Category: ข่าวคราวรอบโลก

  • ลูกน้อยสองคนถูกทิ้งให้อยู่กับร่างไร้วิญญาณของพ่อที่ตายเพราะหัวใจวายตลอดทั้งวัน

    ลูกน้อยสองคนถูกทิ้งให้อยู่กับร่างไร้วิญญาณของพ่อที่ตายเพราะหัวใจวายตลอดทั้งวัน

    คุณแม่ร้อนใจ ลูกสาวสองคนของเธอต้องอยู่กับศพของคุณพ่อที่หัวใจวายตายทั้งวัน เนื่องจากทางโรงเรียนไม่ยอมติดต่อไปหาเธอ ทำให้เธอไม่รู้ว่าที่บ้านเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติขึ้น เธอหวังว่าจะไม่มีครอบครัวไหนต้องเจอเรื่องแบบนี้อีก ครอบครัว Daykin อาศัยอยู่ที่เมืองฮาลิแฟ็กซ์ เขตเวสยอร์กชายร์ ประเทศอังกฤษ Helen Daykin ผู้เป็นแม่ต้องเดินทางไกลไปทำงานนอกสถานที่ค่อนข้างบ่อย สามี Chris Daykin จึงมักจะรับหน้าที่ดูแลรับส่งลูกสาวสองคนไปโรงเรียนอยู่เสมอ   ครอบครัว Daykin   แต่ในปี 2016 ที่ผ่านมาเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เนื่องจากตอนนั้น Helen จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานที่กรุงลอนดอน แต่สามีของเธอเกิดหัวใจวายเสียชีวิตไปในตอนกลางคืน ทำให้ลูกสาวทั้งสองคนต้องอยู่กับร่างไร้วิญญาณของคุณพ่อทั้งวัน เนื่องจากเด็กสาวทั้งสองคนไม่ได้ไปโรงเรียนในวันถัดมา ทางโรงเรียนจึงได้พยายามติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ของคุณพ่อแล้ว แต่คุณพ่อเสียชีวิตไปแล้วจึงไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้ จากคำบอกเล่าของสำนักข่าว ฺBBC แต่พอทางโรงเรียนพอติดต่อคุณพ่อไม่ได้ พวกเขาก็ไม่ได้พยายามติดต่อไปหาคุณแม่แต่อย่างใด   คุณแม่ Helen Daykin และลูกสาวสองคนปัจจุบันอายุ 3 และ 5 ปี   ตอนหัวค่ำของวันเดียวกันกับที่เด็กสาวไม่ได้ไปโรงเรียน คุณยายของพวกเธอก็ผ่านมาเห็นว่าไฟในบ้านนั้นมืดสนิทและยังมีนมวางทิ้งไว้หน้าประตูด้วย เธอสังหรณ์ใจว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดูให้ หลังจากตำรวจบุกข้าไปในบ้านจึงพบว่าคุณพ่อเสียชีวิตอยู่ในห้องนอนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ทางด้านคุณแม่นั้นได้โทรหาสามีตั้งแต่ตอนเช้าวันนั้นแล้ว แต่คิดว่าเขาคงไม่รับสายเพราะส่งลูกไปโรงเรียนอยู่ และทางโรงเรียนก็ไม่ได้ติดต่ออะไรมาจึงคิดว่าทุกอย่างปกติดี แต่เมื่อเวลา 20.00 น. ตอนที่เธอกำลังนั่งรถไฟอยู่…

  • 12 เรื่องราวในอดีต ที่ทำให้เรารู้สึกโชคดีเหลือเกิน ที่ได้เกิดมาอยู่ในยุคศตวรรษที่ 21

    12 เรื่องราวในอดีต ที่ทำให้เรารู้สึกโชคดีเหลือเกิน ที่ได้เกิดมาอยู่ในยุคศตวรรษที่ 21

    ในปัจจุบันโลกของเรามีความเปลี่ยนแปลงทางด้านวัฒนธรรมและเทคโนโลยีมาก ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเรานั้นดูง่ายไปเสียหมด จะทำอะไรก็สะดวกสบายและรวดเร็ว ถ้าหากเราลองมองย้อนกลับไปล่ะก็ จะเห็นว่าชีวิตของผู้คนในอดีตลำบากกว่าเรามากนัก วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูว่าถ้าเราเกิดมาอยู่ในยุคก่อนหน้านี้ชีวิตความเป็นอยู่มันจะพึลึกพิลั่นและเหนื่อยยากขนาดไหน   1. การย้อมสีผม   ไม่ว่าคนเราจะเกิดมาในยุคไหนก็รักสวยรักงามด้วยกันทั้งนั้น แต่ในสมัยก่อนไม่มียาย้อมผมที่ใช้ง่ายเหมือนตอนนี้ ใครที่อยากจะย้อมสีผมต้องใช้ของที่มีอยู่ตามธรรมชาติอย่างเช่นหัวหอม อบเชย และขี้เถ้ามานวดผมเป็นประจำให้มันเปลี่ยนสี นอกจากนี้ก็ยังต้องไปนั่งให้ผมโดนแดดจะได้มีผมที่มันวาวดูดี แต่ในทางกลับกันการลองย้อมผมแบบทำกันเองย่อมทำให้ได้สีผมที่ไม่แน่นอน แถมเสี่ยงทำให้ผมเสียด้วย   2. เกิดเป็นชนชั้นสูงต้องเท้าเล็ก   เกิดคุณบังเอิญได้เกิดมาเป็นหญิงชั้นสูงในประเทศจีนสมัยก่อน คนในครอบครัวจะบังคับให้คุณรัดเท้าตั้งแต่เด็กจะได้ใส่รองเท้าอันเล็กๆ ได้ พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงศักดิ์ ถ้าใครมีขนาดเท้าปกติแปลว่าเป็นคนชนชั้นทั่วไป แต่การจะได้เท้าแบบนี้มาหญิงสาวต้องทนทุกข์ทรมานทุกวันตั้งแต่ยังอายุน้อย แถมเท้าเล็กแบบนี้ยังทำให้เดินยากอีกด้วย ดีนะที่สมัยนี้ไม่มีใครทำแบบนี้แล้ว   3. เขียนจดหมายร้องเรียน   ในอดีตก็มีการเขียนจดหมายร้องเรียนเช่นกัน ทว่าในยุคนั้นยังไม่มีกระดาษและปากกาให้ใช้ คนในอดีตจึงต้องใช้วิธีการสลักอักษรลงไปบนแผ่นหินเพื่อเขียนจดหมายแทน แน่นอนว่ากว่าจะเขียนจดหมายได้ฉบับหนึ่งกินเวลานานมากเลย ลำบ๊ากลำบาก   4. รักษาโรคด้วยเวทมนตร์และอุจจาระ   ย้อนกลับไปเมื่อ 1500 ปีก่อนคริสตกาล ประเทศอินเดียยังมีความเชื่อในการรักษาโรคด้วยเวทมนตร์อยู่เลย และพวกเขายังใช้อุจจาระมาผสมเป็นยาให้คนป่วยกินด้วย เพราะพวกเขาเชื่อว่าอุจจาระสามารถขับไล่วิญญาณร้ายซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของอาการป่วยได้นั่นเอง แค่ได้ฟังก็รู้สึกดีใจแล้วที่สมัยนี้มีหมอมาวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องตามหลักการ แล้วยังมียารักษาทั้งแบบกินแบบฉีดด้วย ไม่ต้องมานั่งกินอุจจาระกันอีกต่อไป   5. รักษาโรคด้วยยาที่ทำจากมนุษย์…

  • ช่างตัดไม้ค้นพบซากมัมมี่หมาติดอยู่ในต้นไม้โดยบังเอิญ มันติดในนั้นมานานเกือบ 60 ปีแล้ว

    ช่างตัดไม้ค้นพบซากมัมมี่หมาติดอยู่ในต้นไม้โดยบังเอิญ มันติดในนั้นมานานเกือบ 60 ปีแล้ว

    โดยปกติแล้วเวลาที่สัตว์ตายร่างกายของมันก็จะเน่าเสียและสลายกลายเป็นสารอาหารให้กับพื้นดินไป แต่ในบางครั้งเราก็พบปรากฎการณ์หายากในธรรมชาติที่ร่างของสัตว์ไม่ถูกย่อยสลายแต่กลายเป็นมัมมี่แบบนี้แทน ในปี 1980 คนตัดไม้จากบริษัท Georgia Kraft Corp ทำงานตัดไม้กันตามปกติ แต่พวกเขากลับพบว่าในโพรงของต้นโอ๊กต้นหนึ่งมีมัมมี่สุนัขติดอยู่ด้วย เมื่อพวกเขาเห็นแบบนั้นก็เลยบริจาคท่อนไม้นี้ให้กับพิพิธภัณฑ์ต้นไม้ Forest World ในเมืองเวย์ครอส รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาไป   เจ้าหมา Stuckie มัมมี่สุนัขตามธรรมชาติ   จากนั้นในปี 2002 ทางพิพิธภัณฑ์จึงจัดการประกวดตั้งชื่อสุนัขตัวนี้และได้รับชื่อว่า Stuckie (จากคำว่า stuck แปลว่า ติด) ซึ่งเป็นชื่อที่เหมาะกับเจ้าหมาจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าสาเหตุที่เจ้าหมาตัวนี้ติดอยู่ในต้นไม้ น่าจะเป็นเพราะมันวิ่งไล่สัตว์เล็กจนกระทั่งมันหนีเข้าไปในโพรงต้นไม้ แต่เจ้าหมาก็ไม่ละความพยายาม ตะกายเข้าไปในโพรงยาว 28 ฟุต (ประมาณ 8.5 เมตร) จนในที่สุดตัวของมันก็ติดอยู่อย่างที่เห็นนี่แหละ   ท่อนไม้ที่เจ้ามัมมี่หมาติดอยู่ ถูกตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Forest World   การที่เจอเจ้าหมาตายอยู่ในโพรงไม้นั้นก็ไม่แปลกอะไรเท่าไหร่ แต่ที่แปลกจริงๆ ก็คือการที่มันกลายเป็นมัมมี่เองตามธรรมชาติต่างหาก ตามปกติหากสิ่งมีชีวิตตายไปร่างกายของมันก็จะเริ่มเน่าเสีย แบคทีเรีย เชื้อราและแมลงก็จะตามกลิ่นนี้มาแล้วย่อยสลายร่างของมันตามวัฎจักรของธรรมชาติ ทว่าเจ้า Stuckie ไม่ได้เน่าสลายไปเช่นนั้นเนื่องจากมันติดอยู่ในตัวต้นไม้นั่นเอง     ทางพิพิธภัณฑ์เขียนคำอธิบายถึงปรากฎการณ์นี้ไว้ว่า “ในขอนไม้ท่อนนี้เกิดปรากฎการณ์ปล่องควันไฟ…

  • สุดยอดงาน DIY อาวุธยักษ์จาก “เกมมอนฮัน” งานละเอียดโคตรเป๊ะ พร้อมฟังก์ชั่นต้นฉบับเปี๊ยบ!!

    สุดยอดงาน DIY อาวุธยักษ์จาก “เกมมอนฮัน” งานละเอียดโคตรเป๊ะ พร้อมฟังก์ชั่นต้นฉบับเปี๊ยบ!!

    เกม Monster Hunter: World ที่เพิ่งออกมาได้ไม่ถึงอาทิตย์ แต่ว่ากระแสของเกมนั้นแรงมาก โดยล่าสุด Capcom ได้บอกว่าเกมมียอดขาย (นับเฉพาะยอดขายส่ง) ได้มากกว่า 5 ล้านชุดแล้ว นับว่าแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆ Monster Hunter เป็นเกมที่มีแนวเกมคือการต่อสู้กับสัตว์ประหลาด ซึ่งส่วนมากเรียกว่ามังกรก็ได้ เพื่อล่าเอาวัตถุดิบจากตัวของศัตรูมาอัปเกรดอาวุธและชุดเกราะของตัวเอง ซึ่งในตัวเกมจะมีอาวุธให้เลือกใช้หลากชนิด ไม่ว่าจะเป็นดาบใหญ่ ดาบยาว หอก ธนู เป็นต้น     แต่ประเด็นอยู่ที่อาวุธที่ชื่อ Charge Blade ซึ่งเหมือนจะเป็นเพียงแค่ดาบโล่ธรรมดาๆ แต่ความพิเศษของเจ้านี่คือเปลี่ยนรูปร่างเป็นขวานได้ เพื่อเพิ่มพลังโจมตี และด้วยความที่มันเปลี่ยนโหมดอาวุธได้จึงมีคนได้ทดลองทำเจ้าดาบนี้ออกมาในรูปแบบใกล้เคียงของจริง!?   สำหรับใครที่ยังจินตนาการภาพของ Charge Blade ไม่ออก ดูรูปนี้ได้เลยครับ   ซึ่งคนที่ตัดสินใจที่จะทำเจ้าดาบนี้ออกมานั่นคือยูทูบเบอร์ชาวญี่ปุ่นชื่อ かんたま ผู้มีความสนใจและชื่นชอบเกม Monster Hunter เป็นอย่างมาก เขาจึงคิดที่จะทำ Charge Blade ในขนาดเท่าของจริง เราตามไปชมกันว่าเค้าจะทำเจ้าดาบนี้กันยังไง   นี่คือหน้าตาของ Charge Blade ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว…

  • หญิงสาวไปสักริมฝีปากให้ดูดี แต่พอเวลาผ่านไป มันกลับเปลี่ยนเป็นสีเขียวเหมือนกับตัวตลก

    หญิงสาวไปสักริมฝีปากให้ดูดี แต่พอเวลาผ่านไป มันกลับเปลี่ยนเป็นสีเขียวเหมือนกับตัวตลก

    การเสริมสวยให้กับใบหน้านั้นทำได้หลายวิธี วิธีที่สาวๆ ทำกันเป็นประจำก็คือการแต่งหน้าทาปากให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น สำหรับหญิงสาวอีกกลุ่มที่ขี้เกียจลุกมาเขียนปาก ทาคิ้วทุกวัน การไปสักก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเช่นกัน ทว่าการสักนั้นไม่ได้จางหายไปในเวลาอันรวดเร็วเหมือนเครื่องสำอาง แต่มันจะติดแน่นไปตลอดกาลนาน ดังนั้นก่อนจะไปสักก็ควรจะศึกษาข้อมูลให้แน่นเข้าไว้ว่าไปสักที่ไหนแล้วดีมีคุณภาพ ไม่อย่างนั้นอาจโชคร้ายได้ลายสักหรือสีสักที่ไม่ตรงตามต้องการก็ได้ อย่างหญิงชาวออสเตรเลียคนนี้เป็นต้น   ภาพริมฝีปากของ Karine Barry หลังจากสักมา   หญิงวัย 50 ปีชาวออสเตรเลีย Karine Barry เองก็อยากจะไปสักริมฝีปากเพื่อเสริมความงามให้ใบหน้าเช่นกัน เธอมีความเชื่อว่าชาวโพลีเนเซียนเป็นช่างสักที่ีฝือมือดีที่สุดในโลก ดังนั้นเธอจึงเดินทางไปที่ประเทศตาฮิติเพื่อสักโดยเฉพาะ เมื่อเธอไปถึงร้านสักแล้วเธอก็บอกช่างสักว่าเธอต้องการสักริมฝีปากเป็นสี Burgundy (สีไวน์แดง) เธอเชื่อว่ามันจะช่วยทำให้ริมฝีปากดูดีขึ้น แต่ช่างสักกลับทำให้ฝันเธอสลาย หลังจากช่างสักผสมสีแล้วสักให้เธอแล้ว เธอกลับได้รอยสักปากสีเชียวเด่นชัดเจนแทน เธอเล่าว่า ” ฉันไม่รู้ว่าเขาต้องผสมสีกันยังไง ฉันก็เลยไว้ใจให้ช่างเป็นคนจัดการ แต่ตอนที่ฉันเห็นว่ารอยสักของฉันกลายเป็นสีเขียวฉันก็ตกใจมากเลย”     แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปกว่า 3 เดือนแล้ว แต่รอยสักบนริมฝีปากของเธอก็ไม่ได้จางลงเลยแม้แต่น้อย มันเป็นปัญหาสำหรับเธอมากเพราะถึงเธอจะแต่งหน้าอย่างไร สีเขียวที่สักไว้ก็ยังเห็นได้โดดเด่นอยู่ดี หลังจากทนมาหลายเดือนเธอก็ตัดสินใจว่าควรต้องเอารอยสักนี้ออกไปจากใบหน้าเสียที เธอก็เลยไปที่คลินิกเลเซอร์เพื่อให้พวกเขาช่วยลบรอยสักสีเขียวตรงริมฝีปาก หลังจากที่ทำเลเซอร์แล้วเธอก็รู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว เธอเล่าว่า “พอทำเลเซอร์ครั้งแรกเสร็จรอยสักบนริมฝีปากล่างก็แทบจะหายไปหมดเลยค่ะ ฉันโล่งใจมากจนอยากจะกอดขอบคุณหมอที่นั่นเลย”   ภาพริมฝีปากของเธอหลังจากลบรอยสักด้วยเลเซอร์   จากนั้นเธอก็เข้ารับการทำเลเซอร์ลบรอยสักอีก 4…

  • เพลินเกิ๊น!! ก๊วนเพื่อนชาวมาเลย์ลืมเพื่อนไว้ที่ปั๊ม กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไป 100 กิโลแล้ว

    เพลินเกิ๊น!! ก๊วนเพื่อนชาวมาเลย์ลืมเพื่อนไว้ที่ปั๊ม กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไป 100 กิโลแล้ว

    การเดินทางออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ มันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนจะมีความสุขที่ยากจะอธิบาย ทว่าก็มีการเดินทางบางครั้งที่อาจมีระยะไกล จึงมีความจำเป็นต้องแวะเติมน้ำมัน หรือแวะเพื่อเข้าห้องน้ำห้องท่าต่างๆ ตามปั๊มน้ำมัน แต่มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่อาจทำให้ปั๊มน้ำมัน เป็นสถานที่แห่งความฝันร้ายของชายคนนี้ เพราะว่าเขาถูกเพื่อนๆ ที่เดินทางร่วมกันมาลืมทิ้งเอาไว้อยู่ที่ปั๊ม โดยที่ไม่มีข้าวของอะไรติดตัวสักอย่าง ทั้งเงิน อาหาร หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ   อย่างงี้ก็มีด้วยหรอเนี่ย   เรื่องราวลืมไม่ลงของชายคนนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา เมื่อมีกลุ่มเพื่อนๆ กลุ่มหนึ่งออกเดินทางไปตามถนนหลวงสายเหนือ-ใต้ ในประเทศมาเลเซีย แต่ก็ด้วยความเหนื่อยล้าจากการอยู่บนรถมาเป็นเวลานานทำให้พวกเขาตัดสินใจจอดแวะสูดอากาศที่ปั๊มน้ำมัน R&R Simpang Pulai ในรัฐเประก์ สักหน่อย ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ ก็ดำเนินไปตามปกติทุกอย่าง บางคนก็อาจไปเข้าห้องน้ำ บางคนก็อาจจะไปซื้อขนมนมเนยมาไว้กินระหว่างทางเพื่อบรรเทาความหิว เมื่อภารกิจของแต่ละคนเสร็จสิ้นแล้ว กลุ่มคนกลุ่มนี้ก็ออกเดินทางกันต่อ โดยไม่ได้เอะใจแม้แต่นิดเดียวว่า มีเพื่อนคนหนึ่งหายไปจากการแวะปั๊มน้ำมันในครั้งนี้   ตูละเบื่อพวกเอ็งจริงๆ เล้ย   เมื่อชายผู้โชคร้ายดังกล่าวนามว่า Mohd Shaheed รู้ตัวว่าเขาโดนเพื่อนทิ้งซะแล้ว เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เพราะะว่าข้าวของทุกอย่างของเขาก็อยู่บนรถคันนั้นหมด และในตอนที่อยู่ในปั๊มนั้นก็ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว รวมถึงโทรศัพท์ก็ไม่มีให้สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้ด้วย แต่ในที่สุดแล้วเขาก็เกิดไอเดียสุดบรรเจิดขึ้น ด้วยการขอยืมโทรศัพท์จากคนแปลกหน้าในบริเวณนั้น แล้วโทรหาเมียสุดที่รักของเขา เพื่อให้เมียช่วยบอกเหล่าเพื่อนๆ ให้หน่อยว่าเขาถูกทิ้งอยู่ที่นี่ เมื่อได้รู้ดังนั้นเมียของเขาก็ทำตามคำขอในทันที เพราะด้วยความเป็นห่วงหรือว่าสงสารก็ไม่อาจทราบได้   ข้อความที่เมียของเขาส่งไปบอกกับเพื่อนๆ  …

  • เจ๊ Kim Kardashian โชว์โป๊อีกแล้ว งานนี้ชาวเน็ตก็เลยร่วมแต่งตัว ทำเวอร์ชั่นเด็กดีให้

    เจ๊ Kim Kardashian โชว์โป๊อีกแล้ว งานนี้ชาวเน็ตก็เลยร่วมแต่งตัว ทำเวอร์ชั่นเด็กดีให้

    เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมานี้ เจ้าแม่ข่าวฉาวของเรา Kim Kardashian ได้โพสต์ภาพโป๊เปลือยของเธออีกแล้ว ซึ่งในภาพเธอสวมเสื้อขนสัตว์กับกางเกงในสีขาวเพียงเท่านั้น นี่หน้าหนาวอยู่นะ ไม่หนาวบ้างเหรอเนี่ย?? และตอนนี้สายตาของเราคงชินกับการเห็นเจ๊แกโป๊เป็นประจำไปแล้ว คงไม่ตกใจกันอีกแล้ว แต่ให้เดานะต้องมีคนที่กินข้าวอยู่ได้สำลักกันมั่งแหละ ตอนเปิด Instagram กับ Twitter เมื่อเช้าวันนั้นน่ะ     แต่ก็มีบางคนที่ยังคอยตำหนิ แซวแม่ลูกสามสำหรับการโพสภาพแนวนี้อยู่เรื่อยๆ โดยแนะนำให้เธอไปหาเสื้อผ้าใส่ซะหรือคิดว่าที่เธอทำก็เพื่อเรียกกระแส และแม้แต่ Piers Morgan แห่งรายการ Good Morning Britain ก็มีส่วนร่วมในการแซวเธอด้วย Piers Morgan พูดกับผู้ชมรายการว่า “สิ่งต่างๆ มันไม่เปลี่ยนไปเลย เมื่อคุณเป็นแม่คนแล้วนะ เมื่อคุณอายุ 30 กลางๆ  และมีลูกถึงสามคนแล้วนะ ผมรู้ผมควรจะทำไงต่อ ผมก็จะโพสรูปผมแบบเสื้อผ้าน้อยชิ้นลงโซเชียลมีเดีย”      ก่อนที่จะโพสต์รูปนี้ลงสื่อออนไลน์ Kim ได้ทำการเบลอหัวนมเธอก่อน ซึ่งมันดูต่างจากที่เธอเคยทำมา แต่เธอก็ต้องทำเพราะไม่งั้น เธอก็ถูกแบนจากสื่อออนไลน์ แม้ว่าเธออุตส่าห์เซ็นเซอร์หัวนมของตัวเองแล้วนะ แต่ก็ยังมีคนไม่พอใจในภาพโป๊ของเธออยู่ดี และได้มีชาวเน็ตใจดีหรือจะเรียกว่ามือดี นำรูปของเธอไปแต่งเติมเสริมเสื้อผ้าให้ เรียกได้ว่าเป็นกระแสไปเลยล่ะ ลองไปดูตัวอย่างกัน…

  • ลุงรปภ. ผู้คลั่งไคล้อาวุธนิยายจีน ลงทุนสร้างและตีเองกว่า 150 ชิ้น ไม่แคร์ว่าใครจะมองว่าบ้า

    ลุงรปภ. ผู้คลั่งไคล้อาวุธนิยายจีน ลงทุนสร้างและตีเองกว่า 150 ชิ้น ไม่แคร์ว่าใครจะมองว่าบ้า

    ไม่ว่าใครก็ล้วนมีความใฝ่ฝันกันทั้งนั้น เมื่อคนเรามีสิ่งที่ชอบและหลงใหลมากๆ ก็มักจะมีความต้องการที่จะทำบางอย่างให้ตอบสนองกับความชอบของตน โดยบางครั้งก็ไม่สนใจหรอกว่า ใครจะคิดอย่างไรกับเรา เช่นคุณลุงจากแดนมังกรผู้นี้ ผู้ที่มีความหลงใหลงใน “ศาสตราวุธ” โบราณของจีน ขนาดที่ว่าลงทุนลงแรงสร้างมันขึ้นมาเอง ศึกษาเอง และก็ตีเหล็กเอง จนปัจจุบันมีอาวุธสงครามจีนมากกว่า 150 ชิ้นแล้ว   คลังแสงเก็บศาสตราวุธของคุณลุงเฉิน   ตีขึ้นมาด้วยความหลงใหลในยุทธภพ   รายงานจากสำนักข่าว China Xinhua News กล่าวว่าชายผู้นี้เป็นคุณลุงชาวจีนที่ทำอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย และชื่อของเขาก็คือ “เฉินชงหลิง” เป็นชาวเมืองเจียวจั้ว มณฑลหูหนาน ประเทศจีน   อาวุธต่างๆ ที่คุณลุงเฉินตีขึ้นมานั้นมีต้นแบบมาจากนิยายกำลังภายในของจีน   คุณลุงศึกษารูปแบบของอาวุธแต่ละชนิดด้วยตนเอง   คุณลุงกล่าวกับ China Xinhua News ว่าอาวุธทั้งหมดนั้นเขาทำขึ้นมาจากความชอบของเขาเอง จึงอาจจะไม่ได้สวยงามมากนัก ถึงอย่างนั้นเขาก็ตั้งใจตีอาวุธทุกชิ้นขึ้นมาอย่างสุดความสามารถ จากนั้นเขาก็ทำการแสดงกระบวนท่าของอาวุธแต่ละชนิดให้ได้รับชมกัน   คุณลุงมีการแสดงเพลงทวน และอาวุธอื่นๆ ให้ได้รับชมกันด้วย   ด้วยความที่เขาหลงใหลในยุทธภพแห่งนิยายกำลังภายใน ทำให้เขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้มองผลงานศาสตราวุธเหล่านี้ ความตั้งใจของเขาก็คืออยากจะสร้างพิพิทภัณฑ์ศาสตราวุธเก็บไว้ให้ลูกหลานและคนอื่นๆ ได้เข้ามาชม สุดท้ายลุงเฉินกล่าวว่า “ใครจะว่าลุงบ้าหรือไร้สาระหรือสิ้นเปลืองเงินก็ไม่เป็นไร แต่ลุงจะทำต่อไป เพราะมันคือความฝันของเรา”   ไปรับชมวิดีโอคลังศาสตราวุธและคุณลุงเฉินจ้าวยุทธภพกันเล้ยย… …

  • เหล่าบุคคลที่ทำให้เห็นความสำคัญของ ‘การให้’ และมันทำให้โลกใบนี้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น

    เหล่าบุคคลที่ทำให้เห็นความสำคัญของ ‘การให้’ และมันทำให้โลกใบนี้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น

    แม้ว่าดวงดาวสีฟ้ากลมๆ ที่เราอาศัยกันอยู่นี้อาจจะดูโหดร้ายไปบ้างบางครั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมายอยู่เสมอ ซึ่งบางทีเราก็อาจทำให้โลกที่ดูหม่นหมองของใครบางคนดูสดใสขึ้นมาได้ เหมือนกับบุคคลเหล่านี้ที่ได้แสดงความมีน้ำใจออกมา จนทำให้เราได้เห็นว่านี่แหละคือบุคคลที่จะทำให้โลกของเราดูน่าอยู่ขึ้นมากกว่าเดิม และนี่คือภาพของพวกเขาที่จะมายืนยันว่า การแบ่งปันให้แก่ผู้อื่นมันช่างเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ ซึ่งนอกจากจะมีความอิ่มเอมใจเกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว ยังทำให้คนอื่นๆ มีความสุขเมื่อได้เห็นอีกด้วย   แพทย์สองคนลงไปนอนพักผ่อนกับพื้น หลังช่วยกันผ่าตัดนำเนื้องอกในสมองออกให้กับคนไข้เป็นเวลาถึง 32 ชั่วโมง   นักดับเพลิงช่วยชีวิตแมวเอาไว้ได้ พร้อมทั้งสวมหน้ากากออกซิเจนให้กับมัน   นักวิ่งชาวเคนย่ามอบน้ำให้กับนักวิ่งชาวจีนที่พิการทางแขน แม้ว่าการกระทำนี้จะทำให้เธอวิ่งได้ช้าลงในการแข่งขันนี้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ   ตำรวจหนุ่มนอนพักเอาแรง หลังจากช่วยเหลือผู้คนจากพายุเฮอริเคนเป็นเวลานานต่อเนื่องจนไม่สามารถนับชั่วโมงได้   เจ้าของร้านขายของให้ช็อกโกแลตและคุกกี้กับเจ้ากวางน้อย มันจึงกลับไปพาเพื่อนของมันมาด้วย   หญิงสาวคนหนึ่งช่วยเย็บเบาะของรถโดยสารให้ ขณะที่เธอเดินทางไปกับรถคันนั้น   เด็กสาวเหยื่อของเหตุการณ์ไฟไหม้ ขอชาวเน็ตให้ช่วยส่งการ์ดคริสต์มาสมาหาเธอหน่อย และนี่คือของขวัญมากมายที่เธอได้รับจากคำขอนั้น   ใครบางคนนำของเล่นมาวางไว้ที่หน้าสถานสงเคราะห์สัตว์ เพื่อที่จะให้เหล่าหมาๆ มีของเล่นแสนสนุก   ไม่เป็นไรหรอก เท้าเปล่าก็เดินได้ ชายหนุ่มยอมสละรองเท้าของเขาให้กับหญิงที่รองเท้าส้นสูงหัก   คุณลุงวัย 61 ปีไม่เคยได้รับของเล่นเป็นของขวัญวันคริสมาสต์มานานถึง 50 ปี ในตอนนี้เขาจึงมีความสุขแบบสุดๆ เมื่อได้เล่นของเล่นอีกครั้ง  …

  • สาวเสียใจหนัก ไม่อาจพานกยูงเพื่อนยากขึ้นเครื่องได้ ‘ไม่เป็นไรนะเธอ เดี๋ยวเราพาบินเอง’

    สาวเสียใจหนัก ไม่อาจพานกยูงเพื่อนยากขึ้นเครื่องได้ ‘ไม่เป็นไรนะเธอ เดี๋ยวเราพาบินเอง’

    โดยปกติแล้วเมื่อเราจะขึ้นเครื่องบินเราก็ต้องพบกับข้อกฎข้อปฏิบัติข้อห้ามต่างๆ มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเรื่องของสัตว์เลี้ยงรวมอยู่ด้วย เพราะบางทีหากเราต้องการจะนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง ก็จะต้องตรวจสอบก่อนว่าสายการบินนั้นๆ มีนโยบายในเรื่องนี้หรือไม่ มิอย่างนั้นแล้วอาจจะต้องยืนเหงาเหมือนกับสาวคนนี้ ที่พยายามจะนำนกยูงของเธอขึ้นเครื่อง แต่ก็โดนสายการบินปฏิเสธเนื่องจากไม่อยู่ในรายชื่อของสัตว์ที่สามารถพาขึ้นเครื่องบินได้!!   โดยเรื่องของสาวกับการพานกยูงเหินเวหาครั้งนี้ เกิดขึ้นในวันที่ 29 มกราคม ณ ท่าอากาศยานนานาชาตินูอาร์ก ลิเบอร์ตี เมื่อมีผู้คนสังเกตเห็นว่า มีสาวคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในสนามบินพร้อมกับข้าวของต่างๆ มากมาย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เราสามารถเห็นได้ในสนามบินแทบจะทุกที่   แว้ก!! นี่มันอะไรกันเนี่ยยยย   แต่สิ่งที่ทำให้ดูแปลกจนดึงดูดความสนใจของผู้คนในพื้นที่นั้นไปแทบจนจะหมด นั่นก็เป็นเพราะว่านอกจากสัมภาระของเธอแล้ว เธอยังได้พานกยูงตัวเป็นๆ เข้ามาในสนามบินด้วย ซึ่งหากลองพิจารณาดูแล้ว ก็อาจจะพอเดาได้ว่ามันน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของเธอ เนื่องมาจากความเชื่องของมันที่เกาะไหล่ของสาวคนนี้ได้อย่างไม่เคอะเขินนั่นเอง   ใครไม่มองก็แปลกแล้วล่ะ   ทว่าการเดินทางของสาวและนกยูงตัวนี้มันไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น เพราะว่านกชนิดนี้ได้ถูกปฏิเสธจากสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ไม่ให้ขึ้นเครื่องบินอย่างเด็ดขาด แม้ว่ามันจะมีที่นั่งเป็นของตัวเองในเครื่องบินลำดังกล่าวก็ตาม ซึ่งอันที่จริงแล้วสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ก็มีนโยบายอนุญาตนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องเป็นสัตว์ที่อยู่ในรายชื่อที่พวกเขากำหนดเอาไว้เท่านั้น และแน่นอนว่าสัตว์อย่างนกยูงย่อมไม่อยู่ในรายชื่อเป็นแน่แท้ เพราะคงมีเพียงไม่กี่คนบนโลกที่เลี้ยงนกยูงเอาไว้เป็นสัตว์เลี้ยงนั่นเอง เมื่อภาพรวมถึงวิดีโอของเหตุการณ์แปลกๆ ครั้งนี้ได้เผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็มีความคิดเห็นมากมายจากชาวเน็ตถึงกรณีดังกล่าว นอกจากนี้บางคนก็ยังได้เล่าประสบการณ์การนำสัตว์เลี้ยงแปลกๆ ขึ้นเครื่องบินมาแบ่งปันกันอีกด้วย อย่างเช่น   ผู้โดยสารคนนี้ควรถูกจับไปอบรมมนุษยธรรมซะหน่อย ที่นำสัตว์สวยงามอย่างนี้มาที่สนามบิน ไม่รู้เหมือนกันว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยปล่อยให้ผ่านเข้ามาได้อย่างไรกันเนี่ย   ในขณะที่บางคนก็บอกว่าเขาเคยนำเป็ดขึ่นเครื่องบินมาแล้ว แต่เป็ดของเขาต้องใส่ถุงเท้าเอาไว้นะ…

  • จอมโจรขโมยทุเรียนพลาดท่า ถูกตำรวจจับกุมได้ด้วยหลักฐานเผลอ ‘เรอกลิ่นทุเรียน’

    จอมโจรขโมยทุเรียนพลาดท่า ถูกตำรวจจับกุมได้ด้วยหลักฐานเผลอ ‘เรอกลิ่นทุเรียน’

    ทุเรียนถือเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อของบ้านเรา โดยมีความโดดเด่นที่ของมันรสชาติอันหวานมันและกลิ่นที่หอมเย้ายวน(สำหรับคนชอบทุเรียนนะ) กลิ่นหอมในที่นี้ ไม่ใช่กลิ่นที่เหมือนผลไม้ทั่วไปนะ เพราะกลิ่นทุกเรียนถือเป็นกลิ่นเฉพาะที่มีพลังทำลายล้างสูง ปิดยังไงก็ปิดไม่มิด ขนาดกินหมดไปตั้งนานแล้ว กลิ่นยังไม่หายเลย และด้วยกลิ่นอันรุนแรงนี่เอง ที่ทำให้จอมโจรขโมยทุเรียน 2 คนพลาดท่าให้กับตำรวจ หลังจากที่เผลอเรอออกมา…     จากการรายงานข่าวของสำนักข่าว China Press ระบุว่าเมื่อวันที่ 28 มกราคม ปี 2018 ตำรวจลาดตระเวนได้จับกุมชายวัย 34 ปี ที่ย่าน Kampung Tengah เมือง Segamat ประเทศมาเลเซีย หลังได้รับแจ้งว่าเขาขโมยทุเรียน Raub Selamat หัวหน้าเขต Segamat District Police ได้กล่าวถึงคดีนี้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นรถต้องสงสัย ขณะออกลาดตระเวนเมื่อเวลา 14.00 น. เมื่อผู้ต้องสงสัยเห็นตำรวจเดินเข้ามาหา พวกเขารีบติดเครื่องทันที แต่แม้จะกลบเกลื่อนแค่ไหนก็หนีไม่พ้นอยู่ดี เพราะเขาดันเรอออกมาเป็นกลิ่นทุเรียน แถมยังพบถุงทุเรียนในรถของเขาด้วย นั่นทำให้เขาถูกจับกุมในที่สุด     Raub เล่าว่า “ตอนแรกเขาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเขาไม่ได้เป็นคนขโมยทุเรียน และยังบอกว่าอีกว่าแพ้ทุเรียน แค่ได้กลิ่นของมันก็รู้สึกคลื่นไส้แล้ว” “จากข้ออ้างดังกล่าว ทำให้เขาเกือบหนีไปได้แล้ว แต่ระหว่างที่คุยกับตำรวจ…

  • นักวิจัยพบจระเข้สีส้มอาศัยอยู่ในถ้ำ คาดว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดจากการกลายพันธุ์

    นักวิจัยพบจระเข้สีส้มอาศัยอยู่ในถ้ำ คาดว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดจากการกลายพันธุ์

    จระเข้ที่เราเห็นกันทั่วไป มักจะมีผิวหนังเป็นสีดำ สีน้ำตาลเข้ม หรือสีที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังมีจระเข้สีขาวซึ่งเป็นจระเข้เผือก แต่เมื่อปี 2008 นักวิจัยได้ค้นพบกลุ่มจระเข้สีส้มความยาว 1.5 เมตร อยู่ในถ้ำในพื้นที่ห่างไกลของประเทศกาบอง ในแอฟริกาตะวันตก     ในช่วงแรกของการค้นพบ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันคือสายพันธุ์จระเข้แคระแอฟริกา อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยใหม่เผยว่ามันอาจจะเป็นจระเข้สายพันธุ์ใหม่ นักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยทีมวิจัย Institute of Research for Development ในเมืองมาร์แซย์ ประเทศฝรั่งเศส ได้พบจระเข้ในถ้ำแห่งนี้กว่า 30 ตัว โดย 10 ตัว มีผิวสีส้ม     พวกมันมักจะซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของถ้ำที่เต็มไปด้วยน้ำ โดยจะกินเฉพาะค้างคาวและจิ้งหรีดเท่านั้น และมักจะออกหากินในเวลากลางคืน นั่นหมายความว่ามันสามารถมองเห็นได้ดีในที่มืด ต่อมาในปี 2015 ทีมนักวิจัยไปย้อนกลับไปยังถ้ำเดิมอีกครั้ง แล้วพบว่าพวกมันยังคงอาศัยอยู่ในถ้ำเช่นเดิม ทั้งนี้ได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมโดยผู้เชี่ยวชาญ พบกว่ามันมีลักษณะของยีนที่แตกต่างออกไปจากจระเข้แคระแอฟริกา     Richard Oslisly ผู้นำการวิจัยบอกว่า “เราสามารถพูดได้ว่ามันเป็นจระเข้สายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ เนื่องจากมันมียีนที่แตกต่างกัน อาหารที่กินก็ต่าง และยังเป็นสายพันธุ์ที่ปรับตัวเข้ากับโลกใต้ดินอีกด้วย” ทีมวิจัยยังบอกอีกว่าจระเข้ที่มีอายุน้อยสามารถออกไปนอกถ้ำได้ ผ่านช่องเล็กๆ เพราะขนาดตัวมันพอดี…

  • ชายเปลี่ยนเสาแทงก์น้ำให้กลายเป็นบ้านสุดหรู โอ้โห นี่มันสวรรค์ชัดๆ เล๊ยยยย

    ชายเปลี่ยนเสาแทงก์น้ำให้กลายเป็นบ้านสุดหรู โอ้โห นี่มันสวรรค์ชัดๆ เล๊ยยยย

    สถาปนิกหนุ่ม Patrick Mets มีความคิดที่จะเอาอาคารเก่าๆ มารีโนเวท เขาชื่นชอบพวกสิ่งก่อสร้างจำพวกอาคารอุตสาหกรรม แทงก์น้ำ เพราะว่าเขาเคยจินตนาการไว้ตั้งแต่เด็กว่า เขาอยากจะมีบ้านอยู่บนหอคอยสูงๆ และเมื่อเขาโตขึ้น เขาก็ลงมือทำในสิ่งที่เขาได้จินตนาการมาทั้งชีวิต Patrick และ Valerie Lecherf ภรรยา ได้ออกตระเวนหาที่ๆ จะนำมาสร้างเป็นบ้านใหม่ เขาได้ออกไปดูแถวชนบทของเบลเยียม แต่มันก็ไม่ถูกใจเขานัก จนกระทั่งอีก 1 ปีครึ่งต่อมาเขาก็ได้พบแทงก์น้ำขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากรุงบรัสเซลส์แล้วเขาก็รู้สึกถูกชะตาในทันที     แทงก์น้ำเก่าๆ นี้ถูกทิ้งไว้ให้รกร้างประมาณ 10-15 ปี ทำมาจากปูนซีเมนต์ เขาซื้อแทงก์น้ำมาในราคาประมาน 1.3 ล้านบาท แต่ก่อนที่เขาจะดัดแปลงแทงก์น้ำนี้ให้กลายเป็นที่อยู่อาศัย แต่จะต้องได้รับอนุญาตจากเทศบาลเสียก่อน ซึ่งทำให้ต้องใช้เวลาอีกกว่า 7 ปี กว่าที่มันจะถูกดัดแปลงให้กลายมาเป็นบ้านพักอาศัยได้ เขาทุ่มเทเงินสร้างมันไปกว่า 84 ล้านบาทเพื่อที่จะรักษาสภาพให้มันคงเดิมมากที่สุด   .   แต่การลงทุนในครั้งนี้ของเขาก็ถือว่าคุ้ม หลังจากที่มันถูกดัดแปลงเรียบร้อยแล้ว จากแทงก์น้ำเก่าๆ นี้ก็กลายเป็นเหมือนหอคอยสวรรค์ที่ข้างในนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน   ห้องน้ำ   ห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ ข้างบนคือฝักบัว…

  • เด็กชายป่วยโรคลูคิเมีย เอาเงินค่ารักษาพยาบาลเกือบ 743,000 บาทไปเติมเกม

    เด็กชายป่วยโรคลูคิเมีย เอาเงินค่ารักษาพยาบาลเกือบ 743,000 บาทไปเติมเกม

    เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2018 สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานข่าวของเด็กชายชาวจีนคนหนึ่งนำเงินที่ได้จากการระดมทุนรักษาโรคร้ายไปเติมเกมมือถือจนหมด สุดท้ายก็ไม่มีเงินสำหรับจ่ายค่ารักษาพยาบาล เด็กชายอายุ 10 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2017 ซึ่งแม่ของเขาก็หาทุกวิถีทางที่จะช่วยเหลือให้ลูกชายรอดชีวิตจากโรคร้าย จึงได้เปิดกองทุนระดมเงินช่วยเหลือ     นาง Lai Donghong คุณแม่ของเด็กชายพบว่าเงินในบัญชีที่เธอเก็บไว้เพื่อที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกชายจำนวนประมาณ 743,000 บาท ได้หายไป ซึ่งหลังจากการตรวจสอบแล้วพบว่าเงินทั้งหมดถูกโอนไปยังบัญชีของเกมมือถือที่ชื่อว่า King of Glory     คุณแม่รู้ในทันทีเลยว่าเงินที่ถูกโอนไปยังบัญชีนี้เป็นบัญชีของเกมมือถือที่ลูกชายของเธอชอบเล่นอยู่บ่อยๆ แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะนำเงินสำหรับรักษาเขาไปใช้ได้ง่ายๆ แบบนี้ คุณแม่ได้บอกกับนักข่าวว่า ลูกชายโอนเงินจากบัญชี Wechat ของแม่เข้าบัญชี Wechat ของตัวเองแล้วนำเงินส่วนนั้นไปใช้เล่นเกม เติมเงิน ซื้อตัวฮีโร่     คุณแม่ได้เก็บเงินค่ารักษาพยาบาลไว้ในบัญชี Wechat เนื่องจากว่ามันปลอดภัยและสะดวกกว่าการถือเงินสดไว้ ลูกชายเธอบอกว่า เขาเห็นว่าแม่โอนเงินผ่านบัญชีบ่อยๆ จึงแอบจำวิธีมา แต่เขาไม่รู้ว่าเงินในนั้นมันคือเงินจริงๆ คุณแม่ได้ร้องเรียนเรื่องราวนี้ผ่านสื่อ ซึ่งทางบริษัทเกมได้ออกมาแจ้งว่า เธอสามารถเรียกเงินคืนได้แค่เพียง 2…

  • น่านำมาใช้… มหาวิทยาลัยมาเลเซีย ใช้วิธีเช็กชื่อใหม่ เพียงสแกน QR รวดเร็วและทันใจ!!

    น่านำมาใช้… มหาวิทยาลัยมาเลเซีย ใช้วิธีเช็กชื่อใหม่ เพียงสแกน QR รวดเร็วและทันใจ!!

    ย้อนกลับไปสมัยที่คุณยังเรียนอยู่มหาลัยเวลาที่คุณจะเข้าเช็กชื่อกับอาจารย์ พวกคุณต้องทำยังไงกัน? คุณต้องไปเซ็นชื่อบนกระดาษหรือว่าต้องขานชื่อและยกมือตอบ หรือว่าจริงๆ คุณไม่เคยมาเช็กชื่อเลยเพราะฝากเพื่อนทำให้ตลอด… เอาเป็นว่าทิ้งเรื่องเช็คชื่อแบบเก่ากันไปก่อน เรามาดูการเช็คชื่อแบบใหม่กันดีกว่ากับการใช้ QR โค้ดในการเช็กชื่อของ University Technology Petronas มหาวิทยาลัยจากประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านเรานี่เอง ระบบดังกล่าวนั้นยังไม่มีการออกมาอธิบายอย่างจริงจังว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ใช้งานอย่างไรและส่งผลอะไรบ้าง แต่การเช็กชื่อดังกล่าวนั้นถูกเผยแพร่ออกมาโดยหนึ่งในนักศึกษาที่เข้าเรียน โดยเขาได้โพสต์ภาพการเช็กชื่อด้วยวิธีดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว แน่นอนว่าก็มีคนให้ความสนใจกันเพียบ     ซึ่งแม้ว่าเจ้าระบบนี้จะดูไฮโซและดูเข้าท่าเข้าทางยังไงก็ตาม ชาวเน็ตบางคนก็บอกว่านักศึกษาอาจจะโกงเช็คชื่อได้นะแค่แอบถ่ายรูป QR ไว้ก็พอแล้ว นั่นเลยทำให้เจ้าของโพสต์กลับมาตอบว่าการจะโกงที่ว่านั้นมันเป็นไปได้ยากพอสมควรเลยทีเดียว เขาให้เหตุผลว่า ตัว QR ดังกล่าวนั้นจะถูกกำหนดเวลาหมดอายุมา เพื่อให้ลงชื่อได้เฉพาะก่อนเวลาเข้าเรียนเท่านั้น ฉะนั้นถ้าใครที่มาเช็กเวลาเข้าเรียนไม่ทัน ตัวโค้ดก็จะหมดอายุทำให้นักเรียนคนดังกล่าวไม่สามารถเช็กชื่อได้นั่นเอง (ดูเหมือนที่อยู่จาก GPS ก็มีส่วนด้วย ทำให้แอบลงชื่อจากที่บ้านไม่ได้)     นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตอีกคนที่เรียนอยู่ที่ University of Science Malaysia ก็มาแชร์คลิปการเข้าเรียนด้วยวิธีนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเท่ากับว่าวิธีนี้เริ่มเป็นที่แพร่หลายในประเทศมาเลเซียแล้วนั่นเอง น่าสนใจจริงๆ สำหรับใครที่ดูคลิปข้างล่างสามารถเข้าไปดูต้นฉบับได้ที่ Tira_Abu UNIMAS pun sama awak. Hihi. pic.twitter.com/lBdCb2aNGR — Nurul…

  • เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ พูมา x คิตตี้ ครบทั้งเสื้อกางเกงรองเท้าและกระเป๋า ของมันต้องมี!!

    เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ พูมา x คิตตี้ ครบทั้งเสื้อกางเกงรองเท้าและกระเป๋า ของมันต้องมี!!

    ปัจจุบันนั้นสินค้าจำพวกแฟชั่นแบรนด์ดังต่างๆ มักจะเริ่มหาแนวทางใหม่ๆ ให้ตัวเองกันอยู่เสมอ ซึ่งแนวทางที่ฮิตมากในปัจจุบันคือการไปร่วมแจมกับแบรนด์อื่น ศิลปินหรือแม้แต่กับตัวการ์ตูนก็ยังไปกันให้ทั่ว เพราะถ้าใครตามข่าวจากทาง Catdumb ก่อนหน้านี้คงจะได้เห็นข่าวรองเท้า อาดิดาส x ดราก้อนบอล กันไปแล้ว ซึ่งนั่นก็ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างชั้นดี หรือจะเป็น ไนกี้ x กันดั้ม ก็มีเช่นกัน (อ่านข่าวเก่าได้ที่ ‘เอาเงินไปเลย!! Adidas x Dragon Ball สวยงามขนาดนี้ ไม่ใช่สาวกยังอยากได้มาครอบครอง‘) ทีนี้ทางแบรนด์ ‘พูมา‘ ก็ไม่ยอมน้อยหน้าขอเอาบ้าง โดยการเปิดตัว พูมา x คิตตี้ เพื่อเป็นการฉลอง 50 ปีของ Puma ที่สำคัญด้วยธีมสีแดงแรงฤทธิ์ของคอลเลคชั่นนี้ ถือว่าเหมาะกับเทศกาลตรุษจีนและวาเลนไทน์ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้เอามากๆ ภายในคอลเลคชั่นนั้นจะประกอบด้วยสินค้ามากมายทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า หมวกและอื่นๆ อีกมากมาย   ตัวหมวกนั้นจะขายอยู่ที่ราคา 40 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,250 บาท)   กระเป๋าจะมีราคาอยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐ…

  • หวัดดีจ้า… เมื่อคู่รักถูกเซอร์ไพรส์โดย ‘แก๊งลูกแมวป่า’ บุกเข้ามาเยี่ยมเยือนถึงบ้าน

    หวัดดีจ้า… เมื่อคู่รักถูกเซอร์ไพรส์โดย ‘แก๊งลูกแมวป่า’ บุกเข้ามาเยี่ยมเยือนถึงบ้าน

    ในบางเมืองของต่างประเทศนั้นการได้พบเจอกับเหล่าสัตว์ป่าที่บริเวณสวนหลังบ้านของตัวเองนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติเป็นอย่างมาก นั่นอาจเป็นเพราะว่าระบบนิเวศน์ที่ไม่เหมือนกับบ้านเรา และการวางผังเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าด้วยเช่นกัน…   เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของครอบครัวครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมือง Peoria รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พบเจอกับเรื่องราวสุดเซอร์ไพรซ์ เมื่อแก๊งเหมียวป่าบุกมาเยือนถึงหน้าบ้านเลยทีเดียว!!   หลังจากที่คุณ Paul และ Pamela Oldach ได้ตื่นมาตามปกติในตอนเช้า ทั้งคู่ก็ต้องแปลกใจเมื่อแก๊งเหมียวป่า ชวนกันมาเดินเล่นกันแบบชิลๆ ที่สวนหลังบ้านของพวกเขา ก็เลยไปหยิบกล้องมาถ่ายรูปไว้ซะเลย อิอิ   จากการตรวจสอบดูแล้วก็พบว่ามันคือลูกๆ ของแมวป่า Bobcat นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่านอกจากลูกๆ ของมันแล้วก็ยังมีตัวแม่ของมันคอยสอดส่องดูแลอยู่ห่างๆ ขณะที่เจ้าตัวน้อยทั้งหลายกำลังสำรวจบริเวณบ้านของครอบครัว Oldach (ราวกับว่าจะทำการยึดที่นี่เป็นที่อยู่ของมันยังไงยังงั้นเลยแฮะ 555+)   สาระน่ารู้!!! Bobcat เป็นแมวป่าที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับ Lynx (ลิงซ์) มีรูปร่างโดดเด่นจดจำง่าย ร่างกายกำยำล่ำสัน มีขนที่หนานุ่มและมีสีสันหลากหลาย ตั้งแต่เทาอ่อนจนถึงน้ำตาลแดง หางของเจ้าบอบแทคนั้นสั้นมากเมื่อเทียบกับขนาดตัวยาวเพียง 13-20 เซนติเมตรเท่านั้น ขนาดตัวของมันนั้นไม่ใหญ่มากโดยเมื่อโตเต็มวัยตัวผู้จะมีน้ำหนัก 9-13 กิโลกรัม ส่นตัวเมียจะหนัก 6-9 กิโลกรัม เหล่าบอบแคทอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ อยู่ได้ในภูมิประเทศทุกชนิดทั้งทะเลทราย…

  • 19 เกร็ดสาระแบบสั้นๆ เข้าใจง่าย ในเรื่องของสิ่งใกล้ตัวที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

    19 เกร็ดสาระแบบสั้นๆ เข้าใจง่าย ในเรื่องของสิ่งใกล้ตัวที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

    ในโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งสิ่งมีชีวิตอย่างคนหรือสัตว์ และสิ่งไม่มีชีวิตอย่างต้นไม้ ภูเขา ทะเลอีกด้วย จึงมีความรู้เกี่ยวกับโลกนี้อยู่มากมายเสียจนใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงจำไม่หมดเลย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเพิ่มพูนเกร็ดความรู้ใหม่เอง พวกเราจะได้มีความรู้รอบตัวเพิ่มขึ้นไปพร้อมๆ กัน ถ้าเรียนรู้เรื่องใหม่ทุกวันเป็นประจำเราอาจจะเป็นอัจฉริยะในอนาคตก็ได้ใครจะไปรุู้   1. นกไม่ฉี่กันหรอก เพราะมันไม่มีท่อปัสสาวะนั่นเอง ดังนั้นใครที่เคยคิดว่านกฉี่ใส่ไม่มีจริงนะจ๊ะ   2. ในมะเขือม่วงก็มีสารนิโคตินเหมือนกัน แต่มีอยู่น้อยนิดเท่านั้น เทียบกับบุหรี่ไม่ติดเลย   3. เด็กทารกไม่สามารถฝันได้ นักประสาทวิทายาเชื่อว่าคนเราจะเริ่มฝันได้ตอนที่อายุ 4-5 ปีแล้ว   4. ดวงดาวสามารถทำลายดาวเคราะห์ที่เข้าไปใกล้มันมากเกินไปได้ ดีนะที่โลกเราไม่มีดวงดาวรอบๆ   5. เต่าก็สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้เหมือนกับคนนั่นแหละ สัตว์บางชนิดอย่างช้างและสิงโตทะเลเองก็เช่นกัน   6. แมงกะพรุนระเหยเป็นไอได้ เนื่องจากร่างกายแมงกะพรุนประกอบด้วยน้ำกว่า 98 เปอร์เซนต์เลย ถ้ามันถูกแดดเผาจนระเหยไปก็แทบจะไม่เหลืออะไรเลยนั่นเอง   7. เราสามารถรับประทานทองคำได้ แต่เครื่องประดับทองคำทั่วไปมีแร่ที่กินไม่ได้ผสมอยู่ด้วย อย่าเผลอลองกินล่ะ   8. เจ้าจ๋อก็ขัดฟันเหมือนกันนะ พวกมันมักจะใช้ขนนกหรือใบหญ้าแทนไหมขัดฟัน จะได้รักษาความสะอาดช่องปากและยิ้มสวยด้วย   9.…

  • ของเล่นเปลี่ยนโลก!! เผยภาพ “สิทธิบัตร” แรกของ LEGO เมื่อ 60 ปีที่แล้ว ที่เรายังไม่ได้เห็น

    ของเล่นเปลี่ยนโลก!! เผยภาพ “สิทธิบัตร” แรกของ LEGO เมื่อ 60 ปีที่แล้ว ที่เรายังไม่ได้เห็น

    หลายคนอาจจะลืมเลือนกันไปแล้วว่าก่อนที่เราจะมีของเล่นสุดล้ำสมัยแบบในปัจจุบัน เราเคยเล่นตัวต่อสุดมหัศจรรย์อย่าง LEGO กันมาก่อน ซึ่งใครจะเชื่อว่าเจ้าตัวต่อรูปทรงสี่เหลี่ยมที่เราพูดถึงนี้ ปัจจุบันอายุกว่า 60 ปีเลยทีเดียว แรกเริ่มในปี 1932 นั้น Ole Kirk Christiansen ชายชาวเดนมาร์กผู้ทำอาชีพช่างไม้ได้มองหาโอกาสที่จะมาพลิกวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นกับเขาและเศรษฐกิจในสมัยนั้น นั่นทำให้เขาตั้งบริษัทขึ้นมาในชื่อว่า LEGO โดยมีผลิตภัณฑ์หลักเป็นของเล่นจากไม้     ในเวลาต่อมาปี 1947 เขาได้เริ่มเปลี่ยนของเล่นจากไม้มาเป็นพลาสติกและให้กำเนิดของเล่นที่เปลี่ยนชีวิตเขาและลูกชายไปตลอดการในชื่อว่า Automatic Binding Bricks แน่นอนว่าตอนนั้นมันยังไม่สมบูรณ์มากนักแต่ถือว่าเป็นของเล่นชั้นเยี่ยมก็ว่าได้     ต่อมา 1953 Ole ได้เปลี่ยนชื่อของ Automatic Binding Bricks ให้กลายเป็น LEGO Bricks และต่อมาในปี 1955 ทาง LEGO ก็ได้จดชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการในประเทศเดนมาร์ก อย่างไรก็ตามตัว LEGO Bricks ในตอนนั้นยังไม่รับว่าเป็นเวอร์ชั่นสุดท้ายซะทีเดียว เพราะต่อมาในปี 1957 ทางด้าน  Godtfred Kirk Christiansen ผูู้เป็นลูกชายได้คิดค้นระบบการเชื่อมต่อด้วยปุ่มและท่อขึ้นมา…

  • ภาพแรงงานเด็กของอเมริกา จากยุคอุตสาหกรรมรุ่งเรือง ถูกย้อมให้กลับมามีสีสัน

    ภาพแรงงานเด็กของอเมริกา จากยุคอุตสาหกรรมรุ่งเรือง ถูกย้อมให้กลับมามีสีสัน

    “มีงานที่ทำกำไรให้กับเด็กๆ และงานที่ทำกำไรให้เพียงนายจ้างเท่านั้น เป้าหมายของการจ้างเด็กไม่ได้เป็นการฝึกฝนพวกเขา แต่เป็นเพียงการหาผลกำไรสูงสุดจากการทำงานของพวกเด็กๆ เท่านั้น” – Lewis Wickes Hine (1874-1940) Lewis Wickes Hine นักสังคมวิทยาและช่างถ่ายภาพชาวอเมริกัน เขาใช้งานของตนเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการใช้แรงงานเด็กของอเมริกา ผลงานที่ Lewis ได้ทำไว้คือ การถ่ายภาพการใช้แรงงานเด็กจากหลายๆ เมืองในสหรัฐอเมริกา เป็นเหตุให้ตัวเขาถูกเหล่าหัวหน้าคนงานของโรงงานที่ใช้แรงงานเด็กขู่ฆ่า ซึ่งภาพถ่ายขาวดำที่เขาถ่ายเก็บไว้ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นต่อเด็กๆ ในอเมริกาอย่างมาก Tom Marshall ช่างภาพ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ศรัทธาและยกย่องผลงานของ Lewis เขาจึงได้นำผลงานภาพถ่ายของ Lewis มาแต่งเติมสีสันจากภาพขาวดำในสมัยนั้นมาเป็นภาพที่มีสีสัน ราวกับว่าเราได้เข้าไปอยู่ในโลกของอดีตจริงๆ   เดือนมีนาคม 1911 เด็กชาย Johnnie อายุ 9 ปี กับงานแกะเปลือกหอย ภาพถ่ายที่เมือง Dunbar รัฐหลุยส์เซียนา   เดือน มิถุนายน 1910 Michael McNelis อายุ 8 ปี เด็กส่งหนังสือพิมพ์ เมือง Philadelphia…

  • หนุ่มแกล้งทำเป็นผีผ้าห่อศพ เจอตำรวจปราบเข้าให้ ทำโทษให้กระโดดหย๋องๆ ไปเลย 15 นาที!!

    หนุ่มแกล้งทำเป็นผีผ้าห่อศพ เจอตำรวจปราบเข้าให้ ทำโทษให้กระโดดหย๋องๆ ไปเลย 15 นาที!!

    เป็นที่ทราบกันดีว่าหน้าที่หลักของตำรวจนั้นก็คือการรักษาความสงบและจับกุมผู้ร้าย ทว่าเมื่อเร็วๆ นี้ตำรวจจากประเทศมาเลเซียไม่ได้จับแต่ผู้ร้าย พวกเขายังจับผีผ้าห่มมาลงโทษได้ด้วย เมื่อชาวเน็ตได้เห็นคลิปข่าวนี้ก็เอาไปขยายกันต่อจนข่าวนี้ดังใหญ่เลย อันที่จริงแล้วผีที่ว่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติแต่อย่างใด เขาเป็นเด็กวัยรุ่นที่แกล้งแต่งตัวเป็นผีมาหลอกผู้อื่นเพื่อความสนุกต่างหาก โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของเขาก็คือเด็กเล็กที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนนั่นเอง   ตำรวจเจอวัยรุ่นแต่งผีอยู่ข้างทาง เลยเข้าไปจับซะเลย   พวกเขาหลอกเด็กในทำนองนี้มาหลายครั้งแล้ว ปกติพวกเขามักจะหลอกคนอยู่บริเวณชุมชม Kampung Padang Kunyit ในเขต Bukit Pinang ประเทศมาเลเซีย ทว่าครั้งนี้พวกเขาหาเหยื่อให้แกล้งไม่ได้ก็เลยย้ายทำเลมายังชุมชน Taman Pinang Jaya ที่อยู่ใกล้เคียงแทน แต่โชคร้ายเจอตำรวจที่นี่จึงโดนเรียกมาลงโทษตักเตือนซะเลย   แกล้งคนแบบนี้ต้องลงโทษซะให้เข็ด   Mohd Imran Mohammad วัยรุ่นอายุ 16 ปีที่แต่งตัวเป็นผีเล่าให้ตำรวจฟังว่า “ผมและเพื่อนทั้ง 4 คนกะจะทำเพื่อแกล้งคนสนุกๆ เท่านั้น โดยผมอาสาเป็นคนแต่งตัวเป็น ‘hantu pocong’ (ผีที่พันตัวด้วยผ้าห่อศพ) แล้วไปหลอกเด็กที่เพิ่งเลิกเรียนกุรานมาให้กลัวเล่นแค่นั้นเอง” อย่างไรก็ตามตำรวจเห็นว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายแรงไปกว่านั้นก็เลยไม่ได้จับวัยรุ่นกลุ่มนี้เข้าคุกหรือปรับเงิน แต่เพื่อเป็นการตักเตือนเขาก็เลยให้ Mohd Imran ไปแต่งตัวเป็นผีแล้วกระโดดอยู่กลางชุมชน Bukit Pinang อยู่ 15 นาที…

  • ความน่ารักของคู่หู “ลิตเติลอปป้า” กับ “เจ้าโกลเด้นน้อย” ส่วนผสมที่ลงตัวพร้อมยั่วยวนหัวใจ

    ความน่ารักของคู่หู “ลิตเติลอปป้า” กับ “เจ้าโกลเด้นน้อย” ส่วนผสมที่ลงตัวพร้อมยั่วยวนหัวใจ

    เด็กน้อยกับสุนัขมักจะมีอะไรที่คล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นความไร้เดียงสา ความอยากรู้อยากเห็น และความน่ารักเหมือนๆ กัน ถ้าให้พวกเขามาอยู่ด้วยกัน ต้องเป็นคู่หูที่คิวต์มากแน่ๆ ดูอย่าง Molly สุนัขโกลเด้นวัย 3 ขวบ ผู้รักในการผจญภัยกับพี่ชายตัวน้อย Aithan วัย 3 ขวบ มาอยู่ด้วยกันแล้วยิ่งเพิ่มดีกรีความน่ารักให้ทั้งคู่ไปอีก     ทั้งน้องหมาแสนรู้และหนูน้อยผู้น่ารัก มาจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ พวกเค้าเป็นคู่หูที่รักกันมาก ตัวติดกันตลอด และมักจะอยู่ด้วยกันเสมอในทุกๆ ที่ และที่สำคัญ แม้จะอายุแค่ 3 ขวบ แต่หนูน้อย Aithan ก็ทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีให้น้องหมา Molly อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง   แม่ของทั้งคู่คือ Joo Ah-min ที่เป็นทั้งนักแสดง นางแบบ แถมยังเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ ส่วนสามีของเธอเป็นชาวเกาหลี-อเมริกัน     ความรักของทั้งคู่เป็นรักอันบริสุทธิ์ที่ไม่มีเงื่อนไข   นอกจากเป็นพี่น้องแล้ว พวกเขายังเป็นเพื่อนที่เล่นหิมะด้วยกัน   เป็นคู่เล่นปาก้อนหิมะให้กัน   พี่ชายกำลังเช็กหลังคาให้น้องว่ามีรอยรั่วหรือเปล่า   พาน้องไปเดินเล่นในห้าง พบปะเพื่อนใหม่ๆ   อ้อมกอดอันอบอุ่นจากพี่ชาย…

  • บริษัทออกแบบลองทำตามใจลูกค้าทุกอย่าง และนี่คือผลงานที่ได้ออกมา โดนใจเอ็งมั้ยล่ะ!?

    บริษัทออกแบบลองทำตามใจลูกค้าทุกอย่าง และนี่คือผลงานที่ได้ออกมา โดนใจเอ็งมั้ยล่ะ!?

    โฆษณาที่เราเห็นตามหน้าจอทีวีหรือโปสเตอร์ข้างถนนของผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น มักจะมาจากนักออกแบบ เอเจนซี่ หรือถ้าใครกลัวไม่ถูกใจ ก็อาจจะออกแบบด้วยตัวเอง แต่การที่ลูกค้าให้นักออกแบบหรือเอเจนซี่ออกแบบให้ นั่นหมายความพวกเขาต้องเชื่อมั่นในไอเดียและฝีมือของคนคนนั้น เพราะไม่อย่างนั้น อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างลูกค้ากับผู้ออกไปแบบได้ อย่างทวิตล่าสุดของสินค้า Nissin Cup Noodles ในประเทศญี่ปุ่น ที่เผยให้เห็นความวิบัติของภาพโฆษณา เมื่อนักออกแบบยอมทำตามทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ   นี่คือภาพโฆษณาที่นักออกแบบทำให้กับบริษัท Nissin Cup Noodles ในญี่ปุ่น   ในทวิตดังกล่าว ทางนักออกแบบได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า “เราพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดบางอย่างที่ลูกค้าติมา แต่พวกเขาบอกว่ามันยังไม่เจ๋งพอ” จากภาพต้นฉบับที่นักออกแบบส่งให้ลูกค้าครั้ง ถูกลูกค้าติอย่างละเอียดแทบทุกจุด แน่นอนนักออกแบบไม่มีทางเลือก สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือ ทำตามความต้องการของลูกค้า แล้วดูสิ๊ ผลจะออกมาเป็นยังไง?   สิ่งที่ทางบริษัทตอบกลับมาหลังเห็นภาพที่นักออกแบบส่งมาให้   ส่งไปรอบแรก Nissin Cup Noodles ติดมาหลายอย่างเลย เช่น ผมดำมันให้ความรู้สึกเหมือนหมึกสีดำทั่วไป เปลี่ยนให้มันมีความรู้สึกเข้าถึงชีสหน่อย ให้นางแบบยิ้มมากกว่านี้หน่อย ทำพื้นหลังที่ให้ความรู้สึกแบบฟาร์มหน่อย หรือ โชว์สินค้าให้เด่นกว่านี้ เป็นต้น   .   และนี่คือการแก้ไขครั้งแรก หลังจากที่โดนติมา…

  • โผล่อีกราย… ชายสิงคโปร์ผู้บริโภคซาชิมิ กลายเป็นแหล่งเพาะพันธ์ุพยาธิตัวตืดยาว 2.8 เมตร!!

    โผล่อีกราย… ชายสิงคโปร์ผู้บริโภคซาชิมิ กลายเป็นแหล่งเพาะพันธ์ุพยาธิตัวตืดยาว 2.8 เมตร!!

    บนโลกนีี้มีของอร่อยๆ สำหรับมนุษย์เราอยู่อย่างมากมายทั้งหมู เห็ด เป็ด ไก่ต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องนำมาผ่านกรรมวิธีปรุงให้สุกเพื่อให้มีความปลอดภัยแก่ร่างกาย รวมทั้งเพิ่มความโอชะให้กับอาหารประเภทนั้นๆ ด้วย ทว่าสำหรับบางคนนั้น อาหารดิบๆ กลับกลายเป็นอาหารชั้นเลิศ เราจึงเห็นเมนูของดิบๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย โดยในบ้านเราก็มีทั้งลาบดิบ กุ้งเต้นหรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่ก็ไม่ใช่แต่เฉพาะกับประเทศไทยเท่านั้น เพราะว่าในต่างประเทศก็มีการทานของดิบที่ว่านี้เช่นกัน เช่น ปลาดิบ (ซาซิมิ) ก็เคยมีให้เห็นกันอย่างละลานตา ซึ่งก็เป็นที่รู้กันดีว่าอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุกนั้นมีอันตรายมากมายซ่อนอยู่ มันอาจจะทำให้เราปวดท้อง อาหารเป็นพิษหรือมันอาจจะทำให้มีเชื่อโรคเข้าไปเติบโตในร่างกายของเราได้ เหมือนกับในเคสนี้ที่มีนายแพทย์พบพยาธิตัวตืดที่มีความยาวถึง 2.8 เมตรอยู่ในร่างกายของมนุษย์!!   พยาธิตัวตืดที่ค้นพบในร่างกายของชายคนหนึ่ง   เหตุการณ์สยองพองเกล้าครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลทั่วไปสิงคโปร์ (SGH) เมื่อทางทีมแพทย์ได้กล่าวว่าพวกเขาได้นำพยาธิตัวตืดออกจากร่างของชายคนหนึ่งผ่านทางรูทวารหนัก โดยพยาธิที่นำออกมานี้พวกเขากล่าวเอาไว้ว่า เมื่อนำมาเรียงต่อกันจะมีความยาวมากถึง 2.8 เมตรเลยทีเดียว แต่กระนั้นชายผู้ป่วยคนดังกล่าวก็ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นกับตัวของเขาทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่จริงแล้วพยาธิที่ว่านี้อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และอาจมีอันตรายจนถึงชีวิตได้ ซึ่งสิ่งที่ทำให้เขามาพบแพทย์ก็เป็นเพราะ เขาสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างเล็ดลอดออกมาทางรูทวารของเขา จึงได้มาปรึกษากับแพทย์จนในที่สุด   อร่อยอย่างนี้ ต้องระวังกันนะจ๊ะ   สำหรับสาเหตุ ยังไม่แน่ใจว่าการติดเชื้อพยาธิเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากการทดสอบไม่สามารถสรุปได้ แต่พยาธิชนิดนี้จะสามารถพบได้ในเนื้อหมู เนื้อวัว…

  • ญี่ปุ่นเสนอ ‘โทรศัพท์ฟรี’ สำหรับนักท่องเที่ยว โทรและเล่นเน็ตฟรี มีข้อมูลครบครันอีก!!

    ญี่ปุ่นเสนอ ‘โทรศัพท์ฟรี’ สำหรับนักท่องเที่ยว โทรและเล่นเน็ตฟรี มีข้อมูลครบครันอีก!!

    ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำที่น่าสนใจมากมาย และแต่ละที่ก็จะมีจุดเด่นที่น่าดึงดูดแตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นคือจังหวัดคะนะงะวะ ที่ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟเพียง 30 นาทีจากตัวเมืองโตเกียว เหตุผลที่คุณไม่ควรมองข้ามจังหวัดคะนะงะวะเมื่อไปเยือนประเทศญี่ปุ่น เพราะในจังหวัดนี้มีทั้งวัดและพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของเมืองคะมะกุระ แถมยังมีล้อมรอบด้วยภูเขาที่สวยงามอีกด้วย นอกจากนี้คุณจะเห็นทิวทัศย์ของภูเขาไฟฟูจิ น้ำพุร้อนออนเซนของรีสอร์ตฮาโกเน่ มีพิพิธภัณฑ์ราเมง 2 ที่ในเมืองโยโกฮาม่า มีท่าเรืออันงดงาม และขบวนพาเหรดปิกาจูที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี     ที่กล่าวมาก็ถือว่าน่าสนใจมากๆ แล้ว แต่นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 นี้ ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดไปคะนะงะวะ หากไปญี่ปุ่น เหตุผลที่ว่านี้คือ จังหวัดคะนะงะวะเสนอสมาร์ตโฟนให้กับนักท่องเที่ยวฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น!!     รัฐบาลจังหวัดคะนะงะวะและบริษัทโทรคมนาคม Handy ได้ร่วมมือกัน จัดหาสมาร์ตโฟนจำนวน 300 เครื่อง สำหรับให้นักเที่ยวยืมใช้ระหว่างท่องเที่ยว ทั้ง 300 เครื่องนี้จะให้บริการอยู่ที่เคาน์เตอร์ข้อมูลการท่องเที่ยว 5 จุด ที่เมืองโยโกฮามา 3 จุด ที่เมืองคะมะกุระ 1 จุด และที่เมืองฮาโกเน่ อีก 1 จุด  …

  • แบรนด์ ZARA เปิดขายกระโปรงสั้นลายสก็อต แต่ไหงมันดูคล้ายๆ ‘โสร่ง’ จังแฮะ…

    แบรนด์ ZARA เปิดขายกระโปรงสั้นลายสก็อต แต่ไหงมันดูคล้ายๆ ‘โสร่ง’ จังแฮะ…

    เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2018 แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอย่าง ZARA ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นบนเว็บแต่จะเห็นเฉพาะคนที่อยู่โซนยุโรปเท่านั้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับเสื้อผ้าพื้นในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Check Mini Skirt เป็นสินค้าตัวใหม่ที่ ZARA ปล่อยออกมาบนเว็บขายสินค้าออนไลน์ ด้วยราคาประมาณ 3,100 บาท ตัวผลิตภัณฑ์นั้นมีลักษณะเป็นกระโปรงลายสก็อต แต่ชาวเน็ตดูไปดูมาก็รู้สึกว่านี่มัน “โสร่ง” นี่หน่า     โดยที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ท่านหนึ่งชื่อ ms_aria101 ได้ทำการโพสต์ภาพเจ้า Check Mini Skirt นี้พร้อมกับภาพของ Lungi ที่เป็นโสร่งที่ผู้ชายชาวเอเชียทางตอนใต้นิยมใส่กัน โดยที่เธอได้โพสต์ภาพพร้อมกับคำอธิบายว่า “กระโปรงราคา 3,100 จาก ZARA นั่นมันคล้ายกับประโปรงที่ผู้ชายชาวเอเชียทางตอนใต้นิยมกันเลย (Lungi) ซึ่งมันราคาถูกกว่า 45 บาทซะอีก”  เธอพูดมาขนาดนี้ หลายคนคงสงสัยล่ะสิว่ามันจะคล้ายกับโสร่งเพียงใด เราลองไปดูรูปสินค้าตัวใหม่ของ ZARA กันเลย   Check Mini Skirt – 3,100 บาท มีสีเดียว . . . .…

  • คุณแม่เดือด เมื่อ ‘ฆาตกร’ ที่ฆ่าลูกชายตนเอง หันมาหัวเราะเย้ยใส่ ขณะที่อยู่ในศาล…

    คุณแม่เดือด เมื่อ ‘ฆาตกร’ ที่ฆ่าลูกชายตนเอง หันมาหัวเราะเย้ยใส่ ขณะที่อยู่ในศาล…

    เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2018 Elizabeth Marie Wren ผู้เป็นแม่ของเด็กชายสองคนที่ถูกฆาตกรรม ได้ถูกนำตัวออกจากห้องพิจารณาคดีของรัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา เนื่องจากเธอเกิดอาการโมโหรุนแรง และพุ่งตัวเข้าไปยังผู้ต้องหาที่เชื่อว่าเป็นผู้ร้ายในคดี     Maurice ‘Reece‘ Gordon อายุ 16 ปี และ Larry Ordway อายุ 14 ปี ทั้งคู่เป็นบุตรชายของ Elizabeth ร่างของพวกเขาทั้งสองถูกพบในบ้านร้างแห่งหนึ่ง โดยสภาพศพนั้นถูกเผาจนไหม้เกรียม     จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2018 Brice Rhodes ชายวัย 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ก็ได้เข้ารับการพิจารณาคดี พร้อมกันกับ Elizabeth ที่เข้าร่วมรับฟังอย่างสงบ   .   จากนั้นราว 20 นาที ขณะที่ผู้ต้องหากำลังถูกนำตัวออกจากห้องพิจารณาคดีนั้น ตามรายงานบอกว่า เขาหันหน้ากลับมามองที่ Elizabeth พร้อมทั้ง “หัวเราะ” ออกมา ทำให้หญิงสาวพุ่งตัวเข้าหา Rhodes…

  • ท่องเที่ยวกับคณะละครสัตว์ กับภาพถ่ายที่จะทำให้เห็นมุมมองเบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยพบ

    ท่องเที่ยวกับคณะละครสัตว์ กับภาพถ่ายที่จะทำให้เห็นมุมมองเบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยพบ

    ละครสัตว์นั้นถือได้ว่าเป็นการแสดงที่รวบรวมเอาความบันเทิงหลายรูปแบบไว้ในที่เดียวกัน ที่นั่นเราจะได้เห็นทั้งการแสดงความสามารถพิเศษของสัตว์ต่างๆ และยังได้เห็นความสามารถเฉพาะตัวของมนุษย์อีกด้วย เบื้องหน้าการแสดงทุกอย่างออกมาตระการตา สนุกสนาน สวยงาม และสมบูรณ์แบบ แล้วมีใครเคยพบเห็นความสวยงามเบื้องหลังการแสดงละครสัตว์มาบ้างแล้วหรือยัง ถ้ายังเราจะพาท่านไปดูภาพเหล่านั้นกัน Peter Lavery คือช่างภาพนายหนึ่งที่เคยตามติดชีวิตของบรรดาสมาชิกละครสัตว์ การถ่ายภาพละครสัตว์ของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1968 ที่คณะละครสัตว์ได้ไปเยือนบ้านเกิดของเขาใน Wakefield ประเทศอังกฤษ และนี่ก็คือ 10 ภาพเบื้องหลังโรงละครสัตว์ที่ Peter เก็บมาให้เราได้รับชมกัน ส่วนหากใครสนใจผลงานต่างๆ ของเขา หรือรายละเอียดอื่นๆ ก็สามารถเข้าไปรับชมได้ ที่นี่ เลย…   #1   #2   #3   #4   #5   #6   #7   #8   #9   #10   เป็นภาพที่ดูแล้วมีมนต์ขลัง อีกทั้งยังสะท้อนวิถีชีวิตและความงามหลังฉากของเหล่านักแสดงละครสัตว์ได้ดีจริงๆ เลย   ที่มา: Sobadsogood

  • คู่รักกับสภาพเท้าอันเน่าเปื่อย ผลพวงจาก ‘พยาธิปากขอ’ สิงเท้าเปล่าบนชายหาด!!

    คู่รักกับสภาพเท้าอันเน่าเปื่อย ผลพวงจาก ‘พยาธิปากขอ’ สิงเท้าเปล่าบนชายหาด!!

    [บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม]   วันหยุดทั้งทีใครก็ต้องอยากพักผ่อนให้ชื่นใจ แต่บางครั้งการพักผ่อนนั้นก็ไม่ได้ตามมาด้วยความชื่นใจเสมอไปหรอก มันอาจมีบางสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ตามมาด้วย และอาจทำให้วันหยุดของคุณเลวร้ายลงสุดๆ เลยก็เป็นได้ อย่างเช่นคู่รักหนุ่มสาวชาวแคนาดาคู่นี้ Katie Stephens วัย 22 ปีและ Eddie Zytner วัย 25 ปี ทั้งคู่ได้ใช้ช่วงเวลาวันหยุดด้วยกันที่สาธารณรัฐโดมินิกัน ณ รีสอร์ตแห่งหนึ่ง และได้ไปเดินเล่นเท้าเปล่าบนชายหาดใน Punta Cana     แต่หลังจากที่เขากลับบ้านมาในช่วงเดือนมกราคม 2018 กลับรู้สึกคันบริเวณเท้าของพวกเขา ขณะนั้นพวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นเพราะแมลงกัด     เมือพวกเขาไปพบแพทย์ก็ไม่มีแพทย์คนไหนทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งเข้าพบแพทย์คนที่ 3 ที่พบว่า “พยาธิปากขอ” อยู่ในเท้าของพวกเขา   .   หลังจากนั้น พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยา “Ivermectin” ซึ่งหาไม่ได้ในประเทศแคนาคา ทำให้พวกเขาต้องเดินทางไปถึงสหรัฐอเมริกาเพื่อหายาดังกล่าว และอาการของพวกเขาดีขึ้นอย่างช้าๆ   .   พยาธิปากขอนั้นสามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้หากคนเราไปสัมผัสโดนพื้นดินหรือทรายที่ปนเปื้อนอุจจาระของสัตว์ที่มีพยาธิติดอยู่   ทางที่ดีควรป้องกันโดยการ สวมรองเท้าหากออกไปข้างนอก ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณให้ดี เช่น…

  • ไปรษณีย์ประเทศบาร์เบโดส จัดทำสแตมป์ที่ระลึก เชิดชูผู้ที่อายุมากกว่า 100 ปีในประเทศ

    ไปรษณีย์ประเทศบาร์เบโดส จัดทำสแตมป์ที่ระลึก เชิดชูผู้ที่อายุมากกว่า 100 ปีในประเทศ

    สำนักงานไปรษณีย์ประเทศบาร์เบโดส เกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ได้จัดบริการพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อเชิดชูผู้สูงอายุที่มีอายุ 100 ปีหรือมากกว่าโดยเฉพาะ ด้วยการจัดทำแสตมป์ที่ระลึกยกย่องผู้ที่มีอายุยืนยาวทุกคน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 สำนักงานไปรษณีย์ของประเทศบาร์เบโดสได้จัดทำแคมเปญนี้ขึ้น เพื่อเฉลิมฉลอง 50 ปี แห่งอิสรภาพของประเทศบาร์เบโดส จึงได้จัดทำแสตมป์ที่ระลึกขอบคุณเหล่าผู้สูงอายุที่ทำงานหนักให้ประเทศได้รับอิสรภาพ Deborah Small ผู้อำนวยการสำนักตราไปรษณียากรได้กล่าวว่า “ฉันหวังว่าการจัดทำแสตมป์นี้จะได้รับความสนใจจากทุกคน แสตมป์ที่ระลึกนี้จัดทำขึ้นจำนวนไม่มากนัก มันจึงสำคัญมากๆ”   แสตมป์ที่ระลึก ผู้ที่มีอายุมากกว่า 100 ปีของประเทศบาร์เบโดส   จำนวนประชากรที่อายุมากกว่า 100 ปีของประเทศบาร์เบโดสมีจำนวนที่น้อยมาก ส่วนใหญ่จะมีอายุ 105-109 ปี ส่วนผู้ที่มีอายุเยอะที่สุดคือ James Sisnett เสียชีวิตเมื่ออายุ 113 ปี แสตมป์ที่ระลึกที่จะจัดขึ้นนี้ จะเป็นการนำรูปของผู้ที่มีอายุ 100 ปีขึ้นมาถ่ายภาพจัดทำเป็นแสตมป์ราคา 63 เซนต์หรือประมาณ 19 บาท สำหรับจัดส่งในประเทศเท่านั้น ซึ่งราคาแสตมป์เหล่านี้ไม่แพงเพราะต้องการให้คนในท้องถิ่นได้ร่วมอุดหนุนซื้อแสตมป์     ผู้สูงอายุที่ถูกนำรูปมาจัดทำเป็นแสตมป์จะถูกคัดเลือกมาจากสายงานต่างๆ ในแต่ละท้องถิ่น จัดทำเป็นแสตมป์สีสันสดใส เพื่อนๆ และญาติของผู้สูงอายุต่างก็ตื่นเต้นกับการผลิตแสตมป์ที่ระลึกในครั้งนี้…

  • กรรมติดรถไฟความเร็วสูง หญิงสาวไปขโมยของหน้าบ้านคนอื่น ลื่นล้มธรรมดา แต่ขาหักเฉย!!

    กรรมติดรถไฟความเร็วสูง หญิงสาวไปขโมยของหน้าบ้านคนอื่น ลื่นล้มธรรมดา แต่ขาหักเฉย!!

    คำว่า “ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว” อาจจะเป็นจริงอย่างที่เขาว่า เรื่องของเวรของกรรมนั้นอาจจะพิสูจน์ได้ยาก แต่ใครไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเลยล่ะ หากได้เห็นเหตุการณ์ต่อไปนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อรถส่งของเพิ่งนำพัสดุมาส่งยังหน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง จากนั้นจึงมีรถเก๋งคันสีดำตามมาจอด พร้อมกับหญิงสาวร่างใหญ่เดินลงมาจากรถ     เธอมั่นใจแล้วว่าบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่แน่นอน เธอจึงเดินมุ่งตรงมายังบ้านหลังที่พัสดุราว 3 กล่องเพิ่งถูกนำมาส่ง แผนการของเธอไม่มีอะไรนอกจากเดินมายกกล่องขึ้นรถแล้วหนีไปเท่านั้น เมื่อเธอเดินมาถึงหน้าประตู เธอจึงจัดการรวบรวมกล่องพัสดุและยกมันเพื่อที่จะกลับไปที่รถคันสีดำของเธอ แต่ทันใดนั้นเอง การเดินลัดสนามหญ้าของเธอทำพิษเข้าแล้ว     ขณะที่เธอถือกล่องพร้อมกับเดินมุ่งตรงไปยังรถของเธอนั้น สนามหญ้าที่เปียกและลื่น ทำให้เธอลื่นล้มลง แต่แค่นี้ไม่เพียงพอให้เป็นผลกรรมของหัวขโมยได้หรอก เพราะเธอเพียงลุกขึ้นก็ยกกล่องก็วิ่งขึ้นรถได้แล้ว     แต่ที่ไม่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า การลื่นล้มแสนธรรมดาของเธอนั้น ทำให้ขาของเธอถึงกับ “หัก” เลยทีเดียว เห็นแล้วต้องบอกเลยว่ากรรมยุคนี้เร็วยิ่งกว่ารถไฟความเร็วสูงจริงๆ     แต่ถึงกระนั้น เธอไม่ได้มาคนเดียว ชายหนุ่มรีบลงจากรถคันสีดำเพื่อมาช่วยเหลือหญิงสาวขาหัก เขาพาเธอกลับขึ้นรถ และยังไม่ลืมที่จะกลับมายกกล่องกลับขึ้นรถไปด้วย เมื่อ Lizeth Ababneh ผู้เป็นเจ้าของบ้านกลับมาเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด เธอถึงกับหัวเราะออกมา พร้อมบอกว่าในกล่องนั้นไม่มีอะไรสำคัญเลยนอกจากยาของสามีเธอเท่านั้นเอง (เรียกได้ว่าหัวขโมยนี่ได้กินยากันสนุกเลย)     อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่บ้านหลังนี้ที่โดนขโมยของ บ้านหลังอื่นๆ บริเวณใกล้เคียงก็โดนมาแล้วเช่นกัน…

  • นักวิทย์สามารถไขรหัสลับอายุกว่า 500 ปี จากคัมภีร์ลึกลับที่สุดในโลกได้สำเร็จแล้ว

    นักวิทย์สามารถไขรหัสลับอายุกว่า 500 ปี จากคัมภีร์ลึกลับที่สุดในโลกได้สำเร็จแล้ว

    Voynich Manuscript หรือว่า “ข้อเขียนวอยนิช” นั้นถือว่าเป็นหนังสือโบราณที่เขียนด้วยอักษรและภาษาที่ไม่มีใครรู้จัก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ได้พยายามอ่านมันมาเป็นเวลาหลายปี ขณะนี้มีข่าวออกมาว่า ผู้เชี่ยวชาญได้เริ่มถอดความข้อเขียนวอยนิชออกแล้ว ทำการศึกษาโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษ ซึ่งเชื่อว่าภาษาที่เขียนในหนังสือเล่มนี้นั้นเป็นภาษาฮิบรู     หนังสือเล่มนี้ถูกนำเข้ามาในโปแลนด์ตั้งแต่ปี 1912 โดยนักสะสมหนังสือหายากชื่อว่า Wilfrid Voynich เนื้อหาและที่มาของหนังสือนั้นยังไม่มีใครทราบ แต่หลายคนเชื่อว่ามันถูกเขียนขึ้นในอิตาลีช่วงยุคสมัยฟื้นฟูศิลปะและวัฒนธรรม     มีรายงานจาก Metro ว่า Greg Kondrak หัวหน้าผู้ศึกษาข้อเขียนวอยนิชได้กล่าวว่า “มันถูกเขียนออกมาเป็นประโยคที่มีหลักไวยากรณ์ มันอาจจะดูแปลกๆ แต่มันสมเหตุสมผล” กลุ่มผู้ศึกษาลองใช้โปรแกรมถอดรหัสทางสถิติเพื่อตีความประโยคแรกของข้อเขียน ซึ่ง Kondrak ออกมาเผยว่ามีความถูกต้องถึงร้อยละ 97     โดยทางกลุ่มผู้ศึกษาเองได้ออกมายอมรับว่าพวกเขาสามารถจำแนกศัพท์บางคำได้แล้ว เช่นคำว่า ชาวนา แสง และอากาศ เป็นต้น และเชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญภาษาฮิบรูจะสามารถนำมันไปตีความได้เพิ่มมากขึ้น     อย่างไรก็ตาม มีคนบอกว่าข้อเขียนวอยนิชนั้นเป็นของที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อหลอกลวง แต่จากการวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์แล้วพบรูปแบบของภาษาจาก ศตวรรษที่ 15 ที่ไม่น่าปลอมแปลงขึ้นมาได้   เป็นการค้นพบที่น่าอัศจรรย์มาก หวังว่าในวันข้างหน้าจะสามารถถอดความเนื้อหาของมันได้นะครับ อาจจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่ในนั้นที่ทำให้มนุษยชาติต้องสะทกสะท้านก็เป็นได้ ที่มา: Ladbible และ…

  • ว่าที่เจ้าสาวช้ำหนัก เหตุจากมางานวิวาห์สาย กลับถูกว่าที่สามีบอกเลิกซะเดี๋ยวนั้นเลย

    ว่าที่เจ้าสาวช้ำหนัก เหตุจากมางานวิวาห์สาย กลับถูกว่าที่สามีบอกเลิกซะเดี๋ยวนั้นเลย

    การวิวาห์นั้นเป็นพิธีหนึ่งที่สำคัญมาก สำหรับบางคนอาจจะสำคัญที่สุดเลยก็ได้ นั่นเป็นเพราะว่าพิธีวิวาห์หรือการแต่งงานนั้นเปรียบเสมือนเป็นการป่าวประกาศว่า คู่รักคู่หนึ่งรักกันและพร้อมจะดูแลกันไปตราบนานเท่านาน ฉะนั้น เมื่อคุณมีโอกาสได้มีพิธีวิวาห์เป็นของตัวเองแล้วล่ะก็ คุณควรจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด หรืออย่างน้อยก็ไม่ควรพลาดงานวิวาห์ของตัวเอง ไม่งั้นคุณก็อาจจะมีชะตากรรมแบบหญิงคนนี้ Nichola Tuohy หญิงสาวชาวอัังกฤษได้พบรักกับหนุ่ม Darren Ferne วัย 40 ปี และทั้งคู่ก็กำลังจะแต่งงานกัน     Nichola นั้นใช้เวลาวางแผนพิธีแต่งงานเป็นเดือน พร้อมทุ่มทุนไปแล้วกว่า 500,000 บาท แต่โชคไม่ดีที่จู่ๆ ก็มีอุปสรรคมาขัดขวางเธอ ทำให้เธอได้แค่เข้าร่วมช่วงท้ายของงานเลี้ยงรับรองเท่านั้น ตั้งแต่ปี 2014 Nichola และ Darren พบกันทางออนไลน์ และเขาทั้งคู่รู้สึกถูกใจกันมาก จากนั้นเพียง 5 สัปดาห์ Darren ก็ขอเธอหมั้น สำหรับคุณแม่ลูก 3 อย่าง Nichola แล้วเธอรู้สึกว่าเร็วไป เธอจึงดูใจกันอีก 3 เดือน จนกระทั่งเธอตอบตกลงจะแต่งงานกับ Darren และความพินาศก็เกิดขึ้น Nichola กล่าวว่า “ฉันหวังว่าการซ้อมเข้าพิธีนั้นจะได้กลายเป็นพิธีแต่งงานจริง มันเป็นความผิดของฉันเอง วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นเยอะจนฉันรับไม่ไหว สุดท้ายฉันก็ทำให้มันล่มเสียเอง ชีวิตฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว”  …

  • คุณแม่ให้กำเนิดลูกที่มีน้ำหนักกว่า 6 กิโลกรัม มากกว่าเด็กทั่วไปถึงสองเท่า

    คุณแม่ให้กำเนิดลูกที่มีน้ำหนักกว่า 6 กิโลกรัม มากกว่าเด็กทั่วไปถึงสองเท่า

    เรื่องราวต่อไปนี้เป็นข่าวของหญิงชาวรัสเซียที่ได้ให้กำเนิดลูกสาวที่มีน้ำหนักแรกเกิดถึง 13 ปอนด์ 14 ออนซ์ หรือประมาณ 6.3 กิโลกรัม มากกว่าเด็กปกติทั่วไปที่มีน้ำหนักแรกเกิดเฉลี่ย 3.5 กิโลกรัม สุดยอดคุณแม่ชาวรัสเซียผู้ไม่ประสงค์ออกนามท่านนี้มีอายุ 42 ปี มาจากรัฐดาเกสถานซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ได้สร้างความตะลึงให้กับโลกออนไลน์ของชาวรัสเซียเป็นอย่างมาก ด้วยการคลอดลูกที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน จนบางคนแทบไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ โดยเฉลี่ยน้ำหนักของเด็กแรกเกิดของทวีปยุโรปคือ 3.5 กิโลกรัม และ 95 เปอร์เซ็นของเด็กแรกเกิดจะมีน้ำหนักระหว่าง 2.5 กิโลกรัมถึง 5 กิโลกรัม ซึ่งเด็กหญิงที่เกิดมาในครั้งนี้มีน้ำหนักมากกว่าน้ำหนักเฉลี่ยถึง 2 เท่า     โชคดีที่ทั้งแม่และเด็กปลอดภัยดี แต่เธอไม่ต้องการให้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดทั้งชื่อของเธอและลูกสาวที่ลืมตามาดูลูก Daghni Rajasingam สูตินรีแพทย์ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่เด็กเกิดออกมามีน้ำหนักมากกว่าปกตินั้นมาจากโรคอ้วนและโรคเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ และเด็กที่เกิดมาก็จะมีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนหรือมีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจอีกด้วย จากสถิติที่ทาง Guinness World Reccords ได้บันทึกในเรื่องของน้ำหนักเด็กแรกเกิดที่มากที่สุดในโลกเกิดขึ้นเมื่อปี 1955 คือเด็กชายจากประเทศอิตาลีที่เกิดมาพร้อมน้ำหนักกว่า 10.2 กิโลกรัม ถึงอย่างไรก็ตาม ต้องมีการดูแลสุขภาพของเด็กแรกเกิดคนนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงโรคอ้วนและอีกสารพัดโรคที่จะตามมาอีกด้วย   ที่มา unilad

  • คุณปู่วัย 88 ปี ไม่ยอมแพ้ต่อชีวิตแม้ต้องโดดเดี่ยว ผันตัวมาเป็นนายแบบนู้ดจนตอนนี้ชีวิตดี๊ดี

    คุณปู่วัย 88 ปี ไม่ยอมแพ้ต่อชีวิตแม้ต้องโดดเดี่ยว ผันตัวมาเป็นนายแบบนู้ดจนตอนนี้ชีวิตดี๊ดี

    เคยคิดไหมว่าถ้าเกิดคุณมีอายุยืนยาวถึง 80 90 ปีจนลูกหลานของคุณล้มหายตายจากไปกันหมด แต่คุณยังต้องอยู่ต่อคุณจะทำยังไง คุณจะหาเป้าหมายให้ตัวเองอย่างไรในช่วงวัยชราแบบนั้น Wang Suzhong วัย 88 ปี จากประเทศมณฑลเสฉวนประเทศจีน คือคุณปู่ที่ต้องอาศัยอยู่อย่างยากลำบากในห้องพักราคา 700 หยวน (ประมาณ 3,400 บาท) เพียงคนเดียวเมื่อปีต้นปี 2012 แต่มาวันนี้ชีวิตของคุณปู่ก็ได้เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน     คุณปู่เล่าว่า เวลาต่อมาในปีเดียวกันนั้นตัวเขาได้ตัดสินใจรับงานเป็นนายแบบให้กับนักศึกษาในวิทยาลัยท้องถิ่น โดยเขาได้ค่าจ้าง 70 หยวนต่อวัน (ประมาณ 340 บาท) สำหรับการเป็นนายแบบปกติ และ 100 หยวน (เกือบ 500 บาท) ต่อการเป็นนายแบบเปลือยในหนึ่งวัน ซึ่งคุณปู่บอกว่าจากที่ต้องรอเงินจากลูกหลานตอนนี้เขาหาเงินอยู่ได้ด้วยตัวเองแล้ว     นอกจากนี้เขายังเสริมอีกว่า ตั้งแต่ตัวเขามาทำอาชีพนี้ เขาก็รู้สึกมีความสุขมากขึ้นเพราะว่าเขาได้พูดคุยกับคนมากมายทั้งนักเรียนและอาจารย์ ที่สำคัญทุกคนก็ใจดีกับเขามากๆ บางครั้งพวกเขายังซื้ออาหารมากฝากอีก     ฟังแล้วเหมือนชีวิตของคุณปู่ Wang แกจะมีแต่เรื่องดีๆ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ซะทีเดียว เพราะแม้ชีวิตส่วนตัวรวมถึงการเป็นอยู่ของเขาจะดีขึ้น แต่เรื่องครอบครัวกลับไม่เป็นแบบนั้น…

  • 6 อดีตสาวๆ จากวงไอดอลชื่อดัง ที่หลังจากจบการศึกษาก็ผันตัวเข้าสู่วงการ AV ญี่ปุ่น

    6 อดีตสาวๆ จากวงไอดอลชื่อดัง ที่หลังจากจบการศึกษาก็ผันตัวเข้าสู่วงการ AV ญี่ปุ่น

    เมื่อพูดถึงไอดอลญี่ปุ่นคงจะปฎิเสธไม่ได้เลยว่า AKB48 จะต้องเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน แต่ทว่าด้วยความที่วงไอดอลดังกล่าวนั้นก่อตั้งมาเป็นเวลานานมากแล้วจึงทำให้ปัจจุบันสมาชิกในวงจึงมีจำนวนที่เยอะสุดๆ แถมยังแตกหน่อออกไปเป็นตระกูลอื่นๆ เช่น NMB48 และ SKE48 เป็นต้น นอกจากนั้นหลายคนที่เลิกเป็นไอดอลหรือที่เราเรียกว่าจบการศึกษาจากวงไอดอล ก็ล้วนได้ใบเบิกทางเข้าสู่วงการบันเทิงญี่ปุ่นหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นวงการนักแสดง วงการนางแบบหรือถ่ายกราเวีย แต่ที่จะเห็นโดดเด่นสุดๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นวงการ AV นั่นเอง ว่าแต่เกริ่นมาขนาดนี้คงอยากจะรู้กันแล้วสิว่ามีสมาชิกจากวงไอดอลคนไหนที่หันเข้าสู่วงการนี้กันบ้าง แล้วพวกเธอมาจากรุ่นไหนและมีชื่อในวงการว่าอะไร ไม่ต้องห่วงเดี๋ยว #เหมียวมู่ทู่ คนดีคนเดิมจะชี้เป้าให้เอง!!   1. Nakanishi Rina หรือชื่อในวงการ AV ว่า Yamaguchi Riko เริ่มกันที่คนแรกกับ Rina ซึ่งเป็นสมาชิก AKB48 ตั้งแต่ยุคก่อตั้ง เธอประกาศจบการศึกษาในปี 2008 จากนั้นก็ประกาศเข้าสู่วงการ AV ในเวลาต่อมาไม่นาน ทว่าหลังจากมีผลงานอยู่ได้สักพักเธอก็ต้องอำลาวงการไปเพราะเธอไปแต่งงานมีลูกนั่นเอง   2. Yonezawa Rumi หรือชื่อในวงการ AV ว่า Shirota Rika มาต่อกันที่อดีตไอดอลคนที่สองกับ Rumi โดยเธอคนนี้นั้นเป็นมาชิกวง…

  • หนุ่มเมกันโชคดีถูกหวย 31 ล้านบาท แต่ดีใจไม่ทันไร 3 สัปดาห์ต่อมาเขาก็เสียชีวิตลง…

    หนุ่มเมกันโชคดีถูกหวย 31 ล้านบาท แต่ดีใจไม่ทันไร 3 สัปดาห์ต่อมาเขาก็เสียชีวิตลง…

    เหตุการณ์ดีๆ นั้นมักจะเกิดขึ้นกับเราไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับเรื่องร้ายที่มันชอบตามมาเหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับเรา ดั่งเช่นหนุ่มอเมริกันวัย 51 คนนี้ที่โชคดีไม่ทันไรความซวยก็มาเยือนต่อทันที… Donald Savastano นั้นคือชายผู้โชคดีจากหวยขูด Merry Millionaire มูลค่าเพียง 10 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 314 บาท) แต่เขากลับโชคดีได้รางวัลใหญ่มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยได้ประมาณ 31 ล้านบาท) เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2018     สื่อหลายสำนักก็ให้ความสนใจกับผู้โชคดีคนนี้ โดยพวกเขาได้เดินทางไปสัมภาษณ์ Donald กันยกใหญ่ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน โดยเขาได้บอกว่า เขาเป็นชาวอเมริกาแท้ๆ และอาศัยอยู่ในย่านควีนส์เมืองนิวยอร์ก แต่ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่กับแฟนสาวและลูกอีกสองคนที่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ซึ่งเขาทำงานหลักเป็นช่างไม้ที่นั่น โดยสื่ออย่าง WBNG.com ก็ได้ถามเขาว่า เขามีแผนจะเกษียณไหมหลังจากที่ถูกรางวัลก้อนใหญ่ขนาดนี้     Donald ก็บอกว่า “ผมทำงานเป็นนายตัวเอง ฉะนั้นผมเลยไม่เห็นว่าทำไมผมต้องเกษียณด้วย ส่วนเงินที่ผมได้มานั้นมันก็จะมาช่วยในงานหลักของผม ผมจะเอามันไปซื้อรถบรรทุกและจ่ายหนี้สิน ส่วนที่เหลือก็จะใช้ลงทุนต่อในอนาคต” ฟังดูแล้วเหมือนเส้นทางชีวิตของ Donald กำลังจะไปได้สวยแต่จริงๆ มันกลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะว่าเขานั้นกำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่เจ้าตัวนั้นไม่รู้มาก่อนจนกระทั่งเขาป่วยในระยะเวลาต่อมา ซึ่งเป็นเวลา…

  • เด็กหญิงชาวจีนวัย 11 ขวบ ตกเป็นทาสกามของยามที่โรงเรียน จนตั้งท้องได้ 5 เดือน

    เด็กหญิงชาวจีนวัย 11 ขวบ ตกเป็นทาสกามของยามที่โรงเรียน จนตั้งท้องได้ 5 เดือน

    เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า นักเรียนสาววัย 11 ปีผู้หนึ่งพบว่าตัวเธอเองกำลังตั้งท้อง หลังจากถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนข่มขืน เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นกับเด็กหญิง Lele (นามสมมุติ) นักเรียนสาวจากมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน หลังจากที่เธอเริ่มรู้สึกอึดอัดตามร่างกาย ก่อนที่จะเข้าตรวจในคลินิกใกล้บ้านและพบว่าตัวเองกำลังตั้งท้องนาน 5 เดือน     เด็กหญิง Lele อาศัยอยู่กับคุณแม่ที่มีอาการป่วยทางจิตและพี่สาวของเธอ จากการคำให้การของคุณ Zhang Jun พี่เขยของเธอกล่าวว่า สาวน้อยถูกนาย Liu เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนล่วงละเมิดทางเพศเธอครั้งแรกเมื่อตอนที่เธออายุได้เพียงแค่ 9 ขวบ พี่เขยของเด็กหญิงเล่าว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนดังกล่าว ได้ฉุดตัวของสาวน้อยเข้าไปในชั้นใต้ถุนอาคาร ในระหว่างที่เธอกำลังเล่นกับเพื่อนๆ ที่สนามเด็กเล่น ก่อนที่จะลงมือข่มขืนเธอ พร้อมกับขู่ว่าจะฆ่าคนในครอบครัวของเธอ ถ้าหากเด็กหญิงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับคนอื่น     เป็นเวลามากกว่า 2 ปี ที่เด็กหญิง Lele ตกเป็นทาสกามของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้ โดยที่นาย Liu เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวัย 50 ปีที่ตกเป็นผู้ต้องหา ได้ทำงานที่โรงเรียนดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า 5 ปี ทางด้านอาจารย์ Chang Chunkui คุณครูใหญ่ของทางโรงเรียน ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพนักงานคนนี้ว่า “เขาไม่ใช่คุณครูของโรงเรียน…

  • คาเฟ่แมวกับป้ายเตือนคน ‘แมวนั้นไร้เดียงสา จะเข้ามาก็หลีกทางให้น้องด้วย’

    คาเฟ่แมวกับป้ายเตือนคน ‘แมวนั้นไร้เดียงสา จะเข้ามาก็หลีกทางให้น้องด้วย’

    กลายเป็นกระแสพูดถึงบนโลกอินเตอร์เน็ตญี่ปุ่นกันพอสมควรเลยทีเดียว เมื่อชาวเน็ตนามว่า @Miki168uw ได้แชร์ภาพป้ายประกาศสุดเจ๋งหน้าร้านคาเฟ่แมว ซึ่งเป็นป้ายที่ไม่ได้แปะไว้เพื่อเตือนคนระมัดระวัง แต่เตือนให้คนดูแลเจ้าเหมียวแถวนี้ด้วย!?   เห็นป้ายแปลกๆ ข้างล่างนั่นไหม   ชาวเน็ตคนดังกล่าวนั้นเราล่าว่า เขาไปเจอป้ายดังกล่าวระหว่างที่กำลังเดินเล่นอยู่ในย่านอิเกะบุกุโระ เขาบอกว่าในโตเกียวมักจะมีอะไรแปลกๆ ให้เห็นอยู่แล้ว แต่เจ้าป้ายแบบนี้มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากๆ โดยข้อความในป้ายนั้นเขียนไว้ว่า “แถวนี้มีแมวเพื่อนบ้านอยู่เยอะ และถ้าเกิดคุณเดินมาบังเอิญเจอพวกมันรออยู่หน้าร้านก็อย่าไปทำอะไรพวกมัน ที่สำคัญเปิดประตูช้าๆ เดี๋ยวพวกมันก็จะหลีกทางไปเอง ย้ำ!! ไม่ว่าจะมีแมวกี่ตัวก็ตามจงระวัง เพราะแมวนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์”     แค่ป้ายเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เรารู้ได้เลยว่า เจ้าของร้านคาเฟ่แมว Smokers Cafe นั้นเป็นคนที่รักแมวขนาดไหน แม้แต่แมวเพื่อนบ้านที่มักจะมารบกวนหน้าร้าน เขายังเตือนให้ลูกค้าระวังพวกมัน เพราะกลัวพวกมันจะเจ็บจากการที่ลูกค้าเปิดประตูแบบไม่ทันสังเกตเลย ความน่ารักของป้ายดังกล่าวก็เลยทำให้ชาวเน็ตญี่ปุ่นถูกใจกันยกใหญ่และต่างพากันรีทวีตออกไปเกือบ 50,000 ครั้งแล้ว สดยอดจริงๆ     สุดท้ายถ้าใครอยากจะไปเยี่ยมเยือนคาเฟ่แมวแห่งนี้ หรือตอนนี้กำลังเดินอยู่แถวย่านอิเกะบุกุโระก็ลองแวะไปดูกันได้นะ โดยตัวร้านจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 11 โมงถึง 2 ทุ่ม และเปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันอังคารเท่านั้นนะจ๊ะ…     ที่มา rocketnews24

  • หนุ่มข้ามเพศ เล่าถึงการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต พร้อมเตรียมเข้ารับการแปลงเพศ

    หนุ่มข้ามเพศ เล่าถึงการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต พร้อมเตรียมเข้ารับการแปลงเพศ

    เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจของ Christopher Rhodes หนุ่มข้ามเพศผู้มีต้นกำเนิดเป็นผู้หญิง ที่ยอมผ่าตัดแปลงเพศตัวเองเพื่อคู่รักของเขา การตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่นี้ทำให้คู่รักของเขาอย่าง Anna ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว ชายหนุ่มวัย 25 ปีจากเมือง Austin รัฐเท็กซัส อดีตหญิงสาวผู้เริ่มค้นพบตัวตนของเธอเมื่อตอนอายุ 19 ปี แต่ยังไม่กล้าแสดงออกจนกระทั่งอายุ 22 ปี Christopher และคู่หมั้นของเขาพบกันครั้งแรกในตอนที่ เขามีรูปร่างเหมือนกับผู้ชายแล้ว แต่ในตอนนั้นฝ่าย Christopher ยังไม่ได้ทำการผ่าตัดแปลงเพศแต่อย่างใด     ภาพของ Christopher ตอนที่เขาย้ายมานิวยอร์กใหม่ๆ และในตอนนั้นเธอใช้ชื่อว่า Chloe ก่อนที่จะตัดสินใจแปลงเพศเป็นผู้ชาย   “เราพบกันหลังจากที่ทำงานด้วยกัน และตอนนั้นผมแต่งตัวเป็นผู้ชาย แต่ยังไม่ได้แปลงเพศ หลังจากที่ออกเดตกันได้ประมาณ 1 เดือน ผมบอกเธอว่าผมอยากเปลี่ยนสรรพนาม และให้เธอเรียกผมว่า Chris” Christopher ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่คบหาดูใจกันมาได้ซักพัก ตอนนี้ทั้งสองกำลังวางแผนที่จะแต่งงานกัน และ Chris ก็ให้สัมภาษณ์ว่า คู่หมั้นของเขาคือส่วนที่มาเติมเต็มชีวิต และเขาไม่สามารถอยู่ได้เลยถ้าหากขาดเธอไป “Anna ยอมรับในส่งที่ผมเป็น และผมไม่สามารถนึกภาพได้เลยว่าจะเดินต่อไปในวันข้างหน้าได้อย่างไรถ้าหากไม่มีเธอ” Christopher กล่าว     ภาพของทั้งสองในวันที่พบกันครั้งแรก   สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Chris ตัดสินใจเข้ารับการแปลงเพศนั่นก็คือความไม่พอใจในรูปร่างของตัวเอง หรือที่เรียกว่าสภาวะ Dysmorphia นั่นเอง…

  • คุณแม่ปล่อยให้ลูกน้อยวัย 9 เดือนหิวจนเสียชีวิต หลังจากตัวเองออกไปเที่ยวเป็นอาทิตย์

    คุณแม่ปล่อยให้ลูกน้อยวัย 9 เดือนหิวจนเสียชีวิต หลังจากตัวเองออกไปเที่ยวเป็นอาทิตย์

    ปัญหาคุณแม่วัยใสนั้นเป็นปัญหาที่ถือว่าค่อนข้างร้ายแรงที่ไม่ได้มีอยู่แค่ในประเทศไทย ซึ่งบางทีอาจเป็นปัญหาความรุนแรงหรืออาจถึงขั้นเกิดการฆาตกรรมขึ้นมาได้เลย หากขาดการเตรียมตัวและวิธีการรับมืออย่างถูกต้อง Viktoria Kuznetsova คุณแม่วัยใสอายุ 17 ปีจากเมือง Rostov ประเทศรัสเซีย ผู้ก่อเหตุทอดทิ้งลูกของเธอให้อดอาหารจนเสียชีวิต เรียกเสียงก่นด่าทั้งจากคนในชั้นศาลและบนอินเตอร์เน็ตอย่างหนัก เมื่อคดีความของเธอเข้ามาถึงมือของผู้พิพากษา     ทางศาลได้รับคดีความว่าผู้ก่อเหตุวัย 17 ปีได้วางแผนฆ่า Egor ลูกตัวเองวัย 9 เดือนเมื่อเธอเริ่มเข้าเรียนที่วิทยาลัย เธอกล่าวว่าลูกของเธอทำให้เธอต้องตื่นขึ้นมาตอนดึกๆ และทำให้เธอไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หลังจากที่พ่อของเด็กถูกเรียกตัวกลับเข้ากรมทหาร Kuznetsova ก็ได้นำลูกของเธอไปไว้บนรถเข็นเด็ก เธอล็อกประตูห้องและได้ออกไปหาเพื่อนๆ หลังจากนั้นเธอก็ได้ใช้เวลาทั้งสัปดาห์ในการเที่ยวและพักอาศัยอยู่ในหอพักของเพื่อน ในขณะที่ลูกของเธอถูกปล่อยให้อดอาหารอย่างช้าๆ จนเสียชีวิต เธอกลับมาที่ห้องเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเพื่อให้น้ำแก่สุนัขของเธอ     ผู้พิพากษากล่าวว่า “สาเหตุการเสียชีวิตของ Egor วัย 9 เดือนคือการขาดน้ำและอาหาร เมื่อตอนที่พบศพในบ้านของ Viktoria นั้นเจ้าหนู Egor ยังคงลืมตาอยู่ด้วยความหวาดกลัว จากการสืบสวน ร่างกายของเด็กนั้นซูบผอมจนเหลือแค่หนังและกระดูก ในขณะที่อดอาหารและน้ำ อวัยวะภายในของเขาก็ค่อยๆ หยุดทำงานไปทีละส่วน” มีรายงานกล่าวว่า Egor เคยถูก Viktoria ส่งตัวไปยังสถานสงเคราะห์เมื่อมีอายุเพียงแค่…

  • ชายผู้คุยกับคนแปลกหน้า หวังอยากให้พวกเขาลดความสนใจจากสื่อในสมาร์ตโฟนบ้าง

    ชายผู้คุยกับคนแปลกหน้า หวังอยากให้พวกเขาลดความสนใจจากสื่อในสมาร์ตโฟนบ้าง

    “มันเหมือนกับการสารภาพรักกับใครซักคนที่คุณแอบชอบ” นี่คือความรู้สึกของ Leung Cheuk-lam ชายหนุ่มชาวฮ่องกงวัย 27 ปี ที่ออกไปพูดคุยกับคนแปลกหน้าครั้งแรกในปีที่แล้ว การพูดคุยกับคนแปลกหน้าในทุกๆ วันนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์ ChatToStranger ของ Leung การพูดคุยกับคนแปลกหน้าแบบตัวต่อตัวถือเป็นหนึ่งในไอเดียของโปรเจกต์นี้ ซึ่งชายหนุ่มบอกว่าการพูดคุยแบบนี้มักจะพบเห็นได้ยากในยุคที่การสื่อสารมีการพัฒนาไปมาก Leung ได้พูดคุยกับคนแปลกหน้ามากกว่า 300 คน และเก็บข้อมูลของแต่ละคนไว้ในแฟนเพจของเขา ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คนแล้ว     “ผมได้ยินผู้คนมากมายพูดถึงความเฉยชาของชาวฮ่องกง และผมหวังว่าผมจะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้” Leung ผู้กำกับอิสระและนักตัดต่อวิดีโอกล่าว การเริ่มต้นพูดคุยกับคนแปลกหน้านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับชายหนุ่ม เขาเริ่มกล่าวคำทักทายง่ายๆ อบ่าง “สวัสดี” ก่อนที่จะเริ่มบทสนทนา “มันเหมือนกับการพูดคุยกับผู้หญิงที่คุณชอบ และในขณะเดียวกันคุณก็กำลังกลัวเพราะคุณไม่รู้ว่าเธอจะคิดเหมือนคุณหรือเปล่า” Leung ให้สัมภาษณ์ จุดเริ่มต้นของการพูดคุยกับคนแปลกหน้าของชายหนุ่มเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มพูดคุบกับผู้โดยสารบนรถบัสระหว่างทางกลับบ้าน เนื่องจากเขาไม่อยากจะปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ และการได้พูดคุยกับคนแปลกหน้าก็ทำให้เขาได้เรียนรู้หลายอย่างมากขึ้น     แต่สิ่งหนึ่งที่ชายหนุ่มสังเกตเห็นก็คือ ผู้คนส่วนมากมักจะจดจ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ของพวกเขา และมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ยอมพูดคุยกับเขา ในมหานครอื่นๆ ที่คล้ายกับฮ่องกง Leung บอกว่าผู้คนส่วนมากมักจะใช้เวลาทำงานอย่างยาวนาน ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาเองแทบจะไม่มีแรงหรือเวลาในการพูดคุยเลย ซึ่งนั่นทำให้การเริ่มคุยกับคนแปลกหน้าในช่วง 2-3 นาทีแรกเป็นไปได้ค่อนข้างยาก     ถึงแม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง แต่ชายหนุ่มก็บอกว่ามันทำให้เขารู้สึกสนุก และมีความสุขที่ได้พูดคุยกับผู้คนมากมาย “หลังจากที่ได้พูดคุยกับคนแปลกหน้ามาเป็นเวลากว่า 1…

  • นักล่าสัตว์ถูกยิงเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ขณะกำลังออกล่าสิงโตในแอฟริกา

    นักล่าสัตว์ถูกยิงเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ขณะกำลังออกล่าสิงโตในแอฟริกา

    กีฬาล่าสัตว์นั้นเป็นกีฬาที่แพร่หลายในทวีปยุโรปที่ให้เหล่านักล่าได้ใช้อาวุธปืนเพื่อล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นรางวัล แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนักล่าเหล่านี้กลับกลายเป็นผู้ถูกล่าซะเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2018 ในขณะที่นักล่าสัตว์ชาวโครเอเชีย Pero Jelinic วัย 75 ได้ฆ่าสิงโตไปแล้ว 1 ตัวและกำลังเล็งปืนไปที่สิงโตอีกตัว ก็ได้มีกระสุนปริศนายิงใส่เขาจนได้รับบาดเจ็บ เขาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเฮลิคอปเตอร์ แต่โชคไม่ดีที่แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ทันเวลา Slavko Pernar เพื่อนนักล่าของ Pero กล่าวว่าเพื่อนของเขาเป็นนักล่าที่หลงใหลในการล่าสัตว์มากๆ เขาได้เดินทางไปแอฟริกาใต้เพื่อล่าสิงโตเป็นรางวัลเสริมบารมีของเขา และเขายังเป็นเจ้าของโรงแรมที่เปลี่ยนโรงแรมของเขาให้กลายเป็นที่เก็บรางวัลเพื่อเติมเต็มความฝันในชีวิตเขาด้วย     Pernar กล่าวว่า “Pero นั้นชอบล่าทั้งสัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่ เขามักจะเดินทางไปยังที่ต่างๆ รอบโลกเพื่อทำตามความฝันของเขาโดยการล่าสัตว์ แต่โชคไม่ดีที่เขาเสียชีวิตขณะทำสิ่งที่เขารักมากที่สุด ห้องทำงานของเขาเต็มไปด้วยรางวัลที่เขาล่ามาได้ทั้งหมดในประเทศโครเอเชียและในทวีปยุโรป” สถานที่เกิดเหตุที่ Pero ถูกยิงเสียชีวิตนั้นได้เปิดเป็นสถานที่สำหรับการล่าเพื่อกีฬาโดยเฉพาะ และมีสิงโตไว้ให้นักล่าได้ล่ากันอย่างสนุกสนาน ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่ประณามของสังคมเนื่องจากกีฬานี้เป็นกีฬาที่รุนแรงและถูกมองว่าเป็นการทารุณกรรม Dr. Gideon Engelbrecht เจ้าของสถานที่แห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นในขณะที่เกิดเหตุ เขากล่าวว่า “ผมอยู่ที่ห้องผ่าตัดในขณะที่ผมได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และผมได้จัดเฮลิคอปเตอร์ไปส่งผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล นี่คือคำตอบทั้งหมดที่ผมสามารถตอบได้ในขณะนี้ เพราะคดีนี้ยังอยู่ภายใต้การสืบสวนอยู่”     การเป็นเจ้าของสถานที่ที่เปิดให้ล่าสัตว์นั้นถูกกฎหมายและทำรายได้ดีในแอฟริกาใต้ แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากเนื่องจากสิงโตที่ถูกล่านั้นถูกจับมาจากธรรมชาติและนำมาให้นักล่าได้ล่ากันในสถานที่ปิดที่มันไม่สามารถหนีได้ ในช่วงพฤษจิกายน 2015 องค์กร…

  • ‘Gay Glow-Up’ ชาวเน็ตร่วมแชร์การเผยตัวตนในสิ่งที่ตัวเองเป็น เติบโตและเฉิดฉายได้อย่างภาคภูมิ

    ‘Gay Glow-Up’ ชาวเน็ตร่วมแชร์การเผยตัวตนในสิ่งที่ตัวเองเป็น เติบโตและเฉิดฉายได้อย่างภาคภูมิ

    สมัยก่อนการที่คุณเป็นรักร่วมเพศนั้นถือว่าเป็นความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่ง ต้องได้รับการรักษา และถ้าคุณเปิดเผยตัวตนคุณอาจถูกถูกลงโทษจากทั้งทางกฎหมาย และทางสังคมด้วย แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่เมื่อก่อน เพราะปัจจุบันสังคมที่เปิดกว้างขึ้น ต่างเริ่มยอมรับบทบาทของชาวรักร่วมเพศได้แล้ว แต่ก็ยังมีคนที่ไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง เพราะเหตุผลต่างๆ นานา เมื่อเป็นเช่นนั้น ชาวเน็ตจึงมีการรณรงค์เพื่อให้คนเหล่านั้นกล้าที่เปิดเผยตัวตนจริงๆ ออกมา ด้วยแคมเปญ Gay Glow Up ที่จะให้ชาวเน็ตแชร์ภาพที่ก่อนจะเปิดตัวและหลังเปิดตัวว่าเป็นพวกรักร่วมเพศ ว่าพวกเขาสามารถเฉิดฉายแสงได้ขนาดไหนหลังจากที่ยอมรับในตัวที่เค้าเป็น เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจ และแรงบันดาลใจให้กับคนที่ยังกล้าๆ กลัวๆ ในการเป็นตัวของตัวเอง เราไปชมกันดีกว่าว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง   “ขอบคุณวิดีโอแต่งหน้าในยูทูบ การตัดผม และรักร่วมเพศ”    “ตอนอายุ 16 vs อายุ 26 เปรียบเหมือนวง Greenday vs Madonna“   “ฉันทิ้งแฟนผู้ชาย ทิ้งผมยาว ทิ้งชุดเดรสไป และยอมรับว่าเป็นคนรักร่วมเพศ ตอนนี้ชีวิตฉันดีมากแถมฉันยังได้แฟนเป็นผู้หญิงด้วยนะ”   “ฉันทำเป็นเพิกเฉยต่อตัวตนที่แท้จริงมาตลอด แต่ตอนนี้ฉันยอมรับว่าเป็นคนรักร่วมเพศ และฉันก็ภูมิใจกับมัน”   “จากปี 2008 มาปัจจุบัน ฉันรู้สึกอึดอัดกับตัวเองมาตลอด แต่ตอนนี้ฉันภูมิใจที่เป็นคนรักร่วมเพศ”   “ฉันมักเคยถูกเรียกว่าเป็นเด็กผู้ชายที่งุ่มง่ามและไม่ค่อยยิ้มแย้ม…

  • ศิลปินไนจีเรีย กับฝีมือวาดไม่ดูเพลีย สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้เสียเหมือนจริงมากๆ

    ศิลปินไนจีเรีย กับฝีมือวาดไม่ดูเพลีย สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้เสียเหมือนจริงมากๆ

    ในการสร้างสรรค์รูปภาพภาพหนึ่ง ศิลปินย่อมต้องมีจุดประสงค์ที่จะสื่ออะไรไว้ให้รูปภาพซักอย่างหนึ่ง แต่สุดท้ายมันก็อยู่ขึ้นอยู่กับผู้ที่ได้ชมผลงาน ว่าพวกเค้าจะตีความข้อความที่สื่อไว้ในภาพอย่างไร เช่นเดียวกับ Silas Onoja ศิลปินวัย 23 ปี ผู้ที่มาจากเมือง Makurdi แถบภาคกลางในประเทศไนจีเรีย ในเมืองของเขาจะมีแม่น้ำ Benue ไหลผ่าน และมันก็เป็นแหล่งอ้างอิงสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานของเขาเลยทีเดียว     เมื่อถามว่าเขาใช้วิธีไหนในการวาดลวดลายของน้ำในผลงานของเขา เขาตอบว่า “ผมแค่ใช้สีเดียวกับที่มันเกิดขึ้นบนผิวของคนในชีวิตจริง” และยังบอกอีกว่าแรงบันดาลใจรอบๆ เขา คือการที่สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมเหมือนศิลปินที่เขาชื่นชม และหลังจากที่เขาโพสต์ผลงานในโลกออนไลน์ ก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงานของเขาอย่างล้นหลามและแฟนๆ ของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว   หลังจากที่ Silas อัปโหลดผลงานของตัวเองขึ้นทวิตเตอร์ก็มีคนกดไลก์ถึง 40,000 ไลก์   “ยินดีต้อนรับสู่รายชื่อศิลปินที่ฉันชื่นชอบ“ “คนบางคนนี่มีพรสวรรค์สุดๆ ไปเลย ฉันชอบมันนะ” “ภาพวาดมันดูสมจริงมากๆ คุณช่างมีพรสวรรค์จริงๆ”   Silas เริ่มวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก เพื่อความเพลิดเพลิน และเขาก็ได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยศิลปะในประเทศไนจีเรีย เขาได้กล่าวว่า “ผลงานของฉันนั้นมีพื้นฐานมาจากประสบการณ์จริง และข้อความที่ผมอยากสื่อสารไว้ในผลงาน หลักๆ เลย คือความหวัง ตอนนี้เราอาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่ผู้คนต่างไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น และบางทีพวกเขาก็ไม่ค่อยจะเชื่อมั่นในตัวเองกันสักเท่าไหร่” “ดังนั้นฉันจึงพยายามที่จะให้ผลงานของฉันสื่อถึงเรื่องนั้น คุณจะสามารถเห็นได้จากการแสดงออกทางสีหน้าของบุคคลที่อยู่ในงานของฉันได้” แหม Silas พูดมาถึงขนาดนี้ เราจะไม่ไปชมภาพของเขากันหน่อยหรือ…

  • คุณแม่โทรปรึกษากับ ‘บาร์หลากเพศ’ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับลูก หลังเปิดเผยความจริงให้เธอได้รู้

    คุณแม่โทรปรึกษากับ ‘บาร์หลากเพศ’ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับลูก หลังเปิดเผยความจริงให้เธอได้รู้

    คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ การที่เกิดมาแล้วรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่รักร่วมเพศก็ไม่ได้ผิดแต่อย่างไร แต่ขึ้นอยู่ว่าต่อไปคุณจะทำตัวอย่างไรให้ดี ให้เกิดความสุขแก่สังคม ครอบครัว และตัวคุณเองมากกว่า แต่นอกเหนือจากการยอมรับในตัวของตัวเองแล้ว การที่จะสามารถอยู่อย่างมีความสุขได้นั้นยังขึ้นอยู่กับคนรอบตัวด้วยว่าจะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร เหมือนอย่างในข่าวนี้ ที่มีคุณแม่ท่านหนึ่งได้รับคำสารภาพจากลูกชายว่าตัวเองเป็นคนรักร่วมเพศ เธอไม่รู้ว่าจะปฏิบัติกับลูกอย่างไรดี จึงได้โทรหา “บาร์หลากเพศ” เพื่อที่จะขอคำปรึกษา     โดยที่ Kara Coley ซึ่งเป็นบาร์เทนเดอร์ที่ร้านเป็นคนรับโทรศัพท์จากคุณแม่ ซึ่งคุณแม่ก็ได้ถามว่า “ที่นี่คือบาร์หลากเพศใช่มั้ย??” เธอก็ตอบไปว่า “ที่นี่ยินดีต้อนรับทุกคนนะคะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนรักร่วมเพศ” คุณแม่ถามต่อว่า “ขอถามอะไรอย่างได้มั้ย?? คุณเป็นรักร่วมเพศหรือเปล่า??” Kara ตอบว่าใช่ค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เธอประหลายใจมากเพราะว่าไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนตลอดการทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์มา 17 ปี คุณแม่ก็ถาม Kara ว่า อะไรเป็นสิ่งที่เธออยากได้จากพ่อแม่ตอนที่เธอรู้ตัวว่าเป็นคนรักร่วมเพศ คุณแม่บอกว่าเธอถามเพราะว่าลูกของเธอมาสารภาพกับเธอว่าตัวเขาเป็นรักร่วมเพศ ทำให้เธอไม่รู้จะพูดอะไรดี และกลัวที่จะทำให้เขาคิดมาก     ดังนั้น Kara จึงให้คำแนะนำไปว่า “ฉันคิดว่าคุณควรทำให้ลูกของคุณแน่ใจว่าคุณยังรักและยอมรับเขา เดี๋ยวนะ คุณยอมรับเขาได้ใช่มั้ย??” คุณแม่ก็ตอบว่า “ใช่ ถ้ามันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ” Kara จึงบอกเพิ่มว่า “งั้นคุณก็ต้องทำให้เขารู้ว่าคุณรักและยอมรับเขาได้!! ฉันคิดว่าทุกอย่างมันต้องโอเคแน่นอน” เธอเผยว่าในตอนแรกเธอคิดว่านี่เป็นมุกและค่อนข้างประหลาดใจที่ทางคุณแม่ได้มาสอบถามเธอ…

  • แจกใบปิดภาพยนตร์เรโทรกว่า 500 ชิ้น เหมาะสำหรับใช้อ้างอิง ในการสร้างงานศิลปะย้อนยุคเป็นอย่างดี!!

    แจกใบปิดภาพยนตร์เรโทรกว่า 500 ชิ้น เหมาะสำหรับใช้อ้างอิง ในการสร้างงานศิลปะย้อนยุคเป็นอย่างดี!!

    สูงสุดคืนสู่สามัญ แม้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีนั้นพัฒนาจนสามารถทำใบปิดภาพยนตร์ที่สวยงามได้เต็มไปหมด แต่ก็ยังมีคนที่ชื่นชอบใบปิดในสไตล์เก่าๆ ที่มีสีสันสดใส่อยู่อีกมาก Harry Ransom Center ในมหาวิทยาลัยเท็กซัสออสติน ได้อยู่ระหว่างการเผยแพร่ใบปิดภาพยนตร์กว่า 10,000 รายการ แถมยังแจกให้ดาวน์โหลดในโลกออนไลน์อีกด้วย ถูกใจคนที่ชอบสะสมของเก่าเลยทีเดียว ภาพใบปิดภาพยนตร์เก่าๆ พวกนี้มันแสดงให้เห็นเมื่อเวลาที่ผู้ออกแบบและผู้วาดภาพประกอบยังไม่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยอย่างทุกวันนี้   Kiss Me Kate (1953)   West Side Story (1961)   The Jackpot (1950)   Martin Luther (1953)   Two Guns And A Badge (1954)   Retreat Hell! (1952)   The Gypsy And The Gentleman (1958)   Third Man on the Mountain (1959)   The True Story…

  • “Pennis Park” สวนสาธารณะแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ ที่มีแต่จู๋ จู๋ จู๋ จู๋เต็มไปหมดเลย

    “Pennis Park” สวนสาธารณะแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ ที่มีแต่จู๋ จู๋ จู๋ จู๋เต็มไปหมดเลย

    ประเทศเกาหลีใต้ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ใครหลายๆ คนอยากไปเยือนสักครั้ง จากกระแสเกาหลีฟีเวอร์ที่ได้เข้ามาเผยแพร่ในไทย ทั้งซีรีส์ ภาพยนตร์ และศิลปินทำให้เกาหลีใต้ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ชาวไทยอยากจะไปสัมผัสดูสักครั้ง และถ้าใครได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลี #เหมียวบู้บี้ มีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่จะมาแนะนำสำหรับผู้ที่ิอยากท่องเที่ยวพร้อมกับศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเกาหลี สถานที่แห่งนี้ก็คือ Haeshindang Park หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Pennis Park สวนสาธารณะสำหรับผู้ที่อยากจะมาพักผ่อนหย่อนใจ มองวิวพร้อมสูดลมทะเลกับธรรมชาติแสนร่มรื่นไปพร้อมๆ กัน     สวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชายฝั่ง Sinnam เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับหญิงสาวพรมจรรย์ที่ถูกคู่หมั้นทิ้งไว้บนโขดหิน โดยคู่หมั้นได้ออกไปจับปลาในทะเล แต่โชคร้ายที่พายุพัดเข้ามาพอดี เธอเสียชีวิตอยู่ที่โขดหินแห่งนี้เพราะรอคอยคู่หมั้นกลับมา     หลังจากที่เธอเสียชีวิตลงชาวบ้านก็ไม่สามารถจับปลาได้เลย ชาวบ้านจึงแกะสลักไม้เป็นรูปอวัยวะเพศชายเพื่ออุทิศให้กับเธอ หลังจากนั้นชาวบ้านก็สามารถจับปลาได้อีกครั้งอย่างน่าประหลาดใจ ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันแกะสลักไม้ให้เป็นรูปอวัยวะเพศอีกมากมายและนำมาตั้งไว้ที่สวนแห่งนี้     Haeshindang Park กลายเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านมาพักผ่อนหย่อนใจและมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย   สวนสาธารณะประดับประดาไปด้วยอวัยวะเพศชายหลากหลายขนาด   นักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย   รูปปั้นชาวประมงที่นำมาตั้งไว้ในสวนสาธารณะ   ที่มา buzzfeed

  • เกาะกลางน้ำสุดแปลก ที่ทุกๆ 6 เดือนจะถูกเปลี่ยนสัญชาติระหว่างฝรั่งเศสกับสเปน

    เกาะกลางน้ำสุดแปลก ที่ทุกๆ 6 เดือนจะถูกเปลี่ยนสัญชาติระหว่างฝรั่งเศสกับสเปน

    อีกไม่ถึง 1 สัปดาห์เกาะกลางแม่น้ำบีดาซัวขนาด 3,000 ตารางเมตรกำลังจะถูกฝรั่งเศสส่งมอบให้ทางการสเปนไปดูแลต่อ หลายคนอาจจะงงว่า ทำไมต้องส่งต่อแล้วเกาะแบบนี้มันไม่ใช่ทรัพย์สินถาวรของประเทศนั้นๆ หรือต้องสู้แย่งกันหรอกเหรอ? คำตอบคือไม่!! เพราะเกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่า Faisans แห่งนี้นั้นทางสเปนและฝรั่งเศสได้ทำการทำสนธิสัญญากันไว้แล้วเมื่อ 350 ปีก่อน ส่วนสาเหตุที่ต้องตกลงกันแบบนี้ก็เพราะเกราะแห่งนี้มันดันตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนของสองประเทศนั่นเอง     โดยมันตั้งอยู่กลางแม่น้ำบีดาซัว ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองอองเดย์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส กับเมืองอิรึนและเมืองออนดารีเบียทางตอนเหนือของสเปน ส่วนความสำคัญของเกาะแห่งนี้นั้นนั่นก็คือเกาะที่ไว้เดินทางมาเจอกันตรงกลางและทำสนธิสัญญาต่อกันและกันของสองประเทศ     เรื่องมันเริ่มมาจากปี 1659 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส และกษัตริย์ฟิลิปที่ 4 แห่งสเปน เสด็จมาร่วมลงพระนามในสนธิสัญญาพิเรนีส (Treaty of the Pyrenees) บนเกาะแห่งนี้ โดยทั้งสองประเทศต่างตกลงแบ่งปันเขตแดนระหว่างกันเป็นที่เรียบร้อยเพื่อยุติข้อพิพาทที่แล้วมาของสองประเทศ ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจะต้องเปลี่ยนกันมาครอบครองเกาะแห่งนี้ทุกๆ 6 เดือน โดยเริ่มจากสเปน ซึ่งกินเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 กรกฎาคม 1659 จากนั้นก็ทำการเปลี่ยนมือไปยังฝรั่งเศสและทำแบบนี้วนมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน     เดิมทีในสัญญานั้น ตัวเกาะจะต้องถูกดูแลด้วยกองทหาร ทว่าปัจจุบันทหารได้ถูกถอนออกไปแล้ว…

  • ลูกชายตำรวจหลั่งน้ำตา หลังถูกจับกุมข้อหาฆาตกรรมลูกเลี้ยงวัย 3 ขวบ

    ลูกชายตำรวจหลั่งน้ำตา หลังถูกจับกุมข้อหาฆาตกรรมลูกเลี้ยงวัย 3 ขวบ

    Joshua Richards หนุ่มอเมริกันวัย 21 ปี ได้ถูกจับกุมข้อหาฆ่าลูกเลี้ยงวัย 3 ขวบของตัวเอง Brentley Gore โดยคดีนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสื่อท้องถิ่นเพราะว่าผู้ต้องหานั้นเป็นลูกชายของ Josh Richards สารวัดใหญ่ประจำรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา     เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 28 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา โดยตำรวจได้ตั้งข้อหากับ Joshua ว่าเขาลงมือสังหารลูกเลี้ยงของเขาด้วยการเอาเข็มขัดรัดที่คอเพื่อให้หนูน้อย Brentley จนหมดสติและเสียชีวิตในที่สุด ด้วยผลจากอาการหลอนจากการเสพกัญชา ต่อมาในวันอังคารที่ 30 มกราคม นาย Joshua ก็ได้ถูกพาตัวไปที่ศาลเพื่อประกอบคำรับสารภาพ โดยตัว Joshua นั้นร้องไห้ตลอดการพิจารณาคดี เขายอมสารภาพว่าจริงๆ แล้วลูกของเขาไม่ได้ถูกเขารัดคอแต่อย่างใด เพียงแต่มันเป็นอุบัติเหตุที่เขาเผลอทำให้ลูกตกลงมาหัวกระแทกจนเสียชีวิต ซึ่งมันเกิดขึ้นระหว่างที่ภรรยานอนหลับอยู่อีกห้อง     Joshua บอกว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่าลูกเลี้ยงเลย เพราะเขากับภรรยาผู้เป็นแม่ของเด็กชาย Brentley ก็เพิ่งจะแต่งงานกันและเธอกำลังอุ้มท้องลูกคนที่สองนั่นเอง โดยเมื่อฟังจากคำสารภาพดังกล่าวพร้อมกับค้นหาหลักฐานตำรวจก็พบว่า นาย Joshua ไม่ได้มีท่าทีจะเกลียดหนูน้อย Brentley แต่อย่างใด แถมภาพหลายภาพทั้งคู่ก็ดูมีความสุขและสนิทสนมกันมากๆ…

  • กลุ่มวีแกนบุกเดินประท้วงถึงร้านสเต็ก ตราหน้าคนกินเนื้อเป็นพวกรุนแรง ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

    กลุ่มวีแกนบุกเดินประท้วงถึงร้านสเต็ก ตราหน้าคนกินเนื้อเป็นพวกรุนแรง ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

    กลุ่มชุมนุมวีแกนได้รวมตัวประท้วงในร้านสเต็กชื่อดังในใจกลางเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย พร้อมกับป้ายประท้วงและโทรโข่ง… ในเวลาประมาณ 18.30 น. เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2018 โดยผู้เข้าร่วมประท้วงมาจากกลุ่ม 2 กลุ่มที่รู้จักกันในนาม Melbourne Cow Save Animal Liberation Army และกลุ่ม Direct Action Everywhere ผู้เข้าร่วมการประท้วงทั้ง 35 คนที่เข้ามาประท้วงในร้านสเต็กเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับสัตว์ที่ตายไปแล้วที่กำลังถูกกินอยู่ว่า… “การฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้อยากตายอย่างมีมนุษยธรรมนั้นไม่มีจริง” พร้อมกับถือป้ายและตะโกนผ่านโทรโข่งจากชั้นบนว่า “มันไม่ใช่อาหาร มันคือความรุนแรง”   .   ในขณะที่ผู้ประท้วงยืนตะโกนข้างๆ ลูกค้าที่มารับประทานอาหาร แต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น และยังมีลูกค้าบางคนที่แอบยิ้มและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอผู้ประท้วงอีกด้วย หลังจากนั้นพวกเขาก็รับประทานอาหารต่อราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ตอนแรกนั้นพนักงานของร้านพยายามที่จะหยุดผู้ประท้วงที่หน้าประตู แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ผู้จัดการของร้านกล่าวว่า… “พวกเขามีคนนำ 2 คนที่มาพร้อมกับไมโครโฟนและตะโกนคำกล่าวชวนเชื่อซ้ำไปซ้ำมาด้วยเสียงที่ดังมากๆ พวกเราพยายามคุยกับลูกค้าเพื่อรักษาความสงบและบอกว่าตำรวจกำลังจะมาถึง”   .   “ลูกค้าส่วนหนึ่งไม่พอใจกับการประท้วงนี้อย่างมาก ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็หัวเราะขำขันกับสิ่งที่เกิดขึ้น” ผู้จัดการกล่าว และพูดถึงผู้นำการประท้วงว่าก่อนที่พวกเขาจะกลับไป พวกเขาได้ขู่เราว่า “แล้วพวกเราจะกลับมาอีก”…

  • คุณลุงยอมเดิน 40 กิโลเมตรกลับบ้าน ในวันที่หิมะตกหนัก เพื่อเก็บเงินซื้อชุดใหม่ให้ภรรยา

    คุณลุงยอมเดิน 40 กิโลเมตรกลับบ้าน ในวันที่หิมะตกหนัก เพื่อเก็บเงินซื้อชุดใหม่ให้ภรรยา

    ค่าของเงินในแต่ละคนนั้นล้วนมีไม่เท่ากัน บางคนเลือกจะใช้โดยที่ไม่ได้คิดอะไรมากนัก บางคนอาจจะคิดถึงอนาคตและเก็บสะสมเงิน หรือบางคนที่รายได้น้อยอย่างคุณลุงเจ้าของเรื่องนี้ก็เลือกที่จะประหยัดเงินเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของเขา Zhao Fangzi คุณลุงวัย 60 ปี จากมณฑลเหอหนาน ได้ตัดสินใจจะเก็บเงินเพื่อซื้อเสื้อผ้าให้กับภรรยาของเขาเป็นของขวัญในปีใหม่จีน ด้วยการเดินเท้ากลับบ้าน แถมยังเป็นที่หิมะตกหนักด้วย!! คุณลุงเล่าว่าเขาตัดสินใจจะเดินเท้ากลับบ้านเพราะว่าหลังจากที่เขานั่งรถไฟจากเซี่ยงไฮ้มาลงที่สถานีลั่วหยาง ระบบขนส่งส่วนใหญ่นั้นปิดให้บริการแล้ว นอกจากนั้นต้องนั่งแท็กซี่หรือรอให้หิมะหยุดโดยการเปิดโรงแรมพักเขาก็จะไม่มีเงินเหลือไปซื้อเสื้อผ้าให้กับภรรยาของเขา ฉะนั้นเขาจึงเลือกเดินทาง 40 กิโลเมตรจากสถานีดังกล่าวไปยังบ้านของเขา     Zhao ได้บอกกับสื่อจีนว่า “เงินนั้นหายาก ผมทำงานให้กับบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งผมได้เงิน 2,000 หยวน (ประมาณ 10,000 บาท) ต่อเดือน ถ้าผมไม่ประหยัดค่าเดินทางหรือใช้ให้ดีผมก็จะไม่มีเงินเก็บเลย “ ยังไม่หมดเท่านั้นคุณลุง Zhao ยังบอกว่าเขารู้สึกเสียใจที่เจ้านายของเขาไม่ได้จ่ายค่าจ้างที่ค้างเขาไว้ 10,000 หยวน (ประมาณ 50,000 บาท) ก่อนปีใหม่จีน ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกผิดหวังมากๆ ทั้งที่นายจ้างได้ให้คำมั่นสัญญาไว้แล้ว     อย่างไรก็ตามคุณลุงก็บอกว่า การเดินทางนี้เหมือนจะยากลำบากแต่มันก็เป็นการเดินทางเที่ยวเดียว เพราะเขาบอกว่าเขาอาจจะไม่กลับไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้อีกแล้ว เพราะด้วยอายุที่มากขึ้นการทำงานก็ยากขึ้น ฉะนั้นเขาจะตัดสินใจอยู่ที่บ้านกับภรรยาของเขานั่นเอง จากรายล่าสุดของสื่อจีน คุณลุง Zhao…

  • องค์กรอวกาศญี่ปุ่น JASA รับสมัครคนอยู่สถานีอวกาศจำลอง 14 วัน มีเงินให้ 100,000 อีก!!

    องค์กรอวกาศญี่ปุ่น JASA รับสมัครคนอยู่สถานีอวกาศจำลอง 14 วัน มีเงินให้ 100,000 อีก!!

    หากใครที่อายุต่ำกว่า 55 ปี สุขภาพดีและกำลังหางานพาร์ตไทม์เงินแจ่มๆ ฟังทางนี้ เพราะล่าสุดบริษัท JAXA จากประเทศญี่ปุ่นกำลังมองหากลุ่มคนที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานกับพวกเขา แถมผลตอบแทนยังดีเกินคาด!! JAXA หรือ The Japan Aerospace Exploration Agency ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับการสำรวจอวกาศของญี่ปุ่น (คล้ายกับ NASA นั่นแหละ) ได้ประกาศรับชายหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 55 ปี มีร่างกายแข็งแรงและสุขภาพจิตต้องดีเช่นกัน เพื่อที่จะเข้าทดสอบการจำลองใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศนาน 14 วัน 13 คืน     จุดประสงค์ในการทดสอบครั้งนี้ก็เพื่อจำลองสถานะการกดดันของมนุษย์เมื่อต้องไปอาศัยอยู่บนสถานีอวกาศเพียงคนเดียว ผู้ทดสอบนั้นต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเพียงคนเดียวและห้ามติดต่อกับใคร ส่วนสถานที่ทดสอบนั้นจะจัดขึ้นที่ Tsukuba Space Center หากผ่านการคัดเลือก ผู้เข้าร่วมทดสอบนั้นจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงิน 380,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 110,000 บาท     เอาเป็นว่าถ้าใครที่สนใจอยากจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบนี้ก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ jcvn แต่สำหรับคนที่อยู่นอกประเทศญี่ปุ่นต้องเสียใจด้วยนะ เพราะเขาไม่เปิดรับคนที่ไม่ได้ถือสัญชาติญี่ปุ่นนั่นเอง     ถ้าให้#เหมียวมู่ทู่ไปอยู่ล่ะก็คงจะอกแตกตายแน่เลย เพราะแค่ไม่ได้เล่นเน็ตเล่นมือถือแค่แปบเดียวก็จะตายแล้ว ที่มา rocketnews24

  • นิตยสารผู้หญิงลองใจผู้อ่านด้วยการทาย ‘ใครคือครอสเดรส’ ชิงรางวัลชุดเสริมสวย 42 ชิ้น!!

    นิตยสารผู้หญิงลองใจผู้อ่านด้วยการทาย ‘ใครคือครอสเดรส’ ชิงรางวัลชุดเสริมสวย 42 ชิ้น!!

    ในปัจจุบัน การที่เราจะแยกผู้ชายที่แต่งหญิงออกจากผู้หญิงจริงๆ นั้นค่อนข้างยาก อาจจะเนื่องมาจากการที่สังคมเปิดรับเรื่องแบบนี้ได้มากขึ้น ทำให้ผู้ชายที่ใจเป็นผู้หญิง หรือจะเป็นผู้ชายธรรมดาที่สนใจในเสื้อผ้าผู้หญิงก็เริ่มกล้าที่จะแต่งตัว แต่งหน้าเป็นผู้หญิงกันเพิ่มขึ้น และด้วยพลังของเครื่องสำอางที่สามารถเปลี่ยนให้ผู้ชายให้กลายเป็นผู้หญิงได้นี่เอง นิตยสารความงามและเสริมสวยของญี่ปุ่น Kai Beauty Press จึงได้ตัดสินใจสร้างกิจกรรมที่จะทดสอบว่าคุณจะสามารถแยกผู้ชายคนเดียวที่ถูกแปลงโฉมด้วยพลังของเครื่องสำอาง และนำไปรวมกับสาวสวยอีก 11 คนได้หรือไม่?   ใบ้ให้อีกนิดว่าผู้ชายที่ถูกแปลงโฉมก็คือนักแสดง นายแบบ Tom Fujita นั่นเอง   โดยที่คุณจะต้องทายว่าสาวสวยคนไหนคือ Tom Fujita . . . . . . . . . . .   Kai Beauty Press นั้นมีคำใบ้ช่วยให้คุณสามารถหาหนุ่ม Tom ได้ง่ายขึ้น โดยให้สังเกตที่อุปกรณ์ที่ใช้แปลงโฉมของหนุ่ม Tom อย่างแรกคือแปรงสำหรับลงแป้งฝุ่น, ที่กันคิ้วไฟฟ้า จะทำให้คิ้วที่ถูกกันออกมามีรูปทรงสวยงาม และสุดท้ายเครื่องดัดขนตาไฟฟ้าที่จะช่วยเพิ่มความโค้งงอของขนตาของคุณ คำใบ้ทั้งสาม ที่จะช่วยให้เพื่อนๆ หาหนุ่ม Tom ได้ง่ายขึ้น   Kai Beauty Press…

  • นักแสดงสาวผู้เปลี่ยนแปลงไปด้วย ‘การแต่งหน้า’ จนเหมือนกับเธอทำศัลยกรรมมายังไงยังงั้น

    นักแสดงสาวผู้เปลี่ยนแปลงไปด้วย ‘การแต่งหน้า’ จนเหมือนกับเธอทำศัลยกรรมมายังไงยังงั้น

    การแต่งหน้า คือสิ่งที่ช่วยทำให้สาวๆ (หรือหนุ่มๆ บางคน) สามารถเพิ่มความมั่นใจและความสวยงามให้กับใบหน้าของตัวเองได้มากยิ่งขึ้น แต่ใครจะไปคิดว่าในวันหนึ่งการแต่งหน้าจะสามารถทำให้คุณดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้อย่างชัดเจน เหมือนกับเธอคนนี้ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2018 สื่อญี่ปุ่นได้มีการพูดถึงเรื่องราวของหญิงสาวที่รู้จักกันในชื่อ Univers Hara นักแสดงตลกวัย 28 ปี ซึ่งเธอได้มีโอกาสปรากฏตัวลงในนิตยสาร CanCam ของประเทศญี่ปุ่น ฉบับเดือนมีนาคม ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต่างพากันตกตะลึงในสิ่งที่เธอได้ทำลงไป   นิตยสาร CanCam ฉบับเดือนมีนาคม   ทุกคนไม่ได้ตกใจกับการที่เธอได้มาโผล่ในนิตยสาร แต่ที่น่าตกใจจริงๆ คือการที่เธออกมาเผยให้เห็นวิธีการแต่งหน้าที่เรียกว่า Seikei Kyu Make (整形級メーク) หรือเรียกเป็นภาษาไทยคือการแต่งหน้าขั้นศัลยกรรม ที่เปลี่ยนให้ใบหน้าของเธอกลายเป็นคนละคนจากที่เคยเห็นมาโดยตลอด   การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการแต่งหน้าขั้นศัลยกรรม   เธอเล่าเอาไว้ในนิตยสารว่า “ฉันคิดเสมอว่าถ้าฉันไม่เผยความน่ารักสดใสตั้งแต่ตอนอายุ 20 กว่าๆ แบบนี้ ฉันก็คงจะรู้สึกเสียดายแย่ ก็เลยตัดสินใจอัปภาพการแปลงโฉมของตัวเองลงในโซเชียล ซึ่งมันเกิดจากการที่ฉันอยากจะลองจนกลายเป็นความความจริงจังและเพียรพยายามมาโดยตลอด”     หญิงสาวเล่าต่อไปว่า “ฉันดูน่ารักขึ้นกว่าเดิมมากจนตัวเองยังคิดเลยว่า ‘ฉันนี่มันช่างหลอกลวงจริงๆ’ (ฮา) จากนั้นมาฉันก็เริ่มชื่นชอบการแต่งหน้าสไตล์นี้มากขึ้นเรื่อยๆ”  …

  • เรื่องเล่าจากภาพอายุ 100 ปี เกิดอะไรขึ้นบ้างในอเมริกา และกล้องถูกใช้ไปเพื่ออะไรบ้าง…

    เรื่องเล่าจากภาพอายุ 100 ปี เกิดอะไรขึ้นบ้างในอเมริกา และกล้องถูกใช้ไปเพื่ออะไรบ้าง…

    สมัย 100 กว่าปีก่อน เทคโนโลยีการถ่ายภาพนั้นถือเป็นความใหม่ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจคนสมัยนั้นเป็นอย่างมาก และการเข้าถึงกล้องถ่ายรูปก็ไม่ได้ง่ายดายและรวดเร็วแบบปัจจุบัน ฉะนั้นการที่ช่างภาพสมัยก่อนจะถ่ายภาพแต่ละครั้งมันจึงมีความหมาย จึงเกิดงานแสดงภาพถ่ายที่ชื่อว่า Paper Promises: Early American Photography ที่ พิพิธภัณฑ์ J. Paul Getty ใน Los Angeles ที่แสดงถึงความเป็นไปเป็นมาของภาพถ่ายจากร้อยกว่าปีก่อน แล้วภาพที่ถูกถ่ายออกมาสมัยนั้นจะเป็นอย่างไร ผู้คนสมัยก่อนเขาใช้กล้องอย่างไร ใช้ถ่ายอะไรกันบ้าง เชิญไปชม 19 ภาพถ่ายพร้อมเรื่องเล่าความเป็นมาจากสมัยกว่า 100 ปีก่อน   ภูเขา Ophir ใน California ปี 1859-1860 โดย Carleton Watkins   การถ่ายภาพนั้นกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการราวปี 1839 กล้องยุคนั้นมีชื่อว่า Daguerreotype ซึ่งมีลักษณะเป็นกล่องไม้ขนาดพอดีมือ ที่มีกระบวนการบันทึกรูปภาพลงบนผลึกโลหะ (ผลึกเกลือเงิน) ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาพที่คนสมัยนั้นกล่าวกันว่า สมบูรณ์แบบที่สุด จากนั้นจึงมีการพัฒนาฟิล์มเป็นกระดาษแก้วเนกาทีฟส์ ซึ่งสามารถพิมพ์ภาพออกมาได้หลายขนาด ถือได้ว่ามีความสะดวกยิ่งขึ้น แต่มันก็ยังมีความไวต่อแสงสูง   อดีตทาสแรงงานในฟาร์มของ Mr. Toller ในรัฐ Virginia…

  • ถึงกับงง… “หมีด่าง” ส่วนผสมของน้ำตาลและขาว บนเกาะห่างไกลของญี่ปุ่น-รัสเซีย

    ถึงกับงง… “หมีด่าง” ส่วนผสมของน้ำตาลและขาว บนเกาะห่างไกลของญี่ปุ่น-รัสเซีย

    เรารู้ดีว่าหมีน้ำตาลก็ต้องมีสีน้ำตาล หมีขาวก็ต้องมีสีขาว แต่ภาพของหมีบนเกาะ Kunashir นี้จะทำให้คุณรู้สึกสับสนอย่างมาก เพราะนี่คือหมีน้ำตาลที่มีขนสีขาว!! ภาพดังกล่าวถูกถ่ายโดยช่างภาพที่ชื่อว่า Viktor Nikiforov ขณะที่เขากำลังเดินทางลงใต้ไปเก็บภาพสิ่งต่างๆ บนฝั่งอาร์กติก เขาก็ได้เจอเข้ากับหมีตัวหนึ่งบนเกาะอันห่างไกล ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ว่าขนของมันตรงช่วงบนจะเป็นสีขาว ในขณะที่ช่วงล่างจะออกเป็นสีดำ   หมีด่าง ที่ถูกพบว่ามีสีต่างกัน   เกาะ Kunashir   Viktor ถึงกับงงจนคิดว่าเจ้าหมีสีน้ำตาลตัวนี้อาจเป็นผลมาจากการผสมพันธุ์กันกับหมีขั้วโลกก็เป็นได้ และอีกหนึ่งสิ่งที่พิเศษพอๆ กับเรื่องของสีขนก็คือ เกาะ Kunashir นั้นเป็นเกาะเล็กๆ ที่ไม่น่าจะมีหมีสีน้ำตาลมาอาศัยอยู่ได้เลย เกาะที่ว่านี้ตั้งอยู่บริเวณใจกลางระหว่างญี่ปุ่นกับรัสเซีย จึงทำให้ทั้งสองประเทศเริ่มตั้งข้อสงสัยกันว่าหมีสีน้ำตาลเหล่านี้มันโผล่มาได้อย่างไร   แผนที่ที่ตั้งของเกาะดังกล่าว .   ฝั่งหนึ่งบอกว่าชาวญี่ปุ่นเป็นคนอพยพมันมาไว้บนเกาะ ส่วนอีกฝั่งก็บอกว่าเจ้าหมีเดินเท้าข้ามทะเลมาในตอนที่น้ำเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง เพื่ออพยพออกมาจากแถวคาบสมุทรคัมชัตคา ทางด้านศาสตราจารย์ Noriyuki Ohtaishi จากมหาวิทยาลัยฮอกไกโดได้ออกมาอธิบายว่า สีขนของเจ้าหมีน่าจะเกิดจากการแบ่งแยกและกลายพันธุ์ตามธรรมชาติ เพราะมันมาโผล่ที่เกาะ Kunashir และ Iturup ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างสองประเทศ นี่จึงอาจเป็นการปรับตัวรูปแบบหนึ่ง   ศาสตราจารย์ Noriyuki Ohtaishi .  …

  • ความเหงาไม่เคยฆ่าใคร!! พบกับ “ต้นไม้โดดเดี่ยวที่สุดในโลก” เป็นต้นสุดท้ายของสายพันธุ์

    ความเหงาไม่เคยฆ่าใคร!! พบกับ “ต้นไม้โดดเดี่ยวที่สุดในโลก” เป็นต้นสุดท้ายของสายพันธุ์

    เรื่องราวของต้นไม้ต้นหนึ่ง แต่ว่ามันไม่ใช่ต้นไม้ธรรมดาทั่วไป มันคือต้นไม้ที่เมื่อนานมาแล้วมันเคยครองโลกใบนี้ แต่ในปัจจุบันมันก็ได้กลายเป็นต้นไม้ต้นสุดท้ายที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลกไปแล้ว ต้นไม้ต้นนั้นก็คือ Encephalartos Woodii หรือเรียกสั้นๆ ว่า E. woodii ซึ่งอยู่ภายใต้ความดูแลของ David Cooke ผู้ดูแลและที่ปรึกษาเกี่ยวกับพืชประเภทปาล์ม มากว่า 20 ปีแล้ว     มันถูกตั้งชื่อตามนักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษนามว่า John Medley Wood ผู้ที่ต้นพบเจ้าต้นไม้ต้นนี้ขึ้นอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ตรงเนินเขาแห่งหนึ่งในแถบชายหาดประเทศแอฟริกาใต้ในปี 1895 ต้นไม้ที่ดูหน้าตาดีแหละแปลกประหลาดก็ได้เตะตาเขา เขาจึงได้พยายามเคลื่อนย้ายมันอย่างระมัดระวังโดยนำขึ้นเรือกลับไปยังเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่สวน Kew Gardens และมันก็ได้อยู่ที่นั่นมากว่า 117 ปีแล้ว แต่ทว่าประวัติของมันไปไกลกว่านั้น     Encephalartos Woodii เป็นพืชที่อยู่ในสกุล Cycad หรือปรง ซึ่งปรงนั้นมีอยู่บนโลกมากว่า 300 ล้านปีแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป พืชสกุลปรงก็ได้เป็นร่มเงาให้กับพวก Triceratop เป็นรังให้กับ Pterodactyl และเป็นอาหารให้กับ Brontosaurus ในช่วงยุคจูราสสิค พืชสกุลปรงได้แพร่พันธุ์จนมีจำนวนถึง 20%…

  • หนุ่มคอสเป็น ‘เมาอิ’ จากเรื่อง Moana ได้เหมือนสุดๆ แถมยังแชร์วิธีทำอีกด้วย เอาไปทำตามได้เลย

    หนุ่มคอสเป็น ‘เมาอิ’ จากเรื่อง Moana ได้เหมือนสุดๆ แถมยังแชร์วิธีทำอีกด้วย เอาไปทำตามได้เลย

    หากใครชื่นชอบอนิเมชั่นจากค่ายดิสนีย์มากๆ แล้วล่ะก็ เราเชื่อว่าคุณจะต้องรู้จักกับหนังการ์ตูนที่เต็มไปด้วยความน่ารักและแฟนตาซีอย่างเรื่อง Moana แน่นอน และหากรู้จักหนังเรื่องนี้ คุณก็จะต้องได้เห็นตัวเอกที่ีมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างเข้า เมาอิ ชายผู้มากไปด้วยพลังวิเศษต่างๆ   ตัวละครเมาอิ จากหนังเรื่อง Moana   หนุ่มคอสเพลย์จากกลุ่ม Sledgehammer Cosplay ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เขาก็เป็นคนที่ชื่นชอบตัวละครตัวนี้อย่างมากเหมือนกัน และนั่นจึงทำให้เขาคอสเพลย์เป็นเมาอิซะเลย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นเรียกว่ามีความเหมือนแทบทุกอย่าง อีกทั้งเขายังเอาวิธีการมาแชร์กันด้วยนะเออ เราลองไปดูกันเลย   นี่คือผลลัพธ์ที่ได้จากการคอสเพลย์ของเขา เก็บทุกรายละเอียดของตัวละครต้นฉบับ   ขั้นตอนการคอสเพลย์ของเขา หารูปในอินเตอร์เน็ตเพื่อใช้เป็นโครงร่างของอาวุธ ซึ่งต้องดูจากสัดส่วนให้เข้ากับขนาดตัวด้วย   การใช้อุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเบาทำให้สามารถถือไปไหนมาไหนได้ตลอด เขาจึงใช้โฟมมาตัดตามโครงร่างก่อนที่จะประกบด้วยไม้ที่ถูกตัดด้วยความร้อน   เขาเคลือบตัวเบ็ดด้วยกาวไม้หลายๆ ชั้น เพื่อช่วยให้รูปร่างที่เขียนเอาไว้ในตอนแรกยังคงอยู่ ก่อนที่จะทำการลงสี   จากนั้นก็เพิ่มความสมจริง ด้วยการทำให้มันดูผุกร่อนไปบ้าง   ในส่วนของเชือก เขาต้องการให้มันดูเข้มกว่าสีปกติ เขาจึงนำไปแช่เอาไว้ในน้ำชา   เขาออกแบบใบไม้แต่ละใบที่จะใช้เป็นกางเกงให้มีความแตกต่างกัน   จากนั้นจึงนำแบบที่ตัดไว้มายึดกับแผ่นโฟมอีกที   เพื่อให้เหมือนมากที่สุด เขาจึงต้องแยกเฉดสีของใบไม้ให้เหมือนกับในการ์ตูน ซึ่งมันมีเยอะเอามากๆ  …

  • เด็กน้อยผู้รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังจากที่เกิดมามีสมองอยู่ข้างนอก

    เด็กน้อยผู้รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังจากที่เกิดมามีสมองอยู่ข้างนอก

    เราอาจเคยได้ยินกันมาก่อนว่าเด็กที่คลอดออกมาไม่ได้หมายความว่าจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ทุกคน เพราะยังมีบางคนที่อาจเกิดมาแล้วต้องเสียชีวิตไปจากความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งเด็กคนนี้ก็เกือบจะได้เป็นหนึ่งในนั้น แต่เขาก็สามารถรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์และโตขึ้นมาอย่างมีความสุข เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่า Jamie Daniel จากเมือง Nuneaton เขตวาร์วิคเชอร์ ประเทศอังกฤษ เขาเกิดเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2008 แต่ในวันเดียวกันนั้นก็เกือบจะเป็นวันตายของเขา เพราะความผิดปกติที่ติดตัวมาเกือบทำให้เขาต้องตายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง   Jamie เด็กที่เกิดมามีความผิดปกติ และเกือบต้องเสียชีวิตในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงหลังคลอด   Jamie คลอดออกมาพร้อมกับพี่สาวฝาแฝด Lucy หญิงสาวที่เกิดมาพร้อมร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ครบ 32 ประการ แต่ในขณะเดียวกัน Jamie กลับเกิดมามีน้ำหนักตัวแค่ประมาณ 1 กิโลกรัมเท่านั้นเอง แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาเกือบเสียชีวิตลงตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลกก็คือ ความผิดปกติที่เรียกว่า Encephalocele ทำให้สมองของเด็กน้อยออกมาอยู่ด้านนอกกะโหลกศีรษะ แพทย์ที่ทำคลอดทำใจไว้แล้วว่าเด็กคนนี้คงไม่มีโอกาสรอดแน่ๆ     Leanne Daniel แม่ของเด็กน้อยเล่าว่ามีการพบความผิดปกติของ Jamie ตั้งแต่ตอนที่ไปตรวจครรภ์ในสัปดาห์ที่ 31 ซึ่งตอนนั้นหมอบอกว่าเด็กอาจจะเกิดมาแล้วตายเลย หรือไม่อย่างนั้นก็อาจมีความผิดปกติที่ร้ายแรงมากๆ และแนะนำให้เธอทำแท้งเอาเด็กคนนี้ออก แต่ทว่าน้ำคร่ำของเธอไหลออกมาก่อนเวลาที่กำหนด…

  • 10 ภาพถ่ายที่สื่อถึง ‘การทำแท้งผิดกฎหมาย’ ได้อย่างลึกซึ้ง อันกลายมาเป็นตราบาปในชีวิต

    10 ภาพถ่ายที่สื่อถึง ‘การทำแท้งผิดกฎหมาย’ ได้อย่างลึกซึ้ง อันกลายมาเป็นตราบาปในชีวิต

    [บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม]   ปัจจุบันคู่รักหนุ่มสาววัยรุ่นนั้นมักมีพฤติกรรมการร่วมเพศที่ไม่มีการป้องกันอย่างถูกต้อง ผลร้ายที่ตามมาก็คงหนีไม่พ้นโรคติดต่อทางเพศและแน่นอน “การตั้งครรภ์” ก่อนวัยอันควร ซึ่งเมื่อเกิดความผิดพลาดจนทำให้ตั้งครรภ์แบบไม่พึงประสงค์แล้ว ทางออกที่คนจำนวนไม่น้อยเลือกก็คือ “การทำแท้ง” อย่างไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอันตรายกับสุขภาพของผู้หญิงอย่างมาก ดังนั้นจึงมีศิลปินท่านหนึ่งออกมาผลักดันและป้องกันไม่ให้ผู้คนมองว่าการทำแท้งแบบผิดกฎหมายเป็นสิ่งที่ดี และศิลปินท่านนี้มีชื่อว่า Laia Abril  Laia เป็นศิลปินที่ผลงานส่วนใหญ่ของเธอจะเน้นไปที่เรื่องของความเป็นผู้หญิง โดยในงานนี้เธอใช้ภาพและคำบรรยายเป็นสื่อให้ผู้ชมรับรู้ถึงความรุนแรงและข้อเสียของการทำแท้งแบบผิดกฎหมาย 1. Hippocratic Betrayal (ทรยศจรรยาบรรณ)   ภาพนี้เสนอเรื่องของการ “ไม่มีช่องทางเข้าถึงการทำแท้งที่ถูกต้อง” ที่ทำให้แต่ละปี มีผู้หญิงกว่า 47,000 คนต้องเสียชีวิต และบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจอีกนับพันจากการทำแท้งแบบผิดกฎหมาย บางคนก็ถูกจับกุม ถูกทดสอบ ถูกกล่าวโทษ ถูกริดรอนอิสรภาพ รวมไปถึงถูกยัดเยียดความเป็นมารดาให้ ภาพนี้ Laia กล่าวว่าเขามีจิตใจที่ค่อนข้างเห็นใจและลำเอียงไปทางหญิงสาวที่ทำแท้งแบบผิดกฎหมาย เธอบอกว่าถึงคุณจะมีอิสระที่จะตัดสิน แต่มันก็ไม่อิสระโดยสมบูรณ์หรอก สิ่งที่สะท้อนออกมาไม่อาจถูกตัดสินได้ว่าถูกหรือผิด ดำหรือขาว มันควรเป็นสิ่งที่มนุษย์แต่ละคนสามารถเลือกได้อย่างอิสระ   2. Knitting Needle Procedure (กระบวนการเข็มถักผ้า)   ภาพตัดขวางสามมิตินี้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการทำแท้งที่กระทำโดยผู้ที่ไม่ชำนาญ และใช้อุปกรณ์ที่ไม่ถูกต้อง หญิงตั้งครรภ์ที่ต้องการทำแท้งนั้น ต้องเสียเวลารอเปล่าประโยชน์ถึง 3 เดือนเพราะ ส่วนมากการทำแท้งแบบผิดกฎหมายนั้นจะทำกับครรภ์ที่มีอายุมากกว่า…

  • อัปเดตชีวิต Chris Pratt ผ่านไอจี คิดถึงลูกและชีวิตในฟาร์ม แต่บางคนก็ตามด่าภาพ “เนื้อ” ที่โพสต์!?

    อัปเดตชีวิต Chris Pratt ผ่านไอจี คิดถึงลูกและชีวิตในฟาร์ม แต่บางคนก็ตามด่าภาพ “เนื้อ” ที่โพสต์!?

    เป็นที่รู้กันว่า Chris Pratt นั้นได้แยกทางกับ Anna Faris ไปเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากเวลาของทั้งสองไม่ตรงกัน โดยที่มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนชื่อ Jack Pratt การแยกทางครั้งนั้นทำให้แฟนๆ ของทั้งคู่ช็อกมากๆ เพราะทั้งคู่ต่างเป็นคู่ที่ดูรักกันดี และไม่เคยมีข่าวไม่ดีมาก่อนเลย และไม่นานมานี้ Chris ก็ได้โพสต์วิดีโอลงใน Instagram ส่วนตัว ถึงความทรงจำเก่าๆ ตอนที่เขาใช้เวลาอยู่กับลูกชายของเขาที่ฟาร์มในเกาะ San Juan ทำนองว่าเขาคิดถึงบ้าน คิดถึงลูก คิดถึงฟาร์มมากๆ   คลิปวิดีโอที่ Chris Pratt โพสต์ลง Instagram A post shared by chris pratt (@prattprattpratt) on Jan 24, 2018 at 12:39pm PST หากดูไม่ได้ให้คลิกที่นี่   เขาได้เขียนอธิบายความรู้สึกไว้ในวิดีโอว่า “ผมคิดถึงบ้าน คิดถึงฟาร์ม คิดถึงลูก คิดถึงเกาะ ดังนั้นผมจึงแชร์วิดีโอนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความซาบซึ้งใจกับสิ่งดีๆต่างๆที่ผมได้รับมา และก็อยากให้พวกคุณที่อาจจะกำลังรู้สึกไม่สบายใจ หรือกังวลกับสภาพของโลกเราในตอนนี้ ลองหายใจเข้าออกช้าๆ ดู ออกไปข้างนอก…

  • คุณรู้ไหมว่า Haruo Nakajima ผู้นี้คือนักแสดงชื่อดังที่คนรู้จักกันทั่วโลก ในนามของ ‘ก็อตซิลล่า’

    คุณรู้ไหมว่า Haruo Nakajima ผู้นี้คือนักแสดงชื่อดังที่คนรู้จักกันทั่วโลก ในนามของ ‘ก็อตซิลล่า’

    เมื่อพูดถึงนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ว่าใครก็ต้องมีผู้คนที่จำหน้าเขาได้ทั้งนั้น แม้บางคนอาจจะแสดงหนังดังมาเพียงไม่กี่เรื่องก็ตาม แต่ถ้าหากพูดถึง Haruo Nakajima ผู้ทืี่แสดงหนังดังๆ มาแล้ว 12 เรื่อง คงจะไม่มีใครนึกหน้าเขาออกแน่ๆ ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่า Haruo ผู้นี้คือผู้ที่อยู่ภายใต้ชุดสัตว์ประหลาดตัวโต “Godzilla” มาตลอดเลยยังไงล่ะ     Haruo Nakajima นั้นเป็นนักแสดงคนแรกที่ใส่ชุด Godzilla ตั้งแต่ปี 1952 เลยล่ะ เขาเล่าว่าแรกเริ่มเดิมทีช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เขาก็ได้เข้ามาทำงานที่ Toho Pictures Japan ด้วยความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักแสดง     การแสดงของเขาเริ่มจากการเป็นสตั๊นแมนในหนังซามูไร เช่น เรื่อง Seven Samurai เขาบอกว่า “เขามักจะได้แสดงเป็นคนที่ถูกฆ่าเสมอ”     ต่อมาเมื่อเขาได้แสดงเรื่อง Eagle of the Pacific ที่ทำให้เข้าถูกจับตามอง โดยผู้กำกับ Ishiro Honda เขากล่าวว่า “ในฉากที่ไฟไหม้เครื่องบินแล้วมีนักบินกระโดดหนีออกมา นั่นแหละผมเอง”     คุณ Honda เห็นว่าชายคนนี้มีความตื่นตัวและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เขาจึงเข้าไปหา Haruo…

  • เรื่องราวอบอุ่นหัวใจ เมื่อครูฝึกสอนช่วยให้นักเรียนขี้อาย ค้นพบตัวเองและมีความกล้ามากขึ้น

    เรื่องราวอบอุ่นหัวใจ เมื่อครูฝึกสอนช่วยให้นักเรียนขี้อาย ค้นพบตัวเองและมีความกล้ามากขึ้น

    กลายเป็นเรื่องราวให้ชาวเน็ตได้อบอุ่นหัวใจกันเลยทีเดียว หลังจากที่ครูฝึกสอนชาวมาเลเซียผู้หนึ่ง ได้ช่วยให้นักเรียนคนหนึ่งของเธอ ได้พบกับโลกใบใหม่หลังจากที่เขาเป็นคนขี้อายเอามากๆ คุณ Amymistika ได้เล่าเรื่องราวของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนั้นได้รับควานิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก โดยมีคนรีทวีตมากกว่า 67,000 ครั้ง     ครูฝึกสอนสาวเล่าว่าถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างเธอ และ Yip Kah Shzen นักเรียนขี้อายจากโรงเรียนที่เธอฝึกสอนนานกว่า 4 เดือนว่า “ในตอนแรกฉันได้ฝึกสอนนักเรียนห้องคิง ซึ่งฉันจำพวกเขาได้ไม่หมดหรอก และเด็กคนนี้ก็เป็นคนที่เงียบกว่านักเรียนคนอื่นมาก” คุณครูฝึกสอนเล่าผ่านทวิตเตอร์ของเธอ     คุณครูฝึกสอน เริ่มให้นักเรียนในห้องของเธอแนะนำตัวทีละคน และ Kah Shzen ก็ทำให้เธอแปลกใจอย่างมาก หลังจากที่เขาไม่กล้าที่จะแนะนำตัว และเอาแต่ก้มมองที่พื้น และถึงแม้ว่าคุณครูฝึกสอนจะพยายามแค่ไหน เด็กหนุ่มก็ยังไม่ยอมแนะนำตัว จนทำให้คุณครูต้องถามชื่อของเขาจากเพื่อนร่วมชั้นแทน     และเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเข้ามาสอนในชั้นเรียน คุณครูสาวก็จะพบว่า Kah Shzen นั้นเอาแต่นั่งเงียบๆ และจ้องไปที่โต๊ะของเขา คุณครูฝึกสอนได้ย้ายเด็กหนุ่มมานั่งหน้าชั้น เพื่อที่เธอจะได้ดูแลเขาอย่างใกล้ชิด วันหนึ่งในชั่วโมงเรียนคณิตศาสตร์ Kah Shzen ลืมนำเครื่องคิดเลขและหนังสือเรียนมา แต่เมื่อถูกคุณครูถามเขาก็เอาแต่นั่งเงียบไม่ยอมพูดเหมือนเดิม     “เขาเอาแต่จ้องโต๊ะ และอาจารย์คนอื่นก็ไม่สนใจเขาเลย เพราะเขาไม่พูดกับใคร” เพื่อนรวมโต๊ะของเด็กชายบอกกับคุณครู ครู Amy คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องหากจะไม่สนใจเขาเหมือนคุณครูท่านอื่นๆ…

  • ข้อสอบคณิตระดับประถม ไม่ประเทืองปัญญา ถามหาอายุกัปตันเรือเกี่ยวอะไรกับจำนวนสัตว์?

    ข้อสอบคณิตระดับประถม ไม่ประเทืองปัญญา ถามหาอายุกัปตันเรือเกี่ยวอะไรกับจำนวนสัตว์?

    สำหรับการสอบวิชาคณิตศาสตร์แล้วย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่โจทย์แต่ละข้อนั้นต้องมีคำตอบแบบตายตัว แต่ก็มีคำถามหนึ่งขึ้นมาที่สร้างความสับสนให้กับนักเรียน หรือแม้กระทั่งผู้อ่านบนอินเตอร์เน็ต โดยคำถามนั้นแทบไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวิชาคณิตศาสตร์และดูไม่สมเหตุสมผลเลย จนทางสำนักการศึกษาของประเทศจีนทางตะวันตกเฉียงใต้ต้องออกมาแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อสอบนี้     ข้อสอบที่ว่านั้นเป็นข้อสอบของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เมืองหนานชอง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยคำถามนั้นถามว่ากัปตันเรือมีอายุเท่าไรหากบนเรือมีแกะ 26 ตัวและแพะ 10 ตัว ซึ่งก็ได้รับคำตอบมากมายที่ไม่เหมือนกัน   นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า “กัปตันควรจะมีอายุอย่างน้อย 18 ปี เพราะคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีไม่ได้รับอนุญาตให้ขับขี่ตามกฎหมาย”   นักเรียนอีกคนหนึ่งตอบว่า “กัปตันอายุ 36 ปี เขาค่อนข้างหลงตัวเอง ก็เลยนำสัตว์ขึ้นเรือจำนวนเท่าอายุของเขา”   และนักเรียนคนที่สามตอบว่า “เราไม่รู้อายุของกัปตันอย่างแน่ชัดได้ เนื่องจากจำนวนแกะและแพะไม่มีความเกี่ยวข้องกับอายุของกัปตัน”   ทางสำนักการศึกษาได้แถลงการณ์ว่าไม่มีคำตอบที่ถูกต้องสำหรับคำถามนี้ จุดประสงค์ของคำถามนี้คือการทดสอบการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ในส่วนของใบแถลงการณ์กล่าวว่า ”ส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของนักเรียนชาวจีนนั้นคือการคิดวิเคราะห์ คำถามนี้เป็นคำถามปลายเปิดที่ดี ทำให้เด็กๆ มีอิสระที่จะตอบคำถามโดยไม่มีคำตอบที่ผิดหรือถูก นักเรียนแต่ละคนสามารถแสดงความคิดของตัวเองออกมาได้ หน้าที่ของการศึกษาไม่ได้มีไว้เพื่อสร้างอะไหล่สำรองที่ได้มาตรฐาน แต่ละคำตอบสะท้อนให้เห็นความแตกต่างของแต่ละบุคลิก ข้อสอบที่หลากหลายเหล่านี้จะทำให้คุณภาพของการศึกษาโดยรวมนั้นจะพัฒนาขึ้น”     ที่มา NST/Thepaper/Scmp

  • เกรียนนักประดิษฐ์!? เฮีย Elon Musk เปิดขายปืนไฟ จนมีคนมโนว่าแกจะแอบทำซอมบี้ระบาด

    เกรียนนักประดิษฐ์!? เฮีย Elon Musk เปิดขายปืนไฟ จนมีคนมโนว่าแกจะแอบทำซอมบี้ระบาด

    หลายๆ คนคงรู้จัก Elon Musk ชายหนุ่มอัจฉริยะผู้นี้ เขาคือเจ้าพ่อเทคโนโลยี และเศรษฐีที่เจ๋งที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมของเขาเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจของคนส่วนใหญ่ทั่วโลก ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ล่าสุดของเขาก็คืออาวุธสุดเท่ ‘ปืนไฟที่ปลอดภัยที่สุดในโลก’จากบริษัท The Boring Company ที่ใครๆ ก็สามารถสั่งซื้อได้ในราคา $500 หรือประมาณ 15,000 บาท ซึ่งเขาได้โพสต์รูปภาพของอาวุธปืนอันน่าสนุกนี้ลงบน Instagram ของเขาพร้อมกับแคปชันว่า “ทักทายเพื่อนตัวน้อยของผม…”     เขายังโพสต์คลิปวิดีโอที่เขาเล่นสนุกกับปืนไฟของเขาพร้อมแคปชันว่า “อย่าทำแบบนี้นะ ผมอยากบอกว่าการเล่นกับปืนไฟนั้นเป็นไอเดียที่แย่มาก อย่าซื้อมันนะ นอกจากว่าคุณจะรักความสนุก” เมื่อคุณกดเข้าไปยังหน้าเว็บเพจสั่งจองล่วงหน้า คุณจะพบกับรูปตัวอย่างสินค้าและข้อตกลงจำนวนหนึ่ง เช่น ลูกค้าอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากสั่งออกนอกประเทศเนื่องจากมีกฎหมายต่างกัน แต่ไม่ต้องกังวลเพราะข้อตกลงอีกข้อบอกว่า หากไม่พอใจในค่าค่าใช้จ่ายที่ว่า ลูกค้าก็สามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน นอกจากนั้น Musk ยังขายถังดับเพลิงที่มีราคาสูงเกินไปอย่างน่าประหลาด ในราคา $30 หรือเกือบๆ 1 พันบาทต่อถัง ซึ่งมาพร้อมกับคำอธิบายว่า คุณสามารถซื้อถังดับเพลิงในราคาที่ถูกกว่าได้จากที่อื่น แต่ที่นี่ถังดับเพลิงของเราจะมาพร้อมกับสติกเกอร์เจ๋งๆ และสั่งซื้อได้ง่ายอีกด้วย     ในโพสต์ถัดมาเขาเขียนแคปชันว่าปืนของเขานั้นดีสำหรับใช้ย่างถั่ว แต่อย่างไรก็ตามก็มีคนคิดว่าเขาอาจจะมีแผนชั่วร้ายโดยการแพร่กระจายเชื้อซอมบี้ ซึ่งทำให้คนต้องมาซื้อปืนไฟของเขา เขายังถูกกดดันให้ออกมาประกาศอีกด้วยว่าเขาไม่ได้มีแผนที่จะแพร่ระบาดเชื้อซอมบี้เพื่อเพิ่มยอดขายปืนไฟของเขา ซึ่งจะมีใครที่ไหนบ้างที่คิดแบบนี้…

  • แมลงสาบเป็นเหตุ!? เมื่อคุณป้ากลัวจนขาดสติ หักพวงมาลัยพุ่งเข้าชนสะพานอย่างจัง

    แมลงสาบเป็นเหตุ!? เมื่อคุณป้ากลัวจนขาดสติ หักพวงมาลัยพุ่งเข้าชนสะพานอย่างจัง

    แมลงสาบ คือสิ่งมีชีวิตที่หลายๆ คนทั้งเกลียดและกลัวจนเข้าไส้ ยิ่งตอนมันบินนี่ทำให้รู้สึกอยากจะสิ้นใจตายไปตรงนั้นเอาซะเลย ซึ่งสำหรับเธอคนนี้เองก็คงจะกลัวมันมากเหมือนกัน มากพอที่ทำให้เธอตกใจจนขาดสติได้เลยทีเดียว เหตุการณ์ของหญิงสาววัย 61 ปีคนนี้เกิดขึ้นในเมือง Jurong East Central ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 โดยจากการรายงานแล้วในตอนนั้นเธอกำลังขับรถไปตามถนน Science Centre Road ตอนประมาณ 7 โมงครึ่ง ก่อนที่จะได้จ๊ะเอ๋กับสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมตัวน้อยที่แอบเข้ามาในรถ   ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอคนนี้   เธอได้เจอเข้ากับน้องปีเตอร์ หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเจ้าแมลงสาบ สิ่งที่เธอกลัวนักกลัวหนา จนทำให้เธอตกใจสุดขีด หักพวงมาลัยไม่มองทาง แล้วรถ Masda สีแดงคันงามของเธอก็พุ่งชนเข้ากับบันไดทางขึ้นสะพานลอยอย่างจัง จากการรายงานของสำนักข่าว The Straits Times บอกว่า หญิงสาวที่ขับรถมาคนเดียวได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล Ng Teng Fong General ซึ่งไม่มีใครทราบเลยว่าเจ้าปีเตอร์ตัวนั้นตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง     หลังจากเกิดอุบัติเหตุเพียงไม่นาน ลูกชายของเธอก็รีบตรงมาดูที่สถานที่เกิดเหตุ และในปัจจุบันยังคงอยู่ในช่วงการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกันต่อไป ไม่แปลกที่เราทุกคนจะต้องมีสิ่งที่กลัวเป็นธรรมดา…

  • ติวเตอร์ให้สัญญานักเรียน “ทำคะแนนดี เดี๋ยวพี่พากินกะหรี่” แล้วเด็กเรียนดีขึ้นจริงๆ!?

    ติวเตอร์ให้สัญญานักเรียน “ทำคะแนนดี เดี๋ยวพี่พากินกะหรี่” แล้วเด็กเรียนดีขึ้นจริงๆ!?

    โรงเรียนสวนกวดวิชาส่วนใหญ่นั้นจะมีวิธีพิเศษหรือเทคนิคแปลกใหม่มาสอนให้กับนักเรียน แต่โรงเรียนกวดวิชาที่นี่นั้นมีความแตกต่างจากที่อื่นอย่างมาก ซึ่งได้ผลออกมาดีมากเลยทีเดียว ทางเว็บไซต์ Dispatch ได้เปิดเผยเรื่องราวในรายการโทรทัศน์ของประเทศเกาหลี Shocking Real Life Stories (เรื่องจริงสุดช็อก) ที่นำประเด็นดังกล่าวมาสร้างละครจำลองฉายไปเมื่อไม่นาน     เรื่องราวเริ่มต้นจากที่ประเทศเกาหลีใต้ มีบริการครูกวดวิชาแบบแปลกๆ อยู่เจ้าหนึ่ง ซึ่งไม่ได้สอนเก่ง หรือแนะนำข้อสอบเก่งกว่าครูคนอื่นๆ แต่เขามีเทคนิคเหนือไปอีกขั้น… นั่นก็คือ เขากลับทำการสัญญากับเด็กนักเรียนว่าถ้าพ่อแม่นายจ่ายค่าเรียนมาให้สอน แล้วพวกนายทำเกรดได้ดีขึ้นจริงๆ ฉันจะเลี้ยงสาวขายบริการพวกนายเป็นการตอบแทน เอางั้นไหม!?     งานนี้เด็กๆ ก็ยิ่งดีใจ เพราะเงินก็ไม่ใช่ของพวกเขาเอง แถมพ่อแม่ก็ไม่รู้ว่ามาเรียนกวดวิชาแบบนี้ แถมถ้าคะแนนดีขึ้นจริงๆ พวกเขาก็ยังจะได้รางวัลแบบฟรีๆ มาอีก แต่การที่จะลงทะเบียนเรียนแบบพิเศษได้นั้น พวกเขาต้องประทับตราสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยความลับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างคลาสที่เรียน และทางคลาสเรียนก็จะเก็บความลับไว้เช่นกัน     ทางรายงานดังกล่าว แฉว่าคุณครูกวดวิชานามสมมติ Mr.Park วัย 30 ปีนั้นไม่ได้สอนอะไรให้กับลูกศิษย์ของเขาระหว่างที่เรียนในคลาสเลยด้วยซ้ำ พวกเขาใช้เวลาไปกับการเล่นพนันไพ่กันมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม พอผลสอบออกมา พวกเขาทำเกรดได้ดีขึ้นจริงๆ!!     ตามสัญญาที่ได้ให้ไว้ คุณครูกวดวิชาสุดหัวแหลมนี้ก็ได้ให้รางวัลแก่ลูกศิษย์ของเขาโดยการให้ประสบการณ์อันน่าประทับใจกับสาวขายบริการ นักเรียนที่ได้รับคะแนนสูงสุดก็ได้มีสิทธิ์เลือกห้องก่อน และนักเรียนที่ได้รับเกรดรองลงมาก็เลือกห้องเป็นคนถัดไปตามลำดับ ซึ่งในแต่ละห้องก็ได้มีสาวสวยรออยู่ข้างใน…

  • “ผู้หญิงน่ะทำแซนด์วิชให้ผัวกินเถอะ” สาววัย 16 เดินทาง 600 กิโล พิชิตขั้วโลกลบคำสบประมาท

    “ผู้หญิงน่ะทำแซนด์วิชให้ผัวกินเถอะ” สาววัย 16 เดินทาง 600 กิโล พิชิตขั้วโลกลบคำสบประมาท

    ถ้าหากสงสัยว่าสมัยปัจจุบันนี้ยังมีการเหยียดเพศสภาพกันอยู่หรือไม่ ให้ลองอ่านช่องความคิดเห็นบน Youtube ดูก็จะรู้เอง ถึงแม้ว่าจะมีผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จหรือมีผลงานที่น่าทึ่งอย่างไรก็ตาม ก็ยังจะมีผู้คนที่คอยเหยียบย่ำซ้ำเติมจากข้างหลังหน้าจอและคีย์บอร์ดอยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกัน ความคิดเห็นเหล่านั้นก็สามารถเป็นแรงผลักดันให้ตอกกลับพวกเหยียดเพศบนอินเตอร์เน็ตได้ พบกับ Jade Hameister สาวน้อยนักสำรวจและผจญภัยที่แข็งแกร่งจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ด้วยวัย 16 ปี เธอได้ประสบความสำเร็จมากกว่าถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ที่อายุเท่ากับเธอ     เมื่อ 2 ปีที่แล้ว Jade ได้ออกผจญภัยพร้อมกับ “ภารกิจพิชิตขั้วโลก” ซึ่งเธอก็ได้พิชิตทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ แถมยังข้ามประเทศกรีนแลนด์อีกด้วย นอกจากนั้นเธอยังได้ถูกบันทึกสถิติโลกว่าเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดคนแรกที่ได้เล่นสกีไปยังขั้วโลกเหนือจากระดับล่างสุด เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่เล่นสกีไปยังชายฝั่งขั้วโลกใต้โดยไม่มีคนคอยช่วยเหลือ และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้สำรวจเส้นทางใหม่จากชายฝั่งไปยังขั้วโลกใต้     เหล่านักผจญภัยเรียกการเดินทางจากขั้วโลกไปยังอีกขั้วโลกโดยการข้ามประเทศกรีนแลนด์ว่า “Polar Hat Trick” ซึ่ง Jade ก็เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่ทำสำเร็จ ในปี 2016 เมื่อเธออายุได้ 14 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ TEDx Talk เกี่ยวกับการเดินทางไปยังขั้วโลกเหนือของเธอ ซึ่งเธอก็ได้พูดถึงความหมายของการเป็นนักสำรวจหญิงที่อายุน้อยในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ซึ่งเธอหวังว่าตนเองจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นก้าวข้ามความคิดที่ใช้เพศมาเป็นข้อจำกัด    …

  • จ่าสิบเอกเสียสละชีพ ใช้ร่างกายตัวเองเพื่อปกป้องนายทหาร ให้รอดพ้นจากเศษหินภูเขาไฟ…

    จ่าสิบเอกเสียสละชีพ ใช้ร่างกายตัวเองเพื่อปกป้องนายทหาร ให้รอดพ้นจากเศษหินภูเขาไฟ…

    การปะทุของภูเขาไฟเป็นเหุตการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นพบเจออยู่เป็นประจำ และส่งผลกระทบต่อผู้คนอย่างเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งมันก็มีเวลาที่สามารถอพยพผู้คนออกมาได้ แต่บางครั้งถ้ามันไม่มีสัญญาณเตือนเลยล่ะ? เมื่อเราไม่สามารถหนีได้ทัน ก็หมายถึงอาจจะต้องเสียสละคนบางคนไปนั่นเอง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้กองกำลังป้องกันตนเองประเทศญี่ปุ่นหรือ Japan Ground Self-Defence Force (JGSDF) ได้ไปฝึกซ้อมสกีบนเนินเขาที่เต็มไปด้วยหิมะที่ภูเขา Kusatsu-Shirane ในจังหวัดกุมมะ ในวันที่ 23 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา ได้เกิดการประทุของภูเขาไฟขึ้น และมีหินที่ถูกดีดจากปากภูเขาออกมาเต็มไปหมด     จ่าสิบเอก Takayuki Izawa และหน่วยของเขาได้เข้าไปใช้ต้นไม้ในป่าเป็นที่กำบังในทันทีที่หินตกลงมาจากท้องฟ้า จ่าสิบเอก Takayuki คิดว่าต้นไม้ไม่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ทั้งหมด เขาจึงใช้ร่างกายของเขาบังเพื่อนๆ ทหารของเขาไว้ หินที่ตกลงมาพุ่งตรงเข้าใส่กลุ่มของทหาร และกระแทกเข้ากับหลังของคุณ Takayuki อย่างจัง จนทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส ไม่นานหลังจากนั้นการช่วยเหลือก็มาถึง แต่อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงเกินไปแถมยังมีอาการบาดเจ็บที่ปอด ซึ่งสุดท้ายเขาก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตลงขณะที่กำลังนำเขาไปส่งโรงพยาบาล   ภาพช่วงเหตุการณ์หน่วยช่วยเหลือได้เข้ามาช่วยกลุ่มทหารที่ได้มาฝึกซ้อมสกี .   เพื่อนของคุณ Takayuki ได้เปิดเผยกับสื่อว่า เข้าได้ทำงานให้กับ JGSDF มากกว่า 20 ปี ก่อนที่จะเกษียณไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพื่อที่จะไปศึกษาเกี่ยวกับด้านการบำบัดกระดูกสันหลังในจังหวัดอาโอโมริ แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถทิ้งหน้าที่รั้วของชาติได้เลย เขาจึงตัดสินใจกลับมาเข้ารับราชการอีกครั้งในปี 2017 คุณครูของเขาได้บอกว่าจ่าสิบเอกเป็นนักเรียนที่กระตือรือร้น และคนอื่นๆ ก็คิดว่าเขาเป็นคนที่ยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา…

  • เล่นใหญ่เวอร์… หนุ่มจงใจเดินให้รถเฉี่ยวจนล้ม สะกิดไม่แรงมาก แต่ท่าพุ่งหลาวพี่จัดเต็ม

    เล่นใหญ่เวอร์… หนุ่มจงใจเดินให้รถเฉี่ยวจนล้ม สะกิดไม่แรงมาก แต่ท่าพุ่งหลาวพี่จัดเต็ม

    หลายคนคงเคยเห็นคลิปอุบัติเหตุต่างๆ มากมายที่ดูน่าหวาดเสียวและน่ากลัว แต่ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ ดันกลายเป็นเรื่องตลกขบขันของชาวเน็ต นี่คือภาพเหตุการณ์ที่ Dele Alli ชายหนุ่มขายของผู้หนึ่งที่มีท่วงท่าราวกับนักฟุตบอล ที่จงใจเดินไปให้รถชนเพื่อเรียกค่าเสียหาย   .   วิดีโอคลิปนี้แสดงให้เห็นว่าชายขายเต้าหู้คนนี้ได้แบกถังเหล็ก 2 ถังใหญ่ และเดินตรงไปยังกลางถนนในประทศฟิลิปปินส์ เมื่อมีรถมุ่งหน้าเข้ามา ชายหนุ่มคนนี้ก็ได้เดินตรงเข้าไปชนเข้ากับรถยนต์และกลิ้งกลับมา เพื่อหวังที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย   เขากลิ้งหลุนๆ ไปบนถนนด้วยท่วงท่าอันแสนอลังการ .   ฉากอันน่าตลกขนขันนี้ทำให้นึกถึงนักฟุตบอลที่พยายามแกล้งทำเป็นบาดเจ็บเพื่อที่จะได้เตะลูกจุดโทษ ซึ่งถูกบันทึกโดยกล้องติดรถยนต์ของรถที่ขับตามหลังมา หลังจากที่โดนรถชน เขาก็บิดไปมาบนพื้นดิน ราวกับว่าเจ็บปวดมากๆ และเขาก็พยายามที่จะลากตัวเองไปยังทางเท้าด้วยมือและเท้าของเขา   เมื่อเขานั่งลง ก็พยายามที่จะปฐมพยาบาลขาของตนเอง   คลิปวิดีโอเหตุการณ์เมื่อชายหนุ่มผู้นี้เดินไปให้รถชนอย่างดื้อๆ   ถือว่าเล่นใหญ่เลยทีเดียว เอารางวัลออสก้าร์ไปเลยจ้าาา   ที่มา Dailymail

  • เด็กน้อยใช้ดาต้าอินเตอร์เน็ตจนหมด ขอดาต้าเพิ่ม แต่ทางค่ายให้เซตของเล่นแทน

    เด็กน้อยใช้ดาต้าอินเตอร์เน็ตจนหมด ขอดาต้าเพิ่ม แต่ทางค่ายให้เซตของเล่นแทน

    พวกเราคงเคยมีโมเมนต์ที่เล่นอินเตอร์เน็ตจนหมด ต้องเสียเงินเพิ่มหรือรอให้ครบรอบเดือนถึงจะใช้งานได้อีกครั้ง แต่ก็มีเจ้าหนูคนหนึ่งที่ได้ลองวิธีแปลกใหม่และได้รับการตอบกลับอย่างเซอร์ไพรส์ หนูน้อย Macie Bullen-Jones ได้ใช้ข้อมูลโทรศัพท์ของเธอดูคลิปวิดีโอบนอินเตอร์เน็ตจนหมดหลังจากที่ได้โทรศัพท์เป็นของขวัญเมื่อวันคริสต์มาส หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน เธอก็ได้รับข้อความจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ O2 แจ้งว่าเธอใช้งานอินเตอร์เน็ตจนหมด แต่แทนที่เจ้าหนูจะรอเดือนใหม่ หรือเปลี่ยนไปใช้ Wi-Fi ทั้งเดือน เจ้าหนูกลับส่งข้อความไปยังบริษัทเพื่อถามว่าพวกเขายินดีที่จะช่วยเธอไหม   เธอส่งข้อความไปว่า “ได้โปรด ขอดาต้าเพิ่มให้หนูได้ไหม”   Claire คุณแม่ของเจ้าหนู Macie ได้แอบไปเห็นข้อความในโทรศัพท์ของเธอ ก็เลยเกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา เธอจึงส่งข้อความไปยัง O2 และขอให้ทางบริษัทช่วยตอบกลับหนูน้อยคนนี้ว่าเธอต้องช่วยทำงานบ้านบ้างนะ ถึงจะได้เล่นอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง ทางด้านบริษัท O2 นั้นยิ่งกว่ายินดีที่จะช่วยและตอบกลับมาว่า “พวกเราได้รับข้อความของคุณแล้ว แต่เนื่องจากที่คุณเริ่มโด่งดัง พวกเราเลยอยากจะเขียนจดหมายตอบกลับไป”     ในจดหมายกล่าวว่า “พวกเราไม่สามารถเพิ่มการใช้งานอินเตอร์เน็ตให้ได้ในระหว่างนี้ ระบบของเราบอกว่าหนูไม่ค่อยช่วยเหลืองานบ้านคุณแม่ของหนู จึงต้องรอรายงานเพิ่มเติมจากคุณแม่” แต่ทางบริษัทไม่อยากให้เจ้าหนูต้องเบื่อจากการที่ไม่ได้ดูยูทูบ ก็เลยส่งของขวัญมาให้เพื่อเป็นการปลอบใจ และกล่าวว่า “อย่าเศร้าไปเลย พวกเราได้ส่ง Fidget Spinner ไปให้เพื่อสร้างความสุขให้กับหนู พร้อมกับ #ของขวัญเซอร์ไพรส์จาก O2 หวังว่าหนูจะชอบนะ”  …

  • ผัวทนเมียไม่ไหว อยู่ด้วยกันมา 8 ปีใช้ห้องน้ำเละเทะเรี่ยราด ต้องจัดการด้วยบัญญัติ 7 ประการ

    ผัวทนเมียไม่ไหว อยู่ด้วยกันมา 8 ปีใช้ห้องน้ำเละเทะเรี่ยราด ต้องจัดการด้วยบัญญัติ 7 ประการ

    ในการอาศัยอยู่ร่วมกันของคนหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคู่รักก็ตาม เราควรจะต้องตกลงกับผู้ร่วมอาศัยว่าจะต้องมีกฎเกณฑ์การอยู่ร่วมกันอย่างไรบ้าง มิเช่นนั้นมันอาจจะเกิดเป็นปัญหาเรื้อรังจนแตกหักกันได้ สาว Kath Rose นั้นแต่งงานกับสามีมา 8 ปีแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้สามีของเธอเขียนจดหมายถึงเธอฉบับหนึ่งเนื่องจากทนพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำของเธอไม่ไหวแล้ว โดยในจดหมายระบุกฎการใช้ห้องน้ำที่เขาอยากให้เธอทำตาม 7 ข้อด้วยกัน   จดหมายของสามีถึงภรรยา   เนื้อหาในจดหมายของเขากล่าวถึงการรักษาความสะอาดในห้องน้ำเป็นส่วนใหญ่ เช่น เขาอยากให้เธอปิดฝายาสีฟันหลังใช้ อยากให้เธอเอาขยะออกไปทิ้ง และอยากให้เธอกดชักโครกทุกครั้งด้วย นอกจานั้นก็เป็นเรื่องของสิ่งที่เขาไม่อยากให้เธอใช้ร่วมกับเขา และทิ้งท้ายไว้ว่าเขารักเธอนะแต่ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ห้องน้ำทีเถอะ เธอบอกถึงความคิดเห็นที่มีต่อจดหมายฉบับนี้ว่า “นี่น่าจะเป็นการเขียนเตือนในแบบของเขาเฉยๆ แต่มันก็เป็นการเขียนเตือนครั้งแรกจากสามีของฉัน ฉันหวังว่ามันจะเป็นการเตือนครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้รับ … เขาชี้ให้ฉันเห็นแล้วว่ากฎระเบียบการใช้ห้องน้ำร่วมกันนั้นสำคัญมากแค่ไหน และยังทำให้ฉันรู้ด้วยว่าการเตือนกันตรงๆ นั้นก็สำคัญด้วย การใช้ห้องน้ำร่วมกันของเราอาจจะบ่งบอกก็ได้ว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นเป็นอย่างไร”       Zarife Hardy ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนมารยาทแห่งประเทศออสเตรเลียเองก็บอกเช่นกัน ว่าการใช้ห้องน้ำร่วมกันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการอยู่ร่วมกัน เธอกล่าวถึงกฎการอยู่ร่วมกันข้อหนึ่งว่า “ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญในการอยู่ร่วมกัน คุณควรจะรักษาความสะอาดและไม่ทิ้งข้าวของไว้ระเกะระกะ ยิ่งเมื่อตอนคุณใช้ห้องน้ำแล้วโปรดอย่าทำให้ห้องน้ำสกปรกไม่ว่าจะเป็นการใช้ส้วมหรืออ่างล้างหน้าก็ตาม” เธอย้ำอีกว่าไม่มีใครอยากเข้ามาใช้ห้องที่สกปรกต่อหรอก     จดหมายฉบับนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียลและจุดประเด็นสนทนาในหมู่ชาวเน็ตเอง แม้ว่าชาวเน็ตส่วนใหญ่จะรู้สึกตลกกับจดหมายฉบับนี้แต่ก็มีชาวเน็ตบางส่วนไม่พอใจที่สามีของ Rose เขียนจดหมายเช่นนี้   ทำไมไม่พูดกันตรงๆ เขาขี้ขลาดมาก ถ้าฉันได้รับจดหมายแบบนี้ฉันคงโกรธมากแน่ๆ   ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งก็เห็นใจและเข้าข้างฝั่งสามีที่เขียนจดหมายขึ้นมา…

  • มาทำความรู้จักกับผู้ถือครองสถิติโลก ชายตัวยักษ์ใหญ่ที่่สุด และหญิงตัวเล็กจิ๋วที่สุด

    มาทำความรู้จักกับผู้ถือครองสถิติโลก ชายตัวยักษ์ใหญ่ที่่สุด และหญิงตัวเล็กจิ๋วที่สุด

    คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าผู้ชายตัวสูงมักจะดูหล่อมีเสน่ห์ ในขณะที่ผู้หญิงตัวเล็กนั้นดูน่ารักน่าทะนุถนอม ถ้าอย่างนั้นเราลองไปทำความรู้จักกับชายที่ตัวสูงที่สุดในโลกและหญิงที่ตัวเล็กที่สุดในโลกดูดีกว่า พวกเขาต้องน่ารักมากแน่ๆ จากการบันทึกของ Guinness World Records นาย Sultan Kosen ชาวตุรกีเป็นผู้ชายที่สูงที่สุดในโลกในตอนนี้ เขามีความสูงถึง 8 ฟุต 1 นิ้ว (ประมาณ 245 เซนติเมตร) ถ้าหากคนปกติไปยืนเทียบกับเขาแล้วยังสูงไม่ถึงไหล่เลย   Sultan Kosen หนุ่มยักษ์ใหญ่   ที่ยืนข้างกันนั้นก็คือ  Jyoti Amge สาวน้อยจากประเทศอินเดีย คนที่ครองสถิติโลกเป็นผู้หญิงที่ตัวเล็กที่สุด เธอมีความสูงเพียงแค่ 2 ฟุต (ประมาณ 60 ซม.) เท่านั้น ทั้งคู่ได้รับเชิญจาก คณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศอียิปต์ ให้มาเป็นนายแบบนางแบบสำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศอียิปต์ ทั้งคู่จึงได้มีโอกาสมาพบกันเป็นครั้งแรก   Jyoti Amge หญิงเล็กจิ๋ว   ในภาพที่เห็นนี้พวกเขากำลังถ่ายรูปกับมหาพีระมิดกิซ่าในกรุงไคโร ประเทศอินเดียอยู่ ทั้งคู่ดูมีความสุขและสนุกสนานมากเลย ใครได้เห็นภาพนี้ก็คงติดใจความน่ารักแล้วอยากมาเที่ยวที่นี่บ้างเป็นแน่   ภาพที่ทั้งคู่ถ่ายโปรโมตการท่องเที่ยวที่มหาพีระมิดกิซ่า   แต่ Amege ก็ไม่ได้เป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดในโลกหรอกนะ ก่อนหน้านี้เคยมีชายที่ครองสถิติชายที่เตี้ยที่สุดในโลกอยู่ซึ่งก็คือนาย Chandra Bahadur Dangi จากประเทศเนปาล…

  • หนุ่มเจอรถปริศนาแย่งที่จอดทุกวัน เตือนก็ไม่ฟัง แบบนี้ต้องแก้แค้นให้สาแก่ใจ หึ!!

    หนุ่มเจอรถปริศนาแย่งที่จอดทุกวัน เตือนก็ไม่ฟัง แบบนี้ต้องแก้แค้นให้สาแก่ใจ หึ!!

    สมัยนี้มีคนใช้รถยนต์เป็นจำนวนมาก จึงเกิดปัญหาว่าที่จอดรถไม่เพียงพอต่อความต้องการของเรา วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ อย่างหนึ่งก็คือการจ่ายเงินเช่าที่จอดรถไปเสียเลย จะได้ไม่ต้องมาหาที่จอดรถให้เหนื่อย ทว่าปัญหาของหนุ่มผู้ใช้งาน Reddit ที่ใช้ชื่อว่า Goalnado ยังไม่จบเพียงเท่านั้น แม้ว่าเขาจะเช่าที่จอดรถไว้แล้วก็ยังมีรถคันหนึ่งมาแย่งที่จอดรถของเขาเป็นประจำ แม้จะเตือนแล้วก็ไม่ออกไปเสียที เมื่อเขาทนไม่ได้ก็เลยแก้แค้นเจ้าของรถคันนั้นให้รู้สำนึกซะบ้าง ให้มันโดนปรับเงินบานเลย   โพสต์ส่วนหนึ่งของ Goalnado จาก Reddit   Goalnado ทำงานอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และที่จอดรถในที่ทำงานนั้นมีเพียงแค่ 8 คันเท่านั้นเขาก็เลยยอมจ่ายค่าที่จอดปีละ 1,200 ปอนด์ (ประมาณ 53,000) จะได้ไม่ต้องแย่งที่จอดกับคนอื่น แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นโดยเขาเล่าว่า “เมื่อประมาณ 7 อาทิตย์ก่อนมีรถปริศนาคันหนึ่งมาจอดในที่จอดรถของผมทุกวัน ผมเขียนโน๊ตบอกแล้วว่าที่จอดนี้เป็นของผมแต่เขาก็ยังเข้ามาจอดอยู่ดี แถมไม่ยอมติดต่อผมกลับตามที่เขียนโน๊ตไว้ให้ด้วย ผมก็ไม่พอใจอย่างมากก็เลยจอดรถขวางไม่ให้มันออกซะเลย แต่ดูเหมือนผมจะเลิกงานก่อนมันทุกทีมันก็เลยไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แถมพอแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาปรับมันแล้วก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย”     พอผ่านไปได้ 10 วันเขาก็รู้สึกทนไม่ได้กับพฤติกรรมของเจ้าของรถคันนั้น เขาเลยพยายามหาทางแก้แค้นให้หายเจ็บใจ เขากะว่าต้องทำให้เจ้าของรถรู้สำนึกให้ได้ ประจวบเหมาะว่าคนในที่ทำงานของเขาลาไปดูแลลูกที่เกิดใหม่พอดี แล้วพี่ชายของเขาก็เดินทางไปเที่ยวประเทศแคนาดาเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม เขาจึงได้ที่จอดรถเพิ่มมา 1 ที่ และก็รถของพี่ชายเพิ่มมาอีกหนึ่งคัน เขาจึงเริ่มแผนล้างแค้นทันที…

  • สาวเห็นจักรยานที่โดนขโมยไปตั้งขายใน eBay เลยตามสืบจนเจอแล้วก็ขโมยมันคืนมาซะเลย

    สาวเห็นจักรยานที่โดนขโมยไปตั้งขายใน eBay เลยตามสืบจนเจอแล้วก็ขโมยมันคืนมาซะเลย

    เมื่อทรัพย์สินของเราหายไป ก็เป็นธรรมดาที่เราต้องออกเสาะแสวงหาว่ามันหายไปได้อย่างไร และตอนนี้มันได้ไปอยู่ที่ไหน ซึ่งถ้าหาไม่เจอก็คงจะเสียดายไม่ใช่น้อยถ้าหากมันเป็นของที่เรารักจริงๆ แต่คงจะเจ็บใจเป็นอย่างหนักถ้าบังเอิญเราไปเห็นของชิ้นนั้นประกาศขายอยู่ในเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ซะอย่างงั้น เช่นเดียวกับสาวพนักงานโรงพยาบาลคนนี้ที่ถูกขโมยรถจักรยานไป แล้วไปพบเจอมันอีกครั้งบนเว็บไซต์ขายสินค้าชื่อดัง เธอจึงวางแผนแก้เผ็ดหัวขโมยคนนี้ ด้วยการไปขโมยมันกลับมาหาเจ้าของที่แท้จริงซะเลย..   ฉันหวง ฉันมาทวงของฉันคืน   โดยพนักงานโรงพยาบาลคนนี้ ต้องแปลงร่างเป็นยอดนักสืบเมื่อพบว่าจักรยานเสือภูเขาที่มีราคาถึง 300 ปอนด์ (ประมาณ 13,000 บาท) ของเธอนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย สำหรับสาวคนนี้เธอทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแมนเชสเตอร์รอยัล เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ทว่าเธอก็ไม่ประสงค์จะออกนาม เพราะกลัวว่าจะถูกแก้แค้นจากโจรที่ขโมยจักรยานของเธอไปนั่นเอง   โรงพยาบาลที่สาวคนนี้ทำงานอยู่   ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีภาพจากกล้องวงจรปิด และได้ไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองแมนเชสเตอร์แล้ว แต่เธอก็บอกว่าตำรวจไม่ได้ช่วยตามหาหรือสืบสวนจักรยานคันนี้ให้เธอแต่อย่างใด เพราะพวกเขาคิดว่าเป็นคดีที่จิ๊บจ๊อยเกินไป   เดี๋ยวเจอกันแน่ๆ คุณโจร   “พวกตำรวจบอกกับฉันว่าไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะพวกเขามีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ” สาวเจ้าของจักรยานกล่าว ซึ่งหลังจากที่เธอค้นหามานานแต่ก็มีไม่มีวี่แววจะเจอ เธอก็เริ่มถอดใจว่าชาตินี้คงจะไม่ได้พบกับจักรยานสุดรักของเธออีกแล้ว แต่ก็เหมือนปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อเธอได้ไปพบมันอีกครั้งบนเว็บไซต์ขายของชื่อดังอย่าง eBay ในเวลา 5 วันหลังจากที่ได้แจ้งตำรวจไปซึ่งแน่นอนว่าเธอย่อมจำจักรยานของเธอได้อย่างแม่นยำ เธอจึงติดต่อไปยังผู้ขายคนนั้นในทันที   เจอจักรยานที่หายอยู่บน eBay ซะงั้น   ซึ่งผู้ขายจักรยานบนเว็บไซต์ eBay ต้องการจะขายจักรยานที่ขโมยมานี้ในราคา…

  • ก็มันตื่นเต้นอ่ะ!! ชายไร้บ้านดีใจ ได้รับของขวัญเป็นเสื้อโค้ทใหม่ตัวใหม่เอี่ยม

    ก็มันตื่นเต้นอ่ะ!! ชายไร้บ้านดีใจ ได้รับของขวัญเป็นเสื้อโค้ทใหม่ตัวใหม่เอี่ยม

    สำหรับเหล่าคนไร้บ้านแล้ว ชีวิตของพวกเขาในแต่ละวันต่างก็ต้องเต็มไปด้วยความยากลำบากอย่างมากมาย เพราะด้วยความที่พวกเขาไม่มีเงิน ทำให้พวกเขาบางวันก็อาจจะไม่มีอาหารตกถึงท้องซะด้วยซ้ำ หนำซ้ำด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปทุกวันก็ทำให้ร่างกายของพวกเขาอาจจะต้องเจ็บปวด เพราะว่าไม่มีเครื่องนุ่งห่มที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ ด้วยเหตุนี้ใครหลายคนเมื่อมีโอกาสได้พบเจอกลุ่มคนเหล่านี้ ก็อาจจะมอบสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่สามารถมอบให้ได้ เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เพื่อให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และสำหรับคนไร้บ้านแล้วน้ำใจเพียงเล็กๆ น้อยๆ ของเราก็อาจจะเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตของเขาก็เป็นไปได้     เหมือนกับชายคนนี้ที่ได้รับเสื้อโค้ทใหม่เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น ทว่าท่าทีของเขามันกลับสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นได้อย่างไม่รู้ลืม เพราะใครจะไปคิดว่าเสื้อเพียงตัวเดียว จะทำให้คนๆ หนึ่งสามารถดีใจแบบสุดๆ ชนิดที่ว่ากระโดดโลดเต้นออกมาเลยทีเดียว โดยภาพแห่งความประทับใจนี้เกิดขึ้นเมื่อ กลุ่มคนหนุ่มกลุ่มหนึ่งในสหราชอาณาจักร ตัดสินใจตระเวนมอบของขวัญให้กับคนไร้บ้านหลายคนภายในเมืองที่พวกเขาอาศัยกันอยู่ ซึ่งในการปฏิบัติการครั้งนี้พวกเขาก็ได้ถ่ายวิดีโอวินาทีสำคัญๆ เก็บเอาไว้ด้วย     ซึ่งการแจกจ่ายของขวัญก็เป็นไปด้วยความปกติ จนกระทั่งมาถึงการมอบของขวัญให้กับชายไร้บ้านคนหนึ่ง ซึ่งของที่คนกลุ่มนี้มอบให้เขาก็คือ เสื้อโค้ทสีครีมแสนสวย โดยในตอนที่นำไปมอบนั้นพวกเขาได้เก็บเสิื้อตัวนี้ไว้ในหีบห่อก่อน เพื่อให้ชายไร้บ้านคนดังกล่าวไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าสิ่งของที่พวกเขามอบให้นั้นคืออะไร     เมื่อชายคนนั้นแกะของดูแล้วพบว่าเป็นเสื้อโค้ทตัวใหม่เอี่ยม เขาก็แสดงความดีใจออกมาจนหลายคนสามารถสัมผัสได้ถึงความสุขที่เขามีในตอนนั้น โดยเขารีบถอดเสื้อตัวเก่าออกแล้วสวมเสื้อที่เพิ่งได้รับมาในทันที ซึ่งวินาทีนี้เองที่หน้าตาของเขาดูยิ้มแย้ม พร้อมทั้งมีแววตาแห่งความสุขเกิดขึ้นบนใบหน้าของเขา     จากนั้นชายไร้บ้านคนนี้ก็สวมเสื้อตัวใหม่ไปส่องกระจกเพื่อดูมันช่างสวยงามเพียงใดเมื่ออยู่บนตัวของเขา เมื่อได้เห็นตัวเองในกระจกแล้ว เขาก็แสดงความสุขที่มีออกมาด้วยการเต้นระบำเหมือนกับเด็กๆ เลยก็ว่าได้ และภาพแห่งความสุขแบบง่ายๆ ของชายคนนี้ก็สร้างความตื้นตันใจให้กับใครหลายคนรวมถึงกลุ่มคนที่ช่วยเหลือกลุ่มนี้ด้วย     ในตอนท้ายที่สุดแล้วชายคนนี้ก็พนมมือขึ้นเหนือหัว เหมือนกับว่าเขากำลังอธิษฐานขอบคุณสรวงสวรรค์…

  • เกาะ Tashirojima และ Aoshima แดนสวรรค์ของแมวญี่ปุ่น มีประชากรมากกว่ามนุษย์ซะอีก!!

    เกาะ Tashirojima และ Aoshima แดนสวรรค์ของแมวญี่ปุ่น มีประชากรมากกว่ามนุษย์ซะอีก!!

    ว่ากันว่าญี่ปุ่นนั้นคือดินแดนสวรรค์ของเหล่าคนรักสัตว์ โดยเฉพาะกับแมวที่จัดว่าเป็นหนึ่งในแหล่งใหญ่ของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะคาเฟ่แมวก็เริ่มมาจากที่นี่นั่นเอง แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่าการไปคาเฟ่แมวในตัวเมืองมันยังไม่จุใจ งั้นเชิญพบกับเกาะแมว Tashirojima และ Aoshima สองเกาะดังที่ประชากรหลักคือแมว แถมยังมีคนอาศัยอยู่รวมกันแค่ 100 กว่าคนเท่านั้น!?     เริ่มกันที่เกาะ Tashirojima กันก่อน เกาะนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดมิยะงิ โดยประวัติคร่าวๆ ของเกาะนั้นมันเริ่มมาจากปี 1950s ซึ่งตอนนั้นที่เกาะแห่งนี้ยังมีคนอาศัยอยู่กว่าพันคน จนกระทั่งเข้าสู่ยุคปี 70s ก็เหลือจำนวนประชากรไม่ถึง 100 คนแล้ว จากการอพยพไปที่อื่นกันหมด       ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกาะแห่งนี้มีแมวอาศัยอยู่เยอะนั่นก็เพราะในสมัยก่อนเกาะดังกล่าวเป็นเกาะของชาวประมง และชาวบ้านก็ต้องเจอกับปัญหาหนูที่มากินตัวไหม ทำให้ชาวบ้านสร้างแหจับปลาไม่ได้ “แมว” จึงกลายเป็นตัวเลือกหลักที่มาขจัดปัญหาดังกล่าว   .   แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปประชากรแมวกลับมาเยอะขึ้นๆ และผู้คนก็เริ่มย้ายออกไป ทำให้สุดท้ายประชากรแมวก็เพิ่มจุดถึงจุดพีคและยึดครองเกาะไปในที่สุดนั่นเอง   . . .   ข้ามมาที่อีกเกาะหนึ่งกันบ้างกับเกาะ Aoshima ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเอะฮิเมะ ความพิเศษของเกาะแห่งนี้ที่ต่างจาก Tashirojima คือ ตัวเกาะนั้นแทบจะเป็นเกาะแมวแบบ 100%…

  • หญิงสาวฉุนแรงเมื่อถูกจับหน้าอกในงานดนตรี แต่ถูกสวนกลับขู่ฆ่าแถมยังโดนไล่ออกนอกประเทศ!!

    หญิงสาวฉุนแรงเมื่อถูกจับหน้าอกในงานดนตรี แต่ถูกสวนกลับขู่ฆ่าแถมยังโดนไล่ออกนอกประเทศ!!

    การลวนลามผู้อื่นเป็นสิ่งที่ถูกไม่ควรที่ใครๆ ต่างก็รู้ดี ทว่าเมื่อมีการลวนลามเกิดขึ้นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อก็เป็นธรรมดาที่จะต้องออกมาปกป้องตัวเอง แต่มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่การปกป้องตัวเองของเธอนั้น กลับถูกสังคมตราหน้าว่าที่เธอโดนลวนลามก็เป็นเพราะว่าเธอทำตัวของเธอเองซะอย่างงั้น?? เรื่องราวที่ว่านี้เกิดขึ้นกับสาวอเมริกันวัย 20 ปีชื่อว่า Madeline Anello-Kitzmiller ซึ่งถูกลวนลามร่างกายขณะที่เธอกำลังเดินอยู่ในงานเทศกาลดนตรี Rhythm and Vines ที่จัดขึ้นในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2017 – 31 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา     โดยในวันนั้น Madeline ได้เปลือยร่างกายส่วนบนออกทั้งหมดเพื่อทำบอดี้เพนท์ (แต่ก็ยังมีแผ่นกลิตเตอร์ปิดจุดสำคัญๆ เอาไว้อยู่) ซึ่งก็เป็นสิ่งธรรมดาๆ ที่วัยรุ่นต่างประเทศนิยมทำกัน ซึ่งในระหว่างที่เธอกำลังเดินเล่นอยู่กับเพื่อนสาวของเธอในงานดนตรีดังกล่าว ก็มีชายคนหนึ่งที่วิ่งมาข้างหลังเธอแล้วเอื้อมมาจับส่วนหน้าอกของเธอแบบดื้อๆ ซะอย่างนั้น     ภาพจากวิดีโอได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อมีการลวนลามเกิดขึ้น เธอก็ไม่ได้ปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ แต่อย่างใด เพราะว่าเธอได้เดินตามชายคนนั้นไปพร้อมกับเพื่อนของเธอ จากนั้นก็ลงมือทุบตีชายคนดังกล่าวไปจำนวน 4 ครั้ง เพื่อเป็นการบอกกับชายคนดังกล่าวว่า สิ่งที่เขาทำมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนั่นเอง นอกจากนี้เธอยังบอกอีกด้วยว่า ตลอดทั้งวันในวันนั้นเธอโดนลวนลามมาแล้วมากมาย และในท้ายที่สุดเธอจึงทนต่อไปไม่ไหวระเบิดอารมณ์ใส่ชายคนดังกล่าว จนเกิดเป็นคลิปวิดีโออันโด่งดังขึ้นในที่สุด     ทว่าทันทีที่วิดีโอของเธอได้ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ก็มีคนดูนับล้านคนคลิกเข้ารับชม และก็ได้มีความคิดเห็นเกิดขึ้นมากมาย แต่ส่วนใหญ่ความคิดเห็นของชาวเน็ตกลับไม่ได้เห็นใจเธอแต่อย่างใด หนำซ้ำยังบอกอีกด้วยว่าที่เธอโดนลวนลาม ก็เป็นเพราะว่าการแต่งกายของเธอเอง นอกจากคำด่าทอที่ถาโถมเข้าใส่เธออย่างมากมายแล้ว Madeline ยังบอกว่ามีการข่มขู่จะเอาชีวิต…

  • ภรรยาใจสลาย เมื่อได้พบร่างกึ่งเปลือยของชู้และสามีในโรงรถ ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตทั้งคู่

    ภรรยาใจสลาย เมื่อได้พบร่างกึ่งเปลือยของชู้และสามีในโรงรถ ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตทั้งคู่

    จะเป็นอย่างไรหากเราเมื่อเราไปทำงานมาทั้งวันแล้วกลับมาที่บ้านก็ต้องพบว่า บุคคลอันเป็นที่รักของเรานอนเสียชีวิตอยู่ในบ้าน ขณะเดียวกันก็มีชู้รักของเขานอนแน่นิ่งอยู่ไม่ห่างจากกายของเขานัก อารมณ์ ณ ตอนนั้นของเราก็คงจะสับสนว่าจะเสียใจหรือสะใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นดีนะ และนี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบนโลกนี้กับสาวรัสเซียคนหนึ่ง…   Natalya กลับมาที่บ้านก็ต้องพบกับเรื่องสุดช็อก   โดยเรื่องเศร้าสลดหดหู่หัวใจเรื่องนี้ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา และอุบัติขึ้นกับสาวรัสเซียวัย 38 ปีชื่อว่า Natalya Nalyotova ซึ่งเธอเล่าให้ฟังว่า ในวันที่เกิดเหตุเธอกลับมาที่บ้านเพื่อจะทานอาหารเย็นกับ Denis สามีของเธอ   Denis Nalyotov ชายผู้เสียชีวิตพร้อมกับชู้รักของเขา   เมื่อเข้ามาที่บ้านเธอก็ไม่พบว่าสามีเธออยู่ภายในตัวบ้าน เธอจึงเดินไปเช็กดูที่โรงรถที่สามีของเธอมักจะใช้เวลาอยู่ในนั้นเพื่อซ่อมรถอยู่บ่อยๆ ทว่าภาพที่เธอเห็นกลับไม่ใช่ภาพของสามีเธอที่กำลังซ่อมรถอยู่ แต่กลับเป็นภาพของศพคนสองคน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสามีของเธอ และอีกคนหนึ่งเธอก็คาดเอาไว้ว่าน่าจะเป็นชู้รักของเขา เพราะหญิงสาวคนดังกล่าวอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่ากึ่งโป๊กึ่งเปลือย และเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอแทบจะพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว   มีอาชีพเป็นคนขับรถบรรทุก   และดูเหมือนว่าโรงรถแห่งนี้จะเป็นสถานที่ลับของทั้งคู่ เพราะ Natalya กล่าวว่าเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสามีของเธอจะมีชู้รัก เนื่องจากปกติเธอก็ไปทำงานที่คลินิกทันตกรรมแห่งหนึ่ง โดยกว่าจะเลิกงานก็เป็นเวลาเย็นแล้ว เธอจึงไม่ได้เคลือบแคลงใจอะไรเลย จากการตรวจสอบหญิงสาวที่เสียชีวิตก็ทำให้ได้รู้ว่าเธอชื่อ Alyona Ivanova วัย 30 ปีที่แต่งงานแล้วพร้อมทั้งยังเป็นแม่ของเด็กๆ อีก 2 คน ส่วนสาเหตุที่คร่าชีวิตของทั้งคู่ไปนั้นก็คือการสูดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปมากเกินไปนั่นเอง จากผลการชันสูตรศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ   โรงรถสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น…

  • ศิลปินเกาหลีสร้างผลงานบอกเล่าถึงโมเมนต์แห่งความสุขที่ ‘ความรัก’ เป็นตัวขับเคลื่อน

    ศิลปินเกาหลีสร้างผลงานบอกเล่าถึงโมเมนต์แห่งความสุขที่ ‘ความรัก’ เป็นตัวขับเคลื่อน

    ความรักเอาชนะทุกอย่างได้เสมอ…เพราะความรักมักเป็นตัวขับเคลื่อนให้เราทำสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการมอบสิ่งดีๆ ให้คนอื่น การให้อภัย หรือแม้แต่การทำตามความฝัน ทุกอย่างเหล่านี้ล้วนมีพื้นฐานจากความรัก เช่นเดียวกับศิลปินเกาหลี Puuung ที่ใช้ความรักเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างผลงานศิลปะอันงดงามของเธอขึ้นมา ในผลงานภาพวาดของ Puuung เธอพยายามถ่ายทอดความคิดที่เรียบง่ายแต่มีความสำคัญ เป็นการบอกเล่าความรู้สึกอันยิ่งใหญ่ที่มีสิ่งเล็กๆ มาเติมเต็ม ซึ่งบางทีเราไม่ทันสังเกตเห็น สิ่งนั้นเรียกว่า ‘ความรัก’   รักคือการใช้ช่วงเวลาช่วงเย็นๆ ที่แสนอบอุ่นด้วยกัน   ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการเซอร์ไพรส์ที่น่ารัก   ฉลองวันหยุดด้วยกัน   ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุด   มอบความอบอุ่นให้กันและกัน   รับความอบอุ่นภายใต้ผ้าห่มพร้อมช็อกโกแลตร้อนๆ   นอนกอดกันและกัน   พูดคุยกันในเช้าวันใหม่   เดินเล่นบนถนนเส้นโปรดด้วยกัน   มีความสุขกับการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน   ฉลองวันเกิดให้กันและกัน   ดูหนังเรื่องโปรดด้วยกัน   อย่าปล่อยมือจากกัน   ยินดีกับความสำเร็จของกันและกัน   เริ่มชีวิตใหม่ด้วยกัน   อยู่ด้วยกันในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าพระอาทิตย์จะตกหรือขึ้น   ความรักของคุณล่ะ เป็นแบบไหน? ที่มา brightside

  • สุดยอดงานสร้างจากญี่ปุ่น โต๊ะอุ่นสำหรับวีลแชร์ ออกไปนอกบ้านก็ยังอุ่นได้เหมือนอยู่ในบ้าน

    สุดยอดงานสร้างจากญี่ปุ่น โต๊ะอุ่นสำหรับวีลแชร์ ออกไปนอกบ้านก็ยังอุ่นได้เหมือนอยู่ในบ้าน

    ในช่วงฤดูหนาวเช่นนี้ หลายคนคงไม่อยากออกจากบ้านสักเท่าไหร่เพราะอากาศข้างนอกมันช่างหนาวเหลือเกิน แต่จะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถพกความอบอุ่นในบ้านออกไปข้างนอกได้ด้วย ความอุ่นในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเสื้อกันหนาวหรือผ้าห่มนะ แต่มันคือวีลแชร์พร้อมโต๊ะโคทัตสึอุ่นๆ จากประเทศญี่ปุ่นที่มีผ้าห่มหนาๆ คลุมอยู่ สามารถเอาออกไปข้างนอกได้ ให้ความรู้สึกอุ๊นอุ่นเหมือนอยู่ในบ้านเลย วีลแชร์พิเศษตัวนี้เป็นไอเดียของ Ory Yoshifuji ผู้ร่วมต่อตั้งและ CEO ของ Ory Laboratory ผู้ผลิตหุ่นยนต์เพื่อช่วยผู้พิการ     หลังจากที่ Ory ใช้ปัญญาอันหลักแหลมของเขาสร้างผลงานชั้นยอดชิ้นนี้ขึ้นมา มันได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์ Ory บอกว่า “มันหนาวเกินไปที่จะออกไปข้างนอกด้วยรถเข็นคนพิการ ดังนั้นผมจึงออกแบบวีลแชร์สุดอบอุ่น ที่แม้แต่คนเดินเท้ายังต้องอิจฉา” “นอกจากนี้ รถเข็นตัวนี้ยังสามารถเอ็นหลังได้ด้วย ดังนั้นคุณจะนอนหรือใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพาได้อย่างเต็มที่เท่าที่คุณต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องลูกออกจากเก้าอี้เลย” ช่วงเริ่มต้นของการทำวีลแชร์อุ่นนี้ Ory บอกว่า มีคนมากมายหัวเราะเยาะเขา แต่เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ตรงข้าม เขาเดินหน้าและมุ่งทำให้มันจนสำเร็จ   車椅子での外出はあまりに寒いので、歩行者も羨む車イス、車コタツを作ってみた。 ベースの車椅子はリクライニングとティルトが可能で、そのままフラットに寝れる。 ポータブル電源を搭載しPCも使いたい放題だ。 人類はついにコタツから出ずに外出する術を手に入れたのだ。 pic.twitter.com/hH8CyibTfc — 吉藤オリィ(オリィ研究所 所長) (@origamicat) 23 มกราคม 2561   แน่นอนว่ามีคนจำนวนมากชื่นชมผลงานชิ้นนี้ และยกให้เป็นสุดยอดงานสร้าง และนี่คือความคิดเห็นส่วนหนึ่งของชาวเน็ตญี่ปุ่น “มันเจ๋งมาก…

  • ใจโคตรได้!! จราจรสาวชาวจีน ยังคงทำหน้าที่อย่างแข็งขันแม้จะมีอุณหภูมิถึง -50 องศาก็ตาม

    ใจโคตรได้!! จราจรสาวชาวจีน ยังคงทำหน้าที่อย่างแข็งขันแม้จะมีอุณหภูมิถึง -50 องศาก็ตาม

    เมื่ออากาศหนาวมาเยือน ก็คงจะเป็นความสุขสำหรับใครหลายๆ คน เพราะว่าอากาศเย็นๆ นั้นมันช่างเหมาะกับการนอนเสียนี่กระไร แล้วถ้ายิ่งได้ผ้าห่มอุ่นๆ ด้วยแล้ว มันเป็นเหมือนกับสวรรค์เมื่อเราเอาตัวเข้าไปซุกอยู่ในนั้นเลยก็ว่าได้ แล้วก็ด้วยบรรยากาศดีๆ แบบนี้เอง ก็ทำให้หลายคนเกิดความกระจองอแงขี้เกียจลุกไปทำงาน เพราะอยากจะอยู่ในผ้าห่มน้อยๆ ของเราต่อไปให้นานที่สุด จนทำให้บางคนถึงกับเสียการเสียงานมาแล้วก็เคยมีมาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ   หนาวจนน้ำแข็งเกาะหน้าเกาะตาไปหมด   ท่ามกลางสภาพอากาศอันโหดร้ายและหนาวเย็นจัดในเขต Hulunbuir ซึ่งตั้งอยู่ที่เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ก็ทำให้หลายคนหยุดการหยุดงานกันไป แต่ก็ยังคงมีจราจรสาวชื่อว่า Gai Qi ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกตามท้องถนนของเธอได้อย่างดีเยี่ยม โดยในช่วงเวลาเพียงแค่ 10 นาทีที่เธอออกทำหน้าที่ก็ปรากฏว่า หน้ากากที่เธอสวมอยู่ก็มีน้ำแข็งขึ้นมาเกาะ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงความอดทนของเธอได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว   อุณหภูมิที่วัดได้มีความติดลบถึง 50 องศา     แต่ก็ทำอะไรใจอันยิ่งใหญ่ของเธอไม่ได้   สำหรับอากาศหนาวที่เกิดขึ้นในเขตปกครองตนเองมองโกเลียในปีนี้ เป็นอากาศที่หนาวเย็นที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งมันมีอุณหภูมิที่แทบจะทำให้สิ่งมีชีวิตแข็งตายได้ถึง -50 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว   มีใครอยู่บ้างไหมม   ด้วยสภาพอากาศเช่นนี้ทำให้ Gai Qi ต้องออกไปทำหน้าที่ด้วยการสวมกางเกงซ้อนกันถึงสองตัว รวมถึงเสื้อโค้ชพร้อมกับแจ็คเก็ตอีกอย่างละหนึ่งตัว เพื่อจะทำให้ร่างกายของเธอยังคงต้านทานต่อความหนาวได้นั่นเอง “ด้วยความที่ฉันเป็นตำรวจจราจร หน้าที่ของฉันก็คือทำให้การจราจรราบรื่นที่สุด ดังนั้นฉันจะละเลยไม่ได้” Gai Qi…

  • ชีวิตนักสู้ของสาวไอดอลใต้ดินแห่งญี่ปุ่น ออกตามฝันตัวเอง ไม่ยอมแพ้แม้ไร้บ้านอยู่…

    ชีวิตนักสู้ของสาวไอดอลใต้ดินแห่งญี่ปุ่น ออกตามฝันตัวเอง ไม่ยอมแพ้แม้ไร้บ้านอยู่…

    การมีความฝันนับเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันเป็นแรงผลักดันให้เราทำในสิ่งที่ชอบ และไม่ว่าเส้นทางจะมีอุปสรรคหรือยากลำบากแค่ไหน เราก็พร้อมจะสู้เพื่อให้บรรลุฝันที่ตั้งไว้ อิวามิ มาเรียโรส คือตัวอย่างของนักล่าฝัน เพราะแม้ว่าเธอจะเป็นคนไร้บ้าน แต่ก็ดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อที่ทำความฝันที่อยากเป็นนักร้องไอดอลเกิร์ลให้เป็นจริง     นักร้องไอดอลเกิร์ลคือสิ่งที่อิวามิใฝ่ฝันมาตลอดทั้งชีวิต ดังนั้นหลังจากที่เรียนจบมัธยมต้น เธอรวบรวมเงินที่ได้จากการทำงานพาร์ทไทม์ แล้วออกเดินทางจากต่างจังหวัดไปยังมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียว เพื่อทำตามความฝัน แน่นอนว่านี่เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์ หญิงสาวเริ่มจากการหาอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ขนย้ายได้อย่างสะดวก ก่อนจะร้องเพลงตามข้างถนนในย่านอาคิฮาบาระ ชิบุย่า และฮาราจุกุ     การร้องเพลงตามข้างถนนทำให้หญิงสาวได้รับเงินบริจาคเล็กๆ น้อยๆ จากคนที่ผ่านไปผ่านมา แต่นั่นไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของเธอ เป้าหมายของเธอคือการเปิดตัวและหาโอกาสให้ตัวเองเป็นที่สะดุดตาแมวมองของค่ายเพลงและกลุ่มบริษัทผู้ให้การสนับสนุนไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปต่างๆ     หลังจากที่ใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ในกรุงโตเกียวในฐานะไอดอลใต้ดินมาเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดเธอก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นและมีแฟนคลับเป็นของตัวเองด้วย แฟนๆ หลายคนติดตามผลงานของเธอจากการแสดงตามสถานที่ต่างๆ แบบศิลปินไร้สังกัด ในขณะที่บางส่วนติดตามเธอจากทวิตเตอร์และยูทูบ แม้จะมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าสังกัดเป็นนักร้องหรือไอดอลอาชีพอย่างเต็มตัวสักที     เวลาผ่านไป อายุเธอเริ่มมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นอิวามิก็ไม่หยุดวิ่งไล่ตามความฝัน เธอยังคงใช้ชีวิตแบบคนเร่ร่อนไร้บ้าน ลากกระเป๋าเท่าที่จำเป็นต้องใช้ ส่วนสัมภาระชิ้นใหญ่เธอฝากไว้ที่บ้านเพื่อนซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง พอตกค่ำ ถ้าพอมีเงินบ้าง อิวามิจะอาศัยหลับนอนตามอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ซาวน่าสำหรับผู้หญิง และโรงแรมแคปซูล แต่ส่วนใหญ่เธอจะนอนตามสวนสาธารณะและสถานีรถไฟใต้ดินมากกว่า     แน่นอนว่านี่เป็นการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งหากกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดเธอจะได้อยู่อย่างสบายเหมือนคนทั่วไป แต่เพื่อความฝันแล้วเธอทนได้แม้จะลำบากแค่ไหน การมีเงินติดตัว 800…

  • ร้านซูชิในประเทศญี่ปุ่น ต้อนรับเทศกาลแห่งความรักด้วย ซูชิช็อกโกแลตตต!!

    ร้านซูชิในประเทศญี่ปุ่น ต้อนรับเทศกาลแห่งความรักด้วย ซูชิช็อกโกแลตตต!!

    สำหรับวาเลนไทน์ที่จะมาถึงในอีกไม่ช้านี้ หลายๆ คนอาจกำลังคิดว่าจะซื้ออะไรไปมอบให้กับคนที่เรารักดี และแน่นอนว่าในทุกปีสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับของขวัญที่เราจะต้องเจออย่างแน่นอนนั่นก็คือช็อกโกแลต และเจ้าช็อกโกแลตเองก็ได้กลายเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารแนวใหม่จากร้านซูชิชื่อดังในญี่ปุ่น Kura Sushi ซูชิสายพานที่ทุกเมนูมีราคาแค่ 100 เยน หรือประมาณ 28 บาทเท่านั้น!! นอกจากเรื่องของความถูกแล้วร้านนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของเมนูสุดพิสดาร เหมือนอย่างเมนูใหม่นี้ที่มีชื่อว่า Tiramisushi หรือก็คือ ซูชิช็อกโกแลตตต!!   Tiramisushi หรือ ซูชิช็อกโกแลตตต!!   นี่คือการผสมผสานกันระหว่างซูชิ กับขนมหวานที่มีส่วนผสมหลักเป็นช็อกโกแลตอย่างเจ้า Tiramisu โดยภายในของเมนูใหม่นี้ประกอบด้วยพุดดิ้งช็อกโกแลตที่ขดตัวอยู่ด้านใน คั่นด้วยโนริสาหร่ายและข้าว ก่อนที่จะนำมาสคาโปนชีสมาโปะด้านบนเพื่อเพิ่มความหอมหวาน     รสชาติของชีสและพุดดิ้งช็อกโกแลตจะทำให้คุณได้รับรสที่เหมือนกับกิน Tiramisu อยู่ยังไงยังงั้น แล้วเพิ่มความแปลกใหม่ด้วยรสชาติของข้าวสวยผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ซึ่งทางร้านออกมายืนยันเลยว่ามันเข้ากันแบบสุดๆ อย่างที่หากินจากที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ที่เดียว     ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะพวกเขาได้แนะนำเพิ่มเติมว่าเจ้าของหวานตัวใหม่นี้ หากได้ลองนำไปกินกับกาแฟด้วยแล้วล่ะก็ จะยิ่งทำให้รสชาติมันกลมกล่อมอร่อยถูกปากมากขึ้นไปอีก เหมาะกับการจิบกาแฟ กินของหวาน พูดคุยกับคู่รักของคุณอย่างสุดๆ ไปเลย     สินค้าชิ้นนี้จะถูกวางขายในช่วงเวลาจำกัด คือจะขายแค่เฉพาะวันที่ 9 – 15 กุมภาพันธ์…

  • ไอเดียเสริมพลังใจ หนุ่มใช้ไม้ไอติมเขียนข้อความให้กำลังใจแฟนต่อสู้กับโรคซึมเศร้า

    ไอเดียเสริมพลังใจ หนุ่มใช้ไม้ไอติมเขียนข้อความให้กำลังใจแฟนต่อสู้กับโรคซึมเศร้า

    ข้อมูลสถิติขององค์การอนามัยโลก (WHO) บอกว่า มีคนมากกว่า 300 ล้านคนทั่วโลกป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โดยสิ่งที่ต้องกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยดังกล่าวกลับไม่ใช่เรื่องของจำนวนผู้ป่วย แต่เป็นเรื่องของวิธีการรับมือกับผู้ป่วยเหล่านั้น ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงเป็นเรื่องที่หลายๆ คนคิดกันไม่ตก หลายๆ คนที่มีคนใกล้ตัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้าพยายามหาทางที่จะช่วยเหลือพวกเขาให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ใช้ชื่อใน Reddit ว่า Bovadeez เพราะแฟนสาวของเขาเองก็จมอยู่กับอาการของโรคซึมเศร้ามาอย่างยาวนานเช่นเดียวกัน เขาจึงคิดวิธีที่จะหาทางช่วยเหลือเธอ จนกลายมาเป็นของขวัญชิ้นนี้     นี่คือขวดโหลที่เต็มไปด้วยข้อความต่างๆ มากมายเขียนลงไปบนไม้ไอติม เป็นสิ่งที่เขาต้องการสื่อให้แฟนสาวได้รับรู้ว่าเขารู้สึกเป็นห่วงและรักเธอมากขนาดไหน ชายหนุ่มแยกข้อความออกมาเป็น 4 ประเภทตามสี ได้แก่ สีส้ม คือคำคมหรือวลีต่างๆ ที่มีความหมายในแง่บวก ไว้สำหรับการให้กำลังใจ จากบทประพันธ์ของนักเขียนชื่อดังหลายๆ คนที่เขาชื่นชอบ สีเหลือง คือคำพูดหรือความคิดเชิงบวกจากตัวเขาเอง เพื่อคอยเตือนใจให้แฟนสาวได้รับรู้ว่าเธอสำคัญและมีความหมายมากขนาดไหน ยกตัวอย่างข้อความที่เขียนว่า “เธอสวยมาก” , “ฉันรักเธอ” หรือประโยคที่ว่า “อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ” สีม่วง คือแนวทางที่จะช่วยทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย อย่างเช่นข้อความที่บอกให้เธอ “หยุดพักบ้าง” ในตอนที่เธอกำลังฝืนตัวเอง หรือ “ลองฟังเพลงที่เธอชอบดู” ไม่มีสี คือไม้ไอติมว่างๆ ที่มีไว้ให้แฟนสาวเขียนช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมากที่สุดในชีวิตลงไป เพื่อหวังว่าในอนาคตที่เธอกลับมาหม่นหมอง ขอเพียงให้เธอกลับมาดูเรื่องราวที่เคยเขียนไว้และกลับมายิ้มได้อีกครั้ง…

  • หนุ่มถูกแฟนจับได้ขณะเล่นชู้ เลยให้ชู้แกล้งทำตัวเป็นตุ๊กตายาง เพื่อตบตา!?

    หนุ่มถูกแฟนจับได้ขณะเล่นชู้ เลยให้ชู้แกล้งทำตัวเป็นตุ๊กตายาง เพื่อตบตา!?

    เป็นใครก็คงทำตัวไม่ถูกทั้งนั้น หากถูกจับได้คาหนังคาเขาขณะแอบเล่นชู้ บางคนพยายามหาคำอธิบายต่างๆ นานา เพื่อแก้ตัว ในขณะที่บางคนได้แต่อยู่นิ่งเผื่ออีกฝ่ายจะยกโทษให้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีบางคนใช้วิธีแปลกๆ แบบนี้… นี่เป็นคลิปการแอบถ่ายที่ถูกโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเล่นชู้กันอย่างเมามัน จนถูกจับได้ และทั้งคู่พยายามหนีความผิดในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ๆ     ตามโพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่าผู้ชายในคลิปถูกแฟนสาวจับได้ขณะที่เขากำลังเล่นชู้กับผู้หญิงอื่น เมื่อทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวที่เป็นชู้เลยแกล้งทำตัวเป็น ‘ตุ๊กตายาง’ เพื่อหนีความผิด ใครที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ จะรู้ดีว่าการถูกคนที่รักหักหลังนั้นมันรู้สึกยังไง แน่นอนคุณอาจจะรู้สึกชาไปทั้งตัว แต่ดูเหตุการณ์นี้สิ มันก็น่าโมโหนะแต่ก็อดขำไม่ได้ เพราะนอกจากจะไม่เนียนแล้ว มันยังเป็นอะไรที่ตลกมากๆ ด้วย ตอนแรกที่แฟนสาวพรวดพราดเข้าไป เธอตะโกด้วยความโมโห “มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่!? แล้วนังนี่มันเป็นใคร!?” แฟนหนุ่มที่กำลังอยู่ในชุดแปลกๆ ตอบว่า “มันเป็นแค่ตุ๊กตายาง” แถมยังหยิบใบเสร็จซื้อตุ๊กตายางออกมาให้แฟนสาวดูอีกต่างหาก     ส่วนผู้หญิงที่เป็นชู้ เธอพยายามอย่างหนักที่จะทำตัวนิ่งๆ เหมือนตุ๊กตายาง แน่นอนว่าฝั่งแฟนสาวไม่เชื่อเลยสักนิด และเริ่มผลักเธอ เมื่อถูกผลักจนเซ หญิงที่เป็นชู้เลยบอกให้เธอหยุด โดยทำเสียงเหมือนหุ่นยนต์ แต่แฟนสาวของชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดผลัก ในที่สุดเธอก็หมดความอดทน และเลิกแกล้งทำเป็นตุ๊กตายาง ก่อนจะเก็บข้าวเก็บของแล้วเดินออกไป     แทนที่จะยอมรับความผิดซะตอนนั้น ชายหนุ่มกลับแถต่อไปอีกว่า “ผมมีใบเสร็จนะที่รัก มันเสียและผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงขยับได้ มันเป็นตุ๊กตายางที่มาพร้อมกับปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้า”…

  • กลุ่มนักท่องเที่ยวอังกฤษ ถูกทางการกัมพูชาจับกุม หลังมีการเผยแพร่ภาพการเต้นลามก

    กลุ่มนักท่องเที่ยวอังกฤษ ถูกทางการกัมพูชาจับกุม หลังมีการเผยแพร่ภาพการเต้นลามก

    เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาจับกุมกลุ่มนักท่องเที่ยวอายุระหว่าง 19 ถึง 35 ปีจำนวนหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชาวอังกฤษ 5 คน โดยอ้างว่าพวกเขาทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมในงานปาร์ตี้ เว็บไซต์ของทางกัมพูชาได้เผยแพร่ภาพของเหล่านักท่องเที่ยว  ซึ่งภาพดังกล่าวได้เผยให้เห็นการเต้นล่อแหลมของกลุ่มนักนักท่องเที่ยวชายและหญิง โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าได้รับภาพดังกล่าวจากพลเมืองผู้เห็นเหตุการณ์   ภาพของเหล่านักท่องเที่ยวที่ทางการกัมพูชาอ้างว่ามีการกระทำที่ไม่เหมาะสม   ขณะนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถูกจับกุมกำลังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวน และพวกเขาจะต้องขึ้นศาลตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามพวกเขายืนยันว่าไม่มีภาพของพวกเขาปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่างานปาร์ตี้ดังกล่าวนั้นจัดขึ้นเวลา 4 โมงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา และพวกเขายังไม่ทราบถึงสาเหตุของการจับกุมตัวครั้งนี้เลย   หนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถูกจับกกุมตัว   “พวกเราไม่รู้เรื่องเลย และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมถึงถูกจับกุมตัว พวกเราหลายๆ คนยังคงสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในวันนั้นนักท่องเที่ยวประมาณ 80-100 คนกำลังปาร์ตี้กันอยู่ และเจ้าหน้าที่กว่า 30 นายก็บุกเข้าไปในบ้านและจับพวกเรา” หนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ถูกจับกุมให้สัมภาษณ์ จากรายงานระบุว่าหนึ่งในกลุ่มของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวนั้นประกอบไปด้วยชายชาวอังกฤษจำนวน 5 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีก 10 คนด้วยกัน     อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้เผยว่า ขณะนี้พวกเขากำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นต่อศาล ซึ่งถ้าหากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีความผิดจริงพวกเขาจะถูกจำคุกนานถึง 1 ปีด้วยกัน และจะต้องถูกคุมตัวไว้ในห้องขังก่อนการพิจารณาคดีนานถึง…

  • รู้จัก Frank Praytor ผู้อยู่ในภาพ ‘ป้อนอาหารแมวน้อยกลางสงคราม’ เสียชีวิตแล้วในวัย 90 ปี

    รู้จัก Frank Praytor ผู้อยู่ในภาพ ‘ป้อนอาหารแมวน้อยกลางสงคราม’ เสียชีวิตแล้วในวัย 90 ปี

    เมื่ออ่านบทความที่พูดถึง ‘ภาพที่ทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์‘ หรือ ‘ภาพที่ทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้น‘ ภาพทหารป้อนอาหารแมวน้อยท่ามกลางสงครามเกาหลี มักจะเป็นหนึ่งในนั้นเสมอ นั่นเป็นภาพของ Frank Praytor ทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ที่ถูกถ่ายขณะที่เขาป้อนอาหารให้ลูกแมวตัวหนึ่งจนมันกลับมาแข็งแรงอีกครั้งในช่วงครามเกาหลี แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องบอกทุกคนคนว่าชายในภาพนี้ได้เสียชีวิตแล้วในวัย 90 ปี สมาชิกครอบครัวของ Praytor ออกมายืนยันว่าเขาเสียชีวิตภายในบ้านที่เมืองแอลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 มกราคม ปี 2018 หลังจากที่ต่อสู้กับปัญหาสุขภาพมาเป็นเวลาหลายปี     สื่อรายงานว่า Praytor ได้เข้าร่วมกับกองทัพ 1st Marine Division ในปี 1952 ก่อนจะกลายเป็นบุคคลที่โด่งดังทั่วโลก หลังจากมีการเผยแพร่ภาพของเขาขณะป้อนอาหารให้ลูกแมวด้วยหลอดฉีดยา โดยภาพดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กว่า 1,700 ฉบับ ทั่วสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2009 Praytor ได้ให้สัมภาษณ์กับ U.S. Naval Institute “หลังจากที่ภาพนั้นถูกแพร่ออกไป ผมก็ได้รับจดหมายจากสาวๆ ทั่วประเทศ พวกเขาบอกว่าอยากแต่งงานกับผม แม้แต่ผู้ชายก็บอกผมแบบนั้นเหมือนกัน” เขาพูดติดตลก ส่วนแมวน้อยตัวนั้น เขาพามันกลับมาจากสนามรบและตั้งชื่อให้มันว่า Mis Hap    …

  • นวัตกรรมเพื่อความสบาย ‘รองเท้าแตะจอดเองได้’ ใส่ทิ้งไว้ตรงไหน เดี๋ยวจะเข้าซองหาที่จอดเอง

    นวัตกรรมเพื่อความสบาย ‘รองเท้าแตะจอดเองได้’ ใส่ทิ้งไว้ตรงไหน เดี๋ยวจะเข้าซองหาที่จอดเอง

    เวลาเดินอยู่ในบ้านหรือในห้อง เพื่อนๆ ชอบที่จะใส่รองเท้าแตะเดินกันรึเปล่า ตัวผู้เขียนนั้นชอบใส่รองเท้าแตะเดินในบ้านเอามากๆ เลย เพราะเวลาเดินในบ้านด้วยเท้าเปล่าแล้วเหงื่อออกทำให้พื้นเป็นรอยเท้าง่ายๆ การทำแบบนี้จะได้ป้องกันรอยเท้าในบ้านไปในตัว แต่มันมีปัญหาที่ตามมาก็คือบางทีก็ลืมว่าเอารองเท้าแตะไปถอดทิ้งไว้ที่ไหน แต่มาในวันนี้ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อมีคนได้คิดคนรองเท้าแตะแบบจอดเองอัตโนมัติออกมาแล้ว!?   .   รองเท้าแตะอัจฉริยะนี้ถูกคิดค้นโดยบริษัท Nissan พวกเขาได้นำเอาเทคโนโลยีการจอดรถอัตโนมัติเข้ามาใช้กับสลิปเปอร์ ซึ่งแขกนั้นจะสามารถเรียกหรือสั่งให้สลิปเปอร์จอดได้ เพียงแค่การกดปุ่มเท่านั้น การนำระบบของ Nissan มาใส่ในสลิปเปอร์นั้นจะทำให้มันสามารถจอดตัวเองได้หลังจากที่ถอด ซึ่งจะมีการเปิดตัวใช้อย่างเป็นทางการที่ โรงแรม ProPILOT Park Ryokan ของ Nissan ในเดือนมีนาคม ที่เมืองฮาโกเนะ   .   การใช้เทคโนโลยี ProPilot Park ทำให้สลิปเปอร์นั้นมีล้อน้อยๆ 2 ล้อ และเซนเซอร์ต่างๆ ที่สามารถให้มันวิ่งไปรอบๆ พื้นโรงแรมได้ และไม่ได้มีเพียงแต่รองเท้าแตะเท่านั้น ที่โรงแรมยังมีโต๊ะและเบาะรองนั่งไฮเทค ที่ได้ปรับแต่งระบบเช่นเดียวกับรองเท้าแตะ ที่เวลาไม่ได้ใช้มันแล้ว มันจะวิ่งเข้าไปที่เดิมที่มันถูกตั้งค่าเอาไว้   .   การทำแบบนี้จริงๆ แล้ว Nissan นั้นจะโฆษณาระบบใหม่ของรถยนต์นั่นเอง ซึ่งคนอาจมองไม่เห็นประโยชน์ของเทคโนโลยีใหม่นี้ Nissan…

  • เมื่อการหยอกล้อกันในเกม นำไปสู่การพรากชีวิตชายคนหนึ่ง จากการแจ้งความเท็จกับตำรวจ

    เมื่อการหยอกล้อกันในเกม นำไปสู่การพรากชีวิตชายคนหนึ่ง จากการแจ้งความเท็จกับตำรวจ

    บางครั้งการเล่นกันขำๆ อาจจะเกิดผลลัพธ์ที่ตามมามากกว่าที่เราได้คาดคิดเอาไว้ และนั่นอาจหมายถึงการพรากชีวิตของคนคนหนึ่งไปโดยไม่มีเหตุผล เหมือนอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคม 2017 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงชายคนหนึ่งเสียชีวิต เพราะได้รับการแจ้งความเท็จ เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นจากการเล่นเกม Call of Duty World War II แบบออนไลน์ของเด็กสองคนที่ชื่อว่า Shane Gaskill จากรัฐแคนซัส และ Casey Viner จากรัฐโอไฮโอ   เกม Call of Duty World War II   เด็กทั้งสองเล่นเกมอยู่ทีมเดียวกัน แต่ Shane กลับไปยิงตัวละครของ Casey ตาย จึงทำให้เขารู้สึกโมโหที่โดนทีมเดียวกันในเกมฆ่า Casey จึงติดต่อไปหาอีกฝ่ายผ่านทางทวิตเตอร์และขู่ว่าจะให้ตำรวจไปล้อมจับที่บ้าน Shane ไม่ได้คิดอะไรและตอบกลับมาว่า “ก็ลองดูเซ่” ก่อนที่เขาจะส่งที่อยู่ปลอมๆ ไปให้กับ Casey และนั่นจึงทำให้เด็กที่กำลังโมโหอยู่ติดต่อไปหาชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Tyler Barriss วัย 25 ปี Tyler…

  • งานปักทรงอาหารขนาดจิ๋ว พร้อมลูกเล่นที่หยิบจับสัมผัสได้ เสียอย่างเดียวมัน ‘กิน’ ไม่ได้นี่สิ

    งานปักทรงอาหารขนาดจิ๋ว พร้อมลูกเล่นที่หยิบจับสัมผัสได้ เสียอย่างเดียวมัน ‘กิน’ ไม่ได้นี่สิ

    เราอาจเคยเห็นงานศิลปะขนาดจิ๋วที่นำเอาของต่างๆ รอบตัวมาย่อส่วนให้มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงไว้ซึ่งความสมจริงเหมือนกับตัวต้นแบบ เหมือนอย่างผลงานของเธอคนนี้เองที่นำเอาอาหารหรือเครื่องดื่มที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ให้กลายเป็นผลงานศิลปะขนาดจิ๋วที่ใช้เพียงแค่เข็มกับด้าย บวกกับฝีมือการวาดภาพเท่านั้นเอง   ผลงานที่สร้างขึ้นมาจากเข็มและด้าย   ศิลปินสาวคนนี้ใช้ชื่อว่า Ipnot ซึ่งเป็นชื่อที่เพื่อนๆ เรียกกันมาตั้งแต่เด็ก ผลงานของเธอใช้การเย็บปักถักร้อย สร้างสรรค์อาหารที่ทำมาจากด้ายหลากสี บวกกับทักษะการวาดภาพของเธอที่ช่วยทำให้ผลงานออกมาดูสวยงามและน่ากินมากยิ่งขึ้น   กินได้กินเลย ไม่อ้วนแน่นอน   สโนว์ไวท์อาจกินลูกนี้เข้าไปแล้วติดคอจนสลบหรือเปล่า   หยิบกินได้เลยจ้าาา   เธอเล่าว่าได้รับแรงบันดาลใจการฝึกฝนเรื่องเย็บปักมาตั้งแต่ตอนที่คุณย่าของเธอสอนให้ตั้งแต่เด็ก หลังจากนั้นเธอก็เริ่มหันไปให้ความสนใจกับการปักดุมแบบฝรั่งเศส เธอจึงใช้เวลาฝึกฝนฝีมืออยู่นานหลายปี จนกลายเป็นศิลปินที่มีความเชี่ยวชาญและมีผลงานสวยๆ ออกมาให้เราได้เห็นกัน   มีการใส่ลูกเล่นแบบคีบเส้นขึ้นมาได้เสมือนจริง   เมื่อวาดชามเข้าไปในภาพ บวกกับแสงเงาซักเล็กน้อย ทำให้ดูมีมิติมากกว่าเดิม   ผลงานทั้งหมดสร้างขึ้นมาจากเส้นด้ายที่มีสีต่างกันมากกว่า 500 สี เพื่อเพิ่มมิติให้กับอาหารแต่ละจานที่เธอสร้างขึ้นมา จนบางครั้งเราอาจเผลอเข้าใจผิดคิดว่ามันกินได้จริงๆ เลย   ลูกเต็มๆ น่ะของจริง แต่ที่ผ่าออกมาอ่ะของปลอม   เห็นอย่างนี้อาจจะหยิบผิดได้เลยนะเนี่ย   น่าเอาไปแกล้งเพื่อนนะ เวลามาขอชิมขนมเราอะไรแบบนี้ (สังเกตดีๆ มีแท่งแปลกปลอมซ่อนอยู่)   ซูชิที่เหมื๊อนนนเหมือน…

  • “ช่างแ-่ง” เอ็ม ชาโดว์ นักร้องนำ Avenged Sevenfold เผยสาเหตุปฏิเสธไม่เข้าร่วมงานแกรมมี

    “ช่างแ-่ง” เอ็ม ชาโดว์ นักร้องนำ Avenged Sevenfold เผยสาเหตุปฏิเสธไม่เข้าร่วมงานแกรมมี

    กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจในวงการเพลงต่างประเทศอีกครั้ง หลังจากที่ทาง Matthew Charles Sanders นักร้องนำจากวง Avenged Sevenfold ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Eddie Trunk พวกเขาตัดสินใจปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการประกาศรางวัล Grammy Awards ในปีนี้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเพลง The Stage ของพวกเขาจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาเพลงร็อกยอดเยี่ยมแห่งปีก็ตาม     M. Shadows ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมาว่า “ใช่แล้วเราปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงาน มันไม่ใช่การแสดงจุดยืนอะไรทั้งนั้น แต่ช่างมันเถอะ ไหนจะค่าใช้จ่ายของโรงแรม ตั๋วเครื่องบินสำหรับภรรยาพวกเรา รวมถึงค่าตั๋วเข้างานอีก รวมๆ กันแล้วมันตั้ง 150,000 บาทแล้ว”  แต่ดูเหมือนว่างานนนี้จุดประสงที่แท้จริงที่ทางวงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงานประกาศรางวัลนั้นจะมาจากการที่ทางผู้จัดงานได้ตัดการออกอากาศช่วงของการประกาศรางวัลเพลงร็อกยอดเยี่ยมแห่งปีออกนั่นเอง     “พวกเขาเอาการประกาศรางวัลเพลงร็อกยอดเยี่ยมออกจากการถ่ายทอดสด และก็จะพาพวกเราไปรับรางวัลที่ไหนไม่รู้อีก มันโคตรเสียเวลาและเงินจริงๆ พวกเขาไม่ให้เกียรติพวกเราเลย” M. Shadows ให้สัมภาษณ์กับ Eddie Trunk Eddie Trunk อธิบายเพิ่มเติมว่า Matt ให้เหตุผลกับเขาเพิ่มเติมว่าทางวงจะต้องเดินทางจากรัฐเซาท์ดาโคตา ไปยังรัฐนิวยอร์ก ก่อนที่จะต้องเดินทางต่อไปยังรัฐโอคลาโฮมา เพื่อเข้าร่วมงานประกาศรางวัล ซึ่งมันต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แถมพวกเขายังรู้สึกเหมือนไม่ได้รับเกียรติจากทางผู้จัดงานอีกด้วย     โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ทางวงได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ของพวกเขาว่า “ด้วยความเคารพ…

  • 18 เหตุผลที่คุณควรไปเยือน ‘ไอซ์แลนด์’ และย้ายไปอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไปปป…

    18 เหตุผลที่คุณควรไปเยือน ‘ไอซ์แลนด์’ และย้ายไปอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไปปป…

    ประเทศไอซ์แลนด์ คือหนึ่งในสถานที่ที่คนในบ้านเราอาจไม่ค่อยนิยมเดินทางไปเที่ยวกันมากเท่าไหร่นัก จึงอาจทำให้หลายๆ คนยังไม่รู้ว่าธรรมชาติและวัฒนธรรมของประเทศนี้มีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลยเหมือนกัน เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพและเข้าใจไปพร้อมๆ กันว่าที่นี่น่าอยู่มากขนาดไหน เราจึงชวนให้เพื่อนๆ ไปทราบถึง 18 เหตุผลที่จะบอกว่าคุณควรไปเที่ยวไอซ์แลนด์ซักครั้งหรือไม่ก็อาศัยอยู่ที่นั่นซะเลยยย   1. แช่น้ำอุ่นๆ ใน Blue Lagoon Blue Lagoon คือหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของประเทศนี้ คุณจะได้ลงไปแช่น้ำที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุดีต่อสุขภาพ เยียวยาสุขภาพกายและสุขภาพใจไปพร้อมๆ กัน   2. เสื้อกันหนาวของชาวไอซ์แลนด์ เสื้อหนาวขนสัตว์แบบเฉพาะของชาวไอซ์แลนด์มีชื่อเรียกว่า Lopapeysa มีความเป็นเอกลักษณ์และจะช่วยให้คุณได้เข้าถึงบรรยากาศแบบไอซ์แลยด์ไปอีกขั้น ใครไปเที่ยวก็อย่าลืมหามาใส่กันซักตัวนะ   3. ภาพของแสงเหนือที่น่าหลงใหล หากคุณต้องการจะสัมผัสปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าจดจำแบบนี้ เราขอแนะนำให้ไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของไอซ์แลนด์ (กลางเดือนกันยายน – กลางเดือนเมษายน) แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่รับประกันว่าคุณจะมีโอกาสได้เห็นมันอย่างแน่นอน ถือซะว่าเป็นการวัดดวงไปในตัวด้วยละกัน   4. ฮอตดอกจากร้าน Bæjarins Beztu Pylsur เรียกว่าเป็นร้านฮอตดอกเจ้าดังที่สุดในไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้ เพราะบางคนถึงกับบอกว่าฮอตดอกร้านนี้อร่อยที่สุดในโลกเลยจริงๆ หากใครอยากชิมก็คงต้องมีความอดทนซักเล็กน้อย เพราะคุณจะต้องยืนต่อคิวนานเป็นชั่วโมงๆ   5. ม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนดิก ม้าสายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อว่ามีความเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและยังเป็นมิตรต่อคนมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีแผงคอที่น่ารัก สวยงามมากที่สุดอีกด้วย…

  • คุณพ่อชาวจีนหัวเก่า สนับสนุนให้ลูกคบกับคนผิวขาว แทนที่จะคบกับคนผิวสี

    คุณพ่อชาวจีนหัวเก่า สนับสนุนให้ลูกคบกับคนผิวขาว แทนที่จะคบกับคนผิวสี

    เรื่องของเชื้อชาติหรือสีผิวยังคงเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันอยู่ตลอด ไม่ใช่เพียงเพราะความแตกต่างในเรื่องของภาษาหรือวัฒนธรรม หากแต่ยังมีคนบางกลุ่มที่มองว่า เชื้อชาตินี้ดีกว่าอีกเชื้อชาติหนึ่ง เหมือนอย่างความคิดของคุณพ่อชาวจีนคนนี้ ที่อยากให้ลูกสาวของตัวเองคบกับคนผิวขาว และไม่ให้คบกับคนผิวสี แนวคิดของคุณพ่อคนนี้ถูกนำเสนอออกมาผ่านการพูดคุยกับลูกสาวของตัวเอง และเธอก็ทำการถ่ายคลิปแบบให้ได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นหน้า ก่อนที่จะนำมาโพสต์ใน Reddit เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018     ภายในคลิปหญิงสาวถามพ่อของเธอว่า “ถ้าน้องสาวคบกับคนผิวสีพ่อจะโกรธใช่มั้ย แต่ถ้าเป็นคนผิวขาว-” แล้วพ่อเธอก็ตอบแทรกมาว่า “ใช่ เพราะปกติแล้วคนจีนไม่ชอบคนผิวสี” ลูกสาวยังถามพ่ออีกว่า “ไม่ใช่แค่ผิวสี แต่รวมถึงคนแขกฝั่งอินเดียด้วยหรือเปล่า” พ่อเธอก็ตอบว่า “ใช่ พ่อไม่ชอบพวกเขาเหล่านั้นเลย” เธอจึงถามหาเหตุผลว่าทำไมพ่อของเธอถึงคิดเช่นนั้น เขาจึงตอบกลับมาแบบคลุมเครือว่า “พ่อจะอธิบายว่ายังไงดี คนพวกนั้นทำให้พ่อรู้สึกไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่”     หญิงสาวจึงมุ่งประเด็นไปว่าทำไมพ่อของเธอถึงคิดว่าคู่รักชาวจีนกับคนผิวขาว ถึงดีกว่าคู่รักชาวจีนกับคนผิวสี แล้วคุณพ่อจึงอธิบายว่า “พ่อไม่ได้บอกว่าคนขาวดีกว่าคนจีน แต่คู่รักคนจีนกับคนผิวขาวยังไงก็ดีกว่าคนจีนที่คบกับคนผิวสีหรือคนแขก” จากนั้นลูกสาวจึงถามประโยคสุดท้ายว่า “พ่อคิดว่าลูกครึ่งชาวจีนกับผิวขาวดูสวยงามมากที่สุดแล้วใช่มั้ย?” พ่อเธอจึงยกตัวอย่างถึงคนคนหนึ่งที่ชื่อว่า Gabby และบอกว่าคนคนนั้นมีใบหน้าที่ขี้เหร่เมื่อตอนเป็นเด็ก แต่พอโตขึ้นมากลับน่ารัก ซึ่งคาดว่าคนที่พ่อของเธอพูดถึงจะเป็นลูกครึ่งชาวจีนกับคนผิวขาว วิดีโอดังกล่าวได้กลายเป็นที่พูดถึงเกี่ยวกับความคิดที่หลายๆ คนมองว่าเป็นการถูกปลูกฝังของคนในยุคเก่า ที่มองว่าเชื้อชาติหนึ่งดีกว่าอีกเชื้อชาติหนึ่ง ซึ่งในที่นี้หมายถึงคนขาวดีกว่าคนผิวสี     แน่นอนว่าเชื้อชาติที่ต่างกัน…

  • อพาร์ตเมนต์ตกแต่งพร้อมอยู่ ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก MUJI ดูดีน่าอยู่อย่าบอกใครเชียว

    อพาร์ตเมนต์ตกแต่งพร้อมอยู่ ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก MUJI ดูดีน่าอยู่อย่าบอกใครเชียว

    MUJI คือชื่อของบริษัทขายสินค้าเกี่ยวกับพวกของใช้ในบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์จากประเทศญี่ปุ่น มีความน่ารัก เก๋ไก๋ และเป็นสไตล์แบบมินิมอล เหมาะกับการตกแต่งบ้านหรือหอพักที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งปัจจุบันก็มีการขยายสาขาจนมีหน้าร้านในบ้านเราแล้ว หลายๆ คนที่เคยเห็นสินค้าของที่นี่ ก็อาจจะอยากมีบ้านในฝันแบบที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก MUJI ซึ่งถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ฝันเอาไว้แบบนั้นแล้วละก็ เราเชื่อว่าคุณจะต้องชอบโปรเจกต์ใหม่ของบริษัทนี้แน่นอน เพราะนี่คือห้องที่ถูกออกแบบและติดตั้งด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก MUJI แทบทั้งสิ้น     นี่คือโปรเจกต์ที่ชื่อว่า MUJI x UR Estate Renovation Project เป็นโครงการที่จะดัดแปลงอพาร์ตเมนต์เก่าๆ ดูไม่ค่อยน่าอยู่ ให้กลายเป็นอพาร์ตเมนต์ที่มีความเรียบง่าย สวยงาม ตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันแสนสงบสุขใจกลางเมือง     จุดเริ่มต้นในตอนแรก พวกเขาได้ดัดแปลงบ้านตามโครงการเอาไว้ 13 หลัง ต่อมาทางทีมงานก็ได้มีการรับรีโนเวทบ้านเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยในลักษณะเดียวกันนี้มากถึง 41 แห่ง กระจายออกไปในแต่ละจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น   .   อย่างที่เรารู้กันว่าสินค้าของ MUJI จะมีความกะทัดรัด ใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เรารู้สึกสบายตาอยู่เสมอ ซึ่งทั้งหมดนั้นคุณจะสามารถสัมผัสได้กับทุกส่วนของบ้านที่พวกเขาดัดแปลงเอาไว้อย่างแน่นอน และบ้านที่พวกเขาทำการรีโนเวทเอาไว้ก็สามารถพร้อมเข้าอยู่ได้เลย เพราะเฟอร์นิเจอร์ที่มีเรียกว่าครบทุกองค์ประกอบแล้วจริงๆ   .…

  • รัฐบาลเกาหลีร่างกฎหมาย ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงในโรงเรียนประถมและมัธยม

    รัฐบาลเกาหลีร่างกฎหมาย ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงในโรงเรียนประถมและมัธยม

    ที่ประเทศเกาหลี มีการร่างกฎหมายห้ามจำหน่ายกาแฟและผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณคาเฟอีนสูงในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมตอนต้น เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของเหล่านักเรียน กฎหมายที่ร่างขึ้นใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2018 ซึ่งกฎหมายข้อนี้ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสุขภาพและสวัสดิการ กระทรวงความปลอดภัยอาหารและยา กฎหมายที่ร่างขึ้นมานี้ระบุว่า ห้ามมีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคาเฟอีนสูงในโรงเรียน และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงถูกจัดว่าเป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่     จากการวิจัยเกี่ยวกับคาเฟอีนเมื่อปี 2015 ระบุว่าในกาแฟมีปริมานของคาเฟอีนมากถึง 449.1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และในนมช็อกโกแลตมีประมาณคาเฟอีน 227.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ทางกระทรวงได้แนะนำว่า ปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 400 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ส่วนสำหรับเด็กและหญิงตั้งครรภ์อยู่ที่ 300 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม     Chung คุณครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในจังหวัดคยองกีได้กล่าวแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ว่า “ฉันคิดว่ารัฐบาลคิดเรื่องนี้ผิด ส่วนใหญ่คนที่ดื่มกาแฟในโรงเรียนล้วนแต่เป็นคุณครูทั้งนั้น ฉันไม่เคยเห็นนักเรียนประถมคนไหนดื่มกาแฟเลย” คุณ Lee กล่าวแสดงความคิดเห็นอีกรายว่า “มันเป็นเจตนาที่ดีที่มีเป้าหมายที่จะป้องกันการเสพติดคาเฟอีนของเด็กๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเข้มงวดเกินไปมากๆ”     สาเหตุที่เด็กไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเนื่องจากมันอาจจะทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว การนอนหลับผิดปกติ อาการเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอันตรายต่อเด็กเล็ก มันอาจพัฒนาเป็นการเสพติดคาเฟอีนในอนาคต และนี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวของการใส่ใจในเรื่องสุขภาพเล็กๆ น้อยๆ ของรัฐบาลเกาหลี ที่ไม่อยากให้อนาคตของชาติเสพติดคาเฟอีนจนทำให้เสียสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย   ที่มา koreatimes

  • 11 ภาพเหตุการณ์ “น้ำรอระบาย” เอ่อล้นกรุงปารีส เหตุเพราะฝนตกหนัก แก้ไขยังไงก็ไม่ทันจริงๆ

    11 ภาพเหตุการณ์ “น้ำรอระบาย” เอ่อล้นกรุงปารีส เหตุเพราะฝนตกหนัก แก้ไขยังไงก็ไม่ทันจริงๆ

    กรุงเทพของเรานั้น น้ำท่วมอยู่บ่อยๆ แล้วใช่มั้ย อาจจะเพราะด้วยปัจจัยอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะด้วยระบบการวางท่อระบายน้ำหรือจะเพราะขยะหรือจะเพราะภูมิประเทศก็ตาม แต่คราวนี้ชาวกรุงเทพไม่ต้องน้อยใจ เพราะเมืองที่มีการพัฒนามากๆ แล้วอย่างปารีส นั้นก็มีน้ำท่วมเหมือนกัน ในวันเสาร์ที่ผ่านมานี้ ได้มีฝนตกหนักที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ส่งผลให้แม่น้ำเซน (Seine) เอ่อล้นจนเกิดเป็นน้ำท่วม ซึ่งทำให้การจราจรโดยเรือนั้นต้องหยุดชะงัก รวมถึงเรือของนักท่องเที่ยวด้วย และมีร้านอาหารบางร้าน ถนนบางแห่งนั้นถูกน้ำท่วม   . . . .   น้ำบาดาลก็ได้ซึมเข้าห้องใต้ดินบางแห่งในปารีสด้วย ซึ่งหน่วยงานก็ได้เตือนให้ผู้อยู่อาศัยและเพื่อนบ้านขนย้ายสิ่งมีค่าขึ้นที่สูง แต่หลังจากนั้นไม่นานระดับน้ำก็ได้สูงขึ้น และระดับน้ำนั้นคาดว่าจะสูงขึ้นถึง 5.8 เมตรในวันอาทิตย์ ซึ่งมันอยู่ต่ำกว่าน้ำท่วมเมื่อปี 2016 อยู่ 8 นิ้ว และยังต่ำกว่าน้ำท่วมปี 1910 ที่ท่วมสูงสุดถึง 8.6 เมตร ในเวลาปกติแม่น้ำเซนจะมีระดับน้ำอยู่ที่ 1.5 เมตร ซึ่งหลายร้อยคนได้รับการอพยพจากบริเวณแม่น้ำเซนขณะที่เกิดน้ำท่วม ซึ่งมันสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับชานเมืองของกรุงปารีสในไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ว่าไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ   . . . . .   ชาวปารีสบางคนนั้นก็ได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาศ โดยบางคนได้เปลี่ยนจากสถานที่ที่ถูกน้ำท่วมให้กลายเป็นสตูดิโอถ่ายรูปเสียเลย ในขณะเดียวกันชาวประมงและและฝูงนกกาน้ำได้ใช้ความได้เปรียบนี้ออกไปหาปลาได้ง่ายๆ…

  • น้องหมาน้อยน่าสงสารถูกมัดติดกับที่ทิ้งขยะไว้เพียงลำพัง เพื่อจะปล่อยให้มันตาย

    น้องหมาน้อยน่าสงสารถูกมัดติดกับที่ทิ้งขยะไว้เพียงลำพัง เพื่อจะปล่อยให้มันตาย

    เราอาจเคยเห็นน้องหมาถูกทิ้งให้ต้องออกมาเร่ร่อนอยู่ตามข้างถนน แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือการที่เอาน้องหมาไปผูกไว้ในที่ลับตาคนเพื่อปล่อยให้มันหิวตาย เหมือนอย่างสิ่งที่เจ้าหมาตัวนี้ต้องเจอนับว่าเป็นความโหดร้ายอย่างมาก นี่คือเรื่องราวของเจ้า Charlie สุนัขสายพันธุ์พิทบูลผสมวัย 2 ปี มันถูกจับมัดติดกับบริเวณที่ทิ้งขยะในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ทำให้ไม่สามารถขยับไปไหนได้และอาจจะต้องอดอาหารตายอยู่ตรงนั้นไปแล้ว แต่โชคดีที่มีคนใจดีสองคนบังเอิญไปเห็นมันเข้าและรีบพาตัวส่งโรงพยาบาล   สภาพของ Charlie ถูกผูกติดกับบริเวณที่ทิ้งขยะ   มันถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลสัตว์ประจำเมือง สัตวแพทย์จึงทำการตรวจเช็กรอยแผลบนใบหน้าที่เกิดจากการถูกตีของมันดู และสิ่งที่พบก็ทำให้รู้ว่ามันมีอาการบาดเจ็บมากกว่าที่คิด Adria Rebbecchi ผู้อำนวยการกลุ่มดูแลโรงพยาบาลสัตว์บอกว่า “เรายกกรามของมันขึ้นมาพบว่ามีการติดเชื้ออยู่บริเวณของแก้มและริมฝีปาก อีกทั้งยังมีหนอนชอนไชอยู่เต็มไปหมด อาการบาดเจ็บรุนแรงซะจนมันไม่อยากที่จะขยับไปไหนเลย”     แพทย์ทุกคนรีบพาตัวเจ้าหมาเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะอาการติดเชื้อของมันไม่สามารถปล่อยเอาไว้ได้ ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือเจ้าหมาอย่างเต็มที่ แม้แต่พ่อของ Adria ที่ตัดสินใจรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของมันทั้งหมด เนื้อเยื่อบริเวณแก้มของ Charlie มีอาการติดเชื้ออย่างหนัก ทำให้แพทย์จำเป็นต้องตัดส่วนนั้นออกไป อีกทั้งพวกเขายังต้องทำในสิ่งที่โหดร้ายแต่จำเป็น โดยต้องผ่าตัดน้องหมาทุกๆ อาทิตย์ เพื่อช่วยให้มันกลับมาแข็งแรงได้ดังเดิม     อาการบาดเจ็บของ Charlie ทำให้มันกินอะไรได้ยาก เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีการให้อาหารมันเล็กๆ น้อยๆ แต่หลายๆ มื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าหมาจะสามารถฟื้นคืนกลับมาแข็งแรงได้ดังเดิม หลังจากที่อาการของมันเริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆ มันก็กลายเป็นที่รักของทุกคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…

  • ชายผู้สร้างเสียงดนตรีด้วยวิธีการที่ไม่ซ้ำใคร เพราะเขาใช้ผึ้งเป็นส่วนประกอบหลักของเพลง

    ชายผู้สร้างเสียงดนตรีด้วยวิธีการที่ไม่ซ้ำใคร เพราะเขาใช้ผึ้งเป็นส่วนประกอบหลักของเพลง

    หนึ่งในแนวดนตรีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือการแต่งเพลงโดยใช้เครื่องมือหรือคอมพิวเตอร์ในการแปลงเสียงต่างๆ ให้ออกมามีจังหวะแบบตื้ดๆ แดนซ์ๆ จนบางครั้งก็อาจดูลึกลับน่าค้นหา ซึ่งเราจะเรียกกันว่าแนวอิเล็กทรอนิกส์ แนวเพลงดังกล่าวนั้นได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้หนุ่มนักดนตรีและคนเลี้ยงผึ้งชาวอังกฤษที่ใช้ชื่อว่า Bioni Samp ลุกขึ้นมาสร้างเพลงแนวเดียวกันแต่ใช้วิธีการที่ไม่ซ้ำใคร เพราะเขาใช้ผึ้งมาเป็นส่วนประกอบในการสร้างเสียงเพลง   นักดนตรีผู้คลั่งไคล้ผึ้ง และดัดแปลงรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน   Bioni คือชายผู้คลั่งไคล้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผึ้งมาอย่างยาวนาน เขาจึงเกิดความคิดที่จะช่วยรณรงค์และกระตุ้นให้ทุกคนเริ่มมาสนใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาเผ่าพันธุ์ของพวกมันเอาไว้ หลังจากที่เกิดปรากฏการณ์รังผึ้งล่มสลาย (CDC) ที่ทำให้จำนวนประชากรผึ้งลดลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ในช่วงปี 2006 ไม่ใช่เพียงแค่ปรากฏการณ์ดังกล่าว เพราะจากภาวะโลกร้อนและการต้องเจอกับยาฆ่าแมลง ทั้งสองอย่างก็นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผึ้งมีโอกาสที่จะสูญพันธุ์มากยิ่งขึ้น ทำให้คนที่รักผึ้งอย่างเขาไม่สามารถอยู่เฉยๆ อีกต่อไปได้ แต่การที่จะให้ไปเดินป่าวประกาศ ออกพูดรณรงค์แบบทั่วๆ ไปนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดว่ามันจะสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เขาจึงคิดหาวิธีที่จะทำให้การกระตุ้นผู้คนในครั้งนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เขาจึงเกิดความคิดที่จะใช้ดนตรีเข้าไปเป็นสื่อกลางในการดึงดูดความสนใจ     จากนั้นมาตั้งแต่ปี 2006 เขาก็เริ่มที่จะเก็บข้อมูลของรังผึ้งในแต่ละวัน ศึกษาเกี่ยวกับเสียงและคลื่นความถี่ที่พวกมันส่งออกมา เพื่อใช้ในการนำไปประกอบเพลงที่เขาจะสร้างขึ้นมา เขาศึกษาและฝึกควบคุมเหล่าผึ้งทุกชนชั้นให้เป็นไปตามทิศทางที่เขาต้องการ มีการใช้ในเรื่องของตัวเลขในการจดสถิติการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของผึ้งเหล่านี้ เก็บข้อมูลผ่านการสอดถาดเข้าไปในรังเพื่อดูว่าไรศัตรูผึ้งตกลงมาตายมากน้อยเพียงใด ด้วยความกระตือรือร้นของเขา Bioni จึงตัดสินใจสร้างเครื่องมือแปลงเสียงต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาจากวัสดุธรรมชาติ อย่างเช่นการใช้น้ำผึ้งเป็นตัวต้านทานไฟฟ้าเพื่อจำกัดแรงไฟที่วงจรต่างๆ ได้ ซึ่งเขาเรียกชุดเครื่องมือสร้างเสียงเพลงนี้ว่า Hive Synthesizer  …

  • แม่ค้าสาวชาวไต้หวัน โปรโมตร้านอาหารด้วยการใส่กางเกงสั้นเสมอหู ทำเอาลูกค้าใจคอไม่ดีเลย

    แม่ค้าสาวชาวไต้หวัน โปรโมตร้านอาหารด้วยการใส่กางเกงสั้นเสมอหู ทำเอาลูกค้าใจคอไม่ดีเลย

    ในสังคมปัจจุบันเราก็คงจะเคยเห็นการโปรโมตการขายสินค้าแบบวิธีต่างๆ ซึ่งนับวันก็มักจะมีวิธีแปลกๆ ใหม่ๆ มาเรียกลูกค้าและกระตุ้นยอดขายให้สินค้าขายได้มากยิ่งขึ้น การทำโปรโมชั่นแบบลด แลก แจก แถมนั้นมันเก่าไปแล้วและมันก็ไม่ค่อยจะได้ผลมากเท่าที่ควร เหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็เลยมีวิธีใหม่ๆ ที่เห็นมากที่สุดตอนนี้นั่นก็คือการใช้คนสวยๆ หล่อๆ มาโปรโมต อย่างเช่นร้านขายอาหารข้างทางแห่งหนึ่งที่ไต้หวันที่ได้เอาแม่ค้าสุดสวยมาดึงดูดลูกค้าหนุ่มๆ ซึ่งมันก็ได้ผลตอบรับดีเกินคาด ลูกค้าต่อแถวเข้าคิวยาวสุดๆ แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน   แม่ค้าสาวสุดสวยที่มาขายอาหารในครั้งนี้ แต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์สุดสั้นพร้อมกับเสื้อสเวตเตอร์โชว์ร่องอกขาวๆ   แจกรอยยิ้มหวานๆ ให้กับคุณลูกค้าทุกคน   โอ๊ย ใจคอไม่ดีเลยอิหนู   แม่ค้าสาวที่ปรากฏอยู่ในภาพได้โพสต์รูปภาพของเธอลงบนเฟซบุ๊ก ซึ่งมันก็เป็นการกระตุ้นยอดขายให้กับร้านอาหารแห่งนี้ขึ้นไปอีก โดยเฉพาะลูกค้าหนุ่มๆ ที่พากันหาพิกัดร้านอาหารแห่งนี้ด่วนๆ   ไม่รู้ว่าขาหมูหรือแม่ค้าที่น่ากินกว่ากัน   ลูกค้านี่ต่อคิวยาวเลย .   หลังจากที่โพสต์ได้เผยแพร่ออกไปทำให้แม่ค้าสาวคนนี้เป็นที่สงสัยว่าเธอคือใคร มาจากไหน ซึ่งพอสืบดูแล้วก็พบว่าเธอนั้นเป็นนางแบบ มิน่าล่ะ สวยเป๊ะขนาดนี้   การโปรโมตแบบนี้ยังมีให้เห็นอีกมากในไต้หวัน อย่างเช่น แม่ค้าขายหมูคนนี้   และพ่อค้าขายถั่วสุดล่ำ หืมมมม ใจสั่นไปหมดดดดด   จะว่าไปบ้านเราก็มักจะมีข่าวแบบนี้มาอยู่บ่อยๆ สงสัยจะเป็นแผนการโปรโมตแบบใหม่แน่ๆ แต่ไม่ว่ายังไรก็คิดซะว่าเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้าแล้วกัน   ที่มา medium

  • สาวกำลังจะเข้างานวิวาห์ แต่โดนแฟนเก่าแบล็คเมล์ เลยดื่มยาพิษฆ่าตัวตายพร้อมส่งคลิปตอนดื่มให้เขา

    สาวกำลังจะเข้างานวิวาห์ แต่โดนแฟนเก่าแบล็คเมล์ เลยดื่มยาพิษฆ่าตัวตายพร้อมส่งคลิปตอนดื่มให้เขา

    [เนื้อหาและภาพในข่าวมีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญานในการรับชม]   เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานข่าวกรณีที่หญิงชาวอินเดียดื่มยาพิษเพื่อฆ่าตัวตาย หลังจากที่เธอถูกแฟนเก่าแบล็คเมล์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Rohini รัฐ Maharashtra ประเทศอินเดีย เหตุการณ์สุดสลดนี้เกิดขึ้นก่อนที่หญิงสาวที่ชื่อว่า Nisha Devidas ผู้เสียชีวิตจะเข้าพิธีวิวาห์เพียงไม่กี่วัน แน่นอนว่าคนในครอบครัวของเธอไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น นาย Ravi Kavle พี่ชายของว่าที่เจ้าสาวกล่าวว่า สาเหตุที่น้องสาวคิดสั้นฆ่าตัวตายในครั้งนี้ สาเหตุมาจากนาย Nikhil Borkar แฟนเก่าของเธอขู่แบล็คเมล์เนื่องจากว่าเธอจะเข้าพิธีแต่งงานกับชายอื่น   ซ้าย นาย Nikhil แฟนเก่าผู้ขู่แบล็คเมล์ ขวา Nisha ผู้เสียชีวิต   ว่าที่เจ้าสาวเครียดมากและตัดสินใจที่จะจบชีวิตของเธอเพื่อหนีปัญหา เธอใช้วิธีการดื่มยาพิษเพื่อจบเรื่องราวทั้งหมด ในขณะที่เธอกำลังฆ่าตัวตาย เธอได้อัดคลิปวิดีโอในขณะที่เธอกำลังดื่มสารพิษที่มีน้ำสีดำพร้อมกับส่งมันไปหาแฟนเก่า ก่อนที่จะมีคนมาช่วยเหลือเธอภายในบ้าน แต่ทุกอย่างมันสายเกินไปหญิงสาวเสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล…     น้องสาวของผู้เสียชีวิตกล่าวด้วยความเสียใจว่า “งานแต่งของพี่สาวของฉันจะเกิดขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ แต่เธอกลับมาเสียชีวิตก่อนวันแต่งงานของเธอ” หลักฐานและคำให้ปากคำทั้งหมดถูกบันทึกโดยตำรวจท้องถิ่น ก่อนที่จะมีการสืบสวนและดำเนินคดีกันต่อไป   ที่มา dailymail

  • เมื่อนายกแคนาดาไปออกงาน แทนที่จะโฟกัสที่งาน แต่ดันโดน ‘ถุงเท้าลายเป็ด’ แย่งซีนซะงั้น!?

    เมื่อนายกแคนาดาไปออกงาน แทนที่จะโฟกัสที่งาน แต่ดันโดน ‘ถุงเท้าลายเป็ด’ แย่งซีนซะงั้น!?

    สำหรับคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงนั้น เรื่องของการแต่งตัวดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็จับจ้องเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าหน้าผม เครื่องประดับต่างๆ เพราะว่าพวกเขาเหล่านี้อาจจะเป็นผู้นำแฟชั่นในอนาคตก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับดารานักแสดงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่กับผู้นำประเทศต่างๆ ก็ถูกจับตามองเช่นเดียวกัน   จะแบ๊วไปไหนพ่อคุ๊ณณ   และคราวนี้ก็เป็นคิวของ Justin Trudeau ผู้นำประเทศแคนาดา ที่แทนที่สื่อจะโฟกัสในเรื่องงานที่เขาพูด แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของสื่อได้ดียิ่งกว่ากลับเป็น ‘ถุงเท้า’ ที่เขาสวมใส่ไปออกงานในวันนั้น เพราะมันทั้งน่ารักทั้งน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว   ปิดซะหน่อย เริ่มอายละ   โดยกระแสครั้งนี้เกิดมาจากการที่ท่านผู้นำประเทศแคนาดาคนนี้ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเศรษฐกิจโลก ที่เมืองดาฟอส ประเทศสวิตเซอแลนด์ ซึ่งในวันนั้นเขาได้สวมชุดสูทสีน้ำเงินเรียบ แต่สิ่งที่ดูโดดเด่นที่สุดบนตัวของเขากลับเป็น ถุงเท้าสีม่วงลายเป็ดน้อยน่ารักๆ สีเหลืองอ่อน ซึ่งทางสื่อมวลชนได้เก็บภาพถุงเท้าของเขาไว้ได้ระหว่างที่เขานั่งสนทนาปราศรัยอยู่กับ Malala Yousafzai เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ชาวปากีสถานนั่นเอง   ถุงเท้าแบบคนคูลๆ   และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้นำแคนาดาคนนี้ สวมถุงเท้าแปลกๆ ออกสู่สายตาของสาธารณชน เพราะว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาสวมถุงเท้าลวดลายตัวการ์ตูนชื่อว่า Chewbacca จากเรื่อง Star Wars ขณะเข้าพบ Christine Lagarde หัวหน้ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยลวดลายของถุงเท้าของเขาในวันนั้นมันช่างโดดเด่นซะยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น   ถุงเท้าลาย Chewbacca จากเรื่อง Star Wars   ถุงเท้าลายใบเมเปิลเขาก็เคยสวมใส่…

  • แบ่งปันรอยยิ้ม.. ด้วยภาพน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวที่ตกหลุมรักกับเครื่องทำความร้อน

    แบ่งปันรอยยิ้ม.. ด้วยภาพน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวที่ตกหลุมรักกับเครื่องทำความร้อน

    ในช่วงต้นปีแบบนี้ แทบทุกที่บนทั่วโลกต้องเผชิญกับความหนาวเย็น บางที่อากาศติดลบ บางที่ก็ถึงกับมีหิมะตกลงมา เช่นเดียวกันกับในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อประชาชนทุกคนและทุกตัวต้องเจอกับความหนาวจนทำให้เมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ไม่ใช่มีแค่คนเท่านั้นที่มองหาแหล่งพักใจอุ่นๆ ไว้คลายความหนาว เพราะเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Busao ก็พยายามมองหาสิ่งที่จะช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายไม่ต่างกัน และนั่นจึงทำให้มันได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่าเครื่องทำความร้อน   แต่เราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา ~   เมื่อเจอกับไออุ่นของเจ้าเครื่องนี้เข้าไป ทำให้เจ้าเหมียวแทบจะไม่ลุกไปไหนเลย นั่งๆ นอนๆ กลิ้งๆ อยู่ตรงนี้ทั้งวัน ภาพที่เราได้เห็นจึงเหมือนกับว่ามันได้เจอเนื้อคู่ที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดกาล   วันนี้ที่รอคอย เจ้านี่เองที่ข้าตามหามาตลอด   ประทับรอยจูบแสดงความรักเอาไว้เลยนี่แหนะ   นั่งไปนั่งมาเริ่มเคลิ้ม… หลับตาพริ้มเลยนะเจ้าเหมียว   มันช่างจ้าซะเหลือเกิน!!   ใจคอแกจะไม่ลุกไปเดินเล่น ไปทำอย่างอื่นเลยใช่มั้ยเนี่ย   สุดท้ายแล้วเราสองจะไม่พรากจากกัน ฉันจะนั่งอยู่กับเธออย่างนี้ตลอดไป   เป็นความอบอุ่นที่หาจากที่ไหนไม่ได้เลย   เอาจริงๆ ไม่ต้องมีเครื่องทำความร้อน ตัวแกก็น่าจะอุ่นอยู่แล้วนะเจ้าเหมียวเอ๋ย..   หากใครชื่นชอบเจ้าเหมียวตัวนี้ก็สามารถไปติดตามการใช้ชีวิตของมันกันได้ที่อินสตาแกรม tanryug ซึ่งหลักๆ ก็จะมีแต่รูปที่มันอยู่กับเครื่องทำความร้อนคู่รักเนี่ยแหละนะ   ที่มา: boredpanda

  • เมื่อเด็กยุคใหม่ลองใช้โทรศัพท์บ้านแบบหมุนๆ ทำเอารู้สึกแก่ลงไปเยอะเลย… เพราะเราใช้เป็น!!

    เมื่อเด็กยุคใหม่ลองใช้โทรศัพท์บ้านแบบหมุนๆ ทำเอารู้สึกแก่ลงไปเยอะเลย… เพราะเราใช้เป็น!!

    สำหรับในวันเก่าๆ นั้นการจะหาโทรศัพท์ใช้สักเครื่องไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะว่าในสมัยก่อนนั้นโทรศัพท์เป็นอะไรที่ไฮเทคล้ำแบบสุดๆ ดังนั้นคนที่จะมีโทรศัพท์เอาไว้ที่บ้านได้ก็จะต้องเป็นคนที่มีฐานะพอสมควรเลยล่ะ (ยิ่งถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะว่ามันมีราคาเป็นหมื่นๆ หรือแสนๆ เลยทีเดียว) ซึ่งรูปแบบของโทรศัพท์ในสมัยก่อนนั้น ก็อาจจะมีหน้าตาที่ค่อนข้างแปลกประหลาดไปจากโทรศัพท์ในปัจจุบัน เพราะว่าทุกวันนี้โทรศัพท์ที่เราใช้กันมักจะเป็นแบบปุ่มกด หรือไม่ก็เป็นระบบจอสัมผัสไปแล้วทั้งสิ้น แต่ถ้าหากถามคนที่อยู่ในยุค 19xx ไปแล้วล่ะก็ เราก็อาจจะได้รู้จักกับโทรศัพท์อีกรูปแบบหนึ่งซึ่งมีชื่อเรียกว่า “โทรศัพท์แบบหมุน”   เอ๊ะ มันใช้ยังไงฟะ   สำหรับโทรศัพท์ชนิดนี้ เป็นที่แพร่หลายเป็นอย่างมากเมื่อในอดีต ทว่าก็ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปทุกวัน จึงทำให้โทรศัพท์ที่ว่านี้ ค่อยๆ เลือนหายไปจากสังคม เพราะด้วยความที่มันไม่สามารถพกพาได้สะดวกอย่างโทรศัพท์มือถือ บวกกับการที่มันไม่มีฟังก์ชันที่ล้ำยุคแบบในปัจจุบัน จึงทำให้ผู้คนเลิกใช้ไปในที่สุดนั่นเอง และด้วยเหตุผลด้านความโบราณของมันนี้เอง จึงทำให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อว่า Kimberly Philliips นึกสนุกอยากจะทดสอบเด็กในยุคปัจจุบันว่า ถ้าพวกเขาสามารถใช้โทรศัพท์แบบไฮเทคแบบสุดๆ ได้ พวกเขาจะสามารถใช้ของโบราณคร่ำครึอย่างนี้ได้หรือไม่ เธอจึงให้เด็กๆ ลองใช้โทรศัพท์แบบหมุนดู พร้อมกันนั้นเธอก็ได้ถ่ายวิดีโอตลกๆ เก็บเอาไว้ด้วย   อย่างนี้รึเปล่าเนี่ย   ซึ่งก็ปรากฏว่า เด็กชายภายในวิดีโอที่เธอถ่ายมานั้น ใช้โทรศัพท์ที่ว่านี้ไม่เป็น โดยเด็กหนุ่มคนนั้นดูจะงงงวยแบบสุดๆ เมื่อต้องมาใช้บริการเจ้าโทรศัพท์โบราณอันนี้ ทั้งหาเลข 0 ไม่เจอ และไม่รู้ว่าเมื่อหมุนแล้วจะต้องทำอย่างไรต่อไป ภาพที่ออกมาของเขาจึงกลายมาเป็นเรื่องสุดฮาที่เป็นกระแสไวรัลอยู่ในตอนนี้ เพราะมีผู้เข้าชมวิดีโอนี้แล้วถึง…

  • สาวก “แกงกะหรี่” โปรดทราบ การกินกะหรี่ช่วยคุณให้มีความสุข และความจำดีขึ้นด้วย

    สาวก “แกงกะหรี่” โปรดทราบ การกินกะหรี่ช่วยคุณให้มีความสุข และความจำดีขึ้นด้วย

    แกงกะหรี่เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดจากทางประเทศอินเดีย ด้วยความที่อาหารประเภทนี้ใส่เครื่องเทศปริมาณมากจึงทำให้มันมีกลิ่นหอมถูกใจผู้บริโภค แต่หลายคนก็ยังคงหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้เพราะมันมักจะมีรสจัด แถมพอทานแล้วก็ทำให้กลิ่นตัวแรงด้วย ทว่าตอนนี้นักวิจัยมีข่าวดีเพิ่มเติมมาบอกกับคนชอบทานแกงกะหรี่ มี ผลวิจัย จากเว็บไซต์รวมงานวิจัย American Journal of Geriatric Psychiatry ออกมาแล้วว่า การทานแกงกะหรี่นอกจากจะได้ความอร่อยก็ยังทำให้เรามีความสุขมากกว่าเดิม และก็ช่วยเสริมสร้างความจำที่ดีอีกด้วย     โดยพระเอกในงานวิจัยที่ทำให้เราแฮปปี้และไม่ขี้ลืมก็คือ ขมิ้น นั่นเอง เครื่องเทศชนิดนี้มักจะใช้เป็นส่วนผสมของแกงหลากหลายประเภท ในขมิ้นก็จะมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่า เคอร์คิวมิน อยู่ซึ่งมันมีคุณสมบัติลดการอักเสบ ทั้งยังสามารถต้านทานอนุมูลอิสระได้ดีด้วย แต่นักวิจัยก็คิดว่าสารเคอร์คิวมินน่าจะช่วยให้คนมีความจำดีเช่นกัน เพราะพวกเขาสังเกตเห็นว่าประชาชนในประเทศอินเดียที่บริโภคสารตัวนี้เป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ต่ำกว่าในพื้นที่อื่น     Dr.Gray Small เป็นผู้อำนวยการด้านจิตเวชในผู้สูงอายุของศูนย์ศึกษาอายุยืน จากมหาวิทยแคลิฟอร์เนียในรัฐลอสแองเจลิส และยังเป็นผู้นำการวิจัยในครั้งนี้กล่าวถึงการทำงานของเคอร์คิวมินว่า “แม้ว่าเราจะไม่รู้แน่ชัดว่าเคอร์คิวมินทำงานอย่างไร แต่การที่มันช่วยลดการอักเสบในสมองซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งของโรคอัลไซเมอร์และโรคซึมเศร้า น่าจะเป็นสาเหตุที่มันช่วยพัฒนาความจำของผู้บริโภคได้”     Small ได้ทำ งานวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ศึกษาเกี่ยวกับการช่วยเรื่องความจำของเคอร์คิวมิน โดยให้อาสาสมัครผู้ใหญ่ 40 คนในช่วงอายุ 50-90 ปี สุ่มได้รับสารเคอร์คิวมิน 90 กรัม และยาหลอกเป็นเวลานาน 18 เดือน เขาวัดผลโดยการใช้เครื่อง Positron Emission Tomography (PET) อ่านคลื่นสมองของอาสาสมัครทั้งก่อนและหลังจากการได้รับสารเคอร์คิวมิน แล้วให้พวกเขาทำแบบทดสอบความจำก่อนและหลังรับสารที่ว่านี้ด้วย…

  • เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดพิธีกรรมอำลาสุนัขตำรวจที่ป่วยหนักอย่างสุดซึ้ง ทำเอาน้ำตาซึม

    เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดพิธีกรรมอำลาสุนัขตำรวจที่ป่วยหนักอย่างสุดซึ้ง ทำเอาน้ำตาซึม

    สำหรับตำรวจแล้วสุนัขตำรวจก็เปรียบเสมือนเจ้าหน้าที่พนักงานทั่วไป มันเป็นทั้งเพื่อนร่วมงานที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี และยังเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาด้วย เวลาที่จะบอกลากันจึงต้องทำเหมือนกับตำรวจคนหนึ่งจะพ้นจากหน้าที่เลยทีเดียว สุนัขตำรวจ Pajti เริ่มปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2013 มันประจำการอยู่ที่เมือง Lonoke รัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อไม่นานมานี้มันป่วยหนักมากจนจำเป็นต้องปลดมันออกจากหน้าที่ ทางตำรวจจึงจัดงานอำลาให้มันอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ   สุนัขตำรวจแสนรู้ Pajti   สัตวแพทย์ตรวจพบว่า Pajti เป็นโรค Osteosarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกชนิกหนึ่ง มะเร็งที่ว่านี้แพร่กระจายไปทั่วตัวของมันอย่างรวดเร็วจนร่างกายของมันอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด นายอำเภอ John Staley จึงตัดสินใจปลดมันออกจากหน้าที่เสีย มันจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่อาการของมันก็แย่กว่าที่พวกเขาคิด พอดูอาการแล้วสัตวแพทย์ถึงกับแนะนำให้พวกเขาการุณยฆาตมันเสีย มันจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน เจ้าหน้าที่ Brooks Grabill คู่หูของเจ้าสุนัขตำรวจฟังแล้วก็ใจหายอย่างช่วยไม่ได้    Brooks Grabil คู่หูของสุนัขตำรวจที่ป่วย   เจ้าหน้าที่ Rob Ruble เพื่อนของ Grabil บอกว่า “ในฐานะที่เขาเป็นคนดูแลมัน ก็จำเป็นต้องอยู่กับมันตลอด 24 ชั่วโมงเลย ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาต้องรู้สึกผูกพันกันอย่างมาก” เขายังบอกอีกว่า “มันเหมือนกับเรากำลังเสียเพื่อนซี้ไปสักคนหนึ่ง คงจะเป็นแบบนั้นแหละ พวกเขากำลังจะเสียเพื่อนที่สนิทที่สุดคนหนึ่งไป”   เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากมายืนส่งมันอย่างสมศักดิ์ศรี…

  • นักเรียนญี่ปุ่นร่วมใจโพสต์รูปภาพ “ข้าวกล่องสุดท้ายในชีวิตมัธยม” ที่เหล่าผู้ปกครองทำให้

    นักเรียนญี่ปุ่นร่วมใจโพสต์รูปภาพ “ข้าวกล่องสุดท้ายในชีวิตมัธยม” ที่เหล่าผู้ปกครองทำให้

    ที่ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมจะเป็นช่วงแห่งการสำเร็จการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ช่วงชีวิตมัธยมปลายของนักเรียนแต่ละคนกำลังจะสิ้นสุดลง นั่นหมายความว่าชีวิตของพวกเขากำลังจะไปสู่อีกขั้น เหล่านักเรียนชั้นปีสุดท้ายต่างก็ร่วมกันทวีตรูปภาพอาหารกลางวัน เพื่อขอบคุณพ่อแม่ที่คอยดูแลมาตลอดหลายปี ก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าสู่อีกสังคมใหม่ สังคมแห่งความเป็นผู้ใหญ่และอาจจะไม่มีกล่องอาหารกลางวันน่ารักๆ สำหรับทุกวันอีกต่อไป ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อ @mariechan_9 ได้เล่าว่า “วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่แม่ของฉันจะตื่นมาทำเบนโตะให้กับฉัน ทุกๆ ครั้งที่แม่ทำเบนโตะจะมีพวกรูปตัวการ์ตูนน่ารักๆ หรือตกแต่งแบบพิเศษ สิ่งที่แม่ทำมันแสดงถึงความเอาใจใส่และสิ่งที่แม่ตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ ฉันรักคุณแม่ที่แสนมหัศจรรย์ของฉัน ขอบคุณสำหรับ 3 ปีที่ผ่านมานะคะ”   ข้าวกล่องหน้าต่างๆ ที่แม่ตั้งใจทำให้ .   ตัวการ์ตูนต่างๆ ที่แม่ตั้งใจทำให้เป็นอย่างดี .   @ichigo_kazuryu “อาหารกลางวันมื้อสุดท้ายจากแม่ ขอบคุณสำหรับข้าวกล่องแสนอร่อยและน่ารักของทุกๆ วัน”   @FAmico_0420 “นี่คือเบนโตะมัธยมสุดท้ายของฉัน แม่และน้องสาวของฉันทำมันขึ้นเมื่อคืนนี้”   @NbShunsuke ข้าวกล่องสุดท้ายจากแม่ พร้อมกับโน๊ตเล็กๆ สุดประทับใจ   ในโน๊ตแม่เขียนไว้ว่า “ถึงลูกชายที่รัก เบนโตะกล่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง แม่รู้สึกเศร้านิดหน่อยที่คิดว่าแม่อาจจะไม่ได้ทำข้าวกล่องให้ลูกไปโรงเรียนอีกต่อไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ลูกต้องการแม่ก็จะยังทำให้ลูกเสมอ ใช้เวลาในช่วงชีวิตมัธยมให้ดีที่สุด จากแม่”   @mermaid__o214 “เบนโตะสุดท้ายของฉัน มันเต็มไปด้วยอาหารที่ฉันชอบทั้งนั้น เบนโตะนี้พ่อของฉันทำเอง มันเป็นครั้งแรกที่ฉันได้รับจดหมายจากพ่อ…

  • ม้าใหญ่ล้มป่วย ใช้คนช่วยก็แล้วใช้รถลากก็แล้วก็ยังลุกยืนไม่ไหว โชคดีเพื่อนม้าเข้ามาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน

    ม้าใหญ่ล้มป่วย ใช้คนช่วยก็แล้วใช้รถลากก็แล้วก็ยังลุกยืนไม่ไหว โชคดีเพื่อนม้าเข้ามาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน

    ม้าสายพันธุ์ Shire ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ เป็นม้าที่มีขนาดตัวใหญ่มากจนใช้ลากของได้เลย แต่ด้วยความที่มันมีน้ำหนักตัวมาก หากว่ามันนอนล้มพับอยู่เป็นเวลานานก็อาจจะทำให้อวัยวะทำงานล้มเหลวจนตายได้ เจ้า Beatrice ม้าจากฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองบาธ เขตซัมเมอร์เซต ประเทศอังกฤษ ก็ล้มป่วยเช่นกัน เจ้าของพยายามช่วยให้มันยืนขึ้นยังไงก็ทำไม่สำเร็จสักที ในขณะที่พวกเขาถอดใจจะช่วยมันแล้วม้าเพื่อนซี้ของมันกลับช่วยให้มันยืนขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ   เจ้า Beatrice ที่นอนป่วยอยู่ Donald MacIntyre และภรรยาของเขา Jane Lipington เป็นเจ้าของของ Beatrice พวกเขาเจอมันนอนล้มพับอยู่เนื่องจากมันปวดช่วงท้องมากจนลุกขึ้นไม่ไหว แต่หากปล่อยมันนอนอยู่อย่างนั้นคงไม่ดีแน่ พวกเขาและคนงานในฟาร์ม 4 คนจึงใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมงพยายามพยุงม้าใหญ่ที่หนักกว่า 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) ให้มันยืนขึ้นให้ได้ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แม้ว่าพวกเขาจะใช้รถแทร็คเตอร์ลากมันให้ยืนขึ้นมาก็แล้ว เจ้าม้าก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อยู่ดี   คลิปวิดีโอ (หากดูไม่ได้คลิก ที่นี่)   เมื่อดูจากอัตราการเต้นของหัวใจและความดันเลือดของมันที่พุ่งสูงจนเกือบถึงขีดอันตรายแล้ว พวกเขาจึงเริ่มทำใจว่าคงไม่สามารถช่วยมันได้แล้วล่ะ แล้วก็เริ่มโทรแจ้งสัตว์แพทย์ให้เตรียมจัดการกับมันทันที ตอนนั้นเองคนงานก็นึกขึ้นได้ว่าต้องปล่อยเจ้า Beau ที่อยู่ในคอกข้างๆ ให้มันออกไปวิ่งเล่นด้วย เขาจึงเปิดประตูคอกให้มัน แต่มันไม่ได้วิ่งออกไปข้างนอกฟาร์มแต่อย่างใด มันกลับวิ่งเข้าไปที่หน้าคอกของ…

  • สาวไทยไป I Can See Your Voice เกาหลี โชว์เสียงร้องทรงพลัง อินเนอร์จัดเต็ม!!

    สาวไทยไป I Can See Your Voice เกาหลี โชว์เสียงร้องทรงพลัง อินเนอร์จัดเต็ม!!

    ถ้าหากพูดถึงรายการวาไรตี้ร้องเพลงยอดนิยมของไทย แทบทุกคนคงจะนึกถึงรายการ I Can See Your Voice นักร้องซ่อนแอบ เป็นแน่ ใครเล่าจะไม่สนุกกับการมานั่งลุ้นว่าหนุ่มสาวบนเวทีที่ศิลปินเลือกนั้นเสียงเพราะหรือแหกกันแน่ แม้ว่าการไปโชว์ตัวบนเวทีนี้จะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้พอสมควร แต่สาว เอิร์ธ ศศปัญ สุขเอี่ยม คงอยากโชว์ความสามารถให้คนต่างประเทศได้เห็นด้วย เธอจึงโกอินเตอร์ไประเบิดพลังเสียงในรายการ I Can See Your Voice ของเกาหลีจนเป็นที่ฮือฮาเลย   คลิปวิดีโอที่เธอออกรายการ I can see your voice ประเทศเกาหลี   สาวเอิร์ธ เคยออกรายการ I Can See Your Voice ของประเทศไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว และเธอก็ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกคนด้วยการร้องเพลงของเธอ นอกจากนี้เธอยังเคยไปประกวดในรายการ Thailand’s Got Talent ด้วย   คลิปวิดีโอที่เธอออกรายการ I Can See Your Voice ประเทศไทย    แต่เท่านั้นยังไม่พอ ล่าสุดเธอก็ไปปรากฎตัวในรายการ I Can See…

  • นักศึกษาผิวขาวจะไม่ทน ต้องป่าวประกาศ ‘ทวงคืนคนขาว’ เมื่อเห็นสาวผิวขาวจูบหนุ่มเอเชีย

    นักศึกษาผิวขาวจะไม่ทน ต้องป่าวประกาศ ‘ทวงคืนคนขาว’ เมื่อเห็นสาวผิวขาวจูบหนุ่มเอเชีย

    ในปัจจุบันที่โลกของเราพยายามจะเปิดรับความแตกต่างระหว่างบุคคลอย่างเท่าเทียม คนส่วนมากจึงต่อต้านแนวคิดการเหยียดเชื้อชาติ เหยียดสีผิว และการเหยียดเพศอีกด้วย ทว่าก็ยังมีคนส่วนหนึ่งที่ยังคงใช้ถ้อยคำดูถูกเหยียดเชื้อชาติอย่างโจ่งแจ้งอยู่ หนุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊กคนนี้เองก็เช่นกัน เขาโจมตีคู่รักหญิงผิวขาวและชายเอเชียด้วยถ้อยคำรุนแรงบนเฟซบุ๊ก ทำให้ชาวเน็ตที่เห็นโพสต์นั้นพากันวิจารณ์เขายับเลย   โพสต์ในเฟซบุ๊กของหนุ่มผิวขาว   โพสต์ที่ว่านี้เขียนโดยหนุ่มที่ใช้ชื่อว่า Will Harrison เขาเขียนมันลงในกลุ่มเฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัย University of California Irvine ที่ชื่อ UC Irvine (UCI) Class of 2020 ในโพสต์มีใจความว่า “ถึงสาวผิวขาวหน้าบ้านๆ ที่ผมเห็นเธอจูบกับหนุ่มน้อยเอเชียใกล้กับศูนย์นักศึกษาเมื่อวาน ไม่มีใครคิดว่าที่คุณทำอยู่มันเท่หรอกนะ แถมมันยังดูเหมือนคุณเสแสร้งแสดงเป็นพิเศษด้วย ใครๆ ก็รู้ว่าที่เธอคบกับหนุ่มน้อยชาวเอเชียคนนั้นเป็นเพราะว่าผู้ชายผิวขาวไม่มีใครอยากคบเธอต่างหาก แล้วก็อยากบอกกับหนุ่มน้อยเอเชียคนนั้นด้วยว่าถึงแกจะพยายามอย่างมากจนในที่สุดก็ได้คบกับสาวผิวขาวเสียที แต่สาวคนนั้นไม่ได้เซ็กซี่อะไรเลย เธอดูเหมือนพวกบ้าเห่อสตรีนิยมที่มีสีผมประหลาดแค่นั้นเอง”     “ในขณะเดียวกันสาวเอเชียน่ะก็ ‘ขึ้นชื่อ’ ว่าเป็นพวกบูชาผู้ชายผิวขาว ดูจากข้อมูลในแอปฯ หาคู่ก็รู้แล้ว แถมสถิติการแต่งงานของคนต่างสีผิวก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน ลองแข่งกันเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใน Tinder เป็นผู้ชายผิวขาวธรรมดาๆ ดูสิ แล้วมานับดูว่ามีสาวเอเชียอยากคุยกับพวกเธอมากแค่ไหน มันต้องเยอะพวกเธอตกใจมากแน่ๆ ยังไงซะก็ลองให้หนุ่มน้อยเอเชียคบกับสาวผิวขาวไปเถอะ คนเขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่าคบกันไม่ยาวหรอก” โพสต์นั้นหยาบคายมากเสียจนเมื่อผู้ดูแลกลุ่มเห็นแล้วต้องรีบลบทิ้งทันทีเลย แต่ก็ไม่ทันชาวเน็ตมือไวทั้งหลายหรอก พวกเขาเก็บภาพโพสต์ของหนุ่มผิวขาวเอาไว้ได้ทัน และเริ่มแชร์ลงโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวางทันที พอโพสต์ถูกแชร์ไปคนก็เริ่มวิจารณ์หนุ่มคนนี้อย่างหนาหู…

  • นักท่องเที่ยวชาวจีนปะทะตำรวจญี่ปุ่น หลังติดอยู่ที่สนามบินนาริตะนานกว่า 1 วันเต็มๆ

    นักท่องเที่ยวชาวจีนปะทะตำรวจญี่ปุ่น หลังติดอยู่ที่สนามบินนาริตะนานกว่า 1 วันเต็มๆ

    ด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 175 คนยังคงติดค้างอยู่ในสนามบินของประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลากว่า 24 ชั่วโมงเต็มๆ เพราะว่าเครื่องบินไม่สามารถขึ้นบินได้ และด้วยเหตุนี้เองทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างนักท่องเที่ยวชาวจีนกับพนักงานสายการบิน รวมถึงตำรวจของประเทศญี่ปุ่นด้วย… โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นผู้โดยสารของสายการบิน Jetstar ซึ่งมีกำหนดจะขึ้นบินออกจากสนามบินนาริตะประเทศญี่ปุ่น เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในเวลา 21.45 น. ของคืนวันพุธที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา     แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่เมืองเซี่ยงไฮ้ในขณะนั้น ได้เกิดพายุหิมะขึ้น ทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวไม่สามารถขึ้นบินได้ จึงเกิดการดีเลย์เป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนี้ได้อ้างว่า พนักงานของสายการบินดังกล่าวดูแลผู้โดยสารที่เป็นชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างดี แต่กับพวกเขากลับถูกหมางเมิน ไม่ได้รับการบริการที่เท่าเทียมกัน มิหนำซ้ำยังไม่มีพนักงานที่สามารถพูดภาษาจีนได้เพื่อสื่อสารกับพวกเขาอีกด้วย  และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พนักงานของสายการบินนี้กล่าวคำว่า “ออกไป” เป็นภาษาอังกฤษใส่พวกเขาด้วย     ในช่วงเช้าของวันพฤหัสที่ 25 มกราคมสถานการณ์ทั้งหมดก็ถึงจุดเดือด เมื่อมีผู้โดยสารชาวจีนคนหนึ่งถูกห้ามไม่ให้ไปใช้บริการตู้หยอดเหรียญ ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองของอาคารผู้โดยสารขาออก ซึ่งเรื่องนี้เองที่ได้นำไปสู่การเกิดปากเสียงกันขึ้นระหว่างผู้โดยสารชาวจีนกับพนักงานของสายการบิน และในที่สุดก็เกิดการปะทะกันเกิดขึ้น เมื่อตำรวจท้องถิ่นมาถึงที่เกิดเหตุ ก็พยายามที่จะแยกทั้งสองฝ่ายให้ออกจากกัน ซึ่งในวิดีโอเราจะสามารถเห็นได้ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนบางคนก็ได้ร้องเพลงชาติจีน ในระหว่างที่ตำรวจกำลังพยายามคลี่คลายสถานการณ์นี้ด้วย   วิดีโอระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์    ในเวลาต่อมาเมื่อสถานฑูตจีนได้ทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น…

  • น้องหมาผู้มีฟันเหมือนคน และพูดไม่หยุด ใช้ความเป็นมิตรช่วยเจ้านายหาเพื่อนใหม่

    น้องหมาผู้มีฟันเหมือนคน และพูดไม่หยุด ใช้ความเป็นมิตรช่วยเจ้านายหาเพื่อนใหม่

    หากใครเลี้ยงสุนัขอยู่คงจะเข้าใจดีว่ามันไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่เป็นฝ่ายรอความช่วยเหลือจากเราเท่านั้น แต่น้องหมาบางตัวเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง มันเป็นทั้งเพื่อน พี่น้อง ครอบครัว และยังเติมเต็มในส่วนที่ขาดให้กับเราด้วย เหมือนกับ Salty สุนัขพันธุ์เกรย์ฮาวด์ ที่ชอบไปอยู่ในร้านกาแฟเป็นประจำ บางทีก็ไปเที่ยวผับทั่วเมืองเมลเบิร์นของประเทศออสเตรเลีย โดยมี Lucy Percival แม่ผู้ใจดีคอยสนับสนุนมันเสมอ     Percival บอกว่า “เราอยู่ในเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในด้านบาร์และคาเฟ่ แน่นอน Salty เป็นชาวเมลเบิร์นและมันก็รักที่นี่มากๆ” เธอบอกอีกว่า “สิ่งที่น้องหมาชอบที่สุดคือ การโบกรถไปบาร์ หรือการเดินไปยังร้านกาแฟในท้องถิ่นเพื่อสั่งเครื่องดื่ม Puppuccino และถ้ามันได้เลือกทางเดินเอง มันเลือกที่จะไปสถานีรถไฟ” “ปกติสุนัขส่วนใหญ่มักจะมุ่งหน้าไปที่สวนสัตว์แทนที่จะเป็นบาร์ แต่ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ทำให้ Salty ไม่เหมือนหมาทั่วไป”     เมื่อไหร่ก็ตามที่ Salty อยู่ในที่ที่มันชอบ มันจะเผยให้เห็นฟันหน้าอันโดดเด่นของมัน จากนั้นมันก็เริ่มพูดคุยกับผู้คนแถวนั้นอย่างเป็นมิตร ด้วยพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติของสุนัขนี้ ทำให้น้องหมาได้รับความสนใจจากผู้ที่พบเห็นเสมอ โดยเฉพาะเวลาไปนั่งในร้านกาแฟ สายตาแทบทุกคู่จะจ้องมองมาที่มันด้วยความสนใจ     นิสัยการพูดไม่หยุดของ Salty ทำให้มันเป็นสุนัขที่พิเศษ เพราะเวลาพูดฟันของมันจะกระทบกันจนตัวสั่น นั่นเป็นสัญญาณของความสุขหรือความพึงพอใจที่คล้ายกับแมวเวลาทำเสียงครืดคราด Percival บอกว่า “Salty ชอบอยู่ในที่ที่มีคนเยอะๆ ดังนั้นมันจึงชอบคุยกับคนอื่นเวลาที่เราอยูในบาร์…

  • หนุ่มป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย อยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์ ขอแฟนสาวแต่งงาน ก่อนหมดลมหายใจ..

    หนุ่มป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย อยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์ ขอแฟนสาวแต่งงาน ก่อนหมดลมหายใจ..

    หลายคนมีความใฝ่ฝันที่อยากแต่งงานกับคนรักเมื่อถึงวัยอันควร หรือเมื่อถึงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายพร้อม แต่ในความเป็นจริงเราไม่มีทางรู้เลยว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่และเราจะอยู่ถึงวันที่รอคอยนั่นไหม… เหมือนกับชายหนุ่มวัย 19 ปีคนนี้ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจขอแฟนสาววัยมัธยมแต่งงานก่อนที่จะหมดลมหายใจ สื่อต่างประเทศรายงานว่า Dustin Snyder วัย 19 ปี กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับ Sierra Siverio ในเมือง Plant City รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยมีครอบครัวและเพื่อนๆ ช่วยจัดงานแต่งให้     หลังจากที่ชายหนุ่มต่อสู้กับมะเร็งเป็นระยะเวลาหนึ่ง เขาก็ได้รับข่าวร้ายเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนว่าทางแพทย์ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้อีกแล้ว และเขาจะมีเวลาอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น เมื่อรู้ดังนั้น Dustin กับแฟนสาวจึงตัดสินใจที่จะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด หลังจากที่คบกันมา 2 ปี ด้าน Sierra บอกว่า “ฉันจะจดจำและขอบคุณช่วงเวลานี้ตลอดไป มันเป็นพรสำหรับฉัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก”     ไม่ใช่ว่าหญิงสาวไม่รู้สึกเสียใจที่แฟนหนุ่มกำลังจะจากไป แต่เพราะเธอมองโลกในแง่ดี โดยได้วางแผนที่จะใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะสามีภรรยาให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เธอเล่าว่าได้พบกับ Dustin ครั้งแรกตอนอยู่ชั้นป. 6 เมื่อทั้งคู่เข้ามาเรียนในโรงเรียนเดียวกัน กระทั่งหลายปีผ่านไป พวกเขาได้กลับมาคุยกันอีกครั้งเมื่อหญิงสาวเดินเข้าไปในร้าน Steak ‘n Shake เพื่อสมัครงาน แล้วก็บังเอิญพบว่า Dustin ก็ทำงานอยู่ที่นั่นด้วย…

  • นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหาก ‘ประตูเครื่องบิน’ ถูกเปิดออกกลางอากาศ แต่โอกาสเกิดมีน้อยมาก

    นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหาก ‘ประตูเครื่องบิน’ ถูกเปิดออกกลางอากาศ แต่โอกาสเกิดมีน้อยมาก

    ไม่ว่าคุณจะเป็นคนกลัวการนั่งเครื่องบินหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนมักจะคิดคืออยากเปิดหน้าต่างขณะที่เครื่องบินอยู่กลางอากาศ เพื่อที่จะเห็นทิวทัศน์อันงดงามภายนอก จริงๆ แล้ว โอกาสที่ประตูหรือหน้าต่างจะเปิดออกระหว่างบินนั้นมีน้อยมาก แต่ถ้ามันเปิดออกจริงๆ นั่นหมายความว่าคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย… หากใครสงสัย ดูรายละเอียดที่ AsapSCIENCE จะชี้ให้เห็นต่อไปนี้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น     พวกเขาอธิบายว่า ความดันจะเกิดขึ้นที่ประตูเครื่องบิน เมื่อเครื่องอยู่ที่ระดับความสุูง 8,000-10,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล หรือแม้แต่ 30,000-45,0000 ฟุต ยิ่งเครื่องบินบินขึ้นสูงเท่าไหร่ความดันอากาศก็จะยิ่งต่ำ แต่แรงดันที่ประตูจะอยู่ในระดับคงที่ตลอดการบิน… เมื่อไหร่ก็ตามที่ประตูเครื่องบินเปิดออกกลางอากาศ ห้องโดยสารจะลดความดันอากาศลงภายใน 0.5 วินาที และสิ่งของภายในเครื่องที่ไม่ได้ถูกยึดเอาไว้จะถูกดูดไปยังประตูที่เปิดอยู่ทันที เน่ื่องจากความดันอากาศต่างกัน     และแน่นอนว่าเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์นี้ หมายความว่าความตายกำลังจะมาเยือนทุกคนในเครื่อง เช่นเดียวกับเครื่องบินที่จะเริ่มแตกออกเป็นชิ้นๆ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดภาวะขาดออกซิเจน เนื่องจากการขาดออกซิเจนในอากาศ และหากคุณไม่ได้หน้ากากออกซิเจนในช่วงเวลาที่ขาดออกซิเจน จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ หมดสติ และอาจเสียชีิวิตในที่สุด     ส่วนออกซิเจนมีแนวโน้มที่จะอยู่ได้เพียง 10 นาที ขณะที่นักบินกำลังพยายามลดระดับเคร่ื่องอยู่ที่  8,000-10,000 เพื่อให้มีแรงดันทั้งภายในและภายนอกเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกไปกว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มีน้อยมาก ดังนั้นอย่างกังวลเลย แต่หากคุณยังกังวลอยู่ ขอแนะนำให้ดูวิดีโอของ AsapSCIENCE ด้านล่างนี้เลย    …

  • 15 เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘Jack The Ripper’ ที่พิสูจน์ว่าเขาคือฆาตกรที่แสนโหดเหี้ยมและลึกลับ

    15 เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘Jack The Ripper’ ที่พิสูจน์ว่าเขาคือฆาตกรที่แสนโหดเหี้ยมและลึกลับ

    [บทความต่อไปนี้อาจมีภาพที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม]   หากพูดถึงฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลทั่วโลก คงจะหนีไม่พ้นกับชื่อของ Jack The Ripper ฆาตกรผู้สังหารคนไปเป็นจำนวนมากในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นอย่างมาก ชื่อเสียงของเขานั้นไม่ได้ขึ้นชื่อแค่ในเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิต แต่ความลึกลับก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นอย่างมาก และวันนี้ #เหมียวตะปู เลยชวนให้เพื่อนๆ มารู้จักกับ 15 เรื่องราวที่น่าสนใจของฆาตกรที่เป็นปริศนาคนนี้กัน มีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย   1. วันที่ 31 สิงหาคม 1888 มีชายสองคนบังเอิญไปพบร่างของ Mary Ann Nichols เหยื่อคนแรกที่ถูกปาดคอไปหลายต่อหลายครั้ง   2. วันที่ 8 กันยายน 1888 มีชายแก่ไปเจอศพของ Annie Chapman ที่ถูกปาดคอและถูกฆาตกรตัดเอามดลูกของเธอไป เหยื่อรายนี้ทำให้มีการสันนิษฐานว่า ฆาตกรมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของกายวิภาค เมื่อดูจากลักษณะการตัดเอามดลูกของเหยื่อสาวออกไปแล้ว   3. วันที่ 27 กันยายน 1888 ฆาตกรส่งจดหมายมาหาตำรวจ ซึ่งภายหลังรู้จักกันในชื่อ “จดหมายถึงเจ้านายผู้เป็นที่รัก”…

  • รถไฟความเร็วสูงในจีนเกิดเหตุเพลิงลุกอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทางการกำลังสืบหาข้อเท็จจริง

    รถไฟความเร็วสูงในจีนเกิดเหตุเพลิงลุกอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทางการกำลังสืบหาข้อเท็จจริง

    รถไฟความเร็วสูงเป็นเทคโนโลยีที่แสนจะมีประโยชน์ในหลายๆ ประเทศ แต่ว่าได้มีเหตุการณ์ไม่ที่คาดฝันเกิดขึ้นกับรถไฟชนิดนี้ในประเทศจีน เมื่อจู่ๆ รถไฟคันหนึ่งก็เกิดไฟไหม้ขึ้นมาดื้อๆ อย่างไม่ทราบสาเหตุซะอย่างงั้น?? โดยเหตุการณ์ไฟไหม้รถไฟความเร็วสูงแสนจะน่ากลัวครั้งนี้ เกิดขึ้นในวันที่ 25 มกราคม ที่สถานีรถไฟ มณฑลอานฮุย ในประเทศจีน โดยเหตุไฟไหม้นี้ได้เริ่มขึ้นจากการที่รถไฟขบวนดังกล่าวจอดอยู่ดีๆ ก็มีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ พร้อมทั้งยังมีเปลวไฟเกิดขึ้นภายในรถไฟขบวนดังกล่าวด้วย   ไฟไหม้รถไฟความเร็วสูง อย่างไม่ทราบสาเหตุ   ซึ่งรถไฟขบวนที่ G281 ที่เกิดเหตุขึ้นนั้นเป็นขบวนรถไฟที่เดินทางมาจากเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง และกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง แต่ว่าได้มาเกิดเหตุไฟไหม้นี้เกิดขึ้นซะก่อนที่จะถึงจุดหมาย ในขณะที่กำลังเกิดเหตุอยู่นั้น ก็ได้มีพลเมืองอัดวิดีโอคลิปเหตุการณ์ครั้งนี้เอาไว้ด้วย ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเปลวไฟที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างรุนแรงเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็มีนักดับเพลิง คอยควบคุมไฟเอาไว้ไม่ให้ลามไปยังที่อื่น ได้อย่างทันท่วงที   พนักงานดับเพลิงสามารถควบคุมไฟเอาไว้ได้อย่างทันเวลา   แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดี ที่ผู้โดยสารทุกคนสามารถอพยพออกมาได้ทันเวลา รวมถึงไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บเกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งนี้ขึ้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ซึ่งขณะนี้กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบอยู่ แต่เชื่อกันว่าน่าจะเกิดมากจากการที่อุปกรณ์ไฟฟ้าบางอย่างทำงานผิดปกติ หรือไฟฟ้าลัดวงจรนั่นเอง   วิดีโอขณะที่เกิดไฟไหม้รถไฟขบวนนี้ขึ้น    ที่มา: medium

  • หญิงชราวัย 88 ปี ขายบ้านตัวเองเพื่อนำเงินไปเที่ยวรอบโลก สานฝันให้เป็นจริง

    หญิงชราวัย 88 ปี ขายบ้านตัวเองเพื่อนำเงินไปเที่ยวรอบโลก สานฝันให้เป็นจริง

    หลายๆ คนอาจจะมีความฝันที่ตั้งใจเอาไว้ที่แตกต่างกัน แต่แน่นอนว่าทุกๆ ความฝันที่เราอยากได้นั้นจะต้องแลกมาด้วยบางสิ่งบางอย่างเสมอ เหมือนกับเรื่องราวของหญิงวัย 88 ปีผู้นี้ที่ยอมขายบ้านของตัวเอง เพื่อทำตามความฝันที่จะได้เดินทางรอบโลก!! จุดเริ่มต้นของความฝันเธอเกิดขึ้นเกือบ 10 ปีก่อน หลังจากที่คุณ Jiang Bin หญิงชราจากประเทศจีนได้มีโอกาสขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปชมความสวยงามของหิมะที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และธารน้ำแข็งที่นิวซีแลนด์     การเดินทางของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2009 คุณยายวัย 88 ปีผู้นี้ท่องเที่ยวทั่วโลกมาแล้วหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส แอฟริกาใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย จนกระทั่งในปี 2017 คุณยายท่านนี้ก็ได้ประกาศขายบ้านของเธอในเมืองหางโจว เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งมอบเป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับหลานสาว และนำส่วนที่เหลือไปใช้ในการเดินทางของเธอ รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย     จากรายงานระบุว่าหลังจากที่ขายบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณยาย Jiang Bin ได้ไปอาศัยอยู่ในที่พักอาศัยสำหรับคนวัยเกษียณ และใช้เวลาส่วนมากไปกับการท่องอินเตอร์เน็ตและติดตามข่าวสารของโลกภายนอก เรื่องราวของเธอนั้นสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนที่มีความฝันอยากออกไปท่องโลกกว้าง มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยที่บอกว่าเขาอยากเป็นคนแก่วัย 88 ปีที่ใช้ชีวิตแบบเต็มที่เหมือนกับคุณยายท่านนี้จริงๆ     แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังคงมีบางคนที่ตั้งข้อสงสัยว่า การที่เธอสามารถขายบ้านและมีโอกาสใช้ชีวิตแบบนี้นั่นก็เป็นเพราะฐานะทางครอบครัวของเธอนั่นเอง “คุณยาย: ถึงแม้ว่าฉันจะขายบ้านหลังนี้ แต่ฉันก็ยังเหลือบ้านอีก 8-9 หลัง” คอมเมนต์แซวจากชาวเน็ตรายหนึ่งใน Weibo    ที่มา medium

  • ความเจ๋งบนความเฟล เมื่อโปรแกรมช่วยเหลือของ Google รวมภาพแนวใหม่ ราวกับการตัดต่อขั้นเทพ

    ความเจ๋งบนความเฟล เมื่อโปรแกรมช่วยเหลือของ Google รวมภาพแนวใหม่ ราวกับการตัดต่อขั้นเทพ

    ปัจจุบันเราจะสามารถใช้โปรแกรมตัดต่อภาพต่างๆ ออกมาได้อย่างอิสระ อยากเจอเพิ่มสีสัน เปลี่ยนรูปร่าง ทำให้ดูมิติขึ้นก็สามารถทำได้หมดตามความต้องการของตัวเอง แต่สำหรับผลงานภาพถ่ายของชายคนนี้ดูแล้วจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาต้องการซักเท่าไหร่ เพราะมันชวนพิลึกเสียเหลือเกิน นี่คือภาพถ่ายของผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อว่า MalletsDarker เมื่อเขาได้ไปเล่นสกีอยู่บนทะเลสาบ Louise ประเทศแคนาดา และเขาต้องการที่จะเก็บภาพความสวยงามของทริปนี้เอาไว้ ก่อนที่โปรแกรมช่วยเหลือจาก Google จะยื่นข้อเสนอรวมภาพทั้งหมดเข้าด้วยกัน จนผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้   ภาพที่ได้จากการรวมภาพของโปรแกรม Google Assistant   เขาเล่าว่าตนเองได้ถ่ายรูปเอาไว้สามภาพ แล้วเมื่อกำลังเลื่อนดูรูปอยู่นั้น โปรแกรม Google Assistant ก็เสนอที่จะรวมเอาทั้งสามภาพของเขามาไว้ในภาพเดียว ซึ่งตอนนั้นเขาคิดว่ามันจะออกมาเป็นภาพแบบพาโนรามา ที่เป็นภาพยาวเห็นวิวทิวทัศน์ทั้งหมด แต่สุดท้ายภาพที่ได้กลับเหมือนว่าเขาเป็นเซียนเรื่องการแต่งภาพยังไงยังงั้น   ภาพแรกที่เขาถ่ายเก็บความทรงจำเอาไว้   ภาพที่สองเก็บวิวทางด้านซ้ายซะหน่อย   ต่อมาจึงเลื่อนมาเก็บทางด้านขวาซักเล็กน้อย   ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นจึงโพสต์ภาพฮาๆ นี้ลงไปในโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2018 ผ่านไปวันเดียว ภาพดังกล่าวก็ได้กลายเป็นกระแสโด่งดัง มีคนเข้ามาคอมเมนต์มากกว่า 1,000 ข้อความ บางคนก็ติดตลกบอกว่า “นี่คือ Attack on Titan ซีซั่น…

  • สาวจีนผู้เกิดมาพร้อมปานบนหน้าขนาดใหญ่ ต้องฝังลูกโป่งลงบนใบหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงมะเร็งร้าย

    สาวจีนผู้เกิดมาพร้อมปานบนหน้าขนาดใหญ่ ต้องฝังลูกโป่งลงบนใบหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงมะเร็งร้าย

    มนุษย์ทุกคนไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ละคนต่างก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันไป มันคือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นและไม่มีใครสามารถเลือกได้ Xiao Yan สาวชาวจีนวัย 23 ปี ชาวเมือง Longjing มณฑล Guizhou เกิดมาพร้อมกับปานสีดำขนาดใหญ่บนใบหน้า ซึ่งโอกาสที่จะเกิดมามีปานนั้นอยู่ที่อัตรา 1 ใน 100 คน     เจ้าปานดำนี้กินพื้นที่เกือบครึ่งใบหน้าของเธอและทางแพทย์จากโรงพยาลเซี่ยงไฮ้ได้วินิจฉัยว่าเจ้าปานขนาดยักษ์นี้จะมีโอกาสที่พัฒนากลายเป็นมะเร็งได้ถึง 10% จึงต้องทำการรักษาก่อนที่จะสายเกินไป ทางแพทย์ได้หาวิธีการที่จะช่วยเหลือเธอ และก็ได้ข้อสรุปวิธีในการรักษาคือ การฝังลูกโป่งน้ำเกลือลงไปใต้ผิวหนังเธอเพื่อเพิ่มเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งมันทำให้ใบหน้าของเธอออกมาเป็นแบบนี้     หญิงสาวออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตอนแรกเธอไม่คิดว่าเจ้าปานนี้จะส่งผลกับชีวิตเธอมากขนาดนี้ เธอสามารถใช้ชีวิตได้แบบปกติในวัยเด็ก ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร แต่เมื่อเธอยิ่งโต เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอนั้นแตกต่างจากคนอื่น และเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอตัดสินใจเข้ารับการรักษาเมื่อเดือนตุลาคม 2017 หลังจากที่ทางแพทย์ทำการฝังลูกโป่งน้ำเกลือลงบนใบหน้าของเธอ มันทำให้เธอได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากเนื่องจากใบหน้าขยายตัวออก     นอกจากนี้เธอยังต้องโดนสายตาของคนอื่นๆ ที่มองเธออย่างประหลาด อีกทั้งชาวบ้านบางคนเรียกเธอว่า ตุ๊กตาหมู ซึ่งมันทำให้แม่ของเธอไม่พอใจและขอร้องกับพวกเขาว่าอย่าล้อเลียนลูกสาวของแม่เลย แต่การรักษาก็ต้องดำเนินต่อไป ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาจะแพงแค่ไหน ทางครอบครัวก็ต้องยอมจ่ายเพื่อแลกกับชีวิตของเธอ เมื่อถึงเวลาที่สมควร เนื้อเยื่อของเธอเพียงพอต่อการผ่าตัดเพื่อเอาปานขนาดใหญ่นี้ออก เธอก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม…

  • โรงเรียนเยอรมัน เนรมิตเสื้อกั๊กทรายสำหรับเด็กดีด ไม่ตั้งใจเรียนเพียรถ่วงน้ำหนัก…

    โรงเรียนเยอรมัน เนรมิตเสื้อกั๊กทรายสำหรับเด็กดีด ไม่ตั้งใจเรียนเพียรถ่วงน้ำหนัก…

    เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมักจะมีปัญหากับการเพ่งสมาธิไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมากในขณะที่พวกเขาต้องตั้งใจเรียนตอนอยู่ในชั้นเรียน โดยเบื้องต้นแล้วหมอจิตเวชมักจะให้ยารักษากับเด็กเหล่านี้ อย่างไรก็ตามในตอนนี้หลายโรงเรียนในประเทศเยอรมัน หันมาใช้วิธีช่วยเหลือเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นรูปแบบใหม่ โดยให้พวกเขาสวมเสื้อกั๊กทรายถ่วงน้ำหนักเพื่อเพิ่มสมาธิให้กับเด็ก แต่ผู้ปกครองและหมอจิตเวชบางส่วนก็ยังมีข้อกังขากับวิธีรักษาแบบใหม่นี้     ในขณะนี้เสื้อกั๊กทรายถ่วงน้ำหนักกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการรักษาเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น เสื้อที่ว่านี้ใช้ทรายถ่วงน้ำหนักโดยแต่ละตัวจะมีน้ำหักตั้งแต่ 1.2 – 6 กิโลกัรม โรงเรียนกว่า 200 แห่งในเยอรมันก็กำลังใช้เสื้อตัวนี้เพื่อทำให้เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นในโรงเรียนตั้งใจเรียนมากขึ้น ผู้ปกครองบางส่วนบอกว่าการให้ลูกสวมเสื้อกั๊กทรายนั้นสามารถช่วยให้เด็กมีการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้นจริงๆ ทางโรงเรียนที่ใช้เสื้อกั๊กนี้บางแห่งก็บอกว่ามันเป็นวิธีรักษาที่อ่อนโยนกว่าการให้เด็กทานยาจากหมอจิตเวชอีกด้วย Gerhild de Wall คุณครูจากโรงเรียน Grumbrechtstrasse ในเมือง Hamburg ประเทศเยอรมันเองก็บอกว่า “ไม่มีใครบังคับให้เด็กๆ ใส่เสื้อกั๊กทราย พวกเขาเต็มใจที่จะใส่มันด้วยตัวเองและดูเหมือนพวกเขาจะชอบมันมากด้วย”     ทว่าผู้ปกครองและหมอจิตเวชอีกส่วนหนึ่งมีคามเห็นที่ต่างออกไป พวกเขาคิดว่าเสื้อกั๊กทรายดูเหมือนเสื้อที่ให้คนในโรงพยาบาลบ้าใส่ และเด็กที่ใส่มันอาจจะถูกตีตราว่าเป็นเด็กมีปัญหาจนทำให้พวกเขาโดนล้อด้วย ผู้ปกครองท่านหนึ่งบอกว่า “เราควรจะหลีกเลี่ยงวิธีการที่ทรมานแบบนี้ มันเหมือนกับเราบอกว่า ‘เธอเป็นคนป่วยก็เลยต้องถูกลงโทษโดยสวมเสื้อกั๊กทราย ที่ทั้งเป็นภาระต่อร่างกายและยังทำให้ดูเหมือนคนโง่ในชั้นเรียนด้วย’ ฉันคิดว่ามันเป็นวิธีแก้ไขที่ไม่ถูกจุด “ แต่ Truller-Voigt ผู้ปกครองอีกท่านก็แย้งว่า “ลูกของฉันเต็มใจที่จะใส่มันเองแล้วเขาก็รู้สึกว่ามันช่วยเขาได้ด้วย … มันทำให้เขามีสมาธิมากขึ้นและสนใจกับเนื้อหาที่ครูสอนโดยไม่ต้องมากังวลกับการควบคุมมือและเท้าของตัวเองให้อยู่นิ่ง”     De Wall อธิบายหลักการของเสื้อกั๊กตัวนี้ว่า “เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมักจะมีปัญหาเพราะมัวแต่สนใจสิ่งรอบตัว … เสื้อกั๊กทรายจะช่วยให้พวกเขาเพ่งความสนใจไปที่ตัวเองมากขึ้น…

  • สวนสัตว์ใหญ่ในปารีสต้องปิดกะทันหัน หลังพบว่าลิงบาบูนกว่า 50 ตัวหนีออกมาจากกรง!!

    สวนสัตว์ใหญ่ในปารีสต้องปิดกะทันหัน หลังพบว่าลิงบาบูนกว่า 50 ตัวหนีออกมาจากกรง!!

    สวนสัตว์ส่วนใหญ่มักจะมีระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกบุกเข้ามา และกันไม่ให้สัตว์หลุดออกไป อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในปารีส ที่พบว่ามีลิงบาบูนหนีออกจากกรงไปถึง 52 ตัว จนสวนสัตว์ต้องปิดตัวลง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อมีการพบว่าลิงบาบูนจำนวนมากหนีออกจากสวนสัตว์ Zoological Park ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1943 ในบริเวณป่า Vincennes ของประเทศฝรั่งเศส     เจ้าหน้าที่เล่าว่าสัญญาณเตือนภัยได้ดังขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ ขณะที่สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์สังเกตเห็นลิงบาบูนอยู่บนทางเดินบริการ ขณะนี้ยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากรวมทั้งเด็กเล็กอยู่ในสวนสัตว์ ทีมงานในแผนกฉุกเฉินจึงรีบตรวจสอบความเรียบร้อยเพ่ื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกลิงทำร้าย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ออกตามหาลิงบาบูนที่หนีออกไป จนสามารพาตัวลิงบาบูนกลับมาได้ 48 ตัว ในเที่ยงวันถัดมา และยังมีอีก 4 ตัวที่หาไม่เจอ     เจ้าหน้าที่สวนสัตว์บอกว่า “เรายังไม่ทราบว่าพวกมันออกไปได้อย่างไร และสิ่งที่เราทำได้คือ พยายามทำให้พวกมันอยู่ภายใต้การควบคุม” “ตอนนี้เราได้ปิดพื้นที่ทุกส่วนในสวนสัตว์ และและเพื่อความปลอดภัย จะมีเพียงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะสามารถเข้าออกได้” ในบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหมดนี้ มี 3 คน ที่จะพกปืนไรเฟิลเพื่อยิงสัตว์ในกรณีที่จำเป็น นอกจากนี้ยังมีตำรวจและสัตวแพทย์จำนวนมากเข้าช่วยเหลือ เนื่องจากลิงบาบูนมีขนาดตัวใหญ่และอาจมีนิสัยก้าวร้าวด้วย     ธรรมชาติของลิงบาบูน ไม่ใช่สัตว์ที่อันตราย แต่พวกมันสามารถโจมตีมนุษย์และทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงได้ หากพวกมันรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคาม ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับการแจ้งเตือนว่าจำเป็นต้องอพยพออกไปชั่วคราว…

  • เด็กชายที่อ้วนที่สุดในโลก ตอนนี้ลดน้ำหนักสำเร็จแล้ว ออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ได้สมใจอยาก

    เด็กชายที่อ้วนที่สุดในโลก ตอนนี้ลดน้ำหนักสำเร็จแล้ว ออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ได้สมใจอยาก

    ไม่มีใครสามารถเลือกได้ว่าเราอยากจะเกิดมามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ทำให้บางคนต้องเจอกับปัญหาที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด เหมือนอย่างเด็กหนุ่มคนนี้ที่เกิดมาแตกต่างจากคนทั่วไป จนทำให้เขาไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กในวัยเดียวกันได้ เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า Arya Permana วัย 12 ปี ผู้อาศัยอยู่ในจังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเขามีน้ำหนักมากกว่า 190 กิโลกรัมจนได้รับตำแหน่งเด็กหนุ่มที่อ้วนที่สุดในโลก   Arya เด็กชายที่ประสบปัญในเรื่องของความอยากอาหาร   สิ่งที่เขามีมาตั้งแต่กำเนิด คือความผิวกระหายที่ผิดแปลกไปจากปกติ ทำให้เขาต้องกินข้าววันละ 5 มื้อ แต่ละมื้อมีปริมาณมากกว่าที่คนวัยผู้ใหญ่กินกันทั่วไปถึงสองเท่า ประกอบด้วยข้าว แกงต่างๆ เนื้อสัตว์ ซุปผัก และ Tempah ที่เป็นอาหารประจำชาติของประเทศอินโดนีเซีย แม้ว่าเขาจะกินไปเยอะมากขนาดไหน แต่เขาก็ยังคงรู้สึกหิวอยู่เสมอ รวมถึงรู้สึกเหนื่อย หายใจไม่ทั่วท้องตลอด ทำให้ต้องอยู่แต่ในบ้าน ออกไปโรงเรียนหรือเล่นกับเพื่อนๆ ไม่ได้มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ     แต่ละวันเด็กชายจะทำแค่กิน นอน เล่นมือถือ หรือแช่น้ำระบายความร้อนของร่างกายเพียงเท่านั้น ใส่เสื้อผ้าเหมือนคนอื่นก็ไม่ได้ ใส่ได้แต่ผ้าโสร่งผืนใหญ่เพียงอย่างเดียว พ่อแม่ของเด็กหนุ่มไม่มีเงินมากพอที่จะพาเขาไปรักษาได้เลย เงินเก็บทั้งหมดที่เคยมีอยู่ก็ต้องสูญไปกับการซื้ออาหารมาให้ลูกชายของพวกเขากิน เพื่อประทังความหิวกระหาย     แน่นอนว่าสำหรับเด็กในวัยนี้ การที่ไม่ได้ออกไปโรงเรียนหรือเล่นสนุกกับเพื่อนๆ…

  • ชาวปากีสถานรวมตัวเรียกร้อง ‘ประหารแขวนคอ’ ผู้กระทำชำเราเด็ก หลังเกิดเหตุเด็กวัย 6 ขวบเสียชีวิต

    ชาวปากีสถานรวมตัวเรียกร้อง ‘ประหารแขวนคอ’ ผู้กระทำชำเราเด็ก หลังเกิดเหตุเด็กวัย 6 ขวบเสียชีวิต

    เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2018 ได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดใจขึ้นในประเทศปากีสถาน มีการพบร่างไร้วิญญาณของเด็กสาววัย 6 ขวบที่ถูกลักพาตัวไปนานถึง 5 วัน และเหตุการณ์นี้ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากลุกขึ้นมายื่นเรื่องขอเปลี่ยนแปลงประมวลกฎหมาย เด็กสาวคนนี้มีชื่อว่า Zainab Ansari เธออาศัยอยู่ในเมืองคาเซอร์ ฝั่งตะวันออกของประเทศปากีสถาน ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเธอต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคุณลุง คุณป้า ขณะที่พ่อและแม่ของเธอเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย   รูปภาพของ Zainab เด็กสาวที่ถูกลักพาตัวและจากโลกนี้ไปในที่สุด   วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังเดินไปเรียน เธอก็ถูกชายคนหนึ่งลักพาตัวไปนานกว่า 5 วัน ระหว่างนั้นญาติๆ ก็ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการหายไป แต่พวกเขาบอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมทำอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ญาติของเด็กสาวลงมือตามหาเธอด้วยตัวเอง จนไปพบเข้ากับภาพจากกล้องวงจรปิดที่เผยให้เห็นว่ามีคนร้ายมาลักพาตัวเด็กสาวไป หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้พบศพของเธอบริเวณที่ทิ้งขยะห่างจากบ้านไปหลายกิโลเมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมตัวนาย Imran ผู้ต้องสงสัยของคดีนี้ ก่อนที่จะปล่อยตัวชายคนนี้ไปเพราะว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอ แต่สุดท้ายแล้วตำรวจก็ตรวจพบว่าดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยนั้นตรงกับดีเอ็นเอที่หลงเหลืออยู่บนตัวศพเด็กสาว ทำให้เขาถูกจับมาดำเนินคดีในที่สุด     อย่างไรก็ตามประมวลกฎหมายอาญาของประเทศปากีสถานก็คงจะไม่รุนแรงพอสำหรับชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เพราะพวกเขาได้ออกมาประท้วงและยื่นเรื่องเปลี่ยนแปลงประมวลกฎหมายมาตรา 364-A ประจำปี 1860 ให้ลงโทษผู้กระทำผิดที่ข่มขืนหรือลักพาตัวเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ด้วยการประหารแขวนคอกลางที่สาธารณะไปเลย ข้อเสนอของประชาชนเหล่านี้ยังคงอยู่ในช่วงของการพิจารณาในรัฐสภาของประเทศปากีสถาน ซึ่งหากว่ามันผ่านและสามารถใช้ได้จริงเมื่อไหร่ นาย Imran จะกลายเป็นตัวอย่างของการถูกลงโทษคนแรกอย่างแน่นอน  …

  • เจ้าหมาเกือบตายหลังเจ้าของย้อมสีขนมันให้เป็นสีม่วง โชคดีที่ได้รับการรักษาทันจนรอดมาได้

    เจ้าหมาเกือบตายหลังเจ้าของย้อมสีขนมันให้เป็นสีม่วง โชคดีที่ได้รับการรักษาทันจนรอดมาได้

    หลายๆ คนอาจรู้สึกไม่พอใจกับสีผมเดิมของตัวเอง จึงใช้น้ำยาย้อมผมเปลี่ยนสีไปตามที่ตัวเองต้องการ แต่สิ่งนั้นไม่สามารถใช้เพื่อการเปลี่ยนสีขนของน้องหมาเราได้ เพราะสิ่งที่พวกมันต้องเจอกับการถูกย้อมสีไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเลยแม้แต่น้อย เหมือนอย่างน้องหมาตัวนี้ที่ชื่อว่า Violet เรื่องราวของน้องหมาน้อยตัวนี้ถูกแชร์ลงในโลกโซเชียลโดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Pinellas County Animal Services จากรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 2018   Violet เจ้าหมาที่ถูกย้อมเป็นสีม่วง   Violet นั้นถูกเจอตัวเมื่อปีก่อน ในสภาพที่อิดโรย ร่อแร่ และมีบาดแผลไปทั่วทั้งตัว หลังจากที่มันถูกเจ้าของเก่าใช้น้ำยาสารเคมีสำหรับย้อมสีผมมาย้อมสีขนของมัน ก่อนที่จะนำมันมาปล่อยไว้ให้กลายเป็นหมาจรจัด เจ้าหมามีน้ำหนักตัวแค่ราวๆ 2 กิโลกรัม ทั่วร่างกายเต็มไปด้วยแผลไหม้จากสารเคมี และดวงตาของมันข้างหนึ่งก็มีอาการบวมจนแทบจะลืมตาขึ้นมาไม่ได้ ทีมช่วยเหลือที่มาเห็นสภาพของมันในตอนนั้นก็กลัวว่าเจ้าหมาจะไม่สามารถมีชีวิตรอดผ่านพ้นคืนนั้นไปได้     เจ้าหน้าที่ศูนย์รับเลี้ยงที่คอยดูแลเจ้าหมาเล่าว่า “เราทำทุกวิถีทางในการรักษามัน ทั้งให้ยาและอาบน้ำเจ้าหมาอย่างนุ่มนวลเพื่อล้างเอาสารเคมีย้อมผมออกไปเท่าที่จะทำได้ แล้วเราจึงพันผ้าพันแผลเอาไว้รอบๆ บาดแผลเหล่านั้น หลังจากนั้นสิ่งที่เราทำได้คือฝากเอาไว้กับสัตวแพทย์ รอดูอาการของมันกันต่อไป” เป็นเรื่องที่น่ายินดี เมื่อเจ้าหมาสามารถรอดพ้นค่ำคืนนั้นมาได้และเริ่มจุดประกายความหวังให้กับทุกคนที่ดูแลมันอีกครั้งหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงทำได้เพียงนอนนิ่งเพราะร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากสารเคมีที่รุนแรง     ทางทีมช่วยเหลือตัดสินใจโกนขนของน้องหมาออก ทำให้พวกเธอพบว่าความรุนแรงของสิ่งที่เจ้าหมาต้องเจอนั้นมีมากกว่าที่คิดเอาไว้ ผิวหนังรอบๆ มีการหลุดลอกออกมาเป็นคราบ เห็นแล้วก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่เจ้าหมาน้อยต้องเจอ แม้ว่าบาดแผลจะสาหัสมากเพียงใด แต่ Violet…

  • คุณหมอจีนตายในหน้าที่ ระหว่างดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินกว่า 40 ราย ภายในกะดึกคืนเดียว…

    คุณหมอจีนตายในหน้าที่ ระหว่างดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินกว่า 40 ราย ภายในกะดึกคืนเดียว…

    เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศจีน เมื่อมีนายแพทย์วัยกลางคนเสียชีวิตลงจากการที่เขา รักษาคนไข้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาทั้งคืน ซึ่งคนไข้ที่เขาได้ช่วยเหลือนั้นมีจำนวนมากถึง 40 คนเลยทีเดียว โดยนายแพทย์คนดังกล่าวมีชิ่อว่า Guo Qingyuan วัย 43 ปี ซึ่งเขาได้รับหน้าที่เป็นแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินกะกลางคืน ในคืนวันอังคารที่ 24 มกราคมที่ผ่าน และในคืนนั้นเองก็ได้มีคนไข้หลั่งไหลเข้ามาให้เขารักษาอย่างมากมาย     จนทำให้เช้าวันรุ่งขึ้นร่างกายของนายแพทย์ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เมื่อเขามีอาการเจ็บแน่นที่หน้าอก มีอาการใจสั่น และหายใจติดขัด เขาจึงตัดสินใจยุติการรักษา และขณะที่เขากำลังเข้าสู่ขั้นตอนเข้ารับการรักษาอยู่นั้น ปรากฏว่านายแพทย์ Guo ได้ทรุดตัวลงอย่างไม่มีใครคาดคิด นั่นจึงทำให้เขาต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างฉุกเฉิน แต่ก็ไม่ทันการณ์เพราะว่าหลังจากที่เขาเข้ารับการรักษาเพียง 4 ชั่วโมง เขาก็เสียชีวิตในที่สุด     สำหรับนายแพทย์ Guo นั้นเป็นพ่อของลูกๆ ของเขา 2 คนซึ่งคนเล็กสุดนั้นมีอายุได้เพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้น ซึ่งภรรยาของเขาก็เป็นหมอเช่นเดียวกัน จากการรายงานของสื่อ Xining Evening News โดยในคืนก่อนที่เขาจะเสียชีวิตนั้น นายแพทย์ Guo ได้รักษาผู้ป่วยจำนวน 40 คน หลังจากนั้นเขาก็อยู่ต่อเกินเวลางานอีกกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อจะส่งมอบคนไข้ให้กับหมอที่มาทำหน้าที่ต่อจากเขา และทำให้ร่างกายของเขาอ่อนเพลีย…

  • ผู้หญิงนับร้อยเผยแพร่ภาพนู้ดเพื่อต่อต้านฆาตกร เพราะภาพนู้ดไม่ใช่เหตุผลในการถูกใครฆ่า

    ผู้หญิงนับร้อยเผยแพร่ภาพนู้ดเพื่อต่อต้านฆาตกร เพราะภาพนู้ดไม่ใช่เหตุผลในการถูกใครฆ่า

    จากเหตุการณ์ฆ่าข่มขืนหญิงสาวชาวรัสเซียวัย 19 ปี Tatiana Strakhova ทำให้เกิดการรณรงค์เรียกร้องสิทธิของผู้หญิงที่ได้รับการกระทำรุนแรงทั้งทางกายและทางเพศ ย้อนความกลับไปที่กรณีของ Tatiana Strakhova ผู้กระทำรุนแรงครั้งนี้คืออดีตคนรักของเธอ วัย 19 ปี ชื่อว่า Artyom Iskhakov เขาได้รัดคอเธอและแทงเธอด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิต จากนั้นเขาจึงข่มขืนศพและฆ่าตัวตายตาม     เหตุการณ์น่าสลดเช่นนี้กลับทวีความสลดใจขึ้นไปอีกเมื่อชาวเน็ตเสนอความเห็นว่า ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า Tatiana ได้ทำการยั่วอารมณ์ของคู่รักเธอด้วยรูปภาพที่เธอโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต จนทำให้เกิดการประท้วงเรื่องดังกล่าว โดยการที่หญิงสาวชาวรัสเซียนับร้อยรวมใจกันเผยแพร่ “รูปถ่ายเปลือยกาย” ของตัวเอง     อิงจาก Moscow Times การประท้วงครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ผู้คนเข้าใจได้ว่า การโพสต์รูปภาพเปลือยกายนั้นไม่ใช่เหตุผลในการกระทำการข่มขืนหรือฆ่า หญิงสาวคนหนึ่ง ชื่อว่า Julia ได้ออกมาแสดงความรู้สึกไม่พอใจกับความเห็นที่ว่า Tatiana นั้นยั่วยวนคู่รักด้วยรูปภาพของเธอ Julia กล่าวว่า “ฉันรู้สึกกลุ้มใจมากกับการที่ รอยสัก และสีผม ยังเป็นสิ่งที่ทำให้คนเกิดไร้ศีลธรรมขึ้นมาได้อีก นี่ปี 2018 แล้ว มันใช่เหรอที่ฆาตกรจะถูกยอมรับเพราะฆ่าคนที่โพสต์ภาพเปลือยลง Instagram ของตัวเอง”     Katya Obukhova จากเยคาเตรินบุร์ก โพสต์ภาพด้านบนและเขียนว่า “อะไรกัน ผู้หญิงคนนี้ถูกเรียกว่า ‘พวกขายตัว’…

  • คุณตาคุณยาย ถ่ายรูปโพสต์เวดดิ้งสุดแนวร่วมกันอีกครั้ง หลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานาน 60 ปี

    คุณตาคุณยาย ถ่ายรูปโพสต์เวดดิ้งสุดแนวร่วมกันอีกครั้ง หลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานาน 60 ปี

    ปกติแล้วเรามักจะเห็นคู่รักถ่ายรูปพรีเวดดิ้งก่อนแต่งงาน แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าคุณจะแต่งงานไปแล้วกี่ปี หรือไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ทุกคนล้วนถ่ายรูปพรีเวดดิ้งได้ถ้าอยากทำ เหมือนกับคู่ของคุณตาอุดและคุณยายยวงที่หวนกลับมาถ่ายรูปโพสต์เวดดิ้งสุดเฟี้ยวด้วยกันอีกครั้ง หลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานานถึง 60 ปี     ช่างภาพบอกว่าทั้งคุณตาอุดและคุณยายยวงใจดีมาก ถ่ายรูปท่ามกลางแสงแดดอ่อนโดยไม่บ่นสักคำ ตรงข้ามทั้งคู่มีแต่รอยยิ้ม ความน่ารักและความอบอุ่น จนช่างภาพยังต้องอิจฉา ที่สำคัญไปกว่านั้น ทั้งคู่บอกว่าอยากเป็นตัวอย่างและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับท่านว่าหากอยากทำอะไรก็ลงมือทำทันที อย่ารอให้เวลามันผ่านไปอย่างไม่มีประโยชน์     สำหรับภาพอันงดงามของคุณตาอุดและคุณยายยวง ถ่ายโดยช่างภาพ แก้วลำจัง จากสตูดิโอ PreWedding Studio โดยมีคุณวราวุธ ปัญญาเนาว์ เป็นผู้เนรมิตความสวยความหล่อให้กับทั้งคู่     เก๋ากว่าคุณตามีอีกไหม?   อยู่กับเค้าตลอดไปนะตัวเธอ   อยากรู้จังเลยว่าตอนเป็นวัยรุ่น คุณตากับคุณยายเป็นคนยังไง   สบตาให้รู้ว่ารักนะจ๊ะยายจ๋า   ชาวร๊อกว่าไง   แค่ดูรูปยังสัมผัสได้ถึงความรักของทั้งสองเลย   หน้าตาอาจจะเปลี่ยน แต่รักไม่เคยเปลี่ยนแปลง   จะมีสักกี่คนที่ยังรักกันเหมือนวันแรกที่จีบกัน แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน   อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลย โดยที่คุณยังไม่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ… แต่ก็จำไว้เสมอว่า ถึงจะรู้สึกว่ามันสายไปแล้ว มันก็ยังไม่สายเกินไปจริงๆ และคุณก็ยังสามารถทำอะไรที่สวยงามได้เสมอโดยไม่ต้องแคร์อายุหรอก…  …

  • สาวที่หน้าอกใหญ่จนเป็นภาระ แถมโดนขู่ฆ่าด้วย จนตอนนี้ต้องผ่าตัดลดขนาดให้เล็กลง

    สาวที่หน้าอกใหญ่จนเป็นภาระ แถมโดนขู่ฆ่าด้วย จนตอนนี้ต้องผ่าตัดลดขนาดให้เล็กลง

    สำหรับสาวๆ แล้ว เรื่องของหน้าอกหน้าใจนั้นถือว่าเป็นส่วนสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะมันเป็นหนึ่งที่ส่งผลต่อความมั่นใจของสาวๆ อย่างมาก หญิงสาวจำนวนไม่น้อยต้องการให้หน้าอกของตัวเองนั้นมีขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการแต่งกาย และเข้าสังคม แต่หารู้ไม่ว่าคนที่มีหน้าอกใหญ่จริงๆ ก็พบเจอเรื่องแย่ๆ ได้เหมือนกัน     อย่างเช่น หญิงสาววัย 20 ปีคนนี้ เธอมีชื่อว่า Jasmin Vlassi เป็นผู้ที่มีหน้าอกที่ต้องสวมเสื้อชั้นในขนาด 32K เลยทีเดียว (เราจะเคยได้ยินแต่ คัพเอ คัพบี อันนี้คือคัพเค!) ซึ่งแต่ละข้างจะมีน้ำหนักโดยประมาณ 2.8 กิโลกรัม     มันจึงทำให้เธอต้องประสบกับปัญหาของกระดูกที่รับน้ำหนักมากเกินไป ด้วยเหตุผลดังกล่าว เธอจึงพยายามหาทางศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก และหลังจากการรอคอยนับปี เธอจึงได้เปิดแคมเปญในเว็ป GoFundMe เพื่อรวบรวมทุนให้เธอได้เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรม นอกจากความเจ็บปวดทางกายแล้ว สิ่งที่ทำให้ Jasmin ต้องเจ็บปวดอีกก็คือ คำพูดกดขี่เธอต่างๆ นาๆ ที่เกิดขึ้นเพราะผู้คนที่ได้เห็นหน้าอกของเธอ     Jasmin เล่ากับทาง Daily Record ว่า “ฉันถูกขู่จะเอาชีวิตหลายครั้ง มันทำให้ฉันกลัวและเครียดจนนั่งรถเลยป้ายที่ฉันจะลง ฉันร้องไห้ออกมาเพราะวันนั้นฉันอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้” “โชคดีที่ผู้หญิงคนหนึ่งเจอฉันเข้า เขาให้ฉันเข้าไปรอในร้านของเขาพร้อมกับเรียกแท็กซี่มารับฉันกลับไปส่งที่บ้านด้วย”  …

  • มหากาพย์คดีการหายตัวไปของสาววัย 17 ปี กับโค้ชทีมฟุตบอลของเธอ ก่อนจะตามตัวได้ในที่สุด

    มหากาพย์คดีการหายตัวไปของสาววัย 17 ปี กับโค้ชทีมฟุตบอลของเธอ ก่อนจะตามตัวได้ในที่สุด

    สำหรับคนที่เป็นพ่อคนแม่คนแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขาก็คือ อยากจะให้ลูกปลอดภัยและมีความสุข เพราะลูกๆ ถือได้ว่าเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ที่ทำให้พวกเขามีความสุขในทุกๆ วันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม พ่อ-แม่ ย่อมจะต้องปกป้องลูกอย่างสุดความสามารถอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าลูกๆ ของพวกเขาหายไป คนที่เป็นพ่อแม่ย่อมจะต้องเดือดเนื้อร้อนใจเป็นแน่ๆ เหมือนกับเคสของเด็กสาวรายนี้ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้พ่อแม่และตำรวจต้องออกตามหาจนแทบจะพลิกแผ่นดิน   หญิงสาววัย 17 ปีคนนี้มีชื่อว่า Caitlyn Frisina อาศัยอยู่ที่รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา มาตลอดเกือบทั้งชีวิต เธอมีชีวิตที่แสนธรรมดาเฉกเช่นกับเด็กสาวทั่วๆ ไป แต่จะมีความพิเศษอยู่ตรงที่ว่าเธอเป็นเด็กที่เอาใส่กับการเรียนเป็นอย่างยิ่ง โดย Caitlyn อาศัยอยู่กับแม่และพ่อของเธอชื่อว่า Scarlet และ Ward ซึ่งพวกเขาเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดการธุรกิจท้องถิ่นที่มีชื่อว่า Flatwoods Forestry     ในปัจจุบัน Caitlyn ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมฟอร์ตไวท์ และที่นี่เองที่ทำให้เธอได้รู้จักกับกีฬาฟุตบอล ซึ่งได้กลายมาเป็นสิ่งที่เธอรัก และดูเหมือนเธอจะทำมันได้เป็นอย่างดี เมื่อเธอได้เป็นถึงนักฟุตบอลประจำโรงเรียนเลยทีเดียว     ด้วยใจที่รักในกีฬาฟุตบอล ทำให้เธอสามารถพัฒนาตัวเองไปได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงเธอยังมักจะอาสาสมัครเป็นกรรมการฟุตบอลให้กับการแข่งขันต่างๆ อีกด้วย     ซึ่ง Caitlyn ไม่ใช่เพียงคนเดียวในครอบครัวของเธอที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ เพราะว่า Ward…

  • หนุ่มรัสเซียก่อเหตุโหดกับแฟนเก่า ก่อนจะสารภาพขั้นตอนให้พ่อแม่ได้รู้ และจบชีวิตตามไป…

    หนุ่มรัสเซียก่อเหตุโหดกับแฟนเก่า ก่อนจะสารภาพขั้นตอนให้พ่อแม่ได้รู้ และจบชีวิตตามไป…

    ในบางครั้งเราอาจรู้สึกเหมือนกับถูกครอบงำด้วยความคิดด้านลบ จนเกิดความรู้สึกสับสนในตัวเองและมีปัญหาต้องการตัดสินใจในเรื่องผิดชอบชั่วดี เหมือนอย่างชายชาวรัสเซียคนนี้ที่ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่โหดร้าย เพราะว่าจมไปกับด้านมืดของจิตใจตัวเอง นี่คือเรื่องราวสุดสะเทือนใจของฆาตกรหนุ่มวัย 19 ปีที่ชื่อว่า Artyom Iskhakov เขาอาศัยอยู่กับแฟนเก่าของเขา Tatiana Strakhova ก่อนที่จะฆาตกรรม ข่มขืนศพของเธอ และเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้พ่อแม่ของเขาและเธอฟัง จากนั้นจึงฆ่าตัวตายตามไป   Tatiana และ Artyom วัย 19 ปี ผู้เคยคบหาเป็นแฟนกันมาก่อน   เรื่องราวอันแสนเศร้านี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนที่ Artyom หนุ่มโปรแกรมเมอร์ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย Bauman เลิกคบกับแฟนสาวของเขา Tatiana สาวหัวกะทิจากมหาวิทยาลัยวิจัยนานาชาติมอสโก แม้จะเลิกกันแล้วแต่ทั้งคู่ยังคงแชร์ห้องเช่าด้วยกัน หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวก็มีแฟนใหม่เป็นหนุ่มจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ชื่อว่า Igor ความอึดอัดที่ต้องอยู่ด้วยกันในสถานะที่เปลี่ยนไป Artyom จะถูกปฏิเสธเสมอเวลาที่เขาชวนเธอไปดื่มด้วยกัน แถมยังต้องทนเห็นแฟนเก่าของตัวเองจู๋จี๋อยู่กับแฟนใหม่ที่เป็นเพื่อนของเขา นั่นจึงทำให้เขารู้สึกรำคาญและโมโหอย่างมาก จนไม่อาจเก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้     ชายหนุ่มต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเธออย่างมาก มันจึงกลายเป็นแรงขับให้เขาทำสิ่งที่โหดร้ายลงไปในวันหนึ่ง ตอนที่หญิงสาวกลับมาที่ห้องเช่า เขาพุ่งเข้าไปหาเธอ ต่อยเข้าไปที่หน้าของเธออย่างจัง จนหญิงสาวล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นเขาก็ต่อยเธอไปอีกหลายครั้ง ทำให้มีเลือดไหลออกมาจากปากของเธอ Tatiana บอกให้เขาลุกออกไป…

  • ร้านสะดวกซื้อในจังหวัดกิฟุประเทศญี่ปุ่น เปิดบริการโดยไม่มีพนักงานแม้แต่คนเดียว

    ร้านสะดวกซื้อในจังหวัดกิฟุประเทศญี่ปุ่น เปิดบริการโดยไม่มีพนักงานแม้แต่คนเดียว

    “สวัสดีครับ เชิญครับ” หรือ “สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ” นั้นเป็นคำทักทายที่เราได้ยินจนติดหูเมื่อเราเข้าไปใช้บริการในร้านสะดวกซื้อ พนักงานในร้านมักจะทักทายเราแบบนี้เสมอๆ เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเหล่าพนักงานนั้นยินดีตอนรับและพร้อมบริการลูกค้าอย่างเต็มที่ ร้านสะดวกซื้อนั้นคงอยู่ไม่ได้หากไม่มีสินค้าวางขาย และก็อยู่ไม่ได้เช่นกันหากว่า “ไม่มีพนักงาน” คอยดูแลร้านแม้แต่คนเดียว แต่เชื่อไหมล่ะว่ามันกลับมีร้านแบบนี้อยู่จริงๆ ในจังหวัดกิฟุ ของประเทศญี่ปุ่น     ขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งและเพื่อนๆ กำลังเดินทางไปยังเมืองคะคะมิกะฮะระ ในจังหวัดกิฟุ นั้นเอง พวกเขารู้สึกว่าอยากจะซื้อบุหรี่ และบังเอิญหันไปเห็นร้านค้าสะดวกซื้อแบรนด์ดังของญี่ปุ่น Lawson พวกเขาจึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปซื้อบุหรี่ เมื่อเข้าไปแล้ว สิ่งที่ทำให้พวกเขาอึ้งก็คือ ชั้นวางสินค้าที่ว่างเปล่า แทบไม่เหลืออะไรเลยนอกจาก เครื่องดื่มที่กระจัดกระจาย หมากฝรั่ง แล้วก็ของต่างๆ สำหรับใช้ในห้องน้ำ     นอกจากนี้ห้องน้ำของร้านแห่งนั้นยังแปะป้ายที่เขียนเอาไว้ว่า “ปิดให้ใช้บริการ: ไม่สามารถใช้ได้ทั้งห้องน้ำผู้หญิงและผู้ชาย” พวกเขาจึงพยายามเรียกพนักงานอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีใครออกมา ไม่ได้ยินแม้เสียงของผู้คนที่ทำงานอยู่หลังร้าน จึงสรุปได้ว่า ที่ร้าน Lawson แห่งนี้ “ว่างเปล่า” ไม่มีใครอยู่ มีแต่ประตูที่ไม่ได้ล็อค และไฟที่เปิดไว้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากดูจากเว็บไซต์ของ Lawson ร้านนี้ยังถือว่าเป็นหนึ่งใน 10,000 สาขาที่ยังเปิดตัวอยู่…

  • เจ้าเหมียวถูกเลี้ยงดูอย่างละเลยมาตลอด 17 ปี ได้เจอทาสใหม่ มันเลยอ้อนซะน่าเอ็นดู >

    เจ้าเหมียวถูกเลี้ยงดูอย่างละเลยมาตลอด 17 ปี ได้เจอทาสใหม่ มันเลยอ้อนซะน่าเอ็นดู ><

    แมวส่วนใหญ่จะมีนิสัยขี้อ้อน พวกมันมักจะเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์เสมอ นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องสนใจมันตลอดเวลาจนไม่ทำอะไรเลย แค่เล่นกับมันบ้างในบางเวลา เจ้าเหมียวก็แฮปปี้แล้ว แต่สำหรับเจ้าเหมียว Mila มันถูกเลี้ยงอย่างละเลย และไม่ได้รับความสนใจเลยตลอด 17 ปี นั่นทำให้มันโหยหาความรักมาทั้งชีวิต     Mila อาศัยอยู่ในโรงรถเป็นเวลา 17 ปี ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้มันเข้ามาและจากไปหลายครั้ง บางครั้งมันก็หายไปเป็นเวลานานกว่าจะกลับมา แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามันอยู่ในโรงรถตลอดและไม่ออกไปข้างนอกเลย ไม่ใช่แค่สภาพที่อยู่อาศััยที่เลวร้าย และมันยังถูกละเลยจากการเลี้ยงดูแมวที่เหมาะสมด้วย กระทั่งผู้หญิงคนหนึ่งผ่านมาเห็นและอดเห็นใจมันไม่ได้ จึงได้ติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือ     ผู้หญิงคนนั้นได้ติดไปยัง Here Kitty Kitty Rescue ที่ตั้งอยู่ในเมืองเอลก์ รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหวังว่ามันจะได้บ้านใหม่ที่ดีกว่าเดิม Jennifer Gillispie จาก Here Kitty Kitty Rescue บอกว่า “หลังจากที่ตรวจร่างกายแล้ว เราพบว่ามันผอมมาก ตามตัวของมันเต็มไปด้วยหมัด ขนของมันจับกันเป็นก้อน และมีเล็บยาวจนทิ่มอุ้งเท้าของมัน”     “ตอนที่เราอาบน้ำให้มันแล้วน้ำไหลกระทบร่างกายผอมๆ ของมันจนกลายเป็นสีแดงเข้ม และตอนที่เราเอาขนเป็นก้อนๆ ออกให้พร้อมตัดเล็บให้ มันคงจะรู้สึกซึ้งใจเลยเอาหน้ามาถูแขนพนักงานที่ตัดขนให้” หลังจากที่ทำความสะอาดตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว Mila ก็ถูกห่อด้วยผ่าหนานุ่มเพื่อให้ร่างกายมันอบอุ่น และนี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเหมียวรู้สึกปลอดภัยจากความเจ็บปวด…

  • เจ้าหมาขี้กลัวถูกทิ้งท่ามกลางหิมะที่หนาวเหน็บ รอคอยเจ้าของโดยไม่ยอมให้ใครมาแตะต้อง

    เจ้าหมาขี้กลัวถูกทิ้งท่ามกลางหิมะที่หนาวเหน็บ รอคอยเจ้าของโดยไม่ยอมให้ใครมาแตะต้อง

    เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2018 เว็บไซต์ The Dodo ได้เผยภาพและเรื่องราวของน้องหมาตัวสีขาว-น้ำตาลที่ดูคล้ายกับสุนัขพันธุ์คอลลี่ตัวหนึ่ง มีคนพบมันนั่งนิ่งอยู่ท่ามกลางหิมะและอากาศที่หนาวเย็น ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมคานิกส์เบิร์ก รัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา มันดูกังวลและขี้กลัวมากจนไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลยสักคน     Janine Guido ผู้ก่อตั้ง Speranza Animal Rescue องค์กรช่วยเหลือสัตว์ที่คนในเมืองรู้จักกันดี ได้รับแจ้งจากชาวเมืองให้มาช่วยเหลือเจ้าหมาตัวดังกล่าว เธอจึงรีบมายังจุดที่ได้รับแจ้งทันที แต่การช่วยเหลือกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเจ้าหมาที่เธอเรียกมันว่า Carla ดูไม่ไว้ใจมนุษย์หน้าไหนทั้งนั้น แม้ว่าเธอพยายามจะหลอกล่อมันด้วยอาหารก็ตาม พอเธอใกล้จะจับมันได้ มันก็จะตกใจกลัวและวิ่งหนีเข้าป่าที่หนาทึบไปทันที     เพจ Speranza Animal Rescue บนเฟซบุ๊กจึงมาช่วยโพสต์เรื่องของเจ้า Carla เพื่อให้ชาวเมืองช่วยกันบอกว่ามันวิ่งหนีไปอยู่ตรงไหนบ้าง โดยเขียนแคปชันเอาไว้ว่า “รู้ไหมว่าน้องหมาที่ถูกเจ้าของทิ้งมันทำอะไร? ก็นั่งและเฝ้ามอง รอให้ครอบครัวมารับมันกลับบ้านไงล่ะ” หลังจากช่วยกันค้นหาอยู่ถึง 3 วัน ในวันพฤหัสบดี Janine ก็ได้ Live ถ่ายทอดสดลงบนเพจ Speranza Animal Rescue ภาพในไลฟ์เป็นหน้ารถฝั่งคนขับ เธอเล่าไปพลางขับรถไปพลางว่าเธอพยายามตามจับเจ้าหมาตัวนี้อย่างยากลำบากแค่ไหน และอยู่ๆ กล้องก็หมุนไปยังฝั่งที่นั่งข้างคนขับ เผยให้เห็นน้องหมา…

  • หญิงสาวผู้เป็นต้นแบบของภาพวาดหญิงแกร่ง สัญลักษณ์แห่งสิทธิสตรี เสียชีวิตด้วยวัย 96 ปี

    หญิงสาวผู้เป็นต้นแบบของภาพวาดหญิงแกร่ง สัญลักษณ์แห่งสิทธิสตรี เสียชีวิตด้วยวัย 96 ปี

      ภาพที่เห็นอยู่ด้านบนนี้ หลายคนคงจะรู้จักและคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นภาพของหญิงสาวโรงงานคนหนึ่งขณะที่พับแขนเสื้อขึ้นก่อนจะลงมือทำงาน ถูกถ่ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับตัวจริงของผู้หญิงในภาพคือ Naomi Parker Fraley เธอเป็นหญิงสาวที่มีภาพลักษณ์โดดเด่น จนถูกใช้เป็นต้นแบบของภาพวาดหญิงแกร่งและเป็นสัญลักษณ์แห่งสิทธิสตรี แต่น่าเศร้าที่ต้องบอกข่าวร้ายว่าเธอได้จากโลกนี้ไปแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อน…     Fraley ในวัย 96 ปี จากรัฐโอคลาโฮมา ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 20 มกราคม ปี 2018 ที่เมือง Longview รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปตอนที่หญิงสาวอายุ 20 ปี เมื่อช่างภาพคนหนึ่งเดินทางไปยัง Naval Air Station และได้ถ่ายรูป Fraley ขณะที่ทำงานในร้านเครื่องจักร เธอโพกหัวด้วยผ้าลายจุดและสวมชุดสีฟ้า     ภาพเพียงภาพเดียว ทำให้หญิงสาวตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลกจนทุกวันนี้ และเมื่อเธอจากไปผู้คนจึงโพสต์ข้อความเพื่อไว้อาลัยให้กับเธอ อย่างเช่นโพสต์นี้   ขอให้เขาไปสู่สุขคตินะ ฉันมีโปสเตอร์ภาพของเธออยู่ในออฟฟิศด้วย   ผู้หญิงบางคนบอกว่าต้องขอบคุณเธอที่เป็นแรงบันดาลในในการเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียมกันทางเพศ   บางคนโพสต์โปสเตอร์ ‘We Can Do It’…

  • Snoop Dogg สูบกัญชาระหว่างสตรีมเกม แต่ไม่โดนแบน เพราะไม่ผิดกฎในแคลิฟอร์เนีย

    Snoop Dogg สูบกัญชาระหว่างสตรีมเกม แต่ไม่โดนแบน เพราะไม่ผิดกฎในแคลิฟอร์เนีย

    สำหรับใครที่ติดตามวงการเพลงแร็ป คงจะคุ้นเคยกับชื่อของแรปเปอร์ตาปรืออย่าง Snoop Dogg กันเป็นอย่างดี และนอกจากเป็นนักร้องแล้วตัวเค้าเองก็ยังเป็นเกมเมอร์อีกด้วยนะเออ!! แต่ว่าประเด็นที่ทำให้ป๋าของเรากลายเป็นที่พูดถึงในวงการสตรีมเกมนั้นกลับไม่ใช่ฝีมือหรือความเทพของแก แต่เป็นความชอบส่วนตัวของพี่แกอย่าง ‘การสูบกัญชา’ นั่นเอง     ล่าสุดก็ได้มีชาวเน็ตหลายคนที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับกฎของทางแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Twitch หลังจากที่เห็น Snoop ของเราดูดปุ๊นระหว่างการสตรีมเกมซะอย่างงั้น แถมช่องของเขาก็ยังไม่ถูกทาง Twitch แบนอีกด้วย!? โดยกฎที่เขียนระบุไว้ในไกด์ไลน์ของทาง Twitch นั้นผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องเคารพกฎหมายของท้องถิ่น กฎหมายระดับประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมดที่มีการบังคับใช้ และไม่อนุญาติให้มีเนื้อหาที่เชิญชวนให้กระทำผิดกฎหมาย     นอกจากนี้กฎดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่าผู้เล่นจะต้องไม่มีพฤติกรรมที่ทำร้ายตัวเอง อย่างเช่นการฆ่าตัวตาย หรือเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายอย่างเช่นยาเสพย์ติดและการดื่มสุรามากเกินเหตุ รวมถึงการกระทำอื่นๆ ที่อยู่ในข่ายนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามงานนี้ป๋า Snoop ของเราก็รอดตัวไปได้ เพราะทางรัฐแคลิฟอร์เนียร์ได้ประกาศให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายและสามารถซื้อขายได้ผ่านเภสัชกรเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งการสตรีมเกมในครั้งนี้ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมานั่นเอง     ทางด้านตัวแทนของ Twitch ได้ให้ระบุกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีของ Snoop Dogg ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นไม่ได้ผิดกฎของแพลตฟอร์มแต่อย่างใด เพราะรัฐแคลิฟอร์เนียร์ได้ประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายแล้ว “เพราะว่าในแต่ละท้องถิ่นนั้นมีกฎหมายที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราจึงสนับสนุนให้ผู้คนทำตามกฎของท้องถิ่นตัวเอง” ตัวแทนจากทาง Twitch ให้สัมภาษณ์กับ Polygon…

  • คลิปสาวน้อยร้องไห้ซะน่าสงสาร สักพักยิ้มน่ารักออกมาอีก ละลายหัวใจคนดูถล่มทลาย

    คลิปสาวน้อยร้องไห้ซะน่าสงสาร สักพักยิ้มน่ารักออกมาอีก ละลายหัวใจคนดูถล่มทลาย

    เราเชื่อว่าคนแทบทั้งโลกคงจะแพ้ในความน่ารักของเด็กเล็กแน่ๆ ก็พอมองเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์แล้วเห็นพวกเขายิ้มหรือเล่นซนทีไรเราก็อดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ทุกที แต่คงจะหาใครมาเทียบชั้นความน่ารักกับสาวน้อยจากจีนคนนี้ได้ยาก เพราะไม่ว่าเธอจะทำอะไรเธอก็ดูน่ารักไปเสียทุกอิริยาบถเลย ตอนนี้คลิปวิดีโอของเธอกำลังกลายเป็นกระแสไวรัลร้อนแรงในหมู่ชาวเน็ตด้วย ชาวเน็ตที่ได้ดูคลิปของเธอต่างก็ยอมยกใจให้กับดวงตากลมโตที่ชวนมอง และแก้มตุ้ยนุ้ยน่ารักน่าหยิกของเธอกันทั้งนั้น ตอนนี้คลิปวิดีโอของเธอมีคนดูไปแล้วเกือบ 6 ล้านครั้ง และมียอดแชร์สูงถึง 60,000 ครั้งเลยทีเดียว   ดูตอนที่เธอร้องไห้สิ ใครจะใจแข็งไม่สงสารเธอได้    แต่ความน่ารักของเธอยังไม่จบเท่านั้น จากที่เธอร้องไห้ในตอนแรก อยู่ดีๆ เธอก็เผยยิ้มกระชากใจชาวเน็ตแบบไม่ทันตั้งตัว ยิ้มหวานอะไรขนาดนั้นหนูน้อย อรั๊ยยยย   นอกจากคลิปร้องไห้และหัวเราะของน้องจะโด่งดังมากแล้ว คลิปมุมน่ารักน่าหยิกอื่นๆ ของเธอก็ขโมยหัวใจชาวเน็ตได้เยอะไม่แพ้กันเลย ดูแก้มอ้วนๆ ของเธอสิ เห็นแล้วอยากจะยื่นมือเข้าไปบีบในจอเลย   ขอแค่ได้มองแก้มตุ้ยนุ้ยที่เหมือนกับกระรอกของเธอ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนใจแข็งแค่ไหนก็ต้องยอมยกใจให้กับเธอทั้งนั้น โง้ยยยย   ตอนน้องยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ก็ยังดูน่ารักเลยอ่า เห็นแล้วใจคอไม่ดี จะตายเอาให้ได้เลย โฮกกก    ถ้าใครคิดว่าความน่ารักเพียงเท่านี้ยังไม่พอ ก็ลองเข้าไปดูวิดีโอตัวเต็มอันนี้ดูสิ รับรองตกหลุมรักแน่นอน   แพ้เด็กอ่า ยิ่งมองยิ่งน่าร๊ากกก ที่มา: gfycat, 9GAG Girly

  • คุณแม่ใช้ ‘หัวใจ’ ดวงเล็กๆ กับความหมายอันแสนล้ำค่า เพื่อช่วยลูกให้พ้นจากโรคซึมเศร้า

    คุณแม่ใช้ ‘หัวใจ’ ดวงเล็กๆ กับความหมายอันแสนล้ำค่า เพื่อช่วยลูกให้พ้นจากโรคซึมเศร้า

    ด้วยสภาพสังคม ปัญหาชีวิต และความเจ็บป่วย อาจทำให้หลายคนกลายเป็นโรคซึมเศร้า และจะยิ่งมีอาการแย่ลงหากไม่มีใครเข้าใจ ดังนั้นบุคคลรอบข้างจึงถือเป็นกำลังใจสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยต่อสู้และผ่านภาวะนี้ไปได้ เหมือนกับที่ Liz Petrone ทำเพื่อลูกของเธอ     Liz เป็นเจ้าของ Lizpetrone.com ซึ่งเป็นบล็อกที่เธอใช้เขียนบอกเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของตัวเองที่อาศัยอยู่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอไม่เคยอายที่จะแบ่งปันเรื่องราวของตัวเอง เธอมักจะพูดถึงครอบครัวบ่อยๆ โดยเฉพาะลูกๆ ของเธอ แต่โพสต์ล่าสุดนี้ดูเหมือนจะได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก     Liz สร้างบล็อกขึ้นมาเพื่อแบ่งปันชีวิตของตัวเองและครอบครัวอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเธอเริ่มโพสต์เกี่ยวกับลูกชายของเธอ Luca เมื่อผู้อ่านได้อ่านโพสต์ล่าสุดของเธอ พวกเขาจึงได้เข้าใจว่าทำไมเธอถึงวาดหัวใจดวงเล็กๆ ที่มือของลูกชาย และมันเป็นสิ่งที่ไม่อาจพาความรู้สึกออกจากจุดนั้นได้     มันคือเรื่องของการต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิต Liz เผยว่าเธอเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอดลูกคนที่ 3 ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวเธอมักจะพูดถึงธรรมชาติของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด     Liz บอกว่า “เราจำเป็นต้องพูดแม้ว่าเราจะไม่ต้องการ แม้ว่ามันจะไม่น่าดู หรือแม้ว่ามันเรื่องน่าอับอายและอึดอัดก็ตาม เพราะ 1 ใน 8 ของผู้หญิงต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้าความวิตกกังวลหลังคลอด” และเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงวาดหัวใจดวงน้อยที่มือของลูก เพราะคนที่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้านั้นไม่ใช่เธอแต่เป็นลูกน้อยของเธอ Luca     ในฐานะผู้ที่เขียนบอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาทางจิตเป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ทำให้ Liz สังเกตเห็นความผิดปกติของ Luca…

  • ศิลปินชาวอินเดียใช้ผมของมนุษย์ สร้างภาพวาดสุดงดงามออกมา ราวกับวาดด้วยดินสอ

    ศิลปินชาวอินเดียใช้ผมของมนุษย์ สร้างภาพวาดสุดงดงามออกมา ราวกับวาดด้วยดินสอ

    เราอาจจะเคยเห็นศิลปินบางคนสร้างงานศิลปะจากเส้นผม แต่รู้มั้ยว่าเบื้องหลังของการทำไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะการนำเส้นผมมาเรียงร้อยเป็นภาพคนหรือสัตว์ที่มีความละเอียดสูง อย่างไรก็ตามศิลปินหนุ่มชาวอินเดีย Midhun R.R ได้พัฒนาเทคนิคที่ช่วยให้เขาจัดการกับเส้นผมนับพันเส้นในการสร้างงานศิลปะ จนออกมาน่าประทับใจมาก     วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับ Midhun ในการสร้างงานศิลปะจากเส้นผมคือ เส้นผมจำนวนหนึ่ง เข็มด้ามยาวเพื่อใช้สำหรับจัดเรียงเส้นผม และแน่นอนต้องใช้กระดาษสีขาวเพื่อที่จะมองเห็นได้ชัดเจน     จากคลิปวิดีโอข้างบนที่ถูกโพสต์ลงในยูทูบ อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ Midhun ยอมรับว่าการจัดเรียงเส้นผมตามรูปที่ต้องการนั้น มันยากกว่าที่คิดไว้มาก เขาบอกว่าเพื่อให้การจัดการเส้นผมง่ายมากขึ้น เขาต้องตัดเส้นผมให้มีความยาว-สั้นที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับภาพที่เขาต้องการสร้างและขนาดของกระดาษ     เมื่อศิลปินสร้างงานจนเสร็จและพอใจกับงานชิ้นนั้นแล้ว เขาจะเอากระจก 2 แผ่นมาประกบทับไว้ เพื่อที่จะสามารถเก็บรักษาได้ในระยะยาว โดยไม่ทำลายรายละเอียดของภาพ     Midhun เขียนในบล็อกของเขาว่า “ผมได้พัฒนารูปแบบศิลปะของตัวเอง ซึ่งเป็นงานที่มีเส้นผมเป็นองค์ประกอบเพียงอย่างเดียว” “จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมว่าการจัดการเส้นผมให้เกิดเป็นภาพที่เราต้องการนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างไรก็ตาม ผมพยายามหาเทคนิคใหม่ๆ “ “ผมที่ถูกนำมาใช้งานศิลปะนี้เป็นผมที่ใช้สำหรับการบำบัดทางเคมี ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการติดเชื้อบนผิวหนังและเกิดภูมิแพ้ ดังนั้นสิ่งสำคัญคัญต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง”     อย่างไรก็ตาม Midhun เขามีประสบการณ์และคลุกคลีอยู่กับเส้นผมมานานหลายปีแล้ว ดังนั้นจึงไม่เกิดอาการขั้นต้น แต่หากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเราๆ คิดจะลองทำบ้างควรสวมถุงมือป้องกันอย่างที่ศิลปินแนะนำไปนะคะ   ที่มา odditycentral

  • หนุ่มญี่ปุ่นรอว่าที่เจ้าสาวป่วยโคม่ากว่า 8 ปี ในที่สุดเธอก็ตื่นมาราวปาฏิหาริย์ และได้แต่งงานกัน

    หนุ่มญี่ปุ่นรอว่าที่เจ้าสาวป่วยโคม่ากว่า 8 ปี ในที่สุดเธอก็ตื่นมาราวปาฏิหาริย์ และได้แต่งงานกัน

    ในโลกนี้มีคู่รักหลายคู่ที่ต้องพรากจากกันไปด้วยโรคร้าย ในหลายกรณีก็ไม่ได้ถึงกับตายจากกันไปเสียทีเดียว แต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็นอนเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิงนิทราไม่สามารถพูดคุยกันต่อไปได้ ชายญี่ปุ่นคนนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าความรักของเขานั้นเป็นสิ่งที่มั่นคง ด้วยการรอคอยแฟนสาวที่นอนโคม่าอยู่นานถึง 8 ปีเต็ม ฟ้าคงจะเห็นถึงความรักแท้จริงของชายหนุ่มจึงได้สร้างปาฏิหาริย์ให้หญิงสาวหายดีดังเดิม จนในที่สุดทั้งคู่ได้แต่งงานกันตามที่ตั้งใจไว้   Nashiji Hisashi และแฟนสาว Makahara Mai   Nakashiji Hisashi และ Nakahara Mai รู้จักกันเมื่อปี 2005 พวกเขาคบกันในฐานะคู่รักและรักกันดีเรื่อยมา พอคบกันได้ 2 ปีทั้งคู่ก็มั่นใจแล้วว่านี่แหละคือคู่ชีวิตของตัวเอง จึงได้วางแผนแต่งงานในเดือนมีนาคม 2007 ทว่า 3 เดือนก่อนงานแต่ง Mai ก็เริ่มมีอาการเจ็บป่วยอย่างรุนแรง แฟนหนุ่มจึงพาเธอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที แต่รักษาตัวได้เพียงแค่ 3 วันอาการของเธอก็ทรุดหนักอย่างเห็นได้ชัด      หลังจากนั้นเธอก็เกิดอาการหัวใจวาย ทางโรงพยาบาลรีบส่งตัวเธอไปรักษายังโรงพยาบาลใหญ่อีกแห่งทันที แม้ว่าแพทย์จะช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ได้ แต่เธอก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไป      แม้ว่าหญิงสาวจะไม่สามารถขยับร่างกายได้แล้ว มันก็ไม่ได้มีผลต่อความรักของชายหนุ่มที่มีต่อเธอเลยแม้แต่น้อย เขายังคงเข้ามาเยี่ยมเธอทุกวัน วันละ 3 ชั่วโมงก่อนไปทำงาน และก็ใช้เวลาทั้งวันหยุดอยู่เป็นกำลังใจให้เธอด้วย…

  • เมื่อนูเทลล่าลดราคา ทำให้ผู้คนแย่งกันซื้อแบบหน้ามืดตามัว แถมมีคนได้รับบาดเจ็บด้วย

    เมื่อนูเทลล่าลดราคา ทำให้ผู้คนแย่งกันซื้อแบบหน้ามืดตามัว แถมมีคนได้รับบาดเจ็บด้วย

    นูเทลล่า ช็อกโกแลตแสนอร่อยที่ไม่ว่าใครๆ ก็ต่างตกหลุมรักในรสชาติของมัน นูเทลล่าเป็นที่นิยมถูกปากถูกใจของมนุษย์ทั่วโลกที่ไม่ว่าจะเอาไปกินกับอะไรก็อร่อยไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง ครัวซองค์ เครป หรือจะกินเปล่าๆ ก็อร่อยเพลินเกินห้ามใจ แต่ใครจะรู้ว่าเจ้านูเทลล่าเนี่ยจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนได้รับบาดเจ็บเพราะความอร่อยของมันได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ซูเปอร์มาเก็ต Intermarché ที่ประเทศฝรั่งเศส มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาช็อกโกแลตนูเทลล่าถึง 70% ซึ่งโปรโมชั่นนี้ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2018 ที่ผ่านมาหมาดๆ     เมื่อของอร่อยลดราคาจนถูกขนาดนี้ มีหรือที่เหล่าแม่บ้านจะไม่คว้าไว้ ทันทีที่มีการประกาศลดราคา ทำให้ผู้คนต่างกรูเข้าไปยื้อแย่งช็อกโกแลตยี่ห้อนี้มาครอบครอง เหตุการณ์นี้ได้มีคนบันทึกคลิปวิดีโอนี้ไว้แล้วนำมาเผยแพร่ ในคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่าเหล่าแม่บ้านที่เข้าไปยื้อแย่งที่จะซื้อนูเทลล่า มีหญิงคนหนึ่งใช้กล่องตีเข้าที่ศีรษะของหญิงอีกคนหนึ่ง และพนักงานที่จะเข้าไปควบคุมสถานการณ์ก็พลอยโดนลูกหลงไปด้วย     ช็อกโกแลตนูเทลล่าที่ทุกคนยื้อแย่งกันซื้อนั้น ลดราคาจากประมาณ 175 บาทเหลือเพียงประมาณ 54 บาทต่อกระปุก ทำให้ทุกคนที่หลงใหลในรสชาติต่างมายื้อแย่งกันเหมือนฝูงซอมบี้ และหมดลงภายใน 15 นาทีที่วางจำหน่าย     การลดราคาของนูเทลล่าทั่วฝรั่งเศสกำลังเป็นปัญหา บางร้านได้ป้องกันการแย่งกันซื้อของลูกค้าด้วยการจำกัดให้ซื้อได้เพียงคนละ 3 กระปุกเท่านั้น เพื่อให้สินค้าได้กระจายอย่างทั่วถึง ผู้บริหารของนูเทลล่าออกมากล่าวด้วยความภูมิใจว่า ความอร่อยของนูเทลล่าที่โด่งดังไปทั่วโลก การันตีด้วยยอดการผลิต 365 ล้านกิโลกรัม มากกว่าน้ำหนักของตึกเอ็มไพร์สเตทที่โด่งดังซะอีก  …

  • ศิลปินถ่ายภาพ “หน้าต่าง” บานเดิมมาตลอด 12 ปี เห็นการเปลี่ยนแปลงจนถึงวาระสุดท้าย

    ศิลปินถ่ายภาพ “หน้าต่าง” บานเดิมมาตลอด 12 ปี เห็นการเปลี่ยนแปลงจนถึงวาระสุดท้าย

    ในโลกนี้นั้นไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากความเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างย่อมเหี่ยวแห้ง โรยรา และเสื่อมสลายไป ด้วยเหตุนี้ Alper Yesiltas นักกฎหมายและช่างภาพจึงถ่ายทอดความเปลี่ยนของสรรพสิ่งผ่านหน้าต่างใบเดิม ตลอด 12 ปี จนกระทั่งวาระสุดท้ายของมัน     Alper อาศัยอยู่ในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นเวลา 24 ปี และเห็นหน้าต่างใบหนึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องของเขาในมุมเดิมๆ ทุกวัน หากหน้าต่างบานนี้เป็นคน มันก็คือคนที่ Alper เห็นทุกวันและอาจจะกลายเป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงเริ่มถ่ายรูปหน้าต่างบานนี้ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันของแต่ละปี     ในช่วงเวลานั้นเขาได้นำภาพบางส่วนที่ถ่ายโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ตด้วย จนได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก บางสำนักพิมพ์ได้นำภาพของเขาไปขึ้นปกหนังสือ และมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกถูกจัดแสดงในงานนิทรรศการ กระทั่งวันหนึ่ง เจ้าของอาคารตัดสินใจจะรื้อถอนอาคารเพื่อสร้างใหม่ และในระหว่างการรื้อถอนนั้น Alper ได้มีโอกาสถ่ายภาพสุดท้ายของหน้าต่างบานนั้นด้วย นั่นคือภาพสุดท้ายของหน้าต่างที่เขาเห็นทุกวัน… ติดตามผลงานภาพถ่ายอื่นๆ ของ Alper ได้ที่อินสตาแกรม alperyesiltas     ศิลปินได้เห็นหน้าต่างบานเดิมมา 24 ปี และได้ถ่ายรูปมันตลอด 12 ปี . . . . . . .…

  • คนในครอบครัวพากันอึ้ง เด็กสองคนถูกสลับตัวกันไปตั้งแต่แบเบาะ มารู้ตัวก็อีก 39 ปีให้หลังแล้ว

    คนในครอบครัวพากันอึ้ง เด็กสองคนถูกสลับตัวกันไปตั้งแต่แบเบาะ มารู้ตัวก็อีก 39 ปีให้หลังแล้ว

    ตอนเราเป็นเด็กเวลาที่เราทะเลาะกับพ่อแม่ ด้วยความน้อยอกน้อยใจ เราก็ชอบแอบคิดว่าเราเป็นลูกแท้ๆ ของพวกเขาหรือเปล่า? ทำไมไม่เข้าใจเราเลย แต่มันก็เป็นแค่ความคิดน้อยใจของเด็กเท่านั้นไม่ได้เป็นความจริงหรอก แต่สำหรับสาว Tatyana สาวจากประเทศมอลโดวา เมื่อตอนเด็กเธอก็เคยคิดว่าตัวเองไม่ใช่ลูกของพ่อแม่เหมือนกัน พ่อแม่ของเธอก็มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ทว่าตอนเธออายุ 39 ปีกลับได้พบกับสาวอีกคนที่สลับตัวไปอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของเธอเสียนี่     ย้อนไปเมื่อปี 1978 Vera Lashtur และสามี Nikolay มีลูกสาวคนใหม่ เธอตั้งชื่อเด็กสาวว่า Tatyana แต่ทารกสาวกลับร้องไห้บ่อยกว่าทารกคนอื่นเสียจนผิดสังเกต และเวลาแม่ของเธอให้นมเธอก็มักจะต่อต้านเสมอ Vera ได้แต่หวังว่าพอเธอโตขึ้นปัญหาพวกนี้ก็จะผ่านไป แต่แม้จะโตเป็นสาวน้อยแล้ว Tatyana ก็ยังคงเป็นคนเจ้าอารมณ์และไม่เชื่อฟังพ่อแม่อยู่ดี เพราะว่าเธอมักจะได้ยินผู้ใหญ่ลือกันว่าเธอหน้าตาไม่เหมือนพ่อแม่ คงจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของครอบครัวนี้เป็นแน่ เจ้าตัวก็แอบคิดแบบนั้นเช่นกัน แต่พ่อและแม่ของเธอไม่เคยเชื่อเรื่องนี้เลย พวกเขาเชื่อสนิทใจว่า Tatyana ต้องเป็นลูกของตัวเองไม่ผิดแน่ๆ จึงยังคงเลี้ยงเธอตามปกติ     จนเมื่อปี 1999 ครอบครัวของ Vera ตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยกัน ในตอนนั้นนั่นเองเพื่อนบ้านของเธอก็ตัดสินใจพูดคุยกับเธอถึงเรื่องสำคัญก่อนจะจากกันไป พวกเขาเล่าว่าเขารู้จักอีกครอบครัวหนึ่งที่ให้กำเนิดลูกวันเดียวกันกับที่ Tatyana เกิดมา ทารกของบ้านนั้นก็ร้องไห้อยู่เป็นประจำและปฎิเสธแม่ของตัวเองตอนให้นมเหมือนกัน ตอนนั้นเองที่ Vera เริ่มเชื่อว่าลูกของพวกเธออาจจะสลับกัน…

  • 6 ดาราเกาหลี กับเหตุผลส่วนตัวที่ว่า ‘ปฏิเสธการใช้สื่อโซเชียล’ ไม่ใช่กลัวแม่ว่าแต่มากกว่านั้น

    6 ดาราเกาหลี กับเหตุผลส่วนตัวที่ว่า ‘ปฏิเสธการใช้สื่อโซเชียล’ ไม่ใช่กลัวแม่ว่าแต่มากกว่านั้น

    เวลาที่เราปลื้มศิลปินคนไหนมากๆ เรามักจะติดตามชีวิตส่วนตัวของพวกเขาผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และช่องอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้รู้จักและใกล้ชิดให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งทางศิลปินเองก็สามารถใช้ช่องทางนี้ในการโปรโมตผลงานและกระชับความสัมพันธ์กับแฟนคลับได้ตลอดเวลา แต่สังเกตมั้ยว่าดาราบางคนโดยเฉพาะศิลปินเกาหลีมักจะปฏิเสธการใช้สื่อโซเชียล แน่นอนว่าพวกเขาคงจะมีเหตุผลส่วนตัว ว่าแต่เหตุผลนั้นจะเป็นอะไรนะ?   1. Kang Dong Won เขาให้เหตุผลว่า “ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพูดอะไรมากกับคนที่ไม่รู้จัก ทุกคนมีบุคลิกที่แตกต่างกัน ผมเลยไม่รู้ว่าจะสามารถสื่อสารกับพวกเขาได้ดีผ่านทางโซเชียลหรือเปล่า”   2. Gong Yoo คุณสามีแห่งชาติคนนี้บอกว่า “ถ้าคุณเปิดเผยชีวิตส่วนตัวผ่านโซเชียลมีเดีย คุณอาจจะได้บางสิ่งกลับมาจากมัน แต่คุณก็จะสูญเสียบางอย่างไปเช่นกัน ดังนั้นผมก็เลยพยายามที่จะไม่เปิดเผยชีวิตส่วนตัวของตัวเอง”   3. Ha Jung Woo โอปป้าพูดเพียงสั้นๆ ว่า “ผมไม่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้” อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่า อาจจะเริ่มใช้สื่อโซเชียลเมื่ออายุ 50 ปี   4. Song Joong Ki สามี (ของคนอื่น) บอกว่า “เรื่องเทคโนโลยีของผมค่อนข้างแย่ ผมใช้ไม่ค่อยเป็น ก็เลยไม่ใช้มันซะเลยจะดีกว่า ผมแค่ใช้ไม่เป็นจริงๆ นะ” ….โถๆ มามะ จะสอนให้  …

  • ‘บาปหนา’ น้องสาวปั่นหัวเอาคืนพี่ หลังพี่สาวจ้ำจี้กับปั๋ว ครางจนเสียงดังกังวาลไปทั่วบ้าน

    ‘บาปหนา’ น้องสาวปั่นหัวเอาคืนพี่ หลังพี่สาวจ้ำจี้กับปั๋ว ครางจนเสียงดังกังวาลไปทั่วบ้าน

    บางทีระหว่างที่เรากำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะหรือว่า ‘มีเซ็กส์’ อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์อยู่นั้น ก็อาจจะส่งเสียงดังออกมาโดยที่เราก็ไม่รู้ตัว ซึ่งเสียงที่ว่านี้ มันอาจเป็นเสียงที่กระเส่าหรือโหยหวนจนเกินคำบรรยาย จนใครบางคนที่ได้ฟังอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่จะต้องมาคอยฟังเสียงเหล่านี้เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน และหนูน้อยวัย 11 ปีคนนี้ก็เป็นอีกคนเช่นเดียวกัน ที่ดูเหมือนจะไม่ชอบเสียงอันซาบซ่านที่ว่านี้ หรืออาจจะใช้คำว่าเกลียดเลยก็ยังได้ เพราะหลังจากที่คืนก่อนหน้าที่พี่สาวของเธอร่วมรักกับแฟนหนุ่มอย่างเร่าร้อน จนส่งเสียงดังไปทั่วทั้งบ้าน   ช่างเป็นคนบาปที่สกปรกจริงๆ เลยนะขุ่นพรี่   เธอก็คิดหาวิธีที่จะแก้เผ็ดพี่สาวของเธอด้วยการทำอะไรสักอย่าง และในที่สุดแล้วเธอก็หาวิธีเอาคืนพี่สาวของเธอได้ ด้วยการติดโน๊ตน่ารักๆ แต่เจ็บแสบเอาไว้ทั่วทั้งบ้าน จนกลายเป็นเรื่องสุดฮา ที่พี่สาวของเธอต้องนำมาแชร์ให้กับชาวเน็ตได้มีรอยยิ้มกับความไร้เดียงสาของน้องสาวของเธอกันเลยทีเดียว   น้องสาววัย 11 ขวบของฉัน บังเอิญได้ยินเสียงฉันกับแฟนหนุ่มกำลังสอดด้ายเข้าเข็มกันเมื่อคืน ในวันนี้พอเราออกไปข้างนอก แล้วกลับมาบ้านก็พบกับกระดาษเหล่านี้อยู่เต็มไปหมดเลย   ไม่กะจะให้ส่องหน้าส่องตากันบ้างละ   โดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา จากผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า @SalsaWater เมื่อเธอได้โพสต์ภาพสิ่งของต่างๆ ที่มีโน๊ตของน้องสาวเธอติดเอาไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเขียนคำว่า ‘บาป’ เอาไว้   มีแทบจะทุกหลืบของบ้าน   ทว่าจุดที่พีคที่สุดที่ทำให้สาวคนนี้ ตัดสินใจนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ก็เพราะว่า โน๊ตของน้องสาวที่ว่านี้ มันมีอยู่ในแทบจะทุกซอกมุมของบ้าน ไม่ว่าจะหยิบจะจับอะไรก็เป็นอันต้องเจอกระดาษใบนี้เต็มไปหมด   คงต้องให้พระเจ้าลงมาโปรดคนสกปรกอย่างพี่แล้วละมั้งเนี่ย  …

  • คุณปู่ผู้สูญเสียบ้านไปจากไฟไหม้ กอดเจ้าเหมียวร่ำไห้ ตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือ พร้อมบ้านใหม่

    คุณปู่ผู้สูญเสียบ้านไปจากไฟไหม้ กอดเจ้าเหมียวร่ำไห้ ตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือ พร้อมบ้านใหม่

    เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2018 #เหมียวขี้ส่อง ได้นำเสนอเรื่องราวของคุณปู่ Ali Meşe ที่สามารถหนีรอดออกมาจากอุบัติเหตุเพลิงไหม้ในเขตจังหวัด Ordu ประเทศตุรกี แม้ว่าเขาและทุกคนในครอบครัวจะสามารถหนีรอดออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่เขาก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะพวกเขาต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน สมบัติอันล้ำค่าที่เหลืออยู่เพียงอย่างเดียวของพวกเขาคือน้องแมวน้อย และนั่นจึงทำให้เขาเลือกที่จะหันไปรับไออุ่นจากมันไว้ในอ้อมกอด   คุณปู่ตั้งใจจะจุดเตาไฟ แต่กลับเกิดความผิดพลาดจนกลายเป็นเหตุเพลิงไหม้   ด้วยความเสียใจจากการสูญเสียบ้านของตัวเอง ทำให้คุณปู่หันไปรับไออุ่นจากเจ้าเหมียวตัวน้อยที่เขาเลี้ยงไว้ ซึ่งเหลือรอดมาเพียงแค่ตัวเดียว   คลิปการโอบกอดกันของคุณปู่กับเจ้าเหมียวเป็นการแสดงถึงความอบอุ่นที่ได้รับในยามที่เราต้องเจอกับปัญหา และกลายเป็นกระแสให้กับโลกโซเชียล มีชาวเน็ตเข้ามากดไลก์ มากกว่า 800,000 คน   คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอ้อมกอดของคุณปู่ที่มีให้กับเจ้าเหมียว    หลายๆ คนที่ได้เห็นคลิปหรือรับรู้เรื่องราวของคุณปู่คนนี้อาจกำลังสงสัยว่า หลังจากนั้นคุณปู่และเจ้าเหมียวเป็นตายร้ายดียังไงกันบ้าง? บ้านไฟไหม้หมดทั้งหลังแล้วพวกเขาจะไปอยู่กันที่ไหน?   หลังจากเรื่องราวสะเทือนใจ ตอนนี้คุณปู่และเจ้าเหมียวจะเป็นอย่างไร้กันบ้างนะ? .   เพื่อคลายความสงสัย เว็บไซต์ Love Meow ก็ได้ออกมารายงานเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2018 ว่า ในตอนที่คุณปู่และเจ้าเหมียวกำลังได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนั้นพวกเขาก็ได้รับข่าวดีและการช่วยเหลืออันแสนประทับใจ เจ้าหน้าที่จากกลุ่ม…

  • ประเทศจีนแบนเพลงแรป เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่หยาบคาย

    ประเทศจีนแบนเพลงแรป เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่หยาบคาย

    พวกเราบางคนอาจเคยรู้กันมาก่อนแล้วว่า ใน ประเทศจีน นั้นจะมีการควบคุมและสั่งห้ามสิ่งต่างๆ เอาไว้หลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาของภาพยนตร์ที่จะถูกนำเข้าไปฉาย หรือแม้แต่การสั่งห้ามเครื่องเล่นเกมคอนโซลทุกชนิดมาตลอดจนถึงปี 2014 จากบรรดาข้อห้ามมากมายของพวกเขานั้น ในวันนี้รัฐบาลจีนตัดสินใจออกมาประกาศผ่านทางสื่อต่างๆ ในประเทศว่า พวกเขาจำเป็นต้องแบน เพลงแรป ไม่ให้มีในโทรทัศน์หรือในวิทยุอีกต่อไป เนื่องจากเนื้อหาของเพลงที่มีความหยาบคายมากเกินไป     การประกาศนี้กลายเป็นที่จับตามองของคนทั้งประเทศ เพราะเพลงแรปในประเทศจีนก็ถือว่าได้รับความนิยมอยู่ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ทางการบอกว่า “พวกเราจะทำการสั่งห้ามดาราคนดังที่มีรอยสัก วัฒนธรรมฮิปฮอป (รวมถึงการแรป) และเนื้อหาแปลกๆ ทุกอย่าง ไม่ให้มีการเผยแพร่ในโทรทัศน์หรือวิทยุอีกต่อไป” พวกเขาให้เหตุผลว่า เพลงแรปนั้นมีเนื้อหาที่หยาบคาย มีการพูดถึงเรื่องการใช้สารเสพติด เนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศและการเหยียดเพศตรงข้าม     ข้อห้ามใหม่ทำให้เหล่าแรปเปอร์ทุกคนต้องเจอกับปัญหาที่ว่า ผลงานของตัวเองไม่สามารถถูกเผยแพร่ออกไปทางทีวีหรือวิทยุได้อีกต่อไป ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ PG One แรปเปอร์ชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เขาก็จะไม่ได้โผล่ออกมาในทีวีให้ทุกคนได้เห็นเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว   แรปเปอร์ชื่อดังในจีน PG One    ในขณะที่มีการแบนแรปเปอร์ในประเทศของตัวเอง ทางรัฐบาลก็ยังแบนเพลงป็อปที่มีท่อนแรปใส่เข้าไปอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับไม่มีการประกาศออกมาว่าจะแบนเหล่าดาราฮิปฮอป แรปเปอร์ต่างประเทศที่นำผลงานเข้ามา อย่างไรก็ตาม ผู้คนอีกฝั่งหนึ่งมองว่า เนื้อหาที่หยาบคายเป็นเพียงของอ้างของรัฐบาล เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาสั่งห้ามเพราะเนื้อหาของเพลงมีการพูดถึงการต่อต้านความคิดระบบเผด็จการ ทำให้คนใหญ่คนโตของประเทศรู้สึกไม่ค่อยพอใจกันซักเท่าไหร่ การควบคุมสื่อภายในประเทศจีน…

  • หญิงชราชาวเกาหลีใต้ถูกเพื่อนของลูกฆาตกรรม คนร้ายสารภาพ “ผู้จ้างวาน” คือลูกของเหยื่อเอง

    หญิงชราชาวเกาหลีใต้ถูกเพื่อนของลูกฆาตกรรม คนร้ายสารภาพ “ผู้จ้างวาน” คือลูกของเหยื่อเอง

    ในตอนนี้ประเทศเกาหลีใต้เกิดเหตุน่าสลดใจ จนชาวเน็ตต่างหยิบประเด็นนี้มาวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ โดยชายคนหนึ่งได้ว่าจ้างเพื่อนของเขาให้ไปฆ่าแม่วัยแก่ของตัวเอง และยังไม่ยอมรับผิด ยืนกรานว่าตัวเองนั้นบริสุทธิ์ด้วย หลังจากที่ตำรวจจากจังหวัด Gyeongnam สืบสวนคดีหญิงชราถูกฆาตกรรมในบ้านพักของตนเอง เมื่อไม่นานมานี้ตำรวจจึงได้เบาะแสและเข้าจับกุมชายไม่ระบุนาม 2 คน โดยคนหนึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต และอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนของลูกชาย   เหตุฆาตรกรรมนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2017 เวลา 2.40 น. คนร้ายได้บุกเข้าไปในบ้านของหญิงแก่ และใช้อาวุธไม่มีคมทุบตีเธอจนถึงแก่ความตาย จากนั้นเขาจึงหนีออกจากที่เกิดเหตุไป จากนั้นลูกชายของหญิงแก่จึงโทรเรียกตำรวจ แล้วแจ้งว่าแม่ของตนเองถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้ว ตำรวจจึงทราบเรื่องแล้วออกสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทันที   ห้องนอนของหญิงชราที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต   การสืบสวนหาตัวคนร้ายกินเวลายาวนานเกือบ 1 เดือน แต่จากการตรวจดูกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้น ในที่สุดตำรวจก็จับตัวคนร้ายได้เสียที เบื้องต้นนั้นคนร้ายให้ปากคำว่าตนเองกระทำการคนเดียว แต่เมื่อถูกสอบสวนหนักเข้าจึงหลุดปากออกมาว่าตัวเองได้รับการจ้างวานจากลูกชายของหญิงชราผู้เคราะห์ร้ายให้ฆ่าเธอทิ้งต่างหาก เพราะเธอป่วยเป็นโรคจิตเภทและต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก ลูกชายจจึงมองว่าแม่เป็นภาระ เขาให้ข้อมูลถึงเหตุจูงใจในการฆ่าหญิงแก่ของลูกชายว่า “ลูกชายมีปัญหาเรื่องการเงินเพราะต้องคอยจ่ายค่ารักษาแม่ของเขา เขาจึงคิดที่จะฆ่าเธอโดยทำให้ดูเหมือนเธอโดนรถชนหรือถูกไฟคลอกตาย”   ตำรวจควบคุมตัวลูกชายไปยังโรงพัก   ตำรวจพบหลักฐานการโอนเงินจากบัญชีของตัวลูกชายเข้าสู่บัญชีของเพื่อนเขาอยู่หลายครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นค่าจ้างในการฆ่าแม่ของตัวเอง โดยจำนวนที่เขาโอนให้ทั้งหมดเป็นเงิน 12 ล้านวอน (ประมาณ 350,000 บาท) จากนั้นก็สืบพบอีกว่าลูกชายโอนบ้านที่แม่ของตัวเองอยู่เป็นชื่อของเขาเอง ในขณะที่เธอพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลด้วย…

  • เสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูป’ แค่เทน้ำร้อน ปล่อยทิ้งไว้ แล้วเอาตะเกียบคีบออกมาก็ได้เสื้อหล่อๆ มาใส่!!

    เสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูป’ แค่เทน้ำร้อน ปล่อยทิ้งไว้ แล้วเอาตะเกียบคีบออกมาก็ได้เสื้อหล่อๆ มาใส่!!

    ในปีนี้เป็นครบรอบปีที่ 25 ของกาแฟกระป๋อง BOSS และบะหมี่สำเร็จรูป Raoh พอดี ทั้งสองแบรนด์จึงตัดสินใจฉลองร่วมกัน แต่จะให้แจกกาแฟหรือบะหมี่สำเร็จรูปมันก็ธรรมดาเกินไป พวกเขาเลยแจกเสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูปที่ต้องต้มเหมือนบะหมี่แทน บริษัท Suntory ที่เป็นเจ้าของแบรนด์กาแฟสำเร็จรูป BOSS และบริษัท Nissin’s ที่เป็นเจ้าของแบรนด์บะหมี่สำเร็จรูป Raoh เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่คนรู้จักกันดี และปีนี้ทั้งคู่ก็ฉลองครบรอบแบรนด์สินค้าทั้งสองร่วมกันภายใต้ชื่อ BOSS x Nissin Raoh 25th Anniversary Collaborative Raoh Boss Jumper Campaign (กิจกรรมแจกเสื้อจัมเปอร์ฉลองครบรอบ 25 ปีร่วมกันของ BOSS และ Raoh)   โปสเตอร์โฆษณากิจกรรมฉลองร่วมกันของ BOSS และ Raoh   ทั้งสองบริษัทต้องการแจกของที่ระลึกที่พิเศษกว่าครั้งไหนๆ จึงได้นำเสื้อจั๊มเปอร์ที่แบรนด์ BOSS มักจะแจกให้กับผู้บริโภคตามงานต่างๆ มารวมเข้ากับแนวคิดของบะหมี่สำเร็จรูป จนเกิดเป็น เสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูป (Instant Jumper) รูปขึ้นมา เสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูปจะมอบให้กับผู้ชนะในกิจกรรมนี้เพียงผู้เดียวเท่านั้น จากนั้นผู้ชนะจะต้องนำเสื้อนี้ไปต้มน้ำร้อนเหมือนบะหมี่สำเร็จรูปเลย จึงจะสามารถนำมันไปใส่อวดได้   แพ็คเกจของเสื้อเหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไปไม่มีผิดเลย…

  • 15 วิธีที่นักวิทยาศาสตร์แนะนำ เพื่อเอาชนะ ‘ความง่วง’ ให้รอดพ้นไปได้ในแต่ละวัน

    15 วิธีที่นักวิทยาศาสตร์แนะนำ เพื่อเอาชนะ ‘ความง่วง’ ให้รอดพ้นไปได้ในแต่ละวัน

    ความง่วงระหว่างวันมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ นะครับ บางทีอาจารย์อาจจะสอนน่าเบื่อจนเราอยากหลับ หรืองานที่ทำมันอาจจะเยอะจนเราเหนื่อยล้าก็เป็นไปได้ แถมในสมัยนี้คนก็นอนกันดึกด้วย จึงมีคนมาง่วงเอาตอนช่วงกลางวันเยอะเลย แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราจะมาปล่อยให้ความง่วงขัดขวางการใช้ชีวิตประจำวันของเราไม่ได้ นักวิทยาศาสตร์จึงได้แอบกระซิบบอกวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เราไม่ง่วงระหว่างวันมาดังต่อไปนี้   1. อย่าดื่มกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังเยอะ   กาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังช่วยให้เราหายง่วงในระยะสั้นได้ก็จริง แต่การดื่มเครื่องดื่มพวกนี้จะทำให้เราดึงพลังงานที่มีไปใช้เพื่อให้ตื่นตัวในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น พอมันหมดฤทธิ์แล้วเราก็จะล้าหนักกว่าเดิมเสียอีก แถมพอดื่มมันเข้าไปแล้วยังทำให้เราพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ในช่วงกลางคืนอีกด้วย ถ้าให้ดีก็อย่าดื่มเยอะล่ะ   2. อาบน้ำร้อนสลับกับน้ำเย็น   ถ้าเครื่องทำน้ำอุ่นที่บ้านมีระบบสลับน้ำร้อนและน้ำเย็นล่ะก็ ใช้ระบบนี้ตอนอาบน้ำได้เลย มันจะช่วยให้ร่างกายของเรารู้สึกตื่นตัวมากกว่าปกติ หรือถ้าเกิดง่วงมากแต่อยู่นอกบ้าน แค่เอาน้ำเย็นล้างหน้าเสียหน่อยก็ช่วยได้เหมือนกัน   3. ให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากๆ   หากว่าร่างกายของเราได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นทันที ในทางกลับกันหากว่าร่างกายของเราขาดออกซิเจนเราก็จะหาวอยู่บ่อยๆ นั่นเอง การทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเยอะขึ้นทำได้ง่ายๆ โดยการนอนราบลงบนพื้นเรียบแล้ววางมือข้างหนึ่งไปบนท้อง ส่วนอีกข้างก็วางไว้บนหน้าอก จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ จนมือของเรารู้สึกว่าท้องและอกพองขึ้น จากนั้นจึงสูดหายใจออกยาวๆ จนท้องยุบลงไป ทำซ้ำสัก 5-10 ครั้งก็น่าจะได้ออกซิเจนเพียงพอแล้ว   4. ทานไอศกรีมในช่วงเช้า   หลายคนคงสงสัยล่ะสิว่าทำไม การทานไอศกรีมถึงช่วยให้หายง่วงได้ นั่นก็เพราะว่านักวิทยาศาสตร์เขาทดลองแล้วว่าการทานของเย็นๆ ช่วยให้สมองของเราตื่นตัวมากขึ้น แต่อย่ากินบ่อยจนติดเป็นนิสัยล่ะ เพราะหากกินบ่อยเราก็จะอ้วนเอาได้…

  • พ่อแม่ใจสลาย สู้ค่ารักษาลูกน้อยไม่ไหว นำลูกมาทิ้งไว้พร้อมโน๊ตเล่าเรื่อง หวังให้คนใจบุญดูแลลูกให้ดี

    พ่อแม่ใจสลาย สู้ค่ารักษาลูกน้อยไม่ไหว นำลูกมาทิ้งไว้พร้อมโน๊ตเล่าเรื่อง หวังให้คนใจบุญดูแลลูกให้ดี

    พ่อแม่ที่ทิ้งลูกน้อยไว้ให้ผู้อื่นดูแลรับผิดชอบต่อ อาจจะถูกมองว่าเป็นคนไร้ความรับผิดชอบและไม่มีจริยธรรมเอาเสียเลย ทว่าบางครั้งการที่พวกเขาต้องทิ้งลูกไว้ก็อาจเป็นเพราะต้องการให้ลูกได้รับชีวิตที่ดีก็เป็นได้ พ่อแม่ในเรื่องนี้ก็บอกเช่นนั้นเหมือนกัน เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมาเด็กสาววัย 6 เดือนถูกพบทิ้งไว้ในรถเข็นกลางสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในจังหวัดตงกวน ประเทศจีน โดยมีถุงนมผง ผ้าอ้อม เสื้อผ้า และยาทิ้งไว้กับรถเข็นด้วย     และอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกทิ้งไว้กับเด็กทารกหญิงคนนี้ก็คือจดหมายจากพ่อแม่ของเธอ ซึ่งมีความยาวกว่า 1,000 ตัวอักษรเลยทีเดียว โดยประโยคแรกในจดหมายบอกเอาไว้ว่า “โปรดแจ้งตำรวจด้วยว่าเด็กคนนี้ถูกทิ้งเอาไว้” ในจดหมายนั้นบอกเล่าสาเหตุที่พ่อแม่ของเธอจำเป็นต้องเอาเธอมาทิ้งไว้แบบนี้ ใจความในจดหมายนั้นสรุปได้ว่าเด็กทารกคนนี้ป่วยเป็นโรคลมชัก พ่อและแม่ของเธอจึงเลี้ยงดูและรับภาระค่ารักษาโรคของเธอไปด้วย ทว่าพวกเขาจ่ายค่ารักษาเธอไม่ไหว แม้ว่าพ่อแม่ของเธอจะกัดฟันสู้จนหมดตัวแล้วก็ยังมีค่ารักษาไม่เพียงพออยู่ดี พวกเขาจึงหวังว่าเด็กคนนี้จะมีคนที่สามรถดูแลเธอได้เต็มที่มารับเธอไปเลี้ยงแทน     ในจดหมายมีใจความดังนี้ “ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่ไม่รักลูกของตัวเอง แต่พวกเราจ่ายค่ารักษาราคาแพงไม่ไหวจริงๆ” พวกเขาเขียนต่อว่า “ฉันรู้ว่าการทำแบบนี้เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวมาก ฉันไม่หวังให้ใครมาเข้าใจหรอก แต่ฉันหวังเพียงแค่ให้เด็กน้อยคนนี้ได้เติบโตมาอย่างปลอดภัยและมีความสุขเท่านั้น”     นอกจากความรู้สึกของพ่อแม่แล้ว พวกเขายังเขียนวิธีการดูแลเด็กทารกคนนี้ที่คนเจอควรจะรู้ทิ้งไว้ให้ด้วย โดยบอกว่า “เด็กทารกคนนี้ต้องได้รับยาทุกวันตอน 8 โมงเช้า … ถ้าคุณทำได้ล่ะก็ ช่วยพูดคุยกับเธอ และจับมือและเท้าของเธอไว้ด้วย เธอจะได้รู้ว่ายังมีคนรักเธออยู่” ในจดหมายมีข้อความทิ้งท้ายเพื่อขอบคุณผู้ที่รับเลี้ยงเธอ และมีข้อความว่า “ในชาติหน้า เราจะทำงานให้หนักกว่านี้เพื่อชดเชยความผิดที่เราได้กระทำไป”    …

  • โคตรปั่น หนุ่มแกล้งเนียนเป็นเซเลป คนแห่ตามมาถ่ายรูปด้วย แถมทำเป็นรู้จักอีกต่างหาก

    โคตรปั่น หนุ่มแกล้งเนียนเป็นเซเลป คนแห่ตามมาถ่ายรูปด้วย แถมทำเป็นรู้จักอีกต่างหาก

    ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2012 ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางช่องยูทูป Brett Cohen มันเป็นคลิปวิดีโอที่ชายหนุ่มที่ชื่อว่า Brett Cohen อยากจะคลายข้อสงสัยอะไรบางอย่าง เขาคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีคนสนใจ และถ้าวันหนึ่งเขากลายเป็นเซเลบขึ้นมาล่ะ มันจะเกิดอะไรขึ้น และเขาต้องการที่จะรู้ว่าสังคมในตอนนั้นกำลังนิยมความมีชื่อเสียงหรือไม่ ด้วยวิธีการเหล่านี้   เขาก็เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่น   เขาเริ่มคิดว่า จะทำอย่างไรให้เขากลายเป็นคนที่มีคนสนใจได้   เขาเริ่มแผนด้วยการแต่งตัวแบบดาราพร้อมกับจ้างบอดี้การ์คคุ้มกัน 2 คน และยังมีช่างภาพที่ทำทีว่าเป็นปาปารัสซี่คอยตามถ่ายภาพเขา   ทันใดที่เขาก้าวออกจากโรงแรม ปาปารัสซี่หนุ่มทำทีเป็นตะโกนว่า “นั่นมันดารานี่”   และนั่นก็ทำให้มีคนเริ่มสนใจและเชื่อว่าเขาเป็นดาราจริงๆ   มีคนมาขอถ่ายรูปด้วยแฮะ   นี่ก็อีกคน สวยๆ ทั้งนั้นเลย   ทีมงานทำทีเป็นนักข่าวไปสัมภาษณ์คนที่มารุมล้อมที่จะถ่ายรูปกับเขาและถามว่า รู้จักเขาไหม หนุ่มคนนี้บอกว่า เขาน่าจะแสดงเรื่องสไปเดอร์แมน   ส่วนลุงคนนี้บอกว่า “พ่อหนุ่มคนดังเป็นนักร้อง ผมชอบซิงเกิ้ลแรกของเขามาก แต่ไม่รู้ว่าชื่อเพลงอะไร ” แหม่ เนียนเลยนะ   สาวๆ แก๊งนี้ก็มาขอถ่ายรูปและบอกกับสื่อว่า พวกเธอรักเขามาก   จากคนธรรมดาๆ ที่กลายมาเป็นเซเลบปลอมๆ แต่ผลตอบรับมันเกินกว่าที่เขาคาดไว้มาก  …

  • Logan Paul กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับคลิปเกี่ยวกับ “การฆ่าตัวตาย” ที่ชาวเน็ตต่างชื่นชม

    Logan Paul กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับคลิปเกี่ยวกับ “การฆ่าตัวตาย” ที่ชาวเน็ตต่างชื่นชม

    หลังจากที่ถูกมรสุมชาวเน็ตรุมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับกรณีแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในป่าอาโอกิกาฮาระของประเทศญี่ปุ่นจนต้องออกมาทำคลิปขอโทษ ล่าสุดหนุ่ม Logan Paul ของเราก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับคลิปวิดีโอที่เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายเหมือนเดิม แต่คราวนี้มันกลับให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป…     หนุ่ม Logan Paul ได้กลับมาโพสต์คลิปวิดีโออีกครั้งเมื่อวันพุทธที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนานกว่า 20 วัน โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นคลิปวิดีโอที่เกี่ยวกับการป้องกันการฆ่าตัวตาย และเขาต้องการให้คลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นเหมือนการเริ่มต้นชีวิตใหม่จากข้อผิดพลาดที่เขาเคยทำไป “ผมรู้ว่าผมทำสิ่งที่ผิดพลาด ผมรู้ว่าผมทำให้หลายๆ คนรู้สึกแย่ แต่มันจะเป็นอย่างไรถ้าหากเราใช้โอกาสนี้ในการสร้างสิ่งที่แตกต่างในโลกนี้” Logan พูดถึงคลิปวิดีโอใหม่ของเขาที่มีชื่อว่า Suicide: Be Here Tomorrow     หลังจากที่ได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง และได้รับบทเรียนไม่ว่าจะเป็นการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากชาวเน็ตและนักแสดงชื่อดัง หรือถูกทางยูทูบตัดสิทธิ์ต่างๆ มากมาย มันทำให้เขาเข้าใจและได้เริ่มต้นแก้ไขสิ่งต่างๆ “นี่เป็นเวลาสำหรับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในอดีต ผมรู้สึกดีขึ้นแล้วและกำลังเติบโตในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง” Logan กล่าวในตอนท้ายของคลิปวิดีโอตัวใหม่นี้     Suicide: Be Here Tomorrow เล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับอัตราการฆ่าตัวตายของคนอเมริกัน พร้อมกับบทสัมภาษณ์ของ Kevin Hines ชายที่เคยพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดสะพาน Golden Gate เมื่อตอนที่เขาอายุได้ 19 ปี…

  • เมนต์ยังไงให้ได้ปั๋ว.. สาวไปเมนต์ฮาๆ ในเฟซบุ๊กหนุ่ม อีกอาทิตย์นึงแต่งงานกันเฉย!!

    เมนต์ยังไงให้ได้ปั๋ว.. สาวไปเมนต์ฮาๆ ในเฟซบุ๊กหนุ่ม อีกอาทิตย์นึงแต่งงานกันเฉย!!

    เวลาเราจะไปตอบโพสต์บนโซเชียลมีเดียของผู้อื่น เราควรจะดูบริบทให้ดีว่าโพสต์นั้นจริงจังหรือว่าโพสต์เอาฮา ไม่งั้นอาจจะได้สามีแบบงงๆ เหมือนสาวคนนี้ที่ไปตอบโพสต์รับสมัครภรรยาในเฟสบุ๊กของเพื่อนแบบเอาฮา แต่หนุ่มกับเอาจริงจนได้แต่งงานกันเฉยเลย เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อหนุ่มไนจีเรีย Chidimma Amedu ตัดสินใจว่าเขาถึงวัยที่ควรจะแต่งงานสักที จึงได้ประกาศรับสมัครสาวมาแต่งงานด้วยอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ธันวาคม 2017 แต่แทนที่เขาจะประกาศทางเว็บไซต์หาคู่ เขากลับโพสต์ประกาศลงในเฟสบุ๊กของตัวเอง โพสต์มีใจความว่า “ผมคิดว่าตัวเองถึงวัยที่ควรจะแต่งงานแล้ว ตอนนี้ผมไม่อยากเสียเวลารออีกต่อไป ถ้าใครสนใจกรุณาส่งข้อมูลส่วนตัวเข้ามาสมัครเป็นเจ้าสาวของผม ผู้ที่เหมาะสมที่สุดจะได้แต่งงานกับผมในวันที่ 6 มกราคม 2018 ปิดรับสมัครตอนเที่ยงคืนวันท่ี 31 ธันวาคม 2017 นี่ผมเอาจริงนะครับ ใครมาไม่ทันอย่าเสียดายล่ะ”   รูปจากงานแต่งงานของ Chidimma Amedu และ Sophy Ijeoma   สาวช่างแต่งหน้า Sophy Ijeoma ซึ่งเป็นเพื่อนกับเขาบนเฟซบุ๊กก็ผ่านมาเห็นพอดี เธอคิดว่าเขาคงจะโพสต์ตลกๆ ไปแบบนั้นแหละ จึงตอบคอมเมนต์ไปว่า “ฉันสนใจนะ ส่งข้อความมาคุยกันดูสิ 555” จริงๆ แล้วเธอกับเขาเป็นแค่เพื่อนบนเฟซบุ๊กกันเท่านั้น ไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกันเลย ชายหนุ่มรู้จักกับเธอตอนที่เธอไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งงานของเพื่อนเขา แต่พอเห็นเธอมาโพสต์แบบนี้เขาก็สนใจในตัวเธอไม่น้อยเลย เขาตอบคอมเม้นต์เธอว่า “ผมพร้อมจะแต่งงานกับคุณกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้วล่ะ” แล้วก็ตอบคอมเม้นต์ของเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า “ตอนนี้ผมสนใจ Sophy Ijeoma อยู่”   คอมเมนต์ในเฟซบุ๊กที่ฝ่ายสาวไปตอบโพสต์ของหนุ่ม…

  • หนุ่มแต่งตัวเหมือนหมอ พร้อมหลอกทุกคนในโรงพยาบาลเพื่อที่จะตรวจภายในให้กับผู้หญิง

    หนุ่มแต่งตัวเหมือนหมอ พร้อมหลอกทุกคนในโรงพยาบาลเพื่อที่จะตรวจภายในให้กับผู้หญิง

    พวกเราหลายๆ คนอาจเคยมีความคิดที่ว่าอยากจะปลอมตัวเป็นคนคนหนึ่ง เพื่อหาโอกาสทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ หรือประกอบอาชีพที่เราวาดฝันเอาไว้ ซึ่งชายหนุ่มคนหนึ่งในประเทศรัสเซียก็คงตั้งใจเอาไว้แบบนั้นเหมือนกัน เขาจึงทำเนียนปลอมตัวเป็นหมอหลอกคนทั้งโรงพยาบาลซะเลย ชายคนนี้มีชื่อว่า Anton Yarin ชายผู้ปลอมตัวเป็นหมอในโรงพยาบาล Pervouralsk city และสามารถทำให้ทุกคนเชื่อสนิทใจไปหลายวันเลยว่าเขาคือหมอประจำโรงพยาบาลแห่งนี้จริงๆ   กล้องวงจรปิดจับภาพ Anton ชายผู้ปลอมตัวเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาล   จากการรายงานข่าวของ UNILAD เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2018 เล่าว่า Anton สมัครงานเข้ามาในตำแหน่งช่างประปา ก่อนที่เขาจะสวมบทบาท แต่งชุดขาวออกไปหลอกคนไข้และหมอคนอื่นๆ ว่า เขาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนรีแพทย์ การผ่าตัด และด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน สวมบทเป็นนรีแพทย์ก็คงทำให้หลายๆ คนเริ่มมองเห็นแล้วว่าจุดประสงค์เขาไปในทิศทางใด ซึ่งการปลอมตัวของเขาก็เป็นไปได้ด้วยดี เข้าตรวจคนไข้ราวกับเป็นหมอจริงๆ ซะอย่างนั้น   ในคลิปเผยให้เห็นว่าเขากำลังเรียกเด็กสาวคนหนึ่งเข้าคิวรอรับการตรวจ   ที่น่าตกใจก็คือ ในตอนแรกไม่มีใครผิดสังเกตเลยว่าเขาไม่ใช่หมอจริงๆ ส่วนหนึ่งต้องชื่นชมในความสามารถอันแนบเนียน อ้างว่าตัวเองเป็นแพทย์คนใหม่ที่จะเข้ามาประจำ และ Anton ก็เคยเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลแห่งนี้มาก่อน เขาจึงพอจำชื่อของแพทย์ทุกคนได้เป็นอย่างดี Nikolay Shaydurov หัวหน้าแพทย์ประจำโรงพยาบาล บอกว่า Anton เดินไปรอบโรงพยาบาลด้วยความมั่นใจ…

  • รู้หรือไม่ว่านักกีฬาโอลิมปิกมักจะ ป๊าบๆ กันในค่ายพัก และมันก็เกิดขึ้นมานานแล้วด้วย!?

    รู้หรือไม่ว่านักกีฬาโอลิมปิกมักจะ ป๊าบๆ กันในค่ายพัก และมันก็เกิดขึ้นมานานแล้วด้วย!?

    เป็นที่รู้กันดีว่าเรานั้นจะได้ดูงานกีฬาโอลิมปิกกันทุกๆ สองปี (มีโอลิมปิกฤดูร้อนสลับกับโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งทั้ง 2 งานจะจัด 4 ปีครั้ง ในปีที่เหลื่อมกัน เราจึงได้ดูโอลิมปิกของฤดูร้อนและหนาวสลับกันทุก 2 ปี) ซึ่งในสายตาของเรามันคือการแข่งกีฬาที่รวมสุดยอดคนที่มีความสามารถในด้านต่างๆ มาแข่งขันกัน แต่ถ้าเรามองข้ามเรื่องกีฬาไป เราเคยสงสัยไหมว่าเขาทำอะไรกันระหว่างที่อยู่ในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิกบ้าง Hope Solo นักกีฬาฟุตบอลหญิงผู้เคยเข้าร่วมในกีฬโอลิมปิกออกมาเปิดเผยกับ ESPN ว่ากิจกรรมหลักๆ ในหมู่บ้านนั้น นอกจากการฝึกที่หนักหน่วงแล้ว นักกีฬาส่วนใหญ่ยังปาร์ตี้หนักอีกด้วย แถมที่สำคัญส่วนใหญ่ยังชอบจะมีเซ็กส์กันอีกด้วย เธอเล่าว่า “นักกีฬาหลายคนวาดฝันอยากสร้างความทรงจำที่ระหว่างได้เข้าร่วมการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่นี้ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเราจะได้เข้าร่วมอีกไหม ฉะนั้นการมีปาร์ตี้เซ็กส์ หรือออกไปมีเซ็กส์ข้างนอกไม่ก็สนามหญ้าในค่ายจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนอยากทำ”     หลายคนอ่านแล้วอาจจะงงว่า เฮ้ย!! นี่ไปแข่งกีฬามันต้องขนาดนี้เลยเหรอ แต่เชื่อเหอะว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ และมันเกิดขึ้นมานานแล้วด้วย ไม่เชื่อลองมาดูเรื่องจริงเกี่ยวกับเซ็กส์ในโอลิมปิกกันดูเป็นไง   นักกีฬานั้นจุดติดง่ายมาก!! เรื่องนี้ได้รับการยืนยันโดย Ryan Lochte นักกีฬาว่ายน้ำชาวอเมริกา ซึ่งเขาบอกว่า 70 ถึง 75 % ของคนที่พักอยู่ในค่ายโอลิมปิกมักจะมองหาใครสักคนเพื่อมีอะไรกัน และแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปกติ   มีแจกถุงยางฟรีในหมูบ้านนักกีฬา คุณอ่านไม่ผิดหรอก เพราะมันมีแจกจริงๆ…

  • พาไปชมไอจีที่รวบการทำเล็บแบบพิศดารมาให้ทุกคนได้ชมกัน นักเต้นรูดเสาก็มี!?

    พาไปชมไอจีที่รวบการทำเล็บแบบพิศดารมาให้ทุกคนได้ชมกัน นักเต้นรูดเสาก็มี!?

    เรื่องสวยๆ งามๆ กับผู้หญิงน่ะมันเป็นของคู่กัน กิจกรรมยามว่างของสาวๆ ส่วนมากล้วนแต่จะหมดไปกับการอัปเดตเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ อีกทั้งยังต้องคอยติดตามข่าวสารนั่นนี่ไว้เม้าท์กับเพื่อนสาวอีก เกิดเป็นชะนีนี่มันเหนื่อยจริงๆ นะพี่จ๋า อีกหนึ่งเทรนด์ในด้านการเสริมความงามที่ผู้หญิงทั้งหลายนิยมทำกันนั่นก็คือ การเข้าสปาทำเล็บ ทำสีเล็บ ทั้งนี้ก็เพราะอยากจะสวยตั้งแต่หัวจรดเท้า น้อยหน้ากันไม่ได้ ของมันต้องทำ!! และในวันนี้ #เหมียวบู้บี้ จะพาไปชมอินสตาแกรมของร้านทำเล็บของรัสเซียที่ชื่อว่า NailSunny ที่ทางร้านได้คอยอัพเดตผลงานการทำเล็บ รวมไปถึงลวดลายใหม่ๆ ให้ผู้ติดตามได้ชม และอินตาแกรมของร้านนี้ก็เป็นที่นิยมจนมีผู้มาติดตามมากกว่า 1.4 ล้านคนจากทั่วโลก   เปิดตัวลายเด็ดที่กำลังเป็นที่นิยม และมีที่ร้านนี้เพียงร้านเดียวนั่นก็คือ ลายนักเต้นรูดเสา!!!   หรือใครจะชอบแนวหวานๆ ก็ลายนางฟ้ากับโดนัท   ลายเกล็ดเลื่อมๆ วิ้งๆ   ลายสาวเต้น Twerk   ลายเครื่องสำอางก็มี   ลายหน้าน้องหมา   ลายดวงตา มีขนตาปลอมยื่นออกมาด้วย   ลายเตาผิง วันคริสต์มาส   ลายนักเต้นระบำ   ใครเป็นแฟนแมนยูก็จัดเลย   ใส่เพชรลงไปทุกอย่างก็ดูแพงขึ้น   นอกจากนี้ทางร้านยังมีลวดลายการทำเล็บสวยๆ อีกมากมายให้ได้ติดตาม…

  • โอ้มายก็อด!! พ่อบ้านไต้หวันได้เงินเกือบแสนบาทต่อเดือนจากการดูแลบ้านรวมถึง “แปรงเต่า”

    โอ้มายก็อด!! พ่อบ้านไต้หวันได้เงินเกือบแสนบาทต่อเดือนจากการดูแลบ้านรวมถึง “แปรงเต่า”

    หากจะให้พูดถึงอาชีพที่สามารถทำเงินได้จำนวนมากต่อเดือน หลายคนก็อาจจะนึกว่าอาชีพ วิศวกร ผู้รับเหมา แอร์โฮสเตส หรืิออื่นๆ แต่ว่าคงไม่มีใครนึกถึงว่าอาชีพ ‘พ่อบ้าน’ ก็สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลได้เช่นเดียวกัน  และชายหนุ่มคนนี้ก็มาพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถสร้างรายได้ถึง 86,000 บาทต่อเดือน จากการประกอบอาชีพเป็นพ่อบ้านรวมถึงการ ‘แปรงเต่า’   หน้าตาของ Lee พ่อบ้านรายได้สูงเกือบแสนบาท   พูดไปอาจจะไม่เชื่อ แต่ว่านี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เมื่อมีชายหนุ่มชาวไต้หวันชื่อว่า Lee ซึ่งในอดีตเคยเป็นเพียงพนักงานในร้านอาหารที่ได้รับเงินเดือนละ 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน(ประมาณ 32,000 บาท) ตัดสินใจพลิกโผชีวิตตัวเอง โดยลาออกจากงานเดิมแล้วหันหน้ามาเป็นพ่อบ้านประจำ และนี่การตัดสินใจครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้   เจ้าเต่าน้อยแสนน่ารัก   “หลายๆ ครอบครัวในไต้หวันมักจะออกไปหาเงินกันทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ทำให้พวกเขาไม่มีเวลาที่จะดูแลบ้านช่องให้สะอาด พวกเราเหล่าพ่อบ้านแม่บ้าน จึงเข้ามาเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับพวกเขา” Lee กล่าว สำหรับหน้าที่หลักๆ ที่ Lee ต้องปฏิบัติก็คือ การดูแลบ้านช่องให้สะอาด กำจัดศัตรูพืชให้กับต้นไม้ที่อยู่ภายในบ้าน รวมถึงช่วยทำธุระบางอย่างที่ได้รับมอบหมาย เพียงเท่านั้น   การแปรงต้องใช้ทักษะอย่างสูง   แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่นอกจากการทำงานตามปกติที่พ่อบ้านทั่วๆ ไปจะได้รับมอบหมายก็คือ Lee จะต้องแปรงกระดองเต่ารวมถึงทำความสะอาดให้กับเต่าตัวน้อย…

  • กราบใจเจ้านาย… ยังคงจ่ายเงินลูกน้องรุ่นแรกทุกเดือน แม้ว่าเขาจะขอลาออกไปแล้วก็ตาม

    กราบใจเจ้านาย… ยังคงจ่ายเงินลูกน้องรุ่นแรกทุกเดือน แม้ว่าเขาจะขอลาออกไปแล้วก็ตาม

    ด้วยยุคสมัยในสังคมปัจจุบัน ที่เพียงแค่ก้าวขาออกจากบ้านก็อาจจะเสียเงินได้แล้ว ทำให้คนส่วนใหญ่จึงต้องทำงานเพื่อแลกกับเงินเอาไว้อยู่ไว้กิน ซึ่งถ้าหากไม่มีงานก็ย่อมไม่มีเงินเอาไว้ใช้สอยเป็นธรรมดา แต่เรื่องนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับชายคนหนึ่ง ที่อาจจะเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เพราะถึงแม้จะลาออกจากการเป็นพนักงานแล้ว แต่เจ้านายก็ยังจ่ายเงินเดือนเหมือนกับสมัยที่ยังทำงานอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง!!     โดยเรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับนาย Tang Jianguo พนักงานขับรถบัสของบริษัทเดินรถแห่งหนึ่งทางตะวันออกของประเทศจีน โดยจุดเริ่มต้นของการได้รับเงินเดือนแม้ไม่ต้องทำงานที่ว่านี้ เริ่มมาจากเมื่อ 5 ปีก่อนที่เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเกี่ยวกับไตอย่างรุนแรง ซึ่งตัวเขาเกรงว่าจะไม่สามารถทำงานได้เหมือนแต่ก่อน และไม่อยากให้เป็นภาระของทางบริษัท จึงตัดสินใจลาออกเพื่อไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้เจ้านายใจดีของเขา ตัดสินใจจ่ายเงินเดือนให้กับเขาดังเดิม แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำงานแม้แต่ชั่วโมงเดียวก็ตาม เพราะเจ้านายคนนี้รู้ดีว่า การรักษาอาการของโรคนั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายไม่น้อย และ Tang ก็คงไม่สามารถไปทำงานที่อื่นได้อีกต่อไป เขาจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้ลูกน้องของเขาคนนี้สามารถมีชีวิตอยู่รอดในสังคมนี้ต่อไปได้     ตามการรายงานจากสื่อ China Press ระบุว่าชายสกุล Tang วัย 49 ปี นั้นเป็นพนักงานรุ่นบุกเบิกของบริษัทเอเจนซี่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเมืองฉางโจว มลฑลเจียงซู ประเทศจีน ในตอนที่เขาเข้าร่วมนั้นบริษัทแห่งนี้มีอายุเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น และ Tang ก็ได้ทำงานให้กับบริษัทนี้ในตำแหน่งคนขับรถ ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ทว่าก็เกิดโชคร้ายขึ้นกับเขาในปี 2012 เมื่อเขาได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นภาวะ Uremia (อาการเป็นพิษในเลือด) จึงทำให้เขาต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกว่า 3…

  • หนุ่มจีนอาศัยอยู่ใต้สะพานนานนับสิบปี พยายามฝึกวิชาถอดรหัส ‘หวย’ หวังรวยทางลัด

    หนุ่มจีนอาศัยอยู่ใต้สะพานนานนับสิบปี พยายามฝึกวิชาถอดรหัส ‘หวย’ หวังรวยทางลัด

    หากพูดถึงลาภลอยนั้น ก็เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครๆ ต่างก็อยากได้ทั้งนั้น เพราะเราอาจจะเป็นเศรษฐีได้โดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลยทั้งสิ้น ดังนั้นจึงได้กำเนิดสิ่งที่เรียกว่า ‘หวย’ หรือลอตเตอรี่ขึ้นมาในหลายๆ ประเทศ เพื่อใหันักเสี่ยงดวงทั้งหลายได้ลองเสี่ยงดวงกัน ซึ่งหากโชคดีก็อาจจะได้รับทรัพย์ก้อนโตจากตัวเลขกันไป แต่ถึงจะเป็นเรื่องของโชคลาภอย่างไร ก็มีคนๆ หนึ่งที่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิตอย่างเดียว แต่มันต้องอาศัยความมุมานะด้วย เขาจึงใช้เวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา พยายามถอดรหัสอัลกอริทึ่มของการหมุนสลากลอตเตอรี่ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้เป็นมหาเศรษฐีจากสิ่งที่เขาคิดไว้ให้จนได้!!     โดยชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Wang Chengzhou วัย 49 ปี ที่อาศัยอยู่บริเวณใต้สะพานใกล้กับแม่น้ำแยงซี ในเทศบาลนครฉงชิ่ง ประเทศจีน ซึ่งในทุกๆ วันเขาจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 02.00-05.00 หมดไปกับการคิดค้นหากลไกที่จะถอดรหัสลอตเตอรี่ดังกล่าวให้จนได้ สำหรับความคิดนี้ Wang ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Chengdu Business Daily เอาไว้ว่า ไอเดียการถอดรหัสลอตเตอรี่ของเขาได้เริ่มขึ้นจากการที่เขากำลังดื่มสุราอยู่ในวันหนึ่งของปี 2004 และก็ได้ติดอยู่กับความคิดนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งในตอนนี้เขาก็ได้เรียกตัวเองว่าเป็น ‘ปรมาจารย์’ ด้านการถอดรหัส โดยในแต่ละเดือนนั้นเขาจะใช้เงินประมาณ 2,000 หยวน(ประมาณ 9,900 บาท) หมดไปกับการซื้อลอตเตอรี่เพื่อทดสอบวิธีการของเขาว่าจะได้ผลหรือไม่นั่นเอง     แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็บอกว่าไม่สามารถจำได้ว่าเคยถูกรางวัลมาแล้วเท่าไหร่ พร้อมทั้งยังปฏิเสธไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปยังสถานที่สำหรับถอดรหัสที่เรียกว่า ‘สตูดิโอ’…

  • เศร้าใจ… แก๊งหมาเพื่อนรัก 4 ตัว ล้อมปกป้องร่างไร้วิญญาณของเพื่อนกลางถนน

    เศร้าใจ… แก๊งหมาเพื่อนรัก 4 ตัว ล้อมปกป้องร่างไร้วิญญาณของเพื่อนกลางถนน

    เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2018 ได้มีการบันทึกคลิปวิดีโอของเหตุการณ์สุดซึ้งของเล่าน้องหมา 4 ตัว ที่ร่วมกันยืนไว้อาลัยให้กับเพื่อนรักของมันอีกตัวหนึ่งที่นอนแน่นิ่งอยู่กลางถนนในเมืองหลานโจว มณฑลกานซู่ ประเทศจีน และได้มีการอัพโหลดเผยแพร่ไปทั่วสังคมออนไลน์ของชาวจีน   คลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ของเจ้าหมาทั้ง 4 ที่ยืนเฝ้าร่างไร้วิญญานของเพื่อน   เจ้าหมาที่นอนแน่นิ่งอยู่กลางถนนนั้นถูกรถเก๋งคันหนึ่งชนเข้าเต็มแรง มันทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจอยู่กลางถนนเส้นนั้น เหล่าสุนัขจรจัดเพื่อนของมันเห็นดังนั้นจึงได้มารุมล้อมร่างไร้วิญญาณของเจ้าหมา คอยคุ้มกันไม่ให้รถที่วิ่งผ่านไปมาแถวนั้นทับร่างของเพื่อนมัน ซึ่งเป็นภาพที่เห็นแล้วสลดใจมากๆ ผู้ใช้ Weibo คนหนึ่งคอมเมนต์ในวิดีโอนี้ว่า “หัวใจของสุนัขนั้นบริสุทธิ์กว่ามนุษย์” มันเป็นถ้อยคำที่สามารถอธิบายเรื่องราวนี้ได้ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่คล้ายกันอีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อเดือนเมษายนปี 2017 เป็นเหตุการณ์ที่เจ้าหมาตัวหนึ่งในฮ่องกงพยายามที่จะลากร่างไร้วิญญานของเพื่อนมันที่ถูกรถชนให้ฟื้นขึ้นมา แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยืนเฝ้าจนกว่ามนุษย์จะมาจัดการนำร่างของเพื่อนรักของมันไป     สัตว์ทั้งหลายถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่สื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้เหมือนกับมนุษย์ แต่พวกมันก็สื่อความนึกคิด อารมณ์ ความรู้สึกของมันออกมาจากการกระทำ ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อธิบายถ้อยคำอะไรออกมาแต่ก็ทำให้มนุษย์อย่างเรารู้สึกเศร้าใจได้ #เหมียวบู้บี้ ขอให้เจ้าหมาไปสู่สุขคตินะ T^T   ที่มา medium

  • แค่สลบแต่ยังไม่ตาย… ชายอินเดียบ้าบิ่น อัดคลิปเซลฟีบนรางรถไฟ ก่อนปลิวไปแต่ก็รอด!?

    แค่สลบแต่ยังไม่ตาย… ชายอินเดียบ้าบิ่น อัดคลิปเซลฟีบนรางรถไฟ ก่อนปลิวไปแต่ก็รอด!?

    ในปัจจุบันอุบัติเหตุจากการโดนรถชน เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากมายบนโลกใบนี้ และยิ่งถ้าเป็นรถไฟแล้วล่ะก็ คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีใครรอดชีวิตหากโดนเจ้ารถรางเหล็กนี้เข้าชนเข้าอย่างเต็มเปา แต่มีชายคนหนึ่งที่ทำให้ทั้งโลกต้องอึ้ง เมื่อเขาโดนรถไฟชนจนปลิวแล้วกลับมีชีวิตรอดกลับมาอย่างหน้าตาเฉย?? โดยเหตุการณ์รถไฟชนคนแล้วรอดครั้งนี้ เกิดขึ้นในนครไฮเดอราบาด เมืองหลวงของรัฐเตลังคานาและรัฐอานธรประเทศ ประเทศอินเดีย เมื่อมีชายชื่อว่า Shiva แสดงความบ้าบิ่นในชีวิตของเขาออกมา ด้วยการไปยืนถ่ายเซลฟีอย่างยิ้มแย้มบนรางรถไฟ แม้ว่ารถไฟกำลังจะแล่นเข้ามาใกล้ทุกขณะก็ตาม   เค้ามีแต่ใจดีสู้เสือ อันนี้ใจดีสู้รถไฟ   ภาพจากวิดีโอเซลฟีที่เขาถ่ายมานั้น ทำให้เราเห็นได้ว่าเขาดูไม่มีความเกรงกลัวต่อรถเหล็กแม้แต่น้อย หน้ำซ้ำยังทำหน้าตาระรื่นเหมือนยืนอยู่บนไหล่เขาซะอย่างงั้น ซึ่งอันที่จริงแล้ว ก็มีคนเตือนเขาว่ากำลังจะมีรถไฟเข้ามาจากทางด้านหลังของเขา และรถไฟขบวนดังกล่าวก็ได้ส่งสัญญาณเตือนแล้วว่ากำลังจะเข้ามาใกล้ แต่เขากลับบอกกับกล้องว่า ‘รอก่อน’ เหมือนกับว่าเขาต้องการจะให้รถไฟชนเพื่ออยากจะพิสูจน์อะไรซักอย่าง   เข้ามาสิ กลัวที่ไหน   เมื่อรถไฟแล่นเข้ามาและเขาไม่ยอมหลบออกไป ก็แน่นอนว่ารถไฟก็ต้องเข้าชนเขาเข้าอย่างเต็มเปา จนตัวของเขานั้นลอยขึ้นไปสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น และภาพจากกล้องของเขาก็ได้อันตรธานหายไป ตามแรงชนจากรถไฟขบวนดังกล่าว   ไม่เห็นเป็นอะไรเล้ยย   ไม่ต้องบอกก็คงจะเดาไม่ยากว่า คนที่โดนรถไฟชนจนปลิวเช่นนั้นคงจะเสียชีวิตอย่างแน่นอน แต่กับชายผู้นี้มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าแรงจากการโดนรถไฟชนไม่สามารถทำอันตรายจนถึงชีวิตแก่เขาได้ สิ่งเดียวที่รถไฟขบวนนี้ได้ฝากเอาไว้บนร่างกายของเขา ก็มีเพียงแค่อาการบาดเจ็บที่หัวก็แค่นั้น จากการรายงานจากสื่อ NDTV ระบุเอาไว้ว่าในปัจจุบันมีพฤติกรรมที่เรียกว่า ‘เซลฟีเสี่ยงตาย’ เกิดขึ้นอย่างมากมายบนโลกใบนี้ และที่สำคัญคือในระหว่างเดือนมีนาคมปี 2014 – เดือนกันยายนปี 2016 การเซลฟีเสี่ยงตายเกิดขึ้นในประเทศอินเดียถึง 60% ของตัวเลขทั้งหมดบนโลกเลยทีเดียว…

  • ‘Jung Hye In’ ลงทุนเปลี่ยนลุค หั่นผมสั้นรับบทบาทในซีรีส์ ดูยังไงก็ผู้ช๊ายย ผู้ชายย…

    ‘Jung Hye In’ ลงทุนเปลี่ยนลุค หั่นผมสั้นรับบทบาทในซีรีส์ ดูยังไงก็ผู้ช๊ายย ผู้ชายย…

    ใครที่ชอบดูซีรีส์เกาหลีหรือชอบติดตามวิถี K-Pop คงจะชื่นชอบศิลปินเป็นพิเศษหลายคน แต่มีอยู่คนหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในตอนนี้ เพราะมีหน้าตาที่สวยเด่นเป็นเอกลักษณ์ เธอคนนี้คือ Jung Hye In นักแสดงสาววัย 27 ปี ที่รับบทเป็นเพื่อนนางเอกในซีรีส์เรื่อง Jugglers ของช่อง KBS ที่เพิ่งจบไปไม่นาน     หลายคนอาจจะคิดว่าเธอเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่จริงๆ แล้ว เธอเคยมีผลงานการแสดงมาแล้วหลายเรื่อง เช่น Save The Family, Healer และ Doctor Stranger     แต่การที่ Hye In ได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากเล่นเรื่อง Jugglers อาจเป็นเพราะเธอเปลี่ยนลุคด้วยการหั่นผมสั้นเพื่อสวมบทเป็น Park Kyung Rye ผู้จัดการร้านกาแฟที่มีบุคลิกแมนๆ หน่อย     Hye In ตอนไว้ผมยาว   เธอดูเป็นสาวหวาน น่ารักใสๆ   และนี่คือตอนเธอตัดผมสั้นเพื่อปรับลุคให้เข้ากับบทบาทที่ได้รับ   ใครที่ไม่เคยติดตามผลงานเธอมาก่อน อาจจะคิดว่าเธอเป็นทอม ไม่ก็หนุ่มน้อยหน้าหวานไปเลยก็ได้   มันก็จะแมนๆ หน่อยอะนะ   แม้จะตัดผมเพื่อแสดงละครโดยเฉพาะ…

  • จีนประสบความสำเร็จ ‘โคลนนิ่งลิง’ 2 ตัวแรกของโลก ทำให้โลกเข้าใกล้การโคลนมนุษย์มากขึ้น

    จีนประสบความสำเร็จ ‘โคลนนิ่งลิง’ 2 ตัวแรกของโลก ทำให้โลกเข้าใกล้การโคลนมนุษย์มากขึ้น

    คงไม่ต้องบอกว่าทุกวันนี้โลกเรามีความก้าวหน้าในเรื่องเทคโนโลยีมากแค่ไหน เห็นได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำที่บางอย่างก็ล้ำซะจนตามไม่ทัน และข่าวดีล่าสุดคือ จีนประสบความสำเร็จในการโคลนนิ่งลิง 2 ตัวแรกของโลก โดยใช้เทคนิคเดียวกับที่สร้างแกะโคลนนิ่ง Dolly     ทั้ง 2 ตัวเป็นลิงแสมหางยาว มีชื่อว่า Zhong Zhong และ Hua Hua พวกมันเกิดเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนในห้องทดลองในประเทศจีน นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าประชากรลิงมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิจัยโรคในมนุษย์อีกด้วย     ทางด้าน Qiang Sun จากสถาบัน Chinese Academy of Sciences Institute of Neuroscience บอกว่าลิงโคลนจะเป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาโรคทางพันธุกรรม ได้แก่ โรคมะเร็งบางชนิด ระบบย่อยอาหาร และความผิดปกติทางภูมิคุ้มกัน เขาเสริมอีกว่า “ทุกวันนี้เรามีคำถามมากมายเกี่ยวกับวานรวิทยา ซึ่งคำตอบของคำถามเหล่านี้สามารถศึกษาได้จากแบบจำลองนี้”     นักวิจัยของจีนระบุด้วยว่าลิงทั้งสองตัวนี้ยังต้องได้รับอาหารผ่านทางขวด และกำลังเติบโตในอัตราปกติ โดยพวกเขาคาดว่าจะมีลิงแสมโคลนนิ่งเกิดขึ้นอีกหลายตัว แม้ว่านี่จะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของจีน แต่นักวิจารณ์ได้ออกมาบอกว่าการทดลองนี้ก่อให้เกิดความกังวลในด้านจริยธรรม เพราะมันเป็นสัญญาณว่าโลกขยับเข้าใกล้การโคลนนิ่งมนุษย์มากขึ้น     ขณะเดียวกัน ศาสตราจารย์ Robin Lovell-Badge จากสถาบัน The Francis Crick Institute ในลอนดอนก็ออมายืนยันว่าเทคนิคการโคลน Zhong Zhong…

  • ไปทำอะไรอย่างงั้น!! หนุ่มจีนทดสอบแบตเตอรี่ iPhone ด้วยการกัด กลายเป็นระเบิดตู้มต้าม

    ไปทำอะไรอย่างงั้น!! หนุ่มจีนทดสอบแบตเตอรี่ iPhone ด้วยการกัด กลายเป็นระเบิดตู้มต้าม

    การที่เราจะซื้อแบตเตอรี่ก้อนใหม่เพื่อเติมพลังให้กับโทรศัพท์ของเรานั้น ก็แน่นอนว่าจะต้องตรวจสอบก่อนให้ดีว่ามันเป็นของแท้หรือของปลอมกันแน่ ซึ่่งการตรวจสอบนั้นก็สามารถทำได้หลายวิธี อย่าง ดูใบประกัน หรือซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ หรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่คงไม่ใช่วิธีการกัดเพื่อทดสอบความแข็งเหมือนกับที่ชายคนหนึ่งลงมือ เพราะว่ามันทำให้แบตเตอรี่ก้อนดังกล่าวระเบิดใส่หน้าของเขาจนกลายเป็นภาพแสนน่ากลัวเลยทีเดียว     จากการรายงานจากสื่อ Taiwan News ระบุเอาไว้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ในร้านอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งของประเทศจีน เมื่อมีชายคนหนึ่งต้องการจะหาซื้อแบตเตอรี่ก้อนใหม่ให้กับโทรศัพท์ iPhone ของเขา เขาจึงไปเลือกซื้อที่ร้านดังกล่าว และเลือกที่จะทดสอบว่าเป็นของแท้หรือไม่ด้วยการกัด!! และทันทีที่เขาเริ่มวิธีแผลงๆ นี้ ก็เกิดลูกไฟขนาดใหญ่แตกออกมาจากแบตเตอรี่ก้อนดังกล่าว ซึ่งก็จะสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้เห็นเหตุการณ์นี้จำนวนมาก     โดยภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ และได้มีการเผยแพร่ไปยังเว็บไซต์ชื่อดังของประเทศจีนอย่าง  miaopai.com เมื่อวันที่ 20 มกราคม ซึ่งก็มีผู้เข้าชมการทดสอบแปลกๆ ของชายคนนี้มากถึง 4.5 ล้านครั้งเลยทีเดียว ในวิดีโอดังกล่าว เราจะสามารถเห็นได้ว่าชายคนหนึ่งนำแบตเตอรี่ไปกัด เพื่ออยากจะทดสอบว่าเป็นของแท้หรืออาจจะทดสอบความแข็งแรงก็ไม่ทราบ แต่ทันทีที่เขาเริ่มกัดก็ปรากฏว่ามีแสงไฟลุกวาบออกมาจากแบตเตอรี่ก้อนนั้น เหมือนกับพลุแตกเลยก็ว่าได้     อย่างไรก็ตามก็เป็นโชคดีของชายคนนี้ เมื่อมีรายงานว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุแบตเตอรี่ระเบิดดังกล่าวแม้แต่คนเดียว ทว่าเรื่องดังกล่าวก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติที่สามารถพบเห็นได้ทุกวัน จึงได้มีความคิดเห็นตลกๆ จากชาวเน็ตประเทศจีนอย่างมากมายถึงสิ่งที่ชายคนนี้ทำลงไป อย่างเช่น “แบตเตอรี่ไม่ใช่ก้อนทองนะ จะไปกัดทดสอบมันทำไม” “เขาอาจจะเห็นว่า โลโก้แอปเปิ้ลยังมีรอยแหว่งเลย ถ้าแบตเตอรี่ของแท้ก็อาจจะต้องมีรอยแหว่งบ้างก็ได้”…

  • โมเดลลิ่งที่คัดนายแบบนางแบบ ที่มีอายุ 45-90 ปี แต่ละคนยังคงความเก๋าไม่เปลี่ยนแปลง

    โมเดลลิ่งที่คัดนายแบบนางแบบ ที่มีอายุ 45-90 ปี แต่ละคนยังคงความเก๋าไม่เปลี่ยนแปลง

    ปกติแล้วนายแบบ นางแบบ ที่เราจะเห็นบนนิตยสารนั้นจะเป็นหนุ่มๆ สาวๆ ทั้งนั้นเลย เพราะว่าสรีระร่างกายของคนหนุ่มคนสาวนั้นได้เปรียบกว่าช่วงวัยอื่น จะทำให้ภาพที่ออกมานั้นสวยงามไร้ที่ติ แต่ว่ามีช่างภาพคนหนึ่งนามว่า Igor Gavar จาก Omsk ประเทศรัสเซีย เค้าเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Oldushka บริษัทตัวแทนนายแบบนางแบบที่ตั้งขึ้นมาสำหรับคนที่อายุมากแล้ว ซึ่งได้ก่อตั้งมาแล้วหนึ่งปีครึ่ง และตอนนี้มี 4 สาขาใน Moscow, Saint Petersburg, Chelyabinsk และ Omsk โดยที่บริษัทของเขานั้นได้ถ่ายภาพนายแบบ นางแบบ ในช่วงอายุ 45-90 ปีมามากมาย เราไปดูกันดีกว่าว่าตัวอย่างภาพที่เอามาจะเจ๋งขนาดไหน   Nina Ivanovna อายุ 75 ปี   Irina Denisova อายุ 80 ปี   Irina Belisheva อายุ 70 ปี   Tatyana Nekludova อายุ 61 ปี   Victor Sosnovtsev อายุ 73 ปี  …

  • ดินสอเซปชั่น!! นี่คือดินสอที่ทำจากดินสอที่ทำจากดินสออีกที เอ๊า! งงล่ะสิ

    ดินสอเซปชั่น!! นี่คือดินสอที่ทำจากดินสอที่ทำจากดินสออีกที เอ๊า! งงล่ะสิ

    เพื่อนๆ เคยดูหนังเรื่อง Inception กันมั่งมั้ยเอ่ย มันเป็นหนังที่แนวคิดเจ๋งมากๆ โดยการเล่าเรื่องถึงการเปลี่ยนความคิดจากความฝันที่ซ้อนฝันที่ซ้อนฝันกันหลายๆ ครั้งทับซ้อนจนมึนงง ฮ่าๆ ซึ่งในข่าวนี้ก็จะเป็นเรื่องของการทำดินสอจากดินสอและจากดินสออีกที ฟังดูเหมือนหนังที่ว่าไปเลยใช่มะ ฮ่าๆ     ผู้ใช้ Youtube ท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Bobby Duke Arts นั้นได้ทำคลิปวิดีโอขั้นตอนที่เขานั้นทำการผลิตดินสอที่อยู่ในดินสอที่อยู่ในดินสออีกทีขึ้นมา เรียกได้ว่าเป็น Inception เวอร์ชันดินสอก็ว่าได้ ซึ่งการทำแบบนี้ต้องใช้ความละเอียดและความอดทนมากแน่นอน เพราะอย่างที่รู้ๆ ว่าไส้ดินสอนั้นบอบบางเพียงใด เพื่อนๆ คงงงกันล่ะสิว่า ดินสอจากดินสอจากดินสอ จะหน้าตาเป็นอย่างไร ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่า   วิดีโอขั้นตอนการแกะสลักดินสอจากดินสอจากดินสออีกที   สุดยอดดดดดดดดดดดด งานละเอียดมั่กมัก   ที่มา Gizmodo, Youtube 

  • ของฟรีใครก็ชอบ! สาวสั่งตัวอย่างพรมเช็ดเท้าฟรี พอมาส่งที่บ้านเท่านั้นแหละ แทบไม่มีที่ไว้

    ของฟรีใครก็ชอบ! สาวสั่งตัวอย่างพรมเช็ดเท้าฟรี พอมาส่งที่บ้านเท่านั้นแหละ แทบไม่มีที่ไว้

    ขึ้นชื่อว่าของฟรี หลายๆ คนนี่ยิ้มเลยใช่มั้ย ชอบของฟรีกันล่ะสิ #เหมียวฝึกหัด เองก็ชอบของฟรีม๊ากมากกก ขนาดเวลาเดินห้างละเจอบูธที่ให้ชิมสินค้าฟรี #เหมียวฝึกหัด จะลากเพื่อนไปชิมทันที แม้เพื่อนจะไม่อยากกินก็ตาม ฮ่าๆ ซึ่งในข่าวนี้ก็เป็นเรื่องของคนที่ชอบของฟรีเหมือนกัน โดยสาวคนหนึ่งที่ใช้ชื่อในเว็บ imgur ว่า RowdyMcMenace นั้นไปค้นพบว่าสามารถสั่งซื้อตัวอย่างพรมเช็ดเท้าจากเว็บขายของออนไลน์อย่าง Amazon ได้ฟรี เธอคิดว่ามันคงดีถ้าจะเอามาให้เหล่าเจ้าเหมียวที่อยู่ในบ้านของเธอนั้นได้เล่นกัน   “มันเริ่มจากฉันไปเจอว่า Amazon นั้นสามารถซื้อตัวอย่างพรมเช็ดเท้าได้และฉันคิดว่ามันคงเหมาะที่จะให้แมวเล่น แถมมันยังฟรีทั้งหมดด้วย”   Rowdy กล่าวว่า “แน่นอน ฉันสั่งซื้อไปหลายอันเลยล่ะ ทีแรกฉันก็ได้อันเล็กๆ มาก่อน ของพวกนี้มันคงจะทำเป็นของเล่นให้แมวข่วนเล่นได้ฟรีๆ ฉันเลยสั่งมาเพิ่ม แต่พอวันต่อมาอันเบ้อเริ่มก็โผล่มาวางทับกันเป็นภูเขาเลย “ ยังไงก็เถอะ นี่คงทำให้เธอนั้นเป็นศัตรูกับคนส่งของไปเลย เพราะว่าแพคเกจตัวอย่างที่เธอสั่งมาแต่ละครั้งมันหนักโคตรๆ จนเขาต้องขอตัวช่วยกันเลย โดยที่ Rowdy ได้บอกว่า “แฟนของฉันอยู่บ้านและตื่นพอดี เขาเลยไปช่วยคนส่งของเอาของเข้ามาในบ้าน” “แฟนของฉันนั้นเป็นคนสบายๆ หลังจากที่เอาของเข้ามาในบ้านแล้ว เขาก็ปลุกฉันเพื่อดูฉันตื่นเต้นสุดๆ และฉันแทบไม่อยากจะเชื่อ ตอนนั้นฉันนั้นทำได้แค่หัวเราะและรู้สึกผิดกับที่ทำไป ฉันรู้สึกแย่มากๆ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นต้องทำกับมันให้ดีที่สุด จากนั้นเขาก็ช่วยฉันจัดระเบียบของต่างๆ และเราก็เล่นกับเจ้าเหมียว”   “ของชุดแรกนั้นมาถึงแล้ว และมันก็ขนาดพอดี แต่ฉันตระหนักได้ว่าเนื้อผ้ามันไม่ได้ดีไปทุกอัน ฉันเลยสั่งของเพิ่มอีก”…

  • Grumpy Cat ชนะคดีลิขสิทธิ์ 22 ล้าน แต่ทำเนียนไม่ยอมมาฟังคำตัดสินซะงั้น!!

    Grumpy Cat ชนะคดีลิขสิทธิ์ 22 ล้าน แต่ทำเนียนไม่ยอมมาฟังคำตัดสินซะงั้น!!

    เจ้าแมว Tardar Sauce หรือเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ Grumpy Cat เป็นแมวเหมียวที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดตัวหนึ่งของโลก ด้วยหน้าตาบึ้งตึงที่เป็นเอกลักษณ์จึงทำให้มันมัดใจคนทั่วโลกได้อยู่หมัด ในปี 2012 ภาพของเจ้าเหมียวที่ทำหน้าบึ้งอยู่ตลอดเวลาก็กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกโซเชียล และมีคนเอาภาพมันไปทำมีมมากมายจนสร้างชื่อเสียงให้กับมันมาก นอกจากนี้มันยังเคยมีหนังสั้นของตัวเองในปี 2014 ที่ชื่อ Grumpy Cat’s Worst Christmas Ever อีกด้วย   Tardar Sauce แมวหน้าบึ้งผู้เป็นที่รู้จักในชื่อ Grumpy Cat   ล่าสุดเจ้าเหมียวหน้าบึ้งตัวนี้ก็ทำเงินให้กับเจ้าของไป 710,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 22 ล้านบาท) จากการชนะคดีเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ในการใช้โลโก้หน้าแมวเหมียวบูดบึ้ง ในศาลที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา   กาแฟ Grumppuccino   เรื่องเริ่มต้นขึ้นในปี 2013 ตอนนั้นบริษัทเครื่องดื่ม Grenade Beverage ของนาย Paul Sandford และ Nick ลูกชายของเขา ติดต่อบริษัท Grumpy Cat Limited เพื่อที่จะขออนุญาติใช้โลโก้เจ้าแมวบนกาแฟของเขา พวกเขาจ่ายเงินค่าลิขสิทธิจำนวน 150,000…

  • เด็ก 9 ขวบติเตียนคุณครู ‘โคลัมบัสไม่ได้พบอเมริกา’ อย่าสอนอะไรผิดๆ พร้อมตั้งคำถามย้อน

    เด็ก 9 ขวบติเตียนคุณครู ‘โคลัมบัสไม่ได้พบอเมริกา’ อย่าสอนอะไรผิดๆ พร้อมตั้งคำถามย้อน

    บางทีสิ่งที่เราร่ำเรียนกันมานั้น อาจจะเป็นความรู้และข้อมูลที่ถูกส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้ถูกต้องเสมอไป แต่พวกเราเองเรียนรู้มันมาอย่างนั้น โดยที่ไม่ได้สนใจหรือสังเกตเห็นความผิดปกติ แต่สำหรับเด็กชายวัย 9 ขวบที่ชื่อว่า King Johnson คนนี้ ไม่ยอมปล่อยให้ความผิดพลาดนั้นผ่านไปง่ายๆ แน่นอน เมื่อเขาพบว่าสิ่งที่เขาได้เรียนไปในเรื่องราวเกี่ยวกับ “ผู้คนพบอเมริกา” ที่ว่าเป็น Christopher Columbus นั้นมันไม่เป็นความจริง!     เขาจึงทำการเขียนรีวิววิชาดังกล่าวในเชิงตำหนิลงในสมุดบันทึกของเขา พร้อมย้อนครูผู้สอนด้วยคำถามสุดเจ็บแสบเลยทีเดียว โดยใจความในบันทึกที่เขาเขียนก็ประมาณว่า สิ่งที่เขาได้เรียนมาไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นเรื่องโกหก พร้อมทั้งเฉลยความจริงให้ผู้อ่านได้ตาแตกกันไปอีก     เขาเขียนว่า “วันนี้เป็นการเรียนหนังสือที่ไม่ค่อยดีนัก บลาๆๆๆ ผมไม่อยากได้ยินคุณครูพูดอะไรอีกแล้ว” “คุณครูสอนผิด และผมก็ไม่อยากจะฟังสิ่งที่ครูโกหกอีก แม่ผมบอกว่า มีคนชื่อ Christofer (Christopher) คนเดียวเท่านั้นที่พวกเรายอมรับ นั่นก็คือ Christopher Wallace“ (Christopher Wallace คือศิลปินแร็พชื่อดัง รู้จักกันในนาม Notorious B.I.G.) เขาเขียนต่อว่า “Columbus ไม่ได้เป็นคนค้นพบประเทศของเราเสียหน่อย ชาวอินเดียแดงต่างหากที่พบ” “ผมยังอยากมีวันหยุดอยู่นะ แต่ผมไม่อยากให้คุณครูสอนอะไรที่มันไม่จริงอีก” “และคำถามสำหรับวันนี้ก็คือ คนขาวจะมาสอนประวัติของคนผิวสีได้อย่างไรกันล่ะ?” ที่หมายความประมาณว่า คนผิวขาวจะมารู้ประวัติศาสตร์คนผิวสีที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกันได้อย่างไรกัน!?  …

  • แบคทีเรียกินเนื้อคร่าชีวิตเด็กชาย หมอพยายามยื้อสุดหนทาง ตัดจนไม่เหลืออะไรให้ตัดแล้ว…

    แบคทีเรียกินเนื้อคร่าชีวิตเด็กชาย หมอพยายามยื้อสุดหนทาง ตัดจนไม่เหลืออะไรให้ตัดแล้ว…

    แบคทีเรียนั้นมีอยู่ตามที่ต่างๆ แม้รอบๆ ตัวของพวกเราเองก็มีแบคทีเรียซ่อนอยู่ในที่ที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างสะอาดเท่าที่ควร และเมื่อคนเราได้รับแบคทีเรียมากๆ เข้า ก็จะส่งผลกับร่างกายของเรา และมนุษย์เราเองก็ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าจะมีแบคทีเรียชนิดไหน อยู่ที่ไหนบ้าง และอาจจะโชคร้ายแบบเด็กชายรายนี้ที่ชื่อว่า Liam Flanagan เขาเป็นเพียงหนุ่มน้อยอายุ 8 ปี ที่ดันขี่จักรยานล้มขณะกำลังจะปั่นไปหาครอบครัว ในวันที่ 13 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา     จากอุบัติเหตุทำให้คันบังคับหรือแฮนด์ของจักรยานนั้นไปเกี่ยวกับ “ต้นขา” ของเขาเข้า จึงต้องถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลเพื่อทำแผล หลังจากกลับบ้านมาได้ไม่กี่วันเขาพบว่า ที่แผลบนหน้าของเขานั้นเกิดเจ็บปวดและม่วงแดง เหมือนกับว่ามันเริ่มเน่า เข้าจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง เมื่อแพทย์วินิจฉัยจึงพบว่า เขาเป็น “โรคเนื้อเน่า” ที่เกิดจาก “แบคทีเรียกินเนื้อ” นั่นเอง     จากนั้นหนูน้อย Liam จึงเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดเนื้อออกโดย 3 โรงพยาบาลด้วยกัน แต่แบคทีเรียตัวร้ายกลับทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ “พวกเขาตัดเนื้อของ Liam ออกชิ้นแล้วชิ้นเล่า” Scott Hinkle พ่อบุญธรรมของ Liam กล่าว Sara Hebard แม่ของ Liam กล่าวว่า “เนื้อขาขวาถูกตัดออกเกือบทั้งหมด แต่ก็ทำได้แค่ตัดและก็หวังว่ามันจะหาย…

  • เรื่องเราสองสามคน… ภรรยาขอสามีมีรักใหม่ แม้จะแต่งงานและมีลูกด้วยกันแล้ว ก็ยังแฮปปี้อยู่!?

    เรื่องเราสองสามคน… ภรรยาขอสามีมีรักใหม่ แม้จะแต่งงานและมีลูกด้วยกันแล้ว ก็ยังแฮปปี้อยู่!?

    บางครั้งความสัมพันธ์ของคนเราก็ไม่ตายตัว ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าคู่รักทุกคู่จะมีความสุขหากคบกันอยู่แค่ 2 คน วันนี้เราจึงจะพามาฟังเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่ตกลงกันว่าไม่จำเป็นต้องมีกันและกันแค่คนเดียวหรอก สามารถมีคนรักเพิ่มได้ไม่เป็นไร หญิงสาวผู้หนึ่งนามว่า Anita Cassidy วัย 40 ปี และสามีของเธอนามว่า Marc อายุ 46 ปี ในขณะที่แต่งงานกันมาได้ร่วม 10 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน พวกเขาก็ได้ตกลงกันว่าเธอและเขาสามารถไปนอนกับคนอื่น หรือไปมีความรักกับคนอื่นได้ ซึ่งผลจากการทำข้อตกลงครั้งนี้ก็คือ Anita มีสามีเพิ่มมาอีกคนนั่นก็คือ Andrea ซึ่งเป็นชาวอิตาลีอายุ 30 ปี นั่นเอง     เรื่องราวจากทางด้าน Anita มีอยู่ว่า   สามปีก่อนเธอคุยกับ Marc สามีของเธอว่าเธอรู้ว่าการมีเขาเพียงคนเดียวมันไม่เพียงพอ และก็ไม่อยากแอบไปมีสัมพันธ์กับคนอื่นลับหลังเขาด้วย ถึงแม้ว่าชีวิตที่ผ่านมาจะมีความสุขดีแต่เธอต้องการมากกว่านั้น เธอเคยเป็นคนที่หัวโบราณมาก่อน แต่วันหนึ่งเธอก็รู้สึกว่าเธอขาดอะไรบางอย่าง ถึงแม้ชีวิตคู่ของเธอจะดี แต่เธอกลับรู้สึกเหงา จนทำให้เธอเจอหนังสือเล่มหนึงเกี่ยวกับ “ความสัมพันธ์แบบเปิด” ซึ่งมันทำให้เธอเปลี่ยนความคิด เธอจึงนำหนังสือเล่มนี้ไปให้ Marc อ่าน “การมีความสัมพันธ์แบบรักเดียวนั้นเหมือนเราขังอากาศบริสุธิ์ไว้ในบ้านของเรา เก็บมันไว้แต่กับตัวเราเอง วันหนึ่งอากาศนั้นเริ่มไม่บริสุทธิ์เพราะไม่มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจน” เธอกล่าว จากนั้นเธอจึงเริ่มหาคู่เดทผ่านอินเทอร์เน็ต…

  • มันไม่ใช่อ่ะ!? หญิงสาวตัดสินใจทิ้งแฟนหนุ่ม หลังพบว่ารถปอร์เช่ของเขาคือ ‘มิเรอร์เกรด AAA’

    มันไม่ใช่อ่ะ!? หญิงสาวตัดสินใจทิ้งแฟนหนุ่ม หลังพบว่ารถปอร์เช่ของเขาคือ ‘มิเรอร์เกรด AAA’

    เพื่อนๆ เคยคิดกันไหมครับว่า ของบางอย่างเราไม่จำเป็นต้องใช้ของแท้ก็ได้ ขอให้มันใช่ได้เหมือนกัน จะของแท้หรือของเลียนแบบมันก็ไม่ต่างกันหรอก แต่เรื่องราววันนี้ ของเลียนแบบ ได้ทำพิษเข้าแล้ว เพราะเมื่อสาวจับได้ว่าหนุ่มคู่เดทของตนใช้ของปลอม จนถึงกับต้องเลิกรากันเลยทีเดียว     เมื่อมีหนุ่มคนหนึ่งขับรถ Porsche (บ้านเราเรียก ปอร์เช่) คันงาม รุ่น Cayenne ไปที่งานสังสรรค์แห่งหนึ่ง แล้วด้วยความที่ขับรถยี่ห้อหรูก็ทำให้ชายหนุ่มได้แอ้มสาวกลับมาเสียด้วย     เขาและหญิงสาวคบกันได้ราว 2 สัปดาห์ มีเซ็กส์กันบ้างสองสามครั้ง หญิงสาวรู้สึกพอใจที่ได้คบกับหนุ่มไฮโซแบบเขา จึงโพสต์ภาพรถ Porsche สุดหรูของเขาลงอินเทอร์เน็ตเพื่อโอ้อวด   .   จากนั้นเพื่อนของหญิงสาวจึงได้สังเกตเห็นว่านั่นไม่ใช่รถ Porsche จริงๆ แต่มันคือรถของจีนที่ทำขึ้นมาเพื่อลอกเลียนแบบ Porsche รุ่น Cayenne ที่มีชื่อยี่ห้อว่า Zoyte ต่างหาก เพื่อนของหญิงสาวกล่าวว่า รถยี่ห้อ Zoyte นี้มีราคาประมาณ 740,000 บาทเท่านั้นเอง ในขณะที่รถ Porsche Cayenne ของจริงจะมีราคาถึง 7,400,000 บาท ซึ่งมากกว่าถึง 10 เท่า!…

  • สถานีตำรวจจีนถูกแมวยึดจนล้นโรงพัก งานนี้ต้องขอความช่วยเหลือจากประชาชน ให้รับไปเลี้ยงหน่อย

    สถานีตำรวจจีนถูกแมวยึดจนล้นโรงพัก งานนี้ต้องขอความช่วยเหลือจากประชาชน ให้รับไปเลี้ยงหน่อย

    เวลาเห็นหมาแมวตกอยู่ในอันตราย เรามักจะขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำตรวจ พอช่วยเสร็จ ตัวที่มีเจ้าของก็กลับบ้านไป แล้วตัวที่ไม่มีเจ้าของล่ะ ตำรวจจะทำยังไงกับพวกมัน? แรกๆ ตำรวจอาจจะเอาไปไว้ที่โรงพักก่อนแล้วค่อยหาบ้านใหม่ให้พวกมัน แต่การหาบ้านให้สัตว์เลี้ยงมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ยิ่งมีหลายตัวยิ่งต้องใช้เวลานาน เช่นเดียวกับสถานีตำรวจใจมณฑลเจียงซู ประเทศจีนที่ถูกแมวเหมียวยึดจนล้นโรงพัก หลังจากตำรวจช่วยพวกมันมาจากโรงฆ่าสัตว์     ย้อนไปก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงกลางดึกคืนหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ Changshu ได้เรียกรถบรรทุกต้องสงสัยคันหนึ่งให้จอดเพื่อทำการตรวจสอบ เมื่อตรวจค้นภายในก็พบกรงแมวมากมายพร้อมกับแมวที่ถูกขโมยมา 69 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าพวกมันกำลังจะกลายเป็นอาหารเย็นของใครบางคน หลังจากที่ช่วยเหล่าแมวเหมียวจากรถบรรทุกคันนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปยังศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อให้รับพวกมันไปดูแลต่อไป     แต่ทางศูนย์พักพิงตอบมาว่าพวกเขาไม่มีที่พอสำหรับแมวมากมายขนาดนั้น… เมื่อรู้แบบนั้น ตำรวจไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพามันกลับไปอยู่ในโรงพักและดูแลพวกมันที่นั่น แน่นอนว่าสถานีตำรวจไม่ได้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆ ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงแมว ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องของบประมาณเพิ่ม รวมทั้งควักเงินจากกระเป๋าตัวเองออกมาเพื่อซื้ออาหารให้แมวและลูกมิ้วน้อยอีกหลายสิบตัว     พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านทางโซเชียลเพื่อให้ผู้คนช่วยรับเลี้ยงน้องแมวเหล่านี้ และโพสต์นี้ได้ถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว เว็บไซต์ข่าว Btime.com รายงานว่าตั้งแต่นั้นมา ผู้คนจำนวนมากได้บริจาคสิ่งของจำเป็นเข้ามาให้ ไม่เพียงเท่านั้นบางคนยังรับน้องแแมวกลับไปดูแลที่บ้านด้วย   ที่มา medium

  • น้องหมาเนียนขึ้นรถไฟใต้ดิน ตามจับวุ่นวาย เจ้าของแฉ นิสัยเปลี่ยนตั้งแต่คบ “ไซบีเรียน”!?

    น้องหมาเนียนขึ้นรถไฟใต้ดิน ตามจับวุ่นวาย เจ้าของแฉ นิสัยเปลี่ยนตั้งแต่คบ “ไซบีเรียน”!?

    มันจะไม่ผิดอะไรเลยถ้าสัตว์เลี้ยงทำตัวเหมือนสัตว์ทั่วไป แต่บางตัวเนี่ยสิอยู่กับมนุษย์จนเคยชิน เห็นมนุษย์ทำอะไรก็อยากทำกับเค้าหมด แบบนี้ก็วุ่นวายสิหนู นี่ไม่ได้ว่าสัตว์เลี้ยงทุกตัวหรอกนะ กำลังบ่นเจ้าสุนัขจอมซนที่แอบขึ้นรถไฟใต้ดิน ทำเอาเจ้าหน้าที่ต้องตามจับวุ่นวายกันไปหมด     เรื่องนี้เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ในเมืองต้าเหลียน ประเทศจีน โดยมีสุนัขพันธุ์ซามอยด์ตัวหนึ่ง แอบหนีออกจากบ้านโดยที่เจ้าของไม่รู้ และมันก็แอบเข้ามาในสถานีรถไฟใต้ดินแบบเนียนๆ ไม่ใช่แค่เข้ามาในสถานี แต่มันยังรอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้อย่างง่ายดายก่อนจะลงบันไดผ่านด่านและเข้าไปนั่งในรถไฟจนได้ เรื่องตั๋วนะหรอ อย่าถามเลย ไม่มี ไม่ซื้อ ไม่สนด้วย     กระทั่งรถไฟออกจากชานชาลา น้องหมาคงคิดว่ารอดแล้วมั้ง ที่ไหนได้ หลังจากนั่งไปได้แค่สองป้าย มันก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้ามารวบตัวไว้ได้สำเร็จ ส่วนเจ้าของน้องหมานั้นกว่าจะรู้ว่ามันหายไปจากบ้านเวลาก็ล่วงเลยไปถึง 2 ชั่วโมงแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ในสถานีรถไฟทันที     เจ้าของบอกว่าปกติแล้วเจ้าซามอยด์ตัวนี้มันไม่ได้มีนิสัยหนีเที่ยวแบบนี้หรอก แต่ช่วงนี้มันสนิทกับไซบีเรียนฮัสกี้อีกตัวที่เลี้ยงไว้ นิสัยเลยเปลี่ยนไป เผลอไม่ได้ชอบแอบออกไปเที่ยวเป็นประจำ นี่ถ้าเจ้าไซบีเรียตัวนี้ได้ยิน มันคงจะพูดว่า ‘ตรูเป็นเด็กดีอยู่บ้าน ก็หาความผิดมาโยนให้จนได้’ ขนาดชาวเน็ตจีนยังมาแซวเลยว่าโยนความผิดให้ไซบีเรียนแบบนี้ก็ได้เหรอ     บางคนบอกว่ามันอาจจะเป็นแผนของเจ้าหมาไซบีเรียที่อยากครอบครองเจ้าของไว้คนเดียว มันเลยสอนให้ซามอยด์หนีออกจากบ้าน แหม๊ มันร้ายจริงๆ แต่ก็มีอีกหลายคนคอมเมนท์บอกว่าใครที่เลี้ยงสุนัขซามอยด์จะรู้ว่ามันเป็นหมาที่เอ๋อมากจริงๆ นะ มันเลยหนีออกมาแบบไม่กลัวอะไรแบบนี้ไง…

  • คู่รักพักน้ำหนัก พบรักครั้งเยาว์วัย หมั้นกันแล้วแต่ถ้าไม่ได้ลงแข่งเพาะกาย ยังไงก็ไม่แต่ง!!

    คู่รักพักน้ำหนัก พบรักครั้งเยาว์วัย หมั้นกันแล้วแต่ถ้าไม่ได้ลงแข่งเพาะกาย ยังไงก็ไม่แต่ง!!

    คู่รักหลายๆ คู่ อาจมีเงื่อนไขบางอย่างก่อนตัดสินใจแต่งงาน เช่น การหาเงินสินสอดให้ได้ตามที่อีกฝ่ายเรียก หรือการเลิกทำบางอย่างที่อีกฝ่ายไม่ชอบ เช่น สูบบุหรี่ ติดเที่ยว หรือเจ้าชู้ เป็นต้น แต่สำหรับคู่รัก Dennis และ Melissa Hong พวกเขามุ่งมั่นที่จะลดน้ำหนักตามเป้าหมาย และหากว่าทำไม่ได้ก็จะไม่มีงานแต่ง…     Melissa เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายด้านการทำธุรกิจ ขณะที่ Dennis เปลี่ยนอาชีพไปเรื่อยๆ นักชีววิทยาวิวัฒนาการ นักวิชาการของ SeaWorld นักเล่นไพ่โป๊กเกอร์มืออาชีพ และตอนนี้กำลังศึกษาที่จะเป็นนักบำบัดคู่สมรสและครอบครัว ในระหว่างที่ผลักดันงานบริการเป็นโค้ชให้คำแนะนำการออกเดทของตัวเอง ทั้งคู่เจอกันในแอพหาคู่ออนไลน์ eHarmony เมื่อปี 2011 และได้หมั้นกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2014… เช่นเดียวกับคู่รักทั่วไปที่อยากมีรูปร่างดีก่อนวันสำคัญของพวกเขาจะมาถึง แต่พวกเขาตระหนักว่าเป้าหมายแค่นั้นคงจะไม่พอ ดังนั้นแทนจะไปยิมเพื่อลดน้ำหนักเท่าที่จะทำได้ ทั้งคู่กลับตั้งเป้าหมายที่จะฝึกซ้อมเพื่อเข้าแข่งขันเพาะกาย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้งานแต่งของพวกเขาเกิดขึ้นได้     Dennis บอกว่า “เมื่อเราเริ่มวางแผนจัดงานแต่งและได้มีการพูดถึงเรื่องรูปร่างของเรา อยู่ดีๆ ไอเดียก็ผุดขึ้นในหัว สักพัก Melissa พูดขึ้นว่าเธออยากเข้าแข่งขันเพาะกายก่อนแต่งงาน ผมมองหน้าเธอแล้วพูดว่า “จริงดิ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ทางด้าน Melissa บอกว่า “ปัญหาของฉันคือ ฉันไม่เคยควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างจริงจังเลย อย่างไรก็ตาม…

  • สาวอาสาอุ้มท้องให้เพื่อนสนิท แต่ ‘ความตาย’ กลับพรากเพื่อนรักไปก่อนจะได้เห็นหน้าลูก

    สาวอาสาอุ้มท้องให้เพื่อนสนิท แต่ ‘ความตาย’ กลับพรากเพื่อนรักไปก่อนจะได้เห็นหน้าลูก

    เพื่อนแท้ไม่ใช่คนที่จะอยู่กับเราเฉพาะช่วงเวลาแห่งความสุขหรือเฉพาะตอนมีความทุกข์ แต่คือคนที่จะอยู่เคียงข้างเราในทุกช่วงเวลาและไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหนความเป็นเพื่อนก็จะไม่จางหายไปตามกาลเวลา เหมือนกับคู่เพื่อนรัก Bec Arena และ Jes Brockie ที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ชั้นประถม พวกเขาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานานกว่า 20 ปี กระทั่งปีที่แล้ว ทั้งคู่สนิทกันมากกว่าที่เคยเป็น เมื่อ Jes ตกลงที่จะตั้งครรภ์แทน Bec Bec ป่วยเป็น Cystic fibrosis (CF) โรคเรื้อรังที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เป็นภาวะที่ทำให้เกิดอันตรายได้ถึงชีวิต แต่เธอก็ยังอยากที่จะมีลูกกับสามี Gareth แม้จะมีความเสี่ยงมากก็ตาม     เมื่อ Jes ทราบความทุกข์ของเพื่อน เธอกับสามี Jeremy เลยตัดสินใจจะมอบของขวัญที่ดีที่สุดในโลกให้กับเพื่อนสนิทที่เธอรัก ด้วยการอาสาตั้งท้องแทนเธอ สำหรับ Jeremy นั้น เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในแอฟริกาใต้ที่เล่นให้กับ Mamelodi Sundowns FC และ New Zealand All White ทั้งคู่รู้สึกยินดีมากที่จะได้มอบความสุขให้เพื่อนที่กำลังเป็นทุกข์ ดังนั้นทั้ง 2 คู่ จึงแบ่งปันความสุขนี้ด้วยการทำวิดีโอประกาศเรื่องการตั้งครรภ์     ในวิดีโอ มีข้อความเขียนว่า “ไม่มีความลับใดๆ ที่โรค Cystic fibrosis จะทำให้หนทางการเป็นพ่อแม่ของเราเป็นเรื่องยากและวุ่นวาย ดังนั้นความคาดหวังสำหรับทารกน้อย Arena อีกไม่เกิน 6 เดือนก็ยังทำให้พวกเรารู้สึกเหมือนฝันอยู่เลย”…

  • ดาวโป๊ลูกครึ่งลาว-อเมริกัน อยากได้พระเอกเอเชียมาเล่นด้วย งานนี้ชายไทยสนใจกันมั้ย!?

    ดาวโป๊ลูกครึ่งลาว-อเมริกัน อยากได้พระเอกเอเชียมาเล่นด้วย งานนี้ชายไทยสนใจกันมั้ย!?

    หนุ่มๆ ที่ชอบดูหนังผู้ใหญ่ เวลาเห็นนางเอกคนไหนสวยๆ อึ๋มๆ และลีลาเด็ด คงคิดในใจว่าอยากมีโอกาสแอ้มเธอคนนั้นสักครั้ง แหน่ะ อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิด รู้หรอกน่า ถ้าใครเคยคิดแบบนั้นก็เชิญพบกับหนึ่งในนักแสดงหนังผู้ใหญ่ที่เป็นที่จับตามองมากที่สุดคือ Brenna Sparks สาวลูกครึ่งลาว-อเมริกัน วัย 25 ปี ที่เล่นหนังโป๊มานานกว่า 1 ปีแล้ว และมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว     ล่าสุด Sparks ทำให้หนุ่มๆ ในแถบเอเชียเซอร์ไพรส์ ดีใจ และตื่นเต้นแบบสุด เมื่อเธอโพสต์ทวิตบอกว่าวงการหนังโป๊ในสหรัฐอเมริกาต้องการผู้ชายเอเชียมากขึ้น     สื่อนอกรายงานว่าผู้ชายเอเชียในแวดวงหนังโป๊ไม่ว่าที่ไหนก็ตามเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก ยกเว้นประเทศในแถบเอเชีย อย่างญี่ปุ่น ทางด้าน Sparks ในฐานะผู้หญิงที่มีเชื้อสายลาว เธอแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีผู้ชายเอเชียอยู่ในวงการนี้ด้วย เพราะเธอไม่เคยได้เล่นหนังกับผู้ชายเอเชียเลย     นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกประหลาดในมาก เมื่อฟอลโลเวอร์บางคนของเธอในทวิตเตอร์บอกว่าจริงๆ แล้วผู้ชายเอเชียนั้นเก่งกาจในเรื่องนี้มากและตอนนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยที่โลดแล่นอยู่ในแวดวงหนังโป๊     อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หลายคนพยายามแนะนำผู้ชายเอเชียให้ กลับมีคนกลุ่มหนึ่งกลับมาเล่นมุขล้อเลียนซะงั้น โดยกล่าวหาว่า เป็นเพราะเจ้าโลกของผู้ชายเอเชียนั้นเล็กกว่ามาตรฐานไงล่ะ   ของผู้ชายเอเชียเล็กกว่ามาตรฐาน แบบนี้เล่นหนังโป๊ไม่ได้หรอก   ปัญหาเดียวคือจู๋ของผู้ชายเอเชียส่วนใหญ่เล็ก   แม้จะมีผลวิจัยที่พิสูจน์แล้วว่า…

  • เอาให้หนัก!! เจ้าของตึกใช้ “เครน” ยกรถไปจอดบนหลังคา หลังโดนขวางจนไปทำงานไม่ได้

    เอาให้หนัก!! เจ้าของตึกใช้ “เครน” ยกรถไปจอดบนหลังคา หลังโดนขวางจนไปทำงานไม่ได้

    จากดราม่าดังในประเทศไทย เรามาดูเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในประเทศจีนกันบ้าง หลังมีคนเอารถมาจอดขวางหน้าทางเข้า – ออก ตึกที่พักอาศัยแห่งหนึ่ง งานนี้เจ้าของตึกเลยเล่นคืนให้หนักซะเลย!!     เว็บไซต์ Sina News ได้รายงานว่าช่วงปลายปีก่อน มีหญิงสาวนิรนามได้นำรถยนต์มาจอดทิ้งไว้หน้าตึกที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในเมืองเปิ่นซี ประเทศจีน เจ้าของตึกได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่น ว่ามีหญิงนิรนามเอารถคันดังกล่าวมาจอดขวางทางเข้า – ออก ไว้ ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยไม่สามารถเดินทางออกไปทำงานได้ ซึ่งหลังจากนั้นชาวบ้านก็พยายามตามหาเจ้าของรถ ทว่าผ่านไปกว่า 38 ชั่วโมงแล้ว ก็ไม่มีเจ้าของรถออกมารับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น งานนี้เจ้าของตึกเลยคิดว่าต้องเอาคืนให้สาสมซะหน่อยแล้ว   เจ้าของตึกเลยจัดจ้างเครนมายกรถไปไว้บนตึกซะเลย   ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่การจอดรถมั่วๆ แบบนี้ ก็ควรได้รับบทเรียนเช่นกัน   หลังจากที่เรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ Weibo ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย บ้างก็ว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสม บ้างก็ชี้แนะว่าควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะดีกว่า   แต่ไม่ว่าชาวเน็ตจะว่ายังไง ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่า มันต้องใช้วิธีนี้แหละจัดการกับพวกจอดรถไม่เป็นที่เป็นทาง   ลองไปชมคลิปวิดีโอตอนยกรถไปไว้บนดาดฟ้ากันเลย   งานนี้เจ้าของรถก็คงต้องไปจ้างรถเครนมายกลงเองแล้วล่ะ ยุ่งยากหน่อยนะพี่เอ๋ยย ที่มา: Dailymail

  • สารคดีอาชญากรรม ฆาตกรผู้สังหารหญิงขายบริการ 49 ราย ก่อนที่จะบดร่างละเอียดปกปิดหลักฐาน…

    สารคดีอาชญากรรม ฆาตกรผู้สังหารหญิงขายบริการ 49 ราย ก่อนที่จะบดร่างละเอียดปกปิดหลักฐาน…

    ปกติแล้ว ฆาตกรเวลาลงมือฆ่าคนเสร็จ พวกเขามักจะทำลายหลักฐานด้วยกรนำศพไปถ่วงน้ำบ้าง เผาทิ้งบ้าง แต่สำหรับเขาคนนี้เลือกที่จะบดศพให้เละละเอียด นี่คือสารคดีเรื่องราวของ Robert Pickton วัย 49 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู่ในประเทศแคนาดา ที่ลงมือฆ่าหญิงขายบริการกว่า 49 ราย ร่างของหญิงขายบริการเหล่านั้นถูกบดจนเละก่อนจะนำไปให้หมูในฟาร์มกินและบางส่วนขายให้กับลูกค้า ซึ่งบางคนเป็นตำรวจท้องถิ่น ในที่สุดเขาจึงถูกจับในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2002 ปัจจุบันเขาอายุ 68 ปี และยังคงอยู่ในคุกที่รัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา     อย่างไรก็ตามได้มีการเผยแพร่ตอนใหม่ของสารคดี Voice of A Serial Killer ที่ออกอากาศผ่านช่อง British network CBS Reality ในสหราชอาณาจักรเมื่อคืนวันพุธ ซึ่งเป็นข้อมูลเพิ่มเติมจากการตรวจสอบ รวมทั้งคำสารภาพของ Pickton ที่เล่าให้เพื่อนร่วมห้องขังฟัง ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมห้องขังคนนั้นคือสายลับจาก Royal Canadian Mounted  เขาจึงพูดกับเพื่อนคนนั้นว่าเป้าหมายของเขาคือต้องการสังหารผู้หญิง 50 ราย… ย้อนกลับไปเมื่อปี 2002 ตอนที่ Pickton ถูกจับ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเจอข้าวของของผู้หญิงหลายรายที่หายไปในฟาร์มของเขา     หลังจากที่ถูกจับกุม ตำรวจพบร่องรอย DNA ของผู้หญิงที่หายไป…

  • บริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานไปเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งไปรับมาได้ โดยจ่ายเงินเดือนตามปกติ

    บริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานไปเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งไปรับมาได้ โดยจ่ายเงินเดือนตามปกติ

    หากเพื่อนๆ เป็นคนรักสัตว์นั้น ย่อมต้องมีความรู้สึกอยากอยู่กับมันตลอดเวลากันบ้างใช่มั้ยล่ะ? อยากจะใช้เวลากับมันมากกว่าออกไปทำงานเสียอีก ซึ่งมันคงจะดีถ้าเรายังสามารถอยู่กับมันได้ทั้งวัน และยังคงได้รับเงินเดือนอยู่ ฮ่าๆ แต่! วันนี้เรามีข่าวดีมาบอก สิ่งที่คนรักสัตว์อย่างเราๆ ได้ขอนั้นได้เป็นจริงแล้ว ขอแนะนำให้รู้จักกับ ‘Pet‘ernity Leave ฟังดูเหมือนกับ Paternity Leave ที่แปลว่าลาคลอดใช่มั้ย แต่นี่คือการลางานไปเพื่อไปใช้เวลากับเจ้าสัตว์เลี้ยงสมาชิกตัวใหม่ล่าสุดของครอบครัวเรา #เหมียวฝึกงาน ว่ามันเป็นความคิดที่เจ๋งมากๆ     Gosia Faras ผู้อำนวยการบริษัท Mars ได้ใช้ Peternity Leave กับองค์กรของเธอ โดยเธอได้กล่าวว่า “คุณน่าจะเดาได้นะ ว่าหลายๆ คนในสมาคมเรา นั้นเป็นคนรักสัตว์กันทั้งนั้น และมันสำคัญมากที่เราจะมีนโยบายอะไรที่จะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตในฐานะของเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้ง่ายๆ “เราขอแนะนำโครงการที่คิดค้นในปี 2012 ซึ่งจะทำให้พนักงานของเรานั้นสามารถลาหยุดได้ 10 ชั่วโมง เพื่อไปใช้เวลาร่วมกับเจ้าหมาหรือเจ้าเหมียวตัวใหม่ และยังสามารถได้เงินเดือนอยู่ เพราะว่าสัตว์เลี้ยงนั้นคือส่วนหนึ่งของครอบครัว เพราะฉะนั้นควรใช้เวลาเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ เหมือนตอนที่คุณนั้นมีลูกคนใหม่” “นี่ไม่ใช่นโยบายเพียงแค่เพื่อสัตว์เลี้ยงเท่านั้น ที่พวกเราเริ่มทำมันก็เพราะรู้ว่าการเลี้ยงสัตว์นั้นมันก็ดีสำหรับตัวคนเลี้ยงเองด้วย การพาหมาไปเดินเล่นนั้นช่วยลดความเครียด ทำให้สุขภาพดี ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจ นี่จะทำให้พนักงานนั้นมีเรี่ยวแรงในการทำงาน แถมยังดึงดูดพนักงานใหม่ๆ อีกด้วย” เธอกล่าวเพิ่ม “สำหรับคนรุ่นใหม่แล้ว เรื่องนี้มันถือเป็นเรื่องจริงจังมาก เพราะ 73%…

  • คู่รักชอบกินไก่ทอดมว๊ากกก เลยตัดสินใจเหมาร้าน KFC ใกล้บ้านเป็นสถานที่จัดงานแต่งซะเลย!!

    คู่รักชอบกินไก่ทอดมว๊ากกก เลยตัดสินใจเหมาร้าน KFC ใกล้บ้านเป็นสถานที่จัดงานแต่งซะเลย!!

    ตามปกติแล้วเรามักจะเห็นคู่รักจัดงานแต่งงานในโรงแรม ในบ้านของตนเองหรือบ้านเพื่อน หรือไม่ก็แต่งงานกันในโบสถ์ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่นิยมใช้จัดงานแต่งงานมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ทว่าคู่รักไม่จำเป็นต้องจัดงานแต่งงานในสถานที่ดังกล่าวเสมอไป จริงๆ แล้วพวกเขาอยากจะจัดที่ไหนก็ย่อมทำได้หากคู่บ่าวสาวพอใจ เหมือนอย่างคู่หนุ่มสาวผู้รักการกินไก่มากจนจัดงานแต่งงานในร้าน KFC (Kentucky Fried Chicken) คู่นี้   Edward และ Cherish Simms   ฝ่ายชาย Edward Simms อายุ 48 ปี และฝ่ายหญิง Cherish อายุ 34 ปีวางแผนจะจัดงานแต่งงานด้วยกัน แต่พวกเขาอยากให้งานแต่งงานของตัวเองแตกต่างจากคนอื่นบ้าง ประกอบกับความที่พวกเขาชอบกินไก่ทอดทั้งคู่ จึงตกลงปลงใจกันว่าจะจัดงานแต่งงานที่ร้านไก่ทอดแฟรนไชส์ KFC เสียเลย พวกเขาทั้งคู่อาศัยอยู่ในเมืองวอร์เชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ฝ่ายสาวเล่าว่า “เราทั้งคู่ชอบกินไก่ทอดและมันฝรั่งทอดมาก ฉันคิดว่าเราสั่งอาหารจากที่นั่นบ่อยแทบทุกอาทิตย์ได้เลยล่ะมั้ง … เราทั้งคู่เลยตัดสินใจว่าจะจัดงานแต่งงานที่นี่ เพราะมันน่าจะสนุกดี“   คู่บ่าวสาวถ่ายรูปกับผู้จัดการร้าน KFC สาขาที่ใช้จัดงานแต่งงาน   เธอยังเล่าอีกว่า “พวกเราไม่อยากให้งานแต่งงานน่าเบื่อ แล้วก็ไม่อยากจัดการงานแต่งงานเองทั้งหมดด้วย เลยลองติดต่อทางร้านดูเผื่อพวกเขาจะจัดงานแต่งงานให้เราได้” เจ้าสาวเล่าต่อว่า “เราลองติดต่อผู้จัดการร้านดู ตอนแรกเขาก็คิดว่าคำขอของเราแปลกดี…

  • พยาบาลโดนตะโกนด่า เพราะรถฉุกเฉินขวางทางคันอื่น ขณะที่เธอกำลังช่วยชีวิตผู้ป่วยอยู่

    พยาบาลโดนตะโกนด่า เพราะรถฉุกเฉินขวางทางคันอื่น ขณะที่เธอกำลังช่วยชีวิตผู้ป่วยอยู่

    สำหรับคนที่ทำงานช่วยชีวิตคน ความปลอดภัยของผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยย่อมมาก่อนเป็นอันดับแรก บางครั้งพวกเขาจำเป็นต้องฝ่าฝืนกฎจราจรเพื่อไปช่วยชีวิตคนเอาไว้ให้ทัน จึงมีบ้างที่จะมีคนไม่พอใจพวกเขา แต่หากมองในมุมของผู้ช่วยชีวิตแล้ว พวกเขาต้องลงแรงอย่างมากเพื่อที่จะช่วยชีวิตคนเอาไว้ให้ได้ แม้ว่าบางครั้งการกระทำฉุกเฉินของพวกเขาจะไปขัดประโยชน์ใครเข้า ก็อยากให้เข้าใจเอาไว้ด้วยว่าพวกเขาทำไปเพราะความจำเป็นทั้งนั้น   Katie Tudor นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์หญิง   Katie Tudor ทำงานอยู่กับ West Midlands Ambulance Service ซึ่งเป็นบริการรถพยาบาลในเขต West Midlands ประเทศอังกฤษ เธอเป็นนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ซึ่งมีหน้าที่ออกไปช่วยชีวิตผู้ป่วยกับรถพยาบาล เธอจึงเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินอยู่บ่อยครั้ง เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาเธอก็ออกไปช่วยชีวิตผู้ป่วยคนหนึ่ง เขาหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว รถพยาบาลจึงรีบมายังจุดเกิดเหตุและทำการจอดฉุกเฉินทันที ส่วน Katie ก็ไม่รอช้ารีบลงไปปั๊มหัวใจผู้ป่วยเช่นกัน แต่ระหว่างที่เธอกำลังทำการช่วยชีวิตผู้ป่วยอยู่ คนที่อยู่ข้างในเหตุการณ์กลับตะโกนใส่เธอด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด เพราะพวกเธอจอดรถพยาบาลขวางที่จอดรถของเขาอยู่   ทวีตของ Katie   แต่ทีมของเธอก็ยังคงทำงานกันต่อไป เมื่อปั้มหัวใจผู้ป่วยและทำการพยาบาลเบื้องต้นแล้ว พวกเธอก็รีบส่งผู้ป่วยไปยัง Royal Stoke University Hospital ที่อยู่ใกล้เคียงทันที เมื่อเธอกลับจากการช่วยชีวิตผู้ป่วยแล้ว เธอจึงระบายอารมณ์ลงบนทวิตเตอร์ว่า “อย่ามาตะโกนโวยวายเรื่องที่ฉันขวางทางจอดรถ ตอนที่ฉันพยายาช่วยชีวิตผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นอยู่ได้ไหม พวกเราพยายามกันมากเพื่อที่จะช่วยชีวิตคนนะ แล้วมันก็คงจะดีมากถ้าไม่มีคนอารมณ์ร้อนมาอยู่ข้างๆ “ คนที่ทำงานของเธอเองก็ให้สัมภาษณ์ว่า…

  • ไอรอนแมนรัสเซีย สร้างชุด Exo พร้อมปืนเก็บเสียง ไม่มีและไม่หนีพร้อมสู้คนทวงหนี้สุดใจ

    ไอรอนแมนรัสเซีย สร้างชุด Exo พร้อมปืนเก็บเสียง ไม่มีและไม่หนีพร้อมสู้คนทวงหนี้สุดใจ

    ทุกคนน่าจะรู้จักซูเปอร์ฮีโร่เกราะเหล็ก ไอรอนแมน จากค่าย Marvel กันดี เขาเป็นวิศกรที่สร้างชุดเกราะล้ำยุคสุดแข็งแกร่งขึ้นมาเพื่อใช้ต่อกรกับศัตรูของเขา ในโลกแห่งความเป็นจริงเองก็มีชายคนหนึ่งที่ได้รับฉายาว่า ไอรอนแมนแห่งรัสเซีย เหมือนกัน แต่เขาไม่ได้สู้กับวายร้ายที่คิดจะทำลายโลกเหมือนในภาพยนตร์หรอกนะ เขาทำชุดเกราะขึ้นเพื่อต่อสู้กับคนทวงหนี้ต่างหาก   Anton Maltsev ผู้ได้รับฉายา ไอรอนแมนแห่งรัสเซีย   ชายหนุ่มคนนี้ชื่อ Anton Maltsev เขาเป็นอดีตหน่วยรบพิเศษของประเทศรัสเซียที่เข้าร่วมสงครามในประเทศ Kosovo มาแล้ว เมื่อปี 2016 เขาก็กลายเป็นข่าวดังเนื่องจากเขาเปลี่ยนอพาร์ทเม้นต์ในเมืองมอสโกให้กลายเป็นฐานที่มั่นติดกับดักแน่นหนา จนต้องใช้ทหารบุกเข้าไปเลยทีเดียว เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Maltsev กู้เงินมาจากธนาคาร Rosbank แต่ไม่สามารถจ่ายหนี้มูลค่า 118,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.7 ล้านบาท) คืนได้ ต่อมาคนทวงหนี้จากธนาคารจึงเข้ามาทวงหนี้เขา แม้ว่าตอนแรกพวกเขาจะทำแค่ข่มขู่ด้วยคำพูดเท่านั้น แต่ไม่นานนักพวกเขาก็เริ่มใช้กำลังข่มขู่อดีตทหารคนนี้ ทั้งแอบดักรออยู่บริเวณใกล้อพาร์ทเมนต์ และก็เอากาวมาฉีดอุดรูกุญแจห้องเขาด้วย อดีตทหารหนุ่มเล่าว่า “วันหนึ่งผมก็หมดความอดทนกับพวกคนทวงหนี้ เพราะพวกเขาใช้ความรุนแรงด้วยการทำลายตู้ไปรษณีย์ของผม … ทำให้ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างมาก ผมก็เลยให้ภรรยาย้ายไปอยู่ที่อื่น ส่วนผมก็เริ่มเสริมความแข็งแกร่งให้อพาร์ทเมนต์เพื่อรับมือกับพวกเขา”     คนทวงหนี้พยายามบุกเข้าไปในอพาร์ทเมนต์ของเขาแต่โดนกับดักสเปรย์พริกไทยเข้าเต็มๆ และแม้จะใช้ค้อนใหญ่ทุบประตูห้องแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใดเพราะเขาใช้เหล็กจากฐานกำลังมาเสริมประตูไว้ จึงต้องเรียกให้ทหารผู้เชี่ยวชาญด้านการปลดระเบิดบุกเข้าไปแทน พอเข้าไปในห้องก็พบว่ามีกับดักเส้นลวดถูกติดตั้งไว้เต็มไปหมด พร้อมทั้งมีอาวุธปืนหลายชนิด…

  • 10 สมบัติอันมีค่ามหาศาลที่ถูกค้นพบโดยบังเอิ๊ญ บังเอิญ เฮงซะยิ่งกว่าถูกหวย!!

    10 สมบัติอันมีค่ามหาศาลที่ถูกค้นพบโดยบังเอิ๊ญ บังเอิญ เฮงซะยิ่งกว่าถูกหวย!!

    เคยสังเกตกันไหมว่าบางคนนั้นไม่ค่อยจะมีดวงซักเท่าไร ไม่ว่าจะซื้อหวยทุกงวด ลุ้นฝาชาเขียวทุกแบรนด์ ลงทุนต่างๆ ไปมากมาย แต่ก็ไม่ได้รางวัลอะไรกลับมาซักอย่าง แต่ก็มีคนอีกประเภทที่ดวงดีราวกับบุญหล่นทับ โชคดียิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1 ได้เจอกับของหายากโดยบังเอิญ ซึ่งอาจจะลอยมาติดตามชายหาด ขุดเจอที่หลังบ้าน หรือซ่อนอยู่บนห้องใต้หลังคาในบ้านของตัวเอง ไปพบกับพวกเขาเหล่านี้กันเลย   1. ตลับเกมส์ Atari ในปี 2014 ได้มีการขุดพบตลับเกมส์ ET กว่า 1300 ตลับในพื้นที่หนึ่งในประเทศเม็กซิโก ซึ่งถูกทิ้งหลังจากเหตุการณ์ระเบิดในปี 1983 ซึ่งตลับเกมส์นี้ได้มีราคาพุ่งขึ้นไปถึง $108,000 หรือราวๆ 3.4 ล้านบาท จากผู้ซื้อทั่วโลก ซึ่งเงินที่ได้จากการขายจะนำไปบริจาคให้กับศูนย์ประวัติศาสตร์ Tularosa Basin   2. แหวนเพชรที่อยู่ในเก้าอี้ เคยได้ยินสำนวนว่า ‘นั่งทับบุญ’ รึเปล่าล่ะ คุณอาจจะนั่งทับอยู่จริงๆ ก็ได้นะ คู่รักชาวสก็อตแลนด์นาม Angela Milner-Brown และ Angus สามีของเธอได้พบกับเครื่องประดับที่มีมูลค่าถึง $6,595 หรือประมาณ 2 แสนบาท ซ่อนอยู่ในเก้าอี้ฝุ่นเขรอะที่พวกเขาประมูลมาได้ในราคา $7…

  • คาเฟ่สำหรับชายขี้อาย คลายเหงากับ “น้องเหมียวจรจัด” ที่จะมาป่วนหัวใจจนคุณละลายยยย

    คาเฟ่สำหรับชายขี้อาย คลายเหงากับ “น้องเหมียวจรจัด” ที่จะมาป่วนหัวใจจนคุณละลายยยย

    ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นแหล่งเผยแพร่ความน่ารักของคาเฟ่แมวนั้น มีค่าเฟ่น้องเหมียวที่มีความเป็นเอกลักษณ์อยู่หลายแบบเลยทีเดียว ตอนนี้แบรนด์คาเฟ่แมว Neco Republuc เองก็กำลังจะจัดกิจกรรมพิเศษ โดยกิจกรรมนี้มีขึ้นเพื่อให้หนุ่มๆ โดยเฉพาะเลยจึงตั้งชื่อกิจกรรมนี้ว่า ‘วันของชายหนุ่ม‘ (Men’s Day)     โดยปกติแล้วการเข้าคาเฟ่แมวนั้นเป็นกิจกรรมที่คนทั่วไปไม่คิดว่าผู้ชายจะทำ เวลาที่ผู้ชายจะเข้าไปในคาเฟ่แมวคนเดียวจึงมักจะถูกคนมองด้วยสายตาประหลาดใจอยู่เสมอ ทางร้านจึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้น โดยมีจุดประสงค์จะให้ผู้ชายได้มีความสุขกับแมวเหมียวโดยไม่ต้องเขินอายต่อสายตาของสาวๆ และกิจกรรมนี้จะถูกจัดขึ้นที่ร้าน Neco Republic ในย่าน Shinsaibashi เมือง Osaka ประเทศญี่ปุ่น     นอกจากนี้แมวในร้าน Neco Republic เป็นแมวจรจัดที่ได้รับการช่วยเหลือมาทั้งนั้น พวกเขาหวังจะทำให้แมวพวกนี้ได้รับความอบอุ่นจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้วย หนุ่มๆ ที่จะมาร่วมกิจกรรมนี้จึงมีโอกาสได้มอบความอบอุ่นให้กับน้องเหมียวอีกด้วย ถึงจะมีชื่อกิจกรรมว่า ‘วันของชายหนุ่ม’ แต่สาวๆ เองก็เข้าร่วมกิจกรรมในวันนั้นได้เหมือนกันนะ เพียงแต่ทางร้านอยากจะให้ทุกท่านสวมวิญญาณความเป็นชายเข้าไปในร้านให้สมกับชื่อกิจกรรมเสียหน่อยเท่านั้นเอง คาเฟ่แมวสาขานี้กินพื้นที่ตึก Osaka Neko Building ทั้ง 5 ชั้นเลย แต่ละชั้นก็จัดทำเป็นคาเฟ่แมวในธีมที่แตกต่างกันไป ลองไปชมกันเลยว่าในร้านจะเป็นอย่างไรบ้าง     ชั้นที่ 1 .   ในชั้นแรกจะเป็นพื้นที่สำหรับ Apple…

  • พบกับ Elena Deligioz หญิงที่ขึ้นชื่อว่าคอสเพลย์ ‘ทหาร’ ได้งดงามที่สุดในโลก

    พบกับ Elena Deligioz หญิงที่ขึ้นชื่อว่าคอสเพลย์ ‘ทหาร’ ได้งดงามที่สุดในโลก

    การคอสเพลย์คือการแต่งกายเลียนแบบตัวละครหรือสิ่งที่เราชอบ โดยอาจมีการแสดงท่าทางหรือบุคลิกตามตัวละครนั้นๆ ด้วย ซึ่งก็มีสาวชาวรัสเซียคนหนึ่ง ที่ได้ยกระดับคอสเพลย์ให้มีความเจ๋งขึ้นไปอีก พบกับ Elena Deligoiz สาวนักคอสเพลย์เป็นทหารจากรัสเซีย ซึ่งความจริงแล้วเธอไม่ได้เป็นทหารจริงๆ แต่ด้วยความที่เธอดูดีในชุดเครื่องแบบ และความหลงใหลในอุปกรณ์ทหารต่างๆ ของเธอจะทำให้ชายหนุ่มตกหลุมรักเธออย่างแน่นอน     ผู้ติดตามของ Elena เชื่อว่าหากเธอสมัครเข้าร่วมกองทัพจริงๆ เธอคงเป็นทหารหญิงที่สวยที่สุดในทองทัพเลยทีเดียว ซึ่งเธอเองก็ยังได้รับฉายาว่า ‘ทหารที่โด่งดังที่สุดในโลก’ กำลังเป็นกระแสถล่มทลายบนอินเตอร์เน็ต ภาพถ่ายของเธอนั้นเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั่วโลก ทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากมาย ใครจะไปรู้ว่าเธออาจจะได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมกองทัพหลังจากนี้ก็เป็นได้   ดูจากการแต่งคอสเพลย์ของเธอแล้ว ดูดีไม่เบาเลยทีเดียว . . . ถึงแม่ว่าจะถืออาวุธปืนที่ดูอันตราย แต่ก็ยังดูน่ารักสุดๆ ไปเลย . . ดูท่าโพสนั่นสิ . . . . . ถ้าเธอเข้ากองทัพละก็ คงจะเป็นทหารที่สวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ . . . .   แต่งตัวแบบเต็มยศ ราวกับว่ากำลังจะไปรบจริงๆ .   แถม   ถ้าคุณชื่นชอบทหารและการคอสเพลย์ สามารถรับชมหรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่เพจ Elena…

  • คุณพ่อชาวเวียดนามส่งอีเมลสมัครงาน ฝ่ายบุคคลตอบกลับ ‘ถ้าไม่พูดอังกฤษ จะไล่ส่งกลับบ้าน’

    คุณพ่อชาวเวียดนามส่งอีเมลสมัครงาน ฝ่ายบุคคลตอบกลับ ‘ถ้าไม่พูดอังกฤษ จะไล่ส่งกลับบ้าน’

    เมื่อไม่นานมานี้มีสาวชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต์บนทวิตเตอร์ถึงเรื่องที่พ่อของเธอโดนเหยียดเชื้อชาติทางอีเมลจากบริษัทที่เขาไปสมัครงานไว้ คำพูดในอีเมลนั้นทำเอาชาวเน็ตที่ได้อ่านอารมณ์ร้อนเป็นไฟเลยทีเดียว ในวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมานี้ Emily Huynh สาวจากเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทวีตอีเมลล์ฉบับหนึ่งที่พ่อเธอได้รับจากแผนกบุคคลของบริษัท Dash Delivery LLC   โพสต์ทวีตเตอร์ของ Emily Huynh   ในโพสต์มีใจความว่า “คนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ลำบากจริงๆ เลย พ่อของฉันก็เพิ่งได้รับอีเมลปฎิเสธการสมัครงานมา ในอีเมลเขียนว่า ‘ขอบอกไว้เลยนะ ถ้าคุณพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็กลับบ้านไปซะเถอะ’ แถมอีเมลทั้งหมดจากนาย Bruce คนนี้ก็หยาบคายและไม่เป็นมืออาชีพเอาซะเลย” ทวีตของเธอได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก เพราะพวกเขาเองต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ฝ่ายบุคคลส่งอีเมลหยาบคายเช่นนี้ให้กับผู้สมัครงาน พวกเขาจึงให้กำลังใจเธอและพ่อ พร้อมทั้งร่วมกันโจมตีคนที่เขียนอีเมลฉบับนั้นด้วย   ทวีตที่ Emily โพสต์ต่อมา   จากนั้นเธอก็ทวีตต่ออีกว่า “ฉันเข้าใจดีว่างานนั้นต้องการคนที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่เขาก็ควรจะตอบอีเมลให้มันเป็นทางการและสุภาพกว่านี้ อีเมลที่ส่งมาให้พ่อมันช่างน่ารังเกียจและต่ำทราม เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องเขียนอีเมลแบบนั้นเลย” แต่ดูเหมือนว่าพ่อของเธอจะไม่ได้รู้สึกเจ็บใจกับอีเมลนั้นนัก เธอทวีตอีกว่า “พ่อของฉันไม่รู้สึกเจ็บ แค่เขาไม่เข้าใจว่าบริษัทไม่จ้างเขาเพราะเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ทั้งที่พ่อมีประกบการณ์เรื่องนี้มากกว่าใครแท้ๆ “   ทวีตของเธอที่บอกว่าพ่อไม่รู้สึกเจ็บปวด   ตัวลูกสาวยังบอกอีกว่า “ถึงพ่อของฉันจะไม่รู้สึก ‘เจ็บปวด’ ก็ตาม แต่นี่เป็นการเหยียดหยามที่พ่อแม่ผู้อพยพชาวเอเชียต้องเจออยู่ตลอดเวลา…

  • 22 ภาพปัญหาที่คุณอาจไม่มีทางเข้าใจได้เลย เพราะมันเป็นเรื่องของ ‘คนถนัดซ้าย’

    22 ภาพปัญหาที่คุณอาจไม่มีทางเข้าใจได้เลย เพราะมันเป็นเรื่องของ ‘คนถนัดซ้าย’

    สิ่งของส่วนใหญ่ในโลกนี้มักจะถูกสร้างมาสำหรับคนถนัดขวา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติเพราะว่าคนส่วนใหญ่ในโลกนี้ถนัดใช้มือขวากัน แต่ถ้าเกิดคุณเป็นคนถนัดซ้ายล่ะก็ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันก็เป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับคุณได้ มาดูกันว่าคนถนัดซ้ายต้องพบเจอปัญหาอะไรบ้างในโลกที่ถูกสร้างมาเพื่อคนถนัดขวา   ถ้าคนเป็นถนัดขวาทั่วไปล่ะก็คงจะมองว่าการใช้สมุดแบบห่วงมันสะดวกสบายดี เพราะว่าเปิดง่าย ฉีกง่าย   แต่ถ้าเกิดมาเป็นคนถนัดซ้ายเราก็จะได้รอยแผลจากการใช้สมุดแบบห่วงทุกครั้งไป ก็เขียนยังไงมันก็ติดห่วงอะ   แล้วเราก็จะมีปัญหากับการใช้แฟ้มแบบห่วงเหล็กเช่นกัน ฮึ่ย   นอกจากนี้เวลาเราเขียนอะไรก็ตามด้วยปากกาหมึกซึม หรือปากกาที่หมึกแห้งช้า …   มือก็จะต้องเลอะหมึกตลอดเลย!! แถมยังล้างยากอีกต่างหาก!!   เพราะฉะนั้นเวลาจะต้องเขียนข้อความบนกระดาน ก็ไม่ต้องสงสัย …   มือก็จะเลอะเหมือนกันนั่นแหละ เห้อออ   นอกจากสมุดแล้ว ของอย่างอื่นในโลกก็ไม่เหมาะกับคนถนัดซ้ายเลยสักนิด ดูอยู่ที่เปิดกระป๋องนี่สิ คนถนัดซ้ายจะใช้ยังไง!?   ที่ตักไอศกรีมนี่ก็อีก ทำไมต้องเอาที่กดไว้ทางขวาอย่างเดียวด้วยฟระ   แถมเวลาต้องนั่งเรียนในห้องที่เป็นเก้าอี้พับแบบนี้ เราก็จะวางแขนไม่ได้เหมือนคนถนัดขวา   ซ้ำร้ายถ้าต้องนั่งชิดกับเพื่อนแขนก็ยังชนกันจนเพื่อนนึกว่าเราสะกิดเรียกด้วย แต่เปล่าเลยตูแค่ต้องวางแขนทางซ้ายต่างหาก   เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากจะให้แขนชนกับเพื่อนเวลาไปกินข้าว จนทำให้ทั้งเราและเพื่อนเสียอารมณ์ เราก็ต้องนั่งขอบโต๊ะด้านซ้ายสุดเท่านั้น ใครจะมาแย่งไม่ได้   แถมเวลาใช้กรรไกรตัดของก็ทำได้อย่างยากลำบาก เพราะที่จับมันทำมาสำหรับคนถนัดขวา   ถ้าอยากจะใช้กรรไกรสบายๆ ก็ต้องไปพลิกโลกหาซื้่อกรรไกรของคนถนัดซ้ายที่เจอยากยิ่งกว่าแรร์ไอเท็มเสียอีก…

  • เครือข่ายหมู่บ้านถ้ำจีน Yaodongs เป็นที่อยู่ของชาวถ้ำกว่า 3,000 คน มาตั้งแต่โบราณกาล

    เครือข่ายหมู่บ้านถ้ำจีน Yaodongs เป็นที่อยู่ของชาวถ้ำกว่า 3,000 คน มาตั้งแต่โบราณกาล

    เป็นที่เชื่อกันว่าลึกลงไปใต้ดินของเมือง ซานเหมินเซียะ แห่งมณฑลเหอหนานนั้น เป็นที่อาศัยของผู้คนเกือบ 10,000 ครัวเรือน และหมู่บ้านอีกนับร้อยแห่ง ลักษณะของการสร้างที่อยู่อาศัยใต้ดินโดยแบ่งออกเป็นย่านๆ ตามหมู่บ้านหรือลานกว้างนั้น เป็นภูมิปัญญาที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล โดยหนึ่งหมู่บ้านนั้นสามารถมีผู้อาศัยได้ถึง 3,000 ชีวิต ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีให้พบเห็นกันในเมืืองซานเหมินเซียะนี่เอง   .   ปัจจุบัน หน่วยงานของรัฐบาลกำลังพยายามสำรวจไปตามอุโมงค์และสถาปัตยกรรมสุดล้ำที่อยู่ใต้ดินแห่งนี้ โดยลักษณะที่อยู่อาศัยใต้ดินที่เชื่อมกันเป็นถ้ำและอุงโมงค์แบบนี้ถูกเรียกว่า “Yaodongs” ซึ่งที่แห่งนี้ได้มีผู้คนอาศัยผ่านไปแล้วราว 6 รุ่น หรือมากกว่า 200 ปีด้วยกัน     พวกเขาสร้างที่พักอาศัยใต้ดินแบบนี้ก็เพื่อรักษาความอุ่นเมื่ออากาศหนาว และรักษาความเย็นเมื่ออากาศร้อน โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Easy Tour China กล่าวว่า “มันมีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และศิลปะ”   .   พวกเขาบอกว่าต้องใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าที่จะขุดดินลงมาราว 7 เมตร เพื่อสร้างที่บ้านในถ้ำแบบนี้ ซึ่งผลงานที่พูดได้ว่าดีที่สุดนั้นถูกสร้างอยู่ในหมู่บ้าน Renma และ Miaoshang ในเมือง Shanxian     มันเป็นบ้านที่มีสไตล์เรียบง่าย ฝุ่นเขลอะ แต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบชาวตะวันตกยุคสมัยใหม่ เช่น…

  • 10 งานศิลป์ชิ้นเอกระดับโลก พร้อมกับความลับเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในและยากที่จะมองเห็น…

    10 งานศิลป์ชิ้นเอกระดับโลก พร้อมกับความลับเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในและยากที่จะมองเห็น…

    วันนี้เรามาชมเรื่องราวที่เกี่ยวกับศิลปะกันบ้างดีกว่า โดยเฉพาะภาพวาด ที่เป็นชิ้นเอกระดับโลกในยุคสมัยก่อน เมื่อหลายร้อยปีก่อน นักวาดที่มีชื่อเสียงก็อย่างเช่น Michelangelo, Leonardo Da Vinci และ Vincent Van Gogh  เป็นต้น หลายท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อเหล่านี้มาก่อน และก็อาจจะเคยเห็นภาพเขียนของพวกเขามาบ้างแล้ว ซึ่งวันนี้เราก็ไม่ได้แค่จะพาไปชมภาพเขียนต่างๆ ในยุคสมัยหลายร้อยปีก่อนเท่านั้น เรายังจะพาทุกท่านเจาะลึกลงไปถึง “ความลับ” ที่เหล่าศิลปินได้แฝงมันเอาไว้ในภาพ ในยุคสมัยปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น มันจึงถูกใช้เพื่อค้นหาความลับเล็กๆ น้อยๆ ที่แฝงมากับภาพเขียนในประวัติศาสตร์นั่นเอง ว่าแต่จะมีภาพไหน และมีความลับอะไรซ่อนอยู่กันบ้าง ไปรับชมกันเลยดีกว่า   1. The Ambassadors (1533) โดย Hans Holbein   ภาพที่เห็นด้านบนนี้ถึงจะดูเป็นภาพสมจริง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมองเห็นวัตถุแปลกประหลาดด้านล่างตรงกลางๆ ของภาพ ที่อยู่ระหว่างคน 2 คนในภาพ หากมองดีๆ ก็คงจะพอดูรู้ว่าเป็นภาพของ “หัวกะโหลก” ที่ถูกทำให้บิดเบี้ยว ใช่แล้ว มันคือรูปหัวกะโหลกจริงๆ ว่าแต่มันถูกนำมาใส่ในภาพแบบนั้นเพื่ออะไรกัน? บางคนสันนิษฐานว่า หัวกะโหลกในภาพจะหมายถึงคำพูดในภาษาละตินว่า “Memento Mori” ที่แปลว่า “อย่าลืมว่า วันหนึ่งคนเราก็ต้องตาย” โดยว่ากันว่าคำกล่าวที่ว่านั้นเป็นคติประจำใจของผู้ที่ว่าจ้างให้เขียนภาพนี้ขึ้นมา ชื่อว่า Jean de Dinteville ซึ่งเขาก็คือคนที่ยืนอยู่ด้านซ้ายของภาพนั่นเอง…

  • หนุ่มอยากตั้งชื่อลูก “โกคู” เมียบอกให้ได้ล้านไลก์ก่อนสิ งานนี้ชาวเน็ตรวมพลังกันใหญ่!!

    หนุ่มอยากตั้งชื่อลูก “โกคู” เมียบอกให้ได้ล้านไลก์ก่อนสิ งานนี้ชาวเน็ตรวมพลังกันใหญ่!!

    สมมุติว่าคุณเป็นแฟนเดนตายของการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball บวกกับดันรู้ตัวว่ากำลังจะมีลูกชาย ซึ่งนั่นทำให้คุณอยากจะตั้งชื่อให้กับลูกชายว่า Goku ตามตัวเอกที่คุณชื่นชอบ แต่ภรรยาของคุณดั๊นนน ไม่เห็นด้วยซะอย่างนั้น คุณจะทำอย่างไร? ถ้าคุณคิดไม่ออกลองให้เรื่องของคุณ Carlos Sanchez จากเมืองทูซอนรัฐแอริโซนา เป็นตัวอย่างดูก่อนก็แล้วกัน…     เรื่องมันมีอยู่ว่าคุณ Carlos คนนี้เขาอยากจะตั้งชื่อให้กับลูกชายของตัวเองว่า Goku แต่ภรรยาของเขากลับไม่ยอมพร้อมเสนอเงื่อนไขว่า ถ้าพี่คนนี้อยากให้ลูกชื่อนั้นจริงๆ จะต้องให้ภาพของเขามีคนกดไลก์ 1 ล้านครั้ง จากนั้นลูกของทั้งคู่จะได้ชื่อว่า Goku จริงๆ คุณพ่อ Carlos ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่รอช้า รีบถ่ายรูปกับป้ายพร้อมบอกให้คนแชร์และกดไลก์ 1 ล้านครั้งทันที โดยมีโปสเตอร์ Dragon Ball อยู่ข้างหลัง     ภาพของเขานั้นถูกแชร์และไลก์อย่างรวดเร็ว โดยภาพนั้นถุูกโพสต์เมื่อประมาณตี 4 ตามเวลาบ้านเรา ซึ่งตอนนี้มีคนกดไลก์ไปแล้วกว่า 91,000 ครั้ง แชร์อีก 12,000 ครั้ง และยังมีท่าทีว่าจะเพิ่มอีกเรื่อยๆ   ด้านคอมเมนต์ชาวเน็ตก็ต่างพากันให้กำลังใจพี่ Carlos…

  • ‘เอเวอเรสต์’ ยอดเขามรณะพิชิตนักปีนเขา ดั่งสุสานลอยฟ้าที่ทิ้งร่างของผู้พ่ายแพ้

    ‘เอเวอเรสต์’ ยอดเขามรณะพิชิตนักปีนเขา ดั่งสุสานลอยฟ้าที่ทิ้งร่างของผู้พ่ายแพ้

    เมื่อพูดถึงภูเขาที่สูงที่สุดในโลกแล้วละก็ คงจะไม่มีสถานที่ใดมาเทียบเคียงกับ ‘ยอดเขาเอเวอเรสต์‘ ได้อีกแล้ว ด้วยระดับความสูงที่ 8,848 เมตร จึงทำให้นักปืนเขามากมายจากทั่วโลกรู้สึกตื่นเต้นและอยากจะพิชิตมันให้ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดเขาแห่งนี้จะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเพียงใด แต่มันก็ลบความเป็นจริงที่ว่ามันเป็นดั่งสุสานลอยฟ้าของเหล่านักปีนเขาออกไปไม่ได้เสียที     ด้วยความที่สภาพอากาศระหว่างไปยอดเขานั้นมันโหดร้ายมากๆ ทั้งหนาวเย็นและออกซิเจนก็น้อยนิด มันจึงคร่าชีวิตผู้คนมากมายมานับตั้งแต่อดีต ทิ้งไว้ก็แต่ร่างไร้วิญญาณมากมายบนกองหิมะอันหนาวเน็บ บ้างก็รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน บ้างก็ไม่อาจจะทราบได้ว่าพวกเขาเป็นใคร ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีคนเสียชีวิตการจะพาพวกเขากลับมาด้วยก็เป็นเรื่องที่ยากเมื่อคุณขึ้นไปถึงระดับที่สูงขึ้น เพราะถ้าคุณมัวกู้ร่างของผู้เสียชีวิต ก็เท่ากับว่าคุณก็พร้อมจะเอาชีวิตไปเสี่ยงด้วยเช่นกัน… ในปัจจุบันภูเขาแห่งนี้ได้กลายเป็นสุสานแก่นักปีนเขาจำนวนเกือบ 300 คน ซึ่งในแต่ละการตายก็มีเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาหลากหลายเรื่องเลยทีเดียว   .   อย่างเช่นเรื่อง ‘Green Boots’ ที่เล่าถึง Tsewang Paljor นักปีนเขาจากอินเดียที่เสียชีวิตในปี 1996 ส่วนสาเหตุที่ต้นเหตุของเรื่องเล่าก็มาจากรองเท้าที่เขาใส่ไปปีนมันเป็นสีเขียว และนักปีนเขาคนอื่นๆ ในช่วงนั้นก็จะต้องเจอกับศพของเขาระหว่างทางนั่นเอง     หรือจะเป็นเรื่อง ‘Sleeping Beauty’ ที่เล่าถึงสองสามีภรรยา Francys และ Sergei Arsentiev ที่ได้ไปพิชิตยอดเขาในปี 1998 ซึ่งทำให้ Francys นั้นยังเป็นหญิงชาวอเมริกันคนแรกที่สามารถพิชิตยอดเขาได้ แต่โชคร้ายที่ทั้งคู่ได้เสียชีวิตระหว่างทางกลับลงมานั่นเอง…

  • สถานีรถไฟญี่ปุ่นที่ใกล้ที่พักที่สุด!? ใกล้ที่ว่านั้นก็คือ สิงอยู่ในอพาร์ทเมนท์ชั้นแรกกันเลยทีเดียว

    สถานีรถไฟญี่ปุ่นที่ใกล้ที่พักที่สุด!? ใกล้ที่ว่านั้นก็คือ สิงอยู่ในอพาร์ทเมนท์ชั้นแรกกันเลยทีเดียว

    คุณเคยได้ยินคำโฆษณาจากโครงการคอนโดต่างๆ บ้างไหมว่า “ทำเลดีใกล้สถานีรถไฟ” ซึ่งไอ้คำว่าใกล้นี้พอเอาเข้าจริงๆ มันก็ไม่ได้ใกล้อย่างที่คุณคิดมากเท่าไหร่ เพราะถ้าจะโฆษณาว่าใกล้คอนโดมันต้องทำให้ได้แบบอพาร์ทเมนท์นี้!! อพาร์ทเมนท์ที่ว่านั้นตั้งอยู่ในเมืองมะสึโดะ ประเทศญี่ปุ่น  ซึ่งความพิเศษของอพาร์ทเมนท์แห่งนี้นั่นก็คือ ตัวอพาร์ทเมนท์ไม่ได้เป็นแค่ที่พักอาศัยทั่วไป แต่มันคือสถานีรถไฟไปในตัวด้วย!?     ตัวอพาร์ทเมนท์นั้นถูกสร้างขึ้นมาทับสถานี ซึ่งตัวตึกนั้นมีขนาดสูง 11 ชั้น ส่วนตัวสถานีนั้นนับเป็นหนึ่งในเส้นทางนะงะเระยะมะ ฉะนั้นถ้าใครต้องเดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าวแล้วอาศัยอยู่ที่นี่ก็คงไม่ต้องกังวลเรื่องตกรถไฟเลยทีเดียวล่ะ แต่ใช่ว่าการอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้จะมีแต่ข้อดีหรอกนะเพราะว่าปัญหาที่ตามมานั่นก็คือมลพิษทางเสียง เพราะรถไฟย่อมมีเสียงที่ดังและการอาศัยอยู่เหนือสถานีแบบนี้มันจึงสร้างปัญหาให้พอสมควรเลยทีเดียว     เพราะรถไฟนั้นจะเริ่มวิ่งตั้งแต่ 5.03 นาฬิกาแล้วยิงยาวไปจนถึง 00.03 นาฬิกาในวันธรรมดา และจะวิ่ง 5:03 นาฬิกาไปจนถึง 00:20 นาฬิกาในวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉะนั้นถ้าใครเป็นสายนอนไวก็จะอยู่ที่นี่ลำบากพอสมควร แต่ใช่ว่ามันจะไม่มีทางออกซะทีเดียว เพราะอพาร์ทเมนท์สร้างระเบียงทางเดินหน้าห้องติดกับด้านรางรถไฟ และห้องด้านในก็จัดเรียงส่วนใช้สอยแบบญี่ปุ่น ถ้าเปิดประตูจะพบห้องครัว ห้องอาหาร และห้องน้ำ ก่อนที่จะเป็นส่วนที่อยู่อาศัยจริงๆ ฉะนั้นก็อุ่นใจได้เปราะนึง   .   สุดท้ายแล้ว แม้ว่าจะต้องแลกมากับเสียงรบกวนแต่เมื่อมองเกี่ยวกับการเดินทางในญี่ปุ่นเป็นหลัก การอาศัยอยู่ที่นี่ก็ถือว่าไม่เลวเลยเพราะถือว่าได้ความสะดวกสบายกลับมาเยอะมากๆ เลยทีเดียวละ   แบบนี้สิถึงเรียกว่าที่อยู่อาศัยใกล้สถานีรถไฟ   ที่มา rocketnews24

  • ความจริงของชายเบื้องหลังชุด ‘Barney’ หันมารันวงการธุรกิจเซ็กส์แบบตันตระ หมดกันฝันวัยเด็ก…

    ความจริงของชายเบื้องหลังชุด ‘Barney’ หันมารันวงการธุรกิจเซ็กส์แบบตันตระ หมดกันฝันวัยเด็ก…

    ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1991 จน ถึงปี 2001 ซึ่งเป็นปีทองของเหล่ารายการโทรทัศน์ที่นิยมให้คนมาสวมชุดตัวละครต่างๆ เช่น Banana in pajamas, Teletubbies และ Barney & Friends เป็นต้น แน่นอนว่าโดยปกติแล้วเราจะรู้จักแค่ผิวหน้าของตัวชุดเท่านั้น แต่เราไม่ได้รู้หรอกว่าคนที่อยู่ข้างในนั้นเป็นใครมาจากไหนและทำอะไร จะยกเว้นก็แต่ชายผู้รับบทเป็น Barney ไดโนเสาร์สีม่วงนี่แหละ ที่เขาออกมาเปิดเผยชีวิตของตัวเองหลังจากเลิกรับบทดังกล่าว โดยเฉพาะธุรกิจล่าสุดของเขานั้นช่างสวนทางกับงานเก่าสุดๆ     David Joyner คือชายผู้รับบทเป็นไดโนเสาร์แสนใจดีตัวดังกล่าว โดยเขาออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อไม่นานมานี้ว่า เขาได้เปิดธุรกิจใหม่เกี่ยวกับ ‘เซ็กส์แบบตันตระ’ ซึ่งฟังดูแล้วพร้อมคิดถึงหน้า Barney ไปพร้อมกันเราก็คงเงิบไปสักครู่แล้วคิดว่า ‘เออ…ไดโนเสาร์ใจดีวันนั้นกลายมาเป็นเซียนเรื่องเซ็กส์บำบัดในวันนี้เฉยเลย’     (เซ็กส์แบบตันตระ นั้นคือการมีเซ็กส์แบบผ่อนคลาย ซึ่งใช้หลักการของศาสนาและพลังเข้ามาช่วยเสริม โดยผู้ที่มีเซ็กส์แบบตันตระนั้นได้รับประสบการณ์อันสุดยอดและไปถึงจุดสุดยอดอย่างแน่นอน ฟังแล้วอาจจะดูเพ้อเจ้อ แต่ว่าการมีเซ็กส์แบบตันตระนั้นถือเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่มีมาอย่างช้านาน และไม่ได้มีเพื่อความสนุก แต่จะมุ่งเน้นไปที่ความผ่อนคลาย เสริมสร้างพลังงานในตัวและทำความรู้จักกับคู่ของเรานั่นเอง)     David บอกว่าเขานั้นจะรับเฉพาะลูกค้าที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น ซึ่งจะมีการคิดราคาอยู่ที่ราว 350 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยก็ราว 11,000…

  • คุณหมอใจกล้าหน้าตาดี เดินตาม “รอยเลือดปริศนา” กลางห้าง จนสามารถช่วยเหลือได้ถึง 2 ชีวิต!!

    คุณหมอใจกล้าหน้าตาดี เดินตาม “รอยเลือดปริศนา” กลางห้าง จนสามารถช่วยเหลือได้ถึง 2 ชีวิต!!

    เมื่อเห็นคนทะเลาะวิวาทกันถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน หลายคนอาจจะเพิกเฉยหรือกลัวและวิ่งหนีไป เพราะทุกคนต่างก็ห่วงชีวิตตัวเองทั้งนั้น คุณหมอคนนี้ก็รักชีวิตตัวเองเช่นกัน แต่เมื่อเห็นการทะเลาะวิวาท เขาไม่ได้นิ่งเฉยหรือวิ่งหนีไป แต่เลือกที่จะเดินเข้าไปช่วยเหลือคนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นั้น     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน Luton สหราชอาณาจักร เมื่อช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยทางโฆษกของห้างบอกว่าความรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อวัยรุ่นชาย 2 คนทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรง ถึงขั้นคว้ามีดขึ้นมาแทงกัน ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตื่นตระหนกกับสิ่งที่เห็น บางคนร้องโวยวายด้วยความกลัว ในขณะที่บางคนวิ่งหนีออกจากตรงนั้นทันที     ต่อมาเวลาประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาถึงห้าง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่คุณหมอ Yasin Fatine วัย 29 ปี กลับมาเอารถที่ห้างดังกล่าวพอดี และเมื่อเห็นตำรวจวิ่งหน้าตื่น Fatine รู้ว่าต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะมีอะไรร้ายแรงจนกระทั่งเห็นรอยเลือดบนพื้น     ด้วยความเป็นหมอ ทำให้คุณหมอตระหนักได้ว่าเขาอาจจะต้องช่วยเจ้าของเลือดคนนี้ เพราะการที่มีรอยเลือดกลางห้างมันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ ดังนั้นเขาจึงเดินตามรอยเท้าเปื้อนเลือดนั้นไปเรื่อยๆ จนไปเจอที่ที่ผู้คนกำลังมุงดูและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกประมาณ 4 คน ภาพต่อมาที่เห็นคือมีวัยรุ่นชาย 2 คน นอนบาดเจ็บอยู่บนพื้นในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง โดยมีเลือดกระจายทั่วบริเวณนั้น     หนึ่งในสองคนนั้น มีเลือดไหลจากแขนของเขา ส่วนอีกคนมีเลือดไหลจากหัวเข่าข้างขวา “บาดแผลของเด็กหนุ่มดูไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่เพราะแผลถูกปิดไว้แล้ว แต่คนที่ถูกแทงที่ขาเสียเลือดมากและตัวเขาเริ่มซีด” คุณหมอกล่าว คุณหมอเลยเข้าไปตรวจดู…

  • Jason Momoa บอกรับบท “Khal Drogo” ไม่ได้พูดอังกฤษ จนหลายคนคิดว่าพูดไม่ได้จริงๆ!?

    Jason Momoa บอกรับบท “Khal Drogo” ไม่ได้พูดอังกฤษ จนหลายคนคิดว่าพูดไม่ได้จริงๆ!?

    นักแสดงหนุ่มร่างกายกำยำที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งในขณะนี้ ก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Jason Momoa คนนี้นี่เอง เขาเป็นทั้งฮีโร่ขวัญใจเหล่าเด็กๆ แถมยังเป็นหนุ่มฮอทในสายตาสาวๆ อีกต่างหากก     หลายคนคงจะจดจำเขาได้จากในภาพยนตร์ Justice League กับบทบาท Aquaman สุดหล่อ แถมยังจะมีหนังเดี่ยวของ Aquaman ออกมากให้ได้รับชมกันเร็วๆ นี้อีกด้วย     แต่หารู้ไม่ว่า กว่าที่ Jason จะโด่งดังแบบทุกวันนี้ได้ มันไม่ง่ายเลย เพราะบทบาทที่เขาแสดงในซีรีส์ Game of Thrones นั้น เรียกได้ว่าแทบจะทำลายชีวิตเขาเลยทีเดียว     ขณะที่ Jason ให้สัมภาษณ์กับ Jimmy Fallon ในรายการ The Tonight Show เกี่ยวกับซีรีส์เรื่องใหม่บน Netflix เรื่อง Frontier เขาก็ได้อธิบายว่าสมัยที่เขาแสดงเรื่อง Game of Thrones นั้น ผู้คนนั้นคิดว่าเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ด้วยซ้ำ     หากทุกท่านเคยดู Game of Thrones ซีซันแรกเลยล่ะก็ คงต้องจำตัวละครที่ชื่อ…

  • ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ!! หนุ่มยอมแต่งงานกับสาวใหญ่รุ่นแม่ เป็นเพราะรักกันจริงหรือหวังเงินทอง

    ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ!! หนุ่มยอมแต่งงานกับสาวใหญ่รุ่นแม่ เป็นเพราะรักกันจริงหรือหวังเงินทอง

    พิธีแต่งงานเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าเป็นพิธีการที่แสดงออกถึงความรักที่ทั้งสองคนมีต่อกัน ทว่าก็ได้มีงานแต่งงานงานหนึ่งได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากว่าฝ่ายหญิงมีอายุแก่กว่าฝ่ายชายราวกับรุ่นแม่ จึงได้เกิดคำถามขึ้นมาว่าการแต่งงานครั้งนี้เกิดจากความรักหรือเงินกับแน่??   การแต่งงานกับข้ามรุ่น   โดยการแต่งงานที่ว่านี้เกิดขึ้นที่มณฑลไหหลำประเทศจีน ในวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เมื่อมีหนุ่มอายุ 23 ปีคนหนึ่งเข้าพิธีแต่งงานกับหญิงคนหนึ่งที่มีอายุมากกว่าเขาจนแทบจะข้ามรุ่น ซึ่งมีอายุถึง 38 ปีเลยทีเดียว และเหตุการณ์นี้ก็ได้ทำให้ชาวเน็ตในประเทศจีน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องดังกล่าวอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน เกี่ยวกับความเหมาะสมของการแต่งงานที่เกิดขึ้น…   หน้าตาของเจ้าบ่าวคนดังกล่าว   จากการรายงานของสื่อ ETtoday ระบุว่า ที่เขาตัดสินใจแต่งงานกับเธอนั้น ได้อ้างว่าต้องการจะรับผิดชอบที่ทำให้เธอตั้งครรภ์ ทั้งๆ ที่เจ้าสาวของเขามีอายุน้อยกว่าแม่ของเขาเพียงปีเดียวเท่านั้น แถมยังมีลูกชายวัย 14 ติดมาอีกต่างหาก… ซึ่งก็แน่นอนว่าพ่อแม่ของฝ่ายชายก็ย่อมจะต้องคัดค้านการแต่งงานนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ในที่สุดแล้วทั้งคู่ก็ต้องยอมใจอ่อน เมื่อเจ้าสาวได้เสนอเงินสดให้ถึง 660,000 หยวน (ประมาณ 3.2 ล้านบาท) พร้อมทั้งรถหรูยี่ห้อเฟอร์รารี่ที่มีราคาอยู่ที่ 5,000,000 หยวน (ประมาณ 24 ล้านบาท) เพื่อให้การแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นในที่สุด   วิดีโอระหว่างที่ทั้งคู่นั่งอยู่บนรถสปอร์ตคันหรู ทักทายแขกเหรื่อภายในงานแต่งดังกล่าว   โดนในการแต่งงานครั้งนี้ ฝ่ายสาวก็ได้แสดงออกถึงความมีฐานะที่ค่อนข้างมั่งคั่ง…

  • เจ้าอูฐต้องถูกตัดออกจากการประกวด ‘อูฐสวย’ เพราะถูกตรวจพบว่า ‘ฉีดโบท็อกซ์’!?

    เจ้าอูฐต้องถูกตัดออกจากการประกวด ‘อูฐสวย’ เพราะถูกตรวจพบว่า ‘ฉีดโบท็อกซ์’!?

    ทุกๆ ปีที่ประเทศซาอุดิอาระเบียจะมีการจัดงานเทศกาลประจำปีของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลราซิซ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย งานเทศกาลประจำปีนี้จัดขึ้นถึง 28 วัน มีกิจกรรมการเฉลิมฉลองต่างๆ รวมไปถึงอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีแต่คนตั้งตามอง นั่นก็คือ ‘การประกวดอูฐสวย’ ที่มีรางวัลเป็นเงินสดมูลค่าสูงถึง 1.8 พันล้านบาท!!!     ด้วยเงินรางวัลที่สูงล่อตาล่อใจเหล่าเจ้าของอูฐทั้งหลาย ทำให้เจ้าของอูฐส่งสัตว์เลี้ยงแสนรักเข้าสู่การประกวด แต่ทางกองประกวดก็ต้องมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อเฟ้นหาอูฐที่มีความสวยงามตามธรรมชาติแบบไร้ที่ติ กฎข้อหนึ่งของการนำอูฐเข้าประกวดนี้ระบุไว้ว่า ห้ามโดน ตัดแต่ง ย้อม ดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของอูฐโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ในการประกวดทันที ซึ่งในปีนี้มีเจ้าของอูฐ 12 รายถูกตัดสิทธิ์เพราะพบว่ามีการฉีดโบท็อกให้กับอูฐที่เข้าประกวด     นอกจากความสวยงามของอูฐแล้วยังมีการประกวดอูฐฉลาด ศิลปะแต่งทรงผมอูฐและภาพถ่ายอูฐยอดเยี่ยม กิจกรรมเหล่านี้ถูกจัดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูอูฐที่เป็นสัตว์ประจำชาติของซาอุดิอาระเบีย   . . .   งานเทศกาลประจำปีนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากมายทั้งมหรสพ การดื่มชิมนมอูฐ ชมสิ่งทอ ท้องฟ้าจำลอง เป็นอีกงานหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มากๆ ซึ่งคาดกันว่าจะมีประชากรเกือบ 300,000 คนที่เข้ามาร่วมงานเทศกาลประจำปีนี้   ที่มา dailymail

  • อดีตผู้เข้าประกวดมิสเยอรมนีเผย ถูกเลือกปฏิบัติและขู่ฆ่า เพียงเพราะเธอมีแฟนเป็น ‘คนเอเชีย’

    อดีตผู้เข้าประกวดมิสเยอรมนีเผย ถูกเลือกปฏิบัติและขู่ฆ่า เพียงเพราะเธอมีแฟนเป็น ‘คนเอเชีย’

    ปัญหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาตินั้นถือเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะกับเหล่าคนดังในโลกอินเตอร์เน็ตที่เป็นสาวหรือหนุ่มๆ ที่ออกมาเปิดเผยว่าแฟนของพวกเขานั้นเป็นคนเอเชีย คนเหล่านี้ก็มักจะถูกโจมตีกันยกใหญ่ ครั้งนี้เป็นคิวของอดีตผู้เข้ารอบสุดท้าย Miss Germany 2016 นามว่า Farina Beh ซึ่งปัจจุบันเธอได้ผันตัวมาเป็นยูทูบเบอร์ที่ใช้ชื่อว่า Farina Jo 파리나 ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 22,000 คน และด้วยความที่เธอสวย น่ารัก ย่อมทำให้มีคนชื่นชอบเธอมากมาย     แต่จุดพีคมันอยู่ตรงที่เมื่อราว 1 เดือนก่อนเธอได้อัปโหลดคลิปที่เปิดตัวแฟนหนุ่มเกาหลีของเธอลงบนช่อง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อสาวสวยเปิดตัวแฟนเป็นคนเอเชีย แฟนคลับที่เป็นคนเหยียดเชื้อชาติก็มักจะไม่พอใจเสมอ     เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นยังไม่มีใครรับรู้จนกระทั่งผ่านไปสองสัปดาห์ Farina ก็ได้อัปโหลดคลิปใหม่อีกครั้ง โดยเธอออกมาพูดถึงจดหมายขู่ฆ่าเธอและแฟนหนุ่ม ผ่านช่องทางต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต     เธอเล่าว่า ตัวเธอกับแฟนหนุ่มนั้นคบกันมากว่า 2 ปีแล้ว เพียงแต่เธอไม่ได้เปิดเผยบนโลกอินเตอร์เน็ต เธอรู้ว่ามีคนเหยียดเชื้อชาติอยู่ทุกที่ เพียงแต่ในชีวิตจริงๆ เธอมักจะเจอแค่การเหยียดผ่านสายตาของผู้สูงอายุหัวเก่า ซึ่งเธอก็ไม่คิดว่าพอเปิดเผยเรื่องของเธอบนอินเตอร์เน็ตจะได้ผลลัพธ์แบบนี้ นอกจากนี้ Farina จดหมายขู่ฆ่าดังกล่าวนั้นไม่ได้มาเพียงแค่ช่องทางส่วนตัวของเธอเท่านั้น แต่มันมาถึงอีเมลในที่ทำงานของเธอกันเลยทีเดียว แถมวันหนึ่งก็ส่งมามากกว่า 12 ข้อความต่อวัน ทุกข้อความล้วนเป็นจดหมายขู่ฆ่าเธอกับแฟนหนุ่ม หรือเบาลงหน่อยก็จะบอกให้เธอหาแฟนใหม่ซะ…

  • เมื่อปรมาจารย์เจไดอย่าง Mark Hamil ต้องเจอกับ ‘Grammar Nazi’ ที่มาพร้อมพลังตรวจคำผิด!!

    เมื่อปรมาจารย์เจไดอย่าง Mark Hamil ต้องเจอกับ ‘Grammar Nazi’ ที่มาพร้อมพลังตรวจคำผิด!!

    สำหรับใครที่ท่องโลกอินเตอร์เน็ตหรือตามเว็บบอร์ดบ่อยๆ #เหมียวมู่ทู่ เชื่อว่าจะต้องเคยเจอกับกลุ่มคนชนิดหนึ่งที่มักจะทำตัวเป็นฝ่ายพิสูจน์อักษรตลอดเวลาไม่ว่าหัวเรื่องจะพูดอะไร คนเหล่านี้ก็มักจะสนใจอยู่แค่คำผิดเท่านั้น แน่นอนว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทย เพราะเมืองนอกก็มีเช่นกัน โดยกลุ่มคนจำพวกนี้จะถูกเรียกว่า ‘Grammar Nazi‘ ซึ่งจะคอยออกไปแซะชาวเน็ตคนอื่นๆ ที่พิมพ์แกรมมาร์ผิด และพวกเขาก็ไม่ได้สนเท่าไหร่นักว่าตัวใจความจริงๆ ของคำพูดคืออะไร นอกจากนี้คนที่ประสบปัญหาเจอกับนักตรวจคำผิดบนโลกออนไลน์ก็ไม่ได้มีแค่คนทั่วไปหรอกนะ เพราะล่าสุด  Mark Hamil หรือที่เรารู้จักกันในบทของ Luke Skywalker ก็ต้องเจอกับกลุ่มคนเหล่านี้เช่นกัน โดยมันเกิดขึ้นในตอนที่เขากำลังโพสต์ชื่นชม Kelly Marie Tran นักแสดงนำคนใหม่ในซีรีส์ Star War   ในทวีตของ Mark นั้นก็ไม่มีอะไรมากเป็นการพูดถึง Kelly Marie Tran โดยเขาชื่นชมเธอมากๆ แต่สิ่งที่ทำให้เหล่านักตรวจคำผิดไม่ชอบคือคำว่า your นั่นเอง   นักตรวจคำผิดออนไลน์ก็ออกมาบอกกับ Mark ว่า นายต้องใช้ You’re ต่างหากถึงจะถูก ให้ตายสิ Mark!!   เมื่อปรมาจารย์เจไดเจอศัตรูใหม่มาท้าทายถึงที่ มีเหรอที่เขาจะยอม งานนี้รุ่นใหญ่เลยสอนมวยเด็กซะหน่อย โดย Mark ออกมาตอบกับชาวเน็ตคนดังกล่าวว่า…

  • 15 ข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศ ‘นิวซีแลนด์’ คือสถานที่บรรจบกันระหว่าง โลกแห่งความจริง และเทพนิยาย

    15 ข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศ ‘นิวซีแลนด์’ คือสถานที่บรรจบกันระหว่าง โลกแห่งความจริง และเทพนิยาย

    ประเทศนิวซีแลนด์ หนึ่งดินแดนในฝันของหลายๆ คนที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ไปเยือนสักครั้งในชีวิต ความงดงามทางธรรมชาติ วัฒนธรรมของประชากรชาวนิวซีแลนด์ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่เย้ายวนให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายต้องไปสัมผัส อีกหนึ่งเสน่ห์ของประเทศนิวซีแลนด์นั่นก็คือ วิถีชีวิตของชาวนิวซีแลนด์บนดินแดนที่มีแต่ความงดงามนี้ เปรียบราวกับว่านิวซีแลนด์นั้นคือโลกนิยายที่มีอยู่จริง จากสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้   1. นิวซีแลนด์มีศาสนาเจได จากการสำรวจประชากรเมื่อปี 2001 มีชาวนิวซีแลนด์นับถือศาสนาเจไดอยู่ร้อยละ 1.5   2.นิวซีแลนด์มีกระทรวงลอร์ดออฟเดอะริงส์ ที่ต้องตั้งกระทรวงลอร์ดออฟเดอะริงขึ้นมาก็เพราะว่าหลังจากที่หนังฉายออกไปก็มีนักท่องเที่ยวมาตามรอยภาพยนตร์อย่างล้นหลาม ทำให้ต้องตั้งกระทรวงมาส่งเสริมกันโดยเฉพาะ   3. รอยสัก การสักนั้นเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญมากๆ สำหรับชนเผ่าเมารีทั้งชายและหญิง ชาวเผ่าจะนิยมสักลงบนใบหน้าด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์   4. ภาษาเอลฟ์ นี่คือการรายงานสภาพอากาศด้วยภาษาเอลฟ์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาพยนตร์เรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ มีการคาดการณ์เล่นๆ ว่า ในอนาคตอาจจมีการสอนภาษาเอลฟ์ในโรงเรียนอีกด้วย   5. นิวซีแลนด์มีชื่อสถานที่ที่ยาวมากๆ ชื่อสถานที่นั้นก็คือ “Taumatawhakatangihangaoauauotameteaturipukakapikimaungah-oronukupokaiwhenuakitanatahu” ยาวไปไหน   6. ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว ก่อนที่จะมาเป็นประเทศนิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์ถูกยึดครองโดยชนเผ่าเมารีและตั้งชื่อดินแดนว่า Aotearoa แปลว่า ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว   7. กีวี กีวีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผลไม้แต่อย่างใด แต่หมายถึงสัตว์ประจำชาติอย่างนกกีวีที่สามารถพบได้แค่ในประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น และคำว่า…

  • คนญี่ปุ่นโวย โดนร้านสเต๊กในอิตาลีชาร์จเงินกว่า 44,000 บาท จากการกินสเต๊ก 3 ปลาทอด 1

    คนญี่ปุ่นโวย โดนร้านสเต๊กในอิตาลีชาร์จเงินกว่า 44,000 บาท จากการกินสเต๊ก 3 ปลาทอด 1

    สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศอาจจะเคยโดนมาบ้าง กับการที่เข้าไปทานร้านอาหารแล้วงงกับค่าใช้จ่ายที่แพงแบบแพงเวอร์ ซึ่งบางทีก็อาจจะอยู่ในระดับที่พอรับได้ บางท่านจึงไม่คิดอะไร คิดเสียว่าเป็นอาหารบ้านเขา นานๆ กินครั้งคงจะไม่เป็นอะไร แต่สำหรับนักเรียนญี่ปุ่น 4 คนนี้ ไม่สามารถคิดแบบนั้นได้จริงๆ เนื่องจากพวกเขาเข้าไปทานอาหารในร้านแล้วโดนคิดค่าอาหารแพงจนแทบอยากจะร้องไห้ การที่ร้านอาหารจะคิดค่าบริการเกินจริงกับชาวต่างชาตินั้นเขาเรียกกันว่า “Tourist Traps“ แปลตรงๆ ก็คือ “กับดักนักท่องเที่ยว” นั่นเอง     เรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติเข้ามาทานอาหารแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ดูท่าแล้วจะไม่ค่อยสังเกตรายละเอียดอะไร จึงเผยให้เห็นช่องโหว่ให้ทางร้านสามารถคิดค่านู่นค่านี่ได้แพงหูฉี่เลยทีเดียว ผู้เคราะห์ร้ายในครั้งนี้ เป็นกลุ่มนักศึกษาญี่ปุ่น 4 คน จากมหาวิทยาลัยโบโลญญา เมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี โดยทั้ง 4 คนได้เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้าน Osteria Da Luca ที่อยู่ใกล้ๆ กับ St. Mark’s Square      พวกเขาสั่งแค่เพียงสเต๊ก 3 ชิ้น และปลาทอดหนึ่งชิ้น พร้อมน้ำดื่มเท่านั้น แต่ทั้ง 4 คนก็ต้องถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นราคาบนใบเสร็จที่ออกมาอยู่ที่ประมาณ 44,500 บาท! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกขูดรีด เพราะ 3…

  • ฆาตกรในคราบเทวดา… บุรุษพยาบาลชาวเยอรมัน ถูกจับกุมหลังฆ่าคนไข้ไปกว่า 97 คน!!

    ฆาตกรในคราบเทวดา… บุรุษพยาบาลชาวเยอรมัน ถูกจับกุมหลังฆ่าคนไข้ไปกว่า 97 คน!!

    บุรุษพยาบาล ฉายาว่า “เทวดาแห่งความตาย” มีความผิดข้อหาฆาตกรรมโดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และต่อมาจึงพบอีกว่า เขาได้ก่อเหตุฆาตกรรมไปแล้วถึง 97 ศพ พยาบาลฆาตกรรายนี้มีชื่อว่า Niels Hoegel ซึ่งเป็นชาวเยอรมัน ได้ถูกตัดสินคดีว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมเหยื่อ 2 ราย และพยายามฆ่าอีก 2 ราย และล่าสุดผู้ฟ้องร้องกล่าวว่าเมื่อหลายปีก่อน Niels ได้ฆ่าคนไป 97 คน จากทั้ง 2 โรงพยาบาลที่เขาเคยอยู่ โดยแห่งแรกก็คือ โรงพยาบาลใน Oldenburg ตั้งแต่ปี 1999 จนถึงปี 2002 และแห่งที่สองก็คือคลินิกที่ Delmenhorst ตั้งแต่ปี 2003 จนถึงปี 2005     จากการสอบสวน Niels ในปี 2015 เขาให้การว่า ที่คลินิกใน Delmenhorst เขาจงใจทำให้ผู้ป่วยประมาณ 90 คนมีภาวะหัวใจล้มเหลว เนื่องจากเขาชื่นชอบในการพยายามทำให้ผู้ป่วย “ฟื้นจากความตาย” และเขายังให้การเพิ่มว่าเขาได้ทำการฆาตกรรมมาตลอดในช่วงที่ทำงานใน Oldenburg หลังจากได้รับคำสารภาพจาก Niels ผู้สืบสวนจึงทำการทดสอบสารพิษของผู้ป่วยที่เสียชีวิตในช่วงที่ Niels ทำงานในโรงพยาบาล และทำให้พบความผิดของเขาเพิ่มมากขึ้น ผู้ฟ้องร้องนามว่า Martin…

  • “มิยาบิ” โอดถูกคนขับอูเบอร์ ‘ตามติดชีวิต’ แอบส่องทุกย่างก้าว ทำงานไม่เป็นมืออาชีพ

    “มิยาบิ” โอดถูกคนขับอูเบอร์ ‘ตามติดชีวิต’ แอบส่องทุกย่างก้าว ทำงานไม่เป็นมืออาชีพ

    ชีวิตของดารา AV ถึงแม้ว่าอาจจะดูสวยหรูมีเงินทองไหลมาเทมา แต่ความจริงแล้วพวกเธอก็อาจจะไม่ได้สุขสบายอย่างที่เราคิดไว้ บางทีก็อาจจะโดนรุกล้ำความเป็นส่วนตัวและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ Maria Ozawa อดีตดารา AV มิยาบิ ชื่อดังระดับตำนานที่เป็นที่รู้จักของชายหนุ่มอย่างแพร่หลาย หลังจากที่เธอได้อำลาวงการ ปัจจุบันเธอได้เป็นหุ้นส่วนเจ้าของบาร์ La Maison ในประเทศฟิลิปปินส์ ร่วมกับแฟนหนุ่มของเธอที่เป็นเชฟนามว่า Jose Sarasola     เธอได้กล่าวว่าเธอถูกคนขับรถ Uber ติดตาม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอโกรธมากและได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเธอ ซึ่งตอนนี้ได้ลบไปแล้วว่า “นี่ล้อกันเล่นใช่ไหม Uber ฟิลิปปินส์ คนขับรถเป็นบ้ารึเปล่าที่เอาเบอร์ลูกค้าไปแจกให้กับเพื่อน หรือลูกค้าคนอื่นๆ ฉันพยายามติดต่อศูนย์เพื่อแจ้งปัญหา แต่ไม่มีใครรับสาย ฉันเปลี่ยนชื่อเพราะว่าฉันต้องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของฉัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันบล็อกเบอร์จาก Uber หลายครั้งที่พวกคนขับรถพยายามที่จะตามฉัน และตอนนี้ก็เอาเบอร์ฉันไปแจกมั่ว ฉันรักประเทศนี้นะ แต่ทำไมถึงไว้ใจคนในประเทศไม่ได้ ทำไมทำงานไม่เป็นมืออาชีพกันเลย”     หลังจากนั้นก็ได้มีการอัปเดตว่าทาง Uber กำลังแก้ไขปัญหานี้และกำลังตามตัวคนขับรถที่ก่อเหตุดังกล่าว และทางบริษัทก็ได้ขอให้ทางอดีตดาราสาวให้ลบโพสต์ที่กล่าวถึงคนขับและบริษัทอีกด้วย เธอกล่าวในเฟซบุ๊กว่า “ทางทีมงาน Uber ฟิลิปปินส์กำลังติดตามคนก่อเหตุอยู่ และขอให้ฉันลบโพสต์ ฉันคิดว่าคงจะไม่ใช้บริการ Uber อีกต่อไปแล้ว ถ้ายังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ฉันจะฟ้องทั้งคนขับและบริษัท ถ้าคิดจะทำงานอย่างมืออาชีพก็ไม่ควรเอาอารมณ์ส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง”    …

  • คุณพ่อนักแสดงสุดหล่อดีดกีตาร์ให้ลูกฟัง ปฏิกิริยาของคุณลูกมันน่ารักเกินบรรยาย

    คุณพ่อนักแสดงสุดหล่อดีดกีตาร์ให้ลูกฟัง ปฏิกิริยาของคุณลูกมันน่ารักเกินบรรยาย

    สำหรับใครที่กำลังเครียดๆ กำลังมองหารอยยิ้มมาประทับบนใบหน้าละก็ บอกเลยว่าคุณมาถูกทาง เพราะว่าเมื่อชมคลิปนี้คุณจะได้ความสุขกลับไปแน่นอน คุณพ่อ Dan Fowlks มีอาชีพเป็นนักแสดงและนายแบบจากนิวยอร์ก ได้โพสต์คลิปคลิปหนึ่งระหว่างเขาและลูกสาว กำลังร้องเพลงเล่นกีตาร์ แต่สิ่งที่สะกดเราก็คือปฏิกิรยาของลูกสาวของเขามันน่ารักเหลือเกินนนน     คุณพ่อสุดหล่อคนนี้มักจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว คอยสอนเด็กๆ ให้ทำนู่นนั่นนี่อยู่เสมอ จึงไม่แปลกใจเลยที่ลูกๆ จะมีความน่ารักเกินพิกัดแบบนี้     นอกจากจะเป็นนักแสดงและนายแบบแล้ว คุณพ่อยังมีความสามารถในการเล่นกีตาร์และร้องเพลงอีกด้วย ซึ่งเขามักจะร้องเพลงให้ลูกๆ ได้ฟังอยู่บ่อยครั้ง เมื่อลูกสาว Nova Lin ได้เข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัว คุณพ่อรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แถมยังได้โพสต์ลงไปในเฟซบุ๊กว่า “เด็กสาวที่เราจะ ร้องเพลง เต้น ซี้ และเติบโตไปด้วยกัน ยินดีต้อนรับสู่โลกนะ Nova Lin Fowlks พ่อจะทำให้ดีที่สุด ให้มันแฮปปี้และสนุกเท่าที่จะทำได้”   แล้วก็เป็นแบบที่คุณพ่อพูดจริงๆ เพราะเขาทำทุกอย่างเพื่อให้หนูน้อยมีความสุข ดูได้จากคลิปนี้ที่ถูกแชร์กันไปเป็นจำนวนมาก เป็นคลิปที่คุณพ่อเล่นกีตาร์เพลง Dream Lover ของ Bobby Darin เพลง Oldie ในตำนาน แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนหลงรักก็คือปฏิกิริยาของหนูน้อยเมื่อตอนที่คุณพ่อได้บรรเลงเพลง จะไปยังไง เราไปดูกันในคลิปเลย     ตอนนี้เชื่อแล้วล่ะว่าคุณพ่อทำแบบที่พูดไว้จริงๆ…

  • ชวนไปมึนกับ Snowlandia เขาวงกตแสนซับซ้อนสร้างจากหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโปแลนด์

    ชวนไปมึนกับ Snowlandia เขาวงกตแสนซับซ้อนสร้างจากหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโปแลนด์

    เขาวงกตถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่อยู่คู่โลกเรามาแต่ช้านาน ปัจจุบันเรามักจะเป็นมันเป็นเกมเกมหนึ่งที่ให้คนได้ฝึกการแก้ไขปัญหา ซึ่งถ้าเรามองจากมุมสูง มันก็คงเป็นเรื่องง่ายที่จะหาทางออก แต่ถ้าลองไปเดินอยู่ในเขาวงกตจริงๆ บอกเลยว่างานนี้มีหลงแน่ๆ แต่ถ้าจะเล่นเขาวงกตทั้งทีก็ขอแนะนำที่นี่เลย Snowlandia Zakopane ในประเทศโปแลนด์ ที่จะชวนให้ทุกคนออกไปสำรวจความลึกลับกว่า 2,500 ตารางเมตร เรียกได้ว่าเดินวนได้ทั้งวัน     โดยครั้งแรกนั้นเคยถูกสร้างมาแล้วที่รีสอร์ต Zakopane เมื่อสองปีก่อน ซึ่งในครั้งนี้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาสัมผัสความหนาวเย็นและความมึนที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงสูงกว่า 2 เมตร ถ้าใครตัวสูงกว่านี้ก็สบายแล้วววว   ที่แห่งนี้เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ถ้าสมมติว่าหลงจริงๆ ก็คงต้องอุ้มเด็กสูงๆ เพื่อให้มองทางให้แล้วล่ะ   มองจากมุมสูงแบบนี้อาจจะดูเล่นง่ายนะ เพราะเราเห็นว่ามันต้องเดินทางไหนบ้าง   แต่ความเป็นจริง พอเดินเข้าไปมันก็ขาวไปหมด คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเส้นทางที่กำลังเดินนั้นคุณเคยผ่านมันมาแล้วหรือยัง .   ด้วยความขาวโพลนแบบนี้ยิ่งทำให้ยากต่อการจดจำว่าทางไหนเป็นทางไหน เห็นแล้วปวดหัวจริงๆ เลย . .   ลองไปดูบรรยากาศรอบๆ ของสถานที่แห่งนี้กัน   เป็นยังไงบ้างล่ะ รู้สึกน่าไปขึ้นมารึยัง นอกจากเขาวงกตแล้วยังมีสกี บอร์ด และเครื่องเล่นอื่นๆ ให้เล่นอีกด้วยนะ ถ้าหน้าหนาวนี้ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน ก็ลองไปจัดดูได้ ที่มา designyoutrust

  • โรงเรียนอนุบาลในจีนให้เด็กๆ ได้เรียนอนาโตมีด้วยการผ่าหมูสดๆ ให้เด็กดูเลย

    โรงเรียนอนุบาลในจีนให้เด็กๆ ได้เรียนอนาโตมีด้วยการผ่าหมูสดๆ ให้เด็กดูเลย

    ที่โรงเรียน อนุบาลเหอเป่ย์ ในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน ได้มีการสอนให้นักเรียนได้รู้จักเรื่องร่างกายและความเป็นความตายผ่านการผ่าหมูทั้งตัวให้เห็นกันจะๆ ในเมือง Badong County มณฑลเหอเป่ย์ มีเด็กนักเรียนอนุบาลราว 600 คน กำลังรับชมชายชุดขาวใส่หมวกและผู้ช่วยอีก 2 คน กำลังชำแหละหมูตัวโตสดๆ และนำเอาเครื่องในหมูออกมาโชว์     ผู้ก่อตั้งโรงเรียนชี้แจงว่ากิจกรรมดังกล่าวให้ประโยชน์ใน 2 แง่ด้วยกัน ในแง่แรกคือการสร้างบรรยากาศวันตรุษจีนให้กับโรงเรียน ซึ่งเป็นปกติที่วันตรุษจีนจะต้องชำแหละหมูทั้งตัวเพื่อนำมาทำอาหารเลี้ยงฉลอง ส่วนในแง่ที่สองก็คือ เพื่อสอนให้เหล่าเด็กๆ รู้จักกับร่างกายในเชิงอนาโตมี เพื่อเป็นรากฐานในการศึกษาของเด็กๆ ในอนาคต   ภาพบรรยากาศในงานจะเป็นอย่างไร เชิญรับชมได้ตามคลิปด้านล่างนี้   ชาวเน็ตเองเมื่อเห็นจึงได้ออกมาวิจารณ์ว่าบทเรียนเหล่านี้มันดูจะป่าเถื่อนเกินไปหน่อยสำหรับเด็กอนุบาล ผู้อำนวยการโรงเรียนจึงออกมากล่าวว่า เด็กๆ จะไม่มีการซึมซับเรื่องการทรมานสัตว์แน่นอน อีกอย่างก็คือก่อนจะมีกิจกรรมนี้ ทางโรงเรียนได้แจ้งพ่อแม่ของเด็กๆ ก่อน และก็ได้รับการอนุญาตแล้ว อันที่จริงแล้ว การชำแหละหมูโชว์เด็กๆ แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในชนบทของประเทศจีน     อย่างไรก็ตาม หมูที่ชำแหละในงานนั้นก็ถูกนำมาทำเป็นอาหารแจกพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงเด็กๆ เนื่องจากเป็นการเลี้ยงฉลองเทศการฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึงนั่นเอง   แต่ละที่ก็มีวิธีการสอนเด็กๆ ที่แตกต่างกันไป แต่การผ่าหมูสดๆ ให้เห็นอย่างนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะส่งผลอย่างไรกับเด็กๆ ก็คงต้องรอการพิสูจน์กันต่อไปละนะ   ที่มา: Medium

  • สภาพฟันอันผุพัง ผลจากการดื่มน้ำอัดลมปริมาณ 6 ลิตรทุกๆ วัน ขนาดหมอยังช็อกเลยแกร๊!!

    สภาพฟันอันผุพัง ผลจากการดื่มน้ำอัดลมปริมาณ 6 ลิตรทุกๆ วัน ขนาดหมอยังช็อกเลยแกร๊!!

    ยามแดดร้อนๆ หรือหลังทำกิจกรรมอะไรมาเหนื่อยๆ มันก็ต้องการอะไรชื่นใจๆ มากระแทกปากเสียหน่อย แน่นอนว่า น้ำอัดลมเย็นๆ ซ่าๆ คงอยู่ในความคิดแรกของใครหลายคน ด้วยความหวาน เย็น และซ่าของมัน ทำให้ผู้ที่ดื่มเข้าไปชื่นใจ และรู้สึกเหมือนได้รับการเติมพลัง แต่เจ้าเครื่องดื่มที่เรียกว่า “น้ำอัดลม” นี่มันดันมีผลเสียต่อร่างกายที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว นอกจากการดื่มมากๆ จะทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไปแล้ว มันยังทำลายฟันของคุณได้ด้วยนะ อย่างเช่นชายหนุ่มผู้นี้ผู้ที่เสพย์ติดการดื่มน้ำอัดลมเป็นอย่างมาก เขามีชื่อว่า Michael Sheridan อายุ 32 ปี มาจากเกาะไอร์แลนด์ เขาดื่มน้ำอัดลมทุกวันจนกระทั่งผลร้ายได้เกิดขึ้นกับฟันของเขา   นี่คือผลลัพธ์จากการดื่มน้ำอัดลม 6 ลิตรต่อวัน   เขาทานอาหารวันละมื้อเท่านั้น เพราะเขาดื่มน้ำอัดลมจนไม่อยากทานอะไรแล้ว   Michael อาศัยการทานอาหารอ่อนๆ เพราะเพียงแค่เขากัดลงบนขนมปังแซนวิช เขาก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด   เขากล่าวว่า “ผมติดน้ำอัดลมมากๆ ผมดื่ม 6 ลิตรต่อวัน หรืออาจจะมากกว่านั้น ผมมีน้ำอัดลมติดตัวตลอดเวลา” “ผมรู้ดีว่าหากผมไปหาทันตแพทย์ เขาต้องห้ามไม่ให้ผมดื่มมันต่อแน่ๆ ซึ่งผมไม่อยากทำแบบนั้น” “แน่นอนผมรู้ว่าฟันผมต้องเสียแน่ๆ ซึ่งผมเองก็คงไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาด้วย”     ในที่สุดพ่อลูกสามอย่าง Michael ก็ยอมรักษาฟันของเขาจนได้…

  • ‘รู้สึกผิดและแย่’ บริกรแชร์คำขอโทษจากกลุ่มเด็ก รู้สึกผิดที่ให้ทิปน้อยและกลับมาจ่ายคืนให้

    ‘รู้สึกผิดและแย่’ บริกรแชร์คำขอโทษจากกลุ่มเด็ก รู้สึกผิดที่ให้ทิปน้อยและกลับมาจ่ายคืนให้

    เมื่อพูดถึงธรรมเนียมการปฏิบัติในบางรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา กับการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านตามภัคตาคารต่างๆ จะต้องมีการให้ทิปกับพนักงานผู้ให้บริการด้วย เพราะถือเป็นสินน้ำใจเล็กน้อยในงานบริการ บวกกับทิปเหล่านี้จะถูกนับรวมเป็นค่าแรงขั้นต่ำด้วย ทั้งนี้จำนวนเงินทิปขั้นต่ำก็ขึ้นอยู่กับภัคตาคารจะเป็นผู้กำหนด โดยส่วนใหญ่แล้วจะกำหนดอยู่ที่ 15-20% ของราคาอาหารในมื้อนั้นๆ   กระดาษโน้ตคำขอโทษ 1 แผ่นจากตัวแทนของกลุ่มเด็กหญิง   แต่ทว่าเมื่อกลุ่มเด็กหญิง 4 คน อายุประมาณ 13 ปี กลุ่มหนึ่งในเมือง Los Angeles กลับให้ทิปบริกรในจำนวนเพียงแค่ 3.28 ดอลลาร์ (ประมาณ 104 บาท) จากมูลค่าราคาอาหารที่สั่งไปเกือบ 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,100 บาท) ถึงแม้จะได้รับคำขอบคุณจากกลุ่มเด็กหญิงแล้ว มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกชื่นใจขึ้นมาได้ แถมยังทำให้รู้สึกหัวเสียอีกต่างหาก แต่เขากลับมารู้ในภายหลังว่า พวกเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้กับเขา แต่เป็นเพราะว่าพวกเธอเพิ่งจะเคยออกมาทานอาหารด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก และไม่รู้ถึงธรรมเนียมการให้ทิป   ใจความของการขอโทษรวมกันเป็น 2 หน้ากระดาษ   Seminole ชายผู้ใช้นามแฝงในเว็บไซต์ Imgur ได้โพสต์ภาพกระดาษโน้ตคำขอโทษจากกลุ่มเด็กหญิง โดยได้รับภายหลังจากเกิดเรื่องไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ด้วยใจความดังต่อไปนี้…  …

  • สาวผู้เสพติดการกิน รับว่าการผ่าตัดไม่ใช่ทางลัด ต้องใจแข็งเพื่อเปลี่ยนตัวเอง ถึงจะเห็นผล…

    สาวผู้เสพติดการกิน รับว่าการผ่าตัดไม่ใช่ทางลัด ต้องใจแข็งเพื่อเปลี่ยนตัวเอง ถึงจะเห็นผล…

    อาหารการกินเป็นสิ่งที่มนุษย์ปฏิเสธไม่ได้เลย แต่สำหรับปริมาณในแต่ละมื้อหรือในแต่ละวันนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน กินน้อยไปก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย กินมากไปก็กลายมาเป็นสารอาหารส่วนเกินที่สะสมอยู่ในร่างกายอีก ในเมื่อร่างกายไม่สามารถขับสารอาหารส่วนเกินออกไปได้หมด ก็กลายมาเป็นการสะสมเอาไว้ในร่างกายแทน จนถึงขั้นประสบกับปัญหาโรคอ้วนกันได้เลยทีเดียว ซึ่งนอกเหนือจากจะเป็นสาเหตุทำให้โรคอื่นๆ ตามมาแล้ว ก็ยังทำให้ระบบภายในนั้นไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วย   ภาพถ่ายเปรียบเทียบอดีต (ซ้าย) และปัจจุบัน (ขวา) ของ MC Solomon สาววัย 19 ปี   ยกตัวอย่างเช่นหญิงสาวนามว่า MC Solomon วัย 19 ปี จากเมืองแดลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐฯ เป็นผู้ประสบกับปัญหาน้ำหนักส่วนเกินและพยายามที่จะกำจัดออกไป จนกระทั่งในวันนี้เธอก็สามารถทำได้แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าจะสามารถลดได้ในทันทีทันใด เพราะเส้นทางการลดน้ำหนักของเธอต่างเต็มไปด้วยอุปสรรคร้อยแปดพันเก้า…     เธอตัดสินใจที่จะลดน้ำหนักและทวงคืนสุขภาพของตัวเองเป็นครั้งแรก ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2017 โดยจะต้องผ่านกระบวนการวินิจฉัยของแพทย์ เข้ารับการบำบัด และรับการผ่าตัดกระเพาะอาหารในวันที่ 29 มีนาคม ปี 2017 อย่างที่ #เหมียวเลเซอร์ เกริ่นไปในช่วงแรก เส้นทางการลดน้ำหนักของเธอนั้นไม่ได้ปูด้วยทองคำ มันส่งผลกระทบทางด้านความท้าทายและวิถีชีวิตของเธออย่างรุนแรง    …

  • เผยโฉม ‘ท่านลอร์ด’ ผู้ผดุงประชากรแมวยักษ์ลายจุด ให้รอดพ้นจากการสูญสิ้นตัวตนบนโลก

    เผยโฉม ‘ท่านลอร์ด’ ผู้ผดุงประชากรแมวยักษ์ลายจุด ให้รอดพ้นจากการสูญสิ้นตัวตนบนโลก

    ช่วงนี้พูดคำว่า ‘ท่านลอร์ด’ ปุ๊บหลายคนคงจะนึกถึงแต่หนุ่มที่ว่ากันว่าเป็นมือที่ 3 ของขวัญกับกอล์ฟ แต่ท่านลอร์ดที่เราจะแนะนำให้รู้จักต่อไปนี้ ไม่ใช่มือที่ 3 ของใครอย่างแน่นอน นี่คือ ลอร์ด เสือดาวตัวผู้ที่ติดพันธุ์กับเสือดาวตัวเมียถึง 3 ตัวในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่เพราะมันเจ้าชู้นะ แต่เป็นผู้ผดุงประชากรแมวยักษ์ให้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์     รู้มั้ยว่ามีประชากรเสือดาวเหลืออยู่ในป่าเพียง 80 ตัวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เจ้าลอร์ดจึงต้องใช้ความเป็นชายของตัวเองช่วยเผ่าพันธุ์ให้อยู่รอดต่อไปบนโลกใบนี้ เรื่องราวของลอร์ดถูกบันทึกผ่านกล้องที่ติดตั้งไว้ใน Land of the Leopard Nature Reserve ทางตะวันออกของรัสเซีย ซึ่งเผยให้เห็นว่าเจ้าลอร์ดนั้นยุ่งมากแค่ไหนกับการทำภารกิจป่ามป๊าม     เจ้าลอร์ดถูกพบว่าอยู่กับเสือดาวตัวเมีย 3 ตัว คือ Amur, Pamela และ Nerussa ในอุทยานที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อนเพื่อช่วยอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ การที่ท่านลอร์ดตัวนี้ทำหน้าที่ไม่เคยขาดตกบกพร่อง แต่หมั่นป่ามป๊ามตัวเมียสม่ำเสมอ นั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่เฝ้าดูรู้สึกชื่นใจเป็นอย่างมาก     Amur เป็นเสือดาวไซบีเรีย ซึ่งเป็นพันธุ์เสือดาวที่ถูกคุกคามอย่างหนักในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขล่าสุดระบุว่ามีเสือดาวเหลือในป่าเพียง 80 ตัวเท่านั้น จริงๆ แล้ว นักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามให้การช่วยและปกป้องเผ่าพันธุ์เสือดาวมาตลอดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แต่จำนวนประชากรของพวกมันก็ยังคงลดลงเรื่อยๆ…

  • ถุงนอนรูปกางเกง เหมาะสำหรับคนเข้าป่า นอนได้ถึงสองคน แลดูอบอุ่นเชียวล่ะ

    ถุงนอนรูปกางเกง เหมาะสำหรับคนเข้าป่า นอนได้ถึงสองคน แลดูอบอุ่นเชียวล่ะ

    เวลาที่ต้องไปออกแคมป์หรือกางเต็นท์นอนนอกบ้านยามช่วงเวลาหนาวมาถึง ถุงนอนคงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่หลายคนนึกถึงใช่ไหมล่ะครับ เพราะมันพกพาง่าย ใช้งานสะดวก แถมยังให้ความอบอุ่นได้ดีอีกต่างหาก แต่ถ้าหากคุณไปกับคู่รักล่ะก็ ถุงนอนจะเป็นตัวขัดขวางที่ดีเลยล่ะ เพราะมันจะทำให้คุณและคนรักของคุณต้องนอนแยกกัน โดยไม่ได้มีการสัมผัสหรือรับไออุ่นจากกันและกันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงมีผลิตภัณฑ์ถุงนอนสไตล์ใหม่ที่คนมีคู่สามารถใช้เพื่อลดปัญหาที่ว่าไปข้างต้นได้ดีเลยทีเดียวเชียวล่ะ และถุงนอนที่ว่านี้ก็คือ “ถุงนอนรูปกางเกง” นั่นเอง     ถุงนอนรูปกางเกงนี้ผลิตและออกแบบโดยบริษัท Felissimo ของญี่ปุ่นเขาล่ะ ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตของใช้ที่ลวดลายแมวเหมียวและลายน่ารักๆ อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้ผลิตกางเกงกีฬาที่มีขนปุกปุยนุ่มนิ่มออกมา จึงทำให้เกิดความคิดที่จะผลิตถุงนอนที่แสนสบายออกมา     ทาง Felissimo จึงได้ออกแบบถุงนอนรูปกางเกงออกมา ดูเผินๆ แล้วก็จะเหมือนกางเกงยีนส์ขายาวตัวใหญ่ๆ ตัวหนึ่ง ที่มีมีรูด้านหน้า ซึ่งถ้าหากเป็นกางเกงจริงๆ ล่ะก็ รูทั้งสองรูหน้ากระเป๋ากางเกงนี้คงจะทำให้กางเกงคุณไม่น่าดูอย่างยิ่ง แต่หารู้ไม่ว่า มันมีไว้สำหรับให้คนนอนได้โผล่หน้าออกมาต่างหากล่ะ   . .   เห็นในภาพเป็นสาวน้อยนอนคู่กับตุ๊กตาหมีขั้วโลกแบบนี้ แท้จริงแล้ว จุดประสงค์ของถุงนอนกางเกงนี้ทำมาเพื่อให้คู่รักได้นอนด้วยกันต่างหาก   การที่คนสองคนนอนใกล้ๆ กันนั้นจะได้รับความอบอุ่นที่เกิดจากร่างกาย และถุงนอนใบนี้ถึงจะเห็นว่านอนแยกกันในขากางเกงคนละข้าง แต่ส่วนบนนั้นเชื่อมถึงกัน ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้รับไออุ่นจากกันและกันแน่นอน ส่วนด้านข้างนั้นใส่เป็นซิปเพื่อให้เปิดระบายอากาศได้อีกด้วย     ถุงนอนรูปกางเกงแบบนี้ ลมหนาวจะไม่พัดเขามาในขากางเกงหรอกเหรอ? ตอบได้เลยว่าไม่ เพราะขางกางเกงทั้งสองข้างนั้นมีฝาปิดที่แน่นหนา…

  • ชาวประมงทำการผ่าท้องปลา พบ ‘เศษซากอารยธรรม’ จากมนุษย์ มีทั้งพลาสติก หวี และไฟแช็ก

    ชาวประมงทำการผ่าท้องปลา พบ ‘เศษซากอารยธรรม’ จากมนุษย์ มีทั้งพลาสติก หวี และไฟแช็ก

    ในทุกวันนี้ธรรมชาติถูกมนุษย์ทำลายแทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นความเจริญของทางด้านตัวเมืองเขตที่อยู่อาศัย ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ กำลังกัดกินพื้นที่ของสัตว์และผืนป่าอย่างช้าๆ ยังไม่รวมไปถึงปัญหาทางด้านมลพิษและขยะที่ตามมาแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนอกเหนือจากผืนดินแล้ว ผืนน้ำทางธรรมชาติก็กำลังถูกรุกรานอย่างหนัก แม้จะมีการสร้างแคมเปญรณรงค์อนุรักษ์ธรรมชาติมากแค่ไหน แต่จิตสำนึกของผู้คนก็ยังไม่พัฒนาไปตามกระแสโลกอยู่ดี…   *ภาพภายในเนื้อหาอาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจได้*   อย่างในกรณีของภาพฟุตเทจจากชาวประมงรายหนึ่ง จากชายฝั่งของประเทศคอสตาริกา ที่ได้ทำการจับปลาอีโต้มอญขึ้นเรือมา (ชื่อท้องถิ่น Mahi-Mahi) และสังเกตเห็นว่าอาการของปลานั้นดูไม่ค่อยสู้ดีนัก จึงทำการผ่าเพื่อดูท้องข้างในของมัน   หน้าตาของปลาอีโต้มอญ (Dolphinfish หรือ Mahi-Mahi)   และสิ่งที่เขาเห็นอยู่ภายในท้องของปลาตัวนี้ กลับกลายเป็นเศษขยะจากฝีมือมนุษย์แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเศษฝาขวดพลาสติก เศษชิ้นส่วนถ้วยพลาสติก หวี ไฟแช็ก และเศษพลาสติกเล็กๆ น้อยๆ อีกหลากหลายชิ้น     ด้วยจำนวนขยะภายในท้องของปลาที่มากขนาดนี้ จึงเป็นเหตุทำให้ระบบร่างกายของปลามีความบกพร่อง และด้วยเหตุที่ปลาชนิดนี้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของชาวประมงบนเกาะ ก็ยิ่งส่งผลทำให้นักอนุรักษ์ต้องเร่งทำการรณรงค์เป็นการด่วน     คลิปการผ่าท้องปลาตัวดังกล่าว เผยให้เห็นถึงเศษขยะที่ถูกทิ้งลงในทะเลกลับกลายเป็นอาหารคร่าชีวิตปลา   ทางด้าน Erick Ross นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ได้อธิบายไว้ว่า ปลามักจะมีความสับสนระหว่างอาหารที่พวกมันกินได้กับชิ้นส่วนพลาสติกที่ล่องลอยอยู่ในทะเล ก่อนที่จะทำการกลืนกินเข้าไปในร่างกาย “ชิ้นส่วนพลาสติกเหล่านี้จะไม่ได้รับการย่อยสลายภายในท้องของปลา และจะทำการขัดขวางการทำงานของระบบลำไส้ ทำให้พวกมันไม่สามารถกินอาหารได้อีก…

  • ‘จนกว่าชีวิตจะหาไม่’ คุณย่าวัย 76 เข็นหลานชายพิการไปโรงเรียนร่วม 4 ปี ตกวันละ 24 กิโลฯ!!

    ‘จนกว่าชีวิตจะหาไม่’ คุณย่าวัย 76 เข็นหลานชายพิการไปโรงเรียนร่วม 4 ปี ตกวันละ 24 กิโลฯ!!

    ในช่วงบั้นปลายชีวิตของคนทั่วไป ช่วงวัยชราของผู้สูงอายุนั้นจะต้องพึ่งพาการดูแลจากลูกหลาน หรือถ้าหากไม่มีใครคอยอยู่ดูแล ก็ต้องพยายามใช้ชีวิตของตัวเองเท่าที่จะสามารถทำได้… แต่สำหรับคุณย่า Shi Yuying วัย 76 ปี จากเขตกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของประเทศจีน กลับต้องใช้แรงกายของตัวเองพาแรงใจเดินไกลถึงวันละ 24 กิโลเมตร!!     นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณย่าจะต้องพาหลานชายวัย 9 ขวบ ที่ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนด้วยตัวเองได้ ไปส่งถึงโรงเรียนในทุกๆ วัน…   นี่คือเส้นทางที่ทั้งสองจะต้องเดินทางผ่านเป็นประจำ   โดยที่ Jiang Haowen ผู้เป็นหลานชายของคุณย่านั้น ถูกวินิจฉัยพบว่าประสบกับกลุ่มโรคสมองพิการ (Cerebral Palsy) มาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ อันเป็นกลุ่มอาการของผู้ป่วยเด็กที่มีความพิการอย่างถาวรของสมอง ส่งผลทำให้ไม่สามารถสั่งการร่างกายได้อย่างที่ควรจะเป็น ที่ร้ายแรงไปยิ่งกว่านั้นก็คือ ทางพ่อแม่ของเด็กชายต่างแยกทางกันตอนที่เขามีอายุได้เพียง 4 ขวบ ฝั่งแม่ก็ไปแต่งงานมีครอบครัวใหม่ ส่วนคุณพ่อนั้นก็ต้องออกไปทำงานต่างเมืองเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวตัวเอง     แต่ถึงแม้จะประสบกับความทุกข์ยากขนาดไหน คุณย่าเองก็มีพลังความคิดทางด้านบวก เพื่อให้หลานชายที่เธอดูแลอยู่ได้รับการศึกษาที่สมวัย ‘ตราบใดที่ฉันยังมีเรี่ยวแรง, ฉันก็จะทำแบบนี้ต่อไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่’ คุณย่ากล่าว     ก่อนหน้านั้นคุณย่าใช้วิธีพาหลานซ้อนจักรยานไปส่งที่โรงเรียนทุกวัน…

  • ช่างก่อสร้างกว่า 1,500 คน ร่วมสร้างทางรถไฟจนเสร็จ ภายในเวลาเพียง 9 ชั่วโมงเท่านั้น!!

    ช่างก่อสร้างกว่า 1,500 คน ร่วมสร้างทางรถไฟจนเสร็จ ภายในเวลาเพียง 9 ชั่วโมงเท่านั้น!!

    โดยปกติเรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นในแง่ของการก่อสร้างที่รวดเร็ว เพราะเนื่องจากเป็นประเทศที่ผู้คนค่อนข้างมีวินัย เมื่อลงมือทำอะไรสักอย่างแบบพร้อมเพรียงก็จะเกิดเป็นปรากฏการณ์ให้ชาวโลกได้ฮือฮาในความว่องไวของพวกเขา แต่ความไวเหล่านั้นไม่ได้สงวนไว้แค่ชาวญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะที่ประเทศจีนเองก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เช่นเดียวกัน และพวกเขาก็แสดงให้เห็นว่าการสร้างอะไรภายในชั่วข้ามคืน ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาเช่นกัน     เหตุการณ์ที่คุณจะได้ชมต่อไปนี้ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ของการก่อสร้างในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ที่รวบรวมเอาช่างก่อสร้างกว่า 1,500 คนและรถขุดอีก 23 คันมาช่วยกันสร้างรางรถไฟให้เสร็จภายในคืนเดียว ตามรายงานของ Xinhua News Agency บอกว่าคนงานทั้งหมดเริ่มงานในคืนวันที่ 19 มกราคม และเสร็จสิ้นภารกิจในช่วงเช้าของวันที่ 20 มกราคม     หน้าที่ของคนงานทั้งหมดคือการเชื่อมรางรถไฟทั้ง 3 สายเข้าด้วยกัน ทั้ง Ganlong Railway, Ganruilong Railway และ Zhanglong Railway และพวกเขายังติดตั้งเสาสัญญาณจราจรพร้อมกับชุดของอุปกรณ์ตรวจสอบการจราจรด้วย แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าพวกเขาสามารถรักษาระดับความเร็วเอาไว้ได้และสื่อสารกันอย่างมีคุณภาพ งานทั้งหมดก็จะเป็นเรื่องง่ายเลยทีเดียว     Zhan Daosong รองผู้จัดการของ China Tiesiju Civil Engineering Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตทางรถไฟรายใหญ่ของประเทศได้กล่าวว่าที่พวกเขาทำงานได้เร็วขนาดนี้ก็เพราะว่ามีการเตรียมงานมาอย่างดี และคนงานทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 7…

  • ทหารแต่งงาน ณ West Point ความเท่าเทียมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเพศอะไรมันก็คือความรัก

    ทหารแต่งงาน ณ West Point ความเท่าเทียมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเพศอะไรมันก็คือความรัก

    ในขณะนี้โลกของเรากำลังหมุนไปเรื่อยๆ การรักร่วมเพศจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป และในบางพื้นที่ การจัดงานแต่งงานก็ถือเป็นการประกาศชัยชนะที่พวกเขาเฝ้ารอคอยมาเป็นเวลานานเช่นกัน นี่เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องของทหาร LGBT 2 นายในสหรัฐ ที่แต่งงานกันในโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งว่ากันว่านี่อาจเป็นงานแต่งงานของกลุ่ม LGBT ครั้งแรกที่มีการจัดขี้นภายในโรงเรียนเตรียมทหารเลยก็ว่าได้     ทหาร 2 นายที่เราพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Daniel Hall วัย 30 ปี และ Vincent Franchino วัย 26 ปี พวกเขาเล่าว่าพบกันครั้งแรกระหว่างออกปฏิบัติภารกิจในปี 2009 ในช่วงแรกพวกเขาต้องอดทนกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เพราะเนื่องจากเป็นความรักร่วมเพศจึงถูกสั่งห้ามแสดงออกทั้งคำพูดและความรู้สึกใดๆ ให้คนอื่นเห็น และยังต้องกังวลกับสายตาจากคนรอบข้างอีก     สาเหตุที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นเรื่องต้องห้ามในค่ายทหารก็เป็นเพราะคำสั่งของ Bill Clinton ที่เคยออกกฎห้ามมีการรักร่วมเพศไว้ในปี 1993 “พวกเราทำตามกฎเกณฑ์ทุกอย่างที่ถูกสั่ง พวกเราเป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ทหารเรือที่สมบูรณ์แบบ เพื่อโกหกความรู้สึกจริงๆ ของพวกเรา” Daniel กล่าวเชิงตัดพ้อ  …

  • ผู้คนพากันตกใจ หลังหญิงแอฟริกันยังคงให้กำเนิดทารกหลังจากที่เธอเสียชีวิตไปแล้ว 10 วัน!?

    ผู้คนพากันตกใจ หลังหญิงแอฟริกันยังคงให้กำเนิดทารกหลังจากที่เธอเสียชีวิตไปแล้ว 10 วัน!?

    โลกของเรานั้นมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงและความเศร้าโศกเสียใจให้กับหลายๆ คนอย่างมาก Nomveliso Nomasonto Mdoyi หญิงสาววัย 33 ปี ได้เสียชีวิตในบ้านของเธอ ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Mthayisi ในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของแอฟริกาใต้ จากอาการขาดอากาศหายใจ และศพของเธอได้ถูกส่งไปยังบริษัทที่จัดงานศพเพื่อนำไปฝัง     แต่ก่อนวันงานศพ หลังจากที่เธอเสียชีวิตได้ 10 วัน ในขณะที่ทีมงานกำลังจะขนส่งศพจากห้องเก็บศพไปยังโลงศพ ก็พบกับร่างเด็กทารกอันไร้วิญญาณอยู่ระหว่างขาของเธอ ทำให้พวกเขาตกใจอย่างมาก “พวกเราตกใจและกลัวมาก จนทำให้ไม่ทันได้ดูเพศของเด็กทารกที่คลอดออกมา” Fundile Makalana หัวหน้าบริษัทจัดงานศพกล่าว “ตั้งแต่ทำงานที่นี่มากว่า 20 ปี ผมไม่เคยพบเจอผู้หญิงที่ตายไปแล้วคลอดลูกเลย”     จากเหตุการณ์อันน่าสะพรึงครั้งนี่ทำให้ Mandzala Mdoyi วัย 76 ปี แม่ของหญิงสาวผู้นี้ยิ่งโศกเศร้ากว่าเดิม เธอกล่าวว่า “พวกเราก็มีการศึกษากันแล้ว ใครก็ได้ช่วยอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีได้ไหม เป็นไปได้อย่างไรที่คนตายจะคลอดลูกได้” เธอบอกว่า “ฉันอายุมากกว่า 70 ปีแล้วแต่ไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรแบบนี้เลย ทำไมต้องมาเกิดขึ้นกับลูกของฉันด้วย ตอนแรกฉันก็เสียใจพอแล้วที่ลูกสาวของฉันสิ้นใจ ตอนนี้ยังต้องมาตกใจที่มีทารกคลอดออกมาจากศพของลูกสาวฉันที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 10 วันอีกหรือ…

  • โพสต์บ่นในไอจี ‘เสิร์ฟคาเวียร์ด้วยช้อนพลาสติก’ ในคลับของทรัมป์ ถูกจับไปโยงอีเวนต์มั่วไปหมด!?

    โพสต์บ่นในไอจี ‘เสิร์ฟคาเวียร์ด้วยช้อนพลาสติก’ ในคลับของทรัมป์ ถูกจับไปโยงอีเวนต์มั่วไปหมด!?

    เรื่องของการจับประเด็นในโลกออนไลน์แต่ละครั้งนั้น จะต้องมีวิจารณญาณกันพอสมควร เพราะว่าถ้าหากยังไม่เข้าใจในสิ่งที่พบเห็นมากพอแล้วนำไปพูดต่อ จะกลับกลายเป็นว่าทำให้คนอื่นเข้าใจผิดตามกันไปเป็นขบวนเลยล่ะ… อย่างในเรื่องของชาวฟลอริดาผู้ใช้งานอินสตาแกรมท่านหนึ่งจากสหรัฐอเมริกา ระหว่างเข้ารับบริการจากรีสอร์ท Mar-a-Lago อันเป็นส่วนหนึ่งในคลับของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่หวังว่าจะได้รับความหรูหราในการบริการ แต่กลับกลายเป็นว่าต้องเจอกับความผิดหวังอย่างไม่น่าให้อภัย…   ภาพบางส่วนของกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มทรัมป์   ก่อนอื่นต้องกล่าวไว้ก่อนว่า ช่วงที่ผ่านมามีการจัดงานเลี้ยงให้กับผู้ร่วมสมทบทุนทางการเมือง พร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ ของทรัมป์ที่รีสอร์ท Mar-a-Lago เพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบ 1 ปีของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ทว่าในวันจัดงานเจ้าตัวไม่อาจมาร่วมงานได้ด้วยเหตุผลบางประการ…     แต่สิ่งที่น่าจับตามองก็คือรีสอร์ทดังกล่าวนั้นมีการให้บริการที่เรียกได้ว่า ‘มีระดับ’ หรูหราและไฮโซ โดยกลุ่มผู้ร่วมงานนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้สนับสนุนทรัมป์เสียส่วนใหญ่ และตั๋วค่าเข้าร่วมงานนั้นก็มีราคาขั้นต่ำจำหน่ายอยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหนึ่งคู่ร่วมงาน (ประมาณ 3,100,000 บาท) อย่างไรก็ตาม ก็มีชาวฟลอริดาคนหนึ่งได้ทำการโพสต์ภาพการเสิร์ฟคาเวียร์ของรีสอร์ท ที่มีพร้อมกับข้อความอารมณ์ฉุนเฉียว เพราะว่าสิ่งที่เห็นก็คือการใช้ช้อนพลาสติกตักคาเวียร์!!     ผู้ใช้อินสตาแกรมนามแฝง @Vacayinbae ได้ทำการโพสต์ภาพพร้อมใจความว่า ‘เกลียดที่จะทำแบบนี้นะ แต่มันอดไม่ไหวจริงๆ ทั้ง #อับอาย #อัปยศ กับรีสอร์ท #maralago พวกคุณจะเสิร์ฟไข่ปลาคาเวียร์ด้วยช้อนพลาสติกแบบนี้ไม่ได้นะ อย่างน้อยๆ ก็ขอเป็นช้อนกับจานไข่มุกหน่อยเถอะ’  …

  • ลือหนัก Apple อาจจะเลิกผลิต iPhone X ในช่วงหน้าร้อนนี้ หลังพบว่ามันไม่ค่อยปังเท่าที่ควร

    ลือหนัก Apple อาจจะเลิกผลิต iPhone X ในช่วงหน้าร้อนนี้ หลังพบว่ามันไม่ค่อยปังเท่าที่ควร

    ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2017 เรายังจำกันได้ไหมในวันที่ iPhone X ได้วางขายและมีคนมากมายไปต่อแถวเพื่อรอจับจองเป็นเจ้าของ แต่หลังจากผู้คนได้ลองใช้มือถือรุ่นนี้ดู ผลที่ออกกลับไม่สู้ดีเท่าที่ควร     ส่วนเหตุผลที่กระแสตอบรับไม่ดีเท่าที่ควรนั้นก็เกิดจากปัจจัยหลายอย่างเช่นราคาที่สูงลิ่วทั้งๆ ที่ในยุคนี้เศรษฐกิจกลับไม่ค่อยดีนัก ระบบหลายๆ อย่างก็ยังทำออกมาไม่ดีเท่าที่ควร เช่นระบบสแกนใบหน้าที่ยังมีจุดบอดอยู่ แถมฐานลูกค้ารายใหญ่อย่างชาวจีน ก็ไม่ปลื้มที่พื้นว่างบริเวณจอภาพหายไปส่วนหนึ่ง     ผลกระทบดังกล่าวนั้นจึงส่งผลให้ทางบริษัท Apple เริ่มมองว่าตัว iPhone X ควรจะยกเลิกการผลิต ซึ่งพวกเขาวางแผนว่าจะทำมันในช่วงหน้าร้อนที่จะถึงนี้ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังได้บอกว่า เขาแปลกใจมากที่ iPhone 6 และ 7 นั้นทำออกมาได้ดีและมีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก กลับกัน iPhone X ดันไม่เป็นแบบนั้น เขายังวิเคราะห์ว่าในอนาคตราคาของมือถือรุ่นใหม่ดังกล่าวจะถูกลงกว่าเดิมมากๆ และทาง Apple ก็คงจะมีแผนรับมือด้วยการปล่อย iPhone X Plus ตามมาอย่างแน่นอน     ดูจากทริปล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม CEO ของทาง Apple อย่าง Tim…

  • สิ่งสุดท้ายที่ทำได้… ‘มคิทาร์ยาน’ ล่าลายเซ็นเพื่อนร่วมทีม บริจาคช่วยเด็กป่วยมะเร็ง

    สิ่งสุดท้ายที่ทำได้… ‘มคิทาร์ยาน’ ล่าลายเซ็นเพื่อนร่วมทีม บริจาคช่วยเด็กป่วยมะเร็ง

    จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับดีลการสลับขั้วของ อเล็กซิส ซานเชซ และ เฮนริค มคิทาร์ยาน….   ในฐานะที่ #เหมียวหง่าว เป็นแฟนบอลพลพรรคปืนโต อาร์เซนอล ตัวยงคนหนึ่งขอบอกเลยว่ารู้สึกเสียดายแต่ขณะเดียวกันก็ดีใจที่ มคิทาร์ยาน หรือ มิคกี้ ตัดสินใจย้ายมาสวมเสื้อให้กับปืนโต อย่างที่รู้กันดีว่าผลงานในสนามของมิคกี้ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้นไม่ค่อยมั่นคงซักเท่าไหร่ นั่นเป็นเพราะปัญหาเกี่ยวกับชีวิตนอกสนามของเขาต้องพบเจอกับเรื่องราวต่างๆ มามากมาย ทั้งถูกภรรยาที่รักหักหลัง และการย้ายทีมในครั้งนี้ที่สื่อทุกสื่อต่างประโคมข่าวกันว่ามันเป็นการบังคับให้ย้ายชัดๆ!! แต่ถึงอย่างนั้นฟอร์มการเล่นของมิคกี้ที่ผ่านมาก็ถือว่าไม่เบาเลยทีเดียว ทุกครั้งที่เขามีโอกาสได้ลงสนาม ก็มักจะมีส่วนช่วยให้ทีมชนะเสมอ ทั้งกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด     แต่สิ่งที่จะทำให้แฟนบอลปืนโตอย่างเราหลงรักมิคกี้มากขึ้นไปอีก ก็คือความเป็นมืออาชีพ ที่เพื่อนร่วมทีมถึงกับออกมาชมว่าเป็นคนที่มาซ้อมก่อนเวลาทุกครั้ง และนิสัยใจคอดี๊ดีย์ โดยเฉพาะเรื่องที่เขาทำก่อนจะย้ายออกจากทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด     สิ่งที่มิคกี้ได้ทำก็คือเอาเสื้อแข่งของตัวเองไปล่าลายเซ็นต์ของเพื่อนร่วมทีมทุกคนก่อนที่จะนำมันไปบริจาคให้กับเหล่าเด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งในประเทศอัลเมเนียที่เป็นบ้านเกิดของเขา “เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ ของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และคนที่สนับสนุนผมมาโดยตลอด ผมจะทำการบริจาคเสื้อแข่งของทีมปิศาจแดงที่มีลายเซ็นของผู้เล่นทุกคน เพื่อช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งในประเทศอัลเมเนีย” มิคกี้ได้กล่าวไว้ในแฟนเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ     นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงการอำลาทีมอย่างสุดซึ้งอีกว่า “ผมอยากจะขอขอบคุณเพื่อนร่วมทีมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ในทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จากใจจริง โดยเฉพาะแฟนๆ ทุกคน สำหรับความรัก การสนับสนุน และความทุ่มเทที่มีให้กัน ผมมีความสุขมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันยอดเยี่ยมของสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ อย่างการได้แชมป์ยูโรป้าลีคถ้วยแรกของสโมสร ผมจะเก็บเรื่องราวนี้เอาไว้ในความทรงจำตลอดไป”     “อีกเรื่องก็คือลูกยิงสกอร์เปี้ยนคิกที่เกิดขึ้นในช่วงบ็อกซิ่งเดย์ พร้อมกับเสียงร้องเพลงเชียร์ของเหล่าเรดเดวิลว่า…

  • ตำรวจปราบแฟชั่น ใครมีของราคาแพง แต่พิสูจน์ที่มาไม่ได้ จะถูกสั่งถอดและยึดทันที!?

    ตำรวจปราบแฟชั่น ใครมีของราคาแพง แต่พิสูจน์ที่มาไม่ได้ จะถูกสั่งถอดและยึดทันที!?

    ปกติแล้วเราจะแยกคนรวยและคนจนออกจากกันได้อย่างไร? แน่นอนว่าเราไม่สามารถแยกแยะได้ 100% ถ้าเราตัดสินคนจากภายนอกโดยไม่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของเขา แต่การตัดสินจากการแต่งตัวก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีพื้นฐานหรือเปล่า? ด้วยเหตุนี้ทางประเทศเนเธอร์แลนด์จึงให้กำเนิด ‘ตำรวจสายปราบแฟชั่น‘ ขึ้นมา ซึ่งจุดประสงค์หลักก็คือตรวจสอบทรัพย์สินของประชาชนที่เจ้าหน้าที่หน่วยนี้เห็นว่าพวกเขาน่าจะเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะดูไม่มีความสามารถพอจะมีทรัพย์สินราคาแพงเช่น เสื้อผ้าแบรนด์ดัง หรือนาฬิกาเรือนหรูเป็นต้น วิธีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่หน่วยนี้ก็มีการทำงานที่ง่ายมากๆ เพียงแค่ถ้าพวกเขาสงสัยใครพวกเขาก็จะเดินไปตรวจสอบและถามถึงที่มาที่ไปว่าของใช้สุดหรูดังกล่าวนั้นมาจากไหน แน่นอนว่าถ้าเป็นคนที่มีเงินจริงๆ พวกเขาก็จะสามารถอนุญาตให้ตรวจสอบได้และให้คำตอบได้ทันที     แต่ถ้าเกิดว่าเสื้อผ้า สร้อยคอ รองเท้าหรือนาฬิกาดังกล่าวถูกอ้างว่าเป็นของเพื่อน ยืมมาไม่ก็เพื่อนตายจนหาที่มาที่ไปจริงๆ ไม่ได้ ของใช้ชิ้นนั้นก็จะถูกยึดและสั่งให้ปลดออกตรงนั้นทันที ปัจจุบันเจ้าหน้าที่หน่วยนี้ยังเป็นหน่วยงานที่อยู่ในช่วงทดสอบแค่ที่เมืองรอตเทอร์ดาม ในประเทศเนเธอร์แลนด์เท่านั้น และกลุ่มเป้าหมายหลักก็จะเป็นกลุ่มคนที่สวมใส่สินค้าจากแบรนด์ Gucci หรือ Rolex เป็นต้น เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มักจะมีโอกาสสูงที่ได้เงินมาอย่างผิดกฎหมาย ทว่าแม้เจ้าหน้าที่จะยืนยันกลุ่มเป้าหมายที่แน่นอน ประชาชนในเมืองก็ยังบอกว่าการที่ตำรวจตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมามันไม่ถูกต้อง เช่นชาวเมืองคนหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์ว่า “ตำรวจจะไม่สงสัยคนขาวว่าเป็นพวกค้ายาอย่างแน่นอนแม้พวกเขาสวมใส่เสื้อผ้าแพงๆ แต่กลับกันถ้าเป็นคนผิวสีหรือชาติอื่นละ? คนละเรื่องเลยจริงไหม?”     ทางด้านผู้ตรวจการแผ่นดินเมืองรอตเทอร์ดาม Anne Mieke Zwaneveld ก็ได้ออกมาโต้ว่า “พวกเราไม่ได้อยากจะตัดสินคนจากภายนอก แต่โอกาสที่จะสุ่มตรวจแล้วจับได้จริงๆ มันดันสูงมากๆ และยิ่งไปกว่านั้นการที่คุณจะสวมเสื้อผ้าแพงๆ ไปเดินตามท้องถนนโดยไม่สามารถอธิบายถึงที่มาที่ไป หรือบอกอายุของสิ่งของชิ้นนั้น มันก็น่าสงสัยจริงไหม?” อย่างไรก็ตามหน่วยการใหม่นี้ก็ยังคงถูกชาวเมืองรอตเทอร์ดามถกเถียงกันไม่ขาดสายว่า จริงๆ แล้วมันใช้งานได้ผลจริงๆ…

  • สื่อจีนตีข่าว ทางการจีนใช้ปืนใหญ่พ่นน้ำหวังให้อากาศดี แต่จบด้วยตึกมีน้ำแข็งเกาะเพียบ

    สื่อจีนตีข่าว ทางการจีนใช้ปืนใหญ่พ่นน้ำหวังให้อากาศดี แต่จบด้วยตึกมีน้ำแข็งเกาะเพียบ

    ถ้าใครที่ติดตามข่าวคราวในประเทศจีนอยู่ คงจะได้ยินผ่านหูกันมาบ้างตอนนี้ประเทศจีนนั้นกำลังประสบกับปัญหาหมอกควันอย่างหนัก ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นกำลังกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมากนั่นเอง     สำนักข่าว Medium.com รายงานว่าด้วยเหตุนี้ ทางการจีนจึงหาทางออกด้วยการใช้รถบรรทุกที่ติดตั้งปืนใหญ่พ่นหมอกขนาดใหญ่ไว้ข้างหลังเพื่อพ่นหมอกตามจุดต่างๆ ในเมือง เพื่อกลบเกลื่อนปัญหาเรื่องมลพิษจากการถูกตรวจสอบข้อมูลทางอากศ พวกเขายังระบุว่าเมื่อสภาพอากาศดี ข่าวดีๆ ก็จะเกิดขึ้นบนหน้าหนังสือพิมพ์ แน่นอนว่าทางรัฐบาลก็จะได้หน้าไป     อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจ้ารถติดตั้งปืนใหญ่หมอกนี้จะใช้งานได้ผลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลในระยะยาว เพราะว่าหมอกดังกล่าวมันช่วยให้อากาศดีขึ้น ประชาชนหายใจสะดวกขึ้นก็จริง แต่ว่ามันกลับส่งผลได้ไม่นานและมีผลแค่ในพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น แถมยังทำให้ตึกหลายๆ ตึกมีน้ำแข็งเกาะอยู่เต็มไปหมดอีก และถึงแม้ว่าทางรัฐบาลจะเข้าใจถึงปัญหาดังกล่าวดี แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใดยังคงสั่งผลิตเจ้ารถปืนใหญ่หมอกเข้าไปประจำการอีกหลายเมืองด้วยจุดประสงค์เดียวกันนั่นก็คือ เพื่อหลอกการตรวจสอบสภาพอากาศ…     การหลอกลวงยังไม่หมดเท่านั้น เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากมณฑลเจียงซีและมณฑลเหอหนานจับได้ว่าพวกเขาสั่งให้เอาเครื่องยิงหมอกนี้ ไปยิงอัดเครื่องตรวจสอบสภาพอากาศเพื่อหวังเอาหน้าอีกด้วย สุดท้ายแล้วแม้ทางการจีนจะออกมาโปรยว่าจะนำท้องฟ้าสีครามกลับมาสู่ประเทศจีนอีกครั้ง แต่เจ้ารถปืนใหญ่พ่นหมอกนี้ก็ดูจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควรนัก เราก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าจีนจะจัดการปัญหาหมอกควันอย่างไรในอนาคต…   ก่อนหน้านี้ก็มีการสร้างตึกฟอกอากาศขนาดใหญ่ ซึ่งคุณสามารถตามอ่านได้ที่… จีนสร้าง “เครื่องฟอกอากาศ” ขนาดยักษ์สูงกว่า 100 เมตร หวังทำให้อากาศบริสุทธ์ในพื้นที่ 6,250 ไร่   ที่มา medium

  • บาร์ลับสุดเจ๋งที่เปิดเฉพาะฤดูหนาว ให้เราสามารถตกปลาทำซาซิมิและเมาหัวทิ่มได้ในเวลาเดียวกัน

    บาร์ลับสุดเจ๋งที่เปิดเฉพาะฤดูหนาว ให้เราสามารถตกปลาทำซาซิมิและเมาหัวทิ่มได้ในเวลาเดียวกัน

    เวลาเราพูดถึงผับบาร์ เราก็มักจะนึกถึงร้านที่ตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เป็นหลักเป็นแหล่ง แต่ถ้าเราพูดว่ามีผับสุดเจ๋งแห่งหนึ่งที่เปิดเฉพาะฤดูแถมยังเปิดเหนือแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งละ ฟังดูน่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหม? ร้านแห่งนี้มีชื่อว่า Hillbillies Ice Hole ตั้งอยู่เหนือทะเลสาบ Lida ในรัฐมินนิโซตา ซึ่งความพิเศษของร้านนี้คือจะเปิดให้บริการแค่ราว 20 วันและเปิดเฉพาะต้นฤดูหนาวเท่านั้น จากนั้นร้านนี้ก็จะหายไปจนกว่าจะวนมาถึงปีหน้า…เป็นไง ร้านลับไหมละ     Josie Norgren ผู้เป็นเจ้าของร้านเล่าว่าตัวเธอนั้นอยากจะมีร้านค้าสักอย่างที่เป็นที่รู้จักไปทั่วชุมชน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดีจนกระทั่งพบว่าทะเลสาบ Lida นั้นจะแข็งตัวในทุกๆ ปี ทำให้ตรงนั้นเป็นพื้นที่ว่างเหมาะแก่การเปิดร้านสุดๆ นั่นจึงเป็นไอเดียในการเปิดร้านของเธอ     ขั้นตอนการเตรียมการเปิดร้านนั้นก็ง่ายมากๆ เธอจะให้สามีของเธอไปตรวจสอบดูว่าน้ำแข็งในปีนี้ของทะเลสาบหนาพอที่จะเปิดร้านและปลอดภัยพอที่จะให้ลูกค้าเอารถมาจอดหรือเปล่า ซึ่งเมื่อทุกอย่างมันลงตัวเธอกับสามีก็จะจัดการนำตัวร้านที่เป็นตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งพร้อมจัดแจงพื้นที่ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเท่านี้ร้านก็เปิดได้แล้ว!!     ความพิเศษอีกอย่างของที่นี่นอกจากการเป็นบาร์ลับกลางทะเลสาบแล้ว ที่ร้านยังมีกิจกรรมสุดแปลกที่หาที่ไหนไม่ได้ให้ทำด้วย กิจกรรมที่ว่าคือการดื่มเบียร์ในร้านและตกปลาไปพร้อมกัน…งงละสิ? ด้วยความที่ตัวร้านตั้งอยู่เหนือทะเลสาบ ฉะนั้นสามีของ Josie จึงคิดว่ามันน่าจะสนุกถ้าเกิดเจาะพื้นน้ำแข็งแล้วตกปลาในร้าน ซึ่งที่นั่นสามารถจับปลาซิวได้เยอะแยะมากมาย และนั่นจึงทำให้เกิดเมนูสุดฮิตของร้าน ‘เหล้าช็อตกับปลาซิว’   ตกกันมันในร้านเนี่ยแหละ   วิธีการกินเครื่องดื่มสุดฮิตของร้านก็ง่ายมากๆ แค่คุณนำปลาซิวที่ตกได้สดๆ จากใต้ร้านใส่ลงไปในแก้วช็อต จากนั้นคุณก็กระดกมันแบบเป็นๆ เท่านี้คุณก็จะได้เมาหัวทิ่มแถมเหมือนได้กินซาซิมิในเวลาเดียวกัน เจ๋งไหมละ?  …

  • ‘ถ้าหนูจากไป แม่คงกลับมา’ จดหมายจากลูกสาวผู้ป่วยมะเร็ง ฝากถึงพ่อให้หยุดการรักษาเธอ

    ‘ถ้าหนูจากไป แม่คงกลับมา’ จดหมายจากลูกสาวผู้ป่วยมะเร็ง ฝากถึงพ่อให้หยุดการรักษาเธอ

    โรคมะเร็งเป็นโรคที่รุนแรงและยากที่จะเยียวยาได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง จึงไม่ใช่ทุกคนที่จะหาเงินมาจ่ายตลอดการรักษาได้ เด็กหญิงวัย 7 ขวบนามว่า Zhang Jiaye ที่อาศัยอยู่ใกล้กับหมู่บ้านเจียมูซิ มณฑลเฮย์หลงเจียง จีนตะวันออกเฉียงเหนือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลูคีเมีย หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาวตั้งแต่ปี 2016 และกำลังเข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล     เธอได้เขียนจดหมายสุดเศร้า ขอร้องให้หยุดการรักษาโรคมะเร็งของเธอ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษานั้นสูงเกินกว่าที่พ่อของเธอจะจ่ายไหว ซึ่งพ่อของเธอมีหนี้สินกว่า 590,000 หยวน หรือราวๆ 2,900,000 บาท จากการรักษาถึง 18 ครั้ง ซ้ำแม่ยังทิ้งเธอไปในเดือนกรกฎาคมปี 2017 และติดต่อไม่ได้อีกเลย จดหมายที่เขียนโดย Zhang มีเนื้อหาว่า “พ่อ หนูเห็นพ่อร้องไห้วันนี้ หนูรู้ว่าพ่อเสียเงินไปมากกับค่ารักษาของหนูจนพ่อเงินหมด ส่วนแม่ก็ทิ้งพ่อไป ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหนู ถ้าหนูจากไป แม่คงจะกลับมา และพ่อก็จะมีความสุขอีกครั้งเหมือนเมื่อก่อน หนูไม่อยากรักษาอีกแล้ว กลับบ้านกันนะ”     พ่อของเธอกล่าวหลังจากที่หมอวินิจฉัยลูกสาวของเขาว่าเป็นโรคลูคิเมียว่า “ผมรู้สึกราวกับว่าท้องฟ้าได้ถล่มลงมา” หลังจากนั้นจดหมายของ Zhang ฉบับนี้ก็ได้มีการเผยแพร่ไปบนอินเตอร์เน็ตจนทำให้ชาวเน็ตหลั่งไหลกันเข้ามาบริจาคเงินให้เป็นค่ารักษาพยาบาลของเธอเป็นจำนวนกว่า 600,000 หยวน หรือประมาณ 3,000,000 บาท    …

  • เหนือไปอีกระดับ!! เมื่อคู่รักนักผจญภัยจัดงานแต่งสุดหวาดเสียวเหนือทะเลทราย

    เหนือไปอีกระดับ!! เมื่อคู่รักนักผจญภัยจัดงานแต่งสุดหวาดเสียวเหนือทะเลทราย

    หลายคนมักจะบอกว่าการแต่งงานนั้นเป็นอะไรที่กดดัน แต่มีคู่รักสุดเอ็กซ์ตรีมจากแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ยกระดับความกดดันขึ้นไปอีก เมื่อพวกเขาต้องให้คำสาบานจาก 400 ฟุต (120 เมตร) เหนือพื้นดิน… Ryan Jenks และ Kimberly Weglin คู่รักนักผจญภัยได้ผูกเชือกเหนือทะเลทรายที่อยู่ใกล้เมืองโมอับ รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งพวกเขาได้ตกหลุมรักกันครั้งแรก “จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่พวกเขาจะแต่งงานกันที่นี่ด้วยเช่นกัน” ช่างภาพของเขาได้กล่าวใน Instragram Weglin ได้กล่าวใน Instragram ของเขาว่า “การแต่งงานที่นี่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจ การรักตัวเองและชีวิต มันคือพลังที่ผมอยากจะให้มันอยู่รอบๆ ตัวและจะเก็บมันไว้ตลอดชีวิตการแต่งงานของพวกเรา”   รับชมภาพถ่ายงานแต่งงานอันหวาดเสียวที่ดูน่าทึ่งเหล่านี้กันได้เลย . .   ทั้งคู่ก็ได้กล่าวคำสาบานสูงกว่า 120 เมตรเหนือพื้นดิน . .   ระหว่างพิธีก็มีนักกีฬา Extreme มากระโดดร่มด้วย . . . . .   เพื่อนเจ้าบ่าวก็มาร่วมแบ่งปันความหวาดเสียวเช่นกัน . . .   เพื่อนเจ้าสาวก็มาด้วยเหมือนกัน…

  • เปิดประวัติของ ‘ท่านลอร์ด’ บุรุษผู้รักหมาสุดใจ พร้อมเปย์มูลนิธิสัตว์แบบไม่แคร์ตังค์

    เปิดประวัติของ ‘ท่านลอร์ด’ บุรุษผู้รักหมาสุดใจ พร้อมเปย์มูลนิธิสัตว์แบบไม่แคร์ตังค์

    อื้อหือ พูดถึงข่าวเด่นประเด็นร้อน ณ วินาทีนี้คงไม่มีเรื่องไหนร้อนแรงไปกว่าเรื่องราวการยุติความรักอันหวานชื่นของนางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ และหนุ่ม กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล อีกแล้ว โดยหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ออกมาชี้แจงความจริงในฝ่ายของตนเอง ดูเหมือนเร่ื่องราวยิ่งบานปลายไปกันใหญ่ เพราะทั้งนางเอกสาวและหนุ่มกอล์ฟต่างก็พูดพาดพิงถึงครอบครัวอีกฝ่าย เท่านั้นยังไม่พอมีการโยงไปถึงเรื่องมือที่ 3 อีกด้วย เนื่องจากมีภาพที่ขวัญและครอบครัวไปนั่งทานข้าวกับหนุ่มคนนั้นในช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา     เมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้ สื่อต่างๆ จึงพุ่งประเด็นไปที่หนุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่ 3 คนนี้ ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และทำอะไร? แน่นอน เราชาวเหมียวเองก็ไม่พลาดเช่นกัน… ชายผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่ 3 ระหว่างขวัญกับกอล์ฟคนนี้คือ James Rudolph Palumbo เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ปี 1963 ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันอายุ 54 ปี มีลูกชาย 1 คน ชื่อ Alessandro Palumbo อายุ 27 ปี…

  • หญิงสาวผู้ซึมเศร้าได้รับกำลังใจเล็กๆ จากพนักงานชงกาแฟ แค่คำว่า ‘ยิ้มหน่อย’ ช่วยเปลี่ยนชีวิตเธอได้

    หญิงสาวผู้ซึมเศร้าได้รับกำลังใจเล็กๆ จากพนักงานชงกาแฟ แค่คำว่า ‘ยิ้มหน่อย’ ช่วยเปลี่ยนชีวิตเธอได้

    หลายคนคงได้ยินคำว่า “โรคซึมเศร้า” กันมาบ้าง แต่หารู้ไม่ว่าผู้ที่ต้องเผชิญกับโรคนี้นั้นต้องทุกข์ทรมานเพียงใด กับอารมณ์เบื่อๆ เฉื่อยชา ไม่อยากทำอะไรเลย อีกทั้งคนรอบข้างก็ยังไม่เข้าใจอีก แต่ที่จริงแล้วอาการของโรคนั้นอาจจะดีขึ้นได้เพียงแค่ได้กำลังใจเล็กๆ จากใครบางคนเท่านั้นเอง อย่างเช่นเรื่องราวที่จะนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามาตลอด แต่ชีวิตเธอกลับเปลี่ยนไปเมื่อเธอได้รับกำลังใจจากพนักงานร้านกาแฟ     สาววัยรุ่นคนนี้ชื่อว่า Bekah Georgy อาศัยอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมเชียร์ สหรัฐอเมริกา เธอนั้นได้ต่อสู้กับอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และโรคคลั่งผอมมาตลอดชีวิต จนครั้งหนึ่งเธอถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลและสถานพักฟื้น ซึ่งทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวังและเคยคิดฆ่าตัวตายถึง 5 ครั้ง แต่แล้วการกระทำหนึ่งสิ่งเล็กๆ ก็มาเปลี่ยนชีวิตเธอ     Bekah เป็นทั้งนักเต้นบัลเล่ต์ คนรักหนัง และคนรักกาแฟ ภาพหลายๆ ภาพที่เธอโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กนั้นล้วนแต่มีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่เบื้องหลังแล้วสภาพจิตใจของเธอย่ำแย่เกือบตลอดเวลา     จนกระทั่ง เช้าวันหนึ่งในปี 2014 เธอไปพบแพทย์ทำให้ทราบว่าอาการของเธอนั้นย่ำแย่ลงจนควบคุมไม่ได้ เธอรู้สึกหมดหวังมาก ด้วยอาการของโรคทางการกินของเธอที่เลวร้ายลง ทำให้เธอทานได้แค่กาแฟเท่านั้น เธอจึงรีบไปยังร้านกาแฟ Starbucks ใกล้ๆ และสถานที่นี้เองที่ทำให้ชีวิตเธอพบเจอจุดเปลี่ยน เธออยู่ที่สี่แยกไฟแดง กำลังตัดสินใจจะจบชีวิตตัวเองลง จนกระทั่งเธอเห็นสิ่งที่พนักงานร้านกาแฟเขียนลงมาบนแก้วของเธอ ซึ่งนั่นทำให้เธอยิ้มออก และกลับมารู้สึกว่าชีวิตเธอมีหวังอีกครั้ง ไม่รู้ด้วยเหตุใด…

  • Simon Shelton Barnes ชายผู้สร้างรอยยิ้มในชุด ‘Tinky Winky’ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 52 ปี….

    Simon Shelton Barnes ชายผู้สร้างรอยยิ้มในชุด ‘Tinky Winky’ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 52 ปี….

    หากเอ่ยถึงชื่อของ Teletubbies (เทเลทับบีส์) ไม่ว่าจะเป็นแฟนรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ ต่างก็คงคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี อันเป็นรายการทีวีสำหรับเด็กจากประเทศอังกฤษ และถูกฉายในโปรแกรมโทรทัศน์ของประเทศไทยด้วย วันเวลาที่ล่วงเลยมานานหลายต่อหลายปี รายการนี้ก็ช่วยสร้างความประทับใจให้กับเด็กๆ มามากมายนับไม่ถ้วน ทั้งบรรยากาศในรายการ ตัวละครที่มีความโดดเด่นและแตกต่างกันไป ทำให้เราได้รู้จักกับแก๊ง 4 สีนั่นก็คือ ทิงกีวิงกี (ม่วง), ดิปซี (เขียว), ลาล่า (เหลือง) และโพ (แดง)     แต่ในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์สื่อของประเทศอังกฤษอย่าง BBC, The Sun และ Mirror ได้รายงานว่า Simon Shelton Barnes ชายผู้เป็นนักแสดงในร่างของทิงกีวิงกีได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 52 ปี ภายหลังจากวันเกิดของเขาได้เพียง 4 วันเท่านั้น     Simon เข้ามารับบทเป็นทิงกีวิงกีสีม่วง ผู้ชอบห้อยกระเป๋าถือสีแดงเดินไปมาในปีค.ศ. 1997 หลังจากที่นักแสดงหลัก Dave Thompson…

  • วัตถุสวรรค์!? ชาวอินเดียพบก้อนหินประหลาดหล่นจากฟ้า แต่จริงๆ แล้วเป็น “อึ” จากเครื่องบิน

    วัตถุสวรรค์!? ชาวอินเดียพบก้อนหินประหลาดหล่นจากฟ้า แต่จริงๆ แล้วเป็น “อึ” จากเครื่องบิน

    กลายเป็นเรื่องฮือฮาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ประเทศอินเดียมาก เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีข่าวว่ามีก้อนหินประหลาดร่วงลงมาจากท้องฟ้าตกลงในหมู่บ้าน จนชาวบ้านเชื่อว่านี่อาจเป็น “วัตถุแปลกปลอมจากนอกโลก” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Fazilpur Badli ทางตอนเหนือของประเทศอินเดียเมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา โดยวัตถุประหลาดที่ว่านี้มีลักษณะคล้ายก้อนน้ำแข็ง มีน้ำหนักราวๆ 10-12 กิโลกรัม     แต่หลังจากคำเล่าลือของชาวบ้านกลับไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่นำเอาวัตถุประหลาดนี้ไปตรวจสอบ กลับพบว่ามันคือ “ของเสีย” จากเครื่องบิน หรืออีกนัยหนึ่งคืออึนั่นเอง เจ้าหน้าที่จากกรมอุตุนิยมวิทยาในประเทศอินเดียได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด แล้วพบว่าจากแนวการตกและสิ่งต่างๆ ในวัตุประหลาดชิ้นนี้ไม่ใช่หินจากนอกโลกหรือสะเก็ดอุกาบาตอย่างแน่นอน มีการสันนิษฐานว่ามันอาจจะหลุดรั่วออกมาจากเครื่องบินขณะบินผ่านหมู่บ้านแห่งนี้ เนื่องจากถังกักเก็บของเสียภายในเครื่องมีปริมาณมากเกินกว่าที่ตัวเครื่องจะเก็บไว้ได้นั่นเอง     โดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่ในสนามบินจะมีการถ่ายเทของเสียบนเครื่องไปทิ้งทุกครั้งหลังจากที่เครื่องลงจอด แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินระหว่างประเทศก็ยอมรับว่าการรั่วไหลอาจจะเกิดขึ้นได้บ้างระหว่างการบิน เจ้าหน้าที่อาวุโสอย่าง Vivek Kalia ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง BBC “มันมีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้าเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ มันมีขนาดใหญ่มาก ผู้คนแตกตื่นและวิ่งหาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ชาวบ้านบางคนบอกว่ามันคือวัตถุจากนอกโลก บางคนคิดว่ามันคือหินจากสรวงสวรรค์ หนำซ้ำผมยังได้ยินว่าบางคนเก็บกลับบ้านไปด้วย”     ตามรายงานของนิตยสาร Times ในประเทศอินเดียบอกว่าชาวบ้านบางคนนำเอาเศษก้อนน้ำแข็งที่ว่านี้ใส่กระเป๋าแล้วเอากลับไปแช่ในตู้เย็นที่บ้าน ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม 2016 ก็เคยมีข่าวว่าหญิงสาวชาวอินเดียรายหนึ่งถูกก้อนน้ำแข็งตกทะลุหลังคาลงมาใส่บริเวณไหล่ของเธอจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งสืบทราบในภายหลังว่าเป็นของเสียจากเครื่องบิน     ต่อมาในธันวาคมปี 2016 ทางการอินเดียจึงออกกฎเพื่อคุมเข้มไม่ให้มีการปล่อยของเสียออกมาระหว่างทำการบินอยู่ หากสายการบินไหนฝ่าฝืนจะต้องถูกปรับตามความเหมาะสม…

  • หนาวสะท้าน!! โตเกียวเผชิญหิมะถล่มหนัก รุนแรงสุดในรอบ 4 ปี นักท่องเที่ยวติดค้างเพียบ

    หนาวสะท้าน!! โตเกียวเผชิญหิมะถล่มหนัก รุนแรงสุดในรอบ 4 ปี นักท่องเที่ยวติดค้างเพียบ

    ดูเหมือนสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นของบ้านเราจะสวนทางกับสภาพอากาศในญี่ปุ่นเอามากๆ เลยทีเดียว เพราะในขณะนี้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากกำลังประสบภัยหนาวและพายุหิมะ ที่ว่ากันว่าหนาวและรุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Japantoday ได้รายงานเกี่ยวกับสภาพอากาศในกรุงโตเกียว ว่าในขณะนี้ชาวเมืองต้องเผชิญกับชั้นหิมะที่สูงถึง 21 เซ็นติเมตร จนเหล่าผู้ประกอบการและบริษัทต่างๆ ต้องแนะนำให้พนักงานของตัวเองกลับบ้านก่อนเวลา     ตามรายงานบอกว่าพายุหิมะจะตกในช่วงเที่ยงๆ และน่าจะหยุดในช่วงวันอังคาร แต่ถนนในหลายๆ แห่งยังคงมีหิมะปกคลุมและมีความลื่นมากกว่าปกติจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งในขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไปแล้วกว่า 60 คน และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกกว่า 660 ครั้ง บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้า Tokyo Electric Power Company ได้กล่าวว่าขณะนี้มียอดการใช้พลังงานไฟฟ้าพุ่งสูงไปกว่า 95% ในแถบคันโต จึงออกมาขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดการใช้ไฟ เพราะหากมีการใช้ไฟฟ้าที่สูงเกินไปอาจทำให้ไฟฟ้าทั้งเมืองดับลงได้     นี่เป็นภาพของชาวเมืองในโตเกียวขณะเดินข้ามถนนในเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา   ชาวเมืองต้องช่วยกันตักเอาหิมะออกจากถนนเพื่อให้เกิดการสัญจรได้     และเนื่องจากพายุหิมะที่เข้าถล่มกรุงโตเกีียว ทำให้ยานพาหนะและระบบขนส่งมวลชนในหลายๆ ที่ต้องล่าช้าหรือหยุดชะงักไป อย่างเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Stuff ได้รายงานเพิ่มเติมว่ามีนักท่องเที่ยวตกค้างอยู่ในสนามบินของโตเกียวเป็นจำนวนมาก…

  • ญี่ปุ่นโปรโมตการท่องเที่ยวด้วยแว่น VR แค่คุณใส่แว่น ก็เหมือนได้ตะลุยเที่ยวแบบล้ำๆ

    ญี่ปุ่นโปรโมตการท่องเที่ยวด้วยแว่น VR แค่คุณใส่แว่น ก็เหมือนได้ตะลุยเที่ยวแบบล้ำๆ

    ประเทศญี่ปุ่นนั้นได้ชื่อว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าท่องเที่ยวไม่น้อย หลายคนได้ไปสัมผัสบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในญี่ปุ่นด้วยตนเอง แต่อีกหลายคนที่อยากไปก็ยังไม่ได้ไปเช่นกัน งานนี้สำหรับคนที่ยังไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องได้ตื่นตาตื่นใจกันแน่นอน เพราะองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นนั้นได้ร่วมมือกันกับบริษัท Enjin Tokyo Inc. ผลิตสื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ที่เป็นคลิปวิดีโอแบบ VR 360 องศา มาให้ทุกท่านได้รับชมกันนั่นเอง    มาพร้อมความละเอียดแบบ 4K แถมยังหมุนกล้องดูบรรยากาศได้ 360 องศาเลยอีกด้วย   เหมือนนั่งอยู่เฉยๆ ก็ได้เที่ยวสถานที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นได้ทั่ว   กับการตัดต่อที่ลื่นไหลและน่าติดตามสุดๆ   มุมมองบุคคลที่ 1 ทำให้รู้สึกราวกับเราไปอยู่สถานที่แห่งนั้นจริงๆ   แถมยังได้เล่นเครื่องหยิบตุ๊กตาแบบใกล้ชิดเลยล่ะ   ทีเด็ดเลยก็คือ ซูชิสดๆ ที่นำมาเสิร์ฟกันต่อหน้าต่อตา   สื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ผสมผสามเข้าด้วยเทคโนโลยี VR นั้นเรียกได้ว่าสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ชมได้ตื่นตาตื่นใจกันเลยทีเดียว   ที่มา: Rocketnews24

  • โดรนช่วยชีวิต 2 วัยรุ่นลอยคอกลางทะเล ได้เป็นครั้งแรกของโลก เร็วกว่าเรือกู้ชีพอีก!!

    โดรนช่วยชีวิต 2 วัยรุ่นลอยคอกลางทะเล ได้เป็นครั้งแรกของโลก เร็วกว่าเรือกู้ชีพอีก!!

    เทคโนโลยีในปัจจุบัน นับว่ามีความก้าวหน้าไปอย่างมาก จนหลายคนอาจะเริ่มเกิดความรู้สึกว่าวันหนึ่งมนุษย์เราจะต้องถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ จนกลายเป็นว่ามนุษย์เราอาจจะต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเทคโนโลยี แต่เหตุการณ์ที่กำลังจะเสนอนี้สามารถใช้เป็นหลักฐานบ่งชี้ได้ดีเลยว่า “เทคโนโลยี” นั้นน่าจะเป็นประโยชน์กับมนุษย์แน่นอน เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวว่า “โดรน” ในประเทศออสเตรเลียได้เข้าไปช่วยชีวิตเด็กหนุ่ม 2 คนจนรอดตายมาแล้ว     รายงานจาก BBC พบว่า ที่ชายฝั่งเลนน็อกซ์เฮด รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีคนสังเกตเห็นเด็กหนุ่ม 2 คน ติดอยู่นอกชายฝั่งราวๆ 700 เมตร ผู้ดูแลความปลอดภัยของชายฝั่งจึงบังคับ “โดรน” ที่ตนกำลังฝึกใช้อยู่ ให้ออกไปนอกชายฝั่งเพื่อค้นหาและช่วยเหลือเด็กหนุ่มดังกล่าว     เด็กหนุ่มทั้งสอง อายุ 15 ปี และ 17 ปี ถูกพบว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต เขาจึงบังคับโดรนให้นำเบาะชูชีพไปส่งให้เด็กหนุ่มทั้งสองคน ทั้งคู่จึงได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย John Barilaro รองรัฐมนตรีแห่งนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า “ไม่เคยมีการนำอุปกรณ์ชูชีพติดกับโดรนเพื่อไปช่วยคนมาก่อนเลย”   Jai Sheridan หัวหน้าผู้ดูแลความปลอดภัยได้ให้สัมภาษณ์กับ The Sydney Morning Herald ว่า “วันนี้ เจ้าโดรนได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว มันเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่แสนวิเศษและยังบินได้ด้วย”…

  • ช่างภาพใจกล้า เสี่ยงเข้าไปถ่ายรูปใน “ถ้ำน้ำแข็ง”แต่ภาพที่ได้ก็งดงามและคุ้มค่ายิ่ง

    ช่างภาพใจกล้า เสี่ยงเข้าไปถ่ายรูปใน “ถ้ำน้ำแข็ง”แต่ภาพที่ได้ก็งดงามและคุ้มค่ายิ่ง

    ถ้าเกิดมีคนบอกคุณว่าถ้ำน้ำแข็งนั้นข้างในสวยงามสุดๆ ถ้าได้ไปเห็นสักครั้งจะเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ไม่รู้ลืม แต่กลับกันมันก็อันตรายมากๆ จนถึงขั้นตายได้ เป็นคุณจะเลือกเข้าไปหรือรักษาชีวิตไว้? สำหรับ Matej Kriz ช่างภาพมากฝีมือกลับเลือกตอบอย่างไม่ลังเลว่า เขาจะเข้าไปข้างในเพื่อเก็บภาพประสบการณ์อันคุ้มค่านั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปยังถ้ำน้ำแข็งแห่งหนึ่งที่อุทยานแห่งชาติวัตนาโจคุล ในประเทศไอซ์แลนด์     ถ้ำธารน้ำแข็งแห่งนี้นั้นมีชื่อว่า Breidamerkurjokull ซึ่งมันเป็นถ้ำที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ และเป็นที่รู้จักกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ล่าสุดได้มีส่วนที่เป็นถ้ำในบริเวณนั้นละลายตัวลง ทำให้เราสามารถที่จะเข้าไปได้และที่สำคัญปลอดนักท่องเที่ยวด้วย     Matej เล่าว่า เขารู้เรื่องของถ้ำดังกล่าวนี้ก็ตอนที่คนรู้จักมาบอกว่าพวกเขาค้นพบถ้ำแห่งใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าเดิมทีเขาเป็นคนที่ทำงานในพื้นที่นี้อยู่แล้ว ฉะนั้นเขาจึงมีความสัมพันธ์กับคนบริเวณนี้เป็นอย่างดีนั่นเอง เขาต้องขอบคุณความสวยงามและความมหัศจรรย์ในถ้ำแห่งนี้ เพราะมันทำให้เขาได้เปิดโลกใหม่ เพราะแสงที่สาดส่องลงมายังถ้ำนั้นทำให้ตัวถ้ำเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ราวกับเขากำลังอยู่ในโลกแฟนตาซีเลยทีเดียว งานนี้บอกเลยว่าดูแล้วอยากจะเดินทางไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง     ด้วยสภาพของถ้ำที่เป็นน้ำแข็งทั้งหมดมันจึงเปราะบางมากๆ  ทำให้เราไม่รู้ได้เลยว่ามันจะละลายหรืออาจจะพังลงมาตอนไหน และยิ่งถ้าไม่ระมัดระวัง เราอาจจะเกิดอันตรายในรูปแบบต่างๆ ได้ทุกเมื่อ ฉะนั้นมันจึงอันตรายมากๆ   เพดานสวยงามราวกับเป็นถ้ำใต้ทะเล   แสงเปลี่ยนถ้ำก็เปลี่ยน .   ภาพนี้ดูราวกับโลกแฟนตาซีจริงๆ อย่างที่เขาว่าเลย .   ทั้งกำแพงและเพดานมันทำให้เราดูเหมือนอยู่อีกโลกเลย . .   แสงถือเป็นส่วนสำคัญจริงๆ…

  • 4 หนุ่มลักลอบข้ามชายแดนสเปน แม้กระโปรงหน้ารถจะมีเครื่องยนต์ ก็ยังอุตส่าห์ยัดไปได้!?

    4 หนุ่มลักลอบข้ามชายแดนสเปน แม้กระโปรงหน้ารถจะมีเครื่องยนต์ ก็ยังอุตส่าห์ยัดไปได้!?

    เศรษฐกิจในยุคปัจจุบันนั้นอาจจะเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ การย้ายถิ่นที่อยู่จึงอาจเป็นทางเลือกสุดท้ายของพวกเขาเหล่านี้ แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะข้ามชายแดน จึงได้มีการคิดค้นวีธีใหม่ๆ เพื่อหลบหลีกด่านรักษาความปลอดภัยให้ได้ เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานถึงผู้ต้องหาลักลอบเข้าชายแดนจำนวน 4 คน ที่ถูกจับขณะที่หลบซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ กำลังลักลอบเข้ามาในดินแดนแอฟริกาเหนือของเมืองเมลียา โดยพบ 2 คน ซ่อนตัวอยู่ในท้ายรถยนต์ ส่วนอีกคนถูกพบในกระโปรงหน้ารถ และคนที่ 4 รายงานบอกว่าพบอยู่ใต้หน้าปัดของรถยนต์ คนขับและผู้โดยสารก็ถูกคุมขังด้วยเช่นกัน     ตำรวจทั้ง 2 คนที่มีส่วนร่วมในการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบนั้นได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากโดนตีเข้าที่หัวเข่า และอีกคนโดนตีเข้าที่มือ ผู้ต้องหานั้นถูกรายงานว่า ลักลอบเข้าสู่ดินแดนของสเปนที่ชายแดน Beni-Enzar ระหว่าง เมลียาและโมร็อกโก รถที่ขับมานั้น ได้เร่งความเร็วและฝ่าด่านรักษาความปลอดภัย ก่อนที่คนขับและผู้โดยสารจะทิ้งรถและได้หลบหนีไป     ถึงแม้ว่าจะมีการหลบหนีแต่ก็ไม่พ้นเงื้อมมือตำรวจ ถูกจับได้ในที่สุด และภายหลังก็ได้พบกับผู้ต้องหาลักลอบเข้าชายแดนซ่อนอยู่ในรถในเวลาถัดมา เมลียาและเซลตา ที่อยู่ห่างจากเขตเหนือของแอฟริกาประมาณ 250 ไมล์ มักจะเป็นจุดที่ผู้อพยพลักลอบเข้ามา โดยมีแค่ 2 ชายแดนเท่านั้น ระหว่างแอฟริกากับสหภาพยุโรป     หลายปีที่ผ่านมา มีผู้อพยพจำนวนกว่าพันคน ที่พยายามข้ามขายแดน 7.5 ไมล์ ระหว่างเมลียากับโมร็อกโก…

  • คุณยายเบลเยียมป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ได้ฟังเพลงโปรดในวัยเด็ก ช่วยให้เธอจดจำสามีได้อีกครั้งหนึ่ง

    คุณยายเบลเยียมป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ได้ฟังเพลงโปรดในวัยเด็ก ช่วยให้เธอจดจำสามีได้อีกครั้งหนึ่ง

    โรคอัลไซเมอร์ เป็นโรคที่ส่วนใหญ่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม มักแสดงอาการออกมาเมื่อคนเราอายุมากขึ้น เราอาจจะเคยได้ยินหรือแม้แต่เคยพูดคำว่า “คนแก่ขี้หลงขี้ลืม” ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้นที่ว่าโรคนี้จะทำให้ผู้ป่วยเริ่มมีอาการหลงๆ ลืมๆ และทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนจำไม่ได้แม้แต่คนในครอบครัว คนที่รัก และสุดท้ายผู้ป่วยเป็นโรคนี้ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้อีก ถึงแม้ร่างกายจะขยับได้ แต่ก็แทบจะช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้เลย และนี่คือเรื่องราวของคุณยาย Huguette ซึ่งเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ เมื่อปี 2014 คุณยายต้องย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านพักคนชราเพื่อจะได้มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล เพราะเธอเริ่มมีภาวะสมองเสื่อม แถมอาการก็แย่ลงเรื่อยๆ จนในที่สุดคุณยายก็พูดแทบไม่ได้ แน่นอนว่าเธอจำผู้คนที่มาเยี่ยมไม่ได้เลย รวมไปถึงคุณตา David ผู้เป็นสามีด้วย     แต่แล้ววันหนึ่งองค์กรการกุศล Music For My Mind ซึ่งกำลังศึกษาว่าดนตรีสามารถช่วยผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ได้อย่างไร และหวังว่าจะใช้บทเพลงเป็นตัวช่วยในการดูแลผู้ป่วยในอนาคต ก็ได้บันทึกคลิปวีดีโอเพื่อดูการตอบสนองต่อบทเพลงที่ผู้ป่วยคุ้นเคย และสำหรับคุณยาย Huguette ผู้เติบโตมาในเบลเยียม เพลงจากนักร้องสาวชาวเบลเยียม Jacques Brel จึงมีอิทธิพลกับคุณยายอย่างมาก บทเพลงที่แสนพิเศษในวัยเยาว์ ที่สะท้อนถึงยุคสมัยที่คุณยายเติบโตมา คือเพลง Ne Me Quitte Pas ซึ่งแปลว่า “อย่าจากฉันไป”     เมื่อเพลงดังกล่าวบรรเลงขึ้นไม่นานนัก เรื่องราวกับมันซึมซับเข้าไปในจิตใจและสมองแล้วดึงคุณยายคนเดิมกลับมาอยู่ในห้อง เมื่อเธอเริ่มยิ้ม หัวเราะ และร้องตามได้ ไม่เพียงแค่นั้น คุณยายยังหันไปหาสามีที่นั่งอยู่ข้างๆ จ้องมองคุณตา David…

  • สมหวังแบบโคตรๆ…คู่รักพยายามมีลูกกันมาตลอด 5 ปี สุดท้ายท้องแฝด 5!?

    สมหวังแบบโคตรๆ…คู่รักพยายามมีลูกกันมาตลอด 5 ปี สุดท้ายท้องแฝด 5!?

    ในปัจจุบันมีวิธีการมากมายที่ช่วยให้คู่รักที่ต้องการมีลูกแต่ประสบปัญหาต่างๆ เช่น ภาวะมีบุตรยาก หรือบางคนก็ไม่ได้มีปัญหาทางสุขภาพอะไรหรอก แต่อยากได้ลูกแฝดสอง แฝดสาม ถ้าเงินหนาพอก็ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำให้ได้ตามต้องการ เช่นเดียวกับคุณแม่ Jamie Scott วัย 33 ปีและสามี Skyler ทั้งคู่มีลูกชายที่น่ารักอยู่ 2 คนคือ Shayden อายุ 12 ปี และ Landon 7 ขวบ แล้ววันหนึ่งทั้ง Jamie และ Skyler ต่างก็เห็นตรงกันว่าถึงเวลาที่จะมีน้องเล็กให้ลูกชายทั้งสองอีกสักคนแล้ว     แต่เหมือนโชคไม่เข้าข้าง หลังพยายามอยู่นาน Jamie ก็ยังไม่ท้องเสียที สุดท้ายจึงเลือกใช้ยาเพื่อเพิ่มอัตราการเจริญพันธุ์ เพิ่มโอกาสให้การตั้งครรภ์ให้มากขึ้น และผลจากการช่วยเหลือทางการแพทย์ทำให้ระดับฮอร์โมนของเธอเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก นั่นหมายความว่า ไม่ใช่แค่ลูกคนที่ 3 แต่เธอมีโอกาสที่จะท้องลูกแฝดเลยทีเดียว และในที่สุดความพยายามของทั้งคู่ก็ประสบผลสำเร็จ Jamie ตั้งท้องหลังพยายามอยู่นานถึง 5 ปี และเนื่องจากขนาดท้องที่ใหญ่มากทั้งคู่ก็คาดการณ์เอาไว้ว่าเธออาจจะท้องแฝดสองก็เป็นได้ ด้วยความตื่นเต้นทั้งคู่เลยไปอัลตร้าซาวด์ดูให้รู้แล้วรู้รอดกันไป ก่อนจะพบกับความเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ เมื่อเห็นว่าในท้องของเธอไม่ได้มีเด็กแค่ 2 แต่มีอยู่ถึง 5!!     Jamie กล่าวว่า “ฉันร้องไห้ออกมาเลยค่ะ…

  • หญิงจีนคีบตุ๊กตาได้กว่า 7,000 ตัว แชร์เทคนิคเด็ด “เขี่ยให้ร่วง ดีกว่าคีบติดก้าน!!”

    หญิงจีนคีบตุ๊กตาได้กว่า 7,000 ตัว แชร์เทคนิคเด็ด “เขี่ยให้ร่วง ดีกว่าคีบติดก้าน!!”

    บางคนบอกว่า “ตู้คีบตุ๊กตา” คือการพนัน หรือบ้างก็บอกว่ามันใช้ฝีมือ แต่ไม่ว่าจะแบบไหนสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ มันเสพติดสุดๆ โดยเฉพาะหลังคีบขึ้นมาแล้วทำท่าจะได้แต่จบที่ล้มเหลว…     เช่นเดียวกับ Ya สาวชาวจีนวัย 27 ปี จากมณฑลกวางตุ้งที่แม้เดิมทีจะทำอาชีพช่างภาพและมองว่าการเล่นตู้คีบตุ๊กตามันไร้สาระ แต่หลังจากได้สัมผัสมันเพียงครั้งเดียวก็ค้นพบว่าตัวเองเสพติดมันไปซะแล้ว แถมหลังจากคีบตัวแรกสำเร็จมันดันเรียกพวกมาอีกกว่า 6,999 ตัว!?     เรื่องราวของ Ya มันเริ่มขึ้นเมื่อปี 2016 ได้เดินไปเจอกับตู้คีบตุ๊กตาที่มีเป็ดสีเหลืองแสนน่ารักอยู่ข้างใน แน่นอนว่าสาวๆ เมื่อตุ๊กตาเป็ดก็จะต้องอยากได้เป็นธรรมดา แต่ด้วยความคิดครั้งแรกที่เธอคิดว่ามันไร้สาระและมีไว้เพื่อใช้หาเงินเท่านั้น เธอจึงไม่อยากเล่น จนกระทั่งความอยากมันชนะหลักความคิดของเธอ เธอจึงหลวมตัวหยอดเหรียญไปหนึ่งครั้ง     นับจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอคนพบว่า การคีบตุ๊กตามันสนุกกว่าที่คิดมันได้คิดและใช้ความสามารถพร้อมกับโชคอีกนิดหน่อย ซึ่งเธอบอกว่ามันก็คล้ายกับการเล่นดนตรีที่ต้องฝึกหลายๆ ส่วน รวมถึงการจับเทคนิในการคีบ เธอบอกว่าช่วงแรกที่เธอเริ่มเข้าถึงมันเธอยังไม่มั่นใจมากนัก เธอใช้เวลาไปกับยืนดูและเรียนรู้เทคนิคของคนอื่นมากกว่า แต่เวลาผ่านไปเธอก็พบว่ามันไม่ช่วยอะไรมากนัก เธอจึงจัดการซื้อตู้คีบตุ๊กตามาไว้ที่บ้านเพื่อฝึกฝน แต่เรื่องมันกลับพีคยิ่งกว่าเดิมเมื่อเธอออกไปคีบตุ๊กตาจริงๆ ซึ่งเธอพบว่าตู้คีบตุ๊กตามันมีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ฉะนั้นมันจึงไม่เหมือนกับตู้ที่เธอซื้อมาฝึก เธอจึงต้องเริ่มฝึกให้มากกว่าเดิม ด้วยการออกมาคีบ การค้นคว้าในเน็ตและอื่นๆ อีกมากมาย     เวลาผ่านไป Ya ค้นพบว่าการเอาที่คีบค่อยๆ…

  • อดีตคู่รักมานั่งถกเหตุผล ฝ่ายชายพูด ‘ก็แค่นอกใจ’ แทบอยากศอกใส่หน้า!!

    อดีตคู่รักมานั่งถกเหตุผล ฝ่ายชายพูด ‘ก็แค่นอกใจ’ แทบอยากศอกใส่หน้า!!

    เรื่องของความรักนั้นสามารถนิยามได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทั้งความรักที่สมหวังและมีความสุขจนถึงบั้นปลายชีวิต หรือจะเป็นความรักที่ต้องพบกับความทุกข์ทั้งการครองรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรค จนสุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยการแยกทางกัน… หลากหลายสื่อก็ช่วยกันตีความและนำเสนอกันไป แต่ที่น่าสนใจก็คือการนำอดีตคนรักกันมานั่งเปิดใจถึงความรักที่ผ่านมา อย่างเช่นในรายการ One Night With My Ex ที่เผยแพร่ผ่านทางสถานี Channel 5 ของประเทศอังกฤษ   ตัวอย่างบางส่วนจากรายการ เป็นคู่ของ Joseph และ Rosie (มองไม่เห็นกดตรงนี้เลย) Do men and women really think differently about the emotional impact cheating will have on their partner? ? #OneNightWithMyEx pic.twitter.com/W6L3pvTWHj — Channel 5 (@channel5_tv) 14 มกราคม 2561   ทางรายการได้พา Joseph และ Rosie…

  • นายตำรวจผู้เสียสละ ยอมปลอมตัวเป็นลูกคนอื่นนานถึง 5 ปีเพื่อให้พวกเขามีความสุข!?

    นายตำรวจผู้เสียสละ ยอมปลอมตัวเป็นลูกคนอื่นนานถึง 5 ปีเพื่อให้พวกเขามีความสุข!?

    เรื่องราวสุดซึ้งที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วประเทศจีน เมื่อตำรวจหนุ่มคนหนึ่งได้เปิดเผยผ่านรายการทีวีว่าจริงๆ แล้วตัวเขาไม่ได้เป็นลูกชายของผู้เป็นพ่อและแม่ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่เขาเป็นคนอื่นและทำไปเพราะเหตุผลบางอย่าง..!? Jiang Jingwei นายตำรวจจากเมืองเซี่ยงไฮ้ คือตัวตนจริงๆ ของชายคนดังกล่าว โดยเขาเล่าว่าเขาได้แสร้งปลอมตัวเป็นลูกชายของครอบครัวสามีภรรยาคู่หนึ่ง เป็นเวลากว่า 5 ปี เพื่อช่วยสร้างความสะบายใจให้กับทั้งคู่ โดยเฉพาะฝ่ายภรรยา เพราะว่าพวกเขายังคงเสียใจกับการจากไปของลูกชายเมื่อ 15 ปีก่อน     Jiang เล่าว่าเรื่องมันเริ่มมาจาก Xia Zhanhai และ Liang Qiaoying สองสามีภรรยาได้สูญเสียลูกชายที่ชื่อ Xia Xiaoyu ไปเมื่อปี 2003 ด้วยสาเหตุจากอุบัติเหตุในโรงงานที่พวกเขาทำงาน โดยลูกชายนั้นถูกสารพิษมากจนเสียชีวิตในท้ายที่สุด ส่วนผู้เป็นแม่นั้นแม้ไม่ถึงกับเสียชีวิตแต่ก็กลายเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ด้าน Xia Zhanhai ผู้เป็นสามีที่ตอนนั้นไม่ได้เป็นอะไรมากและรู้ความจริงเกี่ยวกับการจากไปของลูก ก็ได้ตัดสินใจโกหกภรรยาว่าลูกนั้นทนไม่ไหวกับการทำงานที่นี่และขอออกไปทำงานต่างเมือง ซึ่งเขาทำเพื่อรักษากำลังใจของภรรยาให้มีชีวิตต่อไป     จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 2010 นาย Xia ได้เห็นดูทีวีและบังเอิญเจอนายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนลูกชายของเขา ซึ่งในจังหวะนั้นเขาตัดสินใจได้ทันทีว่าเขาต้องไปขอความช่วยเหลืิอจากชายคนนั้น และด้วยความช่วยเหลือจากรายการทีวีเขาจึงสามารถติดต่อกับ Jiang  หรือก็คือนายตำรวจคนดังกล่าวได้ Jiang เล่าว่าตอนที่นาย Xia…

  • งี้ก็มีด้วยเหรอ? “Neotrogla” แมลงสายพันธุ์ประหลาดในบราซิล ที่เมียมี Joo ตัวผู้มี Jim!?

    งี้ก็มีด้วยเหรอ? “Neotrogla” แมลงสายพันธุ์ประหลาดในบราซิล ที่เมียมี Joo ตัวผู้มี Jim!?

    โดยปกติตามความเข้าใจของมนุษย์แล้ว สัตว์เพศผู้จะต้องมีอวัยวะเพศที่ยื่นออกมาก ซึ่งเรามักเรียกส่วนนั้นว่าองคชาตหรือจู๋ ส่วนสัตว์เพศเมียจะมีอวัยวะเพศที่มีลักษณะเป็นช่องหรือรูเพื่อสอดรับกับของตัวผู้ ซึ่งเราเรียกว่าจุ๋มจิ๋ม แต่สัตว์ที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบยกมาเล่าให้อ่านในครั้งนี้กลับมีอวัยวะเพศที่แตกต่างออกไป เพราะมันคือแมลงสายพันธุ์หนึ่ง ที่ตัวผู้ไม่ได้มีจู๋และตัวเมียไม่ได้มีจุ๋มจิ๋ม!?     เจ้าแมลงที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Neotrogla มันมีขนาดความยาวอยู่ที่ราวๆ 3 มิลลิเมตร ถูกค้นพบครั้งแรกในถ้ำแห่งหนึ่งในประเทศบราซิลเมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี 2014 โดยนักวิจัยที่ชื่อ Rodrigo Ferreira จากมหาวิทยาลัย Lavras ในประเทศบราซิล จากนั้นเขาถึงส่งมันต่อไปให้กับผู้เชี่ยวชาญทางด้านแมลงอย่าง Charles Lienhard จึงได้รู้ว่ามันคือแมลงสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งจะมีการค้นพบ     การค้นพบครั้งนี้ทำให้เราได้เห็นการสลับบทบาทของการสืบพันธุ์ในสิ่งมีชีวิต ที่แตกต่างไปจากสัตว์ทั่วๆ ไป เพราะเจ้า Neotrogla จะใช้วิธีการผสมพันธุ์โดยให้ตัวเมียยื่นอวัยวะเพศที่อยู่บริเวณก้นของตัวเองเข้าไปในร่างกายของตัวผู้ก่อนจะเบ่งหนามออกมาเพื่อยึดกับช่องอวัยวะเพศของตัวผู้ จากนั้นก็ค่อยๆ สูบเอาน้ำเชื้อที่อยู่ในตัวผู้ออกมาผสมกับไข่ในร่างกายของตัวเอง ซึ่งในการผสมพันธุ์แต่ละครั้ง เหล่า Neotrogla จะใช้เวลาราวๆ 40-70 ชั่วโมงกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ (โหนานแท้)   นี่คือภาพอวัยวะเพศของตัวเมีย ที่จะสังเกตได้ว่ามันมีส่วนที่ยื่นๆ ออกมาคล้ายจู๋   ต่อมา Kazunori Yoshizawa จากมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ในประเทศญี่ปุ่นจึงได้เข้ามาร่วมในทีมวิจัยนี้ด้วยเพื่อช่วยศึกษาเจ้าแมลงตัวนี้ให้ลึกลงไปอีก จากการศึกษาในครึ่งหนึ่ง Yoshizawa เคยพยายามที่จะดึงเอาตัวเมียและตัวผู้ออกจากกันในระหว่างที่พวกมันกำลังผสมพันธุ์กันอยู่ แต่ปรากฏว่าหนามที่ตัวเมียเบ่งออกมานั้นเกาะแน่นอยู่กับอวัยวะเพศของตัวผู้มาก แม้จะดึงจนช่วงท้องของตัวผู้ฉีกขาดออกไปจากตัวเมีย แต่อวัยวะเพศของตัวเมียก็ยังไม่ยอมหลุดออกมาจากตัวผู้เลย  …

  • ตำนานปีศาจ Popobawa แห่งแทนซาเนีย ข่มขืนไม่เลือกหน้าทั้งชายและหญิง ผู้คนพากันขวัญผวา!!

    ตำนานปีศาจ Popobawa แห่งแทนซาเนีย ข่มขืนไม่เลือกหน้าทั้งชายและหญิง ผู้คนพากันขวัญผวา!!

    เวลาพูดถึงปีศาจที่ข่มขืนคน เรามักจะนึกถึง Succubus ปีศาจผู้หญิงที่ชอบข่มขืนและสูบกินผู้ชาย แต่เราคงไม่เคยได้ยินปีศาจที่ชื่อ Popobawa ปีศาจหน้าตาเหมือนค้างคาวที่สูบกินทั้งชายและหญิงมาก่อนใช่ไหม? มาๆ ล้อมวงเข้ามา เดี๋ยวหมอจะเล่าให้ฟัง… Popobawa นั้นเป็นปีศาจที่มีตำนานเล่ากันมาในประเทศแทนซาเนีย ซึ่งเป็นประเทศทางฝั่งแอฟริกา และถูกบอกเล่าถึงการค้นพบเมื่อปี 1965 โดยเจ้าปีศาจตัวนี้จะสามารถสลับร่างไปมาได้ระหว่างคนและร่างปีศาจ     ในร่างปีศาจนั้น มันจะมีหน้าตาคล้ายๆ กับคนผสมค้างคาวและมีตาเดียว ที่สำคัญมันยังมีอวัยวะเพศที่ใหญ่ยาวสุดๆ นอกจากนี้ทุกครั้งที่มันบินมันจะหายใจดัง แฮ่กๆ…ไม่ใช่สิ “ฟี้ด….ฟี้ดดดด” ต่างหาก เจ้า Popobawa นั้นมันเป็นปีศาจที่มีนิสัยชอบแอบย่องเข้าไปในบ้านคนกลางดึก ซึ่งมันจะข่มขืนคนที่หลับอยู่ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ แต่จากคำบอกเล่านั้นรายงานว่าเหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายเสียมากกว่า (แถมบางที่ยังบอกว่าเคยโดนพร้อมกันทั้งครอบครัวด้วยนะ)     เหยื่อหลายคนที่ถูก Popobawa ข่มขืนนั้นได้บอกถึงประสบการณ์ของพวกเขาว่า “ความรู้สึกที่โดน มันเหมือนเรากำลังฝันอยู่ แต่ในเวลาเดียวกันเราก็รู้สึกถึง ปิกาจูของมันที่กำลังสอดเข้ามาได้ และแม้จะพยายามตื่นหรือขยับเท่าไหร่เราก็ไม่สามารถทำได้เลย รวมถึงการส่งเสียงขอความช่วยเหลือก็เช่นกัน มันให้ความรู้สึกเหมือนตะโกนสุดเสียงแต่ไม่มีใครได้ยิน”     คนที่ถูกปีศาจ Popobawa บุกมาข่มขืนตอนกลางคืน จะเริ่มมีอาการวิตกกังวลและหวาดกลัวทุกอย่างในเช้าวันถัดมา ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันหาทางออกโดยการรวบรวมคนมานอนข้างนอกบ้านพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เพื่อที่มันจะได้ไม่กล้าทำอะไรนั่นเอง    …

  • แฟนบอลถูกจับหลังฉี่ใส่ขวดน้ำดื่มของผู้รักษาประตู แล้วโยนกลับไปในสนามให้ดื่ม

    แฟนบอลถูกจับหลังฉี่ใส่ขวดน้ำดื่มของผู้รักษาประตู แล้วโยนกลับไปในสนามให้ดื่ม

    พวกเราส่วนใหญ่ที่ชอบดูกีฬาฟุตบอล มักจะมีทีมที่ตัวเองชื่นชอบและทีมที่ชิงชังอยู่ในใจเสมอ แต่ก็มีแฟนบอลบางคนที่กระทำไม่เหมาะสมกับทีมที่ตัวเองไม่ชอบ การกระทำอันน่ารังเกียจของแฟนบอลทีม Middleborough ที่เดินทางมากว่า 200 ไมล์ หรือประมาณ 320 กิโลเมตร เพื่อรับชมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ที่ Loftus Park ประเทศอังกฤษ นั้นได้ถูกบันทึกวิดีโอไว้ในขณะที่เขากำลังปัสสาวะลงในขวดน้ำและโยนลงไปให้ผู้รักษาประตูทีม Queen Park Ranger ขณะที่กำลังแข่งขัน     หลังจากนั้นก็ได้มีชาวเน็ตคนหนึ่งมาความคิดเห็นบนเว็บไซต์ Youtube ที่สังเกตเห็นพฤติกรรมดังกล่าวว่า “นายปัสสาวะผิดที่นะ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องทำแบบนั้น” แต่โชคดีที่ Alex Smithies ผู้รักษาประตูของทีม QPR ไม่ได้หยิบน้ำขวดนั้นมาดื่ม และชายหนุ่มที่ก่อเหตุก็ได้ถูกจับและตั้งข้อหาโดยตำรวจคลีฟแลนด์ที่คอยดูแลความปลอดภัยในสนามบอล โดยในทวีตของ Cleveland Football ได้กล่าวว่าเขาได้รับคำถามจากแฟนๆ คนอื่นมากมาย และเขายืนยันว่าแฟนบอลที่ก่อเหตุน่ารังเกียจดังกล่าวได้ถูกจับกุมเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เขาทำได้ก็คือสั่งห้ามไม่ให้เข้าร่วมรับชมการแข่งขันฟุตบอลตลอดชีวิต     และสุดท้ายทีม Middleborough ก็ได้ชนะด้วยคะแนน 3-0 โดยที่ Smithies ผู้รักษาประตูทีม QPR มัวใจจดใจจ่อกับการรักษาประตูโดยไม่สนใจขวดน้ำปัสสาวะ   วิดีโอคลิปที่ถูกบันทึกไว้ขณะที่ชายหนุ่มคนนี้กำลังก่อเหตุ   ดีใจที่จับตัวคนก่อเรื่องได้ เสียชื่อแฟนบอลหมดเลย…

  • สยองออกก้น… หนุ่มกินซูชิแซลมอนแทบทุกวัน กลายเป็นการขับพยาธิตัวตืดยาว 1.5 เมตร ออกมา!!

    สยองออกก้น… หนุ่มกินซูชิแซลมอนแทบทุกวัน กลายเป็นการขับพยาธิตัวตืดยาว 1.5 เมตร ออกมา!!

    เมื่อวันที่ 8 มกราคมปี 2018 ในรายการวิทยุด้านการแพทย์ This Won’t Hurt A Bit ได้เล่าถึงเคสของ Dr.Kenny Banh กับหนุ่มจากเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนียคนหนึ่ง ชายหนุ่มจากเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เข้ารักษาในโรงพยาบาลจากอาการปวดท้องและท้องเสียอย่างรุนแรง จนได้พบว่ามีพยาธิที่ยาวกว่า 5 ฟุตอยู่ในตัวเขา     คุณหมอ Kenny เล่าว่าผู้ป่วยชี้แจงถึงภาพที่เขาได้เห็นว่า “ในขณะที่ผมกำลังเข้าห้องน้ำ เมื่อผมมองลงไป ผมก็เจอกับสิ่งที่คล้ายกับลำไส้เส้นเล็กๆ ห้อยออกมาจากก้นของผม” คนไข้นั้นตกใจมากเพราะเขานึกว่ามันคือลำไส้ของเขาจริงๆ ที่ไหลออกมา แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจหลังจากที่ลองดึงมันออกมาและได้รู้ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร     เจ้าพยาธิตัวตืดที่เขาดึงออกมาก็ได้ดิ้นไปดิ้นมาบนมือของเขา หลังจากที่ทางโรงพยาบาลได้วางมันลงบนกระดาษเพื่อวัดขนาด พบว่ามันมีความยาวถึง 5 ฟุตครึ่ง หรือประมาณ 1.6 เมตร คนไข้นั้นจำไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงมีพยาธิอยู่ในร่างกาย แต่หลังจากที่ถามเรื่องอาหารการกิน คุณหมอ Kenny ก็ได้คำตอบ   “ผมกินปลาแซลมอนเกือบทุกวัน” คนไข้กล่าว   พยาธิตัวตืดที่หนุ่มคนนั้นเจอคือพยาธิตัวตืดแซลมอนญี่ปุ่น หรือ Diphyllobothrium…

  • คุณป้าชาวสิงคโปร์วัย 70 ปี ผู้หลงรักในการคอสเพลย์ ยืนยันว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข!!

    คุณป้าชาวสิงคโปร์วัย 70 ปี ผู้หลงรักในการคอสเพลย์ ยืนยันว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข!!

    เวลาเราพูดถึงคอสเพลย์ เราก็มักจะนึกถึงกลุ่มเด็กและวัยรุ่นที่ชอบแต่งตัวเป็นตัวละครต่างๆ แต่ถ้าพูดถึงผู้สูงอายุที่แต่งคอสเพลย์นอกจากลุงกะลาสีในญี่ปุ่นแล้ว เรากลับนึกภาพคนอื่นไม่ค่อยจะออกกันเสียเท่าไหร่ ว่าจะมีใครมาทำอะไรแบบนี้ แต่มาวันนี้ขอเชิญพบกับนักคอสเพลย์สูงอายุผู้แจ้งเกิดในวงการคนใหม่กับคุณป้า Shirley Chua ชาวสิงคโปร์วัย 70 ปี ที่แม้อายุจะเยอะ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับความชอบของเธอแม้แต่น้อย Shirley นั้นเป็นที่รู้จักกันในวงการคอสเพลย์สิงคโปร์ว่า Aunty Shirley โดยเธอนั้นได้เข้าสู่วงการนี้เพราะลูกของเธอ Skyy ก็เป็นคนที่ชอบคอสเพลย์เหมือนกัน โดยเธอเริ่มคอสเพลย์ตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมปลาย ซึ่งเมื่อชุดมีปัญหาคุณป้า Shirley ก็จะรับหน้าที่ซ่อมให้กับลูกของเธอ     จนกระทั่งวันหนึ่งคุณป้า Shirley ได้เดินทางไปงานคอสเพลย์กับลูก เธอก็พบว่าตัวเองรู้สึกสนุกและอินกับงานมากๆ จนกระทั่งในปี 2011 เธอได้ตัดสินใจบอกกับลูกชายว่า “ม๊าอยากคอสเพลย์” แน่นอนว่าตอนแรกลูกชายก็บอกว่า “ม๊า คอสเพลย์มันเป็นกิจกรรมของคนอายุน้อยๆ นะ” แต่หลังจากคุยกันไปสักพักทั้งคู่ก็เข้าใจกัน โดยลูกชายรับปากว่าจะหาตัวละครที่แม่ของเขาน่าจะแต่งได้มาให้ หลังจากนั้นคุณป้า Shirley ก็ได้คอสเพลย์เป็นตัวละครมากมายทั้ง Alice in Wonderland, Rita Repulsa จาก Power Rangers และ Supergirl และนอกจากนั้นลูกชายของเธอก็สร้างเพจขึ้นมาจนตอนนี้ยอดกดไลก์สูงถึง 6…

  • เหยยย มหาวิทยาลัย Oxford เพิ่มเวลาทำข้อสอบคณิตและวิทย์คอมฯ เพื่อให้นศ. หญิงมีคะแนนที่ดีขึ้น

    เหยยย มหาวิทยาลัย Oxford เพิ่มเวลาทำข้อสอบคณิตและวิทย์คอมฯ เพื่อให้นศ. หญิงมีคะแนนที่ดีขึ้น

    การทำข้อสอบในเวลาที่จำกัดมักจะเป็นเรื่องที่กดดัน จนอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ จึงได้มีการวิจัยเกี่ยวกับการลดความกดดันนี้โดยมีเพศสภาพเป็นปัจจัยในการศึกษา มหาวิทยาลัย Oxford ได้ทดลองยืดเวลาในการทำข้อสอบคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยให้ผลการเรียนของนักศึกษาหญิงดีขึ้น จากเดิม 90 นาที เพิ่มเป็น 105 นาที โดยไม่เพิ่มระดับความยากหรือจำนวนข้อในตัวข้อสอบแต่อย่างใด การเปลี่ยนแปลงนี้พบว่านักศึกษาหญิงได้คะแนนที่สูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากการทดลองนี้มีเพื่อลดความกดดันจากเวลาที่จำกัด ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเชื่อว่า ผลกระทบนี้จะส่งผลกับผู้หญิงมากกว่าในตัวผู้ชาย     แต่อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีความเห็นเชิงลบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เข้ามามากมาย ว่าเป็นการเหยียดเพศ เพราะคิดว่าเพศหญิงคือเพศที่อ่อนแอกว่า จากข้อมูลที่รวบรวมภายใต้กฎหมายเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร แสดงให้เห็นว่าทางคณะในมหาวิทยาลัยเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเพศที่มีเพิ่มมากขึ้นในปีที่ผ่านมาได้ และข้อสอบนั้นก็มีไว้เพื่อทดสอบความเข้าใจของเนื้อหาที่เรียน ไม่ใช่การแข่งขันแบบจับเวลา ขณะเดียวกัน Sarah Hart ศาสตราจารย์ที่ Birkbeck มหาวิทยาลัยลอนดอนได้เสนอว่า แต่ละเพศนั้นไม่ได้มีความสามารถทางคณิตศาสตร์ที่แตกต่างกันเลย     Sarah บอกว่าเธอไม่ได้สังเกตเห็นว่านักศึกษาหญิงนั้นจะตรวจสอบความถูกต้องและทบทวนกระดาษคำตอบก่อนที่จะส่งเลย ในขณะที่นักศึกษาชายทำข้อสอบได้ในเวลาที่รวดเร็วกว่า แต่ส่วนมากมักจะผิด ส่วนทางมหาวิทยาลัย Oxford ก็ยังคงทำการเก็บข้อมูลและจับตาดูการทำข้อสอบอย่างใกล้ชิด แต่ทางหน่วยงานกล่าวว่ายังไม่มีผลสรุปอย่างแน่ชัดจากการเก็บข้อมูลในปีแรก แต่อย่างไรก็ตาม นักศึกษาหญิงปี 3 ก็ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการจากคะแนนที่สูงขึ้นจากปีที่แล้ว ในขณะที่ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ยังต้องศึกษาอีกมาก ซึ่งทางหน่วยงานก็ได้วางแผนที่จะเก็บข้อมูลต่อไปในอนาคตอย่างระมัดระวัง   ถือว่าเป็นงานวิจัยที่น่าสนใจเลยทีเดียว ถ้าหากประเทศไทยนำมาใช้บ้างก็คงจะดีไม่น้อย จะได้ทำข้อสอบกันแบบสบายๆ ไม่กดดัน  …

  • ความฝันเป็นจริง!! ดาวโป๊ญี่ปุ่นยื่นข้อเสนอจัดงานแต่งให้ ราคาเพียงแค่สามแสนเยน

    ความฝันเป็นจริง!! ดาวโป๊ญี่ปุ่นยื่นข้อเสนอจัดงานแต่งให้ ราคาเพียงแค่สามแสนเยน

    เหล่าแฟนๆ หนังผู้ใหญ่ เคยจินตนาการไฝ่ฝันที่จะได้แต่งงานกับดารา AV ที่ตัวเองชอบกันไหม ความฝันนี้จะไม่ได้เป็นแค่เรื่องในจินตนาการอีกต่อไปแล้ว เมื่อพวกเราสามารถแต่งงานกับดาราดาวโป๊แสนสวยได้จริงๆ เตรียมพบกับ Asuka Hoshino ดาวโป๊วัย 31 ซึ่งได้แสดงในหนังผู้ใหญ่หลายเรื่องในปี 2010 ถึงปี 2014 แต่ในปัจจุบันเธอได้แขวนเต้าอำลาวงการหนังผู้ใหญ่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ได้มีส่วนร่วมกับองค์กรหนึ่งที่เสนอให้แฟนๆ ได้จัดงานแต่งกับเธอโดยมีค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง     นี่ไม่ใช่แค่อีเวนต์เกม VR เสมือนจริง แต่เป็นพิธีแต่งงานจริงๆ มีการวางแผนและจัดงานล่วงหน้าถึง 3 สัปดาห์โดยบริษัท Ambitious ซึ่ง Hoshino กับคู่เจ้าบ่าวจะได้พบกับพนักงานบริษัท และร่วมเลือกเช่าชุดที่จะสวมใส่ในงานแต่งด้วยกัน งานแต่งงานนี้จะจัดขึ้นในศูนย์แฟชั่นย่าน Odaiba ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวนั้นจะต้องมาก่อนเวลาเพื่อเตรียมแต่งตัวและแต่งหน้าทำผมโดยช่างมืออาชีพ หลังจากนั้นจะมีการซ้อมพิธี 1 รอบ พวกเขาจะเดินควงแขนเข้ามาตรงกลางทางเดิน และเดินขึ้นมาที่หน้าแท่น จากนั้นบาทหลวงของงานก็จะเริ่มพิธี เจ้าบ่าวและ Hoshino จะแลกเปลี่ยนแหวนกัน (เจ้าบ่าวเป็นคนซื้อแหวนทั้ง 2 วง) หลังจากนั้นเจ้าบ่าวจะยกผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาวขึ้นและจุมพิตกัน เมื่อดำเนินพิธีต่อก็จะมีการถ่ายรูปคู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมอยู่ในแพ็กเกจที่มีราคาประมาณ 350,000 เยน หรือประมาณ 100,000…

  • บริษัท ASICS ญี่ปุ่นเปิดให้คุณออกแบบ ‘โอนิซึกะ ไทเกอร์’ เพื่อบ่งบอกสไตล์ความเป็นตัวเอง!!

    บริษัท ASICS ญี่ปุ่นเปิดให้คุณออกแบบ ‘โอนิซึกะ ไทเกอร์’ เพื่อบ่งบอกสไตล์ความเป็นตัวเอง!!

    วันนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่องของเครื่องแต่งกายกันบ้างดีกว่า นอกจากเสื้อผ้าแล้วสิ่งที่เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้การแต่งกายในครั้งนั้นออกมาดีหรือไม่ ก็คือ “รองเท้า” นั่นเอง สำหรับบางคน รองเท้าอาจจะถือได้ว่าเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตน รสนิยม และวิถีชีวิตได้เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนก็จะต้องแตกต่างกันไป แต่การที่จะหารองเท้าที่มันเข้ากับตัวเราได้นั้นมันไม่ง่ายเลย     ดังนั้นจึงได้มีบริการใหม่ของทางบริษัท ASICS Japan เกิดขึ้นมา นั่นคือการให้เราสามารถออกแบบรองเท้าได้ด้วยตัวเอง ที่ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ สามารถมีอิสระมากขึ้นในการที่จะเลือกซื้อรองเท้าที่มีดีไซน์เหมาะสมกับตัวเรานั่นเอง โดยบริการดังกล่าวริเริ่มโดยบริษัท ASICS Japan ซึ่งเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรองเท้า Onitsuka Tiger ที่หลายๆ ท่านรู้จักดี โดยบริการดังกล่าวจะใช้รองเท้ารุ่น Mexico 66 Deluxe สีขาวดำเป็นพื้นฐาน     รองเท้ารุ่น Mexico 66 Deluxe จะอยู่ในคอลเลกชัน Onitsuka Tiger’s ‘NIPPON MADE’ ที่รองเท้าในซีรีส์นี้จะเย็บด้วยมือ ด้วยหนังและวัสดุต่างๆ ที่ล้วนมาจากญี่ปุ่น ทางบริษัทกล่าวว่า “ดังนั้น ไม่มีรองเท้าคู่ไหนที่ซ้ำกันแน่นอน” บริษัท ASICS นั้นอธิบายว่า “บริการออกแบบด้วยตัวเองนี้ มุ่งเน้นไปที่การบริการผู้บริโภคให้สามารถเลือกได้ตามความชอบเฉพาะตัวและเอกลักษณ์ของลูกค้าแต่ละคน”     ในงานนี้คุณจะได้ปรับเลือกส่วนต่างๆ ของรองเท้าคุณได้ โดยมีหลากหลายตัวเลือกเลยทีเดียว เช่นวัสดุ อย่าง…

  • ดาวโป๊ถึงกับฉุนจัด!? เมื่อมีเด็กวัยแค่ 12 มาขอขึ้นครู ต้องต่อว่ากลับไป ‘พ่อแม่ไม่สั่งสอน’

    ดาวโป๊ถึงกับฉุนจัด!? เมื่อมีเด็กวัยแค่ 12 มาขอขึ้นครู ต้องต่อว่ากลับไป ‘พ่อแม่ไม่สั่งสอน’

    อินเทอร์เน็ตนี่มันเป็นดาบสองคมจริงๆ เลย ในแง่หนึ่งก็เป็นแหล่งรวมความรู้และสาระประโยชน์ต่างๆ รอบโลก แต่ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นช่องทางเข้าถึงสื่ออันไม่พึงประสงค์ที่มาจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลกเช่นกัน ตัวอย่างก็เช่น หนังผู้ใหญ่ หรือที่เราเรียกกันว่า “หนังโป๊” นั่นเอง     หนังโป๊นั้นมีเนื้อหามันที่ไม่เหมาะสมกับเหล่าเด็กๆ อย่างมาก เพราะเนื่องจากจะทำให้พัฒนาการทางความคิดเกี่ยวกับเรื่องเพศนั้นไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ดังนั้นผู้เป็นพ่อแม่ควรควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตของเด็กๆ ให้อยู่ในลู่ทางที่สมควร แต่ก็ไม่ใช่พ่อแม่ทุกคนจะดูและลูกๆ ได้ทั่วถึงหรอก บางครอบครัวนั้นก็ให้อิสระแก่ลูกในการใช้อินเทอร์เน็ตได้เต็มที่ อย่างเช่นในเหตุการณ์จะนำเสนอดังต่อไปนี้ ซึ่งก็เป็นผลพวงมาจากการที่พ่อแม่ดูแลเด็กๆ ได้ไม่ทั่วถึงนั่นเอง     สาววัย 28 ปี นามว่า Nikita Bellucci เป็นนักแสดงหนังโป๊ชาวฝรั่งเศส ได้ออกมาเผยบน Twitter ของเธอว่า เธอได้รับข้อความจาก เด็กหนุ่มวัย 12 ปี ซึ่งส่งมาขอมีเซ็กส์กับเธอ หนึ่งในข้อความที่น่าตกใจนี้ก็คือ เด็กหนุ่มกล่าวว่า “สวัสดี ผมกำลังจะอายุครบ 13 ปี ผมเป็นแฟนคลับคุณเลยนะ คุณช่วยเปลื้องผ้าแล้วมีเซ็กส์กับผมได้ไหม? ขอร้องล่ะ” เธอตอบกลับไปว่า “เฮ้เธอ อายุแค่ 13 ควรกลับไปทำการบ้านซะ แล้วก็ไม่ต้องติดต่อฉันมาอีก ถ้ายังทำอยู่ล่ะก็…

  • คุณครูผู้ไม่มีนิ้วมือ อุทิศตนด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ เพื่อสอนให้กับเด็กที่ยังเรียนอยู่ไม่ไปไหน…

    คุณครูผู้ไม่มีนิ้วมือ อุทิศตนด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ เพื่อสอนให้กับเด็กที่ยังเรียนอยู่ไม่ไปไหน…

    การที่ใครสักคนอุทิศตัวเองเพื่อช่วยเหลือและมอบโอกาสในการศึกษาให้กับผู้อื่นโดยที่ไม่คำนึงถึงความยากลำบากและไม่หวังผลตอบแทนนั้นช่างเป็นเรื่องที่ประเสริฐอย่างยิ่ง บุคคลนั้นก็คือ Chen Haiping คุณครูจากโรงเรียนชนบทวัย 51 ปี ในมณฑลซานซี ประเทศจีนทางตอนเหนือ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นบุคคลตัวอย่างบนเว็บไซต์อาลีบาบาของประเทศจีนจากการทุ่มเทให้กับการสอนหนังสือเด็กๆ แม้ว่าเขาจะเกิดมาโดยไร้นิ้วมือและนิ้วเท้าก็ตาม เรื่องราวของเขานั้นเริ่มต้นเมื่อเขาได้พบกับครูใหญ่ของโรงเรียนหมู่บ้านลิ่วเจียซาน ในปี 1990 ซึ่งในช่วงเวลานั้นทางโรงเรียนก็กำลังขาดแคลนครู จึงได้จ้างเขามาทำงานแทน     Chen กล่าวว่า “ตอนนั้นผมอายุ 23 หลังจากที่ผมเรียนจบมาก็ไม่มีใครจ้างผมเลย งานนี้ทำให้ผมได้รับเงิน 50 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 250 บาท) ซึ่งผมก็พอใจอย่างมาก” แต่อย่างไรก็ตาม งานที่เขาทำอยู่นั้นค่อนข้างยากลำบากเนื่องจากความพิการของเขา การเขียนกระดานดำด้วยชอล์คจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ สำหรับเขา บางทีก็ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจากเสี้ยนตำ และชอล์คก็มักจะหลุดจากมือเขาอยู่บ่อยๆ แต่ความลำบากนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขายอมแพ้จากการให้ความรู้และการศึกษาแก่เด็กๆ เขาจึงก้าวข้ามทุกอุปสรรคที่เขาพบเจอ เขาต้องตื่นแต่เช้าและต้องเดินทางกว่า 10 กิโลเมตรเพื่อมาศึกษาวิธีการสอนจากครูคนอื่น ก่อนที่เขาจะกลับไปสอนเด็กๆ ของเขาที่โรงเรียน     โรงเรียนที่เขาสอนอยู่นั้นตั้งอยู่บนเขาในเมืองหลิ่วหลิน ทางตะวันตกของมณฑลซานซี รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า “โรงเรียนผี” ซึ่งแตกต่างกันมากเทียบกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นมีเด็กนักเรียนจำนวนกว่าร้อยคน แต่ตอนนี้เหลือนักเรียนเพียง 6 คนเท่านั้นที่มาเรียนทุกวัน รวมกับ…