Category: ข่าวคราวรอบโลก

  • สาวญี่ปุ่นถูกลวนลามบนรถไฟมาตั้งแต่เธออายุ 12-18 ปี บอกเล่าความรู้สึกผ่านหนังสือที่เธอเขียน

    สาวญี่ปุ่นถูกลวนลามบนรถไฟมาตั้งแต่เธออายุ 12-18 ปี บอกเล่าความรู้สึกผ่านหนังสือที่เธอเขียน

    ทุกครั้งที่เราพูดถึงการลวนลามบนรถไฟ เหล่าท่านชายหลายคนก็คงจะคิดถึงพล็อตหนังผู้ใหญ่ที่มักจะเจอกันบ่อยๆ จากแดนอาทิตย์อุทัยใช่ไหมละ หรืออาจจะพูดกันติดตลกไปตามภาษา แต่เรารู้กันหรือไม่ว่าในชีวิตจริงมันกลับตลกไม่ออกเลย     ปัญหาการลวนลามทางเพศในบนรถไฟในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน ซึ่งแม้ทางรัฐจะหาทางออกยังไงมันก็ไม่หมดไปเสียที ด้วยเหตุนี้ Kumi Sasaki หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อของเหล่าโรคจิตบนรถไฟ จึงได้เขียนหนังสือพร้อมบอกเล่าถึงประสบการณ์อันเลวร้ายที่เธอต้องถูกลวมลามมาตั้งแต่อายุ 12 ขวบ หนังสือของเธอนั้นมีชื่อว่า Tchikan ซึ่งบอกเล่าเหตุการณ์ที่เธอต้องเจอมาตลอดระยะเวลาเกือบ 7 ปี โดยในหนังสือได้เล่าถึงประสบการณ์แรกที่เธอถูกลวนลามบนรถไฟเมื่อตอนอายุ 12 ปี ว่า     “ตอนนั้นฉันอยู่บนบนรถไฟสายยะมะโนะเตะ ซึ่งฉันรู้สึกว่าเหมือนมีมือใครบางคนมาสัมผัสบริเวณบั้นท้าย ในตอนแรกฉันก็คิดว่ามันเป็นเพราะรถไฟที่แน่นคนเลยบังเอิญมาโดน แต่เอาเข้าจริงๆ มันไม่ใช่ และก็ไม่มีท่าทีจะหยุดด้วย มือดังกล่าวลูบมาที่หลังของฉัน มาที่เอวและก้น ยิ่งนานไปมือนั้นก็ล้วงเข้าไปถึงในกระโปรง ด้วยความที่ตอนนั้นฉันยังเด็ก ความกลัวและความตกใจมันทำให้ฉันทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะหาทางรับมืออย่างไร” หลังจากเรื่องราวดังกล่าวเธอคิดว่ามันจะจบลง แต่ไม่เลย ปัญหาดังกล่าวนั้นยังคงดำเนินต่อไปและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บางวันถึงกับมีชายวัยกลางคนแอบตามเธอมาถึงบ้านเลยก็มี หนักหน่อยก็มีชายที่แต่งงานแล้วมาบอกให้เธอมีลูกกับเขา     ปัญหาดังกล่าวมันหนักขึ้นมากจนทำให้ Kumi คิดฆ่าตัวเลยทีเดียว แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อนของเธอที่เป็นกำลังใจและช่วยเหลือให้เธอผ่านมันมาได้ ซึ่งปัจจุบันเธออายุเข้าเลข 3 แล้วและตัดสินใจอาศัยอยู่นอกเขตตัวเมือง เพราะทุกครั้งที่ขึ้นรถไฟเธอยังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์เดิมๆ นั่นเอง…

  • อดีตนักธุรกิจขายทุกสิ่งที่มี เพื่อจะเอามาสร้างเรือยอร์ชจากเนื้อไม้โบราณเพื่อสานฝันของเขา!!

    อดีตนักธุรกิจขายทุกสิ่งที่มี เพื่อจะเอามาสร้างเรือยอร์ชจากเนื้อไม้โบราณเพื่อสานฝันของเขา!!

    เคยคิดไหมว่าในอนาคตคุณจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างไร สมมุติว่าคุณประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว คุณมีเงินมากพอที่จะใช้ชีวิตไปได้อีกนาน แต่กลับกันคุณมีอายุที่มากขึ้นถึงเลข 6 หรือ 7 คุณจะทำอย่างไรต่อไป? ถ้าคุณคิดไม่ออกลองดู Mike Ludgrove เป็นตัวอย่างดูสิ โดยเขาคนนี้นั้นเป็นคุณลุงชาวอังกฤษวัย 63 ปี และยังเคยเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ซึ่งนั่นทำให้เขามีเงินมากพอที่จะสานความฝันและความชอบของตัวเอง ย้อนกลับไปในช่วงตอนที่คุณลุง Mike ยังอายุ 51 ปี ตอนนั้นเขาได้วาดฝันว่าอยากจะมีเรือยอร์ชหรูๆ เป็นของตัวเองสักลำหนึ่ง ซึ่งนั่นทำให้เขาที่เป็นนักธุรกิจและมีทรัพย์สินพอสมควรได้ตัดสินใจติดต่อไปยัง Lyme Regis Boat Building Academy เพื่อฝึกและเริ่มหัดที่จะสร้างเรือของตัวเอง     ในตอนแรกนั้น Mike คิดว่าเขาจะสร้างเรือของตัวเองด้วยไม้โบราณสุดหรู พร้อมวางแผนไว้ว่ามันจะเสร็จภายใน 1 ปีและใช้งบเพียงแค่ราวๆ 500,000 ปอนด์ (คิดเป็นเงินได้ประมาณ 22 ล้านบาท) แต่เอาเข้าจริงๆ มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น วินาทีที่เข้าเริ่มลงมือไปได้ระยะหนึ่ง Mike ก็ตระหนักได้ทันทีว่าแผนเดิมที่เขาวางไว้มันไม่มีทางทำสำเร็จตามกำหนดแน่ๆ ด้วยงบที่บานปลายกว่าที่คิด เขาจึงตัดสินใจจะขายทุกอย่างเพื่อมาสานฝันของเขา ซึ่งเขาโชคดีมากๆ ที่มีภรรยาอย่าง Elaine อยู่เคียงข้าง เพราะเธอนั้นเข้าใจและอยู่เคียงข้างเขาเสมอ…

  • ศิลปินช่วยสานฝันให้กับ “ผู้อพยพเด็ก” ด้วยการโฟโตชอปสิ่งที่เด็กๆ จินตนาการเอาไว้

    ศิลปินช่วยสานฝันให้กับ “ผู้อพยพเด็ก” ด้วยการโฟโตชอปสิ่งที่เด็กๆ จินตนาการเอาไว้

    เด็กๆ ล้วนมีความใฝ่ฝันด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าในเวลานั้นเหล่าเด็กๆ จะต้องพบเจอกับสถานการณ์อย่างไร ก็มักจะมีสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นกับตนเองในอนาคตเสมอ แล้วเด็กๆ จะมีความสุขมากขนาดไหนเมื่อวันหนึ่งความฝันของพวกเขากลายเป็นจริง โดยเฉพาะเด็กที่เป็น “ผู้อพยพ” ซึ่งผ่านโลกที่มีแต่เรื่องราวแย่ๆ มามากมาย     องค์กร UNHCR จึงได้มีโครงการ Dream Diaries ที่ให้ศิลปิน 4 คนเดินทางไปยัง 5 ประเทศเพื่อพบปะเหล่าเด็กๆ ที่เป็นผู้อพยพ และสร้างสรรค์ภาพขึ้นมาตามจินตนาการของเด็กๆ เหล่านั้น ด้วยการตัดต่อภาพโดย Photoshop นั่นเอง “บางคนก็ใฝ่ฝันว่าอยากมีพลังวิเศษเพื่อที่จะหยุดสงครามซีเรียได้ คนอื่นๆ ก็อยากเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบ้าง นักข่าวบ้าง บางคนก็อยากจัดงานวันเกิดในธีม Harry Potter และบางคนก็ใฝ่ฝันอย่างเรียบง่ายอย่างเช่นไล่จับผีเสื้อในทุกๆ วัน” ทีมศิลปินกล่าว “พวกเราทำให้ความฝันของเด็กๆ ดูมีชีวิตชีวา ถึงได้ตั้งชื่อโครงการนี้ว่า ‘Dream Diaries’ ยังไงล่ะ เด็กๆ อพยพจากบ้านเกิดมาโดยทิ้งทุกๆ อย่างไว้เบื้องหลัง แต่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้ทิ้งก็คือความฝันยังไงล่ะ ต่อให้พวกเขาเจอเรื่องโศกเศร้ามาขนาดไหน พวกเขาไม่เคยสูญเสียความสามารถและพลังที่จะฝัน”   และนี่ก็คือภาพความฝันของเด็กๆ ที่เหล่าศิลปินทำให้เกิดขึ้นจริงๆ . . . . .…

  • จากภาพ “เด็กชายผู้ฝ่าหิมะไปเรียน” ล่าสุดมีคนใจดีมอบเงินเพื่อให้ไปทัศนศึกษาในปักกิ่งด้วย

    จากภาพ “เด็กชายผู้ฝ่าหิมะไปเรียน” ล่าสุดมีคนใจดีมอบเงินเพื่อให้ไปทัศนศึกษาในปักกิ่งด้วย

    เมื่อราวๆ เดือนธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา ได้มีภาพๆ หนึ่งถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง เป็นภาพของเด็กชายชาวจีนที่ชื่อ Wang Fuman วัย 8 ขวบ ที่อาศัยอยู่ในมณฑล Zhaotong เขต Yunnan เขาต้องฝ่าอากาศอันหนาวเย็น -8 องศาเพื่อไปโรงเรียนประถม Zhuanshanbao Primary School ที่อยู่บนเขาที่ห่างจากบ้านไปราวๆ 4.5 กิโลเมตร     แต่เนื่องจากอากาศอันหนาวเย็นสุดขั้ว ทำให้เส้นผมของเขาและขนตาของเขามีแต่เกล็ดหิมะเกาะเต็มไปหมด คุณครูจึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพของเขาไปลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กและกลายเป็นภาพไวรัลที่มีผู้คนแชร์กันออกไปอย่างรวดเร็วจนได้รับฉายา “Ice Boy” จากความโด่งดังของเขาทำให้เด็กชาย Wang ถูกสื่อหลายแห่งเชิญไปสัมภาษณ์ เด็กชาย Wang บอกว่าเมื่อโตขึ้น เขาอยากจะเป็นตำรวจเพื่อจะได้จับคนร้าย และปณิธานในปีใหม่นี้ เขาตั้งใจจะเรียนหนังสือให้มากขึ้นและหาเงินมาเพื่อรักษาคุณยายที่ป่วยของเขา     เด็กชาย Wang บอกว่าเขาเองไม่เคยทิ้งบ้านแล้วเดินทางไปไหนเลย เขาอาศัยอยู่ในบ้านโทรมๆ กับน้องสาวและคุณยาย ส่วนแม่ได้ทิ้งครอบครัวไปครอบครัวใหม่ และพ่อต้องไปทำงานในต่างถิ่น จะได้กลับบ้านเพียงปีละครั้งหรือสองเท่านั้น แต่เขาก็หวังว่าสักวันจะได้ไปปักกิ่ง เพราะจะได้รู้ว่าเด็กๆ ที่นั่นเขาเรียนหนังสือกันยังไง และเพราะความโด่งดังของภาพนั้น มันได้ช่วยเปลี่ยนให้ชีวิตของเขาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา พ่อของเด็กชายได้กลับมาที่บ้านอีกครั้งและถูกเสนอให้ทำงานใกล้ๆ กับบ้านของตัวเอง แถมทั้งครอบครัวยังได้รับเงินบริจาคกว่า…

  • หนุ่มโดนปฏิเสธขึ้นเครื่องบิน เพราะใส่เสื้อ 10 ตัว กางเกง 8 ตัวซ้อนกัน จะได้ไม่หนักกระเป๋า!?

    หนุ่มโดนปฏิเสธขึ้นเครื่องบิน เพราะใส่เสื้อ 10 ตัว กางเกง 8 ตัวซ้อนกัน จะได้ไม่หนักกระเป๋า!?

    ยุคสมัยนี้ ไม่ว่าอะไรก็เริ่มแพงขึ้นไปหมด ค่าใช้จ่ายต่างๆ บางทีก็ดูเกินความจำเป็น ชายหนุ่มคนนี้ก็เลยได้ไอเดียประหลาดๆ ขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่เกินจำเป็น ชายหนุ่มที่พูดถึงก็คือ Ryan Carney หรือรู้จักอีกชื่อหนึ่งว่า Ryan Hawaii ได้บอกว่า เขาต้องการที่จะลดค่าสัมภาระส่วนเกิน ก็เลยนำกางเกงมาสวมทับกันถึง 8 ตัว และเสื้ออีก 10 ตัว     Ryan บอกว่าเขาถูกห้ามไม่ให้ขึ้นเครื่องกลับบ้านด้วยสายการบิน British Airways หลังจากที่เขานำชุดที่ไม่สามารถใส่ในกระเป๋าได้มาสวมใส่ ต่อมานาย Ryan ได้โพสต์วิดีโอลงในทวิตเตอร์ของเขา พูดถึงพฤติกรรมต่อต้านคนผิวสีของทางสายการบิน และทวีตว่า “@British_Airways สวัสดี ผมถูกจับตัวอยู่ที่สนามบิน Keflavik ประเทศไอซ์แลนด์ เพียงเพราะว่าผมไม่มีกระเป๋า ถึงแม้ว่าจะเอาเสื้อผ้ามาใส่ทั้งหมด พวกเขาก็ไม่ให้ผมผ่าน เหยียดสีผิว หรือไง….”     ทางสายการบินกล่าวว่า ไม่ได้มีแต่เหตุผลที่เขาเอาเสื้อผ้าในกระเป๋ามาใส่จนเต็มตัวไปหมด และจะเบียดบังพื้นที่ผู้โดยสารคนอื่นเท่านั้น เขายังแสดงกิริยาที่ไม่สุภาพออกมา และเมื่อขอให้จ่ายเงินค่ากระเป๋าเพิ่ม เขาก็ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ ทางสายการบินจึงได้เรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาช่วยจัดการ         หลังจากที่ให้ปากคำกับตำรวจ เขาก็กลับไปที่สนามบินเพื่อจองตั๋วเครื่องบินของสายการบิน EasyJet ในวันถัดไป…

  • โรงหนังญี่ปุ่นเพิ่มที่นั่ง (หรือนอน) พร้อมโต๊ะโคทัตสึให้ซุกอุ่นๆ งานนี้มีหลับก็ไม่แปลกแล้วล่ะ

    โรงหนังญี่ปุ่นเพิ่มที่นั่ง (หรือนอน) พร้อมโต๊ะโคทัตสึให้ซุกอุ่นๆ งานนี้มีหลับก็ไม่แปลกแล้วล่ะ

    ประเทศญี่ปุ่นมักจะมีเทคโนโลยีและการบริการที่แปลกใหม่มาให้พวกเราได้ตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอดเวลา เช่นการบริการในโรงหนัง ซึ่งมีความพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านขายสินค้าจากในหนัง ที่นั่งโซฟาพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เบาๆ ในห้องล็อบบี้ หรือที่นั่งในโรงที่มีความสะดวกสบายกว่าที่นั่งทั่วไป ซึ่งโรงหนังหนึ่งชื่อ Let’s Cinepark ในเมืองโทะโกะโระซะวะ จังหวัดไซตะมะ ก็ได้เปิดตัวที่นั่งพรีเมียมแบบใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของประเทศญี่ปุ่นที่ไม่ซ้ำใคร แถมยังให้ความอบอุ่นอีกด้วย     ที่นั่งเหล่านี้ไม่ใช่ที่นั่งที่อุดอู้ที่อยู่ห่างไกลจากผู้ชมคนอื่น แต่ว่าเป็นที่นั่งทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และมีโต๊ะโคทัตสึอยู่ตรงกลาง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่โปรดปรานของชาวญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยภายในโต๊ะนั้นจะประกอบไปด้วยเครื่องทำความร้อนติดตั้งอยู่ใต้โต๊ะ และมีผ้านวมหนาๆ เอาไว้คลุมขาเวลานั่ง และการนั่งโต๊ะนี้จะต้องนั่งหลายคนกับเพื่อนอย่างใกล้ชิด     อย่างไรก็ตาม ที่นั่งที่มีโต๊ะโคทัตสึก็ไม่ได้มีอยู่ทุกโรง ในขณะนี้มีแค่ 2 โรงเท่านั้นที่มีที่นั่งพรีเมียมนี้ และโรงหนัง Let’s Cinepark ก็ยังเป็นโรงหนังที่ถูกใจคนดูมากที่สุด และยังมีหนังระดับอีเวนท์ต่างๆ ฉายในโรงเหล่านั้นอีกด้วย   ถ้าหากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ก็ลองไปสัมผัสบรรยากาศโรงหนังอันหรูหรานี้ได้นะ ที่มา Rocketnews24

  • “K-Pop ทำให้วัยรุ่นเสพติดสุขนิยม” คำสัมภาษณ์นักการเมืองมาเลย์ ทำให้แฟนๆ ไม่พอใจอย่างมาก

    “K-Pop ทำให้วัยรุ่นเสพติดสุขนิยม” คำสัมภาษณ์นักการเมืองมาเลย์ ทำให้แฟนๆ ไม่พอใจอย่างมาก

    ทุกวันนี้วัยรุ่นแทบทุกซอกทุกมุมของโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชีย ต่างชื่นชอบและคลั่งไคล้ศิลปิน K-Pop กันอย่างมาก นอกจากเพลงที่ฟังและร้องตามได้แล้ว หลายๆ คนก็ฝึกเต้นตามศิลปินที่ตนชื่นชอบ ไปเรียนภาษา และเรียนรู้วัฒนธรรมของเกาหลี เห็นได้จากในบ้านเราที่ตอนนี้มีร้านอาหารเกาหลีเปิดอยู่มากมายทั่วทั้งประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มอนุรักษ์นิยมมองว่าศิลปินเกาหลีกำลังทำให้คนหนุ่มสาวมอมเมากับภาพลักษณ์ที่พวกเขาสร้างขึ้น ล่าสุดกลุ่มอนุรักษ์นิยม Gamis Youth Group ในประเทศมาเลเซียได้ออกมาบอกว่า K-Pop เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้จิตใจของวัยรุ่นเกิดความสับสน     Faizuddin Mohd Zai นักการเมืองและผู้นำกลุ่มอนุรักษ์นิยม อ้างว่า K-Pop ส่งเสริมให้วัยรุ่นเสพติดสุขนิยมและเป็นตัวขัดขวางพัฒนาการด้านความรู้ความเข้าใจของพวกเขา เขายังบอกอีกว่าแฟนคลับของ K-Pop อาจต้องจบด้วยการทำอาชีพที่มีรายได้น้อย เมื่อเทียบกับเยาวชนที่ไม่ทำตามวัฒนธรรมเกาหลี เขาอ้างอีกว่าอิสรภาพและการแสดงออกอย่างเต็มที่ในวัฒนธรรม K-Pop ทำให้วินัยของวัยรุ่นมุสลิมอ่อนแอลง เพราะพวกเขาส่งเสริมเสรีภาพมากเกินไป     “เยาวชนของเราจะเติบโตมาอย่างมีคุณภาพได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่สุขนิยม อย่างเช่น K-Pop ที่มีอยู่ในทุกที่  มันทำให้พวกเขาไม่แยแสต่อสังคมและมีความเป็นปัจเจกสูง พวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน และที่แย่ที่สุดคือพ่อแม่ชาวมุสลิมในมาเลย์เองก็สนับสนุนลูกหลานในเรื่องวัฒนธรรมแบบสุขนิยมด้วย” -Faizuddin Mohd Zai ผู้นำกลุ่ม Gamis Youth Group- สำหรับแหล่งข้อมูลที่ Faizuddin กล่าวอ้างมานี้ เขาไม่ได้เปิดเผยแหล่งที่มา แต่เขามั่นใจด้วยข้อสรุปของตัวเองว่าการส่งเสริมเสรีและการหล่อหลอมวัฒนธรรม K-Pop ทำให้เยาวชนมุสลิมกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่สมบูรณ์…

  • ภาพหายากของของเหล่าเลสเบี้ยนในยุคศตวรรษที่ 19-20 กับความรักที่ต้องปกปิด…

    ภาพหายากของของเหล่าเลสเบี้ยนในยุคศตวรรษที่ 19-20 กับความรักที่ต้องปกปิด…

    ในอดีตการรักร่วมเพศถือเป็นเรื่องต้องห้าม ไม่เว้นแม้กระทั่งสังคมตะวันตก นั่นทำให้คนรักร่วมเพศส่วนใหญ่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ และไม่กล้าแสดงความรักต่อคนที่รักเท่ากับปัจจุบันนี้ อย่างไรก็ตาม ภาพสีขาวดำเหล่านี้เผยให้เห็นความน่าทึ่งของผู้หญิงที่กล้าแสดงออกถึงความรักในรูปแบบของตัวเอง ทั้งจูบ กอด และนอนด้วยกันแบบแนบชิด ในช่วงปี 1800 และช่วงต้นปี 1900 บางภาพอาจไม่มีข้อมูลประกอบเลย แต่มันดูเหมือนว่าพวกเขาเป็นคู่รักเลสเบี้ยน ในขณะที่บางภาพมีข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของพวกเขา อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่ภาพเท่านั้นที่ยังหลงเหลืออยู่ เพราะภาพส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะถูกทำลายโดยครอบครัวพวกเขาแล้ว   ผู้หญิง 2 คนกำลังกอดและจูบกัน ถูกถ่ายในช่วงปี 1940 พวกเขากล้าที่จะถ่ายรูปนี้ด้วยกัน ทั้งๆ ที่เวลานั้นการรักร่วมเพศเป็นเรื่องต้องห้าม   ภาพหญิงสาวในชุดว่ายน้ำยืนกอดกัน ถูกถ่ายในช่วงปี 1910 – ก่อนที่การรักร่วมเพศจะได้รับการยอมรับในสหราชอาณาจักร   ผู้หญิง 2 คนกำลังแสดงความรักต่อกัน ถูกถ่ายเมื่อประมาณปี 1890 ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าผู้หญิงในภาพเป็นคู่รักเลสเบี้ยนหรือแค่เพื่อนกัน   นักแสดงสาวชาวอเมริกัน Charlotte Cushman (ซ้าย) และนักเขียนชาวอังกฤษ Matilda Hays (ขวา) ถ่ายรูปนี้ด้วยกันในปี 1858 ทั้งคู่คบกันนานถึง 10 ปี โดยที่ Cushman มีชื่อเสียงโด่งดังมากในประเทศบ้านเกิดของเธอ   ภาพซ้าย…

  • กลุ่มนักเลงจอมกร่าง ได้บทเรียนแสนเจ็บแสบจากคนที่เขาจะรังแก เพราะอีกฝ่ายเรียนมวยมา

    กลุ่มนักเลงจอมกร่าง ได้บทเรียนแสนเจ็บแสบจากคนที่เขาจะรังแก เพราะอีกฝ่ายเรียนมวยมา

    นักเลงบางคนเนี่ยชอบอวดเก่งกับคนที่อ่อนแอกว่า บางคนอาศัยความที่ตัวใหญ่กว่า หรือมีพวกเยอะกว่า เลยทำตัวกร่าง ไล่ข่มคนอื่น และท้าต่อยกับเค้าไปทั่ว ใครเจอคนประเภทนี้เลี่ยงได้เลี่ยงไปเถอะ เพราะเดี๋ยวเขาก็ได้รับบทเรียนเองแหละ…อย่างเช่นนักเลงวัยรุ่นกลุ่มนี้ที่พากันไปขู่เด็กชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่สู้คน เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้เป็นคลิปวิดีโอ โดยมีกลุ่มวัยรุ่นที่คาดว่าน่าจะเป็นนักเรียนมัธยมปลายชาวอเมริกัน กำลังเดินเข้าไปหาเด็กชายเสื้อลายสก๊อตคนหนึ่งที่ถอยหนีจากพวกเขา     ในระหว่างนั้น วัยรุ่นชายที่ใส่เสื้อสีขาวพยายามพูดยั่วโมโหหนุ่มเสื้อลายสก๊อต ทั้งด่าทอ ล้อเลียน ก่อนทำท่าเหมือนจะเข้าไปทำร้ายเขา แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร หนุ่มเสื้อลายสก๊อตก็เตะเข้าที่ขาซ้ายของหนุ่มนักเลง และรัวหมัดใส่หน้าเขาไม่ยั้ง จนเขาล้มลงไปกับพื้น ช็อตนั้นทำเอาวัยรุ่นคนอื่นๆ ต่างพากันอึ้ง… อย่างไรก็ตาม หนุ่มเสื้อลายสก๊อตยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เข้าได้ใช้ท่าเหมือนนักมวยปล้ำล็อกคอหนุ่มนักเลงคนนั้นจนเขาถึงกับสำลักและหน้าแดงอย่างกับลูกโป่งใกล้แตก     เมื่อเห็นท่าทางไม่ดี คนที่เหลือเลยขอให้เขาปล่อยนักเลงคนนั้น พร้อมตะโกนว่า “เขาเลือดออก! เขาเลือดออก!” ชายหนุ่มเลยปล่อยเขาไป ต่อมา มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเด็กหนุ่มเสื้อลายสก๊อตคนนี้เคยเรียนมวย MMA มาก่อนนั่นเอง (ศิลปะการต่อสู้ที่ผสานมวยหลากรูปแบบไว้ด้วยกัน เช่น มวยไทย มวยสากล ยูโด มวยปล้ำ คาราเต้ แซมโบ บราซิลเลี่ยน ยูยิตสู) …มิน่าล่ะ ออกลายซะจนนักเลงกร่างไม่ออกเลย   เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ‘ถ้าใจกาก อย่าปากเก่ง’ นะจ๊ะ ที่มา unilad

  • พ่อใจร้ายนำลูกที่คลอดก่อนกำหนดไปทิ้งในถังขยะ เพราะคิดว่าไม่รอด โชคดีมีคนช่วยไว้ทัน

    พ่อใจร้ายนำลูกที่คลอดก่อนกำหนดไปทิ้งในถังขยะ เพราะคิดว่าไม่รอด โชคดีมีคนช่วยไว้ทัน

    การมีลูกในช่วงวัยที่ยังไม่พร้อม สภาพเศรษกิจของครอบครัวไม่เอื้อ หรือไม่ได้ตั้งใจมีตั้งแต่แรก สุดท้ายแล้วปัญหามักจะไปตกอยู่กับทารกน้อยที่ไม่รู้สีรู้สาอะไรด้วย เหมือนกับเรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้ เมื่อคุณพ่อคนหนึ่งจากเมืองซวนวี ประเทศจีน นำลูกไปทิ้งไว้ในถังขยะทั้งที่เด็กน้อยเพิ่งเกิดได้ไม่นาน     ในรายงานบอกว่าภรรยาของชายคนดังกล่าวได้คลอดก่อนกำหนด (8 เดือน) ภายในบ้านของตัวเอง แต่แทนที่ผู้เป็นพ่อจะดูแลลูก เขากลับวางลูกไว้บนเตียงแล้วไปดูแลภรรยา คือปกติการคลอดก่อนกำหนดก็อันตรายมากพออยู่แล้ว แต่นี่ยังเป็นการคลอดในบ้านที่ไม่มีหมอดูแลเลย ยิ่งจะเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก     ตามรายงานของตำรวจบอกว่าหลังจากที่วางลูกไว้บนเตียง เขาไม่ได้กลับมาดูลูกเลย กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ผู้เป็นพ่อได้กลับมาดูลูก แต่ปรากฏว่าตัวลูกกลายเป็นสีม่วงแล้ว พวกเขาเลยคิดว่าทารกคงไม่รอดแล้วแน่ๆ แทนที่พ่อแม่จะรีบไปโรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือจากแพทย์ แต่ผู้เป็นพ่อกลับห่อเด็กไว้ในถุงกระดาษ ก่อนจะนำไปทิ้งในถังขยะข้างนอก ภายใต้อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส     อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งผ่านไปเห็นเด็กน้อยพอดี จึงช่วยเหลือเธอเอาไว้ทัน และทำให้ร่างกายเธออุ่นขึ้น หลังจากการช่วยเหลือของหญิงชรา ทารกที่เพิ่งเกิดไม่กี่ชั่วโมงก็ถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาล…เมื่อตรวจร่างกายเสร็จ พบว่าทารกมีสุขภาพที่แข็งแรงดี ซึ่งตรงข้ามกับข้อสันนิษฐานของพ่อของเธอก่อนหน้านี้     คุณหมอบอกว่าจริงๆ แล้วการที่ทารกมีร่างกายเป็นสีม่วง เกิดจากการอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็นเป็นเวลานาน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พ่อแม่ของทารกถูกจับกุม ส่วนเด็กหญิงถูกนำตัวไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ต่อจากนี้ไป หวังว่าทางสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะหาบ้านใหม่ที่อบอุ่นให้กับเธอได้ เพื่อให้เธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติและลบล้างความเจ็บปวดในวัยแรกเกิดได้บ้าง     ที่มา unilad

  • 22 ภาพที่ถ่ายได้ในจังหวะสุดเป๊ะ ก่อนความวายวอดจะมาเยือน หือออ เจ็บปวดน่าดู

    22 ภาพที่ถ่ายได้ในจังหวะสุดเป๊ะ ก่อนความวายวอดจะมาเยือน หือออ เจ็บปวดน่าดู

    เราทุกคนเคยผ่านช่วงเวลาแห่งหายนะกันมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการหกล้มในวัยเด็ก ขับรถล้ม หรือประสบการณ์อื่นๆ ที่สร้างความเจ็บปวดให้จนลืมไม่ได้ลง เหมือนกับภาพเหตุการณ์เหล่านี้ที่ถูกถ่ายในจังหวะที่พอดีเป๊ะ มันคือช่วงก่อนที่ความซวยจะบรรลุ บางภาพอาจดูตลกนะ แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นขำไม่ออกแน่นอน   1. ก่อนที่เขาจะเอาหน้าไปจูบถนน   2. เห้ย!! เดินบนน้ำได้ด้วย เจ๋งอะ   3. เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน ว่าแต่เจ้าเหมียวจะทำยังไงกับจุดแดงๆ นี่นะ?   4. คลื่นสูงแค่ไหนก็ไม่หวั่น…   5. เป็นไง สดชื่นเลยละสิ   6. ล้อๆๆๆ กลับมาก่อน   7. จับผิดแล้ว ลูกบาสอยู่บนนุ่นนนน   8. ภาพนาทีระทึก ก่อนจะลงเอยด้วยขนอกเกรียม   9. จับหลานชายไว้ให้ได้นะยาย   10. อ้าว…ชน!?   11. ประสบการณ์ใหม่ของการบิน   12. เมื่อพ่อรับปากว่าจะดูแลลูกเอง…   13.…

  • ภาพการ์ตูนวัยเด็กแสนหดหู่ของ Oprah Winfrey จากเด็กโดนข่มขืน สู่ความสำเร็จในวันนี้

    ภาพการ์ตูนวัยเด็กแสนหดหู่ของ Oprah Winfrey จากเด็กโดนข่มขืน สู่ความสำเร็จในวันนี้

    ในวัยเด็กเราอาจจะมีประสบการณ์ที่น่าจดจำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวันที่ได้ไปเที่ยวสวนสนุกครั้งแรก ตอนได้ของขวัญชิ้นโปรด หรือการเติบโตมาในสังคมที่อบอุ่น แต่สำหรับเด็กผู้หญิงคนนี้ เธอต้องเติบโตมากับความทรงจำอันเลวร้าย มันไม่ใช่เรื่องน่าจดจำแต่เธอกลับลืมมันไม่ลงและยังคงฝังใจอยู่จนทุกวันนี้ นี่คือผลงานภาพวาดที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งที่ต้องตกเป็นทาสเซ็กส์ตั้งแต่ตอนอายุ 9 ขวบเท่านั้น และเธอไม่สามารถเล่าความเจ็บปวดนี้ให้ใครฟังได้…   เด็กหญิงถูกข่มขืนตอนอายุ 9 ขวบ   จากนั้นเขาได้พาเธอร้านไอติม ทั้งที่เลือดไหลเต็มขาของเธอ   ตอนอายุ 10 เธอต้องทนรองรับอารมณ์ของญาติสนิท 2 คน   ตอนอายุ 14 ปี เธอตั้งท้อง แต่ได้เก็บเป็นความลับจนกระทั่งวันคลอด   เธอคลอดก่อนกำหนด และลูกน้อยได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากภาวะแทรกซ้อน   แม่ยกน้องสาวของเธอให้คนอื่นรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ส่วนพี่ชายของเธอเสียชีวิตเพราะโรคเอดส์   ตั้งแต่นั้นมา เธอพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากสถานการณ์เหล่านั้น   ตอนอายุ 23 ปี เรื่องราวในอดีตกลับเข้ามาในความคิดเธออีกครั้ง และเธอก็จมอยู่กับมัน   นั่นส่งผลให้เธอถูกไล่ออกจากงานแรกของเธอ   แต่การสูญเสียในครั้งนั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเริ่มทำอาชีพในวงการโทรทัศน์   ในปี 1984 เธอได้เป็นเจ้าของรายการ…

  • คุณแม่ถูกแบนไม่ให้เลี้ยงสัตว์ หลังจากขังหมาไว้หลังบ้านจนผอมเพราะมันส่งเสียงดัง

    คุณแม่ถูกแบนไม่ให้เลี้ยงสัตว์ หลังจากขังหมาไว้หลังบ้านจนผอมเพราะมันส่งเสียงดัง

    การที่เราจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสักตัวหนึ่ง สิ่งแรกที่ต้องมีก็คือใจที่รัก เพราะว่าเราต้องดูแลมันราวกับว่ามันคือสมาชิกหนึ่งในครอบครัว แต่ก็ได้มีเหตุการณ์หนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าบางทีคนที่รับเลี้ยงสุนัขอาจจะไม่ได้รักมันจริงๆ เหมือนอย่างคุณแม่ท่านนี้ที่ถูกแบนจากการเลี้ยงสัตว์เป็นเวลากว่า 10 ปี เพราะพบว่าเธอปล่อยให้ลูกสุนัข 4 ตัวอดอยากในกองขยะหลังบ้าน     Carly Bennett ว่าที่คุณแม่ท้องแก่จาก Staffordshire ประเทศอังกฤษ ได้เลี้ยงสุนัข 4 ตัวไว้สวนหลังบ้าน ท่ามกลางสายฝนและปล่อยให้หิวโซ โดยเธอได้ให้เหตุผลว่าพวกมันเสียงดังจนทำให้เธอตื่น ทางองค์กรพิทักษ์สัตว์จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ พบว่าสุนัขทั้ง 4 นั้นกำลังพยายามคุ้ยหาอาหารในซากกองขยะ อีกทั้งยังมีสภาพสกปรกและกลิ่นฉี่ที่รุนแรงมาก นอกจากนี้ยังค้นพบอีกว่าคุณแม่ลูกห้า ซึ่งกำลังตั้งท้องคนที่หกได้ปล่อยให้สุนัขตัวโตอดอยากด้วยเช่นกัน     เมื่อปีที่แล้วเคยเข้าไปตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่ง โดยอัยการ Roger Price กล่าวว่า “ตอนนั้นยังไม่มีใครอยู่ ดังนั้นผู้ตรวจสอบจึงต้องลงพื้นที่ มีเพื่อนบ้านแถวนั้นบอกว่าเธอนำลูกสุนัขไว้ในกล่องหลังบ้านตลอดทั้งคืน ท่ามกลางกองขยะ” ผู้ตรวจสอบก็เลยกลับไปที่บ้านนั้นอีกครั้ง แล้วก็ขอเข้าไปในบ้าน แต่เธอบอกว่าสามีของเธอเอาลูกหมาไปแล้ว แต่เธอก็ลองเข้าไปดูที่หลังบ้าน ตรวจสอบทุกซอกทุกมุมแล้วพบว่าที่นี่มีกลิ่นที่แรง อีกทั้งยังพบสุนัขโตเต็มวัย 3 ตัว ในสภาพที่โอเค เจ้าหน้าที่เล่าว่าที่หลังบ้านเต็มไปด้วยขยะ ทั้งชิ้นส่วนรถ และของต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุนัขด้วย     นอกจากนี้ทางศาลยังเล่าว่าผู้ตรวจสอบได้ยินเสียงข่วนที่ประตู ก็เลยลองเปิดดู พบว่ามีลูกหมาอีก…

  • เมื่อหนังสือพิมพ์ที่มีหน้าทรัมป์วางซ้อนกัน เกิดเป็นมีมภาพสุดฮาที่คนเอาไปตัดต่อยำให้เละ!!

    เมื่อหนังสือพิมพ์ที่มีหน้าทรัมป์วางซ้อนกัน เกิดเป็นมีมภาพสุดฮาที่คนเอาไปตัดต่อยำให้เละ!!

    ถ้าพูดถึงผู้นำที่มีความเอาแน่เอานอนไม่ได้ วินาทีนี้ก็คงหนีไม่พ้น โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่แกดำรงตำแหน่งมาก็มีเรื่องมากมายเกิดขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งก็คือการที่ชาวเน็ตเอามีมต่างๆ ของแกมายำใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องฮาๆ ได้ และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีอีกภาพหนึ่งของทรัมป์ที่ถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง เป็นภาพของเขาที่อยู่บนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ คือถ้ามันวางอยู่ฉบับเดียวก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก แต่ถ้ามันวางซ้อนๆ กันละก็ มันก็จะกลายเป็นทรัมป์ที่กำลังอ้าปากกว้าาาาาาาาางมากๆ โดยภาพนี้ตีพิมพ์โดย Scholz & Friends ในปี 2016 บนหนังสือพิมพ์เยอรมันที่ชื่อว่า Der Tagesspiegel ไปดูรูปต้นฉบับกันเลย   โดยโฆษณาชิ้นนี้เคยได้รับรางวัลจากเทศกาล Cannes Lions ด้วยนะเออ ซึ่งเมื่อภาพนี้เผยแพร่ออกไป ก็ได้มีการแชร์และแน่นอนว่าต้องมีการตัดต่อด้วย เราไปดูผลงานของแต่ละคนกันเลยดีกว่าว่าจะเอารูปนี้ไปทำอะไรได้บ้าง   มาที่รูปแรกเลย อ้าปากกว้างๆ แบบนี้ก็คงหนีไม่พ้นภาพวาดสุดคลาสสิกของ Edvarch Munch ที่ชื่อว่า The Scream    ต่อกันด้วยภาพของ Francis Bacon   หรือจะเป็นฆาตกรต่อเนื่อง Ghostface จาก Scream ก็ได้นะ เป๊ะอยู่   ขนาดเป็นช่องโปรดของท่านเองก็ยังอ้าปากกว้าาาาาาง   ลองมาดูแบบอ้าๆ หุบๆ ดูบ้าง   เรียกได้ว่าโดนกันบ่อยจนชินเสียแล้วมั้งสำหรับลุงทรัมป์ เราอาจจะได้เห็นภาพแนวๆ…

  • เด็กหนุ่มยอมสละชีวิตตัวเองกระโดดเข้าไปในบ้านไฟไหม้ เพื่อช่วยคุณพ่อป่วยเป็นอัมพาต

    เด็กหนุ่มยอมสละชีวิตตัวเองกระโดดเข้าไปในบ้านไฟไหม้ เพื่อช่วยคุณพ่อป่วยเป็นอัมพาต

    อุบัติเหตุเพลิงไหม้นั้นถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงและมีผู้คนเสียชีวิตมากมาย ซึ่งครั้งนี้ก็ได้พรากชีวิตของพ่อลูกไปอย่างน่าสลด ในช่วงบ่ายของวันพุธที่ 17 มกราคม 2018 นายอำเภอ Marty Grisham ได้รับรายงานว่ามีเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่บ้านสำเร็จรูปบริเวณถนนเรนนิกในเมืองมารีเอตตา รัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา   .   ตำรวจรายงานว่า ภายในบ้านมีเด็กชายวัย 13 ปีและเด็กหญิงวัย 16 ปีอาศัยอยู่กับคุณพ่อวัย 60 ปีในบ้าน ในขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ในบ้านนั้น เด็กหญิงก็ได้ตื่นขึ้นมาพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ในห้อง เธอได้วิ่งข้ามถนนออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ในขณะที่น้องชายของเธอพยายามที่จะช่วยพยุงคุณพ่อที่เป็นอัมพาตขึ้นรถเข็น แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะเขม่าควันที่มีมากเกินไปได้     กว่านักดับเพลิงจะช่วยกันดับไฟได้ ก็ช้าไปเสียแล้ว Grisham กล่าวว่าพวกเขาพยายามที่จะเข้าไปในบ้านทั้งประตูหน้าและหลัง แต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากไฟนั้นรุนแรงเกินไป หลังจากนั้นก็ได้ทราบว่าคุณพ่อของเด็กมีชื่อว่า James Cummins เป็นอัมพาตจากการประสบอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน และเด็กชายวัย 13 ปีมีชื่อว่า Thomas JayVance Cummins ส่วนลูกสาวนั้นยังระบุตัวตนไม่ได้ และแม่ของเด็กๆ นั้นออกไปซื้อของในขณะที่เกิดเหตุ Grisham กล่าวว่า “พวกเขาแค่กำลังนอนหลับ และลูกชายของเขาก็ได้พยายามช่วยชีวิตพ่อของเขาอย่างสุดความสามารถ ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้า”    …

  • หนุ่มจีนขับรถตู้ บดร่างผู้ต้องสงสัยที่ยิงลูกดอกยาพิษฆ่าหมาของเขาจนเสียชีวิต

    หนุ่มจีนขับรถตู้ บดร่างผู้ต้องสงสัยที่ยิงลูกดอกยาพิษฆ่าหมาของเขาจนเสียชีวิต

    เวลามีใครมาทำร้ายสัตว์เลี้ยงของเรา ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้เป็นธรรมดา แต่สำหรับชายคนนี้มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น เพราะเขาตั้งใจจะแก้แค้นให้ถึงแก่ชีวิต เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน มณฑลเจียงซู เมื่อหนุ่มคนหนึ่งพบว่าสุนัข 6 ตัวของเขาตายเพราะถูกคนยิงลูกดอกยาพิษใส่ ด้วยความแค้นเขาจึงออกตามหาคนที่ฆ่าหมาของเขา โดยภาพเหตุการณ์นี้ถูกบันทึกได้โดยกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นภาพที่เห็นรถตู้พุ่งชนกำแพงอิฐ พร้อมทั้งมีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งในสภาพยับเยินล้มอยู่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นการไล่ล่าของเจ้าของสุนัข และคนยิงลูกดอกซึ่งกำลังหลบหนี     เรื่องราวการล้างแค้นนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าของสุนัขได้ยินเสียงสุนัขของตัวเองร้องออกมา จึงเข้าไปดูแล้วพบว่าสุนัขไม่สามารถขยับตัวได้เลย หลังจากนั้นเขาก็รีบขึ้นรถไป เพื่อไล่ตามชายที่ขับมอเตอร์ไซค์ ก่อนที่จะขับชนและบดร่างเขาเข้ากับกำแพงอิฐ     รายงานจากทางตำรวจกล่าวว่าชายผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตคาที่ ส่วนเจ้าของสุนัขกำลังโดนสืบสวนหาข้อเท็จจริงอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวของเจ้าของสุนัขก็ออกมาบอกว่าเขานั้นไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าคนที่ฆ่าสุนัข แต่ตอนนั้นเท้ามันควบคุมไม่ได้ ส่วนทางคนที่รู้จักกับผู้ตายก็ได้กล่าวว่า “ถึงแม้เราจะผิด แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาตัดสิน ทำร้าย หรือว่าฆ่าเราเลย”   .   จากรายงานเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ได้มีการยึดลูกดอกยาพิษกว่า 200,000 ชิ้น ซึ่งเชื่อว่าเอาไว้ใช้ยิงใส่สุนัขเพื่อฆ่า ซึ่งสุนัขส่วนใหญ่ก็จะถูกนำไปประกอบอาหารนั่นเอง ซึ่งสมาชิก 8 คนของกลุ่มคนที่ขายลูกดอกก็ถูกตัดสินจำคุกเป็นที่เรียบร้อย Wendy Higgins จากศูนย์ Humane Society International ก็เคยออกมาล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่าที่จีนนั้นมีปัญหาการเรื่องการค้าเนื้อหมาและแมวเยอะมากๆ ในทุกๆ ปีมีหมากว่า 20 ล้านตัวและแมวอีก 4…

  • ตำรวจบอกให้พ่ออยู่บ้านหลังลูกชายหายไป แต่พ่อดื้อจ้างฮ.ตามหา แถมเจอก่อนตำรวจด้วย

    ตำรวจบอกให้พ่ออยู่บ้านหลังลูกชายหายไป แต่พ่อดื้อจ้างฮ.ตามหา แถมเจอก่อนตำรวจด้วย

    สัญชาตญาณของพ่อแม่นั้นบางทีก็ช่างแม่นยำจนน่าตกใจราวกับว่าพวกท่านมีพลังจิต เมื่อมีบางอย่างที่ผิดปกติจากนิสัยของลูกๆ บางทีพวกเขาอาจจะรับรู้ได้ทันทีว่าอาจมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นได้ เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 15 มกราคม ปี 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่ Tony Lethbridge คุณพ่อชาวออสเตรเลีย ติดต่อ Samuel ลูกชายวัย 17 ปีของเขาไม่ได้เป็นเวลากว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งผิดปกติจากนิสัยของเขาที่จะบอกกับพ่อแม่ตลอดเวลาจะออกไปไหน ด้วยความเป็นห่วง Samuel ทางครอบครัวจึงได้เข้าแจ้งกับตำรวจ แต่ว่าคำตอบที่ได้รับมานั้นทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก “พวกเขาบอกว่าลูกชายของเราอาจจะหนีออกจากบ้าน อย่างนู้นอย่างนี้ แม้ว่าเราพึ่งพูดไปว่านี่ไม่ใช่นิสัยของเขา” Tony กล่าว     หลังจากที่ตำรวจได้รับรายงาน พวกเขาบอกให้ Tony และครอบครัวกลับไปรอที่บ้าน แต่ว่าการรอคอยเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทนทำได้ เพราะเขาคิดว่าลูกชายอาจประสบอุบัติเหตุที่ไหนซักแห่ง สิ่งที่เขารับรู้ครั้งสุดท้ายก่อนลูกชายจะออกจากบ้านไปคือ ลูกชายของเขาส่งข้อความหาแฟนสาวเมื่อวันอาทิตย์ตอนเช้าว่าจะไปเจอกันที่บ้านของครอบครัว Blacksmiths ในเวลาประมาณเที่ยง แต่ทว่าลูกชายของเขานั้นไปไม่ถึง Tony สงสัยว่าเขาอาจจะประสบอุบัติเหตุบนถนนเส้นนั้น ซึ่งเคยมีอุบัติเหตุรถชน ซึ่งคนขับเสียชีวิตก่อนที่ตำรวจจะมาพบเป็นเวลาหลายวัน     คุณพ่อเลยไม่รอช้า เขานำเงิน $1,000 หรือประมาณ 31,000 บาทเพื่อเช่าเฮลิคอปเตอร์…

  • พบกับเจ้าหมาน้อยเพชรฆาต คร่าชีวิตหนูกว่า 600 ตัว เพื่อช่วยหมู่บ้านจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

    พบกับเจ้าหมาน้อยเพชรฆาต คร่าชีวิตหนูกว่า 600 ตัว เพื่อช่วยหมู่บ้านจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

    การแพร่ระบาดของหนูนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว เพราะว่าพวกมันสามารถแพร่พันธุ์ได้ไวมาก แถมยังนำพาสิ่งสกปรกและโรคภัยต่างๆ มาสู่ผู้คนได้ เหล่าผู้คนในหมู่บ้านจัดสรรในเมืองเดอรัม ประเทศสหราชอาณาจักร ต่างประสบปัญหาการแพร่ระบาดของหนู แต่ก็มีคนในพื้นที่คนหนึ่งที่คอยจัดการกับปัญหาด้วยตัวเอง     Tara สุนัขพันธุ์เทอร์เรียและเจ้าของ Adrian Oliver ได้มีภารกิจที่จะจัดการกับปัญหานี้ที่สร้างความหวาดกลัวต่ออันตรายแก่เด็กๆ ให้หมดสิ้น เจ้า Tera อาจจะดูน่ารักเหมือนกับตุ๊กตาหมี แต่มันก็ได้ล่าหนูมากว่า 600 ชีวิตในปีที่ผ่านมา และมีครั้งหนึ่งที่มันสามารถจัดการกับหนูได้ถึง 42 ตัวภายใน 1 วัน Adrian วัย 33 ปีได้ตำหนิสภาของเมืองเดอรัมว่าพวกเขาควรจะมาแก้ปัญหาในหมู่บ้านจัดสรรนี้ และไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ให้สัตว์เลี้ยงของเขาคอยจัดการกับปัญหาด้วยซ้ำ     คุณพ่อคนหนึ่งในหมู่บ้านกล่าวว่า “ผมกลัวว่าวันหนึ่งพวกหนูจะกระโดดมาทำร้ายลูกสาวของผมในขณะที่เธอออกไปเล่นข้างนอกบ้าน พวกมันมีอยู่ทุกที ไม่ว่าจะในถังขยะ ในโรงเก็บของ หรือแม้กระทั่งใต้บ้านที่คนอาศัยอยู่” Adrian กล่าวว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะ Tera พวกมันคงแพร่พันธุ์ไปทั่วทั้งเมืองแล้ว แถมยังนำพาโรคระบาดที่ทำให้คนเจ็บป่วยอีกด้วย ปัญหานี้จะหมดสิ้นไปได้ถ้าหากทางสภาได้สละเวลาลงมาช่วยบ้าง” ทั้งคู่นั้นทำงานกันเป็นทีม Adrian ใช้เครื่องพ่นควันเพื่อไล่หนูออกมาจากที่ซ่อนของมัน และเจ้า Tera ก็รอตะปบพวกมัน     Adrian…

  • พบกับอุปกรณ์เสริมสมาร์ตโฟน ‘มีดโกนขนจมูกไฟฟ้า’ ใช้ง๊ายง่าย เสียบ แหย่ แค่นั้นจอบอ

    พบกับอุปกรณ์เสริมสมาร์ตโฟน ‘มีดโกนขนจมูกไฟฟ้า’ ใช้ง๊ายง่าย เสียบ แหย่ แค่นั้นจอบอ

    อย่างที่รู้กันดีว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการประดิษฐ์อุปกรณ์แปลกๆ ออกมาวางขายกันเหมือนเป็นเรื่องปกติ และถึงมันจะแปลกแต่เอาจริงๆ มันก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงอย่างไม่น่าเชื่อ!? เช่นเดียวกันกับเจ้าอุปกรณ์เสริมติดกับสมาร์ตโฟนนี้ที่สามารถโกน ‘ขนจมูก’ ของคุณให้เกลี้ยงเกลาได้ โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มือถือของคุณนั่นเอง   เจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวนี้ผลิตขึ้นมาโดยบริษัท Thanko ที่เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์เพื่อใช้งานในชีวิตประจำวันแบบแปลกๆ ขึ้นมามากมาย มีทั้งหูฟังเอลฟ์, อุปกรณ์ซักผ้าขนาดจิ๋ว, หรือแม้แต่เครื่องทำความเย็นให้กับจั๊กกะแร้ก็มี   หูฟังเอลฟ์   เครื่องซักผ้าจิ๋ว   เครื่องทำความเย็นให้จั๊กกะแร้   โดยคุณสามารถเป็นเจ้าของอุปกรณ์เสริมตัดขนจมูกนี้ในราคาแค่ 413 บาท วิธีใช้งานก็ง่ายๆ เสียบมันเข้ากับช่องชาร์ตแบตเตอรี่สมาร์ตโฟนของคุณ แล้วก็ยัดส่วนใบมีดไฟฟ้าเข้าในรูจมูกของคุณได้เลย     “ไม่ต้องชาร์ตแบต ทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่เห็นขนจมูกแพลมออกมาก็จัดการได้ง่ายๆ แค่เสียบมันเข้ากับโทรศัพท์ของคุณ ใช้ได้ทั้งระบบแอนดรอยด์ และไอโอเอส นอกจากนี้ตัวใบมีดยังสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ด้วย ขอบอกเลยว่ามันเหมาะกับคุณสุดๆ!!” คำโฆษณาสินค้าจากหน้าเว็บไซต์     ใช้ง๊ายง่าย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ทำได้ แค่หยิบออกมา เสียบเข้าไปที่โทรศัพท์ แล้วก็ยัดเข้าไปในรูจมูก จอบอเลย   หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจแล้วล่ะก็ลองเข้าไปเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ของ Thanko กันได้เลย   ที่มา :…

  • “Die With Me” แอปฯ แชตรูปแบบใหม่ ที่ทำงานได้เฉพาะตอนโทรศัพท์ใกล้สิ้นใจเท่านั้น

    “Die With Me” แอปฯ แชตรูปแบบใหม่ ที่ทำงานได้เฉพาะตอนโทรศัพท์ใกล้สิ้นใจเท่านั้น

    ในปัจจุบันที่ทุกคนใช้โลกออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย มีคนจำนวนไม่น้อยที่เสพติดโลกออนไลน์และไม่ค่อยสนใจโลกแห่งความเป็นจริงเท่าใดนัก ถ้าหากแบตเตอรี่โทรศัพท์ไม่หมดล่ะก็คงจะไม่ยอมวางมือจากมือถือเลย ด้วยความที่อยากกช่วยแก้ไขปัญหานี้ ชายหนุ่มจึงทำแอปพลิเคชั่นแชตแบบใหม่ขึ้นมาซึ่งสามารถเปิดใช้งานในตอนแบตโทรศัพท์ใกล้จะหมดเท่านั้น จะได้เป็นการสนับสนุนให้คนผลาญแบตจนไม่สามารถท่องโลกออนไลน์ได้ โดยแอปพลิเคชันนี้มีชื่อว่า Die With Me (ตายไปกับฉันเถอะ)     หากต้องการใช้แอปพลิเคชันตัวนี้ ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีแบตเตอรี่โทรศัพท์ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ถ้าหากว่ายังมีแบตเตอรี่เหลืออยู่มากกว่านั้นแอปฯ ก็จะแจ้งเตือนไม่ให้ใช้งาน แต่เมื่อเปิดใช้งานตอนมีแบตเตอรี่ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ คุณก็จะเข้าไปสู่ห้องแชทที่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้าซึ่งแบตโทรศัพท์ใกล้จะหมดเช่นเดียวกับเรา แล้วจะได้ใช้เวลาทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่หรือว่านัดเจอกันก่อนแบตฯ จะหมดนั่นเอง     ผู้สร้างแอปพลิเคชันนี้ขึ้นมาเป็นชายชาวเบลเยียมชื่อ Dries Depoorter เขาสร้างแอปพลิเคชั่นนี้โดยมีจุดประสงค์ให้คนได้ใช้เวลาตอนแบตฯ โทรศัพท์ใกล้จะหมดอย่างมีค่าโดยการทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ และยังอยากให้คนตัดขาดจากโลกออนไลน์ด้วย เขากล่าวว่า “ในตอนแรกนั้นผมอยากให้คนใช้เวลาตอนแบตเตอรี่ใกล้หมดอย่างคุ้มค่าเท่านั้น ส่วนการทำให้มันเป็นห้องแชตเป็นไอเดียที่ตามมาทีหลัง แต่พอตอนนี้ได้เห็นผู้ใช้แอปคุยกันอย่างสนุกสนานแล้วก็ทำให้ผมมีกำลังใจจะพัฒนามันต่อไป”     ในปี 2016 Depoorter และ David Surprenant เพื่อนผู้ร่วมทำแอปฯ อีกท่านนำเสนอแอปพลิเคชันนี้ที่งานเทศกาลภาพยนตร์สารคดีที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ จากนั้นในปีถัดมาพวกเขาจึงเริ่มทดลองเปิดใช้แอปพลิเคชั่นนี้งานเทศกาลเดิม โดยให้ผู้ที่แบตเตอรี่โทรศัพท์ต่ำในงานเป็นผู้ทดลองใช้กลุ่มแรก     หลังจากนั้นทั้งคู่จึงพยายามนำแอปพลิเคชั่น Die With Me…

  • เหมียวแวะมาเล่นกับลิงน้อยที่โรงเรียนทุกวัน เกิดเป็นมิตรภาพระหว่างสัตว์ต่างสายพันธุ์

    เหมียวแวะมาเล่นกับลิงน้อยที่โรงเรียนทุกวัน เกิดเป็นมิตรภาพระหว่างสัตว์ต่างสายพันธุ์

    มิตรภาพเป็นสิ่งที่ไม่มีเส้นแบ่งกั้นเผ่าพันธุ์จริงๆ นะครับ ไม่น่าเชื่อว่าสัตว์ต่างสายพันธุ์จะเป็นเพื่อนกันได้แบบนี้ ที่เราเห็นกันได้บ่อยๆ คงจะเป็นหมากับแมว แมวกับหนู และหมากับลิงที่เคยออกรายการโทรทัศน์มาแล้ว ฮ่าๆๆ วันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูความน่ารักของสัตว์ต่างสายพันธุ์คู่ใหม่ในประเทศเกาหลีกัน สัตว์ที่ว่านี้ก็คือเจ้าลิงน้อยกับเจ้าแมวเหมียวนั่นเอง จะน่ารักขนาดไหนไปดูกันเอาเองนะ   สวัสดีฮะ นี่แมวเหมียว Benzi และลิงน้อย Soondol พวกเราเป็นเพื่อนซี้กันนานแล้ว   นี่คือโรงเรียนอนุบาลที่เป็นบ้านของ Soodol มีเด็กๆ อยู่เต็มไปหมดเลย   เจ้าเหมียว Benzi ไม่ชอบอยู่กับคนเท่าไหร่เลยไม่เข้าไปใกล้ตอนมีคนเยอะ   พอเด็กๆ กลับบ้านกันไปในตอนเย็นแล้ว เจ้าเหมียวก็จะวิ่งมารอหน้าประตูทุกวัน   พอได้ยินเสียงเจ้าแมวมาเคาะประตู เจ้าลิงก็จะวิ่งออกมาหามันทันที   แล้วมันก็จะเล่นซนด้วยกันตลอดเย็น ดูสิฟัดกันเมามันส์มาก   พอเล่นกันบ่อยๆ เราก็เลยซี้กันจนตัดกันไม่ขาดเลยเนอะๆ   หลังจากเล่นกันจนเหนื่อยแล้วก็จะมานอนด้วยกันบนเปลที่เจ้าของทำไว้ให้   พอได้อยู่กับเจ้าจ๋อแล้วแมวเหมียวก็นอนนิ่งสบายใจเฉิบเลย   อ้ะ ถึงเวลาที่เจ้าของมารับเจ้าลิงแล้ว   ถึงจะสนิทกับเจ้าลิงแต่มันก็ไม่เข้าใกล้คนนะ คงจะกลัวคนอยู่นั่นแหละ   เกมที่เจ้าสองตัวนี้เล่นด้วยกันบ่อยๆ ก็คือเกมซ่อนหานั่นเอง รอบนี้ Soodol…

  • เจ้าเหมียวหน้าดำมีความสุขสุดๆ หลังมีทาสโดนตก รับมันไปเลี้ยงแถมเอ็นดูราวกับลูก

    เจ้าเหมียวหน้าดำมีความสุขสุดๆ หลังมีทาสโดนตก รับมันไปเลี้ยงแถมเอ็นดูราวกับลูก

    ถ้าคุณเห็นหนึ่งในทาสแมวคุณก็ย่อมรู้ดีว่า หากเจ้าเหมียวมันเข้ามาพันแข้งพันขา ส่งสายตาอ้อนวอนพร้อมทั้งส่งเสียงร้องอันบริสุทธิ์ออกมานั้นไม่มีทาสแมวคนไหนทนไหวหรอก จึงต้องพักสิ่งที่ทำอยู่ไปให้ความสนใจกับมันแทน เจ้าเหมียวเองก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี พอมันอยากได้บ้านใหม่มันก็เลยเข้าไปหลอกล่อเหยื่อด้วยการไปให้เจอหน้าบ่อยๆ พออ้อนติดกันหลายวันเข้าเจ้าทาสก็จะทนไม่ไหวจนต้องรับมันเข้าไปเลี้ยงไว้เอง หึหึ   แมวเหมียว Tater Tot   แมวพันธุ์วิเชียรมาศตัวนี้เป็นแมวจนจัดอยู่ย่านบรู๊คลิน กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกามันคงจะเบื่อชีวิตแมวจรจัดเต็มทนแล้วแหละ มันก็เลยเดินเตร็ดเตร่โชว์ตัวอยู่ในชุมชนแฟลตบุช เผื่อว่าจะมีทาสแมวคนไหนเผลอใจเอามันไปเลี้ยง ทาสแมวสาว Alley ที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นเจ้าแมวตัวนี้มาคุ้ยขยะและกินอาหารเหลือๆ ทุกวัน เธอจึงติดกับเจ้าแมวและรับมันเข้าไปเลี้ยงโดยปริยาย ทีนี้เจ้าเหมียวก็มีบ้านสบายๆ อยู่แล้ว   แผนการล่อเหยื่อสำเร็จ!   พอเข้ามาอยู่ในบ้านได้ไม่ทันไรมันก็ตบรางวัลให้ Alley อย่างงาม ด้วยการกระโดดขึ้นไปนั่งอยู่บนตักของเธอแล้วใช้อุ้งมือของมันนวดให้เธอด้วย น่ารักอะไรขนาดนี้ สาวน้อยบอกว่า “พอเอาเข้าบ้านปุ๊บเจ้าแมวก็อ้อนใหญ่เลย ไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวเลยสักนิดเดียว” เธอตั้งชื่อเจ้าเหมียวตัวนี้ว่า Tater Tot และเธอก็ชอบลูบหัวให้มันทำหน้าฟินๆ อยู่เป็นประจำด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอลูบหัวมัน มันก็จะอ้อนให้เธอเกาคาง เกาหน้า ลูบซ้าย ลูบขวาไม่ยอมหยุดเสียที เหมือนมันเรียกร้องให้เธอทำสปาฟูลคอร์สให้ก็ไม่ปาน   เฮ้ย อย่าหยุด ลูบอีกสิ กำลังฟินเลย   หลังจากเจ้าเหมียวได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นจนหนำใจแล้ว เธอก็พามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ แล้วเธอก็เลยรู้ว่าเจ้าเหมียวนี้ไม่ได้เป็นลูกแมวอย่างที่คิดในตอนแรก มันมีอายุตั้ง 1…

  • “ผมอยากเป็นพ่อที่ดี” … Ed Sheeran เผยว่าเขาอาจจะเลิกทำเพลง ถ้าเขามีลูกและครอบครัว

    “ผมอยากเป็นพ่อที่ดี” … Ed Sheeran เผยว่าเขาอาจจะเลิกทำเพลง ถ้าเขามีลูกและครอบครัว

    หากพูดถึงผู้ที่เป็นทั้งนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงที่มีความสามารถ และเป็นที่รักใคร่ของใครหลายๆ คน ก็คงจะหนีไม่พ้นหนุ่มผมแดงมากความสามารถวัย 26 ปี Ed Sheeran คนนี้แน่นอน     กับผลงานเพลงที่ติดหูผู้ฟังและโด่งดังไปยังนานาประเทศ เช่น Thinking Out Loud, Shape of You, และ Perfect เป็นต้น และด้วยคุณภาพคับแก้วของ Ed Sheeran ผู้นี้ จึงทำให้ผู้คนชื่นชอบและกลายเป็นแฟนคลับของเขาอย่างท่วมท้น ก่อนหน้านี้ไม่นานก็กลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้เหล่าแฟนคลับ โดยเฉพาะสาวๆ ต้องอกหักกันไปหลายต่อหลายคน เพราะว่าหนุ่ม Ed นั้นออกมาประกาศเปิดตัวหวานใจของเขา นั่นก็คือสาว Cherry Seaborn วัย 24 ปี ซึ่งในปี 2016 ทั้งคู่ก็แอบไปหมั้นกันแล้วเป็นที่เรียบร้อย (อ่านข่าวเก่า)     ล่าสุดหนุ่ม Ed ได้ออกมาประกาศว่าเมื่อเขาอายุครบ 30 ปี เขาเองก็อยากที่จะเป็นคุณพ่อ และเมื่อไรที่เขามีลูกน้อยเขาก็จะไม่ทำเพลงต่ออีกแล้ว แปลว่าเหล่าแฟนคลับเองก็จะเหลือเวลาให้คอยติดตามผลงานของเขาอีกเพียง 4 ปีเท่านั้น  …

  • ช่วยตรูขึ้นไปที๊!! เจ้าสลอธร้องเรียกให้มนุษย์ช่วย หลังปีนขึ้นมาจากซอกหินไม่ได้ เอาจริงดิ!?

    ช่วยตรูขึ้นไปที๊!! เจ้าสลอธร้องเรียกให้มนุษย์ช่วย หลังปีนขึ้นมาจากซอกหินไม่ได้ เอาจริงดิ!?

    ใครจะไปคิดล่ะว่าการมาอยู่ที่ชายหาดซึ่งเป็นถิ่นของสัตว์ทะเล ยังจะมีโอกาสให้เราได้พบกับเจ้าสล็อตสิ่งมีชีวิตแสนเชื่องช้าแต่น่ารักที่หายากแบบนี้ แต่ว่าเจ้าสลอธมันติดอยู่ในซอกหินเลยขึ้นมาเองไม่ได้ ร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านมาใหญ่เลย ถ้าใครไม่ยอมช่วยเจ้าสัตว์น่าเอ็นดูตัวนี้ก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ   ช่วยตูด้วย ขาตูติดหิน   เจ้าสลอธตัวพันธุ์สองนิ้วเท้าที่หายากนี้ถูกพบในวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาที่จังหวัด Punta Tigre ประเทศคอสตาริกา ดูเหมือนว่ามันจะถูกพายุพัดตกลงไปในน้ำทะเลเมื่อคืนก่อนหน้านี้ พอน้ำทะเลลดลงแล้วมันก็รอดชีวิตกลับมาได้ แต่ว่าขาของดันเข้าไปติดอยู่ในซอกหินจึงขยับไปไหนไม่ได้เลย นอกจากนี้ยังมีทรายเข้าไปในดวงตาของมันด้วย   คลิปวิดีโอตอนเจอเจ้าสลอธน้อย   โชคดีที่มีแขกของบ้านพัก Morgan’s Lodge ผ่านไปเห็นมันเข้าแล้วกลับไปบอกกับเจ้าของบ้านพัก Dirk Morgan ให้ไปช่วยเหลือมันไว้ได้ทัน เขาเล่าว่า “เรามีบ้านพักอยู่ในแถบที่ไม่ค่อยครึกครื้นนักของประเทศคอสตาริกา เรารู้จากแขกที่พักอยู่ว่ามีลูกสลอธติดอยู่ในหิน ห่างจากบริเวณนั้นประมาณครึ่งไมล์ (ประมาณ 800 เมตร) …”   รีบๆ ช่วยตูออกไปสักทีเถอะ ฮือ   Dirk ยังบอกอีกว่า “ตอนนั้นพระอาทิตย์เพิ่งขึ้นมาได้ชั่วโมงเดียวเองและพายุเมื่อคืนก็สงบลงแล้ว เราก็เลยเดินไปดูยังจุดที่แขกบอกแล้วรีบช่วยเจ้าสลอธเอาไว้ก่อนที่มันจะตาย ระหว่างทางเราก็ไล่หมา 2 ตัวที่จะเข้าไปกัดมันด้วย” เจ้าของบ้านพักเล่าต่อว่า “ตอนที่เจอมันก็ตัวเปียกน้ำทะเลโชกเลย แล้วก็มีทรายเข้าไปติดอยู่ในตาของมันด้วย มันดูอ่อนแรงแล้วก็กลัวมาก แต่ก็ยังร้องขอความช่วยเหลือตอนที่เราเข้าไปใกล้ๆ “…

  • แม่เจ้าสาวขุดรูปเก่าขึ้นมา ก่อนที่จะรู้ว่าลูกเขยนั้น เคยมีอดีตแสนสุขร่วมกับลูกสาวเธอมาก่อนแล้ว…

    แม่เจ้าสาวขุดรูปเก่าขึ้นมา ก่อนที่จะรู้ว่าลูกเขยนั้น เคยมีอดีตแสนสุขร่วมกับลูกสาวเธอมาก่อนแล้ว…

    คู่รักบางคู่ไม่ได้รอให้พรหมลิขิตมาช่วยกำหนดให้พวกเขาเจอกัน ฝ่ายชายอาจจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจจนสามารถมัดใจฝ่ายหญิงเอาไว้ได้ในที่สุด เรียกว่าเป็นความรักจากน้ำพักน้ำแรงล้วนๆ แต่สำหรับ Heidi และ Ed Savitt คงต้องบอกว่าเป็นพรหมลิขิตจริงๆ เพราะนอกจากจะรู้สึกถูกใจกันตั้งแต่แรกพบแล้ว ทั้งคู่ยังเคยพบและมีใจให้กันในวัยเด็กด้วยแม้จะจำไม่ได้เลยก็ตาม บอกได้เต็มปากเลยว่าคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันจริงๆ   Heidi และ Ed Savitt   หนุ่มและสาวคู่นี้พบกันครั้งแรกเมื่อปี 2011 การพบกันของทั้งคู่นั้นช่างเหมือนกับฟ้าลิขิตเลย ในตอนนั้นหนุ่ม Ed เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพักของมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลในประเทศอังกฤษ แต่เขาไม่รู้วิธีใช้เครื่องปั่นผ้าในนั้นจึงจะขอคำปรึกษาจากคนที่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน พอลองค้นหารายชื่อคนที่เคยอยู่ดูก็บังเอิญไปเจอชื่อ Heidi เข้าพอดีเขาจึงขอให้เธอมาช่วยสอนใช้เครื่องปั่นผ้าเสียเลย เมื่อทั้งคู่เจอกันก็ตกหลุมรักกันในทันที เหมือนกับว่าทั้งคู่รู้จักกันมานานแล้วอย่างไรอย่างนั้น จึงเริ่มทำความรู้จักและตัดสินใจคบกันในเวลาไม่นาน   คบกัน 4 ปีแล้วแต่ยังรักไม่เปลี่ยนแปลง   พอคบกันมาได้ 4 ปีทั้งคู่ก็ยังคงรักกันหวานชื่นอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ก็เลยตัดสินใจว่าถึงเวลาที่ควรจะพาคู่ของตัวเองไปแนะนำให้ครอบครัวได้รู้จักสักที ทั้งคู่จึงนัดครอบครัวของแต่ละฝ่ายมาทานอาหารเย็นด้วยกันที่ร้านอาหารในกรุงลอนดอน เมื่อทั้งสองครอบครัวได้เจอหน้ากัน Fiona คุณแม่ของฝ่ายชายและ Kay คุณแม่ของฝ่ายหญิงก็รู้สึกว่าทั้งคู่ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน ทั้งชอบไปล่องเรือ ชอบไปท่องเที่ยว ดูเหมือนทั้งคู่จะเข้าขากันได้ดีทีเดียว   เราพาครอบครัวไปรู้จักกันดีกว่าเนอะ จะได้สานสัมพันธ์กันให้มากขึ้น พวกเธอแลกเปลี่ยนเรื่องราวของครอบครัวตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง จน Kay เล่าเรื่องในอดีตเมื่อครั้งที่…

  • ‘เขาคือปีศาจในร่างมนุษย์’ ความในใจนักยิมนาสติกสหรัฐฯ ผู้ถูกแพทย์ผู้ดูแลล่วงเกิน

    ‘เขาคือปีศาจในร่างมนุษย์’ ความในใจนักยิมนาสติกสหรัฐฯ ผู้ถูกแพทย์ผู้ดูแลล่วงเกิน

    ในช่วงปีที่ผ่านมานั้น หากจะกล่าวถึงคดีความที่เกิดขึ้นและกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก ก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของคดีการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางวาจาและการปฏิบัติลงมือ ต่างก็ถูกเปิดเผยออกมาจากผู้มีชื่อเสียงในหลากหลายวงการ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ จนเกิดเป็นกระแสการต่อต้านและแฉพฤติกรรมฉาวผ่านแฮชแท็ก #metoo ไปทั่วโลกออนไลน์ และในครั้งนี้ #เหมียวเลเซอร์ ก็จะขอพูดถึงประเด็นนี้อีกครั้ง เนื่องจากมีคดีความใหญ่เกิดขึ้นในแวดวงกีฬาของประเทศสหรัฐอเมริกา และเพิ่งจะขึ้นศาลฟ้องร้องกันไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2018   McKayla Maroney นักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐฯ ผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกในปี 2012   จุดเริ่มต้นของเรื่องอื้อฉาวในวงการยิมนาสติกของสหรัฐฯ Lawrence G. Nassar คือแพทย์ผู้ดูแลนักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกา เขาได้รับใบประกอบวิชาชีพแพทย์ในสาขาออสทีโอพาธี (อันเป็นระบบการดูแลสุขภาพ ที่ประสานการนวดเข้ากับการแพทย์แผนปัจจุบัน) และเขาก็ได้ทำการเปิดคลินิก พร้อมทั้งเป็นผู้ดูแลชมรมยิมนาสติก ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตตอีกด้วย   Lawrence G. Nassar แพทย์ผู้ดูแลนักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกา   จนกระทั่งในเดือนกันยายน ปี 2016 หนังสือพิมพ์ Indianapolis Star เปิดเผยว่า อดีตสองนักยิมนาสติกได้กล่าวหานาย Nassar ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเมื่อทางมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตตทราบเรื่อง จึงทำการย้ายงานสอนในชมรมของเขา ก่อนที่จะไล่ออกในเวลาเพียงไม่นาน…   การจุดประกายไฟเล็กๆ…

  • Tomioka Dance Club ชมรมนักเต้นสาวมัธยม ปล่อยคลิปเต้นเท้าไฟใหม่ “This is Me”

    Tomioka Dance Club ชมรมนักเต้นสาวมัธยม ปล่อยคลิปเต้นเท้าไฟใหม่ “This is Me”

    หากใครยังจำกันได้ เมื่อราวๆ เดือนกันยายนปีที่แล้ว เว็บไซต์ของเราได้เคยนำเสนอเรื่องราวของเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Tomioka Dance Club ที่ก่อตั้งมาจากชมรมเต้นในโรงเรียนมัธยม Tomioka เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่ทำให้ Tomioka Dance Club เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกก็เพราะว่าพวกเธอได้เข้าประกวดการแข่งขันที่ชื่อว่า Nippon High School Dance Club Championship (กิจกรรมประกวดเต้นสำหรับเด็กมัธยม) พร้อมกับแต่งตัวย้อนยุคแบบสาวออฟฟิศสมัยยุค 80s แถมยังมีท่าเต้นแปลกๆ จนผู้ชมและคณะกรรมการต่างก็ฮาไปตามๆ กัน     ใครนึกไม่ออกเรามีคลิปฉบับเต็มๆ ให้ดูด้วยนะ   และล่าสุดทาง Tomioka Dance Club ก็ได้ปล่อยคลิปใหม่ออกมา คราวนี้เป็นเพลง This is Me ที่ใช้สำหรับประกอบภาพยนตร์ The Greatest Showman (ที่เข้าฉายในบ้านเราไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา)     ดูไกลๆ อาจจะนึกว่า CG แต่จริงๆ แล้วนี่คือเหล่าบรรดานักเต้นทั้งจริงๆ กว่า…

  • ฮีโร่หญิงกระโดดคว้าตัวผู้ชายที่พุ่งเข้าหารถไฟฟ้าความเร็วสูง จนรอดพ้นจากการฆ่าตัวตาย

    ฮีโร่หญิงกระโดดคว้าตัวผู้ชายที่พุ่งเข้าหารถไฟฟ้าความเร็วสูง จนรอดพ้นจากการฆ่าตัวตาย

    เมื่อออกไปอยู่ในที่สาธารณะ แทนที่จะก้มหน้าที่เล่นโทรศัพท์ เราควรสังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัวอยู่เสมอ เพราะมันจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราปลอดภัยและยังสามารถช่วยเหลือคนรอบข้างได้ด้วย อย่างกรณีของหญิงสาวผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นฮีโร่ หลังจากที่เธอใช้ไหวพริบและความว่องไวจนสามารถช่วยชีวิตคนจากการฆ่าตัวตายได้     เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @invisibleman_17 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2018 ที่บริเวณชานชาลารถไฟ ซึ่งถูกบันทึกโดยกล้องวงจรปิดบริเวณนั้น ในช่วงแรกของคลิปจะเห็นชายคนหนึ่งกำลังคุยโทรศัพท์บนชานชาลารถไฟด้วยอารมณ์โมโห ก่อนจะมีมีคู่รักเข็นรถเด็กเดินผ่านมา ในคลิปอาจจะเห็นภาพไม่ชัด แต่ด้วยท่าทางของเขา เห็นได้ชัดว่าชายที่คุยโทรศัพท์คนนั้นกำลังอยู่ในสภาวะที่ตึงเครียด   If you take the time to care, you might save a life ? pic.twitter.com/2eZWZ5MgDY — The Invisible Man (@invisibleman_17) 17 มกราคม 2561   สักพักชายคนนั้นก็ขว้างโทรศัพท์ลงกับพื้น ก่อนจะนั่งลงกุมหัวตัวเองเหมือนคนที่กำลังเครียดอย่างหนัก นั่นเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงที่เดินผ่านมาก่อนหน้านี้เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ จากท่าทางของผู้หญิงคนนั้น ดูเหมือนเธอกำลังลังเลว่าควรจะเข้าไปหาชายคนนั้นดีหรือไม่ แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาเขา เพราะไม่อยากเมินเฉยต่อคนที่กำลังอยู่ในความทุกข์  …

  • ผู้เล่นในโลกเกมเสมือน ต่างทำได้เพียงแค่ยืนมองดูผู้เล่นที่เป็นลมชัก นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น…

    ผู้เล่นในโลกเกมเสมือน ต่างทำได้เพียงแค่ยืนมองดูผู้เล่นที่เป็นลมชัก นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น…

    ปัจจุบันนี้สื่อบันเทิงในด้านเกมนั้น มีการพัฒนาไปไกลมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Virtual Reality) ที่หลากหลายบริษัทพัฒนาเกมต่างให้ความสนใจ และลงทุนพัฒนาออกมาเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นกระแสคลื่นลูกใหม่ที่ให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่สมจริงไปอีกขั้น แต่ทว่าในโลกเสมือนกับโลกแห่งความเป็นจริงนั้นยังมีความแตกต่างกันอยู่ เพราะว่าถึงแม้ผู้เล่นจะมีตัวตนในโลกเสมือน แต่ก็ไม่อาจมีปฏิสัมพันธ์กันได้ในโลกแห่งความเป็นจริง… ซึ่งในกรณีนี้ก็เกิดขึ้นกับผู้เล่นในเกม VRChat โลกเสมือนออนไลน์ที่ให้ผู้เล่นสวมแว่น VR มาเจอกัน พร้อมกับรองรับระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกายด้วย   ยูทูบเบอร์ Rogue Shadow VR   ภาพเหตุการณ์อันน่าหดหู่นี้ถูกบันทึกโดยยูทูบเบอร์นามว่า Rogue Shadow VR โดยที่เขาได้อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเอาไว้ว่า… เขาและผู้เล่นคนอื่นๆ กำลังสนุกสนานกับสภาพแวดล้อมภายในเกมอยู่ จู่ๆ ก็มีผู้เล่นรายหนึ่งลักษณะเป็นตัวหุ่นยนต์สีดำแดง นอนลงไปกองกับพื้นและเริ่มมีอาการชักกระตุก โดยในตอนแรกนั้นยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นข้อผิดพลาดของเกมหรือเป็นการจงใจของผู้เล่น ที่มักจะมีการทำอะไรแผลงๆ ภายในเกมกันเป็นประจำ     และหลังจากที่ไตร่ตรองกันดีๆ แล้ว จึงทำให้รู้ได้ว่าผู้เล่นรายนี้ไม่ได้แกล้ง แต่เขาประสบกับอาการลมชักจริงๆ และตัวละครในเกมก็แสดงอาการออกมาตามตัวเขาด้วย ซึ่งเจ้าตัวไม่สามารถตอบสนองกับคำถามของผู้เล่นอื่นๆ ได้เลย แถมยังมีอาการหายใจติดขัดในระหว่างที่กำลังอยู่ในโลกเสมือน (และในโลกแห่งความเป็นจริง)     “มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ที่ได้เห็นผู้คนต่างมาร่วมแสดงความห่วงใยต่อใครบางคนที่พวกเขาไม่รู้จัก แต่ในขณะเดียวกัน มันก็รู้สึกแปลกๆ เพราะเราไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย…” “เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาอยู่บนส่วนไหนของโลกใบนี้…

  • บินไม่ได้แต่เท่!! Nike เปิดตัว PG-2 “PlayStation” Colorway รองเท้าสำหรับคอเกมเมอร์ตัวจริง

    บินไม่ได้แต่เท่!! Nike เปิดตัว PG-2 “PlayStation” Colorway รองเท้าสำหรับคอเกมเมอร์ตัวจริง

    หากคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกม ชอบเล่นบาส และมีความสนใจในรองเท้าผ้าใบหรือสนีกเกอร์แล้วล่ะก็ ข่าวนี้อาจจะเหมาะกับคุณก็ได้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีนักบาสชื่อดังออกมาเปิดตัวรองเท้ารุ่นใหม่ ที่มีดีไซน์ของความเป็นเกมเมอร์ผสมอยู่ แถมสวยซะจนเงินในมือนี่สั่นพั่บๆๆ เลย!! เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ PlayStation ในสหรัฐได้เผยแพร่ภาพรองเท้า Nike รุ่นใหม่ที่ชื่อ PG-2 PlayStation Colorway ที่เป็นผลงานการออกแบบโดย Paul George นักกีฬาบาสเก็ตบอล NBA    อลังการ!!   Paul George ได้เล่าผ่านบล็อกว่าเขานั้นชอบเล่นเกมมาตั้งแต่เด็กๆ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้ไอเดียบางอย่างมา เขาก็จะสเก็ตช์มันลงไปในกระดาษ ซึ่งเขาก็วาดฝันไว้เสมอว่าอยากจะมีรองเท้า Nike ที่มาจากการออกแบบของเขาเองสักคู่หนึ่ง และตอนนี้โอกาสของเขาก็มาถึงแล้ว PG-2 PlayStation Colorway นั้นถูกออกแบบโดยมีลวดลายที่สอดคล้องกับเครื่องเล่นเกมของ Sony อย่าง PlayStation 4 โดยจะสังเกตเห็นได้จากโลโก้บนลิ้นรองเท้าที่เป็นสัญลักษณ์ PG และ PlayStation ซึ่งหากเราดูจากภาพจะเห็นได้ว่ามันสามารถส่องแสงได้ด้วย!?     เรามาดูกันในส่วนด้านข้างกันบ้าง ตรงส่วนที่เป็นหนังสีดำนั้นถูกพิมพ์ไว้ด้วยลายนูนเล็กๆ ที่เป็นสัญลักษณ์สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม เอ็กซ์ และโอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่บนจอยของ PlayStation4…

  • สองหนุ่มบุกรุกฟาร์มผึ้ง ทำลายรวงผึ้งซะราบเป็นหน้ากลอง ผึ้งกว่าครึ่งล้านตายเรียบ

    สองหนุ่มบุกรุกฟาร์มผึ้ง ทำลายรวงผึ้งซะราบเป็นหน้ากลอง ผึ้งกว่าครึ่งล้านตายเรียบ

    ผึ้งอาจจะเป็นสัตว์ที่หลายคนหวาดกลัว เพราะหากถูกมันต่อยเข้าล่ะก็จะรู้สึกเจ็บแสบไม่ใช่น้อยเลย แต่จริงๆ แล้วผึ้งเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อโลกนี้มาก มันมีส่วนช่วยในการผลิตพืชผักกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกเลยทีเดียว แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ผึ้งมีจำนวนลดน้อยลงมากเนื่องจากมีการใช้ยาฆ่าแมลง นอกจากนี้แหล่งที่อยู่อาศัยของมันยังถูกบุกรุกด้วย และเหตุการณ์ที่เด็กชายสองคนบุกไปฆ่าผึ้งในฟาร์มกว่า 500,000 ตัวก็คงมีผลไม่น้อยเลยทีเดียว     เหตุเกิดที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง Wild Hill Honey ในเมือง Sioux รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเด็กชาย 2 คนอายุ 12 ปีและ 13 ปีบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ของฟาร์มผึ้งแห่งนี้ จากนั้นทั้งคู่ก็ทำลายข้าวของทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมไปถึงรวงผึ้งด้วย จากนั้นตำรวจจึงจับกุมเด็กชายทั้งสองคน นาย Engelhardt เจ้าของฟาร์มเล่าว่า “พวกเขาทำลายรวงผึ้งทุกรวงทิ้งราบคาบ ทำให้ผึ้งทุกตัวของเราตาย เหมือนกับว่าพวกเขาทำให้เราหมดตัวเลยทีเดียว” และในเมื่อรวงผึ้งพังทลายลงไปหมด ก็เป็นเหตุให้ผึ้งที่เลี้ยงไว้ไม่มีที่อยู่ด้วย ในหน้าหนาวแบบนี้ผึ้งก็ย่อมจะทนลมหนาวไม่ได้เป็นธรรมดา ผึ้งที่มีอยู่กว่าครึ่งล้านตัวในฟาร์มจึงตายเกลี้ยง     นอกจากนี้ข้าวของอุปกรณ์ในฟาร์มก็เสียหายเช่นกัน ดังที่เจ้าของบอกว่า “พวกเขาบุกเข้ามาในห้องเก็บอุปกรณ์ของเรา แล้วก็เอาอุปกรณ์ทุกอย่างโยนทิ้งไว้กลางหิมะ จากนั้นก็ทำลายทุกสิ่งที่เห็น ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาขโมยอะไร แต่ข้าวของทุกอย่างนั้นพังหมดเลย” เมื่อคำนวณมูลค่าความเสียจากการถูกบุกรุกครั้งนี้แล้วรวมเป็นมูลค่ามากถึง 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 2…

  • นักปีนเขาถูกชาวเน็ตถล่มหนัก หลังตัดสินใจทิ้งหมาไว้กลางทาง เนื่องจากพายุเข้ากะทันหัน!?

    นักปีนเขาถูกชาวเน็ตถล่มหนัก หลังตัดสินใจทิ้งหมาไว้กลางทาง เนื่องจากพายุเข้ากะทันหัน!?

    นักปีนเขาคนหนึ่งถูกชาวเน็ตโจมตีอย่างหนักหน่วง เนื่องจากเขาทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเองเอาไว้ท่ามกลางพายุหิมะบนภูเขาในประเทศสก๊อตแลนด์ แล้วหนีไปหลบพายุหิมะคนเดียว ภายหลังก็พบว่ามันตายเสียแล้ว ในวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา นาย Paul Finnegan นักปีนเขาจากเมืองช็อตส์ เขตนอร์ธลานาร์คชายร์ ประเทศสก๊อตแลนด์ ตัดสินไปขึ้นไปปีนเขา Beinn Sgulaird ซึ่งสูงถึง 3074 ฟุต (ประมาณ 930 เมตร) กับ Meg สุนัขพันธุ์บอร์เดอร์คอลลี่ของเขา ทว่าเจ้าสุนัขวัย 12 ปีเกิดหมดแรงขึ้นมากลางทาง ซ้ำร้ายตอนนั้นยังมีพายุหิมะเข้าหนักอีก หลังจากเขาและเพื่อนพยายามแบกมันลงจากเขาสักพัก เขาก็ต้องตัดใจลงไปหลบพายุหิมะแล้วทิ้งมันไว้แล้วกลางทาง   Meg สุนัขของ Paul Finnegan   ญาติของเขาบอกว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะว่าอากาศก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ จึงต้องทิ้งมันเอาไว้ก่อนอย่างช่วยไม่ได้ แล้วออกตามหามันเมื่อพายุหิมะสงบลงอีกที นักปีนเขาที่เชี่ยวชาญเองก็ไม่โทษเขาเหมือนกัน กลับรู้สึกเห็นใจเขาด้วย เพราะแม้ว่าเขาจะตัดสินใจทิ้งสุนัขแสนรักเอาไว้กลางภูเขาหิมะแบบนั้น แต่มันก็เป็นการตัดสินใจในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างหนึ่งที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้   โพสต์ของครอบครัวนาย Paul Finnegan ที่ขอความช่วยเหลือตามหาสุนัข   เมื่อพายุหิมะสงบลงเขากับเพื่อนก็กลับไปหาสุนัขทันที แต่เนื่องจากจำไม่ได้ว่ามันหายไปตรงไหน จึงทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างลำบาก สุดท้ายเขาก็หามันไม่เจอ คนในครอบครัวของเขาจึงโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือว่า “ฉันอยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เมื่อวานคนในครอบครัวไปปีนเขา Beinn…

  • ชายผู้ถูกขนานนามว่า ‘ราชาแห่งขนมหวาน’ ในประเทศจีน ปั้นน้ำตาลได้สวยราวกับตุ๊กตาตั้งโชว์

    ชายผู้ถูกขนานนามว่า ‘ราชาแห่งขนมหวาน’ ในประเทศจีน ปั้นน้ำตาลได้สวยราวกับตุ๊กตาตั้งโชว์

    ขนมเค้กถือเป็นขนมที่หลายๆ คนโปรดปราน ด้วยความที่มันมีหลากหลายชนิด และมีรสชาติอร่อยจึงสามารถมัดใจคนจำนวนมากไว้ได้ อีกสิ่งที่สำคัญสำหรับเค้กก็คือความสวยงาม เพราะมันคือสิ่งแรกที่ดึงดูดให้คนสนใจมาลิ้มลองชิมรสชาตินั่นเอง ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนของเราก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งเค้กอยู่ด้วย ฝีมือดีจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลกเชียวนะ ลองไปดูการตกแต่งเค้กของเขากัน   Zhou Yi ราชาแห่งการปั้นน้ำตาล   เชฟขนมหวานคนนี้ชื่อว่า Zhou Yi มีฉายาที่เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศจีนคือ Sugar King (ราชาแห่งการปั้นน้ำตาล) เขาสามารถปั้นน้ำตาลฟองดูให้กลายเป็นรูปอะไรก็ได้ และตุ๊กตาน้ำตาลที่เขาปั้นเป็นรูปมนุษย์ก็มีความละเอียดละออจนเราเห็นแล้วคิดว่าเป็นตุ๊กตาเลยทีเดียว ชายคนนี้มีชื่อเสียงในประเทศจีนมานานแล้ว เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดในการตกแต่งเค้ก แต่พอเขาชนะ การแข่งทำเค้กระดับนานาชาติ (International Cake Competition) เมื่อปี 2017 ด้วยรางวัล 3 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง ก็ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก     เขาชอบผสมผสานวัฒนธรรมของประเทศจีนเข้ากับศิลปะโบราณ จึงทำให้ผลงานส่วนหนึ่งของเขาเป็นรูปเลียนแบบบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์หรือตัวละครในวรรณกรรมด้วย ผลงานชิ้นหนึ่งที่โด่งดังของเขาก็คือตุ๊กตาน้ำตาลที่ปั้นเป็น Wu Zetian จักรพรรดิณีคนแรกและคนเดียวของประเทศจีน โดยมีรายละเอียดสูงทั้งรูปร่าง เสื้อผ้า หน้า ผม จนไปถึงขนตาเลย     ในตอนเด็กเขาใช้เวลาส่วนมากไปกับการศึกษาศิลปะเฉพาะตัวของจีน การตกแต่งอาหาร และการปั้นรูปแป้ง…

  • พจนานุกรมญี่ปุ่นให้ความหมายคำว่า “โอตาคุ” ว่าเป็น “ผู้ขาดสามัญสำนึกทางสังคมทั่วไป”

    พจนานุกรมญี่ปุ่นให้ความหมายคำว่า “โอตาคุ” ว่าเป็น “ผู้ขาดสามัญสำนึกทางสังคมทั่วไป”

    เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาสำนักพิมพ์ Iwanami Shoten ของญี่ปุ่นได้พิมพ์พจนานุกรมยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Kojien เป็นครั้งที่ 7 ซึ่งในการพิมพ์ใหม่ครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงคำศัพท์เก่าๆ และระบุคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัยไว้เป็นจำนวนมาก     ถึงอย่างนั้นการเปลี่ยนความหมายของคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ว่านั้น กลับได้ผลตอบรับที่ไม่ดีเท่าที่ควร โดยที่ทาง Iwanami Shoten นั้นได้ระบุความหมายของ “LGBT” ผิดโดยระบุว่าเป็น “ผู้คนที่มีรสนิยมทางเพศที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่” ซึ่งในส่วนของ Lesbian, Gay และ Bisexual นั้นจริงอยู่ว่าระบุเป็น “รสนิยมทางเพศ” ได้ แต่ Transgender จริงๆ แล้วเป็น “อัตลักษณ์ทางเพศของแต่ละบุคคล” ต่างหาก     ครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อกลุ่มแฟนๆ เดนตายของ เกม อนิเมะ หรืองานอดิเรกอื่นๆ หรือที่รู้จักกันว่า โอตาคุ ออกมาแสดงความไม่พอใจกับการให้ความหมายของ โอตาคุ ของสำนักพิมพ์ Iwanami Shoten  ที่ระบุว่า “โอตาคุ: 1. วิธีการในการพูดอย่างเคารพถึง บ้านของบุคคลที่พูดด้วย 2. วิธีการในการพูดอย่างเคารพถึง สามีของบุคคลที่พูดด้วย 3. วิธีการในการพูดแทนอย่างเคารพถึง บุคคลที่พูดด้วย 4. (มักเขียนด้วย คะตะกะนะ) คนที่มีความกระตือรือร้นหรือความชอบที่มากผิดปกติเกี่ยวกับสาขา หรือสิ่งของใดๆ เป็นการเฉพาะ แต่มีความสนใจในเรื่องอื่นๆ…

  • ตำรวจสั่งจำคุกครอบครัวทำร้ายเด็กสาวจนแท้ง หลังถูกพี่ชายข่มขืนจนตั้งครรภ์

    ตำรวจสั่งจำคุกครอบครัวทำร้ายเด็กสาวจนแท้ง หลังถูกพี่ชายข่มขืนจนตั้งครรภ์

    เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Dalla News ได้มีการรายงานข่าวผลการตัดสินคดีคนในครอบครัวทำร้ายหญิงวัยรุ่นที่กำลังตั้งครรภ์ จนส่งผลให้เธอแท้งลูก คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 แต่เพิ่งได้รับการตัดสินสิ้นสุดคดีเมื่อต้นปี 2018 ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อ ปี 2013 หญิงสาววัยรุ่น (สงวนชื่อ) อายุ 14 ปีซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ถูกคนในครอบครัวประกอบด้วย Sharon Jones, Cecila McDonald, Lonnell McDonald และ Cedric Jones Jr. ทำร้ายร่างกายจนเด็กที่อยู่ในครรภ์แท้งออกมา แต่เรื่องราวมันซับซ้อนยิ่งกว่านั้น เพราะพ่อของเด็กที่อยู่ในท้องของเด็กสาวก็คือ Robert Cayald พี่ชายของเธอที่ข่มขืนจนเธอตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางครอบครัวพยายามปิดบังไว้   ผู้ต้องหา   เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อตัวเหยื่อและน้องสาวถูกส่งให้มาอยู่กับนาง Sharon ผู้เป็นป้าหลังจากที่คุณย่าของพวกเขาเสียชีวิตไป   แต่เธอนั้นไม่ได้ไปอยู่ที่บ้านของ Sharon โดยตรง เพราะถูกส่งไปอยู่อพาร์ตเมนต์ร่วมกับ Cecila ผู้ซึ่งเป็นลูกสาวของหล่อนแทน ซึ่งที่แห่งนั้นก็มี Lonnell และ Robert ก็อาศัยอยู่ด้วย Robert ไม่เพียงแต่ข่มขืนเหยื่อจนตั้งครรภ์ แต่ยังล่วงละเมิดทางเพศลูกๆ…

  • ไม่น่าเชื่อ!? อัตราการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่น “ลดลง” แต่วัยรุ่นกลับฆ่าตัวตายกันเพิ่มขึ้น

    ไม่น่าเชื่อ!? อัตราการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่น “ลดลง” แต่วัยรุ่นกลับฆ่าตัวตายกันเพิ่มขึ้น

    จากผลการวิจัยในสมัยก่อน บอกให้เราได้ทราบกันว่าคนญี่ปุ่นฆ่าตัวตายเป็นลำดับต้นๆ ของโลก โดยในปี 1960 นั้นทุกๆ 100,000 คนในญี่ปุ่น จะมีคนฆ่าตัวตายมากถึง 25 คนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามในช่วง 8 ปีที่ผ่านมานั้นดูเหมือนว่าตัวเลขเหล่านั้นจะลดลงเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องทุกปี     สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่า ในปี 2017 มีคนที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายที่ได้รับการรายงานในญี่ปุ่นเพียง 21,140 คน ลดลงนับเป็น 3.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเมื่อปีที่แล้ว สำนักงานตำรวจยังกล่าวอีกว่าตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นมีการเก็บข้อมูลการฆ่าตัวตายมา ปีนี้เป็นปีที่มีเลขการฆ่าตัวตายน้อยที่สุด ด้วยตัวเลขเพียง 16.7 คน ในทุกๆ 100,000 คน (ข้อมูลอย่างละเอียดเริ่มเก็บเมื่อปี 1978) อย่างไรก็ตามตัวเลข 16.7 นั้นก็ยังถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นอยู่ดี (ประเทศไทยอยู่ที่ 6 คนต่อประชาชน 100,000 คนในปี 2015) โดยที่การฆ่าตัวตายในผู้ชายนั้นยังคงมีมากกว่าผู้หญิงถึงสองเท่าไม่ต่างจากหลายๆ ปีที่ผ่านมา มีผู้ชายฆ่าตัวตายเป็นจำนวนกว่า 14,600 คนต่อผู้หญิงที่ประมาณ 6400 คน     เรื่องที่ไม่น่าเชื่อคือ ภายในตัวเลขที่ลดลงนั้นจำนวนวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20…

  • เจ้ามิ้วน้อยหน้าโหดสุดในสามโลก แยกเขี้ยวใส่ทุกคนที่พบเจอ ไม่ได้ดุนะ แต่หน้าหนูหยิ่ง!!

    เจ้ามิ้วน้อยหน้าโหดสุดในสามโลก แยกเขี้ยวใส่ทุกคนที่พบเจอ ไม่ได้ดุนะ แต่หน้าหนูหยิ่ง!!

    ‘อย่าตัดสินคนแต่ภายนอก’ คำกล่าวนี้ไม่ได้ใช้กับมนุษย์ได้อย่างเดียวเท่านั้น เจ้ามิ้วน้อยตัวนี้เองก็ดูเหมือนจะเข้าแก็ปตรงกับคำพูดดังกล่าว แม้ว่าหน้าจะดูโหดคอยแยกเขี้ยวใส่ทุกคนที่พบเจอ แต่มันก็ไม่ได้ดุแบบหน้าตาหรอกนะ!!   ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้ามิ้วน้อยสองพี่น้อง Wolfie และ Foxy   ทั้งคู่ได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรช่วยเหลือสัตว์ Friends for Life Rescue Network (FLRN) หลังจากที่มีพลเมืองดีพบเห็นลูกแมวเหมียวสีเทาเข้มสามตัวเร่ร่อนอยู่ที่ตึกแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ Jacqueline Santiago ผู้ก่อตั้งองค์กรจึงได้รุดหน้าไปยังที่เกิดเหตุและติดตั้งกับดักเพื่อจับตัวพวกมันกลับมาทำการรักษาที่ศูนย์     20 นาทีผ่านไปแผนการดักจับก็สำเร็จไปได้ด้วยดี คุณ Jacqueline ได้พาพวกมันกลับมาที่ศูนย์ FLRN แต่น่าเศร้าใจที่เจ้า Bear 1 ในสามพี่น้องได้จากไปซะก่อน เพราะทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยที่เกิดจากการขาดแคลนอาหารและสุขอานามัยที่ถูกต้อง ที่เหลือรอดอยู่ก็มีเพียงแต่เจ้า Wolfie และ Foxy เท่านั้น ทั้งคู่ปลอดภัยดี ได้รับอาหาร การทำความสะอาดร่างกาย ตรวจโรค และการรักษาเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ในศูนย์ FLRN     เจ้า Foxy เป็นเด็กที่มีสภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง แต่ Wolfie นั้นน้ำหนักตัวของมันน้อยมาก เมื่อเทียบกันแล้วมันมีขนาดตัวแค่ครึ่งเดียวของ Foxy เท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีใครเอะใจเรื่องปัญหาสุขภาพ เพราะนอกจากฟันเหยินๆ…

  • เชิญพบคู่รักที่ขอแต่งงานในเกม Stardew Valley เมื่อ “เกม” กลายเป็นสิ่งที่ดึงผู้คนให้เข้ามาผูกพันกัน

    เชิญพบคู่รักที่ขอแต่งงานในเกม Stardew Valley เมื่อ “เกม” กลายเป็นสิ่งที่ดึงผู้คนให้เข้ามาผูกพันกัน

    เพื่อนๆ รู้จัก Stardew Valley กันไหม คนบ้านเราจะติดปากที่จะเรียกเกมนี้ว่า “สตาร์ดิว” หรือ “ตาดิว” สั้นๆ นี่เป็นเกมที่ออกแบบและพัฒนาโดยคนเพียงหนึ่งคนคือ Eric Barone หรือที่รู้จักกันดีกับโลโก้ “ConcernedApe” ซึ่งเป็นนามแฝงของเขานั่นเอง สตาร์ดิวเป็นเกมแนว Simulation role-playing การทำไร่ทำสวน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเกม Harvest Moon     ทีนี้เรื่องก็มีอยู่ว่า มีคู่รักคู่หนึ่งชื่อ Vana Springer กับ Adam Stevens พวกเขาเป็นคู่รักที่ชื่นชอบในการใช้เวลากว่าร้อยชัวโมงในการขุดดิน ทำสวน ขุดเหมือง อยู่ในเพลิแคนทาวน์ ในเกมสตาร์ดิว แน่นอนว่าถ้าคุณเล่นเกมไปนานขนาดนั้นคุณย่อมต้องรู้รายละเอียดของเกมมากในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นในตอนที่ Adam บอก Vana ว่าเขาเจอ Easter Egg อันใหม่ในเกมที่เธอเล่นมาจนทะลุปรุโปร่งแล้ว เธอเลยเกิดความสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง ถึงอย่างนั้นก็ตามใช่ว่าเรื่องพวกนั้นจะเป็นไปไม่ได้เลยใช่ไหมล่ะ โดยเฉพาะกับเกมที่กำลังจะมีการอัปเดตการเล่นหลายคนและเพิ่งจะพอร์ตลง Nintendo Switch ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2017 ดังนั้นเธอจะลองเข้าเกมไปดูสถานการณ์ไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย     ปัญหาคือเธอไม่ได้รู้เลยว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง Adam ได้เข้าเกมมาขุดดินเป็นรูปตัวหนังสือว่า “MARRY ME?” หรือ “แต่งงานกับผมไหม?” แล้วก็ปลูกดอกทิวลิปไว้ “ตอนที่เธอเข้าห้องมาผมก็บอกให้เธอลองไปดูที่มุมด้านล่างของแผนที่ เธอเดินลงไปแล้วเห็นตัว A R Y แล้วเธอก็ทำหน้าสงสัย” Adam พูดพลางหัวเราะ “ผมเดินไปคุกเข่าและถามเธอว่า…

  • ชมภาพจำลองเหตุการณ์ “ไททานิก” ชนภูเขาน้ำแข็ง ค่อยๆ จมแบบเรียลไทม์ 2 ชั่วโมง 40 นาที

    ชมภาพจำลองเหตุการณ์ “ไททานิก” ชนภูเขาน้ำแข็ง ค่อยๆ จมแบบเรียลไทม์ 2 ชั่วโมง 40 นาที

    เรื่องราวอันโด่งดังของเรือที่ไม่มีวันจมหรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ไททานิก‘ นั้นคงจะมีน้อยคนที่ไม่รู้จัก เพราะถือว่าเป็นตำนานอันโด่งดังเรื่องหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ผู้สร้างเกมส์ Titanic: Honor and Glory ซึ่งเป็นเกมส์ที่ทำให้ผู้เล่นได้ร่วมโดยสารไปกับเรือไททานิก ได้จำลองเหตุการณ์ที่เรือนั้นชนกับภูเขาน้ำแข็งและค่อยๆ จมลงด้วยอนิเมชัน ให้พวกเรารับชม     จากข้อมูลที่อ้างอิงมาจากเว็บไซต์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรือไททานิกนั้น พบว่าหลังจากที่ชนกับภูเขาน้ำแข็ง เรือไททานิกก็ได้จมลงโดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง 40 นาทีในปี 1912 ในวิดีโอก็ได้มีการบรรยายเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าจะไม่มีฉากที่ดูน่าทึ่งเหมือนกับในหนังของ James Cameron ในปี 1997 แต่ก็คุ้มค่าแก่การรับชม     ในวิดีโอนี้ได้จำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปี 1912 แบบเรียลไทม์ ที่มา Openculture

  • 14 ความเชื่อแปลกๆ ในช่วง ‘ยุคกลาง’ เมื่อศาสนาควบคุมทุกอย่าง และวิทยาศาสตร์ไร้พลัง

    14 ความเชื่อแปลกๆ ในช่วง ‘ยุคกลาง’ เมื่อศาสนาควบคุมทุกอย่าง และวิทยาศาสตร์ไร้พลัง

    การศึกษานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับทุกคน โดยเฉพาะเรื่องวิทยาศาสตร์ เพราะถ้าหากศึกษาไม่มากพอนั้นอาจจะทำให้เกิดความเชื่อแบบผิดๆ ได้ ตั้งแต่โบราณกาลนั้นมีความเชื่อแปลกๆ มากมายซึ่งเมื่อฟังดูแล้วไม่น่าจะมีใครเชื่อได้ แต่ผู้คนในยุคกลางกลับเชื่อว่าเรื่องราวแปลกๆ เหล่านี้เป็นความจริง เนื่องจากการศึกษาสมัยนั้นยังไม่มีการพัฒนาเท่าที่ควร   14. มีคนตัวเล็กๆ อยู่ในเชื้ออสุจิ ในศตวรรษที่ 17 และ 18 นักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อแบบนี้จริงๆ พวกเขาคิดว่าเด็กทารกทุกคนนั้นมีร่างกายที่สมบูรณ์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ส่วนผู้หญิงนั้นเป็นแค่ตู้ฟักทารกเท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้มีคนถกเถียงประเด็นนี้ พวกเขาคิดว่าทารกนั้นมีอยู่ในตัวของผู้หญิงอยู่แล้ว หน้าที่ของอสุจินั้นคือการเข้าไปปลุกให้ชีวิตนั้นตื่นขึ้นมา ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งคู่เลย   13. ปิศาจ Titivillus ในช่วงยุคกลางนั้น นักบวชมีหน้าที่เหมือนกับเครื่องพิมพ์ พวกเขาต้องเขียนหนังสือเป็นร้อยๆ เล่มด้วยมือ ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าจะต้องมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่พวกเขาไม่อยากยอมรับผิด ก็เลยสร้างเรื่องปิศาจที่ชื่อ Titivillus ขึ้นมา พวกเขาบอกว่าเจ้าปิศาจตัวนี้จะรวบรวมข้อผิดพลาดของพระใส่ลงในย่าม และจะเอามาโชว์ให้เห็นหลังความตายเพื่อลดโอกาสที่จะได้ขึ้นสวรรค์   12. การฝังหัวใจแยกกับศพ การเคลื่อนย้ายศพในอดีตนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่จะทำอย่างไรเมื่อมีคนขอให้คุณนำศพไปฝังในสถานที่อื่นที่แสนไกล ในช่วงศตวรรษที่ 10 ผู้คนก็ได้มีไอเดียในการผ่าเอาหัวใจออกมา เพื่อนำไปฝังในที่ที่ไม่สามารถนำร่างกายไปฝังได้ และมีแค่คนที่มีฐานะเท่านั้นที่สามารถทำได้   11. เหล่าสัตว์ทั้งหลายก็ต้องได้รับการสอบสวนเช่นกัน ในอดีตนั้นแม้แต่สัตว์ก็สามารถเป็นผู้กระทำความผิดได้ พวกมันต้องขึ้นศาลเพื่อตัดสินกับทนายและผู้พิพากษาจริงๆ ด้วย พวกมันสามารถถูกจับเข้าคุกและถูกประหารได้ด้วยเช่นกัน ครั้งหนึ่งในเมือง Lausanne มีหนอนได้ถูกเรียกให้มาขึ้นศาลเนื่องจากกระทำความผิดโดยการกินใบไม้ในสวน…

  • แม่เพิ่งบอกลูกวัย 27 ว่าเธอเป็นคนลักพาตัวลูกมา ตอนที่ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก

    แม่เพิ่งบอกลูกวัย 27 ว่าเธอเป็นคนลักพาตัวลูกมา ตอนที่ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก

    การเลี้ยงดูใครซักคนให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ได้นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าการพรากลูกมาจากครอบครัวของเขามาดูแลราวกับเป็นลูกของตัวเองไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีเลยซักนิด  เรื่องราวที่พูดถึงก็คือเรื่องของอดีตพี่เลี้ยงเด็กชาวจีนในเขตเทศบาลนครฉงชิ่งนามว่า He Xiaoping อายุ 48 ปีจากเมืองหนานชง ที่รับสารภาพกับตำรวจในพื้นที่ว่าได้ลักพาตัวลูกชายของผู้ว่าจ้างของเธอและนำมาเลี้ยงดูราวกับว่าเป็นลูกชายของตนเป็นเวลากว่า 26 ปี Xiaoping ได้ให้ปากคำว่าในปี 1992 เธอสูญเสียลูกทั้ง 2 คนของเธอตั้งแต่ยังเป็นทารก และได้ไปปรึกษากับผู้ใหญ่ในหมู่บ้านและได้รับคำแนะนำว่า ทางเดียวที่จะมีลูกเป็นของตัวเองได้คือการเลี้ยงลูกของคนอื่น     หลังจากนั้นเธอก็ได้เดินทางไปยังเทศบาลนครฉงชิ่งด้วยบัตรประชาชนปลอมและได้งานเป็นพี่เลี้ยงเด็กวัย 1 ขวบ หลังจากที่ได้ทำงานเป็นเวลา 3 วัน เธอก็ได้ลักพาตัวเด็กชายกลับมาที่เมืองหนานชง และตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่า Liu Jinxin ตามลูกชายคนสุดท้องของเธอ ตอนนี้ Liu Jinxin มีอายุ 27 ปีแล้ว แต่ตลอดเวลา 26 ปีที่ผ่านมา ไม่มีใครตามหาเขาเลย ในปี 1995 หลังจากที่ Xiaoping ได้คลอดลูกสาวของเธอ เธอคิดถึงเรื่องที่จะนำเด็กชายคนนี้คืนให้กับครอบครัวของเขาแต่เธอกลัวความผิด ก็เลยเก็บเขาไว้และเลี้ยงดูเป็นลูกชายของเธอแทน เธอได้ให้สัมภาษณ์กับรายการข่าวเย็นของเทศบาลนครฉงชิ่งว่า “ฉันรู้ว่าฉันได้ทำเรื่องที่ไม่ดีลงไป แต่ฉันก็ปฏิบัติราวกับเขาเป็นลูกชายของฉัน และเขาก็ปฏิบัติกับฉันราวกับว่าเป็นแม่แท้ๆ ของเขา”…

  • คู่รักตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกับ “เจ้าแพะ” และ “น้องหมา” สนุกสุดๆ ไปเล้ยยย

    คู่รักตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกับ “เจ้าแพะ” และ “น้องหมา” สนุกสุดๆ ไปเล้ยยย

    ถ้าคุณอยากเดินทางด้วยความสนุก และมีความสุขกับการท่องเที่ยวในทุกๆ ที่ที่ไป คุณจะต้องออกเดินไปกับคนที่คุณรัก เหมือนกับ Cate และ Chad Battles ทำอยู่ตอนนี้ ในตอนที่ Cate และ Chad โตขึ้นพวกเขาต่างก็ได้ย้ายไปอยู่ในหลายๆ ที่ จนในที่สุดพวกเขาก็โคจรมาเจอกันและได้แต่งงานกันใน Asheville รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้ปักหลักอยู่ที่นั่น หลังจากแต่งงาน การเดินทางดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยาก เพราะพวกเขาต้องดูแลจัดการบาร์ของตัวเอง ไหนจะต้องเลี้ยงดูลูกๆ อีก     แต่ตอนนี้ลูกๆ อยู่ในช่วงเจริญเติบโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว ส่วนธุรกิจบาร์และบ้าน ทั้งคู่ก็ตัดสินใจขายไปแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรมาขัดขวางการเดินทางของพวกเขาอีก จริงๆ พวกเขามีสัตว์เลี้ยงที่น่ารักอีก 2 ตัวคือ เจ้าแพะที่ชื่อ Frankie และน้องหมา Maggi แต่แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้ 2 ตัวมาขัดขวางการเดินทางเป็นครั้งที่สองแน่ๆ     ดังนั้น Cate และ Chad จึงพาสัตว์เลี้ยงทั้ง 2 ตัวออกไปท่องโลกด้วย โดยในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา Cate Chad Frankie และ Maggie ได้นั่งรถ Airstream ไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ…

  • เด็กหญิงชาวจีนแบกพี่ชายผู้พิการไปโรงเรียนทุกวัน เพราะอยากให้พี่ได้เรียนหนังสือด้วยกัน

    เด็กหญิงชาวจีนแบกพี่ชายผู้พิการไปโรงเรียนทุกวัน เพราะอยากให้พี่ได้เรียนหนังสือด้วยกัน

    นอกจากพ่อแม่ที่รักเรามากที่สุดแล้ว พี่น้องสายเลือดเดียวกันเป็นอีกคนที่ไม่อยากเห็นเราเจ็บ ไม่อยากเห็นเราลำบาก แต่อยากเห็นเรามีความสุขในทุกๆ วัน เหมือนกับ Zhou Dingshuang เด็กหญิงวัย 9 ขวบจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ที่คอยเป็นมือเป็นเท้าให้กับพี่ชายผู้พิการที่มีปัญหาในการใช้มือใช้ขาตั้งแต่เกิด     น้องสาวแสนดีคนนี้ไม่เพียงแค่ป้อนข้าว ป้อนน้ำ หรืออาบน้ำให้น้อง แต่เธอยังแบกพี่ชาย Zhou Dingfu วัย 12 ปี ไปโรงเรียนทุกวัน ไม่เว้นแม้กระทั่งวันที่ฝนตก แดดออก หิมะตก หรือวันที่ลูกเห็บตก เธอบอกกับผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น Wenshan ว่า “หนูจะไม่ปล่อยพี่ไว้ตามลำพังค่ะ และหนูจะเป็นไม้เท้าให้พี่ตลอดไป”     Dingshuang และ Dingfu เรียนอยู่ชั้นเดียวกันที่โรงเรียน Central School of Heizhiguo County ดังนั้นเธอจึงเป็นคนเดียวที่ดูแลพี่ชายตลอดเกือบ 24 ชั่วโมง ทุกๆ เช้า เด็กหญิงจะล้างมือล้างหน้าให้พี่ชาย ช่วยเขาแต่งตัว ก่อนจะแบกเขาขึ้นหลังและพาไปโรงเรียนด้วยกัน     ระหว่างทางไปโรงเรียน พวกเขาต้องข้ามถนนและขึ้นบันไดเพื่อจะไปยังห้องเรียน ที่สำคัญน้องสาวไม่เคยทำให้พี่ชายไปเรียนสายเลย แม้การเดินทางจะลำบากหรือสภาพอากาศจะเลวร้ายแค่ไหน หลังจากเลิกเรียนแล้ว Dingshuang จะแบกพี่ชายกลับบ้าน ช่วยเขาทำการบ้านจนเสร็จก่อนจะไปช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านต่อ    …

  • ช่างภาพพาน้องหมาออกมาจากสถานสงเคราะห์ แล้วเปลี่ยนโลกทั้งใบให้สดใสกว่าเดิม

    ช่างภาพพาน้องหมาออกมาจากสถานสงเคราะห์ แล้วเปลี่ยนโลกทั้งใบให้สดใสกว่าเดิม

    ทุกวันนี้มีสุนัขจรจัดมากมายที่ต้องเผชิญชีวิตท่ามกลางอันตรายรอบตัว และหากไม่ได้รับการช่วยเหลือพวกมันอาจจะต้องอดตายหรือไม่ก็ถูกรถชนได้ ด้วยเหตุนี้ศูนย์พักพิงสุนัข Penkta Koja ในลิทัวเนียจึงได้รับสุนัขเข้ามาใหม่ทุกวัน บางตัวหลงทาง บางตัวถูกรถชน และบางตัวถูกทิ้งเพราะเจ้าของไม่สามารถเลี้ยงต่อได้     เมื่อเข้าไปในศูนย์พักพิงวันแรก พวกมันจะเห่าเสียงดังตลอดเพราะไม่คุ้นกับสิ่งแวดล้อมใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ดูแลจะคอยอยู่ข้างๆ พวกมัน ทำให้มันใจเย็นลงและทำให้มันไว้ใจมนุษย์อีกครั้ง หลังจากนั้นก็เป็นช่วงเวลาแห่งการรอ รอที่จะมีเจ้าของใหม่ รอที่จะได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่มีทั้งความรักและความอบอุ่นจากมนุษย์ที่ไว้ใจได้ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ เราจึงได้แค่รอ…     และเมื่อวันที่เหล่าน้องหมาได้บ้านใหม่ อาสาสมัครของ Penkta koja และช่างภาพ Ausra Kel (หนึ่งในคนที่พาสุนัขจรจัดมาอยู่ในศูนย์พักพิงและพยายามหาบ้านใหม่ให้) ก็จะเปลี่ยนโลกใบใหม่ให้สุนัขเหล่านี้ สำหรับ Ausra เธอเป็นศิลปินดิจิตอล นักตกแต่ง และบรรณาธิการภาพถ่าย เธอมักจะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ในภาพถ่ายเสมอราวกับเธอสามารถสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมาได้ ดังนั้นเธอจึงถูกขอให้ทำแบบนั้นกับสุนัขในศูนย์พักพิงและเจ้าของใหม่ของพวกมันด้วย     สุนัขทุกตัวที่ถูกถ่ายภาพคือตัวที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับครอบครัวใหม่…ก่อนหน้านี้พวกมันต้องอยู่ในศูนย์พักพิงเป็นเวลาหลายปี แต่ภาพชุดนี้เผยให้เห็นถึงชีวิตใหม่ของพวกมันกับเจ้านายและบ้านที่มันจะได้มีความสุขตลอดไป ทั้งเจ้าของและน้องหมาต่างยกให้อีกฝ่ายเป็นฮีโร่และเป็นเพื่อน พวกเขาไม่ได้ใช้ชีวิตดีไปกว่าคนอื่นเลย แต่มันแค่มีความแตกต่างเพราะพวกเขามองเห็นคุณค่าของกันและกัน     หลายคนสงสัยว่าการซื้อสุนัขมาเลี้ยงกับการรับสุนัขจากศูนย์พักพิงมาเลี้ยงแตกต่างกันอย่างไร? คำตอบคือ มันเหมือนกันนั่นแหละ แต่มันแค่ต่างตรงที่ความรู้สึกของคุณที่มีต่อสุนัข การซื้อสุนัขคือการที่คุณเป็นฝ่ายเลือกสุนัข แต่การรับเลี้ยงสุนัขในศูนย์พักพิงคือ คุณเป็นฝ่ายที่ถูกเลือกจากน้องหมา นี่แหละความแตกต่าง…

  • แฮกเกอร์จากกลุ่ม “Anonymous” เข้าถล่ม ปิดเว็บโป๊เด็กไปกว่า 10,000 เว็บ

    แฮกเกอร์จากกลุ่ม “Anonymous” เข้าถล่ม ปิดเว็บโป๊เด็กไปกว่า 10,000 เว็บ

    ทุกวันนี้มีสื่อลามกอนาจารเต็มไปหมด โดยเฉพาะเว็บโป๊เด็กที่มีผู้เข้าชมจำนวนมากๆ และเข้าถึงง่ายมาก สะท้อนให้เห็นว่ามีคนจำนวนมากที่อาจจะเป็น “โรคใคร่เด็ก” ในหลายๆ เว็บนั้นก็มีบางส่วนที่ล่วงละเมิดหรือล่อลวงเด็กมาถ่ายทำจริงๆ ไม่ได้ใช้นักแสดงผู้ใหญ่ที่ดูเด็กกว่าอายุจริงอย่างที่หนังโป๊ถูกกฎหมายทำกัน ซึ่งถือเป็นการค้ามนุษย์ นอกจากนี้สื่อลามกเด็กเองก็ผิดกม.ในแทบทุกประเทศอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าหนึ่งในแฮกเกอร์จากกลุ่ม Anonymous ได้เข้าไปยังเว็บไซต์สายมืดกว่า 10,000 เว็บ และได้ทำการปิดเว็บโป๊เด็กไปเป็นจำนวนมาก     แฮกเกอร์คนดังกล่าวได้เจาะระบบของ Freedom Hosting II ซึ่งเป็นโฮสต์สำหรับเว็บไซต์ด้านมืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเข้าไปในเครือข่ายแบบไม่ระบุตัวตนที่เรียกว่า Tor เพื่อป้องกันการถูกติดตาม แฮกเกอร์นิรนามที่อ้างตัวว่าเป็นคนเจาะระบบของ Freedom Hosting II ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Vice ว่านี่เป็นครั้งแรกของเขา ซึ่งตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจจะปิดโฮสต์ แต่เมื่อเห็นว่าในเว็บไซต์มีภาพโป๊เด็กจำนวนมาก เขาจึงตัดสินใจปิดเว็บไซต์เหล่านั้นทันที     ดังนั้นหลังจากนี้หากใครที่พยายามเข้าไปในเว็บไซต์เหล่านี้ จะเห็นข้อความที่เขียนว่า “สวัสดี Freedom Hosting II ตอนนี้คุณถูกแฮกเรียบร้อยแล้ว” “เรารู้สึกผิดหวังกับพวกคุณจริงๆ บนหน้าเว็บไซต์ของคุณเขียนไว้ว่า ‘เรามีนโยบายต่อต้านสื่อลามกอนาจารเด็ก’ แต่เมื่อเราเข้าไปค้นในเซิร์ฟเวอร์กลับพบว่า เกิน 50% เป็นภาพโป๊ของเด็ก” “ยิ่งไปกว่านั้น พวกคุณยังเป็นโฮสต์ให้กับเว็บไซต์เถื่อนและเว็บไซต์หลอกลวงอีกจำนวนมาก ซึ่งบางเว็บไซต์พวกคุณเป็นคนเปิดเอง เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเซิร์ฟเวอร์” “ไฟล์ทั้งหมดของพวกคุณถูกก๊อปปี้เก็บไว้แล้ว ส่วนไฟล์ต้นฉบับ 74GB…

  • กลายเป็นเทรนด์โลกออนไลน์ ชาวเน็ตแชร์ภาพเหล่าแขกที่มาเยี่ยมถึงริมหน้าต่าง

    กลายเป็นเทรนด์โลกออนไลน์ ชาวเน็ตแชร์ภาพเหล่าแขกที่มาเยี่ยมถึงริมหน้าต่าง

    ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ ทั้งในเมือง ชนบท พื้นที่ห่างไกล หรือแม้กระทั่งบนตึกสูง คุณจะไม่โดดเดี่ยวอย่างแน่นอน เพราะเหล่านกน้อยนกใหญ่จะแวะไปทักทายคุณถึงที่ ไม่เชื่อลองมองไปที่กระจกสิ ใครที่มีนกมาหาบ่อยๆ ถ้าวันหนึ่งนกตัวนั้นไม่มาคงคิดถึงแย่แน่ๆ เพราะแบบนี้ชาวเน็ตจึงร่วมแชร์ภาพเหล่านกที่มาเยี่ยมเยียน ในฐานะเพื่อนแปลกหน้าที่เคยไม่ปล่อยให้เราต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว   1. นก 4 ตัวนี้จะมาเกาะอยู่ที่หน้าต่างทุกเช้าเพื่อขออาหาร   2. ฉันทำงานอยู่บนชั้น 10 แต่มีเพื่อนตัวหนึ่งแวะมาเยี่ยมฉันเป็นประจำทุกวันเลย   3. สงสัยอยู่นานว่าทำไมวันนี้น้องหมาของฉันถึงไม่ออกไปวิ่งเล่นเหมือนทุกวัน   4. ฉันทำงานอยู่ชั้น 10 และนี่คือแขกที่มาหาฉันทุกวัน   5. นี่เพื่อร่วมงานเค้าเอง มากันเป็นคู่เลย   6. ปกติจะเห็นนกบินมาทักทาย แต่วันนี้ทำไมเป็นแรคคูนล่ะ   7. ตอนนี้มีนกมาเกาะอยู่ที่หน้าต่างในที่ทำงานของฉัน คงจะแวะมาทักทายละมั้ง   8. นี่เพื่อนใหม่ มาหาตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลกเลย   9. มาทุกวันจนจะเป็นเพื่อนสนิทอยู่ละ   10. จ้องขนาดนี้ เข้ามาเลยมั้ยล่ะ?   11.…

  • “เรารักกันอย่างความสุขมาก” Ed Sheeran เผยว่าหมั้นกับแฟนสาวแบบเงียบๆ ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว!?

    “เรารักกันอย่างความสุขมาก” Ed Sheeran เผยว่าหมั้นกับแฟนสาวแบบเงียบๆ ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว!?

    เชื่อว่าแทบทุกคนคงจะรู้จักนักร้องหนุ่มพราวเสน่ห์วัย 26 ปี Ed Sheeran ผู้เป็นเจ้าของเพลงดังอย่าง Perfect, Shape of You และ Photograph แน่ๆ เขาเป็นขวัญใจของสาวๆ จำนวนไม่น้อยเลย แต่วันนี้สาวหลายคนคงต้องใจสลายเนื่องจากเขาเพิ่งออกมาเปิดตัวว่า เขากับแฟนสาว Cherry Seaborn ที่คบกันมาได้ทำการหมั้นหมายกันไปแบบเงียบๆ สักพักหนึ่งแล้ว   โพสต์บนอินสตาแกรมของ Ed Sheeran   เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมานี้ Ed ได้โพสต์รูปตนเองหอมแก้มแฟนสาวอย่างน่ารักน่าเอ็นดูไว้ในอินตาแกรมของเขา พร้อมกับแคปชันว่า “ผมมีคู่หมั้นก่อนปีใหม่แล้ว พวกเรารักกันดี และเจ้าเหมียวของพวกเราก็ดูจะรักกันเหมือนกันนะ” ทั้งคู่เริ่มมีข่าวลือว่าเริ่มคบกันตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2015 ตอนนั้นมีคนเห็นทั้งสองคนกำลังเดินเที่ยวกันอยู่ในเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทั้งคู่เที่ยวอยู่กับดีเจชื่อดัง Calvin Harris ด้วย     ในเดือนมีนาคม 2017 Ed ให้สัมภาษณ์กับทางนิตยาสาร US Weekly ว่าเขาและสาว Cherry Seaborn รู้จักกันตั้งแต่ตอนอยู่ที่ Thomas Mills High School ในบ้านเกิดของเขาที่ประเทศอังกฤษ แม้ว่าตอนแรกฝ่ายหญิงจะต้องย้ายไปเรียนที่รัฐนอร์ธแคโรไลนา…

  • แข็งแกร่ง… ท่านปูตินร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ แช่น้ำเย็นกลางอากาศ -5 องศา ไม่แสดงสีหน้าซักติ๊ด!!

    แข็งแกร่ง… ท่านปูตินร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ แช่น้ำเย็นกลางอากาศ -5 องศา ไม่แสดงสีหน้าซักติ๊ด!!

    Vladimir Putin คือประธานาธิบดีคนที่สี่และคนปัจจุบันของรัสเซียที่เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา ด้วยภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งและดุดันไม่ยอมใครของเขาทำให้เราได้เห็นข่าวแปลกๆ ของท่านอยู่เป็นระยะๆ ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าในครั้งนี้ก็เช่นกัน     นี่เป็นพิธีกรรมของโบสถ์คริสเตียนออร์โธดอกซ์ของรัสเซียที่จะลงไปแช่น้ำที่เย็นเป็นน้ำแข็งเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ จริงๆ แล้วพิธีดังกล่าวก็จะคล้ายๆ การรับศีลจุ่มของชาวคริสเตียนที่เอาเด็กไปอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง ต่างกันตรงที่ว่าของชาวรัสเซียนั้นไม่ได้ทำกับเด็ก และน้ำที่นั่นเย็นเฉียบจนแทบเป็นน้ำแข็งเท่านั้นเอง แล้วก็เช่นเดียวกับการรับศีลจุ่มของชาวคริสเตียนปัจจุบัน พิธีนี้นั้นไม่ได้มีการบังคับให้เข้าร่วมแต่อย่างไร   ซึ่งแน่นอนว่าพิธีสำคัญแบบนี้ มีหรือท่านปูตินวัย 65 ปีสุดแกร่งของเราจะพลาด   พิธีที่ว่านี้จะให้ผู้เข้าร่วมเดินลงไปในทางน้ำที่บางครั้งก็ขุดเป็นรูปไม้กางเขนและ จุ่มตัวลงไปในน้ำจนถึงหัว โดยบางที่บอกว่าต้องจุ่มสามครั้งในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ เฉกเช่นที่ พระเยซูรับศีลจุ่ม ที่แม่น้ำจอร์แดน พิธีนี้มักจัดในวันที่ในวันที่ 18 และ 19 ของเดือนมกราคม แน่นอนว่าประชาชนกว่าสองล้านคนของรัสเซียก็ได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมพิธีนี้เช่นกัน นับว่าการเข้าพิธีของท่านปูตินนั้นมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจริงๆ   เมื่อนักข่าวได้เข้าไปสัมภาษณ์ท่านปูตินว่า “ท่านหนาวบ้างไหม” ท่านก็ตอบกลับมาอย่างสบายๆ ว่า “ไม่เห็นหนาว ออกจะสบายๆ”   ว่าแล้วก็แก้ผ้าเหลือแต่กางเกงลงไปจุ่มในน้ำเย็นเฉียบ   กลั้นหายใจแล้วแช่ลงไปมิดหัว   โฆษกรัฐสภา Dmitry Peskov ยังออกมากล่าวอีกว่า อันที่จริงท่านปูตินของเราก็ลงไปในหลุมน้ำแข็งอยู่บ่อยๆ อยู่แล้ว เพียงแค่ไม่ได้ออกมาทำต่อหน้าสาธารณชนเท่านั้น…

  • คุณตากอดแมวร้องไห้ หลังบ้านถูกไฟไหม้ทั้งหลัง เกิดเป็นคลิปที่ชวนน้ำตาซึม…

    คุณตากอดแมวร้องไห้ หลังบ้านถูกไฟไหม้ทั้งหลัง เกิดเป็นคลิปที่ชวนน้ำตาซึม…

    ของมีค่าสำหรับแต่ละคนอาจต่างกัน บางคนให้ความสำคัญกับเงินทอง บางคนชอบรถ บางคนชอบของแบรนด์เนม ในขณะที่บางคนขอแค่มีสัตว์คู่ใจอยู่ด้วยก็เพียงพอแล้ว เหมือนกับคุณตา Ali Meşe วัย 83 ปี จาก Ordu Province ประเทศตุรกี ที่นั่งกอดแมวน้อยร้องไห้ หลังบ้านถูกไฟไหม้จนไม่เหลืออะไร     ตามรายงานข่าวระบุว่าบ้านของคุณตาลุกไหม้เพราะเขาพยายามจะจุดไฟในเตา โดยใช้น้ำมันเบนซิน แต่เกิดความผิดพลาดจนทำให้ไฟลุกลามขึ้น     ในคลิปจะเห็นว่าขณะที่นักดับเพลิงกำลังระดมดับไฟ และพยายามกู้ซากสิ่งของเท่าที่จะทำได้ แต่คุณตากลับอุ้มน้องแมวไว้ในอ้อมกอด เพราะมันคือสิ่งเดียวที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา     ต่อมาได้มีการนำภาพเหตุการณ์ตอนที่คุณตากอดน้องแมวไปโพสต์ลงในอินสตาแกรม Theellenshow พร้อมคำบรรยายว่า “ความรักคือทุกอย่าง…แม้ว่าบ้านของเขาจะถูกไฟไหม้ไปทั้งหลัง แต่เขาก็ยังสามารถรักษาสมบัติที่มีค่าที่สุดไว้ได้” โพสต์ดังกล่าวนี้มีคนกดไลก์เกือบ 800,000 ครั้ง และแสดงความคิดเห็นอีกนับพัน     ในข่าวยังบอกอีกว่าเพื่อนบ้านได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลังจากที่เห็นเปลวไฟมาจากบ้านของ Meşe แต่โชคดีที่คุณตากับครอบครัวหนีออกมาได้ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ มีคนบอกว่าคุณตารักแมวมาก เขาเลี้ยงแมวไว้หลายตัว แต่น่าเศร้าที่น้องแมวรอดมาได้แค่ตัวเดียว…     ต่อมา Meşe ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อทำแผลที่ถูกไฟไหม้เล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะกลับบ้านในวันต่อมา และแน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้น้องแมวอยู่ห่างจากตัวเลย     ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสัญญาว่าจะให้การช่วยเหลือ Meşe และครอบครัวเท่าที่จะทำได้…

  • “จะมาก็มา ไม่มาก็ไม่ง้อ” เหตุผลที่ Man City ล้มดีล Alexis Sanchez ซะงั้น!?

    “จะมาก็มา ไม่มาก็ไม่ง้อ” เหตุผลที่ Man City ล้มดีล Alexis Sanchez ซะงั้น!?

      ช่วงกระแส Alexis Sanchez นักฟุตบอลทีมปืนใหญ่ Arsenal ที่จะย้ายไป Manchester United กำลังมาแรง เลยอยากจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับความหยิ่ง (ขี้เหนียว) ของทีมเรือใบในช่วงหลังนี้หน่อย เป็นที่รู้กันว่า Man City ขึ้นชื่อเรื่องการทุ่มเงินมาเสริมกำลังทัพ ไม่ว่าต้องการเท่าไรป๋าก็พร้อมจะเปย์ตลอด แต่หลายคนสงสัยว่าในเคสของ Alexis ทำไมทีมทำตัวไม่กล้าทุ่มซะงั้น ผมไปเจอบทความจากคุณ Sam Lee นักข่าวของ Goal ที่เขียนถึงเรื่องศักดิ์ศรีของทีัมซื้อขาย Man City ในช่วงหลังแล้วมันน่าสนใจดี     ย้ายมาตอนนี้ หรือไม่มีโอกาสย้ายอีกแล้ว… ตั้งแต่ Pep เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมเนี่ย จากนโยบายที่ทีมเรือใบ Manchester City อยากได้ใครก็ต้องตื๊อจนกว่าจะได้ ทุ่มเงินค่าตัวและค่าจ้างเยอะๆ ไปจนนักเตะอยากจะย้ายมาร่วมทีม มันกลายเป็นนโยบายประเภท Now or Never นักเตะคนไหนที่อยากจะมา Man City คือต้องอยากมาจริงๆ ถ้าปฏิเสธเมื่อไรทีมก็จะไม่หันกลับไปหาอีกเลย   เรื่องนี้เริ่มมาจากไหน พวกเขาคิดถูกแล้วหรือ!?…

  • ชายชาวเมเลย์พุ่งเข้าตบหญิงสาวผู้ไม่สวมฮิญาบ เมื่อเธอบอกว่ามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ใส่

    ชายชาวเมเลย์พุ่งเข้าตบหญิงสาวผู้ไม่สวมฮิญาบ เมื่อเธอบอกว่ามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ใส่

    เมื่อเวลาผ่านไป ความเชื่อและระเบียบวินัยด้านศาสนาก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ยกตัวอย่างเรื่องที่พระสงฆ์ต้องซ้อนรถจักรยานยนตร์เพื่อเดินทางไกลแล้ว แม้ว่าในทางวินัยจะไม่ควรทำ แต่คนอีกส่วนหนึ่งก็เข้าใจว่าต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยตามสมควร อย่างไรก็ตามในสังคมของเราก็ยังมีทั้งกลุ่มคนที่เป็นพวกอนุรักษณ์นิยม ที่เชื่อว่าทุกอย่างควรจะเป็นไปตามกฎดั้งเดิมของศาสนาเท่านั้น และคนอีกกลุ่มที่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงแล้วอาศัยอยู่ร่วมกัน จึงอาจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้   ชายหนุ่มสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงวอร์ม เข้าไปคุยกับหญิงชุดดำ   เหตุการณ์นี้ก็เป็นผลจากความขัดแย้งเรื่องระเบียบของศาสนาเช่นกัน เรื่องเกิดขึ้นที่จุดรอรถประจำทางในประเทศมาเลเซีย โดยมีชายคนหนึ่งเดินเข้าไปต่อว่าและทำร้ายหญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่รอรถอยู่ เนื่องจากพวกเธอไม่ยอมสวมผ้าโพกหัวตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม คลิปนี้ถูกถ่ายไว้โดยคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ในคลิปจะเห็นว่าชายซึ่งสวมเสื้อกันหนาวแขนยาวและกางเกงวอร์ม ได้เข้าไปถามหญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดสีดำว่าเธอนับถือศาสนาใด เมื่อเธอตอบเขาว่านับถือศาสนาอิสลาม เขาจึงถามต่อด้วยท่าทางโมโหว่าทำไมเธอถึงไม่สวมผ้าโพกหัว   เขาไม่พอใจที่เธอไม่ยอมสวมผ้าโพกหัวตามความเชื่อดั้งเดิมของศาสนาอิสลาม   หญิงสาวก็ตอบเขาว่าเธอไม่สวมผ้าโพกหัวเพราะมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเลือกใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ทว่าคำตอบของเธอทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แล้วใช้หลังมือตบหน้าเธอทันที ทันทีที่คนรอบข้างเห็นดังนั้น พวกเธอก็ลุกขึ้นมาปกป้องหญิงสาว และต่อว่าชายคนดังกล่าวทันที โดยหญิงที่สวมผ้าโพกหัวและถือโทรศัพท์มือถืออยู่ได้ลุกขึ้นมาเถียงกับผู้ชายคนนี้แทนหญิงที่ถูกตบหน้า และคลิปวิดีโอก็จบลงเพียงเท่านี้   ชายหนุ่มตบหน้าหญิงสาวในที่สาธารณะทันทีที่ได้ยินคำตอบจากเธอ   คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กของประเทศมาเลเซีย และได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยคนที่ได้เห็นคลิปนี้แล้ว ส่วนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของชายคนนี้เอาเสียเลย   คลิปวิดีโอเหตุการณ์   ประชากรกว่า 30 ล้านคนในเทศมาเลเซียนั้นเป็นคนที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศเลยทีเดียว และตามความเชื่อดั้งเดิมแล้ว ผู้หญิงอิสลามก็ควรจะสวมผ้าโพกหัวเวลาออกไปข้างนอกบ้านด้วย ไม่เช่นนั้นจะถือว่าแต่งกายไม่มิดชิด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ คนในประเทศมาเลเซียมีความเชื่อเรื่องอนุรักษณ์นิยมของศาสนาอิสลามเพิ่มมากขึ้น ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงใดๆ…

  • “Willy Wonka” ตัวจริง ชายผู้ผลิตช็อกโกแลตรสประหลาด ทำจริงขายจริง แถมขายดีด้วย

    “Willy Wonka” ตัวจริง ชายผู้ผลิตช็อกโกแลตรสประหลาด ทำจริงขายจริง แถมขายดีด้วย

    หากใครเคยได้ดูภาพยนตร์เรื่อง ชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต (Charlie and the Chocolate Factory) คงจะได้เห็นเด็กชายเดินเข้าไปชมโรงงานช็อกโกแลตที่อลังการกันมาแล้ว และคงจดจำเจ้าของโรงงานช็อกโกแลต Willy Wonka ได้แน่นอน เพื่อนๆ รู้หรือเปล่าว่าในโลกแห่งความเป็นจริงก็มีคนแบบ Willy Wonka อยู่เหมือนกัน เขาเองก็เป็นเจ้าของโรงงานช็อกโกแลตอยู่ที่ประเทศเวลส์ โรงงานช็อกโกแลตของเขาไม่ได้เวอร์เหมือนในหนังหรอกครับ ถึงแบบนั้นมันก็ยังคงน่าสนใจไม่แพ้กันเลย   Willy Wonka ในโลกแห่งความเป็นจริง Liam Burgess   เจ้าของโรงงานช็อกโกแลตแห่งนี้ชื่อว่า Liam Burgess เขาเป็นผู้ริเริ่มช็อกโกแลตแบรนด์ Nomnom Chocolate ชายคนนี้เริ่มต้นทำบริษัทช็อกโกแลตนี้ตอนที่เขามีอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น และโรงงานของเขาก็มีเอกลักษณ์ในตัวเองมากพอสมควรเลย ในตอนต้นนั้นบริษัทของเขาเริ่มทำช็อกโกแลตในห้องเล็กๆ หลังบ้านเท่านั้น และพนักงานทั้งหมดในโรงงานก็เป็นเพื่อนวัยเด็กของเขาทั้งหมดเลย แม้ว่าแต่ละคนจะไม่ได้เรียนจบด้านที่เกี่ยวข้องกับการทำช็อกโกแลตมาก็ตาม   พนักงานทุกคนเป็นเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานาน   Lili พนักงานคนหนึ่งเล่าว่า “Sarah, Liam, Finbar และฉันเรียนโรงเรียนประถมเดียวกัน เรารู้จักกันดีมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว … หลายคนในนี้ไม่เคยทำงานมาก่อนเลย ฉันเองก็เช่นกัน … พวกเราทุกคนไม่เคยมีประสบการณ์การทำช็อกโกแลตหรือการทำงานด้านอาหารเลยด้วยซ้ำ“ นอกจากการจ้างพนักงานที่มีหลักเกณฑ์ไม่เหมือนกับที่อื่นแล้ว พนักงานทุกคนในโรงงานช็อกโกแลตของเขาก็มีชื่อตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครเช่นกัน…

  • จะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแมงมุมแค่ตัวเดียว ถึงกับต้องเผาบ้านเผาเมืองให้วอดวายทั้งหลัง

    จะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแมงมุมแค่ตัวเดียว ถึงกับต้องเผาบ้านเผาเมืองให้วอดวายทั้งหลัง

    หากใครที่มีอาการกลัวสัตว์อย่างแมงมุมมากๆ เชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้เจอกับพวกมันตัวเป็นๆ จะต้องบ้านแตกแน่นอน เราจะต้องพยายามหาวิธีที่จะไล่มันออกไป ไม่ว่าจะใช้วิธีใดๆ ก็ได้ ขอแค่ฆ่ามันหรือไม่ก็ไล่มันออกจากบ้านได้คือโอเค แต่ว่าเรื่องที่จะเอามาให้ชมนี่คือเรื่องของชายคนหนึ่งที่ได้เจอกับแมงมุมสุดสยองในบ้านของตัวเอง แต่แทนที่จะไล่มันออกไปหรือเรียกให้หน่วยงานใดมาช่วยเหลือ เขาจึงคิดว่าไม่เขาก็มันที่ต้องตายกันไปข้าง สุดท้ายก็เลยเลือกที่จะจุดไฟเผาบ้านตัวเองซะเลย….   แมงมุมหมาป่า   ตามรายงานจากเว็บไซต์ Ladbible ไม่ได้ระบุชื่อจริงของชายหนุ่มรายนี้เอาไว้ บอกเพียงว่าเขาอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามข่าวบอกว่าเขาเริ่มจุดคบเพลิง แล้ววางเพลิงเผาเจ้าแมงมุมทั้งอย่างนั้นซะเลย แต่เมื่อแมงมุมติดไฟมันก็วิ่งพล่านไปทั่ว พอวิ่งไปบนฟูก ก็ทำให้ฟูกติดไฟไปด้วย โชคดีที่ว่าเขาดับฟูกที่ติดไฟได้ทัน แต่ทว่าเหมือนเจ้าสิ่งมีชีวิตแปดขาตัวนั้นมันจะล้างแค้นยังไม่สาแก่ใจ มันเลยวิ่งไปแถวผ้าม่านอีก คราวนี้ผ้าม่านลุกเป็นไฟไปด้วย     Lyndsey Wisegarver ผู้ดูแลของหนึ่งในชายที่อาศัยอยู่ที่นี่ได้กล่าวว่า “มันเป็นแมงมุมหมาป่าที่ตัวโคตรใหญ่เลย” คนที่พักอาศัยที่นี่ได้พยายามที่จะดับไฟเองโดยใช้สายยางแต่ไม่ได้ผล สุดท้ายพวกเขาจึงได้เรียกนักดับเพลิงมาช่วย หัวหน้าของพนักงานดับเพลิง Rob Pitt ได้บอกว่าไฟนั้นได้ลุกลามไปที่ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนด้วย แต่นักดับเพลิงก็สามารถควบคุมไฟไม่ให้ลามไปหาเพื่อนบ้านได้ และทุกคนหนีออกมาได้ทัน จึงไม่มีใครบาดเจ็บ แต่พวกคนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์นี้ ต้องไปหาที่พักใหม่เพราะว่าที่นี่คงเป็นที่อยู่อาศัยไม่ได้แล้ว ไฟไหม้นั้นได้สร้างความเสียหายระดับปานกลางให้บ้านหลังนี้ และเขาประเมินค่าความเสียหายว่าจะอยู่ประมาณ 11,000$ หรือประมาณ 350,000 บาท Wisegarver บอกว่าพวกเขาคิดจะย้ายออกมาซักพักแล้ว พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น พวกเขาเลยตัดสินใจได้ง่ายๆ เลย   วิดีโอขณะที่นักเพลิงได้ปฏิบัติหน้าที่   Now…

  • 5 วัฒนธรรมสุดน่ากลัว ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอยู่บนโลกใบนี้!!

    5 วัฒนธรรมสุดน่ากลัว ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอยู่บนโลกใบนี้!!

    บนโลกนี้มีวัฒนธรรมอยู่มากมายตามแต่ละพื้นที่ สะท้อนถึงสิ่งที่บรรพุรุษของเราเคยเชื่อและทำ และมักจะถูกส่งต่อไปยังรุ่นถัดไป เราจะเห็นประเพณีหรือกิจกรรมบางอย่างที่คนรุ่นปู่ย่าตาทวดเคยทำ แล้วพ่อแม่ลุงป้าน้าอาก็ทำ ซึ่งพอมาถึงรุ่นเรา เราก็ต้องเลือกแล้วล่ะว่าเราจะทำตามต่อไปหรือไม่ ทุกวัฒนธรรมและศาสนาทั่วโลก ย่อมมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็มีวัฒนธรรมแปลกๆ ถึงขั้นอันตรายถึงชีวิตที่หลายคนจากทั่วทุกมุมโลกได้ทำตามกันมา แม้ว่าจะแปลกและอันตรายจนไม่อยากเชื่อว่า ความเชื่อ วัฒนธรรม และประเพณีแบบนี้จะมีอยู่บนโลกจริงๆ ก็ตาม แต่มันก็เกิดขึ้นมาแล้วจริงๆ และเราก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้มากเท่าไหร่ และนี่คือตัวอย่างของวัฒนธรรมแปลกๆ ที่มีจริงๆ อยู่ในโลกของเรา จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย   1. ถุงมือมดกระสุน เด็กชายชาวอะเมซอน ต้องพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายเมื่อถึงอายุ ด้วยการสวมถุงมือสานที่เต็มไปด้วยมดกระสุนที่มีพิษอันตราย พวกเขาต้องสวมถุงมือนี้และเต้นเป็นเวลา 10 นาที และที่น่ากลัวกว่านี้คือ พวกเขาต้องทำแบบนี้ซ้ำๆ กว่า 20 ครั้งใน 1 ชีวิตของพวกเขา โดยประเพณีนี้มาจากชาว Satere Mawe นอกจากที่เด็กๆ จะต้องสวมถุงมือแล้ว พวกเขายังต้องไปจับมดจากป่าแอมะซอนมาใส่เองอีกด้วย ซึ่งมดแต่ละตัวนั้น ต่อยเจ็บกว่าผึ้งประมาณ 30 เท่า .   2. ประเพณีเจาะร่างกาย ไทปูซัม ของศาสนาฮินดู…

  • ‘ให้ทุกอย่างมันจบในวันนี้’ ย้อนดูโศกนาฏกรรม ลูกวัย 15 และเพื่อนวัย 12 วางแผนฆ่าพ่อเลี้ยง

    ‘ให้ทุกอย่างมันจบในวันนี้’ ย้อนดูโศกนาฏกรรม ลูกวัย 15 และเพื่อนวัย 12 วางแผนฆ่าพ่อเลี้ยง

    เมื่อพูดถึงคดีฆาตกรรมในประวัติศาสตร์ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของ Colt Lundy และ Paul Gingerich มาบ้าง เพราะพวกเขาเป็นเด็กที่กลายเป็นฆาตกรขณะที่มีอายุเพียง 15 และ 12 ปีเท่านั้น การก่อเหตุครั้งนี้ส่งผลให้ Lundy ต้องติดคุกนานถึง 25 ปี และถูกคุมประพฤติอีก 5 ปี ด้วยข้อหาฆ่า Phillip Danner ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงเขาเมื่อปี 2010     ส่วน Gingerich และคนดูต้นทาง Chase Williams วัย 12 ปี ถูกขังสถานพินิจเด็กและเยาวชน หลังทั้งคู่รับสารภาพว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆ่าพ่อเลี้ยงของ Lundy เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนเกือบทั่วโลก ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ อะไรเป็นเหตุจูงใจให้เด็กอายุแค่นี้ลงมือฆ่าคนได้ และมันเกิดขึ้นได้อย่างไร? และต่อไปนี้คือลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดของเรื่องนี้   Phillip Danner   วันที่ 20 เมษายน ปี 2010 Danner วัย 49 ปี ถูกฆาตกรรมในบ้านของเขาที่ Doswell Boulevard เมืองครอมเวลล์ วันที่ 21…

  • สื่อสัมภาษณ์หนุ่มที่อ้างว่าเดินทางมาจากปี 6000 แถมเคลมว่ายุคนั้น AI ครองโลก!?

    สื่อสัมภาษณ์หนุ่มที่อ้างว่าเดินทางมาจากปี 6000 แถมเคลมว่ายุคนั้น AI ครองโลก!?

    บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นข่าวที่พูดถึงคนหนึ่งคน หรือกลุ่มที่อ้างตัวว่าพวกเขานั้นมาจากโลกอนาคต บ้างก็อีก 20 ปี บ้างก็บอกว่าอีก 100 ปี หนักหน่อยก็อาจจะอีกเป็น 1000 ปีแบบหนุ่มเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ หนุ่มไม่ทราบนามคนหนึ่ง ได้อ้างว่าเขานั้นเดินทางมาจากปี 6000 พร้อมกับขอให้ทีมข่าวเบลอหน้าของเขา เพราะคนในโลกอนาคตไม่อยากให้คนในปัจจุบันรู้เกี่ยวกับโลกอนาคต ฉะนั้นเขาจึงต้องปิดหน้าเพื่อป้องกันตัว หนุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ได้บอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตคร่าวๆ ว่า ในปี 6000 ยารักษามะเร็งได้ถูกคิดค้นขึ้นแล้ว และมันก็ได้ผลมากๆ นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า เทคโนโลยีในอนาคตนั้นล้ำหน้ามากๆ มนุษย์สามารถที่จะเทเลพอร์ตได้ และการย้อนเวลาก็สามารถทำได้ทุกคนถ้าคุณมีเงินมากพอ     เขายังอ้างอีกว่าการย้อนเวลานั้นมีกฎอยู่แค่ข้อเดียวคือ คุณจะต้องไม่ไปยุ่งกับเหตุการณ์ใดๆ ก็ตาม คุณจะทำได้แค่มองดูมันเกิดขึ้นเท่านั้นและจะต้องล่องหนตลอดเวลา กลับกันในปี 6000 คนที่ปกครองโลกอยู่นั้นกลับไม่ใช่มนุษย์ด้วยกันเอง แต่เป็น AI โดยเขาให้เหตุผลว่ามนุษย์นั้นมีการวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยความรู้สึก แน่นอนว่าบางครั้งคนเราก็ตัดสินใจได้ถูก แต่บางครั้งก็ผิด กลับกัน AI จะตัดสินทุกอย่างด้วยปัญญาที่มันมี และมันจะไม่ใช่ความรู้สึก ซึ่งนั่นทำให้ทุกอย่างแม่นยำ 100%     หนุ่มคนนี้ยังอ้างอีกว่า ในอนาคตเราสามารถถ่ายเทจิตของเราลงไปในคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งมันจะทำให้เราสามารถอยู่ได้ตลอดไป และในช่วงสุดท้ายเขาได้โชว์รูปภาพให้เราดูว่าเมืองในปี 6000 นั้นเป็นยังไง…

  • Google Arts & Culture แอปพลิเคชันที่ให้คุณเซลฟี่ตัวเองเทียบกับศิลปินดังได้!?

    Google Arts & Culture แอปพลิเคชันที่ให้คุณเซลฟี่ตัวเองเทียบกับศิลปินดังได้!?

    สำหรับใครที่เล่นโซเชียลในช่วงนี้คงจะเห็นภาพเซลฟี่ของใครต่อใครที่อีกฟากหนึ่งเป็นภาพคล้ายกันกับภาพวาดของศิลปินสุดคลาสสิก แน่นอนว่าพอเรารู้สึกสนใจก็อยากจะลองเล่นดูบ้างแต่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าแอปที่ว่ามันคือแอปอะไร แอปดังกล่าวมีชื่อว่า Google Arts & Culture เป็นแอปที่จะให้เราถ่ายภาพเซลฟี่ในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะหันหน้าหันข้าง ทำหน้าโกรธหรือทำหน้าตามีความสุข เจ้าแอปนี้มันก็จะหาภาพวาดสุดคลาสสิคมาเปรียบเทียบกับหน้าปัจจุบันของเรา ซึ่งถ้าใครสนใจก็สามารถไปหาโหลดกันได้ที่ Google Play หรือ App Store     ในส่วนการทำงานของตัวแอปก็ง่ายมากๆ เพียงแค่เราเปิดเจ้า Google Arts & Culture ตัวแอปก็จะบอกให้เราถ่ายเซลฟี่ตัวเองมาสัก 1 รูป โดยหน้าของเราจะต้องอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม   หลังจากที่ถ่ายเสร็จแล้ว ระบบจะทำการประมวลผลและบอกว่าเรานั้นมีใบหน้าและท่าทางคล้ายกับศิลปินคลาสสิกคนไหน บางทีเราอาจจะหน้าเหมือนแวนโก๊ะก็ได้นะ   เมื่อผลลัพธ์ออกมา เราก็จะได้รู้ว่าเรานั้นหน้าเหมือนศิลปินสมัยก่อนขนาดไหน โดยเราสามารถเลือกจะแชร์บททดสอบนี้ไปให้ชาวเน็ตคนอื่นๆ ดูต่อได้ด้วยนะ     ด้าน Tony Villas นักข่าวจาก Business Insider ก็ขอลองบ้าง   ไม่ใช่แค่คนทั่วไปนะที่ลองเล่นเจ้าแอปตัวนี้ Kumail Nanjiani ดาราดังจาก The Big Sick…

  • จากคู่รักเด็กที่คุยกันในเกม กลับมาคบกันตอนโต แถมตอนนี้แต่งงานกันแล้ว!!

    จากคู่รักเด็กที่คุยกันในเกม กลับมาคบกันตอนโต แถมตอนนี้แต่งงานกันแล้ว!!

    เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวความรักของ Kristin และ Michael ที่เพิ่งเข้าสู่ประตูวิวาห์ไปหมาดๆ ความรักของทั้งสองคนนั้นดูเหมือนเป็นเรื่องพรหมลิขิตชัดๆ เรื่องราวเริ่มต้นมาจากเมื่อ Kristin อายุ 12 ปี เธอได้เล่นเกมส์ออนไลน์ที่ชื่อว่า Neopets และเธอก็ได้พบกับเด็กชาย Michael อายุ 10 ปี ที่บังเอิญมาเข้าร่วมกิลด์เดียวกัน เด็กหญิงใช้ชื่อในเกมส์ว่า Zepher_Cat ส่วนเด็กชายใช้ชื่อว่า Doctor     เมื่อมาอยูร่วมกิลด์กันก็ต้องช่วยกันทำภารกิจต่างๆ ในเกมทั้งสองจึงมีการพูดคุยกันผ่านห้องแชตและอีเมล มีการพูดคุยกันในทุกๆ วัน พูดกันตามประสาเด็กๆ แต่ด้วยความเด็กของทั้งคู่จึงทำให้การสนทนาไม่มีอะไรลึกซึ้งมากกว่าความเป็นเพื่อน และก็ได้เลิกคุยกันในเวลาต่อมา พอทั้งสองเริ่มเข้าสู่การเป็นวัยรุ่น ก็ได้กลับมาติดต่อกันอีกครั้งผ่านการแชตออนไลน์ซึ่งในครั้งนี้ทั้งคู่กลับมาคุยกันแบบหนุ่มสาว คุยโทรศัพท์ ส่งรูปให้ดูและเริ่มต้นไปสู่การนัดเดต     แต่การนัดเดตในครั้งนั้นก็ล่มไปเพราะความไม่แน่ใจ และกลัวการเจอคนแปลกหน้าของฝ่ายชาย แต่ทั้งสองก็ยังคุยกันเรื่อยๆ และมักจะบอกรักกันแบบน่ารักๆ เป็นประจำ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เรื่อยๆ มาจนถึงเมื่อตอน Kristin อายุ 20 ปี ส่วนหนุ่ม Michael เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยที่ Hendrix College ทั้งสองจึงมีโอกาสที่จะเจอกันอีกครั้ง และนี่คือการพบกันเป็นครั้งแรกของเขาและเธอ ในการเดตครั้งแรก…

  • Kit Kat ญี่ปุ่นผุดไลน์ใหม่ใส่ ‘รูบี้ช็อคโกแลต’ สีชมพูธรรมชาติ มีเพียง 5,000 แท่ง

    Kit Kat ญี่ปุ่นผุดไลน์ใหม่ใส่ ‘รูบี้ช็อคโกแลต’ สีชมพูธรรมชาติ มีเพียง 5,000 แท่ง

    หลายๆ คนอาจจะชื่นชอบและคุ้นเคยกับเวเฟอร์ช็อกโกแลตสุดอร่อยอย่าง คิทแคท (Kit Kat) ที่ได้ผลิตช็อกโกแลตหลากหลายรสชาติให้เราได้ลิ้มลองเช่นรสชาเขียว รสถั่วแดง รสสตอเบอร์รี่ รสวาซาบิ และอีกมากมายที่ถูกผลิตออกมาจัดวางจำหน่ายทั่วโลก และในปีนี้บริษัท Nestle Japan ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายช็อกโกแลตแบรนด์ คิทแคท ก็ได้ออกมาเปิดตัวคิทแคทรสชาติใหม่ บอกเลยว่าเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะว่าเจ้าคิทแคทรสใหม่นี้ทำมาจาก “รูบี้ช็อคโกแลต” ช็อคโกแลตชนิดใหม่ที่ถูกค้นพบในรอบ 80 ปี     สิ่งที่ทำให้ช็อกโกแลตคิทแคทที่ผลิตออกมาในครั้งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์และหาไม่ได้จากที่ไหนนั่นก็คือการนำรูบี้ช็อกโกแลต ช็อกโกแลตชนิดที่ 4 มาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิต โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัท Barry Callebaut ผู้ผลิตช็อกโกแลตและโกโก้จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์     รูบี้ช็อกโกแลตมีสีแดงสดแบบธรรมชาติ หลังจากการเก็บเกี่ยวก็จะถูกเข้าสู่กระบวนการสกัดออกมาเป็นช็อคโกแลตที่มีการคิดค้นนานหลายปี ช็อกโกแลตที่ได้ออกมาจะมีสีแดงชมพูแบบไม่ได้แต่งสีใดๆ     Antoine de Saint-Affrique ผู้บริหารของบริษัท Barry Callebaut ได้ออกมาแถลงข่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีที่รูบี้ช็อคโกแลตของเราได้รับความสนใจและประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยการได้รับความร่วมมือจากบริษัท Nestle และ Kit Kat ของญี่ปุ่นที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของรูบี้ช็อคโกแลต ซึ่งจะดึงดูดผู้บริโภคจากทั่วเอเชียและทวีปอื่นๆ” Yasumasa Takagi…

  • จีนเตรียมเปลี่ยนหน้าผาที่เด็กใช้ปีนไปโรงเรียนเป็นที่ท่องเที่ยว หลังได้รับความนิยม

    จีนเตรียมเปลี่ยนหน้าผาที่เด็กใช้ปีนไปโรงเรียนเป็นที่ท่องเที่ยว หลังได้รับความนิยม

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 สื่อจีนเคยเผยแพร่ภาพของบันไดแห่งหนึ่งในมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นบันไดไม้เก่าๆ ที่เด็กจากหมู่บ้านอันห่างไกลไว้ใช้เดินทางไปเรียนหนังสือ และแน่นอนว่าข่าวดังกล่าวก็ได้รับความนิยมสุดๆ เลยทีเดียว งานนี้เมื่อรัฐเล็งเห็นว่า บันไดดังกล่าวมันกลายเป็นกระแสและมีคนพูดถึงมาตลอด ทำไมพวกเขาไม่หยิบมันมาพัฒนาต่อเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวดูละ? งานนี้โปรเจกต์บันไดปีนพาชมวิวจึงเริ่มขึ้น!!     เดิมทีบันไดดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ในชุมชนที่ชื่อ Atule’er ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านจำนวน 72 ครัวเรือน โดยคิดเป็นประชากรราว 400 คน ส่วนตัวบันไดนั้นมีความสูงอยู่ที่ 800 เมตร โดยเด็กๆ ที่จะไปเรียนหนังสือจำเป็นจะต้องปืนบันไดดังกล่าว     ต่อมาในเดือนพฤษจิกายนปีเดียวกัน ทางรัฐได้จัดการดัดแปลงและพัฒนาบันไดดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้น ด้วยแผนการที่จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว รัฐได้ทำแคมเปญเชิญชวนรวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง 4G ไวไฟ และ ตู้ ATM ให้มีใช้กันบริเวณหมู่บ้านแล้วด้วย ส่วนตัวหมู่บ้านก็มีการพัฒนาไปในทางที่ดียิ่งขึ้น โรงเรียนก็ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้เด็กๆ สามารถเข้าเรียนได้ ซึ่งนั่นทำให้หมู่บ้านเติบโตและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมากๆ เพราะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังบันไดดังกล่าวมีมากถึง 100 คนต่อวันเลยล่ะ     สุดท้ายแล้ว จากเรื่องราวที่เผยแพร่ในปี 2016 ของกลุ่มนักเรียนที่ไปเรียนอย่างยากลำบาก มาวันนี้พวกเขาไม่ต้องลำบากแบบนั้นอีกต่อไป และความเจริญก้าวหน้าก็มาหาพวกเขาแล้ว ซึ่งทางรัฐก็ตั้งเป้าไว้ว่าที่แห่งนี้จะได้รับความนิยมและทำเงินจากการท่องเที่ยวได้สูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน……

  • พ่อมีตังค์ จ้างนักเต้นรูดเสามาเต้นยั่ว เซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชายวัย 12 ปี ชาวเน็ตถกเถียงกันใหญ่!!

    พ่อมีตังค์ จ้างนักเต้นรูดเสามาเต้นยั่ว เซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชายวัย 12 ปี ชาวเน็ตถกเถียงกันใหญ่!!

    กลายเป็นธรรมเนียมสากลไปแล้ว ที่เมื่อถึงวันเกิดของใครสักคนเราต้องหาของขวัญให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของวันเกิด ซึ่งของขวัญนั้นก็จะเป็นอะไรก็ได้ที่ผู้ให้อยากให้ และก็มีบางครั้งที่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผู้รับต้องการหรือชอบใจสักเท่าไหร่ คราวนี้เป็นวันเกิดของเด็กชายวัย 12 ปี ที่คุณพ่อมหาเศรษฐีของเขานั้นทำการเซอร์ไพรส์ด้วยการมอบของขวัญที่แปลกสุดๆ เพราะนั่นคือการจ้าง “นักเต้นรูดเสา” มาเต้นยั่วรอบตัวลูกชายนั่นเอง มีคลิปวิดีโอการเซอร์ไพรส์ลูกชายด้วยสาวๆ นักเต้นรูดเสาถูกเผยแพร่ออกมาสู่โลกอินเทอร์เน็ต ในวิดีโอนั้นมีบางช่วงสั้นๆ ที่สามารถสังเกตเห็นสีหน้าของเด็กหนุ่มวัย 12 ปี ได้ว่าเขาดูไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไรกับเหตุการณ์นี้   คลิปวิดีโอเหตุการณ์การเซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชายวัย 12 ปี ด้วยสาวนักเต้นรูดเสา   ภาพเหตุการณ์ขณะสาวๆ กำลังเต้นยั่วเด็กหนุ่ม   เด็กหนุ่มไม่ได้รู้สึกพึงพอใจนัก หากสังเกตจากสีหน้า   คุณพ่อของเด็กหนุ่มคอยเชียร์อย่างเริงร่า   สาวๆ ยังคงเต้นยั่ว พร้อมทั้งถอดเสื้อของเด็กหนุ่มออก   มีชาวเน็ตหลายคนที่ส่งต่อคลิปวิดีโอนี้กันด้วยความเฮฮา บ้างก็คอมเมนต์ว่าอิจฉาเด็กชายวัย 12 ขวบ อยากจะมีอะไรแบบนี้เป็นการฉลองวันเกิดบ้าง อย่างไรก็ตาม ก็มีคนเห็นแย้งเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญและชาวเน็ตอีกหลายคนมองว่าเหตุการณ์นี้ไม่เหมาะสม พร้อมบอกว่าเด็กหนุ่มวัยรุ่นระยะแรกแบบนี้ยังไม่ควรได้รับการกระตุ้นทางเพศอย่างในคลิป บางคนกล่าวว่านี่เข้าข่ายการกดขี่ทางเพศเลยทีเดียว ที่มา: Dailymail

  • หญิงสาวทำป่วน กระโดดลงไปเก็บมือถือในรางรถไฟในชั่วโมงเร่งด่วน!!

    หญิงสาวทำป่วน กระโดดลงไปเก็บมือถือในรางรถไฟในชั่วโมงเร่งด่วน!!

    เมื่อวันที่ 18 มกราคาคม 2018 ที่ผ่านมามีผู้หญิงสองคนกระโดดลงไปบนรางรถไฟในสถานีรถไฟ Aldgate East ที่อยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยหญิงสาวอ้างว่าวิ่งลงไปเพื่อเก็บมือถือของตัวเองที่ทำหล่นลงไป หากดูจากในคลิปจะเห็นว่าหญิงสาวที่โดดลงไปนั้นเป็นหญิงผมยาว สวมชุดเสื้อโค้ทหนาสีดำ หิ้วกระเป๋าถือสีดำ หลังจากที่เธอลงไปเก็บมือถือได้แล้ว เธอก็กระโดดขึ้นมาตรงบริเวณที่ผู้โดยสารแล้วเดินผ่านทุกคนไปอย่างรวดเร็ว   คลิปวิดีโอ (หากดูไม่ได้กรุณาคลิก ที่นี่)   เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รถไฟสาย Metropolitan Line, District Line, Circle Line และ Hammersmith & City Line รวมทั้งหมด 4 สายต้องหยุดให้บริการชั่วคราวแม้ว่าจะอยู่ในชั่วโมงเร่งด่วนก็ตาม จากคำบอกเล่าของคนในที่เกิดเหตุ ในตอนแรกนั้นหญิงสาวทำโทรศัพท์หล่นลงไปบนทางรถไฟ เธอจึงไปบอกกับเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเก็บให้หน่อย แต่พอเจ้าหน้าที่ปฏิเสธเธอตามกฎ เธอก็เลยโดดลงไปเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาเอง   ประกาศหยุดทำการชั่วคราวในทวีตเตอร์จากทางถสถานีรถไฟทั้ง 4 สาย   สถานะของรถไฟทั้ง 4 สายแจ้งว่า ขบวนรถจะล่าช้าอย่างมาก   ผู้ใช้งานอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ชื่อ Alex Shier ได้โพสต์ลงในอินสตาแกรมว่า “เอิ่ม ผู้หญิง 2 คนวิ่งลงไปบนรางรถไฟในสถานี…

  • อาณาจักรแห่งเซเว่นทั่วเอเชีย นอกจากจะมีสาขาเยอะแล้ว ของเก๊ก็คลอดตามมาเพียบ!!

    อาณาจักรแห่งเซเว่นทั่วเอเชีย นอกจากจะมีสาขาเยอะแล้ว ของเก๊ก็คลอดตามมาเพียบ!!

    คงปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมล่ะว่าร้านสะดวกซื้อยอดนิยมของไทยเรานั้นก็คงจะหนีไม่พ้น 7-ELEVEn หรือ เซเว่น ที่เราคุ้นเคยนี่เอง เคยไหมเวลาที่นึกอะไรไม่ออก ไม่รู้จะกินอะไร จะซื้อของใช้เล็กๆ น้อยๆ ที่ไหนดี สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของเราอันดับแรกๆ เลยก็มักจะเป็นเจ้าเซเว่นนี่แหละ นอกจากเซเว่นจะเป็นที่นิยมในไทยแล้วยังนิยมมากเช่นกันในประเทศเอเชียอื่นๆ ซึ่งปัญหาที่ตามมาก็คือ มันทำให้ร้านค้าอื่นๆ ในท้องถิ่นนั้นอยู่ยากเลยทีเดียว แต่ก็มีร้านค้าท้องถิ่นบางร้านไม่ยอมพ่ายแพ้ “ขอเกาะกระแสเซเว่นหน่อยก็แล้วกัน” ลองมาดูไอเดียการพยายามทำตัวให้เหมือนเซเว่นของร้านค้าท้องถิ่นในแต่ละประเทศกันเถอะ ดูว่าแต่ละที่จะออกมาเป็นอย่างไรกันบ้าง   ญี่ปุ่น   7-Mercy ที่จริงร้านนี้มีมานานแล้วแหละ แต่ดูโลโก้เขาปัจจุบันเสียก่อน   เปิดตรงข้ามกับ 7-ELEVEn ของแท้เลยนะ เก๋าขนาดไหนคิดดู   จีน   7-TWELVE ถ้าไม่ดูให้ดีคุณอาจโดนหลอกได้นะ เพราะมันต่างกันแค่ 1 เอง ฮ่าๆ   9-ONE ไม่รู้ว่าเลข 9 กับ 1 จะสื่ออะไรหรอก แต่ดีไซน์มันใช่เลยอะ   เวียดนาม   7-DAYS นี่ก็เซเว่นเหมือนกันนะ แต่เป็น “เซเว่นเดย์ส”   กัมพูชา…

  • รถไฟญี่ปุ่นติดตั้ง “เสียงร้องของสัตว์” เตือน “กวาง” ให้รู้ว่ารถไฟกำลังใกล้เข้ามา ช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

    รถไฟญี่ปุ่นติดตั้ง “เสียงร้องของสัตว์” เตือน “กวาง” ให้รู้ว่ารถไฟกำลังใกล้เข้ามา ช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

    จากข้อมูลของหนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun พบว่าระหว่างที่รถไฟกำลังวิ่งอยู่ในช่วงเย็นและช่วงดึก ในเขตที่มีสัตว์อาศัยอยู่ใกล้เคียงมักจะมีสัตว์ป่า (โดยเฉพาะกวาง) มาขวางทางรถไฟอยู่ จนมักจะเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนสัตว์ตายอยู่บ่อยครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหานี้นักวิจัยจึงได้คิดค้นวิธีป้องกันไม่ให้สัตว์เข้ามาใกล้รถไฟจนโดนชน แล้วก็พบว่าการติดตั้งเสียงเตือนของรถไฟเป็นเสียงร้องของสัตว์ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ดีมาก     หลังจากที่พบว่ามีกวางถูกรถไฟชนอยู่บ่อยครั้ง นักวิจัยกลุ่มหนึ่งจึงรวมตัวกันขึ้นเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหานี้ จะได้ช่วยไม่ให้สัตว์ป่าต้องตายโดยใช่เหตุ จากการรวบรวมข้อมูลแล้ว ก็พบว่าเมื่อเปิดสัญญาณเตือนก่อนจะถึงบริเวณที่กวางรวมกันอยู่จะทำให้พวกมันมีโอกาสโดนชนน้อยลง นักวิจัยจึงใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนนี้รวมเข้ากับข้อมูลที่ว่ากวางกลัวเสียงเห่าของสุนัข เกิดเป็นสัญญาณเตือนภัยเสียงสุนัขเห่าขึ้นมา     จากนั้นจึงทำการทดสอบโดยใช้เสียงร้องของกวางยาว 3 วินาที ผสมกับเสียงเห่าของสุนัขยาว 20 วินาที แล้วให้รถไฟนำไปเปิดใช้ในตอนกลางคืน ผลที่ได้นั้นเป็นที่พึงพอใจมาก พบว่ารถไฟจะเจอกวางประมาณ 7.5 ครั้งในระยะการวิ่งทุกๆ 100 กิโลเมตร และเมื่อเปิดใช้เสียงสัญญาณสุนัขเห่าแล้วก็ทำให้กวางโดนชนลดน้อยลงมาก Railway Technical Research Institute ที่เป็นสถาบันวิจัยข้อมูลเกี่ยวกับรถไฟระบุว่าเสียงสัญญาณนี้ช่วยลดจำนวนกวางที่โดนชนได้ถึง 45 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว     เจ้าหน้าที่จากสถาบันวิจัย Railway Technical Research Institute บอกกับหนังสือพิมพ์ Asahi ว่า “ถ้าหากว่าเสียงสัญญาณแบบใหม่นี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันจะช่วยลดความจำเป็นที่จะต้องติดตั้งสิ่งกีดขวางเพื่อป้องกันสัตว์ป่าในหลายพื้นที่” เขายังพูดอีกว่า “พวกเราหวังว่าเสียงสัญญาณนี้จะสามารถนำไปใช้ในระบบได้อย่างทั่วถึงทั้งในบริเวณภูเขาและบริเวณอื่นๆ ด้วย…

  • สาวและเพื่อนๆ ขวัญผวา ถ่ายกรุ๊ปช๊อตกันในที่โล่งแจ้งดีๆ มีเด็กที่ไหนไม่รู้ติดมาด้วย อาจจะไม่ใช่คนก็เป็นได้

    สาวและเพื่อนๆ ขวัญผวา ถ่ายกรุ๊ปช๊อตกันในที่โล่งแจ้งดีๆ มีเด็กที่ไหนไม่รู้ติดมาด้วย อาจจะไม่ใช่คนก็เป็นได้

    ในการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่มักจะมีการถ่ายรูปกลุ่มด้วยเสมอ ถือว่าเป็นการเก็บเอาความทรงจำดีๆ ในการเที่ยวครั้งนั้นติดไปกับเราด้วย แต่การถ่ายรูปกลุ่มก็เป็นอะไรที่ยุ่งยากพอสมควรเหมือนกัน เพราะกว่าจะได้รูปที่ทุกคนดูดีได้ ก็ต้องถ่ายกันหลายรูปเลย Holly และเพื่อนของเธองก็ออกไปเที่ยวข้างนอกกัน และอยากได้รูปกลุ่มที่ดูดีด้วย พวกเธอจึงตั้งเวลาแล้วถ่ายรูปติดกันหลายๆ ช๊อตออกมา แต่นอกจากรูปเธอและเพื่อนๆ แล้วกลับพบว่ามีภาพของเด็กปริศนาติดมาในภาพด้วย!?   Holly และเพื่อนๆ ของเธอ ผู้ใช้ทวิตเตอร์สาวที่ใช้ชื่อว่า Holly ได้ออกไปเที่ยวที่ทะเลสาบ Loch Eck เขต Argyll ประเทศสกอตแลนด์ ระหว่างที่เที่ยวกันอยู่พวกเธอก็ตัดสินใจถ่ายรูปกลุ่มเพื่อเป็นที่ระลึกถึงการเที่ยวครั้งนี้ด้วย พวกเธอตั้งเวลากล้องถ่ายรูปไว้ให้ถ่ายภาพติดกันทุก 3 วินาที จะได้มีภาพหลายใบไว้ให้เลือกลงกันในโซเชียลมีเดีย รูปที่ถ่ายออกมานั้นดูสวยงามถูกใจสาวๆ มาก ทว่ามีรูปอยู่ใบหนึ่งที่มีเด็กผู้ชายโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ มานั่งมองพวกเธออยู่ เธอและเพื่อนทุกคนต่างก็อึ้งไปตามกัน เพราะว่าภาพแต่ละใบถ่ายในเวลาห่างกันไม่กี่วินาที แล้วในบริเวณนั้นก็ไม่มีคนอยู่เลยสักคน แล้วเด็กชายคนนี้จะวิ่งมาเข้ากล้องในเวลาอันรวดเร็วแบบนั้นได้อย่างไรกัน   ทวีตของ holly ที่โพสต์ภาพเด็กชายปริศนาหลังกลุ่มของพวกเธอ   Holly จึงอัปโหลดภาพถ่ายที่มีเด็กชายปริศนาลงในทวิตเตอร์ของเธอ เผื่อว่าชาวเน็ตจะได้ช่วยหาคำตอบได้ว่าเด็กคนี้โผล่มาได้ยังไง เขาเป็นใครและที่สำคัญคือเขาเป็นคนหรือเปล่า ทวีตของเธอมีใจความว่า “ภาพนี้ถ่ายที่บ้านพักริมทะเลสาบแห่งหนึ่งในประเทศสกอตแลนด์ ไม่มีใครอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเลยสักคน แล้วฉันก็ถ่ายรูปรัวๆ ในเวลาห่างกันแค่ 3 วินาที แล้วดูสิว่ามีอะไรแปลกๆ เข้ามาในรูป…

  • โซเชียลระอุ!! เมื่อแม่ชาวจีนจับลูกมัดข้อมือติดกับมอเตอร์ไซค์ขับลากไปตามทางเพราะซนเกิน!?

    โซเชียลระอุ!! เมื่อแม่ชาวจีนจับลูกมัดข้อมือติดกับมอเตอร์ไซค์ขับลากไปตามทางเพราะซนเกิน!?

    ในแต่ละครอบครัวจะมีวิธีการเลี้ยงลูกที่ต่างกัน บางครอบครัวสอนลูกด้วยเหตุผล ในขณะพ่อแม่บางคนอาจทำโทษเล็กๆ น้อยเพื่อเป็นบทเรียนกับลูก แต่คุณแม่ชาวจีนคนนี้เลือกที่จะใช้ความรุนแรงกับลูก ด้วยการมัดเด็กน้อยติดกับรถมอเตอร์ไซค์และลากไปตามทาง โดยอ้างว่าลูกซนเกินไป หลังจากที่แม่คนนี้ลากลูกไปตามถนนสักพัก ก็มีคนมาเห็นและพยายามบอกให้เธอหยุดใช้ความรุนแรงกับลูก แต่เธอตอกกลับไปว่าได้ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว     สำนักข่าว Youku ระบุว่าแม่ลูกคู่นี้ถูกพบบนถนน Zhaotong ของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน สภาพที่เห็นคือเด็กน้อยนอนลงกับพื้น โดยมือทั้งสองข้างถูกผูกติดกับท้ายมอเตอร์ไซค์ ขณะที่ถูกแม่ลากไปตามท้องถนนนั้น เด็กชายร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด จนคนที่พบเห็นพยายามเข้าไปห้ามแต่คุณแม่ก็ไม่ยอมหยุด ในคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ คุณแม่คนนี้บอกว่า “ลูกชายของฉันซนเกินไป ฉันกำลังสอนบนเรียนให้กับเขา” และเธอยังบอกอีกว่าทำแบบนี้มาสองสามวันแล้ว     หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงวิธีการทำโทษที่ไม่เหมาะสม บางคนบอกว่า ‘นี่มันโหดร้ายเกินไป’ ‘ถ้าเราแจ้งให้ตำรวจทราบ จะสามารถทำให้แม่คนนี้หมดสิทธิในการเลี้ยงดูได้หรือไม่?’ และมีิอีกหลายคนบอกว่า ‘กังวลว่าเด็กคนนี้จะกลายเป็นคนมีปมปัญหาทางจิต’     อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่าคุณแม่คนนี้ทำอย่างไรต่อไปหลังถูกชาวเน็ตโจมตี และไม่มีใครรู้ว่าสภาพของเด็กชายเป็นอย่างไร แต่คาดว่าตำรวจคงไม่ปล่อยให้แม่ทำกับลูกแบบนี้ต่อไปอีกแน่   ที่มา dailymail

  • หญิงสาวผู้เกิดมาเป็นโรคหายาก 1 ใน 5 ล้านคนจะเป็น แต่ก็ยังยิ้มได้ในทุกๆ วันของชีวิต

    หญิงสาวผู้เกิดมาเป็นโรคหายาก 1 ใน 5 ล้านคนจะเป็น แต่ก็ยังยิ้มได้ในทุกๆ วันของชีวิต

    ไม่สำคัญว่าคุณจะเกิดมารวยหรือจน ไม่สำคัญว่าคุณจะเกิดมาด้วยร่างกายที่สมบูรณ์หรือไม่แต่สำคัญที่ว่าวันนี้คุณใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับสิ่งที่เป็นหรือเปล่า เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่เกิดมาพร้อมโรคทางพันธุกรรมที่หายาก ทำให้มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างจากคนทั่วไปแต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเธอก็เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มเสมอ Michelle Kish วัย 20 ปี จากรัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเกิดมาพร้อมกับโรค Hallermann-Streiff ซึ่งเป็นโรคที่หาได้ยากมากๆ โดยตอนที่เธอเกิดมีคนเป็นโรคนี้เพียง 250 คนจากทั่วโลก     ด้วยโรคที่หายากนี้ ทำให้ลักษณะใบหน้าของ Kish ดูเหมือนเด็ก ขณะที่สภาพร่างกายก็ดูแคระแกร็น และมีความสูงที่สูงกว่าเอวของพี่สาวเพียงเล็กน้อย เธอต้องได้รับการรักษาพยาบาลตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน โดยมีพยาบาลส่วนตัวที่ไปโรงเรียนกับเธอและต้องพาเธอไปโรงพยาบาลเป็นประจำ การได้ไปพบแพทย์บ่อยๆ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ Kish มีความสุขมากที่สุด เพราะเธอมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นกุมารแพทย์     ตอนนี้เธอมีฝันอีกอย่างหนึ่งคือ อยากเดินตามรอยเท้าพี่สาว Sarah ในการหาแฟนหนุ่มที่มีผมยาวและรักเธอด้วยหัวใจ Kish บอกว่า “ผู้คนมักจะคิดว่าฉันดูเด็กกว่าอายุจริงมาก พวกเขามักจะแสดงอาการแบบนั้นออกมาเมื่อถามอายุของฉัน เพียงแต่ไม่พูดออกมาเท่านั้นเอง”     Mary ผู้เป็นแม่และเป็นผู้ดูแลหลักของหญิงสาวบอกว่า “ตอนที่ฉันอุ้มท้อง Kish ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ ไม่มีปัญหาอะไรเลยตลอดช่วงตั้งครรภ์รวมทั้งตอนคลอดด้วย” “แต่แล้วแพทย์ก็พบความผิดปกติบางอย่างกับ Kish แต่มันเป็นสภาพที่หายากมากๆ พวกเขาจึงต้องหาตัวอย่างจากโรงพยาบาลอื่น” “ไม่มีใครเคยเห็นโรคนี้มาก่อนในโรงพยาบาล Children’s Memorial Hospital ที่ Kish เกิดมา และเมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรค Hallermann-Streiff…

  • ร้านแมคโดนัลด์ประกาศออกเมนู ‘แฮมเบอร์เกอร์’ ใหม่ ทำมาเพื่อเอาใจสาย ‘มังสวิรัติ’ โดยเฉพาะ

    ร้านแมคโดนัลด์ประกาศออกเมนู ‘แฮมเบอร์เกอร์’ ใหม่ ทำมาเพื่อเอาใจสาย ‘มังสวิรัติ’ โดยเฉพาะ

    หากว่าเราอยากจะทานแฮมเบอร์เกอร์ ร้านที่เรามักจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คงจะเป็น ร้านแมคโดนัลด์ แฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟู้ดที่ขึ้นชื่อเรื่องแฮมเบอร์เกอร์ที่หลากหลายและมีรสชาติถูกปากคนทั่วโลก น่าเสียดายที่แมคโดนัลด์ไม่ค่อยมีเมนูสำหรับคนทานมังสวิรัติ จึงไม่สามารถชวนเพื่อนๆ ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ไปนั่งชิลล์ด้วยกันได้ แต่เมื่อเร็วๆ นี้แมคโดนัลด์ได้คิดค้นแฮมเบอร์เกอร์แบบใหม่ ที่มังสวิรัติสามารถทานได้ออกมาแล้ว ทีนี้ไม่ว่าเราจะเป็นมังสวิรัติหรือคนทานเนื้อสัตว์ก็ไปทานอาหารที่แมคโดนัลด์ได้อย่างไม่ต้องกังวล   เชิญพบกับ McVegan แฮมเบอร์เกอร์เพื่อชาวมังสวิรัติ   เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วร้านแมคโดนัลด์ได้ทำแฮมเบอร์เกอร์สำหรับคนทานมังสวิรัติในชื่อว่า McVegan และนำไปวางขายครั้งแรกในเดือนตุลาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2017 ตามร้านแมคโดนัลด์ในเมือง Tampere เขต Pirkanmaa ประเทศฟินแลนด์ หลังจากที่แมคโดนัลด์ทดลองขาย McVegan แล้วก็พบว่ามีกระแสตอบรับที่ดีพอสมควร ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเปิดขายมันทั่วทั้งประเทศฟินแลนด์และประเทศสวีเดน     เนื้อของแฮมเบอร์เกอร์ชนิดนี้ทำจากแป้งถั่วเหลือง จึงไม่ขัดต่อการเป็นมังสวิรัติแต่อย่างใด สำหรับส่วนอื่นๆ อย่างแป้งแฮมเบอร์เกอร์และผักก็ยังคงใช้ของปกติเหมือนกับแฮมเบอร์เกอร์ทั่วไป แต่ตัวซอสมีการปรับแต่งให้ชาวมังสวิรัติทานได้ด้วย ทวิตเตอร์ของร้านแมคโดนัลด์ในประเทศฟินแลนด์ได้โพสต์ว่า “เรารู้สึกยินดีมากที่แฮมเบอร์เกอร์มังสวิรัติได้รับกระแสตอบรับที่ดี การทำแฮมเบอร์เกอร์มังสวิรัตินั้นต้องใช้วัถุดิบมากและตัวสเต๊กก็ทำมาจากถั่วเหลือง ตอนนี้เราก็ยังคงมุ่งหน้าพัฒนาให้มันมีรสชาติที่ดีขึ้นอยู่เรื่อยๆ”   ความรู้สึกของชาวเน็ตที่มีต่อ McVegan   ผู้ใช้งานอินสตาแกรมที่ใช้ชื่อ Vetnursescapist ก็ได้บอกความรู้สึกต่อเมนูนี้ว่า “McVegan ทำจากแป้งไร้กลูเต็น ภายในก็มีสลัด มะเขือเทศ แตงกวาดอง ซอสมะเขือเทศและมายองเนสมังสวิรัติด้วย เหมาะกับคนกินมังสวิรัติมาก แม้ว่าฉันจะไม่ได้ทานแฮมเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์มาเป็นปีจนลืมรสชาติของแบบปกติไปแล้ว แต่ฉันก็คิดว่ารสชาติของ McVegan…

  • คู่รักเดือด หลังช่างภาพถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง เอาภาพไปตัดต่อให้ดูผอมลงแล้วโพสต์ลงพอร์ท

    คู่รักเดือด หลังช่างภาพถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง เอาภาพไปตัดต่อให้ดูผอมลงแล้วโพสต์ลงพอร์ท

    ปกติเวลาจ้างช่างภาพมาถ่ายรูปให้ ไม่ว่าจะงานแต่ง งานรับปริญญา หรืองานสำคัญต่างๆ พอถ่ายเสร็จช่างภาพจะเอารูปเหล่านั้นไปปรับแต่งให้สวยงาม ก่อนจะมอบให้ลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะพอใจกับภาพที่ถูกรีทัชแล้วเหล่านั้นเพราะมันทำให้พวกเขาดูดีกว่าตัวจริง แต่นั่นไม่ใช่กับบ่าวสาวคู่นี้ที่ไม่พอใจอย่างหนักหลังพบว่าช่างภาพตัดต่อรูปทำให้พวกเขาดูผอมลง Katie Liepold จากรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าเธอต้องพบเจอกับประสบการณ์ที่อับอาย เมื่อช่างภาพที่จ้างมารูปพรีเวดดิ้งทำให้เธอกับคู่หมั้น Jon Kistler ดูผอมลงจากตัวจริง     ทั้งคู่ได้จ้างช่างภาพ Linda Silvestri จากสตูดิโอ Tower Photography ซึ่งตอนถ่ายทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งได้เห็นภาพนั่นแหละ Liepold บอกว่าครั้งแรกเธอสังเกตเห็นมีการเบลอภาพแปลกๆ ตรงมุม แล้วพอดูดีๆ ก็พบว่ารูปที่ถ่ายนั้นถูกทำให้ผอมลง ต่อมาว่าที่เจ้าสาวจึงได้ติดต่อไปยังช่างภาพ Silvestri และบอกกับเธอว่า “มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ มันทำให้ฉันรู้สึกน้อยใจและภาพที่ออกมามันก็ยังไม่ดีพอ”     เมื่อได้ยินดังนั้นช่างภาพจึงเสนอให้ยกเลิกสัญญา แต่ทว่าความเจ็บปวดของ Liepold ไม่ได้จบลงแค่นั้น เพราะช่างภาพบอกว่าจะไม่คืนเงินค่ามัดจำ 4,700 บาทให้ ถือเป็นค่าเสียเวลาและภาพที่ถ่ายไปแล้ว วันถัดมา Liepold เห็น Silvestri โพสต์ภาพของเธอกับคู่หมั้นลงในเพจ Northeast Ohio…

  • “สตรอว์เบอร์รี่รูปแมว” ในญี่ปุ่น พิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศนี้ทำอะไรออกมาก็ดูน่ารักไปซะหมดเลยยยย

    “สตรอว์เบอร์รี่รูปแมว” ในญี่ปุ่น พิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศนี้ทำอะไรออกมาก็ดูน่ารักไปซะหมดเลยยยย

    เมื่อเราจะหาซื้อผลไม้มาบริโภค เราย่อมต้องการผลไม้ที่มีรูปร่างสวยงาม สีสันสดใสน่ากิน เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าได้กินของที่ผ่านกรรมวิธีผลิตมาอย่างพิถีพิถัน ดังนั้นผลไม้ที่มีรูปร่างหรือสีแปลกประหลาดจึงมักจะถูกละเลยเสมอ ไม่มีว่าจะมีคนมาซื้อผลไม้เยอะเท่าไหร่ก็ไม่หยิบผลไม้รูปร่างประหลาดออกไปจากชั้นวางเสียที แต่ถ้าหากผลไม้ผิดรูปพวกนี้เกิดดูน่ารักขึ้นมาล่ะก็ อาจจะมีคนชอบก็ได้นะ   สตรอว์เบอรี่รูปทรงน้องเหมียวจากทวีตของผู้ใช้ทวิตเตอร์ @mugi 411   ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า @mugi411 เจอผลสตรอว์เบอรี่สุดประหลาดลูกหนึ่งจากกล่องผลไม้ที่พี่ชายเธอซื้อมา แม้ว่ามันจะดูผิดรูปจนดูไม่เหมือนสตรอว์เบอรี่สักนิด แต่เธอกลับคิดว่ามันดูน่ารักเหมือนกับลูกแมวไม่มีผิดเลย เธอก็เลยวาดตา หนวด และริบบิ้นเพิ่มเข้าไปให้มันดูเหมือนกับแมวในจินตนาการของเธอมากขึ้น แล้วจึงอัปโหลดรูปนั้นขึ้นบนทวิตเตอร์ของเธอเพื่อแบ่งปันความน่ารักให้กับชาวเน็ตด้วย   ภาพแฟนอาร์ตจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ @calicohuggg   ชาวเน็ตทุกคนที่ได้ผ่านไปเห็นต่างก็คิดว่ามันน่ารักเช่นกัน ยิ่งดูรูปที่เธอวาดเพิ่มเข้าไปแล้วมันก็ยิ่งดูเหมือนแมวจริงๆ ชาวเน็ตชอบรูปสตรอว์เบอรี่ทรงแมวนี้มากจนมียอดไลก์กว่า 77,000 ไลก์แล้ว และก็มีคนรีทวีตโพสต์นี้ไปกว่า 40,000 ครั้งแล้วด้วย เท่านั้นยังไม่พอผู้ใช้ทวิตเตอร์ @calicohuggg ชอบมันมากจนถึงกับวาดภาพประกอบให้เองด้วย เพิ่มความน่ารักเข้าไปอีกหลายเท่าตัวเลย   Ponyo เองค่ะ แต่คนวาดไม่เก่งเลยวาดออกมาไม่เหมือน ก็หยวนๆ ละก็เนาะ   นอกจากนี้ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งยังร่วมกันแชร์ภาพในจินตนาการที่พวกเขาเห็นจากสตรอว์เบอรี่อันนั้นด้วย เพราะพวกเขาไม่ได้เห็นสตรอว์เบอรี่อันนี้เป็นรูปแมว แต่เป็นสัตว์ชนิดอื่นๆ แทน แถมยังมีท่านหนึ่งเห็นมันเป็นตัวละครสาวน้อยกึ่งปลา Ponyo จากค่าย Studio Ghibli อีกด้วย ส่วนท่านอื่นๆ จะเห็นสตรอว์เบอรี่อันนี้เป็นภาพอะไรบ้าง…

  • 19 ยุทธวิธี Life Hack สุดบรรเจิด แบบนี้ก็ได้เหรอ ทำเอาฮารึเปล่าเนี่ย!?

    19 ยุทธวิธี Life Hack สุดบรรเจิด แบบนี้ก็ได้เหรอ ทำเอาฮารึเปล่าเนี่ย!?

    การมองหาวิธีการใหม่ๆ ที่ช่วยทำให้เราดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น บางคนก็เรียกมันว่าไลฟ์แฮ็ก (Life Hack) หรือวิธีโกงในชีวิตประจำวันนั่นเอง ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างการใช้แป้งโรยบนผมไม่ให้ผมมันก็ได้ แม้ว่าบางทีไลฟ์แฮ็กจะช่วยให้เราทำอะไรง่ายมากขึ้นจริงๆ แต่บางครั้งก็จะมีคนคิดวิธีไลฟ์แฮ็กแบบแปลกพิสดารซึ่งแม้จะมีประโยชน์ แต่ดูกี่ทีก็ขำจนหยุดหัวเราะไม่ได้เลย วันนี้เราได้รวบรวมวิธีการไลฟ์แฮ็กแบบล้ำๆ แต่โคตรฮาจากชาวเน็ตรอบโลกมาให้ทุกคนได้ชมกัน รับรองว่าจะต้องไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนแน่นอน   ไม่มีขาตั้งโทรศัพท์ แต่มีตุ๊กตาบาร์บี้อยู่ที่บ้านก็เอามาใช้แทนกันได้ แถมได้มองท่าเซ็กซี่ๆ ไปพร้อมกันด้วย   ถ้าผัดสปาเกตตี้ไปแล้วรสชาติไม่ถูกใจล่ะก็ เอามันเข้าไปซัก…เอ๊ย! ล้างสิ ทีนี้ก็เอาไปผัดแก้มืออีกรอบได้แล้ว   อยากได้โต๊ะอาหารเคลื่อนแบบส่วนตัวเหรอ ลองใช้ฝาชักโคตรดูสิ รับรองว่าใช้งานดีแต่จะปวดคอรึเปล่าไม่รู้นะ   ถ้าคุณไม่อยากให้จานในอ่างล้างจานดูรกตา แต่อีกใจหนึ่งก็ขี้เกียจล้างจานเช่นกัน วันนี้เรามีวิธีแก้มาให้แล้ว แค่ปรินต์รูปอ่างสะอาดๆ มาวางทับลงไปก็จบ   มงกุฎดอกไม้มันหาซื้อยากแล้วก็มีราคาแพง ถ้างั้นก็ DIY เอาสิ สวยด้วย อิ่มด้วย   ผมอยากทานนาโชชีสแต่ดันลืมชีสดิปซะได้ แต่ไม่เป็นไรหรอกจิ้มสีทาบ้านเอาก็ได้ สีแทนกันได้อยู่ส่วนรสชาติต้องดูกันอีกที   วันนี้ขอนำเสนอวิธีการทำให้ถุงเท้าขาดดูสมบูรณ์ดังเดิม เพียงแค่คุณใช้สีทาเล็บที่เหมือนกับถุงเท้าทาลงไป ก็ดูดีเหมือนใหม่แล้ว เจ๋งไปเลย   จะซื้อไม้ถูพื้นราคาแพงไปทำไม ในเมื่อคุณสามารถใช้เจ้าเหมียวขนฟูแทนได้ เอาน้ำยาขัดพื้นผสมลงไปแล้วเริ่มถูได้เลย!   เรารู้ว่าการหั่นเบเกิลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ถ้าคุณยอมเสียสละนิ้วสักนิ้วล่ะก็มันจะทำให้การหั่นเบเกิลเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเลย   ถ้าอยากกินข้าวฟรีทุกมื้อ…

  • ศิลปินเปลี่ยนน้ำหกเลอะเทอะให้กลายเป็นงานศิลปะ สร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์

    ศิลปินเปลี่ยนน้ำหกเลอะเทอะให้กลายเป็นงานศิลปะ สร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์

    ปกติเวลาเราทำน้ำหก ในบ้านหรือเห็นแอ่งน้ำตามที่ต่างๆ เราจะรู้สึกว่ามันเป็นความเลอะเทอะที่ต้องรีบเช็ดออก หรือไม่ก็เดินเลี่ยงมันซะ แต่สำหรับ Jeffrey Michael Austin ศิลปินจากชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปลี่ยนแอ่งน้ำที่สกปรกให้กลายเป็นงานศิลปะที่น่ามอง     ในขณะที่คนส่วนใหญ่เดินเลี่ยงแอ่งน้ำ แต่ Austin กลับเกิดความสนใจและมองว่ามันเป็นสิ่งสวยงาม โดยเฉพาะเวลาที่มีเงาสะท้อนของดวงอาทิตย์ตกกระทบ จากความสนใจเล็กๆ นี้ ทำให้เขาตัดสินใจทำแอ่งน้ำปลอมให้กลายเป็นงานประติมากรรมที่มีลวดลายที่น่าหลงใหลอย่างเช่นลายกาแล็กซี     Austin ได้ตั้งชื่อผลงานชิ้นนี้ว่า The Puddles ซึ่งเป็นความต้องการของเขาที่อยากให้ผู้คนสัมผัสถึงความเป็นศิลปะในโลกใบนี้ เขาบอกว่า “ผมหวังว่าผู้คนจะได้เห็นรายละเอียดที่อ่อนโยนของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และเกิดความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อต้องเห็นภาพที่ไม่ชวนมอง”     นี่เป็นเพียงผลงานส่วนหนึ่งเท่านั้น หากใครชื่นชอบในความแตกต่างที่สร้างสรรค์นี้ เพ่ื่อนๆ สามารถติดตามได้ที่อินสตาแกรม jeffreymichaelaustin     น้ำหกที่ใครๆ ก็สนใจและอยากเข้าไปสัมผัส   ศิลปะน้ำหก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการศิลปะ   แอ่งน้ำที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนได้เห็นอีกด้านของศิลปะ   เห็นแว่บแรก หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นน้ำหกจริงๆ   แต่จริงๆ แล้ว มันคือน้ำหกหลอกๆ ที่ถูกตกแต่งด้วยลวดลายอันงดงาม   ไม้ถูพื้นที่เห็นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานชิ้นนี้นะ .  …

  • หญิงสาวที่โยนหมาลงมาจากชั้น 6 ถูกคุกคามหนักจากประชาชน ถึงขั้นบุกไปถึงหน้าประตูบ้าน

    หญิงสาวที่โยนหมาลงมาจากชั้น 6 ถูกคุกคามหนักจากประชาชน ถึงขั้นบุกไปถึงหน้าประตูบ้าน

    จากประเด็น ‘สาวจีนขอเงินเพื่อแลกกับการคืนหมาแก่เจ้าของ แต่เงินไม่มากพอ เธอเลยโยนหมาลงมาจากตึกชั้น 6’ ที่ได้นำเสนอไปเมื่อไม่นานนี้ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่พร้อมจะให้อภัย ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า He Li คนที่โยนน้องหมาลงมาจากชั้น 6 ได้เผยแพร่คลิปสั้นๆ ของตัวเองขณะร้องไห้และขอโทษต่อสิ่งที่ได้ทำลงไป แต่ผู้คนจำนวนมากกล่าวว่าเธอทำวีดีโอนี้ขึ้นมาเพื่อหลบหนีความผิดเท่านั้น     เช่นเดียวกับ Xiao Wu เจ้าของน้องหมาที่ออกมาบอกต่อสื่ออย่างชัดเจนว่าเธอจะไม่มีทางยอมรับคำขอโทษของ He Li อย่างเด็ดขาดและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน นอกจากรอรับโทษทางกฎหมายแล้ว ชาวจีนจำนวนมากได้สืบหาข้อมูลของ He Li และสามีของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ที่ทำงาน ข้อมูลประกันสังคม ทะเบียนรถ รวมไปถึงข้อมูลจากทางโรงพยาบาลที่เธอฝากครรภ์     หลังจากได้ข้อมูลเหล่านี้มา ชาวจีนบางคนได้โทรไปข่มขู่เธอ ส่งข้อความน่ากลัวไปให้เธอ บางคนส่งพวงหรีดไปให้ ในขณะที่บางคนส่งธนบัตรปลอมที่สำหรับเผาให้คนตายไปให้ ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมามีคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปหาถึงประตูหน้าบ้านและตะโกนข่มขู่สามีของ He Li ว่าพวกเขาไม่รับประกันความปลอดภัยของลูกสาวของเขา     ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ไม่ได้จบลงแค่นั้น เพราะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีคนกลุ่มคน 6 คน ได้บุกเข้าไปถึงบ้านของ He Li และเรียกร้องให้เธอออกมาขอโทษประชาชน แต่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุการณ์นี้…

  • ตำรวจมึน หลังเจอรถจอดผิดที่ กำลังจะให้ใบสั่ง อ้าว นี่มันหิมะนี่หว่า!!

    ตำรวจมึน หลังเจอรถจอดผิดที่ กำลังจะให้ใบสั่ง อ้าว นี่มันหิมะนี่หว่า!!

    ในต่างประเทศเวลามีหิมะตก เด็กๆ มักจะปั้นหิมะเล่น ซึ่งบางทีผู้ใหญ่บางคนก็ปั้นเล่นเหมือนกันนะ และแน่นอนว่าฝีมือผู้ใหญ่มันก็ต้องยิ่งใหญ่และดูสมจริงกว่าอยู่แล้ว เหมือนกับผลงานรถหิมะคันนี้ที่ถูกปั้นให้ดูเหมือนรถที่โดนหิมะเกาะ แถมยังอยู่ในที่ห้ามจอดด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าเขาแค่ปั้นเล่นหรือตั้งใจแกล้งคนอื่นกันแน่ แต่มันเนียนซะจนหลอกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อยู่หมัดเลยหละ     นี่คือรถหิมะที่ทำขึ้นโดย Montrealer Simon Laprise ช่างเครื่องและช่างไม้วัย 33 ปี เขาบอกว่า “ผมเป็นคนที่หลงใหลในการสร้างและออกแบบสิ่งต่างๆ”     เขาบอกอีกว่า “ผมได้ใช้ความคิดอันสร้างสรรค์สร้างรถสุดเจ๋งขึ้นมาในวันที่สวยงามเช่นนี้” แต่ประเด็นคือเขาไปสร้างรถหิมะอยู่ในที่ห้ามจอด จนกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ     ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบรถคันกล่าวที่จอดอยู่ในพื้นที่ห้ามจอด โดยไม่รู้ว่ามันทำมาจากหิมะเลยตั้งใจจะออกใบสั่งให้     แต่ในเมื่อพวกเขารู้ว่าตัวเองโดนหิมะต้มซะเปื่อย ในเมื่อไม่สามารถออกใบสั่งรถหิมะได้ พวกเขาก็ทิ้งโน้ตเล็กๆ เอาไว้แทนซึ่งมีข้อความระบุว่า “คุณทำให้วันนี้เป็นวันที่พิเศษของเรา” พร้อมกับใส่หน้ายิ้ม   ต่อมาภาพนี้ได้ถูกแชร์ใน Reddit และตามสื่่อออนไลน์อื่นๆ อีกมากมาย จนกระทั่งเจ้าของถึงกับต้องออกมาบอกเหตุผลที่ทำรถนี้ขึ้นมา… “ผมก็แค่อยากจะทำรถเพื่อไว้แกล้งคนเก็บกวาดหิมะ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเกือบได้ทั้งใบสั่ง แถมยังดังไปทั่วเน็ตอีกนะเนี่ย!!”     โถๆๆ หลอกกันซะได้ ที่มา buzzfeed 

  • ข้อสอบสะท้านใจนศ. จีน ดึงความพีคในข้อสุดท้าย ‘สะกดชื่ออาจารย์ผิด’ มีสิทธิ์คะแนนติดลบ!!

    ข้อสอบสะท้านใจนศ. จีน ดึงความพีคในข้อสุดท้าย ‘สะกดชื่ออาจารย์ผิด’ มีสิทธิ์คะแนนติดลบ!!

    สำหรับนักศึกษาแล้วการสอบถือเป็นตัวชี้วัดชะตาของพวกเขา จึงต้องหมั่นขยันอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนอย่างหนัก เพื่อที่จะได้มีความรู้พอจะไปสู้ฟัดกับข้อสอบสุดหินที่อาจารย์ออกมาให้ได้ นักศึกษาในประเทศจีนเองก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน แต่ในปีนี้นักศึกษาจีนกลุ่มหนึ่งต้องตกตะลึงเมื่อพบคำถามสุดท้าทายข้อสุดท้าย พวกเขาต้องสะกดชื่ออาจารย์ที่สอนให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นก็จะโดนหักคะแนนยับ     ข้อสอบที่ว่านี้เป็นข้อสอบจากมหาวิทยาลัย Sichuan Vocational College of Culture and Communication ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยข้อสอบข้อสุดท้ายนี้ให้รูปอาจารย์มาทั้งหมด 7 ท่าน แล้วให้นักศึกษาเขียนชื่อของอาจารย์แต่ละท่านให้ถูกต้อง คำถามพิเศษข้อนี้ไม่มีคะแนนเพิ่มเติมให้นักศึกษาที่ตอบได้ถูกต้อง แต่ถ้าพวกเขาตอบคำถามข้อนี้ไม่ถูกล่ะก็ จะถูกหักคะแนนจากคะแนนที่ทำได้ในครั้งนี้ 41 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่เยอะพอสมควรเนื่องจากข้อสอบชุดนี้คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของเกรดทั้งหมดในเทอมนั้นเลย แม้ว่าคำถามข้อนี้จะดูง่ายไม่ซับซ้อน แต่นักเรียนบางส่วนที่ไม่ค่อยได้เข้าเรียนแล้วอ่านบทเรียนเอง จึงไม่รู้จักหน้าค่าตาอาจารย์แต่ละคนเลย คงไม่แปลกที่นักเรียนบางคนจะตอบคำถามนี้ไม่ได้     ในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้โพสต์คำถามข้อนี้ลงใน Weibo (โซเชียลมีเดียของประเทศจีน) เอง จากนั้นก็มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากจนกลายเป็นกระแสไวรัลไป ชาวเน็ตบางส่วนมองว่าคำถามข้อนี้เจ้าเล่ห์มาก แต่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งคิดว่าคำถามมันง่ายและเถรตรงดี ถ้าใครเข้าเรียนก็ได้คะแนนไป นักเรียนคนหนึ่งที่ได้ทำข้อสอบข้อนี้ให้สัมภาษณ์ว่าเขามั่นใจว่าตอบคำถามนี้ได้ถูกต้อง แต่ก็คิดว่าเพื่อนร่วมชั้นบางคนคงจะมีปัญหาเป็นแน่ เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเข้าเรียนและจำหน้าอาจารย์ได้ แต่บางคนก็ยังสะกดชื่ออาจารย์ไม่ถูกอยู่ดี อาจารย์ที่เป็นคนออกข้อสอบและคิดคำถามข้อนี้บอกว่า เหตุผลที่เธอทำคำถามข้อนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นการวัดผลว่านักศึกษามีให้ความสนใจในชั้นเรียนมากน้อยแค่ไหน หากว่าพวกเขาใส่ใจในรายละเอียดมากพอก็ต้องตอบคำถามข้อนี้ได้แน่นอน   เวลาจะไปสอบอย่าลืมดูชื่ออาจารย์เผื่อไว้ด้วยนะครับ…

  • L’Oreal เปิดตัวนางแบบในชุดฮิญาบ พร้อมบอกแม้ผมที่อยู่ใต้ผ้าคลุมก็ต้องได้รับการดูแลเช่นกัน

    L’Oreal เปิดตัวนางแบบในชุดฮิญาบ พร้อมบอกแม้ผมที่อยู่ใต้ผ้าคลุมก็ต้องได้รับการดูแลเช่นกัน

    แบรนด์ L’Oreal บริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลความงามและเส้นผมที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ได้เปิดตัวนางแบบในแคมเปญ L’Oreal Elvive ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอันใหม่ล่าสุด การเปิดตัวนางแบบครั้งล่าสุดนี้ทาง L’Oreal ได้ความร่วมมือจาก Amena Khan บล็อกเกอร์ผู้ทรงอิทธิพลในอินเตอร์เน็ต ที่เข้าร่วมแคมเปญการดูแลผมแบบไม่ต้องโชว์เส้นผม     ทางแบรนด์ L’Oreal ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเหล่าหญิงสาวมุสลิมที่ถึงแม้ว่าพวกเธอจะสวมฮิญาบปกปิดเส้นผม แต่พวกเธอก็ต้องได้รับการดูแลเส้นผมที่ซ่อนเอาไว้ให้มีสุขภาพดีเหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ     แคมเปญนี้ได้ช่างภาพระดับตำนานอย่าง Rankin มาเป็นผู้ถ่ายภาพแสดงความงามของความงามของหญิงสาวในทรงผมต่างๆ     Amena บอกว่า “เส้นผมเป็นหนึ่งในความงามของผู้หญิง ฉันชอบในการจัดแต่งทรงผม และรักผมที่มีสุขภาพดี แม้ตอนถอดฮิญาบออกมาก็สามารถเห็นผมที่สวยและเงางามของฉันได้”     “ฉันตื่นเต้นมากและแทบไม่เชื่อว่าฉันจะเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ระดับโลกอย่าง L’Oreal มันแสดงถึงความเปิดกว้างของผลิตภัณฑ์ที่สามารถรองรับการจัดแต่งทรงผมหลากหลายประเภท” เธอกล่าวเสริม Amena รู้ดีว่าหญิงสาวที่สวมฮิญาบทั้งหลายต่างก็ต้องการที่จะดูแลรักษาเส้นผมให้อยู่ในสภาพดีเช่นกัน ดังนั้นผลิตภัณฑ์ของ L’Oreal นี้สามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุดสำหรับเธอและหญิงสาวทั่วโลก   ที่มา dailymail

  • หนุ่มบราซิลใจกล้า กระโดดเข้าไปช่วยหมาของเพื่อนบ้านที่อยู่ท่ามกลางน้ำท่วม

    หนุ่มบราซิลใจกล้า กระโดดเข้าไปช่วยหมาของเพื่อนบ้านที่อยู่ท่ามกลางน้ำท่วม

    เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2018 เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันเพราะพายุฝนในบราซิล สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนในพื้นที่ประสบภัย หลายครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ นาย Douglas Gomes หนึ่งในชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ในเมืองบลูเมเนา ซึ่งเขาเอาชีวิตรอดจากน้ำที่ทะลักเข้าบ้านเรือนมาได้อย่างปลอดภัย และยังได้ช่วยชีวิตสุนัขของเพื่อนบ้านเอาไว้ด้วย     Gomes วัย 26 ปีเป็นฮีโร่ผู้เข้าไปช่วยสุนัขที่เป็นสัตว์เลี้ยงของเพื่อนบ้าน มันติดอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่เข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว เจ้าหมาตัวนี้หมดทางหนีเนื่องจากน้ำทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำเริ่มสูงท่วมกรงของมัน แต่ในตอนที่เกิดเหตุครอบครัวที่เป็นเจ้านายของมันไม่อยู่บ้าน ชายหนุ่มจึงรีบลุยกระแสน้ำเข้าไปพาตัวเจ้าหมาออกมาในขณะที่หลังคาบางส่วนของเพื่อนบ้านเริ่มพัง   คลิปวิดีโอขณะที่เขาเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเจ้าหมาของเพื่อนบ้าน   เจ้าหมาที่เขาได้เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยมีชื่อว่า เจ้า Kira มันดูอ่อนแรงในตอนที่เขาอุ้มมันออกมาจากบ้าน แต่มันก็มีชีวิตรอดและปลอดภัยดี หลังจากนั้นเขาก็พาเจ้าหมามาส่งคืนให้กับเจ้าของเมื่อพวกเขากลับมาถึง     ถึงแม้ว่าตัวบ้านและทรัพย์สินต่างๆ จะถูกน้ำท่วมทำลายจนเกือบหมด แต่ก็ยังโชคดีที่เจ้าของบ้านไม่ได้สูญเสียหมาสุดที่รักไปอีกตัว Fabiana Farias de Oliveira เจ้าของหมากล่าวขอบคุณชายหนุ่มที่เข้าไปช่วยเจ้า Kira ไว้ “ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณจริงๆ ที่เขาเข้าไปช่วยชีวิตเจ้า Kira ไว้ได้ ลูกๆ ของผมรักมันมากและนอนด้วยกันทุกคืน หากพวกเราเสียมันไปไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไร” เจ้าของเจ้า Kira กล่าว นาย Douglas บอกว่าเขารู้สึกว่าเขาตัดสินใจถูกต้องที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเจ้าหมา และมันก็คุ้มค่าสำหรับการช่วยชีวิตของเพื่อนร่วมโลกตัวหนึ่ง  …

  • ประทับใจไม่รู้ลืม… “โป๊ปฟรานซิส” ทรงสั่งหยุดขบวนรถกลางคัน เพื่อลงมาดูตำรวจที่ตกจากหลังม้า

    ประทับใจไม่รู้ลืม… “โป๊ปฟรานซิส” ทรงสั่งหยุดขบวนรถกลางคัน เพื่อลงมาดูตำรวจที่ตกจากหลังม้า

    เกิดเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความแตกตื่นเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่ขบวนเสด็จพระสันตะปาปากำลังเคลื่อนตัวเพื่อพบปะประชาชนในเมือง Iquique ประเทศชีลี จู่ๆ ม้าของเจ้าหน้าที่อารักขาเกิดคลุ้มคลั่งเสียการควบคุมจนทำให้ตกลงมาที่พื้นอย่างรุนแรง     ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่อารักขาพระองค์ในขบวนต่างก็ตกใจไปตามๆ กัน รวมไปถึงรถพระที่นั่งของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเองก็ถึงกับเสียหลักไปเล็กน้อย     แต่แทนที่จะขับต่อไป สมเด็จพระสันตะปาปากลับรับสั่งให้คนขับหยุดรถ และทรงดำเนินลงมาเช็กดูอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่หญิงคนดังกล่าว   พระองค์ทรงก้มลงไปสอบถามอาการของเจ้าหน้าที่หญิงด้วยความเป็นห่วง และอยู่รอจนรถพยาบาลมาถึง   ก่อนที่จะดำเนินกลับไปประทับที่รถพระที่นั่ง แล้วทำการทักทายประชาชนต่อไป….   จากรายงานของสำนักข่าว DailyMirror โชคดีที่เจ้าหน้าที่หญิงไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอะไรมากนัก   คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวอัปโหลดโดยสำนักข่าว BBC   ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นและสร้างความประทับใจให้กับผู้คนมากมาย เมื่อชาวเน็ตได้ชมคลิปวีดิโออันสุดแสนจะประทับใจนี้ ต่างก็แสดงความคิดเห็นชื่นชมสมเด็จพระสันตะปาปาในความมีพระทัยของพระองค์…   คุณ Elizabeth Ford ให้ความเห็นว่า : “หลายๆ ครั้งที่บุคคลสาธารณะสร้างความหวังให้กับปวงประชา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสนั้นเปรียบเสมือนแสงไฟส่องทาง ในยามมืดมิด”   คุณ Mark Doyle ให้ความเห็นว่า : “ฉันไม่ได้เป็นคนนับถือศาสนานะ แต่การกระทำของพระองค์นั้นช่างน่านับถือยิ่งนัก”   คุณ Ian Yeh ให้ความเห็นว่า : “ในฐานะที่เป็นคนไม่นับถือศาสนา ฉันรู้สึกว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเป็นคนที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง ทั้งความมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์…

  • ห้องสมุดแห่งการทอดทิ้ง… เนรมิตโดยชายเก็บขยะ เปลี่ยนหนังสือที่คนไม่ต้องการให้มีค่า

    ห้องสมุดแห่งการทอดทิ้ง… เนรมิตโดยชายเก็บขยะ เปลี่ยนหนังสือที่คนไม่ต้องการให้มีค่า

    เคยคิดหรือไม่ว่าหนังสือที่เราอ่านกันจนเบื่อแล้ว หากทิ้งไปเสีย มันจะไปอยู่ที่ไหนกัน จะมีคนที่ได้ประโยชน์จากมันอีกหรือไม่ หรือมันอาจจะถูกนำไปกำจัดทิ้งแค่นั้น คงน่าเสียดายหากมันต้องถูกกำจัดทิ้ง ทั้งที่น่าจะมีคนได้รับมันไปอ่านต่อ วันนี้ได้มีหอสมุดแห่งใหม่เกิดขึ้น เป็นที่ซึ่งได้รวบรวมไว้แต่หนังสือที่ “ถูกทิ้ง” เพื่อให้คนได้เข้ามาอ่านแทนที่จะนำมันไปฝังหรือกำจัดทิ้ง     หอสมุดแห่งนี้ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เมืองอังการา โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้นมีเจ้าหน้าที่เก็บขยะอายุ 32 ปี ชื่อว่า Serhat Baytemur ได้เก็บรวมรวบหนังสือที่ถูกทิ้งขว้างอยู่ตามถนนมาไว้ในห้องสมุดที่ตั้งใจจะสร้างขึ้นมาให้ตนเองและครอบครัวได้อ่าน แต่เมื่อคนในชุมชมรู้เรื่องนี้มากขึ้น ผู้คนจึงบริจาคหนังสือที่ไม่ใช้แล้วให้กับห้องสมุดแห่งนี้ โดยในเดือนกันยายนปี 2017 หน่วยงานสุขาภิบาลจึงเปิดให้ห้องสมุดแห่งนี้กลายเป็นห้องสมุดสาธารณะ     ปัจจุบันหอสมุดแห่งนี้มีหนังสือที่เก็บมาได้ทั้งหมดกว่า 6,000 เล่ม มีตั้งแต่วรรณกรรมไปจนถึงหนังสือสารคดี มีหนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กๆ รวมไปถึงงานวิจัยอีกด้วย     หนังสือทั้งหมดถูกจัดไว้ในโรงงานเก่าที่ทำจากอิฐ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นหอสมุดชุมชนไปเสียแล้ว หอสมุดแห่งนี้มีกฎการยืมหนังสือได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์แต่สามารถต่อเวลาการยืมได้ตามต้องการ อีกทั้งทางภาครัฐยังช่วยจ่ายค่าจ้างให้กับบรรณารักษ์ที่ดูแลหอสมุดแห่งนี้อีกด้วย     ขณะนี้หอสมุดแห่งนี้มีหนังสือจำนวนมากที่ได้รับบริจาคเข้ามาจนแทบไม่มีพื้นที่เพียงพอให้บรรจุหนังสือ จนต้องเปิดให้ยืมหนังสือเพื่อใช้ประโยชน์ใน โรงเรียน การศึกษา และเรือนจำ     ในหอสมุดมีพื้นที่สำหรับการอ่านหนังสือเงียบๆ อีกทั้งยังมีกระดานหมากรุกให้เล่นด้วย ปัจจุบันหอสมุดนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก…

  • คู่พ่อแม่ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี หลังจับลูกสาววัย 12 ปีเป็นทาสเซ็กส์ ร่วมกันข่มขืนเธอเป็นประจำทุกวัน

    คู่พ่อแม่ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี หลังจับลูกสาววัย 12 ปีเป็นทาสเซ็กส์ ร่วมกันข่มขืนเธอเป็นประจำทุกวัน

    เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยเรื่องราวที่แสนเลวร้ายสำหรับเด็กหญิงชาวรัสเซียคนหนึ่งที่มีอายุเพียง 12 ปี เมื่อเธอถูกพ่อแม่ของเธอเองร่วมกันข่มขืน พ่อแม่วัย 34 ปี ของเด็กสาว หลังจากทำทารุณกรรมทางเพศกับเธอ พวกเขาจึงถูกพิจารณาคดีความว่ามีอาการของ “โรคใคร่เด็ก”   พ่อแม่ผู้ลงมือก่อเหตุ   พวกเขาถูกกักตัวไว้ที่เมืองวอลโกกราดในรัสเซีย หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงพวกเขาจะต้องถูกจำคุกถึง 20 ปี เด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายให้การว่าถูกทารุณกรรมทางเพศมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 จนถึงเดือนมีนาคม 2017 โดยกล่าวว่าฝ่ายผู้เป็นพ่อนั้นมักจะข่มขืนเธอในทุกๆ วัน บางวันก็มีแม่ร่วมด้วย ซึ่งผู้เป็นแม่เองถูกตั้งข้อหาว่ากระทำทารุณกรรมทางเพศด้วย “อวัยวะเพศเทียม” ฝ่ายผู้เป็นแม่กล่าวว่า “ให้พวกเราข่มขืนก็ยังดีกว่า ให้ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาทำ”   เมืองวอลโกกราด ในฤดูหนาว   ในการพิจารณาตัดสินคดี ทั้งคู่จึงถูกถอดถอนสถานะการเป็นพ่อแม่ของเด็กสาว หมายความว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็กสาวคนนี้อีกต่อไป เด็กสาวจึงถูกส่งตัวไปรับการดูแล ส่วนผู้เป็นแม่นั้นยังให้การกับตำรวจว่าเธอเองก็ถูกข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 13 ปี เธอและสามีจึงตกลงกัน “ฝึกฝน” ให้ลูกสาวของพวกเขาคุ้นเคยกับสิ่งที่จะต้องพบเจอในอนาคต เมื่อเด็กสาวได้รับการตรวจร่างกาย แพทย์จึงพบว่าเธอมีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน และพบว่าเธอได้สูญเสีย “ความบริสุทธิ์” ไปแล้ว   สถานกักกันในวอลโกกราด   สุดท้ายจากคำให้การของเด็กสาว…

  • ชายวัย 34 ปิดหูปิดจมูกเพื่ออั้นจาม ส่งผลหนักถึงลำคอรั่ว ต้องนอนโรงพยาบาลนานถึง 2 สัปดาห์

    ชายวัย 34 ปิดหูปิดจมูกเพื่ออั้นจาม ส่งผลหนักถึงลำคอรั่ว ต้องนอนโรงพยาบาลนานถึง 2 สัปดาห์

    ในยามที่เราอยู่ในพื้นที่สาธารณะที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น ห้องสมุด โรงภาพยนตร์ หรือบนเครื่องบิน ก็ตาม ไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีฝุ่นผงหรือสิ่งใดที่ทำให้เราต้อง “จาม” ออกมาจนก่อให้เกิดเสียงดัง หากคำนึงถึงมารยาทสาธารณะแล้ว หลายคนคงเลือกที่จะ “กลั้นจาม” เอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวนผู้อื่น แต่หารู้ไม่ว่าการกลั้นจามสามารถทำให้คุณถึงกับนอนโรงพยาบาลได้เลยทีเดียว     ในวันจันทร์ ที่ 15 มกราคม 2018 ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก แห่งมหาวิทยาลัย Hospitals of Leicester NHS Trust ได้เผยกับ BMJ Case Reports ว่าผู้ป่วยชายอายุ 34 ปี รายหนึ่ง ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลังจากพบว่าเสียงของเขาผิดปกติ ในรายงานกล่าวว่า ผู้ป่วยใช้มืออุดจมูกและปากตนเองก่อนเกิดการ “จามอย่างรุนแรง” จากนั้นเขาจึงรู้สึกได้ว่าเหมือนมีบางอย่างในลำคอพองและแตก การวินิจฉัยในระยะแรกจึงพบว่า มีอากาศถูกกอัดฝังอยู่ที่เนื้อเยื่ออ่อนในลำคอเล็กน้อย เป็นอาการเดียวกับ ภาวะลมในช่องเยื่อหุ้มปอด หากพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือการจามของเขาทำให้คอเขาทะลุเป็นรูเล็กๆ นั่นเอง     “ผู้ป่วยบอกว่าเขากลั้นจามเพราะไม่อยากจามออกมาใส่ผู้อื่นหรือแม้แต่ในอากาศ ดังนั้น หมายความว่าเขากลั้นจามมาตลอดราวๆ 30…

  • ตามติดชีวิตมนุษย์เงินเดือน 4 ล้านบาทแห่งนิวยอร์ก วันๆ ใช้จ่ายไปกับอะไรแค่ไหนบ้าง!?

    ตามติดชีวิตมนุษย์เงินเดือน 4 ล้านบาทแห่งนิวยอร์ก วันๆ ใช้จ่ายไปกับอะไรแค่ไหนบ้าง!?

    ชีวิตมนุษย์เงินเดือนส่วนมากไม่ได้ฟู่ฟ่าหรูหรานัก เพราะว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะได้เงินเดือนเยอะจนเหลือเก็บได้ ส่วนใหญ่ที่เหลือนั้นบางทีก็เงินน้อยจนใช้กันเดือนชนเดือนเลยทีเดียว ซ้ำร้ายบางคนยังหมุนเงินไม่ทันด้วย แต่ถึงจะเป็นมนุษย์เงินดือนก็ไม่ได้เงินน้อยเสมอไปหรอก ถ้าเกิดขึ้นไปถึงตำแหน่งหัวหน้างานใหญ่ๆ ได้ล่ะก็อาจจะมีเงินเดือนเป็นแสนเป็นล้าน สามารถใช้ชีวิตหรูหราแบบสบายๆ เลยนะ ไม่เชื่อลองไปดูผู้หญิงคนนี้สิ     หญิงที่จะมาแบ่งปันไดอารี่ค่าใช้จ่ายของเธอในวันนี้ เป็นหญิงวัย 35 ปีที่ทำงานเป็นหัวหน้าผู้จัดการให้กับ Hedge Fund บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่ในเมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 100,000-200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากรวมกับเงินโบนัสที่ได้ทุกเดือนแล้ว รายได้เฉลี่ยของเธอจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 48 ล้านบาท) หากนับค่าเฉลี่ยก็จะอยู่ประมาณ 4 ล้านบาทต่อเดือน เยอะกว่าเงินรายเดือนของพนักงานทั่วๆ ไปในบ้านเราเป็นพันเท่าตัวเลยทีเดียว ลองไปดูว่าชีวิตการใช้เงินของเธอจะเป็นยังไงบ้าง   วันจันทร์   เธอเริ่มต้นวันแรกของอาทิตย์ด้วยการส่งลูกทั้งสองคนไปโรงเรียน จากนั้นเธอจึงไปเข้าประชุมที่โรงแรม Palace Hotel หลังจากผ่านการประชุมติด 6 ครั้งมาอย่างเหนื่อยล้า ตอนเย็นเธอจึงแวะเติมพลังที่ร้านเสื้อผ้า Zara ด้วยการช็อปชุดเดรสใหม่ 2 ตัวรวมแล้วราคา 150 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,800 บาท) จากนั้นเธอก็เข้าไปที่ทำงานเพื่อเตรียมงานประชุมของวันรุ่งขึ้น…

  • สาวอิตาลีประกาศขายเวอร์จิ้น หวังหาเงินค่าเทอม ยอมรับว่ากลัวจะเจ็บแต่ยินดีถ้าถูกใจ

    สาวอิตาลีประกาศขายเวอร์จิ้น หวังหาเงินค่าเทอม ยอมรับว่ากลัวจะเจ็บแต่ยินดีถ้าถูกใจ

    สาวพรหมจรรย์เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั่วโลก เพราะทุกคนต่างก็คิดว่าพวกเธอเป็นคนที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน การได้เป็นคนแรกของเธอจึงทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนเป็นผู้โชคดีและผู้พิชิตใจสาวคนนั้นด้วย สาวน้อยจากอิตาลีเองก็เข้าใจว่าพรหมจรรย์นั้นมีค่ามากในสายตาผู้อื่น เธอจึงใช้ประโยชน์จากมันเพื่อหาเงินมาเป็นทุนการศึกษาให้ตนเอง และใช้เงินส่วนที่เหลือช่วยครอบครัวด้วย   Nicole สาวอิตาลีคนดังกล่าว   สาวน้อยวัย 18 ปีคนนี้ใช้นามสมมติว่า Nicole เธอเสนอขายพรหมจารรย์ของตัวเองผ่านทางเว็บไซต์ประมูลแห่งหนึ่ง และตอนนี้ก็มียอดประมูลสูงถึง 890,000 ปอนด์ (ประมาณ 39 ล้านบาท) ปกติแล้วเธอก็เป็นแค่เด็กสาวที่เรียนหนังสือ และรับงานถ่ายแบบพาร์ทไทม์ไปด้วย แต่เธอก็ตัดสินใจขายพรหมจรรย์เพราะต้องการหาทุนตั้งต้นให้กับชีวิตของตัวเอง เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันตัดสินใจตั้งแต่อายุ 16 ปีแล้วล่ะค่ะ ตอนนั้นฉันคบกับผู้ชายที่อายุเยอะกว่าฉันมาก ฉันก็คิดว่าพรหมจรรย์มันมีค่า จึงอยากจะเสียมันให้กับคนที่จะอยู่กับฉันไปตลอดชีวิตเท่านั้น แม้ว่าเขาจะบอกฉันว่าจริงจังกับฉันก็ตาม แต่ด้วยความที่ฉันยังอายุน้อยและไม่มั่นใจในตัวเขา ก็เลยขอแยกทางจากกัน“     เธอวางแผนไว้ว่าจะใช้เงินที่ได้จากการประมูลพรหมจรรย์นี้ ไปเรียนต่อด้านการบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ โดยเธอบอกว่า “ฉันอยากจะเรียนสูงๆ ก็เลยหาทางหาเงินบนเว็บไซต์อยู่ แล้วฉันก็ไปสะดุดตากับการประมูลตัวเองของสาวๆ เข้า” Nicole เล่าต่อว่า “ฉันเห็นว่าบางคนได้เงินจากการประมูลตัวเองถึง 3.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 136 ล้านบาท) พออายุ 18 ก็ตั้งใจว่าจะหาเงินด้วยวิธีนี้แหละ” เธอบอกถึงแผนในอนาคตไว้ว่า…

  • ความแตกต่างของเด็กในเกาหลีเหนือ กับเด็กทั่วโลก มาดูกันว่าวิถีชิวิตเด็กที่นั่นเป็นอย่างไร

    ความแตกต่างของเด็กในเกาหลีเหนือ กับเด็กทั่วโลก มาดูกันว่าวิถีชิวิตเด็กที่นั่นเป็นอย่างไร

    วิถีชีวิตของคนในประเทศที่ปิดกั้นตัวอย่างเองอย่างเกาหลีเหนือนั้น เป็นสิ่งที่เรามีข้อมูลอยู่น้อยนิดมาก นานๆ ทีเราจะได้มีโอกาสเห็นภาพหรือข่าวเกี่ยวกับเรื่องในประเทศเกาหลีเหนือสักครั้ง นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังปิดกั้นข้อมูลส่วนใหญ่จากภายนอกไม่ให้คนในประเทศรู้อีกด้วย แล้วในประเทศปิดแบบนี้เด็กเล็กจะใช้ชีวิตกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราได้ลองรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กในเกาหลีเหนือมาให้เพื่อนๆ แล้ว ไปดูกันว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตต่างกับเด็กในประเทศอื่นอย่างไรบ้าง   1.ทารกเกิดใหม่ก็มีชั้นวรรณะแล้ว   เด็กทารกที่เกิดในประเทศเกาหลีเหนือจะได้รับชั้นวรรณะ หรือที่คนเกาหลีเหนือเรียกว่า ‘songbun‘ โดยวรรณะจะแบ่งเป็น 3 ชนชั้นก็คือ มีความจงรักภักดี เป็นกลาง และเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งชั้นวรรณะที่ทารกได้รับนั้นจะเป็นแบบเดียวกับพ่อแม่ของตัวเอง และชั้นวรรณะเหล่านี้จะใช้เป็นตัวกำหนดว่าเด็กคนนั้นสามารถเข้าเรียนที่ไหนได้บ้าง และทำงานแบบไหนได้บ้าง เหมือนว่าเกิดมาก็ถูกกำหนดทางเดินชีวิตไว้เลย   2.เด็กทุกคนที่นี่ต้องเข้าเรียนชั้นอนุบาล   เด็กๆ สามารถเลือกเข้าไปเรียนในชั้นอนุบาลได้ตั้งแต่อายุ 4 ปี แต่ถ้าหากว่าอายุ 5 ปีแล้วทางรัฐบาลจะบังคับให้เด็กทุกคนไปเรียนตามกฎหมาย นอกจากนี้เด็กทุกคนที่ต้องการเรียนหนังสือต้องเคยเข้าเรียนชั้นอนุบาลมาก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีด้วย ไม่สามารถข้ามไปเรียนชั้นประถมได้ทันทีเลย   3.เด็กกำพร้าบางคนก็มีพ่อแม่เหมือนคนทั่วไป   สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศเกาหลีไม่ได้รับเลี้ยงเฉพาะเด็กที่ไม่ทราบว่าพ่อแม่เป็นใครเท่านั้น หากว่าพ่อแม่คู่ไหนมีเงินไม่พอจะเลี้ยงลูก ก็สามารถส่งลูกไปให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้เช่นกัน นอกจากนี้ถ้าเกิดรับเลี้ยงเด็กไปแล้วแต่เงินไม่พอเลี้ยงทีหลัง ก็ส่งตัวกลับมาได้ด้วย   4.กิจกรรมและการเรียนการสอนล้วนแฝงไปด้วยแนวคิดรักชาติ   ในโรงเรียนของเกาหลีเหนือ มักจะมีโปสเตอร์เกี่ยวกับการเมืองติดไว้ตามทางเดินให้เด็กๆ ได้ดูกัน และเวลาที่จัดปาร์ตี้ให้กับเด็กๆ แทนที่จะได้แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนที่ชอบ…

  • เปลี่ยนบะหมี่ธรรมดา ให้กลายเป็นบะหมี่วาฟเฟิลแสนอร่อย เห็นแล้วน้ำลายไหลเลย

    เปลี่ยนบะหมี่ธรรมดา ให้กลายเป็นบะหมี่วาฟเฟิลแสนอร่อย เห็นแล้วน้ำลายไหลเลย

    ปัจจุบันการทำอาหารนั้น มันไม่ได้หยุดอยู่ที่แค่สูตรอาหารแบบเดิมๆ อีกต่อไป เพราะคนมากมายเริ่มที่จะหันมาทำอาหารแนวฟิวชั่นเพื่อต่อยอดอาหารประเภทต่างๆ ให้เกิดเป็นอาหารชนิดใหม่ขึ้นมา บะหมี่วาฟเฟิล ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้น ไอเดียดังกล่าวมันถูกต่อยอดมาจากไก่ทอดในวาฟเฟิล ซึ่งพอถึงเวลาต้องเปิดตัวอาหารชนิดใหม่ในเทศกาลอาหาร NOODS NOODS NOODS ที่ทาง Nissin Cup Noodles เป็นเจ้าภาพจัดงาน เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงจำเป็นสำหรับธีมหลักของหารในครั้งนี้     งานดังกล่าวนั้นจัดขึ้นที่เมืองแซนตาแอนา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยจัดในระหว่างวันที่ 27 มกราคมเป็นต้นไป ซึ่งก่อนจะไปออกงานทางทีมงาน The Milky Way ซึ่งเป็นคนคิดค้นเมนูนี้ขึ้นมาก็ได้ปล่อยภาพบะหมี่วาฟเฟิลของพวกเขามาล่อตาล่อใจให้เราได้ดูกัน     ส่วนผสมนั้นก็ง่ายมากๆ โดยการใช้เส้นบะหมี่ที่ลวกแล้วไปวางไว้บนเครื่องทำวาฟเฟิล จากนั้นเมื่อได้แผ่นวาฟเฟิลจากเส้นบะหมี่แล้วก็ให้นำมันไปทำเป็นทรงกรวย จากนั้นก็เอาหมูหรือไก่ทอดมาวางเรียงกัน ราดซอสสุดพิเศษลงไปก็เป็นอันเรียบร้อย   . .   เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจและแวะแถวนั้นพอดีอยากจะเข้าร่วมงาน  NOODS NOODS NOODS ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดรวมถึงอาหารทั้งหมดที่มีขายได้ที่เว็บไซต์ foodbeast  งานนี้ใครเป็นแฟน Nissin ไม่ควรพลาดเด็ดขาด!!   ที่มา foodbeast

  • ชาวเน็ตญี่ปุ่นเผยเทคนิคการทำคะแนนสอบให้ได้ระดับท็อป ง่ายมาก..จดมันแมร่มให้หมด!!

    ชาวเน็ตญี่ปุ่นเผยเทคนิคการทำคะแนนสอบให้ได้ระดับท็อป ง่ายมาก..จดมันแมร่มให้หมด!!

    เวลาพูดถึงเทคนิคการสอบ หลายคนก็มักจะมีเทคนิคที่เป็นแบบเฉพาะตัวเสมอ บางคนอาจจะเน้นความเข้าใจ บางคนอาจจะเน้นการท่องจำ แน่นอนว่าวิธีหลังนั้นเป็นวิธีที่เรามักจะฮิตมากที่สุด แต่นั่นก็ไม่ได้มีแค่คนไทยที่ชอบทำหรอกนะ.. เพราะล่าสุดชาวเน็ตจากญี่ปุ่นนามว่า @yuusuke_suzuki ก็ได้ออกมาเผยภาพเทคนิคในแบบสายท่องจำของนักเรียนคนหนึ่งของเขา โดยนักเรียนคนนี้นั้นสามารถทำคะแนนได้ระดับท็อปของชั้น เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยใช่ไหม     เกริ่นมาขนาดนี้แล้วเราคงอยากรู้แล้วว่าเขาจดยังไง ท่องจำยังไงถึงได้คะแนนดี งั้นเราลองมาดูกัน… @yuusuke_suzuki นั้นได้บอกว่านักเรียนของเขา พยายามจดทุกอย่างที่เขาอ่านและเสริมความเข้าใจทั้งหมดลงไป และการจดทุกอย่างที่ว่าไม่ใช่จดเล็กๆ น้อยๆ แต่มันคือทุกอย่าง!! ถ้าพื้นที่ไม่พอก็เสริมกระดาษโน๊ตเข้าไปในจุดที่เกี่ยวข้องกัน เรียกว่าเอาให้แน่น อ่านทีต้องเข้าใจ ซึ่งกลับกันเมื่อมีการเสริมโน๊ตเข้าไปในหนังสือ สภาพมันก็จะดูยุ่งเหยิงพอสมควร แต่รับรองเข้าใจ!!   ลองดูเนื้อหาข้างในเสียก่อน มีการโยงการวาด คือเสริมส่วนที่ช่วยเข้าไป งานนี้จำง่ายขึ้นแน่ๆ     เยอะจริงๆ นะเนี่ย   ยิิ่งเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ การวาดแผนที่หรือวาดส่วนต่างๆ เข้าไปในแบบที่เราเข้าใจมันถือเป็นตัวช่วยชั้นดีเลย   ดูตรงแผนที่ เหมือนมันจะแหว่งๆ เขาเลยวาดเพิ่มเข้าไปเอง   หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วก่อนหน้านั้นหนังสือของนักเรียนคนนี้มันมีหน้าตายังไง และนี่ก็คือหน้าตาของหนังสือประวัติศาสตร์โลก Ichimon Itto   และนี่ก็คือสภาพหลังจากที่มันถูกนักเรียนคนดังกล่าวยัดความรู้เสริมลงไป   สุดท้ายแล้วทางด้าน…

  • เพิ่งจะได้รู้… งานศึกษาเผย ‘ปลาหมึก’ สามารถทำปลาโลมาสำลักตายได้ แม้ตัวมันกำลังถูกกิน

    เพิ่งจะได้รู้… งานศึกษาเผย ‘ปลาหมึก’ สามารถทำปลาโลมาสำลักตายได้ แม้ตัวมันกำลังถูกกิน

    เมื่อไม่นานมานี้นักวิจัยได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า ได้ค้นพบปลาโลมาตัวหนึ่งซึ่งตายเพราะว่าพยายามจะกินปลาหมึกเข้าไป แต่ปลาหมึกดันติดคอจนหายใจไม่ออกจึงทำให้มันตาย ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่มีการพบโลมาตายในลักษณะนี้ เจ้าโลมาตัวนี้ถูกพบที่หาด Stratham ในเมืองบันบูรี ประเทศออสเตรเลียในเดือนสิงหาคม 2015 โดยตอนที่มันถูกพบนั้นมันก็ตายเสียแล้ว และก็มีหนวดปลาหมึกยื่นออกมาจากปากของมันด้วย หลังจากนั้นมันก็ถูกส่งไปยังศูนย์วิจัยของ Nahiid Stephens โดยเธอตั้งชื่อเล่นให้เจ้าโลมาว่า Gilligan Stephens นักพยาธิวิทยาจากมหาวิทยาลัยเมอร์ดอช พูดถึงสาเหตุการตายของมันว่า “มันคงจะโลภมากๆ แล้วคิดว่า ‘เอาล่ะเจ้าหมึก ฉันจะกลืนแกลงไปทั้งตัวเลย’ “ แต่เจ้าหมึกดันตัวใหญ่มากเกินไปก็เลยไปอุดหลอดลมจนตาย     เจ้าโลมาตัวนี้ไม่ได้เป็นโลมาตัวแรกที่กินปลาหมึก โลมาตัวอื่นก็กินปลาหมึกเป็นอาหารเช่นกัน แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์ปลาหมึกติดคอตายแบบนี้มาก่อน จึงถือว่าการที่โลมาหนุ่มร่างกายแข็งแรงกินปลาหมึกจนติดคอตายนั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมากสำหรับนักวิจัย เมื่อการชันสูตรศพเจ้าโลมาตัวนี้ ก็พบว่าปลาหมึกที่เข้าไปติดคอมันตัวใหญ่มากเลย เธอเล่าว่า “เจ้าปลาหมึกมันตัวโตมากจริงๆ ตอนที่ฉันนพยายามดึงมันออกมาดู ในใจก็ได้แต่คิดว่า ‘พระเจ้าช่วย ทำไมมันยาวขนาดนี้ ดึงยังไงก็ออกมาไม่หมดสักที’ ”  หลังจากที่ดึงมันออกมาหมดตัวด้วยความยากเย็น ก็พบว่าแค่หนวดของมันก็ยาวถึง 4.2 ฟุต (ประมาณ 1.3 เมตร) แล้ว     ปลาโลมานั้นสามารถพับส่วนที่เชื่อมต่อกล่องเสียงและหลอดลมเก็บไว้ เพื่อที่จะได้มีพื้นที่เพิ่มเติมในการกลืนอาหารชิ้นใหญ่ได้ แต่ในกรณีของเจ้าโลมาตัวนี้ พบว่าหลังจากที่มันพับเก็บส่วนที่เชื่อมต่อกล่องเสียงและหลอดลมไปแล้ว หนวดของปลาหมึกกลับไปเกาะกับส่วนนั้น ทำให้มันไม่สามารถต่อหลอดลมให้กลับมาหายใจเหมือนเดิมได้ สุดท้ายเจ้าโลมาก็เลยขาดอากาศตาย…

  • สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งตัวละคร ในโฆษณาเหยียดเพศยุคอดีต เกิดมุมมองใหม่ขึ้นมาเลย!!

    สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งตัวละคร ในโฆษณาเหยียดเพศยุคอดีต เกิดมุมมองใหม่ขึ้นมาเลย!!

    ในช่วงปี 1950 ภาพของผู้หญิงในอุดมคติของสมัยนั้น คือการเป็นภรรยาที่ดีซึ่งคอยปัดกวาดเช็ดถูดูแลบ้านทั้งวัน หมั่นเข้าครัวทำอาหารให้สามีกิน คอยดูแลลูกในขณะที่สามีออกไปทำงาน อาจพูดได้ว่าเป็นเหมือนคนใช้ให้กับคุณสามีก็ได้ นอกจากจะเป็นภาพในอุดมคติแล้ว มันยังถูกนำไปใช้ในโฆษณาของสมัยนั้นเป็นจำนวนมากอีกด้วย เมื่อ Eli Rezkallah นักตัดต่อภาพจากเมืองเบรุต ประเทศเลบานอนได้เห็นภาพเหล่านี้ เธอจึงเกิดไอเดียที่จะลองสลับตำแหน่งของผู้หญิงและผู้ชายในโฆษณาดูบ้าง Rezkallah ไม่ชอบที่คนบางกลุ่มคิดว่าผู้หญิงควรที่จะเป็นแม่บ้านแม่เรือนคอยรับใช้ผู้ชายเท่านั้น เธอไม่ชอบให้ใครมากำหนด ‘หน้าที่ของผู้หญิง’ ตามความคิดของตัวเอง เธอเลยอยากให้คนกลุ่มนั้นเห็นว่าหากผู้ชายโดนเหยียดเพศในโฆษณาบ้าง จะรู้สึกเจ็บแสบขนาดไหน   1.ผู้ชายเขาไม่ออกจากห้องครัวกันหรอก   2.แสดงให้หนุ่มๆ รู้ว่า โลกนี้เป็นของผู้หญิง   3.ห๊ะ ผู้ชายผอมแห้งแรงน้อยก็เปิดขวดนี้ได้งั้นเหรอ เปิดง่ายอะไรขนาดนั้น!?   4.อย่าให้ภรรยาของคุณจับได้เชียว ว่าคุณไม่ได้ใช้กาแฟสดชั้นเลิศชงให้เธอดื่มทุกเช้า เลือกใช้กาแฟ Chase & Sanborn สิครับ   5.แค่เพียงได้เห็นกางเกงสุดสวยเซ็กซี่ตัวนั้น ผมก็แทบจะลงไปกองกับพื้น ยอมให้เธอเหยียบย่ำจนหนำใจเลย   6.อย่ากังวลไปเลยหนุ่มน้อย เธอไม่ได้ทำเบียร์ไหม้สักหน่อย แค่มีเบียร์ดื่มก็พอแล้วจ้ะ   7.เห็นใส่กางเกงสวยๆ เป็นไม่ได้เลยมาเกาะแกะอยู่นั่นแหละ แม่ก็เลยฝังซะเลย นี่ยังใจดีนะที่ไม่กลบหัวลงไปด้วย   8.วันคริสต์มาสนี้เซอร์ไพรส์หนุ่มน้อยของคุณด้วยเครื่องดูดฝุ่น Hoover…

  • ชมปกนิตยสาร National Geographic ประวัติศาสตร์ยาวนาน 130 ปี ย่อมาให้ดูใน 2 นาที!!

    ชมปกนิตยสาร National Geographic ประวัติศาสตร์ยาวนาน 130 ปี ย่อมาให้ดูใน 2 นาที!!

    เพื่อนๆ รู้จัก National Geographic กันรึเปล่า? National Geographic นั้นเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และการศึกษาแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งได้ทำสื่อให้ความรู้ทั้งนิตยสารและช่องสารคดี ซึ่งผู้เขียนนั้นชอบดูช่องสารคดีของเค้ามากเลยล่ะ     National Geographic เป็นนิตยสารที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับข่าวสารและเรื่องราวของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม พิมพ์ฉบับแรกเมื่อปี 1888   หน้าปกของ National Geographic ฉบับแรก   ตอนนี้ในปี 2018 นิตยสารที่คุ้มค่าแก่การอ่านเล่มนี้ก็ได้มีอายุครบ 130 ปีเป็นที่เรียบร้อย ที่ผ่านมาก็ได้นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจมาโดยตลอด ซึ่งทางทีมงานก็ได้ทำวิดีโอรวบรวมน่าปกของนิตยสารตั้งแต่ฉบับแรกที่ตีพิมพ์ในปี 1888 จนถึงฉบับปัจจุบันมาให้พวกเราได้รับชม ซึ่งในวิดีโอจะมีความยาวประมาณ 2 นาที และจากวิดีโอเราจะเห็นถึงการพัฒนาของหน้าปกนิตยสารไปในตัว   หน้าปก National Geographic ปี 1915   ในยุคแรกๆ นั้นเทคโนโลยีการพิมพ์การตัดต่อยังไม่ดีเท่าไหร่ หน้าปกก็จะมีเพียงแค่ข้อความ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เทคโนโลยีที่มากขึ้นก็ทำให้ปกเริ่มมีรูปภาพขึ้นมาจนพัฒนามาถึงหน้าปกอย่างทุกวันนี้   ปก National Geographic…

  • นี่คือภาพถ่ายอันแสนงดงาม ชนะเลิศรางวัลประกวด Hasselblad ที่จัดขึ้นทุก 2 ปี

    นี่คือภาพถ่ายอันแสนงดงาม ชนะเลิศรางวัลประกวด Hasselblad ที่จัดขึ้นทุก 2 ปี

    Hasselblad Masters Awards  คือหนึ่งในรายการประกวดการถ่ายภาพอันทรงเกียรติที่สุดในโลก ซึ่งจะถูกจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี และจะคัดเลือกรูปภาพที่ดีที่สุดในแต่ละประเภท โดยแบ่งได้เป็น 11 ประเภท นั้นได้ประกาศผู้ชนะในรายการประจำปี 2018 แล้ว การประกวดครั้งนี้นั้นมีภาพถ่ายถูกส่งมาถึง 31,500 รูป มากกว่าสองปีก่อนถึง 175% ซึ่งแต่ละภาพก็ล้วนแต่เป็นภาพสวยงาม ที่ได้รวบรวมมาจากทั่วโลก ซึ่งรางวัลของการประกวดนี้คือผู้ชนะจะได้รับยกย่องให้เป็น Hasselblad Masters และจะกลายเป็นตัวแทนแบรนด์ชื่อดังของประเทศสวีเดนเป็นระยะเวลา 2 ปี และยังได้สิทธิพิเศษในการเข้าร่วมโครงการของ Hasselblad และผลงานของพวกเขาจะได้รับการตีพิมพ์ลงในหนังสือ Hasselblad Masters โดยรางวัลแต่ละประเภทจะตกเป็นของใครกันบ้าง ไปชมกันครับ   ประเภทภาพถ่ายทางอากาศ ผู้ชนะได้แก่ Jorge De La Torriente จาก ไมอามี สหรัฐอเมริกา . .   ประเภทสถาปัตยกรรม ผู้ชนะได้แก่ Kamilla Hanapova จาก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย . .   ประเภทศิลปะ…

  • ชาวเน็ตประทับใจ พี่สาวเล่นเพลง You’re my sunshine เป็นตัวช่วยสอนน้องออทิสติกพูด

    ชาวเน็ตประทับใจ พี่สาวเล่นเพลง You’re my sunshine เป็นตัวช่วยสอนน้องออทิสติกพูด

    เพื่อนๆ เคยได้ยินคำว่า พลังดนตรีเปลี่ยนโลก บ้างหรือเปล่า ผู้เขียนนั้นคิดว่าดนตรีนั้นถือว่าเป็นเวทมนตร์ยังได้เลย เพราะดนตรีนั้นสามารถมีพลังในการเปลี่ยนแปลงทั้งความคิด อารมณ์ และทัศนคติของคนที่ฟังให้ไปทางที่ผู้แต่งดนตรีต้องการสื่อ ซึ่งในข่าวที่เราจะพูดถึงนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่สาวที่ร้องเพลงพร้อมดีดกีตาร์เพื่อสอนน้องที่เป็นดาวน์ซินโดรมให้จดจำคำศัพท์และฝึกออกเสียงพูด เหมือนกับที่พ่อแม่เคยทำกับเด็กๆ ที่สอนให้เด็กๆ พูดจากการฟังเพลง ABC หรือ กขค ซึ่งเพลงพวกนี้นั้นถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความรู้และความจำของเด็กๆ     คราวนี้ครอบครัวหนึ่งมีลูกๆ ให้ดูแลถึงห้าคน Amanda Bowman Gray ผู้เป็นแม่มักจะคัดพวกเด็กโตคนใดคนหนึ่งนั้นให้ดูแลน้องเล็กสุดในขณะที่เธอนั้นไปอาบน้ำในแต่ละวัน ละวันหนึ่งเธอก็ได้ให้ลูกสาวของเธอ Lydia ดูแลน้องสุดท้องของเธอ Bo Bo นั้นเป็นโรคดาวน์ซินโดรม ซึ่งจะทำให้เธอมีปัญหาเรื่องพัฒนาการล่าช้า โดยในขณะที่อายุ 25 เดือน Bo สามารถจำคำศัพท์ได้ประมาณเพียง 12 คำ เทียบกับเด็กทั่วๆ ไปในอายุเท่านี้ จะสามารถจำคำศัพท์ได้ประมาณ 50 คำ     แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่ชัดคือ Bo นั้นรักดนตรี และมันมีผลกระทบอย่างมากในชีวิตของเขา Bo นั้นฟังดนตรีมาตั้งแต่เขาเกิด ซึ่งผู้เป็นพ่อ Caleb Gray เป็นนักดนตรี และลูกๆ ของครอบครัวนี้ส่วนมากก็มีความสนใจในดนตรีเช่นกัน  …

  • สาวผู้ทนทุกข์กับโรคท้าวแสนปม ถูกล้อเลียนจากตุ่มเนื้องอกบนร่างกาย แต่ใจยังคงสู้กับสิ่งที่ตัวเองเป็น

    สาวผู้ทนทุกข์กับโรคท้าวแสนปม ถูกล้อเลียนจากตุ่มเนื้องอกบนร่างกาย แต่ใจยังคงสู้กับสิ่งที่ตัวเองเป็น

    โรคท้าวแสนปม (Neurofibromatosis) คือโรคติดต่อทางพันธุกรรมที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้เนื่องจากตุ่มเนื้องอกจำนวนมากที่ผุดขึ้นมาสร้างความรำคาญ อีกทั้งยังต้องถูกสายตาอื่นมองผู้ป่วยโรคนี้อย่างรังเกียจ ไม่กล้าเข้าใกล้ โดยที่ความเป็นจริงนั้นโรคท้าวแสนปมนี้ไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรงอย่างที่ใครๆ คิดกัน Libby Huffer หนึ่งในหญิงสาวผู้ที่ป่วยเป็นโรคท้าวแสนปมได้ออกมาเปิดเผยชีวิตของเธอ ที่ต้องทนกับโรคที่สร้างบาดแผลในจิตใจของเธอในวัยเด็กและตอนเป็นวัยรุ่น ด้วยโรคท้าวแสนปมนี้ทำให้เธอถูกเพื่อนๆ มองว่าเป็นตัวประหลาดและไม่กล้าเข้าใกล้ อีกทั้งยังล้อเลียนเธออย่างหนักว่าเธอนั้นเป็นคางคก     เธอถูกล้อเลียนอย่างหนักจนต้องเปลี่ยนชื่อจาก Elizabeth มาเป็น Libby เนื่องจากเพื่อนมักเรียกเธอว่า ‘Lizard breath’ หรือนังตุ๊กแก ถ้อยคำล้อเลียนเหล่านี้มันฝังลึกอยู่ในหัวใจของเธอมาตลอด 45 ปี อาการของโรคท้าวแสนปมนี้เพิ่มขึ้นสูงมากเมื่อเธอคลอดลูกคนแรกเนื่องมาจากระกับฮอร์โมนที่พุ่งสูง แต่เธอก็ต้องอดทน     จนกระทั่งมาถึงวันที่เธอจะได้ลบเจ้าตุ่มเนื้องอกเหล่านี้มาถึง เธอเข้ารับการรักษาจากทางแพทย์ด้วยการผ่าตัดไฟฟ้าและเลเซอร์เพื่อตัดตุ่มออกจากใบหน้าและลำคอ ตุ่มประมาณ 1,000 ตุ่มของเธอถูกลบออก ซึ่งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับเธอเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับบาดแผลในจิตใจที่เธอมี     เธอหวังว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากที่เธอได้รับการผ่าตัด และสามารถลืมความทรงจำร้ายๆ ในอดีต นอกจากนี้เธอก็บอกว่า โรคท้าวแสนปมนี้มันไม่ใช่โรคติดต่อ มันเป็นโรคทางพันธุกรรม     “ฉันไม่ได้เป็นโรคติดต่อ ฉันก็เหมือนมนุษย์ทั่วไปที่ต้องการความรักความห่วงใยเหมือนกับคนอื่น” Libby กล่าวปิดท้าย   ที่มา ladbible

  • ช่างทำผมโพสต์ภาพลูกค้าที่ได้รับภัยใกล้ตัว เมื่อคนที่เราไว้ใจ กลายเป็นคนที่ทำร้ายเราได้มากที่สุด

    ช่างทำผมโพสต์ภาพลูกค้าที่ได้รับภัยใกล้ตัว เมื่อคนที่เราไว้ใจ กลายเป็นคนที่ทำร้ายเราได้มากที่สุด

    ปัญหาเรื่องความรุนแรงยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ในสังคม การกระทำด้วยความรุนแรงนั้นส่งผลกระทบกับหลายๆ ด้าน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไม่มีทางแก้ และนับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ Andy Mendoza ช่างทำผมคนหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ดวงตาห้อเลือด และผมสีม่วงของเธอถูกกล้อนจนเห็นหนังศีรษะ ซึ่งดูก็รู้ว่าเธอถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ เธอคนนี้เดินเข้าร้านทำผมของเขาเพื่อจัดการกับทรงผมที่ถูกทำร้ายมาจนไม่มีชิ้นดี     สาเหตุที่หญิงสาวคนนี้ต้องมีสภาพแบบนี้ก็เนื่องมาจากการโดนแฟนหนุ่มที่ชื่อว่านาย Michael Truskauskas ซ้อมอย่างหนัก เมื่อกลางเดือนธันวาคมปี 2017 ทางตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีหญิงสาวนอนหลับอยู่ที่เบาะหลังของรถ ร่างกายของเธอมีร่องรอยของการถูกทำร้าย     ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวรายนั้น หลังจากการสอบปากคำก็รู้ว่าเธอถูกแฟนหนุ่มขี้ยาของเธอซ้อมในอพาร์ตเมนต์ เขาทำร้ายร้ายกายเธอเหมือนกับว่าเธอเป็นตุ๊กตาระบายอารมณ์ ชกเข้าที่ใบหน้า พยายามจะกรีดข้อมือและนิ้วมือของเธอ นอกจากนี้เขายังบีบเข้าที่ลำคอ แล้วจับเธอกล้อนผม จากนั้นก็ผลักเธอให้ตกบันได จนเธอต้องซมซานหนีออกมาด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เศษผม เลือด กระดาษซับเลือดของเธอถูกพบในอพาร์ตเมนต์และเก็บไว้เป็นหลักฐานในเวลาต่อมา   ภาพของแฟนหนุ่มผู้ลงมือทำร้ายเธอ   นาย Micheal แฟนหนุ่มถูกจับกุมตัวในทันทีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ในครั้งแรกชายหนุ่มปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาจึงต้องมีการค้นบ้านจนพบหลักฐานทั้งหมด รวมไปถึงการค้นพบว่ามีอุปกรณ์เสพยาจำนวนหนึ่งบนโต๊ะ จึงทำให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย     ส่วนหญิงสาวที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้นก็ได้เยียวยาร่างกายตัวเอง โดยทางร้านตัดผมได้จัดการทำทรงผมของเธอให้กลับมาสวย เพื่อเพิ่มความมั่นใจและเป็นกำลังใจให้เธอต่อสู้ชีวิตด้วยความแข็งแก่ง และโพสต์ภาพลงอินสตาแกรม เพื่อรณรงค์การลดใช้ความรุนแรงในสังคมอีกด้วย    …

  • หนุ่มเดินตามมาจับก้นคุณแม่ลูกสองถึง 5 ครั้ง แถมบอกว่า ‘โทษทีนะ ผมต้องทำ เพราะคุณเด็ดจริงๆ’

    หนุ่มเดินตามมาจับก้นคุณแม่ลูกสองถึง 5 ครั้ง แถมบอกว่า ‘โทษทีนะ ผมต้องทำ เพราะคุณเด็ดจริงๆ’

    ปัจจุบัันนี้มีโรคจิตหลายรูปแบบที่พยายามแต๊ะอั๋งผู้หญิง บางคนเลือกที่ที่มีคนพลุกพล่าน บางคนเลือกที่ที่ลับตาคน เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ หรือแม้ว่าเหยื่อจะร้องโวยวายในที่เกิดเหตุ โรคจิตก็มักจะไม่ยอมรับความผิดและหาวิธีหนีไปได้ในที่สุด แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ มันแตกต่างออกไป เพราะโรคจิตคนนี้ได้ตามจับก้นผู้หญิงคนเดียวถึง 5 ครั้ง ในที่โจ่งแจ้ง แถมยังหันไปยิ้มให้กล้องวงจรปิดด้วย Jesse Ratu คุณแม่ลูกสองวัย 24 ปี ผู้ตกเป็นเหยื่อเล่าว่าระหว่างทางที่กลับจาก Gold Coast มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินตามหลังมาติดๆ     ชายคนนั้นเดินตามมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงหน้าอพาร์ทเมนต์ Southport ของเธอ ระหว่างที่ Jesse กำลังยืนปลดล็อคประตู จู่ๆ ชายคนหนึ่งก็เข้ามาจับก้นเธอถึง 5 ครั้งด้วยกัน ภาพจากกล้องวงจรปิดของอพาร์ทเมนต์ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่ตอนเดินตาม จนถึงจับก้น แถมชายคนนั้นยังหันไปยิ้มให้กล้องด้วย     คุณแม่ลูกสองบอกอีกว่า “หลังจากที่โดนจับก้น ฉันหันไปมองหน้าเขาแล้วบอกกับเขาว่า ‘อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ’ แต่เขากลับตอบมาว่า ‘โทษทีนะ ผมต้องทำเพราะคุณเด็ดจริงๆ’” จากนั้นเธอก็วิ่งเข้าไปข้างในและเล่าเรื่องทุกอย่างให้สามีของเธอ Brendan Wilson ฟัง เขาโกรธมากและวิ่งออกไปข้างนอกเพื่อไปจัดการชายโรคจิตคนนั้น แต่ปรากฏว่าเขาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว     Jesse…

  • ชาวจีนลั่น ‘ไม่อยากมาไทยแล้ว’ หลังเห็นราคาอาหารฟันหัวแบะ แม่ค้าเพิ่งจะยอมปรับเหลือ 80 บาท!?

    ชาวจีนลั่น ‘ไม่อยากมาไทยแล้ว’ หลังเห็นราคาอาหารฟันหัวแบะ แม่ค้าเพิ่งจะยอมปรับเหลือ 80 บาท!?

    ว่าด้วยเรื่องราคาอาหารในบ้านเราที่กลายเป็นประเด็นเด่นในโซเชียลหลายต่อหลายครั้ง เพราะบางร้านโดยเฉพาะร้านที่อยู่ในย่านท่องเที่ยว มักจะตั้งราคาที่แพงเกินไปจนผู้คนรับไม่ได้ ล่าสุดเกิดประเด็นดราม่าอีกแล้วและไม่ใช่แค่ในไทย เพราะข่าวนี้ดังไกลไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศจีน จนทำให้ชาวจีนบางคนถึงกับลั่น ‘ไม่อยากมาไทยแล้ว’ เรื่องของเรื่องเกิดจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านประตูน้ำ ได้ขายข้าวกะเพราหมูกรอบ-ไข่ดาว จานละ 150 บาทให้กับลูกค้า จนลูกค้าคนดังกล่าวรู้สึกว่าราคานี้แพงเกินไปและได้ถ่ายรูปไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก     ต่อมามีชาวเน็ตแห่คอมเมนต์กันว่าราคากะเพราหมูกรอบ-ไข่ดาว จานละ 150 บาทสำหรับคนไทยนั้นแพงเกินไปจริงๆ ก่อนจะกลายประเด็นดังที่สื่อต่างๆ นำไปวิพากษ์วิจารณ์     ในที่สุดเมื่อเรื่องนี้ถึงหูเจ้าของร้าน ทางแม่ค้าจึงได้ออมาชี้แจงว่าที่ขายราคา 150 บาท นั้นเพราะคิดว่าเป็นคนจีน หากรู้ว่าเป็นคนไทยจะขายให้ในราคา 80 บาท แต่แล้วคำชี้แจงนี้ก็ล่วงรู้ไปถึงหูนักท่องเที่ยวชาวจีน และแน่นอนว่าพวกเขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่แม่ค้าคนไทยจงใจตั้งราคาสูงสำหรับคนจีน ประเด็นนี้ถูกนำไปโพสต์ในเพจในเว็บไซต์ weibo ซึ่งเป็นเพจที่นำเสนอเรื่องราวของเมืองไทยให้คนจีนได้เข้าใจคนไทย จนได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเป็นจำนวนมาก     ทางเพจได้เผยแพร่ข่าว “แม่ค้าขายอาหารที่ประตูน้ำ ขายราคาแพง แบ่งเรทราคา ราคาคนจีน (ต่างชาติ) และคนไทย” โดยต้องการบอกให้คนจีนรู้ว่าชาวไทยเองก็ไม่พอใจกับเหตุการณ์นี้เหมือนกัน ชาวเน็ตจีนหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยอารมณ์โมโหว่า ‘ไม่อยากมาไทยอีกแล้ว’ ‘ไม่กล้าไปไทยแล้ว’ บ้างก็บอกว่า ‘รู้แล้วว่าทำไมตอนไปเกาะสมุยถึงรู้สึกว่าราคาอาหารแพงมาก ที่แท้แบ่งแยกราคาคนจีนกับคนไทยนี่เอง’ อย่างไรก็ตาม มีชาวจีนอีกจำนวนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นกลางว่า ‘ทุกที่มีทั้งคนดีและไม่ดี สถานที่ท่องเที่ยวของจีนเองก็ขายราคาแพงแบบนี้ให้คนต่างชาติเหมือนกัน’ บางคนบอกว่า ‘ไปเที่ยวไทยมา…

  • เจ้าหมีขั้วโลกขอเซลฟี อวดให้มนุษย์ได้รู้ซะบ้างว่า ‘ข้าน่ะ มีท่าเซลฟี เจ๋งที่สุดแว้ว’

    เจ้าหมีขั้วโลกขอเซลฟี อวดให้มนุษย์ได้รู้ซะบ้างว่า ‘ข้าน่ะ มีท่าเซลฟี เจ๋งที่สุดแว้ว’

    มนุษย์เราอาจจะคุ้นชินกับการใช้กล้อง บางคนติดการเซลฟีมากๆ ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นต้องแชะภาพตลอด ที่สำคัญรู้ด้วยว่าถ่ายยังไง มุมไหน หรือท่าไหนให้ตัวเองดูดีสุด สำหรับสัตว์ พวกมันไม่มีรู้จักหรอก เซลฟงเซลฟีอะไรเนี่ย… แต่ก็ไม่แน่นะถ้าเราลองทิ้งกล้องไว้กับสัตว์ มันอาจจะเกิดสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็ได้ เหมือนกับเจ้าหมีขั้วโลกตัวนี้ที่มีความสนอกสนใจ อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับกล้องที่เจ้าหน้าที่ไปติดตั้งเอาไว้ สุดท้ายได้ภาพเซลฟีสุดคูลของมันมา ชนิดที่ว่ามนุษย์ก็ทำไม่ได้หร๊อก     เมื่อไม่นามานี้เจ้าหน้าที่จากเขตอนุรักษ์ธรรมชาติของเกาะ Wrangel ได้นำกล้องพร้อมกับอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิบนเกาะไปติดตั้งไว้บนเกาะที่อยู่ระหว่างทะเลตะวันออกของไซบีเรียกับทะเลชุกชี เพื่อสำรวจอาณาเขตของหมีขั้วโลก ทั้งนี้จากการสำรวจครั้งล่าสุดพบว่าบนเกาะแห่งนี้มีหมีขั้วโลกอยู่ 600 ตัว…แต่การสำรวจในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่คิดเลยว่าจะได้ของแถมมาด้วย     ของแถมที่ว่านี้เป็นภาพเซลฟีของเจ้าหมีขั้วโลกผู้มีความอยากรู้อยากเห็นและเข้าไปเล่นกับกล้องสำรวจที่ถูกติดตั้งเอาไว้บนเกาะ หนึ่งในภาพเซลฟีที่ดูไม่ธรรมดา คือภาพที่ถ่ายจากด้านล่าง เผยให้เห็นคาง ปากและจมูกของมัน โดยมีพื้นหลังเป็นท้องฟ้าสดใส อย่างกับภาพของชาวฮิปสเตอร์แหนะ     คูลกว่านี้หาไม่ได้แล้ว   ฮิปสเตอร์เค้าไม่ถ่ายรูปหน้าเต็มหรอก   นี่ มีการโฟกัสที่ภูมิทัศน์ซะด้วย   และเมื่อดูจากกล้องอีกตัวที่ติดตั้งในบริเวณก็ได้พบว่าเจ้าหมีขั้วโลกตัวนี้ทำอะไรกับกล้องบ้าง ซึ่งจากที่เห็น ดูเหมือนมันจะมีอุปสรรคในการถ่ายรูปนิดหน่อย เพราะกล้องมันอยู่สูงเกินไป แต่อย่างน้อยก็รู้ว่ามันคงสนุกที่ได้เล่นอะไรใหม่ๆ   ภาพจากกล้องอีกตัว   ที่มา siberiantimes

  • เหล่าบุคคลที่ไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น กฎเกณฑ์ทุกอย่างพังทลาย ก็ใครจะทำไมล่ะ!?

    เหล่าบุคคลที่ไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น กฎเกณฑ์ทุกอย่างพังทลาย ก็ใครจะทำไมล่ะ!?

    ธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะปรับตัวให้เข้าสังคม สิ่งแวดล้อม กฎหมาย กฎธรรมชาติ จารีตประเพณี ศีลธรรม หรือที่อย่างที่คนโบราณบอกว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เพื่อจะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติเค้า แต่มันจะมีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่มีความเป็นตัวเองสูงถึงสูงมาก ไม่สนใจอะไรเลย คนอื่นจะเป็นยังก็ช่าง กฏเกณฑ์อะไร ข้าไม่รู้จัก ก็ตรูแฮปปี้ที่จะเป็นแบบนี้อ่ะ แล้วไงอ่ะ!?   1. นี่คือคนที่อายุจะย่างเข้า 99 ปีจริงๆ เหรอ? ออกกำลังแล้วจิบแอลกฮอล์ไปพลางก็ได้เหรอฮะ?   2. เมื่อปล่อยให้พ่อสอนลูกยิงธนู… แล้วดูทำหน้า ชิลมาก   3. โอ้ยยย สะกิดอะไรนักหนา คนจะถ่ายรูป   4. วันนี้วันหยุดอะ ขอนอนดูหนังยาวๆ ละกัน…นี่คุณพี่คงไม่เข้าไปซื้อป๊อบคอร์นในสภาพนี้ด้วยใช่มั้ย?   5. กฎมีไว้แหก แหกให้หมดทุกข้อ   6. ขออยู่แบบนี้แป๊บ ข้างล่างมันเย็นดี   7. สาวๆเล่นโยคะกันตามสบายเลย ผมไม่สนหรอก ผมจะนอน จริงจริ๊ง   8. ก็ยายไม่รีบไง เอ้อออ  …

  • นักเรียนมาสายเพราะฝนตกรถติด โวยวายครูล็อกห้องไม่ให้เข้า ชาวเน็ตร่วมสั่งสอนให้รู้สึก!!

    นักเรียนมาสายเพราะฝนตกรถติด โวยวายครูล็อกห้องไม่ให้เข้า ชาวเน็ตร่วมสั่งสอนให้รู้สึก!!

    ในวัยเรียน หลายคนอาจมีข้ออ้างสำหรับการมาเรียนสาย ไม่ว่าจะฝนตก รถติด ตื่นสาย แต่จริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่ต้องหาวิธีจัดการเอง ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะเจอเรื่องอย่างนักเรียนกลุ่มนี้ ที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกคุณครูล็อกห้องไม่ให้เข้าเรียกเพราะพวกเขามาสายเกินเวลาที่กำหนด กลุ่มนักเรียนชายจากโรงเรียนสารพัดช่างแห่งหนึ่งในสิงคโปร์พร้อมเพื่อนอีก 4 คน ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุว่าพวกเขามาสาย 15 นาที เพราะฝนตกและรถติด แต่กลับถูกครูล็อกประตูไม่ให้เข้า และอ้างว่าครูไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น     กลุ่มนักเรียนที่อยู่ข้างนอกได้ถ่ายรูปของคุณครูที่สอนอยู่ข้างใน ซึ่งเป็นคนที่ล็อกประตูพวกเขาลงในเฟซบุ๊กด้วย   และถ่ายรูปตัวเองที่อยู่นอกห้องเรียนเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม   โพสต์ดังกล่าวนี้ถูกแชร์ต่อๆ กันในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วและได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเกิดเป็นประเด็นถกเถียง เพราะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนบอกว่าครูคนนี้ ‘เข้มงวดเกินไป’ และนักเรียนเองก็เป็นแค่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ นักเรียนไม่ควรต้องถูกลงโทษ เพราะวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักมากจริงๆ     อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตส่วนใหญ่มีความเห็นว่าสิ่งที่ครูทำนั้นถูกต้องแล้ว เธอต้องสอนบทเรียนให้เด็กที่มาสายและเพื่อให้ความเป็นธรรมกับนักเรียนที่มาตรงเวลาด้วย และเพราะเวลาที่คุณไปทำงาน ไม่มีใครมาสนใจหรอกว่าคุณมาสายเพราะอะไร     บางคนบอกว่าแทนที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมในสังคมออนไลน์ นักเรียนกลุ่มนี้ควรจะแก้ไขปัญหาของตัวเองและควรจะขอโทษสำหรับการมาสายดีกว่า เพราะการมาสายเป็นกลุ่มไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างได้ ทุกๆ คนควรให้ความสำคัญไปที่ความรับผิดชอบส่วนบุคคลมากกว่า     หลังจากที่มีกระแสโจมตีอย่างหนัก นักเรียนกลุ่มนั้นเลยตัดสินใจลบโพสต์ต้นเรื่องไป แต่ก็ยังคงยืนยันว่าพวกเขาสมควรได้รับความเป็นธรรม…

  • สาวจีนซวยเพราะโมหน้ามาใหม่ เครื่องสแกนไม่ให้ผ่าน กลายเป็นว่าตกเครื่องไปโดยปริยาย

    สาวจีนซวยเพราะโมหน้ามาใหม่ เครื่องสแกนไม่ให้ผ่าน กลายเป็นว่าตกเครื่องไปโดยปริยาย

    ในปัจจุบันนี้ การทำศัลยกรรมพลาสติกถือว่าเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง มีหลายคนที่ได้ไปศัลยกรรมมา ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา หรือดาราก็ตาม ซึ่งก็จะมีเหตุการณ์แบบที่ว่า ไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้เนื่องจากใบหน้าที่ทำศัลยกรรมมา ไม่เหมือนในบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่เลยไม่ให้ผ่าน ในกรณีนี้ก็เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวชาวจีนวัย 28 ปี แซ่ Zhang โดยเธอนั้นได้จองตั๋วเครื่องบินจาก เฉิงตูไปยังเซี่ยงไฮ้ในวันอาทิตย์ แต่พอเธอไปถึงสนามบินเธอกลับไม่ผ่านจุดตรวจสอบเพราะว่าระบบจดจำใบหน้านั้นไม่สามารถระบุว่าเธอเป็นใครได้ เนื่องจากเธอไปทำศัลยกรรมมา     Zhang นั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธอพยายามที่จะอธิบายเจ้าหน้าที่แล้วว่าเธอไปทำศัลยกรรมมา แต่ว่าไม่ได้ผล พวกเขานั้นเชิญเธอไปที่สถานีตำรวจเพื่อระบุตัวตน ในตอนหลังเธอต้องวิ่งเต้นไปมาตามสำนักงานราชการต่างๆ เพื่อพิสูจน์ว่าเธอคือ Zhang อยูุ่ถึง 4 ชั่วโมง แต่ว่า ณ ตอนนั้น เครื่องบินรอบของเธอก็ได้ออกไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่และผู้จัดการที่เธอได้พบไปกี่ครั้ง เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากยกเลิกตั๋วเครื่องบินราคา 6,000 บาทของเธอ และสุดท้ายเธอก็ต้องเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ด้วยรถไฟแทน     ภายหลังตำรวจได้กล่าวว่าในทุกวันนี้มีผู้คนที่ได้ทำการศัลยกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ หากคุณต้องการที่จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ ขอแนะนำให้คุณไปอัปเดทบัตรที่สามารถระบุตัวตนของคุณได้ เมื่อไหร่ที่หน้าของคุณนั้นเปลี่ยนไปมากๆ   ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็มีภาพเหตุการณ์คล้ายๆ กันที่กลายเป็นกระแสไปทั่วสังคมออนไลน์ ซึ่งก็คือภาพของ หญิงสาวชาวจีน 3 คน ที่หน้าบวมซึ่งติดอยู่ที่สนามบินเกาหลีใต้ เนื่องจากไม่สามารถระบุตัวตนของพวกเธอได้หลังจากที่ไปศัลยกรรมมา…

  • ดาราจาก Stranger Things ท้าเล่นๆ ว่าจะไปถ่ายรูปสานฝันให้เด็กสาวเมื่อยอดรีทวีตถึง และมันถึงจริงๆ

    ดาราจาก Stranger Things ท้าเล่นๆ ว่าจะไปถ่ายรูปสานฝันให้เด็กสาวเมื่อยอดรีทวีตถึง และมันถึงจริงๆ

    หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อของภาพยนตร์ซีรีส์ชื่อดัง “Stranger Things” ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นกันมาแล้ว และแน่นอนว่าการที่มีคนชื่นชอบซีรีส์เรื่องนี้จำนวนมากทำให้เหล่านักแสดงนั้นมีชื่อเสียงโด่งดัง และมีคนติดตามบนโลกออนไลน์จำนวนมากด้วยเช่นกัน     อย่างเช่นนักแสดงคนนี้ David Harbour ที่ในเรื่องได้รับบทเป็น Jim Hopper ตัวละครหลักของเรื่อง ได้มีแฟนคลับของเขาคนหนึ่ง ชื่อว่า Damaris Fregoso เด็กสาวอายุ 17 ปี จากแคลิฟอร์เนีย เธอเป็นแฟนคลับตัวยงของซีรีส์ Stranger Things ซึ่งเธอได้ติดตาม David บนทวิตเตอร์     และเธอก็ได้โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์โดยมีใจความถาม David ว่าถ้าอยากให้เขาไปถ่ายรูปลงหนังสือรุ่นกับเธอต้องมีจำนวนการรีทวิตเท่าไหร่ แต่เธอกลับต้องตกใจเพราะ David นั้นมาตอบทวิตของเธอด้วย เขาตอบเธอด้วยการหยอกเล่น เอาฮา ว่าถ้าได้ยอดรีทวิตถึงสองหมื่นห้าล่ะก็ เขาจะยอมไปถ่ายรูปหนังสือรุ่นกับเธอด้วย แถมยังใส่เสื้อกันหนาวโรงเรียนพร้อมถือทรอมโบนอีกต่างหาก   “ต้องมีจำนวนรีทวิตเท่าไหร่คุณถึงยอมมาถ่ายรูปหนังสือรุ่นกับฉัน”   แต่สิ่งที่ทำให้ Damaris ตกใจก็คือการที่ David ตอบเธอแบบติดเล่นว่า “สองหมื่นห้ารีทวิต แล้วเขาถ่ายรูปด้วยโดยที่จะใส่เสื้อกันหนาวของโรงเรียน และก็ถือทรอมโบน”   ดังนั้น Noah Schnapp ตัวเอกของเรื่องอีกคน จึงโพสต์ข้อความเพื่อช่วยให้คำขอของเด็กสาวเป็นจริง “มารีทวิตกันเถอะพวกเรา…

  • ภาพสุดซึ้ง “ครอบครัวม้า” ยืนไว้อาลัยทั้งคืน หลังม้าตัวเมียโดนรถชนตายอยู่ริมถนน…

    ภาพสุดซึ้ง “ครอบครัวม้า” ยืนไว้อาลัยทั้งคืน หลังม้าตัวเมียโดนรถชนตายอยู่ริมถนน…

    หญิงสาวคนหนึ่งบังเอิญขับรถไปเจอกับฝูงม้า ที่ยืนอยู่ริมถนนด้วยท่าทีสุดอาลัย… ฝูงม้าดังกล่าวได้หายไปนานถึง 36 ชั่วโมง โดยที่ปกติแล้วเมื่อปล่อยมันไปเที่ยวเล่น พวกมันก็จะกลับมาตรงเวลาเสมอ ทางฝั่งเจ้าของก็ตามหามันว่าทำไมมันไม่กลับมาหาผู้ดูแลสักที Hazel ม้าเพศเมียผู้เคราะห์ร้ายโดนรถชนเข้าอย่างรุนแรง และเสียชีวิตคาที่จากอาการขาหักและอาการบาดเจ็บภายในที่เกินร่างกายจะทานไหว   ม้าสีดำซึ่งเป็นแม่ของ Hazel และน้องสาว ยืนนำหน้าในการเฝ้าร่างไร้วิญญาณอีกฟากของถนน   Sarah Simmons ผู้ที่ถ่ายรูปนี้ไว้ได้กล่าวว่า “ฉันหวังว่าผู้คนจะตระหนักถึงเหตุการณ์แบบนี้(การขับรถเร็ว) มันไม่ใช่แค่เจ้าของม้าที่รู้สึกแย่ แม้แต่ครอบครัวของม้าก็รู้สึกเศร้าไปด้วย” เจ้าของม้าตัวดังกล่าว Cathy Stride แม่บ้านจาก Minstead ในประเทศอังกฤษ พูดถึงภาพถ่ายดังกล่าว เธอบอกว่า “มันเป็นรูปที่ดีมากๆ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าสัตว์ต่างๆ ก็รู้สึกได้เหมือนที่เรารู้สึก”     มีการถกเถียงถึงการขับรถเร็วเกินกำหนดในถนนแถบชนบทของอังกฤษ ซึ่งประเด็นดังกล่าวเจ้าของม้าก็ได้พูดออกมาถึงเหล่าคนที่ขับรถเร็วเช่นกัน เมื่อพิสูจน์จากร่องรอยบนถนน พบว่ารถที่ชนเจ้า Hazel นั้นได้เบรกอย่างรุนแรงก่อนแล้ว แต่หลายครั้งที่คนขับรถเลือกที่จะชนไปจังๆ โดยที่ไม่หักหลบ เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรอดชีวิต “พวกเขาขับรถกันเร็วมาก ไม่เว้นช่องให้เจ้าม้าได้ข้ามถนนเลย ม้ามันไม่รู้วิธีข้ามถนนหรอก ถ้าเพียงพวกเขาขับช้าลงและให้มันได้ข้ามถนนบ้าง มันคงไม่ตาย”     ที่มา Dailymail

  • ภาพกอดครั้งสุดท้าย หลังคุณพ่อชาวเม็กซิโกจำใจลาจากครอบครัว เพราะนโยบายของทรัมป์

    ภาพกอดครั้งสุดท้าย หลังคุณพ่อชาวเม็กซิโกจำใจลาจากครอบครัว เพราะนโยบายของทรัมป์

    หลังจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีมาตรการตรวจสอบผู้อพยพอย่างเข้มงวด ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในอเมริกาจึงล้วนได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้กันถ้วนหน้า เนื่องจากผู้ที่ไม่ได้มีเชื้อสายอเมริกัน หรือกระทั่งเป็นผู้อพยพที่แม้จะมีครอบครัวในสหรัฐอเมริกานั้น ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในประเทศอเมริกาโดยถูกกฎหมายอีกต่อไป     ชายชาวเม็กซิกันคนนี้ชื่อว่า Jorge Garcia วัย 39 ปี จำเป็นต้องจากครอบครัวเนื่องจากกฎหมายผู้อพยพของสหรัฐนั้นมีข้อบังคับให้เขาต้องกลับไปอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดที่เม็กซิโก ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ รวมแล้วเป็นเวลา 29 ปี เขาใช้ชีวิตเป็นชาวสวนอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างเงียบๆ มาจนกระทั่งปี 2005 ที่เขาและภรรยาเริ่มช่วยกันต่อสู้เพื่อให้ Jorge มีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการอาศัยอยู่ในอเมริกา     จากนั้นในปี 2009 หน่วยงาน ICE ได้แจ้ง Jorge ล่วงหน้าว่าจะต้องถูกเนรเทศออกนอกประเทศ ขณะนั้นเองก็มีนโยบาย DACA ที่ Barack Obama อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐได้ออกมาเพื่อครอบคลุมผู้อพยพ โดยมีเงื่อนไขว่าหากผู้ที่มีอายุไม่เกิน 31 ปี ในปี 2012 จะสามารถต่ออายุเพื่ออาศัยอยู่ในประเทศได้     แต่โชคไม่ดีที่ในเวลานั้น Jorge มีอายุได้ 32 ปี ซึ่งเกินมา…

  • ปาร์ตี้ดื่มคุยเรียน… แขกคนไหนที่ได้รับเชิญ จะต้องนำเสนอพาวเวอร์พ้อยท์ เกินเวลาก็ต้องยกหมดแก้ว!?

    ปาร์ตี้ดื่มคุยเรียน… แขกคนไหนที่ได้รับเชิญ จะต้องนำเสนอพาวเวอร์พ้อยท์ เกินเวลาก็ต้องยกหมดแก้ว!?

    ในสังคมการเรียนหรือสังคมการทำงาน ย่อมจะมีวันที่นัดกันจัดปาร์ตี้เพื่อคลายเครียด หรือเพื่ออะไรก็ว่ากันไป โดยในปาร์ตี้ปกตินั้นก็จะมีการดื่มเครื่องดื่ม อาหารนิดหน่อยๆ และอาจจะมีเกมให้เล่นด้วย แต่ว่าปาร์ตี้ที่เราจะพูดถึงนี้แปลกออกไปหน่อยเพราะเค้ามีคอนเซ็ปต์คือ “ดื่ม คุย ได้เรียนรู้” มีวิศวกรซอฟต์แวร์คนหนึ่งจาก Seattle ชื่อว่า Michal ซึ่งใช้ทวิตเตอร์ว่า @Miexriir นั้นได้โพสรูปภาพพร้อมข้อความที่เกี่ยวกับปาร์ตี้นี้ว่า “เมื่อคืนฉันไปปาร์ตี้ ที่จะให้ทุกคนนั้นเตรียมการพรีเซนต์อะไรก็ได้ที่พวกเขาสนใจใน 3 นาที ซึ่งฉันได้รางวัลพรีเซนต์ดีด้วยแหละ“     โดย Michal นั้นบอกว่า PowerPoint ที่เธอนำมาพรีเซนต์นั้น เพื่อนของเธอ Clasrisse เป็นคนทำขึ้นมา และ Clasrisse ก็บอกเกี่ยวกับปาร์ตี้นี้ว่า “ดื่มคุยเรียน นั้นถูกสร้างขึ้นมาจากนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ Megan, Michael, Derek, และ Munt จากมหาวิทยาลัย Waterloo ในปี 2012″ “ดื่มคุยเรียนนั้นถูกสืบต่อมาปีต่อปี และถูกเผยแพร่ไปหลายเมืองนอกจาก Waterloo ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Toronto, Seattle, San Francisco, Edmonton และ New York”    ทุกคนจะได้รับเวลา…

  • ขมคอก็ขอลา!! หนุ่มขอหย่าแฟนสาว หลังทนไม่ได้กับนิสัย “อาบน้ำปีละครั้ง” ของเธอ

    ขมคอก็ขอลา!! หนุ่มขอหย่าแฟนสาว หลังทนไม่ได้กับนิสัย “อาบน้ำปีละครั้ง” ของเธอ

    ศาลของเมืองไทเปได้อนุมัติการขอหย่าของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง โดยฝ่ายสามีเป็นผู้ร้องขอการหย่าเนื่องจากทนไม่ไหวกับพฤติกรรมการดูแลความสะอาดร่างกายของภรรยา ที่เขาอ้างว่า “เป็นการทรมานทางจิตใจ” กันเลยทีเดียว เจ้าทุกข์ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อกับทางสื่อมวลชน กล่าวว่าภรรยาของเขาที่มีสกุลว่า หลิน (Lin) อาบน้ำปีละครั้งเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ค่อยแปรงฟันกับสระผมอีกด้วย     เขาเล่าว่าเมื่อก่อนแต่งงาน หลินเป็นคนที่อาบน้ำสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งเขายังรับได้ แต่พฤติกรรมนั้นมาแย่ลงหลังจากแต่งงาน การอาบน้ำ แปรงฟัน และสระผมก็ค่อยๆ ทิ้งระยะห่างมากขึ้น กลายเป็นเดือนละครั้ง จนกระทั่งปีละครั้งในที่สุด เจ้าทุกข์เล่าถึงการมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาว่า ด้วยพฤติกรรมการดูแลความสะอาดของภรรยาที่กล่าวมานั้น ทำให้เขาและภรรยามีเพศสัมพันธ์กันประมาณปีละครั้งสองครั้งเท่านั้น พวกเขาจึงไม่มีลูกมาราว 10 ปีแล้ว     อีกทั้งยังกล่าวอีกว่า หลินไม่มีงานทำ ซ้ำยังห้ามไม่ให้ตัวเขาเองไปทำงานอีกด้วย เพราะอยากให้อยู่ทำอาหารและดูแลพ่อของเธอที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหวร่างกาย (หลังจากพ่อของหลินได้เปิดร้านล็อตเตอรี่ เธอก็ห้ามไม่ให้สามีของเธอไปทำงานใดเลย) “เรายังคงยากจน เพราะเราทั้งคู่ไม่มีใครทำงาน” เจ้าทุกข์กล่าว พร้อมบอกว่าไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าประกันสุขภาพและค่าใช้จ่ายในการพบทันตแพทย์ได้ เขาบอกว่าเงินที่ใช้จ่ายแต่ละวันนั้นเป็นเงินน้อยนิดที่แม่ของหลินแบ่งให้มาเท่านั้น เจ้าทุกข์บอกว่าเขาแยกตัวออกมาเพื่อหางานในนครซินจู๋  ช่วงปลายปี 2015 แต่ทำงานได้เพียงหนึ่งเดือน ภรรยาของเขาก็ตามมาหาถึงที่เพราะต้องการให้ลาออก เขาจึงตัดสินใจที่จะขอหย่ากับเธอ     อีกด้านหนึ่ง หลินกล่าวว่าชายผู้เป็นสามีให้การเท็จเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา พร้อมทั้งบอกอีกว่าพ่อแม่ของหลินดูแลเขาอย่างดีเหมือนเป็นลูกชายแท้ๆ เธอบอกว่าที่เธอปฏิเสธการขอหย่า และตามไปหาสามีถึงที่ทำงานนั้นเป็นเพราะไม่มีการติดต่อกลับมาจากเขาเลย แม่ของหลินนั้นให้เงินแก่ทั้งคู่เนื่องจากเห็นว่าทั้งคู่ไม่มีงานทำมาหลายปีแล้ว ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเลี้ยงพวกเขาขนาดนี้    …

  • กลุ่มหญิงชาวจีนผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็น ‘แม่มด’ ต้องรวมตัวกัน จากความเชื่อผิดเพี้ยนที่ยังคงอยู่…

    กลุ่มหญิงชาวจีนผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็น ‘แม่มด’ ต้องรวมตัวกัน จากความเชื่อผิดเพี้ยนที่ยังคงอยู่…

    แม้ว่าปัจจุบันโลกของเราจะมีวิทยาการล้ำยุคขนาดไหน แต่ความเชื่อในเรื่องของไสยศาสตร์หรือว่ามนต์ดำ ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ในประเทศต่างๆ ตลอดเวลา ซึ่งความเชื่อในเรื่องเหล่านี้ ก็ทำให้บางคนต้องได้รับความเดือดร้อนจากการถูกกล่าวหา อย่างเช่น ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ปิศาจ ต่างๆ นานา จนทำให้ชีวิตของพวกเขาเหล่านี้พังพินาศกันเลยก็เคยมีให้เห็นเช่นเดียวกัน และนี่ก็คืออีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ เมื่อมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งถูกหมางเมินจากคนในหมู่บ้าน จากการถูกตราหน้าว่าเป็นแม่มด ทำให้พวกเขาต้องรวมตัวกันเพื่อเอาชีวิตรอด…     จากรายงานที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature Human Behavior เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยที่ศึกษาในเรื่องนี้ได้ออกมาเปิดเผยถึงข้อมูลอันโหดร้ายบนโลกใบนี้ว่า ณ หมู่บ้านเกษตรกรรมแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศจีน มีคนจำนวนถึง 13.7% ของจำนวนชาวบ้านทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มมนตร์ดำ  ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ชาวบ้านเรียกพวกเขาว่า Zhu หรือแปลได้ว่าแม่มดนั่นเอง     “เหล่า Zhu มักถูกกล่าวหาว่า พวกเขาสามารถบังคับงูได้ หรือสามารถวางยาพิษในจานอาหารของผู้อื่นได้ โดยเพียงแค่ใช้ตาเปล่าเท่านั้น” Ting Ji นักมานุษยวิทยาแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์จีนหนึ่งในทีมวิจัยนี้ กล่าว ซึ่งพวกชาวบ้านเชื่อกันว่ากลุ่มแม่มดที่ว่านี้ จะสามารถส่งผ่านเชื้อแม่มดของพวกเขาได้ ผ่านสิ่งของมีค่าต่างๆ อย่างเช่น ผ้าไหม ทองคำ หรือเครื่องเงิน จึงทำให้การแพร่ระบาดของการเป็นแม่มดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว     และเมื่อครอบครัวไหนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นพวก Zhu แล้ว พวกเขาเหล่านี้ก็จะมีผู้คบค้าสมาคมที่ลดน้อยลง รวมถึงก็จะถูกรังเกียจจากชาวบ้านทั่วไปมากขึ้นอีกด้วย…

  • ภาพน่ารัก “คุณพ่อผู้ใช้แรงงาน” มานั่งในสถานีรถไฟใต้ดินทุกวัน ใช้ไวไฟฟรีคอลหาลูกเมีย

    ภาพน่ารัก “คุณพ่อผู้ใช้แรงงาน” มานั่งในสถานีรถไฟใต้ดินทุกวัน ใช้ไวไฟฟรีคอลหาลูกเมีย

    การที่ต้องอยู่ห่างไกลครอบครัวนั้น สำหรับบางคนเป็นอะไรที่ทำใจได้ยากยิ่ง เนื่องจากความเป็นห่วง ความคิดถึงที่มีให้กับครอบครัวนั้น มันทำให้คนไกลรู้สึกทรมานใจยิ่งนัก ดังนั้นหลายคนที่ต้องออกไปทำงานห่างไกลครอบครัว จึงจำเป็นต้องหาทางติดต่อกับครอบครัวอยู่บ่อยๆ เพื่อลดความคิดถึงและห่วงหา แต่สำหรับบางคนนั้น การติดต่อกลับหาครอบครัวก็ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ มันอาจจะต้องแลกมาด้วยความพยายามอย่างมาก ดังเช่นแรงงานชาวจีนผู้นี้ที่เขาจะต้องมาที่สถานีรถไฟใต้ดินทุกๆ วัน เพื่อใช้บริการ “ไวไฟฟรี” ของสถานีในการโทรหาภรรยาและครอบครัว     นาย Ge Yuanzheng แรงงานก่อสร้างในเมืองทางจีนตะวันออก ซึ่งอพยพมาจากมณฑลเหอหนาน เขามีรายได้น้อยแถมยังต้องอาศัยอยู่ในหอพักแสนธรรมดากับเพื่อนร่วมงาน เขาจำเป็นต้องประหยัดเงินกระทั่งแม้ไปเที่ยวเขาก็ยังไม่กล้าไปสถานที่ดังๆ เนื่องจากกลัวจะเสียค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป     Ge พยายามติดต่อครอบครัวทุกวัน แต่เขาเองก็ยังต้องประหยัดและเก็บออมเงินที่ได้มาแสนยากลำบาก เขาเลยเลือกที่จะใช้บริการดีๆ ของสถานนีรถไฟใต้ดินอย่างอินเทอร์เน็ตไวไฟฟรีนั่นเอง เขาเล่าว่าเขาต้องเดินมาที่สถานีทุกๆ คืนเพื่อใช้สัญญาณไวไฟติดต่อและพูดคุยสนทนากับครอบครัว โดยเมื่อเดือนก่อนก็มีคน ถ่ายรูป ของเขาขณะโทรหาครอบครัวมาโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต     ครั้งแรกที่ภรรยาของ Ge เห็นภาพดังกล่าวบนอินเทอร์เน็ต เธอรู้สึก ไม่พอใจ ที่มีคนถ่ายรูปเขาที่อุตส่าห์เดินลัดเมืองมาเพื่อแค่โทรบอกรักภรรยา แต่เมื่อ Ge ได้อธิบายว่าเขาไม่เป็นไร ทุกๆ อย่างปกติดี เธอจึงให้กำลังใจเขาแทน เขาและภรรยานั้นมีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกชายของเขาทำงานแล้ว ในขณะที่ลูกสาวของเขานั้นกำลังเล่าเรียนเพื่อที่จะเป็นพยาบาล ค่าส่งเสียเล่าเรียนของลูกสาวนั้นราวๆ…

  • ไอเดียน่ารัก… การ์ดเชิญงานแต่งในธีมโปเกม่อน พร้อมถามแขกว่าจะมาอย่างไรและแพ้อาหารมั้ย!?

    ไอเดียน่ารัก… การ์ดเชิญงานแต่งในธีมโปเกม่อน พร้อมถามแขกว่าจะมาอย่างไรและแพ้อาหารมั้ย!?

    สมัยนี้การจัดงานแต่งงานแบบธรรมดาๆ นั้นมันเชยเกินไปเสียแล้ว หลังๆ มานี้เราจึงเห็นว่ามีข่าวการแต่งงานหลายคู่ที่มาในธีมที่ดูแล้วทั้งแปลกและสร้างสรรค์ แต่งานนี้บอกได้เลยว่า คู่บ่าวสาวนั้นมีความขึ้เล่นและชื่นชอบการ์ตูนและเกมแน่ๆ เพราะว่าทั้งคู่นั้นมาในธีม โปเกมอน! ซึ่งมันก็ไม่ใช่คู่แรกที่มาในธีมโปเกมอนหรอกนะ แต่จุดเด่นมันอยู่ที่การ์ดเชิญแขกต่างหากล่ะ ที่บอกได้เลยว่า มีไอเดียสร้างสรรค์และน่าสนใจสุดๆ ซึ่งมันจะมีหน้าตาเป็นยังไง ไปดูกันเลย   ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @sumito_47  ได้โพสต์รูปภาพการ์ดเชิญไปงานแต่งงานที่เขาได้รับ พร้อมบอกว่า “การ์ดเชิญใบนี้มันเจ๋งสุดๆ ไปเลย ผมชอบมาก อยากจะเอามันไปใส่กรอบจริงๆ”   โดยเนื้อความภายในการ์ดประกอบไปด้วยคำพูดและคำถามต่างๆ ดังต่อไปนี้   บรรทัดบนสุด เหนือรูปคู่บ่าวสาว คือ “ยินดีต้อนรับ” “คู่รักข้าวใหม่ปลามัน  Issei และ Shoko ต้องการจะเชิญคุณเข้าร่วมงานแต่งงาน!” “ต้องการจะเข้าร่วมหรือไม่? >ตกลง >ไม่” “จงระบุชื่อของคุณ!” “จงระบุที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของคุณ!” “คุณมีอาการแพ้อะไรหรือไม่? มี/ ไม่มี” “คุณสามารถขึ้นรถโดยสารมาได้หรือไม่? จากที่ไหน? ใช่/ ไม่ใช่ (จาก___)” “สามารถเขียนข้อความของคุณได้ที่นี่!”     เป็นการ์ดเชิญที่มีไอเดียการออกแบบที่สร้างสรรค์และน่ารักมากๆ แถมยังใส่ใจแขกผู้ที่จะเข้าร่วมงานอีกด้วย จนทำให้ชาวเน็ตบนทวิตเตอร์ของญี่ปุ่นที่เห็นการ์ดใบนี้ ออกมาแสดงความเห็นกันยกใหญ่   “เป็นการ์ดเชิญที่เยี่ยมมาก…

  • ภาพถ่ายโดรนจากมุมสูง ที่จะทำให้คุณได้เห็นถึงความงดงามอีกมุมหนึ่งของโลกกลมๆ ใบนี้

    ภาพถ่ายโดรนจากมุมสูง ที่จะทำให้คุณได้เห็นถึงความงดงามอีกมุมหนึ่งของโลกกลมๆ ใบนี้

    หากจะกล่าวถึงสิ่งสวยงามที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ก็คงจะต้องใช้เวลาหลายวันกว่าที่จะกล่าวทั้งหมดได้ เพราะว่าโลกของเราช่างกว้างใหญ่ และเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งสิ่งที่ธรรมชาติได้เนรมิตเอาไว้ให้ หรืออาจจะเป็นสิ่งที่มนุษย์อย่างเราๆ ได้สร้างสรรค์ขึ้น เพือช่วยเติมเต็มให้ดวงดาวดวงนี้น่าอยู่มากไปกว่าเดิม ซึ่งสิ่งใดๆ ที่เกิดขึ้นมานั้น แน่นอนว่ามันย่อมต้องมีความสวยงามซ่อนอยู่ภายในตัวของมันเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เราเห็นอยู่ในทุกๆ วันอย่าง ต้นไม้ใบหญ้า ถนนหนทางต่างๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนอีกเช่นกัน ว่าจะมองสิ่งๆ นั้นออกมาเป็นอย่างไร     นั่นจึงทำให้ศิลปินพี่น้องคู่หนึ่งชื่อว่า J.P. กับ Mike Andrews จากเมืองวูล์ฟแฮมตัน ประเทศอังกฤษ ตัดสินใจถ่ายทอดมุมมองของพวกเขาออกมา ให้ผู้คนได้เห็นถึงความน่าทึ่งในภูมิประเทศที่พวกเราอาศัยกันอยู่ ภาพของพวกเขานั้นเป็นภาพจากมุมสูงที่ถ่ายทำขึ้นจากโดรน ภาพเหล่านี้จึงเป็นภาพแปลกๆ ที่หลายคนอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนก็เป็นได้ โดยพวกเขาบอกเอาไว้ว่าได้เริ่มถ่ายทำตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2016 ที่ผ่านมา และต้องเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกถึง 8 ประเทศเลยทีเดียว สิ่งที่พวกเขาได้ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นมานี้ จึงได้กลายมาเป็นผลงานศิลปะชิ้นสุดยอด ที่ไม่เพียงแต่จะมีเพียงความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นบนโลกของเราด้วย ซึ่งหากอยากรู้ว่าในตอนนี้ภูมิประเทศต่างๆ ในโลกจะเป็นเช่นไรบ้าง ก็ลองไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า   . . . . . . . . . . .…

  • นางแบบสาวต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไป เพราะติดเชื้อจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด

    นางแบบสาวต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไป เพราะติดเชื้อจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด

    ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้หญิงเมื่ออยู่ในวันนั้นของเดือน โดยเฉพาะคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะมันใช้ง่ายและสะดวกต่อการพกพา อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้มีแค่ด้านดีอย่างเดียว เพราะไม่นานมานี้ นางแบบสาว Lauren Wasser วัย 29 ปี ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้าง หลังติดเชื้อจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด นางแบบสาวได้ทราบอาการติดเชื้อของตัวเองเมื่อปี 2012 ก่อนจะถูกตัดขาทั้งสองข้างเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ โดยมีนักกีฬาพาราลิมปิก Amy Purdy ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในเหยื่อของผ้าอนามัยแบบเข้าไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลด้วย     แน่นอนว่านี่เป็นการสูญเสียที่เลวร้ายมากสำหรับเธอในฐานะนางแบบ เธอยังรู้สึกเสียใจทุกวันที่ตื่นมาพบว่าไม่มีขาเหมือนเดิมแล้ว แต่ในเมื่อทุกอย่างมันแก้ไขไม่ได้แล้ว เธอจึงต้องพยายามใช้ขาเทียมให้ชิน ที่สำคัญเธอพยายามขับเคลื่อนเพื่อช่วยให้คนอื่นไม่ต้องมาตกเป็นเหยื่อเพิ่มอีก ปัจจุบัน Wasser เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนและผลักดันให้ทางสถาบันสุขภาพแห่งชาติช่วยตรวจสอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยของผู้หญิงอย่างเคร่งครัด และรับรองความปลอดภัยก่อนวางจำหน่าย     นางแบบสาวได้ร้องเรียนเรื่องนี้ภายใต้ชื่อ Robin Danielson Act ซึ่งเป็นชื่อของผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียชีวิตจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด เมื่อปี 1998 โดยต้องการให้ทางสถาบันสุขภาพแห่งชาติทำวิจัยเพื่อศึกษาความเสี่ยงผลิตภัณฑ์อนามัยสำหรับผู้หญิงที่อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ Wasser เคยยื่นเรื่องในทางการพิจารณาถึง 10 ครั้ง แต่มันไม่เคยได้รับการอนุมัติ จนกระทั่งเธอได้มีโอกาสเล่าประสบการณ์อันเลวร้ายของตัวเองผ่านเวที TED Talk ซึ่งเป็นเวเทีแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ หญิงสาวเล่าว่าเธออายุ 24 ปี ตอนที่ล้มป่วยจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด โดยหลังจากที่แม่ของเธอสงสัยว่าลูกสาวเงียบหายไป จึงได้โทรตามตำรวจให้มาตรวจสอบ…

  • สาวไปหาหมอเพราะโดนทำร้ายที่ไนท์คลับ แต่กลายเป็นว่านี่แหละ คนที่ทำร้ายเธอคืนนั้น!?

    สาวไปหาหมอเพราะโดนทำร้ายที่ไนท์คลับ แต่กลายเป็นว่านี่แหละ คนที่ทำร้ายเธอคืนนั้น!?

    เมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาวคนหนึ่งในประเทศรัสเซียถูกทำร้ายร่างกายในผับที่เธอไปเที่ยวมา หลังจากนั้นเธอจึงไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผล แต่กลับพบว่าหมอที่จะรักษาเธอดันเป็นคนคนเดียวกันกับคนที่ทำร้ายเธอที่ผับ และเธอก็ถูกทำร้ายในห้องตรวจอีกครั้ง หญิงสาววัยประมาณ 20 ปีที่ถูกทำร้ายมีชื่อว่า Anastasia Dmitrieva ในตอนแรกนั้นเธอไปเที่ยวผับตามปกติ แต่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับชายคนหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ เธอจึงไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมือง Neryungri ประเทศรัสเซีย เพื่อรักษาบาดแผล   Vladimir Naumov หมอที่ทำร้ายหญิงสาวในข่าว   เธอคิดเอาไว้ว่าหลังจากรักษาแผลที่โรงพยาบาลแล้ว ก็จะได้นำหลักฐานที่ถูกทำร้ายร่างกายไปยื่นเรื่องที่สถานีตำรวจ เพื่อเอาเรื่องที่ถูกทำร้ายได้ ทว่าเมื่อเธอเข้าไปในห้องตรวจแล้ว เธอก็ได้พบ Vladimir Naumov หมอชายที่บังเอิญเป็นคนที่ทำร้ายเธอในผับนั่นเอง พอเขาเห็นหน้าเธอก็รู้สึกโกรธและทำร้ายเธอในห้องตรวจอีกครั้ง ในระหว่างนี้เองเพื่อนของหญิงสาวก็ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ด้วยพอดี ในคลิปวิดีโอหมอหนุ่มพูดกับหญิงสาวว่า “พยานทุกคนที่อยู่ในผับบอกได้หมดแหละว่าคุณเป็นคนทำร้ายผมก่อน” จากนั้นเขาจึงข่มขู่เธอว่าหากเธอฟ้องร้องเขาเธอจะต้องเข้าคุกแน่นอน   คลิปวิดีโอ (หากดูไม่ได้กรุณาคลิก ที่นี่ )   หมอหนุ่มบอกว่าที่เขาทำร้ายเธอในผับ เป็นเพราะเขาเห็นว่าพวกเธอรุมทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ เขาที่เห็นเหตุการณ์อยู่ข้างๆ จึงพยายามเข้าไปช่วย โดยบอกว่า “ผมไม่สามารถทนดูพฤติกรรมแบบนี้ได้หรอก ผู้ชายคนไหนเห็นก็คงพยายามเข้าไปห้ามทั้งนั้นแหละ” ส่วนเรื่องที่เขาทำร้ายเธอที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งนั้น เขาทำไปเพราะความโมโหที่เจอเธออีกครั้ง ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายหญิงสาวด้วยเหตุผลส่วนตัวเลย     อย่างไรก็ตามหัวหน้าใหญ่ของหมอหนุ่มก็ไล่เขาออกจากงานทันทีที่ทราบเรือง เนื่องจากเขาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับวิชาชีพ หมอหนุ่มยังคงท้วงว่า “ตอนนั้นพวกเธอตั้งใจยั่วยุผมให้โมโห พวกเธอจะได้ถ่ายคลิปเอาไปฟ้องผมได้” นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า “ผมทำงานที่นี่มาหนึ่งปีครึ่ง…

  • แม่หมาเศร้ากับการสูญเสียลูกน้อย จนกระทั่งมิ้วกำพร้าทั้งสอง มาทำให้มันรู้สึกมีกำลังใจอีกครั้ง

    แม่หมาเศร้ากับการสูญเสียลูกน้อย จนกระทั่งมิ้วกำพร้าทั้งสอง มาทำให้มันรู้สึกมีกำลังใจอีกครั้ง

    ปกติแล้วแมวกับหมามักจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ เจอกันที่ไหนเป็นต้องทะเลาะกันตลอด แต่ในบางครั้งบางตัว พวกมันกลับเป็นมิตรรักใคร่กลมเกลียวกันดีอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะแม่หมาตัวนี้ที่มีความเอ็นดูลูกแมวน้อยเป็นพิเศษ เพราะพวกมันเข้ามามอบความอบอุ่นใจให้ นับตั้งแต่มันสูญเสียลูกน้อยไป น้องแมวทั้ง 2 ตัวกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่แม่หมากำลังอยู่ในอารมณ์ซึมเศร้าหลังจากสูญเสียลูกไป ดังนั้นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์จึงพาพวกมันมาพบกันเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กันและกัน     เรื่องราวสุดประทับใจนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Rebecca Hetherington จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Wanna-Be Pet Rescue ได้ช่วยเหลือลูกแมวกำพร้า 2 ตัวจากศูนย์พักพิงหลังจากที่เกิดมาไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Mommy and Me Rescue ก็มี Dorothy แม่สุนัขที่ตกอยู่ในภาวะโศกเศร้า เพราะเสียลูกจากภาวะตั้งครรภ์ติดเชื้อ คุณหมอจึงจำเป็นต้องหยุดการเจริญเติบโตของครรภ์เพื่อช่วยชีวิตมันไว้ แม่หมาถูกส่งตัวไปรักษาและพักฟื้นที่โรงพยาบาล และในช่วงเวลานี้มันเอาแต่เดินและเรียกหาลูกๆ ตลอดเวลาอย่างน่าสงสาร     Carol Kalinowski จาก Mommy and Me Rescue บอกว่า “เมื่อเราพา Dorothy กลับบ้าน มันรีบตรงไปยังจุดที่มันเคยอยู่เพื่อดูว่าลูกๆ อยู่ที่นั่นหรือเปล่า” “จากนั้นมันก็ออกค้นหาทุกซอกทุกมุมของบ้านและตะโกนเรียกเรื่อยๆ เป็นเวลากว่าหลายชั่วโมง เราสงสารมันมากแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เลยเอาตุ๊กตาเล็กๆ ให้ เพื่อเป็นตัวแทนของลูกๆ หวังให้มันอบอุ่นใจขึ้นได้บ้าง” แต่ Dorothy ยังคงค้นหาและร้องเรียกลูกต่อไปเรื่อยๆ…  …

  • สืบต้นตอจากภาพเซลฟี นำไปสู่การไขคดีฆาตกรรม และทำให้ผู้กระทำผิดต้องรับสารภาพ

    สืบต้นตอจากภาพเซลฟี นำไปสู่การไขคดีฆาตกรรม และทำให้ผู้กระทำผิดต้องรับสารภาพ

    บ่อยครั้งที่เราเห็นผู้คนมีปัญหาจากการเซลฟี เช่น เผลอมีของลับติดมาในภาพ หรือเซลฟีในพิพิธภัณฑ์จนเผลอไปชนกับผลงานศิลปะ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนบางส่วนมองการเซลฟีเป็นเรื่องไร้สาระและไม่จำเป็น แต่จริงๆ แล้ว การเซลฟีไม่ได้มีแค่ข้อเสียหรือเป็นเรื่องไร้สาระเสมอไป เพราะบางครั้งมันสามารถใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการคลี่คลายคดีได้ และด้วยภาพเซลฟีนี้เองที่ทำให้ Cheyenne Rose Antoine หญิงสาววัย 23 ปี จากรัฐซัสแคตเชวัน ประเทศแคนาดา ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี หลังมีหลักฐานว่าเธอฆาตกรรม Brittney Gargol ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเธอ     ย้อนกลับไปในปี 2015 มีการพบศพของ Brittney วัย 18 ปี ถูกฝังอยู่ใกล้กับเมืองซาซคาทูน โดยมีรอยรัดคอปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจอ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเธอถูกฆาตกรรมโดย Antoine หลังจากที่พบภาพการเซลฟีที่ถูกโพสต์ลงในสื่อออนไลน์     ในภาพดังกล่าวนั้น Antoine ใส่สร้อยสีทองและได้โพสต์ภาพนี้ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการพบศพ Brittney โดยข้างศพมีสร้อยที่ Antoine ใส่ตกอยู่ นั่นจึงกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการไขคดีนี้ ในชั้นศาล อัยการสูงสุด  Robin Ritter ได้ให้ความสนใจกับวิธีการไขคดีของตำรวจที่นำภาพเซลฟีมาเชื่่อมโยงกับสร้อยคอที่เจอ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก     อย่างไรก็ตามคดีนี้ก็ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี…

  • 26 ภาพการออกแบบผลิตภัณฑ์สุดโกง เพื่อล่อผู้คนให้มาซื้อ แบบนี้มันหลอกลวงผู้บริโภคชัดๆ !!

    26 ภาพการออกแบบผลิตภัณฑ์สุดโกง เพื่อล่อผู้คนให้มาซื้อ แบบนี้มันหลอกลวงผู้บริโภคชัดๆ !!

    เป็นธรรมดาในวงการการตลาดที่จะออกแบบบรรจุภัณฑ์รวมทั้งตัวสินค้าให้ดูน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า แต่ในบางครั้งเราพบว่าสิ่งที่เห็นกับความเป็นจริงนั้นช่างแตกต่างกันเหลือเกิน หรือเรียกง่ายๆ ว่าไม่ตรงปกนั่นแหละ เหมือนอย่างสินค้าเหล่านี้ ที่ดูจากบรรจุภัณฑ์แล้วน่าซื้อมากๆ ดูเต็ม ดูน่าใช้ ดูคุ้ม แต่พอเปิดออกมามันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด นี่มันหลอกกันชัดๆ   1. หืมมม กัมมี่แบร์เต็มแก้วเลย…   2. ฮอตดอกซื้อ 1 แพ็ค แถมฟรี 2 ชิ้น ที่ไหนได้ หลอกกันชัดๆ   3. หูววว ได้ตั้ง 12 ชิ้นแหน่แต่…เมื่อหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นะ   4. เดี๋ยวนะ ในภาพเข้าใจว่าเป็นเชือกสำหรับปีนเขา แต่กลับมีคำเตือนว่าไม่เหมาะสำหรับปีนป่าย   5. โอ้ยยย นี่เล็กๆ น้อยๆ ก็จะเอาเนาะ   6. บรรจุภัณฑ์ทำให้เห็นสินค้าครึ่งซีก เลยโรยหน้าแค่ครึ่งเดียว อืม ยังไงดี   7. 30% กับ 40% ไม่ได้มีความต่างเล้ยยย…

  • อังกฤษประดิษฐ์อุปกรณ์ต่อต้านอาชญากรไว้บนไหล่ทาง ใครขับหนีตำรวจเจอดีแน่!!

    อังกฤษประดิษฐ์อุปกรณ์ต่อต้านอาชญากรไว้บนไหล่ทาง ใครขับหนีตำรวจเจอดีแน่!!

    ปกติที่เวลาเราดูหนังที่มีการไล่ล่าของผู้ร้ายและตำรวจ เรามักจะเห็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายตะปูเรือใบ โดยพวกเขาจะวางไว้บนถนนเพื่อใช้เจาะยางรถของคนร้าย แต่พอใช้งานจริงๆ โจรก็หลบไอ้เจ้าอุปกรณ์นี้ได้ไปเสียทุกที โดยเฉพาะการหนีออกไหล่ทาง ด้วยเหตุนี้ Yannick Read จากสถานบัน Environmental Transport Association (ETA) จึงคิดค้นอุปกรณ์ที่เรียกว่า CatClaw ขึ้นมา เพื่อหวังว่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ไม่มากก็น้อย     CatClaw นั้นมีรูปแบบที่ง่ายมาก โดยมันจะมีหน้าตาเป็นลูกบอลทรงกลมที่มีแท่งแหลมคมซ่อนอยู่ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการติดตั้งมันให้ทั่วฟุตบาทในอังกฤษ ในส่วนของการทำงานนั้นถ้าจะให้ยกตัวอย่างการทำงานจริงๆ มันก็ง่ายมาก สมมุติว่ามีรถผู้ร้ายหรือใครก็ตามที่ขี่รถเลยถนนเข้ามายังไหล่ทางจนเหยียบเข้ากับ CatClaw ลูกบอลทรงกลมที่ได้รับน้ำหนักจากยางรถก็จะยุบตัวลงโดยมีท่อเหล็กแหลมอยู่ข้างใน ฉะนั้นถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นยางรถคันดังกล่าวถูกปล่อยลมจนแบนทันที!!     การป้องกันดังกล่าวยังไม่ได้ป้องแค่รถผู้ร้ายที่หนีตำรวจด้วย แต่มันยังสามารถป้องกันรถที่จะพุ่งเข้าหาผู้คนเช่นกัน ส่วนถ้าใครที่กลัวว่าคนจะเผลอไปเหยียบเข้าและเป็นอันตรายนั้น Yannick ก็ยืนยันว่าน้ำหนักของคนไม่พอที่จะทำให้เจ้า CatClaw นั้นทำงาน ฉะนั้นปลอดภัยหายห่วงได้     Yannick ยังบอกอีกว่าวัสดุของเจ้า CatClaw นั้นมีราคาถูก ฉะนั้นงบที่รัฐจะต้องใช้เพื่อผลิตเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้จึงถือว่าไม่แพงนักเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าของมันนั่นเอง   ที่มา metro

  • เปิดตำนาน “คนอังกฤษ” กับ “การดื่มชา” ทำไมชอบดื่มกันนัก ล้อมวงมาสิจะเล่าให้ฟัง…

    เปิดตำนาน “คนอังกฤษ” กับ “การดื่มชา” ทำไมชอบดื่มกันนัก ล้อมวงมาสิจะเล่าให้ฟัง…

    หลายครั้งเรามักจะได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับชาวอังกฤษที่ชื่นชอบในการดื่มชามากๆ มากขนาดที่มีความคิดว่าชาวอังกฤษนั้นมีช่วงเวลาสำหรับดื่มชาโดยเฉพาะเลยทีเดียว แต่เราเคยสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงชอบดื่มชากัน แล้วทำไมต้องเป็นชาวอังกฤษกันนะ ทั้งที่ตามที่เรารู้กัน ชาชั้นดีมักจะมาจากจีนหรือไม่ก็ญี่ปุ่นเสียมากกว่า…เออ นั่นสิเนอะ ถ้าอย่างนั้นวันนี้เรามาหาคำตอบไปด้วยเลยกันดีกว่า!!     เรื่องราวการเข้ามาของชาในอังกฤษนั้น มันจะต้องย้อนกลับไปตั้งแต่สมัย 1662 นู๊นนน โดยคนที่เผยแพร่การดื่มชาก็ไม่ใช่ชาวอังกฤษโดยตรงนะ แต่ดันเป็นเจ้าหญิงชาวโปรตุเกสนามว่า Catherine of Braganza ไปซะได้     เจ้าหญิง Catherine นั้นได้แต่งงานกับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ ตอนที่เธอเดินทางมายังอังกฤษนอกจากทรัพย์สมบัติแล้วเธอยังได้พกกล่องพัสดุที่ชุดหนึ่งมาด้วย เจ้าพัสดุนี้มันมีชื่อว่า Transporte de Ervas Aromaticas และภายในเจ้าพัสดุชุดนี้ก็บรรจุของที่เป็นคำตอบของเราไว้อยู่ มันก็คือชานั่นเอง     หลายคนอาจจะสงสัยว่า ‘เอ้า!! เป็นแค่พัสดุใส่ชาแล้วทำไมต้องมีชื่อด้วย มันสำคัญขนาดนั้นเลย?’ ซึ่งคำตอบที่ว่ามันสำคัญมากไหมอันนี้เราไม่ทราบ แต่ก็มีข่าวลือหนาหูเช่นกันว่า ไอ้คำว่า TEA เนี่ยมันก็ย่อมาจากชื่อกล่องพัสดุดังกล่าวโดยใช้ตัวอักษรข้างหน้าสามตัวมาประกอบเข้าด้วยกัน     และนับจากนั้น เจ้าหญิง Catherine ก็เริ่มดื่มชาซึ่งเป็นเครื่องดื่มอันแสนโปรดปรานของเธออย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเหล่าท่านหญิงและหญิงสาวชาวบ้านคนอื่นๆ รู้ว่าเจ้าหญิงชาวโปรตุเกสคนนี้มีรสนิยมชอบดื่มชามากๆ พวกเธอจึงอยากลองทำตามนั่นเอง แต่ว่าในช่วงยุคสมัยแรกนั้นชาถือเป็นของที่คนทั่วไปไม่สามารถจะหาได้ง่ายนัก การจะหาชามาได้จำเป็นจะต้องนำเข้าจากโปรตุเกสและจากชาติอื่นอย่างจีนหรือญี่ปุ่น งานนี้สาวชาวบ้านทั่วไปก็เลยอดก๊อปปี้สไตล์ของเจ้าหญิงไป     นอกจากการดื่มชาธรรมดาแล้ว เจ้าหญิง…

  • เมื่อหลานสอน “คุณยายวัยเก๋า” ลองใช้ “เทคโนโลยียุคใหม่” เกิดเป็นเรื่องสุดป่วนสุดฮา!!

    เมื่อหลานสอน “คุณยายวัยเก๋า” ลองใช้ “เทคโนโลยียุคใหม่” เกิดเป็นเรื่องสุดป่วนสุดฮา!!

    ในปัจจุบันเทคโนโลยีนั้นได้ก้าวกระโดดไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมโทรศัพท์จะต้องมีขนาดใหญ่ก็หดเหลือขนาดเล็ก แต่ก่อนจะส่งข้อความก็ต้องใช้จดหมายแต่มาในตอนนี้ก็มีอินเตอร์เน็ตมาช่วยให้เราสบายขึ้น และไหนจะผู้ช่วยที่เป็น AI ที่สามารถตอบคำถามและคอยจัดการทุกอย่างให้เราได้อีก… และเมื่อเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ เหล่าผู้สูงอายุที่ไม่เคยเจอกับเทคโนโลยีอะไรแบบนี้ ทุกอย่างก็ล้วนถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขา โดยเฉพาะระบบ AI ผู้ช่วยที่ในยุคสมัยของพวกเขายังไม่มีนั่นเอง และนั่นก็ทำให้พวกคนชราส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะเปิดใจยอมรับมันสักเท่าไหร่ กลับกันคุณยาย Kathleen Todd วัย 95 ปีคนนี้กลับหลงรักเทคโนโลยีมากๆ แม้จะอายุมากขนาดนี้แล้วก็ตาม…     ยิ่งล่าสุดคุณยาย Kathleen นั้นได้พบกับเทคโนโลยีผู้ช่วยสุดล้ำ ที่หลานของเธอเพิ่งจะซื้อมาให้ได้ไม่นานเพื่อเป็นของขวัญวันคริสต์มาส ซึ่งมันก็คือเจ้า Google home นั่นเอง     ซึ่งเมื่อเธอได้ลองใช้เจ้า Google home ไปสักพัก เธอก็ตกหลุมรักและยอมรับเลยว่าตอนนี้เธอเป็นแฟนตัวยังของ Google ไปแล้ว แถมยังเล่าถึงเพื่อนใหม่ของเธอผ่านเฟซบุ๊กอีกด้วย   คุณยายแกเล่าว่า มีสมาชิกใหม่เข้ามาในบ้านของเธอ ซึ่งสมาชิกที่ว่านั้นชื่อ Google สมาชิกใหม่คนนี้สามารถทำได้ทุกอย่างเลยเพียงแค่เรียกพูดว่า “Hey Google!!” ยกตัวอย่างเช่นเธอได้ขอให้มันปลุกเธอตอน 6 โมง 15 และเพื่อนใหม่ก็ทำให้ คุณยายยังบอกอีกว่า เธอสามารถถามหาสูตรอาหารจากเพื่อนใหม่ได้ด้วย แม้ว่าบางอย่างเพื่อนใหม่ก็ทำไม่ได้เช่นกัน ซึ่งคุณยายก็ไม่ว่าอะไรพร้อมบอกว่าทุกคนล้วนไม่ได้สมบูรณ์แบบ  …

  • ชีวิตของชายวัย 40 ยังคงความ ‘เวอร์จิ้น’ มาจนถึงตอนนี้ เก็บรักษาเอาไว้จนกว่าจะแน่ใจจริงจริ๊งงง

    ชีวิตของชายวัย 40 ยังคงความ ‘เวอร์จิ้น’ มาจนถึงตอนนี้ เก็บรักษาเอาไว้จนกว่าจะแน่ใจจริงจริ๊งงง

    คุณเคยดูหนังเรื่อง ‘40 ปี โอ้ว! ยังจิ้น‘ ไหม มันเป็นหนังเก่าสมัยก่อนนู๊นน ที่ดูแล้วคงจะอดคิดไม่ได้ว่า นี่มันมีคนอายุปาไป 40 แล้วยังเวอร์จิ้นอยู่อีกเหรอ ซึ่งถ้าคุณคิดว่ามันเป็นเรื่องโกหกไม่มีคนเป็นแบบนั้นจริงๆ บนโลกแล้วล่ะก็ คุณคิดผิด!! เชิญพบกับ หนุ่มวัย 40 ปี (จริงๆ 41 แล้วนะ) ชายชาแคนาดาผู้ทำอาชีพเป็นช่างภาพกีฬา เป็นผู้จัดการทีมฮอกกี้ในเมืองอีกสองทีม ดูๆไปแล้วเขาก็คงจะเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลยจริงไหม?     แต่ที่แปลกคือ เขาคนนี้ยังคงรักษาซิงไว้ไม่ยอมมอบให้กับใครซักทีจนเพื่อนๆ และใครต่อใครก็มองว่าพี่เขากระจอก แล้วเอาความซิงของเขาไปล้อกันยกใหญ่…แน่นอนว่าหลายคนคงสงสัยว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้นกัน? Justin บอกว่า “อันที่จริงผมได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าผมจะมีเซ็กส์ก็ต่อเมื่อผมแต่งงานแล้ว ที่จริงผมก็ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่ ฉะนั้นผมจะรอจนกว่าจะถึงโอกาสที่เหมาะสมเสียก่อน”     ด้วยความที่เขาเป็นคนแบบนี้ เขาจึงมักจะถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอและแน่นอนว่าเขาก็มีทางออกที่ดีสำหรับเรื่องนี้ โดยเขาเล่าว่า “สมัยเด็กๆ ตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม ผมมักจะถูกกลั่นแกล้งบ่อยๆ ซึ่งนั่นทำให้ผมได้เรีบยรู้ว่าทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้คือใช้มุกตลกเข้าสู้ และมันก็ได้ผลด้วย!!” “แน่นอนว่าตอนที่ผมถูกคนอื่นรู้ว่าผมอายุขนาดนี้ผมยังซิงอยู่ ผมก็ถูกล้อถูกแกล้งต่างๆ นานา แต่ผมก็ไม่ซีเรียสกับมัน แถมยังใช้เรื่องนี้มาเป็นมุกตลกให้กับตัวเองด้วย ส่วนเหตุผลอีกอย่างที่ผมล้อเล่นกับเรื่องตัวเองได้นั่นก็เพราะ ผมอยากให้ทุกคนหัวเราะ” สุดท้ายแล้วแม้ว่า Justin จะอายุ 41…

  • พบกับนวัตกรรมของเล่นรูปแบบใหม่ Papier Machine กระดาษแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์สุดหรรษา

    พบกับนวัตกรรมของเล่นรูปแบบใหม่ Papier Machine กระดาษแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์สุดหรรษา

    ในปัจจุบันของเล่นเด็กมีส่วนช่วยในพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กเล็กเป็นอย่างมาก และด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดหย่อน ของเล่นเด็กก็ถูกพัฒนาออกมาในรูปแบบที่ดูทันสมัยมากขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้มากขึ้น ในตอนนี้ก็มีของเล่นจากกระดาษรูปแบบใหม่ออกมาให้น้องๆ ได้เล่นสนุกกันแล้ว แต่มันไม่ใช่เพียงแค่การวาดภาพหรือการตัดแต่งตัวตุ๊กตาในหนังสือภาพธรรมดา ในของเล่นชิ้นใหม่นี้มันมีแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ซ่อนอยู่ด้วย ทีนี้เด็กเล็กก็สามารถเรียนรู้เรื่องวงจรอิเล็กทรอนิกส์ไปกับการเล่นซนได้แล้ว     ของเล่นที่ว่านี้ก็คือ Papier Machine ซึ่งเป็นผลของการค้นคว้าและวิจัยกว่า 3 ปีของ Agnes Agullo, Raphaël Pluvinage และ Marion Pinaffo พวกเขาเล่าแนวคิดของการสร้างของเล่นชิ้นนี้ว่า “เราอยู่ในโลกที่มีอิเล็กทรอนิกส์ซ่อนอยู่เต็มไปหมด พวกมันถูกปิดบังจากสายตาเราอยู่หลังกล่องดำ (มือถือ) พวกนี้ และ Papier Machine ก็ได้ทำให้พวกมันมีชีวิตขึ้นมา” หลังจากทำโปรเจ็ก Paper Machine ออกมา ในปี 2016 มันก็ได้รับรางวัล Red Dot Design Award (รางวัลสินค้าที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม) และรางวัล Audi Talent Award (รางวัลสนับสนุนให้กับของที่มีแนวคิดและรูปแบบดีเยี่ยม) ด้วย   คลิปวิดีโอตัวอย่างของเล่น Papier Machine   ของเล่นชิ้นนี้จะมาในรูปแบบของสมุดภาพ ที่สามารถฉีกส่วนต่างๆ ในสมุดมาประกอบเป็นของเล่นได้มากถึง 6…

  • พ่อขอให้ลูกสาวอัดคลิป ‘สอนทาสีแบบเมาๆ’ อะไรมันจะดูมีความสุขได้ขนาดน้านนนน

    พ่อขอให้ลูกสาวอัดคลิป ‘สอนทาสีแบบเมาๆ’ อะไรมันจะดูมีความสุขได้ขนาดน้านนนน

    เด็กสาวอายุ 14 ปี Emma Kitchen อาศัยอยู่ที่เมืองนิวฟิลาเดลเฟีย รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา พ่อของเธอเป็นคนตลกๆ และสบายๆ จึงมักจะเรียกเสียงหัวเราะจากคงรอบข้างได้เสมอ และเมื่อไม่นานมานี้คลิป ‘สอนทาสีแบบเมาๆ’ ของเขาก็ได้รับความนิยมอย่างมาก   Emma Kitchen และคุณะพ่อ Mike Kitchen   ครอบครัว Kitchen สร้างบ้านหลังใหม่และย้ายเข้ามาอยู่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และตอนนี้คุณพ่อ Mike ก็คิดว่าถึงเวลาที่จะทำบาร์ไว้ในบ้านได้แล้ว เขาจึงขยายชั้นใต้ดินเพื่อจะทำบาร์ Emma บอกว่า “พ่อฉันเป็นคนที่ทำอะไรเก่งหลายอย่างค่ะ บาร์ที่จะทำใหม่นี่คุณพ่อก็ทำด้วยมือของตัวเองเกือบทั้งหมดเลยนะ”       เมื่อวันที่ 13-14 มกราคมที่ผ่านมา พ่อของเธอก็กำลังจะทาสีชั้นใต้ดินเพิ่มเติม แต่เขาคงคิดว่าไหนๆ ก็จะทาสีแล้ว ทำวิดีโอสอนทาสีอย่างไรให้สนุกด้วยเสียเลยละกัน เขาจึงเรียกลูกสาวลงมาช่วยเป็นคนถ่ายคลิปให้กับเขาในขณะที่เขาทาสี โดยในวิดีโอนี้คุณพ่อจะอธิบายเรื่องการทาสี และการดื่มวิสกี้ Fireball พร้อมเต้นไปกับเพลง Fireball ของ Pitbull เพื่อทำให้การทาสีไม่น่าเบื่อนั่นเอง   คลิปวิดีโอสอนทาสีบ้านแบบเมาๆ   ในคลิปวิดีโอเขาบอกว่า “เคล็ดลับในการทาสีให้สนุก ก็คือคุณต้องมีตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งอยู่ในชั้นใต้ดินด้วย” จะได้เอาไว้แช่วิสกี้ให้พร้อมดื่มทุกเมื่อนั่นเอง นอกจากนี้เขายังมีเทคนิคการดื่มวิสกี้มาฝากด้วยนะ “ถ้าจะดื่ม…

  • เด็กหญิงวัย 3 ขวบ กับการ ‘คอสเพลย์’ เลียนแบบคนดัง ความน่ารักมาเต็ม!!

    เด็กหญิงวัย 3 ขวบ กับการ ‘คอสเพลย์’ เลียนแบบคนดัง ความน่ารักมาเต็ม!!

    ความรักและกำลังใจจากครอบครัวเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนต้องการและโหยหามากที่สุดในชีวิต ในยามที่ท้อแท้ หมดหวังหรือประสบปัญหาร้ายแรงก็มีแต่คนในครอบครัวที่คอยให้กำลังใจให้ลุกขึ้นต่อสู้ต่อไป คุณยาย Nonnie ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งผู้ที่เป็นโรคมะเร็งมักจะมีความกังวลในเรื่องสุขภาพร่างกายของตัวเองเป็นอย่างมาก สูญเสียกำลังใจในการใช้ชีวิต แต่คุณยายท่านนี้ก็ได้รับกำลังใจมาจากหนูน้อย Scout Penelope หลานสาวสุดที่รักวัย 3 ขวบ ที่คอยเป็นกำลังใจให้กับเธอและทำให้เธออยากใช้ชีวิตเพื่อที่จะได้ดูเจ้าตัวน้อยของเธอเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่   เด็กหญิง Scout และคุณยาย   เด็กหญิงรักคุณยายของเธอมากๆ และไม่อยากให้คุณยายจากไป จึงได้ให้ความร่วมมือกับพ่อแม่ในการทำโปรเจ็กต์ถ่ายภาพคอสเพลย์เป็นคนดังที่ล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่มีความแข็งแกร่ง เพื่อเป็นกำลังใจให้ยายของเธอสู้กับโรคร้ายต่อไปด้วยความน่ารักของนางฟ้าตัวน้อยๆ คนนี้   Zooey Deschanel   Meryl Streep   Betty White   Lauren Cohan   Adele   Carrie Fisher   Frida Kahlo   Selena Gomez   Moana   Ellen Degeneres  …

  • เด็กชายวัย 13 อุทิศตนดูแลพ่อแม่พิการ เป็นกระดูกสันหลังของครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย

    เด็กชายวัย 13 อุทิศตนดูแลพ่อแม่พิการ เป็นกระดูกสันหลังของครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย

    ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินประโยคนี้มาบ้าง ซึ่งมันก็เป็นความจริงดั่งคำที่เขาได้กล่าวไว้ คนที่รู้บุญคุณและกตัญญููต่อผู้มีพระคุณ สักวันจะต้องได้รับสิ่งดีๆ ตามมาอีกแน่นอน เช่นเดียวกับเด็กชาย Li Jiapeng อายุ 13 ปี อาศัยในมณฑลชานซี ประเทศจีน ชีวิตของเขานั้นยากลำบาก เกิดมาในครอบครัวยากไร้ พ่อแม่ของเขานั้นพิการทั้งคู่ และไม่สามารถดูแลตัวเองได้     คุณพ่อของเขานั้นตาบอดและได้รับบาดเจ็บจากการโดนรถชน ส่วนแม่เป็นผู้บกพร่องทางการได้ยินและไม่สามารถพูดได้ จึงทำให้การดูแลตัวเองเหมือนคนปกตินั้นเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเธอ     เด็กชายก็เลยต้องทำหน้าที่เป็นกระดูกสันหลังให้กับครอบครัว แต่ด้วยอายุยังน้อยและยังอยู่ในระหว่างการศึกษาเล่าเรียนทำให้เขาไม่สามารถทำงานได้เต็มที่นัก ต้องอาศัยเวลาว่างหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดเพื่อไปหารายได้พิเศษ     ส่วนมากงานที่เขาทำนั้นก็เป็นการรับจ้างปีนต้นไม้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยรอยแผลต่างๆ จากการโดนกิ่งไม้บาดตามลำตัว มือก็หยาบกร้านเพราะทำงานหนัก บ่อยครั้งเขาต้องตกลงมาเนื่องจากว่าต้นไม้ที่ขึ้นนั้นสูงเกินไป     เด็กชายถูกสอนให้ดูแลตัวเองและครอบครัวตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เขาสามารถแบกน้ำและปรุงอาหารได้ คอยปัดกวาดเช็ดถูบ้านให้สะอาด รวมไปถึงหน้าที่สำคัญนั่นก็คือการดูแลพ่อแม่ของเขานั่นเอง     ถึงแม้ว่าเขาจะต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวแต่ด้านการเรียนเขาก็ไม่ยอมละทิ้งแต่อย่างใด เขาตั้งใจเรียนและทำกิจกรรมต่างๆ จนมีผลการเรียนติดอันดับ 1 ใน 10 ของโรงเรียนและใบประกาศนียบัตรอีกมากมายที่สะสมไว้การันตีว่าเขามีความสามารถในหลายๆ ด้านจริงๆ  …

  • คุณพ่อให้ลูกชายเลือกที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิต และสิ่งนั้นก็คือคุณพ่อของเขาเอง

    คุณพ่อให้ลูกชายเลือกที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิต และสิ่งนั้นก็คือคุณพ่อของเขาเอง

    เพื่อนๆ เคยเห็นผู้ชายรอบตัวร้องไห้กันบ้างหรือเปล่าครับ โดยปกติแล้วเรามักจะไม่ค่อยเห็นผู้ชายร้องไห้บ่อยนัก เพราะผู้ชายบางคนคิดว่าการร้องไห้ทำให้พวกเขาดูอ่อนแอและน่าอาย พวกเขาจึงพยายามทำตัวสุขุมนุ่มลึกตลอดเวลา จะได้ดูเท่ในสายตาคนอื่น แต่จริงๆ แล้วผู้ชายก็ร้องไห้เหมือนกัน จาก การวิจัย พบว่าผู้ชายร้องไห้เดือนละ  0.5-1.5 ครั้งเลย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงจนน่าตกใจสำหรับผู้ชายหลายๆ คนด้วยซ้ำ และเรื่องที่มักจะทำให้ผู้ชายร้องไห้ได้ก็เป็นเรื่องของความสัมพันธ์นี่แหละ โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัวอย่างครอบครัวนั่นเอง เรื่องของคุณพ่อชาวจีนคนนี้ก็เช่นกัน แม้ว่าปกติเขาจะไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น แต่เขาเคยร้องไห้เพราะลูกชายมาแล้ว มาดูกันว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร   Han เด็กชายเจ้าของเรื่องเล่า   เด็กชายจากประเทศจีนคนนี้ชื่อว่า Han เขาได้โพสต์เรื่องราวของเขาและพ่อลงในเฟสบุ๊ก โดยเขาบอกว่าพ่อของเขาเป็นคนที่เข้มแข็งมาก ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยความสงสัยเขาจึงลองถามพ่อของตัวเองดู ว่าเขาเคยทำให้พ่อร้องไห้บ้างหรือเปล่า พ่อจึงตอบตรงๆ ว่าเคยอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนเขายังเด็กอยู่เลย คุณพ่อเล่าว่าตอนที่เขาอายุได้ 3 ขวบ พ่ออยากรู้ว่าถ้าลูกโตไปจะให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุด จึงได้ทำการทดสอบลูกในแบบของคนจีน โดยวางปากกา เงิน และของเล่นเอาไว้ให้เขาเลือก ถ้าหากว่าเลือกปากกาแปลว่าจะให้ความสำคัญกับความเฉลียวฉลาด ถ้าเลือกเงินแปลว่าจะให้ความสำคัญกับเงินตรา และถ้าหากเขาเลือกของเล่น หมายความว่าเขาให้ความสำคัญกับความสุขในชีวิตมากที่สุด     หลังจากวางของเหล่านั้นให้ลูกเลือกแล้ว ลูกก็นั่งมองของเหล่านั้นอยู่นานเลย คุณพ่อเองก็นั่งลุ้นอยู่ว่าลูกของตัวเองจะเลือกอะไรกันแน่ แต่หลังจากนั้น คุณพ่อก็เห็นลูกชายของเขา กวาดของที่วางไว้อยู่ให้พ้นทาง แล้วค่อยๆ คลานเข้ามาพ่อเสียอย่างนั้น…

  • หลังจากสถานีรถไฟแห่งนี้ปิดตัวลง ตอนนี้มันได้เปลี่ยนเป็นบ้านพักตากอากาศแสนน่าอยู่

    หลังจากสถานีรถไฟแห่งนี้ปิดตัวลง ตอนนี้มันได้เปลี่ยนเป็นบ้านพักตากอากาศแสนน่าอยู่

    สถานีรถไฟที่เมื่อก่อนนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ต่อคิวซื้อตั๋วอย่างไม่หยุดหย่อน ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่งก็รอขึ้นรถไฟที่ชานชาลาเพื่อที่จะไปยังสถานีถัดไป แต่ว่าสถาณที่แห่งนี้ก็ได้ปิดตัวลงแล้ว และอีกหลายสถานีก็เริ่มใช้ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติเยอะขึ้น ตึกที่ถูกลืมอันมีเอกลักษณ์เหล่านี้เคยมีความสำคัญมากมายกับคนในชุมชน และในขณะที่หลายตึกถูกรื้อทิ้งหรือถูกธรรมชาติยึดคืน หลายๆ ตึกที่เหลือจึงได้พัฒนากลายเป็นบ้านพักตากอากาศที่ดูมีเสน่ห์ขึ้นมา   . .   ทางรัฐบาลเองก็ได้พิจารณาให้เปิดใช้งานสถานีรถไฟเหล่านั้นอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์ Beeching Cuts เมื่อปี 1960 ซึ่งเป็นการลดระยะทางและสร้างเส้นทางใหม่สำหรับรถรางในประเทศอังกฤษ ทำให้หลายสถานีต้องปิดตัวลงอย่างถาวร ด้วยการออกแบบที่สวยงามของตึกสถานี Heacham และวิวของสวนที่เคยเป็นรางรถไฟมาก่อน ห้องที่ใช้นั่งรอถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องนอนแบบเตียงคู่ ส่วนขบวนรถไฟนั้นกลายเป็นห้องนอนแบบ 4 คนอย่างอลังการ   .   สถานี Kirkby Stephen เป็นหนึ่งในสถานีที่งดงามที่สุดในประเทศอังกฤษ หลังจากที่ปิดตัวลงก็ได้กลายเป็นบ้านพักตากอากาศ 2 หลัง เหล่าสถานีรถไฟต่างๆ ที่ได้กลายมาเป็นบ้านพักตากอากาศกว่า 50 สถานีนั้น ก็ได้มีการโฆษณาลงบนเว็บไซต์ www.railwaystationcottages.co.uk ซึ่งดูแลโดย Sue และ Chris Parkinson และ Scott ลูกชายของพวกเขา   . .   ทั้งคู่ได้สร้างเว็บไซต์ขึ้นมา…

  • หนังสือ Playboy เยอรมนี ออกปกที่มีสาวข้ามเพศเป็นครั้งแรก ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร

    หนังสือ Playboy เยอรมนี ออกปกที่มีสาวข้ามเพศเป็นครั้งแรก ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร

    Florian Boitin บรรณาธิการของนิตยสาร Playboy ได้กล่าวว่าเขาจะทำปกใหม่ โดยมี Giuliana Farfalla เปลือยอกร่วมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นไปตามประเพณีของ Hugh Hefner ผู้ก่อตั้งนิตยสาร Playboy ที่ต่อต้านการแบ่งแยกและการไม่ยอมรับทุกรูปแบบ Farfalla มีชื่อเดิมว่า Pascal Radermacher เกิดในประเทศเยอรมณีตะวันตกเฉียงใต้ และมีชื่อเสียงมาจากการเป็นผู้เข้าร่วมแข่งขันในรายการโทรทัศน์ Germany’s Next Topmodel ของ Heidi Klum   .   เธอบอกว่าในช่วงวัยเด็กของเธอนั้น เธอคิดว่าเธอนั้นใช้ชีวิตอยู่ผิดร่างกาย และได้ทำการเข้ารับผ่าตัดศัลยกรรมแปลงเพศเมื่อมีอายุได้ 16 ปี ปีที่แล้ว เธอได้กล่าวว่า “เมื่อตอนฉันอายุ 7-8 ขวบ ฉันบอกแม่ว่าฉันอยากเป็นผู้หญิง แม่ของฉันนั้นเครียดไปเลย เธอทั้งขอความช่วยเหลือ ปรึกษาหมอต่างๆ และในบางครั้ง ฉันก็ทำตามขั้นตอนที่หมอแนะนำ”     Farfalla ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Playboy ว่า “ในที่สุด ทุกคนก็จะได้เห็นในสิ่งที่ฉันเป็นแล้วตอนนี้” และเธอได้โพสต์ใน…

  • ชาวบ้านผวา หลังเสือลายเมฆที่ถูกเลี้ยงไว้แหกคอกออกมากว่าสัปดาห์ แถมฆ่าแกะที่เลี้ยงไว้ด้วย

    ชาวบ้านผวา หลังเสือลายเมฆที่ถูกเลี้ยงไว้แหกคอกออกมากว่าสัปดาห์ แถมฆ่าแกะที่เลี้ยงไว้ด้วย

    หากคิดจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงก็ควรดูแลให้ดี ควรทำให้แน่ใจได้ว่ามันจะอยู่ภายในขอบเขตที่ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นได้ มิฉะนั้นสัตว์เลี้ยงของคุณอาจจะนำปัญหามาให้คุณก็เป็นได้ เช่นเรื่องราวดังต่อไปนี้ ชายผู้หนึ่งชื่อว่า Todd Dalton ได้เลี้ยง “เสือลายเมฆ” ไว้เป็นสัตว์เลี้ยงของเขา โดยในปี 2006 เขาได้ใบอนุญาตให้สามารถครอบครองสัตว์กินเนื้อไว้เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านได้ เขาจึงเลี้ยงมันไว้ที่สวนหลังบ้านทางใต้ของกรุงลอนดอน     Todd ได้ทำกรงไว้ให้เสือลายเมฆของเขา ที่มีทั้งตัวผู้และตัวเมีย รวม 2 ตัวด้วยกัน กรงนั้นมีสองกรงแยกกันสำหรับแต่ละตัว เป็นกรงที่ตัวเจ้าของเองคิดว่าแข็งแรงและปลอดภัยพอที่จะขังเสือลายเมฆไว้ จากนั้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2017 เกิดฝนตกหนักทำให้ดินโคลนที่อยู่ด้านล่างของรั้วโดนชะล้างออกไป เกิดเป็นช่องให้เสือทั้งสองสามารถลอดหนีออกมาได้     หลังจากที่สัตว์เลี้ยงทั้งสองของเขาหายตัวไป Todd จึงพยายามตามหาอย่างสุดกำลัง จนกระทั่งชาวไร่คนหนึ่งออกมาบอกว่า เขาพบว่าแกะจำนวนหนึ่งของเขาถูกฆ่า เขาจึงได้วางกับดักสำหรับดักหมาป่าไว้ ต่อมาในวันนี่ 31 ธันวาคม 2017 ชาวไร่คนดังกล่าวจึงพบตัวเสือลายเมฆ เขาตกใจมากเพราะปกติแล้วสัตว์ชนิดนี้จะถูกพบอยู่บริเวณตีนเขาหิมาลัย     หลังจากเรื่องราวดังกล่าวแพร่กระจายออกไป ผู้คนในละแวกบ้านของ Todd นั้นหลายคนไม่เห็นด้วยกับการที่เขาครอบครองสัตว์ป่าที่กินเนื้อ เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อตนเองและครอบครัว     หลายคนขอให้ทางการยึดใบอนุญาตการครอบครองสัตว์ป่าของเขาคืน แต่ทางการเองก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจาก Todd มีสิทธิ์ครอบครองโดยชอบธรรม และช่วยเพาะพันธุ์ “เสือลายเมฆ” ที่กำลังเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์อีกด้วย…

  • ทำร้ายใจ… หนุ่มได้ออกเดตกับสาวในรายการ Take Me Out แต่เหตุผลคือเธอลืมปิดไฟ

    ทำร้ายใจ… หนุ่มได้ออกเดตกับสาวในรายการ Take Me Out แต่เหตุผลคือเธอลืมปิดไฟ

    บางครั้งดวงความรักก็ไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ เรื่องราวของของคุณ Phil นักมายากลหนุ่มจืดที่ถึงกับจ๋อยหลังจากคู่เดตของเขาในรายการ Take Me Out ได้สารภาพว่าจริงๆ แล้วเธอไม่ได้เลือกเขาเลย แต่เธอลืมปิดไฟต่างหาก “มันมีเรื่องบางอย่างที่เลวร้ายมากที่ฉันจะบอกกับคุณ” Bella คู่เดตของชายหนุ่มบอกกับเขาก่อนที่เธอจะพูดบางอย่างที่ทำให้ Phil ถึงกับอึ้ง     คำสารภาพของหญิงสาวเกิดขึ้นในระหว่างการเดตของทั้งสองใต้แสงจันทร์ริมชายหาด Bella สบตากับคู่เดตของเธอก่อนที่จะยอมรับออกมาตรงๆ ว่า “ฉันหลงใหลในมายากลของคุณจริงๆ ตอนนั้นฉันกดปิดไฟแต่ว่ามันก็สายไปเสียแล้ว” หลังจากที่ได้ยินคุณ Phil ของเราถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว เขาตอบกลับฝ่ายหญิงไปว่า “อืม ตอนนั้นผมน่าจะกดปิดไฟนะ ถ้ารู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจเปิดมันไว้”   และนี่คือการออกเดตของทั้งคู่ (ดูไม่ได้กด ที่นี่) Savage… ? Don’t worry, Phil! We bet there’s plenty of viewers wanting to take you to Fernando’s! #TakeMeOut pic.twitter.com/qUo80g5NcY — Take Me Out (@takemeoutuk) 13 มกราคม…

  • ยาแก้กรรมพันธุ์ตาบอด ฉีดเข้ารักษาลึกระดับยีน หาซื้อได้ในราคากว่า 27 ล้านบาท!!

    ยาแก้กรรมพันธุ์ตาบอด ฉีดเข้ารักษาลึกระดับยีน หาซื้อได้ในราคากว่า 27 ล้านบาท!!

    การรักษาพยาบาลในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาไปไกลจนมียาที่สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้แทบทุกโรคอีกทั้งยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย แต่ขณะเดียวกันความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นนี้ย่อมต้องแลกมาด้วยการสูญเสียจากการลงทุนไปไม่น้อย ดังนั้น จึงไม่แปลกที่การรักษาพยาบาลบางครั้งจะมีค่าใช้จ่ายสูง ดังเช่นเรื่องราวที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ บริษัทผลิตยาชื่อว่า Spark Therapeutics ได้ผลิตยาตัวใหม่ขึ้นมาเตรียมวางจำหน่าย เป็นยาที่ใช้ฉีดเข้าร่างกายเพื่อรักษาโรคตาบอดที่เกิดจากพันธุกรรม โดยในครั้งแรกนั้นตั้งราคาไว้สูงเกือบ 32 ล้านบาทแต่ราคาถูกลดลงเนื่องจากบริษัทประกันสุขภาพต่างๆ ไม่สามารถรับประกันครอบคลุมถึงยาตัวนี้ได้     ยาตัวนี้มีชื่อว่า Luxturna เป็นยาชนิดแรกที่สามารถรักษาโรคติดต่อทางพันธุกรรมได้ อีกทั้งมีการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถรักษาผู้ที่มีโรคตาบอดจากพันธุกรรมให้มีสายตาที่ดีขึ้นได้ การรับยา Luxturna นั้นจะเป็นการฉีดลงไปเพียงหนึ่งครั้งเพื่อให้ไวรัสนำยีนไปทดแทนเนื้อเยื่อของจอประสาทตา การฉีดแต่ละครั้งจะมีราคาราวๆ 13 ล้านบาท ซึ่งการฉีดหนึ่งครั้งสำหรับตาหนึ่งข้าง และด้วยความที่ผู้พัฒนาต้องการจะให้เป็นยาฉีดที่ไม่ต้องใช้ระยะรับยายาวนาน มันจึงมีราคาสูงเสียดฟ้า ถึงแม้จะเทียบกับยาที่รักษาระดับพันธุกรรมด้วยกันก็ตาม Marc-André Gagnon นักวิจัยเภสัชศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Carleton กล่าวว่า “ที่จริงแล้วเราตั้งใจจะผลิตยาที่รักษาพันธุกรรมมานานแล้ว แต่ถ้าผลิตออกมาแล้วตั้งราคาสูงเกินไปมันจะเหมือนเปิดมาตรฐานใหม่ให้กับราคายา และทุกอย่างจะแย่ลง”     ที่จริงแล้วการรักษาโรคหายากลักษณะเดียวกันนี้ด้วยวิธีการเดิมอาจจะมีค่าใช้จ่ายหลักหมื่นบาท แต่จำเป็นต้องใช้เวลารักษาระยะยาวซึ่งบางคนเสียค่าใช้จ่ายในการรักษารวมแล้วหลายสิบล้านบาท Luxturna นั้นถือว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายในภาพรวม อย่างไรก็ตามคนก็ยังมองว่ามันแพงเกินไป โดยในทางภาครัฐบาลของสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้ออกมาควบคุมราคาแต่อย่างใด เพียงแต่ทางด้านของผู้ผลิตยาจำเป็นต้องออกมาให้คำอธิบายถึงสาเหตุของราคาที่แพงจนทำให้หลายคนต้องตั้งคำถามถึงที่มาที่ไปของมัน ทางด้านบริษัทยา Spark Therapeutics จึงออกมาโต้ว่ายา Luxturna ควรจะแพงถึง 32 ล้านบาทด้วยซ้ำหากคำนึงถึงทุนที่เสียไปและค่าจ้างผู้ดูแลตัวยา…

  • หญิงสาวแต่งตัวเลียนแบบ “แจ็ก สแปโรว์” ตัดสินใจแต่งงานกับผีโจรสลัดจากศตวรรษที่ 18

    หญิงสาวแต่งตัวเลียนแบบ “แจ็ก สแปโรว์” ตัดสินใจแต่งงานกับผีโจรสลัดจากศตวรรษที่ 18

    แน่นอนว่าการเรื่องน่ายินดีเช่นการแต่งงานนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนสองคนมีความรักให้แก่กันและสัญญาว่าจะดูแลกันตลอดไป แต่เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น หญิงสาวคนหนึ่งตกหลุมรักและแต่งงานกับคนที่ตายไปตั้งนานแล้ว! โดยเรื่องราวมีอยู่ว่าหญิงวัย 45 ปีนามว่า Amanda Teague จากเมืองดาวน์แพทริค ไอร์แลนด์เหนือ ตัดสินใจที่จะแต่งงานกับโจรสลัดชาวเฮติชื่อว่า Jack ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 18     ทั้งคู่มีการออกเดตกันเหมือนคู่รักปกติ โดยล่าสุดทั้งคู่ได้ล่องเรืออกไปสู่น่านน้ำสากลที่ซึ่งงานแต่งงานของพวกเขาได้เกิดขึ้น ในพิธีแต่งงาน ถึงจะมองไม่เห็นตัวของ Jack แต่ Amanda เองก็ได้ยินคำว่า “ฉันยอมรับหญิงคนนี้เป็นภรรยา” ได้จากคนทรงเจ้า ถึงเธอจะไม่เคยเจอ Jack มาก่อน แต่เธอเชื่อว่าเขามีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับ Captain Jack Sparrow ในภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean และ Amanda เองก็ยังเป็นผู้แต่งคอสเพลย์ตัวของ Captain Jack Sparrow อีกด้วย     Amanda กล่าวว่า “มีหลายคนยังไม่รู้ถึงการมีอยู่ของความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ ซึ่งสำหรับพวกเขามันก็อาจจะใช่ ฉันอยากจะรู้ถึงสิ่งที่วิญญาณต้องการจะสื่อ” เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2014 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสถึงวิญญาณของ Jack ได้ และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็พูดคุยกันเรื่อยมา เธอยังบอกอีกว่าเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครมากขนาดนี้มาก่อน และ…

  • เบื้องหลังของการผ่าตัดสมอง เพื่อช่วยชีวิตน้องอุ๋ง Ziggy ยากกว่าสัตว์ชนิดอื่นมากจริงๆ

    เบื้องหลังของการผ่าตัดสมอง เพื่อช่วยชีวิตน้องอุ๋ง Ziggy ยากกว่าสัตว์ชนิดอื่นมากจริงๆ

    เมื่อพูดถึงแมวน้ำล่ะก็ หลายคนคงคิดถึงคำว่าอุ๋งๆ ในใจเลยใช่ไหมล่ะ เพราะมันช่างน่ารักน่ากอด ดูแล้วคงจะเป็นสัตว์ที่นุ่มนิ่นน่าเข้าไปเล่นด้วยเสียจริงๆ แต่เพราะมันเป็นสัตว์โลก มันก็เลยเจ็บป่วยเป็นเหมือนกัน วันนี้เรามาดูเจ้าอุ๋งแมวน้ำที่เจ็บป่วยแต่ก็มีมนุษย์ใจดีพยายามรักษามัน ถึงแม้จะแสนยากลำบาก แต่พวกเขาก็ทุ่มเทหาทางช่วยให้มันกลับมาแข็งแรงให้จงได้…     ที่อควาเรียมแห่งหนึ่งในเมืองมิสติก รัฐคอนเนคทิคัต ซึ่งมีชื่อว่า Mystic Aquarium มีเจ้าอุ๋งตัวหนึ่งชื่อว่า Ziggy Star อาศัยอยู่ในนั้น เจ้าซิกกี้เป็นแมวน้ำขนที่ได้รับการช่วยเหลือมาจากชายฝั่งของแคลิฟอร์เนียตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2013 ที่มันได้มาอยู่ที่อความเรียมแห่งนี้ก็เพราะอาการทางประสาทของมันที่ทำให้มันคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองไม่ได้ ซึ่งทำให้เกิดความลำบากที่จะใช้ชีวิตในธรรมชาติ     แต่ในเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ เจ้า Ziggy ได้มีอาการ “ชัก” ต่อเนื่อง จึงถูกนำตัวไปส่งที่สถาบันสัตว์แพทย์ของมหาวิทยาลัยทัฟส์ เวลานั้นมันแทบไม่มีการตอบสนอง จากนั้นเจ้าอุ๋งจึงถูกนำตัวไปเข้ารับการสแกน MRI ซึ่งทำให้พบว่ามันมีอาการของ “โรคสมองคั่งน้ำ” ที่เกิดจากการที่มีของเหลวเข้าไปอยู่บริเวณด้านในกะโหลกศีรษะ และทำให้สมองเสื่อมลงเรื่อยๆ ในกรณีของเจ้า Ziggy นั้นไม่สามารถรักษาด้วยยาได้ Ane Uriarte ศัลยแพทย์ทางประสาทของมหาวิทยาลัยทัฟส์ จึงได้ทำการผ่าตัดเจ้าอุ๋งโดยการวางท่อที่เชื่อมตั้งโพรงสมองส่วนที่มีน้ำออกมาสู่บริเวณท้องของมัน เพื่อให้ร่างกายของเจ้าแมวน้ำได้ดูดซับของเหลวมาได้อย่างปลอดภัย     การรักษาโดยการผ่าตัดสมองสัตว์นั้นเป็นวิธีปกติสำหรับหมา แมว และมนุษย์ แต่สำหรับแมวน้ำนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากรูปร่างของกะโหลกนั้นแตกต่างออกไป จึงต้องใช้การสแกน MRI เพื่อหาจุดที่จะสามารถเจาะท่อลงไปได้อย่างปลอดภัย Uriarte กล่าวว่ากะโหลกของแมวน้ำนั้นเรียบ กลม…

  • หมอจีนถูกสั่งสอบ กรณีขอเพิ่มค่ารักษาและบังคับจ่ายเพิ่ม ในระหว่างการทำผ่าตัด…

    หมอจีนถูกสั่งสอบ กรณีขอเพิ่มค่ารักษาและบังคับจ่ายเพิ่ม ในระหว่างการทำผ่าตัด…

    สื่อท้องถิ่นของจีนรายงานว่ามีศัลยแพทย์หญิงชาวจีนถูกสอบสวนหลังจากมีการกล่าวโทษว่า ขณะที่เธอกำลังทำการผ่าตัด เธอขอให้คนไข้จ่ายเงินเพิ่มสำหรับกระบวนการรักษาเพิ่มเติม คนไข้นามว่า Jiang Meng อายุ 20 ปี กำลังเข้ารับการตรวจปากมดลูกโดยแพทย์ของโรงพยายามบาลต้าเหลียน ซึ่งเป็นเมืองท่าในมณฑลเหลียวหนิงในประเทศจีน แพทย์แซ่ Wang ก็ได้แจ้งว่า Jiang นั้นจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน     ขณะที่การผ่าตัดกำลังดำเนินไป แพทย์ท่านหนึ่งซึ่งไม่แน่ใจว่าใช่ Wang หรือไม่ ก็ได้อ้างว่า Jiang มีปัญหาทางการรักษาบางอย่าง และจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างด่วนที่สุด จากนั้นแพทย์คนดังกล่าวจึงนำแผ่นกระดาษพร้อมคิวอาร์โค้ดมาให้ Jiang เพื่อสแกนรับรองค่าใช้จ่าย และบอกว่าการรักษาเพิ่มเติมนี้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราวๆ 9 พันบาท เธอตอบตกลงแต่ขณะนั้นเธอมีเงินในบัญชีเพียง 3 พันบาทเธอจึงจ่ายส่วนต่างในภายหลัง     เมื่อ Jiang ออกจากโรงพยาบาลมา เธอเกิดรู้สึกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการรักษา เธอจึงเข้าไปสอบถามแพทย์อีกโรงพยาบาลหนึ่ง จึงได้คำตอบว่ากระบวนการรักษาที่เพิ่มเติมมานั้น “ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด”  จากนั้นเธอจึงเขียนเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอลงบนสื่อออนไลน์ Weibo จนกระทั่งเรื่องราวถูกส่งไปถึง คณะกรรมการสุขภาพและการวางแผนครอบครัว การสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาจึงเกิดขึ้น     ขณะที่ยังไม่ทราบผลของการสืบสวน พนักงานคนหนึ่งในโรงพยาบาลที่ Jiang เข้ารับการรักษาจึงออกมากล่าวกับสื่อ New Culture Daily ว่า “เป็นเรื่องปกติที่ผู้ป่วยต้องสแกนคิวอาร์โค้ดสำหรับการรักษาต่างๆ ที่เกิดขึ้น” และยังบอกอีกว่า “มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นหลายอย่างระหว่างการผ่าตัด และเราก็ไม่สามารถปล่อยคนไข้กลับไปทั้งอย่างนั้นได้หรอก”   ที่มา: Scmp

  • คนไข้โอด “ฉันนั่งรอที่ห้องฉุกเฉินกว่า 5 ชั่วโมง แต่พยาบาลจองรีสอร์ต เพื่อไปเที่ยววันหยุด!?”

    คนไข้โอด “ฉันนั่งรอที่ห้องฉุกเฉินกว่า 5 ชั่วโมง แต่พยาบาลจองรีสอร์ต เพื่อไปเที่ยววันหยุด!?”

    เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับพยาบาลคนหนึ่ง จากแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล Princess Alexandra ประเทศอังกฤษ ถูกกล่าวหาว่าใช้เวลางานเพื่อทำเรื่องส่วนตัว และปล่อยให้คนไข้รอนานกว่า 5 ชั่วโมง ตามรายงานไม่ได้ระบุชื่อของพยาบาลคนนั้น แต่ข่าวระบุว่าเธอนั้นใช้เวลางานของเธอในการจองรีสอร์ตเพื่อวันหยุดของเธอ ส่งผลให้คนไข้บางรายถึงขั้นร้องเรียนในพฤติกรรมดังกล่าว     ภาพพยาบาลที่ถูกโพสต์โดยเพจ Spotted in Harlow พร้อมกับข้อความว่า “รอในห้องฉุกเฉินมา 5 ชั่วโมง ขณะที่นางพยาบาลกำลังจองที่พักวันหยุดของหล่อน” จากภาพดังกล่าวก็สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก หลายคนที่ได้เห็นก็ออกมาต่อว่าพยาบาลคนดังกล่าว เพราะการจองรีสอร์ตในเวลางานจนทำให้คนป่วยต้องรอเป็นเวลานานมากนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่ก็มีผู้คนบางส่วนเข้ามาแสดงความคิดเห็นปกป้องพยาบาลคนนั้นว่า “จากที่ทำงานมาหลายชั่วโมง เธออาจจะมีเวลาว่างแค่นั้นก็ได้” “เธอทำงานหนัก เธอสมควรได้รับเวลาพักบ้าง”     จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการร้องเรียนเรื่องการทำงานล่าช้าของแผนกฉุกเฉิน จากสถิติที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหาเรื่องการปล่อยให้คนไข้รอเป็นเวลานาน รถพยาบาลล่าช้า และปัญหาเรื่องเตียงไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วย หัวหน้าแผนกฉุกเฉินเผยว่า มีผู้ป่วยฉุกเฉินอาการหนักอยู่เต็มทางเดินโรงพยาบาล และมีผู้ป่วยเพียง 45 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้รับการตรวจภายใน 4 ชั่วโมง แม้ว่าทางรัฐบาลได้ตั้งเป้าไว้ให้คนป่วย 95% ได้พบแพทย์ภายในเวลา 4 ชั่วโมง แต่สถิติระบุว่าตัวเลขที่สูงสุดซึ่งได้พบแพทย์ในเวลานั้นคือราวๆ 75% ไม่ได้ใกล้เคียงกับที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้เลย นี่จึงอาจจะเป็นสาเหตุให้คนอังกฤษรู้สึกอัดอั้นตันใจ และตอบรับกับกระแสดราม่าเรื่องนี้อย่างหนักหน่วงมากก็เป็นได้…     ที่มา…

  • ผู้อำนวยการออกมาขอโทษ หลังจัดกิจกรรมแกล้งเด็กนักเรียนให้ไป “จูบ” กับพ่อแม่ของพวกเขา

    ผู้อำนวยการออกมาขอโทษ หลังจัดกิจกรรมแกล้งเด็กนักเรียนให้ไป “จูบ” กับพ่อแม่ของพวกเขา

    การจูบกันถือว่าเป็นสัญลักษณ์แสดงความรักอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำกับคนที่เรารักหรือรู้สึกพิเศษด้วย แล้วถ้าเราจูบกับพ่อแม่ของเราล่ะ ซึ่งแน่ล่ะเรารักพ่อแม่ของเราแน่ๆ แต่ว่ามันจะรู้สึกอย่างไร? ในสหรัฐอเมริกาได้มี ผู้อำนวยการของ Rosemount High School นั้นออกมาขอโทษในกรณีที่เขาจัดกิจกรรมพิเรนทร์ๆ ขึ้น โดยที่ได้ให้นักเรียนในโรงเรียนปิดตา และจะให้คนเข้ามาจูบ แล้วให้ทายว่าเป็นใคร ซึ่งแน่นอน คนที่เข้ามาจูบนั้นเป็นพ่อแม่ของพวกเขา     กิจกรรมแผลงๆ นี้ถูกจัดขึ้นในเมื่ออาทิตย์ที่แล้วซึ่งถูกวางแผนมาโดยทีมงาน นักเรียนจะถูกปิดตาและให้พ่อแม่เข้ามาจูบ และเมื่อจบช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมแบบนั้น เหล่านักเรียนก็จะถูกถามให้เดาว่าริมฝีปากที่เพิ่งสัมผัสไปเมื่อกี้นั้นเป็นริมฝีปากของใคร     โดยมีนักเรียนชายคนหนึ่งกล่าวถึงริมฝีปากที่เพิ่งสัมผัสไปว่า “อืม… เขามีฝีปากที่หวานฉ่ำเลยล่ะครับ” แต่พอเขาปลดผ้าปิดตาออก ก็ต้องช็อก เพราะว่าที่เห็นอยู่หน้าของเขา ไม่ใช่นักเรียนหญิง แต่เป็นแม่ของเขาที่ยืนอยู่ข้างหน้านั้น ขณะที่ฝูงชนรอบๆ นั้นต่างหัวเราะ     John Wollersheim ผู้อำนวยการโรงเรียน Rosemount เมือง Rosemount รัฐมินนิโซตาได้บอกว่าในวิดีโอมันแสดงเพียง 1 นาทีจาก 30 นาทีที่จัดกิจกรรมเท่านั้น แต่ว่าเขาไม่ได้แก้ตัวใดๆ เขาบอกว่ากิจกรรมตั้งใจให้นักเรียนรู้สึกฮึกเหิม ไม่ใช่ให้อับอาย Wollersheim กล่าวว่า “นี่ควรจะเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน และทำให้ทุกคนรู้สึกฮึกเหิม แต่ถ้ามันทำให้พวกเขารู้สึกไม่ดี รู้สึกอับอาย หรือรู้สึกเจ็บปวด แสดงว่ามันให้ผลตรงกันข้ามกับที่เราหวังเอาไว้”  …

  • พ่อแม่กลุ่มวัยรุ่น ลากตัวพวกก่อเรื่องเพื่อขอโทษร้าน McDonald’s ในพฤติกรรมต่อต้านสังคมที่ทำลงไป

    พ่อแม่กลุ่มวัยรุ่น ลากตัวพวกก่อเรื่องเพื่อขอโทษร้าน McDonald’s ในพฤติกรรมต่อต้านสังคมที่ทำลงไป

    พฤติกรรมต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder) คืออาการทางจิตชนิดหนึ่งที่ผู้ที่มีอาการนี้จะมีบุคลิกภาพที่แตกต่างไปจากคนปกติ มักจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำร้ายผู้อื่น ทำลายข้าวของสาธารณะ ไม่มีความรู้สึกผิดกับสิ่งที่กระทำลงไป สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการเลี้ยงดูของผู้ปกครองและสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัว ที่ร้าน McDonald’s สาขาหนึ่งในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ได้เกิดเหตุการณ์วัยรุ่นจำนวน 10 คนเข้ามาทำลายข้าวของ ด่าทอพนักงานอย่างหยาบคาย และทะเลาะวิวาทกันภายในร้าน โยนอาหารและขยะจนเละเทะไปหมด แล้วหนีออกไป ภาพเหตุการณ์นี้ถูกบันทึกเอาไว้โดยกล้องของพนักงานคนหนึ่งภายในร้าน     ทางผู้จัดการร้านจึงได้แจ้งความตามจับตัววัยรุ่นกลุ่มนี้เพื่อมาดำเนินคดี โดยได้สืบหลักฐานเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณนั้นด้วย และทางสำนักข่าวในเมืองแมนเชสเตอร์ก็ได้มาทำข่าวเรื่องการป่วนเมืองของวัยรุ่นลงในสื่อท้องถิ่นและมีการแชร์กันไปอย่างแพร่หลาย     หลังจากที่คลิปวิดีโอได้เผยแพร่ออกไปไม่กี่ชั่วโมงก็มีเหล่าพ่อแม่ผู้ปกครองของวัยรุ่นที่ปรากฏในคลิปเดินทางมาที่ร้าน  McDonald’s สาขาที่เกิดเหตุพร้อมกับตัวของวัยรุ่นทั้งหมด 10 คน พ่อแม่ของกลุ่มวัยรุ่นให้ลูกๆ กล่าวคำขอโทษทุกๆ คนภายในร้านและขอโทษพนักงานสำหรับพฤติกรรมแย่ๆ ที่ได้ทำลงไป อีกทั้งยังส่งตัวให้กับทางตำรวจเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป     กลุ่มวัยรุ่นมีอายุเพียงแค่ 11-14 ปีเท่านั้น จึงต้องถูกทำทัณฑ์บนด้วยการส่งไปปรับพฤติกรรมกับหน่วยงานเฉพาะที่จัดตั้งขึ้น โดยเด็กๆ จะต้องถูกฝึกเพื่อหยุดอาการต่อต้านสังคมที่เป็นอยู่ ซึ่งทางผู้ปกครองก็ให้การสนับสนุนเต็มที่ เพื่อที่เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้จะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใครในสังคมอีก   ที่มา manchestereveningnews, ladbible

  • พาชมเมือง “ปารีสปลอม” ในประเทศจีน เทียบกันให้เห็นชัดๆ กับของจริง คล้ายกันมากๆ

    พาชมเมือง “ปารีสปลอม” ในประเทศจีน เทียบกันให้เห็นชัดๆ กับของจริง คล้ายกันมากๆ

    Paris นั้นเป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส และมีสถานที่สำคัญอย่างหอไอเฟล ซึ่งมักจะมีคู่รักหลายๆ คู่เลือกที่จะไปถ่าย Pre-Wedding กันที่ Paris เนื่องจากตัวเมืองนั้นให้บรรยากาศแห่งความโรแมนติก ทำให้รูปที่ออกมามีกลิ่นอายของความรักอยู่เต็มไปหมด แต่วันนี้มีข่าวดีรึเปล่าก็ไม่รู้สำหรับคนเอเชียที่อยากได้บรรยากาศใน Paris แต่ไม่อยากเดินทางไปไกล โดยที่พี่จีนของเราได้จำลองเมือง Paris มาไว้ในเมืิองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันถูกเรียกว่า Tianducheng โดยที่มีช่างภาพได้ไปถ่ายเปรียบเทียบกันภาพต่อภาพ ในอัลบั้มภาพที่ถ่ายมาจะแสดงให้เห็นว่า Tianducheng นั้นมีทั้งหอไอเฟล ตึกรามบ้านช่อง สถาปัตยกรรม ได้แรงบันดาลใจมาจาก Paris ทั้งสิ้น โดยที่ในละแวกนั้นผู้คนที่อาศัยอยู่จะเป็นชนชั้นกลาง ซึ่งประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คนในปี 2017 และยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ เมื่อรู้ข้อมูลพอสังเขปแล้ว เราลองไปชมภาพเปรียบเทียบกันเลยดีกว่า   Tianducheng (ซ้าย) vs Paris (ขวา) . . . . . . . . . . . . .…

  • สามีภรรยาถูกจับหลังขังลูก 13 คนไว้ในบ้านโดยการล่ามโซ่ พี่วัย 17 หนีออกมาได้จึงแจ้งตำรวจ

    สามีภรรยาถูกจับหลังขังลูก 13 คนไว้ในบ้านโดยการล่ามโซ่ พี่วัย 17 หนีออกมาได้จึงแจ้งตำรวจ

    เกิดเหตุการณ์สุดสลดเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 911 ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากหญิงสาวคนหนึ่งที่หนีออกจากบ้าน เหตุเกิดขึ้นที่เมือง Perris รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการรายงานข่าวของสำนักข่าว Dailymail ได้กล่าวว่า หญิงที่ขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจ 911 เป็นหญิงวัยรุ่นอายุ 17 ปี เธอบอกกับตำรวจว่าขอให้ช่วยเหลือเธอและพี่น้องของเธออีก 12 คนที่ถูกขังไว้ภายในบ้าน เธอแจ้งพิกัดสถานที่และหวังว่าตำรวจจะมาช่วยพวกเธอให้ออกไปจากบ้านหลังนี้ได้     ทางตำรวจเมื่อได้รับเรื่องแล้วก็เดินทางไปยังสถานที่ที่ได้แจ้งไว้ ทันทีที่ไปถึงที่บ้านก็แสดงตัวขอตรวจค้นภายในบ้าน พอเปิดเข้าไปที่ห้องก็ต้องผงะกับกลิ่นเหม็นที่โชยออกมาและที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือเด็กหญิงชายจำนวน 12 คนถูกล่ามโซ่ติดไว้กับเตียง แต่ละคนร่างกายสกปรกมอมแมมและผอมมาก     หลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ที่ถูกกักขังนั้นมีอายุตั้งแต่ 2 ถึง 29 ปี ทุกคนถูกช่วยเหลือและนำตัวส่งไปที่ศูนย์พิทักษ์เด็กและเยาวชน ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นผู้กักขังเหยื่อทั้ง 13 คนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือพ่อแม่ของพวกเขานั่นเอง     นาย David Allen Turpin อายุ 57 ปีและนาง Louise Anna Turpin อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวในทันทีและถูกตั้งข้อหากักขังและหน่วงเหนี่ยวให้ได้รับความทรมาน เบื้องต้นทั้งคู่ถูกฝากขังไม่ให้ติดต่อกับลูกๆ  …

  • มิ้วน้อยผู้ช่วยงานร้านเสริมสวย พอแกร่งกล้าก็สบโอกาสยึดร้าน ทำงานตลอด 4 ปีไม่มีหยุด!!

    มิ้วน้อยผู้ช่วยงานร้านเสริมสวย พอแกร่งกล้าก็สบโอกาสยึดร้าน ทำงานตลอด 4 ปีไม่มีหยุด!!

    ในการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เราอาจต้องการใครซักคนเข้ามาแบ่งเบาภาระหน้าที่การดูแลลูกค้าหรือการบริหารร้าน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับร้านเสริมสวยแห่งนี้ เพราะสิ่งที่เข้ามาช่วยเหลือเจ้าของร้านไม่ใช่คนแต่กลับเป็นน้องเหมียวสุดน่ารักซะอย่างนั้น นี่คือเรื่องราวของเจ้าแมวที่มีชื่อว่า Betty ซึ่งเมื่อ 7 ปีก่อนมันมีอายุเพียงแค่ 8 สัปดาห์แต่กลับถูกทิ้งเอาไว้ข้างทาง ก่อนที่มันจะได้ไปเจอกับช่างเสริมสวยในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ที่มีชื่อว่า Chris Guglielmi   เหมียวน้อยจอมซน Betty สวัสดีงับ   ความน่ารักของมันทำให้หญิงสาวถึงกับใจละลาย   Chris ตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกเห็นและรีบพาเจ้าเหมียวไปรักษาตัวที่คลินิกสัตว์ในทันที หลังจากที่เจ้าเหมียวหายดี มันก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวคนสำคัญของเธอ หลังจากนั้นในปี 2013 หญิงสาวได้เปิดร้านเสริมสวยเป็นของตัวเองชื่อร้านว่า Babar Hair และร้านนี้ก็ได้กลายเป็นที่ทำงานของเธอและเจ้าเหมียว   พนักงานคนนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับผม   Betty จะมาที่ร้านกับเธอทุกๆ วัน และมันไม่ได้แค่มาเดินเล่นไปมาเฉยๆ แต่มันจะคอยบริการลูกค้าด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูอยู่เสมอ ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาในร้านจะได้เจอกับบริการหนุนตักของเจ้าเหมียวตัวนี้ เพราะมันจะคอยมองหาว่าตักของลูกค้าคนไหนว่างอยู่ ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาและหนุนนอนอยู่บนนั้น สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่ได้เห็น   แง่ะ พอขึ้นมาอยู่บนนี้แล้วรู้สึกง๊วงงงง่วง   ไม่ไหวละ หลับดีกว่า แถมโชว์ท่ายากเป็นกรณีพิเศษ   จงอย่าให้ตักของเจ้าว่างเชียวละเจ้ามนุษย์  …

  • ชีวิตอีกด้านของ ‘เด็กเสี่ย’ วัย 20 มีตั้งแต่ทริปไปฮาวาย กระเป๋าดีไซน์เก๋ พร้อมเปย์การศึกษา

    ชีวิตอีกด้านของ ‘เด็กเสี่ย’ วัย 20 มีตั้งแต่ทริปไปฮาวาย กระเป๋าดีไซน์เก๋ พร้อมเปย์การศึกษา

    นักศึกษาหลายๆ คนอาจประสบปัญหาเงินไม่พอใช้ในชีวิตประจำวันหรือไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ทำให้ต้องหางานเสริมทำระหว่างเรียน แต่สำหรับเธอคนนี้กลับมีรายได้ที่ต่างออกไป เพราะเธอไม่ได้รับเงินจากงานแต่เธอรับเงินจาก “ป๊ะป๋า” ที่ช่วยส่งเสียค่าเล่าเรียนให้เธอ ซึ่งเราอาจจำกัดความได้ว่าเธอคือ “เด็กเสี่ย” นั่นเอง นี่คือเรื่องราวของ Jessica นักศึกษาสาววัย 20 ปี ลูกครึ่งออสเตรเลีย-เวียดนาม เธอกำลังศึกษาอยู่ในคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย แต่ขณะที่เธอกำลังตั้งหน้าตั้งตาเรียนอยู่นั้น หญิงสาวก็ได้ไปเจอกับเว็บไซต์หนึ่งที่ทำให้การใช้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป     Jessica เล่าว่าในตอนแรกนั้นเธอได้เห็นคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการมองหารายได้เสริม ทำให้เธอรู้จักกับเว็บไซต์ที่มีไว้สำหรับการนัดเดตกันระหว่างเด็กเสี่ย (Sugar Baby) และ ป๊ะป๋า (Sugar Daddy) ซึ่งหมายถึงเสี่ยที่จะคอยช่วยเลี้ยงดูพวกเธอ เธอได้เห็นการใช้ชีวิตของเด็กเสี่ยหลายๆ คนที่ได้รับข้อเสนอในเรื่องการจ่ายค่าเทอมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้เธอเกิดความสนใจขึ้นมาและสมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์นั้น     ด้วยความที่เธอเป็นคนตั้งใจเรียน หุ่นดี เป็นถึงเชียร์ลีดเดอร์และคุณครูสอนร้องเพลง ทำให้ผู้ชายจำนวนมากรู้สึกสนใจและส่งข้อความมาหาเธอ แต่ข้อความส่วนใหญ่นั้นจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอต้องการ เพราะผู้ชายบางคนติดต่อหาเธอเพื่อการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด หรือข้อเสนอที่จะจ่ายเงินให้กับเธอทุกครั้งที่ออกไปเดตกับเขาเท่านั้นเอง เธอบอกว่าการจะเป็นเด็กเสี่ยไม่ใช่การรับเงินเป็นครั้งคราวหรือการมีเพศสัมพันธ์กันเพียงอย่างเดียว เพราะเด็กเสี่ยไม่ใช่ผู้หญิงขายบริการ สิ่งที่สาวๆ อย่างเธอต้องการคือความสัมพันธ์ระยะยาวที่ทำให้พวกเธอสามารถมั่นใจได้ว่า จะมีรายได้จากชายคนนั้นเข้ามาอยู่เสมอ     เมื่อหญิงสาวเข้าใจแล้วว่าตัวเองสมัครเข้ามาเพราะอะไร เธอก็ใช้เวลาเป็นเดือนๆ ในการหาคนที่จะเข้ามาดูแลการเงินของเธอได้…

  • จีนสร้าง “เครื่องฟอกอากาศ” ขนาดยักษ์สูงกว่า 100 เมตร หวังทำให้อากาศบริสุทธ์ในพื้นที่ 6,250 ไร่

    จีนสร้าง “เครื่องฟอกอากาศ” ขนาดยักษ์สูงกว่า 100 เมตร หวังทำให้อากาศบริสุทธ์ในพื้นที่ 6,250 ไร่

    ปัญหามลพิษทางอากาศนั้นถือเป็นหนึ่งในปัญหาหลักๆ ที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวจีนในตอนนี้ ซึ่งมันก็ส่งผลให้ประชาชนรู้สึกว่ามันเป็นปัญหาที่มองข้ามไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้ทีมนักวิจัยในมณฑลส่านซีจึงร่วมกันคิดค้นทางออกของปัญหานี้ ทางออกของทีมวิจัยนั่นก็คือการสร้างเครื่องฟอกอากาศเพื่อประชาชนขึ้นมา แต่มันไม่ใช่เรื่องฟอกธรรมดานะ แต่มันคือเครื่องฟอกขนาดใหญ่ยักษ์สูงกว่า 100 เมตร!!     Cao Junji หัวหน้าทีมนักวิจัย Institute of Earth Environment จาก Chinese Academy of Sciences ได้บอกว่าพวกเขานั้นต้องการที่จะเพิ่มคุณภาพอากาศให้ดียิ่งขึ้น และเจ้าเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ยักษ์นี้ก็เปิดตัวมาแล้วตั้งแต่ปี 2016 แถมมันยังได้ผลดีมากๆ อีกด้วย Cao บอกว่าอากาศในรัศมี 10 กิโลเมตรนั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเจ้าเครื่องนี้ก็ฟอกอากาศไปแล้วกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมันทำให้ระดับมลพิษในอากาศของเมืองที่เครื่องนี้ตั้งอยู่ลดเหลือเพียงระดับปานกลางแล้ว     ในส่วนของการทำงานนั้น Cao ได้อธิบายหลักการง่ายๆ ว่าพวกเขาจำเป็นจะต้องสร้างพื้นที่สีเขียวขึ้นขนาดเท่าครึ่งสนามฟุตบอลล้อมรอหอคอยฟอกอากาศ เพื่อที่จะให้อากาศเสียจากหอคอยส่งผ่านไปยังต้นไม้และพื้นที่สีเขียวรอบๆ จากนั้นก็ผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสงออกมาเป็นอากาศบริสุทธ์นั่นเอง อย่างไรก็ตามยังมีการตั้งคำถามว่า หอคอยของทีมวิจัยของ Cao นั้นพอที่จะสู้กับปัญหามลพิษทั่วประเทศจีนหรือไม่ Cao เองก็ตอบมากไม่ได้ โดยเขาให้เหตุผลว่าตัวหอคอยยังอยู่ในช่วงการทดสอบ และต้องรอดูผลในระยะยาวของมันเพราะหอคอยเพิ่งจะสร้างเสร็จเมื่อปี 2016 ฉะนั้นระยะเวลาการทดสอบจึงยังไม่นานพอ  …

  • ซ่อมแซมธนบัตรที่ถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย คงเป็นบุคคลที่อดทนได้มากที่สุดบนโลก

    ซ่อมแซมธนบัตรที่ถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย คงเป็นบุคคลที่อดทนได้มากที่สุดบนโลก

    เวลาคนเราต้องการจะฝึกความอดทนและสมาธินั้น เรามักจะมีวิธีการฝึกที่แตกต่างกันออกไปมากมาย หนึ่งในวิธีที่หลายคนชื่นชอบคือเล่นเกมหรือของเล่นที่ต้องใช้ความอดทนและสมาธิในการแก้ไขปัญหาเช่น ‘จิ๊กซอว์‘ เป็นต้น ปกติแล้วจิ๊กซอว์นั้นจะถูกแบ่งระดับความยากตามจำนวนชิ้นของจิ๊กซอว์ ยิ่งมีเยอะเท่าไหร่ความยากก็สูงขึ้นตามไป เพราะว่ายิ่งชิ้นเยอะภาพก็จะเล็กลงรายละเอียดที่เราเห็นในแต่ละชิ้นส่วนก็จะน้อยตามลงไปนั่นเอง แต่ถ้าการเล่นจิ๊กซอว์ปกตินั้นมันยังไม่ตื่นเต้นฝึกความอดทนได้ไม่ดีพอ งั้นลองมาเล่นต่อแบงก์ที่ถูกตัดจากเครื่องบดกระดาษแบบพี่คนนี้ดูไหม?     Martin John Callanan ศิลปินชาวอังกฤษผู้คิดค้นแนวทางการสร้างงานศิลป์ชิ้นใหม่ ด้วยการทำคลิปต่อจิ๊กซอว์กระดาษที่ผ่านเครื่องบดกระดาษให้มาสมบูรณ์อีกครั้ง คลิปของเขานั้นมีระยะเวลาเพียงแค่ 11.08 นาทีเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงมันไม่เป็นอย่างนั้นเลย เพราะเขาต้องใช้ความอดทนและระยะเวลาเป็นวันเลยทีเดียว กว่าจะหยิบชิ้นส่วนจากกองกระดาษมาต่อให้เป็นแบงค์ 5 ปอนด์เหมือนเดิมได้     สุดท้ายแล้วแม้ว่าแบงก์ 5 ปอนด์ที่เขาเอามาต่อจะไม่ได้ออกมาเป๊ะ แต่มันก็ถือว่าเป็นผลงานที่เจ๋งใช้ได้เลยทีเดียวจริงไหม ถ้าใครอยากทดสอบความอดทนแบบ Martin ก็ลองทำตามดูกันได้… และถ้าใครชื่นชอบอยากจะติดตามผลงานของ Martin ก็สามารถไปดูรายละเอียดงานของเขาได้ที่เว็บไซต์ของเขา greyisgood หรือที่ช่องยูทูบ Martin John Callanan ได้เลย     ที่มา gizmodo

  • วิถีแห่งการลงโทษพวกจอดรถไม่เป็นที่ เจ้าของร้านที่เดือดร้อนก็ไม่ต้องออกแรงแม้แต่นิดเดียว

    วิถีแห่งการลงโทษพวกจอดรถไม่เป็นที่ เจ้าของร้านที่เดือดร้อนก็ไม่ต้องออกแรงแม้แต่นิดเดียว

    ในประเทศไทยทุกวันนี้ หลายครั้งที่เราจะเห็นคนที่จอดรถส่วนบุคคล หรือที่สงวนไว้ให้ลูกค้าของร้านต่างๆ ซึ่งมันเป็นที่ห้ามจอดสำหรับคนที่ไม่ได้มีจุดประสงค์มาซื้อของ ซึ่งคนที่ทำแบบนั้นจะถูกปรับหรือลงโทษอย่างไรก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าคุณไปทำแบบนั้นในประเทศญี่ปุ่นล่ะก็ เจอเจ้าของร้านแก้เผ็ดหนักๆ แน่นอน ในประเทศญี่ปุ่นช่วงนี้เป็นฤดูหนาว มีหิมะตกหนักเต็มไปหมด แต่ประเด็นคือมีคนคนหนึ่งนั้นฉลาดแกมโกง ไปจอดรถในที่จอดรถที่สงวนไว้ให้ลูกค้าของห้าง Across Plaza ในเมืองเอจิเซ็น จังหวัดฟุกุอิ โดยที่ไม่ได้ทำการซื้อของใดๆ แถมยังทิ้งรถไว้อีกด้วย แต่แทนที่จะเรียกตำรวจ พนักงานห้างกลับทำแก้เผ็ดคนจอดรถโดยการ ‘ไม่ทำอะไร’ ซึ่งในที่นี้คือการไม่ทำอะไรจริงๆ รวมถึงไม่จัดการหิมะที่ตกอยู่รอบๆ รถคันนั้นด้วย   “ดูเหมือนรถคันนี้จอดผิดกฎของห้างแหละ พวกเขาเลยจัดการให้สมกับเป็นพื้นที่เขตหิมะตก” ผู้ใช้ทวิต @ponkuz ได้ทวิตข้อความพร้อมโพสต์รูป   จังหวัดฟุกุอิก็เหมือนกับพื้นที่ในญี่ปุ่นช่วงนี้ ที่อุณภูมิลดต่ำลง และก็มีหิมะตกอย่างหนัก ซึ่งในลานจอดรถของห้างก็เจอหิมะอย่างหนักเช่นกัน แต่ทางห้างก็ได้ทำการเก็บกวาดหิมะออกจากลานจนหมด ยกเว้นที่เดียวคือ รอบๆ รถที่มาจอดผิดกฎของห้างนั่นเอง โดยที่ชาวเน็ตก็แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ดังนี้ “เป็นการลงโทษที่ฉลาดอะไรขนาดนี้” “นี่เป็นวิธีจัดการกับปัญหาที่เจ๋งชะมัด” “คุณถูกจำคุกเป็นเวลา ‘จนกว่าหิมะจะละลาย’ “ “ถ้านายอาศัยอยู่มาในพื้นที่ที่หิมะตกหนักขนาดนี้ นายก็คงมีวิธีหาพลั่วมาใช้ขุดหาทางออกเองได้นั่นแหละนะ” แต่พอมาถึงเวลากลางคืนรถคันที่ถูกขังอยู่ในคุกน้ำแข็งก็หายไปแล้ว โดยไม่แน่ใจว่าเขาออกไปด้วยวิธีไหนกัน   ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @2hphp ทวิตข้อความพร้อมรูปว่า “ตอนนี้เขาหนีไปได้อย่างปลอดภัยแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ”   ไม่ว่าเค้าจะหนีออกไปยังไง…

  • นักศึกษาสาวจีนพยายามลักลอบนำสุนัขขึ้นเครื่อง ตีเนียนใส่ท้องปลอม แต่ก็ไม่รอดเพราะน้องดิ้น

    นักศึกษาสาวจีนพยายามลักลอบนำสุนัขขึ้นเครื่อง ตีเนียนใส่ท้องปลอม แต่ก็ไม่รอดเพราะน้องดิ้น

    การเดินทางด้วยเครื่องบินในยุคปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสูงเป็นอย่างมากเนื่องจากความสะดวก รวดเร็ว อีกทั้งยังราคาถูกลงทำให้หลายๆ คนใช้เป็นทางเลือกในการเดินทาง แต่เนื่องด้วยกฏการบินสากลต้องมีการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงให้กับผู้โดยสารทั้งหลาย จึงต้องมีการตรวจตรากันอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารท่านอื่น ก่อนจะขึ้นเครื่องบินจะต้องมีการตรวจตราเสียก่อน เพื่อนำสิ่งของหรือวัตถุที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะใช้วิธีการตรวจค้นร่างกายอย่างละเอียด เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นที่สนามบิน Tianhe มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน เจ้าหน้าที่ตรวจค้นถึงกับต้องกุมขมับเมื่อตรวจเจอสิ่งของที่ผู้โดยสารพยายามลักลอบนำขึ้นเครื่อง สิ่งที่ว่านั่นก็คือ น้องหมา     ผู้โดยสารหญิงรายนี้เป็นนักศึกษาที่กำลังจะขึ้นเครื่องเพื่อกลับบ้านในจังหวัดกานซู แต่ทว่าเธอนั้นไม่อยากจะทิ้งน้องหมาให้อยู่ตามลำพังในขณะที่เธอกลับบ้าน จึงได้ค้นหาวิธีแอบเอาเจ้าตัวน้อยขึ้นเครื่อง โดยการสั่งซื้อท้องปลอมมาจากอินเตอร์เน็ต ท้องปลอมทำมาจากซิลิโคลนภายในสามารถบรรจุของได้ เธอจึงยัดน้องหมาเข้าไปในท้องปลอมนี้แล้วเดินเข้าจุดตรวจทำทีเป็นหญิงมีครรภ์ แต่เธอดันแสดงพิรุธออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องค้นตัวอย่างละเอียด เมื่อเจ้าหน้าที่กำลังจะค้นตัวก็สังเกตเห็นว่าที่หน้าท้องของเธอมันดิ้นไปดิ้นมาอย่างหนัก นักศึกษาสาวจึงต้องยอมจำนนรับสารภาพแล้วนำหมาสีขาวขนปุยของเธออกมา เจ้าหน้าที่ถึงกับเงิบไปตามๆ กัน ทั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเธอต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนด เรื่องราวนี้ถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์และสื่อต่างๆ ของจีน หลายๆ คนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นส่วนหนึ่งคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าระบบขนส่งสัตว์เลี้ยงของสายการบินที่มีอยู่ตอนนี้มีข่าวว่าทำสัตว์เลี้ยงตายบ่อยครั้ง ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจในการจัดการขนส่ง ส่วนอีกส่วนหนึ่งคิดว่า เธอไม่ควรทำแบบนี้ เนื่องจากสงสารสัตว์ที่ต้องอัดอยู่ในกระเป๋า อีกทั้งบางสายการบินก็ไม่ได้ทำสัตว์เลี้ยงตายอย่างที่เป็นข่าว   การขนส่งสัตว์โดยการใช้เครื่องบินแบบปกติ   สงสารก็แต่เจ้าหมาน้อยที่ไม่รู้เรื่องอะไร ต้องมาพลอยเดือดร้อนไปกับเจ้าของซะงั้น ที่มา scmp

  • มาดูความเห็นชาวเน็ตต่างชาติ กับการที่ทรัมป์ถือร่มให้ตัวเอง แต่ไม่ถือให้ภรรยาและลูก…

    มาดูความเห็นชาวเน็ตต่างชาติ กับการที่ทรัมป์ถือร่มให้ตัวเอง แต่ไม่ถือให้ภรรยาและลูก…

    เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2018 สำนักข่าว Daily Mail ได้เผยภาพของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump ที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปพร้อมๆ กับครอบครัวของเขา ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา   ภาพของ Trump ถือร่มกันฝนขณะที่กำลังเดินขึ้นเครื่องบิน   ภาพที่ได้เห็นอาจจะดูไม่แปลกอะไร แต่มันกลับทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์กับการที่ Trump ถือร่มกันฝนเดินนำหน้าไปเพียงคนเดียว ในขณะที่ Melanie ภรรยาของเขา และลูกชาย Barron เดินตากฝนตามหลังเขามา สิ่งที่ชาวเน็ตพูดเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาในครั้งนี้คือ ทำไม Trump ถึงใช้ร่มกันฝนให้ตัวเองเพียงคนเดียว ไม่ยอมกันฝนให้ภรรยาที่เดินตามมาข้างหลัง ทั้งๆ ที่ร่มคันนั้นมีขนาดใหญ่มากพอสำหรับคน 2 คนอย่างแน่นอน     การแสดงความคิดเห็นของชาวเน็ตทั้งหลายถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือความคิดเห็นของชาวอังกฤษที่พูดถึงเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษและมองว่าผู้นำคนนี้ทำสิ่งที่แย่มากๆ ส่วนอีกฝั่งคือชาวอเมริกันที่มองว่าชายและหญิงก็เท่าเทียมกัน Trump ไม่เห็นจำเป็นต้องไปกางร่มให้ภรรยาซักหน่อย     ความคิดเห็นจากฝั่งอังกฤษส่วนใหญ่ที่พูดถึงเรื่องการไม่เป็นสุภาพบุรุษ Jollyboy “ถ้าพูดจริงๆ มันคงจะน่าตกใจกว่านี้ถ้าเราเห็น Trump กางร่มให้ภรรยาและลูกชาย เพราะเขาคือคนที่ไร้มารยาท เติบโตมาด้วยเงินเพียงอย่างเดียว และยังทำตัวหยาบคายราวกับสัตว์เดรัจฉาน”…

  • หนาวกันเข้าไป ญี่ปุ่นหนาวถึงขั้นน้ำพุร้อนยังกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง นับประสาอะไรกับหัวใจ…

    หนาวกันเข้าไป ญี่ปุ่นหนาวถึงขั้นน้ำพุร้อนยังกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง นับประสาอะไรกับหัวใจ…

    ในสภาพอากาศหนาวๆ แบบนี้ หลายคนคงรู้สึกว่า ‘อ่าห์…ฉันอยากจะไปแช่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่นจังเลยนะ’ แน่ๆ ก็อากาศมันเย็นแบบนี้ ก็เป็นปกติที่เราคิดอยากแช่ในบ่อน้ำอุ่นๆ เพราะมันคงจะรู้สึกฟินไม่น้อยใช่ไหมล่ะ? แต่จะเป็นยังไงถ้าเกิดว่าออนเซ็นที่เราอยากจะไปแช่นักแช่หนา มันดันไม่ร้อนซะได้ แถมยังกลายเป็นน้ำแข็งอีก เอ้า!?     เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดที่ Tsuruya Intaku เรียวกัง (ที่พักในสไตล์ญี่ปุ่น) เก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของที่นั่นได้โพสต์คลิปลงบนทวิตเตอร์ พร้อมบอกว่าตอนนี้น้ำร้อนที่เรียวกังไม่ช่วงวันจัทนร์ที่ผ่านมากลายเป็นน้ำแข็งเรียบร้อยแล้ว!! อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวนั้นก็ทำให้ผู้คนงงอยู่ได้ไม่นาน พวกเขาก็พบสาเหตุของการที่น้ำแข็งตัวแล้วว่า ท่อจ่ายน้ำต่างหากที่แข็งตัวเลยส่งผลมาถึงน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้เอาผ้าขนหนูพันรอบๆ และเทน้ำอุ่นราดลงไปพร้อมหวังว่าปัญหานั้นจะแก้ไขได้สำเร็จ   น้ำไม่ไหล เล่นเอาหัวหมุนกันเลยทีเดียว .   ทว่าพนักงานก็บอกว่าพวกเขาต้องใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงถึงแก้ปัญหาดังกล่าวได้สำเร็จ ซึ่งตอนที่น้ำกลับมาไหลอีกครั้งนั้นทีมงานถึงกับบอกว่า “เหมือนช่วยโลกไว้ได้สำเร็จเลย”   ในทวิตเตอร์ถึงกับบอกว่าตอนที่น้ำไหลนี่เพลง Armageddon ลอยมาในหัวกันเลยทีเดียว (ถ้าใครดูคลิปข้างล่างไม่ได้ สามารถกดเข้าไปดูที่ลิ้งค์ข้างๆ นี้ได้เลย @ turuyaintaku) 脳内でアルマゲドンの主題歌が流れました。 pic.twitter.com/CNZtMKLUhw — 旅館つるや隠宅 (@turuyaintaku) January 12, 2018   สุดท้ายแล้วสาเหตุที่ท่อน้ำถึงกับแข็งตัวนั่นก็เพราะอากาศที่หนาวเย็นในช่วงกลางคืนที่หนาวถึง 3…

  • แฟนหงส์วัย 77 ถึงกับเดือด เมื่อเห็นสติกเกอร์อริคู่เมือง พร้อมข้อความเยาะเย้ยที่ติดมากับกล่องเค้ก

    แฟนหงส์วัย 77 ถึงกับเดือด เมื่อเห็นสติกเกอร์อริคู่เมือง พร้อมข้อความเยาะเย้ยที่ติดมากับกล่องเค้ก

    ถ้าหากพูดถึงประเทศที่มีความคลั่งไคล้ฟุตบอลมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก หลายคนอาจจะนึกถึงประเทศอังกฤษอย่างแน่นอน และสำหรับชาวอังกฤษแล้วทีมรักนั้นก็เปรียบได้เหมือนกับชีวิตของพวกเขาเลยทีเดียว!! และหนึ่งในสิ่งต้องห้ามสำหรับแฟนบอลแบบเข้าสายเลือดนั่นก็คือตราสัญลักษณ์หรือสิ่งของของทีมคู่อรินั่นเอง เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกเจ็บใจแล้ว บางครั้งพวกเขายังไม่อยากแม้แต่จะแตะมันเลยด้วยซ้ำ เหมือนกับกรณีของคุณปู่วัย 77 ปีผู้นี้ที่ได้เค้กวันเกิดจากลูกสาวเป็นหน้าทีมรักอย่างลิเวอร์พูล แต่ดั๊นนนนมีสติกเกอร์คู่อริอย่างเอฟเวอร์ตันติดมาซะนี่!!     คุณ Debbie ได้ซื้อเค้กหน้าทีมรักของคุณพ่อตาเธอจากร้านเค้กแห่งหนึ่งในเมืองเบอร์เคนเฮด ประเทศอังกฤษ แต่ทว่ากลับมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำร้ายจิตใจของเขานั่นก็คือ สติกเกอร์ทีมเอฟเวอร์ตันที่ติดอยู่ด้านข้างกล่องพร้อมกับข้อความว่า “เดอะค็อป เป็นพวกขี้โม้” งานนี้พ่อตาคุณ Tony ของเราที่เป็นแฟนตัวยงของหงส์แดงก็ถึงกับปฏิเสธที่จะกินเค้กก้อนนี้ และไม่แม้แต่จะแตะมันเลยด้วยซ้ำ “พ่อตาของฉันรู้สึกดีใจมากๆ ที่เห็นเค้กก้อนนี้ แต่หลังจากที่เขาเห็นสติ๊กเกอร์นั่นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เราเสียใจมากๆ และรู้สึกแย่ที่มอบเค้กก้อนนี้ให้กับเขา” Debbie พูดถึงเค้กของเธอ     ทางครอบครัวได้ทำการติดต่อไปยังร้านเค้กดังกล่าวเพื่อขอคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทางร้านก็ได้ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกับบอกว่าพวกเขาได้แจ้งให้ผู้จัดการร้านตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ถึงแม้ว่าคุณ Tony จะรู้สึกเจ็บใจกับเจ้าสติ๊กเกอร์ที่ติดมากับกล่องเค้ก แต่ผลการแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมในศึก FA Cup เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมาก็พอจะทำให้เขาสบายใจได้นิดหน่อย เพราะพลพรรคหงส์แดงสามารถเอาชนะอริร่วมเมืองไปได้ 2 ประตูต่อ 1 นั่นเอง   ที่มา ladbible

  • นักแสดง Betty White วัย 95 ปี เผยเคล็ดลับอายุยืนของเธอ นั่นก็คือฮ็อตด็อกและวอดก้า

    นักแสดง Betty White วัย 95 ปี เผยเคล็ดลับอายุยืนของเธอ นั่นก็คือฮ็อตด็อกและวอดก้า

    ทุกครั้งที่เราตามข่าวของเหล่าผู้สูงอายุที่มีอายุยืนมากๆ เรามักจะได้ข่าวว่าพวกเขากินอาหารที่มีประโยชน์กินผักกินผลไม้ หรืออะไรสักอย่างที่เราดูแล้วเรารู้ได้ทันทีว่านี่และคืออาหารที่จำเป็นเพื่ออายุที่ยืนยาว แต่ไม่ใช่สำหรับเธอคนนี้ Betty White คุณยายวัย 95 ปีผู้เคยเป็นสาวสวยสุดฮอตในอดีต ได้เผยเคล็ดลับอายุยืนและสุขภาพแข็งแรงของเธอผ่านสื่อว่า ตัวเธอเองนั้นชอบกินอาหารฟาสต์ฟู้ดมากๆ และเธอก็ชื่นชอบในฮ็อตด็อกสุดๆ รวมถึงวอดก้าด้วย     อ่านแล้วงงล่ะสิ กินอาหารแบบนั้นทำไมสุขภาพดีทำไมถึงอายุยืนยาวถึง 95 ปี ที่สำคัญยังไม่ค่อยจะป่วยเป็นอะไรด้วย ซึ่งทางทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ต่างพากันสงสัยและได้ทำการวิจัยการใช้ชีวิตส่วนตัวของเธอ ซึ่งเหตุผลที่ได้มานั้นบอกเลยว่ามันเหลือเชื่อสุดๆ ทีมนักวิทย์ที่ไปสัมภาษณ์ Betty นั้นบอกว่าปกติแล้วเราไม่ควรจะมองข้ามมื้ออาหารเช้า เพราะมันจะทำให้มีโอกาสเกิดอาการหัวใจวายได้ แต่ Betty ก็บอกว่าเธอไม่กินอาหารเช้าและเธอก็ไม่เคยมีภาวะหัวใจวายด้วย ซึ่งเธอนั้นจะกินแต่แซนวิชในตอนเที่ยงเท่านั้น ส่วนเหตุผลที่ต้องเป็นแซนวิชก็แปลกไปอีก เพราะเธอบอกว่ามันง่าย…     ใช่ เหตุผลมันแค่นั้นและเพราะว่าตัว Betty นั้นเป็นคนที่ยุ่งตลอดเธอจึงไม่มีเวลามานั่งกังวลเรื่องอาหารมากนักนั่นเอง ส่วนเครื่องดื่มที่เธอเลือกนั้นก็เป็นวอดก้าหนึ่งช็อต กินมันทุกวันวันละช็อตซึ่งเธอบอกว่าจะใส่มะนาวด้วยก็ได้แล้วแต่เราเลย โดยการกินวอดก้านั้นมันขัดกับหลักแนะนำที่ให้ดื่มไวน์ของทีมนักวิทยาศาสตร์มากๆ   .   สุดท้ายแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่รู้ถึงเหตุผลของการสุขภาพดีของเธออยู่ดี แต่พวกเขาคาดเดาว่าการขยับตัวตลอดเวลาของ Betty และการมีระดับความเครียดต่ำถือเป็นหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เธอสุขภาพดีนั่นเอง   อยู่ที่ไหนก็ขอกินสักหน่อย   ที่มา dailymail

  • “Reckless” เจ้าม้าผู้กลายเป็นฮีโร่ในสงครามเกาหลี และวีรกรรมของมันจะถูกจดจำไปอีกนานแสนนาน

    “Reckless” เจ้าม้าผู้กลายเป็นฮีโร่ในสงครามเกาหลี และวีรกรรมของมันจะถูกจดจำไปอีกนานแสนนาน

    ในสงครามเกาหลีนั้น สหรัฐอเมริกาได้รบต้านทานศัตรูที่ด่านเวกัสในขณะกำลังถอยทัพ เสียงแห่งการต่อสู้ดังราวกับ “ทอร์นาโด 20 ลูกกำลังถาโถม” ที่เกิดจากอาวุธยุโธปกรณ์ของกองทัพเรือซึ่งกำลังขับไล่กองทัพจีนออกไปในวันที่ 27 มีนาคม 1953 ขณะที่ยืนหยัดปกป้องด่านเวกัสด่านที่ตั้งชื่อขึ้นเพราะการปกป้องที่ยากไม่ต่างอะไรจากการพนันเลย เหล่าทหารก็ปลื้มปีติเมื่อมองเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฏออกมาจากม่านควันที่ปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ ในวันนั้นทั้งวันเพื่อนทหารของพวกเขาได้ทำการฝ่าเข้าไปในกลุ่มควันมรณะนั้น เพื่อนำกระสุนและขวัญกำลังใจกลับมาให้     การเดินทางไปมา 51 รอบเพียงลำพัง ผ่านทุ่งนาไร้ผู้คน ผ่านเขาชัน ต่อสู้กับธรรมชาติจนคอและขาล้าเต็มทีก็เพื่อนำกระสุนมาส่งให้แก่หน่วยรบ โดยทหารในกองทัพรู้ดีถึงวีรกรรมกล้าหาญของทหารที่ีไม่ธรรมดาผู้นี้ เพราะว่าเธอคนนั้นไม่ใช่มนุษย์แต่เป็น “ม้า” ม้าตัวนี้ชื่อ “Reckless” ตลอดชีวิตในสมครามของมัน มันได้ขนของไปมาบนเขา และอพยพผู้บาดเจ็บลงเขาไปรักษา มันโดนกระสุนเข้าสองนัด และมีครั้งหนึ่งที่มันสวมชุดป้องกันและได้เข้าไปปกป้องทหาร 4 นายจากสะเก็ดระเบิด “ม้าเป็นสัตว์นักสู้ แต่ Reckless วิ่งฝ่าอันตรายไปอย่างนั้น เพราะมันรู้ว่ามีคนต้องการมันอยู่” Robin Hutton นักเขียน Sgt. Reckless: America’s War Horse กล่าว     แม้ว่ามันจะเป็นม้าชั้นยอดแต่มันก็ไม่ได้เกิดมาเป็นสัตว์ขนสัมภาระ แรกเริ่มมันเกิดในสนามม้ากรุงโซล ประเทศเกาหลี มีขนสีน้ำตาล ซึ่งมันเคยมีชื่อว่า “Ah Chim Hai” ที่แปลว่า “เปลวเพลิงแห่งรุ่งอรุณดิ์”…

  • 15 ประเทศที่มีมหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์มากที่สุดในโลก รวยจริงอะไรจริง

    15 ประเทศที่มีมหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์มากที่สุดในโลก รวยจริงอะไรจริง

    เราทุกก็ต่างรู้กันอยู่แล้วว่าในแต่ละประเทศนั้น มักจะมีคนหลากหลายชนชั้นตั้งแต่คนจนไปถึงคนที่รวยมากๆ แต่ว่าระดับของคนที่รวยที่ว่านั้นส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้อยู่ระดับร้อยล้านเท่านั้น ในทางกลับกันเหล่าเศรษฐีที่มีรายได้มากกว่า 1 พันล้านนั้นถือว่ามีน้อยมากๆ ด้วยเหตุนี้ทางสื่อนอก TheRichest จึงทำการจัดอันดับประเทศที่มีเหล่าอภิมหาเศรษฐีระดับพันล้านมาให้ดูกัน ว่าประเทศไหนจะมีประชากรดังกล่าวเยอะมากที่สุด!! (วัดจำนวนเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ หรือคนที่มีสินทรัพย์มากกว่า 32,000 ล้านบาท)   15. ประเทศเกาหลีใต้ มีเศรษฐีพันล้าน 31 คน เหตุผลที่ทำให้ประเทศนี้มีเศรษฐีระดับพันล้านมากถึง 31 คนนั้นนั่นก็เพราะ เกาหลีใต้มีบริษัทที่มีชื่อเสียงอยู่เยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็น Samsung, Hyundai, LG หรือ KIA Motors   14. ประเทศสิงคโปร์ มีเศรษฐีพันล้าน 32 คน หลายคนอาจจะงงว่าประเทศเกาะเล็กๆ แบบนี้ทำไมถึงยังมีเศรษฐีพันล้านเยอะขนาดนั้น ซึ่งคำตอบนั้นก็ไม่ยากเลย เพราะสิงคโปร์เป็นเมืองท่าที่มีชื่อเสียงและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ทำให้การซื้อขายที่นี่จึงถือเป็นตลาดใหญ่ ไหนจะถูกจัดเป็นตลาดคาสิโนอันดับสองของโลกอีก นี่ยังไม่รวมเรื่องที่เป็นจุดพักนักท่องเที่ยวและอื่นๆ อีกนะ   13. ประเทศตุรกี มีเศรษฐีพันล้าน 34 คน ตุรกีนั้นถือเป็นประเทศที่มีกำลังผลิตสินค้าชั้นดีอย่าง น้ำมัน เหล็กและผ้า นอกจากนั้นยังเป็นประเทศจุดหมายปลายทางที่นิยมมากของนักท่อง ซึ่งมันส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายจึงลงทุนและหารายได้จากตรงนั้นจนผันตัวเป็นมหาเศรษฐีนั่นเอง   12. ประเทศแคนาดา มีเศรษฐีพันล้าน 35 คน…

  • นักวิทย์ญี่ปุ่นประดิษฐ์ AI ที่อ่านใจคุณได้ ไม่ว่าคุณคิดอะไรในหัว มันก็จะถ่ายทอดออกมาเป็นภาพ

    นักวิทย์ญี่ปุ่นประดิษฐ์ AI ที่อ่านใจคุณได้ ไม่ว่าคุณคิดอะไรในหัว มันก็จะถ่ายทอดออกมาเป็นภาพ

    ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีถือว่าก้าวหน้ากว่าเดิมมากๆ เมื่อเทียบกับสมัยก่อน และยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกเรื่อยๆ และตอนนี้หากคุณคิดว่า AI ในเกมที่ตบคุณตายได้ง่ายๆ นั้นไม่เจ๋งพอ ตอนนี้มี AI ที่เจ๋งกว่านั้นออกมาแล้ว มันคือ AI ที่สามารถอ่านใจของคุณได้! นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นนั้นได้สร้าง Artificial Intelligence หรือ AI ที่สามารถอ่านคลื่นสมองของคนและก็แสดงมันออกมาเป็นรูปภาพที่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขามองอยู่ในขณะนั้น เช่น ถ้าคนมองไปที่ตัวอักษร A เจ้า AI เนี่ยก็จะพยายามจะสร้างรูปที่คล้ายๆ ตัว A ออกมา แม้ว่ามันก็ยังเบลอๆ ไม่สมบูรณ์ดีนัก แต่ว่าก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการอ่านความคิดของคนได้ในระดับหนึ่งล่ะนะ     กว่า 10 สัปดาห์ในการทดสอบ นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงผลของการทดสอบเกี่ยวกับการบันทึกคลื่นสมองโดยแบ่งเป็น 2 แบบคือ แบบแรกคือในขณะที่พวกเขามองไปที่รูปภาพ และอีกแบบคือขณะที่เขานึกถึงภาพที่มองไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนักวิจัยนั้นใช้การสแกนคลื่นสมองเพื่อพัฒนาระบบ Deep Learning Network เพื่อให้มันสามารถแปลรหัสและแสดงเกี่ยวกับสิ่งที่คนนึกถึงตอนนั้นๆ     แต่ด้วยข้อเท็จจริงแล้ว เจ้า AI นี่มันไม่ได้อ่านใจเราจริงๆ หรอก เพียงแต่ว่ามันนั้นสามารถอ่านคลื่นสมองของเราและสามารถแปลความหมายของมันได้ เช่นถึงแม้คุณจะคิดถึงรูปตัวอักษร…

  • 11 พิธีกรรมการ ‘พรากชีวิตคน’ เมื่อบุคคลเหล่านั้นไม่ได้มองเห็นคนข้างๆ เป็นมนุษย์เหมือนกัน…

    11 พิธีกรรมการ ‘พรากชีวิตคน’ เมื่อบุคคลเหล่านั้นไม่ได้มองเห็นคนข้างๆ เป็นมนุษย์เหมือนกัน…

    การนำสัตว์หรือมนุษย์ไปใช้เป็นเครื่องบูชายัญเป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้จากประวัติศาสตร์เก่าแก่ ซึ่งในปัจจุบันวิธีการทำนองนี้ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่เราสามารถยอมรับได้ ด้วยความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ที่ช่วยแก้ปัญหาหลายๆ อย่างได้ บวกกับความโหดร้ายป่าเถื่อน พิธีกรรมเหล่านั้นจึงเริ่มหายสาบสูญไปจนหมด วันนี้เราจะชวนให้ทุกคนลองย้อนกลับไปดูว่า ในสมัยอดีตกาลเคยมีพิธีกรรมหรือวิธีการฆ่ามนุษย์แบบไหนบ้าง และมันเลวร้ายมากขนาดไหน ว่าแล้วก็ลองไปอ่านเรื่องราวทั้งหมดนั้นกันเลย   1. จากคำบอกเล่าของนักคิดชาวโรมันในสมัยก่อนที่ชื่อ Strabo เขาบอกว่าชาวเซลติกโบราณที่อาศัยอยู่บนเกาะอังกฤษ ใช้วิธีการจับสัตว์และมนุษย์มาผูกไว้กับหุ่นฟางแล้วเผาทั้งเป็น โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องบรรณาการบูชาพระเจ้า ซึ่งนักโบราณคดีในปัจจุบันยังไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ เพราะมันอาจเป็นการเป่าหูทำให้ชาวเซลติกกลายเป็นคนเถื่อนเท่านั้นเอง   2. ชาวโรมันสมัยก่อนได้คิดวิธีการลงโทษผู้คนอย่างโหดร้ายและพยายามทำให้มันเหมือนเป็นเรื่องตลก โดยจะจำลองให้คนเหล่านั้นตายเหมือนเทพที่อยู่ในตำนานปรัมปรา อย่างการเผาทั้งเป็นให้เหมือนกับ Hercules บางคนถูกล่ามโซ่แล้วฉีกเอาอวัยวะภายในออกมาเหมือนอย่างที่เทพ Prometheus ต้องเจอ ผู้หญิงบางคนถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับกระทิง เหมือนอย่างเทพผู้เป็นมารดาของกระทิงทั้งปวง Pasiphae ซึ่งหากผู้หญิงคนนั้นสามารถรอดชีวิตมาได้ เธอก็จะถูกฆ่าอยู่ดี   3. ชาวกรีกโบราณมีเครื่องประหารชนิดหนึ่งชื่อว่า The Brazen Bull ทำจากทองแดงและมีลักษณะรูปร่างเหมือนกระทิง วิธีการใช้งานก็คือให้คนโดนลงโทษเข้าไปอยู่ข้างใน แล้วจึงจุดไฟเผาจากด้านนอกจนถึงแก่ความตาย ระหว่างนั้นเสียงที่ร้องโหยหวนออกมาจะเหมือนกับเสียงร้องไห้ของกระทิง   4. ในประเทศญี่ปุ่นจะมีความเชื่อที่เรียกว่า Hitobashira โดยจะฝังคนเป็นๆ ลงไปข้างใต้พื้นหรือในกำแพงของสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นสำเร็จลงได้ด้วยดี ซึ่งคนที่ถูกฝังส่วนใหญ่จะเป็นอาสาสมัคร อย่างเช่นเหล่าซามูไรที่ต้องการใช้จิตวิญญาณ อยู่เฝ้ารักษาปราสาทหรือวัดต่างๆ   5. ในหลายๆ…

  • แทบร้อง… ลูกสาวใช้เงินแม่ เปย์ให้ไอดอลหนุ่มกว่า 3 ล้านบาท อยากได้เงินคืนก็คงไม่ทันแล้ว

    แทบร้อง… ลูกสาวใช้เงินแม่ เปย์ให้ไอดอลหนุ่มกว่า 3 ล้านบาท อยากได้เงินคืนก็คงไม่ทันแล้ว

    การเปย์ไอดอลที่เราชอบนั้น ถือว่าเป็นการสนับสนุนไอดอลช่องทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเปย์ หรือจะเปย์แบบขำๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าเงินที่เปย์ไปนั้นเป็นเงินที่เราหามาเอง แต่เรื่องนี้ถือว่าตลกไม่ออก เมื่อแม่คนหนึ่งมาพบว่าลูกสาวตัวเองนั้นเปย์ไอดอลชายไปกว่า 3 ล้านบาทด้วยเงินจากบัญชีของแม่เธอ เรื่องมันมีอยู่ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจากกรุงปักกิ่งที่รู้แค่ว่าชื่อ Liu นั้นต้องการให้ แอปพลิเคชันไลฟ์สตรีมยอดนิยมนั้นคืนเงินประมาณ 3.3 ล้านบาทที่ลูกสาวของเธอนั้นจ่ายเงินซื้อของในแอปฯ เพื่อเปย์ไอดอลที่เธอชอบ โดยที่เธอนั้นได้แพ้คดีในเดือนกันยายน 2017 ที่ผ่าน แต่เธอก็ได้ยื่นอุธรณ์ต่อศาลลำดับกลางภาค 3 ในกรุงปักกิ่ง     Liu ได้บอกว่า Xiao Ya ลูกสาววัย 16 ปี ของเธอ ใช้ค่าเทอมและบัญชีธนาคารของเธอ ขณะที่เรียนอยู่ในแคนาดา เพื่อซื้อของขวัญให้กับไอดอลในแอปพลิเคชัน Inke แอปไลฟ์สตรีมที่ทำโดย Beijing MeeLive Network Technology โดยของขวัญที่ถูกที่สุดในแอปอย่างดอกไม้นั้นราคา 0.5 บาท และของที่แพงที่สุดก็คือเกาะสวรรค์ซึ่งราคาสูงถึง 16,750 บาท Liu กล่าว “ฉันช็อกไปเลยเมื่อรู้ว่าลูกสาวนั้นจ่ายเงินออนไลน์เป็นล้านๆ แต่ว่าลูกสาวฉันดันพูดว่า “แล้วไงล่ะ? ใครๆ เขาก็ทำกัน ไม่เว้นแม้แต่พ่อของเพื่อนร่วมชั้นหนูเลย” Liu ยังบอกอีกว่าลูกสาวของเธอเป็นพวกเก็บตัวและก็มีปัญหาเรื่องการปรับตัวในแคนาดา Liu ตัดสินใจฟ้อง Beijing…

  • วิกฤตเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา ส่งผลทำให้ประชาชนอดอยาก ถึงขั้นต้องแย่งและรุมทำร้ายวัวตัวเดียว…

    วิกฤตเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา ส่งผลทำให้ประชาชนอดอยาก ถึงขั้นต้องแย่งและรุมทำร้ายวัวตัวเดียว…

    ปัจจุบันชาวเวเนซูเอลากำลังประสบปัญหาความยากจนและความอดอยาก อาหารมีไม่เพียงพอให้สำหรับทุกคนในประเทศ จนทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านหรือการแย่งชิงอาหาร ซึ่งเราสามารถเห็นตัวอย่างสิ่งที่เกิดได้จากคลิปวิดีโอนี้ นี่เป็นคลิปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเขต Palmarito เมืองเมอริดา ประเทศเวเนซูเอลา ถูกเผยแพร่โดยสำนักข่าว Daily Mail เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2018 เผยให้เห็นภาพของชาวบ้านจำนวนมาก จับกลุ่มกันไล่ฆ่าวัวเพียงตัวเดียว   ชาวบ้านจำนวนมาก ไล่ฆ่าวัวเพียงแค่ตัวเดียว .   ภายในคลิปเราจะเห็นชาวบ้านชายถือมีดหรือท่อนไม้วิ่งไล่เจ้าวัวตัวหนึ่ง บางคนก็ปาหินใส่เพื่อให้วัวตัวนั้นล้มลง และพอมันทรุดลงไป พวกเขาก็กรูกันเข้าไปแย่งชิงเนื้อของเจ้าวัวตัวนั้น     ในพื้นที่เดียวกันนี้มีวัวถูกฆ่าในลักษณะเดียวกันไปกว่า 300 ตัว   ภาพที่เห็นสร้างความสะเทือนใจให้กับคนบางส่วน และสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความขาดแคลนอาหาร ซึ่งเกิดขึ้นไปทั่วประเทศ แม้แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเมือง Caracas ที่เป็นเมืองหลวง ไม่มีอาหารหรือของกินให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ชั้นวางต่างๆ เต็มไปด้วยความว่างเปล่า   ชั้นวางอาหารที่ว่างเปล่า .   เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ Carlos Paparoni ฝ่ายค้านจากสภาคองเกรสออกมาบอกว่า เหตุที่ทำให้ชาวเวเนซูเอลาต้องออกมาทำอะไรแบบนี้เป็นเพราะนโยบายที่ยังคงมีการโต้เถียงและทำให้เกิดความขาดแคลน จากแนวคิดของประธานาธิบดี Nicolas Maduro เจ้าของระบอบสังคมนิยมเผด็จการ  …

  • ศิลปินสร้างร้านขายแผ่นเสียงขนาดจิ๋ว บอกเลยว่าดีเทลละเอียดยิบ ซูมดูแล้วจะเห็นว่ามันดีงาม!!

    ศิลปินสร้างร้านขายแผ่นเสียงขนาดจิ๋ว บอกเลยว่าดีเทลละเอียดยิบ ซูมดูแล้วจะเห็นว่ามันดีงาม!!

    ในการแสดงผลงานครั้งล่าสุดที่ศูนย์งานศิลปะ Palo Alto รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ทำให้คนทั่วไปได้เปิดหูเปิดตาไปกับความสวยงามของสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์มาโดยฝีมือของศิลปินผู้มีฝีมือ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีผลงานหนึ่งที่กลายเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน ผลงานที่ว่านั้นก็คือ ร้านขายแผ่นเสียงขนาดจิ๋ว จากฝีมือของศิลปินชาวออสเตรเลียที่ชื่อว่า Joshua Smith ผู้หลงใหลในการทำสถาปัตยกรรมย่อส่วน   ร้านขายแผ่นเสียงขนาดจิ๋วที่ดูสมจริง   สถาปัตยกรรมจิ๋วที่เขาสร้างขึ้นมาในครั้งนี้มีต้นแบบมาจากร้านขายแผ่นเสียงที่ชื่อว่า Discolandia ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นร้านในตำนานแห่งความทรงจำของเขต Mission District   เอกลักษณ์ของร้านนี้คือการตกแต่งอาคารด้วยสีส้ม .   ดนตรีแนวละตินกับรูปแบบการฟังเพลงแนวย้อนยุค คือเสน่ห์ประจำร้านที่ทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมาต่างหลงใหลไปกับเสียงดนตรี โดยร้านนี้เปิดอยู่นานกว่า 30 ปี ก่อนที่จะปิดตัวลงไปในปี 2011 Joshua นำร้านต้นแบบมาทำใหม่ให้กลายเป็นผลงานขนาดจิ๋วที่ช่วยเติมเต็มความทรงจำของทุกคน ซึ่งภาพของร้านที่เราเห็นนี้คือสภาพในปัจจุบัน มีความสมจริง เก็บรายละเอียดในทุกๆ จุด   รายละเอียดต่างๆ ถูกทำออกมาอย่างแนบเนียน แม้แต่พื้นผิวของสิ่งก่อสร้างยังเหมือน   ป้ายที่ถูกติดไว้เต็มหน้าต่างกระจกก็ถูกเลียนแบบมาเหมือนของจริง   ป้ายร้านที่ถูกซ่อมแซมบนหลังคา .   ให้อารมณ์สมจริง เหมือนกับเรายืนอยู่หน้าร้านยังไงยังงั้น   อีกหนึ่งผลงานที่ทำขึ้นมาพร้อมๆ กับร้านขายแผ่นเสียงจิ๋ว…

  • ลุงชาวไร่ล้มกระดูกต้นคอหักท่ามกลางหิมะ ได้น้องหมานอนทับกว่า 24 ชม. พร้อมหอนเรียกคนมาช่วย

    ลุงชาวไร่ล้มกระดูกต้นคอหักท่ามกลางหิมะ ได้น้องหมานอนทับกว่า 24 ชม. พร้อมหอนเรียกคนมาช่วย

    มีคำกล่าวว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ คำพูดเหล่านี้อาจจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยสำหรับสุนัขตัวนี้ ชายชาวมิชิแกนคนหนึ่งผู้รู้จักกันในชื่อเพียงแค่ว่า Bob อยู่เพียงลำพังในบ้านไร่ของเขาในคืนก่อนวันปีใหม่ 2018 เขาต้องการไปเก็บฟืนมาก่อไฟจึงเดินทางเข้าไปยังป่าใกล้ๆ โดยสวมเพียงกางเกงยีนส์ยาว เสื้อ และรองเท้าแตะ แม้ว่าวันนั้นอุณหภูมิจะติดลบประมาณ 4 องศาเซลเซียสก็ตาม ในตอนนั้นเองที่เขาลื่นล้มและกระดูกคอหัก “ผมได้ร้องขอความช่วยเหลือแต่ว่าเพื่อนบ้านที่ใกล้ที่สุดในตอนนั้นก็ห่างออกไปกว่า 400 เมตรแถมตอนนั้นยังเป็นเวลา สี่ทุ่มครึ่งอีก ถึงอย่างนั้น Kelsey ก็มาหาผม” Bob เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Kelsey ที่ Bob พูดถึงนั้นเป็นสุนัข Golden Retriever อายุ 5 ขวบนั่นเอง มันวิ่งเข้ามาหา Bob และให้ความอบอุ่นแก่เข้าโดยนอนทับลงบนร่างของเขาและคอยป้องกันไม่ให้เขาหลับไปตลอดกาลโดยการเลียที่แขนและใบหน้าของเขา     เขาเล่าว่า “Kelsey คอยเห่าเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่ยอมทิ้งผม มันให้ความอบอุ่นและปลุกไม่ให้ผมหลับ ผมรู้ว่าผมต้องอดทนผ่านมันไปให้ได้ถ้าหากผมไม่อยากตาย” “เมื่อถึงตอนเช้าผมก็ไม่มีเสียงเหลือแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น Kelsey ก็ยังคงเห่าต่อไปไม่หยุด มันทั้งเห่าทั้งหอนจนเพื่อนบ้านได้ยิน และมาพบผมตอนหกโมงครึ่งในเช้าวันปีใหม่” Bob ผู้รอดมาจากเหตุการณ์เฉียดตายกล่าว ตอนที่ Bob ไปถึงโรงพยาบาลอุณหภูมิร่างกายของเขาเหลืออยู่เพียง 21 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิร่างกายปกติอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส) ซึ่งมนุษย์จะมีสภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำในกรณีที่อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส    …

  • หมาหายออกไปจากบ้าน พอกลับบ้านมา มี “กระดาษโน้ต” เล่าวีรกรรมของมันมาด้วย!?

    หมาหายออกไปจากบ้าน พอกลับบ้านมา มี “กระดาษโน้ต” เล่าวีรกรรมของมันมาด้วย!?

    แม้ว่าการทำความดีอาจไม่มีใครเห็น แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกสบายใจและมีความสุข เหมือนอย่างเจ้าหมาตัวนี้ที่ได้ทำเรื่องดีๆ เอาไว้โดยที่คนใกล้ตัวของมันไม่รู้เลยว่า สิ่งที่มันทำคือการช่วยชีวิตน้อยๆ ชีวิตหนึ่งเลยทีเดียว นี่คือเรื่องราวของเจ้าหมาที่มีชื่อว่า Louie ที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของ Marolyn Diver ในประเทศนิวซีแลนด์ ท่ามกลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่และธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้เจ้าหมาชอบวิ่งออกไปเที่ยวเล่นอยู่บ่อยครั้ง   เจ้าหมาหนุ่ม Louie   แต่พอเวลาผ่านไป มันเริ่มแก่ตัวลงเรื่อยๆ ทำให้ตอนนี้มันมีอายุถึง 12 ปี สุขภาพไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน ประสาทสัมผัสของเจ้าหมาก็ลดลง ทำให้ครอบครัวที่คอยดูแลมันรู้สึกเป็นห่วงและพยายามให้เจ้าหมาวิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆ บ้านก็พอ จนกระทั่งในวันหนึ่ง Marolyn เข้าไปทำธุระในเมืองแต่พอกลับมาเจ้าหมากลับหายไปไหนก็ไม่รู้ ซึ่งแม่ของเธอไม่คิดว่ามันจะหายไปแบบนี้ เพราะคิดว่ามันเลิกซนเหมือนแต่ก่อนแล้วซะอีก ทั้งสองคนกลัวว่ามันจะจำทางกลับบ้านไม่ได้ เวลาล่วงเลยผ่านพ้นช่วงกลางวันไป ในที่สุดเจ้าหมาก็กลับมา ทำให้ทุกคนรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่พวกเขาจะได้ค้นพบเหตุผลว่าทำไมมันถึงหายไปนานแบบนี้     พวกเธอเห็นว่ามีกระดาษลังแผ่นเล็งๆ ผูกอยู่ตรงปลอกคอของเจ้าหมา โดยมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า “Louie คือสุดยอดฮีโร่ประจำวันนี้เลย มันพาผมไปเจอกับ Maddy ที่นอนขอความช่วยเหลืออยู่ใต้กองกิ่งไม้ เยี่ยมไปเลย, Rob” คนในจดหมายที่ชื่อว่า Rob คือชาวสวนที่อยู่ห่างออกไปประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร โดยเขาเลี้ยงหมาตัวหนึ่งชื่อว่า…

  • หนูน้อยได้พบกับหมาที่โดนขโมยไปอีกครั้ง หลังจากเขียนจดหมายขอลุงซานต้าในช่วงคริสต์มาส

    หนูน้อยได้พบกับหมาที่โดนขโมยไปอีกครั้ง หลังจากเขียนจดหมายขอลุงซานต้าในช่วงคริสต์มาส

    ใครว่าซานตาคลอสไม่มีอยู่จริง ในเมื่อเด็กน้อยที่ชื่อ Edward Latter ได้เขียนจดหมายไปหาซานตาคลอส ขอร้องให้สุนัขที่ถูกขโมยไปของเขากลับมา แล้วซานตาคลอสก็พาสุนัขของเขากลับมาจริงๆ     เด็กน้อยวัยสามขวบ Edward Latter คิดว่า Morse ลูกสุนัขอายุ 10 เดือนของเขาถูกขโมยไปโดยใครสักคน หลังจากที่เจ้าสุนัขตัวน้อยหายออกไปจากบ้านในช่วงเดือนธันวาคมในปี 2017 ที่ผ่านมา เด็กน้อยที่กำลังเสียใจได้ตัดสินใจเขียนจดหมายไปหาซานตาคลอสเพื่อขอร้องให้เขาพาเจ้า Morse กลับมาให้   จดหมายของ Edward “ถึงซานตาคลอส ผมอยากได้ของขวัญเพียงแค่หนึ่งชิ้นเท่านั้นสำหรับวันคริสต์มาสปีนี้ ผมขอ Morse สุนัขของผมคืน ผมเป็นเด็กดีมาตลอดทั้งปีเลยนะครับ”   น่าแปลกที่จดหมายฉบับนี้ส่งไปถึงมือของพิธีกรคนดังอย่าง Simon Cowell เจ้าของรายการ X Factor ซึ่งหลังจากเห็นจดหมายของเด็กน้อยแล้ว เขาก็ได้ตั้งเงินรางวัลสำหรับคนที่หาเจอ Morse พบเป็นเงิน 10,000 ปอนด์ หรือประมาณ 440,000 บาท     หลังจากนั้นไม่นานก็มีครอบครัวติดต่อมาให้ข้อมูลว่าพบสุนัขที่น่าจะเป็นเจ้า Morse โดยคนที่พบคือ Michelle Holt คุณแม่ลูกสองซึ่งอาศัยอยู่ห่างออกจากบ้านของน้อง Edward ประมาณ 32 กิโลเมตรใน Marden รัฐ Kent ประเทศอังกฤษ เธอได้โทรไปยังบ้านของ Edward เพื่อรายงานเรื่องสุนัข เธอกล่าวว่า เธอพบเจ้าหมาเดินเร่ร่อนอยู่จึงพามันออกมาจากถนนเพราะกลัวมันโดนรถชน เธอคิดว่ามันคงเร่ร่อนมานานพอสมควรเพราะมันเปียกไปทั้งตัวและเปื้อนไปด้วยโคลน เธอพามันไปล้างตัว ตรวจดูว่ามันบาดเจ็บไหมและรับดูแลมันชั่วคราว เธอยังบอกด้วยว่าเธอไม่ได้รู้ถึงเรื่องเงินรางวัลเลย     แน่นอนว่าหลังจากที่ได้รับข้อมูลของสุนัขที่พวกเขาคิดว่าตายไปแล้ว Amanda…

  • เผยคำอำลาสุดซึ้งจาก Daniel Radcliffe เขียนถึง “ศาสตราจารย์สเนป” ในวันครบรอบ 2 ปีที่เขาเสียชีวิต

    เผยคำอำลาสุดซึ้งจาก Daniel Radcliffe เขียนถึง “ศาสตราจารย์สเนป” ในวันครบรอบ 2 ปีที่เขาเสียชีวิต

    หากใครเป็นแฟนคลับภาพยนตร์แนวแฟนตาซีที่มีพ่อมดแม่มดอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เชื่อว่าคุณจะต้องเคยดูหนังเรื่อง Harry Potter มาแล้วอย่างแน่นอน โดยในหนังเรื่องนี้ไม่ได้โดดเด่นแค่พระเอก นางเอกเพียงอย่างเดียว แต่ทุกตัวละครล้วนมีเรื่องราวให้น่าจดจำอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น ศาสตราจารย์เซเวอร์รัส สเนป ตัวละครมาดเข้มหน้าตาเคร่งขรึมคนนี้ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน แต่แล้วหลังจากที่ซีรีส์หนังโรงเรียนเวทมนตร์จบไป ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าขึ้น เมื่อ Alan Rickman ผู้รับบทเป็นศาสตราจารย์สเนป ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 14 มกราคม 2016   Alan ผู้รับบทเป็นอาจารย์ในโรงเรียนเวทมนตร์   Alan จากโลกนี้ไปในวัย 69 ปีด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายที่แทบไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่าเขาป่วยเป็นโรคนี้มานานหลายเดือน คนที่รู้มีเพียงแค่เพื่อนสนิทและคนในครอบครัวเพียงไม่กี่คน การจากไปอย่างน่าเศร้าของนักแสดงผู้มากความสามารถคนนี้ ทำให้หลายๆ คนต้องหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อรู้ข่าว โดยเฉพาะกับนักแสดงดังที่เคยร่วมงานกับเขา Daniel Radcliffe ผู้เคยรับบทเป็น Harry Potter Daniel โพสต์คำอำลาอันแสนเศร้าลงไปใน Google+ ว่า “Alan Rickman คือหนึ่งในนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดที่ฉันเคยร่วมงานด้วย เขาเป็นคนคนนึงที่มีความซื่อสัตย์และช่วยสนับสนุนคนอื่นได้ดีที่สุดในวงการภาพยนตร์เลยจริงๆ เขาช่วยให้กำลังใจผมอยู่เสมอ ทั้งในตอนที่แสดงเป็น Harry และหลังจากนั้น”     นักแสดงหนุ่มยังบอกอีกว่า Alan…

  • วิถีชีวิตคนในหมู่บ้านรัสเซีย หนาวเหน็บจนเทอร์โมมิเตอร์แตก อุณหภูมิทะลุ -62 องศา!!

    วิถีชีวิตคนในหมู่บ้านรัสเซีย หนาวเหน็บจนเทอร์โมมิเตอร์แตก อุณหภูมิทะลุ -62 องศา!!

    ถ้าพูดถึงสภาพอากาศในประเทศไทยในตอนนี้นั้น เรียกว่ากำลังอยู่ในช่วงดีพอดีๆ เลยทีเดียว 18 ถึง 25 องศาไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปกำลังสบายๆ แต่สำหรับหลายคนอากาศเท่านี้ก็ยังรู้สึกว่ามันยังร้อน ต้องการอากาศที่หนาวกว่านี้!! ฉะนั้นสำหรับใครที่ยังรู้สึกหนาวไม่พอ แล้วอยากสัมผัสความหนาวเย็นแบบสุดขั้วแล้วละก็ ขอเชิญพบกับหมู่บ้าน Oymyakon ในรัสเซีย หมู่บ้านที่หนาวเหน็บที่สุดในโลก เย็นจนคิดว่านั่งอยู่ในตู้แช่แข็งเลยทีเดียว!!     รูปปั้นแมมมอธยังหนาวจนน้ำแข็งเกาะ   เกริ่นมาขนาดนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า ‘เหมียวมู่ทู่แม่มขี้โม้ มันจะหนาวอะไรขนาดนั้น สู้ขั้วโลกไม่ได้หรอก’ ถ้าคุณกำลังคิดแบบนั้นมันก็ไม่ผิดซะทีเดียว เพราะแอนตาร์กติกายังคงเป็นสถานที่หนาวที่สุดในโลก แต่หมู่บ้านแห่งนี้ก็เป็นหมู่บ้านที่หนาวที่สุดในโลกเช่นกันนะเออ… เพราะว่าอากาศที่นี่มันหนาวขนาด -62 องศาเลยทีเดียวในปีนี้ แม้ว่าสถิติที่ทางทีมงาน Pole of Cold ซึ่งเป็นสถานีสภาพอากาศจะยืนยันว่ามันไม่ถึง แต่ตัวเทอร์มอมิเตอร์ที่มาติดไว้เมื่อปี 2017 มันกลับบอกตามที่ชาวบ้านบอกจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่าจริงๆ แล้วมันหนาวถึง -67 องศาเลยนะ     แน่นอนว่าหลายคนก็อาจจะยังคาใจและรู้สึกว่า ‘มันไม่หนาวแบบนี้ทั้งปีหรอกเชื่อสิ’ คำพูดดึงกล่าวนั้นมันก็ไม่ผิดซะทีเดียวเพราะที่นี่ก็ไม่ได้จะหนาว -62 องศากันทุกวัน เพียงแต่ว่าอากาศปกติของที่นี่มันดันเป็นราวๆ -30 เนี่ยสิ และเมื่ออากาศมันหนาวเย็นตลอดทั้งปี สภาพความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านนั้นก็จะลำบากนิดหน่อย แต่พวกเขาก็สามารถปรับตัวเพื่อเข้ากับมันได้…

  • “โซระ อาโออิ” ถูกสื่อกล่าวถึงว่าเป็น “ครู” ผู้สอนทางด้านเพศศึกษา ให้ทั้งชายไทยและชายชาวเอเชีย!?

    “โซระ อาโออิ” ถูกสื่อกล่าวถึงว่าเป็น “ครู” ผู้สอนทางด้านเพศศึกษา ให้ทั้งชายไทยและชายชาวเอเชีย!?

    หากย้อนไปในหลายปีก่อน พวกหนุ่มๆ อาจจะคุ้นเคยกับชื่อของ Sora Aoi กันเป็นอย่างดี เพราะเธอถือเป็นหนึ่งในนักแสดงหนังสำหรับผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังกลางมากในช่วงนั้น และถึงแม้ว่าปัจจุบันเธอจะประกาศลาวงการและได้หมั้นกับดีเจหนุ่มจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง DJ Non เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มีความนิยมในตัวของดาราสาวผู้นี้ก็ยังคงมีอยู่ไม่เสื่อมคลาย เมื่อไม่นานมานี้สื่อต่างประเทศได้รายงานว่ามีหนุ่มๆ ชาวเอเชียอีกหลายคนที่ยังคงสนับสนุนเธออยู่ พร้อมกับยกให้เธอเป็นเหมือนกับครูสอนเพศศึกษาคนแรกของพวกเขา     นักแสดงสาววัย 34 ปีเริ่มต้นอาชีพของเธอในวงการหนังผู้ใหญ่เมื่อประมาณยุค 2000 มีการคาดการณ์ว่าเธอแสดงหนังเอวีมาแล้วมากกว่า 90 เรื่อง และมีผลงานออกใหม่ทุกเดือนในช่วงปี 2003-2005 การเติบโตของของวงการหนังผู้ใหญ่นั้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการพัฒนาของระบบอินเตอร์เน็ต และมันทำให้ความนิยมของ Sora Aoi เพิ่มขึ้นตามไปด้วย     นาย Liu Qiang (นามสมมุติ) หนุ่มชาวจีนวัย 27 ปีได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “สำหรับหนุ่มชาวจีนหลายๆ คนที่ไม่ได้รับการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเพศที่เหมาะสม Sora เปรียบเหมือนกับคุณครูของพวกเรา” ทางด้านศาสตราจารย์ Wai-Ming Ng นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง ก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับความนิยมของเธอเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในประเทศจีนอีกด้วย โดยเขาบอกว่า “Sora Aoi นั้นเติบโตได้อย่างถูกเวลาในประเทศจีน ในตอนที่เธอได้รับความนิยมนั้นเป็นตอนที่ประเทศจีนกำลังเปิดรับสิ่งต่างๆ จากโลกภายนอก รวมถึงเรื่องเพศด้วย”  …

  • ค้นพบ “เครื่องดนตรีโบราณ” ที่มีอายุมานานราวๆ 1,700 ปี แถมยังเล่นได้เหมือนเดิมด้วย…

    ค้นพบ “เครื่องดนตรีโบราณ” ที่มีอายุมานานราวๆ 1,700 ปี แถมยังเล่นได้เหมือนเดิมด้วย…

    Jew’s Harp คือสิ่งที่อาจจะไม่ได้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย แต่มันคือหนึ่งในเครื่องดนตรีที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคโบราณนานมากแล้ว เพียงแต่ว่าในหลายๆ พื้นที่ไม่ได้นำมันออกมาเล่นโชว์ในการแสดงซักเท่าไหร่ ซึ่งเครื่องดนตรีดังกล่าวจะใช้ปากในการควบคุมเสียงและใช้นิ้วในการดีดให้มีเสียงออกมา หลายๆ คนอาจกำลังสงสัยว่าเครื่องดนตรีดังกล่าวมันมีมานานแล้วหรอ? การค้นพบในครั้งนี้จะทำให้คุณเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2018 สำนักข่าว The Siberian Times รายงานว่านักโบราณคดีค้นพบ Jew’s Harp ชิ้นเก่าแก่ที่มีอายุมานานกว่า 1,700 ปี   เครื่องดนตรีเก่าแก่ที่นักโบราณคดีได้ไปเจอมา   การได้เจอกับวัตถุโบราณที่ว่ามานั้นเกิดขึ้นบนแถบเทือกเขาอัลไต บริเวณที่ชื่อว่า Chultukov Log 9 พวกเขาได้เจอกับนซากของเครื่องดนตรีชนิดนี้หักครึ่งอยู่ แต่การค้นพบเครื่องดนตรีในสภาพสมบูรณ์แบบนั้น เกิดขึ้นที่เขตบริเวณ Cheremshanka ซึ่งพวกเขาได้พบกับ Jew’s Harp ในสภาพสมบูรณ์ถึง 2 ชิ้นด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นยังสามารถเอามาเล่นให้เกิดเสียงได้ดังเดิมอีกด้วย     จากการตรวจสอบเชื่อว่าสิ่งที่ค้นพบในครั้งนี้มีอายุอยู่ในช่วง 1,580-1,740 ปีก่อนหน้า ยุคสมัยของชาว Huns-Sarmatian เครื่องดนตรีที่พบในสภาพสมบูรณ์ที่สุดมีความมยาว 11 เซนติเมตร และความกว้าง 8.6…

  • สุดยอดคุณครูผู้เสียสละ สอนหนังสือบนภูเขาอันห่างไกล ส่งเด็กๆ ถึงฝั่งฝันมาร่วม 40 ปี

    สุดยอดคุณครูผู้เสียสละ สอนหนังสือบนภูเขาอันห่างไกล ส่งเด็กๆ ถึงฝั่งฝันมาร่วม 40 ปี

    ผู้ที่ได้ชื่อว่า “ครู” นั้นจะเป็นผู้ที่นำความรู้และการศึกษามาให้กับเด็กๆ ที่เป็นลูกหลานของใครบ้างก็ไม่รู้ ดังนั้น ครูจึงเป็นเสมือนผู้ให้ ที่หารู้ไม่ว่าความรู้ที่คุณครูให้นั้นจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ก่อประโยชน์ให้คนๆ หนึ่งได้ตั้งแต่เด็กจนโต เรื่องราวที่จะนำเสนอต่อไปนี้คือเรื่องราวของผู้ที่ทำหน้าที่ครูผู้สอนถึงแม้ตนเองจะเลยอายุเกษียณแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมาสอนเด็กๆ ในโรงเรียนบนภูเขาอันแสนห่างไกล เพื่อให้เด็กๆ ที่นั่นได้รับการศึกษา มีความรู้ที่จะสามารถนำไปใช้เลี้ยงดูชีวิตตนเองได้ ชายผู้นี้ชื่อว่า Tan Zeguang ผู้ที่ทำการสอนที่โรงเรียนอนุบาลของหมู่บ้าน Gaoshan ในเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ซึ่งทำการสอนมาแล้วรวม 40 ปี โรงเรียนแห่งนี้อยู่อย่างจากเมืองทืี่ใกล้ที่สุดราว 5 กิโลเมตร     สำหรับ Tan Zeguang แล้ว นอกจากการสอน เขายังต้องดูแลชีวิตประจำวันของเด็กๆ ด้วย เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มีเด็กที่เขาเคยสอนกว่า 500 คน แต่ทุกวันนี้เด็กๆ มักเลือกที่จะเข้าไปเรียนในเมือง เขาจึงมีเด็กนักเรียนน้อยลง แต่ด้วยวัยที่เข้าสู่ช่วงเกษียณแล้ว การมีครูอีก 2 มาช่วยสอนนั้นถือเป็นช่วยแบ่งเบางานของเขาได้ดีทีเดียว   เขามองผู้ปกครองมารับลูกที่โรงเรียน   Tan Zeguang กวาดลานที่โรงเรียน   นี่คือภาพถ่ายอดีตนักเรียนของเขา   บางเวลาเขากับเด็กๆ…

  • Mark Walhberg บริจาคค่าตัว 48 ล้านบาท ตัดข้อครหาค่าตัวแพงเกินไป ทำให้ดูหล่อทันที!?

    Mark Walhberg บริจาคค่าตัว 48 ล้านบาท ตัดข้อครหาค่าตัวแพงเกินไป ทำให้ดูหล่อทันที!?

    หลังจากที่หนังเรื่อง The All The Money In The World ได้มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงหลักอย่าง Kevin Spacey ออกลางทางด้วยเหตุผลการล่วงระเมิดทางเพศ ทำให้หนังต้องหาคนมาแสดงแทนและต้องถ่ายซ่อมยกใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งกินเวลาถึง 10 วัน!! และแน่นอนว่าการถ่ายซ่อมนักแสดงคนอื่นๆ ก็จะต้องได้รับค่าเหนื่อยด้วย ซึ่งเรื่องค่าตัวถ่ายซ่อมนี่และที่ทำให้เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์กันหนาหูมากๆ เกี่ยวกับกรณีที่ Mark Walhberg ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องนั้นได้ทำมีข้อตกลงที่ทำให้ค่าตัวในการถ่ายซ่อมของเขาสูงถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว 48 ล้านบาท     กลับกันแล้วนักแสดงหลักอีกคนอย่าง Michelle Williams กลับได้เงินสำหรับถ่ายซ่อมเพียงแค่ 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยก็ราว 25,000 บาท เท่ากับว่าตกวันละแค่ 2,500 บาทเท่านั้น เรียกว่าต่างกับพี่ Mark คนละชั้นกันเลยทีเดียว     ส่วนสาเหตุที่พี่ Mark ได้เงินเยอะขนาดนั้นก็เพราะเจ้าสัญญาที่เขาได้ตกลงกับ Ridley Scott ซึ่งเป็นผู้กำกับว่า เขาจะยอมมาถ่ายซ่อมในฉากของ Kevin Spacey ที่ได้ Christopher Plummer ที่มารับบทแทน แต่ตัว Ridley จะต้องจ่ายเงินให้เขาเพิ่มพี่แกถึงจะยอมมาถ่ายซ่อม     จากนั้นเมื่อสัญญาเป็นอันตกลง และพี่…

  • เด็กสาวชาวอังกฤษวัย 4 ขวบ หายตัว 8 เดือน แต่พบปลอดภัยดีที่สเปน เพราะแม่สติไม่ดี!?

    เด็กสาวชาวอังกฤษวัย 4 ขวบ หายตัว 8 เดือน แต่พบปลอดภัยดีที่สเปน เพราะแม่สติไม่ดี!?

    ในทุกวันนี้จะมีเหตุการณ์ที่เด็กหายตัวไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะหายตัวไปเพราะถูกลักพาตัว หรือจะหายไปเอง ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และโอกาสที่จะตามตัวเจอนั้นไม่มีมากเท่าไหร่ สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงออกตามหาด้วยกำลังตัวเอง กับอีกด้านคือรอฟังข่าวจากด้านตำรวจเพียงเท่านั้น โดยข่าวที่จะนำมาพูดถึงวันนี้คือข่าวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่หายไปตัวไปจากประเทศอังกฤษ แต่โชคดีที่ยังตามไปเจอตัวเธอ แต่สถานที่พบกลับเป็นประเทศสเปน!!? หลายคนงงล่ะสิว่าเธอไปโผล่ที่นั่นได้ยังไง   เจ้าหนู Elliana Richards   คุณแม่ของน้อง Elliana   หนูน้อย Elliana Richards อายุ 4 ปี หายตัวไป 8 เดือน ก่อนที่จะได้พบตัวเธอ ที่ประเทศสเปน เธอนั้นยังปลอดภัยดี และเธอจะเดินทางกลับอังกฤษหลังจากนั้นไม่นาน ซึ่ง Elliana นั้นหายตัวจากบ้านที่ลอนดอน เธอหายไปพร้อมกับแม่ของเธอที่มีอาการทางจิตอยู่ Justice Hayden ผู้พิพากษาของศาลชั้นสูงนั้นได้กล่าวว่า “แม่ของเธอนั้นตกอยู่ในความเครียด และบางทีอาจไม่ได้กินยาระงับประสาท หรือบางทีอาจจะมีอาการหลอนทางโสตประสาท ทำให้เธอทำแบบนั้น แม้ว่าเธอจะรักลูกสาวเธอเพียงใด แต่แบบนั้นมันเสี่ยงต่อความปลอดภัยของลูกสาวเธอมากๆ”     ตำรวจประจำพื้นที่เป็นคนพบตัวเธอกับแม่ของเธอที่สเปน โดยที่ศาลนั้นยกย่องการทำงานของตำรวจของทั้งสองประเทศ ที่สามารถหาข้อมูลจนสามารถพบเจอเธอได้ และเขายังยกย่องความพยายามตามหาตัวเด็กของปู่ย่าของเธออีกด้วย   และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาศาลก็ได้ตัดสินว่าแม่ของเธอจะไม่มีสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเธออีกแล้ว เนื่องจากไม่สามารถดูแล ให้ความปลอดภัยแก่เธอได้ นี่ก็เป็นทั้งเรื่องน่ายินดีที่ได้พบเจ้าหนู…

  • ดีไซเนอร์ออกแบบแหวนที่บรรจุ “Lego” ไว้ แม้จะที่เรียบง่าย แต่งดงามในตัวมันเอง…

    ดีไซเนอร์ออกแบบแหวนที่บรรจุ “Lego” ไว้ แม้จะที่เรียบง่าย แต่งดงามในตัวมันเอง…

    ในยุคสมัยที่โทรศัพท์สมาร์ทโฟนยังไม่ถือกำเนิดขึ้น เด็กๆ ในสมัยนั้นต่างก็ต้องสรรหาความสนุกให้กับตัวเองด้วยการเล่นกับเพื่อน หรือว่าของเล่นต่างๆ ซึ่งมีของเล่นอยู่ชนิดหนึ่งที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน แค่ว่าความนิยมของมันก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันอาจจะมีผู้ที่ชื่นชอบมันมากกว่าเดิมก็เป็นไปได้ สำหรับเจ้าของเล่นที่ว่านี้คือก็ตัวต่อ เลโก้ นั่นเอง โดยจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นของเล่นสำหรับเด็กๆ เท่านั้น ทว่ายังเป็นที่โปรดปรานของผู้ใหญ่หลายคนที่ชอบจะต่อตัวต่อชนิดนี้ ให้กลายเป็นรูปร่างลักษณะต่างๆ ตามที่ใจเราต้องการ ซึ่งนอกจากจากมันจะสามารถให้ความสนุกเพลิดเพลินแล้ว มันยังทำให้เราได้บริหารสมองในตอนที่ต่อมันอีกด้วย     และเนื่องจากความสำเร็จที่มากล้นของมัน ทำให้ผู้พัฒนาชื่อว่า Hintlab ตัดสินใจต่อยอดความนิยมของมัน ด้วยการนำไปใส่ในเครื่องประดับอย่าง แหวน, ตุ้มหู ซะเลย ซึ่งเจ้าตัวต่อเลโก้ที่จะมาอยู่บนเรือนร่างของผู้สวมใส่เครื่องประดับนี้ จะถูกสร้างขึ้นจากการใช้เครื่องพิมพ์สามมิติ ที่สามารถให้สีสันที่สวยสดงดงามและความสนุก ราวกับได้นั่งเล่นตัวต่ออยู่ที่บ้านเลยก็ว่าได้ โดยเครื่องประดับเลโก้ที่ทางผู้พัฒนาได้สร้างขึ้นนี้ จะสามารถเปลี่ยนสลับรูปแบบไปมาได้อย่างสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นการนำไปต่อกัน หรือหากอยากจะเปลี่ยนรูปแบบแหวนให้มีเพียงเสี้ยวหนึ่งของตัวต่อก็สามารถทำได้เช่นกัน และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราสามารถสวมใส่มันได้อย่างสนุกสนาน พร้อมกับยังได้ความสวยงามไปพร้อมๆ กันเลยด้วย และหากใครอยากจับจองเป็นเจ้าของเครื่องประดับเก๋ๆ แบบนี้ ก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมหรือสั่งซื้อได้ที่ Hintlab เลยจ้า   เปลี่ยนสีให้ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ก็ย่อมได้   ถอดเหลือแค่เล็กๆ ก็ดูดีไปอีกแบบ   ดูฟรุ้งฟริ้ง เหมาะกับสาวๆ เป็นอย่างยิ่ง   นึกว่ามรกตนะเนี่ย   สีสันสดใส…

  • หมาหายไป 5 วัน เพื่อนบ้านพบหัวมันตุ๊บป่องออกมาจากหิมะ โถ.. เกือบหนาวตายไหมล่ะเอ็ง

    หมาหายไป 5 วัน เพื่อนบ้านพบหัวมันตุ๊บป่องออกมาจากหิมะ โถ.. เกือบหนาวตายไหมล่ะเอ็ง

    สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์แล้ว มันคงจะเป็นเรื่องที่สะเทือนใจทีเดียวถ้าหากสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรานั้น เกิดหายไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งบางคนก็อาจโชคร้ายที่ไม่สามารถหามันได้พบ เพราะว่ามันอาจจะวิ่งหนีไปสถานที่ไกลๆ หรือโดนจับไป แต่ขณะเดียวกันก็มีคนอีกจำนวนมากเช่นเดียวกันที่มีโอกาสได้พบหน้าซื่อๆ ของมันอีกครั้ง เช่นเดียวกับในเคสนี้ ที่เจ้าหมาตัวหนึ่งได้หายไปถึง 5 วันก่อนที่จะมีคนพบมันเข้าในสภาพที่แสนจะน่าสงสาร   เจ้า Sophie หมาแสนซน   โดยเรื่องราวของเจ้าหมาตัวนี้ได้เริ่มเกิดขึ้นในวันที่ 5 มกราคมปี 2017 ที่ผ่านมาเมื่อ Albert Silver ชาวรัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พบว่าเจ้า Sophie สุนัขพันธุ์ลาบาดอร์วัย 13 ปีของเขาได้หายไป ท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บและหิมะที่ปกคลุมพื้นที่แทบจะทั้งรัฐเอาไว้ ซึ่งเจ้า Sophie ได้หายไประหว่างที่ครอบครัวนี้กำลังจัดการกับพื้นที่ในบริเวณบ้านของพวกเขาอยู่ และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นมัน ก่อนที่จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย   โพสต์ขอความช่วยเหลือ   “ในวันพฤหัสก่อนที่จะกินมื้อเย็นกัน ครอบครัวของผมได้ช่วยกันปรับปรุงพื้นที่ด้วยการขุดและพรวนดินกันอยู่ ซึ่งสิ่งที่พวกเราทำนี้มันเป็นสิ่งที่เจ้า Sophieโปรดปรานเลยล่ะ มันจึงเดินตามพวกเราไปที่ที่จะลงมือขุดกัน หลังจากนั้นมันก็เดินไปยังบ้านของเพื่อนบ้านพวกเรา ที่มันมักจะชอบไปบ่อยๆ และเวลาไม่นานนักเขาก็นำเจ้า Sophie มาส่งคืนให้กับเราเป็นที่เรียบร้อย และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเราได้มีโอกาสได้เห็นมัน” Albert อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้บนเฟซบุ๊กของเขา   อย่าไปซ่าที่ไหนอีกล่ะ   เมื่อเจ้า Sophie ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย สมาชิกครอบครัวจึงได้ออกตามหามันอย่างอย่างสุดความสามารถ…

  • ว๊อททท!? ชาวเกาหลีวงแตกกระเจิง หลังเสื้อโค้ทเด็กนักเรียน เกิดระเบิดกลางรถบัสซะงั้น

    ว๊อททท!? ชาวเกาหลีวงแตกกระเจิง หลังเสื้อโค้ทเด็กนักเรียน เกิดระเบิดกลางรถบัสซะงั้น

    เมื่อถึงฤดูหนาวในทุกๆ ปี ก็เป็นเรื่องธรรมที่เราจะคว้าเสื้อกันหนาวมานุ่งห่มให้ร่างกายได้มีความอบอุ่นกัน ทว่ามีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลี ที่อาจจะให้เราไม่สามารถไว้วางใจในความปลอดภัยของเสื้อกันหนาวได้อีกต่อไป เพราะใครจะไปคิดล่ะว่า จู่ๆ วันดีคืนกีมันก็เกิดระเบิดขึ้นซะอย่างงั้น!! เหตุการณ์แปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อมีพยานคนหนึ่งอ้างว่าได้เห็นจังหวะการระเบิดของเสื้อโค้ทเกิดขึ้น เธอได้เล่าว่าให้ฟังว่าได้นั่งอยู่แถวหลังสุดของรถบัสคนดังกล่าว จึงได้เห็นทุกความเป็นไปที่เกิดขึ้นบนรถคันนั้น   รถบัสในกรุงโซล   โดยในเริ่มแรกนั้น รถบัสคันนี้ก็ได้วิ่งไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่ได้กำหนดไว้ และได้จอดรับเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่สวมเสื้อโค้ทแสนสวย ระหว่างทางของการสัญจรเหตุการณ์ก็เป็นไปตามปกติและไม่มีวี่แววว่าจะเกิดเรื่องใดๆ ขึ้นแม้แต่น้อย ทว่าจู่ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นภายในรถบัสคันดังกล่าว และเสียงที่ว่านี้ก็มีที่มาจากเสื้อโค้ทของเด็กนักเรียนคนที่พึ่งขึ้นรถมานั้นเอง เพราะว่ามันได้เกิดระเบิดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉย นั่นทำให้ปุยนุ่นรวมถึงขนสัตว์ที่อยู่ภายในเสื้อตัวนั้น ปลิวละล่องฟุ้งกระจายเต็มรถไปหมด จากความแรงของการระเบิดดังกล่าว   ปุยเมฆลอยคลอเคล้า   ซึ่งเสียงดังลั่นจากการระเบิดของเสื้อโค้ทตัวดังกล่าว ก็ได้สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้โดยสารคนอื่นๆ จนต้องไปรวมกันอยู่บริเวณหน้ารถ ที่อยู่ไกลที่สุดจากเด็กนักเรียนคนดังกล่าว เพราะไม่รู้ว่าจะมีการระเบิดขึ้นอีกเป็นซ้ำสองหรือไม่ โดยการระเบิดของเสื้อโค้ทตัวนี้ เกิดขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมจู่ๆ มันถึงเกิดระเบิดขึ้นมา และเสียงที่ดังลั่นนั้นมันเกิดมาจากสิ่งใดกันแน่ แต่ว่ามันก็ได้สร้างความหวั่นสะพรึงให้แก่ผู้โดยสารคนอื่นรวมถึงตัวของเด็กนักเรียนเจ้าของเสื้อตัวดังกล่าวเป็นอย่างมาก   กระจุยกระจายเต็มไปหมด   และด้วยความเขินอายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ทำให้นักเรียนคนดังกล่าวก็ได้ลงจากรถทันทีที่รถจอดที่จุดจอดรถบัส จากนั้นก็ได้วิ่งหนีหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น คนขับรถบัสคันดังกล่าวก็บอกเอาไว้ว่า มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดทั้งชีวิตของการเป็นคนขับรถมาเลยก็ว่าได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังหาสาเหตุของการระเบิดนี้ ว่าเกิดจากอะไรกันแน่!?   ที่มา: koreaboo

  • พบกับ Shang Wuyi ชายผู้พิการที่กวาดถนนมากว่า 12 ปี โดยไม่มีวันหยุดแม้แต่วันเดียว!!

    พบกับ Shang Wuyi ชายผู้พิการที่กวาดถนนมากว่า 12 ปี โดยไม่มีวันหยุดแม้แต่วันเดียว!!

    เรื่องของความพิการ เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครๆ ต่างก็ไม่อยากจะให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนในครอบครัว เพราะว่าสิ่งนี้มันอาจจะทำให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันเต็มไปด้วยความยากลำบาก และอาจจะทำให้คนๆ นั้นหมดกำลังใจในการใช้ชีวิตอยู่ต่อไปเลยก็อาจเป็นไปได้ แม้ว่าจะมีร่างกายที่ไม่ครบ 32 ประการเหมือนกับคนอื่นเขา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชายคนหนึ่งย่อท้อต่อโชคชะตาที่เขาต้องประสบ มากไปกว่านั้นเขาอาจจะทำได้ดีกว่าคนปกติเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าเขาคนนี้ สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญก็คือตลอดระยะเวลากว่า 12 ปีในการทำงาน เขาไม่เคยหยุดแม้แต่วันเดียว!!   ถึงจะมีขาเพียงข้างเดียว แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด   ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Shang Wuyi ชายผู้พิการวัย 46 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองซีอาน ประเทศจีน เขาเป็นผู้ที่มีอาการหูหนวกและเป็นใบ้มาตั้งแต่กำเนิด หนำซ้ำด้วยความเคราะห์ร้ายก็ทำให้เขาต้องสูญเสียขาข้างหนึ่งไปด้วยอุบัติเหตุในวัยเพียง 7 ปีเท่านั้น แม้ว่าจะมีร่างการที่ค่อนข้างไม่สมประกอบ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับงานที่เขาทำ และงานที่เขาใช้เลี้ยงชีพมาโดยตลอดก็คือ การกวาดถนน ซึ่งเพื่อร่วมงานเขาได้บอกเอาไว้ว่า ตลอด 12 ปีในการทำงานที่ผ่านมา เขาไม่เคยเห็น Shang หยุดพักจากการทำงานเลยแม้แต่วันเดียว   มักจะมาทำงานก่อนเวลาเสมอ และไม่เคยหยุดพักแม้แต่วันเดียว   โดยเพื่อนร่วมงานของเขาชื่อว่า Yao ได้เล่าว่า ในทุกๆ วัน กะการทำงานจะเริ่มขึ้นในเวลาตีสี่ แต่ว่า Shang มักจะมาทำงานก่อนเสมอ และหากวันใดที่ภรรยาของเขาเกิดป่วยขึ้นมา…

  • แม่มดแห่งวอลสตรีท Hetty Green เศรษฐีผู้หวงเงินซะยิ่งกว่าอะไร ตอนนอนก็ยังต้องถือปืนไว้!?

    แม่มดแห่งวอลสตรีท Hetty Green เศรษฐีผู้หวงเงินซะยิ่งกว่าอะไร ตอนนอนก็ยังต้องถือปืนไว้!?

    เคยคิดไหมว่าคนที่เกิดมาในครอบครัวของมหาเศรษฐี หรือทำงานจนประสบความสำเร็จแล้วมีเงินเยอะมาก คงจะได้ชีวิตหรูหราฟูฟ่า ซื้อของแพงๆ มาใช้ได้อย่างสบาย และได้กินอาหารชั้นเลิศทุกมื้อไปตลอดชีวิต ถ้าใครกำลังคิดว่าคนรวยเป็นแบบนั้นอยู่ล่ะก็ ขอให้ลองมาดูชีวิตของผู้หญิงที่เคยถูกเรียกว่า หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกาดู แล้วจะเห็นว่าชีวิตคนรวยก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือยเสียหมด   Henrietta Howland Robinson   Henrietta Howland Robinson หรือเรียกสั้นๆ ว่า Hetty เกิดเมื่อปี 1834 ในเมืองนิวเบดฟอร์ด รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูล Quaker ที่มั่งคั่ง เนื่องจากแม่ของเธอมีร่างกายที่อ่อนแอ เธอจึงได้คลุกคลีกับพ่อและปู่เสียมากกว่า จึงทำให้เธอมีค่านิยมเกี่ยวกับเงินตั้งแต่เด็ก และยังเรียนวิธีดูตลาดหุ้นเป็นตั้งแต่เล็กด้วย   ในช่วงที่เธออายุ 30 ต้นๆ เธอก็เข้าสู่การเป็นนักลงทุนอย่างเต็มตัว โดยเธอมักจะรอกว้านซื้อกิจการที่ย่ำแย่ แล้วรอให้ธุรกิจฟื้นตัว จึงขายต่อในราคาที่สูงกว่ามาก เธอบอกกับ New York Times ในปี 1905 ว่า “ฉันซื้อธุรกิจตอนที่ไม่มีใครต้องการ และขายต่อตอนราคาขึ้นและเป็นที่ต้องการมากขึ้น”     เธอแต่งงานกับ Edward Henry Green เมื่ออายุ 33 ปี…

  • หนุ่มผู้มีสกิลตัดต่อขั้นเทพ เอาตัวเองไปอยู่กับฉากหนัง-คนดัง ราวกับไปแสดงมาจริงๆ!!

    หนุ่มผู้มีสกิลตัดต่อขั้นเทพ เอาตัวเองไปอยู่กับฉากหนัง-คนดัง ราวกับไปแสดงมาจริงๆ!!

    เมื่อคุณได้ชมภาพยนต์ เห็นโปสเตอร์ภาพยนต์สวยๆ หรือเห็นคนโพสต์ภาพบรรยากาศที่สวยงาม บางครั้งเราก็คงคิดว่าหากมีโอกาสได้เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในภาพนั้นบ้างก็คงจะดี แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกเพราะเราไม่ใช่ดาราดังหรือนักแสดงนี่นา ทว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งที่แม้ว่าจะไม่ได้เป็นนักแสดงชื่อดัง แต่ก็สามารถเอาตัวเองเข้าอยู่ในฉากสวยๆ หรือเข้าไปอยู่ใกล้ดาราดังแบบใกล้ชิดได้อย่างแนบเนียนด้วยการใช้โปรแกรมตัดต่อภาพระดับมืออาชีพ   Syahril Ramadhan หนุ่มนักตัดต่อ กับภาพที่เขาเอาตัวเองเข้าอยู่กับ Christiano Ronaldo นักฟุตบอลชื่อดัง   ชายหนุ่มคนนี้ชื่อว่า Syahril Ramadhan เขามีอายุ 19 ปี และมีเพจในเฟสบุ๊กของตัวเองกับอินสตาแกรม ซึ่งเอาไว้ใช้ติดต่อรับงานตัดต่อภาพ และโพต์รูปภาพที่เขาตัดต่อทั้งหมดเอาไว้ที่นี่ เพจของเขามีคนติดตามและกดไลค์เกือบ 8,000 คน แล้วรูปแต่ละรูปที่เขาเอาลงเพจ ก็มีรูปจำนวนไม่น้อยที่มียอดไลก์อยู่หลายร้อยไลก์ด้วย ส่วนอินสตาแกรมของเขานั้นมีผู้ติดตามกว่า 180,000 เลยทีเดียว   รูปที่เขาตัดต่อตัวเองเข้าไปอยู่กับประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา Barack Obama   นอกจากภาพเขาจะตัดต่อภาพตัวเองเข้าไปอยู่ในภาพกับดาราได้อย่างแนบเนียนแล้ว เขาก็ยังตัดต่อตัวเองไปอยู่ในโปสเตอร์หนังดังๆ อย่าง Spider-Man: Homecoming, Justice League, และ Jumanji ได้อย่างไม่มีที่ติเช่นกัน ชายหนุ่มบอกว่า “ตอนแรกผมแค่ทำมันเป็นงานอดิเรกแค่นั้น แต่พอทำไปเรื่อยๆ ผมก็ชอบและคิดว่าตัวเองมีความสามารถที่ควรจะเอามาทำงานในด้านนี้” เขามีคำขอให้ตัดต่อภาพจำนวนมากมาย แต่เพราะว่าเขาทำงานตัวคนเดียว จึงรับงานเพียงแค่ 3 ชิ้นต่อวันเท่านั้น เขายังบอกอีกว่า “ถ้าในอนาคตผมได้เปิดสตูดิโอล่ะก็ ผมก็อยากจะทำงานในระดับนานาชาติเลย ด้วยความสามารถนี้ผมเชื่อว่าผมสามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เกิดขึ้นได้จริงในโลกดิจิตอล”…

  • ศิลปินสร้างสรรค์ผลงาน บอกเล่าถึงความสุขในชีวิตคู่ ในแบบเกาหลี๊เกาหลี น่ารักน่าร๊ากกก!!

    ศิลปินสร้างสรรค์ผลงาน บอกเล่าถึงความสุขในชีวิตคู่ ในแบบเกาหลี๊เกาหลี น่ารักน่าร๊ากกก!!

    ความรักนั้นถือว่าเป็นพื้นฐานของความรู้สึกของมนุษย์ และหลายๆ คนคงเคยสัมผัสกับความรักกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอบรัก ผิดหวัง หรือสมหวัง โดยความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนที่เรียกว่า “รัก” นั้น มีหลากหลายรสชาติหลากหลายอารมณ์ให้เราได้พบเจอ วันนี้เราอาจจะเศร้าเพราะมัน แต่วันข้างหน้าเราอาจจะมีความสุขเพราะมันก็เป็นได้ อย่ายอมแพ้กับมันไปซะก่อนนะ โดยในข่าวนี้เป็นเรื่องราวของตัวละคร 2 ตัวละคร ที่ชื่อ Soso และ Haru ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มันถูกสร้างสรรค์โดยคุณ Young Joo Kim ศิลปินนักวาดภาพชาวเกาหลี ภาพที่เขาวาดนั้นได้ถ่ายทอดชีวิตคู่รักของตัวละครคู่นี้ในทุกๆ วัน ซึ่งแต่ละวันก็จะสุขบ้าง เศร้าบ้างปะปนกันไป แต่รวมๆ แล้วชีวิตพวกเค้าก็ยังสวยงามอยู่ดี ไปรับชมกันเลย   นอนชมซากุระด้วยกัน   เจออะไรก็คิดถึงแต่เธอ   ออกไปเที่ยวด้วยกัน . . .   กินอะไรๆ ร่วมกัน   ตอนนอนก็ฝันถึงอีกฝ่าย   แอบเป็นพ่อบ้านใจกล้า   โรแมนติกจริงๆ .   ทำกิจวัตรประจำวันร่วมกัน .   หรือบางคราวก็แอบแกล้งกันบ้าง เป็นสีสันชีวิตดี…

  • Google จ้างพนักงานเพิ่ม 30 คน เพื่อตามหาจักรยานของพนักงานที่ชาวบ้านขโมยไปกว่า 250 คัน!!

    Google จ้างพนักงานเพิ่ม 30 คน เพื่อตามหาจักรยานของพนักงานที่ชาวบ้านขโมยไปกว่า 250 คัน!!

    หลังจากที่ทาง Google ได้สร้างอาณาจักรของพวกเขาขึ้นที่ Silicon Valley  เราต่างรู้ดีว่าบริษัทไอทียักษ์ใหญ่นี้มีสวัสดิการให้พนักงานมากมาย รวมถึงการให้บริการรถจักรยานฟรีเพื่อให้สามารถสัญจรไปมาในออฟฟิศขนาดกว้างใหญ่นี้ ล่าสุดดูเหมือนว่าบริการดังกล่าวจะมีปัญหาซะแล้ว หลังจากที่รถจักรยานจำนวนมากถูกชาวบ้านในละแวกนั้นขโมยไปใช้ซะอย่างนั้น!!     เมือง Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ Google กำลังเผชิญกับปัญหาจักกรยานของเหล่าพนักงานกว่า 100-250 คันที่ถูกขโมยไป จากทั้งหมด 1,100 คัน!? งานนี้ทำเอาบริษัทดังถึงขั้นต้องกลับมาคิดหนักเรื่องให้บริการจักรยานฟรี และจ้างคนสำหรับตามหารถที่หายไปโดยเฉพาะกันเลยทีเดียว     หลังจากคิดหาทางแก้ปัญหาอยู่หลายวิธี ในที่สุดทาง Google ได้ลงทุนจ้างพนักงานกว่า 30 ตำแหน่งและรถตู้อีก 5 คันสำหรับการปฏิบัติภารกิจตามหาจักรยานที่หายไปนี้ นอกจากนี้พวกเขาก็ยังได้ติดตั้งระบบ GPS พร้อมกำหนดให้เฉพาะพนักงานเท่านั้น ที่สามารถใช้โทรศัพท์มืิอถือเพื่อปลดล็อครถจักรยาน เป็นการแก้ปัญหาอีกทางด้วยเช่นกัน     โครงการจักรยานสำหรับพนักงานนี้เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2007 ก่อนที่จะพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 2015 ทางบริษัทได้ลงทุนมากกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐในการพัฒนาจักรยานและระบบดังกล่าวเพื่อใช้ใน Mountain View ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาคือต้องการให้คนเมืองนี้หันมาใช้จักรยาน รวมถึงทำให้เป็นเมืองจักรยานอย่างเช่นเมือง Copenhagen ของเดนมาร์กนั่นเอง     คุณ Ken Rosenberg นายกเทศมนตรีของ Mountain…

  • ลุงอาการสาหัส หลังพยายามจะงัดตู้ ATM แต่พลาดทำระเบิดโดนตัวเองเสียก่อน

    ลุงอาการสาหัส หลังพยายามจะงัดตู้ ATM แต่พลาดทำระเบิดโดนตัวเองเสียก่อน

    “กรรมติดจรวด” น่าจะเป็นคำพูดที่เหมาะที่สุดสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แล้วก็เป็นไปได้เมื่อโจรคนหนึ่งพลาดทำระเบิดระเบิดใส่ตัวเองในขณะที่กำลังจะระเบิดตู้ ATM เพื่อขโมยเงินข้างในนั้น     เรื่องราวมันเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม 2018 ด้านนอกแถบร้านค้าที่ถนน Glasgow เมือง Clydebank ประเทศสก็อตแลนด์ กล้อง CCTV ได้จับภาพชายคนหนึ่งปลิวกลับหลังจากแรงระเบิดและลงไปนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น โดยมีชายอีกคนเข้ามามองสภาพชายคนที่ว่าก่อนจะรีบวิ่งหนีไป     เศษซากจากแรงระเบิดปลิวจากจุดระเบิดไปไกลกว่า 23 เมตร และหน้าต่างของร้านใกล้เคียงก็ได้รับความเสียหายไปตามๆ กัน ส่วนชายวัย 51 ปีที่ถูกพบในที่เกิดเหตุถูกพาไปยังโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย Queen Elizabeth และยังอยู่ในอาการสาหัส โดยทางตำรวจสันนิษฐานว่าชายคนนี้พยายามจะขโมยเงินจากเครื่อง ATM ในตอนที่เกิดเหตุ หลังจากเกิดการระเบิดขึ้น นักสืบ Fiona Macarthur ได้กล่าวว่า “การสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจะบอกให้เรารู้สถานการณ์โดยรวม และเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดจนสอบปากคำประชาชนในละแวกนั้น”     “หนึ่งในผลการสอบสวนเชื่อว่า ชายสองคนที่เห็นพยายามขโมยเงินในตู้ ATM และ หนึ่งในนั้นบาดเจ็บระหว่างการโจรกรรมที่ว่า” “ผมอยากแจ้งไปยังทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ให้ทราบว่า หากเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เห็นหรือได้ยินอะไรที่น่าสงสัย โปรดติดต่อทางตำรวจเพื่อให้ข้อมูลด้วย” ตำรวจกล่าวอีกว่ายังมีชายวัย 48 ปีอีกคนหนึ่งที่ถูกจับและขังชั่วคราวในข้อหาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ATM หน้าย่านร้านค้าที่ว่า   แม้ว่าจะยังไม่อาจทราบได้ว่าตำรวจจะสามารถปิดคดีนี้ลงได้เมื่อใด แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตำรวจจะสามารถตามหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ในอีกไม่นานเกินรอ   ที่มา Metro

  • หญิงสาวพบโน้ตประหลาด บอกว่ามีคนหันปืนมาทางเธอ เพื่อปล้นเงิน สุดท้ายแกล้งชักจนรอดมาได้

    หญิงสาวพบโน้ตประหลาด บอกว่ามีคนหันปืนมาทางเธอ เพื่อปล้นเงิน สุดท้ายแกล้งชักจนรอดมาได้

    จะเกิดอะไรขึ้นหากมีมือปริศนาส่งกระดาษมาบอกคุณว่าคุณกำลังโดนปืนจ่ออยู่ ไม่แน่นะว่าการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีนั้นอาจเปลี่ยนชีวิตของคุณได้เลยทีเดียว     Julie Dragland เป็นหญิงสาววัย 32 ปี ผู้อาศัยอยู่ในเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธ์ให้แก่ SEGA Networks และมีงานอดิเรกดูหนังอาชญากรรมในเวลาว่าง     แน่นอนว่าการดูหนังพวกนั้นอาจจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากการฆ่าเวลาหลังการทำงานและคลายความเครียดเท่านั้น Julie ก็เชื่อแบบนั้นเช่นกัน จนกระทั้งวันหนึ่งในเดือน กันยายน 2017 ที่เธอต้องพบกับเหตุการณ์อันน่าหวาดกลัวที่เธออาจจะเคยเห็นแค่จากในโทรทัศน์     ในวันเสาร์เวลา 5 โมงเย็น Julie กำลังนั่งอยู่ในรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนไปยัง Dublin ซึ่งเป็นเมืองท่าฝั่งตะวันออก ด้วยความที่เป็นวันหยุดตัวรถจึงโล่งกว่าปกติแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนก็ตาม ทั้งตู้รถไฟนั้นมีเพียง Julie และผู้โดยสารอื่นๆ อีกเพียง 15 คน โชคร้ายที่ว่าหนึ่งในนั้นขึ้นรถไฟมาด้วยความประสงค์ร้าย     ในตอนที่ตัวรถผ่านเมืองซานฟรานซิสโกนั่นเองกล้องของรถไฟจับภาพผู้หญิงผมสีสตรอว์เบอรี่ บลอนด์เดินมานั่งด้านหลัง Julie และแอบทิ้งโน๊ตให้แก่ Julie และเมื่อ Julie หยิบมันขึ้นมาอ่านเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น     สิ่งที่เขียนอยู่บนกระดาษนั้นบอกว่า “มีปืนสองกระบอกเล็งอยู่ที่คุณ ถ้าหากยังอยากมีชีวิตให้ส่งมือถือและกระเป๋าสตางค์มาข้างหลัง ห้ามมองมาข้างหลังและอยู่ในความสงบ จากนั้นห้ามหันกลับมาจนกว่าจะออกไปจากศูนย์ประชาสังคม” ด้วยหมึกสีแดง    …

  • ผู้โดยสารชั้นธุรกิจโดน “ตัวเรือด” กัดบนเครื่องบินกว่า 150 ครั้ง จากลอนดอนสู่เคปทาวน์

    ผู้โดยสารชั้นธุรกิจโดน “ตัวเรือด” กัดบนเครื่องบินกว่า 150 ครั้ง จากลอนดอนสู่เคปทาวน์

    การเดินทางอันแสนทรมานนี้เกิดขึ้นกับคุณ Mike Gregory นักธุรกิจหนุ่มชาวอังกฤษที่ถูกตัวเรือดกัดระหว่างการเดินทางจากกรุงลอนดอนไปยังเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ “ร่างกายของผมมีรอยอยู่มากมายทั้งตรงเอวและมือ ผมคิดว่าผมน่าจะถูกกัดมากกว่า 120 ถึง 150 ครั้ง” นักธุรกิจหนุ่มเล่าประสบการณ์การเดินทาง 7 ชั่วโมงที่แสนทรมานของเขา   ตัวเรือด แมลงตัวเล็กๆ ที่เล่นงานนักธุรกิจหนุ่มท่านนี้   ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยแดงระหว่างโดยสารเครื่องบินของสายการบิน British Airways ซึ่งหลังจากที่ได้พบคุณหมอ ก็สามารถยืนยันได้ว่ารอยแดงดังกล่าวนั้นเป็นฝีมือของพวกตัวเรือดที่อยู่บนเครื่องบิน คุณ Gregory ได้ทำการแจ้งไปยังสายการบินดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางสายการบินก็ได้แจ้งกับชายหนุ่มว่าพวกเขาได้จัดการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยการจัดการพวกตัวเรือดในเครื่องบินลำดังกล่าว พร้อมกับออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     “ทางเราได้ทำการติดต่อไปยังคุณ Gregory เพื่อเป็นการขอโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตลอดการบินมากกว่า 280,000 เที่ยวบินใน 280 เส้นทาง การพบตัวเรือดนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่พบได้ยากมาก แต่อย่างไรก็ตามเราได้ทำการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” โฆษกของทาง British Airways แถลง อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้โดยสารจากสารการบินดังกล่าวถูกตัวเรือดกัด แต่ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ครอบครัวชาวแคนาดาครอบครัวหนึ่งก็ถูกตัวเรือดกัดในระหว่างเดินทางจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ไปยังกรุงลอนดอนเช่นกัน     แผลที่มือของคุณ Gregory หลังจากการถูกตัวเรือดกัด   กระเป๋าเดินทางอาจจะเป็นหนึ่งในหนึ่งช่องทางที่ทำให้พวกตัวเรือดสามารถเดินทางจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งได้ แต่อย่างไรก็ตามการพบตัวเรือดบนเครื่องบินนั้นถือว่าเป็นกรณีที่พบเห็นได้น้อยมาก   ที่มา businessinsider

  • หนุ่มขับรถบนทางด่วนอยู่ดีๆ ก็เจอลูกหมา 3 ตัว โอ้โห น่ารักซะขนาดนี้ ไม่จอดช่วยก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ!!

    หนุ่มขับรถบนทางด่วนอยู่ดีๆ ก็เจอลูกหมา 3 ตัว โอ้โห น่ารักซะขนาดนี้ ไม่จอดช่วยก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ!!

    เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2018 เว็บไซต์ The Dodo ได้รายงานเรื่องราวการช่วยเหลืออันน่าประทับใจของชายหนุ่มที่บังเอิญไปเจอเข้ากับเพื่อนใหม่ตัวน้อยแสนน่ารัก 3 ตัว ขณะที่เขากำลังขับรถกลับบ้าน นี่เป็นสิ่งที่ Andrei Matei ได้เจอระหว่างที่เขากำลังขับรถกลับบ้านหลังจากที่ไปหาแฟนสาวมา ขณะที่กำลังขับอยู่บนถนนไฮเวย์ด้วยความเร็ว ก็ได้เจอกับอะไรซักอย่างข้ามถนนผ่านหน้ารถเขาไป เขาจึงขับรถหลบสิ่งกีดขวางดังกล่าว แต่เมื่อเขาหันไปดูดีๆ เขาก็เห็นว่านั่นมันคือน้องหมาสามตัวที่กำลังเสี่ยงอันตรายกันอยู่บนท้องถนน ชายหนุ่มจึงไม่รอช้ารีบหยุดรถและถอยรถไปหาพวกมันในทันที   น้องหมาแสนน่ารักที่ถูกพบบนถนนใหญ่   Andrei ลงจากรถไปหาน้องหมาทั้งสาม เมื่อพวกมันได้เจอกับเขา ทั้งสามตัวก็วิ่งเข้ามากระโดดโลดเต้นอยู่รอบๆ ด้วยความดีใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้คือวินาทีเฉียดตายของพวกมัน ในตอนแรกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับพวกมันดี แต่ด้วยความน่ารักของน้องหมาทำให้เขาต้องยอมใจอ่อนอุ้มพวกมันขึ้นรถ พากลับบ้านด้วยกันซะเลย   ทั้งสามตัวกับอีกหนึ่งคนเดินทางกลับบ้านไปพร้อมๆ กัน   ด้วยระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง บวกกับความเหนื่อยล้า ทำให้พวกมันผล็อยหลับไป   ในระหว่างการเดินทางกลับบ้าน เขาโพสต์เรื่องราวและรูปของเจ้าหมาลงในเฟซบุ๊ก ทำให้มีคนเข้ามาให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่เขาควรจะทำต่อไป และเขาก็ได้ติดต่อกับเพื่อนของเพื่อนที่มีประสบการณ์ในการช่วยเหลือสัตว์มาก่อน เขาและผู้หญิงที่ติดต่อไปนัดเจอกันที่คลินิกสัตว์ใกล้บ้าน เพื่อมาคุยกันว่าควรจะทำอย่างไรกับเจ้าหมาทั้งสามดี ในตอนนั้น เจ้าหมาก็ได้รับการตรวจร่างกายไปพร้อมๆ กัน     จากผลตรวจพบว่า…

  • ‘Army of Beauties’ ทีมเชียร์จากเกาหลีเหนือ เตรียมตัวเยือนโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เกาหลีใต้

    ‘Army of Beauties’ ทีมเชียร์จากเกาหลีเหนือ เตรียมตัวเยือนโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เกาหลีใต้

    Army of Beauties หรือคำที่ใช้เรียกกองเชียร์ของชาวเกาหลีเหนือ ที่มีภรรยาของท่านผู้นำอย่าง Ri Sol-Ju เป็นแกนหลักในการตามให้กำลังใจของทัพนักกีฬาชาวโสมแดง เมื่อปี 2005 ที่ผ่านมาทัพกองเชียร์นี้ได้เดินทางออกจากกรุงเปียงยาง ลงมาทางตอนใต้เพื่อเชียร์ทัพนักกีฬาของพวกเขาในมหกรรมกรีฑาชิงแชมป์เอเชียที่เมืองอินช็อนประเทศเกาหลีใต้ และล่าสุดพวกเขากำลังเตรียมตัวเพื่อเดินทางมาเชียร์ทัพนักกีฬาโสมแดงอีกครั้งในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ที่จังหวัดคังว็อน ประเทศเกาหลีใต้     หลักการคัดเลือกผู้นำเชียร์ของเกาหลีเหนือนั้นจะมีการเลือกที่ค่อนข้างเข้มข้น คุณ An Chan-Il นักวิชาการที่ศึกษาเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือให้สัมภาษณ์ถึงกองเชียร์ Army of beauties ว่า “โดยส่วนมากแล้วพวกเธอจะมีส่วนสูงประมาณ 163 เซนติเมตร และมาจากครอบครัวที่มีฐานะ ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นเด็กๆ ที่ศึกษาในมหาวิทยาลัย Kim Il-Sung University“   กองเชียร์ของเกาหลีเหนือในการแข่งขันฟุตบอลหญิงที่สนาม Gimcheon ประเทศเกาหลีใต้ในปี 2003   กองเชียร์ของเกาหลีเหนือนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมเมื่อปี 2002 ในเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยประกอบไปด้วยผู้คนมากกว่า 300 คนที่แต่งกายด้วยชุดประจำชาติของเกาหลี สื่อต่างประเทศได้รายงานว่าการปรากฏตัวของกองเชียร์ชาวโสมแดงนี้อาจจะเป็นสัญลักษณ์ที่ดีสำหรับการสานสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Cho Myung-Ae อดีตเชียร์ลีดเดอร์ชาวเกาหนีเหนือก็ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวอันน่าประทับใจของทั้งสองชาติที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันกีฬา อย่างเช่นการร่วมเชียร์ทัพนักกีฬาเกาหลีเหนือโดยกองเชียร์เกาหลีใต้ ในการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งเมื่อปีที่ผ่านมา     แต่อย่างไรก็ตามความตึงเครียดทางการทหารของทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมานั้นก็ยังคงเป็นข้อสังเกตว่าในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จะมีขึ้นในวันที่ 9…

  • 15 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ‘เบียร์’ ที่แม้แต่นักดื่มเบียร์ตัวยงก็อาจไม่เคยทราบกันมาก่อน!?

    15 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ‘เบียร์’ ที่แม้แต่นักดื่มเบียร์ตัวยงก็อาจไม่เคยทราบกันมาก่อน!?

    หนึ่งในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่พวกเราหลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือ เบียร์ น้ำเมาที่ใช้ดื่มกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งในวันที่ 7 เมษายนของทุกปี ถูกตั้งให้เป็น “วันเบียร์แห่งชาติ” เพื่อเป็นการระลึกถึงช่วงที่สหรัฐอเมริกา อนุญาตให้ผลิตและขายเบียร์ภายในประเทศได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1933 นอกจากประเทศมหาอำนาจแล้ว หลายๆ แห่งรวมถึงบ้านเราก็สามารถบริโภคเครื่องดื่มชนิดนี้ได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ถึงแม้ว่าเราจะดื่มมันบ่อยแค่ไหน แต่ความจริงเราอาจยังรู้จักกับมันได้ไม่ดีพอเลยด้วยซ้ำ วันนี้เราเลยมาจะพูดถึง 15 เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับเบียร์ มีอะไรบ้างนั้นลองไปอ่านกันได้เลย     1. อียิปต์ขึ้นชื่อว่าเป็นอารยธรรมแรกที่มีการเก็บภาษีเบียร์ โดยราชินีคลีโอพัตรา บอกว่าการเก็บภาษีมีขึ้นเพื่อลดจำนวนขี้เหล้าให้น้อยลง แต่หลายๆ คนกลับเชื่อว่าการเก็บภาษีในครั้งนั้นมีไว้หารายได้ในการทำสงครามกับกรุงโรม 2. เบียร์ คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คนนิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา จากสถิติปี 2016 มีถึง 43 เปอร์เซ็นต์ของเหล่านักดื่ม ที่ยกให้เบียร์เป็นที่หนึ่งในดวงใจ และในปี 2015 รัฐบาลได้เงินจากการเก็บภาษีเบียร์ภายในประเทศและเบียร์นำเข้า เป็นจำนวนเงินกว่า 114,000 ล้านบาท 3. ในปี 1695 สหราชอาณาจักรทำการขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เบียร์แพงที่สุด ในขณะที่เหล้าจินถูกที่สุด โดยภาษีเหล้าจินอยู่ที่ประมาณ 2 เพนนี (ประมาณ 1 บาท) แต่เบียร์จะอยู่ที่ราวๆ…

  • เผยโฉมหน้าสตั๊นท์แมนของ The Rock เป็นญาติของพี่แกเอง แถมหน้าเหมื๊อนนนเหมือน

    เผยโฉมหน้าสตั๊นท์แมนของ The Rock เป็นญาติของพี่แกเอง แถมหน้าเหมื๊อนนนเหมือน

    Dwayne Johnson หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ The Rock เขาคืออดีตนักมวยปล้ำวัย 45 ปี ไอดอลของใครหลายๆ คน ซึ่งในปัจจุบันเขาได้ออกจากวงการมาเป็นนักแสดงเต็มตัว และกลายเป็นที่ชื่นชอบมากเสียยิ่งกว่าเดิม เราสามารถมองเห็นจุดเด่นในรูปลักษณ์ภายนอกของเขาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มทรงเสน่ห์ หรือแม้แต่ร่างกายอันใหญ่โตที่เต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัดๆ ซึ่งเราอาจจะคิดว่าคงไม่มีใครเหมือนเขาได้ แต่ความเป็นจริงแล้วกลับมีคนคนหนึ่งที่ดูเหมือนเขาจนแยกแทบไม่ออก   The Rock ดาราฮอลลีวูดชื่อดังแห่งยุคนี้   คนคนนั้นก็คือ Tanoai Reed สตั๊นท์แมนวัย 43 ปี และเป็นลูกพี่ลูกน้องของ The Rock ซึ่งนั่นจึงทำให้ทั้งสองคนดูเหมือนกันเหลือเกิน Tanoai เกิดบนเกาะฮาวาย เขาทำอาชีพเสี่ยงอันตรายมานานกว่า 23 ปี โดยเป็นตัวแสดงแทนให้กับ Dwayne มานานกว่า 16 ปีเลยทีเดียว   Tanoai สตั๊นท์แมนประจำตัวที่ดูเหมือนกันราวกับฝาแฝด   ด้วยความที่เขาจะต้องดูเหมือนนักแสดงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองอยู่เสมอ ทำให้ไม่ได้มีแค่หน้าตาที่ได้รับจากกรรมพันธุ์ของครอบครัวเดียวกันมา แต่เขายังพยายามออกกำลังกาย เข้าฟิตเนสอยู่สม่ำเสมอ จนร่างกายของเขานั้นใหญ่โตมโหฬารไม่ต่างกัน เขาเล่าว่า “ผมต้องดูแลรูปร่างเพื่อเลียนแบบ Dwayne ถ้าเขาลดน้ำหนัก ผมก็ต้องลดตาม…

  • 21 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘รุ่นพ่อแม่’ กับ ‘รุ่นลูก’ นั้นแทบไม่ต่างกันเลย เหมือนอย่างกับแกะ!?

    21 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘รุ่นพ่อแม่’ กับ ‘รุ่นลูก’ นั้นแทบไม่ต่างกันเลย เหมือนอย่างกับแกะ!?

    ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูกๆ จะมีใบหน้าคล้ายพ่อแม่หรือบรรพบุรุษ แต่สำหรับบางคนหน้าเหมื๊อนเหมือนราวกับเป็นคนคนเดียวกัน ยิ่งเทียบใบหน้าตอนอายุใกล้เคียงกันยิ่งเหมือนเข้าไปอีก เช่นเดียวกับบุคคลเหล่านี้ที่นำภาพปัจจุบันของตัวเองเทียบกับภาพบรรพบุรุษที่อยู่ในวัยเดียวกัน โอ้โห เหมือนกันอย่างกับแกะ   1. นี่ไม่ใช่คนเดียวกันนะ   2. ทายซิ๊ คนไหนคือลูก คนไหนคือพ่อ?   3. ลูกในวันนั้นคือพ่อในวันนี้   4. เหมือนแค่ไหนถามใจเธอดู   5. หน้าเป็นเอกลักษณ์ พ่อเป็นยังไงลูกก็เป็นอย่างนั้น   6. หน้าตาของแม่ลูกเมื่ออยู่ในวัยเดียว   7. สำเนาถูกต้องเด๊ะ   8. งือ นี่ไม่ใช่รูปหนู แต่เป็นหนูเองค่ะ   9. เหมือนกันทุกส่วน รวมไปถึงเส้นผม   10. ไม่ใช่แค่หน้าเหมือน ทรงผมทรงเคราก็เหมือนด้วย   11. เมื่อฉันไปเที่ยวที่เดียวกับแม่ในตอนนั้น คิดว่าแม่ข้ามเวลามาจากอดีตซะอีก   12. สายเลือดมันเข้มข้นอะ ทำไงได้ ออกมาซะเหมือนเป๊ะเลย   13.…

  • เมืองลึกลับในประเทศออสเตรเลีย ที่ประชากรกว่า 1,675 คนอาศัยอยู่ ‘ใต้ดิน’ กันหมด!?

    เมืองลึกลับในประเทศออสเตรเลีย ที่ประชากรกว่า 1,675 คนอาศัยอยู่ ‘ใต้ดิน’ กันหมด!?

    ในขณะที่เราส่วนใหญ่สร้างบ้านเรือนอยู่บนดิน มองขึ้นก็จะเห็นท้องฟ้าในเวลากลางวันและเห็นดวงดาวในเวลากลางคืน แต่รู้มั้ยว่าในโลกนี้มีคนอีกกลุ่มที่หนึ่งอาศัยอยู่ใต้ดิน? กลุ่มคนที่ว่านี้คือชาวเมือง Coober Pedy พวกเขาอาศัยอยู่ในทะเลทรายทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ซึ่งมีอุณภูมิเฉลี่ย 51 องศาเซลเซียสในที่ร่ม จนชาวบ้านกว่า 1,675 คน ต้องสร้างบ้านใต้ดินเพื่อหนีความร้อน พื้นที่ตั้งของเมือง Coober Pedy เป็นหนึ่งในแหล่งทำเหมืองแร่โอปอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งที่นี่จะมีปล่องไฟผุดขึ้นจากพื้นดินเต็มไปหมดและมีหลุมที่เป็นทางเข้าบ้านของพวกเขาด้วย     Coober Pedy เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ “เมืองหลวงโอปอลของโลก” ซึ่งถูกค้นพบเมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เนื่องจากมีการค้นพบแร่โอปอลที่นี่ ก่อนที่การทำเหมืองแร่โอปอล์จะกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในปัจจุบันนี้ สำหรับประวัติความเป็นมาของ Coober Pedy อาจต้องย้อนกลับไปในปี 1915 โดยในช่วงต้นของปีนั้น New Colorado Prospecting Syndicate ได้ทำการตรวจหาแร่ทองคำทางตอนใต้ของ Coober Pedy สมาชิกของกลุ่มคนดังกล่าวประกอบด้วย Jim Hutchison ลูกชายของเขา William Hutchison วัย 14 ปี และเพื่อนร่วมทางอีก 2 คน โดยหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการสำรวจ พวกเขาก็ได้ตั้งแคมป์อยู่ที่นั่น     กระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ของปีนั้น ขณะที่ William…

  • สื่อนอกรายงานเรื่องทรัมป์ใช้เงินกว่า 4 ล้านบาทปิดปากดาวโป๊ ในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้ง

    สื่อนอกรายงานเรื่องทรัมป์ใช้เงินกว่า 4 ล้านบาทปิดปากดาวโป๊ ในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้ง

    เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2018 วารสาร Wall Street ได้รายงานเกี่ยวกับความอื้อฉาวของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump โดยเนื้อข่าวบอกเอาไว้ว่า ชายคนนี้เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับดาราหนังผู้ใหญ่ที่ชื่อว่า Stephanie Clifford (หรือรู้จักกันในชื่อ Stormy Daniels) ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะตามรายงานยังบอกอีกว่า Trump ยอมจ่ายเงินให้กับเธอเป็นจำนวนกว่า 4 ล้านบาท เก็บเรื่องที่เกิดขึ้นเอาไว้เป็นความลับในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้ง   ภาพของผู้นำคนปัจจุบันที่ถ่ายคู่กับดาราสาว Stephanie เมื่อปี 2006   เรื่องราวอื้อฉาวของทั้งคู่ถูกพูดถึงครั้งแรกในการพิจารณาคดีเมื่อปี 2016 ตอนที่ดาราหนังผู้ใหญ่อีกคนที่ชื่อว่า Jessica Drake ออกมากล่าวหา Trump ว่าเคยจูบเธอโดยที่เธอไม่เต็มใจ และยังตามตื้อจนถึงขนาดเสนอกับเธอว่าจะจ่ายเงินให้เธอกว่า 300,000 บาท พร้อมทั้งให้หญิงสาวนั่งเครื่องบินส่วนตัวของเขามาหาที่ห้อง ในตอนนั้น Jessica บอกว่า เธอรับข้อตกลงและบินไปหา Trump แต่ไม่ได้มีอะไรกับเขาเลย เพราะเธอพาเพื่อนไปด้วยอีกสองคน เพราะเธอรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องไปคนเดียว ในเมื่อตอนนั้น Melanie ภรรยาของผู้นำคนปัจจุบันกำลังตั้งท้องอยู่   Jessica…

  • รีบเลย!! สวนสัตว์อังกฤษเปิดรับสมัคร ‘คนเลี้ยงยีราฟ’ โดยให้ค่าจ้างถึงปีละ 1 ล้านบาท

    รีบเลย!! สวนสัตว์อังกฤษเปิดรับสมัคร ‘คนเลี้ยงยีราฟ’ โดยให้ค่าจ้างถึงปีละ 1 ล้านบาท

    ด้วยเอกลักษณ์อันทรงเสน่ห์ และลำคอที่ยาวกว่าสัตว์อื่นใดในโลกของ ‘ยีราฟ’ อาจจะทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักในความมหัศจรรย์ของมันได้อย่างง่ายๆ และสำหรับใครที่เคยเกิดความคิดอยากจะเลี้ยงยีราฟแล้วล่ะก็ ตอนนี้โอกาสของคุณมาถึงแล้ว เพราะในตอนนี้สวนสัตว์แห่งหนึ่งกำลังเปิดรับสมัครคนเลี้ยงยีราฟ โดยเฉพาะ!! โดยสวนสัตว์แห่งนั้นคือสวนสัตว์ Chester ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ โดยพวกเขากำลังเปิดรับสมัครคนเลี้ยงยีราฟน่ารักๆ ซึ่งหน้าที่หลักๆ ของงานนี้ก็คือ ดูแลกิจวัตรประจำวันต่างๆ ของมันเพียงเท่านั้น     หากว่ามองเพียงผ่านๆ อาจจะดูเหมือนกับว่างานนี้เป็นงานที่ง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะว่าพวกเขาได้กำหนดคุณสมบัติสำหรับตำแหน่งนี้เอาไว้ และหากใครสนใจอยากลองสมัครแล้วล่ะก็ มาลองดูคุณสมบัติที่สวนสัตว์แห่งนี้กำหนดเอาไว้ดีกว่า   คุณสมบัติที่ต้องการ 1. มีวุฒิการศึกษาระดับ HND (อนุปริญญาขั้นสูงสุดของประเทศอังกฤษ) หรือระดับปริญญาในสาขาสัตวศาสตร์ หรือมีประสบการณ์ที่เทียบเท่า 2. มีความรู้ความชำนาญในด้านการเลี้ยงสัตว์และการจัดการ โดยเฉพาะยีราฟหรือตัวโอคาพี 3. มีประสบการณ์ในการทำงานในสวนสัตว์, สวนซาฟารีรวมถึงการผ่าตัด 4. มีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ รวมถึงการปรัับปรุงสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูแลสัตว์ 5. มีความเป็นผู้นำสูง 6. สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี 7. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยง เพื่อให้พนักงานทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยและการจัดการอย่างเต็มที่ 8. มีทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมทั้งเขียนและพูด 9. มีใบขับขี่ที่ถูกต้องในสหราชอาณาจักร 10. สามารถทำงานขั้นต่ำ…

  • พ่อชาวอินเดียลงทุนสร้างถนนยาว 8 กิโลเมตร ด้วยเหตุผลเดียวคือ “อยากให้ลูกกลับมาหาบ่อยๆ”

    พ่อชาวอินเดียลงทุนสร้างถนนยาว 8 กิโลเมตร ด้วยเหตุผลเดียวคือ “อยากให้ลูกกลับมาหาบ่อยๆ”

    เด็กๆ จากพื้นที่ห่างไกลหลายๆ คนต้องจากบ้านมาไกลเพื่อไปเรียนหนังสือ นานๆ ทีถึงจะได้กลับมา จนพ่อแม่ทนคิดถึงไม่ไหว และการที่ลูกๆ ไม่ค่อยได้กลับบ้าน ไม่ใช่เพราะติดความสะดวกสบายในเมือง แต่เป็นเพราะการเดินทางไป-กลับค่อนข้างลำบาก ซึ่งบางหมู่บ้านไม่มีถนนด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของรัฐโอริศา ประเทศอินเดีย จึงตัดสินใจสร้างถนนระยะ 8 กิโลเมตร ด้วยขวานและชะแลง เพื่อให้ลูกกลับมาหาบ่อยๆ     Jalandhar Nayak ชายวัย 45 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากโรงเรียนของลูกชายทั้ง 3 คน ประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งในการเดินทางแต่ละครั้ง ลูกๆ ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง เพราะต้องเดินข้ามภูเขาถึง 5 ลูก ในช่วง 2 ปีที่่ผ่านมา Nayak จะออกเดินทางทุกเช้าพร้อมด้วยเครื่องมือของเขา จากนั้นก็จะใช้เวลา 8 ชั่วโมงต่อวันในการขุดหินและขนมันออกไปทิ้ง เขาบอกกับผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่าเมื่อถนนนี้ถูกสร้างเสร็จแล้ว เขาหวังว่าลูกชายทั้ง 3 คน จะกลับบ้านบ่อยขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือหรือวันหยุดอื่นๆ     ถนนที่ทอดยาว 15…

  • “เครื่องดื่มชูกำลังฆ่าลูกผม” คุณพ่อเล่าด้วยความเศร้าหลังจากลูกชายดื่มเครื่องดื่มนี้วันละ 15 กระป๋อง

    “เครื่องดื่มชูกำลังฆ่าลูกผม” คุณพ่อเล่าด้วยความเศร้าหลังจากลูกชายดื่มเครื่องดื่มนี้วันละ 15 กระป๋อง

    สำหรับคนที่ทำงานหนัก นอนดึก หรือสูญเสียพลังงานร่างกายไปมากๆ เครื่องดื่มชูกำลังช่วยคุณได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรดื่มเกินปริมาณที่กำหนดซึ่งมีระบุไว้ในฉลากของเครื่องดื่ม อย่างกรณีของคุณพ่อคนนี้ที่ออกมาเผยว่าลูกชายของเขาดื่่มเครื่องดื่มชูกำลัง 15 กระป๋องต่อวัน จนเป็นเหตุให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลายสัปดาห์ก่อนที่จะเกิดเหตุน่าสลดนี้ Justin Bartholomew วัย 25 ปี จากนิวเฮเวน อีสต์ซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ ได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงและเครื่องที่มีรสหวานในปริมาณมหาศาล ซึ่งผู้เป็นพ่อเชื่อว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาตาย     Bartholomew คุณพ่อวัย 64 ปี บอกว่า “เราเห็นเขาดื่มเครื่องดื่มเหล่านั้นวันละ 15 กระป๋อง ซึ่งผมเคยพูดกับเขาว่า ‘ลูกต้องบังคับตัวเองให้เลิกดื่มแบบนีี้ได้แล้ว’ เขาตอบกลับมาว่า ‘ผมเลิกไม่ได้จริงๆ พ่อ ผมพยายามมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ มันเหมือนการเลิกสูบบุหรี่ที่ผมก็ทำไม่ได้เช่นกัน’”  สำหรับเครื่องดื่มชูกำลังนั้น 1 กระป๋องจะมีคาเฟอีนมากถึง 160 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่าเอสเปรสโซถึง 2 เท่า และมีน้ำตาลมากถึง 14 ช้อนชา บวกกับการที่ชายหนุ่มมีภาวะซึมเศร้าอยู่ด้วย ผู้เป็นพ่อเลยปักใจเชื่อว่ามันน่าจะเป็นเหตุให้ลูกชายของเขาตัดสินใจฆ่าตัวตายเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว     จากการเสียชีวิตของ Justin สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Maria Caulfield ได้นำประเด็นดังกล่าวไปพูดในสภาว่าควรจะมีการจำกัดปริมาณการจำหน่ายเครื่องดื่ม เธอบอกว่า “ครอบครัวของ Justin เชื่อว่าการที่ลูกชายดื่มเครื่องดื่มชูกำลังวันละ 15…

  • ตำรวจพบเจ้าเหมียวน้อยถูกทิ้งไว้กลางทาง เลยลงทุนปิดถนนเพื่อช่วยเหลือมันจนปลอดภัย

    ตำรวจพบเจ้าเหมียวน้อยถูกทิ้งไว้กลางทาง เลยลงทุนปิดถนนเพื่อช่วยเหลือมันจนปลอดภัย

    เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นนอกจากจะทำหน้าที่ดูแลความสงบสุขของประชาชนแล้ว พวกเขายังให้การช่วยเหลือชีวิตอื่นๆ ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากด้วย อย่างกรณีของตำรวจในโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ที่รีบไปยังที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งว่ามีกล่องสีส้มถูกทิ้งไว้บนถนนมอเตอร์เวย์ทางตะวันตกเฉียงใต้ จนทำให้รถติดวุ่นวายไปหมด เมื่อตำรวจไปถึงก็พบสาเหตุของการจราจรที่วุ่นวายครั้งนี้ มันคือเจ้าเหมียวตัวน้อยที่กำลังขดตัวคุดคู้กับคอนกรีตกั้นถนน     เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า “แย่หน่อยที่เจ้าเหมียวกลัวเจ้าหน้าที่ ดังนั้นเมื่อเราเข้าไปใกล้มัน มันรีบวิ่งข้ามไปยังถนนอีกเลนหนึ่ง นั่นยิ่งทำให้มันเสี่ยงที่จะถูกรถชน” ตอนนี้มิ้วน้อยติดอยู่กลางถนนที่มีรถวิ่งพลุกพล่าน ทางตำรวจไม่มีทางเลือกอื่นจึงตัดสินใจปิดถนนชั่วคราว เพื่อจะพาเจ้าเหมียวออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย     อย่างที่บอกไปว่าแมวน้อยไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ดังนั้นตำรวจจึงต้องพยายามกันเป็นพิเศษ และทำทุกอย่างเพื่อที่จะเข้าถึงตัวมันได้ จนในที่สุดพวกเขาก็ช่วยเจ้าเหมียวออกมาได้สำเร็จ Shelley Nahr ผู้ประสานงานฝ่ายสื่อของกรมตำรวจบอกว่า “ภารกิจนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง กว่าจะพาตัวมันออกมาจากถนนได้” แต่ปัญหาไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เพราะหลังจากที่ตำรวจพามันเข้าไปอยู่ในรถลาดตระเวนและได้ละสายตาจากมันเพียงแป๊บเดียวขณะที่คุยโทรศัพท์ พอหันมาดูอีกที เจ้าเหมียวก็หายไปซะแล้ว     เจ้าหน้าที่คนนั้นพยายามหามันทุกซอกทุกมุมในรถแต่ก็ไม่เจอ จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงร้องเบาๆ ดังมาจากแผงหน้าปัดของรถ แผงหน้าปัดรถยนต์เป็นช่องที่เล็กมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องไปตามช่างในละแวกนั้นให้มาช่วยอีกแรง หลังจากที่ถอดแผงหน้ารถทั้งหมดออก พวกเขาก็พบมิ้วน้อยกำลังนั่งขดตัวอยู่ในนั้น นี่ถือเป็นความโชคดีรอบที่สองของวันที่แมวเหมียวตัวนี้ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย     ต่อด้วยความโชคดีครั้งที่สามในรอบสัปดาห์ เพราะหลังจากที่ได้รับการช่วยได้ไม่กี่วัน แมวน้อยก็สามารถพาตัวเองเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว คนที่พาเจ้าเหมียวไปอยู่ด้วยคือ Glenda ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่โทรแจ้งตำรวจในตอนแรกที่พบเจ้าเหมียวอยู่กลางถนน เธอบอกว่าอยากดูแลแมวตัวนี้และอยากให้มันมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว     Nahr…

  • หนุ่มลาออกจากงานประจำ มาขาย ‘เหรียญหายาก’ ใน eBay ทำรายได้ปีละ 3 ล้านบาท!!

    หนุ่มลาออกจากงานประจำ มาขาย ‘เหรียญหายาก’ ใน eBay ทำรายได้ปีละ 3 ล้านบาท!!

    นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มที่ชีวิตเปลี่ยนไป เมื่อเขาผันตัวจากคนงานก่อสร้าง มาเป็นนักลงทุนที่ทำรายได้มากถึง 70,000 ปอนด์ หรือราวๆ 3 ล้านบาทต่อปี โดยการขายเหรียญหายากลงใน eBay James Grear จากเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ ได้กลายมาเป็นผู้จัดจำหน่ายเหรียญกับเพื่อนของเขาที่ชื่อ Harry เมื่อพวกเขาอายุ 18 ปี และต้องการที่จะหารายได้เพิ่มเติม จากเดิมที่เขาได้รับ 9 ปอนด์ หรือประมาณ 400 บาทต่อชั่วโมง จากงานก่อสร้าง พวกเขาได้ไอเดียสำหรับบริษัทของเขาจากการที่เขาเห็นเหรียญ 50 เพนนี จากปี 2011 ที่ขายได้ราคาสูงถึงแปดเท่าจากราคาเดิมใน eBay     ในช่วงแรกนั้น มันไม่ง่ายเลยที่จะหาเหรียญที่หายากมามากพอที่จะขายได้ เนื่องจากมีงบประมาณจำกัดที่ 100 ปอนด์ และไม่สามารถหาผู้สนับสนุนทางด้านการเงินได้ บริษัทที่เริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนมกราคม ปี 2017 ก็มีรายได้ประมาณ 50,000-70,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2.5-3.5 ล้านบาท ด้วยการขายเหรียญแบบกำหนดราคาโดยไม่ต้องประมูล     Grear บอกว่า “ผมนั่งคัดแยกเหรียญทุกๆ เหรียญตั้งแต่เริ่ม ผมได้เรียนรู้ว่าเหรียญแบบไหนเป็นเหรียญที่ดี…

  • เหตุเพราะ ‘ตามหาค้อน’ นำไปสู่การค้นพบ ‘คลังสมบัติโรมัน’ ที่มีค่ามากมายมหาศาล

    เหตุเพราะ ‘ตามหาค้อน’ นำไปสู่การค้นพบ ‘คลังสมบัติโรมัน’ ที่มีค่ามากมายมหาศาล

    เมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้วคุณ Eric Lawes แพทย์ชาวอังกฤษท่านหนึ่งได้เริ่มสร้างบ้านของเขาบนที่ดินผืนหนึ่งในหมู่บ้าน Hoxne ของประเทศอังกฤษ เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่วันหนึ่งคุณ Lawes ได้ออกมาหาค้อนที่หายไปของเขา หลังจากที่เริ่มการตามหา คุณหมอของเรากลับพบสัญญาณของบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่ใต้ดิน และเมื่อเริ่มลงมือขุดเขาก็ได้พบกับสมบัติโบราณที่ละชิ้น!!     หลังจากที่เริ่มพบกับเหรียญโบราณ และข้าวของเครื่องใช้จากยุคก่อนคริสตกาล ด้วยความตกใจคุณหมอ Lawes ของเราจึงได้โทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้พวกเขามาตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว หลังจากที่นักโบราณคดีมาถึง พวกเขาเริ่มลงมือสำรวจพื้นที่ดังกล่าวทันที ทีมสำรวจแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อพบว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ดินนั้นคือคลังสมบัติอันมหาศาลในยุคโบราณ สมบัติใต้ดินนี้ประกอบไปด้วยทองคำและเครื่องเงินหนักกว่า 27 กิโลกรัม เหรียญโรมันอีกกว่า 15,234 เหรียญ รวมถึงช้อนเงินและทองคำอีกมากกว่า 200 ชิ้น   รูปหล่อเสือโคร่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหูของถ้วยขนาดใหญ่ ที่ถูกค้นพบเมื่อปี 1992 ในที่ดินของคุณ Lawes   คุณหมอ Lawes ได้รับเงินจากรัฐบาลอังกฤษมากถึง 1.75 ล้านปอนด์สำหรับสมบัติที่ถูกค้นพบในที่ดินของเขา ส่วนสมบัติที่ถูกค้นพบบางชิ้นถูกนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ “นี่เป็นการค้นพบครั้งสำคัญในประเทศอังกฤษเลยทีเดียว” Rachel Wilkinson เจ้าหน้าที่จากพิพิธภัณฑ์กล่าว สมบัติอันล้ำค่าที่ถูกค้นพบครั้งนี้ทำให้นักโบราณคดีได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจักวรรดิโรมันเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 410   กำไลข้อมือที่ถูกค้นพบในหมู่บ้าน Hoxne เมื่อปี 1992 ปัจจุบันถูกเก็บรักษาอย่างดีในพิพิธภัณฑ์อังกฤษ   “ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นยุคที่อังกฤษนั้นถูกรุกรานโดยกลุ่มชนเจอร์แมนิกและชาวฮัน” ข้อความจากหนังสือ The Late Roman Gold and Silver…

  • คนขับเสียหลักพุ่งทะยานชนตึกชั้นที่สอง ผู้คนสงสัยว่าขึ้นไปได้ยังไง โชคดีที่ไม่บาดเจ็บมากนัก

    คนขับเสียหลักพุ่งทะยานชนตึกชั้นที่สอง ผู้คนสงสัยว่าขึ้นไปได้ยังไง โชคดีที่ไม่บาดเจ็บมากนัก

    อุบัติเหตุทางท้องถนนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม สิ่งมันอาจก่อเกิดความเสียหายให้กับผู้ขับขี่ฝ่ายเดียว หรืออาจจะเกิดลูกหลงขึ้นกับคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วยก็เป็นได้ ถ้าหากไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นล่ะก็ ทั้งสองฝ่ายต้องมีสติ จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยเหตุการณ์ที่จะกล่าวถึงนี้เป็นเรื่องของอุบัติเหตุ แต่มันน่าเหลือเชื่อเพราะเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุนั้น ก็พบว่ารถยนต์คันที่ประสบณ์อุบัติเหตุขึ้นไปคาอยู่บนชั้นสองของออฟฟิศแห่งหนึ่งใน Santa Ana รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา     โดยในรถที่ประสบอุบัติเหตุนั้นมีคนนั่งมาในรถสองคน และจากการที่รถเหินขึ้นรถชั้นสองนั้นทำให้เกิดไฟเล็กๆ มีคนในรถสามารถออกมาได้เองคนหนึ่ง แต่ว่าอีกคนนั้นยังคงติดคาอยู่ในรถ ณ เวลา 6.45 น. อ้างจากที่ Orange County Fire Authority (OCFA) ได้บอกไว้     หน่วยกู้ภัย Los Angeles County Urban Search and Rescue (USAR) นั้นสามารถช่วยผู้ประสบอุบัติเหตุที่ยังติดอยู่ในรถออกมาได้ หลังจากที่เขาติดอยู่ในนั้นเป็นเวลาร่วมชั่วโมง Stephen Horner หัวหน้าของหน่วย OCFA ได้กล่าวว่า “รถชนเข้ากับเกาะกลางถนนและก็พุ่งเหินขึ้นจนชนกับชั้นสองของตึก ซึ่งมันทำให้เกิดเพลิงไหม้เล็กๆ ขึ้น แต่ว่าตอนที่พวกเรามาถึงมันก็ดับไปแล้ว”      ทั้งสองคนที่ได้รับการช่วยเหลือตอนนี้ยังไม่ได้ระบุตัว พวกเขานั้นถูกพาไปโรงพยาบาลในระแวกนั้นเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเล็กๆ โชคดีที่ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครอยู่ในตึก นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของอุบัติเหตุที่เราสามารถเจอได้ทุกเมื่อ…

  • พ่อพาลูกชายวัยรุ่นมามอบตัวกับตำรวจ เพราะดันไปเจอ “ภาพโป๊เด็ก” ในโทรศัพท์ของลูกตัวเอง!!!

    พ่อพาลูกชายวัยรุ่นมามอบตัวกับตำรวจ เพราะดันไปเจอ “ภาพโป๊เด็ก” ในโทรศัพท์ของลูกตัวเอง!!!

    ภาพโป๊หรือว่าภาพเปลือย นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้วเมื่อมีไว้ในครอบครอง ซึ่งในประเทศส่วนใหญ่ก็มีกฎหมายข้อห้ามเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ แต่ยิ่งถ้าเป็นรูปโป๊ของเด็กแล้วล่ะก็ แน่นอนว่ามันยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่เก็บภาพเหล่านี้เอาไว้ อีกทั้งยังมีโทษที่ร้ายแรงอีกด้วย และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พ่อคนหนึ่งตัดสินใจพาลูกชายวัยรุ่นของเขาไปมอบตัวกับตำรวจด้วยตัวเอง หลังจากที่เขาพบภาพที่ไม่สมควรของเด็กวัย 2 ขวบอยู่ในโทรศัพท์มือถือของลูกชาย   Andrew Spensberger ชายผู้มีการกระทำดังกล่าว   Andrew Spensberger ชายวัยรุ่นวัย 17 ปี ถูกจับกุมเนื่องในข้อหาครอบครองภาพอนาจารเด็กวัย 2 ปี ซึ่งภาพที่ว่านี้ถูกพบในโทรศัพท์มือถือของเขา และที่ทำให้เรื่องนี้มันยิ่งเลวร้ายก็เพราะว่า เด็กวัย 2 ขวบคนนี้เป็นญาติของแฟนสาวของพ่อของเขาด้วย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา   Andrew กับพ่อคนที่นำส่งตำรวจของเขา   นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังบอกอีกด้วยว่า สาเหตุที่ Spensberger เก็บภาพนี้ไว้ในมือถือของเขาก็เพราะ เขาวางแผนที่จะขายภาพนี้ให้แก่เพื่อนร่วมชั้นของเขาที่เป็นโรคใคร่เด็ก (Pedophilia) เพื่อแลกกับเงินจำนวน 330 ดอลลาร์ (ประมาณ 10,500 บาท) ซึ่งในตอนนี้เขาได้ถูกจับกุมไว้แล้วและได้ถูกตั้งค่าประกันตัวไว้สูงถึง 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 320,000 บาท) เลยทีเดียว   ที่มา: kmov

  • นักวิทย์เก็บชิ้นส่วนกระดาษ จากปืนใหญ่ของ “โจรสลัดเคราดำ” ทำให้รู้ได้ว่าพวกเขาอ่านอะไรกัน…

    นักวิทย์เก็บชิ้นส่วนกระดาษ จากปืนใหญ่ของ “โจรสลัดเคราดำ” ทำให้รู้ได้ว่าพวกเขาอ่านอะไรกัน…

    โจรสลัดสมัยก่อนมักถูกมองว่าไม่ฉลาดซักเท่าไหร่ เป็นพวกที่คอยจ้องแต่ฆ่า ปล้น แย่งชิงเรือ จับศัตรูเดินไปบนแผ่นไม้ และดื่มแต่เหล้าทั้งวัน แต่ล่าสุดมีการค้นพบชิ้นส่วนกระดาษที่มีข้อความอ่านได้ง่าย ในกระบอกปืนใหญ่บนเรือธงของโจรสลัดหนวดดำ ซึ่งมันทำให้เห็นภาพจากมุมมองจากเหล่าลูกเรือซึ่งเป็นมุมมองที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน     โดยนักอนุรักษ์จากกรมธรรมชาติวัฒนธรรมของรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้แสดงให้เห็นว่าหนวดดำและลูกเรือของเขาได้เริ่มอ่านเรื่องหนังสือบรรยายการเดินทางซึ่งเป็นวรรณคดีที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ถึงต้นศตวรรษที่ 18 ภายในบันทึกนั้นมีรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ทหารเรือของประเทศอังกฤษที่เดินทางโดยใช้เรือ Duke และเรือ Dutchess ด้วย  นักอนุรักษ์ได้ค้นพบชิ้นส่วนกระดาษขณะกำลังสำรวจเรือของหนวดดำอยู่ ซึ่งเรือมันเกยตื้นอยู่ที่ใกล้ๆ Beaufort Inlet ใน North Carolina ในปี 1718 โดยหนวดดำได้ขโมยมันมาจากชาวฝรั่งเศสเมื่อปี 1717 ซึ่งชาวฝรั่งเศสก็ขโมยเรือมาจากเจ้าของเดิมที่เป็นชาวอังกฤษอีกทีในปี 1711 และแต่เดิมมันถูกเรียกว่าเรือ Concord     เรือลำนี้มันถูกใช้เป็นเรือขนทาส  หลังจากนั้นโจรสลัดหนวดดำผู้น่ากลัวคนนี้ก็ได้ตั้งเชื่อเรือใหม่ว่า Queen Anne’s Revenge จากนั้นก็ติดตั้งปืน 40 กระบอก และทำให้มันเป็นเรือของเขา โดยที่มีการค้นพบซากเรือในปี 1996 นักวิจัยได้ค้นพบกระดาษที่กระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อยอยู่ 16 ชิ้นซึ่งมันอยู่ปะปนกับก้อนตะกอนเปียกๆ ในโถงสำหรับบรรจุลูกปืน ชิ้นที่ใหญ่ที่สุดมีขนาด 1 ส่วน 4 ของขนาดที่สมบูรณ์ แต่มันก็หายากมากในซากเรืออับปาง แล้วยิ่งมันมีอายุมากกว่า 300 ปี มันอาจจะเปื่อยและสลายหายไปใต้น้ำแล้วก็ได้    …

  • คู่รักถ่ายรูปแต่งงานท้าความหนาว แค่เห็นก็รู้สึกหดหมดแล้ว แต่พี่แกก็ยังไฟต์สุดๆ

    คู่รักถ่ายรูปแต่งงานท้าความหนาว แค่เห็นก็รู้สึกหดหมดแล้ว แต่พี่แกก็ยังไฟต์สุดๆ

    คู่รักหลายๆ คู่ที่กำลังจะแต่งงาน คงจะต้องมีการจินตนาการถึงคอนเซ็ปต์ของการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งไว้หลายแบบ เกิดมาครั้งหนึ่งแต่งงานแค่ครั้งเดียวก็ต้องวางแผนกันดีๆ แหละเนอะ คู่รักชาวอเมริกันจากรัฐเทนเนสซี Josh Morris และ Morgan Dave มีแพลนที่จะเข้าสู่ประตูวิวาห์ในเดือนพฤษภาคม 2018 จึงได้ช่วยกันคิดคอนเซ็ปต์ในการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งเพื่อสะท้อนความเป็นตัวตนของทั้งคู่ที่สุด     การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในครั้งนี้ก็ได้ช่างภาพมากฝีมืออย่าง Kellie Elmore มาเป็นตากล้องให้ แต่ช่างภาพคนนี้ก็ต้องเจอกับงานถ่ายพรีเวดดิ้งสุดโหดนี้กับคอนเซ็ปต์ถ่ายพรีเวดดิ้งท่ามกลางอากาศ -3 องศาเซลเซียสและหิมะก็ตกโปรยปราย รวมไปถึงฉากหลังเป็นน้ำตกกลายเป็นน้ำแข็ง     มันอาจจะดูอันตรายๆ หน่อยเมื่อคู่รักอยากที่จะถ่ายรูปที่น้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งแห่งนี้ ต้องมีการทดสอบความปลอดภัยว่ามันแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับได้น้ำหนักของทั้งสองได้ แต่โชคดีที่หลังจากการตรวจสอบดูแล้วพบว่ามันแข็งแรงปลอดภัยสำหรับคู่รักและทีมงาน     เมื่อทุกอย่างโอเคก็ลั่นชัตเตอร์รัวๆ เลย คู่รักดูมีความสุขมากๆ กับการถ่ายพรีเวดดิ้งในครั้งนี้มากดูจากรอยยิ้มและสายตา เหมือนโลกนี้ไม่มีอะไรมาพังทลายความรักของเราสองคนได้     Bald River Fall ที่กลายเป็นน้ำแข็ง   ว่าที่เจ้าบ่าวและว่าที่เจ้าสาวช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก .   หู้ยยยยย แค่เห็นรูป #เหมียวบู้บี้ ก็รู้สึกได้ถึงความหนาวแล้ว แต่รู้สึกร้อนๆ ที่ตามากกว่า รักกันขนาดนั้น อิจฉาตาร้อนจ้า…

  • 12 สถานที่ “ลวงตา” รอบโลก ใครไปก็คงอดใจไม่ไหว ต้องถ่ายรูปกลับมาสักหนึ่งแชะ!!

    12 สถานที่ “ลวงตา” รอบโลก ใครไปก็คงอดใจไม่ไหว ต้องถ่ายรูปกลับมาสักหนึ่งแชะ!!

    “มันก็เป็นเพียงแค่เพียงภาพลวงหลอกตา ที่เธอสร้างขึ้นมาให้ฉันตายใจ” เจอภาพลวงตาในความรัก เป็นใครก็ไม่ชอบทั้งนั้น แต่ถ้าภาพลวงตานั้นมันเป็นงานศิลปะ หรือเป็นสถานที่ที่ให้ความบันเทิง ใครก็ชอบทั้งนั้น เหมือนกับภาพลวงตาเหล่านี้ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ดูเหมือนจริงมากๆ จนบางครั้งเราก็แยกไม่ออกว่าอันไหนจริง อันไหนหลอกกันแน่   1. Yangzhou Zhongshuge เมืองหยางโจว ประเทศจีน นี่คือห้องสมุดในประเทศจีีน มีการการจัดเรียงหนังสือบนชั้นวางที่ทอดยาวขึ้นไป โดยด้านล่างจะทำเป็นพื้นสีดำเมื่อม เพื่สะท้อนภาพด้านบนและทำให้เหมือนอยู่ในอุโมงค์   2. Camera Obscura and World of Illusions เมืองเอดินบะระ ประเทศสก็อตแลนด์ นี่เป็นห้องที่มีชื่อว่า Ames Room เมื่อมองจากด้านหน้าจะดูเหมือนเป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก แต่ที่จริงแล้วเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู และด้านที่ลึกกว่าจะสร้างให้มีขนาดใหญ่กว่า   3. Pedra do Telégrafo ริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล ในภาพดูเหมือนนักท่องเที่ยวคนนี้กำลังทำอะไรที่เสี่ยงมาก แต่จริงๆ แล้ว จุดที่เขายืนอยู่นั้นสูงจากพื้นดินไม่ถึง 1 เมตรด้วยซ้ำ   4. ทะเลสาบ Lake Sørvágsvatn ในหมู่เกาะแฟโร ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ดูจากภาพแล้วอาจจะเห็นว่าทะเลสาบอยู่สูงเหนือน้ำทะเลมาก ในความเป็นจริงแล้วเมื่อรวมกับความลึกทะเลสาบอยู่สูงเหนือผืนน้ำทะเลเพียง 30 เมตร แต่หน้าผาที่อยู่ริมทะเลที่หันเข้ากล้องมีความสูง…

  • ไอเดียชุดไหมพรมสุดเจ๋ง ที่ทำออกมาให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมภายนอก เอามาใส่เฉยๆ ก็เจ๋งแล้ว

    ไอเดียชุดไหมพรมสุดเจ๋ง ที่ทำออกมาให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมภายนอก เอามาใส่เฉยๆ ก็เจ๋งแล้ว

    ปกติแล้วการถ่ายแบบนั้น ช่างภาพมักจะโฟกัสไปที่ตัวนางแบบ นายแบบ หรือถึงเสื้อผ้าหน้าผม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการนำเสนอ แต่ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ช่างภาพ Joseph Ford ได้ร่วมมือกับเพื่อนที่เป็นช่างถัก Nina Dodd สร้างโปรเจกต์ Knitted Camouflage ที่ทำให้นางแบบ นายแบบกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม แทนที่จะทำให้พวกเขาโดดเด่นเหมือนการถ่ายแบบทั่วไป     ในการถ่ายภาพแต่ละครั้ง ช่างภาพจะให้นางแบบและนายแบบใส่เสื้อผ้าไหมพรมที่ถักโดย Dodd ซึ่งลวดลายและสีของเสื้อผ้าจะถูกออกแบบมาให้เหมือนสิ่งแวดล้อมรอบตัว บางส่วนของเสื้อผ้าเหล่านั้น เช่น กางเกงและเสื้อลายตารางที่เหมือนกับพื้นผิวของบันไดและผนัง เสื้อลายลู่วิ่ง หรือเสื้อน้องหมาที่กลมกลืนกับพุ่มไม้     นอกจากนี้พวกเขายังร่วมมือกับศิลปินข้างถนนชาวฝรั่งเศสอย่าง Monsieur Chat ผู้ที่วาดภาพแมวบนผนังโรงงานที่ถูกทิ้งร้าง รวมทั้งทำให้ตัวเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของภาพนั้นด้วย สำหรับเบื้องหลังการทำงานและผลงานทั้งหมดของ Ford เพื่อนสามารถเข้าไปดูได้ที่เฟซบุ๊ก Joseph Ford  Photography และอินสตาแกรม Josephfordphotography   . . . .   ที่มา thisiscolossal

  • หญิงสาวถูกคนที่เป็นวีแกนด่าเสียหาย เพียงเพราะเธอไม่ได้เป็นวีแกน แค่ไม่ชอบกินเนื้อ

    หญิงสาวถูกคนที่เป็นวีแกนด่าเสียหาย เพียงเพราะเธอไม่ได้เป็นวีแกน แค่ไม่ชอบกินเนื้อ

    มีเหตุผลมากมายสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อ อาจจะเป็นเพราะรสชาติมันไม่ถูกปากหรือเหตุผลอื่นๆ แต่คนภายนอกมักจะคิดเอาเองว่าคนที่ไม่กินเนื้อคือคนที่เป็นมังสวิรัติ เพราะความคิดแบบนี้นี่เองจึงทำให้หญิงสาวคนหนึ่งโดนชาววีแกนด่าอย่างเสียๆ หายๆ เพียงเพราะเธอไม่ชอบกินเนื้อและเธอก็ไม่ได้เป็นวีแกนด้วย Anna Del Rey วัย 17 ปี จากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกกล่าวหาว่าเป็น ‘วีแกนปลอม’ หลังจากที่เธอโพสต์สูตรการทำโทเฟอร์กี้ (ไก่งวงเจทำจากเต้าหู้ หมี่กึง เครื่องปรุงรสผัก และเครื่องเทศ) บนหน้าเพจเฟซบุ๊กของกลุ่มวีแกน     ตอนแรกโพสต์ของเธอได้รับการชื่นชมจากชาววีแกนมากมาย จนกระทั่งต่อมาเมื่อหญิงสาวเปิดเผยว่าจริงๆ แล้วเธอทานเนื้อสัตว์เหมือนกัน และเมื่อชาววีแกนมาเห็นโพสต์ของหญิงสาว พวกเขารู้สึกโกรธมากและได้พากันต่อว่า Anna ด้วยถ้อยคำเสียๆ หายๆ     ชาวเน็ตคนหนึ่งที่เคร่งในการเป็นวีแกนมากๆ ได้ทักแชตไปหาเธอ ก่อนจะต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง… “เธอแสร้งทำเป็นมังสวิรัติ เพราะคิดว่ามันดูดีใช่มั้ย? ฉันเป็นวีแกนมา 3 ปี จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็น ฉันคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิต ไม่ใช่เพราะมันฮิตหรือดูดี แต่มันเป็นสิ่งสำคัญ” “ชาววีแกนและมังสวิรัติจะเคร่งครัดเกี่ยวกับเต้าหู้มาก เธอทำตัวเหมือนเป็นพวกเขาแต่สุดท้ายเธอแค่มาขโมยในสิ่งที่ต้องการเพื่อประโยชน์ของเธอเอง”     ต่อมา Anna ได้นำข้อความที่ถูกชาววีแกนด่าเหล่านี้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก จนมีคนแชร์ต่อมากกว่า 8,000 ครั้ง โดยในโพสต์นี้หญิงสาวบอกว่าขอโทษที่ไม่ได้เป็นมังสวิรัติ…

  • 26 ภาพที่เหล่าชาวเน็ตร่วมกันแชร์บอกเล่าประสบการณ์ได้พบกับคู่รัก และ ‘พรหมลิขิต’ ที่มีอยู่จริง

    26 ภาพที่เหล่าชาวเน็ตร่วมกันแชร์บอกเล่าประสบการณ์ได้พบกับคู่รัก และ ‘พรหมลิขิต’ ที่มีอยู่จริง

    หลายคนอาจไม่เชื่อในเรื่องโชคชะตาหรือพรหมลิขิต แต่ในบางครั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นถูกที่ ถูกเวลาราวกับว่ามันถูกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว อย่างผู้คนเหล่านี้ที่มาบอกเล่าประสบการณ์การได้พบกับคู่รักของตัวเอง โดยเชื่อว่าไม่ได้เกิดจากความบังเอิญแต่เพราะพรหมลิขิตต่างหากที่พาให้พวกเขาเดินทางมาพบกัน   1. ลูกพี่ลูกน้องของฉัน (คนที่ยืนโดดๆ อยู่ซ้ายมือ) อยู่ในภาพครอบครัวของภรรยาในอนาคตของเขา ซึ่งเป็นภาพ 7 ปีก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกัน   2. เรามักจะอยู่ด้วยกันตอนอยู่อนุบาล แต่พอโตขึ้นเราก็ต้องแยกจากกัน จนกระทั่ง 20 ปีต่อมา เรากลับมาพบกันอีกครั้งและตัดสินใจเดตกัน   3. ผมและภรรยาตอนอายุ 10 ขวบ เราถ่ายรูปในที่เดียวกัน เราไม่เคยเจอกันมาก่อน จนกระทั่งอายุ 30 ปี   4. หลังจากแต่งงาน Aimee และ Nick ได้เปิดภาพเก่าๆ มาดู แล้วก็พบว่าพวกเขาเคยเจอกันมาก่อนในสวนสนุก   5. เด็กสาวไม่ค่อยพอใจ เมื่อถูกเพื่อนชายชวนไปเต้นรำในงานปาร์ตี้ของโรงเรียน แต่หลายปีต่อมาพวกเขาได้กลับมาเต้นรำด้วยกันอีกครั้งในงานแต่งของตัวเอง   6. ภาพคู่รักที่ปรากฏบนปก Woodstock ตอนนี้ทั้งคู่ยังคงอยู่ด้วยกันมานานกว่า 48 ปีแล้ว   7. ฉันตกหลุมรักเขาตอนเจอเขาบนม้าหมุน แต่ฉันบอกความรู้สึกที่มีต่อเขาตอนเรียนมัธยม…

  • ช่างภาพไปเจอตึกที่ระบบดับเพลิงแตก มาจ๊ะเอ๋กับอากาศหนาวข้างนอก กลายเป็นศิลปะแบบบังเอิญๆ

    ช่างภาพไปเจอตึกที่ระบบดับเพลิงแตก มาจ๊ะเอ๋กับอากาศหนาวข้างนอก กลายเป็นศิลปะแบบบังเอิญๆ

    ในช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา เราต้องเจอกับปัญหาความหนาวเย็นที่สั่นไปทั้งกาย บางที่มีหมอกลงหนาบดบังสายตาในยามเช้า แต่สำหรับบ้านเราคงจะหนาวสู้สหรัฐอเมริกาไม่ได้ เพราะอากาศที่บ้านเขาเย็นจนเปลี่ยนน้ำเป็นน้ำแข็งได้ในพริบตาเลยทีเดียว   น้ำที่ไหลลงมากลายเป็นน้ำแข็งได้ในชั่วพริบตา   ภาพที่เราเห็นคือสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนมกราคม 2018 ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เมื่อตึกที่ใช้เป็นโรงแรมและสถานที่จัดเก็บแห่งหนึ่ง เกิดเหตุการณ์น้ำรั่วเพราะว่าระบบดับเพลิงพัง จนมีน้ำจำนวนมากไหลลงมาตรงบริเวณบันไดหนีไฟ ระยะเวลาแค่ชั่วอึดใจ น้ำที่ไหลลงมาก็จับตัวกลายเป็นน้ำแข็ง จนทำให้ตึก 21 ชั้นหลังนี้มีความสวยงามตระการตา อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน   ตึกที่เคยดูเรียบๆ ไม่โดดเด่นอะไร กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่ดูตระการตา   บันไดหนีไฟถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นบันไดน้ำแข็งที่ดูสวยงาม   ในช่วงเวลานั้นเองที่ช่างภาพหนุ่ม Andrew Hickey เดินผ่านตึกนั้นพอดี เขาจึงถ่ายรูปความสวยงามนี้เก็บไว้ในหลายๆ มุม ก่อนที่มันจะถูกทำความสะอาดหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง กลายเป็นโชคดีของชาวเน็ตที่ได้มีโอกาสมาเห็นอะไรแบบนี้   ความสูงที่ 21 ชั้นทำให้มันดูอลังการซะเหลือเกิน   ใครอย่าเผลอไปใช้บันไดตอนนี้เชียว ไม่อย่างนั้นคงหัวเป็นรูกันแน่ๆ   นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ต้อนรับปีใหม่ ที่ช่วยทำให้เราเห็นว่า อากาศหนาวนอกจากจะทำให้เราเป็นหวัดแล้ว มันยังช่วยให้เกิดสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ ขึ้นมาได้ด้วย   ที่มา: thisiscolossal

  • โปรดระวังไว้ให้ดี “น้ำมันหอมระเหย” อาจจะเป็นอันตรายต่อเจ้าเหมียวของคุณก็เป็นได้

    โปรดระวังไว้ให้ดี “น้ำมันหอมระเหย” อาจจะเป็นอันตรายต่อเจ้าเหมียวของคุณก็เป็นได้

    ปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีการขายน้ำมันหอมระเหยกันมากมาย พร้อมบรรยายสรรพคุณที่ทำให้คนอยากซื้อ เช่น บรรเทาความเครียด ใช้เพื่อความสวยความงามหรือดูแลรักษาผิว รวมทั้งรักษาอาการเจ็บป่วยบางอย่างด้วย สองบริษัทน้ำมันหอมระเหยที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้คือ Young Living Essential Oils ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1994 และ DoTerra ที่มีตัวแทนขายมากกว่า 3 ล้านราย นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2008 และยังมีของบริษัทอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดชาวเน็ตจำนวนมากเกิดความรู้สึกไม่พอใจ หลังจากที่คุณแม่คนหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่าเธอเผลอวางยาพิษให้แมวของเธอ โดยใช้เครื่องกระจายน้ำมันหอมระเหย     ผู้โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าวคือ Sue Murray จากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีแมวน้อยที่รักเหมือนลูกสาวชื่อ Ernie วัย 16 ปี แต่แล้วเธอสังเกตเห็นความผิดปกติหลังจากที่ใช้เครื่องกระจายน้ำมันหอมระเหยที่ซื้อมาจาก Amazon แล้วน้องแมวก็เริ่มแสดงอาการเหมือนกำลังป่วย Murray อ้างว่าเธอใช้เครื่องกระจายกับน้ำมันยูคาลิปตัส โดยตั้งไว้ข้างเตียง เพราะมันจะช่วยระบายความแออัดในห้องได้ “ในสองสามวันแรก Ernie ไม่ได้แสดงอาการปกติแต่อย่างใด แต่ในวันที่สี่มันเริ่มเซื่องซึม เดินเซ และดูหมดแรงอย่างเห็นได้ชัด” แม่ของน้องแมวกล่าว     ด้วยความเป็นห่วง สามีของเธอเลยค้นข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันยูคาลิปตัส แล้วก็พบว่ามันอาจเป็นอันตรายกับแมวได้ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบพา Ernie ไปหาสัตวแพทย์ทันที เมื่อไปถึงคุณหมอได้ให้ยาปฏิชีวนะและวิตามินอีก 1 ช็อต…

  • คุณพ่อลูกสองวัย 30 กำลังประสบกับโรค “อัลไซเมอร์” กลายผู้ป่วยโรคนี้ที่อายุน้อยที่สุดใน UK

    คุณพ่อลูกสองวัย 30 กำลังประสบกับโรค “อัลไซเมอร์” กลายผู้ป่วยโรคนี้ที่อายุน้อยที่สุดใน UK

    โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) คือภาวะของอาการสมองเสื่อมที่สามารถพบได้ในช่วงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์จะเริ่มสูญเสียความทรงจำไปเรื่อยๆ จำอะไรไม่ค่อยได้แม้แต่สิ่งรอบตัว เป็นโรคที่สร้างความทรมานให้กับจิตใจของผู้ป่วยและคนรอบข้างมากๆ สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ส่วนหนึ่งมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม หากว่าคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคอัลไซเมอร์ก็มีโอกาสที่ลูกหลานจะเป็นโรคนี้ด้วย Daniel Bradbury อายุ 30 ปีชาวเมือง Nottinghamshire ประเทศอังกฤษ ชีวิตของเขานั้นดูภายนอกอาจจะดีมาก มีครอบครัวที่อบอุ่น เป็นคุณพ่อของเด็กแฝดชายหญิง Lola และ Jasper มีภรรยาสุดสวย Jordan ที่คอยดูแลอยู่ข้างๆ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องเผชิญกับโรคอัลไซเมอร์ตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้     เขาทำงานเป็นวิศวกรที่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่อาการของโรคอัลไซเมอร์ก็เริ่มแสดงออกมาเมื่อเขาหลงๆ ลืมๆ บางสิ่งจนต้องพักการทำงานชั่วคราว อาการหลงลืมนี้เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเขาต้องถูกไล่ออกเพราะทำงานผิดพลาด เขาจึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการหลงๆ ลืมๆ ของเขา ผลก็คือเขาเป็นโรคอัลไซเมอร์     สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ของเขานั้นถูกถ่ายทอดมาจากพ่อของเขาที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1999 และที่เขาเป็นโรคอัลไซเมอร์ตั้งแต่อายุยังน้อยก็เนื่องมาจากการกลายพันธุ์ของยีน PSEN1 พ่อของเขาก็เสียชีวิตหลังจากเป็นโรคอัลไซเมอร์ขณะที่อายุเพียง 36 ปี หลังจากที่ได้รับรู้ข่าวร้ายนี้เขาก็คิดถึงเพียงแต่ครอบครัวของเขาเท่านั้น ห่วงว่าลูกเมียจะอยู่อย่างไร ที่สำคัญไปกว่านั้นเขากลัวที่จะสูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับลูกน้อยทั้งสองไป    …

  • ร้านตอบกลับแบบจัดเต็ม หลังลูกค้าคอมเพลนเรื่องราคาฟิชแอนด์ชิพที่แพงเกิ๊นนน

    ร้านตอบกลับแบบจัดเต็ม หลังลูกค้าคอมเพลนเรื่องราคาฟิชแอนด์ชิพที่แพงเกิ๊นนน

    ร้านอาหารแทบทุกร้านต้องเคยเจอกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งคำชมและการกล่าวถึงข้อบกพร่อง เหมือนอย่างร้านอาหารในเมืองเบอร์เคนเฮด ประเทศอังกฤษ ที่มีลูกค้ารายหนึ่งเข้ามาต่อว่าเกี่ยวกับราคาอาหารที่ดูเหมือนจะแพงจนเกินไป และนั่นจึงทำให้ทางร้านไม่อาจนิ่งเฉยกับคำพูดของเธอได้ ร้านอาหารดังกล่าวมีชื่อว่า Oxton Bar and Kitchen ซึ่งถูกลูกค้ารายหนึ่งเข้ามาเขียนรีวิวเอาไว้ในเพจเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2018 ทางร้านจึงทำการตอบกลับไป และอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่หญิงสาวคนนั้นไม่พอใจ รีวิวนั้นเขียนไว้ว่า “อาหารอร่อย พนักงานบริการเยี่ยมมาก แต่ฉันไม่เข้าใจเลยว่าคุณนำเสนอราคาอาหารแบบนี้ได้ไง ฟิชแอนด์ชิพจานเล็กราคา 8 ปอนด์ (ประมาณ 350 บาท) ได้อยู่หน่อยเดียวเนี่ยนะ?”   เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Debbie Davies ได้เขียนรีวิวลงไปบนหน้าเพจร้าน   เมื่อเห็นว่าเป็นอย่างนั้น ทางร้านจึงตอบกลับไปในคอมเมนต์เกี่ยวกับราคาสินค้า มองว่ามันก็เป็นราคาที่น่าจะยอมรับได้ และอธิบายว่าทำไมมันถึงมีราคาเท่านั้น พวกเขาเริ่มจากการอธิบายเกี่ยวกับราคาของอาหารจานดังกล่าวว่า ที่มันราคา 8 ปอนด์ เพราะบวกภาษีของรัฐบาลไป 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ทางร้านได้มาจริงๆ แค่ 6.66 ปอนด์ (ประมาณ 291 บาท) และจากที่เราได้มา จะเป็นค่าวัตถุดิบต่างๆ…

  • เด็กชาย Wang Fuman ที่เดินไปโรงเรียนจนน้ำแข็งเกาะหัว ได้รับเงินบริจาคกว่า 10 ล้านบาท

    เด็กชาย Wang Fuman ที่เดินไปโรงเรียนจนน้ำแข็งเกาะหัว ได้รับเงินบริจาคกว่า 10 ล้านบาท

    ไม่กี่วันที่ผ่านมา #เหมียวบู้บี้ ได้รายงานข่าวสุดประทับใจกับเรื่องราวของเด็กชายชาวจีนที่ไม่ละความพยายามในการเรียน อดทนเดินฝ่าความหนาวจากบ้านไปโรงเรียนระยะทางกว่า 4.5 กิโลเมตรจนผมกลายเป็นน้ำแข็งกลายเป็นเรื่องโด่งอังไปทั่วโลกออนไลน์ อ่านข่าวเก่า: เด็กชายเดินฝ่าหิมะท่ามกลางอุณหภูมิติดลบและระยะทางไกลกว่า 4.5 กม. เพื่อมาโรงเรียน เด็กชาย Wang Fuman ผู้ที่กลายเป็นขวัญใจชาวเน็ตในชั่วข้ามคืน นับถือในความตั้งใจและเพียรพยายามของน้องเขาจริงๆ เลย     เด็กชายเกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่แยกทางกัน แม่ทิ้งไป ส่วนพ่อก็ต้องไปทำงานหาเงินในตัวเมือง จำเป็นต้องฝากเขาและพี่สาวไว้กับคุณย่าที่อาศัยในบ้านดินเก่าๆ เด็กชายเป็นคนที่มีความกตัญญูมาก ช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระด้วยการทำงานช่วยเหลือครอบครัวอีกทางหนึ่งจนมือน้อยๆ แตกและหยาบกร้าน     แต่กระนั้นเขาก็ไม่ทิ้งการเรียนแต่อย่างใด ไม่ว่าจะสภาพอากาศแบบไหนก็ตั้งใจที่จะเดินไปโรงเรียนที่มีระยะทางกว่า 4.5 กิโลเมตรทุกๆ วัน แม้กระทั่งวันที่หิมะตกโปรยปรายอุณหภูมิติดลบกว่า -9 องศาเซลเซียส เขาก็ยังฝ่าความหนาวเดินมาจนผมกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหัว   .   ชาวเน็ตที่ได้ทราบเรื่องราวก็เกิดความประทับใจจึงได้ร่วมกันระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กชายผู้นี้ และแล้วสิ่งมหัศจรรย์รวมถึงผลของความดีของน้องทำให้ยอดเงินบริจาคเพิ่มขึ้นสูงเป็นจำนวนเงินกว่า 10.6 ล้านบาทในวันนี้ เงินบริจาคที่ได้มาเพื่อการช่วยเหลือมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กชาย Wang และเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียน Zhuanshanbao เงินที่ได้มาส่วนหนึ่งถูกจัดสรรปันส่วนให้กับเด็กที่ยากไร้คนละ 500 หยวนหรือประมาณ 2,500 บาท    …

  • แม่แอบถ่ายคลิปลูกน้อยแวะหาเพื่อนในคอกม้าตอนเช้า ทำเอาเรายิ้มตามกันไปด้วย

    แม่แอบถ่ายคลิปลูกน้อยแวะหาเพื่อนในคอกม้าตอนเช้า ทำเอาเรายิ้มตามกันไปด้วย

    ตอนเราเป็นเด็กเราก็คงจะเคยมีเรื่องเล่าและวีรกรรมแปลกๆ ที่ได้ทำไว้ วีรกรรมของเราในตอนนั้นอาจจะเรียกได้ว่าแสบสุดๆ มานึกถึงตอนนี้ก็คิดได้ว่าทำไมตอนนั้นเราถึงทำสิ่งๆ นั้นลงไปนะ คิดแล้วมันช่างน่าอายซะจริงๆ และวีรกรรมของเด็กสุดน่ารักที่เราจะมาเปิดเผยในวันนี้เป็นเรื่องราวของหนูน้อยที่ชื่อว่า Alayna ชาวเมือง Staunton รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจากคุณ Tera Rae Fauver แม่ของเธอเอง     ที่บ้านของแม่หนูคนนี้เปิดฟาร์มม้า Break Away Show นั่นหมายความว่า แม่หนูคนนี้ก็ต้องมีความคุ้นเคยกับพี่ม้าทุกตัวแน่นอน และฟาร์มม้าของเธอก็ไม่ธรรมดาอีกด้วย มีแต่ม้าสายพันธุ์ดีที่ได้รับการฝึกฝนให้ไปออกรายการดังๆ   แต่หนู Alayna ก็มีเพื่อนสนิทที่สุดเป็นม้าสีน้ำตาล หน้าตาดูงงๆ ตัวนี้ ชื่อว่าเจ้า Phantom   แม่ของหนูน้อยเล่าว่า ในทุกๆ เช้า คุณลูกสาวนั้นจะมีเรื่องเล่าให้พี่ม้าฟัง คุยได้คุยดี คุยทีเป็นชั่วโมง ดูจากคลิป   หนูน้อยมักจะหยิบหนังสือนิทานที่เธอชอบแล้วเดินเข้าไปในคอกม้า จากนั้นก็ร่ายบรรยายให้เจ้าม้าฟัง มันก็ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีอยู่เงียบๆ และไม่เคยทำร้ายนายน้อยของมันเลย   ความน่ารักนี้ทำให้คุณแม่แอบถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อยืนยันว่าลูกสาวของเธอนั้นมีวีรกรรมสุดน่ารักๆ แบบนี้ไว้ให้เธอดูเมื่อเธอเติบโตขึ้น การฝึกให้เด็กมีจิตใจเมตตาและรักสัตว์จะทำให้เด็กเป็นคนที่มีความอ่อนโยน และเรียนรู้ที่จะรักทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกอันสวยงามใบนี้   ที่มา inspiremore

  • แมวในศูนย์พักพิงหายไปกว่า 10 ตัว หลังโดน ‘หมาล่าเนื้อ’ บุก จนเจ้าเหมียววิ่งหนีกระเจิง

    แมวในศูนย์พักพิงหายไปกว่า 10 ตัว หลังโดน ‘หมาล่าเนื้อ’ บุก จนเจ้าเหมียววิ่งหนีกระเจิง

    ปกติแล้วศูนย์พักพิงสัตว์คือที่ที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์ พวกมันจะได้กินอาหารครบทุกมื้อ และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดเวลา แต่ในบางครั้งก็มีอันตรายเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน อย่างกรณีนี้ ที่แมวนับสิบตัวหายตัวไปจากศูนย์พักพิงแมว Greenacres Animal Sanctuary ใกล้กับเมืองอีสต์ซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ หลังจากมีสุนัขล่าเนื้อบุกเข้าไปข้างในเมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร ทำให้พวกมันวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่ผู้ดูแลกำลังให้อาหารเหมียว 130 ตัว ทาง The Celia Hammond Animal Trust เจ้าของศูนย์พักพิงบอกว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์อันน่ากลัวนี้ มีแมวหายไป 60 ตัว แต่ส่วนใหญ่ของพวกมันได้กลับมาในวันพุธและวันพฤหัสบดี The East Sussex & Romney Marsh Hunt เป็นเส้นทางล่าสัตว์ของสัตว์นักล่า แต่ก่อนหน้านี้เส้นทางของพวกมันถูกรบกวนจนทำให้มันหลงไปในพื้นที่ของศูนย์พักพิง อดีตนางแบบและผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิง Celia Hammond บอกว่า “มีสุนัขล่าเนื้อวิ่งเข้ามาในศูนย์พักพิงและวิ่งไปทั่วทุกพื้นที่ ทำให้เหล่าแมวที่อยู่ข้างในพากันวิ่งกระเจิง”     ตอนนั้นพนักงานและอาสาสมัครพยายามต้อนสุนัขออกไปและตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเร่งด่วน ทางด้านโฆษกหญิงของกลุ่มนักล่าสัตว์กล่าวว่า “ต่อให้ไม่มีใครเข้าไปในเขตล่าสัตว์ แต่ก็มีเหตุอื่นทำให้พวกมันออกนอกเส้นทางล่าสัตว์อยู่ดี เราสงสัยสุนัขล่าเนื้อบางตัวน่าจะได้กลิ่นเหยื่อ เลยทำให้มันออกนอกเส้นทางจนหลงเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า” อย่างก็ตาม เมื่อรู้ว่ามีสุนัขล่าสัตว์หลุดเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทางเจ้าหน้าที่ของกลุ่มล่าสัตว์ก็รีบเข้าไปช่วยเหลือพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถพาสุนัขล่าสัตว์ออกมาได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง และได้ขอโทษสำหรับสิ่ิงที่เกิดขึ้น  …

  • หนุ่มวัย 24 ได้รับการช่วยเหลือจาก Siri หลังบอกเธอว่า ‘กำลังจะตาย’ เพราะอาการชักกำเริบ

    หนุ่มวัย 24 ได้รับการช่วยเหลือจาก Siri หลังบอกเธอว่า ‘กำลังจะตาย’ เพราะอาการชักกำเริบ

    Siri เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ของสมาร์ทโฟนล้ำยุคอย่าง iPhone ที่หลายๆ คนรู้จักและคุ้นเคยอย่างดีกับเสียงของผู้หญิงที่คอยรับคำสั่งและจัดการทุกอย่างในโทรศัพท์ของคุณ Siri ทำงานด้วยระบบการสั่งงานด้วยเสียงและจะประมวลผลออกมาเป็นคำสั่งในสมาร์ทโฟนของคุณ เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าในยุคแห่งเทคโนโลยีที่เพิ่งมีเมื่อไม่นานมานี้ ฟีเจอร์ที่น่าทึ่งที่ทางบริษัทแอปเปิลได้สร้างสรรค์ขึ้นมานี้สามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้ iPhone เป็นอย่างมาก Siri สามารถช่วยให้ชีวิตของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้นโดยที่คุณแทบไม่ต้องทำอะไรเลย หนึ่งความก้าวล้้ำของ Siri ที่หลายๆ คนอาจนึกไม่ถึงนั่นก็คือ Siri นั้นสามารถช่วยชีวิตคนได้!? และเรื่องนี้ก็มีคนออกมายืนยันด้วยประสบการณ์จริงของนาย Rob Belt คุณครูหนุ่มอายุ 24 ปี     เขาได้เล่าเหตุการณ์เฉียดตายของเขาว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2017 ระหว่างที่เขาได้เดินทางกลับไป Cherry Willingham ประเทศอังกฤษ เขาเริ่มรู้สึกแปลกๆ วิงเวียนศีรษะและมันก็ค่อยๆ มึนขึ้นๆ จนเขาเกือบจะทรงตัวไม่อยู่ เขาคิดว่าคงจะมีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายเขาแน่ๆ จึงรวบรวมสติกดปุ่มโฮมแล้วพูดกับ Siri ว่า “ฉันคิดว่าฉันกำลังจะตาย” โชคดีที่ Siri มีความฉลาดมากมันประมวลผลแล้วส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือด้วยการโทรไปหา Colleen Magee แฟนสาวของเขาในทันทีและบอกว่าเขามีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง     เมื่อแฟนสาวทราบข่าวก็รีบโทรหาแม่ของชายหนุ่มให้เธอไปช่วยเหลือในทันทีเนื่องจากว่าเธอกำลังทำงานอยู่และแม่คงจะเป็นคนที่อยู่ใกล้ที่สุด เมื่อแม่ของเขาไปถึงก็พบว่าเขาหมดสติอยู่ภายในรถ…

  • ชายหนุ่มเผย Nintendo และ Pokemon มีส่วนช่วยให้เขาก้าวผ่านความขมขื่นจากการถูกแกล้งเมื่อวัยเด็ก

    ชายหนุ่มเผย Nintendo และ Pokemon มีส่วนช่วยให้เขาก้าวผ่านความขมขื่นจากการถูกแกล้งเมื่อวัยเด็ก

    ในวัยเด็กของหลายๆ คนต้องเคยได้สัมผัสเครื่องเล่นเกมของบริษัท Nintendo มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น Gameboy Advance หรือ Nintendo 3DS ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว เชื่อว่าจะต้องรู้จักเกมดังขวัญใจของใครหลายๆ คนอย่าง โปเกมอน แน่นอน เกมดังกล่าวไม่ได้มอบความสนุกสนานให้กับผู้เล่นเพียงอย่างเดียว แต่มันยังช่วยให้เด็กคนหนึ่งสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาอันน่าเศร้าจากการถูกกลั่นแกล้งได้ และเด็กคนนั้นก็นำเรื่องราวดังกล่าวกลับมาเล่าให้ฟังผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวที่ชื่อว่า @Piepoki หลังจากผ่านไปนานกว่า 10 ปี   โพสต์ของชายที่ได้รับการช่วยเหลือจากบริษัทใหญ่ในญี่ปุ่น   เรื่องราวของเขาคนนี้เริ่มต้นขึ้นตอนที่เรียนอยู่ประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 ในปี 2004 เมื่อเขาและเพื่อนเล่นเกมโปเกมอนภาค Fire Red อยู่ในขณะนั้น และเขาก็สามารถจับโปเกมอนที่หายากสุดๆ ได้หนึ่งตัว นั่นก็คือเจ้า Deoxys   โปเกมอนในตำนานที่ชื่อว่า Deoxys เป็นตัวที่หายากมากๆ ภายในเกม   แต่ดีใจได้ไม่นาน เพื่อนของเขาที่มีเซฟเดียวกันกลับเอาโปเกมอนตัวนี้ไปโอนให้กับเซฟของรุ่นพี่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เด็กหนุ่มจึงรู้สึกโกรธอย่างมาก และไม่คุยกับเพื่อนคนนั้นอีกเลย หลังจากนั้นเขาจึงไปคุยกับรุ่นพี่คนนั้น เพื่อขอโปเกมอนในตำนานกลับคืนมา แต่รุ่นพี่กลับบอกว่า ให้ไปหาโปเกมอนหายากอีกตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Arceus มาแลก ไม่อย่างนั้นก็ไม่คืนให้…

  • คลิปน่ารักๆ ของหนูน้อยง่วงจัด เผลอหลับไประหว่างแสดงบนเวทีถึง 2 ครั้ง อะไรจะหลับง่ายเบอร์นั้น

    คลิปน่ารักๆ ของหนูน้อยง่วงจัด เผลอหลับไประหว่างแสดงบนเวทีถึง 2 ครั้ง อะไรจะหลับง่ายเบอร์นั้น

    เราอาจเคยเห็นความผิดพลาดของการแสดงบนเวทีกันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะเรียกว่าความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะมันแฝงด้วยความน่ารักน่าชังของเด็กน้อย ที่เรียกเสียงหัวเราะจากเหล่าผู้ชมได้เป็นอย่างดี นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนมกราคม 2018 กับการแสดงของเด็กๆ ชั้นเตรียมอนุบาลในเมือง Hulunbuir ประเทศจีน เมื่อเด็กคนนี้เผลอหลับไปขณะที่กำลังโชว์อยู่บนเวที   ขุ่นแม่ก็บอกแล้วว่าถ้าไม่ไหวอย่าฝืน   หากสังเกตในรูปจะเห็นได้ว่า เด็กวัย 3 ขวบคนหนึ่งฟุบอยู่กับพื้นไม่ยอมลุกขึ้นมา ซึ่งเธอก็ไม่ได้เป็นลมหน้ามืดหรืออะไรอย่างนั้น แต่เธอแค่กำลังหลับอยู่เฉยๆ.. สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทีมงานต้องเดินขึ้นมาปลุกเธอให้ตื่นจากฝัน พร้อมทำการแสดงต่อไป กลายเป็นฉากที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับเหล่าผู้ชมจำนวนมาก พอเด็กได้สติกลับมา ก็ถึงคราวที่ต้องเริ่มการแสดงใหม่อีกครั้ง พอเพลงขึ้น เด็กคนอื่นเริ่มลุกขึ้นมา แต่เด็กสาวคนเดิมดันผล็อยหลับไปเป็นครั้งที่สอง ทำเอาขำก๊ากไปตามๆ กัน   ข้าวปลาไม่กินไม่เดือดร้อน เหตุใดเธอจึงเอาแต่นอน   ทีมงานจึงต้องกลับขึ้นมาบนเวทีเพื่อปลุกเด็กน้อยอีกครั้งหนึ่ง ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเหล่าคนดู ผู้ปกครองทั้งหลาย และสายตาของนักแสดงเด็กคนอื่นๆ ที่มองมาแบบงงๆ   คลิปความน่ารักของเด็กสาวที่เผลอหลับไประหว่างการแสดงถึง 2 ครั้ง   สุดท้ายแล้วการแสดงในครั้งนี้ก็ผ่านพ้นจบลงไปได้ด้วยดี เป็นที่ชื่นชอบของทุกคนที่ได้เห็นทั้งความสามารถ และความน่ารักของเด็กที่หลับระหว่างการแสดงถึง 2 ครั้ง ช่วยสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มได้อย่างดีเยี่ยม     เหตุผลที่ทำให้เด็กสาวรู้สึกง่วงขนาดนั้น เชื่อว่าเป็นผลมาจากการที่เธอต้องตื่นมาซ้อมการแสดงตั้งแต่หกโมงเช้า ทำให้มีความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง…

  • โดนไปอีกหนึ่งช่อง 2 ยูทูบเบอร์มะกันอัดคลิปแกล้งลักพาตัวเด็กญี่ปุ่น โดนชาวเน็ตถล่มยับ

    โดนไปอีกหนึ่งช่อง 2 ยูทูบเบอร์มะกันอัดคลิปแกล้งลักพาตัวเด็กญี่ปุ่น โดนชาวเน็ตถล่มยับ

    จากกรณีของ Logan Paul ทำวิดีโอเยาะเย้ยศพในป่า นั้นทำให้ชาวญี่ปุ่นโกรธและตระหนึกถึงพวก Youtuber ผู้ที่จะมาทำวิดีโอที่จะสร้างความเสียหายในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นบางคนก็ได้เริ่มที่จะค้นหาวิดีโอของเหล่า Youtuber ต่างๆ และก็ขุดคุ้ยจนมาเจอวิดีโอหนึ่งที่โพสต์ตั้งแต่เดือนกันยายนของคู่หู Dan Rue และ Nick Joseph     ในวิดีโอนั้น จะมีฉากที่ Dan นั้นได้จับล็อบสเตอร์จากตลาดสดเล่น ขณะที่ Nick นั้นก็บรรยายแบบล้อเลียนภาษาญี่ปุ่น และตอนท้ายของวิดีโอ Dan นั้นเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินดูของอยู่กับแม่ของเธอ ก่อนที่ Dan จะไปอุ้มเด็กและวิ่งหนีแม่ของเธอ ซึ่งเด็กคนนั้นตะโกนร้องกรี๊ด ในขณะที่แม่ของเธอวิ่งไล่ตาม Dan ไป แต่การแกล้งลักพาตัวเด็กแบบในวิดีโอนี้ ไม่ได้มีแรงบันดาลใจจาก Logan Paul หรอกนะ เพราะในวิดีโอนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีเหตุการณ์ของ Logan Paul เสียอีก ซึ่งจริงๆ วิดีโอนี้ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักซักเท่าไหร่ แต่ว่ากลายเป็นประเด็นใหญ่เมื่อชาวเน็ตญี่ปุ่นนั้นตระหนักว่า Youtuber บางคนนั้น ได้กระทำสิ่งที่เลวร้ายและก็จากไปง่ายๆ     โดยที่ Dan Rue ก็ได้ออกมาทวิตว่าที่ทำไปนั่นมันเป็นการจัดฉาก โดนเขาบอกว่า “หวังว่าคุณจะรู้นะว่านั่นมันเป็นการจัดฉากร่วมมือกับครอบครัวนั้น…

  • สาวถูกแฟนที่คบได้แค่ 3 เดือนจับขังและข่มขืน เผยสภาพที่โดนทำร้ายหลังจากหลบหนีมาได้

    สาวถูกแฟนที่คบได้แค่ 3 เดือนจับขังและข่มขืน เผยสภาพที่โดนทำร้ายหลังจากหลบหนีมาได้

    ในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา พวกเราหลายๆ คนคงกำลังจะวุ่นอยู่กับการเลี้ยงฉลองเพื่อก้าวเข้าสู่ปี 2018 อย่างสนุกสนาน แต่ช่วงเวลาเดียวกันนั้น มันคือวินาทีแห่งการเอาชีวิตรอดของหญิงสาวคนหนึ่งในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เธอถูกกักขังและทารุณกรรมอย่างหนักหน่วงกว่า 2 วัน เธอคนนี้มีชื่อว่า Kalia Kutzik วัย 22 ปี โดยในวันที่ 31 ธันวาคม 2017 ในที่สุดเธอก็สามารถหนีรอดมาจากเงื้อมมือของแฟนหนุ่ม Bishoy Elkhaliny วัย 30 ปี หลังจากที่ชายคนนี้ใช้ความรุนแรง ทำร้ายร่างกาย และข่มขืนเธอมาตลอด 2 วัน   Kalia หญิงสาวที่ถูกแฟนหนุ่มกักขังแและทารุณกรรมอย่างหนักหนาสาหัส   หลังจากที่เธอหนีรอดมาได้ เรื่องราวทั้งหมดก็ได้ถูกโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊กของเพื่อนเธอ บอกเล่าถึงความโหดร้ายที่เธอต้องเจอมา โดยที่ไม่มีใครสามารถติดต่อหรือเข้าช่วยเหลือเธอได้เลยในระยะเวลานั้น Kalia เล่าว่า เธอคบกับแฟนหนุ่มคนนี้มาเพียงแค่ 3 เดือน ในช่วงนั้นเธอต้องเจอกับความเลวร้ายของชายคนนี้อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งในวันหนึ่ง เธอถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก หนักกว่าทุกครั้งที่เคยเจอมา หญิงสาวบอกว่าตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีหนึ่ง เธอถูกทุบตีจนหน้าของเธอเต็มไปด้วยเลือด มีรอยแตกเต็มไปหมด ฟันหัก และมีแผลฟกช้ำไปอีกทั่วร่างกาย เธอบอกแฟนหนุ่มว่า…

  • อาชีพในฝันของสายเขมือบ “นักชิมนักเก็ตไก่” รอช้าอยู่ทำไม ไปสมัครสิครับ!!

    อาชีพในฝันของสายเขมือบ “นักชิมนักเก็ตไก่” รอช้าอยู่ทำไม ไปสมัครสิครับ!!

    ชอบนักเก็ตกันไหมเพื่อนๆ เนื้อไก่บดขึ้นรูปทอดเหลืองหอม ทานคู่กับเฟรนช์ฟรายส์ แค่นั้นก็ทำให้น้ำลายไหลไปตามๆ กันแล้ว แต่เชื่อไหมล่ะว่า เจ้านักเก็ตเหล่านี้นั้นนอกจากจะเหลืองกรอบหอมอร่อยแล้ว ยังทำเงินให้เพื่อนๆ ได้อีกด้วย   ขอแนะนำให้รู้จักกับ นักชิมนักเก็ตไก่   ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ แต่อาชีพนี้มีอยู่จริงๆ ไม่ได้โม้ ร้านซุปเปอร์สโตร์ B&M ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องราคาถูก กำลังขยายกิจการเข้าสู่ธุรกิจการขายอาหารสดและอาหารแช่แข็งอย่างเป็นทางการเพื่อแข่งขันกับร้าน Aldi และ Lidl ที่ครองตลาดด้านนี้อยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ปีกเพื่อเข้าร่วมทีมของพวกเขา ไม่ใช่เพียงนักเก็ตไก่เท่านั้นที่จะต้องถูกทดสอบ แต่รวมไปถึงอาหารสดทุกชนิดเช่น  ฟิชฟิงเกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ เนื้อทำเคบับ และแกงกะหรี่     ในประกาศรับสมัครเขียนว่า “กำลังมองหาความท้าทายใหม่ๆ สำหรับปี 2018 อยู่รึเปล่า? คุณจะต้องอยากกินอาหารไป ระหว่างที่เราหาอาหารน่าอร่อยจานใหม่มาให้แน่ๆ B&M ในตอนนี้เป็นหนึ่งในกิจการร้านขายอาหารกระป๋องราคาประหยัดที่เติบโตไวที่สุด และพวกเรากำลังจะขยายกิจการของพวกเรา เดือนหน้าเราจะเปิดตัวยี่ห้ออาหารสดและอาหารแช่แข็งไปยังหลายประเทศทั่วโลก เพื่อรับประกันว่าสินค้าของเราจะเป็นที่หนึ่งในประเทศ เราต้องการผู้โชคดีหนึ่งคนที่จะมาทดสอบรสชาติอาหารของเรา”   นักเก็ตก็เหมือนครอบครัวของผม   B&M กำลังมองหาผู้สมัครที่ “เคยมีประสบการณ์เดินไปที่แมคโดนัลด์แล้วสั่งนักเก็ต 20 กล่องมานั่งกินคนเดียว เข้าไปในครัวของออฟฟิศเป็นคนแรกเวลามีเค้ก แม้เดินสะดุดก็ไม่ทำอาหารที่พูนจานหกเลอะเทอะ ไปงานเลี้ยงเพียงเพื่อนั่งกินของฟรี และสามารถบอกความสำคัญของฟิชฟิงเกอร์แซนวิชที่มีต่อชีวิตของคุณได้” น่าเสียดายที่งานชิ้นนี้ไม่ได้เป็นงานประจำและให้ค่าจ้างเป็นบัตรกำนัลเงินสดมูลค่า…

  • สาวจีนขอเงินเพื่อแลกกับการคืนหมาแก่เจ้าของ แต่เงินไม่มากพอ เธอเลยโยนหมาลงมาจากตึกชั้น 6

    สาวจีนขอเงินเพื่อแลกกับการคืนหมาแก่เจ้าของ แต่เงินไม่มากพอ เธอเลยโยนหมาลงมาจากตึกชั้น 6

    บางครั้งหมุษย์เเราก็สามารถทำเรื่องโหดร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง หรือว่ากับสัตว์ร่วมโลกของพวกเรา และในบางครั้งความโหดร้ายนั้นก็เกิดขึ้นกับทั้งคนและสัตว์ในเวลาเดียวกัน Xiao Wu หญิงสาววัย 21 ปี ผู้อยู่ในเมืองเฉิงตู เขต Longquanyi ได้พบกับสุนัขที่หายไปของเธออีกครั้งก่อนที่มันจะสิ้นลมหายใจหลังจากที่ถูกโยนลงมาจากหน้าต่างชั้น 6 ของอาคารบริเวณนั้น   ภาพอันน่าเศร้าของเด็กสาวผู้ได้พบกับสุนัขอีกครั้ง… เพียงแค่ชั่วอึดใจ   หกเดือนก่อนหน้านี้ Xiao Wu ได้รับเลี้ยงสุนัขพันธุ์ Corgi ตัวหนึ่งโดยตั้งชื่อให้แก่มันว่า Ryan เธอรักมันมาก ดังนั้นตอนที่เจ้า Ryan หายตัวไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อนเกิดเหตุเธอจึงเสียขวัญอย่างมาก     Xiao Wu และครอบครัวออกตามหา Ryan ทั่วทั้งเมือง จนกระทั่งเธอรู้จากยามในระแวกใกล้เคียงว่าเขาพบสุนัขตัวหนึ่ง แต่คิดว่าเป็นสุนัขจรจัดเลยยกมันให้แก่ชายคู่หนึ่งไป เมื่อเธอพบชายคู่นั้นเธอก็ได้ทราบว่าพวกเขาส่งต่อสุนัขตัวนั้นให้หญิงวัยประมาณ 30 คนหนึ่งที่อยู่บ้านใกล้ๆ ไป ด้วยเหตุผลว่าสุนัขตัวนั้นเห่าน่ารำคาญ Xiao Wu สามารถหาทางติดต่อหญิงสาวคนที่ว่าได้สำเร็จและการ “ต่อรอง” ก็เริ่มขึ้น ผู้หญิงคนนั้นใช้ชื่อแฝงว่า He Li ในขณะที่คุยกันบนสื่อออนไลน์หญิงรายนี้่ข่มขู่ Xiao Wu ทำให้เธอหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เธอถึงกับถาม Xiao Wu ว่า “เธอมีเงินเยอะไหม” ในการสนทนาครั้งนั้นด้วย เธอต่อด้วยการขู่ว่าจะทำร้าย Ryan “ฉันเคยถามลูกสาวของฉันว่าเธออยากให้หมาอยู่หรือตาย ถ้าเธอไม่ชอบมัน…

  • โปรเจกต์ที่รวบรวม ‘รอยแผลเป็น’ ของเหล่าสาวๆ กับเรื่องราวเบื้องหลังของพวกมัน

    โปรเจกต์ที่รวบรวม ‘รอยแผลเป็น’ ของเหล่าสาวๆ กับเรื่องราวเบื้องหลังของพวกมัน

    ว่ากันว่ายังมีรอยแผลเป็นที่ไม่มีวันจางหาย แม้แผลจะรักษาได้ด้วยการแพทย์ แม้ร่องรอยจะเลือนหายตามกาลเวลา รอยแผลเป็นเหล่านั้นก็ยังคงฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ เป็นเครื่องเตือนใจถึงอะไรที่พวกเขาได้ผ่านมา พวกเขาต่อไปนี้คือกลุ่มผู้คนที่เปิดเผยบาดแผลของตัวเอง ไม่ใช่แค่เพราะภาพลักษณ์อันเลวร้ายของมัน แต่เพราะเบื้องหลังของมันต่างหากที่จะเล่าเรื่องราวสู่คนอื่นๆ ต่อไป   Maya   “เมื่อช่วงหลายเดือนก่อนเป็นช่วงที่ท้าทายมากสำหรับฉัน ผิวของฉันทรุดโทรมลงอย่างหนัก ตั้งแต่ตอนอายุได้ 18 เดือนที่ฉันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Epidermolysis Bullosa จนถึงเมื่อต้นปีนี้ ฉันยังสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้แม้จะมีผิวแบบนี้ อย่างน้อยมันก็ซ่อนและดูแลได้ง่าย แต่เมื่อเร็วๆ นี้อาการมันก็แย่ลงอย่างรวดเร็ว” เธอเล่า “สิ่งที่ฉันทำได้ลดลงอย่างมากและการวิจัยยารักษาก็ขาดแคลนทุนอย่างหนักจนฉันไม่มีหวังที่จะได้รับการรักษา ที่ฉันออกมาวันนี้ก็หวังว่าเด็กที่เป็นโรคนี้ในอนาคตจะได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้”   Mercy   “ฉันได้แผลนี้มาจากการทารุณกรรมในครอบครัว ฉันถูกเผาเมื่อตอนอายุได้ 29 ปีและต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ทุกวันนี้มันเป็นสิ่งสำคัญอันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันไปแล้ว เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันเป็นฉัน และถ้าการเปิดเผยมันจะช่วยใครสักคนได้ ฉันก็พร้อมจะทำ”   Tracey   “ในปี 2012 หมอบอกฉันว่าฉันเป็นแค่ไข้หวัดทั่วๆ ไปแต่มันก็เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว ฉันได้รับยาแก้ไข้แต่นั่นก็ทำให้ฉันแย่ลงไปอีก ฉันโทรไป 999 และพวกพยาบาลก็มาดูอาการของฉัน พวกนั้นเอาแต่พูดว่าฉันไม่เป็นไรๆ และกลับไปฉันจึงขึ้นไปนอน และไม่ตื่นขึ้นมาอีก ลูกสาวของฉันโทรตามรถพยาบาลอีกครั้ง เมื่อฉันตื่นขึ้นฉันจำใครไม่ได้เลย พวกเขาทำ  CT…

  • มาดูเครื่องแบบพนักงานรักษาความปลอดภัยของศาลเจ้าที่ญี่ปุ่นที่เท่สุดๆ แถมคล้ายชุดของตัวละครในอนิเมะอีก

    มาดูเครื่องแบบพนักงานรักษาความปลอดภัยของศาลเจ้าที่ญี่ปุ่นที่เท่สุดๆ แถมคล้ายชุดของตัวละครในอนิเมะอีก

    ประเทศญี่ปุ่นนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องของระเบียบวินัย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานไหนก็ต้องมีชุดเครื่องแบบทั้งนั้น ตั้งแต่พนักงานต้อนรับบนรถไฟ ไปจนถึงพนักงานร้านอาหารก็มี แถมยังมีหนังสือเกี่ยวกับชุดเครื่องแบบในญี่ปุ่นตลอด 150 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่า กลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยของศาลเจ้าสึรุงะโอะกะ ฮะจิมังกู ในเมืองคามาคุระ นั้นจะต้องมีเครื่องแบบประจำตัว เพื่อให้ประชาชนมองเห็นได้ง่ายจากฝูงชน สิ่งที่ดูน่าสนใจก็คือ ชุดสีแดงอันฉูดฉาด และมีลักษณะเหมือนกับเสื้อโค้ทยาว     พวกเขาเรียกตัวเองว่า กลุ่มโค้ทสีแดง หรือ The Redcoats ซึ่งดูเหมือนกับ Redcoats ของประเทศอังกฤษในเวอร์ชันอนิเมะ ศาลเจ้าสึรุงะโอะกะ ฮะจิมังกู ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองคามาคุระ ก็ได้มีการรับสมัครพนักงานดูแลรักษาตวามปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทุกปี แต่ก่อนนั้น ชุดของพนักงานจะเป็นสีกรมน้ำเงิน แต่ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อปี 1996 เพราะสามารถมองเห็นได้ในที่มืดและระยะไกล และเพื่อ รักษาเกียรติของศาล ชุดเหล่านี้เป็นชุดที่สั่งทำขึ้นมาพิเศษเพื่อใช้ที่ศาลเจ้านี้เท่านั้น   .   พนักงานรักษาความปลอดภัยบางคนก็สวมปลอกแขน ซึ่งจะแบ่งไปในแต่ละหน้าที่ในงานอีเวนท์ใหญ่ๆ ถึงแม้ว่าผู้คนอาจจะคิดว่าชุดเครื่องแบบเหล่านี้ กับชุดที่ใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นมีความคล้ายกัน แต่จริงๆ แล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด   ในความคิดของหลายๆ คน กลุ่ม…

  • พบกับชายตาบอดผู้มีงานอดิเรกในการ ‘ฟังเสียงนก’ และดื่มด่ำไปกับมัน

    พบกับชายตาบอดผู้มีงานอดิเรกในการ ‘ฟังเสียงนก’ และดื่มด่ำไปกับมัน

    Juan Pablo Culasso ชายหนุ่มผู้ที่ตาบอดมาตั้งแต่เกิด สิ่งเดียวที่เขามองเห็นได้ก็คือแสงสว่าง เขาสามารถรับส่งข้อมูลสำคัญต่างๆได้ผ่านเสียงเท่านั้น เสียงจึงเป็นโลกทั้งใบของเขา งานอดิเรกของ Juan คือการดูนก แต่สำหรับเขาแล้ว การที่เขาตาบอดนั้น เขาจึงสนุกกับการดูนกโดยใช้วิธีอื่น การดูนกของเขานั้นหมายถึงการฟังเสียงร้องของมัน การฟังเสียงนกร้องนั้นก็คือวิธีของเขาที่จะเข้าใจโลกใบนี้     เขาบอกว่า “ผมไม่รู้สึกว่าผมขาดการมองเห็นจากตาที่บอด มันไม่มีความจำเป็นต่อการดูนกของผมเลย สำหรับผมแล้ว เสียงเพลงของเหล่านกก็เป็นเหมือนกับดนตรีแสนไพเราะ” Juan ได้ใช้เวลากว่า 14 ปีในการบันทึกเสียงนกร้อง งานที่เขาบันทึกนั้น เป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางธรรมชาติ ซึ่งกำลังจะถูกมนุษย์ทำลายลงไป การที่ได้บันทึกเสียงนกร้องในแต่ละสถานที่ ก็เหมือนกับการได้เก็บความทรงจำส่วนหนึ่งของสถานที่นั้นๆ ไว้     เขาได้ยกตัวอย่างมากมายเกี่ยวกับเสียงร้องของนกที่เขาได้บันทึกไว้ เช่น   เสียงร้องของนก Great Kiskadee นั้นมีตัวโน๊ตดนตรีอยู่มากมาย   นก Ovenbird มีเสียงร้องที่ดัง สามารถได้ยินจากไกลๆเลยทีเดียว   นก Southern Lapwing ที่เราจะได้ยินเสียงร้อง “เทโระ เทโระ” ของมันตลอดเวลา  …

  • การตอกกลับของเหล่าผู้คนจากกลุ่มประเทศ ที่ผู้นำแห่งสหรัฐเรียกว่า ‘ประเทศหลุมขรี้’

    การตอกกลับของเหล่าผู้คนจากกลุ่มประเทศ ที่ผู้นำแห่งสหรัฐเรียกว่า ‘ประเทศหลุมขรี้’

    เมื่อไม่นานมานี้ได้มีคำพูดที่กลายเป็นกระแสในชั่วข้ามคืน จากคำพูดของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump ที่พูดเอาไว้ในการประชุมเกี่ยวกับประเด็นเรื่องแรงงานข้ามชาติ โดยเขาใช้คำเรียกแทนกลุ่มแรงงานอพยพจากเฮติ เอลซัลวาดอร์ และประเทศแถบแอฟริกันว่าเป็น “กลุ่มประเทศหลุมขรี้” (Shithole) คำพูดจากปากของผู้นำประเทศมหาอำนาจ ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือแม้แต่ในหลายๆ ประเทศ มองว่ามันแสดงให้เห็นถึง การเหยียดเชื้อชาติในเชิงส่อเสียดที่รุนแรงอย่างแท้จริง     เหล่าผู้คนที่ถูกสบประมาทก็ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ พวกเขาจึงตอกกลับด้วยการออกมาพูดถึงความสำเร็จและคุณค่าความหมายในชีวิต เพื่อเป็นการตอบกลับไปว่าความเป็นจริงไม่ได้เหมือนอย่างที่ถูกกล่าวหาเสมอไป และนี่ก็คือโพสต์ต่างๆ ที่มีในโลกโซเชียลจากผู้คนเหล่านั้น   นักศึกษาแพทย์จากซูดานใต้ ที่สามารถพูดได้ถึง 3 ภาษา และมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์   ชายหนุ่มจากแอฟริกาใต้ ผู้เรียนจบทางด้านวารสารศาสตร์ สามารถพูดได้ถึง 6 ภาษา และเขาจะก้าวสู่การเป็นบรรณาธิการข่าวในอนาคต   นักศึกษาแพทย์ชาวไนจีเรีย ที่มีปริญญาถึง 3 ใบ และยังจะได้เพิ่มอีก 2 ใบ มีความสามารถพูดได้ 3 ภาษา และเป็นคนที่คอยช่วยเหลือมูลนิธิต่างๆ ด้วยจำนวนเงินกว่า 300,000 บาท   ลูกครึ่งแอฟริกาที่ได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ คอยช่วยเหลือ ดูแล และปลอบประโลมผู้คนจำนวนมาก…

  • ทารกคลอดก่อนกำหนด 12 สัปดาห์ กลายเป็นเด็กที่ตัวเล็กที่สุดในเอเชีย ขนาดเท่าฝ่ามือ

    ทารกคลอดก่อนกำหนด 12 สัปดาห์ กลายเป็นเด็กที่ตัวเล็กที่สุดในเอเชีย ขนาดเท่าฝ่ามือ

    Manushi หนึ่งในทารกชาวอินเดีย ที่เกิดมามีขนาดตัวเล็กที่สุดในโลก เธอได้เกิดออกมาก่อนกำหนดคลอดถึง 12 สัปดาห์ มีน้ำหนักเพียง 0.88 ปอนด์ หรือประมาณ 4 ขีด เท่ากับน้ำหนักของช็อคโกแลตแท่งของ Cadbury เท้าของเธอนั้นมีขนาดเล็กเท่ากับเล็บนิ้วโป้งของพ่อของเธอ จากการวัดส่วนสูง เธอมีส่วนสูงเพียง 8.6 นิ้ว และถือว่าเป็นทารกที่ตัวเล็กที่สุดที่เคยเกิดมาในเอเชีย ตอนที่คลอดออกมานั้น เธอไม่ได้หายใจ เนื่องจากมีผิวหนังที่บางราวกับกระดาษ และอวัยวะที่ยังไม่พัฒนาได้เต็มที่     หลังจากที่ได้อยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 6 เดือน เธอก็ได้กลับบ้าน ถึงแม้ว่าโอกาสรอดโดยไม่ได้รับความเสียหายทางสมองจะมีแค่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ Seeta และ Giriraj แม่และพ่อของ Manushi ได้กล่าวว่า “เธอนั้น ทั้งสู้ สู้ และสู้กับความโชคร้าย และเธอก็ทำได้สำเร็จ”     ค่าใช้จ่ายในการทำคลอดและรักษา Manushi นั้นอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านรูปี หรือราวๆ 5 แสนบาท แต่อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลก็ได้ลดค่ารักษาให้ เนื่องจากครอบครัวของเธอนั้นมีรายได้น้อย…

  • ศิลปินแอบวางงานศิลปะจากแผ่นไม้ไว้ทั่วเมืองให้ผู้คนได้ชื่นชมและออกค้นหาชิ้นถัดไป

    ศิลปินแอบวางงานศิลปะจากแผ่นไม้ไว้ทั่วเมืองให้ผู้คนได้ชื่นชมและออกค้นหาชิ้นถัดไป

    งานศิลปะไม่จำเป็นต้องดูสะดุดตาก็ได้ เพียงแค่มันเล่าเรื่องราวได้ก็พอ … มาพบกับงานสตรีตอาร์ท (Street Art) อีกแนวหนึ่งกันบ้างครับ ครั้งนี้เป็นผลงานของศิลปิน Joe Iurato ที่อาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา งานศิลปะของเขา เป็นการนำตัวละครที่ทำจากแผ่นไม้ ไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วทั้งรัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยตัวละครแต่ละตัวจะบอกเล่าเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ที่สอดคล้องกับจุดที่มันถูกวางไว้ เรื่องราวของตัวละครเหล่านี้ ก็มักจะมาจากประสบการณ์ในชีวิตของศิลปินนี่แหละ     Iurato ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Brooklyn Street Art เกี่ยวกับผลงานของเขาไว้ว่า “สิ่งหนึ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับงานชิ้นเล็กๆ พวกนี้ ก็คือมันซ่อนความน่าประหลาดใจไว้ในตัวเองด้วย คุณอาจจะบังเอิญเห็นมัน หรืออาจจะไม่ทันสังเกตก็ได้” เขาเล่าต่อว่า “แต่ถ้าคุณเห็นมันละก็ มันก็จะไม่ได้มีอารมณ์เหมือนเห็นงานศิลปะชิ้นโตที่ดูโดดเด่น กลับกันคุณมักจะเห็นมันผ่านทางหางตา และหันมาเจอมันตอนอยู่ใกล้ๆ แล้วเท่านั้น จากนั้นคุณก็จะได้เห็นเรื่องราวน่ารักๆ ของมัน” ลองไปชมผลงานบางส่วนของเขากันครับ ว่ามันสวยและน่ารักแค่ไหน   ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกเล็กๆ ของพวกเรา   รูปนี้ผมวาดเอง สวยไหมฮะ   พวกเธอดูดอกไม้นี่สิ สวยจริงๆ   ไอ้ตูบอย่าส่งเสียงดังล่ะ เดี๋ยวจะมีคนเจอเราเข้า…

  • เด็กสาวเข้าใจผิดคิดว่าพนักงานแคชเชียร์เป็น ‘Maui’ ในเรื่อง Moana พี่แกก็เลยสวมบทบาทซะเนียนเลย

    เด็กสาวเข้าใจผิดคิดว่าพนักงานแคชเชียร์เป็น ‘Maui’ ในเรื่อง Moana พี่แกก็เลยสวมบทบาทซะเนียนเลย

    เด็กเล็กมักจะมีตัวการ์ตูนตัวโปรดอยู่ในดวงใจเสมอ และจะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นตัวละครนั้นในชีวิตจริง ไม่ว่าจะเห็นตามจอทีวี เห็นของเล่นของตัวละครนั้น หรือเห็นคนจริงๆ ที่มีลักษณะคล้ายตัวละครตัวนั้น เหมือนกับเด็กสาวสองพี่น้องในคลิปวิดีโอนี้ ที่บังเอิญไปเจอ Maui ตัวละครเอกตัวหนึ่งในภาพยนต์การ์ตูนที่มีชื่อว่า Moana จากค่ายการ์ตูนเจ้าหญิงอย่าง Disney   สองพี่น้อง Ryley และ Rylyn   เด็กสาวสองพี่น้องนี้ชื่อว่า Ryley และ Rylyn พวกเธอชื่นชอบตัวละคร Maui มากๆ และบังเอิญไปเห็นว่าที่ร้านค้า Costco ในละแวกบ้านของพวกเธอมี Maui ตัวเป็นๆ อยู่ด้วย พวกเธอทั้งสองคนจึงชอบที่จะไปเดินซื้อของที่ร้านค้าแห่งนี้กับคุณแม่ และมักจะแวะไปทักทาย Maui ของพวกเธออยู่บ่อยครั้ง   Will พนักงานที่สวมบทบาทเป็น Maui ให้สาวน้อย   พนักงานที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกับมนุษย์กึ่งเทพ Maui นั้นมีชื่อว่า Will เขาทำงานเป็นแคชเชียร์อยู่ที่ร้าน Costco และเขาก็ชอบที่จะแสดงเป็น Maui ให้เด็กๆ รู้สึกสนุกกันด้วย พอเด็กๆ มายังช่องคิดเงินของเขา เขาก็เลยเนียนสวมบทบาทซะสมจริงเลย โดยเขาชวนเด็กทั้งสองมาอยู่ข้างๆ…

  • 11 เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นจาก ‘การให้’ แค่ได้อ่านก็รู้สึกว่าหัวใจถูกเติมเต็มด้วยความสุข

    11 เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นจาก ‘การให้’ แค่ได้อ่านก็รู้สึกว่าหัวใจถูกเติมเต็มด้วยความสุข

    ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่เราจะมองตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิต เพราะไม่ว่าใครก็ต้องการทำให้ตัวเองมีความสุขและสบายใจกันทั้งนั้น แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชีวิตดีในระดับหนึ่งแล้วล่ะก็ บางครั้งการ ‘ให้’ บางสิ่งกับผู้อื่นที่ต้องการความช่วยเหลือบ้าง ก็สามารถสร้างความสุขได้ทั้งกับตัวคุณเองและคนรอบข้างอีกด้วย ในวันนี้เราได้รวบรวมเรื่องราวอบอุ่นหัวใจ ของคนกลุ่มหนึ่งที่ได้มอบความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กับเพื่อนร่วมโลกของเราโดยที่ไม่นึกถึงผลประโยชน์ของตัวเองเลย แล้วเพื่อนๆ จะได้เห็นว่าการ ‘ให้’ มันยิ่งใหญ่มากแค่ไหน   1. รวมพลังหญิงสาว กู้ความมั่นใจให้หนุ่มนักเต้น   หนุ่มใหญ่คนนี้ เต้นรำอยู่ในงานปาร์ตี้แห่งหนึ่ง แต่หลังจากที่เขาเห็นว่ามีคนหัวเราะเยาะตัวเอง เขาก็หยุดเต้นไปเลย อาจจะเพราะว่าเขารู้สึกเหมือนตัวตลกก็เป็นได้ เรื่องราวของเขาถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์ และผ่านตากลุ่มหญิงสาวในรัฐลอสแอนเจลิสที่นำทีมโดย Cassandra Fairbanks เข้า สาวๆ จึงอยากเรียกความมั่นใจและความรักในการเต้นรำของเขากลับคืนมาด้วยการจัดปาร์ตี้ให้เขาโดยเฉพาะ นอกจากสาวๆ แล้ว คนดังอย่าง Pharrell Williams และ Moby ก็เสนอตัวมาเป็น DJ ให้ด้วย พวกเธอทั้ง 1,727 คน รวมตัวกันและโพสข้อความตามหาหนุ่มใหญ่นักเต้นคนนี้ ว่าถ้าเขาเห็นข้อความเชื้อเชิญไปงานปาร์ตี้ล่ะก็ ติดต่อกลับหาพวกเธอด้วยนะ โชคดีที่หนุ่มคนนี้เห็นข้อความนั้นและตอบรับคำเชิญของพวกเธอ เลยได้เต้นอย่างสบายอารมณ์เหมือนในรูปนี่แหละ   2. หนุ่มน้อยผู้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนๆ   หนุ่มน้อยคนนี้สังเกตเห็นว่าเพื่อนๆ ในชั้นเรียนหลายคน มักจะไม่ได้ทานข้าวกลางวัน…

  • ชมการคัฟเวอร์ MV “As If It Your Last” – BLACKPINK โดย เด็กเซาะกราว เป๊ะจนต้องยอมให้เลย

    ชมการคัฟเวอร์ MV “As If It Your Last” – BLACKPINK โดย เด็กเซาะกราว เป๊ะจนต้องยอมให้เลย

    เพิ่งผ่านวันเด็กแห่งชาติมาหมาดๆ และ #เหมียวขี้ส่องเองก็มีโอกาสไปร่วมงานด้วย ได้เห็นน้องๆ หนูๆ พกความสามารถมาโชว์ด้วย บอกได้เลยว่าเด็กสมัยนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ไหนๆ ก็พูดถีึงเด็ก ไม่พูดถึงแก๊ง “เด็กเซาะกราว” คงไม่ได้ เพราะพวกเขาคือกลุ่มเด็กหญิงที่โด่งดังในโซเชียลจากผลงานการคัฟเวอร์ร้อง เต้น และเล่น MV ที่มีความเป๊ะเวอร์จนศิลปินเจ้าของผลงานยังต้องยอม สำหรับผลงานการคัฟเวอร์ที่่ผ่านมาไม่ได้มีแค่เพลงไทยนะ แต่มีของศิลปินต่างประเทศด้วย และที่กำลังโด่งดังในขนาดนี้คือการคัฟเวอร์ MV “As If It Your Last” ของ BLACKPINK    นี่คือ MV As If It Your Last ต้นฉบับของสาวๆ วง BLACKPINK   เห็นท่าเต้นแล้วบอกเลยว่ามันไม่ง่ายที่จะคัฟเวอร์ แต่สำหรับเด็กสาวทั้ง 4 คนนี้ มันคงไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา เลยถอดออกมาซะเหมือนเป๊ะทุกท่วงท่า   และนี่คือการคัฟเวอร์เพลง As If It Your Last ของเหล่าเด็กเซาะกราว   อะ เปรียบเทียบกันให้เห็นชัดๆ ไปเลย…

  • หนุ่มญี่ปุ่นเปลี่ยนเตียงนอนหลังเก่าของแม่ ให้กลายเป็นแท่นบูชา เพื่อระลึกถึงท่าน

    หนุ่มญี่ปุ่นเปลี่ยนเตียงนอนหลังเก่าของแม่ ให้กลายเป็นแท่นบูชา เพื่อระลึกถึงท่าน

    ถ้าหากใครที่เคยดูหนังหรือซีรีส์ญี่ปุ่นอาจจะคุ้นเคยกับภาพของแท่นบูชาบรรพบุรุษหรือที่เรียกว่า Butsudan อยู่ในบ้านแน่ๆ วัฒนธรรมนี้ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วๆ ไปในประเทศญี่ปุ่น แท่นบูชานี้จะมีการวางของต่างๆ ไว้ด้านหน้าไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลไม้ หรือเหล้าสาเกสำหรับไหว้คนในครอบครัวที่เสียชีวิตไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเจ้า Butsudan นี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป แต่สำหรับบางคนที่อยากให้แท่นบูชาบรรพบุรุษนี้มีความหมายมากขึ้น ก็อาจจะลงมือทำด้วยตัวเองเหมือนกับหนุ่มคนนี้     หลังจากที่คุณแม่เสียชีวิตไปเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา คุณ Nobumichi Tosa ได้ตัดสินใจที่จะทำแท่นเคารพคุณแม่ด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้แม่ของคุณ Nobumichi ได้อาศัยอยู่กับน้องสาวของเธอ แต่หลังจากที่เธอเสียชีวิตน้องสาวเธอก็เตรียมที่จะจัดการกับข้าวของของเธอ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเตียงนอนหลังเก่านั่นเอง     ชายหนุ่มเห็นว่าเตียงนอนหลังเก่าของคุณแม่นั้นทำมาจากไม้อย่างดี และมันน่าจะนำไปตัดแปลงเป็นแท่นบูชาได้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มลงมือทำ Butsudan จากเตียงกลังเก่าของคุณแม่     ภาพของแท่นบูชาหลังจากที่ถูกดัดแปลงเรียบร้อย   “ผมคิดว่าแม่น่าจะดีใจที่ได้เห็นสิ่งนี้ เธอคงจะพักผ่อนได้อย่างสบายในเตียงที่เธอคุ้นเคย” คุณ Nobumichi พูดถึงคุณแม่ของเขา   ที่มา rocketnews24

  • คู่รักถูกครอบครัวแปลกหน้าเซอร์ไพรส์ส่งของขวัญแต่งงานมาให้ เหตุเพราะค้นชื่อเจอใน Google

    คู่รักถูกครอบครัวแปลกหน้าเซอร์ไพรส์ส่งของขวัญแต่งงานมาให้ เหตุเพราะค้นชื่อเจอใน Google

    เรื่องราวอันน่าอบอุ่นหัวใจนี้เกิดขึ้นกับคู่รักจากรัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับของขวัญวันแต่งงานจากคู่รักที่อยู่ห่างไกลกันหลายพันกิโล และที่สำคัญทั้งสองคู่นั้นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนวันเข้าพิธีวิวาห์ของคุณ Mary Hall และคู่หมั้นของเธอ Chuck หลังจากที่ผ่ายหญิงกลับมาถึงบ้าน เธอได้พบกล่องของขวัญที่ส่งมาถึงพวกเธอ พร้อมกับจดหมายร่วมแสดงความยินดีจากคู่รักดังกล่าวที่บอกว่าพวกเขาเห็นการแต่งงานของทั้งสองทางอินเตอร์เน็ต     “เมื่อเราค้นหารายชื่อของคนที่จะแต่งงานในปี 2018 เราพบชื่อของพวกคุณเป็นคู่แรก จากข้อมูลในการ์ดเชิญ เราพบที่อยู่ของพวกคุณและนี่คือของขวัญที่เรามอบให้” ข้อความบางส่วนจากจดหมาย จดหมายดังล่าวถูกส่งมาจากครอบครัว Felker นอกจากการแสดงความยินดีแล้ว เนื้อความในจดหมายยังพูดถึงของที่อยู่ในกล่องนั้นอีกด้วย ซึ่งนั่นก็คือแก้วแชมเปญแกะสลักที่เคยเป็นของคุณ Chuck และ Mary Felker จากรัฐวิสคอนซินอีกด้วย “เราหวังว่าพวกคุณจะรับแก้วแชมเปญแกะสลักอันนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของพ่อแม่พวกเราที่เสียไป” ข้อความบางส่วนจากจดหมาย   คุณ Mary Hall และคู่หมั้นของเธอที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในวันที่ 20 มกราคมนี้   จดหมายที่แนบมาพร้อมกับกล่องของขวัญ   “เราเปิดกล่องของขวัญและอ่านจดหมายที่อยู่ภายในนั้น ตอนที่คู่หมั้นของฉันกำลังอ่านจดหมายฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลย นี่เป็นของขวัญที่เราซาบซึ้งมากๆ” หญิงสาวให้สัมภาษณ์ Mary และ Chuck ได้ทำการส่งการ์ดเชิญไปยังครอบครัว Felker แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางครอบครัวดังกล่าวยังไม่ได้ตอบรับคำเชิญแต่อย่างใด   แก้วแชมเปญแกะสลักจากครอบครัวคนแปลกหน้า ที่ส่งเป็นมาเป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับทั้งสอง .   ที่มา littlethings

  • ชาวเน็ตแซว Gordon Ramsey ในรายการ This Morning ว่าพักนี้ดูอ้วนขึ้นนะนาย

    ชาวเน็ตแซว Gordon Ramsey ในรายการ This Morning ว่าพักนี้ดูอ้วนขึ้นนะนาย

    เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเซเลบที่เรามักจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีเลยก็ว่าได้ สำหรับเชฟที่มีบุคลิกเฉพาะตัวอย่าง Gordon Ramsay  และล่าสุดดูเหมือนว่าเค้าจะกลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อีกครั้งหลังจากที่ปรากฏตัวในรายการ This Morning เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา การปรากฏตัวในรายการเชฟจอมเดือดผู้นี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงแค่การสัมภาษณ์และโชว์ทำอาหารเฉยๆ เท่านั้น แต่ทว่าชาวเน็ตตาดีก็แอบสังเกตเห็นว่าเชฟ Gordon ของเรานั้นดูเหมือนว่าจะเป็นหนุ่มเจ้าเนื้อขึ้นมานิดหน่อย     “เกิดอะไรขึ้นกับเขา นี่เขากินน้ำมันหมูเยอะเกินไปหรือเปล่า?” หนึ่งในความเห็นจากชาวเน็ตหลังจากที่ได้เห็นเชฟวัย 51 ปีของเราในรายการดังกล่าว แต่ไม่เพียงเท่านั้นยังมีอีกหลายๆ คนที่ตกใจหลังจากที่เห็นเชฟของเรา และบางคนก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า “เดี๋ยวก่อนนะ นั่นใช่ Gordon Ramsay จริงๆ หรือ เกิดอะไรขึ้นกับเขาเนี่ย??”   ภาพของเชฟวัย 51 ปีในรายการ This Morning   แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีอีกหลายๆ คนที่มีความคิดเห็นแตกต่างออกไป ชาวเน็ตรายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า “ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนะ ฉันอยากจะบอกว่าเขาดูดีมากเลยจริงๆ”  ส่วนบางคนก็บอกว่า “เขาดูดีมากเลยในเช้านี้ ฉันรักเขามากๆ ”  Gordon Ramsay เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับรูปร่างของเขาเอาไว้ ว่าการโดนกล่าวหาว่าอ้วนนั้นเป็นแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักสำหรับเขาได้อย่างดีเลยด้วย   “ความกดดันสำหรับอาชีพเชฟนั้นเป็นสิ่งที่คุณไม่นึกภาพไม่ออกแน่ๆ ถ้าหากว่าคุณเดินออกมาคุยกับลูกค้าด้านนนอกล่ะก็ คุณจำเป็นจะต้องดูดีอยู่ตลอด” Gordon Ramsay ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อปี 2016…

  • สแตนดี้ลุงตู่ โผล่ในเกม The Sims 4 แล้ว ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ ก็โหลดมาใช้ได้นะจ๊ะ!!

    สแตนดี้ลุงตู่ โผล่ในเกม The Sims 4 แล้ว ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ ก็โหลดมาใช้ได้นะจ๊ะ!!

    ในวันเด็กที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีของเราหรือที่เรียกกันด้วยชื่อเล่นว่า ลุงตู่ คงกลัวจะพบปะกับเด็กๆ ได้ไม่ทั่วถึงจึงทำป้ายไวนิลรูปตัวเองเป็นสแตนดี้ลุงตู่ให้เด็กๆ ได้ถ่ายรูปกัน แต่ถ้าเด็กๆ ไม่ทันได้ถ่ายรูปกับสแตนดี้ลุงตู่ วันนี้เรามีตัวช่วยให้เด็กๆ ได้พบสแตนดี้ลุงตู่อีกทางหนึ่งแล้ว ผ่านทางเกมส์จำลองชีวิตอย่าง The Sims 4 นี่ไง   น้องครับ เบนซินเต็มถัง   โดยทางเพจ Bangkoksims ซึ่งเป็นสังคมออนไลน์ของผู้เล่นเกมซิมส์ในประเทศไทย ได้ทำ Mod ซึ่งเป็นไอเท็มเสริมออกมาให้ผู้เล่นเกมซิมส์ได้ใช้งานกัน เมื่อใส่ไอเท็มเสริมตัวนี้เข้าไปแล้วก็จะทำให้เรามีสแตนดี้ลุงตู่โผล่อยู่ในโหมดซื้อ เอาไว้ตกแต่งตามจุดต่างๆ ในเกมนั่นเอง   ลุงตู่ที่รักของเราพร้อมพบปะประชาชนทุกเมื่อ   ถ้าใครอยากได้ Mod ตัวนี้มาใช้งานสามารถ ไปโหลดกันได้ที่นี่ เลยครับ   ที่มา: Bangkoksims

  • ร้าน H&M ในแอฟริกาใต้ถูกถล่มจนเละ หลังจากมีดราม่าเสื้อที่มีคำพูดเชิงเหยียดเชื้อชาติ

    ร้าน H&M ในแอฟริกาใต้ถูกถล่มจนเละ หลังจากมีดราม่าเสื้อที่มีคำพูดเชิงเหยียดเชื้อชาติ

    หลังจากที่มีข่าวว่า H&M แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง นำรูปเด็กชายผิวสีสวมเสื้อฮู้ดที่มีสโลกแกน ‘Coolest Monkey in the Jungle’ (ลิงที่เจ๋งที่สุดในป่า) ซึ่งสื่อถึงการเหยียดสีผิว ขึ้นบนเว็บไซต์ ชาวเน็ตก็ได้ออกมาต่อต้านกันมากมาย แม้ว่าล่าสุดทาง H&M จะนำรูปเสื้อตัวนั้นออกจากเว็บไซต์ และมีคำขอโทษออกมาแล้ว แต่การประท้วงต่อการเหยียดคนผิวสีนั้นยังคงดำเนินต่อไป และมทวีความรุนแรงมากขึ้น   รูปเด็กชายและเสื้อฮู้ดที่เคยอยู่ในเว็บไซต์ H&M ที่เป็นข่าวดังเรื่องเหยียดสีผิวในขณะนี้   ล่าสุด ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งในประเทศแอฟริกาใต้ ได้บุกเข้าไปทำลายข้าวของในร้าน H&M ตามห้างสรรพสินค้ากว่า 6 แห่ง เนื่องจากไม่พอใจที่เสื้อตัวใหม่ของ H&M มีข้อความเหยียดสีผิวด้วย เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 13 มกราคาคมที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าการก่อเหตุรุนแรงขนาดใหญ่นี้ ได้มีการวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว โดยในคลิปวิดีโอหนึ่งที่บันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ได้ จะเห็นว่ามีชายคนหนึ่งเข้ามากระโดดเตะราวเสื้อผ้าล้มระนาว จากนั้นก็มีคนอื่นๆ เข้ามาร่วมสมทบอีกด้วย     นอกจากร้านค้า H&M ที่ได้รับความเสียหายแล้ว ลูกค้าที่กำลังซื้อของในร้าน และคนที่อยู่ใกล้เคียงก็ได้รับความเดือดร้อนไปด้วยเช่นกัน กลุ่มผู้ประท้วงยังคงทำลายข้าวของในร้านค้าโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แม้ว่าตำรวจจะเข้ามาห้ามปรามไว้แล้วก็ตาม ทำให้ท้ายที่สุด ตำรวจจำเป็นต้องใช้กระสุนยางยิงผู้ประท้วงเหล่านี้ และจับกุมตัวไว้  …

  • วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ฉันเจอเสือตัวใหญ่ มันถามฉันว่า… “เอาตรูไปเลี้ยงที่บ้านได้ไหม!??”

    วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ฉันเจอเสือตัวใหญ่ มันถามฉันว่า… “เอาตรูไปเลี้ยงที่บ้านได้ไหม!??”

    ย้อนเวลากลับไปในเดือนกันยายน หลายคนอาจจะกำลังมีความสุขอยู่กับการใช้ชีวิต ในขณะเดียวกันมีลูกแมวจรจัดตัวหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น กำลังต้องการขอความช่วยเหลือจากมนุษย์… ในวันนั้นมีชายคนหนึ่งเดินเข้าป่าไปเที่ยว ขณะกำลังเดินริมแม่น้ำ จู่ๆ เขาก็เห็นลูกแมวน้อยร่วงลงมาจากสะพานเข้าไปอยู่ในพุ่มไม้ ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปดูมันทันที     โชคดีที่เจ้าแมวน้อยสามารถรอดชีวิตมาได้ ดังนั้นเขาจึงดึงตัวของมันออกมา และวางมันลงบนพื้น…เจ้าเหมียวมันไม่สามารถขยับขาหลังของมันได้ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขารู้ว่ามันบาดเจ็บ และถ้าไม่รักษามันอาจจะพิการได้   “มาที่บ้านของฉัน” เขาพูดกับมันเบาๆ ในขณะที่เจ้าเหมียวมีท่าทางกลัว ดังนั้น เขาจึงใช้มือตบหลังของมันเบาๆ และนั่นก็ทำให้เจ้าแมวน้อยเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้น   เจ้าแมวน้อยเข้ามาอยู่ภายใต้ความดูแลของมนุษย์ใจดีคนนี้ ซึ่งเขาก็ได้พามันไปพบแพทย์ และเลี้ยงดูมันเป็นอย่างดี แถมยังตั้งชื่อให้มันว่า Nene อีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ แต่เจ้า Nene ก็ยังคงรู้สึกกลัว และร่างกายของมันก็อ่อนแอมาก     แมวเจ้าถิ่น ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ได้เดินเข้ามาหามัน เพื่อเป็นการต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้าน   ในวันรุ่งขึ้นชายใจดีได้ข่าวว่า เกิดน้ำท่วมบริเวณแม่น้ำที่พบลูกแมว ชายคนนั้นก็รู้สึกดีใจที่สามารถนำลูกแมวออกมา ณ จุดนั้นได้ และทำให้มันรอดตาย     วันที่ 3 หลังจากที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ เจ้าเหมียวเริ่มทานอาหารได้มากขึ้น และแน่นอนว่าในวันต่อๆ ไป…

  • จ้างช่างภาพไปเกือบ 8,000 บาท ให้ถ่ายรูปครอบครัวสวยๆ แต่ภาพที่ได้ออกมาฮาเกินจะบรรยาย!!

    จ้างช่างภาพไปเกือบ 8,000 บาท ให้ถ่ายรูปครอบครัวสวยๆ แต่ภาพที่ได้ออกมาฮาเกินจะบรรยาย!!

    ครอบครัวหนึ่งจากรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แชร์ภาพถ่ายครอบครัวของพวกเขา ที่ถ่ายโดยช่างภาพ ‘มืออาชีพ’ แต่ภาพถ่ายมันดูผิดเพี้ยน จนกลั้นหัวเราะกันไว้ไม่อยู่เลย ในเดือน พฤษภาคม 2017 มีช่างภาพหญิงคนหนึ่งติดต่อมาหาครอบครัว Zaring เธอแนะนำตัวเองว่าเป็นช่างภาพที่มีประสบการณ์และความชำนาญมาก ถ้าหากทางครอบครัวสนใจล่ะก็ สามารถจ้างเธอถ่ายรูปให้ได้   ครอบครัว Zaring   Dave และ Pam Zaring เองก็แต่งงานกันได้ 3 ปีแล้ว และพวกเธอก็ไม่ได้มีรูปครอบครัวแบบจริงๆ จังๆ เลย เมื่อเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะพอดี พวกเธอก็เลยว่าจ้างให้ช่างภาพมืออาชีพคนนี้แหละ มาเก็บภาพความทรงจำดีๆ ของครอบครัวไว้ จากนั้นสองสามีภรรยา และลูกชาย Cade และ Connor ก็ให้ช่างภาพคนนี้ถ่ายรูปครอบครัวให้ โดยภาพถ่ายทั้งหมดถูกถ่ายในสวนสาธารณะ Forest Park ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี พวกเขาจ่ายค่าจ้างให้ช่างภาพมืออาชีพไปเกือบ 250 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 8,000 บาท) จากนั้นก็รอให้ช่างภาพนำภาพไปแต่งเติมให้สวยงาม และติดต่อกลับมาอีกทีหนึ่ง   ดูหน้าแต่ละคนสิ เหมือนแต่งภาพเอาฮาเลย ฮ่าๆๆๆ   แต่เมื่อแผ่นซีดีที่มีภาพของครอบครัวส่งมาถึงที่บ้าน…

  • H&M ออกมาขอโทษ หลังถูกวิจารณ์ข้อความไม่เหมาะสมบนเสื้อ สื่อไปในทาง “เหยียดเชื้อชาติ”

    H&M ออกมาขอโทษ หลังถูกวิจารณ์ข้อความไม่เหมาะสมบนเสื้อ สื่อไปในทาง “เหยียดเชื้อชาติ”

    H&M แบรนด์เสื้อผ้าที่มีร้านค้าอยู่มากมายทั่วโลกได้ออกมาขอโทษผู้บริโภค หลังจากบริษัทได้โฆษณาเสื้อฮู้ดที่มีสโลแกนที่อาจสื่อถึงการเหยียดสีผิวได้ และยืนยันว่าจะระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก   เสื้อฮู้ดสีเขียวที่มีสโลแกนว่า ‘Coolest Monkey in the Jungle’ (ลิงที่เจ๋งที่สุดในป่า)   ก่อนหน้านี้ทาง H&M ได้ทำเสื้อฮู้ดสีเขียวแบบใหม่ออกมา ตรงกลางอกของเสื้อพิมพ์ข้อความว่า Coolest Monkey in the Jungle และใช้เด็กผิวสีคนหนึ่งเป็นนายแบบของเสื้อตัวนี้ จากนั้นจึงได้นำภาพมาโฆษณาบนเว็บไซต์หลักของบริษัท แม้ว่าดูผ่านๆ อาจจะไม่มีอะไร แต่สโลแกนบนเสื้อ ประกอบกับลักษณะของนายแบบ ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนเข้าใจว่า H&M กำลังเหยียดคนสีผิวอยู่ โดยเปรียบเทียบว่าพวกเขาเป็นเพียงลิงที่ไร้อารยธรรมเท่านั้น หลังจากเสื้อตัวนี้ถูกโฆษณาบนเว็บไซต์หลัก ชาวเน็ตก็แสดงปฎิกิริยาต่อต้านเรื่องนี้กันจำนวนมากเลยทีเดียว ในจำนวนนั้นก็รวมถึงคนดังหลายคนด้วย   ทวีตจาก Models of Diversity   Models of Diversity องค์กรที่ส่งเสริมความเท่าเทียมและความหลากหลายในมนุษย์เอง ก็ได้ออกมาทวีตถึง H&M ว่า “H&M ในประเทศอังกฤษให้เด็กผิวสีคนหนึ่งเป็นนายแบบให้เสื้อฮู้ด ‘Coolest Monkey in the Jungle’…

  • เรื่องนี้ยกให้เค้า!! 17 แลนด์มาร์กดังจากหลายประเทศ แค่มาประเทศจีนที่เดียวก็โคจรไปได้รอบโลก

    เรื่องนี้ยกให้เค้า!! 17 แลนด์มาร์กดังจากหลายประเทศ แค่มาประเทศจีนที่เดียวก็โคจรไปได้รอบโลก

    การที่เราได้ไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง หากอยากรู้สึกว่าไปถึงที่นั่นจริงๆ เรามักจะต้องไปดูพร้อมทั้งเก็บภาพสถานที่ที่เป็น “Landmark” ของสถานที่เหล่านั้นให้ได้ก่อนใช่มั้ยล่ะ แหม แต่สถานที่ท่องเที่ยวดังๆ มันก็ช่างเยอะเสียเหลือเกิน ชีวิตนี้จะได้ไปครบหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ประเทศจีนจึงเกิดความคิดที่เอาใจประชาชนขึ้นมา นั่นคือการ ยกแลนด์มาร์กของต่างประเทศมาไว้ที่จีนซะเลยสิ!! โดยมีการก่อสร้างแบบจำลองของสถานที่สำคัญๆ ไว้ในเมืองซูโจว ในประเทศจีนนั่นเอง โอ้โห เล่นใหญ่กันขนาดนี้ อยากเห็นแล้วล่ะสิว่าจะเป็นอย่างไร และมีสถานที่อะไรบ้าง เชิญไปรับชมกันเลยยย…   1. Tower Bridge (ทาวเวอร์บริดจ์), อังกฤษ .   2. Parthenon (วิหารพาร์เธนอน), กรีซ   3. Eiffel (หอไอเฟล), ฝรั่งเศส .   6. Sydney Harbour Bridge (สะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์), ออสเตรเลีย   7. Colosseum (โคลอสเซียม), อิตาลี   8. Arc de Triomphe (อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล), ฝรั่งเศส   9. Great Sphinx (มหาสฟิงซ์), อิยีปต์   10. Moscow Kremlin…

  • ชาวประชาร่วมใจปรบมือตะโกนเรียกชื่อแม่ของเจ้าหนู ที่พลัดหลงกันบนชายหาด จนในที่สุดก็พบกัน

    ชาวประชาร่วมใจปรบมือตะโกนเรียกชื่อแม่ของเจ้าหนู ที่พลัดหลงกันบนชายหาด จนในที่สุดก็พบกัน

    การพาเด็กไปเที่ยวในแหล่งที่เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านนั้น มีความเสี่ยงสูงมากที่เด็กจะพลัดหลงกับผู้ปกครอง และการจะตามหาพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย อย่างไรก็ตาม ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอหนึ่งในเว็บไซต์ Rumble ซึ่งเหตุการณ์ที่ผู้คนช่วยกันตามหาแม่ของเด็กน้อยที่พลัดหลงกัน ด้วยวิธีที่เจ๋ง สร้างสรรค์ และได้ผลในเวลาอันสั้น     คลิปวิดีโอนี้บันทึกที่ชายหาดแห่งหนึ่งในบราซิล ท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังวุ่ยวายอยู่กับการเล่นน้ำ การอาบแดด และวิ่งเล่น มีเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังเดินตามหาพ่อแม่ของตัวเองที่ไม่รู้ว่าอยู่ไหน เมื่อผู้คนพบเห็นเด็กชายกำลังเดินตามหากใครสักคนอยู่ พวกเขารู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้อาจจะพลัดหลงกับผู้ปกครอง เลยเข้าไปถามชื่อพ่อแม่ของเขา     หลังจากที่ทราบชื่อแม่ของเด็กน้อยแล้ว ผู้คนนับสิบพร้อมใจกันตะโกนเรียกชื่อแม่ของเขา พร้อมกับขอให้นักท่องเที่ยวคนอื่นช่วยกันปรบมือส่งเสียง และเพียงเวลาสั้นๆ ผู้คนแทบทั้งหมดบนชายหาดก็พากันปรบมือรัวๆ คนที่ถ่ายคลิปนี้บอกว่า “ตอนแรกที่เราได้ยินเสียงปรบมือ เราคิดว่ามันคงเป็นวันเกิดของใครสักคนบนชายหาด แต่แล้วผมก็สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่กับเด็กน้อย และส่งสัญญาณว่าเขากำลังหลงทาง”     ผู้คนบนชายหาดยังคงปรบมือพร้อมตะโกนเรียกชื่อแม่ของเด็กชายต่อไปอีกประมาณ 10 นาที สักพักก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งมาจากอีกส่วนหนึ่งของชายหาด พวกเขาคือครอบครัวของเด็กชายที่พลัดหลง… เมื่อเห็นผู้คนรวมตัวและตะโกนเรียกชื่อ พวกเขาก็วิ่งไปยังคนกลุ่มนั้นแล้วก็เห็นเด็กชายตัวเล็กๆ อยู่ตรงกลางของวง     จากนั้นผู้เป็นแม่ก็เข้าไปสวมกอดลูกชายท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงเฮของผู้คนบนชายหาด แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณวิธีการอันแสนฉลาดและสร้างสรรค์นี้ ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นต้นคิด แต่บอกเลยว่ามันสุดยอดมากและน่าเอาไปทำตามอย่างยิ่ง     อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณผู้คนบนชายหาดด้วยที่ไม่นิ่งเฉย แต่ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ได้สอนแค่วิธีการช่วยเหลือคนพลัดหลง แต่ยังกระตุ้นให้เราไม่นิ่งเฉยเมื่อเห็นคนอื่นเดือดร้อนอีกด้วย   ที่มา inspiremore

  • ดีไซเนอร์ญี่ปุ่นออกแบบดินสอสีรูปร่างดอกไม้ เมื่อเหลา มันจะออกมาคล้ายดอกไม้ญี่ปุ่นด้วย

    ดีไซเนอร์ญี่ปุ่นออกแบบดินสอสีรูปร่างดอกไม้ เมื่อเหลา มันจะออกมาคล้ายดอกไม้ญี่ปุ่นด้วย

    ปกติเวลาเหลาดินสอเสร็จแล้ว เราก็จะเอาเศษซากของมันทิ้งไป เออ ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์ เอาไปทำอะไรก็ไม่ได้จะเก็บไว้ทำไมละเนาะ เหลาทิ้งเหลาขว้างยังได้เลย แต่ถ้าคุณได้ครอบครองดินสอสีของญี่ปุ่นที่เพิ่งออกมาใหม่นี้ คุณจะต้องไม่อยากทิ้งมันแม้แต่นิดเดียวแน่นอน ต่อให้มันเป็นเศษซากจากการเหลาก็เถอะ     นักออกแบบชาวญี่ปุ่น Toshihiro Otomo ได้ออกแบบชุดดินสอสีรูปทรงดอกไม้ เมื่อคุณเหลามันอย่างประณีต มันจะออกมาเป็นกลีบดอกไม้อันงดงาม เครื่องเขียนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปร่างและสีของพืชที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งดอกแดนดิไลออน ดอกบอลลูน เชอร์รี่บลอสซัม และพลัมบลอสซัม     ดินสอดอกไม้ถูกผลิตขึ้นในโรงงานที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และผลิตจากเยื่อกระดาษรีไซเคิล ใน 1 เซตประกอบด้วยดินสอ 4 แท่ง ซึ่งบรรจุอยู่ในกล่องห้าเหลี่ยมที่ออกแบบมาอย่างลงตัว งดงามและน่าหลงใหลขนาดนี้ คนชอบเครื่องเขียนพลาดไม่ได้ซะแล้ว ใครที่อยากได้สามารถสั่งซื้อได้ที่ร้านออนไลน์ของ Spoon & Tamago ได้เลยค่ะ     เป็นดินสอที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริงๆ ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ กระบวนการผลิต แถมซากของมันยังเก็บไว้ใช้ตกแต่งได้อีกด้วย   บรรจุอยู่ในกล่อง 5 เหลี่ยม ลงตั๊วววลงตัว   ซื้อมาแล้ว เกรงว่าจะไม่กล้าใช้น่ะสิ สวยเกิ๊น ที่มา thisiscolossal

  • เด็กชายวัย 9 ขวบ อดทนต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อรอตั้งชื่อให้น้องสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลก

    เด็กชายวัย 9 ขวบ อดทนต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อรอตั้งชื่อให้น้องสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลก

    ผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่พยายามเอาชนะโรคร้ายเพราะอยากมีชีวิตอยู่ต่อให้นานขึ้น แต่สำหรับเด็กชายคนหนึ่ง เขาอดทนต่อสู้กับมะเร็งร้าย หวังจะได้พบกับน้องสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลก Brave Bailey เด็กชายวัย 9 ขวบ บอกกับพ่อแม่หลังจากที่น้องสาวของเขาเกิดมาว่า “ถึงเวลาแล้วที่ผมจะไปเป็นเทพผู้พิทักษ์ของเธอ” กระทั่งตอนเที่ยงของวันคริสต์มาสอีฟ พ่อแม่ได้จับมือลูกชายเอาไว้แน่น พร้อมหลั่งน้ำตาออกมาและเฝ้าดูลูกจนลมหายใจสุดท้าย…     พ่อแม่ของเด็กชาย Lee และ Rachel ได้เปิดเรื่องราวสุดสะเทือนใจของลูกชายเมื่อตอนที่กำลังจะตายว่าเขาได้อดทนต่อสู้กับมะเร็งเวลานาน เพื่อรอเจอน้องสาวที่กำลังจะเกิดมาและขอเป็นคนตั้งชื่อให้เธอด้วย ทางด้านคุณหมอที่ให้การรักษาบอกว่า Bailey จะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่วันหรือไม่กี่เดือนเท่านั้น เพราะมะเร็งได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าเด็กชายจะอดทนได้ถึง 15 เดือน ผ่านการรักษานับครั้งไม่ถ้วน เขายิ้มให้ทุกความเจ็บปวด จนในที่เขาก็ได้เจอกับน้องสาวตัวน้อย ก่อนจะตั้งชื่อให้เธอว่า Millie       สำหรับโรคร้ายของ Bailey มันได้เริ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปี 2016 เมื่อเด็กชายรู้สึกไม่สบายและได้ไปโรงพยาบาลในเดือนกันยายน ตอนแรกคุณหมอคิดว่าเขาอาจจะติดเชื้อไวรัส แต่หลังจากที่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ อาการของเขาก็ยังไม่ดีขึ้น กลับแย่ลงกว่าเดิมอีก เด็กชายเริ่มปวดท้องอย่างรุนแรง คุณหมอจึงเจาะเลือดไปตรวจอีกครั้ง และผลที่ออกมาคือเขาเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด Non-Hodgkin’s Lymphoma (NHL) ซึ่งตอนที่ตรวจพบ มะเร็งได้ก่อตัวอยู่ในระยะที่สามแล้ว Lee บอกว่า “ก่อนที่จะพาเขาไปโรงพยาบาล เราไม่รู้อะไรเลย เราคิดว่าอีกเดี๋ยวก็คงหาย แต่ก็รู้สึกเอะใจอยู่นิดหน่อย แต่อาการของเขาแย่ลงเรื่อยๆ จนคุณหมอบอกว่าเขาต้องเข้ารับการรักษาแล้ว”      นั่นทำให้เด็กชายเริ่มต้นรับการรักษาด้วยเคมีบำบัดทันที…

  • ดราม่ารุนแรง… มนุษย์ใจทรามนำซากโคอาล่าไร้วิญญาณ มาเกาะเสาเล่นเพื่อความบันเทิง!!

    ดราม่ารุนแรง… มนุษย์ใจทรามนำซากโคอาล่าไร้วิญญาณ มาเกาะเสาเล่นเพื่อความบันเทิง!!

    มนุษย์เรียกตัวเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐที่อยู่เหนือสัตว์ทั้งปวงในโลกนี้ แต่บางครั้งการกระทำของมนุษย์ช่างโหดร้ายไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานเลย อย่างกรณีที่กำลังดราม่าในโลกออนไลน์ขณะนี้ เมื่อมีการโพสต์ภาพคนนำซากศพโคอาล่าไร้วิญญาณมาเกาะเสาในออสเตรเลีย ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไร แต่มันสร้างความโกรธเคืองให้ผู้คนจำนวนมาก Koala Rescue Queensland (KRQ) รายงายว่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมามีการพบโคอาล่าตัวหนึ่งอยู่ในท่าปีนเสาที่ Brooloo Park Lookout ใกล้กับ Gympie ทางตอนเหนือของเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย     ต่อมามีการเข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ พบว่ามันคือโคอาล่าที่ตายแล้วแต่มีคนใช้สกรูตอกมือมันติดกับเสาเพื่อจัดฉากให้มันดูเหมือนกำลังปีนเสาอยู่ เพจเฟซบุ๊กที่นำภาพนี้ไปโพสต์ เขียนไว้ว่า “โคอาล่าที่น่าสงสารตัวนี้ ถูกตอกด้วยสกรูให้ยึดติดกับเสา มันตายแล้วแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรนำร่างไร้วิญญาณของมันมาทำแบบนี้” Murray Chambers ประธาน KRQ กล่าวว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่เราเห็นคนใจทรามทำกับซากศพสัตว์แบบนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมเรากันแน่?” มันทำให้เราไม่สบายใจและรู้สึกแย่เมื่อมาเห็นภาพนี้”   ตอนนี้มีชาวเน็ตนับร้อยแสดงความคิดเห็นในเชิงไม่พอใจต่อการกระทำนี้ โดย Tim Siggs บอกว่า “มันยากที่จะจินตนาการว่าคนที่ทำมีจิตใจต่ำแค่ไหน” ขณะที่ Elly Bunting บอกว่า “มันน่ากลัวมาก ฉันหวังว่าคนที่ทำแบบนี้จะถูกจับได้ในเร็วๆ นี้ และได้รับการลงโทษอย่างสาสม” ทั้งนี้มีรายงานว่าโคอาล่าถูกคุกคามอย่างหนักในออสเตรเลียช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย โรคระบาด โดนโจมตีจากสุนัข และไฟป่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โคอาล่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม โดยในเดือนพฤศจิกายนมีการพบโคอาล่าเสียชีวิตตัวหนึ่ง แต่สภาพที่เห็นคือมันถูกตัดหูทั้ง 2 ข้าง     ไม่ใช่โคอาล่าเท่านั้นแต่ยังมีสัตว์ชนิดอ่ื่นๆ…

  • ครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงเจ้าหมาต่อได้เลยพาไปอยู่กับคนอื่น แต่มันก็หนีกลับมาหาถึง 2 ครั้ง!?

    ครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงเจ้าหมาต่อได้เลยพาไปอยู่กับคนอื่น แต่มันก็หนีกลับมาหาถึง 2 ครั้ง!?

    ก่อนที่คุณจะตัดสินใจรับเลี้ยงสุนัขควรคิดให้รอบคอบ คิดถึงอนาคตระยะไกล ไม่ใช่ความสุขในระยะสั้น เพราะสำหรับน้องหมาแล้วเมื่อมันได้อยู่กับใคร ต่อให้แค่วันเดียวก็ตาม มันจะผูกพันกับคนคนนั้นและไม่อยากจากไปไหน เหมือนอย่าง Cathleen น้องหมาแสนรู้และแสนดีมากๆ ที่ถูกครอบครัวนำไปไว้ในสถานสงเคราะห์เพราะไม่สามารถเลี้ยงมันได้อีกต่อไป สถานสงเคราะห์สัตว์ The Seminole Humane Society เขียนในเฟซบุ๊กว่าเจ้าของได้พา Cathleen วัย 6 ขวบ พันธุ์ผสมเกรทไพรีนีส ย้ายไปอยู่ในบ้านที่ไม่มีรั้วในย่าน Seminole รัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อหลายเดือนนก่อน     การที่เลี้ยงสุนัขในบ้านที่ไม่มีรั้วทำให้ยากต่อการควบคุมดูแล ดังนั้นครอบครัวจึงตัดสินใจพามันไปอยู่กับคนอื่นที่ย่านปราก รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเดิมประมาณ 32 กิโลเมตร แต่ Cathleen มีความผูกพันกับเจ้าของคนเดิมมาก มันเลยเดินจากบ้านใหม่ในปรากกลับไปยังย่าน Seminole ที่เก่าที่มันอยู่ เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นอกจากการเดินระยะไกลกว่า 32 กิโลเมตรแล้ว สภาพอากาศในช่วงเดือนธันวาคมของเส้นทางที่น้องหมาเดินกลับมานั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 4 องศาเซลเซียส แน่นอนว่ามันหนาวมากๆ     ผู้จัดการศูนย์พักพิงสัตว์ Rebecca Acker บอกว่า “Cathleen หนีออกจากกรง เพื่อเดินกลับไปหาครอบครัวของมัน ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นสุนัขที่เดินทางมากที่สุดในบรรดาน้องหมาของเรา” ต่อมาเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ได้ช่วยเหลือ Cathleen และให้มันอยู่ศูนย์พักพิงสัตว์ในย่าน…

  • ศิลปินนิรนามในเบอร์ลินเปลี่ยนเครื่องหมาย “สวัสดิกะ” ตามกำแพง ให้กลายเป็นภาพวาดน่ารักๆ

    ศิลปินนิรนามในเบอร์ลินเปลี่ยนเครื่องหมาย “สวัสดิกะ” ตามกำแพง ให้กลายเป็นภาพวาดน่ารักๆ

    การพ่นสีตามกำแพงถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งนะ แต่ถ้าเขียนอะไรที่มันดูไม่เป็นรูปเป็นร่างหรือสัญลักษณ์ที่คนไม่ชอบ นอกจากไม่ชวนมองแล้ว มันยังสร้างความรำคาญใจให้ผู้ที่พบเห็นด้วย เพราะแบบนี้จึงมีคนบางกลุ่มพยายามเปลี่ยนสัญลักษณ์เหล่านั้นให้กลายเป็นภาพที่สวยงามและสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้คนได้เห็นอีกด้านของงานกราฟฟิตี้บนกำแพง     Ibo Omari คือหนึ่งในผู้คนเหล่านั้น เขาได้สร้างเพจ Die kulturellen Erben พร้อมเคมเปญ Paintback เพื่อเปลี่ยนรอยขีดเขียนบนกำแพงตามท้องถนนให้กลายเป็นศิลปะที่ให้ความบันเทิงมากกว่าความขุ่นเคืองใจ     แคมเปญ Paintback ได้เริ่มขึ้นโดยคนฝ่ายขวาของเยอรมนี พวกเขาต้องการเปลี่ยนเครื่องหมายสวัสดิกะที่มีอยู่ตามกำแพงต่างๆ ทั่วเมืองในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันให้กลายเป็นภาพที่สร้างสรรค์     สำหรับเครื่องหมายสวัสดิกะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายนาซี ดังนั้นเมื่อสัญลักษณ์นี้ปรากฏอยู่ตามกำแพงต่างๆ มันจึงสร้างความไม่สบายใจให้ผู้คนในเมืองอย่างมาก     กลุ่มคนฝ่ายขวาได้สร้างลวดลายกราฟฟิตี้แบบเรียบง่ายแต่สร้างสรรค์ภายใต้แคมเปญ Paintback โดยหวังว่าจะทำให้ผู้คนเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อสัญลักษณ์อันน่าเกลียดชังนั้นและทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่สวยงามขึ้น     นอกจากนี้พวกเขายังได้เผยแพร่วิดีโอสั้นๆ ผ่านสื่อโซเชียลในเยอรมนี ทำให้แคมเปญนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก โดยมีชาวเน็ตหลายคนเปลี่ยนสัญลักษณ์สวัสติกะด้วยศิลปะในแบบของตนเอง ภายใต้แฮชแท็ก #Paintback     บางคนกลบสัญลักษณ์ที่น่าเกลียดชังด้วยการพ่นสเปรย์สีสันใสทับ   หลายคนเปลี่ยนให้มันเป็นรูปภาพน่ารักๆ   ทำให้เป็นกระดานเกมตัวเลข .   มันอาจจะเป็นแค่สัญลักษณ์เล็กๆ แต่มันทำให้ผู้คนเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก   ไม่จำเป็นต้องทำให้มันออกมาสวยมากมาย ขอแค่ไม่มีใครสังเกตเห็นสัญลักษณ์นั้นก็พอ   บางคนอาจไม่ชอบลวดลายบนกำแพง แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าต้องมาเห็นสัญลักษณ์สวัสดิกะ…

  • ครูใหญ่แยกสนามเด็กเล่นระหว่าง “เด็กจน” กับ “เด็กรวย” ถูกชาวเน็ตวิจารณ์อย่างหนัก

    ครูใหญ่แยกสนามเด็กเล่นระหว่าง “เด็กจน” กับ “เด็กรวย” ถูกชาวเน็ตวิจารณ์อย่างหนัก

    กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักหลังจากที่อาจารย์ใหญ่จากโรงเรียนประถม Wednesbury Oak จากประเทศอังกฤษที่ออกนโยบาย “ไม่จ่าย ไม่ได้เล่น” และกีดกันไม่ให้เด็กๆ ที่ผู้ปกครองไม่ได้จ่ายเงินค่าสนับสนุนเล่นเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น ถึงแม้ว่าทางด้านคุณ Maria Bull อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนดังกล่าวจะออกมาชี้แจงภายหลังว่า เด็กนักเรียนที่จ่ายเงินสนับสนุนแล้วสามารถชวนเพื่อนคนอื่นๆ ที่ผู้ปกครองไม่ได้จ่ายเงินเข้ามาเล่นด้านในสนามเด็กเล่นนี้ได้ก็ตาม     นโยบายดังกล่าวได้ทำการเรียกเก็บเงินจำนวน 6 ปอนด์หรือประมาณ 260 บาทเพื่อเป็นการสนับสนุนโครงการกิจกรรมของเด็กๆ โดยเด็กที่จ่ายเงินแส้วสามารถเข้ามาเล่นในสนามเด็กเล่นนี้ได้ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยทางคุณ Maria เผยว่าจำนวนเงินดังกล่าวนั้นจะถูกนำไปใช้ในการซื้ออุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ อย่างเช่นลูกฟุตบอล ลูกรักบี้ หรือเชือกกระโดด เป็นจำนวน 15 ปอนด์หรือประมาณ 650 บาทต่อสัปดาห์     หลังจากที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ทางโรงเรียนก็ได้รับกระแสวิพากย์วิจารณ์จากผู้ปกครองอย่างมาก และทางด้านสมาคมผู้ปกครองก็ได้ออกมาเรียกร้องที่จะจ่ายเงินแทนเด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองไม่ได้จ่ายเงิน เพื่อแก้ปัญหาการแบ่งแยกในโรงเรียน แต่อย่างไรก็ตามทางด้านอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนก็ได้ออกมาโต้ข้อกล่าวหาดังกล่าวพร้อมกับบอกว่าจำนวนเงินดังกล่าวนั้นไม่ได้มากจนเกินไป และผู้ปกครองทุกคนก็สามารถจ่ายได้     “ทางโรงเรียนถูกโจมดีจากผู้ปกครองอย่างหนัก เราขอร้องให้บริจาคเพียงแค่ 6 ปอนด์ต่อปีเท่านั้น สำหรับทำกิจกรรมให้พวกเด็กๆ และฉันคิดว่าทุกคนน่าจะจ่ายได้” อาจารย์ใหญ่ของทางโรงเรียนกล่าว หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้กลายเป็นข่าว ก็ได้มีผู้คนจำนวนมากที่ให้ความสนใจและเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้และนี่คือบางส่วนของความคิดเห็นจากโลกออนไลน์   “การศึกษาเป็นเรื่องที่ฟรี และการเล่นก็ควรเป็นหนึ่งในนั้น ลองนึกภาพเด็กที่ไม่ได้เล่นของเล่นเพราะพ่อแม่พวกเขาไม่สามารถจ่ายเงินได้ดูสิ”   ส่วนชาวเน็ตท่านนี้ก็แสดงความเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระ แต่ก็มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่โรงเรียนนี้เท่านั้น เพราะที่โรงเรียนของลูกเธอเองก็มีเหมือนกัน…

  • Air Mo’ Yen เงินเยนและรองเท้ารุ่นใหม่จาก Nike ในคอลเลคชั่น Nike Air More Money

    Air Mo’ Yen เงินเยนและรองเท้ารุ่นใหม่จาก Nike ในคอลเลคชั่น Nike Air More Money

    กลับมาเอาใจเหล่ามนุษย์หัวรองเท้ากันอีกครั้งหลังจากที่ทาง Nike ได้ปล่อยรองเท้าในคอลเลคชั่น Nike Air More Money ตัวล่าสุดอย่าง Air Mo’ Yen เพิ่มแรงสั่นสะเทือนให้กับกระเป๋าเงินของเราอีกครั้ง คอลเลคชั่นดังกล่าวได้ทำการนำสกุลเงินต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นเงินปอนด์ของอังกฤษ หรือเงินยูโรมาเป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบรองเท้าในโมเดลสุดคลาสสิคอย่าง Air More Uptempo   โฉมหน้าของเจ้ารองเท้า Nike Air Mo’ Yen   การออกแบบในส่วนบนของรองเท้าในรุ่นนี้จะแสดงถึงเอกลักษณ์ของสกุลเงินในประเทศนั้นๆ ซึ่ง Nike Air Mo’ Yen ของเราก็มาพร้อมกับสีน้ำตาลของธนบัตร 10,000 เยน พร้อมกับคำว่า Nike ที่เขียนด้วยตัวคะตะคะนะของญี่ปุ่นอีกด้วย   ตัวอักษรคะตะคะนะที่เขียนว่า Nike บริเวณด้านบนของรองเท้ารุ่นนี้   ลองไปชมความสวยงามของเจ้า Nike Air Mo’ Yen ในมุมอื่นๆ กันได้เลย…   สัญลักษณ์เงินเยนที่อยู่ด้านหลังรองเท้า . .   สนนราคาของเจ้ารองเท้าคู่นี้อยู่ที่ 5,500 บาท แต่ทว่าใครที่อยากจะจับจองมันในราคานี้ล่ะก็เราคงต้องขอแสดงความเสียใจด้วยเพราะหลังจากที่มันเปิดจำหน่ายเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็หมดเกลี้ยงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าแบบนี้คุณคงต้องไปลุ้นกันที่ราคารีเซลล์กันแล้วล่ะนะ ฮ่าๆ  …

  • ขอทานมืออาชีพจากดูไบ ที่สามารถหาเงินได้มากกว่าวันละ 80,000 บาท หรือ 2 ล้านต่อเดือน!!

    ขอทานมืออาชีพจากดูไบ ที่สามารถหาเงินได้มากกว่าวันละ 80,000 บาท หรือ 2 ล้านต่อเดือน!!

    อย่างที่เรารู้กันเป็นอย่างดีว่าถ้าหากให้ไล่เรียงชื่อของเมืองที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของโลก ชื่อของเมืองดูไบนั้นอาจจะเป็นชื่อแรกๆ ที่คุณนึกออกเลยก็ได้ และไม่ใช่เพียงแค่ความหรูหราของเมืองหรือความร่ำรวยของผู้คนในเมืองเท่านั้น ขอทานของที่นี่เองก็ยังดูเหนือกว่าที่อื่นๆ อีกด้วย โดยพวกเขาสามารถหาเงินได้มากถึง 2 ล้านบาทเลยทีเดียว เรียกได้ว่ามืออาชีพจริงๆ !! อย่างไรก็ตามการขอทานในเมืองดูไบนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีการหาเงินด้วยวิธีดังกล่าวอยู่ โดยขอทานมืออาชีพเหล่านี้จะเริ่มการทำงานของพวกเขาโดยการมองหาคนที่ดูร่ำรวย ก่อนที่จะเริ่มแผนการต่อไป     เมื่อพบเป้าหมายแล้ว เหล่าขอทานจะเริ่มเล่าเรื่องราวอันแสนยากลำบากของพวกเขาอย่างเช่นเรื่องของครอบครัวที่กำลังนอนอยู่ข้างถนน หรือบางคนก็ต้องการเงินเพื่อกลับประเทศ พร้อมกับขอเงินช่วยเหลือ โดยจำนวนเงินที่พวกเขาขอร้องจากเป้าหมายนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 8,500 บาทขึ้นไป ในปี 2016 มีการจับกุมตัวขอทานรายหนึ่งพร้อมกับหนังสือเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวแบบ 3 เดือน ซึ่งขอทานรายดังกล่าวสามารถหาเงินได้มากถึง 2 ล้านบาทต่อเดือนเลยทีเดียว   ชมเรื่องราวของพวกเขาได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…   “จากการคาดการณ์ของเราพบว่าพวกขอทานนั้นสามารถหาเงินได้มากถึง 80,000 บาทต่อวันเลยทีเดียว และเราเชื่อว่าวันศุกร์จะเป็นวันที่พวกเขาหาเงินได้มากที่สุด โดยเฉพาะจุดที่อยู่หน้ามัสยิด” คุณ Faisal Al Badiawi หัวหน้าเขตเทศบาลกล่าว มีการเปิดเผยว่าขอทานเหล่านี้มักจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหล่าอาชญากรชาวอาหรับและเอเชียได้ ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมามีการจับกุมขอทานมากกว่า 65 คน และพบว่าทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากร ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อกวาดล้างขบวนการเหล่านี้ โดยมีการขอร้องให้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว นี่ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายของเจ้าหน้าที่จากดูไบเลยล่ะ   ที่มา odditycentral

  • ฆาตกรสาววัย 18 ปี แก้แค้นให้แฟนหนุ่มพร้อมบอกกับเหยื่อว่า ‘ไว้ไปเจอกันในนรก’

    ฆาตกรสาววัย 18 ปี แก้แค้นให้แฟนหนุ่มพร้อมบอกกับเหยื่อว่า ‘ไว้ไปเจอกันในนรก’

    เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา เกิดเหตุฆาตกรรมอันแสนโหดร้ายขึ้นในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อหญิงสาววัย 18 ปี จากแก๊งใหญ่ที่ชื่อว่า MS-13 ทำการทรมานและลงมือฆ่าหญิงสาววัย 15 ปี เพื่อแก้แค้นให้กับแฟนหนุ่มของตัวเอง ฆาตกรสาวคนนี้มีชื่อว่า Venus Romeo Iraheta เธอถูกยื่นเรื่องต่อศาล Fairfax ในวันที่ 8 มกราคม 2018 ในข้อหาฆาตกรรมสาววัย 15 ปีที่ชื่อว่า Damaris Reyes Rivas   Venus ฆาตกรสาวสุดโหด สมาชิกแก๊ง MS-13 (ย่อมาจาก Mara Salvatrucha)   Damaris เหยื่อของการฆาตกรรมในครั้งนี้   เธอให้การสารภาพว่าทำการฆ่าเด็กสาวคนนั้นจริงๆ เพราะเธอเชื่อว่า Damaris ล่อลวง Christian Sosa Rivas หนึ่งในสมาชิกแก๊ง MS-13 แฟนหนุ่มของ Venus จนต้องพบกับความตาย หญิงสาวเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังแบบชิลๆ…

  • คู่รักที่เก็บความเวอร์จิ้นเอาไว้จนวันแต่งงาน เพื่อรอดื่มด่ำกับการเสียมันไปพร้อมๆ กัน

    คู่รักที่เก็บความเวอร์จิ้นเอาไว้จนวันแต่งงาน เพื่อรอดื่มด่ำกับการเสียมันไปพร้อมๆ กัน

    หลายๆ คนอาจเคยมีความคิดว่า “จะเก็บพรหมจรรย์ของตัวเองไว้มอบให้กับคนที่เราแต่งงานด้วยเท่านั้น” แต่สุดท้ายก็มักจะไปไม่ถึงเป้าหมาย จนทำให้คนส่วนใหญ่มองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เป็นไม่ได้ และมักจะพูดกับคนที่มีความคิดแบบนี้ว่า “จะเก็บซิงเอาไว้ชิงโชคหรือไง?” แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครทำสำเร็จเลย เพราะอย่าง Jordan และ Milena Ciciotti ทั้งคู่สามารถเก็บความบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้ และมาเสียมันไปพร้อมๆ กันหลังจากแต่งงานเป็นสามีภรรยา   Milena และ Jordan คู่รักที่เก็บซิงเอาไว้มาใช้หลังแต่งงาน   คู่รักจากรัฐมิชิแกน สหรัฐเมริกา ประสบความสำเร็จในการเก็บซิงเอาไว้ โดย Milenna หญิงสาววัย 21 ปีเล่าว่า เธอเริ่มมีความคิดนี้ตอนที่เธออายุได้ประมาณ 12-13 ปี ซึ่งตอนนั้นเธอไปโบสถ์กับครอบครัวและได้รับแหวนพรหมจรรย์ แหวนดังกล่าวคือสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้หลายๆ คนมีความคิดว่าให้เก็บความบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้หลังจากแต่งงานเท่านั้น     วันเวลาผ่านไป พอหญิงสาวอายุได้ 15 ปี เธอก็ได้เจอกับ Jordan ผู้มีความตั้งใจในเรื่องนี้เหมือนๆ กัน ทั้งสองจึงเริ่มคบกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ทั้งคู่คบเป็นแฟนกัน พวกเขาต้องผ่านอุปสรรคหลายๆ อย่าง เธอเล่าว่าหลายๆ อย่างเกี่ยวกับเรื่องเพศเริ่มถาโถมเข้ามาในช่วงวัยรุ่น…

  • Wisdom เจ้านกอัลบาทรอสที่มีอายุมากที่สุดบนโลก ทุกวันนี้ก็ยังทำหน้าที่สืบเผ่าพันธุ์ ให้ดำรงอยู่ต่อไป

    Wisdom เจ้านกอัลบาทรอสที่มีอายุมากที่สุดบนโลก ทุกวันนี้ก็ยังทำหน้าที่สืบเผ่าพันธุ์ ให้ดำรงอยู่ต่อไป

    นก Laysan Albatross คือนกทะเลขนาดใหญ่ที่มีการขยายพันธุ์กันอย่างเชื่องช้า จนทำให้เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แม้ว่าจะมีอายุยืนได้ถึง 60 ปีก็ตาม แต่สำหรับเจ้านกที่ชื่อว่า Wisdom ตัวนี้ มันคือคุณแม่ผู้อุทิศตนและทำหน้าที่ขยายเผ่าพันธุ์ต่อไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้มันมีอายุ 67 ปีแล้วก็ตาม   Wisdom แม่นกที่ยังคงทำหน้าที่ขยายเผ่าพันธุ์มาอย่างยาวนาน และในครั้งล่าสุดนี้มันก็กลับมาวางไข่ในรังของตัวเอง เมื่อเดือนธันวาคม 2017   Wisdom คือนกสายพันธุ์นี้ที่ถูกบันทึกเอาไว้ว่ามีอายุมากที่สุดในโลก ซึ่งมันและ Akeakamai คู่รักยังคงบินกลับมาที่รังของตัวเองอยู่เสมอเพื่อวางไข่ขยายเผ่าพันธุ์ ว่ากันว่าตลอดชีวิต พวกมันได้บินมาแล้วนับล้านกิโลเมตร การที่เจ้านกตัวนี้บินกลับมาที่รังของตัวเองใน แหล่งหลบภัยธรรมชาติและอนุสรณ์สงครามแห่งชาติของหมู่เกาะ Midway Atoll ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงทำให้พวกมันสามารถวางไข่และเลี้ยงดูลูกๆ ให้เติบโตขึ้นมาได้แล้วประมาณ 30 ถึง 35 ตัวเลยทีเดียว เพื่อนๆ บางคนอาจกำลังคิดว่า การที่มีลูกนกโตขึ้นมาแค่ประมาณ 30 ตัว ดูเหมือนจะไม่ใช่จำนวนที่เยอะอะไรมากมาย แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่ Wisdom เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก เพราะนกชนิดนี้จะวางไข่แค่หนึ่งฟองและเลี้ยงลูกนกแค่ครั้งละหนึ่งตัวเท่านั้น นั่นจึงหมายความว่าแม่นกตัวนี้บินไปกลับกว่า 30 ครั้ง…

  • ไปทำความรู้จัก 9 บุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก ทรัพย์สินรวมกันก็แค่ 21 ล้านล้านบาทเท่านั้นเอง

    ไปทำความรู้จัก 9 บุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก ทรัพย์สินรวมกันก็แค่ 21 ล้านล้านบาทเท่านั้นเอง

    เพื่อนๆ เคยมีความฝันอยากเป็นเศรษฐีกันบ้างมั้ยครับ ถึงมันไม่ได้เป็นกันง่ายๆ ก็เถอะ ก็เชื่อว่าอย่างน้อยๆ ในส่วนลึกๆ ของเพื่อนๆ นั้นอยากมีความมั่งคั่งร่ำรวยอยู่ด้วยกันทั้งนั้น เพราะถ้าหากเรามีเงิน เราก็สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้สบายๆ และจากข่าวเก่าที่เราเล่าถึง Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Amazon ได้ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกนั้น มันเป็นหัวข้อที่กระตุกต่อมอยากรู้อยากทราบมากเลยว่าจะมีมหาเศรษฐีคนใดบ้างที่อยู่ถัดๆ มาจากเขา เราเลยได้ไปหาข้อมูล 9 บุคคลที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลกมาให้ชมกัน   9. Michael Bloomberg – มีสินทรัพย์ทั้งหมด 1.6 ล้านล้านบาท Michael Bloomberg นั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Bloomberg LP. ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้การบริการด้านการเงิน สื่อมวลชน และซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท 88% เขาได้กำไรจากรายได้ของบริษัทที่ 2.9 แสนล้านบาท   8. Larry Ellison — มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 1.9 ล้านล้านบาท Larry Ellison เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูล, เครื่องมือสำหรับพัฒนาฐานข้อมูลอย่าง Oracle โดยที่บริษัทนี้มีเริ่มต้นด้วยการระดมทุนเพียงแค่…

  • คู่รักหนักรวมกัน 560 กิโล กลับมาจ้ำจี้ได้อีกครั้งในรอบ 11 ปี ด้วยปฏิบัติการลดน้ำหนัก!!

    คู่รักหนักรวมกัน 560 กิโล กลับมาจ้ำจี้ได้อีกครั้งในรอบ 11 ปี ด้วยปฏิบัติการลดน้ำหนัก!!

    แม้ร่างกายจะต้องเจอกับปัญหาเรื่องน้ำหนัก แต่ด้วยความรักกลับทำให้ทั้ง Lee Sutton วัย 42 ปี และ Rena Kiser วัย 39 ปีมองข้ามปัญหาดังกล่าวและตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันในท้ายที่สุด จุดเริ่มนต้นความรักของทั้งสองนั้นเริ่มเมื่อ 11 ปีก่อน โดย Rena และพี่ชายจะต้องเดินทางไปยังคลินิกลดน้ำหนักแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั่นทำให้เขาได้เจอกับ Lee ชายผู้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเช่นกัน     ทั้งคู่ได้พูดคุยกันและรู้สึกว่าถูกชะตากันมากๆ เพียงแต่ว่าการออกเดตกันในคลินิกนั้นเป็นเรื่องที่ผิด ทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดการพูดคุยกันไป เพื่อจะได้ตั้งเป้าอยู่ที่การลดน้ำหนัก ในตอนนั้น Lee มีน้ำหนัก 323 กิโลกรัม ส่วน Rena มีน้ำหนัก 245 กิโลกรัม ซึ่งถ้าทั้งคู่ยังปล่อยไว้แบบนี้มันจะส่งผลกับสุขภาพของทั้งคู่มากๆ แต่ด้วยความรักที่ทั้งคู่มีให้กันและมันก่อตัวขึ้นจนสุกงอมพวกเขาจึงตัดสินใจจะเลิกไปคลินิกเพื่อแหกกฎ จะได้สานต่อความรักของพวกเขา     พวกเขาดูแลความรักกันเป็นอย่างดี ต่างคนต่างบอกว่าอีกฝ่ายนั้นน่ารักใจดีและดูแลกันไม่ห่างแม้จะมีน้ำหนักที่เยอะก็ตาม แต่แล้วเรื่องร้ายก็เกิดขึ้นตามมา การออกมาใช้ชีวิตด้วยกันด้วยน้ำหนักตัวดังรวมกับร่วมครึ่งตัน มันส่งผลร้ายกับทั้งคู่เป็นอย่างมาก เพราะยิ่งพวกเขาตั้งใจจะไม่ลดน้ำหนักและหยุดกินไม่ได้ น้ำหนักก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นสุขภาพก็แย่ลง จนสุดท้าย Lee ก็ไม่สามารถเดินได้ไปไหนมาไหนได้อีกต่อไป จะทำได้ก็เพียงไปเข้าห้องน้ำเท่านั้น   .   เช่นเดียวกันกับ Rena…

  • หญิงสาวทำการผ่าตัด ‘ผีเสื้อปีกหัก’ เพื่อให้มันสามารถโบยบินได้เหมือนตัวอื่นๆ

    หญิงสาวทำการผ่าตัด ‘ผีเสื้อปีกหัก’ เพื่อให้มันสามารถโบยบินได้เหมือนตัวอื่นๆ

    ผีเสื้อ จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 5 เดือน แต่โชคร้ายที่บางตัวอาจอยู่ไม่ได้นานขนาดนั้น เหมือนกับผีเสื้อตัวนี้ที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติบริเวณปีก จนไม่สามารถโบยบินได้เหมือนผีเสื้อตัวอื่นๆ และแน่นอน มันคงตายภายในไม่กี่วัน เนื่องจากไม่สามารถออกไปหาอาหารได้ เดชะบุญของผีเสื้อตัวน้อยตัวนี้ที่มันได้เจอกับ Romy McCloskey หญิงสาวผู้หลงใหลในผีเสื้อผ่านมาเห็นพอดี จึงทำให้มันได้รับความช่วยเหลือในทันที   เจ้าผีเสื้อน้อยอายุแค่ 3 วัน เกิดมาพร้อมกับปีกที่ฉีกขาดไปข้างหนึ่ง Romy จึงหวังที่จะใช้การผ่าตัดช่วยเหลือมัน   ด้วยความที่ผีเสื้อตัวนั้นมีความบกพร่องบริเวณปีก Romy จึงเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้กลายเป็นห้องผ่าตัด หญิงสาวคือดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าระดับมืออาชีพ จึงทำให้ฝีมืการเย็บปักถักร้อยของเธอถือว่าไม่ธรรมดา ซึ่งเป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยเจ้าผีเสื้อตัวน้อยนี้ได้อย่างมาก   อุปกรณ์ที่ใช้คือ ผ้าขนหนู ไม้แขวนเสื้อ กาวเชื่อม ไม้จิ้มฟัน คอตตอนบัด กรรไกร แหนบ ผงแป้ง และปีกสำรองที่ได้มาจากผีเสื้อที่ตายไปเมื่อไม่กี่วันก่อน   ใช้ไม้แขวนเสื้อล็อคตัวมันไว้ จากนั้นก็เล็มเอาส่วนที่ฉีกขาดออกไป แต่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเจ็บหรอกนะ เพราะเธอบอกว่าการตัดปีกของมัน ก็เหมือนกับการตัดผมหรือเล็บของเราน่ะแหละ   ความประณีตและอดทนใช้เวลาไปอย่างยาวนาน ทำให้เธอสามารถต่อปีกมันมาได้สำเร็จ   แม้เราจะเห็นรอยเชื่อมอยู่บ้าง รวมถึงจุดบนปีกที่แสดงถึงเพศของมันก็ไม่ตรงกับปีกที่มีอยู่จริงๆ แต่อย่างน้อยเธอหวังว่ามันจะกลับมาบินได้เหมือนเดิม   หลังจากพักรักษาตัว ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องทดสอบแล้วว่า…

  • ชาวบ้านหัวหมอ ทำป้าย ‘ห้ามจอด’ ปลอมๆ ขึ้นมาเพื่อสงวนที่จอดรถไว้ให้ตัวเอง

    ชาวบ้านหัวหมอ ทำป้าย ‘ห้ามจอด’ ปลอมๆ ขึ้นมาเพื่อสงวนที่จอดรถไว้ให้ตัวเอง

    การปรับตัวและอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มนุษย์ทั้งหลายควรกระทำ การอยู่ร่วมกันกับคนหมู่มากจำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อจัดระเบียบสังคม เพื่อให้ทุกคนได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมนั่นก็คือเรื่องปัญหาพื้นที่สาธารณะ ที่หลายๆ คนต่างอ้างว่า ตัวเองนั้นมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้บนพื้นที่แห่งนั้น     ยกตัวอย่างประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นที่เมืองบาธ มณฑลซอมเมอร์เซ็ท ประเทศอังกฤษ ที่มีการร้องเรียนว่ามีการติดป้ายสงวนพื้นที่จอดรถปลอมๆ ขึ้นมาเพื่อที่จะใช้เป็นที่จอดรถของชาวบ้านจำนวนกว่า 18 ป้ายติดตามเสาไฟฟ้าในเมือง   ป้ายที่ทำขึ้นมาเป็นป้ายที่จอดรถโซน F ซึ่่งหลังจากการตรวจสอบกับทางเทศบาลท้องถิ่นแล้วพบว่าไม่มีการจัดทำป้ายที่จอดรถโซน F ขึ้นมาแต่อย่างใด และไม่มีใครรู้ว่าใครทำป้ายนี้ขึ้นมา เจ้าหน้าที่คาดว่าชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นคงจะทำเป็นป้ายเตือนให้นักท่องเที่ยวและนักศึกษาพยายามหลีกเลี่ยงการจอดรถบริเวณนั้น     เมื่อเข้าไปสอบถามชาวบ้านแถวนั้นก็ได้คำตอบกลับมาว่า “ฉันไม่รู้ว่าป้ายเหล่านี้มาจากไหนนะ มาดูอีกทีก็เจอเลย” “ฉันคิดว่าว่าคนที่ทำป้ายเหล่านี้มีความเป็นมืออาชีพมากเลย มันเนียนเหมือนของจริงมากๆ” “มันคือการหลอกลวง ฉันว่านี่มันไม่ถูกต้อง”   .   การติดตั้งป้ายเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จึงต้องมีการถอดป้ายเหล่านี้ออกเพื่อที่จะไม่ได้สร้างความสับสนให้กับชาวเมืองและผู้มาเยือน   ที่มา metro

  • คุณยายผู้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมหายตัวไปจากบ้าน พบไปทำความสะอาดหลุมศพของสามีที่จากไปแล้ว

    คุณยายผู้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมหายตัวไปจากบ้าน พบไปทำความสะอาดหลุมศพของสามีที่จากไปแล้ว

    ความตายเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครอยากจะให้มันมาถึงนัก ในความคิดของหลายๆ คน ความตายนั้นคือจุดสิ้นสุดของชีวิตหนึ่ง แต่บางครั้งมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของอีกชีวิตหนึ่ง ที่ต้องใช้ชีวิตต่อไปโดยลำพัง เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ณ หมู่บ้าน Shanshui เมือง Congyang มณฑลอานฮุย ได้มีการรายงานข่าวว่า หญิงชราแซ่ Wu อายุ 50 ปี หายตัวไปจากบ้านตอนหลังเที่ยง ทั้งๆ ที่ข้างนอกหิมะกำลังโปรยปรายและอากาศก็หนาวสุดๆ พอถึงเวลาใกล้ค่ำก็ไร้วี่แววคุณยายจะกลับบ้าน     การหายตัวไปไม่กี่ชั่วโมงของคุณยายก็ทำให้ลูกชายนั้นร้อนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าคุณยายมีอาการสมองเสื่อมและขาก็พิการ กลัวว่าแม่จะเป็นอันตรายจึงได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครก็ได้ทำการออกค้นหาหญิงชราในทันทีเพราะว่าฟ้าเริ่มมืดแล้ว เกรงว่าคุณยายจะเป็นอันตรายจึงได้ระดมกำลังออกตามหาเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงรอบหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง หิมะก็ตกหนักเรื่อยๆ จนต้องหยุดการค้นหาก่อนชั่วคราว     แต่เจ้าหน้าที่ก็เอะใจเรื่องการหายตัวไปของคุณยายจึงได้สอบถามกับลูกชายว่าสามีของคุณยายอยู่ที่ไหน ลูกชายก็ตอบว่าคุณพ่อนั้นเสียชีวิตไปแล้ว และร่างก็ฝังไว้ที่สุสานท้ายหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงมุ่งตรงไปที่สุสานแห่งนั้นทันที ตามคาด เจ้าหน้าที่พบคุณยายที่ตัวเปียกโชกกำลังทำความสะอาดหลุมศพสามีและกำลังโกยหิมะออกจากหลุมศพ โชคดีที่คุณยายไม่ได้รับอันตรายใดๆ ตามร่างกายก็ไม่มีบาดแผล     เมื่อคุณยายได้รับการช่วยเหลือให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย ลูกชายก็โล่งอก เขาบอกว่าแม่ของเขาอาจจะเดินไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อแล้วกลับบ้านไม่ได้ จึงนั่งอยู่ที่หลุมศพและทำความสะอาดหลุมศพให้กับสามีเพื่อคลายความคิดถึงสามีที่ได้จากไป   ที่มา nextshark

  • ทัวร์โรงแรมน้ำแข็งธีม Game of Thrones บรรยากาศแบบเวสเทอรอส นอนคืนเดียวได้ทัวร์ทั้งเรื่อง

    ทัวร์โรงแรมน้ำแข็งธีม Game of Thrones บรรยากาศแบบเวสเทอรอส นอนคืนเดียวได้ทัวร์ทั้งเรื่อง

    วันนี้เราจะพาคุณเข้าไปในโลกแฟนตาซีสุดดาร์กของ George R. R. Martin ผู้แต่งนวนิยายชื่อดังอย่าง A Song of Ice and Fire หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Game of Thrones โดยการพาไปทัวร์โรงแรมน้ำแข็งแห่งหนึ่งในประเทศฟินแลนด์ โรงแรมดังกล่าวตั้งอยู่ใน Snow Village หรือ หมู่บ้านน้ำแข็ง ที่รูปร่าง ขนาด และดีไซน์ที่เปลี่ยนไปทุกๆ ปี โดยหิมะและก้อนน้ำแข็งจำนวนมากจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างสถานที่แห่งนี้ในแต่ละปี     ราวๆ 200 กิโลเมตรเหนือวงกลมอาร์กติก บริเวณนั้นถูกเรียกว่าแลปแลนด์ ซึ่งเป็นอาณาเขตทางใต้ของประเทศฟินแลนด์ คือที่ตั้งของหมู่บ้านน้ำแข็งนี้ ซึ่งหากเดินทางจากท่าอากาศยาน Kittilä จะไปถึงได้โดยง่าย หมู่บ้านหิมะดังกล่าวมีขนาดถึง 20,000 ตารางเมตร โดยภายในจะประกอบไปด้วย โรงแรมน้ำแข็ง ภัตตาคารน้ำแข็ง บาร์น้ำแข็ง และโบสถ์น้ำแข็ง และที่พิเศษที่สุดก็คือ โรงแรมน้ำแข็งที่ในปีนี้มาในธีม “Game of Thrones” นั่นเอง     โรงแรมน้ำแข็งนั้นจะมีทั้งห้องธรรมดาและห้องพิเศษ โดยห้องต่างๆ ได้รับการออกแบบจากประติมากรทั้งจากรัสเซีย โปแลนด์ ลัตเวีย และยูเครน ภายในโรงแรมจะมีทั้งบังลังก์เหล็กขนาดเท่าตัวคน หอที่เก็บใบหน้าแห่งบราวอส และที่ขาดไม่ได้ก็คือไวท์วอล์คเกอร์ (ตามีสีฟ้าด้วยนะ)…

  • คนขับรถโดนปรับ 215,000 บาท หลังเหยียบน้ำกระเด็นใส่สามแม่ลูกจนเปียกไปหมดทั้งตัว

    คนขับรถโดนปรับ 215,000 บาท หลังเหยียบน้ำกระเด็นใส่สามแม่ลูกจนเปียกไปหมดทั้งตัว

    เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา ที่เมือง St Ives ใน Cambridgeshire มีผู้ใช้รถคนหนึ่งถูกปรับเป็นเงินสูงสุด 5,000 ปอนด์ หรือประมาณ 215,000 บาท จากกรณีขับรถเหยียบน้ำกระเด็นใส่คุณแม่และลูกๆ อีกสองคน     “เมื่อวันที่ 4 มกราคม ช่วงเที่ยงวัน ใกล้ๆ สามแยก Pig Lane กับ Greengarth ในเมือง St Ives คุณแม่คนหนึ่งกำลังเดินอยู่กับลูกทั้งสองคน คนหนึ่งอยู่ในรถเข็นและอีกคนกำลังถูกจูงมืออยู่ข้างๆ” ทางตำรวจกล่าว “เนื่องจากก่อนหน้านี้มีฝนตกและท่อน้ำทิ้งข้างๆ สามแยกตันจึงมีแอ่งน้ำขังเกิดขึ้น แต่ในขณะที่เกิดเหตุนั้นไม่มีฝนตกและแอ่งน้ำขังก็มีขนาดกว้างกว่า 6 เมตรซึ่งใหญ่พอที่ผู้ขับขี่จะมองเห็นได้” “ถึงอย่างนั้นก็ตามผู้ขับขี่กลับขับผ่านไปโดยไม่สนใจ และทำให้แอ่งน้ำสาดเข้าใส่สามแม่ลูกจนเปียกไปทั้งตัวทั้งๆ ที่คนขับสามารถหยุดรอหรือขับผ่านไปอย่างช้าๆ ได้”     ตำรวจของเคมบริดจ์ ได้เริ่มการตามหาพยานหลังจากนั้นและขอร้องให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ออกมาให้ข้อมูล ทางตำรวจให้ข้อมูลว่าโทษของการทำน้ำกระเด็นใส่คนเดินเท้าตามกฎหมายแล้ว คือการปรับเงินสูงสุด 5,000 ปอนด์ หรือ  215,000 บาท และอาจจะถูกประณามโดยสาธารณชนในกรณีที่คนขับรถเหยียบแอ่งน้ำด้วยความจงใจ ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ขับขี่มีแนวโน้มที่จะต้องเสียค่าปรับที่…

  • ชาวจีนร่วมใจผสานตัวยาวกว่า 20 เมตร เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็ง

    ชาวจีนร่วมใจผสานตัวยาวกว่า 20 เมตร เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็ง

    มีคำกล่าวว่าคนเรานั้นโดยเนื้อแท้แล้วเป็นคนดีเสมอ ซึ่งสำหรับเหล่าผู้กล้าในเหตุการณ์ต่อไปนี้แล้ว คำพูดพวกนั้น ไม่ได้เกินจริงไปเลยแม้แต่นิดเดียว ท่ามกลางฤดูหนาวในประเทศจีน กลุ่มคนผู้กล้าหาญได้ช่วยชีวิตครอบครัวหนึ่งด้วยการต่อโซ่มนุษย์ดึงขึ้นมาจากทะเลสาบที่เป็นน้ำแข็ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ทะเลสาบที่สวนสาธารณะ Caoxueqin ในเมืองถังซาน มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีนเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2018 มีครอบครัวหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วยคุณแม่และลูกสองคนที่คาดว่าอายุ 3 และ 4 ขวบ เหยียบลงไปบนธารน้ำแข็งบางๆ และตกลงไปในทะเลสาบที่เย็นเฉียบ ในวันที่อุณหภูมิติดลบ 13 องศาเซลเซียส โชคดีที่คนที่เดินผ่านไปมาเห็นเข้าจึงได้ต่อแถวกันเป็นโซ่มนุษย์เพื่อช่วยกันดึงทั้งสามขึ้นมาได้ทันเวลา   ต้นแถวและปลายแถวของโซ่มนุษย์ที่ช่วยเหลือครอบครัวที่ตกลงไปในทะเลสาบ   เหล่าชายหญิงประมาณ 17 คนจับมือกันเป็นแถวยาวเพื่อช่วยครอบครัวที่ตกลงไปในน้ำ โดยบอกให้แม่ที่กอดลูกทั้งสองไว้แน่นให้จับไม้และเชือกจูงสุนัขเอาไว้ พวกเขาใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 นาทีในการช่วยเหลือแม่ลูกทั้ง 3 โดยที่ล่าสุดทั้งสามอยู่ในสภาพปลอดภัยแล้ว ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมทั้งสามจึงลงไปเหยียบธารน้ำแข็งนั้นยังเป็นปริศนา   เด็กหญิงและเด็กชายหลังจากได้รับการช่วยเหลือ   วิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้โดยช่อง Daily Videos   โชคดีจริงๆ ที่มีคนมาเห็นแล้วช่วยเหลือเอาไว้   ที่มา Dailymail

  • เพื่อนร่วมชั้นพร้อมผู้ปกครองกว่าร้อยคน ร่วมกันต้อนรับเด็กหญิงป่วยลูคิเมียกลับสู่โรงเรียน

    เพื่อนร่วมชั้นพร้อมผู้ปกครองกว่าร้อยคน ร่วมกันต้อนรับเด็กหญิงป่วยลูคิเมียกลับสู่โรงเรียน

    เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2018 วันเปิดเทอมของเด็กนักเรียนหลายๆ โรงเรียนในสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับโรงเรียนประถมเมอรี่เมาท์  เมืองควินซี่ รัฐแมสซาชูเซตส์ เด็กๆ หลายคนต่างตื่นเต้นกับการเปิดภาคเรียนนี้ เหมือนดังกับหนูน้อย Bridget Kelley อายุ 8 ขวบ เจ้าของเรื่องราวสุดประทับใจต่อไปนี้ เด็กๆ ทั่วไปก็คงจะดีใจที่ได้ไปเรียนสักที (ใช่ไหม) เช่นเดียวกับหนู Bridget แต่หนูน้อยคนนี้ดูดีใจมากกว่าปกติ เนื่องจากเปิดเทอมนี้ เป็นวันแรกที่เธอจะได้กลับไปเรียนต่อหลังจากที่หยุดเรียนไปกว่า 15 เดือน เพื่อรักษาตัวเองจากโรคลูคีเมียหรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว     ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2016 หนูน้อยป่วยหนักและได้รับการวินิจฉัยจากทางแพทย์ว่าเธอเป็นโรคลูคีเมียทั้งๆ ที่อายุยังน้อย ทำให้ต้องเข้ารับการบำบัดและผ่าตัดก่อนที่จะปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ที่ได้จากน้องสาวของเธอ ช่วงเวลาที่หนูน้อยรักษาตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลช่างยาวนาน แต่เธอก็สู้และอดทนเพื่อที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ หลังจากที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว ก็ถึงเวลาที่หนูน้อยต้องกลับไปเรียนต่ออีกครั้งหลังจากที่หยุดมานาน     และแล้ววันที่เธอรอคอยก็มาถึงเมื่อถึงวันเปิดเทอมเธอก็จัดแจงแต่งตัวด้วยชุดน่ารักๆ เพื่อไปทักทายเพื่อนๆ ร่วมชั้น แต่ก็ต้องตะลึงกับการเซอร์ไพรส์ที่เธอต้องประทับใจสุดๆ การเซอร์ไพรส์สุดน่ารักนี้ก็คือ การที่เพื่อนๆ ร่วมชั้นกว่า 150 คนพร้อมผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันชูป้ายต้อนรับเธอที่ทางเข้าโรงเรียนท่ามกลางอุณหภูมิ -3 องศาเซลเซียส   .  …

  • เจ้าเหมียวได้รับการช่วยเหลือ แต่ยังไม่ยอมหยุดร้องซักที เป็นเพราะน้องของมันยังไม่ปลอดภัย

    เจ้าเหมียวได้รับการช่วยเหลือ แต่ยังไม่ยอมหยุดร้องซักที เป็นเพราะน้องของมันยังไม่ปลอดภัย

    Flatbush Cats เป็นกลุ่มของคนช่วยเหลือแมว ในชุมชนแฟลตบุช ในย่านบรูคลิน รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เน้นการช่วยเหลือแมวที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือมีที่อยู่ที่ไม่เหมาะสม เข้ามาดูแลจนมันมีสุขภาพดี แล้วจึงหาที่อยู่ที่เหมาะสมให้กับมันต่อไป เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 นาย Will สมาชิกของ Flatbush Cats ก็ได้ช่วยเหลือแมวจรจัดมาตัวหนึ่ง แต่มันก็ร้องเมี้ยวๆ ไม่หยุดเลย จนกระทั่งเขากลับไปช่วยน้องของมันมาด้วย มันถึงหยุดร้องได้     Will ตามเสียงร้องของเจ้าเหมียวตัวหนึ่งมา และพบมันอยู่ที่หลังถังขยะ เขาเล่าว่า “มันร้องสุดเสียงมาจากด้านหลังถังขยะ เสียงมันดังจนคุณน่าจะได้ยินตั้งแต่เดินมาจากซอยข้างๆ เลย” เขาตั้งชื่อมันว่า Sonny หลังจากนั้นเขาและแฟนสาว Divya ก็ดูแลมันอย่างดี ทั้งพาไปอาบน้ำและเอาอกเอาใจมันอย่างใกล้ชิด จนมันเริ่มไว้ใจพวกเขา ภายในเวลาชั่วโมงเดียวมันก็กลายเป็นน้องเหมียวสะอาดสะอ้าน และก็ครางอย่างมีความสุขเวลาที่พวกเขาลูบมันเลย   อืมมมม ดีมากเจ้ามนุษย์ อย่าหยุดนะ   แต่พอผ่านไปได้สักพักหนึ่ง เจ้าเหมียวก็กลับมาร้องเสียงดังเหมือนเดิม ราวกับว่ามันต้องการอะไรสักอย่างจากพวกเขา เมื่อ Will เห็นแบบนั้น ก็เลยลองกลับไปดูจุดที่เจอมันอีกครั้งหนึ่ง   ก็บอกให้ไปช่วยน้องเค้าไง ไม่เข้าใจเหรอ   พอค้นหาดูรอบๆ บริเวณนั้นอีกครั้ง…

  • คุณยายถึงกับหลั่งน้ำตา หลังจากที่ได้ฟัง ‘เนื้อเพลง’ ของตัวเองที่แต่งขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

    คุณยายถึงกับหลั่งน้ำตา หลังจากที่ได้ฟัง ‘เนื้อเพลง’ ของตัวเองที่แต่งขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

    บางครั้งเรื่องราวในอดีตมันก็สามารถส่งผลมาถึงปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่ามันจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม แต่ระบบความทรงจำของมนุษย์เราก็สามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งความทรงจำของคนเราก็เป็นธรรมดาที่ต้องมีทั้งเรื่องที่น่าดีใจและน่าเสียใจ แต่คงจะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ หากเราได้มีโอกาสย้อนไปในอดีต เหมือนกับคุณย่าคนนี้ที่ได้ฟัง ‘เนื้อเพลง’ ที่ตัวเองแต่งขึ้นมาเมื่อ 30 ปีก่อน และแน่นอนว่าการย้อนอดีตในครั้งนี้ได้สร้างความประทับใจให้แก่เธอ จนถึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว   สองพ่อลูกแห่งไอเดียสุดบรรเจิด   เรื่องราวแสนประทับใจเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นที่รัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อชายชื่อว่า Robert Smith ตั้งใจจะเซอร์ไพรส์แม่ของเขาระหว่างการเดินทางกลับบ้านไปเยี่ยมเธอเนื่องในเทศกาลวันคริสต์มาส โดยทั้งนี้เขาได้มีผู้ช่วยสุดพิเศษก็คือ Travis Ryan Smith ลูกชายคนเก่งของเขานั่นเอง สำหรับของขวัญที่เขาตั้งใจจะนำไปมอบให้กับแม่ของเขาในการกลับบ้านครั้งนี้ ก็คือบทเพลงที่กำเนิดมาจาก ‘เนื้อเพลง’ ที่คุณแม่ของเขาได้แต่งทิ้งเอาไว้เมื่อประมาณ 30 ปีก่อนนั่นเอง   ผู้ทำให้ฝันของหญิงชรากลายเป็นจริง   ซึ่งที่มาของไอเดียนี้ Robert ได้อธิบายว่า ด้วยความที่ Travis ลูกชายของเขามักจะชอบเล่นดนตรีและอัดเพลงที่ตัวเองแต่งอยู่เป็นประจำ ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะนำเนื้อเพลงของแม่เขามาให้ลูกชายเรียบเรียงใหม่ จนในที่สุดก็ได้กลายเป็นบทเพลงที่พร้อมมอบให้กับแม่ของเขาในที่สุด “แม่ของผมเขียนเพลงนี้พร้อมทั้งตั้งชื่อเอาไว้ว่า “ปลาจากท้องฟ้า” และได้บันทึกใส่เทปเอาไว้เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว โดยเมื่อปีที่แล้ว Travis กับผมได้มีโอกาสได้ฟัง นั่นจึงทำให้เกิดไอเดียนี้ขึ้นมานี่เอง” Robert กล่าว เมื่อทันทีที่แม่ของเขาได้ยินโน๊ตตัวแรกของเพลง ก็ปรากฏว่าเธอสามารถจดจำเพลงนี้ได้ในทันที ซึ่งเสียงร้องในเพลงที่เธอแต่งนั้นก็เป็นเสียงของหลานชายคนเก่งของเธอนั่นเอง และเพลงแห่งความทรงจำนี้ก็ทำให้เธอถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความปลื้มปีติเอาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว  …

  • 22 ไอเดียบันไดสุดสร้างสรรค์ ที่จะทำให้คุณมีกำลังใจ อยากจะเดินขึ้นๆ ลงๆ ได้ทั้งวัน

    22 ไอเดียบันไดสุดสร้างสรรค์ ที่จะทำให้คุณมีกำลังใจ อยากจะเดินขึ้นๆ ลงๆ ได้ทั้งวัน

    บันไดถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการออกแบบบ้านหลายชั้น แต่หลายคนอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับรูปแบบของมันมากนัก เพราะชินชากับการที่บันไดนั้นมีรูปแบบซ้ำซากจำเจ หากเราลองออกแบบอย่างจริงจังดู บันไดเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวาได้เช่นกัน โดยการจะออกแบบบันไดนั้นต้องคำนึงถึงทั้งรูปแบบและพื้นที่ใช้สอย เพื่อที่จะทำให้บ้านใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยได้สูงสุด และดูสวยงามไปพร้อมๆ กัน     วันนี้เราจึงได้รวบรวมการออกแบบบันไดที่ทำให้บ้านดูดีมีสไตล์ พร้อมทั้งเกิดประโยชน์สูงสุดกับบ้านของเราอีกด้วย โดยบันไดบางแบบก็ออกแบบมาให้ดูลื่นไหล น่าจับตามอง อย่างเช่นแบบของสถาปนิก Arquitectura en Movimiento ในขณะเดียวกันบันไดอีกส่วนหนึ่งก็เน้นไปที่ความกลมกลืน และสบายตา เหมือนของสถาปนิก Mieke Meijer อีกด้วย ทั้งนี้การออกแบบของบันไดทุกอันก็ไม่ได้มีอันไหนด้อยไปกว่ากันเลย มันมีความสวยงามแตกต่างกันคนละแบบเท่านั้นเอง   บันไดที่ดีมักจะใช้แสงจากภายนอกให้เป็นประโยชน์ โดยทำช่องว่างให้แสงธรรมชาติมาทำให้บ้านดูสว่างไสว รอดโปร่ง   หากบันไดมีช่องว่างที่ถูกออกแบบไว้อย่างดี ก็จะทำให้บ้านดูไม่ทึบ และแม้แต่ชั้นใต้ดินที่ไม่มีหน้าต่างก็สามารถดูสว่างไสวได้   ไม่จำเป็นจะต้องทำทุกส่วนของบันให้เป็นช่องไปเสียหมด แค่เพียงบางส่วนก็ได้แสงมากเพียงพอแล้ว ส่วนที่เหลือก็ทำให้กลมกลืนเข้ากับตัวบ้าน ก็จะได้ความสวยงามที่มากขึ้น   ดูปลอดโปร่ง โล่งตามากเลยใช่ไหมล่ะครับ   หรือจะหันมาใช้บันไดวนเพื่อประหยัดพื้นที่ในบ้านก็ได้เช่นกัน แถมยังดูล้ำสมัยอีกด้วย   แต่ถ้าเลือกใช้บันไดแบบนี้ก็ต้องเดินระวังกันนิดนึงนะครับ เพราะว่ามันไม่มีราวจับให้ ฮ่าๆๆ   การออกแบบบันไดช่วยทำให้มันดูไม่รกหูรกตาได้ แม้ว่าบันไดจะยาวก็ตาม   ดูกลมกลืนไปกับผนัง เหมือนกับว่าไม่มีบันไดอยู่เลย…