Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
ชมภาพห้องควบคุมของโซเวียตในอดีต เห็นแล้วนึกถึงห้องบนยานอวกาศในหนังเลย
เราเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยดูภาพยนตร์ไซไฟชื่อดังอย่าง Star Trek หรือ Star Wars มาแล้วแน่นอน และคงจะชอบใจกับความล้ำสมัยของยานอวกาศ และเรื่องราวการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นในอวกาศของกัปตันและผองเพื่อน สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดเลยว่า นี่แหละมันคือความไฮเทคสมกับเป็นเทคโนโลยีในอนาคตจริงๆ ก็คือห้องควบคุมของยานอวกาศ ที่มีแผงควบคุมอยู่ทั่วทุกแห่ง และมีแสงไฟกระพริบบอกถึงสถานะของยาน หากมีโอกาสล่ะก็อยากจะลองเข้าไปนั่งในห้องแบบนั้นสักครั้ง คงจะเท่ไม่หยอก ในวันนี้เราพบสถานที่แห่งหนึ่งบนโลก ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับห้องควบคุมในหนังอย่างกับถอดแบบกันมาไม่มีผิดเลย สถานที่นั้นก็คือห้องควบคุมของสหภาพโซเวียต ห้องควบคุมที่ว่านี้มีแผงควบคุมซึ่งมีปุ่มจำนวนนับไม่ถ้วนตั้งอยู่ติดกันยาวเป็นแถบเลย นอกจากนี้ก็ยังมีสัญญาณไฟอยู่เหนือแผงควบคุมทุกอันอืีกด้วย เหมือนในหนังเลยใช่ไหมล่ะ ย้อนไปในอดีตเมื่อครั้งที่สหภาพโซเวียตยังใช้งานห้องควบคุมนี้อยู่ มันเป็นศูนย์กลางที่ใช้ควบคุมสิ่งสำคัญอย่างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หอควบคุมต่างๆ และสิ่งอื่นอีกมากมาย ในเวลานั้น ห้องนี้เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของอนาคตอันสว่างไสว และความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีที่สหภาพโซเวียตตั้งใจจะไปให้ถึงให้ได้ ตอนที่ยังมีคนทำงานอยู่นั้น ผู้ควบคุมทุกคนต้องนั่งจ้องแผงควบคุมเหล่านี้ทั้งวัน คอยเฝ้าสังเกตว่าพวกมันทำงานได้ปกติหรือเปล่า แล้วก็แจ้งข้อมูลความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นกลับไปให้ศูนย์กลาง เพื่อที่จะได้ควบคุมการผลิตพลังงาน และสิ่งอื่นๆ ให้ดำเนินการไปอย่างราบรื่น แม้ว่าในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในห้องนี้จะล้าสมัยไปแล้ว แต่มันก็ยังคงดูเหมือนห้องจากอนาคตที่ทุกคนเห็นตามภาพยนตร์ ทั้งล้ำยุค และอลังการอย่างแท้จริง ในสมัยก่อน ผู้ควบคุมจะต้องคอยตรวจสอบดูสถานะของแผงคบคุมที่เรียงกันอยู่เป็นตับแบบนี้เลย…
-
รู้จักกับพฤติกรรม Micro-Cheating ที่อธิบายว่าการแอบมองแว๊บๆ ก็ถือเป็นการนอกใจนะเออ!!
ในการประคับประคองชีวิตคู่ให้ตลอดรอดฝั่ง คนสองคนจำเป็นต้องทำความเข้าใจอีกฝ่าย ปรับตัวเข้าหาอีกฝ่าย และยอมรับซึ่งกันและกัน แต่เท่านั้นยังไม่พอ ยังต้องคอยระวังไม่ให้มือที่สามเข้ามายุ่มย่าม หรือคอยดูคู่รักของเราไม่ให้นอกใจอีกด้วย เพียงเท่านั้นยังไม่พอ ถึงแฟนเราจะไม่ได้นอกใจและทิ้งเราไปคบกับคนอื่น เราก็ยังต้องคอยระวังพฤติกรรมของแฟนที่อาจเข้าข่าย การนอกใจแบบเล็กๆ (Micro-Cheating) ซึ่งเป็นคำจำกัดความใหม่ของพฤติกรรมเล็กน้อยที่ส่อถึงการนอกใจนั่นเอง Melanie Schilling ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ ได้ให้คำนิยามง่ายๆ ของการนอกใจเล็กๆ ไว้ทางเว็บไซต์ HuffPost Australia ว่า “มันเป็นการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งสามารถบ่งบอกว่าคนคนนั้นมีความสนใจกับคนอื่นนอกเหนือจากคู่รัก ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางกาย หรือความรู้สึกทางใจก็ตาม“ ถ้าจะให้บอกให้เข้าใจง่ายกว่านั้น ก็น่าจะบอกว่ามันคือการที่คุณรู้สึกสนใจ หรือต้องการความสนใจจากคนอื่นเป็นพิเศษนอกเหนือจากแฟนนั่นแหละ Schilling ยังบอกอีกว่าการนอกใจเล็กๆ นี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมองข้ามได้ เพราะมันมักจะส่งผลให้ความสัมพันธ์ของคุณไม่ราบรื่น “ถ้าคุณรู้สึกว่าการที่แฟนแอบมีใจกับคนอื่นเป็นเรื่องที่โอเค และคุณรับได้ที่จะเป็นที่สองในใจเขา พอนานๆ เข้าความคิดนี้จะทำให้คุณสูญเสียความั่นใจ และกลายเป็น “ผู้เสียหาย” ในความสัมพันธ์นี้” การนอกใจเล็กๆ นั้นอาจเป็นการกระทำเล็กๆ ประมาณว่าคุณรู้สึกสนใจและอยากสานสัมพันธ์กับคนอื่นเป็นพิเศษ หรือการที่คุณมีความลับบางอย่างกับแฟนของคุณ แต่หากอยากจะเห็นเป็นรูปธรรมล่ะก็ เว็บไซต์ Though Catalog ได้เขียนถึงการนอกใจเล็กๆ ไว้เป็นข้อต่างๆ…
-
Tomb Raiders ในชีวิตจริงถูกจับ หลังไปขโมยของจากสุสถานพุทธ หนึ่งในนั้นถูกใช้เป็นโต๊ะกาแฟ!?
เวลาที่เราพูดถึง Tomb Raiders เราก็มักจะนึกถึง Lara Croft หรือตัวละครหญิงสุดสวยที่มาจากเกม Tomb Raiders เสมอ แถมเราคงคิดว่าการทำอาชีพดังกล่าวมันจะดูเท่ซะเหลือเกิน เพราจะได้สำรวจสุสานและเก็บของมีค่ามามากมาย แต่ในชีวิตจริง การเป็น Tomb Raider นั้นคือการทำสิ่งผิดกฎหมายเพราะมันคือการเข้าไปขโมยของออกมานั่นเอง และแน่นอนว่าก็อาจจะส่งผลให้ถูกจับได้ อย่างคดีตัวอย่างในครั้งนี้ สื่อจากจีนได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้บุกจับกุมชายแซ่ Cai ซึ่งเปิดร้านขายของเก่าในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเขาได้ว่าจ้างเหล่า Tomb Raider จำนวนกว่า 12 คน เพื่อเข้าไปขโมยวัตถุโบราณกว่า 12 ชิ้นจากสุสานของพระสองรูปด้วยกัน เหตุการณ์บุกสุสานดังกล่าวนั้นเริ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายนจนถึงพฤศจิกายน 2017 จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายน ชาวบ้านได้บังเอิญเห็นกลุ่มนักลอบขุดสุสานระหว่างกำลังขนย้ายของที่ขโมยออกมา ทำให้พวกเขารีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ทันที และในเวลาต่อมาก็สืบจนพบว่า Cai เป็นคนว่าจ้างโจรทั้งหมด ในเวลาต่อมาชายแซ่ Cai ก็ได้รับสารภาพและสาวไปจนถึงเหล่าโจรทั้ง 12 คน ต่อมาในเดือนมกราคม 2018 เจ้าหน้าที่ก็ได้ค้นพบวัตถุโบราณทั้งหมดที่ถูกเก็บไว้ก่อนนำออกขาย โดยมีสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่งชายแซ่ Cai ได้เก็บไว้ใช้เป็นโต๊ะกาแฟของตนเอง Tomb Raider ในชีวิตจริงมันผิดนะแก!! ที่่มา nextshark
-
จับกุมเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น จากการยิง ‘ไม้จิ้มฟัน’ ใส่หน้าพนักงาน และสารพัดวิธีทรมาน…
เพราะด้วยการที่อยู่ในตำแหน่งที่สูงส่งกว่า แน่นอนว่าย่อมมีการใช้อำนาจเหนือผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ก็ใช่ว่าจะทำอะไรกับเขาก็ได้เหมือนกับว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ ไม่งั้นอาจจะถูกจับกุมเหมือนกับบุคคลเหล่านี้ ที่ใช้เครื่องยิงไม้จิ้มฟันยิงเข้าใส่ใบหน้าของลูกน้องจนได้รับบาดเจ็บ รวมถึงยังมีการทำร้ายร่างกายอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากร่วมด้วย โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ร้านอาหาร Yakiniku GyuuGyuu แห่งหนึ่งในเมืองโอซากะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อมีเหยื่อที่ไม่ประสงค์ออกนาม ออกมาระบุว่าเขาต้องทนกับการถูกทำร้ายร่างกายต่างๆ นานา มาตลอดปี 2017 หน้าตาของร้านอาหารดังกล่าว และในวันที่ 10 มกราคมในปีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าจับกุม Masao Mukai เจ้าของร้านอาหารวัย 42 ปี พร้อมกับภรรยาวัย 26 ปีของเขา รวมถึงผู้จัดการร้านอาหารแห่งนี้ด้วย ซึ่งข้อหาที่ทั้งสามคนนี้ถูกตั้งก็คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น 3 คดี และทำให้ร่างกายของผู้อื่นได้รับบาดเจ็บอีก 1 คดีนั่นเอง โดยเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม ปี 2017 เมื่อมีผู้อ้างว่า ผู้ต้องหาทั้งสามคนนี้ใช้ไม้ตีเข้าที่ใบหน้าของเหยื่อวัย 35 ปีหลายต่อหลายครั้ง หลังจากนั้นพวกเขาก็เทน้ำร้อนเดือดลงบนก้นและต้นขาของชายคนนั้น หน้าไม้ยิงไม้จิ้มฟัน ส่วนเหตุการณ์ครั้งที่สองเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2017 เช่นเดียวกัน เมื่อพวกเขาได้ร่วมกันทรมานเหยื่อด้วยการ มัดมือของเหยื่อจนไม่สามารถขัดขืนได้ จากนั้นก็นำกระดาษทิชชู่ที่พันกับขดลวดไปติดไฟ และนำไปยัดใส่จมูกของเหยื่อจนเกิดความทรมานอย่างแสนสาหัส นั่นเอง…
-
ทุ่นดักจับขยะพลาสติกในมหาสมุทร กำลังจะออกปฏิบัติการช่วยกอบกู้โลกให้สดใสดังเดิมแล้ว
มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีพฤติกรรมมักง่าย เมื่อไปที่ใดก็ทิ้งขยะไว้ตรงนั้น และไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ในตอนนี้พื้นที่ต่างๆ บนโลกของเราก็มีปัญหาเรื่องนี้เกิดขึ้นมากมาย รวมถึงในท้องทะเลที่เรื่องของขยะได้กลายมาเป็นปัญหาที่ต้องร่วมกันแก้ไข ให้ได้อย่างทันท่วงที ทว่าหากยังจำกันได้ ใครหลายคนก็อาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่มีความมุ่งมั่นจะแก้ไขเรื่องปัญหาขยะในทะเลให้ได้ ซึ่งสิ่งที่เขาคิดไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้น เพราะว่าเขาวางแผนเอาไว้ว่าจะช่วยโลกด้วยการลดจำนวนขยะจำนวนมหาศาลในมหาสมุทรต่างๆ และในวันนี้เขาได้กลับมาทำตามสิ่งที่เขาคิดเอาไว้แล้ว ย้อนกลับไปในอดีต Boyan Slat เป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มมัธยมชาวดัตช์ธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น แต่ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาได้ไปท่องเที่ยวที่ประเทศกรีซ และได้มีโอกาสได้ดำน้ำลงดูใต้ท้องท้องทะเล สิ่งที่เขาได้เห็นจากการไปเที่ยวในครั้งนั้นไม่ใช่แค่ปลาสวยๆ เพียงเท่านั้น แต่เขายังได้เห็นขยะจำนวนมากมาย ที่เขาบอกว่ามันมีเยอะกว่าจำนวนปลาในน้ำซะอีก นั่นจึงได้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาอยากจะเปลี่ยนอะไรสักอย่างเพื่อให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น “วินาทีที่ผมดำน้ำลงไปใต้ทะเล มันทำให้ผมรู้ทันทีว่าปัญหาเรื่องขยะเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก และปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมก็เป็นปัญหาขนาดใหญ่ที่คนยุคผมต้องเผชิญกับมัน” Slat กล่าว ทว่า Slat ก็เป็นเหมือนกับคนทั่วๆ ไป ที่รู้ว่ามีขยะจำนวนมหาศาลอยู่ในท้องทะเล และหวังว่าจะมีใครสักคน หรือหน่วยงานสักแห่งที่กำลังแก้ไขปัญหานี้อยู่ แต่สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่นก็เพราะว่า เขาไม่เพียงรอคอยให้ใครแก้ปัญหานี้ให้เท่านั้น เพราะว่ามันเป็นปัญหาของส่วนรวม หลังกลับจากการไปเที่ยวประเทศกรีซในครั้งนั้น Slat จึงได้ค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องของการกำจัดปัญหาในท้องทะเล และเขาก็ได้พบว่าการใช้ตาข่ายเพื่อดักจับขยะ มันไม่เพียงแต่จะกำจัดขยะเท่านั้น… ทว่ามันยังจะจับพวกสิ่งมีชีวิตในทะเลอย่าง ปลา เต่า หรืออื่นๆ ไปด้วย เขาจึงได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ของเขาขึ้นมาเพื่อจะแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ…
-
เทรนด์ใหม่เมืองนอก ‘Tide Pod Challenge’ กับการกินเม็ดน้ำยาซักผ้า ผู้เชี่ยวชาญแนะอย่าทำ!!
ตอนนี้กระแสบนโลกออนไลน์ที่กำลังมาแรงก็คือ การกินเม็ดผงซักฟอก ที่เรียกว่า ‘Tide Pod‘ ซึ่งเป็นที่น่าเป็นห่วงสำหรับพ่อแม่และแพทย์ ไม่น่าเชื่อว่าวันหนึ่งจะต้องมาอธิบายว่า ผงซักฟอกนั้น ไม่สามารถนำมารับประทานได้ มิฉะนั้นอาจส่งผลไม่ดีต่อร่างกายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้ เจ้าตัว Tide Pod นั้นก็คือ เม็ดผงซักฟอกที่ใช้ง่าย สะดวกสบาย แค่นำเม็ดนี้ใส่ลงไปในเครื่องซักผ้า เท่านี้ก็เรียบร้อย แต่ทว่ากลับมีกระแสที่วัยรุ่นบนโลกออนไลน์ ได้นำมาเล่นเป็น Challenge โดยการกินเข้าไป ราวกับว่าเป็นเรื่องสนุก . เมื่อกัดเข้าไป คนส่วนใหญ่ก็จะคายออกมา เนื่องจากน้ำข้างในมีรสชาติที่ขม เพราะว่ามันมีไว้ใช้สำหรับขจัดคราบสกปรกบนเสื้อผ้า และมีบางคนยังดื่มเหล้าตามเข้าไปอีกด้วย Dr. Alfred Aleguas Jr. ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับสารพิษของฟลอริดา ได้กล่าวว่า “หากมีคนเลียนแบบวีดิโอที่ทำมาเพื่อความตลกดังกล่าว อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ การกลืนผงซักฟอกเข้มข้นที่อัดอยู่ในเม็ดนั้นอาจจะทำให้อาเจียนหรือท้องร่วงได้ หรือร้ายแรงที่สุด อาจจะทำให้ระบบหายใจมีปัญหาได้ หากกลืนลงไปในปอด” การกระทำเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในเด็กที่ดื้อ และอยู่ห่างจากสายตาผู้ปกครอง จึงควรเฝ้าระวังและตักเตือนถึงอันตราย ไม่ให้เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด ที่มา Unilad
-
สวนสัตว์สวีเดน ยอมรับจำเป็นต้อง “สังหารลูกสิงโต 9 ตัว” แม้มันจะมีสุขภาพดีก็ตาม…
ผู้บริหารสวนสัตว์ Boras Djurpark ในประเทศสวีเดน ออกมายอมรับว่าทางสวนสัตว์นั้นต้องปลิดชีพลูกสิงโตไปมากถึง 9 ตัวด้วยภาระจำยอม ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์ตามมามากมายในโลกออนไลน์ Bo Kjellson ซึ่งเป็นซีอีโอของสวนสัตว์ทางตะวันตกของประเทศแห่งนี้ ระบุว่าถึงแม้สิงโตทั้งหมดนั้นจะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง แต่พวกเขาจำเป็นต้องให้พวกมันตายในช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่ว่า “มันเป็นส่วนเกิน” และ “ความก้าวร้าวมันเกินควบคุม” ซึ่งเกิดในหมู่สิงโตที่เหลือ เขาระบุเพิ่มเติมว่า ลูกสิงโตเหล่านั้นจะถูกฆ่าเพราะไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือขายไปยังสถานดูแลและสวนสัตว์แห่งอื่นๆ ได้ นี่จึงเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องทำ การให้สัมภาษณ์ผ่านทาง SVT ของทางผู้บริการ Klejjson ในครั้งนี้ สร้างกระแสตามมาอย่างมากมาย “ตอนนั้นพวกเราพยายามที่จะขายลูกสิงโต หรือย้ายพวกมันไปยังสวนสัตว์อื่นๆ พวกเราพยายามอยู่นานมาก” “แต่โชคร้ายตรงที่ ไม่มีสวนสัตว์แห่งไหนพร้อมจะรับพวกมันเลย และความก้าวร้าวในฝูงสิงโตที่เลี้ยงไว้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (จากปริมาณลูกสิงโตตัวใหม่) นั่นทำให้พวกเราต้องนำสัตว์บางตัวออกไป และเป็นพวกมันนั่นเอง” รายงานข่าวระบุว่า ลูกสิงโตทั้ง 9 ที่โดนสวนสัตว์แห่งนี้สังหารมีชื่อว่า Potter, Weasley, Simba, Rafiki, Nala, Sarabi, Kiara, Kovu…
-
ส่องตลาดปลา Tsukiji แห่งกรุงโตเกียว ปลาทูน่าตัวที่แพงที่สุดนั้น มีมูลค่าถึง 56 ล้านบาท!!
สวัสดีครับทุกท่าน ถ้าหากว่าพูดถึง ประเทศญี่ปุ่น แล้วล่ะก็ หลายคนคงทราบว่าเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน เช่น สถานที่ท่องเที่ยว และอาหาร ซึ่งอาหารญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคยกันดีก็คงจะหนีไม่พ้น ซูชิ ซาชิมิ หรือพวกปลาดิบอะไรทำนองนี้ วันนี้เราจึงจะพาไปส่อง ตลาด Tsukiji ตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในทุกๆ วันจะมีทั้งชาวประมง ผู้ค้าปลา รวมไปถึงเจ้าของร้านซูชิระดับท็อปในญี่ปุ่นมาทำการซื้อขายปลากันที่ตลาดแห่งนี้ ปัจจุบัน Tsukiji กลายเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งอาหารที่มีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวไปเสียแล้ว เพราะว่าใครกันจะไม่อยากเห็นตลาดที่ด้านในมีปลาราคาราวๆ 56 ล้านบาท วางขายอยู่ อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าข้างในตลาดจะเป็นยังไงกันนะ เชิญไปรับชมกันได้เลย… ก่อนอื่นที่ตั้งของตลาด Tsukiji จะอยู่ภายในย่าน Tsukiji ใจกลางกรุงโตเกียวนั่นแหละ หากว่ามาก่อนพระอาทิตย์ขึ้นก็จะเห็นบรรยากาศแบบนี้ (กำลังเตรียมปลากันเลย) ที่ตลาดจะแบ่งเป็น 2 โซนด้วยกัน นั่นคือ โซนร้านอาหารและร้านขายของ กับโซนขายปลาสด จะเห็นว่ามีร้านขายของชำเล็กๆ ไว้สำหรับซื้อขนม หนังสือพิมพ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น ปลานานาชนิด ถูกส่งมาที่ตลาดแห่งนี้มากกว่าแห่งใดในโลก ว่ากันว่าตลาดแห่งนี้มีรายได้ต่อปีมากกว่า 1 แสนล้านบาท!! ที่นี่ขายอาหารทะเลมากกว่า 480 ชนิด และผลิตภัณฑ์แปรรูปอีกมากกว่า 270…
-
Boxes War กิจกรรมสุดแปลกกับการรวมตัวฟาดฟันด้วยกล่องลัง จะจริงจังไปไหนล่ะเพ่!?
คุณเคยวาดฝันว่าจะได้สวมชุดเกราะเข้าฟาดฟันกันเหมือนในหนังบ้างไหม? แน่นอนว่าหลายคนคงเคยวาดฝันแบบนั้นไว้ เพียงแต่การจะหาเกราะหรือดาบจริงๆ มาสู้คงเป็นอะไรที่ยากมากๆ แถมยุคนี้เขาก็ใช้ปืนกันหมดแล้ว… แต่ความฝันสุดแฟนตาซีนั้น ได้ถูกชายคนหนึ่งเปลี่ยนให้มันเป็นจริงขึ้นมาแล้ว ด้วยการสร้างกิจกรรมสุดแหวกที่ชื่อว่า Boxes War ขึ้นมา โดยไอ้เจ้ากิจกรรมที่ว่านี้นั้นจะให้ผู้คนใช้กระดาษลังมาสร้างอาวุธและชุดเกราะเพื่อสู้กัน… . ชายคนที่ว่านั่นก็คือ Ross Koger เขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมคิดค้นเจ้า Boxes War นี้ขึ้นมา โดยเขาใช้แนวคิดของคนที่ชื่นชอบในการใช้กระดาษลังหรือมีไอเดียแปลกๆ อยากจะสร้างสรรค์แต่ไม่มีที่ปล่อยของให้มารวมตัวและเล่นสนุกกัน หลายคนอ่านแล้วก็คงจะสงสัยว่า แบบนี้มันก็เป็นกิจกรรมของเด็กๆ สิ แต่คำตอบจริงๆ นั้นสวนทางกันสุดๆ เพราะส่วนใหญ่ล้วนเป็นวัยรุ่นขึ้นไป และพวกเขาก็เอาจริงเอาจังกับการสร้างสรรค์สงครามกระดาษลังนี้มาก มากขนาดใช้เครื่องจักรช่วยออกแบบเลยก็มี นอกจากนี้ทุกๆ การต่อสู้ก็มักจะมีการสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ ขึ้นมาจากกระดาษลัง เช่นรถถัง เรือ หรืออะไรก็ตามที่มีขนาดใหญ่มากๆ หนักหน่อยก็รถขนาดใหญ่ที่เคลื่อนที่ได้จริงๆ (เล่นใหญ่สุดๆ) อย่างไรก็ตามสงครามกระดาษลังนั้นไม่มีกฎที่ตายตัว และก็ไม่มีผู้ชนะด้วยเพราะ Ross บอกว่าถ้าคุณเข้าร่วมสงครามนี้คุณก็แพ้แล้ว เพราะมันไม่ใช่การแข่งขันแต่มันคือการโชว์ความคิดสร้างสรรค์ต่างหาก สุดท้ายแล้ว Ross ก็บอกว่าเขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าสงครามกระดาษลังหรือ Boxes War นี้มันจะเติบโตมาได้ขนาดนี้ เพราะเดิมทีมีคนเข้าร่วมแค่…
-
หนุ่มเมายาสลบหนัก จำไม่ได้ว่าเมียตัวเองผอมลง คิดว่าเป็นผู้หญิงคนอื่นมายืนเฝ้า!?
‘คุณดูสวยเซ็กซี่จัง’ คือคำพูดของชายหนุ่มที่พูดกับ Silvia Caswell ผู้เป็นภรรยาของเขา หลังจากที่เพิ่งจะฟื้นจากโดนยาสลบมาเป็นเวลานานจนเกิดอาการเลอะเลือน เพราะตัวเขานั้นจำไม่ได้ว่าช่วงที่ผ่านมาภรรยาได้ลดความอ้วน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเมื่อปี 2014 โดยมันถูกบันทึกไว้โดย Silvia ผู้เป็นภรรยาซึ่งเธอรู้สึกได้ถึงความประทับใจและน่ารักที่สามีมีให้กับเธอ แม้ว่าตัวเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลยก็ตาม Silvia เล่าว่าเธอนั้นเคยเป็นคนที่ตัวอ้วนมาก จนกระทั่งช่วงหลังเธอเริ่มออกกำลังและลดน้ำหนักลงกว่า 35 กิโลกรัมแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เธอดูเปลี่ยนไปจากเดิม จนทำให้แฟนหนุ่มที่เมายาสลบยังจำภาพเก่าๆ ของเธออยู่ นั่นเลยทำให้เขาถึงกับต้องชมภรรยาว่าสวยนั่นเอง นี่คือโฉมหน้าของ Silvia ภรรยาของสามีสุดน่ารักนั่นเอง ไม่หมดเท่านั้น ความน่ารักแบบเบลอๆ ของแฟนหนุ่มยังดำเนินต่อไป เพราะเมื่อแฟนสาวถามว่า แล้วนี่คุณมาทำอะไรที่โรงพยาบาล แฟนหนุ่มก็ตอบกลับมาว่า… “เออ…ผมมากินซูชิ” ความจริงแล้ว พ่อหนุ่มคนนี้นั้นจะต้องมาทำ MRI ซึ่งแพทย์ก็จะต้องทำให้เขาสลบเสียก่อนนั่นเอง และหลังจากเรื่องซูชิ เขาก็ยังเพ้อต่อไปจนกระทั่งเขากลับมาพูดเรื่องภรรยาของเขาต่อ ซึ่งภรรยาถามว่าเขาจำไม่ได้จริงๆ เหรอว่าตัวเธอนั้นได้ลดหุ่นลงแล้ว เขาก็ตอบไม่ได้ สุดท้ายเขาก็ทนต่อผลของยาสลบไม่ไหวแล้ว เขาได้ฮัมเพลง Kryptonite ของวง 3 Doors Down จนหลับไปในท้ายที่สุด เรียกว่าเป็นช่วงเวลาน่ารักๆ…
-
Keni Styles หนุ่มไทยผู้รันวงการหนังผู้ใหญ่ในต่างแดน ที่มาพร้อมกับข้าวหลามขนาด 8.5 นิ้ว!!
หากพูดถึงหนังโป๊ หรือที่เราเรียกกันให้สุภาพว่าหนังผู้ใหญ่นั้น โดยปกติเราก็มักจะนึกถึงเหล่าดาราสุดสวยเอ็กซ์จากฝั่งญี่ปุ่น หรือไม่ก็สายโหดฮาร์ดคอร์จากฝั่งฝรั่ง แต่พอพูดถึงฝั่งไทยถ้านอกจากช่างแอร์แล้วเราจะนึกถึงใครบ้างละ? ถ้าคิดไม่ออกงั้นเราลองมารู้จักกับ Keni Styles หนุ่มหล่อจากจังหวัดลำพูน ที่ผันตัวไปรันวงการหนังผู้ใหญ่ในแดนฝรั่ง แต่ก่อนจะมาถึงจุดนั้นได้เขาจะต้องต่อสู้กับชีวิตพอสมควรเลย เริ่มแรกนั้น Keni เกิดที่จังหวัดลำพูน ประเทศไทย ครอบครัวของเขานั้นมีเพียงแค่แม่เพียงคนเดียว ซึ่งเธอนั้นทำงานเป็นโสเภนี จนกระทั่งชีวิตของเขาและแม่ต้องเปลี่ยนไป เมื่อแม่ของเขาได้แต่งงานกับชายชาวอังกฤษ ทั้งสองจึงจัดการพาตัวเองย้ายไปอยู่ที่อังกฤษกับสามีคนใหม่ แต่แล้วโชคก็เล่นตลกกับเขา เมื่อแม่ของเขาได้หย่ากับชาวต่างชาติคนดังกล่าวและหนีกลับไปอยู่ประเทศไทย จะทิ้งไว้ก็แต่ Keni ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอยู่ในอังกฤษ เขานั้นได้ใช้ชีวิตและเติบโตอยู่ในสถานสงเคราะห์จนมีอายุได้ 16 ปี จากนั้นเขาก็ตัดสินใจเข้าเป็นทหารในกองทัพอังกฤษ ซึ่งเขาประจำการอยู่ที่บอสเนีย โคโซโว และอิรัก จนเวลาผ่านไป 7 ปี เขาก็ปลดประจำการออกมา… Keni ได้ตัดสินใจเริ่มงานสายอาชีพนักมวยพร้อมกับได้มีโอกาสเข้าสู่วงการหนังผู้ใหญ่ในอังกฤษ จากจุดนั้นและที่ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงในวงการหนังผู้ใหญ่ ยังไม่หมดเท่านั้น ดีกรีความใหญ่ของกระบอกข้าวหลามของเขานั้นเรียกว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะมันใหญ่ถึง 8.5 นิ้ว!! เส้นทางของเขานั้นเริ่มไปด้วยสวยขึ้นเรื่อยๆ หลังเริ่มเล่นตั้งแต่ปี 2006 จนยิงยาวไปจนถึงปี 2010 เขาก็จบเส้นทางนักแสดงหนังผู้ใหญ่ในอังกฤษ จากนั้นเขาก็ย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและเริ่มสานต่อวงการหนังผู้ใหญ่ที่นั้น…
-
นักวิชาการตุรกีเถียงหูดับ อ้างว่า ‘Noah’ ใช้มือถือโทรเรียกลูกชาย ให้มาขึ้นเรือก่อนน้ำท่วมครั้งใหญ่
กลายเป็นกระแสฮือฮามากๆ ในประเทศตุรกี เมื่อนักวิชาการท่านหนึ่งได้ออกมานั่งยันนอนยันว่า เมื่อสมัยก่อนตอนที่น้ำจะท่วมโลก Noah นั้นได้ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อกับลูกชายของเขา…งงละสิ! Dr. Yavuz Örnek จากมหาวิทยาลัยในอิสตันบูล ประเทศตุรกี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวี TRT 1 ของประเทศตุรกี ซึ่งเขาได้ยืนยันว่า เมื่อยุค 10,000 ปี มนุษย์มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าตอนนี้มากๆ Dr. Yavuz บอกว่า Noah นั้นมีเทคโนโลยีระดับสูงอยู่ในมือ โดยเขาไม่ได้ใช้ไม้ต่อเรือแต่อย่างใด แต่เขาใช้เหล็กมาต่อเรือ นอกจากนั้นยังใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นตัวขับเคลื่อน ไม่หมดเท่านั้น Noah ยังใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อลูกและภรรยาเพื่อบอกให้เขาเตรียมการรับมือน้ำท่วมโลกด้วย จากนั้น Noah ก็ได้เก็บรวบรวมสัตว์สายพันธุ์ต่างๆ โดยเป็นตัวผู้และตัวเมียอย่างละตัว ส่วนสัตว์ที่ออกลูกเป็นไข่ ก็จะถูกเก็บไข่มาพักไว้ในเครื่องฝักไข่นั่นเอง แน่นอนว่าพิธีกรของรายการที่เชื่อเช่นเดียวกับใครหลายคนว่าพระเจ้าเป็นคนบอกให้ Noah สร้างเรือก็จะต้องสงสัยและถามว่าทำไม Dr. Yavuz จึงคิดแบบนั้น Dr. Yavuz จึงบอกว่า “เพราะผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ คุณลองคิดดูสิ Noah และลูกๆ ของเขาอยู่ห่างกันหลายกิโลเมตร แล้วเขาจะติดต่อกันได้ยังไง แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องใช้โทรศัพท์โทรหากันนั่นเอง” หลังจากรายการดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป กระแสด้านลบก็หลั่งไหลและโจมตีเข้าที่ตัว Dr.…
-
เล่นใหญ่!! ชายรัสเซียเมาหนัก ขโมยรถถังถล่มซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อไวน์ขวดเดียวเนี่ยนะ!?
เวลาที่เรานั่งนึกถึงชนชาติที่โหดสรัสที่สุดในโลกแล้ว รัสเซียคงเป็นประเทศแรกๆ ที่โผล่มาในลิสต์แน่นอน เพราะนอกจากตัวผู้นำประเทศแล้ว ประชาชนของพวกเขาก็ล้วนมีความเจ๋ง ความบ้าและความแปลกแตกต่างกันไปทั้งนั้น และพี่เจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ก็เช่นกัน… ปัญหามันดันอยู่ที่ว่าเราดันไม่รู้ว่าพี่คนนี้เขามีชื่อว่าอะไร รู้แต่เพียงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่เมืองเมอร์มานสค์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย แน่นอนว่าอากาศก็จะต้องหนาวสุดๆ แต่ทีนี้พี่คนนี้นั้นเขาเกิดดื่มหนักไปหน่อย แล้วดันเมาสุดๆ เพียงแต่เลือดรัสเซียในตัวมันยังคงเดือดและร่างกายก็ยังต้องการแอลกอฮอล์เพิ่มอีก ปัญหาคือเขาดันไม่มีเงินแต่ยังต้องการดื่มไวน์อร่อยๆ จากซุปเปอร์มาร์เก็ต เขาจึงจัดการไปขโมยรถถังฝึกซ้อมของทหารที่จอดอยู่ใกล้ๆ แต่ที่เงิบกว่าการไปขโมยรถถังมาจากทหารคือ ทหารดันเสียบกุญแจติดเครื่องไว้ซะอย่างนั้น งานนี้เมื่อชาวรัสเซียเลือดร้อนและเมาหนัก รวมเข้ากับรถถังฝึกซ้อมของทหารก็ไม่มีอะไรมาหยุดความต้องการของเขาได้อีกต่อไป!! ร่องรอยความเสียหายจากรถถังดังกล่าว พี่รัสเซียคนนี้จัดการขับรถถังคันดังกล่าวฝ่าพื้นหิมะอย่างแน่วแน่ โดยไม่สนอะไรที่ขวางทางทั้งสิ้น จากนั้นเขาก็พุ่งตรงเข้าไปยังด้านหน้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตทันที เรียกว่าเละไม่มีชิ้นดี ทั้งรถข้างทางและตัวซูปเปอร์มาร์เก็ตเอง แล้วมันก็มาจอดเทียบอยู่ตรงนี้…จอดรถห่วยแตกชะมัดเลยพี่ สภาพนี่เละเลยทีเดียว รัสเซียนี่มันรัสเซียจริงๆ อย่างไรก็ตามวินาทีที่ชายชาวรัสเซียคนดังกล่าวได้ชนเข้ากับซุปเปอร์มาร์เก็ต สติของเขาก็พลันแจ่มใส พร้อมตระหนักได้ว่า เขาต้องโกยแล้วล่ะ แต่ว่าเขาก็หนีไม่พ้นเพราะเจ้าหน้าที่ได้ตามไปจับกุมเขาได้โดยละม่อม เป็นอันจบตำนานขโมยรถถังเพื่อไวน์ 1 ขวดของเขานั่นเอง… ไม่ว่าชาวรัสเซียจะทำอะไร มันก็โหดสรัสทุกอย่าง ที่มา ladbible
-
โพสอิทสุดเจ๋ง ‘OMOSHIROI Block Shape’ ใช้ง่ายฉีกสนุก พร้อมรูปทรงอันเลอค่าน่าโดนมาก!!
กระดาษโน๊ตแปะผนัง หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า โพสอิท (Post-it) ตามแบรนด์ดั้งเดิมของมันนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ว่าจะวัยเรียน หรือวัยทำงาน ก็ได้ใช้ประโยชน์กันทั้งนั้น นอกจากนี้ โพสอิทก็มีหลากสีสันและหลากหลายรูปแบบด้วย สมัยนี้จะเห็นว่าโพสอิทบางอันไม่ได้ทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมธรรมดาๆ แต่ทำเป็นรูปสัตว์บ้าง รูปผลไม้บ้าง เพื่อทำให้ดูน่าซื้อ น่าใช้งานมากขึ้น เพื่อนๆ คนไหนที่ชอบโพสอิทสวยๆ ขอให้เอาโพสอิสแบบเก่าที่กล่าวมาเก็บลงกรุไปได้เลย วันนี้เราจะมานำเสนอโพสอิทรูปแบบใหม่ ที่ดูเก๋ไก๋ไฉไลมากกว่าเดิมให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน รับรองว่าทุกคนต้องอยากตำแน่นอน เชิญพบกับโพสอิทแบบใหม่ ‘OMOSHIROI Block Shape’ โพสอิทรูปแบบใหม่ที่จะนำเสนอวันนี้มีชื่อว่า OMOSHIROI Block Shape เป็นโพสอิทจากประเทศญี่ปุ่นที่ไม่เพียงแต่ใช้งานเพื่อเขียนข้อความเท่านั้น แต่ยังเป็นผลงานศิลปะไปในตัวด้วย โดยโพสอิสรูปแบบใหม่นี้ หลังใช้งานไปสักพัก ก็จะค่อยๆ เห็นรูปแบบสามมิติของสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้โพสอิทนั่นเอง และเมื่อใช้โพสอิทไปจนหมดถึงด้านล่างแล้ว ก็จะได้ชมผลงานศิลปะจากโพสอิทที่เหมือนกับตัวต่อโมเดลกันเลยทีเดียว ในตอนเริ่มต้นนั้นก็ดูเหมือนโพสอิทกองหนาๆ ธรรมด๊าธรรมดา ไม่เห็นว่าจะพิเศษอะไรตรงไหนเลย แต่พอเริ่มฉีกด้านบนออกไปใช้ส่วนหนึ่ง ก็เริ่มเห็นอะไรบางอย่างโผล่ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ทำให้ได้ลุ้นกันว่าข้างในมันมีอะไรกันแน่!? ยิ่งใช้โพสอิสไปเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในชัดมากขึ้นเท่านั้น ตอนแรกเห็นเพียงแค่หลังคา แต่ตอนนี้เห็นแล้วว่ามันคือวัดคิโยะมิซุนี่เอง โอ้ย!! ช่างสวยอะไรอย่างเน้ …
-
นักจิตวิทยาเผย 10 เรื่องง่ายๆ ที่บอกว่า “ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่” ของคุณยั่งยืนจนน่าอิจฉา
การประคับประคองความสัมพันธ์ของคู่รักนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าในอนาคต แต่ละฝ่ายจะต้องพบเจอปัญหาอะไรในชีวิตบ้าง และปัญหาเหล่านั้นจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่อย่างไร อย่างไรก็ตามดอกเตอร์ Gleb Tsipursky นักจิตวิทยาผู้ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่จัดการกับการคิดและการตัดสินใจที่ดี ได้สรุป 10 เรื่องง่ายๆ ที่เป็นสัญญาณบอกว่าความสัมพันธ์ของคุณมีแนวโน้มจะอยู่ยืนยาวหากมี 10 สิ่งนี้ 1. การช่วยกันรับมือในสถานการณ์กดดัน บางครั้งเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่รับมือยาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย หรือเป็นเรื่องใหญ่ก็ตาม ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้มักบังคับให้เราต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างในทันที เราจึงควรต้องคอยสนับสนุนคู่รักในส่วนที่เขาขาด เพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ได้ หากทำดังนั้นได้ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เราแก้ไขปัญหาอย่างหุนหันพลันแล่น หรือตอบสนองต่อปัญหาช้าได้ดี ยกตัวอย่างเช่น หากคู่รักของคุณมักเกิดอารมณ์ร้อนเมื่อเจอสถานการณ์กดดัน ถ้าคุณเป็นคนใจเย็นและใช้น้ำเย็นเข้าลูบแล้ว มันจะช่วยให้คุณทั้งคู่หาทางแก้ปัญหาได้ดีขึ้น 2. เคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง คุณควรจะคิดไว้เสมอว่า คนทุกคนนั้นมีความคิดไม่เหมือนกัน ทั้งคุณและคู่รักต่างก็มีความคิดเห็น ความชอบ และมุมมองต่อสิ่งต่างๆ เป็นของตนเอง แม้ว่าจะมีความคิดเห็นใกล้เคียงกันขนาดไหน ก็ไม่มีทางที่คู่รักจะมีความคิดเห็นตรงกันทุกกระเบียดนิ้ว ดังนั้นอย่าตัดสินใจอะไรแทนกันโดยเด็ดขาด และอย่าทำเหมือนกับว่าคุณรู้ใจคู่รักเสมอไปด้วย คุณควรจะถามความคิดเห็นของอีกฝ่ายอยู่เสมอและรับฟังมันไว้ จึงจะทำให้ความสัมพันธ์ราบรื่นได้ 3. กล้าที่จะขอ ในเมื่อคนเราไม่รู้ความคิดของกันเสมอไป คุณก็ไม่สามารถจะหวังให้แฟนของคุณตรัสรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่เช่นกัน แทนที่คุณจะรอให้คนรักทำตามที่คาดหวัง คุณควรจะเอ่ยปากบอกด้วยว่าคุณต้องการอะไร พออีกฝ่ายรับรู้จะได้ทำตามความต้องการของคุณได้ อย่างไรก็ตาม คู่รักเองเมื่อได้รับฟังแล้ว ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ทำตามคำขอของเราด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกันและเหตุผลของทั้งสองฝ่าย…
-
Jeff Bozos กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์โลก หลังทรัพย์สินทะลุ 3.36 ล้านล้าน!!
เมื่อก่อนถ้าพูดถึงมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก หลายๆ คนคงนึกถึง Bill Gates ไม่ก็ Warren Buffett เป็นชื่อแรกๆ ที่คิดขึ้นมาได้ แต่ทว่า ณ เวลานี้ ได้มีคนที่ได้ที่ได้ก้าวข้ามผ่านสองคนนี้ขึ้นไปเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์โลกแล้ว คนคนนั้นก็คือ Jeff Bozos โดยบางคนอาจไม่คุ้นว่าเค้าคือใคร แต่ถ้าบอกว่าเค้าคือผู้ก่อตั้งของเว็บ Amazon หลายๆ คนคงต้องร้อง อ๋อ! อย่างแน่นอน เมื่อก่อนนั้น Jeff ได้วางแผนให้เว็บไซต์ของตนเป็นเว็บขายหนังสือออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งร้านหนังสือที่ถือว่าใหญ่ที่สุด ก็ยังมีหนังสืออยู่ประมาณ 200,000 เล่มเท่านั้น แต่เพียงเวลา 2 เดือนหลังก่อตั้ง Amazon ขึ้นมา มันก็สามารถมีหนังสือได้มากกว่านั้นหลายเท่า ต่อมา Amazon ได้ค่อยๆ ขยับขยายประเภทของสินค้าที่นำมาขายได้ในเว็บ ไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีขายแค่เพียงหนังสืออย่างเดียว ซึ่งตอนนี้ในเว็บ Amazon มีสินค้าขายมากกว่า 500 ล้านชิ้นแล้ว ตารางจัดอันดับมูลค่าทรัพย์สินของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยเว็บไซต์ Bloomberg อัปเดทล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2018 โดยในปี 2017 ที่ผ่านมา หุ้นของ…
-
ม.โอซาก้ารับออกข้อสอบฟิสิกส์ผิด ทำให้เด็ก 30 คนสอบตก รองอธิบดีฯ ถึงกับต้องขอโทษด้วยตัวเอง
มีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งชื่อว่าคุณ ธนากร ใจสุขสกุลดี ได้โพสต์เกี่ยวกับความผิดพลาดครั้งใหญ่ในการออกข้อสอบและการให้คะแนนวิชาฟิสิกส์ ของมหาวิทยาลัยโอซาก้า ภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมันได้เปลี่ยนชีวิตคนที่เข้าสอบจากที่จะสอบเข้าได้ กลับกลายเป็นสอบไม่ติด เรื่องมันมีอยู่ว่ามหาวิทยาลัยโอซาก้านั้นเปิดสอบรับตรงเหมือนทุกๆ มหาวิทยาลัยปกติทั่วๆ ไป แต่ทว่ามันไม่ปกติเพราะข้อสอบในชุด สมการคลื่นเสียงนั้น มีปัญหาเรื่องการออกข้อสอบและการให้คะแนนข้อสอบ โดยมันมีผลขนาดที่ทำให้คนสอบตกเลยทีเดียว หลังจากที่ประกาศผลสอบ คณะกรรมการสมาคมนักคิดทางฟิสิกส์ก็ได้ตรวจสอบข้อสอบอย่างละเอียดและพบปัญหานั้น และแจ้งไปทางมหาวิทยาลัยว่าข้อสอบมีปัญหา แต่คณะอาจารย์ผู้ออกข้อสอบก็ยังยืนยันว่า ข้อสอบไม่มีปัญหาใดๆ จนอาจารย์ฟิสิกส์จากโรงเรียนกวดวิชาชื่อดัง ได้ส่งเรื่องมาทักท้วงต่ออธิการบดี จนมหาวิทยาลัยต้องตรวจสอบอีกหลายครั้ง จนในที่สุด เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี้ คณะอาจารย์ผู้ที่ออกข้อสอบกว่าสิบคนได้ออกมายอมรับว่าข้อสอบนั้นมีความผิดพลาดจริงๆ เรื่องนี้เป็นที่รู้ไปทั่วบ้านทั่วเมือง สร้างความโกรธแค้นและผิดหวังแก่นักเรียนและผู้ปกครองอย่างมาก แทนที่น้องๆ จะได้เข้าเรียนในที่ที่ใช่ คณะที่ฝัน กลับต้องเลือกไปคณะอื่น หรือไปเรียนที่อื่นแทน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยออกมาแถลงยอมรับผิดพร้อมขอโทษต่อสื่อ และได้ตัดสินให้นักเรียนทั้ง 30 คนที่ได้รับผลกระทบจากข้อสอบชุดนี้ ผ่านเข้ามหาวิทยาลัยได้ โดยจะย้ายมาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 หรือ 2 ก็แล้วแต่ตามที่พวกเขาต้องการ และจะชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินให้กับผู้เสียหายทุกคน โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากข้อสอบมีทั้งหมด 30 คน จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ 19…
-
ชายคนหนึ่งเดินเข้าป่า พร้อมลูกสาวออทิซึมวัย 8 ขวบ กับการตามหาแรงบันดาลใจเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่
เพื่อนๆ รู้จักโรคออทิซึมกันมั้ยเอ่ย ออทิซึมเป็นโรคที่มีสาเหตุจากความผิดปกติในสมอง ซึ่งทำให้เกิดความบกพร่องในหลายๆ ด้าน เช่น พัฒนาด้านการเข้าสังคม การสื่อสารจะทำได้ช้ากว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถช่วยเหลือให้พวกเค้าพัฒนาไปในทางที่ดีได้ เหมือนดังในข่าวนี้ ที่มีคุณพ่อท่านหนึ่งพาลูกสาวซึ่งเป็นออทิซึมไปผจญภัญ เพื่อใช้มันเป็นแรงบันดาลใจในการวาดภาพลูกของเขา และเพื่อให้ลูกของเขาได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะหลายๆ ในตัวลูกของเขา เพราะพวกเขาเชื่อว่า “ความแตกต่างคือความงดงาม” ความรักธรรมชาติของลูกสาวเขา Iris นั้นจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาของเธอ และเป็นแรงบันดาลใจแก่การวาดภาพของเธอด้วย ซึ่งเขาก็เจอที่ดีๆ ที่ลูกเขาจะได้เรียนรู้จากมัน เขาจึงเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ไปในป่าที่ประเทศคอสตาริกา เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ ผลักดันให้ลูกของเขาก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเธอได้ โดยการผจญภัยของเธอจะเป็นเช่นไรบ้าง ไปชมกันเลย การผจญภัยในป่าเริ่มต้นขึ้นแล้ว Iris เริ่มสำรวจไปตามแม่น้ำ เรียนรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟ โอ๊ะ!! เธอเจอลิงบนต้นไม้ล่ะ . ลองสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวธรรมชาติสวยๆ รอบตัวเธอ ก้าวผ่านความกลัวและสร้างความมั่นใจ การไปซูปเปอร์มาร์เก็ตทุกวัน สร้างทักษะในการใช้ชีวิต เมื่อก่อนเธอเคยกลัวทะเลนะ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว พบเจอเพื่อนใหม่ตามทาง ลองฝึกทักษะการสื่อกับบางคนที่วิจารณ์เรา…
-
24 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘ออสเตรเลีย’ เป็นประเทศที่อยู่คนละโลกเดียวกันกับเรา
ออสเตรเลีย ดินแดนแห่งจิงโจ้ อีกหนึ่งประเทศที่หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากจะไปเยือนสักครั้ง เพราะที่นั่นขึ้นชื่อว่ามีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากๆ สัตว์น้อยใหญ่บางชนิดอาจจะพบได้ในเฉพาะพื้นที่ประเทศออสเตรเลียเท่านั้น และประเทศนี้ ยังมีอีกหลายสิ่งมากมายที่รอให้คุณได้ไปสัมผัส 1. ดินแดนที่คุณสามารถพบเจอจิงโจ้ได้ที่หน้าบ้าน 2. ขับรถในฤดูร้อนของออสเตรเลีย ถึงกับต้องใส่ถุงมือกันความร้อน 3. การเลือกตั้งแบบชาวออสเตรเลีย ชิวสุดๆ 4. ธรรมชาติของออสเตรเลีย ถึงแม้จะสวยงามแต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายจากสัตว์ที่อยู่รอบตัว 5. ตัวตุ่นปากเป็ด สัตว์ที่สามารถหาได้ที่ออสเตรเลีย 6. ดินแดนแห่งสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้อง ทั้งจิงโจ้และโคอาล่า . 7. ถิ่นกำเนิดชูการ์ไกลเดอร์ 8. นก Kookaburra 9. ซานตาคลอสวาบหวิว 10. ป้ายจราจรที่ไม่เหมือนใครในโลก . 11. Vegemite แสนอร่อย ของดีของออสเตรเลีย 12. นก Cassowaries…
-
แนวคิด Back/Begpacker กับกรณีหนุ่มยูเครนขายภาพตัวเองในไทย แลกเงินซื้อตั๋วกลับบ้าน!?
ด้วยกระแสการท่องเที่ยวแบบ Backpacker ของชาวต่างชาติกำลังหลั่งไหลเข้ามาสู่ประเทศไทย เราจึงอาจได้เห็นนักท่องเที่ยวประเภทนี้ได้บ่อยๆ ในหลายๆ พื้นที่ของประเทศ และก็มีนักท่องเที่ยวบางคนที่อาจจะหาเงินเพื่อเดินทางท่องเที่ยวต่อหรือว่าหาเงินกลับประเทศของตน จากการนำสิ่งของมาขาย หรืออาจจะรับบริจาคเงินด้วยการเขียนข้อความเพื่อเรียกความสงสารจากผู้คน ตามที่ได้เคยได้มีข่าวมาก่อนหน้านี้ และนี่ก็เป็นกรณีล่าสุดที่ได้รับการเปิดเผยมาจากผู้ใช้งานเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า TaiiwaN’ Yanawimuti โดยภาพและวิดีโอที่เธอถ่ายมานี้คือวิดีโอของชายชาวยูเครนคนหนึ่งในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ที่พยายามจะหาเงินกลับบ้าน เกิด ด้วยการนำรูปภาพของตัวเขาเองระหว่างท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาวางขาย วิดีโอชายชาวยูเครนวางขายภาพของตัวเอง ซึ่งแต่ละภาพนั้นเขาก็จะเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟังอย่างสนุกสนาน และที่สำคัญก็คือราคาของภาพแต่ละภาพนั้น ก็ไม่มีการกำหนดเอาไว้อย่างตายตัว แล้วแต่ผู้ที่อยากได้ภาพนั้นจะให้ตามกำลังศรัทธา ทันทีที่โพสต์ของสาวคนนี้ได้เผยแพร่ออกไป ก็มีผู้คนมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงพฤติกรรมของชายคนนี้ ซึ่งก็มีทั้งแง่บวกและแง่ลบที่แตกต่างกัน อย่างเช่นคอมเมนต์ของชาวเน็ตดังต่อไปนี้ คอมเมนต์จากชาวเน็ตที่กล่าวถึงชายคนนี้ในแง่บวก . . . คอมเมนต์จากชาวเน็ตที่กล่าวถึงชายคนนี้ในแง่ลบ . . ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเรื่องราวทำนองนี้ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศแถบทวีปเอเชียในปัจจุบัน จนเรื่องนี้ได้กลายเป็นข่าวครึกโครมในต่างประเทศ ซึ่งสำหรับความเห็นของชาวต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ ก็มีความเห็นที่หลากหลายเช่นเดียวเดียวกัน อาทิ นี่เป็นเรื่องที่หยาบคายสำหรับผมมาก การท่องเที่ยวเป็นเรื่องของการนำเงินไปสู่ประเทศอื่น ไม่ใช่กลายเป็นขอทาน เมื่อคุณไปถึงที่นั่น ฉันเป็นชาวอเมริกันที่กำลังคิดว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทย และท้ายที่สุดถ้าฉันได้มีโอกาสไปที่นั่น แล้วมีคนมาขอเงินด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นคนอเมริกันเหมือนกัน ฉันตะโกนใส่หน้าเขาเราเลยว่า กลับบ้านแล้วไปหางานทำซะ…
-
หัวใจพังทลาย… คุณพ่อเชิญทุกคนที่เคยกลั่นแกล้งลูกสาวมาร่วมงานศพ เพื่อให้เห็นถึงสิ่งที่ได้ทำลงไป
“เธอมักจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา นั่นทำให้ไม่มีใครรู้ว่าภายใน เธอนั้นเจ็บปวดมากเพียงใด…” การกลั่นแกล้งในหมู่เด็กๆ หรือวัยรุ่น ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เพราะผู้ที่ตกเป็นเหยื่อไม่เคยสนุกกับการกระทำเหล่านี้ และสุดท้ายอาจจบานปลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สายเกินแก้ อย่างกรณีของ Amy ‘Dolly’ Everett เด็กสาววัย 14 ปีที่ถูกกลั่นแกล้งทางสื่อออนไลน์ สุดท้ายเธอตัดสินใจจบปัญหาทั้งหมดด้วยการจบชีวิตตัวเอง ท่ามกลางความเศร้าโศกของครอบครัว เรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นโด่งดังในโลกออนไลน์ หลังจากที่ผู้เป็นพ่อได้เชิญคนที่มีพฤติกรรมกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์มาร่วมงานศพของลูกสาว เพื่อให้พวกเขามาดูสิ่งที่ได้ทำลงไป สำหรับ Dolly เธอเคยเล่นโฆษณาให้กับบริษัท Akubra ของออสเตรเลียเมื่อตอนเป็นเด็ก โดยคนรอบข้างมักจะบอกเสมอว่าเธอเป็นเด็กสาวที่ใจดี เป็นบุคคลที่ใส่ใจคนอื่นและมีจิตใจที่งดงาม ขณะนี้พ่อแม่ของเด็กสาวที่อาศัยอยู่ในเมือง Katherine ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ได้เปิดแคมเปญต่อต้านการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ โดยกล่าวว่าการฆ่าตัวตายของลูกสาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้โลกของพวกเขาพังทลายลงไปด้วย Tick Everett พ่อของ Dolly ให้ความสำคัญกับแคมเปญนี้มากๆ เพราะเขาไม่อยากให้ชีวิตที่ล้ำค่าอื่นๆ ต้องมาพบกับจุดจบเหมือนลูกสาวของเขา คุณพ่อเขียนในเฟซบุ๊กว่า “ถ้าเราสามารถช่วยชีวิตคนอื่นๆ ไม่ให้พบกับความสูญเสียและความทรมานได้ การจากไปของ Dolly ก็จะไม่สูญเปล่า” “ถ้าคนที่คิดว่าการกลั่นแกล้งเป็นเรื่องตลกและทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นจากการข่มเหงคนอื่น ได้มาเห็นโพสต์นี้แล้ว ผมขอเชิญให้คุณมาร่วมงานศพของลูกสาวของผม เพื่อเป็นพยานถึงหายนะที่คุณได้ทำเอาไว้” …
-
หนุ่มอ้างพบหมาอีกครั้งในรอบ 10 ปี โดนแฉเพราะอยากดัง จริงๆ แล้วเป็นคนทิ้งไปเอง!?
วันก่อนเราได้นำเสนอเร่ื่องราวสุดประทับใจของชายหนุ่มที่ได้เจอกับน้องหมาตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบ 10 ปี จนทำให้ชาวเน็ตแห่ชื่นชมและให้กำลังใจเพียบ อ่านข่าวเก่า ชายหนุ่มพลัดหลงกับหมา นานกว่า 10 ปี บังเอิญได้พบกันอีกครั้ง แล้วมันยังจำเขาได้!! ตอนแรกชายหนุ่มที่ใช้ชื่อ หนึ่ง วัณภูมิ ได้โพสต์ภาพ วิดีโอ พร้อมระบุข้อความเขาได้เจอสุนัขที่หายไปเมื่อ 10 ปีก่อน และจากนี้ไปจะดูและมันอย่างดี โพสต์จากเฟซบุ๊ก หนึ่ง วัณภูมิ จากโพสต์สั้นๆ ของเขาทำให้หลายเพจ หลายสื่อ รวมทั้งเพจของเราเอง นำไปเขียนเป็นข่าว จนทำชายคนนี้ได้รับการชื่นชมจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก แต่แล้วก็มีชาวเน็ตคนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะรู้จักกับคุณหนึ่ง วัณภูมิ และน้องหมาปุ๊กกี้ เธอได้มาโพสต์ในเพจ รักหมา ว่าสิ่งคุณหนึ่ง วัณภูมิ ได้โพสต์ไปก่อนหน้านี้ไม่เป็นความจริงเลย นั่นทำให้ชาวเน็ตที่ติดตามเรื่องนี้ และให้กำลังใจไปก่อนหน้านี้รู้สึกเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก และอยากรู้ความจริงของเรื่องนี้ว่ามันเป็นยังไงกันแน่ ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กชื่อดังอย่าง God Of War V.3 ได้ออกมาเผยความจริงทั้งหมดที่ทุกคนอยากรู้ ซึ่งตรงข้ามกับข่าวก่อนหน้านี้ทั้งหมด ความจริงที่เพจ God Of War V.3 ออกมาเปิดเผยเป็นข้อมูลที่ได้มาจากอดีตภรรยาของหนึ่ง…
-
วิลล่าสุดหรูมูลค่า 700 ล้านแห่งดูไบ เคลมสรรพคุณต่อให้น้ำท่วมโลกยังไง ก็ยังลอยอยู่ได้ชิลๆ
ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น เป็นภัยคุกคามต่อประเทศที่อยู่ติดชายฝั่งทั่วโลก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เองก็เป็นหนึ่งในประเทศเหล่านั้นเช่นกัน จาก การศึกษาข้อมูลในปี 2017 ของ Emirates Wildlife Society ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลสิ่งแวดล้อมในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ World Wildlife Fund องค์กรทุนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก พบว่าในปี 2100 ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นถึง 3 ฟุต (ประมาณ 0.9 เมตร) ซึ่งน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น 3 ฟุตนี้จะทำให้พื้นดินบางส่วนจมน้ำและไม่สามารถอยู่อาศัยได้ โดยพื้นที่นั้นคิดเป็น 8.1 เปอร์เซ็นต์ของรัฐ Ajman, 1.2 เปอร์เซ็นต์ของรัฐ Sharjah และ 5.9 เปอร์เซ็นต์ของรัฐ Umm Al-Quwain ดังนั้น Waterstudio บริษัทสถาปัตยกรรมสัญชาติเนเธอร์แลนด์ จึงสร้างบ้านรูปแบบใหม่ที่ลอยไปตามระดับน้ำทะเลได้ และรับรองว่าไม่จมน้ำแน่นอน เพื่อมารับมือกับปัญหาระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ชื่อของโครงการหมู่บ้านนี้ก็คือ Amillarah Waterstudio วางแผนโครงการนี้ไว้ว่าจะสร้างบ้านพักต่างอากาศส่วนตัวทั้งหมด 33 หลังบนเกาะเทียม โดยบ้านเหล่านี้จะตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งดูไบ และจะเริ่มสร้างบ้านพักตากอากาศหลังแรกตอนสิ้นเดือนมกราคมนี้ และยังไม่มีกำหนดการเสร็จสิ้น ในโครงการนี้ Waterstudio ได้รับความร่วมมือจาก…
-
พบชายน่าสงสัย ยืนถือถุงใบหนึ่งอยู่หน้าบ้าน จนได้รู้ว่าเขาแจกอาหารให้เพื่อนมนุษย์
หลายคนอาจจะมองว่ายิ่งโลกมีการพัฒนาไปมากเท่าไหร่ ผู้คนก็จะยิ่งเห็นแก่ตัวมากขึ้นเท่านั้น มันก็จริงนะแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะหากลองสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่ารอบตัวเรายังมีคนอีกมากมายที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น เหมือนกับเร่ื่องราวอันน่าประทับใจที่คู่รักชาวอเมริกัน Stephanie St. James กับสามีได้พบเจอขณะพักผ่อนอยู่ในอพาร์ทเมนต์ในเมือง Cuenca ประเทศเอกวาดอร์ ทั้งคู่เพิ่งย้ายไปอเมริกาใต้เพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมใหม่ๆ และเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตในต่างแดน จนได้เจอกับเหตุการณ์บางอย่างที่ละลายหัวใจของพวกเขา ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เอกวาดอร์เป็นประเทศโลกที่สาม ที่เต็มไปด้วยความยากจนและเหตุอาชญากรรม แต่ภายใต้สถานการณ์อันเลวร้ายนี้ จิิตวิญญาณของผู้คนกลับงดงามจนเอาชนะทุกความเลวร้ายได้ คู่รักเล่าว่าในเช้าวันหนึ่งของเดือนมกราคม ขณะที่พวกเขากำลังยืนชมวิวอยู่ในที่ระเบียง ก็มีเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นบนถนนด้านล่างของอพาร์ตเมนต์ที่พวกเขาพักอยู่ มีชายคนหนึ่งยื่นอยู่บนถนนตรงข้ามกับฝั่งที่ Stephanie อยู่ ตอนแรกคู่รักไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งชายคนนั้นหยิบถุงขึ้นมาใบหนึ่งและเริ่มแจกอาหารให้กับผู้คนที่เดินผ่านมา ผู้คนมาต่อแถวเอาหารจากเขาด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน บางคนเอาอาหารเสร็จก็สวมกอดชายคนนั้นเพ่ื่อเป็นการขอบคุณ ขณะที่บางคนพูดกับเขาอย่างนุ่มนวล โดยมี Stephanie ยืนมองด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม สักพักต่อมา ดูเหมือนอาหารของชายคนนั้นจะหมด ทั้งๆ คนยังมาต่อแถวอยู่เพียบ แต่ชายคนนั้นยังไม่หยุดช่วยเหลือเพื่อนบ้านเพียงเท่านี้ เขาเดินเข้าไปในบ้านและออกพร้อมกับถุงขนาดใหญ่ จากนั้นก็เริ่มแจกจ่ายให้กับทุกคนที่เข้ามาหาเขา มีผู้คนนับสิบปรากฏตัวขึ้นที่นั่นและรับน้ำใจจากเขา Stephanie รู้ว่าต้องแบ่งปันเรื่องนี้ให้ชาวโลกรู้ เพื่อให้พวกเขาได้เห็นถึงความเมตตาและการเสียสละของมนุษย์ ดังนั้นเธอจึงโพสต์วิดีโอพร้อมข้อความสุดซึ้งว่า “เราหลายคนมักจะบ่นเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองไม่มี บ่นว่าทำไมโลกถึงเป็นแบบนี้แบบนั้น นั่นเป็นเพราะเราอยู่กับโลกออนไลน์ อยู่กับสื่อโซเชียลมีเดียมากเกินไป จนมองข้ามสิ่งที่อยู่รอบตัวไป” นับว่าเป็นเร่ื่องที่น่าประทับใจมากที่ได้เห็นใครบางคนลงมือทำอะไรสักอย่างด้วยวิธีนี้……
-
เจ้าชายอินเดียยินดีเปิดราชวัง เพื่อต้อนรับชาว LGBT ท่ามกลางสังคมที่ไม่ยินดีกับสิ่งที่พระองค์คิด
ประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าผู้หญิงกับผู้ชายนั้นเกิดมาคู่กัน กลุ่มคนรักร่วมเพศนั้นมีความผิด นอกจากนี้คำสอนของศาสนาฮินดูและศาสนาคริสต์ที่พวกเขานับถือ ก็ระบุเช่นกันว่าพวกรักร่วมเพศนั้นเป็นคนบาป กลุ่มคนรักร่วมเพศในประเทศอินเดีย จึงไม่ได้รับการยอมรับ เมื่อคนอื่นรู้ว่าคุณเป็นคนรักร่วมเพศ ก็อาจจะถูกขับไล่ออกจากครอบครัว และกีดกันจากการหางานด้วย ประเทศอินเดียต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศถึงขนาดออกกฎหมายว่าการร่วมเพศกันของพวกรักร่วมเพศเป็นความผิดอาญาเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนรักร่วมเพศในประเทศอินเดียก็ยังคงเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกันอยู่เรื่อยมา และภายในกลุ่มนั้นก็ยังมีคนใหญ่คนโตอย่างเจ้าชาย Manvendra Singh Gohil คอยสนับสนุนคนรักร่วมเพศอยู่ด้วย เจ้าชาย Manvendra Singh Gohil Gohil เป็นเจ้าชายเพียงคนเดียวที่ออกมาเปิดเผยว่าตนเองมีรสนิยมรักร่วมเพศ เขาเป็นเจ้าชายของเมือง Rajpipla รัฐ Gujarat ประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีพระชนมายุ 52 พรรษา พระองค์เป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมาต่อสู้เพื่อกลุ่มคนรักร่วมเพศ และให้ความสนับสนุนเท่าที่จะทำได้ ล่าสุดก็ได้ออกมาบอกว่าจะเปิดพระราชวังของพระองค์เอง ให้คนเหล่าคนรักร่วมเพศที่ไม่มีที่ไป มาอาศัยอยู่ด้วย พระองค์ตรัสถึงปัญหาของกลุ่มคนรักร่วมเพศว่า “คนรักร่วมเพศที่ออกมาเปิดเผยตัวเอง ยังคงต้องรับแรงกดดันจากครอบครัวอยู่ บางคนก็ถูกบังคับให้แต่งงาน หรือบางคนก็ถูกไล่ออกจากบ้านไปเลย คนพวกนี้มักจะไม่มีที่ไป และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้” เจ้าชายจึงจะมอบห้องพัก การรักษา และชั้นเรียนฝึกฝนภาษาอังกฤษให้กับผู้ที่จะมาอาศัยอยู่ โดยหวังว่าชั้นเรียนภาษาจะช่วยให้พวกเขาหางานได้ง่ายขึ้น แล้วบอกว่า “ยังไงผมก็ไม่มีลูกอยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงคิดว่า…
-
อดีตอันขมขื่นของสาวที่เติบโตมาในลัทธิ Children of God กับความเชื่อที่ว่าเซ็กส์คือหนทางสู่พระเจ้า
มนุษย์เป็นคนสร้างระบบความเชื่อขึ้นมา แต่สุดท้ายแล้วความเชื่อกลับกลายเป็นสิ่งกำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะสังคมในอดีต ผู้คนจะปฏิบัติตามสิ่งที่ตนเชื่อหรือนับถืออย่างเคร่งครัดและปฏิเสธไม่ได้ ด้วยความเชื่อนี้เองทำให้หญิงสาวคนหนึ่งต้องมีชีวิตในวัยเด็กที่แสนขมขื่น เพราะเธอเติบโตมากับความเชื่อที่ว่าเซ็กส์คือหนทางสู่พระเจ้า Dawn Watson วัย 29 ปี เกิดในครอบครัวที่นับถือลัทธิ Children Of God และได้รับการเลี้ยงดูตามหลักความเชื่่อมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ก่อนจะตัดสินใจหนีออกจากบ้านในวัย 13 ปี ลัทธินี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1968 ในชื่อ Teens For Christ by David Berg ก่อนจะเปลี่ยนเป็น The Children Of God ในเวลาต่อมา มีผู้นับถือลัทธิดังกล่าวหลายพันคนทั่วโลกที่กลายเป็นคนมีชื่อเสียงในเรื่องอื้อฉาว เพราะความเชื่อหลักของพวกเขาคือการใช้เซ็กส์ในการแสดงออกถึงความรักและความเมตตาของพระเจ้า สำหรับ Dawn เธอเติบโตมาในบราซิล ซึ่งเป็น 1 ใน 30 ประเทศที่นับถือลัทธิ The Children Of God ซึ่งการทารุณกรรมทางเพศเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน หญิงสาวเล่าว่า “ในขณะที่คุณเรียนรู้ที่จะแปรงฟันเองเหมือนเด็กทั่วไป แต่เราได้เรียนรู้ที่จะมีเซ็กส์ นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น’”…
-
สองพี่น้องพากันถ่ายรูปย้อนวัย เพื่อมอบเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงาน 30 ปีของพ่อแม่
ตอนเป็นเด็กทำอะไรก็น่ารักไปหมดแหละ ต่อให้นั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง น้ำลายยืด ก็ยังน่ารักอยู่ดี แต่ลองทำแบบนั้นตอนโตสิ แทนที่จะน่ารักมันจะกลายเป็นฮาแทน เพราะแบบนี้ Maria Warnes จึงชวนน้องชายย้อนวัยอีกครั้ง ด้วยการถ่ายรูปโคฟเวอร์วัยเด็ก เพื่อมอบเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงาน 30 ปีของพ่อกับแม่ อาจจะไม่ใช่ของขวัญชิ้นพิเศษ แต่เห็นแล้วพวกเขาต้องยิ้มแน่นอน เฮ้ น้องชาย นายว่าตอนเด็กกับตอนโตแบบไหนน่ารักกว่า? พี่อยากรู้มานานละว่าทำไมตอนนั้นน้องมองพี่แบบนั้น ต่อให้โตแล้ว เราก็ยังเป็นเด็กน้อยสำหรับพ่อแม่อยู่ดี จำได้มั้ย ตอนเด็กๆ เราชอบเล่นซ่อนแอบในตะกร้าด้วยกัน พี่บอกผมทีว่าตอนนี้ผมยังน่ารักเหมือนตอนนั้น ไม่บอกก็รู้ว่าเราเป็นพี่น้องที่รักการอ่านมากแค่ไหน ตีเนียนมาแย่งที่นอนผมตั้งแต่เด็กจนโตเลยนะ ไม่มีเพื่อนคนไหนดีกว่าพี่น้องของตัวเองอีกแล้ว พี่คิดว่าทำแบบนี้แล้ว พ่อแม่จะคิดถึงเราในวัยเด็กจริงๆ หรอ? เชื่อสิว่าพ่อกับแม่เห็นแล้วต้องมีความสุขแน่ๆ จริงๆ แล้ว ต่อให้เราไม่ถ่ายรูปย้อนวัยเหมือนตอนเด็กๆ พ่อแม่ก็ยังเห็นเราเป็นเด็กน้อยในวันนั้นอยู่ดี นั่นเป็นเหตุผลพวกเขาทะนุถนอมเราตลอดยังไงล่ะ ใครคิดไม่ออกว่าจะให้อะไรกับพ่อแม่ในวันครบรอบ ลองเอาไอเดียนี้ไปใช้สิ น่ารักดีนะ ที่มา boredpanda
-
ภาพสุดสะเทือนใจ คุณแม่โพสต์ภาพ ‘คุณตานอนร่ำไห้’ ข้างๆ หลานสาวที่กำลังจะพ่ายแพ้ต่อโรคมะเร็ง
ภาพบางภาพไม่จำเป็นต้องมีคำบรรยายใดๆ คุณก็สามารถเข้าใจและสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนที่อยู่ในภาพได้เป็นอย่างดี และมันยิ่งสะเทือนใจหากคุณได้รู้เรื่องราวที่อยู่ในภาพนั้น เช่นเดียวกับภาพคุณตาที่นอนร้องไห้อยู่ข้างเตียงของหลานสาว เมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะจากไปในไม่ช้าเพราะไม่อาจต้านทานมะเร็งร้ายได้ Ally Parker มีลูกสาววัย 5 ขวบ ที่กำลังจะพ่ายแพ้ต่อโรคมะเร็งสมอง ขณะที่พ่อของเธอ Sean Peterson ก็กำลังป่วยหนักด้วยโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม และอาจจะจากไปในไม่ช้านี้เช่นกัน นั่นเท่ากับกับว่า Ally กำลังเผชิญหน้ากับความกลัวที่จะต้องสูญเสียทั้งลูกสาวและคุณพ่อในเวลาไล่เลี่ยกัน หรืออาจจะห่างกันไม่กี่สัปดาห์ด้วยซ้ำ ดังนั้นคุณแม่จึงตัดสินใจโพสต์ภาพลูกสาวลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมี Sean พ่อของเธอนอนร้องไห้อยู่ข้างๆ เตียงของลูกสาว ใบหน้าของ Sean เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน เมื่อรู้หลานสาวผู้เป็นที่รักต้องจากไปก่อนวัยอันควร เช่นเดียวกับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ที่ทรมานใจไม่แพ้กัน แต่พวกเขาต้องอดทนไว้เพื่อปลอบใจกันและกัน สำหรับเด็กน้อย Braylynn Lawhon เธอได้รับการวินิจฉัยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ปีที่ผ่านมาว่าเป็น Diffuse Intrinsic Pontine Glioma ซึ่งเป็นมะเร็งสมองชนิดร้ายแรง ไม่มีวิธีรักษาและไม่มีอัตราการรอดชีวิต ตอนนี้อาการของเธอแย่ลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คุณหมอเองก็พยายามอย่างหนักในการบรรเทาความเจ็บปวดให้กับเธอเท่าที่จะทำได้ แน่นอนว่าคนที่เจ็บปวดจนไม่รู้จะหาคำใดมาบรรยายคือ Parker แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังรวบรวมความกล้าในการแบ่งปันประสบการณ์อันเจ็บปวดในเฟซบุ๊กเพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงโรคร้ายนี้มากขึ้น “เราทุกคนคิดว่าพวกเขาจะมีอายุยืนกว่าเรา และเราไม่คิดเลยว่า Braylynn ลูกสาวที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฉันจะเป็นคนแรกที่จากไป…” Parker เขียนในเฟซบุ๊ก เธอบอกอีกว่า “ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับเรา…
-
24 ภาพสิ่งของปกติธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง แต่ทำไมเห็นแล้วมันช่างอึดอัดใจซะเหลือเกิน
รู้จักคำว่า เพอร์เฟคชั่นนิสต์ (Perfectionist) กันหรือเปล่าครับ มันคือคำที่ใช้เรียกคนที่มีนิสัยรักความสมบูรณ์แบบ เห็นหรือทำอะไรที่ไม่สมบูรณ์ไม่ได้เลย เป็นต้องรู้สึกขัดใจทุกที แล้วถ้าเกิดคุณมีความเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสต์ในตัวสักนิดละก็ ภาพที่เรานำมาให้เพื่อนๆ ดูต่อไปนี้ คงทำให้คุณรู้สึกอึดอัด ขัดหูขัดตามากๆ ก็เป็นได้ เพราะของในภาพนั้น มันดูผิดธรรมชาติและไม่เป็นระเบียบซะเลย เชิญรับชมครับ ทิชชู่ในโลกนี้มันต้องเป็นสีขาวสิ มันจะเป็นสีดำไม่ด๊ายยยย รู้นะว่ามันเป็นรสนิยมส่วนตัวน่ะ แต่คุกกี้มันไม่น่าจะกินกับน้ำส้มได้นะ ที่โกนหนวดก็ต้องเอาไว้แค่โกนหนวดอย่างเดียวสิฟะ จะเอามาปอกผลไม้ไม่ได้เด็ดขาด รู้นะว่ากินยังไงพอหมดลูกมันก็ลงท้องหมดอยู่ดี แต่เห็นคนกินกล้วยแบบนี้แล้วมัน … มันไม่ได้อะ! ถ้าจะไม่ชอบกินขอบพายขนาดนั้น ก็ไม่ต้องกิน! คนที่มาตักต่อมันอึดอัดนะรู้ไหม มันก็ดูสวยอยู่บ้าง … แต่มันไม่น่าจะวิ่งได้นะ ของบางอย่างเขาก็ทำมันมาให้ดูเข้ากันแล้ว แล้วทำไมคนวางไม่พยายามทำให้ลายมันตรงละโว้ย นี่ก็ด้วย มองไม่ออกเหรอไงว่ามันต้องวางสลับที่กัน คือพี่คนทำทางรีบเหรอ วางผิดแบบไม่น่าให้อภัยเลย คนทำพื้นอยากต่อต้านสังคมเหรอ ทำไมไม่วางให้มันเป็นลายเดียวกันละเฟ้ย บางอันนี้ร้ายเลย ผิดตั้งแต่ออกแบบ อย่างเตาเนี่ย ทำลายมายังไงถึงไม่ตรงกับเตาไฟ วางหม้อวางกระทะแล้วมันจะร้อนไหมนะ…
-
คู่รักถึงกับหัวเสีย ส่งภาพงานแต่งคืนช่าง พร้อมคอมเพลนกว่า 30 หน้า ชี้ทุกเม็ดเช็กทุกจุด!!
เราสามารถแต่งงานได้ครั้งเดียวในชีวิต ดังนั้นหลายๆ คู่จึงมักจะให้ความสำคัญและทุ่มเทกับวันนี้เป็นพิเศษ ทั้งในเรื่องสถานที่ ลำดับพิธีการ รวมไปถึงการบันทึกภาพและวิธีโอตลอดงาน เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ในบางครั้ง แม้คู่บ่าวสาวจะวางแผนมาดีแค่ไหนก็ต้องพบกับความผิดพลาดอยู่ดี อย่างกรณีของสามีภรรยาจากฮ่องกงคู่นี้ที่ผิดหวังอย่างแรง เมื่อภาพถ่ายงานแต่งของพวกเขาออกมาไม่ตรงตามที่คาดหวังไว้ ต่อมาสำนักข่าว DCFever รายงานว่าคู่รักได้ใช้เวลาในการพิจารณารูปภาพทั้งหมดอย่างละเอียด พร้อมกับเขียนเส้น ทำตาราง และเพิ่มความคิดเห็นของตัวเองลงไป เพื่อชี้ให้เห็นจุดที่มีความบกพร่องทางเทคนิคและองค์ประกอบของภาพ มีหลายภาพที่คู่รักเขียนทับด้วยกฎ 3 ส่วน (ไม่ว่าภาพจะอยู่แนวตั้งหรือแนวนอน หากแบ่งภาพนั้นออกเป็นสามส่วน ทั้งตามแนวตั้งและแนวนอน แล้วลากเส้นแบ่งภาพทั้งสามเส่น จะเกิดจุดตัดกันทั้งหมด 4 จุด) หนึ่งในภาพที่คู่รักเห็นว่ามีความผิดพลาดร้ายแรงและไม่สามารถยอมรับได้คือภาพที่หัวของเพื่อนเจ้าสาวถูกตัดออกจากเฟรม อีกรูปคือภาพที่คู่บ่าวยืนข้างกัน แต่ประเด็นคือพื้นหลังถูกแต่งให้สว่างจ้าเกินไป จนมองไม่เห็นรายละเอียดของพื้นหลังที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างดี คู่รักได้รวบรวมข้อบกพร่องทั้งหมดเหล่านี้ได้ 30 หน้า ก่อนจะส่งมันให้กับช่างภาพที่รับผิดชอบเพื่อให้เขาได้เห็นความผิดพลาดของตัวเอง ต่อมาภาพเหล่านี้ถูกแชร์ในเฟซบุ๊ก จนได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเป็นจำนวนมาก โดยนักวิจารณ์บางคนเห็นว่าสิ่งที่คู่รักทำนั้นเหมาะสมแล้ว เพราะพวกเขายอมจ่ายเงินจำนวนมากและคาดหวังที่จะได้ภาพที่สวยงาม ขณะที่หลายๆ คนออกมาปกป้องฝ่ายช่างภาพ โดยบางคนอ้างว่าภาพอาจจะยังปรับแต่งไม่เสร็จก็เป็นได้ ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ทางตากล้องจะออกมาชี้แจงอย่างไรบ้างกับประเด็นนี้ ที่มา petapixel
-
ศิลปินเปลี่ยนตัวการ์ตูนในวัยเด็กของเรา ให้กลายเป็นผู้ใหญ่เวอร์ชั่นดาร์ก หมดกันความใสซื่อบริสุทธิ์ของตรู!!
ในวัยเด็กของเรา นอกจากเพื่อนๆ แถวบ้านหรือที่โรงเรียนแล้ว เพื่อนที่เติบโตมาพร้อมกับเรา และอยู่ในใจของเราเสมอก็คือเหล่าตัวการ์ตูนจากรายการทีวีต่างๆ นั่นเอง พวกมันมักจะติดอยู่ในความทรงจำของเรา นึกถึงเมื่อไรก็จะเห็นความน่ารักของพวกมันเสมอๆ แต่เพื่อนๆ อาจจะไม่สามารถมองตัวการ์ตูนสุดโปรดเหมือนเดิมได้อีก ถ้าหากได้เห็นภาพวาดของ Sylvain Sarrilh หรือที่เป็นรู้จักกันในโลกออนไลน์ในชื่อ Tohad ศิลปินหญิงคนนี้ได้นำตัวการ์ตูนในวัยเด็กของเรา มาวาดใหม่ให้สมจริงมากขึ้น และก็ดูดุดันน่ากลัวมากขึ้นเช่นกัน คำเตือน: ภาพบางภาพนั้นมีความรุนแรงและโหดร้าย และอาจมีเลือดสาดด้วย ทำลายฝันวัยเด็กยิ่งนัก คนขวัญอ่อนโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม เมื่อเทเลทับบีส์เจอสารกัมมันตภาพรังสี พวกมันเลยกลายพันธุ์เป็นเอเลี่ยนไปเล้ย สาวน้อยอลิซในแดนมหัศจรรย์ จริงๆ ไม่ได้ไปแดนมหัศจรรย์มาหรอก แต่เมายานี่เอง Dora the explorer หลังจากไปเป็นลูกศิษย์ แคทนิส เอเวอร์ดีน มา เมื่อโพคาฮอนทัส ไม่ได้ต้อนรับคนนอกอีกต่อไป เธอจึงออกล่าพวกเขาแทน สาวๆ อย่าจับบาร์บี้แต่งชุดคิลบิลล่ะ เดี๋ยววิญญาณนักดาบจะเข้าสิงเอา นางเงือกน้อย(เป็นนางเงือกอยู่ใช่ไหม??) กลายพันธุ์ตามปลาทะเลลึกไปแล้ว ปิกาจูร่างสุดยอด หรือว่ามันโดนช๊อตจนขนฟูฟระ!? เอ่อ…
-
ช่างภาพตามถ่าย ‘เปียโน’ ที่ถูกทิ้ง เผยให้เห็นถึงความงดงาม แม้จะผุพังไปตามกาลเวลาก็ตาม
แม้จะไม่ใช่เครื่องดนตรีที่เห็นในทุกบ้าน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘เปียโน’ เป็นเครื่องดนตรีที่สามารถสร้างอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ให้เราได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่าเสียงของมันช่างไพเราะเพราะพริ้ง และสามารถสะกดผู้คนเคลิบเคลิ้มมาแล้วนักต่อนัก ทว่าด้วยความที่มันมีน้ำหนักมาก และไม่สามารถขยับเคลื่อนย้ายได้ง่ายเหมือนกับเครื่องดนตรีอื่นๆ อย่างกีต้าร์ หรือไวโอลิน ทำให้บ่อยครั้งมันก็ถูกให้ทิ้งร้างเหมือนกับเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งเพียงเท่านั้น หากผู้บรรเลงเกิดเบื่อหรือไม่อยากจะเล่นอีกต่อไปแล้ว นั่นจึงทำให้ Romain Thiery คุณครูสอนเปียโนคนหนึ่งจากเมืองมงเปอลีเย ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ตัดสินใจเดินทางออกไปตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกทั้ง เบลเยียม, อิตาลี, เยอรมนี, โปแลนด์ และยูเครน เพื่อจะตามถ่ายภาพของเปียโนที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้อย่างไม่มีใครเหลียวแล เพื่อที่จะให้ผู้คนได้เห็นความสำคัญของเครื่องดนตรีชนิดนี้ว่าครั้งหนึ่งมันได้เคยมอบความสุขให้แก่ผู้คนอย่างมากมาย และอยากจะให้ผู้คนช่วยกันดูแลรักษาเครื่องดนตรีให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งโปรเจกต์ของเขามีชื่อเรียกว่า ‘Requiem for Pianos’ “โปรเจกต์นี้มันค่อนข้างจะออกมาจากใจของผมจริงๆ ผมพยายามที่จะทำให้บรรยากาศระหว่างถ่ายมีความสงบมากที่สุด และพยายามจะใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่ออยากจะถ่ายทอดความงามตามธรรมชาติของมันให้แก่ผู้คนได้เห็น ซึ่งหากถามผมว่าทำไมต้องเป็นเปียโน นั่นก็เพราะเปียโนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ” Thiery กล่าว . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
22 ภาพชีวิตในช่วงถอดมงของผู้ชนะเวทีประกวดความงาม แม้จะไม่มีมงแต่ออร่ายังจับทะลุจอ!!
คงไม่มีใครคัดค้านเรื่องความสวยงาม ของผู้ชนะการประกวดความงามเวทีใหญ่ระดับโลกอย่าง Miss World หรือ Miss Universe เป็นแน่ เพราะสาวๆ ที่สามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของผู้ประกวดความงามทั้งหลาย ย่อมต้องสวยอยู่แล้ว แต่เรามักจะเห็นภาพของนางงามเหล่านี้บนเวทีประกวดเท่านั้น เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมครับว่านอกเวทีประกวด พวกเธอจะดูดีเหมือนกับตอนขึ้นเวทีหรือเปล่า วันนี้เราได้รวบรวมภาพเปรียบเทียบของนางงามตอนสวมมง และตอนพวกเธอใช้ชีวิตตามปกติมาให้ดูแล้ว ลองไปหาคำตอบด้วยกันเลยครับ Olivia Culpo จากประเทศสหรัฐอเมริกา Miss Universe ปี 2012 แม้จะสวมชุดลุยๆ และแต่งหน้าบางลงบ้าง ก็ยังสวยไม่เปลี่ยนเลย Pia Alonzo Wurtzbach จากประเทศฟิลิปปินส์ Miss Universe ปี 2015 มาพบกับเธอในลุคที่ดูเป็นธรรมชาติกันบ้าง น่าหลงใหลเสียจริง Natalie Glebova จากประเทศแคนาดา Miss Universe ปี 2005 นอกเวทีเธอก็เป็นคุณแม่คนสวยของลูกสาวนี่เอง สวยทั้งกายและใจเลย Mireia Lalaguna จากประเทศสเปน Miss World…
-
โรค SLE กับการวิวาห์ที่เกิดขึ้นได้ภายในวันเดียว เพื่อให้เจ้าสาวไม่รู้สึกกังวลที่จะต้องแต่งงาน
ว่ากันว่าชีวิตของคนเรานั้นสั้นยิ่งนัก ไม่มีใครรู้ว่าวันใดวันหนึ่งคนที่อยู่ในชีวิตของเราอาจจะต้องจากไปตลอดกาล สิ่งที่เราสามารถทำได้นั่นก็คือการทำทุกวันที่มีอยู่ให้ดีที่สุด ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งนั้นอีกเลย ในเมื่อทุกคนก็รู้ดีว่าไม่มีใครที่อยู่ค้ำฟ้า Danny Rios หนุ่มชาวนิวยอร์กจึงได้ใช้เวลาที่เขามีนั้นทำการเซอร์ไพรส์แฟนสาวคนที่เขารักมากที่สุดนั่นก็คือ Nicole Carfagna ชายหนุ่มรู้ดีว่าแฟนสาวของตัวเองนั้นเป็นโรค SLE หรือโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายต่อต้านตัวเอง Nicole ป่วยโรคนี้มาเป็นเวลาหลายปี และเธอมักจะมีอาการปวดข้อ มีไข้ เจ็บหน้าอก อ่อนเพลียหากได้รับความเครียดมากเกินไป ถึงแม้จะรับรู้ถึงโรคที่แฟนสาวของตัวเองเป็นอยู่ ชายหนุ่มก็ไม่ได้เป็นกังวลอะไร เขาอยากจะเริ่มชีวิตคู่และดูแลเธออย่างใกล้ชิด จึงได้วางแผนเซอร์ไพรส์เธอด้วยการขอแต่งงานแบบกะทันหัน แผนการเซอร์ไพรส์นี้ถูกวางแผนแบบเงียบๆ และทางครอบครัวทั้งฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงก็รับทราบทั้งหมดและได้ช่วยกันตระเตรียมงานนี้ไว้โดยที่ตัวว่าที่เจ้าสาวนั้นไม่ระแคะระคายเลย และวันสำคัญก็มาถึงในวันเกิดของว่าที่เจ้าสาววันที่ 8 ธันวาคม 2017 หลังจากที่แฟนหนุ่มได้หลอกล่อพาสุดที่รักของเขาไปเที่ยวที่ดิสนีย์เวิลด์ทั้งวัน ก่อนที่จะกลับมาที่บ้านของนาย Danny ที่เมืองสมิธทาวน์ รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา พอเธอก้าวเข้าบ้าน แฟนหนุ่มก็ได้จูงมือเธอไปที่สวนหลังบ้านทันที ไฟที่ถูกประดับตกแต่งรอบๆ สวนทำให้เธอคิดว่านี่อาจจะเป็นการตกแต่งสวนรับคริสต์มาส แต่พอเดินเข้าไปในเต๊นท์ขนาดใหญ่หลังบ้านก็พบกับพ่อ แม่ ญาติ และเพื่อนๆ ของเธออยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แฟนหนุ่มกระซิบเบาๆ “คุณรู้ใช่ไหมว่าผมรักคุณมาก” วินาทีนั้นเธอรู้ได้เลยว่าจะต้องถูกขอแต่งงานแน่ๆ แต่มันเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่านั้นเมื่อเขาคุกเข่าลงขอเธอแต่งงานต่อหน้าเพื่อนๆ…
-
หญิงสาวเจอชายที่กำลังเสพยา พบว่าเป็น ‘เพื่อนในวัยเด็ก’ จึงอาสาช่วยให้เขาหลุดพ้นจากยานรก!!
เพื่อนแท้มักช่วยเหลือกันเสมอไม่ว่าจะยามสุขหรือยามทุกข์ หากเพื่อนหลงทางผิดก็ช่วยให้เพื่อนเห็นทางสว่าง ถึงจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกัลยณมิตร อย่างเช่นเรื่องราวของเพื่อนรักชาวเคนยาคู่นี้ ที่สามารถพูดได้ว่าเป็นเพื่อนแท้ได้อย่างเต็มปากกับเรื่องของหญิงสาวที่ชื่อว่า Wanja Mwaura ที่วันหนึ่งเธอบังเอิญเดินไปเจอเพื่อนสมัยประถมที่ Hinga ชายหนุ่มสภาพผอมแกร็นและดูโทรมอย่างหนักจากการเสพยา Hinga เธอเล่าเรื่องราวให้ฟังว่า ตอนแรกเธอไม่คิดว่าคนที่กำลังเสพยาต่อหน้าเธอนั้นคืออดีตเพื่อนร่วมชั้นของเธอ ในอดีตเขาเป็นดาวรุ่งของโรงเรียนและเป็นคนที่ฉลาดมากๆ คนหนึ่ง Hinga เริ่มเสพยาตั้งแต่สมัยเขาเรียนอยู่มัธยม และผลของยาทำให้เขาไม่มีสติและสมาธิในการเรียน เขาถูกไล่ออก ชีวิตดำดิ่งสู่เหวเรื่อยๆ เพราะยานรก จนกระทั่ง Wanja หญิงสาวเพื่อนรักที่ได้มาเจอกับเขา เธอทำใจดีสู้เสือเข้าไปคุยกับเขาตรงๆ และหวังที่จะช่วยเหลือเขาให้รอดพ้นจากยาเสพติด จึงได้พูดจาชักชวนให้เขาเลิกเสพยา และถ้าเขาต้องการความช่วยเหลืออะไร เธอก็จะช่วยเต็มที่ . ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะเริ่มคิดได้ เขาติดต่อเธอผ่านเบอร์โทรศัพท์ที่ได้ทิ้งไว้ให้ หลังจากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการบำบัดให้ชายหนุ่มกลับมาเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์เหมือนแต่ก่อน อดีต ปัจจุบัน ปัจจุบันเขาก็สามารถเลิกยาและกลับมาเป็นคนดีได้ดังเดิม แถมยังได้มิตรภาพดีๆ กลับมาอีกด้วย ที่มา inspiremore
-
ทำความรู้จัก Chelsea Miller สาวนักตีมีด ที่ผลงานของเธอนั้นมีราคาสูงถึง 25,000 บาท!!
หากพูดถึงอุตสาหกรรมการผลิตมีด ใครหลายคนก็อาจจะคิดถึงหน้าของชายตีเหล็กที่ร่างกายแข็งแรงกำยำ ไว้หนวดไว้เคราแสดงถึงความดุดัน แต่รู้หรือไม่ว่าบนโลกนี้ก็มีช่างตีเหล็กผู้หญิงที่มีความอ่อนช้อยอ่อนหวานเช่นเดียวกัน และที่สำคัญก็คือผลงานของเธอไม่ใช่ธรรมดาๆ เพราะว่ามีดที่เธอทำนั้นมีราคาที่แสนแพงแถมยังได้รับการการันตีจากการใช้งานโดยเชฟชื่อดังอย่างระดับโลกอย่าง Mario Batali และ Massimo Bottura อีกด้วย ในวันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Chelsea Miller สาวนักตีมีดอันดับท็อปของโลกกันดีกว่า Chelsea Miller สาวนักตีมีดสุดสวย มาเริ่มกันที่ประวัติของสาวคนนี้กันก่อน เธอเล่าให้ฟังว่า ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่มีอายุได้ 18 ปี ซึ่งในขณะนั้นเธอก็เหมือนหญิงสาวทั่วๆ ไปที่รักการร้องเพลง การเต้นรำ รวมถึงงานศิลปะด้วย ในวัยเด็กนั้น เธอได้เติบโตขึ้นที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในรัฐเวอร์มอนต์ และได้รับการศึกษาในระบบที่เรียกกันว่า ‘โฮมสคูล’ ขณะเดียวกันพ่อของเธอก็มีอาชีพเป็นช่างตีเหล็ก ซึ่งเธอบอกว่าการทำงานของพ่อเธอ ก็เป็นสิ่งที่เธอสนใจอีกอย่างหนึ่งเลยทีเดียว เพราะว่ามันเป็นงานที่ค่อนข้างสร้างสรรค์และสามารถทำได้โดยใช้มือของเราจริงๆ ด้วย หลังจากที่มาอยู่ที่นครนิวยอร์กได้สักพักหนึ่ง เธอได้มีโอกาสกลับบ้านในช่วงท้ายปี 2011 และได้ไปเยี่ยมชมที่บริเวณร้านของพ่อเธอ ซึ่งจุดเริ่มต้นการทำมีด ก็ได้เกิดขึ้นมาในตอนนั้นนั่นเอง เอามีดไปวางออกขายตามบูธครั้งแรก เมื่อมีดได้ถือกำเนิดขึ้น เธอก็นำผลงานชิ้นโบว์แดงของเธอไปตั้งบูธขายที่ Brooklyn Flea ซึ่งเป็นย่านที่มีผู้คนพลุกพล่าน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยเหล่าคนดังมากมายทั้ง ทั้งเขียน ช่างถ่ายภาพ รวมถึงเชฟด้วย และที่นี่เองที่ทำให้มีดของเธอได้รับการตีพิมพ์ลงในแมกกาซีน Saveur ซึ่งนับว่าเป็นการได้รับการตีิพิมพ์เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ หลังจากนั้นหนังสือพิมพ์ The New York Times ก็ได้ตีพิมพ์เรื่องมีดของเธอ…
-
Eric Clapton เผยว่าตัวเขาเองกำลังจะสูญเสียการได้ยิน หลังจากประสบปัญหาทำงานอย่างหนัก
เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมาได้มีข่าวร้ายเกี่ยวกับนักดนตรีชื่อดังอย่าง Eric Clapton โดยสื่อต่างประเทศได้เผยว่าขณะนี้เขากำลังจะสูญเสียการได้ยินและกำลังเผชิญกับอาการหูอื้ออย่างหนัก หลังประสบปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทเมื่อ 2 ปีที่แล้ว Clapton ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอาการของเขาว่า “มีสิ่งเดียวที่ผมเป็นกังวลอยู่ตอนนี้ก็คือ ผมกำลังจะกลายเป็นคนหูหนวก ตอนนี้ผมมีอาการหูอื้อ แต่ว่ามือของผมก็ยังสามารถเล่นกีต้าร์ได้อยู่” “มันช่างน่าเหลือเชื่อมากจริงๆ ที่ผมยังอยู่ตรงจุดนี้ได้” ตอนนี้ Clapton กำลังมีแผนเดินทางโปรโมทภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับประวัติชีวิตของเขาอย่างเรื่อง Eric Clapton: Life in 12 Bars ที่จะฉายรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ อ้างอิงจากงานวิจัยของประเทศเยอรมันที่เก็บข้อมูลจากผู้คนมากว่า 4 ล้านคนในปี 2004 ถึง 2008 เผยว่าอาชีพนักตนตรีนั้นถือเป็นอาชีพที่เสียงต่อการสูญเสียการได้ยินมากที่สุด และมากกว่า 57 เปอร์เซ็นต์ของอาชีพดังกล่าวนั้นจะมีอาการได้ยินเสียงแว่วในหูหรือที่เรียกว่า Tinnitus เกิดขึ้นกับพวกเขาอีกด้วย นอกจาก Eric Clapton แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานว่า Brian Johnson นักร้องนำจากวงร็อคอย่าง AC/DC เองก็เสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยินถาวร หลังจากที่มีอาการเลือดออกจากหูจนต้องยกเลิกโชว์ 10 โชว์จากทัวร์ ‘Rock Or Bust’ ในปี…
-
เด็กชายไร้บ้านใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์ฯ มาตลอด น้ำตาซึมเมื่อได้เห็นเตียงของตัวเองเป็นครั้งแรก
สำหรับใครหลายคน เตียงนอนอาจจะเป็นเพียงอุปกรณ์สามัญที่มีกันอยู่ในทุกบ้าน และอาจจะละเลยความสำคัญของมันไป แต่สำหรับเด็กบางคนแล้วการได้มีเตียงนอนเป็นของตัวเอง เป็นเสมือนพรจากสวรรค์อันยิ่งใหญ่ ที่อาจสร้างความสุขให้แก่เขาจนถึงขั้นน้ำตาซึมได้เลยทีเดียว นี่คือเรื่องราวของเด็กชายวัย 8 ปีชื่อว่า Daeyrs และ Dionna แม่ของเขา จากเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดของชีวิตของเขาอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือคนไร้บ้าน เนื่องมาจากแม่ของเขาที่ในอดีตเคยเป็นพยาบาลฝึกหัดเกิดตกงานขึ้นมา จึงทำให้สูญเสียบ้านไปในที่สุด หนูน้อยกับห้องใหม่ของเขา แต่ก็เหมือนกับมีพรจากสวรรค์ส่งมาให้ถึงแม่ลูกคู่นี้ เมื่อทั้งคู่ได้รับบ้านหลังหนึ่งจากทางการรัฐมิชิแกน แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน รวมถึงเตียงนอนที่ Daeyrs อยากได้ที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะว่าตลอดทั้งชีวิตของเขาที่ผ่านมา ไม่เคยมีเตียงนอนเป็นของตัวเองเลยแม้แต่เตียงเดียว และต้องนอนบนพื้นมาโดยตลอด โดยสิ่งของติดตัวที่ทั้งคู่ได้นำเข้าไปในบ้านใหม่ที่ได้รับมานั้น ก็มีเพียงแค่ ที่นอนแบบเป่าลมพร้อมกับเก้าอี้อีกเพียงแค่ 2-3 ตัวเพียงเท่านั้น นั่นจึงทำให้นักสงคมสงเคราะห์ได้ยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือแม่ลูกคู่นี้ โดยพวกเขาได้ส่งเรื่องต่อไปยัง Humble Design ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือผู้คนยากไร้ต่างๆ ให้ช่วยเหลือครอบครัวนี้หน่อย ทึ่งไปเลยทีเดียว ตกแต่งจนกลายเป็นบ้านสุดหรูหรา และองค์กรนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พวกเขาได้ช่วยตกแต่งห้องนอนใหม่ให้กับหนูน้อย Daeyrs แบบจัดเต็ม ที่ไม่เพียงมีแต่เตียงนอนนุ่มๆ ที่เขาอยากได้เพียงเท่านั้น เพราะว่ามันยังเต็มไปด้วยของเล่นรวมถึง อุปกรณ์ต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากที่รอคอยให้หนูน้อยคนนี้ได้เข้ามาเป็นเจ้าของ และแล้วนาทีแห่งความตื้นตันใจก็มาถึงในวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อหนูน้อยคนนี้ได้เข้ามายังบ้านใหม่ของเขา ที่ได้รับการตกแต่งอย่างจัดเต็ม โดยมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นานารวมถึงไฟสวยงามต่างๆ แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่รอคอยเขาอยู่นั่นก็คือห้องนอนห้องใหม่ของเขานั่นเอง…
-
นักศึกษาสัตวแพทย์ รักษาเพื่อนสี่ขาของคนไร้บ้านฟรีๆ เพราะพวกมันคือหัวใจของพวกเขา!!
แม้ว่าการอยู่ข้างถนนจะลำบาก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เหล่าคนไร้บ้าน มีใจเมตตาต่อสัตว์น้อยลงแต่อย่างใด เราจึงอาจเห็นว่าคนไร้บ้านหลายคนได้เลี้ยงสัตว์อย่าง ‘หมา’ เอาไว้เพื่อเป็นเพื่อนแก้เหงา ในทางกลับกัน ‘หมา’ ก็จะได้มีเจ้าของที่รักมันจริงๆ เช่นเดียวกัน ทว่าก็เพราะความที่ต้องอยู่อย่างไม่มีบ้าน ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับภัยต่างๆ มากมายอย่างอากาศหนาว ฝนตก ฝุ่นควัน จนบางทีเหล่าสัตว์เลี้ยงก็อาจจะเกิดป่วยขึ้นมาได้ และก็อาจไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีเนื่องจากเจ้าของไม่มีเงินที่จะพาไปรักษา ทำให้นักศึกษาสัตวแพทย์คนหนึ่งตัดสินใจรับรักษาสัตว์ให้แก่คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ซะเลย คนไร้บ้านกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา นักศึกษาสัตวแพทย์คนที่ว่านี้มีชื่อว่า Ruby Shorrock นักศึกษาสัตวแพทย์ปีสุดท้าย ผู้มีจิตใจเมตตาอารีต่อสัตว์ ซึ่งเธอเธอได้ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะช่วยรักษาสัตว์ให้แก่เหล่าคนไร้บ้าน โดยก่อตั้งคลินิกที่ชื่อว่า The Trusty Paws Clinic ขึ้นมาเพื่อจะช่วยรักษาสัตว์ให้ฟรี ตามที่เธอได้ตั้งใจเอาไว้ สำหรับเหตุผลในการทำเช่นนี้ Ruby ก็บอกว่า เป็นเพราะความที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ที่เธออาศัยอยู่ เป็นเมืองที่มีวิกฤติคนไร้บ้านที่เลวร้ายที่สุดเมืองหนึ่งในสหราชอาณาจักร Ruby Shorrock นักเรียนสัตวแพทย์ปีสุดท้ายผู้มีจิตใจงาม เธอจึงรู้ในทันทีว่ามีผู้คนมากมายต้องการความช่วยเหลืออย่างแน่นอน และยิ่งในหมู่คนไร้บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงแล้ว เจ้าขนปุยพวกนี้ก็ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเช่นเดียวกัน สัตว์เลี้ยงรอคอยการช่วยเหลืออีกมาก แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ทว่าการช่วยเหลือของเธอก็ได้เคยช่วยชีวิตสุนัขของคนไร้บ้านมาแล้วหลายราย ซึ่งบางตัวนั้น Ruby ก็บอกเอาไว้ว่ามันเปรียบเสมือนกับแก้วตาดวงใจของเจ้าของมันเลยก็ว่าได้ และเธอก็รู้สึกดีใจที่ได้ช่วยให้พวกเขามีความสุข ช่วยเหลือเพื่อให้พวกเขามีความสุข …
-
คุณครูให้การบ้าน ‘3 ข้อดีและข้อเสียของทาส’ กับเด็กป. 4 และคำตอบที่ได้กลับไปทำเอาจุก…
แม้ว่าจะมีลักษณะรูปร่างที่แสดงความเป็นคนไม่ต่างกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกของเราในอดีต เคยมีการแบ่งชนชั้นวรรณะจนเกิดกลุ่มคนที่มีชื่อว่า ‘ทาส’ ขึ้นมา โดยกลุ่มคนประเภทนี้จะเป็นคนที่ถูกสังคมมองว่าเป็นผู้คนที่ต่ำต้อยกว่า หรือด้อยกว่าในด้านใดด้านหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ตามระบบนี้ก็ถูกยกเลิกไปแล้วในประเทศส่วนใหญ่ของโลกปัจจุบัน ซึ่งก็แน่นอนว่าในแต่ละโรงเรียนก็ต้องมีการเรียนวิชาประวัติศาสตร์หรือสังคม เพื่อศึกษาความเป็นมาในอดีตของแต่ละประเทศ ทว่าก็มีคำถามอยู่ข้อหนึ่งที่ได้กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะคำถามที่ว่านั้นดันไปถามถึงข้อดีของ ‘ระบบทาส’ และยิ่งไปกว่านั้นคำตอบของเด็กป.4 ที่ตอบคำถามข้อนี้ก็ได้ทำเอาทุกคนอึ้งไปตามๆ กันเลยทีเดียว หน้าตาของการบ้านเจ้าปัญหา เรื่องที่ว่านี้ได้รับการเปิดเผยจาก Trameka Brown-Berry ชาวรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐเมริกาเมื่อว้นที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา โดยเธอได้โพสต์ภาพการบ้านของ Jerome ลูกชายชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของเธอ ซึ่งในการบ้านที่ลูกของเธอที่ได้รับมานั้นเป็นคำถามที่ถามถึงข้อดี-ข้อเสียของระบบทาส เธอจึงได้ต้องแคปชั่นถามชาวเน็ตว่า “มีใครพบความน่ารังเกียจในการบ้านของเด็กชั้น ป.4 นี้ไหม” และนั่นก็ทำให้มีผู้แชร์ภาพของเธอออกไปนับพันเลยทีเดียว โดยในการบ้านดังกล่าว Jerome เด็กนักเรียนวัย ป. 4 ได้ตอบคำถามที่ถามถึงข้อดีการของระบบทาสไปว่า “ผมรู้สึกว่าระบบทาสมันไม่มีข้อดีใดๆ เลยผมเลยขอไม่ตอบคำถามนี้” และในตอนท้ายที่สุดของการบ้านเขาก็ได้เขียนเพิ่มเติมเอาไว้ว่า “ผมภูมิใจในการการมาเป็นคนผิวสี เพราะว่าพวกเราทั้งมีความแข็งแรงและกล้าหาญ” ซึ่งคำตอบของเด็กคนนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมากมายเลยทีเดียว Jerome เด็กนักเรียนชั้นป.4 และในเวลาต่อมาโรงเรียน Redeemer Lutheran Church and School ซึ่งเป็นโรงเรียนของเด็กคนดังกล่าวก็ได้ออกมากล่าวถึงกรณีนี้กับสื่อท้องถิ่นชื่ออย่าง…
-
ช่างภาพท้าทายตัวเองด้วยการหาโลเคชั่นที่ไม่สวย แต่ถ่ายรูปออกมาได้สวยสุดๆ
แน่นอนว่า หลายคนพยายามเสาะหาสถานที่ที่คิดว่าจะทำให้การถ่ายภาพออกมาดูสวยราวกับจินตนาการ โดยสถานที่แห่งนั้นจะต้องสวยสดงดงาม มีองค์ประกอบที่ลงตัว มีสีและแสงเงาที่สมบูรณ์แบบ แต่มันจำเป็นต้องเป็นแบบนั้นเสมอไปหรือ? เมื่อช่างภาพสาวคนหนึ่งนามว่า Jenessa MacKenzie ได้ออกมาพิสูจน์ว่า ‘ภาพที่สวยงาม…ไม่จำเป็นต้องพึ่งสถานที่ที่สวยงามก็ได้’ เธอและลูกสาวของเธอจึงออกมาสุ่มหาสถานที่ในระแวกใกล้บ้าน ที่ดูแล้วไม่น่ามองเท่าใดนัก เพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพของเธอและลูกสาว ภาพที่ออกมาจะเป็นเช่นไร เชิญรับชมได้เลย สถานที่แรก ภาพที่ได้ สถานที่ที่ 2 ภาพที่ได้ สถานที่ที่ 3 ภาพที่ได้ สถานที่ที่ 4 ภาพที่ได้ สถานที่ที่ 5 ภาพที่ได้ สถานที่ที่ 6 ภาพที่ได้ สถานที่ที่ 7 ภาพที่ได้ สถานที่ที่ 8 ภาพที่ได้ สุดท้าย สถานที่ที่ 9 …
-
ประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถาน สั่งห้ามทางการใช้รถยนต์สีดำ เพราะเขาชอบสีขาวเป็นการส่วนตัว
คุณจะทำยังไง เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีกฎหมายออกมาบอกว่า “คุณห้ามขับรถสีดำเป็นอันขาด ถ้าเกิดคุณครอบครองรถสีดำอยู่คุณต้องไปเปลี่ยนสีอื่นทันที สีขาวได้ยิ่งดี” ฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ความจริงมันโหดร้ายกว่านั้น เพราะว่ามันดันมีประเทศที่มีกฎหมายนี้อยู่จริงๆ เอ้า งงสิ!? กฏหมายดังกล่าวนั้นถูกประกาศใช้และมีผลทันทีในเดือนมรกราคม 2018 นี้ ซึ่งถูกประกาศโดยประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถาน Gurbanguly Berdymukhammedov กฎหมายนั้นระบุว่า รถทุกคันในกรุงอาชกาบัต ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเติร์กเมนิสถานต้องไม่มีสีดำ ถ้าใครมีรถเป็นสีดำจะถูกแนะนำให้ทำเป็นสีอื่น โดยเฉพาะสีขาว ส่วนเหตุผลนั้นยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเพราะอะไร แต่มีข่าวลือได้รายงานว่าตัว Gurbanguly นั้นชอบสีขาวและไม่ชอบสีดำ จึงได้ออกกฎดังกล่าวมา ส่วนถ้าใครสงสัยว่าการออกกฎหมายแบบนี้จะไม่ส่งผลอะไรกับประชาชนเลยเหรอ ซึ่งคำตอบมันก็แน่นอนว่ามันส่งผลชัวร์ๆ และมันก็ส่งผลเยอะด้วย ประชาชนชาวอาชกาบัตคนหนึ่งได้บอกเล่าผ่านคลื่นวิทยุ Radio Azatlyk ว่า “ผมมีเงินเดือนแค่ 1,000 มานัต ส่วนค่าย้อมสีรถใหม่ทั้งคันนั้นต้องใช้เงินสูงถึง 7,000 มานัต หรืออาจจะสูงได้ถึง 11,000 มานัต และด้วยกฎหมายนี้มันบีบบังคับให้ผมต้องใช้เงินจำนวนมากไปกับการทำสี” สุดท้ายแล้วเราก็ไม่รู้ว่ากฎหมายดังกล่าวนั้นจะมีผลอยู่อีกนานเท่าไหร่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป มาซื้อสติ๊กเกอร์ที่ไทยสิ ‘รถคันนี้สีขาว’ ที่มา odditycentral
-
มาหลอกกันได้!! ตำรวจจีนสั่งปิดแอปหาคู่ 12 ราย หลอกให้ลูกค้าจ่ายเงินคุยกับ AI
ในยุคออนไลน์แบบนี้การจะหาคนคุยหรือหาคู่ครองนั้นเรียกว่าไม่ยากอีกต่อไป เพราะปัจจุบันนั้นมีแอปหาคู่ให้เราได้เลือกใช้มากมาย แถมยังเจาะกลุ่มเป้าหมายประเภทต่างๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งมันก็บูมมากๆ ในประเทศจีน แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนได้ประกาศปิดให้บริการแอปหาคู่จำนวน 12 แอปในประเทศจีน หลังจากที่พวกเขาตรวจพบว่าแอปหาคู่จำนวนมากเคลมว่าผู้ใช้บริการจะได้คุยกับสาวสวยสุดเซ็กซี่ แต่พอเอาเข้าจริงกลับเป็นระบบ AI ซะอย่างนั้น เอ๊า!? เรื่องนี้ได้รับการยืนยันผ่านสื่อในประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ของจีนได้รับการร้องเรียนเข้ามามากมายว่าแอปหาคู่หลายรายได้อ้างว่าลูกค้าสามารถคุยกับสาวเซ็กซี่ พร้อมสามารถวิดีโอคอลคุยกันได้ด้วย เพียงแค่จ่ายเงินราคา VIP ในราคา 200 หยวน เท่านั้น ทว่าพอจ่ายเงินไปจริงๆ นานเข้าๆ เหล่าลูกค้าก็พบว่าผู้หญิงที่คุยด้วยนั้นเป็นเพียง AI ที่ตอบตามที่ระบบตั้งไว้ นอกจากนี้ถ้าดูแบบวีดิโอคอล เราก็จะได้ดูคลิปที่ระบบตั้งไว้นั้นเอง ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่จากมณฑลกวางตุ้งได้ระบุว่ามีผู้เสียงหายจำนวนมากกว่า 100 คนและคิดค่าเสียหายรวมได้มากกว่า 1 พันล้านหยวนเข้าไปแล้ว (คิดเป็นเงินไทยเกือบ 5 พันล้านบาท) และมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วกว่า 600 คน ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าหน้าที่ยังเปิดเผยว่าหนึ่งในแอปที่ถูกสั่งปิดชื่อว่า Moucheng แก๊งต้มตุ๋นที่เป็นเจ้าของ มีบริษัทย่อยอีกมากมายในชื่อที่แตกต่างกันกระจายอยู่ทั่วประเทศจีน และสร้างความเสียหายไปกว่า 340 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยราว 1,700 ล้านบาท ไม่แน่ว่าผู้หญิงที่คุณคุยด้วยอยู่…
-
หนุ่มสั่ง ‘ฟันปลอม’ จากร้านออนไลน์หวังได้ฟันสวยเพิ่มความมั่นใจ แต่พอได้ของถึงกับเงิบ!!
ปัจจุบันการสั่งซื้อของออนไลน์นั้นเป็นอะไรที่สามารถทำได้ง่ายมากๆ ง่ายขนาดที่พ่อแม่ใครหลายคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเทคโนโลยียังสามารถสั่งได้ ง่ายไหมล่ะคิดดู!! แต่ทีนี้ปัญหาที่ตามมาคือ เราไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าของที่เราสั่งไปมันจะมาตามที่ร้านค้าระบุไว้ไหม บางร้านเราอาจจะดูได้จากการรีวิวของคนที่ซื้อไป แต่ถ้ามันไม่มีละ? ฉะนั้นหนุ่มจากเขตยอร์คเชียร์ตะวันตกคนนี้ก็เลยต้องเจอกับปัญหาของไม่ตรงปกนั่นเอง Ben Watson หนุ่มนักเรียนวัย 19 ปี จากอังกฤษ ได้โพสต์คลิปฟันปลอมมูลค่า 42 ปอนด์ (คิดเป็นเงินไทยราว 1,800 บาท) ที่เขาสั่งมาในช่วงลดราคาจากอินเตอร์เน็ต โดยตอนแรกเขาบอกว่าก่อนสั่งฟันปลอมเจ้ากรรมนี้ มันดูดีมากในภาพ และเขาก็หวังว่ามันจะช่วยให้เขามีความมั่นใจมากขึ้นเวลาออกไปข้างนอก เขายังบอกเสริมอีกว่า เจ้าฟันปลอมนี้ยังโฆษณาไว้อีกว่า ‘ถ้าคุณใส่แล้วคุณจะมียิ้มสวยสุดเพอร์เฟกต์’ แต่พอสั่งมาจริงๆ ก็ตามภาพ แทนที่จะสร้างความมั่นใจมันกลายเป็นทำให้ตัวเองเป็นตลกแทนต่างหาก ฮร่าๆ แต่แทนที่ Ben จะมองว่ามันเป็นเรื่องแย่ๆ เขาก็พลิกมันให้เป็นโอกาส โดยถ่ายคลิปที่เขาใส่ฟันปลอมดังกล่าวลงอินเตอร์เน็ต ซึ่งมันก็ฮามากๆ จนมียอดคนดูกว่า 20,000 ครั้ง แถมคนในระแหวกบ้านก็รู้จักเขามากกว่าเดิมด้วย ถ้าใครดูคลิปข้างล่างไม่ได้ สามารถกดเข้าไปดูได้ที่ mollie_cooper Can’t believe he brought them on a…
-
เด็กสาวชาวอินเดียไอเดียดี ‘คิดค้น’ กางเกงในอัจฉริยะ เพื่อป้องกันการถูกข่มขืน ดูแล้วล้ำ ใช้แล้วปลอดภัย
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คดีข่มขืนนั้นยังมีมาให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ และมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า ผู้หญิงทุกคนยังมีความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในอันตรายจากการข่มขืน เด็กสาวชาวอินเดียคนหนึ่งต้องการลดปัญหาหญิงสาวถูกข่มขืน เธอจึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ขึ้นมา ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับหญิงสาวหากมีคนพยายามจะข่มขืนเธอ นั่นก็คือกางเกงในป้องกันการข่มขืนนั่นเอง Seenu Kumari กับกางเกงในป้องกันการข่มขืนที่เธอคิดค้นขึ้นมา เด็กสาวคนนี้ชื่อ Seenu Kumari เธอมีอายุ 12 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Farrukhabad รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เธอได้ประดิษฐ์สิ่งที่เธอเรียกว่ากางเกงในป้องกันการข่มขืน ในรัฐอุตตรประเทศที่เธออาศัยอยู่นั้น การคุกคามทางเพศและการข่มขืนเด็กนั้นเป็นเรื่องที่พบเห็นได้อยู่บ่อยครั้ง โดยผู้หญิงมักจะถูกจู่โจมบนท้องถนน ผู้ร้ายก็จะข่มขืนและถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เพื่อนำไปขายเป็นเงินอีกต่อ ครอบครัวของเธอนั้นเป็นครอบครัวที่ยากจน เธอจึงอยากช่วยครอบครัวหารายได้อีกทางหนึ่ง การทำกางเกงในดังกล่าวจึงเป็นการช่วยเหลือครอบครัว และช่วยให้ผู้หญิงได้รับความปลอดภัยมากขึ้นไปด้วยเช่นกัน โดยกางเกงในที่ว่านี้ใช้ต้นทุนเพียงประมาณ 50 ปอนด์เท่านั้น (ประมาณ 2,000 บาท) ต้นแบบของกางเกงในป้องกันการข่มขืนที่เธอทำ เป็นกางเกงในสีชมพู ซึ่งเธอบอกว่ากันกระสุน และไม่สามารถใช้มีดตัดขาดได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับตัวล็อก ระบบ GPS และกล้องวิดีโอบันทึกภาพด้วย เธออธิบายความสามารถของกางเกงในตัวนี้ว่า “ฉันติดตั้งล็อกไปในกางเกงในด้วย ดังนั้นกางเกงในจะถูกถอดออกไม่ได้จนกว่าจะใส่เลขรหัสที่ถูกตัอง นอกจากนี้มันยังมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มาพร้อม GPS ซึ่งสามารถติดต่อกับที่อื่นได้”…
-
หญิงสาวป่วยมะเร็งวัย 27 ปีเขียนจดหมายล้ำค่า บอกเล่าบทเรียนของชีวิต ก่อนเธอจะจากไป…
ช่วงอายุ 20-30 ปี คงถือได้ว่าเป็นช่วงที่เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรียนหนังสือ เริ่มต้นงานที่ตนเองสนใจ ไต่เต้าตำแหน่งในสายงาน ออกไปท่องเที่ยวและใช้ชีวิต หรือสังสรรค์กับหมู่เพื่อน ซึ่งในวัยนี้เราจะทำอะไรก็ได้ที่ใจนึกเพราะคิดว่ายังมีเวลาอีกมากในชีวิต แต่แท้จริงแล้ว การที่เราอายุยังน้อย ไม่ได้หมายความว่าเรายังเหลือเวลาในชีวิตอีกมาก มีคนหลายคนที่ต้องจากโลกนี้ไปทั้งที่อายุยังน้อยอยู่ Holly Butcher เองก็เป็นคนหนึ่งในนั้นเช่นกัน เธอจึงอยากบอกให้ทุกคนใช้ชีวิตให้คุ้มค่าไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไรก็ตาม Holly Butcher Butcher เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองกราฟตัน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เธอป่วยเป็นโรค Ewing’s sacroma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกชนิดหนึ่งที่มักพบในคนอายุน้อย เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ เธอก็เสียชีวิตไปด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น ก่อนหน้าที่เธอจะเสียชีวิต เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อนั่งทบทวนสิ่งต่างๆ ในชีวิต และเตรียมพร้อมรับความตายที่กำลังจะมาถึง ในวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เธอจึงได้เขียนบทเรียนในชีวิตที่เธอได้เรียนรู็ โพสต์ลงในเฟสบุ๊กของเธอ เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจให้หลายๆ คนได้นำไปปรับใช้กับชีวิตของตน จะได้มองเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ ในชีวิตมากขึ้น โดยมีใจความบางส่วนดังนี้ “ฉันอยากให้ทุกคนหยุดกังวลกับเรื่องยิบย่อยในชีวิต และคิดให้ได้ว่าเราทุกคนล้วนมีจุดจบเหมือนกันหมด ทุกคนจะได้ใช้เวลาทุกวินาทีอย่างมีค่า ถ้ามองข้ามเรื่องแย่ๆ ในชีวิตไป” “ในเวลาที่คุณชอบบ่นถึงเรื่องเล็กๆ…
-
โชว์การเต้นรูดเสาแบบล้ำๆ ในลาสเวกัส ที่ไม่ได้มี ‘คน’ เต้น แต่เป็นหุ่นยนต์ เซ็กซี่สุดๆ เลยมั้ยล่ะ!?
หุ่นยนต์ที่สร้างจากเศษเหล็ก อาจจะไม่ใช่นักเต้นเปลื้องผ้าที่ดูเซ็กซี่ที่สุด แต่มีประติมากรที่ช่างจินตนาการคนหนึ่ง ได้มุ่งมั่นที่จะสร้างนักเต้นรูดเสาที่ดูน่าดึงดูดขึ้นมาจากเศษขยะ เจ้าหุ่นยนต์ที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับคนวัยผู้ใหญ่นี้สร้างขึ้นโดยศิลปินชาวอังกฤษที่กล่าวว่า พวกหุ่นเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของการตรวจตรา พลังอำนาจ และการถ้ำมอง ด้วยส่วนหัวที่สร้างมาจากกล้องวงจรปิด และร่างกายที่สร้างมาจากหุ่นลองเสื้อ และชิ้นส่วนรถยนต์ หุ่นเหล่านี้ได้ถูกนำมาโชว์ในงาน Consumer Electronics Show 2018 ที่ลาสเวกัส ผู้ที่สร้างหุ่นนักเต้นเหล่านี้ก็คือ Giles Walker ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างเครื่องยนต์ ด้วยจุดประสงค์ในการชี้ให้เห็นปัญหาสังคม ถึงแม้ว่าหุ่นพวกนี้จะสามารถเต้นได้เหมือนกับคนจริงๆ แต่พวกมันก็ยังคงไม่สามารถที่จะมาแทนที่ได้ในเร็วๆนี้ เพราะว่ามันไม่มีความคิดนั่นเอง หุ่นเหล่านี้ทำงานได้โดยชิ้นส่วนมอเตอร์จากที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ และถูกโปรแกรมให้เคลื่อนไหวเหมือนกับผู้หญิง ตามความคิดของศิลปิน ตอนนี้พวกมันถูกตั้งโชว์อยู่ที่คลับ Sapphire Gentleman ที่อยู่ถัดมาประมาณ 2-3 ช่วงตึกจาก Vegas Strip ซึ่งจะจัดแสดงในช่วงวันที่ 9-13 มกราคม 2018 นี้ Peter Feinstein ผู้จัดการคลับ บอกว่าเขาได้เชิญ Walker และหุ่นยนต์ของพวกเขามาสร้างความหลากหลายให้กับคลับนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในการแสดงโชว์เทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขากล่าวว่า “นี่เป็นปีที่…
-
หมอฟันแวมไพร์ Lee Soo Jin ฉลองอายุครบครึ่งร้อย โอ้โห… หน้าเด็กกว่าแม่ตรูอี๊กกกก
คนเราถึงแม้จะมีรูปร่างเซ็กซี่หรือหน้าตาดีสักเพียงไหน วันนึงเมื่อเรามีอายุที่มากขึ้น มันก็ย่อมเสื่อมสภาพลงไปตามกาลเวลา ริ้วรอยที่ไม่เคยมีมันก็มี อะไรที่เคยตึงมันก็หย่อนลง… แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับคนนี้! Lee Soo Jin หมอฟันสาวชาวเกาหลีผู้ที่มีหน้าตาจิ้มลิ้ม สวยใส ตามแบบฉบับสาวเกาหลีผู้นี้ รู้หรือไม่ว่า วันนี้เธอมีอายุครบ 50 ปีแล้วววว! แต่โอ้โห…ดูแล้วทำไมหน้าเด๊กเด็ก อย่างกับสาววัยแรกรุ่นก็ไม่ปาน เห็นหน้าตาอย่างกับเด็กมหาลัยแบบนี้ แต่เชื่อเถอะว่าสาวใหญ่ Lee Soo Jin ผู้นี้เป็นหมอฟันมาแล้ว 16 ปีด้วยกัน เธอเกิดตั้งแต่ปี 1969 โน่นแน่ะ แถมตอนนี้ เธอมีลูกสาวแล้วด้วยนะ เธอมีชื่อเสียงและโด่งดังมาจากการที่ไปออกรายการทีวีที่ชื่อว่า “Same Bed, Different Dreams” พร้อมกับลูกสาวของเธอ ซึ่งลูกสาวของเธอมักจะบ่นว่า Soo Jin นั้นชอบที่จะโพสต์ภาพลงอินสตาแกรม ไม่ว่าจะเป็น รูปเซลฟี่ รูปการทำงาน หรือรูปขณะเล่นฟิตเนสก็ตามที . . . เรื่องที่เธอติดการโพสท์อิสตาแกรมนั้นลูกสาวของเธอเคยงอนเธอจนไม่คุยกับเธอเป็นเวลานานเลยทีเดียว แต่โชคดีที่ตอนนี้ทั้งคู่แม่ลูกกลับมาคืนดีกันเรียบร้อยแล้วจ้า โอ้โห นี่แม่ลูกกันหรอเนี่ยยย . และแม่ลูกคู่นี้ก็ได้ฉลองวันเกิดอายุครบ…
-
แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ? เมืองในโปรตุเกส ส่งเสริมให้เด็กสูบบุหรี่ในวันสมโภชพระคริสต์
แน่นอนว่าสถานที่แต่ละแห่ง ประเทศแต่ละประเทศ หรือแม้แต่หมู่บ้านเอง ก็มีขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นของตัวเอง โดยแต่ละที่ก็อาจจะเหมือน คล้าย หรือแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง วันนี้สิ่งที่จะนำเสนอก็คือ ประเพณีหนึ่งของประเทศ โปรตุเกส ที่อนุญาตและส่งเสริมให้เด็กๆ ‘สูบบุหรี่’ ในวันที่ 6 มกราคม 2017 หมู่บ้าน Vale de Salgueiro ในประเทศโปรตุเกส มีประเพณีเฉลิมฉลองอย่างหนึ่งที่เรียกว่า วันสมโภชพระคริสต์ โดยในวันนั้นเองจะมีการรับประทานเค้กและร้องเพลงร่วมกัน ซึ่งเป็นประเพณีหนึ่งที่ครึกครื้นมากเลยทีเดียว แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือ ในวันแห่งการเฉลิมฉลองนี้ เด็กๆ จะได้รับการอนุญาตและสนับสนุนให้สูบบุหรี่ แม้นักวิจารณ์และผู้คนภายนอกจะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ชาวพื้นเมืองที่นั่นรักษาธรรมเนียมปฏิบัตินี้มาเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาหลายศตวรรษ แต่ก็ยังไม่มีใครทราบได้ถึงที่มาของธรรมเนียมดังกล่าวว่าหมายความถึงสิ่งใด ขณะที่กฎหมายของโปรตุเกสจะอนุญาตให้ซื้อบุหรี่ได้ก็ต่อเมื่อบุคคลผู้นั้นมีอายุครบ 18 ปี ประเพณีดังกล่าวก็ยังคงส่งเสริมให้เด็กๆ สูบบุหรี่ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่อาจเข้ามาแทรกแซง เจ้าของร้านกาแฟ นามว่า Guilhermina Mateus ให้สัมภาษณ์กับ The Associated Press ว่า “ฉันไม่เห็นว่ามันจะอันตรายตรงไหน เด็กๆ ไม่ได้สูบเข้าไปจริงๆ เสียหน่อย แค่สูดเข้าไปและพ่นออกมาทันที อีกอย่าง มันก็แค่วันนี้กับพรุ่งนี้เท่านั้น หลังจากนั้น เด็กๆ ก็ไม่ได้สูบบุหรี่อีก” ผู้ปกครองของเด็กๆ…
-
เจ้าหน้าที่ตำรวซาอุฯ จับกุม ‘ผู้เกี่ยวข้อง’ ที่ไปร่วมงานแต่งงานคู่รักเกย์ ใครต้องสงสัยจับหมด!!
ในยุคปัจจุบันเรื่องของความหลากหลายทางเพศนั้นถือเป็นประเด็นที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกพื้นที่บนโลกจะให้การยอมรับ เพราะบางพื้นที่ก็มีแนวคิดและความเชื่อที่ปฏิเสธรักร่วมเพศอย่างสิ้นเชิง…. เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2018 ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการแต่งงานของคู่รักเกย์คู่หนึ่ง หลังจากการสืบข้อมูลพบว่างานแต่งงานเล็กๆ นี้ถูกจัดขึ้นที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในนครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย คลิปวิดีโอที่กลายเป็นประเด็น ในคลิปวิดีโอแสดงเหตุการณ์ขณะที่ชายสองคนเดินเคียงข้างกันไปตามพรมแดง ชายคนหนึ่งสวมผ้าคลุมของเจ้าสาวและมีเพื่อนชายคอยพ่นสเปรย์สายรุ้งเพิ่มความสวยงามให้ทางด้านหลัง หลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอนี้ออกไปก็ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวมุสลิมผู้ที่เคร่งครัดในศาสนามากๆ เพราะว่าการแต่งงานกับเพศเดียวกันนั้นถือว่าผิดกฏร้ายแรงของศาสนาอิสลาม ยิ่งไปกว่านั้นงานแต่งงานของคู่เกย์นี้ยังถูกจัดขึ้นในนครเมกกะ นครอันศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ของชาวมุสลิมอีกด้วย ชาวมุสลิมต่างโกรธแค้นและต่อว่าคู่รักเกย์ถึงการจัดงานแต่งงานอย่างรุนแรงว่าเป็นการกระทำที่เสื่อมทราม พวกเขาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาจัดการเรื่องนี้ และต้องการให้ลงโทษความผิดฐานรักร่วมเพศนี้ถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว “มีชายคนหนึ่งให้ข้อมูลว่าผู้คนที่เข้าร่วมงานต่างก็ตกใจหลังเห็นคู่บ่าวสาวเดินเข้ามาในงานพิธีและพบว่าทั้งคู่เป็นผู้ชาย แถมมีอีกคนสวมชุดเจ้าสาวอีกด้วย!!” เจ้าหน้าที่ตำรวจให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น ทางตำรวจได้ทำการสืบหาข้อมูลจากคลิปวิดีโอต้นทางที่อัพลงบนทวิตเตอร์ และประกาศว่า ผู้ใดที่เข้าร่วมและมีส่วนรู้เห็นกับงานแต่งงานในครั้งนี้ต้องถูกจับกุมทุกคนและจะถูกฟ้องร้องตามกฎหมายซาอุดิอาระเบีย เรื่องการรักร่วมเพศยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับในประเทศซาอุดิอาระเบีย ตั้งแต่ปี 2013 ที่ชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาในประเทศซาอุดิอาระเบียก็เริ่มมีการแสดงออกในการรักเพศเดียวกันเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเป็นที่คัดค้านสายตาของประชาชนชาวซาอุดิอาระเบียที่เคร่งครัดและยึดมั่นในศาสนา ที่มา dailymail
-
หญิงสาวเล่าประสบการณ์ ถูกชายแปลกหน้า ‘ลักพาตัวไปข่มขืน’ สุดท้ายก็รอดมาได้
เรื่องราวที่จะนำมาเสนอให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกันในวันนี้คือเรื่องราวอันแสนอัศจรรย์เกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งถูก ‘ลักพาตัวไป อีกทั้งยังโดนข่มขืน’ และยังไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีก แต่เธอกลับหนีรอดมาได้ด้วยไหวพริบของเธอที่เฉียบแหลม เรื่องราวนั้นจะเป็นอย่างไรเชิญไปรับชมกันได้เลยครับ เหตุการณ์มีอยู่ว่า… ในวันที่ 4 กันยายน 2017 เวลา 23.30 น. Jaila Gladden นักศึกษาของ มหาวิทยาลัยเวสต์จอร์เจีย ได้ออกไปข้างนอกบ้านเพื่อไปซื้อยาและชาที่ร้านขายของในเมือง คาร์โรลตัน รัฐจอร์เจีย ซึ่งอยู่ห่างจาก รัฐแอตแลนตา ราว 80 กิโลเมตร เมื่อเธอซื้อของเสร็จแล้ว ขณะเดินกลับไปยังรถของเธอ ปรากฏว่ามีชายแปลกหน้าเข้ามาขอยืมไฟแช็กจากเธอ ซึ่งเธอเองก็ตอบปฏิเสธและเดินต่อเพื่อจะขึ้นรถ จากนั้นเองเธอก็เห็นว่าชายคนดังกล่าวนำมีดมาจ่ออยู่ที่ช่วงท้องของเธอ พร้อมกับบังคับให้เธอขึ้นไปนั่งบนรถ เพื่อพาเขาไปแอตแลนตา ชายคนดังกล่าวขับรถของเธอเพื่อไปยังแอตแลนตา จนกระทั่งเขาจอดรถที่โบสถ์ร้างแห่งหนึ่ง และบอกให้เธอถอดเสื้อผ้าออก เธอเองก็พยายามอ้อนวอนแล้ว แต่เขากลับบอกว่า “จะร้องไห้ทำไมวะ” จากนั้นเขาก็ข่มขืนเธอในรถ เมื่อเสร็จกิจแล้ว เขาก็ออกเดินทางต่อ ลองชมคลิปต่อไปนี้ประกอบ วิธีที่เธอใช้เพื่อเอาตัวรอด… ชายหนุ่มบอกว่าเขาต้องการเงิน และวางแผนจะปล้นปั๊มน้ำมัน จากนั้นก็เดินทางไปยังรัฐมิชิแกน ในฐานะที่เธอเป็นชาวรัฐจอร์เจีย เธอจึงรู้ดีว่าส่วนใหญ่ปั๊มน้ำมันในแอตแลนตาจะต้องเก็บเงินไว้ในลูกกรงที่เอาไว้ป้องกันการขโมย Jaila กล่าวว่า “ตั้งแต่เขาพาฉันมา ฉันก็คอยดูตลอดว่าเขาจะขับไปไหน เขาไม่ละสายตาจากถนนเลยสักนิด” เมื่อเห็นอย่างนั้น เธอจึงบอกเขาว่าเธอไม่สามารถบอกทางไปปั๊มน้ำมันได้ จนกว่าเธอจะสามารถใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อดูแผนที่ได้ จากนั้นเมื่อเธอได้มือถือของเธอคืนมา เธอจึงลดแสงหน้าจอลงและแอบส่งพิกัดของเธอไปให้ Tamir Bryant แฟนหนุ่มของเธอ…
-
18 เรื่องราวถ้าหากว่าคุณเป็น ‘พี่คนโต’ ของบ้าน จะเข้าใจถึงมันได้เป็นอย่างดี…
สำหรับใครหลายคนที่เกิดมาเป็นลูกเพียงคนเดียวในครอบครัวนั้น น่าจะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่เป็นอย่างดี บางคนอาจจะโอ๋เอาใจ มีเงินให้ใช้เต็มจำนวน ได้ของขวัญที่เตรียมไว้ให้ลูกคนเดียวโดยเฉพาะ และเป็นหวานใจของคุณพ่อคุณแม่ แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งที่เกิดมาในครอบครัวที่มีพี่น้อง มันก็อาจจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นมากกว่าครอบครัวลูกคนเดียวก็ได้ เพราะพ่อแม่ต้องแบ่งความรักความใส่ใจให้ลูกแต่ละคน แถมบางทียังเกิดความขัดแย้งกันระหว่างพี่กับน้องด้วย กลายเป็นเรื่องวุ่นวายพอสมควร ในฐานะที่เราก็เป็นพี่ชายคนโตเหมือนกัน เราคิดว่าพี่คนโตน่าจะต้องเคยเจอกับเรื่องเหล่านี้เหมือนกันแน่ๆ 1. การเป็นพี่คนโตนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเมื่อน้องคุณเกิดมา ความรับผิดชอบของคำว่า “พี่” อันมากมาย ก็จะถาโถมมาใส่คุณทันที 2. ทุกครั้งเวลาที่เราทะเลาะกับน้อง พี่คนโตอย่างเราต้องเป็นฝ่ายผิดเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก็ตาม 3. ต้องดูแลน้องตลอดเวลา ราวกับเป็นพี่เลี้ยงส่วนตัว 4. เป็นความหวังของบ้าน ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้อง ต้องเรียนให้ได้เกรดดีๆ อยู่เสมอ หรือบางครั้งต้องส่งเสียดูแลน้องอีก จนบางครั้งก็กดดัน 5. การเสียสละถือเป็นหน้าที่หลัก ทุกอย่างที่คุณได้มา หากน้องอยากได้ คุณก็ต้องจำยอม 6. เวลาที่น้องมาขอให้ช่วยสอนการบ้าน เราจะรู้สึกองค์ลงคิดว่าตัวเองเป็นศาสตราจารย์ แล้วน้องก็จะชื่นชมจนคุณภูมิใจมากๆ 7. ยิ่งวันต่อมารู้ว่าการบ้านที่สอนให้น้องไปถูกหมดทุกข้อ น้องก็จะยิ่งชาบูชาบูเราราวกับเทพเจ้า 8. เวลาไปเที่ยวที่ไหน น้องๆ ที่แสนน่ารักก็จะขอติดตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเพื่อน หรือร้านเกม เหมือนกับคุณเป็นพี่เลี้ยงเด็กเลยล่ะ…
-
ช่างภาพเก็บภาพความงดงามของ ‘ฟองสบู่’ ตอนกลายเป็นน้ำแข็ง งดงามดุจดาวน้ำแข็งที่ส่องสกาว
ตอนเด็กๆ ในตอนเรียนวิทยาศาสตร์นั้น เพื่อนๆ หลายๆ คนคงเคยได้ทำการทดลองวิทยาศาสตร์ที่คุณครูจะให้สร้างลูกโป่งวิทยาศาสตร์ หรือฟองสบู่มาเป่าเล่นกันใช่มั้ยล่ะ ผู้เขียนว่าช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่สนุกเอามากๆ เลยล่ะ แล้วจะเป็นยังไงล่ะ ถ้าฟองสบู่นั้นถูกทำให้เกิดขึ้นช่วงอากาศเย็น โดยช่างภาพ Hope Carter นั้นได้ปิ๊งไอเดีย ที่จะถ่ายภาพฟองสบู่ ในช่วงอากาศเย็นมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน “ส่วนผสมแรกในการทำเรื่องแบบนี้คือการอดทนรอคอย” โดยที่ Hope ได้บอกว่า “สภาพอากาศนั้นเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะถ่ายภาพแบบนี้เลยล่ะ ฉันค้นพบว่าอุณภูมิข้างนอกควรจะอยู่ช่วง -10 ถึง -15 องศาเซลเซียส และห้ามมีลมเด็ดขาด จากนั้นก็เตรียมการเป่าฟองสบู่ออกมา และแสงที่สาดออกมาจะมีผลต่อการจับตัวเองเกล็ดน้ำแข็ง และถ่ายรูปมันทันทีในขณะที่เกล็ดน้ำแข็งเริ่มก่อตัวขึ้น” โอ้โห ช่างสวยงามเหลือเกิน . . . รูปนี้แอบคล้ายต้นคริสต์มาสเลย . . . . . . . . เกิดมาได้เห็นของสวยงามแบบนี้ เรานี่ช่างโชคดีจริงๆ ที่มา Sobadsogood
-
นักโบราณคดีค้นพบ “แหล่งล่าสัตว์” ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 500,000 ปี พร้อมกับอุปกรณ์หากินจากยุคนั้นเพียบ!!
การค้นพบสิ่งต่างๆ ในโลกของเรานั้นสามารถเป็นหลักฐานซึ่งบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง รวมไปถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตกาลที่มิได้มีผู้ใดจดบันทึกเอาไว้ อย่างเช่นที่ใน อิสราเอล มีการการค้นพบ ‘แหล่งล่าสัตว์’ ของเหล่าบรรพบุรุษของมนุษย์ที่น่าจะมีอายุราวๆ ครึ่งล้านปี เนื่องจากมีการขุดพบ “ขวานหิน” และเครื่องไม้เครื่องมืออื่นๆ นับพันชิ้น ในพื้นที่ก่อสร้างและบริเวณใกล้เคียง มีประกาศจากนักโบราณคดี ในวันที่ 7 มกราคม 2017 ว่าหลังจากที่มีการขุดลงไปในดินเพียง 5 เมตร ก็พบหลักฐานทางโบราณคดี ซึ่งก็คือเครื่องไม้เครื่องมือและขวานหินดังกล่าวที่สามารถสันนิษฐานได้ว่าพื้นที่บริเวณนั้นเคยเป็นดังสถานที่รวมตัวกันของเหล่านักล่าสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ราว 500,000 ปีก่อน สถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่ที่ Jaljulia ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเมือง คฟาร์ ซาบา ประเทศอิสราเอล อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับถนนสายหลักหมายเลข 6 ที่มีจำนวนรถที่สัญจรไปมามากที่สุดสายหนึ่งอีกด้วย ด้วยความที่ครั้งหนึ่งในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นแม่น้ำ ลำธาร ประกอบกับการขุดพบโครงกระดูกของสัตว์จำนวนมาก นักโบราณคดีจึงสันนิษฐานว่า สถานที่แห่งนี้ต้องเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ โฮโม อีเร็กตัส ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว “ที่นี่คือทำเลที่เยี่ยมยอดสำหรับมนุษย์” แรน บาร์ไค นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟกล่าว และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ฟลิ้นท์ที่ใช้ทำเครื่องมือไหลมากับแม่น้ำ มีแม่น้ำก็ต้องมีเหล่าสัตว์ ที่นี่มีทุกอย่างที่มนุษย์ยุคนั้นต้องการ” ทำให้นักโบราณคดีเกิดข้อสงสัยว่า มนุษย์ในยุคนั้นน่าจะกลับมาในพื้นที่บริเวณนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกตามฤดูกาล แรน จึงเสริมว่า…
-
ไขกระจ่างเรื่อง ‘แมวมองดาวโป๊’ ในประเทศญี่ปุ่นมีจริงหรือไม่ และมีวิธีการอย่างไรกันบ้างนะ??
หากกล่าวถึงประเทศญี่ปุ่น ใครหลายคนก็คงนึกถึงประเทศที่มีความเป็นระเบียบ มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมีอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทว่าก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นที่ขึ้นชื่อของประเทศนี้เช่นเดียวกัน นั่นก็คือ หนังผู้ใหญ่หรือที่เราเรียกกันว่า ‘หนังเอวี’ นั่นเอง สำหรับหนังเอวีที่ว่านี้ ก็คือภาพยนตร์ที่บันทึกการมีเพศสัมพันธ์หรือพฤติกรรมที่สื่อไปในเรื่องทางเพศ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่น หนังที่ว่านี้เป็นหนังที่ถูกกฎหมายและสามารถหาซื้อได้โดยทั่วไป และเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่สามารถสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศได้เป็นจำนวนหลายล้านเยนต่อปี สำหรับการหาดาราสาวมาถ่ายหนังเอวีนั้น บางครั้งเราก็อาจจะได้ยินเรื่องว่ามีแมวมองอยู่ในเมืองต่างๆ เพื่อคอยทาบทามสาวๆ หน้าใหม่ให้มาแสดงหนังอย่างว่า จึงทำให้ช่องแชนแนลยูทูบชื่อว่า Asian Boss ได้ลงไปพื้นที่จริงเพื่อหาคำตอบจากการสัมภาษณ์สาวๆ ว่ามีแมวมองเช่นนั้นจริงหรือไม่ และถ้าหากมีพวกเขามีวิธีทาบทามอย่างไรกันบ้าง และคนญี่ปุ่นมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้เช่นไร ในวันนี้พวกเขาได้มีคำตอบให้กับทุกคนได้รู้ถึงความจริงของสังคมญี่ปุ่นกันแล้ว พิธีกรที่ลงพื้นที่สัมภาษณ์ สังคมญี่ปุ่นมีแมวมองทาบทามสาวๆ ไปแสดงหนังเอวีจริงหรือไม่?? จากการสัมภาษณ์สาวๆ หลายคนในเมืองหลวงของประเทศอย่างโตเกียว พวกเธอก็ได้ให้คำตอบว่าในประเทศญี่ปุ่นนั้น มีแมวมองที่คอยหานักแสดงอย่างว่าจริง และพวกเธอก็เคยถูกทาบทามมาก่อนแล้วทั้งนั้น โดยพวกแมวมองเหล่านี้จะอาศัยอยู่ตามถนนที่มีผู้คนชุกชุม เพื่อจะได้พบปะกับสาวๆ จำนวนมากในแต่ละวันนั่นเอง พวกเขามีวิธีทาบทามอย่างไรกันบ้าง?? สาวๆ ที่ให้สัมภาษณ์ได้บอกเอาไว้ว่า จากการที่พวกเธอถูกทาบทามแทบจะทุกวัน ทำให้รู้ว่าแมวมองแต่ละคนก็จะมีวิธีชักจูงที่แตกต่างกัน อย่างแมวมองบางคนก็จะบอกว่าพวกเขาจะพาเข้าวงการนางแบบ และได้กล่าวอ้างถึงดาราสาวที่มีชื่อเสียงว่าล้วนอยู่ในสังกัดของพวกเขาทั้งนั้น และถ้าพวกเธอไปกับเขาก็จะมีชื่อเสียงที่โด่งดังเช่นเดียวกับเหล่าดาราได้แบบง่ายๆ หรือบางคนก็จะเดินเข้ามาหาสาวๆ แล้วชมถึงความน่ารักต่างๆ นานา จากนั้นพวกเขาก็จะชวนสาวๆ ไปกินกาแฟ โดยในระหว่างนั้นก็จะพยายามหว่านล้อมคำพูดต่างๆ เพื่อให้หญิงสาวเชื่อว่าพวกเขานั้นสามารถเชื่อถือได้ และในที่สุดพวกเขาก็จะชักชวนให้แสดงหนังอย่างว่า และในกรณีสุดท้ายที่เลวร้ายที่สุด ก็คือการหลอกลวง…
-
ชาวเน็ตถึงกับติดสตั๊นท์หลังเห็น ‘กางเกงยีนส์’ สุดล้ำ มีรอยขาดตรงที่ไม่เหมือนใคร เอ็งจะใส่มั้ย!?
ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเราเป็นคนตามแฟชั่นไม่ทัน เพราะมีแฟชั่นเกิดใหม่ทุกวัน และมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ บ้างก็ล้ำหลุดโลกซะจนไม่คิดว่าจะมีคนกล้าใส่ อย่างล่าสุดเว็บไซต์ขายเสื้อผ้าออนไลน์อย่าง Asos ได้ทำให้ผู้คนตื่นตาตื่นใจกับกางเกงยีนส์รุ่นใหม่ ล้ำชนิดที่แบบว่าไม่แนวจริงไม่กล้าใส่แน่นอน นี่คือ Chaps กางเกงยีนส์จากแบรนด์แฟชั่นของอังกฤษที่ชื่อ The Ragged Priest’s Black Label Chaps ราคาอยู่ที่ 3,800 บาท และกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายในทวิตเตอร์ หลังชาวเน็ตคนหนึ่งเลื่อนไปเจอขณะที่ท่องโลกออนไลน์ ลักษณะเด่นของกางเกงยีนส์ดังกล่าวนี้คือมันถูกตัดขาดตรงช่วงบริเวณขาหนีบทั้ง 2 ข้าง โดยมีห่วงโซ่คล้องส่วนขากับสะโพกไว้ เผยให้เห็นต้นขาอย่างชัดเจน ทางผู้ออกแบบกางเกงสุดล้ำนี้บอกว่าใครก็ตามที่สวมกางเกงยีนส์นี้มันจะทำให้คุณดูมีสไตล์ และจะยิ่งดูดีถ้าใส่กับเสื้อยืดและหมวก ด้วยสไตล์ที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้มันกลายเป็นแฟชั่นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก บางส่วนอยากซื้อมาใส่ แต่บางคนงงว่ามีคนยอมจ่ายเงินเกือบ 4,000 บาท เพื่อกางเกงตัวนี้ด้วยเหรอ? สำหรับคำว่า Chaps เป็นคำย่อของภาษาสเปน Chaparreras เดิมจะเป็นสำหรับผู้ชายที่ขี่ม้า โดยจะทำช่องว่างตรงเป้าเอาไว้ มันถูกใส่ครั้งแรกโดยคนขี่วัวในสเปนและเม็กซิโก เมื่อคุณเข้าไปใน Asos เพื่อหาซื้อกางเกงยีนส์สักตัวแล้วพบว่ามียีนส์ตัวนี้อยู่ด้วย ถ้าเป็นฉัน ฉันขอผ่านดีกว่า ฉันเป็นคนชอบยีนส์มากๆ แต่แบบนี้ไม่ไหวนะ…
-
ภรรยารั้งรถไฟไว้ไม่ให้ออก เพื่อรอสามีที่กำลังมา ทำเอาทั้งขบวนเดือดร้อนเพราะคนๆ เดียว
เรารู้กันอยู่แล้วว่าเครื่องบิน รถโดยสาร รถไฟ รวมทั้งการขนส่งสารธารณะอื่นๆ ต้องออกจากสถานีตามเวลาที่กำหนดและไม่มีข้อยกเว้นใดๆ สำหรับคนที่มาสาย ดังนั้นผู้โดยสารส่วนใหญ่จึงมักจะมารอก่อนเวลาเสมอ แต่ล่าสุดได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในสื่อโซเชียลของจีน เป็นเหตุการณ์ที่หญิงคนหนึ่งเข้าไปขัดขวางไม่ให้รถไฟฟ้าออกจากสถานี เพื่อให้รอสามีของเธอที่กำลังเดินทางมา วิดีโอดังกล่าวนี้ถูกถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีความยาว 4 นาที โดยมีหญิงคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตูทางเข้ารถไฟความเร็วสูงในสถานี Hefei Railway Station มณฑลอานฮุย พร้อมถือโทรศัพท์คุยกับสามี เมื่อเจ้าหน้าที่ของสถานีมาถึง เขาพยายามบอกผู้หญิงคนนั้นให้ขึ้นไปนั่งในที่ของตัวเอง หรือไม่ก็ออกไปจากตรงนี้เพราะถึงเวลาที่รถไฟต้องออกจากสถานีแล้ว แทนที่จะออกไปตามที่เจ้าหน้าที่บอก แต่เธอกลับบอกให้รอต่อไปอีกหน่อยจนกว่าสามีของเธอจะมาถึง โดยอ้างว่าเขาอยู่ที่ประตูแล้วและจะมาถึงที่นี่ในเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่พยายามอธิบายด้วยเหตุผลต่างๆ ให้เธอฟังว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ทั้งผลักเธอออกไป แต่ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี เธอยังเกาะราวประตูไว้แน่นเหมือนเดิม ในที่สุด เจ้าหน้าต้องออกแรงผลักมากขึ้นจนเธอล้มลงไปกับพื้น และแทนที่จะยอมแพ้ เธอกลับลุกขึ้นแล้วเอาเท้าไปพาดไว้ตรงประตู เพื่อไม่ไห้ประตูปิด ระหว่างนั้นผู้หญิงคนนี้ได้โต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ตลอด ขณะที่ผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่อยู่ในรถไฟได้ตะโกนใส่เธอว่าควรทำตามกฎและปล่อยให้รถไฟออกสักที ที่น่าสนใจคือ ตลอดเวลาที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายนี้มีเด็กหญิงในเสื้อสีชมพู เฝ้าดูแม่ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่โดยไม่สามารถทำอะไรได้ และแม่ของเธอก็ไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ด้วย ตอนท้ายของคลิป เจ้าหน้าที่ได้ดึงหญิงคนดังกล่าวออกมาได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้รถไฟที่มุ่งหน้าไปยังกวางโจวดีเลย์ไป 2-3 นาทีอยู่ดี ต่อมา สื่อจีนระบุว่าหญิงที่ก่อเหตุชื่อ Luo…
-
ช่างภาพตามเก็บภาพความงดงามของ ‘ชุมชนแออัด’ ในฮ่องกง เหมือนหลุดออกมาในฉากภาพยนตร์ไซไฟ
เมื่อพูดถึงชุมชนแออัด หลายคนอาจจะนึกถึงสภาพชุมชนที่เต็มไปด้วยความเสื่อมโทรม และมักจะเป็นที่มั่วสุมของพวกเล่นยาเสพติด จนกลายเป็นสถานที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากเฉียดเข้าไปใกล้ แต่ช่างภาพชาวโปรตุเกส Nuno Assis ได้นำเสนออีกมุมหนึ่งของชุมชนแออัด ที่ดูราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์ไซไฟจนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่สำหรับนักเดินทาง Assis ได้ตั้งชื่อภาพเซตนี้ว่า Memories of the Future ซึ่งเป็นภาพของชุมชนแออัดในฮ่องกง ที่นั่นเต็มไปด้วยอพาร์ทเมนต์ ตึกที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสลับซับซ้อนและสายไฟระโยงระยาง นอกจากความสับสนวุ่นวายที่เป็นเสน่ห์ของชุมชนแออัดแห่งนี้แล้ว อาคารที่ถูกสร้างด้วยทรงเรขาคณิตก็นับว่าเป็นประติมากรรมที่น่าสนใจไม่น้อยเลยเช่นกัน ช่างภาพหนุ่มบอกว่า “การเห็นเมืองผ่านภาพถ่ายจะทำให้ผู้คนเกิดจินตนาการที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น และนี่จะกลายเป็นแรงบันดาลใจของการเดินทางด้วย” สำหรับ Assis เขามักจะออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ พร้อมกับเพื่อนๆ เขาเป็นคนชอบเข้าสังคม และดูเหมือนฮ่องกงจะเป็นที่ที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ ถึงขั้นตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่นั่น เขาเขียนในอินสตาแกรมว่า “ผมได้ไปเที่ยวในวันหยุดเมื่อเร็วๆ นี้ และเลือกเมืองที่จะทำให้ผมได้เห็นผู้คนอยู่รอบๆ ความเป็นชุมชนคือแรงจูงใจที่เข็มแข็งสำหรับผม ซึ่งทำให้ผมไม่อยากท่องเที่ยวคนเดียว” สำหรับสถานที่ในฮ่องกงที่ Assis ชอบถ่ายรูปมากที่สุดคือ Hac Sa Wan (Areia Preta) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮ่องกง ภาพที่เห็นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากใครอยากติดตามผลงานเพิ่มเติมและการผจญภัยของ Assis สามารถเข้าไปดูได้ที่อินสตาแกรม Nunoassis . . . .…
-
เด็กชายเดินฝ่าหิมะท่ามกลางอุณหภูมิติดลบและระยะทางไกลกว่า 4.5 กม. เพื่อมาโรงเรียน
ท่ามกลางอากาศที่หนาวจับใจ เด็กชาย Wang Fuman นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียน Zhuanshanbao มลฑลยูนาน ประเทศจีน ต้องเดินจากบ้านเพื่อไปโรงเรียนซึ่งเป็นระยะทางกว่า 4.5 กิโลเมตร ยอมฝ่าความหนาวเหน็บจนอุณหภูมิติดลบเพราะไม่อยากทิ้งการเรียน ด้วยอุณหภูมิ – 9 องศาเซลเซียสประกอบกับลมและหิมะ ทำให้ผมของเด็กชายนั้นกลายเป็นน้ำแข็งขาวโพลนไปทั่วทั้งหัวเมื่อมาถึงโรงเรียน เพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียนก็หัวเราะเยาะเพราะหัวของเขาดูเหมือนกับคนแก่ และมีผู้ถ่ายภาพของเขาลงบนโลกออนไลน์จนกลายเป็นประเด็นโด่งดัง อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนบอกว่าเด็กชาย Wang นั้นเป็นเด็กนักเรียนที่นิสัยดี เรียนดีมาก แต่ว่ายากจน เขาเดินจากบ้านมาโรงเรียนกว่า 4.5 กิโลเมตรในทุกๆ วัน ไม่ว่าแดดจะออก ฝนจะตก หรือแม้แต่หิมะปกคลุมจนขาวโพลน เขาก็ยังตั้งใจที่จะมาเรียนไม่เคยขาดสักครั้ง ความเป็นอยู่ของเด็กชายไม่ค่อยดีนัก เขาเกิดในครอบครัวที่มีฐานะยากจน พ่อแม่ต้องเลิกรากัน และเขาต้องอาศัยอยู่กับย่าและพี่สาวในบ้านดินหลังเล็กๆ . แต่อย่างไรก็ตามเด็กชายก็ขยันและตั้งใจเรียนสุดๆ ในวันสอบปลายภาคที่เขาต้องยอมฝ่าหิมะเพื่อมาสอบ เขาสามารถทำคะแนนได้ดีถึงร้อยละ 99 ในวิชาคณิตศาสตร์ และยังเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนในชั้นเรียนอีกด้วย มือน้อยๆ ของเขาแตกระแหงไม่เหมือนกับมือของเด็กทั่วไปเพราะเขาต้องช่วยย่าทำนาตั้งแต่เด็ก…
-
หนุ่มนั่งเครื่องข้ามทวีปไปเจอแฟนสาวครั้งแรก พร้อมบันทึกความรู้สึกด้วยภาพการ์ตูนสุดโรแมนติก
เราเคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า “รักแท้แพ้ระยะทาง” แต่ในบางครั้งหากคนสองคนมีความรู้สึกต่อกันมากพอ แม้ทางจะไกลแค่ไหน รักก็ยังงอกงามได้ เหมือนกับ Simone “Simz” Ferriero ศิลปินชาวอิตาลีที่ตกหลุมรักหญิงสาวที่ไม่เคยเจอหน้ามาก่อน และตัดสินใจบินข้ามทวีปเพื่อไปหาเธอ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี ตลอดการเดินทางไปพบกับแฟนสาว Ferriero ได้บันทึกประสบการณ์ทุกช่วงเวลาด้วยภาพวาดการ์ตูน ซึ่งดูสวยงามและโรแมนติกยิ่งกว่าหนังรักซะอีก ศิลปินหนุ่มบอกว่า “ผมชอบวาดรูปตั้งแต่เด็ก ผมได้พัฒนาฝีมือตัวเองมาหลายปี กระทั่งอายุ 20 ปี ผมจึงตัดสินใจไปเรียนด้านนี้อย่างจริงจังที่สถาบันวิจิตรศิลป์” กำลังบินไปหานะ หลังจากสำเร็จการศึกษา ชายหนุ่มก็เริ่มรับทำงานศิลปะเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งร่วมงานกับบางบริษัทในฐานะนักออกแบบกราฟิก ก่อนที่จะผันตัวเองมาทำงานฟรีแลนซ์อย่างเต็มตัว และนี่คือเรื่องราวและประสบการณ์ผ่านภาพวาดของ Ferriero ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม ขณะที่อยู่ในประเทศแคนาดา ปีกเครื่องบิน เทือกเขาแอลป์ ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ในเยอรมนี สิ่งแรกที่เห็น จูบแรก ออกจากที่จอดรถในสนามบิน ถึงแล้ว คืนแรกของเรา …
-
คู่รักลดน้ำหนัก เปลี่ยนไปจนคนในครอบครัวกับเพื่อนแทบจะจำไม่ได้ว่าคนเดียวกันใช่ไหมเนี่ย!!
สำหรับคนที่มีน้ำหนักเยอะ การจะขยับเขยื้อนไปไหนแต่ละทีดูจะเป็นสิ่งที่ยากลำบาก อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้มากกว่าคนรูปร่างสมส่วนทั่วๆ ไป ใครหลายคนที่มีรูปร่างจ้ำม่ำจึงมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น และคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิม และคู่รักคู่นี้ก็เช่นเดียวกัน โดยพวกเขาได้ทำการลดน้ำหนักสลายไขมันให้ออกไปจากร่างกาย ชนิดที่ว่าทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ แทบจะจำกันไม่ได้เลยว่าเป็นคนเดียวกันจริงหรือเปล่าเนี่ย?? รูปร่างอวบอั๋นของคู่รักคู่นี้ และนี่คือเรื่องราวของ Ben และ Caroline Marshall ผู้เป็นพ่อและแม่ของเด็กๆ ที่น่ารักชื่อว่า Imogen และ Jacob โดยสำหรับลูกๆ ของพวกเขานั้น ทั้งคู่มัักจะเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้รับประทานเสมอ แต่กับตัวของพวกเขาเองกลับ ชอบกินขนมขบเคี้ยวชนิดที่ว่าต้องกินแทบจะทุกคืนเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็แน่นอนว่ารูปร่างของพวกเขาก็ต้องเป็นไปตามพฤติกรรมการกิน แต่อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็เกิดความคิดอยากลดน้ำหนักขึ้นมา เพราะกลัวว่าจะเป็นโรคมะเร็งในอนาคตและไม่สามารถอยู่ดูแลลูกๆ ได้ ติดขนมขบเคี้ยวจนทำให้ร่างกายเริ่มแย่ พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมโปรแกรมการลดน้ำหนักที่ชื่อว่า Cambridge Weight Plan ซึ่งเป็นโปรแกรมลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในผู้หญิงและผู้ชายชาวอังกฤษ “ฉันได้เริ่มตระหนักว่าสุขภาพของฉันกำลังเริ่มเสื่อมโทรมลง ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำหนักตัวของฉัน ฉันจึงอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง นอกจากเพื่อสุขภาพที่ดีแล้วยังจะสามารถเป็นแบบอย่างให้กับเด็กๆ ได้อีกด้วย” “สำหรับ Ben สามีฉัน เขากลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคมะเร็ง เมื่อเขาพบก้อนเนื้อขึ้นมาบนใบหน้าของเขา ต้องขอขอบคุณก้อนเนื้อก้อนนั้นทำให้เขาได้รู้ความเป็นจริงที่ว่า น้ำหนักตัวของเขาในตอนนั้นมันมีมากเกินไป และร่างกายของเขาได้เริ่มหมดกำลังต่อสู้กับมันแล้ว อีกทั้งด้วยความที่เขาอยากจะมีชีวิตที่ยืนยาวเพื่ออยู่กับลูกๆ เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมโปรแกรมที่ว่านี้ร่วมกับฉัน” Caroline กล่าว ผอมเพรียวลมราวกับคนละคนเลย หลังจากทั้งคู่ได้เข้าร่วมโปรแกรมลดน้ำหนักอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ก็ปรากฏว่าน้ำหนักของทั้งคู่ลดลงอย่างรวดเร็ว และรูปร่างของทั้งคู่เปลี่ยนไปจนแทบจะจำกันไม่ได้เลยทีเดียว และเธอก็ได้ให้ออกมาสัมภาษณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวของเธอกับสามี…
-
นักข่าวโดนแก๊งตัวลีเมอร์รุมทึ้ง จนแทบเอาชีวิตไม่รอด โอ้วม่ายยย มันน่ากลัวจริงๆ นะเนี่ย
หนึ่งในงานที่ยากที่สุดสำหรับผู้สื่อข่าวภาคสนามก็คือ ‘การลงพื้นที่’ ซึ่งในแต่ละวันก็จะมีความแตกต่างกันออกไปและไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ วันดีคืนดีพวกเขาอาจจะไปนั่งจับเข่าคุยกับเหล่าดารา หรืออาจจะต้องไปทำข่าวภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศ รวมถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมายมาให้เก็บข้อมูล บนโลกนี้อาจจะมีนักข่าวหลายคนที่เคยทำข่าวที่สวนสัตว์ ซึ่งฟังดูแล้วมันก็น่าจะสนุกดีเพราะว่าเราอาจจะได้สัมผัสกับสัตว์ตัวเป็นๆ อย่างใกล้ชิด แต่สำหรับผู้สื่อข่าวคนนี้น่าจะเข็ดกับสวนสัตว์ไปอีกนาน เพราะว่าระหว่างที่เขาทำข่าวอยู่นั้น ก็ได้ถูกฝูงลีเมอร์ตัวน้อยเข้าโจมตี ชนิดที่เรียกได้ว่าโดนรุมทึ้งเลยก็ว่าได้ มาทำอะไรกันแถวนี้เนี้ยย โดยเรื่องราวนี้ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา เมื่อนักข่าวของสำนักข่าว BBC ชื่อว่า Alex Dunlop ได้รับมอบหมายให้ไปทำข่าวที่สวนสัตว์ Banham ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศอังกฤษ เพื่อทำข่าวการนับจำนวนสัตว์ในสวนสัตว์แห่งนี้ ว่ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ทว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น ไปเรียกกำลังเสริมมาช่วยผมด้วยนะ เพราะว่าระหว่างที่เขากำลังทำข่าวอยุ่นั้น ก็ถูกฝูงลีเมอร์จำนวนหนึ่งเข้าก่อกวน ทั้งกระโดดใส่และปีนป่ายไปมาอยู่บนตัวของชายคนนี้ ราวกับว่าพวกมันได้พบกันของเล่นชิ้นใหม่ ซึ่งทำให้การทำข่าวของเขาคนนี้ค่อนข้างจะเป็นไปด้วยความทุลักทุเล ชนิดที่เรียกได้ว่าหืดขึ้นคอเลยก็ว่าได้ โอ๊ย ไม่มีที่ให้เล่นกันแล้วหรือไง “ตอนนี้ผมได้มาอยู่ที่…โอ๊ย โอ๊ย!! เจ้าตัวน้อยนี่มันกัดฉัน” Dunlop ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดขณะที่ถูกตัวลีเมอร์ กัดเข้าที่มือของเขาตอนที่กำลังรายงานข่าว และนั่นก็ทำให้เขาต้องเริ่มใหม่อีกหลายเทคกว่าที่งานจะสำเร็จลุล่วงตามที่ต้องการ ทีมงานของเราขณะไปเยี่ยมที่สวนสัตว์แห่งนี้ ปล. ไม่มีตัวลีเมอร์ได้รับบาดเจ็บนะจ๊ะ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นแม้ว่าจะสร้างความปั่นป่วนให้กับงานของเขา แต่ Dunlop ก็บอกว่ามันเป็นเรื่องที่สนุกมากๆ…
-
เจ้าเหมียวกำลังจะตาบอด ใครๆ ต่างก็คิดว่า ‘มันไม่รอดแน่ๆ’ แต่หญิงคนหนึ่งไม่ยอมตัดใจ จนมันหายดี!!
การเก็บแมวจรจัดมาดูแล ต้องเผื่อใจไว้ส่วนหนึ่งว่ามันอาจจะมีสุขภาพไม่ดี หรือมีโรคร้ายแรงติดตัวมาด้วย ซึ่งถึงจะพาไปหาสัตวแพทย์แล้ว บางทีสัตวแพทย์เองยังถอดใจยอมแพ้เลย แต่ถ้าคุณมีความรักและมุ่งมั่นที่จะช่วยมันมากพอ บางทีอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นก็ได้ Kimmie Seely เป็นสาวนักธุรกิจ เธอเป็นเจ้าของร้านตัดผม Kalon Hair Lab ในเมืองมิชาวากา รัฐอิเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่อีกมุมหนึ่งเธอก็เป็นผู้ช่วยเหลือแมวที่เป็นที่รู้จักกันดี ที่บ้านของเธอนั้นมีห้องที่ทำไว้สำหรับดูแลแมวโดยเฉพาะ มีครบพร้อมทั้งของเล่น แผ่นทำความร้อน และขวดนมป้อนอาหารลูกแมวเลยทีเดียว เหมียวน้อยตาบอด Lenus อยู่มาวันหนึ่ง มีคนแท็กเธอในโพสต์เฟสบุ๊ก ทำให้เธอรู้ว่ามีลูกแมวจรจัดตัวหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ และแม้ว่าตอนนั้นจะดึกมากแล้ว เธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะขับรถออกไปช่วยมันทันที พอไปถึงตรงจุดที่ลูกแมวอยู่ เธอก็พบว่ามันนอนร่อแร่เหมือนจะหมดลมหายใจแล้ว เธอเล่าว่า “มันอยู่ตรงมุมหนึ่งของสวน … ตอนฉันเจอ คิดว่ามันตายไปแล้วซะอีก” จากนั้นเธอจึงนำมันกลับไปที่บ้านเพื่ออาบน้ำและกำจัดเห็บหมัดกว่า 40 ตัวทิ้งไป เธอตั้งชื่อเจ้าแมวว่า Lenus มันลืมตาไม่ขึ้น และก็ไม่มีแรงจะขยับด้วย เธอเฝ้าดูมันทั้งคืนและจะพามันไปหาสัตวแพทย์ในตอนเช้า ขยับไม่ไหวแล้ว เมื่อเธอนำมันไปหาสัตวแพทย์ พวกเขาก็พบว่าเจ้าแมวมีปรสิตที่ชื่อว่า cuterebra ซึ่งเป็นปรสิตจากแมลงวันฝังอยู่ที่หน้าอกของมัน และเจ้าแมวก็ดูอ่อนแรงเกินกว่าจะสู้กับปรสิตตัวนี้ไหวด้วย นอกจากนี้ตาของมันก็ดูเหมือนจะมืดบอด…
-
ผลวิจัยพิสูจน์ให้เห็นว่าโดยทางชีวภาพแล้ว ‘ผู้หญิง’ มีความแข็งแรงกว่าผู้ชาย!?
แม้ว่าตั้งแต่อดีตกาล เราจะได้ยินมาเสมอว่าผู้ชายนั้นมีร่างกายกำยำ จึงมีพละกำลังมากกว่าผู้หญิง ดังนั้นหากมีงานที่ต้องลงมือลงแรงอย่างเช่น ยกของ ตัดไม้ หรือแม้แต่ต่อสู้ เราก็จะเข้าใจว่าผู้ชายมักจะทำได้ดีกว่าผู้หญิง แต่ในวันนี้ มีผลวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาออกมาแล้วว่าผู้หญิงมีความแข็งแกร่งทางชีวภาพมากกว่าผู้ชาย และมีแนวโน้มว่าจะเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์เลวร้ายได้มากกว่าผู้ชายด้วย ผลวิจัยนี้เผยแพร่มาจาก Proceedings of the National Academy of Scientists (PNAS) ซึ่งเป็นวารสารชื่อดังเกี่ยวกับงานจิวัยทางวิทยาศาสตร์ โดยนักวิจัยศึกษาข้อมูลจากการเปรียบเทียบอัตราการตายระหว่างผู้ชายและผู้หญิง เมื่อต้องต่อสู้กับความอดอยาก โรคระบาด และการเป็นทาส จากข้อมูลพบว่า นอกจากข้อมูลของทาสในศตวรรษที่ 19 และการปลดปล่อยทาสชาวลิไบเรีย ในสาธารณรัฐตรินิแดดซึ่งเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันแล้ว ข้อมูลที่เหลือทั้งหมดระบุว่าผู้หญิงมีอัตราการอยู่รอดมากกว่าผู้ชายทั้งสิ้น โดยในกลุ่มทาสระหว่างปี 1813 ถึง 1816 อายุคาดเฉลี่ยของทาสชาย หรือก็คือตัวเลขอายุที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงนั้นอยู่ที่ 15.18 ปี ส่วนอายุคาดเฉลี่ยของทาสผู้หญิงเท่ากับ 13.21 ปี ซึ่งต่ำกว่าของผู้ชาย และในส่วนของการปลอดปล่อยทาสชาวไลบีเรีย อายุคาดเฉลี่ยของคนในช่วงอายุ 35 ถึง 49 ปี ก็พบว่าผู้ชายมีอายุคาดเฉลี่ยสูงกว่าผู้หญิงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงอายุอื่นๆ ของกลุ่มตัวอย่างนี้ ผู้หญิงมีค่าอายุคาดเฉลี่ยสูงกว่าผู้ชายหมดเลย…
-
เพราะเมียใกล้คลอด ทหารหนุ่มเลยนั่งเครื่องบินกว่า 10 เที่ยวใน 2 วัน เพื่อกลับบ้านไปเจอหน้าลูก
ไม่ว่าพ่อแม่คนไหน ก็ให้ความสำคัญกับลูกเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าเกิดเป็นลูกน้อยคนแรกที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้ว ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ แม้จะต้องเดินทางข้ามโลกมาหาลูกก็ตาม นาย Francois Clerfe ทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกา ก็กำลังจะมีลูกสาวคนแรก แม้ว่าเขาจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ประเทศอิรักก็ตาม แต่เขาก็ยินดีที่จะต้องนั่งเครื่องบินข้ามฟ้า มารอเจอหน้าลูกตอนเธอเกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา Francois Clerfe ในหน่วยที่ Clerfe ประจำอยู่ มีนโยบายพิเศษให้ทหารกลับไปยังบ้านเกิด เพื่อไปหาภรรยาตอนเธอคลอดได้ พวกทหารจะได้ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาชาติในฐานะทหาร หรือการดูแลครอบครัวในฐานะพ่อด้วย แต่ถึงจะได้รับอนุญาติให้กลับไปรอเจอหน้าลูกที่กำลังจะเกิดได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะกลับไปหาภรรยาและลูก เพราะจากประเทศอิรักไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องนั่งเครื่องบินถึง 7 เครื่อง นับดูแล้วต่อเที่ยวบินถึง 10 ครั้งด้วยกัน แต่คุณพ่อก็ไม่ได้ย่อท้อแต่อย่างใด เขานั่งเครื่องบินเครื่องแล้วเครื่องเล่า รวมแล้วใช้เวลายาวนานกว่า 2 วันกว่าเขาจะมาถึงประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ทหารหนุ่มและครอบครัว ทหารหนุ่มเล่าว่า “ผมต้องเดินทางยาวนานมาก จากคูเวตไปยังตุรกี จากตุรกีไปยังแฟรงค์เฟิร์ต จากแฟรงค์เฟิร์ตไปยังบัลติมอร์ และจากบัลติมอร์ไปยังแอตแลนตา” เขาต้องรีบเดินทางแข่งกับเวลาเพื่อไปให้ทันเวลาที่ภรรยาจะคลอด ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากเลย เขาบอกว่า “ตอนเดินทางน่ะทั้งสนุกและก็ตื่นเต้นไปพร้อมๆ กันเลย” ส่วนภรรยาของเขา Svistunova Clerfe…
-
บริษัทขนมหวานสวิตฯ ผลิตช็อกโกแลตสูตรพิเศษ ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
สาวๆ อาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว หากวันนั้นของเดือนมาถึง บางคนก็รู้สึกอึกอัด บางคนก็ต้องทรมานจากการปวดท้อง แต่ปัญหาเหล่านั้นจะสามารถบรรเทาลงได้ หากคุณได้ลองรับประทานช็อกโกแลตชนิดพิเศษ ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยลดการปวดประจำเดือนโดยเฉพาะ สำหรับช็อกโกแลตดังกล่าวเป็นสูตรพิเศษที่ชื่อว่า “Frauenmond” ถูกผลิตขึ้นมาโดยบริษัท Marc Widmer จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีคุณสมบัติสุดพิเศษนั่นก็คือ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน และช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นนั่นเอง และที่สำคัญสาวๆ ยังไม่ต้องกังวลว่ามันจะเป็นอันตรายหรือเปล่า เพราะทางด้าน Widmer เชฟขนมหวานชื่อดังได้เผยว่า ช็อกโกแลตสูตรนี้ มีส่วนผสมของโกโกถึง 60% รวมถึงสมุนไพรอีกกว่า 17 ชนิดเลยละ ดังนั้น ปลอดภัยหายห่วงแน่นอนจ้า สามปีที่ผ่านมาหลังจากที่เชพ Widmer ได้พบกับครอบครัวผู้ผลิตชาจาก Grafenort และได้พูดคุยกันถึงเรื่องการนำสมุนไพร 17 ชนิด มาใช้ชงเป็นชาที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดประจำเดือน จากนั้นเขาก็ได้ปิ๊งไอเดียโดยการปรับสูตรชาไปใช้กับช็อกโกแลต จนเกิดเป็น Frauenmond ยังไงละ นอกจากนี้ Widmer ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า “เราต้องการที่ทำให้วันที่ผู้หญิงมีประจำเดือนรู้สึกสบายตัวมากขึ้น…แน่นอนว่าผู้ชายก็สามารถกินได้ ตัวผมเองก็เคยกินมาแล้ว” “ช็อกโกแลต Frauenmond เป็นช็อกโกแลตเพื่อสุขภาพ…
-
ชายหนุ่มพลัดหลงกับหมา นานกว่า 10 ปี บังเอิญได้พบกันอีกครั้ง แล้วมันยังจำเขาได้!!
สุนัขคือเพืื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์และมีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดหรือเวลาผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ไม่เคยคิดจะทิ้งเจ้าของมันไปเลย เช่นเดียวกับเจ้าหมาปุ๊กกี้ ที่พลัดหลงกับเจ้าของเป็นเวลาหลายปีจนกลายเป็นสุนัขจรจัดที่ผอมโซ แต่มันก็ยังคงจำหน้าเจ้าของได้อย่างแม่นยำ นี่เป็นเรื่องราวที่คุณ หนึ่ง วัณภูมิ โพสต์ในเฟซบุ๊กของเขา โดยระบุว่าน้องหมาปุ๊กกี้ได้หายไปและไม่ได้เจอกันมาเกือบ 10 ปี จนเขาคิดว่ามันตายไปแล้ว กระทั่งวันที่ 8 มกราคมของปี 2018 คุณหนึ่ง วัณภูมิ ได้มีโอกาสกลับไปย่านที่เคยพัก (สายไหม) อีกครั้ง และได้พบกับสุนัขจรจัดตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างถนน ด้วยความสงสัยว่ามันจะใช้เจ้าปุ๊กกี้ที่หายตัวไปหรือเปล่า ชายหนุ่มเลยลองเรียกชื่อ “ปุ๊กกี้” ขึ้นมา ปรากฏว่าน้องหมาตัวนั้นค่อยๆ ชะโงกหน้าขึ้นมาดู ก่อนจะเดินมาหาคุณหนึ่ง วัณภูมิ ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่านี่คือสุนัขของเขา มันคือเจ้าปุ๊กกี้ที่เขาไม่ได้เจอมาเกือบ 10 ปี วินาทีนั้นเขาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจสุดขีด และต้องขอบคุณเจ้าปุ๊กกี้เช่นกันที่แม้เวลาผ่านไปมันก็ยังจำเจ้าของได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญมันไม่ยอมไปไหน แต่กลับรอเจ้าของอยู่ที่เดิมทุกวัน หลังจากนั้นคุณหนึ่ง วัณภูมิและคุณแม่ก็ได้พาเจ้าปุ๊กกี้ไปรักษาตัวที่คลีนิค และให้สัญญาว่านับจากนี้เขาจะดูและมันจนกว่าจะหมดลมหายใจ ที่มา หนึ่ง วัณภูมิ
-
เตรียมพบ “เซ็กส์ดอลล์ผู้ชาย” มาพร้อมจู๋ชีวภาพ ที่บอกว่าทำให้คุณเจอความสุขแท้จริง!?
ในอนาคต สาวๆ คงไม่ต้องเหงาอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าความฝันของพวกเธอใกล้จะเป็นจริง ลองนึกภาพดูสิว่าจะเป็นยังไง ถ้าเซ็กส์ดอลล์มีเวอร์ชันผู้ชาย ที่สามารถสั่งการได้แบบที่เราต้องการ แถมยังมีจู๋อิเล็กทรอนิกส์ที่สั่นได้อีกด้วย หลังจากที่บริษัท Realbotix สำรวจความพึงพอใจจากหุ่นเวอร์ชันผู้หญิงได้ผลิตออกมาเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้มีการสร้างเวอร์ชันผู้ชายขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของสาวๆ โดยมาพร้อมกับระบบ AI ชื่อ Harmony ที่สร้างโดย Matt McMullen ผู้ก่อตั้งนั่นเอง โดยระบบ AI Harmony ในหัวหุ่นยนต์นั้นจะปรับตั้งค่าให้เข้ากับผู้ใช้งานได้ตามรูปแบบที่ชอบ และยังสามารถพูด เรียนรู้ และตอบสนองความต้องการทางเพศของผู้ใช้งานได้ตามจินตนาการ ในปัจจุบันนี้หุ่นที่มี AI Harmony ยังมีแค่เวอร์ชันผู้หญิง และมีราคาประมาณ £11,000 หรือราวๆ 480,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่ง Matt ก็ได้มีความคิดเห็นว่าผู้หญิงก็มีความต้องการเหมือนกัน จึงได้มีการวางแผนที่จะทำเวอร์ชันผู้ชายออกมา . บริษัทของ Matt ที่ตั้งอยู่ในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เปิดเผยว่า พวกเขาได้ออกแบบหุ่นยนต์เวอร์ชันผู้ชายที่มาพร้อมกับจู๋อิเล็กทรอนิกส์แล้ว โดยในอนาคตจะมีทั้งเวอร์ชันผู้หญิงและผู้ชายให้ได้ใช้งานทั่วกันทุกขนาด ทุกไซส์ โดย Matt ผู้ก่อตั้งได้กล่าวว่า “สาวๆ จะเห็นหุ่นยนต์ของเขานั้น…
-
ค้างคาวนับพันตัวตกลงมาตายจากท้องฟ้าในออสเตรเลีย หลังจากประสบกับอากาศร้อนเกินไป
ไอความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงทะลุสถิติได้แผ่กระจายไปทั้งเมืองซิดนีย์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตค้างคาวนับพันตัว เนื่องจากอากาศร้อนจนเกินไป หลายตัวได้ตกลงมาบนพื้น และหลายตัวยังคงค้างอยู่บนต้นไม้ ภาพอันน่าหดหู่ของกองศพค้างคาวนั้นถูกแชร์ไปยังโลกออนไลน์โดยกลุ่มอาสา Wires and Help Save the Wildlife and Bushlands ที่พยายามช่วยชีวิตสัตว์ให้เยอะที่สุดอย่างสุดความสามารถ จากการที่พื้นที่ส่วนนั้นกลายเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดบนโลก ทีมช่วยเหลือจาก North Western Sydney Wires ก็ได้ทำงานกันอย่างไม่หยุดหย่อน ร่วมกับอาสาสมัครจาก Sydney Wildlife แต่โชคร้าย แม้ว่าทีมช่วยเหลือจะพยายามกันอย่างสุดความสามารถ ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเหล่าค้างคาวได้ทันเวลา โพสต์ในเฟซบุ๊กของ Wires กล่าวว่า “ภาวะความเครียดของสัตว์จากความร้อนนั้นได้คร่าชีวิตค้างคาวแม่ไก่ไปหลายร้อยตัวที่ Campbelltown ในช่วงกลางวันของเมื่อวาน และแคมป์ที่สวน Parramatta ก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน” โดยสรุปแล้ว การเสียชีวิตจำนวนนับร้อยของค้างคาว ทำให้เป็นวันที่ยากเย็นและน่าหดหู่สำหรับทีมช่วยเหลือ ซึ่งพวกเขาก็ต้องทนทรมานจากความร้อนที่มีอุณภูมิสูงถึง 45 องศาด้วยเช่นกัน การกระทำโดยไม่หวังผลตอบแทนของเหล่าจิตอาสานี้ก็ได้รับการยกย่องจากกลุ่มคนรักสัตว์ในช่องคอมเมนต์มากมาย เช่น “มันน่าใจสบายมากๆ ขอบคุณทุกๆ คนที่อุตสาห์ทนร้อนออกไปช่วยสัตว์เหล่านั้น” “ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือและต้องเผชิญกับสถานการณ์อันเลวร้ายของเหล่าค้างคาวที่สวยงาม” การที่อุณภูมิสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อชีวิตมากมายขนาดนี้ อย่าลืมอนุรักษ์ธรรมชาติกันด้วยนะ ที่มา Dailymail
-
คุณพ่อตั้งใจถ่ายภาพตลกโปกฮาของตัวเอง กับเหตุผลซึ้งๆ เพื่อลูกสาว น่าอบอุ่นใจยิ่งนัก…
มีคุณพ่อคนหนึ่งชื่อว่า John Wolfe เขาได้กลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน หลังจากที่ Mallory ลูกสาวของเขาได้โพสต์รูปของเขาที่กำลังทำตัวตลกๆ ลงในเว็บไซต์ Reddit ก่อนที่ภาพของเขาจะกลายเป็นกระแสโด่งดังไปอย่างรวดเร็ว กระทู้ที่ Mallory ตั้งขึ้นเกี่ยวกับพ่อของเธอในเว็บ Reddit กว่าร้อยความคิดเห็นเรียกสิ่งที่เขาทำว่า สุดยอด พร้อมเพิ่มแฮชแท็ก #dadgoals แถมพวกเขายังถาม Mallory ว่าช่วยโพสต์รูปพ่อของเธอตอนกำลังทำอะไรๆ ตลกอีกได้มั้ย Wolfe กล่าวว่า “ผมแค่รักที่จะสร้างความบันเทิงให้ตัวเองและคนอื่นๆ ผมทำแบบนี้ที่บ้านทุกวันแหละ” Mallory ได้บอกว่าพ่อของเขาไม่ได้แสดงถึงด้านตลกขบขนแบบนี้มาตลอดจนถึงจนปี 2013 หลังจากที่เขาเลิกเหล้าได้ “เขาเริ่มทำเรื่องตลกพวกนี้หลังจากที่เขาเลิกเหล้าได้ เขารักษาตัวจากการติดแอลกอฮอล์ จากนั้นเขาก็การที่เขาทำตัวตลกแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติของเขาไปเลย” Wolfe เคยเป็นคนเขียนคำสุนทรพจน์เกี่ยวกับการเมืองได้กล่าวว่าเมื่อก่อนนั้นเขาแทบจะดื่มเหล้าตลอดเวลา 25 ปี และเขามีลูก 2 คนหลังจากเขาแต่งงาน แต่สุดท้ายก็จบด้วยการหย่าร้างในปี 2005 “ลูกของผมได้เห็นผลกระทบของการที่ผมดื่มเหล้า ก่อนที่ผมจะได้รับการบำบัด มันแย่มากเลยล่ะ ผมต้องเข้าห้อง ICU ที่โรงพยาบาล ผมนั้นเกือบจะตายแล้ว ลูกๆ ของผมคงรู้สึกเจ็บปวด ที่เห็นพ่อของเขาเกือบตาย” …
-
น้องแกะกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ถูกเลี้ยงแบบผิดๆ จนเสพติดบุหรี่เคี้ยวแทนหญ้า!?
ปกติเราจะเห็นแต่คนติดบุหรี่กันใช่มั้ยครับ แต่คราวนี้มาแปลก เรื่องของเรื่องคือมีเจ้าแกะตัวหนึ่งมันมีอาการติดสารนิโคตินเป็นอย่างมาก และโปรดปรานที่จะกินบุหรี่ โดยเจ้าแกะตัวนี้อาศัยอยู่กับเจ้าของมันที่เมือง Mandya รัฐ Karnataka ประเทศอินเดีย ซึ่งจะพบเจอได้บ่อยๆ นอกร้านชาและตลาด และมันก็หวังที่จะได้บุหรี่จากคนที่ผ่านไปมา โดยเจ้าสัตว์ตัวนี้รักสารนิโคตินเอามากๆ พอที่ทำให้มันเลือกเคี้ยวบุหรี่แทนที่จะกินหญ้าหรือผักอื่นๆ เหมือนแกะทั่วไป Yashwant ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของแกะตัวนี้กล่าวว่าเจ้าแกะตัวนี้มันเริ่มติดบุหรี่มาจากการที่มันได้ไปเจอและลองกินก้นบุหรี่เข้าให้ “มันเริ่มติดบุหรี่จากที่มันไปเลียซองยาสูบที่เขาทิ้งเอาไว้ และมันก็เริ่มติดมากขึ้น จนตอนนี้กลายเป็นว่ามันกินบุหรี่เป็นอาหารหลักซะแล้ว” “ถ้าสัตว์มันป่วย เราจะให้บุหรี่กับมันเป็นจำนวนมาก” ชาวนาในพื้นที่บอกว่าใช้ยาสูบเพื่อขจัดพยาธิและหนอนในสัตว์ แต่นักวิจัยพบว่าทำแบบนั้นมันจะเกิดอันตรายทั้งคนและสัตว์ และยังบอกต่อว่าการบริโภคนิโคตินอาจทำให้สัตว์น้ำลายฟูมปาก ตัวร้อน ตัวสั่น อาเจียน ร่างกายอ่อนแอ ชัก ระบบหายใจล้มเหลวและตายได้ ที่มา Dairymail, Youtube
-
ภาพอันแปลกตาของ ‘ทะเลทรายซาฮารา’ ที่ถูก ‘หิมะ’ ปกคลุมเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 40 ปี
การที่เห็นหิมะในขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้จะเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย ถ้าเพื่อนๆ ได้มาเห็นเจ้าหิมะที่ปกคลุมอยู่ในที่ที่ไม่ควรจะมีหิมะอย่างทะเลทราย ย้ำ.. ทะเลทรายจริงๆ โดยที่ทะเลทรายที่ถูกหิมะคลุมนี่ก็คือทะเลทรายซาฮาราในประเทศแอลจีเรียนั่นเอง นี่เป็นครั้งที่สามในรอบ 40 ปีที่เมืองใน Ain Sefra ประเทศแอลจีเรียมีหิมะปกคลุมอยู่ทั่วทั้งทะเลทราย โดยที่หิมะเริ่มตกในตอนเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ และก็ปกคลุมทั่วทะเลทรายอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ในเมืองมีหิมะสูงเพียงนิ้วหรือสองนิ้ว แต่กลับกันแถวเนินทรายนอกตัวเมืองถูกคลุมด้วยหิมะที่สูงถึง 16 นิ้ว โดยก่อนหน้านี้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อนในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2017 ที่เมืองมีหิมะตกเหมือนครั้งนี้ ส่วนครั้งแรกที่มีเหตุการณ์หิมะตกก็คือวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1979 โดยในครั้งนั้นมีหิมะตกอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ดูหิมะพวกนี้สิ ใครจะไปคิดว่าใต้หิมะพวกนี้จะเป็นทราย . . . . ลองมาดูเป็นแบบวิดีโอกันดีกว่า ที่มา Dairymail
-
หญิงสาวถ่ายรูปวันปีใหม่แบบเดิมทุกปี ติดต่อกันเป็น 10 ปี ไหงเลขปีเพิ่มแต่หน้าไม่แก่เลย…
เพื่อนๆ จะต้องมีเพื่อนในกลุ่มหรือคนรู้จักบางคนที่ไม่ยอมเปลี่ยนไปเลย แม้อายุจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่หน้าตาพวกเค้านี่ยังเหมือนเดิมเป๊ะๆ ละลองมาดูตัวเรา บางทีก็แอบอิจฉาพวกเค้านะ ข่าววันนี้เป็นเรื่องของ Meredith Stepien นักแสดงและดาราตลกสาวจากชิคาโก เธอนั้นได้ทำการถ่ายภาพของตัวเธอเองในช่วงเทศกาลปีใหม่ทุกปีเป็นเวลาหนึ่งทศวรรษ แต่ละภาพเธอก็จะทำผมของเธอให้เป็นตัวเลขของปีใหม่ที่กำลังมาถึงนั่นเอง อะไรที่เป็นเคล็ดลับความเยาว์วัยของเธอกันนะ เพื่อนๆ ก็อยากเห็นว่าเธอจะเปลี่ยนไปหรือไม่ในระยะเวลา 10 ปีใช่มั้ยล่ะ เราตามไปดูภาพของเธอกันเลย 2008 2009 2010 2011 2012 2013 2014 2015 2016 2017 2018 กาลเวลาไม่อาจทำอะไรเธอได้เลย ถ้ามีซักอย่างที่เปลี่ยน สิ่งนั้นก็คือคุณภาพกล้องถ่ายรูปนั่นเอง (ฮา) ที่มา Boredpanda
-
‘ช็อคโกแลตขั้นบันได’ ความหวานผสมผสาน ต้องการชิ้นส่วนมาเติมเต็มเป็น ‘ลูกบาศก์ช็อคโก้’
ถ้าพูดถึงช็อคโกแลต หลายๆคนก็คงนึงถึงช็อคโกแลตที่มีรูปร่างเป็นแท่ง หรือเป็นก้อนกลมๆ พอดีคำ แต่เมื่อยุคสมัยผ่านไป อะไรหลายๆอย่าง ก็ดูล้ำสมัยขึ้น แม้กระทั้งอาหาร หรือขนมหวาน ก็ยังมีการพัฒนารูปแบบให้ดูน่าสนใจขึ้นไปอีก เคยสังเกตกันไหมว่า สีธรรมชาติของอาหารในแต่ละจาน ล้วนแต่มีผลต่อรสชาติของอาหารทั้งนั้น สตูดิโอ Universal Favourite ที่ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย จึงได้นำองค์ประกอบของสีในอาหารมาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการนำสีต่างๆ มาเติมแต่งลงไปในช็อคโกแลตให้ดูสวยงาม และน่าดึงดูด ในตอนแรกนั้น ทางสตูดิโอได้เริ่มโปรเจกต์นี้โดยการแจกเป็นของขวัญให้กับลูกค้า และนำมาพัฒนาต่อโดยการร่วมมือกับ Bakedown Cakery ผู้เชี่ยวชาญทางด้านขนมหวาน ช็อคโกแลตแต่ละชิ้นนั้นจะมีรูปร่างเป็นทรงขั้นบันได โดยจะมีรสชาติแตกต่างกันไปตามสี เช่น รสแบล็คเคอร์แรนท์ รสเชอร์รี่ รสคุ้กกี้แอนด์ครีม รสสายไหม รสมะนาว รสชาเขียว รสถั่วปากอ้า รสขนมปังหวาน รสดาร์กช็อคโกแลต รสสตรอว์เบอร์รี รสวานิลลา และรสแตงโม . ช็อคโกแลตขั้นบันไดสองชิ้น สามารถนำมารวมรสชาติได้โดยต่อรวมกัน กลายเป็นรูปลูกบาศก์ได้ . . นอกจากจะน่าทานแล้ว ยังดูสวยงามอีกด้วย เอามาถ่ายรูปก็ดูดีไม่เบา ที่มา Thisiscolossal
-
นักฟุตบอลทีมเยาวชนซาอุฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังทำท่า “แด็ป” กลางสนาม
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในประเทศซาอุดิอารเบีย หลังจากที่นักกีฬาฟุตบอลรายหนึ่งได้ทำท่าดีใจด้วย ท่า “แด๊ป” ระหว่างการแข่งขันเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์โดย Dawri Plus ผู้สื่อข่าวกีฬาชาวซาอุดีอาระเบีย ที่กำลังทำท่าดังกล่าว พร้อมกับเสียงของผู้บรรยายที่บอกว่า “ไม่ ไม่ ไม่” แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเสียงดังกล่าวนั้นเกี่ยวข้องกับการทำท่าของนักเตะคนดังกล่าวหรือไม่ นักเตะชุดเยาว์ชนซาอุ ที่กำลังทำท่าแด๊ป หลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีชาวซาอุฯ หลายคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคลิปวิดีโอดังกล่าว บางคนบอกว่า “คณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดกำลังต่อต้านท่านี้ คุณเป็นนักเตะอาชีพแล้วทำไมยังทำท่านี้อยู่” ส่วนบางคนก็พยายามติดแฮชแท็กไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ การทำท่าดังกล่าวในประเทศซาอุฯ นั้นถือเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างเข้มงวดจากทางการโดย ก่อนหน้านี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์เดียวกันนี้กับนาย Abdallah Al Shaharani นักร้องชื่อดังที่ถูกสอบปากคำหลังจากทำท่าแด๊ปในงานคอนเสิร์ต (อ่านข่าวเก่า นักร้องหนุ่มในซาอุถูกสอบปากคำ เพราะแค่ดันไปทำท่า Dab บนเวทีคอนเสิร์ตซะงั้น!!) ทางคณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดของซาอุ ได้ติดประกาศเตือนเกี่ยวกับการทำท่าทางดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว โดยระบุว่า “เด็กและผู้คนในสังคมที่ทำท่านี้ มักจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่อันตราย” ท่าแด๊ปเริ่มได้รับความนิยมมาจากกลุ่มฮิปฮอปในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประมาณช่วงปี 2010 ก่อนที่จะได้รับความนิยมไปทั่วโลกหลังจากที่นักกีฬาดังๆ ในวงการต่างๆ นำไปใช้เป็นท่าฉลองการทำคะแนน ไม่ว่าจะเป็นนักบาสชื่อดังอย่างเลบรอน เจมส์ หรือนักฟุตบอลชื่อดังอย่างปอล ปอกบา แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดว่าใครเป็นเจ้าของท่านี้ …
-
พ่อค้าเดินทางกว่า 860 กม. เพื่อมาดักทำร้ายหญิงสาว หลังเธอตำหนิที่ร้านที่ส่งของล่าช้า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวจากเมืองเจิ้งโจว ในระหว่างที่เธอกำลังยืนรอรับพัสดุที่สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตอยู่ แต่ทว่าเมื่อพัสดุมาส่งเธอกลับถูกพ่อค้าหนุ่มที่เดินทางมาไกลเกือบ 1,000 กิโลเมตรลงมาทำร้ายอย่างรุนแรง!! เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวที่ใช้นามแฝงของตัวเองว่า Xiao Li ได้ร้องเรียนพ่อค้าคือนาย Zhang หลังจากเสื้อผ้าที่เธอสั่งนั้นไม่ได้ถูกจัดส่งตรงตามเวลาที่ระบุเอาไว้ การทำร้ายร่างกายนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นาย Zhang ได้โทรศัพท์และส่งข้อความข่มขู่ลูกค้าของเขา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมหญิงสาวได้รับข้อความระบุว่าพัสดุของเธอนั้นได้เดินมาถึงจุดรับสินค้าเรียบร้อยแล้ว และด้วยความดีใจเธอจึงรีบออกไปรับสินค้า ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดด้านนอกของจุดรับสินค้าในเมืองเจิ้งโจว เผยให้เห็นหญิงสาวคนดังกล่าวที่กำลังยืนรอรับสินค้าของเธอ และเมื่อพ่อค้าหนุ่มมาถึงเขาก็วิ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายเธอทันที ชายหนุ่มชกเข้าที่หน้าและหน้าอกของหญิงสาวหลายครั้งจนเธอลงไปนอนกับพื้นก่อนที่จะหนีไป คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายนอกจุดรับสินค้า Xiao Li ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาล และระหว่างที่เธอกำลังพักรักษาตัวอยู่นั้น เธอยังได้รับข้อความจากพ่อค้าคนดังกล่าวที่บอกว่าเขายอมเดินทางข้ามวันข้ามคืนกว่า 860 กิโลเมตรจากเมืองซูโจวเพื่อมาทำร้ายเธอเลยทีเดียว ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศจีน ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนปี 2017 ที่ผ่านมา หนุ่มส่งอาหารคนหนึ่งได้ทำร้ายร่างกายของลูกค้าสาวในมณฑลไหหลำ เนื่องจากเกรงว่าเธอจะเขียนรีวิวต่อว่าเขาหลังจากที่นำอาหารมาส่งช้า ที่มา medium
-
พบกับนักเปียโนสายแจ๊สสาวชาวญี่ปุ่น ที่บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา ดูคลิปให้จบนะจ๊ะ
วันนี้เราจะพาท่านผู้ชมไปรู้จักกับนักเปียโนแจ๊สสาวชาวญี่ปุ่น ที่บอกได้เลยว่าฝีไม้ลายมือนั้นไม่ธรรมดาเพราะว่า เธอนั้น ‘เล่นใหญ่’ ดีจริงๆ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต้องตั้งใจฟังกันจนจบแน่นอน ว่าแล้วเราก็ไปพบกับเธอคนนี้เลยดีกว่า นักเปียโนสาวคนนี้ชื่อว่า Riyoko Takagi ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงคริสต์มาสเธอได้เผยแพร่วิดีโอที่แต่งกายเป็นซานตี้และเล่นเพลงคริสต์มาสมาแล้ว โดยมีเสียงตอบรับและการสนัับสนุนอย่างดีเยี่ยม ทำให้เธอต้องกลับมาอีกครั้งในธีม นางโลมยั่วสวาท!! ในวิดีโอชิ้นใหม่ของเธอนั้น บทเพลงที่เธอนำมาบรรเลงคือ “Haru no Umi” (The Sea in Spring) ซึ่งเป็นเพลงที่ชาวญี่ปุ่นนิยมเล่นกันในช่วงปีใหม่ แต่งขึ้นโดย Michio Miyagi ในปี 1929 โดย Riyoko นั้นนำบทเพลงนี้มาบรรเลงพร้อมแต่งท่อนแจ๊สสุดพิเศษของเธอเองใส่เข้าไปร่วมประสานอีกด้วย จะเป็นอย่างไรลองไปรับชมกันเลย การบรรเลงเปียโนของ Riyoko นั้นยอดเยี่ยมตลอดคลิปจริงๆ ดูเรียวนิ้วที่กรีดกรายลงบนตัวโน้ตนั่นสิ นี่ขนาดยกมือข้างหนึ่งมาเปิดไหล่ให้เห็นบราสีชมพูสดของเธอ ก็ยังบรรเลงได้อย่างไม่มีพลาดสักโน้ต ต่อด้วยการที่เธอขยับกายออกจากเปียโนไปอยู่บนเตียงเพื่อให้แฟนๆ ได้มองเห็นเครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อยของวัฒนธรรมญี่ปุ่น และถ้าใครดูจนจบคลิปละก็ จะเห็นว่า Riyoko นั้นอำลาด้วยท่าทางที่ช่างน่าหลงใหล ที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “Koto Yoro” ซึ่งย่อมาจาก “Kotoshi mo yoroshiku onegaishimasu” ที่แปลว่า “ขอให้ทุกคนเอ็นดูฉันในปีนี้อีกด้วยเถอะ” กลุ่มแฟนคลับของ Riyoko เพิ่มขึ้นในทุกคลิปวิดีโอที่เธอปล่อยออกมา ตอนนี้ทุกคนต่างรอให้ถึงวันพิเศษเพื่อรอดูว่านักเปียโนสาวคนนี้จะนำอะไรออกมานำเสนออีก แน่นอนว่าใกล้วันวาเลนไทน์แล้ว เหมียวเองก็ว่าจะตั้งตารอดูเหมือนกันว่าจะออกมาเป็นอย่างไรกันน้อ……
-
หญิงสาวขอคืนต้นคริสต์มาสกับร้านค้า เพราะมัน ‘ตายแล้ว’ ทางร้านจะว่ายังไงล่ะเนี่ย!?
โดยปกติแล้ว เมื่อเราซื้อของบางสิ่งมาจากร้านค้าแล้วมันใช้ไม่ได้หรือเสียหาย เราก็ควรนำไปเปลี่ยนหรือไปรับเงินคืนจากร้าน นั่นเป็นเรื่องที่ทุกคนทราบกันดี แต่มันก็ไม่ใช่ทุกสิ่งหรอกนะที่จะสามารถนำไปเปลี่ยนหรือนำไปคืนได้ บางอย่างมันก็ช่างแปลกเสียเหลือเกินถ้าหากเรานำมันไปเปลี่ยนคืนกับทางร้าน ดังเช่นเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ยังไงล่ะ… ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่งชื่อว่า Scott Bantley ได้เผยบนโลกออนไลน์ว่า ในวันที่ 4 มกราคม ตนได้เห็นเหตุการณ์ที่มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเจรจากับทางร้าน Costco เพื่อขอคืนต้นคริสต์มาส ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้นคริสต์มาสมัน…ตายแล้ว!! โดยร้านค้าที่ชื่อว่า Costco นั้นเป็นร้านค้าแบรนด์ดังอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เขายังว่ากันว่า Costco นั้นรับประกันว่าสินค้าของร้านสามารถนำกลับมาเปลี่ยนคืนได้ไม่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ข้อความที่คุณ Scott ได้เผยบนโลกออนไลน์ มีเนื้อความว่า “ผมไม่ได้กุเรื่องขึ้นมานะ เมื่อวาน วันที่ 4 มกราคม 2018 ที่ร้าน Costco เห็นแล้วละอายใจจริงๆ กับคนที่เห็นแก่เงิน ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาขอรับเงินคืนอย่างหน้าตาเฉย เพราะว่าต้นคริสต์มาสที่เธอซื้อไป ‘มันตายแล้ว’ ผมเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดกับตา มันเกิดขึ้นราวๆ 30 นาทีได้ ถ้าผมไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง ผมต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่ามีคนแบบนี้อยู่บนโลก คิดแล้วสลดใจ เธอคงต้องการเงินจริงๆ ถึงไม่เคารพตัวเองขนาดนี้ ผมไม่น่าไปรู้สึกหัวเสียเลย น่าจะเข้าไปถามไถ่เธอว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง ผมเสียใจจริงๆ…
-
ลูกสาวใส่ผ้าโอบิลายแปลกในวันฉลองบรรลุนิติภาวะ พ่อเพิ่งเห็น ‘นี่มันลายทดสอบสายตานี่หว่า’
หลายคนอาจจะเคยได้ยินวัฒนธรรมหนึ่งของญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า ‘วันฉลองบรรลุนิติภาวะ‘ หรือ ‘Seijin no Hi‘ ซึ่งมันเป็นวันที่หนุ่มสาวทั่วญี่ปุ่นจะได้สวมชุดกิโมโนสวยๆ จากนั้นพวกเขาก็จะรวมตัวกันที่ศาลากลางของแต่ละจังหวัดเพื่อรับประกาศนียบัตรว่าพวกเขาได้ย่างเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ (หรือก็คืออายุ 20 ปีบริบูรณ์) เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งงานดังกล่าวนั้นจะจัดในวันจันทร์สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคม แน่นอนว่าวันดังกล่าวจะเป็นวันที่ทุกคนต่างภูมิใจทั้งพ่อแม่และตัวคนที่อายุ 20 ปีเอง เช่นเดียวกับคุณพ่อชาวเน็ตคนหนึ่งที่รู้สึกปลาบปลื้มกับลูกสาวของเขาเช่นกัน ที่เข้าถึงวัยผู้ใหญ่และจะได้สวมชุดสวยๆ เพียงแต่ว่าระหว่างที่เดินทางไปงานด้วยกัน คุณพ่อดันแปลกใจกับลวดลายบนผ้าโอบิของลูกเพราะมันดันเป็นลายที่ใช้วัดสายตา!? คุณพ่อคนนี้ถึงกับเงิบว่าลายผ้าโอบิมีตั้งเยอะแยะ ทำไมลูกสาวถึงเลือกลายกวนๆ แบบนี้ แต่อย่างไรก็ตามคุณพ่อก็บอกว่ามันเป็นวันที่ดีสำหรับลูกสาวเขา และมันก็สวยแปลกตาเช่นกัน นอกจากนี้หลังจากภาพผ้าโอบิวัดสายตานี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตญี่ปุ่นก็ให้ความสนใจและเป็นที่พูดถึงกันในวงกว้าง มันคือที่วัดสายตาจริงๆ นะ ซึ่งด้านคุณพ่อชาวเน็ตก็ไม่รอช้าออกมาชี้ลายแทงว่า ถ้าเกิดใครอยากได้ผ้าโอบิดังกล่าว เขาจำได้ว่าลูกสาวกับภรรยาไปซื้อกันที่ร้าน omoiya โดยใครสนใจก็สามารถลองไปเช็กดูกันได้ ที่มา rocketnews24
-
อวสานกระโปรงพลิ้ว โรงเรียนมัธยมญี่ปุ่นเริ่มพิจารณาให้นักเรียนหญิงใส่ “กางเกงขายาว” แทน
ภาพของนักเรียนที่ญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับกระโปรงสุดสั้นและถุงเท้ายาวๆ อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ติดตาของหลายๆ คน และเมื่อพูดถึงนักเรียนญี่ปุ่นเราก็มักจะนึกถึงชุดแบบที่ว่านั้นอย่างแน่นอน!! แต่ชุดที่ว่านี้อาจจะต้องถึงกาลอวสานและน่าสงสารหนุ่มๆ จากโรงเรียนมัธยม Taiyo แล้วแน่ๆ หลังจากที่ทางโรงเรียนของพวกเขาเตรียมประกาศเปิดกว้างให้นักเรียนหญิงสามารถเลือกใส่กระโปรงหรือกางเกงก็ได้ และคาดว่าจะมีการประกาศใช้ในเดือนเมษายนปี 2018 นี้ ชุดนักเรียนแบบใหม่นี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ และคาดว่ามันจะถูกใช้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 71 ปีของโรงเรียนมัธยมจากเมืองฮิระสึกะ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับนักเรียนหญิงในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ที่จะได้ใส่มีโอกาสสวมกางเกง แต่ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการออกแบบกางเกงขายาวสำหรับนักเรียนหญิงเพื่อให้พวกเธอได้สวมใส่ในหน้าหนาว ทางด้านอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน คุณ Yugo Kuriki ก็ได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับชุดนักเรียนใหม่นี้ว่า “ผมไม่อยากให้กระโปรงเป็นแค่ชุดนักเรียนหลักของนักเรียนหญิงเท่านั้น ผมคิดว่ามันน่าจะดีถ้าหากเราเปิดกว้าง” “ชุดใหม่ของนักเรียนจากโรงเรียนมัธยม Taiyo ในปีหน้า” ข้อความจากทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งพร้อมกับภาพชุดนักเรียนใหม่ของโรงเรียน ชุดนักเรียนทั้ง 3 แบบนี้ไม่ได้มีระบุไว้ในประกาศของทางโรงเรียน การให้นักเรียนหญิงสามารถเลือกสวมกางเกงได้นั้นแสดงให้เห็นถึงการเปิดกว้างของโรงเรียนในเรื่องเพศ เพราะบางครั้งการสวมกระโปรงอาจจะทำให้พวกเธอรู้สึกไม่สะดวกในการเรียนได้ “ผมตั้งใจว่าชุดเครื่องแบบชุดใหม่นี้จะเป็นการขจัดความแตกต่างทางเพศออกไปจากโรงเรียนของเรา” ผู้อำนวยการ Kuriki กล่าว ที่มา rocketnews24
-
เปลี่ยนอพาร์ตเมนต์ให้กลายเป็นโบสถ์แห่งเพลงแจ๊สทุกวันอาทิตย์ น่าสนใจจนคนทั่วโลกต้องมา!!
ถ้าเกิดคุณเป็นคนที่ชอบเพลงแจ๊ส อยากจะฟังสดๆ ในบรรยากาศสุดอบอุ่น แต่ไม่รู้ว่าจะไปหาสถานที่แบบนี้ที่ไหนดี วันนี้ #เหมียวมู่ทู่ ขอเสนออพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนโบสถ์แห่งเพลงแจ๊สทุกวันอาทิตย์ และเล่นเพลงกันให้ฟังสดๆ ดูกันแบบฟรีๆ เกริ่นมาขนาดนี้หลายคนก็อาจจะยังสงสัยว่า เอ๊ะแล้วมันน่าสนใจตรงไหน? มันมีการรวมตัวของเหล่านักดนตรีแจ๊ซอันโด่งดังอย่างนั้นเหรอ? คำตอบคือไม่!! เพียงแต่ว่าอพาร์ตเมนต์ที่ว่านี้จะเป็นสถานที่รวบควมคนชอบเพลงแจ๊สจากทั่วทุกมุมโลก ทุกครั้งที่มาคุณจะได้พบเจอกับคนใหม่ๆ บทเพลงที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา พร้อมกับบรรยากาศสุดอบอุ่นจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบในเสียงเพลงเดียวกัน ไม่เกี่ยงชนชาติและสถานะ…เป็นไงฟังดูดีใช่ไหมล่ะ? แต่ละคนล้วนเป็นคนแปลกหน้าเพียงแต่รักในเสียงดนตรีเดียวกัน โบสถ์แจ๊สแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในย่านฮาเล็ม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหานครนิวยอร์ก ในห้องพักเล็กๆ ของสองแม่ลูก Marjorie Eliot และ Rudel Drears ที่ชื่นชอบในเพลงแจ๊ส Rudel เล่าที่มาที่ไปของการเปลี่ยนห้องพักตัวเองให้กลายเป็นโบสถ์เพลงแจ๊สว่า เขาและแม่สูญเสียพี่ชายคนโตไปเมื่อ 24 ปีก่อนในวันอาทิตย์ ซึ่งมันก็ดันตรงกับวันไปโบสถ์คริสต์พอดี ส่วนการเล่นเพลงแจ๊สนั้นก็ทำไปเพื่อรำลึกถึงพี่ชายเท่านั้น จนกระทั่งทำไปทำมาคนที่ได้ยินก็ชอบและบอกกันปากต่อปากจนคนเริ่มเดินทางมาเรื่อยๆ เพื่อฟังบทเพลงแจ๊สของสองแม่ลูก แน่นอนว่าทุกคนที่มาก็จะได้รับการต้อนรับแบบครอบครัว มันทั้งอบอุ่นหัวใจและฟังเพลงสบายๆ ให้ความสุขอันล้นเหลือ ผู้คนชื่นชอบและยอมที่จะนั่งในห้องครัว ทางเดินหรือยืนดูการบรรเลงเพลงแจ๊ซในห้องแคบๆ แห่งนี้ หลายคนรู้สึกประทับใจ และบอกว่ามันเหมือนการได้ไปโบสถ์จริงๆ ได้ไปปลดปล่อยความเครียดพร้อมทำให้จิตใจสงบสุข เพียงแต่ใช้เพลงแจ๊สเป็นตัวช่วยเท่านั้น…
-
หนุ่มมุสลิมตัดสินใจแต่งงานกับ 3 สาวพร้อมกัน เพราะมีเงินไม่พอในการจัดงานแยกทีละคน
นาย Mohammed Ssemanda หนุ่มใหญ่วัย 50 ปีชาวมุสลิมจากประเทศยูกันดา ตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์กับเจ้าสาวพร้อมกัน 3 คนเมื่อเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเขาไม่มีเงินพอสำหรับจัดงานแต่งกับเจ้าสาวแยกทีละคน คุณ Ssemanda สร้างความตกใจให้กับผู้คนในหมู่บ้านอย่างมากหลังจากที่เขาปรากฏตัวกลางงานแต่งพร้อมกับเจ้าสาวถึง 3 คน ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์ว่าภรรยาทั้ง 3 คนรู้ว่าเขาไม่มีเงิน แต่พวกเธอก็ยอมแต่งานกับเขาด้วยความรัก “ภรรยาของผมไม่อิจฉากันเลย นั่นถือเป็นเรื่องที่ดีมาก และผมสัญญาว่าจะทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลพวกเธอทั้ง 3 คน” ชายวัย 50 ปีกล่าว เจ้าสาวทั้ง 3 คนของคนของเขาประกอบไปด้วยคุณ Salmat Naluwugge วัย 48 ปีที่แต่งงานกับชายหนุ่มเมื่อ 20 ปีที่แล้วพร้อมกับมีลูกด้วยกันถึง 5 คนด้วยกันและนี่คือการแต่งานครั้งที่ 2 ของพวกเขา ส่วนเจ้าสาวอีก 2 คนที่เหลือก็คือ Jameo Nakayiza วัย 27 ปี กับ Mastulah Namwanje วัย 24 ปี “ฉันคิดว่าการแต่งงานพวกเรา 3 คนพร้อมกันนั้น แสดงให้เห็นว่าสามีของพวกเราไม่ได้เลือกใครคนใดคนหนึ่ง เขารักเราทุกๆ คนเท่ากัน” Naluwugge เจ้าสาววัย 48 ปีกล่าว…
-
เรื่องราวของ Luke Eilers ชายผู้ไม่ “ชิ๊กวิ่ว” มาเป็นเวลากว่า 400 วัน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง!!
คำนิยามสำหรับการช่วยตัวเองนั้นอาจจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นชกท้อง ซ้อมน้องชาย ชักว่าว หรือปั๊ดว๊อง ก็ตาม แต่อย่างหนึ่งที่แทบจะไม่แตกต่างกันเลยนั่นก็คือคุณจะต้องเคยหาความสุขด้วยตัวเองอย่างน้อยๆ สักอาทิตย์ละครั้งแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ แต่สำหรับหนุ่มคนนี้การหาความสุขจากการช่วยตัวเองนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาเลือก เพราะ Luke Eilers ได้หย่าขาดจากการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองมานานกว่า 400 วันแล้ว!! กระแสการงดช่วยตัวเองนี้กำลังกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในโลกอินเตอร์เน็ตของต่างประเทศ หลังจากที่มีการเผยผลจากงานวิจัยจากประเทศจีนที่ระบุว่า การละเว้นจากการฆ่าอสุจินั้นจะสามารถช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายให้คุณได้มากถึง 45 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว คุณ Luke Eilers ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ โดยเขาไดให้สัมภาษณ์ว่าก่อนหน้านี้ตัวเขาเองก็เป็นคนที่เสพติดหนังโป๊มากที่สุดคนหนึ่ง แต่เขาได้ตัดสินใจเลิกเพราะว่ามันทำให้เขารู้สึกแย่และและไม่มีแรงกระตุ้นในการใช้ชีวิต “มันเหมือนกับว่าผมได้รับแรงกระตุ้น ความมั่นใจ และเรี่ยวแรงมากขึ้น หลังจากที่หยุดมานานกว่า 400 วัน มีหลายๆ คนคอยให้กำลังใจและช่วยผมสำหรับการเปลี่ยนแปลงชีวิต” Luke Eilers ให้สัมภาษณ์ บทสัมภาษณ์ของ Luke แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะหยุดช่วยตัวเองและดูหนังผู้ใหญ่แล้ว Luke ก็ยังคงมีเซ็กส์ตามปรกติ พร้อมกับบอกว่าการถึงจุดสุดยอดกับคู่รักนั้นทำให้เขารู้สึกว่ามีสุขภาพดี และนอกจากนี้ชายหนุ่มยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่าการงดช่วยตัวเองนั้นมันยังทำให้เขาทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคู่รักได้นานขึ้นอีกด้วย และตอนนี้เขากำลังเขียนเขียนเรื่องราวดีๆ เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่กำลังเสพติดหนังโป๊ มีภาวะซึมเศร้า หรือหมกมุ่นกับเรื่องเพศอยู่ ตอนนี้กิจกรรมงดตำมีผู้สนใจติดตามมากว่า 285,000 คนแล้ว และมีผู้คนอีกมากมายที่เข้ามาแบ่งปันเกี่ยวกับประสบการณ์การงดช่วยตัวเอง ถ้าหากคุณสนใจล่ะก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ NoFap ได้เลย……
-
นักโทษชาวสเปนถูกแจ้งเสียชีวิตในคุกแล้ว แต่เจ้าตัวกลับตื่นขึ้นมาในที่เก็บศพหน้าตาเฉย!?
กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตเลยทีเดียว หลังจากที่คุกแห่งหนึ่งได้แจ้งว่านักโทษของเขาตายไปเรียบร้อยแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ เขากลับยังไม่ตายแถมตื่นมาระหว่างที่ตัวเองกำลังจะถูกผ่าชันสูตรด้วย!? เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่คุกแห่งหนึ่งในแคว้นอัสตูเรียส ซึ่งเป็นแคว้นหนึ่งภายในราชอาณาจักรสเปน โดย Gonzalo Montoya Jimenez นักโทษชาวสเปนวัย 29 คือผู้โชคร้ายของเรื่องราวในครั้งนี้ ตัว Gonzalo นั้นถูกพบในสภาพที่ไม่มีสติภายในคุก ซึ่งเขาได้ถูกนำตัวส่งทีมแพทย์ในคุกดังกล่าวทันที จากนั้นในเวลาต่อมาไม่นานแพทย์สองคนประจำคุกก็ได้ยืนยันกับทางคุกและญาติของเขาว่า Gonzalo ได้เสียชีวิต นอกจากนั้นแพทย์อีกคนจากทางสถาบันนิติเวชก็ยังยืนยันว่าเขาตายแล้วจริงๆ เมื่อเขาได้รับการยืนยันจากแพทย์ถึงสามคนแล้ว ร่างของ Gonzalo จึงถูกส่งต่อไปยังห้องเก็บศพทันที โดยดูเผินๆ กระบวนการทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติจนกระทั่งมีสัญญานไฟจากห้องเก็บศพดังขึ้น แพทย์ในห้องเก็บศพนั้นได้แจ้งมาว่า Gonzalo ได้หายใจและตื่นขึ้นมาระหว่างที่เขากำลังจะผ่าชันสูตร ทำให้ทั้งแพทย์คนดังกล่าวและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ตกใจกันเป็นอย่างมาก พร้อมส่งนักโทษคนดังกล่าวไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที ปัจจุบัน Gonzalo อยู่ในสภาพโคม่าจากผลของยาที่แพทย์ได้ให้ไปหลังจากยืนยันว่าเขาเป็นศพแล้ว ทั้งที่จริงเขากลับยังไม่ตายนั่นเอง ส่วนจะกลับมามีชีวิตได้หรือไม่นั้นก็คงต้องรอดูผลวิจัยและอาการของเขาต่อไปนั่นเอง… ทืี่มา telecinco
-
พ่อแม่ตัดสินใจขายทุกสิ่ง และพาลูกๆ ออกจากโรงเรียน เพื่อไปเรียนรู้โลกทั้งใบ…
คนบ้านเรามีคำพูดที่ว่า “พ่อแม่ขายนาส่งลูกเรียน” ที่เป็นคำพูดเตือนใจให้พวกเราตั้งใจเรียนกันอยู่ แต่ที่ Hertfordshire ยังมีพ่อแม่คู่หนึ่งตัดสินใจเลือกที่จะ ขายของทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็พาลูกๆ ออกจากโรงเรียนไปเที่ยวรอบโลกแทน Chris Jackson อดีตแพทย์สนามประจำรถพยาบาลจาก ลอนดอน วัย 35 ปี และ Donna ภรรยาของเขา คิดว่าการปล่อยลูกสาวคนโตวัย 8 ขวบ Ellie และลูกสาวคนเล็ก Miley เรียนในโรงเรียนต่อไปจะเป็นการทำลายความฝันและทำให้พวกเธอไม่มีความสุข เมื่อปี 2017 พวกเขาตัดสินใจขายทรัพย์สินทั้งหมดที่เขามี พาลูกสาวทั้งสองออกมาโรงเรียนและตัดสินใจออกเดินทางไปรอบโลกโดยไม่หันกลับมา “มันเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่ในชีวิตเลย” Chris กล่าว “เมื่อก่อนภรรยาของผมกำลังเรียนด้านการพยาบาลเด็ก พวกเราแทบจะไม่ได้เจอกันเลยทั้งที่เป็นสามีภรรยากัน แถมยังไม่ได้ใช้เวลากับลูกๆ อย่างที่ควรจะเป็น พอคิดได้แบบนั้นพวกเราก็คิดขึ้นได้ว่า ‘เราน่าจะไปเที่ยวกันนะ’ แล้วเราก็ทำมัน” Donna ที่อยู่ด้วยกันเสริมขึ้นว่า “ในตอนที่แก่ตัวขึ้นผู้คนมีแนวโน้มที่จะอยากได้ในสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำ แล้วก็มานั่งพูดถึงสิ่งที่เขาควรทำ มากกว่าสิ่งที่พวกเขาทำมันจริงๆ” “ในโลกยุคที่ผู้คนให้ iPad กับเด็กๆ ของพวกเขาแล้วก็ปล่อยให้เด็กจ้องมันไปหลายๆ ชั่วโมง พวกเรากำลังสอนพวกเด็กๆ ของเราในสิ่งที่เราอยากให้พวกเขาได้รู้จัก” เธอเล่า ตั้งแต่ออกเดินทางไปพวกเขาได้แชร์เรื่องราวของพวกเขาบนสื่อต่างๆ อย่าง Youtube…
-
ไอเดียเลิศ!! สีสันการเมืองโรงเรียนไทย โปสเตอร์หาเสียงประธานสภาเจ๋งๆ ทั้งเดือดและปั่นสุดๆ
แม้ว่าบรรยากาศการเลือกตั้งจะห่างหายไปจากบ้านเราเป็นเวลาหลายปีจนหลายคนรู้สึกคิดถึง แต่ไม่ได้หมายความว่าระบบประชาธิปไตยจะหายไปจากสยามนะ ซึ่งเห็นได้จากการเลือกประธานนักเรียนของโรงเรียนต่างๆ อย่างล่าสุดมีการแชร์โพสต์จากเพจ สภานักเรียนเฉลิมขวัญสตรี – Sapa Chalermkwansatree ซึ่งเป็นศึกการเลือกตั้งที่ดุเดือดไม่แพ้วงการการเมืองเลยหละ นี่เป็นการเลือกตั้งประธานประธานสภานักเรียน ปีการศึกษา 2561 ของนักเรียนโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จังหวัดพิษณุโลก โดยมีการทำภาพโปสเตอร์หาเสียงที่สร้างสรรค์จนชาวเน็ตแห่ชื่นชม ในเพจได้มีการโพสต์ภาพโปสเตอร์พร้อมนโยบายของแต่ละพรรค โดยระบุข้อความว่า “เอาละค่ะน้องๆ!! ถึงคราวใกล้วันเลือกตั้ง พี่สภาก็เอาป้ายหาเสียงเล็กๆ น้อยๆ พร้อมกับสโลแกนและชื่อพรรคของผู้ที่ลงสมัครประธานสภานักเรียนในปีนี้!!! พร้อมแล้ว กดเข้าไปดู กดแชร์บอกความรู้สึกได้!! แล้วอาทิตย์หน้าเตรียมตัวดูการหาเสียงครั้งยิ่งใหญ่กันด้วยนะจ้ะ #ด้วยรักอันยิ่งใหญ่จากพี่สภา“ เริ่มที่พรรคแรก “พรรคเพื่อรบ พบเพื่อพัฒนา” แค่ชื่อพรรคก็กินขาดแล้ว พรรคที่ 2 นี่ต้องเป็นขวัญใจของนักเรียนหญิงแน่ๆ เลย เอาสิ๊ ให้รู้กันไปเลยว่าผู้หญิงก็เป็นผู้นำที่ดีได้ นักเรียนสายบุญ อย่าลืมเลือกเบอร์ 3 นะคะ โปร่งใส ไม่มีโกงแน่นอน พรรคสุดท้าย แค่นโยบายก็รู้แล้วว่าพร้อมที่จะทำเพื่อคนอื่นมากแค่ไหน ถึงกับต้องจุดไฟเผาตัวเองเพื่อให้คนอื่นได้รับความอบอุ่น สุดยอดไปเลย ด้วยโปสเตอร์ ชื่อพรรค นโยบายการหาเสียงที่ไม่ธรรมดาของน้องๆ นักเรียน…
-
ชายกว่า 600 คนเข้าร่วมกิจกรรม “วันทานข้าวกับพ่อ” เป็นตัวแทนให้กับเด็กที่พ่อไม่ได้มา
สิ่งหนึ่งในชีวิตที่คนเราต้องการมากที่สุดก็คือความรัก ซึ่งความรักในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความรักในเชิงชู้สาว แต่กลับเป็นความรักและความอบอุ่นจากคนในครอบครัวที่ไม่ว่าใครต่างก็อยากจะได้รับสิ่งนี้ในชีวิต แต่บางทีชีวิตของคนเราก็ไม่ได้มีทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมเสมอไป… Big Thought องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อการพัฒนาเยาวชน ได้มีแนวคิดในการจัดกิจกรรม “Breakfast with Dads” ขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทางการให้กำลังใจแก่เด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษาเล่าเรียนให้ได้ใกล้ชิดกับคนในครอบครัว โครงการนี้ได้จัดขึ้นที่โรงเรียนมัธยม Billy Earl Dade เมืองแดลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2017 โดยกิจกรรมนี้จะเป็นการนำเด็กนักเรียนมาร่วมรับประทานอาหารเช้ากับพ่อก่อนที่จะกลับไปเรียนตามปกติ แต่ทว่าเด็กร้อยละ 90 ของโรงเรียนแห่งนี้เป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย และเด็กจำนวน 150 คนจาก 900 คนนั้นไม่มีพ่อให้มาร่วมกิจกรรมนี้ Kristina Dove ประธานองค์กรผู้ที่ได้จัดงานกิจกรรมนี้ขึ้นมาเกรงว่าเด็กที่พ่อไม่สามารถมาร่วมงานได้จะเกิดความน้อยใจจึงได้ทำการประกาศหาอาสาสมัครในโลกออนไลน์เพื่อมาช่วยกันจัดกิจกรรมนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี “กรุณาแชร์ด้วยค่ะ พวกเราต้องการผู้ชายจำนวนมาก ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม เวลา 8.30 น. ที่โรงเรียน Billy Earle Dade เราจะจัดกิจกรรม Breakfast with Dads ขึ้น เป็นกิจกรรมที่สำคัญมากสำหรับเด็กๆ…
-
เมื่อสองนักแสดงจาก HP ได้กลับมาเจอกันในงานลูกโลกทองคำอีกครั้ง งานนี้ชาวเน็ตจิ้นหนักกว่าเดิมอีก!!
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2017 หลายคนคงจะได้เห็นข่าวผ่านๆ ตา เกี่ยวกับการปิ้งรักกันของอดีตสองนักเรียนจากฮอกวอตส์อย่าง Emma Watson และ Robert Pattinson ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้แฟนๆ ถึงกับกรี๊ดกันเป็นแถบๆ แม้ว่าตัวละครอย่าง Cedric Diggory ซึ่งรับบทโดย Robert Pattinson จะออกมาเพียงแค่ภาค 4 แล้วก็จากเราไป แถมยังไม่เคยได้คุยกันจริงๆ จังๆ กับตัว Hermione Grange ที่รับบทโดย Emma Watson เลยก็ตาม แต่นอกจอนั้น ทั้งคู่กลับได้คุยกันพอสมควรเลยละ ยิ่งเมื่อปี 2017 มีข่าวเกี่ยวกับทั้งคู่ออกมา แฟนๆ ก็พากันลุ้นว่าสองพ่อมดแม่มดจะปิ้งๆ กันจริงไหม หรือว่าแท้จริงจะไม่มีอะไรในกอไผ่กัน จนเวลาผ่านไปข่าวก็เงียบหายไปกับสายลมจนกระทั่ง… เมื่อวันที่ 7 มกราคมได้มีงาน Golden Globes 2018 ซึ่งตัว Emma Watson และ Robert Pattinson ได้เป็นพิธีกรประกาศรางวัลในครั้งนี้ แถมทั้งคู่ก็ดูปังสุดๆ จนชาวเน็ตที่เห็นแล้วถึงกับกรี๊ดแตก จิ้นกันไม่หยุดเลยทีเดียว งานนี้ข่าวลือที่เงียบไปก็กลับมาปะทุอีกครั้ง เปิดตัวเปิดใจกันออกมาแล้ว โจ๊วๆ จะไม่ให้จิ้นได้ไง ดูสายตาของนางสิ…
-
เจ้าเหมียวอาสาเป็น ‘เด็กน้อย’ เพื่อให้ครอบครัวได้เตรียมตัวต้อนรับสมาชิกใหม่ที่ใกล้เข้ามา
การเตรียมพร้อมเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่กำลังจะก้าวไปเป็นพ่อหรือแม่ หลายๆ คนพยายามหาหนังสือมาอ่านเกี่ยวกับการดูแลลูกน้อย หรืออาจจะไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แต่สำหรับคู่รักสองคนนี้ พวกเขามีวิธีการที่ต่างออกไป โดยได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนซี๊สี่ขา นี่คือเรื่องราวของ Jordan และ Chenoa Gale คู่รักที่อาศัยอยู่ในเมือง Salt Lake City รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งในบ้านของพวกเขาไม่ได้มีแค่คนสองคน แต่ยังมีแมวอยู่ด้วยอีกสองตัว คู่รักและเจ้าเหมียว Eevee (ด้านซ้าย) กับ Sophie (ด้านขวา) หากพูดถึงเจ้า Sophie นั้นมันคือแมวที่ถูกชะตากับ Chenoa ตั้งแต่แรกเจอ ตอนที่เธอได้สบตากับมันครั้งแรกที่สถานรับเลี้ยงดูของเมืองในปี 2015 เธอจึงอุ้มมันขึ้นมา แล้วเจ้าเหมียวก็คลอเคลียพร้อมด้วยน้ำเสียงออดอ้อน จนทำให้เธอต้องตกหลุมรักและตัดสินใจรับเลี้ยงมันในทันที หลังจากนั้นมามันก็ชอบมาคลุกคลีอยู่กับเธอตลอด ชนิดที่ว่าเล่นกับเธอบ่อยกว่าเล่นกับเจ้าเหมียว Eevee เพื่อนของมันซะอีก และหญิงสาวก็คอยมอบความรักให้กับมันอยู่เสมอ จนทำให้ Jordan คิดไปถึงการ์ตูนเรื่องโปเกมอน ว่าทั้งสองสนิทกันมากๆ จนดูเหมือนกับซาโตชิและปิกาจูยังไงยังงั้น สนิทกันจนชอบมานอนซุกอยู่แทบทุกคืนเลย พอเวลาผ่านไปไม่นาน สมาชิกของบ้านก็กำลังจะเพิ่มขึ้นมาอีกคน เพราะ Chenoa ตั้งท้องได้…
-
ฝรั่งเศสสั่งสอบบริษัท Apple จากกรณีลดประสิทธิภาพ iPhone อาจโดนค่าปรับ 5% จากกำไร
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เกิดกระแสดราม่าเกี่ยวกับบริษัทแอปเปิลที่ได้ทำการปรับลดประสิทธิภาพของเครื่องรุ่นเก่าให้ทำงานช้าลงเมื่อแบตเตอร์รี่เสื่อมสภาพลง และทางบริษัทเองก็ได้ออกมายอมรับเรื่อดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (อ่านข่าวเก่า Apple ยอมรับแล้วว่าทำให้ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลง แต่ที่ทำไปก็เพราะหวังดีนะ (เหรอ!?)) ถึงแม้ว่าทางในประเทศไทยเรานั้นทางแอปเปิลจะได้ให้สิทธิ์ลูกค้าเปลี่ยนแบตเตอร์รี่เครื่องรุ่นเก่าในราคาพิเศษเพื่อเป็นการชดเลย แต่สำหรับที่ประเทศฝรั่งเศสนั้นพวกเขากำลังจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีและอาจถูกลงโทษอย่างหนัก ก่อนหน้านี้เหตุการฟ้องร้องหลังจากที่ทางแอปเปิลออกมายอมรับว่าลดประสิทธิภาพของเครื่อง iPhone นั้นเกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา โดยมีนาย Stefan Bogdanovich และนาย Dakota Speas เป็นแกนนำในการฟ้องร้องคดี จากรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า กลุ่มรณรงค์เพื่อผู้บริโภค “หยุดการทำให้ล้าสมัยโดยเจตนา” (Stop Planned Obsolescence หรือ HOP) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนร้องเรียนต่อกระทรวงเศรษฐกิจของฝรั่งเศสแถลง โดยพวกเขาระบุว่าฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ 3 ที่ทำการสืบสวนบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ฝรั่งเศสเป็นเดียวที่สามารถเอาผิดทางอาญากับผู้ผลิตได้ โดยบทสำหรับข้อหาดังกล่าวนั้นถึงขั้นจำคุกหรือปรับเงินสูงสุด 5 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายประจำปีเลยทีเดียว “การลดประสิทธิภาพของอุปกรณ์เป็นจุดประสงค์ของผู้ผลิตเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อเครื่องรุ่นใหม่” กลุ่ม HOP กล่าว นอกจากนี้กลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าวยังเคยยื่นหนังสือฟ้องร้องบริษัทผลิตเครื่องปรินต์อย่าง Epson, Canon, HP และ Brother มาแล้ว หลังจากที่มีการลดประสิทธิภาพอายุการใช้งานของตลับหมึก อย่างไรก็ตามก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าการฟ้องร้องนี้จะจบลงอย่างไร ที่มา bbc, theguardian
-
เด็กผู้ลี้ภัยไปยืนหน้าฟิตเนสทุกวัน เพราะอยากลดน้ำหนัก เจ้าของยิมเลยมอบ “บัตรสมาชิกตลอดชีพ” ให้
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ คือสิ่งที่ช่วยให้สังคมน่าอยู่ขึ้น… คนบางคนนั้นขาดโอกาสในชีวิตหลายอย่าง เนื่องจากมีฐานะยากจน จึงไม่สามารถเข้าถึงบริการบางอย่างในสมัยนี้ ที่ต้องใช้เงินมากได้ แต่ถ้าเราเห็นถึงความเดือดร้อนนั้น แล้วยื่นมือให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ล่ะก็ เราจะทำให้คนขาดโอกาสคนหนึ่ง มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ไม่ยากนัก Muhammet Halit เด็กชายผู้จ้องมองยิมอยู่ทุกวัน ยิมแห่งหนึ่งในประเทศตุรกี ชนะใจคนจำนวนมาก เมื่อเจ้าของยิมช่วยเหลือเด็กชายคนหนึ่งที่จ้องมองเข้ามาในยิมอยู่ทุกวัน โดยการออกบัตรสมาชิกตลอดชีพให้กับเขาฟรีๆ เด็กชายที่อยู่ในภาพชื่อว่า Muhammet Halit อายุ 12 ปี เป็นผู้อพยพชาวซีเรียที่มีอาชีพเป็นคนขัดรองเท้า เขามักจะจ้องมองเข้ามาในยิมจากทางกระจกด้านนอกเสมอ สายตาของเขานั้นบ่งบอกว่าอยากจะเข้าไปออกกำลังกายมาก แต่คงเพราะมีรายได้ไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถเข้าไปใช้บริการได้ ภาพที่เขาสวมรองเท้าแตะและสะพายอุปกรณ์ขัดรองเท้า ยืนจ้องมองอยู่ภายนอกยิมนั้น กลายเป็นกระแสไวรัลบนอินเตอร์เน็ต เจ้าของยิมแห่งนั้นเองก็ผ่านไปเห็นภาพนั้นด้วยเช่นกัน เขาจึงตัดสินใจหยิบยื่นโอกาสให้กับหนุ่มน้อย ให้เขาสามารถเข้ามาใช้ยิมได้ตลอดเวลา เจ้าของยิมถ่ายรูปกับเด็กชาย หลังมอบบัตรสมาชิกตลอดชีพให้ เจ้าของยิมให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Hurriyet News ว่า “ผมเห็นเด็กคนนี้มองผ่านกระจกของยิมเข้ามา เขาสวมรองเท้าแตะแม้ว่าจะเข้าหน้าหนาวแล้ว และยังสะพายกระเป๋าไว้ด้วย” “ผมมีความตั้งใจว่าจะให้บัตรสมาชิกตลอดชีพของยิมนี้กับเขา แล้วเราก็ทำมันสำเร็จ ตอนนี้เขาเองก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของยิมเราแล้ว” เมื่อหนุ่มน้อยได้รับบัตรสมาชิกแล้วก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ต้องจ้องมองอุปกรณ์ออกกำลังกายพวกนั้นอีกต่อไป หลังจากนี้เขาก็เข้ามาเล่นมันได้จริงๆ แล้ว…
-
ชาวเน็ตงง เจอ ‘สเต๊กกะหล่ำดอกสไลด์’ วางขายในห้างดัง แถมแพงกว่าดอกแบบเต็มๆ สองเท่า
เป็นเรื่องปกติของการนำวัตถุดิบที่เรียบง่ายมาประกอบอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับมัน แต่สำหรับอาหารชนิดนี้มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่กลับมองว่านี่มันคือการหลอกเอาเปรียบผู้บริโภคชัดๆ อาหารชนิดนี้ถูกวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตยอดนิยมในอังกฤษ Marks & Spencer ซึ่งมันคือเมนูที่ชื่อว่า “สเต๊กกะหล่ำดอกสไลด์” ถูกห่อด้วยพลาสติกอย่างแน่นหนา พร้อมด้วยราคาที่ทำให้ใครหลายๆ คนสงสัยว่า มันสมเหตุสมผลแล้วจริงๆ หรือ? ภาพที่ถูกถ่ายโดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ Rachel Clarke เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2018 ขณะที่เธอกำลังเลือกซื้อสินค้าอยู่ใน Marks & Spencer สาขาหนึ่ง ความสงสัยของผู้บริโภคเหล่านั้นเกิดจากการที่มันคือดอกกะหล่ำปลีหั่นครึ่ง ปรุงด้วยมะนาวและเครื่องเทศนิดหน่อย แต่กลับมีราคาสูงถึง 2.5 ปอนด์ หรือประมาณ 109 บาท ในขณะที่ดอกกะหล่ำปลีแบบทั้งดอกขายอยู่ในห้างเดียวกันด้วยราคา 1 ปอนด์ หรือประมาณ 43 บาทเท่านั้นเอง ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะดอกกะหล่ำปลีที่ขายตามตลาดทั่วไปแบบไม่มีการหั่นครึ่งนั้นจะมีราคาแค่ 30 บาท ทำให้หลายๆ คนสงสัยว่า หั่นครึ่งไปแล้วทำไมราคาต้องสูงขึ้นถึงกว่าสองเท่า? มันใช่เรื่องที่ถูกต้องแล้วหรอ?? ขนาดตอนที่ลดราคา มันยังมีมูลค่าถึง 2 ปอนด์…
-
สองนักชีววิทยาออกสำรวจป่าฝนอันห่างไกล เพื่อบันทึกความสวยงามของเหล่า ‘เห็ดรา’ หลากสายพันธุ์
นักชีววิทยาคำนวณไว้ว่า มีรากว่า 3.2 ล้านชนิดอาศัยอยู่บนโลกของเรา แต่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์สามารถเก็บบันทึกภาพถ่าย และค้นพบแค่ราวๆ 120,000 ชนิด ทำให้ยังมีราอีกมากที่พวกเราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน และนั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นคว้าในครั้งนี้ นี่เป็นการค้นคว้าตั้งแต่ปี 2014 ของนักชีววิทยาสองคน ได้แก่ Danny Newman และ Roo Vandergrift ซึ่งทั้งสองได้ออกเดินทางไปศึกษาเกี่ยวกับราใน Reserva Los Cedros ป่าฝนอันห่างไกลที่ยังไม่มีการบันทึกข้อมูลเอาไว้ ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาแอนดีส ในเขตประเทศเอกวาดอร์ การค้นคว้าของนักชีววิทยาทั้งสองในป่าฝนแห่งนี้ จุดประสงค์ของการค้นคว้าในครั้งนี้ นอกจากจะทำไปเพื่อบันทึกข้อมูลของราที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแล้ว พวกเขายังทำไปเพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของสิ่งมีชีวิตดังกล่าวและความสำคัญที่จะอนุรักษ์มันไว้ เนื่องจากว่าทางรัฐบาลของเอกวาดอร์รู้สึกว่านี่เป็นการมีอยู่ที่ผิดปกติและต้องการจะทำลายพวกมันทิ้งไป เพื่อไม่ให้แผนสำรองของรัฐบาลเกิดขึ้นมา พวกเขาจึงพยายามระดมทุนจากสาธารณะไว้ทำการศึกษาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้กันต่อไป โดยปัจจุบัน Newman กำลังทำการจัดลำดับดีเอ็นเอของราทั้ง 350 ชนิดที่ได้จากป่าฝนดังกล่าว และนี่ก็คือตัวอย่างของราที่ถูกค้นพบจากโปรเจกต์ของทั้งสองคน ราที่ถูกเก็บภาพมาจากป่าฝนดังกล่าว ความสวยงามของสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ บนโลกนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ไม่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน แม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ แต่มันก็มีคุณค่าในตัวของมันเอง บางสิ่งที่ดูแปลกตาซะจนเราอาจไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่บนโลกเราจริงๆ มีทั้งความสวยงาม และดึงดูดสายตาของเราได้เป็นอย่างดี…
-
พ่ออุปถัมภ์ใจทราม ข่นขืนและคุกคามทางเพศลูกเลี้ยงกว่า 900 ครั้ง เพื่อสร้างฮาเร็มของตัวเอง
พ่อแม่อุปถัมภ์ คือคนที่คอยช่วยให้เด็กๆ ที่อ่อนแอหรือกำพร้าได้กลับมามีสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง ฟังดูเหมือนกับว่าเด็กเหล่านั้นจะได้อยู่อย่างมีความสุข แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ มันก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เหมือนอย่างสิ่งที่เด็กในครอบครัวนี้ต้องเจอ นี่เป็นครอบครัวของนาย Viktor Lishavsky วัย 37 ปี ชาวรัสเซียผู้คอยอุปถัมภ์เลี้ยงดูเด็กกำพร้าและเด็กผู้ด้อยโอกาสจำนวนมาก จนกระทั่งเขาถูกตั้งข้อหาข่มขืนและกระทำทางเพศอย่างรุนแรงกับเด็กสาว 5 คนที่อยู่ในการดูแลของเขามานานกว่า 5 ปี Viktor ชายฟันทองผู้ทำความป่าเถื่อนกับเด็กมานานกว่า 5 ปี เขาถูกจับกุมตัวหลังจากที่ เด็กสาวภายใต้การดูแลนำสิ่งที่เขาทำกับเธอไปบอกอาจารย์ในโรงเรียน ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเขาเอาไว้ในเดือนมิถุนายน 2017 หลังจากนั้นความผิดของเขาก็เริ่มถูกเผยออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนกลางวันเขาคือช่างซ่อมรองเท้า แต่ตกกลางคืนเขาคือคนที่คุกคามเด็กๆ ในการดูแลของตัวเองมานานหลายปี เขาถูกตั้งข้อหาว่า ทำการข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีถึง 248 ครั้ง และกระทำพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรงกับเด็กเหล่านั้นอีก 358 ครั้ง ครอบครัวที่รวมเด็กอุปถัมภ์เอาไว้เป็นจำนวนมาก ต่อมาถูกตั้งข้อหาเพิ่มว่าแสดงพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรงกับเด็กสาวอายุต่ำกว่า 14 ปี จำนวน 22 ครั้ง อีกทั้งเขายังมีคดีข่มขืนอีก 11 ครั้ง โดยมีการทำร้ายร่างกายที่รุนแรงจนถูกตั้งเป็นคดีอาชญากรรมและทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย…
-
ความรุนแรงที่ใกล้ตัว… คุณแม่ลงมือทำร้ายลูกวัยสามขวบ เหตุเพราะหาแท็บเล็ตไม่เจอเลยโทษเด็ก
การใช้ความรุนแรงในครอบครัว เป็นอีกหนึ่งปัญหาร้ายแรงที่ยากเกินกว่าจะควบคุมและหาทางแก้ไขได้เนื่องจากเราไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนใจเมื่อไหร่ แล้วยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่ใช้ความรุนแรงก็เป็นคนใกล้ตัวมากๆ และปัญหาการใช้ความรุนแรงนี้ก็ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ที่ถูกทำร้าย เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2018 ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดิโอที่เรียกได้ว่าสะเทือนใจสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่หรือแม้แต่คนทั่วไปนั่นก็คือ คลิปวิดีโอที่หญิงคนหนึ่งกำลังทุบตีเด็กน้อยอย่างรุนแรงพร้อมกับด่าทอจนเด็กนั้นทนความเจ็บปวดไม่ไหวจนร้องไห้ออกมา คลิปวิดีโอมีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาน จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าหญิงผู้ที่คาดว่าจะเป็นแม่ได้ทำการทุบตีลูกของเธอ โดยเด็กหญิงที่สวมเสื้อสีเขียวที่เป็นพี่คนโตนั้นถูกทุบตี จิกหัว และเตะเข้าที่ลำตัวอย่างหนัก ส่วนคนน้องนั้นถูกตีเข้าที่หลังอย่างแรง สาเหตุที่เด็กโดนทำร้ายร่างกายในครั้งนี้มีเหตุเนื่องมาจากผู้เป็นแม่นั้นหาแท็บเล็ตของเธอไม่เจอและคิดว่าเด็กน้อยนั้นเป็นผู้เอาไป และแม่ก็ยังทุบตีเด็กน้อยไปเรื่อยๆ แล้วพูดว่า “เอาแท็บเล็ตคืนมาให้ฉัน ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก!!” เด็กน้อยก็ได้แต่ตอบว่า “ทำไมแม่ไม่จำล่ะว่าเอาไปไว้ที่ไหน” พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความกลัว หลังจากนั้นเด็กน้อยก็ถูกแม่จิกหัวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับทุบตีจนเด็กน้อยอาเจียนออกมา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Bahia Blanca ประเทศอาร์เจนตินา คลิปวิดีโอนี้ถูกอัปโหลดโดยผู้ไม่ประสงค์ออกนาม หลังจากที่คลิปวิดีโอได้เผยแพร่ออกไปก็ได้มีการแชร์และคอมเมนต์ด่าทอถึงการกระทำของหญิงผู้นี้อย่างหนัก แต่นั่นก็ทำให้เด็กอายุ 3 ขวบและน้องสาวอีก 2 คนได้รับการช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่และถูกส่งต่อให้ผู้ดูแลต่อไป ส่วนแม่ผู้ใช้ความรุนแรงนั้นถูกสอบสวนและอาจถูกตั้งข้อหาว่ากระทำความผิด การใช้ความรุนแรงในครอบครัวนั้นเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากๆ เพราะมันอาจจะไม่ใช่เพียงแค่การทำร้ายร่างกายแต่มันรวมไปถึงการทำร้ายจิตใจให้เด็กนั้นซึมซับความรุนแรงและอาจจะเป็นปมที่ฝังลึกในใจตลอดไป ที่มา dailymail
-
ดาวโป๊อิตาลีออกมิชชั่นบ๊วบให้ผู้โหวตโนกว่า 400 ราย แต่ต้องพักไปก่อนเพราะโดนหมาฟัดหน้า!?
ก่อนหน้านี้เพื่อนๆ บางคนอาจเคยได้ยินข่าวของดาราหนังชมพูชาวอิตาลีที่ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ว่า เธอจะออกเดินทางสนองความต้องการทางเพศด้วยปากของเธอให้กับคนที่โหวต “โน” ในการลงประชามติของอิตาลี นั่นจึงทำให้เธอต้องออกทัวร์ไปมอบความสุขให้ผู้ชายกว่า 400 คนเลยทีเดียว เธอมีชื่อว่า Paolo Saulino วัย 28 ปี การออกทัวร์ของเธอเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 หลังจากที่การลงประชามติในอิตาลีสิ้นสุดลง และฝ่ายที่ชนะคือฝ่ายที่โหวต “โน” คิดเป็น 59 เปอร์เซ็นต์ เธอจึงทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับหนุ่มๆ ทั้งหลาย Paolo ดาราสาวแห่งวงการหนังผู้ใหญ่ เธอบินตรงจากลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา กลับมายังประเทศอิตาลีบ้านเกิด แล้วเธอก็ได้โพสต์ลงอินสตาแกรมว่าเธอจะไปตามเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Rome, Florence, Bologna และเมืองอื่นๆ รวมกันเป็น 10 เมือง เธอได้ออกไปมอบความสุขให้กับผู้ชายหลายๆ คน แต่ระหว่างการออกทัวร์ที่ชื่อว่า Pompa (การใช้ปาก) ของเธอ กลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเธอถูกสุนัขของเพื่อนเข้าจู่โจม จนทำให้เธอต้องหยุดพักการเดินทางครั้งนี้เอาไว้ก่อน ภาพที่เธอโพสต์ลงไปในอินสตาแกรม บอกว่าเธอจำเป็นต้องพักการออกทัวร์ไว้ก่อน การถูกโจมตีจากสุนัขครั้งนี้เกิดขึ้นในวันฮาโลวีนเดือนตุลาคม 2017 ขณะที่เธอกำลังไปปาร์ตี้อยู่กับเพื่อนๆ…
-
คู่รักสร้างสนามรถแข่งสูตร 1 บนหิมะให้กับหมา แล้วดูมันวิ่งสิ ซิ่งไปเลยสายฟ้าาาาาาาา
เวลาที่เราเลี้ยงหมา เราจำเป็นต้องพาพวกมันออกไปเดินเล่นบ้าง เพื่อให้น้องหมาของเราได้สดชื่นผ่อนคลาย ไม่เบื่อกับการต้องนั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ แต่ถ้าหากเป็นตอนที่ข้างนอกหนาวจัดจนมีหิมะตกล่ะจะทำยังไง นี่จึงกลายเป็นที่มาของการหาทางออกให้กับปัญหาดังกล่าวของคู่รักคู่นี้ ช่วงต้นเดือนมกราคม 2018 เหล่าผู้คนที่อาศัยอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับความหนาวเย็น มีหิมะตกอย่างหนัก จนทำให้ Jay Moschelle และแฟนสาว Rebekah ไม่สามารถพาสุนัขของพวกเขาออกไปเดินเล่นได้ Jay หนุ่มบรรณารักษ์ผู้เลี้ยงสุนัขเอาไว้ที่บ้าน คู่รักในเมืองบอสตันเข้าใจว่าน้องหมาเกรย์ฮาวด์ Vicki และ Rocko ตามสายพันธุ์แล้วทั้งสองตัวไม่ชอบอากาศที่หนาวเย็นเอาซะเลย แต่อย่างน้อยพวกมันก็ต้องออกไปวิ่งด้านนอกบ้างซัก 1-2 นาที Vicki และ Rocko น้องสุนัขทั้งสองตัวของพวกเขา นั่นจึงทำให้หนุ่มบรรณารักษ์และแฟนของเขา ตัดสินใจช่วยกันไปเคลียร์หิมะเพื่อให้เจ้าหมาทั้งสองได้ออกไปวิ่งเล่น เส้นทางที่พวกเขาทำตรงสวนหลังบ้านนั้นมีไว้เพื่อเจ้าหมาที่น่ารักโดยเฉพาะ ซึ่ง Jay และ Rebekah ขุดทางไปตามจุดที่น้องหมาของเขาชอบในบริเวณนั้น พอเสร็จแล้วมันก็เหมือนกับสนามแข่งรถ Formula 1 ยังไงยังงั้น สนามแข่งรถสำหรับน้องหมาแห่งนี้ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของเจ้า Vicki แม้ในตอนแรกมันจะงงๆ อยู่บ้างว่านี่คืออะไร…
-
เปิดอีกโลกให้เราได้เห็นว่า “คนตาบอดสีน้ำเงิน” เห็นภาพเหล่านี้แล้วจะออกมาเป็นสีอะไรบ้าง
สายตาของคนเรานั้นจะทำให้เราได้รับภาพต่างๆ ที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะงดงามหรือแสนจะธรรมดา แต่ความงดงามบางอย่างเท่านั้นที่คนปกติทั่วไปไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ นั่นคือภาพที่เกิดจากสายตาของคนตาบอดสี ที่เหมือนกับอยู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว Davide Sasso คือผู้ที่ริเริ่มความคิดสุดเจ๋ง ที่ว่าด้วยการถ่ายภาพเพื่อจำลองออกมาเป็นภาพที่คนตาบอดสีประเภท Tritanopia (น้ำเงิน-เหลือง) นั้นมองเห็น โดยคนตาบอดสีประเภทนี้จะไม่สามารถแยกสีเขียวและน้ำเงินออกจากกันได้ แค่คำพูดคงจะนึกไม่ออกว่าเป็นเช่นไร งั้นเราไปชมภาพถ่ายดังกล่าวกันเลยดีกว่า… 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. เป็นอย่างไรบ้างครับ เป็นสีสันที่แปลกตา แต่กลับสวยงามสุดๆ เห็นไหมล่ะครับว่าความไม่สมบูรณ์แบบก็อาจก่อให้เกิดสุนทรียภาพที่คาดไม่ถึงได้ ที่มา: Boredpanda
-
คุณหมอชาวจีนเสียชีวิตต่อหน้าผู้ป่วย หลังหักโหมทำงานหนักติดต่อกันนาน 18 ชั่วโมง
การที่เราขยันทำงานถือเป็นความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ทุกคนควรกระทำ แต่อะไรที่มากเกินไปจนเกินพอดีก็อาจนำไปสู่ผลเสียที่เลวร้ายเกินกว่าจะคาดเดาได้ ดังเช่นเรื่องราวที่จะนำมาเสนอต่อไปนี้ แพทย์หญิงชาวจีนอายุ 43 ปี นามว่า Zhao Bianxiang เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ และยังเป็นถึงรองหัวหน้าแผนกทางเดินหายใจในโรงพยาบาล Yuci District Hospital ในเมืองจินจง มณฑลซานซี เกิดช็อคและเสียชีวิตหลังจากทำงานติดต่อกันนานเป็นเวลา 18 ชั่วโมง เธอเริ่มเข้างานเมื่อเวลา 6 โมงเย็น ของวันที่ 28 ธันวาคม 2017 ต่อมาในวันที่ 29 ธันวาคม มีรายงานว่าเธอล้มลงและหมดสติไป ทีมแพทย์จึงใช้เวลา 20 ชั่วโมงทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือเธอให้กลับมามีสติ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า หมอ Zhao เสียชีวิตในช่วงเวลาประมาณ 7.16 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2017 ด้วยอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก คำพูดสุดท้ายของเธอก่อนเธอจะล้มลงและหมดสติไปก็คือ “แม่ของหนูเป็นอย่างไรบ้าง” ที่เธอพูดถามกับลูกสาวคนไข้ของเธอ และจากนั้นเธอก็ล้มลง ทั้งนี้เหล่าเพื่อนร่วมงานของต่างออกมาพูดถึงแพทย์หญิง Zhao เช่น “คุณหมอ Zhao นั้นบ้างานมากๆ” “เขาไม่ว่างแม้กระทั่งจะไปพัก” “ในหน้าหนาว ผู้ป่วยทางเดินหายใจจะเยอะเป็นพิเศษ…
-
35 โฆษณาญี่ปุ่นสุดแหวกแห่งปี 2017 ชวนให้เราหัวเราะและซาบซึ้งไปอย่างเพลิดเพลิน
หนึ่งสิ่งที่น่าจดจำของการดูทีวีในประเทศญี่ปุ่นก็คือโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือโฆษณาการบริการต่างๆ ก็ตาม เหตุผลที่มันควรค่าแก่การจดจำก็เพราะ โฆษณาหลายๆ ตัวของประเทศนี้มันช่างแปลกเสียเหลือเกิน ความแปลกของมันทำเอาบางเราดูไม่ออกเลยว่า โฆษณานี้มันต้องการจะขายอะไรกันแน่ และเพื่อทำให้พวกเราเห็นภาพกันมากยิ่งขึ้น ทางช่องยูทูบ JPCMHD ツ ได้รวบรวมโฆษณาเจ๋งๆ ของญี่ปุ่นในปี 2017 มาไว้ในคลิปเดียว มันจะทำให้เราเพลิดเพลินมากขนาดไหนเราไปดูกันเลย คลิปรวมโฆษณาแปลกๆ ของญี่ปุ่นในปี 2017 (คำอธิบายของแต่ละโฆษณาสามารถอ่านได้จากด้านล่างคลิปนะ) 1.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป U.F.O. รสยากิโซบะ : นำเสนอด้วยการต่อสู้ของฮีโร่จากนอกโลก Yakiso-boy ต่อสู้กับเหล่าร้าย แสดงให้เห็นถึงความเผ็ดร้อนในรสชาติบะหมี่ 2.Sugon Chips (0.46) : การพาไปในประเทศฝั่งแอฟริกาตะวันตก ทำให้เรารู้สึกลืมภาพที่เห็นไม่ลงจริงๆ 3.Pocari Sweat (1.16) : หนึ่งในโฆษณาสุดอลังการของปี 2017 ใช้คนแสดงและเบื้องหลังรวมกันหลายร้อยคน 4.Hi-Chew Premium (2.16) : เน้นไปที่ความจ้ำม่ำ นุ่มนิ่ม หอมหวาน เหมือนกับผิวสัมผัสของเยลลี่ 5.Sushi Delivery (2.31)…
-
หญิงสาวจีนเพิ่งรู้ว่าแฟนตัวเองเป็นผู้หญิง หลังอยู่กันมานานกว่าปีครึ่ง แถมเปย์ไปเป็นล้าน!!
เรื่องราวต่อไปนี้มันอาจจะดูชวนงงเล็กน้อยสำหรับเรื่องราวของสาวจีนรายหนึ่งที่ได้คบหากับแฟนเป็นเวลาระยะหนึ่ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าแฟนของตัวเองนั้นเป็นผู้หญิง กว่าจะรู้ตัวก็ถูกหลอกซะแล้ว แถมยังต้องเสียเงินกว่า 1.4 ล้านบาทไปฟรีๆ อย่างไร้ร่องรอย รายงานจาก Nanguo Metropolis Daily ได้เปิดเผยข้อมูลของสาวจีนผู้โชคร้ายที่ชื่อว่า Wang Qi อายุ 40 ปี หญิงม่ายจากมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ที่ได้มาเปิดเผยความสัมพันธ์กับหนุ่มน้อยที่เธอรู้จักเพียงนามสกุลว่า Qian ทั้งสองรู้จักกันผ่านสื่อสอนออนไลน์และเริ่มเดตกันเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2016 ถึงแม้ว่าเธอจะถูกนินทาว่ากินเด็ก แต่เธอก็ไม่ได้สนใจคำครหานั้นแต่อย่างใด เธอรักพ่อหนุ่มคนนี้มากถึงขนาดที่ให้เขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้าน นอกจากนี้พ่อหนุ่มยังพาเธอไปไหว้พ่อแม่ที่มณฑลไหโขว่อีกด้วย ดูชีวิตรักแฮปปี้ดีสุดๆ ทั้งคู่วางแผนจะแต่งงานกันในอีกไม่นาน แต่แล้วฝันก็ต้องสลายลงในพริบตาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อหนุ่ม Qian นั้นหายไป ขาดการติดต่อ ไม่รับโทรศัพท์อีกทั้งยังเปลี่ยนบัญชี WeChat สาว Wang เชื่อว่า เขาต้องมีกิ๊กใหม่อย่างแน่นอน ถ้าเป็นเรื่องการเลิกราปกติมันก็คงไม่น่าจะมีอะไร แต่สาวม่ายคนนี้ต้องสูญเสียเงินไปเกือบ 1.4 ล้านบาทในช่วงที่ใช้ชีวิตกับเขา ทำให้เธอรู้สึกเจ็บใจและเริ่มสืบหาประวัติของหนุ่มคนนี้ทันที หลังจากการค้นหาเธอก็ตกตะลึงกับความจริงที่ได้พบว่าพ่อหนุ่มยอดดวงใจของเธอนั้นเป็นผู้หญิง!? ซึ่งความจริงเรื่องนี้มันทำให้เธอตกใจมากๆ และสงสัยว่าแล้วที่ผ่านมานั้นมันคืออะไร เธอรู้แค่ว่าหนุ่ม Qian…
-
คุณยายวัย 83 เขียนจดหมายถึงเพื่อน เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต และควรค่าแก่การอ่าน…
ชีวิตคือการแข่งขัน แข่งกันเลื่อนตำแหน่ง แข่งกันมีรูปร่างที่ดี แข่งกันประกวดนู่นประกวดนี่ มันคือการแสวงหาแบบไม่สิ้นสุด เราไม่มีเวลามาให้เสียซักนาที บางทีสิ่งที่ต้องการก็ไม่ยอมมา หรือบางทีก็มาเวลาที่สายไปแล้ว เมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปเจอจดหมายที่เขียนจากผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุ 82 ปี ส่งถึงเพื่อนของเธอ ซึ่งในจดหมายนี้เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต ซึ่งเราอยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน “ถึง เบอร์ธา ฉันอ่านมากขึ้นและปัดฝุ่นน้อยลง ฉันนั่งในสนามและชื่นชมทิวทัศน์โดยที่ไม่เข้าไปยุ่งกับพืชพันธุ์ในสวน ฉันใช้เวลาร่วมกับครอบครัวกับเพื่อนมากขึ้น และทำงานน้อยลง เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ ชีวิตควรเป็นรูปแบบของประสบการณ์ในการลิ้มลองไม่ใช่การอดทน ฉันกำลังพยายามที่จะจดจำช่วงเวลานี้และหวงแหนพวกเขาให้มากๆ ฉันไม่ได้ ‘ประหยัด’ อะไร เราใช้เครื่องครัวเซรามิกต่างๆ สำหรับทุกเหตุการณ์พิเศษ เช่นการลดน้ำหนักหรือดอก Amaryllis บาน ฉันสวมเสื้อคลุมดีๆ ไปตลาด ทฤษฎีของฉันคือหากฉันดูร่ำรวย ฉันสามารถจ่ายเงิน 28.49 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 918 บาท) เพื่อซื้อกระเป๋าใบเล็กๆ จากร้านขายของชำได้ ฉันไม่ได้ประหยัดน้ำหอมสำหรับงานเลี้ยงที่พิเศษ แต่ใส่มันเหมือนคนขายในร้านคอมหรือเทลเลอร์ที่ธนาคาร “สักวัน”และ”หนึ่งในวันเหล่านี้” กำลังสูญเสียการจับใจความประโยคของฉัน ถ้ามีอะไรที่มันคุ้มค่าที่จะได้เห็นได้ยินหรือได้ทำ ฉันอยากที่จะเห็น ได้ยินและทำมันเดี๋ยวนี้เลย ฉันไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆ จะทำอะไรกันหากพวกเขารู้ว่าพวกเขาจะไม่มีชีวิตอยู่ในวันพรุ่งนี้แล้ว นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนต้องยอมรับมัน ฉันคิดว่าพวกเขาจะเรียกครอบครัวและเพื่อนสนิทมา พวกเขาอาจจะเรียกเพื่อนเก่าบางคนเพื่อขอโทษและแก้ไข้…
-
คู่หูดูโอ้นักถ่ายภาพชาวยูเครน ยกระดับ ‘นู๊ดเซลฟี่’ ให้มีความเป็นศิลปะ และสุนทรียมากยิ่งขึ้น
เมื่อคุณคิดเกี่ยวกับนู๊ด คุณอาจจะคิดถึงภาพนี่มีคนนุ่งน้อยห่มน้อย และการโชว์สัดส่วนบนเลือนร่างของมนุษย์ แต่ภาพนู๊ดที่ถ่ายโดย Synchrodogs จะต้องทำให้ความคิดของคุณเปลี่ยนไป เพราะมันยกระดับภาพนู๊ดขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง Synchrodogs คือคู่หูนักถ่ายภาพชาวยูเครน ที่มีความพิเศษในการสร้างสรรค์ศิลปะและภาพที่กระตุ้นจินตนาการ จากการที่สร้างสรรค์ภาพนู๊ดเป็นไปแบบในยุคใหม่ ทั้งคู่นั้นผสมผสานระหว่างความบริสุทธ์ของธรรมชาติร่วมกัับตัณหาในภาพโป๊เปลือย ซึ่งมันสิ่งที่ขัดแย้งกัน Tania Shcheglova อายุ 26 ปีและ Roman Noven อายุ 31 ปี ทั้งคู่ใช้สถานที่ใน Post-Soviet States เป็นฉากร่วมกับความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่น ในเวลาเพียงสองปีจากที่พวกเขามาผู้ติดตามศูนย์คนจนตอนนี้กลายเป็นกระแสในเว็บ Tumblr และได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทำนิตยสาร Vogue Ukraine ด้วย โดยภาพชุดใหม่ของพวกขา Supernatural เป็นการผสมความสง่าผ่าเผยของผู้หญิงกับธรรมชาติที่น่าหลงใหล เพื่อสร้างบางอย่างที่สามารถอธิบายเกี่ยวกับความสูงส่งของจิตสำนึก โดยไม่เกี่ยวกับร่างกายหรือตัวอักษร ไปรับชมภาพที่สร้างสรรค์โดยพวกเขากันว่าจะเจ๋งขนาดไหน . . . . . . . . . . . . . ที่มา Designyoutrust
-
ทดสอบพลังกล้อง Pixel 2 ปะทะกล้องโปรมูลค่า 640,000 บาท จะสู้กันได้หรือไม่!?
เป็นที่รู้ๆ กันว่าโทรศัพท์มือถือสมัยนี้ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน จนขนาดที่ว่าสามารถใช้งานประกอบอาชีพกันได้เลย แต่จะเป็นยังไงถ้านำมือถือที่ขึ้นชื่อเรื่องกล้องถ่ายรูปมากๆ อย่าง Google Pixel 2 มาเปรียบภาพถ่ายกับกล้องโปรราคา 640,000 บาท มันจะแตกต่างกันเพียงไหน มีช่างภาพคนหนึ่งชื่อว่า Tyler Stalman นายคนนี้นั้น มีคำถามอยู่ในหัวมาตลอดว่าคุณภาพรูปที่ถ่ายจาก Google Pixel 2 กับกล้องโปรเนี่ยมันจะต่างกันเพียงใด เขาเลยชวน Jason Eng ช่างแบบมืออาชีพ กับ Ania Boniecka ให้มาเป็นนางแบบให้ เพื่อช่วยพิสูจน์คุณภาพระหว่างอุปกรณ์สองตัวนี้ในเรือง Depth of Field, Dynamic Range และ Sharpness ลองดูภาพรวมของภาพ . เมื่อลองเปรียบเทียบกันกล้องโปร Hasselblad รุ่น H4D นั้นได้เปรียบที่ขนาดฮาร์ดแวร์ เซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่าทำให้ภาพที่ได้นั้นของมาเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า ส่ วนเจ้า Pixel 2 ถึงจะมีขีดจำกัดด้านฮาร์ดแวร์แต่ซอฟต์แวร์ก็ทำออกมาก็สามารถเชื่อมือได้ ภาพที่ได้ใน Portrait Mode นี่ออกมาดูดีทีเดียว แต่พอถึงคราวที่ต้องซูมภาพ เจ้า Pixel…
-
ไปดูการนับวันเกิดของคนเกาหลี ที่มีถึงปีละ 2 วัน บางคนเกิดมาได้วันเดียว 2 ขวบเลย!!
วันเกิดของเรานั้นใช้เป็นตัวบ่งบอกว่าเราลืมตาดูโลกมาแล้วกี่ปี ดังนั้น เลขอายุของเราจึงเพิ่มขึ้นปีละครั้งในวันเกิดของเรานั่นเอง แต่ในประเทศเกาหลีไม่ใช่แบบนั้น… หากเราไปอยู่ที่ประเทศเกาหลีล่ะก็ เราอาจจะมีอายุเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะว่าประเทศเกาหลีมีวันเกิดถึง 2 วัน!! ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่าประเทศเกาหลีนั้นมีการนับวันเกิดอีกแบบซึ่งเรียกว่า Eumnyeok saeng-il หรือ Korean Age นั่นเอง โดยการนับวันเกิดแบบเกาหลีนี้จะนับอายุเราตามวันปีใหม่! นั่นหมายถึงว่าเราจะมีวันเกิดถึง 2 วัน และมีอายุที่เปลี่ยนไป บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ ลองสมมติว่าคนหนึ่งเกิดวันที่ 31 ธันวาคม (เราเริ่มนับเลยว่าวันนี้คือ 1 ขวบ) พอข้ามวันไปเป็นวันที่ 1 มกราคมของปีถัดไป เขาก็จะมีอายุ 2 ขวบทันที ทั้งๆ ที่เพิ่งเกิดมาได้แค่ 1 วันเท่านั้น! (แต่การนับแบบนี้จะนับแค่ปีแรกเท่านั้นนะ) โดยปกติแล้วการนับวันเกิดแบบนี้เคยถูกใช้เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วในประเทศจีน จากนั้นก็แพร่ไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชีย ปัจจุบันเหลือเพียงประเทศเกาหลีเท่านั้นที่ทุกคนยังนับอายุด้วยวิธีนี้อยู่ โดยประเทศเกาหลีมองว่าการมี Korean Age ถือเป็นประโยชน์ทางสังคม เช่น การสร้างวัฒนธรรมที่ใช้ร่วมกัน ความสัมพันธ์กันในสังคม และการเคารพผู้สูงอายุ ดังนั้น ผู้คนเกาหลีจึงมักเคารพผู้ที่มีอายุมากกว่า ถึงแม้อายุแบบสากลจะห่างกันแค่ 1 วันก็ตาม …
-
เหมียวนิ้วแหว่งโผล่หน้าบ้านมนุษย์ ทำเนียนร้องขอเข้าบ้าน ที่ไหนได้มันมาขโมยหัวใจนี่หว่า!!
วันนี้จะพาไปรับชมเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนึงที่ดูแล้วน่าสงสาร น่าเอ็นดู แต่กลับมาขโมยหัวใจกันไปซะดื้อๆ แหม…ก็มันน่ารักซะขนาดนั้นนี่นา ว่าแต่เรื่องราวของมันเป็นมายังไง รีบไปชมกันเลยดีกว่า… วันหนึ่งสองสามีภรรยาได้ยินเสียงร้องเหมียวๆ ที่หน้าประตู พยายามจะขอเข้ามาในบ้าน ยามนั้นเป็นเวลากลางคืนที่หนาวเหน็บ กับสภาพอากาศ -25 องศาใน รัฐออนแทรีโอตะวันออก ประเทศแคนาดา เมื่อเปิดประตูจึงพบแมวน้อยสีขาวสลับเทากำลังหนาวเหน็บร้องหาความอบอุ่น ผู้ใช้เว็บ Reddit ชื่อว่า thejesscat บอกว่า “มันผอมมาก มันเข้ามาขดตัวอยู่ที่เรา เราจึงให้อาหารมัน เพราะมันหายใจแรงเสียจนเรารู้ว่ามันหิวโซ ” จากนั้นไม่นานพวกเขาก็พบว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มีบางอย่างที่แสนพิเศษ นั่นคืออุ้งเท้าของมันนั่นเอง โดยเท้าขวาหน้าของมันมีรูปทรงที่แปลกประหลาดมากๆ แต่มองไปแล้วดูคล้ายกับตัวละครของ Star Trek ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Spock จากนั้น เจ้าเหมียวก็ได้ชื่อว่า Spock ทันที “เหมือนมันจะมีนิ้วเกินนะ แต่กระดูกมันกองรวมกันไปหมด บางชิ้นก็อยู่ไหนไม่รู้” thejesscat เล่า หลังจากเจ้าเหมียวเข้าบ้านมา ด้านนอกก็มีหิมะตกหนัก คู่สามีภรรยาจึงดีใจที่เจ้าเหมียวเข้าบ้านมาทันเวลา ขณะเดียวกัน เจ้า Spock ก็ขึ้นไปนอนบนตักมนุษย์คู่รักราวกับจะฝากชีวิตไว้ที่พวกเขาเลยทีเดียว จากนั้นไม่กี่วันอากาศก็หนาวขึ้นเป็น -30 องศา รวมทั้งหิมะก็หนาขึ้นด้วย ขณะนั้นเจ้า…
-
มารู้จักสองพี่น้อง Sudarso กันเถอะ คำว่า “รักพี่เสียดายน้อง” มันเป็นอย่างงี้นี่เอง!!
วันนี้เอาใจสาวๆ กันหน่อย เพราะสิ่งที่จะนำเสนอต่อไปนี้คือชายสองคนที่เรียกได้ว่ากำลังฮอตกันในขณะนี้ มีแฟนคลับเป็นของตัวเองแล้วด้วยนะ เอ…ว่าแต่เขาทั้งสองจะเป็นใคร ทำอะไร ทำไมถึงทำเอาสาวๆ ใจละลายกันได้ขนาดนั้น ติดตามชมกันได้เลยจ้า… เขาทั้งสอง มีนามว่า Yoshi Sudarso (ซ้าย) และ Peter Sudarso (ขวา) หากว่าใครเคยดูเพาเวอร์เรนเจอร์ (ฝั่งอเมริกา) จะต้องเคยเห็นแน่ๆ ก็เพราะเขาทั้งคู่ก็คือ บลูเรนเจอร์ หรือเพาเวอร์เรนเจอร์ตัวสีน้ำเงินนั่นเอง บางคนอาจเคยเห็นพวกเขาในรายการ “Asian Bachelorette” พวกนางเป็นสองพี่น้องที่สนิทกันน่าดูเลยล่ะ สนิทแบบไม่เกรงใจกันเลยทีเดียว (กำเดาจะไหลลล) เห็นแล้วใจคอไม่ดี… หล่อวัวตายควายล้มมมม ขอสมัครเป็นแฟนคลับบลูเรนเจอร์ด้วยสิจ๊ะ สไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นนี้หาได้ที่ไหนเนี่ยหื๊ม สร้อยคอเรียงเป็นลูกเชียวนะพ่อคู๊ณณ มีความ #KyloRenChallenge สตาร์วอร์ก็มา อื้อหือ พี่จ๋า… แสงละมุน หุ่นละไม สายตานี้…อ่อนระทวยไปหมดเลี้ยวว กรี๊ดดด!! ดูสีผมนั่นสิ คนหรือเทพบุตร …
-
ผู้คนไม่พอใจหลังนักร้องคันทรี่ดังซื้อ “จิ้งโจ้น้อย” สองตัว เป็นของขวัญให้กับลูกของเขา
ในเทศกาลคริสต์มาส ปกติแล้วก็จะมีคนในครอบครัวนำของขวัญมาให้สมาชิกในบ้าน หรือจะให้เพื่อน ให้ญาติก็ตามแต่ ซึ่งของขวัญที่ได้จะมีทั้งของขวัญธรรมดาและไม่ธรรมดาปะปนกันไป แต่มีประเด็นนักร้องคนดังคนหนึ่งที่ซื้อของขวัญให้แก่ครอบครัวของเขา นักร้องเพลงคันทรี่ Luke Bryan ได้ให้ของขวัญที่ค่อนข้างไม่ธรรมดากับภรรยาของของไว้ใต้ต้นคริสต์มาส เพราะมันคือลูกจิงโจ้สองตัว! Brett’s barn additions. #brettsbarn A post shared by Luke Bryan Official (@lukebryan) on Dec 25, 2017 at 7:17am PST หากดูวิดีโอไม่ได้ให้คลิกที่นี่ ภายหลังเจ้าจิงโจ้สองตัวนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า Margo และ Todd พวกมันเป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดของ Brett’s Barn ฟาร์มเล็กๆ สำหรับช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ ที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงหลานสาวของ Bryan อย่างไรก็ตามดูเหมือนสัตว์ในฟาร์มจะไม่ได้มาจากการช่วย แต่มาจากการซื้อ มีนักจารณ์ท่านหนึ่งกล่าวว่า “จิงโจ้ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง เดี๋ยวรอจนมันโตแล้วมันจะเริ่มสร้างปัญหาให้สัตว์ตัวอื่นๆ และลูกๆ ของคุณ … คุณไม่สามารถดูแลมันได้เหมือนลาหรอกนะ หาข้อมูลซะบ้างสิ” A post shared by Caroline Bryan (@linabryan3)…
-
คลิปอุบัติเหตุรถบัสหลุดโค้งตกลงไปในลำธารเย็นจัด โชคดีที่มีรถเครนจอดอยู่ข้างๆ เลยช่วยได้ทัน
นานมาแล้วยังเคยมีคำพูดมา “ไม่ว่าใครก็เป็นวีรบุรุษได้” ไม่แน่ว่าคำพูดนี้อาจจะเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดของเหตุการณ์ที่เพื่อนๆ กำลังจะได้ชมก็เป็นได้ เรื่องราวมันเกิดขึ้นในตอนที่รถประจำทางในเมืองฉางโจว มณฑลเจียงสู ชนเข้ากับรถอีกคันและพุ่งลงลำธารเย็นจัดไปเมื่อช่วงปีใหม่ของปี 2018 รถบัสเสียหลักและพุ่งลงแม่น้ำหลังจากชนเขากับรถอีกคันหนึ่ง คนขับรถเครนที่อยู่บริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์การเข้าจึงได้ถึงข้ามถนนไปดูสถานการณ์ เราอาจจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่คนๆ นี้ล่ะคือฮีโร่ของเหตุการณ์ครั้งนี้ หลังจากที่เห็นรถบัสพร้อมผู้โดยสารพุ่งลงแม่น้ำไปเขาก็รีบวิ่งกลับมาเพื่อขึ้นรถเครนของเขา คนขับรถเครนที่ตัดสินใจว่าการกลับขึ้นมาที่รถจะสามารถช่วยผู้โดยสารได้เร็วกว่าการดึงขึ้นมาทีล่ะคนด้วยมือหรือเชือก ด้วยการตัดสินใจที่รวดเร็วเขาขับรถเครนข้ามไปยังฝั่งที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะหย่อนส่วนตะขอของตัวเครนลงไปในแม่น้ำ และดึงผู้โดยสารทั้ง 4 คนออกมาจากแม่น้ำได้สำเร็จ รถคันใหญ่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการข้ามฟากกว่าปกติตามไปด้วย ส่วนการกะความยาวของเครนก็ต้องใช้เวลาอยู่บ้างเช่นกัน . ถ้าไปดูกันในวีดีโอต้นฉบับโดยช่อง Shanghaiist เราจะเห็นกันเลยว่าคนขับรถเครนใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเลยจริงๆ ที่มา Medium
-
ประธาน UFC เข้าเยี่ยมเด็กสาวในไทย หลังจากที่เขาออกเงินช่วยเหลือในการผ่าตัดให้กับเธอ
การที่มนุษย์ช่วยเหลือกันนั้นเป็นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นได้แม้ว่าพวกเราอาจจะไม่ได้มีสายเลือดร่วมกันเลยก็ตาม และบางครั้งการช่วยเหลือที่ว่านั้น อาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับคนที่อยู่ใกล้ๆ เราเสียด้วยซ้ำ Dana White ชายผู้เป็นประธานการแข่งขัน Ultimate Fighting Championship หรือที่เรารู้จักกันในชื่อย่อ UFC ได้เดินทางไปพบกับน้องทับทิมเด็กสาวชาวไทยที่เขาเคยช่วยเหลือเรื่องเงินค่าผ่าตัดเปลี่ยนตับไว้เมื่อปี 2010 ที่จังหวัดภูเก็ต ภาพของ White พร้อมกับ Mike Swick นักสู้มือเก๋าของ UFC ได้ไปที่ค่ายค่ายมวยไทยเพื่อพบกับคุณรัตนชัยพ่อของน้องทับทิม ถูกโพสต์โดยนักข่าว MMA ในประเทศไทย James Goyder บน Twitter “Dana White ตอนนี้อยู่ที่ภูเก็ตเพื่อมาพบกับเด็กสาวที่เขาเคยจ่ายเงินค่าผ่าตัดให้เมื่อหลายปีก่อน” James Goyder เขียนประกอบภาพ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเมื่อปี 2010 น้องทับทิมที่ตอนนั้นยังอายุแค่ 7 เดือน เธอจำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนตับอย่างเร่งด่วนแต่ทางบ้านกลับไม่มีทรัพย์สินมากพอที่จะจ่ายค่าผ่าตัดได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นเหล่านักมวยและคนงานในค่ายมวย Tiger Muay Thai ที่พ่อของน้องทับทิบเคยสังกัดอยู่ก่อนที่จะแยกตัวออกไปตั้งค่ายมวยของตัวเองได้จัดรณรงค์เรี่ยไรเงินเพื่อเป็นค่ารักษาให้แก่น้องทับทิม ในตอนที่ยอดเงินบริจาคอยู่ที่ประมาณ 320,000 บาท จากยอดที่ต้องการทั้งหมด 1,600,000 บาท จนกระทั่ง Ben Pittsley หนึ่งในสู้ MMA ผู้ฝึกซ้อมอยู่ภายในค่าย…
-
สาววัย 19 พบรักแฟนหนุ่มใหญ่วัย 52 จากเริ่มต้นขอเป็นเพื่อนผ่านเฟซบุ๊ก จนผลิบานเป็นดอกรัก…
ความรักอาจจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่มีเส้นแบ่ง หรือข้อแม้ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ ศาสนา หรือแม้แต่ระยะห่างระหว่างอายุก็ตาม เหมือนกับเรื่องราวความรักของชายหญิงที่มีอายุห่างกันมากถึง 33 ปีคู่นี้… “สำหรับ Maik มันเหมือนกับความรักครั้งแรก หลังจากที่เรารู้จักกันเพียงไม่กี่วัน มันเริ่มต้นจากการที่เขาแอดมาหาฉันและส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊ก” Selma หญิงสาววัย 19 ปีเล่าถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างเธอกับแฟนหนุ่มวัย 52 ปี Selma เล่าว่าในตอนแรกเธอไม่เคยตอบข้อความที่ฝ่ายชายส่งมาเลย แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ของคุณ Maik ก็ทำให้ฝ่ายหญิงเริ่มใจอ่อนและเปิดใจให้กับเขา “หลังจากที่ฉันเริ่มเปิดใจตอบข้อความของเขา เราก็เริ่มพูดคุยกันในทุกๆ เรื่อง และในตอนนั้นเองฉันก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังตกหลุมรัก ความรู้สึกของฉันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่ในตอนแรกฉันยังไม่กล้าเปิดเผยเพราะฉันยังไม่แน่ใจในตัวเอง” หญิงสาววัย 19 ปีกล่าว ทั้งสองพูดคุยกันในโลกอินเตอร์เน็ตได้ประมาณ 1 เดือนก่อนที่จะนัดพบกันครั้งแรก การพบกันในวันนั้นทำให้ทั้งสองได้มีโอกาสมาอยู่เคียงข้างกันจนถึงทุกวันนี้ Selma เล่าว่าเธอและคู่รักมีหลายๆ อย่างที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการชอบศิลปะเหมือนกัน ชอบฟังเพลงแนวเดียวกัน และสิ่งต่างๆ เหล่านี้เองที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างอายุของพวกเขา การคบกับหนุ่มใหญ่ที่มีอายุห่างกันมากกว่า 30 ปี ทำให้หญิงสาวต้องทะเลาะกับที่บ้านเนื่องจากครอบครัวของเธอไม่พอใจอย่างมาก และนี่คืออุปสรรค์แรกที่กำลังจะพิสูจน์ความรักของทั้งสอง “หลังจากที่เราคบกันมานานกว่าครึ่งปี แม่ฉันก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉันกับ Maik และหลังจากที่เริ่มมีปัญหากับที่บ้านฉันก็ย้ายออกมาอยู่กับเขา นี่คืออุปสรรค์ที่เราต้องผ่านมันไปให้ได้” ฝ่ายหญิงให้สัมภาษณ์…
-
ความน่ากลัวของโลกออนไลน์ เมื่อนำภาพของหนึ่งคนมาเล่นตลก มันจะเปลี่ยนชีวิตคนได้ขนาดไหน?
การพูดหยอกล้อหรือการใช้รูปภาพล้อเลียนกันนั้นอาจจะเป็นเรื่องสนุกสำรับคุณและเพื่อนๆ แต่บางครั้งการที่คุณนำภาพของคนอื่นจากอินเตอร์เน็ตมาล้อเล่นนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบกับเจ้าของภาพโดยตรงเหมือนกับกรณีของหญิงสาวรายนี้!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับ Ashley VanPevenage หญิงสาววัย 20 ปีจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ถูกนำภาพรีวิวการแต่งหน้าของตัวเองไปล้อเลียนในโลกออนไลน์ และส่งผลต่อจิตใจเธออย่างมาก ภาพถ่ายดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อช่วงเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา โดยเธอได้มีโอกาสเป็นแบบให้กับเพื่อนสาวเจ้าของบล็อกแต่งหน้าทางอินสตราแกรม หลังจากที่ได้รับการแปลงโฉมใหม่จนกลายเป็นสาวสวยผิวเนียน ภาพก่อนและหนังการแต่งหน้าของเธอก็ถูกอัปลงบนอินสตราแกรมของเพื่อนสาว แต่แล้วไม่นานมันก็กลายเป็นกระแสล้อเลียนในโลกออนไลน์ ภาพต้นฉบับที่ถูกอัปในอินสตราแกรม MakeupByDreigh ของเพื่อนเธอ ภาพดังกล่าวถูกโพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า virtuallyvivi พร้อมกับแคปชั่นที่บอกว่า “ฉันไม่เข้าใจเลยว่าผู้คนทำแบบนี้ได้ยังไง แค่ใช้เครื่องสำอางปกปิดรอยสิวฉันยังทำเองไม่เป็นเลย” และไม่นานภาพดังกล่าวก็กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ทันที หลังจากที่ภาพและแคปชั่นของ virtuallyvivi ถูกผู้ใช้รายหนึ่งที่มีผู้ติดตามมากว่า 5 ล้าน อัปภาพเลียนแบบเธอ รูปของ VanPevenage พร้อมกับข้อความเยาะเย้ยถูกรีทวีตมากว่า 8,000 ครั้ง และที่หนักกว่านั้นก็คือ ผู้ใช้อีกรายที่เปลี่ยนแคปชั่นของภาพให้รุนแรงกว่าเดิม “นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงควรพาสาวไปว่ายน้ำในเดตแรก” ข้อความเปรียบเทียบที่อาจจะดูขำๆ แต่สำหรับเจ้าของภาพแล้วอาจจะไม่ใช่แบบนั้น และไม่ได้มีเพียงแค่ภาพของ VanPevenage เท่านั้นที่ถูกนำไปล้อเลียน แต่ถ้าหากคุณลองค้นหาในอินเตอร์เน็ตด้วยข้อความว่า “Women You Need To Take Swimming on The First Date” คุณก็จะพบภาพของคนอื่นๆ ที่มีชะตากรรมไม่ต่างกับหญิงสาวผู้นี้…
-
น้องหมาผู้ซื่อสัตย์ คอยอยู่เคียงข้างร่างเจ้าของอันไร้วิญญาณ แม้จะเสียชีวิตไปเป็นสัปดาห์แล้ว…
ว่ากันว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ มันทั้งจงรักภักดี ขี้เล่น และซื่อสัตย์กับเราตลอดเวลาไม่ว่าเราจะเป็นใคร ดีร้ายมาจากไหนก็ตามที และในบางครั้งแม้เราจะจากไปแล้วเจ้าสุนัขพวกนั้นก็ยังความจงรักภักดีนั้นไว้ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งจากอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงบูดาเปส ประเทศฮังการี ว่าไม่มีคนพบเห็นผู้พักอาศัยคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้สูงอายุมาเป็นเวลานานแล้วจึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พวกเขาได้พบกับเจ้า Zsazsa สุนัขพันธ์ุ Havanese วัย 9 ขวบกำลังนอนเฝ้าร่างเจ้าของห้องที่เสียชีวิตมาแล้วกว่าหนึ่งสัปดาห์ในสภาพขาดน้ำอย่างหนัก Gabor Pataki หัวหน้ากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Allatmento Liga อธิบายว่า แม้ว่า Zsazsa จะมีอาหารเม็ดเหลือให้กินอยู่บ้าง แต่สัตวแพทย์ก็สามารถยืนยันได้ว่ามันจะตายภายในวันสองวันหากเธอไม่ถูกพบ “เจ้าหมานอนนิ่งอยู่ข้างๆ ร่างของผู้ตาย มันอ่อนแอมาจนลุกขึ้นเองยืนไม่ไหว พวกเราเลยต้องลากมันออกมา” Pataki บอกว่าสุนัขส่วนมากคงทนความชอกช้ำทางจิตนั้นไม่ไหว “แต่เมื่อวานนี้เองมันก็สามารถกลับมาแข็งแรงและเริ่มกระดิกหางอย่างร่าเริงอีกครั้ง” ส่วนเรื่องผู้เสียชีวิต ตำรวจบอกว่าผู้เสียชีวิตวัย 66 ปีนั้นเสียชีวิตไปด้วยโรคชราตามธรรมชาติ อย่างไรก็ดีเรื่องราวความจงรักภักดีและซื่อสัตย์ของเจ้า Zsazsa นั้นได้กลายเป็นตัวอย่างอย่างดีที่บอกว่าสุนัขนั้นเป็นเพื่อนแท้ที่ดีที่สุดของมนุษย์ที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็จะไม่ทิ้งเราไปไหนแม้ว่านั้นจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตเราก็ตามที ที่มา Dailymail
-
Mandeep Batwal สาวชาวอินเดียที่อายุเพิ่มตามกาลเวลา แต่ร่างกายกลับไม่โตตามวัย
เรื่องราวอันน่าประหลาดใจนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย หลังจากที่วัยรุ่นสาววัยผู้หนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับขนาดร่างกายที่เล็ก และถึงเวลาจะผ่านไปนานกว่า 18 ปี สาวน้อยผู้นี้ก็ยังมีร่างกายที่เล็กและสูงเพียงแค่ 83 เซนติเมตรเท่านั้น!! ในหมู่บ้านของเธอทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ชื่อของ Mandeep Batwal กลายเป็นที่พูดถึงในหมู่บ้านอย่างมาก มีทั้งคนที่รักเธอและบางส่วนที่คิดว่าร่างกายของเธอนั้นโดนคำสาปบางอย่าง ด้วยร่างกายที่สูงไม่ถึง 100 เซนติเมตร หญิงสาวกลายเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดในหมู่บ้าน เธอมีขนาดตัวพอๆ กับไม้คริกเก็ตและมีขนาดของฝ่ามือและเท้าเท่าเดิมมาตั้งแต่เธออายุได้แค่ 2 ขวบ ด้วยร่างกายที่เล็กพอๆ กับเด็ก ทำให้ Mandeep มักจะถูกเพื่อนๆ ของเธออุ้มไว้บนบ่าเวลาที่ออกไปเล่นด้วยกัน Raj Rani วัย 36 ปีแม่ของหญิงสาวกล่าวว่า “เราเป็นกังวลกับเธอมาก ตอนนี้เธออายุ 18 ปีแล้วแต่เหมือนกับเด็ก 4 ขวบเลย เธออ่อนแอมาก และไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงที่จะออกไปวิ่งเล่นเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ เราเคยส่งเธอเข้าเนอสเซอรี่พร้อมกับน้องสาวของเธอ แต่ Mandeep ก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้เลย” การคลอดก่อนกำหนดอาจจะเป็นสาเหตุให้หญิงสาวมีพัฒนาการที่ไม่ปรกติ Mandeep ลืมตาออกมาดูโลกในขณะที่แม่ของเธอตั้งครรภ์ได้เพียงแค่ 28 สัปดาห์เท่านั้น Mandeep เกิดมาในครอบครัวแรงงาน พวกเขาไม่ค่อยมีเงินและพบหมอเพื่อตรวจอัลตร้าซาวด์ลูกคนแรกเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น “หลังจากที่เราแท้งลูกคนแรกซึ่งเป็นผู้ชาย จากนั้น Mandepp ก็เกิดมา เราดีใจมากที่มีเธอ…
-
นักแสดงตลกชาวญี่ปุ่น ทาตัวดำสวมบท Eddie Murphy กลับกลายเป็นการเหยียดผิวรุนแรง…
เรื่องของสีผิว ลักษณะเฉพาะของบุคคล หรือเรื่องเชื้อชาติและศาสนานั้นถือเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก บางครั้งถ้าหากไม่ระมัดระวังให้ดีล่ะก็อาจจะกลายเป็นกระแสดราม่าเหมือนกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ คุณ Masatoshi Hamada นักแสดงตลกชาวญี่ปุ่นถูกคอลัมนิสต์ชาวอเมริกันท่านหนึ่งบอกว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นคือการเหยียดผิว หลังจากที่เขาแต่งตัวและทาสีผิวเลียนแบบดาราตลกชื่อดังอย่าง Eddie Murphy คุณ Masatoshi และการแต่งตัวเลียนแบบ Eddie Murphy ที่ถูกวิจารณ์ คอลัมนิสต์ชาวอเมริกัน Baye McNeil ได้ทวีตภาพของนักแสดงตลกคนดังกล่าวพร้อมกับบอกว่า “การแต่งหน้าทาตัวสีดำโดยนักแสดงญี่ปุ่น ถ้าอยากเรียกเสียงฮาก็ควรให้นักแสดงผิวสีมาแสดงสิ มันดูไม่ดีเลย” นอกจากนี้เขายังได้ติดแฮชแท็ก #StopBlackfaceJapan เพื่อเรียกร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าวด้วย ข้อความและภาพจากทวิตเตอร์ของคุณ Baye McNeil แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับข้อความจากทวีตเตอร์ของคอลัมนิสต์คนดังกล่าว พร้อมกับบอกว่าอันที่จริงแล้วในประเทศอื่นๆ นั้นไม่ได้มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ที่เหมือนกับสหรัฐอเมริกาหรืออังกฤษ และคุณก็ไม่ควรเอาความเชื่อของชาวอเมริกันไปตำหนิพวกเขาด้วย “คุณกำลังแก้ปัญหาที่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับประเทศญี่ปุ่น โดยการใช้ความเป็นอเมริกันของคุณไปโยนความผิดให้กับพวกเขา สิ่งที่ไม่เหมาะสมสำหรับอเมริกันไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับคนทั้งโลกหรอกนะ” ข้อความจากทวิตเตอร์ท่านหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตท่านอื่นๆ ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกว่า นักแสดงตลกท่านนั้นมีความตั้งใจอย่างมากที่จะแต่งตัวออกมาให้คล้ายกับ Eddie Murphy “คุณอยากให้ชาวญี่ปุ่นคิดว่านี่คือส่วนหนึ่งของการแสดง Minstrel Shows (การแสดงเหยียดผิวที่โด่งดังในศตวรรษที่ 19) อย่างนั้นหรือ คุณอยากให้พวกเรามองว่าการเล่นเป็น Eddie Murphy เป็นเรื่องไม่ดีอย่างนั้นใช่ไหม?” ความคิดเห็นจากชาวเน็ตท่านหนึ่ง อย่างไรก็ตามคอลัมนิสต์ชาวอเมริกันก็ได้ออกมาอธิบายว่าการแสดงดังกล่าวนั้นได้รับความนิยมแพร่หลายในญี่ปุ่นหลังจากที่ Minstrel Shows ถูกชาวอเมริกันนำเข้ามาในญี่ปุ่น จนกลายเป็นที่นิยม…
-
หนุ่มโชว์วิธีการซัพพอร์ตแฟนสาว ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง!!
ในปัจจุบัน โรคซึมเศร้าคืออาการทางจิตที่พวกเราเริ่มรู้จักกันได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่พวกเรากำลังคิดไม่ตกกันอยู่ก็คือ เราจะทำยังไงถ้าคนใกล้ชิดของเราป่วยเป็นโรคที่ว่านี้ งั้นเราลองมาดูตัวอย่างการรับมือกับอาการโรคซึมเศร้าของแฟนหนุ่มคนนี้กันดู นี่เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ใช้ชื่อใน Imgur ว่า RoastedIguana ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานกว่า 13 ปี และจากอาการของเธอ ทำให้ในบางวันเธอไม่ยอมลุกออกจากเตียงเลย ไม่ว่าจะหิวข้าวหรือต่อให้ปวดฉี่ก็ตาม จนกระทั่งวันหนึ่งที่นอนของเธอก็ได้มีสภาพเป็นอย่างในรูปด้านล่าง ข้าวของจำนวนมากที่กองอยู่บนเตียงของเธอ . เธออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ในวันนั้นเธอตื่นขึ้นมา แต่ก็ยังคงนอนอยู่บนเตียงไม่ยอมไปไหน แล้วพึมพำกับแฟนหนุ่มที่เข้ามาในห้องว่า เธอต้องการยกเลิกแผนที่วางเอาไว้กับเขาสำหรับวันนี้และต้องการจะนอนอยู่แต่บนเตียง หลังจากนั้นแฟนหนุ่มเลยถามเธอว่าอยากดื่มชามั้ย? เธอจึงตอบว่าไม่ แต่เขาก็ยังชงชามาวางไว้ให้เธอตรงปลายเตียงอยู่ดี แล้วหลังจากนั้นความวุ่นวายก็เริ่มต้นขึ้น ขณะที่เธอกำลังมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม แฟนหนุ่มก็ถามเธอว่าอยากจะปิดม่านมั้ย? พอเธอตอบว่าไม่ เขากลับเดินไปปิดซะอย่างนั้น แล้วหันมาถามแฟนสาวอีกว่าต้องการถุงน้ำร้อนมั้ย? หญิงสาวยังคงตอบว่าไม่ แต่เขาก็ยัดถุงน้ำร้อนใส่เข้าไปใต้ผ้าห่มของเธออยู่ดี . ต่อมาเขาถามเธอว่าอยากได้เสื้อผ้าอะไรเพิ่มมั้ย? คำตอบของเธอยังคงเป็นคำว่าไม่ แล้วแฟนหนุ่มก็โยนเสื้อมาบนเตียงเธอแล้วถามว่าต้องการอะไรอีกมั้ย? ซึ่งหญิงสาวก็ตอบแบบเดิม เขาเลยโยนม้วนกระดาษไว้บนเตียงก่อนที่แฟนหนุ่มจะเดินออกไปปล่อยเธอไว้ในห้องคนเดียว . แต่เรื่องราวมันก็ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะผ่านไปไม่นาน แฟนหนุ่มก็กลับเข้าห้องมาพร้อมกับโยนรองเท้าบูทเปื้อนดินคู่หนึ่งมาไว้บนเตียงของเธอ ทำให้เธอรู้สึกอยากจะบ้าตายที่เขามาทำให้ผ้าห่มของเธอสกปรก …
-
ชาวต่างชาติโพสต์ 28 ภาพเมนูแปลกๆ ที่เจอใน McDonald’s ที่ต่างประเทศ น่าตามไปกินจริงๆ เลย
McDonald ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีตัวตลกมันสัญลักษณ์ ข้อมูลบอกว่าพวกเขาให้บริการคนกว่า 50 ล้านคนต่อวัน พวกเขาโด่งดังและมีสาขามากกว่า 30,000 สาขาใน 121 ประเทศทั่วโลก ร่วมทั้งยังมีความหลากหลายด้วยเมนูพิเศษที่จะหากินได้เฉพาะในสาขาประจำแต่ละประเทศอีกด้วย และในวันนี้เราก็ได้นำ 29 สุดยอดเมนูแปลกๆ ที่จะหาได้แค่เพียงบางสาขาในบางประเทศเท่านั้น ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้น เชิญไปรับชมกันได้ด้านล่างนี้เลย Cheesy Pork Burger จากสาขาไต้หวัน ชีสที่ยืด + หมูทอด + ผักกาดหอม Pesto Pasta จากสาขาโรม พาสต้าที่ McDonald’s! เฉพาะในอิตาลีเท่านั้น Potato Grids จากสาขาเกาหลี มันฝานเป็นหยักแล้วทอด น่าเสียดายที่มีแค่ที่เกาหลี Milky Tea Float จากสาขาประเทศไทย อันนี้ของบ้านเรานั่นเอง พึ่งจะรู้นะเนี่ยว่ามีขายแต่ในไทย Fish & Fries จากสาขาประเทศไทย อันนี้ก็ของไทยอีกอัน ว่าแต่พวก Fish & Chips ที่ออกจะฝร๊างฝรั่ง ทำไมมีแต่ในไทยได้ล่ะนั่น Spaghetti, Fried Chicken, และ Banana…
-
อัปเดตภาพ Logan Paul จ้างบอดีการ์ดพิเศษ เฝ้าบ้านมูลค่า 200 ล้าน หลังเกิดดราม่าดัง
หลังจากที่ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนังเกี่ยวกับกรณีทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อผู้เสียชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดหลังจากกลายเป็นกระแสดราม่าอย่างหนัก จากรายงานของ Daily Mail เผยว่า Logan Paul ได้จ้างบอดี้การ์ดในการดูแลความปลอดภัยของเขาที่บ้านหรูมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ภาพของรถรักษาความปลอดภัยที่จอดอยู่หน้าบ้านของยูทูบเบอร์หนุ่มวัย 22 ปี ถูกถ่ายภาพได้หลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของเขาที่ป่าอาโอกิกาฮาระเพียงแค่ไม่กี่วัน รถของบริษัทรักษาความปลอดภัยทั้ง 4 คนที่จอดอยู่ในบ้านหรูของยูทูบเบอร์หนุ่มถูกถ่ายได้พร้อมกับการออกมาปรากฏตัวครั้งเป็นครั้งแรกของเขาหลังจากที่เกิดกระแสดราม่า แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องนี้แต่อย่างใด และทางด้านเซเลบหนุ่มก็ยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในครั้งนี้ ภาพของรถจากบริษัทรักษาความปลอดภัยที่จอดอยู่หน้าแมนชั่นหรูของ Logan Paul จากรายงานระบุว่าภาพของหนุ่ม Logan ในระหว่างออกกำลังกายในตอนเช้านั้นดูมีอาการวิตกกังวลหลังจากที่มีกระแสดราม่าของเขา พฤติกรรมการหัวเราะและพูดเรื่องตลกเกี่ยวกับศพในป่าอาโอกิกาฮาระนั้นได้รับการวิจารณ์อย่างหนักจากเล่าคนดัง และสื่อหลายสำนัก ยูทูบเบอร์หนุ่มได้ออกมาขอโทษต่อการกระทำดังกล่าวแล้วถึง 2 ครั้ง และเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเขาก็ได้บอกว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเพียงแค่อยากจะสร้างกระแสด้านบวกไม่ได้เป็นการดูถูกแต่อย่างใด หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว หนุ่มวัย 22 ปีไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ 5 มกราคมที่ผ่านมามีคนพบเห็นเขาออกกำลังกายบนถนนใกล้กับบ้านหรูที่ลอสแองเจลิส สีหน้าของยูทูบเบอร์หนุ่มที่ดูวิตกกังวลหลังจากถูกโจมตีอย่างหนัก . ขณะนี้ช่องยูทูบของ Logan Paul กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยจากเดิมยอดผู้ติดตามใหม่ของเขาจะมีเพิ่มมากถึง 40,000 รายต่อวันลดลงเหลือเพียงแค่ 16,000 รายต่อวันเท่านั้น…
-
คุณแม่ลูกสามเผยเรือนร่างยังฟิต แม้กาลเวลาจะผ่านไปหลายปี ก็ยังดูแลตัวเองให้เป๊ะได้!!
การลดน้ำหนักหรือดูแลร่างกายให้สมส่วนตลอดเวลาอาจจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสาวๆ หลายๆ คน และมันอาจจะเพิ่มความยากระดับ 8 เข้าไปอีกหลังจากที่คุณมีลูกแล้ว แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่าไม่มีอะไรที่มนุษย์อย่างเราๆ นั้นทำไม่ได้ และการดูแลตัวเองให้เช้งกระเด๊ะนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ เพราะคุณ Maria Kang คุณแม่ลูก 3 ท่านนี้เป็นตัวอย่างให้พวกเราเห็นแล้ว!! หลังจากผ่านไป 5 ปีทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 คุณแม่ลูก 3 จากรัฐแคลิฟอร์เนียท่านนี้เริ่มกลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย หลังจากที่เธอได้ถ่ายภาพของตัวเองและลูกๆ พร้อมกับสโลแกน “อะไรคือข้ออ้างของคุณ??” เพื่อปลุกกระแสให้ชาวอเมริกันหันมาสนใจการดูแลร่างกาย แต่ดูเหมือนว่าสโลแกนของเธอนั้นจะไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจของคนทั่วไปสักเท่าไหร่ แต่คุณ Maria ก็ไม่สนใจ เธอยังคงทำหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลร่างกายและสุขภาพของเธออย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านไป 5 ปี คุณแม่วัย 37 ปีกลับมาอีกครั้งพร้อมกับหุ่นที่แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยในภาพถ่ายชุดเดิมและสโลแกนใหม่ที่บอกว่า “อะไรคือเหตุผลของเธอ” และแคปชั่นใต้ภาพดังกล่าวว่า “หลังจากที่คุณมีข้ออ้าง คุณจำเป็นต้องหาเหตุผลของมัน” อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเธอจะเปลี่ยนสโลแกนไป แต่คุณ Maria ก็บอกว่าเธอยังคงชอบคำว่า “ข้ออ้าง” อยู่ดีเพราะมันคืออุปสรรค์สำหรับคนที่อยากจะลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง . ถึงจะอายุเกือบ 40 ปีและมีลูกชายถึง 3 คนแต่คุณแม่ท่านนี้ก็ยังดูดีเหมือนเดิม “การจะเริ่มต้นดูแลตัวเองในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนไม่อยากลดน้ำหนักนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณอาจจะต้องหาเหตุผลให้ตัวเองลุกขึ้นมาทำบางสิ่งบางอย่างดีกว่านั่งอยู่หน้าที่ทีวีและทานอาหารแคลอรี่สูง” Maria…
-
ชีวิตของลูกสาวผู้โชคดี ที่มีคู่พ่อเศรษฐีเลี้ยงดูมันเป็นยังไง ‘ทั้งเปย์ไม่ยั้งและให้ไม่อั้น’
สาวๆ บางคน เวลาเปิดไปดูไอจีของคนอื่นที่ถ่ายรูปคู่กับเสื้อผ้าราคาแพง ก็จะทำให้รู้สึกแอบอิจฉาอยู่ในใจ แต่สำหรับหญิงสาววัย 18 ปีคนนี้ เธออาจจะไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นมาก่อน เพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าราคาแพงขนาดไหน พ่อเธอก็จัดให้ได้แทบทั้งหมดอยู่แล้ว สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า Saffron Drewitt-Barlow หญิงสาวชาวอังกฤษผู้ที่อยู่ในครอบครัวอันแสนร่ำรวยมั่งคั่ง พิสูจน์ได้จากค่าขนมที่เธอได้เดือนละมากกว่า 200,000 บาท และข้าวของในตู้เสื้อผ้าของเธอที่รวมกันเป็นเงินกว่า 43 ล้านบาท Saffron สาวผู้มีเสื้อผ้าและะเครื่องประดับราคาแพงเอาไว้มากมาย เธอและพี่ชายฝาแฝด Aspen คือสองคนแรกที่ถูกบันทึกไว้ในประเทศอังกฤษ ว่ามีพ่อสองคนโดยที่ไม่มีแม่เลยซักคน ซึ่งพ่อของทั้งสองก็คือ Barrie และ Tony คู่เกย์คู่แรกในอังกฤษที่ใช้วิธีการฝากผู้หญิงคนอื่นตั้งครรภ์แทน จนออกมาเป็นฝาแฝดสองคนนี้ พอเวลาผ่านไป คุณพ่อทั้งสองก็ใช้วิธีการแบบเดียวกันในการให้กำเนิดลูกชาย Orlando และฝาแฝด Jasper กับ Dallas ตามกันมา โดยพวกเขายังตั้งใจเอาไว้ว่าอยากมีลูกสาวเพิ่ม เพราะในบ้านมีผู้ชายเยอะเหลือเกิน ครอบครัวมหาเศรษฐีที่มีลูกสาวแค่คนเดียวในตอนนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า มีลูกเยอะขนาดนี้แล้วจะเลี้ยงไหวหรือเปล่า? มีเงินพอส่งเสียลูกทุกคนได้เหรอ? คำตอบคือคุณพ่อสองคนนี้มีมากกว่าที่คุณคิดเยอะ เพราะทั้งสองคือหนึ่งในคนที่ล่ำซำที่สุดแห่งอังกฤษเลยก็ว่าได้ พวกเขามีทรัพย์สมบัติอันมหาศาล เพียงพอที่จะจับจ่ายหาซื้อความสุขให้กับตัวเองและลูกๆ ของพวกเขา…
-
เข้าถึงบิทคอยน์กันง่ายขึ้น กับกลุ่มไอดอลญี่ปุ่นที่ใช้เงินดิจิตอลเป็นธีมหลัก น่ารักและได้ความรู้!!
ปัจจุบันนั้นสกุลเงินดิจิตอลเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรากันมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มไอดอลอย่าง BNK48 ที่เริ่มมีคนรู้จักกันมากขึ้น จนหลายคนเริ่มผันตัวเป็นโอตะกันเยอะยิ่งขึ้น แต่เราเคยคิดไหมว่า ถ้าเราชอบทั้งสกุลเงินดิจิตอลและกลุ่มไอดอลสาวน่ารักๆ และเราอยากจะเสพทั้งสองอย่างพร้อมๆ กันเราจะไปหาอะไรแบบนั้นมาเติมเต็มได้ยังไง… ทว่ามาวันนี้ึความฝันดังกล่าวได้ถูกเติมเต็มแล้ว เพราะว่าทางญี่ปุ่นได้เปิดตัวกลุ่มไอดอลสาวแนวใหม่ ที่เอาความน่ารักมารวมเข้ากับสกุลเงินดิจิตอล โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า Virtual Currency Girls หรือชื่อญี่ปุ่นว่า Kaso Tsuka Shojo / 仮想通貨少女 ไอดอลกลุ่มดังกล่าวนี้ถูกจัดตั้งขึ้นโดย Cinderella Academy Inc. ซึ่งจุดประสงค์หลักของพวกเธอนั้นก็เพื่อให้คนญี่ปุ่นเริ่มหันมาสนใจสกุลเงินดิจิตอลกันให้มากขึ้น โดยปัจจุบันโลกเรานั้นมีสกุลเงินดิจิตอลกว่า 6,000 สกุลเลยทีเดียว และที่สำคัญมันยังเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับหลายคน ฉะนั้นการสร้างกลุ่มไอดอลขึ้นมาเพื่อช่วยสอนจึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสุดๆ ไอดอลกลุ่มนี้นั้นจะมีสมาชิกอยู่ 8 คนด้วยกัน ซึ่งแต่ละคนก็จะเป็นตัวแทนของสกุลเงินดิจิตอลยอดฮิตต่างๆ ทั้งบิทคอยน์, นีโอ, เเอธิเรียมและอื่นๆ อีกมากมาย โดยข้างล่างคือสมาชิกพร้อมวาร์ปของทั้งกลุ่ม หัวหน้ากลุ่ม Rara Naruse เป็น Bitcoin Cash (BCH) Hinano Shirahama เป็น Bitcoin (BTC) Ami Amo เป็น Ethereum (ETH) Suzuka Minami…
-
พบกับเครื่องจำลองกล้ามเนื้อมนุษย์ ขยับบึบบับตามจังหวะได้ เฮ้ย… นี่เราขยับกันแบบนี้เหรอ!?
เมื่อเราพูดถึงหุ่นยนต์ที่พยายามจำลองการเคลื่อนไหวให้เหมือนกับมนุษย์ เราก็มักจะนึกถึงหุ่นยนต์ที่เป็นเหล็กหรือพลาสติกแข็งๆ แต่ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นหุ่นยนต์ที่ ที่ลักษณะกายภาพอ่อนนุ่มคล้ายคนจริงๆ ล่าสุดทางทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคโลราโดก็ได้สร้างหุ่นยนต์ที่มีลักษณ์กายภาพคล้ายๆ กับคนขึ้นมา โดยการจำลองระบบกล้ามเนื้อของมนุษย์ เช่นการหยิบจับหรือการเคลื่อนไหวเป็นต้น เทคนิคที่ทีมวิจัยนี้ใช้นั้นจะเป็นการใช้วัสดุยืดหยุ่นผสมเข้ากับของเหลวและระบบไฟฟ้า ซึ่งการใช้วิธีดังกล่าวจะให้ความรู้สึกที่คล้ายมนุษย์มากกว่าการใช้มอเตอร์และระบบไฮดรอลิก ของเหลวที่ทีมวิจัยใช้ก็จะเป็นตัวแทนของของเหลวในร่างกายของเราที่ใช้ในการเปลี่ยนรูปร่างของกล้ามเนื้อ ทีมวิจัยได้โชว์ตัวอย่างผลงานของพวกเขาโดยการให้หุ่นยนต์หยิบลูกราสเบอร์รี่จากจุดหนึ่งไปวางไว้อีกจุดหนึ่ง โดยที่ลูกราสเบอร์รี่นั้นไม่เสียหาย เราจะเห็นว่าส่วนที่เป็นนิ้วนั้น ดูยืดหยุ่นและสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามของเหลวที่ถูกถ่ายเข้าไป คล้ายๆ กับเลือดของเรา นอกจากนี้ดีไซน์ของหุ่นยนต์ที่พวกเขาคิดขึ้นมา ยังมีการจำลองการยกแกลลอนน้ำด้วยระบบเดียวกัน ซึ่งเราจะเห็นว่าแม้จะใช้วัสดุยืดหยุ่นที่ดูเหมือนจะอ่อนแอ แต่จริงๆ มันกลับแข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ ยังไม่หมดเท่านั้น ทีมวิจัยยังบอกอีกว่า เจ้าระบบที่พวกเขาพัฒนาขึ้นมานี้มันยังสามารถที่จะรักษาตัวเองได้ด้วยนะ สุดยอดเลยใช่ไหมละ ท้ายที่สุดแล้ว ทีมวิจัยได้ตั้งชื่อโปรเจกต์หุ่นยนต์นี้ว่า HAZEL ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการพัฒนาเจ้าระบบนี้ให้เป็นหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างใกล้ชิดและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ถ้าใครอยากจะลองดูการทำงานแบบเต็มๆ ของเจ้า HASEL ก็สามารถดูได้จากคลิปข้างล่างนี้เลย ที่มา gizmodo
-
นักมวยฟิลิปปินส์บริจาคบ้านจำนวน 100 หลังให้กับผู้ประสบภัยพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน
ในปี 2013 เกิดเหตุการณ์ พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน (หรืออีกชื่อคือ Yolanda) ที่คร่าชีวิตผู้คนในประเทศฟิลิปปินส์ไปมากกว่า 3,976 คน เป็นหนึ่งในการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ผู้คนในประเทศต้องสูญเสียคนใกล้ชิด กิจการร้านค้า หรือแม้แต่บ้านของพวกเขาไป กลายเป็นบาดแผลในจิตใจของพวกเขาไปตลอดกาล นั่นจึงทำให้นักมวยชาวฟิลิปปินส์ที่ชื่อว่า Nonito Donaire แชมป์ WBA รุ่นฟลายเวท ตัดสินใจที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหล่านั้น Nonito นักมวยแชมป์โลก ที่เข้ามาช่วยเหลือคนเหล่านั้น ชายผู้ได้รับฉายาว่า “เดอะแฟลชแห่งฟิลิปปินส์” คนนี้ใช้เงินจากมูลนิธิของตัวเอง และได้รับความช่วยเหลือจากนักธุรกิจชาวอังกฤษที่ชื่อว่า Greg Secker ร่วมกันสร้างบ้านจำนวน 100 หลัง มอบให้กับผู้ประสบภัยที่ไม่มีแหล่งพักพิง โปรเจกต์ของเขามีชื่อว่า “Build a House, Build a Home” โดยต้องการที่จะให้คนเหล่านั้นได้มีที่อยู่ที่ดี และมีบ้านเป็นของตัวเองอีกครั้ง และได้โพสต์ภาพความสำเร็จของโปรเจกต์นี้ลงไปในเฟซบุ๊กของตัวเอง เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2018 ภาพถ่ายทางอากาศของบ้านจำนวน 100 หลัง เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้สูญเสีย …
-
รู้จักกับ Wotagei รูปแบบการเต้นสไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานกับแท่งเรืองแสง ดูแล้วเพลินตาสุดๆ
Wotagei คือรูปแบบการเต้นอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น ด้วยการผสมผสานระหว่างแสงสีท่ามกลางความมืดและท่าเต้นที่หนักแน่น แต่ยังคงเอาไว้ซึ่งความอ่อนช้อย ดูลงตัวไปอีกแบบ นักเต้นที่นิยมสไตล์การเต้นแบบดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้คลั่งไคล้ไอดอล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเต้นแต่เพลงของไอดอลในประเทศเพียงอย่างเดียว เพราะแม้แต่เพลงดังอย่าง Shape of You ของ Ed Sheeran ก็สามารถนำมาผสมกับสไตล์การเต้นแบบนี้ได้เหมือนกัน เรากำลังพูดถึงผลงานโชว์กลุ่มนักเต้นที่ชื่อว่า Kita no Uchishi Tachi ที่สร้างผลงานให้หลายๆ คนตื่นตาตื่นใจกันในยูทูบ หนุ่มๆ นักเต้นชาวญี่ปุ่น ที่มีชื่อกลุ่มว่า Kita no Uchishi Tachi ท่าเต้นอันดุดันและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน บวกกับแท่งเรืองแสงสีสันต่างๆ ท่ามกลางความมืด ทำให้ผลงานของเขากลายเป็นที่สะดุดตาอย่างมาก มองไปมองมาก็ดูเหมือนว่าพวกเขาถือไลท์เซเบอร์อยู่เหมือนกันนะ เราไม่ได้เพียงแค่ชื่นชมในฝีมือการเต้น แต่เรายังได้ชื่นชมกับลูกเล่นที่เกิดจากไอเดียของพวกเขา จนบางครั้งคุณอาจจะเผลอหลงระเริงไปกับแสงสีได้อย่างง่ายๆ การเต้นประกอบเพลง Shape of You อันสวยงาม ดึงดูดสายตา การแสดงของพวกเขาได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างมากจากชาวเน็ตญี่ปุ่น เห็นได้จากหลายๆ ความคิดเห็นที่เข้ามาแสดงความชื่นชมผลงานของพวกเขา “พวกเขาคือกลุ่มนักเต้นที่อนาคตไกลมากจริงๆ” “พวกนายเจ๋งไปเลย เป็นการแสดงที่อัศจรรย์มากๆ”…
-
โถวพี่จอน!! คลิป Kit Harington เมาหนักโดนไล่ออกจากผับ หมดกันราชาแดนเหนือผู้ยิ่งใหญ่
แม้ว่าในปี 2018 เราจะไม่ได้ดูซีซั่นสุดท้ายของซีรีส์สุดยิ่งใหญ่ Game of Thrones แต่ทางด้านเหล่านักแสดงของเรื่องก็ยังไม่ได้หายไปไหน ยังมีการโชว์ตัวตามสื่อต่างๆ ให้เราได้เห็นกันพอหายคิดถึงนั่นเอง แต่ล่าสุดได้มีคนไปเจอราชาแดนเหนือ Jon Snow (Kit Harington) ที่ผับ Barfly ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ณ นครนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกาในสภาพที่เมาเละตุ้มเป๊ะ เรียกว่าคุยกันไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว แน่นอนว่าถ้าเราพูดถึง Jon Snow หรือพ่อหนุ่ม Harington เราจะนึกหน้าเข้มๆ เสียงต่ำนุ่มลึกของเขาเสมอ แต่กลับกันในคลิปเหตุการณ์ พ่อหนุ่ม Kit นั้นเล่นเมาหนักจนถึงขั้นไปป่วนชาวบ้านรอบๆ โต๊ะพูลกันเลยทีเดียว หนักหน่อยถึงไปแย่งไม้พูลมาจากชาวบ้าน ฮร่าๆ เมื่อพ่อหนุ่ม Kit เริ่มมีอาการหนักเข้าๆ จนลูกค้าคนอื่นๆ ในผับเริ่มทนกับเขาไม่ไหว เพราะเขาป่วนไปทั่วจริงๆ จนสุดท้ายยามของผับดังกล่าวจึงต้องมาเชิญเขาออกไป ด้านพ่อหนุ่ม Kit Harington ก็ไม่ได้มีทีท่าจะต่อต้านแต่อย่างใด และเขาก็ยอมออกไปแต่โดยดี เพียงแต่ว่าเขาออกไปได้ไม่นานก็เผลอตัวหันหลังกลับเข้ามาอีกรอบจนยามต้องไล่เขาไปอีกรอบนั่นเอง เฮ้อ!! หมดกันราชาแดนเหนือ ที่มา tmz
-
แม่ฟ้องศาลให้ลูกชายจ่ายเงินกว่า 32 ล้านบาท หลังลำบากเลี้ยงดูส่งเสียจนเป็นทันตแพทย์
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2018 สำนักข่าว The New York Times ได้รายงานข่าวของคุณแม่ชาวไต้หวันแซ่ Luo ที่ฟ้องศาลในกรุงไทเป เพื่อต้องการให้ลูกของเธอจ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นจำนวนเงินกว่า 54 ล้านบาท เรื่องราวของแม่ลูกครอบครัวนี้กลายเป็นที่สนใจ และกลายเป็นการถกเถียงกันในเรื่องของความกตัญญูที่บุตรควรมีให้กับมารดา อีกทั้งกฎหมายในไต้หวันก็ซัพพอร์ตเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยบอกเอาไว้ว่าคนที่โตเป็นผู้ใหญ่ห้ามละทิ้งพ่อแม่ของพวกเขา ศาลสูงสุดของไต้หวัน ตั้งอยู่ในกรุงไทเป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ คนเป็นแม่ได้เล่าว่า เธอโตมาในครอบครัวของแพทย์ที่มีฐานะร่ำรวย ก่อนที่จะมาแต่งงานและละทิ้งชีวิตอันสุขสบายของตัวเองไป ฝั่งครอบครัวของเธอได้ออกเงินเปิดคลินิกทันตกรรมให้กับเธอและ Chu ผู้เป็นสามี จนกระทั่งทั้งสองหย่าร้างกันไป ตั้งแต่นั้นมาเธอเลยต้องเลี้ยงดูส่งเสียลูกชายสองคนด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองเพียงคนเดียว เธอสามารถส่งเสียลูกชายทั้งสองเข้าเรียนในโรงเรียนทันตแพทย์ได้สำเร็จ แต่เธอกังวลว่าลูกๆ จะไม่เลี้ยงดูเธอในยามแก่ชรา เธอจึงให้ลูกชายเซ็นสัญญาเอาไว้ในตอนที่พวกเขาอายุได้ 20 ปี เพื่อเป็นหลักฐานว่าพวกเขาจะดูแลเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะกลายเป็นหมอฟันในปี 2003 ตามเนื้อหาของสัญญาดังกล่าวบอกเอาไว้ว่า ลูกชายทั้งสองคนจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับเธอ เท่ากับ 60 เปอร์เซ็นต์ของกำไรที่พวกเขาหามาได้ รวมเป็นเงิน 50 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือมากกว่า 54 ล้านบาท …
-
นี่คือภาพที่คุณจะเห็นเมื่อ ‘การเคลื่อนไหวของคอนดัคเตอร์’ ถูกทำให้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหว
คอนดัคเตอร์หรือวาทยกร นั้นมีบทบาทในการควบคุมวงและดึงความสามารถของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นออกมาเพื่อสอดผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับวงออเครสต้า วงประสานเสียง หรือวงดุริยางค์ และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการสร้างผลงานศิลปะภาพอนิเมชั่นที่สวยงามจากท่าทางของคอนดักเตอร์เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับวงซิมโฟนี่ออเครสต้าจากเกาะอังกฤษอย่าง London Symphony Orchestra ภาพบางส่วนจากผลงาน โปรเจกต์สุดสร้างสรรค์นี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างเซอร์ Simon Rattle คอนดัคเตอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ และศิลปินภาพเคลื่อนไหวอย่างคุณ Tobias Gremmler จุดเริ่มต้นของไอเดียนี้ก็คือการถ่ายทอดพลังความรู้สึกของการฟังเพลงออเครสต้าในคอนเสิร์ตฮอลล์ออกมานั่นเอง ผลงานภาพเคลื่อนไหวนี้ถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจากความร่วมมือของบริษัทซอฟต์แวร์ชื่อดังอย่าง Vicon Systems และมหาวิทยาลัย Portsmouth ประเทศอังกฤษ เซอร์ Simon Rattle คอนดัคเตอร์ชื่อดังชาวอังกฤษที่มาเป็นแบบในการถ่ายทำภาพเคลื่อนไหวสุดอลังการครั้งนี้ การเคลื่อนไหวของคอนดัคเตอร์ถูกบันทึกด้วยกล้องมากกว่า 12 ตัวที่อัตรา 120 ภาพต่อวินาที หลังจากที่บันทึกภาพการเคลื่อนไหวของเซอร์ Simon Rattle เรียบร้อยต่อไปคุณ Tobias Gremmler ก็จะจัดการตกแต่งและสร้างสรรค์การเคลื่อนไหวเหล่านั้นให้กลายเป็นภาพแอนิเมชั่นสุดอลังการ ท่อนเพลงและเสียงของเครื่องดนตรีนั้นมีผลต่อการสร้างสีสันและรูปทรงของภาพเคลื่อนไหว . . ไปชมความน่าสวยงามของภาพเคลื่อนไหวที่ว่านี้กันได้เลย… ภาพเคลื่อนไหวนี้จะใช้ในการโปรโมตงานของวง London Symphony Orchestra ในระหว่างการแสดงรอบปี 2017/2018 ที่มา demilked
-
เรื่องราวของ Blanche Monnier สาวผู้ถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ นาน 25 ปี เพราะเลือกผู้ชายไม่ถูกใจแม่
การถูกพรากจากคนที่เรารักเป็นสิ่งที่หลายๆ คนคิดว่ามันเลวร้ายอย่างมาก แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนนี้มันกลับเลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นอีก เพราะเธอต้องถูกกักขังเอาไว้นาน 25 ปี เพียงเพราะแม่ของเธอไม่ถูกใจผู้ชายที่เธอเลือกเท่านั้นเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า Blanche Monnier เธอคือสาวสวยจากชนชั้นสูงในกรุงปารีส และครอบครัวของเธอก็เป็นที่นับหน้าถือตาอย่างมาก Blanche หญิงสาวที่ถูกกักขังไว้นานถึง 25 ปี ในปี 1876 ตอนนั้น Blanche อายุได้ 25 ปี เธอตกหลุมรักกับทนายความที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กัน และเธอก็ต้องการจะแต่งงานกับชายคนนี้ แต่ความต้องการของเธอกลับต้องถูกขัดขวางเอาไว้ เมื่อแม่ของเธอรู้สึกไม่ปลื้มทนายความคนดังกล่าว และมองว่าเป็นเพียงแค่ชายที่น่าสมเพชคนหนึ่ง คุณแม่จึงทำทุกวิถีทางเพื่อกีดกันความรักของทั้งสอง ใช้สารพัดกลอุบายหลอกล่อ Blanche ไปต่างๆ นานา หวังให้ลูกสาวของตัวเองเปลี่ยนใจไปหาชายคนใหม่ที่ดีกว่านี้ แต่ก็ไม่สำเร็จ ลูกสาวของเธอยังคงตั้งใจที่จะแต่งงานกับชายคนนี้ให้ได้ แต่ในขณะที่แม่ลูกกำลังอยู่ในช่วงที่ขัดแย้งกันอยู่นั้น จู่ๆ Blanche ก็หายหน้าไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีใครได้เจอเธออีกเลย แม้แต่เพื่อนสนิทของหญิงสาวก็ไม่รู้ว่าเธอหายไปไหน ในตอนนั้นแม่และน้องชายของเธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่เพียงไม่นานทั้งสองก็กลับมาใช้ชีวิตกันไปตามปกติ และทุกคนก็ได้หลงลืมหญิงสาวที่ชื่อว่า Blanche ไปจนหมด วันเวลาผ่านไป ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าเธอคนนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง จนกระทั่งในปี…
-
อิหร่านแบนภาษาอังกฤษ ไม่ให้สอนในโรงเรียนประถมเพราะถือเป็นวัฒนธรรมจากตะวันตก!?
ภาษาอังกฤษนั้นถือได้ว่าเป็นภาษาสากลในการใช้ติดต่อสื่อสารกับนานาประเทศ ดังนั้น หลายๆ ประเทศกำหนดให้มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นในประเทศอิหร่าน เพราะผู้นำระดับสูงหลายคนเห็นว่าการสอนภาษาอังกฤษนั้นถือเป็นการเปิดโอกาสให้ชาติตะวันตก บุกรุกทางวัฒนธรรม ดังเช่นที่นาย Ayatollah Ali Khamenei ได้กล่าวไว้ว่า “ไม่ใช่เป็นการปิดกั้นการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เพียงแต่มันจะทำให้วัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาให้เด็กๆ และวัยรุ่นซึมซับมากขึ้น” นาย Mehdi Navid-Adham รัฐมนตรีกระทรวงการศึกษากล่าวเพิ่มเติมว่า “การสอนภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการในโรงเรียนประถมนั้นถือว่าผิดกฎหมายและข้อบังคับ เนื่องจากโรงเรียนประถมจะต้องปูพื้นฐานวัฒนธรรมของอิหร่านให้แก่นักเรียนเสียก่อน” นาย Khamenei ยังกล่าวอีกว่า “ชาวตะวันตกใช้วิธีการง่ายๆ แต่ได้ผลดีเช่นการเผยแพร่วัฒนธรรมให้แก่เด็กๆ และเยาวชน แทนการล่าอาณานิคม” จากนั้นหนึ่งสัปดาห์จึงเกิดการประท้วงขึ้นเพื่อต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน มีจำนวนผู้เสียชีีวิต 22 ราย และถูกจับมากกว่า 1,000 ราย การเดินขบวนประท้วงแพร่กระจายไปมากกว่า 80 เมืองและแถบชนบทในอิหร่าน ทำให้คนหนุ่มสาวและชนชั้นแรงงานออกมาแสดงถึงความไม่พอใจต่อภาครัฐในเรื่องการฉ้อราษฎร์บังหลวง ภาวะตกงาน และการขยายความเหลื่อมล้ำทางสังคม ไม่ว่าประเทศไหนการศึกษาก็ถือว่าจำเป็น โดยเฉพาะความรู้ที่มิได้มีอยู่แต่ในประเทศของตน ภาษาอังกฤษจึงเป็นกุญแจที่จะเปิดออกไปสู่ความรู้เหล่านั้นได้ ที่มา: Dailymail
-
9 หนุ่มเป็นอัมพาตเพราะสูด “ผงขาว” จากกล่องไปรษณีย์ปริศนา เพราะนึกว่าเป็นโคเคน!?
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2018 ทางสำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า แบ็กแพ็กเกอร์จำนวน 9 คนถูกหามส่งโรงพยาบาลในประเทศออสเตรเลียอย่างเร่งรีบด้วยอาการชัก ร่างกายเป็นอัมพาต และมีอาการเห็นภาพหลอน อาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ทั้ง 9 คนได้สูดเอาผงขาวปริศนาเข้าไป ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามันคือยา Hyoscine เป็นยาตามใบสั่งแพทย์ หรือที่บางคนอาจรู้จักกันในชื่อของยา Date Rape Drug ที่ไว้ใช้ในการก่ออาชญากรรม แบ็กแพ็กเกอร์ 9 คนนี้มาจากหลากหลายประเทศ มีชาวฝรั่งเศส 5 คน ชาวเยอรมัน 2 คน ชาวอิตาลี 1 คน และชาวโมรอคโคอีก 1 คน โดยมีอายุอยู่ที่ 21-25 ปี จากการบอกเล่าของ Simone หนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายครั้งนี้ เขาเล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นมาจากตอนที่พวกเขาพักอยู่ที่บ้านหลังเดียวกันในเขต Victoria Park ระหว่างนั้นก็มีพัสดุถูกส่งมาให้ที่บ้าน จ่าหน้าถึงเจ้าของบ้านคนเก่า เมื่อเปิดดูจึงพบผงสีขาวถูกห่อด้วยกระดาษที่เขียนไว้ว่า Scoop ซึ่งหมายถึงตัวยา Scopolamine…
-
ชาวเน็ตช็อก หลังเห็นคลิปหนูน้อย 4 ขวบขับรถยนต์ขนาดใหญ่บนท้องถนนในรัสเซีย
ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญสำหรับการขับรถบนท้องถนน ซึ่งการที่จะให้เด็กอายุ 4 ขวบมาควบคุมพวงมาลัยแบบในคลิปนี้ อาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าความปลอดภัยเลยซักนิด คลิปวิดีโอดังกล่าวคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นเด็กชายวัย 4 ขวบกำลังบังคับพวงมาลัยรถใหญ่ยี่ห้อ Mercedez Benz แล่นไปตามถนนหนทางที่เต็มไปด้วยรถรา ภาพนี้ถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรมของผู้ใช้ที่ชื่อว่า @majorka_official ซึ่งเด็กน้อยคนนี้กำลังควบคุมพวงมาลัยอยู่บนมอร์เตอร์เวย์ ด้วยความเร็วของรถที่สูงกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากที่คลิปนี้เผยแพร่ออกไป ทำให้หลายๆ คนตกอกตกใจกันไปตามๆ กัน ทางสำนักข่าว Daily Mail ก็ได้ออกมารายงานว่า เด็กชายคนนั้นนั่งอยู่บนตักของน้าสาวตัวเอง และตอนที่เขาขับแซงคันข้างหน้า เราก็จะสามารถสังเกตเห็นมือของน้าสาวคนนั้นที่ช่วยจับประคองพวงมาลัยเอาไว้ ถึงแม้ว่าน้าจะช่วยบ้างในบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วเด็กจะเป็นคนคุมพวงมาลัยเองแทบทั้งสิ้น และเราก็จะได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อวัย 27 ปี ที่คอยบรรยายสิ่งที่เขาถ่ายเอาไว้ตลอด โดยเขาได้พูดออกมาประโยคหนึ่งว่า “เห็นมั้ยละ นี่คือการขับรถ Gelandewagen” ซึ่งเป็นชื่อรุ่นของรถคันนี้นั่นเอง คลิปการขับรถของเด็กชายวัย 4 ขวบบนถนนมอเตอร์เวย์ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของผู้ปกครองที่ปล่อยให้เด็กมาควบคุมพวงมาลัยอยู่บนท้องถนนแบบนี้ “ไม่มีสมองกันหรือไง พระเจ้าคงช่วยให้รถคันอื่นไม่ชนจนทำให้เด็กตาย ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะนอนหลับลงได้อย่างไร” “ถ้าหากมีใครซักคนขับรถมาชน เด็กก็จะกระเด็นออกไปทางนอกหน้าต่าง…
-
คุณแม่ได้รับข้อความด่าทอหลังจอดรถในที่ ‘คนพิการ’ ทั้งที่จริงแล้วลูกของเธอคือผู้พิการ
เวลาเพื่อนๆ เจอคนจอดรถไม่ดี หรือจอดไม่ถูกระเบียบเนี่ยเพื่อนๆ ก็มักจะหงิดหงุดใช่มั้ย จนบางทีเราก็อยากจะเอากระดาษไปแปะที่รถคนนั้นๆ หรืออยากจะเอาสีไปเขียนเลยก็เป็นไปได้ แต่พออ่านเรื่องนี้เพื่อนๆ อาจได้ข้อคิดอีกแบบเกี่ยวกับการจอดรถก็ได้นะ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2560) มีคุณแม่คนหนึ่งออกมาพูดว่าเธอรู้สึกแย่เพียงใดที่เจอคนทิ้งข้อความไว้ที่หน้าต่างรถของเธอ ขณะที่เธอพาลูกที่ป่วยหนักของเธอไปหาซานต้าเพื่อที่จะสร้างความทรงจำดีๆ ให้ลูกของเธอ Nancy Coyne ถูกสังคมตั้งคำถาม หลังจากที่มีข้อความว่า “คุณไม่ใช่คนพิการ” ถูกเขียนทิ้งไว้ทั่วหน้าต่างรถเธอด้วยลิปสติกสีแดง หลังจอดรถในที่ของคนพิการ เธอพา Garrett ลูกชายของเธอไปไปหาซานต้าที่ห้าง King of Prussia รัฐ Pennsylvania สหรัฐอเมริกา Garrett ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคระบบประสาทที่หาได้ยากที่ชื่อว่าโรค Battens Disease เขาเคยเป็นเด็กที่มีสุขภาพดี จนถึงสามขวบ แต่ตอนนี้ตาซ้ายของเขาบอด และก็เสียทักษะการเคลื่อนไหว แม่ของเขาบอกว่ามันไม่มียาและวิธีรักษาอาการของเด็กน้อยคนนี้ ตามรายงาน เธอได้รับอนุญาตให้จอดรถในที่จอดรถคนพิการได้ชั่วคราว แต่พอเธอกลับมาที่จอดรถของห้างกลับพบข้อความที่ไม่น่าดูเอาเสียเลย โดยที่นักข่าวท้องถิ่นได้อธิบายว่ามันเป็นการกระทำที่ช่างป่าเถื่อนเสียจริง Nancy กล่าวว่า “ฉันรู้สึกโกรธและเสียใจเอามากๆ ฉันไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อไปดี” และเธอยังพูดต่อว่า “ฉันพยายามที่จะสร้างความทรงจำร่วมกับครอบครัวของฉัน แต่แล้วมันก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” โฆษกประจำห้างบอกว่าเขาไม่พอใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเอามากๆ และเขาช่วยให้การเรื่องนี้กับตำรวจ มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับใครก็ตาม หวังว่าก่อนเพื่อนๆ…
-
เจ้าเสือน้อยถูกช่วยเหลือมาจากคณะละครสัตว์ในสภาพย่ำแย่ ในที่สุดก็ได้รับความรักเป็นครั้งแรก
เราอาจเคยได้ยินว่า หากเราได้รับความรักและการดูแลจากคนรอบข้างแล้ว หลายๆ อย่างในชีวิตเราจะดีขึ้นไปเอง เหมือนอย่างลูกเสือตัวนี้ที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ให้อยู่อย่างเดียวดาย จนกระทั่งมันได้รับความรักอันสวยงามจากมนุษย์ ทำให้มันสามารถกลับมายืนขึ้นได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง นี่คือเรื่องราวของ Aasha ลูกเสือโคร่งเบงกอลวัย 9 เดือนที่ถูกช่วยเหลือเอาไว้ในเดือนมีนาคม 2011 ด้วยฝีมือของกรมการเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา ขณะที่พวกเขากำลังตรวจสอบคณะละครสัตว์เคลื่อนที่ต่างๆ เจ้าเสือที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ คณะละครสัตว์เคลื่อนที่ที่เดินทางไปตามเมืองต่างๆ ด้วยสภาพร่างกายอันย่ำแย่ของเจ้าเสือตัวนี้ มันจึงถูกส่งไปอยู่ในความดูแลของ Vicky Keahey สัตวแพทย์ผู้ก่อตั้งกลุ่ม In-Syn Exotics ผู้คอยช่วยเหลือแมวยักษ์ทั้งหลายในรัฐเท็กซัส เมื่อ Vicky ได้เจอกับเจ้าเสือน้อยที่ถูกทอดทิ้งตัวนี้ เธอก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก เพราะสภาพของ Aasha นั้นทรุดโทรมและย่ำแย่ ผิวของมันแตก คล้ำและแห้ง ขนของมันร่วงไปเป็นหย่อมๆ ซึ่งทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเจ้าเสือกำลังติดเชื้อและเป็นกลากเกลื้อน Vicky หญิงสาวผู้คอยช่วยเหลือเสือเป็นจำนวนมาก เจ้าเสือมีอาการติดเชื้อจนต้องได้รับการดูแลที่เข้มงวด มันไม่ได้แค่ติดเชื้อ แต่เจ้าเสือตัวนี้ยังขาดสารอาหารอีกด้วย มันมีน้ำหนักเพียงแค่ 13 กิโลกรัม ซึ่งแท้จริงแล้วอายุขนาดนี้มันควรที่จะหนักราวๆ 54 กิโลกรัม เห็นได้ชัดเลยว่าก่อนที่เจ้าเสือจะได้มาเจอกับเธอ มันถูกเลี้ยงดูแบบผิดๆ…
-
หนุ่มโตเกียววัย 43 ถูกจับกุม เพราะสักชื่อย่อของตัวเองลงไปที่ก้นของพนักงานเมดสาววัย 19 ปี
ความรักอาจเป็นสิ่งสวยงาม แต่ว่าสิ่งนั้นก็อาจทำให้คนเราเกิดความคิดและการกระทำที่ไม่ดีตามมาได้ เหมือนอย่างความรักของชายคนหนึ่งที่มีให้กับหญิงสาว จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขต Taito กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ Naohiro Kobayashi วัย 43 ปี ทำการสักชื่อย่อของตัวเองเอาไว้ลงบนตูดของสาวน้อยวัย 19 ปีที่เขาแอบหลงรัก Naohiro ชายที่ทำความผิดในครั้งนี้ Naohiro เป็นทั้งนักลงทุนและเป็นหุ้นส่วนบริหารร้านเมดคาเฟ่แห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว จึงทำให้เขาได้เจอกับเหยื่อสาวรายนี้ที่ทำงานเป็นลูกจ้างของร้าน จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายน 2017 เขาได้พาเธอกลับไปยังหอพักของตัวเอง ก่อนที่จะมอมเธอด้วยน้ำผลไม้ผสมแอลกอฮอล์ 90 เปอร์เซ็นต์ จนทำให้หญิงสาวเมาแล้วหมดสติไป ในขณะที่เธอไม่รู้สึกตัวอยู่นั้น เขาก็ทำการสักรูปตัว N เอาไว้บนตูดของเธอด้วยหมึกสีดำและเข็มที่สะอาด ซึ่งเขาไม่ได้สักลงไปเพียงรอยเดียว แต่เขาสักเอาไว้ถึง 5 รอยสักเลยทีเดียว จากการรายงานของสำนักข่าว Sora News เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2018 จึงทำให้ทราบว่าชายคนนี้ถูกจับกุมตัวเป็นที่เรียบร้อย และเขาให้การสารภาพว่า “ผมเพียงต้องการแสดงให้เห็นว่าเธอคือผู้หญิงของผม เพื่อยืนยันในความรักของเรา” นอกจากนั้นเพื่อนบ้านของ Naohiro ก็ยังบอกกับเจ้าหน้าที่อีกว่า…
-
คุยยายวัย 81 ปี เสียชีวิตหลังจากรอในรถพยาบาลนานถึง 4 ชั่วโมง อ้างมีคนรอรักษาหนาแน่น
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่มีคนรอบตัวเราเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ แต่มันจะเป็นเรื่องน่าเศร้ามากกว่าถ้ารถพยาบาลที่เราเรียกมาไม่ทันช่วยชีวิตพวกเขาเหล่านั้น โดยกรณีนี้เป็นเรื่องของคุณยายวัย 81 ปี ชื่อ Marie Norris ผู้ซึ่งเสียชีวิตลงที่บ้านของเธอ หลังจากที่ีรอรถพยาบาลถึง 4 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของรถพยาบาลซักคัน โดยที่ครอบครัวของคุณยายได้กล่าวว่า “พวกเราโศกเศร้าเสียใจเอามากๆ” ในวันอังคารเมื่อรถพยาบาลมาถึง คุณยาย Marie Norris ก็ได้หยุดหายใจไปแล้ว โดยข้างร่างไร้วิญญาณของเธอได้พบยาที่อยู่ในถุงยาของเธอ คุณยายลูกสาม อาศัยอยู่ห่างจากสถานีรถพยาบาลในเมือง Clacton on Sea ไม่ถึง 1 ไมล์ ได้กดเบอร์เรียกรถพยาบาล 999 ด้วยอาการเจ็บหน้าอกก่อนเวลา 2 ทุ่ม หัวหน้าพยาบาลได้บอกว่าเขาไม่สามารถส่งรถออกไปทันทีได้ได้เพราะว่าวันนั้นมีคนโทรเรียกรถพยาบาลเยอะมากและทำให้แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลมีความล่าช้าลง ในที่สุดกลุ่มพยาบาลก็ไปถึงที่หมาย ณ เวลา 23.46 น. แต่ว่าต้องรอให้พนักงานดับเพลิงพังประตูบ้านของเธอก่อน กว่าพวกเขาจะเข้าไปในบ้านก็ได้ก็เกือบเที่ยงคืนครึ่งแล้ว คุณยาย Norris เป็นแม่หม้าย เธอไม่ได้เรียกครอบครัวหรือเพื่อนของเธอให้มาช่วย โดยที่ลูกเขยของเธอ Brendan Breheny ได้กล่าวว่า “เธอไม่ต้องการที่จะรบกวนใคร” ขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของคุณยาย Marrie ด้วยนะครับ…
-
พยาบาลสาวถูกปรับกว่า 240,000 บาท เพราะเธอจอดรถผิดที่เพื่อไปดูแลผู้ป่วย
เมื่อเรามีรถยนต์ส่วนตัวเป็นของตัวเองและขับไปยังสถานที่ต่างๆ บ่อยครั้งที่เราก็มักจะหงุดหงิดกับการหาที่จอดรถไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นที่ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือกระทั่งที่ทำงานก็ตาม และแล้วเรื่องการจอดรถก็ได้สร้างปัญหาใหญ่ขึ้นให้กับพยาบาลสาวคนหนึ่ง เมื่อเธอถูกใบสั่งจากการจอดรถเป็นเงินกว่า 5,500 ปอนด์ (ประมาณ 240,000 บาท) บาท ทั้งๆ ที่เธอกำลังปฏิบัติงานช่วยชีวิตของผู้ป่วยอยู่ในขณะนั้น… หน้าตาของ Victoria Slayford พยาบาลที่โดนค่าปรับดังกล่าว โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นกับพยาบาลสาวลูกหนึ่งชื่อว่า Victoria Slayford วัย 38 ปี ที่ทำงานเป็นระยะเวลายาวนานถึง 12 ชั่วโมงต่อวันในตำแหน่งพยาบาลกุมารเวชศาสตร์ ที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยครอยดอน ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งในขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่นั้น เธอก็บอกว่าผู้ดูแลที่จอดรถก็เดินเข้ามาหาเธอพร้อมมอบใบสั่งให้กว่า 80 ใบในข้อหา ‘จอดรถในที่ห้ามจอด’ แม้ว่าเธอจะมีใบอนุญาตพนักงานก็ตาม “ใบสั่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการที่ฉันทำงานล่วงเวลาและอยู่กับผู้ป่วย มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่ฉันต้องมาเจอกับเรื่องนี้ แม้ว่าฉันพยายามจะช่วยชีวิตของผู้คนอยู่ก็ตาม” Slayford กล่าว โดยเธอบอกเอาไว้ว่า ที่ทำงานของเธอมีที่จอดรถสำหรับพนักงานที่ค่อนข้างจะจำกัด และมักจะเต็มเสมอเมื่อในเวลาที่เธอต้องไปทำงาน นอกจากนี้เธอยังบอกอีกด้วยเธอต้องวนหาที่จอดเป็นเวลานานอยู่บ่อยๆ จนในที่สุดก็ต้องยอมไปจอดที่จอดรถสาธารณะที่มีค่าจอดถึง 15 ปอนด์ (ประมาณ 650 บาท) ต่อวันเลยทีเดียว โดนปรับทีเป็นแสน แม้ว่าบัตรพนักงานจะทำให้เธอได้ลดราคามาอยู่ที่ 10…
-
สาวบล็อกเกอร์พลัสไซส์ โพสต์ตอกกลับชาวเน็ตที่วิจารณ์ ว่าเธอกับแฟนหนุ่ม “ไม่เหมาะสมกัน!!”
เมื่อเราคบกับใครสักคน แล้วมีคนมาวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมกัน เราก็อาจจะมีอารมณ์โกรธบ้างเป็นธรรมดา และแน่นอนว่าย่อมไม่มีใครชอบที่ถูกล้อในเรื่องของความเหมาะสม เช่นเดียวกันกับสาวเซเลบริตี้คนนี้ที่ถูกชาวเน็ตวิจารณ์ว่าเธอไม่เหมาะสมกับแฟนหนุ่ม เพราะเธอค่อนข้างที่จะมีรูปร่างที่จ้ำม่ำในขณะที่แฟนของเธอมีรูปร่างที่ผอมเพรียว แต่ว่าการตอบกลับของเธอ ก็ได้ทำให้คนเหล่านั้นถึงกับเงิบไปตามๆ กันเลยทีเดียว รูปภาพที่ทำให้เกิดประเด็นร้อนขึ้นมา เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับสาวที่ชื่อว่า Melissa Gibson จากรัฐเคนทักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการที่เธอเป็นนักเคลื่อนไหวในเรื่องของรูปร่าง ทำให้มีผู้ติดตามเธออย่างมากมายในโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยเธอมักจะสนับสนุน รวมถึงให้กำลังใจผู้หญิงทุกคนให้ภูมิใจในรูปร่างของตัวเองไม่ว่าจะมีรูปร่างเป็นแบบใดก็ตาม ทว่าหลังจากที่เธอโพสต์รูปฉลองปีใหม่คู่กับแฟนหนุ่มชื่อว่า Johnathan ลงในอินสตาแกรมก็ปรากฏว่า ก็มีผู้แสดงความคิดเห็น ถึงเรื่องความเหมาะสมระหว่างเธอกับแฟนหนุ่มถาโถมเข้ามาอย่างมากมาย ซึ่งบางความเห็นก็บอกในทำนองที่ว่า ภาพที่เธอโพสต์ช่างแสดงให้เห็นถึงความรักอันอบอุ่นของทั้งคู่ซะจริงๆ แต่ก็มีบางความเห็นที่กล่าวว่า เธอไม่สมควรคบกับแฟนหนุ่มคนนี้เพราะว่าเขาคนนี้ผอมเกินกว่าที่จะเป็นแฟนเธอ และก็ยังเล่นตลกร้ายว่าเขาต้องใส่เครื่องรางของขลังตลอดเวลา เมื่ออยู่ใกล้ๆ ตัวเธออีกด้วย ลงรูปภาพตอกกลับซะเลย และเมื่อเธอได้เห็นความคิดเห็นดังกล่าว เธอก็ไม่สามารถอยู่เฉยๆ ยอมให้พวกนักเลงคีย์บอร์ดเล่นสนุกบนภาพของเธอตามอำเภอใจ เธอจึงตัดสินใจตอบกลับพวกมือบอนเหล่านั้นด้วยถ้อยคำที่แสนเจ็บแสบว่า “ฉันคิดว่าที่ทุกคนวิจารณ์เช่นนั้น ก็เพราะว่ารูปร่างในอุดมคติของพวกเขาก็คือ รูปร่างที่ได้สัดส่วนเหมือนกับออกมาจากแม่พิมพ์ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่กับตัวฉัน แต่สำหรับแฟนของฉันเขาอาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้” “สิ่งที่พวกเขาทำมันไม่เพียงแต่กำหนดคุณค่าของคนๆ หนึ่งจากการดูเพียงรูปร่างเพียงเท่านั้น แต่พวกเขายังใช้ความคิดเช่นนี้ ตัดสินว่าใครควรจะได้รับความรักหรือไม่อีกด้วย มันช่างเป็นความคิดที่แย่ซะจริงๆ ” Gibson ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Cafe Mom อวบแล้วไง แคร์ปะล่ะ และในอีก 2 วันต่อมาเธอก็ได้โพสต์ภาพภาพหนึ่ง…
-
ปี 2018 จีนวางแผนปลูกป่าเพิ่ม 41 ล้านไร่ เนื้อที่เท่า “ภาคใต้ของไทย” เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควัน
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชาชนจำนวนมากอาศัยอยู่ อีกทั้งยังมีการพัฒนาทางด้านต่างๆ ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ในตอนนี้ประเทศจีนได้ก้าวมาเป็นประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งของโลก ถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างมากมาย ทว่าในเรื่องสภาพอากาศในประเทศจีนนั้นต้องถือว่าเลวร้ายเลยทีเดียว เพราะเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีข่าวเรื่องวิกฤตหมอกควันเกิดขึ้น ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนไปยังประชาชนทั้งหลายที่อยู่ในเมืองต่างๆ แต่ในตอนนี้ประเทศจีน ก็ได้ประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้หมดไป โดยพวกเขาได้วางแผนว่าจะปลูกป่าแห่งใหม่ขึ้นในปี 2018 นี้โดยมันจะปกคลุมพื้นที่กว่า 41 ล้านไร่ ซึ่งจะมีขนาดเกือบเท่ากับประเทศเกาหลีใต้ หรือนับเป็นพื้นที่ราว 1 ใน 6 ของประเทศไทยเลยทีเดียว การเคลื่อนไหวล่าสุดของประเทศจีนนี้ ก็เพื่อต้องการที่จะสลัดภาพเมืองแห่งมลพิษทิ้งไป และคาดหวังเอาไว้ว่าจะกลายมาเป็นประเทศผู้นำโลกในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม แทนที่ประเทศสหรัฐ ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ เลือกที่จะถอดถอนประเทศสหรัฐอมเริกา ออกจากข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศกรุงปารีสเมื่อปีที่แล้ว โดยทางกรมจัดการป่าไม้ของประเทศจีน ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะเพิ่มจำนวนป่าไม้ภายในประเทศให้มีมากถึง 23 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ประเทศทั้งหมด ให้ได้ภายในปี 2020 ซึ่งตัวเลขในปัจจุบันอยู่ที่ 21.7 เปอร์เซ็นต์จากพื้นที่ทั้งหมด และในปี 2035 ก็จะพยายามทำให้พื้นที่ป่าไม้ครอบคลุมถึง 26 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ประเทศทั้งหมด จากคำบอกกล่าวของ Zhang Jianlong หัวหน้ากรมจัดการป่าไม้ของประเทศจีน ในปี 2014 ที่ผ่านมานั้น เมืองต่างๆ ในประเทศจีนถูกมองว่าเป็นเมืองที่มีปัญหามลพิษทางอากาศเรื้อรังมาโดยตลอด เนื่องมาจากการขยายตัวทางอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3…
-
Hand Angels กลุ่มการกุศลที่จะช่วยให้คนพิการได้ “สำเร็จความใคร่” เติมเต็มอีกส่วนที่หายไป
ด้วยจำนวนผู้พิการที่มีจำนวนมากในโลกของเรา จึงทำให้เกิดมูลนิธิและอาสาสมัครช่วยเหลือขึ้นอย่างมากมาย เพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้ แต่ว่าได้มีกลุ่มอาสมัครอยู่กลุ่มหนึ่งที่ค่อนข้างจะแตกต่างกับกลุ่มอาสาสมัครทั่วๆ ไปที่ส่วนมากจะช่วยในด้านการใช้ชีวิตประจำวันของคนพิการมากกว่า เพราะว่านี่คืออาสาสมัครที่จะช่วยให้ผู้พิการได้ ‘สำเร็จความใคร่’ นั่นเอง!! กลุ่มอาสาสมัครชื่อว่า Hand Angels โดยกลุ่มอาสาสมัครสุดแปลกนี้มีชื่อว่า Hand Angels ที่อยู่ในประเทศไต้หวัน ซึ่งสิ่งที่พวกเขาทำนั้นพวกเขาบอกเอาไว้ว่า ไม่ได้จะมีเจตนาที่จะใช้เรือนร่างส่อไปทางที่ผิดแต่อย่างใด แค่เพียงอยากจะช่วยเหลือผู้พิการให้มีความสุขเหมือนกับคนปกติๆ เพียงเท่านั้น และที่สำคัญคือพวกเขาไม่ได้ต้องการค่าตอบแทนแต่อย่างใดสำหรับการช่วยเหลือผู้พิการเช่นนี้แม้แต่บาทเดียว Vincent ผู้ก่อตั้งอาสาสมัครกลุ่มนี้ กลุ่มอาสาสมัครการกุศลนี้จัดตั้งขึ้นโดยชายพิการทางขาชื่อว่า Vincent ซึ่งสูญเสียขาไปด้วยความร้ายแรงของโรคโปลิโอตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก และด้วยความพิการของนี้เองที่ทำให้เขาตั้งกลุ่มอาสาสมัครนี้ขึ้น เพราะอยากจะช่วยเหลือผู้ที่เป็นผู้พิการเช่นเดียวกับเขาให้สามารถมีความสุขได้เหมือนกับบุคคลทั่วๆ ไป “เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเห็นผู้พิการเช่นเดียวกับผม ผมสามารถเข้าใจพวกเขาได้เป็นอย่างดี เพราะผมเห็นตัวเองอยู่ในตัวพวกเขา” “การสัมผัสจากหญิงสาวจะช่วยให้เขาสามารถถึงจุดสุดยอดได้ มันเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว” Vincent ให้สัมภาษณ์ ผู้พิการยังคงรอคอยความช่วยเหลือในด้านต่างๆ โดยการจะช่วยเหลือผู้พิการให้มีความสุขในแต่ละครั้งจะใช้เวลาถึง 90 นาที นอกจากนี้แล้ว อาสาสมัครจะต้องใช้เวลากว่า 6 เดือนเพื่อศึกษาในตัวของผู้พิการแต่ละคน ว่าจะมีทางใดให้เขาได้มีความสุขที่สุดจากการบริการทางเพศนี้ด้วย แต่ความช่วยเหลือของคนกลุ่มนี้ ก็ทำให้นักวิจารณ์บางคนออกมาวิจารณ์ว่ามันเหมือนกับการค้าประเวณียังไงยังงั้น แต่กลุ่มอาสาสมัครก็ยังยืนยันที่จะทำสิ่งนี้ต่อไป เพราะว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้มีอาสาสมัครผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่า Anan ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ไว้ว่า…
-
หนุ่มถูกจำคุก 15 ปี หลังจากใช้แอปฯ หาคู่หลอกเกย์เพื่อจะไปทำร้ายร่างกายและขโมยของ
ในยุคสมัยปัจจุบัน เทคโนโลยีต่างๆ ได้พัฒนาขึ้นอย่างมากมายรวมถึงการใช้โทรศัพท์มือถือ ที่ไม่เพียงแค่มีไว้โทรเข้า-โทรออกอีกต่อไป เพราะว่ายังมีแอปพลิเคชั่นมากมายให้เลือกเล่นทั้งเกม อินเทอร์เน็ต ความบันเทิงต่างๆ แถมยังมีแอปฯ ที่ใช้สำหรับหาคนคุยเมื่อยามเหงาอีกด้วย แต่ในสายตาของอาชญากรแล้ว แอปฯ หาคู่หาเพื่อน อาจเป็นเสมือนกับช่องทางในการทำมาหากินเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามันสามารถใส่ภาพโปรไฟล์แบบปลอมๆ หรือใส่ข้อมูลที่ไม่เป็นจริงลงไปก็ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงมีคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีดังกล่าว รวมถึงคดีนี้ที่มีชายคนหนึ่งถูกจำคุกถึง 15 ปี เพราะเขาก่ออาชญากรรมโดยใช้แอปฯ หาคู่เป็นช่องทางการลงมือด้วย แอปพลิเคชั่น Grindr ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Nigel Garrett วัย 21 ปี ซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขาเป็นคนแรกจากในกลุ่มทั้งหมด 4 คนที่ถูกจำคุก 15 ปี จากการร่วมมือกันบุกรุกบ้านของชายคนหนึ่ง และได้ก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นอย่างมากมายทั้ง ลักพาตัว ขโมยรถ รวมถึงการใช้อาวุธปืนในการก่ออาชญากรรม ซึ่งสาเหตุที่เขาถูกจำคุกเป็นคนแรกของกลุ่มที่ร่วมมือกันก่อเหตุดังกล่าว ก็เพราะว่าเขาเป็นคนแรกที่ได้ให้คำสารภาพถึงเหตุที่ก่อขึ้น โดยคนที่เหลือมีชื่อว่า Anthony Shelton, Chancler Encalade Jr และ Cameron Ocion Ajiduah กำลังรอรับโทษหลังจากให้การสารภาพในเวลาต่อมา โดยคำให้การของเขาได้เล่าว่า ในตอนแรกนั้น Garrett ได้โพสต์ระบุโปรไฟล์ของตัวเองในแอปฯ…
-
ญี่ปุ่นประสบปัญหาแต่งงานกันน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2!!
ก่อนหน้านี้ใครหลายคนอาจจะเคยได้ยินข่าวที่ว่า ประเทศญี่ปุ่นในตอนนี้ได้เกิดภาวะวิกฤติในเรื่องจำนวนประชากร เพราะว่าจำนวนเด็กที่เกิดมามีน้อยลงไปทุกที และดูเหมือนว่าปัญหานี้จะเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากยิ่งขึ้น สำหรับรัฐบาลของประเทศแดนปลาดิบ อ่านข่าวเก่าได้ที่ >> ญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดลดลงอย่างน่าใจหาย และต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2017 ในตอนนี้ได้มีข้อมูลใหม่เปิดเผยออกมาว่า ในปี 2017 ที่ผ่านมานั้นคนญี่ปุ่นได้มีจำนวนการแต่งงานเกิดขึ้นน้อยที่สุดตั้งแต่สมัยสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว!! แม้ว่าช่วงเทศกาลคริสต์มาสในประเทศญี่ปุ่น จะเป็นเทศกาลที่ทำให้คู่รักได้ออกมานัดเดตกันมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลจากกระทรวงคุ้มครองแรงงานและสุขภาพ ของประเทศญี่ปุ่นก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถิติที่ดูจะไม่เป็นผลดีต่อชาวญี่ปุ่นมากนัก โดยข้อมูลที่ทางการได้นำมาเปิดเผยก็คือ จำนวนตัวเลขของการแต่งงานที่เกิดขึ้นระหว่างเดือนมกราคม – เดือนตุลาคม ในปี 2017 ที่มีจำนวนการแต่งงานเกิดขึ้นเพียงแค่ 607,000 คู่เท่านั้น ซึ่งจะน้อยกว่าจำนวนการแต่งงานในปี 2016 ในช่วงเวลาเดียวกันถึง 13,000 คู่ และนับได้ว่าเป็นตัวเลขการแต่งงานที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว สำหรับในเรื่องนี้รัฐมนตรีกระทรวงคุ้มครองแรงงานและสุขภาพ ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ที่จำนวนการแต่งงานมีตัวเลขที่น้อยลงนั้น เนื่องมาจากการที่จำนวนประชากรวัยหนุ่มสาวมีจำนวนที่ลดน้อยลง และอาจจะส่งผลให้มีจำนวนการเกิดที่น้อยลงตามไปด้วยในอนาคต ดังนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นในสังคมญี่ปุ่น เพื่อที่จะทำให้การแต่งงานเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับคู่รักในประเทศ โดยเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้คนญี่ปุ่นไม่อยากแต่งงานและมีลูกนั่นก็คือ เรื่องของค่าครองชีพในประเทศ ซึ่งหากมีลูกก็จะต้องมีค่าดูแลและค่าใช้จ่ายทางการศึกษาที่มีราคาค่อนข้างสูงนั่นเอง แม้ว่าจะรัฐมนตรีคนนี้จะไม่ได้กล่าวถึง แต่น่าจะมีเหตุผลอีกบางประการที่ทำให้ตัวเลขการแต่งงานในประเทศญี่ปุ่นลดน้อยลงก็คือ…
-
ชาวลอนดอนถึงกับอึ้ง หลังรู้ว่ารั้วเหล็กโค้งงอที่อยู่ตามจุดต่างๆ แท้จริงเคยเป็น ‘เตียงฉุกเฉิน’ มาก่อน
ในแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้นมักมีที่มาและประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่ ซึ่งบางอย่างอาจไม่เคยได้รับการเปิดเผย จนบางทีแม้แต่คนในพื้นที่เองก็ยังไม่รู้เลย อย่างในลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะมีรั้วเหล็กที่ถูกทำให้งอในบางจุด แน่นอนว่าหลายคนอาจจะสังเกตเห็น แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้เลยว่าทำไมมันถูกทำให้เป็นแบบนี้ จนเมื่อ Jim Wheble จากสำนักข่าว BBC London News เดินทางไปยังถนนที่มีรั้วเหล็กงอดังกล่าว และได้บอกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของรั้วลักษณะนี้ Wheble อธิบายว่ารั้วดังกล่าวนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นรั้วทั้งหมดซะทีเดียว แต่มันสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้เป็นเตียงฉุกเฉิน โดยรั้วส่วนที่มีลักษณะทรงโค้งงอตามแนวเสานั้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นเปลหามคนเจ็บ ซึ่งอยู่สูงจากพื้นประมาณ 2-3 นิ้ว และถูกนำมาใช้เป็นรั้วบนถนนหลังสิิ้นสุดสงคราม นอกจากนี้ Wheble ยังได้พาผู้ชมโฟกัสที่ส่วนเล็กๆ ของรั้ว และตั้งข้อสังเกตว่ามันถูกใช้พาเด็กๆ ที่ได้รับบาเจ็บออกจากเศษหินหรืออิฐในช่วงสงคราม แล้วเชื่อว่ามั้ยว่าเมื่อผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมารู้ความจริงนี้จาก Wheble ทุกคนถึงกับร้อง ‘ว้าว’ เพราะพวกเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แม้แต่คนในพื้นที่เองก็ตาม พิธีกรรายพูดต่อไปว่าในช่วงที่เกิดสงคราม ผู้เชี่ยวชาญในทีมรัฐบาลของสหราชอาณาจักรได้คาดการณ์ถึงสถานการณ์หรือหายนะที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องสร้างเตียงฉุกเฉินนับพันเตียง เพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันและทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ Wheble ได้สัมภาษณ์ Ian Kikuchi นักประวัติศาสตร์ที่ Imperial War Museum เขาบอกว่าผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้บาดเจ็บประมาณ 100,000 รายในช่วง…
-
เหล่ามะหมากำลังถูกพาไปขายที่ตลาดเนื้อ แต่ถูกช่วยเหลือเอาไว้ทัน พร้อมมีชีวิตใหม่แล้ว
ในขณะที่เราหลายคนเห็นสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง เป็นเพื่อน เป็นครอบครัวที่ได้ต้องได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรัก แต่กลับมีคนกลุ่มหนึ่งที่มองต่างออกไปและนำพวกมันไปทำเป็นอาหาร!! อย่างเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ สุนัขกว่า 30 ตัว ในฟาร์มที่กำลังจะถูกนำไปแปรรูปเป็นเนื้อในเกาหลีใต้ ได้รับการช่วยเหลือจากทีมงาน Humane Society International ก่อนจะถูกส่งตัวไปยังสหราชอาณาจักรอย่างปลอดภัย นักแสดงหนุ่ม Pete Wicks เป็นหนึ่งผู้เข้าร่วมภารกิจนี้ เขาอยู่ที่ท่าอากาศยาน Heathrow เพื่อต้อนรับเหล่าน้องหมาที่จะมาหาบ้านใหม่ที่นี่ เขาบอกว่า “ไม่ได้เตรียมใจรับความน่ากลัวของฟาร์มพวกนี้เลย ผมเห็นเหล่าน้องหมานั่งสั่นอยู่ในกรงเหล็ก และจ้องมองมาด้วยสายตาแห่งความสิ้นหวัง” “ดังนั้นการทำให้สถานที่อันน่ากลัวนี้ปิดตัวลง จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าภาคภูมิใจที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของผม” ดาราหนุ่มกล่าว จากภารกิจในครั้งนี้ ทำให้ Pete ได้เจอกับน้องหมา Henry Jack Lucie George Tory Rocky Bella Chris Adam Mocha Abbie Lucy และ Leila พวกมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งจากสุนัข 170 ตัว ส่วนที่เหลือจะถูกส่งตัวไปยังแคนาดาและสหรัฐอเมริกา โดยอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ที่ให้การช่วยเหลือสัตว์ สำหรับเหล่าสุนัขผู้น่าสงสารเหล่านี้เคยถูกขังในกรงแคบๆ และสกปรกในเมืองนามยางจู ซึ่งห่างออกไปประมาณ 2 ชั่วโมงจากสถานที่ที่เกาหลีใต้กำลังจะจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในฐานะเจ้าภาพ แต่ที่น่าตกใจคือ มันเป็นเพียงหนึ่งในฟาร์มจากทั้งหมด 17,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีการเพาะพันธุ์สุนัขมากกว่า 2.5 ล้านตัวต่อปีเพื่อนำไปเป็นอาหาร …
-
ไต้หวันเตรียมเพิ่ม “เพศที่สาม” ระบุลงในพาสปอร์ตและบัตรประชาชน ยื่นเรื่องรอการอนุมัติ
ในยุคที่ประชาธิปไตยกำลังเบ่งบาน การเรียกร้องสิทธิในด้านต่างๆ ก็เข้มข้นขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะด้านความเท่าเทียมทางเพศ ที่ไม่ใช่แค่เพศหญิงหรือเพศชาย แต่รวมไปถึงเพศที่สามด้วย ในบางประเทศทางยุโรป เพศที่สามอาจได้รับการยอมรับและมีเสรีภาพเท่าเทียมกับเพศหญิงหรือเพศชายโดยมีกฎหมายมารองรับ แต่ในเอเชียยังไม่มีประเทศไหนที่ประกาศรองรับเรื่องนี้แบบ 100% อย่างไรก็ตาม ไต้หวันเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่เรียกร้องสิทธิให้ชาว LGBTQ มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งวันที่ 24 พฤษภาคม 2017 ทางการไต้หวันได้ประกาศให้มีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งงานของเพศเดียวกัน โดยจะเตรียมประกาศใช้ภายใน 2 ปีนี้ อ่านข่าวเก่า ไต้หวันเตรียมร่างกฎหมาย เพื่อรับรองการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน ไม่มีเพียงแค่กฎหมายเกี่ยวกับการแต่งงานของเพศเดียวกันเท่านั้น แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการความเท่าเทียมทางเพศของไต้หวัน (Gender Equality Committee of the Taiwan) ได้ประกาศเตรียมเพิ่ม “เพศที่สาม” ระบุลงในพาสปอร์ตและบัตรประชาชนด้วย ทางการไต้หวันกล่าวว่าการระบุเพศที่สามในบัตรประชาชนและหนังสือเดินทางเป็นการช่วยปกป้องสิทธิของคนแปลงเพศ คนข้ามเพศ และเพศทางเลือกอื่นๆ ดังที่กล่าวมาแล้วว่าก่อนหน้านี้ไต้หวันเตรียมอนุมัติการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องมีการระบุเพศที่สามในบัตรประชาชนด้วยเพื่อเป็นการส่งเสริมสิทธิของ LGBTQ ในเอเชีย ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศที่ให้ระบุเพศที่สามในบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง โดยประเทศที่อนุมัติเมื่อปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย ประเทศแคนาดาออสเตรเลีย เดนมาร์ก เยอรมนี มอลตา นิวซีแลนด์…
-
หญิงสาวช่วยน้องหมามาจากแอฟริกา จนกลายมาเป็นเพื่อนรวมเดินทาง ไปไหนไปกัน!!
เวลาไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ เรามักจะเห็นสุนัขจรจัดอยู่ในสถานที่นั้นๆ ด้วย แต่เราก็คงทำได้เพียงให้อาหารมันหรือเล่นกับมันเท่านั้น แล้วก็จากมันไป แต่สำหรับ Sara Ortín León เธอตัดสินใจช่วยเหลือน้องหมา Ginger ที่เจอระหว่างเดินทางไปต่างถิ่น และพามันกลับบ้านด้วยจนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เมื่อปี 2015 León ได้เดินทางออกจากบ้านในบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ไปยังยังแซมเบีย ในแอฟริกา โดยใช้เวลาเป็นปีอยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์ที่นั่นเพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับลิงชิมแปนซี ในสถานพักพิงดังกล่าวมีสุนัขหลายตัวอาศัยอยู่ และ Ginger คือหนึ่งในนั้น “ฉันตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกเห็น เพราะมันทำให้ฉันนึกถึงหนึ่งในน้องหมาของครอบครัวของฉันที่บาร์เซโลนา” หญิงสาวกล่าว ในขณะเดียวกัน ดูเหมือน Ginger ก็ชอบ León เช่นกัน มันเริ่มตามเธอไปทุกที่ หญิงสาวจะไปที่กรงชิมแปนซีทุกวันและใช้เวลาอยู่ที่นั่นทั้งวันเพื่อทำการวิจัย โดยมีน้องหมาคอยอยู่ใกล้เธอตลอด หญิงสาวบอกว่า “ทุกๆ วัน ฉันต้องเดินทางไปที่นั่นเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร และเดินทางกลับที่พักในตอนเย็น มันไกลมาก แต่ Ginger ก็ยังยืนยันที่จะตามฉันมาทุกวัน” ตอนกลางคืน น้องหมาจะนอนหลับอยู่ข้างๆ หญิงสาว และพยายามให้ความอบอุ่นกับหญิงสาว “มันน่ารักมากจริงๆ ค่ะ” León กล่าว แต่แล้วก็ถึงเวลาที่หญิงสาวต้องเดินทางกลับบาร์เซโลนา และเธอไม่แน่ใจว่าการพา Ginger กลับบ้านด้วยนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ Ginger…
-
ทางการจีนเปิดตัวทางหลวงติดแผงโซลาร์เซลล์ที่แรกของโลก เปิดตัวได้ 5 วันถูกขโมยเรียบร้อย
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้รายงานเกี่ยวกับทางหลวงแห่งพลังงานในประเทศจีนที่กำลังจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ (อ่านข่าวเก่า จีนดำเนินการสร้าง ‘ถนนหลวงแห่งพลังงาน’ ช่วยผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ปริมาณมหาศาล) ล่าสุดหลังจากที่เปิดให้ใช้เพียงแค่ 5 วันก็เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นกับทางหลวงแห่งนี้เสียแล้ว!! จากการรายงานของเว็บไซต์ Shanghaiist ระบุว่าเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมาหลังจากที่เปิดใช้งานได้เพียงแค่ 5 วัน เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงก็พบว่าแผ่นโซล่าเซลล์ขนาดกว้าง 10-15 เซนติเมตร ยาว 1.85 เมตร ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย จากรายงานระบุว่าแผ่นโซล่าเซลล์ดังกล่าวถูกตัดและขโมยไปโดยหัวขโมยที่มีการเตรียมการมาอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามพวกเขากล่าวว่ามูลค่าของแผ่นโซล่าเซลล์ที่ถูกขโมยไปนั้นไม่ได้มีราคาสูงแต่อย่างใด และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการขโมยครั้งนี้ก็ยังคงเป็นที่สงสัยของทางเจ้าหน้าที่ นอกจากการถูกขโมยแล้ว ถนนเส้นนี้ยังได้รับความเสียหายจากการใช้งานอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้หน่วยซ่อมบำรุงกำลังทำงานของพวกเขาอย่างเต็มที่เพื่อให้ถนนสายนี้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ร่องรอยความเสียหายบนพื้นถนน ถนนสายดังกล่าวได้รับการขนานนามว่าเป็นทางหลวงพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของโลก และมันประกอบด้วยกัน 3 ชั้นคือ ชั้นผิวถนนด้านบนสุด ชั้นแผงโซล่าเซล์ตรงกลาง และฉนวนกันความร้อนชั้นสุดท้าย โดยถนนพลังงานแสงอาทิตย์ในมณฑลชานตง แห่งนี้สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้มากถึง 1 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี หรือเพียงพอสำหรับบ้านกว่า 800 หลังคาเรือนเลยทีเดียว ที่มา medium
-
สายการบิน Alitalia ทำเครื่องดนตรีวิโอล่าเก่าแก่จากศตวรรษที่ 17 พังยับ ทั้งที่รับปากจะดูแลให้
ทุกๆ การเดินทาง ไม่ว่ากับสายการบินไหนก็ตาม เราก็คงคาดหวังที่จะได้รับบริการดีๆ จากพนักงาน รวมทั้งการคุ้มครองทรัพย์สินให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่บางครั้งความผิดพลาดก็เกินขึ้นจนได้ เมื่อสายบินทำทรัพย์สินเสียหาย อย่างกรณีล่าสุดที่ทางสายการบิน Alitalia ทำเครื่องดนตรีวิโอล่าเก่าแก่จากศตวรรษที่ 17 พัง สร้างความไม่พอให้เจ้าของเป็นอย่างมาก เมื่อไม่กี่วันก่อน Myrna Herzog ชาวอิสราเอลที่เกิดในบราซิลได้โพสต์ภาพเครื่องดนตรีของเธอลงในเฟซบุ๊ก เผยให้เห็นสภาพของวิโลล่าที่พังยับเยิน สำหรับวิโอล่าตัวนี้เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่หายากที่สุดในโลก ซึ่งถูกทำขึ้นในปี 1708 และมีราคาประมูลอยู่ที่ 6.8 ล้านบาท Herzog วัย 66 ปี ได้ร่วมงานกับวงดนตรีอิสราเอลและวงดนตรีที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ทั่วโลก เธอกำลังเดินทางจากริโอเดจาเนโรไปยัง Tel Aviv ประเทศอิสราเอลผ่านกรุงโรม แต่แล้วเครื่องดนตรีของเธอก็ได้รับความเสียหายระหว่างเดินทาง เธอจึงเรียกร้องให้สายการบิน Alitalia ออกมารับผิดชอบ เธอเขียนเฟซบุ๊กว่า “สายการบิน Alitalia เกลียดนักดนตรี! นี่คือสิิ่งที่ Alitalia ทำกับเครื่องดนตรีวิโอล่าเก่าแก่จากศตวรรษที่ 17 ของฉัน หลังจากที่ฉันไว้ใจสายการบินให้ทำการขนส่งให้ แต่พอได้กลับมา มันพังยับเยิบเหมือนโดนรถทับมา จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากทางสายการบิน Alitalia” Herzog บอกว่าอีกว่าตอนแรกเธอพยายามจ่ายค่าตั๋วสำหรับเครื่องดนตรีของเธอ เพราะไม่อยากโหลด แต่ทางสายการบินแจ้งมาว่าที่นั่งเต็มหมดแล้ว เธอจึงยื่นวิโอล่าให้กับพนักงานด้วยมือของตนเอง…
-
เจ้าสุนัขยอดกตัญญู เจ้าของเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็ยังเฝ้าหลุมศพไม่ยอมจากไปไหน
สุนัขและเจ้าของมีความผูกพันที่ลึกซึ้งต่อกัน ความรักที่ทั้งสองมีให้กัน อาจมากจนทำให้สุนัขไม่อยากทิ้งเจ้าของไป แม้ว่าเจ้าของจะตายจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม เจ้า Deta เองก็เป็นหนึ่งในสุนัขแบบนั้นเหมือนกัน เมื่อมันไปเยี่ยมหลุมศพของเจ้าของที่เสียชีวิตไป มันก็นอนลงข้างๆ และไม่อยากลุกไปจากตรงนั้นเลย เจ้าหมา Deta ในช่วงวันคริสต์มาสของปีที่ผ่านมา Theresa Morini และสามีของเธอ ได้เดินทางไปเยี่ยมหลุมศพของแม่ที่เสียไป ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอได้นำ Deta สุนัยของเธอที่รับต่อมาจากแม่ที่ตายไป ไปเยี่ยมหลุมศพด้วย พวกเธอนำพวงมาลัยคริสต์มาสไปวางไว้หน้าหลุมศพของพ่อแม่ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพวกท่านในวันคริสต์มาส แต่พอพวกเขาจะขึ้นรถกลับบ้านกัน กลับพบว่า Deta มันไม่ยอมตามมาขึ้นรถด้วย เธอจึงเรียกมันอยู่หลายครั้ง จนมันลุกและเดินตามเธอมา แต่เมื่อหันหลังกลับไปมองอีกครั้ง มันก็ยังยืนนิ่งไม่ยอมไปไหน แล้ววิ่งกลับไปที่หลุมศพของแม่เธอ เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วเธอก็รู้สึกสะเทือนใจมาก อาจจะเป็นเพราะเธอเองก็ยังทำใจกับการจากไปของแม่ไม่ได้ จะเห็นว่าในคลิปวิดีโอนั้นเธอพูดว่า “พระเจ้าช่วย มันทำให้ฉันร้องไห้ Deta มาขึ้นรถเดี๋ยวนี้นะ Deta!” Morini เล่าว่า “แม่ของฉันเลี้ยง Deta มา 5 ปีแล้ว แม่ไม่ได้ออกไปนอกบ้านบ่อยนัก พอแม่อายุได้ 86…
-
พบกับชุดเจ้าสาวสุดหวิว เทรนด์ใหม่สำหรับเจ้าสาวใจกล้า ใครหุ่นดีใส่แล้วต้องปังแน่นอน!!
ในงานแต่งงานตามแบบฉบับของศาสนาคริสต์นั้น เจ้าสาวมักจะสวมใส่ชุดกระโปรงยาวฟูฟ่องสีขาวบริสุทธิ์ และหมวกคลุมผมสีขาวบริสุทธิ์เช่นกัน จนกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าชุดเจ้าสาวควรต้องเป็นเดรสสีขาวเท่านั้น แต่ในปัจจุบันที่แฟชั่นเข้ามามีบทบาทในการแต่งตัวมากขึ้น เจ้าสาวบางคนก็ไม่อยากยึดติดอยู่กับประเพณีเดิมๆ จึงได้ดัดแปลงชุดเจ้าสาวตามสไตล์ที่ตัวเองชอบดูบ้าง บางคนก็นำชุดไปย้อมไปเป็นสีต่างๆ ที่ไม่ใช่สีขาวก็มี และเทรนด์ของชุดเจ้าสาวก็ไม่ได้หยุดแต่เพียงเท่านั้น ตอนนี้ได้มีชุดเจ้าสาวรูปแบบใหม่ออกมาแล้วซึ่งฉีกทุกกฎของชุดเจ้าสาวสุดเรียบร้อยทิ้งไปเลย ชุดเจ้าสาวแบบใหม่ที่ว่านี้ ตัดเย็บโดย Pronovias แบรนด์ชุดเจ้าสาวและชุดราตรีจากสเปน มันเป็นชุดเจ้าสาวแบบจั๊มสูทแนบเนื้อ ที่มีเนื้อผ้าแบบซีทรูสุดเซ็กซี่ และประดับด้วยลวดลายดอกไม้สีขาวตามส่วนต่างๆ ของชุด นางแบบ Cristina Pedroche สวมชุดเจ้าสาวแบบใหม่ของ Pronovias นางแบบที่ Pronovias เลือกมาช่วยทำให้ชุดเจ้าสาวรูปแบบใหม่นี้มีชีวิตชีวาขึ้นมา ก็คือสาวสวย Cristina Pedroche เธอสวมชุดนี้โชว์ในวันสิ้นปี 2017 ที่ผ่านมา ตอนที่เธอสวมชุดเจ้าสาวซีทรูนี้ ดูเหมือนกับว่าเธอไม่ได้ใส่อะไรอยู่อย่างไรอย่างนั้นเลย แต่ก็ไม่ได้ดูโป๊เปลือยแต่อย่างใด เพราะลวดลายดอกไม้บนชุดได้ช่วยปกปิดส่วนสำคัญบนร่างกายไว้มิดชิดพอสมควร เรียกได้ว่าสวมแล้วดูเซ็กซี่เผ็ดร้อน ละลายใจชายหนุ่มจริงๆ ตามคำบอกเล่าจาก โพสต์ในอินสตาแกรมของ Pronovias ชุดเจ้าสาวจั๊มสูทนี้ประดับประดาไปด้วยคริสตัลกว่า 200 เม็ด ที่ช่วยทำให้ชุดนี้ดูสวยงามมีลูกเล่น และยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตัวชุดด้วย นอกจากนี้ชุดนี้ยังใช้เวลาทำกว่า 244 ชั่วโมงเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามชุดเจ้าสาวสุดเซ็กซี่นี้จะต้องใช้ความกล้าในการสวมใส่สักนิด เพราะคุณจะรู้สึกเหมือนเดินในชุดวันเกิดอยู่ตลอดเวลา ไม่เฉพาะต่อหน้าเจ้าบ่าวเท่านั้น แต่ต่อหน้าคนที่มาร่วมงานแต่งทั้งหมดด้วย…
-
ช่างภาพตามถ่ายภาพ ‘เกล็ดหิมะ’ เผยให้เห็นถึงความสวยงาม และยกให้เป็นอัญมนีแห่งท้องฟ้า!!
ภาพของความงดงามในฤดูหนาว ของสถานที่และสิ่งของที่มีหิมะปกคลุมจนดูขาวโพลนไปหมด หรือดอกไม้และสายธารที่เย็นยะเยือกจนกลายเป็นน้ำแข็งไป เป็นความสวยงามที่เพื่อนๆ คงได้เห็นกันมามากแล้ว ในวันนี้เราเลยอยากนำเสนอความงามของธรรมชาติในฤดูหนาวในอีกรูปแบบหนึ่งที่ทุกคนอาจจะไม่ได้เห็นบ่อยนัก เพราะมันไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ แต่ต้องใช้กล้องที่ถ่ายรายละเอียดระดับไมโครได้ถึงจะเห็นถึงความสวยงามนี้ ภาพที่เรากำลังพูดถึงนี้ก็คือภาพของเกล็ดหิมะนั่นเอง โดยภาพเหล่านี้ถ่ายโดย Don Komarechka ช่างภาพมือโปรที่มีความสนใจในด้านภาพไมโคร เขาบอกว่าคนส่วนมากไม่เชื่อว่าภาพที่เขาถ่ายเป็นของจริง เนื่องจากมันดูสมบูรณ์แบบเกินไป โดยเขาเก็บภาพจากเกล็ดหิมะเหล่านี้ตอนที่มันกำลังจะละลาย จึงได้ความสวยงามแบบนี้มา เขาบอกว่า “ผมถ่ายรูปพวกนี้ห่างจากประตูหลังบ้านเพียงแค่ 2ฟุตเท่านั้น และใช้เวลากว่าสองฤดูหนาวในการถ่ายภาพ” รูปภาพเกล็ดหิมะของเขานั้นชัดเจนและเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ปกติเราไม่สามารถเห็นได้ ลองไปรับชมกันดูครับ เห็นกันทุกรายละเอียด ทุกซอกทุกมุม . มีทั้งแบบที่เป็นปึกแผ่น และเป็นกิ่งก้านแตกสาขาออกไป . หรือแม้กระทั่งแบบเป็นแผ่นเดี่ยวๆ ก็มี น่าจะใกล้ละลายเต็มที่แล้วละมั้ง . มีสีรุ้งวาวๆ ตรงกลางด้วย ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเกล็ดหิมะเป็นแบนี้ ทรงดาวหกแฉกสวยงาม . อันนี้เห็นสีรุ้งชัดมากๆ เลย . ก้านเรียวเล็กราวกับขานางแบบ . อื้อหือ กิ่งเยอะก้านแยะอะไรขนาดน๊าน .…
-
เผยคลิปการ์ดหน้าร้านไนท์คลับ ซัดคนมาเที่ยว “หมัดเดียวหลับ” จนสุดท้ายถูกพักงานไป
บางครั้งการกระทบกระทั่งกันหลังจากผับเลิกนั้น อาจจะเป็นภาพที่นักท่องราตรีหลายๆ คนเห็นจนชินตา แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่าถ้าหากคุณไม่อยากเจ็บตัวล่ะก็พยายามหลีกเลี่ยงการมีเรื่องกับการ์ดหน้าร้านจะดีกว่า คลิปวิดีโอบริเวณหน้าไนท์คลับแห่งหนึ่งในเมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษได้เผยให้เห็นการชกต่อยกันอย่างวุ่นวายบริเวณหน้าร้านระหว่างการ์ดประจำร้านและวัยรุ่นคนหนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกภาพในตอนที่ชายชุดดำซึ่งภายหลังรายงานระบุว่าคือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้าน Ink nightclub กำลังชกต่อยกับวัยรุ่นคนหนึ่ง ในขณะที่เหตุการณ์กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดการ์ดหน้าร้านของเราก็ซัดหมัดเด็ดเข้าที่หน้าชายหนุ่มผู้นั้น ทำเอาชายวัยรุ่นถึงกับล้มทั้งยืนเลยทีเดียว นอกจากจะส่งชายหนุ่มลงไปนอนกับพื้นภายในหมัดเดียวแล้ว การ์ดของร้านท่านนี้ยังได้ใช้หมัดเด็ดน็อคหนุ่มวัยรุ่นอีกคนที่กำลังจะเข้าไปหากลุ่มวัยรุ่นที่ลังชกต่อยกันอยู่ด้านหลังอีกด้วย ก่อนที่เหตุการวุ่นวายในครั้งนี้จะจบลงการ์ดคนเดิมยังได้ซัดชายคนแรกอีกหมัด หลังจากที่เขาพยายามจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งทำเอาคนที่อยู่รอบๆ ต่างวิ่งเข้าไปดูอาการของหนุ่มรายนี้กันเลยทีเดียว และนี่คือคลิปเหตุการณ์ในวันนั้น (ดูไม่ได้กด ที่นี่ ) Phil mitchell is a savage…this is what u call HANDS!! pic.twitter.com/JyBXH5Ikf7 — Blick Targeryan (@don_jidz) 5 มกราคม 2561 หลังจากเหตุการณ์สงบลง มีบางคนได้ตะโกนให้โทรเรียกรถพยาบาลเพื่อมาดูอาการของหนุ่มคนดังกล่าวที่นอนสลบอยู่กับพื้น ส่วนทางด้านร้าน Ink Nightclub ก็ได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกับสั่งพักงานการ์ดผู้นั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เราได้ทำการพูดคุยกับบริษัทรักษาความปลอดภัย และรายงานเรื่องของการ์ดผู้นี้กับทางบริษัทเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้เรายังได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้” โฆษกของทางร้านให้สัมภาษณ์ ขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองนอตทิงแฮม กำลังสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการ์ดังกล่าว…
-
ศิลปินสร้างผู้คนในหมู่บ้านด้วย “กระดาษลัง” บันทึกเรื่องราวของผู้คนผ่านโมเดลสุดสร้างสรรค์
เป็นที่รู้กันว่าวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในวงการศิลปะนั้น มันมีราคาที่ค่อนข้างสูงและต้องใช้มันเป็นจำนวนมากด้วยเพื่อให้ได้ผลงานศิลปะที่สมบูรณ์แบบ แต่ Warren King ศิลปินชาวอเมริกันพิสูจน์ให้เห็นว่าสุดยอดผลงานศิลปะที่มีความสร้างสรรค์นั้น ไม่จำเป็นต้องลงทุนแพงเสมอ ขอแค่รู้จักใช้สิ่งที่มีอยู่รอบตัวให้เป็นประโยชน์ King ได้สร้างผู้คนในหมู่บ้านของจีนด้วย “กระดาษลัง” โดยตั้งชื่อผลงานว่า Shaoxing Villagers ซึ่งเป็นประติมากรรมคนเฒ่าคนแก่ชาวจีน เขาได้รับแรงบันดาลใจจากการเริ่มต้นโปรเจกต์นี้เมื่อ 6 ปีก่อน เมื่อเขามีโอกาสได้ไปประเทศจีนครั้งแรก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตายายของเขา เมื่อมาถึงศิลปินรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ได้รับการทักทายจากคนแปลกหน้าบนถนน จนมารู้ทีหลังว่าพวกเขารู้จักกับตายายของเขาเลยให้การต้อนรับในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว การปฏิบัติเหล่านี้ทำให้ King ประทับใจในวัฒนธรรมของบรรพบุรุษมากๆ เขาไม่เคยเจอคนพวกนี้มาก่อนและอาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยก็ได้ เขาเล่าว่าตัวเองได้แยกกับตายายเมื่อ 50 ปีก่อน และถูกเลี้ยงดูในสหรัฐฯ ดังนั้นความผูกพันเส้นบางๆ นี้เหมือนกับกระดาษลังที่นำมาต่อกัน ปกติแล้วกระดาษลังเมื่อใช้งานแล้วมันจะถูกทิ้งเป็นขยะ แต่ King ตัดสินใจนำมากลับมาต่อกันใหม่อย่างสร้างสรรค์ด้วยการทำเป็นรูปของตากับยายที่อยู่ในหมู่บ้านจีน ไม่เพียงแค่ตายายเท่านั้น และเขายังสร้างตัวละครอื่นๆ ที่เขาได้พบเจอตอนที่ไปเยือนหมู่บ้านด้วย และแน่นอนว่ารูปปั้นจากกระดาษลังเหล่านี้บอกเล่าเร่ื่องราวและสิ่งแวดล้อมที่เขาเจอมาเป็นอย่างดีเลยล่ะ เพื่อนๆ สามารถติดตามผลงานเพิ่มเติมของ King ได้ที่เว็บไซต์ Wrnking . . .…
-
ช่างตัดเย็บทำคอลเลคชั่นโทนสีให้ควีนอลิซาเบธที่ 2 เนื่องในวโรกาสมีพระชนมายุ 90 พรรษา
หากใครได้ติดตามข่าวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ ก็อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากับ ควีนอลิซาเบธที่ 2 (Queen Elizabeth II) สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ที่มักจะออกงานต่างๆ ด้วยชุดฉลองพระองค์ที่มาในรูปแบบสีสันสดใสต่างๆ มากมาย ซึ่งทำให้ใครหลายคนยกย่องให้พระองค์เป็นพระราชินีเป็นผู้นำแฟชั่นคนหนึ่งในโลกนี้เลย และด้วยความที่พระองค์ทรงเป็นราชินีแห่งประเทศ ทำให้นอกจากชุดฉลองพระองค์จะมีความงามอย่างมากแล้ว ยังต้องมีความประณีตเรื่องอื่นๆ แฝงอยู่ในชุดฉลองพระองค์ด้วย ซึ่งช่างตัดเย็บก็ใส่ใจในเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ อาทิ เรื่องของกระโปรงที่ทีมช่างได้ใส่ตุ้มถ่วงเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กระโปรงเปิดเมื่อมีลมพัดผ่าน ชุดฉลองพระองค์ในโทนสีต่างๆ และเนื่องในวโรโกาสเฉลิมฉลองที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุ 90 พรรษาเมื่อปีก่อนหน้านี้ Angela Kelly ช่างตัดเย็บส่วนตัวของพระองค์มาตั้งแต่ปี 1994 จึงได้จัดทำคอลเลคชั่นชุดฉลองพระองค์ในสีสันต่างๆ ออกมาให้เราได้ชมกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงมีชุดหลากหลายสีจนสามารถนำมาเรียงต่อกันเป็นเฉดสีได้เลยทีเดียว ฉลองพระองค์ตามวโรกาสต่างๆ ชุดฉลองพระองค์ของพระองค์ แม้ว่าบางชุดจะมีลักษณะที่คล้ายๆ กันแต่ก็ยังมีบางรายละเอียดที่เปลี่ยนไปอย่างเช่น สีเหลืองที่ก็มีทั้งเหลืองเข้ม เหลืองอ่อน ซึ่งก็จะใช้ฉลองพระองค์ในวโรกาสที่แตกต่างกัน ทำให้พระองค์ได้รับการยกย่องว่าเป็น Queen Of Pantone หรือว่าราชินีแห่งเฉดสีนั่นเอง วงล้อเฉดสีเฉลิมฉลอง 60 ปีแห่งการครองราชย์ โดยก่อนหน้าที่คอลเลคชั่นชุดฉลองพระองค์นี้จะออกมา ก่อนหน้านี้ในปี 2012 บริษัท Pantone ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับเรื่องสี ก็ได้เคยทำวงล้อชุดฉลองพระองค์ในเฉดสีต่างๆ ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์มายาวนานถึง 60 ปีอีกด้วย…
-
ช่างภาพตามถ่ายภาพ “ฝูงนก” ที่รวมตัวกลายร่างเป็นนกยักษ์ แหมมันน่าทึ่งซะจริงเชียว
โลกของเรานอกจากมนุษย์แล้วก็ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่ด้วย อย่างต้นไม้ หรือสัตว์ต่างๆ และด้วยความแตกต่างทางสายพันธุ์ที่มีอย่างมากมาย ทำให้บางครั้งมันก็อาจจะสร้างปรากฎการณ์แปลกๆ ขึ้นมาให้เราต้องตกตะลึงในความเป็นธรรมชาติของพวกมัน และเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้มีภาพถ่ายของฝูงนกฝูงหนึ่งที่บินร่วมกัน ซึ่งแน่นอนว่าการที่นกบินด้วยกันเป็นฝูงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร แต่ที่ทำให้มันพิเศษกว่าปกติก็เพราะว่า มันกลับบินรวมกันจนกลายเป็นภาพนกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามราวกับเป็นภาพวาดเลยก็ว่าได้ ภาพฝูงนกสุดมหัศจรรย์นี้ได้ถูกถ่ายไว้โดยชายชื่อว่า Daniel Biber เจ้าของร้านจักรยานชาวเยอรมัน ที่ไปเที่ยวทางตอนเหนือของประเทศสเปน และด้วยความโชคดีทำให้เขาสามารถถ่ายภาพที่สวยงามนี้เอาไว้ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ สำหรับประวัติของชายคนนี้นั้น เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้หลงรักการถ่ายภาพมาตั้งแต่ปี 1981 และได้ถ่ายภาพตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยความชื่นชอบของเขาไม่ใช่ชอบแบบธรรมดาๆ แต่เรียกได้ว่าคลั่งไคล้เลยทีเดียว โดยการจะออกไปข้างนอกไม่ว่าที่ใดก็ตาม เขาบอกไว้ว่าจะต้องพกกล้องอย่างน้อยหนึ่งตัวติดเอาไว้เสมอ และเมื่อไปถึงประเทศสเปน เขาก็ได้สังเกตเห็นว่ารูปแบบการบินของฝูงนกที่นี่ มันค่อนข้างจะผิดแปลกไปจากที่เคยเห็นมา ซึ่งในตอนแรกเขาก็บอกเอาไว้ว่าไม่รู้หรอกว่า ฝูงนกมันกำลังทำอะไรกันอยู่แต่ว่าพวกมันก็รวมฝูงกันเป็นก้อนดำๆ แล้วมีความสวยงามดี โดยปรากฏการณ์ที่นกรวมฝูงเช่นนี้มีชื่อเรียกว่า Murmurations โดยปรากฏการณ์ที่ว่านี้เป็นปรากฎการณ์ที่ช่วยในการหาอาหารของนก และเป็นการสร้างกลไกปกป้องไม่ให้ฝูงกลายเป็นเหยื่อของนักล่า แต่จะด้วยเหตุใดก็ตาม Biber ก็เห็นความสวยงามของมันและไม่พลาดที่จะหยิบกล้องคู่ใจขึ้นมาลั่นชัตเตอร์เก็บภาพความสวยงามนี้เอาไว้ แต่ว่าการจะถ่ายภาพให้มันออกมาดูดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะว่าเขาบอกว่ามันมีองค์ประกอบหลายอย่าง ในการที่จะถ่ายภาพให้ออกมาสวยที่สุด “ผมใช้เวลาเลือกจุดที่จะถ่ายพวกมันเป็นเวลาถึง 4 วัน โดยผมต้องขับไปที่่ต่างๆ เพื่อหาฉากหลังให้เหมาะสมกับฝูงนกให้มากที่สุด ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย” Biber กล่าว หลังจากเขาใช้เวลาสำรวจจุดต่างๆ ที่เหมาะสมกับฝูงนกเป็นเวลาถึง 4…
-
เหล่าอีกัวน่าติดสตั้นท์ เจออากาศหนาวจัดแข็งไม่ขยับ ด้านผู้เชี่ยวชาญแนะมันอาจยังไม่ตาย!!
ฤดูหนาวเป็นฤดูที่ใครหลายคนชื่นชอบ เพราะว่าอากาศมันทั้งเย็นสบายและไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่บางทีเมื่อมีอากาศที่เย็นเกินไป เราก็อาจจะไปซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มแบบฟินๆ ทว่าสำหรับเหล่าสัตว์แล้ว บางทีฤดูหนาวอาจจะเป็นฤดูที่โหดร้ายสำหรับพวกมันก็เป็นได้ และสำหรับฤดูหนาวของบางประเทศนั้น มันไม่เพียงแต่สร้างความหนาวเย็นให้แก่เราเท่านั้น แต่บางทีมันก็หนาวซะจนอาจจะทำให้สัตว์บางชนิดแข็งตายเลยก็เป็นไปได้ เหมือนกับเหล่าอิกัวน่าเหล่านี้ที่โดนความหนาวเหน็บเล่นงานซะจนตัวแข็งทื่อเหมือนกับตายไปแล้วยังไงยังงั้นเลย ด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายและอุณหภูมิลดลงจนต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียสที่รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ได้ทำให้อิกัวน่าหลายตัวมีสภาพที่เรียกว่าถูกแช่แข็งและไม่สามารถขยับเขยื้อนในหลายพื้นที่ชนบทในรัฐนี้ “อย่าคิดว่าพวกมันตายแล้วเป็นอันขาด” Kristen Sommers ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่ากล่าว ส่วนสาเหตุที่เธอกล่าวเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่า โดยปกติแล้วสัตว์เลือดเย็นซึ่งมีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่อเมริกากลางและอเมริกาใต้ จะเริ่มมีอาการเชื่องช้าแสดงให้เห็นเมื่อมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ซึ่งถ้าหากอุณหภูมิลดลงกว่านั้นอีกพวกมันก็จะไม่สามารถขยับตัวได้เพราะว่ามีอากาศที่หนาวเย็นจนเกินไป อิกัวน่าไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลานเพียงตัวเดียวที่โดนแช่แข็งในสัปดาห์นี้ แต่ยังมีสัตว์อื่นๆ อย่างเต่าทะเลที่มีสภาวะนี้ร่วมด้วย โดยก่อนหน้านี้นักชีววิทยาขององค์กรดูแลสัตว์ป่า ก็ได้เคยช่วยเหลือเต่าทะเลที่มีสภาวะแข็งตัวที่ลอยคอมาบริเวณใกล้ๆ กับชายฝั่ง แต่สำหรับอิกัวน่าแล้ว พวกเขาบอกเอาไว้ว่าไม่ได้เตรียมแผนการช่วยเหลือไว้แต่อย่างใดเลยทั้งสิ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่เจออิกัวน่าขณะกำลังตกอยู่ในสภาวะแข็งตัวว่าให้ปล่อยพวกมันไว้ตามธรรมชาติจะดีกว่า เพราะว่าพวกมันอาจรู้สึกว่าถูกคุกคามและอาจจะทำร้ายเราได้ สำหรับอิกัวน่าสีเขียว เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในรัฐฟลอริด้า โดยเมื่อโตเต็มวัยมันสามารถมีความยาวได้มากถึง 152 เซนติเมตร และมูลของของมันเป็นแหล่งของแบคทีเรีย Salmonella ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ ที่มา: dailymail
-
แบ่งปันรอยยิ้ม นักกิจกรรมสาวแจกถุงยังชีพหน้าหนาว พร้อมกัญชา ให้คนไร้บ้านในแคนาดา
“ฉันมอบห่อเล็กๆ 2 ห่อให้กับชายไร้บ้านคนหนึ่ง และฉันคิดว่าทำไมฉันไม่ทำแบบนี้กับคนอื่นๆ ล่ะ??” Amy Anonymous นักเคลื่อนไหวด้านกัญชาและเจ้าของร้านขายยาในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดาเล่าถึงที่มาของจุดเริ่มต้นโครงการของเธอ เรื่องราวการมอบรอยยิ้มของหญิงสาวท่านนี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้วในวันหนึ่งระหว่างที่เธอกำลังเดินไปทำงาน หญิงสาวได้พูดคุยกับชายไร้บ้านคนหนึ่งที่กำลังยืนตัวสั่นท่ามกลางอากาศหนาว ก่อนที่เธอจะตัดสินใจมอบของขวัญห่อเล็กๆ 2 ห่อให้กับเขา หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นนักกิจกรรมสาวเริ่มมองหาเพื่อนๆ ที่พร้อมจะสนับสนุนการบริจาคสิ่งของเพื่อคนไร้บ้านกับเธอ ซึ่งในตอนแรกนั้นเธอตั้งเป้าการบริจาคสิ่งของให้กับคนไร้บ้านเพียงแค่ 15 คนเท่านั้น ในตอนแรกสิ่งของที่เธอมอบให้กับคนไร้บ้านเป็นเพียงของใช้เล็กๆ น้อยที่จำเป็นสำหรับพวกเขา อย่างเช่นถุงใส่ของใบเล็กๆ ถุงมือ และกัญชาอีกนิดหน่อยเพื่อให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย หลังจากผ่านไป 7 ปี การบริจาคของเธอเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนใน 2018 นี้ Amy และทีมของเธอได้บริจาคสิ่งของให้กับคนไร้บ้านมากกว่า 150 คน และได้รับความร่วมมือจากกลุ่มคนรักกัญชาของแคนาดาอีกด้วย คุณ Amy Anonymous หญิงสาวผู้เป็นจุดเริ่มต้นของการบริจาครอยยิ้มครั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาถุงบริจาคของพวกเขานั้นประกอบไปด้วยหมวกหนึ่งใบ ผ้าพันคอ ถุงอุ่นมือ และบัตรกำนัลจากร้านอาหาร หมวกอุ่น และถุงเท้าอีก 2-3 คู่ สำหรับคนไร้บ้านที่เป็นผู้หญิงนั้นจะได้รับอุปกรณ์เสริมสวยอย่างน้ำยาทาเล็บเพิ่มด้วย หรือใครที่เลี้ยงสัตว์ก็จะได้อาหารสัตว์เพิ่มเช่นกัน และแน่นอนว่าทุกๆ ห่อนั้นจะมีกัญชาอีกนิดหน่อยและกระดาษมวนแถมมาให้ด้วย Anonymous…
-
รู้จักกับ ‘Chen Si’ หนุ่มชาวจีนผู้ช่วยชีวิตคนที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้วหลายร้อยชีวิต
เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจนี้เป็นของชายชาวจีนท่านหนึ่งนามว่าคุณ Chen Si เขาได้ช่วยเหลือคนที่คิดสั้นและกำลังจะฆ่าตัวตายมากกว่า 330 คน ชื่อของชายคนดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ หลังจากที่เกิดกระแสดราม่าเกี่ยวกับพฤติกรรมของยูทูบเบอร์ชื่อดังอย่าง Logan Paul (อ่านข่าวเก่า Logan Paul ออกมาขอโทษชาวเน็ตญี่ปุ่น หลังหัวเราะ ‘ศพ’ ที่ตัวเองบังเอิญไปเจอในป่า) ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 ชายชาวจีนผู้นี้ได้ใช้เวลาว่างในวันหยุดของเขาออกเดินสำรวจในบริเวณสะพาน Nanjing Yangtze หนึ่งในจุดฆ่าตัวตายยอดนิยมแห่งหนึ่งของโลก เพื่อช่วยเหลือเหล่าคนที่กำลังจะคิดสั้น ในปี 2006 คุณ Chen ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวว่าเขาได้เดินมองหาผู้คนที่กำลังหมดหวัง หรือคนที่กำลังได้รับความกดดันจากชีวิตอย่างมาก ก่อนที่จะเริ่มพูดคุยกับพวกเขา คุณ Chen ใช้เวลาในการพูดคุยกับพวกเขาพร้อมกับโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือในบางครั้งถ้าหากจำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยพวกเขา ชายผู้นี้ก็เคยทำมาแล้ว!! “บ่อยครั้งที่ต้องมีการเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือพวกเขา ผมเคยช่วยคนที่กำลังจะกระโดดสะพานและดึงพวกเขากลับมา บางครั้งผมก็ช่วยไว้ได้ทัน แต่บางครั้งผมก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาไว้ได้” คุณ Chen ให้สัมภาษณ์ คุณ Shi Xiqing หนึ่งในผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ หลังจากที่เขากำลังจะฆ่าตัวตายเนื่องจากปัญหาหนี้สินและค่ารักษาพยาบาลของลูกสาว ชายหนุ่มเล่าว่าในทุกๆ สัปดาห์คุณ Chen จะโทรมาพูดคุยกับเขาและช่วยพูดคุยกับเจ้าหนี้เพื่อหาทางออกของปัญหาและช่วยให้เขาผ่านมันมาได้ เรื่องราวอันน่ายกย่องของหนุ่มชาวจีนผู้นี้ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Angel of Nanjing ในปี 2015 และสามารถกวาดรางวัลจากเทศกาลหนังได้อย่างล้นหลาม ชมเรื่องราวของเขาผ่านตัวอย่างหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่เลย… ที่มา ladbible
-
หนุ่มไร้บ้านนอนอยู่หน้าสถานรับเลี้ยง เพื่อหวังว่าจะได้เจอสุนัขเพื่อนรักที่หายไปอีกครั้ง
การที่เราจะเลี้ยงสัตว์สักตัวหนึ่ง แน่นอนว่าหากเราได้รับมันเข้ามาเลี้ยงแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราก็จะยิ่งมีความรักและความผูกพันธ์กับมันเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ และถ้าเมื่อมันหายไปเราก็คงจะเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับการได้เสียเพื่อนไปคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับคนไร้บ้านแล้ว สัตว์เลี้ยงของพวกเขาเป็นเสมือนเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากที่ลำบากผ่านเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกัน และถ้ามันหายไปพวกเขาก็คงไม่มีเงินที่จะไปติดใบประกาศตามหามันกลับมา สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็มีแค่เพียงการออกตามหาตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ ด้วยความหวังว่าจะได้มันคืนกลับมาใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้ง มานอนที่หน้าสถานสงเคราะห์เพื่อหวังจะได้เจอหมาของเขาอีกครั้ง และชายไร้บ้านคนนี้ก็เช่นเดียวกัน เพราะว่าเขาไปนอนเฝ้าที่สถานสงเคราะห์ตลอดทั้งคืน เพื่อหวังว่าเมื่อเจ้าหน้าที่จับหมามา มันอาจจะเป็นหมาของเขาที่หายไปก็เป็นไปได้ เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์สัตว์ Dekalb Animal Services ที่รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 18 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาพบหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งมา นอนขดอยู่ที่หน้าประตูสถานสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าชายคนนี้น่าจะมาหาที่นอน แต่ว่าเมื่อไถ่ถามเขาแล้วกลับผิดคาด เพราะว่าเหตุที่เขามาที่นี่เพื่อจะมาตามหาหมาของเขาที่หายไป และเขารู้สึกหมดหวังในการตามหาหมาของเขากลับมา จึงได้มาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นั่นเอง “พวกเราปลุกเขาขึ้น และเขาคนนั้นก็บอกว่าหมาของเขาได้หายไป จึงอยากให้ช่วยตามหาให้หน่อย” Karen Hirsch โฆษกของสถานสงเคราะห์ดังกล่าวเล่าให้ฟัง ชายผู้ไร้บ้านคนดังกล่าวเล่าให้ฟังว่า ได้ใช้เงินทั้งหมดที่เขามีนั่งรถบัสมาที่สถานสงเคราะห์แห่งนี้ เพื่อหวังว่าเขาจะได้พบหมาของเขาอีกครั้ง ด้วยความโชคดี ทำให้เขาได้หมากลับไปอยู่ด้วยอีกครั้งหนึ่ง และดูเหมือนว่าคราวนี้จะเป็นความโชคดีของเขา เพราะจากที่เขาอธิบายลักษณะของคู่หูให้ฟัง ก็พบว่าหมาของเขาได้ถูกรับมาที่นี่เมื่อประมาณ 2…
-
เทรนด์ต่อต้านวิทยาศาสตร์ ชาวบ้านมะกันหันมาดื่ม “น้ำดิบ” แถมราคาของมันก็เอาเรื่องอยู่!!
น้ำถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของร่างกายเรา แน่นอนว่าการขาดน้ำนั้นย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายเราในหลายๆ ด้าน และการเลือกคุณภาพของน้ำที่ดื่มนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีบริษัทสตาร์ตอัปแห่งหนึ่งได้เกิดไอเดียที่จะมอบน้ำดื่มคุณภาพดีให้กับผู้บริโภค ซึ่งพวกเขามีความเชื่อว่าน้ำที่ดีนั้นจะต้องเป็นน้ำดิบและไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ!! บริษัท Live Water สตาร์ตอัปจากสหรัฐอเมริกาได้นำเสนอไอเดียเพื่อตอบนองความต้องการของกระแสต่อต้านวิทยาศาสตร์ในแคลิฟอร์เนีย หลังจากที่ผู้คนเริ่มหันมาดื่มน้ำดิบกัน โดยสนนราคาของน้ำดิบจาก Live Water นั้นอยู่ที่ 1,200 บาทต่อ 2.5 แกลอนพร้อมถังใส่ ส่วนราคารีฟิลอยู่ที่ประมาณลิตรละ 50 บาท บริษัทดังกล่าวถูกก่อตั้งโดยนาย Mukhande Singh ชายหนุ่มผู้เชื่อว่าการได้บริโภคน้ำดิบนั้นก็เหมือกับเราได้ทานของสดๆ “การดื่มน้ำที่ผ่านการกรองนั้นสิ่งสกปรกกว่า 99 เปอร์เซ็นต์จะถูกกรองออกไป และตอนนั้นคุณก็เหมือนดื่มน้ำที่ไม่มีความสด โดยปรกติทั่วไปนั้นน้ำพวกนั้นจะอยู่ได้แค่เดือนเดียวเท่านั้น และน้ำที่ไม่สดจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวแต่ผู้คนส่วนมากไม่เคยเห็นมันเปลี่ยนสีเท่านั้นเอง” ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าว แต่อย่างไรก็ตามทางด้านผู้เชี่ยวชาญเองก็ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายของการดื่มน้ำดิบที่ไม่ผ่านกระบวนการกรองว่าอาจจะมีแบคทีเรียอย่าง E. coli หรือไวรัสอื่นๆ ปะปนมากับน้ำดิบได้ “น้ำที่ไม่ผ่านการกรองนั้นมีความเสี่ยงและเป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา มีงานวิจัยมากมายที่เป็นหลักฐานว่าทำไมเราถึงควรดื่มน้ำที่สะอาด” ดอกเตอร์ Hensrud จาก Mayo Clinic กล่าว การบำบัดน้ำของสหรัฐอเมริกานั้นช่วยกำจัดเชื้อที่ทำให้เกิดโรคอหิวา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยระบาดอย่างหนัก และปัจจุบันมันยังคงคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกมากกว่า 143,000 คนต่อปีเลยทีเดียว ที่มา odditycentral
-
หนุ่มเมาโบกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้านเกิด ขับผ่าน 3 ประเทศ โดนค่าโดยสารไปกว่า 72,000 บาท!!
จำได้ไหมว่าวีรกรรมตอนที่คุณเมานั้นทำอะไรไว้บ้าง หลายๆ คนอาจจะเคยมีประสบการณ์เมาแล้วรั่วสุดๆ หรืออาจจะเคยพบเห็นจากคนใกล้ตัวมาบ้าง เมาทีนี่มีเรื่องอายยันลูกหลานบวชเลยล่ะ แต่วีรกรรมของใครก็คงไม่เท่ากับชายหนุ่มจากออสโล ประเทศนอร์เวย์คนนี้ที่เรียกได้ว่าเมาแล้วเปิดวาร์ปของจริงไม่ใช้สลิงไม่ใช้สตั้นท์ เรื่องราวมันเริ่มต้นมาจากที่ชายชาวออสโลคนนี้ได้ดื่มสุราอย่างหนัก คาดว่าคงจะฉลองต้อนรับปีใหม่ของพี่แกนั่นแหละ แต่ดันฉลองหนักไปหน่อยตื่นมาอีกทีมาโผล่ที่บ้านเกิดเฉยเลย พ่อหนุ่มขี้เมาคนนี้หลังจากดื่มสุราจนได้ที่แล้วพี่แกก็ได้โบกแท็กซี่ในเมืองโคเปนเฮเกนในปี 2017 แล้วบอกให้ไปส่งที่บ้านของเขาที่เมืองออสโล ซึ่งคนขับแท็กซี่ก็เป็นคนจริง ผู้โดยสารว่ายังไงก็ไปส่งตามที่ร้องขอถึงแม้ว่ามันจะต้องขับรถผ่านถึง 3 ประเทศก็ตาม กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก รถแท็กซี่เดินทางออกจากเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กเข้าสู่ประเทศสวีเดนแล้วข้ามไปยังนอร์เวย์ โดยคนขับรถแท็กซี่ก็กดให้มิเตอร์วิ่งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงจุดหมายที่ท่านผู้โดยสารได้บอกไว้ ซึ่งมันเป็นระยะทางกว่า 600 กิโลเมตรเลยทีเดียว และสุดท้ายค่าโดยสารของทริปกลับบ้านช่วงหยุดยาวก็ตกเป็นเงินเพียง 72,000 บาทเท่านั้นเอ๊งงง ออสโล ประเทศนอร์เวย์ พอถึงที่หมาย ตาผู้โดยสารขี้เมาดันเข้าบ้านนอนโดยไม่จ่ายเงินค่าโดยสารซะงั้น ส่วนแท็กซี่โชคร้ายแบตเตอรี่รถถึงกับหมดเกลี้ยง จอดแน่นิ่งอยู่หน้าบ้านผู้โดยสารนั่นเอง เดือดร้อนพี่ตำรวจต้องมาช่วยปลุกหนุ่มขี้เมาให้ลุกมาจ่ายค่าเสียหายให้เรียบร้อย แหล่งข่าวไม่ได้บอกว่าหลังรู้ค่าโดยสารพ่อหนุ่มสำนึกรักบ้านเกิดทำหน้าอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ทีหลังอย่าเมาจนขาดสติแบบนี้อีกล่ะ มีหวังโดนเมียตีกระบาลแน่ๆ ที่มา thisisinsider
-
อัจฉริยะคณิตศาสตร์สาวเพิ่งเลิกกับเครื่องคิดเลข และตอนนี้วางแผนจะแต่งงานกับเกมตัวต่อ Tetris
เมื่ออ่านดูแล้วอาจจะดูว่ามันแปลกมากๆ กับเรื่องราวของนักเรียนสาวที่ชื่อว่า Fractal จากเมืองออร์แลนด์โด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ ที่เธอบอกว่าเธอน่ะเคยมีความสัมพันธ์กับเครื่องคิดเลขแต่ตอนนี้เธอมีแฟนใหม่แล้วซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีกับเกม Tetris นั่นเอง เกม Tetris เป็นเกมตัวต่อสุดฮิตแห่งยุค 80 เชื่อว่าหลายๆ คนก็อาจจะเคยเล่นเกมนี้ผ่านเครื่องเล่นเกมบอย อีกหนึ่งเครื่องเล่นเกมในสมัยเด็กที่เราคุ้นเคยกันมานานนม แต่ไม่น่าเชื่อว่าไอ้เจ้าเกมนี้มันจะมามีความสัมพันธ์กับคนได้!?! แต่ว่าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อจ้า เมื่อ Noorul Mahjabeen Hassan (แต่เธออยากให้เรียกเธอว่า Fractal Tetris Huracan มากกว่า) หนึ่งในนักเรียนผู้ที่มีอัจฉริยภาพทางคณิตศาสตร์ออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับเกม Tetris ที่เธอบอกว่า เธอน่ะหลงใหลมันจนถึงขั้นจะแต่งงานด้วยเลยนะ Fractal ไม่ใช่คนแรกที่มีอาการหลงรักวัตถุ ก่อนหน้านี้ยังมีคนที่ตกหลุมรักรถไฟฟ้า GPS และ iPods มาก่อนอีกด้วย แถมตัวเธอเองก็ไม่เคยรู้สึกรักเชิงชู้สาวกับมนุษย์ด้วยกันมาก่อนด้วย Fractal เล่าว่าจุดเริ่มต้นที่เธอหลงรักเกม Tetris นั้นเริ่มมาตั้งแต่เดือนกันยายน ช่วงนั้นเธอได้เล่นเกม Smash Run ซึ่งเสียงในเกมทำให้เธอนึกถึง Tetris เธอชอบเสียงประกอบนั้นมาก มันทำให้เธออยากเล่น Tetris สุดๆ…
-
หญิงแกร่งผู้อุทิศตนใช้เวลาร่วม 20 ปี รับเด็กที่ถูกทิ้งมาเลี้ยง แต่โชคชะตากลับตอบแทนด้วยโรคมะเร็ง
ว่ากันว่าชีวิตจริงของคนเรานั้นมันยิ่งกว่าละครซะอีก ทุกเรื่องราวทุกบททดสอบที่ต้องประสบพบเจออาจจะทำให้เรารู้สึกท้อแท้และเหนืิ่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเราก็ต้องผ่านสิ่งเหล่านี้ไปด้วยดีและมันจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นเพื่อใช้ชีวิตบนโลกใบนี้ต่อไป ชีวิตของนาง Li Lijuan อดีตเศรษฐินีอายุ 43 ปี ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าละครของเธอ เรื่องราวเริ่มต้นมาจาก เธอเป็นนักธุรกิจหญิงไฟแรงที่อาศัยอยู่ที่มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน เธอต่อสู้ชีวิต ตรากตรำทำงานหนักโดยเริ่มจากการค้าขายสินค้าหลากหลายชนิดตั้งแต่เสื้อผ้ายันแผ่นดีวีดี เธอแต่งงานตั้งแต่อายุ 17 ปี และค่อยๆ ตั้งตัวได้จนกลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากๆ เมื่อตอนอายุ 20 ปี แต่ชีวิตของเธอก็ต้องมาประสบกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งใหญ่ที่ทำให้เธอต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน แต่ความบาดเจ็บทางร่างกายของเธอมันเทียบไม่ได้เลยกับความชอกช้ำทางจิตใจเมื่อเธอได้รู้ข่าวหลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาลว่า สามีของเธอขายลูกชายแท้ๆ ของทั้งคู่เพื่อแลกเงินมาซื้อยาเสพติด เธอทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกชายได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ยอมแม้กระทั่งจ่ายเงินจำนวนประมาณ 40,000 บาท เพื่อซื้อลูกกลับมา และตัดสินใจหย่าขาดกับสามีทันที ช่วงชีวิตของเธอหลังจากที่ผ่านเรื่องราวร้ายๆ มา แทนที่จะสิ้นหวังกับความล้มเหลว เธอยืดอกลุกขึ้นสู้ด้วยพลังบวกในตัว เธอก็ได้เริ่มลงทุนทำธุรกิจใหม่ๆ แต่แล้ววันหนึ่งเธอได้ไปพบกับเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ริมถนนเพื่อขออาหารจากผู้คนที่ผ่านไปมาแถวนั้น เธอรู้สึกสงสารเจ้าหนูจับใจจึงได้รับเด็กหญิงมาเลี้ยง และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่เธอรับเอาเด็กยากไร้มาเลี้ยงภายในบ้านที่ชื่อว่า บ้านแห่งความเมตตา แต่ในปี 2008 เคราะห์กรรมของเธอก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อความพยายามอย่างหนักในการดูแลเด็กๆ เริ่มส่งผลร้ายให้กับร่างกายของเธอ เธอจำยอมต้องปิดเหมืองของตนเองลง และยังพบว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและส่งผลให้เซลล์คุ้มกันบกพร่องไปด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะต้องประสบกับโรคร้ายและภาวะทางการเงินที่ติดลบจนต้องขายบ้านเพื่อรักษาตัวแต่หนทางของเธอก็ยังคงมืดมน…
-
ภาพเหตุการณ์ “น้ำแข็งท่วม” เมืองบอสตัน น้ำท่วมและหนาวจัด เกิดเป็นภัยพิบัติหาชมยาก!!
ภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่มนุษย์พยายามหลีกเลี่ยงมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ดีธรรมชาติก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์และหลีกเลี่ยงได้อยู่ดี และราวกับธรรมชาติกลั่นแกล้งในบางครั้งมนุษย์เราก็ต้องพบกับภัยพิบัติอันแสนเลวร้ายยิ่งกว่าที่เคยมีมาอีกด้วย ในขณะเมืองบอสตันกำลังพยายามจัดการกับปัญหาน้ำท่วมอยู่นั้นพวกเขาก็ได้พบกับอุณหภูมิที่ลดลงอย่างกะทันหันจากพายุหิมะ จนทำให้เกิดธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปทั่วท้องถนน สำนักข่าว The Boston Globe รายงานว่าประชาชนราว 20 ครอบครัวต้องทำการอพยพจากที่พักอาศัย แต่มีเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ได้รับความช่วยเหลือจากยานพาหนะลุยน้ำของเจ้าหน้าที่ National Guard น้ำท่วมแข็งในทางเหนือของเมือง Boston ภาพของรถที่ทำการยกที่ปัดน้ำฝนและกระโปรงหลังไว้เพื่อไม่ให้ส่วนนั้นจมอยู่ในหิมะ แต่ก็ไม่สามารถต่อต้านการจมอยู่ในธารน้ำแข็งที่เกิดจากน้ำท่วมแข็งได้ . ภาพพยากรณ์อากาศของของอเมริกาฝั่งตะวันออก อุณหภูมิเยือกแข็งที่ประมาณ -9 องศาเซลเซียส จะยังปกคลุมเมืองบอสตันไปอีกประมาณสองวันและอาจลดลงไปได้ถึง -18 องศาเซลเซียสในตอนกลางคืน โดยที่ในบางพื้นที่อาจพบลมหนาวพัดซึ่งทำให้อุณหภูมิสามารถลดลงไปอย่างเลวร้ายที่สุดที่ -37 องศาเซลเซียส Benjamin Sipprell นักอุตุนิยมวิทยาในบอสตันกล่าวว่าน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากพายุหิมะพัดผ่านในช่วงน้ำขึ้นซึ่งขึ้นสูงกว่าปกติเพราะซูเปอร์มูนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ซูเปอร์มูนมักจะเกิดขึ้นประมาณ 4-6 ครั้งต่อปี น้ำขึ้นน้ำลงเกิดขึ้นเพราะดวงจันทร์ น้ำจะขึ้นสูงสุดในช่วงพระจันทร์เต็มดวงและซูเปอร์มูนจะยิ่งทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นไปอีก จนในที่สุดก็ทะลักเข้าท่วมเมือง “น้ำขึ้นตามปกติในบอสตันจะสูงประมาณ 9 ถึง 10 ฟุต” Sipprell บอก “มันอาจขึ้นไปได้ถึง 12 ฟุต และเราก็คาดการณ์ว่าครั้งนี้มันจะขึ้นไปได้ถึง 12.1 แต่กลายเป็นว่ามันกลับสูงถึง 15 ฟุต มันต้องกลายเป็นประวัติศาสตร์แน่ๆ “ ครั้งสุดท้ายที่เมืองจมอยู่ในธารน้ำแข็งแบบนี้ก็ตั้งแต่เมื่อปี 1978 และเมืองที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุดก็จะเป็นเมืองที่ติดแนวชายฝั่งแบบ Plum…
-
ทางการจีนเปิดตัว ‘วีซ่าชั้นสูง’ มุ่งเป้าผู้มีความสามารถเฉพาะทาง ใครเก่งก็เข้าประเทศง่าย!!
หลายๆ คนทราบดีว่าการขอวีซ่านั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากพอสมควร แต่มันคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินทางเข้าไปในหลายๆ ประเทศ แต่มาวันนี้ประเทศจีน ได้ดำเนินการนโยบายใหม่ เพื่อให้ชาวต่างชาติผู้มีความสามารถทั้งหลาย เดินทางเข้าประเทศของพวกเขาได้ง่ายยิ่งขึ้น กระทรวงการบริหารงานด้านผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศของจีน พัฒนาระบบที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างแดนสามารถเข้ามาในประเทศได้อย่างสะดวกรวดเร็วและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ คำว่าผู้เชี่ยวชาญในที่นี้ก็คือ เหล่าผู้นำทางด้านเทคโนโลยีในประเทศอื่นๆ หรือผู้มีความสามารถเฉพาะทางในเรื่องต่างๆ ประเทศจีนนำระบบจัดอันดับรูปแบบใหม่ของแรงงานในต่างประเทศเมื่อปี 2016 เข้ามาช่วยตัดสินว่าใครคือผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถใช้ระบบดังกล่าวได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็น ผู้ชนะรางวัลโนเบล ผู้วิจัยอาวุโส ผู้บริหารในสถาบันการเงิน นักวิทยาศาสตร์เจ้าของสุดยอดผลงาน หรือแม้แต่ดารากับนักกีฬาเองก็ด้วย วิธีการขอวีซ่าเข้าประเทศจีนสำหรับคนเหล่านั้นก็ง่ายมากๆ เพียงแค่ยื่นเรื่องมาในระบบออนไลน์ หากได้รับอนุมัติปุ๊บ คุณก็จะได้รับวีซ่าเข้าประเทศที่มีอายุใช้งานได้ 5-10 ปี และสามารถอาศัยอยู่ได้นาน 180 วันต่อหนึ่งครั้งที่เดินทางมา ที่สำคัญคือการขอวีซ่าในรูปแบบนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว วีซ่าของประเทศจีน นโยบายใหม่นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้คนเก่งหรือคนมีความสามารถจากต่างประเทศ ได้เข้ามาช่วยพัฒนาในเรื่องของเศรษฐกิจและสังคม และในอนาคตวิธีนี้ยังอาจช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนแรงงานด้านเทคโนโลยีหรือผู้วิจัยในสาขาต่างๆ ได้อีกด้วย เชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะสามารถดึงดูดใจผู้มีฝีมือจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2017 ประเทศจีนก็ได้สร้างนโยบายที่ทำให้คนที่เรียนจบปริญญาโทจากต่างแดน สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยเหตุผลเดียวกันไปแล้ว แถมยังมีการขยายเวลาให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถอาศัยอยู่ในประเทศได้นานยิ่งขึ้นอีกด้วย ยกตัวอย่าง Elon Musk กับ Mark Zuckerberg…
-
หญิงสาวเจอหนุ่มอุ้มกล่องท่าทางน่าสงสัยขึ้นรถบัส พร้อมเรื่องราวสุดน่าประทับใจที่เธอแอบได้ยินมา
การขึ้นรถประจำทางเพื่อเดินทางไปยังจุดหมาย เป็นกิจวัตรประจำวันของใครหลายๆ คนที่อยู่ในเมืองใหญ่ บางครั้งก็เป็นกิจกรรมอันน่าเบื่อหน่ายเสียเหลือเกิน ที่จะต้องนั่งอยู่ในรถที่แออัด และหวังว่าเราจะไปถึงจุดหมายโดนไว แต่ระหว่างการนั่งรถที่แสนน่าเบื่อนี้ ก็มีคนขึ้นลงและพูดคุยกันตลอดเวลา ซึ่งอาจจะทำให้คุณได้พบเจอกับเรื่องราวน่ารักๆ อบอุ่นหัวใจบ้างก็เป็นได้ เหมือนกับที่ Camila Muracchini เจอนี่ไงล่ะ Muracchini เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในรัฐเซาเปาโล ประเทศบราซิล เธอมักจะใช้บริการรถประจำทางเพื่อเดินทางไปทำงานอยู่เสมอ ในวันที่ 17 เมษายน 2017 เธอก็ได้ใช้บริการรถประจำทางเพื่อไปทำงานเช่นกัน แต่ในวันนี้ เธอเห็นชายสวมเสื้อสีเหลืองคนหนึ่งอุ้มกล่องท่าทางน่าสงสัยขึ้นรถมาด้วย พอเธอเห็นดังนั้นก็รู้สึกกังวลไม่น้อยเลย เพราะการที่เขาทำท่าทางมีพิรุธแบบนั้นแบกกล่องขึ้นรถมา อาจจะแปลว่าเขาพยายามลักลอบนำของที่เป็นอันตรายขึ้นรถมาด้วยก็ได้ แต่พอเขาขึ้นรถมาไม่นาน เธอก็เข้าใจทันทีว่าในกล่องมีอะไร โดยเธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกกังวลมากเลย … จนกระทั่งฉันได้ยินเสียงเห่าดังออกมาจากในกล่อง” ใช่แล้วล่ะ ในกล่องใบนั้นมีสุนัขอยู่นั่นเอง มิน่าล่ะเขาถึงได้ทำท่าทีลับๆ ล่อๆ เอามันขึ้นรถมา แต่ในขณะที่เธอรู้สึกโล่งใจที่ในกล่องนั้นเป็นสุนัข ชายหนุ่มกลับรู้สึกระแวงอย่างช่วยไม่ได้ เนื่องจากเขากลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเสียงเห่า แล้วไล่ให้เขาลงจากรถ เพราะตามกฎแล้ว ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำสัตว์ขึ้นมาบนรถประจำทางด้วยนั่นเอง พนักงานเก็บตั๋วรถก็ได้ยินเสียงเห่าดังออกมาเช่นเดียวกับ Muracchini เขาจึงเดินเข้ามาถามชายคนนั้นว่า “ในนั้นมีหมาอยู่ใช่ไหม” เมื่อถูกจับได้ ชายคนนั้นจึงตอบกลับไปว่า “ใช่ครับ ผมเจอลูกหมาตัวนี้ถูกทิ้งอยู๋ เลยอยากพามันกลับไปอยู่ที่บ้านด้วย”…
-
คุณแม่แชร์คลิปความน่ารักของ “แฝดสี่” ที่เดินกอดกันไปมา รอบรองว่าดูแล้วจะทำให้คุณยิ้มตามแน่นอน
ในครอบครัวที่มีพี่น้องหลายคน มักจะเห็นถึงความสัมพันธุ์น่ารักๆ ระหว่างพี่น้องอยู่เสมอ ยิ่งเป็นฝาแฝดด้วยแล้ว ยิ่งทวีคูณความน่ารักเข้าไปหลายเท่าเลยทีเดียว แต่ถ้าเกิดฝาแฝดทำให้คุณใจละลายได้แล้วละก็ ถ้าเกิดได้ลองไปเห็นความน่ารักของพี่น้องแฝดสี่บ้างละก็ คุณจะรับมันไหวรึเปล่านะ ไปลองดูกัน Tim และ Bethani Webb พ่อแม่ของแฝดสี่ Tim และ Bethani Webb เป็นคู่รักคู่หนึ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ทั้งคู่มีลูกแฝดสี่ด้วยกัน ทั้ง 4 คนมีชื่อว่า Abby, Emily, Grace และ Mckayla ทั้งสี่อยู่ในวัยทารกกำลังซนเลย แม้ว่าการมีลูกเยอะจะไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องให้ความใส่ใจดูแลมากเป็นพิเศษ และมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการมีลูกทีละคนถึง 4 เท่าเลย แต่ทั้งสองก็ไม่หวั่นเพราะลูกๆ นั้นน่ารักเสียเหลือเกิน และในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมานี้ คุณพ่อและคุณแม่ก็บังเอิญได้เห็นลูกๆ ในมุมที่น่ารักมุ้งมิ้งเสียจริง เพราะแฝดทั้งสี่คนนั้นกำลังไล่กอดกันอย่างสนุกสนานเลย พอกอดกันเสร็จคู่หนึ่งก็สับเปลี่ยนไปอีกคู่หนึ่ง และทำอย่างนี้วนซ้ำไปเรื่อยๆ ราวกับเด็กๆ เพิ่งเรียนรู้ที่จะกอดกัน แล้วติดใจอย่างไรอย่างนั้น ทั้งคู่จึงได้ถ่ายวิดีโอที่แฝดสี่คนนี้ไล่กอดกันเอาไว้ แล้วเอาไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊กของตนเอง กะว่าจะแบ่งปันความสุขและความน่ารักเล็กๆ น้อยกับชาวเน็ตที่บังเอิญได้ผ่านมาเห็นด้วย แต่คลิปวิดีโอนั้นก็กลายเป็นที่นิยมอย่างมาก…
-
ทัวร์ “ร้านกัญชา” ที่ดีที่สุดในอเมริกา เพื่อดูว่าบรรยากาศภายในนั้น มันสิเป็นจังได๋!!
ในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา มีประกาศให้สามารถขายกัญชาเพื่อความบันเทิงได้อย่างถูกกฎหมายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ตอนนี้ผู้จัดจำหน่ายกัญชากว่า 100 เจ้าในรัฐแคลิฟอร์เนียก็ได้ใบอนุญาตค้าขายกัญชาเพื่อความบังเทิงมาไว้ในครอบครองแล้ว นับว่าเป็นการเปิดตัวแบบยิ่งใหญ่กันเลยทีเดียว และในวันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ ไปชมกันว่าร้านขายกัญชาชั้นนำในรัฐแคลิฟอร์เนียนั้นมันจะพรีเมี่ยมขนาดไหน โดยร้านที่เราจะพาไปชมกันนั้นเป็นร้านที่อยู่ในย่าน Silicon Valley ที่มีชื่อว่า Caliva โดยร้าน Caliva นี้เปิดขายกัญชามาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 ในตอนแรกนั้นขายกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น และตอนนี้ก็ขายเพื่อความบันเทิงด้วย ร้านนี้จ่ายภาษีให้รัฐไปแล้วกว่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 193 ล้านบาท) จึงถือว่าเป็นผู้จ่ายภาษีรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง นอกจากนี้่ Caliva ยังเคยได้รับการขนานนาม ว่าเป็นผู้จัดจำหน่ายกัญชาที่ดีที่สุดโดยเว็บไซต์ Business Insider ในปี 2016 อีกด้วย ได้ยินแค่นี้ก็อยากรู้แล้วว่าจะหรูขนาดไหน ไปชมกันเล้ย เข้ามาก็พบพนักงานต้อนรับก่อนเลย ในอดีตจะต้องมีใบอนุญาตสั่งซื้อเพื่อการแพทย์ด้วย แต่เดี๋ยวนี้ใช้แค่บัตรประจำตัวประชาชนก็ได้แล้ว ระหว่างนั่งรอคิวอยู๋ หนังสือเล่มจิ๋วที่ให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชาอยู่ด้วยนะ โดยส่วนใหญ่จะอธิบายว่ากัญชามีผลต่อร่างกายเราอย่างไรบ้างนั่นแหละ เป็นห่วงผู้บริโภคดีจริง พอพนักงานต้อนรับมาเรียกเราแล้ว เราก็จะได้เข้าไปด้านในของร้าน ประดับประดาด้วยแผ่นไม้โทนสีน้ำตาล…
-
ตำรวจจีนบุกจับโรงงานผลิต “ถุงยางอนามัยปลอม” เลียนแบบยี่ห้อดังกว่า 1.7 ล้านชิ้น!?
ถ้าหากคุณอยากมีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะตั้งครรภ์ละก็ การใช้ถุงยางอนามัยเป็นตัวเลือกที่ดีทางหนึ่ง เพราะนอกจากหาซื้อง่ายแล้ว ยังมีความปลอดภัยสูง มีให้เลือกหลากหลาย และมีลูกเล่นแปลกใหม่ทำให้คุณไม่เบื่ออีกต่างหาก แต่ถ้าเกิดของที่คุณซื้อมาดันเป็นของปลอมละก็ มันอาจจะไม่ได้มาตรฐานและทำให้ช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณพังทลายลงได้ ดังนั้นเวลาจะซื้อถุงยางมาใช้ก็ต้องระวังของปลอมกันด้วยนะ ในวันนี้เราก็มีวิธีตรวจสอบถุงยางปลอมมาฝากด้วย ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นโรงงานหลายแห่งในเมือง Yuncheng จังหวัด Shanxi ประเทศจีน และพบถุงยางอนามัยปลอมที่แอบอ้างใช้ชื่อของแบรนด์ดังหลากหลายเจ้า รวมแล้วกว่า 1.7 ล้านชิ้นเลยทีเดียว ในตอนต้นตำรวจได้รับรายงานมาว่า มีการผลิตสินค้าปลอมแปลงจากโรงงานหลายแห่งในพื้นที่ ทางตำรวจที่รับผิดชอบด้านอาหารและยา จึงได้นำทีมเข้าตรวจค้นโรงงาน 6 แห่งในเมือง Yuncheng ในวันที่ 29 ธันวาคม 2017 หลังจากเข้าตรวจค้นแล้ว ได้จับกุมผู้ต้องหา 15 คน พร้อมทั้งยึดของกลางซึ่งเป็นถุงยางปลอมบรรจุถุงกว่า 1.2 ล้านชิ้น ถุงยางปลอมที่ยังไม่ได้บรรจุถุงอีก 460,000 ชิ้น กล่อง Durex เปล่าอีก 100,000 กล่อง รวมทั้งเครื่องเคลือบในโรงงานอีกด้วย ปัญหาเรื่องถุงยางอนามัยปลอมนั้นเป็นปัญหาเรื้อรังในประเทศจีน นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีการจับกุมและยึดถุงยางปลอมมาได้รวมหลายล้านชิ้นแล้ว…
-
ดาราสาวเจอ “เมนูประหลาด” ในร้านดัง พอรู้เป็นผ้าเช็ดปาก เกิดเป็นกระแสโคตรฮอตในเน็ต!!
เราอาจเคยเจออาหารที่มาในรูปแบบพิสดาร มีความเป็นศิลปะที่เกิดจากจินตนาการของพ่อครัว กับการจัดจานซะจนเรางงว่า อาหารจานนี้เราต้องกินยังไง? หรือมันเป็นอาหารจริงๆ ใช่มั้ย? ซึ่งนั่นคงเป็นคำถามเดียวกันกับที่นักแสดงสาวคนนี้เกิดความสงสัย เมื่อไปเจอกับร้านอาหารร้านนี้ ดาราสาวชาวอังกฤษ Tracy Ann Oberman และ Rob Cowan สามีของเธอ ทั้งสองได้มีโอกาสไปกินอาหารในร้านที่ได้ดาวมิชลินถึง 3 ดาว จนได้เจอกับความพิสดารของอาหารแต่ละจานที่มาเสิร์ฟให้กับพวกเธอ Tracy Ann Oberman ดาราสาววัย 51 ปี ร้านอาหารแห่งนี้เป็นของเชฟชื่อดังอย่าง Martín Berasategui ผู้มีร้านอาหารกว่า 12 แห่งทั่วประเทศสเปน เม็กซิโก และสาธารณรัฐโดมินิกัน จึงรับรองได้เลยว่าอาหารของที่นี่จะต้องถูกปากอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะได้ลิ้มรสความอร่อยของอาหาร พวกเธอก็เจอเข้ากับความพิสดารของรูปแบบอาหารแต่ละชนิดเสียก่อน เมื่อจานแรกมาถึง มันคืออาหารที่อยู่บนขอนไม้รูปทรงประหลาด จนอาจทำให้หลายๆ คนคิดว่ามันจะกินได้จริงๆ ใช่มั้ย? รูปแบบของภาชนะที่ดูพิลึกชอบกล สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธออดใจไม่ไหว ถ่ายรูปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวพร้อมกับแท็กขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้ที่ชื่อว่า WeWantPlates เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอคงต้องการให้อาหารใส่จานมามากกว่าที่จะออกมาในรูปแบบนี้ เธอคงจะอยากให้มันใส่จานมาเสิร์ฟมากกว่าอะไรแบบนี้ และมันยังไม่จบแค่นั้น…
-
ไปดูประวัติศาสตร์ชื่อยอดฮิตในสหรัฐฯ ตั้งแต่อดีต ไม่น่าเชื่อว่าชื่อที่คนนิยมที่สุดคือ “ลินดา”
เพื่อนๆ เคยสังเกตกันบ้างไหม ว่าในหมู่คนที่รู้จักมักจะมีคนที่ชื่อโหลๆ หรือพูดง่ายๆ ว่ามีคนที่ใช้ชื่อนั้นอยู่เต็มไปหมด ยกตัวอย่างเช่น บูม ตูน แพร บอล บาส หรือแบงก์ เพราะว่าชื่อเหล่านี้ ก็นับว่าเป็นชื่อที่พ่อแม่นิยมตั้งให้ลูกกันนั่นเอง แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันรึเปล่า ว่าชื่อที่เป็นกระแสนิยมที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น เป็นชื่อไหนกันบ้าง? วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณแล้ว ลองไปชมกันดูเลย ตัวอย่างกราฟของสิ่งที่เป็นกระแสนิยม David Taylor ผู้เป็นนักเทคโนโลยีชีวภาพและบล็อกเกอร์ ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับชื่อที่คนนิยมตั้งให้ลูกกัน โดยเก็บข้อมูลถึงอัตราการเพิ่มและลดลงของชื่อนั้นๆ ในแต่ละช่วงเวลา แต่เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าชื่อที่เป็นกระแสนิยมที่ว่านี้ ไม่ได้เป็นชื่อที่มีคนตั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์หรอกนะครับ แต่เป็นชื่อที่มีคนใช้มากที่สุดในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นมันอาจจะไม่ใช่ชื่อในปัจจุบันก็ได้ กราฟแสดงความนิยมของชื่อแต่ละชื่อ ในแต่ละช่วงเวลา จากการเก็บข้อมูลแล้ว Taylor พบว่าชื่อที่เป็นกระแสนิยมมากที่สุด ที่เคยมีมาในประเทศสหรัฐอเมริกาก็คือ ‘ลินดา‘ นั่นเอง ไม่ได้หวือหวาอย่างที่คิดกันใช่ไหมล่ะครับ โดยชื่อนี้ได้รับความนิยมมากๆ ในปี 1947 และถูกใช้ตั้งชื่อเด็กผู้หญิงกว่า 5.5 เปอร์เซ็นของประชากรเด็กหญิงทั้งหมดเลย Taylor พบว่าชื่อนี้ได้รับความนิยมจากเพลงหนึ่งที่มีชื่อว่า Linda (ลินดา) เช่นกัน โดยเพลงนี้เป็นของศิลปิน Jack Lawrence…
-
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อศิลปินฝีมือขั้นเทพ เอาภาพที่เด็กๆ วาดมาแต่งแต้มให้มันดูสมจริงยิ่งขึ้น!!
เมื่อย้อนกลับไปในวัยเด็ก เราน่าจะเคยมีตัวละครในจินตนาการของตัวเองกันบ้าง ซึ่งเวลาเราได้ทำให้มันมีตัวตนขึ้นมาจริงๆ ก็คงเป็นตอนที่เราได้วาดภาพเล่นนั่นแหละ แม้ว่าจะวาดออกมาได้ไม่ตรงตามที่คิดไว้เสียหมด แต่ก็ถือเป็นการเติมเต็มจินตนาการของเรารูปแบบหนึ่ง แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น เด็กๆ แทบทุกคนก็เลยหันมาจับมือถือและแท็บเลตกันแทนดินสอสีเสียแล้ว ตัวละครในจินตนาการเหล่านี้จึงมีความสำคัญในชีวิตเราน้อยลง จิตรกรกลุ่มหนึ่งในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงอยากทำให้เด็กๆ ในยุคนี้เห็นความสำคัญของพลังแห่งจินตนาการมากขึ้น โดยพวกเขาจัดทำ The Monster Project ที่รวบรวมเอาภาพวาดตัวละครที่เด็กๆ วาดมาทำให้สมจริงมากขึ้น แบบนี้ไง สัตว์ประหลาดในตีมสีเขียวรักโลก พอทำให้สมจริงแล้วแอบน่ากลัวแฮะ อู้วหูวว สีสันสวยงามแถมโปร่งแสงอีก สุดยอด เพื่อนตัวน้อยที่จะคอยดูแลน้องๆ ตอนนอน ถือแก้วระวังหน่อย แบบไม่แฟนซีมากก็มีนะ น้องหมาสุดน่ารักไง น้องโตมาต้องเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแน่ๆ ดูมีใจรัก เห็นแค่ขา ก็วาดออกมาได้ ไม่หวั่น ภาพขีดๆ เขียนๆ ยังทำออกมาใหม่ได้สวยขนาดนี้ นับถือจิตรกรเลย อยากเล่นจ้องตาเหรอ มาสิ ไม่แพ้แน่ หึหึ ความโพนี่มาเต็มๆ…
-
นางแบบเปลี่ยนสาวอินเดียให้กลายเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ ความงามที่แปลกใหม่ที่น่าหลงใหลเหลือเกิน
ปกติแล้วเราจะไม่ค่อยได้เห็นผู้หญิงอินเดียในบล็อกความงามหรือวงการแฟชั่นมากเท่าไหร่ เพราะพวกเขาถูกจำกัดสิทธิด้วยจารีตประเพณีต่างๆ จึงไม่สามารถแสดงออกได้อย่างเสรีเหมือนผู้หญิงทั่วไปได้ อย่างไรก็ตาม Hamel Patel นางแบบและช่างแต่งหน้าจากรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เผยความงามของสาวอินเดียในลุคเจ้าหญิงดิสนีย์ ที่มีความน่าหลงไหลไม่แพ้เจ้าหญิงจริงๆ สโนไวท์ Petal อธิบายว่าแรงบันดาลใจในการสร้างซีรี่ย์ชุดนี้มาจากการที่ไม่มีตัวแทนของ Desi ในชุมชนดิสนีย์ (Desi หมายถึงชนชาติและวัฒนธรรมของอนุทวีปอินเดีย) “ตอนเด็กๆ ฉันอยากให้มีเจ้าหญิง Desi เพื่อที่จะได้ชื่นชมเธอบ้าง” หญิงสาวกล่าว แต่ก็อย่างที่เห็น ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีเจ้าหญิงในฝันของเธออยู่ในกลุ่มเจ้าหญิงดิสนีย์ จึงกลายเป็นที่มาของเจ้าหญิงดิสนีย์แบบสาวอินเดีย ซินเดอเรลล่า แม้จะเป็นการแปลงโฉมให้เหมือนเจ้าหญิงดิสนีย์ แต่ Petal ก็ยังคงรักษาความคมเข้มแบบอินเดียไว้ เพื่อให้ความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา และไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นสาวอินเดียในลุคแบบนี้ เบลล์ แอเรียล ออโรร่า โพคาฮอนทัส จัสมิน มู่หลาน ที่มา designtaxi
-
ทางการปฏิเสธสร้างบันไดให้คนแก่มูลค่า 2 ล้าน คุณตาเลยควักเงิน 18,000 บาทสร้างเองซะเลย
บางครั้งชุมชนจำเป็นต้องช่วยเหลือกันเองแทนที่จะรอความช่วยเหลือจากทางการ เพราะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ มากมายและใช้เวลานาน ดีไม่ดีสุดท้ายอาจไม่ได้รับการอนุมัติด้วยซ้ำ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้คนในย่านโทรอนโต ประเทศแคนาดา พวกเขาพากันตื่นเต้นหลังจากที่สภาท้องถิ่นประกาศจะสร้างสวนสาธารณะในชุมชนให้ แต่ตื่นเต้นได้แค่ไม่นาน ชุมชนก็พบว่าไม่มีทางสำหรับเดินลงไปยังสวนสาธารณะนั้นได้ นอกจากทางเดินลูกรังแคบๆ ที่ค่อนเดินลำบาก ต่อมาทางเมืองได้นำเชือกผูกไว้ตามทางเดิน เพื่อให้ผู้คนจับไว้เพื่อประคองตัวขณะเดินลงไปยังสวนสาธารณะ แต่หารู้ไม่เส้นทางนี้สร้างความลำบากให้กับผู้สูงอายุเป็นอย่างมากกว่าจะเดินไปลงไปถึงที่หมาย แม้จะลำบากผู้คนก็ยังจำใจใช้ถนนเส้นนี้ กระทั่งมีผู้หญิงคนหกล้มจนข้อมือหัก Adi Astl วัย 73 ปี หนึ่งในชาวชุมชนโทรอนโตจึงติดต่อไปยังผู้นำของเมือง เพื่อขอให้จัดสรรงบประมาณในการสร้างบันไดให้ แต่คำตอบที่รับคือทางการไม่สามารถอนุมัติคำขอนี้ได้ โดยบ่ายเบี่ยงว่าได้นำเงินบางส่วนใช้ไปกับโครงการที่คล้ายกันนี้ และยังบอกอีกว่าถ้าสร้างบันไดให้อาจต้องใช้งบอย่างน้อย 2 ล้านบาท นั่นทำให้ Adi ตระหนักได้ว่าการสู้ร่วมกับคนในชุมชนน่าจะเห็นผลมากกว่ารอการช่วยเหลือจากทางการ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสร้างบันไดลงไปยังสวนสาธารณะด้วยตัวเอง เขาได้ซื้อไม้สักมาจำนวนหนึ่งและอาศัยกำลังแรงจากผู้คนในชุมชนคนละนิดคนละหน่อย ในที่สุดก็สามารถสร้างบันไดเสร็จภายใน 14 ชั่วโมง ด้วยงบเพียง 18,000 บาท อย่างไรก็ตาม รูปแบบบันไดที่เขาสร้างขึ้นมาเองนั้นขาดคุณสมบัติด้านความปลอดภัยตามที่เมืองกำหนดและละเมิดกฎการสร้างอาคารในเมือง ส่งผลให้บันไดที่เขาอุตส่าห์สร้างขึ้นมานั้นถูกรื้อถอนทันทีและมีการนำเทปมากั้นไว้ แต่นับว่าโชคดีที่โครงการสร้างบันไดด้วยตัวเองของ Adi ได้รับความสนใจจากนายกเทศมนตรี ทางการจึงได้ติดต่อไปหาเขาและแจ้งว่าจะให้การสนับสนุนด้วยงบ 320,000 บาท นอกจากนี้นายกเทศมนตรียังกล่าวขอบคุณ Adi สำหรับความเพียรและความพยายามในการทุ่มเทเพื่อความปลอดภัยของชุมชน ภายในไม่กี่วันหลังจากนั้น ชุมชนก็ได้เห็นบันไดคอนกรีตที่ทางการสร้างให้…
-
23 ภาพที่เห็นแล้วคุณคงไม่อยากเข้าใกล้มหาสมุทรแน่ๆ เจ้าพวกนี้มันคือตัวอะไรกันเนี่ย?!
หลายๆ คนอาจชอบล่องเรือหรือไปว่ายน้ำตามมหาสมุทร เพราะนอกจากจะได้ดื่มด่ำไปทิวทัศน์เหนือพื้นน้ำที่แสนงดงามแล้ว บางทีอาจมีสัตว์ทะเลน่ารักๆ โผล่ขึ้นมาทักทายเป็นช่วงๆ ด้วย แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างย่อมมี 2 ด้าน เสมอ มหาสมุทรก็เช่นกัน ในเมื่อมันมีความงามได้ มันก็มีความน่ากลัวได้ในเวลาเดียวกัน และภาพต่อไปนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมไม่ควรเข้าใกล้มหาสมุทรเด็ดขาด 1. เพราะมันเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตที่มีหน้าตาแบบนี้ 2. แบบนี้ 3. และแบบนี้!! 4. คุณอาจไม่รู้ว่ากำลังว่ายน้ำพร้อมกับสิ่งมีชีวิตตัวนี้ในมหาสมุทร 5. พักหายใจสักแป๊บกับเจ้าตัวนี้ 6. ขณะที่คุณลอยตัวในน้ำ อาจจะมีสิ่งนี้ลอยอยู่ข้างๆ คุณ 7. เพราะในมหาสมุทรเต็มไปด้วยน้ำ จึงไม่แปลกที่คุณจะไม่เห็นสิ่งนี้ แม้จะมันจะว่ายมาอยู่ใกล้ๆ ก็ตาม 8. ถ้าว่ายน้ำอยู่ดีๆ เจอเจ้าตัวนี้คุณจะทำยังไง? 9. นี่ก็อีกตัว ถ้าเจอคงทำอะไม่ถูก 10. ถ้าว่ายน้ำอยู่ดีๆ แล้วมีบางอย่างมาสัมผัสกับเท้าของคุณ มันอาจจะเป็นสิ่งนี้ก็ได้ 11.…
-
15 ประเทศที่มีหนุ่มหล่อที่สุดในโลกอาศัยอยู่ นี่แหละเป้าหมายที่สาวโสดควรพุ่งเข้าหา
บางประเทศนอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจชวนให้ไปเที่ยวแล้ว ยังมีประชากรหนุ่มสาวในประเทศที่หน้าตาดีและน่ากินซะจนอยากหิ้วกลับบ้านด้วย ด้วยเหตุนี้นิตยสารออนไลน์อย่าง Insider Monkey จึงจัดอันดับประเทศที่มีผู้ชายหล่อที่สุดในโลกอาศัยอยู่ เผื่อจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับสาวโสดที่กำลังมองหาคนรู้ใจ ส่วนเกณฑ์ในการจัดอันดับคือดูตามรางวัลต่างๆ ที่ชายหนุ่มแต่ละประเทศได้ครอบครอง เช่น Manhunt International Mister Global Mister International และ Mr. World 15. ประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้อาจไม่ค่อยได้รับรางวัลบนเวลาประกวดความงาม แต่พวกเขามักได้รับรางวัล “Mr. Congeniality” “Best Physique” และ “Best Model” . . 14. ประเทศฝรั่งเศส ชายชาวฝรั่งเศสได้ครองตำแหน่ง Manhunt International ปี 2002 และ Mister World 2015 นอกจากนี้ยังได้รางวัล Mr. Congeniality ด้วย . . 13. ประเทศตุรกี ชายหนุ่มจากตุรกีได้รับชัยชนะจากการประกวด Mr. World ปี 1996 และ Manhunt International ปี 2005 และครองตำแหน่ง Best…
-
โรงแรมลอยน้ำในญี่ปุ่น ถูกยกย่องให้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการ ‘อ่านหนังสือ’ มากที่สุดในโลก
หากพูดสถานที่อ่านหนังสือที่ดีที่สุดหลายคนคงจะนึกถึงห้องสมุด เพราะนอกจากมีหนังสือหลากหลายให้เลือกอ่านแล้ว ยังเป็นที่ปลอดเสียงรบกวนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Guntû โรงแรมสไตล์บูติคอันเรียบง่ายที่ลอยอยู่กลางทะเล Seto Inland Sea ในประเทศญี่ปุ่น ได้รับการยกย่องว่าเป็นที่ที่เหมาะกับการอ่านหนังสือมากที่สุดในโลก ภายในโรงแรมดังกล่าวนี้มีห้องพักเพียง 19 ห้อง โดยแขกที่มาพักจะได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์บนหมู่เกาะเล็กๆ ที่ทอดยาวไปสู่ทะเล Guntû ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Yasushi Horibe และได้มีการตั้งชื่อตามปูสีน้ำเงินที่พบได้ในภูมิภาคนี้…มันคือปูที่ได้รับความนิยมในท้องถิ่นสำหรับทำซุปมิโซะ และนักออกแบบเองก็คาดหวังว่าโรงแรมลอยน้ำนี้จะได้รับความนิยมเหมือนกับปูสีน้ำเงินเช่นเดียวกัน ใครก็ตามที่จองห้องพักในโรงแรม Guntû สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยเลยคืออาหารที่นักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มรสตลอดการเข้ามาใช้บริการ เพราะอาหารในแต่ละมื้อแต่ละเมนูนั้นถูกรังสรรค์ตามอารมณ์ของผู้โดยสาร สภาพอาการ และแน่นอนพวกเขาจะใช้วัตถุดิบหรือส่วนผสมตามฤดูกาลของท้องถิ่น ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ทานอาหารสดใหม่ทุกมื้อ นอกจากนี้พ่อครัวยังได้เตรียมอาหารกลางวันกล่องเล็กๆ สำหรับใครที่ต้องการใช้เวลาช่วงบ่ายในการออกไปสำรวจบนบก ว่ากันว่าดาดฟ้าน่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดสำหรับโรงแรมลอยน้ำนี้ เพราะทำด้วยไม้ธรรมชาติทั้งหมด ทั้งพื้น เพดาน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วนพร้อมกับพรมทอแบบธรรมชาติ ตลอดการล่องเรือ ผู้โดยสารจะได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของภูเขา ซึ่งบรรยกาศโดยรวมเหมาะกับการใช้เวลาอ่านหนังสือหรือพูดคุยกับเพื่อนๆ หรือหากใครต้องการเบียร์หรือชาก็สามารถสั่งได้จากบาร์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ… มาถึงตรงนี้ มีเหตุผลอะไรที่คุณไม่อยากไปใช้บริการของ Guntû มั้ย? อย่ามัวแต่รอช้า คลิกเข้าไปจองก่อนจะเต็มได้ในเว็บไซต์ Guntu บรรยากาศชวนฝัน…
-
พิธีกรรายการดังออกมาวิจารณ์ “แบร์ กริลส์” เรื่องที่เขาออกมาฆ่าสัตว์ออกทีวีอยู่บ่อยครั้ง
หากใครชอบดูสารคดีเกี่ยวกับการผจญภัยในป่าคงจะรู้จักชายหนุ่มที่ชื่อ Bear Grylls เขาคือผู้ที่สอนทักษะการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือใดๆ ในทุกๆ ครั้งที่ Grylls ถ่ายทำการเอาตัวรอดนั้น เขามักจะสอนวิธีการฆ่าสัตว์ด้วย ทั้งฆ่าเพื่อเป็นอาหารและฆ่าเพื่อป้องกันตัว จนกลายเป็นไอดอลของใครหลายๆ คน แต่ล่าสุดพิธีกรรายการชื่อดังอย่าง David Attenborough ได้ออกมาวิจารณ์ Grylls ว่าเขาฆ่าสัตว์เพื่อให้รายการของเขาได้รับความสนใจจากผู้ชมเท่านั้น David วัย 91 ปี บอกว่านักผจญภัยหนุ่มต้องคำตอบตัวเองให้ได้ว่าทำไมถึงฆ่าสัตว์? หลังจากที่เขาทำการสังหารสัตว์มากมายผ่านรายการช่อง Channel 4 ของเขา ซึ่งเป็นภารกิจการเอาตัวรอดบนเกาะ ในบรรดาสัตว์ที่ถูกสังหารออกรายการได้แก่ จระเข้ หมู และไก่งวง สร้างความไม่พอใจให้องค์กรการกุศลสัตว์ PETA และผู้ชมบางส่วนเป็นอย่างมาก David พิธีกรชื่อดังของ BBC ผู้ที่กำลังจะซีรีส์เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติบน Netflix ในเร็วๆ นี้ กล่าวว่า “เราไม่เคยฆ่าสัตว์เลย Grylls จะต้องตอบตัวเองให้ได้ แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่อยากฆ่าสัตว์เพื่อถ่ายทำรายการ” ทั้งนี้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังจากที่นักกีฬาโอลิมปิก Iwan Thomas และอดีตนักแสดง Ryan Thomas ได้ลงมือฆ่าจระเข้ด้วยมีดปลายแหลมบนเกาะชื่อดังแห่งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจต่อผู้ชมเป็นอย่างมาก จนมีการเรียกร้องให้องค์กรการกุศลสัตว์ PETA UK ลงโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งเหล่าคนดังและผู้ผลิตรายการ…
-
ช่างแต่งหน้า ช่วยแต่งหน้าให้กับหญิงผู้สูงวัย เพื่อมอบความอ่อนเยาว์ให้พวกเธออีกครั้ง
การแต่งหน้าอาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นอะไรสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุมากแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายๆ คนมีความมั่นใจมากขึ้นก็ด้วยการแต่งหน้าเนี่ยแหละ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่เครื่องสำอางเท่านั้นที่จะแปลงโฉมให้สาวๆ ทุกรุ่นทุกวัยได้ แต่ฝีมือในการแต่งหน้าก็เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กัน หนึ่งในผู้ที่สามารถละเลงเครื่องสำอางบนใบหน้าให้ออกมาสวยงามไร้ที่ติคือ Anar Agakishiev วัย 32 ปี ช่างแต่งหน้าจากสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ที่มาพร้อมกับพรสวรรค์อันน่าทึ่ง แบบว่าสามารถแต่งหน้าให้คนอายุ 80 ปี ดูเด็กกว่าอายุไปครึ่งหนึ่งเลย Agakishiev มีสตูดิโออยู่ที่เมืองบากู ที่นั่นเขาได้สร้างผลงานอันเย้ายวนใจทุกวัน โดยจุดเด่นของเขาคือการแต่งหน้าที่ดูเป็นธรรมชาติให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แต่ผลงานที่น่าทึ่งที่สุดของเขาคือเปลี่ยนใบหน้าของผู้หญิงสูงวัยให้ดูอ่อนลง โดยใช้ทักษะในการปกปิดริ้วรอย ถุงใต้ตา การเปลี่ยนโทนสีของหน้า และเทคนิคอื่นๆ ที่ทำให้หน้าดูเด็กกว่าวัย Agakishiev มีประสบการณ์ในการแต่งหน้ามากกว่า 10 ปี และตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเรียนรู้ที่จะพัฒนาฝีมือตัวเองให้น่าทึ่งขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นช่างแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงในวันนี้ ไม่ใช่แค่แต่งหน้าให้สาวๆ สวยขึ้น หรืออ่อนกว่าวัย แต่บางครั้งเขาสามารถทำให้ผู้หญิงดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้เลย ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแบบนี้ได้นะ ใครที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือใฝ่ฝันอยากเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ สามารถเรียนรู้หรือติดตามได้ผลงานของ Agakishiev ได้ที่เฟซบุ๊ก Anar Agakishiev และเว็บไซต์ Stilistanar …
-
ย้อนอดีตเกาหลีเหนือ “ช็อกโกพาย” สร้างดราม่า จนเกาหลีใต้ต้องผูกบอลลูนส่งไปให้…
ประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบบเผด็จการ ที่ใครๆ ต่างก็รู้ว่าประชาชนในประเทศเกาหลีเหนือ มีชีวิตที่เป็นอยู่อย่างลำบากและถูกจำกัดสิทธิต่างๆ มากมาย แต่คงไม่มีใครคาดถึงว่าพวกเขาจะถูกจำกัดสิทธิแม้แต่ในเรื่องของขนมกินเล่น??? ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2014 นักเคลื่อนไหวชาวเกาหลีใต้ ได้ร่วมกันปล่อยบอลลูนที่มีขนมช็อกโกพายอยู่ในนั้นขึ้นสู่ฟากฟ้า เพื่อต่อต้านรัฐบาลเกาหลีเหนือที่ได้สั่งแบนขนมชนิดนี้เพราะว่าได้รับความนิยมมากจนเกินไป โดยในกิจกรรมครั้งนั้นมีนักเคลื่อนไหวกว่า 200 คนได้ร่วมกันปล่อยบอลลูน 50 ลูกที่บรรจุขนมช็อกโกพาย 10,000 ชิ้น ขึ้นสู่ฟากฟ้าที่เมืองพาจู ซึ่งเป็นเมืองชายแดนระหว่างประเทศเกาหลี จากการรายงานจากสำนักข่าวเอเอฟพี ในเริ่มแรกนั้น มีความเชื่อกันว่าขนมช็อกโกแลตพายที่แสนโด่งดังนี้ได้เข้าสู่ประเทศเกาหลีเหนือผ่านทางเขตอุตสาหกรรมแคซ็อง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชาวเกาหลีเหนือและชาวเกาหลีใต้ได้ทำงานร่วมกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานขนมนี้ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอยากรวดเร็ว จนรัฐบาลของเกาหลีต้องสั่งห้ามนำขนมชนิดนี้เข้ามาภายในประเทศ “มันเป็นเรื่องน่าอายจริงๆ ที่แบนแม้กระทั่งขนมช็อกโกพาย แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็จะยังคงส่งขนมชนิดนี้ผ่านทางบอลลูนต่อไป เพราะว่ามันเป็นขนมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มชาวเกาหลีเหนือผู้หิวโหย” Choo Sun Hee หนึ่งในนักเคลื่อนไหวที่ออกไปร่วมปล่อยบอลลูน กล่าว ความนิยมของเจ้าขนมชนิดนี้ เริ่มจากการที่คนงานชาวเกาหลีเหนือที่ทำงานอยู่ในเขตอุตสาหกรรม ได้รับค่าทำงานล่วงเวลาเป็น ขนมชนิดนี้แทนที่จะเป็นเงินสด คนงานบางคนจึงนำขนมที่พวกเขาได้ไว้สำหรับให้คนในครอบครัวกิน ในขณะที่บางคนก็นำไปขายจนทำให้ขนมนี้ได้กลายเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างรวดเร็ว ขนมช็อกโกพายในประเทศเกาหลีเหนือ ได้กลายเป็นอาหารสุดหรูและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก หลังจากที่โรงงานในเขตอุตสาหกรรมแคซ็องได้ปิดตัวลงเมื่อปี 2013 ตั้งแต่นั้นมาทำให้ขนมชนิดนี้เริ่มหาทานได้ยากขึ้น และมีราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 23 ดอลลาร์(ประมาณ 740…
-
คุณพ่อกลายเป็นเซเลบ หลังใส่ชุดฟิตเปรี๊ยะเต้นฉลองร่วมกับลูกๆ ชาวเน็ตชอบใจ๊ ชอบใจ
ในช่วงหยุดยาวนั้น หลายๆ ครอบครัวเลือกที่จะใช้เวลาอยู่ร่วมกัน จัดงานปาร์ตี้เล็กๆ สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มไปด้วยกันในช่วงวันหยุดยาว เช่นเดียวกันกับครอบครัว Haddad ในเมืองมอนโร รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ซึ่งพวกเขาจะมีการประกวดเต้นลิปซิงค์ในทุกๆ ปี แต่สำหรับงานคริสต์มาสและปีใหม่ของปี 2017 ที่ผ่านมานี้ กลับมีความพิเศษมากกว่าครั้งไหนๆ เมื่อคุณพ่อ Steve ได้ออกมาวาดลวดลายโชว์ลีลาการเต้นกับลูกสาวทั้งสอง ด้วยเพลงยอดฮิตสุดเซ็กซี่ที่ชื่อว่า Single Ladies ในชุดรัดรูปสีดำถอดแบบมาจากในเอ็มวี ขุ่นพ่อเปลี๊ยนไป๋!! การเต้นของพ่อลูกสามคนนี้สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมอย่างมาก สำหรับเด็กสาวทั้งสอง พวกเธอมีความสามารถในการเต้น ในขณะที่คุณพ่อมีคือชายที่กล้าแสดงออกและมีความฮาอย่างท่วมท้น Steve ออกท่วงท่าสุดเซ็กซี่ ที่พอมองดูดีๆ แล้วก็ไม่เซ็กซี่ซักเท่าไหร่ โยกย้ายส่ายเอวแบบพลิ้วไหว ราวกับเห็น Beyoncé (ที่อ้วนขึ้นมาอีกหน่อย) มาทำการแสดงเองยังไงยังงั้น โยก โยก โยก โยกเข้าไปให้มันหลุดโลก สิ่งที่เขาทำนี้ได้สร้างเสียงหัวเราะและความสุขให้กับคนอื่นๆ ในครอบครัว จนได้รางวัลแชมป์การประกวดในปีนี้ไปเลย พวกเขาได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดเต้นลิปซิงค์ของตระกูลในปีนี้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจหรอกนะ และความน่ารักของคุณพ่อคนนี้ก็ได้ถูกส่งต่อออกไปให้คนอื่นๆ ได้เห็น เมื่อ Tina…
-
เปิดภาพลับในประเทศเกาหลีเหนือ จากเลนส์ซูม 300 มม. ของช่างภาพที่มีโอกาสไปเที่ยว…
ช่างภาพ Eric Lafforgue คือหนึ่งในช่างภาพที่ออกเดินทางไปทั่วโลก เก็บเรื่องราวต่างๆ มาจากหลากหลายประเทศ ซึ่ง ประเทศเกาหลีเหนือ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชายคนนี้ได้เข้าไปเก็บภาพถึง 6 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2008 แต่อย่างที่พวกเราหลายๆ คนรู้กันว่า การที่นักท่องเที่ยวจากภายนอกจะเข้ามาถ่ายภาพในประเทศไม่สามารถทำได้อย่างอิสระเหมือนกับที่ือื่นๆ ถึงอย่างนั้น Eric ก็เลือกที่จะแอบถ่ายทุกซอกทุกมุมตามแบบฉบับของตัวเองด้วยกล้องเลนซูม 300 มิลลิเมตร Eric ช่างภาพผู้สร้างสรรค์ผลงานจากหลากหลายมุมมอง หลังจากนั้นเขาก็ถูกทหารจับได้ว่าภาพเหล่านั้นถูกเผยแพร่ลงไปในโลกโซเชียล จนทำให้ในปี 2012 เขาถูกสั่งห้ามเข้าเกาหลีเหนืออีกต่อไป แม้จะไม่ได้เข้าไปในประเทศแห่งนี้แล้ว แต่ภาพความทรงจำอันหลากหลายยังคงมีอยู่ และภาพเหล่านี้ก็เป็นภาพที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะทางเกาหลีเหนือพยายามปกปิดความจริงเหล่านี้เอาไว้มาโดยตลอด สิ่งที่ถูกเก็บงำเอาไว้ภายใต้การปกครองของทหารในประเทศนั้นจะมีอะไรกันบ้าง เราลองไปชมตัวอย่างของภาพชุดนี้กันดูได้เลย การถ่ายภาพของเด็กที่มีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่นี่ห้ามถ่ายให้เห็นว่าเด็กเหล่านั้นไม่มีไฟฟ้าใช้กัน คนเกาหลีเหนือจำนวนหนึ่งต้องกินหญ้าในสวนสาธารณะเพื่อประทังชีวิต หญิงสาวในชุดพื้นบ้านที่ยืนอยู่ท่ามกลางทหารนับพัน ถนนที่โล่งพอจะให้เด็กไปวิ่งเล่นกันได้อย่างไม่ต้องกังวลใดๆ ในประเทศนี้ นักท่องเที่ยวไม่มีสิทธิ์ถ่ายเด็กที่ดูขาดสารอาหาร แม้แต่ทหารในยามพักผ่อน เราก็ไม่สาามารถถ่ายเก็บไว้ได้ การต่อคิวเป็นเรื่องใหญ่ประจำชาติของพวกเขาเลยจริงๆ ทหารอาจมีสิทธิ์นอนหลับ แต่พวกเราไม่มีสิทธิ์ถ่ายเก็บเอาไว้…
-
ชาวเน็ตขุดทวีตเก่าของ Logan Paul ที่ใช้วาจาในเชิงเหยียดเชื้อชาติและดูถูกมากมาย
หนุ่มชาวอเมริกัน Logan Paul เป็นวิดีโอบล็อกเกอร์ ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่ชาวเน็ตในขณะนี้ ก็จะไม่ให้คนกล่าวถึงได้ยังไงกันล่ะ เพราะเขามักจะใช้คำพูดดูถูกและเหยียดหยามผู้อื่นเป็นประจำ ทำให้มีคนรู้สึกไม่พอใจเขาจำนวนไม่น้อยเลย ล่าสุดหนุ่ม Logan ก็เพิ่งเป็นข่าวอีกครั้ง เพราะเดินทางไปทำคลิปวิดีโอที่ประเทศญี่ปุ่น แต่การกระทำของเขาที่เห็นในคลิปวิดีโอนั้น มีชาวเน็ตจำนวนมากติเตียนเขาว่ามีการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เพราะตัวเขาไม่ให้ความเคารพต่อคนญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่นเลย อย่างไรก็ตามยังมีชาวเน็ตส่วนหนึ่งที่เข้าข้างเขาอยู่ จึงทำให้ชาวเน็ตอีกส่วนที่ไม่ชอบเขา ขุดคุ้ยเอาทวีตเก่าๆ ของนาย Logan Paul ออกมาแฉว่าเขานั้นเป็นคนเหยียดเชื้อชาติและสีผิว ซ้ำยังหยาบคายแบบนี้มานานแล้วด้วย มีทวีตอะไรบ้างลองไปดูกันครับ นาย Usain (Usain Bolt นักวิ่งชาวจาไมกา) ดูเหมือนกับเด็กหนุ่มแอฟริกันที่หิวโหยตามโฆษณาเลย แต่แก่กว่าและอวบกว่าแค่นั้นแหละ บทบาทของอเมริกาในสังคมน่ะเหรอ? เราไม่มีหรอกเว้ย คิดว่าสิงโตเจ้าป่าจะเข้าไปช่วยตัวเมียร์แคตหาอาหารรึไง พวกแกจงรู้ไว้ซะว่าผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด ถ้าพวกเธอมีผมทรง Corn Rows (คล้ายทรงผมเดรดล็อก) ละก็ มีโอกาสถึงสองเท่าเลยที่จะโดนหาเรื่อง เรื่องนี้พิสูจน์มาแล้ว กฎข้อแรกในการถามคำถามประธานาธิบดี คือคนถามต้องมีปัญหาด้านการสื่อสาร (ถึงเจ้าเด็กที่นั่งหลังเราในร้านอาหาร) “ตูล่ะสงสัยจริงๆ ว่าหนุ่มน้อยนี่มันหนักเท่าไหร่ เพราะบ่วงเชือกตูรับน้ำหนักได้แค่ 80 ปอนด์” (สื่อว่าน่ารำคาญจนอยากจะจับแขวนคอ แถมยังเหยียดว่าเด็กคนดังกล่าวอ้วนซะจนบ่วงเชือกไม่สามารถรับน้ำหนักได้) พวกปรัชญาอุตรนิยม…
-
อังกฤษฉะร้านอาหารในเบอร์มิ่งแฮมใช้ “เขียงไม้” เสิร์ฟ ต้นเหตุอาหารเป็นพิษ ปรับ 2 ล้านบาท
ในประเทศไทยเราหลายๆ คนอาจเคยเห็นร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารบนเขียงใหม่กันแล้ว ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกซักเท่าไหร่ แต่ในเคสที่เรายกมาวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะในร้านอาหารที่ประเทศอังกฤษที่ใช้การเสิร์ฟอาหารบนเขียงไม้แล้วทำให้ลูกค้า 14 คนที่มากินเกิดอาการอาหารเป็นพิษ สภาเมืองเบอร์มิ่งแฮมจึงร้องขอให้ศาลปรับเงินร้านอาหารเป็นจำนวน 50,000 ปอนด์หรือประมาณ 2.1 ล้านบาทไทย เนื่องจากยังใช้เขียงไม้ในการเสิร์ฟอาหารอยู่ ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคมปี 2017 ผู้ตรวจการได้ไปตรวจสอบร้านอาหาร Ibrahim’s Grill and Steak House ในพื้นที่ Acocks Green เมืองเบอร์มิ่งแฮม หลังจากที่มีรายงานว่ามีกลุ่มลูกค้า 14 รายมีอาการอาหารเป็นพิษ จากการตรวจสอบพบว่าร้านนี้ยังมีปัญหาด้านความสะอาดอีกหลายจุด เช่น ใช้ถุงมือแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งแทนที่จะให้พนักงานล้างมือบ่อยๆ การทำความสะอาดในร้านก็ยังไม่ดีและการใช้น้ำยาทำความสะอาดก็ไม่ได้ใช้ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ นอกจากนี้เขียงไม้ที่ใช้เสิร์ฟอาหารก็ไม่ได้มีการทำความสะอาดที่เพียงพอ และเมื่อผู้ตรวจการกลับมาตรวจร้านในสองเดือนให้หลังจากที่ตักเตือนไป พวกเขายังพบว่าร้านอาหารนี้ยังคงใช้เขียงไม้ในการเสิร์ฟอาหารอยู่ ร้านอาหารร้านนี้ถือว่ามีความล้มเหลวที่ไม่ปรับปรุงสุขภาพอนามัยตามที่ได้รับประกาศโดยการใช้เขียงไม้เสิร์ฟอาหารอยู่ จึงถูกปรับ 50,000 ปอนด์ (2.1 ล้านบาท) พร้อมต้องจ่ายเงินชดเชยอีก 670 ปอนด์ (ประมาณ 30,000 บาท) และ 120 ปอนด์ (ราว 5,300 บาท) ให้แก่ลูกค้าที่อาหารเป็นพิษ Mark Croxford หัวหน้าฝ่ายสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของสภาเมืองได้กล่าวว่า “การที่ธุรกิจมอบความเสี่ยงที่ทำให้สุขภาพของผู้คนที่กินร้านนั้นแย่ลงถือว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้”…
-
พ่อแม่ขังลูกสาวไว้ในห้องขนาดเพียง 3 ตารางเมตรอยู่อย่างอดยาก จนหนาวตายในที่สุด
บางครอบครัวอาจเลี้ยงดูลูกด้วยวิธีการที่แปลกประหลาด หรือในบางครั้งที่รู้สึกว่าบุตรหลานมีอาการป่วยก็ไม่ยอมพาไปหาหมอ แต่เลือกที่จะจัดการปัญหาดังกล่าวกันด้วยตัวเอง เช่นเดียวกันกับครอบครัวนี้ ที่สุดท้ายผลลัพธ์ออกมาเลวร้ายกว่าที่คาดคิดเอาไว้อย่างมาก ครอบครัวดังกล่าวอาศัยอยู่ในเขตจังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ Yasutaka และ Yukari Kakimoto กักขังลูกสาวของตัวเองเอาไว้นานกว่า 15 ปี เพราะสงสัยว่าเธอป่วยเป็นอาการทางจิตจนทำให้มีพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างหนัก ทั้งสองบอกว่า Airi ลูกสาววัย 33 ปี แสดงอาการผิดปกติทางจิตมาตั้งแต่อายุราว 16-17 ปี เธอเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง จึงขังเด็กสาวเอาไว้ในห้องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ห้องที่เล็กมาก มีเพียงแค่กล้องวงจรปิดคอยสอดส่องพฤติกรรมต่างๆ ห้องน้ำแบบชั่วคราวภายในและสายยางสำหรับไว้ใช้น้ำจากถังเท่านั้นเอง นอกจากจะมีการติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ในห้องที่ขังเธอไว้แล้ว ทั้งสองยังติดกล้องไว้อีกกว่า 10 ตัวรอบบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เธอสามารถหลบหนีออกมาได้เลย พวกเขาจะนำอาหารมาให้ลูกสาวแค่วันละมื้อเท่านั้น นั่นจึงทำให้เธอมีอาการขาดสารอาหารอย่างหนัก มีส่วนสูงเพียงแค่ 145 เซนติเมตร และน้ำหนักแค่ 19 กิโลกรัม การที่ได้รับอาหารเพียงน้อยนิด อาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ แคบๆ และอุณหภูมิที่หนาวเย็น ทำให้ Airi เสียชีวิตลงในวันที่ 18 ธันวาคม…
-
หมอผู้ดูแลเผย ‘ชายดุ้นใหญ่ที่สุดในโลก’ แท้จริงแล้วส่วนที่ยาวกลับเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่หรรมส์!?
เรื่องราวของหนุ่มเม็กซิโกเจ้าของน้องชายที่ใหญ่ที่สุดในโลกกลับต้องกลายเป็นเพียงแค่ตำนาน หลังจากที่แพทย์ได้ออกมาเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับขนาดของน้องชายของเขา!! ดอกเตอร์ Jesus Pablo Gil Muro ได้ออกมาเปิดเผยว่าอันที่จริงแล้วขนาดน้องชายของคุณ Roberto Esquivel Cabera ชายเจ้าของสถิติโลกคนล่าสุดนั้นมีขนาดความยาวจากหัวหน่าวเพียงแค่ 16-18 เซนติเมตรเท่านั้น จากเดิมที่เขาอ้างว่ามีความยาวมากถึง 48 เซนติเมตร ดอกเตอร์ท่านนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Metro ว่า “จากการเข้าเครื่องซีทีสแกนเราพบว่าอวัยวะเพศของเขานั้นมีหนังหุ้มปลายที่ยาวมากๆ แต่ส่วนอวัยวะเพศนั้นมีขนาดเพียงแค่ 16-18 เซนติเมตรเท่านั้น ในส่วนที่ยาวออกมานั้นเราพบเพียงแค่หนังหุ้มปลาย เส้นเลือดและแผลจากการอักเสบของผิวหนังเท่านั้น” ก่อนหน้านี้ทางผู้ที่ได้รับบันทึกสถิติว่ามีเจ้าโลกใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกอย่างนาย Jonah Falcon ก็ได้คัดค้านการบันทึกสถิติของ Cabera พร้อมกับยืนยันว่าชายเม็กซิกันผู้นี้ใช้สิ่งของถ่วงเพื่อให้อวัยวะเพศของเขายืดยาวออกมา หนุ่มอเมริกันวัย 47 ปีกล่าวว่า “จากความเข้าใจของผมเขาใช้บางอย่างเพื่อยืดหนังหุ้มปลายตลอดเวลา ผมคิดว่าเขาไม่มีทางเลือก และไม่ว่าเขาจะใหญ่แค่ไหนมันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงขนาดที่แท้จริงของผมที่ยาวกว่า 30 เซนติเมตรได้” Jonah Falcon หนุ่มมะกันเจ้าของน้องชาย 30 เซนติเมตร ก่อนหน้านี้ Cabera อ้างว่าเขาไม่สามารถใส่ชุดทำงานหรือวิ่งแบบเร็วๆ ได้ และนอกจากนี้เขายังบอกว่าการมีน้องชายที่ใหญ่นั่นส่งผลต่อปัญหาสุขภาพของเขา และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณหมอพบความจริงเกี่ยวกับน้องชายของเขาก็ได้ คุณ Cabera กับน้องชายที่มีแต่หนังหุ้มปลาย …
-
พนักงานโรงแรมชื่อดังสุดหรูในประเทศจีนใช้ ‘แปรงขัดส้วม’ มาล้างแก้วต่อ!?
เรื่องของความสะอาดและสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับข้าวของเครื่องใช้ในโรงแรม เพราะคงไม่มีลูกค้าคนไหนจะอยากเข้าพักในห้องที่สกปรก โดยเฉพาะกับโรงแรมที่มีชื่อเสียงและมีราคาแพง แต่ในประเทศจีนการให้บริการของโรงแรม 3 แห่งนี้กลับไม่ได้ดีสมราคาเลย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2017 เว็บไซต์ PearVideo ของประเทศจีนได้เผยคลิปการทำงานของพนักงานทำความสะอาดในโรงแรมชื่อดัง 3 แห่งในเมืองฮาร์บิน ที่มีการทำความสะอาดได้แย่มากๆ ชนิดที่ว่าอาจทำให้คุณรู้สึกขยาดกับการเข้าโรงแรมไปอีกนานเลย เมืองฮาร์บิน ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน โรงแรมแห่งแรกคือ โรงแรม Kempinski มี 352 ห้องพัก และค่าเข้าพักที่สูงสุดราวๆ 16,000 บาทต่อคืนเลยทีเดียว แต่จากที่นักข่าวได้เข้าไปถ่ายรูปการทำความสะอาดของโรงแรมแห่งนี้ บอกเลยว่ามันเลวร้ายเอามากๆ โรงแรม Kempinski พนักงานทำความสะอาดของที่นี่ใช้แปรงขัดห้องน้ำล้างถ้วยให้กับลูกค้า อีกทั้งยังใช้แปรงเดียวกันนั้นทำความสะอาดโถส้วมให้เห็นกันแบบต่อหน้าต่อตา ก่อนที่จะนำไปวางเก็บที่เดิมและใช้ผ้าขนหนูอาบน้ำมาเช็ดถ้วยให้แห้ง . หลังจากนั้นเราก็จะได้เห็นภาพของพนักงานจุ่มผ้าขนหนูอาบน้ำลงไปในน้ำโถส้วม แล้วค่อยนำมาเช็ดพื้นห้องน้ำ . เมื่อนักข่าวถามเพื่อนร่วมงานในโรงแรม พวกเขาบอกว่าแม่บ้านทุกคนก็ทำเหมือนกันหมด แต่แค่พวกเขาเลือกที่จะไม่บอกให้ใครรู้เท่านั้นเอง พนักงานที่นี่ไม่เปลี่ยนผ้าปูให้ เพราะเห็นว่ามันยังสะอาดดีอยู่ ต่อมาเป็นภาพของโรงแรม…
-
ครอบครัวชาวจีน ร่วมแรงร่วมใจกันออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพจนหุ่นเป๊ะกันทั้งบ้าน
การลดน้ำหนักเพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดี เป็นหนึ่งในเป้าหมายของใครหลายๆ คนสำหรับปีใหม่ 2018 ซึ่งหากใครกำลังคิดว่าตัวเองคงทำไม่ไหวหรือไม่สำเร็จแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณได้มาดูแรงบันดาลใจจากครอบครัวชาวจีนครอบครัวนี้ มาทำความรู้จักกับครอบครัวแซ่ Ding ทั้ง 4 คน ผู้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีสุขภาพที่ดีได้กันทั้งครอบครัว ในเวลาราวๆ 6 เดือน พวกเขาสามารถเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้เลยทีเดียว พ่อแม่ลูกและภรรยาแซ่ Ding จุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนักในครั้งนี้ เริ่มมาจาก Jesse Ding วัย 32 ปี รู้สึกเป็นห่วงสุขภาพคุณพ่อของตัวเอง เพราะเวลามีปัญหาเขามักจะเก็บความเครียดไว้กับตัวและนั่นทำให้สุขภาพของคุณพ่อของ Jesse แย่ลง เพื่อต้องการให้คุณพ่อของเขากลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง Jesse จึงตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักของตัวเองมาอีก 10 กิโลกรัม และออกกำลังกายลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กับคุณพ่อซะเลย พวกเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจ และช่วยสนับสนุนกันอยู่เสมอ หนทางอันยากลำบาก ต้องใช้ความพยายามอันหนักหน่วง . จุดเปลี่ยนในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2017 และนั่นจึงทำให้คุณแม่และภรรยาของเขาที่กำลังตั้งครรภ์ เข้ามาร่วมวงด้วย คราวนี้จึงกลายเป็นการลดน้ำหนักกันยกบ้านเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่จะลดน้ำหนักกันเพียงอย่างเดียว เพราะจุดประสงค์หลักของพวกเขาคือการสร้างสุขภาพที่ดี พวกเขาจึงเลิกกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แล้วหันไปประกอบอาหารที่ดีมีประโยชน์…
-
ภาพแปลกๆ สมัยสงครามโลก ที่นำมาลงสีใหม่แสดงให้เห็นถึงความพยายามของทหารในสมัยนั้น
ตามประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกไว้บนโลกนี้กล่าวเอาไว้ว่า โลกของเราเคยมีสงครามใหญ่ๆ เกิดขึ้นระหว่างประเทศหรือเรียกว่า ‘สงครามโลก’ เกิดขึ้นมาแล้วถึง 2 ครั้งซึ่งก็ได้สร้างความสูญเสียอย่างประเมินค่าไม่ได้ให้แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก และนี่คือภาพสมัยสงครามโลกทั้ง 2 ครั้งที่หาดูได้ยาก โดยแต่ละภาพจะแสดงให้เห็นถึงวิธีการต่างๆ ในสมัยสงครามตั้งแต่การเริ่มหัดพรางตัวโดยพรางเป็นม้าลาย หรือแม้กระทั่งการนำปืนกลไปตั้งไว้บนหลังช้าง รวมถึงยังมีภาพแปลกๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างที่มีสงคราม ซึ่งถือได้ว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นต้นแบบของวิทยาการสงครามในสมัยใหม่เลยก็ว่าได้ โดยแต่เดิมนั้นภาพเหล่านี้เป็นเพียงแค่ภาพขาวดำ แต่เมื่อเร็วๆ มานี้ได้รับการนำมาลงสีใหม่โดยเด็กหนุ่มชาวสเปนวัย 17 ปีืชื่อว่า Joel Bellviure ภาพที่เขาได้เนรมิตขึ้นมาใหม่นี้ทำให้เราได้เห็นถึงรายละเอียดต่างๆ ได้มากขึ้นรวมถึงยังสามารถสื่ออารมณ์ในสมัยสงครามโลกได้ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะมีอะไรแปลกๆ บ้างนั้น เรามาดูพร้อมกันเลยดีกว่า ภาพของทหารคนหนึ่ง ขณะทดสอบชุดพรางตัวสีขาวดำที่มีชื่อเรียกว่า ‘razzle dazzle’ ที่จะให้ทหารใช้สำหรับพรางตัวขณะปีนต้นไม้ ซึ่งภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน 1917 ภาพของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ขณะกำลังนั่งอยู่บนหลังช้างพร้อมกับปืนกล Colt M1895 ซึ่งภาพแปลกๆ นี้สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดขึ้นในปี 1914-1918 ภาพของทหารอเมริกันขณะสวมชุดเกราะ ‘Brewster Body Shield’ ซึ่งมีทั้งส่วนที่ปกคลุมส่วนตัวและส่วนหัว ซึ่งนี่เป็นชุดเกาะของประเทศสหรัฐอเมริกาชิ้นแรกที่พัฒนาขึ้น ให้กองกำลังสหรัฐใช้ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ร้อยโท…
-
ชาวนิวซีแลนด์สายเมา หนีกฎห้ามดื่มในที่สาธารณะ เลยสร้างเกาะเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อสังสรรค์ซะเลย
เมื่อถึงงานเทศกาลที่สำคัญของปี ใครหลายคนถือโอกาสเฉลิมฉลองด้วยการสังสรรค์กัน เบาบ้างหนักบ้าง เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับตัวเองหลังจากที่ผจญกับงานหนักมาตลอดทั้งปี แต่ว่าก็มีบางประเทศที่มีกฎหมายห้ามดื่มในวันสำคัญต่างๆ จึงทำให้คนกลุ่มหนึ่งสร้างเกาะจิ๋วของตัวเองขึ้นมาเพื่อเลี่ยงกฎหมายซะเลย เรื่องราวของกลุ่มคนหัวหมอนี้เกิดขึ้นเมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมา ที่คาบสมุทร Coromandel ในประเทศนิวซีแลนด์เมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งตั้งเกาะส่วนตัวขนาดเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อสังสรรค์กัน และตำรวจไม่สามารถจับกุมพวกเขาได้เนื่องจากถือว่าอยู่ในเขต ‘น่านน้ำสากล’ ชิวๆ ไม่ผิดกฎหมายเฟ้ย ซึ่งในเขตคาบสมุทร Coromandel มีกฎหมายเอาไว้ว่าห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ ระหว่างที่มีการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่เพื่อจะลดความรุนแรงในเทศกาลนี้ให้มีน้อยลง ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนอาจจะต้องโดนโทษปรับถึง 250 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8,000 บาท) เลยทีเดียว โดยตำรวจได้ออกลาดตระเวนในวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 30 และ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อบังคับใช้และตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคนได้รับรู้กฎหมายข้อนี้โดยทั่วกันแล้ว แต่ว่าตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรวัยรุ่นหัวหมอกลุ่มนี้ที่ดื่มกินกันอย่างสนุกสนานบนเกาะเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากฝั่งทะเลเพียงไม่กี่เมตรได้ อินดี้เกิ๊น สำหรับเกาะขนาดจิ๋วที่พวกเขาสร้างขึ้นมานั้น พวกเขาได้สร้างขึ้นในช่วงน้ำลง เมื่อบ่ายวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นพวกเขาก็นำโต๊ะนำเก้าอี้มาวางไว้ให้พร้อม สำหรับการสังสรรค์ในค่ำคืนของการขึ้นปีใหม่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ซึ่งสิ่งที่พวกเขานำมาสร้างเกาะแห่งนี้ก็มีเพียงแค่ทราย, เปลือกหอย, และไม้สักสองสามแผ่นเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าเกาะที่พวกเขาสร้างขึ้นมันจะดีเกินคาด เพราะมันยังคงตั้งอยู่ได้นานหลายวัน แม้ว่าผู้สร้างเกาะจะไปที่อื่นแล้วก็ตาม Coromandel อยู่ทางตอนเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ “ทุกๆ คนน่าจะสังสรรค์กันแบบพวกเขานะ…
-
ชีวิตของสาวผู้ปกปิด ‘สิว’ บนใบหน้ามาตลอด ตัดสินใจเผยหน้าสดเพื่อให้กำลังใจผู้ที่เป็นสิวเหมือนกัน
สิวเป็นปัญหาผิวหนังที่ทุกคนล้วนต้องเคยประสบพบเจอกันมาแน่นอน มันช่างเป็นสิ่งกวนใจ ที่คอยทำให้ใบหน้าของเราดูมีตำหนิขึ้นมาโดยไม่บอกไม่กล่าว แต่ก็ยังดีที่เราสามารถรักษาให้มันหายไปได้ แม้จะใช้เวลาสักพักก็ตาม แต่ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีปัญหาเรื่องผิวหนัง จึงมีสิวมากกว่าคนทั่วไป และรักษายากกว่าปกติอีกด้วย ในสังคมที่ให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาเช่นทุกวันนี้ จึงทำให้พวกเขารู้สึกด้อยค่าและอัปลักษณ์ ทว่าก็มีสาวน้อยคนหนึ่งที่มีปัญหาสิว ออกมายืนยันแล้วว่า สิวไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับชีวิตขนาดนั้น แม้จะมีสิวเยอะก็ใช้ชีวิตแบบมั่นใจได้ Hailey Wait Hailey Wait สาวอายุ 17 ปีจากรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา มีปัญหาผิวหนังมาตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยเธอเป็น สิวซีสต์ (Cystic Acne) ซึ่งเป็นสิวที่เป็นตุ่มสีแดงขนาดใหญ่และเรื้อรัง เกิดจากการที่รูขุมขนของเธออุดตันอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง สิวชนิดนี้ยังรักษาได้ยากด้วย ตอนที่เธอมีปัญหาสิวในระยะแรกนั้น เธอรู้สึกเจ็บแสบปวดร้าวจากสิวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอเล่าว่า “ตอนแรกสิวของฉัันเริ่มขึ้นที่แก้ม แล้วก็ลามไปทั่วเลย มันเป็นปัญหาเพราะว่ามันรักษาไม่หายทันที และฉันก็รู้สึกเหมือนมีไข่สัตว์ประหลาดอยู่บนหน้าตลอดเวลา ทุกครั้งที่ฉันบังเอิญไปสัมผัสสิว หรือชนกับผนังโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ามีไฟแผดเผาบนใบหน้าเลยทีเดียว เคยมีคืนหนึ่งฉันถึงกับนอนร้องไห้เพราะว่ารู้สึกเจ็บปวดกับสิวพวกนี้เหลือเกิน” นอกจากนี้เธอยังรู้สึกสูญเสียความมั่นใจเรื่องหน้าตาด้วย เพราะคนรอบข้างเอาแต่ล้อเธอ จนเธอตัดสินใจใช้เครื่องสำอางปกปิดรอยสิวไว้ตลอดเวลา เธอเล่าว่า “คนที่โรงเรียนเรียนมักมองฉันด้วยสายตารังเกียจ และเรียกฉันว่า ‘ยัยหน้าพิซซ่า’” เธอยังบอกอีกว่า “ฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย…
-
รู้จักกับปรากฏการณ์ ‘คลื่นสเลอปี้’ ที่น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง จากอุณหภูมิติดลบ หาชมได้ยากยิ่ง!!
จากที่เกิดพายุหิมะที่กระทบชายฝั่งตะวันออก เป็นที่สนใจอย่างมาก ทางวิทยาศาสตร์ได้อธิบายเหตุการณ์แบบนี้ว่า “ระเบิดพายุไซโคลน” แต่ตอนนี้มีปรากฏการ์อื่นแบบเจ้าคลื่นสเลอปี้ด้วยเช่นกัน คลื่นสเลอปี้แน่นอนมันฟังดูเหมือนกับ คลื่นเริ่มเย็นลงและเคลื่อนตัวไปช้าๆ ขณะที่มันม้วนตัวเข้าหาฝั่ง คุณ Jonathan Nimerfroh เป็นช่างภาพที่ได้ถ่ายภาพเหตุการณ์นี้ได้เมื่อวันที่ 3-4 มกราคม ปี 2561 ที่ผ่านมานี่เอง จากปรากฏการณ์พายุฤดูหนาว Grayson ที่หาด Nobadeer ซึ่งเป็นจุดโต้คลื่นของเกาะ Nantucket รัฐแมสซาชูเซต ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ใช้ Instagram ชื่อ jdnphotography ได้โพสต์ภาพเจ้าคลื่นสเลอปี้พร้อมเขียนว่า “คลื่นสเลอปี้กลับมาแล้ว” คลื่นยังสามารถใช้เล่นเซิร์ฟบอร์ดได้เหมือนเดิมนะ . น่าลงไปเล่นมากๆ คลื่นสเลอปี้ช่วงพายุหิมะกลายเป็นภาพสวยๆ ให้เรารับชมกัน มาดูเป็นแบบภาพเคลื่อนไหวของเจ้าคลื่นสเลอปี้กันมั่งดีกว่า ที่มา Ibtimes, Designyoutrust
-
ไปไกล!! ระบบเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ สามารถสร้างร่างโคลนนิ่งของเราได้แล้ว!!
หลายคนอาจจะรู้จักกับเทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หรือที่เรียกกันว่า AI ที่ในปัจจุบันกำลังมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง และในตอนนี้พัฒนาการของเจ้าสิ่งนี้ก็ก้าวขึ้นมาอีกขั้น เพราะว่ามันสามารถสร้างร่างก็อปปี้เสมือนจริงของคนเราได้แล้ว!! โดยระบบ AI ที่สามารถสร้างร่างก็อปปี้ที่ว่าได้นี้ เป็นระบบ AI ที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะที่ชื่อว่า ObEn ซึ่งก่อตั้งโดย CEO ชื่อว่า Nikhil Jain ทางซ้ายคือหน้าจริง ขวาคือหน้าที่ระบบ AI จำลองขึ้นมา หลังจากได้รับการช่วยเหลือทางเรื่องเงินทุนจากบริษัทไอทียักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Tencent ที่มีมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 161 ล้านบาท) ในที่สุด Jain ก็สามารถพัฒนาให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ของเขาสามารถจำลองภาพของคนจริงๆ ให้อยู่ในรูปแบบของภาพสามมิติได้ “เราเชื่อว่าทุกๆ คนบนโลกนี้ในที่สุดแล้วจะมีร่างก็อปปี้เป็นของตัวเอง ซึ่งคนๆ นั้นจะเป็นคนที่มีหน้าตาเหมือนกับพวกเขา พูดเหมือนพวกเขา ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไปแล้ว” Jain กล่าว วิดีโอการจำลองหน้าตัวเองโดย Jain ผู้พัฒนาระบบดังกล่าว สำหรับการใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์นี้ ให้ก็อปปี้ร่างของเรานั้นก็ง่ายแสนง่าย โดยสิ่งที่ต้องทำก็มีเพียงแค่ ถ่ายเซลฟี่ตัวเองและบันทึกเสียงเพียงแค่นั้น เราก็จะได้ร่างอวตารของเรามาใช้งานกันแล้ว นอกจากการสร้างร่างโคลนนิ่งของตัวเองแล้วบริษัทแห่งนี้ยังมีแผนที่จะปล่อย ร่างโคลนนิ่งของเหล่าเซเลบริตี้ในปี 2018 โดยร่วมมือกับบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของทวีปเอเชียอย่าง S.M. Entertainment เพื่อนำนักร้องชื่อดังมาให้แฟนๆ ได้ชื่นชมกันอีกด้วย…
-
ภาพเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นนางฟ้า Victoria’s Secrets พวกเขาต้องทำอะไรกันบ้าง?
เวทีแฟชั่นชุดชั้นในประจำปีที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกของ วิคตอเรีย ซีเคร็ท เป็นที่จับตามองของคนจากทั่วทุกมุมโลก ก็จะไม่ให้เป็นที่สนใจได้อย่างไร ในเมื่องานเดินแบบนี้มีคนดังมากมายมาเข้าร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเซเลบ นักดนตรี และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือนางแบบนั่นเอง ไฮไลต์ในงานคงไม่ต้องบอกก็รู้กันว่าคืองานเดินแบบชุดชั้นในปิดท้าย ซึ่งนางแบบจะใส่ชุดชั้นในใหม่ของ Fantasy Bra ซึ่งเป็นชุดชั้นในที่หรูหราราคาแพง ประดับประดาไปด้วยอัญมณีมากมายนั่นเอง แต่การเตรียมตัวเพื่อให้เกิดงานที่ใหญ่โตและสวยงามแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ถ้าได้รู้ว่าพวกเขาเตรียมตัวอะไรกันบ้างกว่าจะเกิดงานวิคตอเรีย ซีเคร็ทปี 2017 ละก็ คงจะคิดว่างานนี้เหนื่อยน่าดู ลองไปชมกันดูนะครับ การเตรียมตัวของนางแบบ การเตรียมงานของวิคตอเรีย ซีเคร็ทนั้นทำกันเป็นปีเลยทีเดียว โดยทางวิคตอเรีย ซีเคร็ทจะส่งบัตรเชิญไปให้กับนางแบบและเซเลบชื่อดังกลุ่มหนึ่ง ที่มีการคัดสรรกันเป็นอย่างดีแล้ว ในอดีตนั้นนางแบบจะต้องฟิตหุ่นกันเป็นเดือนๆ เลย แต่ในปัจจุบันเหล่านางแบบจะมารวมตัวกันก่อนวันงาน และมีเวลาเตรียมทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น จากนั้นก็จะอัดการแสดงซึ่งจะทำเพียงแค่ 2 รอบ บินข้ามฟ้ามายังจุดนัดพบ นางแบบจะได้นั่งเครื่องบินสีชมพูหวานแหววไปยังจุดนัดหมาย ซึ่งสีชมพูนี้ก็เป็นสีเดียวกับสีของบริษัทนั่นเอง นอกจากนี้ผู้สนับสนุน ผู้จัดงาน นักข่าว และผู้ร่วมงานอื่นๆ บางท่านก็ต้องมารวมตัวกันที่จุดนัดพบ เพื่อขึ้นเครื่องบินลำนี้ไปด้วยกัน จะได้เดินทางไปด้วยกันแบบเป็นทีมนั่นเอง นอกจากนี้สาวๆ ยังต้องสวมเสื้อทีมที่ทำขึ้นไว้เฉพาะสำหรับเที่ยวบินนี้ด้วยนะ จะได้พร้อมให้สื่อถ่ายเพื่อโฆษณางานได้เลย เก๋ใช่ไหมล่ะ…
-
รักเรียน! เด็กน้อยต้องมานั่งทำการบ้านที่ทางด่วนทุกวัน เพราะที่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้เพียงพอ
เพื่ออนาคตที่สดใส ทำให้ไม่ว่าใครๆ ต่างก็ให้ความสำคัญกับการศึกษาทั้งนั้น จะเห็นได้จากในปัจจุบันที่พ่อแม่หลายๆ คนก็ต้องส่งลูกของเราไปหาความรู้ที่โรงเรียนเพื่อให้มีวิชาความรู้ไว้ใช้ในภายภาคหน้า แต่ก็มีบางคนที่แม้ว่าจะมีเรื่องฐานะเป็นอุปสรรค แต่ก็ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตาตั้งใจเล่าเรียนทั้งๆ ที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ เลยก็ตาม เหมือนกับเด็กชายชาวจีนคนหนึ่ง ที่ทางบ้านมีฐานะยากจนไม่มีกระทั่งไฟฟ้าใช้สำหรับทำการบ้านหรืออ่านหนังสือ ทำให้เด็กใฝ่เรียนคนนี้ต้องมาอาศัยไฟจากทางด่วนทุกวันๆ จนได้กลายเป็นที่ชื่นชมของผู้คนที่ได้พบเห็น Qu Sinian คือชื่อของเด็กชายคนดังกล่าว โดยเขาอาศัยอยู่ที่มณฆลกุ้ยโจวทางตอนใต้ของประเทศจีน Qu เป็นนักเรียนชั้นประถมต้นอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเขา แต่ด้วยความโชคร้ายที่พ่อของเขากลายเป็นผู้พิการหลังจากตกจากที่สูงระหว่างการทำงาน รวมถึงแม่ของเขาที่ป่วยเป็นโรคหัวใจจนไม่สามารถทำงานใดๆ ได้ จึงทำให้ครอบครัวนี้มีรายได้ที่ค่อนข้างน้อยและมีฐานะที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก Qu จะมาที่ทางด่วนแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กับบ้านเขาในทุกๆ วันหลังจากเลิกเรียน เพื่อใช้แสงไฟของไฟลอยตามทางด่วนเพื่ออ่านหนังสือและใช้สำหรับการทำการบ้าน โดยเขาจะใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงสำหรับการทบทวนบทเรียนในแต่ละวันเลยทีเดียว “บ้านของเรามีแสงไฟน้อยมากและมันก็มืดเกินไปสำหรับการอ่านหนังสือ นั่นเป็นเพราะพวกเรามีฐานะที่ค่อนข้างอัตคัด เขาจึงต้องมาทำการบ้านและอ่านหนังสือที่นี่อย่างไม่มีทางเลือก” Li Gaoju แม่ของเขาเล่าให้ฟัง ในตอนนี้รายได้ของครอบครัวแห่งนี้มาจาก พ่อของ Qu ที่แม้จะกลายเป็นคนพิการแต่เขาก็พยายามหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการรับจ้างขับมอเตอร์ไซค์ ซึ่งมีรายได้ต่อเดือนที่อยู่ราวๆ 1,000 หยวน(ประมาณ 4,900 บาท) เท่านั้น โดยเงินเกือบครึ่งหนึ่งที่หามาได้…
-
บรรยากาศโคตรหนาวเหน็บในอเมริกาเหนือและแคนาดา ขนาดบะหมี่ยังแข็งตัว นับประสาอะไรกับ…
ช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา อากาศในประเทศไทยของเราหนาวเป็นพิเศษเลยนะครับ อาจจะพูดได้ว่าไม่ได้หนาวแบบนี้มาหลายปีแล้วก็ได้ พอเจออากาศหนาวขนาดนี้ถึงบางคนถึงกับรับมือไม่ถูกกันเลย ก็ปีก่อนๆ มันไม่ได้หนาวแบบนี้นี่นา แต่อากาศที่เรารู้สึกว่าหนาวมากนั้น ถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้วล่ะก็อากาศหนาวของเรานั้นกลายเป็นอากาศเมืองร้อนสำหรับพวกเขาเลย เพราะในบางประเทศที่อากาศหนาวจนน้ำแข็งเกาะนั้นอากาศติดลบกันเลยล่ะครับ และในความเหน็บหนาวนี้ก็ยังซ่อนความสวยงามปนความมหัศจรรย์ของธรรมชาติไว้ด้วยเช่นกัน เราได้ลองรวบรวมภาพ ‘สุดคูล’ บางส่วนของความงามในหน้าหนาวมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันแล้ว จะได้ไม่ต้องฝ่าลมหนาวไปดูด้วยตัวเองถึงต่างประเทศ ไปดูกันเลย การทำบะหมี่ทานนั้นไม่ง่ายเลย จะตักเข้าปากก็แข็งโป๊กซะแล้ว นครนิวยอร์กในวันหนาวๆ นั้น หิมะปกคลุมจนขาวโพลนไปซะทุกส่วนเลย อากาศหนาวมากเสียจนขนของน้องหมาเอาไม่อยู่ ต้องใส่เสื้อเพิ่มกันแล้วล่ะ แม้แต่น้ำตกไนแองการ่าเอง ก็กลายเป็นน้ำแข็งเหมือนกัน สวยงามไม่ใช่เล่นเลย ผ่านไปแค่ 2 วัน หิมะกองกันหนาถึง 63 นิ้วเลยนะ ขุดเป็นเขาวงกตได้สบายๆ ส่องไปให้ลึกกว่าเดิม ก็จะเห็นความสวยงาของเกล็ดน้ำแข็งเช่นกัน หนวดเคราทรงนี้ทำได้ในเฉพาะอากาศหนาวเท่านั้น อิจฉากันไหม โฮ่ๆๆๆ ที่เมืองเซนต์โจเซฟ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ทะเลแข็งแล้วยังไม่พอ ประภาคารก็แข็งไปกับเขาด้วย ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะรั่ว เพราะพอน้ำไหลปุ๊บ ก็แข็งอุดรูปั๊บ…
-
หนุ่มแสดงความรักมั่น ขอสาวผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแต่งงานในโรงพยาบาล ก่อนเธอเสียชีวิต
โรคมะเร็งเป็นโรคร้ายชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งจะมีการแบ่งเซลล์ผิดปกติ จนเกิดเป็นเนื้องอกร้ายในร่างกาย และอาจลุกลามไปยังส่วนต่างๆ จึงถือว่าเป็นโรคที่น่ากลัวที่สุดโรคหนึ่ง ที่พรากชีวิตคนจำนวนไม่น้อยไปจากโลกใบนี้ หากป่วยเป็นมะเร็งระยะร้ายแรงแล้ว ผู้ป่วยมักจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก แต่ถ้าได้รับกำลังใจที่ดีพอ อาจจะเป็นแรงผลักดันให้ผู้ป่วยมีชีวิตรอดได้นานราวกับปาฏิหาริย์ก็ได้ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวคู่นี้ อาจจะเป็นตัวอย่างที่ดีของเหตุการณ์ดังกล่าว David และ Heather Mosher เจ้าสาว Heather Mosher ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิ้ลเนกาทีฟ แต่เธอมีชีวิตรอดได้ยาวนานกว่าที่หมอคาดการณ์ไว้ เนื่องจากเธอได้รับกำลังใจอันล้นหลามจากคนรัก David Mosher ทั้งคู่พบกันในชั้นเรียนสวิงแดนซ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2015 หลังจากนั้นทั้งสองก็หลงรักกันหัวปักหัวปำ กลายเป็นคู่รักที่ตัวติดกันตลอดเวลาเลยทีเดียว ดังที่ David เล่าว่า “หลังจากเราพบกันแล้ว ก็เหมือนว่าเราแยกจากกันไม่ได้เลย” แต่เรื่องราวรักหวานชื่นของทั้งคู่ก็ดำเนินมาได้ไม่นาน เพราะเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2016 แพทย์ก็ได้แจ้งข่าวร้ายกับพวกเขาว่า แฟนสาวป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม ถึงแม้จะรู้ว่าแฟนสาวป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะปล่อยให้เธอต่อสู้กับโรคนี้เพียงลำพัง เขาตัดสินใจขอหมั้นเธอในวันเดียวกันที่เธอรู้ข่าวว่าเป็นมะเร็งเลย เขาเล่าว่า “เธอไม่รู้มาก่อนว่าผมจะขอหมั้นคืนนั้น แต่ผมอยากให้เธอรู้ว่า เธอจะไม่ต้องต่อสู้กับโรคนี้คนเดียว” จากนั้นเขาจึงขอเธอแต่งงานอย่างโรแมนติกบนรถม้าดังที่ชายหนุ่มเล่าว่า “ผมจัดเตรียมรถม้าไว้สำหรับเราสองคนแล้ว ในคืนนั้นระหว่างที่เรากำลังนั่งรถม้าไปในถนนที่มีเพียงแสงไฟ ผมก็ขอเธอหมั้นทันทีเลย” ทว่าข่าวร้ายเรื่องโรคมะเร็งเต้านมยังไม่จบสิ้น ห้าวันหลังจากเขาขอเธอหมั้นแล้ว…
-
พิพิธภัณฑ์แห่งความรักของคุณตาผู้บูชารักแท้ ที่สร้างขึ้นแม้ว่าภรรยาของเขาจะจากโลกนี้ไปแล้ว
โลกของเราหมุนไปทุกๆ วัน กาลเวลาจึงไม่สามารถหยุดรอใครบางคนได้ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจึงต้องเป็นไปตามกฏของธรรมชาติ นั่นคือ ‘เกิด แก่ เจ็บ ตาย’ แต่ว่าโลกของเราก็ไม่ได้โหดร้ายจนเกินไปนัก เพราะว่ามันได้ประทานพลังวิเศษที่เรียกว่า ‘ความรัก’ ให้แก่สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตได้พบเจอกับความสุขระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ และนี่คือตัวอย่างความสุขจากความรักอันสุดประทับใจของชายแก่คนหนึ่งชื่อว่า Charles “LaLa” Evans ที่มีให้แก่ Louise ภรรยาของเขาที่อยู่กินกันมาเกือบ 60 ปี โดยระหว่างที่ได้ครองรักกัน ทั้งคู่เป็นคู่รักที่น่าอิจฉาสำหรับใครหลายคน เพราะพวกเขามักจะเติมเต็มความรักให้แก่กันเสมอๆ ซึ่งเห็นได้จากภาพถ่ายนับพันๆ ใบที่ทั้งคู่ได้ถ่ายเอาไว้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ทว่าเมื่อเร็วๆ นี้ฝ่ายภรรยาได้เสียชีวิตลง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรักที่ Lala มีให้ Louise ลดน้อยลงแต่อย่างใด ในทางกลับกันเขากลับมีความรักให้แก่เธอยิ่งกว่าเดิม และได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เอาไว้เป็นอนุสรณ์สถานความรักของทั้งคู่ เทพนิยายความรักสุดกินใจของชายแก่คนนี้ จะเป็นเช่นไร เราลองไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า นี่คือเรื่องราวของชายชราที่ชื่อว่า Lala ที่ได้พบรักกับ Louise ภรรยาของเขาตั้งแต่การพบเจอหน้ากันครั้งแรก ซึ่งวินาทีที่ได้เจอกันครั้งแรกนั้น เขาบอกเอาไว้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ลืมไม่ลงมาตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมา ช่วงชีวิตที่ผ่านมาของชายผู้เปี่ยมความรักคนนี้ อาศัยอยู่ในบ้านน่ารักๆ ที่รัฐมิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐฯ ร่วมกับภรรยาในช่วงก่อนที่เธอจะเสียชีวิตลง ทั้งคู่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมา 59 ปี 11 เดือน…
-
เจ้าของเอาหมามาให้สัตวแพทย์ฆ่า อ้างว่ามัน “ป่วย” และ “โง่” แต่คุณหมอตัดสินใจให้มันอยู่ต่อ
สำหรับคนที่ไม่ได้มีรักสุนัขจริงๆ พวกเขาอาจจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อรับน้องหมามาเลี้ยงใหม่ๆ แต่พอเวลาผ่านไป เมื่อพวกเขาเริ่มรู้สึกเบื่อหรือมันไม่ได้เป็นตามที่คาดหวัง ก็มักจะจบลงด้วยการพยายามหาข้ออ้างในการกำจัดมันทิ้ง เหมือน Figgy น้องหมาวัย 18 ปี ที่เริ่มประสบอุบัติเหตุภายในบ้านบ่อยๆ จนครอบครัวไม่สามารถจัดการกับมันได้ เลยตัดสินใจที่จะปล่อยมันไป พวกเขาพาน้องหมาไปหาสัตวแพทย์ และขอให้ทำการการุณยฆาตมัน จากนั้นพวกเขาก็กลับบ้านไปโดยทิ้งเจ้า Figgy ไว้ที่นั่น ตอนที่ให้ทำการุณยฆาต ครอบครัวให้เหตุผลกับพนักงานว่าเพราะมัน “โง่” เลยเป็นเหตุผลให้พวกเขาตัดสินใจปล่อยมันไป แต่พนักงานในคลีนิกกลับตกหลุมรักเจ้าสุนัขแก่ตัวนี้ตั้งแต่แรกเห็น และตัดสินใจว่าจะไม่มีทางฆ่ามันอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้หลังจากที่ตรวจร่างกาย คุณหมอพบว่า Figgy ตาบอดและป่วยเป็นโรคข้ออักเสบ มันมีฟันพุเต็มปาก แต่เมื่อเทียบกับหมาอายุ 18 ปีแล้ว มันยังมีสุขภาพแข็งแรงดี จึงไม่มีเหตุผลต้องจบชีวิตมัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ติดต่อไปยัง Muttville Senior Dog Rescue เพื่อดูว่ามีที่ว่างสำหรับ Figgy หรือเปล่า แล้วก็ได้คำตอบรับอย่างรวดเร็ว น้องหมาจึงถูกส่งตัวไปที่นั่นเพื่ออยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญต่อไป เมื่อไปถึง แทนที่ Sherri Franklin ผู้ก่อตั้ง Muttville Senior Dog Rescue จะให้น้องหมาอยู่ในศูนย์พักพิง แต่เธอตัดสินใจพามันกลับบ้านพร้อมเธอ เพื่อให้มันอยู่ในที่ที่อบอุ่นและเงียบสงบ Franklin บอกว่า “มันเป็นหมาที่น่ารักมากๆ มันชอบนอนกับฉันและขดตัวอยู่ตรงจั๊กกะแร้ของฉัน…
-
กลุ่มวัยรุ่นทำทีเป็น ‘พลเมืองดี’ พาโฮมเลสเข้าร้านอาหารแล้ววิ่งหนี โดนชาวเน็ตวิจารณ์ยับ!!
Bullying หรือการกลั่นแกล้งคนอื่น เราเคยได้ยินมาหลายปีแล้ว คนที่ถูกกลั่นแกล้งนี้บางเคสอาจจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า มีปมในจิตใจ แต่ที่ร้ายแรงที่สุดคนที่ถูกกลั่นแกล้งอาจจะตัดสินใจฆ่าตัวตายเลย การกลั่นแกล้งโดยส่วนใหญ่มักจะพบเจอในช่วงชีวิตที่กำลังมีการศึกษาเล่าเรียนอยู่กันอยู่ แต่ในเคสที่เราจะนำเสนอนี้เกิดขึ้นกับคนไร้บ้าน โดยที่เด็กสาวสามคนเข้าไปเสนอที่จะเลี้ยงข้าวให้แก่ชายไร้บ้าน และพาชายไร้บ้านเข้าไปในร้านอาหารแล้วสั่งอาหารให้เขา ก่อนที่จะกลุ่มวัยรุ่นสาวทั้งสามคนจะวิ่งหนีออกจากร้านอาหาร และทำให้เขาอับอายในโลกออนไลน์ อย่างไรก็ตาม หลังที่ภาพถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวาง กลุ่มวัยรุ่นก็ถูกว่ากล่าวติเตียน ว่าการกระทำแบบนี้มันไม่เหมาะสม Sally Cudmore หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์อ้างว่าเด็กสาวสามคนอายุประมาณ 16 ปี หรือ 17 ปี เยาะเย้ยชายไร้บ้านและสัญญาว่าจะซื้ออาหารให้ เธอถ่ายรูปของเหล่าเด็กสามคนได้ข้างนอก และโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า “สามสาวเข้ามาหา ถ่ายภาพชายไร้บ้าน และเดินตามหลังเขาไปและพูดว่าพวกเธอจะจ่ายค่าอาหารให้ชายไร้บ้าน พวกเธอบอกเขาให้นั่งลงที่โต๊ะและพวกเธอก็ไปที่เคาท์เตอร์ก่อนที่จะพูดคุยกับพนักงาน” เธออ้างว่าทั้งสามสาวออกไปข้างนอกร้านและหัวเราะเยาะเย้ย ก่อนที่ชายไร้บ้านจะทำตัวเลิกลั่กและถามกับพนักงานว่าพวกวัยรุ่นทั้งสามคนนั้นได้สั่งอาหารให้เขาหรือไม่? Sally ยังบอกอีก “ชายไร้บ้านรู้สึกอารมณ์เสียและขอโทษกับพนักงาน วัยรุ่นสาวทั้งสามที่อยู่นอกร้านได้บันทึกวิดีโอของชายไร้บ้านและยังหัวเราะเยาะเย้ยขณะที่ชายไร้บ้านนั้นเดินออกมาจากร้านอีกด้วย” หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวโด่งดังขึ้นมา มีข้อความว่ากล่าวติเตียนเกี่ยวกับวัยรุ่นสาวมากมาย หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นได้ออกมากล่าว โดยอ้างว่าชายไร้บ้านเป็นฝ่ายเข้ามาขอบุหรี่พวกเธอก่อน ก่อนที่พวกเธอจะซื้อเครื่องดื่มให้เขา เธอยังกล่าวอีกว่า “ฉันบอกให้เขาเลิกยุ่งกับพวกเรา ก่อนฉันและเพื่อนจะเดินเข้าไปในร้าน Nando และแกล้งทำเป็นสั่งอาหารให้เขา เพื่อให้เขาเลิกยุ่งกับเรา และพนักงานที่เคาท์เตอร์ก็รู้เห็นด้วย” วัยรุ่นสาวอ้างว่าชายไร้บ้านคนนั้นพูดจาหยาบคายใส่เธอ เธอกล่าวต่อว่า “เขาไม่ควรพูดกับเราแบบที่เขาทำ เราเสนอที่จะซื้ออาหารให้เขาแต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ และเขาก็เริ่มพูดไม่ดีกับเรา” แต่ Emily Warress พยานอีกคนได้กล่าวว่า “แม้แต่คนขับแท๊กซี่ก็บอกให้เธอปล่อยเขาไป เพราะว่าเธอหลบอยู่หลังรถและกระโดดออกมาสร้างความหวาดกลัวให้ชายไร้บ้าน” Courtney…
-
สาวเมกันคอสเพลย์ลองใช้ชีวิตแบบควีน โอ้โห… เป็นเชื้อพระวงศ์มันไม่ได้สบายอย่างที่คิดเลยแฮะ
เรื่องราวของหญิงสาววัย 30 ปีที่พบว่าตัวเธอเองนั้นไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตที่หรูหราแบบกษัตริย์สักเท่าไหร่ หลังจากที่ทดลองแต่งตัวและใช้ชีวิตแบบสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นเวลา 1 สัปดาห์ คุณ Eliza Thompson บรรณาธิการวัย 30 ปีจากเว็บไซต์ Cosmopolitan.com ผู้แต่งตัวและใช้ชีวิตเหมือนกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ DailyMail ว่า “ฉันได้ลองทำโปรเจกต์นี้หลังจากที่เราเล่นมุขกันว่าฉันอยากจะตั้งชื่อเรือตามชื่อของตัวเองดูบ้าง” คุณ Eliza Thompson ในระหว่างที่เธอแต่งตัวเป็นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 คุณ Eliza ได้ทดลองใช้ชีวิตแบบสมเด็จพระราชินีเป็นเวลานานถึง 7 วัน โดยในระหว่างที่ลองใช้ชีวิตแบบราชินีนั้น หญิงสาวได้แต่งตัวด้วยชุดคล้ายกับสมเด็จพระราชินี ดื่มเครื่องดื่มที่พระองค์ชื่นชอบอย่าง Dubonnet เรียนขี่ม้าและรัฐธรรมนูญ รวมถึงพาสุนัขออกไปเดินเล่นอีกด้วย หญิงสาวเริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของสมเด็จพระราชินีจากแอปพลิเคชัน Pinterest เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งคอสเพลย์ของเธอ และในที่สุดเธอก็พบภาพวาดของสมเด็จพระชาชินีโดย Pietro Annigoni ศิลปินชาวอิตาลี และนี่คือการคอสเพลย์จากภาพวาดชุดนั้น และไม่เพียงแค่แต่งคอสเพลย์แบบภาพวาดของศิลปินดังเท่านั้น หญิงสาวยังเตรียมที่จะซื้อผ้าใบเพื่อให้เพื่อนของเธอวาดภาพสีน้ำมันให้อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่เธอมีเวลาไม่พอเราจึงอดชมภาพวาดเลียนแบบของเธอ “การเป็นราชินีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อคุณมีงานอยู่ตลอดเวลาและไม่มีใครที่สามารถช่วยคุณจัดการกับธุระส่วนตัวได้” หญิงสาวกล่าว หลังจากที่เริ่มใช้ชีวิตแบบราชินี หญิงสาวก็พบว่าตัวเธอนั้นไม่ได้มีเวลามากพอที่จะพักผ่อนแบบพระองค์หรือสนุกกับเครื่องดื่มค็อกเทลหลังจากการจิบชายามบ่าย นอกจากนี้เธอยังได้ลองจิบเหล้า Gin และ Dubonnet ที่ว่ากันว่าเป็นเครื่องดื่มที่สมเด็จพระราชินีทรงโปรดอีกด้วย โดยหญิงสาวได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันไม่เคยชอบดื่มเหล้า Gin เลย และ…
-
ช่างภาพชาวจีนออกตระเวนทั่วชนบทเพื่อถ่ายรูปครอบครัวให้ฟรี และมอบเป็นที่ระลึก
หลายครอบครัวลงทุนหาเสื้อผ้าสวยๆ เช่าสตูดิโอหรูๆ หรือจ้างช่างภาพมืออาชีพ เพื่อให้ถ่ายรูปครอบครัวสำหรับเก็บไว้เป็นที่ระลึก ในขณะที่หลายครอบครัวโดยเฉพาะในชนบท ไม่มีโอกาสนั้นเพราะอย่างที่รู้ว่าค่าจ้างช่างภาพนั้นราคาค่อนข้างสูง ซึ่งบางทีอาจมากกว่าเงินเดือนทั้งเดือนของใครบางคนซะอีก ด้วยเหตุนี้่ช่างภาพหนุ่ม Yang Dongqing จากมณฑลยูนนานจึงอาสาถ่ายภาพให้ครอบครัวในชนบทแบบฟรีๆ เพื่อมอบเป็นที่ระลึกให้พวกเขา นอกจากจะเสนอถ่ายรูปให้ฟรีแล้ว Yang ยังไปหาพวกเขาถึงที่ เขาออกตระเวนไปทั่วหมู่บ้านในชนบทที่อยู่ล้อมรอบบ้านเกิดของเขา โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว ช่างภาพหนุ่มบอกว่าจนถึงตอนนี้เขาได้ถ่ายภาพครอบครัวมากกว่า 200 ครัวเรือนแล้ว และถ่ายให้ชาวบ้านอีกหลายพันคน ที่น่าประทับใจคือชาวบ้านบางคนไม่เคยถ่ายรูปด้วยซ้ำในชีวิต ดังนั้น Yang จึงหวังว่าภาพถ่ายเหล่านี้จะทำให้พวกเขามีความสุขได้ ภารกิจของ Yang ทำให้นึกถึง Ma Hongjie ช่างภาพชาวจีนที่อุทิศเวลามากกว่า 10 ปี ในการถ่ายภาพทรัพย์สินครอบครัวทั่วประเทศจีน ทั้ง 2 ภารกิจที่แตกต่างกันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การถ่ายรูปเท่านั้น แต่เป็นการสื่อให้เห็นถึงเรื่องราวที่แฝงอยู่ในภาพถ่ายด้วย จึงหวังว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีความสุขที่ได้รับภาพถ่ายครอบครัวเป็นที่ระลึก ทีมที่มามอบความสุขให้ครอบครัวในชนบท ช่างภาพหนุ่มผู้รับรอยยิ้มของชาวบ้านแทนเงินค่าจ้าง ด้านล่างนี้เป็นภาพฝีมือของ Ma ที่ถ่ายภาพทรัพย์สินของครอบครัวชาวจีน . . . ที่มา medium
-
วิศกรหนุ่มชาวอินเดียถูกครอบครัวฝ่ายหญิงฉุดลากให้แต่งงานกับลูกสาว ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน
ปัจจุบันนี้การคลุมถุงชนแทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว เพราะถูกคัดค้านจากคนส่วนใหญ่ในสังคม อีกอย่าง ต่อให้ได้กายไปแต่ก็ไม่ได้ใจเขามาอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ธรรมเนียมนี้ยังคงมีคนบางกลุ่มสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน ที่สำคัญไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็นฝ่ายถูกบังคับ แต่ในบางคู่ฝ่ายชายกลับตกเป็นเหยื่อได้เช่นกัน นี่เป็นเรื่องราวของ Vinod Kumar วิศวกรชาวอินเดียที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวในเขต Nalanda ใกล้ Patna รัฐ Bihar ทางตอนเหนือของอินเดีย ครอบครัวของฝ่ายหญิงได้ระดมคนไปลาก กระชาก ตี และใช้ปืนจ่อหัววิศวกรหนุ่มเพื่อให้ไปเข้าพิธีแต่งงานกับลูกสาวของตน ทั้งๆ ที่ชายหนุ่มไม่เคยเห็นหรือรู้จักเธอมาก่อน ตามสำนักข่าว Gulf News รายงานว่ามีเสียงญาติของฝ่ายหญิงตะโกนขึ้นมาท่ามกลางความวุ่นวายว่า ‘เราแค่จะจัดพิธีแต่งงานให้ ไม่ได้แขวนคอคุณสักหน่อย ทำไมต้องร้องเสียงดังขนาดนั้น หุบปากเดี๋ยวนี้!!’ ขณะที่ทำพิธี(บังคับ)แต่งงานนั้น Kumar พยายามขัดขืนอย่างสุดแรงและร้องห่มร้องไห้ตลอดเวลา โดยมีกลุ่มคนที่คอยที่จับเขาไว้คอยเช็ดน้ำตาให้ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะในวัฒนธรรมในอินเดียนั้น ครอบครัวของผู้หญิงต้องหาสินสอดไปสู่ขอผู้ชายที่หมายปอง หรือที่ครอบครัวจับจองไว้ให้ โดยครอบครัวฝ่ายชายจะเรียกร้องเท่าไหร่ก็ได้ หลังจากพูดคุยตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ฝ่ายหญิงต้องจ่ายค่าสินสอดตามที่เจรจาต่อรองกัน มิเช่นนั้น ครอบครัวผู้ชายก็จะไม่ยอมรับหรือเธออาจจะถูกรังเกียจไปเลยก็ได้ กรณีของ Kumar เป็นพิธีกรรมที่เรียกว่า Pakadua Vivah (การบังคับแต่งงาน) มันอาจจะดูรุนแรงในสายตาคนทั่วไป แต่มันเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับคนใน Bihar และพื้นที่โดยรอบ โดยเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อครอบครัวผู้หญิงที่กำลังมองหาผู้ชายให้ลูกสาว แต่ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าสินสอดได้ ก็เลยใช้วิธีบังคับหรือลักพาตัวมาแต่งงานแทน…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ภาพการท่องเที่ยวด้วยรถแวน เผยความสุขที่หาไม่ได้จากการอยู่บ้านเฉยๆ
หลายคนอาจจะคิดว่าความสุขในวันหยุดคือการนอนอยู่บ้านเฉยๆ ดูทีวีหรือดูซีรี่ส์ แต่เชื่อสิ หากได้ทำแบบนี้จริงๆ เพียงแค่ไม่นานก็คงรู้สึกเบื่อแน่นอน เพราะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ เห็นแต่อะไรเดิมๆ ไม่เบื่อก็ไม่รู้จะว่าไงละ แต่ลองดูชาวเน็ตเหล่านี้สิ พวกเขาออกไปท่องเที่ยวพร้อมรถแวน ภายใต้แฮชแท็ก #VanLife พร้อมภาพหลักฐานที่ทำให้รู้ว่าความสุขเหล่านี้หาไม่ได้จากการอยู่บ้านเฉยๆ เหล่านี้เป็นภาพสิ่งแวดล้อมอันงดงาม ที่รวบรวมไว้ในอินสตาแกรม @project.vanlife ดูน่าตื่นตาตื่นใจซะจนคุณอยากซื้อรถแวนสักคันแล้วออกไปท่องโลกเหมือนกับเค้าบ้าง เส้นทางที่โอบล้อมด้วยต้นไม้สูง ให้บรรยากาศอันเยือกเย็นและงดงาม แทนที่จะนอนอยู่ในบ้าน ลองไปนอนในที่แปลกตาดูบ้างสิ อย่าลืมพาเพื่อนแสนรู้ไปด้วยนะ ยึดที่มนุษย์เลยนะ ราวกับข้ามไปอีกโลกหนึ่ง ยิ่งมีคนรู้ใจไปด้วย ยิ่งฟินเลย สัมผัสประสบการณ์ในแบบที่ไม่เคยมาก่อน ระหว่างทางอาจจะมีเพื่อนแปลกหน้าแวะมาทักทายไปบ้าง ร้องเพลงเบาๆ กลางหุบเขา พาเจ้าตูบมาสัมผัสธรรมชาติด้วยกัน หนทางยิ่งลำบากเท่าไหร่ ปลายทางจะยิ่งงดงามมากเท่านั้น นอนในที่ท้าทายดูบ้าง ไปทุกที่ที่มีเรา น้องคงจะตื่นเต้นมากสินะ ไม่ยอมนอนเลย ไม่มีที่ดริ๊งค์ที่ไหน อบอุ่นเท่านี้อีกแล้ว เหมือนกับหลุดไปอยู่ในโลกเทพนิยายยังไงอย่างนั้น…
-
25 ภาพความน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน!!
ทุกวันนี้ เมื่ออยากรู้เรื่องอะไรก็สามารถรู้ได้ด้วยจากการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง มันก็ยากที่จะเชื่อว่ายังมีสิ่งที่เรายังไม่เคยได้พบเห็น อย่างไรก็ตามมันมีสิ่งหลายๆ อย่างที่คุณโชคดีมากที่สามารถได้เห็นมัน ถึงแม้จะเพียงในภาพก็เถอะ วันนี้เราก็ได้จัดสรรรวบรวมภาพที่หาชมได้ยากมาให้เพื่อนได้รับชม มาดูกันดีกว่าว่าสิ่งที่เรารวบรวมมานี้ มีอะไรที่คุณยังไม่เคยเห็นกันบ้างหรือไม่ คุณเคยเห็นหัวใจของปลาวาฬมั้ย? มันใหญ่เทียบได้กับคนเลยล่ะ 0ไข่ของปลาฉลามที่แสงส่องผ่านในน้ำ ภาพของพายุลูกใหญ่ที่สูง 37,000 ฟุต จากมหาสมุทร ลูกๆ ของปลาดาบ ภาพที่ถ่ายได้หลังจากที่ปล่อยจรวดไปไม่นาน นี่คือภาพต้นปาล์มที่สูงที่สุดในโลก สูงกว่าต้นอื่นๆ แบบเทียบกันแล้วเห็นความต่างชัดเจน นี่คือภูเขาน้ำแข็งในประเทศกรีนแลนด์ เจ้ากิ้งก่าอาร์มาดิลโล่ที่กำลังม้วนตัว เคยเห็นสายรุ้งสีเลือดกันรึเปล่า ภาพของสายฟ้าที่เกิดระหว่างการปะทุขึ้นของภูเขาไฟ เห็ดเหล่านี้ดูไปดูมา เหมือนกับไฟที่กำลังลุกอยู่นะเนี่ย ลูกของหอยงวงช้างกระดาษ ภาพถ่ายสุริยุปราคา จากมุมมองบนเครื่องบิน กระดองของเต่าตัวนี้ถูกคลุมไปด้วยมอสส์ เจ้ากิ้งก่าหลากสี จุดสิ้นสุดของกำแพงเมืองจีนที่มีความยาวอันลือเลื่อง เจ้าสิงโตภูเขาที่แอบอยู่ในต้นไม้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ จุดสีดำที่อยู่ตรงซ้ายบนของภาพนั่นคือดาวพุธที่โคจรรอบดวงอาทิตย์นั่นเอง นี่คือดวงตาของแมงมุม ที่ถูกถ่ายจากกล้องจุลทรรศน์…
-
เหล่าสาวๆ ชาวอิหร่านออกมาเรียกร้องสิทธิสตรี ด้วยการถ่ายภาพสลัดฮิญาบแบบเก๋ๆ
อิหร่านเป็นประเทศที่ผู้หญิงยังคงถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการห้ามไม่ให้สวมเสื้อผ้ารัดรูป ห้ามดูกีฬาที่มีผู้เล่นเป็นผู้ชาย ห้ามให้เห็นเส้นผม ไม่มีสิทธิขอหย่ากับฝ่ายชาย และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยเหตุนี้ Marinka Masséus ช่างภาพชาวดัตช์ จึงเดินทางไปยังอิหร่าน เพื่อสร้างโปรเจกต์ถ่ายภาพ My Stealthy Freedom ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่จะช่วยให้ผู้หญิงอิหร่านต่อสู้เพื่ออิสรภาพได้มากยิ่งขึ้น ผู้หญิงอิหร่านหลายๆ คนเกลียดที่ต้องใส่ฮิญาบ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่ ทำให้พวกเธอไม่มีสิทธิในการเลือกหรือทำในสิ่งที่ต้องการ ดังนั้นฮิญาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความไม่เท่าเทียม และการเลือกปฏิบัติสำหรับผู้หญิงอิหร่าน พวกเธอไม่ได้ทำผิดอะไร แค่เกิดมาเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง ทุกวันนี้ผู้หญิงอิหร่านไม่ได้นิ่งเฉย แต่พวกเธอพยายามเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านกฎหมายเหล่านี้อย่างกล้าหาญ ทั้งใส่ฮิญาบที่สีสันสดใส สวมกางเกงรัดรูปหรือกางเกงขาสั้น การเคลื่อนไหวเช่นนี้แม้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงช้าแต่มันก็เห็นผลค่อนข้างชัดเจน แต่ขณะเดียวกันทางรัฐบาลก็พยายามปราบปรามการต่อต้านเหล่านี้อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ผู้หญิงอิหร่านหลายคนถูกจับกุมและถูกคุกคาม รวมทั้งออกกฎหมายใหม่ อย่างเช่น การห้ามไม่ให้ผู้หญิงปั่นจักรยาน นั่นหมายความ Marinka ต้องระมัดระวังในการทำโปรเจกต์ของเธอเป็นอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้ผู้หญิงอิหร่านที่เข้าร่วมได้รับความเดือดร้อนในภายหลัง ช่างภาพให้ผู้หญิงอิหร่านเข้ามาถ่ายรูปในอพาร์ทเมนต์ โดยทำการปิดหน้าต่างทุกบานไว้อย่างดี เพื่อไม่ให้แสงแฟลชเล็ดลอดออกไปข้างนอก สาวๆ จะได้ปลอดภัย และใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปในการถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่่ด้วย …
-
ครอบครัวลูกโด๊กดก มีอยู่แล้ว 20 คน แต่ไม่พอ ยังมีแพลนจะปั๊มเพิ่มอีกแบบอันลิมิตเต็ด
ปัจจุบันนี้คู่รักส่วนใหญ่ไม่นิยมมีลูกหลายคนเหมือนในอดีต เพราะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย ค่าเลี้ยงดู และเวลาสำหรับในการอยู่กับลูก ที่สำคัญการคุมกำเนิดก็มีหลายวิธีให้เลือกด้วย แต่สำหรับครอบครัว Radford จาก Morecambe ในแลงคาสเชอร์ สหราชอาณาจักร มีลูกจำนวนมากพอที่จะตั้งทีมฟุตบอลได้เกือบ 2 ทีมเลยล่ะ ตอนนี้พวกเขามีลูก 18 คน เรียงจากอายุมากไปหาน้อย ดังนี้ Chris อายุ 28 ปี Sophie 24 ปี Chloe 22 ปี Jack 20 ปี Daniel 18 ปี Luke 17 ปี Millie 16 ปี Katie 15 ปี James 14 ปี Ellie 12 ปี Aimee 11 ปี Josh 10 ปี Max…
-
15 ภาพความไร้เดียงสาของเด็กๆ ที่จะทำให้คุณรู้สึกเอ็นดู๊เอ็นดู อะไรจะน่ารักเบอร์นั้นล่ะลู๊กกก!!
วัยเด็กเป็นช่วงอายุที่พูดได้เลยว่าเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด ความไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวตอนนั้นดูสนุกและน่าตื่นเต้นไปซะทุกอย่าง พูดแล้วก็คิดถึงช่วงเวลานั้นซะเหลือเกิน คำที่พูดไว้ว่า “เด็กนั้นเปรียบเหมือนดังผ้าขาว” คงจะสามารถอธิบายช่วงชีวิตวัยเด็กได้ดีที่สุด ความไร้เดียงสาตอนนั้นมันช่างมีความสุขเหลือเกิน เหมือนดังภาพต่อไปนี้ อย่าเศร้านะคะคุณลุง เด็กชายนำน้ำมาให้กับตำรวจในเหตุการณ์ความวุ่นวายเมืองบัลติมอร์ ถึงแม้ว่าน้ำของตัวเองจะมีอยู่น้อยนิดก็ยังอยากที่จะแบ่งปันให้กับผู้ที่เดือดร้อนกว่า มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมโลก ถึงแม้จะไม่มีให้มากแต่ก็อยากจะแบ่งปัน กินร่วมกันก็ได้นะเจ้าเหมียว แต่ทำไมดูเหมือนแกไม่ชอบอาหารนี้เลยล่ะ แฝดสาม Heaton, Holden และ Wilder กับเพื่อนเล่นของเขา เล่นเป็นคนเก็บขยะของเทศบาล เด็กหญิงชาวอาฟกันยื่นดอกไม้ให้กับทหารอเมริกาเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเขา เจ้าไดโนเสาร์ป่วย เป็นหน้าที่ของพยาบาลน้อยต้องคอยดูแล เราจะฝ่าภัยพิบัตินี้ไปด้วยกันนะเพื่อน เด็กสองคนนี้เดินเข้าไปกอดกันโดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน กองกำลังพิทักษ์ทิชชู่ในห้องน้ำมาช่วยเหลือแล้ว เพื่อนแท้ย่อมไม่ทิ้งกัน และจะหาวิธีช่วยเหลือเพื่อนตอนที่เดือดร้อน อย่าปล่อยมือนะเพื่อน เด็กหญิงขายตุ๊กตาทั้งหมดของเธอเพื่อนำเงินมาบริจาคให้กับศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ท้องถิ่น เด็กชายเลี้ยงผมให้ยาวกว่า 2 ปี เพื่อที่จะนำผมไปบริจาคให้กับผู้ป่วยมะเร็ง ที่มา brightside
-
ชายจีนคนนี้เรียนรู้การ “กู้ระเบิด” ด้วยตัวเอง ไล่ปลดกับระเบิดตั้งแต่สงครามเวียดนามกว่าหมื่นลูก
สงครามจีน-เวียดนาม เป็นสงครามสั้นๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งเกิดในช่วง 17 กุมภาพันธ์ – 16 มีนาคม พ.ศ. 2522 ซึ่งถึงสงครามที่เกิดขึ้นไปจะจบลงไปแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่สงครามเหลือทิ้งไว้ก็คือกับระเบิด มีชาวจีนคนหนึ่งชื่อ Wang Kaixue อายุ 48 ปี เป็นชาวบ้านจากมณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ได้ทุ่มเททั้งชีวิตในการค้นหาและเก็บกู้กับระเบิดที่ยังหลงเหลืออยู่จากสงครามจีน-เวียดนามที่เกิดขึ้นเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ซึ่งนาย Wang ได้เริ่มทำการเก็บกู้กับระเบิดที่ยังหลงเหลือมาแล้วกว่า 20 ปี โดยเขาเก็บกู้กับระเบิดออกไปมากมายกว่า 10,000 ลูกที่พรมแดนระหว่างจีน-เวียดนาม เขาบอกว่าเขาเริ่มศึกษาเกี่ยวกับกับระเบิดสองปีก่อนที่เขาจะลงมือกู้ระเบิดเมื่อปี พ.ศ. 2533 แต่ละวันเขาจะลงมือทำการกู้ระเบิดกว่า 8 ชั่วโมง . มีกับระเบิดนับหมื่นลูกถูกทิ้งไว้หลังสงคราม Wang เชื่อว่าอย่างน้อยกับระเบิด 200 ลูก ถูกกระจายอยู่ทุกๆ 1,300 ตารางเมตร แต่เขาตั้งใจที่จะกู้กับระเบิดให้ได้ 166,000 ตารางเมตร ก่อนที่เขาจะเกษียณตัวเองตอนอายุ 55 ปี ภารกิจการกู้ระเบิดของเขาเป็นยังไง ไปชมได้ในคลิปข้างล่างเลย…
-
ชมความงดงามของน้ำตกไนแอการา ในช่วงเหมันต์ฤดู เยือกเย็นจนเป็นน้ำแข็ง… หนาวทะลุรูป!!
น้ำตกไนแอการ่า เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนสองประเทศคือสหรัฐอเมริกากับแคนาดาและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมาร่วมสองศตวรรษ ซึ่งน้ำตกไนแอการ่าจัดได้ว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามต้นๆ ของโลกเรา โดยที่ตัวน้ำตกไนแอการ่านั้นจะประกอบไปด้วย 3 น้ำตกได้แก่ น้ำตกเกือกม้า น้ำตกอเมริกา และน้ำตก Bridal Veil ในตอนที่ตัวน้ำตกยังปกติไม่กลายเป็นน้ำแข็งนั้น ตัวน้ำตกจะมีรูปทรงเป็นเกือกม้า ซึ่งจะมีมวลน้ำมหาศาลไหลจากด้านบนสู่ด้านล่าง เมื่อยามที่แสงอาทิตย์ตกกระทบกับตัวน้ำตกจะเกิดเป็นสายรุ้งอยู่ตลอดเวลา น้ำตกไนแองการ่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะแวะเวียนไปท่องเที่ยวตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าหนาวนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวน้ำตกไนแองการ่าจะได้รับประสบการณ์พิเศษ โดยจากที่อุณภูมินั้นลดลงจนถึงขั้นติดลบ 30 กว่าองศาเซลเซียส ทำให้น้ำตกเย็นตัวลงและจับตัวกันกลายเป็นน้ำแข็ง ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เราไม่ได้เห็นทุกปี วันนี้เราได้รวบรวมภาพความสวยงามของน้ำตกไนแอการ่าที่เป็นน้ำแข็งมาให้เพื่อนๆ ได้รับชม โอ้โห … ขนาดน้ำที่ไหลแรงขนาดนี้ยังแข็งได้ . แสงแดดที่สาดผ่านตัวน้ำตกที่เป็นน้ำแข็งช่างสวยงามจริงๆ . ดูแล้วต้องหนาวมากๆ แน่ จังหวะที่แสงสาดลงมา ช่างสวยงามเหลือเกิน . กิ่งไม้ที่เป็นน้ำแข็ง ให้ความรู้สึกของภาพเปลี่ยนไป . ดูๆ ไปแล้ว อย่างกับหลุดออกมาจากนาร์เนียเลยนะเนี่ย ที่มา Boredpanda
-
ตำรวจโพสต์ภาพ “อาหารเช้า” เพื่อสนับสนุนชาวไร่ท้องถิ่น แต่กลับถูกกลุ่มมังสวิรัติถล่ม
คนแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน เรื่องอาหารก็เหมือนกัน บางคนนั้นชอบกินเนื้อสัตว์ แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งก็นิยมที่จะกินพืชผัก ซึ่งถือเป็นเรื่องรสนิยมของแต่ละบุคคล ทว่าในบางครั้ง เราก็ไม่ได้คิดว่าการโพสต์รูปอาหารจานปกติของเรา จะไปกระทบกระทั่งกับความรู้สึกของผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่งเข้า และเกิดข้อโต้แย้งกันขึ้น รูปอาหารมื้อเช้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจโพสต์ The North Wales Rural Crime เป็นกลุ่มตำรวจซึ่งปฎิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศเวลส์ พวกเขามักจะใช้โซเชียลมีเดียเพื่อกระตุ้นให้ประชาชน ให้ตระหนักถึงการคุกคามในท้องถิ่นอยู่เสมอ ในวันที่ 18 ธันวาคม 2017 พวกเขาก็ได้โพสต์ภาพอาหารเช้าที่ประกอบไปด้วยไส้กรอกทอด ถั่วต้ม ไข้ดาว เบค่อน และขนมปังปิ้งลงในทวิตเตอร์ เพื่อสนับสนุนให้คนอุดหนุน กลุ่มเกษตรกรที่ใช้ชื่อว่า Farmers’ Union of Wales (FUW) ทานอาหารเช้ากันอย่างสุขสันต์!! แต่ก็มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่ไม่พอใจพวกเขาเข้ามาคอมเมนต์ด้วยเช่นกัน เธอใช้ชื่อว่า Diana ซึ่งเธอน่าจะเป็นชาวมังสวิรัติคนหนึ่ง เธอโพสต์ว่า “ในฐานะที่เป็นคนจ่ายภาษี ฉันอยากให้พวกเขาไม่เลือกตอบคำถาม และก็ไม่ควรโพสต์รูปอาหารเช้าแบบนี้ด้วย เพราะมันเหยียดหยามกลุ่มมังสวิรัติและผู้ติดตามที่เป็นมังสวิรัติ โพสต์มาแบบไม่ใส่ใจเลย ไม่สมกับตำแหน่งหน้าที่การงาน” เธอคงจะไม่พอใจที่ภาพอาหารเช้าที่กลุ่มตำรวจโพสต์สนับสนุนนั้นมีเพียงเนื้อสัตว์ ซึ่งไม่เอื้ออะไรถึงกลุ่มคนที่เป็นมังสวิรัติเลย คอมเมนต์ของผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า Diana …
-
Valve ถอนสปอนเซอร์งานแข่ง ผลจากกฎหมายยาเสพติดในฟิลิปปินส์ที่ส่งผลมาถึงวงการ E-sport!!
ถ้าใครที่ได้ตามข่าวประเทศเพื่อนบ้านของเราในช่วงนี้ คงจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับประเทศฟิลิปปินส์ ที่ล่าสุดผู้นำประเทศ Rodrigo Duterte ได้ออกกฎหมายกวาดล้างยาเสพติดทุกชนิดอย่างดุเดือด จนส่งผลให้ผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดล้มตายกันไปเป็นจำนวนมาก แต่เชื่อไหมว่า ผลพวงดังกล่าวนั้น นอกจากจะส่งผลต่อภาพลักษณ์อันรุนแรงในประเทศแล้ว มันยังส่งผลลามมาถึงวงการ E-Sport ด้วย เพราะเหตุความรุนแรงดังกล่าวทำให้การเดินทางเข้าประเทศเข้มงวดมากขึ้น บวกกับอีกไม่นานก็จะมีงานแข่งเกม Dota2 ที่ผู้เล่นระดับโลกหลายคนจะต้องเดินทางมาแข่งขันในงานนี้ เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้้น การแข่งขันดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า Galaxy Battles ซึ่งมีเงินรางวัลแรกเริ่มอยู่ที่ 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นเงินกว่า 32 ล้านบาท เพียงแต่ว่าด้วยกฎหมายกวาดล้างที่บังคับให้ทุกคนที่เข้าประเทศต้องตรวจหาสารเสพติดก่อน มันขัดต่อแนวทางของ Valve ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวเรือใหญ่ในการจัดงานได้ถอนตัวและประกาศให้การแข่งขันนี้ไม่ได้เป็นการแข่งขันหลักอีกต่อไป ซึ่งส่งผลให้เงินรางวัลถูกลดเหลือเพียง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท โดยเราจะเห็นว่าเงินรวมนั้นหายไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว ทางด้าน Valve ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ Dota 2 ว่า การแข่งขันนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป เพียงแต่ทางบริษัทจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงาน และทีมที่เข้าร่วมก็จะไม่ได้แต้มสะสม Pro Circuit จากการแข่งขันอีกด้วย (แต้ม Pro Circuit…
-
หนุ่มทดลองอยู่คนเดียวนาน 1 สัปดาห์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ‘ความโดดเดี่ยว’ มันโหดร้ายแค่ไหน
บนโลกนี้มีคนอยู่นับล้านๆ คนที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันบนดาวดวงเล็กๆ ใบนี้ ซึ่งในแต่ละวันเราก็ต้องพบปะกับผู้คนมากมายทั้งรู้จักและแปลกหน้า และด้วยความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ทำให้หากไม่ได้พบปะหรือมีปฏิสัมพันธ์กับใครก็อาจจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘ความเหงา’ ขึ้นมาได้ ความเหงาอาจเกิดขึ้นมาได้ในตอนที่เรารู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว หรืออยากจะหาใครสักคนมาพูดคุยปรับทุกข์ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่มีใครรู้จักกับความเหงาจริงๆ ว่าความโหดร้ายจริงๆ ของมันทำให้เราทรมานได้แค่ไหนกันนะ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายคนหนึ่ง ทดลองขังตัวเองไว้ในบ้านเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์โดยไม่มีการพบปะกับใคร ไม่มีการใช้โทรศัพท์ รวมถึงไม่มีการใช้อินเทอร์เน็ต เพื่ออยากจะทดสอบว่าความเหงามันจะสามารถสร้างผลกระทบอะไรแก่เขาได้บ้าง ชายนักทดลองคนดังกล่าวมีชื่อว่า Joe โดยเขาได้อัดวิดีโอตัวเองขณะทำการทดลองในครั้งนี้เอาไว้ ซึ่งจากวิดีโอของเขาจะเห็นได้ว่า ในวันแรกๆ ของการทดลอง Joe ก็ดูจะมีความสุขดีกับความเงียบสงบภายในบ้านที่เขาอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก ความเหงาก็เริ่มทำหน้าที่ของมัน จนในที่สุดมันก็ทำให้สภาพจิตใจของเขาย่ำแย่จนแทบจะไม่มีชิ้นดี จนถึงขั้นนอนไม่หลับเลยทีเดียว “มันเป็นความว่างเปล่าที่ผมสัมผัสได้ว่ามันว่างเปล่าจริงๆ” Joe กล่าว การทดลองของ Joe ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญชื่อว่า The Loneliness Project ซึ่งเป็นแคมเปญที่ต้องการกระตุ้นให้ผู้คนช่วยกันดูแลช่วยเหลือคนเหงา รวมถึงฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ได้รับบาดเจ็บมาจากความเหงา ที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ “ในตอนนี้มีคนที่มีภาวะเหงาเรื้อรังมากถึง 1.2 ล้านคนในสหราชอาณาจักร โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว ก็คือพวกเขาเหล่านี้มักจะไม่ได้รับสิ่งที่เรียกว่า มิตรภาพ…
-
สื่อญี่ปุ่นเปิดเผยว่าจริงๆ แล้วท่านผู้นำคิมเป็นโอตะคุตัวยง แถมยังเป็นต้นเหตุให้เขาเกรดไม่ดีด้วย!!
เวลาที่เราพูดถึงท่านผู้นำแห่งเกาหลีเหนือ ‘Kim Jong-un‘ เราก็จะนึกถึงความเป็นผู้นำอันเด็ดเดี่ยวและดุดันของเขา แต่ถ้าเราบอกว่าตัวตนจริงๆ ของเขาเป็นผู้นำโอตาคุที่ชื่นชอบในมังงะจนทำให้การเรียนในวัยเด็กเสีย จะเชื่อกันไหม? เรื่องดังกล่าวนั้นได้ถูกเปิดเผยโดยรายการทีวีของญี่ปุ่น Yabai Hanashi The World โดยทางรายการได้ส่ง Daiki Kameda นักมวยอาชีพชาวญี่ปุ่นไปยังเมืองแบร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ที่ผู้นำเกาหลีเหนือเคยศึกษาอยู่เมื่อวัยเด็ก และที่เด็ดไปกว่านั้นคือ Daiki ยังค้นพบความลับบ้างอย่างของผู้นำเกาหลีเหนือผ่านนักวิจัย Gabriel Myer ที่ทำงานอยู่ที่นั้นด้วย ซึ่งความลับที่ว่านั่นก็คือ ท่านผู้นำนั้นจริงๆ แล้วเขาเป็นโอตะคุตัวยงและเสพติดมังงะสุดๆ Gabriel ได้บอกกับ Daiki ว่า “ผู้นำเกาหลีเหนือในวัย 12 นั้นชื่นชอบในบาสเกตบอลมาก และยังเป็นแฟนตัวยงของ Michael Jordan ซึ่งก็ส่งผลให้เขาชอบการ์ตูนเรื่อง Slam Dunk มากๆ นั่นเอง” ยังไม่หมดเท่านั้น เขายังเล่าเสริมอีกว่า “นอกจากนั้นพอมีอายุที่เยอะขึ้นมาหน่อย เขาก็ชื่นชอบใน Dragonball สุดๆ แถมตัวน้องสาวของเขา Yo-jong ก็ยังเป็นแฟนมังงะเรื่อง Sailor moon เช่นกัน” สุดท้ายแล้ว Gabriel…
-
7 การค้นพบ ที่เหมือนจะสร้างคำถามมากกว่าคำตอบให้กับวิทยาศาสตร์ซะมากกว่า
เป็นที่รู้กันดีว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความลึกลับมากมาย ทั้งในใต้ทะเลลึกที่มนุษย์เรายังไม่มีความสามารถหาได้ว่าจริงๆ แล้วภายใต้น้ำเค็มเหล่านั้นมีอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง นอกจากนี้บนผืนดินที่เราอาศัยกันก็มีความลับมากมายซ่อนอยู่เช่นเดียวกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการขุดค้นพบสิ่งแปลกๆ ที่ฝังอยู่ใต้ดินอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง ทั้งนี้การค้นพบอาจจะให้คำตอบแก่เราได้ว่า จริงๆ แล้วโลกของเราในอดีตเคยเป็นอย่างไรมาบ้าง แต่ก็มีการค้นพบบางอย่างที่นอกจากจะไม่ให้คำตอบแล้ว ยังสร้างคำถามเพิ่มขึ้นให้แก่เราอีกว่า มันเกิดมาจากอะไร? หรือเกิดมาเพื่ออะไรกันนะ? สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่ในปัจจุบันที่ยังรอคนมาพิสูจน์อยู่ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นเช่นไรกันแน่ และนี่คือ 7 การค้นพบบนโลกใบนี้ที่ได้สร้างความงงงวยให้แก่ทุกคน ซึ่งการค้นพบแต่ละอย่างได้สร้างความปวดหัวขนาดไหน มาลองดูกันเลยดีกว่า 1. เอ็มบริโอมัมมี่ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบโลงหินโลงหนึ่ง โดยในขั้นต้นการค้นพบนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก เพราะในสมัยอียิปต์โบราณผู้คนก็มักจะเก็บอวัยวะต่างๆ ของผู้เสียชีวิตเอาไว้ในโลงอยู่แล้ว ทว่าเมื่อมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลงหินที่เพิ่งค้นพบนี้ ก็พบว่าโลงนี้ไม่ได้มีเอาไว้เก็บอวัยวะมนุษย์ แต่สิ่งที่พวกเขาเก็บเอาไว้ในโลงนี้กลับเป็น ทารกในครรภ์ที่ถูกทำเป็นมัมมี่ โดยเอ็มบริโอดังกล่าวมีอายุเพียงแค่ 16-18 สัปดาห์เท่านั้น โลงที่ถูกค้นพบนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์กันไว้ว่าน่าจะมีอายุประมาณ 664-525 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งการค้นพบนี้เป็นการค้นพบมัมมี่ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัตศาสตร์เลยทีเดียว 2. ม้วนกระดาษเดดซี ม้วนกระดาษเดดซี เป็นหนึ่งในหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบม้วนกระดาษนี้ที่ถ้ำแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับทะเลเดดซี กระดาษที่พวกเขาค้นพบมีมากมายนับพันๆ แผ่น ซึ่งข้อมูลที่เขียนขึ้นในแผ่นกระดาษเหล่านี้เกี่ยวข้องกับพระคัมภีร์ฮีบรูไบเบิลของศาสนาคริสต์ นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่ออีกว่า พวกเขายังสามารถค้นพบแผ่นกระดาษแบบนี้เพิ่มเติมได้อีก หากยังคงมีการค้นหาต่อ…
-
Logan Paul ออกมาขอโทษชาวเน็ตญี่ปุ่น หลังหัวเราะ ‘ศพ’ ที่ตัวเองบังเอิญไปเจอในป่า
Logan Paul คือยูทูบเบอร์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ด้วยความตลกจากการถ่ายคลิปชีวิตประจำวันของตัวเอง จนทำให้มีผู้ติดตามในยูทูบมากกว่า 15 ล้านคน แม้เขาจะสร้างความสนุกไว้ให้กับใครหลายๆ คน แต่คลิปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2017 กลับได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก ในวันนั้นเขาถ่ายคลิปตัวเองและเพื่อนๆ ที่กำลังเดินอยู่ในป่า Aokigahara ป่าที่รายล้อมอยู่บริเวณเชิงเขาฟูจิ จังหวัด Yamanashi ประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งไปเจอเข้ากับศพคนตาย Logan ยูทูบเบอร์ชื่อดังในอเมริกา ร่างที่พวกเขาพบเป็นศพของคนที่เข้าไปฆ่าตัวตายภายในป่า โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ประจำเขตก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวเอาไว้ Logan โพสต์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลงในยูทูบ ซึ่งทำให้เขาต้องเจอปัญหาอย่างหนัก เพราะชาวเน็ตจำนวนมากรู้สึกไม่พอใจกับท่าทางที่เขาแสดงออกมาตอนที่เจอศพ คลิปตอนที่เขาไปเจอศพด้วยความบังเอิญ (หากใครดูไม่ได้ ให้กดที่ลิ้งก์ Twitter) Logan Paul and his friends laughing and smiling after discovering a dead body pic.twitter.com/azY7EAiuC4 — JhbTeam (@JhbTeam) January…
-
เรื่องราวของทนายผู้ต่อสู้เพื่อ ‘ความรัก’ จนทำให้การแต่งงานข้ามเชื้อชาติในอเมริกาถูกกฎหมาย!!
ย้อนไปในอดีตนั้น ในบางประเทศจะมีธรรมเนียมหรือกฎหมายที่ห้ามไม่ให้คนต่างชาติหรือคนต่างสีผิวแต่งงานกัน เนื่องจากมีแนวคิดเรื่องการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวอยู่นั้นเอง แต่ในปัจจุบันเราสามารถแต่งงานกับคนที่มีความแตกต่างกันได้อย่างอิสระ ไม่ว่าเราจะมีความแตกต่างกันทางสัญชาติ อายุ สีผิว หรือภาษาก็ตาม แม้แต่คนเพศเดียวกันก็ยังสามารถแต่งงานกันได้เลย ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณผู้ชายคนหนึ่ง ที่ลุกมาต่อสู้เพื่อสิทธิเหล่านี้อย่างนาย William Marutani จนทำให้การแต่งงานข้ามเชื้อชาติและสีผิว สามารถทำได้ถูกต้องตามกฎหมาย William Marutani William Marutani เป็นทนายของกลุ่มประชาชนชาวญี่ปุ่นอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีจิตใจรักคุณธรรม และมักจะยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างผู้ที่ควรจะได้รับความยุติธรรมเสมอ ในคดีของ Milfred และ Richard Loving คู่รักข้ามสีผิวจากรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเองก็เช่นกัน ชายผิวขาวและหญิงผิวสีถูกจับเมื่อปี 1958 เพราะว่าพยายามจะแต่งงานกัน แต่กฎหมายในขณะนั้นไม่ยอมให้คนผิวสีแต่งงานกับคนผิวขาว วันที่ 10 เมษายน 1967 นาย Marutani จึงได้ช่วยสู้คดีในศาลให้ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ทั้งที่ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลย เราเริ่มการต่อสู้ในศาลโดยการโต้เถียงว่าคำว่า ‘คนผิวขาว’ นั้นหมายถึงอะไรกันแน่ ซึ่งเมื่อดูตามกฎหมายแล้วพบว่าคนผิวขาวคือคนที่มีเชื้อสายคอเคเชียนบริสุทธิ์ ส่วนคนอื่นๆ ที่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของเชื้อสายอื่นอยู่ในตัวถือว่าเป็นคนผิวสี จากนั้นเขาจึงโจมตีต่อว่า ตามประวัติศาสตร์แล้ว ยุโรปถูกรุกรานบ่อยครั้ง คนส่วนมากในรัฐเวอร์จิเนียจึงไม่น่าจะถือว่าเป็นคนผิวขาว และวิธีการจะพิสูจน์ว่าเป็นคนผิวขาวแท้จริงหรือไม่ ก็ทำได้ยากด้วย นอกจากนี้กฎหมายยังบอกอีกว่า…
-
ศิลปิินฝาผนังมือดี เข้าป่าไปพ่นสีเป็นรูปสัตว์หลากหลาย สมจริงจนคนที่ผ่านไปเห็นต้องตะลึง
Graffiti เป็นศิลปะชนิดหนึ่ง ที่หมายถึงภาพวาดซึ่งอยู่บนพื้นผิวของสิ่งของต่างๆ แต่ที่ที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อยๆ ก็คือภาพวาดบนกำแพงนั่นเอง โดยภาพวาดพวกนี้บางครั้งก็วาดโดยมือสมัครเล่นในชุมชน จนเกิดเป็นภาพสีที่สวยงามออกมา ถ้าหากวาดผลงานศิลปะแต่บนผนังซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆ ศิลปินอาจจะรู้สึกเบื่อก็เป็นได้ Evgeny Ches ศิลปินชาวมอสโกผู้นี้ก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน เขาจึงได้หาวิธีสร้างผลงานในรูปแบบใหม่ขึ้นมา ทำให้คนที่พบเห็นต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กันเลย ทุกภาพเริ่มจากวาดเค้าโครงก่อน ผลงานของเขานั้นเป็นการวาดภาพลงบนพลาสติกใสแผ่นบางๆ ซึ่งเราเรียกกันว่า แร๊ป นั่นเอง โดยปกติแล้วเราจะใช้มันถนอมอาหาร หรือกันไม่ให้สิ่งของต่างๆ เปื้อนฝุ่นหรือคราบต่างๆ แต่ Ches กลับนำมันไปสร้างผลงานศิลปะได้อย่างงดงาม เขาจะเริ่มต้นการวาดภาพด้วยการกางแร๊ประหว่างต้นไม้สองต้น และกางมันให้ตึงจนกลายเป็นผืนผ้าใบขนาดใหญ่ จากนั้นเขาจึงจะดูแบบที่นำติดมาด้วย แล้วใช้สเปรย์วาดภาพให้เหมือนจริงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และด้วยฝีมือของเขา ภาพที่ออกมานั้นก็สมจริงจนบางครั้งตกใจนึกว่าภาพนั้นเป็นสัตว์ตัวจริงเลย หากว่าใครชอบภาพวาดของเขาก็ลองติดตามดูเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก หรือ อินสตาแกรม ของเขานะ ช่วยตูด้วย ไดโนเสาร์จะกินตูแล้ว ฤดูไหนก็วาดให้เข้ากับฤดูนั้น ดูไกลๆ แล้วมันเนียนนะโว้ย รูปนี้คนวาดหรือลิงวาดเองล่ะเนี่ย กระรอกยักษ์ก็มีนะฮ๊าฟฟฟ วิดีโอตอนวาดภาพศิลปะ 3D กันไหมล่ะคุณเอ๊ย ที่มา: boredpanda,…
-
สองหนุ่มผู้อุทิศตนช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียว ที่ติดอยู่บนต้นไม้สูง ให้กลับลงมาอย่างปลอดภัย
เรารู้กันอยู่แล้วว่าแมวมีนิสัยซุกซน อยากรู้อยากเห็นไปซะหมด และบางครั้งนิสัยแบบนี้ที่พาให้มันไปอยู่ในอันตราย อย่างเช่น ปีนขึ้นต้นไม้แล้วลงไม่ได้ และถ้ามีไม่มีคนมาช่วยมันคงต้องค้างเติ่งบนต้นไม้อยู่อย่างนั้น ด้วยเหตุนี้ Tom Otto และ Shaun Sears ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการปีนต้นไม้ จึงใช้ความสามารถนี้ในการตามหาแมวที่ติดอยู่บนต้นไม้ เพื่อช่วยให้พวกมันลงมาอย่างปลอดภัย แน่นอนว่าเราไม่สามารถห้ามพวกแมวเหมียวให้ขึ้นต้นไม้ และเราก็ไม่สามารถตัดต้นไม้ได้ด้วย ดังนั้นทั้งคู่จึงอาสาคอยช่วยเหลือเจ้าเหมียวจอมซนเหล่านี้ และส่งมันคืนสู่อ้อมกอดของเจ้าของ Tom และ Shaun อาศ้ัยอยู่ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาเป็นคนที่รักแมวมากและอยากเห็นแมวได้อยู่ในที่ที่เหมาะสม มีน้อยคนมากที่จะทุ่มเทเวลาอันมีค่าให้กับสัตว์ แต่ทั้งคู่กลับทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับแมวที่ต้องการความช่วยเหลือ จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากบริจาคเงินมาเพื่อให้การสนับสนุนพวกเขาในการทำหน้าที่สำคัญนี้ สีหน้าไม่มีการสำนึกผิดเล้ยยย ฉันมาหาแกแล้วเจ้าเหมียว กลับบ้านกันเถอะ ขึ้นมาซะสูงเลย ว่าแต่ขึ้นมายังไงล่ะเนี่ย? อยากซน ซนเต็มที่ ถ้ามีปัญหาเราจะช่วยเอง นี่แหละ ฮีโร่ของน้องแมว ที่มา greatbigstory
-
เด็กหญิงถึงกับเดินไม่ตรง แถมเมาค้าง หลังพนักงานเสิร์ฟผิด เอาค็อกเทลมาเสิร์ฟแทนน้ำผลไม้
ค็อกเทลกับน้ำผลไม้มีลักษณะภายนอกที่ใกล้เคียงกันมากๆ จนทำให้หลายๆ คนแยกไม่ออกหากไม่ได้ดมกลิ่นหรือลิ้มรสซะก่อน อย่าว่าแต่เราเลยที่ดูไม่ออก ขนาดคนที่ทำงานคลุกคลีกับเครื่องดื่มเหล่านี้ยังสับสนในบางครั้งเลย อย่างกรณีของพนักงานคนนี้ที่เสิร์ฟค็อกเทลให้เด็กน้อย เพราะคิดว่าเป็นน้ำผลไม้ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม Mark Thomas วัย 33 ปี และคู่หมั้นของเขา Kathryn Wilson วัย 29 ปี ได้พาลูกสาวคนเล็ก Evelyn ไปทานอาหารที่ร้าน Frankie & Benny’s ใน Warrington ประเทศอังกฤษ ภายในร้าน พ่อแม่สั่งน้ำผลไม้ที่มีชื่อว่า Fruity Sunrise ให้เด็กหญิง Evelyn วัย 4 ขวบ แต่เกิดความผิดทำให้เธอดื่มค็อกเทลที่มีชื่อว่า F&B On The Beach เข้าไป ทั้งๆ ที่ไม่ได้สั่ง การที่เด็กหญิงก็ดื่มค็อกเทลโดยไม่เอะใจ เพราะมันมีสีและกลิ่นเหมือนน้ำผลไม้ แถมยังมีมาเป็นวุ้นแบบน่ากินอีก แต่เมื่อดื่มเข้าไปปริมาณ 1 ใน 3 ของเครื่องดื่มแล้ว เธอก็ผลักเครื่องดื่มแก้วนี้ออก ครั้งแรกพ่อแม่คิดว่าลูกสาวแค่งอแงเท่านั้นเอง เพราะปกติเธอชอบน้ำผลไม้มากๆ เลยกล่อมให้เธอดื่มต่อไปอีก…ขณะนั้นเองพนักงานคนที่นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟรู้ตัวพอดีว่าเสิร์ฟผิด เลยวิ่งมาที่โต๊ะของ…
-
ช่างแต่งหน้าระดับโลกแปลงโฉมให้สาวๆ เพื่อให้พวกเขามีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง
การแต่งหน้าอาจจะไม่ได้มีความสำคัญเหมือนปัจจัยสี่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแต่งหน้าช่วยให้ผู้หญิงหลายๆ คนมีความมั่นใจมาก รวมทั้งได้รับโอกาสในชีวิตมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ความมั่นใจในที่นี้ขึ้นอยู่กับฝีมือในการละเลงเครื่องสำอางด้วยว่าจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน และหนึ่งในช่างแต่งหน้าที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดคือ Goar Avetisyan Goar เป็นช่างแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก เพราะผลงานของเธอที่ผ่านมานั้นสมบูรณ์แบบอย่างไม่น่าเชื่อ จนบางสื่อบอกว่าเธอสามารถเปลี่ยนให้คนๆ หนึ่งกลายเป็นคนอีกคนได้เลยทีเดียว อย่างที่บอกไปแล้วว่าผู้หญิงหลายๆ คนไม่มีความมั่นใจในใบหน้าตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพึ่งการแต่งหน้าและ Goar เปรียบเสมือนหมอที่จะทำให้สาวๆ หายจากการขาดความมั่นใจ ด้านล่างนี้คือผลงานส่วนหนึ่งช่างแต่งหน้ามืออาชีพคนนี้ ดูและตัดสินด้วยตัวเองเลยว่าทำไมเธอถึงได้รับการยอมรับจากทั่วโลก 1. Julia สูญเสียผมเพราะต้องต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่มั่นใจขึ้นได้ด้วยการแต่งหน้า 2. ภาพของ Hürrem Sultan จากอินสตาแกรมของ Goar Avetisyan 3. Goar บอกว่า “ผู้หญิงทุกคนสามารถสวยเหมือนดาราฮอลีวู้ดได้” 4. Vlada ผ่านการผ่าตัดตามาแล้ว 15 ครั้ง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอสวยเท่ากับการแต่งหน้าครั้งเดียว 5. Goar เห็นผู้หญิงคนนี้ในร้านตัดเย็บเสื้อผ้า เลยมอบของขวัญให้เธอด้วยการแต่งหน้าให้ 6. ครั้งแรกในรอบ 9 ปี ที่ Goar ขอแต่งหน้าให้คุณยายของเธอเอง 7. Anastasia…
-
ชาวเน็ตร่วมกันแชร์สถานที่ลับ ที่พวกเขาซ่อนของมีค่าเอาไว้จากโจร หรือจากเมียก็ได้นะ…
หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องของรักของคุณ หรือกลัวว่าโจรจะขึ้นบ้านมาขโมยของมีค่าไป คุณควรจะเก็บของสิ่งนั้นให้ลับที่สุด ชนิดที่แบบว่าใครก็หาไม่เจอ นอกจากคุณเอง แล้วจะต้องซ่อนยังไงดีหละถึงจะทำให้คนอื่นหาไม่เจอ? วันนี้เราก็เลยหยิบเอาไอเดียสุดเจ๋งที่ชาวเน็ตร่วมกันแชร์มาให้ทุกคนได้ดูกัน รับประกันได้ว่าของมีค่าของคุณจะไม่ไปตกอยู่ในมือศัตรูอย่างแน่นอน 1. ทำห้องลับหลังชั้นวางหนังสือ 2. ลิ้นชักลับใต้หน้าต่าง 3. กล่องลับในบ้านนก 4. ลิ้นชักใต้ชั้นวางหนังสือ 5. ซ่อนในผ้าอ้อมเด็กเมื่อออกไปเที่ยวข้างนอก 6. ห้องลับใต้พื้นบ้าน 7. เจาะรูบนขอบประตู 8. ช่องลับใต้เก้าอี้ 9. ขวดโหลที่เหมือนเต็มไปด้วยธัญพืช 10. ช่องลับในผนัง 11. ชั้นวางหนังสือซ้อนกล 12. เก็บของโปรดไว้ในถุงที่คิดว่าคนอื่นไม่อยากเปิดแน่ๆ 13. ใต้บันไดนี่แหละ ที่ซ่อนที่ดีที่สุด 14. ช่องในผนัง ปิดทับด้วยช่องเสียบปลั๊ก 15. ซ่อนในกรอบรูปก็ไม่เลวนะ…
-
คุณพ่อนั่งวาดภาพลูกสาววันละ 10 ชั่วโมงทุกๆ วัน เพื่อเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำที่แสนงดงาม
พ่อแม่ปัจจุบันมักจะถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอลูกๆ ในทุกวันหรือทุกโอกาสเพื่อที่จะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก เอาไว้ดูตอนคิดถึง หรือเอาไว้ให้พวกเขาดูตอนโต แต่สำหรับ Wan Li คุณพ่อชาวจีนวัย 32 ปี ผู้มีพรสวรรค์ในด้านศิลปะ มีความสุขที่ได้ใช้เวลาไปกับการวาดภาพลูกสาวของเขาเป็นประจำทุกวัน จนกลายเป็นผลงานที่โด่งดังในโลกออนไลน์ สำนักข่าว People’s Daily รายงานว่า Wan ใช้รูปแบบการวาดภาพสีน้ำมันที่รับมาจากตะวันตก ผสมกับเทคนิคการวาดภาพแบบจีนดั้งเดิมในการสร้างสรรค์งานของเขา เขาทุ่มเทอย่างหนักในการทำงาน โดยทุกๆ วัน เขาจะใช้เวลา 8-10 ชั่วโมงในการวาดรูป และต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้ออกมาหนึ่งภาพ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ Wan รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใด เพราะเขารู้สึกในขณะที่วาดรูปลูกสาวนั้น เหมือนเป็นการได้พูดคุยกับพวกเขาไปด้วย ปัจจุบันเขามีภาพวาดของลูกสาวที่งดงามทั้งหมด 15 ภาพ ซึ่งใช้เวลาไป 3 ปี และเน่ื่องจากลูกๆ ยังเด็กเกินไปที่จะเป็นแบบที่ยืนนิ่งๆ ได้ ดังนั้นเขาจึงรูปถ่ายของพวกเขาเป็นแบบแทน ที่เลือกวาดรูปเพราะ Wan เชื่อว่าภาพวาดนั้นดีกว่ารูปถ่าย เนื่องจากมันมีความน่าสนใจและยังสามารถเก็บเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย คุณพ่อบอกว่าเขาไม่อยากเห็นลูกๆ โตขึ้นเลย อยากหยุดเวลาไว้แค่นี้ แต่ความจริงมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นหวังว่าภาพวาดเหล่านี้จะทำให้พวกเขาคิดถึงพ่อแม่เมื่อโตขึ้น …
-
อัปเดตอาการของคุณแม่โดนสามีจามขวานใส่มือ กลับไปเจอลูกๆ อีกครั้ง แต่ปฏิเสธที่จะบอกความจริง
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหารุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม] พ่อแม่หลายๆ คู่ แม้จะทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่บอกความจริงกับลูกๆ เพราะคิดว่าลูกไม่ควรต้องมารับรู้ด้านที่โหดร้ายของชีวิตคู่ เหมือนอย่างหญิงชาวรัสเซียที่ถูกสามีจอมขี้หึงจามขวานใส่มือจนขาดทั้ง 2 ข้าง แต่จนถึงตอนนี้เธอก็เลือกที่จะไม่บอกความจริงกับลูกว่าเกิดอะไรขึ้น อ่านข่าวเก่า สามีหึงโหด จามขวานใส่มือภรรยาจนขาด หลังพบข้อความที่ชายอื่นส่งให้และเคยถูกขอหย่า หลังจากที่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลากว่าสองสัปดาห์ครึ่ง ในที่สุด Margarita Grachyova วัย 25 ปี ก็ได้กลับมากอดลูกชายทั้ง 2 คนอีกครั้ง แม้จะกลับมาในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ก็ตาม คุณหมอได้ช่วยเย็บมือข้างหนึ่งของ Margarita ให้กลับมาเข้าที่เหมือนเดิม แต่อีกข้างหนึ่งไม่สามารถต่อเข้าที่ได้ เนื่องจากได้รับความเสียหายมากเกินไป แน่นอนว่าเมื่อกลับถึงบ้าน ลูกน้อยทั้ง 2 คนก็เกิดความสงสัยว่ามือของแม่หายไปไหนข้างหนึ่ง เพื่อเลี่ยงความจริงอันโหดร้าย เธอจึงบอกพวกเขาว่า ‘มืออีกข้างของแม่จะกลายเป็นมือหุ่นยนต์’ สำหรับสามีของเธอ Dmitry Grachyov วัย 26 ปี ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 15 ปี ในข้อหาทำร้ายร่างกายภรรยา Margarita บอกว่า “ลูกชายของฉัน Dmitry อายุ 5 ขวบ และ Danil…
-
มุ้งลวดพังจนแมลงเข้าบ้าน โชคดีแมงมุมมาชักใยพอดี พ่อหนุ่มก็เลยร่วมมือกับมันซะ!!
ปกติแล้วใยแมงมุมที่อยู่ในบ้านคือสิ่งที่ต้องถูกกำจัดทิ้ง ไม่งั้นมันจะกักเก็บเศษขยะหรือสิ่งสกปรกเต็มไปหมด แต่บางทีบางครั้งการเก็บไว้มีประโยชน์กว่าการกำจัดทิ้งนะ อย่างบ้านของผู้ใช้ Reddit ที่ใช้ชื่อว่า Pezmonstah มีมุ้งลวดครอบหน้าต่างไว้ เพื่อกันไม่ให้แมลงบินเข้ามาได้เวลาที่เปิดหน้าต่าง แต่เมื่อไม่นานนี้เขาพบว่ามุ้งลวดข้างหนึ่งหลุดออกมา ทำให้มีแมลงบินเข้ามาในบ้านเยอะแยะไปหมด แต่ดูเหมือนเขาจะเจอความโชคดี เมื่อมีฮีโร่ตัวน้อยโผล่มาช่วยแบบไม่ได้ตั้งใจ ฮีโร่ที่ว่านี้คือ ‘เจ้าแมงมุม’ นั่นเอง เพราะมันมาชักใยอยู่ตรงที่มุ้งลวดหลุดเป๊ะๆ นั่นเป็นการช่วยดักจับพวกมันแมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยหละ เจ้าของบ้านบอกว่า “ตอนแรกผมตั้งใจที่จะซ่อมมุ้งลวดนะ แต่บังเอิญมีเจ้าแมงมุมมาชักใยตรงนั้นพอดี ผมเลยปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้นโดยไม่เอาออก วิน-วินกันทั้งคู่ ผมให้ที่อยู่มััน มันช่วยดักจับแมลง แถมยังเป็นอาหารให้มันได้ด้วย” “จริงๆ ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าต้องเก็บแมงมุมไว้ในบ้าน แต่ในเมื่อสิ่งที่มันทำเป็นประโยชน์มากกว่า จึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องกำจัดทิ้ง” เจ้าของบ้านกล่าว อย่างที่รู้กันแหละว่าแมงมุมไม่ได้อยู่ในจำพวกสัตว์น่ารักจนต้องเก็บไว้เลี้ยง ที่สำคัญใยของมันยังสร้างความรำคาญใจให้กับเจ้าของบ้านด้วย แต่อย่าลืมนะว่าพวกมันกินแมลง เช่น ยุง ดังนั้นต่อไปนี้ถ้ามีแมงมุมมาสร้างบ้านอยู่ในบ้านของคุณ ให้คิดเสมอว่ามันมาช่วยดักจับแมลงในบ้านให้และคุณควรจะปล่อยมันใว้แบบนั้นแหละ ดีแล้ว (เหรอ) ที่มา thedodo
-
โฉมหน้าของเด็กนักเรียนชั้นไฮสคูล ที่เป็นผู้ค้นพบว่า ‘ไอโฟน’ ทำงานช้าลง
เมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้เราได้ทราบกับข่าวที่เรียกได้ว่าสะเทือนวงการไอทีเลยทีเดียวกับการที่บริษัทมือถือยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Apple ที่ได้ออกมายอมรับว่ามีการใส่ฟีเจอร์ที่ทำให้เครื่องทำงานช้าลงใน iPhone รุ่นเก่าๆ ผ่านทางการอัปเดต iOS อ่านข่าวเก่า: Apple ยอมรับแล้วว่าทำให้ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลง แต่ที่ทำไปก็เพราะหวังดีนะ (เหรอ!?) ซึ่งหลังจากที่ข่าวนี้ได้เผยแพร่ออกไปก็มีผู้คนจำนวนมากออกมาฟ้องบริษัท Apple ถึงการที่ทาง Apple ออกมาทำร้ายผู้ใช้งานด้วยวิธีนี้ หลายๆ คนอาจเคยตั้งประเด็นข้อสงสัยว่าการอัพเดท iOS ทำให้ iPhone ช้าจริงๆ หรือเปล่า ด้วยเหตุนี้ Tyler Barney นักเรียนมัธยมอายุ 17 ปี จึงทำการทดลองเพื่อข่าวลือดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เขาได้ทดลองโดยการใช้แบตเตอรี่เก่ามาใส่ แล้วใช้แอปวัดประสิทธิภาพ Greekbench ทดสอบดู ผลปรากฏว่าได้คะแนนอยู่ที่ 1,466 คะแนนสำหรับการทำงานแบบ Single Core และ 2,512 คะแนนสำหรับการทำงานแบบ Multicore แต่พอเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เขาก็ได้ใช้ตัววัดประสิทธิภาพอีกครั้ง คราวนี้ได้คะแนนอยู่ที่ 2,526 คะแนนสำหรับการทำงานแบบ Single Core และ…
-
เหตุเพราะสงครามน้ำลาย สองหนุ่มนัดกันมาต่อยหมัดสด เลือดอาบทั่วร่าง สุดท้ายจับมือดีกัน
เวลาเราพูดถึงเรื่องการนัดต่อยกัน เราก็มักจะนึกถึงเหล่าวัยรุ่นหรือเด็กๆ ที่มีเรื่องบาดหมางกันบนอินเตอร์เน็ตหรืออะไรก็ตาม แต่ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นเหล่าผู้ใหญ่ที่โตแล้วนัดมาต่อยกันข้างนอก โดยเฉพาะกับชาวต่างชาติ แต่ทีนี้เมื่อมันเกิดขึ้นกับแก๊งไอริชสองแก๊ง เมื่อหลายๆ อย่างมันเข้ามาเกี่ยวเช่นศักดิ์ศรี หรือความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน งานนี้แต่ละแก๊งจึงทนไม่ได้ พร้อมทำคลิปด่ากันไปมาจนสุดท้ายทั้งสองแก๊งตัดสินใจส่งคนของตัวเองมาเพื่อสู้กันด้วยหมัดเปล่าๆ การต่อสู้นั้นถูกเผยแพร่ผ่าน Bare Knuckle Fighting ซึ่งใช้เวลาในการต่อสู้นานกว่า 30 นาที โดยผู้ที่เข้ามาสู้กันในครั้งนี้มีชื่อว่า Davie Joyce และ Michael Navin การต่อสู้ยังถูกจัดขึ้นในช่วงบ่ายสามของวันหนึ่ง บริเวณลานจอดรถร้างในเมือง Hemel Hempstead ประเทศอังกฤษ ที่มีอากาศหนาวเย็นมากๆ เนื่องจากฝนเพิ่งจะตกไปไม่นาน แต่ด้วยเลือดที่มันร้อนอยู่ข้างใน จึงทำให้การต่อสู้ครั้งนี้เดือดจนลืมหนาวกันเลยทีเดียว ในตอนแรกนั้น คนจากทั้งสองแก๊งก็ได้ออกมาอธิบายถึงกฎของการต่อสู้ในครั้งนี้ โดยให้ต่อยกันเท่านั้น ห้ามกอดหรือทำการรัวมัดแบบมั่วๆ ใส่กัน และเมื่อทั้งหมดเห็นว่าทั้งคู่ตกลง การต่อสู้จึงเริ่มขึ้น!! การต่อสู้เป็นไปอย่างช้าๆ เพราะทั้งสองต่างพากันดูเชิง แต่ว่าแต่ละหมัดนั้นหนักแน่นมากๆ และต่อให้เลืือดจะอาบเต็มหน้าหรือเนื้อตัวจะช้ำไปหมดก็ตามพวกเขาก็ยังเดินหน้าสู้กันต่อไป เพราะพวกเขามีชื่อของแก๊งเป็นเดิมพัน หลังจากการต่อสู้ผ่านไป 30 กว่านาที ก็ไม่มีท่าทีจะจบลง สมาชิกอาวุโสจากทั้งสองฝ่ายจึงสั่งให้ทั้ง Davie และ Michael จบการต่อสู้ลงพร้อมกับสั่งให้พวกเขาจับมือกันแม้ทั้งสองจะดูไม่เต็มใจก็ตาม …
-
รู้จักกับ ‘Bike Batman’ ฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมให้กับเหล่านักปั่นบนท้องถนน
ในสังคมที่เต็มไปด้วยหัวขโมยมากมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้ได้กับทุกคน เหมือนอย่างในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ที่มักจะมีจอมโจรขโมยจักรยานอยู่บ่อยครั้ง และนั่นจึงทำให้ฮีโร่คนนี้ไม่สามารถอยู่เฉยได้ เรากำลังพูดถึงฮีโร่ที่ได้รับสมญานามว่า Bike Batman หนุ่มวิศวกรนิรนามวัยประมาณ 30 ปี ผู้ช่วยตามหาจักรยานที่หายไปกลับมาคืนให้กับเจ้าของที่แท้จริง หนุ่มผู้ช่วยตามหาจักรยานมาส่งคืนให้กับเจ้าของ ชายคนนี้เริ่มปฏิบัติภารกิจดังกล่าวในช่วงต้นๆ ยุค 2000s เมื่อเขาเริ่มรู้ตัวว่าในเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยโจรขโมยจักรยาน หลังจากที่ล้อทั้งสองข้างของจักรยานเขาเอง ถูกขโมยไปอย่างไร้ร่องรอย เขาทราบดีว่าตำรวจต้องรับมือกับคดีอาชญากรรมต่างๆ มากมาย ทำให้ไม่มีเวลามากพอจะมาจัดการกับปัญหาเล็กๆ แบบนี้ได้ เขาจึงได้เริ่มใช้ฉายาว่า Bike Batman นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อย่างแรกที่เขาทำคือ เขาเริ่มหาข้อมูลจักรยานที่หายไปในเว็บไซต์ Bike Index ซึ่งเป็นเว็บที่เหล่านักปั่นทั้งหลายมาลงทะเบียนจักรยานของตัวเองเอาไว้ หลังจากนั้นภารกิจแรกของเขาก็ได้ถือกำเนิดขึ้น หลังจากที่เขาเสร็จจากการทำงานเป็นวิศวกรแล้ว เขาก็ขับรถกระบะออกไปตามหาจักรยานที่หายไปนพื้นที่ที่ระบุไว้ภายในเว็บไซต์ทันที จนทำให้เขาได้เจอกับจักรยานคันดังกล่าวที่อยู่ในมือของหัวขโมยสามคน เมื่อเจออย่างนั้น เขาจึงพูดกับเหล่าหัวขโมยว่า “ตอนนี้ตำรวจกำลังเดินทางมาแล้ว พวกนายไม่รอดอย่างแน่นอน ขอแนะนำให้ทิ้งจักรยานไว้แล้วไปซะ” โจรเหล่านั้นจึงวิ่งหายไป และเขาก็ยกจักรยานคันนั้นขึ้นกระบะ ก่อนที่จะส่งมอบถึงมือเจ้าของได้ในที่สุด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หน้าที่นี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งบทบาทหลักของเขา ยามกลางวันเขาคือวิศวกรหนุ่ม…
-
ญี่ปุ่นเตรียมออกกฎใหม่ ให้หนังผู้ใหญ่เรื่องเดิม จะวางขายได้ระยะเวลานานสุดแค่ 5 ปีเท่านั้น!!
นับว่าเป็นการปฏิวัติวงการหนังผู้ใหญ่เลยก็ได้ เมื่อทางองค์กร Japan’s Adult Video Human Rights Organization หรือเรียกง่ายๆ ว่าองค์กรคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของวงการหนังผู้ใหญ่ได้ออกมาปรับเปลี่ยนกฎบางอย่าง เพื่อช่วยเหลือเหล่านักแสดงหนังผู้ใหญ่ในวงการ หลายคนอาจจะคิดว่าการได้แสดงหนังผู้ใหญ่มันคือที่สุดแห่งความสุข คนที่แสดงก็คงชินชาและไม่ได้เดือดร้อนอะไร รวมถึงสังคมญี่ปุ่นก็ดูจะยอมรับการแสดงหนังอย่างว่าอย่างเปิดเผย แต่ในความเป็นจริงมันไม่เป็นแบบนั้น เพราะสังคมญี่ปุ่นบางส่วนยังคงมีรู้สึกด้านลบกับธุรกิจหนังผู้ใหญ่เหล่านี้ แน่นอนว่าต่อให้คุณโด่งดังจากวงการหนังผู้ใหญ่ แต่เมื่อนักแสดงอยากจะออกไปใช้ชีวิตของตัวเอง พวกเธอจะทำยังไง? คนรอบข้างจะรับได้ไหม? สังคมจะมองเธออย่างไรในขณะที่ตัวนักแสดงเองได้ออกจากวงการมาแล้ว แต่ทว่าผลงานของตัวเองยังคงวางขายอยู่บนชั้นดีวีดีตามร้านค้า หรือแม้แต่บนเว็บไซต์ต่างๆ? ด้วยเหตุนี้องค์กรดังกล่าวจึงได้ตั้งกฎใหม่ขึ้นมาว่า หนังผู้ใหญ่ 1 เรื่องจะมีอายุเพียงแค่ 5 ปีหลังเริ่มจัดจำหน่าย หรือ 5 ปี กับอีก 6 เดือนนับจากวันถ่ายทำ ซึ่งกฎนี้จะขึ้นอยู่กับตัวนักแสดงเองว่าเธอเลือกที่จะให้มันส่งผลอย่างไร และกฎจะมีผลทันทีในปี 2018 ส่วนสาเหตุที่ต้องกำหนดแบบนี้ก็เพื่อให้หนังของนักแสดงมีอายุการวางขาย และไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชีวิตหลังรีไทร์ของเหล่านักแสดง เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าแม้หลายคนจะไม่ได้ใช้ชื่อจริงในวงการหนังผู้ใหญ่ แต่หน้าตาก็ยังคงเป็นตัวบ่งบอกอยู่ดี ฉะนั้นเวลานักแสดงต้องการสร้างครอบครัว และไม่อยากให้ประวัติในวงการหนังผู้ใหญ่มาสร้างปัญหา วิธีนี้จึงถือเป็นการลบประวัติของพวกเธอไปอย่างช้าๆ นั่นเอง… ที่มา rocketnews24
-
พรานหนุ่มโรมาเนียถูกยิงเสียชีวิตในป่า หลังเพื่อนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นหมูป่า!?
ในวันคริสต์มาสอีฟปี 2017 อาจเป็นวันที่ใครหลายๆ คนได้เฉลิมฉลองกับเพื่อนหรือครอบครัวกันอย่างมีความสุข แต่มันกลับกลายเป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับของชายคนหนึ่งในประเทศโรมาเนียที่มีชื่อว่า Victor Dinca วัย 31 ปี ในช่วงเทศกาลวันหยุด Victor ต้องการกลับบ้านไปฉลองช่วงคริสต์มาสกับครอบครัวและเพื่อนๆ ในบ้านเกิดที่พ่อของเขาเป็นนายกเทศมนตรีอยู่ แต่แทนที่จะจัดงานเลี้ยงกันเพื่อความสนุกสนานเฮฮา กลายเป็นว่าต้องจัดงานศพให้กับชายคนนี้เสียแทน Victor อาจารย์สอนบัญชีที่มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในเมือง Bucharest เรื่องราวมีอยู่ว่าในเช้าวันคริสต์มาสอีฟ Victor และเพื่อนอีก 7 คน ตัดสินใจเข้าป่าไปล่าสัตว์ในเขต Dambovita ทางตอนใต้ของประเทศโรมาเนีย ในวันนั้นเขาและเพื่อนตั้งใจจะไปล่าหมูป่ากัน แต่ขณะที่กำลังล่ากันอยู่นั้นเอง เพื่อนวัย 41 ปีคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพี่ชายนอกสายเลือดของ Victor ยิงปืนออกไปหมายจะเอาชีวิตหมูป่าที่อยู่ห่างประมาณ 30 เมตร เมื่อวิ่งตามไปดู ศพที่เจอกลับไม่ใช่หมูป่าอย่างที่เขาคิด แต่เป็นร่างของ Victor ที่ถูกกระสุนขนาด 12 มิลลิเมตร พุ่งทะลุหัวใจนอนตายคาที่ จากการเข้าใจผิดของเพื่อน ทำให้นักบัญชีหนุ่มต้องเสียชีวิตลง สร้างความเสียใจให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภรรยาของเขา ซึ่งทั้งสองวางแผนกันเอาไว้ในตอนแรกว่าจะทำพิธีล้างบาปให้กับลูกสาววัย 2…
-
เรื่องสุดสลดใจของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ถูกลักพาตัวไปข่มขืน ในคุกชั้นใต้ดินนานร่วมสัปดาห์
พวกเราส่วนใหญ่เกิดมาได้รับการดูแลจากคนในครอบครัวเป็นอย่างดี แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง เด็กบางคนอาจจะไม่ได้รับความรักหรือความอบอุ่นเสมอไป เพราะพวกเขาต้องเจอกับความโหดร้ายที่มากเกินกว่าใครจะรับรู้ เหมือนอย่างเธอคนนี้ หญิงสาวผู้โชคร้ายที่ชื่อว่า Katie Beers วัย 35 ปี เธอได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวในกระทู้ถามตอบ Reddit AMA เกี่ยวกับการถูกทารุณกรรมทางเพศตั้งแต่เด็ก และการถูกลักพาตัวไปข่มขืนตอนที่อายุเพียงแค่ 9 ขวบ Katie ตอนที่ยังเป็นเด็ก การถูกคุกคามทางเพศเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เธออายุประมาณ 1-2 ขวบ ในตอนนั้นแม่อุปถัมภ์ที่มีศักดิ์เป็นน้า รับเด็กสาวคนนี้ไปเลี้ยงดู แต่แทนที่เธอจะได้เจอกับความรัก ความอบอุ่น มันกลับกลายเป็นความโหดร้ายที่น่าสลด เด็กสาวถูกเลี้ยงดูเยี่ยงทาสและสามีของน้าเธอก็คุกคามเด็กสาวตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา การถูกทารุณกรรมทางเพศเกิดขึ้นยาวนานเกือบ 8 ปีเลยทีเดียว สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือ ในวันที่ 28 ธันวาคม 1992 ก่อนวันเกิดครบรอบ 10 ปีของเธอ ในวันนั้นเธอถูกชายผู้เป็นเพื่อนของคนในครอบครัวลักพาตัวเธอไป และขังเอาไว้ในห้องใต้ดิน พร้อมกับข่มขืนเธอซ้ำไปซ้ำมา ในตอนนั้นเธอต้องเจอกับการคุกคามทางเพศจากคนที่เธอไว้ใจ ชายที่ลักพาตัวเธอไปมีชื่อว่า John Esposito เขาคือคนที่เธอเคยเห็นหน้ามาตั้งแต่เด็กและเรียกเขาว่า Big John ทำให้เธอเชื่อใจเขา หลังจากที่เขามาหลอกเธอว่าจะซื้อของขวัญวันเกิดให้…
-
น้องเหมียวกรามและขาผิดรูป ใช้ชีวิตที่เหลือกับสาวใจดี 3 ปีต่อมา สดใสขึ้นไปอีก…
บางครั้งช่วงเวลาที่ยากลำบากหรือไร้หนทางอาจทำให้เรารู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไป แต่อย่าเพิ่งไปท้อถอยเพราะความหวังสามารถเกิดขึ้นมาได้เสมอ เหมือนอย่างเจ้าแมวตัวนี้ เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Buggy ได้รับการช่วยเหลือในปี 2014 จากกลุ่ม Cats Protection Belfast Adoption Center ในสหราชอาณาจักร เมื่อตอนที่อายุเพียงแค่ 8 สัปดาห์เท่านั้น เจ้าเหมียว Buggy ที่ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มอาสาสมัครผู้แสนใจดี พี่น้องอีกสองตัวที่ได้รับการช่วยเหลือมาพร้อมๆ กัน Claire Harper อาสาสมัครของกลุ่มเล่าว่า “มันมีขนาดตัวที่เล็กกว่าแมวทั่วๆ ไปในวัยเดียวกันมาก ในตอนนั้นมันป่วยเป็นโรคขาดสารอาหาร และไม่สามารถเดินได้ คอยแต่จะตีลังกาอยู่เสมอ ซึ่งเป็นอาการเดียวกันกับพี่น้องของมันอีกสองตัว แต่ Buggy มีอาการที่ร้ายแรงมากที่สุดแล้ว” พวกมันเกิดมามีความผิดปกติทางโครโมโซม กรามของ Buggy คดเคี้ยวผิดรูปทำให้ไม่สามารถอ้าได้ตามปกติ และดวงตาใหญ่กว่าแมวทั่วไป จนเมื่อ Claire ได้มาเจอกับเจ้า Buggy ตอนที่อายุได้ 3 เดือนแล้ว เธอก็ตกหลุมรักมันในทันที แต่ในตอนนั้นเจ้าเหมียวกำลังตกอยู่ในช่วงวิกฤต เพราะสัตวแพทย์ตรวจพบว่าข้อต่อทุกจุดของขาหลังมันผิดรูปร่างไปหมดเลย รวมถึงส่วนสะโพกด้วย…
-
นักพัฒนาแอพฯ ชาวญี่ปุ่นใช้ iPhone X พรางหน้าตัวเอง เนียนจนหายไปเลย งานนี้ถึงกับงง!?
กลายเป็นเรื่องราวที่เรียกเสียงฮาบนโลกออนไลน์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นหนุ่มชาวญี่ปุ่น นามว่า Kazuya Noshiro ได้โพสคลิปวิดีโอสั้นๆ ที่ทำเอาชาวเน็ตถึงกับงงเมื่อเขาได้พรางหน้าตัวเองให้เนียนไปกับสิ่งของด้านหลัง!! แน่นอนว่าการพรางหน้าของหนุ่มรายนี้ยังคงเป็นที่สงสัยของชาวเน็ตมากมายรวมถึงพวกเราด้วย และไม่แน่ว่าเทคนิคการซ่อนใบหน้านี้จะเกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อย่าง iPhone X หรือไม่!! อ่า… งงเด้!? “ฉันสามารถพรางหน้าตัวเองได้ด้วย iPhone X” แคปชั่นจากทวิตเตอร์ของคุณ Kazuya พร้อมกับคลิวิดีโอที่เผยให้เห็นส่วนต่างๆ ในใบหน้าที่กลืนไปกับแสงเหลือเพียงแค่ดวงตากับปากของเขาเท่านั้น หลังจากที่หลายๆ คนเกิดความสงสัย ในที่สุดนักพัฒนาหนุ่มก็ได้ออกมาเฉลยแล้วว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในแอพที่เขากำลังพัฒนาร่วมกับบริษัทเอ็นจินวิดีโอเกมชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่าง Unity การพรางหน้าด้วยแอพพลิเคชั่นสุดเจ๋งของหนุ่มรายนี้ ทำให้หลายๆ คนที่เป็นแฟนๆ เกมอาจจะตื่นเต้นกันแน่ๆ ว่าอีกไม่นานจะมีเกมในรูปแบบล้ำๆ ให้เราได้สัมผัสกันอย่างแน่นอน ไปชมความเนียนในการพางหน้าของพ่อหนุ่มรายนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… (ดูคลิปไม่ได้กด ที่นี่ ) iPhoneXで顔だけ光学迷彩っぽくなるやつできた pic.twitter.com/aPXJcHi8Y4 — のしぷ (@noshipu) 27 ธันวาคม 2560 แหม่… น่าตื่นเต้นจังเลยนะเนี่ย ว่าแต่จะออกมาเป็นเกมแบบไหนกันนะ?? ที่มา designtaxi
-
สองพี่น้องเป็นโรคประหลาด ต้องใส่ชุดอวกาศออกนอกบ้าน มิเช่นนั้นอาจจะเสียชีวิตได้…
มนุษย์ที่เกิดมาบนโลกใบนี้จำนวนหลายพันล้านคนต่างก็มีลักษณะที่แตกต่างกันไปทั้งผิว ตา จมูก ปาก ไม่ซ้ำกันในแต่ละคน แม้แต่กระทั่งฝาแฝดที่เกิดมาจากท้องเดียวกันก็ยังมีความแตกต่างกันได้ แต่คู่ฝาแฝดชาวฝรั่งเศส Vincent และ Thomas Seris นั้นต้องเผชิญกับความพิเศษที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขาทั้งสองนั่นก็คือ โรคเซลล์ผิวหนังไวต่อแสงแดดผิดปกติ (Xeroderma Pigmentosum) หรือเรียกย่อๆ ว่า XP อาการของผู้ป่วยโรคนี้คือจะไม่สามารถสัมผัสกับแสงแดดและแสงอัลตราไวโอเลตได้ ถ้าผิวของพวกเขาสัมผัสกับแสงแดดจะทำให้กลายเป็นจุดไหม้ และพัฒนาไปเป็นมะเร็งผิวหนังอย่างรวดเร็ว หากว่าผิวหนังของคนที่เป็นโรค XP โดนแสงแดด แสงที่ส่องกระทบผิวหนังจะทำลายผิวอย่างรุนแรงเป็นจุดดำและค่อยๆ ลุกลาม หลังจากนั้นจะมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่ายมาก แพทย์ได้วินิจฉัยว่าพี่น้องคู่นี้เป็นโรค XP ตั้งแต่อายุเพียง 2 ขวบ แต่ Vincent เป็นโรคมะเร็งผิวหนังเมื่ออายุ 3 ขวบ Francoise และ Bernard พ่อแม่ของเขาทั้งสองดูแลพวกเขาเป็นอย่างดีด้วยการใส่ตัวกรองแสงยูวีที่หน้าต่างของบ้านทุกบาน ในวัยเด็ก ชายทั้งสองต้องสวมหน้ากากสกี ชุดสูท และถุงมือสีขาวที่ผลิตจาก NASA ซึ่งดูรวมๆ แล้วเหมือนชุดอวกาศ และพวกเขามักจะถูกเรียกว่า “The children…
-
มหากาพย์ตามล่ามือถือที่หายไป ยิ่งกว่า Liam Neeson ตามล่าตัวโจร กว่าจะได้มันเหนื่อย!!
เมื่อมือถือของคุณหาย คุณจะทำอย่างไร!? คุณจะแจ้งความ คุณจะเดินตามหาที่เก่าที่คุณไป หรือคุณจะสวมบทเป็น Liam Neeson แล้วออกตามล่าหาโทรศัทพ์ของคุณเอง ไม่ว่าโทรศัพท์คุณจะอยู่ที่ไหนคุณก็จะหาให้เจอ!! เช่นเดียวกับ Luis Del Valle หนุ่มวัย 29 ปี ผู้ชื่นชอบชายหาดและการไปเที่ยวเทศกาลดนตรี โดยเขาจะใช้เวลาว่างส่วนใหญ่กับการออกไปเที่ยวตามงานดังกล่าวที่จัดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ล่าสุดเขาได้ไปเที่ยวเทศกาลดนตรีบริเวณชายหาดที่เมืองอากาปุลโก ประเทศเม็กซิโก เขาได้วางแผนไปเที่ยวทุกเวที เสพทุกจุดของเทศกาล แต่ว่าด้วยความที่อายุเขาเยอะแล้ว เขาจึงต้องการพักผ่อนในบางช่วง ทีนี้เจ้าตัวก็เลยจัดแจงหาสถานที่เหมาะๆ สำหรับการงีบพักผ่อนระหว่างงานด้วย ซึ่งเขาไปเจอกับบ้านพักเล็กๆ บริเวณชายหาดซึ่งมีคนงีบอยู่เต็มไปหมด เขาจึงพาตัวเองไปงีบเพื่อฟื้นฟูกำลังบ้าง พอเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงเขาก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังกายที่เต็มเปี่ยมกับกระเพาะที่ว่างเปล่า Luis จึงตัดสินใจจะไปหาอะไรกินสักหน่อย แต่วินาทีนั้นเองที่เขารู้ตัวว่ามีบางสิ่งบางอย่างหายไป นั่นก็คือโทรศัพท์มือถือของเขา แน่นอนว่าวินาทีแรกของคนทำของหาย สัญชาตญาณจะบอกให้เรากลับไปเช็กดูที่ๆ เราจากมาทันที ม่ายยยยยยยยย!! เขาวิ่งราวกับตัวเองเป็นเดอะแฟลช หรือราวกับตัวเองเป็นยอดฮีโร่ที่ต้องหลบระเบิดเพื่อตามหาคนช่วยทันที เขาถามยามที่ดูแลบริเวณนั้น ก็ไม่ได้คำตอบอะไรเลย… จำลองภาพเหตุการณ์วิ่งกลับไปจุดเกิดเหตุ เขาตามหาเพื่อนของเขา…
-
กลุ่มเคลื่อนไหวหัวรุนแรงในกรีซ โพสต์ภาพฉีดกรดพิษในอาหาร หวังให้คนแตกตื่น!!
กลายเป็นสถาณการณ์ที่ทำเอาชาวกรีซต้องผวากันเลยทีเดียว หลังจากที่ทางผู้ก่อการร้ายได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาเตรียมที่จะฉีดกรดไฮโดรคลอริกเข้าไปในอาหารที่จำหน่ายในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่างเช่นพวกอาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่ม ทางด้านกลุ่มก่อการณ์ร้ายได้โพสต์ภาพการฉีดกรดดังกล่าวเข้าไปในอาหารอย่างเช่นน้ำอัดลม นม และเนื้อสัตว์ลงโซเชียลมีเดียก่อนจะประกาศนำไปวางในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตในช่วงคริสมาสต์-ปีใหม่นี้ เป็นเหตุทำให้ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตในประเทศหลายแห่งต้องมีการถอดอาหารประเภทดังกล่าวออกจากชั้นเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับการปนเปื้อน ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้ออกประกาศให้ประชาชนในกรุงเอเธนส์และเมืองเทสซาโลนีกี งดซื้อเครื่องดื่มโคคา-โคล่า นมยี่ห้อถ้องถิ่น และเนื้ออัดก้อน ซึ่งมีประชากรมากกว่า 1 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว “เราขอเรียกการกระทำนี้ว่าการก่อการร้าย มันไม่ใช่การเคลื่อนไหวทางการเมือง” นาย Mary Bossis อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัย University of Piraeus กล่าว การกระทำครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มอนาธิปไตยที่ใช้ชื่อว่า Blackgreen Arsonists ซึ่งได้มีการออกแถลงการณ์ว่า “ในหลายวันนี้ชาวคริสต์นับพันจะออกจากที่นอนของพวกเขาเพื่อจับจ่ายซื้อของใช้ที่จำเป็นสำหรับคริสต์มาสและเติมเต็มชีวิตที่ว่างเปล่าของพวกเขาด้วยอาหารขยะที่ห่อหุ้มด้วยถุงที่สวยงาม มีสัตว์จำนวนมากที่ถูกฆ่าเพื่อเฉลิมฉลองความสุขของพวกเขา พวกเขาจะดื่มเลือดจนหยดสุดท้ายเพื่อการเฉลิมฉลองนี้ “ ภาพของการฉีดกรดไฮโดรคลอริกเข้าไปในอาหารและน้ำดื่มที่ทางกลุ่ม Blackgreen Arsonists ได้โพสต์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์ค อย่างที่ทราบกันดีว่ากรดไฮโดรคลอริกนั้นเป็นกรดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงและใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งอันตรายจากการรับประทานกรดชนิดนี้เข้าไปอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนร่างกายอย่าเฉียบพลัน อาเจียนเป็นเลือด และเสียชีวิตได้ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดของกลุ่มนี้ และยังไม่ทราบถึงจุดประสงค์ในการเคลื่อนไหวหรือเป้าหมายที่แน่ชัดของพวกเขา แต่ได้เร่งทำการสืบสวนเพื่อตามหาผู้กระทำผิดโดยเร็วแล้ว… ที่มา odditycentral
-
ถ้าไปชม “ภูเขาไฟฟูจิ” แล้วโดนเมฆบัง โรงแรมแห่งนี้ยินดีให้คุณพักฟรี!! รออะไรตีตั๋วสิงานนี้!!
ภูเขาไฟฟูจิถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น และแน่นอนว่าหนึ่งในเป้าหมายของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่ได้มีโอกาสไปเยือนดินแดนแห่งนี้ และอย่างที่รู้ๆ กันว่าสภาพอากาศนั้นเป็นสิ่งที่มักจะคาดเดาอะไรไม่ค่อยได้ ถึงแม้ว่าจะมีการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำมากแค่ไหนก็ตาม และการที่คุณต้องนั่งชมความสวยงามของเมฆแทนวิวของภูเขาไฟฟูจิผ่านทางห้องพักโรงแรมอาจจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ แต่คุณอาจะโชคดีก็ได้ถ้าหากว่าได้มีโอกาสเข้าพักที่โรงแรม Hotel Mt. Fuji เพราะที่นี่เค้ายินดีจะให้คุณกลับมาพักฟรีๆ ได้อีก 1 คืน หากคุณเจอสภาพอากาศที่แย่ๆ บดบังวิวของภูเขาไฟฟูจิ ทางฝ่ายบริการของทางโรงแรมนั้นเข้าใจความรู้สึกของผู้เขาพักที่ต้องเจอสภาพอากาศแย่ๆ เป็นอย่างดี และมีการคาดว่าในช่วงเดือนมกราคมนั้นลูกค้าอาจจะต้องประสบปัญหาที่ว่านี้ก็ได้ ดังนั้นในช่วงวันที่ 9-19 มกราคมทางโรงแรมจึงได้ออกประกาศให้ลูกค้าสามรถกลับมาพักฟรีได้อีก 1 คืน ถ้าหากเจอสภาพอากาศที่เลวร้ายในระหว่างที่เข้าพักในช่วงเวลาดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามประกาศดังกล่าวนั้นก็มีข้อกำหนดอีกนิดหน่อยนั่นก็คือลูกค้าที่จะได้สิทธิ์ดังกล่าว จะต้องมีการเช็คเอาท์ระหว่าง 7 โมงเช้าถึง 11 โมงเท่านั้น และนอกจากนี้ลูกค้าที่จองห้องพักล่วงหน้าเพียงแค่ 1 วันหรือคนที่ไม่สามารถยืนยันการจองได้ชัดเจนก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้อีกด้วย ห้องพักที่ทางโรงแรมจะให้เข้าพักเพื่อชดเชยนั้นจะเป็นห้องพักแบบมาตรฐาน 2 คน แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถอัพเกรดห้องได้หากมีว่าง โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มเลย แหม่… แบบนี้ถ้าใครมีแผนจะเดินทางไปชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ล่ะก็ โรงแรมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเหมือนกันนะ โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดห้องพักได้ที่เว็บไซต์ mtfuji-hotel ได้เลยครับ บรรยากาศภายในโรงแรม และบริการต่างๆ . .…
-
เผย 16 ขุมทรัพย์ที่คุณหมอพบใน ‘จิมมี่’ ของสาวๆ ตลอดปี ตั้งแต่ไฟท้ายจักรยาน ลามไปถึงหูฟัง!?
นี่ก็ใกล้จะสิ้นปี 2017 แล้ว และตลอดทั้งปีที่ผ่านมาหลายคนอาจเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องร้าย เรื่องดี เรื่องแปลก เรื่องสุดประทับใจและเรื่องฮาๆ ผสมปนเปกันไป… แต่คนที่ต้องเจอเรื่องแปลกๆ ไม่เว้นแต่ละวันก็คงจะเป็นคุณหมอนี่แหละ เพราะนอกจากคนป่วยแล้ว บางวันพวกเขายังคนไข้ที่มาพร้อมกับสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด หรือในบางกรณีก็พบภายในอวัยวะเพศชายด้วย!? โดยสิ่งของพบในช่องคลอดผู้หญิงนั้น ถูกเก็บข้อมูลโดย US Consumer Product Safety Commission (คณะกรรมาธิการความปลอดภัยสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐฯ) จากการตรวจสอบห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลหลายๆ แห่งภายในประเทศสหรัฐอเมริกา โดย 16 สิ่งที่พบบ่อยที่สุดในช่องคลอด ในปี 2017 มีดังต่อไปนี้ 1. สบู่ 2. ฝาขวดระงับกลิ่นกาย 3. ฝาขวด 4. วงแหวนครอบอวัยวะเพศชาย 5. ลูกบอกซิลิโคน 6. ลูกบอล 7. ไฟท้ายจักรยาน 8. ฟองน้ำ 9. หูฟัง 10. ผ้าเย็น 11. โทรศัพท์และเงิน…
-
สาวโดนตั้งข้อหา หลังไปเดตแรกกับหนุ่มแล้วเมาเละ ไปทำลายงานศิลปะมูลค่า 16 ล้านอีก!!
การเมาแล้วขาดสตินั้น ถือเป็นปัจจัยหลักสำหรับการพาใครหลายๆ คนไปสู่จุดตกต่ำของชีวิต เช่นเดียวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้ออกเดตกับชายฐานะดี แต่บังเอิญว่าตัวเองดันเมาขาดสติจนไปพังทรัพย์สินของหนุ่มมูลค่าหลายล้านเข้า งานนี้เรื่องก็เลยจบไม่สวยสักเท่าไหร่ เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2017 เมื่อ Lindy Lou Layman หญิงสาววัย 29 ที่ได้ไปออกเดตกับทนายผู้มีชื่อเสียงของอเมริกานามว่า Anthony Buzbee ซึ่งเขาคนนี้เป็นคนที่มีเงินและทรัพย์สินเยอะพอสมควร โฉมหน้าของแม่สาว Lindy Lou Layman และนี่ก็คือ Anthony Buzbee โดยทั้งคู่ได้พากันไปเดตที่แมนชั่นสุดหรูของ Anthony การเดตก็ดูจะเป็นไปด้วยดีจนกระทั่ง Lindy เริ่มเมา ซึ่งนั่นทำให้ทนายคนดังกล่าวอยากให้หญิงสาวกลับไปพักผ่อนโดยการเรียก Uber ให้หลายครั้ง แต่ดูเธอเหมือนจะเมาหนักและไม่อยากกลับสักเท่าไหร่ วินาทีนั้นเองที่อาการไม่พอใจของเธอเริ่มเกิดขึ้น ซึ่งมันทำให้หญิงสาวอาละวาดหนักจนไปพังทรัพย์สินอันล้ำค่าของ Anthony ทรัพย์สินที่ว่านั้นเป็นงานศิลปะที่วาดโดย Andy Warhol จำนวนสองชิ้น และสามารถตีเป็นมูลค่าได้มากกว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว 16 ล้านบาทเลยทีเดียว ยังไม่หมดเท่านั้น หญิงสาวที่เมาหนักดันไปทำลายรูปปั้นอีกหลายชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นสามารถตีมูลค่าได้มากกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็จะเกือบ 650,000 บาทต่อชิ้นเลยทีเดียว และเมื่อความเสียหายจากความเมาในเดตแรกมันเยอะขนาดนี้ มีหรือที่ทนายคนดังกล่าวจะอยู่เฉย เรื่องก็เลยลุกลามใหญ่โตกันไปจนชั้นศาล แต่อย่างไรก็ตาม Lindy…
-
พ่อแม่ของ 9 เซเลบชื่อดัง ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน แต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ !!
ถ้าหากพูดถึงหนึ่งในรายชื่อของบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของเราล่ะก็ คุณพ่อคุณแม่นั้นอาจจะเป็นหนึ่งในรายชื่อเหล่านั้น ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการถูกอบรมเลี้ยงดูและได้ใกล้ชิดพวกเขานั้นก็มีบางอย่างที่ทำให้เราอยากเป็นเหมือนคุณพ่อคุณแม่เช่นกัน แน่นอนว่าเหล่าดาราเซเลปชื่อดังเองก็เช่นกัน พวกเขาก็มีคุณพ่อคุณแม่ที่คอยดูแลเหมือนกับพวกเรา ซึ่งมันก็มีผลกับชีวิตในวงการของพวกเขาไม่น้อยเลยทีเดียว… Uma Thurma สาวในชุดแท็กสูทสีเหลืองที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เธอเองก็มีคุณพ่อคุณแม่ที่เจ๋งไม่น้อยเลยทีเดียวหล่ะ คุณพ่อของเธอ Robert Thurman นั้นเคยเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่บวชเป็นพระมาก่อน ส่วนคุณแม่ก็เป็นอดีตนางแบบชื่อดังแถมยังเป็นฮิปปี้อีกด้วย!! Leonardo DiCaprio ถึงแม้ว่าทางคุณพ่อจะทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่ Leonardo ยังเป็นเด็กๆ แต่พระเอกหนุ่มของเราก็ยังคงสนิทสนมกับทั้งคุณพ่อและแม่ โดยคุณพ่อ George DiCaprio นั้นถือเป็นคนสำคัญที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาฝีมือการแสดงของเขาเลยทีเดียว “พ่อของผมยังคงชื่นชอบการวาดการ์ตูนของเขาในโรงรถ ทุกวันนี้เขายังใช้ชีวิตเหมือนกับอยู่ในยุค 60’s เขามักจะอ่านบทของผมและช่วยสอนผม” Leonardo กล่าว Jennifer Aniston นักแสดงสาวผู้นี้มีพ่อและแม่เป็นนักแสดงทั้งคู่ แต่ทางนางเอกสาวนั้นจะสนิทกับทางคุณพ่อมากกว่า คุณ John Aniston นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงมากฝีมือที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังเล่นละครเรื่อง Days of Our Lives ที่ออกอากาศมาตั้งแต่ปี 1965 จนถึงทุกวันนี้อีกด้วย Jake Gyllenhaal มาถึงคุณพ่อและคุณแม่ของหนุ่มนัยน์ตาน้ำข้าวผู้นี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน โดยคุณพ่อ Stephen Gyllenhaal ขอเขานั้นเป็นถึงผู้อำนวยการผลิตและผู้กำกับซีรีย์เรื่องดังมากมาย ส่วนทางด้าน Naomi Foner คุณแม่ของ Jake นั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เธอเป็นคนเขียนบทให้หนังฮอลลีวูดมากมาย…
-
คุณแม่ครวญลูกโดนโจรขโมยของขวัญ งานนี้ซีอีโอ Razer จัดคีย์บอร์ดราคา 5,000 ให้เลย!!
แม้คริสต์มาสจะผ่านไปแล้ว แต่กระแสข่าวที่เป็นควันหลงของเทศกาลแห่งความสุขก็ยังไม่หมดไป เมื่อล่าสุดทาง CEO บริษัท Razer ได้ช่วยเหลือวันคริสต์มาสของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เกือบจะสูญเสียความทรงจำดีๆ ไปตลอดกาล Adela Courteille คุณแม่ชาวออสเตรเลียของเด็กน้อยคนดังกล่าวได้เล่าว่า เมื่อคืนก่อนวันคริสต์มาส บ้านของเธอได้ถูกโจรงัดเข้ามาพร้อมขโมยทรัพย์สินไปมากมาย ทั้งบัตรเครดิต โทรศัพท์ แล็ปท็อปและอื่นอีกๆ มากมายซึ่งในนั้นยังรวมถึงของขวัญวันคริสต์มาสของครอบครัวด้วย แต่ที่เจ็บปวดที่สุดคือของขวัญที่ถูกขโมยไปนั้น มันเป็นของขวัญที่ถูกเตรียมไว้ให้ลูกๆ Callum วัย 12 และ Chelsea วัย 18 เดือน ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เด็กๆ เสียใจมาก โดยเฉพาะ Callum ที่อยากจะได้ของขวัญสุดๆ Adela ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “พวกโจรมาขโมยของหลายอย่างไปจากเรา ซึ่งพวกของใช้หรือเครดิตการ์ดไม่ก็โทรศัพท์มือถืออะไรทำนองนี้ฉันเข้าใจนะ แต่ของเล่นจำพวกตุ๊กตาเด็กๆ พวกเขาจะเอาไปทำไม โดยเฉพาะของขวัญลูกชายของฉัน Callum ซึ่งมันเป็นของขวัญที่แพงมากๆ โดยมันเป็นคีย์บอร์ดยี่ห้อ Razer อะไรนี่แหละ” ซึ่งเมื่อราวในครั้งนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทาง Min-Liang Tan ผู้เป็น CEO บริษัท Razer หรือพูดง่ายๆ ก็คือเจ้าของแบรนด์เกมมิ่งเกียร์ที่ถูกขโมยไปได้ยินเรื่องเข้า เขาก็ไม่รอช้าหาทางติดต่อครอบครัวคุณแม่ชาวออสเตรเลียผู้นี้ทันที …
-
เด็กสาวสวยวัย 19 ปี รับงานพิเศษจากเว็บไซต์ พอไปทำงาน กลับถูกฆาตกรรม!?
ในปัจจุบันนักเรียน นักศึกษาหลายๆ คน ไม่ได้เรียนหนังสือเพียงอย่างเดียว พวกเขาเลือกที่จะหางานพิเศษทำไปด้วย เพื่อหารายรับเพิ่มเติม หรือเพื่อเพิ่มประสบการณ์การทำงาน และยิ่งถ้าหน้าตาดี ก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้หางานง่ายด้วย อย่างไรก็ตามเวลานักเรียน นักศึกษาจะหางานอะไรสักอย่างทำควบคู่ไปกับการเรียน เราควรจะตรวจสอบดูให้ดีว่างานที่ทำนั้นเหมาะสมหรือไม่ ทำแล้วปลอดภัยหรือเปล่า เพราะงานบางอย่างนั้นก็อาจะใช้เป็นข้ออ้างเพื่อล่อลวงเยาวชนไปสู่ภัยอันตรายก็เป็นได้ เหยื่อสาว Kristina Prikhodko Kristina Prikhodko เองก็เป็นนักเรียนชาวรัสเซียคนหนึ่งที่ต้องการหาเงินเพิ่มเช่นกัน เธอเป็นเด็กสาวที่มีหน้าตาสะสวย และมักจะโพสต์รูปถ่ายเชิงเซ็กซี่ลงในโซเชี่ยลมีเดียเป็นประจำ แม้คุณพ่อของเธอจะเป็นห่วงว่าภาพเหล่านี้ดูไม่เหมาะสม เธอก็ยังโพสต์ภาพอยู่ดี เธอเห็นโฆษณาชิ้นหนึ่ง ที่ประกาศรับสมัครพี่เลี้ยงในบ้านส่วนตัว โดยรายละเอียดนั้นระบุว่าต้องการสาวๆ ที่มีรูปร่างสวยงามในการทำงานนี้ เธอจึงสมัครงานนี้ไป ในวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมานี้ พอเธอเลิกเรียนแล้ว เธอจึงได้เดินทางไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อสัมภาษณ์งาน แต่หลังจากที่เธอออกจากบ้านไปสัมภาษณ์งานแล้ว เธอก็ขาดการติดต่อไป และไม่ได้กลับไปที่บ้านอีก . พอพ่อของเธอเห็นว่าคืนนั้นเธอไม่ได้กลับไปที่บ้าน จึงรีบแจ้งตำรวจว่าลูกสาวหายตัวไปทันที ตำรวจก็รับเรื่องไว้และช่วยส่งคนออกไปค้นหาเธอในเวลาต่อมา สองวันต่อมา ทีมค้นหาของตำรวจและอาสาสมัคร ก็พบว่าเธอเสียชีวิตอยู่ใกล้กับบริเวณชายหาด River Ob ในเมือง Novosibirsk ประเทศรัสเซีย จากการตรวจสอบดูแล้ว เด็กสาวมีร่องรอยของการมีเพศสัมพันธ์ก่อนจะเสียชีวิต ตำรวจจึงได้สืบสอบหาข้อมูล แล้วระบุตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายหนุ่มอายุ…
-
โคตรฮาร์ดคอร์!! โอตาคุเดินทางไกลร่วม 400 กิโลฯ ด้วย ‘จักรยานแม่บ้าน’ เพื่อร่วมงานอนิเมะ
การจะเข้าร่วมงานเทศกาลต่างๆ ในสมัยนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ เพราะว่าการเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายและมีให้เลือกหลายช่องทางทั้ง รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ เครื่องบิน หรือรถไฟก็ยังได้ แต่ว่าเมื่อเดินทางด้วยยานพาหนะซ้ำๆ มันก็อาจจะสร้างความเบื่อหน่ายขึ้นมาได้ ชายคนหนึ่งจึงปั่นจักรยานไกลกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อเดินทางเข้าร่วมงานอนิเมะ!! ในวันที่ 29 ธันวาคม 2017 เป็นวันเปิดงาน ‘คอมิเก็ตฤดูหนาว’ ซึ่งปกติงานนี้จะเป็นมหกรรมสำหรับเหล่าโอตาคุและเหล่าโดจินชิ (แวดวงการ์ตูนมือสมัครเล่น) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะจัดขึ้นปีละสองครั้ง… และแต่ละครั้งก็จะสามารถดึงดูดผู้คนมากมายจากทั่วประเทศ ให้สามารถมาเข้าร่วมงานได้นับหมื่นนับแสนคนเลยทีเดียว รวมถึงชาวจังหวัดไอชิคนหนึ่ง ที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @DJ_FLANDRE ก็เช่นเดียวกัน จุดสีแดงคือจังหวัดไอชิ จุดเริ่มต้นของการปั่นจักรยานไปจนถึงจุดสีน้ำเงิน นั่นก็คือกรุงโตเกียว โดยระยะทางจากจังหวัดไอชิบ้านของเขา มายังกรุงโตเกียวมีระยะทางห่างกันถึง 400 กิโลเมตร แต่ก็ด้วยเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง จึงทำให้เขาสามารถมายังกรุงโตเกียวได้ด้วยเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทว่าคนๆ นี้กลับทำสิ่งที่เหนือความคาดหมาย เพราะว่าเขาดันตัดสินใจควบจักรยานปั่นมาร่วมงานซะอย่างงั้น!! แต่ยังมีสิ่งที่ทำให้อึ้งมากกว่านี้อีก เพราะหากเป็นจักรยานที่ไว้สำหรับปั่นระยะไกลคุณภาพดี ก็คงจะไม่เหนื่อยสักเท่าไหร่ แต่จักรยานที่เขานำมาใช้ดันเป็นจักรยานแม่บ้านธรรมดาๆ ที่ทั้งหนักทั้งช้า ที่ปกติเหล่าแม่บ้านจะใช้สำหรับการจ่ายตลาดเท่านั้น พาหนะที่ใช้เดินทางกว่า 400 กิโลเมตร โดยชายสุดระห่ำคนนี้ได้เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้าวันคริสต์มาสที่…
-
คู่รักเกย์ต่างวัย 79 และ 24 ปี ถึงขั้นทุ่มใจซื้อห้อง 4 ล้านให้ แต่ได้ปุ๊บเลิกปั๊บ จนคุณตาหมดตัว!?
ในปัจจุบันหลายๆ ประเทศอนุญาตให้คู่รักร่วมเพศแต่งงานกันได้แล้ว จึงมีคู่รักชายรักชายหลายคู่ที่ก่อนหน้านี้แต่งงานกันไม่ได้ ออกมาจัดงานแต่งงานกันอย่างมีความสุข อย่างไรก็ถาม ถึงแม้ว่าจะแต่งงานกันได้แล้วก็ต้องไม่ลืมว่า การจะแต่งงานกันนั้นควรจะดูกันให้ดีด้วย เพราะหากว่าเราคบกันแล้วแต่งงานกันแบบปุบปับแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคู่รักเพศไหนก็อาจจะมีปัญหาความร้าวฉานตามมาในภายหลังได้ เหมือนคู่รักชายรักชายต่างวัยคู่หนึ่งที่กำลังจะพูดถึงนี้ ซึ่งแต่งงานกันได้เพียง 5 เดือนเท่านั้นก็ทะเลาะจนรุนแรงจนต้องแยกกันอยู่ Florin Marin และ Rev Philip Clements Rev Philip Clements อายุ 79 ปีอาศัยอยู่ในเขตเคนต์ ประเทศอังกฤษ เขาเคยเป็นนักบวชมาก่อน จึงไม่เคยเปิดเผยรสนิยมทางเพศของตัวเองตอนที่ทำหน้าที่นักบวชอยู่เลย แต่พอเมื่อเขาเกษียณจากการทำงานแล้ว เขาจึงเปิดเผยว่าเขาเองก็เป็นกลุ่มคนรักร่วมเพศ เขาได้พูดคุยกับ Florin Marin นายแบบชาวโรมาเนียอายุ 24 ปี ผ่านทางเว็บไซต์หาคู่ และรู้สึกชอบพอกันและกัน และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พวกเขาจึงได้แต่งงานและอยู่ร่วมกันฉันท์คู่สามีภรรยา พอได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว Clements ก็เลยมีความคิดที่จะขายบ้านที่ตัวเองเคยอยู่ เพื่อเอาเงินนั้นไปซื้อแฟลตใหม่เพื่ออยู่กับแฟนหนุ่ม ดังนั้นเขาจึงขายบ้านไปในราคาประมาณ 200,000 ปอนด์ (ประมาณเกือบ 10 ล้านบาท) และย้ายไปซื้อแฟลตในกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนียแทน…
-
ชายหนุ่มอัดคลิป โชว์ความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง ‘ทุกวัน’ เป็นระยะเวลาร่วมกว่า 10 ปีเต็ม…
มันคงจะดีนะถ้าเราได้เห็นพัฒนาการของตัวเองตั้งแต่เด็กจนโต จะได้รู้ว่าเรามาไกลแค่ไหน ในแต่ละปีมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง!? เหมือนกับยูทูบเบอร์หนุ่ม Jordan Wilson ที่ได้ทำโปรเจกต์อัดคลิปความเปลี่ยนแปลงของตัวเองทุกวันในช่วงระยะเวลา 10 ปี ซึ่งอาจจะทำให้เราได้รู้ว่าร่างกายของเรานั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพียงแต่ว่าเราอาจไม่ได้สังเกตตัวเองกันเลย… Jordan Wilson เริ่มอัดคลิปครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปี 2007 และได้ถ่ายภาพตัวเองมาเรื่อยๆ ตอนนั้นเขาอายุแค่ 13 ปีเท่านั้น จะเห็นได้ว่าหน้าของเขาดูกลมและเด็กมากๆ แต่หลังจากที่ทำโปรเจกต์มาได้ครึ่งทางหรือประมาณ 5 ปี ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปจนเริ่มสังเกตเห็นได้ชัด โดยที่ร่างกายของเขาเริ่มจะผอมลง และดูคมเข้ม เหมือนชายหนุ่มที่โตเข้าสู่ช่วงผู้ใหญ่ ในวิดีโอที่เขาเผยแพร่ในยูทูบ ชาวเน็ตจะได้เห็นการเติบของเขาตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม ปี 2007 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคมปี 2017 ขณะที่มีอายุ 23 ปี และสิ่งที่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคือทรงผม… ความเปลี่ยนแปลงตลอด 10 ปี ภายในคลิปวิดีโอความยาวเพียงแค่ 4 นาที ตอนเด็กมันจะบวมๆ…
-
คุณแม่ชาวจีนใจสู้ เอาชนะโรคมะเร็งร้ายได้ เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ดูลูกแฝดทั้ง 3 คนเติบโตขึ้น…
ความรักในโลกนี้คงไม่มีรักไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักของแม่ที่มีต่อลูกอีกแล้ว เพราะแม่คือคนเดียวที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก ยอมทุกข์เพื่อให้ลูกสุข ยอมอดเพื่อให้ลูกได้กิน และแม้กระทั่งยอมเจ็บเพื่อให้ลูกสบาย… เหมือนอย่าง Li Shu คุณชาวจีนแม่วัย 34 ปี ที่พยายามเอาชนะโรคมะเร็งร้าย เพื่อที่จะได้ดูแลและเฝ้าดูการเติบโตของลูกแฝดทั้ง 3 คน เรื่องราวของ Li โด่งดังในโลกโซเชียลเมื่อปี 2013 หลังจากที่เธออัดคลิปแสดงความยินล่วงหน้าให้กับลูกแฝดทั้ง 3 สำหรับงานแต่งงานในอนาคต โดยเหตุผลที่เธอต้องทำแบบนั้นเพราะว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง จึงทำให้คิดว่าจะจากไปโลกไปในเร็วๆ นี้ และคงไม่มีโอกาสอยู่แสดงความยินดีในงานสำคัญของลูกสาวทั้ง 3 คน ตามสำนักข่าว CGTN ระบุว่า 4 ปีต่อมา Li ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นข่าวดี เพราะเธอสามารถเอาชนะโรคมะเร็งได้สำเร็จ และกลับไปทำงานที่คลินิกของชุมชนอีกครั้ง ย้อนกลับไปปี 2013 คุณแม่ท่านนี้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร แต่โชคดีที่การผ่าตัดเนื้องอกประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้เธอยังต้องไปรับการตรวจประจำปีที่โรงพยาบาลในเมือง Chongqing ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เธอบอกว่า “ฉันไม่สามารถนอนหลับได้ในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปฉันเริ่มทำใจได้และพยายามออกไปเที่ยวชมทิวทัศน์อันงดงามภายในย่าน Shapingba ทางนายแพทย์ผู้ให้การรักษาคุณแม่ Li ให้การยืนยันว่ามะเร็งของเธอจะไม่กลับอีกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เขาแนะนำให้เธอกินยาและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง…
-
ภรรยารู้สึกตื่นเต้นเกินไป เลยเผลอกัดลูกป๋องแป๋งสามีจนขาดวิ่น ในจังหวะบรรเลงรัก…
ในต่างประเทศจะมี Boxing Day (วันเปิดกล่องของขวัญ) ซึ่งเป็นวันแห่งการให้และการรับ ซึ่งจะตรงกับวันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี เป็นอีกหนึ่งวันพิเศษถัดจากวันคริสมาสต์หนึ่งวัน นั่นหมายความคุณจะให้อะไรกับใครก็ได้ในวันนี้ แต่ไม่รู้ว่าคู่รักชาวไต้หวันคู่นี้มอบอะไรให้กัน ทำเอาฝ่ายชายถูกหามส่งโรงพยาบาลในวัน Boxing Day หลังถูกภรรยากัด ‘ลูกป๋องแป๋ง’ จนขาดระหว่างมีเซ็กส์สุดเร่าร้อน… ตอนแรกที่แพทย์ฉุกเฉินมาถึงแฟลตของพวกเขา ก็เห็นพวกเขารออยู่ข้างในด้วยอาการตื่นตระหนก โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Taichung ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของไต้หวัน ชายแซ่ Wang วัย 51 ปี ยืนสวมเสื้อคลุมและถือลูกอัณฑะไว้ในมือ ในขณะที่ภรรยาแซ่ Hsieh วัย 49 ปี เอาแต่พูดซ้ำๆ ว่า “ฉันเผลอกัดมันจนขาด!!” ทางด้าน Apple Daily เว็บไซต์ข่าวไต้หวันรายงานว่า ลูกอัณฑะของนาย Wang ถูกกัดจนขาดโดยภรรยาของเขา ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุเธอก็รีบโทรเรียกรถพยาบาลให้มาที่บ้านในเวลาประมาณ 02.00 นาฬิกา ของวันที่ 26 ธันวาคม 2017 คลิปจำลองเหตุการณ์ดังกล่าว… สามีถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล Tungs’ Taichung MetroHarbor Hospital…
-
คุณพ่อเซอร์ไพรส์ลูกชาย ด้วยตุ๊กตาที่อัดเสียงของแม่ผู้ล่วงลับไว้ ทำเอาชาวเน็ตน้ำตาซึม…
ในวันคริสต์มาสที่ผ่านมา นอกจากหลายคนจะได้รับของขวัญแล้ว บางคนยังได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาด้วย มันจึงเป็นช่วงเวลาที่วิเศษสุดๆ แต่น่าเศร้าที่ลูกชายของ Antonio Vargas Sr. ต้องฉลองคริสต์มาสโดยไม่มีแม่ผู้เป็นที่รักอยู่เคียงข้างเหมือนอย่างเช่นทุกปี… ด้วยเหตุนี้พ่อจึงเซอร์ไพรส์ลูกชาย Antonio Jr. ด้วยการมอบของขวัญคริสต์มาสสุดพิเศษ ซึ่งเป็นเสียงบันทึกของแม่ผู้ล่วงลับเก็บเอาไว้ภายในตุ๊กตาลิงของลูก และทันทีที่เด็กชายได้ยินเสียงบันทึกของแม่จากตุ๊กตาลิง เขากอดตุ๊กตาตัวนั้นไว้แน่นพร้อมหลั่งน้ำตาแห่งความซาบซึ้งออกมา คุณแม่ของเด็กชายได้จากไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2017 และแน่นอนว่าตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เขายังคงทำใจไม่ได้กับการไม่มีคุณแม่คอยอยู่เคียงข้าง ผู้เป็นพ่อเข้าใจถึงความเจ็บปวดของลูกเป็นอย่างดี เพราะเขาเองก็รู้สึกเสียใจไม่แพ้กัน แม้จะไม่สามารถพาแม่คนเดิมกลับมาได้ แต่เขาก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ลูกชายสุดที่รักใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทางด้านคุณพ่อ Vargas Sr. ได้โพตส์คลิปช่วงเวลาที่มอบของขวัญให้ลูกลงในเฟซบุ๊กของเขา พร้อมระบุข้อความว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่สุด ในฐานะพ่อที่ได้มอบเสียงบันทึกของแม่ให้ลูกชาย” “ภรรยาผม เธอเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 4 เดือนกรกฎาคม 2017 ลูกชายผมคิดถึงแม่ทุกวัน ดังนั้นผมจึงมอบสิ่งนี้ให้เพื่อให้เขาได้ฟังเสียงแม่อีกครั้ง” “ผมกับภรรยามักจะเรียกลูกชายว่าเจ้าลิงน้อย และในวันคริสต์มาสนี้ผมได้ทำให้ฝันของเขาเป็นจริง ผมรักลูกชายของผมด้วยทั้งหมดของหัวใจ พ่อรักลูกนะ” ทุกครั้งที่ Antonio Jr. กดมือ เท้า และท้องของตุ๊กตาลิง จะมีเสียงคุณแม่พูดขึ้นว่า “แม่รักลูกมาก” “มาให้กอดหน่อย แม่รักลูก” “แม่รักลูกมากและรักจะรักเสมอ” และ “บอกเขาด้วยว่าแม่รักเขามาก” หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ไป ชาวเน็ตหลายคนถึงกับน้ำตามซึมตามเด็กชาย บางคนที่สูญเสียแม่บอกว่าอยากได้ยินเสียงแม่อีกสักครั้งเหมือนกับ Antonio Jr.…
-
น้องเหมียวจรจัดตัวปุ้มปุ้ย ช่วยชีวิตเด็กน้อยที่ถูกทิ้งไว้ กลายเป็นวีรบุรุษขวัญใจผู้คนชั่วข้ามคืน
แม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่มีโลกส่วนตัวสูง ค่อนข้างเจ้าอารมณ์ ทำให้เข้าใจได้ยากนัก แต่ว่ามันก็เป็นเพื่อนที่ดีตัวหนึ่งของมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าหากเกิดสถานการณ์คับขันละก็ เจ้าแมวอาจจะสามารถช่วยเหลือคุณได้นะ เหมือนกับเจ้าแมวจรจัดตัวหนึ่งในรัสเซียที่ได้ผ่านไปช่วยชีวิตเด็กทารกเอาไว้ ตอนนี้มันจึงกลายเป็นฮีโร่ในชุมชนแถบนั้นไปเลย แมวเหมียว Masha แมวตัวนี้มีชื่อว่า Masha มันเป็นแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ในแถบชุมชนย่านหนึ่งในประเทศรัสเซีย แม้ว่ามันจะเป็นแมวจรจัด แต่ด้วยความน่ารักและความเป็นมิตรของมัน ทำให้คนในแถบนั้นมักจะเอ็นดูและดูแลมันเสมอ ในวันที่หนาวเหน็บวันหนึ่ง ขณะที่มันเดินอยู่ในพื้นที่ของมันตามปกติ มันบังเอิญไปพบเด็กทารกอายุเพียง 3 เดือนถูกทิ้งไว้ในกล่องกระดาษ มันคงรู้สึกเป็นห่วงว่าเด็กทารกจะหนาวตายเสียก่อน มันจึงกระโดดเข้าไปในกล่อง และใช้ตัวเองเป็นผ้าห่มให้กับทารกคนนั้น แต่มันก็คงจะรู้ดีว่าแค่นี้คงไม่พอจะช่วยชีวิตทารกคนนี้ไว้ได้ มันจึงส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เผื่อมีคนเดินผ่านไปมาในเวลานั้น จะได้เข้ามาช่วยนำทารกคนนี้ไปในที่ปลอดภัยนั่นเอง Irina Lavrova กับเจ้า Masha โชคดีที่ตอนนั้น Irina Lavrova หญิงวัย 68 ปีที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นเดินออกมาทิ้งขยะพอดี พอเธอได้ยินเสียงของเจ้า Masha จึงเดินตามไปหามันดู เพราะปกติแล้วมันจะต้องเดินผ่านบ้านของเธอทุกวัน แต่วันนี้เธอยังไม่เห็นมันเลย เธอบอกกับสำนักข่าวว่า “Masha เป็นแมวที่เชื่องและเป็นมิตรมาก ปกติมันจะผ่านมาที่บ้านของฉันทุกวัน พอฉันได้ยินเสียงร้องของมัน ก็เลยรีบออกไปดูเผื่อว่ามันอาจจะได้รับบาดเจ็บ” พอเธอเดินมาถึงต้นเสียงก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่คิดว่าจะเจอเด็กทารกถูกทิ้งไว้กลางอากาศหนาวเหน็บแบบนี้ เธออธิบายภาพตอนเจอว่า…