Category: ข่าวคราวรอบโลก

  • มีของเก่าในบ้านอย่าเมินเฉย ลองเอาไปตีราคาดูสิ อาจจะพบว่าของพวกนี้ มันแพ๊งงงแพง!!

    มีของเก่าในบ้านอย่าเมินเฉย ลองเอาไปตีราคาดูสิ อาจจะพบว่าของพวกนี้ มันแพ๊งงงแพง!!

    ในบ้านทุกหลังมักจะมีของเก่าหรือของที่เราไม่ได้ใช้งานอยู่ ซึ่งโดยส่วนมากเราก็จะเอาไปกองทิ้งไว้ที่ห้องเก็บของ จะได้ไม่รกบ้าน ในใจหนึ่งก็หวังอยากจะเอาของพวกนี้ไปทิ้งให้พ้นๆ ไปสักที บ้านจะได้ดูสะอาดสะอ้าน แต่ช้าก่อน หากคุณลองค้นดูดีๆ คุณอาจจะเจอสมบัติราคาแพงอยู่ในนั้นก็ได้ เพราะในอดีตเคยมีคนส่วนหนึ่งที่มีของเก่าซึ่งดูไร้ค่าเหล่านี้ไว้ในครอบครอง แต่พอเอาไปตีราคาดูจริงๆ แล้วบางชิ้นนี่แพงหูฉี่ กลายเป็นของทำเงินได้มหาศาลเลยทีเดียว ทางเราได้ลองรวบรวมของบางอย่างที่เข้าข่ายของเก่าที่ว่ามาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันแล้ว เผื่อทุกคนจะได้เห็นภาพมากขึ้นว่าของเก่าแบบไหนกันนะที่จะมีราคาดี   ภาพวาดราคา 390,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากร้านขายของเก่า   Robin Darvell ซื้อภาพวาดเล็กๆ นี้มาจากร้านขายของเก่า ในราคาเพียง 46 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,500 บาท) แต่ในภายหลัง ภาพวาดนี้ถูกตรวจสอบและพบว่าเป็นภาพวาดของจิตรกร John Constable จึงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 390,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 13 ล้านบาท)   ภาพสเกตช์ของ Andy Fields   ในปี 2010 นักธุรกิจชาวอังกฤษ Andy Fields ซื้อภาพวาดจำนวนหนึ่งมาจากร้านขายของเก่าในราคา 5 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 165…

  • นางแบบผิวเผือกชาวเม็กซิกัน ภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น แม้จะไม่เหมือนคนอื่นแต่เฉิดฉายได้

    นางแบบผิวเผือกชาวเม็กซิกัน ภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น แม้จะไม่เหมือนคนอื่นแต่เฉิดฉายได้

    โรคผิวเผือก (Albinism) คือโรคที่เกิดมาจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ลักษณะของผู้ที่เป็นโรคผิวเผือกที่สำคัญๆ คือผิวขาวทั้งตัว มีปัญหาเกี่ยวกับสายตา เส้นผมเป็นสีขาว รวมไปถึงขนตา ขนคิ้วที่ขาวไปหมดทั้งตัว โดยผู้ที่เป็นโรคผิวเผือกจะมีผิวหนังที่ไวต่อแสงมาก เนื่องจากไม่มีเม็ดสีเมลานินที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถหาวิธีรักษาได้   Ruby Vizcarra อายุ 24 ปี หญิงสาวชาวเม็กซิโกผู้เกิดมาพร้อมกับโรคผิวเผือก ได้ออกมาเปิดเผยชีวิตของเธอว่า ชีวิตในตอนเด็กของเธอนั้นไม่ได้สวยงามนัก นั่นคงเป็นเพราะความผิดปกติของร่างกายของเธอนั่นเอง     เด็กสาวผิวเผือกมักถูกแกล้งจากเพื่อนร่วมโรงเรียนสารพัดอย่าง ถูกล้อเลียน ถูกกล่าวหาว่าเป็นผี เป็นตัวประหลาด โดยเธอไม่รู้เลยว่าทำไมเธอถึงเกิดมาเป็นแบบนี้ รู้เพียงว่า ยายและป้าของเธอก็เป็นโรคนี้เหมือนกันและมันได้ส่งต่อมาถึงเธอ เธอไม่รู้วิธีในการดูแลตัวเองในวัยเด็ก บางครั้งเธอต้องปวดแสบปวดร้อนจากการที่ผิวของเธอสัมผัสกับแสงแดด ต้องปิดตาเวลาที่เจอแสงแดดจ้า และโดนสายตาจ้องมองเธอเหมือนเธอเป็นตัวประหลาด     สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เธอรู้สึกไม่อยากจะออกไปนอกบ้าน เกลียดการพบเจอผู้คน และร้องไห้ทุกครั้งที่ได้เห็นตัวเองในกระจก พอถึงช่วงโตเป็นสาวเธอก็เลือกที่จะย้อมสีผม และแต่งหน้าให้เหมือนกับคนปกติ ปกปิดความผิดปกติของเธอไม่ให้ใครได้เห็น จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้ออกไปนอกบ้านตามปกติ มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถามเธอว่า ทำไมเธอถึงมีสีผิวที่ขาวมากๆ แต่แม่ของ Ruby กลับตอบว่า เธอป่วยหนักและเป็นโรคติดต่อ ทำให้เด็กหญิงหวาดกลัวและวิ่งร้องไห้หนีไป   .   เหตุการณ์ในครั้งนั้นมันทำให้เธอฉุกคิดได้ว่า ความจริงเธอไม่ใช่ตัวประหลาด และยังมีคนอีกมากมายที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับโรคที่เธอเป็นอยู่…

  • ห้างจีนเสนอบริการใหม่ ให้เช่าแฟนเดินห้าง งานนี้ไม่มีเหงา แถมมีหนุ่มหล่อเดินตาม!!

    ห้างจีนเสนอบริการใหม่ ให้เช่าแฟนเดินห้าง งานนี้ไม่มีเหงา แถมมีหนุ่มหล่อเดินตาม!!

    ล่าสุดที่ห้างสรรพสินค้าในเมืองไหโข่ว ประเทศจีนก็ได้ออกมานำเสนอสิ่งที่ไม่มีใครเคยคิดมาก่อน นั่นก็คือบริการ ‘แฟนเช่า’ สำหรับสาวโสดทั้งหลายที่อยากจะมีผู้ชายมาเดินชอปปิงข้างๆ โดยบริการแฟนเช่าที่ทางห้างสรรพสินค้าได้ออกมานำเสนอถือว่าตอบโจทย์มากกกกก มันช่างโดนใจสาวโสดอย่างเราซะเหลือเกิน บริการแฟนเช่านี้ พูดได้เลยว่าเขาคัดแล้วคัดอีก คัดแบบเน้นๆ เอาหนุ่มตี๋สุดหล่อกระชากใจมาให้สาวๆ ทั้งหลายได้เลือกชมเลือกเช่าไปเดินชอปปิ้งด้วยแบบใสๆ     เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมาก็ได้มีการเปิดตัวบริการแฟนเช่านี้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองไหโข่ว โดยจะให้บริการพิเศษเฉพาะช่วงคริสต์มาสเท่านั้น ผู้ชายทั้ง 6 คนที่จะมาทำหน้าที่เป็นแฟนชั่วคราวให้กับสาวๆ เนี่ย เขามีอัตราค่าเช่าเพียงแค่ 1 หยวน หรือประมาณ 5 บาทต่อชั่วโมงเท่านั้น     จะบอกไว้ก่อนนะว่า ผู้ชายที่มาทำงานบริการแฟนเช่าเนี่ย หน้าตาดีทุกคน แต่ไม่ใช่ว่าจะเช่าไปทำอะไรก็ได้นะ เขามีข้อแม้อยู่ว่า จะเช่าผู้ชายเนี่ย สามารถเช่าไปเดินชอปปิงด้วยได้เท่านั้น ห้ามนัดแนะติดต่อเพิ่มเติมเด็ดขาด และที่สำคัญ รับรองได้เลยว่าคุณผู้หญิงจะมีความปลอดภัยแน่นอน เพราะชายหนุ่มเหล่านี้จะไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวใดๆ ทั้งสิ้น (ว้าาาาาาา)     ส่วนใครที่กะจะเหมาทั้งวันเลยก็คงจะไม่ได้นะ เพราะว่าเขาจำกัดให้สิทธิ์เพียงแค่ 1 ชั่วโมงต่อคนเท่านั้น ส่วนใครที่สนใจแบบไหน สเป็คไหนก็สามารถไปเลือกหนุ่มๆ ที่รออยู่ในกล่องได้ พอเลือกแล้วก็สแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายเงิน ไปเดินชอปปิ้งกับผู้ชายได้เลย บริการแฟนเช่าได้รับความสนใจจากผู้หญิงหลายร้อยคนที่ได้มาเดินห้างสรรพสินค้าในวันนั้น…

  • พนักงานร้านตัดผมฉุนจัด ปาดปัตตาเลี่ยนเป็นทางยาวและตัดหูลูกค้า ถึงขั้นถูกฟ้องติดคุก!!

    พนักงานร้านตัดผมฉุนจัด ปาดปัตตาเลี่ยนเป็นทางยาวและตัดหูลูกค้า ถึงขั้นถูกฟ้องติดคุก!!

    ก่อนจะเข้าไปใช้บริการร้านตัดผมสักร้าน นอกจากเราต้องดูรีวิวผลงานของร้านแล้ว ยังต้องดูช่างตัดผมด้วยว่าเขาเป็นใคร เป็นคนยังไง หรือเป็นคนที่เคยมีปัญหาอะไรกับเราหรือเปล่า จะได้ไม่รู้สึกผิดหวังในภายหลัง อย่างเช่นในกรณีนี้ เมื่อช่างตัดผมเกิดอาการโมโหและนำอารมณ์มาลงกับลูกค้าวัย 22 ปี ด้วยการปาดปัตตาเลี่ยนกลางหัว แถมยังใช้กรรไกรตัดหูของเขาจนเลือดอาบอีก!!     ตามรายงานข่าวบอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ปี 2017 โดยตำรวจได้จับกุม Khaled A. Shabani ช่างตัดผมวัย 46 ที่ร้าน Ruby’s Salon ในเมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาก่อเหตุทำร้ายลูกค้า ทางด้านลูกค้าวัย 22 ปี ผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้ให้การกับทางกรมตำรวจ Madison Police Department ว่าเขาได้เข้าไปใช้บริการในร้าน Ruby’s Salon เพื่อที่จะตัดผม… “เขาบอกช่างว่าขอใช้ปัตตาเลียนเบอร์ 2 สำหรับตัดผมด้านข้าง และให้ใช้กรรไกรตัดผมด้านบนออก 1 นิ้ว” โฆษกตำรวจ Joel Despain กล่าว     อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ออกมากลับตรงข้ามกับที่ต้องการ เขาอ้างว่าช่างเริ่มบ่นพึมพำด้วยอารมณ์หงุดหงิด พร้อมขยับหัวเขาไปมาแถมยังบิดหูของเขาด้วย จากนั้น Shabani ก็คว้ากรรไกรตัดหูของเขา ตามด้วยการใช้ปัตตาเลียนเบอร์…

  • โรงแรมบังเอิญได้กำแพงน้ำแข็งสุดสวยมาประดับ เพราะท่อน้ำรั่วแล้วอากาศก็เย๊นนเย็น

    โรงแรมบังเอิญได้กำแพงน้ำแข็งสุดสวยมาประดับ เพราะท่อน้ำรั่วแล้วอากาศก็เย๊นนเย็น

    ในหน้าหนาวแบบนี้ พวกเราก็หวังจะได้เห็นหิมะหรือถนนที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งละลานตา แต่ในเมื่อเราอาศัยอยู่ในแถบเมืองร้อน อย่างดีเราก็คงจะได้เห็นแค่ทะเลหมอกหรือว่าแม่คะนิ้งนี่แหละนะ แต่ว่าโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศจีนที่ตั้งอยู่ในเขตที่ไม่มีหิมะ กลับมีกำแพงหิมะปกคลุมยาวตั้งแต่ช่วงบนของโรงแรม และยาวลงมาถึงฐานเลยทีเดียว เหมือนมีแค่บริเวณโรมแรมเท่านั้นที่เป็นเขตเมืองหนาว น่าเหลือเชื่อจริงๆ   อ้าวเฮ้ย มีน้ำแข็งแบบนี้ได้ยังไง   โดยกำแพงน้ำแข็งของโรงแรมนี้ เกิดจากท่อน้ำรั่วจากบริเวณด้านบนของโรงแรม ถึงแม้ว่าปกติจะไม่มีหิมะ แต่อากาศในบริเวณนั้นก็เย็นพอสมควร เมื่อน้ำรั่วลงมาเยอะๆ จึงเยือกแข็งกลายเป็นกำแพงน้ำแข็งขนาดมหึมาแบบนี้ กลายเป็นว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นเขตหน้าหนาวเพียงแห่งเดียวในแถบนั้นไปซะอย่างนั้น คนที่เดินผ่านไปมาก็หยุดดูกันเป็นจำนวนมาก และมีคนเข้าไปเล่นหิมะในนั้นด้วยนะ   รู้สึกเป็นเอลซ่ามากเลยค่ะ   กำแพงน้ำแข็งนี้ก็ไม่ใช่กำแพงเตี้ยๆ เอาไว้แค่เพียงถ่ายรูปได้บรรยากาศแต่อย่างใด ถ้านับความสูงของกำแพงน้ำแข็งนี้จากยอดลงมาถึงพื้นแล้ว มันมีความสูงกว่า 10 เมตรทีเดียว ดูแล้วยิ่งใหญ่มากเหลือเกิน   ใหญ่เกิ๊น   นอกจากกำแพงน้ำแข็งนี้แล้ว ต้นไม้ที่อยู่ใต้โรงแรมนี้ก็กลายเป็นน้ำแข็งด้วยเช่นกัน เสริมสร้างบรรยากาศหน้าหนาวในเมืองนอกได้ดีสุดๆ ไปเลย บอกได้เลยว่า ความบังเอิญน้ำรั่วครั้งนี้ได้สร้างสีสันให้โรงแรมแบบไม่มีใครซ้ำเลยล่ะ   ต้นไม้ยังแข็งไปด้วยเลย บรู๊ววว   คลิปวิดีโอรายงานข่าวจาก China Xinhua News   เห็นแล้วอย่าได้ลอกเลียนแบบเชียวนะ ถ้าทำในประเทศไทย คงไม่ได้กำแพงน้ำแข็งหรอก ที่มา: China Xinhua…

  • หนุ่มบอกเลิกแฟนสาว หลังประสบอุบัติเหตุจนอาจต้องตัดขา แต่ก็ถูกสาวเซอร์ไพรส์กลับ!!

    หนุ่มบอกเลิกแฟนสาว หลังประสบอุบัติเหตุจนอาจต้องตัดขา แต่ก็ถูกสาวเซอร์ไพรส์กลับ!!

    หากว่าแฟนของคุณเกิดอุบัติเหตุและกลายเป็นคนพิการแล้วละก็ คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความลำบากใจ ต่อความสัมพันธ์ในอนาคต จนบางครั้ง พวกเขาตัดสินใจที่จะเลิกรากัน เพื่อไม่ให้ใครต้องเป็นภาระกับใคร เหมือนกับชายจีนคนนี้ที่กำลังจะแต่งงาน ก็บังเอิญประสบอุบัติเหตุจนต้องพิการเช่นกัน เมื่อเขาทราบก็ตัดสินใจเลิกกับแฟนสาวทันทีเพราะไม่อยากเป็นภาระให้เธอ แต่แฟนสาวรักเขามากและได้พิสูจน์แล้วว่าเธอคือคู่ชีวิตของเขา     คู่รักชาวจีนคู่นี้วางแผนที่จะแต่งงานกันในปี 2018 ที่จะถึงนี้ แต่ฝ่ายชายนั้นโชคไม่ดีประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ทางคุณหมอก็บอกกับเขาว่าจำเป็นต้องตัดขาของเขาทิ้งเพื่อรักษาชีวิต เขาจึงต้องกลายเป็นคนพิการ เขารู้ตัวดีว่าหากแต่งงานกับแฟนสาวแล้ว เธอจะต้องลำบากในการดูแลเขาแน่ๆ ด้วยความที่เขาไม่อยากให้แฟนต้องลำบากกับเขาด้วย เขาจึงได้บอกเลิกเธอเสียเลย     แต่ทางฝ่ายหญิงนั้นยังรักฝ่ายชายอยู่ เธอไม่เก็บเอาเรื่องที่เขาต้องตัดขาทิ้งมาคิดมาก เธอจึงจะยังคบกับเขาต่อไป แต่เธอไม่ได้วางแผนขอคืนดีกับเขาหรอกนะ เธออยากเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานกับเขาเลย เธอเตรียมการกับเพื่อนๆ ไว้ว่าจะให้พวกเขาเข้าไปเล่นดนตรีสร้างบรรยากาศให้กับเธอ และให้เพื่อนคนอื่นๆ เข้าไปให้กำลังใจเธอพร้อมทั้งเป็นพยานรักให้ด้วย เมื่อคนอื่นๆ เข้าไปในห้องพักผู้ป่วยของเจ้าบ่าวแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาทันที เขาคงนึกไม่ถึงว่าแฟนสาวจะยังไม่ทิ้งเขาไป แม้ว่าเธอจะต้องลำบากมาดูแลเขาเมื่อใช้ชีวิตคู่ร่วมกันก็ตาม     หลังจากนั้นฝ่ายหญิงจึงเดินเข้ามาในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ พร้อมทั้งถือช่อดอกไม้ไว้ในมือ ท่าทีของเธอนั้นดูประหม่าและหวั่นไหวไม่น้อยเลยทีเดียว จากนั้นเธอจึงขอเจ้าบ่าวแต่งงานทั้งน้ำตา เธอบอกกับเขาว่า “ถ้าเกิดคุณยอมรับฉันเป็นเจ้าสาวแล้วละก็ โปรดรับดอกไม้ช่อนี้ไว้เป็นคำตอบตกลงด้วยเถอะ” ทางด้านฝ่ายชายเอง เห็นถึงความรักที่มั่นคงของฝ่ายหญิงขนาดนี้แล้ว ก็คงไม่มีทางปฏิเสธหรอก เขาจึงรับช่อดอกไม้จากเธอด้วยความเต็มใจ แล้วจึงตอบเธอไปว่า “ผมจะทำทุกวิธีให้ตัวเองหายโดยเร็ว และจะคอยจับมือและฝ่าอุปสรรคไปด้วยกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่”   คลิปวิดีโอตอนเจ้าสาวเข้าไปขอแต่งงานกับเจ้าบ่าว ได้เห็นความรักที่ทั้งคู่มีต่อกันแล้ว…

  • ครบรอบ 100 ปีการ์ตูนญี่ปุ่น พบกับคลิปรวมพัฒนาการการ์ตูนกว่า 100 เรื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    ครบรอบ 100 ปีการ์ตูนญี่ปุ่น พบกับคลิปรวมพัฒนาการการ์ตูนกว่า 100 เรื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    อนิเมะ (Anime) เป็นคำเรียกย่อๆ ของคำว่าแอนิเมชั่นซึ่งมักจะใช้เรียกการ์ตูนของประเทศญี่ปุ่น อนิเมะเองก็ได้รับความนิยมมากมายในเอเชีย และก็มีคนชื่นชอบมากขึ้นเรื่อยให้ทวีปอื่นๆ ด้วย อนิเมะนั้นมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1917 โดยอนิเมะเรื่องแรกนั้นก็คือ Namakura Ganata เป็นเพียงภาพเคลื่อนไหว ที่ไม่มีเสียงเพลงประกอบใดๆ ถือว่าเป็นอนิเมะที่เก่าแก่มากๆ ที่ยังมีต้นฉบับหลงเหลืออยู่ในยุคนี้ และเป็นจุดเริ่มต้นให้อนิเมะเรื่องอื่นๆ เกิดตามมา ตอนนี้ในปี 2017 ก็ถึงเวลาครบรอบ 100 ปีของอนิเมะพอดิบพอดี Association of Japanese Animations (องค์กรที่จะรวบรวมข้อมูลของแอนิเมชั่น) จึงได้ทำวิดีโอรวมอนิเมะความยาว 15 นาทีออกมา เพื่อแสดงถึงพัฒนาการของอนิเมะในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่เรื่องแรกคือ Namakura Ganata จนมาถึงอนิเมะใหม่ๆ อย่าง Your Name   วิดีโอพัฒนาการของอนิเมะญี่ปุ่น   ในคลิปวิดีโอนั้นจะนำภาพฉากสั้นๆ จากอนิเมะแต่ละเรื่องมาเรียงต่อกัน โดยมีลำดับการเรียงตามช่วงเวลาที่อนิเมะถูกสร้างขึ้นมา และแม้ว่าในคลิปจะมีแค่ดนตรีประกอบไร้ซึ่งคำบรรยายใดๆ แต่ก็น่าจะทำให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการของวงการอนิเมะ ค่านิยมและแนวคิดของคนดูในแต่ละช่วงเวลาด้วย อย่างเช่นในช่วงปี 1960 นั้น เป็นช่วงเวลาที่นิยายแนวไซไฟและแนวหุ่นยนต์กำลังได้รับความนิยม อนิเมะที่ออกมาก็เป็นเรื่องในแนวนั้น เช่น Astro Boy,…

  • งานวิจัยของญี่ปุ่น เผยให้เห็นถึงอันดับ ‘สถานีรถไฟ’ ที่มีข่าวฉาวโฉ่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด!!

    งานวิจัยของญี่ปุ่น เผยให้เห็นถึงอันดับ ‘สถานีรถไฟ’ ที่มีข่าวฉาวโฉ่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด!!

    เราอาจจะคุ้นเคยกับการบอกว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก มีเหตุอาชญากรรมเกิดน้อยมาก ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ถูกบอกเล่าผ่านสื่อชั้นนำต่างๆ หลายต่อหลายครั้ง แต่กลับกันในความเป็นจริง คนในประเทศญี่ปุ่นกลับบอกว่าประเทศของพวกเขายังต้องเจอกับปัญหามากมายไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งอาชญากรรมและข่าวฉาวต่างๆ ซึ่งหนึ่งในปัญหายอดฮิตที่คนญี่ปุ่นมักจะเจอนั่นก็คือ การลวนลามทางเพศหรืออะไรก็ตามบนรถไฟ รวมถึงคนน่าสงสัยที่คาดว่าจะมีพฤติกรรมไม่ดีๆ แน่นอนว่าพอพูดแบบนี้หลายคนอาจจะคิดถึงพลอตสุดฮิตในหนังผู้ใหญ่หรือพูดติดตลก แต่ในความเป็นจริงมันไม่ตลกเลย เพราะในโลกความจริงมันส่งผลกระทบหลายอย่างมากๆ และที่สำคัญมันก็ผิดกฎหมายด้วย     และเพื่อชี้ให้เห็นกันชัดๆ ว่าเรื่องดังกล่าวมันเป็นภัยร้ายและเกิดขึ้นจริงๆ แถมยังเกิดไปทุกหนแห่งในญี่ปุ่น ทางสถาบัน JASPIC จึงได้ออกมาเปิดเผยว่ามีการรายงานเกี่ยวกับคนที่น่าสงสัย ซึ่งเกิดขึ้นทั่วประเทศตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนตุลาคมในปีเดียวสูงถึง 11,607 ครั้ง (Japan Suspicious Person Information Centre หรือ JASPIC นั้นเป็นสถาบันที่จะทำการศึกษาและรวบรวมผลรับแจ้งเกี่ยวกับบุคคลน่าสงสัยจากหลายๆ หน่วยงานทั่วญี่ปุ่น) แต่ที่สำคัญที่สุดคือ รายงานทั้ง 4,487 ครั้งล้วนเกิดขึ้นบนรถไฟ ซึ่งคิดเป็นอัตราที่มากกว่า 1 ส่วน 3 จากจำนวนทั้งหมดเสียอีก     โดยสถานีจากจังหวัดไซตะมะนั้นเป็นจังหวัดที่ได้รับการรายงานเข้ามามากที่สุด โดยมีการรายงานเข้ามาถึง 1,711 ครั้ง รองลงมาคือจังหวัดโอซะกะที่มีจำนวนห่างกันพอสมควร 1,227 ครั้ง ส่วนสามอันดับต่อมาอย่าง จังหวัดไอชิ, กรุงโตเกียวและจังหวัดเฮียวโงะ กลับมีอันดับที่ไม่ห่างกันมากซึ่งจะอยู่ที่ 923 ถึง 989    …

  • รายการแปล๊กแปลกของญี่ปุ่น พาไปกำจัดสัตว์ต่างถิ่นออกจากแหล่งน้ำ มีคนดูเยอะเวอร์!!

    รายการแปล๊กแปลกของญี่ปุ่น พาไปกำจัดสัตว์ต่างถิ่นออกจากแหล่งน้ำ มีคนดูเยอะเวอร์!!

    โดยปกติแล้วรายการทีวีทั่วไปที่เราดูผ่านหน้าจอทีวี มักจะมีความน่าสนใจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางรายการอาจจะมีความสนุกสนาน บางรายการนำเสนอสาระน่ารู้ หรือบางรายการอาจจะมีโชว์เด็ดๆ มานำเสนอ เพื่อช่วยให้ผู้คนอยากดู แต่ในญี่ปุ่นมีรายการหนึ่งชื่อว่า Ike no Mizu wo Zenbu Nuku Daisakusen หรือ The Great Plan to Drain All the Water from Ponds มีจุดเด่นที่การนำชนิดพันธุ์ต่างถิ่นออกจากแหล่งน้ำ จุดมุ่งหมายของรายการนี้คือการทำความสะอาดแหล่งน้ำให้ดูน่ามองยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือเพื่อกำจัดชนิดพันธุ์ต่างถิ่นออกไปจากถิ่นที่อยู่เหล่าสัตว์น้ำดั้งเดิมด้วย   บ่อแห่งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยเต่าจากจีน จนทำลายสัตว์ท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในนี้   ที่ต้องริเริ่มกิจกรรมนี้ เพราะตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นประสบปัญหากับชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่เข้ามารุกรานที่อยู่ของสัตว์ในพื้นที่ โดยการนำเข้ามาของนักท่องเที่ยว ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ญี่ปุ่นเริ่มตระหนักถึงปัญหานี้หลังจากค่านิยมของทางยุโรปเข้ามามีอิทธิพลในประเทศ จนทำให้สัตว์ต่างถิ่นมีอัตราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย เพราะมีการนำสัตว์ต่างถิ่นมาเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแรคคูนหรือเต่า ตามรายงานบอกว่าหลังจากที่เลี้ยงไว้สักพัก สัตว์เลี้ยงเหล่าจะถูกปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพราะเจ้าของไม่ต้องการเลี้ยงแล้วหรือบางตัวอาจจะหนีออกไปเอง   เต่าทะเลแดงเป็นสายพันธุ์สัตว์ที่คุกตามสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศญี่ปุ่น   หลังจากนั้นพวกมันก็จะเริ่มสร้างปัญหาในสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น เช่น ทำลายพันธุ์สัตว์พื้นเมือง ทำลายพืชพรรณไม้ ตลอดจนความปลอดภัยของมนุษย์ ทางรายการ Ike no Mizu…

  • โรคร้ายพรากแขนขาของเด็กหญิงไป แต่ก็ไม่ได้หยุดยั้งเธอให้มีความสุขในวันคริสต์มาสได้

    โรคร้ายพรากแขนขาของเด็กหญิงไป แต่ก็ไม่ได้หยุดยั้งเธอให้มีความสุขในวันคริสต์มาสได้

    ไม่มีใครรู้เลยว่าพรุ่งนี้ต้องเจอกับอะไรบ้าง แม้จะวางแผนชีวิตหรือมีเป้าหมายไว้แล้ว แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นอย่างหวังเสมอไป เหมือนกับ Harmonie-Rose Allen เด็กหญิงที่เสียแขนกับขาไปด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ตอนนี้เธอกลับมีช่วงเวลาอันแสนสุขในวันคริสต์สมาส     มันเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจและน่าจดจำมากที่ได้เห็นเด็กหญิง Harmonie เล่นสเกตน้ำแข็งกับครอบครัวของเธอที่ Avon Valley Adventure and Wildlife Park ในซัมเมอร์เซตของสหราชอาณาจักร เด็กหญิงป่วยด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเมื่อเดือนกันยายนปี 2015 ซึ่งเป็นเคสที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่คุณหมอเคยเห็น ก่อนจะสูญเสียแขนและขาไปเพื่อยื้อชีวิต ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเธออายุเพียง 9 เดือนเท่านั้น     การที่เด็กน้อยสามารถเคลื่อนไหวบนลานน้ำแข็งได้นั้น คุณพ่อ Freya และคุณแม่ Ross บอกว่าเธอใช้ขาเทียมในการเคลื่อนตัว ตอนแรกคุณหมอบอกกับครอบครัวว่า อาจจะเป็นเรื่องยากที่ Harmonie จะเคลื่อนไหวบนลานน้ำแข็ง แต่พอไปถึงสนามจริงๆ เธอกลับเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ จนสร้างความประหลาดใจให้ครอบครัวไม่น้อย     นอกจากนี้เสื้อตัวชั้นในที่เธอสวมอยู่นั้นมีช่องระบายอากาศแบบพิเศษ ช่วยให้เธอไม่ลื่นล้ม “ตอนนี้ Harmonie ไม่ชอบใส่ขาเทียมเพราะเธอไม่ชิน ดังนั้นเราจึงให้เธอยืนด้วยขาของเธอเอง เพื่อให้เธอรู้สึกสบายใจ” คุณแม่กล่าว     พ่อแม่ซื้อขาเทียมคู่แรกให้ตั้งแต่ที่เด็กน้อยถูกตัดแขนกับขาออก แต่เมื่อเธอไม่ชอบ ครอบครัวจึงให้เธอมีอิสระในการยืนด้วยขาของตัวเอง เพราะการไม่ใส่ขาเทียม จะช่วยให้เธอมีพัฒนาการในการยืนและสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น     อย่างไรก็ตาม ขาเทียมก็ยังจำเป็นสำหรับ Harmonie…

  • ช่างภาพตามถ่ายภาพ “สัตว์ใกล้สูญพันธุ์” ที่จะหายไปจากโลกภายในระยะเวลาอันใกล้นี้

    ช่างภาพตามถ่ายภาพ “สัตว์ใกล้สูญพันธุ์” ที่จะหายไปจากโลกภายในระยะเวลาอันใกล้นี้

    ในโลกนี้มีสัตว์ป่าหายากหลายชนิด แต่น่าเสียดายที่บางชนิดใกล้จะสูญพันธุ์เต็มทีแล้ว ทั้งๆ ที่เรายังไม่มีโอกาสได้เห็นมันด้วยซ้ำ อย่างในหนังสือ Endangered ของช่างภาพ Tim Flach ซึ่งเป็นการบันทึกภาพสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์เนื่องจากการถูกคุกคาม Tim ได้ออกเดินทางไปทั่วโลก ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งในป่า ทุ่งหญ้าสะวันนา ทะเลขั้วโลก เพื่อสร้างภาพอันทรงพลังของสัตว์ป่าและระบบนิเวศของพวกมันที่กำลังเผชิญกับปัญหาอย่างรุนแรง และนี่คือภาพส่วนหนึ่งของสัตว์ป่าหายากที่คาดว่าจะศูนย์พันธุ์ในอีก 10 ข้างหน้า พวกมันมีความโดดเด่นและน่าสนใจเกินที่จะหายไปจากโลก…   1. ลิ่นต้นไม้ สัตว์ที่มีรูปร่างแปลกๆ นี้อาศัยในป่าดิบชื้นของแอฟริกันสะวันนาจากเซเนกัลไปยังเคนยาและแซมเบียตอนใต้ ลิ่นต้นไม้มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ตั้งแต่ปี 2008 และมีความรุนแรงมากที่สุดในปี 2014 นั่นหมายความว่าหากไม่มีการคุ้มครองพิเศษ ลิ่นต้นไม้มีโอกาสที่จะลดลงถึง 30-50% ภายใน 10-20 ข้างหน้า   2. ลีเมอร์หางแหวน ลีเมอร์หางแหวนสามารถพบได้ในดินแดนที่แห้งแล้งและในป่าทางตอนใต้ของมาดากัสการ์ ทาง The International Union for Conservation of Nature (IUCN) ได้กำหนดให้สัตว์ชนิดนี้ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากจำนวนประชากรของพวกมันลดลงไป 2,000 – 2,400 ตัว ซึ่งมากถึง 95% นับตั้งแต่ปี 2000 ปัจจัยที่ทำให้จำนวนประชากรลีเมอร์หางแหวนลดลง ได้แก่…

  • แข็งเกิ๊น!! มีดสุดคมที่ทำมาจากปลาแห้ง แหมใครจะไปคิดว่ามันจะแข็งได้ขนาดน๊าน

    แข็งเกิ๊น!! มีดสุดคมที่ทำมาจากปลาแห้ง แหมใครจะไปคิดว่ามันจะแข็งได้ขนาดน๊าน

    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในเวลานี้ อาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งอาหารที่มีชื่อเสียงของประเทศนี้ก็มีทั้ง ซูชิ ซาซิมิ ราเม็งและอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยรสอันเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองทำให้มันกลายเป็นอาหารจานโปรดสำหรับใครหลายคน แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารญี่ปุ่นนอกจากจะใช้รับประทานได้แล้ว ยังมีอาหารบางชนิดที่ยังทำเป็นสิ่งของเครื่องใช้ได้อีกด้วย ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากหากจะบอกว่า ปลาตากแห้งของญี่ปุ่นสามารถนำไปทำเป็นมีดที่แสนคมได้ เอ๊ะนี่มันแข็งขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย?? ปลาตากแห้งสุดแหลมคมนี้มีชื่อเรียกว่า Katsuobushi หรือว่าปลาแห้งโบนิโตะนั่นเอง โดยปลาแห้งที่ว่านี้ปกติแล้วจะใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารญี่ปุ่นหลายอย่างเช่น น้ำซุปดาชิ หรือใช้สำหรับโรยหน้าอาหารให้มีกลิ่นหอมและมีรสชาติที่อร่อยมากขึ้น ซึ่งส่วนมากจะใช้สำหรับการโรยหน้า ทาโกะยากิ หรือว่าพิซซ่าญี่ปุ่น   ที่เห็นเป็นขุยๆ ปลิวตามลมใครจะคิดว่ามันสามารถเอาไปทำมีดได้   แต่ว่าก่อนที่จะนำปลาแห้งโบนิโตะไปสไลด์ให้มันเป็นขุยๆ ดั่งในวิดีโอ จริงๆ แล้วมันมีความแข็งจนแทบจะเหมือนหิน จนครั้งหนึ่งมันเคยได้รับการบันทึกว่าเป็นอาหารที่แข็งที่สุดในโลก และด้วยเหตุนี้จึงมีคนอยากนำความแข็งของมันมาลองใช้ในทางอื่นดูบ้าง ว่าผลของมันจะดีเหมือนรสชาติหรือไม่   คลิปวิดีโอการทดลองนำปลาแห้งมาทำเป็นมีด   และผู้ทดลองในครั้งนี้ก็คือยูทูบเบอร์ชื่อว่า Attoteki Fushinsha no Kiwami โดยในตอนเริ่มแรกของวิดีโอ เขาได้สาธิตว่าเจ้าปลาชนิดนี้ว่าแข็งขนาดไหน เขาจึงได้เอามันไปทดลองใช้เป็นค้อนสำหรับการตอกตะปู ซึ่งผลของมันก็ปรากฏว่าใช้ได้ดีจนตอกตะปูแทบจะทะลุไม้เลยทีเดียว   ตะปูแทบงอ   กว่าที่จะได้ปลาแข็งๆ นี้มาเขาบอกว่าต้องใช้กรรมวิธีหลายอย่างทั้งการ นำปลามารมควัน ทำให้แห้งด้วยการตากแดด หรืออบแห้งด้วยการนำมาหมักกับเชื้อรานั่นเอง จากนั้นเมื่อทดสอบความแข็งเสร็จแล้ว หนุ่มคนนี้ก็ลองนำปลาแห้งโบนิโตะมาสไลด์ให้เห็นกันว่า กว่าจะได้เป็นแบบขุยๆ มาให้เรากินกันนั้น หากใช้เครื่องที่ทำด้วยมือมันจะต้องใช้แรงขนาดไหน ซึ่งผลลัพธ์ก็คือกว่าเนื้อมันจะออกมาจากตัวปลาได้ก็ต้องใช้เวลามากประมาณหนึ่งเลยทีเดียว…

  • เค้กเพื่อแฟนๆ ดราก้อนบอลกับ “เค้กหน้าหยำฉา” เหมือนทุกรายละเอียดแม้แต่รอยแตกร้าว!!

    เค้กเพื่อแฟนๆ ดราก้อนบอลกับ “เค้กหน้าหยำฉา” เหมือนทุกรายละเอียดแม้แต่รอยแตกร้าว!!

    ในช่วงคริสต์มาสหรือวันเกิดของใครหลายคนที่ผ่านมา ถ้าเราต้องการเค้กเราจะอยากได้เค้กอะไร? บางคนอาจอยากได้เค้กที่เขียนว่าสุขสันต์วันเกิดหรือสุขสันต์วันคริสต์มาส ทำไมเราถึงไม่อยากลองหาเค้กแบบใหม่ๆ เค้กที่แปลกไม่เหมือนใคร อย่างเช่นถ้าคุณเป็นแฟนดราก้อนบอล ทำไมคุณจะต้องยึดติดว่าต้องทำเค้กโกคู ทำไมต้องเค้กเบจิต้า เพราะพวกเขาเป็นตัวเอกอย่างนั้นนะเหรอ? คุณไม่คิดจะลองมองมาที่เค้กของชายผู้เสียสละทุกอย่าง ตายบ่อยกว่าเพื่อนบ้างเหรอ หยำฉาไง หยำฉาคนดีคนเดิม…     เป็นไง คุณเริ่มคิดถึงหยำฉาบ้างแล้วหรือยัง ถ้าคุณเริ่มคิดถึงเขา คุณอยากเดินออกจากกรอบเปลี่ยนเค้กวันเกิดที่มีตัวหนังสืออยู่บนหน้าให้กลายเป็นเค้กหยำฉาในตำนาน…ฉะนั้นเชิญได้เลยที่ร้าน Manga Bar ในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ที่นี้มีเค้กมากมาย เค้กสุดเจ๋งที่เอาใจเหล่าสาวกตัวการ์ตูนต่างๆ เช่นเดียวกันพวกเขาก็ทำเค้กของหยำฉาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญรายละเอียดยังสวยสุดๆ เลยล่ะ   ตัวเค้กนั้นก็มีส่วนผสมเยอะแยะมากมาย แต่ที่เด็ดสุดคือการใช้ผักบรอกโคลีมาตกแต่งด้วยนี่แหละ   อย่างไรก็ตามแม้ว่าหยำฉาจะตายกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ล้มลงแล้วล้มลงอีก เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ รวมถึงอาจจะไม่ได้เป็นตัวเอกของเรื่องแต่ก็ถือว่ามีบทบาทในโลกดราก้อนบอล เช่นเดียวกับเราที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโลกแห่งความเป็นจริง แต่เราก็ยังไม่ยอมแพ้สู้ในส่วนของตัวเองอย่างถึงที่สุด จงอย่ายอมแพ้ จงลุกขึ้นสู้ให้เหมือนหยำฉา (แต่อย่าตายบ่อยๆ เหมือนเขานะ)     ที่มา rocketnews24

  • จากช่องยูทูบโชว์การบีบสิวแบบฟินๆ Dr. Pimple Popper ตอนนี้ได้เป็นรายการออกทีวีแล้ว!!

    จากช่องยูทูบโชว์การบีบสิวแบบฟินๆ Dr. Pimple Popper ตอนนี้ได้เป็นรายการออกทีวีแล้ว!!

    สำหรับเวลาว่างๆ ของใครบางคน ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้เวลาเหล่านี้ไปกับการอัปเดตข่าวคราวคนรู้จัก ในโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ซึ่งขณะที่กำลังเลื่อนโทรศัพท์อยู่เพลินๆ ใครหลายคนก็ต้องไปผงะเข้ากับคลิปการบีบสิวสุดน่าสยอง ซึ่งสำหรับบางคนก็เป็นที่ชื่นชอบและสำหรับบางคนก็รู้สึกขยะแขยงเจ้าตุ่มไขมันเล็กๆ ที่อยู่ใบหน้าของเรา แต่ดูเหมือนว่าจะมีผู้ชื่นชอบคลิปการบีบสิวนี้มาก จนช่องยูทูบที่มีแต่คลิปการบีบสิวโดยเฉพาะที่ชื่อว่า Dr. Pimple Popping ที่มีผู้ติดตามในตอนนี้มากกว่า 3 ล้านคน กำลังจะกลายเป็นรายการออกทีวีแล้ว!!   Sandra Lee เจ้าของแชนแนล Dr. Pimple Popping   Dr. Pimple Popping เป็นช่องของ Sandra Lee แพทย์ผิวหนังสาวสวยคนหนึ่งในเมืองลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และเธอก็ได้แจ้งข่าวดีนี้ให้แก่ยูทูบเบอร์ทุกคนที่ติดตามเธออยู่ได้รับรู้ไปพร้อมๆ กัน     “สวัสดีผู้รักการบีบสิวทั้งหลาย วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ และพวกคุณรู้ไหมว่าอะไรทำให้ฉันบอกว่าวันนี้เป็นวันที่ดี นั่นก็เพราะฉันจะมีรายการทีวียังไงล่ะ ซึ่งต้องติดตามดูให้ดีเพราะว่าฉันมีทีเด็ดรอพวกคุณอยู่แน่นอน บอกใบ้ให้นิดนึงก็ได้ว่า ในรายการนั้นจะมีทั้งเบื้องหลังเบื้องลึกของการทำงานของฉัน ซึ่งมันจะมีอะไรและน่าตื่นเต้นแค่ไหน ต้องขออุบเอาไว้ก่อนแต่อย่าลืมติดตามชมกันล่ะ” Lee กล่าว โดย Lee ได้ผลิตวิดีโอมาให้ผู้คนทั้งโลกได้ชมแล้วกว่าเป็นร้อยๆ คลิป โดยรายการทีวีใหม่ของเธอที่สร้างขึ้นมานี้จะมาในรูปแบบของเกมโชว์ โดยใช้ชื่อว่า This Is Zit ซึ่งจะออกอากาศในช่อง TLC โดยจะออกอากาศรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 3 มกราคม…

  • ปีก่อนโดนพี่สาวแกล้ง ปีนี้เลยขอเอาคืน นี่คงเป็นการแกะกล่องของขวัญที่ยากที่สุดในโลกแล้วล่ะมั้ง!?

    ปีก่อนโดนพี่สาวแกล้ง ปีนี้เลยขอเอาคืน นี่คงเป็นการแกะกล่องของขวัญที่ยากที่สุดในโลกแล้วล่ะมั้ง!?

    พอถึงเทศกาลปีใหม่แล้ว ก็เป็นเรื่องธรรมดา ทุกคนก็จะเอาของขวัญมาแลกกัน เราเองก็ชอบแลกของขวัญมากเลย เพราะจะได้ลุ้นว่าจะจับได้ของขวัญแบบไหนกันนะ ได้ของคนที่เล็งไว้หรือเปล่า ซึ่งถือเป็นสีสันของวันปีใหม่อย่างหนึ่งเลย แต่อีกส่วนหนึ่งก็หวั่นใจเหมือนกัน เพราะในงานแลกของขวัญแทบทุกงาน มักจะมีมือดีชอบให้ของขวัญแบบเกรียนๆ อยู่ด้วย โดยของขวัญที่นำมานั้นก็จะเอาไว้แกล้งกันหรือแลกเอาฮามากกว่าได้ใช้งาน ซึ่งในบางครั้งของขวัญที่ได้มาก็ทำเอาเหวอเลยทีเดียว ผู้ใช้งาน Imgur ที่ใช้ชื่อว่า Gileriodekel เองก็โดนพี่สาวแกล้งมาเหมือนกัน โดยปีที่แล้วเขาได้ช็อกโกแลตที่ห่อมาซะแน่นปึ๊กเลย กว่าจะแกะได้เหนื่อยปางตาย ปีนี้เลยกะจะแก้แค้นพี่สาวด้วยห่อของขวัญหนาปึ๊กของเขาบ้าง   ของขวัญปีที่แล้วของ Gileriodekel ที่ได้จากพี่สาว   ปีนี้เขาและภรรยาจะเอาลูกโบว์ลิ่งให้พี่สาว น้ำหนักกำลังดี เหมาะเป็นของขวัญหลอก   แต่ก็ไม่ได้ใจร้ายหรอกนะ ถ้าพี่สาวแกะแล้วหารหัสในโน๊ตที่เสียบไว้เจอ ก็จะเอาของขวัญดีๆ ให้อีกทีเอง   แต่คงต้องเหนื่อยหน่อยนะ เพราะห่อด้วยแร๊ปใสหลายชั้นเลย   แร๊ปใสมันยังยากไม่พอ ทาเนยขาวลงไปด้วยจะได้ลื่นๆ ถือไม่อยู่มือ   ชั้นแรกๆ ก็โปะบางๆ ก่อน   แล้วก็เพิ่มเนยขาวเข้าไปมากขึ้นเรื่อยๆ ทีละชั้น ทีละชั้น หึหึ   หนาจนเอานิ้วกดลงไปได้ลึกเลย หมดเลยไปเป็นกล่องแล้วมั้งเนี่ย   นี่ยังแค่เริ่มต้นเท่านั้น เราจะมาพันกันต่อด้วยเทปกาว!  …

  • เด็กสาวป่วยเป็นโรคประหลาด หากหกล้มจะทำให้เธอเสียชีวิตทันที แต่ก็ยังไม่พ้นการถูกกลั่นแกล้ง

    เด็กสาวป่วยเป็นโรคประหลาด หากหกล้มจะทำให้เธอเสียชีวิตทันที แต่ก็ยังไม่พ้นการถูกกลั่นแกล้ง

    ว่ากันว่า ลาภอันประเสริฐที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิตก็คือ การไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ซึ่งก็อาจจะจริงอย่างที่ว่ากัน เพราะว่าในสมัยนี้เชื้อโรคใหม่ๆ ได้เกิดขึ้นทุกวันและเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเกินกว่าใครจะนึกถึง ปัจจุบันโลกของเราจึงเต็มไปด้วยคนป่วยจากโรคต่างๆ มากมาย ทั้งจากเชื้อโรคหรือการส่งต่อทางพันธุกรรม… สำหรับโรคที่ส่งต่อกันทางพันธุกรรมนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นโรคที่รักษาได้ยากกว่าโรคที่เกิดขึ้นทั่วๆ ไป และอาจก่อให้เกิดอาการแปลกๆ ที่เราอาจไม่เคยรู้จักได้ด้วย และก็มีเด็กสาวคนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคทางพันธุกรรมที่แปลกชนิดที่ว่า แทบจะไม่มีใครเป็นในโลกเป็น     เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา โดย Cath Carter ผู้เป็นแม่ของ Lauren Stribling เด็กสาววัย 13 ปีผู้ป่วยเป็นโรคดังกล่าวเป็นผู้เล่าให้ฟัง โดยเธอบอกว่าลูกสาวของเธอป่วยเป็นโรคที่เรียกว่า มาร์แฟน ซินโดรม (Marfan syndrome) ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับระบบเนื้อเยื่อที่อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ปอดและหัวใจจนถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งพี่สาวของเธอ (ป้าของ Lauren) และแม่ของเธอ (ยายของ Lauren) ก็เสียชีวิตลงเพราะมีโรคนี้เป็นสาเหตุ     สำหรับโรคมาร์แฟน ซินโดรม คือกลุ่มอาการที่เกิดความผิดปกติขึ้นที่เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ที่อาจก่อนให้เกิดอันตรายต่อหัวใจและปอด ซึ่งมันรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้หากหกล้มเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และนั่นคือสิ่งที่ Cath เป็นห่วง เพราะว่าในตอนนี้ลูกสาวของเธอกำลังถูกรังแกโดยเพื่อนๆ ที่โรงเรียน โดยกลุ่มคนเหล่านั้นเชื่อว่าโรคที่ Lauren กำลังเผชิญอยู่เป็นสิ่งที่เธอสร้างเรื่องมาเพื่อหลอกคนอื่น แม้ว่าเธอจะมีแขนขาที่ยาว ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของโรคนี้ก็ตาม…

  • สาวฝากหมาให้พ่อช่วยเลี้ยง พ่อของเธอจึงได้เอามาสร้างเป็นเรื่องราวสุดน่ารักซะเลย

    สาวฝากหมาให้พ่อช่วยเลี้ยง พ่อของเธอจึงได้เอามาสร้างเป็นเรื่องราวสุดน่ารักซะเลย

    เมื่อเราเลี้ยงสัตว์แล้วมีความจำเป็นต้องไปต่างจังหวัด หรือต้องเดินทางไปต่างประเทศ ก็เป็นธรรมดาที่เราต้องเป็นห่วงว่าเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรามันจะอยู่จะกินอย่างไรกันนะ ถ้าจะเอาไปฝากร้านรับฝากก็กลัวว่าสัตว์เลี้ยงของเราจะไม่มีความสุขและต้องอยู่ในกรงอย่างเดียว หลายคนจึงได้คิดค้นวิธีแก้ปัญหานี้ โดยเอาไปฝากพ่อแม่เลี้ยงเพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเราอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงาซะเลย   หญิงสาวผู้มีความจำเป็นต้องเดินทางไปนครนิวยอร์ก   หญิงสาวชื่อว่า Meghan Specksgoor ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีเหตุจำเป็นจะต้องเดินทางไปนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอจึงได้เอาหมาของเธอชื่อว่า Chance ไปฝากเอาไว้กับพ่อของเธอให้ช่วยดูแลมันให้หน่อย ด้วยความเป็นห่วงว่าคนแก่อย่างพ่อของเธอจะสามารถรับมือกับเจ้าหมาแสนซนได้หรือไม่ เธอจึงถามไถ่ถึงสารทุกข์สุขดิบเป็นประจำ แต่ทว่าข้อความที่เธอได้รับจากพ่อของเธอมันกลับเป็นเรื่องราวสุดน่ารักที่ทำให้เธอยิ้มไม่หุบ จนอดที่จะเอามาแบ่งปันกับโลกออนไลน์ไม่ได้ โดยเธอได้โพสต์ข้อความระหว่างเธอกับพ่อลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวซึ่งในตอนนี้มีคนกดไลก์มากกว่า 150,000 คนแล้ว ซึ่งความน่ารักของพ่อเธอที่ว่านี้ก็คือ เขาได้สร้างเรื่องราวให้กับกิจกรรมระหว่างที่เขาทำกับเจ้า Chance ระหว่างวันที่เขาได้ดูแลมัน และดูเหมือนว่าเจ้าหมาตัวนี้จะทำให้คุณปู่คนนี้กลับกลายเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมันจะเป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องราวนี้จะมีความน่ารักขนาดไหนมาลองดูกันเลยดีกว่า   เธอรักหมาของเธอมาก แต่ก็มีความจำเป็นจะต้องเอาไปฝากไว้กับพ่อของเธอให้ช่วยดูแลให้หน่อย   และนี่คือข้อความแรกที่พ่อของเธอได้เริ่มเล่นสนุกขึ้นกับเจ้าหมาตัวนี้ โดยเขาได้พิมพ์ข้อความมาหาเธอว่า “คุณปู่อยากรู้ว่าผมกินอะไรได้บ้าง แถมตอนนี้เราก็หิวกันสุดๆ เลยล่ะ”   “หวัดดีฮับแม่ นี่หนูอีกแล้ว วันนี้เราออกไปปิกนิกด้วยกันและกำลังไปร้านทำเล็บ คุณปู่บอกว่าถ้าหนูทำตัวดี วันนี้จะได้กินไอติมด้วยล่ะ”   “ขอโทษที่ต้องรบกวนแม่อีกแล้ว แต่หนูคิดว่าหนูอยากออกไปเที่ยวกับคุณปู่บ่อยๆ จัง”   “แม่จ๋า วันนี้คุณปู่จะนอนกับหนูด้วย มีอะไรอยากจะฝากบอกเขาไหม หวังว่าแม่จะสนุกเหมือนกับพวกเราในตอนนี้นะ อิอิ เจอกันพรุ่งนี้และราตรีสวัสดิ์นะแม่จ๋า…

  • ซิงเกิลมัมบังเอิญถ่ายภาพเจ้าชายอังกฤษทั้งสองและชายาได้อย่างงดงาม จนใครก็ขอซื้อ

    ซิงเกิลมัมบังเอิญถ่ายภาพเจ้าชายอังกฤษทั้งสองและชายาได้อย่างงดงาม จนใครก็ขอซื้อ

    การถ่ายรูปไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เราจะต้องทำการจัดมุมกล้อง ลองดูว่าแสงเหมาะสมต่อการถ่ายรูปไหม ต้องจัดตำแหน่งองค์ประกอบให้นายแบบนางแบบ แล้วหาจังหวะจับภาพในขณะที่ทุกคนดูดี ถ้าไม่ใช่มืออาชีพละก็กว่าจะถ่ายได้รูปสวยๆ สักรูปหนึ่งคงเหนื่อยกันน่าดูเลย แต่ก็มีหญิงคนโชคดีคนหนึ่ง บังเอิญถ่ายรูปของเชื้อพระวงศ์ออกมาได้สวยงามมากๆ ทั้งที่ไม่มีการจัดฉากหรือนัดแนะใดๆ ดูเป็นธรรมชาติมากเลย รูปของเธอจึงเป็นที่อิจฉาของตากล้องและสื่อมากมายทีเดียว   รูปของเจ้าชายวิลเลี่ยมและแคเธอริน ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และเจ้าชายแฮรี่กับเมแกน มาร์เคิล   แคเรน แอนวิล คุณแม่อายุ 39 ปี อาศัยอยู่ใน Watlington เขต Norfolk ประเทศอังกฤษ เธอเป็นคนที่บังเอิญถ่ายรูปของ ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และ เจ้าชายแฮรี่ กับ เมแกน มาร์เคิล ออกมาได้อย่างสวยงามแบบไม่น่าเชื่อ ในรูปถ่ายนั้นเชื้อพระวงศ์ทั้งสี่คนกำลังเยี่ยมเยียนประชาชนในโอกาสเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสประจำปีอยู่ โดยพวกเขาเดินเคียงข้างกันอย่างพร้อมเพรียง และก็ประจวบเหมาะว่าพวกเขาหันมายิ้มให้กับกล้องของแคเรนกันทุกคน เธอจึงได้ภาพที่สมบูรณ์แบบใบนี้มา Karen เล่าว่าเธอและลูกสาวเคยมางานฉลองคริสต์มาสประจำปีเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น และเมื่อปีที่แล้วเธอกับลูกสาวก็ไม่ได้มางาน เนื่องจากตัวเธอสุขภาพไม่ค่อยดี   แคเรน แอนวิลและลูกสาว   ตอนปีที่แล้วพวกเธอทำได้เพียงนั่งดูงานเฉลิมฉลองอยู่ที่บ้านผ่านทางโทรทัศน์เท่านั้น เธอเล่าว่า “ตอนนั้นเรากำลังนั่งชมงานเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสผ่านทาง Sky News และลูกสาวของฉันก็บอกว่าอยากไปงานบ้าง ฉันจึงตอบเธอไปว่าถ้าปีหน้าฉันสุขภาพดีแล้วเราจะไปงานด้วยกัน“ พอมาปีนี้เธอจึงได้มีโอกาสมางานกับลูกสาว และก็ได้รูปถ่ายใบนี้ติดไม้ติดมือกลับมาด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะได้รูปถ่ายที่ดูดีขนาดนี้มาโดยบังเอิญ Karen…

  • คุณลุงเก็บของขวัญวันคริสต์มาสที่ได้จากแฟนเก่า ไว้ที่เดิมและไม่เคยเปิดมันมาตลอด เกือบ 50 ปี

    คุณลุงเก็บของขวัญวันคริสต์มาสที่ได้จากแฟนเก่า ไว้ที่เดิมและไม่เคยเปิดมันมาตลอด เกือบ 50 ปี

    ในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมาหลายคนคงจะได้มอบของขวัญให้กับคนพิเศษ หรือได้รับของขวัญจากใครสักคน แน่นอนว่าทุกครั้งที่เราให้ไป โดยเฉพาะเวลาเราเป็นคนได้รับ เราคงจะอดใจไม่ไหวที่จะแกะของขวัญออกมาดูให้ไวที่สุด แต่กับคุณลุง Adrian Pearce ชาวแคนาดากลับไม่ทำแบบนั้น เขายังคงเก็บของขวัญจากแฟนสาวที่ได้รับเมื่อปี 1970 ไว้อย่างดีโดยไม่ได้แกะมันออกมาดูเลย ซึ่งนับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 47 ปีแล้วนั่นเอง และแน่นอนว่าการทำแบบนี้นั้นย่อมมีสาเหตุและเรื่องราวตามมาเสมอ แต่ที่น่าแปลกใจคือมันกลับไม่ใช่เรื่องราวดีๆ     ของขวัญดังกล่าวที่คุณลุง Adrian ได้มานั้น มันมาจากแฟนสาวที่เขาตั้งใจจะคบอย่างจริงจังเป็นคนแรก ซึ่งเธอมีชื่อว่า Vicki เชื่อไหมว่าวันที่เขาได้รับของขวัญจากเธอ มันคือวันเดียวกับที่เธอตัดสินใจทิ้งเขาไป Adrian ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เธอให้ของขวัญผมจากนั้นเธอก็ขอเลิกกับผม ซึ่งผมช็อกมากๆ แต่ผมก็เดินกลับบ้านมาพร้อมกับของขวัญของเธอ ระหว่างทางที่ผมเดินกลับนั้นผมทั้งหัวเสียและโกรธเธอมากๆ แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีคนขอเลิกกับคุณ” “วันนั้นเป็นวันคริสต์มาส ซึ่งของขวัญทุกชิ้นในครอบครัวก็จะถูกนำมากองรวมๆ กันและแกะมันออกเพื่อแบ่งปันความสุข แต่จนแล้วจนรอดของขวัญของเธอก็กลายเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายในบ้านผมที่ไม่ได้แกะออกในวันนั้น ผมบอกกับครอบครัวว่าผมจะไม่แกะมันเด็ดขาด”     และก็อย่างที่ทราบกันเวลาผ่านไป 47 ปี อย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ยังห้ามใจไม่แกะมันได้ ซึ่งในความเป็นจริงเขาเล่าว่าเขาเคยเกือบจะแกะมันหลายต่อหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะตอนที่เขาอ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเล่าว่ามีช่วงหนึ่งน้องสาวของ Vicki เคยติดต่อมาหาเขาด้วย โดยเธอเล่าว่าพี่สาวของเธออยากจะกลับมาคุยกับเขาอีกครั้ง แต่วินาทีนั้น Adrian รู้ว่าเขาไม่อยากกลับไปคบกับเธออีก เพราะเขารู้ได้ว่าเขาน่าจะถูกทิ้งอีกครั้งแน่ๆ ซึ่งตัวเขาไม่อยากรับความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว…     อย่างไรก็ตาม Adrian บอกว่าเขาตื่นเต้นเหมือนกันนะว่ามันคืออะไร…

  • หนุ่มหลอกสาวคู่เดตไปแทง 88 ครั้ง หลังโดนหัวเราะเยาะเย้ย เมื่อรู้ว่าเขาไม่ใช่นักธุรกิจ!!

    หนุ่มหลอกสาวคู่เดตไปแทง 88 ครั้ง หลังโดนหัวเราะเยาะเย้ย เมื่อรู้ว่าเขาไม่ใช่นักธุรกิจ!!

    เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2017 สำนักข่าว Dailymail ได้นำเสนอข่าวพบร่างนักสกีสาวชาวรัสเซียถูกแทงเสียชีวิตอยู่ภายในรถ Mini Cooper ของเธอเอง เหตุเกิดที่หมู่บ้าน Ust mana แถบไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย หลังจากที่ได้พบร่างของ Irina Kozlova นักสกีสาววัย 34 ปี ทางตำรวจได้ทำการสืบสวนคดีนี้อย่างเร่งด่วน จนกระทั่งหลักฐานสามารถบ่งชี้ตัวคนร้ายที่เป็นผู้ลงมือฆาตกรรมเธอ นั่นก็คือนาย Evgeny Markov เขาได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจว่าเขาเป็นผู้ลงมือฆ่าเธอด้วยตัวของเขาเอง สาเหตุเนื่องมาจากบันดาลโทสะ…   Irina Kozlova ผู้เสียชีวิต   เขาเริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับ Irina ผู้เสียชีวิตว่า เขาได้รู้จักกับเธอมาสักพักหนึ่งแล้วและได้ทำการพูดคุยเพื่อที่จะสานสัมพันธ์ ทั้งคู่ตกลงไปเดตกันโดยที่ผู้เสียชีวิตทราบเพียงว่านาย Evgeny เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่กำลังประสบความสำเร็จ   นาย Evgeny ผู้ลงมือฆ่า   แต่ทว่าความจริงนั้นเขาไม่ได้เป็นนักธุรกิจ เขาคือคนล้างรถในคาร์แคร์แห่งหนึ่ง ซึ่งเขาก็ได้บอกกับทางตำรวจต่อว่า เขาตัดสินใจพูดความจริงนี้กับเธอในขณะที่กำลังออกเดตกัน โดยความจริงที่เขาได้พูดต่อหน้าเธอนั้น ทำให้นักสกีสาวหัวเราะเยาะเย้ยเขาอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ได้เก็บอาการไว้ แต่ภายในใจนั้นโกรธแค้นเป็นอย่างมาก จึงได้ชวนเธอออกไปขับรถเล่น โดยให้เธอได้ปิดตาเอาไว้…

  • คุณตาประกาศหาตามหาครอบครัวให้รับไปอยู่ด้วย เพราะเขาไม่อยากจากโลกนี้ไปเพียงลำพัง

    คุณตาประกาศหาตามหาครอบครัวให้รับไปอยู่ด้วย เพราะเขาไม่อยากจากโลกนี้ไปเพียงลำพัง

    ช่วงบั้นปลายของชีวิต ไม่ว่าใครก็คงอยากจะใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายบนโลกนี้อย่างมีความสุข แต่ทว่าปัญหาที่เกิดอยู่ในตอนนี้นั่นก็คือการทอดทิ้งผู้สูงอายุให้อยู่ตามลำพังมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น นับได้ว่าเป็นสถิติที่ดูแล้วน่าสลดใจเหลือเกิน อย่างเช่นคุณตา Han อายุ 85 ปี ที่อาศัยอยู่ในนครเทียนจิน ทางตอนเหนือของประเทศจีน คุณตาพักอยู่ที่บ้านพักคนชราแห่งหนึ่งโดยที่ไม่ได้รับการติดต่อจากลูกหลานเลย     ชีวิตในบั้นปลายของคุณตาในบ้านพักคนชรา คุณตาคงจะรู้สึกเหงาไม่น้อยที่ต้องเผชิญกับชีวิตลำพังแบบนี้ เดิมทีนั้นคุณตามีลูกชาย 2 คนแต่คนหนึ่งได้ย้ายไปอยู่ที่ประเทศแคนาดากับครอบครัวบุญธรรมตั้งแต่ปี 2003 ส่วนอีกคนหนึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลในท้องถิ่น นานๆ ทีจะกลับมาเยี่ยมเขาบ้างเป็นครั้งคราว     คุณตาอยากจะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตแบบมีความสุข เขาไม่อยากจากโลกนี้ไปท่ามกลางความเดียวดายในบ้านพักคนชรา จึงได้ทำการเขียนประกาศด้วยลายมือของเขาเองเพื่อประกาศหาครอบครัวที่จะรับเขาไปอยู่ด้วย   .   ในใบประกาศได้บอกไว้ว่า เขาต้องการเพียงแค่ครอบครัวที่จะอยู่กับเขาในเวลาสุดท้ายก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป เขาเป็นคนที่แข็งแรงและสามารถดูแลตัวเองได้ และจะไม่รบกวนเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆ ใบประกาศนี้ถูกติดไว้พร้อมกับถูกถ่ายทอดเรื่องราวลงบนโลกออนไลน์     คุณตาเป็นอดีตพนักงานของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ หลังจากปลดเกษียณแล้วเขาได้รับเงินบำนาญเดือนละ 6,000 หยวน หรือประมาณ 30,000 บาท แต่เงินที่เขาได้มานั้นก็คงไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ถ้าหากไม่มีลูกหลานคอยอยู่เคียงข้าง     เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ไปในเว็บไซต์ Weibo ชุมชนออนไลน์ของประเทศจีน ซึ่งก็มีผู้ที่มาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก เช่น “ฉันจะไม่ปล่อยให้พ่อแม่ของฉันต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้แน่ๆ” “ที่เป็นแบบนี้เพราะคนชรามีเพิ่มขึ้นเยอะขึ้นในสังคม”…

  • ไม่น่าเชื่อ เพื่อนรักที่คบกันมานานกว่า 60 ปี เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน

    ไม่น่าเชื่อ เพื่อนรักที่คบกันมานานกว่า 60 ปี เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน

    คนทุกคนย่อมต้องมีเพื่อนสนิทอย่างน้อยสักคนแน่นอน อาจจะเป็นเพื่อนที่ชอบออกไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุด เพื่อนที่คุณสามารถระบายความในใจและขอคำปรึกษาได้ หรือเพื่อนที่รู้ใจเราไปเสียหมด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเพื่อนเพศเดียวกัน และคนคนนั้นก็จะทำให้คุณรู้สึกว่าชีวิตคุณขาดเขาไปคงจะเงียบเหงาน่าดูเลยทีเดียว จึงอาจจะพูดได้ว่าเพื่อนสนิทนั้นเป็นคนที่คุณรักเหมือนพี่น้องแท้ๆ ก็ไม่ปาน แต่ถ้าเพื่อนสนิทของคุณเกิดเป็นพี่น้องแท้ๆ ขึ้นมาจริงๆ ล่ะ จะรู้สึกอย่างไร   Alan Robinson และ Walter Macfarlane   Alan Robinson และ Walter Macfarlane รู้จักกันมาตั้งแต่ตอนเรียนเกรด 6 (เทียบเท่าชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในประเทศไทย) ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน และคบกันยาวนานจนตอนนี้ทั้งคู่คบกันมากว่า 60 ปีแล้ว Alan นั้นถูกรับเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงไม่รู้ว่าเขามีพี่น้องบ้างหรือไม่และพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาเป็นใคร แต่เขาต้องการที่จะรู้ให้ได้ จึงต้องได้หาข้อมูลเท่าที่จะหาได้มาตลอด เขาให้สัมภาษณ์กับทาง KHON2 ว่า “ผมคงไม่มีมีญาติเหลือแล้วมั้ง” ส่วน Walter เองก็อยู่กับแม่มาตั้งแต่เด็กโดยไม่รู้ว่าใครคือพ่อของเขา ซึ่งเขาเองก็อยากรู้เบาะแสว่าพ่อแท้ๆ ของตัวเองเป็นใครเช่นกัน จึงได้พยายามหาวิธีตรวจสอบทางอินเตอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณพ่อดู   Cindy Macfarlane-Flores ลูกสาวของ Walter   Cindy Macfarlane-Flores ลูกสาวของ…

  • เล่นเฟซบุ๊กบ่อยๆ ทันข่าวทันโลก แต่นี่คือ 7 เหตุผลจากนักจิตวิทยา ว่าคุณควรพักเล่นมันซะบ้าง!!

    เล่นเฟซบุ๊กบ่อยๆ ทันข่าวทันโลก แต่นี่คือ 7 เหตุผลจากนักจิตวิทยา ว่าคุณควรพักเล่นมันซะบ้าง!!

    ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่ใช้งานโซเชี่ยลมีเดียยักษ์ใหญ่ชื่อดังอย่าง เฟซบุ๊ก หรอก เพราะมันทำให้เรื่องยุ่งยากในชีวิตเราง่ายไปเสียหมด อยากจะติดต่อพูดคุยกับเพื่อนก็ทำได้ในทันที หรือจะติดตามความเคลื่อนไหวของคนรู้จักก็ทำได้ไม่ยาก แม้แต่ซื้อขายของก็ยังทำกันบนเฟซบุ๊กเลย แต่ทุกสิ่งในโลกก็เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน มีข้อดีอยู่ในตัว ก็ต้องมีข้อเสียแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน ดังที่นักวิจัยท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า เฟซบุ๊กแฝงไปด้วยปัญหาด้านจิตวิทยา และปัญหาเหล่านี้ก็มองเห็นได้ยาก และปัญหาเหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กมีสุขภาพย่ำแย่ลง โดยตีเป็นปัญหาได้ 7 ข้อหลักๆ ดังนี้     1. เฟซบุ๊กทำให้คุณรู้สึกว่าชีวิตคุณไม่ดีเท่าคนอื่น นักจิตวิทยาด้านสังคม Leon Festinger ได้ทำการสังเกตผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนใหญ่ และพบว่าทุกคนมักจะทำการเปรียบเทียบชีวิตเพื่อนที่เห็นในเฟซบุ๊กกับชีวิตของตนเองอยู่เสมอและมักจะรู้สึกว่าตนเองมีชีวิตไม่ดีเท่าเพื่อนคนอื่นๆ เพราะส่วนมากพวกเขาจะโพสต์ภาพที่ได้ไปกินอาหารหรูๆ ภาพได้ไปเที่ยวต่างประเทศ และภาพตอนเกิดเรื่องดีๆ กับชีวิต 2. ข้อนี้เป็นผลต่อเนื่องกันจากข้อหนึ่ง คือเฟซบุ๊กทำให้คุณรู้สึกอิจฉาเรื่องดีๆ ของเพื่อนนั่นเอง โดยนักวิจัยได้ค้นพบว่าการได้เห็นเรื่องดีๆ ของคนอื่นผ่านทางการเลื่อนดูนิวฟี๊ดทำให้คุณเกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นและอาจจะทำให้คุณรู้สึกเศร้าหรือหดหู่ได้     3. เฟซบุ๊กทำให้คุณเข้าใจผิดเกี่ยวกับความคิดเห็นของคนส่วนมาก นั่นเป็นเพราะเฟซบุ๊กมักจะนำเสนอเนื้อหาที่เราชอบติดตาม ซึ่งส่วนหนึ่งนับว่าเป็นความคิดเห็นและรสนิยมส่วนตัวของเราเอง และพอเราเห็นข้อมูลเหล่านี้บ่อยๆ แล้ว เราก็จะคิดว่าคนส่วนมากคิดเช่นนั้นเหมือนกัน 4. เฟซบุ๊กทำให้คุณรู้ความเป็นไปของคนที่คุณอยากลืม ซึ่งตัวอย่างที่ชัดที่สุดคงจะเป็นแฟนเก่านั่นแหละ เพราะเรามักจะเห็นภาพแฟนเก่าผ่านทางนิวฟี๊ด และแม้ว่าเราจะไม่ได้ติดตามเขาแล้วก็ตาม เราก็ยังมีโอกาสที่จะเข้าไปส่องดูเฟซบุ๊กของเขาอยู่ดีนั่นแหละ ซึ่งมันทำให้คุณตัดขาดจากเขาได้ยากยิ่งขึ้น     5. เฟซบุ๊กอาจทำให้คุณเกิดความอิจฉาแฟนก็ได้ นักวิจัยชี้ว่าหากเราดูเฟซบุ๊กของแฟนบ่อยๆละก็ เราก็จะเห็นว่ามีใครติดตามหรือกดไลค์แฟนเราอยู่บ่อยๆ ซึ่งอาจทำเราอิจฉา…

  • คุณผู้ชายต้องหลั่งน้ำกันอย่างน้อยกี่ครั้ง ถึงจะรอดพ้นจากการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก!?

    คุณผู้ชายต้องหลั่งน้ำกันอย่างน้อยกี่ครั้ง ถึงจะรอดพ้นจากการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก!?

    วันนี้เรามีข่าวดีมาบอกคุณผู้ชายทั้งหลายแล้ว เพราะมีผลวิจัยออกมาแล้วว่า ยิ่งผู้ชายถึงจุดสุดยอดกันบ่อย จะยิ่งทำให้มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากกันน้อยลงมากๆ เลยนะ ทีนี้ท่านชายทุกคนก็มีข้ออ้างที่จะเล่นกีฬาในร่ม (หรือบางคนจะทำกลางแจ้งก็ได้) กันบ่อยมากขึ้นแล้วล่ะ ไม่ว่าจะเล่นคนเดียว หรือจะเล่นร่วมกับคู่ก็ยิ่งดี     จาก งานวิจัย หลายๆ ฉบับเราจึงรู้ว่าการหลั่งน้ำกามระหว่างการมีเซ็กส์ การช่วยตัวเอง หรือแม้แต่ตอนฝันเปียกเอง สามารถลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดย งานวิจัยในปี 2016 นั้นได้ทำการสำรวจกลุ่มข้อมูลของชาย 32,000 คนตั้งแต่ปี 1992 จนถึงปี 2010 จากผลการรวบรวมข้อมูล สามารถสรุปได้ว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีอายุในช่วง 20 ปี และทำการหลั่งน้ำกามอย่างน้อย 21 ครั้งต่อเดือน มีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าคนในวัยเดียวกันที่หลั่งน้ำกามน้อยกว่า 8 ครั้งต่อเดือนถึง 19 เปอร์เซ็นต์ และหากเปลี่ยนไปสังเกตที่กลุ่มข้อมูลชายที่มีอายุในช่วง 40 ปีแทนแล้วละก็ เปอร์เซ็นต์การเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากจะน้อยกว่าถึง 22 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว     Jennifer Rider ผู้ทำการวิจัยยังบอกอีกว่า “จากผลการวิจัยของเรา สามารถสรุปได้ว่าการหลั่งน้ำกามและการมีพฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัย มีประโยชน์ต่อการลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากอย่างแน่นอน” นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจากประเทศออสเตรเลียที่สนับสนุนแนวคิดนี้อีก โดยการทดลองนี้เก็บข้อมูลจากชาย…

  • เมื่อคนยุคใหม่มีลูกช้าลง และนี่คือ 4 เหตุผลที่บอกว่ามีลูกตอน 35 อาจจะดีกว่าตอน 25 นะเธอ!!

    เมื่อคนยุคใหม่มีลูกช้าลง และนี่คือ 4 เหตุผลที่บอกว่ามีลูกตอน 35 อาจจะดีกว่าตอน 25 นะเธอ!!

    คุณผู้หญิงทั้งหลายคงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ว่าหากจะมีลูกละก็ ควรมีลูกก่อนอายุ 30 ปี เพราะร่างกายจะยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรง ยังไม่ทรุดโทรมจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสแท้งบุตรน้อยกว่าตั้งท้องตอนอายุมากอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมีบุตรได้ก่อนอายุ 30 ปี เพราะบางคนยังไม่เจอเนื้อคู่เลยด้วยซ้ำ หรือแม้ว่าบางคนจะมีคนรักแล้ว แต่ก็อาจจะยังไม่แน่ใจว่าเป็นคนที่ควรลูกด้วยหรือเปล่า จึงมีคุณแม่กลุ่มหนึ่งที่มีลูกหลังอายุ 35 ปีไปแล้ว ซึ่งคุณหมอเรียกคุณแม่กลุ่มนี้ว่า geriatric primagravida ปัจจุบัน ด้วยความที่มีคุณแม่จำนวนมากมีบุตรหลังอายุ 35 ปี ทางแพทย์จึงได้ออกมาชี้แนะกับคุณแม่ในกลุ่มนี้ฟังว่า มีลูกช้าก็ไม่ได้แย่สักหน่อย แถมยังมีข้อดีอยู่ด้วยนะ     ในปัจจุบัน ได้มีสถิติจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ (Office for National Statistics)  จากประเทศอังกฤษออกมาว่าคุณแม่ที่ให้กำเนิดบุตรหลังอายุ 35 ปีมีจำนวนมากกว่าคุณแม่ที่ให้กำเนิดบุตรก่อนอายุ 25 ปีแล้ว ถึงแม้ว่ากลุ่มคุณแม่ที่ให้กำเนิดบุตรมากที่สุด ซึ่งคิดเป็นจำนวน 59 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในช่วงอายุ 25 ถึง 34 ปีก็ตาม แต่คุณแม่ที่ให้กำเนิดบุตรหลังอายุ 35 ปี นั้นมีจำนวนมากถึง 21 เปอร์เซ็นต์…

  • ภรรยาจัดปาร์ตี้งานเลี้ยง เพื่อขอบคุณสามีที่เป็นฝ่ายไป ‘ทำหมัน’ เพื่อควบคุมการมีบุตร

    ภรรยาจัดปาร์ตี้งานเลี้ยง เพื่อขอบคุณสามีที่เป็นฝ่ายไป ‘ทำหมัน’ เพื่อควบคุมการมีบุตร

    สำหรับคู่รักหลายๆ คู่ ก่อนจะมีลูกแต่ละคนต้องวางแผนกันดีๆ เพราะว่าการมีลูกเพิ่มแต่ละคน หมายถึงค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วยนั่นเอง ดังนั้นหลายครอบครัวที่มีลูกด้วยกันแล้ว จึงวางแผนที่จะทำหมันกันเพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้มีลูกเพิ่มอีก แต่สำหรับผู้ชายแล้ว การที่จะให้คุณหมอมาผ่ามาตัดบริเวณเป้านั้น แค่ฟังแล้วนึกตามก็เสียวจนหดหมดแล้ว ดังนั้นการที่สามีคนหนึ่งยอมเป็นฝ่ายไปทำหมันเสียเอง จึงทำให้ภรรยารู้สึกว่าเขาช่างเสียสละเหลือเกิน และควรจะได้รับอะไรตอบแทนบ้างเพื่อเป็นการขอบคุณ   ไปสู่สุคติซะนะ อสุจิคุง   Jason และ Kimberly Hemperly มีลูกชายหนึ่งคน และลูกสาวอีกหนึ่งคน ทั้งคู่คิดว่ามีลูกแค่สองคนก็พอแล้วล่ะ จึงตัดสินใจจะทำหมันกัน และสามีของเธอก็เป็นสุภาพบุรุษพอจะเสนอตัวเป็นคนทำหมันเสียเอง ฝ่ายสามีรู้สึกว่าตนควรจะเสียสละแทนภรรยา เนื่องจากเธอเคยผ่านการผ่าตัดตอนคลอดลูกมาแล้วถึงสองครั้ง และเขาไม่อยากให้ร่างกายของเธอรับภาระไปผ่าตัดทำหมันอีกเป็นครั้งที่สาม การยอมไปผ่าตัดเพื่อตัดท่อน้ำเชื้อจึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับครอบครัว พอภรรยารู้ว่าสามีของเธอยอมโดนผ่าเจ้าหนูขนาดนี้แล้ว เธอก็รู้สึกปลื้มมากในความใส่ใจของสามี เธอคิดว่าคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการตอบแทนแล้วให้กำลังใจเขาแล้วล่ะ ซึ่งสิ่งที่เธอทำก็คือการจัดปาร์ตี้ ‘กระปู๋’ เพื่อคุณพ่อยอดชายนั่นเอง     โดยในปาร์ตี้นั้นจะมีอาหารและขนมที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับกระปู๋ของคุณชาย ไม่ว่าจะเป็นเค้ก ลูกชิ้น ไส้กรอก กล้วย และขนมอื่นๆ ที่มีลักษณะเหมือนลึงค์ อัณฑะ และอสุจินั่นเอง ใครได้เห็นเป็นต้องอมยิ้มในความตลกและน่ารักของอาหารพวกนี้แน่ๆ ส่วนสามีนั้นก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าภรรยาจะจัดปาร์ตี้ให้กับตัวเอง พอกลับมาจากที่ทำงาน ก็เลยประหลาดใจใหญ่เลย ไม่นึกว่าภรรยาจะทำให้ขนาดนี้ ภรรยาเล่าว่า “สามีฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันวางแผนจัดปาร์ตี้มาให้ตั้งนานแล้ว พอเขาเลิกงานมาในวันอาทิตย์ เขาก็ตกใจมาก เขาบอกว่าปาร์ตี้นี้ดูใส่ใจ…

  • บ่าวสาวชวนกันไปถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้ง โดนเพื่อนเจ้าบ่าวแย่งซีนซะหมดเลย แหม๊ งานตรูนะโว้ยยย!!

    บ่าวสาวชวนกันไปถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้ง โดนเพื่อนเจ้าบ่าวแย่งซีนซะหมดเลย แหม๊ งานตรูนะโว้ยยย!!

    งานแต่งงานเป็นงานสำคัญของคู่รักบ่าวสาว เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนสองคนกำลังจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน และเริ่มต้นชีวิตคู่ร่วมกันอย่างเป็นทางการ คนรอบตัวเองก็ต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน เพราะคนสองคนนั้นจะไม่ใช่แฟนกันอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นสามีภรรยา ในช่วงเวลาสำคัญของบ่าวสาวแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่ทั้งคู่จะให้ความสำคัญกับงานแต่งงานมาก เลยไม่ค่อยมีเวลาให้เพื่อนสนิท จึงอาจทำให้เพื่อนๆ น้อยใจบ้างก็ได้ แต่งานนี้เจ้าบ่าวไม่อยากให้เพื่อนสนิทของเขารู้สึกน้อยใจ จึงเชิญเพื่อนมาร่วมถ่ายรูปพรีเวดดิ้งซะเลย   Brittany Frysinger, Kody Frysinger และ Mitch Jolliff   Brittany และ Kody Frysinger กำลังจะแต่งงานกัน และจะเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกัน แต่ Kody มีเพื่อนที่สนิทมากอยู่คนหนึ่งซึ่งก็คือ Mitch Jolliff ซึ่งจะมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งงานด้วย ด้วยความที่พวกเขาสนิทกันมาก เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเลยอยากให้เขามาร่วมถ่ายรูปงานแต่งด้วย เพื่อนของเขาจะได้ไม่รู้สึกเหงา และเป็นการบอกให้เขารู้ว่าเขาสำคัญสำหรับคู่บ่าวสาวมาก   ผู้ชายคนนี้ของฉันย่ะ // เออ รู้แล้วน่า   รูปงานแต่งนี้ถ่ายโดย Lindsey Berger จากร้าน Country Roads Photography รูปแบบภาพถ่ายที่เขาคิดไว้สำหรับทั้งสามคนก็คือ ‘มือที่สามนั่นเอง’ แต่ไม่ได้เป็นรูปแนวดราม่าหรอกนะ ออกจะเป็นแบบตลกๆ เสียมากกว่า…

  • ไม่หวั่นแม้วันหิมะตก ชาวประชาในเพนซิลเวเนีย เอนจอยกัน แม้หิมะจะสูงถึง 1.5 เมตร

    ไม่หวั่นแม้วันหิมะตก ชาวประชาในเพนซิลเวเนีย เอนจอยกัน แม้หิมะจะสูงถึง 1.5 เมตร

    ถ้าหากนึกถึงสภาพอากาศที่เราไม่ค่อยจะชอบกันซักเท่าไหร่ในประเทศไทย ก็คงจะเป็นฤดูร้อน ที่แม้ว่ามันจะดูสดใสดี แต่แดดที่ส่องลงมาบนหัว มันร๊อนนน ร้อนนน จนทำให้เราเป็นไข้ได้เลย แต่เมื่อไปอีกด้านของโลก กลับมีเมืองที่ประสบเข้ากับทะเลสาบหิมะ ที่แทบจะสัญจรไปไหนมาไหนไม่ได้ เพราะความปริมาณของหิมะที่สูงเท่าอกเลยทีเดียว ทะเลสาบหิมะนี้เกิดขึ้นที่เมือง Erie ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งหิมะที่ตกลงมาในช่วงคริสต์มาสอย่างถล่มทลายนี้ ทุบสถิติปริมาณหิมะในระดับท้องถิ่นและระดับรัฐไปแล้ว     ในวันที่ 24 ธันวาคม หรือวันคริสต์มาสอีฟที่เพิ่งผ่านไปนั้น โดยกรมอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐอเมริกา ได้มีการรายงานว่า จะมีหิมะตกมากถึง 60 นิ้ว เป็นเวลา 2-3 วัน ซึ่งปริมาณโดยรวมของหิมะที่ตกในวันคริสต์มาสนั้นมีมากถึง 58 นิ้ว โดยหลังจากวันที่ 25 หิมะห่าใหญ่ก็ตกลงมาในเมืองอีก ทำให้มีความสูงของหิมะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 6-12 นิ้ว หรือรวมแล้วสูงถึง 1.5 เมตร เลยทีเดียว   ‘ทะเลสาบหิมะ’ นั้น เป็นปรากฏการณ์ในฤดูหนาวที่มีความเย็นจัด ซึ่งเกิดจากการที่มวลอากาศขั้วโลกเหนือพัดผ่านมวลอากาศร้อนเหนือทะเลสาบ Great Lakes ทำให้เกิดหิมะตกหนักในเมืองและชุมชนใกล้เคียง   เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมือง Erie ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและขอให้ประชาชนขับรถออกจากถนนในเมืองและทางหลวงใกล้เคียง โดยอ้างว่าจะเกิดหิมะตกหนัก…

  • ซิงเกิ้ลมัม เชิญคนแปลกหน้ากว่า 60 คนมาร่วมงานเลี้ยงคริสต์มาส เพราะคนเดียวมันเหง๊าเหงา

    ซิงเกิ้ลมัม เชิญคนแปลกหน้ากว่า 60 คนมาร่วมงานเลี้ยงคริสต์มาส เพราะคนเดียวมันเหง๊าเหงา

    ผ่านพ้นไปหมาดๆ กับเทศกาลคริสต์มาสประจำปี 2017 อีกหนึ่งเทศกาลแห่งความสุขที่ไม่ว่าใครต่างก็ชื่นชอบ เพราะว่าเป็นอีกหนึ่งวันที่ได้ออกมาเฉลิมฉลองกันและสิ่งดีๆ ทั้งหลายต่างก็มาเกิดขึ้นในวันนี้ อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่จะได้นำมาแบ่งปันกันในวันนี้เป็นเรื่องราวของ Taylor Barnes ซิงเกิ้ลมัมสาววัย 20 ปี ที่ได้ถือโอกาสเทศกาลสำคัญนี้จัดงานเลี้ยงอาหารกับคนแปลกหน้าถึง 60 คน     กิจกรรมปาร์ตี้เล็กๆ นี้ได้จัดขึ้นเพราะ Taylor แอบได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งพูดบนรถเมล์ว่า เธอรู้สึกโดดเดี่ยวมากเมื่อใกล้เทศกาลคริสต์มาส เธอจึงได้รู้ว่ามีอีกหลายคนบนโลกนี้ที่รู้สึกเช่นเดียวกับเธอ เมื่อเธอกลับไปถึงบ้าน เธอก็ได้คิดทบทวนเรื่องที่เธอได้รับรู้มา จนกระทั่งปิ๊งไอเดียที่จะชวนเหล่าซิงเกิ้ลมัมและเด็กๆ มาปาร์ตี้ด้วยกัน โดยเธอได้ประกาศกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ โดยที่เธอไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนให้ความสนใจมากขนาดนี้     เมื่อกิจกรรมได้ประกาศออกไป กลับมีผู้คนสนใจมากกว่าที่เธอคิด อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย เช่น Thomas Compaston ที่ได้อาสาเอาร้านสเต๊กของเขามาใช้เป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมนี้ นอกจากนี้ยังได้รับการบริจาคเงินเพื่อซื้อของขวัญ นอกจากนี้แม่งานอย่าง Taylor ได้สนับสนุนเงินในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 600 ปอนด์หรือประมาณ 26,000 บาทสำหรับการซื้อของขวัญเพื่อแจกคนในงาน     “ฉันใช้เงินเพื่อซื้อของเล่น และของขวัญสำหรับเด็กไม่ว่าจะเป็น สไปเดอร์แมน เลโก้ ตุ๊กตา ให้เด็กๆ…

  • ญี่ปุ่นเตรียมทดลอง ‘รถไฟชินคันเซ็น’ รุ่นใหม่ที่วิ่ง 500 กม./ชม. เป็นครั้งแรก ก่อนใช้จริงปี 2027

    ญี่ปุ่นเตรียมทดลอง ‘รถไฟชินคันเซ็น’ รุ่นใหม่ที่วิ่ง 500 กม./ชม. เป็นครั้งแรก ก่อนใช้จริงปี 2027

    ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้งกับเทคโนโลยีรถไฟของญี่ปุ่น เมื่อล่าสุดได้เตรียมเปิดให้ประชาชนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองวิ่งรถไฟชินคันเซ็นรุ่นใหม่ล่าสุด L0 Series ที่วิ่งได้เร็วกว่า 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!! รถไฟ L0 Series นั่นเป็นรถไฟประเภท ‘แม็กเลฟ’ หรือก็คือรถไฟที่ทำงานด้วยระบบแม่เหล็กแทนระบบล้อ โดยรถไฟขบวนนี้ถือเป็นรถไฟรุ่นใหม่ที่จะวิ่งได้เร็วยิ่งกว่ารถไฟหัวกระสุนเสียอีก ซึ่งตัวขบวนจะลอยเหนือราง 10 เซนติเมตร     ตัวรถไฟขบวนดังกล่าวนั้นมีกำหนดเปิดให้บริการในเส้นทางโตเกียวไปนะโงะยะ โดยตัวรถไฟขบวนนี้เดิมทีจะมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2027 แต่ว่าอย่างไรก็ตามเราก็ไม่ต้องรอจนถึงตอนนั้นเพื่อทดสอบรถไฟขบวนนี้ เพราะว่าทางผู้ผลิต Central Japan Railway Company (หรือที่รู้จักกันในชื่อ JR Tokkai)ได้เตรียมเปิดทดสอบให้คนทั่วไปซื้อตั๋วเข้าใช้บริการในเส้นทางทดสอบตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2019     ส่วนสถานที่ทดสอบนั้นจะอยู่ที่ JR Tokkai Yamanashi Research Center ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดยะมะนะชิ โดยจะเปิดให้ทดสอบจำนวน 6 ขบวนใน 6 เส้นทางด้วยกัน และจะเปิดทดสอบในวันที่ 23, 28, 29, 30 มีนาคม จากนั้นก็จะทดสอบอีกทีในวันที่ 3, 4, 5, 6 เมษายน ใครที่สนใจอยากจะบินไปทดสอบก็จะมีตั๋วสองราคาด้วยกัน…

  • ระบบน้ำพุร้อนออนเซ็นแบบการ์ตูนเรื่อง Spirited Away เชร้ดดดด น่าไปโดนสักที

    ระบบน้ำพุร้อนออนเซ็นแบบการ์ตูนเรื่อง Spirited Away เชร้ดดดด น่าไปโดนสักที

    เวลาที่เราพูดถึงออนเซ็น เราก็จะนึกถึงบ่อน้ำร้อนสุดชิวที่ใครๆ ก็สามารถลองไปแช่เพื่อผ่อนคลายร่างกายได้ แต่ปกติเราจะไม่ค่อยเห็นออนเซ็นที่จำเป็นจะต้องใช้กลไกเพื่อให้น้ำร้อนออกมาสักเท่าไหร่ ทว่าล่าสุดได้มีชาวเน็ตค้นพบออนเซ็นแบบดังกล่าวแล้ว และมันก็ตื่นตาตื่นใจสุดๆ เลยละ ที่ต้องตื่นเต้นเพราะว่า ออนเซ็นดังกล่าวนั้นมีวิธีการใช้งานเหมือนกับกลไกใช้งานออนเซ็นในอนิเมะยอดฮิตจากสตูดิโอจิบลิเรื่อง Spirited Away ในฉากที่เทพแห่งแม่น้ำได้เดินทางมาอาบน้ำ ซึ่งตัวเอกของเรื่องจะต้องใช้ป้ายไม้บางอย่างเพื่อให้ออนเซ็นทำงานนั่นเอง   ในเรื่อง Spirited Away นั้นการใช้อ่างออนเซ็นต้องใช้แผ่นไม้เพื่อเปิดน้ำ   เทพแห่งแม่น้ำที่ตัวเป็นโคลน   เช่นเดียวกับออนเซ็น Wakasugi no Yu ในเมืองฟุกุโอะกะที่ต้องใช้แผ่นไม้เสียบลงไปในช่องเสียก่อน น้ำอุ่นๆ จึงจะไหลออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ ซึ่งมันอาจจะดูไม่มีอะไรแต่สำหรับคนที่เป็นแฟนอนิเมะเรื่องดังกล่าว เรียกว่าทำให้ตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยเลยล่ะ คลิปการใช้งานแผ่นไม้ดังกล่าวนั้นถูกโพสต์โดยชาวเน็ตที่ชื่อ @RiLze04 ผ่านทวิตเตอร์ของเขา ซึ่งได้โพสต์เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2017 แต่เชื่อไหมว่าผ่านไปไม่กี่วันก็มีคนสนใจมากมายจนตอนนี้มีคนดูกว่า 4 ล้านครั้งแล้ว   เช่นเดียวกับในอนิเมะที่ต้องใช้แผ่นไม้เสียบก่อนเป็นอันดับแรก   จากนั้นน้ำก็จะไหลออกมา!!   ส่วนสาเหตุที่ทำให้คลิปดังกล่าวฮิตสุดๆ นั่นก็เพราะชาวญี่ปุ่นจะรู้กันดีว่าการแช่ออนเซ็นนั้นมันไม่ใช่แบบนี้ และวิธีของ Wakasugi no Yu ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่มากๆ ฉะนั้นผู้คงจึงให้ความสนใจกันสุดๆ   ถ้าใครดูคลิปดังกล่าวไม่ได้ สามารถเข้าไปดูคลิปเต็มๆ ได้ที่ลิงก์ข้างๆ นี้เลยจ้า りるぜ 千と千尋でしか見たことなかった湯張りシステム pic.twitter.com/zXLawZHo5k —…

  • ห้องพัก Airbnb สุดฟินกับหนุ่มมหาลัยโตเกียวหุ่นเปรี๊ยะ 5 คน พักที่นี่ประสบการณ์ใหม่เพียบ!!

    ห้องพัก Airbnb สุดฟินกับหนุ่มมหาลัยโตเกียวหุ่นเปรี๊ยะ 5 คน พักที่นี่ประสบการณ์ใหม่เพียบ!!

    เมื่อพูดถึงห้องพักราคาถูกของเหล่านักเดินทางแบบแบ็คแพ็ค การไปอยู่ห้องพักแบบแชริ่งอย่าง Airbnb ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักๆ ที่นักเดินทางแนวนี้มักจะเลือกเป็นเป้าหมายเวลาท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ เป็นเวลาไม่นานและเน้นราคาถูก (Airbnb คือบริการแชร์ห้องพักแบบที่เราต้องไปอาศัยอยู่ร่วมกับเจ้าของบ้าน โดยเจ้าของบ้านจะทำการแชร์ห้องให้เราไปอยู่ด้วยและได้ใช้ประสบการณ์ต่างๆ ร่วมกัน) แต่ทีนี้กลับมาห้องพักแบบ Airbnb แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่ทำการโปรโมตมาอย่างน่าสนใจ โดยที่แห่งนี้ได้ใช้ชื่อว่า ‘Fantastic Memory with Univ Stu 2nd‘ ซึ่งให้แปลตรงตัวก็คือ ความทรงจำอันยอดเยี่ยมกับหนุ่มมหาลัย     อ่านดูแล้วน่าสนใจใช่ไหมล่ะ โดยรายละเอียดที่พักดังกล่าวนั้นจะเป็นการเข้าไปพักร่วมกับหนุ่มจากมหาลัยโตเกียว 5 คน ซึ่งผู้เข้ามาอาศัยจะได้พักอยู่บนชั้นสองที่มีห้องว่าง 2 ห้องด้วยกัน นอกจากนี้ในรายละเอียดการจองยังบอกอีกว่า ผู้มาพักจะได้รับประสบการณ์เหมือนพักอยู่กับเพื่อน แต่ก็สามารถใช้เวลาส่วนตัวในห้องได้ตามสบายไม่ถูกรบกวนแน่ๆ ส่วนจำนวนคนที่สามารถเดินทางมาพักได้ในแต่ละครั้งจะอยู่สูงสุดที่ 5 คน ซึ่งเยอะกว่านั้นมันจะทำให้เหล่านักศึกษากล้ามโตเจ้าของที่ต้องย้ายไปนอนที่ห้องครัวหรือปูผ้านอนแทน ฉะนั้นมากันแต่พอดีจะดีมากๆ     นอกจากนั้น ผู้ที่มาพักอาศัยสามารถใช้ห้องน้ำรวมถึงอุปกรณ์ทุกอย่างในห้องน้ำได้ตามสบาย แต่ที่เด็ดกว่าคือตัวที่พักจะอยู่ใจกลางโตเกียว ทำให้เหล่านักเดินทางที่มาพักสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆ ได้สบายมากๆ     ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เพื่อนๆ ที่สนใจก็สามารถเข้าไปอ่านและจองที่พักได้ที่ airbnb โดยอัตราการเข้าพักก็ไม่แพง สนนราคาอยู่ที่ 573 บาทต่อคืนเท่านั้น ถูกกว่าไปนอนโรงแรมหรือโฮสเทลอีกนะเออ  …

  • เจ้าหมีเต้นระบำ 2 ตัวสุดท้ายในเนปาล ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่แล้ว

    เจ้าหมีเต้นระบำ 2 ตัวสุดท้ายในเนปาล ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่แล้ว

    ถือเป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเจ้าหมีเต้นระบำสองตัวสุดท้ายของประเทศเนปาล ที่ได้รับการช่วยเหลือและได้พบกับชีวิตใหม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของ World Animal Protection และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเนปาลได้เข้าช่วยเหลือพวกมัน เจ้า Rangila หมีเพศผู้วัย 19 ปีและคู่หูของมันเจ้า Sridevi หมีเพศเมียวัย 17 ปีที่ถูกเจ้านายของมันขายให้กับคณะการแสดงสัตว์ และถูกใช้เป็นหมีเต้นระบำ     เจ้าหมีทั้งสองถูกช่วยเหลือจากเมือง Iharbari ประเทศเนปาลจากการติดตามของเจ้าหน้าที่ หมีทั้งสองตัวดูทุกข์ทรมานกับสภาพที่พวกมันเป็นอยู่มาก ปรกติแล้วพวกหมีเต้นระบำนั้นจะถูกพรากจากพ่อแม่ของพวกมันตั้งแต่เล็กๆ เพื่อนำมาฝึกสำหรับการแสดง โดยคณะละครจะใช้เหล็กร้อนๆ เจ้าที่จมูกของพวกมันเพื่อร้อยเชือกสำหรับควบคุมการฝึก และบังคับให้พวกมันเต้น   เจ้า Rangila และ Sridevi น้องหมีเต้นระบำสองตัวสุดท้ายในประเทศเนปาล   “พวกเรารู้สึกดีใจมากๆ ที่หมีเต้นระบำ 2 ตัวสุดท้ายถูกช่วยได้สำเร็จ หลังจากที่พวกเราใช้เวลาในการติดตามการมาหลายปี การทำงานและความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ช่วยให้เราหยุดประเพณีที่ผิดกฎหมายนี้ได้” คุณ Manoj Gautam เจ้าหน้าที่จากสถาบัน Jane Goodall กล่าว ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่จากสถาบันคุ้มครองสัตว์ป่าโลกคุณ Neil D’Cruze ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นเรื่องที่แย่มากๆ ที่เห็นสัตว์ป่าเหล่านี้ถูกทรมานเพื่อความสนุกของมนุษย์ ผมหวังว่าเจ้าหมีทั้งสองตัวคงจะมีความสุขหลังจากที่เราได้ช่วยเหลือพวกมัน”     การกวาดล้างความบันเทิงจากสัตว์ป่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่เหล่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้พยายามยุติความโหดร้ายเหล่านี้ในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรีซ ตุรกี หรืออินเดีย โดยจัดการควบคุมประเทศต้นทางการล่าอย่างปากีสถานนั่นเอง       ที่มา ladbible

  • ครอบครัวชาวออสซีถึงกับผวา หลังเกิดหลุมหยุบกว้างเกือบ 10 เมตรที่สวนหลังบ้าน โอ้!! พระพุทธเจ้า

    ครอบครัวชาวออสซีถึงกับผวา หลังเกิดหลุมหยุบกว้างเกือบ 10 เมตรที่สวนหลังบ้าน โอ้!! พระพุทธเจ้า

    การมีสระว่ายน้ำในส่วนตัวที่บ้านอาจจะเป็นความฝันของหลายๆ คน แต่คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ถ้าหากบังเอิญคุณดั๊นได้รับสระว่ายน้ำจากธรรมชาติที่เกิดจากหลุมยุบเหมือนกับครอบครัวจากออสเตรเลียครอบครัวนี้!! เหตุการณ์ราวกับฉากในหนังภัยพิบัติวันสิ้นโลกนี้เกิดขึ้นกับบ้านของคุณ Lynn และ Ray McKay ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ในระหว่างที่พวกเขากำลังใช้เวลาพักผ่อนกันอยู่ในบ้าน     สองสามีภรรยาเกิดอาการตกใจอย่างมากหลังจากที่มองออกไปนอกหน้าต่างบ้านแล้วต้องพบกับหลุมหนาดยักษ์ที่โผล่ขึ้นมาในสนามหญ้าแบบงง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้ติดต่อไปยังบริษัทจำหน่ายดิน หรือกำลังวางแผนจะปลูกต้นแอปเปิลแต่อย่างใด ทั้งสองได้ติดต่อไปทางผู้เชี่ยวชาญให้ทำการตรวจสอบเจ้าหลุมยุบที่ว่านี้ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ก็ต่างตกตะลึงกับขนาดของหลุม     โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้เหตุผลถึงสาเหตุการเกิดหลุมยุบในบ้านของครอบครัว McKays ว่าในช่วงปี 1900 พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองถ่านหินเก่ามาก่อน และทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดโพรงใต้ดินและเกิดการยุบ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ขนาดของหลุมยังคงขยายออกเรื่อยๆ ซึ่งหลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ปากหลุมมีขนาดกว้างขึ้นมีขนาดถึง 20 ฟุตหรือราวๆ 6 เมตรเลยทีเดียว     ภาพของหลุมดังกล่าวหลังจากที่สูบน้ำออก   ทางผู้เชี่ยวชาญได้ทำการย้ายครอบครัว McKays ออกจากบ้านก่อนที่จะนำดินมาถมตรงหลุมเพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้กับทางครอบครัว แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะผ่านมาแล้วกว่า 6 เดือนทางครอบครัวก็ยังคงมีความกังวลว่าเจ้าหลุมยุบนี้จะกลับมาอีก!!   ชมวินาทีของการเกิดหลุมยุบที่หลังบ้านของครอบครัว McKays กันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…   ที่มา boredomtherapy

  • Rebekah เด็กหญิงข้ามเพศวัย 10 ขวบ ผู้เลือกทำตามหัวใจและใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ

    Rebekah เด็กหญิงข้ามเพศวัย 10 ขวบ ผู้เลือกทำตามหัวใจและใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ

    การข้ามเพศอาจเป็นสิ่งที่ใครบางคนยังคงไม่เห็นด้วยซักเท่าไหร่ แต่สำหรับหลายๆ คนแล้ว การได้เลือกเป็นในสิ่งที่ตนเองต้องการ คือสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขยิ่งกว่าสิ่งใด Rebekah Bruesehoff คือเด็กที่อาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา และข้ามเพศมาใช้ชีวิตแบบผู้หญิงตั้งแต่ตอนเธออายุเพียง 8 ขวบ   ครอบครัวของ Rebekah (เด็กทางด้านซ้าย)   Jamie แม่ของเธอบอกว่า “ลูกของฉันเกิดมาเป็นเด็กผู้ชาย แต่ความไม่สมดุลกันของเพศและสิ่งที่เธอเป็นแสดงออกมาให้เห็นตั้งแต่เธออายุ 2-3 ขวบแล้ว” ตั้งแต่นั้นมา จะสังเกตได้ว่า Rebekah ชอบสีชมพูและม่วง หลงใหลในเสื้อผ้าของผู้หญิง เธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปเดินดูในร้านเสื้อผ้าเหล่านั้น และอีกสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ เธอจะรู้สึกกระวนกระวายใจทุกครั้งเวลาที่ต้องไปจับกลุ่มอยู่กับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ หรือต้องรับบทผู้ชายในการแสดงโรงเรียน แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ตอนเธออายุ 7 ขวบ เธอเคยพยายามที่จะฆ่าตัวตายด้วยการวิ่งออกไปกลางถนน หรือแม้แต่ต่อยกระจกห้องให้แตกและพยายามจะโดดลงไป เพราะเธอไม่สามารถทนใช้ชีวิตอยู่กับการไม่เป็นตัวของตัวเองได้     เธอเล่าว่าในตอนนั้นเธอไม่มีความสุขเลย ไม่กล้าที่จะออกมาเผชิญหน้าสิ่งต่างๆ เธอรู้ตัวมาตลอดว่าเธอต้องการอะไรแต่กลับไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เป็นเหมือนกับคนที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งครอบครัวได้เข้ารับการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์เกี่ยวกับเรื่องเพศของเธอ และนั่นจึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อเธอได้รู้จักกับคำว่าการข้ามเพศเป็นครั้งแรก ในตอนนั้นมันเหมือนกับแสงไฟแห่งความหวังถูกจุดติดขึ้นมา เธอจึงตัดสินใจที่จะข้ามเพศ พ่อแม่ของเธอจึงพาเธอกลับมาเรียนที่บ้าน รอที่จะย้ายไปเรียนในโรงเรียนใหม่ และเริ่มให้เธอใช้ชีวิตเหมือนผู้หญิง     ความแตกต่างของเธอหลังจากนั้นแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน…

  • หนุ่ม “ดิสเล็กเซีย” พิสูจน์ตัวเองจากคำดูถูกของคุณครู จนกลายเป็นนักดนตรีที่มีความสามารถ

    หนุ่ม “ดิสเล็กเซีย” พิสูจน์ตัวเองจากคำดูถูกของคุณครู จนกลายเป็นนักดนตรีที่มีความสามารถ

    ในวัยเด็ก อาจารย์คือคนที่ให้ความรู้กับเราและเป็นคนที่ช่วยนำทางให้เราสามารถเดินต่อไปในอนาคตได้อย่างถูกต้อง แต่บางครั้งก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะอาจารย์ที่ชายคนนี้ต้องเจอในวัยเด็กกลับทำในสิ่งที่ตรงข้ามกัน เขามีชื่อว่า Josh Curnow วัย 26 ปี เขาป่วยเป็นโรค ดิสเล็กเซีย (Dyslexia) หนึ่งในความผิดปกติทางด้านการเรียนรู้ ทำให้มีความบกพร่องในการอ่านเขียน สะกดคำติดขัด ไม่สามารถผสมคำได้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังต้องการที่จะทำตามความฝันในการเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง   Josh ผู้มีความผิดปกติ แต่ยังคงต้องการก้าวเดินตามความฝันของตัวเอง   เมื่อตอนที่อายุ 13 ปี ด้วยความที่เขามีความผิดปกติดังกล่าว อาจารย์สอนดนตรีจึงพูดกับเขาว่า ให้ล้มเลิกความฝันเกี่ยวกับดนตรีไปได้เลย และแนะนำให้เขาตั้งเป้าที่จะทำงานในร้านสะดวกซื้อ คอยวางของจัดสินค้าไปแค่นั้นก็พอ คำแนะนำจากอาจารย์คนนี้ได้ฝังลึกอยู่ในจิตใจและทำร้ายความรู้สึก Josh มาโดยตลอด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงพยายามต่อมา และเข้ามาพิสูจน์ตัวเองในรายการ Britain’s Got Talent ปี 2016   เขาเล่าเรื่องราวที่เจอมาในวัยเด็กให้ทุกคนได้ฟัง ก่อนจะเริ่มเล่นเปียโน   หลังจากที่กรรมการได้รับรู้เรื่องราวของชายคนนี้ ทุกคนต่างต้องการให้เขาได้แสดงฝีมือออกมา ไม่จำเป็นต้องไปสนใจคำพูดพล่อยๆ อะไรอย่างนั้น และนั่นจึงทำให้เขาได้แสดงฝีมือของตัวเองออกมาให้ทุกคนเห็น   การแสดงฝีมือในเพลง Basket Case…

  • เจ้าของตู้คีบญี่ปุ่นถูกจับกุม หลังพบว่ามีการตั้งค่าเครื่องเล่นให้คีบได้ยากเกินไป

    เจ้าของตู้คีบญี่ปุ่นถูกจับกุม หลังพบว่ามีการตั้งค่าเครื่องเล่นให้คีบได้ยากเกินไป

    หากจะกล่าวถึงตู้เกมอย่างหนึ่งที่เป็นขวัญใจของใครหลายคน สำหรับสาวๆ แล้ว ‘ตู้คีบตุ๊กตา’ ดูเหมือนจะเป็นตู้เกมที่เป็นที่โปรดปรานเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความน่ารักของตุ๊กตาที่อยู่ข้างในตู้และมีราคาที่ไม่แพงมากนัก ทำให้ไม่ว่าใครๆ ต่างก็ต้องเคยลองเล่นเจ้าเครื่องที่ว่านี้มาแล้วทั้งนั้น แต่เมื่อได้ลองสัมผัสเครื่องเล่นแนวๆ นี้ดูก็จะพบว่า จริงๆ แล้วการคีบตุ๊กตามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด ไม่ว่าจะด้วยการเล็ง การคิดคำนวณ หรือกระทั่งการกะระยะไว้อย่างพอดิบพอดี     บางทีคำนวนมาอย่างดิบดี แต่พอกดคีบเท่านั้นแหละ กลับพลาดอย่างง่ายๆ จนทำให้บางคนต้องเสียเงินให้กับเจ้าเครื่องหนีบนี้เป็นร้อยเป็นพัน เพื่ออยากจะแก้แค้นให้สาสมใจเลยก็มี ซึ่งปัญหานี้ได้เกิดขึ้นกับผู้คนมากมาย จนบางทีเราก็คิดไปว่าเครื่องนี้มันโกงเราหรือเปล่านะ และดูเหมือนว่าการสันนิษฐานของเราอาจจะกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาก็ได้ เพราะในตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีเจ้าของเกมตู้คีบ ถูกตั้งข้อหาว่าตั้งค่าเครื่องเกมให้ไม่สามารถเอาชนะได้จริงๆ!!     เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองโอซาก้า ได้ควบคุมตัวนาย Takeshi Ohira อายุ 33 ปี เจ้าของตู้เกมชื่อว่า Amusement Trust ซึ่งเป็นตู้เกมคีบที่ได้รับความนิยมทั้งในเมืองโอซาก้าและเกียวโต นอกจากนี้ยังมีการจับกุมพนักงานของเขาอีก 5 คนร่วมด้วย สำหรับข้อหาที่ผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ถูกตั้งขึ้นก็คือ ‘ตั้งค่าหรือปรับแต่งเครื่องเล่นเกมให้ไม่สามารถเอาชนะได้’ โดยทั้งนี้ทั้งนั้นรูปแบบเครื่องจักรภายในตู้เกม ก็ดูเหมือนจะได้รับการปรับแต่งจนกลายเป็นกลโกงขึ้นมา ซึ่งสามารถดูได้จากวิดีโอการสาธิตข้างล่างนี้   วิดีโอการสาธิตกลโกงเครื่องจักรจากสำนักข่าว ANN   นอกจากกลไกของตู้เกมจะถูกตั้งข้อสงสัยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังบอกอีกด้วยว่า ตัวพนักงานเองก็มีส่วนร่วมในการโกงเช่นเดียวกัน โดยพนักงานเหล่านี้จะมาคอยให้กำลังใจผู้เล่นในตอนที่เล่นเกมอยู่ และหากเมื่อเห็นว่าผู้เล่นได้พยายามหลายครั้งและถอดใจจะเลิกเล่นแล้วจริงๆ พวกเขาก็จะแกล้งสาธิตการเล่นให้ดู แต่ก่อนที่จะมีการสาธิตเกิดขึ้น…

  • เรื่องราวจาก WWI เมื่อทหารทั้งสองฝั่งหยุดจับปืน แล้วมาร่วมจับมือเฉลิมฉลองคริสต์มาสแทน…

    เรื่องราวจาก WWI เมื่อทหารทั้งสองฝั่งหยุดจับปืน แล้วมาร่วมจับมือเฉลิมฉลองคริสต์มาสแทน…

    สงครามโลกครั้งที่ 1 คือหนึ่งในสงครามอันแสนเลวร้ายที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ทหารและพลเรือนต้องตายไปหลายล้านคน แต่ท่ามกลางสมรภูมิรบที่แสนหดหู่นั้นกลับมีเรื่องราวที่แสนอบอุ่นหัวใจเกิดขึ้นมาอยู่ด้วย ในปี 1914 ช่วงสงครามดังกล่าว จากความยืดเยื้อของการห่ำหั่นกันอย่างยาวนาน สงครามจึงกินเวลาไปควบในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสในปีนั้น ทำให้ทหารจากทั้งสองฝ่ายที่ยิงใส่กันมาตลอด วางอาวุธลงและร่วมฉลองวันพิเศษนั้นไปด้วยกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางสมรภูมิ Tennenberg ประเทศโปแลนด์ ในวันคริสต์มาสอีฟปีนั้น ทหารจากอังกฤษและฝรั่งเศสได้ออกไปร่วมเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลกับทหารฝั่งเยอรมันที่เป็นศัตรู     จากเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ ทหารอังกฤษนายหนึ่งเล่าว่า “ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส พวกเราและทหารฝั่งเยอรมันวางอาวุธลง เดินขึ้นมาจากหลุมป้องกันภัย มารวมกันอยู่ตรงพื้นที่ที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ระหว่างกองทัพของทั้งสองฝั่ง และพวกเราก็ได้จัดโต๊ะเลี้ยงฉลองไปด้วยกัน” เขาเล่าอีกว่า “เวลาเพียง 5 นาที ลานดังกล่าวก็เต็มไปด้วยทหารจากทั้งสองฝั่ง พวกเราสวมกอดกันและกัน สูบบุหรี่ไปด้วยกัน แลกของที่ระลึกหรือมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่กัน” นอกจากที่พวกเขาจะสนุกไปด้วยกันแล้ว ทหารทุกฝ่ายยังช่วยกันฝังศพให้กับคนที่ตายไปในสมรภูมิดังกล่าวอีกด้วย     งานเลี้ยงฉลองยังคงมีต่อไปถึงวันที่ 26 ธันวาคม 1914 เป็นวันที่เรียกว่า Boxing Day พวกเขายังคงเฮฮาไปกับงานเทศกาล ก่อนที่ทุกอย่างจะสิ้นสุดลงในวันที่ 27 การร่วมใจกันจากทหารของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่นี่ที่เดียว เพราะจากการบันทึกเล่าว่า มีทหารอังกฤษจากกองทัพแพทย์ทหารบกเขียนมาในจดหมายที่ส่งกลับมาลอนดอนว่า พวกเขาได้ไปแข่งเตะบอลกับทหารฝั่งเยอรมันและแพ้ไป…

  • ‘ตู้หยอดเหรียญ’ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ในประเทศอย่างไร?

    ‘ตู้หยอดเหรียญ’ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ในประเทศอย่างไร?

    ในประเทศญี่ปุ่น ตู้หยอดเหรียญ เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ามีอยู่แทบจะทุกที่ในเมืองและขายสินค้าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ ชา บุหรี่ เบียร์ ซุป ขนมขบเคี้ยว หรือแม้แต่อาหารร้อน ด้วยความสะดวกในการใช้งาน จึงทำให้ประชากรจำนวนมากนิยมมาใช้บริการตู้เหล่านี้ แต่ทว่านอกจากมันจะได้รับความนิยมแล้ว สิ่งนี้สามารถสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้อีกหลายๆ เรื่อง เราสามารถเข้าใจสังคมของประเทศนี้ผ่านตู้หยอดเหรียญได้อย่างไรกันบ้าง ลองไปดูกันเลย   ค่าแรง   William A. McEachern ศาสตราจารย์ทางด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา บอกว่า ญี่ปุ่นอยู่ในช่วงประชากรลดลง ผู้อยู่อาศัยจำนวนมากเป็นผู้สูงอายุ และขาดแคลนคนอพยพเข้าเมือง จึงทำให้หาแรงงานได้ยากและค่าแรงงานมีราคาสูง Robert Parry ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์จึงบอกว่า ตู้หยอดเหรียญเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งแม้แต่ร้านค้าปลีกเองก็หันมาใช้ตู้เหล่านี้ เพื่อความสะดวกสบายและไม่จำเป็นต้องจ้างแรงงานเพิ่มเติมใดๆ เลย   ความหนาแน่นของประชากรสูง และอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาแพง   ญี่ปุ่นคือหนึ่งในประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรอย่างมาก ด้วยประชากรราวๆ 127 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในประเทศเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาอีกกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้คนกระจายตัวออกไปได้อย่างมาก จนผู้คนกว่า 93 เปอร์เซ็นต์มาแออัดอาศัยกันอยู่ในเมือง เพราะเหตุนั้นราคาของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ในเมืองจึงมีราคาสูงมาก คนส่วนใหญ่จึงต้องอยู่กันในหอพักเล็กๆ…

  • กลุ่มพันธมิตรปฏิวัติหนุ่มจืด ออกประท้วงการเดตกลางเมืองโตเกียว ในวันคริสต์มาสอีฟ

    กลุ่มพันธมิตรปฏิวัติหนุ่มจืด ออกประท้วงการเดตกลางเมืองโตเกียว ในวันคริสต์มาสอีฟ

    เป็นที่รู้กันว่าเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมานั้น จะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขโดยเฉพาะของเหล่าคนมีคู่ ที่มักจะชวนกันมาออกเดต เสพบรรยากาศอันสวยงามในสถานที่ต่างๆ เกิดเป็นความสุขอันล้นเหลือเกินจะบรรยาย แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะแฮปปี้กับเทศกาลดังกล่าว เพราะยังมีคนอีกไม่น้อยที่มักมักจะช้ำใจทุกครั้งที่เห็นเหล่าคนมีคู่พากันออกเดต ไม่เว้นแต่คริสต์มาสนะ วาเลนไทน์ ปีใหม่และวันอื่นๆ พวกเขาก็ยังรักษาสถานะหนุ่มจืดในทุกเทศกาล อย่างไรก็ตามเหล่าหนุ่มจืดจากกรุงโตเกียวก็ดูจะทนไม่ไหวอีกต่อไป โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พวกเขาได้ออกมาประท้วงเพื่อให้วันแห่งความสุขเหล่านี้ได้หายไป ซึ่งกลุ่มประท้วงนี้ได้ใชชื่อว่า ‘Revolutionary Alliance of Unpopular Men‘ หรือก็คือกลุ่มพันธมิตรของเหล่าคนที่ไม่ฮอตนั่นเอง     การประท้วงของพวกเขานั้นเป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยมีสมาชิกออกมาเดินประท้วงราวๆ 15 คน ซึ่งป้ายประท้วงของพวกเขานั้นเขียนไว้ว่า ‘คริสต์มาสจงหายไปซะ’ นอกจากนั้นสมาชิกกลุ่มก็จะตะโกนออกมาเรื่อยๆ ว่า “พวกเราต่อต้านวันคริสต์มาส พวกคนที่มีชีวิตมีสังคมการงานที่ดีจงระเบิดไปซะ จงสำนึกผิดซะ เจ้าพวกคู่รัก ผิดตรงไหนที่เป็นหนุ่มจืด”     การประท้วงนี้มีระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 30 นาที โดยพวกเขาเดินทางไปรอบๆ กรุงโตเกียว และทำแบบนี้มาแล้วเป็นปีที่สอง ซึ่งคาดว่าปีหน้ากลุ่มคนเหล่านี้ก็น่าจะยังคงสถานะหนุ่มจืดและออกมาประท้วงนี้เช่นเคย   แม้จะเป็นการประท้วง เจ้าหน้าที่ตำรวจของญี่ปุ่นก็ยังออกมาคอยเคลียร์ทางให้ ยอดจริงๆ .   การประท้วงดังกล่าวอาจจะไม่ได้สร้างความเดือดร้อนมากนัก แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงสังคมหนุ่มจืดของญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นๆ นั่นเอง…  …

  • อดีตเจ้าของโรงแรมถูกฟ้อง หลังเก็บเงินลูกค้าเพิ่มกว่า 11,000 บาท เพราะให้รีวิวแง่ลบ

    อดีตเจ้าของโรงแรมถูกฟ้อง หลังเก็บเงินลูกค้าเพิ่มกว่า 11,000 บาท เพราะให้รีวิวแง่ลบ

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ Katrina Arthur เมื่อเธอถูกทางโรงแรมเรียกเก็บเงินเพิ่มถึง 350 เหรียญหลังจากที่ได้รีวิวเกี่ยวกับโรงแรมในแง่ลบ หญิงสาวผู้โชคร้ายเล่าว่าห้องสวีทของทางโรงแรม Abbey Inn ที่เธอเข้าพักเมื่อเดือนมีนาคมปี 2016 นั้นมีความสกปรกอย่างมากและเธอเองก็ได้ให้ทางโรงแรมทำความสะอาดไปแล้วแต่กลับไม่ได้รับการดูแลเลย หลังจากที่เช็กเอาท์ออกจากโรงแรม คุณ Arthur ก็พบว่าเธอถูกเรียกเก็บค่าบริการเพิ่ม เนื่องจากเขียนรีวิวเกี่ยวกับโรงแรมในแง่ลบ     เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมาทางศาลรัฐอินเดียน่าได้แจ้งข้อหา “หลอกลวง” กับทางคุณ Andrew Szakaly เจ้าของคนเก่า แต่อย่างไรก็ตามคุณ Amanda Sweet และสามีของเธอเพิ่งเข้ามาซื้อกิจการโรงแรมแห่งนี้เมื่อเดือนมกราคมปี 2017 ที่ผ่านมากลับต้องได้รับผลพวงจากสิ่งที่เจ้าของคนเก่าทำเอาไว้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาเขียนรีวิวด่าทางโรงแรมผ่านทางเว็บไซต์ Yelp เป็นเหตุให้เจ้าของใหม่อย่างคุณ Sweet ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก   ข้อความจากชาวเน็ตท่านหนึ่งที่เขียนด่าทางโรงแรม หลังจากที่ได้ข่าวการปรับเงินลูกค้า โดยที่ตนเองไม่เคยเข้าพักแต่อย่างใด “ฉันได้ยินมาว่าโรงแรมนี้ชาร์จเงินลูกค้าเพิ่มอีกนับหมื่น หลังจากที่ลูกค้าได้รีวิวในแง่ลบ น่าละอายจริงๆ เลย”   คุณ Sweet ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่าหลังจากที่มีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวออกไป ทำให้โรงแรมของเธอได้รับผลกระทบอย่างมาก และเธอยังได้กล่าวอีกว่า “มันเป็นเรื่องที่แย่มากสำหรับพวกเรา เราได้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อซ่อมแซมโรงแรมแห่งนี้เพื่อลูกค้า และเราไม่อยากให้มันพังลงต่อหน้าต่อตา” การให้คะแนนรีวิวบนโลกออนไลน์ในเว็บไซต์ต่างๆ นั้นมีผลอย่างมากต่อธุรกิจขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามขณะนี้ทั้ง 28 รัฐของสหรัฐอเมริกาได้มีการออกกฎหมายควบคุมเกี่ยวช่วยเหลือผู้ประกอบการจากปัญหาเหล่านี้แล้ว และทางด้านเว็บไซต์ Yelp ก็ได้ลบข้อความเหล่านั้นออกเป็นที่เรียบร้อย   บางครั้งการเขียนรีวิวนี่ก็เหมือนดาบสองคมเลยนะว่าไหม??  …

  • หนุ่มบังเอิญเจอกล่องแพทย์สนามของปู่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่แกเลยเอามาแชร์ให้เราได้ดูกัน!!

    หนุ่มบังเอิญเจอกล่องแพทย์สนามของปู่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่แกเลยเอามาแชร์ให้เราได้ดูกัน!!

    ในปัจจุบันนั้นอุปกรณ์การแพทย์ล้ำหนาไปไกลมากๆ และที่สำคัญมันไม่ได้ล้ำแค่เฉพาะที่โรงพยาบาล แต่กล่องแพทย์สนามก็ล้วนบรรจุไว้ด้วยอุปกรณ์ดีๆ ทั้งนั้น แต่เราเคยคิดไหมว่าสมัยช่วงสงครามโลกอุปกรณ์พวกนี้มันจะเป็นยังไง? ชาวเน็ตจากเว็บไซต์ Imgur นามว่า John ก็เลยมาไขปริศนาดังกล่าวให้เราได้หายสงสัยกัน โดยเขาเล่าว่าวันหนึ่งเขาขึ้นไปเก็บห้องใต้หลังคาบนบ้านของเขา ซึ่งเขาก็ได้บังเอิญเจอเข้ากับกล่องพยาบาลที่มีลักษณ์เป็นกล่องไม้และมีตัวหนังสือที่เดาว่าน่าจะเป็นภาษาญี่ปุ่นติดอยู่ เขาเลยคาดว่านี่น่าจะเป็นกล่องแพทย์สนามที่ปู่เขานำติดตัวมาตั้งแต่ช่วงสมัยสงครามโลก เพราะปู่ของเขาเป็นนายทหารที่รอดชีวิตกลับมาจากสงครามแปซิฟิกนั่นเอง   ภาพของห้องใต้หลังคาของ John   และนี่ก็คือกล่องแพทย์สนามที่ว่า ซึ่งมันก็ดูเก่าจริงๆ นั่นแหละ   นอกจากนี้เขายังคาดว่ามันเป็นกล่องของฝ่ายญี่ปุ่นที่ปู่เขานำติดมือมาด้วย   นอกจากนี้ John ยังบอกอีกว่ากล่องดังกล่าวมีวันที่ผลิตยาระบุไว้ว่า มีนาคม 1932 ซึ่งจริงๆ ปีดังกล่าวมันเป็นปีก่อนที่อเมริกาจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับสงครามด้วยซ้ำ   เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่ยังไม่ได้มีบทบาทในสงครามโลกครั้งที่สองจนกว่าจะปี 1940 และอเมริกาก็เพิ่งจะเข้าร่วมจากผลที่ญี่ปุ่นไปถล่มเพิร์ล ฮาร์เบอร์เมื่อปี 1941   ฉะนั้นเท่ากับว่ากล่องแพทย์สนามดังกล่าวมีอายุมาตั้งแต่ต้นยุคสมัยโชวะแล้ว นี่มันเก่าแก่กว่าสงครามโลกอีกนะเนี่ย!!   มาดูภายในกล่องกันบ้าง ซึ่งข้างในยังอยู่ครบถ้วนไม่มีอะไรพังหรือสูญหาย   ภายในมีการเก็บยาทุกอย่างไว้อย่างเป็นระเบียบ แน่นอนว่า John ไม่ได้ทดสอบอะไรมันเพราะมันเป็นยาที่เก่ามากแล้ว บางทีมันอาจจะเป็นพิษก็ได้   ก่อนจะหยิบอะไรออกมานั้น John จะต้องใส่ถุงมือซะก่อน เพราะทุกอย่างล้วนเป็นของเก่าอาจจะมีพิษหรือทำให้ผิวหนังเขาเป็นอันตรายก็ได้  …

  • มาชมกระบวนการผลิตไวน์ที่แพงที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าเฉียดล้านบาทต่อขวด!!

    มาชมกระบวนการผลิตไวน์ที่แพงที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าเฉียดล้านบาทต่อขวด!!

    เมื่อพูดถึงเครื่องดื่มที่มีผู้คนนิยมกันทั่วโลกและเป็นที่แพร่หลาย ก็คงจะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก ‘ไวน์’ ที่ไม่ว่าจะเทศกาลไหนๆ ไวน์ก็ดูจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหาร ยิ่งในเทศกาลคริสต์มาสแบบนี้ การจิบไวน์แดงไปพร้อมๆ กับอาหารรสเลิศ ก็คงเป็นเหมือนสวรรค์ย่อมๆ ภายในบ้านแล้วล่ะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักไวน์ชนิดหนึ่ง ที่เมื่อรู้ราคาแล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงไปตามๆ เพราะว่ามันราคาเกือบล้านบาทเลยที่เดียว ไวน์ขวดที่แพงที่สุดในโลกนี้ จะเป็นยังไง มีคุณสมบัติใดบ้าง เราตามไปอ่านกันในบทความนี้เลยจ้า     AurumRed Gold Wine คือไวน์ที่แพงที่สุดในโลก ราคาตกขวดละ 25,000 ยูโร หรือแปลงเป็นเงินไทยที่มีมูลค่าเฉียดล้าน โดยไวน์ขวดนี้ทำมาจากองุ่นสายพันธุ์ Tempranillo ที่เป็นองุ่นแดงประจำชาติของสเปน โดยใช้เทคนิคสมัยใหม่ผสมผสานกับแบบดั้งเดิม แต่สิ่งที่ทำให้ไวน์ชนิดนี้แตกต่างกว่าไวน์ชนิดอื่นก็คือการใช้ “Ozone Therapy” หรือโอโซนบำบัด ที่ใช้ทั่วไปในการรักษาโรคมะเร็ง โรคเอดส์ โรคระบบประสาทและโรคอื่นๆ มาเป็นหนึ่งในกระบวนการการผลิตไวน์     Hilario Garcia ผู้ผลิต AurumRed Gold Wine ที่ไร่องุ่นขนาดเล็กใน La Mancha ประเทศสเปน ได้รู้จักกับกระบวนการโอโซนบำบัด หลังจากที่เขาได้ใช้วิธีนี้รักษาอาการอัมพาตที่กระดูกสันหลังของเขา เมื่อ Garcia ประสบความสำเร็จในการรักษาเขาก็ตัดสินใจทดลองผลิตไวน์ในห้องปฏิบัติการ โดยเติมโอโซนเข้าไปในน้ำที่ใช้ทำไวน์ ซึ่งโอโซนบำบัดนั้นในทางการแพทย์จะเป็นตัวเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายของเรา…

  • หัวใจเพรียกหา… คู่รักหย่าร้างกันไปแล้ว แต่หากคิดถึงกัน ก็ลงเอยด้วยการขอแต่งอีกครั้งในช่วงคริสต์มาส

    หัวใจเพรียกหา… คู่รักหย่าร้างกันไปแล้ว แต่หากคิดถึงกัน ก็ลงเอยด้วยการขอแต่งอีกครั้งในช่วงคริสต์มาส

    เทศกาลคริสต์มาสก็เพิ่งผ่านพ้นไป แต่กลิ่นอายแห่งความสุขก็ยังคงอบอวลไปทั่วตลอดช่วงเวลานี้ เราจะเห็นได้ว่าผู้คนต่างก็แฮปปี้สุดๆ ในช่วงท้ายปีนี้ บางครอบครัวก็ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา #เหมียวบู้บี้ รู้สึกชอบเทศกาลนี้จัง อีกครอบครัวที่ได้ถือโอกาสในเทศกาลคริสต์มาสเพื่อรวมตัวกันอีกครั้งนั่นก็คือครอบครัวของ Jeffrey ผู้ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวสุดประทับใจให้เราได้รับรู้ผ่านทางทวิตเตอร์   My parents were married for more than 20 years, divorced, fought a lot, went to work on themselves. Years later, they start dating and as of yesterday, this happened; Congrats Mom and Dad! True love always finds its way back around. pic.twitter.com/KYk3qc1QK4 — Jeffrey…

  • คาใจชาวเน็ตเหลือหลาย เมื่อสองอินสตาแกรมดันมีโทนเดียวกันเป๊ะ ใครมาก่อนกัน?

    คาใจชาวเน็ตเหลือหลาย เมื่อสองอินสตาแกรมดันมีโทนเดียวกันเป๊ะ ใครมาก่อนกัน?

    เพื่อนๆ คงจะเคยได้ยินข่าวการขโมยภาพหรือขโมยไอเดียจากอินสตาแกรมกันมาบ้าง ซึ่งเรื่องราวแบบนี้ก็มักจะเกิดกับสาวๆ ซะส่วนใหญ่ ซึ่งในครั้งนี้เรื่องตกเป็นของ 2 สาว Rosie Clayton และ Jenn Lake ที่ทั้งคู่ใช้อินสตาแกรมโพสต์ภาพแฟชั่นเครื่องแต่งกายของแบรนด์ต่างๆ ที่ดูไปแล้วก็มีความคล้ายกันอยู่หลายภาพเลยล่ะ Rosie Clayton คือผู้ค้าเครื่องแต่งกายจากแบรนด์ Abercrombie & Fitch and J.Crew ที่ได้ถ่ายภาพนำเสนอสินค้าต่างๆ ลงในอินตาแกรม โดยเมื่อไม่นานมานี้เธอโดนกล่าวหาจาก Jenn Lake ว่า ‘ขโมยไอเดีย’ หลังจากที่ทั้งคู่มีภาพการถ่ายเครื่องแต่งกายที่มีฉากหลังและธีมสีที่คล้ายกันแบบสุดๆ   หลังจากหนึ่งเดือนที่เรื่องนี้ได้เกิดขึ้น Jenn Lake ได้เปิดตัวเว็บไซต์ที่ชื่อว่า  What to do when you’re being copied on Instagram ซึ่งเนื้อหาในเว็บไซต์เป็นการกล่าวหาถึง Instagrammer รายหนึ่งโดยไม่เอ่ยชื่อ ที่คัดลอกทั้งแคปชั่น สถานที่ คอนเซ็ปต์ รวมถึงสไตล์การแต่งตัวของเธอไป     Lake มีผู้ติดตามในอินสตาแกรม 151,000 คน ในขณะที่ Clayton มีผู้ติดตาม 120,000 คน ชาวเน็ตหลายคนเห็นว่า Clayton ใช้กลยุทธ์ที่ดูง่ายเกินไป ทำให้มีคะแนนความนิยมน้อยลงไปด้วย     นอกจากสีสันและฉากหลังที่ดูคล้ายกันแล้ว เรายังสามารถตรวจสอบการโพสก่อน-หลัง ของภาพทั้งสองได้จากการดูวันที่ เช่นภาพด้านล่างนี้ Clayton…

  • ฝ่ายค้านรัสเซียบ่นหน่วยงานเลือกตั้ง ห้ามคู่แข่ง “ปูติน” ลงสมัคร แบบนี้เอาแชมป์ไปเลยพ่อ!!

    ฝ่ายค้านรัสเซียบ่นหน่วยงานเลือกตั้ง ห้ามคู่แข่ง “ปูติน” ลงสมัคร แบบนี้เอาแชมป์ไปเลยพ่อ!!

    “ปูตินอ่ะนะ เขาโคตรกลัวและหวาดเกรง ที่จะต้องแข่งเลือกตั้งกับผมไง!!” หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อของ Alexei Navalny มาบ้างแล้ว เขาคือผู้นำฝ่ายค้านของรัสเซีย นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญของประธานาธิบดี Putin อีกด้วย Alexei เป็นผู้นำรณรงค์ในเรื่องของการต่อต้านทุจริต และยังยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามผู้นำรัสเซียคนปัจจุบันอย่างหัวชนฝา เพิ่งโดนคณะกรรมการเลือกตั้งรัสเซีย ตัดสิทธิ์ไม่ให้เขาลงสมัครแข่งขัน     คณะกรรมการ 12 จากทั้งหมด 13 คน ระบุว่าเขาโดนตัดสิทธิ์เพราะเคยมีคดีเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นเสียเอง จากคดียักยอกไม้จากบริษัทรัฐวิสาหกิจ ที่ศาลรัสเซียตัดสินไปในปี 2013 แต่ Alexei โต้แย้งกับคดีดังกล่าว และระบุว่ามันคือสาเหตุทาง “การเมือง” ที่จงใจให้เขามีความผิด นอกจากนี้ทางศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ก็ได้โต้แย้งให้คำตัดสินของศาลรัสเซียเป็นโมฆะในภายหลังด้วย ดราม่ายังไม่จบ เพราะมีการฟื้นคดีของเขาขึ้นมาตัดสินใหม่ และศาลรัสเซียยังยืนยันคำตัดสินว่าผิดเช่นเดิม แต่เป็นโทษจำคุก 5 ปี ให้รอลงอาญาเอาไว้ก่อน     เรื่องดังกลาวทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก ถึงกับออกมาพูดว่านี่เป็นการกลั่นแกล้งจากรัฐบาลของปูติน และพวกเขาไม่ต้องการให้ Alexei ลงสมัคร เนื่องจากมีคนรัสเซียอีกหลายล้านคนที่สนับสนุนเขา และยืนตรงข้ามกับปูตินเช่นกัน “Vladimir Putin คงจะกลัวจนตัวสั่น เขาเกรงกลัวที่จะแข่งขันกับผม” Alexei กล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่อัพโหลดขึ้นออนไลน์…

  • ชม “10 หนุ่มซานตาคลอส” จากเอเชีย ที่จะมากระชากใจสาวๆ ให้กลายเป็นกวางน้อยในกำมือ

    ชม “10 หนุ่มซานตาคลอส” จากเอเชีย ที่จะมากระชากใจสาวๆ ให้กลายเป็นกวางน้อยในกำมือ

    เมื่อพูดถึงซานตาคลอส เพื่อนๆ คงจะนึกถึงคุณลุงฝรั่งใจดีที่มีหนวดเคราสีขาวยาวเฟื้อย ที่ใส่ชุดสีแดงสดใสและแบกถุงของขวัญมาเต็มคันรถ แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่านอกจากคุณลุงฝรั่งซานต้าผู้ใจดีแล้ว ยังมีหนุ่มๆ เอเชียอีกหลายคยเลยนะ ที่ใส่ชุดสีแดงออกมาดูดีไม่แพ้ซานต้าตัวจริง เรียกได้ว่าเป็น “ซานตาคลอสแห่งเอเชีย” ที่สาวๆ อยากเจอมากที่สุดเลยก็ว่าได้ จะมีใครมาแจกของขวัญเราบ้าง?? ไปดูกันเลย!! 1. Godfrey Gao นักแสดงและนายแบบชาวไต้หวัน ที่มีหน้าและรูปร่างน่ากอดไม่น้อยไปกว่าซานต้าตัวจริง ในภาพนี้เขาสวมซานต้าเพื่อไปเยี่ยมเด็กๆ ในเซี่ยงไฮ้ ทั้งหล่อทั้งใจดีแบบนี้อยากเป็นกวางให้เธอขี่ซะจริงๆ เลยนะ   2. Masahiro Tanaka ซานต้าหน้าตี๋คนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือนักเบสบอลวัย 29 ปี ที่อยู่ในทีมดังอย่าง New York Yankees ถึงแม้ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นแต่เขาก็ใส่ชุดซานต้าออกมาได้น่ารักไม่เบาเลยล่ะ   3. Sehan และ Baekhyun วง Exo ถึงแม้ว่าสองหนุ่มจะไม่ใช่ซานต้าและเราก็ให้เข้ารอบมาด้วยความน่ารักน่าหยิกในคราบของกวางน้อย เห็นแบบนี้แล้วอยากเลี้ยงกวางขึ้นมาทันทีเลยล่ะ   4. Eugene Lee Yang หนุ่มหน้ากวนที่เราเห็นเขาได้ในคลิปวิดีโอของเว็บไซต์ Buzzfeed นอกจากที่เขาจะมีเสน่ห์แบบเกาหลีแล้วการสวมใส่ชุดซานต้าของเขาก็ทำให้ดูฮอตขึ้นไปอีกสองเท่า .   5. Sung Hoon ซานต้าจากเกาหลีคนนี้น่าจะทำให้สาวๆ…

  • นิทรรศการ ซองตะเกียบ 8,000 ชิ้น ของญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงอีกหนึ่งวัฒนธรรมที่กำลังเป็นที่นิยม

    นิทรรศการ ซองตะเกียบ 8,000 ชิ้น ของญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงอีกหนึ่งวัฒนธรรมที่กำลังเป็นที่นิยม

    ที่ประเทศญี่ปุ่น วัฒนธรรมการใช้ตะเกียบถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวญี่ปุ่น โดยร้านอาหารแทบทุกที่ในญี่ปุ่นก็จะมีซองใส่ตะเกียบลายน่ารักๆ แตกต่างกันไปแต่ละร้าน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดูเหมือนว่าญี่ปุ่นช่างดูแลเอาใจใส่กับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ นี้เหลือเกิน และอีกหนึ่งวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนยังไม่ค่อยมีใครรู้นั่นก็คือ เวลาที่ไปทานอาหารที่ร้าน ชาวญี่ปุ่นจะไม่นิยมให้ทิปกันเด็ดขาด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าอัตราค่าครองชีพที่สูงและชาวญี่ปุ่นก็มีความนอบน้อม และถือว่าการบริการนั้นออกมาจากใจจริงๆ ดังนั้นการให้ทิปจึงไม่มีความจำเป็นสักเท่าไหร่     Yaki Tatsumi พนักงานเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ได้สังเกตว่าทุกครั้งที่เขาเก็บโต๊ะ ซองตะเกียบมักถูกพับเป็นรูปร่างต่างๆ และเขาก็เกิดปิ๊งไอเดีย อยากจะเก็บประติมากรรมเล็กๆ นี้ไว้ เขาจึงได้เก็บรวบรวมผลงานของลูกค้าแต่ละท่านไว้ รวมไปถึงการขอความร่วมมือจากร้านอาหารร้านอื่นๆ อีก 47 แห่ง ให้เก็บผลงานเหล่านี้ไว้อีกด้วย   . . . .   เขาสามารถรวบรวมผลงานการพับซองตะเกียบได้ถึง 8,000 ชิ้น ที่ทำมาจากซองตะเกียบกว่า 13,000 ชิ้นเลยทีเดียว ถึงจะเป็นสิ่งเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่มากเลยนะเนี่ย   เขาได้นำผลงานซองตะเกียบทั้งหมดมาจัดแสดงโชว์ในศูนย์นิทรรศการโตเกียว เพื่อแสดงให้เห็นการแสดงความชื่นชมต่อพนักงานในอีกรูปแบบหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นทำ .   ที่มา mymodernmet, thisiscolossal

  • น้องหงส์หลงฝูงมาไกลกว่า 500 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงช่วยพามันกลับไปให้ถึงบ้าน

    น้องหงส์หลงฝูงมาไกลกว่า 500 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงช่วยพามันกลับไปให้ถึงบ้าน

    เมื่ออากาศเริ่มหนาวเย็นลงในเดือนธันวาคมแบบนี้ ทำให้สัตว์บางชนิดต้องย้ายที่อยู่อาศัยชั่วคราว เพื่อหาสถานที่ที่เหมาะกับพวกมันมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าจะมีเจ้าหงส์อยู่ตัวหนึ่งที่เลือกสถานที่ได้ไม่เก่งเอาซะเลย เจ้าหงส์ตัวนี้หลงฝูงมาไกลกว่า 500 กิโลเมตร จนมาโผล่ที่ทะเลสาบ Finskoye บนเทือกเขาอัลไต ประเทศรัสเซีย ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความหนาวเย็นอย่างมาก จนผิวน้ำจับตัวกันเป็นน้ำแข็ง   เจ้าหงส์ที่หลงฝูงมาซะไกล .   แน่นอนว่าในอุณหภูมิติดลบ 40 องศาเซลเซียส แถมน้ำก็ยังกลายเป็นน้ำแข็งไปซะหมดแบบนี้ ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะกับเจ้าหงส์ซักเท่าไหร่ มันจึงป้วนเปี้ยนไปมาอย่างไร้ความหวัง โดดเดี่ยวเดียวดาย แถมยังถูกเหล่าสุนัขเจ้าถิ่นไล่อีกต่างหาก ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร โชคดีของมัน เมื่อพนักงานดับเพลิงในละแวกนั้นผ่านมาเจอเข้า จึงช่วยมันเอาไว้และตั้งชื่อให้มันว่า Lev (ในภาษารัสเซียแปลว่าสิงโต) ถึงแม้ว่ามันจะพยายามหนีในตอนแรกเพราะตื่นคน แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถจับมันได้สำเร็จ   กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ทำการช่วยเหลือมันเอาไว้ . . .   หลังจากนั้น พวกเขาจึงส่งมันให้กับเจ้าหน้าที่เขตสงวนธรรมชาติ Saylyugem ผู้ที่คอยพาเหล่าสัตว์ปีกหลงทางกลับไปหาเพื่อนๆ ของมันในสถานที่ที่เหมาะสม เมื่อพามันข้ามเทือกเขาอัลไตไปแล้ว วันที่ 22 ธันวาคม 2017 มันจึงได้ไปอาศัยอยู่กับเหล่าหงส์จำนวนกว่า 350 ตัว ในทะเลสาบ Svetloe ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ และในพื้นที่ดังกล่าวมีการเพิ่มขึ้นของประชากรหงส์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี…

  • พ่อหนุ่มหุ่นหมี Jason Momoa ผู้ชายอะไร ดูเถื่อนต่อหัวใจ เข่าอ่อนระทวยหมดแล้ว งื้อออ

    พ่อหนุ่มหุ่นหมี Jason Momoa ผู้ชายอะไร ดูเถื่อนต่อหัวใจ เข่าอ่อนระทวยหมดแล้ว งื้อออ

    เทรนด์หนุ่มหุ่นหมีกอดอุ่นๆ กำลังมาเลยจ่ะสาวๆ หน้าหนาวแบบนี้ถ้าหากมีผู้ชายตัวใหญ่ๆ มาให้กอดก็คงดีไม่น้อย รู้ไหมว่าหนุ่มหุ่นหมีนอกจากจะกอดอุ่นแล้ว ภายใต้ความนุ่มนิ่มนั้น เค้ายังซ่อนความน่ารักอยู่ในตัวเยอะอีกด้วย เนี่ย ของมันต้องมี และเมื่อพูดถึงหนุ่มหุ่นหมี สาวๆ ก็คงจะต้องถูกอกถูกใจกับพ่อหนุ่ม Jason Momoa นักแสดง นายแบบชื่อดังที่เพิ่งจะฝากผลงานในเรื่อง Justice League กับบท Aquaman อีกหนึ่งตัวละครหลักในเรื่อง นอกจากนี้เขาก็ยังฝากผลงานอีกมากมายไว้ในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ #เหมียวบู้บี้ ว่าเรามาทำความรู้จักกับพ่อหนุ่มคนนี้กันเลยดีกว่า รับรองว่าคุณจะต้องตกหลุมรักกับความ Jason นี้อย่างแน่นอน   เปิดด้วยรูปแรก คงจะคุ้นกันบ้างกับบท Aquaman จาก Justice League   พี่แกถ่ายรูปขึ้นปกนิตยสารดูดีมากเลยนะ คิดเหมือนกันเปล่า?   คู่รักเก่าจากซีรีส์ Game of Thrones   แต่ถ้าอยู่กับแก๊งยอดมนุษย์ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง   อย่าสบตานานนะ เดี๋ยวละลาย   รอยยิ้มในรอบปฐมทัศน์ Justice League สดใสเชียวพ่อคุณ   ภรรยาสาวสวย Lisa…

  • เหมียวตาเขได้พานพบเพื่อนที่เหมือนกัน แม้มองหน้ากันไม่ติด (ก็ตาเขอ่ะ) แต่ก็สัมผัสได้ด้วยใจ

    เหมียวตาเขได้พานพบเพื่อนที่เหมือนกัน แม้มองหน้ากันไม่ติด (ก็ตาเขอ่ะ) แต่ก็สัมผัสได้ด้วยใจ

    ทุกสรรพสิ่งบนโลกล้วนต้องการความรักและความเอาใจใส่จากใครซักคน ไม่เว้นแม้แต่กับเจ้าเหมียวน้อยตาเขตัวนี้ที่ถูกช่วยเหลือเอาไว้เมื่อ 4 ปีก่อน จนในที่สุดมันก็ได้รับความอบอุ่นอย่างที่หาจากที่ไหนไม่ได้เลย เจ้าแมวตัวนี้มีชื่อว่า Crosby ที่ถูกพบเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในลานจอดรถแห่งหนึ่ง และได้รับการช่วยเหลือเอาไว้จากเจ้าหน้าที่ Valerie จากกลุ่ม Fort Collins Cat Rescue ในรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา   Crosby เจ้าเหมียวตาเข ที่ได้รับการช่วยเหลือเอาไว้   Valerie บอกว่า “ตอนที่ฉันพยายามจะจับมัน ทำให้ฉันรู้ได้เลยว่ามันเป็นมิตรและน่ารักมากขนาดไหน ฉันจึงหวังที่จะให้มันได้พบกับบ้านที่แท้จริง” เธอจึงช่วยพามันไปไว้ในบ้านอุปถัมภ์และมันก็ชอบมานอนหลับบนตักของเธอ ในตอนนั้นเจ้าเหมียวอายุประมาณ 3-5 ขวบ และผ่านไปไม่นาน มันก็ได้เจอกับ Kim Hallowell นักศึกษาสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัย Tufts เจ้าของคนใหม่ที่เข้ามามอบความรักและเปลี่ยนชีวิตมันไปตลอดกาล   เจ้าเหมียวได้เจอกับคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างไปกับมัน   Kim เล่าว่า “ตลอด 4 ปีที่อยู่ด้วยกันมา มันคือเพื่อนที่เดินทางไปด้วยกันกับฉันตลอด ฉันและ Crosby ได้ออกไปเที่ยวกันมาถึง 4 ประเทศแล้ว” เธอยังบอกอีกว่า “ฉันว่ามันเหมือนหมามากกว่าแมว เวลาฉันเผลอทีไร…

  • เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังปาร์ตี้กัน พร้อมตรวจพบแอลกอฮอล์ในอากาศ 0.01 BAC

    เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังปาร์ตี้กัน พร้อมตรวจพบแอลกอฮอล์ในอากาศ 0.01 BAC

    เหตุการณ์สุดแปลกนี้เกิดขึ้นที่เมือง Bethesda รัฐแมริแลนด์ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าจับกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังปาร์ตี้กันอย่างเมามัน พร้อมกับถูกเขียนรายงานว่ามีการพบแอลกอฮอล์ในอากาศอีกด้วย หลังจากที่มีเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์สามารถตรวจจับปริมาณแอลกอฮอล์ได้!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมือง Bethesda รัฐแมริแลนด์ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการจัดปาร์ตี้กันอย่างหนักหน่วงในบ้านหลังหนึ่ง     จากรายงานงานของศาลระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบหน้าต่างที่หลุดออกมา กระป๋องเบียร์และเศษถุงพลาสติกอีกจำนวนมากในบ้านหลังดังกล่าว และเมื่อให้เครื่องตรวจแอลกอฮอล์ก็พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในอากาศถึง 0.01 BAC เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าบ้านหลังดังกล่าวได้จัดงานปาร์ตี้ของชมรมจากมหาวิทยาลัยที่ใช้ชื่อว่างาน Tequila Tuesday โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 70 คนที่มีอายุระหว่าง 17 ถึง 20 ปี นอกจากนี้ทางหัวหน้ากลุ่มทั้ง 6 คนยังถูกตั้งข้อหาอนุญาตให้เยาวชนที่อายุไม่บรรลุนิติภาวะดื่มแอลกอฮอล์ และถูกปรับเป็นเงินถึง 315,000 เหรียญหรือประมาณ 1 ล้านบาท     และดูเหมือนว่าทางกลุ่ม Sigma Alpha Epsilon จากมหาวิทยาลัย American University นั้นจะยังไม่เข็ด โดยในปีนี้พวกเขาถูกดำเนินคดีจากการจัดปาร์ตี้อย่างหนักหน่วงไปแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน   ที่มา odditycentral, foodbeast

  • Contra 2028 เกมยิง Unreal Engine 4 สุดเจ๋งที่สร้างโดยนักศึกษา 8 คนกับอีก 8 สัปดาห์!?

    Contra 2028 เกมยิง Unreal Engine 4 สุดเจ๋งที่สร้างโดยนักศึกษา 8 คนกับอีก 8 สัปดาห์!?

    กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันยกใหญ่เลยทีเดียว เมื่อนักเรียนเพียง 8 คน ได้สร้างเกมใหม่ขึ้นมาเพื่อใช้ในเป็นโปรเจกต์ที่โรงเรียน แต่ทว่าตัวงานดังกล่าวนั้นกลับมีคุณภาพเยี่ยมและน่าสนใจ พออัปโหลดคลิปลงไม่นานก็มีคนดูเพียบ ตัวเกมนั้นมีชื่อว่า Contra 2028 ซึ่งถูกดึงชื่อมาจากเกม Contra จากเครื่องเกมยุคเก่า ซึ่งทีมนักศึกษาทั้ง 8 ก็บอกว่าพวกเขาได้แรงบันดาลใจจากเกมดังกล่าวจริงๆ และอยากทำให้มันสนุกน่าเล่นยิ่งขึ้น ประจวบกับตัวโปรเจกต์ส่งอาจารย์ที่ตัวนี้ ทำให้พวกเขาต้องช่วยกันทำให้เสร็จภายในเวลา 8 สัปดาห์     สุดท้ายทุกคนก็ร่วมมือกันสุดฝีมือจนออกมาเป็นเกม Contra 2028 ซึ่งตัวเกมนั้นจะมีรูปแบบเกมเดินยิงลุยๆ ผ่านมุมมองบุคคลที่สามและต้องสู้กับฝูงเอเลี่ยน โดยมีคุณภาพกราฟฟิคระดับ Unreal Engine 4 ส่วนการเคลื่อนไหวและแนวเกมหลักๆ จะคล้ายกับเกม Geam or War และ Vanquish ผสมเข้าด้วยกัน     นอกจากนี้ถ้าใครสนใจตัวเกมดังกล่าว ทางนักศึกษาทั้ง 8 คนก็ได้ปล่อยให้ทุกคนได้โหลดไปเล่นกันฟรีๆ ด้วยนะ ใครสนใจก็เข้าไปโหลดได้ที่ contragon เลยจ้า ไม่หมดเท่านั้น หลังจากที่ตัวเกมได้ปล่อยออกไป ก็มีข่าวแว่วๆ ว่า ทีมนักศึกษาทีมนี้ได้มีการถูกเสนองานให้เยอะแล้วด้วย งานนี้อนาคตไกลแน่นอน     ส่วนถ้าใครสงสัยว่าทำไมในตัวคลิปเกมนั้นถูกคนดิสไลก์เยอะมากๆ…

  • ครอบครัวปริ๊นท์รูปลูกแปะบนขวดไวน์แจกครู ‘เพราะลูกๆ คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ครูต้องดื่ม’

    ครอบครัวปริ๊นท์รูปลูกแปะบนขวดไวน์แจกครู ‘เพราะลูกๆ คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ครูต้องดื่ม’

    ช่วงเทศกาลแบบนี้ หลายคนคงได้มอบของขวัญให้กับคนที่เรารักในวันคริสต์มาสที่ผ่านมาเหมือนอย่างครอบครัวนี้ เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้นำของขวัญไปมอบให้กับอาจารย์ที่คอยดูแลลูกๆ มาตลอด และนี่ก็เป็นของขวัญที่พิเศษกว่าปีไหนๆ ครอบครัว Sommers จากเมือง Dayton รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ครอบครัวนี้ประกอบด้วยพ่อแม่และลูกๆ อีกสามคน ซึ่งทั้งสามนั้นเข้าเรียนในโรงเรียนเดียวกัน และในปีนี้คือปีสุดท้ายของ Jake ลูกชายคนสุดท้องวัย 14 ปี พวกเขาจึงต้องการที่จะมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับอาจารย์ที่คอยดูแลมาตลอด   Jake (คนซ้ายสุด) เด็กแสบประจำโรงเรียน ที่ทำให้คุณครูต้องรู้สึกปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง   นี่คือปีสุดท้ายในการเรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ พ่อแม่ของเขาจึงต้องการมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับเหล่าคณาจารย์ เพื่อแสดงความขอบคุณที่ดูแลเด็กเกรียนคนนี้มาโดยตลอด   Mary ผู้เป็นแม่จึงตัดสินใจ แปะรูปลูกชายของเธอลงบนขวดไวน์องุ่น พร้อมกับข้อความว่า “ลูกๆ ของพวกเราคงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณต้องดื่มไวน์” ก่อนที่จะนำไปแจกให้กับอาจารย์ทุกคน   แม่ของเขาบอกว่า “ลูกของฉันเป็นเด็กแสบมาตั้งแต่อนุบาล และนั่นก็ทำให้คุณครูถึงกับต้องกุมขมับกับความซ่าของเขา” มันจึงไม่แปลกอะไรถ้าคุณครูจะอยากยกดื่มลืมความเกรียนของเด็กคนนี้ไปซะ   ทั้งครอบครัวคิดว่าของขวัญชิ้นนี้มันดูฮาดี และ DJ พี่ชายวัย 19 ปีได้นำเรื่องนี้ไปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ ทำให้ได้รู้ว่าชาวเน็ตเองก็คิดเหมือนกันกับพวกเขา มีการรีทวีตไปกว่า 6,000 ครั้ง และกดไลก์อีกหลายหมื่น  …

  • จีนดำเนินการสร้าง ‘ถนนหลวงแห่งพลังงาน’ ช่วยผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ปริมาณมหาศาล

    จีนดำเนินการสร้าง ‘ถนนหลวงแห่งพลังงาน’ ช่วยผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ปริมาณมหาศาล

    ภาพของการก่อสร้างถนนแห่งอนาคตในประเทศจีนที่ถูกเผยแพร่จากสื่อท้องถิ่น กลายเป็นที่ฮือฮากันอย่างมากหลังจากที่ทางการจีนเตรียมใช้ถนนแห่งนี้ช่วยผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงแดด และมีแผนเตรียมเปิดใช้ในสิ้นปี 2017 ทางหลวงแห่งนี้เป็นถนนโซล่าเซลล์แห่งแรกในประเทศจีน ซึ่งเริ่มก่อสร้างในเมืองจี่หนาน มณฑลชานตง จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ถนนแห่งนี้จะเป็นทางด่วนขนาด 2 เลนและมีความยาวถึง 2 กิโลเมตร     ทางหลวงแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นถนนโซล่าเซลล์เท่านั้น แต่มันยังสามารถชาร์จไฟให้กับรถไฟฟ้าที่วิ่งผ่านได้อีกด้วย นอกจากนี้อีกหนึ่งความพิเศษของทางหลวงเส้นนี้ก็คือ มันสามารถเพิ่มอุณหภูมิได้ ซึ่งจะทำให้ไม่มีหิมะเกาะที่ถนน เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทางหลวงพลังงานแสงอาทิตย์นี้ถูกสร้างขึ้นมาจากแผงโซล่าเซลล์ชนิดพิเศษ มันจะเชื่อมต่อไปยังระบบไฟฟ้าของหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชน     ทางหลวงแห่งนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น มันถูกก่อสร้างภายใต้การดำเนินการของบริษัทพัฒนาระบบคมนาคม Qilu Transportation Development Group โดยในชั้นแรกนั้นจะถูกปูด้วยคอนกรีตซึ่งมีความทนทานเหมือนกับยางมะตอย ส่วนขั้นที่ 2 จะเป็นชั้นของแผงโซล่าเซลล์ที่จะเป็นแหล่งสร้างพลังงาน และชั้นสุดท้ายจะเป็นฉนวนซึ่งทำหน้าที่กั้นระหว่างแผ่นโซล่าเซลล์กับพื้นดิน     ขั้นตอนการสร้างถนนพลังงานแสงอาทิตย์ แห่งแรกของประเทศจีน   จากการรายงานของสื่อต่างประเทศตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา ทางผู้รับเหมาได้ทำการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไปแล้วกว่า 660 ตารางเมตร และคาดว่าถนนแห่งนี้จะพร้อมเปิดให้ใช้งานในช่วงสิ้นปีนี้   ถนนพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของโลกนั้นตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Tourouvre-au-Perche ประเทศฝรั่งเศส มีขนาดยาวทั้งสิ้น 1 กิโลเมตร ประกอบด้วยแผงโซล่าเซลล์ถึง…

  • สาวมหาลัยกับการสอบสุดระทึก ลืมของไม่พอ เข้าห้องสอบก็ผิด เพื่อนๆ ที่ไม่รู้จักก็ช่วยกันลุ้นสุดตัว

    สาวมหาลัยกับการสอบสุดระทึก ลืมของไม่พอ เข้าห้องสอบก็ผิด เพื่อนๆ ที่ไม่รู้จักก็ช่วยกันลุ้นสุดตัว

    การสอบในช่วงมหาลัยนั้น ถือเป็นอะไรที่วุ่นวายและกดดันสุดๆ เพราะถ้าคุณสอบไม่ผ่านและต้องติด F เท่ากับว่าคุณจะต้องเสียเวลาไปอีก 1 เทอมหรือ 1 ปี เพื่อมาซ่อมมัน และปัญหาที่ยากสุดสำหรับนักเรียนปี 1 กับการสอบครั้งแรกคือ การหลงทาง ด้วยความที่เรายังใหม่ มาเรียนได้แค่ 1 เทอมยังจำได้ไม่แม่นนัก ยิ่งถ้าคลาดกับเพื่อนไปชีวิตคือจบทันที เช่นเดียวกับ Ann Mark นักศึกษาปีหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ที่เธอจะต้องไปสอบไฟนอลแต่เธอดันทำพลาดครั้งใหญ่ เรื่องมันเริ่มจากที่เธอได้เล่าลงบนทวิตเตอร์ของเธอว่าต้องไปสอบโดยการเขียนเรียงความลงบนหนังสือสีฟ้า ซึ่งหนังสือนี้เป็นหนังสือที่เธอต้องส่งให้อาจารย์ตรวจ แต่ว่าเธอดันลืมมัน ทำให้เธอต้องวิ่งไปซื้อมาให้ไวที่สุด จากนั้นก็วิ่งไปห้องสอบ   เผื่อใครดูไม่ได้ สามารถเข้าไปดูคลิปเต็มๆ ของเธอได้ที่ @annmarkk My first!!!!! College!!!! Exam!!!! Was magical ?? D is for Degree amiright pic.twitter.com/3WOBiJT3AF — Ann Mark (@annmarkk) December 15, 2017   ยัง ยังไม่หมดเพราะนอกจากลืมหนังสือดังกล่าวแล้ว…

  • เคสอันแปลกประหลาดของครอบครัวอิตาลี ‘ไม่รับรู้ความเจ็บปวด’ กับการไขความจริงของนักวิทย์ฯ

    เคสอันแปลกประหลาดของครอบครัวอิตาลี ‘ไม่รับรู้ความเจ็บปวด’ กับการไขความจริงของนักวิทย์ฯ

    หลายคนอาจคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย แต่ครอบครัวนี้กลับมีสิ่งที่เรียกว่าใกล้เคียงกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้นมากจริงๆ นี่คือครอบครัวของ Letizia Marsili คุณแม่ชาวอิตาลีวัย 52 ปี ผู้ที่รับรู้ความเจ็บปวดไม่เหมือนคนทั่วไป เพราะเธอแทบจะไม่รู้จักกับคำว่าเจ็บเลยแม้แต่น้อย จนกลายเป็นที่มาของความผิดปกติที่ชื่อว่า The Marsili Syndrome   Letizia หญิงสาวที่แทบจะไม่รู้จักกับคำว่าเจ็บมาก่อนเลย   เธอเล่าว่า เธอและสมาชิกอีก 5 คนที่เป็นเหมือนกันจะแทบไม่รู้สึกถึงอาการเจ็บกับร่างกายใดๆ เลย ต่อให้กระดูกหัก มีดบาด โดนไฟไหม้ พวกเธอจะรู้สึกเจ็บแค่ไม่กี่วินาที แล้วความเจ็บนั้นจะหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างเช่นลูกชายของเธอ Ludovico วัย 24 ปี ที่แม้จะได้รับอาการบาดเจ็บจากการเล่นฟุตบอลมากขนาดไหน แต่เขาก็สามารถลุกขึ้นมาวิ่งต่อได้ด้วยสีหน้าปกติ ซึ่งหากเอ็กซเรย์ดูจะพบว่าแท้จริงแล้วร่างกายของเขาได้รับการบาดเจ็บหลายจุดเลย Bernardo ลูกชายคนสุดท้องวัย 21 ปี ในตอนที่เขาปั่นจักรยานล้มจนกระดูกข้อศอกแตก เขาก็ยังลุกขึ้นมาปั่นต่อไปได้ไกลถึง 14 กิโลเมตร ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหมอก็เพิ่งมาพบว่าเขามีอาการบาดเจ็บก็ตอนที่กระดูกเริ่มฟื้นฟูตัวเอง     Maria Elena พี่สาวของเธอก็มักจะถูกกาแฟร้อนลวกปากอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร แม้แต่ตัว Letizia เองก็รับรู้ถึงอาการบาดเจ็บของตัวเองได้ยากมาก…

  • 2 พี่น้องผู้พลัดพราก กว่า 20 ปี สุดท้ายพบว่าเป็นรุ่นพี่ร่วมมหาลัย แถมอยู่บ้านใกล้ๆ กันอีกด้วย

    2 พี่น้องผู้พลัดพราก กว่า 20 ปี สุดท้ายพบว่าเป็นรุ่นพี่ร่วมมหาลัย แถมอยู่บ้านใกล้ๆ กันอีกด้วย

    เรื่องราวที่เหมือนกับละครนี้เกิดขึ้นกับ Kieron Graham หนุ่มวัย 20 ปีที่ถูกรับไปเลี้ยงตั้งแต่ตอนที่เขาอายุได้เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น พ่อแม่บุญธรรมของ Graham ไม่ได้ปิดบังเกี่ยวกับอดีตของเขา ทั้งสองเล่าเรื่องราวของแม่และพี่ชายให้กับชายหนุ่มฟัง Graham รู้ว่าตัวเองมีพี่ชายแท้ๆ ชื่อว่า Vincent และมีคุณแม่ชื่อว่า Shawn แต่ชายหนุ่มไม่รู้นามสกุลของทั้งคู่     และเมื่อไม่นานมานี้ Graham ได้เข้ารับการตรวจ DNA ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาได้พบคุณ Vincent Ghant ชายวัย 29 ปีที่มีค่า DNA ใกล้เคียงกับเขา และไม่เพียงแค่นั้นชายคนดังกล่าวยังมีวันเกิดใกล้เคียงกับข้อมูลที่ครอบครัวของ Graham มีอีกด้วย ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบทำการติดต่อคุณ Ghant ไปทันที ชายหนุ่มได้เล่าเรื่องของตัวเองให้กับคุณ Ghant ฟังพร้อมกับบอกว่าเขามีข้อมูลเพียงแค่ชื่อและวันเกิดของพี่ชายเท่านั้น คุณ Ghant ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed ว่าในตอนแรกเขานั้นไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่เพราะ Graham นั้นเปลี่ยนชื่อไปหลังจากที่ถูกรับไปเลี้ยง แต่เมื่อชายหนุ่มพูดชื่อของคุณแม่ขึ้นมาเขาถึงกับอึ้งเลยทีเดียว     “ผมรู้สึกประหลาดใจมาก มันไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเลยมีความรู้สึกมากมายที่ผ่านเข้ามาในหัวของผม ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เจอหน้าเขาเป็นครั้งแรก” Ghant ให้สัมภาษณ์กับรายการ Good Morning America แต่เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อของสองพี่น้องยังไม่หมดเพียงเท่านั้น พวกเขาทั้งคู่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันสาขาเดียวกัน แถมยังอยู่บ้านห่างกันเพียงแค่…

  • บริษัทของเล่นให้สาวๆ ใส่ชุดว่ายน้ำเข้าไปอยู่ในตู้คีบตุ๊กตา ชาวเน็ตว่าไม่เหมาะสม คนนะไม่ใช่สิ่งของ!!

    บริษัทของเล่นให้สาวๆ ใส่ชุดว่ายน้ำเข้าไปอยู่ในตู้คีบตุ๊กตา ชาวเน็ตว่าไม่เหมาะสม คนนะไม่ใช่สิ่งของ!!

    กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์กันอย่างมาก หลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ภาพของตู้คีบตุ๊กตาจากทางตอนใต้ของประเทศไต้หวันที่ทางบริษัทผู้เป็นเจ้าของ ได้นำเหล่าสาวๆ ไปนั่งอยู่ภายในตู้เพื่อเรียกลูกค้า ภาพของตู้คีบตุ๊กตาพร้อมกับเหล่าสาวๆ ที่อยู่ด้านในนั้นถูกมองว่าทำให้เหล่าสาวๆ กลายเป็นสิ่งของและหลายๆ คนก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีดังกล่าว     บริษัทเครื่องเล่นดังกล่าวโฆษณาว่า “ตู้คีบพร้อมกับสาวๆ นั้นจะทำให้คุณได้พบกับสิ่งที่ดีกว่า” โดยพวกเขาได้นำตู้ของเล่นทั้ง 4 ตู้นี้ไปตั้งไว้ในเมือง Tainan City ทางตอนใต้ของประเทศไต้หวัน โดยเหล่าสาวๆ ภายในตู้นั้นจะมีหน้าที่ทักทายและทำท่าทางเพื่อให้ผู้เล่นได้ชมระหว่างที่กำลังลุ้นกับการคีบตุ๊กตา อย่างไรก็ตามเจ้าตู้คีบนี้กลับประสบความสำเร็จอย่างมาก มีหนุ่มไต้หวันไม่น้อยที่สนใจเล่นเจ้าตู้คีบนี้ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบตุ๊กตาเลยก็ตาม     สาวๆ ที่อยู่ในตู้จะคอยโพสต์ท่าทาง และทักทายกับผู้เล่น   หลังจากที่ภาพของตู้คีบนี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ก็ได้มีหลายๆ คนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ชาวเน็ตท่านหนึ่งเขียนคอมเมนต์ว่า “มันทำให้ผู้หญิงดูเหมือนเป็นสิ่งของเลย” ส่วนบางคนก็กังวลว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีกระแสวิพากย์วิจารณ์ ทางบริษัทเจ้าของตู้คีบก็ได้ออกมากล่าวขอโทษ พร้อมกับกล่าวว่า “จากนี้ไปเราจะพิจารณามาตรฐานการจัดงานให้ดีขึ้น”     แหม่… ไม่รู้ว่าไปได้ไอเดียนี้มาจากที่ไหนนะเนี่ย??   ที่มา rocketnews

  • ตำรวจใช้กลยุทธ์จาก Simpson ดักจับคนร้ายที่ต้องการตัว แต่ที่เด็ดกว่าคือมันสำเร็จ!?

    ตำรวจใช้กลยุทธ์จาก Simpson ดักจับคนร้ายที่ต้องการตัว แต่ที่เด็ดกว่าคือมันสำเร็จ!?

    ใครจะคาดคิดว่ามุกตลกหลอกเด็กแบบ ทำทีว่าจะมีการมอบของขวัญชิ้นใหญ่ที่สำนักงานตำรวจเพื่อหลอกให้โจรมารับของขวัญ จากการ์ตูนเรื่อง Simpsons จะมีคนเอามาใช้จริงๆ แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่าคือมันดันสำเร็จซะด้วย!! เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่เมือง South Yorkshire โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ทางการกำลังตามตัวได้กว่า 21 คนได้สำเร็จด้วยวิธีสุดจะเหนือความคาดหมาย…     เจ้าหน้าที่ได้เรียกคดีนี้ว่า Operation Holly โดยพวกเขาได้ทำการ์ดอวยพรกับชื่อบริษัทมอบของขวัญแบบปลอมๆ ขึ้นมา พร้อมส่งการ์ดและของขวัญไปยังคนร้ายทั้ง 21 คน ซึ่งภายในการ์ดก็เขียนไว้ว่าเป็นของขวัญวันคริสต์มาสจากบริษัท Herald Hampers โดยทางบริษัทจะส่งแชมเปญสุดหรู ขนมและของขวัญอื่นๆ อีกเพียบไปให้ในเร็ววัน     แน่นอนว่าเมื่อเหล่าคนร้ายได้รับการ์ดแสดงความยินพร้อมบอกว่าของขวัญจะมาในเร็ววัน พวกคนเขาก็ไม่พลาดที่จะอยู่ติดกับบ้านเพื่อรอแชมเปญสุดหรูจากบริษัท Herald Hampers แต่แล้วเมื่อถึงวันที่ของจะมาส่ง พวกเขากับต้องเซอร์ไพรส์     กริ่งที่มากดหน้าบ้านของเหล่าคนร้าย แทนที่จะเป็นพนักงานส่งของ แต่มันดันโป๊ะแตกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปซะได้ งานนี้เหล่าคนร้ายทั้ง 21 คนที่เคยก่อคดีมากมาย ทั้งทำร้ายร่างกาย ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ เมาแล้วขับและอื่นๆ อีกเพียบ งานนี้ชาวเน็ตที่ได้อ่านข่าว ก็บอกว่าคดีแบบนี้มันช่างคุ้นเคยและคาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะได้แนวคิดมาจากการ์ตูนเรื่อง Simpson ในตอน ‘Lisa the Sceptic‘ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเมือง Springfield ได้คิดแผนตกโจรด้วยการมอบของรางวัลใหญ่แก่ผู้ที่มางานเป็นเรือมอเตอร์ ซึ่งสุดท้ายคนร้ายก็มาจริงๆ…

  • หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเยอรมันไอเดียดี ปริ๊นท์ลายกระดาษห่อของขวัญสองหน้า ใช้งานได้ทันทีหลังอ่านจบ

    หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเยอรมันไอเดียดี ปริ๊นท์ลายกระดาษห่อของขวัญสองหน้า ใช้งานได้ทันทีหลังอ่านจบ

    ในช่วงเทศกาลเดือนธันวาคมแบบนี้ หลายคนอาจกำลังตามหาของขวัญที่จะมอบให้กับคนที่เรารัก หรืออาจนำไปแลกของขวัญตอนปีใหม่ แต่ถึงแม้ว่าเราจะเจอของขวัญแล้ว อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือกระดาษห่อของขวัญให้ดูสวยงาม ซึ่งผู้คนในเยอรมันไม่จำเป็นต้องลำบากไปตามหากระดาษสวยกันอีกต่อไปแล้ว นั่นก็เพราะว่ากระดาษห่อของขวัญสีสันสวยงามได้ถูกแจกมาพร้อมกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของประเทศ Heilbronner Stimme โดยกระดาษห่อของขวัญดังกล่าวจะถูกคั่นกลางมาให้ถึง 2 แผ่นด้วยกัน และขนาดก็เรียกได้ว่าพอเหมาะพอเจาะกับกล่องของขวัญขนาดทั่วๆ ไป   กระดาษห่อของขวัญที่แถมมาในหนังสือพิมพ์   ผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อว่า PlanetGG ได้โพสต์รูปกระดาษห่อของขวัญที่แถมมานี้ลงไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2017 ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย WoodrowShigeru “ในฐานะที่ฉันห่อของขวัญมอบให้คนรู้จักมาทุกปี ฉันรู้สึกยินดีกับสิ่งนี้เป็นอย่างมาก หวังว่าในทุกเทศกาลจะมีอะไรแบบนี้อีกนะ” Kay_McE “ขอบคุณสำหรับสิ่งนี้ ฉันจะได้ไม่ต้องเปลืองตังค์ไปซื้อม้วนกระดาษแผ่นใหญ่ เพื่อมาห่อของขวัญแค่ชิ้นเดียวอีกแล้ว” lisbeth_salander2002 “เป็นไอเดียที่สุดยอดและน่าอัศจรรย์มากจริงๆ”   สุขกันไปทั้งคนให้และคนรับ   นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ส่งท้ายปี 2017 และก้าวสู่ปี 2018 ได้อย่างมีความสุขกันถ้วนหน้าเลย   ที่มา: reddit , twistedsifter

  • AI จาก Google ฉลาดล้ำเกินไปแล้ว สามารถคาดเดาและให้คะแนนภาพที่มนุษย์น่าจะชอบได้ตัวเอง

    AI จาก Google ฉลาดล้ำเกินไปแล้ว สามารถคาดเดาและให้คะแนนภาพที่มนุษย์น่าจะชอบได้ตัวเอง

    ในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยี AI นั้นได้ถูกพัฒนาไปไกลขึ้นเรื่อยๆ โดยมันได้ถูกนำไปใช้ในหลายๆ ด้าน และหลายค่ายก็ต่างพากันเข็น AI ในแบบของตัวเองออกมาโชว์สักยภาพกันให้เพียบ เช่นเดียวกับ NIMA (Neural Image Assessment) ของทาง Google ที่พวกเขากำลังพัฒนาให้มันสามารถคาดเดาความชอบและสิ่งที่มนุษย์น่าจะทำ โดยตอนนี้ได้มีการทดลองให้เจ้า AI ตัวนี้สามารถจัดหมวดหมู่และให้คะแนนภาพต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว การทำงานของมันนั้นก็ไม่มีอะไรมากเลย โดยเจ้า AI จะให้คะแนนภาพต่างๆ ตั้งแต่ 0.00 ถึง 10.00 ซึ่งมันจะวัดจากคุณภาพพิกเซลของภาพ องค์ประกอบและความสุนทรีย์โดยรวมของภาพนั้นๆ   ถ้าเราลองเทียบสองภาพดู เราก็จะรู้สึกแบบเดียวกับเจ้า NIMA เช่นกันว่าภาพทางขวาดูดีกว่า   เราอาจจะมองว่า แล้วทำไมเราต้องมาให้ AI ออกคะแนนให้กับภาพของเรา? คำตอบนั้นก็ง่ายมากๆ ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพเดิมๆ ซ้ำๆ ทีละ 20 ถึง 30 ภาพ การจะมานั่งคัดหาภาพที่ดีที่สุดทีละภาพก็คงจะเป็นอะไรที่เสียเวลา ฉะนั้นถ้าเราให้ NIMA มาให้คะแนนภาพต่างๆ มันก็จะช่วยให้เราลดจำนวนภาพที่เราคาดว่าจะชอบจาก 30 ภาพ…

  • นิตยสารชื่อดังจัดอับดับชายหนุ่มที่ ‘เซ็กซี่’ ที่สุดแห่งปี 2017 จนสาวๆ อยากง่ำๆ เงี๊ยวๆ

    นิตยสารชื่อดังจัดอับดับชายหนุ่มที่ ‘เซ็กซี่’ ที่สุดแห่งปี 2017 จนสาวๆ อยากง่ำๆ เงี๊ยวๆ

    ใกล้สิ้นปีแบบนี้ สื่อต่างๆ มักจะนำเสนอข่าวที่เป็นที่สุดแห่งปี ไม่ว่าจะเป็นข่าวเด่นแห่งปี หนุ่มหล่อแห่งปี สาวสวยแห่งปี คนดีแห่งปี งานดีแห่งปี สถานที่ท่องเที่ยวแห่งปี อะไรประมาณนี้ และเน่ื่องในวันใกล้สิ้นปีนี้ เราชาวแก๊งเหมียวเองก็อยากส่งท้ายเพื่อนๆ โดยเฉพาะสาวๆ ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจด้วยหนุ่มหล่อที่เซ็กซี่ที่สุดแห่งปี 2017 ซึ่งจัดอันดับโดยนิตยสาร GLAMOUR… จะมีใครบ้างนะ??   20. Alexander Skarsgard Alexander วัย 41 ปี เคยเดตกับ Alexa Chung ตั้งแต่ปี 2015 และเท่าที่รู้ ตอนนี้พวกเขายังรักกันดีจ้าาา เร็วๆ นี้เขาจะมีผลงานให้เราได้ดูผ่านละครเรื่อง Big Little Lies   19. Tom Hardy Tom วัย 40 ปี ได้แต่งงานกับนักแสดงสาว Charlotte Riley เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2014 ผลงานที่จะออกมาเร็วๆ นี้คือละครเรื่อง Taboo เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่เขียนขึ้นโดยพ่อของเขา ที่สำคัญเราจะเห็น Tom โชว์หุ่นล่ำๆ ในเรื่องนี้ด้วยนะ   18. John Boyega…

  • ชาวเน็ตญี่ปุ่นค้นพบว่ากล่อง Amazon มันพอดีตัว เขาเลยเปลี่ยนตัวเองให้เป็นอสูรกาย 4 ขา!!

    ชาวเน็ตญี่ปุ่นค้นพบว่ากล่อง Amazon มันพอดีตัว เขาเลยเปลี่ยนตัวเองให้เป็นอสูรกาย 4 ขา!!

    ญี่ปุ่นมักจะเป็นประเทศที่มีประชากรแปลกๆ อาศัยอยู่ และพวกเขามักจะคิดค้นอะไรที่คนทั่วไปมองข้ามเช่นกระแสแฟชั่นหรือเทรนการทำกิจกรรมแปลกๆ โดยล่าสุดพวกเขาก็ได้คิดค้นการแปลงร่างแบบใหม่ง่ายๆ แต่หลอนสุดๆ ไอ้การแปลงร่างที่ว่านั้นมันเกิดขึ้นจากการที่ชาวเน็ตคนหนึ่งนามว่า @donguri_rui ก็ได้สั่งของออนไลน์จากเว็บไซต์ Amazon ซึ่งเป็นโต๊ะ Kotatsu หรือโต๊ะที่มีฮีทเตอร์อยู่ข้างใต้นั่นเอง โดยไอ้เจ้าโต๊ะที่ว่ามันก็มาพร้อมกับกล่องจากทาง Amazon แต่ทีนี้ไอ้กล่องเจ้ากรรมมันดันมีโลโก้ Amazon ที่เป็นตัวหนังสือแบบโลโก้หน้ายิ้มติดมาด้วย พอหนุ่มเห็นเลยรู้สึกว่า เฮ้ย!! กล่องนี่ขนาดมันได้นะเนี่ย เลยจัดการตัดเป็นช่องสี่ช่องข้างกล่อง พร้อมยัดตัวเองเข้าไป และนี่ก็คือผลที่ได้…   ผ่างงงง!!   อสูรสี่ขา Amazon Box!!   ดูใบหน้าอันมั่นใจของเจ้าสี่ขาซะก่อน   เอาไปตัดต่ออีกสักหน่อยนี่หลอนใช้ได้เลยนะ อยากจะเห็นเวลาเดินจริงๆ   แต่อย่างไรก็ตาม @donguri_rui ก็ไม่ใช่คนแรกที่ริเริ่มการแปลงร่างเป็นเจ้ากล่องอสูรสี่ขา Amazon Box หรอกนะ เพราะว่าชาวเน็ตญี่ปุ่นคนหนึ่งได้เคยทำมันเมื่อนานมาแล้ว ซึ่ง @donguri_rui บอกว่าเขาก็ได้ไอเดียมาจากชาวเน็ตคนนี้แหละ     นอกจากนี้ชาวเน็ตคนอื่นๆ ที่เห็นภาพของ @donguri_rui ก็ยังช่วยกันหาภาพของชาวเน็ตคนอื่นที่คิดแบบเดียวกับเขามาแชร์อีกเพียบ แต่ละอันนี่สุดมากๆ ทว่าลองคิดแบบหลอนๆ ดูว่าถ้าเกิดพัสดุที่เราสั่งมันคลานสี่ขาเดินมาแบบนี้ตอนกลางคืน มันจะหลอนขนาดไหนกันนะ    อสูรสี่ขา Amazon Box ร่างดาบ   อสูรสี่ขา Amazon…

  • คุณพ่อปฏิเสธการช่วยปลูกถ่าย ‘ไขกระดูก’ ให้ลูกสาวผู้ป่วยเป็นมะเร็ง แม้เขาคือความหวังสุดท้าย…

    คุณพ่อปฏิเสธการช่วยปลูกถ่าย ‘ไขกระดูก’ ให้ลูกสาวผู้ป่วยเป็นมะเร็ง แม้เขาคือความหวังสุดท้าย…

    เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้รายงานเกี่ยวกับหญิงสาวชาวจีนผู้ป่วยเป็นลูคีเมียและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ความหวังสุดท้ายของเธอคือการปลูกถ่ายไขกระดูกจากพ่อแท้ๆ ของเธอ แต่ทว่าพ่อของเธอกลับทำให้ความหวังนั้นต้องพังลงไป นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสาวมหาลัยวัย 18 ปีที่ชื่อว่า Xinxin เธอถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นลูคีเมียเมื่อสามเดือนก่อน ทำให้เธอต้องรับยาเคมีบำบัดและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล Henan People’s Hospital เมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน   Xinxin เด็กสาวผู้ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว   นายแพทย์ Bai Yanliang บอกว่า เธอมีอาการที่หาได้ยากมาก มีการเติบโตของเนื้องอกและเซลล์เม็ดเลือดที่ผิดปกติอยู่ในบริเวณไขกระดูกของเธอ หมอบอกว่า “การรักษาที่ดีที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ คือการปลูกถ่ายไขกระดูกของคนในครอบครัว” แต่เนื่องจากว่าแม่เธอป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ส่วนน้องชายก็มีน้ำหนักน้อยจนเกินไป ทำให้ทั้งสองไม่สามารถปลูกถ่ายให้เด็กสาวได้ และความหวังสุดท้ายก็ตกไปอยู่กับพ่อแท้ๆ ที่หย่าร้างกันไป     ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้ Zhang ผู้เป็นพ่อบุญธรรม ออกตามหาพ่อแท้ๆ ของเธอที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลซานซี และเมื่อได้พบกันพ่อในสายเลือดก็ตบปากรับคำว่าจะช่วยเหลือลูกสาวของตัวเอง พ่อแท้ๆ เดินทางมารับการทดสอบความเข้ากันของไขกระดูก พบว่ามีความเข้ากันมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว   Zhang…

  • กองทัพสหรัฐ ทดลองฝังชิปลงในสมองมนุษย์ ซึ่งอาจช่วยให้เราปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้ในทันใด

    กองทัพสหรัฐ ทดลองฝังชิปลงในสมองมนุษย์ ซึ่งอาจช่วยให้เราปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้ในทันใด

    เราอาจเคยเห็นในหนังบางเรื่องที่มีการฝังชิปเอาไว้ในสมองเพื่อควบคุมคนคนนั้นได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งตอนนี้การฝังชิปควบคุมอาจไม่ใช่สิ่งที่เราจินตนาการกันต่อไป เมื่อนักวิจัยในสหรัฐอเมริกาสามารถพัฒนามันขึ้นมาได้จริงๆ นี่คือเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ใน สำนักงานวิจัยชั้นสูงของกระทรวงกลาโหม (DARPA) ของทหารสหรัฐอเมริกา พวกเขากำลังพัฒนาการฝังไมโครชิปลงในสมองของมนุษย์เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาในการควบคุมอารมณ์     เหล่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียและโรงพยาบาล Massachusetts General ผู้ออกแบบเจ้าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้บอกว่า มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ที่มีความผิดปกติทางอารมณ์ Edward Chang นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียบอกว่า “เรากำลังศึกษาว่าขอบเขตการทำงานของมันสามารถทำได้มากถึงขนาดไหน” จากการทดสอบกับผู้ป่วยลมชักจำนวน 6 คนพบว่า เจ้าชิปดังกล่าวสามารถรับรู้ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นภายในสมองของพวกเขาบ้าง และเมื่อติดตามดูผลไป 1-3 สัปดาห์พบว่า สามารถแกะรหัสเพื่อรับรู้ว่าคนคนนั้นอยู่ในอารมณ์ไหนได้อีกด้วย ซึ่งมันตรงกับที่สีหน้าที่พวกเขาแสดงออกมา ต่อมานักวิจัยได้ทำการส่งกระแสไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นสมองผ่านชิปตัวดังกล่าว ผลที่ได้คือผู้รับการทดลองจะตัดสินใจและทำสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น มีสมาธิมากขึ้น และแสดงออกทางอารมณ์ได้ดีขึ้นอีกด้วย     ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า การฝังชิปลงไปในสมองแบบนี้จะสามารถช่วยเหลือผู้มีความผิดปกติทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นโรคพาร์กินสัน หรือแม้แต่ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง อีกทั้งยังช่วยให้พวกเขาสามารถมีสมาธิ โฟกัสอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ การพัฒนายังคงมีต่อไปเรื่อยๆ โดย Alik Widge ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมจากโรงพยาบาล Massachusetts General บอกว่า “สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ไม่สามารถใช้อ่านใจได้ แต่เราต้องการที่จะพัฒนาให้มันอ่านความรู้สึกของคนคนนั้นได้” อย่างไรก็ตาม เจ้าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้อาจทำให้หลายๆ คนห่วงในเรื่องของจรรยาบรรณและหลักศีลธรรมว่า มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่กับการฝังชิปอ่านข้อมูลลงไปในสมอง…

  • ‘The Sarco’ โลงแคปซูลที่จะช่วยให้คนอยากฆ่าตัวตาย จากโลกไปอย่างสงบเพียงแค่กดปุ่ม…

    ‘The Sarco’ โลงแคปซูลที่จะช่วยให้คนอยากฆ่าตัวตาย จากโลกไปอย่างสงบเพียงแค่กดปุ่ม…

    “การฆ่าตัวตาย” เป็นการกระทำที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่สำหรับคนที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแบบนั้น พวกเขาคงมีเห็นผลบางอย่างอยู่ เมื่อการฆ่าตัวตายไม่อาจห้ามได้ จึงได้มีการออกแบบอุปกรณ์ที่ชื่อว่า The Sarco เครื่องที่จะช่วยให้คนฆ่าตัวตายจากไปอย่างรวดเร็วและไม่เจ็บปวดใดๆ     ไม่กี่วันหลังจากที่ผู้บัญญัติกฎหมายในวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ได้ลงมติให้การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย คุณหมอ Philip Nitschke ก็ได้ประกาศเปิดตัว The Sarco ซึ่งเป็นเครื่องที่ช่วยให้ผู้คนยุติชีวิตตัวเองด้วยการกดปุ่ม The Sarco พัฒนาขึ้นโดยองค์กรของคุณหมอ Philip ที่ชื่อ Exit International ซึ่งเป็นแคปซูลที่มีขนาดจุคนได้ 1 คนพอดี     เมื่อผู้ใช้พร้อมจะตาย พวกเขาต้องกดปุ่มที่อยู่ภายในแคปซูล จากนั้นไนโตรเจนเหลวจะถูกพ่นออกมา ซึ่งมันจะทำให้ออกซิเจนภายในลดลงไปประมาณ 5% ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นผู้ใช้จะค่อยๆ หมดสติไปจนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด จากนั้นญาติผู้ตายจะใช้แคปซูลนี้เป็นโลงศพ หรือจะเอาไปใช้ซ้ำต่อก็ได้     สำหรับ Nitschke นั้น เขาให้การสนับสนุนให้การฆ่าตัวตายเป็นเรื่องถูกกฎหมายมานานแล้ว โดยให้เหตุผลว่าทุกคนที่มีอายุเกิน 70 ปี ควรจะมีสิิทธิในการฆ่าตัวตายโดยได้รับการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่าไม่เพียงแค่คนที่อายุเกิน 70 ปี เท่านั้น แต่ทุกคนที่มีเหตุผลในการฆ่าตัวตายควรจะมีสิทธิในการเลือกที่จะตาย     ก่อนที่ผู้คนจะได้รับอนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ Nitschke บอกว่าคนคนนั้นต้องผ่านการกรอกแบบสอบถามออนไลน์เกี่ยวกับสุขภาพจิตก่อน…

  • คู่รักชาวอังกฤษสุดจะทน มันอดใจไม่ไหวเลยโจ๊ะกันบนรถบัสซะเลย เอ่อ ใจเย็นเด้อพี่น้อง!!

    คู่รักชาวอังกฤษสุดจะทน มันอดใจไม่ไหวเลยโจ๊ะกันบนรถบัสซะเลย เอ่อ ใจเย็นเด้อพี่น้อง!!

    การแสดงออกถึงความรัก แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คู่รักสามารถทำได้โดยไม่มีใครว่า แต่ทว่าการแสดงความรักนั้นก็ต้องอยู่ในขอบเขต ถ้าเป็นเพียงแค่ กอด จับมือ หอมแก้มกันแบบนี้ก็ยังถือว่าธรรมดานะ แต่ถ้ามากกว่านี้ก็เกรงว่ามันจะโจ่งแจ้งเกินไปนะ เรื่องแบบนี้เก็บไว้แสดงกันสองคนดีกว่าเนาะ อย่างเช่นการแสดงความรักของคู่รักคู่หนึ่งที่ได้มีการเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ซึ่งมันเป็นภาพที่ไม่น่าดูสักเท่าไหร่เลยนะ กับการมีเซ็กส์อย่างดุเด็ดเผ็ดมันบนรถบัสสาย 149 นี่ไม่ใช่การถ่ายทำเอวีหนังโป๊กันแต่อย่างใด แต่นี่มันเป็นเหตุการณ์จริงไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน ที่ #เหมียวบู้บี้เห็นแล้วหัวใจจะวาย มันจะอะไรขนาดนั้นล่ะคุณพี่ขา     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนรถบัสสองชั้นสาย 149 เมือง Haringey ประเทศอังกฤษ เวลาประมาณเที่ยงคืน ได้มีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอของชายหญิงสองคนที่กำลังโจ๊ะกันบนเบาะนั่งรถบัส โดยไม่สนใจสายตาของผู้โดยสารคนอื่นๆ เลย ไม่ทราบว่าเมากันหรืออย่างไรนะ เพราะสองคนนี้โจ๊ะกันอย่างไม่อายฟ้าอายดินเลย แถมยังส่งเสียงร้องไปทั่วรถ คาดว่าจะอดทนรอให้ถึงบ้านไม่ไหวเลยจัดกันซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย     เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณไม่กี่นาที คนขับรถบัสก็ทนไม่ได้จนต้องไล่ให้ทั้งสองลงรถไปซะให้พ้นๆ เนื่องจากว่าผู้โดยสารในรถไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับกิจกรรมเข้าจังหวะของทั้งสองเลย ทันทีที่ทั้งสองโดนไล่ออกจากรถ พวกเขาก็ได้รับการปรบมือจากผู้โดยสารเพื่อให้กำลังใจทั้งคู่ไปโจ๊ะกันต่อที่บ้าน และขอให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี   แหม่ ทำไปได้!!! ที่มา metro

  • ได้ด้วยหรอ!! Samwell ตีพิมพ์งานวิจัย (ปลอมๆ) อธิบายสภาพอากาศในเรื่อง Game of Thrones

    ได้ด้วยหรอ!! Samwell ตีพิมพ์งานวิจัย (ปลอมๆ) อธิบายสภาพอากาศในเรื่อง Game of Thrones

    ใครหลายคนที่เป็นแฟนซีรีส์สุดมันส์อย่างเรื่อง Game of Thrones อาจจะเคยได้ยินคำขวัญประจำตระกูลสตาร์ก ที่ว่า “Winter is coming” ซึ่งแปลว่าฤดูหนาวกำลังจะมาถึง และถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าฤดูกาลในภาพยนตร์เรื่องนี้มีความแปลกไปจากฤดูกาลจริงๆ ของโลกเราอยู่พอสมควร ก่อนหน้านี้ได้มีบทความวในารสารจากมหาวิทยาบริสตอล ประเทศอังกฤษ ที่พยายามหาวิธีการทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายเหตุผลของสำนวนประจำตระกูลสตาร์คที่ว่านี้ และหาสาเหตุว่าทำไมอากาศในซีรีส์เรื่องนี้ถึงได้หนาวกันตลอดทั้งปี แม้ฤดูหนาวที่ว่าของพวกเขายังไม่มาถึงก็ตาม     แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีงานวิจัย (ปลอมๆ) ที่เขียนโดย Samwell Tarly หนึ่งในตัวละครเอกของเรื่องออกมาเปิดเผยว่า จริงๆ แล้วสภาพอากาศใน Westeros นั้นเป็นอย่างไรกันแน่? ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากจะเป็นเมสเตอร์ให้ได้ เขาจึงมุ่งมั่นเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เมสเตอร์ควรจะรู้ เขาจึงได้ทำวิจัยเกี่ยวกับสภาพอากาศออกมา โดยภาษาที่เขาใช้เขียนนั้นเป็นภาษา Dothraki และภาษา High Valyrian ซึ่งงานวิจัยที่เขาเขียนได้สร้างประโยชน์มากมายสำหรับแฟนๆ ซีรีส์เรื่องนี้ เราจึงได้นำงานวิจัยของ Sam มาแปลและวิเคราะห์ข้อมูล   โลกจำลองจากข้อมูลการวิจัยของ Samwell   ทั้งนี้ทฤษฎีของ Samwell ได้ผ่านการวิเคราะห์จากนักวิจัยได้ให้ข้อสรุปเอาไว้ว่า สภาพอากาศบริเวณนอก The Wall จะมีสภาพอากาศที่เย็นยะเยือกจนแทบจะอยู่ไม่ได้ตลอดทั้งปี และ Casterly Rock…

  • คุณแม่ขอให้ตำรวจตามหาลูกชายวัยที่หายตัวไป แต่ที่จริงแล้วแค่พยายามเซอร์ไพรส์แม่ในวันคริสต์มาส

    คุณแม่ขอให้ตำรวจตามหาลูกชายวัยที่หายตัวไป แต่ที่จริงแล้วแค่พยายามเซอร์ไพรส์แม่ในวันคริสต์มาส

    หลังจากที่ต้องเจียดเงินสำหรับค่าประกันอพาร์ตเมนต์หลังใหม่ของพวกเขาในรัฐโอคลาโฮมา ทำให้ Sophia Reed และลูกชายของเธอแทบจะไม่มีเงินพอสำหรับซื้อของมาฉลองในวันคริสต์มาสเลย แต่ทว่าคุณ Sophia นั้นไม่รู้ตัวเลยว่าลูกชายวัย 13 ปีของเธอ กำลังแอบทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อเตรียมมอบเป็นของขวัญในวันคริสต์มาสให้กับแม่ของเขา     หนุ่มน้อย Diauris Johnson ได้แอบหนีออกไปจากบ้านอย่างกะทันหันเพื่อหาเงินมาซื้อของขวัญให้กับแม่ของเขา ถึงแม้ว่าพี่น้องของเด็กชายจะรู้ว่าเขาแอบออกจากบ้านเพื่อไปหาเงิน แต่คุณ Sophia นั้นยังไม่ทราบและเป็นห่วงลูกชายของเธออย่างมาก คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้น่าสงสารได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอร้องให้ตามหาตัวลูกชายของเธอ “เขาหายตัวไปช่วงหนึ่ง” คุณ Sophia กล่าว หลังจากออกตามหาได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบตัวของหนูน้อย Diauris     เจ้าหนูน้อยอธิบายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขาแอบหนีออกมาจากบ้านและเก็บกระป๋องเก่าๆ เพื่อรวบรวมเงินสำหรับซื้อของขวัญวันคริสต์มาสให้กับคุณแม่ เรื่องราวของเจ้าหนูทำเอาเจ้าหน้าที่ Roland Russell ซึ้งใจอย่างมาก เขาประกาศเรี่ยไรเงินจากนายตำรวจคนอื่นๆ เพื่อซื้อของขวัญให้กับทางครอบครัว และหลังจากนั้นไม่นานของขวัญมูลค่ากว่า 800 เหรียญสหรัฐก็ถูกส่งไปยังบ้านของคุณ Sophia เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจนี้ทำให้คุณแม่และลูกๆ ของเธอดีใจอย่างมาก     สิ่งที่เจ้าหนูน้อยคนนี้ทำให้กับแม่ของเขาถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอย่างมาก ความเมตตาที่ทางครอบครัวได้รับในครั้งนี้ก็คงจะทำให้หลายๆ คนมีความสุขไปตามๆ กัน และที่สำคัญคือพวกเขาคงจะมีความสุขในชุมชนใหม่แห่งนี้อย่างแน่นอน   ที่มา inspiremore

  • สาวเซอร์ไพรส์หมาด้วยการแต่งห้องให้พร้อมต้นคริสต์มาสสุดน่ารัก นี่หรูกว่าห้องตูอี๊กกก

    สาวเซอร์ไพรส์หมาด้วยการแต่งห้องให้พร้อมต้นคริสต์มาสสุดน่ารัก นี่หรูกว่าห้องตูอี๊กกก

    เนื่องในโอกาศวันคริสต์มาสที่เป็นเทศกาลมอบความสุขให้แก่กัน หลายๆ คนจึงมักจะมอบของขวัญให้แก่คนพิเศษ เพื่อเป็นการบอกถึงความรัก ความห่วงใยที่มีต่อกันไม่ว่าจะเป็น ญาติสนิทมิตรสหาย พ่อแม่ เพื่อน ครูอาจารย์ ทว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่อาจมีความคิดแตกต่างไปจากคนทั่วไปซักเล็กน้อย เพราะว่าสิ่งมีชีวิตที่เธออยากจะมอบของขวัญให้ไม่ใช่คนแต่เป็น ‘หมา’ เพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้างเธอมานาน เธอจึงสร้างบ้านน่ารักๆ ให้อยู่พร้อมทั้งประดับต้นคริสต์มาสไว้ให้ในบ้านของมันด้วย   แหมน่ารักทั้งคนทั้งหมาเลยนะเนี่ย   นักศึกษาวิทยาลัยชื่อว่า Betsy Redfern เป็นเพื่อนรักกับหมาพันชิวาว่าชื่อว่า Cupid มาเป็นระยะเวลาถึง 12 ปี ด้วยความใกล้ชิดที่ทั้งสองมีให้กันตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำให้ในตอนนี้พวกเขาตัวติดกันอย่างกับตังเมเลยก็ว่าได้ เมื่อถึงเวลาที่หญิงสาวคนนี้ต้องย้ายออกจากบ้านไปอยู่ที่วิทยาลัย แน่นอนว่า Redfern ต้องนำหมาสุดที่รักของเธอไปด้วย และด้วยความกังวลในการย้ายสถานที่ใหม่ของเจ้า Cupid เธอจึงคิดหาวิธีที่จะทำให้ที่พักแห่งใหม่มีบรรยากาศสบายๆ ที่สุดสำหรับหมาของเธอเท่าที่จะเป็นไปได้   เตียงย่อมๆ น่าจะพอดีกับหมาตัวเล็ก   Redfern ได้ย้ายเข้าไปสู่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ขณะที่กำลังจัดข้าวของให้เข้าที่ เธอได้เห็นห้องเก็บเสื้อผ้าแห่งหนึ่งอยู่ติดกับห้องของเธอและนั่นได้ทำให้เกิดไอเดียที่ว่า เธอจะเปลี่ยนห้องเก็บของเก่าๆ ห้องนี้ให้เป็นห้องสำหรับหมาของเธอแทนจะดีกว่า เพื่อให้เจ้า Cupid ได้นอนอย่างสบายๆ ใกล้ๆ ตัวเธอด้วย “มันชอบห้องนี้มาก เตียงนอนน่ารักๆ นี้ได้รับการออกแบบมาจากแม่ของฉัน เธอเย็บทุกอย่างขึ้นมาด้วยตัวเองเลยนะ” Redfern กล่าว…

  • เด็กน้อยชาวอินเดีย เกิดมาพร้อม “หาง” ชาวบ้านเชื่อ ‘เทพเจ้าลิง’ กลับชาติมาเกิด

    เด็กน้อยชาวอินเดีย เกิดมาพร้อม “หาง” ชาวบ้านเชื่อ ‘เทพเจ้าลิง’ กลับชาติมาเกิด

    ล่าสุดมีพบเด็กชาย Krishna Yadav วัย 3 ขวบ เกิดมาพร้อมกับหางที่ยาวขึ้นตามกาลเวลา จนถูกแต่งตั้งให้เป็นเทพเจ้าประจำหมู่บ้าน เพื่อเชื่อว่าเทพเจ้า Bajrangbali (เทพเจ้าลิงในศาสนาฮินดู) กลับชาติมาเกิด     Ramsundar Yadav พ่อของเด็กชายบอกว่า “ผมคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นพรจากเทพเจ้า ทำให้ลูกชายของผมเกิดมาเป็นเทพเจ้าลิง” “แต่เมื่อไปปรึกษาแพทย์ พวกเขาบอกว่ามันเป็นการเจริญเติบโตที่ไม่พึงประสงค์ และสามารถเอาออกได้ด้วยการผ่าตัด” คุณพ่อบอก     อย่างไรก็ตาม มีผู้คนมากมายยอมเดินทางด้วยระยะทางหลายกิโลเพื่อจะมาดูและขอพรจากเด็กชาย Krishna ใน Kukudi รัฐอุตตรประเทศ ของประเทศอินเดีย จนทำให้หมู่บ้านนี้มีชื่อเสียงไปด้วย พ่อแม่ของเด็กชายได้ขอให้คุณหมอผ่าตัดหางนี้ออกให้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน แต่ Krishna ดันป่วยก่อนวันผ่าตัด ทำให้ต้องเลื่อนออกไป     ทางด้านชาวบ้านเชื่อว่านั่นเป็นการเตือนจากเทพเจ้า และถ้าเด็กชายผ่าตัดหางออก ครอบครัวจะต้องได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงจากเหล่าทวยเทพ Kavita วัย 22 ปี แม่ของเด็กชายบอกว่า “ทุกครั้งที่เราเตรียมจะผ่าตัดหางนี้ออก มักจะมีปัญหาแปลกๆ เข้ามาขัดขวางเสมอ บางครั้งก็เป็นเรื่องเงินที่ไม่พอ หรือบางทีลูกชายจะมีไข้ขึ้นสูงก่อนวันผ่าตัด”     ในทางการแพทย์อธิบายว่าเด็กชายเกิดมาพร้อมโรคที่หายาก และจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดออก เพราะมันมีผลเชิงลบกับร่างกาย     คุณหมอ Vipul Kumar จาก โรงพยาบาล SRN Hospital บอกว่า “ตอนนี้เด็กชายกำลังทุกข์ทนจากปัญหาความไม่สมดุลของฮอร์โมน…

  • พบกับอาหารแห่งยุค 3017 ที่หากินได้แล้วในตอนนี้ เอ๊ะนี่เราอยู่ในสมัยไหนกันแน่เนี่ย

    พบกับอาหารแห่งยุค 3017 ที่หากินได้แล้วในตอนนี้ เอ๊ะนี่เราอยู่ในสมัยไหนกันแน่เนี่ย

    จะเป็นอย่างไรในเมื่ออาหารที่เรากินอยู่ทุกวันพบกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในปัจจุบัน ใครหลายคนอาจจะคิดถึงอาหารดัดแปลงพันธุกรรม แต่ในวันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงในเรื่องนั้น แต่เราจะพูดถึงอาหารที่มีหน้าตาแปลกๆ จากทั่วทุกมุมโลกที่คุณอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต และนี่คือหน้าตาของอาหารแปลกๆ ที่รับรองได้ว่าคุณต้องอยากลองชิมมันสักครั้งในชีวิต เพราะว่ามันช่างเป็นสิ่งที่แปลกหูแปลกตา รวมทั้งชวนลิ้มลองให้ละเมียดลิ้นเข้าไปแตะซะจริงๆ ซึ่งมันจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง ลองเลื่อนลงไปดูกันดีกว่า   ขนมหวานทรงเรขาคณิต   แม้ว่ามันจะมีหน้าตาเหมือนกับรูบิคสีแดงๆ แต่ว่ามันคือเค้กจริงๆ ที่ผลิตขึ้นโดยอัจฉริยะชื่อว่า Dinara Kasko เธอเป็นคนที่เรียนจบมาด้านสถาปัตยกรรม แต่ในใจลึกๆ ก็รักการทำขนมเช่นกัน เธอจึงทำความรู้มาผสมเข้ากับพรสวรรค์ด้านการทำขนมของเธอ จนออกมาขนมหน้าตาแปลกๆ ดังกล่าว ซึ่งหากใครอยากลิ้มลองก็สามารถซื้อออนไลน์ได้ที่ dinarakasko   ไอศกรีมราเมง   ลืมราเมงแบบเก่าๆ ที่อยู่ในน้ำซุปไปได้เลย เพราะนี่คือเส้นราเมงที่ทำมาจากเยลลี่ แล้วโปะลงบนน้ำแข็งไสเย็นฉ่ำ พร้อมด้วยเครื่องเคียงต่างๆ แล้วปิดท้ายด้วยนมข้น นี่จึงอาจจะเป็นของหวานที่ให้ความสดชื่นที่สุดในโลกก็เป็นไปได้   ช็อกโกแลตสีชมพู   ช็อกโกแลตสีสันแปลกตาพร้อมด้วยรสชาติที่แปลกใหม่ ได้กลายมาเป็นมิติใหม่ของช็อกโกแลตในศักราชนี้ มันทำมาจาก Ruby Cocoa ที่คิดค้นขึ้นมาโดยบริษัท Barry Callebaut ซึ่งรสชาติของมันจะหวานอมเปรี้ยวเหมือนลูกเบอร์รี่เลยล่ะ   จุกปิดไวน์   โดยปกติแล้วขวดไวน์ชั้นเลิศจะถูกปิดผนึกด้วยจุกไม้คอร์ก เพื่อป้องกันอากาศเข้าไปทำปฏิกิริยากับไวน์ในขวดแล้วทำให้รสชาติเปลี่ยนไป ทำให้การการเปิดไวน์แต่ละครั้งจำเป็นต้องดื่มให้หมดเพื่อรสชาติที่ดี แต่นี่คือจุกปิดไวน์ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าว จึงหมดห่วงเรื่องอากาศแล้วเก็บไว้กินวันอื่นได้เลย โดยจุกที่ว่านี้สามารถหาซื้อกันได้ที่ winecondoms ว่าแต่ หน้าตามันคุ้นๆ ไงไม่รู้เนอะ  …

  • เผยคำทำนายทายทักว่าจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ 2 อย่างในปี 2018 โดยนอสตราดามุสแห่งบอลข่าน

    เผยคำทำนายทายทักว่าจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ 2 อย่างในปี 2018 โดยนอสตราดามุสแห่งบอลข่าน

    เมื่อเราไม่สบายใจหรือว่าอยากหาที่พึ่งทางใจบางอย่าง ใครหลายคนก็เลือกที่จะไปปรึกษา ‘หมอดู’ เพื่อตรวจดวงชะตาดูว่าเป็นอย่างไร แต่ก็อย่างที่ว่าด้วยความเป็นศาสตร์ลึกลับจึงไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่หมอดูพูดเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องที่พวกเขาคิดกันเองกันแน่ ทว่าก็มีหญิงลึกลับคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก โดยเธอได้เคยทำนายเหตุการณ์ต่างๆ ของโลกถูกมาแล้วมากมาย ทั้งเหตุการณ์ 9/11,  Isis ขึ้นเป็นใหญ่ และสึนามิในวันคริสต์มาสที่คร่าชีวิตของผู้คนนับร้อยนับพันคน และตอนนี้มีคำทำนายของเธอที่บอกไว้ว่าจะมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ของโลกเกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ในปี 2018 ที่กำลังจะเข้ามาถึงในเร็ววันนี้     Baba Vanga คือชื่อของหญิงลึกลับคนดังกล่าว เธอเป็นหมอดูตาบอดชื่อดังชาวบัลแกเรียผู้ได้รับฉายาว่า “นอสตราดามุสแห่งบอลข่าน” หมอดูชื่อก้องโลกคนนี้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1996 ด้วยวัย 85 ปีแต่เธอได้ทิ้งคำทำนายเอาไว้ในแต่ละปีๆ ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นบ้าง     สำหรับในปี 2018 นอสตราดามุสแห่งบอลข่านได้ทำนายเอาไว้ว่าจะมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ก็คือ ประเทศจีนจะเป็นมหาอำนาจของโลกแทนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และมนุษย์จะค้นพบพลังงานรูปแบบใหม่ บนดาวดาวศุกร์ ซึ่งหากถามว่าคำทำนายของเธอมีความใกล้เคียงกับความจริงมากแค่ไหน ลองไปดูความน่าจะเป็นไปได้กัน ในเดือนกรกฎาคมปี 2018 องค์การนาซ่ายมีแผนจะปล่อยยานอวกาศ Parker Solar Probe ซึ่งเป็นยานอวกาศที่ควบคุมด้วยระบบหุ่นยนต์ขึ้นสู่อวกาศ และภารกิจของยานลำนี้ก็คือสำรวจตรวจสอบชั้นบรรยากาศชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์ วิธีการเข้าสำรวจก็คือยานลำนี้จะใช้แรงโน้มถ่วงของดาวศุกร์เข้าช่วยเพื่อตรวจสอบ แรงลมสุริยะรวมถึงเสาะหาแหล่งพลังงานที่ให้ความร้อนแก่พลาสมาที่อยู่รอบๆ ดวงอาทิตย์ จากข้อมูลข้างต้น ดูเหมือนว่าคำทำนายของ Vanga มีเค้าว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้จริงตามที่เธอได้กล่าวเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว…

  • สถานีโทรทัศน์ต่างประเทศเซอร์ไพรส์ลูกค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแทนพวกเขา

    สถานีโทรทัศน์ต่างประเทศเซอร์ไพรส์ลูกค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแทนพวกเขา

    สถานีโทรทัศน์ FOX5 ในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เป็นช่องที่มีชื่อเสียงสำหรับคนท้องถิ่น ซึ่งไม่ได้มีเพียงแต่การนำเสนอข่าวสารบ้านเมืองเพียงอย่างเดียว แต่หนึ่งในช่วงโปรดของใครหลายๆ คนก็คือ ช่วง Surprise Squad โดยทีมงานจะออกไปหาคนภายในเมืองเพื่อช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้น ทีมงานได้ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับหลายๆ คนมาตลอด และในเทปหนึ่งที่ถูกโพสต์ลงในยูทูบเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2017 เป็นตอนที่ทีมงานตัดสินใจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ชื่อว่า Albertsons เราลองไปดูกันดีกว่าว่าเมื่อเจออย่างนี้เข้าไปแต่ละคนแสดงอาการออกมาอย่างไรกันบ้าง   พี่น้องสองคนที่อยู่ในวัยชราทั้งคู่ คือหนึ่งในผู้โชคดีที่ทางทีมงานตัดสินใจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด   หญิงสาวคนนี้ที่ถึงแม้หน้าจะดูมึนๆ งงๆ ในตอนแรก แต่เธอก็รู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากทางรายการ   คุณยายคนนี้ถึงกับบอกว่า “นี่เป็นวันที่ฉันโชคดีมากจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ฉันเล่นเครื่อง Keno ได้รางวัลมาราวๆ 1,300 บาท” แถมยังไม่ต้องจ่ายค่าชอปปิงเองอีกด้วย   นี่คือลูกค้าประจำที่มาใช้บริการร้านนี้ตั้งแต่ปี 1964 เรียกว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงของร้านมาโดยตลอด เธอจึงไม่แปลกที่ได้รับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในครั้งนี้   ทหารผ่านศึกผู้ช่วยดูแลสุนัขที่กำลังป่วยด้วยเงินของตัวเอง เธอบอกว่า นี่คือเงินก้อนสุดท้ายของเธอที่มาใช้จ่ายในครั้งนี้ แต่ทางรายการคือคนใจดีที่เข้ามาช่วยชีวิตของเธอและน้องหมาเอาไว้   และคนที่ซาบซึ้งที่สุดสำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้ก็คือ Larry ทหารผ่านศึกผู้เคยรับใช้ชาติไปลุยในสงครามเวียดนามมาก่อน   นอกจากนั้นเมื่อ 16…

  • บรรยากาศของชาวญี่ปุ่นในฮอกไกโด ที่ต้องผจญกับความหนาวและหิมะปกคลุมไปทั่ว

    บรรยากาศของชาวญี่ปุ่นในฮอกไกโด ที่ต้องผจญกับความหนาวและหิมะปกคลุมไปทั่ว

    ในช่วงฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น จะมีเส้นทางรถไฟสายหนึ่งที่ชื่อว่า Okhotsk no Kaze ช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปในเมืองที่ห่างไกลในจังหวัดฮอกไกโดได้ และนั่นก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับช่างภาพสาวชาวจีน Ying Yin เธอขึ้นรถไฟสายนี้ไปจบที่เมือง Abashiri และเก็บภาพการเดินทางท่ามกลางหิมะปกคลุม สร้างลักษณะโดดเด่นที่สวยงามจนออกมาเป็นซีรีส์ภาพชื่อว่า Wind of Okhotsk ซึ่งทำให้เราเห็นสิ่งปลูกสร้างหรือผู้คนภายในเมืองที่กำลังใช้ชีวิตอยู่บนพื้นหลังสีขาวโพลน Yin บอกว่า “หิมะที่ปกคลุมช่วยให้ทุกอย่างดูโดดเด่น และสามารถสื่อถึงอารมณ์ความเงียบเหงาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม” อย่ารอช้า เราลองไปชมภาพเหล่านั้นกันเลยว่ามันมีความสวยงามมากขนาดไหน   ฮอกไกโดคือจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ หิมะที่ปกคลุมจึงอาจเยอะกว่าที่อื่น   โดดเด่นขึ้นมาราวกับด้านหลังเป็นแค่ฉากสีขาว แต่แท้จริงแล้วมันคือหิมะ   สีสันที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีขาว ดูเป็นเอกลักษณ์   หิมะจำนวนมาก ทำให้เราเห็นคนเดินไปมาแทนการใช้รถ . . .   รถที่จอดทิ้งเอาไว้เฉยๆ เพราะไม่สามารถนำออกมาขับได้ .   ในบางจุดที่จำเป็นจะมีการกวาดหิมะออกไป เพื่อให้รถสามารถวิ่งบนถนนได้   บ้านที่เกือบจมหายไปในหิมะ .   เสาไฟฟ้าธรรมดาๆ ที่ดูๆ ไปกลับรู้สึกถึงความไม่ธรรมดา   ความโดดเดี่ยวที่สะท้อนออกมาจากภาพต่างๆ  …

  • ‘กวางหนาวอยู่กลางเขา’ ภาพถ่ายที่สวยงามประหนึ่งโดดออกมาจากในนิยาย

    ‘กวางหนาวอยู่กลางเขา’ ภาพถ่ายที่สวยงามประหนึ่งโดดออกมาจากในนิยาย

    ช่างภาพชาวอังกฤษ John Betts คือผู้ที่สามารถผสมผสานธรรมชาติและสัตว์ป่า ให้กลายเป็นผลงานภาพถ่ายที่ดูสวยงามและลงตัว เขาเดินทางไปในหลายๆ ที่เพื่อเก็บภาพความสวยงามเหล่านั้นไว้ เพื่อช่วยให้สัตว์ป่าสามารถดำเนินชีวิตไปได้ในแบบที่มันเป็นจริงๆ เขาบอกว่า “การอนุรักษ์สัตว์ป่าเป็นเรื่องที่สำคัญกับผมอย่างมาก และผมคิดว่ารูปถ่ายที่สวยงามจะสามารถสื่อให้คนเข้าใจในสิ่งนั้นได้ดีกว่าการออกมาพูดเพียงอย่างเดียว” นี่คือหนึ่งในผลงานของเขา ภาพของกวางที่อาศัยอยู่ในประเทศสกอตแลนด์ช่วงฤดูหนาวปี 2012 ภาพเหล่านี้มีความสวยงามมากขนาดไหน เราลองไปดูกันเลย   กวางคือหนึ่งในสัตว์ป่าที่พวกเรารู้จักกันดี   ขนที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะบางส่วน ช่วยเพิ่มสีสันให้กับมัน   ลักษณะการยืนที่ดูสง่าผ่าเผย .   ช่วงเทศกาลคริสต์มาสแบบนี้ ทำให้เราคิดถึงกวางเรนเดียร์อยู่เหมือนกันนะ .   สิ่งมีชีวิตบนโลกย่อมมีสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับพวกมัน   ในส่วนของกวางเหล่านี้ กลางป่ากลางเขาน่าจะเป็นที่ที่เหมาะกับมันมากที่สุด .   กลมกลืนไปกับธรรมชาติที่มันอาศัยมาตั้งแต่เกิด . .   แม้เราอาจจะไม่รู้ว่าพวกมันคิดไรอยู่ แต่เชื่อว่าเหล่ากวางคงไม่อยากถูกพาออกไปจากที่แห่งนี้   เพราะพวกเราก็คงไม่อยากถูกบังคับให้ออกไปจากบ้านของตัวเองเหมือนกันจริงมั้ย . . .   โดดเด่นเป็นสง่า กับการใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ . .   เรียบง่ายแต่ลงตัว   เชื่อว่าสิ่งที่ช่างภาพคนนี้ต้องการสื่อจะสามารถช่วยลดการล่าสัตว์ให้น้อยลงได้บ้าง…

  • ก็มันง่วงอ่ะ!! พ่อค้ายาเมาจัดกระโดดขึ้นรถตำรวจเพราะนึกว่าเป็นแท็กซี่ ทั้งที่พกกัญชากว่าพันมวน

    ก็มันง่วงอ่ะ!! พ่อค้ายาเมาจัดกระโดดขึ้นรถตำรวจเพราะนึกว่าเป็นแท็กซี่ ทั้งที่พกกัญชากว่าพันมวน

    การจะขึ้นรถลงเรือ บางครั้งเราก็ต้องตรวจสอบดีๆ ว่ามันเป็นรถที่เราต้องการจะขึ้นหรือไม่ เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ว่ามองไปทางไหนก็มีรถรุ่นซ้ำๆ กันหรืออาจจะมีลักษณะใกล้เคียงกัน และถ้าหากบังเอิญเราดันไปขึ้นรถผิดคันเข้าก็อาจจะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปเหมือนกับชายคนนี้… เหตุการณ์สุดฮานี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมาในเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อมีพ่อค้ายาเสพติดคนหนึ่งอยู่ในสภาพมึนเมาจัด เขาจึงกระโดดขึ้นไปรถคันหนึ่งที่เขาคิดว่าเป็นรถแท็กซี่เพื่อจะกลับบ้านไปนอนให้มันสบายเนื้อสบายตัวซักหน่อย ทว่าด้วยความมึนเมาทำให้เขาเห็นรถตำรวจเป็นรถแท็กซี่ ซึ่งในขณะนั้นเขาได้พกกัญชาติดตัวไปด้วยกว่า 1,000 มวน แน่นอนว่าเขาจึงต้องไปสร่างเมาในคุกแทนโซฟานุ่มๆ ที่บ้านแทน   ตำรวจถึงกับโพสต์ทวิตเตอร์ถึงเรื่องแปลกๆ ที่ได้เจอ   “เมื่อคืนที่ผ่านมาพ่อค้ากัญชารายใหญ่จากเขต Christiana ผู้ที่อยากจะกลับไปนอนที่บ้านไวๆ กระโจนเข้าไปในรถแท็กซี่ แต่เขาก็ต้องเจอกับเซอร์ไพรส์ใหญ่ เมื่อเขาเพิ่งได้รู้ว่ารถที่เขาขึ้นมันเป็นรถตำรวจไม่ใช่รถแท็กซี่” “แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยิ้มร่าทันทีเมื่อได้เห็นหน้าเขาคนนั้น เพราะว่าเขาพกกัญชากว่า 1000 มวนติดตัวมาด้วย” ตำรวจเมืองโคเปนเฮเกนเขียนเอาไว้ในทวิตเตอร์ของพวกเขา เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่พ่อค้ายาคนอื่นๆ ในพื้นที่งานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มอบโทษติดคุกยาวๆ ให้แก่พ่อค้ายาคนนี้ และพนันได้เลยว่าเขาคงเสียใจอย่างหนักที่ดันพลาดท่าง่ายๆ ทั้งที่มีวิธีที่ปลอดภัยกว่ากันเยอะอย่างการเรียก ‘อูเบอร์’     ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกวาดล้างการค้าขายยาเสพติดในเขต Christiana ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พื้นที่นี้มีการซื้อขายกัญชากันอย่างโจ่งครึ่ม พื้นที่นี้ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มชาวฮิปปี้ในปี 1971 และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสังคมปิดในเมืองโคเปนเฮเก้น จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพื้นที่นี้จึงมียาระบาดเป็นจำนวนมาก เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แสดงศักยภาพด้วยการจับกุมพ่อค้ายาหลายคน ที่มักจะชอบยืนอยู่ข้างถังขยะและได้ยึดกัญชาเอาไว้ได้หลายกิโลกรัมภายในสัปดาห์เดียว   โดดผิด ชีวิตเปลี่ยนจริงๆ ……

  • นักค้นคว้ารัสเซีย ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์กับสุนัข พบว่ามันมีชีวิตอยู่ในน้ำได้นาน 30 นาที

    นักค้นคว้ารัสเซีย ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์กับสุนัข พบว่ามันมีชีวิตอยู่ในน้ำได้นาน 30 นาที

    เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้นำเสนอคลิปวิดีโอการทดลองของชาวรัสเซีย เมื่อพวกเขายัดน้องหมาสายพันธุ์ดัชชุนตัวหนึ่งลงไปในขวดที่เต็มไปด้วยน้ำ ภาพที่เราเห็นคือน้องหมาจมอยู่ในน้ำภายในขวดที่ถูกปิดฝาเอาไว้ ด้วยสภาพกลับหัวกลับหาง ก่อนที่นักค้นคว้าจะดึงมันขึ้นมาหลังจากที่เวลาผ่านไปซักระยะหนึ่ง และเจ้าหมาตัวนั้นก็ยังคงมีชีวิตอยู่     การทดลองดังกล่าวมีขึ้นเพื่อต้องการค้นคว้าว่า วิธีการปั๊มออกซิเจนเหลวเข้าไปในปอดจะสามารถทำให้เจ้าหมาตัวนี้จมน้ำอยู่ได้นานมากขนาดไหน ซึ่งผลที่ได้คือมันสามารถอยู่ได้นานถึง 30 นาที แต่ถึงอย่างไร ภาพที่เราได้เห็นก็อาจทำให้บางคนรู้สึกไม่เห็นด้วยกับวิธีการทดลองดังกล่าว เพราะน้องหมามีโอกาสเสี่ยงมากจนเกินไป ซึ่ง Vitaly Davydov รองผู้จัดการกองทุนที่สนับสนุนการทดลองนี้ออกมาบอกว่า “พวกเราเคยทำการทดลองแบบเดียวกันกับหนู หรือสัตว์ที่มีขนาดเล็กกว่านี้มาก่อนแล้ว” ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้สุนัขทุกตัวที่นำมาใช้ในการทดลองรอดชีวิตและใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังจากการทดลอง อีกทั้งพวกมันยังสามารถหายใจภายใต้ของเหลวได้นานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย     เมื่อผ่านการทดลอง สุนัขส่วนใหญ่จะถูกนักค้นคว้าพากลับไปเลี้ยงที่บ้าน และอีกส่วนหนึ่งจะมอบมันให้กับคนรู้จักไปเลี้ยงแทน เขาบอกอีกว่า ก้าวต่อไปสำหรับการค้นคว้าในเรื่องนี้คือ การทดลองวิธีการเดียวกันกับมนุษย์ อย่างไรก็ตามการทดลองดังกล่าวยังคงติดปัญหาอยู่ 2 อย่าง คือ อุปสรรคในเรื่องของสรีระวิทยาของมนุษย์ และการตามหาอาสาสมัครที่จะเข้ารับการทดลอง ปั๊มออกซิเจนเหลวเข้าไปในปอด   วิดีโอแสดงให้เห็นการทดลองดังกล่าว   อย่างไรก็ตาม การทดลองดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ โดยฝั่งคนที่ไม่เห็นด้วยได้ออกมาพูดว่า “น่าสมเพชจริงๆ กับการอ้างถึงเรื่องวิทยาศาสตร์แล้วทำสิ่งเลวร้ายกับสุนัขที่น่าสงสาร เพียงเพราะว่ามันไม่สามารถพูดปฏิเสธออกมาได้”…

  • ผู้บัญชาการนาวิกโยธินอเมริกา บอกให้ประชาชนเตรียมตัวไว้ เพราะอาจมีสงครามใหญ่เร็วๆ นี้

    ผู้บัญชาการนาวิกโยธินอเมริกา บอกให้ประชาชนเตรียมตัวไว้ เพราะอาจมีสงครามใหญ่เร็วๆ นี้

    ก่อนหน้านี้เราอาจเคยได้ยินข่าวการทดลองอาวุธหรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของประเทศมหาอำนาจมาบ้างแล้ว และบางคนกังวลว่าในอนาคตอันใกล้นี้อาจเกิดสงครามขึ้นมา ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผู้นำทหารในสหรัฐอเมริกาออกมาเตือนว่า ความคิดนั้นอาจกลายเป็นความจริงขึ้นมาก็ได้ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2017 นายพล Robert Neller ผู้บัญชาการนาวิกโยธินแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเอาไว้ในการพบปะกับเหล่าทหารที่ฐานทัพ Norwegian Home Guard ประเทศนอร์เวย์ ว่า “สงครามกำลังจะมา และนี่จะเป็นสงครามครั้งใหญ่”     เขาพูดกับสมาชิกทหารแห่งสหรัฐกว่า 300 นายอีกว่า “ผมอาจจะผิด แต่สงครามกำลังจะมา ตอนนี้เราก็กำลังอยู่กับการสู้รบของข้อมูลหรือการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่มาตลอด” นายพล Robert พูดถึงความสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น และเขาเชื่อว่าสงครามในครั้งนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเทศทางฝั่งตะวันออกกลางอย่างอิรัก หรืออัฟกานิสถาน แต่เป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งกับทางฝั่งแปซิฟิกและรัสเซียมากกว่า ความคิดเห็นและการกล่าวเตือนของผู้บัญชาการคนนี้ได้ทำให้มีการพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาและรัสเซีย เพราะก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่ารัสเซียทำการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของอเมริกาครั้งล่าสุด   ผู้นำรัสเซีย Vladimir Putin   Donald Trump ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐ เคยบอกอยู่บ่อยครั้งว่า เขาต้องการจะตีสนิทกับผู้นำของรัสเซียอย่าง Vladimir Putin ถึงแม้ว่านโยบายของสหรัฐที่ใช้ในประเทศซีเรีย และยูเครน อาจไม่เป็นที่พึงพอใจให้กับรัสเซียมากซักเท่าไหร่ก็ตาม ประเทศรัสเซียเองก็ขึ้นชื่อในเรื่องของข้อมูลจำนวนมากที่มีครอบครองเอาไว้ จนเรียกได้ว่าในยุคปัจจุบันที่ทุกคนเสพโซเชียลมีเดีย สิ่งนี้คือข้อได้เปรียบที่ทำให้เกิดอิทธิพลกับคนทั่วไปได้…

  • ‘วิดพื้น ซิทอัพ ยืดกล้ามเนื้อ’ ญี่ปุ่นพัฒนาหุ่นยนต์นักออกกำลังกาย ที่มี ‘เหงื่อ’ ไหลออกมาได้ด้วย

    ‘วิดพื้น ซิทอัพ ยืดกล้ามเนื้อ’ ญี่ปุ่นพัฒนาหุ่นยนต์นักออกกำลังกาย ที่มี ‘เหงื่อ’ ไหลออกมาได้ด้วย

    หุ่นยนต์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ หรือที่เรียกกันว่า Humanoid เป็นสิ่งที่ยังคงมีการพัฒนาต่อไปในหลายๆ สถาบัน ทีมนักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน ซึ่งในตอนนี้ได้มีการพัฒนาทำให้มันสามารถออกกำลังกายและมีเหงื่อออกได้ ดูไม่ต่างกับมนุษย์เลย นี่เป็นงานล่าสุดที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารของสหรัฐอเมริกา Science Robotics เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2017 นักวิจัย Yuki Asano และเพื่อนร่วมงานของเขาที่จบการศึกษาจากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยโตเกียว พวกเขาได้ทำการสร้างหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ขึ้นมาสองตัว ได้แก่ Kenshiro และ Kengoro   Kengoro หุ่นยนต์ที่สามารถออกกำลังกายได้เหมือนกับมนุษย์   Kenshiro เป็นหุ่นที่ถูกพัฒนาในช่วง 2011 ถึง 2014 ต่อมาจึงได้สร้าง Kengoro ขึ้นมาและพัฒนาต่อจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนั่นก็ทำให้เจ้าหุ่นยนต์ตัวล่าสุดนี้สามารถออกกำลังกายในท่าต่างๆ ได้เหมือนกับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการวิดพื้น ซิทอัพ หรือยืดกล้ามเนื้อ เจ้า Kengoro มีความสูง 167 เซนติเมตร น้ำหนัก 56.5 กิโลกรัม ลักษณะนิ้วมือ นิ้วเท้า สัดส่วนของร่างกาย ส่วนของกระดูกข้อต่อต่างๆ และกล้ามเนื้อที่ทำมาจากโลหะที่มีลักษณะคล้ายกับฟองน้ำ ลักษณะโดยรวมของมันจึงคล้ายกับมนุษย์ค่อนข้างมากจริงๆ  …

  • จีนเปิดบริษัท ‘กำจัดเสี้ยนหนามหัวใจ’ เพ่ื่อช่วยลดอัตราการหย่าร้างที่มาจากมือที่สาม

    จีนเปิดบริษัท ‘กำจัดเสี้ยนหนามหัวใจ’ เพ่ื่อช่วยลดอัตราการหย่าร้างที่มาจากมือที่สาม

    เคยมั้ย รักกับแฟนอยู่ดีๆ ก็มีพวกที่ทำตัวเหมือนเสี้ยนหนามหรือมารหัวใจเข้ามาวุ่นวายในชีวิตคู่ของคุณ จนทำให้คุณกับแฟนต้องทะเลาะกัน และถ้าปรับความเข้าใจกันไม่ได้ก็ต้องเลิกรากันไป? มันช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลยที่เราต้องเลิกกับคนที่รักเพราะพวกมารหัวใจ…ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นธุรกิจใหม่ในประเทศ ที่คอยช่วยเหลือคู่รักในการกำจัดเสี้ยนนามในชีวิต แล้วเชื่อมั้ยว่ามีคนยอมจ่ายเป็นแสนเพื่อให้ชีวิตคู่ราบรื่น?     Ming Li และผู้ร่วมก่อตั้ง Shu Xin ได้เปิดธุรกิจ Weiqing Love Hospital (ซึ่งในเซี่ยงไฮ้จะรู้จักกันดีในชื่อ Mistress Dispeller) มา 17 ปีแล้ว โดยได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่าล้านคน ทั้งคู่มุ่งมั่นที่จะทำให้คู่รักมีชีิิวิตที่ราบรื่นโดยผ่านการให้คำแนะนำ บอกเคล็ดลับในการใช้ชีวิตคู่ที่ยืนยาว รวมทั้งช่วยกำจัดมารหัวใจ     Shu Xin บอกว่า “มี 33 วิธีในการกำจัดปัญหาชีวิตคู่ เพราะชีวิตหลังแต่งงานมักมีปัญหาทุกประเภท และหนึ่งในนั้นคือการมีมือที่สาม มันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่ไม่ดีต่อครอบครัวและสภาพสังคมโดยรวม” ในการกำจัดศัตรูหัวใจนั้นมีหลากหลายวิธีตามความเหมาะสมของแต่ละคู่ อย่างเช่น ทำให้ผู้หญิงที่เป็นชู้ไปตกหลุมรักคนอื่นที่เป็นโสด ให้สามีของลูกค้าย้ายไปอยู่เมืองอื่น หรือพยายามเข้าไปตีสนิทกับหญิงชู้รักแล้วพูดสิ่งที่ไม่ดีหรือโรคร้ายของสามีลูกค้า แม้ว่าบางเรื่องจะไม่เป็นความจริงก็ตาม       ยังมีวิธีอื่นอีกแต่ทั้งหมดนี้เป็นความลับทางธุรกิจที่ทางบริษัทไม่สามารถเปิดเผยผ่านสื่อได้ อย่างไรก็ตามทาง Love Hospital ยืนยันไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายอย่างแน่นอน Dai Peng Jun เป็นอีกหนึ่งคนที่เปิดธุรกิจคล้ายกันนี้ในเซี่ยงไฮ้ เขาเปิดบริษัทนักสืบเอกชนและเดินทางมายังจีนเพื่อจะช่วยผู้หญิงกำจัดมือที่สาม…

  • Tesco ต่างประเทศเอาจริง เตรียมปรับให้มีอาหารเหลือและสินค้าตกค้างน้อยลงภายในมีนาคม 2018

    Tesco ต่างประเทศเอาจริง เตรียมปรับให้มีอาหารเหลือและสินค้าตกค้างน้อยลงภายในมีนาคม 2018

    อาหารหรือสินค้าในห้างเมื่อใกล้หมดอายุแล้ว ทางห้างมักจะเอามาลดราคาแบบถูกมากๆ เพื่อที่จะต้องไม่ทิ้งไปเปล่าๆ แต่หากลดแล้วยังขายไม่หมดอีกก็จำเป็นต้องทิ้งไป แต่ขณะนี้ Tesco ในสหราชอาณาจักรและที่อื่นๆ เตรียมปรับนโยบายอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีอาหารเหลือและสินค้าตกค้างในห้าง ทาง Dave Lewis ประธานบริษัท Tesco ได้ขอความร่วมมือจากซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือให้ปฏิบัติตามแนวทางของ Tesco และยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเริ่มใช้ภายในเดือนมีนาคมปี 2018 นี้     Lewis ให้สัมภาษณ์กับ Telegraph ว่า “อาหารเหลือถูกพูดถึงมานานหลายปีแล้ว แต่ถ้า Tesco ทำสำเร็จ รวมไปถึงร้านค้าทั่วประเทศ แล้วทำไมทุกคนจะทำไม่ได้?” “ตราบเท่าที่อาหารนั้นมนุษย์บริโภคได้ ผมอยากให้มันไปถึงมือผู้คนมากกว่าการฝังกลบหรือทำเป็นอาหารสัตว์ หรือทำเป็นเชื้อเพลิง”     ผู้คนนับพันในสหราอาณาจักรได้ขอรับอาหารจาก Food Banks (ธนาคารอาหารสำหรับผู้ยากไร้) มากขึ้น โดยมีิอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า นับตั้งแต่ปี 2012 อย่างไรก็ตามคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อม อาหารและกิจการชนบทเผยว่าครัวเรือนในสหราชอาณาจักรมีอาหารเหลือทิ้งมากถึง 7.3 ล้านตัน ในปี 2015     ด้วยเหตุนี้ Tesco จึงใช้แอป FoodCloud ที่พัฒนาขึ้นโดยนักศึกษาสองคนที่จบจาก Trinity College…

  • ลูกสาวตัดสินใจกิน “อัฐิ” ของแม่ในวันคริสต์มาส เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับแม่ให้มากที่สุด…

    ลูกสาวตัดสินใจกิน “อัฐิ” ของแม่ในวันคริสต์มาส เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับแม่ให้มากที่สุด…

    ทุกๆ เทศกาลคริสต์มาสเราจะเห็นผู้คนเฉลิมฉลองหรือแสดงความรักต่อกันด้วยการมอบของขวัญให้กัน การช่วยเหลือกัน แต่เธอคนนี้เลือกที่จะกิน “อัฐิ” ของแม่ในวันคริสต์มาส นี่นับว่าเป็นข่าวที่ทำเอาหลายคนตกอกตกใจเมื่อ Debra Parsons วัย 41 ปี ตัดสินใจกินอัฐิของ Doreen Brown ผู้เป็นแม่ที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามันทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับแม่     เธอบอกว่าการที่ต้องฉลองคริสต์มาสโดยไม่มีแม่ มันยิ่งทำให้เธอยากกินอัฐิของแม่มากขึ้น “มันจะทำให้ฉันผ่านคริสต์มาสโดยไม่มีแม่ครั้งแรกนี้ไปได้” Debra บอกอีกว่า“บางคนอาจคิดว่าฉันบ้าหรือทำในสิ่งที่ไม่น่าเคารพเอามากๆ แต่ฉันไม่สามารถหยุดตัวเองได้เลย ตรงกันข้ามฉันเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้แม่อยู่ใกล้กับฉันและฉลองด้วยกันในวันแห่งครอบครัวนี้”     เธอเสริมว่า “ฉันรู้สึกว่าแม่จะมีชีวิตอยู่ได้ภายใจตัวของฉัน เพราะถ้าเธอเป็นส่วนหนึ่งของฉันแล้ว เธอก็สามารถหายใจผ่านร่างกายของฉันได้ ลมหายใจของฉันคือลมหายใจของเธอ” “นี่เป็นคริสต์มาสครั้งแรกของฉันที่ไม่มีแม่อยู่ด้วย ฉันต้องการให้เธออยู่ด้วยเหมือนทุกๆ ปี ดังนั้นมันจึงเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ฉันรู้สึกดี”     สำหรับ Doreen ผู้เป็นแม่ เสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อเดือนพฤษภาคมด้วยภาวะทางเดินหายใจอุดตัน ซึ่งเป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดครั้งที่สองสำรหับ Debra เพราะเมื่อคริสต์มาสปี 1996 เธอก็เคยสูญเสียลูกที่คลอดก่อนกำหนดมาแล้ว จากการสูญเสียลูกในครั้งนั้น เธอต้องสู้กับความโศกเศร้าเป็นเวลาหลายปี และยังไม่ทันทำใจได้ คุณแม่ก็มาจากไปอีก นั่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนลงไปสู่จุดต่ำที่สุดของชีวิต     เธอบอกว่า “ฉันกับแม่ เราสนิทกันมาก เรามีความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกที่แข็งแกร่ง และไม่มีอะไรมาพรากเราจากกันได้…

  • นักเรียนโดนขโมยเครื่องเกม Nintendo 3DS ไป เพื่อนร่วมชั้นเลยรวมตังค์กันซื้ออันใหม่มาให้

    นักเรียนโดนขโมยเครื่องเกม Nintendo 3DS ไป เพื่อนร่วมชั้นเลยรวมตังค์กันซื้ออันใหม่มาให้

    ตอนเด็กๆ เราอาจจะมีของเล่นหลายชิ้น แต่จะมีอยู่ชิ้นหนึ่งที่เราชอบและหวงมากๆ ไปไหนก็จะพกติดตัวเสมอ แต่เราคงจะเสียใจมากๆ ถ้าของเล่นชิ้นนั้นเสียหรือหายไป อย่างเด็กชายจากโรงเรียน Antioch High School ประเทศแคลิฟอร์เนียที่ทำ Nintendo 3DS หาย ซึ่งเป็นของเล่นชิ้นเดียวที่เขารักมากๆ ด้วยความเสียใจเขาเลยเขียนบนกระดานในห้องเรียนว่ามันเป็นของขวัญจากย่าของเขา หากใครเจอให้นำมาคืนด้วย     เมื่อเพื่อนร่วมห้องได้อ่านข้อความนั้น พวกเขารู้สึกเห็นใจเขามากเพราะรู้ดีว่าการสูญเสียของรักไปนั้นมันรู้สึกยังไง ดังนั้น Piper Stowe หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนของเธออีกคน Shawna Cantiliano จึงตัดสินใจที่จะซื้อ Nintendo 3DS อันใหม่ให้กับเขา     ทั้งสองคนรวบรวมเงินมาได้มากกว่า 6,500 บาท จากนั้นก็ไปซื้อ Nintendo 3DS เครื่องใหม่มาและนำมามอบให้เพื่อนผู้น่าสงสารที่หน้าชั้นเรียน Stowe เดินเข้าไปหาเพื่อนที่ของเล่นหายที่หน้าชั้นเรียนแล้วพูดกับเขา “หลังจากที่รู้ว่าเธอทำ Nintendo 3DS หาย เรารู้ว่าเธอรู้สึกยังไง ดังนั้นฉันและเพื่อนๆ ทุกคนเลยรวมเงินกันแล้วซื้ออันใหม่ให้เธอ”   คลิปวิดีโอความประทับใจที่เกิดขึ้นภายในห้องเรียนเล็กๆ   จากนั้นเขาก็โผเข้ากอด Stowe ทั้งน้ำตา พูดขอบคุณเธอซ้ำๆ ท่ามกลางเสียงปรบมือจากคุณครูและเพื่อนร่วมห้อง ช่วงเวลาสุดประทับใจนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อนๆ ในห้องที่น้ำตาไหลตาม แต่คนดูอย่างเราก็ซาบซึ้งด้วยไม่แพ้กัน นับว่าเป็นความโชคดีของเด็กชายที่รู้จักกับเพื่อนๆ ที่แสนดีแบบนี้  …

  • เหล่าช้างมองว่ามนุษย์น่ารัก เหมือนที่เรามองว่าลูกหมาน่ารัก นี่คือสิ่งที่นักวิจัยบอกเรา

    เหล่าช้างมองว่ามนุษย์น่ารัก เหมือนที่เรามองว่าลูกหมาน่ารัก นี่คือสิ่งที่นักวิจัยบอกเรา

    มนุษย์เราชอบเล่นกับสัตว์ชนิดต่างๆ เพราะมองว่ามันน่ารัก น่ากอดและน่าทะนุถนอม แล้วเราเคยสงสัยมั้ยว่าเวลาที่สัตว์เล่นกับเรา มันคิดหรือมองเรายังไง? Julia Hass เขียนในทวิตเตอร์ว่า “ฉันเพิ่งรู้ว่าช้างมองว่ามนุษย์น่ารัก เหมือนที่มนุษย์มองว่าสุนัขน่ารัก นี่คงไม่มีอะไรทำให้รู้สึกดีไปกว่าข่าวนี้อีกแล้ว” จากโพสต์ดังกล่าวนี้ ทำให้ชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะแทบทุกคนไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนและมันทำให้เรารู้สึกว่าช้างเป็นสัตว์ที่น่าทึ่ง     อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยใดๆ ที่ยืนยันสิ่งที่ Julia บอก แต่เธอบอกว่าพบหลักฐานที่สนับสนุนว่าทฤษฎีนี้เป็นความจริง หญิงสาวบอกว่ามีหลักฐานมากมายที่ชี้ให้เห็นว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีระดับสติปัญญาที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ในหมู่สัตว์ เท่าที่รู้คือพวกมันมีสมองที่คล้ายกับสมองมนุษย์ และมีความฉลาดทางอารมณ์มากกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ บนโลก ช้างมีฮิปโปแคมปัส ขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนสูง มันคือส่วนหนึ่งของสมองที่เชื่อมโยงกับอารมณ์และประมวลผลทางอารมณ์     เมื่อช้างได้รับบาดเจ็บหรือมีความเจ็บปวดในร่างกาย มันจะมีระดับความเครียดที่ผิดปกติ นั่นเป็นเพราะสมองส่วนฮิปโปแคมปัสเกิดการขยายตัว ในแง่ของการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม ช้างเป็นที่รู้จักกันดีว่าพวกมันมีโครงสร้างทางสังคมที่ค่อนข้างซับซ้อน มีความสนิทแน่นภายในโขลงเดียวกัน และมันจะแสดงออกทางอารมณ์อย่างชัดเจนเมื่อสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีอีกมากมายยืนยันว่าช้างมีพิธีกรรมบางอย่างที่เกี่ยวกับความตาย โดยนักวิจัยช้าง Martin Meredith บอกว่าเมื่อช้างตัวใดตัวหนึ่งตาย ช้างสูงอายุตัวเมียของครอบครัวจะไปสัมผัสเบาๆ ที่ศพ     จากนั้นช้างตัวอื่นๆ จะส่งเสียงกรีดร้องหรือร้องไห้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอยู่ในความสงบอีกครั้ง ต่อมาพวกมันจะโยนใบไม้ กิ่งไม้ เพื่อคลุมศพ และยืนเฝ้าศพเป็นเวลา 2 วัน ทั้งนี้ช้างยังเป็นที่รู้จักในเรื่องการมีความจริงใจต่อต่อสัตว์อื่นๆ รวมทั้งมนุษย์ด้วย พวกมันจะช่วยช้างตัวอื่นๆ ที่ได้รับบาดเจ็บโดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์…

  • เปิดวาร์ป ‘Anton Tanjung’ คุณหมอหนุ่มชาวอินโดฯ ที่กำลังต้องตาต้องใจสาวๆ ในขณะนี้

    เปิดวาร์ป ‘Anton Tanjung’ คุณหมอหนุ่มชาวอินโดฯ ที่กำลังต้องตาต้องใจสาวๆ ในขณะนี้

    ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวๆ เดี๋ยวนี้ถึงอยากมีแฟนเป็นหมอกันจัง ก็แหมมม คุณหมอบางคนเนี่ยนอกจากจะเก่ง จะรวยแล้ว ยังมีหน้าตาหล่อเหลาพร้อมหุ่นล่ำๆ อีก ใครล่ะจะอดใจไหว เหมือนกับ Anton Tanjung คุณหมอชาวอินโดนีเซีย ที่หลายคนอาจจะรู้สึกคุ้นๆ เพราะก่อนหน้ามีภาพของเขาถูกแชร์ในโลกโซเชียลขณะที่อุ้มเด็กชายที่ว่ากันหล่อโตขึ้นมาแล้วหล่อแน่นอน     นี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของคุณหมอ   จากภาพดังกล่าวนั้นทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า Anton คือพ่อของทารกน้อยคนนั้น แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ เขาคือคุณหมอที่ทำคลอดให้น้องต่างหาก     รู้แบบนี้แล้วสาวๆ อาจจะรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรมากนะคะ เพราะเหมียวแอบไปส่องเฟซบุ๊กคุณหมอ Anton มา ตรงช่องสถานะขึ้นว่า “มีแฟนแล้ว” เห้ออออ รอบนี้แห้วของจริง     เป็นคุณหมอหน้าหล่อ หุ่นล่ำว่าเพอร์เฟกต์แล้วนะ Anton ยังเขียนหนังสือที่มีชื่อว่า ATEK: My Journey of Happiness, Sadness and Stupidity แต่ไม่แน่ใจว่ามีฉบับแปลไทยมั้ยนะ ลองหาอ่านดูค่ะ     Anton จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Fakultas Kedokteran Universitas…

  • แม่เปิดเรื่องสุดสะเทือนใจ พี่ชายวัย 13 ปี ฆ่าน้องสาว 3 ขวบเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

    แม่เปิดเรื่องสุดสะเทือนใจ พี่ชายวัย 13 ปี ฆ่าน้องสาว 3 ขวบเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2007 ได้เกิดคดีสุดสะเทือนใจหลังจากที่ Charity Lee ได้รับข่าวที่ทำให้หัวใจแตกสลายจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้โทรแจ้งข่าวร้ายกับเธอว่า Ella ลูกสาววัย 3 ขวบของเธอถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตและสิ่งที่ไม่น่าเชื่อไปกว่านั้นคือผู้ที่ก่อเหตุนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ Paris Bennett ลูกชายคนโตอายุ 13 ปีของเธอนั่นเอง     ข่าวร้ายนี้ทำให้ผู้เป็นแม่อย่างเธอต้องเครียดอย่างหนักที่ต้องมาเสียลูกสาวไปด้วยน้ำมือของลูกชายของเธอเอง เธอได้ออกมาเปิดเผยเหตุการณ์ที่เธอจะไม่มีวันลืมเลยผ่านทางเว็บไซต์ Mirror  ซึ่งก็เป็นเวลา 10 ปี แล้วที่เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ของเธอ     เรื่องราวทั้งหมดนี้เริ่มมาจากที่นาง Charity ได้ออกไปทำงาน ปล่อยให้ลูกทั้งสองคนอยู่กับพี่เลี้ยงในบ้านในเมืองอาบีลีน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่เธอก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์โศกนาฏกรรมนี้จะเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ เพราะเธอก็ไว้วางใจพี่เลี้ยงและลูกชายของเธอที่ต้องช่วยกันดูแลน้องสาวสุดน่ารัก แต่ทว่าเด็กที่มีไอคิว 141 อย่างเด็กชาย Paris ก็ได้ใช้ความฉลาดของเขาในการวางแผนฆ่าน้องสาวของเขา โดยหลอกล่อให้พี่เลี้ยงกลับบ้านไป จากนั้นก็เดินเข้าไปที่ห้องนอนของน้องสาว และเขาก็เริ่มทุบที ทำร้ายร่างกายต่างๆ นานา จากนั้นก็ใช้มีดทำครัวแทงเข้าร่างน้อยๆ ของน้องสาวถึง 17 ครั้ง     ความอำมหิตของเด็กวัย…

  • หนุ่มสวมชุดว่ายน้ำไปขโมย ‘โทรศัพท์มือถือ’ ในคอนเสิร์ตได้ 50 กว่าเครื่อง โดยไม่มีใครผิดสังเกต!?

    หนุ่มสวมชุดว่ายน้ำไปขโมย ‘โทรศัพท์มือถือ’ ในคอนเสิร์ตได้ 50 กว่าเครื่อง โดยไม่มีใครผิดสังเกต!?

    ฉลาดล้ำผงาดง้ำค้ำโลกจริงๆ กับนาย Alin Marin หนุ่มชาวโรมาเนียคนนี้ที่ได้ใช้ความฉลาดบวกกับสกิลมือไวใจกล้าของตัวเองในการเข้าไปขโมยมือถือด้วยวิธีสุดแยบยลกลางคอนเสิร์ต Royal Blood แต่สุดท้ายโดนจับเข้าคุกหัวโตซะงั้น เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2017 สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการจับกุมชายชาวโรมาเนียวัย 22 ปีที่ได้เข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือกลางคอนเสิร์ตสนามเบอร์มิงแฮม     นาย Alin ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ เปิดเผยวิธีการขโมยมือถือสุดเนียนของเขาโดยได้บอกว่าเขาจะสวมชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัวแล้วสวมเสื้อทับเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต หลังจากนั้นก็เข้าไปในคอนเสิร์ตที่มีผู้คนพลุกพล่านและไม่ค่อยมีใครจะระมัดระวังตัวกันมากนัก จากนั้นเขาก็ค่อยๆ หยิบโทรศัพท์มือถือจากผู้คนในงาน โดยเขาได้บอกว่าโทรศัพท์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนนั้นจะหยิบได้ง่ายที่สุด เมื่อหยิบโทรศัพท์มาได้แล้วก็ยัดเข้าไปในชุดว่ายน้ำ เท่านี้ก็ไม่มีใครสังเกตได้แล้ว แถมขโมยได้มาตั้ง 53 เครื่องแน่ะ มันน่าภูมิใจไหมเนี่ย     แต่พี่เขาคงไม่รู้ว่าความโลภมากอยากจะขโมยของให้ได้เยอะๆ มันจะย้อนกลับมาทำร้ายเขาเอง ในขณะที่เขากำลังเดินออกจากคอนเสิร์ต เขาดันมีพิรุธและลื่นล้มจนโทรศัพท์หลายสิบเครื่องหล่นออกจากร่าง คุณตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยในคอนเสิร์ตได้เข้ามาจับกุมนาย Alin ในทันที หลังจากค้นตัวแล้วพบโทรศัพท์ถึง 53 เครื่องก็แทบไม่ต้องสืบสาวราวเรื่องกันแล้ว ขโมยชัวร์แบบนี้     เมื่อจับคนร้ายได้พร้อมของกลางแบบนี้ก็ต้องมีการดำเนินคดี โดยศาลเบอร์มิงแฮมได้ตัดสินให้เขาถูกจำคุก 3 ปีในข้อหาโจรกรรมทรัพย์สินของผู้อื่น และคุณตำรวจยังฝากมาอีกว่า ให้ระมัดระวังตัวและตรวจดูทรัพย์สินอยู่เสมอเมื่อไปที่สาธารณะเพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามิจฉาชีพจะมาในรูปแบบไหน  …

  • เจ้านายสุดน่ารัก เห็นน้องหมากลัวช่างตัดขน เลยขึ้นไปตัดขนเป็นเพื่อนซะเลย

    เจ้านายสุดน่ารัก เห็นน้องหมากลัวช่างตัดขน เลยขึ้นไปตัดขนเป็นเพื่อนซะเลย

    คุณจะทำอย่างไรหากว่าน้องหมาคุณเกิดกลัวการตัดขนขึ้นมา? ถ้าหากคุณยังคิดไม่ออกแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณได้ลองมาศึกษาวิธีการของเขาคนนี้ ชายคนนี้มีชื่อว่า Lee Asher ผู้ช่วยเหลือน้องหมาเอาไว้เป็นจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา หนึ่งในนั้นคือสุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด ชื่อ Lillie ที่ถึงแม้ว่ามันจะตัวใหญ่มากเพียงใด แต่มันก็ยังคงกลัวการตัดขนเหมือนๆ กับน้องหมาอีกหลายๆ ตัว Lee จึงแสดงวิธีการช่วยผ่อนคลายความกลัวของมันผ่านอินสตาแกรมเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2017 ขณะที่เจ้าหมาตื่นกลัวจนไม่ยอมขึ้นไปบนเตียงตัดขน ชายคนนี้ตัดสินใจถอดเสื้อขึ้นไปตัดขนเป็นเพื่อนมันซะเลย   ไม่ต้องกลัวไปนะ พ่อขึ้นมาตัดเป็นเพื่อนแล้วลูกรัก   ช่างตัดขนก็ช่วยตัดให้กับเขาด้วยเป็นกรณีพิเศษ   การกระทำของ Lee ช่วยให้เจ้า Lillie สามารถสงบลงได้ ราวกับรู้สึกอุ่นใจที่ได้มีคนพิเศษมาอยู่เคียงข้างเราในยามยาก   ผู้คนภายในร้านต่างพากันยิ้มและหัวเราะให้กับสิ่งที่ชายคนนี้ทำ เพราะเขาสนใจเพียงแค่เจ้าหมาสุดที่รักเท่านั้น   ช่างตัดผมยังถึงกับฮาแตกกับเหตุการณ์นี้   สุนัขตัวอื่นๆ ที่ได้เห็นคงพากันอิจฉาเจ้า Lillie ที่มีเจ้านายน่ารักมากขนาดนี้   การเสียสละตัวเอง ยอมทำสิ่งต่างๆ เพื่อมอบความสุขให้กันและกัน น่ารักกันทั้งคู่เลย   คลิปเจ้านายผู้เสียสละ ขึ้นไปตัดขนเป็นเพื่อนน้องหมา (หากดูไม่ได้ ให้กดที่ลิ้งก์ Instagram) Lillie…

  • ช่างภาพช่วยขับเน้นความสวยงามในสุนัข เพื่อให้คนเห็นและอยากรับพวกมันไปเลี้ยงมากขึ้น

    ช่างภาพช่วยขับเน้นความสวยงามในสุนัข เพื่อให้คนเห็นและอยากรับพวกมันไปเลี้ยงมากขึ้น

    ในช่วงเทศกาลวันหยุดที่ใกล้เข้ามา หลายๆ คนต้องการกลับบ้านเพื่อได้รับไออุ่นจากคนในครอบครัว น้องหมาในบ้านพัก Battersea ในประเทศอังกฤษก็เช่นกัน พวกมันยังคงรอคอยความหวังที่จะมีบ้านและครอบครัวที่รักมันในช่วงเวลานี้ และกลายเป็นผลงานของช่างภาพ Jack Taylor นี่คือส่วนหนึ่งของโครงการที่ชื่อว่า In From The Cold โดยภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Jack ผู้ต้องการสื่อให้ทุกคนตระหนักถึงน้องหมาที่ยังคงโดดเดี่ยวและรอคอยที่จะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง   Jasmine สุนัขสายพันธุ์ Dogue de Bordeaux วัย 11 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพักแห่งนี้มา 37 วัน   Thelma สายพันธุ์ ซาลูกิ อายุ 4 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพักมานาน 94 วัน   Albert สายพันธุ์ Lurcher อายุ 1 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพักมานาน 93 วัน   Becky Fisher ผู้จัดการฝ่ายสวัสดิการและการฟื้นฟูของบ้านพักดังกล่าว บอกว่า “พวกเราดูแลมันยังดีในช่วงเทศกาลเดือนธันวาคม…

  • เจ้าหน้าที่ ‘หมู’ ประจำสนามบิน ผู้ช่วยคลายความกดดันของมนุษย์ที่กลัวการเดินทางบนท้องฟ้า

    เจ้าหน้าที่ ‘หมู’ ประจำสนามบิน ผู้ช่วยคลายความกดดันของมนุษย์ที่กลัวการเดินทางบนท้องฟ้า

    ในช่วงเทศกาลวันหยุดเดือนธันวาคม 2016 หลายๆ คนจำเป็นต้องนั่งเครื่องบินกลับบ้าน แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกกลัวกับการขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า ทำให้ทางสนามบินนานาชาติ Albany ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา คิดหาวิธีการช่วยลดความกลัวของพวกเขา ด้วยการนำน้องหมูมาช่วยบรรเทา คุณอาจเคยได้ยินว่าในสนามบินต่างประเทศบางแห่ง จะมีน้องหมามาคอยต้อนรับเพื่อให้เราผ่อนคลายก่อนไปขึ้นเครื่องบิน แต่สำหรับสนามบินแห่งนี้เขาได้ใช้น้องหมูที่ชื่อ Bacon Bits มาทำหน้าที่นั้นแทน ซึ่งผลตอบรับก็ถือว่าดีเกินคาด   เจ้าหมูผู้สร้างรอยยิ้มและมอบความสดใส ให้กำลังใจทุกๆ คนในสนามบินแห่งนี้   ป้ายเจ้าหน้าที่ชัดเจน แสดงถึงการทำงานของเจ้าหมูน้อยตัวนี้   Terry Hutchinsen เจ้าของน้องหมูตัวนี้บอกว่า “มันได้รับความนิยมอย่างมาก เดินไปทางไหนก็มีแต่คนให้ความสนใจ เข้ามาเล่นกับมัน เพราะคงไม่ค่อยมีใครได้เห็นอะไรแบบนี้มาก่อน” คนที่เข้ามาหาไม่ได้มีแค่คนที่ไม่เคยเห็นหรือไม่เคยจับหมูเท่านั้น เพราะบางคนที่เคยเลี้ยงหมูมาก่อนก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนวันวานอีกครั้ง จึงเข้ามาเล่นมากอดมันด้วยรอยยิ้ม   พอเราได้มาเล่นกับมัน ความกลัวของเราก็จะหายไปในพริบตา   นี่ไม่ใช่หมูตัวแรกที่ช่วยลดความกลัวให้กับคนที่กำลังจะขึ้นเครื่องบิน เพราะสนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก ก็มีน้องหมูอีกตัวที่น่ารักไม่แพ้กัน ชื่อว่า LiLou   เจ้าหมูอีกตัวที่ทำหน้าที่ในสนามบินซานฟรานซิสโก   ความน่ารักของเจ้า Bacon Bits ไม่ได้สร้างกำลังใจให้กับคนในสนามบินเท่านั้น แต่มันยังออกไปช่วยสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้คนจำนวนมากในสถานพยาบาลกว่า 65 แห่ง…

  • หนุ่มมะกันยิ้มร่า หลังถูกจับเพราะฆาตกรรมแม่ตัวเอง ด้วยการใช้มีดแทงเข้าที่คอของเธอ

    หนุ่มมะกันยิ้มร่า หลังถูกจับเพราะฆาตกรรมแม่ตัวเอง ด้วยการใช้มีดแทงเข้าที่คอของเธอ

    ภาพของผู้ต้องหาหนุ่มที่กำลังยิ้มหลังจากที่เขาเพิ่งฆ่าแม่แท้ๆ ของตัวเอง ด้วยการใช้มีดแทงคอของเธอหลายครั้งจนเสียชีวิตในที่สุด เหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นเมื่อนาย Justin Jay Paul หนุ่มวัย 22 ปีได้ลงมือฆ่าแม่ของเขาในบ้านที่เมือง Westland รัฐมิชิแกนเมื่อเช้าวันพุธที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ     แต่ทว่าหลังจากที่หนีไปได้ไม่นานฆาตกรหนุ่มก็ถูกจับได้สำเร็จ เขาโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเข้าที่ขา 1 นัดก่อนที่จะพาตัวเข้าห้องขัง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเขาได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาพร้อมกับบอกว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ฆาตกรรมครั้งนี้ พ่อของชายหนุ่มให้สัมภาษณ์ว่าลูกชายของเขามีอาการไบโพล่าและโรคสมาธิสั้น และก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยมีปัญหากับแม่มาก่อนเลย   คุณ Jeanette Paul ผู้ตาย   เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงบ้านที่เกิดเหตุทันทีหลังจากที่ทางครอบครัวพบร่างของคุณ Jeanette Paul อยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านทุกห้องเพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัย ก่อนที่พวกเขาจะพบ Justin ในเมือง Livonia ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 24 กิโลเมตร ในตอนแรกชายหนุ่มพยายามวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะถูกยิงเข้าที่ขา 1 นัด และนำตัวส่งโรงพยาบาล ตำรวจที่พบ Justin บอกว่าพบมีด 1 ด้ามอยู่ในกระเป๋าของเขา ขณะนี้ชายหนุ่มกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาคดี และเตรียมที่จะขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 4 มกราคม     ที่มา dailymail

  • สื่อนอกเผย เด็กจีนใช้เวลาทำการบ้านนานกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 3 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก

    สื่อนอกเผย เด็กจีนใช้เวลาทำการบ้านนานกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 3 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก

    อย่างที่พวกเราพอจะทราบกันเป็นอย่างดีว่าชาวจีนนั้นถือเป็นอีกหนึ่งชนชาติที่ขยันและทำงานอย่างหนัก แต่นอกจากสองเรื่องนี้แล้วพวกเขายังขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการเรียนการสอนที่หนักหน่วงอีกด้วย จากการรายงานของ Afanti ระบบเก็บข้อมูลขอผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคนทั่วประเทศ เผยว่าตลอดช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เด็กนักเรียนในระดับชั้นประถมของที่นี่ใช้เวลาทำการบ้านเฉลี่ยมากกว่า 3.03 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกถึง 3 เท่า!!     นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยผลการสำรวจระยะเวลาในทำการบ้านของเด็กญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อีก ซึ่งจากรายงานระบุว่าพวกเขาใช้เวลาในทำการบ้านเฉลี่ย 3.7 และ 4.8 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว จากผลการสำรวจในปี 2012 พบว่าเด็กชาวอเมริกันที่มีอายุเฉลี่ย 15 ปีจะใช้เวลาในการทำการบ้านเพียงแค่ 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น ระบบการศึกษาของจีนนั้นถูกวิพากษ์วิจารย์ว่าเป็นระบบที่ซ้ำซากจำเจ และไม่ทำให้เด็กเกิดการพัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์ของเด็กได้     การบ้านนั้นยังไม่ได้ส่งผลต่อตัวเด็กเท่านั้นแต่ความกดดันจากผู้ปกครองก็ยังเป็นสิ่งที่สร้างความเครียดให้กับเด็กๆ อีกด้วย จากการรายงานของสื่อในท้องถิ่นได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของคุณแม่ท่านหนึ่งที่เล่าว่าเธอมักจะรู้สึกอารมณ์เสียทุกครั้งที่พยายามช่วยสอนการบ้านลูก และเมื่อปีที่ผ่านมาก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจขึ้นเมื่อคุณพ่อท่าหนึ่งได้โทษลูกของเขาโดยการจับขึงไว้กลางถนน เนื่องจากเจ้าหนูน้อยไม่ยอมทำการบ้าน   ที่มา medium

  • ญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดลดลงอย่างน่าใจหาย และต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2017

    ญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดลดลงอย่างน่าใจหาย และต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2017

    ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ผลิตหนังอย่างว่า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าหนังเอวีออกมาเป็นพันเป็นหมื่นเรื่องต่อปีและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จึงทำให้ใครหลายคนอาจจะคิดว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ฟรีเซ็กส์ และมีเด็กๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าในปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นกำลังจะมีอัตราการเกิดน้อยที่สุดตั้งแต่มีการสำรวจ!! ประเทศญี่ปุ่นในตอนนี้ได้ถูกคาดการณ์เอาไว้ว่าจะมีเด็กที่เกิดใหม่จำนวน 941,000 คนในปี 2017 ซึ่งจะเป็นอัตราการเกิดที่ต่ำที่สุด เท่าที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลมาตั้งแต่ปี 1899 และจำนวนเด็กเกิดใหม่ที่ว่านี้จะน้อยลงกว่าปีก่อนถึง 36,000 คนจากข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นที่เปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา     จากข้อมูลทางสถิติที่ถูกเผยแพร่โดยกระทรวงคุ้มครองสุขภาพแรงงาน ดูเหมือนว่าจำนวนเด็กแรกเกิดในปีนี้จะมีแนวโน้มที่ต่ำกว่า 1 ล้านคนเป็นปีที่สองติดต่อกันกับปีก่อนหน้านี้ โดยอัตราการแรกเกิดที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นคือในปี 1949 ที่มีจำนวนเด็กแรกเกิดสูงถึง 2.7 ล้านคนต่อปี นอกจากอัตราการแรกเกิดแล้ว สถิติยังได้เผยถึงแนวโน้มประชากรญี่ปุ่นในปัจจุบันอีกด้วย โดยในปี 2017 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปมีตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1.34 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ยุคสิ้นสุดสงคราม และมีตัวเลขที่เพิ่มกว่าปีก่อนถึง 36,000 รายเลยทีเดียว     ด้วยอัตราการเกิดที่น้อยลงและอัตราการเสียชีวิตที่มากขึ้น ทำให้จำนวนประชากรในประเทศญี่ปุ่นลดลงถึง 403,000 คนซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังมากกว่าปีที่แล้วถึง 72,000 คน ด้วยเหตุนี้ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศญี่ปุ่นจึงออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะแก้ปัญหาเรื่องประชากรนี้ให้ได้ ซึ่งวิธีที่เขาจะใช้แก้ปัญหาก็คือ เพิ่มความสนับสนุนในการด้านการดูแลเด็กและการศึกษา…

  • เพราะโลกนี้ยังมีสิ่งสวยงาม…กอริลลาน้อยกำพร้าหัวเราะคิกคัก หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปเล่นด้วย

    เพราะโลกนี้ยังมีสิ่งสวยงาม…กอริลลาน้อยกำพร้าหัวเราะคิกคัก หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปเล่นด้วย

    กอริลลา คือสัตว์ที่พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่เราเคยรู้กันมาก่อนมั้ยว่าพวกมันมีโอกาสเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ได้สูงมาก เพราะยังคงมีเหล่าผู้แสวงหาผลกำไรจากการลักลอบล่าสัตว์ชนิดนี้อยู่ แต่ก็อาจมีบางตัวที่สามารถรอดมาจากเงื้อมมือของคนเหล่านั้นได้ เช่นเดียวกับเจ้ากอริลลาน้อยตัวนี้ Lulinga คือลูกกอริลลากำพร้าที่ถูกช่วยให้รอดจากกลุ่มลักลอบล่าสัตว์ผิดกฎหมายมาได้ ซึ่งมันอาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Virunga ประเทศคองโก และเห็นพ่อแม่ของตัวเองถูกยิงตายตั้งแต่อายุแค่ 8 เดือน หลังจากที่ทั้งสองพยายามขัดขืนไม่ให้กลุ่มลักลอบล่าสัตว์เอาลูกของพวกมันไป   กอริลลากำพร้า ถูกพรากพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก   แต่ถึงแม้ว่าเจ้ากอริลลาน้อยตัวนี้จะเคยเจอกับความโหดร้ายของมนุษย์มาก่อน แต่ปัจจุบันมันก็ได้รับความรักและการคุ้มครองจากกลุ่มมนุษย์ผู้หวังดีที่มีชื่อว่า GRACE องค์กรผู้ปกป้องกอริลลาที่อาศัยอยู่ในแอฟริกา ในคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ในวันที่ 21 ธันวาคม 2017 เผยให้เห็นความน่ารักของกอริลลาน้อยตัวนี้ ถูกจั๊กจี้ซะจนดิ้นไปมา พร้อมกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ดูน่ารักน่าเอ็นดู   หัวเราะเอิ๊กๆ ชอบอกชอบใจใหญ่เลย   คลิปความน่ารักของเจ้ากอริลลาน้อยที่ถูกจั๊กจี้   รอยยิ้มอย่างมีความสุขจากการได้รับความช่วยเหลือจากคนกลุ่มนี้ เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจและมอบรอยยิ้มอิ่มเอมใจให้กับทุกคนที่เห็น   ยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า   อย่างไรก็ตามจำนวนของกอริลลาในปัจจุบัน เชื่อว่าเหลือเพียงแค่ราวๆ 5,000 ตัวที่อาศัยอยู่ในบ้าน และการที่ยังคงมีคนลักลอบล่าสัตว์อยู่จึงทำให้จำนวนดังกล่าวอาจลดลงอีกในอนาคต แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น องค์กร GRACE ก็หวังที่จะช่วยฟื้นฟูและป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นกับพวกมัน และหวังที่จะให้ Lulinga ได้กลับไปอยู่ตามธรรมชาติ หลังจากที่ปลอดอันตรายแล้ว…

  • น้องเหมียวที่แม้จะเกิดมาตัวเล็กผิดปกติ แต่มันก็ได้รับความรักที่ยิ่งใหญ่มากๆ จากทาสของมัน

    น้องเหมียวที่แม้จะเกิดมาตัวเล็กผิดปกติ แต่มันก็ได้รับความรักที่ยิ่งใหญ่มากๆ จากทาสของมัน

    ขณะที่กลุ่มช่วยเหลือน้องเหมียว Cat Adoption Team กำลังสำรวจอยู่ในเมือง Sherwood รัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ไปเจอกับสองแม่ลูกที่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะลูกเหมียวตัวนั้นอายุ 5 วัน แต่กลับมีขนาดเท่ากับตอนแรกเกิด เรื่องราวนี้ถูกรายงานเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2017 ผ่านเว็บไซต์ LoveMeow ว่า ทั้งสองตัวถูกพาไปฝากไว้กับบ้านอุปถัมภ์ชื่อ Mama Muse เพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ที่พัก และอาหารแสนอร่อย   เจ้าเหมียวตัวจิ๋ว   แม่และลูกที่ถูกช่วยมาด้วยกัน   เจ้าลูกแมวถูกเรียกว่า Selene อายุ 5 วัน ซึ่งถึงแม้ว่าตามันจะเปิดขึ้นมาได้แล้ว แต่ขนาดตัวเหมือนกับตอนเพิ่งเกิดมาและยังคงมีสายสะดือติดอยู่ และหลังจากที่มันได้มาอยู่ในที่แห่งนี้ แม่ของมันก็ตีตัวออกห่าง ไม่สนใจลูกน้อยเลย แม้ว่าจะได้ยินเสียงลูกร้องออกมาเรียกความสนใจมากขนาดไหนก็ตาม   .   Selene จึงได้ไปอยู่ในความดูแลของ Shelby เจ้าหน้าที่ผู้หลงใหลเจ้าลูกแมวตัวนี้มากๆ ด้วยความมินิไซส์และน่ารักของมัน บวกกับสายตาบ๊องแบ๊วที่ส่งมาให้อยู่เสมอ เนื่องจากว่าแม่แมวไม่สามารถผลิตน้ำนมออกมาได้แล้ว เจ้าหน้าที่คนนี้จึงเป็นคนป้อนนมให้ลูกแมวทุกๆ ชั่วโมงผ่านหลอดฉีดยา ซึ่งเจ้าเหมียวก็กินอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความหิวโซ…

  • รู้จักกับมิ้วน้อย ‘Bettie Bee’ ที่เกิดมามี 2 หน้า แต่มีความน่ารักแบบพิเศษๆ จนคุณต้องหลงรัก

    รู้จักกับมิ้วน้อย ‘Bettie Bee’ ที่เกิดมามี 2 หน้า แต่มีความน่ารักแบบพิเศษๆ จนคุณต้องหลงรัก

    แมวเหมียวแต่ละตัวย่อมมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน บางตัวต่างที่ภายนอก บางตัวต่างที่นิสัย แต่ดูเหมือน Bettie Bee จะต่างจากแมวทั่วไปอย่างสิ้นเชิง Bettie Bee เป็นที่รู้จักในฐานะแมว Janus เพราะมัน 2 หน้า 2 จมูก 2 ปาก และ 3 ตา ความพิเศษนี้เป็นผลมาจากภาวะที่เรียกว่า Craniofacial duplication ทำให้ส่วนหัวของมันเติบโตเป็น 2 เท่าขณะอยู่ครรภ์     หลังจากที่เจ้ามิ้วน้อยเกิดมา เจ้าของรู้ได้ทันทีว่ามันต้องได้รับการรับการดูแลและการช่วยเหลือมากกว่าแมวทั่วไป เธอจึงพามันไปหาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลแมวเป็นพิเศษ เจ้าของ(ไม่ประสงค์ออกนาม)เล่าว่า “Bettie Bee เกิดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ฉันเลยพามันไปหาสัตวแพทย์อย่างเร่งด่วนที่สุดในวันรุ่งขึ้น ซึ่งตอนนั้นเธออายุเพียงแค่ 1 วัน”     ต่อมาผู้ช่วยชีวิตของ Bettie ได้ป้อนให้อาหารให้มันผ่านท่อ แล้วก็พบว่าอาหารที่ถูกป้อนผ่านปากทั้งสองช่องนั้นลงไปสู่ท้องของมันเหมือนกัน การที่น้องแมวเกิดมามี 2 หน้านั้น หมายความว่ามันมีความผิดปกติ แต่มันมีโอกาสที่จะเติบโตมามีสุขภาพที่ดีเหมือนแมวทั่วไปได้ เพราะก่อนหน้านี้แมวที่ชื่อ Frankenlouie ก็เป็นแมว Janus เหมือนกัน และมันสามารถอยู่ได้นานถึง 14…

  • น้องหมาสายโหด วิ่งไล่จระเข้จนมันต้องหนีลงน้ำไป อะไรมันจะกล้าหาญปานน้าาาาน…

    น้องหมาสายโหด วิ่งไล่จระเข้จนมันต้องหนีลงน้ำไป อะไรมันจะกล้าหาญปานน้าาาาน…

    สุนัขบางตัวแม้จะตัวเล็กนิดเดียว แต่ความกล้าหาญของมันกลับยิ่งใหญ่เกินตัว นั่นทำให้เรามักจะเห็นสุนัขทำอะไรที่น่าทึ่งเสมอ แต่ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะกล้าถึงขนาดไล่จระเข้ลงน้ำได้!! Dumb Blonde เป็นสุนัขที่อาศัยอยู่กับเจ้าของที่ Goat Island Lodge บนเกาะ Goat ใกล้กับแม่น้ำ Adelaide ทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย     ก่อนที่จะเกิดภาพแบบใน GiF ข้างบนนี้ น้องหมา Dumb Blonde ยืนเห่าอยู่ห่างออกไปประมาณ 3.3 เมตร ก่อนจะวิ่งพุ่งเข้าไปที่จระเข้ที่ชื่อ Casey จนมันต้องรีบหนีลงน้ำไป สุดท้ายน้องหมายังพยายามกัดหางของมันด้วย น่าแปลกที่ Casey ไม่ทำอะไรสุนัขตัวน้อยนี้เลย ทั้งๆ ที่ตัวใหญ่กว่าหลายเท่า แต่กลับหนีลงน้ำง่ายๆ ซะอย่างนั้น     แขกหลายคนที่อยู่ใน Goat Island Lodge ต่างมองดูนาทีที่น้องหมาเข้าไปใกล้จระเข้ด้วยความหวาดกลัว แต่ Kai Hansen ผู้เป็นเจ้าของเกาะกลับยืนหัวเราะกับเหตุการณ์ระทึกนั่น Hansen บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “Dumb Blonde เป็นสุนัขพันธุ์ผสมเวสต์ ไฮแลนด์ ไวท์ เทอร์เรีย อายุ 10 ปี และมันก็มันทำอย่างนั้นมาหลายปีแล้ว”    …

  • ข่าวลือจากวงใน… คนชนชั้นสูงในเกาหลีเหนือ จะได้รับการฉีดทองคำเข้าสู่ร่างกายตัวเอง

    ข่าวลือจากวงใน… คนชนชั้นสูงในเกาหลีเหนือ จะได้รับการฉีดทองคำเข้าสู่ร่างกายตัวเอง

    ความเป็นเกาหลีเหนือนี่มันเกาหลีเหนือจริงๆ ทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้างชาวช่อง ทั้งล้ำไปบ้าง แปลกไปบ้าง จนเรามักจะได้ยินเรื่องราวอันน่าทึ่งของพวกเขาบ่อยๆ ล่าสุดสื่อท้องถิ่นเผยว่าท่านผู้นำ คิม จอง อึน และคนชนชั้นสูงของเกาหลีเหนือกำลังจะได้รับการฉีดทองคำเข้าสู่ร่างกายโดยนักวิทยาศาสตร์แนวหน้าของประเทศ     สำหรับการดูแลสุขภาพด้วยทองคำนั้นเป็นส่วนหนึ่งของยาตัวใหม่ ที่ทาง Pyongyang วางแผนจะส่งออกในอนาคต ซึ่งปัจจุบันนี้มีเพียงคิม จอง อึน และชนชั้นสูงของประเทศเท่านั้นที่เข้าถึงยาตัวนี้ ข้อมูลจาก MIMS เผยว่าปัจจุบันทองคำถูกนำมาใช้รักษาโรคมะเร็งและโรคข้อรูมาตอยด์ ทั้งยังใช้ในการตรวจหาเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์ และช่วยให้การทดสอบวินิจฉัยโรคสะดวกรวดเร็วมากขึ้น     การฉีด Nano-gold polysaccharide injection ของเกาหลีเหนือ พัฒนาขึ้นโดย Korea Myohyang Trading Corporation ซึ่งช่วยในการรักษาโรคมะเร็ง โรคอ้วน ภาวะสมองเสื่อมในวัยชรา และภาวะอ่ื่นๆ     นักพัฒนายาตัวนี้บอกว่า “มันมีประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันโรคตับอักเสบ ตับแข็ง โรคเบาหวาน โรคนอนไม่หลับ โรคมะเร็ง โรคข้อรูมาตอยด์ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ ริ้วรอย ภาวะสมองเสื่อม รักษาอาการติดยาเสพติดและแอลกอฮอล์ ป้องกันสารเคมีและภาวะแทรกซ้อนในร่างกาย” “นอกจากนี้ยังสามารถใช้รักษาอาการอ่อนเพลียได้ ดังนั้นเราจึงขอให้แนะนำให้ทุกคนใช้ยาตัวนี้ในการบรรเทาอาการเมื่อยล้าของร่างกาย”     ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์จาก Korea Oriental Medicine…

  • หนุ่มผวา!! พบโดรนบินมาใกล้กับเครื่องบินที่กำลังจะลงจอด จนเกือบเกิดโศกนาฏกรรม

    หนุ่มผวา!! พบโดรนบินมาใกล้กับเครื่องบินที่กำลังจะลงจอด จนเกือบเกิดโศกนาฏกรรม

    ตั้งแต่มีโดรน การถ่ายทางอากาศหรือภาพมุมสูงก็มีความสะดวกสบายและง่ายขึ้นเยอะ แถมได้ภาพที่สวยงามตามต้องการด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องระวังในเรื่องพื้นที่และระดับความสูงของการปล่อยโดรนด้วย เพราะหากใช้โดรนในที่ต้องห้ามหรือทำให้มันบินสูงเกินไป อาจเกิดอุบัติที่ไม่คาดคิดได้ เหมือนกับกรณีที่จะนำเสนอนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่เครื่องบินที่ช่างภาพ Simon Pollock นั่ง กำลังจะลงจอดในสนามบิน Los Angeles International Airport     ระหว่างนั้นช่างภาพมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ก็ตกใจอย่างแรงเมื่อเห็นกล้องโดรนลอยอยู่กลางอากาศ ซึ่งห่างจากเครื่องบินที่เขานั่งอยู่เพียงเล็กน้อย Pollock เขียนในเฟซบุ๊กว่า “คุณอาจจะเพลิดเพลินกับการใช้โดรน แต่คุณจะยิ้มไม่ออกถ้านั่งอยู่บนเครื่องแล้วเห็นโดรนลอยอยู่ใกล้ตัวเครื่อง คนที่ทำอะไรแบบนี้ช่างโง่เง่าสิ้นดี” “ตอนแรกที่เห็นไฟกะพริบสีแดงผมคิดว่ามันเป็นเครื่องบินลำอื่น แต่พอลองดูดีๆ เลยรู้ว่ามันไม่ใช่เครื่องบิน และมันก็อยู่ห่างจากเราไม่มากด้วย” “ผมไม่แน่ใจว่าโดรนขนาดเล็กนี้จะมีผลอย่างไรกับเครื่องบิน มันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ แต่ยังไงมันก็น่ากลัวอยู่ดี”     ทั้งนี้ตามกฎหมายแล้ว การปล่อยโดรนขึ้นสูงเกิน 8,000 เมตรจากสนามบินนั้นถือว่ามีความผิด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้เมื่อไม่กี่วันก่อนมีรายงานว่าโดรนบินมาชนกับเครื่องบินที่กำลังจะลงจอดในประเทศอังกฤษและแคนาดา แต่โชคดีที่นักบินสามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หวังว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ใช้โดรนทั้งหลาย เพราะความเพลิดเพลินเพียงชั่ววูบของคุณอาจเป็นอันตรายมากกว่าที่คิด   ที่มา petapixel  

  • นักเรียนสาวเจอคุก 25 ปี หลังพยายามฆ่าเพื่อนร่วมชั้น อ้าง Slender Man บอกให้ทำ

    นักเรียนสาวเจอคุก 25 ปี หลังพยายามฆ่าเพื่อนร่วมชั้น อ้าง Slender Man บอกให้ทำ

    เชื่อว่าบางคนอาจจะคุ้นเคยกับเรื่องราวของ Slender Man หรือชายลึกลับในจินตนาการที่มีรูปร่างสูงยาว ไร้หน้า ผิวขาวซีด มีแขนขายาวเหมือนปลาหมึก สวมชุดสูทสีดำ และถ้าเขาปรากฏตัวเมื่อไหร่นั่นหมายความว่า หายนะกำลังมาเยือนแล้ว ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าสเลนเดอร์แมนนั้นมันคืออะไรกันแน่ หรืออาจจะเป็นเพียงจินตนาการของคนหลายๆ คนจนเกิดอุปทานหมู่ว่าเจ้าสเลนเดอร์แมนนี้มีอยู่จริง และมีคนอ้างว่าสเลนเดอร์แมนเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการกระทำความผิดต่างๆ     อีกหนึ่งคดีที่มีคนอ้างว่าได้รับคำสั่งจากสเลนเดอร์แมนให้กระทำความผิดในครั้งนี้เป็นหญิงสาววัย 16 ปีสองคน ชื่อว่า Anissa Weier กับ Morgan Geyser ที่ก่อเหตุพยายามฆ่า Payton Leutner เพื่อนร่วมชั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 สองสาวได้ล่อลวงให้ Payton เข้าไปที่ในป่าเมือง Waukesha แล้วแทงเข้าที่ร่างของเธอถึง 19 ครั้ง แต่โชคดีที่เธอรอดชีวิตมาได้หลังจากที่คลานออกมาจากป่าแล้วมีพลเมืองดีช่วยชีวิตไว้     ในขณะที่ Anissa กับ Morgan ก่อเหตุพยายามฆ่า ทั้งสองอายุเพียงแค่ 13 ปี เท่านั้น โดย Anissa อ้างว่าเธอได้รับคำสั่งจากสเลนเดอร์แมน และเธอไม่สมควรได้รับโทษใดๆ เนื่องจากอาการป่วยทางจิต    …

  • คู่ตายายวัยดึกขนกัญชาเกือบ 30 กิโล อ้างจะเอาไปเป็นของขวัญวันคริสต์มาสแต่โดนรวบก่อน!!

    คู่ตายายวัยดึกขนกัญชาเกือบ 30 กิโล อ้างจะเอาไปเป็นของขวัญวันคริสต์มาสแต่โดนรวบก่อน!!

    การขนสิ่งของต้องห้ามหรือว่ายาเสพติด เป็นสิ่งผิดกฎหมายที่ใครๆ ต่างก็รู้กันดีว่าผลของการกระทำนั้นจะเป็นอย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะอ้างว่าจะเอาไปเป็นของขวัญสำหรับวันคริสต์มาสที่กำลังจะใกล้เข้ามาถึงในเร็ววันนี้ก็ตาม เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวชายวัย 80 ปีชื่อว่า Patrick Jiron และเมียวัย 83 ปีของเขาชื่อว่า Barbara Jiron ขณะกำลังขนกัญชาซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 27 กิโลกรัมข้ามรัฐ   ไม่น่าเลยตู   เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หยุดรถของคู่ตา-ยายคู่นี้บนถนนข้ามระหว่างรัฐสายที่ 80 และเมื่อเปิดผ้าคลุมหลังรถกระบะ โตโยต้า ทาโคม่า ออกพวกเขาก็ต้องตะลึงเพราะพบว่าที่กระบะรถคันนี้เต็มไปด้วยกัญชาอัดซ้อนๆ กันอยู่จนแทบจะไม่มีที่ว่าง และเมื่อนำไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นกัญชาที่พบเป็นกัญชาคุณภาพชั้นยอดที่มีน้ำหนักถึง 27 กิโลกรัมและมีมูลค่ามากถึง 336,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 11 ล้านบาท) เลยทีเดียว ตา-ยายสายปุ๊นคู่นี้ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า พวกเขาออกเดินทางจากบ้านของพวกเขาที่รัฐแคลิฟอร์เนีย และกำลังมุ่งหน้าเดินทางไปรัฐเวอร์มอนต์ นอกจากนั้นพวกเขายังบอกอีกด้วยว่ากัญชาที่ขนมานั้นเพื่อจะเอาไว้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้แก่คนที่พวกเขารู้จัก   เยอะขนาดนี้ ปอดมีพังกันบ้างแหละ   ซึ่งเหตุที่พวกเขาโดนจับก็เพียงเพราะว่า เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่ารถคันนี้ได้ขับเลยเส้นกลางถนนโดยไม่เปิดสัญญาณไฟก็เลยเรียกมาตรวจสอบเพียงเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกเอาไว้ว่าพวกเขาได้กลิ่นกัญชาฉุนจมูกทันทีที่เข้าใกล้รถคันนี้ พวกเขาจึงเข้าค้นรถคันดังกล่าวแล้วก็พบสิ่งที่พวกเขาคิดเอาไว้จริงๆ นั่นจึงทำให้ Patrick ผู้เป็นสามีถูกจับในข้อหาครอบครองกัญชาด้วยเจตนาที่จะส่งมอบ และไม่มีตราประทับภาษียาเสพติด ส่วนภรรยาถูกจับในข้อหาสมรู้ร่วมคิด   ของขวัญนี่เมาได้ทั้งหมู่บ้านเลยนะตาจ๋า..   ที่มา: dailymail

  • “บ๊ายบายค่ะ ปาป๊า” นักโทษจีนร่ำไห้ โผกอดลาลูกครั้งสุดท้าย ก่อนถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษ

    “บ๊ายบายค่ะ ปาป๊า” นักโทษจีนร่ำไห้ โผกอดลาลูกครั้งสุดท้าย ก่อนถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษ

    เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2017 สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานข่าวสุดสะเทือนใจ เกี่ยวกับคลิปวิดีโอขณะที่นักโทษประหารชีวิตกำลังร่ำลาครอบครัวก่อนที่จะเข้ารับการปลิดชีพตามบทลงโทษที่เขาได้รับ นักโทษรายนี้มีชื่อว่า นาย Li Shiyaun ชาวจีน อายุ 30 ปี เขาได้รับการตัดสินลงโทษประหารชีวิตด้วยการฉีดยา จากคดีฆาตกรรม     สาเหตุที่เขาต้องได้รับโทษประหารชีวิตสืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2015 นาย Li ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับชายคนหนึ่งในร้านคาราโอเกะ หลังออกจากร้านเขาก็ได้ขับรถไล่ตามชายคนดังกล่าวด้วยความเร็วสูง จนทำให้รถของเหยื่อได้เกิดอุบัติเหตุตกลงสู่คูน้ำข้างทาง หลังจากนั้นรถก็เกิดระเบิด ทำให้ทั้งผู้โดยสารทั้ง 3 คนที่อยู่ในรถเสียชีวิตทันที หลังจากที่เกิดเหตุ ทางตำรวจก็ได้จับกุมนาย Li และนำตัวไปดำเนินคดีก่อนที่เขาจะถูกตัดสินลงโทษด้วยการประหารชีวิตเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา     เมื่อวันสุดท้ายในชีวิตมาถึง เขาได้รับโอกาสให้ได้พบเจอกับครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย โดยได้มีผู้บันทึกวิดีโอเหตุการณ์สุดสะเทือนใจนี้มาเผยแพร่ในโลกออนไลน์จนกลายเป็นที่กล่าวถึงในขณะนี้     ช่วงเวลาที่มีความสุขสุดท้ายในชีวิตของเขาคือการได้พบกับครอบครัว เขาได้มีโอกาสบอกลาลูกน้อยของเขาที่ได้มาส่ง นาย Li เดินเข้าไปกอดลูกทั้งน้ำตาซึ่งเด็กน้อยที่ไร้เดียงสาก็ไม่รู้เลยว่านี่คือการกอดครั้งสุดท้ายที่ปาป๊าของเธอจะมีให้ เด็กน้อยทำเพียงแค่โบกมือแล้วพูดกับเขาครั้งสุดท้ายว่า “บ๊ายบายค่ะ ปาป๊า”…

  • โดน!! หนุ่มเสพยาอีจนเมา ขโมยเรือเป็ดปั่นไปนั่งเล่นอยู่ที่น้ำพุกลางเมือง เพลินเลยสิเอ็ง

    โดน!! หนุ่มเสพยาอีจนเมา ขโมยเรือเป็ดปั่นไปนั่งเล่นอยู่ที่น้ำพุกลางเมือง เพลินเลยสิเอ็ง

    ในการสังสรรค์ยามค่ำคืนก็อาจจะมีกันบ้างบางครั้งที่เรากินเหล้าเยอะเกินจนถึงภาวะที่เรียกว่า ‘เมา’ ซึ่งความเมาในที่นี้ก็ได้สร้างวีรกรรมแปลกๆ ไว้สำหรับใครหลายคน โดยอาจจะมีเรื่องขายหน้าบ้าง เรื่องความกล้าที่มาจากไหนไม่รู้บ้าง แต่โดยรวมแล้วเรามักจะไม่เป็นตัวของตัวเองเสมอเมื่ออยู่ในอารมณ์สุดปั่นเช่นนี้ สำหรับสาเหตุของความเมาก็มีอยู่หลากหลายวิธี และวิธีที่พบเห็นได้ทั่วๆ ไปในทุกหัวมุมเมืองก็คือความเมาที่มาจากฤทธิ์ของสุรา แต่รู้หรือไม่ว่าบางครั้งก็อาจจะมีคนคิดแผลงๆ อยากที่จะมีความเมาที่แตกต่างกับวิธีเดิมๆ โดยพวกเขาได้ลองสิ่งที่เรียกว่ายาเสพติดแทน   ไปทำอะไรตรงน้านน   และด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นในเมืองออร์แลนโด ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อมีเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีชายคนหนึ่งขโมยเรือเป็ดแล้วปั่นไปที่น้ำพุกลางเมือง แล้วทำอย่างกับตัวเองติดเกาะอยู่ซะอย่างนั้น ซึ่งเรื่องสุดฮานี้ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมานี้เอง ชายสุดเมาคนที่ว่านี้มีชื่อว่า Keith Thurston โดยเขาถูกพบขณะนั่งมึนอยู่ที่น้ำพุแห่งหนึ่งในอุทยาน Lake Eola และเมื่อเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือเขาก็บอกว่าเขาเสพยาอีมาเป็นตัน และก็กำลังอยู่ในช่วงเก็ตฮายอยู่จนแทบจะบินขึ้นไปบนสวรรค์เลยก็ว่าได้ ด้วยความเมาแน่นอนว่าเขาย่อมไม่ทำสิ่งที่คนทั่วๆ ไปทำอย่างแน่นอน เพราะความที่เขาหมายมั่นว่าจะไปถึงน้ำพุนั้นให้ได้ พาหนะที่เขาเลือกใช้จึงเป็นเรือเป็ดสุดน่ารัก   ผมไม่รู้ผมเมา   แต่เมื่อเขาถีบเจ้าเรือนี้ไปจนถึงน้ำพุแล้ว เขาก็ดันปล่อยให้เรือลอยละล่องออกไปซะอย่างงั้น งานนี้เขาเลยติดแหงกอยู่ที่เกาะน้ำพุแห่งนั้นอยู่นานสองนาน เดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ต้องมาช่วยเขาออกจากเกาะน้ำพุแห่งนั้น และเมื่อเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ ก็พบว่าชายคนนี้เมาอยู่จนสติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ก่อนที่ Keith จะถูกส่งไปที่โรงพยาบาล เขาบอกว่าเขาสูบยาอีมาเกือบเป็นตัน แล้วอยากจะร่วมเดินทางไปกับเจ้าเรือถีบสุดน่ารักอันนี้ เพราะเขาบอกว่าเรือลำนี้ไม่ต่อว่าเขาเหมือนคนอื่นๆ “ เจ้าหน้าที่ที่มาช่วยเหลือได้เขียนรายงานเอาไว้ ต่อมาเจ้าหนุ่มคนนี้ก็ได้ถูกส่งไปโรงพยาบาลเพื่อระงับอาการความเมาของเขาให้น้อยลง และดูเหมือนว่าการเดินทางของเขาจะต้องจบลงด้วยการเข้าตะรางก็อาจจะเป็นไปได้นะ   เก็ตฮายจนสบายอยู่ในตะรางไหมล่ะ.. ที่มา: ladbible

  • แม่บังเอิญเอาตุ๊กตาเอลฟ์เข้าเตาอบ เลยแก้เขินด้วยการแต่งนิทานเป็นเรื่องเป็นราวซะเลย

    แม่บังเอิญเอาตุ๊กตาเอลฟ์เข้าเตาอบ เลยแก้เขินด้วยการแต่งนิทานเป็นเรื่องเป็นราวซะเลย

    สำหรับเด็กๆ แล้ววันคริสต์มาสเป็นวันแห่งความสุข เพราะพวกเขาเชื่อว่าถ้าหากทำตัวเป็นเด็กดีแล้ว เหล่าเอลฟ์ที่นั่งอยู่ตามมุมบ้านจะเอาความดีไปเล่าให้ซานต้าฟัง แล้วเด็กๆ ก็จะได้ของขวัญจากซานต้า ส่วนคุณพ่อคุณแม่ พอถึงวันคริสต์มาสทีไรก็ต้องเหนื่อยกันหน่อยนะ เพราะต้องเตรียมของตกแต่งบ้าน เตรียมของขวัญให้ลูกๆ แล้วยังต้องมาคอยย้ายเจ้าตุ๊กตาเอลฟ์ไปตามที่ต่างๆ ลูกๆ จะได้เชื่อจริงๆ ว่าเอลฟ์คอยจับตาดูพวกเขาอยู่นะ แต่สำหรับบ้านแห่งหนึ่ง การคอยย้ายที่ตุ๊กตาเอลฟ์เป็นภาระสำหรับคุณแม่เหลือเกิน เธอจึงสร้างเรื่องหลอกลูกๆ จนกลายเป็นเรื่องน่ารักๆ ระคนปนฮาให้เราได้อ่านกัน     พอใกล้ถึงช่วงคริสต์มาสในบ้านของ Brittany Mease เธอก็เลยไปค้นเจ้าตุ๊กตาเอลฟ์ที่เธอมีออกมา และก็พบว่ามันขาหักอยู่ข้างหนึ่ง เธอจึงเกิดความคิดดีๆ ขึ้นมา โดยเธอบอกกับ Lily และ Gray ลูกของเธอว่าเจ้าเอลฟ์ต้องไปเข้าพักรักษาตัวสักระยะหนึ่ง ดังนั้นมันจะไม่อยู่ที่บ้านนะ ทีนี้เธอก็มีข้ออ้างที่จะไม่ต้องเคลื่อนย้ายมันไปตามที่ต่างๆ แล้ว เธอเขียนเล่าว่า “สบายฉันล่ะ ทีนี้ก็ไม่ต้องมาย้ายมันไปๆ มาๆ ตั้งสองอาทิตย์แน่ะ”   โยนเค้าเข้าเตาอบทำม้ายย   แต่พอพ้นช่วงสองอาทิตย์นั้นไปแล้ว เธอก็ลืมเคลื่อนย้ายมันไปสนิทเลย จนกระทั่งลูกของเธอถามว่าทำไมมันไม่เดินไปไหนเลย เธอได้ยินปุ๊บก็อาศัยช่วงที่ลูกไม่เห็น โยนมันเข้าไปซ่อนในสิ่งที่ใกล้ที่สุดตอนนั้น ซึ่งก็คือเตาอบ และกะว่าจะย้ายมันไปแบบเนียนๆ หลังจากที่พ้นสายตาลูกแล้ว ทว่าเธอก็ลืมมันอีกซ้ำสอง เจ้าตุ๊กตาเอลฟ์ที่น่าสงสารก็เลยต้องนั่งเหงาอยู่ในเตาอบไปอีกนานเลย มันถูกทิ้งไว้ในเตาอบเป็นเวลานานมาก จนวันหนึ่งลูกของ…

  • คุณพ่อนั่งเครื่องบินไปกับลูกสาวชาวเอเชียที่รับมาเลี้ยง เกือบโดนเจ้าหน้าที่จับกุมข้อหาค้ามนุษย์

    คุณพ่อนั่งเครื่องบินไปกับลูกสาวชาวเอเชียที่รับมาเลี้ยง เกือบโดนเจ้าหน้าที่จับกุมข้อหาค้ามนุษย์

    หากเรามีเวลาว่างบ้าง ถ้าได้พาครอบครัวบินไปเที่ยวหาญาติที่อยู่ห่างไกลออกไป แล้วได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย แต่คงไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าพอนั่งเครื่องบินกลับมาจากการเยี่ยมญาติแล้ว กลับถูกเข้าใจผิดว่าตัวเองลักพาตัวลูกสาวมาจากที่อื่น   Brian Smith และ Georgianna   จากการสัมภาษณ์ของสำนักข่าว ABC นาย Brian Smith และลูกสาวบุญธรรมเชื้อสายจีน Georgianna Smith อาศัยอยู่ที่รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมญาติที่รัฐแอริโซนา และขากลับทั้งคู่ก็ใช้บริการสายการบิน Southwest Airlines เพื่อเดินทางกลับมายังบ้านของตน ทว่าเมื่อพวกเขาลงมาจากเครื่องบินแล้ว ก็มีตำรวจเข้ามาเรียกตัวเขาไว้ “แอร์โฮสเตสได้แจ้งผมมาว่าคุณอาจจะลักพาตัวเด็กสาวมา” คุณพ่อถึงกับงงเลยทีเดียว เพราะเขาและลูกสาวก็แค่นั่งที่นั่งข้างกัน ลูกสาวเขาหลับปุ๋ยตลอดการเดินทาง ส่วนเขาก็ได้คุยกับแอร์โฮสเตสตอนที่รับขนมและชาเท่านั้นเอง   Brian และภรรยาของเขา Renee อธิบายว่า “ลูกสาวของเรามีปัญหาด้านการสื่อสาร ดังนั้นเธอก็เลยค่อนข้างเงียบกว่าเด็กทั่วๆ ไป โดยเฉพาะในที่สาธารณะ” Renee ยังเสริมอีกว่า “ฉันไม่ได้อยากโทษใครหรอกนะ แต่ถ้าเกิด Georgianna เป็นเด็กสาวชาวคอเคเชี่ยน คงไม่เกิดเรื่องเข้าใจผิดแบบนี้ใช่ไหมล่ะ” เธอคิดว่ามันไม่สมควรเลยที่จะมาสงสัยเรื่องค้ามนุษย์เพียงแค่เพราะสามีและลูกสาวของเธอมีเชื้อชาติต่างกัน แม้ว่าทางครอบครัวจะเข้าใจว่าการคอยเฝ้าระวังเรื่องการค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่ดี แต่ตอนนี้พวกเขาก็เริ่มหวั่นใจแล้วว่าถ้าเดินทางครั้งหน้าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีกรึเปล่า “เราไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้เลย แต่ต่อจากนี้ไปเราเริ่มกังวลแล้วว่าจะมีคนเข้าใจผิดแบบนี้อีก”     ส่วนทางสายการบิน Southwest Airlines ก็ได้ส่งอีเมลมาชี้แจงกับทาง…

  • โหดเกิ๊น!! หนุ่มซื้อ BMW รุ่นใหม่มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาทด้วย ‘เงินเหรียญ’ ล้วนๆ

    โหดเกิ๊น!! หนุ่มซื้อ BMW รุ่นใหม่มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาทด้วย ‘เงินเหรียญ’ ล้วนๆ

    ในสมัยเด็กๆ พวกเราบางคนอาจจะเคยเริ่มนิสัยเก็บออมจากการหยอดกระปุกออมสินกันมาบ้างแน่ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าหมูของเราเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าคุณใกล้จะได้สิ่งของที่อยากได้แล้ว และบางครั้งสิ่งของเหล่านั้นอาจจะมีราคาแพงอย่างเช่นรถยนต์เลยก็ได้!! เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อนักธุรกิจหนุ่มผู้หนึ่งได้ทุบกระปุกของเขา และจ่ายเงินค่ารถยนต์ BMW คันใหม่ของเขาด้วยเหรียญทั้งหมด     จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า นักธุรกิจนิรนามท่านนี้ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าส่ง เขาได้ซื้อรถยนต์คันใหม่มูลค่ากว่า 400,000 หยวนหรือ 2 ล้านบาท ลูกค้าท่านนี้ได้จ่ายเงินค่ารถงวดแรกของเขาด้วยเหรียญ 5 เหมาประมาณ 2.5 บาทเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นกว่า 300,000 บาท “มันเป็นเหรียญ 5 เหมาที่ลูกค้าได้เก็บมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดมีมูลค่ากว่า 70,000 หยวน” คุณ Gu ผู้จัดการฝ่ายขายของ BMW ในเมืองปู้เทียน มณฑลฝูเจี้ยนกล่าว     พนักงานของบริษัทใช้เวลานานกว่าชั่วโมงในการนั่งนับเหรียญกว่า 10 กล่องของลูกค้าดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามการใช้เหรียญสำหรับจ่ายสินค้าที่มีมูลค่าสูงๆ แบบนี้อาจจะไม่สามารถใช้กับที่อื่นๆ ได้ เนื่องจากในแต่ละประเทศนั้นมีการระบุการชำระหนี้ทางกฎหมายที่แตกต่างกัน อย่างเช่นประเทศไทยของเรานั้นการชำระหนี้ด้วยเหรียญนั้นจะต้องมีกฎหมายพระราชบัญญัติเงินตราเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตามพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ.2501 ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 11 ว่า “เหรียญกษาปณ์เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไม่เกินจำนวนที่กำหนดโดยกฎกระทรวง”    ซึ่งเราสามารถดูได้จากตารางต่อไปนี้   ที่มา ladbible

  • คุณตำรวจชาวจีนยอมทนหนาว ถอดเสื้อตัวเองห่มเจ้าหนูน้อยที่ถูกทิ้งเอาไว้ในสวนสาธารณะ

    คุณตำรวจชาวจีนยอมทนหนาว ถอดเสื้อตัวเองห่มเจ้าหนูน้อยที่ถูกทิ้งเอาไว้ในสวนสาธารณะ

    เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอันแสนน่าประทับใจจริงๆ หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพของคุณตำรวจท่านหนึ่งจากเมืองชูเซียน มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ที่ได้เสียสละเสื้อของเขาให้กับเด็กทารกที่ถูกทิ้งเอาไว้ในสวนสาธารณะท่ามกลางอากาศอันแสนหนาวเหน็บ จากการรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่านายตำรวจท่านนี้คือคุณ Wu Yu โดยเขาได้รับแจ้งว่าพบเด็กทารกคนหนึ่งถูกทิ้งไว้กลางสวนสาธารณะในเมืองชูเซียน   เจ้าหน้าที่ Wu Yu กับเด็กทารกที่เขาช่วยชีวิตไว้   หลังจากที่ถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ Wu พบเด็กน้อยคนดังกล่าวกำลังนอนตัวสั่นอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิที่ติดลบทำให้ริมฝีปากของเด็กน้อยที่นอนขดอยู่ในผ้าเปลี่ยนเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่ Wu ตัดสินใจถอดเสื้อของเขาออกเพื่อคลุมเจ้าหนูน้อยไว้ พร้อมกับพาตัวเจ้าหนูน้อยไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เขาวิ่งฝ่าอากาศหนาวโดยที่ไม่ได้สวมเสื้อ และคอยอุ้มเจ้าหนูน้อยไว้ในอ้อมกอดตลอดเวลาเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เขา     เมื่อถึงโรงพยาบาลเด็กน้อยได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตามหาพ่อแม่ของเจ้าหนูน้อยอยู่… ถึงแม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีรายงานอาการของเจ้าหนูน้อยรายนี้ แต่อย่างไรก็ตามปัญหาการทอดทิ้งเด็กนั้นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาครอบครัว หรือปัญหาทางด้านเศรษฐกิจด้วย   ที่มา nextshark

  • โบนัสสิ้นปีสำคัญไฉน? ผลสำรวจบริษัทไหนจ่ายโบนัสสูง และทำไมนายจ้างต้องจ่ายโบนัส

    โบนัสสิ้นปีสำคัญไฉน? ผลสำรวจบริษัทไหนจ่ายโบนัสสูง และทำไมนายจ้างต้องจ่ายโบนัส

    เงินกลายเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันของเราแล้ว ก็จะทำยังไงได้ล่ะ ทุกวันนี้แค่ก้าวเท้าออกจากบ้านก็เสียเงินแล้ว ไหนจะค่าเดินทาง ค่ากินค่าอยู่ ค่าของสิ้นเปลืองอีก ถ้าไม่มีมีเงินก็ไม่รู้จะยังไงเลย ยิ่งสิ้นเดือนแล้วเหมือนสิ้นใจ ทำได้แต่รอเงินเดือนออกเท่านั้น แต่สำหรับหลายๆ คนแล้ว สิ้นปีนี่แหละเป็นเวลาที่รวยที่สุดในรอบปีเลย เพราะว่านอกจากเงินเดือนตามปกติแล้ว ทางที่ทำงานก็อาจจะจ่ายโบนัสเพิ่มเติมให้อย่างงามนั่นเอง โบนัสจึงอาจนับเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ใช้ประทังชีวิตของพนักงานเงินเดือนก็ว่าได้ ทีนี้เพื่อนๆ อยากรู้กันบ้างรึเปล่าว่าเงินโบนัสมันคืออะไร และทำงานแบบไหนให้เงินโบนัสเยอะๆ บ้าง     เงินโบนัส เป็นเงินที่มอบให้กับพนักงานนอกเหนือจากฐานเงินเดือนที่ถูกกำหนดไว้ นายจ้างจะให้โบนัสกับพนักงานเพื่อเป็นรางวัลแก่การทำงานหนัก และเป็นแรงบันดาลใจให้พนักงานได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป โดยโบนัสอาจจะมอบเป็นเงินจำนวนตายตัวตามสัญญางานก็ได้ หรืออาจจะมอบให้ตามผลประกอบการหรือความสามารถของพนักงานก็ได้เช่นกัน ซึ่งในประเทศไทยจะนิยมมอบเป็นแบบหลังเสียมากกว่า ส่วนเรื่องที่ว่าบริษัทแบบไหนให้โบนัสมากนั้น ทางเว็บไซต์ Prachachat ได้ทำผลสำรวจเกี่ยวกับการให้โบนัสในประเทศไทยออกมาให้เราได้ดูกันแล้ว โดยทำการสำรวจจากการให้ค่าจ้างและโบนัส 3 ครั้งในรอบปีนี้ คือเดือนมิถุนายน เดือนกันยายน และเดือนพฤศจิกายน     จากกลุ่มข้อมูลสำรวจทั้งหมด 377 องค์กร พบว่าองค์กรกว่า 99.2 เปอร์เซ็นต์จะปรับเงินเดือนให้ลูกจ้าง ส่วนที่เหลืออีก 0.8 เปอร์เซ็นต์นั้นจะไม่ปรับเงินเดือนให้ลูกจ้าง ซึ่งส่วนที่น่าสนใจก็คือแม้จะปรับเงินเดือนแล้ว ก็ไม่ได้มีเงินเดือนต่างจากปีก่อนหน้านี้เท่าใดนัก เนื่องจากในปัจจุบันองค์กรต่างๆ นิยมที่จะให้ค่าตอบแทนเป็นโบนัสเพิ่มเติมที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ในแต่ละปี มากกว่าที่จะให้ผ่านการปรับเงินเดือนที่ขึ้นให้แล้วลดไม่ได้นั่นเอง โดยในปี 2560 นี้…

  • สุดสยอง เมื่อหนุ่มขับรถอยู่ดีๆ ก็มีคน ‘ปาหอก’ ทะลุกระจกปักเข้าหลังเต็มๆ โหดเกิ๊น!!

    สุดสยอง เมื่อหนุ่มขับรถอยู่ดีๆ ก็มีคน ‘ปาหอก’ ทะลุกระจกปักเข้าหลังเต็มๆ โหดเกิ๊น!!

    อุบัติเหตุบนท้องถนนมักจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว และมักจะมาในหลากหลายรูปแบบ บางครั้งแม้เราจะระมัดระวังแล้วแต่อันตรายก็ยังมาถึงตัวจนได้ (คำเตือน เนื้อหาและภาพที่เพื่อนๆ จะดูต่อไปนี้ ค่อนข้างมีความรุนแรงและน่ากลัว ดังนั้นสามารถกดปิดไปได้เลยถ้าคิดว่าเรื่องนี้จะกระทบกับใจ) อย่างกรณีของหนุ่มคนนี้ที่ขับรถอยู่ดีๆ ก็มีหอกความยาวกว่า 180 เซนติเมตรพุ่งมาจากข้างหลัง ทะลุกระจกเข้ามาก่อนจะปักลงที่ข้างหลังของเขาแบบเต็มๆ     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ปี 2017  ที่มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ทั้งนี้สำนักข่าว ahwang.cn  บอกว่ามีคนเห็นใครบางคนกว้างหอกไปที่รถคันหนึ่งที่มีเหยื่อนั่งอยู่ข้างใน โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น หนุ่มผู้เคราะห์ร้ายก็ได้ถูกหามส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงทันที เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน เบื้องต้นแพทย์ระบุว่าหัวหอกอยู่บริเวณช่องท้องส่วนบนของเขา      ทั้งนี้หมอไม่สามารถเอาหอกออกได้ทันที เพราะจะทำให้เสียเลือดมาก ดังนั้นพวกเขาจะตัดหอกให้สั้นลงแล้วส่งชายหนุ่มไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งที่มีเครื่องมือรองรับมากกว่า     ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่านี่เป็นเพียงอุบัติเหตุหรือตั้งใจ แต่ตำรวจเชื่อว่าเป็นการลอบสังหาร และจะเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนให้เร็วที่สุด     ที่มา dailymail

  • ยูทูบเบอร์หนุ่มชาวเม็กซิกัน ‘ถูกพบเป็นศพ’ หลังอัดคลิปเยาะเย้ยเจ้าพ่อค้ายาเสพติด

    ยูทูบเบอร์หนุ่มชาวเม็กซิกัน ‘ถูกพบเป็นศพ’ หลังอัดคลิปเยาะเย้ยเจ้าพ่อค้ายาเสพติด

    แก๊งอันธพาลหรือแก๊งค้ายาบางแก๊งนั้นมีอิทธิพลมากจนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่กล้ายุ่ง แล้วคิดเหรอว่าคนธรรมดาอย่างเราๆ จะกล้าเข้าไปเอี่ยว แม้จะว่ารู้ว่าพวกเขาทำผิดก็ตาม แต่สำหรับยูทูบเบอร์ Juan Luis Lagunas Rosales หรือที่รู้กันในชื่อ El Pirata de Culiacan ชาวเม็กซิกัน กลับอัดคลิปเยาะเย้ยเจ้าพ่อค้ายาอย่างไม่เกรงกลัว     บนหน้าเพจเฟซบุ๊ก Guardia Nocturna ของสำนักข่าว Mexican news ระบุว่า Rosales มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 260,000 คน และมีคนถูกใจเพจเฟซบุ๊กของเขาอีกเกือบล้านคน อย่างไรก็ตาม เขาถูกพบว่าถูกยิงเสียชีวิตในบาร์ Menta2 Cantaros หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปที่เขาพูดเยาะเย้ยหัวหน้าพ่อค้ายาเสพติด     ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์น่าสลดนี้ หลังจากที่ Rosales เพิ่งจะโพสต์คลิปเยาะเย้ยนั้นได้ไม่นาน เขาได้อัดคลิปใหม่โดยเชิญชวนแฟนๆ ให้ไปเจอกันที่บาร์ Menta2 Cantaros มันดูเป็นการกระทำที่ไม่ค่อยฉลาดนัก เพราะคนที่เขาเพิ่งเยาะเย้ยไปก่อนหน้านี้คือ El Mencho หรือที่เรียกว่า Nemesio Oseguera Cervantes ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งของ Cártel de Jalisco Nueva Generació ซึ่งเป็นแก๊งค้ายาเสพติดตัวเป้ง     ดูเหมือนยูทูบเบอร์จะไม่รู้ว่าชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะเมื่อเข้าไปในบาร์เขายังดื่มและสนุกสนานกับเพื่อนๆ ตามปกติ แต่แล้วผู้คนก็พากันแตกตื่นเมื่ออยู่ดีๆ เขาก็ล้มลงไปกับพื้นพร้อมเสียงปืนที่ดังลั่น…

  • คนเก็บขยะต้องลุยกองขยะขาดมหึมา เพื่อตามหาแหวนเพชรให้หญิงสาวที่ทำตกลงไป

    คนเก็บขยะต้องลุยกองขยะขาดมหึมา เพื่อตามหาแหวนเพชรให้หญิงสาวที่ทำตกลงไป

    วัตถุหรือสิ่งของนอกกายหลายๆ ชิ้นอาจมีมูลค่าเป็นแสนเป็นล้าน แต่บางครั้งเรากลับพบว่ามันเป็นเพียงสิ่งไร้ค่าเมื่อเทียบกับจิตใจอันงดงามของมนุษย์ อย่างกรณีของหญิงชาวจีนคนนี้ที่ทำแหวนเพชรหล่นหายไป จนเจ้าหน้าที่เก็บขยะต้องระดมคนช่วยตามหาในกองขยะมหึมากว่า 2 ชั่วโมงด้วยกัน ตามสำนักข่าว Beijing Times รายงานว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หญิงสาวแซ่ Xia คนหนึ่งได้ทำความสะอาดบ้านของเธอที่เมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน     แต่ในระหว่างนั้น แหวนเพชรมูลค่า 546,000 บาทของเธอบังเอิญหล่นลงในถังขยะโดยที่เธอไม่รู้ตัว มารู้อีกก็สายเกินไปเสียแล้ว Xia ตัดสินใจไปยังแผนกสุขาภิบาลท้องถิ่นเพื่อเจ้าหน้าที่ช่วยตามหาแหวนของเธอ แต่ทางหัวหน้าสุขาภิบาลแจ้งว่ากลุ่มขยะที่เก็บในบริเวณบ้านของเธอนั้นถูกบดอัดเรียบร้อยแล้ว     อย่างไรก็ตาม หัวหน้าสุขาภิบาล บอกให้ Xia กลับมาที่สำนักงานอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น เพราะมั่นใจว่าขยะที่ถูกบดไปแล้วนั้นจะไม่ถูกส่งไปยังเตาเผา จากนั้นหัวหน้าได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดช่วยกันค้นหาแหวนเพชรของ Xia ในกองขยะขนาดมหึมาก่อนที่มันจะถูกส่งไปเผา และนับว่าโชคดีที่แหวนถูกพบในเช้าวันอังคาร หลังจากที่เจ้าหน้าที่ 8 คน ช่วยกันตามหาในกองขยะขนาด 13,000  กิโลกรัม โดยใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงด้วยกัน     Xia บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “การกระทำของคนเก็บขยะมีค่ามากกว่าแหวนเพชรที่มีราคาแพงนี่ซะอีก ตอนที่พวกเขาบอกว่าเจอแหวน ฉันคิดพวกเขาล้อเล่นซะอีก ฉันรู้สึกขอบคุณทุกคนอย่างสุดซึ้งจริงๆ” เธอบอกอีกว่า “แม้ว่าแหวนนี้จะมีมูลค่ามากกว่า 500,000 บาท แต่จิตใจของพวกเขามีค่ามากกว่านั้น”   ที่มา nextshark

  • พาไปดูเส้นทางรถไฟไต่ภูเขาสุดชันที่สุดในโลก กลางเทือกเขาแอลป์ แค่เห็นก็ขาสั่นผับๆ แล้ว

    พาไปดูเส้นทางรถไฟไต่ภูเขาสุดชันที่สุดในโลก กลางเทือกเขาแอลป์ แค่เห็นก็ขาสั่นผับๆ แล้ว

    หากคุณกำลังมองหาความท้าทาย หรือต้องการทำอะไรที่น่าตื่นเต้น ขอให้แนะนำไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพราะที่นั่นคุณจะได้เส้นทางรถไฟที่มีความสูงชันที่สุดในโลก เส้นทางรถไฟนี้เรียกว่า StoosBahn จะเป็นเส้นทาง Schwyz ไปยัง Stoos หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ที่ระดับความสูง 1,300 เมตร เหนือทะเลสาบลูเซิร์น     StoosBahn ใช้เวลาสร้างกว่า 14 ปี ลักษณะของรถไฟจะมีรูปทรงแปลกตา ถือเป็นการออกแบบที่ทันสมัยมากๆ มีความลาดชันถึง 110% ด้วยกัน     รถไฟนี้ถูกออกแบบให้มีระบบหมุนอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้โดยสารมั่นใจว่ายังอยู่ในระดับที่ปลอดภัย แม้รถไฟจะไต่เขาในระดับลาดชัน ซึ่งในแต่ละเที่ยวนั้นสามารถจุผู้โดยสารมากสุด 136 คน โดยทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามตลอดทาง     ภายในเวลา 2 ปี นับตั้งแต่โปรเจกต์เปิดตัวมา มีค่าใช้จ่ายไปตั้งหมด 1,700 ล้านบาท แต่ StoosBahn ก็ยังคงเป็นความภาคภูมิใจของบริษัททางรถไฟจนทุกวันนี้     ยิ่งสูงยิ่งหนาว ตู้ที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์   มีทิวทัศน์แสนงดงามให้ชมตลอดทาง   นี่คือสิ่งที่คุณจะสัมผัสจาก…

  • เต่าน้อยติดอยู่ในเชือกรัดของ เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ เดี๋ยวนะ.. เอ็งขนโคเคน 1,700 ล้าน!?

    เต่าน้อยติดอยู่ในเชือกรัดของ เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ เดี๋ยวนะ.. เอ็งขนโคเคน 1,700 ล้าน!?

    นิสัยความมักง่ายของใครหลายคน อาจจะสร้างความเดือดให้แก่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ รวมทั้งอาจจะทำให้สิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้รับความเสียหายด้วย ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างคนที่ชอบทิ้งสิ่งของต่างๆ ลงทะเล ก็จะไปกระทบกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทะเลอย่างเช่น ปลา หอย ปู กุ้งรวมถึงเต่าด้วย และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีเต่าที่ได้รับความเดือดร้อนจากการทิ้งสิ่งของที่ว่านี้เช่นกัน โดยร่างของเต่าตัวนี้ได้ไปพันกับสิ่งของอย่างหนึ่งอย่างเหนียวแน่น แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือมันและตรวจสอบสิ่งของที่พันธนาการมันอยู่ก็ถึงกับต้องตะลึง เพราะสิ่งที่ว่านี้มันคือโคเคนที่มีราคากว่า 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.7 พันล้านบาท)!!     เหตุบังเอิญนี้เกิดขึ้นบริเวณทางตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยชายฝั่งทะเลของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ไปพบเต่าทะเลพันธุ์หัวค้อนนี้โดยบังเอิญ ระหว่างภารกิจลาดตระเวนชายฝั่ง 68 วัน โดยยาเสพติดที่เจ้าเต่าตัวนี้ลากมานั้นมันคือโคเคนที่มีน้ำหนักมากกว่า 816 กิโลกรัมและเจ้าหน้าที่ก็คาดการณ์เอาไว้ว่ามันอาจมีมูลค่าสูงถึง 1.7 พันล้านบาท ซึ่งอาจเป็นของเจ้าพ่อยาเสพติดระดับโลกบางคนทำหล่นทิ้งเอาไว้     “ขณะเรากำลังลาดตะเวนกันในวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หน่วยของเราได้ส่งเรือลำเล็กออกไปสำรวจพื้นที่ และสมาชิกบนเรือคนหนึ่งก็ได้สังเกตเห็นร่างของเจ้าเต่าน้อยตัวนี้เข้าไปพัวพันกับกล่องสินค้า ที่เราคาดเอาไว้ว่าจะเป็นสินค้าเถื่อนอยู่” “พวกเราเห็นว่าเชือกที่พันเจ้าเต่าตัวนี้อยู่ เป็นเชือกที่ผูกโยงลังหลายลังเข้าไว้ด้วยกัน เราจึงค่อยๆ ตัดเชือกเหล่านี้ออกด้วยความระมัดระวัง และในที่สุดเต่าตัวนี้ก็เป็นอิสระพร้อมทั้งเราก็ได้ของกลางเอาไว้ตรวจสอบด้วย”  Mark Krebs ผู้บัญชาการภารกิจไล่ล่ากล่าว   ทุกขลาภจริงๆ เจ้าเต่าน้อยเอ๋ย ที่มา: unilad

  • หมู่บ้านปลอดขยะในญี่ปุ่น ด้วยนโยบายสุดเจ๋งที่ได้เปลี่ยนชีวิตทุกคนที่นี่ไปตลอดกาล!!

    หมู่บ้านปลอดขยะในญี่ปุ่น ด้วยนโยบายสุดเจ๋งที่ได้เปลี่ยนชีวิตทุกคนที่นี่ไปตลอดกาล!!

    บอกไปใครก็คงไม่อยากจะเชื่อ ว่าจะมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่สามารถทำให้ขยะหายไปได้ตลอดกาล เพราะอย่างน้อยทุกคนก็จะต้องมีการทิ้งขยะกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่หมู่บ้าน Kamikatsu ในจังหวัดโทะกุชิมะประเทศญี่ปุ่นสามารถทำได้จริงๆ !! หมู่บ้าน Kamikatsu นั้นมีประชากรอาศัยอยู่ราว 1,500 คน ซึ่งปัจจุบันถือเป็นเมืองที่มีอัตราการปลอดขยะเยอะที่สุดในญี่ปุ่น โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นมันเริ่มมาจากที่สมัยก่อนชาวบ้านมักจะเผาขยะที่บ้านของตนเอง จึงทำให้เกิดอากาศที่ไม่สะอาดขึ้น และมันก็ส่งผลกับทุกสิ่งมีชีวิตรอบๆ     ด้วยเหตุนี้ทางหมู่บ้านจึงเริ่มนโยบายที่เรียกว่า ‘Zero Waste‘ ขึ้นมา โดยนโยบายดังกล่าวนั้นจะให้ชาวเมืองทุกคนแยกขยะอย่างชัดเจนโดยต้องไม่ทิ้งหรือเผาขยะของพวกเขาเลย และเมื่อเวลาผ่านไปอัตราการรีไซเคิลของหมู่บ้านนี้ก็เพิ่มสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ รอบญี่ปุ่นที่มีอัตราอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น   คุณ Akira Sakano หญิงสาวผู้เริ่มคิดและประกาศใช้นโยบาย Zero Waste เมื่อปี 2003   ส่วนถ้าใครสงสัยว่า แค่การออกนโยบายมันแก้ปัญหาได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ คำตอบคือ ไม่!! ทุกคนในหมู่บ้านไม่ได้ปรับตัวเพื่อเข้ากับนโยบายดังกล่าวได้ทันที และมันก็ยากมากๆ กว่าจะสำเร็จ เช่นคุณ Takuya Takeichi เจ้าของร้านของชำในหมู่บ้าน เขาเล่าว่า “ตอนที่นโยบาย Zero Waste ประกาศ ผมลำบากใจมากเลยนะ มันให้ความรู้สึกเหมือนชีวิตต้องถูกตีกรอบ ไหนจะต้องแบ่งเวลามาจัดแยกขยะอีก”    …

  • นักบุญตุรกีพูดออกทีวี “ผู้ชายต้องไว้หนวด” เพราะจะได้แยกออกว่าคนไหนหญิงหรือชาย

    นักบุญตุรกีพูดออกทีวี “ผู้ชายต้องไว้หนวด” เพราะจะได้แยกออกว่าคนไหนหญิงหรือชาย

    กลายเป็นกระแสโจมตีกันพอสมควร เมื่อนักบุญตุรกีออกมาพูดกลางรายการทีวี Fatih Medreseleri เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ผู้ชายนั้นจำเป็นจะต้องไว้หนวดเพื่อที่จะได้แบ่งแยกความเป็นชายแลกหญิงออกจากกันได้… โดยนักบุญที่ออกมาพูดมีชื่อว่า Murat Bayaral ซึ่งเขาบอกว่าหนวดเป็นอวัยวะเพียงส่วนเดียวของมนุษย์ที่แยกความเป็นหญิงและชายอย่างชัดเจน     Murat ได้ยกตัวอย่างว่า “ถ้าคุณผู้ชายผมยาวอยู่ใกล้ๆ คุณคงคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงแน่ๆ โดยเฉพาะถ้าเขาไม่มีหนวด เพราะปัจจุบันผู้ชายและหญิงมีการแต่งตัวคล้ายกันมากๆ “     อ่านดูแล้วมันคงจะเป็นความคิดสุดโต่งที่ดูแย่และเหยียดมากๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกเลย เพราะว่า Magdalena Kirchner หญิงสาวที่ทำงานอยู่ใน Istanbul Policy Center บอกว่าก่อนหน้านี้ก็เคยมีข้อแนะนำแปลกๆ แบบนี้มาเหมือนกัน เช่น Recep Tayyip Erdoğan ที่เคยประกาศให้จะชูนโยบายคนรุ่นใหม่ หรือจะเป็น Bülent Arinç ที่ออกมาเสนอไม่ให้ผู้หญิงออกมาหัวเราะเสียงดังในที่สาธารณะ     ก็ไม่รู้ว่าแนวคิดนี้ของ Murat จะถูกนำไปใช้จริงไหม หรือว่ามันจะเป็นแค่การเสนอแนะเฉยๆ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วใครจะคิดอย่างไรก็คงต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนนั่นเอง   ที่มา dailymail

  • ชาวเน็ตช่วยเหลือทหารผ่านศึก โดยการพาเขาไปดู Star Wars VIII ก่อนตายตามคำขอ!!

    ชาวเน็ตช่วยเหลือทหารผ่านศึก โดยการพาเขาไปดู Star Wars VIII ก่อนตายตามคำขอ!!

    บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นสมาชิกในชุมชนยืนมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งในครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เกิดจากชาวเน็ตที่เป็นสมาชิกชุมชนเดียวกัน ได้ยืนมือเข้ามาช่วยให้ความฝันสุดท้ายของทหารผ่านศึก Ron Villemaire อดีตนายทหารผ่านศึกจากสงครามเวียดนามวัย 69 ปี ผู้อาศัยอยู่ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ได้ร้องขอลูกสาวของเธอว่า เขาอยากจะดู Star Wars: The Last Jedi ก่อนตาย เพราะเขานั้นป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อีกไม่นานก็จะลาจากโลกนี้ไปแล้ว     แน่นอนว่าอดีตนายทหารคนนี้เป็นแฟนของซีรีส์ Star Wars ตัวยง และการที่หนังภาคล่าสุดกำลังจะออกฉายขณะที่ตัวเองใกล้ตาย นี่จึงเป็นความปรารถนาครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขาไปในทันที ด้าน Elizabeth Ngo ผู้เป็นลูกสาวที่อยากจะช่วยเหลือให้คุณพ่อของเธอได้ทำความฝันให้สำเร็จ จึงทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า พอจะมีใครสามารถช่วยให้ความฝันของพ่อเธอสำเร็จได้ไหม เพราะพ่อเธอป่วยหนักการจะได้ไปดูมันจะเป็นอะไรที่ยากมากๆ     แต่อย่างไรก็ตามเธอก็จัดแจงซื้อตั๋วหนังให้เธอและพ่อเรียบร้อย แต่โชคร้ายที่พ่อของเธอมีอาการแย่มากขึ้นเรื่อยๆ ในวันที่หนังใกล้จะฉาย แต่แล้วโชคก็ดูจะเข้าข้าง เมื่อชาวเน็ตที่เป็นกลุ่มคนในชุมชนอาสาจะเข้ามาช่วยให้ฝันของ Ron เป็นจริง โดยกลุ่มคนที่เข้ามาช่วยนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากสถานีต่างๆ ทั่วทั้งรัฐ โดยพวกเขาเข้ามาอาสาจะขนย้ายพ่อของเธอให้ไปดูหนังที่โรงหนัง O’Neill Theaters ที่ตั้งอยู่ในย่าน Epping แต่การช่วยเหลือมันไม่หยุดอยู่เท่านั้น เพราะนอกจากจะช่วยขนย้ายแล้ว พวกเขายังลงทุนแต่งตัวเป็น Darth Vader และ Storm…

  • ชายหนุ่มโดดขึ้นไปสไลด์บนราวบันไดเลื่อนจน ‘ไข่’ ชนกับของแข็งเต็มๆ ซิ๊ดดดดเลย

    ชายหนุ่มโดดขึ้นไปสไลด์บนราวบันไดเลื่อนจน ‘ไข่’ ชนกับของแข็งเต็มๆ ซิ๊ดดดดเลย

    ที่สาธารณะนั้นมักมีกฎหรือมีข้อปฏิบัติที่ทุกคนรับรู้ร่วมกันเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา หรือความวุ่นวายต่างๆ แต่ก็มีคนจำพวกหนึ่งที่ชอบแหกกฎอยู่เรื่อย อย่างหนุ่มคนนี้ที่ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาขึ้นไปเล่นพิเรนทร์บนราวบันไดเลื่อนในสถานี Moorgate ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ จนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่ต้องจำไปตลอดชีวิต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมีคนถ่ายคลิปชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นไปเล่นบนราวบันไดเลื่อน โดยนอนราบกับพื้นราวแล้วไถลตัวลงมา     ประเด็นคือบนราวมันไม่ใช่ทางเรียบ ซึ่งชายหนุ่มก็คงจะเห็นเหมือนกันว่ามีการเอาวัตถุบางอย่างมาวางกั้นบนราวบันไดเลื่อนเป็นจุดๆ อยู่ แต่ในระหว่างที่เขาไถลตัวลงมา เขาคงไม่ทันดูวัตถุเลยไหลลงมาชนเข้าเต็มๆ ถ้าขาหรือแขนไปจนก็คงจะไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก แต่นี่กลับเป็นน้องชายของเขาที่ปะทะกับวัตถุแข็งๆ นั่นอย่างแรง จากการชนในครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขาคงเจ็บมากๆ แต่เขาไม่สามารถบังคับตัวเองให้หยุดไหลได้ เลยรีบลุกขึ้นมองไปที่สิ่งกีดขวางถัดไป เพื่อที่จะไม่ต้องชนซ้ำอีก     ต่อมา James Gower ได้โพสต์คลิปนี้ในทวิตเตอร์ และมีชาวเน็ตมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็น ชาวเน็ตคนหนึ่งที่อ้างอยู่ในที่เกิดเหตุบอกว่า “ตอนที่น้องชายของเขาชนเข้ากับวัตถุนั้น เพื่อนๆ ของเขา 2 คนยืนอยู่หัวบันไดเลื่อนถึงกับหัวเราะไม่ออก ส่วนหนุ่มคนนั้นเจ็บปวดจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้” “ตอนนั้นคนที่ถ่ายคลิปตะโกนบอกชายหนุ่ม 2 คนนั้นว่า ‘นี่จะไม่เข้าไปช่วยเพื่อนหน่อยหรอ?’ ทั้ง 2 คน จึงรีบเข้าไปพยุงเพื่อนทันที” “เขาดูเจ็บปวดมาก ก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งเข้ามาในสถานีใต้ดิน และร้องเพลงกันอย่างเสียงดังเหมือนคนมีอาการเมาในชุดฟุตบอล ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะเพิ่งกลับจากปาร์ตี้ละมั้ง”     นี่ดูเฉยๆ ยังรู้สึกจุกเลย โธ่วว พ่อหนุ่มเอ๊ยยย…

  • 31 ภาพที่ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ก็สามารถสื่อออกมาเป็นคำพูดนับพัน ล้านความรู้สึก

    31 ภาพที่ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ก็สามารถสื่อออกมาเป็นคำพูดนับพัน ล้านความรู้สึก

    ภาพถ่ายที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้โดยไม่ต้องมีคำบรรยายเป็นการแสดงถึงฝีมืออันยอดเยี่ยมของช่างภาพ อย่างไรก็ตาม มีบางภาพที่ถูกถ่ายอย่างเรียบง่าย แต่มันกลับอธิบายได้หลายคำพูด ล้านความรู้สึก เหมือนอย่างภาพอันน่าประทับใจเหล่านี้ ที่สามารถสะกิดใจคุณได้โดยไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ เพราะเรื่องราวทุกอย่างมันแฝงอยู่ในภาพแล้ว   1. คุณหมอได้ทำการผ่าตัดให้เจ้าเหมียวตัวนี้ที่ถูกรถชนจนเกือบตาย และเมื่อมันฟื้นตัวเต็มที่แล้ว หนึ่งในศัลยแพทย์ที่ทำการรักษาให้ ได้อาสารับมันไปเลี้ยงในบ้านที่แสนอบอุ่น   2. พยาบาลใน NICU ได้เขียนโน้ตไว้ให้พ่อแม่ของทารกแรกเกิดคนนี้   3. คู่รักเจอตู้เซฟในบ้าน ภายในมีเหล้า Bourbon ปี 1960 และเงินสดอีก 1.6 ล้านบาท   4. “ชายชรามอบสิ่งนี้ให้กับผม ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำขึ้นมาด้วยตัวเอง”   5. พนักงานดับเพลิงช่วยชีวิตเจ้าเหมียวจากเหตุไฟไหม้   6. มิตรภาพของเด็กชายกับลูกหมี ที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 10 ปี   7. โมเมนต์ที่เด็กน้อยได้กอดน้องสาวครั้งแรก   8. จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด บางครั้งมันก็มีมุมที่เหมือนกันนะ   9. “อุบัติเหตุเกือบพรากภรรยาไปจากผม ดังนั้นผมจึงแต่งงานกับเธอเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา”   10. ชายคนหนึ่งถอดรองเท้าตัวเองให้กับเด็กที่ยากจน…

  • รวมภาษามือ ที่มีความหมายในเชิงหยาบ แต่อย่าเอาไปทำตามนะเออ เพราะพวกเขาทำเอาฮา!!

    รวมภาษามือ ที่มีความหมายในเชิงหยาบ แต่อย่าเอาไปทำตามนะเออ เพราะพวกเขาทำเอาฮา!!

    เวลาสื่อสารกับคนหูหนวกเราจำเป็นต้องใช้ภาษาท่าทางหรือภาษามือ และคำพื้นฐานที่หลายคนทำอาจจะทำได้ เช่น สวัสดี ขอบคุณ ไปไหน? กินข้าวหรือยัง? เป็นต้น แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นคำที่สุภาพเกินไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามก็คงมีการใช้คำหยาบในชีวิตประจำวันบ้างเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ช่องยูทูบ Cut จึงนำเสนอภาษามือที่มีความหมายในเชิงหยาบ แต่ไม่แนะนำให้ทำตามนะ แค่ให้รู้ไว้เฉยๆ ว่ามันหมายความว่าอะไรบ้าง เผื่อโดนหลอกด่าจะได้รู้ไง     Asshole เป็นคำที่ใช้ด่าคนโง่ หรือคนที่ทำตัวน่ารังเกียจ   Bullshit เป็นคำที่ใช้กับคนโกหกหรือพูดเกินจริง ประมาณว่า “ไร้สาระ” ไรงี้   Shit คำนี้แปลตรงๆ หมายถึง อุจจาระ ถ้าเป็นคำด่าก็มักใช้กับพวกหลอกลวง โกหก คนทำตัวต่ำ ไร้ค่า รวมไปถึงคนเห็นตัวและคนน่ารังเกียจ   Cocksucker ความหมายตรงๆ คืออวัยวะเพศชาย แต่เอาไปด่าจริงๆ คงไม่มีใครพูดคำว่า ‘อวัยวะเพศชาย’ หรอกใช่มั้ย เพราะมันยาวไป   Asshole Asshole ที่เป็นคำที่ใช้ด่าคนโง่ หรือคนที่ทำตัวน่ารังเกียจเหมือนกัน แต่ทำท่าต่างกัน   Bitch คำนี้มักเป็นคำด่าที่ใช้กับเพศหญิงเป็นส่วนใหญ่ อาจบอกว่าเทียบเท่าคำว่า…

  • 19 ภาพอันลึกลับที่ถูกถ่ายในอดีต ที่แม้เวลาจะผ่านไปก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้จนทุกวันนี้!?

    19 ภาพอันลึกลับที่ถูกถ่ายในอดีต ที่แม้เวลาจะผ่านไปก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้จนทุกวันนี้!?

    ภาพถือเป็นหลักฐานสำคัญในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่แปลกที่บางครั้ง บางภาพไม่สามารถคาดเดาเรื่องราวได้ โดยเฉพาะภาพถ่ายในอดีตเหล่านี้ ที่มีสิ่งแปลกๆ และความไม่สมเหตุสมผลแฝงอยู่ในภาพ จนทุกวันนี้ก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้   1. ภาพขาวดำนี้ถ่ายเมื่อปี 1941 ในเงินเปิดตัวสะพาน South Forks Bridge ประเทศแคนาดา แต่ภาพชายใส่แว่นกันแดดยังเป็นปริศนาจนทุกวันนี้ ชายใส่แว่นกันแดดคนนี้แต่งตัวไม่เหมือนคนยุค 40 แถมยังถือกล้องที่ทันสมัย ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักของคนในยุคนั้น   2. ช่างภาพชาวฝรั่งเศส Robert Serrec ถ่ายภาพนี้เมื่อปี 1964 ที่ทะเลนอกชายฝั่งควีนส์แลนด์ ของประเทศออสเตรเลีย บางคนเชื่อว่าเงาดำที่เห็นอยู่ใต้ผิวน้ำนี้เป็นผ้าใบกันน้ำขนาดใหญ่ แต่มันกลับมีลักษณะเหมือนงูทะเลขนาดใหญ่บางชนิด   3. ภาพที่ดูน่ากลัวนี้ถ่ายที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ครอบครัว Cooper เพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านนี้ ในช่วงที่ถ่ายภาพมีสมาชิกครอบครัวเพียง 4 คนเท่านั้น แต่เมื่อมาดูรูปอีกทีกลับมาภาพใครบางคนห้อยลงมาจากเพดาน!!   4. ชายที่ชื่อ Gregor Sporri ถ่ายรูปนี้เมื่อปี 1985 ขณะที่เขากำลังเดินทางไปอียิปต์ ที่นั่นเขาได้พบกับศพมัมมี่ที่มีนิ้วยาว 15 นิ้ว นั่นหมายความว่าคนที่เป็นเจ้าของนิ้วนี้ต้องมีความสูงอย่างน้อย 3 เมตร   5. เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม…

  • Nasa ค้นพบดวงดาวใหม่กว่า 10 ดวง ที่มีคุณสมบัติมากพอจะเป็น “โลกใหม่” ให้เราอยู่ได้

    Nasa ค้นพบดวงดาวใหม่กว่า 10 ดวง ที่มีคุณสมบัติมากพอจะเป็น “โลกใหม่” ให้เราอยู่ได้

    หากว่าวันหนึ่งโลกของเราถึงกาลอวสานขึ้นมา คงไม่มีทางรอดอื่นนอกจากการย้ายไปอาศัยอยู่ที่ดาวดวงอื่น แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีการค้นพบดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ หรือดวงดาวที่มีลักษณะคล้ายเคียงโลกทุกประการเลย ทางด้าน NASA เองก็ไม่ได้นิ่งเฉย พวกเขายังคงคอยสอดส่องดูดวงดาวที่อยู่ห่างไกลออกไปจากโลกของเรา ด้วยความหวังว่าจะได้รู้ความลับของจักรวาลให้มากยิ่งขึ้น และค้นหาดวงที่อาจเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับมนุษย์ได้     บริษัท Kepler ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ NASA นั้นมีหน้าที่สำรวจดวงดาวใหม่ๆ ที่ยังไม่ถูกค้นพบ จากข้อมูลของทาง Kepler ในปี 2009 ถึง 2013 บริษัทได้ทำการสังเกตดวงดาวที่คล้ายกับพระอาทิตย์เป็นจำนวนกว่า 145,000 ดวง ใกล้กับกลุ่มดาว Cygnus แม้ว่าดวงดาวเหล่านี้จะอยู่ไกลจากโลกมากกว่าหนึ่งร้อยปีแสง และดูจากเทคโนโลยีในปัจจุบันแล้ว มีโอกาสเพียงน้อยนิดที่มนุษย์จะได้เดินทางไปเยือนดวงดาวเหล่านั้น แต่การส่องมองก็ทำให้เรารู้ว่าดาวเหล่านั้นมีลักษณะคล้ายคลึงโลกแค่ไหน หรือมีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่หรือเปล่า ล่าสุดพวกเขาได้ออกมาประกาศว่า พวกเขาพบดวงดาวที่มีลักษณะคล้ายโลกกว่าหนึ่งร้อยดวง และ 10 ดวงจากจำนวนนั้น อาจกลายเป็น “บ้าน” ของมนุษย์ในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกล Susan Thompson นักวิทยาศาสตร์หญิงจาก Kepler บอกว่า “ถ้าอยากรู้จำนวนดวงดาวที่มีความคล้ายคลึงกับโลกของเราละก็ จากข้อมูลที่มีตอนนี้ ฉันสามารถบอกจำนวนชัดเจนได้แล้ว และเราจะค้นหาต่อไปว่ามีดาวดวงไหนบ้างไหม ที่เราอาจจะย้ายไปอยู่ได้”     ในตอนนี้ หากนับรวมดวงดาวที่เพิ่งมีการค้นพบใหม่อีก 10 ดวง เราจะมีดวงดาวที่คล้ายๆ…

  • งานหนัก!! Apple ถูกฟ้องเป็นที่เรียบร้อย หลังออกมายอมรับกรณีลดความเร็วมือถือลง

    งานหนัก!! Apple ถูกฟ้องเป็นที่เรียบร้อย หลังออกมายอมรับกรณีลดความเร็วมือถือลง

    หลังจากมีการเผยออกมาว่า Apple ได้แอบใส่ฟังก์ชันลดความเร็วของโทรศัพท์ iPhone ลงด้วยเหตุผลเกี่ยวกับประสบการณ์ใช้งานและอายุของแบตเตอรี่ จนกลายเป็นประเด็นที่ผู้ใช้งานทั่วโลกต่างหัวร้อนไปตามๆ กัน (อ่านข่าวเก่า: Apple ยอมรับแล้วว่าทำให้ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลง แต่ที่ทำไปก็เพราะหวังดีนะ) ล่าสุด ทางเว็บไซต์ 9to5mac ได้รายงานว่า บริษัทผลไม้ของเราก็ได้ถูกฟ้องร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการฟ้องร้องครั้งนี้มีนาย Stefan Bogdanovich และนาย Dakota Speas เป็นแกนนำ     ซึ่งประเด็นที่เขาใช้ฟ้องร้องต่อศาลเมืองลอสแองเจลิสคือ Apple ได้ปรับความเร็วของโทรศัพท์รุ่นเก่าลง โดยไม่แจ้งให้กับผู้ใช้งานได้ทราบล่วงหน้า และไม่ให้ทางเลือกอื่นแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นการบังคับให้เจ้าของโทรศัพท์ต้องซื้อเครื่องใหม่โดยปริยาย     ตอนนี้ทั้งสองกำลังพยายามหาแนวร่วมเป็นผู้ใช้งานท่านอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับความเร็วในครั้งนี้จากทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งหาก Apple แพ้คดี พวกเขาอาจต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล   ก็ต้องรอชมกันต่อไปว่าเหตุการณ์นี้จะจบลงอย่างไร ที่มา 9to5mac

  • 5 เรื่องที่คุณควรรู้ก่อนเกม Arsenal vs Liverpool การแย่งชิงอันดับที่ 4 ใครจะได้ไปเชยชม!!

    5 เรื่องที่คุณควรรู้ก่อนเกม Arsenal vs Liverpool การแย่งชิงอันดับที่ 4 ใครจะได้ไปเชยชม!!

    แน่นอนว่าสำหรับใครที่เป็นแฟนของหงษ์แดงลิเวอร์พูลและไอ้ปืนใหญ่อาร์เซนอล คืนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งคืนพิเศษที่แฟนๆ ทั้งสองทีมรอคอยกันเลยทีเดียว!! และอย่างที่เหล่าแฟนๆ พรีเมียร์ลีกหลายๆ คนทราบกันเป็นอย่างดีว่าศึกในช่วงบ็อกซิ่งเดย์นั้นสือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของหลายๆ ทีมเลยทีเดียว เพราะทั้งโปรแกรมที่อัดแน่นและอากาศที่แสนหนาวเหน็บนั้นพร้อมที่จะทำให้แต่ละทีมพลาดท่ากันได้ง่ายๆ อ่า…และสำหรับคำคืนนี้การแย่งพื้นที่ในโซน Top 4 จะเป็นของใครนั้น เราก็มี 5 เรื่องราวที่คุณควรรู้ก่อนเกมมาฝากแฟนบอลของทั้งสองทีมกัน     1. เกมนี้จะเป็นเกมที่สนุกสุดมันอย่างแน่นอน เพราะอันดับของตารางคะแนน!! อย่างที่หลายๆ คนทราบกันดีว่าตอนนี้ทีมลิเวอร์พูลอยู่ในอันดับ 4 ของตาราง แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเค้ามีคะแนนมากกว่ายอดทีมจากลอนดอนเหนือที่เคยเป็นแชมป์แบบไร้พ่ายรวมถึงเอฟเอคัพ 13 สมัยเพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น และแน่นอนว่าหากพลาดพลั้งขึ้นมาพลพรรคหงส์แดงจะถูกเดอะกันเนอร์แซงขึ้นไปอยู่อันดับที่ 4 แน่ๆ ถือเป็น 3 คะแนนที่สำคัญมากๆ เลยล่ะ   2. สถิติการพบกัน จากสถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดนั้นเป็นฝ่ายของทีมหงส์แดงที่ทำผลงานได้ดีกว่า โดยสามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 3 นัด และตั้งแต่เมื่อปี 2016 พวกเค้ายังไม่เคยแพ้อาร์เซนอลในเกมลีกเลยซักครั้ง!! นี่อาจจะเป็นงานหนักสำหรับทัพปืนใหญ่เลยทีเดียวหลังจากที่การพบกับลิเวอร์พูลนัดล่าสุดที่แอนฟิลด์นั้นพวกเขาแพ้ไปอย่างขาดลอยถึง 4 ประตูต่อ 0 แบบที่รูปเกมสู้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย   3. ความพร้อมของทั้งสองทีม ในเกมสำคัญนี้อาร์แซนแวนเกอร์จะหมดสิทธิ์ใช้งาน…

  • ไปส่องอาหารที่ครอบครัวทั่วโลก ทานกันในช่วงเทศกาล ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่…

    ไปส่องอาหารที่ครอบครัวทั่วโลก ทานกันในช่วงเทศกาล ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่…

    เวลาที่เราดูหนังเกี่ยวกับวันคริสต์มาส เรามักจะเห็นอยู่เสมอว่าทุกบ้านจะต้องกินไก่งวงอบตัวโตเพื่อฉลองวันคริสต์มาส แต่ว่าไม่ใช่ทุกประเทศบนโลก ที่จะฉลองด้วยไก่งวงอบหรอกนะ เพราะแต่ละประเทศก็จะมีอาหารที่กินเป็นประจำในวันคริสต์มาสแตกต่างกันออกไป วันนี้เราลองรอบรวมอาหารของบางประเทศ ที่มักจะถูกนำมาวางบนโต๊ะอาหารในวันคริสต์มาส มาให้ทุกคนได้ดูกันว่าคริสต์มาสไม่ได้ทานแต่ไก่งวงอบเท่านั้น   Switzerland สำหรับชาวสวิตเซอร์แลนด์ สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะมารวมกันเพื่อแบ่ง Foudue Chinoise ซึ่งเป็นหม้อไฟที่ใส่เนื้อสัตว์บางๆ ลงไปต้มจนสุก แล้วแบ่งกินกัน คล้ายกับสุกี้บ้านเราเลย เมนูนี้ยังเป็นที่นิยมกินกันในวันปีใหม่ด้วย   Netherlands ทางเนเธอร์แลนด์นั้น เป็นเมนูสุดพิเศษที่ให้ทุกคนในครอบครัว ช่วยกันปิ้งเนื้อสัตว์เสียบไม้และผักแบ่งกันกิน เมนูนี้เรียกกันว่า Gourmetten ดูผ่านๆแล้วคล้ายคลึงกับบาร์บีคิว คิดถึงเสียงซ่าเวลาย่างแล้วหิวขึ้นมาเลย   Mexico ในประเทศเม็กซิโก ทุกบ้านจะขาดอาหารอย่าง Pozole ไปไม่ได้เลย รสชาติของเนื้อสัตว์ที่คลุกเคล้ากับผักและเครื่องเทศหลากหลายนั้น คงจะจี้ดจ้าด เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี แถม Pozole ยังมีซอสหลายสูตรอีกด้วย อาทิ ซอสขาว ซอสเขียว และซอสแดง กินกันได้ไม่เบื่อเลย   Guatemala มาถึงอาหารพื้นเมืองของประเทศกัวเตมาลากันบ้าง อาหารที่เป็นไฮไลต์ของคนที่นี่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ แต่เป็น Tamales มันคือแป้งที่นำไปห่อด้วยใบข้าวโพดหรือใบตอง แล้วนำไปย่างจนสุกน่ารับประทานนั่นเอง   Sweden ชาวสวีเดนนั้นนิยมทาน Julbord ซึ่งเป็นมื้ออาหารที่ประกอบไปด้วยของหลายๆ อย่างทั้งจานร้อน จานเย็น ของที่มีในมื้ออาหารนี้โดยปกติแล้วจะเป็นแฮม…

  • ศิลปินเปลี่ยนบังเกอร์ในช่วงสงครามโลก ให้กลายเป็นเทพเจ้ามังกร ดูมีสีสันขึ้นมาเยอะ!!

    ศิลปินเปลี่ยนบังเกอร์ในช่วงสงครามโลก ให้กลายเป็นเทพเจ้ามังกร ดูมีสีสันขึ้นมาเยอะ!!

    ถ้าพูดถึงเด็กหนุ่มหางลิงผู้ขี่ก้อนเมฆสีทอง หรือการต่อสู้กันอย่างดุเดือดกลางเวหาด้วยพลังคลื่นเต่าแล้วละก็ แทบทุกคนคงจะรู้ว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ ใช่แล้วล่ะครับ เรากำลังพูดถึงการ์ตูนอมตะเรื่องโปรดของเด็กชายหลายคน หรือแม้แต่ผู้หญิงก็ด้วย นั่นคือ ดราก้อนบอล นั่นเอง ดราก้อนบอล เป็นการ์ตูนยอดนิยมที่อยู่มานานตั้งแต่ปี 1984 มาจนถึงปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมสูงอยู่ การ์ตูนเรื่องนี้ยังคงอยู่ในหัวใจของผู้ใหญ่หลายคน บางคนก็ใช้มันเป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะด้วยเช่นกัน     Blesea และ Baby K เป็นศิลปินสตรีทที่ชอบสร้างผลงานศิลปะตามสถานที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาก็ชื่นชอบดราก้อนบอลเช่นกัน และมีความฝันตั้งแต่เด็กว่า อยากจะทำงานศิลปะเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องโปรดสักครั้ง ในครั้งนี้เขาจึงวางแผนที่จะเรียก Shenron หรือที่เรารู้กันในนาม เทพเจ้ามังกร ออกมาสู่หาดนอร์มังดี ในประเทศฝรั่งเศสให้จงได้ แม้ว่าเขาจะไม่มีลูกแก้วมังกรสักลูกก็ตาม     สื่อที่ชายทั้งสองจะใช้เรียกเทพเจ้ามังกรออกมาในครั้งนี้ก็คือบังเกอร์ของทหารฝ่ายอักษะทิ้งไว้ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง พวกเขาทั้งสองเริ่มต้นด้วยการวางโครงร่างคร่าวๆ ของงาน และเวาดโครงร่างลงบนฐานกำบังทันที โดยทั้งสองใช้แค่เพียงแค่สเปรย์พ่นสีและลูกกลิ้งสองอย่างเท่านั้นในการวาดเทพเจ้ามังกร   เจ้าเป็นผู้ที่เรียกข้าออกมาใช่หรือไม่   พวกเขาใช้ทุกส่วนของบังเกอร์ให้เกิดประโยชน์ โดยใช้ส่วนเว้าส่วนโค้งของตัวฐานกำบัง วาดให้เกิดเป็นเงาสวยงาม นอกจากนี้ยังทำให้ตัวเทพเจ้ามังกรดูมีความเป็นภาพสามมิติจากส่วนเว้าโค้งเหล่านี้ด้วย ใช้เวลาเพียงไม่นาน เทพเจ้ามังกรก็ดูเป็นรูปเป็นร่างสวยงามอย่างรวดเร็ว เมื่อมองจากระยะไกลแล้ว รู้สึกเหมือนกับว่าเทพเจ้ามังกรกำลังนอนพักอยู่บนชายหาด จ้องมองออกไปยังทะเลที่กว้างใหญ่อย่างสบายอารมณ์   บอกความปรารถนาของเจ้ามาสิ ข้าจะทำให้มันเป็นจริงเอง   และในที่สุดงานศิลปะของพวกเขาก็เสร็จสมบูรณ์แบบ แม้ว่าเทพเจ้ามังกรจะอยู่กลางแจ้ง จึงอาจโดนลม ฝน และคลื่นที่เข้าปะทะ…

  • สาวชวนไปกินข้าว หนุ่มตอบแค่ OK สาวเลยโมโห ตอบเหมือนไม่เต็มใจ ชาวเน็ตสวดยับ!!

    สาวชวนไปกินข้าว หนุ่มตอบแค่ OK สาวเลยโมโห ตอบเหมือนไม่เต็มใจ ชาวเน็ตสวดยับ!!

    ในสมัยนี้ใครๆ ก็ใช้โปรแกรมแชทคุยกันผ่านอินเตอร์เน็ตทั้งนั้น เพราะว่ามันสะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ในบางครั้งการส่งข้อความหากันก็มีข้อเสีย ก็คือเราไม่รู้ว่าคนพิมพ์รู้สึกอย่างไรอยู่นั่นเอง การไม่รู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายนี่แหละ ที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเวลาที่เราส่งข้อความพูดคุยกับคู่สนทนาได้ เหมือนกับที่ชายคนนี้เจอไง   Troy G.   Troy G. อายุ 25 ปีอาศัยอยู่ที่เมืองวอร์ชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเช้าวันหนึ่งเขาได้ส่งข้อความพูดคุยกับหญิงที่คุยด้วยกันอยู่ และก็เกิดปากเสียงกันเพราะฝ่ายหญิงบอกว่า เขาไม่มีอารมณ์ร่วมในการพูดคุยกับเธอเลย ฝ่ายหญิงนั้นชวนเขาออกไปกินข้าวด้วยกันโดยเธอจะเป็นคนเลี้ยงเอง Troy ที่พึ่งตื่นนอนก็ตอบตกลงง่ายๆ ไปว่า “ok” แต่มันอาจจะห้วนไปหน่อย ฝ่ายหญิงเลยคิดว่าเขาตอบส่งๆ เพราะไม่อยากไปกับเธอ ทั้งคู่ก็เลยผิดใจกัน และยกเลิกนัดไป     Troy บอกว่า “ตอนนั้นเพิ่ง 9 โมงเช้าเอง ผมก็อุตส่าห์งัวเงียตื่นขึ้นมาตอบเธอแล้ว” แล้วเขาจึงพูดต่อว่า “ผมบอกเธอไปว่าถ้าเธอโทรมาคุยกันเลย คงจะคุยกันได้เข้าใจมากกว่านี้ แล้วเธอก็จะได้ยินด้วยว่าผมพูด ‘โอเค’ ด้วยน้ำเสียงแบบไหน” เขารู้สึกหัวเสียเล็กน้อยที่ต้องมาทะเลาะกันด้วยเรื่องเพียงเท่านี้ เขาก็เลยทวีตบทสนทนานี้ลงไปบนทวีตเตอร์ของตัวเอง ให้เพื่อนๆ ของเขาเห็นว่าเขาเซ็งที่ต้องมาทะเลาะกับหญิงสาวตั้งแต่เช้า แต่ชาวเน็ตที่ผ่านมาเห็นต่างก็ให้ความสนใจในบทสนทนาของเขา และพยายามตีความว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่เป็นคนผิดในบทสนทนานี้   ตอบแบบนั้นก็สมควรโดนโกรธแล้วแหละ   จะอะไรก็ช่าง…

  • เมื่อหมาแสนรัก กำลังจะตายด้วยโรคสมองเสื่อม เจ้าของเลยถ่ายอัลบั้มไว้อาลัยให้กับมัน…

    เมื่อหมาแสนรัก กำลังจะตายด้วยโรคสมองเสื่อม เจ้าของเลยถ่ายอัลบั้มไว้อาลัยให้กับมัน…

    พอเราได้ใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์เลี้ยงเป็นเวลาระยะหนึ่งแล้ว เราก็ย่อมจะรู้สึกผูกพันกับมันมากเป็นพิเศษ เพราะมันได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปเสียแล้ว ราวกับเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวอย่างไรอย่างนั้นเลย หากว่าอยู่ๆ วันหนึ่งมันหายไปจากชีวิตของเรา อาจจะรู้สึกใจหายประหนึ่งว่าคนรักได้หายไปจากชีวิตของเรา คงจะไม่ได้ยินเสียงเห่าอย่างร่าเริงในบ้านอีก และไม่มีเจ้าขนปุยมาคอยอ้อนให้เราเล่นด้วยอีกต่อไป   ยินดีต้อนรับ Kolohe สู่ครอบครัวของเรา   Stephanie Jarstad เองก็กำลังเผชิญกับการตายของสุนัขตัวโปรดของเธอเช่นกัน สุนัขพันธุ์ฮัสกี้ของเธอชื่อว่า Kolohe มันเพิ่งตายเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมานี้ ด้วยโรคสมองเสื่อม ตอนที่ตายมันเพิ่งมีอายุได้เพียง 9 เดือนเท่านั้นเอง แต่ระยะเวลา 9 เดือนที่ใช้ร่วมกันมานั้นทำให้ Stephanie รู้สึกรักเจ้า Kolohe มากจนรู้สึกว่าชีวิตขาดมันไปไม่ได้ เมื่อเธอรู้ว่ามันใกล้จะตาย เธอจึงได้จ้าง Francoise Weeks ให้ช่วยเธอทำอัลบั้มภาพที่ระลึกของเจ้าหมาขึ้นมา เพื่อที่เวลามันไม่อยู่แล้ว เธอจะได้นึกถึงมันตลอดเวลานั่นเอง และต่อไปนี้คือข้อความจาก Stephanie ที่อยากจะบอกกับเจ้า Kolohe ว่าเธอรู้สึกรักมันมากแค่ไหน   เจ้าตัวน้อย Kolohe แกเกิดอาทิตย์เดียวกับตอนที่ฉันและ Michael แต่งงานพอดีเลยนะ วันนี้ฉันอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับแก   ตอนแรกฉันกังวลว่าจะเลี้ยงฮัสกี้ไหวไหม เพราะแกคงต้องวิ่งออกกำลังบ่อยๆ แต่ฉันไม่รู้จะรับมือไหวหรือเปล่า  …

  • ชายผู้อาศัยอยู่ใน ‘อาคารผู้โดยสาร’ สนามบินปักกิ่งมาตลอด 10 ปี เพราะเมียไล่ออกจากบ้าน

    ชายผู้อาศัยอยู่ใน ‘อาคารผู้โดยสาร’ สนามบินปักกิ่งมาตลอด 10 ปี เพราะเมียไล่ออกจากบ้าน

    เรื่องราวของ Wei Jianguo ชายชาวจีนวัย 53 ปี ที่ใช้อาคารโดยสารของสนามบินปักกิ่งเป็นที่พักอาศัย ทั้งกิน นอน และใช้ชีวิตราวกับว่าที่แห่งนี้แหละคือบ้านของเขาจริงๆ     สาเหตุที่เขาต้องมาอยู่ในสนามบินปักกิ่ง เพราะเขาทะเลาะกับภรรยาอย่างหนักเมื่อปี 2008 จนถูกไล่ออกจากบ้าน เนื่องจากเขาติดสุราจนเสียงานเสียการ     นาย Wei ไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปก็ได้แต่เก็บข้าวของที่จำเป็นมุ่งหน้าไปที่สนามบินปักกิ่งเพื่อที่จะอาศัยอยู่ชั่วคราว แต่ความครบครันของสนามบินแห่งนี้ทำให้เขาตัดสินใจว่าจะอยู่ที่นี่ไปนานๆ เนื่องจากว่ามันสะดวกสบาย มีพร้อมทุกอย่าง แถมยังไม่ต้องเสียค่าเช่าอีกด้วย สนามบินใหญ่ระดับโลกที่มีผู้คนคับคั่งตลอดเวลาทำให้เขาสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ตลอดเวลา ถึงแม้จะมีเจ้าหน้าที่มาไล่เขาก็ไม่ออกไปไหน     รถเข็นกระเป๋าถูกนำมาใช้เป็นที่เก็บของ บ้านหลังน้อยๆ ของเขามีแค่ผ้าห่มปูกับพื้นและครัวขนาดจิ๋ว . .   เป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้วที่นาย Wei ได้อาศัยที่สนามบินแห่งนี้ เขาบอกว่าอยู่แบบนี้สบายใจดี จะกินเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องฟังเมียบ่นอีกต่อไป งานก็ไม่ต้องทำ เพราะว่าได้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลในฐานะคนว่างงานเดือนละ 4,900 บาท แถมยังมีผู้คนแวะเวียนเอาผ้าห่ม เสื้อผ้า ของกินมาให้ตลอดๆ ความจริงนั้นเขาสามารถกลับไปอยู่บ้านได้ตลอดเวลาแต่ที่เขายังเลือกที่จะอยู่สนามบินแห่งนี้ต่อไปเหตุผลหลักๆ คงเป็นเพราะว่าไม่อยากเจอหน้าเมียสินะ ฮ่าๆ  …

  • พรานโพสต์ภาพคู่กับสิงโตภูเขาตัวใหญ่ แม้นักอนุรักษ์สัตว์จะออกมาเตือน แต่ก็ไม่แคร์

    พรานโพสต์ภาพคู่กับสิงโตภูเขาตัวใหญ่ แม้นักอนุรักษ์สัตว์จะออกมาเตือน แต่ก็ไม่แคร์

    ปัจจุบันนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรืออยู่ส่วนไหนของโลก เมื่อคุณลงมือทำร้ายสัตว์เพียงเล็กน้อย จะทำให้คุณถูกประณามจากผู้คนมากมายทันที แต่สำหรับ Steve Ecklund จากอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา กลับภาคภูมิใจที่ได้ฆ่าสิงโตภูเขาในบ้านเกิดของเขา แถมยังโพสต์อวดในเฟซบุ๊กด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม     ที่ผ่านมา Steve และภรรยาของเขา Alison Ecklund ล่าสัตว์ป่านับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นหมูป่า สิงโต หมีดำ และสิงโตในแคนาดาและอเมริกาเหนือ โดยมักจะโพสต์อวดในโซเชียลเสมอ การกระทำของ Steve ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยกลุ่มรณรงค์ที่ใช้ชื่อว่า Hunt Saboteurs Association จากสหราชอาณาจักรเองก็ได้ออกมาประณามว่ามันเป็นกีฬาที่เลวทรามและไร้ศีลธรรมสิ้นดี     แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับการวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ สังเกตได้จากการที่เขายังคงโพสต์ภาพล่าสัตว์อยู่ แถมยังมีชาวเน็ตที่เป็นนักล่าสัตว์เหมือนกันออกมาปกป้องเขาตลอดด้วย ในเว็บไซต์ The EDGE ระบุว่า ‘Steve ล่าสัตว์อย่างเป็นธรรม นั่นหมายความว่าสัตว์ที่เขาฆ่าทุกตัวนั้นถูกต้องตามหลักจริยธรรม เพราะสัตว์ทุกตัวถูกฆ่าตอนที่พวกมันสามารถวิ่งหนีได้อย่างอิสระ ไม่ได้ถูกฆ่าตอนถูกขังแต่อย่างใด’     ทั้งนี้ในอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดานั้น นักล่าต้องมีใบอนุญาตสำหรับการล่าสัตว์เพื่อการสันทนาการ โดยในกฎหมายระบุว่าการล่าสัตว์จะผิดกฎหมายก็ต่อเมื่อคุณยิงสัตว์ป่าขณะว่ายน้ำ หรือให้สุนัขเข้าร่วมการล่าในช่วงฤดูล่าสัตว์ในหน้าหนาว     ทางกลุ่มสิทธิสัตว์ PETA ออกมาบอกว่า Steve มีความเชื่อผิดๆ…

  • กระทบใครรึเปล่า!? Christian Bale เผยว่าอเมริกันจะเจ๋งขึ้น หาก “คนขาว” มีอำนาจน้อยลง..

    กระทบใครรึเปล่า!? Christian Bale เผยว่าอเมริกันจะเจ๋งขึ้น หาก “คนขาว” มีอำนาจน้อยลง..

    Christian Bale ชายผู้มากความสามารถได้ผู้เคยรับบทฮีโร่อย่าง “แบทแมน” ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อระหว่างออกไปโปรโมตหนังเรื่องใหม่ว่า สังคมอเมริกามันจะดียิ่งขึ้น หากคนขาวมีอำนาจน้อยลง คำพูดดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกลางรายการ AOL Build โดยนักแสดงดัง Christian Bale, Rosamund Pike และ Wes Studi ได้เดินทางไปโปรโมตหนังยุคคาวบอยเรื่อง Hostiles ที่จะเข้าฉายในปีหน้า     โดย Bale ได้พูดว่า “สังคมอเมริกามันจะดีขึ้น ถ้าคนขาวมีอำนาจในการทำอะไรน้อยลง อำนาจที่ว่าผมหมายถึงทุกวงการไม่ว่าจะเป็นในฮอลลีวูดหรือในวอชิงตันก็ตาม” “ถ้าเราสามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ ในวงการฮอลลีวูดเราจะได้เห็นหนังที่มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจและหลากหลายมากยิ่งขึ้น และอเมริกาก็จะเป็นอเมริกาแบบที่มันควรจะเป็น คนทั้งโลกก็จะมองเราในอีกมุมมองที่ดียิ่งขึ้นซึ่งมันทำให้เราดูพิเศษ”     ถึงแม้เราฟังคำพูดของเขาเราอาจจะดูเหมือนเขาอวยอเมริกา แต่เชื่อไหมว่าจริงๆ แล้ว Christian Bale ไม่ใช่คนอเมริกาโดยกำเนิด เขาเกิดและโตที่อังกฤษและก็เป็นคนอังกฤษแท้ๆ ทว่าที่เขาออกมาพูดเพราะเขาบอกว่าเขาหลงรักในประเทศนี้จริงๆ เขากับครอบครัวถึงกับย้ายมาอยู่และลงหลักปักฐานที่อเมริกาเลยทีเดียว ฉะนั้นการพูดของ Bale จึงเป็นการพูดที่บ่งบอกว่าเขาต้องการความเปลี่ยนแปลงจริงๆ ไม่ใช่เฉพาะการเมืองแต่กับทุกวงการในอเมริกา และเขาก็พูดด้วยความหวังดีนั่นเอง     อย่างไรก็ตามถ้าใครที่เป็นแฟน Christian Bale ก็อย่าลืมติดตามหนังเรื่อง Hostiles หนังใหม่ของเขาที่จะเข้าฉายในช่วงเดือนมกราคมปีหน้ากันด้วยล่ะ พี่แกถึงกับลงทุนเปลี่ยนร่างอีกรอบเลยนะเออ…     ที่มา ladbible

  • การจูบลาของตา-ยายที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 73 ปี ก่อนต้องแยกไปอยู่ในบ้านพักคนชราแห่งใหม่

    การจูบลาของตา-ยายที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 73 ปี ก่อนต้องแยกไปอยู่ในบ้านพักคนชราแห่งใหม่

    หากเราเจอรักแท้ ไม่ว่าจะยากดี มีจน เราก็คงอยากอยู่เคียงข้างเขาไปตลอดชีวิต และดูแลกันไปจนกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะหมดลมหายใจ แต่สำหรับคุณตากับคุณยายที่อยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งชีวิต กลับต้องแยกจากกันก่อนวันคริสต์มาสที่จะมาถึงนี้ เพราะพวกเขาต้องไปอยู่บ้านพักคนชราคนละหลัง     Herbert Goodine มีอาการภาวะสมองเสื่อมได้ถูกย้ายไปอยู่ในบ้านพักคนชราแห่งใหม่ ในขณะที่ภรรยาของเขา Audrey ต้องอยู่ในบ้านพักคนชราเดิม ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 45 นาที ก่อนหน้านี้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในบ้านพักคนชราเป็นเวลา 3 ปี แต่จากการประเมินสุขภาพครั้งล่าสุด พบว่าอาการสมองเสื่อมของคุณแย่ลงกว่าเดิมมาก เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องย้ายเขาไปอยู่อีกที่เพื่อรับการดูแลที่เหมาะสม     ในวันที่ต้องแยกจากกันนั้น คุณตากับคุณยายไม่มีคำบอกลาใดที่สัมผัสใจได้ดีเท่ากับการจูบลาเป็นครั้งสุดท้าย ที่ใครเห็นเป็นต้องน้ำตาซึมตามไปด้วย Dianne Phillips ลูกสาวของพวกเขาบอกว่า “วันที่มีรถตู้มารับพ่อไปจากบ้านที่นิวบรันสวิก ประเทศแคนาดา คุณแม่ยืนดูอยู่ที่หน้าต่างจนลับสายตา”     เธอเขียนในเฟซบุ๊กว่า “เมื่อวานนี้ฉันได้โทรคุยกับพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องที่พ่อต้องย้ายออกไป ฉันได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ โดยมีเสียงพ่อแทรกมาจากข้างหลัง แม่พูดกับฉันว่า ‘ตอนนี้วันคริสต์มาสสิ้นสุดลงแล้วสำหรับเรา และนี่เป็นวันคริสต์มาสที่เลวร้ายที่สุดที่เราเคยมีมา ทำไมพวกเขาไม่รอให้วันหยุดนี้ผ่านไปก่อน แล้วค่อยแยกเราจากกัน’ ตอนนั้นฉันมั่นใจว่าแม่พยายามจะทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันนานขึ้น อย่างน้อยสักวันสองวันก็ยังดี พ่อแม่ของฉันอยู่ด้วยกันมานานถึง 73 ปี ทุกวันนี้พวกเขายังนอนเตียงเดียวกัน ฉันคิดว่าผู้คนจำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ มีเพียงคำสองคำที่ฉันสามารถพูดตอนนี้คือ ‘ไม่ถูกต้อง’ และ ‘โหดร้าย’”     คุณตา Goodine พูดถีงคุณยายว่า “ผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ…

  • ทำได้ไง!! นักวิทย์พัฒนาแนวคิด ที่ทำให้ ‘พืช’ สามารถส่องแสงสว่างได้ในเวลากลางคืน

    ทำได้ไง!! นักวิทย์พัฒนาแนวคิด ที่ทำให้ ‘พืช’ สามารถส่องแสงสว่างได้ในเวลากลางคืน

    ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน เรียกได้ว่าก้าวไปเร็วจนตามแทบจะไม่ทัน และดูเหมือนว่าตอนนี้ความเจริญทางด้านวัตถุได้ก้าวไปไกลจนเกินจะเอื้อมถึง เพราะว่าตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ทำให้สิ่งที่อยู่ตามธรรมชาติอย่างต้นไม้เรืองแสงในที่มืดได้แล้ว!! เทคโนโลยีสุดล้ำนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยทีมนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ได้เผยว่าพวกเขาได้พัฒนาวิธีที่จะทำให้พืชสามารถส่องแสงสว่างในที่มืดได้แล้ว     ซึ่งพวกเขาได้ตั้งชื่อพืชอันนี้เอาไว้ว่า พืชอนุภาคนาโน เพราะว่าวิศวกรในทีมวิจัยนี้ได้ทดลองฝังอนุภาคนาโนเข้าไปในพืชที่มีชื่อว่า วอเคอร์เครส และผลของอนุภาคนาโนนี้ก็ทำให้พืชทดลองนี้สามารถส่องแสงสลัวๆ ได้ถึง 3 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว และเป้าหมายต่อไปของนักวิจัยทีมนี้ก็คือ พวกเขาจะสร้างพืชที่ให้แสงสว่างมากพอพร้อมทั้งมีระยะเวลาที่ยาวนานสำหรับห้องห้องหนึ่ง และถ้าประสบความสำเร็จ พวกเขาก็คาดเอาไว้ว่าจะเปลี่ยนต้นไม้ที่อยู่ตามสองข้างถนนให้สามารถสร้างพลังงานได้ด้วยตัวเองและสามารถส่องแสงสว่างได้มากขึ้นกว่าตัวทดลอง อีกทั้งเป้าหมายสูงสุดของทีมวิจัยนี้ก็คือ พวกเขาจะเปลี่ยนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ให้มันสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ด้วยตัวเองอีกด้วย   มาลองดูความมหัศจรรย์กันดีกว่า   “ขั้นแรกของพวกเราคือจะทำให้พืชสามารถส่องสว่างได้เหมือนโคมไฟตั้งโต๊ะ ซึ่งแสงที่ได้นั้นจะมาจากใช้พลังงานที่อยู่ในตัวของมันเองโดยไม่ต้องเสียบปลั๊กแต่อย่างใด” Michael Strano หนึ่งสมาชิกในทีมวิจัยนี้กล่าว ก่อนหน้าที่จะมีการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องพืชเรืองแสง ทีมวิจัยนี้ได้เคยพยายามที่จะออกแบบพืชให้สามารถตรวจจับระเบิดแล้วรายงานผลไปที่อุปกรณ์อัจฉริยะ รวมถึงพืชที่สามารถตรวจสอบความแห้งแล้งได้ และในที่สุดพวกเขาก็ได้หันมาผลิตพืชอนุภาคนาโนนี้แทน สำหรับองค์ประกอบหลักๆ ที่ทำให้พืชชนิดนี้สามารถเรืองแสงได้ก็คือ เอนไซม์ลูซิเฟอเรส ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่อยู่ในตัวของหิ่งห้อย ตัวเอนไซม์ลูซิเฟอเรสจะทำการเปลี่ยนแปลงโมเลกุลของสารลูซิเฟอรินให้กลายเป็นโมเลกุลออกซิลูซิเฟอริน ที่เป็นโมเลกุลที่ทำให้พืชสามารถปล่อยออกมาได้นั่นเอง นอกจากนี้นักวิจัยยังบอกอีกด้วยว่า พวกเขาสามารถกำหนดการเปิด-ปิดไฟในพืชได้ ด้วยการใส่ตัวยับยั้งเอนไซม์ลูซิเฟอเรสลงไป โดยตัวยับยั้งที่ว่านี้จะทำให้พืชตอบสนองต่อสภาวะแวดล้อมอย่าง แสงแดด ซึ่งจะทำให้เอนไซม์นี้ปิดการใช้งานโดยธรรมชาตินั่นเอง   ที่มา: odditycentral

  • แพทย์เตือน ผู้หญิงไม่ควร ‘ปัสสาวะ’ ก่อนมีเซ็กส์ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

    แพทย์เตือน ผู้หญิงไม่ควร ‘ปัสสาวะ’ ก่อนมีเซ็กส์ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

    ในการมีเซ็กส์นั้น คุณจะเริ่มมีเมื่อไหร่ ท่าไหน ที่ไหน หรือนานแค่ไหนก็ได้ แล้วแต่ความชอบของคุณกับคู่นอน แต่อย่าลืมคำนึงถึงอันตรายที่อาจตามมาด้วย หลายคนอาจจะคิดว่าล้างอวัยวะเพศหลังอึ๊บกัน ต้องปัสสาวะหลังมีเซ็กส์ หรือสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง แต่มีอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้คือ คุณไม่ควรปัสสาวะก่อนมีเพศสัมพันธ์     David Kaufman ศัลยแพทย์จากนครนิวยอร์กบอกว่า “การที่ผู้หญิงเข้าใจว่าควรปัสสาวะก่อนมีเซ็กส์นั้น เป็นความคิดที่ผิดมาก” เขาเน้นย้ำว่าการปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่การเข้าห้องน้ำก่อนเซ็กส์นั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่นอน ทั้งนี้ Kaufman เผยกับสำนักข่าว Yahoo News ว่า “การปัสสาวะก่อนมีเซ็กส์เป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ โรคฮันนีมูน”   ทำไมคุณไม่ควรปัสสาวะก่อนมีเซ็กส์ แพทย์อธิบายว่าระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์แบคทีเรียจากช่องคลอดจะถูกผลักเข้าไปในท่อปัสสาวะ แต่หากคุณอั้นปัสสาวะไว้ระยะหนึ่งมันจะเพิ่มโอกาสในการผลักแบคทีเรียออกมา Kaufman อธิบายเพิ่มเติมว่าการอั้นปัสสาวะจะทำให้กระเพาะปัสสาวะของคุณเต็มเพียงพอที่จะสร้างแรงดันที่แข็งแรงพอในการล้างแบคทีเรียในท่อปัสสาวะได้ หากไม่มีปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ แบคทีเรียอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ เช่นเดียวกัน หากคุณไม่ไปเข้าห้องน้ำหลังจากมีเซ็กส์ แบคทีเรียสามารถเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะและพัฒนาไปสู่การติดเชื้อในที่สุด สำหรับโรคฮันนีมูนนี้มีโอกาสเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงแยกต่างหากจากช่องคลอดและทวารหนัก โดยมีระยะห่างเพียงเล็กน้อย ทำให้แบคทีเรียจากช่องคลอดหรือทวารหนักสามารถเข้าถึงท่อปัสสาวะได้ง่าย นอกจากนี้การใช้ยากุมกำเนิดแบบหมวกครอบปากมดลูกเพิ่มความเสี่ยงในการติดในทางเดินปัสสาวะได้เหมือนกัน เพราะกะบังลมจะไปกดกระเพาะปัสสาวะทำให้แบคทีเรียไม่สามารถเล็ดลอดออกมาได้     สำหรับคนที่มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะบ่อย คุณอาจจะแก้ไขด้วยวิธีต่อไปนี้ – หลีกเลี่ยงการอาบน้ำในอ่างที่มีฟองสบู่ หรือการโรยแป้งรอบอวัยวะเพศของคุณ ควรอาบน้ำด้วยฝักบัวมากกว่าการอาบในอ่างอาบน้ำ – เมื่อรู้สึกปวดฉี่ ให้ไปห้องน้ำทันที ไม่ควรอั้นไว้จากกระเพาะปัสสาวะเต็ม – เมื่อล้างก้นหลังจากเสร็จธุระ…

  • เปรียบเทียบ “ค่าครองชีพ” ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในแผนที่เดียวจบ อยากย้ายไปไหนกันบ้าง!?

    เปรียบเทียบ “ค่าครองชีพ” ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในแผนที่เดียวจบ อยากย้ายไปไหนกันบ้าง!?

    หลายคนใฝ่ฝันที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่บางทีเราจำเป็นต้องรู้ด้วยว่าที่เราจะไปนั้นมีค่าครองชีพเป็นอย่างไร? มันจะคุ้มมั้ยถ้าเราไปอยู่ที่นั่น? เพราะฉะนั้นลองมาดูข้อมูลเหล่านี้ ที่เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าครองชีพของทุกประเทศทั่วโลก เผื่อจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น นี่คือแผนที่ที่ทำขึ้นโดย Movehub ซึ่งเป็นบริษัทที่มีบริการช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ต้องการย้ายถิ่นฐาน ในเรื่องราคาร้านของชำ การขนส่ง ร้านอาหาร สาธารณูปโภค และการเช่าพื้นที่ของ 121 ประเทศทั่วโลก โดยวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)     ทั้งนี้ผู้คนในซานฟรานซิสโกและนครนิวยอร์กมักจะบ่นเกี่ยวกับค่าเช่าพื้นที่ที่ค่อนข้างมีราคาแพง อย่างไรก็ตามครองชีพโดยรวมของสหรัฐฯ ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พออยู่ได้ ส่วนเบอร์มิวดาถือเป็นพื้นที่ที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก รองลงมาคือประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และฮ่องกงกับไอซ์แลนด์ที่มีค่าครองชีพไม่ต่างกันมากนัก ในทางตรงข้าม อียิปต์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดในขณะนี้ ซึ่งเลื่อนขึ้นมาเป็น 6 อันดับ ภายใน 2 ปี ตามด้วยประเทศอินเดีย ปากีสถาน และเนปาล   พื้นที่สีแดงเข้มหมายถึงมีค่าครองชีพสูงสุด ขณะที่สีเขียวหมายถึงค่าครองชีพต่ำสุด   ทวีปยุโรป   ทวีปอเมริกาเหนือ   ทวีปอเมริกากลาง   ทวีปอเมริกาใต้   ทวีปแอฟริกา   ทวีปเอเชีย   ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปออสเตรเลีย   ประเทศที่มีค่าครองชีพสูงสุด  …

  • แรงม้าหรือจะสู้แรงคน…โลกออนไลน์แชร์คลิปตำรวจญี่ปุ่นปั่น “จักรยาน” ไปจับรถ “Lamborghini”

    แรงม้าหรือจะสู้แรงคน…โลกออนไลน์แชร์คลิปตำรวจญี่ปุ่นปั่น “จักรยาน” ไปจับรถ “Lamborghini”

    การใช้รถใช้ถนนร่วมกัน แน่นอนว่ามันต้องมีกฎระเบียบเพื่อไม่ให้การจราจรนั้นติดขัด พร้อมทั้งยังลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุไปได้เยอะอีกด้วย ทว่าก็ยังคงมีคนไม่ใส่ใจฝ่าฝืนกฎจราจรให้เห็นอยู่ทุกวันจนเป็นเหตุชินตา ซึ่งนั่นก็กลายเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุม แต่จะเป็นอย่างไรในเมื่อรถที่ทำผิดกฎดังกล่าวเป็นรถสปอร์ตสุดหรู ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็นเหตุการณ์มีเพียงรถจักรยานธรรมดาๆ ทั่วไปเท่านั้น   เลี้ยวหน้าตาเฉย   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นและได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเป็นเหตุการณ์ของรถยนต์สุดหรูอย่าง Lamborghini Huracán ที่คนขับรถคนนี้ได้ทำผิดกฎจราจรและทำให้ผู้อื่นเสี่ยงชีวิตจากการขับขี่รถสุดห้าวของเขา โดยคลิปวิดีโอการทำผิดนี้ได้เริ่มขึ้นในตอนที่ รถยนต์คันหรูคันนี้ได้ขับมาจอดในจุดที่เลยเส้นจอดมาและกำลังเตรียมตัวจะเลี้ยวซ้าย แต่ว่าไฟจราจรในขณะนั้นยังคงเป็นไฟแดงอยู่ และก็กำลังเปิดไฟเขียวให้แก่คนเดินเท้าที่กำลังจะก้าวข้ามถนนเส้นดังกล่าว   ได้เลย รอพี่แป๊บไอ้น้อง   และเมื่อคนเดินข้ามจนเกือบจะหมดแล้ว รถยนต์คันนี้ก็ได้ออกตัวในทันทีจนแทบจะเฉี่ยวคนข้ามถนนคนสุดท้ายไปด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามก็มีตำรวจจราจรคนหนึ่งได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมด เขาก็ควบจักรยานคู่ใจปั่นไล่ตามรถสุดหรูคันนี้อย่างทันควัน   ทำไรผิดรึเปล่า   จากนั้นภาพในวิดีโอก็ได้ตัดไปในตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ สามารถควบจักรยานของเขาขี่ตามรถยนต์คันนี้ได้สำเร็จ ซึ่งก็แน่นอนว่าคนขับรถยนต์คันนี้ก็โดยใบสั่งไปตามระเบียบ เมื่อวิดีโอคลิปนี้ออกมาชาวเน็ตต่างก็ออกมาชื่นชม ความกล้าหาญและใจเด็ดเดี่ยวของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ที่เกินร้อยจริงๆ แม้ว่าจะมีเพียงจักรยานเก่าๆ เพียงคนเดียว บางคนอาจจะปล่อยปละละเลย เพราะคิดว่าถ้าให้ตามยังไงก็คงตามไม่ทัน ทว่าเขาคนนี้ก็ยังคงจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แล้วผลจากการพยายามของเขาก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ถึงแม้จะต้องเหนื่อยจากการใช้แรงคนวิ่งตามแรงม้าก็ตาม   มานี่มา มาเอาใบสั่งซะดีๆ   “ฉันคิดว่านั่นเป็นมอเตอร์ไซค์ซะอีก แต่ว่าไม่ใช่นั่นมันเป็นจักรยานนี่นา”  “ผู้ชายคนนั้นถูกจับกุมด้วยตำรวจกับจักรยานแม่บ้านของเขาหรอเนี่ย มันช่างน่าอายซะจริงๆ” “ว้าว จับรถแลมโบกินี่ได้จักรยานหรอเนี่ย ตำรวจคนนี้ควรจะได้รับเหรียญรางวัลจริงๆ”  นี่คือความเห็นบางส่วนจากชาวเน็ต และดูเหมือนว่าวิดีโออันนี้จะเป็นเครื่องเตือนภัยให้ชาวญี่ปุ่นไม่กล้าทำผิดกฎหมายอีกต่อไป…

  • ศิลปินวาดการ์ตูนบอกเล่าความสุขในชีวิตรัก ระหว่างเธอกับแฟนหนุ่ม และแมวเหมียว

    ศิลปินวาดการ์ตูนบอกเล่าความสุขในชีวิตรัก ระหว่างเธอกับแฟนหนุ่ม และแมวเหมียว <3

    คนทั่วไปมักจะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันด้วยถ้อยคำ ด้วยตัวหนังสือ แต่สำหรับศิลปินแล้ว พวกเขามักจะเล่าเรื่องราวผ่านสิ่งที่ถนัด นั่นก็คือภาพวาด เช่นเดียวกับ Mikiko ศิลปินชาวเยอรมัน – ญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในลอนดอน สหราชอาณาจักร เธอได้วาดภาพการ์ตูนเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเธอกับแมวเหมียว Emi ที่เธอรักมากที่สุดเลยก็ว่าได้   1. กว่าจะได้ภาพภาพหนึ่งมา มันไม่ง่ายนะ   Mikiko บอกว่า “ฉันเกิดที่โตเกียว โตที่ฮ่องกง เยอรมัน ญี่ปุ่น และเบลเยียม ดังนั้นภาพวาดของฉันจึงมีความสัมพันธ์กับสถานที่ที่ฉันเคยอยู่” “ฉันมักจะวาดรูปเสมอ แต่เมื่ออายุ 12 ปี ฉันได้อ่านนิตยสาร Shonen Jump ครั้งแรก และนั่นทำให้ฉันคิดขึ้นได้ว่าต้องวาดการ์ตูนเป็นการเป็นงานจริงๆ สักทีแล้วล่ะ” ด้วยเหตุนี้เธอจึงเริ่มวาดรูปเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้คน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวของเธอซะมากกว่า ซึ่งมีทั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว กับแฟนหนุ่ม และน้องแมวที่เธอรัก   2. เมื่ออยากเซลฟี่กับแฟนหนุ่ม   3. วันที่ฝนตกกับเจ้าเหมียว   4. เจ้าเหมียวผู้มีท่าเยอะซะเหลือเกิน จนเทียบกับขนมปังทรงต่างๆ ได้เลย   5. ความรู้สึกของเพื่อนที่ตัวสูงเมื่อต้องผ่านสภาพอากาศต่างๆ   6.…

  • เคล็ดลับอายุยืน!! คุณยายวัย 70 เผยว่าที่สุขภาพดีทุกวันนี้เพราะดูดปุ๊นมาเป็นเวลากว่า 50 ปี

    เคล็ดลับอายุยืน!! คุณยายวัย 70 เผยว่าที่สุขภาพดีทุกวันนี้เพราะดูดปุ๊นมาเป็นเวลากว่า 50 ปี

    สำหรับผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน ก็เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะต้องมีโรคภัยไข้เจ็บมาข้องแวะเยี่ยมเยียนอยู่เสมอๆ เนื่องจากความอายุเยอะและอวัยวะที่เริ่มเสื่อมไปตามกาลเวลา ซึ่งบางครั้งโรคภัยต่างๆ ก็เล่นงานซะจนต้องกินยาเป็นกำมือ ทว่ามีหญิงวัย 70 ปีคนหนึ่งได้ออกมาบอกว่า ทุกวันนี้เธอไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะแม้แต่เม็ดเดียว เพราะว่าเธอมีร่างกายที่ค่อนข้างแข็งแรง ซึ่งเป็นผลมาจากการสูบกัญชาติดต่อกันมากว่า 50 ปี!!   ปลูกไว้ในบ้านเลยละกัน   เรื่องราวสุดมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นกับ Carol Francey คุณยายวัย 70 ปีจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โดยเธอเผยว่าเธอได้ขว้างยาแผนปัจจุบันทิ้งลงถังขยะไปหมดแล้ว พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่ากัญชาสามารถทำให้เธอแข็งแรงขึ้น พร้อมทั้งยังรักษาโรคต่างๆ ที่เธอกำลังเผชิญอยู่ได้อีกด้วย สำหรับคุณยายคนนี้ในอดีตเธอเคยเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านยาเสพติด แต่ในปัจจุบันเธอได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ในการรณรงค์ให้กัญชากลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในประเทศแคนาดาให้ได้   ร่วมรณรงค์ให้กัญชาถูกกฎหมาย   “เราควรช่วยให้คนแก่หลายคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ กัญชาสามารถช่วยลดความวิตกกังวลต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้แล้วมันยังทำให้ใจเย็นขึ้นด้วย” Carol กล่าว ทั้งนี้ทั้งนั้นประเทศแคนาดา ก็มีแผนที่จะให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายในเดือนกรกฎาคมปี 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี้ อีกทั้งปัจจุบันในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีถึง 29 รัฐที่ยอมรับกัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายแล้ว โดยก่อนหน้านี้มีการศึกษาเรื่องของกัญชาก็พบว่า กัญชาไม่มีผลต่อระดับสติปัญญา (IQ) ของเด็กวัยรุ่น แถมยังสามารถช่วยในเรื่องจิตใจของผู้ป่วยโรคเอดส์ได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามการศึกษายังเผยอีกว่า กัญชาสามารถเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคไบโพล่าร์ อาการทางจิต และความดันเลือดสูงได้เช่นเดียวกัน   ปุ๊นกับยายไหมหลาน   สำหรับในตอนนี้เธอกล่าวเอาไว้ว่า เธอได้ปลูกกัญชาสายพันธุ์ต่างๆ…

  • ญี่ปุ่นจ้างคนไปยืนเป็นกำแพงสำหรับฟรีคิกเพียง 4 ชั่วโมง จ่ายเงินให้เกือบ 15,000 บาท!!

    ญี่ปุ่นจ้างคนไปยืนเป็นกำแพงสำหรับฟรีคิกเพียง 4 ชั่วโมง จ่ายเงินให้เกือบ 15,000 บาท!!

    หากคุณอยากหางานแปลกๆ ที่สามารถสร้างประสบการณ์ระดับเทพ พร้อมกับได้เงินไปด้วย ในตอนนี้ได้มีงานใหม่เกิดขึ้น และไม่ต้องใช้ความสามารถใดๆ เลย ขอให้มีความกล้าเท่านั้น เพราะว่าเพียงแค่คุณทนเจ็บเพียงเล็กน้อยจากการถูกลูกบอลเตะอัดในเวลาเพียง 4 ชั่วโมงคุณก็จะได้เงินไปใช้ถึง 50,000 เยน(ประมาณ 14,400 บาท) และอาจได้พบนักเตะระดับโลกอีกด้วยอย่าง Shunsuke Nakamura ด้วย!!   งานง่ายๆ แค่โดนบอลเตะอัดแค่นั้นเอง   งานสุดประหลาดนี้เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างแอพฯ หางานพาร์ทไทม์กับเว็บไซต์ข่าวฟุตบอลชื่อดังชื่อว่า Soccer King ที่ทำให้เกิดงานโหดมันฮางานนี้ขึ้น โดยรายละเอียดของงานนี้ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่ไปยืนนิ่งๆ เป็นกำแพงสำหรับการฝึกซ้อมยิงฟรีคิกของนักเตะ เพียงเท่านั้นก็จะได้รับเงิน 50,000 เยนไปนอนกอดอย่างสบายใจ เท่านั้นยังไม่พอหากมีครั้งใดที่โดนลูกบอลเตะอัด ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของร่างกายก็ตามก็จะได้รับโบนัสอีกลูกละกว่า 500 เยน ซึ่งหมายความว่าในเวลาเพียง 4 ชั่วโมงคุณอาจจะหาเงินได้มากกว่า 20,000 บาทเลยก็เป็นได้     งานอีเวนท์นี้จะมีการจัดขึ้นในวันที่ 11 มกราคมปีหน้าในเมืองอิวะตะ จังหวัดชิซุโอะกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีทีม Júbilo Iwata ทีมฟุตบอลชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ และสำหรับการสมัครเข้าร่วมจะสามารถสมัครเข้าร่วมได้ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2017…

  • เพื่อนบ้านเปลี่ยนกล่องจดหมายธรรมดาๆ เป็นกล่องจดหมายพะยูนสุดน่ารักน่าหยิก อุ๋ง อุ๋ง

    เพื่อนบ้านเปลี่ยนกล่องจดหมายธรรมดาๆ เป็นกล่องจดหมายพะยูนสุดน่ารักน่าหยิก อุ๋ง อุ๋ง

    การตกแต่งหน้าบ้านของบ้านแต่ละหลังก็จะแตกต่างกันออกไป โดยบางบ้านก็อาจจะมีน้ำพุหน้าบ้าน หรือบางหลังก็อาจจะมีสนามหญ้าพร้อมสวนสวยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่บ้านทุกหลังต้องมีอยู่บ้างแน่นอนก็มีกล่องจดหมาย ที่จะมีไว้เพื่อให้บุรุษไปรษณีย์คอยนำสิ่งของต่างๆ มาสอดทิ้งไว้ไม่ว่าจะเป็น พัสดุ จดหมายรัก หรือใบแจ้งหนี้ก็เป็นไปได้ ทว่าหากกล่องจดหมายที่เราเคยเห็นเป็นแบบกล่องแดงๆ มันน่าเบื่อไป บางคนก็อาจจะตกแต่งประดับประดามันด้วยดอกไม้สวยๆ หรือการดีไซน์แปลกๆ แต่คงไม่มีใครคิดถึงว่าจะมีคนเอาตุ๊กตาพะยูนไปยืนถือกล่องจดหมายแบบนี้ได้!!   น่ารักไหมล่ะ อุ๋งๆ   เรื่องราวของกล่องจดหมายพะยูนนี้ ได้ถูกเผยแพร่โดยทวิตเตอร์หนึ่งชื่อว่า @Marleyey โดยเธอเล่าว่าเธออาศัยอยู่ที่รัฐเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และเธอก็เห็นว่าเพื่อนบ้านของเธอมีกล่องจดหมายพะยูนสุดน่ารักอันนี้มาตั้งแต่ปี 2012 แล้ว ด้วยความน่ารักของสัตว์อุ๋งๆ ตัวนี้ทำให้ครั้งหนึ่งมันเคยถูกขโมยไป ก่อนที่มันจะกลับมาอีกครั้งในภายหลัง และเมื่อเพื่อนบ้านของเธอได้รับเจ้าพะยูนตัวนี้กลับคืนมา เธอก็ดูแลมันเป็นอย่างดีโดยได้ตกแต่งชุดต่างๆ ในทุกๆ เทศกาล ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับผู้คนที่ได้พบเห็น   ใครเจอเป็นอันต้องยอมให้ความแบ๊วนี้   สำหรับในตอนนี้ เจ้ากล่องจดหมายพะยูนตัวนี้ก็ได้มีวางขายแล้วในราคาเพียง 600 ดอลลาร์สหรัฐ (19,600 บาท) เท่านั้น หากใครอยากจะมีหน้าบ้านที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้เหมือนบ้านหลังนี้ก็สามารถหาซื้อกันได้ที่ manateemailboxes กันเลย   กันฝนซะหน่อย เดี๋ยวจะไม่สบาย   ไปรษณีย์จะกล้ามาหย่อนจดหมายไหมเนี่ย   น่ารักคิคุอาโนเนะ   ต้อนรับคริสต์มาสซะหน่อย   สิ่งของสุดน่ารักเหล่านี้ทำให้ชีวิตดูน่าสนุกขึ้นไปอีก…

  • อุ๊บะ!! อัศจรรย์เด็กน้อยถือกำเนิด หลังจากเป็นตัวอ่อนเอ็มบริโอที่ถูกแช่แข็งมานานกว่า 25 ปี

    อุ๊บะ!! อัศจรรย์เด็กน้อยถือกำเนิด หลังจากเป็นตัวอ่อนเอ็มบริโอที่ถูกแช่แข็งมานานกว่า 25 ปี

    การตั้งครรภ์หรือการมีลูก เป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับคู่รักเป็นอย่างมาก เพราะว่าพวกเขาจะได้มีโอกาสทำให้อีกหนึ่งชีวิตสามารถกำเนิดขึ้นมาบนโลกอันสวยงามใบนี้ ทว่าก็มีบางคู่ที่อยากจะมีลูกใจจะขาด แต่ด้วยภาวะทางร่างกายบางอย่างส่งผลให้ความฝันของพวกเขาล่มสลายลงในพริบตา Tina และ Benjamin Gibson คู่รักคู่หนึ่งจากรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เป็นอีกคู่หนึ่งเช่นกันที่ประสบปัญหาการมีลูกยาก แต่ด้วยวิทยาการสมัยใหม่ทำให้คู่นี้สามารถมีลูกได้สมใจหมายด้วยวิธีการฝังเอ็มบริโอเข้าไปที่มดลูกซะเลย!!     คู่รักคู่นี้ได้แต่งงานกันมาแล้วเป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว แต่เนื่องจากผู้เป็นสามีชื่อว่า Benjamin ได้ประสบปัญหาป่วยทางด้านสุขภาพที่มาจากพันธุกรรมทำให้คู่รักคู่นี้ไม่สามารถมีลูกได้ด้วยวิธีการทางธรรมชาติ รวมถึงฝ่ายหญิงก็มีปัญหาจากปัจจัยอื่นๆ เช่นเดียวกัน ก่อนหน้าที่จะมีการให้กำเนิดเด็กคนนี้ลืมตาขึ้นมาดูโลก คู่รักคู่นี้เล่าให้ฟังว่าทั้งคู่ประสบภาวะการมีลูกยากและได้ลองมาหลายวิธีจนแทบจะถอดใจ ทว่าเมื่อได้ยินเรื่องการตั้งครรภ์ด้วยการฝังเอ็มบริโอทั้งคู่ก็มีความหวังขึ้นมาอีกทันทีและก็ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี     เด็กที่เกิดมาจากครรภ์ของ Tina นั้นครอบครัวนี้ได้ตั้งชื่อให้ว่า Emma Wren สำหรับเด็กคนนี้เป็นเอ็มบริโอที่ได้รับการบริจาคมาตั้งแต่ปี 1992 และได้ฝากไว้ที่ศูนย์รับบริจาคเอ็มบริโอแห่งชาติมาเป็นเวลามานานเป็นเวลาถึง 25 ปี เท้าความถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม Tina ได้รับการฝังตัวเอ็มบริโอเข้ากับมดลูกของเธอ โดยมีวิธีการเดียวกับการปฏิสนธินอกร่างกายหรือว่าเด็กหลอดแก้วนั่นเอง     และเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากเอ็มบริโอได้เจริญเติบโตในท้องของ Tina มานานกว่า 40 สัปดาห์ในที่สุดเด็กคนนี้ก็ได้ถือกำเนิดออกมาด้วยวิธีการคลอดแบบธรรมชาติ ซึ่งผลก็ปรากฏออกมาว่าเด็กที่คลอดมาเป็นเพศหญิงที่มีน้ำหนักตัวตอนคลอด 2.7 กิโลกรัม และไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับเอ็มบริโอนั้นคือตัวอ่อนของสิ่งมีชีวิตในระยะแรกเริ่ม ซึ่งในมนุษย์นั้นระยะเอ็มบริโอจะเริ่มตั้งแต่มีการปฏิสนธิของเชื้ออสุจิเข้ากับไข่ จนกระทั่งสิ้นสุดสัปดาห์ที่ 8…

  • งี้ก็ได้เหรอ!? คู่รักมอสโกนัวกันบนแท็กซี่ แถมขอให้คนขับลงจากรถไปด้วย

    งี้ก็ได้เหรอ!? คู่รักมอสโกนัวกันบนแท็กซี่ แถมขอให้คนขับลงจากรถไปด้วย

    การแสดงความรักของคู่รักกันนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าพวกเขาใส่ใจกัน และรักอีกฝ่ายมาก บางครั้งการที่เราผ่านไปเห็นฉากแสดงความรักแบบที่ทั้งคู่กอดกัน หรือจุ๊บกันเบาๆ จึงดูน่ารักน่าเอ็นดูนัก อย่างไรก็ตาม ก่อนจะแสดงความรักต่อแฟน เราก็ควรจะดูบริบทด้วยว่าพฤติกรรมที่กระทำกันนั้นดูเหมาะสมหรือไม่ และอยู่ในสถานที่ที่สมควรทำหรือเปล่า ไม่เช่นนั้นอาจจะเดือดร้อนตนเองและคนอื่นก็ได้   คู่รักชายหญิงรัสเซียคู่หนึ่ง เรียกแท็กซี่เพื่อให้ไปส่งที่บ้าน หลังจากกลับจากการเที่ยว พอได้แท็กซี่แล้ว พวกเขาก็ขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังตามปกติ คนขับจึงออกรถไปยังที่พักของพวกเขา แต่หลังจากที่คนขับคนรถแท็กซี่ขับรถออกมาได้สักพัก คู่รักที่นั่งอยู่เบาะหลังก็เริ่มแสดงความรักต่อกัน คนขับก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะคงมีบ้างที่ลูกค้าคู่รักจะกอดหรือหอมกันระหว่างทางบ้าง แต่คู่รักคู่นี้ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น พวกเขานัวเนียกันอย่างเมามันส์ และฝ่ายผู้หญิงยังขึ้นคร่อมฝ่ายชาย ดูพร้อมที่จะเสพสวาทกันเหลือเกิน คนขับเหลือบไปเห็นดังนั้นในตอนแรกก็มีอาการเขินอาย และหันหน้าหนีทันที     คู่รักคู่นี้ยังคงนัวเนียกันต่อไปเรื่อยๆ แต่ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ชายคนขับแท็กซี่คนนี้เป็นวิดีโอบล็อกเกอร์ ที่มีคนติดตามดูอยู่ในแชแนลยูทูบ ซึ่งเขาเป็นที่รู้จักในชื่อ Hardworking Cab Driver ดังนั้นสิ่งที่คู่รักกำลังทำอยู่ทั้งหมด จึงถูกจับภาพไว้โดยกล้องจากหน้ารถคนขับเรียบร้อยแล้ว พอผ่านไปสักพักหนึ่งคู่รักคงจะอยากนัวเนียกันให้เสร็จสมอารมณ์หมาย  พวกเขาจึงขอให้คนจับแท็กซี่ลงไปจากรถสัก 10 นาทีเพื่อที่พวกเขาจะได้มีความเป็นส่วนตัวและดำเนินกิจกรรมฉาวโฉ่นี้ต่อไป พอคนขับแท็กซี่ได้ยินดังนั้น เขาก็ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมฉาวโฉ่ของชายหญิงคู่นี้ เขาตอบกลับไปว่า “คิดบ้าอะไรของคุณเนี่ย ให้ผมออกไปรถของตัวเอง เพื่อให้พวกคุณเอากันในรถเนี่ยนะ ลงไปหาที่อื่นทำกันเองเถอะ” พอพูดจบ เขาก็ขอให้ทั้งคู่ลงไปจากรถทันที   หลังจากที่คู่รักจ่ายค่าโดยสาร และลงจากรถไปแล้ว คนขับแท็กซี่ก็ได้หันมาระบายอารมณ์กับกล้องต่อทันที…

  • ผู้เชี่ยวชาญเผย 6 เหตุผลว่าทำไม คุณถึงไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกวันในฤดูหนาว

    ผู้เชี่ยวชาญเผย 6 เหตุผลว่าทำไม คุณถึงไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกวันในฤดูหนาว

    การอาบน้ำนั้นถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักที่เราทุกคนล้วนทำกันอย่างน้อยวันละ 1 ถึง 2 ครั้ง เพราะเรารู้สึกว่าการอาบน้ำนั้นมันสำคัญ มันช่วยทำให้ร่างกายเราสะอาดและยังทำให้รู้สึกสดชื่นอีกด้วย แต่อย่างที่เรารู้กันว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเจอกับอากาศที่หนาวเย็น หนาวมากจนเราไม่คาดคิดว่ามันจะมาถึงขั้นนี้ได้ จนทำให้หลายคนรู้สึกว่าเราไม่อยากจะอาบน้ำในตอนเช้าเลย ยิ่งกับน้ำเย็นด้วยแล้วมันให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังพาตัวเองเข้าสู่สนามรบเลยทีเดียว ฉะนั้นถ้าใครไม่อยากไปรบในสงครามเย็น แล้วไม่รู้จะหาเหตุผลไหนมาอ้างการอาบน้ำตอนเช้า #เหมียวมู่ทู่ มีทางออก กับ 5 สาเหตุที่คุณไม่จำเป็นต้องอาบน้ำ ที่ได้รับการยืนยันโดยผู้เชี่ยวชาญ!!   1. มันดีหรือไม่ ที่จะอาบน้ำทุกวันในฤดูหนาว? หลายๆ คนมักจะมีข้ออ้างเพื่อหลบเลี่ยงการอาบน้ำอยู่เสมอโดยเฉพาะในตอนเช้าของช่วงฤดูหนาว แต่เอาจริงๆ แล้วข้ออ้างนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วก็ได้ เพราะเหล่าผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังจากทั่วโลก ได้บอกเอาไว้ว่าการอาบน้ำในทุกๆ วันนั้นมันมากเกินความจำเป็น ทำให้สามารถส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงกับผิวหนังของเราได้ (เพราะฉะนั้นอาบแค่วันละครั้งก็พอ)   2. เพราะคุณไม่ได้สกปรก Dr. Ranella Hirsc จากมหาวิทยาลัยบอสตันซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังบอกว่า ที่เราต้องอาบน้ำทุกวันนั้นมีเหตุผลมาจากการเข้าสังคมมากกว่าที่ร่างกายเราสกปรกซะอีก ฉะนั้นถ้าเราไม่สกปรก ตัวเปื้อนโคลน ไม่ได้ไปยิมทุกวัน หรือเหงื่อออกมากๆ ก็ไม่จำเป็นต้องอาบก็ได้   3. ผิวคุณจะแห้ง การอาบน้ำในฤดูหนาวคุณะต้องเปิดน้ำอุ่นอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ? แต่หารู้ไม่ว่ามันจะทำให้ผิวของคุณหยาบและแห้งมากๆ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย   4. ร่างกายของคุณต้องการแบคทีเรีย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังได้ให้ข้อมูลว่า…

  • คุณยายหวังดีเห็นกางเกงยีนของหลานขาด ก็เลยเย็บซ่อมให้ จนชาวเน็ตหลงรัก

    คุณยายหวังดีเห็นกางเกงยีนของหลานขาด ก็เลยเย็บซ่อมให้ จนชาวเน็ตหลงรัก

    เมื่อพูดถึงกางเกงยีน เราก็มักจะนึกแฟชั่นกางเกงขาดๆ ที่หลายคนชื่นชอบ แน่นอนว่าถ้าเป็นกลุ่มคนในยุคปัจจุบัน เวลาเราเห็นยีนที่ขาดเราก็จะเข้าใจได้ทันทีว่านั่นคือแฟชั่น ไม่ใช่ขาดเพราะชำรุดแน่ๆ แต่ทว่าสำหรับคุณยายชาวญี่ปุ่นคนนี้กลับไม่คิดแบบนั้น เพราะเมื่อเธอมองเห็นแฟชั่นยีนขาดๆ ของหลานสาวเธอก็หวังดีคิดว่ากางเกงของหลานชำรุด เธอเลยจัดการหยิบมันมาซ่อมซะเลย     Enter Shizu คือคุณยายชาวญี่ปุ่นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ โดยมันถูกบอกเล่าผ่านทวิตเตอร์ของหลานสาวที่ชื่อ Tomomi ซึ่งเธอเล่าว่าตัวเธอได้ถอดกางเกงยีนแฟชั่นขาดๆ ของเธอไว้ที่บ้าน จากนั้นก็ใส่ชุดอื่นไปทำงาน แต่พอกลับมาเธอก็พบว่ากางเกงยีนของเธอได้หายไป จนกระทั่งเธอได้เจอกับคุณยาย Shizu ซึ่งคุณยายเดินมาบอกหลานสาวด้วยความเป็นห่วงว่า “หลานสามารถใส่กางเกงนี้ไปไหนมาไหนได้แล้วนะ ไม่ต้องห่วง ยายซ่อมให้แล้ว”     งานนี้ Tomomi ถึงกับบอกว่าเธอยิ้มไม่หยุดเลยทีเดียว เพราะความน่ารักและผลงานของคุณยายมันบ่งบอกถึงความรักที่เธอส่งผ่านออกมาจริงๆ ไม่เชื่อลองดูผลงานการเย็บอันแสนเพอร์เฟกต์นี่ซะก่อน…   คือคุณยายแกทำได้เนี๊ยบสุดๆ   หรือว่านี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นกระแสใหม่ให้กับแฟชั่นกางเกงยีนขาดๆ ก็ได้ เปลี่ยนจากยีนที่ขาดและมีเส้นด้ายขาดๆ เป็นเย็บให้สวยงาม ซึ่งมันก็ดูดีไม่หยอกเลยทีเดียว เรื่องราวจากทวิตเตอร์ของ Tomomi นั้นได้รับความนิยมจากชาวเน็ตมากๆ ซึ่งมีการรีทวีตไปแล้วมากกว่า 71,000 ครั้ง แถมทุกคนก็ล้วนชมในความน่ารักของคุณยาย Shizu กันยกใหญ่เลยด้วย   นี่แหละความรักของคุณยาย   ได้โปรดใส่มันต่อไปนะ เพราะมันเป็นความตั้งใจของคุณยาย และก็หวังว่าคุณยายจะอายุยืนและอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป…

  • ร้านคาเฟ่ในญี่ปุ่น รับสมัครพนักงานสาวที่ ‘ไม่แต่งหน้า’ มาทำงาน เพื่อชูความงามแบบธรรมชาติ

    ร้านคาเฟ่ในญี่ปุ่น รับสมัครพนักงานสาวที่ ‘ไม่แต่งหน้า’ มาทำงาน เพื่อชูความงามแบบธรรมชาติ

    ผู้หญิงอย่าหยุดสวย คำพูดที่ใช้กระตุ้นตัวเองของเหล่าสาวๆ ที่ผลักดันให้พวกเธอก้าวไปข้างหน้า เพื่อใบหน้าและร่างกายอันงดงามของพวกเธอ โดยเฉพาะใบหน้าที่ทุกคนก็จัดเต็มด้วยเครื่องสำอางเพื่อให้ดูดีที่สุด แต่สาวๆ เคยคิดไหมว่าบางครั้ง ความงามแบบธรรมชาติก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีดึงดูดเพศตรงข้ามและสร้างความสนใจได้ดีไม่น้อยเช่นกัน     ด้วยเหตุนี้ร้านกาแฟในญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Naturalia จึงใช้แนวคิดดังกล่าวมาดึงดูดลูกค้าที่ชอบในความงามแบบธรรมชาติ โดยการเปิดรับสมัครพนักงานที่ไม่แต่งหน้าเข้ามาทำงาน หรืออาจจะแต่งให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ร้านกาแฟดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ในเมืองซัปโปะโระ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าของร้านได้บอกถึงเหตุผลของการจ้างลูกจ้างประเภทดังกล่าวว่า “แน่นอนว่าหญิงสาวทุกคนล้วนมีความงามของตัวเองอยู่ แต่ส่วนใหญ่ก็จะทำผมสีทอง ทำเล็บจัดเต็ม และบางคนก็ยังสูบบุหรี่อีก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่บางครั้งเราก็ต้องการความเป็นธรรมชาติบ้างเช่นกัน”     ล่าสุดทางเจ้าของร้านยังอยากจะขยายสาขาเพิ่มเติมไปยังย่านชิบุยะ ในกรุงโตเกียวและในย่านนิปปอนบาชิ จังหวัดโอซะกะ งานนี้เธอก็เลยจัดการเปิดระดมทุนเพื่อขยายสาขาผ่านเว็บไซต์ camp-fire เพื่อช่วยสมทบทุนไปขยายสาขาที่ย่านดังกล่าวนั่นเอง ผู้ร่วมลงทุนก็จะได้รับของตอบแทนเยอะแยะมากมายตามแต่จำนวนเงินที่ลงทุนไป โดยจะมีค่าร่วมลงทุนต่ำสุดอยู่ที่ 3,000 เยน หรือเป็นเงินไทยก็ราว 870 บาท ส่วนยอดสูงสุดที่ร่วมลงทุนได้จะอยู่ที่ 300,000 เยน ตีเป็นเงินไทยก็ราว 87,000 บาท ซึ่งยอดสูงสุดจะได้ของตอบแทนเป็นตั๋วเข้าใช้บริการร้านแบบพิเศษนั่นเอง     เอาเป็นว่าถ้าใครชอบสาวๆ แต่งหน้าน้อยๆ หรือแบบไม่แต่งหน้าเลยเน้นความเป็นธรรมชาติ ร้านกาแฟแห่งนี้ตอบโจทย์ของคุณแน่นอน ใครสนใจสามารถไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของร้านที่ s-naturalia ได้เลย   ที่มา nextshark,camp-fire

  • แม้ในบทเจไดเขาจะห้ามมีความรัก แต่นอกจอความรักของ Luke กลับหวานแหววและยืนยาวสุดๆ

    แม้ในบทเจไดเขาจะห้ามมีความรัก แต่นอกจอความรักของ Luke กลับหวานแหววและยืนยาวสุดๆ

    ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการกลับมาของหนังภาคต่อ Star Wars: The Last Jedi หรือบางคนก็อาจจะโมโหที่มันไม่ค่อยถูกใจ แต่รู้ไหมว่าในเวลาเดียวกันปรมาจารย์เจได Luke Skywalker ก็กำลังปลาบปลื้มกับช่วงเวลาดีๆ ของเขา… เพราะว่าในช่วงเวลาไล่ๆ กันกับหนังฉายนั้นก็เป็นวันครบรอบแต่งงานของ Mark Hamill ชายผู้รับบท  Luke Skywalker นั่นเอง และแม้ว่าในบทดังกล่าวจะมีกฎห้ามแต่งงาน แต่ชีวิตจริงพลังฟอร์ซของเขากลับกล้าแกร่งยิ่งขึ้นเมื่ออยู่กับภรรยาของเขา   .   Mark Hamill นั้นได้สมรสกับ Marilou York หญิงสาวผู้ทำอาชีพเป็นทันตานามัยในเมืองลอสแอนเจลลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทั้งคู่ได้สมรสกันมาแล้วถึง 39 ปี!! ปัจจุบันทั้งคู่นั้นมีชีวิตที่สมหวังสุดๆ โดยทั้งคู่ประกาศแต่งงานกันเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 1978 ซึ่งในตอนนั้น Mark มีอายุ 26 ปี ส่วน Marilou มีอายุ 23 ปี ต่อมาพวกเขาก็มีลูกด้วยกัน 3 คน…  …

  • คุณพ่อกลัวว่าลูกจะลืมท่าเต้น เลยไปเต้นอยู่หลังเวทีให้ลูกดู เอาใจช่วยสุดๆ

    คุณพ่อกลัวว่าลูกจะลืมท่าเต้น เลยไปเต้นอยู่หลังเวทีให้ลูกดู เอาใจช่วยสุดๆ

    ยังจำได้ไหม ตอนเด็กๆ เวลาที่เราจะทำกิจกรรมของโรงเรียนอย่างเช่น เต้น แสดงละครอะไรต่างๆ มักจะมีพ่อแม่ไปให้กำลังใจอยู่เสมอ ซึ่งในตอนที่เราเป็นเด็กนั้นเราจะรู้สึกดีใจมากที่มีพ่อแม่มาดู อีกอย่างที่ดีไปกว่านั้นก็คือการได้ของเล่นเป็นรางวัลหลังจากที่แสดงเสร็จ มันช่างเป็นอะไรที่ฟินซะเหลือเกิน พูดถึงเรื่องพ่อแม่ นี่ต้องยกรางวัลพ่อดีเด่นให้กับคุณ Acers Gill เลยนะ กับผลงานสุดเยี่ยมที่เล่นใหญ่ จัดหนักเพื่อลูกสาวสุดที่รักแบบไม่ยอมอายเลยทีเดียว คลิปวิดีโอสุดน่ารักนี้ถูกโพสต์โดย Jennifer Michelle Gaines เป็นคลิปวิดีโอที่คุณพ่อ Acers กำลังเต้นตามลูกสาววัย 2 ขวบอยู่หลังเวทีการแสดงในงานโรงเรียน Kiddle Kaper &Company Dance Programme ถึงแม้จะบนเวทีจะมีคุณครูคอยยืนเต้นคู่กับหนูน้อยแล้ว แต่คุณพ่อก็ยังอยากให้การแสดงโชว์ของลูกสาวออกมาดีที่สุดจึงได้เต้นเป็นกำลังใจให้หลังเวที   พ่อกับลูกนี่ใครป่วนกว่ากันเนี่ย   ย่อลูก ย่อ   อ้าว ผิดทาง   ท่านี้ยากและ   เขาไปท่าอื่นแล้วคุณลูก   รู้สึกว่าคุณพ่อจะเล่นใหญ่กว่าคุณลูกอีกนะเนี่ย ถ้าเต้นแทนได้คงเต้นแทนไปแล้วมั้ง คุณพ่อขา ฮ่าๆ…   ที่มา inspiremore

  • ชายหนุ่มกลัวน้องหมาน้อยใจที่บ้านแคบ เลยสร้างห้องส่วนตัวให้มันใต้บันได น่าอยู่จริงจริ๊งงงง

    ชายหนุ่มกลัวน้องหมาน้อยใจที่บ้านแคบ เลยสร้างห้องส่วนตัวให้มันใต้บันได น่าอยู่จริงจริ๊งงงง

    ถ้าบ้านใครเลี้ยงสัตว์ละก็ คงจะรู้ดีว่าเจ้าตัวน้อยของเราเอง มักจะหาที่พักผ่อนประจำตัวของมันไว้สักที่ในบริเวณบ้าน เพราะพวกมันเองก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองเช่นกัน แต่ถ้าหากว่าบ้านของคุณค่อนข้างคับแคบ จนเจ้าตัวเล็กแทบจะไม่มีที่วิ่งเล่นด้วยซ้ำล่ะ แล้วแบบนี้มันจะไปหาที่ส่วนตัวๆ ได้ยังไงกัน ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ประสบปัญหานี้ไม่ยอมให้พื้นที่แคบๆ มาแย่งความเป็นส่วนตัวของสัตว์เลี้ยงแสนรักไป จึงตัดสินใจดัดแปลงบ้านเองซะเลย   ผมชื่อ Hennessy ฮะ   หนุ่มคนนี้ชื่อว่า David Maceo เขาเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่กับภรรยา และเจ้า Hennessy สุนัขตัวน้อย ทว่าบ้านใหม่หลังนี้มีพื้นที่ไม่กว้างขวางเท่าไร เขาเลยรู้สึกว่าไอ้ตัวแสบของเขาคงไม่มีที่ไว้วิ่งเล่น จึงอยากทำห้องส่วนตัวให้มันอยู่เพื่อเป็นการชดเชย David บอกว่า “ผมรู้สึกแย่นะที่เราไม่มีที่ให้มันเล่นซนเลย เพราะงั้นผมก็เลยคิดว่าจะทำห้องส่วนตัวให้มันอยู่ในบ้านใหม่” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่บ้านมันก็แคบอยู่แล้วเลยไม่รู้จะทำห้องให้มันตรงไหนน่ะสิ โชคดีที่ David เหลือบไปเห็นมุมมุมหนึ่งซึ่งอาจจะพอทำเป็นห้องให้มันได้ นั่นคือบริเวณใต้บันไดนั่นเอง   หืม … ใต้บันไดมันดูขนาดใช้ได้นะ จะทำห้องได้รึเปล่าน้อ   ไหนลองเจาะดูซิว่าข้างในมันกว้างขนาดไหน   เขาคิดว่าใต้บันไดอาจจะมีพื้นที่โล่งๆ พอสำหรับให้เจ้า Hennessy อยู่ พอคิดได้แบบนั้นเขาก็เริ่มเจาะสำรวจใต้บันไดเพื่อสำรวจทันที และเหมือนโชคจะเข้าข้างเขา เพราะข้างใต้บันไดนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆ เหมาะจะใช้เป็นบ้านให้เจ้าตัวเล็กพอดีเลย จากนั้นเขาก็เลยเจาะใต้บันไดทั้งหมด เพื่อเตรียมทำห้องเล็กๆ ไว้ตรงนั้น เขาทำผนังทั้งหมด และท่าทีไว้อย่างประณีต…

  • สาวโอตาคุเล่า โดนชายแปลกหน้าก็ขอตรวจกระเป๋า หวังยัดพวงกุญแจใส่ ดีที่ไหวตัวทัน

    สาวโอตาคุเล่า โดนชายแปลกหน้าก็ขอตรวจกระเป๋า หวังยัดพวงกุญแจใส่ ดีที่ไหวตัวทัน

    ในบางครั้ง เวลาที่เราต้องเข้าไปในสถานที่อย่างสนามบินหรือสถานีรถไฟฟ้า ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจกระเป๋าเราว่ามีของอันตรายติดมาด้วยหรือไม่ แม้แต่ร้านหนังสือหรือร้านขายของทั่วไป บางครั้งก็ขอตรวจกระเป๋าเพื่อป้องกันการลักขโมยเช่นกัน แต่อย่าได้ชะล่าใจปล่อยให้พวกเขาตรวจกระเป๋าของคุณ เพียงเพราะเห็นว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ เราควรจับตามองการตรวจอย่างใกล้ชิด เพราะแม้ว่าเราจะไม่ได้นำอะไรผิดแปลกติดกระเป๋ามาด้วย แต่อาจจะมีคนพยายามยัดเยียดของเหล่านั้นใส่กระเป๋าเราก็เป็นได้     สาวน้อยคนหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์ที่เธอเคยเจอมา โดยตัวเธอนั้นเป็นโอตาคุหรือก็คือผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนมากเป็นพิเศษนั่นแหละ เธอจึงออกไปซื้อของสะสมในร้านค้าตามปกติ แต่ระหว่างทางกลับบ้านนั้น เธอเกือบถูกมิจฉาชีพหลอกเอาซะแล้ว “ฉันเพิ่งเจอเรื่องนี้มากับตัว เลยอยากมาเตือนทุกคนให้ระวังไว้ ตอนนั้นฉันเพิ่งซื้อของจากร้าน Surugaya แถวบ้านเสร็จ เมื่อฉันออกมาจากร้านก็มีผู้ชายอายุประมาณ 40 ปี ตามฉันมาแล้วขอตรวจกระเป๋าของฉัน” “ฉันจึงให้เขาตรวจกระเป๋า ระหว่างนั้นเขาก็พูดว่า ‘ช่วงนี้มักมีคนขโมยของจากร้านบ่อยๆ เลยต้องขอตรวจไว้ก่อน’ แต่ฉันก็เหลือบไปทันเห็นพอดีว่าระหว่างที่เขาพูดด้วย เขากำลังจะเอาพวงกุญแจตัวการ์ตูนมายัดใส่กระเป๋าฉัน”     เธอเล่าต่อว่า “ฉันรีบทักทันทีว่า ‘นั่นเธอแอบเอาอะไรใส่ในกระเป๋าฉันน่ะ ฉันจะเรียกตำรวจเดี๋ยวนี้เลย’ พอเขาได้ยินอย่างนั้นก็มีท่าทีร้อนรนขึ้นมา แล้วพอฉันเผลอ เขาก็คว้าพวงกุญแจอันนั้นแล้ววิ่งหนีไปอย่างไวเลย ส่วนฉัน พอได้สติก็รีบวิ่งกลับไปที่ร้านค้า แล้วเล่าเรื่องนี้ให้พนักงานที่ร้านฟัง เผื่อว่าเขาจะทำแบบนี้กับลูกค้าคนอื่นอีกทางร้านค้าจะได้ไหวตัวทัน ทุกคนที่ได้อ่านก็ระวังตัวไว้ด้วยนะ” หากฟังเรื่องราวผ่านๆ ก็อาจจะเกิดความสงสัยว่า เธอได้พวงกุญแจฟรีๆ มันไม่ดีตรงไหน แต่ดูจากการกระทำและท่าทีของชายคนนั้นแล้ว เขาคงไม่ได้จะให้ของขวัญกับเธอหรอก ชาวเน็ตหลายคนก็พอจะตีความได้แบบนี้เช่นกัน    …

  • ชาวบ้านกลัวนกถ่ายใส่รถหรู เลยเอาหนามเทียมมาติดบนต้นไม้ เพื่อกันไม่ให้นกมาเกาะ

    ชาวบ้านกลัวนกถ่ายใส่รถหรู เลยเอาหนามเทียมมาติดบนต้นไม้ เพื่อกันไม่ให้นกมาเกาะ

    เวลาที่ต้องไปทำธุระข้างนอกบ้าน ทุกที่ไม่ได้มีบริการโรงจอดรถไว้ให้เราตลอด บางครั้งเราจึงจำเป็นต้องขับรถไปจอดไว้ใต้ต้นไม้ข้างทาง และทิ้งไว้เป็นเวลานาน จึงไม่แปลกหากกลับมาจะพบว่านกที่เกาะอยู่บนต้นไม้ ทิ้งร่องรอยเป็นขี้นกไว้บนรถ ชาวบ้านในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเขตคลิฟตัน เมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน เพราะที่จอดรถของพวกเขาเป็นที่โล่งซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ตั้งอยู่ นกจึงขี้ใส่รถเป็นประจำ แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการให้รถราคาแพงต้องมาเปื้อนขี้นก จึงได้คิดวิธีแก้ปัญหาแบบใหม่ขึ้นมา โดยพวกเขาได้เอาหนามเทียมที่ปกติติดไว้ไล่นกตามกำแพง ขึ้นไปติดไว้บนกิ่งของต้นไม้ใหญ่ตรงที่จอดรถ     ชาวบ้านที่ว่านี้อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ Essendene House และ Heathfield House พวกเขาได้นำหนามเทียม ไปติดไว้บนกิ่งไม้ที่อยู่เหนือที่จอดรถทุกกิ่ง และแต่ละกิ่งก็ติดไล่ตั้งแต่ตรงโคนกิ่งไล่ไปจนถึงสุดปลายกิ่งเลย ด้วยความหวังว่านกจะไม่มาเกาะและขี้ใส่รถอีก หนามเทียมเหล่านี้ดูเหมือนจะใช้ได้ผลดีซะด้วย เพราะพอติดไว้แล้ว นกก็ไม่มาเกาะบนต้นไม้ต้นนี้อีกเลย ชาวบ้านในละแวกนั้นจึงไม่ต้องกังวลอีกว่านกจะมาขี้ใส่รถของพวกเขา แต่กลุ่มนักอนุรักษ์ธรรมชาตินั้นไม่เห็นด้วย ที่นำหนามเทียมมาติดไว้บนต้นไม้แบบนี้ เพราะแม้ว่ามันจะแก้ปัญหาเรื่องนกขี้ใส่ได้ แต่นั่นก็ส่งผลให้นกไม่สามารถมาเกาะพัก และทำรังบนต้นไม้ได้ด้วย     Paula O’Rourke สมาชิกของกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติ ได้ออกมาพูดในฐานะตัวแทนของคนในชุมชนนั้นว่า “ฉันรู้ดีว่าเจ้าของที่ดินอาจจะมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้ เพราะต้นไม้ต้นนั้นก็อยู่บนที่ดินของเขา แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้องอยู่ดี” เธอยังเสริมอีกว่า “ถึงแม้เขาจะมีสิทธิ์ทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม แต่ว่าหนามเหล่านี้เป็นภาพขัดตามาก ทำไมเราต้องเห็นมนุษย์มาดัดแปลงต้นไม้จนนกไม่สามารถอาศัยอยู่ได้”     ทางผู้อยู่อาศัยในอพาร์ตเมนต์เอง เมื่อเห็นกลุ่มนักอนุรักษ์ธรรมชาติออกมาต่อต้าน จึงได้ออกมาให้คำชี้แจ้งกับเหตุการณ์นี้ว่า “เราเพียงแค่เอานามเทียมมาติดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้นกมาขี้ใส่รถเท่านั้น ถ้าไม่ทำอย่างนั้น…

  • ช่างภาพสร้างสรรค์ผลงาน ‘ตัวเองในอุดมคติ’ ของเหล่าอาสาสมัครจากการอ่านคลื่นสมอง

    ช่างภาพสร้างสรรค์ผลงาน ‘ตัวเองในอุดมคติ’ ของเหล่าอาสาสมัครจากการอ่านคลื่นสมอง

    คนเราถึงแม้ว่าจะรู้สึกพอใจในหน้าตาของตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องมีรายละเอียดอย่างน้อยสักหนึ่งอย่าง ที่เราคิดว่าถ้าเกิดเปลี่ยนไปแล้วจะทำให้เรารู้สึกพอใจมากขึ้น เพราะลึกๆ แล้วมนุษย์ทุกคนก็อยากจะให้ตัวเองดูสมบูรณ์แบบและไร้ซึ่งจุดบกพร่องใดๆ ช่างภาพ Scott Chasserot อยากรู้ว่าใบหน้าในอุดมคติของแต่ละคนนั้น จะต่างจากใบหน้าจริงๆ มากเพียงใด เขาจึงได้ทำโปรเจกต์ขึ้นมาเพื่อสร้างภาพใบหน้าในอุดมคติขึ้น     โปรเจกต์ของเขานั้น เริ่มต้นจากการหาอาสาสมัครมาส่วนหนึ่ง ที่เต็มใจจะให้เขาสร้างภาพใบหน้าในอุดมคติของพวกเขาขึ้นมา และให้พวกเขาไว้เพื่อใช้เป็นรูปต้นแบบ โดยเขาถ่ายรูปอาสาสมัครตั้งแต่ช่วงอกขึ้นมา ให้เห็นใบหน้าชัดเจนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาจึงขอให้อาสาสมัครเก็บผมให้เรียบร้อย ไม่ต้องใส่เครื่องประดับ และไม่ต้องแต่งหน้าเลย     จากนั้นเขาจึงนำภาพเหล่านั้นมาผ่านโปรแกรมตัดต่อ โดยเขาตัดต่อภาพของคนคนหนึ่งไว้หลากหลายแบบ ในแต่ละแบบก็จะตัดต่อให้มีรูปร่างหน้าตาสวยงามตามค่านิยมความสวยงามในยุคสมัยนี้ เช่น ตัดต่อให้มีใบหน้าเล็ก ตัดต่อให้ดวงตาดูโต ทำให้จมูกดูโด่งขึ้น เป็นต้น   เครื่อง EEG   ในขั้นตอนต่อมา เขาจะให้อาสาสมัครแต่ละท่านสวมเครื่อง Electroencephalography (EEG) ซึ่งเป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้อ่านค่าคลื่นไฟฟ้าในสมอง แล้วเขาจึงให้อาสาสมัครดูรูปภาพที่เขาตัดต่อไว้ เขาจะเก็บผลการอ่านคลื่นสมองไฟฟ้าตอนที่อาสาสมัครเห็นรูปแต่ละรูปเอาไว้ และวิเคราะห์ดูว่ารูปไหนที่อาสาสมัครดูแล้วรู้สึกถูกใจหรือพึงพอใจบ้าง จะถือว่านั่นคือส่วนหนึ่งของใบหน้าในอุดมคติที่คนคนนั้นต้องการมี     จากนั้นในขั้นตอนสุดท้าย เขาจะนำรูปภาพที่อาสาสมัครชอบทั้งหมด มาตัดต่อรวมกันให้เกิดใบหน้าในอุดมคติของคนคนนั้น แล้วนำภาพต้นฉบับมาวางคู่กัน เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ว่าใบหน้าในอุดมคติที่คนเราต้องการแตกต่างจากปกติมากแค่ไหน และแตกต่างอย่างไรบ้าง Chasserot…

  • นักวิทย์ถึงกับไปไม่เป็น หลังพบลิงสาวพยายามมีเซ็กส์กับกวาง มันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย!?

    นักวิทย์ถึงกับไปไม่เป็น หลังพบลิงสาวพยายามมีเซ็กส์กับกวาง มันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย!?

    ใครที่ได้มีโอกาสได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็คงต้องรู้สึกฉงนงงงวยกันแน่ๆ ก็ใครมันจะไปคิดล่ะว่าเราจะได้เห็นลิงเสพสวาทกับกวาง ซ้ำร้ายลิงที่ขึ้นขี่เจ้ากวางก็ดันเป็นตัวเมียอีกต่างหาก ทำไมถึงได้เกิดปรากฏการณ์แบบนี้ขึ้นกันนะ นักวิทยาศาสตร์ที่สนใจเรื่องนี้จึงได้พยายามทำการค้นคว้าถึงพฤติกรรมสุดแปลกนี้ ว่ามันเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ และมีเหตุผลมาจากอะไร       อ้างอิงจาก งานวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเลทบริดจ์ พฤติกรรมการสมสู่ข้ามสายพันธุ์ระหว่างลิงกังตัวเมีย กับกวางซีกาในประเทศญี่ปุ่นนั้น เกิดขึ้นมาสักพักหนึ่งแล้ว นักวิจัย Noëlle Gunst เองก็ระบุว่าคนท้องถิ่นในเมืองมิโน จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นได้พบเห็นพฤติกรรมประหลาดนี้มาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว โดยการสมสู่ข้ามสายพันธุ์ระหว่างลิงกับกวางในลักษณะนี้ จะเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ อย่างสม่ำเสมอ ลิงก็จะขึ้นไปขึ้นขี่กวาง ส่วนกวางก็จะปล่อยให้ลิงสมสู่จนสำเร็จความใคร่ แล้วเลียกินน้ำกามที่เลอะอยู่บนหลังของมัน     ในงานวิจัยนี้ นักวิทยาศาสตร์เก็บข้อมูลจากฮอร์โมนที่ได้จากอุจจาระของสัตว์ หลังการสมสู่ระหว่างลิงกังญี่ปุ่นและกวางซีกา จำนวน 258 ครั้ง แล้วนำข้อมูลฮอร์โมนจากอุจจาระที่ได้ มาเปรียบเทียบกับฮอร์โมนที่ได้จากอุจจาระของการสมสู่กันระหว่างลิงตัวเมียสองตัว จึงสรุปได้ว่าการสมสู่ของพวกมันเกิดจากความต้องการทางเพศ โดยสังเกตจากทั้งลักษณะของการขึ้น ลักษณะของการกระเด้า และเสียงร้องของมันตอนสมสู่กัน และจาก 5 ตัวอย่างจากการสมสู่กันของลิงและกวาง 14 คู่ ก็พบว่ามันมีลักษณะการสมสู่กันเหมือนกับการผสมพันธุ์กันระหว่างลิงไม่มีผิดเลย นอกจากนี้กวางส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ปฏิเสธลิงตัวเมียที่เข้ามาสมสู่ด้วย มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีท่าทีต่อต้านและสะบัดตัวหนี       การวิจัยครั้งนี้นับเป็นการวิจัยรูปแบบใหม่ เพราะถือว่าเป็นครั้งแรก…

  • พิตบูลตัวน้อย เกิดมามีหน้าตาประหลาด แต่เจ้าของก็ยังคงรักมันเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

    พิตบูลตัวน้อย เกิดมามีหน้าตาประหลาด แต่เจ้าของก็ยังคงรักมันเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

    การเกิดมาแตกต่างจากคนอื่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะถูกจำกัดจากสิทธิในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่จะได้รับความรัก สิทธิที่จะมีความสุข และอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ Marie DeMarco มอบความรักอันบริสุทธิ์ให้กับ Sasha เจ้าพิตบูลตัวน้อยที่เกิดมากับร่างกายที่อ่อนแอ แต่มันก็สู้สุดตัวเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่     Sasha เกิดเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่มันอายุได้เพียง 1 วัน มันก็อยู่ในจุดที่เป็นอันตรายแล้ว เพราะมันเกิดมาพร้อมโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ซึ่งไม่สามารถรักษาได้ น้องหมาจึงถูกส่งตัวไปหา Courtney Bellew ผู้อำนวยการ SNARR Animal Rescue Northeast ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือฉุกเฉินในนิวยอร์กที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลสุนัขที่มีความบกพร่อง     Bellew บอกว่า “เมื่อเจ้าของรู้ว่าน้องหมาเกิดมาพร้อมโรคปากแหว่งเพดานโหว่ เธอต้องการช่วยเหลือ เลยพามันมาหาฉัน มันตัวเล็กและอ่อนแอมาก” Sasha จำเป็นต้องกินอาหารผ่านหลอด ดังนั้น Bellew จึงประสานไปยัง DeMarco ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในการดูแลลูกแมวที่ได้รับบาดเจ็บและป่วยหนัก เพราะคิดว่าพวกเขาน่าจะช่วยลูกสุนัขได้เหมือนกัน     วันแรก Sasha ชั่งน้ำหนักได้เพียง 311 กรัมเท่านั้น ที่แย่กว่านั้นคือโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ทำให้เริ่มมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาด้วย DeMarco สังเกตเห็นว่าหัวของน้องหมามีขนาดใหญ่ผิดปกติเมื่อเทียบกับร่างกายของมัน ซึ่งทางสัตวแพทย์บอกว่ามันมีภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ส่งผลให้เนื้อสมองเกิดบาดเจ็บเสียหายจนถึงขั้นอาจทำให้เนื้อสมองตายได้ นอกจากนี้สมองของมันมีขนาด…

  • ชุดภาพความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของชายหนุ่มกับตุ๊กตายาง เป็นความรักที่เกิดขึ้นและคงอยู่จริงๆ

    ชุดภาพความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของชายหนุ่มกับตุ๊กตายาง เป็นความรักที่เกิดขึ้นและคงอยู่จริงๆ

    ในปัจจุบันนั้นปัญหาชีวิตคู่ถือเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ประชากรในหลายประเทศกำลังประสบอยู่ จะเนื่องด้วยเหตุผลการหย่าร้าง การไม่เข้าใจหรือการนอกใจกันก็ตาม ซึ่งนั้นจึงทำให้คนจำนวนมากให้ไปพึ่งตุ๊กตายางแทน… หลายคนอ่านแล้วก็คงจะไม่เชื่อ เช่นเดียวกับ Sandra Hoyn ช่างภาพชาวเยอรมันที่ไม่เชื่อและอยากจะรู้เกี่ยวกับความรักของคนกับตุ๊กตายาง เธอจึงเดินทางไปตามติดชีวิต Dirk ชายผู้อยู่กินกับตุ๊กตายางมาเป็นเวลากว่า 4 ปี!!     ผลงานการตามติดชีวิตครั้งนี้มีชื่อว่า ‘Jenny’s Soul‘ ซึ่งเป็นชื่อที่นำมาจากการบอกเล่าเกี่ยวกับตัวตุ๊กตายางที่ชื่อ Jenny ซึ่งเป็นคู่รักของ Dirk ชายผู้เลิกรากับภรรยาไปและตัดสินใจไปซื้อ Jenny มาในราคา 7,105 ดอลลาร์สหรัฐหรือตีเป็นเงินไทยก็ราว 230,000 บาท โดยเขาบอกว่าตุ๊กตาของเขานั้นมีจิตวิญญาณจริงๆ   “ตอนที่ผมยังอยู่กับอดีตภรรยา พวกเราทะเลาะกันบ่อยมากและผมต้องสู้เพื่อให้ได้ความรักมา แต่กับ Jenny ผมไม่ต้องทำอะไรเลย”   Dirk เล่าว่าเขานั้นมีความสุขมากๆ ตั้งแต่ได้อยู่กับ Jenny เขายังบอกอีกว่าเขาได้ยินเสียงของ Jenny ด้วยและตั้งแต่มีเธอ เขาก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นความใกล้ชิดที่เธอมีให้กับเขา เขาบอกว่าชีวิตของเขานั้นไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว ถ้าชีวิตของเขาไม่ได้อยู่กับ Jenny โดยในแต่ละวันเขาก็ได้แต่หวังว่าการใช้ชีวิตของเขากับ Jenny จะราบรื่นกว่านี้และสามารถออกไปยังที่สาธารณะได้   Jenny นั้นหนักถึง 50 กิโลกรัม…

  • หนุ่มรัสเซียซ้อมเมียจนถึงขั้นเสียชีวิต ก่อนหน้านั้นมีโพสต์ภาพอวดเพื่อน ว่า ‘ตรูเอาอยู่’

    หนุ่มรัสเซียซ้อมเมียจนถึงขั้นเสียชีวิต ก่อนหน้านั้นมีโพสต์ภาพอวดเพื่อน ว่า ‘ตรูเอาอยู่’

    เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานเรื่องราวของหนุ่มรัสเซียสุดโหดที่ได้ซ้อมภรรยาของตัวเองจนเธอเสียชีวิตอย่างสะเทือนใจ นาย Maxim Gribanov อายุ 34 ปีได้ทำร้ายร่างกาย Anastasia Ovsiannikova ภายในบ้านพักเมือง Lebedyan ทางตะวันตกของรัสเซียหลังจากเธอบอกกับเขาว่า เธออยากจะออกไปจากชีวิตเขาสักที     ซึ่งคำพูดของเธอทำให้เขาเกิดอาการไม่พอใจและได้ทั้งตบ ตี ต่อย เตะเธอเป็นเวลาหลายชั่วโมง มิหนำซ้ำยังถ่ายคลิปวิดีโอส่งให้เพื่อนดูอีกจำนวนหลายคนและโพสต์โอ้อวดความเจ๋งว่า เขาสามารถบังคับเธอให้อยู่ใต้เท้าได้   ภาพอาการบอบช้ำของ Anastasia ที่เขาได้ส่งให้เพื่อนๆ ให้ดู   เมื่อภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไปทางพลเมืองดีก็ได้แจ้งให้ทางกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือเธอเป็นการด่วน เธอถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยอาการที่ผิวหนังช้ำอย่างรุนแรง กระดูกหัก และเลือดออกภายในอวัยวะ Anastasia ตกอยู่ในอาการโคม่าราว 6 วันก่อนที่จะเสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า เพื่อนๆ และครอบครัวของฝ่ายหญิงได้ให้ปากคำกับทางตำรวจว่า Anastasia มักจะถูกนาย Maxim ทำร้ายร่างกายและถูกข่มขู่ตลอดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังบังคับให้เธอลาออกจากที่ทำงานอีกด้วย รวมไปถึงการขู่พ่อและพี่ชายของเธอว่า เขาจะซ้อมเธอถ้ามีใครแจ้งตำรวจ   .   ตอนแรกที่เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล…

  • สองพี่น้องลื่นล้มพร้อมกันท่ามกลางหิมะ จนเป็นที่ถูกใจชาวเน็ต อะไรจะสามัคคีกันเบอร์นั้น

    สองพี่น้องลื่นล้มพร้อมกันท่ามกลางหิมะ จนเป็นที่ถูกใจชาวเน็ต อะไรจะสามัคคีกันเบอร์นั้น

    การลื่นล้มถือเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่งที่เราไม่อยากให้เกิด โดยเฉพาะในที่น้ำขัง เมื่อล้มลงไปนอกจากเสื้อผ้าจะสกปรกแล้ว อาจได้แผลมาด้วย แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือบังเอิญ สองพี่น้องคู่นี้ลื่นล้มพร้อมกันท่ามกลางหิมะ กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวเน็ตกันยกใหญ่เลย วิดีโอนี้โพสต์โดย @04rr_  ซึ่งเป็นผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่น เป็นเหตุการณ์ที่สองพี่น้องกำลังเดินข้างกันท่ามกลางหิมะ แต่จู่ๆ ทั้งคู่ก็ลื่นล้มพร้อม ราวกับนัดกันไว้   雪も降ってないのに傘さしてる姉と 1回転んでも懲りずにまたコケる妹 同時に転んで足も揃うハイスペック姉妹 pic.twitter.com/KL8Ar96r3h — 佐藤李来 (@04rr__) 6 ธันวาคม 2560 หากดูไม่ได้ คลิกที่นี่   ใต้คลิปมีแคปชั่นว่า “คนพี่คือคนที่ถือร่ม (แม้ว่าหิมะไม่ตกก็เถอะ) แล้วทั้งคู่ก็ลื่นล้มพร้อมกัน แต่คนน้องเหมือนจะไม่ได้รับบทเรียนในครั้ง พอลุกขึ้นได้ก็เซไปอีกรอบ”     ล้มพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมายแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนะ ดังนั้นเมื่อคลิปถูกแชร์ในโซเชียล เลยโดนชาวเน็ตข้าวมาแซวกันเลยใหญ่เลย บางคนบอกว่าลื่นพร้อมกันขนาดนี้ ลองเข้าร่วมที Olympic Synchronized Slipping มั้ย น่าจะไปได้สวยนะ หรือไม่อยากนั้นลองสมัครเข้าแก๊งมิซาโตะกับชินจิ ในเรื่อง Evangelion มั้ย พวกเค้าต้องชอบแน่ๆ เพราะพวกเขาชอบทำอะไรเหมือนกันแบบนี้แหละ     นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตบางส่วนบอกว่า……

  • เด็กน้อยอินจัด ดูหนังเรื่อง The Grinch กลัวว่ามันจะมาขโมยของขวัญ เลยโทรแจ้งตำรวจไว้ก่อน

    เด็กน้อยอินจัด ดูหนังเรื่อง The Grinch กลัวว่ามันจะมาขโมยของขวัญ เลยโทรแจ้งตำรวจไว้ก่อน

    ใกล้วันคริสต์มาสเข้ามาทุกทีแล้ว ทั่วโลกก็ต่างพากันตื่นเต้นกับเทศกาลแห่งความสุข เทศกาลที่เด็กๆ จะได้เจอกับคุณลุงซานต้าและได้ของขวัญ ซึ่งด้วยเหตุผลดังกล่าวเด็กๆ ส่วนใหญ่ก็เลยตั้งใจรอวันคริสต์มาสให้มาถึงสุดๆ เช่นเดียวกับหนูน้อยวัย 5 ขวบจากรัฐมิสซิสซิปปีที่ตั้งตารอวันแห่งความสุขอย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งเขาได้เปิดดูหนังเกี่ยวกับตัวละครที่ชื่อว่า The Grinch ซึ่งเป็นตัวร้ายสีเขียวที่เกลียดวันคริสต์มาสสุดๆ และมันก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อทำลายวันแสนสุขนี้     เคยมีหนังเมื่อปี 2000 ด้วยนะเออ   เมื่อหนูน้อยวัย 5 ขวบ ดูหนังเกี่ยวกับเจ้า The Grinch จบ เจ้าหนูก็อินกับมันมากๆ มากถึงขนาดที่ว่าเขากลัวมันจะมาขโมยของขวัญวันคริสต์มาสไป หนูน้อยก็เลยโทรไป 911 เพื่อแจ้งตำรวจให้มันจับเจ้าปีศาจสีเขียวเลยทีเดียว     หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง หนูน้อยก็ไม่รอช้ารีบแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ทันทีว่าตำรวจต้องจับเจ้าปีศาจสีเขียวให้ได้ ไม่งั้นของขวัญของเขาและเด็กคนอื่นๆ จะถูกเอาไป งานนี้ตำรวจก็ไม่รู้ทำไงได้แต่หัวเราะในความไร้เดียงสาของหนูน้อย     แต่เพื่อความสบายใจของหนูน้อยเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐมิสซิสซิปปีก็ไม่ถือสา แถมยังให้คนแต่งตัวเป็น The Grinch เพื่อให้หนูน้อยจับมันขังคุกอีกด้วย งานนี้หนูน้อยก็สบายใจได้ รับรองว่าไม่มีใครมาขโมยของขวัญแห่งความสุขไปได้แล้ว    พวกเราช่วยกันจับเจ้า The Grinch ได้แล้วนะ!!   นายจับมันได้ เก่งมากเจ้าหนู  …

  • เด็กน้อยเขียนจดหมายสุดซึ้งถึงลุงซานต้า ขอให้พาหมาของตัวเองที่หายไปกลับคืนมา

    เด็กน้อยเขียนจดหมายสุดซึ้งถึงลุงซานต้า ขอให้พาหมาของตัวเองที่หายไปกลับคืนมา

    เด็กๆ มักจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเทศกาลคริสต์มาสมาถึง เพราะมันเป็นวันที่พวกเขาจะได้ขอของขวัญจากคุณลุงซานต้า ซึ่งสิ่งที่เด็กแต่ละคนอยากได้นั้นมีตั้งแต่ขนม ของเล่น รวมไปถึงเสื้อผ้า แต่สำหรับเด็กชายตัวน้อย Edward Latter เลือกที่จะเขียนจดหมายสุดซึ้งถึงลุงซานต้า เพื่อขอให้เขาพาน้องหมาที่หายไปกลับมาให้ Morse น้องหมาวัย 9 เดือน ผู้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของ Edward ถูกโจรขโมยไปตอนมันออกไปนอกบ้าน พ่อแม่ของเด็กน้อยพยายามตามหามันเกือบ 24 ชั่วโมง จนกระทั่งได้รับแจ้งจากผู้หญิงคนหนึ่งว่าเห็นน้องหมาถูกอุ้มขึ้นรถกระบะ     ครอบครัวของเด็กชายอาศัยอยู่ในเมืองเคนท์ ประเทศอังกฤษ พวกเขาพยายามบอกให้โจรนำ Morse มาคืนในช่วงคริสต์มาสนี้ นอกจากนี้ครอบครัวยังได้แจ้งชื่อและลักษณะของน้องหมาให้กับทางร้านและคลินิกสัตว์ต่างๆ ด้วย เผื่อเจอได้โทรแจ้งให้พวกเขาทราบ ความพยายามของพวกเขาไม่ได้หยุดลงเพียงเท่านั้น ล่าสุด Edward ที่กำลังจะอายุครบ 3 ขวบในเร็วๆ นี้ ได้เขียนจดหมายถึงซานต้า หวังจะให้เขาพาน้องหมากลับให้ในวันคริสต์มาสนี้ Richard วัย 40 ปี ผู้เป็นพ่ออาสาช่วยลูกน้อยเขียนจดหมาย โดยเขียนไว้ว่า “ถึงเจ้าแห่งคริสต์มาส ผมต้องการของขวัญแค่อย่างเดียวในคริสต์มาสนี้ ผมต้องการให้น้องหมา Morse กลับคืนมา ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาผมเป็นเด็กดีนะครับ จาก Edward วัย 2 ขวบ กำลังจะ 3 ขวบเร็วๆ นี้”  …

  • ช่างภาพโชว์ฝีมือการถ่ายภาพจากมุมต่างๆ ของฮ่องกงออกมาได้สวยงาม ราวกับร่ายเวท

    ช่างภาพโชว์ฝีมือการถ่ายภาพจากมุมต่างๆ ของฮ่องกงออกมาได้สวยงาม ราวกับร่ายเวท

    ฮ่องกง เขตปกครองพิเศษที่ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายอันแสนสำคัญของเหล่านักท่องเที่ยวจากหลากหลายชาติ ด้วยความที่มีกลิ่นอายพิเศษชวนดึงดูด แสงสี และสถานที่สวยงามมากมาย ทำให้ใครๆ ก็ต่างสนใจในเมืองแห่งนี้ Harimao Lee ช่างภาพชาวฮ่องกง ก็ถือเป็นอีกคนที่มองเห็นว่าเมืองบ้านเกิดของเขานั้น มันเป็นเมืองที่น่าหลงใหลมีอะไรที่ชวนดึงดูดผู้คน นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าเมืองแห่งนี้มันยังมีมุมต่างๆ ที่เขาคิดว่าเขาน่าจะสามารถถ่ายทอดมันออกมาได้ดีและช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้มากกว่านี้     Harimao Lee ได้ใช้กล้อง Canon EOS 60D ในการถ่ายภาพสถานที่ต่างๆ ทั้งบนยอดตึกสูง มุมลับต่างๆ ในชุมชน รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ของผู้คน ซึ่งงานของเขาเรียกว่าสวยมากๆ เลยทีเดียว ถ้าใครอยากจะติดตามผลงานของเขา ก็สามารถเข้าไปรับชมเพิ่มเติมได้ที่ harimaolee หรือจะไปกดติดตามอินสตาแกรมของเขาก็ได้เช่นกันที่ harimaolee ซึ่งข้างในมีผลงานของเขาอีกเยอะแยะเลยล่ะ   . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…

  • ทัศนคติความงาม ของเหล่าหนุ่มสาวในแต่ละประเทศ กับความโดดเด่นที่ทำให้คุณหลงใหล!!

    ทัศนคติความงาม ของเหล่าหนุ่มสาวในแต่ละประเทศ กับความโดดเด่นที่ทำให้คุณหลงใหล!!

    ความสวยงาม ไม่ได้มีคำจำกัดความที่ชัดเจน นั่นเพราะว่าความสวยงามของแต่ละคนไม่เหมือนกันนั่นเอง บางทีเราอาจจะมองคนคนเดียวกันว่าดูดี แต่คนอื่นอาจจะคิดว่าไม่ดูดีก็ได้ คนจากแต่ละประเทศในโลก ก็มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในแบบของตัวเองเหมือนกัน แม้จะสวยในแบบที่แตกต่างกัน แต่คนทุกคนก็ถือว่ามีความสวยงามทั้งนั้น วันนี้เราจึงอยากนำเสนอว่าคนในแต่ละประเทศ มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์อย่างไรบ้าง โดยเราได้นำภาพของคนหล่อคนสวยจากบางประเทศมาให้ทุกคนได้ชมกัน   Norway ชาวนอร์เวย์ ผู้มีเชื้อสายของนักรบไวกิ้ง  ดึงดูดสายตาผู้คนด้วยลุคที่ดูมีความแข็งแกร่งและความมั่นใจเต็มเปี่ยม .   Pakistan คนประเทศปากีสถานดูมีความโรแมนติก และสายตาที่ดึงดูดเราราวกับถูกแม่เหล็กดึงเข้าไปหา เวลามองแล้วเพลินใจเหลือเกิน .   Brazil ประเทศบราซิลนั้นมีผู้คนหลากหลายชาติเข้ามาอยู่ร่วมกัน จึงทำให้คนประเทศนี้มีเอกลักษณ์จากหลายชาติพันธุ์มารวมกัน ดูโดดไม่เหมือนใคร .   Australia คนออสเตรเลียก็มีความสวยงามไม่แพ้ชาติอื่นๆ เช่นกัน นักแสดงหรือนายแบบนางแบบชื่อดังหลายคน ก็มาจากประเทศนี้นี่แหละ .   Japan ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่านอกจากวัฒนธรรมแล้ว ความมีเสน่ห์ของคนญี่ปุ่นก็ไม่มีใครเหมือน ความสวยความหล่อที่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกบริสุทธิ์และไร้เดียงสานั้น สามารถหาได้จากคนญี่ปุ่นเท่านั้น .   Russia หน้าตาที่ดูคมเข้ม น่าหลงใหลแบบนี้ คงไม่มีใครสู้คนรัสเซียได้หรอก .   USA คนประเทศสหรัฐอเมริการู้ดีว่าต้องทำยังไงให้ตัวเองดูดีเสมอ จะหันซ้าย…

  • สามหนุ่มช่วยเหลือคุณยายไร้บ้าน ด้วยการเปิดโรงแรมมูลค่ากว่า 6,350 บาทให้นอนฟรีๆ

    สามหนุ่มช่วยเหลือคุณยายไร้บ้าน ด้วยการเปิดโรงแรมมูลค่ากว่า 6,350 บาทให้นอนฟรีๆ

    การให้ความช่วยเหลือใครสักคนเมื่อพวกเขาตกทุกข์ได้ยาก นอกจากจะสร้างความสุขให้แก่ผู้รับแล้ว ยังสร้างความสุขให้แก่ผู้ให้อีกด้วยอย่างเอ่อล้นอีกด้วย และถ้ายิ่งเป็นผู้ที่ชีวิตของพวกเขากำลังไร้ทางออกอีกล่ะก็ มีหรือใครที่จะอดช่วยเหลือได้ลงคอ และสำหรับเพื่อนรักสามคนนี้ก็เช่นกัน ทันทีที่พวกเขาเห็นหญิงชราไร้บ้านคนหนึ่งเดินอยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บชายสามคนนี้ก็เข้าไปตรงเข้าไปช่วยเหลือ และยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขาได้เปิดโรงแรมมูลค่ากว่า 145 ปอนด์(ประมาณ 6,350 บาท) ให้หญิงชราภาพนอนฟรีๆ ไปเลย!!     เหตุการณ์สุดประทับใจนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่เมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ เมื่อ Roger Hartigan และเพื่อนร่วมงานของเขาสองคนก็คือ Joe Rich และ David Harrison กำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากเข้าร่วมงานปาร์ตี้คริสต์มาส ทว่าระหว่างทางนั้นพวกเขาก็พบกับหญิงไร้บ้านคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บนถนนอย่างไร้จุดหมาย ด้วยรูปร่างและอายุอานามที่พอเดาได้ว่าแก่อย่างแน่นอน พวกเขาจึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปพูดคุยเผื่อจะให้การช่วยเหลือใดๆ ได้บ้าง “ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณสามทุ่มได้ ระหว่างทางกลับบ้านผมก็เห็นผู้หญิงคนนี้ เธอดูบอบบางมากๆ และเมื่อเราเข้าไปคุยเธอก็บอกว่าเธอมีอายุมากถึง 71 ปีและตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน”     “ในตอนนั้นพวกเราก็ให้เงินเธอพร้อมกับบุหรี่อีกจำนวนหนึ่ง อีกทั้งพวกเรายังพยายามเรียกรถแท็กซี่เพื่อจะให้ไปส่งเธอไปที่โรงแรม แต่ก็ไม่มีคันไหนจอดรับเลย” “ดังนั้นพวกเราจึงเดินตามหาโรงแรมเพื่อจะให้หญิงชราคนนี้มีที่หลับที่นอนให้ได้ โดยพวกเราเดินผ่าใจกลางเมืองไปพร้อมๆ กับเธอ และในที่สุดพวกเราก็หาโรงแรมที่ว่างได้ เราเลยเดินพาเธอไปเช็กอินถึงที่เลย” Roger เล่าให้ฟัง     สำหรับหญิงชราคนนั้น เธอไม่ได้เปิดเผยชื่อแต่อย่างใด แต่เธอบอกว่าเธออาศัยอยู่ข้างถนนในเมืองบริสตอลมากว่า 18 ปีแล้ว “เธอดูอ่อนแอมากๆ ยังไงพวกเราก็ทิ้งเธอไม่ลงหรอก” “พวกเราคิดว่าเธอคงจะรู้สึกช็อกนิดหน่อย…

  • คุณพ่อทำหน้าบึ้ง หลังเมียบอกจะใช้ “ต้นคริสต์มาสปลอม” แต่กลับกลายเป็น “มีม” ซะงั้น!!

    คุณพ่อทำหน้าบึ้ง หลังเมียบอกจะใช้ “ต้นคริสต์มาสปลอม” แต่กลับกลายเป็น “มีม” ซะงั้น!!

    วันคริสต์มาส คือวันสำคัญที่สุดสำหรับชาวคริสต์ เพราะเป็นวันประสูติของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ ชาวคริสต์ทั้งหลายเมื่อถึงวันดังกล่าว พวกเขาจึงมีการเฉลิมฉลองดื่มกินกันอย่างเต็มที่ และสำหรับบางคนก็ให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้จนถึงขั้นเคร่งครัดในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องเลยทีเดียว และเมื่อรู้ถึงความจริงจังของคุณพ่อคนหนึ่ง ทำให้ครอบครัวของเขาเกิดความคิดอยากอำเล่น ว่าในปีนี้จะนำต้นคริสต์มาสปลอมมาใช้แทนของจริง และเมื่อคุณพ่อคนนั้นได้รู้เข้าก็ได้แสดงอาการโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกมา ทว่าเรื่องราวมันไม่ได้จบแค่นั้น เพราะว่าท่าทางที่เขาแสดงออกมามันได้กลายเป็นมีมสุดโด่งดังซะงั้น เรื่องราวนี้ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องราวของครอบครัว Napoli จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในครอบครัวนี้ก็ประกอบด้วยผู้เป็นพ่อชื่อว่า Joe, Marie ผู้เป็นแม่ และลูกสาวอีกสองคนชื่อว่า Audrey และ Madison   ครอบครัว Napoli แสนสุขสันต์   Madison ลูกสาวของบ้านนี้ได้เล่าว่าพ่อแม่ของเธอเป็นคู่รักที่มีอารมณ์ขันและมักแกล้งกันอยู่เสมอ และในครั้งนี้แม่ของเธอก็ได้คิดแผนการหลอกพ่อ ด้วยการบอกว่าจะใช้ต้นคริสต์มาสปลอมสำหรับวันคริสต์มาสในปีนี้ ซึ่งจะแตกต่างจากในทุกๆ ปีที่ใช้ของจริงมาตลอด นั่นจึงทำให้ Madison รู้ทันทีว่าเรื่องที่แม่เธอพูดนั้นเป็นแค่เรื่องอำกันเล่นเพียงเท่านั้น   หัวร้อนเลยทีเดียว   แต่สำหรับ Joe แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว และเขาก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องตลกที่เมียของเขาแหย่เล่นขำๆ ทำให้ Joe ได้แสดงอาการหัวร้อนออกมาทันทีที่ได้รู้เรื่องดังกล่าว โดยเขาได้เดินวนไปรอบบ้านและทำสีหน้าบอกบุญไม่รับออกมา พร้อมทั้งบ่นต่างๆ นานาเป็นหมีกินผึ้ง ทั้งการบอกว่ารู้ไหมว่าการใช้ของปลอมมันไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ…

  • Apple ยอมรับแล้วว่าทำให้ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลง แต่ที่ทำไปก็เพราะหวังดีนะ (เหรอ!?)

    Apple ยอมรับแล้วว่าทำให้ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลง แต่ที่ทำไปก็เพราะหวังดีนะ (เหรอ!?)

    ใครที่ใช้ iPhone อยู่คงจะเจอกับปัญหาเครื่องช้าลงอย่างมาก หลังจากที่ได้อัปเดต iOS 10.2.1 ไป จนมีการตั้งข้อสงสัยว่า Apple จงใจทำให้เครื่องช้าลงเพื่อให้คนอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่หรือเปล่า เพราะปัญหานี้ขึ้นเฉพาะกับไอโฟนรุ่นเก่าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากมีประเด็นในอินเตอร์เน็ต ก็เป็นครั้งแรกที่ทางบริษัท Apple เผยว่าพวกเขามีการใส่ฟีเจอร์ให้เครื่องทำงานช้าลงเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปจริง แต่ที่ทำนั้น เป็นเพราะพยายามหลีกเลี่ยงไม่เกิดปัญหาเครื่องดับไปเองหรือดับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากให้คุณซื้อ iPhone รุ่นใหม่ตามที่ผู้คนเข้าใจ     โดยทั่วไปแล้ว iPhone  จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่สามารถเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หลังจากที่คุณชาร์จโทรศัพท์ไปประมาณ 500 ครั้ง แบตเตอรี่ iPhone เหลือประสิทธิภาพเพียง 80% จากของเดิม ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ คุณอาจจะเริ่มสังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่ของคุณทำงานด้อยลงภายในหนึ่งปีแรกหรือนานกว่านั้น     เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมลง ระบบปฏิบัติการจะลดประสิทธิภาพของ CPU และ GPU ของเครื่องโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณไม่สามารถเล่นเกมหรือแอพต่างได้ดีเท่าที่คุณต้องการ ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ iPhone 6 6S SE และ 7 ทำงานช้าลง     ในแถลงการณ์ ทาง Apple กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า…

  • อินโดฯ รับมือกับปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ ด้วยการสั่งห้ามแต่งตัวเซ็กซี่ออกนอกบ้าน?

    อินโดฯ รับมือกับปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ ด้วยการสั่งห้ามแต่งตัวเซ็กซี่ออกนอกบ้าน?

    การล่วงละเมิดทางเพศเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในทุกประเทศทั่วโลก ส่วนการรับมือหรือการแก้ปัญหาของแต่ละประเทศนั้นก็คงจะแตกต่างกันไป แต่ล่าสุดทางการอินโดนีเซียได้ประกาศมาตรการรับมือกับปัญหาการคุกคามทางเพศ การข่มขู่ และการใช้ความรุนแรงต่อสตรีและเด็กด้วยการสั่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Rakyat Bengkulu รายงานว่า 7 ใน 8 พรรคการเมืองได้ลงเสียงสนับสนุนให้ “เสื้อผ้าเซ็กซี่” เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้ระบุว่าลักษณะของเสื้อผ้าที่จัดอยู่ในหมวดหมู่เซ็กซี่เป็นอย่างไร     อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากฎหมายฉบับนี้จะบังคับใช้กับผู้หญิงทุกคนหรือเปล่า โดยเฉพาะผู้หญิงมุสลิมว่าควรสวมผ้าคลุมศีรษะเฉพาะในที่สาธารณะหรือในพื้นที่ส่วนตัวด้วย ทั้งนี้ด้วยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกรณีการใช้ความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ส่งผลให้ Ir Muharamin ประธานคณะกรรมาธิการ IV ของ DPRD Bengkulu สนับสนุนนโยบายนี้ด้วย ในขณะที่ H Parial หัวหน้าฝ่าย PAN ในเขตปกครองพิเศษของ Bangkulu DPRD กล่าวว่า “ควรจะมีขอบเขตและบทลงโทษที่ชัดเจนสำหรับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย”     หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายอย่างเป็นทางการ ทุกคนที่ถูกจับได้ว่าละเมิดกฎ ไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้ารัดเกินไปหรือสวมเสื้อผ้าชิ้นบางจะต้องได้รับโทษอย่างรุนแรง Parial บอกอีกว่า “สาระสำคัญของการออกกฎหมายนี้ก็เพื่อแก้ไขปัญหาการก่ออาชญากรรมต่อเด็กและสตรี เนื่องจากปัจจุบันจำนวนการข่มขืน ความรุนแรงในครอบครัว และการฆาตกรรมสูงมาก” “นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาเหล่านี้ เช่น ภาพลามกอนาจาร รวมไปถึงการขาดจิตสำนึกในแง่ของศาสนา”  …

  • เมื่อเอานำของสองสิ่งมาเทียบราคา อาจทำให้คุณได้เปลี่ยน “มุมมองการใช้เงิน” ไปตลอดกาล!?

    เมื่อเอานำของสองสิ่งมาเทียบราคา อาจทำให้คุณได้เปลี่ยน “มุมมองการใช้เงิน” ไปตลอดกาล!?

    มีสิ่งของมากมายที่เราอยากได้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ กระเป๋าแบรนด์เนม สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หรือโดรน สิ่งเหล่านี้ราคาไม่น้อยเลยนะ ถ้าเอาไปซื้ออย่างอื่นคงได้หลายอย่างเลยหล่ะ ต่อให้มันเป็นสิ่งที่คุณอยากได้มากแค่ไหน ถ้าลองนำสิ่งของเหล่านั้นไปเทียบกับอย่างอื่นที่มีราคาใกล้เคียงกันหล่ะ คุณจะรู้สึกเสียดายบ้างมั้ย? *ข้อมูลราคาจากเว็บไซต์ BrightSide อ้างอิงราคาสินค้าต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา   1. iPhone X ราคา 44,300 บาท กับ อัลปากา ราคา 42,800 บาท   2. iPhone X ราคา 44,300 บาท กับ ปีกไก่ของ KFC 2,393 ชิ้น ราคา 43,000 บาท   3. นาฬิกา Apple ราคา 13,000 กับ แผ่นกันกระแทก 2 กิโลเมตร ราคา 11,400 บาท   4. MacBook Air ราคา 32,800 บาท…

  • 23 ความไร้เดียงสาของเด็กๆ กับตรรกะแปลก พฤติกรรมสุดป่วง ที่จะทำให้คุณยิ้มตาม

    23 ความไร้เดียงสาของเด็กๆ กับตรรกะแปลก พฤติกรรมสุดป่วง ที่จะทำให้คุณยิ้มตาม

    วัยเด็กเป็นวัยที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา ความอยากรู้อยากลอง ทดลองทำโน่นทำนี่ตามความคิดแบบเด็กๆ และตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ จนบางครั้งผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็ไม่เข้าใจ แต่บางครั้งความไร้เดียงสาและตรรกะแบบแปลกๆ ของพวกเขา รวมทั้งพฤติกรรมบางอย่าง มันก็ทำให้เราอดขำไม่ได้เลยจริงๆ   1. เด็กชาย 2 คนนั้นตัดสินใจตัดผมทรงเดียวกัน เพื่อไม่ให้คนอื่นจำได้…   2. ได้รองเท้าผ้าใหม่ มันก็จะเห่อหน่อยๆ ใส่เต้นโคฟเวอร์ซะเลย   3. ป้าบอกหลายชายทั้ง 2 ว่าให้จับแบงค์ไว้บนผนังด้วยจมูก ใครทำตกก่อนแพ้ แล้วผู้ชนะก็จะได้แบงค์ทั้ง 2 ใบไปครอง… แล้วใครจะคิดละว่าเพื่อชัยชนะ พวกเขาถึงกับยอมอยู่ในท่านี้นานกว่า 3 ชั่วโมง   4. เมื่อลูกชายตัวน้อยเล่นซ่อนแอบ   5. คุณคงไม่เคยเด็ก ถ้าไม่เคยตัดหน้าม้าด้วยตัวเอง   6. พ่อแม่ไม่เคยมีรูปครอบครัวดีๆ เก็บไว้เลย เพราะลูกไม่ยอมเลิกทำท่านินจาสักที   7. คุณแม่ถึงกับกังวลเมื่อเปิดกล่องของเล่นของลูกสาวแล้วเจอเงิน ปืน และมีด ถูกเก็บไว้ด้วยกัน   8.…

  • ผู้คนในอินเดียร่วมแรงร่วมใจ ช่วยชีวิตน้องหมา 3 ตัวที่นอนจมอยู่ในบ่อน้ำมันดินจนปลอดภัย

    ผู้คนในอินเดียร่วมแรงร่วมใจ ช่วยชีวิตน้องหมา 3 ตัวที่นอนจมอยู่ในบ่อน้ำมันดินจนปลอดภัย

    ในเมือง Udaipur รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ชาวบ้านแถวนั้นบังเอิญไปเจอลูกหมาสามตัวติดอยู่ในบ่อน้ำมันดิน พวกเขาจึงพยายามช่วยชีวิตพวกมันเอาไว้และรีบติดต่อกลุ่ม Animal Aid ให้เข้ามาช่วยด้วยอีกแรง กลุ่มสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าวจึงได้โพสต์วิดีโอการช่วยเหลือครั้งนี้เอาไว้ในยูทูบ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2017 ทำให้เราได้เห็นการช่วยเหลือเจ้าหมาทั้งสามตั้งแต่ต้นจนจบว่า สุดท้ายแล้วมันสามารถรอดชีวิตมาได้หรือไม่   ลูกหมาสามตัวติดอยู่ในบ่อน้ำมันดิน ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ทำได้แค่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสงสาร   ชาวบ้านที่พบเห็นพยายามช่วยชีวิตพวกมัน ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องงัดบ่อน้ำมันดังกล่าวออกมาทั้งแถบ   ความพยายามอย่างยากลำบาก เพื่อให้เจ้าหมาปลอดภัยมากที่สุด   ปากล่างของน้องหมาตัวหนึ่งติดอยู่กับบ่อน้ำมัน ทำให้การจะช่วยมันออกมายิ่งยากมากกว่าเดิม   เมื่อชาวบ้านสามารถดึงพวกมันออกมาได้แล้ว พวกเขาได้ส่งต่อให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลต่อ   พวกเขาจำเป็นต้องให้น้ำดับกระหายน้องหมาผ่านเข็มฉีดยา และใช้พวกน้ำมันพืชในการทำให้เศษน้ำมันที่ติดตัวอยู่อ่อนลง   พวกเขาทำอย่างนั้นอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อละลายความเหนียว   จนกระทั่งสามารถล้างน้ำมันที่ติดตัวพวกมันออกมาได้มากพอสมควรแล้ว   เจ้าหมาทั้งสามอยู่ในสภาพอิดโรย   น้ำมันที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทำให้ต้องอาบน้ำเจ้าหมาด้วยสบู่ นวดอยู่นานถึง 3 วัน   สภาพร่างกายของมันยังคงย่ำแย่ และไม่รู้ว่าหลังจากนี้มันจะสามารถรอดชีวิตไปได้หรือไม่   แต่ด้วยความรักและพลังใจของพวกมัน ก็สามารถช่วยให้กลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง   อีกทั้งยังได้เจอแม่ด้วย…

  • ‘Ben Solo’ แห่งสิงคโปร์ ฟาดเงินจองที่นั่งทั้งโรง เพื่อดู Last Jedi พร้อมเพื่อนและครอบครัว

    ‘Ben Solo’ แห่งสิงคโปร์ ฟาดเงินจองที่นั่งทั้งโรง เพื่อดู Last Jedi พร้อมเพื่อนและครอบครัว

    เมื่อคุณเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและมีเงินเหลือเฝือ บวกกับความเป็นแฟนบอยของอะไรสักอย่างเช่นแฟนหนัง แฟนการ์ตูน คุณอยากจะเอาเงินที่มีเหลือเฟือนั้นไปทำอะไรกัน? ถ้าคิดไม่ออกงั้นลองมาดู ‘Ben Solo‘ แห่งสิงคโปร์เป็นตัวอย่างหน่อยเป็นไง โดยเขาคนนี้มีชื่อว่า Alex Low ซึ่งเป็นชายชาวสิงคโปร์วัย 49 ปี ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจอู่รถหรูและสำนักงานบัญชี และมีความรักใน Star Wars ที่สูงมากๆ     และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหนังเรื่องใหม่จากซีรีส์ Star Wars อย่าง The Last Jedi ก็ได้เข้าฉายเป็นวันแรก แน่นอนว่า Alex ก็ไม่พลาดที่จะไปรับชมหนังเรื่องโปรดของเขา เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากจะรับชมมันคนเดียว เขาอยากแบ่งปันความชอบของเขาไปให้ครอบครัวและเพื่อนของเขาด้วย งานนี้ Alex ก็เลยจัดการเหมาโรงหนัง Golden Village ทั้งโรงจำนวน 170 ที่นั่งไว้ให้ครอบครัว เพื่อนๆ และกลุ่มคนรักรถ Ferrari ซึ่งพวกเขาได้แต่งตัวเป็นตัวละครจาก Star Wars มาดูหนังสุดพิเศษกับเขา ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 67,000 บาทเลยทีเดียว   .   นอกจากนี้ตัวเขาเองได้แต่งตัวเป็น Kylo Ren หรือ…

  • หญิงสาวถูกฆาตกรรมอย่างสยอง ก่อนจะรู้ทีหลังว่าเป็นฝีมือของเจ้าตูบพิตบูลที่เธอรัก

    หญิงสาวถูกฆาตกรรมอย่างสยอง ก่อนจะรู้ทีหลังว่าเป็นฝีมือของเจ้าตูบพิตบูลที่เธอรัก

    การจะเลี้ยงหมาสักตัวหนึ่ง เราก็ต้องศึกษาสายพันธุ์ให้ดีว่ามันสามารถเข้ากับบุคลิกของเรา และเราสามารถควบคุมมันอยู่หรือไม่ ไม่งั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์สุดเศร้าเหมือนกับเหตุการณ์นี้ ที่ผู้หญิงคนหนึ่งถูกหมาของเธอเองกัดจนตายในสภาพสุดสยอง เรื่องราวสุดสลดนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา กับ Bethany Lynn Stephens หญิงสาวจากรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะเธอกำลังเดินจูงหมาไปเดินเล่นในที่แห่งหนึ่ง และหลังจากนั้นก็ได้หญิงสาวคนนี้ก็ถูกบางอย่างเข้าจู่โจมจนเสียชีวิต     ตำรวจบอกว่าศพของหญิงสาววัย 22 ปีคนนี้มีสภาพสุดสยองโดยมีบาดแผลเหวอะหวะที่บริเวณหัวและลำคอ ซึ่งเป็นสภาพที่สุดจะบรรยายจริงๆ โดยในวันเกิดเหตุพ่อของ Bethany ได้โทรศัพท์หาเบอร์ฉุกเฉินเมื่อเวลาประมาณสองทุ่ม หลังจากที่เธอไม่กลับมาที่บ้านจากการนำหมาออกไปเดินเล่นเป็นเวลานาน ซึ่งพ่อของเธอก็ได้เดินดูบริเวณรอบๆ ที่เธอมักจะนำหมาออกไปเดินและก็ได้เห็นฉากสุดสยองดังกล่าวในวันเดียวกันนั้นเอง     สถานีข่าวท้องถื่น WTVR ได้รายงานว่าในตอนที่พ่อของ Bethany พบศพ เขาพบหมาพันธุ์พิตบูลที่ผู้เสียชีวิตได้เลี้ยงไว้อยู่ข้างๆ กาย และดูเหมือนมันคอยดูแลปกป้องศพนั้นด้วย ในเวลาต่อมาเมื่อรองนายอำเภอพร้อมกับเจ้าหน้าที่มาถึงจุดเกิดเหตุ ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 60-90 นาทีเพื่อพยายามจับเจ้าหมาพิทบูลตัวนี้เอาไว้ หลังจากนั้นศของ Bethany ก็ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ชันสูตรศพ และผลการชันสูตรศพก็ออกมาปรากฏว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นตามร่างกายของเธอเกิดขึ้นมาจากการถูกหมาของเธอเองกัดจนเสียชีวิต     “บาดแผลที่เกิดขึ้นมาจากการถูกโจมตีอย่างรุนแรงจากสุนัขของเหยื่อเอง ขณะที่เธอพาสุนัขตัวนี้ออกไปเดินเล่น” “เหยื่อได้พยายามปกป้องตัวเอง ด้วยการใช้มือและแขนผลักสุนัขตัวนี้ให้ออกไปห่างๆ และเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเธอถูกสุนัขตัวนี้โจมตีขณะที่กำลังมีชีวิตอยู่” นายอำเภอ Agnew กล่าว นอกจากนี้นายอำเภอ Agnew…

  • โลกใต้ดินของนักแต่งมาสคอต เบื้องหน้าอาจดูมีความสุข แต่ภายใต้จิตใจกลับหม่นหมอง

    โลกใต้ดินของนักแต่งมาสคอต เบื้องหน้าอาจดูมีความสุข แต่ภายใต้จิตใจกลับหม่นหมอง

    หลังจากที่ทำงานเป็นช่างภาพในแถบละตินอเมริกาอยู่นานนับ 10 ปี ในที่สุด Joana Toro ก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่ในนครนิวยอร์กเพื่อเรียนภาษา และเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอที่นี่ ช่างภาพสาวของเราค้นพบว่าการใช้ชีวิตท่ามกลางเมือหลวงนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เธอได้พบกับอีกด้านหนึ่งของเมืองหรูหราแห่งนี้ผ่านทางเพื่อนร่วมห้องของเธอ โดย Toro ได้รู้จักกับกลุ่มคนที่หลบหนีเข้าเมืองที่พยายามหาเลี้ยงชีพด้วยการแต่งตัวมาสคอต และการได้คลุกคลีอยู่กับพวกเขาจึงเป็นที่มาของโปรเจกต์การถ่ายภาพครั้งนี้   Joana Toro ช่างภาพสาวเจ้าของโปรเจกต์ภาพถ่ายชุดนี้   “ฉันรู้สึกตกใจมากๆ ที่เห็นมิกกี้เมาส์พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ซึ่งภายในชุดนั้นคือผู้อพยพชาวเม็กซิโก มันเหมือนกับโลกคู่ขนาดเลยทีเดียว” ช่างภาพสาวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ New York Times Toro ตัดสินใจหยิบชุดมาสคอตเฮลโหลคิตตี้ และออกไปสัมผัสกับอีกโลกหนึ่งที่เผยให้เห็นสิ่งต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มของมาสคอตเหล่านั้น ช่างภาพสาวใช้เวลากว่าครึ่งปีในเก็บรวบรวมภาพที่สะท้อนถึงความรู้สึกต่างๆ ที่เธอได้เผชิญ     มิกกี้ และมินนี่จากจตุรัสไทม์สแควร์   เธอเริ่มต้นเช่าชุดมาสคอตจาก Berta ช่างเย็บผ้าชาวเม็กซิโก หญิงสาวเม็กซิโกเตือน Toro ว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่เป็นงานที่หนักและได้ผลตอบแทนที่ไม่ดีเท่าไหร่   ส่วนนี่คือชุดมาสค็อตของ Berta ที่ชื่อว่า Mama Noel เธอหาเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพแต่งมาสคอตมานานกว่า 15 ปี   “การได้ลองสวมชุดนี้ครั้งแรกมันให้ความรู้สึกเหมือนกับชุดอวกาศเลยทีเดียว” ช่างภาพสาวกล่าว   สาเหตุที่เธอเลือกใช้ชุุดเฮลโหลคิตตี้ นั่นก็เพราะว่ามันเป็นตัวละครที่เธอชื่นชอบ และช่างภาพสาวก็คิดว่ามันน่าจะดึงดูดผู้คนได้ดี   ระหว่างการทำงานเธอได้พบกับเพื่อนร่วมงานที่มีความหลากหลายมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพชาวเม็กซิโกและเปรู ที่ไม่สามารถหางานอย่างอื่นทำได้…

  • ญี่ปุ่นเปิดบริการให้เข้าเคารพศพแบบไดร์ฟทรู เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ ‘คนแก่และคนพิการ’

    ญี่ปุ่นเปิดบริการให้เข้าเคารพศพแบบไดร์ฟทรู เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ ‘คนแก่และคนพิการ’

    การสูญเสียใครสักคนไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงหรือแม้แต่คนรู้จักผ่านๆ ไม่ว่าจะแบบไหนผลที่ตามมาก็ย่อมสร้างความเสียใจเสมอ และในบางครั้งคนที่เสียใจก็กับการจากไปก็ไม่พร้อมที่ต้องแสดงตัวในงานศพนั้นๆ ก็เป็นได้ และด้วยเหตุนี้ทางสถานที่จัดงานศพในญี่ปุ่นที่มองเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้เพิ่มตัวเลือกใหม่กับญาติๆ หรือคนรู้จักของผู้เสียชีวิตสามารถขับรถมาเคารพศพโดยที่ตัวเองไม่ต้องลงจากรถ หรือที่เราเรียกว่าการเข้าเคารพศพแบบไดรฟ์ทรูนั่นเอง โรงประกอบพิธีฌาปนกิจศพ The Ueda-Minami Aishoden ในเมืองยูดะ จังหวัดนะงะโนะ ประเทศญี่ปุ่น ได้ริเริ่มแนวคิดดังกล่าวพร้อมเปิดหน้าต่างส่วนหนึ่งเพื่อให้ญาติหรือคนรู้จักของผู้เสียชีวิต สามารถลงทะเบียนเข้าเคารพศพผ่าน iPad และเดินทางมาทำพิธีแบบญี่ปุ่นได้โดยผ่านหน้าต่างโรงประกอบพิธีและหน้าต่างรถของพวกเขา     ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่เข้าใช้บริการนั้นจะเป็นกลุ่มคนที่อยากจะมาเคารพศพจริงๆ แต่พวกเขาก็มีธุระต้องไปต่อเช่นกัน การทำแบบนี้จึงเพิ่มความสะดวกสบายให้กับญาติ รวมถึงคนบางกลุ่มที่เสียใจเกินกว่าออกไปพบปะผู้มาร่วมงานศพคนอื่นๆ นั่นเอง แต่จุดประสงค์หลักของการเปิดบริการนี้จริงแล้วนั่นก็คือ การเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้สูงอายุ เพราะว่าการทำพิธีแบบญี่ปุ่นนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการเคารพศพ และผู้คนก็จะต้องต่อแถวกันเป็นเวลานาน ฉะนั้นผู้สูงอายุที่ยากต่อการเดินทางและยืนรอนานๆ จึงจำเป็นจะต้องใช้ตัวเลือกนั่งทำพิธีกรรมในรถผ่านระบบนี้นั่นเอง     Juken Takehara หัวหน้าของโรงประกอบพิธีฌาปนกิจศพ The Ueda-Minami Aishoden ได้กล่าวว่า “ในตอนแรกที่เราเริ่มระบบนี้นั้น เราก็พบว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ออกมาตอบโต้ว่าระบบของเรานั้นไม่ให้ความเคารพต่อผู้เสียชีวิต แต่พอเวลาไปสักระยะหนึ่งปัญหานั้นก็เริ่มหมดไป และพวกเราก็ได้เสียงตอบรับที่ดีมากขึ้น เพราะว่ามันส่งผลดีต่อผู้สูงอายุและคนพิการเป็นอย่างมากนั่นเอง”   .   อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการเข้าเคารพศพจะเกิดขึ้นด้วยวิธีไหน แต่ถ้าคนที่มาเขามีใจอยากจะบอกลาคนรู้จักหรือคนรักจริงๆ มันก็ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นไดรฟ์ทรูหรือยืนรอหรอกจริงไหม เพราะความรู้สึกที่พวกเขาส่งออกมานั้นแหละคือตัวบ่งบอกเจตนาของพวกเขา……

  • ลมจะจับ… ลูกชายผลาญเงินแม่หมดบัญชี เพราะดันไปซื้อของในเกมฟีฟ่าอย่างไม่ตั้งใจ!?

    ลมจะจับ… ลูกชายผลาญเงินแม่หมดบัญชี เพราะดันไปซื้อของในเกมฟีฟ่าอย่างไม่ตั้งใจ!?

    กลายเป็นเรื่องเป็นราวกันเลยทีเดียว เมื่อคุณแม่ชาวไอริชท่านหนึ่งได้ออกมาแชร์เรื่องราวของเธอและลูกชาย พร้อมเตือนพ่อแม่คนอื่นๆ ให้ตรวจเช็กเกมที่ลูกเล่นให้ดี เพราะลูกของเธอเพิ่งจะจ่ายเงินอย่างไม่ตั้งใจ จนตอนนี้เธอหมดตัวแล้ว เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกับคุณแม่จากเมืองคอร์ก ประเทศไอร์แลนด์ โดยเธอเล่าว่าเธอเพิ่งซื้อเกมหนึ่งให้ลูกชายวัย 14 ซึ่งเกมที่ว่านั่นก็คือ Fifa 18 แน่นอนว่ามันเป็นเกมฟุตบอลและจำกัดอายุผู้เล่นอยู่ที่ 3 ขวบขึ้นไป เธอจึงคิดว่ามันไม่มีปัญหาอะไร     แต่แล้วปัญหาก็เกิด เมื่อวันหนึ่งเธอค้นพบว่าเงินในบัญชีซึ่งเป็นเงินเดือนทั้งเดือนรวมถึงโบนัสได้หายไปแล้ว เธอจึงตรวจสอบดูก็พบว่าต้นตอของเงินที่หายไปนั้นมันหายไปกับการใช้จ่ายในเกม Fifa 18 เธอจึงไปสอบถามลูกชายของเธอดู เธอก็พบว่าลูกชายของเธอก็ไม่รู้เรื่องอะไร จนเธอต้องตรวจสอบเกมด้วยตัวเองก็พบว่าตัวเกมนั้นได้ผูกบัญชีของเธอไว้แล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของลูกชายเพราะเขาไม่ได้ร้องขอให้ผูกบัญชีไว้แต่แรก แต่เป็นเธอเองที่ผูกไว้ตอนซื้อเกมให้ลูกชาย     และลูกชายก็ไม่รู้ว่าทุกๆ ครั้งที่ตัวเกมร้องขอให้ใช้แต้มพิเศษในเกมเท่ากับต้องใช้จ่ายเงินจริง ฉะนั้นลูกชายจึงกดใช้มันอย่างไม่ทันสังเกตนั่นเอง     ด้านคุณแม่ชาวไอริชก็ไม่ได้ลงโทษลูกของเธอแต่อย่างใด เพราะเธอได้ให้เหตุผลว่า ลูกชายของเธอนั้นได้แต่โทษตัวเองมากพอแล้ว เขาไม่ยอมออกจากห้องเลย เขาโทษว่าที่เงินของแม่หายไปและครอบครัวไม่มีของขวัญคริสต์มาสในปีนี้มันเป็นความผิดของเขา ผู้เป็นแม่อย่างเธอจึงได้แต่บอกให้เขาเลิกโทษตัวเองและหาทางออกด้วยกัน     อย่างไรก็ตามคุณแม่ได้ติดต่อไปทางบริษัท Playstation แล้ว แต่เธอก็ได้คำตอบกลับมาว่า Fifa 18 นั้นเป็นเกมสำหรับวัยรุ่นหรือคนที่โตแล้ว และพวกเขาไม่มีนโยบายคืนเงินให้ ฉะนั้นเธอจึงเหลือทางออกอีกแค่ทางเดียวคือคำตอบจากบริษัท EA ที่เป็นต้นสังกัดของเกมนั่นเอง……

  • มิตรภาพในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อนักบินเยอรมันปล่อยอีกฝ่ายให้มีชีวิตรอด และบินคุ้มกันไปส่งให้ถึงที่

    มิตรภาพในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อนักบินเยอรมันปล่อยอีกฝ่ายให้มีชีวิตรอด และบินคุ้มกันไปส่งให้ถึงที่

    ย้อนกลับไปเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทั่วทุกมุมโลกต่างก็ทำการสู้รบกันเพื่อคว้าชัยชนะมาให้กับประเทศตนเอง หากเจอเครื่องบินรบหรือเรือรบของศัตรู ก็เป็นอันต้องทำลายให้สิ้นซากเป็นธรรมดา ศัตรูจะได้ไม่แว้งมาทำร้ายเราในภายหลัง แต่ทหารชาวเยอรมันคนหนึ่งไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย เขาไม่ต้องการฆ่าใครโดยที่ไม่ได้จำเป็น จึงเกิดเป็นเรื่องราวปาฏิหาริย์แห่งมิตรภาพระหว่างทหารเยอรมันและทหารอเมริกา     ในปี 1943 นายทหาร Charlie Brown แห่งกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ขับเครื่องบิน B-17 ไปในน่านฟ้าของประเทศเยอรมัน เพื่อสู้รบกัน แต่เครื่องบินของเขาถูกยิงเสียจนสภาพร่อแร ลูกเรือกว่าครึ่งหนึ่งได้รับบาดเจ็บหนัก และเครื่องยนต์บางส่วนก็เสียหายอีกด้วย ในขณะที่เขาพยายามประคองเครื่องบินกลับไปยังประเทศอังกฤษนั้น เขาและนักบินคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นว่าเครื่องบินรบ ME-109 ของเยอรมัน บินเข้ามาใกล้เครื่องของเขามากแล้ว ทุกคนในเครื่องจึงทำใจไว้แล้วว่าโดนยิงเครื่องตกแน่นอน ทว่านักบินเยอรมัน Franz Stigler กลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เขาไม่ได้ยิงเครื่องบิน B-17 แต่อย่างใด นักบินเยอรมันกลับทำความเคารพให้พวกเขาเห็น แล้วบินคุ้มกันพวกเขาไปส่งจนสุดเขตน่านฟ้าเยอรมัน   Charlie Brown   Brown พาเครื่องบินกลับมาถึงฐานที่ประเทศอังกฤษได้อย่างปาฏิหาริย์ แม้ว่าเครื่องยนต์ 2 ใน 4 ของเครื่องบินจะพังไปแล้ว และน้ำมันก็แทบจะไม่เหลืออยู่เลยก็ตาม หลังจากจบสงครามแล้ว เขาก็ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกตามปกติ เขาพบรักและได้แต่งงาน มีลูกสาวสองคน จากนั้นเมื่อเขาถึงวัยเกษียณแล้ว เขาก็ย้ายไปอยู่ที่รัฐฟลอริด้า…

  • หนุ่มมาเลย์ทำตามฝัน ศัลยกรรมให้หน้าเหมือนตัวการ์ตูน ชาวเน็ตออกมาคอมเมนต์กันตรึม

    หนุ่มมาเลย์ทำตามฝัน ศัลยกรรมให้หน้าเหมือนตัวการ์ตูน ชาวเน็ตออกมาคอมเมนต์กันตรึม

    การทำศัลกรรมในสมัยนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะว่าเป็นวิธีที่ช่วยเปลี่ยนแปลงหน้าตาของเราให้ดูดีขึ้นมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ มีคนไปทำศัลกรรมกันมากมายจนการศัลกรรมนั้นกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ชายคนหนึ่งก็มีความฝันอยากจะทำศัลกรรมให้ตัวเองหน้าตาดูดีขึ้นเช่นกัน เขาจึงได้ทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าจนมีหน้าตาเป็นที่พึงพอใจ แต่สังคมรอบข้างของเขาคงจะไม่เห็นด้วยที่เขาไปทำศัลกรรมมา   ภาพของ Amirul Rizwan Musa ก่อนและหลังทำศัลยกรรม   Amirul Rizwan Musa หรือที่เป็นที่รู้จักกันในโลกออนไลน์ในนามว่า Miyyo Rizone เป็นชายหนุ่มอายุ 21 ปี สัญชาติมาเลเซีย เขาทำธุรกิจค้าขายเครื่องสำอางออนไลน์ และมีฐานลูกค้าเยอะ จึงนับว่ามีเงินมากในระดับหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจนำเงินจำนวนหนึ่งไปทำศัลกรรม ตามแบบที่เขาอยากทำมาตั้งนานแล้ว พอทำศัลกรรมสำเร็จเขาเลยโพสต์รูปหน้าตาใหม่ของเขา ให้ผู้ติดตามได้ดูสักหน่อย แต่กลับมีชาวเน็ตมากมายเข้าไปคอมเมนต์ในแง่ลบต่อหน้าตาใหม่ของเขา     โดยคอมเมนต์ส่วนใหญ่นั้นวิจารณ์ว่าหน้าใหม่ของเขาดูเหมือนกับตัวการ์ตูนที่หลุดออกมาจากจอยังไงยังงั้นเลย และมีข่าวแว่วมาว่าเขาใช้เงินถึงประมาณ 200,000 ริงกิต คิดเป็นเงินไทยกว่า 1.5 ล้านบาทไปกับการเปลี่ยนลุคใหม่ ซึ่งคนส่วนใหญ่น่าจะไม่ชอบในส่วนนี้ จึงต่อต้านที่เขาทำศัลยกรรมมา ส่วน Amirul นั้นออกเปิดเผยว่า ที่หน้าตาของเขาออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความชื่นชอบในแอนิเมะญี่ปุ่นของเขา แต่เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เขาอยากทำศัลกรรมเพราะต้องการลบรอยแผลเป็นที่ดูน่าเกลียดต่างหาก เมื่อตอนอายุ 16 ปีเขาป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส ทำให้เกิดแผลเป็นตามหน้าและตัวของเขา ส่งผลให้เขาสูญเสียความมั่นใจในหน้าตาของตัวเอง เขาจึงได้ทำศัลกรรมตามตัวละครในอนิเมะที่ชอบ เพื่อเรียกความมั่นใจของตนเองกลับมา  …

  • รุนแรงเหลือเกิน ชาวบ้านใน Norilsk จอดรถทิ้งข้างนอกแค่ 5 นาที พริบตาเดียวรถหายไปทั้งคัน

    รุนแรงเหลือเกิน ชาวบ้านใน Norilsk จอดรถทิ้งข้างนอกแค่ 5 นาที พริบตาเดียวรถหายไปทั้งคัน

    ในช่วงที่ผ่านมาพี่น้องชาวไทยในหลายๆ พื้นที่ก็ได้มีโอกาสสัมผัสกับความเย็นและอากาศหนาวกันไปบ้างแล้ว และที่ดินแดนหมีขาวอย่างประเทศรัสเซียเองเค้าก็ได้สัมผัสกับความเย็นของฤดูหนาวแล้วเช่นกัน แต่ทว่าอย่างที่เราทราบกันดีความหนาวแบบรัสเซียนั้นย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน!! ภาพของค่ำคืนแห่งขั้วโลกจากเมือง Norilsk ประเทศรัสเซียที่เผยให้เห็นปุยหิมะขาวๆ ที่ปกคลุมเมืองแห่งนี้ ซึ่งจากการรายงานของสื่อต่างประเทศเผยว่าความเย็นยะเยือกนี้จะปกคลุมนานถึง 6 สัปดาห์เลยทีเดียว     ชายคนหนึ่งจากเมือง Norilsk เล่าว่าเขาจอดรถไว้ด้านนอกเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น และหลังจากที่กลับมาก็พบว่ารถของเขาถูกพายุหิมะปกคลุมมันไปเรียบร้อยแล้ว คลิปวิดีโอของชายหนุ่มคนดังกล่าวที่กำลังพยายามขุดหิมะออก เพื่อทำให้เขาสามารถนำรถออกจากหิมะได้ และไม่ได้มีเพียงแค่รถของพี่คนนี้เท่านั้นที่ถูกหิมะทับถม แต่รถยนต์คันอื่นๆ ก็มีสภาพที่ไม่ต่างกันเลยทีเดียว   ไปชมคลิปวิดีโอของหนุ่มคนนี้ กับภาระกิจกอบกู้รถของเค้ากันได้เลย…   งานนี้เรียกได้ว่าหิมะท่วมเมืองกันเลยทีเดียว!!   ไม่ว่าจะเป็นจักรยานยนต์หรือรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านนนอก บอกได้คำเดียวเลยว่าไม่รอด!! .   จะรออะไรกันอยู่ล่ะพี่ ขุดซิครับขุด!! .   จากรายงานระบุว่าพายุหิมะนี้ตกลงมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา และเป็นเหตุให้ถนนหลายสายในเมืองไม่สามารถสัญจรได้ .   แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ชื่นชอบหิมะ นี่อาจจะเป็นสวรรค์ของคุณเลยก็ได้!!   ว้าววว แบบนี้ถ้ามีเฮลบลูบอยซักขวดล่ะก็… หวานชื่นรื่นรมย์กันแน่นอน!!   ที่มา siberiantimes

  • การขับขานร้องหมู่คณะ ที่ “เผ็ดร้อน” ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ดูไปก็แสบคอตามไปด้วย

    การขับขานร้องหมู่คณะ ที่ “เผ็ดร้อน” ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ดูไปก็แสบคอตามไปด้วย

    ถ้าหากเพื่อนๆ ได้ยินคำว่าการร้องเพลงที่ ‘เผ็ดร้อน’ ละก็ คงจะนึกถึงนักร้องมากความสามารถบางคน ที่สามารถร้องเพลงสะกดใจคนดูได้ชะงัก ด้วยเสียงอันทรงพลัง ราวกับกำลังพ่นไฟอยู่บนเวทีก็ไม่ปาน แต่วันนี้ ที่ประเทศเดนมาร์กได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของวงร้องประสานเสียงที่เผ็ดร้อนที่สุดในโลกออกมาแล้ว ถ้าเกิดเราเปรียบว่านักร้องมืออาชีพสามารถพ่นไฟได้ละก็ วงประสานเสียงวงนี้คงจะทำให้ร่างลุกเป็นไฟได้เลยทีเดียว   Chili Klaus   ยูทูบเบอร์ Chili Klaus ได้กลับไปยังบ้านเกิดของเขาที่ประเทศเดนมาร์ก เขาไปเยี่ยมเยียนวงประสานเสียงที่เขาเคยเข้าร่วมเมื่อตอนยังหนุ่ม และร่วมกันร้องเพลง Oh Come, All Ye Faithful เนื่องในโอกาสวันคริสต์มาส พวกเขาร้องประสานเสียงได้เพราะมากทีเดียว   คลิปวิดีโอร้องประสานเสียงอันเผ็ดร้อน   แต่เมื่อพวกเขาร้องเพลงไปได้สักพักหนึ่ง พวกเขาก็หยุดพักและหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋า เมื่อลองมองดูดีๆ แล้ว สิ่งที่พวกเขาถืออยู่ก็คือ Ghost Pepper ซึ่งเคยเป็นพริกที่นับว่าเผ็ดที่สุดโลกมาก่อน จากนั้นพวกเขาทุกคน ก็กินพริกเข้าไปทั้งอันเลย แล้วการร้องเพลงที่เร่าร้อนที่สุดจึงเริ่มต้นขึ้น   พร้อมนะทุกคน   หนึ่ง … สอง …สาม … กิน!!   เมื่อความเร่าร้อนเพิ่มขึ้น ทุกคนก็เริ่มร้องเพลงด้วยใบหน้าที่มีสีแดงก่ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   หนุ่มน้อยคนนี้รู้สึกร้อนแรง…

  • หญิงชาวอินเดียโวย ถูกปฏิเสธวีซ่าเข้าอังกฤษ ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ภาษาของเธอดีเกินไป’ !?

    หญิงชาวอินเดียโวย ถูกปฏิเสธวีซ่าเข้าอังกฤษ ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ภาษาของเธอดีเกินไป’ !?

    Alexandria Rintoul หญิงสาวชาวอินเดีย ต้องการทำวีซ่าเพื่อขอเข้าไปอยู่กับสามีของเธอที่ประเทศอังกฤษ เธอเรียนจบด้านภาษาอังกฤษมาโดยตรง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เธอจะใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างช่ำชองทั้งด้านการพูด อ่าน เขียน   Bobby และ Alexandria Rintoul   เธอจึงเลือกที่จะสอบวัดระดับภาษาอังกฤษในระดับสูง เพื่อนำผลไปยื่นเป็นเกณฑ์อย่างหนึ่งในการทำวีซ่า แต่ทาง The Home Office ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการอนุญาตให้คนเข้าประเทศ ไม่อนุมัติให้วีซ่าของเธอผ่าน เพราะผลวัดระดับภาษาอังกฤษของเธอ สูงกว่าเกณ์ที่ต้องการ     Bobby Rintoul สามีของเธอได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “เรารู้ว่าขั้นตอนการทำวีซ่านั้นยาก เราเลยจ้างคนที่ชำนาญเรื่องการทำวีซ่าให้มาช่วยเรา” “เขาก็บอกให้ Alexandria ทำแบบทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษขั้นสูงที่สุด เราก็เลยทำตามนั้นและส่งเอกสารทั้งหมดไปครบถ้วนหมดแล้ว”     ทว่าผลการตอบรับจากจดหมายของทาง The Home Office กลับแจ้งว่าภาษาอังกฤษของภรรยาของเขาดีเกินไป เลยปฏิเสธวีซ่าของเธอ “ในจดหมายเขียนว่าเธอน่าจะทำแบบทดสอบที่ง่ายกว่านี้แทน แต่เป็นความผิดของเธอเองที่ทำแบบทดสอบยากๆ โดยไม่จำเป็น และจะให้เราส่งเอกสารไปขอวีซ่าซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่การส่งเอกสารและเดินทางไปทำวีซ่าแต่ละรอบนั้นมันเสียเงินมากถึง 2,000 ปอนด์ (เกือบๆ 90,000 บาท) เลยนะ”…

  • ศิลปินสาวลงสีให้กับตัวการ์ตูนหญิงเสียใหม่ รายละเอียดมากขึ้น และสวยยิ่งกว่าที่เคยเป็น!!

    ศิลปินสาวลงสีให้กับตัวการ์ตูนหญิงเสียใหม่ รายละเอียดมากขึ้น และสวยยิ่งกว่าที่เคยเป็น!!

    สาวๆ คงจะมีการ์ตูนในดวงใจกันบ้างคนละเรื่องสองเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนจากค่ายไหนก็ตาม และสิ่งที่สะดุดตาสาวๆ มากที่สุดในเรื่องก็คงไม่พ้นนางเอกแสนสวยตัวแสดงนำของเรื่อง นั่งดูไปก็ได้แต่จินตนาการไปว่า อยากสวยอยากดูดีแบบเจ้าหญิงบ้างจังเลย ศิลปินหญิง Isabelle Staub เองก็ชื่นชอบตัวการ์ตูนหญิงเช่นกัน และเธอก็ได้ใช้ความสามารถทางศิลปะของเธอ แต่งเติมสีสันให้กับตัวการ์ตูนเหล่านี้ จนดูสวยงามขึ้นป็นกองเลย โดยเธอภาพตัวการ์ตูนของเธอ สื่อได้ถึงความเป็นตัวเองและมุมมองที่เธอมีต่อตัวละครนั่นเอง ตัวละครจากการ์ตูนเก่าๆ ที่เห็นลายเส้นไม่คม ทรวดทรงไม่สวย บัดนี้ได้ผ่านปลายปากกาของศิลปินหญิง จนกลายเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์ไปหมดแล้ว ลองไปชมกันดู   Meg จากเรื่อง Hercules   Snow White จากเรื่อง Snow White   Jessica Rabbit จากเรื่อง Who Censored Roger Rabbit?   Penny Proud จากเรื่อง The Proud Family   Belle จากเรื่อง Beauty and The Beast  …

  • มาซักที!! โตเกียวเปิดบริการล็อคกระเป๋า ขี้สบายไม่ต้องกลัวหาย ปล่อยมันไปตามความรู้สึก…

    มาซักที!! โตเกียวเปิดบริการล็อคกระเป๋า ขี้สบายไม่ต้องกลัวหาย ปล่อยมันไปตามความรู้สึก…

    ห้องน้ำในประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่ามีความสะดวกสบายอย่างมาก ทำให้เราสามารถปลดทุกข์กันได้อย่างเพลิดเพลินจนอาจเผลอหลับไปได้เลย แต่หลายคนที่เคยไปใช้บริการอาจต้องประสบกับปัญหาไม่สามารถลากกระเป๋าไปไว้ในห้องน้ำได้ จะวางทิ้งไว้ข้างนอกก็กลัวหายอีก จึงได้เกิดระบบรักษาความปลอดภัยรูปแบบใหม่ขึ้นมาแก้ปัญหานี้ นี่คือระบบล็อคกระเป๋าที่เรียกว่า Baggageport นวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าห้องน้ำได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น   นวัตกรรมที่ช่วยปกป้องกระเป๋าของคุณเอาไว้ .   เจ้าสิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถล็อคกระเป๋าลากของตัวเองเอาไว้หน้าห้องน้ำ แล้วเดินตัวปลิวเข้าไปปลดทุกข์ได้แบบชิลๆ ด้วยระบบการทำงานที่ง่ายแสนง่าย ขอเพียงแค่เรามีบัตรเติมเงิน IC Card บัตรแทนเงินสดยอดนิยมที่สามารถชำระค่าบริการต่างๆ ภายในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดาย เชื่อว่าหลายคนที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นคงจะคุ้นเคยกับเจ้าบัตร IC Card กันบ้างแล้ว เพราะมันอำนวยความสะดวกให้เราอย่างมาก เพียงแค่เติมเงินเข้าไปในบัตร จากนั้นเวลาจะชำระค่าเดินทางหรือสินค้าตามร้านสะดวกซื้อ เราก็ใช้บัตรนี้สแกนแทนเงินสดไปได้เลย รวดเร็วทันใจเสียจริง   หน้าตาตัวอย่างบัตร IC Card   หากเราอยากใช้บริการ Baggageport ก็เพียงแค่ดึงสายออกมาคล้องกับหูกระเป๋า จากนั้นก็เสียบกลับไปที่เดิม กดปุ่มหนึ่งครั้ง พอมีไฟสีฟ้ากระพริบก็ใช้ IC Card สแกนจนไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง เท่านี้กระเป๋าของเราก็จอดรออยู่หน้าห้องน้ำไม่หายไปไหนอย่างแน่นอน บางคนอาจสงสัยว่าบริการนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเปล่า? ขอบอกว่าไม่ต้องเสียเลยแม้แต่สตางค์เดียว เราสามารถใช้มันได้ฟรีๆ   ตัวอย่างการทำงานอันแสนง่ายดายของเจ้า Baggageport   ไม่ต้องกลัวว่าเราจะใช้ไม่เป็น เพราะเขามีโปสเตอร์อธิบายไว้ให้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ   ปัจจุบันเจ้า…

  • ชายในร่างซานต้า ผู้ทุ่มเทบทบาทมากว่าครึ่งศตวรรษ และยังคงทำหน้าที่ส่งความสุขต่อไป…

    ชายในร่างซานต้า ผู้ทุ่มเทบทบาทมากว่าครึ่งศตวรรษ และยังคงทำหน้าที่ส่งความสุขต่อไป…

    ใกล้ถึงวันคริสต์มาสแล้ว สิ่งที่อยู่คู่กับเทศกาลนี้มาตลอดและขาดไม่ได้เลยก็คือซานตาคลอส สวมชุดคลุมสีแดงตัวใหญ่ หน้าตาใจดี คอยแจกของขวัญให้กับเด็กๆ ซึ่งชายชาวอังกฤษ Ray Hulse ได้สวมบทบาทนี้มานานกว่า 55 ปีแล้ว Ray จะแปลงร่างเป็นคุณลุงซานต้าในทุกคริสต์มาส เขาทำอย่างนี้มาตั้งแต่อายุ 18 ปี ตั้งแต่ 1962 จนถึงตอนนี้อายุเขาปาเข้าไป 73 ปีแล้ว   ลุงซานต้า ผู้มอบความสุขให้กับเด็กๆ มานานกว่าครึ่งศตวรรษ   ในครั้งแรกที่เขาได้รับบทซานตาคลอส เขาได้แจกของขวัญให้กับคนในอู่รถยนต์ Ford เล็กๆ จนกระทั่งเขาเริ่มได้รับความนิยมและออกไปแจกของขวัญให้กับเด็กๆ ตามห้างสรรพสินค้าหรือโรงเรียนที่ตั้งอยู่รอบๆ เขต Shropshire บ้านเกิดของเขา เขาบอกว่า “การได้มอบความสุขและความสนุกให้กับเด็กๆ เป็นสิ่งที่เยี่ยมมากจริงๆ รางวัลที่ผมได้รับก็คือใบหน้าแห่งความสุขของทุกคน”     Ray เล่าอีกว่า เขาพยายามให้เด็กๆ ได้สานสัมพันธ์กับผู้ปกครอง เขาจะถามเด็กว่ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีไฟหรือไม่ แล้วแสงสว่างที่เกิดขึ้นนั้นถูกจุดประกายโดยพ่อหรือแม่กันล่ะ? เพื่อให้เด็กได้คิดถึงสิ่งดีๆ ที่ได้รับจากพ่อแม่มาโดยตลอด เขาชอบที่จะแหย่เด็กๆ เล่น และมุกคลาสสิกที่เราเคยได้ยินประมาณว่าคุณลุงซานต้าจะโดดลงมาในปล่องควัน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เขาจึงบอกกับเด็กๆ ว่าลุงซานต้ามีกุญแจวิเศษแทน…

  • ชาวเน็ตวิจารณ์ “นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับเสือ” ในไทย แถมบังคับคำราม ชี้เป็นการทารุณกรรม!?

    ชาวเน็ตวิจารณ์ “นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับเสือ” ในไทย แถมบังคับคำราม ชี้เป็นการทารุณกรรม!?

    แชร์กระฉ่อนทั่วโลกออนไลน์ในต่างประเทศเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Edwin Wiek โพสต์คลิปที่ถ่ายจากสวนสัตว์แห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า  “วันนี้ผมเห็นการท่องเที่ยวที่โหดร้ายในพัทยา เสือตัวนี้ถูกทิ่มด้วยไม้นับร้อยครั้งต่อวัน ทำให้มันอ้าปากส่งเสียงคำรามเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ภาพที่สวยงงาม…ถึงเวลาที่กฎหมายควรได้รับการเปลี่ยนแปลงสักที”     สำหรับคลิปดังกล่าวนี้พบว่าถูกถ่ายที่สวนสัตว์ชื่อดังแห่งหนึ่งในพัทยา ส่วนที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติคือการจ่ายเงินเพื่อเข้าไปถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดกับเสือ แต่ประเด็นคือในระหว่างที่นักท่องเที่ยวนั่งถ่ายรูปกับเสือนั้น จะมีเจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลสวนสัตว์ยืนอยู่ข้างๆ คอยใช้ไม้ทิ่มเข้าไปที่แก้มเสือ ทำให้มันร้องคำรามออกมา     นอกถ่ายรูปกับเสือแล้ว นักท่องเที่ยวบางส่วนยังขึ้นไปนั่งบนหลังเสือด้วย   คลิปบันทึกเหตุการณ์ที่เสือโดนไม้ทิ่มแก้มให้ร้องคำราม   จากคลิปดังกล่าวนี้ สร้างความไม่พอใจให้ชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ เพราะเป็นการทารุณกรรมสัตว์เพียงเพื่อแลกกับความสุขของนักท่องเที่ยว และนี่คือความเห็นส่วนหนึ่งของชาวเน็ต…   Edwin Benschop: ไม่กล้าดูเลย! ผมไม่เข้าใจว่านักท่องเที่ยวพวกนี้ภูมิใจกับภาพพวกนี้ได้อย่างไร? มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน!! Zoe Foster: เราจะช่วยเหลือเสือผู้เคราะห์ร้ายตัวนั้นได้ยังไง?   Donna Marie Tichenor:  นี่เป็นการกระทำที่น่าขยะแขยงมาก ฉันอยากเอาไม้ทิ่มชายคนนั้น 100 ครั้งต่อวัน ดูสิ๊จะชอบมั้ย   Natalie Coles : โอ้พระเจ้า นี่มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ เหล่านักท่องเที่ยวเค้าไม่รู้ตัวเลยเหรอว่านี่มันเป็นเรื่องที่ผิดน่ะ! Denise Dawson : ฉันอยากจะตั๊นหน้าผู้ชายคนที่ถือไม้นั่นจริงๆ เจ้าคนใจชั่ว และนักท่องเที่ยวงี่เง่า!!  …

  • อ้ออ๊อย!! เจ้าเสือดาวพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ ทำหน้าตาน่าสงสารจนมนุษย์ต้องช่วยเหลือไว้

    อ้ออ๊อย!! เจ้าเสือดาวพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ ทำหน้าตาน่าสงสารจนมนุษย์ต้องช่วยเหลือไว้

    ด้วยความไม่รู้ภาษีภาษาของสัตว์ ทำให้บางครั้งมันก็มักจะพาตัวเองไปเผชิญอันตรายต่างๆ ด้วยความไร้เดียงสาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของมัน และเมื่อเห็นสัตว์กำลังตกอยู่ในอันตรายซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือก็อาจจะเสียชีวิต มีหรือที่มนุษย์โลกผู้มีจิตใจอารีอย่างเราๆ จะไม่ช่วยเหลือแม้ว่าสัตว์ที่ต้องช่วยนั้นจะเป็นสัตว์ป่าที่ขึ้นชื่อว่าดุร้ายอย่างเสือก็ตาม   แง ช่วยหนูด้วย   ตามรายงานในประเทศอินเดีย มีสัตว์มากกว่า 1,500 ตัวต้องเสียชีวิตจากการพลัดตกไปในบ่อน้ำซึ่งมีมากในประเทศอินเดียเมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมืองกูวาฮาติ ในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดียและได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อมีเสือดาวตัวหนึ่งเกิดพลัดตกลงไปในบ่อน้ำที่มีความลึกมากถึง 9.1 เมตรและกำลังร้องขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน   สถานที่เกิดเหตุคือรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย   โดยชาวบ้านที่พบเห็นได้คาดการณ์เอาไว้ว่าเจ้าแมวยักษ์ตัวนี้ น่าจะพลัดตกลงไปในบ่อน้ำเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงแล้ว และเมื่อมาพบเสือตัวนี้อยู่ในบ่อน้ำเข้า พวกเขาก็ไม่รอช้าที่จะโทรแจ้งผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ให้มาช่วยเสือตัวนี้ออกจากบ่อน้ำนี้ทันที เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพวกเขาก็สรรหาวิธีที่จะนำเสือดาวตัวนี้ขึ้นมาให้ได้ แต่ด้วยความที่มันเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณเพชฌฆาตอยู่ทำให้การช่วยเหลือมันเป็นไปด้วยความลำบาก และต้องระวังตัวอยู่เสมอ ซึ่งต่างจากการช่วยแกะ ช่วยแพะที่ไม่มีภัยอันตรายเป็นอย่างมาก   โดยปกติมันน่ากลัวใช่ไหมล่ะ   ซึ่งหลังจากหาวิธีการช่วยเหลือมานาน พวกเขาก็ตกลงกันว่าเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและทั้งเสือ พวกเขาจะยิงยากล่อมประสาทไปที่ตัวเสือก่อนเพื่อให้มันไม่สามารถทำอันตรายใดๆ ได้หลังจากนั้นก็จะส่งคนลงไปอุ้มมันขึ้นมา   ในตอนนี้ไร้ซึ่งพิษภัยใดๆ   สำหรับผู้โชคดีที่ได้ลงไปสัมผัสเสือตัวเป็นๆ ก็คือ Dr. Bijoy Gogoi สัตวแพทย์มืออาชีพ เขาลงไปด้วยการปีนบันไดลงไปพร้อมกับกำเชือกในมือเพื่อจะผูกเสือตัวนี้แล้วให้คนช่วยดึง และเมื่อลงไปด้านล่างแล้วเขาก็พบว่าเจ้าเสือได้เชื่องเป็นแมวหงอยจากฤทธิ์ของยากล่อมประสาทนั่นเอง  …

  • ไบค์เกอร์กว่า 50 ชีวิต ร่วมใจไปส่งหนุ่มน้อยถึงโรงเรียน ปกป้องการกลั่นแกล้งที่ทำให้เกือบพรากชีวิตเขา…

    ไบค์เกอร์กว่า 50 ชีวิต ร่วมใจไปส่งหนุ่มน้อยถึงโรงเรียน ปกป้องการกลั่นแกล้งที่ทำให้เกือบพรากชีวิตเขา…

    เรื่องการกลั่นแกล้งหรือการบูลลี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาในสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน เพราะนับวันการบุลลี่นี้เริ่มจะทวีความรุนแรงไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งสังคมในโรงเรียนเองก็ยังมีการกระทำแบบนี้ขึ้น ซึ่งอาจไม่มีใครคิดว่าการบุลลี่กันแรงๆ นั้นอาจจะส่งผลกระทบถึงขั้นทำให้คนฆ่าตัวตายได้เลยทีเดียว เด็กชาย Phill Mick วัย 11 ปีก็เป็นคนหนึ่งได้ที่รับผลกระทบจากการบุลลี่ภายในโรงเรียน เขามักจะถูกเพื่อนๆ ร่วมชั้นล้อเลียนเรื่องน้ำหนักตัวของเขา ในบางครั้งก็ถูกเรียกว่า ‘ไอ้อ้วน ไอ้ไขมัน’ ซึ่งถ้อยคำเหล่านี้ถือว่าเป็นการล้อเลียนปมด้อยที่เขารู้สึกว่าไม่ชอบเอามากๆ พอโดนล้อเลียนหนักๆ และถูกแกล้งหนักขึ้นมันก็เริ่มทำให้เขาไม่อยากไปโรงเรียน     Tammy Mick แม่ของเด็กชายคนนี้กล่าวว่าลูกชายของเธอเคยเกือบที่จะฆ่าตัวตายเพราะโดนบูลลี่จากที่โรงเรียนมาแล้ว เขาโดนเพื่อนร่วมชั้นกลั่นแกล้งต่างๆ นานา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาทนไม่ไหวและพูดขึ้นมาว่าไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ปัญหาของลูกมันทำให้คนเป็นแม่แทบจะอยู่ไม่ได้ เธอจึงไปพูดคุยกับ Brent Warfield หัวหน้ากลุ่มไบเกอร์ให้ช่วยหาวิธีช่วยลูกชายของเขา Brent จึงตัดสินใจเรียกประชุมสมาชิกกลุ่มเพื่อหาทางช่วยเหลือเด็กชายคนนี้ เพราะนี่คือปณิธานหลักของกลุ่มที่ตั้งใจจะช่วยเหลือใครก็ตามที่ถูกบูลลี่     “ในฐานะกลุ่มชุมชนคนรักมอเตอร์ไซค์อย่างเรา ผมไม่ต้องการเห็นเด็กถูกรังแก ที่มีผลไปสู่การฆ่าตัวตาย” Brent กล่าว ทางกลุ่มก็ได้หาวิธีโดยการพูดคุยให้กำลังใจกับเด็กชาย และเซอร์ไพรส์ยิ่งไปกว่านั้น ชาวไบเกอร์ 50 คนได้มารอรับเขาในวันรุ่งขึ้นเพื่อที่จะส่งเขาไปโรงเรียน     หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าแล้ว ชาวไบเกอร์ก็ได้ไปส่ง Phill ที่โรงเรียน Dekalb Middle School…

  • เผยสภาพอันย่ำแย่ภายในค่ายลี้ภัย Moria ต้องรองรับผู้ลี้ภัย 7,000 คน สวรรค์ที่ไม่มีจริงอีกต่อไป…

    เผยสภาพอันย่ำแย่ภายในค่ายลี้ภัย Moria ต้องรองรับผู้ลี้ภัย 7,000 คน สวรรค์ที่ไม่มีจริงอีกต่อไป…

    ประเทศซีเรีย ยังคงอยู่ในช่วงของภาวะสงครามมาจนถึงปัจจุบัน จนทำให้ผู้คนจำนวนมากตัดสินใจลี้ภัยออกมา เพื่อหวังจะมาอาศัยอยู่ในค่ายอพยพเพราะเชื่อว่าจะได้พบกับชีวิตที่ดีกว่าเดิม แต่ความเป็นจริงมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว หนึ่งในค่ายที่มีผู้อพยพไปเป็นจำนวนมากคือค่ายลี้ภัย Moria ตั้งอยู่บนเกาะเลสบอส ประเทศกรีซ ค่ายแห่งนี้เคยเป็นคุกมาก่อน เคยจุคนได้ 2,000 คน แต่ในปัจจุบันมันได้กลายเป็นค่ายที่มีผู้อพยพอาศัยอยู่มากกว่า 7,000 คน และได้ชื่อว่าเป็น “ค่ายอพยพที่เลวร้ายที่สุดในยุโรป”   ค่ายลี้ภัย Moria สถานที่ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้อพยพในยุโรป   เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าการใช้ชีวิตกันอย่างแออัดและถูกล้อมด้วยกำแพงรอบด้านของคนเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เพราะภายในเขตรั้วไม่สามารถนำกล้องเข้าไปได้ สำนักข่าว BuzzFeed เคยพยายามเข้าไปบันทึกภาพภายในสถานที่นี้ แต่ก็ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่เสียก่อน ซึ่งให้เหตุผลกับสื่อว่า การเข้ามาถ่ายรูปภายในค่ายอพยพถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จนกระทั่งผู้อพยพใช้วิธีการส่งต่อภาพภายในนั้นผ่าน WhatsApp ด้วยสัญญาณมือถือ เพื่อให้คนด้านนอกรับรู้ว่าการใช้ชีวิตของพวกเขาเลวร้ายมากขนาดไหน   ทางเดินที่เต็มไปด้วยเต็นท์จำนวนมาก (หากดูไม่ได้ ให้กดที่ลิงก์ Twitter) This one taken after a recent rainstorm, shows the pathways of #MoriaCamp lined with ad…

  • พี่ชายนักบินแอบมาเซอร์ไพรส์น้องสาวในวันจบการศึกษา หลังจากที่บอกไว้ว่าไม่ได้มา

    พี่ชายนักบินแอบมาเซอร์ไพรส์น้องสาวในวันจบการศึกษา หลังจากที่บอกไว้ว่าไม่ได้มา

    วันจบการศึกษาเป็นอีกหนึ่งวันที่สำคัญต่อชีวิตของหลายๆ คนเป็นอย่างมาก มันนับได้ว่าเป็นวันที่พวกประสบความสำเร็จในชีวิตอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งหลายๆ คนก็ได้ตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้มาตลอดชีวิต ในวันเรียนจบ พวกคงจะจำได้ถึงบรรยากาศของความชื่นชมยินดีที่ไม่ว่านึกถึงทีไร ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้ง และในวันสำคัญของเรานั้นคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ครอบครัวได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพื่อแสดงความยินดีในวันแห่งความสำเร็จนี้ เหมือนเช่นดั่งเรื่องราวของ Miranda Maggart จากเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกากับวันสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมของเธอ แต่วันสำเร็จการศึกษาของเธอก็มีอันต้องสะดุดเมื่อ Derrak Maggart พี่ชายของเธอที่เป็นทหารอากาศได้บอกว่าเขาไม่สามารถมาแสดงความยินดีกับเธอได้ในวันสำเร็จการศึกษา เนื่องจากเที่ยวบินที่จะบินกลับบ้านนั้นไม่มี เธอดูเสียใจเล็กน้อยแต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป   พี่ชายงานดีสุดๆ   แต่เธอหารู้ไม่ว่านี่เป็นแผนการเซอร์ไพรส์จากพี่ชายของเธอที่เตรียมบินกว่า 7,000 ไมล์จากเกาหลีใต้สู่ไมอามีเพื่อเซอร์ไพรส์น้องสาวสุดที่รักของเขา พี่ชายได้พูดคุยกับทางโรงเรียนในแผนการเซอร์ไพรส์น้องสาวของเขาในครั้งนี้ โดยขอให้เขาได้ขึ้นพูดอะไรสักเล็กน้อยบนเวที และเมื่อพิธีจบการศึกษาก็มาถึง พี่ชายได้ปรากฏตัวบนเวทีและกล่าวแสดงความยินดีกับน้องสาวของเขา น้ำตาแห่งความตื้นตันของเธอก็ร่วงลงทันที   . . . .   ช่วงเวลาสุดแสนประทับใจ   ที่มา inspiremore

  • ‘พ่อพระแห่งสรรพสัตว์’ ผู้ฝ่ากัมมันตรังสีสู่ฟุกุชิมะ คอยเลี้ยงดูชีวิตที่ถูกหลงลืมไว้เบื้องหลัง

    ‘พ่อพระแห่งสรรพสัตว์’ ผู้ฝ่ากัมมันตรังสีสู่ฟุกุชิมะ คอยเลี้ยงดูชีวิตที่ถูกหลงลืมไว้เบื้องหลัง

    เมื่อปี 2011 ได้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ขึ้นในจังหวัดฟุกุชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นเขตหวงห้าม ไร้คนอยู่อาศัย เนื่องมาจากอันตรายของกัมมันตรังสีที่กระจายออกมา แม้ว่าชาวบ้านในละแวกนั้นจะสามารถอพยพออกไปอยู่ที่อื่นได้ แต่สัตว์จำนวนมากกลับถูกทิ้งเอาไว้ในสถานที่แห่งนั้น ไม่มีใครเข้าไปดูแล ยกเว้นชายคนนี้ที่ยอมฝ่ากัมมันตรังสีเข้าไปอาศัยอยู่กับพวกมัน โดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง   นี่คือ Naoto Matsumura มนุษย์เพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในเขตกัมมันตรังสีที่ชื่อว่า 12.5-mile ในจังหวัดฟุกุชิม่า   ในตอนแรกที่เขากลับมา ก็เพื่อจะมาหาสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แต่เขาพบว่ายังมีสัตว์อีกมากที่ต้องการการดูแลเช่นเดียวกัน   เขาจึงตัดสินใจดูแลสัตว์ทุกตัวที่ถูกทิ้งไว้ในบริเวณนี้ทั้งหมด   ชายวัย 55 ปีคนนี้รู้ดีว่า การอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมันอันตรายมากขนาดไหน แต่เขากลับไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นซักเท่าไหร่   เขาไม่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยมานานราว 30-40 ปี และคิดว่าถ้ายังไงก็ต้องตายอยู่ดี แล้วเราจะไปสนใจเรื่องนั้นทำไมให้มากมาย   เขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2011 และยังคงสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด   ตอนกลับมาเขาได้เจอวัวเป็นพันๆ ตัว ที่ถูกขังและตายอยู่ในโรงนาหลายแห่ง   สัตว์หลายๆ ตัวที่ถูกเจ้าของเก่ามัดเอาไว้ เขาก็เป็นคนมอบอิสระให้กับมัน   รวมถึงการให้อาหารกับสัตว์ทุกชนิด   และถึงแม้รัฐบาลจะห้ามไม่ให้เขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ แต่นั่นไม่อาจหยุดความตั้งใจของชายคนนี้ไว้ได้   เขาอาศัยและดูแลสัตว์ทั้งหลาย ด้วยสิ่งของที่ได้รับบริจาคมา…

  • มิติใหม่แห่งการแทง นักสนุ๊กจีนเปิดอัลติ ‘สะบัดไม้คิว’ ใช้สะกิดลูกแดง เช็ดครกแบบนี้ก็ได้เหรอฟะ!?

    มิติใหม่แห่งการแทง นักสนุ๊กจีนเปิดอัลติ ‘สะบัดไม้คิว’ ใช้สะกิดลูกแดง เช็ดครกแบบนี้ก็ได้เหรอฟะ!?

    เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2017 ได้มีการแข่งขันสนุกเกอร์รายการ Scottish Open รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง Neil Robertson กับ Cao Yupeng โดย Neil สามารถพลิกกลับมาชนะได้จาก 4-8 เฟรม กลายเป็น 9-8 เฟรม แต่แทนที่คนดูจะพูดถึงการเอาชนะได้อย่างน่าทึ่งของอดีตมือวางอันดับ 1 ชาวออสเตรเลียคนนี้ หลายๆ คนกลับมุ่งประเด็นไปที่ลูกแทงของนักสนุ๊กชาวจีน Cao Yupeng เพราะมีอยู่หนึ่งไม้ที่เขาแทงลูกขาวแบบแปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน จนพากันสงสัยว่า “สนุ๊กมันแทงกันอย่างนี้ก็ได้หรอ!?”   วิธีการแทงสนุ๊กแบบที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน   วิธีการแทงของเขาในลักษณะนี้ เกิดจากความตั้งใจที่จะป้องกันไม่ให้ Neil สามารถแทงต่อได้ง่ายๆ ป้องกันความต่างของคะแนนเอาไว้ แต่เทคนิคการแทงแบบงงนี้ก็ทำให้นักสนุ๊กระดับตำนานอย่าง Dennis Taylor ถึงกับออกมาบอกว่า “จากที่ผมเล่นสนุกเกอร์มา 60 ปี ผมไม่เคยเห็นการแทงแบบนี้มาก่อนเลย”   นักสนุ๊กระดับตำนานยังงง เพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย   นอกจากมันจะแปลกตาแล้ว มันยังทำให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่า วิธีการนี้ถือว่าผิดกติกาหรือไม่?…

  • เสียงที่ไม่มีใครได้ยิน จากเด็กหนุ่มไร้กราม สู่เวทีชีวิตนักแต่งเพลงเพื่อความสุขของผู้คน

    เสียงที่ไม่มีใครได้ยิน จากเด็กหนุ่มไร้กราม สู่เวทีชีวิตนักแต่งเพลงเพื่อความสุขของผู้คน

    เคยคิดไหมว่าเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาไม่มีกราม พูดไม่ได้กินข้าวปกติก็ไม่ได้จะสามารถก้าวเข้าสู่วงการดนตรีได้? ถ้าคุณไม่เคยคิดหรือไม่รู้ว่าคนแบบนี้อยู่ เชิญพบกับ Isaiah Acosta เด็กหนุ่มผู้เกิดมาไร้กรามแต่ไม่ไร้เสียงดนตรี… Isaiah Acosta เป็นเด็กหนุ่มวัย 17 ปี จากเมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขานั้นแตกต่างจากเด็กหนุ่มคนอื่นๆ ตรงที่เขาเกิดมาไม่มีฟันกรามข้างล่าง ซึ่งนั่นส่งผลให้เขาไม่สามารถพูดหรือกินได้ตามปกติ     ในตอนแรกนั้นหมอบอกกับ Isaiah ว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะรอดและมีชีวิตด้วยสภาพนี้ได้ แต่ถ้าเขารอดเขาก็จะเดินไม่ได้ ทว่าเด็กหนุ่มนั้นไม่ยอมแพ้และสู้กับชีวิตอันโหดร้ายของเขามาพร้อมแสดงให้หมอเห็นว่า เขาไม่ตายและเขาก็เดินได้สบายมาก     แน่นอนว่าการเกิดมาในสภาพนี่้การใช้ชีวิตก็จะต้องลำบากว่าคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งจากสังคมรอบตัวของเขา หรือการใช้ชีวิตที่ยากลำบากก็ตาม ซึ่งเขาไม่ยอมแพ้ต่อมัน และด้วยความที่ Isaiah เป็นคนที่ชื่นชอบเสียงเพลงมากๆ โดยเฉพาะเพลงแรป ผนวกเข้ากับการที่เขาไม่ได้หูหนวกแต่อย่างใดทำให้เขาสามารถเข้าใจทำนองและจังหวะของเพลงได้ เขาจึงเริ่มหัดเขียนเพลง บทกวีและอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ตัวหนังสือก็เลยเป็นชีวิตของ Isaiah เขาใช้มันเพื่อบอกถึงชีวิตของเขาผ่านเพลงแรปที่เขาแต่งขึ้น แต่กลับกันในเมื่อเขาพูดไม่ได้ ก็หมายความว่าเขาร้องเพลงแรปที่แต่งขึ้นไม่ได้ ฉะนั้นเพลงที่เขาแต่งจึงไม่ถูกถ่ายทอดออกไป     จนกระทั่งโชคก็นำพาให้เด็กหนุ่มผู้ไร้เสียงมาเจอกับ Trap House แรปเปอร์ชื่อดังของ West Coast ซึ่งทั้งคู่ได้ตัดสินใจทำงานร่วมกันโดยเด็กหนุ่มไร้เสียงเป็นผู้เขียนเนื้อเพลงขึ้นมา ส่วนแรปเปอร์ผู้มีเสียงเป็นเอกลักษณ์จะเป็นคนถ่ายทอดความในใจของเด็กหนุ่มออกมาเป็นบทเพลง    …

  • ตำนานของ Postnik Yakovlev สถาปนิกผู้สร้างวิหารเซนต์บาซิล กับจุดจบ ‘เสร็จตึกฆ่าคนสร้าง’

    ตำนานของ Postnik Yakovlev สถาปนิกผู้สร้างวิหารเซนต์บาซิล กับจุดจบ ‘เสร็จตึกฆ่าคนสร้าง’

    St. Basil’s Cathedral คือหนึ่งในโบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม สีสันสดใส ตัววิหารถูกล้อมรอบด้วยโดมรูปหัวหอมทั้ง 8 ที่มีลวดลายแตกต่างกันไป แต่เพราะความสวยงามเหล่านี้ที่ทำให้มีเรื่องราวอันโหดร้ายเกิดขึ้น ตามประวัติศาสตร์แล้ว สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในปี 1555 หลังจากที่ พระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย สามารถขับไล่ทหารมองโกลที่มารุกรานเมืองคาซานได้สำเร็จ วิหารแห่งนี้ก็คืออนุสรณ์สถานเพื่อประกาศถึงชัยชนะในครั้งนี้     ก่อนที่การก่อสร้างจะเริ่มต้นขึ้น ด้วยความที่พระองค์ต้องการให้สิ่งก่อสร้างนี้ออกมายิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในโลก เขาจึงใช้เวลาตามหาสถาปนิกที่ดีที่สุด จนได้ไปเจอกับ Postnik Yakovlev Postnik ได้สร้างผลงานนี้ขึ้นมาด้วยระยะเวลากว่า 6 ปี จนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวได้ออกมาประจักษ์แก่สายตาทุกคนในปี 1561 และแน่นอนว่าความสวยงามของมันกลายเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนที่พบเห็น โดยเฉพาะพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4     แต่ด้วยความที่อีวานเป็นกษัตริย์ที่มีความโหดเหี้ยมอย่างมาก จนได้ฉายาว่า “อีวานจอมโหด” จึงทำให้เขาเกิดความคิดว่า ไม่อยากให้มีสิ่งปลูกสร้างไหนๆ สวยกว่าวิหารนี้อีกแล้ว เขาจึงสั่งให้ทหารควักดวงตาของ Postnik เพื่อให้สถาปนิกคนนี้ไม่สามารถไปออกแบบก่อสร้างความสวยงามใดๆ ขึ้นมาได้อีก เรียกว่าเป็นความซวยของชายคนนี้จริงๆ อีกหนึ่งเรื่องที่หลายๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ ชื่อของวิหารแห่งนี้ถูกตั้งตามสมญานามของนักบุญ Vasily Blazhenny ผู้ที่สามารถทำนายปรากฏการณ์ต่างๆ…

  • เรื่องเล่าจากผองเพื่อนเผย ‘ปูติน’ เคยเป็นสตั๊นท์แมน ในหนังสงครามช่วงปี 1970 มาก่อน

    เรื่องเล่าจากผองเพื่อนเผย ‘ปูติน’ เคยเป็นสตั๊นท์แมน ในหนังสงครามช่วงปี 1970 มาก่อน

    ทุกครั้งที่พูดถึงผู้นำแห่งรัสเซีย เราก็มักนึกหน้าท่าน Vladimir Putin เป็นคนแรกๆ เพราะเขาเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและมากความสามารถ รวมทั้งยังเป็นมุขตลกจำนวนมากบนโลกอินเตอร์เน็ต แต่เรารู้กันไหมว่าท่าผู้นำ Putin นั้น นอกจากจะมีความเก่งตามที่กล่าวมา เขายังเคยไปโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงรัสเซียมาก่อนด้วยนะ โดยเพื่อนๆ ของเขาได้ออกมาบอกว่าสมัยก่อน Putin เคยเป็นสตั๊นท์แมนด้วย!!     เรื่องนี้ได้รับการยืนยันผ่านเพื่อนเก่าแก่ของเขา Vasily Shestakov ซึ่งเขาบอกว่าช่วงสมัยที่ปูตินยังต้องหาเงินค่าเล่าเรียนเอง เขาได้ไปสมัครเป็นสตั๊นท์แมนให้กับหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อตอนปี 1970 บทที่เขาได้รับนั้นเป็นบทของนายทหารรัสเซียตัวประกอบในเรื่อง โดยเป็นช่วงที่ต้องเดินทางไปสู้กับฝ่ายนาซีนั่นเอง และนอกจากนี้ตัว Putin เองก็ยังเคยไปแสดงหนังของค่าย Lenfilm Studio อีกหลายเรื่อยเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็น Battalion ในปี 1972 และ Blockade ในปี 1974     Vasily ยังบอกอีกว่า “ผมกับเขานั้นเคยแสดงร่วมกันในหนังเรื่อง Batallion และ Blockade ซึ่งตอนนั้นนี่รายได้ดีมากๆ เลย ตอนผมทำงานเป็นวิศวะกรผมได้เงินเดือนแค่ 110 รูเบิลต่อเดือนเท่านั้น แต่พอมาแสดงหนังแล้วกลับได้วันละ 75 รูเบิลเลยทีเดียว”   .   อย่างไรก็ตามข้อมูลหรือภาพเกี่ยวกับการเป็นสตั๊นท์ของท่านผู้นำก็ไม่มีการเก็บบันทึกไว้แต่อย่างใด อาจจะเพราะว่าตอนนั้นเขายังเป็นแค่ตัวประกอบก็ได้ ซึ่งทาง Lenfilm…

  • ชีวิตในหมู่บ้านอุณหภูมิ -60 องศาฯ ความหนาวเหน็บนี้กระทบชีวิตชาวบ้านมากแค่ไหน?

    ชีวิตในหมู่บ้านอุณหภูมิ -60 องศาฯ ความหนาวเหน็บนี้กระทบชีวิตชาวบ้านมากแค่ไหน?

    ตอนนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว หลายๆ คนอาจบ่นว่าบ้านเราไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ ซึ่งหากใครชอบอากาศแบบหนาวเย็นแล้วล่ะก็ ลองมาทำความรู้จักกับหมู่บ้าน Verkhoyansk ทางตะวันออกของรัสเซีย ในฤดูหนาวของที่นี่มีอุณหภูมิติดลบกว่า 60 องศาเลยทีเดียว ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Brice Portolano ผู้เข้ามาเก็บภาพการใช้ชีวิตของ Ayal เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้กับแม่ของเขา รอวันที่จะย้ายไปเรียนในเมือง Yakutsk ที่ห่างออกไปกว่า 600 กิโลเมตร ตามรอยพี่ๆ อีก 4 คนของเขา   Ayal เด็กหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ . .   พ่อกับแม่ของเด็กหนุ่มหย่ากัน จึงทำให้เขาอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังในหมู่บ้านที่ได้รับการบันทึกกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดว่า เป็นดินแดนที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันมากที่สุดในโลก โดยช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิจะติดลบที่ 67.8 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูร้อนอุณหภูมิจะเพิ่มสูงถึง 37.3 องศา ความหนาวจัดเย็นจัดของที่แห่งนี้ ทำให้การใช้ชีวิตของชาวบ้านแตกต่างออกไปจากพื้นที่อื่นๆ บนโลก น้ำที่พวกเขาใช้จะต้องไปตัดเอาน้ำแข็งจากในลำธารมาวางไว้หน้าบ้าน เมื่อไหร่ที่อยากจะใช้ก็แค่ยกมาละลายในบ้าน ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็มีน้ำประปาเหมือนกัน เพียงแต่น้ำจะมีอุณหภูมิสูงมากเพื่อป้องกันไม่ให้ท่อระเบิด และไม่สามารถนำน้ำนั้นมาดื่มกินได้   Stroganina ปลาแช่แข็งเหยาะเกลือกับพริก อาหารขึ้นชื่อของที่นี่…

  • ไม่ได้มีไว้นั่ง? พนักพิงดีไซน์แปลก ที่ชาวเน็ตญี่ปุ่นกำลังถกเถียงว่าเอาไว้ใช้ทำอะไรกันแน่?

    ไม่ได้มีไว้นั่ง? พนักพิงดีไซน์แปลก ที่ชาวเน็ตญี่ปุ่นกำลังถกเถียงว่าเอาไว้ใช้ทำอะไรกันแน่?

    กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากชาวเน็ตท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพสิ่งของบางอย่างจากสวนสาธารณะที่มาพร้อมกับรูปทรงแปลกๆ จนทำเอาหลายๆ คนสงสัยว่าตกลงแล้วเราจะนิยามเจ้าสิ่งนี้ว่าอะไรกันดี??   และนี่คือรูปร่างหน้าตาของมัน!!   คุณ @C_Kyoro เจ้าของภาพชวนน่าสงสัยดังกล่าว ได้พบวัตถุสีดำแปลกประหลาดนี้บริเวณสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองโตเกียว และด้วยความไม่สบายใจเขาจึงได้นำภาพดังกล่าวมาโพสต์ถามเพื่อนๆ บนโลกออนไลน์ ซึ่งนอกจากรูปทรงที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแล้ว เจ้าแท่งดำๆ นี้ยังมีป้ายติดเอาไว้ว่าห้ามนอนอีกด้วย งานนนี้ทำเอาชาวเน็ตถึงกับปวดหัวกันเลยทีเดียว ซึ่งหลายๆ คนก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย บางคนก็บอกว่านี่อาจจะเป็นที่พักเท้าสำหรับคนที่เมื่อยแข้งเมื่อขาก็ได้ หรือบางคนก็บอกว่าเจ้าสิ่งนี้อาจจะเป็นเก้าอี้ก็ได้นะ “ฉันคิดว่าเจ้าแผ่นสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกมานั้นมีไว้เพื่อป้องกันคนมาเล่นสเกตบอร์ดแน่ๆ เลย” หนึ่งในความคิดเห็นของชาวเน็ต   แต่ก็ได้มีชาวเน็ตท่านหนึ่งโพสต์ภาพของเก้าอี้ในสวนสาธารณะจากแคนาดาสุดล้ำภาพนี้ พร้อมกับเปรียบเทียบการออกแบบกับเจ้าแท่งที่ว่านี้   “นี่คือเก้าอี้ในสวนสาธารณะที่แคนาดา ที่ออกแบบมาเพื่อให้คนไร้บ้านได้ใช้เป็นที่หลบฝนได้ นี่สิคือการออกแบบที่คุ้มค่ากับภาษีที่พวกเขาเสียไป” ความคิดเห็นจากเจ้าของภาพเก้าอี้ดังกล่าว แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ขณะนี้การจำกัดความหมายและการใช้งานของแท่งดำๆ นี้ยังคงเป็นปริศนาสำหรับชาวเน็ตญี่ปุ่นอยู่ และดูเหมือนว่านอกจากนกแล้วก็คงจะไม่มีใครที่สามรถนั่งตรงแท่งเหล็กนี้ได้แน่นอน   เอ่!? หรือเค้าทำเอาไว้บูชาพระราหูกันนะเนี่ย   ที่มา rocketnews24

  • กระบวนการผลิตน้ำบริสุทธิ์ ด้วยตาข่ายดักจับหมอก หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาขาดน้ำของชาวเปรู

    กระบวนการผลิตน้ำบริสุทธิ์ ด้วยตาข่ายดักจับหมอก หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาขาดน้ำของชาวเปรู

    ถึงแม้ว่าปัจจุบันการเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ นั้นจะเป็นเรื่องที่ง่าย แทบจะทุกหลังคาเรือนมีอินเตอร์เน็ตใช้ และบางครั้งเราก็สามารถอัพภาพสวยๆ ได้จากยอดดอยได้แบบเรียลไทม์เลยทีเดียว แต่ถึงแม้โลกเราจะก้าวหน้าไปอย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่อย่างเช่นที่ประเทศเปรูนั้นการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างเช่นน้ำสะอาดนั้นกลับเป็นเรื่องยาก และมีผู้คนมากกว่า 10 ล้านคนที่ไม่มีน้ำปะปาใช้ และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของ Fog Catchers เครื่องสร้างน้ำสะอาดจากหมอก!!     คุณ Abel Cruz Gutiérrez ชายหนุ่มผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Fog Catchers เขาได้ทำคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาดในพื้นที่ย่านผู้มีรายได้น้อยของกรุงลิมา ประเทศเปรู เครื่องดักจับน้ำค้างนี้มีลักษณะคล้ายกับใบเรือขนาดใหญ่สี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ทำหน้าที่คอยดักจับไอน้ำในอากาศและเปลี่ยนเป็นน้ำสะอาดให้กับผู้คนในหมู่บ้านใช้ “Fog Catchers คือระบบที่ประกอบด้วยตาข่ายไนลอนที่จะทำหน้าที่ดักจับละอองน้ำที่มาพร้อมกับหมอก เมื่อไหร่ก็ตามที่มีกระแสลมพัดมา หมอกจะเคลื่อนผ่านเจ้าตาข่ายนี้และมันจะทำหน้าที่ดักจับน้ำ” คุณ Abel Cruz Gutiérrez ผู้ก่อตั้งองค์กร Peruvians Without Water และผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้     คุณ Gutiérrez และ Fog Catchers เครื่องมือแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของชาวเปรู   หลังจากนั้นหยดน้ำที่ถูกดักจับที่ไหลลงในท่อที่อยู่ด้านล่างและรวมกันในถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อนำไปใช้ในการอุปโภคบริโภคภายในหมู่บ้านต่อไป คุณ Gutiérrez เล่าว่าขณะนี้โครงการดังกล่าวมีมากถึง 14 โครงการทั่วประเทศ และมีผู้คนมากกว่า 20,000-30,000 คนที่ได้รับประโยชน์จากเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ โดย Fog Catchers 1 อันสามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่า 50-100…

  • หนูน้อยรอไฟลท์ในสนามบิน ชวนเจ้าหน้าที่ภาคพื้นเต้นด้วยกัน น่ารักน่าชังเหลือเกิน

    หนูน้อยรอไฟลท์ในสนามบิน ชวนเจ้าหน้าที่ภาคพื้นเต้นด้วยกัน น่ารักน่าชังเหลือเกิน

    ใกล้เข้าสู่วันปีใหม่กันแล้ว หลายๆ คนในตอนนี้อาจกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน เพื่อไปฉลองเทศกาลวันหยุดนี้กับครอบครัว จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นคนจำนวนมากไปรวมตัวกันตามสถานีขนส่งหรือสนามบินแต่นอกจากผู้คนมากหน้าหลายตาแล้ว เราอาจได้เห็นเหตุการณ์น่ารักๆ อะไรอย่างนี้ด้วยเหมือนกัน นี่คือความน่ารักของสองเด็กสาวและเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในสนามบิน Dallas รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อพวกเขาได้เต้นไปพร้อมๆ กัน สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 15 ธันวาคม 2017 และถูกบันทึกวีดีโอเอาไว้โดย Joe Vaughn พ่อของเด็กทั้งสอง ขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังรอขึ้นเครื่องกลับบ้านที่ตั้งอยู่ในเมือง Moore รัฐโอคลาโฮมา ภายในคลิปเราจะได้เห็นเด็กสาวพยายามเลียนแบบท่าเต้นของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่เต้นไปพร้อมๆ กับเธอ และมีเสียงของแม่ที่คอยหัวเราะและเชียร์พวกเธออยู่ข้างๆ   คลิปลีลาการเต้นของเด็กน้อยกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในสนามบิน   เจ้าหน้าสุดพลิ้วคนนี้วาดลวดลายออกมาอย่างเต็มที่ มีตั้งแต่ท่าขึ้นลงบันไดเลื่อน ท่าไก่ หรือกางแขนหมุนตัวไปมา ทำให้เด็กสาวสนุกสนานที่ได้เต้นไปพร้อมๆ กับเขา ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็คงสนุกไม่แพ้กันอย่างแน่นอน การเต้นในครั้งนี้ดูไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้เลย เพราะเด็กทั้งสองดูจะไม่เหนื่อยเลยแม้แต่นิดเดียว แต่สุดท้ายด้วยภาระหน้าที่ในตอนนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปลีกตัวออกไปทำงานของเขาต่อ     เชื่อว่าลีลาการเต้นของทั้งสามคนจะสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆ ได้ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความน่ารักๆ ที่แสดงให้เราเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ หรือกับใคร ทุกคนสามารถมอบความสุขและความสนุกให้กับตัวเองได้อยู่เสมอ ที่มา: dailymail

  • จดหมายจากผู้สำนึกผิดหลังจากที่ ‘ชักดาบค่าอาหาร’ ส่งเงินกลับมาให้พร้อมคำขอโทษ

    จดหมายจากผู้สำนึกผิดหลังจากที่ ‘ชักดาบค่าอาหาร’ ส่งเงินกลับมาให้พร้อมคำขอโทษ

    แน่นอนว่าการกินแล้วชักดาบคงทำให้เจ้าของร้านอาหารทุกคนรู้สึกไม่พอใจ ที่ตัวเองต้องสูญเสียรายได้ แต่บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มาจากความตั้งใจเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ Apollo Apollinaire เจ้าของร้าน Kilimandjaro ในประเทศอังกฤษ ได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2017 เขาได้เจอกับลูกค้าสามคนที่เข้ามากินอาหารในร้านแล้วออกไปโดยไม่ได้จ่ายเงินเลยซักบาท ซึ่งนั่นก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แม้ราคาอาหารมันจะไม่มาก แต่นั่นก็ทำให้เขาคิดว่าบนโลกนี้ยังมีคนเห็นแก่ตัวแบบนี้อยู่จริงๆ แต่ผ่านไปไม่กี่วัน ความคิดนั้นก็เปลี่ยนไป เมื่อมีจดหมายส่งมาที่ร้าน โดยภายในมีเงินและคำขอโทษจากชายสามคนนั้น   Apollo เจ้าของร้านอาหารสไตล์แอฟริกัน-แคริบเบียนแห่งนี้   ในจดหมายเล่าว่า ตอนแรกทั้งสามต้องการจ่ายเงินผ่านบัตรแต่ว่าทางร้านรับแต่เงินสดเท่านั้น พวกเขาจึงเดินออกไปหาตู้ ATM ระหว่างนั้นก็คิดกันได้ว่ารถไฟขบวนสุดท้ายที่จะเดินทางไปเมืองบ้านเกิดของพวกเขากำลังจะออกจากสถานีแล้ว ทั้งสามจึงรีบไปขึ้นรถไฟจนลืมกลับมาจ่ายเงิน พวกเขาจึงส่งเงินประมาณ 1,730 บาท สำหรับจ่ายค่าอาหารที่กินไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ และขออภัยที่ไม่สามารถเดินทางจากเมือง Middlesbrough มาขอโทษเจ้าของร้านด้วยตัวเองได้     แต่ถึงจะไม่ได้มาขอโทษต่อหน้า แค่นี้ก็ทำให้ Apollo รู้สึกปลาบปลื้มและประทับใจกับการแสดงความรับผิดชอบ และคำขอโทษของพวกเขา เจ้าของร้านคนนี้จึงถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว และชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น “เยี่ยมไปเลย เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็รับผิดชอบและจ่ายค่าอาหาร ยังคงมีคนดีๆ อยู่บนโลกของเราจริงๆ สินะ” “ไม่บ่อยหรอกนะที่จะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในปัจจุบัน สังคมต้องการคนอย่างพวกเขานี่แหละ”  …

  • เปิดเผยความจริงของ ‘หมาหมี’ ชะตาชีวิตอันน่าสงสาร ที่ถูกกำหนดไว้โดยมนุษย์

    เปิดเผยความจริงของ ‘หมาหมี’ ชะตาชีวิตอันน่าสงสาร ที่ถูกกำหนดไว้โดยมนุษย์

    จากที่มีข่าวว่ามีคนพบ ‘หมาหมี’ ในประเทศรัสเซียในตอนต้นเดือนธันวาคม 2017 ก็มีคนตั้งคำถามมากมายว่าตกลงแล้วหมาหมีตัวนี้ เป็นสุนัขพันธุ์ผสม หรือว่าเป็นลูกผสมจากสุนัขและหมีกันแน่ (สามารถอ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ ผู้คนต่างตั้งคำถาม ‘นี่หมาหรือหมี’ เอ็งคือตัวอะไร เลือกเอาดีๆ ซักอย่าง…) วันนี้สัตวแพทย์ได้ทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และได้พบความจริงที่น่าหดหู่เกี่ยวกับเจ้าหมาหมีตัวนี้     เจ้าหมาหมีตัวนี้มีชื่อเล่นว่า Medvebaka ซึ่งเป็นคำผสมระหว่างคำว่า Medved ที่แปลว่าหมี และคำว่า Sobaka ที่แปลว่าสุนัขนั่นเอง จากผลการตรวจเจ้าหมาหมีแล้ว ผลตรวจระบุว่ามันเป็นสุนัขพันธุ์ผสมที่มีเชื้อสายพันธุ์เชาเชาจริงๆ “มันมีลิ้นออกสีน้ำเงินซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสุนัขเชาเชา” “ผู้เพาะพันธุ์เชาเชาในทีมของเรา ตรวจสอบและมั่นใจแล้วว่ามันเป็นสุนัขพันธุ์ผสมจากเชาเชา ส่วนอีกครึ่งหนึ่งน่าจะเป็นสุนัขจรจัดพันธุ์จมูกยาวสักพันธุ์หนึ่ง”     แต่การผสมพันธุ์ครั้งนี้ คาดว่าน่าจะทำโดยพ่อค้าสัตว์ไร้จิตสำนึกสักคนหนึ่ง ที่อยากทำให้ลูกหมามีหน้าตาน่ารักแบบพันธุ์เชาเชา จะได้ขายสัตว์ได้ง่ายและได้ราคาดี แต่พ่อค้ากลับผสมพันธุ์มันอย่างลวกๆ เมื่อมันเติบโตมาแล้ว รูปร่างของมันก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น และเมื่อหมดความน่ารักแล้ว เจ้าของก็คงจะเอามันไปทิ้งไว้ข้างทางจนมีคนไปพบเข้านั่นเอง ทางสถานพักพิงสัตว์คาดว่าเจ้าหมาหมีคงจะถูกมนุษย์รังแกมาก่อนหน้านี้ ในตอนนี้มันจึงมีนิสัยดุร้าย ระแวงผู้คน และไม่สุงสิงกับสัตว์ในสถานพักพิงสัตว์เลย ซึ่งเป็นปัญหาทำให้หาคนเลี้ยงมันไม่ได้ในภายหลัง     ทางสถานพักพิงสัตว์ยังบอกอีกว่า “มันมักจะรู้สึกเครียดเวลาอยู่กับมนุษย์ มันก็เลยมีท่าทีต่อต้านและกัดคนที่พยายามเข้าหามัน เราคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาหลายอาทิตย์ หรืออาจจะเป็นเดือน ให้มันทำความคุ้นชินกับคน และลดนิสัยดุร้ายลง” ก่อนหน้านี้ก็มีคนที่สนใจมารับมันไปเลี้ยงเช่นกัน…

  • นักบาสหนุ่มผู้ทุ่มเทชีวิตและความฝันจากข้างถนน กับผลตอบแทนที่ไม่สวยงามดั่งฝัน

    นักบาสหนุ่มผู้ทุ่มเทชีวิตและความฝันจากข้างถนน กับผลตอบแทนที่ไม่สวยงามดั่งฝัน

    ชีวิตที่ยังคงดำเนินต่อไป หลายๆ ครั้งเราจำเป็นต้องเลือกหนทางด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ แต่ทางเดินที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบก็อาจทำให้เราต้องเจอกับความผิดหวังและท้อแท้บ้างในบางครั้ง เหมือนอย่างชายผู้ฝันจะเป็นนักบาสอาชีพคนนี้ สารคดี VICE SPORT ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของนักบาสหนุ่มที่ชื่อว่า Joey Haywood ผู้ใฝ่ฝันที่จะเข้า NBA มาตั้งแต่เด็ก จนทำให้เขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคและพบกับความผิดหวังในหลายๆ ครั้ง   Joey ชายผู้ฝันจะเป็นนักบาสอาชีพ   ชายคนนี้เล่นบาสมาตั้งแต่อายุแค่ 7 ขวบ ความสามารถอันโดดเด่นบวกกับลีลาการใช้ท่าพลิกแพลงสไตล์สตรีทบาสที่เรียกว่า AND1 เขาจึงทำผลงานได้ค่อนข้างดีในการแข่งขันให้กับทางโรงเรียนมาโดยตลอด แต่การนำสตรีทบาสมาผสมผสานก็ทำให้โค้ชของเขาหลายๆ คนไม่ค่อยชอบใจกันซักเท่าไหร่ เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในชื่อ King Handles นักบาสผู้มีลีลาแพรวพราว แต่ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะชอบ Joey แต่เขายังคงไม่ได้รับคัดเลือกให้เข้าไปเล่นในลีกสูงๆ อยู่ดี ถึงอย่างนั้น Joey ก็ไม่ได้ละทิ้งความฝัน ตัดสินใจเข้าร่วมทีมสตรีทบาสและออกไปแข่งตามทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ฝึกซ้อมอย่างหนัก หวังว่าซักวันหนึ่งตัวเองจะได้เข้าไปแข่งในลีกอาชีพ และหาเงินจากการเล่นบาส   การฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย   ปัจจุบันเขาอายุ 32 ปี มีภรรยาและลูกอีก 2 คนให้ดูแล…

  • เผยเบื้องหลังชีวิต มนุษย์ผู้อยากเป็นตุ๊กตา Human Ken Doll พร้อมภาพในอดีตก่อนจะเริ่มทำศัลยกรรม

    เผยเบื้องหลังชีวิต มนุษย์ผู้อยากเป็นตุ๊กตา Human Ken Doll พร้อมภาพในอดีตก่อนจะเริ่มทำศัลยกรรม

    ในปัจจุบัน การทำศัลยกรรมได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ไม่ใช่แค่การทำศัลยกรรมเพื่อการแพทย์เท่านั้น แต่การทำศัลยกรรมเพื่อความงามเองก็เช่นกัน จนเราอาจพูดได้ว่าใครๆ ก็ทำศัลยกรรมกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว การทำศัลยกรรมเพื่อเสริมความงามนั้น ช่วยให้คนเรามีรูปร่างตามที่ตนเองปรารถนา ซึ่งบริเวณที่คนนิยมทำศัลยกรรมกันมากก็คือจมูก หน้าอก และปาก แต่ว่าสำหรับบางคนแล้ว การแก้ไขเพียงบางส่วนของร่างกายไม่เพียงพอจะทำให้เขาพอใจได้ เขาจึงตัดสินใจทำศัลยกรรมทั้งร่างกายมันเสียเลย   Rodrigo Alves ผู้มีฉายาว่า Human Ken Doll   Rodrigo Alves เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ผ่านการศัลยกรรมมาอย่างโชกโชน โดยเขาใช้เวลามากว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตเพื่อเข้ารับการผ่าตัดและพักรักษาตัวเพื่อให้พร้อมสำหรับศัลยกรรมครั้งหน้า เขาทำศัลยกรรมจนแทบไม่เหลือเค้าของรูปร่างเดิมอยู่เลย สาเหตุที่เขาทำศัลยกรรมมากขนาดนี้ เพราะตัวเขามีความเชื่อว่าร่างกายที่มีมาตั้งแต่เกิดนั้น ไม่ใช่ร่างกายที่แท้จริงของเขา ดังนั้นเขาจึงพึ่งการทำศัลยกรรมเพื่อให้ตัวเองมีร่างกายที่ ‘สมบูรณ์แบบ’ ซึ่งเป็น ‘ร่างที่แท้จริง’ ของเขา   รูปร่างของเขาก่อนเริ่มทำศัลยกรรม   Rodrigo อธิบายว่า “ฉันเกิดมาอยู่ในร่างที่ผิด และฉันไม่หวั่นที่จะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อให้ได้ร่างกายที่แท้จริงมา” แพทย์ชี้แจ้งว่าเขาเป็นโรค Body Dysmorphic Disorder ซึ่งทำให้คนป่วยรู้สึกว่าร่างกายของตนไม่ใช่ร่างที่แท้จริง ส่วนร่างจริงๆ นั้นเป็นร่างที่อยู่ในจินตนาการต่างหาก “หมอบอกว่าฉันไม่ได้เป็นบ้า แค่มีปัญหาเรื่องมุมมองที่มีต่อร่างกาย ฉันมักจะฝันเสมอว่าฉันไม่ได้มีรูปร่างแบบที่เป็นอยู่ แต่พอตื่นมาแล้วลองส่องกระจก ฉันก็จะคิดว่าเสมอว่าคนในนั้นไม่ใช่ฉัน”     เขาจึงได้เริ่มทำศัลยกรรมจนมีรูปร่างดังที่เห็นอยู่ทุกวันนี้…

  • พัฒนาการของนายแบบรุ่นเยาว์จากอินโด Edward Candra จาก วัย 13 ถึง 17 ป๊าดดดด ยิ่งโตยิ่งหล่อ

    พัฒนาการของนายแบบรุ่นเยาว์จากอินโด Edward Candra จาก วัย 13 ถึง 17 ป๊าดดดด ยิ่งโตยิ่งหล่อ

    ถ้าหากเราถามสาวๆ ว่าชอบผู้ชายแบบไหนละก็ คงจะมีคำตอบมากมายหลากหลายกันเลยทีเดียว ก็แต่ละคนมีรสนิยมไม่เหมือนกันนี่นะ แต่ถ้าแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ละก็ส่วนใหญ่พวกเธอจะชอบผู้ชายที่ ‘หล่อ’ หรือไม่ก็ ‘น่ารัก’ น่ะแหละ แต่สาวๆ ไม่ต้องเลือกแล้วละว่าผู้ชายแบบไหนดีกว่ากัน เพราะวันนี้เราพบเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งรวมทั้งสองคุณสมบัติที่หญิงสาวหมายปองไว้ด้วยกันในคนเดียวแล้ว เขาคือหนุ่มน้อย Edward Candra นั่นเอง Edward Candra เป็นนายแบบสัญชาติอินโดนีเซีย เขาเริ่มต้นเข้าสู่วงการนายแบบตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยหน้าตาที่จิ้มลิ้มน่ารัก และหุ่นลีนๆ ที่มี เขาจึงเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ และหนุ่มๆ จำนวนมาก เรามาลองติดตามกันดูว่าเขามีพัฒนาการอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ช่วงเด็กหนุ่มคิวท์บอยจนมาเป็นหนุ่มวัยรุ่นสุดคูล   ตอนอายุ 13 ปีดูน่ารักน่าทะนุถนอมจังเลย   คุณน้องทำไมยิ้มน่ารักขนาดนี้ ขอเอาไปกอดที่บ้านได้ม๊ายยยย   พออายุ 14 ก็ดูแมนซั่มขึ้นมากทันตา   แต่ยังคงไม่ทิ้งลายความน่ารักและสดใสให้ เราได้ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ กัน   มุมนี้เห็นแล้ว ถึงกับต้องกลืนน้ำลาย อึกๆๆๆ เลย   ผ่านไปปีเดียว น้องเขามีกล้ามชัดมาก อยากเอามือไปลูบไล้…

  • 21 ภาพที่จะทำให้เราเห็นว่า ในปีที่ผ่านมานี้ มนุษยชาติเรา มาไกลกันขนาดไหน!!?

    21 ภาพที่จะทำให้เราเห็นว่า ในปีที่ผ่านมานี้ มนุษยชาติเรา มาไกลกันขนาดไหน!!?

    ในหนึ่งปีมีนวัตกรรมเจ๋งๆ หรือสิ่งประดิษฐ์แบบล้ำๆ ออกมามากมาย เพราะมนุษย์เราไม่รู้จักที่จะหยุดพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และดูเหมือนว่าหลายสิ่งอย่างที่เราเคยมองว่าเป็นจินตนาการจากในหนัง มันถูกสร้างขึ้นมาแล้วจริงๆ!! และนี่คือ 21 ภาพที่จะทำให้เรารู้สึกว่า ในปีที่ผ่านมาเนี่ย มนุษย์เราพัฒนาไปไกลมากเหลือเกิน (แอบดักแก่นิดนึง)   1. เรามีเครื่องไฮไลท์ข้อความ ที่สามารถบันทึกลงระบบดิจิตอล   2. มีแขนกลที่สามารถใช้ชาร์จแบตฯได้   3. ประตูห้องแบบโปร่งใสเมื่อไม่ได้ล็อค เมื่อล็อคปุ๊บ ก็ทึบปั๊บ   4. คุณแม่สามารถสัมผัสลูกน้อยในครรภ์ ผ่านการอัลตร้าซาวน์แบบ 3 มิติ   5. มีเครื่องแปลภาษาแบบทันใจ   6. มีกล้องที่มาทดแทนดวงตาได้   7. มีแขนกลสำหรับช่างสัก แบบพ่อหนุ่มคนนี้   8. แค่ 10 ปีผ่านไป ความแตกต่างของ SD Card ช่างไปไกลเหลือเกิน   9. เช่นเดียวกับเมมโมรี่การ์ด จากขนาดใหญ่จุได้น้อย มาสู่ขนาดเล็กแต่จุได้มาก   10. มีช้อนไฮเทคที่จะช่วยให้ชีวิตผู้ป่วย ง่ายขึ้นอีกเยอะ…

  • เที่ยวชม ‘คุกญี่ปุ่น’ ดูสะดวกสบาย แต่ลึกๆ กลับให้ความรู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมาน!!

    เที่ยวชม ‘คุกญี่ปุ่น’ ดูสะดวกสบาย แต่ลึกๆ กลับให้ความรู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมาน!!

    หากจะกล่าวถึงหนึ่งในประเทศในฝันแถบเอเชียที่มีทั้งระเบียบวินัยเป็นเลิศ ประเพณีอันงดงามเป็นเอกลักษณ์ บ้านเมืองสะอาด อัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยถึงน้อยมาก อันเนื่องมาจากเป็นประเทศที่พัฒนาทั้งทางด้านความคิดและรูปลักษณ์ภายนอก นั่นก็คือ ‘ประเทศญี่ปุ่น’ นี่แหละ     ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นมีอาชญากรรมน้อยมาก การปล้นจี้แทบจะไม่มีเลย โดยเทียบอัตราส่วนของประชากร 100,000 คน จะมีเพียงแค่ 49 เท่านั้นที่เป็นนักโทษ เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกาตัวเลขพุ่งสูงไปถึง 760 คน (อัตราเทียบในปีค.ศ. 2008)     โดยระบบยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่นเน้นในเรื่องของ ‘การสำนึกตัวให้กลับมาเป็นคนดี’ หากใครกระทำความผิดที่ไม่ร้ายแรงมากเป็นครั้งแรก ทั้งตำรวจและศาลจะว่ากล่าวตักเตือนก่อนและทำการปล่อยตัวไป พยายามติดต่อคนในครอบครัวช่วยพาผู้ที่หลงผิดกลับตัวเป็นคนดีให้ได้ แต่ถ้าหากว่ารุนแรงเกินกว่าจะเป็นคนดีได้ ก็ต้องถูกส่งตัวเข้าคุกไปตามระเบียบ     ดูผิวเผินจากระบบดังกล่าวแล้ว คล้ายๆ กับการให้อภัยแก่ผู้ที่หลงผิดให้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ และสภาพภายในของคุกญี่ปุ่นนั้นดูสะดวกสบายมากๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้เพรียบพร้อมทุกอย่าง แต่กระบวนการต่อจากนี้อาจทำให้ผู้ต้องหาภายในคุกกลับทุข์ทรมานยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก     เพราะหัวใจหลักของระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นคือ ‘การสารภาพ’ เพราะเชื่อว่าการสารภาพคือขั้นแรกของการกลับตัวกลับใจ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหาในอาชญากรรมรุนแรงอย่างการฆาตกรรม ทำให้เกิดปัญหาที่ว่าผู้ต้องสงสัยหลายรายยอมรับสารภาพ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอการสอบสวนแบบหนักหนาสาหัสอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 23 วัน โดยที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหา     โดยการสอบสวนเพื่อเค้นให้ยอมรับสารภาพของตำรวจญี่ปุ่น จะกินเวลาประมาณ…

  • สาวชนะสล็อตได้เงินรางวัล 1.3 พันล้าน โดนพนักงานบอกเครื่องรวนแล้วเลี้ยงอาหารหรูแทน!?

    สาวชนะสล็อตได้เงินรางวัล 1.3 พันล้าน โดนพนักงานบอกเครื่องรวนแล้วเลี้ยงอาหารหรูแทน!?

    ในบรรดาการลงทุนทั้งหลาย การพนันดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เพราะว่านอกจากบางอย่างจะต้องใช้ฝีมือแล้ว บางครั้งคุณยังต้องใช้โชคชะตาช่วยเกื้อหนุนด้วย ถึงจะได้เงินที่มาจากการเสี่ยงดวงแบบนี้ แต่ก็อย่างว่าดวงคนจะรวยทำอะไรก็รวย คนจะจนทำอะไรก็จน เหมือนกับผู้หญิงคนนี้ที่หมุนตู้สล็อตแมชชีนจนได้รางวัลใหญ่ แต่ทางคาสิโนกลับบอกว่ามันเป็นความผิดพลาดของเครื่องสล็อตแมชชีน และเสนออาหารเย็นเป็นการปลอบใจให้แทนเงินรางวัลก้อนโตซะอย่างงั้น   หน้าตาของหญิงสาวผู้พลาดรางวัลก้อนโต   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2016 เมื่อ Katrina Bookman เดินทางเพื่อไปเล่นการพนันที่ Resorts World Casino ซึ่งตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อเธอไปหมุนตู้สล็อตแมชชีนในคาสิโนแห่งนี้ก็ปรากฏว่าเธอได้รางวัลมูลค่ากว่าเกือบ 43 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 1.3 พันล้านบาท) เลยทีเดียว “มันขึ้นเป็นตัวใหญ่บนจอเลยบอกว่าฉันถูกรางวัลแจ็กพอตมูลค่ากว่า 43 ล้านดอลลาร์ ในตอนนั้นฉันเหน็บชากินไปทั้งตัวและแทบจะหยุดหายใจไปเลยก็ว่าได้” Bookman กล่าว   แหม สบายไปทั้งชาติเลยนะเนี่ย   ทว่าในตอนนั้น สาวสุดเฮงคนนี้ก็สัมผัสได้ว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ เพราะว่าเจ้าเครื่องสล็อตมันไม่ยอมออกตั๋วรางวัลขึ้นเงินให้กับเธอ และเมื่อพนักงานมาตรวจสอบให้ เธอก็ต้องได้รับข่าวร้ายจนแทบทรุด เพราะพนักงานบอกว่าสิ่งที่เธอเห็นมันเป็นความผิดพลาดของเครื่อง และเธอก็จะไม่ได้รับเงินรางวัลดังกล่าว แต่เธอก็ยังไม่ยอมแต่โดยดี เพราะเธอบอกว่าในตอนที่เธอเล่นเครื่องมีมันก็เป็นปกติดี และไม่มีอาการบ่งบอกว่ามันจะผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้น   หน้าตาของเครื่องสล็อตแมชชีนดังกล่าว   และในเวลาต่อมา เมื่อคณะกรรมการดูแลการพนันแห่งนครนิวยอร์กมาตรวจสอบ ก็พบว่าเธอถูกรางวัลจริง!! ทว่ารางวัลที่เธอถูกนั้นมีราคาเพียงแค่ 2.25 ดอลลาร์(ประมาณ…

  • เอ้าไหงงั้น!! เกาหลีเหนือเริ่มให้บริการสตรีมมิ่งคล้าย Netflix แต่ถ้าใครดูโชว์ต้องห้าม มีโทษถึงตาย

    เอ้าไหงงั้น!! เกาหลีเหนือเริ่มให้บริการสตรีมมิ่งคล้าย Netflix แต่ถ้าใครดูโชว์ต้องห้าม มีโทษถึงตาย

    ใครๆ ต่างก็รู้กันว่าประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ที่มีข้อจำกัดทางด้านกฎหมายมากมาย โดยประชาชนภายในประเทศส่วนใหญ่ยังไม่มีสิทธิที่จะเข้าถึงสิ่งที่เรียกว่า เวิลด์ไวด์เว็บ(www) ด้วยซ้ำ ทว่าในตอนนี้รัฐบาลเกาหลีเหนือดูเหมือนอยากจะลดความตึงเครียดให้แก่ประชาชน จึงได้สร้างแอพฯ ที่คล้ายกับแพลตฟอร์มชื่อดังระดับโลกอย่าง Netflix ขึ้นมาโดยพวกเขาได้ตั้งชื่อแอพฯ ที่สร้างขึ้นใหม่นี้ไว้ว่า My Companion 4.0 สำหรับแอพฯ ที่ทางรัฐบาลเกาหลีเหนือสร้างให้ประชาชนใช้นั้น เป็นแอพฯ อเนกประสงค์ที่สามารถทำได้หลายอย่างภายในแอพเดียว โดยมันสามารถทำได้ทั้งการอ่าน e-book ดูหนังภาพยนตร์ เล่นเกม รวมถึงการร้องคาราโอเกะก็มีให้ใช้งาน   หน้าตาของแอพฯ My Companion 4.0   แต่นั่นยังไม่พอเพราะนอกจากแอพฯ นี้จะสามารถให้บริการความบันเทิงหลายๆ อย่างทั้งการแสดงและกีฬาต่างๆ ได้แล้ว ภายในแอพฯ นี้ยังสามารถดูการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศในขณะนี้ได้ด้วย ทว่าก็มีข้อแม้นิดหน่อยสำหรับแอพฯ นี้เพราะว่ามันยังบรรจุสิ่งที่เป็นความลับของรัฐบาลเกาหลีเหนือเอาไว้ด้วย ซึ่งหากใครที่เข้าชมความลับดังกล่าวจะต้องมีโทษถึงตายเลยทีเดียว   เอาไปบันเทิงกันนะ   สำหรับในปัจจุบัน การเชื่อมต่อเข้าสู่โลกออนไลน์ส่วนบุคคลในประเทศเกาหลีเหนือสามารถแบ่งได้ 2 ระบบคือ ระบบแรกสำหรับชนชั้นสูงที่น่าเชื่อถือในประเทศเกาหลีเหนือจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ได้ทั่วโลกผ่านทาง www. เหมือนกับประเทศอื่นๆ บนโลก และอีกรูปแบบหนึ่งก็คือ ระบบอินทราเน็ตสำหรับประชาชนทั่วไปในประเทศที่จะสามารถเข้าได้เพียงเว็บไซต์ที่รัฐบาลกำหนดให้ไว้เพียงเท่านั้น ซึ่งเครือข่ายสำหรับชาวเกาหลีเหนือโดยทั่วไปนี้จะมีชื่อเรียกว่า Kwangmyong ซึ่งแปลว่าแสงสว่าง ซึ่งการใช้งานเครือข่ายอินทราเน็ตนี้จะต้องใช้เบราเซอร์ที่ชื่อว่า Naenara ที่ดัดแปลงมาจากเบราเซอร์ FireFox สำหรับการเปิดใช้งานเท่านั้น   โทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่รัฐบาลเกาหลีเหนือเป็นผู้ผลิต…

  • มันเจ็บช้ำ!! หนุ่มตอบคำถามผิดชวดเงินมูลค่ากว่า 3.8 ล้านทั้งที่คำตอบอยู่บนเสื้อแล้วแท้ๆ

    มันเจ็บช้ำ!! หนุ่มตอบคำถามผิดชวดเงินมูลค่ากว่า 3.8 ล้านทั้งที่คำตอบอยู่บนเสื้อแล้วแท้ๆ

    การได้พลาดอะไรไปทั้งๆ ที่มันเรื่องง่ายๆ นี่มันน่าเจ็บใจซะจริงเชียว ซึ่งหลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์เช่นนี้ ซึ่งมันทำให้รู้สึกเสียดายจนแทบจะร้องไห้ แต่คงไม่มีใครเสียใจเกินกว่าชายคนนี้ เพราะว่าเขาได้ไปออกเกมโชว์เกมหนึ่งแล้วตอบคำถามมูลค่าสูงสุดของรายการผิด ทำให้เขาต้องพลาดเงินรางวัลมูลค่า 3.8 ล้านบาทไปทั้งๆ ที่คำตอบอยู่บนเสื้อที่เขาใส่มาถ่ายรายการแล้วแท้ๆ     เหตุการณ์สุดทึ่งนี้เกิดขึ้นกับชายที่ชื่อว่า Alberto ขณะเขาไปออกรายการเกมโชว์ชื่อว่า Ahora Caigo รายการเกมโชว์ชื่อดังในประเทศสเปน ซึ่งเป็นรายการตอบปัญหาที่คล้ายๆ กับเกมเศรษฐีที่โด่งดังเมื่อครั้งอดีตในบ้านเรา การตอบคำถามของเขาได้ผ่านมาแล้วมากมาย และเดินทางมาถึงคำถามข้อตัดสินว่าเขาจะสามารถคว้าเงินรางวัลมูลค่ากว่า 100,000 ยูโร(ประมาณ 3.8 ล้านบาท) ไปครอบครองได้หรือไม่     โดยคำถามนั้นเป็นคำถามที่ว่า ‘สตีฟ โรเจอร์ รับบทเป็นอะไรในภาพยนตร์เรื่องอเวนเจอร์‘ ซึ่งมีตัวเลือกมาให้เขาเลือกสามข้อทั้ง หมอ ท่านเซอร์ และกัปตัน ซึ่งหากเป็นคอภาพยนตร์ก็คงจะตอบได้ไม่ยาก แต่ด้วยความที่เขาไม่รู้หรือไม่ใช่คอหนังก็ไม่ทราบทำให้เขาตอบคำถามนี้ผิดโดยเขาตอบว่า ‘น่าจะเป็นหมอนะ’ แต่ความพีคของการตอบคำถามข้อนี้ผิด ไม่ได้อยู่ที่ความไม่รู้ของเขา แต่ว่ามันเป็นเสื้อที่เขาใส่ต่างหาก เพราะว่าเสื้อที่เขาใส่มามันพิมพ์คำว่า ‘กัปตันอเมริกา’ ติดเอาไว้ตัวเบ้อเร่อ     ในขณะนั้นทั้งห้องอัดรายการหลังจากได้ยินคำตอบของ Alberto แล้วก็เงียบสนิทราวกับป่าช้ารวมถึงคู่แข่งอีกคนของเขาก็ยืนอึ้งไม่แพ้กัน เพราะว่าเสื้อที่เขาใส่มามันน่าจะแสดงว่าเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อ Arturo Valls พิธีกรดำเนินรายการได้ยินคำตอบจากปากของเขากับเสื้อที่เขาใส่มาก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่และบอกกับ Alberto ว่า “คุณไม่รู้หรอว่าเสื้อที่คุณใส่มาน่ะมันเป็นคำตอบของข้อนี้นะเนี่ย” Valls…

  • หากไม่มีใครรับน้องไป วันสุดท้ายของชีวิตคงต้องมาถึง แต่แล้วแม่ใหม่ก็พาไปอยู่ด้วย…

    หากไม่มีใครรับน้องไป วันสุดท้ายของชีวิตคงต้องมาถึง แต่แล้วแม่ใหม่ก็พาไปอยู่ด้วย…

    ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ เมื่ออยู่ในวัยเตาะแตะ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อประคับประคองชีวิตไม่ให้ตกอยู่อันตรายจนต้องจากโลกไปก่อนวัยอันควร แต่มิ้วน้อย Simon กลับถูกพบอยู่ข้างถนนเพียงลำพัง ไร้ซึ่งเงาของผู้เป็นแม่ แต่โชคดีที่มีคนมาเห็นมันซะก่อน จึงได้พาไปส่งให้ทางคลินิกสัตว์     Babybrobeans พนักงานของคลินิกเล่าว่า “ตอนที่ Simon ถูกพามาที่คลินิกสัตว์ มันอายุแค่ประมาณสัปดาห์ครึ่งเท่านั้น ที่น่าตกใจคือคนที่พามันมาบอกว่า ‘ถ้าไม่มีใครรับเลี้ยงมัน เราจำเป็นต้องให้มันตาย’ เพราะไม่อยากให้มันเผชิญชีวิตตามลำพัง” เมื่อได้ยินแบบนั้น เธอทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้ชะตากรรมมันเป็นอย่างนั้นโดยไม่ทำอะไรเลย ในที่สุดเธอก็เสนอที่จะรับเลี้ยงมิ้วน้อยตัวนี้ “แมววัย 18 ปีของฉันจากไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน และตอนนี้ํฉันก็พร้อมที่จะดูแลเหมียวตัวใหม่แล้ว” เธอบอก     ตอนแรก Simon เข้ามาพร้อมกับหมัดเต็มตัวเลย แต่หลังจากที่จับมันอาบน้ำ ทำความสะอาดตัว มันกลายเป็นมิ้วตัวใหม่ที่ไร้หมัด ทำให้มันรู้สึกสบายตัวมากขึ้น แม่ใหม่ของ Simon เริ่มให้อาหารมันและคอยดูแลมันทุกวันอย่างสม่ำเสมอ “มันทำทุกอย่างด้วยตัวมันเอง มันไม่ได้ร้องเสียงดังเพื่อขออาหารหรือเรียกร้องความสนใจ วันๆ มันเอาแต่นอนในทุกๆ ที่ที่มันต้องการ”     ถึง Simon จะดูแข็งแรงดีแล้ว แต่แม่ใหม่ก็ยังพามันกลับไปตรวจร่างกายที่คลินิกเสมอ และให้กินยาที่จำเป็น เพื่อให้น้ำหนักของมันขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ตอนนี้น้องแมวกำลังอยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต มันเลยเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา แต่ที่มันชอบที่สุดคือเวลาที่แม่เกาพุงให้     พอรู้ว่าแป้นโน๊ตบุ๊กให้ความอุ่นได้ก็นอนทับซะเลยนะ แถมยังหันเหความสนใจของแม่ด้วยการกดใส่ปุ่มกลับด้านหน้าจอ ร้ายแต่เด็กเลยนะ  …

  • ร้าน KFC ขนาดจิ๋วที่สุดในโลก เล๊กกกกกเล็ก แต่มันทำไก่ทอดได้จริงๆ นะเออ!!

    ร้าน KFC ขนาดจิ๋วที่สุดในโลก เล๊กกกกกเล็ก แต่มันทำไก่ทอดได้จริงๆ นะเออ!!

    หากพูดถึงร้านไก่ทอดที่รู้จักกันไปทั่วโลก หลายๆ คงจะนึกถึงร้าน KFC อย่างแน่นอน ด้วยเอกลักษณ์ด้านรสชาติและราคาที่ไม่แพงนัก ทำให้ไก่ทอดของผู้พันแซนเดอร์ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา มาในครั้งนี้พวกเขาได้เปิดสาขาใหม่ที่ไม่ได้มีเพียงแค่รสชาติที่ดั้งเดิม แต่ขนาดของร้านนั้นกลับดูแปลกตามากกว่าสาขาอื่นอย่างมาก เพราะนี่คือร้าน KFC ขนาดจิ๋ว ที่ขึ้นชื่อว่า “เล็กที่สุดในโลก” ด้วยขนาดที่สูงประมาณหัวเข่าของเราเท่านั้นเอง     เจ้าร้าน KFC สุดจิ๋วนี้คือผลงานล่าสุดของยูทูบเบอร์ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า Bistro Mniature ผู้สร้างผลงานอาหารจิ๋วเอาไว้เป็นจำนวนมาก และถึงแม้ว่าร้านจะมีขนาดเล็กมากก็ตาม แต่มันยังคงสามารถทอดไก่ให้พวกเรากินได้ไม่ต่างจากสาขาอื่นเลย เพียงแต่ไก่ที่เราได้จะมีขนาดเล็กกว่านิ๊สสสนึงเท่านั้นเอง หมดห่วงเรื่องกระดูกไปได้เลย เพราะถ้ามีจริงๆ มันก็คงไหลลงคอเราไปได้อย่างง่ายดาย   ไก่ทอดสไตล์มินิ ขนาดประมาณเล็บนิ้วก้อย   อุปกรณ์ที่จัดวางทุกอย่างภายในร่างก็ไซส์มินิหมดเลย   หนึ่งเมนู เราจะได้รับไก่ทอดจิ๋วสองชิ้น มันบดจิ๋วหนึ่งถ้วย บิสกิตจิ๋วและคุกกี้จิ๋ว แถมด้วยน้ำอัดลมแก้วเล็กๆ อีกหนึ่งแก้ว เพียงเท่านี้เราก็สามารถอิ่มท้องได้นานถึง 5 นาทีอย่างแน่นอน   กินอย่างนี้ทุกวัน วันละ 3 เซตพอ รับรองผอมชัวร์!!   น้ำอัดลมแก้วจิ๋ว ที่ช่วยให้เราสดชื่น (แต่ไม่หายคอแห้งหรอกนะ)   หากใครสนใจก็สามารถตามไปอุดหนุนร้าน KFC…

  • รู้หรือไม่ว่ามีเพียง 6 ประเทศบนโลกเท่านั้นที่ไม่มี “สนามบิน” แต่น่าเที่ยวไม่ใช่เล่นเลยนะ!!

    รู้หรือไม่ว่ามีเพียง 6 ประเทศบนโลกเท่านั้นที่ไม่มี “สนามบิน” แต่น่าเที่ยวไม่ใช่เล่นเลยนะ!!

    ปัจจุบันนี้ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเลือกเดินทางด้วยเครื่องบินโดยเฉพาะเวลาไปต่างประเทศ เพราะมันทั้งสะดวกสบายและประหยัดเวลาในการเดินทาง แต่รู้มั้ยว่าสำหรับ 6 ประเทศนี้ คุณไม่สามารถเดินทางไปด้วยทางเครื่องบินได้ เพราะพวกเขาไม่มีสนามบิน ดังนั้นจึงต้องใช้ช่องทางอื่นแทน   1. นครรัฐวาติกัน แม้ว่านครรัฐวาติกันจะได้รับการยอมรับให้เป็นประเทศหนึ่งในโลก แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีสนามบินของตนเอง แต่วิธีการเดินทางไปก็ไม่ยากหรอก แค่นั่งเครื่องบินไปลงกรุงโรม ประเทศอิตาลี แค่นั้นท่านก็ได้พบกับนครรัฐวาติกันแล้ว   2. ประเทศซานมาริโน ซานมาริโนเป็นประเทศขนาดเล็กที่โอบล้อมไปด้วยแผ่นดินอิตาลี มีประชากรประมาณ 33,000 คน และอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติ Federico Fellini ในเมือง Rimini ประเทศอิตาลี เพียง 14 กิโลเมตร   3. ประเทศโมนาโก ประเทศหรือราชรัฐโมนาโก เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มีประชากรเพียง 38,500 คน หากจะไปที่นี่คุณจะต้องเดินทางผ่านสนามบินนานาชาติ Nice Côte d’Azur ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ห่างจากโมนาโกเพียง 25 นาทีโดยรถยนต์   4. ประเทศลิกเตนสไตน์ ประเทศลิกเตนสไตน์มีขนาดเล็กเป็นอันดับที่…

  • บอสร่วมระดมทุน เพื่อซื้อบ้านให้เมียม่ายของลูกน้อง ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย…

    บอสร่วมระดมทุน เพื่อซื้อบ้านให้เมียม่ายของลูกน้อง ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย…

    เพื่อนร่วมงานไม่ใช่คนที่จะช่วยเราแค่ในการทำงาน แต่ในชีวิตจริงพวกเขาก็อาจพร้อมช่วยเหลือเราด้วยเหมือนกัน เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เมื่อเจ้านายพบว่าลูกน้องคนหนึ่งของเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่นาน เขาจึงต้องการที่จะทำอะไรซักอย่างเพื่อตอบแทนการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดของชายคนนั้น เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม 2016 เมื่อ Keith Ellick วัย 42 ปี เดินเข้าไปบอกกับเจ้านายของเขา Addam Smith ว่า เขาป่วยเป็นมะเร็งช่องคอระยะสุดท้ายและจะมีชีวิตอยู่ได้แค่เพียง 12 เดือนเท่านั้น   Keith (ด้านซ้าย) ผู้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และ Addam (ด้านขวา) เจ้านายของเขา   และนั่นจึงกลายเป็นเหตุผลให้ Addam ผู้อำนวยการบริษัทจัดสวนละรั้วบ้านในประเทศอังกฤษ ต้องการที่จะทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยเหลือลูกน้องของเขาคนนี้ เขาเล่าว่า “Keith คือคนที่ตั้งใจทำงานมานานกว่า 10 ปีที่อยู่ด้วยกัน เขาคิดถึงคนอื่นอยู่เสมอ แม้ในตอนที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย เขาก็เอาแต่ห่วงว่าภรรยาและลูกชายของเขาจะใช้ชีวิตอยู่กันยังไงเท่านั้นเอง” จากที่ Keith ยังคงห่วงภรรยาอยู่เสมอ ทำให้ Addam เปิดรับเงินบริจาคจนได้มาประมาณ 2,500,000 บาท เพื่อซื้อบ้านในเมืองลินคอล์น ประเทศอังกฤษ ให้กับครอบครัวของ Keith   ภรรยาและลูกชายของ…

  • หญิงผู้รอดชีวิตจากการปลิดชีพตัวเอง เผยความรู้สึกกับการต้องมีชีวิตอยู่อีกครั้ง…

    หญิงผู้รอดชีวิตจากการปลิดชีพตัวเอง เผยความรู้สึกกับการต้องมีชีวิตอยู่อีกครั้ง…

    ไม่ใช่ทุกครั้งที่การตัดสินใจของเราจะต้องถูกเสมอไป เพราะในบางครั้งเราอาจได้มารู้ทีหลังว่าที่เราทำลงไปนั้นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่อย่างน้อยมันก็อาจเป็นบทเรียนให้กับชีวิตเราในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้เหมือนอย่างหญิงสาวคนนี้.. นี่คือเรื่องราวของ Christen McGinnes วัย 46 ปีจากรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ผู้ที่พยายามฆ่าตัวตายด้วยการยิงปืนเข้าปากตัวเอง จนทำให้สูญเสียกรามขวา ลิ้น ฟันหลายซี่ ปากล่างและตาข้างขวาของเธอไป แต่อย่างน้อยเธอก็รอดมาได้จนพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต     เธอเล่าว่า ในปี 2009 เธอใช้ชีวิตทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น มีเพื่อนมากมาย รักงานที่ทำและเธอก็ยังสนิทกับคุณย่าของตัวเองเอามากๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานทุกอย่างก็กลับพินาศลงไปในพริบตา เธอตกงาน คุณย่าตายจากเธอไป พอเธอได้คบกับผู้ชายแสนดีคนหนึ่ง เขาคนนั้นกลับทิ้งเธอไปอีก เธอสูญเสียทุกอย่างแม้แต่เงินเก็บของเธอทั้งหมด ทำให้เริ่มกินเหล้าอย่างหนักและเกิดความคิดว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เธอขอตายซะยังจะดีกว่า ในปีต่อมา หญิงสาวจัดห้องตัวเองให้สะอาดสะอ้าน ก่อนที่จะออกไปตรงระเบียงเตรียมจะยิงตัวตาย วินาทีนั้นเธอไม่ได้กลัวความตายเลย แต่สิ่งที่เธอกลัวคือ กลัวว่ากระสุนจะพุ่งไปห้องข้างๆ จนทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บ     เธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกสงบเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ตอนนั้นฉันไม่กลัวตายเลย จากนั้นฉันจึงเหนี่ยวไกเข้าที่ศีรษะของฉัน” ในตอนนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนร่วมห้องของเธอก็อยู่ในห้องด้วย เมื่อเสียงปืนดังลั่น เพื่อนคนนั้นจึงรีบวิ่งมาดู ก่อนที่จะนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล     หญิงสาวอยู่ในอาการโคม่านานกว่า 3 สัปดาห์ สิ่งที่เธอจำได้เป็นอย่างแรกในตอนที่ตื่นขึ้นมาคือ…

  • โจรย่องเข้าบาร์ผ่านปล่องไฟ แต่ดันติดไปไหนไม่ได้ จนต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

    โจรย่องเข้าบาร์ผ่านปล่องไฟ แต่ดันติดไปไหนไม่ได้ จนต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

    คนที่ตั้งใจจะขโมยของเนี่ย พวกเขาคงต้องผ่านการวางแผนมาอย่างดี เพื่อกันการถูกจับได้ หรือความผิดพลาดอื่นๆ ระหว่างทำภารกิจ แต่อย่าคิดว่าวางแผนดีแล้วจะไม่มีผิดพลาดนะ ดูอย่างหนุ่มคนนี้สิ ขนาดคิดแผนสูงด้วยการย่องเข้าบาร์ผ่านทางปล่องไฟ สุดท้ายก็ไปไม่ได้รอด Jesse Alan Berube วัย 32 ปี ถูกจับได้เมื่อวันพุธที่ผ่านมาในเมือง Citrus Heights รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะพยายามบุกเข้าไปขโมยของในบาร์แห่งหนึ่ง     ถ้าเป็นโจรทั่วไปคงจะงัดประตูหรือหน้าต่างเข้ามาในช่วงที่เจ้าของไม่อยู่ แต่ Berube เลือกที่จะเข้าทางปล่องไฟ เพราะคิดว่าคงไม่มีใครคาดคิดแน่ๆ ตอนแรกก็เหมือนจะดีนะ ค่อยหย่อนตัวลงไป แต่แล้วพอลงไปครึ่งทางเขาก็พบว่าช่องมันแคบลงจนทำให้ลงไปต่อไม่ได้ จะถอยขึ้นไปก็ไม่ได้ด้วย เลยติดอยู่อย่างนั้น     เมื่อไม่สามารถทำอะไร และเขาไม่อยากให้ชีวิตต้องมาจบในสภาพนี้ด้วย ในที่สุด Berube ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาตำรวจให้มาช่วย ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก  Citrus Heights Police Department และกู้ภัยจาก Sacramento Metro Fire Department ก็มาถึงที่เกิดเหตุ     เจ้าหน้าที่เผยว่าพบ Berube ติดอยู่กลางปล่องไฟของบาร์แห่งหนึ่งในสภาพที่ถูกปกคลุมด้วยเขม่าควัน หน่วยกู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการช่วยเหลือ จนทำให้ขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่ทันทีที่ขึ้นมาได้ ตำรวจก็ใส่กุญแจมือพร้อมตั้งข้อหาพยายามลักทรัพย์…

  • สมุดคู่มือพ่อมดเล่มเล็กเขียนโดยลายมือของ J.K. Rowlings ราคาเกือบ 5 ล้านบาท!?

    สมุดคู่มือพ่อมดเล่มเล็กเขียนโดยลายมือของ J.K. Rowlings ราคาเกือบ 5 ล้านบาท!?

    เรากล้าพูดได้เลยว่าในโลกนี้ไม่มีใครหรอกที่ไม่รู้จัก แฮร์รี่ พอตเตอร์ นวนิยายดังของนักเขียนชื่อดัง J.K.Rowlings เพราะว่านวนิยายเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์ถึง 8 ภาคด้วยกัน แน่นอนว่าที่แฮร์รี่ พอตเตอร์มีชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้ เป็นเพราะนวนิยายนั้นมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม น่าตื่นตาตื่นใจ และไม่เหมือนใคร และด้วยความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง จึงทำให้ของสะสมจากซีรีส์แฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นที่นิยม และมีคนพร้อมจะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อครอบครองของสะสมเหล่านี้   J.K.Rowlings ผู้แต่งนิยายชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์   และในวันนี้เราจะพาแฟนๆ ทุกท่านไปดูของสะสมสุดพรีเมี่ยมจากซีรีส์นี้กัน ซึ่งไม่ใช่ของสะสมที่เคยเห็นกันแบบไม้กายสิทธิ์ หรือผ้าพันคอโรงเรียนฮอกวอตส์หรอกนะ แต่เป็นคู่มือนักเรียนฮอกวอตส์ที่เขียนมือโดย J.K.Rowlings เองต่างหาก โดยตัวสมุดก็ไม่ใช่คู่มือหนาปึ้กที่เต็มไปด้วยรายละเอียดแบบนั้นด้วย มันเป็นเพียงสมุดขนาดเท่าฝ่ามือ ขนาดเล่มกว้างแค่ 1.6 นิ้ว ยาวเพียง 2.4 นิ้ว และมีจำนวนหน้าเพียงแค่ 31 หน้าเท่านั้นเอง     ข้อมูลในสมุดเล่มนี้ จะเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จากภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ซึ่งเป็นภาคแรกสุดของซีรีส์ เกร็ดความรู้ที่ว่านั้นก็เป็นเพียงภาพวาดและคำอธิบายง่ายๆ ของข้อควรปฏิบัติเมื่อมาเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ฮอกวอตส์ในชั้นปีที่หนึ่งเพียงเท่านั้น   นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งต้องมีไม้กวาดทุกคน   ผู้ปกครองโปรดทราบว่า นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งห้ามนำไม้กวาดที่หาซื้อเองมาโรงเรียน  …

  • สุดยอดหญิงแกร่ง ใจสู้ทำข้อสอบปลายภาคในโรงพยาบาล แล้วคลอดลูกต่อทันที!

    สุดยอดหญิงแกร่ง ใจสู้ทำข้อสอบปลายภาคในโรงพยาบาล แล้วคลอดลูกต่อทันที!

    คำว่าผู้หญิงแกร่ง มีความหมายแตกต่างกันไปตามมุมมองของแต่ละคน บางทีก็หมายถึงผู้หญิงที่มีร่างกายแข็งแรง อาจจะหมายถึงผู้หญิงที่เก่งกว่าผู้ชาย หรือแม้แต่ผู้หญิงที่มีความอดทนอดกลั้นสูง สามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้มากมายก็ได้ แต่ใครจะแข็งแกร่งไปกว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่มีอีกแล้ว เพราะแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม แต่เธอก็ยังเรียนหนังสือด้วย ทำงานไปด้วย และยังทำงานมากถึงสามแห่งด้วยกัน เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังเอาข้อสอบปลายภาคมานั่งทำตอนรอคลอดหน้าตาเฉย   Nayzia Thomas หญิงเหล็ก ถึก อึด ทน   Nayzia Thomas เป็นนักศึกษาด้านจิตวิทยาของ Johnson County Community College ในรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอไปเข้าเรียนในชั้นเรียนตั้งแต่ตอนเธอเริ่มท้อง จนถึงตอนที่เธอมีอายุครรภ์ครบ 9 เดือนเลยทีเดียว ตอนแรกเธอวางแผนว่าเธอจะทำงานของหมดในภาคเรียนให้เสร็จ ก่อนจะถึงวันกำหนดคลอด แต่ดูเหมือนว่าลูกของเธออยากจะเจอหน้าคุณแม่ไวๆ เธอเลยจำเป็นต้องคลอดก่อนกำหนด แม้ว่าข้อสอบปลายภาคของเธอจะยังค้างอยู่ก็ตาม “ตอนนี้ยังไม่ถึงกำหนดส่งงานเลย แต่ฉันก็ตั้งใจจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนคลอดลูก เพราะฉันรู้ว่าพอคลอดแล้วก็จะมีแต่เรื่องวุ่นวายเต็มไปหมด ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องทำงานให้เสร็จก่อน”     จริงๆ แล้วเธอจะส่งงานทีหลัง แล้วรอให้เกรดออกช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อยก็ได้ เนื่องจากเป็นการลาไปคลอดเป็นเหตุสุดวิสัย อาจารย์คงจะให้เธอสอบช้าได้ แต่ด้วยความแน่วแน่และความตั้งใจของเธอเอง เธอตัดสินใจทำมันให้เสร็จก่อนจะคลอดซะเลย บังเอิญว่าแม่ของเธอได้ถ่ายรูปตอนเธอทำงานเก็บไว้ เธอจึงได้โอกาสแชร์รูปนั้นลงในทวิตเตอร์ ชาวเน็ตที่เห็นจึงถือโอกาสเข้ามาชื่นชมความพยายามของเธอพร้อมทั้งให้กำลังใจ โดยทวีตนี้มียอดไลค์ทะลุ 130,000…

  • หญิงสาวหวังดีช่วยส่งหลักฐานแฟนนอกใจให้ผู้หญิงด้วยกัน ที่ไหนได้เป็นฝาแฝดซะงั้น

    หญิงสาวหวังดีช่วยส่งหลักฐานแฟนนอกใจให้ผู้หญิงด้วยกัน ที่ไหนได้เป็นฝาแฝดซะงั้น

    เวลาที่เห็นแฟนเพื่อนอยู่กับกิ๊กเนี่ย หลายๆ คนคงทนไม่ได้ที่จะเก็บไว้เป็นความลับ แต่เราส่วนใหญ่มักจะไปบอกเพื่อนทันที เพราะหวังดีไม่อยากให้เพื่อนโดนหลอก อย่างสาว Rebekah ที่เห็นแฟนหนุ่มของ Jasmine Rios อยู่กับสาวอื่นแบบสนิทแนบชิด กะหนุงกะหนิง เธอจึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแล้วส่งให้เธอดู เพราะไม่อยากเห็นผู้หญิงด้วยกันต้องถูกหลอก     จริงๆ แล้ว Jasmine กับ Rebekah ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่รู้เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กเท่านั้น และเมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น Rebekah จึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง เธอส่งรูปพร้อมข้อความให้ Jasmine ว่า “หวัดดี ฉันรู้ว่าเราไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ฉันคิดฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนของเธอกำลังอี๋อ๋อกับผู้หญิงคนอื่นในห้องสมุด พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกันด้วย ตอนแรกฉันไม่รู้ว่าจะบอกเธอดีมั้ย หรือจะบอกยังไงดี แต่ในฐานะผู้หญิงเคยโดนแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเลยคิดว่าเธอควรได้รู้เรื่องนี้” “ฉันหวังว่านี่จะไม่ทำให้คุณกับเขามีปัญหากันใหญ่โตนะ ฉันรู้สึกแย่จริงๆ แต่ฉันคิดว่ามันผิดถ้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและไม่พูดอะไร ถ้าเธออยากให้ฉันจัดการให้บอกนะ ฉันจะอยู่ที่นี่อีกสักพักหนึ่ง”     ลองจินตนาการดูว่าอยู่ดีๆ ก็มีคนแปลกหน้าส่งข้อความบอกว่าแฟนคุณอยู่กับคนอื่น แถมยังเสนอตัวที่จะจัดการให้ด้วย เป็นคุณ คุณจะรู้สึกยังไง? อย่างไรก็ตาม Rebekah ไม่ได้รู้สึกอะไรกับภาพที่หญิงแปลกหน้าส่งมาให้ แถมหลุดขำด้วยซ้ำ เพราะชายในภาพที่หญิงคนนั้นคิดว่าเป็นแฟนของเธอ จริงๆ แล้วเป็นพี่ชายฝาแฝดต่างหาก และพี่ชายฝาแฝดคนนั้นก็กำลังจู๋จี๋กับแฟนของเขาอีกด้วย    So my boyfriend has…

  • เรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น หลัง “ฝรั่งเศส” มีกฎหมายห้ามร้านค้าทิ้งอาหารเหลือ ต้องไปบริจาคเท่านั้น!!

    เรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น หลัง “ฝรั่งเศส” มีกฎหมายห้ามร้านค้าทิ้งอาหารเหลือ ต้องไปบริจาคเท่านั้น!!

    ห้างสรรพสินค้าหรือตามร้านค้าหลายๆ แห่งเลือกที่จะทิ้งอาหารที่ใกล้หมดอายุหรือมีรูปร่างหน้าตาผิดเพี้ยนไป เพราะคิดว่าพวกเขาไม่ควรขายต่อไป จนทำให้เกิดปัญหาขยะอาหารจำนวนหลายล้านตันทั่วโลกในแต่ละปี รวมทั้งยังเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะโลกร้อนอีกด้วย แน่นอนว่าปัญหานี้เกิดขึ้นกับทุกประเทศ และเราไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ นั่นจึงทำให้ประเทศฝรั่งเศสเริ่มต้นคิดวิธีการแก้ปัญหาขึ้นมา   1 ใน 3 ของอาหารที่ถูกผลิตมาให้มนุษย์ทั่วโลก ถูกทิ้งไปอย่างไร้ค่า   ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ประเทศฝรั่งเศส ออกกฎหมายขึ้นมาใหม่ ห้ามไม่ให้ห้างสรรพสินค้าทิ้งอาหารที่ยังสามารถนำมากินได้หรือว่าใกล้หมดอายุเด็ดขาด แต่ให้นำอาหารเหล่านั้นมาบริจาคให้กับธนาคารอาหาร หรือใช้ไปทำปุ๋ยหมักแทน เพื่อช่วยลดจำนวนขยะอาหารที่มีอยู่ให้ลดลง กฎหมายดังกล่าว หากใครฝ่าฝืนจะมีโทษถูกปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 129,000 บาท ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎที่ตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด     นอกจากที่มันจะช่วยให้ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศที่สามารถลดจำนวนขยะจำพวกอาหารได้มากที่สุดในโลกแล้ว การแก้ไขนี้ยังเป็นประโยชน์กับคนยากไร้ให้ได้มีอะไรกินกัน เพราะปัญหาคนจนไม่มีข้าวกินก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ จากสถิติในปี 2016 มีคนกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกที่ยังคงใช้ชีวิตด้วยความหิวโหย ก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายนี้ Intermache ซูเปอร์มาร์เก็ตในฝรั่งเศสก็ได้ช่วยเหลือในปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2014 โดยพวกเขาจะเปิดขายอาหาร ผักผลไม้ที่มีรูปร่างหน้าตาผิดเพี้ยนไปจากเดิม จนได้รับความนิยมจากหลายๆ คนทั่วโลก ภายในเดือนเดียวก็มีผู้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากถึง 13 ล้านคน   แม้จะมีหน้าตาแปลกประหลาดไปบ้าง แต่มันยังคงกินได้ตามปกติ   และนอกจากกฎหมายดังกล่าวแล้ว ประเทศฝรั่งเศสตั้งใจว่าจะพัฒนาการแก้ปัญหาต่อไปเรื่อยๆ…

  • มหาวิทยาลัยโตเกียวพัฒนา ‘กระจกซ่อมตัวเองได้’ อีกหนึ่งความก้าวหน้าที่คู่ควรกับสมาร์ทโฟน

    มหาวิทยาลัยโตเกียวพัฒนา ‘กระจกซ่อมตัวเองได้’ อีกหนึ่งความก้าวหน้าที่คู่ควรกับสมาร์ทโฟน

    เบื่อมั้ยกับปัญหาเวลามือถือตกแล้วหน้าจอแตก ทำให้ต้องเสียทั้งเงินและเวลาพามันไปเปลี่ยนที่ศูนย์หรือให้ร้านซ่อมให้ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ปัญหานั้นอาจหมดไปได้ ด้วยนวัตกรรมใหม่ “กระจกที่สามารถซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง” ความสามารถนี้มีอยู่ในสสารที่ชื่อว่า Polyether Thiourea ซึ่งเป็นสสารแรกของโลกที่มีคุณสมบัติผสมระหว่างความแข็งแกร่งแบบกระจกและความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง   สสารชนิดใหม่ที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว   เจ้าสิ่งนี้ถูกพัฒนาโดยศาสตราจารย์ Takuzo Aida และผู้ช่วยของเขาที่เป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาสามารถค้นพบเจ้าสิ่งนี้ได้ด้วยความบังเอิญ ในตอนที่กำลังพยายามคิดค้นกาวแบบใหม่กันอยู่ ความพิเศษของเจ้า Polyether Thiourea คือ เมื่อไหร่ที่มันแตกหักหรือแยกจากกัน เพียงแค่เราใช้มือดันส่วนที่แตกออกกลับเข้าไปให้มันอยู่ในสภาพเดิม ไม่กี่วินาทีทั้งสองส่วนนั้นจะติดกันเหมือนเดิม และปล่อยไว้ไม่กี่ชั่วโมงกระจกก็จะคืนตัวอย่างสมบูรณ์เรียบเนียน เพียงแต่จะทิ้งรอยแตกไว้ให้เห็นเท่านั้นเอง   แตกเป็นเสี่ยงๆ หรือหักออกมาเป็นสองส่วนก็สามารถซ่อมแซมได้   ในตอนแรกที่พวกเขาเจอความสามารถนี้ก็ยังคงตกใจกันอยู่ เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการฟื้นฟูตัวเองในวัตถุที่มีลักษณะเป็นของแข็ง แต่เมื่อพวกเขาทดสอบมันอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้ยังคงเหมือนเดิม ทำให้สามารถยืนยันการค้นพบนี้ได้ ลองคิดดูว่าถ้าเรานำสสารตัวนี้มาใช้กับหน้าจอสมาร์ทโฟนของเรา พอจอแตกปุ๊บ เราก็แค่เก็บเศษกระจกมาดันติดกันเข้าไปใหม่เท่านั้นเอง ง่ายๆ สะดวกสบายเป็นยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่มันยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้เห็นเป็นขีดตรงรอยเชื่อม ซึ่งเชื่อว่าหากแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้เมื่อไหร่แล้วล่ะก็ มันจะต้องได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมหลายๆ ประเภทอย่างแน่นอน   แค่นำมาประกบกันไม่กี่วินาที มันก็จะต่อกันแน่นเหมือนเดิมแล้ว   ถึงแม้มันอาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ชาวเน็ตหลายๆ คนก็ยังคงทึ่งกับความสุดยอดในการฟื้นฟูตัวเองของเจ้าสิ่งนี้ “คุณพระ!? มหัศจรรย์สุดๆ ไปเลย”…

  • เปิด 5 สำนักทางปรัชญา ที่จะทำให้คุณเข้าใจโลกแห่ง ‘ปราชญ์’ มากยิ่งขึ้นอีกนิสสส

    เปิด 5 สำนักทางปรัชญา ที่จะทำให้คุณเข้าใจโลกแห่ง ‘ปราชญ์’ มากยิ่งขึ้นอีกนิสสส

    หากพูดถึงปรัชญาในบ้านเรา หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วปรัชญามันแฝงอยู่ในชีวิตประจำวันของเรานี่แหละ เพียงแค่เราไม่รู้เท่านั้นเอง เพื่อทำความเข้าใจความเป็นปรัชญามากขึ้น #เหมียวขี้ส่อง ขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับปรัชญาจาก 5 สำนัก ที่จะทำให้เห็นว่าโลกของปรัชญานั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง?   1. สุญนิยม แนวคิดหลักของสำนักสุญนิยมคือ การไม่เชื่อหรือไม่ยอมรับระบบคุณค่าใดๆ ในทางปรัชญา ยกตัวอย่างเช่น ไม่เชื่อว่าระบบทางจริยศาสตร์นั้นมีอยู่จริง ไม่เชื่อว่าชีวิตนี้จะมีความหมายหรือคุณค่าอะไร เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ แนวคิดสุญนิยมจึงถูกยกให้เป็นแนวคิดแห่งการทำลายล้าง เพราะคนที่เชื่อในแนวคิดนี้มักจะทำลายชีวิตอื่นเพราะเห็นว่าไม่มีค่า อย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในรัสเซียก็มีแนวคิดนี้หนุนหลังอยู่     2. อัตถิภาวนิยม นักปรัชญาที่เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้คือ เซอเรน เคียร์เคอกอร์ โดยตั้งคำถามว่าจุดประสงค์ของชีวิตคืออะไรหากไม่มีจุดมุ่งหมาย? เราจะหาคุณค่าจากไหน หลังจากที่พระเจ้าตายแล้ว? และเราจะเผชิญหน้ากับความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้ได้อย่างไร? สำหรับคำตอบของคำถามนั้นขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคล เพราะอัตถิภาวนิยมเชื่อว่ามนุษย์ไม่ใช่วัตถุแต่มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก มีความต้องการ ดังนั้นแนวคิดสำคัญของแนวคิดนี้ก็คือ ความมีเสรีภาพ ความรู้สึกรับผิดชอบและการเลือกตัดสินใจ   3. สุขนิยม ลัทธินี้ถือว่าความสุขสบายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรแสวงหา ไม่มีอะไรอีกนอกจากความสุขสบายของชีวิตที่มนุษย์ต้องการ การกระทำทุกอย่างในชีวิตประจำวันก็เพื่อความสุขสบาย นักปรัชญาสุขนิยมส่วนใหญ่บอกว่า คุณควรจะอ่านหนังสือมากกว่าดื่มเหล้า เพราะผลจากการอ่านหนังสือให้ความสุขมากกว่าการเมา เพราะความสุขในที่นี้ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น   4. ลัทธิมาร์กซ์ ลัทธินี้เป็นการรวบรวมแนวคิดของนักปรัชญา คาร์ล…

  • เจ้ากวางน้อยบาดเจ็บจากการถูกรถชน หญิงสาวเลยอาสารับมันมาดูแลที่บ้าน น่ารักงุ้งงิ้งเชียว

    เจ้ากวางน้อยบาดเจ็บจากการถูกรถชน หญิงสาวเลยอาสารับมันมาดูแลที่บ้าน น่ารักงุ้งงิ้งเชียว

    อุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งไม่ใช่แค่กับมนุษย์เท่านั้น สัตว์เองก็ตกเป็นเหยื่อในบางครั้ง น่าเศร้าที่พวกมันมักจะถูกปล่อยให้ทรมานหรือตายอยู่ข้างถนนโดยไม่ได้รับการเหลียวแล แต่สำหรับเจ้ากวางน้อยตัวนี้ นับว่ามีความโชคดีอยู่ในความโชคร้าย เพราะหลังจากที่มันถูกรถชนจนได้รับบาดเจ็บ ก็มีคนมาช่วยเหลือมันได้ทันเวลา     ในวันที่เกิดเหตุนั้น ขณะที่คนขับรถตู้คนหนึ่งขับรถไปตามถนน จู่ๆ เขาก็เห็นกวางน้อยตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างถนนโดยมีเลือดไหลออกจากจมูกของมัน เขาคิดว่ามันคงถูกรถชนมาแน่ๆ เธอลงไปดูอาการมันสักพัก ก่อนจะพามันไปส่งให้กับ Emma Hickey ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า Furrows Wildlife Rescue Centre ในมาล์มสบรี มณฑลวิลท์เชอร์ สหราชอาณาจักร     นับว่าโชคดีที่น้องกวางไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ Emma ก็ยังทำใจไม่ได้ที่ปล่อยมันกลับไปสู่ธรรมชาติ เพราะมันยังเด็กเกินไปที่จะใช้ชีวิตตามลำพัง ดังนั้นเธอจึงตั้งชื่อให้มันว่า Newbie ก่อนพามันกลับไปดูแลต่อที่บ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และตั้งใจจะพามันกลับสู่ป่าหลังจากหมดเทศกาลแล้ว     Emma บอกว่า “มีรถหลายคันที่ขับรถผ่านกวางน้อยตัวนี้โดยไม่สนใจมันเลย แต่มีชายคนหนึ่งตัดสินใจหยุดรถแล้วลงไปช่วยเหลือมันทันที” “ตอนนี้ Newbie ยังดูตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ ฉันคิดว่าไม่ควรปล่อยให้มันอยู่โดยไม่มีแม่ ดังนั้นก็เลยพามันกลับมาอยู่บ้านด้วย”     เธอบอกอีกว่าในหนึ่งวัน Newbie จะกินผัก นมโค 3 ขวด น้ำมันตับปลา และไข่ ที่สำคัญมันไม่ดื้อ ไม่ซน แต่มีความน่ารักเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง  …

  • หนุ่มรวบรวมความกล้า สารภาพกับแม่ว่าตัวเองเป็นเกย์ สิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างงดงามเหลือเกิน

    หนุ่มรวบรวมความกล้า สารภาพกับแม่ว่าตัวเองเป็นเกย์ สิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างงดงามเหลือเกิน

    แม้ว่าในยุคปัจจุบันจะมีการยอมรับกลุ่มคนรักร่วมเพศมากขึ้น ให้พวกเขาสามารถอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติ แต่ก็ยังมีปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไม่กล้าเปิดเผยรสนิยมส่วนตัวออกมา นั่นก็คือครอบครัวนั่นเอง เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าโดยปกติแล้ว หากบ้านไหนมีลูกชาย ก็คงจะคาดหวังให้เขาแต่งงานและมีลูกมาสืบสกุล หรือถ้ามีลูกสาวก็หวังจะได้เห็นพวกเธอมีแฟนหนุ่มที่คอยดูแลเอาใจใส่อย่างดี ดังนั้นการเปิดเผยตัวจนว่าชอบเพศเดียวกัน จึงอาจเป็นการทำลายความคาดหวังของครอบครัวตนเอง     แต่ในทางกลับกัน คุณพ่อและคุณแม่อาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ เพราะพ่อแม่มักจะใส่ใจและคอยสังเกตลูกอยู่เสมอ ดังนั้นเพียงแค่รวบรวมความกล้าเข้าไปพูดคุยกับพวกเขา อาจจะพบว่าพ่อและแม่นั้นพร้อมจะคอยอยู่เคียงข้างเราทุกเมื่อ เหมือนในคลิปที่เราจะนำเสนอนี้ เพจ Humankind Stories ได้โพสต์คลิปวิดีโอหนึ่งลงในเฟซบุ๊ก เป็นเรื่องราวของลูกชายที่พยายามจะบอกให้แม่รู้ว่าตนเองชอบเพศเดียวกัน โดยคลิปวิดีโอสะท้อนถึงภาพของพ่อแม่ที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ลูกได้เป็นอย่างดี     ในตอนแรกนั้นลูกชายตัวลูกชายรวบรวมความกล้าที่จะบอกกับแม่ไม่ได้ ตัวคุณแม่เห็นดังนั้น จึงพยายามให้ความช่วยเหลือลูก โดยเป็นคนเปิดบทสนทนาเองเสียเลย “แม่: มีอะไรจะบอกกับแม่เหรอ” “ลูก: คือว่า … เอ่อ …” “แม่: … ลูกจะบอกแม่ว่าเป็นเกย์รึเปล่า แม่รู้อยู่แล้วล่ะ แม่เข้าใจลูกนะ” “ลูก: ฮือ แม่ผมขอโทษ” “แม่: ไม่ต้องขอโทษหรอก ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด แม่รักลูกเสมอนะ”     เธอยังอธิบายให้ลูกฟังได้ดีอีกด้วยว่า ทำไมพ่อแม่ทั่วไปถึงไม่อยากให้ลูกเป็นเกย์ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเกลียดเกย์หรอก แต่พวกเขาไม่อยากให้ลูกต้องมีชีวิตที่ลำบากต่างหาก “แม่แค่ไม่อยากให้ลูกต้องใช้ชีวิตลำบาก…

  • งานวิจัยเผย… การเป็นคน ‘หัวดื้อ’ กับ ‘ทำงานหนัก’ อาจทำให้คุณมีชีวิตยืนยาวยิ่งขึ้น

    งานวิจัยเผย… การเป็นคน ‘หัวดื้อ’ กับ ‘ทำงานหนัก’ อาจทำให้คุณมีชีวิตยืนยาวยิ่งขึ้น

    เคยได้ยินกันบ้างไหมว่าคนทำงานหนักและหัวดื้อจะเป็นกลุ่มคนที่มีอายุยืนยาว? คุณอาจจะคิดว่านั่นไม่ใช่เรื่องจริงแน่ๆ แต่ว่ามันคือเรื่องจริง!! เพราะล่าสุด ทางทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยชื่อดังได้ทำการสำรวจและพบว่าคนที่อายุเยอะส่วนใหญ่ จะเป็นคนประเภทดังกล่าวจริงๆ ผลวิจัยดังกล่าวนั้นมาได้รับการยืนยันจากมหาวิทยาลัย California San Diego และมหาวิทยาลัย Sapienza โดยเผยแพร่ผ่านวารสาร International Psychogeriatics  ซึ่งข้อมูลดังกล่าว เป็นผลวิจัยที่ได้มาจากการที่พวกเขาออกไปสำรวจกลุ่มผู้สูงอายุ 29 คนจากหมู่บ้านที่ห่างไกลในเขต Cilento ของประเทศอิตาลี     ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผลวิจัยนี้มันเป็นไปตามที่รายงาน ก็เพราะผู้สูงอายุในผลสำรวจเป็นคนประเภททำงานหนักและหัวดื้อ แต่นั่นก็ส่งผลระยะยาวกับพวกเขาในด้านสุขภาพจิตดีกว่าคนอายุน้อยในครอบครัวเดียวกันเอง พวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องงานที่ไม่แน่นอนหรือความมั่นคงในอนาคต แถมยังมีบ้านเป็นของตัวเองด้วย ฉะนั้นจึงไม่ต้องมานั่งเครียดกับปัญหาในอนาคตมากเท่าคนรุ่นใหม่ๆ หรือคนที่ไม่ได้เป็นคนประเภทดังกล่าว     จากผลการวิจัยด้านจิตวิทยายังพบว่า ข้อดีของการเป็นคนหัวดื้อนั้นยังส่งผลกระทบในอีกหลายๆ โดยเฉพาะในเรื่องการเอาใจใส่คนอื่น เพราะคนหัวดื้อและปากแข็งมักจะมีนิสัยในการใส่ใจและอยากดูแลคนอื่นๆ มากกว่าคนปกติ นอกจากนั้น เพื่อความแม่นยำขึ้น ทีมวิจัยระบุว่าลักษณะนิสัยของผู้สูงอายุที่ทำการสำรวจ ก็ไม่ใช่นิสัยที่ได้รับการยืนยันจากตัวผู้สูงอายุเอง แต่มาจากคนรอบข้างของพวกเขา เพราะคนเราจะไม่ค่อยบอกนิสัยเราตามจริงเท่าไรนัก     Dilip V. Jeste ศาสตราจารย์จากภาควิชาประสาทวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย ก็ได้บอกว่า California San Diego “ผลวิจัยเกี่ยวกับผู้สูงอายุในปัจจุบันนั้นมีเยอะมากๆ แต่ว่าการวิจัยส่วนใหญ่ก็จะมุ่งเน้นไปที่กายภาพเสียมากกว่าการวิจัยสภาพจิตใจและลักษณะนิสัย”   เขาคนนี้แหละ ศาสตราจารย์ Dilip…

  • ชาวเน็ตร่วมแชร์ เรื่องราวสุดประหลาดที่พวกเขาได้พบเจอ โอ้โหมหัศจรรย์ยิ่งนัก!!

    ชาวเน็ตร่วมแชร์ เรื่องราวสุดประหลาดที่พวกเขาได้พบเจอ โอ้โหมหัศจรรย์ยิ่งนัก!!

    ในโลกนี้มีแต่สิ่งไม่คาดคิดซุกซ่อนอยู่เต็มไปหมด ในแต่ละวันเราไม่รู้เลยว่าเราจะบังเอิญไปพบไปเจออะไรแปลกๆ บ้าง ชาวเน็ตหลายคนที่ไปพบเจอเรื่องพิสดารและน่าประหลาดใจเหล่านี้เข้า จึงอยากแบ่งปันให้กับคนอื่นๆ รู้ว่า ‘เรื่องแบบนี้มันก็มีอยู่จริงๆ นะ ฉันเคยเห็นมาแล้ว ไม่เชื่อดูภาพนี่สิ’ เราเชื่อว่าท่านผู้อ่านไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้แน่นอน ลองไปดูกัน   มือถือรุ่นดึกดำบรรพ์ของแท้   วงปีลายใบโคลเวอร์   ชั้นถนนที่ถูกถมแล้วถมเล่าจนกลายเป็นหินชั้น   อะไรมาโตอยู่ในนี้เนี่ย   แหวนต่างงานหายไปเป็นปี อยู่นี่นี่เอง   ไม่ได้ซื้อ 1 แถม 1 แต่มันมาเอง   ต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ เคยเห็นกันไหม   เฮ้ย ขึ้นไปได้ยังไง   รู้สึกคันเท้าทั้งวัน พอถอดรองเท้ามาดูถึงบางอ้อเลย   กระปุกออมสินหนักมาก แต่พอทุบมาเอาไปใช้ไม่ได้สักเหรียญ   นั่นมันเคสจริงๆ เหรอ ใหญ่ไปไหม   เอ๊ะ … ร้านขนมปังขายไข่มังกร??   ลงมาที่ครัว เพิ่งรู้ว่าที่บ้านมีแม่บ้านคนใหม่   ทำเงินหาย หาที่ไหนก็ไม่เจอสักที ที่แท้ก็…

  • รวมอาหารจาก “โลกอนิเมะ” ดูแล้วไม่น่ารับประทาน ไม่น่ากินสักนิดเลย สักนิดเล๊ยยยย!!

    รวมอาหารจาก “โลกอนิเมะ” ดูแล้วไม่น่ารับประทาน ไม่น่ากินสักนิดเลย สักนิดเล๊ยยยย!!

    มีใครเบื่ออาหารที่กินกันอยู่ทุกวันบ้างไหม วันไหนคิดอะไรไม่ออกเราก็สั่งข้าวไข่ดาว ข้าวกะเพรา คะน้าหมูกรอบ มีแต่อาหารหน้าตาจืดๆ เห็นแล้วยังเบื่ออาหารแทนคนกินเลย แต่ถ้าลองไปดูอาหารในอนิเมะกันบ้างละก็ บอกได้เลยว่าอาหารที่เรากินๆ กัน กับอาหารในการ์ตูนน่ะ มันเทียบกันไม่ติดเลย เพราะว่าอาหารที่เห็นกันจากอนิเมะน่ะ ดูเวอร์วังมากๆ ไม่น่ากินเลยสักกะติ๊ดดดดด!? ตอกไข่ลงไปแล้วค่อยๆ ทอดจนสุดแบบนั้น … ไม่น่ากินสักนิ๊ดดดด   อึก … คิดเหรอว่าเอาบุปเฟ่ต์หน้าตาดูดีมาล่อจะได้ผล   โอ้ว ซุปราเม็งทำไมแวววาวได้ขนาดนั้น … แต่ … เรา … ไม่หลงกลหรอก!   ราเม็งหมูทอดซอสเยิ้มๆ เหรอ ดูไม่น่าอร่อยเล๊ยยย .   ซุปครีมข้นที่ดุละมุนลิ้นนั่นมัน … คงดีแต่หน้าตาแหละน่า!   สเต๊กร้อนๆ กับซอสเดือดปุดๆ นี่ … ก็เหมือนจะน่ากินอยู่หรอก .   ราเม็งที่มีควันร้อนฉุยแบบนั้นน่ะ ไม่มีจริงหรอกกก   อาหารซีฟู้ดน่ะ … เกือบจะน่ากินอยู่ .  …

  • เทย์ทำอะไรก็มีแต่คนไม่ปลื้ม แค่บอกว่าปีนี้ดีขนาดไหน ชาวเน็ตก็เล่นเธอซะเละ!!

    เทย์ทำอะไรก็มีแต่คนไม่ปลื้ม แค่บอกว่าปีนี้ดีขนาดไหน ชาวเน็ตก็เล่นเธอซะเละ!!

    ปี 2017 กำลังจะจากไป ส่วนปี 2018 ก็กำลังจะมาถึง โดยในปีนี้แต่ละคนก็คงจะมีช่วงเวลาดีๆ และช่วงเวลาอันเลวร้ายแตกต่างกันไป ซึ่งตอนนี้เหล่าดาราคนดังมากมายก็เริ่มที่จะทยอยออกมาอวยพรพร้อมกับพูดถึงปีนี้แล้วเช่นกัน หนึ่งในคนดังที่ออกมาพูดถึงปีใหม่ในครั้งนี้นั่นก็คือนักร้องสาวสวย Taylor Swift ที่ปีนี้ก็ดูจะเป็นปีที่ดีของเธอซะเหลือเกิน เพราะนอกจากจะออกอัลบั้มใหม่มาแล้วได้เสียงตอบรับที่ดี ล่าสุดก็ยังมีการเปิดตัวแฟนคนใหม่อีก     อัลบั้ม Reputation ที่เสียงตอบรับดีพอสมควร   งานนี้เธอก็เลยอัปโหลดภาพพร้อมข้อความจากงาน Jingle Bell Ball ที่จัดขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านว่า ปีนี้มันดีมากๆ และเธอก็อดใจรอไม่ไหวแล้วว่าปีหน้าจะดีกว่าขนาดไหน     ซึ่งเดิมทีข้อความแบบนี้มันก็น่าจะได้ต้องได้รับผลตอบรับที่ดี แต่สำหรับเธอกลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะชาวเน็ตที่เห็นก็พากันหัวร้อนอย่างรวดเร็วและเข้ามาด่าทอเธอกันยกใหญ่ว่าปีนี้มันไม่ได้ดี ปีนี้มันห่วย!!   ชาวเน็ตคนนี้ตอบกลับว่า ปีนี้มีทั้งนาซี มีทั้งการเดินขบวนประท้วง ครอบครัวโดนยิงและอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตามมันไม่มีผลกับฉันฉะนั้่นมันก็คือปีที่ดีจริงๆ แหละ (การแซะนี่มันคืออะไร)   ด้านชาวเน็ตคนนี้ก็ถาม Taylor ว่าจำได้ไหม ปีนี้นายกของอเมริกาแบนการท่องเที่ยว?   เธอคนนี้ก็บอกว่า คงจะมีแค่ Taylor เท่านั้นแหละที่คิดแบบนี้…

  • ผู้คนต่างตั้งคำถาม ‘นี่หมาหรือหมี’ เอ็งคือตัวอะไร เลือกเอาดีๆ ซักอย่าง…

    ผู้คนต่างตั้งคำถาม ‘นี่หมาหรือหมี’ เอ็งคือตัวอะไร เลือกเอาดีๆ ซักอย่าง…

    เคยเห็นตามเทพนิยายกันบ้างหรือเปล่า ที่มักจะมีสัตว์ผสมข้ามสายพันธุ์แปลกๆ โผล่ออกมาให้เราเห็นอยู่บ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่น คิเมร่าซึ่งมีหัวเป็นสิงโต ลำตัวเป็นแพะ มีหางเป็นงู หรือตัวอย่างที่เห็นกันชัดๆ อย่างนางเงือกที่มีตัวครึ่งบนเป็นมนุษย์ ส่วนลำตัวครึ่งล่างเป็นปลา ในความเป็นจริง โลกเราก็มีสัตว์พันธุ์ผสมอยู่เช่นกัน แต่ไม่ได้แปลกประหลาดเหมือนในเทพนิยายหรอกนะ เช่น ไลเกอร์และไทกอนซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างเสือและสิงโต แพะแกะที่เป็นสัตว์ผสมจากพ่อแม่ตามชื่อของมัน หรือโฮลฟินสัตว์ผสมระหว่างวาฬและโลมา และล่าสุดที่ประเทศรัสเซีย ก็ได้พบเจอสัตว์ที่อาจจะเป็นลูกผสมข้ามสายพันธุ์ตัวใหม่ก็เป็นได้     สัตว์ตัวนี้ถูกพบในเมือง Chelyabinsk เขต Chelyabinsk Oblast ประเทศรัสเซีย หลังจากพบมันแล้ว เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจพาตัวมันไปยังสถานพักพิงสัตว์ หากมองผ่านไปเห็นในแวบแรก หน้าของมันดูคล้ายลูกหมีมากทีเดียว แต่พอมันยืนสี่ขาขึ้นมา ก็ดันมีท่าทางการเดินการยืนเหมือนสุนัขหรือหมาป่าซะงั้น นักอนุรักษ์สัตว์ถึงกับมึนงงไปตามๆ กันว่ามันเป็นสุนัขจริงๆ หรือเปล่า “มันมีนิสัยที่ทำให้เราเข้าหายาก และก็ค่อนข้างดุร้ายอยู่บ้าง กว่าจะขนส่งมันมาที่สถานพักพิงได้ก็เล่นเอาเหนื่อยอยู่เหมือนกัน เจ้าของคนใหม่คงต้องใช้เวลานานเลยกว่าจะชินและเข้าใจนิสัยของมันได้”     เมื่อสัตวแพทย์หลายคนได้ทำการวิเคราะห์เจ้าหมา-หมีคร่าวๆ แล้ว พวกเขาลงความเห็นกันว่า มันอาจจะเป็นสุนัขพันธุ์ผสมระหว่างสุนัขพันธุ์เชาเชากับสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งกรรมพันธุ์ของสุนัขเชาเชาน่าจะทำให้มันมีใบหน้าที่ดูคล้ายหมี อย่างไรก็ตาม การจะทราบว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้มันเป็นหมาพันธุ์ผสมหรือเปล่า หรือว่ามันจะเป็นผลลัพธ์จากการผสมข้ามสายพันธุ์ของสุนัขกับหมี ก็ยังต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดในภายหลังอยู่ดี     แต่ความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นลูกผสมระหว่างสุนัขกับหมีนั้นก็มีไม่มากนัก เพราะว่าสัตว์ผสมข้ามสายพันธุ์โดยทั่วไป จะมีพ่อและแม่จากสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกัน…

  • ชาวไร่เพาะพันธุ์ ‘วัวแคระ’ ขนาดตัวเล็กเทียบเท่ากับหมา ทดแทนเป็นสัตว์เลี้ยงได้!?

    ชาวไร่เพาะพันธุ์ ‘วัวแคระ’ ขนาดตัวเล็กเทียบเท่ากับหมา ทดแทนเป็นสัตว์เลี้ยงได้!?

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มักจะมีกระแสนิยมในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงชนิดเล็กออกมาเป็นช่วงๆ อย่างเช่นกระแสนิยมในการเลี้ยงสุนัขกระเป๋าชีวาวา หรือจะเป็นเจ้าหมูแคระขนาดเล็กน่ารักที่เลี้ยงแทนสุนัขได้คล้ายๆ กันเลย วันนี้เราขอนำเสนอสัตว์เลี้ยงแคระอีกชนิดหนึ่งให้เพื่อนๆ รู้จัก แม้มันจะไม่ได้มีขนาดเล็กเท่าเจ้าชีวาวาหรือหมูแคระก็ตาม แต่มันก็ถือว่าเล็กจิ๋วสำหรับสายพันธุ์ของมันเลยทีเดียว     สัตว์ที่เราจะมาดูกันวันนี้คือ วัวแคระ จากฟาร์ม Oxen Ridge Miniature Cattle ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา ฟาร์มนี้ถูกดูแลโดยเจ้าของซึ่งก็คือ Dustin Pillard ชายหนุ่มอายุ 46 ปี พ่อลูกสามคนนี้นี่เอง เขาได้แรงบันดาลใจในการเพาะพันธุ์พวกมันตอนที่เคยเห็นวัวแคระในงานประมูลสัตว์มาก่อน พอมีโอกาสได้มาทำฟาร์มเองในปี 1995 เขาก็เลยหาซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจำนวน 5 ตัว และขยายพันธุ์พวกมันจนฟาร์มของเขาเป็นที่รู้จักดีในวันนี้     วัวแคระที่เขาเพาะพันธุ์นั้นมีความสูงเพียงแค่ประมาณ 33 นิ้ว หรือเทียบได้ประมาณสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่โตเต็มวัยแล้วเท่านั้นเอง วัวแคระแต่ละตัวก็จะมีสีที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ที่เขาใช้ผสม ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Texas Longhorns, Jerseys, Dexters, Angus และพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย ส่วนด้านนิสัยของพวกมันนั้น ก็เหมาะจะเป็นสัตว์เลี้ยงมากทีเดียว Pillard อธิบายว่า “วัวแคระส่วนมากมีนิสัยคล้ายสุนัข ชอบให้เราดูแล ชอบวิ่งเล่นนอกบ้าน รักสงบและชอบอยู่กับผู้คน…

  • เค้กสุดฟรุ้งฟริ้ง เพื่องานหมั้นของชาว LGBT จะทำให้คุณเข้าใจใน “เพศทางเลือก” มากยิ่งขึ้น…

    เค้กสุดฟรุ้งฟริ้ง เพื่องานหมั้นของชาว LGBT จะทำให้คุณเข้าใจใน “เพศทางเลือก” มากยิ่งขึ้น…

    ขณะนี้คู่รักร่วมเพศในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็สามารถแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายได้แล้ว แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีข่าวแว่วมาอยู่บ้าง ว่าร้านเบเกอรี่หลายแห่ง กลับปฏิเสธที่จะทำเค้กให้กับคู่รักเพศเดียวกันซะอย่างนั้น คู่รักร่วมเพศจึงยังต้องดิ้นรนเพื่อสิทธิของพวกเขาในส่วนนี้ต่อไป ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่ว่าร้านเค้กทุกร้านจะปฏิเสธทำเค้กให้พวกเขาหรอกนะ บางร้านกลับรู้สึกกระตือรือร้นและเต็มใจที่จะทำเค้กให้ด้วยซ้ำไป ร้านเค้ก Cake and Loft Bakery เองก็เป็นหนึ่งในร้านค้าเหล่านั้น แถมยังทำเค้กออกมาได้อลังการงานสร้างมาก     เรื่องนี้เริ่มต้นจากคู่รักร่วมเพศคู่หนึ่งในเมืองฮามิลตัน รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา พวกเขาคือ Chris Farias และ Jared Lenover ทั้งคู่ได้หมั้นกันมาหนึ่งปีแล้ว และต้องการจะฉลองวันครบรอบครั้งนี้ โดยทั้งคู่ต้องการเค้กที่แสดงถึงความเป็นกลุ่มรักร่วมเพศให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ “เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศแคนาดานั้นเปิดรับและยอมรับถึงความแตกต่างในรสนิยมอย่างเต็มที่ ผมต้องการให้เค้กของผมสื่อถึงความเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ” จึงได้สั่งเค้กจากร้าน Cake and Loft Bakery ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทางร้านเค้กเองเมื่อได้ยินว่าพวกเขาต้องการเค้กแบบไหน ก็ตบปากตบคำรับทำให้ด้วยความเต็มใจทันที   Chris Farias และ Jared Lenover   Quinn Pallister พนักงานสาวที่เป็นคนรับผิดชอบทำเค้กชิ้นนี้ ก็ถูกเลี้ยงดูมาโดยคู่รักร่วมเพศหญิงเช่นกัน การได้ทำเค้กชิ้นนี้จึงรู้สึกเหมือนกับว่าเธอไม่ได้ทำเค้กให้กับแค่คู่รักที่สั่งเท่านั้น แต่เธอยังได้ทำเค้กเฉลิมฉลองให้กับแม่ทั้งสองของเธอ และสังคมคู่รักร่วมเพศทั้งหมดด้วย เธอจึงได้ทุ่มเทความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อทำเค้กชิ้นนี้ และสิ่งที่ได้ออกมาก็คือ เค้กเจ็ดสีแสนสดใส ประดับด้วยช่อดอกไม้หลากสี เพิ่มเติมความฟรุ้งฟริ้งด้วยเขายูนิคอร์นสูงสง่าตั้งตรงกลางเค้ก…

  • แม่พาลูกที่ไม่ได้ป่วยอะไรเลย เข้าโรงพยาบาลกว่า 323 แห่ง รับผ่าตัดอีก 13 ครั้ง

    แม่พาลูกที่ไม่ได้ป่วยอะไรเลย เข้าโรงพยาบาลกว่า 323 แห่ง รับผ่าตัดอีก 13 ครั้ง

    คำกล่าวที่ว่าพ่อแม่ทุกคนต่างต้องการให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ไม่เป็นความจริงเสมอไป เนื่องจากในปัจจุบันมีพ่อแม่บางคนที่ไม่ใส่ใจลูก หรือหนักกว่านั้นคือใช้ลูกเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ เหมือนกับแม่คนนี้ Kaylene Bowen-Wright อาศัยอยู่ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอและสามีหย่าร้างกันแล้ว ส่วนลูกชาย Christopher Bowen นั้นอยู่ในสิทธิ์เลี้ยงดูของเธอ ตอนนี้เขามีอายุได้ 8 ขวบแล้ว แต่เด็กชายไม่ได้ถูกเลี้ยงดูอย่างสุขสบายเลย เพราะคุณแม่พาเขาตระเวนเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลแล้วกว่า 323 ครั้ง และเข้ารับการผ่าตัดมาแล้วทั้งสิ้น 13 ครั้ง ทั้งๆ ที่เด็กชายไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด   Kaylene Bowen-Wright และลูกชาย Christopher   ในตอนต้นนั้นคุณแม่โกหกว่าลูกเป็นโรคแพ้นมเท่านั้น แต่ต่อมาอาการที่เธอกุขึ้นมาก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบอกว่าลูกมีอาการเหนื่อยง่าย ช็อก ขาอ่อนแรงจนเดินไม่ได้ และที่ร้ายที่สุดคือเธอบอกว่าลูกชายของตัวเองเป็นโรคมะเร็งอีกด้วย จากการที่เธอโกหกมาทั้งหมด ทำให้เด็กชายต้องผ่านการผ่าตัดหลายครั้งโดยไม่มีความจำเป็น และต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือหลายอย่างเหมือนคนพิการ เช่น ท่ออาหาร หน้ากากออกซิเจน และรถเข็น เธอยังคงปั้นน้ำเป็นตัวต่อไปเรื่อยๆ เพื่อรับเงินช่วยเหลือ เธอถึงกับทำเพจโครงการรับบริจาคเงินมาช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกชาย ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองก็สบายดี   โครงการรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายการรักษาของ Christopher   เมื่อปี…

  • อาจารย์สายโหด ปลุกนักเรียนขี้เซาด้วยโมเดล ‘ปืนพลาสติก’ ที่เหมือนจริงเกิ๊น!!

    อาจารย์สายโหด ปลุกนักเรียนขี้เซาด้วยโมเดล ‘ปืนพลาสติก’ ที่เหมือนจริงเกิ๊น!!

    อาจารย์แต่ละท่านจะมีวิธีการกระตุ้นนักเรียนที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจให้รางวัลสำหรับคนที่ตั้งใจเรียน หรือบางคนอาจใช้เรื่องเล่าสนุกๆ ทำให้นักเรียนรู้สึกสนใจ แต่สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษในประเทศญี่ปุ่นคนนี้กลับมีวิธีการที่ต่างออกไปนิดหน่อย เพราะเขาใช้ปืนเป็นตัวกระตุ้นให้นักเรียนสนใจ ภาพเหตุการณ์นี้ถูกถ่ายและโพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @komathematicsR ในวันที่ 13 ธันวาคม 2017 เมื่อครูสอนภาษาอังกฤษของเขาควักปืนพกขึ้นมาหวังจะให้นักเรียนตื่นตัวและตั้งใจเรียนมากยิ่งขึ้น ทำเอาสะดุ้งโหยงกันไปทั้งห้อง     จากมุมกล้องทำให้เราเห็นเหมือนกับว่า คุณครูถือปืนจ่อหัวนักเรียน แต่ความเป็นจริงเขาแค่ถือขึ้นมายืนอยู่หน้าห้องแค่นั้น ไม่ได้ไปจ่อหัวใครแต่อย่างใด ก่อนหน้านั้นคุณครูพูดว่า “เวลานี้นักเรียนคงจะง่วงกันหมดแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้สอน นี่เป็นหน้าที่ของผมที่จะช่วยให้ทุกคนมีสมาธิกับการเรียน” แล้วจู่ๆ เขาก็ควักปืนออกมาจากกระเป๋าพร้อมทั้งยืดแขนออกไปเหมือนเล็งขู่ใครซักคน วิธีการนี้ทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิตั้งใจเรียนขึ้นมาทันที และแน่นอนว่าปืนที่ครูหยิบขึ้นมานั้นเป็นเพียงแค่ปืนโมเดลพลาสติกสุดสมจริง ที่ไม่ได้บรรจุกระสุนเอาไว้เท่านั้นเอง   อย่าเพิ่งหลับนะจ๊ะเด็กๆ   ถึงแม้ว่ามันจะเป็นปืนปลอม แต่ก็ได้ผลตอบรับที่ดี นักเรียนคนที่ถ่ายภาพเอาไว้เล่าว่า มันช่วยให้ทุกคนหายจากอาการง่วงนอนแล้วตั้งใจเรียนกันต่อไปได้ แม้บทเรียนในตอนนั้นจะน่าเบื่อขนาดไหนก็ตาม และวิธีการนี้อาจดูไม่เหมาะสมในสายตาของใครบางคน แต่อย่างน้อยนักเรียนคนนี้คงเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับสิ่งที่อาจารย์ของเขาทำมากจริงๆ เขาพูดว่า “อาจารย์คนนี้เป็นคนตลก เขาไม่ได้พยายามคุกคามพวกเรา แต่นี่เป็นแค่หนึ่งในวิธีฮาๆ ที่ช่วยทำให้เรามีสมาธิกับการเรียน ผมรักครูคนนี้เพราะเขาทำให้เราสนุกอยู่เสมอ”   นี่คงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนตื่นตัวอยู่เสมอ ลองคิดว่าถ้าเราเป็นนักเรียนอยู่ในห้องนั้น มีหวังเราคงช็อกไปก่อนที่ครูจะเฉลยว่าเป็นของปลอมแน่เลย   ที่มา: rocketnews24 , nextshark

  • หนุ่มลงทุนบินไปไกลกว่า 1,000 กิโลฯ เพื่อเจอกับสาวที่จีบออนไลน์ ดั๊นได้กินยำบาทาแทนซะงั้น

    หนุ่มลงทุนบินไปไกลกว่า 1,000 กิโลฯ เพื่อเจอกับสาวที่จีบออนไลน์ ดั๊นได้กินยำบาทาแทนซะงั้น

    ในปัจจุบัน การนัดเดตออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียได้รับความนิยมทั่วโลก หลังจากคุยกันถูกคอแล้วก็อาจนัดเจอกันเพื่อสานความสัมพันธ์กันต่อไป เหมือนอย่างหนุ่มชาวจีนคนนี้ที่ลงทุนเดินทางไปไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร หวังจะได้เจอกับสาวที่เขานัดเอาไว้ แต่สิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยซักนิดเดียว ชายแซ่ Liu คนนี้อาศัยอยู่เขตใจกลางประเทศจีน แม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้ว แต่เขาก็ได้พูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ในโลกออนไลน์ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาตัดสินใจที่จะเดินทางไปพบเธอคนนั้น     ในวันที่ 11 ธันวาคม 2017 เขานั่งเครื่องบินเดินทางไปเมือง Fuyuan มณฑลยูนนาน ด้วยระยะทางกว่า 1,142 กิโลเมตร แต่สิ่งที่รออยู่กลับไม่ใช่สาวแซ่ Duan ที่เขาเฝ้าคุยผ่านโลกออนไลน์ เพราะคนที่ต้องการเจอเขาจริงๆ กลับกลายเป็นสามีของหญิงสาวคนนั้นแทน     สามีของเธอพร้อมเพื่อนอีก 4 คนรุมทำร้าย Liu ในที่สาธารณะ ผูกเขาไว้กับต้นไม้และทุบตีด้วยแส้และเข็มขัดหนัง เนื่องจากโมโหที่จับได้ว่าภรรยาตัวเองนอกใจไปคุยกับ Liu ในโลกออนไลน์ แม้จะมีผู้คนเห็นเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก แต่แทนที่จะเข้ามาช่วยพวกเขากลับหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์นี้เอาไว้และโพสต์ลงในโลกโซเชียล และจากคลิปก็ไม่เห็นหญิงสาวแซ่ Duan อยู่บริเวณนั้นเลย   คลิปสามีและเพื่อนอีก 4 คนรุมตีชู้รักออนไลน์ของภรรยาตัวเอง .   แม้ว่าการใช้กำลังจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม แต่เชื่อว่าเรื่องนี้คงกลายเป็นบทเรียนให้กับ Liu…

  • เด็กสาววัย 6 ขวบผู้ไร้เดียงสา วาดภาพซานตาคลอสยื่นของขวัญ แต่ดันชวนให้คิดลึกซะได้!!

    เด็กสาววัย 6 ขวบผู้ไร้เดียงสา วาดภาพซานตาคลอสยื่นของขวัญ แต่ดันชวนให้คิดลึกซะได้!!

    การวาดภาพเป็นการส่งเสริมจินตนาการที่ดีสำหรับเด็กๆ เพราะว่ากิจกรรมนี้สามารถช่วยให้พวกเขาได้คิด และออกแบบรูปภาพให้เป็นดั่งที่ใจต้องการ และด้วยความที่ใกล้กับเทศกาลคริสต์มาสที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เด็กๆ หลายคนจึงชอบวาดภาพของลุงอ้วนชุดแดงที่มีชื่อว่า ‘ซานตาคลอส’ ตามความคิดของตัวเองในรูปแบบต่างๆ และเด็กหญิงคนนี้ก็เช่นเดียวกัน เพราะเธอวาดภาพซานตาคลอสขณะกำลังแจกของขวัญ แต่ว่าภาพที่เธอวาดมันดันไปคล้ายกับอะไรบางอย่างเข้าอย่างโดยไม่ตั้งใจ และเมื่อแม่เธอมาเห็นเข้าก็ถึงกับขำจนน้ำหูน้ำตาเล็ด จนเก็บไว้คนเดียวไม่ไหวต้องเอามาโพสต์แบ่งปันจินตนาการของลูกสาว ให้ชาวเน็ตได้ชมทันที   หน้าตาน่ารักๆ ของ Mia สาวน้อยวัย 6 ขวบเจ้าของภาพวาดนี้   ภาพวาดสุดฮานี้ได้รับการเผยแพร่จาก Lisa Hawkins จากเมืองแฟร์อัม ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเธอได้เผยภาพวาดของลูกสาวเธอชื่อที่ว่า Mia โดยเธอได้ให้คำบรรยายภาพเอาไว้ว่า “ในตอนที่ฉันดูรูปภาพซานตาคลอสที่ลูกสาวสุดน่ารักของฉันวาดขึ้น ฉันก็ต้องพบว่ามันมีสิ่งแปลกๆ ที่ซานต้าคนนี้ถืออยู่ ในครั้งแรกฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่ามันใช่หรือเปล่า แต่เมื่อดูอีกรอบฉันก็พบว่ามันใกล้เคียงจริงๆ” Lisa เขียนกำกับเอาไว้   เอ๊ะนี่มันอะไรนะ เอ๊ะนี่มันอะไร   เมื่อรูปภาพนี้ได้เผยแพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ตก็มีความเห็นเข้ามามากมาย ทั้งคนที่เป็นเพื่อนของเธอ และคนที่รู้จัก โดยเพื่อนๆ ของเธอได้แสดงความเห็นเอาอย่างหลากหลายอย่าง Wendy Keerigan “ช่างเป็นความคิดของเด็กที่ไร้เดียงสาซะจริงๆ เลย” Nicola Jones “ฮ่าๆ มันช่างเป็นรูปภาพที่ตลกจริงๆ…

  • มนุษย์ช่วยเหลือสองมิ้วขาดแม่ เปลี่ยนชีวิตของมันในทันที ไม่ต้องลำบากอีกต่อไปแล้ว

    มนุษย์ช่วยเหลือสองมิ้วขาดแม่ เปลี่ยนชีวิตของมันในทันที ไม่ต้องลำบากอีกต่อไปแล้ว

    ทารกเป็นวัยที่จำเป็นต้องได้รับความรัก ความอบอุ่น และการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแม่หรือผู้ใหญ่ แต่น่าเศร้าที่มิ้วน้อยสี่พี่น้องถูกทิ้งให้เผชิญชีวิตตามลำพังตั้งแต่แบเบาะ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว Ike Osbun และเพื่อนร่วมงานของเขาเห็นมิ้วน้อยจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่บนถนน Williamsburg บรูคลิน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเห็นแม่ของพวกอันเดินวนเวียนอยู่ใกล้กับที่ทำงานของพวกเขา     แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น Ike สังเกตเห็นว่าแม่ของเหล่ามิ้วน้อยไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว เขาพยายามตามหาแม่แมวแต่ไม่เจอ เลยคิดว่าลูกแมวพวกนี้คงถูกทิ้งแล้วแน่ๆ เมื่อรู้ว่าแม่แมวไม่กลับมาแล้ว Ike และเพื่อนร่วมงานจึงให้การช่วยเหลือลูกแมวด้วยการเอาอาหารให้ คอยเล่นกับพวกมันบ่อยๆ นั่นทำให้มิตรภาพระหว่างคนกับแมวพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มบอกว่า “เม่ื่อเราไปนั่งลงแถวๆ นั้น ลูกแมวก็จะวิ่งมาหาเรา พวกมันไม่มีแม่และมันกำลังต้องการบ้าน”     จากนั้นมีพนักงานคนหนึ่งเสนอตัวที่จะรับแมวไปเลี้ยง แต่เขาสามารถเอาไปได้แค่ 2 ตัว และวันนั้น Ike รู้สึกว่าเขาคงกลับบ้านไปอย่างไม่มีความสุขถ้าไม่ได้ช่วยเหลือลูกแมวอีก 2 ตัวที่เหลือ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงโทรไปถามทางบ้านว่า ‘ขอพาแมวน้อย 2 ตัว ไปอยู่บ้านด้วยได้มั้ย?’ และโชคดีที่สมาชิกครอบครัวก็เห็นด้วยที่จะทำแบบนั้น     วันต่อมาเขาพามิ้วน้อยทั้ง 2 ตัว ไปยัง Delaware ซึ่งเป็นคลินิกสัตว์ที่น้องสาวของเขา Jenny ทำงานอยู่ เพื่อตรวจสุขภาพให้เจ้าเหมียว หลังจากที่ตรวจสุขภาพเสร็จ ก็ทราบผลว่าพวกมันเป็นโรคเลือดจาง เพราะร่างกายพวกมันเต็มไปด้วยเห็บหมัดที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อและมีแผลเต็มไปหมด  …

  • เด็กสาวป่วยเป็นมะเร็งต้องมาอัดคลิปเต้นลงโซเชียลทุกวัน เพื่อหาเงินมารักษาค่าพยาบาล

    เด็กสาวป่วยเป็นมะเร็งต้องมาอัดคลิปเต้นลงโซเชียลทุกวัน เพื่อหาเงินมารักษาค่าพยาบาล

    ความเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ยิ่งเป็นโรคที่ร้ายแรงจนสามารถคร่าชีวิตได้อย่างมะเร็งด้วยแล้ว การจะรักษาให้หายสามารถเป็นไปได้ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมาด้วย และนั่นจึงทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งหาเงินค่ารักษาพยาบาลให้กับตนเอง ด้วยการเปิดสตรีมมิ่งทำกิจกรรมต่างๆ อย่างการ เต้นโชว์ วาดรูปโชว์ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อีกหลายอย่างเพื่อให้ผู้ชมมีความสุขที่ได้รับชม และเต็มใจจะบริจาคค่ารักษาให้แก่เธอ     เด็กน้อยผู้โชคร้ายชาวจีนวัย 7 ปีชื่อว่า Liu Zinian จากมณฑลเหอหนาน ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และด้วยความที่ครอบครัวของเธอมีฐานะยากจน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการรักษาโรคมะเร็ง แต่ด้วยความพยายามและมีใจรักในเสียงเพลงทำให้ Liu ไม่ยอมย่อท้อต่อชะตากรรมลุกขึ้นมาสู้กับอุปสรรคที่เธอเจอ โดยเธอได้ถ่ายทอดสดตัวเองขณะกำลังร้องเพลงและเต้นลงในโซเชียลมีเดียในประเทศจีน เพื่อจะหาเงินมาเป็นค่ายาให้กับตัวเอง     โดยรูปภาพเหล่านี้ได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาพระหว่างที่ Liu กำลังนอนรักษาตัวอยู่บนเตียงหลังจากเธอเพิ่งเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดหรือที่เรียกกันว่าคีโม และครั้งล่าสุดนี้ก็เป็นการรักษาครั้งที่ 11 สำหรับเธอแล้ว โรคมะเร็งของเด็กสาวคนนี้ถูกตรวจพบเมื่อประมาณปีที่แล้ว จากการสุ่มตัวอย่างเนื้อเยื่อในคอ หลังจากที่เธอเป็นไข้ และมีอุณหภูมิในตัวสูงถึง 39.5 องศาเซลเซียสติดต่อกันเป็นเวลาถึงสองวันเต็มๆ     Wei Lihong แม่ของ Liu บอกว่าเธอจะเป็นคนเฝ้าไข้ลูกของเธอในเวลากลางคืน ที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแพทย์เจิ้งโจว และสามีของเธอจะมาดูแลลูกในตอนกลางวัน สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่ผ่านมาของ Liu…

  • ขุ่นแม่สร้างบ้านจิ๋ว เพื่อใช้ชีวิตช่วงหลังวัยเกษียณ แถมยังปล่อยเช่าในราคาเดือนละ 2,400 เอ๊ง!?

    ขุ่นแม่สร้างบ้านจิ๋ว เพื่อใช้ชีวิตช่วงหลังวัยเกษียณ แถมยังปล่อยเช่าในราคาเดือนละ 2,400 เอ๊ง!?

    ขึ้นชื่อว่าบ้านแล้ว มันต้องมีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว หรืออาจจะรวมห้องนั่งเล่นไปด้วยก็ได้ ซึ่งการจะมีครบทั้งหมดนี้ คุณต้องใช้พื้นที่มากพอสมควร หรือหากจะเช่าบ้านที่มีทุกอย่างครบแบบนี้ คงต้องจ่ายไม่ใช่น้อยเลยหละ แต่คุณแม่ Michelle “MJ” Boyle พิสูจน์ให้เห็นว่าการจะอยู่ในบ้านที่มีทุกอย่างที่กล่าวมานั้น มันไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะหรือต้องจ่ายเงินจำนวนมากเสมอไป     Michelle ได้สร้างบ้านขนาดจิ๋ว ตั้งอยู่ที่ชุมชน Pacific Northwest ใน Sherwood รัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปล่อยให้เช่าเพียงเดือนละ 2,400 บาท คุณแม่ตัดสินใจสร้างบ้านจิ๋วหลังนี้ก่อนที่เธอจะเกษียณ เพื่อเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตหลังเกษียณ ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือน และสามารถสร้างเงินออมจากค่าเช่าได้ด้วย     เธอบอกว่าแทนที่จะเช่าบ้านจิ๋ว Tiny House ที่ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ในพื้นที่ 2.5 ไร่ ในราคา 52,000 บาทต่อเดือน สู้สร้างบ้านเองไม่ดีกว่าเหรอ อาจจะเล็กกว่าแต่มันก็ทำให้มีเงินเก็บนะ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจสร้างบ้านจิ๋วสุดน่ารักของตัวเอง ซึ่งกินพื้นที่เพียง 18 ตารางเมตร แต่มีทุกอย่างเหมือนบ้านทั่วไป ที่สำคัญราคาเช่าแค่ 2,400 บาทต่อเดือนเท่านั้น     Michelle…

  • ผู้เชี่ยวชาญด้าน ‘ดาบซามูไร’ ถูกพบเสียชีวิตในห้องพัก เพราะทำพิธีกรรม ‘ฮาราคีรี’!?

    ผู้เชี่ยวชาญด้าน ‘ดาบซามูไร’ ถูกพบเสียชีวิตในห้องพัก เพราะทำพิธีกรรม ‘ฮาราคีรี’!?

    มนุษย์เราเมื่อรักหรือเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ ก็มักจะทุ่มเทชีวิตให้สิ่งนั้น บางคนถึงกับยอมแลกชีวิตตัวเองเพื่อบรรลุเป้าหมายตามสิ่งที่เชื่อ อย่าง Alun Jones ผู้เชี่ยวชาญด้านดาบซามูไรวัย 51 ปี ที่ตัดสินใจจบชีวิตด้วยอาวุธของเขาเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีกรรมของนักรบชาวญี่ปุ่นโบราณ สื่อรายงานว่า Jones ถูกพบเสียชีวิตภายในห้องพักที่เมืองนิวพอร์ต รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในสภาพนองเลือด หลังทำพิธีเซ็ปปุกุ หรือ ฮาราคีรี ซึ่งเป็นการฆ่าตัวตายโดยการคว้านท้องในยุคซามูไร ของประเทศญี่ปุ่น     Jones เริ่มเก็บสะสมใบมีดหลังจากที่ทำงานญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายปี แต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Margaret แม่ของเขากลับพบว่า Jones นอนเสียชีวิตบนดาบโดยมืออยู่เหนือศีรษะ Jones ทำงานอยู่ในร้านขายอาวุธที่ประเทศญี่ปุ่น และเขามักจะกลับมาอยู่กับแม่ที่ประเทศอังกฤษในช่วงวันหยุดของเขาเสมอ แต่ในการไต่สวนเกี่ยวกับการตายของเขา Margaret เผยว่าการกลับบ้านครั้งนี้ดูเหมือน Jones จะไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนไม่ใช่ลูกชายที่เธอคุ้นเคย     Marianne Caulfield น้องสาวของเขาบอกว่า “เขาใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี และเมื่อเขากลับมา เขามักจะออกไปหาเพื่อนๆ เสมอ แต่ครั้งนี้เขาดูผอมลงไปมากและมักจะอยู่แต่ในห้องของตัวเองเกือบตลอดเวลา” “เขามีดาบซามูไรจำนวนหนึ่งที่เก็บสะสมเอาไว้ และดูเหมือน Jones จะให้ความสนใจกับประเพณีของซามูไรญี่ปุ่นมากกว่าเดิมอีก” น้องสาวกล่าว ทั้งนี้ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เขาจะถูกพบว่าเสียชีวิต เพื่อนบ้านคนหนึ่งเห็นเขาหลับอยู่บนโซฟา โดยมีสมุดภาพครอบครัวเปิดอยู่ข้างๆ เขา     ในการไต่สวนระบุอีกว่าสาเหตุที่…

  • คุณพ่อไปเที่ยววันหยุดเลยยืมกล้อง GoPro ของลูกไปใช้ แต่ดั๊นถ่ายกลับด้านเกือบทั้งทริป!!

    คุณพ่อไปเที่ยววันหยุดเลยยืมกล้อง GoPro ของลูกไปใช้ แต่ดั๊นถ่ายกลับด้านเกือบทั้งทริป!!

    ผู้ใหญ่หลายๆ คนอาจไม่ชำนาญเรื่องเทคโนโลยีได้เท่ากับวัยรุ่นที่เติบโตมาพร้อมๆ กับสิ่งนี้ และนั่นจึงอาจทำให้พวกเขามีข้อผิดพลาดในการใช้งานเทคโนโลยีอย่างที่เราคาดไม่ถึง ยกตัวอย่างชายวัย 69 ปีคนนี้ ที่ไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยีจนถึงกับถ่ายรูปผิดด้านเกือบตลอดการเดินทางเลยทีเดียว ชายคนนี้มีชื่อว่า Howard Newman เขาและ Joan ภรรยาได้ไปเที่ยวกันที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ก่อนจะไปเขาก็ตัดสินใจยืมกล้อง GoPro ของ Mark ลูกชายของเขาติดตัวไปด้วย แต่แล้วเรื่องราวฮาๆ ก็ได้เกิดขึ้น เมื่อคุณพ่อคนนี้กลับถือกล้องผิดด้านแทบตลอดทั้งทริป จากที่เขาต้องการจะเก็บภาพบรรยากาศวิวทิวทัศน์อันสวยงามระหว่างการเดินทาง มันกลายเป็นการถ่ายภาพเซลฟี่ของตัวเองแทนซะอย่างนั้น   คุณพ่อถ่ายหน้าตัวเองทำไมเนี่ย!?   เขาถ่ายทุกอย่างในโหมดวิดีโอ ทำให้เราได้เห็นใบหน้า รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของเขาแทบทุกคลิป แต่เรารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ? นั่นก็เพราะคลิปแรกสุดเขาก็พูดออกมาแล้วว่า “ตอนนี้เราอยู่ที่เนเธอร์แลนด์แล้ว เห็นถึงความแตกต่างกันเลยมั้ยล่ะ”   จะเห็นความแตกต่างได้ยังไงในเมื่อเห็นแต่หน้าคุณพ่อเกือบทั้งทริป!?   ด้วยความที่เขายังคงงงว่าปุ่มของกล้องมันควรต้องอยู่ทิศทางไหน จึงทำให้คลิปที่สองที่เขาถ่าย ภาพที่เราเห็นก็ยังคงเป็นหน้าของชายคนนี้อีกเหมือนเดิม ในส่วนนี้เขาต้องการอวดเส้นทางรถไฟ Great European ให้ประจักษ์แก่สายตาทุกคน หากแต่ว่าคงไม่มีใครได้เห็นอย่างที่เขาเห็นแน่นอน     แต่ก็ใช่ว่าเขาจะถ่ายกลับด้านตลอด เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาควักกล้องมาถ่ายเครื่องบินในด้านที่ถูกต้อง ทำให้เราได้เห็นเครื่องบินบินผ่านไปจริงๆ หลังจากที่เฝ้ารอจะชมวิวกันมานาน แต่สุดท้ายพอเริ่มคลิปใหม่ ก็กลายเป็นหน้าของเขาเหมือนเดิม…

  • น้องหมาจูงเพื่อนม้า เพื่อพาไปกินน้ำเอาชีวิตรอด แม้อากาศจะเย็นจัด -50 องศาก็ตาม…

    น้องหมาจูงเพื่อนม้า เพื่อพาไปกินน้ำเอาชีวิตรอด แม้อากาศจะเย็นจัด -50 องศาก็ตาม…

    แม้อากาศจะหนาวเย็นสักแค่ไหน แต่สัตว์ก็ยังต้องดื่มน้ำเพื่อความอยู่รอด แต่เจ้าม้า Kunduchene กลับไม่ยอมลุกไปไหนเลย จนน้องหมา Umka ต้องอาสาเข้ามาช่วย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Dyupsya ในย่าน Ust-Aldan ของ Yakutia ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใหญ่และหนาวที่สุดในรัสเซียหรือที่เรียกว่าสาธารณรัฐซาฮา     มีคำพูดหนึ่งในภาษาอังกฤษกล่าวไว้ว่า “คุณสามารถจูงม้าไปหาน้ำได้ แต่คุณไม่สามารถทำให้มันดื่มน้ำได้” แต่สำหรับเจ้า Umka แล้ว มันสามารถทำทั้งสองนี้ได้ดีกับเจ้าม้า Kunduchene แม้ว่ามันค่อนข้างดื้อก็ตาม ในแต่ละวัน Umka จะจูง Kunduchene ม้าวัย 6 ขวบ เดินฝ่าหิมะและทะเลน้ำแข็ง เพื่อไปดื่มน้ำในบ่อน้ำท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด     Semen Sivtsev เจ้าของม้าเล่าว่า “Kunduchene เป็นสัตว์ตัวเดียวที่มีปัญหามากที่สุด มันไม่ค่อยเชื่อฟังเลย แต่ตอนนี้ผมมีผู้ช่วยพิเศษที่สามารถพามันไปดื่มน้ำในบ่อน้ำแข็งได้ทุกวัน” ลูกสาวของเขา Maria Zakharova เสริมอีกว่า “ปกติแล้วเราไม่สามารถจูง Kunduchene ไปไหนมาไหนได้เลย มันจะต่อต้านเราเสมอ ดังนั้นเราจึงสอนสุนัขให้มาช่วย และดูเหมือน Umka จะสนุกกับภารกิจใหม่นี้ด้วยสิ” “ตอนแรกๆ ม้าก็ไม่เชื่อฟัง Umka เหมือนกันนั่นแหละ แต่น้องหมาพยายามดึงมันไปจนได้ ตอนนี้กลายเป็นว่าเจ้าม้าเดินตามสุนัขโดยไม่ต้องออกแรงดึงเลย”     แน่นอนว่าถ้าเจ้าม้าไม่เต็มใจไป น้องหมาคงพาไปไม่ได้เหมือนกัน เพราะขณะที่ Umka มีน้ำหนัก 60…

  • อดีตประธานบริษัท Komatsu จัดงานเลี้ยง ‘ปิดฉากชีวิต’ ของตัวเอง หลังจากรู้ว่าอยู่ได้อีกไม่นาน

    อดีตประธานบริษัท Komatsu จัดงานเลี้ยง ‘ปิดฉากชีวิต’ ของตัวเอง หลังจากรู้ว่าอยู่ได้อีกไม่นาน

    หากเรารู้ว่าเราเหลือเวลาใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน เราจะทำอย่างไรกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่นั้น บางคนอาจเศร้าโศกเสียใจอยู่กับคนในครอบครัว บางคนอาจออกไปเที่ยวรอบโลก หรือบางคนอาจจัดงานเลี้ยงฉลองให้ยิ่งใหญ่เหมือนกับเขาคนนี้ Satoru Anzaki ชาวญี่ปุ่นวัย 80 ปี อดีตประธานบริษัทเครื่องจักร Komatsu ได้จัดงานเลี้ยงอำลาชีวิตของตัวเองในวันที่ 11 ธันวาคม 2017 บนโรงแรมโตเกียว หลังจากที่เขารู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานหลังจากนี้ ในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนั้น แพทย์บอกกับเขาว่า มีการตรวจพบมะเร็งถุงน้ำดีระยะสุดท้าย แต่ Satoru เลือกที่จะไม่เข้ารับการรักษา เพื่อรักษาคุณภาพของชีวิตของตัวเองให้ดีที่สุด มีความสุขกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่   Satoru อดีตประธานบริษัทเครื่องจักร Komatsu   ต่อมาเดือนพฤศจิกายน ได้มีการประกาศเรื่องของงานเลี้ยงดังกล่าวลงในหนังสือพิมพ์ จนทำให้มีการพูดถึงกันเป็นวงกว้าง หลายคนชื่นชมในความกล้าที่จะเผชิญหน้าความตาย บางส่วนก็อยากให้ตัวเองได้รับเชิญไปร่วมงานฉลองนี้ จนกระทั่งในวันเลี้ยงฉลองมาถึง แขกกว่า 1,000 คนที่ได้รับเชิญต่างเดินทางมาร่วมงาน มีทั้งเพื่อนคนสนิทในปัจจุบัน เพื่อนเก่าร่วมชั้นในวัยเด็ก คู่ค้าและหุ้นส่วนทางธุรกิจ รวมถึงพนักงานบริษัทในสังกัด Komatsu     ภายในงานถูกตกแต่งไปด้วยสิ่งของแห่งความทรงจำของชายคนนี้ อีกทั้งเขายังจ้างนักเต้นรำสไตล์ดั้งเดิมจากบ้านเกิดของเขาในจังหวัดโทคุชิมะ เข้ามาสร้างสีสันและความบันเทิงให้กับแขกทุกคนในงาน Satoru พยายามเดินทักทายและจับมือกับแขกทุกคนที่มาร่วมงาน เขายังคงยิ้มอย่างสดใสร่าเริง ไม่แสดงอาการเศร้าโศกใดๆ ทั้งสิ้น…

  • ชายไร้บ้านยืนตากฝนนาน 2 ชั่วโมง เฝ้าเงินจำนวน 20,000 บาทที่ตกอยู่จนเจ้าของกลับมาเอาคืน

    ชายไร้บ้านยืนตากฝนนาน 2 ชั่วโมง เฝ้าเงินจำนวน 20,000 บาทที่ตกอยู่จนเจ้าของกลับมาเอาคืน

    ทุกคนสามารถทำความดีได้ ไม่เกี่ยวว่าเราจะต้องมีเงินมากมายมหาศาล เพราะแม้แต่ชายไร้บ้านคนนี้เขาก็ได้ทำความดีเอาไว้ให้กับคนแปลกหน้า ด้วยความเสียสละและทุ่มเท เรื่องราวของชายคนนี้ถูกนำเสนอผ่านสำนักข่าว Daily Mail ในวันที่ 15 ธันวาคม 2017 เมื่อชายไร้บ้าน James John McGeown ที่อาศัยอยู่ในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เขาได้ไปเจอกับกระเป๋าใบหนึ่งที่วางเอาไว้หน้ารถที่เปิดกระจกอยู่ ซึ่งมีเงินเกือบ 20,000 บ้านอยู่ในกระเป๋า   James ชายไร้บ้านที่เห็นกระเป๋าพร้อมกับเงินจำนวนมากในนั้น   ด้วยความที่เขากลัวว่าจะมีคนมาขโมยกระเป๋าใบนั้นไป เขาจึงยืนเฝ้าเอาไว้นานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา แต่รอไปนานขนาดนั้นเจ้าของก็ยังไม่กลับมาที่รถซักที เขาจึงนำกระเป๋าใบนั้นไปฝากไว้ที่สำนักงานกฎหมายใกล้ๆ พร้อมกับทิ้งกระดาษโน้ตเอาไว้ในรถ เมื่อ John McMonagle เจ้าของรถและ Alyshia Orford เจ้าของกระเป๋าใบนั้นกลับมาที่รถ พวกเขาเจอกับกระดาษโน้ตที่บอกว่ากระเป๋าถูกฝากเอาไว้ที่ไหน เขาจึงเดินทางไปรับคืนพร้อมกับรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด การช่วยเหลือที่น่าประทับใจนี้ ทำให้ John ตั้งรับเงินบริจาคผ่านเว็บไซต์ GoFundMe โดยตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 215,000 บาท เพื่อนำมันไปมอบให้กับ James ชายไร้บ้านที่ช่วยพวกเขาเอาไว้   John…

  • เจ้าเหมียวลายสูททักซิโด้ ร่วงลงมาจากเพดาน และตกลงสู่หัวใจมนุษย์ไปในทันที

    เจ้าเหมียวลายสูททักซิโด้ ร่วงลงมาจากเพดาน และตกลงสู่หัวใจมนุษย์ไปในทันที

    ตอนเด็กๆ เราอาจเคยฝันให้มีลูกอมหรือของขวัญที่เราอยากได้หล่นลงมาจากฟ้า ซึ่งมันก็จะคล้ายกับเหตุการณ์ของ Ellie Haywood หญิงสาวผู้ได้รับของขวัญที่หล่นมาจากเพดานบ้านของเธอเอง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถูกบอกเล่าผ่านเว็บไซต์ LoveMeow เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2017 Ellie เล่าว่า เธอและเพื่อนรูมเมทอาศัยกันอยู่ในบ้านพักเก่าๆ หลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยแตกและรูตามกำแพง จนทำให้พวกเธอต้องหาโปสเตอร์หรือของตกแต่งเล็กๆ มาปิดรูพวกนั้นเอาไว้     ในส่วนของเพดานก็มีความเก่าไม่แพ้กัน เพราะจะมีน้ำซึมหยดลงมาและมีรอยรั่ว จนทำให้พวกเธอต้องเตรียมถังเอาไว้หลายใบ ไว้รองน้ำที่หยดลงมาในช่วงฝนตก จนกระทั่งในคืนหนึ่งพวกเธอกำลังเตรียมถังไว้รองน้ำ ป้องกันพายุที่กำลังจะมาในวันถัดๆ ไป จู่ๆ ก็มีเสียงน้องเหมียวแว่วเข้ามาจากบนเพดาน พวกเธอคิดได้ทันทีเลยว่านั่นต้องเป็นแม่แมวและลูกแมวอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่ทุกคนจะได้ตามหาว่ามันอยู่ไหน ทันใดนั้นก็มีเสียงเหมือนมีอะไรตกลงมาจากเพดาน   รอยแตกที่เกิดจากบางสิ่งบางอย่างที่ตกลงมาจากเพดาน   Ellie และเพื่อนได้พบกับรอยแตกบนเพดานที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ที่สงสัยคือเจ้าสิ่งที่ตกลงมาหายไปไหน แล้วพวกเธอก็ได้เจอกับเจ้าเหมียวตัวน้อยและแม่ของมัน พอแม่แมวเห็นพวกเธอปุ๊บ ก็รีบวิ่งหายออกไปจากบ้านทันที ทิ้งลูกแมวตัวน้อยน่ารักเอาไว้ให้พวกเธอ นี่จึงกลายเป็นการพบกันครั้งแรกกับสมาชิกใหม่ตัวนี้   เจ้าเหมียวน้อยที่ตกลงมาพร้อมกับแม่ของมัน .   เจ้าเหมียวที่มีลายคล้ายชุดทักซิโด้ ถูกตั้งชื่อให้ว่า Asbestos ในตอนแรกมันมีท่าทีแบบกล้าๆ กลัวๆ อยู่บ้าง เพราะนี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมนุษย์หลังจากที่อาศัยอยู่บนหลังคามาตลอด แต่พอเวลาผ่านไปเจ้าเหมียวก็สามารถปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหม่ได้เป็นอย่างดี…

  • เหมียวแก่วัย 16 อาศัยในศูนย์นานกว่า 210 วัน จนเกิดเป็นเรื่องราวและได้พบกับอิสระเสียที

    เหมียวแก่วัย 16 อาศัยในศูนย์นานกว่า 210 วัน จนเกิดเป็นเรื่องราวและได้พบกับอิสระเสียที

    ทุกคนต้องการบ้าน ต้องการความอบอุ่นจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะในช่วงบั้นปลายชีวิตที่ต้องการเพียงแค่ที่ที่หนึ่งกับคนคนหนึ่งที่จะอยู่เคียงข้างเราไปจนวันสุดท้าย เจ้าเหมียวตัวนี้เองก็เช่นกัน การรอคอยอันยาวนานจนเหมือนกับว่ามันคงไม่ได้รับไออุ่นอย่างที่ฝันไว้ก็ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาในที่สุด นี่คือเรื่องราวของเจ้าเหมียว Kozal วัย 16 ปี เจ้าของเก่าของมันมีสุขภาพที่ย่ำแย่ ไม่สามารถเลี้ยงมันต่อได้ จึงพามาฝากไว้ที่สถาบันคุ้มครองน้องแมวในเขตซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ เพื่อรอให้เจ้าของคนใหม่พามันกลับไปเลี้ยงดู     แต่มันคงไม่มีความสุขเท่าไหร่กับการต้องย้ายจากบ้านมาอยู่ในห้องเล็กๆ นี้ มันจึงพยายามจะหนีออกไปอยู่เสมอ คอยเอาเท้าหน้าเล็กๆ ถูกับกระจกเหมือนว่าจะพังออกมาให้ได้เลย เมื่อรู้ว่ามันไม่สามารถพังออกมาเองได้ ความหวังเดียวที่เหลืออยู่ก็คือรอให้มีคนมารับมันไปเลี้ยง แต่ทว่ากลับไม่มีใครมุ่งความสนใจมาที่มันเลย ทุกคนที่เข้ามาเดินไปหาและรับเลี้ยงแมวตัวอื่นๆ ไปอยู่เสมอ     ความน่าสงสารของเจ้าเหมียวชรา (เทียบกับคนอายุประมาณ 80 ปี) ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันแชร์เรื่องราวของเจ้าเหมียว หวังว่าจะเป็นแรงผลักดันให้มีคนเข้ามาช่วยมันออกไปจากกำแพงกระจก พวกเขาต่างพูดถึงความน่ารักน่าชังของมัน แม้มันจะแก่และป่วยเป็นโรคไขข้ออยู่เล็กน้อย แต่ก็เป็นเจ้าเหมียวที่สนุกสนานได้อยู่ตลอดเวลา ตอนนี้สิ่งที่มันต้องการก็คือบ้านที่แท้จริงและคนที่จะคอยมอบความรักความเอาใจใส่ให้กับมันเท่านั้นเอง     เรื่องที่น่าเศร้าของเจ้าเหมียวคือ ยังคงไม่มีใครมารับมันไปเลี้ยงเลย เจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ยังคงโดดเดี่ยวอยู่ในห้องเล็กๆ เพียงลำพังอยู่เหมือนเดิม จนกระทั่งเวลาผ่านไป 210 วันนับจากวันที่มันมาอยู่ที่สถาบัน ในช่วงเดือนธันวาคม 2017 จู่ๆ ก็มีคู่รักที่เดินเข้ามาหา Kozal และพวกเธอได้อ้าแขนรับมันกลับไปเลี้ยงเป็นหนึ่งในสมาชิกใหม่ของบ้านอันอบอุ่น ในที่สุดความฝันของเจ้าเหมียวก็ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว…

  • หนุ่มแวะไปซื้ออาหาร แต่โดนเจ้าเหมียวกระโจนผ่านกระจก มายึดตักมนุษย์เป็นของตัวเองเฉย…

    หนุ่มแวะไปซื้ออาหาร แต่โดนเจ้าเหมียวกระโจนผ่านกระจก มายึดตักมนุษย์เป็นของตัวเองเฉย…

    ความไร้เดียงสาของแมวเหมียวเนี่ย มีพลังทำลายล้างสูงนะ ทั้งลูกอ้อน ทั้งความน่ารัก รวมๆ กันแล้วมันสามารถยึดทุกอย่างที่มันต้องการได้ง่ายๆ เลยหละ พลังนี้มันไม่ได้ใช้ได้กับเฉพาะทาสแมวเท่านั้นนะ แต่คนทั่วไปก็ต้านทานไม่ไหวเหมือนกัน ดูอย่างพ่อหนุ่มคนนี้สิ จอดรถแวะซื้ออาหารแป๊บเดียว โดนเจ้าเหมียวมายึดรถเฉย     เหตุการณ์ยึดครองในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อชายคนหนึ่งจอดรถไว้หน้าร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ด Taco Bell ในซิลเวสเตอร์ รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อซื้ออาหาร แต่ขณะที่เขาเลื่อนกระจกลงเพื่อนำอาหารเข้ามา จู่ๆ เจ้าเหมียวแปลกหน้าตัวหนึ่งก็กระโดดเข้ามาในรถเฉย แถมยังไปนอนบนตักของชายหนุ่มอย่างสบายใจเฉิบ นั่นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจมากว่าทำไมมันถึงกล้าเข้ามาในรถของคนที่ไม่เคยเจอกันเลย แต่พอจะไล่มันลงจากรถก็กลัวว่ามันจะได้รับอันตรายอีก     ชายหนุ่มเลยเข้าไปถามพนักงาน Taco Bell แต่พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มาจากไหน… ตอนนั้นการจราจรวุ่นวายมาก ทั้งผู้คน ทั้งรถรามีอยู่เต็มถนนเลย ถ้าปล่อยเจ้าเหมียวลงไปคงไม่ปลอดภัยแน่ๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูว่ามันมีเจ้าของหรือเปล่า หลังจากตรวจเสร็จแล้ว สัตวแพทย์ยืนยันว่าไม่มีไมโครชิปฝังอยู่ในตัวมัน และเร็วๆ นี้ก็ไม่ได้รับแจ้งว่ามีแมวหายออกไปจากบ้านด้วย     สุดท้ายชายหนุ่มเลยพามันกลับบ้านด้วย เพื่อให้มันได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย มีอาหารมากมายให้มันกิน และตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวว่า Jose ชายหนุ่มบอกว่า “ที่นี่มีผู้คนละทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเองตลอดเวลา เนื่องจากพื้นที่ที่ไปเจอเจ้าเหมียวนั้น ผู้คนมีรายได้ค่อนข้างต่ำ” “ผมจึงไม่ค่อยแปลกใจว่าทำไมมันถึงถูกทิ้งจนกลายเป็นแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ตามข้างถนน ตอนนี้ผมพยายามทุกวิถีทางเพื่อพามันกลับไปหาเจ้าของ ถ้ามีนะ แต่ถ้าไม่มีผมก็ยินดีที่จะรับเลี้ยงมัน”    …

  • นักกีฬาจากรอบโลกร่วมสลัดผ้า เพื่อหาเงินช่วยนักกีฬาเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

    นักกีฬาจากรอบโลกร่วมสลัดผ้า เพื่อหาเงินช่วยนักกีฬาเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

    องค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร เป็นองค์กรที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้น แต่พวกเขาจะดำเนินการไม่ได้เลยหากขาดแรงสนับสนุนจากสังคม ด้วยเหตุนี้นักกีฬาจากรอบโลกจึงเข้าร่วมโปรเจกต์ถ่ายภาพทำปฏิทิน โดยสลัดผ้าโชว์เรือนร่างอันแข็งแกร่งเพื่อระดมเงินช่วยเหลือองค์กรการกุศล   Jamie Alderton อดีตทหารผ่านศึก เจ้าของยิมและครูฝึก เป็นหนึ่งใน 18 คนที่เข้าร่วมโปรเจกต์สลัดผ้า   ตัวแทนนักกีฬาที่ร่วมโปรเจกต์ครั้งนี้มีทั้งหมด 18 คน ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นการถ่ายภาพตามสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ หนึ่งในนั้นมี Rafal Gil อดีตนักฟุตบอลของสโมสร Ipswich Town กับทหารผ่านศึกและเจ้าของยิม Jamie Alderton เป็นตัวแทนจากประเทศอังกฤษ   Patryk Rybarski รองแชมป์ Pole Dance World   สำหรับปฏิทินปี 2018 นี้ เต็มไปด้วยภาพร่างกายอันงดงามของนักกีฬาที่มีมาพร้อมกับตารางฝึกซ้อมประจำวัน ตารางบันทึกผล ความสำเร็จ และผลลัพธ์ของนักกีฬาแต่ละคน โปรเจกต์นี้เป็นประโยชน์กับ One Year Fund เป็นอย่างมากในการจัดหารองเท้าและอุปกรณ์สำหรับนักกีฬาเยาวชนที่ขาดแคลนเงินทุน   นักธนูโอลิมปิกชาวโปแลนด์ Karina Lipiarska-Palka   Dominika Cuda ช่างภาพผู้ก่อตั้งโปรเจกต์นี้และอดีตนักกีฬา Biathlonist กล่าวว่า “เราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้เยาวชนได้ทำตามความฝันและประสบความสำเร็จในทางที่พวกเขาเลือก” คุณอาจจะไม่ใช่ 1…

  • 16 เสื้อผ้าสวมใส่จากโลกอนาคต ล้ำซะจนไม่อยากให้วันที่ต้องใส่อะไรแบบนี้มาถึง!!

    16 เสื้อผ้าสวมใส่จากโลกอนาคต ล้ำซะจนไม่อยากให้วันที่ต้องใส่อะไรแบบนี้มาถึง!!

    ผู้คนมักสงสัยว่าชีวิตในอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร? ต้องได้กินอาหารแบบไหน? ยานพาหนะจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ?และเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นจะมีหน้าตาแตกต่างจากตอนนี้ยังไง? หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังกังวลเกี่ยวกับอนาคต ลองมาดูสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่ว่ากันว่าจะได้ใส่ในอนาคตที่มีความล้ำซะจนตื่นเต้นแทนคนที่อยู่ถึงวันนั้น   1. เสื้อผ้าไร้รอยต่อ นักออกแบบบางคนเชื่อว่าอนาคตเราจะสวมเสื้อผ้าที่ไร้รอยต่อ เพราะมันง่ายต่อการสวมใส่และการถอดออก แต่มีข้อสงสัยว่าเสื้อผ้าแบบนี้จะรับมือกับสภาพอากาศต่างๆ ได้เหรอ?   2. ชุดแมงมุม ถ้าคุณไม่ชอบอยู่ในพื้นที่แออัดโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน บางทีชุดแมงมุมนี้อาจช่วยคุณได้นะ และผู้ออกแบบชุดนี้ก็มั่นใจว่ามันต้องกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงหลายๆ คนแน่ๆ   3. เสื้อเดินทาง คนที่ชอบเดินทางแต่ไม่ต้องการพกกระเป๋าไปด้วย คุณอาจจะชอบเสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้ก็ได้ เพราะมันออกแบบมาพร้อมกระเป๋าอเนกประสงค์ที่สามารถบรรจุทุกความต้องการของคุณได้ ฟังดูดีเนาะ แค่มีเสื้อตัวเดียวก็สามารถใส่ทุกอย่างที่ต้องการได้…   4. ชุดที่ขับเคลื่อนด้วย Superflex นี่คือบอดี้สูทที่ได้รับการออกแบบด้วยเซนเซอร์และเทคโนโลยีที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาด้วยกายภาพบำบัด กลับมามีร่างกายที่เข้าที่เข้าทางหรือปกติอีกครั้ง ในอนาคตแม้แต่คนไม่ได้เป็นอะไรก็ใส่ได้นะ   5. เสื้อผ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในอนาคตมนุษยชาติคงมีความต้องการพลังงานทางเลือกมากขึ้น และนี่คือเสื้อผ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมันจะกลายเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการชาร์จอุปกรณ์สื่อสารระหว่างเดินทางได้   6. เสื้อผ้า 3 มิติ ผู้ออกแบบเชื่อว่าในอนาคตมนุษย์คงต้องการเสื้อผ้าที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปตามรูปร่างและการเคลื่อนไหวของร่างกาย ดังนั้นเสื้อผ้า 3 มิตินี้น่าจะตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้มากที่สุด   7. ชุด Enflux นี่คือชุดออกกำลังกาย Enflux ที่สามารถวิเคราะห์ร่างกายของมนุษย์ได้ โดยมันจะแสดงภาพ 3…

  • โฆษณารองเท้า ของจีนทำ “เส้นผม” มาติดบังรองเท้า เพื่อให้คนปัดขึ้นเข้าหน้าซื้อ โคตรล้ำ!!

    โฆษณารองเท้า ของจีนทำ “เส้นผม” มาติดบังรองเท้า เพื่อให้คนปัดขึ้นเข้าหน้าซื้อ โคตรล้ำ!!

    กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก เมื่อมีบริษัทขายรองเท้าแห่งหนึ่งในจีนทำโฆษณาสุดกวนโอ๊ยออกมา หลอกตาผู้บริโภคมากมายให้กดเข้าไปดูสินค้าลดราคา ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไง โฆษณาชิ้นนี้เป็นของบริษัทรองเท้า Kaiwei Ni ที่ต้องการให้คนกดเข้ามาดูรองเท้าลดราคาของตน พวกเขาจึงคิดกลอุบายลวงตาขึ้นมาในโฆษณาชิ้นนี้ นั่นก็คือการวาดเส้นผมปลอมหนึ่งเส้นติดเข้าไปในตัวโฆษณาด้วย แล้วเผยแพร่โฆษณาชิ้นในลงบนอินสตาแกรม     ซึ่งคนที่ใช้มือถือทุกคนที่เห็นโฆษณาตัวนี้ ก็จะคิดว่ามีเส้นผมติดอยู่บนหน้าจอของพวกเขา และวิธีจัดการกับเส้นผมง่ายๆ ก็คือปัดมันให้พ้นจากหน้าจอโทรศัพท์แค่นั้นเอง แต่เมื่อทำการปัดเส้นผมปลอมไปแล้ว กลับกลายเป็นว่าตนเองโดนหลอกให้เปิดเข้าดูโฆษณาซะงั้น ผู้ใช้งานอินสตาแกรมคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Blake Robbins ก็หลงกลกับลูกเล่นของโฆษณาตัวนี้เช่นกัน จึงได้นำโฆษณาตัวนี้ไปแชร์เตือนภัยชาวเน็ตใน ทวิตเตอร์ของเขา   ทวีตของ Blake Robbins   ตัวโฆษณาถูกวิจารณ์ไปต่างๆ นานา บางส่วนก็ชื่นชมตัวโฆษณาว่าทำมาได้ดีทีเดียว เพราะว่าทั้งดึงดูดความสนใจของคน และยังมีลูกเล่นแปลกๆ ให้คนกดเข้าไปดูโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย นอกจากนี้ยังคิดว่าคนที่คิดโฆษณานี้มีความคิดล้ำหน้าไม่เบาเลย แต่อีกส่วนก็รู้สึกหัวร้อนกับโฆษณา เพราะพวกเขาไม่ได้อยากกดเข้าไปดูโฆษณาสักหน่อย แต่โดนหลอกให้กดเข้าไปต่างหาก ทำให้พวกเขาเสียเวลามานั่งดูอะไรที่พวกเขาไม่ต้องการ ซึ่งการกระทำแบบนี้เหมือนการหลอกลวงผู้บริโภคอยู่เนืองๆ นั่นเอง     ทวีตนี้มีคนให้ความสนใจมากมาย และถูกแชร์ไปกว่า 2,000 ครั้ง จนในที่สุดก็ไปผ่านตาถึงอิสตาแกรมของบริษัท Kaiwei Ni เข้าจนได้ ทางบริษัทจึงก็ได้เข้าไปตอบในทวีตนั้นว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องโฆษณาตัวนี้นะ เพราะว่ามันถูกสั่งถอดถอนออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางบริษัทยังถูกสั่งห้ามโพสต์โฆษณาอื่นใด…

  • ครอบครัวของนางงามอิรักถูกขับไล่ออกจากประเทศ หลังเจ้าตัวไปถ่ายเซลฟี่คู่กับมิสอิสราเอล!!

    ครอบครัวของนางงามอิรักถูกขับไล่ออกจากประเทศ หลังเจ้าตัวไปถ่ายเซลฟี่คู่กับมิสอิสราเอล!!

    ภาพถ่าย คือสิ่งของที่เก็บรวบรวมความทรงจำต่างๆ เอาไว้ในนั้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนความทรงจำให้แก่เราว่า ครั้งหนึ่งเราก็เคยมีหน้าตาเช่นนี้ และเคยทำกิจกรรมอะไรเช่นนี้ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งของแห่งความทรงจำชิ้นนี้ จะทำให้ครอบครัวหนึ่งโดนไล่ออกจากประเทศไปเลย.. โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนางงามประเทศอิรักชื่อว่า Sarah Idan เพราะว่าเธอไปถ่ายรูปกับนางงามจากประเทศอิสราเอลชื่อว่า Adar Gandelsman เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ระหว่างการประกวดนางงามจักรวาลที่เมืองลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา     โดยเธอได้โพสต์รูปดังกล่าวลงในอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ โดยมีแคปชั่นที่ไปในทางที่ว่า ‘เพื่อความสงบสุขและความรัก’ และภาพนั้นก็ได้ก่อให้เกิดผลร้ายที่ตามมาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะว่าภาพนั้นได้ทำให้ชาวอิรักจำนวนมากรู้สึกโกรธ และก็มีผู้คนหลายคนอยากจะขับไล่ครอบครัวของเธอให้ออกไปจากประเทศอิรัก “ประชาชนหลายคนในประเทศอิรักขู่ว่า หากฉันยังไม่ลบภาพดังกล่าวออก พวกเขาจะใช้ความรุนแรงต่อฉันกับครอบครัวของฉัน และความรุนแรงที่ว่านี้ก็อันตรายจนถึงชีวิตเลย” “เพื่อความปลอดภัย ในตอนนี้ครอบครัวของฉันก็ออกจากอิรักแล้ว และจะอยู่ต่างประเทศจนกว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะสงบลง” Sarah กล่าว     ภาพในอินสตาแกรมดังกล่าวของเธอมีผู้กดไลก์มากกว่า 3,600 คน แต่ก็มีคอมเมนต์เข้ามาจำนวนมากซึ่งก็มีทั้งในแง่ลบและแง่บวก โดยความเห็นในแง่ลบส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความขัดแย้งที่ทั้งสองประเทศมีต่อกันรวมถึงเรื่องของสงครามศาสนา เพราะว่าประเทศอิรักเป็นประเทศอิสลาม และอิสราเอลเป็นประเทศศาสนายิว “ในตอนนั้น Adar ถามฉันว่าอยากถ่ายรูปด้วยกันไหม ฉันก็บอกว่าได้สิไม่มีปัญหา เพราะว่าพวกเราต่างก็มีจุดมุ่งหมายคือความสันติสุขร่วมกัน และอยากจะส่งข้อความดังกล่าวออกไปในรูปภาพนี้” Idan กล่าว นี่ไม่ใช่กรณีแรกที่ภาพถ่ายของนางงามได้ก่อให้เกิดการพาดพิงเกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ในปี 2014 ก็มีนางงามจากประเทศอิสราเอลถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ เมื่อเธอไปถ่ายรูปคู่กับนางงามตัวแทนจากประเทศเลบานอน นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าประเทศแถบอาหรับส่วนใหญ่ ยังคงตั้งแง่อยู่กับประเทศที่นับถือศาสนายิวอย่างอิสราเอล…

  • นักท่องเที่ยวฉุนปึ๊ด โดนหลอกขายตั๋วนิทรรศการผีเสื้อปลอม ผู้จัดงานลั่น ‘ปลอมก็เกาะได้เหมือนกัน’

    นักท่องเที่ยวฉุนปึ๊ด โดนหลอกขายตั๋วนิทรรศการผีเสื้อปลอม ผู้จัดงานลั่น ‘ปลอมก็เกาะได้เหมือนกัน’

    เราอาจเคยเห็นนิทรรศการจัดแสดงสิ่งมีชีวิตนานาชนิด เช่นเดียวกันกับในประเทศจีนที่ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการผีเสื้อ โดยในโฆษณายืนยันเลยว่าจะมีผีเสื้อจำนวนมากเกาะอยู่บนมือและไหล่คุณอย่างแน่นอน นิทรรศการดังกล่าวมีชื่อว่า Dinosaur and Butterfly จัดขึ้นในสวนสาธารณะ Yubai บนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งทางสวนสาธารณะดังกล่าวได้ประกาศออกไปในแอป WeChat ว่า “จะมีผีเสื้อเป็นหมื่นๆ ตัวมารวมกันในพื้นที่โล่งกว้าง และจะไปเกาะอยู่บนนิ้วและไหล่ของผู้ที่มาเยี่ยมชม”     จากโฆษณา ทำให้มีผู้สนใจจำนวนมากซื้อบัตรราคาประมาณ 73 บาท เพื่อเข้าชมงานดังกล่าว แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะสิ่งที่รออยู่ด้านในมันไม่ได้เหมือนกับที่หลายๆ คนคาดคิดเอาไว้ ภายในงานคือการจัดแสดง “ผีเสื้อพลาสติก” หลากหลายสีสัน ไม่มีผีเสื้อจริงเลยแม้แต่ตัวเดียว หงายเงิบกันเลยทีนี้ นักท่องเที่ยวคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เขาเดินทางมาไกลกว่า 100 กิโล เพื่อมาเจอกับการหลอกลวงในครั้งนี้     สำนักข่าว BBC นำเสนอเรื่องนี้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2017 โดยทางบริษัท Yulin Beishang Exhibition Service ออกมายืนยันว่านี่ไม่ใช่ของปลอมหรือการหลอกลวงแต่อย่างใด “ผีเสื้อพลาสติกก็สามารถมาเกาะบนนิ้วเราได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” ส่วนพนักงานของสวนสาธารณะก็บอกว่า พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันจะเป็นอย่างนี้ จนกระทั่งได้ไปเห็นด้วยตัวเองในวันจัดงาน และจัดการเคลียร์ทุกอย่างออกไปหมดแล้ว ซึ่งพวกเขาตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาอีก…

  • เพื่อนๆ ร่วมดีใจสุดขีด หลังหนุ่มน้อยวัย 16 ปี สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาวาร์ดได้

    เพื่อนๆ ร่วมดีใจสุดขีด หลังหนุ่มน้อยวัย 16 ปี สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาวาร์ดได้

    หากเราอดทนทำเรื่องยากสักอย่างให้ประสบความสำเร็จ เมื่อเราสมหวังแล้วย่อมรู้สึกปลื้มปีติจนไม่สามารถอธิบายได้ว่ารู้สึกดีใจขนาดไหน เหมือนกับเด็กคนนี้ที่ก้าวผ่านอุปสรรคจนพิชิตเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ เขาคงไม่สามารถบอกได้หรอกว่าดีใจมากแค่ไหน แต่ดูจากน้ำเสียงและท่าทางแล้ว คงรู้สึกยินดีสุดๆ ไปเลย   Ayrton Little และแม่ Maureen Little   Ayrton Little เป็นนักเรียนจากโรงเรียนเอกชน TM Landry College Prep ในเมือง Opelousas รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีความฝันที่อยากจะเข้าเรียนใน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มาตั้งแต่เด็ก เขาจึงตั้งใจเรียนหนังสือและอ่านหนังสืออย่างหนัก จนเขาสามารถข้ามชั้นเรียนมาได้ และมีสิทธิ์ไปสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ตอนอายุเพียงแค่ 16 ปี     เมื่อถึงวันประกาศผลสอบ เพื่อนๆ ในชั้นเรียนของเขาจึงมานั่งเป็นกำลังให้เขาด้วย ตัว Ayrton เองตื่นเต้นมากว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และตอนที่เขาเลื่อนไปถึงส่วนที่แจ้งว่าเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้แล้ว คนทั้งห้องก็ร้องลั่นด้วยความยินดีทันที เพื่อนๆ ทุกคนร่วมกันแสดงความยินดีกับเขาพร้อมทั้งตะโกนว่า “three-peat” เพื่อฉลองที่มีนักเรียนในโรงเรียนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว   .   Ayrton ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมบอกไม่ถูกว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง แต่มันรู้สึกสุดยอดโคตรๆ…

  • เผยผลสำรวจจาก “สาวนักอ่านการ์ตูน” ชาวญี่ปุ่น ชอบที่จะถูกกอดในแบบไหนบ้าง?

    เผยผลสำรวจจาก “สาวนักอ่านการ์ตูน” ชาวญี่ปุ่น ชอบที่จะถูกกอดในแบบไหนบ้าง?

    พอเข้าหน้าหนาวแล้ว เราก็ต้องหาทางรับมือกับลมหนาวที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของเรา การออกไปหาซื้อเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดี หรือถ้ามีเงินหน่อยจะหาซื้อฮีทเตอร์มาใช้ก็ได้นะ แต่คงไม่มีอะไรสู้ไออุ่นจากอ้อมกอดของคนรู้ใจได้อีกแล้ว เราทุกคนรู้ดีว่าตอนโดนกอดมันอุ่นกายอุ่นใจมากแค่ไหน แต่ว่าการกอดน่ะไม่ได้มีแค่หันหน้ากอดกันแบบเดียวนะ อาจจะอ้อมมากอดจากข้างหลัง หรือนอนกอดกันบนเตียงก็ได้ แล้วแบบไหนมันฟินที่สุดกัน ถ้าอยากรู้ละก็ เป็นโชคดีของเราพอดีที่เว็บไซต์ Mecha Comic ได้ทำแบบสอบถาม เก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ให้เราแล้ว     Mecha Comic เป็นเว็บไซต์สื่อสิ่งพิมพ์ออนไลน์ที่มีหนังสือการ์ตูนประเภทโชโจจำนวนมาก ซึ่งก็คือหนังสือการ์ตูนแนวน่ารักหวานๆ ที่ผู้หญิงชอบอ่านกัน แน่นอนว่ามีการ์ตูนรักโรแมนติกรวมอยู่ในนั้นเยอะมากด้วย จึงมีกลุ่มลูกค้าหญิงสาวจำนวนมากใช้เว็บไซต์นี้ ทางเว็บไซต์ก็เลยเปิดแบบสอบถามให้สาวๆ จำนวน 1,054 คน เข้ามาตอบกันว่าพวกเธอชอบที่จะถูกกอดหรือเปล่า     ผลสำรวจก็เป็นที่คาดเดาได้ว่าคนส่วนมากอยากถูกกอดแน่ๆ ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นเพราะผลก็คือ หญิงที่ทำแบบสอบถาม 82 เปอร์เซ็นต์ต้องการให้กอด อีก 17 เปอร์เซ็นต์รู้สึกเฉยๆ มีก็ดีไม่มีก็ได้ และมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ไม่ชอบให้กอด   จากบนลงล่าง: กอดจากด้านหน้า, กอดจากข้างหลัง, โอบกอดกันจากด้านข้างแบบไหล่ชิดกัน, กอดให้ร่างกายทุกส่วนแนบชิดกัน, กอดและมองตากัน, กอดและเอาแก้มถูกัน, กอดโดยให้ส่วนหนึ่งของใบหน้าแนบกัน (หน้าผาก, จมูก…

  • จากคลิปสามีเกาหลีลดน้ำหนักเพื่อภรรยา ทั้งสองกลับโดนคอมเมนต์ต่อว่าจำนวนมาก

    จากคลิปสามีเกาหลีลดน้ำหนักเพื่อภรรยา ทั้งสองกลับโดนคอมเมนต์ต่อว่าจำนวนมาก

    ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2017 #เหมียวมู่ทู่ เคยนำเสนอเรื่องราวของ Hugh Gwon หนุ่มเกาหลีผู้เปลี่ยนแปลงตัวเอง พยายามลดน้ำหนักเพื่อเป็นกำลังใจให้ภรรยา Nicholas สาวชาวออสเตรเลียที่ประสบปัญหาการมีลูกยาก (อ่านข่าวเก่าได้ที่ สามีตัดสินใจลดน้ำหนักจนมีซิกแพ็ค เพื่อให้กำลังใจภรรยา ในช่วง ‘ภาวะมีบุตรยาก’) จากการออกกำลังกายและควบคุมอาหารของเขา ทำให้สามารถลดน้ำหนักลงไปได้มากถึง 22 กิโลกรัม ในระยะเวลา 23 สัปดาห์ และภรรยาก็ตั้งท้องได้สำเร็จด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว   จากความพยายามของเขา ทำให้เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้   เขาและภรรยารู้สึกยินดีกับผลลัพธ์ในครั้งนี้มาก   ฟิตเปรี๊ยะ จำแทบไม่ได้เลยทีเดียว   แต่ก็ไม่ได้มีเพียงเรื่องราวดีๆ เท่านั้น เพราะหลังจากที่ทั้งคู่โพสต์คลิปความพยายามและการประสบความสำเร็จของนาย Hugh ลงในโลกโซเชียล จนทำให้ชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ในหลากหลายแง่มุม ทำให้ทั้งสองต้องเจอการโจมตีในแง่ลบจากหลายๆ ความคิดเห็น   คลิปความพยายามและการเปลี่ยนแปลงของหนุ่มเกาหลีคนนี้   คอมเมนต์จากชาวเน็ตที่เข้ามาโจมตีพวกเขาในหลายๆ เรื่อง..   เมื่อ Hugh ลดน้ำหนักแล้ว นี่คงถึงตาของคุณภรรยาแล้วแหละ .   ชาวเน็ตคนนี้เข้ามาบอกว่า Nicholas ดูอ้วนมากๆ และมองว่านี่คือการกดขี่เรื่องเพศที่เหมือนบังคับให้ผู้ชายต้องมาออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ผู้หญิงที่อ้วนเหมือนกันกลับไม่ต้องทำอะไร  …

  • Pooja Ganatra หญิงชาวอินเดีย ที่มีผิวสีขาว ผมแดง และนัยน์ตาสีฟ้าเหมือนสาวชาวไอริช

    Pooja Ganatra หญิงชาวอินเดีย ที่มีผิวสีขาว ผมแดง และนัยน์ตาสีฟ้าเหมือนสาวชาวไอริช

    เรื่องราวของหญิงสาวชาวอินเดียที่เกิดมาพร้อมกับรูปร่างและหน้าที่แตกต่างจากพ่อและแม่ของเธอ ผมสีแดง ผิวสีขาวและจุดกระบนใบหน้านั้นทำให้เธอถูกรังแก เพราะคนอื่นๆ คิดว่าเธอเป็นโรค Pooja Ganatra สาวน้อยวัย 24 ปีจากเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ที่เกิดมาพร้อมกับรูปร่างคล้ายๆ กับสาวชาว Gaelic จากประเทศไอซ์แลนด์ ลักษณะที่แปลกจากชาวอินเดียทั่วไปนี้คาดว่าน่าจะมีจากบรรพบุรุษของเธอ หรือที่เรียกว่า atavism   Pooja และพ่อแม่ของเธอ   บ่อยครั้งที่เธอมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นชาวต่างชาติ แต่อันที่จริงแล้ว Pooja เองเป็นสาวอินเดียแท้ๆ ที่เกิดมาจากพ่อแม่ที่เป็นชาวอินเดีย คุณ Rajesh พ่อของเธอเองเป็นชาวอินเดียแต่กำเนิดและมีผิวสีเข้ม ส่วน Hemaxi แม่ของเธอเองก็เป็นชาวอินเดียแต่กำเนิดเช่นกัน แต่ทางฝ่ายแม่นั้นกลับมีผิวขาวกว่าและมีกระบนใบหน้าเล็กน้อย     Pooja เล่าถึงชีวิตของเธอในประเทศอินเดียบ้านเกิดว่า เธอรู้สึกแตกต่างจากคนอื่นๆ และก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ใส่เสื้อแขนกุดขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยอีกด้วย เนื่องจากสีผิวของเธอนั้นสะดุดตาคนอื่นมากเกินไป “ตอนที่ฉันเกิดมา ครอบครัวของฉันตกใจมาก พวกเขาไม่เคยเห็นใครแบบฉันมาก่อนเลย ทุกคนในครอบครัวฉันมีผิวสีน้ำตาลกันหมด แถมยังมีผมสีดำ และนัยน์ตาสีน้ำตาลอีกด้วย” หญิงสาวกล่าว     ภาพของ Pooja ในตอนที่เธอยังเป็นเด็กสาว   การเกิดมาพร้อมกับสีผิวที่ไม่เหมือนกับคนในครอบครัว ทำให้ทางครอบครัวคิดว่าเป็นโรคผิวหนัง พวกเขาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาไปมาก และตัดสินใจว่าจะไม่มีลูกอีก   “ฉันถูกส่งตัวไปรักษากับแพทย์ผิวหนัง เพราะพวกเขาคิดว่าฉันมีความผิดปรกติของร่างกายและอาจจะเป็นโรคผิวหนัง ฉันกลายเป็นตัวประหลาดในโรงเรียน พวกเด็กๆ มักจะแกล้งฉันอยู่บ่อยๆ…