว่าพวกมันยังมีที่อยู่อาศัยและอาหาร ก่อนที่จะประสานงานกับทางสถานสงเคราะห์สัตว์ เพื่อจะได้นำมันไปอยู่ด้วยในวันรุ่งขึ้น” Karen กล่าว แต่เมื่อพวกเขาไปถึงก็ต้องผงะกับสิ่งที่ได้เจอ เพราะว่ามันเป็นสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายมากสำหรับลูกแมว ที่อยู่ของพวกมันมีทั้งเศษขยะมากมาย และมีหนอนยัวะเยี้ยเต็มไปหมด แถมยังมีซากแมวตายอีกด้วย ในตอนนั้นพวกเขาพบลูกแมวที่ยังรอดชีวิตอยู่แค่ 2 ตัวเท่านั้น จึงได้ตัดสินใจรับพวกมันออกมาจากสถานที่ดังกล่าว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินกว่าจะแก้ Karen ได้นำพวกมันมาอยู่ในอ้อมอกของเธอเพื่อที่จะให้ความอบอุ่นแก่มัน พร้อมทั้งยังป้อนน้ำผสมน้ำตาลเพื่อให้พวกมันมีแรงอีกด้วย เมื่อมาถึงสถานสงเคราะห์พวกเขารีบนำลูกแมวทั้งสองไปตรวจร่างกาย เช็กดูว่ามีสิ่งผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นกับเจ้าพวกนี้หรือไม่ หลังจากนั้นเธอก็ตั้งชื่อให้ลูกแมวตัวสีขาวว่า Whitey และอีกตัวหนึ่งชื่อว่า Grey Hulk ซึ่งในขณะนั้นก็มีแมวชื่อว่า Nubby…
-
แพ้ความรัก… แมวน้อยละลายใจพ่อผู้เกลียดแมว และนำความรักส่งต่อให้น้องๆ เมื่อมันจากไป
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงมหัศจรรย์ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้ แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่หัวดื้อรั้นมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายก็ต้องใจละลายเมื่อมีแมวเหมียวเข้ามาในชีิวิต เหมือนกับชายคนนี้ที่ไม่เคยต้องการข้องเกี่ยวกับแมวเลยในชีวิตนี้ แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อลูกสาวของเขาพามิ้วน้อยตัวหนึ่งเข้ามาในบ้าน ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2016 วันที่ Katherine แม่อุปถัมภ์ได้พบกับมิ้วน้อย Hulk มันเป็นแมวนิสัยดี ขี้อ้อน และน่ารัก เวลามันต้องการอ้อมกอด มนุษย์ก็ห้ามตอบว่า “ไม่” กับมันอย่างเด็ดขาด ต่อมาพวกเขาได้เปลี่ยนชื่อให้มิ้วน้อยว่า Thomas ดังนั้นมิ้วน้อยเลยตัดสินใจตอบแทนด้วยการเปลี่ยนหัวใจของคุณพ่อผู้ไม่ชอบแมว แต่รักหมามากกว่า ตั้งแต่วันนั้นมา Thomas เดินตามพ่อไปทุกที่ แถมยังขดตัวนอนบนตักและบนไหล่ของเขาด้วย และด้วยพลังแห่งการออดอ้อนนี้ ทำให้มิ้วน้อยเข้าไปอยู่ในใจของเขาแบบไม่ทันรู้ตัว พ่อที่เคยบอกไว้ว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับแมวเด็ดขาด แต่มาทุกวันนี้เขากลับส่งภาพตัวเองที่มุ้งมิ้งกับ Thomas ส่งไปให้ลูกสาว ในฐานะที่เป็นคุณตาของมัน นั่นแสดงให้เห็นว่ากำแพงในใจของพ่อต้านความน่ารักของแมวน้อยไม่ได้แล้ว แต่ไม่นานหลังจากนั้น Thomas ก็เริ่มมีอาการป่วย ก่อนจะพบว่าเป็น FIP (โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบ) ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต และแล้วมันก็จากทุกคนไปภายใน 4 สัปดาห์ต่อมา ทำให้พ่อแม่ของ Katherine เสียใจหนักมาก ต่อมา ในเดือนสิงหาคมปี 2017 มีลูกแมวตัวน้อยเกิดในบ้านอุปถัมภ์ของ Katherine และมันทำให้เธอนึกถึง Thomas ขึ้นมาทันที…
-
เรื่องหลับไว้ใจหนู… 25 เด็กน้อยขี้เซา ล้มตัวลงนอนได้ทุกที่ ทุกเวลา ถ้าร่างกายต้องการ
สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราๆ ต่อให้ง่วงแค่ไหน บางสถานการณ์เราก็ต้องฝืนเอาไว้ อย่างเช่นเวลาทำงาน เวลาเรียน หรือเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว พวกเขายังไม่โตพอที่จะฝืนความง่วงได้ ดังนั้นเมื่อรู้สึกง่วงที่ไหน หรือเวลาไหน พวกเขาก็นอนตามที่ใจสั่งมาโดยไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งนั้น นี่แหละ ความไร้เดียงสาของเด็กน้อย 1. ตัดผมง่วงเกิ๊น นอนเลยละกัน 2. เมื่อพาลูกน้อยไปเล่นสกีครั้งแรก ดันหลับขณะสไลด์ลงเขาซะงั้น 3. ที่ไหนก็ได้ ขอให้ได้หลับ 4. เมื่อพาลูกน้อยไปปิกนิก เธอขอยืมแว่นเพื่อบังแดด ผ่านสักพัก หลับลึกเลย 5. งอแงอยากไปเดินเล่นในห้าง พอพาไป…ไหงเป็นงี้ละลูก 6. บอกให้ขึ้นไปนอนบนห้อง ผ่านไป 2 ชั่วโมง… ถึงว่าล่ะ ไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู 7. ระหว่างรอขึ้นเครื่อง นอนวนไปค่ะ 8. นอนแป๊บนะ เดี๋ยวตื่นมาเล่นต่อ 9. โถ…
-
จากหนุ่มเช็ดสนามบาส ผู้มีความบากบั่นและมานะ สู่ตำแหน่งใหญ่ในบริษัทเทคโนโลยี
แรงบันดาลใจเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้หลายๆ คน ก้าวสู่ความสำเร็จ แต่ในบางครั้งความสำเร็จมาจากการทำงานหนักและโอกาสที่ถูกหยิบยื่นมาให้ เหมือนกับ Meng Fei ที่กลายเป็นคนดังในอินเตอร์เน็ต หลังมีการเผยแพร่ภาพของเขาขณะมุ่งมั่นเช็ดพื้นในสนามบาสในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน Meng ผู้เรียนไม่จบมัธยมปลาย เขาเริ่มทำงานเป็นอาสาสมัครทำความสะอาดสนามบาสในเซินเจิ้นเมื่อปี 2013 ในวัย 24 ปี แน่นอน ภารกิจของเขาคือต้องทำให้สนามแห้งและป้องกันไม่ให้ผู้เล่นบาดเจ็บ ปกติคนเช็ดพื้นจะเข้าไปเช็ดทุกครั้งที่นักกีฬากลับไปพักข้างสนาม แต่สำหรับ Meng แล้ว เขาจะวิ่งเข้าไปเช็ดทุกครั้งที่มีผู้เล่นหกล้ม ก่อนจะวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มบอกว่า “ผมจะเช็ดพื้นให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ และรีบออกมาทันทีเมื่อพื้นสะอาด โดยงานส่วนใหญ่ที่ผมทำต้องอาศัยความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ” เขาบอกอีกว่า “ก่อนจะเข้าสู่สนาม ผมจะแต่งตัวให้เรียบร้อยทุกครั้ง ผมใช้เจลเซตผม และไม่ลืมที่จะเช็ดรองเท่าตัวเองด้วย การทำงานด้วยความมุุ่งมั่นและตั้งใจสุดขีดของ Meng ทำให้เขากลายเป็นจุดเด่นในสนามมากกว่านักกีฬาซะอีก นั่นเป็นเพราะเขาคิดว่าสนามคือเวทีที่เขาจะต้องแสดงความสามารถทั้งหมดที่มีออกมาอย่างเต็มที่ กระทั่งวันหนึ่งในเดือนธันวาคม ปี 2016 ได้มีการเผยแพร่คลิปของเขาขณะที่กำลังเช็ดพื้นด้วยความตั้งใจและดูจริงจังมาก ซึ่งการแข่งขันดังกล่าวได้ออกอากาศทางช่อง CCTV ของจีนด้วย จากคลิปดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตจีนต่างพูดถึงความขยัน ความรักในงาน และความมุ่งมั่น รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพของ Meng นอกจากนี้เขายังได้รับความสนใจจากทีมงานในสมาคมบาสเกตบอลจีน(CBA) ซึ่งเทียบเท่ากับสมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายหนุ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีม Shenzhen…
-
สถานสงเคราะห์สัตว์เผย สาเหตุที่ทาสเอาแมวดำมาทิ้ง เพราะถ่าย ‘เซลฟี่’ ด้วยแล้วไม่สวย!?
เราอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าการที่ผู้คนบางส่วนไม่นิยมเลี้ยงแมวดำนั้น เป็นเพราะมีความเชื่อว่าแมวดำจะนำความโชคร้ายมาให้ ซึ่งนั่นเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่เราไม่สามารถบอกได้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ล่าสุดสถานสงเคราะห์สัตว์ The Moggery ในบริสตอล ประเทศอังกฤษ มีแมวทั้งหมด 40 ตัว และทุกตัวเป็นสีดำ แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ โชคลาง หรือเรื่องลี้ลับแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะพวกมัน “ถ่ายเซลฟี่ด้วยแล้วไม่สวย” !? Christine Bayka วัย 67 ปี ผู้ก่อตั้ง The Moggery กล่าวว่า “แมวดำเหล่านี้ถูกเจ้าของปฏิเสธ เพราะพวกมันมีสีเข้ม ทำให้ถ่ายรูปไม่ขึ้นและดูไม่สวยเมื่อถ่ายเซลฟี่” สำหรับสถานสงเคราะห์สัตว์แห่งนี้ Christine ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 21 ปีที่แล้ว และสถานการณ์ที่เจออยู่ตอนนี้มันเลวร้ายกว่าทุกเรื่องที่เธอเคยเจอมา เธอบอกอีกว่า “มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก เพียงเพราะแมวดำไม่สามารถถ่ายเซลฟี่ให้สวยได้ และตอนนี้ผู้คนต่างหลงใหลในโลกโซเชียล พวกเขาแค่อยากถ่ายเซลฟี่แล้วเอาไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก เพื่อเรียกยอดไลก์ ยอดแชร์” “ทุกครั้งที่มีคนมาดูแมว ฉันมักจะถามคำถามและได้ยินคำตอบแบบเดิมๆ เสมอ ฉันถาม ‘ไม่ว่าแมวสีอะไร คุณก็สะดวกเลี้ยงใช่มั้ย? พวกเขาจะพูดว่า ‘แน่นอน ตราบใดที่มันไม่ใช่สีดำนะ’” “เมื่อ 20 ปี ก่อน…
-
22 ภาพของ ‘คนผิวเผือก’ จากรอบโลก ความงดงามอันโดดเด่น บนพื้นฐานของมนุษย์ด้วยกัน
เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลายที่แตกต่างของมนุษย์ ทั้งเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ภาษา และลักษณะรูปลักษณ์ภายนอก แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้โลกมีสีสันและน่าอยู่มากขึ้น หนึ่งในความแตกต่างเหล่านั้นคือเพื่อนมนุษย์ “ผิวเผือก” หรือ Albinos ซึ่งเป็นคนที่มีผิวขาว ผมสีขาว ตาสีขาว ม่านตาสีเทาและโปร่งแสง รูม่านตาสะท้อนแสงออกมาเป็นสีแดง และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา นอกจากสีผิวแล้ว พวกเขาอาจจะดูไม่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่ในความเป็นจริง พวกเขาต้องหลีกเลี่ยงการยืนกลางแดดเป็นเวลานาน เพราะผิวของคนเผือกนั้นไว้ต่อแสงมาก อาจทำให้ผิวหนังแดงหรือเกิดอาการแพ้ถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้ และปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ อย่างไรก็ตาม คนเผือกสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออื่นๆ ที่อันเป็นอันตรายกับร่างกายได้ ที่สำคัญต้องอาศัยความเข้าใจจากคนรอบข้างด้วย เพื่อช่วยให้พวกเขาไม่รู้สึกแปลกแยก เช่นเดียวกับคนเผือกที่เราเห็นอยู่นี้ พวกเขามีความงดงามที่โดดเด่นและมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้พวกเขาถูกมองว่าแตกต่าง Diandra Forrest จากสหรัฐอเมริกา David Guerrero จากประเทศโคลอมเบีย . Maschall จากประเทศเยอรมนี Chihiro จากประเทศญี่ปุ่น . Azfar Firdaus จากประเทศมาเลเซีย …
-
เบื้องหลังภาพ ‘สามหนุ่ม’ ที่ทำได้เพียงแค่มองธุรกิจหล่อเลี้ยงชีวิตมอดไหม้ในกองเพลิง…
การจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างให้รุ่งเรืองเป็นเรื่องที่ยากและต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นอย่างไรเมื่อสิ่งที่เราทุ่มเทแรงใจแรงกายสร้างมันขึ้นมา กลับแหลกสลายไปในพริบตา เหมือนกับภาพของชายสามคนนี้ที่ทำได้เพียงแค่มองเปลวไฟที่กำลังเผาไหม้ธุรกิจของพวกเขาอยู่ โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย… Emalee Millar คือชื่อของผู้เผยแพร่ภาพใจสลายครั้งนี้่ออกมา เธอเป็นลูกสาวของ 1 ใน 3 คนที่อยู่ในภาพ ซึ่งในภาพเราจะเห็นได้ว่ามีชายหนุ่ม 3 คนที่นั่งอยู่บนหลังคาอย่างอาลัยอาวรณ์ และมองไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่ไกลสุดหูลูกตาออกไป นั่งปลอมประโลมซึ่งกันและกัน สำหรับสถานที่ที่เป็นจุดหมายปลายตาของชายทั้งสามคนนี้ก็คือโรงเก็บไม้ชื่อว่า Valley Lumber yard ที่ตั้งอยู่ในเมืองดะนีดิน ประเทศนิวซีแลนด์ ที่เพิ่งเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อบ่ายวันพุธที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งสามคนเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบแบบเต็มๆ จากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ เพราะว่าที่นั่นเป็นสถานที่ทำงานของพวกเขานั่นเอง โดยหนึ่งในสามคนนี้มีอยู่คนหนึ่งที่เป็นเจ้าของโรงเก็บไม้ดังกล่าว ส่วนพ่อของ Millar และเพื่อนร่วมงานของเขา ก็มีโรงเก็บไม้นี้ไว้ใช้สำหรับทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ไฟไหม้โรงไม้ที่เลี้ยงชีพของคนทั้งสามคน “ทั้งเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน รวมถึงพ่อของฉันทำได้เพียงนั่งมองไฟที่กำลังโหมไหม้อย่างหนัก โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย และได้แต่ภาวนาขอให้ความเสียหายในครั้งนี้มีน้อยที่สุด” Millar กล่าว เมื่อมองเข้าไปยังกองเพลิง ก็เห็นแต่เพียงข้าวของที่ถูกความร้อนแรงของเปลวไฟเข้าทำลาย ซึ่งก็มีคนบอกว่าเป็นเรื่องสะเทือนหัวใจจริงๆ ที่ได้เห็นน้ำตาของชายทั้งสามคนนี้ ไหม้จนแทบไม่เหลืออะไรเลย สำหรับ Peter Chalmers เจ้าของโรงไม้ดังกล่าวประมาณความเสียหายเอาไว้น่าจะมีมูลค่ามากถึง 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 9.4…
-
ตำราคุมโทนสีแต่กาลก่อน Werner’s Nomenclature of Colours สำหรับศิลปินและนักธรรมชาติวิทยา
การสร้างผลงานศิลปะทั้งภาพเขียนและภาพถ่ายนั้น ปัจจัยสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ “สี” เพราะสีจะทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวา มีมิติ และสะท้อนอารมณ์ของภาพได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันยังมีการถ่ายภาพที่เน้นเรื่องการกำหนดสีที่เรียกกันว่า “คุมโทน” ซึ่งเป็นวิธีการถ่ายภาพที่นิยมมากทีเดียว แต่ทราบหรือไม่ว่า มีตำราคุมโทนสีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ก่อนที่จะมีกล้องถ่ายรูปเสียอีก Werner’s Nomenclature of Colours คือหนังสือที่รวบรวมสีต่างๆ บนโลกมาจัดกลุ่มเข้าด้วยกันเป็นโทนๆ เพื่อใช้สำหรับเป็นแนวทางให้กับศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ และนักมานุษยวิทยา หนังสือเล่มนี้ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในศตวรรษที่ 19 ในหนังสือจะไม่มีภาพประกอบ (เพราะยังไม่มีกล้องถ่ายรูป) แต่มีเพียงตัวอย่างสีกับคำอธิบายถึงสีนั้นๆ ว่าสามารถพบเห็นได้ที่ไหน คุมโทนไหมล่ะ มีตัวอย่างกำกับว่าสีต่างๆ สามารถพบเจอได้ที่ไหน จำแนกสีได้อย่างละเอียดเลยทีเดียว ระบบการจำแนกสีถูกคิดค้นขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยนักแร่วิทยาชาวเยอรมันชื่อว่า Abraham Gottlob Werner แต่หลังจากนั้นเขาก็มีการเปรียบเทียบสีต่างๆ กับพืช สัตว์ และสิ่งของเพื่อกำหนดชื่อให้สีเหล่านั้น โทนส้ม โทนน้ำเงินก็ว่ากันไป ส่วนนี่ก็โทนเขียว จัดเรียงอย่างสวยงาม …
-
เบื้องหลังการเป็น “คนขับแท็กซี่” ในลอนดอน นั้นไม่ง่าย ต้องรอบรู้ แถมปฏิเสธลูกค้าไม่ได้!!
เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งคุณอยากจะทำอาชีพขับแท็กซี่ในกรุงลอนดอน คุณจะทำยังไง? คุณอาจจะคิดว่าถ้าเรามีสกิลการปฎิเสธลูกค้าเทพๆ เช่นไม่ไปน้องส่งรถ ไม่ไปพี่ไกล หรือไม่ว่างเติมแก๊ซ แล้วแค่นี้ก็จะเป็นคนขับแท็กซี่ได้แล้วคุณคิดผิด! เพราะการจะเป็นคนขับแท็กซี่สีดำในกรุงลอนดอนได้นั้น คุณจะต้องผ่านการทดสอบสุดหินเสียก่อน โดยคุณจะต้องเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้เส้นทางและสถานที่ต่างๆ จากหนังสือที่เรียกว่า ‘Bluebook‘ ซึ่งหนังสือเล่มนี้มันเปรียบเสมือนคัมภีร์ไบเบิลของคนขับแท็กซี่ที่นี่เลย ส่วนถ้าใครสงสัยว่าทำไมต้องไปอ่านหนังสือแบบนั้น ทำไมไม่เปิด GPS แล้วขับตามเส้นทางไป คำถามนี้ถูกตอบโดย Peter Allen ชายผู้ผ่านการทดสอบดังกล่าวมาแล้วกว่า 9 ปีว่า ถ้าคนขับแท็กซี่ไม่สามารถรู้เส้นทางและบริการลูกค้าได้อย่างประทับใจในทันที ภาพลักษณ์ของอาชีพก็จะดูแย่ แถมถ้าเกิดใช้ GPS เวลามีปัญหาเฉพาะหน้าแล้วไปช้าจะทำยังไง GPS ไม่ต้อง ทุกอย่างมันอยู่ในหัว ฉะนั้นคนที่มาขับแท็กซี่ดำจะต้องจดจำ 320 เส้นทางทั่วไปที่คนชอบไปในระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตรรอบลอนดอน ถนนกว่า 25,000 แห่ง และสถานที่น่าสนใจอีกกว่า 20,000 แห่ง ในกรุงลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม บ้านพัก สถานีตำรวจ ร้านค้าและอื่นๆ อีกมากมาย…
-
ร้ายกาจ… พ่อหนุ่มฟาร์มวัว อยากจะบอกแฟนว่ารักเหลือเกิน ก็ใช้แรงงานวัวช่วยบอกละกัน
เมื่อเรามีคนรักก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราอยากจะทำอะไรดีๆ ให้กับเขา รวมถึงอยากจะสร้างความประทับใจเพื่อให้เขานั้นมีความสุข ซึ่งเรื่องของการบอกรักก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี เราจึงเห็นได้ว่าคู่รักทั้งหลายนั้นต่างก็บอกรักกันบ่อยๆ เพื่อให้ชีวิตของแต่ละคนนั้นมีความกระชุ่มกระชวยเสมือนกับโลกเป็นสีชมพูเลยก็ว่าได้ ทว่าการบอกรักแบบธรรมดาๆ มันอาจจะธรรมดาเกินไปสำหรับชายคนนี้ เขาจึงเกิดไอเดียสุดบรรเจิดในการบอกแฟนสาวของเขา ด้วยการใช้วัวเป็นสื่อในการบอกรักซะเลย?? Madison และ Jordan คู่รักที่มาสร้างปรากฏการณ์ในครั้งนี้ เรื่องราวแสนชุ่มฉ่ำหัวใจได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับสาวที่มีชื่อว่า Madison อายุ 21 กับ Jordan Nitschke แฟนหนุ่มของเธอ ทั้งสองอาศัยอยู่ในรัฐนอร์ทดาโคตา ประเทศสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่กำเนิด และได้คบหากันมาเป็นเวลากว่าสองปีครึ่งแล้ว โดยตอนนี้ฝ่ายชายได้ทำงานอยู่ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งชื่อว่า Family Farm ในขณะที่ฝ่ายหญิงเพิ่งจะเรียนจบวิทยาลัยมาหมาดๆ และด้วยความจำเป็นบางอย่างก็ทำให้สองต้องอยู่ห่างกัน โดยมีระยะทางมาเป็นอุปสรรคมาขวางกั้นในความรักที่ทั้งคู่มีให้ต่อกัน ฝูงวัวน้อยที่มาเป็นตัวแทนบอกรักให้กับเขา แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความรักที่ทั้งคู่มีน้อยลงแต่อย่างใด หนำซ้ำมันยังทำให้มีความคิดถึงกันมากขึ้นด้วย เพราะถึงแม้ว่า Jordan จะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ใกล้ชิดกับวัวแทนที่จะเป็นแฟนสาวของเขา แต่ว่าเขาก็ยังคงส่งความคิดถึงไปหา Madison อยู่บ่อยๆ และไม่นานมานี้เขาก็ได้เกิดความคิดที่จะนำวัวมาใช้เป็นตัวแทนบอกความรู้สึกของเขาที่มีต่อหญิงสาวสุดสวยคนนี้อีกด้วย เป็นรูปหัวใจสวยใช่ไหมล่ะ “ผมคิดว่านี่เป็นวิธีที่เจ๋งทีเดียวเลย ผมจึงถ่ายภาพฝูงวัวที่เป็นหัวใจส่งไปหา Madison” Jordan กล่าว สำหรับการจะถ่ายภาพหัวใจให้ออกมาสวยงามนั้น Jordan…
-
หมู่บ้านอิตาลีเปิดขายบ้าน 30 บาท หวั่นประชากรหนีหาย และกลายเป็นเมืองรกร้างในไม่ช้า
เวลาที่เราจะซื้อบ้านหรือที่ดินสักแห่งหนึ่ง โดยปกติแล้วเราจะต้องมีเงินขั้นต่ำกันเป็นล้านบาทถึงจะสามารถซื้อได้ซึ่งเผลอๆ ได้แค่ที่เปล่าๆ ด้วยซ้ำ แต่เคยคิดไหมว่าจะมีคนขายบ้านหลังโตให้ในราคา 30 บาท เพียงขอให้เรามาอยู่ก็พอ!? หมู่บ้าน Ollolai ในประเทศอิตาลีได้ทำข้อเสนอให้คนจากทั่วโลกเข้ามาอาศัยยังหมู่บ้านดังกล่าวด้วยการขายบ้านในราคาเพียงแค่ 1 ยูโร (ประมาณ 38 บาท) เท่านั้น ถูกสุดๆ เลยใช่ไหมละ แต่ใช่ว่าเราจะสามารถซื้อบ้านหนึ่งหลังในหมู่บ้านดังกล่าวแล้วก็ปล่อยดองไว้เฉยๆ ได้หรอกนะ เพราะการซื้อบ้านราคา 1 ยูโรนี้มาพร้อมกับเงื่อนไขที่ว่า ถ้าคุณซื้อไปคุณจะต้องตกแต่งและซ่อมแซมมันใหม่ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี นอกจากนี้ คุณจะต้องใช้งบประมาณ์ขั้นต่ำ 30,000 ยูโร (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) ในการซ่อมแซมและถ้าคุณอยากจะขายต่อ คุณต้องรอ 5 ปีจึงจะสามารถทำได้…ส่วนถ้าใครสงสัยว่าแล้วทำไมต้องขายบ้านในราคานี้ด้วย คำตอบก็คือ เมืองนี้มันใกล้จะเป็นเมืองร้างแล้วยังไงละ ดูซะ เงียบเหงาขนาดไหน บ้านก็โทรมมากๆ ไม่มีคนดูแลเลย (จริงๆ มันสร้างยังไม่เสร็จด้วยซ้ำ) คุณอ่านไม่ผิดหรอก เพราะว่าภายในระยะเวลาไม่กี่ปีจากเดิมที่หมู่บ้าน Ollolai มีประชากรเหลือเพียง…
-
หญิงสาวตกหลุมรักกับชายหนุ่มโฮมเลสรูปงาม ช่วยดูแลจนสร้างครอบครัวที่ดีร่วมกัน
คุณเชื่อในโชคชะตาไหม? แล้วคุณเชื่อในรักแรกพบหรือเปล่า แน่นอนว่าหลายคนอาจจะหรือบางคนก็อาจจะไม่เชื่อ เพราะความรักที่ยืนยาวมักเกิดจากการเรียนรู้ซึ่งกันและกันรวมถึงการเข้าใจกัน แต่สำหรับเธอและหนุ่มคนนี้พวกเขากลับให้โชคชะตานำพาพวกเขาไป และมันก็ไปได้สวยซะด้วยสิ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 เมื่อตอนที่ Emmy Abrahamson หญิงชาวสวีเดนวัย 41 ปี มาที่เมืองอัมสเตอร์ดัมประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งที่นั่นและเป็นที่เธอได้บังเอิญเจอกับเข้า Vic Kocula ชายหนุ่มแปลกหน้าที่สวมเสื้อผ้ามอมแมมที่แสดงให้รู้ได้ทันทีว่า เขาคนนี้คือคนไร้บ้านที่นอนอยู่ตรงเก้าอี้สาธารณะใกล้ๆ แต่ด้วยคิ้วสีน้ำตาลอันทรงสเน่ห์ของเขา ทำให้วินาทีนั้น Emmy ได้ตกหลุมรักหนุ่มแปลกหน้าทันทีแม้จะไม่เคยพูดคุยกัน แน่นอนว่าหนุ่มก็รู้สึกเช่นเดียวกันจนทั้งคู่ตัดสินใจทักทายและพูดกันคุยกัน เชื่อไหมว่าวินาทีนั้นทั้งคู่เหมือนมีเคมีที่เข้ากันอย่างเหลือเชื่อ พวกเขาคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ จนกระทั่งทั้งสองตกลงกันว่าในสัปดาห์หน้าพวกเขาจะออกเดทกันโดยที่ Emmy จะกลับมาหาเขาบริเวณเก้าอี้ตัวเดิมที่ทั้งคู่เจอกัน ความรักของทั้งคู่เริ่มสุกงอมจนกระทั่งเวลาต้องแยกกันก็มาถึง Emmy เดินทางกลับเวียนนาในประเทศออสเตรีย ซึ่งเธอก็รู้สึกเศร้าๆ และคาดว่าเธอคงไม่ได้เจอกับ Vic อีกแล้ว… กลับกันในเวลาไม่กี่สัปดาห์ถัดมา Vic โทรหา Emmy พร้อมบอกว่าเขากำลังจะออกเดินทางเพื่อไปตามหาเธอที่ออสเตรีย และนับตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็ได้คบหากันจนเป็นคู่รักในที่สุด ใครจะเชื่อจากชายไร้บ้านที่ติดเหล้าจนตัวเองต้องลงไปอยู่ข้างถนน ได้บังเอิญพบกับหญิงชาวเมืองคนหนึ่งที่ไม่เคยคุยไม่รู้จักกัน แต่กลับตกหลุมรักกันอย่างไม่ตั้งใจจนเวลาผ่านไป 10 ปี ชีวิตของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล…
-
“โลกที่บรรจบกัน…” หนังสั้นแปลกตาพาเพลิน เอา ‘เส้นถนน’ มาฉายให้คุณรู้สึกฟิน
ว่ากันว่าทุกมุมหนึ่งของโลกมันจะมีพื้นที่สักแห่งหนึ่งที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน อาจจะไม่ร้อยเปอร์เซนต์แต่ก็เหมือนจนขนาดที่เราสามารถค่อยๆ เอาภาพทั้งหมดมาประกอบเข้าด้วยกันได้เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ Gerco de Ruijter ช่างภาพและนักทำภาพยนตร์มากฝีมือชาวเยอรมัน จึงได้ใช้ไอเดียดังกล่าวมาสร้างสรรค์ผลงานหนังสั้นของเขา โดยการรวบรวมถนนที่มีลักษณะคล้ายกันจากทั่วสหรัฐอเมริมาเป็นภาพๆ เดียว ซึ่งเขาบอกว่าถนนในอเมริกาจะมีแนวทางการวางผังที่เหมือนกันคือใช้ระบบเส้นกริด ฉะนั้นผลงานของเขาจึงเกิดขึ้นมาได้ไม่ยากเลย ในตัวหนังสั้นนั้นเราจะเห็นภาพมุมสูงของถนนมากมายที่ค่อยๆ ไหลมาบรรจบกัน จากเส้นแนวนอนกลายเป็นเส้นแนวตั้งจากนั้นก็ผสมผสานกลายเป็นเส้นโค้ง ซึ่งมันดูเพลินตามากๆ เลยทีเดียว โดยเขาตั้งชื่องานชิ้นนี้ว่า Grid Corrections ผลงานหนังสั้นดังกล่าวของ Gerco นั้นจะถูกนำไปฉายที่งานเทศกาลดนตรี Grasnapolsky ซึ่งจะจัดขึ้นในวัน 2 ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2018 ที่จะถึงนี้ในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า Radio Kootwijk ประเทศเนเธอร์แลนด์ ลองดูคลิปเต็มๆ ของเขาหน่อยเป็นไง โดยตัวคลิปนั้นมีความยาว 1 นาที แต่กว่าจะสร้างมาได้คงใช้เวลานานกว่า 1 นาทีชัวร์ๆ Grid Corrections (a one minute)…
-
มหากาพย์โจรกรรม ‘ส้ม’ 4,400 กิโล เนียนยัดใส่รถ 3 คันหลบตำรวจ แต่ไม่รอดหร๊อกกก
ก่อนจะทำการโจรกรรมพวกโจรก็คงจะวางแผนกันเป็นอย่างดีแล้ว เพื่อจะทำให้ตัวเองรอดพ้นจากเงื้อมมือของความยุติธรรมไปได้ หรือพูดอีกอย่างก็คือจะได้ไม่โดนตำรวจับเข้าตารางนั่นแหละ โจรขโมยส้มกลุ่มนี้เองก็เช่นกัน เมื่อคิดการใหญ่จะขโมยส้มมากถึง 4.4 ตัน ( 4,400 กิโลกรัม) ถ้าจะขนส้มกันไปเป็นลังหรือใช้รถใหญ่ก็คงจะเตะตาเกินไป พวกเขาเลยหัวใสยัดส้มทั้งหมดลงในรถยนต์เล็กๆ 3 คันแทน จะได้ไม่เป็นที่สังเกต แต่คงขาดประสบการณ์ปล้นเลยเหวอตอนเจอตำรวจซะงั้น โจรกลุ่มนี้ร่วมกันขโมยส้มมาจากเมืองใกล้เคียงเมืองหนึ่ง จากนั้นจึงขับรถมายังบริเวณจังหวัด Sevile ประเทศสเปน โดยพวกเขาขับรถตามกันมา 2 คันอย่างใกล้ชิดผิดปกติ คงเป็นเพราะกลัวว่าจะหลงกับรถของเพื่อนนั่นแหละ พวกเขาคงคิดว่าขโมยส้มใส่รถไว้แบบนี้มันแนบเนียนดีแล้ว คงไม่มีใครเรียกรถไปสุ่มตรวจมั่วๆ หรอก แต่เมื่อพวกเขาเจอตำรวจระหว่างทางก็ดันตื่นตระหนกกลัวตำรวจจับขึ้นมา ก็เลยหักเลี้ยวเปลี่ยนทางแบบกระทันหันซะงั้น พอพี่ตำรวจเห็นรถของพวกเขาขับมีพิรุธขนาดนี้แล้ว จะไม่ให้สงสัยได้ยังไงกัน ตำรวจก็เลยชวนกันขึ้นรถแล้วซิ่งไล่ตามรถน่าสงสัยทั้ง 2 คันนั้นทันที ขับไล่ตามไปได้ไม่นานตำรวจก็สามารถดักรถทั้ง 2 คันไว้ได้ทัน หลังจากเรียกลงมาสอบปากคำก็เลยพบว่ารถคันแรกนั้นมีคู่รักชายหญิงและลูกชายวัยทำงานนั่งอยู่ ส่วนอีกคันหนึ่งนั้นมีพี่ชายและน้องชายนั่งอยู่ด้วยกัน แต่ที่ตำรวจต้องตกใจก็คือนอกจากคนแล้ว ทั้งสองคันรถนั้นเต็มไปด้วยส้มจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว เมื่อเห็นว่ามีส้มเยอะผิดปกติขนาดนี้ ตำรวจก็เลยสงสัยเป็นธรรมดาว่าไปขโมยส้มที่ไหนมาหรือเปล่า จึงได้ถามโจรกลุ่มนี้ว่าไปเอาส้มเหล่านี้มาจากไหน แน่นอนว่าจะยอมรับง่ายๆ ว่าไปขโมยมามันก็ไม่ใช่เรื่อง หนึ่งในกลุ่มโจรจึงตอบไปว่าพวกเขาเจอส้มพวกนี้หล่นอยู่ระหว่างทาง ก็เลยช่วยกันเก็บส้มมาเพื่อที่จะเก็บเอาไว้กินด้วยกันที่บ้านแค่นั้นเอง โอ้ยยย…
-
คุณแม่ถ่ายภาพลูกๆ แฝด 2 ผู้พี่ และน้องๆ แฝด 3 กับการเลี้ยงลูกแสนสนุก ไม่มีเบื่อ
ในยุคปัจจุบันนั้น คนยุคใหม่มักจะเริ่มเบื่อหน่ายกับการมีลูก เพราะพวกเขาคิดว่าการเลี้ยงลูกมันน่าเบื่อหรืออาจจะเพราะความไม่พร้อมของพวกเขา แต่สำหรับคุณแม่ยังสาวชาวญี่ปุ่นคนนี้กลับมองแตกต่างออกไป… Sachina คือคุณแม่ที่มองมุมกลับ โดยเธอได้มองหากิจกรรมสนุกๆ ทำกับลูกของเธอ โดยการให้พวกเขาแต่งตัวในแฟชั่นแบบต่างๆ และด้วยความที่เธอมีลูกชายคนโตเป็นแฝด 2 ลูกชายคนเล็กเป็นแฝด 3 ความสนุกมันก็เลยทวีคูณสุดๆ ดูสิ ครอบครัวหรรษา กับการแปลงร่างเป็นมินเนี่ยน แฝดคนโตทั้งสองคนอายุ 7 ขวบ ส่วนแฝดน้องทั้งสามอายุ 4 ขวบ หลายคนอาจจะสงสัยว่า สรุปน้องหนูแฝด 3 นั้นเป็นหญิงหรือชายกันแน่เพราะผมที่ยาวของพวกเขา แต่เชื่อเหอะว่าน้องหนูทั้งสามเป็นผู้ชายนะฮะ ทั้งหมดมีเสื้อผ้าที่ไว้แต่งให้เข้ากันเยอะแยะ เรียกว่าใส่ได้ไม่มีเบื่อเลย แม่ชอบแต่งตัว ฉะนั้นความเป็นแฟชั่นจึงถ่ายทอดมาสู่ลูกๆ คุณพ่อก็ดูจะเป็นคนมีความสามารถเหมือนกันนะ ถึงทำให้คุณแม่คลอดลูกแฝดออกมาติดกันได้แบบนี้ น่ารักกันจริงๆ เลยให้ตายสิ การแต่งตัวของคุณแม่ก็เฟี้ยวสุดๆ เลยนะเนี่ย ภาพนี้ดูแล้วหยั่งกับดูกระจกเลย แต่จริงๆ ไม่ใช่ อยากจะรู้จริงๆ ว่าถ้าทั้งหมดโตมาจะเป็นยังไง…
-
คุณแม่เคลม ลูกสาวหายจาก ‘โรคลมชัก’ เพราะทานอโวคาโดมากกว่า 1,000 ลูก!?
อาการชักเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในกลุ่มเด็กทารก เมื่อโตมาเด็กส่วนใหญ่ก็จะหายจากอาการนี้ไปตามปกติ แต่ถ้าเด็กคนไหนเกิดอาการชักบ่อยผิดปกติแม้ว่าจะโตมาแล้วก็ยังเป็นอยู่ ก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาน่าจะเป็นโรคลมชัก เด็กสาว Leafy Liu จากประเทศอังกฤษก็เป็นหนึ่งในเด็กที่เป็นโรคลมชักเช่นกัน แต่อาการของเธอนั้นแย่มากจนเห็นได้ชัด เธอเคยเป็นลมชักบ่อยถึงวันละ 60 ครั้งเลยทีเดียว และพวกเขาก็ไม่อยากพึ่งยาจากหมอด้วย เพราะกลัวว่าจะทำให้เธอมีอาการข้างเคียง แต่โชคดีที่พ่อแม่ของเธอค้นพบวิธีรักษาเธอแบบใหม่ได้ทัน โดยการให้เธอกินอะโวคาโดซึ่งเป็นการทานอาหารแบบคีโต จากนั้นเด็กสาวก็เกือบหายเป็นปลิดทิ้ง สาวน้อย Leafy Liu สาวน้อยคนนี้เป็นลูกของ Claire คุณแม่วัย 39 ปีและ Justin Liu คุณพ่อวัย 45ปี ครอบครัวของพวกเขาอาศัยอยู่ในเมือง Loughborough เขต Leicestershire ประเทศอังกฤษ อาการชักของสาวน้อยเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอมีอายุได้ 6 เดือน ตอนนั้นเธอชักนาน 25 นาทีเลย พ่อแม่ของเธอต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลและรับยาจากหมอถึงจะหายชักได้ พวกเขาหวังว่าอาการชักของเธอจะเป็นแค่การป่วยเท่านั้น หากว่าเธอชักบ่อยจนถึงขั้นเป็นโรคลมชักเธอต้องมีชีวิตที่ยากลำบากแน่ๆ ทว่าหลังจากนั้นเพียง 3 อาทิตย์เธอก็มีอาการชักอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็จะชักทุก 3 อาทิตย์ แถมอาการยังมาถี่มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย Clair Liu และ Justin…
-
ชมบรรยากาศหมู่บ้านแมวตัวอ้วน ที่ขนต้องฟูฟ่องขนาดนี้ พี่ก็มีเหตุผลนะ ไม่ได้อ้วนเล่นๆ…
หมู่บ้าน Prigorodny หมุู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของไซบีเรีย หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในนาม Koshlandia หรืออาณาจักรของแมวเหมียว สาเหตุที่ได้รับฉายานี้ก็เพราะว่าทั้งหมู่บ้านนั้นมีแต่แมวเต็มไปหมด แต่กว่าจะมาเป็นหมู่บ้านแมวนี้มันก็มีความเป็นมา เริ่มต้นมาจากที่คุณ Alla Lebedeva เจ้าของฟาร์มแมวเริ่มรับเลี้ยงแมวไซบีเรียตัวแรกชื่อว่าเจ้า Babushka ในปีต่อมาเจ้าแมวตัวนี้ได้ให้กำเนิดลูกแมวอีก 5 ตัว หลังจากนั้นก็แพร่พันธุ์ไปเรื่อยๆ จนเต็มหมู่บ้าน เยอะแยะเต็มไปหมดทั้งโรงนา โรงเก็บของ โรงจอดรถ สวัสดี ยินดีต้อนรับเข้าหมู่บ้านนะเจ้ามนุษย์ ความน่ารักของแมวทั้งหลายที่แต่ละตัวนั้นต่างก็เป็นเจ้าแมวอ้วนขนปุยน่ากอด จึงได้มีคนมาเยี่ยมเยียนและถ่ายรูปของพวกมันออกไปลงในโลกโซเชียลจนกลายเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาเหล่าคนรักแมวทั้งหลาย ดูความน่ารักของเจ้าอ้วนเหล่านี้สิ Alla บอกว่าตอนที่มีคนนำภาพของแมวเหล่านี้ออกไปเผยแพร่จนมันกลายเป็นไวรัลที่โด่งดังไปทั่วอินเตอร์เน็ต เธอก็รู้สึกแปลกใจมาก ใครบางคนนำภาพที่เธอถ่ายไปเผยแพร่โดยไม่ให้เครดิต และแมวเหล่านี้ก็ได้รับการรู้จักในนามของแมวนอร์เวย์ ปกติแล้วแมวที่อาศัยใน Koshlandadia แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่ชอบออกไปล่าสัตว์กับแมวที่ชอบอยู่ติดบ้าน กลุ่มแรกนั้นมันจะออกไปท่องเที่ยวเป็นเวลาหลายเดือนกว่าจะกลับบ้าน แต่กลุ่มที่สองจะคอยล่าหนูในหมู่บ้านแทน ที่หมู่บ้านนี้แมวทุกตัวจะสามารถเดินไปไหนมาไหนก็ได้ มีอิสระสุดๆ แตกต่างจากเหล่าแมวที่อยู่ในเมืองและต้องอยู่ในอพาร์ทเมนต์แคบๆ สาเหตุของการมีความน่ารักปุกปุยและความอ้วนของของเจ้าแมวเหล่านี้ก็คือ ที่หมู่บ้านนี้หนาวมากจึงต้องมีไขมันหนาๆ กับขนฟูฟ่องไว้ปกป้องร่างกายนั่นเอง ถึงพี่จะอ้วนพี่ก็กอดอุ่นนะน้อง…
-
วินาทีเลือกทาส!! จะเป็นเจ้าของชีวิตมนุษย์ต้องผ่านพิธีกรรมอย่างไร เดี๋ยวมิ้วจะแสดงให้ดู…
เคยได้ยินแต่สุภาษิตที่ว่า กบเลือกนาย แต่วันนี้ #เหมียวบู้บี้ เพิ่งจะรู้ว่ามีคำว่า แมวเลือกทาสด้วย จากชายที่ชื่อ Justin LaRose ที่ได้มาเผยความเป็นมาของเจ้า Glizzly โอ้โห แค่ชื่อก็น่ากลัวแล้ว และนี่คือเจ้า Glizzly ฮ่าๆๆ เขาพบเจอมันอยู่แถวร้านขายไม้ของเขาในรัฐแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าแมวน้อยสีดำแต่ใบหน้าดูเกรี้ยวกราดกำลังจะขโมยอาหาร พอเขาทักทายมัน เจ้าแมวเดินตรงเข้ามาหาเขาอย่างเอาเรื่อง สภาพของมันตอนนั้น มันดูเหมือนหิวมากๆ เขาจึงเดินไปซื้ออาหารแมวจากร้านขายของแถวนั้นมาให้มัน จากการสอบถามคนที่อยู่แถวนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าแมวตัวนี้มาจากไหน เขาจึงนำตัวมันมาที่ร้านไม้ของเขา “มันไม่กลัวมอเตอร์หรือเสียงจากการไสไม้ในร้านเลย มันชอบเฝ้ามองดูผมทำงาน บางครั้งก็ลงมาคุมงานเองเลยด้วยการนั่งบนบ่า” Justin กล่าว เจ้า Glizzly มันขี้เล่นมาก มันเป็นแมวที่มีความสุขได้กับสิ่งของไร้สาระ เช่นถุงกระดาษเปล่า มันเป็นแมวที่มีพลังเยอะมาก ไม่ค่อยยอมหลับยอมนอน เอาแต่จะเล่นอย่างเดียว บางครั้งมันก็เดินสำรวจร้านไม้ไปทั่ว แถมยังเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมงานในร้าน แต่สิ่งที่มันชอบสุดๆ นั่นก็คือการนั่งบนไหล่แล้วสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว เขาไม่คิดว่าวันหนึ่งเจ้าแมวสีดำที่เขาช่วยเหลือมันมาจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต กลายเป็นเสียงหัวเราะและทำให้เขามีความสุขมากขนาดนี้…
-
ลูกสาวไม่สบายใจ คุยกับขุ่นพ่อเพื่อระบายออกมา พ่อก็คุยอย่างกับเป็นเพื่อนสาวอีกคนแหนะ…
นี่คือเรื่องราวของสาวที่ชื่อว่า Kiera อายุ 25 ปี ชาวเมือง Long Beach รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ออกมาเม้าท์คุณพ่อออกทางทวิตเตอร์กับความเป็นกันเองของคุณพ่อที่ดูแล้วน่ารักสุดๆ เธอกับคุณพ่อ Mitch Platt สนิทกันมากๆ เธอสามารถพูดได้เต็มปากว่าพ่อคือเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เธอมักจะนำเรื่องราวปัญหาชีวิตไประบายให้คุณพ่อฟัง และคุณพ่อก็รับรู้ทุกอย่าง เธอยกตัวอย่างเหตุการณ์ล่าสุดนั้นก็คือ เธอมีเรื่องกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอจึงส่งข้อความไปบอกพ่อเพื่อบ่นระบายความหงุดหงิด แต่สิ่งที่พ่อตอบกลับมานั้นอ่านดูแล้วนึกว่าเพื่อนสาวคุยกัน เธอส่งข้อความบอกว่า “วันนี้กลับบ้านเร็วหน่อยนะคะ ปัญหาชะนีน่ะ ตอนนี้หนูกำลังนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง” คุณพ่อจึงได้ตอบกลับว่า “อู้วววว ชะนีนางไหนทำให้ลูกสาวพ่อเป็นแบบนี้นะ ให้พ่อไปคุยกับอีนั่นให้ไหม?” เธอบอกว่า ทุกครั้งที่เธอมีปัญหา ก็มีแต่พ่อเนี่ยแหละที่ทำให้เธอได้หัวเราะออกมาเสมอ เจ้าพ่อแห่งการยิงมุกก็พ่อเนี่ยแหละ ตอนที่เธอเป็นวัยรุ่นเธอเคยอายที่มีพ่อเล่นตลกมุกฝืดๆ แต่ตอนนี้เธอกลับภูมิใจและรักในสิ่งที่พ่อทำให้เธอ นอกจากนี้คุณพ่อก็มักจะใช้ศัพท์วัยรุ่นกับเธอเป็นประจำ อย่างเช่น เธอทักทายคุณพ่อไปในตอนเช้า และก็ได้รับคำตอบกลับน่ารักๆ มาว่า “Fuck you” บางครั้งก็มีคำสอนที่จริงจัง “บางครั้งก็รู้สึกว่าโลกใบนี้น่ากลัว” บางทีก็งอนง้อกันตามประสาพ่อลูก บางครั้งก็มิวายขอยิงมุกฝืดๆ…
-
คุณแม่เน็ตไอดอล โชว์สกิลแต่งหน้าแปลงโฉมเป็นใครก็ได้บนโลกใบนี้
คนเราเกิดมาต่างก็ต้องมีความสามารถพิเศษอะไรสักอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ด้านสติปัญญา ด้านเทคนิคการใช้ชีวิต หรือด้านศิลปะ Yan Xiuji คุณแม่ลูกสองชาวเมือง Suqian มณฑล เจียงซู ประเทศจีน ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ฝึกฝนตัวเองจนมีความสามารถในการแต่งหน้าระดับเทพ และสามารถใช้มันหารายได้หรือสร้างให้ตัวเองมีชื่อเสียงได้ คุณแม่ลูกสองอายุ 29 ปีคนนี้มีผู้ติดตามบัญชี Weibo ชื่อ Baibian Aixiu ของเธอมากกว่า 500,000 คน เธอบอกว่า เธอเริ่มทำการถ่ายทอดสดการแต่งหน้ามาได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว แต่กว่าที่เธอจะแต่งหน้าเก่งในระดับเทพแบบนี้ เธอต้องฝึกฝนลองผิดลองถูกหลายครั้ง ทุกๆ เช้า เธอจะตื่นขึ้นมาฝึกแต่งหน้าเลียนแบบคนดังต่างๆ ก่อนที่จะมาถ่ายทอดสดให้ผู้คนเห็นตอนเวลาประมาณ 19.00 น.-21.00 น. . ในการแต่งหน้าแต่งละครั้งเธอจะใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงกว่าที่จะเนรมิตตัวเองให้เหมือนกับคนดังในวงการบันเทิง โดยส่วนมากแล้วจะมีผู้ที่เข้าชมการถ่ายทอดสดประมาณ 50,000 คน การแต่งหน้าของคุณแม่เน็ตไอดอลท่านนี้เธอจะแต่งหน้าเพียงแค่ครึ่งเดียวเพื่อเปรียบเทียบกับอีกข้างหนึ่งของเธอ และกับรูปภาพของคนดังที่เธอแต่งหน้าตาม คุณแม่กล่าวว่า…
-
ระยะทาง 40,000 กม. กับเวลา 1ปี ตากล้องกลับมาพร้อมภาพชนพื้นเมืองไซบีเรีย จากดินแดนอันกว้างใหญ่
เพื่อนๆ จำ Alexander Khimushin ตากล้องที่ใช้เวลา 6 เดือนเดินทางเก็บภาพชาวพื้นเมืองของของไซบีเรีย ด้วยระยะทางกว่า 25,000 กม. ได้กันมั้ย เขาได้กลับมาแล้ว โดยใช้เวลาเพิ่มไปเป็นหนึ่งปีเพื่อให้ได้มาซึ่งภาพของเหล่าชนพื้นเมืองในพื้นที่ต่างๆ เค้านั้นขับรถ SUV คนเดียวด้วยระยะทางร่วมกว่า 40,000 กิโลเมตร และได้พบเจอกับสถานที่ต่างๆ ในไซบีเรีย ตั้งแต่ทะเลสาบ Baikal ไปถึงชายฝั่งของทะเลญี่ปุ่น จากที่ราบอันไม่มีที่สิ้นสุดของมองโกเลียไปจนถึงที่ที่หนาวที่สุดในโลกอย่าง Yakutia เหตุผลเดียวที่เค้ายอมเดินทางอย่างยากลำบากซึ่งเจอทั้งทางโหดๆ สภาพอากาศที่โหดร้าย ในครั้งนี้ก็เพื่อให้ได้มาซึ่งรูปถ่ายชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นๆ โดยเค้าให้เหตุผลไว้ว่า “ขณะที่คนกลุ่มเล็กๆ บางกลุ่มนั้นได้กุมอำนาจในประเทศนั้นๆ แต่ชนกลุ่มน้อยอีกหลายกลุ่มกลับแทบจะไม่มีตัวตน ด้วยประชากรในกลุ่มที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อย จนถึงปัจจุบันพวกเขาก็ยังไม่เป็นที่รู้จักจากโลกภายนอกด้วยซ้ำ” ทำให้เค้าอยากที่จะนำเสนอชนกลุ่มเล็กๆ นี้ ให้คนทั้งโลกได้เห็น Alexander Khimushin ยอมลงทุนลำบากขนาดนี้แล้ว เพื่อนๆ จะไม่ยอมไปดูผลงานที่เขาหามาให้เราได้ชมกันเหรอ แน่นอนว่า #เหมียวฝึกหัด ต้องนำผลงานพวกนั้นมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันอยู่แล้ว ไปชมกันเลยครับ เด็กหญิงชาว Even ผู้หญิงชาว Sakha หญิงชราชาว Dukha เด็กสาวตัวน้อยชาว Ulchi หนุ่มชาว Oroqen…
-
เสือสาวหนีจากป่า สู่ย่านที่อยู่ของมนุษย์ เพื่อขอความช่วยเหลือ หนูอยากเจอหมอฟัน
เสือเป็นนักล่าตามธรรมชาติ ถ้าหากคุณเจอเสือมานอนอยู่หน้าบ้านล่ะก็คงต้องรู้สึกหวาดผวาเป็นธรรมดา คงคิดว่ามันออกมาล่าตัวเองเป็นอาหารแน่ๆ แต่ที่ไหนได้เจ้าเสือสาวตัวนี้กลับเข้ามาขอความช่วยเหลืออย่างเป็นมิตรต่างหาก เสือสาวที่ว่านี้ถูกพบที่หมู่บ้าน Solontsovy เมือง Khabarovsk ประเทศรัสเซีย มันเป็นเสือสายพันธุ์ไซบีเรียที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เต็มที ในตอนนี้มีเหลืออยู่บนโลกเพียงประมาณ 500 ตัวเท่านั้น Galina Tsimarno หญิงสาวที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นเล่าว่าคนที่พบเสือตัวนี้ก็คือ Alexey Khaideyev เพื่อนบ้านหนุ่มของเธอ เธอเล่าว่า “เขาอาศัยอยู่กับภรรยาและคุณแม่ในแถบชานเมืองซึ่งอยู่ติดกับป่าและแม่น้ำ วันที่เจอมันเขากำลังจะออกไปเดินเล่นข้างนอก แต่เปิดประตูบ้านออกไปไม่ได้เนื่องจากมีอะไรบางอย่างขวางประตูอยู่ … พอเขาได้ยินเสียงมันครางเขาก็เลยรีบปิดประตูบ้านให้สนิทแล้วโทรเรียกหน่วยกู้ภัยทันที พวกเขารออยู่ในบ้านทั้งวันจนหน่วยกู้ภัยมาถึงที่นั่น เจ้าเสือเองก็ไม่ขยับไปไหนเลย” เมื่อหน่วยกู้ภัยมาถึงก็พบว่าเจ้าเสือนอนนิ่งอยู่หน้าบ้านของชายหนุ่มอย่างอ่อนแรง พวกเขาจึงรีบส่งมันไปให้กับศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ในหมู่บ้าน Alekseevka เขต Primorsky ทันที หลังจากสัตวแพทย์ตรวจร่างกายเสือตัวนี้แล้วก็พบว่ามันไม่ได้มีบาดแผลทางร่ายกายใดๆ เลย แต่มันมีปัญหาช่องปากร้ายแรงมาก Sergey Aramilev ผู้อำนวยการของศูนย์ดูแลเสือ Amur Tiger Centre เล่าว่า “มันดูเหนื่อยล้ามาก มันนอนนิ่งๆ จนน่าแปลกใจ เหมือนรอให้เรามาช่วยอย่างนั้นแหละ ถึงจะไม่มีบาดแผลบนร่างกายเลย แต่ว่าปัญหาในช่องปากของมันดูน่าเป็นห่วงและต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน” แม่เสือสาวตัวนี้ไม่มีฟันบนเลยสักซี่ แถมยังมีสุขภาพเหงือกด้านล่างไม่ดีอีกต่างหาก คนที่ตรวจมันคาดว่ามันคงจะอ่อนแรงเนื่องจากกินอาหารไม่ค่อยได้นั่นเอง อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือมันก็ไม่ได้ง่ายเลย Aramilev อธิบายว่า “สถานการณ์ของมันน่าเป็นห่วงมาก สภาพร่างกายของมันค่อนข้างอ่อนแอ…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นจัดอันดับ 10 ตัวละครที่เป็นเหมือนตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศต้นตำหรับของการ์ตูน อนิเมะ และวิดีโอเกม ซึ่งประเทศนี้ใส่ใจทุกรายละเอียดเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เราจึงมักจะเห็นญี่ปุ่นได้สร้าง มาสคอต ให้อะไรหลายๆ ไม่ว่าจะเป็นมาสคอตประจำจังหวัด มาสคอตของของกิน และอีกมากมาย แต่ว่าถ้าพูดถึงมาสคอตที่จะให้เป็นตัวแทนประเทศญี่ปุ่นล่ะ เพื่อนๆ จะคิดถึงตัวละครตัวไหนกันนะ ซึ่งวันนี้ชาวเน็ตญี่ปุ่นก็ได้ทำการสำรวจว่าหากพูดถึงญี่ปุ่นเค้าจะนึกถึงตัวละครอะไรเป็นตัวละครแรก โดยวันนี้ #เหมียวฝึกหัด จะทำการนำ 10 ตัวละครยอดฮิตที่ชาวเน็ตญี่ปุ่นอยากให้เป็นตัวแทนประเทศมาให้เพื่อนๆ รับชมกัน 10. Sailor Moon “ตัวแทนแห่งดวงจันทร์ จะลงทัณฑ์แกเอง” เป็นคำพูดที่ติดหูเวลาที่เซเลอร์มูนออกมาจัดการกับเหล่าร้าย เซเลอร์มูนถือว่าเป็นฮีโร่หญิงคนแรกๆ ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งจุดเด่นของเธออยู่ที่ชุดกะลาสีและอาวุธสุดน่ารักนั่นเอง 9. Godzilla หากเซเลอร์มูนนั้นแสดงถึงความน่ารักแล้วล่ะก็ ก็อดซิลล่าก็แสดงถึงส่วนของความรุนแรงในวัฒนธรรมญี่ปุ่น เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้โผล่ขึ้นจากทะเล มาพังเมืองโตเกียวได้ถึงกว่า 60 ปีแล้ว แถมยิ่งสร้างภาคใหม่ๆ ยิ่งตัวใหญ่ขึ้นด้วยนะเจ้านี่ 8. Gundam ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 40 ปี มีหลากหลายภาค ของเล่นเต็มบ้านเต็มเมือง ทำให้กันดั้มกลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่หากพูดถึงญี่ปุ่นล่ะก็ต้องคิดถึงมันแน่ๆ เพราะมันน่าจะเป็นตัวละครแนวหุ่นยนต์ที่เป็นที่นิยมที่สุดในโลกก็ว่าได้ 7. Totoro ตัวละครน่ารักสุดฮิตจากเรื่อง…
-
นั่งเล่นเกมยาว 20 ชั่วโมง วันต่อมาถึงกับต้องเรียกรถพยาบาล เพราะท่อนล่างขยับไม่ได้แล้ว
ยุคนี้เป็นยุครุ่งเรืองของวงการเกมเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมีคนเล่นเกมจำนวนมากทั้งบนโทรศัพท์มือถือและบนเครื่องเล่นประเภทต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้เกมออนไลน์ก็ถูกบรรจุลงเป็นกีฬาแข่งขันซึ่งเรียกว่า eSports ด้วย ในทางกลับกันการที่มีคนเล่นเกมเพิ่มเป็นจำนวนมากก็ทำให้ควบคุมพฤติกรรมการเล่นได้ยากด้วย อย่างปัญหาที่แก้ไม่หายมาตลอดหลายปีนี้ก็คือปัญหาติดเกมนั่นเอง ล่าสุดก็มีชายจีนติดเกมมาก เล่นเกมยิงยาวข้ามวันไม่ยอมลุกไปไหนจนร่างกายท่อนล่างชาไปเลย ชายนิรนามคนดังกล่าวเข้าไปเล่นเกมในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แห่งหนึ่งในแถบ Jiaxing มณฑล Zhejiang เขาเริ่มเล่นเกมตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมาจนถึงเวลาช่วงบ่ายของวันถัดมาเลยทีเดียว ในช่วงบ่ายวันที่ 28 มกราคมขณะที่เขากำลังจะพักจากการเล่นเกมไปเข้าห้องน้ำ เขาถึงเพิ่งรู้ตัวว่าร่างกายช่วงล่างของเขาชาจนไม่มีความรู้สึกอะไรเลย เขาจึงลุกขึ้นยืนเองไม่ได้ เพื่อนที่เล่นเกมอยู่ข้างๆ กันเห็นดังนั้นจึงเรียกรถพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือทันที เพื่อนคนหนึ่งของเขาให้สัมภาษณ์ว่า “ดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสียความรู้สึกช่วงล่างไปทั้งหมด เขาขยับขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย พวกเราก็เลยจำเป็นต้องเรียกรถพยาบาลมา” จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าชายที่ใส่เสื้อกันหนาวสีน้ำตาลไม่สามารถลุกขึ้นยืนเองได้ เขาต้องให้เพื่อนและหน่วยกู้ภัยช่วยพยุงตัวลงไปนอนบนเปล แม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่ระบุว่าเกมที่เขาเล่นในวันนั้นเป็นเกมอะไร แต่ก็เห็นได้ชัดว่าปัญหาติดเกมในประเทศจีนนั้นค่อนข้างรุนแรงมากเลยทีเดียว เมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งมีข่าวว่าเด็ก 10 ขวบจากประเทศจีนโอนเงินจำนวน 150,000 หยวน (ประมาณ 743,000 บาท) จากบัญชีของแม่ไปเติมเกมส์ทั้งหมดเลย แม้ว่านั่นจะเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายที่แม่ของเขาเอาไว้รักษาโรคมะเร็งให้เขาเองก็ตาม (อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ) ทางประเทศจีนเองก็เคยพยายามออกมาแก้ไขปัญหาเด็กติดเกมแล้ว โดยจัดทำค่ายอบรมแบบทหารขึ้น ซึ่งอ้างว่าจะใช้การอบรมทางด้านจิตวิทยาผสมผสานกับการฝึกร่างกายเพื่อให้เด็กเลิกติดเกมให้ได้ ทว่าค่ายอบรมนั้นก็ถูกกระแสตีกลับว่ามีการใช้ความรุนแรงเกินเหตุ เมื่อปี 2017…
-
จะใช้อะไรวาดก็ได้ แต่ไม่ใช่ EXCEL แบบนี้ มันใช้ทำงานตารางนะโว้ยยย…
การที่ศิลปินจะสร้างสรรค์ภาพวาดซักภาพหนึ่ง มีหลากหลายวิธีที่จะสร้างสรรค์มันออกมา ไม่ว่าจะเป็นการวาดด้วยมือหรือใช้โปรแกรมในคอมอย่าง SAI หรือ Photoshop ช่วยเป็นต้น แต่ว่าศิลปินที่เราจะเสนอวันนี้ใช้โปรแกรมที่สามัญกว่านั้น คือ Microsoft Office Excel นี่สิ!? โดยปกติเราจะใช้โปรแกรม Excel ในการจัดตารางบันทึกค่าต่างๆ อะไรประมาณนี้ แต่ศิลปินท่านที่พูดถึง ซึ่งใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @Maruraba_2 กลับไม่มองมันเป็นแค่โปรแกรมจัดตาราง สำหรับเขามันคือเครื่องมือในการสร้างสรรค์ศิลปะชั้นยอด Miho Nishino จากอนิเมะเรื่อง Girls und Panzer คือผลงานล่าสุดที่เขาแชร์ลงในทวิตเตอร์ และแน่นอนว่ามันไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เค้ายังมีผลงานต่างๆ อีกมากมาย เราจะยกตัวอย่างมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ Izumi Sagiri จากอนิเมะเรื่อง Eromanga Sensei Tedeza Rize จากอนิเมะเรื่อง Gochuumon wa Usagi desu ka?? Tsuchinoko จากอนิเมะเรื่อง Kemono Friends Toshinou Kyouko จากอนิเมะเรื่อง Yuriyuri มาแบบแพ็คคู่ Sakuranomiya Maika…
-
มนุษย์เจอก้อนขนสีดำๆ อยู่ข้างบ้าน ที่ไหนได้เป็นมิ้วน้อย เลยรับมาเลี้ยงซะเลย
Sandi Zani ผู้อยู่อาศัยในเมืองเพนซาโคลา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ยินเสียงงุ้งงิ้งเล็กๆมาจากสวนของเธอ ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นเสียงของนก แต่ที่ไหนได้ ดันเป็นเจ้ามิ้วตัวเป็นก้อนขนกลมๆ กำลังร้องและหายใจอยู่เบาๆ ช่วงเดือนมิถุนายนเมื่อปีก่อน Sandi ก็ได้ยินเสียงร้องของเจ้ามิ้วน้อย เธอบอกว่า “เมื่อฉันได้ยินเสียง ฉันก็รีบออกไปตามหาทักที และได้พบกับเจ้าก้อนขนปุยกลมๆ สีดำอยู่ข้างๆ ดอกกุหลาบที่ฉันปลูกไว้อยู่” เธอไม่รู้ว่าเจ้าเหมียวนี้มาจากไหน เพราะว่าสวนของเธอนั้นมีรั้วล้อมรอบอยู่ แต่สิ่งที่เธอรู้อย่างเดียวตอนนั้นก็คือเจ้าเหมียวตัวนี้ต้องได้รับการดูแลอย่างทันที Sandi ได้สร้างที่นอนชั่วคราวให้กับเจ้ามิ้วน้อยด้วยกล่องกระดาษและผ้าขนหนูอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเธอก็รีบออกไปที่ร้านค้าเพื่อหาซื้อนมสำหรับลูกแมวเพื่อนำมาเลี้ยงเจ้าก้อนขนตัวน้อย ในคืนนั้น บ้านของเธอก็เต็มไปด้วยเสียงร้องงุ้งงิ้ง และเธอก็ต้องตื่นขึ้นมาทุก 2 ชั่วโมงเพื่อป้อนนมให้กับมัน เธอได้ตั้งชื่อให้มันว่า Kieran Von Fluffypaws ทางคลินิกสัตว์เลี้ยงบอกว่ามันมีอายุประมาณ 2 สัปดาห์ และต้องการความดูแลและให้อาหารตลอด 24 ชั่วโมง Sandi จึงได้ให้ Kimberly เพื่อนของเธอมาช่วยเลี้ยงเจ้าตัวเล็กในขณะที่เธอไปทำงาน เจ้าเหมียวที่มาอยู่ก่อนหน้าเจ้า Kieran ก็เป็นแมวที่ถูกรับเลี้ยงมาเช่นกัน เธอกล่าวว่า “ฉันว่ามันตลกดีที่ฉันไม่ต้องลำบากไปรับเลี้ยงแมวจากศูนย์รับเลี้ยงสัตว์ด้วยซ้ำ…
-
โปสเตอร์หนังธีมโลกอนาคต นำมาปรับเปลี่ยนองค์ประกอบตามแบบฉบับภาพวาดย้อนยุค
โปสเตอร์ภาพยนต์นั้นเปรียบเสมือนกับปกหน้าของภาพยนต์ที่คอยดึงดูดความสนใจของผู้ชม ทำให้อยากเข้ามาดู แต่ก็ได้มีศิลปินคนหนึ่งได้ออกแบบโปสเตอร์ภาพยนต์เหล่านั้นขึ้นมาใหม่ในสไตล์ที่ไม่เหมือนใครและน่าสนใจกว่าเดิม Laurent Durieux ศิลปินชาวบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม นักออกแบบและผู้ให้การศึกษาด้วยประสบการณ์อันเชี่ยวชาญกว่า 2 ทศวรรษ เขาเพิ่งเป็นที่รู้จักในประเทศสหรัฐอเมริกาจากรางวัลใหญ่ๆ หลายรางวัลที่เขาได้รับ และผลงานโปสเตอร์จากภาพยนต์ชื่อดังอย่าง Jaws ซึ่งไปสะดุดตาผู้กำกับหนังอย่าง Steven Spielberg ผู้กำกับชื่อดัง Francis Ford Coppola กล่าวว่า “งานที่งดงามของ Laurent Durieux ได้ยกระดับมาตรฐานของการทำโปสเตอร์ภาพยนต์ให้สูงขึ้นไปอีก รูปภาพเหล่านั้นได้วาดออกมาอย่างน่าทึ่ง ถ่ายทอดความคิดและนัยยะสำคัญของหนังในรูปแบบของเขา เป็นการสื่อสารที่ไม่ต้องใช้คำพูดและยังคงรักษาวัฒนธรรมความเป็นศิลปะแนวภาพประกอบ” เมื่อปี 2011 Durieux ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 200 นักวาดภาพประกอบที่เก่งที่สุด โดยการวาดภาพโฆษณาลงนิตยสาร Lürzer’s Archive และการวาดภาพสไตล์ย้อนยุคจากภาพยนตร์ที่โด่งดังก็ได้เริ่มต้นขึ้น ตัวอย่างผลงานโปสเตอร์ภาพยนต์ของ Durieux 1. Alien 2. Back to the Future 3. Batman: The Dark…
-
การผจญภัยในแดนอันตราย “เชอร์โนบิล” พร้อมกับภาพถ่ายที่ได้มาจากกล้องอินฟราเรด
เกาะเชอร์โนบิล ที่ประเทศยูเครนรู้จักกันในอีกชื่อคือเมืองผี ที่ในอดีตเคยเกิดอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด ทำให้เกาะนี้กลายเป็นเกาะร้างที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่เลย หลายปีก่อน Vladimir Migutin ช่างภาพผู้เดินทางรอบโลกกับกล้องอินฟราเรดของเขาก็ได้ไปเยี่ยมชมแดนอันตรายบนเกาะเชอร์โนบิล เขาบรรยายว่าได้ยินเสียงร้องจากธรรมชาติตลอดเวลา แสดงให้เห็นถึงความไร้ประโยชน์ของสิ่งก่อสร้างโดยมนุษย์ที่ถูกธรรมชาติทวงคืน กลายเป็นซากปรักหักพัง มันยากที่จะบรรยายถึงบรรยากาศโดยรวมได้ แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นเมื่อปี 1986 เหล่าซากปรักหักพัง เศษเหล็กที่สนิมเกาะก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกแย่เลย ในทางตรงกันข้ามเขารู้สึกราวกับว่าสถานที่แห่งนี้คือสรวงสวรรค์บนดาวดวงอื่นมากกว่า 30 ปีหลังจากจากที่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด ในขณะที่เหล่ามนุษย์ได้หนีออกไป เหล่าป่าไม้ สัตว์ทั้งหลาย พืชพรรณต่างๆ ก็ได้ถูกคืนชีพขึ้นมาโดยธรรมชาติอีกครั้ง ภาพถ่ายเหล่านี้ถูกถ่ายด้วยกล้องที่สามารถรับแสงได้เต็มช่วงกับฟิลเตอร์ 590nm อินฟราเรด ในช่วงที่ Migutin ได้เดินทางไปยังเกาะเชอร์โนบิลเป็นเวลา 2 วัน ซากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Simon สุนัขจิ้งจอกที่เป็นมิตรกับมนุษย์ มันมักจะเข้าหาคนกลุ่มใหญ่ๆ เพื่อขออาหาร รถบัมป์ในสวนสนุก Pripyat ถนนอนุสรณ์ที่มีป้ายของแต่ละหมู่บ้านที่อพยพออกไป รถเมล์คันนี้ได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเกาะที่นี่แล้ว เจ้าสิ่งนี้เคยถูกใช้ทำความสะอาดหลังคาของเตาปติกรณ์ที่ระเบิดไปแล้ว แม่น้ำในเขตแดนอันตราย ชิงช้าสวรรค์ที่สูงถึง 26 เมตรในสวนสนุก Pripyat…
-
น้ำใจจากคนแปลกหน้า ที่ได้ยินเสียงพูดคุยเรื่องปัญหาการเงิน คนใจดีจึงทิ้งเงินไว้ให้เธอ…
การช่วยเหลือคนที่กำลังประสบปัญหานั้นเป็นเรื่องที่ประเสริฐอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี และทำให้เกิดเรื่องราวดีๆ เป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆ ที่ได้อ่าน ซึ่งเรื่องราวดีๆ ก็ได้เกิดขึ้นกับ Ella Johannessen นักศึกษาวัย 23 ปี จากมหาวิทยาลัย Leeds Beckett ที่กำลังประสบปัญหาหนี้สินกู้ยืมเรียนในระหว่างปีการศึกษาสุดท้ายของเธอหลังจากที่ลาออกจากงานพาร์ทไทม์เพื่อทุ่มเทให้กับการเรียนเทอมสุดท้าย Ella Johannessen กับเงินจำนวนหนึ่งที่ได้รับมาจากคนแปลกหน้า ในขณะที่เธอขึ้นรถไฟ Virgin Trains East Coast จากสถานี Leeds ไปยัง Peterborough ในวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2018 เธอก็ได้โทรศัพท์หาแม่ของเธอ… Ella กล่าวว่า “ฉันคุยกับแม่เรื่องเงินที่ฉันเหลือเพียงน้อยนิด เรื่องที่ฉันกังวลเกี่ยวกับค่าเทอมและฉันก็เครียดจนอารมณ์เสีย” หลังจากนั้นเธอก็ได้งีบบนรถไฟ หลังจากที่เธอตื่นมาก็พบกับของขวัญจากคนแปลกหน้าเป็นเงินจำนวน £100 หรือประมาณ 4,500 บาท อยู่ใต้ผ้ากันเปื้อนบนตักของเธอ ทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งจนร้องไห้ออกมา ซึ่งเธอบอกว่าเงินก้อนนี้สามารถช่วยเธอให้พ้นกับปัญหาการเบิกเงินเกินบัญชีได้ เธอกล่าวว่า “หลังช่วงเวลา 18 เดือนอันเลวร้ายที่ฉันได้สูญเสียพ่อ ปู่และย่า…
-
เกมเศรษฐี Cheater Edition ให้คุณแอบโกงได้ แถมถ้าโกงสำเร็จได้รางวัลด้วยนะเออ!!
เกมเศรษฐีเป็นเกมกระดานอีกรูปแบบหนึ่งที่คนทั่วโลกมักจะเล่นกับเพื่อนเพื่อฆ่าเวลา แต่ด้วยความที่เป็นเกมที่เล่นกับเพื่อนกันเอง เวลาที่คนไหนเสียเปรียบก็เลยชอบที่จะแอบโกงด้วยการหยิบเงินเพิ่มหรือยึดที่ดินเป็นของตัวเองแบบเนียนๆ แทบทุกที ทางบริษัททำเกมเศรษฐีเองก็เห็นว่ามีคนชอบโกงตอนเล่นเยอะ พวกเขาก็เลยคิดวิธีรับมือกับผู้เล่นเหล่านี้ แต่แทนที่จะห้ามไม่ให้คนโกง พวกเขากลับเพิ่มความสนุกของเกมด้วยการอนุญาติให้โกงอย่างเป็นทางการซะเลย จึงได้ออกมาเป็น Monopoly Cheater Edition อันนี้นี่เอง Monopoly Cheater Edition (เกมเศรษฐีรุ่นโกงได้อย่าให้โดนจับ) Jonathan Berkowitz รองประธานของบริษัทเกม Hasbro กล่าวถึงที่มาของเกมนี้ว่า “จากการวิจัยของบริษัท Hasbro เองทำให้เรารู้ว่าผู้เล่นเกมเศรษฐีเกือบครึ่งหนึ่งมักจะพยายามโกงเสมอ … ดังนั้นในปี 2018 นี้เราจึงได้ทำเกมเศรษฐีที่แฟนๆ ต้องการออกมา โดยเกมนี้จะส่งเสริมให้พวกเขาหาวิธีโกงระหว่างเกมอย่างแท้จริง” หน้าตาของกล่องเกมรุ่นพิเศษนี้ กฎของการชนะในเกมส์นี้ก็ยังคงตัดสินกันที่จำนวนเงินสูงสุดของผู้เล่นเหมือนเดิม ทว่าระหว่างการเล่นเกมส์นั้นจะมีกฎพิเศษและการ์ดเสริมที่แตกต่างจากเกมเศรษฐีธรรมดาให้เล่นด้วย โดยปกติแล้วเกมส์เศรษฐีจะมี ‘การ์ดดวง’ และ ‘การ์ดสมบัติ’ ให้ผู้เล่นใช้เพื่อพลิกแพลงสถานการณ์ของตัวเอง แต่สำหรับรุ่นพิเศษนี้ผู้เล่นจะได้รับการ์ดอีกหนึ่งชุดซึ่งก็คือ ‘การ์ดโกง’ นั่นเอง แถมยังมาพร้อมกุญแจมือเอาไว้ใส่ให้คนโกงอีกต่างหาก นอกจากการ์ดสมบัติ(กองล่าง) และการ์ดดวง (กองบน) แล้วยังมีการ์ดโกงเพิ่มเข้ามาให้เล่นอีก วิธีการเล่นเกมเศรษฐีตัวนี้จะให้ผู้เล่นสุ่มการ์ดโกงมาทั้งหมด 5 ใบและวางไว้กลางกระดาน…