Category: ข่าวคราวรอบโลก

  • เรซูเม่แบบเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความมืออาชีพ ดีไซน์สะอาดตา พร้อมนำไปใช้งาน

    เรซูเม่แบบเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความมืออาชีพ ดีไซน์สะอาดตา พร้อมนำไปใช้งาน

    เวลาที่จะไปสมัครงานสักแห่งหนึ่ง ย่อมต้องเตรียมตัวและเอกสารไปนำเสนอตัวเองให้พร้อม เอกสารที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเรซูเม่ ซึ่งก็คือใบแนะนำตัวแบบคร่าวๆ ของตัวเรา เช่น ชื่อ, อายุ, สถานศึกษา, ระดับการศึกษา, งานอดิเรก หรือ ข้อมูลติดต่อ ถึงแม้เรซูเม่จะเป็นใบแนะนำตัวแบบง่ายๆ แต่จะบอกว่ามันเป็นตัวชี้ชะตาว่าจะได้สัมภาษณ์หรือไม่ก็คงจะไม่ผิด เนื่องจากผู้ที่ทำการสัมภาษณ์ต้องคัดเลือกบุคคลจำนวนมาก เขาก็มักจะดูแค่เรซูเม่ผ่านๆ นี่แหละว่าเราน่าสนใจพอให้ทำความรู้จักเพิ่มเติมไหม     แต่การทำเรซูเม่นั้นไม่ง่ายเลย เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่มีแบบฟอร์มตายตัวแน่นอน และต้องทำขึ้นมาเองแทบทั้งหมด  หากทำให้ดูไม่สะดุดตาก็จะไม่มีใครสนใจดู แต่หากทำจนสีสันฉูดฉาดมากเกินไปผู้สัมภาษณ์ก็คงไม่อยากอ่านเพราะมันอ่านยากเช่นกัน วันนี้เรามีตัวช่วยมาให้ทุกคนแล้ว เพราะเว็บไซต์ Free Design Resources ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ดาวน์โหลดเอกสารต่างๆ ฟรี ได้ออกแบบเรซูเม่ที่ดูเรียบร้อย แต่มาพร้อมความครบเครื่องและน่าอ่านให้กับทุกคนแล้ว     รูปแบบของเรซูเม่ฟรีตัวนี้เรียกได้ว่าใช้ความเรียบง่ายของฟอร์มทำให้ดูสบายตา นอกจากนี้ยังแบ่งข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่และมองหาง่าย ไม่กระจุกกันเป็นก้อนจนอ่านลำบาก ซ้ำยังมีลูกเล่นเล็กน้อยทำให้ดูสะดุดตาและน่าอ่านด้วย เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เรซูเม่ตัวนี้ได้ที่ Free Design Resources เลย     ทีนี้เราก็สบายใจได้แล้ว่าเรซูเม่ของเราจะเป็นที่สนใจแน่นอน แต่ก็อย่าลืมตรวจดูเอกสารอื่นๆ ให้ครบด้วยนะ ไม่อย่างนั้นเรซูเม่ดูดีแค่ไหน ก็อาจจะพลาดได้   ที่มา: designtaxi, behance, Free Design Resources

  • ชายผู้เสียโฉมเพราะถูกหมีข่วน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวี แต่ผู้ชมกลับบอกว่า ‘สมควรแล้ว’

    ชายผู้เสียโฉมเพราะถูกหมีข่วน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวี แต่ผู้ชมกลับบอกว่า ‘สมควรแล้ว’

    หลายคนอาจรู้สึกสงสารกับการที่ชายคนหนึ่งถูกหมีทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่ผลตอบรับจากเรื่องเล่าของเขาคนนั้นกลับออกมาในทิศทางตรงกันข้าม เพราะชาวเน็ตกลับรู้สึกไม่พอใจเขาอย่างมาก สิ่งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017 เมื่อรายการ This Morning ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการสัมภาษณ์ Lee Brooke ผู้เคราะห์ร้ายวัย 60 ปี ที่ถูกหมีทำร้ายจนทำให้ใบหน้าของเขาเกือบจะหายไปทั้งแถบ   Lee ชายผู้ถูกหมีทำร้ายจนใบหน้าของเขาต้องใช้อุปกรณ์ในการแพทย์แทนที่จมูกและริมฝีปากบน   เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นจำนวนมากเนื่องจากอาการที่สาหัสบริเวณใบหน้า รวมถึงอาการบาดเจ็บอื่นๆ ทั่วร่างกาย เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลนานหลายเดือนจนกระทั่งผิวหนังบนใบหน้าถูกแทนที่ด้วยผิวหนังส่วนขาของเขา รวมถึงการผ่าตัดฝังเหล็กดามเอาไว้บริเวณศีรษะ และยังคงต้องเข้ารับการรักษาอีกในระยะยาว     Lee ได้เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์นั้นผ่านการสัมภาษณ์ว่า ตอนนั้นเขาเดินขึ้นเขาในรัฐไวโอมิง เพื่อไปล่ากวางเอลก์ เมื่อเขาฆ่าได้ตัวนึงและกำลังจะเดินไปเก็บซากของเหยื่อตัวนั้น ก็ได้เจอกับแม่หมีวัย 30 ปีและลูกๆ ของมัน แม่หมีตัวนั้นต้องการเหยื่อที่เขาล่าได้ เมื่อเขาเห็นอย่างนั้นจึงหันหลังกลับเพื่อหนีออกไปจากสายตาของมัน แต่เจ้าหมีก็ได้เดินเข้ามากระชากกระเป๋าของเขา ตะปบหน้าจนเขาตกลงไปด้านล่างภูเขาที่ลึงลงไปกว่า 45 เมตร     การตกลงมาจากที่สูงทำให้เขาสลบไป ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาหลังจากที่เจ้าหมีตัวนั้นเดินเข้ามาดมแก้มของเขา และเขาเผลอสะดุ้งตื่นเข้ามาจนทำให้เจ้าหมีกัดลงไปบนแขนของเขา Lee พยายามล้วงเข้าไปในคอหอยของมันเพื่อให้มันปล่อยแขนของเขา อีกทั้งยังตีเข้าไปที่หัวของหมีอีกหลายครั้ง นั่นจึงทำให้เขาสามารถรอดมาได้ ก่อนที่เพื่อนที่มาด้วยกันก็มาช่วยเหลือและพาไปโรงพยาบาลในทันที…

  • นักกีฬาวอลเลย์โรงเรียน ถูกโค้ชและเพื่อนทำร้ายร่างกาย เพราะฝ่าฝืนกฎ “ห้ามเดตสาว”

    นักกีฬาวอลเลย์โรงเรียน ถูกโค้ชและเพื่อนทำร้ายร่างกาย เพราะฝ่าฝืนกฎ “ห้ามเดตสาว”

    เราอาจเคยได้ยินว่าไอดอลในประเทศญี่ปุ่น ไม่สามารถออกเดตได้ และกฎเดียวกันนี้ก็จะมีอยู่ในหลายโรงเรียน โดยพวกเขาเชื่อว่ามันเป็นการช่วยให้นักเรียนสามารถตั้งใจเรียนหนังสือได้อย่างไม่วอกแวก รวมถึงการทำกิจกรรมชมรมต่างๆ แต่การฝ่าฝืนกฎดังกล่าวก็อาจตามมาด้วยความรุนแรงที่คาดไม่ถึงเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมปลาย Ashikaga จังหวัดโทะชิงิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งชมรมวอลเลย์บอลชายของโรงเรียนแห่งนี้ถือได้ว่ามีชื่อเสียงและได้เข้าแข่งระดับประเทศมาตลอด   โรงเรียนมัธยม Ashikaga ในประเทศญี่ปุ่น   ทางชมรมมีกฎที่เข้มงวดตั้งเอาไว้ว่า “ห้ามนักกีฬาออกเดตกับทุกคนที่เกี่ยวข้องในชมรมวอลเลย์บอล” แม้แต่ผู้จัดการทีมที่เป็นผู้หญิงก็ห้ามคบหาเช่นกัน เพื่อป้องกันไม่เกิดการอิจฉาหรือความเกลียดชังกันระหว่างคนในทีม แต่ความรักก็เป็นเรื่องยากที่จะห้ามมันเอาไว้ได้ จึงทำให้นักกีฬาชายชั้นม.5 วัย 17 ปีคนหนึ่ง แอบคบกับผู้จัดการทีม และนั่นก็ทำให้เขาถูกลงโทษอย่างรุนแรงในวันที่ 29 มิถุนายน 2017     โค้ชของทีมวัย 66 ปีได้ทำการลงโทษนักกีฬาคนดังกล่าว โดยให้เขานั่งคุกเข่าลงไปกับพื้นตามลักษณะท่าทางของวัฒนธรรมญี่ปุ่น จากนั้นโค้ชก็เตะเข้าไปที่หน้าอกของเด็กหนุ่มซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง และตีหลังของเขาในตอนที่ล้มลงไปนอนกับพื้น และไม่ได้มีเพียงการลงโทษทางร่างกายที่รุนแรงเท่านั้น แต่นักกีฬาผู้ฝ่าฝืนกฎคนนี้กลับต้องเจอกับการถูกเพื่อนร่วมทีมทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่หอพักและในโรงยิมของโรงเรียน     สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ถูกกระจายออกไป ทำให้ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2017 Shigekazu Matsushita ครูใหญ่โรงเรียน Ashikaga ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า โค้ชคนนั้นไม่ถูกตัดสิทธิ์ในการคุมทีมวอลเลย์บอลชายในการแข่งขันประจำชาติที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคม…

  • พี่สาวประกาศตามหา ‘รถบรรทุกของเล่น’ เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับน้องชายพิการอีกครั้ง

    พี่สาวประกาศตามหา ‘รถบรรทุกของเล่น’ เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับน้องชายพิการอีกครั้ง

    เทศกาลคริสต์มาส คือวันที่หลายๆ คนจะได้รับของขวัญจากคนในครอบครัว และนั่นคือสิ่งที่จะทำให้เรารู้สึกดีใจและมีความสุข ซึ่งเป็นเหตุผลให้ผู้ปกครองหลายๆ คนพยายามตามหาของขวัญสุดพิเศษมามอบให้ในวันนั้น เช่นเดียวกับ Cassie Gretschel หญิงสาวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้พยายามตามหาของขวัญให้กับน้องชายของเธอ เธอได้พูดเรื่องราวของน้องชายเธอเอาไว้ใน Reddit ว่า “น้องชายของฉันชื่อ Max เขาได้รับความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจมาตั้งแต่ 5 ขวบ จนตอนนี้เขาอายุ 25 แล้ว สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยเยียวยาเขาได้และเป็นของขวัญที่เขาได้รับในวันคริสต์มาสทุกๆ ปีก็คือ ของเล่นรถกระบะตำรวจสีน้ำเงินที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 2000”   Max วัย 25 ปีผู้มีความผิดปกติทางจิตและร่างกาย   ครอบครัวนี้ได้ให้ของเล่นดังกล่าวกับ Max ในวันคริสต์มาสมาตลอด 17 ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยความที่ของเล่นชิ้นนี้เลิกผลิตไปเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว จึงทำให้ในปี 2017 นี้พวกเธอไม่อาจหาซื้อได้ง่ายๆ เหมือนเมื่อปีก่อนๆ เรื่องราวทั้งหมดได้ถูกบอกเล่าในโลกโซเชียลเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2017 เธอได้ขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ตในการตามหาของขวัญชิ้นนี้ และนั่นก็ทำให้เราได้รู้เลยว่าทุกคนพร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกันจริงๆ   ชาวเน็ตคนนี้ช่วยหาร้านที่ขายของเล่นชิ้นนั้นให้กับเธอ พร้อมทั้งอาสาที่จะจัดส่งจากประเทศฝรั่งเศสไปให้ด้วยตัวเอง   ส่วนคนนี้ได้ไปเจอและซื้อมันมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจะส่งของเล่นไปให้เธอแบบฟรีๆ…

  • พี่น้องทั้งหมด 8 คน ร่วมกันเต้นคัฟเวอร์เพลงทุกครั้งในช่วงคริสต์มาส จนชาวเน็ตหลงใหล

    พี่น้องทั้งหมด 8 คน ร่วมกันเต้นคัฟเวอร์เพลงทุกครั้งในช่วงคริสต์มาส จนชาวเน็ตหลงใหล

    ในเทศกาลคริสต์มาส นอกจากจะเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองแล้ว ยังเป็นวันหยุดที่ทำให้ครอบครัวได้กลับมาอยู่รวมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาด้วย การได้กลับมารวมกันในรอบหนึ่งปี หลายครอบครัวคงทำกิจกรรมด้วยกันมากมาย เช่นเดียวกับกลุ่มพี่น้องในรัฐยูทาห์ที่ทำกิจกรรมสนุกๆ ด้วยกัน สร้างความประทับใจให้ชาวเน็ตเป็นอย่างมาก     พี่น้องกลุ่มนี้มีทั้งหมด 8 คน พวกเขาร่วมกันเต้นคัฟเวอร์เพลงทุกครั้งในช่วงคริสต์มาส โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2012 จนตอนนี้กลายมาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติประจำปีของครอบครัวไปแล้ว ช่วงเวลานี้ของแต่ละปี พวกเขาจะมารวมตัวกันและฝึกซ้อมเต้นไปด้วย แต่ปีนี้พิเศษกว่าปีที่ผ่านมา เพราะมีพ่อแม่สามี หลานสาว 3 คนและน้องหมาอีก 3 ตัวมาร่วมด้วย     Ammon Orgill หัวโจกของพี่น้องทั้งหมดได้โพสต์คลิปการเต้นคัฟเวอร์สำหรับปีนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บนหน้าเฟซบุ๊กของเขา ในคลิปจะเห็นว่าพี่น้องทุกคนสวมเสื้อผ้าในธีมคริสต์มาส และเต้นเพลง Santa Tell Me ของ Ariana Grande ที่มีความยาวมากกว่า 3 นาที     นับตั้งแต่วิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีขาวเน็ตจำนวนมากหลงใหลกับสิ่งที่พวกเขาทำ แถมรอติดตามคลิปใหม่ๆ จากครอบครัวนี้ทุกๆ ปีด้วย     นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับครอบครัวอื่นๆ ด้วย โดยชาวเน็ตคนหนึ่งบอกว่า “ครอบครัวของเรามีพี่น้องทั้งหมดเกือบ 30…

  • เดินชมภายในเครื่อง 787 จาก Deer Jet กับประสบการณ์สุดแสนส่วนตัว ระดับ VVIP

    เดินชมภายในเครื่อง 787 จาก Deer Jet กับประสบการณ์สุดแสนส่วนตัว ระดับ VVIP

    สมัยนี้การเดินทางด้วยเครื่องบินนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย หากมองจากมุมมองของกลุ่มวัยกลางคนที่เคยนั่งแต่รถโดยสาร หรือรถไฟแล้วละก็ เครื่องบินนับเป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับพวกเขา ไม่ว่าจะนั่งที่นั่งชั้นนักธุรกิจหรือที่นั่งชั้นประหยัด ก็ทำให้การเดินทางของพวกเขารวดเร็วและสะดวกสบายมาก ทว่าหากเราจำเป็นต้องนั่งเครื่องบินเป็นเวลานานหลายชั่วโมง แน่นอนว่าทุกคนต้องการความสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าแม้แต่ที่นั่งระดับเฟิร์สคลาสก็ทำให้คุณพึงพอใจไม่ได้ หรือหากว่าคุณไม่ต้องการเดินทางร่วมกับผู้อื่นเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว วันนี้เรามีเที่ยวบินที่น่าสนใจมาให้คุณชม     นี่คือเครื่องบิน Dream Liner ซึ่งเป็นเครื่อง Boing 787 ที่สั่งออกแบบเป็นพิเศษ ภายในตัวเครื่องบินนี้เต็มไปด้วยความหรูหรา ที่จะทำให้การเดินทางของคุณนั้นเหนือชั้นกว่าใครๆ และจะทำให้คุณไม่มีทางเบื่อตลอดเที่ยวบินอย่างแน่นอน Dream liner เป็นเที่ยวบินส่วนตัวที่ให้บริการโดย Deer Jet ตัวเครื่องบินจะมีความยาว 220 ตร.ซม. ซึ่งถือว่ายาวกว่าเครื่องบินลำอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน และสามารถพาคุณบินไปได้ที่ไหนก็ได้ ในระยะเวลานานสุดถึง 17 ชม. หรือนับตามระยะทางแล้วกว่า 15,789 กม.     ยังไม่พอ คุณยังสามารถเชิญเพื่อนและคนรู้ใจไปกับคุณได้มากมาย เพราะเที่ยวบินนี้สามารถรับผู้โดยสารได้มากถึง 40 คน และมีห้องโดยสารแยกสำหรับแขกที่เชิญมาแยกกับห้องของคุณต่างหาก แถมห้องอาหารก็เสิร์ฟอาหารให้แบบไม่อั้น ไม่ว่าจะมาใช้บริการเมื่อไหร่ก็พร้อมเสมอ นอกจากห้องผู้โดยสารแล้ว ภายในเครื่องบินก็ยังมีห้องส่วนตัวให้กับคุณเป็นพิเศษด้วย ได้แก่ห้องนอนส่วนตัว ห้องแต่งตัว และห้องน้ำ ซึ่งคุณสามารถใช้งานได้ตามใจชอบ ทั้งยังมีพนักงานบริการและแม่บ้านคอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิด รับรองว่าบริการได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และถ้าอยากรู้ว่าเที่ยวบินนี้…

  • คลิปเพลงน่ารักปนฮา “Tokyo Bon 2020” ช่วยสอนออกเสียงคำอังกฤษแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น

    คลิปเพลงน่ารักปนฮา “Tokyo Bon 2020” ช่วยสอนออกเสียงคำอังกฤษแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น

    ในสมัยนี้ที่การเดินทางไปต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องง่ายกว่าในสมัยก่อน และค่าโดยสารก็มีราคาถูกลงมากจนแทบทุกคนสามารถเข้าถึงได้ การไปเที่ยวต่างประเทศจึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นอุปสรรคในการท่องเที่ยวต่างแดน นั่นคือการสื่อสารภาษาต่างประเทศนั่นเอง ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษจะนับว่าเป็นภาษาสากลก็ตาม แต่ในความเป็นจริงนั้น คนบางส่วนก็ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แถมภาษาอังกฤษในแต่ละพื้นที่ก็สำเนียงไม่เหมือนกัน บางที่ฟังยากจนถึงกับคิดว่าไม่ใช่ภาษาอังกฤษอีกต่างหาก     Namewee นักร้องชาวมาเลเซียน่าจะเล็งเห็นถึงปัญหานี้ เขาจึงร่วมมือกับ Cool Japan TV ออกอัลบั้มเพลงใหม่ออกมา ในชื่อว่า Tokyo Bon 2020 (Makudoraudo) อัลบั้มดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่นที่ในเพลงเรียกว่า Japanglish เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอนาคต โดยทำให้คนคุ้นชินกับภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่นผ่านทางเพลงนี้     เพลงนี้ Namewee เป็นผู้แต่งเองทั้งหมด โดยมี Meu Ninomiya เป็นนักแสดงนำหญิงใน MV ส่วนตัวเพลงเน้นที่การใช้ท่าเต้นจากเทศกาลโอบ้ง และเครื่องดนตรีญี่ปุ่นมานำเสนอเรื่องวัฒนธรรม ส่วนเนื้อหาเพลงนั้นเน้นไปที่ความรู้สึกของชาวต่างชาติที่มีต่อภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่น นอกจากนี้ในเพลงยังสอนคำศัพท์หลายๆ คำที่น่าจะได้ใช้แต่ฟังยากอีกด้วย อย่างเช่นคำว่า Makudoraudo ที่อยู่ในชื่อเพลง ซึ่งเป็นเสียงอ่านของคำว่า McDonald’s ในสำเนียงญี่ปุ่นนั่นเอง     เขายังหวังว่าเพลงนี้จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และถูกนำไปเปิดในงาน Tokyo Olympics ในปีพ.ศ.2563 ด้วย…

  • ฉลาดเกมโกง!! หนุ่มจีนลงไปวาดสัญลักษณ์ถนนแบบเนียนๆ เพื่อให้ตัวเองกลับบ้านเร็วขึ้น

    ฉลาดเกมโกง!! หนุ่มจีนลงไปวาดสัญลักษณ์ถนนแบบเนียนๆ เพื่อให้ตัวเองกลับบ้านเร็วขึ้น

    ปัญหาการจราจรติดขัดเป็นปัญหาที่น่าปวดหัวสำหรับผู้ใช้ท้องถนนทุกคน คิดดูสิว่ามันน่าเหนื่อยหน่ายแค่ไหนเวลาที่เราต้องรีบไปทำธุระ หรืออยากจะกลับบ้านไปพักผ่อนหลังเลิกงาน แต่เรากลับต้องไปนั่งติดแหง็กอยู่บนรถแทน มีชายจีนท่านหนึ่งที่ทนกับปัญหานี้ไม่ได้อีกต่อไป เขาคงคิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงไม่ลงมาช่วยแก้ปัญหากระมัง เขาจึงตัดสินใจแก้ไขเรื่องนี้ด้วยตัวเอง     เรื่องนี้เกิดขึ้นที่สี่แยกแห่งหนึ่งในเมือง Lianyugang จังหวัด Jiangsu ประเทศจีน โดยสี่แยกนี้มีผู้ผ่านไปมาจำนวนมาก จึงทำให้รถติดอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้ววันหนึ่งก็มีชายหนุ่มแซ่ Cai หิ้วถังสีสีขาวพร้อมแปรงทาสี ไปนั่งวาดลูกศรเพิ่มให้กับทางจราจร ในตอนกลางวันแสกๆ ทั้งๆ ที่มีรถสัญจรไปมามากมาย     แน่นอนอยู่แล้วว่าอยู่ๆ มาวาดเพิ่มเองแบบนี้ มันไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจจึงเรียกเขาเข้าไปสอบปากคำ นาย Cai จึงบอกว่าตัวเขาใช้ถนนเส้นนี้เพื่อกลับบ้านทุกวัน และเลนตรงก็มักจะมีรถติดแน่นหนา ทั้งที่เลนเลี้ยวนั้นโล่งมาก เขาจึงคิดว่าการวาดลูกศรเพิ่มตรงเลนเลี้ยวจะช่วยแก้ปัญหารถติดให้กับทุกคนได้     น่าเสียดายที่ตำรวจไม่เข้าใจความหวังดีของเขา จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปลบลูกศรที่เขาวาดไว้ในเย็นวันเดียวกัน และยังปรับเงินเขาอีกเกือบ 5,000 บาท รถติดเป็นเรื่องที่แก้ไม่ตกจริงๆ นะ จะแก้ไขเองก็ไม่ได้ แต่รอแล้วรออีกก็ไม่มีใครมาแก้ไขสักที   ที่มา: shanghaiist

  • ทำความรู้จักกับ ‘โรคเบาจืด’ จำเป็นต้องดื่มน้ำ 20 ลิตรต่อวัน เพื่อจะมีชีวิตรอดในแต่ละวัน

    ทำความรู้จักกับ ‘โรคเบาจืด’ จำเป็นต้องดื่มน้ำ 20 ลิตรต่อวัน เพื่อจะมีชีวิตรอดในแต่ละวัน

    ใครหลายคนอาจจะรู้จักกับโรคเบาหวาน และในประเทศไทยก็มีผู้ป่วยเป็นโรคนี้จำนวนมาก แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีอีกโรคหนึ่งที่ชื่อว่า ‘เบาจืด’ ซึ่งโรคนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเรานัก แต่โรคเบาจืดได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับชีวิตของชายคนหนึ่ง เพราะว่าเขาต้องดื่มน้ำกว่า 20 ลิตรเพื่อจะให้มีชีวิตรอดผ่านไปในแต่ละวัน Marc Wübbenhorst สถาปนิกชาวเยอรมันผู้ป่วยเป็นโรคเบาจืด ต้องดื่มน้ำอย่างต่ำวันละกว่า 20 ลิตรเพื่อไม่ให้ร่างกายของเขาเกิดภาวะขาดน้ำซึ่งเป็นผลมาจากโรคดังกล่าว และหาก Marc หยุดดื่มน้ำเขาจะตายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาการกระหายน้ำ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต Marc ตั้งแต่เขายังจำความได้ โดยอาการของเขาไม่ใช่การกระหายแบบคนปกติ ซึ่งคนปกติหากกระหายน้ำก็ดื่มน้ำเพียงแก้วสองแก้วก็จะหายจากการกระหายแล้ว     แต่เพราะด้วยไตของเขาขับถ่ายน้ำออกจากร่างกายอยู่ตลอดเวลา ทำให้ร่างกายของเขาต้องรับน้ำเข้าไปใหม่ มิฉะนั้นแล้วเขาจะมีอาการ ริมฝีปากแตก มึนงงสับสน ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการขาดน้ำของคนขาดน้ำประมาณ 2-3 วัน แต่กับ Marc จะมีอาการเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงชั่วโมง     ในแต่ละวันชีวิตของชายคนนี้จะเริ่มต้นขึ้นด้วยการดื่มน้ำขวดยักษ์ และต่อจากนั้นไม่นานเขาก็ต้องรีบไปเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะทันที และในช่วงเวลากลางคืนก็ยิ่งลำบากขึ้นไปอีก เขาบอกว่าเขาไม่เคยนอนนานกว่า 2 ชั่วโมงเลยตลอดทั้งชีวิต เพราะว่าเขาต้องคอยตื่นมาดื่มน้ำและเข้าห้องน้ำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งใน 1 วัน Marc ต้องเข้าห้องน้ำกว่า 50 รอบเลยทีเดียว     นอกจากนี้ Marc…

  • 19 ภาพวาดการ์ตูน ที่ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของโลก และเราอาจไม่เคยรู้สึกถึงมันมาก่อน

    19 ภาพวาดการ์ตูน ที่ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของโลก และเราอาจไม่เคยรู้สึกถึงมันมาก่อน

    ทุกๆ วัน ทุกๆ ปี มนุษย์เราคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ส่งผลให้ความก้าวหน้าไม่เคยหยุดอยู่กับที่ อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งคุณจะเห็นปัญหามากมายเติบโตไปพร้อมๆ กับการพัฒนาเหล่านั้น และนี่คือภาพวาดการ์ตูนที่ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอีกมุมหนึ่งของโลก ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยตระหนักถึงมันมาก่อน   1. “ห้ามรบกวน”   2. อาหาร   3. ตะกร้าสินค้า   4. สุขภาพ   5. เสรีภาพในสื่อสังคมออนไลน์   6. เด็กและผู้ปกครอง   7. ความน่ากลัวของฤดูใบไม้ร่วง   8. เวลาสำหรับครอบครัว   9. วงวารชีวิต   10. ความงาม   11. แฟชั่น   12. ระหว่างเดิน   13. เสมือนกล้องจุลทรรศน์   14. สุขสันต์วันวาเลนไทน์ .  …

  • เรื่องจริงจากฉากกอดของคู่รักสูงวัย ‘ไททานิก’ ที่มีความเศร้าไม่แพ้คู่แจ็กกับโรสเลย!!

    เรื่องจริงจากฉากกอดของคู่รักสูงวัย ‘ไททานิก’ ที่มีความเศร้าไม่แพ้คู่แจ็กกับโรสเลย!!

    ‘ไททานิก’ เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีผู้ชมมากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจริงในปี 1912 โดยเล่าผ่านตัวละครแจ็กกับโรสที่มาพบรักกันบนเรือสำราญที่มีชื่อว่าไททานิก และฉากจบก็อย่างที่ทุกคนเห็น คือมันช่างน่าเศร้าเหลือเกินเพราะพระ-นางต้องแยกจากกันตลอดกาล แต่ใครจะรู้เล่าว่ามีอีกคู่หนึ่งที่พบกับจุดจบที่เศร้าไม่แพ้กัน ยิ่งไปกว่านั้นมันสร้างมาจากเรื่องจริง   นี่คือคู่รักวัยชราที่พบกับจุดจบอันแสนเศร้าในตอนท้ายของหนังไททานิก   พวกเขาใช้เวลาในช่วงสุดท้ายของชีวิตกอดกันอยู่บนเตียง ขณะที่มีน้ำอันเยือกเย็นไหลทะลักเข้ามาในห้องที่พวกเขาอยู่   ที่เศร้ากว่านั้นคือ ฉากนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของคนสองคนที่เลือกจะอยู่ด้วยกันในขณะที่เรือค่อยๆ จมลงสู่ก้นมหาสมุทร   พวกเขาคือ Isidor และ Ida Straus ซึ่งเป็นผู้โดยสารชั้นหนึ่งบนเรือไททานิก   Isidor เป็นเจ้าของร่วมของ Macy’s และยังเป็นสมาชิกสภาของอเมริกา สังกัดพรรค Democratic เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีพร้อมในทุกด้านและเป็นผู้ชายที่นิสัยดีมากๆ คนหนึ่ง     Isidor และ Ida Straus แต่งงานกันในปี 1871 และเป็นหนึ่งในคู่รักที่ร่ำรวยที่สุดที่ขึ้นเรือไททานิก เพื่อเดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกาหลังไปใช้วันหยุดด้วยกันในประเทศฝรั่งเศส     เมื่อเรือไททานิกชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง พวกเขารู้ทันทีว่าเรือคงจะจมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยความที่ Ida เป็นผู้หญิงและเป็นผู้โดยสารชั้นหนึ่งด้วย เธอจึงถูกนำตัวไปขึ้นเรือชูชีพทันที โดยมี Isidor เดินไปส่ง แต่เมื่อไปถึงเรือชูชีพ Ida กลับปฏิเสธที่จะขึ้นเรือและให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากทิ้งสามีไว้บนเรือที่กำลังจะจมนี่คนเดียว     เมื่อได้ฟังดังนั้น หัวหน้าเรือจึงอนุญาตให้…

  • Rihanna บอกเหตุผลแสนฉลาด ที่เธอไม่เลือกผู้หญิงข้ามเพศมาเป็นแบบถ่ายโฆษณาของเธอ

    Rihanna บอกเหตุผลแสนฉลาด ที่เธอไม่เลือกผู้หญิงข้ามเพศมาเป็นแบบถ่ายโฆษณาของเธอ

    เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่มีชื่อเสียง ที่พวกเขาจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาขึ้นมา เพราะว่าด้วยหน้าตาทางสังคมและความมีชื่อเสียง สามารถส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาสามารถขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว และถ้ายิ่งเป็นคนดังระดับโลกแล้ว ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาสามารถยึดครองตลาดได้ง่ายๆ เลย เมื่อไม่นานมานี้นักร้องสาวคนสวยอย่าง Rihanna ได้สร้างแบรนด์เครื่องสำอางขึ้นมาใหม่ชื่อว่า Fenty Beauty และแบรนด์เครื่องสำอางของเธอ ก็เป็นที่พูดถึงอย่างวงกว้างในแวดวงความสวยความงามทั่วโลก   Rihanna กับแบรนด์เครื่องสำอาง Fenty Beauty   ไม่ใช่เพียงแต่ตัวผลิตภัณฑ์ของเธอเท่านั้นที่เป็นที่พูดถึง แต่โฆษณาเครื่องสำอางของเธอก็เป็นอีกหนึ่งกระแสเช่นเดียวกัน เพราะว่าโฆษณาที่เธอสร้างขึ้นมันเหมือนกับโฆษณาที่มาจากองค์การสหประชาชาติ ที่มีการใช้ฉากหลังเป็นวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ รวมถึงมีการใช้ผู้หญิงหลากหลายสัญชาติที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ทั้งเรื่องหน้าตา สีผิว รวมถึงการแต่งตัว   โฆษณาแบรนด์เครื่องสำอางนี้สามารถกดดูได้ที่นี่   และเมื่อวันพุธที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีแฟนคลับของเธอคนหนึ่งแนะนำให้ Rihanna ใช้ผู้หญิงข้ามเพศเป็นตัวหลัก สำหรับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ Fenty Beauty ชิ้นต่อไป เนื่องจากพวกเขายังไม่เคยได้เป็นนางแบบถ่ายโฆษณาใดๆ ในวงการเครื่องสำอางเลยแม้แต่คนเดียว   คำแนะนำจากแฟนคลับของเธอ   และสิ่งที่ Rihanna ตอบกลับแฟนคลับคนนั้นได้กลายเป็น Talk of the Town ของผู้คนในโลกอินเทอร์เน็ตเพราะว่าคำตอบของเธอนั้นดูดี และมีเหตุผลอย่างยิ่ง โดยเธอได้กล่าวเอาไว้ว่า  …

  • ชายอินเดียตีเนียนเช็กอินในโรงแรม แอบขโมยทีวีไปได้กว่า 120 เครื่องภายในเวลา 4 เดือน

    ชายอินเดียตีเนียนเช็กอินในโรงแรม แอบขโมยทีวีไปได้กว่า 120 เครื่องภายในเวลา 4 เดือน

    โรงแรมส่วนใหญ่มักจะให้บริการลูกค้าทุกคนอย่างสุภาพและเท่าเทียม ไม่ว่าภายนอกพวกเขาจะดูเป็นคนยังไงก็ตาม แต่พวกเขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกค้า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายอินเดียคนหนึ่งฉวยโอกาสด้วยการตีเนียนเป็นลูกค้า และขโมยทีวีของโรงแรมไปกว่า 120 เครื่อง ภายในเวลา 4 เดือน Vasudev Nanaiah วัย 37 ปี ถูกจับกุมเมื่อเดือนที่แล้ว และถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์ 21 ครั้ง หลังจากที่ทำการเช็กอินตามโรงแรมราคาประหยัด ก่อนจะขโมยทีวีในห้องที่เขาจองไว้     นาย Nanaiah จะทำการจองห้องพักทางโทรศัพท์และจ่ายเงินล่วงหน้าส่วนหนึ่ง โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเขาจะอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายวันเพื่อป้องกันการถูกสงสัย เวลาที่เข้ามาในโรงแรม เขามักจะมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ แต่ในกรณีที่พบว่ากระเป๋าเล็กกว่าทีวีเป้าหมาย เขาก็จะออกไปซื้อใบใหม่มา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล Chetan Singh Ratho บอกว่าเขาจะทำให้พนักงานโรงแรมสับสนด้วยการเดินเข้าเดินออกโรงแรมพร้อมกระเป๋าเดินทางซ้ำๆ ด้วยข้ออ้างต่างๆ นานา นั่นทำให้พนักงานไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะออกไปและไม่กลับมาอีก ไม่เคยมีพนักงานโรงแรมคนไหนสงสัยนาย Nanaiah เลย ซึ่งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เขาเป็นคนสุภาพและมีมารยาทดี” ที่น่าสนใจคือ เขาเคยถูกจับมาแล้วในเดือนตุลาคม 2017 แต่ได้รับการประกันตัวออกมา และแทนที่จะเลิกทำแบบนั้น เขากลับไปขโมยของเหมือนเดิมอีก หลังจากที่ถูกปล่อยตัวไม่กี่วัน     แต่ครั้งนี้ตำตรวจได้จับตาดูมาสักพักหนึ่งแล้ว จึงทำให้เขาถูกจับได้ขณะพยายามขายทีวีที่ขโมยมาให้กับร้านที่รับซื้อ ตำรวจ Bangalore บอกว่า “เราจับกุมเขาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา…

  • หนุ่มวัย 18 กลัวแม่ถูกข่มขืน เลยผลิตรองเท้าแตะที่สามารถช็อตไฟฟ้าได้ขึ้นมา

    หนุ่มวัย 18 กลัวแม่ถูกข่มขืน เลยผลิตรองเท้าแตะที่สามารถช็อตไฟฟ้าได้ขึ้นมา

    เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมลมีรายงานว่า Siddharth Mandala หนุ่มวัย18 ปีจากไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย ผู้ที่กลัวว่าแม่ของเขาอาจจะตกเป็นเหยื่อของการถูกข่มขืน ได้คิดค้น Electroshoe รองเท้าแตะ “ป้องกันตัวเอง” ที่พร้อมจะมาช่วยในการโจมตีผู้ไม่ประสงค์ดีแบบฉับพลันได้!! จากการรายงานระบุว่า เนื่องด้วยอินเดียเป็นประเทศที่มีอัตราการข่มขืนที่สูงมาก และตัวของ Siddharth เองก็รู้สึกตกใจกับสถิตินี้เช่นกัน พร้อมกันนี้เขาก็รู้สึกเป็นห่วงผู้หญิงในครอบครัวของตัวเอง ดังนั้น จึงทำให้เขาได้ตัดสินใจผลิตรองเท้าสุดพิเศษดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งรองเท้าแตะนี้ นอกจากจะสามารถช็อตไฟฟ้าได้แล้ว มันยังช่วยในการโจมตีผู้บุกรุกได้อย่างรวดเร็ว แถมส่งผลทำให้เป็นอัมพาตไปชั่วขณะอีกด้วย     เมื่อเริ่มเปิดใช้งาน รองเท้าก็จะขับเคลื่อนด้วยเสียงฝีเท้า ยิ่งถ้าหากผู้ใส่เดินเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ สัญญาณการแจ้งเตือนก็จะถูกส่งไปยังสถานีตำรวจในท้องที่ และครอบครัว โดยพวกเขาก็จะรับรู้ไปด้วยว่าเธอกำลังพบกับปัญหาอยู่ ทางด้าน Siddharth ได้ออกมาเผยว่า “ผมกับแม่ ได้เข้าไปร่วมชุมนุมการประท้วง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหยื่อถูกข่มขืนที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกโกรธมาก และดูเหมือนว่าการประท้วงจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แม้ในบางครั้งการลงโทษผู้ข่มขืนอาจจะช่วยยับยั้งการข่มขืนได้ แต่ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้หญิง นั่นเลยทำให้ผมต้องคิดค้นรองเท้าแตะที่เรียกว่า Electroshoe ขึ้น โดยในระหว่างการทดลองก็เกิดการผิดพลาดหลายครั้ง แต่ถึงอย่างไรผมก็จะพยายามพัฒนาต่อไป เพื่อให้มันได้กลายเป็นสินค้าในท้องตลาด และจะเสริมเทคนิคบางอย่างเข้าไปด้วยเช่น ให้มันกันน้ำได้”    …

  • พ่อแม่อุตริ จับลูกน้อยเข้าไมโครเวฟและเปิดอบไว้ ด้วยสาเหตุแสนสุดพิเรนท์!!

    พ่อแม่อุตริ จับลูกน้อยเข้าไมโครเวฟและเปิดอบไว้ ด้วยสาเหตุแสนสุดพิเรนท์!!

    ในโลกนี้คงไม่มีใครรักเรามากไปกว่าพ่อแม่อีกแล้ว เพราะพวกเขาเป็นพ่อมอบความรักความอบอุ่นให้เรา ทั้งยังเป็นที่พึ่ง เป็นผู้ดูแล และคอยปกป้องลูกๆ จากอันตรายทั้งหมด แม้แต่เสี่ยงชีวิต พ่อแม่ก็ยอมได้เพื่อลูก แต่สำหรับ Derick และ Mikala Boyce-Slezak แล้ว ดูเหมือนจะเป็นพ่อแม่ที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านั้น เพราะนอกจากไม่ถนอมแล้วพวกเขายังทำร้ายลูกน้อยอย่างโหดเหีี้ยมอีกด้วย Derick และ Mikala อายุ 22 ปีเท่ากัน อาศัยอยู่ในรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่ได้ก่อเหตุทำร้ายลูกชายตัวน้อยด้วยการจับเขาเข้าไปในไมโครเวฟแล้วเปิดอบไว้ โดยอ้างว่าเลียนแบบโฆษณาในทีวี     ตามเอกสารที่ศาลได้รับจาก St Louis Post-Dispatch ระบุว่าเด็กน้อยอายุต่ำกว่า 4 เดือน ถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล Cardinal-Glennon Hospital เมื่อเดือนเมษายน เนื่องจากมีผื่นขึ้นบนใบหน้าจนกลายเป็นแผลขนาดใหญ่ จากการตรวจสอบ คุณหมอยืนยันว่าบาดแผลของเด็กน้อยเป็นแผลไฟไหม้ระดับแรก (First-degree burn) ซึ่งแผลจะมีลักษณะสีแดงแต่ไม่มีตุ่มพอง และที่เหลือเป็นแผลไฟไหม้ระดับสอง (Second-degree burn) ซึ่งผิวจะมีสีแดง มีตุ่มพอง และมีอาการปวดแสบปวดร้อน นอกจากนี้ยังพบแผลไหม้ระดับสองที่บริเวณศีรษะส่วนหน้าของเด็กน้อย กะโหลกศีรษะแตก มีภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง (Subdural hematoma) และอาจมีอาการบวมในสมองด้วย     ข้อมูลจาก St…

  • สวนสัตว์จีนโฆษณาโชว์ ‘สัตว์จากแดนใต้’ แท้จริงกลับมีแต่สัตว์บ้านๆ แถมเก็บค่าชม 40 บาท!!

    สวนสัตว์จีนโฆษณาโชว์ ‘สัตว์จากแดนใต้’ แท้จริงกลับมีแต่สัตว์บ้านๆ แถมเก็บค่าชม 40 บาท!!

    เมื่อซื้อบัตรเข้าชมสวนสัตว์ สิ่งที่เราส่วนใหญ่คาดหวังคือการได้เห็นสัตว์แปลกๆ สัตว์หายาก หรือสัตว์ที่ไม่สามารถพบได้ทั่วไป รวมทั้งชมโชวการแสดงต่างๆ ของสัตว์ด้วย แต่สวนสัตว์ในประเทศจีนแห่งนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวังหนักมาก เมื่อพบว่าในนั้นมีแต่สัตว์บ้านๆ ที่พบได้ทั่วไป แถมยังมีเพนกวินลมยางอีก     เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสวนสัตว์กุ้ยฉาน ได้ทำการโปรโมทว่าจะมีการจัดกิจกรรมสุดพิเศษชื่อว่า ‘สัตว์จากแดนใต้’ ในเมืองยู่หลิน เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วง ทางตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก พวกเขาบอกว่านักท่องเที่ยวจะได้เห็นสัตว์มากมาย หนึ่งในนั้นคือเพนกวินอาร์กติก ที่สำคัญมีค่าเข้าชมแค่ 40 บาทเท่านั้น     แต่พอเข้าไปในสวนสัตว์ นักท่องเที่ยวถึงกับงงและรู้สึกโกรธมาก เพราะเพนกวินที่ทางส่วนสัตว์จัดแสดงนั้น เป็นเพียงเพนกวินลมยางเท่านั้น หลายคนคิดว่าทดแทนควมผิดหวังนี้ด้วยสัตว์ชนิดอื่นก็ได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินดูรอบๆ กลับมีแค่ไก่ เป็ด และเต่า แถมยังเป็นพันธุ์บ้านๆ ที่เห็นได้ทั่วไป     นอกจากนี้ยังมีเต่าที่ถูกจับไปใว้ในตู้กระจก พร้อมเขียนข้อความว่า “เต่านำโชค” เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการขอพรใส่เงินลงไปในนั้น แน่นอนว่านักท่องเที่ยวที่หลงเข้าไปรู้สึกว่าพวกเขาถูกหลอกมา จึงได้มีการถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงในโซเชียล จนตอนนี้กลายเป็นประเด็นดราม่าที่มีการพูดถึงทั่วสังคมออนไลน์ของจีน     หลายคนพยายามไปขอเงินคืนกับทางสวนสัตว์ แต่พวกเขากลับปฏิเสธที่จะคืนให้ จึงทำให้นักท่องเที่ยวต้องกลับบ้านไปพร้อมกับความผิดหวัง     ช่างทำกันได้ลงเนาะ ที่มา mirror

  • เห็นกันหมดรึยัง… เฮียทอม (โลกิ) โชว์สเต็ปเท้าไฟที่เกาหลีใต้ หล่อจนกางเกงในละลาย!!

    เห็นกันหมดรึยัง… เฮียทอม (โลกิ) โชว์สเต็ปเท้าไฟที่เกาหลีใต้ หล่อจนกางเกงในละลาย!!

    แกร!! คือการที่นักแสดงหนุ่มรูปงามอย่าง Tom Hiddleston ได้มารับบทเป็น Loki ในภาพยนตร์เรื่อง Thor ก็โดดเด่น และแย่งซีนตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วป่ะ… แต่พอมาออกสเต็ปโชว์ลีลาการแดนซ์สุดพลิ้ว โอโห้!! บอกเลยว่าทำเอาสาวๆ หลายคนกรี๊ดคอแทบแตกกันเป็นแถว     และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอมาเอาใจสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลาย โดยการพามารับชมภาพพร้อมคลิปวิดีโอดีต่อใจ เมื่อครั้งที่ Tom Hiddleston พร้อมทีมนักแสดงได้ไปเดินสายโปรโมทหนัง Thor: The Dark World ที่ประเทศเกาหลี ปี 2013 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ หนุ่ม Tom ยังไม่ได้มามือเปล่านะจ๊ะ เพราะเขาได้โชว์ลีลาสเต็ปแดนซ์เท้าไฟกลางเวที เล่นเอาคนดูที่อยู่ภายในงานแทบละสายตาจากพ่อ Loki สุดหล่อไม่ได้เลย     ขอแบบอาร์ตๆ มีชี้ฟ้า   มันก็จะดูเท่ๆ หน่อยอ่ะนะ   หูยยยย สูงยาวเข่าดีเหลือหลายพ่อยอดชายของพี่   ถึงจะรับบทเป็นตัวร้าย แต่ยังไงเราก็จะรักเธอออออออ   ดูภาพอาจจะยังไม่สะใจ…

  • สิงโตตัวผู้ทั้ง 2 ช่วยกันล่า “ยีราฟ” ตัวใหญ่…2 รุม 1 แบบนี้เหยื่อคอยาวจะรอดไหมนะ

    สิงโตตัวผู้ทั้ง 2 ช่วยกันล่า “ยีราฟ” ตัวใหญ่…2 รุม 1 แบบนี้เหยื่อคอยาวจะรอดไหมนะ

    ถือเป็นอีกชุดภาพถ่ายวินาทีแห่งชีวิตที่สร้างความลุ้นระทึกให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอุทยานแห่งชาติ Kgalagadi Transfrontier Park ประเทศบอตสวานา เมื่อ 2 สิงโตเจ้าป่า ได้วิ่งไล่ล่าเหยื่อร่างสูงอย่างยีราฟ เพื่อกินเป็นอาหาร     เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวเดลีย์เมลได้เผยภาพของ Michael Cohen ช่างภาพจากนิวยอร์ก ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วินาทีแห่งความเป็นความตาย ซึ่งภาพถ่ายของเขาได้แสดงให้เห็นว่า… สิงโตตัวผู้ทั้ง 2 กำลังใช้ทักษะทั้งหมดที่มีในการต่อสู้กับเหยื่อที่สูงใหญ่กว่าพวกมัน ทางด้านเจ้ายีราฟผู้เคราะห์ร้ายก็พยายามดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อหาหนทางหนี แต่ทว่าดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง เพราะสุดท้ายมันก็ตกเป็นเหยื่ออันโอชะของสิงโตคู่รักไปซะแล้ว     สองสิงโตกำลังเสี่ยงชีวิตของตัวเองในการเข้าจู่โจมเหยื่อขนาดใหญ่   ส่วนยีราฟก็พยายามหนีสุดชีวิต   เป็นการจู่โจมเหยื่อที่ดุเดือดมาก และสุดท้ายดูเหมือนว่ายีราฟผู้น่าสงสารจะไปไม่รอดซะแล้ว   “ผมสังเกตเห็นยีราฟขนาดใหญ่กำลังวิ่งหนีสิงโตที่พยายามจะฆ่ามัน สิงโตตัวผู้น่าจะมีน้ำหนักประมาณ 180 กิโลกรัม ส่วนเจ้ายีราฟก็ตัวสูงและใหญ่กว่ามันมาก ซึ่งมันก็พยายามปกป้องตัวเองอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายมันก็ไม่สามารถต้านทานแรงปะทะของสิงโต 2 ตัวได้ไหว จนทำให้มันทรุดตัวลงบนพื้น และกลายเป็นเหยื่อของสิงโตไปในที่สุด” Michael กล่าว   . . .   ที่มา…

  • คุณพ่อถึงกับน้ำตาแตก หลังครอบครัวเซอร์ไพรส์ด้วย “ลูกหมาสีขาว” สุดน่ารัก

    คุณพ่อถึงกับน้ำตาแตก หลังครอบครัวเซอร์ไพรส์ด้วย “ลูกหมาสีขาว” สุดน่ารัก

    สุนัข อาจจะเป็นสัตว์ที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ เพราะด้วยความซื่อสัตย์ที่เป็นสัญชาตญาณของมันบวกกับความรักเจ้าของ ได้ทำให้ตัวของมันเองได้รับความนิยมชมชอบจากมนุษย์มากมายทั่วโลก และมีคุณพ่อคนหนึ่งที่เห็นความสำคัญของสัตว์สี่ขาชนิดนี้ราวกับลูกๆ เลยก็ว่าได้ James Xuerob คุณพ่อของครอบครัวหนึ่งจากรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ได้จมอยู่กับความเศร้าหลังจากที่ Nemo และ Lucy หมาของเขาได้เสียชีวิตลง ซึ่งนั่นได้สร้างความหวั่นใจให้กับคนในครอบครัวที่ต้องมาเห็นเขาทนทุกข์กับเรื่องดังกล่าว   ในตอนแรกยื่นการ์ดให้แก่เขาก่อน   และในที่สุดคนในครอบครัว Xuerob ก็เริ่มทนไม่ไหวที่ต้องมาเห็นผู้นำครอบครัวนั่งเศร้าเสียใจ พวกเขาจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลือ Jame โดยครอบครัวแห่งนี้ได้วางแผนการเซอร์ไพรส์เอาไว้นั่นก็คือ   เห็นครอบครัวนำหมามาให้ ก็ซึ้งใจจนร้องไห้ออกมาเลย   ในตอนแรกพวกเขาเขียนการ์ดยื่นให้กับ James ใบหนึ่งซึ่งมีใจความว่า “ฉันไม่ใช่ Nemo และแน่นอนว่าฉันไม่ใช่ Lucy” และนั่นได้สร้างความงุนงงให้กับเขาเป็นอย่างมาก จากนั้นลูกๆ ของเขาก็นำลูกหมาพันธุ์ Bichon Frise เข้ามามอบให้   หมาน้อยที่มาช่วยให้ James กลับมามีความสุขอีกครั้ง   “แม่บอกให้หนูนำความสุขกลับคืนมาสู่ชีวิตพ่อ” ลูกสาวของ James บอก และหลังจากที่ James พบว่าครอบครัวของเขานำหมาตัวนี้มาให้ เขาก็ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจและกอดเจ้าหมาน้อยตัวนี้ไว้ในอ้อมอก ซึ่งได้สร้างความซาบซึ้งและดีใจแก่คนรอบข้าง รวมทั้งคนในโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างมากมาย   วินาทีความตื้นตันใจของเขาที่ได้กลับมาเลี้ยงหมาอีกครั้ง  …

  • 19 ภาพที่จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่าโลกของเรามันช่างกว้างใหญ่นัก ที่เรารู้มันเล็กน้อยมั่กๆ!!

    19 ภาพที่จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่าโลกของเรามันช่างกว้างใหญ่นัก ที่เรารู้มันเล็กน้อยมั่กๆ!!

    โลกไม่เคยหยุดหมุนและเวลาไม่เคยหยุดเดิน นั่นทำให้มนุษย์ต้องหาความรู้ใส่ตัวมากขึ้นทุกขณะ ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ รอบโลกนั้นเราอาจจะรู้ไม่หมด แต่ว่าเหตุการณ์แปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็นนั้นอาจทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า เหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นบนโลกด้วยเหรอ ทำไมเราไม่รู้นะ และนี่คือรูปภาพเหตุการณ์ประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นในโลกของเรา มาลองดูกันดีกว่าว่าภาพเหล่านี้คุณจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วหรือยัง…   ขนรถแบบชาวแอฟริกัน   ภาพของนักกีฬาแข่งขันงัดข้อ   ทะเลสาบน้ำแข็งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์   สีรุ้ง 4 เส้นพร้อมกัน   รางรถไฟเบี้ยวหลังเกิดแผ่นดินไหวในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์   โคตรเห็ด จัดไปซะหลายดอก   ที่เห็นขาวๆ นั่นใยแมงมุมทั้งนั้น   ต้นไม้ใหญ่ใน Tanzania ที่ไม่แคร์การกัดเซาะของผืนดิน   ก๊าซมีเทนถูกแช่แข็ง   ภาพจากนอกโลกขณะเกิดสุริยุปราคา   แพนด้ารูปหัวใจ   เครื่องบินขณะกำลังผ่านสุริยุปราคา   โดนัทน้ำแข็งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ   ชุดเดรสที่ทำมาจากใบไม้ 6,000 ใบ   คริสตัลน้ำแข็งบนทะเล   สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็กจริงๆ ลองดูตรงปากปลาดีๆ   วงกลมใต้ท้องทะเลที่เกิดจากปลาปักเป้า…

  • เอาอีกแล้ว!! แกนนำกลุ่มโลกแบนโฟนอินเข้ารายการดัง เพื่อโต้เถียงกับนักบินอวกาศ

    เอาอีกแล้ว!! แกนนำกลุ่มโลกแบนโฟนอินเข้ารายการดัง เพื่อโต้เถียงกับนักบินอวกาศ

    ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มคนที่มีความเชื่อว่าโลกนี้ ‘แบน’ โดยก่อนหน้านี้ก็มีทั้งการจัดตั้งการประชุม สำหรับผู้ที่มีความเชื่อเช่นเดียวกัน มีการสร้างจรวดเพื่อจะขับขึ้นไปพิสูจน์ว่าโลกนี้มันแบน แต่ก็ได้ถูกยกเลิกไปก่อน และมาในตอนนี้พวกเขาก็ยังคงดำเนินการตามความเชื่อที่พวกเขามีต่อไป เมื่อไม่นานมานี้ผู้นำกลุ่มทฤษฎีโลกแบนชื่อว่า Mark Sargent ได้ไปโฟนอินเข้ารายการ Good Morning Britain ซึ่งเป็นรายการข่าวชื่อดังจากประเทศอังกฤษและการออกรายการครั้งนี้ของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เพราะว่า Mark ต้องเจอกับนักบินอวกาศตัวจริงๆ ที่ออกไปนอกโลกมาแล้วมาโต้วาทีกับเขา   Mark Sargent กับความคิดโลกแบนของเขา   ในงานประชุมที่จัดขึ้นครั้งแรกนั้น Mark เคยกล่าวเอาไว้ว่า จริงๆ แล้วโลกนี้มีลักษณะแบน แต่ว่าหลักฐานต่างๆ ที่องค์การนาซ่าเคยเอามาเผยแพร่เป็นหลักฐานที่ได้ปลอมแปลงขึ้นมา เพื่อเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจกล่าวถึงได้ การโฟนอินเข้ารายการครั้งนี้ของเขา เพื่อจะมาอธิบายถึงเหตุผลมาทำไมเขาจึงมีความเชื่อเช่นนี้ โดยมีผู้ประกาศคนดังอย่าง Piers Morgan ผู้ดำเนินรายการชื่อดังมานั่งร่วมเป็นสักขีพยาน และนี่คือบทสัมภาษณ์บางส่วนที่ Mark ได้เอ่ยออกอากาศ   ขณะออกอากาศสัมภาษณ์ในรายการ Good Morning Britain   “ที่พวกคุณเห็นว่าน้ำทะเลมันไม่ตกลงไปเนี่ย ก็เพราะว่าโลกเรามันใหญ่มาก จนเราหาจุดสิ้นสุดไม่เจอต่างหาก ไม่ใช่เพราะโลกกลมซะหน่อย” “ภาพถ่ายภาพแรกที่ถ่ายโลกออกมาเป็นทรงกลมคือเมื่อปี 1972 ด้วยยานอวกาศ Apollo 17 และภาพที่สองคือเมื่อสองปีที่แล้วนี่เอง มีใครอธิบายกับผมได้ไหมว่าทำไมกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมาจึงไม่มีการถ่ายภาพโลกของเราเลย”…

  • อินเดียทำการจับกุม ‘กลุ่มลา’ และขังพวกมันไว้ในคุกถึง 4 วัน ในข้อหาทำลายพืชผักราคาแพง

    อินเดียทำการจับกุม ‘กลุ่มลา’ และขังพวกมันไว้ในคุกถึง 4 วัน ในข้อหาทำลายพืชผักราคาแพง

    มีอยู่สถานที่หนึ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่พึงประสงค์จะเข้าไปนั่นก็คือ ‘คุก’ เพราะว่ามันเป็นสถานที่ที่รวมผู้กระทำผิดเอาไว้ข้างใน แต่ในประเทศอินเดียพวกเขาไม่ได้จับแต่คนเท่านั้น แต่สัตว์ที่กระทำผิดก็ต้องเข้าไปอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน เหตุการณ์สุดแปลกเกิดขึ้นที่คุกชื่อ Orai ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดียเมื่อพวกเขาได้จับกลุ่มลาจำนวน 8 ตัวเข้าไปขังในคุกเป็นเวลากว่า 4 วัน โดยเริ่มจากวันที่ 23 พฤศจิกายน และปล่อยออกมาในวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากพวกมันไปทำลายพืชผักราคาแพงบริเวณใกล้ๆ กับคุกดังกล่าว   ขณะปล่อยลาออกจากคุก   ชายชื่อว่า Kamlesh ซึ่งเป็นเจ้าของลากลุ่มดังกล่าวบอกว่า เขารู้สึกตกใจอย่างมาก ที่จู่ๆ ลาของเขาหายไปโดยไร้ร่องรอย เพราะเขาไม่รู้ว่าลาของเขานั้นถูกขังคุกไปก่อนหน้านี้ และเมื่อเขารู้ว่าพวกลาอยู่ไหนเขาก็ไปอ้อนวอนผู้คุมให้ปล่อยสัตว์เลี้ยงของเขาออกมา แต่ก็ปรากฏว่ามันไม่ได้ผล Kamlesh จึงไปหานักการเมืองท้องถิ่นให้ช่วยเป็นธุระให้แก่เขา ในเวลาต่อมาพวกลาเหล่านี้ก็ได้รับการประกันตัวจากนักการเมืองท้องถิ่นจากพรรคภารตียชนตา และพวกมันก็ได้ออกมาสูดอากาศภายนอกที่พวกมันคุ้นชินในที่สุด   คลิปการจับลาเข้าคุกและสาเหตุต่างๆ   “เจ้าพวกลาพวกนี้ มันทำลายพืชผลราคาแสนแพงซะเหี้ยนเลย พืชเหล่านี้เป็นทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่เตรียมจะเอาไปปลูกไว้ข้างในคุก และเพื่อเป็นการสั่งสอนเจ้าของลา เราเลยจับสัตว์ของเขาขังคุกซะเลย” RK Mishara ผู้ดูแลคุกดังกล่าวบอก สำหรับราคาพืชผล ที่เจ้าสัตว์สี่ขาพวกนี้ได้ทำลายลงไปนั้น พวกเขาบอกว่ามันมีค่ามากถึง 60,000 รูปี (ราวๆ 30,000 บาท) เลยทีเดียว…

  • ซี้ด!! คุณครูโดนตำรวจรวบ หลังโดนนักเรียนแอบถ่ายคลิป ตอนกำลังเสพโคเคนในห้องเรียน

    ซี้ด!! คุณครูโดนตำรวจรวบ หลังโดนนักเรียนแอบถ่ายคลิป ตอนกำลังเสพโคเคนในห้องเรียน

    ว่ากันว่าคุณครูคือพ่อแม่คนที่ 3 สำหรับเด็กๆ ทั้งหลาย เพราะว่าเด็กๆ เมื่อถึงวัยเข้าเรียนพวกเขาก็ต้องใช้เวลาที่โรงเรียนไปมากกว่าวันละหลายชั่วโมงเลยก็ว่าได้ ดังนั้นคุณครูจึงเป็นส่วนสำคัญในการหล่อหลอมเด็กๆ ให้สามารถโตมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นคนดีในสังคม แต่ว่ามีคุณครูคนหนึ่งที่ได้แสดงตัวอย่างที่ไม่ดีต่อหน้าเด็กๆ เพราะเธอดันไปสูบยาเสพติดในโรงเรียนซะอย่างงั้น     เมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา Samantha Cox คุณครูภาษาอังกฤษในโรงเรียน Lake Central High School รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ถูกจับกุมตัวขณะที่เธอนั้นสูบโคเคนในห้องเรียน โดยมีหลักฐานคือภาพวิดีโอของนักเรียนชื่อว่า Will Rogers ที่ได้แอบถ่ายเธอขณะกำลังสูดอย่างได้อารมณ์ “คุณครูอยู่ที่มุมห้อง และหลบอยู่หลังเก้าอี้ตัวหนึ่ง ในมือของเธอมีหนังสือที่เหมือนจะมีโคเคนอยู่ข้างใน หลังจากนั้นเธอก็ใช้หลอดสูดจากหนังสือเล่มนั้น” Rogers เด็กนักเรียนผู้กล้าหาญให้สัมภาษณ์     หลังจากเด็กๆ ได้เห็นพฤติกรรมดังกล่าวของคุณครู พวกเขาก็ได้แจ้งต่อครูใหญ่ว่า คุณครู Cox ใช้ยาเสพติดในโรงเรียน ครูใหญ่จึงตัดสินใจแจ้งตำรวจในเวลาต่อมา เมื่อตำรวจมาถึง พวกเขาก็ได้ใช้สุนัขดมกลิ่นตามหายาเสพติดที่ว่า และก็พบถุงใบหนึ่งที่ปิดอย่างมิดชิดและยังพบฟอยล์ กับกระดาษมวนคล้ายกับหลอดสำหรับดูดในห้องเรียนของเธอ ซึ่งตำรวจก็รู้ในทันทีว่าสิ่งเหล่านี้คืออุปกรณ์สำหรับเสพยาผ่านทางรูจมูก     Cox ได้ให้รับการสารภาพอย่างรวดเร็วและยินยอมมอบกุญแจรถแก่ตำรวจแต่โดยดี เพื่อหาสารเสพติดอื่นเพิ่มเติม และเมื่อไปค้นที่รถของเธอก็พบสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการสูบยาอีกคือ บ้องแก้วสองอัน และหลอดสำหรับสูดอีกสองอัน ในภายหลัง เธอสารภาพว่าเธอซื้อโคเคนมาในราคา…

  • สิ่งประดิษฐ์สมัยใหม่ ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้คน และบำบัดอาการ ‘ติดสมาร์ทโฟน’

    สิ่งประดิษฐ์สมัยใหม่ ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้คน และบำบัดอาการ ‘ติดสมาร์ทโฟน’

    อาการเสพติดสมาร์ทโฟน หรือ สังคมก้มหน้า คือสิ่งที่เราสามารถพบเห็นกันได้โดยทั่วไปในสังคมทุกวันนี้ เพราะปัจจุบันเกือบทุกคนต้องรู้จักและมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง ซึ่งนั้นทำให้คนจำนวนมากใช้มันแทบจะตลอดเวลาไปแล้ว แต่อาการดังกล่าวสามารถเยียวยาได้ด้วยเจ้าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ เจ้าสิ่งนี้มีชื่อว่า โทรศัพท์สำรอง เป็นฝีมือของดีไซเนอร์ชาวออสเตรีย Klemens Schillinger ซึ่งเขาได้ออกแบบมันมาเพื่อแก้ปัญหาของอาการดังกล่าวโดยเฉพาะ     ความพิเศษของมันก็คือมันสามารถให้เราได้ใช้นิ้วเหมือนกับที่เราทำบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเราอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนหน้าจอ การซูมเข้าซูมออก หรือการสไลด์ขึ้นลงบนลูกปัดหินที่เปรียบเหมือนกับลูกกลิ้งเรียงตัวกันอยู่บนอุปกรณ์นี้ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าสิ่งนี้ยังมีขนาดและรูปร่างเหมือนๆ กับสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป ทำให้ความรู้สึกของเราเวลาได้มาเล่นมันแทนการเล่นสมาร์ทโฟนนั้นเหมือนจริงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย   มาพร้อมกับ 5 สไตล์ให้คุณเลือกได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนหน้าจอ การสไลด์ขึ้นลง หรือการซูมเข้าซูมออก   Klemens บอกว่า “ปัจจุบันพวกเราเล่นมือถือกันอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าที่ไหนก็ตาม หรือแม้แต่เวลาที่เราไม่ได้รับข้อความใดๆ เราก็จะควักมันขึ้นมาเล่นอยู่ดี และนั่นจึงทำให้ผมเกิดไอเดียสร้างสิ่งประดิษฐ์นี้ขึ้นมาเพื่อลดการเกิดพฤติกรรมดังกล่าว” เขาได้ยืนยันอีกว่าสิ่งนี้มีความแตกต่างกับ Fidget Spinner หรือ Fidget Cubes ตรงที่ว่ามันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ช่วยแก้ปัญหาเวลาเหงามือ แต่มันมีขึ้นเพื่อแก้การเสพติดสมาร์ทโฟนโดยตรง เพราะท่าทางการเลื่อนหน้าจอ หรือสไลด์หน้าจอเป็นสิ่งที่พวกเราติดจากการใช้สมาร์ทโฟนโดยตรง และนี่จึงเข้ามาเป็นสิ่งทดแทนในเรื่องนั้น     นอกจากนั้นเขาก็ได้ออกแบบโคมไฟที่จะมาช่วยแก้ปัญหาการใช้สมาร์ทโฟนเกินความจำเป็นอีกด้วย ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ทั้งสองชิ้นเราก็คงต้องรอกันต่อไปว่าจะมีออกมาวางขายกันเมื่อไหร่   โคมไฟที่เราต้องนำมือถือไปใส่ไว้ในลิ้นชักเท่านั้น ไฟมันถึงจะติด…

  • รู้จักสตรีหมายเลข 1 ของประเทศแคนาดา พ่วงตำแหน่งภรรยาของท่านนายกฯ Justin Trudeau

    รู้จักสตรีหมายเลข 1 ของประเทศแคนาดา พ่วงตำแหน่งภรรยาของท่านนายกฯ Justin Trudeau

    หลายคนอาจรู้จักนาย Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีหนุ่มของประเทศแคนาดากันไปบ้างแล้ว ด้วยหน้าตาอันหล่อเหลาของเขาที่อาจทำให้สาวๆ หลายคนต้องรู้สึกหวั่นไหว แต่ก็ต้องอกหักกันไปเพราะเขาเองก็มีภรรยาที่หน้าตาดีไม่แพ้ตัวเองเลย วันนี้ #เหมียวตะปู จึงชวนเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเธอคนนี้กัน สตรีหมายเลขหนึ่งของแคนาดาคนนี้มีชื่อว่า Sophie Grégoire Trudeau วัย 42 ปี เกิดและเติบโตในเมือง Montreal ประเทศแคนาดา และเพราะเมืองนี้อีกเช่นกันที่ทำให้เธอได้รู้จักกับครอบครัว Trudeau   Justin Trudeau และ Sophie ภรรยาของเขา .   เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นและสนิทกับ Michel Trudeau ลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว Trudeau มาตั้งแต่เด็ก และนั่นจึงทำให้เธอได้รู้จักกับพี่ชายคนกลางอย่าง Pierre และ Justin พี่ชายคนโตที่เป็นสามีของเธอในตอนนี้นี่เอง แต่อายุที่ต่างกันและอยู่กันคนละโรงเรียน ทำให้ในตอนนั้นพวกเขาได้รู้จักกันเพียงผิวเผิน     Sophie ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Montreal จนจบในสาขาด้านการสื่อสาร ศิลปศาสตร์บัณฑิต ก่อนที่เธอจะเข้าไปทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ในช่อง LCN ของประเทศแคนาดา ต่อมาในปี…

  • คนแปลกหน้าสองคนคุยกันผ่านจดหมายมานานกว่า 51 ปี ในที่สุดก็ได้มาพบกันสักที

    คนแปลกหน้าสองคนคุยกันผ่านจดหมายมานานกว่า 51 ปี ในที่สุดก็ได้มาพบกันสักที

    ในยุคที่มีเทคโนโลยีการสื่อสารสะดวกสบายเช่นนี้ เราแทบจะไม่เห็นใครติดต่อกันผ่านการเขียนจดหมายเลย หรือถึงมี  พวกเขาก็ทำได้แค่ไม่กี่เดือนแล้วเลิกไปใช้วิธีอื่นแทน แต่สำหรับความสัมพันธ์ของ Yvonne Betowt และ Mary Richardson ที่ติดต่อกันผ่านจดหมาย ไม่เคยจางหายไปแม้จะผ่านไปกว่า 51 ปี     Yvonne อาศัยอยู่ในแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วน Mary อาศัยอยู่ในประเทศแคนาดา ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกันผ่านจดหมายตอนอายุ 12 ปี หรือเมื่อ 51 ปีก่อน ตอนระยะกว่า 50 ปีนี้ พวกเขาผ่านการแต่งงาน มีครอบครัว และสูญเสียสามีไปเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันผ่านจดหมายเสมอ โดยที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย     อย่างที่เรารู้กันว่าการมีเพื่อนที่ไว้ใจที่ได้ทุกเรื่องและพร้อมจะอยู่เคียงข้างเราไปตลอดนั้นหาได้ยากมากๆ และมันก็เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดในชีวิต ดังนั้นนับว่าเรื่องมหัศจรรย์ที่ Yvonne และ Mary สามารถเป็นเพื่อนแท้ของกันและกันได้ ทั้งที่ติดต่อกันผ่านจดหมายเท่านั้น     แต่แล้วในที่สุด ทั้งคู่ก็ได้เจอกันครั้งแรกในวัย 60 ปี โดย Mary ได้เดินทางมาจากแคนาดามายังแนชวิลล์เพื่อมาหาเพื่อนที่อยู่เคียงข้างเธอมานานหลายสิบปี Yvonne บอกว่า “การเขียนจดหมายหากันตลอดตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ มันทำให้รู้สึกว่าเราโตมาด้วยกัน ดังนั้นการพบกันครั้งแรกของเรา มันทำให้รู้สึกเหมือนฝันเป็นจริง”  …

  • เจ้าหมาเฝ้าร่างไร้วิญญาณเจ้าของนานนับเดือน จนร่างกายซูบผอม ในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือ

    เจ้าหมาเฝ้าร่างไร้วิญญาณเจ้าของนานนับเดือน จนร่างกายซูบผอม ในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือ

    ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง เมื่อสูญเสียคนที่รักมากที่สุดไป คงยากที่จะจินตนาการได้ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร หรือเจ็บปวดมากแค่ไหน เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่ Dory สุนัขวัย 9 ปีตัวนี้ต้องเผชิญ โดยหลังจากที่เจ้าของผู้เป็นที่รักล่วงลับไป มันไม่เคยทำใจได้ เลยยืนเฝ้าร่างไร้วิญญาณนั้นนานนับเดือน     น้องหมายืนเฝ้าร่างไร้วิญญาณของเจ้าของภายในบ้านที่ฮูสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐฯ โดยไม่ยอมกินอะไรจนร่างกายซูบผอม เหลือแต่หนังติดกระดูก กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือน จึงมีคนเข้ามาเจอ หลังจากวันที่มีคนมาเจอ Dory ก็ถูกส่งไปอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Harris County Animal Shelter โดยที่น้องหมาก็ยังดูสับสนและจมอยู่กับความเศร้าเช่นเดิม     เพจเฟซบุ๊ก Harris County Animal Shelter Pets In Need ได้โพสต์วิดีโอเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ระบุข้อความว่า “สุนัขตัวนี้อยู่กับร่างไร้วิญญาณของเจ้าของนานนับเดือน และศพก็เพิ่งถูกพบวันนี้ เจ้าหมาจึงถูกพามาที่ศูนย์พักพิง” Dory ได้รับการดูแลในศูนย์พักพิงเป็นเวลาหลายวัน เพื่อรอให้สมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ มารับมันไปดูแลต่อ แต่วันแล้ววันเล่าก็ไม่มีใครมาเลย     อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน Greyhound Pets of America (GPA Houston)…

  • นักดำน้ำลงไปทักทาย “ฉลามสีน้ำเงิน” ใต้ท้องทะเล ถูกเซอร์ไพรส์ด้วยการจุ๊บเบาๆ หนึ่งที

    นักดำน้ำลงไปทักทาย “ฉลามสีน้ำเงิน” ใต้ท้องทะเล ถูกเซอร์ไพรส์ด้วยการจุ๊บเบาๆ หนึ่งที

    คนส่วนใหญ่มักจะหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ฉลาม เพราะพวกมันขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์อันตรายและเชื่อว่ามันพร้อมจะเขมือบเหยื่อได้ทุกเมื่อ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับนักดำน้ำคนนี้ เขาลงไปใต้น้ำที่เต็มไปด้วยฝูงฉลาม เพื่อบอกเล่าเรื่องราวอันน่าทึ่งของฉลามว่ามันไม่ได้มีแค่มุมน่ากลัวเสมอไป     นักดำน้ำอาชีพ Stefano Ulivi ได้เผยคลิปวิดีโอขณะที่ลงไปอยู่ใต้น้ำพร้อมกลุ่มนักดำน้ำคนอื่นๆ บนเกาะ Pico ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ในคลิปเราจะเห็นฝูงฉลามสีน้ำเงินมากมายล้อมรอบพวกเขาอยู่ ซึ่งปกติแล้ว ฉลามสีฟ้านั้นนับว่าหาดูได้ยากมากๆ ในพื้นที่ดังกล่าว     การปรากฏตัวของ Stefano ทำให้ฉลามสีน้ำเงินตัวหนึ่งเกิดความสนใจมากๆ เพราะมันว่ายอยู่รอบๆ ตัวเขา แต่แปลกที่นักดำน้ำดูไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด และในเวลาสั้นๆ ฉลามตัวนั้นก็ว่ายเข้ามาใกล้นักดำน้ำ ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา แล้วมันก็จุ๊บที่หน้า Stefano ทีหนึ่งอย่างนุ่มนวล     Stefano บอกว่า “มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลย แถมยังแสดงพฤติกรรมน่ารักกับผมด้วย ปกติแล้วฉลามสีน้ำเงินจะมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น และมันมักจะเข้ามาใกล้นักดำน้ำแบบใกล้ชิดอย่างนี้อยู่แล้ว”     ฉลามสีน้ำเงินอาจไม่ได้จัดอยู่ในชนิดสัตว์ที่คุณเรียกว่าน่ารัก แต่ดูจากสิ่งที่มันทำกับ Stefano เรียกได้ว่าเป็นโมเมนต์ที่ดีไม่น้อยเลยล่ะ อย่างไรก็ตามทาง International Shark Attack File เขียนไว้บนเว็บไซต์ว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าฉลามสีน้ำเงินมีนิสัยก้าวร้าวหรือไม่     นั่นหมายความว่าความน่ารักและความอ่อนโยนของฉลามสีน้ำเงินในเวลาสั้นๆ นี้ ไม่สามารถการันตีได้ว่าจริงๆ แล้วพวกมันมีนิสัยยังไงกันแน่ แต่เชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับฉลามคงจะหาคำตอบได้ในไม่ช้านี้    …

  • กลุ่มคนถูกวิจารณ์หนัก หลังเปลือยล่อนจ้อนไปวิ่งเล่นในห้องรมแก๊สที่ค่ายกักกันนาซี

    กลุ่มคนถูกวิจารณ์หนัก หลังเปลือยล่อนจ้อนไปวิ่งเล่นในห้องรมแก๊สที่ค่ายกักกันนาซี

    นี่เป็นคลิปวิดีโอที่กำลังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในขณะนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อชายหญิงกลุ่มหนึ่งได้ก่อพฤติกรรมสุดฉาวในห้องรมแก๊สพิษของนาซี ที่ถูกนำมาใช้สังหารหมู่ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับการเผยแพร่จากนิทรรศการศิลปะของพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยในกรุงกรากุฟ ประเทศโปแลนด์ ที่ถูกจัดขึ้นในปี 2015 โดยมาในชื่อว่า โปแลนด์ – อิสราเอล – เยอรมนี: ประสบการณ์ที่ได้จากค่ายกักกัน Auschwitz     จากภาพได้ปรากฏให้เห็นว่ากลุ่มชายหญิงเหล่านี้ กำลังวิ่งล่อนจ้อนไล่จับกันอย่างสนุกสนานภายใน Stutthof ซึ่งเป็นค่ายกักกันเก่าของนาซี ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Gdansk ของโปแลนด์ สถานที่ซึ่งเคยคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากกว่า 65,000 คน งานนี้ทำให้กลุ่มชาวยิวที่รอดชีวิตจากสถานที่ดังกล่าว ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจหลังเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของคนกลุ่มนี้     อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานที่เป็นตัวแทนให้กับกลุ่มชาวยิวผู้รอดชีวิต ก็ได้เรียกร้องขอคำอธิบายจาก Andrzej Duda ประธานาธิบดีโปแลนด์ว่า เหตุใดจึงมีการอนุญาตให้ผู้คนกลุ่มนี้ได้เข้าไปถ่ายภาพเปลือยเล่นกันอย่างสนุกสนานได้     ทางด้าน Efraim Zuroff องค์กรสิทธิมนุษยชนของชาวยิว ได้ออกมากล่าวในปี 2015 ว่า “นี่เป็นเรื่องที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย พวกเขาโกหกเรื่องนี้…

  • คุณลุงโดนเพื่อนบ้านเอาอิฐมาวางขวางที่จอดรถ เลยเอาคืนโดยการฟ้องนักข่าวซะเลย

    คุณลุงโดนเพื่อนบ้านเอาอิฐมาวางขวางที่จอดรถ เลยเอาคืนโดยการฟ้องนักข่าวซะเลย

    การมีเพื่อนบ้านที่ดี อาจจะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย และแน่นอนว่าคุณแทบจะไม่ต้องกังวลเลยเวลาที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นแรมปี แต่ถ้าหากว่าคุณดั๊นโชคร้ายได้เพื่อนบ้านแบบที่ตรงกันข้ามล่ะก็ งานนี้มีปวดหัวแน่นอน!! คุณ Oliver Lynch ชายวัย 79 ปี ผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในคนที่โชคร้ายที่ต้องประสบพบเจอกับเพื่อนบ้านเจ้าปัญหา แต่ทว่าคุณปู่ท่านนี้กลับจัดการกับเพื่อนบ้านสุดแสบแบบสาสมเลยทีเดียว   “ผมไม่ชอบให้ใครมารังแกผม” คุณปู่ให้สัมภาษณ์   โดยเหตุการณ์เพื่อนบ้านสุดแสบนี้เกิดขึ้นในวันหนึ่ง หลังจากที่คุณปู่กลับบ้านมาแล้วพบว่าถนนทางเข้าหน้าบ้านของเขานั้นถูกเพื่อนบ้านเอาก้อนซีเมนต์มาเรียงเป็นทางเพื่อกันเขต พร้อมกับบอกคุณ Oliver ว่าที่ตรงนี้คือเขตของบ้านพวกเขา   เขตแดนที่ถูกแบ่งเข้ามาในที่ของคุณปู่ จากฝีมือของเพื่อนบ้าน   แค่กั้นที่ยังไม่พองานนนี้คุณพี่เพื่อนบ้านถึงขั้นก่อปูนเพื่อกันไม่ให้คุณ Oliver ย้ายก้อนซีเมนต์เหล่านั้นได้เลยทีเดียว   คุณปู่ได้เอาเอกสารของที่ดินตัวเองออกมาดูเพื่อยืนยันว่าบ้านของเขานั้นไม่ได้ล้ำที่ของใคร โดยในเอกสารที่ดินของคุณ Oliver นั้นระบุว่าเขาไม่ได้รุกล้ำเขตแดนแต่อย่างใด และคุณทางเข้าบ้านของเขานั้นกว้างมากถึง 3.5 เมตรเลยทีเดียว แต่ทว่าหลักฐานดังกล่าวนั้นกลับไม่เพียงพอ ทางศาลไม่สามารถที่จะสั่งทุบทางกั้นดังกล่าวได้ ซึ่งคุณปู่จะต้องทำการรังวัดที่ใหม่เพื่อยืนยัน หรือไม่ก็นำตัวเพื่อนบ้านของเขามาขึ้นศาลด้วย     คุณ Oliver คิดว่าการที่จะพาตัวเพื่อนบ้านไปที่ศาลหรือรังวัดที่ใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก งานนี้คุณปู่ของเราจึงจัดการมอบบทเรียนให้กับเพื่อนบ้านด้วยตัวเองมันซะเลย คุณปู่ตัดสินใจติดต่อกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นให้มาทำสกู๊ปพิเศษ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ และดูเหมือนว่ามันจะได้ผลอย่างดีด้วย เพราะหลังจากที่ทางรายการได้ออกอากาศรายการดังกล่าว ก็มีหลายคนที่เห็นใจคุณปู่ท่านนี้ และบอกว่าการกระทำของเพื่อนบ้านนั้นช่างไม่น่ารักเลยจริงๆ     เมื่อคุยกันดีๆ ไม่ได้ งานนี้ก็ต้องถึงมือพี่นักข่าวแล้วหล่ะ!!  …

  • คุณพ่อคนดีเจอตังค์ตกที่ตู้ ATM 1,300 บาท เอาไปคืน ได้มาเพิ่มเป็น 2 ล้าน!?

    คุณพ่อคนดีเจอตังค์ตกที่ตู้ ATM 1,300 บาท เอาไปคืน ได้มาเพิ่มเป็น 2 ล้าน!?

    ทุกๆ ศาสนาบนโลกนี้ล้วนแต่สอนให้ทุกคนเป็นคนดี แล้วความดีนั้นก็จะส่งผลดีต่อชีวิตของคุณเอง แต่ว่าในชีวิตจริงนั้น การทำความดีอย่างต่อเนื่องนั้นไม่ง่ายเลย เพราะว่าทำดีไปมากเท่าไร ก็ยังไม่เห็นว่าผลบุญเหล่านั้นมันจะกลับเข้ามาช่วยเราสักที แต่เราขอเป็นกำลังใจให้คนทำดีทุกดี โดยการนำเสนอเรื่องของชายคนหนึ่งที่ทำดีแล้วได้ดีเห็นผลทันตาคนนี้     ขณะที่นาย Colin Banks กรรมกรคุณพ่อลูกสองคนนี้ไปกดเงินจากตู้ ATM ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต Asda ในเมือง Motherwell เขต North Lanarkshire ประเทศ Scotland เขาเจอเงิน 30 ปอนด์ (ประมาณ 1,300 บาท) ค้างอยู่ที่ตู้ ATM ซึ่งน่าจะเป็นของคนที่มากดเงินก่อนหน้าเขา พูดกันตรงๆ แล้ว หลายคนคงจะเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ถือว่าเป็นลาภลอยมาหาเรา แต่ชายคนนี้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ เขาจึงนำเงินนี้ไปให้กับพนักงานในซุเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาทางคืนให้กับเจ้าของ     และเหมือนว่าความดีนี้จะได้รับการตอบแทนทันที เพราะหลังจากนั้นเพียงครึ่งชั่วโมง เขาก็รู้ว่าลอตเตอรี่ที่เขาซื้อมาเพียง 30 ปอนด์ (ประมาณ 1,300 บาท) ทำให้เขาถูกรางวัลสูงถึง 49,077 ปอนด์ (ประมาณ 2 ล้านบาท) เขาให้สัมภาษณ์กับทาง Daily Record ว่า…

  • คู่รักสูงวัยชาวจีน แอบลักลอบนำแมลงสาบเป็นๆ กว่า 200 ตัวเข้าสนามบิน อ้างไปทำครีมบำรุงผิว

    คู่รักสูงวัยชาวจีน แอบลักลอบนำแมลงสาบเป็นๆ กว่า 200 ตัวเข้าสนามบิน อ้างไปทำครีมบำรุงผิว

    คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเราจะเห็นคนพยายามลักลอบนำสิ่งของต้องห้าม อย่างสัตว์เลี้ยงหรือของเหลวจำพวกเครื่องสำอาง ขึ้นเครื่องบินไปกับเรา แต่คงไม่มีอะไรน่าสะพรึงกลัวและขนลุกเท่ากับการลักลอบที่เราจะได้เห็นต่อไปนี้ เพราะผู้โดยสารคนดังกล่าวแอบขน “แมลงสาบ” เข้าสนามบิน!     เหตุเกิดในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2017 สนามบินนานาชาติกว่างโจวไป่ยุหวิน (Guangzhou Baiyun International Airport) ประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบสิ่งผิดปกติในกระเป๋าของชายหญิงชราคู่หนึ่ง สิ่งที่ว่านี้คือกล่องทรงกลมสีขาวใบหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ลองเปิดออกดูเพื่อตรวจสอบก็ต้องสะดุ้งเพราะมีแมลงสาบตัวหนึ่งคลานออกมาจากกล่อง เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งในบริเวณนั้นถึงกับผงะถอยหลังออกห่างทันที     แต่นั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เพราะภายในกล่องนี้บรรจุถุงสีขาวน่าสงสัยอยู่ใบหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ก็ต้องตะลึงกว่าเดิมเมื่อพบว่าสิ่งที่อยู่ในถุงใบนั้นคือแมลงสาบกว่า 200  ตัว และพวกมันก็คลานออกมายั้วเยี้ยเต็มไปหมด   .   ภายหลังจากสอบถามชายหญิงชราผู้เป็นเจ้าของกล่องบรรจุแมลงสาบ จึงได้ความว่าผู้เป็นภรรยามีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง และพวกเขาจะนำแมลงสาบเหล่านี้ไปผสมเป็นยาแผนโบราณเพื่อใช้ทารักษาผิวของภรรยา แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้นำแมลงสาบเหล่านั้นขึ้นเครื่องไปด้วย พวกเขาจึงต้องบินไปโดยที่ทิ้งแมลงสาบพวกนั้นให้กับเจ้าหน้าที่สนามบินได้จัดการต่อไป     พอได้อ่านแล้วเพื่อนๆคงพอเข้าใจแล้วว่าการที่สนามบินมีกฏข้อห้ามนำสิ่งของต่างๆขึ้นไปบนเครื่องนั้น อาจจะมีส่วนเพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบนี้นี่เอง ที่มา: shanghaiist

  • พบจดหมายลับที่เขียนด้วยลายมือจากปี 1777 ซ่อนอยู่ในบั้นท้ายของรูปสลักพระเยซู

    พบจดหมายลับที่เขียนด้วยลายมือจากปี 1777 ซ่อนอยู่ในบั้นท้ายของรูปสลักพระเยซู

    ปฏิมากรรมหรืองานศิลปะอื่นๆ อย่างภาพเขียน หรือภาพพิมพ์ในยุคสมัยโบราณนั้น นอกจากจะบ่งบอกถึงความสวยงามของศิลปะในยุคนั้นแล้ว บางครั้งตัวผลงานเองก็อาจจะมีความลับบางอย่างอยู่ในนั้นก็เป็นได้ เหมือนกับรูปสลักพระเยซูอายุกว่า 240 ปีชิ้นนี้ที่มีจดหมายลับซ่อนอยู่!! จดหมายที่เขียนด้วยลายมือจากปี 1777 ฉบับนี้ถูกพบซ่อนอยู่ในรูปสลักพระเยซูโบราณจากประเทศสเปน จดหมายดังกล่าวอยู่ในสถาพสมบูรณ์มากและคาดว่าน่าจะถูกซ่อนไว้โดยนักบวชในสมัยนั้น   บริเวณส่วนก้นของรูปสลักที่มีการพบจดหมายฉบับดังกล่าว   จดหมายฉบับดังกล่าวถูกเขียนขึ้นโดย Joaquin Minguez และถูกค้นพบโดยทีมซ่อมแซมงานศิลปะจากบริษัท Da Vinci Restauro  เนื้อความในจดหมายฉบับดังกล่าวบอกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 อย่างเช่นงานอดิเรกของผู้คน สภาพเศรษฐกิจ การเมืองและศาสนาในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกินอีกด้วย     ส่วนก้นของรูปสลักที่ทีมซ่อมแซมงานศิลปะพบกับช่องลับที่บรรจุจดหมายฉบับนี้อยู่   ขณะนี้รูปสลักโบราณชิ้นนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่โบสถ์ Santa Agueda ในเมือง Sotillo de la Ribera ประเทศสเปน “การค้นพบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือฉบับนี้ เป็นการค้นพบที่น่าทึ่งมากๆ ” คุณ Efren Arroyo นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นกล่าว จดหมายจากลายมือของนักบวชฉบับนี้ถือเป็นหนึ่งในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งจะทำให้นักวิชาการได้เข้าใจถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต และนอกจากนี้ยังมีส่วนหนึ่งของจดหมายที่เขียนเล่าถึงโรคระบาดที่พบได้บ่อยในเมือง รวมถึงนักสู้วัวชื่อดังในสมัยนั้นอีกด้วย     จดหมายโบราณฉบับนี้ถือเป็นหนึ่งในข้อความที่คนรุ่นหลังต้องการที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ กับพวกเรา และนอกจากจดหมายฉบับนี้แล้ว เชื่อแน่ว่ายังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อีกจำนวนมากที่กำลังรอให้พวกเราค้นพบ   ที่มา unilad

  • เพื่อนร่วมงานซื้อลูกหมาเซอร์ไพรส์ลุงพนักงานทำความสะอาด หลังรู้ว่าเขาเพิ่งเสียสุนัขเพื่อนรักไป

    เพื่อนร่วมงานซื้อลูกหมาเซอร์ไพรส์ลุงพนักงานทำความสะอาด หลังรู้ว่าเขาเพิ่งเสียสุนัขเพื่อนรักไป

    ในสังคมการทำงาน มีบ้างที่เพื่อนร่วมงานต้องแข่งขันกันเพื่อให้ได้ตนเองผลประโยชน์มากที่สุด จึงอาจกล่าวได้ว่าในที่ทำงานนั้น บรรยากาศไม่ได้เป็นมิตรมากนัก แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีจิตใจดี เป็นมิตรกับทุกคน ไม่ว่าใครๆ ก็คงสัมผัสได้ว่าคุณเป็นคนน่าคบ และจะมอบความรักกลับมาให้กับคุณแน่นอน     คุณ Floyd Green ทำงานเป็นภารโรงให้กับธนาคารแห่งหนึ่งในเขตโฮวาร์ด รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว โดยตัวเขามีนิสัยเป็นมิตรและเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานทุกๆคน เมื่อเพื่อนร่วมของเขาทราบว่าสุนัขพันธ์ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียของเขาแก่ตาย พวกเขาจึงอยากมอบของขวัญสุดวันเกิดพิเศษให้กับขวัญใจที่ทำงานคนนี้     พวกเขานำของขวัญวันเกิดไปวางไว้บนโต๊ะแล้วให้เขาเข้าไปเปิดดูเอง พอภารโรงเปิดดูภายในกล่องก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบลูกสุนัขน้อยพันธุ์เดียวกันกับตัวเก่าของเขา เขาอมยิ้มแล้วก็ไล่ถามเพื่อนๆ นี่มันลูกหมาของใครกันแน่ ทุกคนจึงตอบให้เขาได้ชื้นใจว่ามันเป็นของขวัญวันเกิดของเขานั่นแหละ     ได้ยินอย่างนั้นเขาก็อุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมาอย่างเบามือ ดูจากสีหน้าที่ยิ้มจนแก้มปริแล้วเขาคงอยากขอบคุณเพื่อนทุกๆ คนจากก้นบึ้งของหัวใจ เพื่อนร่วมงานยังพูดอีกว่า “เขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่่นิสัยดีมาก และเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเรามีกำลังใจมาทำงานในวันที่กะตรงกับเขา” เห็นไหมว่าถ้าเราปฎิบัติต่อผู้อื่นยังไง เขาก็จะปฎิบัติกลับต่อเราแบบนั้นแน่นอน เราเชื่อว่าถ้าทุกคนหวังดีและมีความเมตตาต่อกัน สังคมของเราก็จะมีแต่ความห่วงใยและความรักแบบในที่ทำงานของนาย Floyd เป็นแน่   ที่มา: littlethings

  • ชายหาดไอร์แลนด์ ที่หายไปเมื่อ 12 ปีก่อน กลับมาปรากฎอีกครั้งภายในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน

    ชายหาดไอร์แลนด์ ที่หายไปเมื่อ 12 ปีก่อน กลับมาปรากฎอีกครั้งภายในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน

    ลองนึกภาพเราไปเที่ยวทะเล แล้วไปเล่นน้ำกับเพื่อนกันสนุกสนานบนหาดทรายสีขาวโพลน หรือจะเป็นการนอนอาบแดดสำหรับคนรักผิวแทนก็คงจะดีไม่น้อย ซึ่งหากนึกภาพตามก็คงมีความสุขอย่างเปี่ยมล้นเลยเลยทีเดียว แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าหากเราตื่นมาแล้วพบว่าชายหาดที่เราเล่นสนุกเมื่อวันวาน กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ได้เกิดขึ้นจริงบนโลกของเรา ซึ่งสถานที่นั้นคือชายหาดแห่งหนึ่งในประเทศไอร์แลนด์ ชายหาดแห่งหนึ่งบริเวณอ่าว Ashleam ตั้งอยู่ที่เกาะ Achill ประเทศไอร์แลนด์ อยู่ดีๆ ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งก็รวมเวลาจนถึงตอนนี้ได้ทั้งหมด 12 ปี ก่อนที่มันจะกลับมาด้วยวิธีการเดียวกับที่มันได้จากไป และนั่นได้ทำให้ชาวบ้านบริเวณนั้นถึงกับฉลองให้กับการกลับมาของมันเลย   หาดที่หายไปตั้งแต่ปี  2005   สาเหตุที่หาดแห่งนี้หายไป ก็เป็นเพราะว่าพายุได้นำเอาหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ไป และนำเอาหินต่างๆ เข้ามาแทนที่ ซึ่งหาดอื่นๆ บนเกาะแห่งนี้ก็เคยเป็นมาเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นชายหาด Doonagh ที่อยู่ห่างจากหาด Ashleam เพียง 10 กิโลเมตรก็ได้หายไปตั้งแต่ปี 1984 และเพิ่งจะกลับมาในต้นปีนี้เอง ทำให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปกติของธรรมชาติ   ชาวบ้านต่างดีใจที่ชายหาดแห่งนี้ได้กลับมา   หาด Ashleam เป็นหาดที่ชาวบ้านผูกพันเป็นอย่างมาก เพราะว่าก่อนที่มันจะถูกพายุเอาไป มันมีความสวยงามอย่างหาที่เปรียบมิได้สำหรับคนในพื้นที่ และในตอนนี้มันก็ได้กลับมาและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากชาวบ้าน การกลับมาของชาวหาดนี้เกิดขึ้นจากพายุฤดูร้อน Brian ได้พัดผ่านและนำเอาหินต่างๆ ออกไป และแทนที่ด้วยเม็ดทรายอันแสนงดงาม   ความสวยงามของหาดแห่งนี้   ตามตำนานของชาวบ้านที่นั่นกล่าวเอาไว้ว่า…

  • เจ้าเหมียวถูกแบนไม่ให้เข้ามาป้วนเปี้ยนในห้องสมุด จนทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่เห็นด้วย

    เจ้าเหมียวถูกแบนไม่ให้เข้ามาป้วนเปี้ยนในห้องสมุด จนทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่เห็นด้วย

    เราสามารถเห็นน้องเหมียวได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นในสวนสาธารณะ ตามทางเดิน หรือตามร้านอาหารที่ไม่อนุญาตให้พวกมันเข้ามา ทำให้ถูกพาออกไปอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกันกับห้องสมุดแห่งนี้ที่พวกเขาได้ตัดสินใจไม่อนุญาตให้เจ้าเหมียวเข้ามา แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่หลายๆ คนไม่เห็นด้วย เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ BuzzFeed วันที่ 1 ธันวาคม 2017 เมื่อเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Max เข้าไปวนเวียนอยู่ในห้องสมุดโรงเรียน Macalester ในเมืองเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา ทำให้มีการติดป้าย “ห้าม” มันเข้ามาอีกต่อไป   Max คือเจ้าเหมียวที่ชอบเข้าไปเดินเล่นในห้องสมุดโรงเรียนดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง   มันก็เหมือนกับแมวทั่วๆ ไป ชอบหาที่นอนนิ่มๆ   บางครั้งก็จะยืดร่างกายซักหน่อยเพื่อความผ่อนคลาย   หลักฐานการแอบเข้าไปในห้องสมุดของเจ้าเหมียวตัวนี้ถูกถ่ายเอาไว้ได้จากกล้องวงจรปิด   ทางห้องสมุดจึงต้องติดป้ายเอาไว้เพื่อบอกให้กับทุกคนรู้ว่า จงอย่าให้มันเข้ามาในห้องสมุดอีก แม้ว่ามันจะน่ารักขนาดไหนก็ตาม   แต่ด้วยความน่ารักของเจ้าเหมียวตัวนี้ ก็ได้มีทาสหลายๆ คนแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยที่แบนไม่ให้มันเข้าห้องสมุดมา อย่างเช่นการทำบัตรห้องสมุดสำหรับเจ้าเหมียว เพื่อบอกว่ามันก็มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาได้นะ   บางคนก็ถึงกับอธิบายว่าตนเองไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้มากขนาดไหน จนถึงกับเขียนเรียงความลงไปในโลกโซเชียล   ลงทุนวาดการ์ตูนให้กับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ก็ยังมี   เห็นได้ชัดเลยว่ามันได้รับความนิยมจากเด็กๆ ที่มาใช้ห้องสมุดกันมากขนาดไหน   นี่อาจเป็นการสร้างกลุ่มทาสเหมียวขึ้นมาให้ต่อต้านมนุษย์ด้วยกันเองก็ได้?!…

  • นี่คือ 9 ประเภท “แม่นาง” ที่ผู้ชายส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงและไม่อยากได้มาเป็นคู่ชีวิต…

    นี่คือ 9 ประเภท “แม่นาง” ที่ผู้ชายส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงและไม่อยากได้มาเป็นคู่ชีวิต…

    สำหรับผู้หญิงเรา ไม่จำเป็นต้องสวย รวย เก่ง หรือดีไปซะทุกอย่าง เพื่อที่จะได้แต่งงานกับชายในฝัน ขอแค่คุณไม่มีนิสัยไม่ดีบางอย่างที่ผู้ชายไม่ชอบก็พอ  และนี่คือสาวงาม 9 ประเภทที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่อยากใช้ชีวิตคู่ด้วย ลองดูซิ๊ตรงกับเราบ้างมั้ย ถ้ามันไม่โอเคยังไงจะได้ปรับปรุงถูกจุด   1. แม่นางจู้จี้จุกจิก ผู้หญิงที่ขี้จุกจิกมักจะเป็นคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และเธอจะมีนิสัยแบบนี้อยู่ในสายเลือด เมื่อผู้ชายพบเธอครั้งแรกจะคิดว่าเธอเป็นคนน่ารัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ชายจะรู้สึกว่าตัวเองถูกทำให้เหมือนเด็กประถมที่มีคุณครูคอยจู้จี้ว่าต้องทำอะไร ยังไง จนเริ่มรู้สึกรำคาญในที่สุด   2. แม่นางจอมบงการ ผู้หญิงประเภทนี้คือคนที่ถูกผู้ชายปฏิเสธมากที่สุด แต่ก็มีบางคนที่ชอบแบบนี้ นั่นเป็นเพราะเขาเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองพอ ผู้หญิงจอมบงการมักจะอ้างว่าเธอรักผู้ชายในแบบที่เขาเป็น แต่เมื่อคบกันไปเธอจะเริ่มบ่นทีละเล็กทีละน้อย เริ่มตั้งแต่การแต่งตัว จากนั้นก็เป็นเพลงที่เขาชอบ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้หญิงประเภทนี้อยู่กับเพื่อนหรืออยู่กับงานอดิเรกที่ชอบ ผู้ชายจะกลายเป็นคนไร้ค่าสำหรับเธอไปเลยทันที   3. แม่นางหึงหวง ผู้หญิงประเภทนี้จะมีอารมณ์ฉุนเฉียวตลอดเวลา เพราะเธอไม่ไว้ใจคู่รักตัวเอง หลายๆ ครั้งเธอจะเอาอดีตขึ้นมาพูด และมักจะคอยจับผิดทุกอย่าง ครั้งแรกที่เจอผู้หญิงแบบนี้ ผู้ชายจะรู้สึกว่าเธอเป็นคนน่าสงสาร ขาดความมั่นใจ และอยากพิสูจน์ตัวเองว่าเขาไม่ได้เป็นเหมือนผู้ชายในอดีตของเธอ อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ชายถูกผู้หญิงหาเรื่องเพราะการหึงหวงบ่อยครั้ง เขาคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปล่อยเธอไป ไม่งั้นเขาคงจะกลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนแน่ๆ   4. แม่นางติดหนึบ ผู้หญิงประเภทนี้จะเป็นคนที่ทำตัวติดกับแฟนตลอดเวลา แรกๆ…

  • 10 ไอเดียที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์รักของคุณหวานชื่นมื่น ครองคู่กันยาวนานมากยิ่งขึ้น

    10 ไอเดียที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์รักของคุณหวานชื่นมื่น ครองคู่กันยาวนานมากยิ่งขึ้น

    การเจอรักแท้ว่ายากแล้ว การรักษารักแท้ให้อยู่กับเราตลอดไปเป็นสิ่งที่ยากกว่าอีก เพราะในความสัมพันธ์มักจะมีปัญหาบ้างในบางครั้ง หากไม่มีความอดทน ไม่แก้ไข ปรับปรุง อาจทำให้รักจบลงในระยะเวลาสั้นๆ ได้ ดังนั้นหากอยากให้ความสัมพันธ์รักของคุณหวานชื่นมื่น 10 ไอเดียต่อไปนี้ช่วยคุณได้ ทั้งยังทำให้ความรักของคุณยืนยาวขึ้นด้วย   1. อย่าเก็บปัญหาเอาไว้คนเดียว เมื่อมีปัญหาหรือมีคำถามอย่ากลัวที่จะพูดกับคู่รักของคุณ แต่อย่าเพิ่งพูดอะไรออกไปถ้าคุณยังไม่แน่ใจ ลองให้เวลากับตัวเองในการคิดทบทวน แล้วดูว่ายังรู้สึกเหมือนเดิมหรือเปล่า หากยังรู้สึกเช่นเดิม คุณจะรู้ว่าความรู้สึกเชิงลบนั้นจะมาและหายไปเองโดยไม่มีเหตุผล   2. เผชิญหน้ากับความกลัวและความกังวล เวลาเกิดปัญหาในความสัมพันธ์รัก อย่าแก้ปัญหาด้วยการโทรคุย หรือพิมพ์คุยกันในแชท และควรจะอยู่ในห้องเดียวกันแล้วปรับความเข้าใจกับด้วยเหตุผล   3. เรียนรู้และทำความเข้าใจพฤติกรรมที่ขัดแย้งของกันและกัน เมื่อความสัมพันธ์อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดหรือมีความขัดแย้งกัน ให้คุณพูดถึงความรู้สึกของตัวเองออกมาให้อีกฝ่ายรับรู้เพื่อที่เขาจะเข้าใจพฤติกรรมของคุณ คู่รักควรจะได้รู้ว่าอีกฝ่ายมีพฤติกรรมอย่างไรเมื่ออารมณ์ไม่ดี การทำความเข้าใจจะทำให้ทั้งสองฝ่ายหาวิธีแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น   4. มีความคิดสร้างสรรค์ ความสัมพันธ์ของคุณจะเต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและความโรแมนติก เมื่อคุณทำอะไรมากกว่าการโทรคุย แชทคุย ส่งจดหมายหรืออีเมล ยกตัวอย่างเช่นกัน การให้ของขวัญกันแม้จะไม่ใช่วันสำคัญก็ตาม หรือการออกไปผ่อนคลายด้วยกัน   5. เคารพพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน อย่าคาดหวังหรือบังคับให้คู่รักของคุณตอบทุกข้อความที่คุณส่งไปทันที แต่คุณต้องเข้าใจว่าแต่ละคนย่อมมีหน้าที่ มีความฝัน และมีงานอดิเรกเป็นของตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา คุณควรจะปรึกษาว่ากันว่าจะคุยออนไลน์กันบ่อยแค่ไหน และเวลาไหนที่จะสามารถตอบข้อความของกันและกันได้   6. เรียนรู้ที่จะมีความสุขเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเขา…

  • อดีตวิศวกรค้นพบวิธีการทำ “สระทราย” ที่มีลักษณะเหมือนของเหลวและกระเพื่อมได้ด้วย

    อดีตวิศวกรค้นพบวิธีการทำ “สระทราย” ที่มีลักษณะเหมือนของเหลวและกระเพื่อมได้ด้วย

    ตามธรรมชาติแล้วทรายเกิดจากหินที่ถูกย่อยเป็นเม็ดเล็กๆ ที่เราสามารถพบได้ทั่วไปตามชายหาดนั่นแหละ นั่นหมายความว่ามันไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่ Mark Rober อดีตวิศวกรของนาซ่าได้ค้นพบวิธีหาความสุขจากทรายด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่นเดียวกับที่ Bill Nye ทำ นั่นก็คือการทำให้ทรายมีลักษณะเหมือนน้ำ     Mark ได้เติมน้ำเข้าไปในสระที่เต็มไปด้วยทราย จากนั้นก็เข้าไปว่ายเล่นอย่างสนุกสนานราวกับว่ามันเป็นสระว่ายน้ำยังไงอย่างงั้นแหละ แน่นอนว่าหลายคนเห็นแล้วถึงกับอึ้ง และอาจสงสัยว่าทรายมันทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ? แล้วมันทำยังไงอะ? ถ้าอยากทำบ้างจะทำได้มั้ย?     คำตอบคือทุกคนสามารถทำเองได้ เพราะ Mark ได้สอนขั้นตอนการทำทรายที่เหมือนน้ำพร้อมอธิบายแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกคนได้สนุกไปกับสระทราย     ในคลิปจะเห็น Mark พูดถึงสิ่งที่เรียกว่าฟลูอิไดซ์เบด (Fluidized Beds) ซึ่งเป็นการทำแห้ง (Dehydration) ที่ใช้ลมร้อนเป่าผ่านชั้นวัสดุ ทำให้วัสดุลอยตัวเป็นอิสระ เกิดการคลุกเคล้าและสัมผัสกับลมร้อนอย่างสม่ำเสมอ มีอัตราการถ่ายเทความร้อนและมวลสูง     จากนั้น Mark ใช้อากาศในการทำให้ทรายกระเพื่อมเหมือนน้ำ โดยการเป่าอากาศเข้าไปใต้ก้นสระที่บรรจุทรายเพื่อเพิ่มช่องว่างระหว่างอนุภาคของทรายแต่ละเม็ด ลดแรงเสียดทานภายใน และเป็นการช่วยให้อนุภาคเคลื่อนที่อย่างอิสระเหมือนของเหลว     เขาอธิบายในวิดีโอว่า “นี่คือสิ่งที่ผมอยากทำมานานแล้ว แต่เมื่อลองค้นข้อมูลตามอินเตอร์เน็ต กลับไม่มีเว็บไหนบอกวิธีการทำให้เลย” “ดังนั้นผมจึงเริ่มด้วยการนำต้นแบบหลายๆ อย่างมาผสมผสานกัน เพื่อสร้างเครื่องทำแห้งขนาดใหญ่ แล้วผมก็สังเกตเห็นว่าแทนที่รูระบายอากาศขนาดใหญ่รูเดียว เราควรใช้รูเล็กๆ รูเพื่อการระบายอากาศที่ดีกว่า”    …

  • Selena ร่ำไห้กลางงาน Billboard พร้อมยกรางวัล “ผู้หญิงแห่งปี” แก่เพื่อนผู้เสียสละไตให้เธอ

    Selena ร่ำไห้กลางงาน Billboard พร้อมยกรางวัล “ผู้หญิงแห่งปี” แก่เพื่อนผู้เสียสละไตให้เธอ

    Selena Gomez จัดได้ว่าเป็นนักร้องสาวสุดฮอตขวัญใจแฟนเพลงทั่วโลกเลยก็ว่าได้ และล่าสุดเธอก็ได้ทำให้บรรดาแฟนๆ รู้สึกประทับใจอีกครั้ง เมื่อ Selena เพิ่งจะได้รับรางวัล “ผู้หญิงแห่งปี” Woman of the year จากนิตยสาร Billboard แต่ทว่าเธอกลับเต็มใจที่จะมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ให้กับ Frankia Raisa เพื่อนสาวแสนดีของเธอนั่นเอง     วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Selena Gomez ถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมากลางงาน Billboard ในนครลอสแอนเจลิส เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา ขณะที่เธอได้ออกมาเผยความในใจเกี่ยวกับเพื่อนที่ดีที่สุดอย่าง Francia Raisa ผู้ยอมเสียสละไตข้างหนึ่งให้กับ Selena หลังจากที่ได้ประสบปัญหาสุขภาพด้วยโรค Lupus หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง จนทำให้เธอต้องพักงานชั่วคราว และต้องอยู่ในระหว่างการรักษาตัวให้ดีขึ้น     ทางด้าน Selena นักร้องสาววัย 25 ปีก็ได้ออกมาเผยความรู้สึกทั้งน้ำตาว่า “ฉันคิดว่า Francia ควรจะได้รับรางวัลนี้ เธอช่วยชีวิตฉันเอาไว้…

  • คุณครูพ่อหม้ายไม่มีเงินพอซื้อของขวัญให้ลูกชาย นักเรียนเลยรวบรวมเงินซื้อให้ซะเลย

    คุณครูพ่อหม้ายไม่มีเงินพอซื้อของขวัญให้ลูกชาย นักเรียนเลยรวบรวมเงินซื้อให้ซะเลย

    การช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากเป็นสิ่งที่ดีและน่ายกย่อง มันแสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยนและความเป็นมนุษย์ในตัวเรา โดยปกติแล้วความช่วยเหลือมักจะมาจากผู้ที่มีวัยวุฒิหรือคุณวุฒิมากกว่า แต่จริงๆ แล้วใครๆ ก็สามารถยื่นมือให้ความช่วยเหลือคนอื่นได้ เหมือนเรื่องของ Nathan Neidigk ผู้เป็นครูสอนวิชาแคลคูลัสเบื้องต้น และวิชาเตรียมตัวสู่แคลคูลัสระดับมหาวิทยาลัย ณ โรงเรียน Volcano Vista High School ในเมืองอัลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา     ภรรยาของเขาเสียชีวิตไปเมื่อตอนคลอดลูก เขาจึงต้องเลี้ยงดูลูกชายวัย 3 ขวบที่ชื่อ Mikey เพียงลำพัง นอกจากนี้ลูกชายของเขาก็เป็นโรคลูคีเมียอยู่ด้วย Nathan เคยบอกให้นักเรียนในชั้นเรียนแคลคูลัสของเขาฟังว่าเขาคงไม่มีเงินซื้อของขวัญให้ลูกชายมากนัก เพราะการรักษาโรคลูคิเมียต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก เมื่อได้ยินดังนั้น นักเรียนทุกคนจึงตัดสินใจรวมเงินกันเพื่อซื้อของขวัญให้กับลูกชายของเขา เนื่องจากเขาเป็นครูที่รักและเคารพของทุกคนในชั้น     ไม่กี่วันต่อมา เหล่านักเรียนก็ได้เซอร์ไพรซ์คุณครูคนดังกล่าวด้วยการถือของขวัญกล่องใหญ่เข้ามา และบอกเขาว่านี่คือของขวัญที่พวกเขาทุกคนรวบรวมเงินซื้อมาเพื่อลูกชายของคุณครู แน่นอนว่าเมื่อเห็นดังนั้น คุณครูก็รู้สึกตกใจและซาบซึ้งใจไปพร้อมๆ กัน เขาตัดสินใจเปิดกล่องของขวัญดังกล่าวทันที     เขารู้สึกดีใจมากเมื่อรู้ว่าของขวัญข้างในคือเครื่องเล่นเกมส์ Nintendo Switch พร้อมแผ่นเกมส์ เขาบอกว่ามันจะช่วยให้ลูกชายกับเขาได้ฆ่าเวลาด้วยกันตอนที่ต้องเข้ารับการรักษาได้อย่างดี นอกจากนี้นักเรียนของเขายังพยายามช่วยหาค่ารักษาพยาบาลให้ Mikey ผ่านทางเพจรับบริจาค GoFundMe อีกทางหนึ่งด้วย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านักเรียนเหล่านี้มีน้ำใจที่จะช่วยเหลือคนที่ลำบากจริงๆ แม้ตนเองจะยังไม่อยู่ในวัยทำงานหาเงินก็ตาม   Mikey ลูกชายของคุณครู   คลิปตอนเขาได้รับของขวัญในห้องเรียน  …

  • ชายอิตาลีจับหญิงสาวขังเป็นทาสเซ็กส์นานสิบปีไว้ในชั้นใต้ดินสุดโสโครก สุดท้ายตำรวจช่วยไว้ได้

    ชายอิตาลีจับหญิงสาวขังเป็นทาสเซ็กส์นานสิบปีไว้ในชั้นใต้ดินสุดโสโครก สุดท้ายตำรวจช่วยไว้ได้

    หากเรามองดูชุมชนหลายๆ แห่งดู เรามักจะเห็นบรรยากาศที่เป็นมิตรและเงียบสงบ แต่จริงๆ แล้วในบางที่ก็อาจจะไม่ได้เป็นเหมือนกับที่เราเห็นจากภายนอก อาจจะมีเรื่องราวน่ากลัวชวนขนลุกซุกซ่อนอยู่ก็เป็นได้ อย่างเช่นในหมู่บ้าน Gizzeria ในแถบตอนใต้ของประเทศอิตาลี ตำรวจได้จับชายอายุ 52 ปีคนหนึ่งในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทารุณ และข่มขืนหญิงชาวโรมาเนียคนหนึ่งเป็นเวลานาน 10 ปี จนเธอตั้งครรภ์และมีลูกถึง 2 คน     ชายคนนี้ชื่อว่า Aloisio Francesco Rosario Giordano เขาเคยก่อคดีทำนองนี้กับ Maria Rosa มาแล้วครั้งหนึ่งในปีพ.ศ. 2538 และถูกจำคุกเป็นเวลา 5 ปี หลังจากนั้นเขาจึงถูกปล่อยตัวในปีพ.ศ. 2542 การกักขังครั้งนี้คงไม่มีใครรู้หากว่าตำรวจไม่บังเอิญเรียกตรวจรถสภาพเก่าของนาย Alonsio แล้วบังเอิญเหลือบไปเห็นเด็กชายอายุ 9 ปี สภาพมอมแมมที่เบาะหลังของรถ หลังจากเห็นสภาพของเด็กชายแล้วตำรวจจึงขอตรวจค้นบ้านของเขาและพบแม่ของเด็ก   ภาพทางเข้าห้องใต้ดินที่กักขังหญิงสาวไว้   เมื่อไปตรวจที่บ้านจึงพบว่ามีหญิงสาวอายุ 29 ปี คนหนึ่งถูกขังไว้ในห้องใต้ดินกับลูกสาวอายุ 3 ปี อีกหนึ่งคน หลังจากสอบถามแล้วพบว่าหญิงสาวถูกขังอยู่ในนี้มา 10 ปี และในระหว่างนั้นก็ถูกทารุณและข่มขืนมาตลอด เขายังบังคับให้เธอคลอดบุตรสองคนในห้องนี้ด้วย…

  • Mary Ellen เด็กสาวผู้ถูกกดขี่ จนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดกฎหมายการคุ้มครองเด็กจากครอบครัว

    Mary Ellen เด็กสาวผู้ถูกกดขี่ จนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดกฎหมายการคุ้มครองเด็กจากครอบครัว

    กฎหมายบ้านเมืองที่บังคับใช้กันในทุกวันนี้ย่อมมีที่มาที่ไปเสมอ บางกฎตั้งขึ้นเพื่อจัดระเบียบในสังคม ในขณะที่บางกฎตั้งขึ้นหลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว นั่นก็เพื่อไม่ได้เกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำอีก เหมือนอย่างกฎหมายการคุ้มครองเด็กจากการทารุณกรรมที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ถูกตั้งขึ้นและบังคับใช้หลังจากที่มีการกดขี่เด็กหญิงคนหนึ่ง     นี่คือคำบอกเล่าจาก Mary Ellen Wilson เด็กหญิงผู้ถูกกดขี่ “ฉันชื่อ Mary Ellen Wilson ฉันไม่รู้ว่าตัวเองอายุเท่าไหร่ ฉันโดนแม่ตีและเฆี่ยนด้วยแส้เกือบทุกวัน ฉันไม่เคยได้รับการจูบด้วยความรัก” “ฉันไม่เคยได้รับอนุญาตให้เล่นกับเด็กคนอื่นๆ ฉันไม่กล้าพูดกับใคร เพราะถ้าฉันทำ ฉันจะโดนเฆี่ยน…เมื่อแม่ออกไปข้างนอก เธอจะล็อกประตูขังฉันไว้ในห้อง ฉันจึงไม่มีโอกาสได้ออกไปข้างนอกเลย…” ไม่ใช่แค่ Mary Ellen คนเดียว แต่มีเด็กๆ นับไม่ถ้วนที่ถูกทารุณกรรมเช่นเดียวกับเธอ และเรื่องราวของพวกเขามักจะถูกรายงานผ่านสื่อบ่อยมาก ตามข้อมูลจาก Army Community Service Family Advocacy Group ระบุว่า ทุกๆ วันจะมีเด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ซึ่งเป็นผลมาจากการทารุณกรรม โดยสามในสี่มีอายุต่ำกว่า 4 ขวบ     ย้อนกลับไปในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ไม่มีกฎหมายสำหรับคุ้มครองเด็กๆ จากการถูกทำร้ายร่างกายโดยพ่อแม่ของพวกเขา นั่นทำให้พ่อแม่มักจะลงโทษลูกตัวเองอย่างหนักเมื่อไม่เชื่อฟังคำสั่ง กรณีของ Mary Ellen เกิดขึ้นเมื่อปี 1874 และเรื่องราวของเธอนี้เองที่เปลี่ยนความเข้าใจของสาธารณชนเกี่ยวกับการล่วงละเมิดต่อเด็กอย่างสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้นสังคมยังให้ความร่วมมือในการป้องกันและยุติการทารุณกรรมต่อเด็กด้วย…

  • สองพี่น้องเขียนจดหมายส่งให้พ่อที่อยู่บนสวรรค์ ได้รับของขวัญตอบกลับมาจากนางฟ้าผู้แสนดี

    สองพี่น้องเขียนจดหมายส่งให้พ่อที่อยู่บนสวรรค์ ได้รับของขวัญตอบกลับมาจากนางฟ้าผู้แสนดี

    เด็กๆ หลายคนมักจะเรียกร้องความรักและความสนใจจากพ่อแม่ บางคนต้องอยู่ด้วยตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่พ่อแม่ไม่อยู่ก็จะงอแงทันที แต่สำหรับพี่น้อง Kollin และ Keegan Cass การได้เขียนจดหมายถึงพ่อผู้ล่วงลับและส่งขึ้นไปกับลูกโป่งหลากสีสัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว     คุณพ่อ Kyle เสียชีวิตด้วยมะเร็งสมอง ตอนที่ Kollin อายุ 5 ขวบ และ Keegan อายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น ทำให้ครอบครัวต้องอยู่กับความโศกเศร้าตลอดเวลา ที่น่าเศร้ากว่าคือเมื่อเด็กๆ เรียกหาพ่อ พวกเขาจะไม่ได้ยินเสียงตอบกลับเหมือนที่เคย     เพื่อช่วยให้ครอบครัวออกจากภาวะโศกเศร้าและมีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป พวกเขาจึงได้ทำกิจกรรมส่งจดหมายถึงพ่อที่อยู่บนสวรรค์ จดหมายที่เขียนโดยแม่และลูกน้อยทั้งสองคนถูกส่งขึ้นไปกับลูกโป่งที่ลอยขึ้นไปเหนือบ้านของพวกเขาใน Detroit รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา     แต่สิ่งที่ครอบครัวไม่รู้คือจดหมายของครอบครัว Cass ได้ลอยไปตกอยู่ที่บ้านของคู่หมั้น Heather และ Tim Wilcox และพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะทำบางอย่างให้กับเด็กทั้งสองคน Heather กับ Tim บอกว่า “เราพบจดหมายที่ส่งโดยครอบครัว Cass ตกอยู่ที่สนามหลังบ้าน เรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องติดต่อกับครอบครัวนี้ เพราะพวกเขากำลังอยู่ในภาวะเสียใจ”     หลังจากนั้นคู่รักก็ได้ติดต่อไปหา Samantha แม่ของเด็กๆ…

  • Anthony Senerchia Jr. ชายผู้ริเริ่มให้เกิด Ice Bucket Challenge เสียชีวิตแล้วในวัย 46 ปี

    Anthony Senerchia Jr. ชายผู้ริเริ่มให้เกิด Ice Bucket Challenge เสียชีวิตแล้วในวัย 46 ปี

    หลายคนคงจำกระแสไวรัลการกุศลที่เล่นกันอย่างสนุกเมื่อปี 2014 อย่าง ALS Ice Bucket Challenge กันได้ แต่ทว่าผู้เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดกระแสดังกล่าวขึ้นได้เสียชีวิตลงแล้วในวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยวัยเพียงแค่ 46 ปี… Anthony Senerchia Jr ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเขาป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่สามารถใช้ร่างกายส่วนบนใดๆ ได้เลยทั้งการจับช้อน การเคี้ยวอาหารหรือแม้กระทั่งการเอ่ยวาจา เขาได้รับการป้อนอาหารผ่านทางสายยาง และต้องมีภรรยาเคียงข้างเขาในทุกก้าวของชีวิต     ในปี 2014 เขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังให้ใครหลายคนทำกิจกรรม Ice Bucket ซึ่งนั่นได้ก่อให้เกิดเป็นกองทุนสำหรับการรักษาโรค ALS ที่เขาเป็นอยู่นี้ โดยกิจกรรม Ice Bucket Challenge นี้ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว มีคนดังร่วมกิจกรรมหลายคนทั้ง Mark Zuckerberg, Tom Cruise และ Robert Downey Jr. รวมถึงคนทั่วโลกหลายร้อยหลายพันคนเลยทีเดียว   Mark Zuckerberg ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน   จุดเริ่มต้นของโครงการนี้มาจากภรรยาของ Senerchia ที่ได้ชักชวนเพื่อนของเธอ 3 คนให้ทำกิจกรรมดังกล่าว หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็ได้ขยายออกไปเป็นวงกว้าง…

  • “กุ้งล็อบสเตอร์” เคยเกือบเป็นชนวนสงคราม เพราะเถียงกันว่ามัน “เดิน” หรือ “ว่าย”

    “กุ้งล็อบสเตอร์” เคยเกือบเป็นชนวนสงคราม เพราะเถียงกันว่ามัน “เดิน” หรือ “ว่าย”

    ทุกครั้งที่เราพูดถึง ‘ล็อบสเตอร์’ เราจะนึกถึงกุ้งตัวโตๆ เนื้อแน่นๆ จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดแสนอร่อย แต่เราเคยรู้กันไหมว่าเจ้ากุ้งก้ามโตนี้มันเคยเกือบเป็นต้นเหตุของสงครามระหว่างสองประเทศ ด้วยเหตุที่ว่ามันว่ายน้ำหรือมันคลานกันแน่!? เรื่องราวดังกล่าวนั้นต้องย้อมกลับไปในปี 1961 โดยชาวประมงของฝรั่งเศสได้ค้นพบเส้นทางการตกล็อบสเตอร์จำนวนมากบริเวณน่านน้ำของประเทศบราซิล ซึ่งบริเวณดังกล่าวสามารถสร้างกำไรให้กับชาวประมงฝรั่งเศสได้ดีมากๆ ด้วยความที่น้ำตื้นและจับง่าย ถึงขนาดที่เกิดเป็นกระแส จนต้องพาพวกมาตั้งถิ่นฐานกันเลยทีเดียว     ทว่าต่อมาหลังจากชาวประมงบราซิลได้รู้เรื่องเข้า ว่ามีชาวประมงฝรั่งเศสมาตั้งรกรากจับล็อบสเตอร์บริเวณใกล้กับน่านน้ำบราซิล ชาวประมงบราซิลจึงแจ้งไปยังทหารเรือให้ไปช่วยตรวจสอบให้หน่อย ซึ่งพบกับขบวนการค้าล็อบสเตอร์ฝรั่งเศสที่นั่นจริงๆ ด้วยเหตุนี้ทางการบราซิลจึงแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของพื้นที่นั้น ด้วยการแจ้งไปยังฝรั่งเศสว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์มาจับสัตว์ที่ ‘เดิน’ อยู่บนพื้นในน่านน้ำของบราซิล ซึ่งก็คือล็อบสเตอร์นั่นเองและพวกเขายังบอกว่าพวกมันเป็นของบราซิลเพียงผู้เดียว     งานนี้ฝรั่งเศสจึงยอมไม่ได้ที่อยู่ดีๆ พวกเขาก็มาถูกอ้างสิทธิ์ จึงโต้กับทางการบราซิลด้วยเหตุผลสุดคูลว่า “ล็อบสเตอร์มันว่ายน้ำต่างหาก มันไม่ได้เดินหรือคลานสักหน่อย ที่สำคัญมันควรจะเปิดกว้างให้กับทุกคนได้จับนะ” ด้านทางการบราซิลก็หัวร้อนสิครับงานนี้ ออกมาโต้ว่า “ล็อบสเตอร์มันคลานจริงๆ โว้ยย ไม่ได้ว่ายน้ำซะหน่อยที่สำคัญมันยังเดินอยู่ในน่านน้ำของเรา ฉะนั้นมันก็ต้องเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของชาวประมงบราซิล”      ปัญหา ‘ล็อบสเตอร์ว่ายน้ำหรือคลาน’  กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างรุนแรง แถมยังหนักข้อขึ้นไปอีกจนเรื่องบานปลายอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดที่ว่ามีเหตุการณ์หนึ่งที่ทางการบราซิลขอร้องให้เรือประมงฝรั่งเศสช่วยย้ายออกไป     แต่เรือประมงฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอม แถมยังเหิมเกริมไปขอให้ทางการส่งเรือเดสทรอยเยอร์มาจมเรือประมงบราซิลอีก แล้วพวกคุณคิดว่าบราซิลจะรับมือยังไง? แน่นอนว่าบราซิลไม่ยอมอยู่แล้ว แถมยังส่งเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือรบอีกจำนวนมากมารอบริเวณน่านน้ำดังกล่าว เรียกว่าใครเปิดก่อนก็ยาวแน่ๆ     ถึงจะฮึ่มๆ กันอย่างไร สองประเทศมหาอำนาจที่หัวกำลังลุกเป็นไฟเพราะล็อบสเตอร์แสนอร่อย…

  • 8 ช่องยูทูบสุดแปลก ที่ดูแล้วอาจจะหลอนประสาทคุณไปเป็นวัน แต่มันกลับฮิตอย่างเหลือเชื่อ!!

    8 ช่องยูทูบสุดแปลก ที่ดูแล้วอาจจะหลอนประสาทคุณไปเป็นวัน แต่มันกลับฮิตอย่างเหลือเชื่อ!!

    เมื่อพูดถึงแพลตฟอร์มการรับชมคลิปในปัจจุบันนั้น ‘ยูทูบ’ ก็คงจะเป็นอะไรที่ทุกคนจะนึกถึงเป็นอันดับแรกอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะภายในยูทูบนั้นมีช่องสนุกๆ ดีๆ มากมายให้เราได้เลือกดูกัน ยิ่งไปกว่านั้นช่องยูทูบฮิตๆ ปกติก็มักจะเป็นคลิปที่มีคุณภาพเยี่ยมเนื้อหาดีดูสนุกและเพลิน แต่เชื่อไหมว่ามันยังมีช่องยูทูบสุดแปลกที่มีเนื้อหาสุดแหวกไปจนถึงขั้นหลอนๆ อยู่ด้วย ที่สำคัญมันก็ฮิตไม่เบาเลยล่ะ… ถ้าใครคิดตามไม่ออก งั้นลองมาดู 8 ช่องตัวอย่างที่รวมคลิปแปลกๆ และฮิตกันดีกว่า   cyriak สำหรับยูทูบช่องนี้เป็นของนักทำอนิเมชั่นคนหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นคนที่มีความสามารถมากๆ เพียงแต่ว่าเมื่อไม่ใช่งานหลักแล้ว งานยูทูบของเขาก็จะกลายเป็นผลงานสุดแปลกที่มีคนดูมากรวมๆ กันถึง 50 ล้านครั้งเลยล่ะ แต่จะแปลกยังไงลองชมดูเดี๋ยวก็รู้!!   Larry Carlson ในช่องนี้คุณจะได้พบกับงานภาพสุดล้ำ ที่ดูแล้วเหมือนคุณกำลังจะถูกล้างสมองด้วยภาพวูบวาบ แต่กลับกันพอปิดตาแล้วฟังเสียงมันก็หลอนไม่แพ้กัน งานนี้ทำใจให้ว่างๆ หรือจะ Get High หน่อยๆ แล้วค่อยมาเสพน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด   EVERYTHINGlSTERRIBLE ช่องสุดแปลกที่ทำการตัดต่อคลิปจากรายการทีวีในยุคก่อนๆ มาทำให้ดูแปลกกับมุกตลกแห้งๆ ซึ่งถ้าใครที่ชอบอะไรแบบนี้มันจะเป็นความบันเทิงที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะหาเจอ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่เข้าใจในมุกฝรั่งและไม่ชอบความแปลก ช่องนี้ถือว่าไม่เหมาะกับคุณ…   The Uncharted Zone ถ้าคุณไม่รู้จะเสพดนตรีหรือเบื่อจะดู MV แบบเก่าๆ ช่อง The Uncharted…

  • รูปหล่อโฉมใหม่ของ ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’ ที่คราวนี้เหมือนจริงกว่าเดิมเยอะ!!

    รูปหล่อโฉมใหม่ของ ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’ ที่คราวนี้เหมือนจริงกว่าเดิมเยอะ!!

    เมื่อประมาณปีที่แล้ว ได้มีข่าวการหล่อรูปปั้นของ Cristiano Ronaldo ยอดนักฟุตบอลชาวโปรตุเกส ในสนามบินบนเกาะมาเดรา ประเทศโปรตุเกส เนื่องจากเขาได้นำเงินมาพัฒนาบ้านเกิดจนกลายมาเป็นขวัญใจประจำคนท้องถิ่น แต่ทว่ารูปหล่ออันนั้นกลับกลายมาเป็นรูปที่สุดฮาบนโลกอินเทอร์เน็ต เพราะว่ามันดูเหมือน Ronaldo ที่ใบหน้าบิดเบี้ยวไปหน่อยและมีใบหน้าที่เปื้อนยิ้มแบบเห่ยๆ   เหมือนป่ะล่ะ 5555+   มาในตอนนี้เขาก็ได้มีรูปหล่อขึ้นมาใหม่อีกแล้ว โดยงานครั้งนี้ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาโดย Jose Antonio Navarro ช่างปั้นวัย 52 ปีที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความเก่งกาจของกองหน้าชาวโปรตุกีสรายนี้ โดยรูปหล่ออันใหม่นี้จะตั้งอยู่หน้าสนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว สนามเหย้าของทีมเรอัล มาดริด ต้นสโมสรสังกัดของเขา ซึ่งข้อมูลโดยทั่วไปของรูปหล่อก็คือทำมาจากทองแดง มีความสูง 90 เซนติเมตรและหนักประมาณ 60 กิโลกรัม   ไมยิ้มงี้อ่ะ จารย์โด้   สำหรับหน้าตาของเขาจะฮาเหมือนกับรูปหล่อในสนามบินที่บ้านของเขาไหม อันนี้เหมียวต้องขออุบไว้ก่อน แล้วให้เพื่อนๆ มาตัดสินกันเองละกันว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน   โอ้โห ลุคใหม่มาอย่างเข้ม   กลับมาเท่เหมือนตัวจริงแล้ว   แฟนบอลจากทั่วโลกบอกว่ารูปหล่ออันนี้ เฟี้ยวฟ้าวกว่าเดิมเยอะ   เพื่อนๆ ชอบโดโด้ในสไตล์ไหนมากกว่ากันนะ…   เพื่อนๆ ว่าไงกันบ้างครับ ขอเสียงแฟนโดโด้ซังหน่อยเร็วว  …

  • Justin Trudeau หลั่งน้ำตาขอโทษกลุ่มข้าราชการ LGBT หลังเคยได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม…

    Justin Trudeau หลั่งน้ำตาขอโทษกลุ่มข้าราชการ LGBT หลังเคยได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม…

    ในปัจจุบันกลุ่มคนรักร่วมเพศนั้นเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น แต่หากมองย้อนกลับไปในอดีตแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ถูกกดขี่จากสังคมรอบตัวอย่างมาก ทำให้พวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศแคนาดาได้เล็งเห็นถึงความน่าละอายใจที่เราเคยปฏิบัติไม่ดีต่อพวกเขา จึงได้ออกมาทำบางสิ่งเพื่อชดเชยความผิดนี้f     เนื่องจากในช่วงทศวรรษที่ 1950 – 1990 รัฐบาลของแคนาดามีนโยบายกวาดล้างข้าราชการและทหารที่เป็นกลุ่มคนรักร่วมเพศ โดยทำการไล่ออกหรือบังคับให้พวกเขาต้องลาออกจากงาน ด้วยข้ออ้างว่าพวกเขาเป็นบุคคลมีปัญหาทางจิตและผิดเพศ กลุ่มคนที่เป็นผู้เสียหายจากการกวาดล้างของรัฐบาลในเวลานั้น รวมแล้วมีจำนวนถึงหลายพันคน พวกเขาต้องขาดรายได้ที่ควรจะมี หรือไม่มีสิทธิ์ทำงานที่พวกเขาต้องการ     ในวันที่ 28 พฤศจิกายน นายกคนปัจจุบันคือนาย Justin Trudeau จึงได้ออกมากล่าวขอโทษต่อกลุ่มคนรักร่วมเพศ ที่รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ได้ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไม่เป็นธรรม เขากล่าวต่อหน้าสื่อทั้งน้ำตาว่า “ที่ผมมาวันนี้ เพราะต้องการมาขอโทษต่อความผิดอันน่าละอายใจที่เราเคยทำต่อพวกคุณ พวกเราทำผิดไปแล้ว พวกเราขอโทษด้วยและอยากให้พวกคุณรู้ว่าเราเสียใจที่ทำแบบนั้น”     “พวกเราทุกคนมีล้วนความผิดที่ทำให้พวกคุณถูกเลือกปฏิบัติ และก็เป็นความผิดของเราทุกคนเช่นกันที่พวกคุณเพิ่งได้รับคำขอโทษจากเราเอาป่านนี้ แม้ว่าหลายคนจะไม่มีชีวิตอยู่ทันฟังมัน อย่างน้อยก็อยากให้รับรู้ว่าเรารู้สึกผิดจากเบื้องลึกของหัวใจ” “เราขอสัญญาว่าจะดำเนินการในทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดไปให้ถูกต้อง และขอให้พวกคุณเชื่อใจเรา แล้วเราจะทำให้พูดคุณแน่ใจเองว่าจะไม่มีระบบผิดๆ นี้อยู่อีกต่อไป กลุ่มคนรักร่วมเพศในแคนาดาจะไม่ถูกเหยียดหยามและกดขี่อีกแน่นอน”   คลิปการให้คำแถลงการณ์ขอโทษจาก Justin Trudeau   การกระทำของ Justin Trudeau ได้รับการชื่นชมและยกย่องจากประชาชนทั่วโลก ที่เขากล้ามาเป็นตัวแทนขอโทษในสิ่งที่ทุกคนไม่มีใครกล้าออกมาพูดอย่างเปิดเผยจนถึงวันนี้ เราทุกคนควรระลึกอยู่เสมอว่าทุกคนมีความแตกต่างกัน แต่คุณค่าของคนไม่ได้อยู่ที่การความชอบและรสนิยมตรงกัน แต่อยู่ที่คุณธรรมและจริยธรรมในจิตใจต่างหาก ที่มา: CBC, Fortune, postjung, Maclean’s

  • อดีตรัฐมนตรีไนจีเรียเผยด้านมืดขบวนการค้ามนุษย์ในแอฟริกัน ทั้งการขโมยอวัยวะและเผาทั้งเป็น

    อดีตรัฐมนตรีไนจีเรียเผยด้านมืดขบวนการค้ามนุษย์ในแอฟริกัน ทั้งการขโมยอวัยวะและเผาทั้งเป็น

    ในอดีตเรามักจะได้ยินเรื่องราวความโหดร้ายที่ปฏิบัติต่อชนชั้นที่เรียกว่า ‘ทาส’ แต่รู้หรือไม่ว่าในปัจจุบันแม้ว่าจะมีการเลิกทาสในประเทศต่างๆ แล้ว แต่ในบางประเทศก็มีการปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยความทารุณที่ไม่แตกต่างกันเลย Femi Fani-Kayode อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบินของประเทศไนจีเรีย ออกมาเปิดเผยว่ากว่า 75% ของอวัยวะที่ซื้อขายกันในแอฟริกาเหนือมาจากผู้อพยพและผู้ลี้ภัยในประเทศของเขา และหลังจากที่คนเหล่านั้นถูกควักอวัยวะออกจนหมดแล้วแล้วก็จะถูกนำไปเผาทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน   Femi Fani-Kayode อดีตรัฐมนตรีของประเทศไนจีเรีย   “การเผาทั้งเป็น คือสิ่งที่ชาวลิเบียทำกับชาวแอฟริกาใต้สะฮารา นอกจากนี้พวกเขาบางส่วนยังถูกขายไปเป็นแรงงานทาส ซึ่งบางคนก็ถูกฆ่าเพื่อเอาอวัยวะไปขาย บางคนก็ต้องใช้แรงงานไปจนกว่าจะตาย” Femi กล่าว Fani-Kayode เขียนเรื่องราวเหล่านี้ในทวิตเตอร์ของเขา โดยเขาได้พูดถึงเหตุการณ์การโค่นล้มอำนาจประธานาธิบดี  Muammar Gaddafi  รวมถึงการกล่าวโจมตีประธานาธิบดี Muhammadu Buhari ของประเทศไนจีเรีย ที่ทำเป็นนิ่งเฉยเกี่ยวกับเรื่องนี้   ภาพการอพยพผู้ลี้ภัยบางส่วนจากประเทศลิเบียที่ได้รับการช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป   และเรื่องน่าตกใจอีกอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับการซื้อขายผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่เป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวก็คือ ชีวิตของพวกเขาหนึ่งคนมีค่าแค่เพียง 665 ปอนด์(ประมาณ 29,000 บาท) เท่านั้นเอง ประเทศลิเบียกลายเป็นดั่งขุมนรกบนดิน หลังจากที่ประธานาธิบดี  Gaddafi ถูกโค่นล้มไปเมื่อปี 2011 จนทำให้ประชาชนในประเทศต่างหาทางอพยพไปยังประเทศอื่นเพื่อหาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า บางคนยังต้องตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์อยู่   ในตอนนี้ยังมีผู้อพยพอีกมากในประเทศลิเบีย และส่วนมากมาจากตอนใต้ของประเทศแอฟริกาที่ยังรอคอยความหวังจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่สิ่งแรกที่พวกเขาอยากได้มากที่สุดในตอนนี้ ก็คือการออกจากประเทศลิเบียและไปตั้งต้นใหม่ที่อีกฟากหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน   ที่มา: dailymail

  • มหาวิทยาลัยในตุรกี เปิดคอร์สสอนวิธีการรับมือเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ‘มนุษย์ต่างดาว’

    มหาวิทยาลัยในตุรกี เปิดคอร์สสอนวิธีการรับมือเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ‘มนุษย์ต่างดาว’

    ถ้าทฤษฎีเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวมันเป็นจริง และวันหนึ่งมันพวกมนุษย์ต่างดาวเดินทางมาโลกจริงๆ พวกเราจะรับมือเหตุการณ์เหล่านั้นได้อย่างไร แต่ถ้าคุณเป็นคนที่รู้สึกว่า เฮ้ย!! ไม่ได้แล้วเราต้องหาทางรับมือกับมัน ทว่าไม่รู้จะรับมือยังไง Akdeniz University ในประเทศตุรกีคือที่ของคุณ เพราะที่นี่เขาเปิดคอร์สสอนวิธีการรับมือมนุษย์ต่างดาวแล้วนะ!!     คอร์สเรียนดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า “Ufology and Exopolitics” ซึ่งจะมีการสอนเกี่ยวกับวิธีการรับมืออย่างถูกต้องเมื่อต้องเจอกับผู้มาเยือนจากนอกโลก โดยอาจารย์ Erhan Kolbaşi ที่บอกว่าตัวเขาได้เจอกับมนุษย์ต่างดาวมาแล้วหลายครั้ง Erhan ได้พูดถึงคอร์สเรียนของเขาว่า “พวกเราเชื่อว่าตัวแทนจากโลกและอารยธรรมนอกโลก จะมีการติดต่ออย่างเป็นทางการแน่ๆ ในเร็ววันนี้ ซึ่งมันอาจจะภายใน 10 หรือ 15 ปีก็เป็นได้และนั่นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์โลก”     นอกจากนี้ Erhan ยังกล่าวอ้างถึงองค์กรที่ชื่อ Majestic 12 หรือ MJ-12 ว่า องค์กรดังกล่าวนั้นเป็นองค์กรที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อปิดบังความลับต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นบนโลก และองค์กรดังกล่าวก็ถูกตั้งมานานแล้วโดยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Harry Truman ซึ่งองค์กรดังกล่าวนั้นเป็นองค์กรที่คาดว่าจะมีอยู่จริงๆ เพราะ MJ-12 เคยถูกค้นในเอกสารต่างๆ โดย FBI สองนายมาก่อน รวมถึงเวลามีการพูดถึงทฤษฎีเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวองค์กรนี้ก็มักจะมีชื่อมาเกี่ยวข้องเสมอ     อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวจะจริงหรือไม่นั้นเราไม่ทราบได้ แต่ถ้าใครที่สนใจอยากจะหาวิธีรับมือกับเพื่อนจากนอกโลกแบบจริงจังก็ลองสมัครไปเข้าเรียนที่มหาลัยดังกล่าวดูได้นะ…  …

  • พยายามขั้นสุด!! สองหนุ่มพบกระเป๋าตังอายุกว่า 70 ปีและพยายามจะคืนให้กับเจ้าของให้ได้

    พยายามขั้นสุด!! สองหนุ่มพบกระเป๋าตังอายุกว่า 70 ปีและพยายามจะคืนให้กับเจ้าของให้ได้

    เวลากระเป๋าเงินหายช่างเป็นอะไรที่ดูจะโลกแตกมาก เพราะนอกจากเราจะสูญเสียเงินในกระเป๋าไปแล้ว เรายังเสียหลักฐานสำคัญๆ อย่างบัตรประชาชนหรือใบขับขี่ไปอีก ซึ่ง Larry Sloan ก็ได้เข้าใจถึงปัญหานี้เป็นอย่างดี และพยายามจะตามหาเจ้าของกระเป๋าตังที่เขาเจอ แม้ว่าจะช้าไป 71 ปีก็ตาม Larry Sloan เป็นเจ้าของละครชื่อว่า Talent Factory ในรัฐไอโอว่า ได้เจอกระเป๋าตังใบหนึ่งระหว่างที่เขากำลังสำรวจพื้นที่เพื่อจะปรับปรุงโรงละครดังกล่าว โดยเขาพบกระเป๋าใบนี้บนชั้นสามของโรงละครในสภาพที่โทรมสุดๆ   เขาและเพื่อนได้ถือวิสาสะเปิดดูสิ่งของภายใน เพื่อจะตามหาเจ้าของแล้วคืนให้คนนั้นให้ได้   สิ่งที่เขาค้นพบสิ่งแรกแทบจะทำให้เขาช็อก เพราะว่าเขาพบแสตมป์แลกอาหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเขาและเพื่อนแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าจะมีโอกาสได้เห็นของหายากเช่นนี้ และนั่นทำให้พวกเขาดำเนินการค้นหาของต่อไป เพราะเชื่อว่าต้องมีของแปลกๆ ภายในกระเป๋าใบนี้อีกแน่นอน     ของชิ้นต่อไปที่สองหนุ่มคนนี้ได้พบก็คือ การ์ดลูกเสือที่มีสภาพไม่สมบูรณ์นัก ซึ่งหากดูจากรูปภาพคงจะสันนิษฐานได้ไม่ยากว่า มันไม่ใช่รูปภาพที่ใช้กันในปัจจุบันแน่นอน มันอาจจะมาจากยุคก่อนในสมัยที่เจ้าของยังเป็นลูกเสืออยู่ก็เป็นได้   นอกจากนี้เมื่อค้นไปเรื่อยๆ เขาก็พบรูปภาพเก่าของครอบครัวหนึ่งที่มองเห็นรูปได้ไม่ชัดนัก และรูปภาพนี้ได้ยิ่งเพิ่มความสงสัยให้กับพวกเขายิ่งขึ้นไปอีกว่าเจ้าของกระเป๋าเงินใบนี้เป็นใครกันแน่ ซึ่งของชิ้นต่อไปที่พวกเขาได้พบจะสามารถไขข้อข้องใจให้กับพวกเขาได้ในที่สุด     และของสิ่งนั้นก็คือปฏิทินแบบพกพาที่ดูเลือนลาง แต่ก็ยังพอสามารถจะเห็นปีที่อยู่บนปฏิทินใบนี้ ซึ่งปรากฏว่ามันปีที่ปรากฏบนปฏิทินใบนั้นเป็นปี 1944!! นั่นจึงหมายความว่ากระเป๋าเงินใบนี้มีอายุมากกว่า 70 ปีเลยทีเดียว และเจ้าของกระเป๋าใบนี้อาจจะทำหายตั้งแต่สมัยเป็นเด็กอยู่ก็เป็นได้     ตอนนี้ Larry และเพื่อนของเขาก็ได้รู้อายุของกระเป๋าตังใบนี้แล้ว…

  • สาวญี่ปุ่นโดนจับหลังขโมยอนิเมะมูลค่า 30,000 บาท ของแฟนหนุ่มที่อาศัยอยู่ด้วยกันไปขาย

    สาวญี่ปุ่นโดนจับหลังขโมยอนิเมะมูลค่า 30,000 บาท ของแฟนหนุ่มที่อาศัยอยู่ด้วยกันไปขาย

    งานอดิเรกของคนเรานั้นก็มีอยู่หลายอย่าง อาทิ เล่นดนตรี ดูภาพยนตร์ ออกกำลังกาย หรือกระทั่งสะสมสิ่งของต่างๆซึ่งก็คงเป็นเรื่องที่ดีหากคนที่เราอยู่ด้วยเห็นคุณค่าในงานอดิเรกของเรา แต่คงไม่ใช่เห็นเป็นเงินเหมือนกับเหตุการณ์นี้ ที่มีสาวคนหนึ่งขโมยคอลเลคชั่นสะสมของแฟนหนุ่มไปขายแล้วได้เงินไปกว่า 30,000 บาท!!! เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ยูสเซอร์หนึ่งนามว่า @wkkazuya โดยเขาเล่าว่า เขาเป็นชายญี่ปุ่นอายุ 49 ปีที่คบหากับสาวอายุ 23 ปีคนหนึ่ง ในเริ่มแรกพวกเขาอาศัยอยู่คนละสถานที่กัน โดยเธอคนนั้นอาศัยอยู่ในหอพักของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ ทว่าในภายหลังเธอได้ลาออกจากงาน นั่นจึงเป็นเหตุให้เธอต้องออกจากหอพักนั้นด้วย และในที่สุดเธอจึงตัดสินใจย้ายมาอาศัยอยู่กับเขาในจังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น   ใจแทบสลาย หายไปไหนหว่า??   หนุ่มรายนี้ได้บอกว่า งานอดิเรกของเขาคือการสะสมโมเดลการ์ตูนต่างๆ เพราะว่าเขาเป็นแฟนอนิเมะตัวยง ดังนั้นที่บ้านของเขาจึงเต็มไปด้วยแผ่นการ์ตูนมากมายทั้งแบบ DVD, Blu-ray รวมไปถึงโมเดลหายากที่มีมูลค่าสูง และอยู่มาวันหนึ่งก็เกิดเรื่องที่ทำให้ใจเขาแทบสลายเพราะว่ามันมีสิ่งของบางอย่างหายไปจากชั้นสะสมของเขา ด้วยความที่บ้านของเขานั้นไม่มีใครสามารถเข้ามาได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน ชายคนดังกล่าวจึงได้สงสัยว่าต้องเป็นแฟนสาวของเขาแน่นอนที่อยู่เบื้องหลังการหายไปของชุดสะสมสุดรักของเขา เขาจึงได้ไปแจ้งตำรวจเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา   ทำไมถึงทำกับฉันด้ายย   โดยในตอนแรก สาวคนนี้อ้างว่าเพื่อนของเธอเป็นคนขโมยของเหล่านี้ไป แต่เมื่อสอบสวนไปเรื่อยๆ เธอก็ให้รับสารภาพว่า เธอเป็นคนขโมยคอลเลคชั่นเหล่านั้นเอง แล้วนำไปขายที่ร้านรับซื้อสินค้าอนิเมะมือสองที่ชื่อว่า Geo จนได้เงินไปกว่า 90,000 เยน(30,000 บาท) ซึ่งเธอได้ออกมาบอกในภายหลังว่า “ฉันไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว…

  • หนุ่มถูกจำคุก 12 ปี ฟรีๆ หลังถูกโยงกับคดีข่มขืน ในที่สุดก็ได้รับความยุติธรรมแล้ว

    หนุ่มถูกจำคุก 12 ปี ฟรีๆ หลังถูกโยงกับคดีข่มขืน ในที่สุดก็ได้รับความยุติธรรมแล้ว

    เมื่อปี 2005 ได้เกิดเหตุการณ์น่าสลดขึ้น เมื่อหญิงสาวที่ชื่อว่า Sally Ann Bowman อายุ 18 ปี ถูกฆ่าและข่มขืนที่เมืองโกสตาเดลซอล ประเทศสเปน Romano van der Dussen หนุ่มชาวดัตช์ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับตัวเขา แต่เขาก็ถูกจับและยัดข้อหา เป็นเหตุทำให้ต้องติดคุกเป็นเวลากว่า 12 ปี     ช่วงเวลาที่เขาอยู่ในคุกนั้น เขาถูกเพื่อนนักโทษในคุกทำร้ายร่างกายต่างๆ นานา อีกทั้งยังได้รับการปฏิบัติตัวอย่างกับไม่ใช่มนุษย์ นอกจากนั้นเขาก็ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าของลูกสาวหรือแม้กระทั่งออกไปร่วมงานศพของแม่เขาด้วยซ้ำ สาเหตุที่เขาโดนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจเนื่องมาจากข้อหาที่เขาได้รับนั่นก็คือฆ่าข่มขืน ซึ่งมันเป็นข้อหาที่ร้ายแรง ทำให้เหล่านักโทษทำตัวเป็นศาลเตี้ยคอยสั่งสอนเขาอยู่เสมอ เขาบอกว่าช่วงชีวิตที่อยู่ในคุกนั้นมันเหมือนกับว่าเขาอยู่ในนรก เวลาแต่ละนาทีนั้นช่างผ่านไปนานแสนนานเหลือเกิน     แต่ในที่สุดเมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ ทางตำรวจก็ได้จับกุมผู้ต้องหาที่แท้จริงได้นั่นก็คือนาย Mark Dexie เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏเชื่อมโยงกับนาย Mark ได้ตั้งแต่ปี 2007 แต่เนื่องจากระบบราชการที่ล่าช้าทำให้เขายังต้องติดคุกต่อไปจนกระทั่งมีการตัดสินให้เขาพ้นความผิดในอีก 9 ปี ต่อมา     ปัจจุบัน Van ได้ออกมาใช้ชีวิตภายนอกแล้ว แต่เขาก็ยังดำเนินการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ในสิ่งที่เขาไม่ได้รับมันมาตลอด 12 ปีที่ผ่านมา…

  • รัฐบาลญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ ‘สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น’ ทรงสละราชสมบัติเป็นที่แน่นอนแล้ว!!

    รัฐบาลญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ ‘สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น’ ทรงสละราชสมบัติเป็นที่แน่นอนแล้ว!!

    เมื่อเช้าในวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา จักรพรรดิอะกิฮิโตะแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศพร้อมที่จะสละราชสมบัติ และในตอนนี้ก็ได้รับการยินยอมจากนายกรัฐมันตรีแล้ว นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่น ได้ลงนามเห็นด้วยกับการกำหนดวันสละราชสมบัติของจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 30 เมษายนปี 2019 และนี่เป็นพระจักรพรรดิพระองค์แรก ที่ประกาศสละราชสมบัติในเวลาเกือบ 2 ศตวรรษในประเทศญี่ปุ่น โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1817 เลยทีเดียว     พระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ มีอาการประชวรรุมเร้าหลายอย่างทั้งการเคยเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ อีกทั้งยังต้องรักษาพระวรกายจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยพระองค์ได้ออกมากล่าวว่า ด้วยพระชนมายุที่มีมากขึ้น รวมถึงอาการประชวรต่างๆ ทำให้พระองค์กังวลว่าจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ดีเหมือนก่อน ด้วยข้อกฎหมายฉบับใหม่ในประเทศญี่ปุ่น ที่ออกมาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้พระจักรพรรดิสามารถสละราชสมบัติได้ และผู้ที่จะมารับช่วงต่อก็คือ เจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง     พระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ พร้อมด้วยอัครมเหสีมิชิโกะ ได้ใช้เวลาในชีวิตของพระองค์ไปกับปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนของประเทศ โดยได้นำประเทศผ่านวิกฤตการณ์ภัยพิบัติมาอย่างมากมาย ทำให้พระองค์เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนญี่ปุ่น และเมื่อพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะเสร็จสิ้นการสละราชสมบัติแล้ว ประเทศญี่ปุ่นก็จะสิ้นสุดรัชสมัยเฮเซ ซึ่งรัชสมัยนี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 1989 โดยเป็นวันที่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นครั้งแรก และชื่อของรัชสมัยใหม่หลังจากพิธีราชาภิเษกเจ้าชายนารุฮิโตะขึ้นเป็นกษัตริย์แล้ว ก็จะมีการถวายชื่อรัชสมัยใหม่อีกครั้งหนึ่ง   ที่มา: channelnewsasia

  • อย่างเป็นทางการ!! เซเลน่า โกเมซ ให้สัมภาษณ์ว่ากลับมาคบกับ จัสติน บีเบอร์ แล้ว

    อย่างเป็นทางการ!! เซเลน่า โกเมซ ให้สัมภาษณ์ว่ากลับมาคบกับ จัสติน บีเบอร์ แล้ว

    ความสัมพันธ์ระหว่าง Selena Gomez และ Justin Bieber ถือเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ถูกสื่อทั่วโลกจับตามองมากที่สุด เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก งงไปหมด อย่างที่รู้กันว่าทั้งสองเคยคบกันมาก่อนเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่แล้วทั้งคู่ได้เลิกรากันไป และต่างไปฝ่ายก็มีคนใหม่เป็นที่เรียบร้อย แต่เมื่อไม่นานนี้เอง มีสื่อตาดีแชะภาพ Selena กับ Justin ออกมาปั่นจักรยานเล่นกันกะหนุงกะหนิงเหมือนซีรีส์เกาหลี แบบนี้ก็ไม่รู้สินะว่าจะมีลุ้นรีเทิร์นหรือเปล่า!!!??     แค่นั้นยังไม่พอ ปาปารัสซี่ยังได้แอบแชะภาพอันสุดสวีทหวานของทั้งคู่ขณะกำลังจุ๊บปากกันแบบไม่แคร์สื่อ บอกเลยว่าเมื่อก่อนหวานยังไงตอนนี้ก็ยังหวานไม่มีเปลี่ยนแปลง     แม้ภาพจะฟ้องว่าทั้งสองคนกลับมาคบกันแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงการตัดสินจากภาพ โดยไม่ได้มีการยืนยันจากทั้งสองคนว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่ ล่าสุดวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Selena ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Billbord ว่า เธอกลับมาคบกับ Justin อีกครั้งจริงๆ ตามที่เป็นข่าว     นักร้องสาวบอกว่าเธอจบความสัมพันธ์กับ The Weeknd หลังจากที่คบหาดูใจกันมา 10 เดือน จนตอนนี้กลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกันไปแล้ว     เธอบอกว่า “ตอนนี้ฉันอายุ 25 ปีแล้ว ไม่ใช่ 18 19 หรือ 20 ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะรักคนที่มีความหมายกับชีวิตของฉัน ก่อนนี้เราอาจจะฝืนความรู้สึกกับคนที่ไม่ใช่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะหยุดเทคแคร์เขา หลังจากที่เลิกกันไปแล้ว”  …

  • พ่อสร้างเตียงนอนธีม ‘ยานอวกาศ’ จาก Star Wars ให้ลูก แหม่มันน่านอนซะจริงเชียว

    พ่อสร้างเตียงนอนธีม ‘ยานอวกาศ’ จาก Star Wars ให้ลูก แหม่มันน่านอนซะจริงเชียว

    Star Wars ถือเป็นหนังไซไฟที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกเรื่องหนึ่ง และแน่นอนว่าแฟนๆ ของหนังเรื่องนี้มีตั้งแต่รุ่นจิ๋วไปยันรุ่นใหญ่เลยทีเดียว แต่ ณ จุดจุดนี้คงไม่มีใครน่าอิจฉาไปกว่าเด็กน้อยสองคนนี้อีกแล้ว เพราะพ่อของพวกเขาได้สร้างเตียงนอนยานอวกาศให้ เหมือนหลุดมาจาก Star Wars ยังไงอย่างนั้น     Mike Ramsay ได้สร้างเตียงนอน Star Wars ให้กับลูกน้อยทั้งสองคน ที่ดูแล้วเหมือนกับยานอวกาศในเรื่องเลยทีเดียว แม้จะเป็นการสร้างเลียนแบบและสร้างให้เด็กอยู่ แต่ Mike ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อให้มันออกมาเหมือนมากที่สุด ที่สำคัญลูกๆ ก็จะได้นอนแบบฟินๆ ด้วย     ภายในของห้องนอน Star Wars มีเก้าอี้ 2 ตัว มีพวงมาลัย และแผงควบคุมเพื่อให้ลูกๆ รู้สึกเหมือนได้อยู่ในยานจริงๆ   .     นอกจากนี้ยังมีที่เก็บดาบเรืองแสงด้วย เพื่อให้เด็กน้อยใช้ในยามฉุกเฉินหรือเวลาที่ต้องต่อสู้กับเหล่ามารร้ายเมื่อยานลงจอด     ฟังแค่นี้ก็รู้สึกตื่นเต้นจนอยากไปสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วคิดดู เด็กๆ ทั้งสองคนที่ได้มีโอกาสใช้ห้องนอนยานอวกาศนี้จริงๆ คงจะแฮปปี้ทุกค่ำคืนเลยล่ะมั้ง     นอกจากสร้างขึ้นมาเพื่อทำฝันของลูกๆ…

  • สาวนำ ‘ชุดแต่งงานของแม่’ กลับมาทำให้มันมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งในวันครบรอบของเธอ

    สาวนำ ‘ชุดแต่งงานของแม่’ กลับมาทำให้มันมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งในวันครบรอบของเธอ

    ความชอบของคนเรามักจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย โดยเฉพาะในเรื่องของแฟชั่นที่มีสิ่งใหม่ๆ มาทดแทนอยู่เสมอ จึงทำให้หลายๆ อย่างดูเชยเมื่อเวลาผ่านไป แต่บางทีบางอย่างที่แม้จะเก่าและถูกมองว่าเชยไปแล้ว ก็ยังสามารถนำมาทำให้น่าสนใจอีกครั้งได้ และอยู่ร่วมกับแฟชั่นปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน     เช่นเดียวกับ Louise ที่นำเอาชุดแต่งงานของแม่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว กลับมาทำให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งในวันครบรอบแต่งงานของพ่อกับแม่     พ่อแม่ของ Louise แต่งงานกันเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปี 1977 กระทั่ง 40 ต่อมา ในวันที่ 24 มิถุนายน ปี 2017 เธอจึงตัดสินใจนำชุดของแม่มาถ่ายรูปอีกครั้ง เพื่อเป็นการฉลองวันครบรอบแต่งงานให้กับเธอ     ในปี 1997 แม่ของหญิงสาวเข้าพิธีแต่งงานในชุดเดรสสีขาว แขนบาน ดูสง่างามไร้ที่ติ ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เผยให้เห็นถึงความสุขที่ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้   .   เมื่อเวลาผ่านไป ชุดแต่งงานของแม่อาจจะดูเชยสำหรับคนปัจจุบันส่วนใหญ่ แต่สำหรับ Louise แล้ว เธอมองว่ามันยังสวยงามอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้เมื่อถึงวันครบรอบแต่งงานของพ่อแม่ เธอจึงหยิบชุดดังกล่าวมาสวมแล้วถ่ายรูปท่ามกลางสถานที่ที่ทำให้ชุดแต่งงานในปี 1977 ดูสง่างามขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ    …

  • หนุ่มปารากวัยหึงโหด ทำร้ายร่างกายภรรยาทุกครั้งที่มีคนมา ‘กดไลค์’ ภาพเธอบนเฟซบุ๊ก

    หนุ่มปารากวัยหึงโหด ทำร้ายร่างกายภรรยาทุกครั้งที่มีคนมา ‘กดไลค์’ ภาพเธอบนเฟซบุ๊ก

    ในความสัมพันธ์รักของหนุ่มสาวย่อมมีความหึงหวงอยู่ด้วยเสมอ โดยคนที่ขี้หึงมักจะอ้างว่าเป็นเพราะรักนั่นแหละจึงทำให้หึง แต่ในบางครั้งการหึงหวงมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาในความสัมพันธ์ได้ อย่างเช่นหนุ่มปารากวัยคนนี้ ที่หึงหวงภรรยาอย่างหนัก ถึงขั้นทำร้ายร่างกายเมื่อมีคนมากดไลค์รูปของเธอบนเฟซบุ๊ก ตำรวจได้รับแจ้งว่า Adolfina Camelli Ortigoza วัย 21 ปี จากเมือง Nemby ใกล้กับกรุงอาซุนซิออง ประเทศปารากวัย  ถูกทำร้ายร่างกายภายในบ้านนับครั้งไม่ถ้วนโดย Pedro Heriberto Galeano สามีวัย 32 ปีของเธอ     เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบ Ortigoza อยู่ในสภาพที่แย่มากๆ ตาและใบหน้าบวมจากการทุบตี ปากแตก และมีรอยช้ำทั่วร่างกาย ต่อมา Arnaldo Martinez ทนายของฝ่ายหญิง เผยสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังของความรุนแรงนี้ว่า Galeano มักจะลงมือทุบตีภรรยาทุกครั้งที่มีคนเข้ามากดไลค์รูปภาพของเธอบนเฟซบุ๊ก     ภายหลัง Galeano จึงตัดสินใจควบคุมดูแลเฟซบุ๊กของภรรยา และยังเป็นคนที่โพสต์รูปเธอลงในเฟซฯ เองด้วย แต่เมื่อมีคนมากดไลค์รูปภาพเหล่านั้น เขาก็จะทำการทุบตีเธอเหมือนเช่นเคย แม้ฝ่ายชายจะเป็นคนดูแลเฟซบุ๊กและโพสต์รูปภาพของภรรยาเอง แต่เมื่อมีคนมากดไลค์เขาจะกล่าวหาว่าเธอแอบมีความสัมพันธ์กับคนคนนั้น ทั้งๆ ที่ภรรยาไม่ได้แตะต้องเฟซบุ๊กของตัวเองเลย     Martinez กล่าวอีกว่า “Ortigoza ไม่กล้าบอกใครว่าเธอถูกทุบตีทุกครั้งที่มีคนมาคนไลค์รูปหรือมาคอมเมนต์ ทางเพื่อนๆ…

  • เมื่อสาวถ่ายภาพครอบครัวในคริสต์มาสการ์ด แต่แอบโปรโมทตัวเองเนียนๆ จนชาวเน็ตชอบใจ

    เมื่อสาวถ่ายภาพครอบครัวในคริสต์มาสการ์ด แต่แอบโปรโมทตัวเองเนียนๆ จนชาวเน็ตชอบใจ

    เทศกาลคริสต์มาส นอกจากจะเป็นวันหยุดเพื่อฉลองวันคล้ายวันประสูติของพระเยซูแล้ว ยังเป็นวันที่ทำให้ครอบครัวได้กลับมาอยู่รวมกันด้วย และเมื่อนานๆ ทีจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ครอบครัวจึงมักจะถ่ายรูปด้วยกันไว้เป็นที่ระลึก เหมือนกับครอบครัวของ Emily Seawright ที่ถ่ายรูปในธีมบอกสถานะของแต่ละคนผ่านแผ่นป้าย     ในขณะที่ทุกคนถือแผ่นป้ายตามสถานะ เช่น หมั้นแล้ว กำลังตั้งท้อง หรือความสัมพันธ์แบบเร่าร้อน แต่ Emily ที่อยู่ในสถานะโสด แทนที่จะเขียนว่า “Single” แต่เธอกลับเขียนเป็นชื่อตัวเองซะงั้น ประมาณว่า ‘ชื่อ Emily นะ โสดอยู่เด้อ’     เราสองคนอยู่ในความสัมพันธ์แบบเร่าร้อนนะ   ยืนคนเดียวโดดๆ กับสถานะ “Emily” เอ๊ะ มันยังไง? จะอะไรหล่ะ ก็โสดไง   ไม่รู้ตั้งใจโปรโมทตัวเองหรือแค่เอาฮา แต่ที่แน่ๆ ภาพของเธอกลายเป็นความขบขันในโซเชียล จนมีชาวเน็ตแห่ทำตามเพียบ     แหม่ นี่มันเป็นการโปรโมทตัวเองชัดๆ   เหมือนชีวิตเราเลยแฮะ   และแล้วก็ถูกชาวเน็ตนำไปเลียนแบบ แต่ไม่ได้เขียนชื่อนะ เป็นคำพ้องเสียงแทน “มีความสัมพันธ์ขึ้นต้นด้วยตัว E กันหมดใช่มั้ย…

  • หญิงสาวผู้ผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้วกว่า 50 ครั้ง เพื่อให้มีใบหน้าเหมือน Agelina Jolie

    หญิงสาวผู้ผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้วกว่า 50 ครั้ง เพื่อให้มีใบหน้าเหมือน Agelina Jolie

    ในปัจจุบันนี้คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำศัลยกรรมนั้นเป็นเหมือนหนทางที่จะทำให้สาวๆ นั้นมีใบหน้าที่สวยงามตามต้องการ และแน่นอนว่ามันทั้งช่วยในเรื่องเพิ่มความมั่นใจ และส่งผลดีไปถึงสุขภาพจิตและสุขภาพกายด้วย การศัลยกรรมตกแต่งใบหน้านั้นยังช่วยแก้ไขปัญหาในการชีวิตต่างๆ ให้ง่ายมากขึ้นด้วย เช่นการศัลยกรรมตกแต่งจมูกที่ผิดรูปให้ดีขึ้น ศัลยกรรมหน้าอกให้เล็กลงเพื่อลดอาการปวดหลัง และอีกหลากหลายปัญหาที่การศัลยกรรมสามารถช่วยคุณได้ และ Sahar Tabar เธอก็ผู้หญิงชาวอิหร่านอีกคนที่ชื่นชอบดาราดังอย่าง Angelina Jolie ขนาดที่ต้องลงทุนศัลยกรรมให้มีใบหน้าที่คล้ายเธอที่สุด     Angelina Jolie นอกจากความสามารถทางการแสดงที่เก่งกาจแล้ว เธอยังเป็นคนที่มีจิตใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นอีกด้วย โดยเธอทำหน้าที่เป็นทูตของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เธอผลักดันให้มีการออกกฎหมายเพื่อช่วยเหลือเด็กที่อพยพ และคำพูดของเธอก็ยังเป็นกระบอกเสียงในการต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ     จึงไม่แปลกเลยที่ Angelina Jolie จะเป็นผู้หญิงที่เป็นไอดอลของใครหลายๆ คนรวมทั้ง Sahar Tabar ด้วย โดยเธอเข้ารับการผ่าตัดกว่า 50 ครั้ง เพื่อให้มีใบหน้าที่สวยและเรียวปากที่อวบอิ่มเหมือนกับ Jolie   แม้ว่าเธอจะศัลยกรรมมาแล้วหลายครั้งก็ตาม แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตส่วนใหญ่ก็ลงความเห็นว่าเธอเหมือนกับตัวละครในภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่อง Corpse Bride มากกว่า .   เมื่อดูดีๆ แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอก็มีความคล้ายคลึงกับ Angelina Jolie เหมือนกันนะ แต่ในอีกมุมหนึ่งเธอก็ดูเหมือนการ์ตูนแอนิเมชั่นเช่นกัน .   แม้ว่าในอินสตาแกรมของเธอจะมีการโพสต์รูปภาพน้อยกว่า 40 ภาพ แต่เธอกลับมีจำนวนผู้ติดตามมากถึง 300,000 คน!…

  • สาวบอกเลิกกับแฟนหนุ่มหลังเปิด IG ไปเจอสาวแปลกหน้าอัพภาพวิวห้องนอนที่เดียวกันเป๊ะๆ

    สาวบอกเลิกกับแฟนหนุ่มหลังเปิด IG ไปเจอสาวแปลกหน้าอัพภาพวิวห้องนอนที่เดียวกันเป๊ะๆ

    สื่อโซเชียลปัจจุบันนั้น เรียกว่าเป็นหนึ่งในสื่อที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกเลยก็ได้ เพราะคนส่วนใหญ่ปัจจุบันล้วนใช้สื่อโซเชียลในการติดต่อพูดคุยแสดงออกสิ่งต่างๆ และแชร์ความทรงจำดีๆ ของตัวเอง ทว่าบางครั้งการแชร์อะไรโดยไม่นัดให้ดีก็อาจจะเป็นจุดจบของชีวิตได้ เพราะล่าสุดได้มีกระแสโซเชียลในรัสเซียเกี่ยวกับคู่รักคู่หนึ่ง ที่ภรรยาดันไปสังเกตเห็นภาพถ่ายของหญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง แต่ภาพดังกล่าวดันเหมือนวิวจากห้องนอนของสามีแบบเป๊ะๆ !?   ภาพเจ้าปัญหาที่ว่า   Yulia Agranovych หญิงสาวเจ้าของเรื่องราวผู้อาศัยอยู่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้เล่าว่าเธอได้ดูภาพในไทม์ไลน์ของอินสตาแกรมของแฟนหนุ่ม ซึ่งเขาได้ลงรูปภาพวิวยามค่ำคืนจากหน้าต่างห้องของเธอและเขา แต่ว่าเรื่องมันดันโป๊ะแตกก็ตรงที่ เธอดันไปสังเกตเห็นภาพของหญิงสาวอีกคนบนอินสตาแกรมเช่นกัน โดยใช้ชื่อว่า Vlada Abramovich ซึ่งภาพนั้นก็เหมือนภาพของสามีเธอเป๊ะๆ เลยล่ะ   และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้น   งานนี้ Yulia ถึงกับหัวร้อนสุดขีดตรงดิ่งไปตามสามีของเธอ Nazar Grynko ว่าเขานอกใจหรือเปล่า แน่นอนว่าคำตอบที่ได้คือไม่ได้นอกใจ เขาแค่ชวนเพื่อนสาวมาจิบชากันและอยู่ในห้องครัวเฉยๆ Yulia เลยตอบกลับเลยว่า “ถ้าแขกมาจิบชา มันต้องจิบอยู่ที่ห้องครัวไม่ใช่ห้องนอน!!”     งานนี้เรื่องราวเลยบานปลายใหญ่โต จนหญิงสาวคนดังกล่าวต้องปิดแอคเคาท์อินสตาแกรมหนีไปในเวลาต่อมา แต่ในอีกสื่อโซเชียล เธอก็ออกมายอมรับกลายๆ ว่าเธอมีอะไรกับ Nazar จริงๆ งานนี้สองสาวจึงเกิดการปะทะคารมทันที โดย Yulia ถาม Vlada ว่า “เธอไม่รู้สึกผิดบ้างเหรอที่มีอะไรกับสามีคนอื่น” ด้าน Vlada ก็ตอกกลับมาว่า “เธอเป็นภรรยาของ Nazar แต่ฉันไม่ใช่ ฉะนั้นมันจะมีปัญหาอะไร…

  • สาวชาวเอเชียถูกเชิญลงจากเครื่องบิน เพราะถูกเข้าใจผิดว่าตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์!?

    สาวชาวเอเชียถูกเชิญลงจากเครื่องบิน เพราะถูกเข้าใจผิดว่าตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์!?

    ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจสำหรับหญิงสาวที่ชื่อว่า Stephanie Ung หญิงสาวลูกครึ่งอเมริกัน-เอเชียนที่กำลังจะเดินทางจากเมืองกังกุน ประเทศเม็กซิโกไปยังบ้านเกิดที่รัฐจอร์เจียเพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดปีที่ 26 ของเธอ แต่การเดินทางของเธอกลับต้องสะดุดลงเมื่อทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้กักตัวเธอไว้เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงเพราะพวกเขาคิดว่าเธอตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ เธอพยายามอธิบายกับเจ้าหน้าที่ขอให้ปล่อยตัวเธอไปเนื่องจากว่าเธออยากจะไปถึงรัฐจอร์เจียภายในเย็นวันนั้นเพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในวันขอบคุณพระเจ้า แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้เพิกเฉยและกล่าวหาว่าเธออยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ จนสุดท้ายเธอก็ไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ทันเวลา     เหตุผลที่เธอทราบจากเจ้าหน้าที่มาว่า เธอโดนเชิญลงจากเครื่องเพราะว่าเธอมีเชื้อสายเอเชียพร้อมกับสาวเอเชียอีก 1 คนบนเครื่องบิน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางโฆษกของสายการบินเดลตาก็ได้ออกมาอ้างว่า มีผู้โดยสารท่านอื่นคิดว่า Stephanie และผู้หญิงอีกคนไม่ได้ถือพาสปอร์ตไว้ ซึ่งพวกเขาคิดว่าเธออาจจะอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ก็ได้ “พอฉันกับเพื่อนเป็นชาวเอเชียเพียงสองคนบนเครื่อง มันกลับกลายเป็นปัญหาขึ้นมาซะอย่างนั้น” Stephanie  กล่าว     “สายการบินเดลต้าได้ต่อต้านเรื่องการค้ามนุษย์อย่างเด็ดขาดตั้งแต่ปี 2011 และพนักงานจำนวนหลายพันคนของเราได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้สังเกตและป้องกันการค้ามนุษย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงการตรวจสอบเบื้องต้นเท่าที่เป็นไปได้ ล่าสุดได้พบว่าลูกค้าสองรายไม่ได้ถือพาสปอร์ตไว้ ทางเราจึงสงสัยว่าอาจจะเป็นการค้ามนุษย์” “ทางเดลตาได้ติดต่อเจ้าหน้าที่แล้ว ถึงแม้ว่าหลังจากการสอบสวนแล้วจะพบว่าลูกค้าทั้งสองของเราไม่ได้ตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ แต่ทางเราก็ยังยืนยันที่จะฝึกให้ลูกเรือของเราใช้ข้อผิดพลาดนี้ในการปรับปรุงเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าทุกคน”   และเรื่องราวนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Stephanie จะทำการฟ้องร้องสายการบินหรือไม่ที่ทำให้เธอเสียเวลาและเสื่อมเสียชื่อเสียง…   คลิปวิดีโอสัมภาษณ์ Stephanie โดย 11Alive   ที่มา nextshark

  • รู้จักกับเกาะ Khinu ในประเทศเอสโตเนีย ที่มีแต่ ‘ผู้หญิง’ และยังทำหน้าที่ปกครองเกาะด้วย!!

    รู้จักกับเกาะ Khinu ในประเทศเอสโตเนีย ที่มีแต่ ‘ผู้หญิง’ และยังทำหน้าที่ปกครองเกาะด้วย!!

    ห่างออกไปไม่ไกลนักจากชายฝั่งประเทศเอสโตเนีย มีเกาะลึกลับแห่งหนึ่งที่ถูก UNESCO ยกขึ้นเป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยเกาะที่ว่านั้นเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ประเพณี และที่สำคัญก็คือ “ผู้หญิง” Khinu เป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่มากนักและยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเอสโตเนีย เกาะแห่งนี้มีประชากรอาศัยอยู่ไม่มาก ซึ่งมีอยู่ราวๆ 400 ครัวเรือนเท่านั้น อ่านแล้วก็คงจะรู้สึกว่าเกาะดังกล่าวคงไม่มีอะไรพิเศษเท่าไหร่ แต่กลับกันมันพิเศษกว่าที่คุณคิดมากๆ เพราะเกาะแห่งนี้ถูกปกครองโดยผู้หญิง!?   .   คุณอ่านไม่ผิดหรอก เกาะแห่งนี้ถูกปกครองโดยผู้หญิงจริงๆ โดยจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งอดีต เวลาที่เหล่าชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านต้องออกไปหาปลา พวกเขาต้องออกทะเลเป็นเวลาหลายเดือน ด้วยเหตุนี้เหล่าผู้หญิงที่รออยู่ที่ฝั่ง ก็ต้องปกครองและใช้ชีวิตกันเองโดยที่ไม่มีผู้ชาย การตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่าง จึงต้องให้ผู้หญิงเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด ตั้งแต่การค้าขาย การตั้งข้อกฎหมาย ขับรถนักเรียน และอื่นๆ อีกมากมาย     ชาวเกาะ Khinu กล่าวว่า ทุกวันนี้วิถีชีวิตของพวกเขาแตกต่างจากคนที่อยู่ในเมืองเป็นอย่างมาก พวกเธอเลือกจะรักษาขนบธรรมเนียมแบบเก่าของเกาะเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงพื้นบ้าน เสื้อผ้า ประเพณีทุกอย่างล้วนยังอยู่เหมือนเดิม     อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า ตกลงแล้วเกาะนี้ไม่มีผู้ชายอยู่เหรอ ความจริงแล้วบนเกาะก็ยังมีผู้ชายอยู่ แต่พบเห็นได้น้อยมาก เพราะส่วนใหญ่พวกเขาจะออกไปทำงานหรือล่องเรือหาปลากันหมด สุดท้ายแล้ว Mare Matas หัวหน้าชุมชนก็บอกว่า เธอตระหนักทุกวันว่าหากพวกเธอไม่รักษาและดูแลวัฒนธรรมประเพณีให้ดี มันอาจสูญหายไปได้สักวันหนึ่ง แต่การที่มันยังอยู่นั้นก็นับว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามากๆ แล้วราวกับเป็นปาฏิหาริย์เลยล่ะ  …

  • สามีวาดภาพ “ชีวิตของผมและเมียที่น่ารัก” ทำให้เราเข้าใจว่าถึงคำว่า “รัก” ได้อย่างดียิ่งขึ้น…

    สามีวาดภาพ “ชีวิตของผมและเมียที่น่ารัก” ทำให้เราเข้าใจว่าถึงคำว่า “รัก” ได้อย่างดียิ่งขึ้น…

    ภาพวาดเป็นศิลปะที่ประณีตและลึกซึ้ง เวลาคนเราได้มองภาพวาดก็จะทำให้เข้าถึงอารมณ์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความเศร้า ความกลัว หรือความโกรธ แต่ภาพวาดก็ไม่จำเป็นต้องลึกซึ้งและเข้าถึงยากเสมอไป จิตรกรบางคนก็ใช้เพียงภาพที่ดูเรียบง่ายแต่สื่อให้เราเข้าใจถึงอารมณ์ได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ดังเช่นจิตรกรลูกครึ่งฝรั่งเศสอเมริกันนามว่า Pascal Campion ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเบอร์แบงก์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาท่านนี้       ผลงานของเขาเป็นรูปภาพเรียบง่ายที่แสดงให้เห็นถึงกิจวัตรในชีวิตประจำวันธรรมดาๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่เรียกว่ารักอย่างชัดเจน แรงบันดาลใจในการวาดภาพของ Pascal ก็มาจากครอบครัวของเขานั่นเอง ซึ่งก็คือ Katrina ภรรยาของเขาที่ใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่า 10 ปี ลูกสาวอายุ 9 ปี และลูกชายฝาแฝดอายุ 6 ปีของเขา โดยงานชิ้นนี้ได้รวบรวมกิจวัตรทั่วไปที่สำคัญสำหรับพวกเขาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการชมความงดงามในฤดูใบไม้ร่วง การออกไปรับแสงตะวันกับครอบครัว การจับมือกันในฝูงชน หรืออ่านหนังสือและจิบกาแฟในคืนฝนพรำ   แอบมองลอดประตูดูภรรยาให้นมเจ้าตัวเล็ก   Pascal กล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ในชีวิต ต่างก็มีความสำคัญทั้งนั้น”   อยู่ข้างๆในเวลาที่เราต้องการ   กอดเซอร์ไพรซ์จากจอมซน   จู๋จี๋กันระหว่างวัน   สายฝนไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา   เติมพลังหลังจากวันที่เหนื่อยล้า   ตื่นเช้ามาเจอหน้าหวานใจ…

  • สองคู่รักเปลี่ยนบังเกอร์นิวเคลียร์ในยุคสงครามเย็น ให้กลายเป็นห้องเช่า Airbnb สุดหรู!!

    สองคู่รักเปลี่ยนบังเกอร์นิวเคลียร์ในยุคสงครามเย็น ให้กลายเป็นห้องเช่า Airbnb สุดหรู!!

    Ed และ Dianna Peden สองสามีภรรยาผู้มีหลุมหลบภัยภายในบริเวณบ้าน ได้ตัดสินใจเปลี่ยนบังเกอร์หลบภัยให้กลายเป็นห้องเช่า Airbnb สุดหรู จนใครเห็นก็ต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า เฮ้ย!! ที่นี่เคยเป็นบังเกอร์มาก่อนอย่างนั้นเหรอ… Subterra Airbnb ของพวกเขานั้นตั้งอยู่ที่รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเดิมที่บังเกอร์ดังกล่าวนั้นถูกสร้างไว้หลบภัยจากระเบิดนิวเคลียร์เมื่อ 60 ปีก่อน แต่ปัจจุบันมันก็ถูกคู่รักเปลี่ยนให้มันกลายเป็นห้องเช่า Airbnb สุดหรูในราคา 133 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน หรือตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 4,335 บาทนั่นเอง   สภาพภายนอกของ Subterra Airbnb   Mathew Fulkerson และ Leigh Ann สองสามีภรรยาผู้ที่จะมารับหน้าที่พาเราไปชมห้องพักสุดเจ๋งนี้กัน   ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว่า 133,546 ตารางเมตร พร้อมกับห้องหลบภัยมากมาย การตกแต่งแต่ละห้องให้เป็นห้องพักสวยๆ จึงไม่ยากเลยที่จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นห้องเช่า แต่ใช่ว่าพวกเขาจะทำการตกแต่งมันใหม่จนหมดซะทีเดียว เพราะหลายส่วนก็ยังหลงเหลือความเป็นที่หลบภัยแบบยุคเก่าอยู่นั่นเอง   จากตรงนี้เราจะเห็นว่ามันคือหลุมหลบภัยจริงๆ นะดูสิ   แต่พอเข้ามาข้างในแล้วต้องร้อง โอ้โห่ววววว   ห้องนอนก็ดูหรูหราไม่ธรรมดาเลย   ทุกอย่างยังมีความคลาสสิกของมันอยู่   นอกจากตัวหลุมหลบภัยที่กลายเป็นห้องพักแล้ว ข้างบนก็ยังมีพื้นที่ใช้สอยเยอะแยะรวมถึงสามารถรับชมวิวรอบได้ด้วย แค่นี้ก็ฟังดูน่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ?   ด้านบนก็มีพื้นที่ให้นั่งจิบชาชิวๆ ไม่ต้องอยู่แต่ในหลุมหลบภัยเพียงอย่างเดียว   ห้องรับรองข้างบนก็ตกแต่งได้สวยงาม  …

  • คู่รักโพสต์ท่าสุดหวานแบบเดิมทุกครั้งที่ไปเที่ยวรอบโลก จนกลายเป็นกระแสไวรัลในที่สุด!!

    คู่รักโพสต์ท่าสุดหวานแบบเดิมทุกครั้งที่ไปเที่ยวรอบโลก จนกลายเป็นกระแสไวรัลในที่สุด!!

    การเดินทางไปเที่ยวรอบโลกอาจจะเป็นความฝันของใครหลายคน และถ้าหากจะให้ดีก็ต้องมีคนรักร่วมเดินทางไปกับเรา เพราะว่านอกจากจะเพิ่มความอุ่นใจให้กับเราแล้ว ยังสามารถแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ที่มีต่อกันได้อย่างรู้ใจ และนั่นได้ช่วยเพิ่มความสุขในการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกเยอะ คู่รักคู่นี้ก็เป็นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่พยายามทำความฝันของพวกเขาให้เป็นจริง โดยพวกเขาเดินทางไปยังเมืองต่างๆทั่วโลก และแน่นอนว่าเมื่อเดินทางเที่ยวก็ต้องมีการถ่ายรูปเก็บความทรงจำร่วมกัน แต่สิ่งที่คู่นี้แตกต่างกับคนอื่นก็คือพวกเขาตัดสินใจถ่ายรูปในท่าเดิมๆ ในทุกเมืองที่ได้ไป จนกลายมาเป็นกระแสไวรัลในอินเทอร์เน็ตในที่สุด   ขณะถ่ายรูปกันที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี   Rob และ Joli Switzer คือชื่อของคู่รักดังกล่าว โดยพวกเขาเพิ่งจะเข้าพิธีสมรสกันเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้ออกเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ทั่วโลกภายในระยะเวลา 3 ปี แต่ละเมืองที่พวกเขาไปด้วยกันนั้นทั้งคู่จะถ่ายรูปแล้วโพสท่าแบบเดิมๆ สำหรับท่าที่พวกเขาทำก็คือ Joli จะเอนหลังภายใต้อ้อมแขนของ Rob แล้วก็จูบกันอย่างดูดดื่ม ซึ่งนั่นได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาโด่งดัง   ออกเดินทางไปยังเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส   ทั้งคู่ตั้งชื่อให้รูปภาพนี้ว่า ‘Dipkiss’ และในตอนนี้พวกเขาได้เปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเองชื่อว่า Dipkisstravels และ Instagram ชื่อว่า @dipkisstravels ให้ผู้คนได้ติดตามในการเดินทางท่องเที่ยวตามความฝันของทั้งคู่แล้ว การพบกันครั้งแรกของทั้งคู่นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2010 ใน “ปาร์ตี้สำหรับนักเดินทาง” ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยทั้งคู่บอกว่าหลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว และได้ติดต่อกันผ่านโลกออนไลน์หลังจากนั้น เพราะว่าความห่างไกลของทั้งคู่ทำให้ไม่สามารถพบกันได้ โดย Rob นั้นอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและ Joli อยู่ในประเทศฟิลิปปินส์   เทศกาลบอลลูนในแอลบูเคอร์คี…

  • ก็มันเบื่ออ่ะ!! แตรรถคันหนึ่งดังจนน่ารำคาญ แต่เมื่อไปดูใกล้ๆ กลับเป็นหมากดแตรอยู่ซะงั้น

    ก็มันเบื่ออ่ะ!! แตรรถคันหนึ่งดังจนน่ารำคาญ แต่เมื่อไปดูใกล้ๆ กลับเป็นหมากดแตรอยู่ซะงั้น

    ในบ้างครั้งที่เราไปช็อปปิ้งในซูเปอร์มาเก็ตอย่างสนุกมือ และเมื่อเราทำทุกอย่างเสร็จแล้ว พอออกมายังลานจอดรถก็พบว่า ได้มีเสียงแตรของรถบางตันดังขึ้นอย่างยาวนาน เราอาจจะสงสัยว่านั่นเป็นฝีมือของใครกันนะที่ ส่งเสียงรบกวนชาวบ้านชาวช่องแบบนี้ บางคนอาจจะคิดว่าเป็นฝีมือของเด็กเล็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ หรืออาจเป็นฝีมือวัยรุ่นใจร้อนบางคนที่เร่งพ่อแม่ของพวกเขาให้ซื้อของเสร็จโดยเร็ว แต่ได้มีเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องราวของเสียงแตรรถที่ดังขึ้น แต่ผู้กดแตรกลับไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นหมาแทนซะอย่างงั้น   ใครกันนะมากดแตรรถรบกวนชาวบ้านเขาแบบนี้   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เมื่อมีคู่รักคู่หนึ่ง ออกมาจากสระว่ายน้ำ แล้วก็พบว่ามีใครบางคนกดแตรรถเสียงดังลั่นอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการคลายความสงสัย ผู้ชายคนดังกล่าวจึงใช้กล้องโทรศัพท์ตามไปถ่ายต้นตอของเสียง และเมื่อซูมเขาไปลึกๆ ก็พบว่าเป็นหมาหน้าบึ้งตัวหนึ่งเอาเท้าของมันกดแตรรถคันหนึ่งอยู่   เอ้านั่นมันดูคลับคล้ายคลับคลาหมานะ   “สามีของฉันกำลังเดินออกมาจากสระน้ำ และได้ยินเสียงแตรรถดังสนั่นมาจากลานจอดรถ ในตอนแรกเขาก็คิดว่าต้องมีใครกดแตรรถเล่นแน่ๆ แต่เมื่อเข้าไปซูมเข้าไปใกล้ๆ ก็ถึงได้รู้ว่ามันเป็นหมา” “เราเริ่มอัดวิดีโอสิ่งที่พวกเราเห็น และก็เข้าไปใกล้ๆ รถคันนั้นดังกล่าวก็พบว่ามีเจ้าหมาหน้าตาบึ้งตึงเอาเท้าของมันกดเอาไว้ที่แตรรถ เราจึงพยายามล่อให้มันเอาเท้าออกจากแตรรถซะ แล้วเราก็ทำได้สำเร็จ” Elizabeth Herman ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟัง   เอ้าใช่จริงๆ ซะด้วย   มาดูหน้าตาอันเบื่อหน่ายของเจ้าหมาตัวนี้กันดีกว่า   หมาก็เบื่อเป็นนะเออ ปล่อยให้รอนานๆ ก็เห็นใจกันบ้างเจ้านายยย   ที่มา: inspiremore

  • โถ่พ่อ!! สาวเล่าประสบการณ์สุดฮา หลังพ่อเข้าใจผิดคิดว่า ‘พาวเวอร์แบงค์’ เป็นเซ็กส์ทอย

    โถ่พ่อ!! สาวเล่าประสบการณ์สุดฮา หลังพ่อเข้าใจผิดคิดว่า ‘พาวเวอร์แบงค์’ เป็นเซ็กส์ทอย

    การใช้โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะใช้กันอย่างเมามันตลอดทั้งวัน ซึ่งแน่นอนว่าแบตเตอรี่ของโทรศัพท์เรามันก็ย่อมไม่พอต่อความต้องการใช้ จึงได้มีผู้ผลิตคิดค้นแบตเตอรี่แบบพกพาหรือที่เราเรียกว่าพาวเวอร์แบงค์ออกมา โดยมันได้สร้างประโยชน์เป็นอย่างมากกับผู้ใช้โทรศัพท์ทั้งหลาย ทว่ามันกลับสร้างปัญหาให้แก่สาวน้อยคนหนึ่ง เพราะว่าด้วยรูปร่างแบบกระทัดรัดของมัน ได้ทำให้พ่อของเธอคิดว่ามันเป็นเซ็กส์ทอยซะอย่างงั้น   สาวน้อย Emily ผู้สร้างกระแสไวรัลขำขันบนอินเทอร์เน็ต     เธอได้โพสต์ข้อความที่เธอสื่อสารกับพ่อของเธอในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้กลายเป็นกระแสไวรัลสุดฮาบนอินเทอร์เน็ตในตอนนี้ โดยมีผู้รีทวีตของเธอแล้วกว่า 31,000 ครั้งและมีคนกดไลก์กว่า 120,000 คนเลยทีเดียว เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจากทวิตเตอร์ยูสเซอร์หนึ่งชื่อว่า @_Emiily โดยเล่าว่าในตอนแรกเธอได้รับข้อความจากพ่อของเธอว่าเขาต้องการคุยด้วยเพราะว่า เขาได้ไปพบอะไรบางอย่างที่น่าเกลียดในห้องนอนของเธอ     พ่อของ Emily : ลูกอยู่ไหนเนี่ย เมื่อไหร่จะกลับบ้านเรามีเรื่องต้องคุยกัน Emily: บ้านเพื่อนทำไมหรอคะ?? พ่อของ Emily: พ่อได้ไปเจอสิ่งนี้ในห้องนอนของลูก ทำไมลูกถึงเป็นคนอย่างนี้ ช่างน่าเกลียดซะจริงๆ หลังจากพ่อของ Emily ส่งภาพที่เขาเชื่อว่าเป็นเซ็กส์ทอยมาให้กับเธอ และได้ต่อว่าเธอต่างๆ นานา ซึ่งในความจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่พาวเวอร์แบงค์เท่านั้น นั่นจึงทำให้ Emily ต้องรีบออกมาแก้ต่างให้แก่ตัวเองเป็นการด่วน     Emily: พ่อคิดว่าสิ่งที่พ่อเจอมันคืออะไรล่ะ พ่อของ Emily…

  • รมต.หญิงคีร์กีซสถานกับการแก้ปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิง แต่ถูกผู้ชายปฏิเสธให้ความร่วมมือ

    รมต.หญิงคีร์กีซสถานกับการแก้ปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิง แต่ถูกผู้ชายปฏิเสธให้ความร่วมมือ

    เป็นเวลาหลายสิบปีที่ผู้หญิงคีร์กีซสถานได้รับความเดือดร้อนจากการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว พวกเขาถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่เด็ก การลักพาตัวเจ้าสาว ที่สำคัญคือถูกละเว้นไม่ให้มีบทบาทในรัฐสภา ด้วยเหตุนี้ Aida Kasymalieva วัย 33 ปี สมาชิกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในคีร์กีซสถานจึงได้ออกมาพูดถึงปัญหาที่ผู้หญิงต้องเผชิญ เพื่อทำให้เกิดความเท่าเทียมโดยไม่แบ่งแยกเพศ     อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอได้พูดถึงปัญหาต่างๆ ของผู้หญิงในประเทศไปแล้ว เพื่อนร่วมงานชายทั้งหลายกลับปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ Kasymalieva เคยรายงานปัญหาเรื่องเดิมๆ ของผู้หญิงมานานกว่า 10 ปี และเธอมักจะตั้งประเด็นให้ผู้คนคิดถึงผลกระทบที่ผู้หญิงได้รับ ทั้งการถูกบังคับแต่งงานและการลักพาตัว เธอบอกว่า “เวลาถกปัญหาเรื่องงาน เรื่องทุน เรื่องถนน สมาชิกสภาผู้ชายจะนั่งอยู่ในห้องปกติ แต่พอเราเริ่มเข้าประเด็นความเท่าเทียมทางเพศพวกเขาจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องประชุมไป เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่นึกถึงความรุนแรงภายในประเทศและการลักพาตัว”     ตราบใดที่สมาชิกสภาชายยังคงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ การแก้ปัญหาเรื่องการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงก็คงต้องมีให้เห็นต่อไป เพราะการเพิกเฉยเท่ากับเป็นการส่งเสริมอย่างหนึ่ง Kasymalieva เข้าใจดีว่าความไม่แยแสของผู้ชายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน แต่เธอย้ำว่าในฐานะที่เป็นนักการเมืองหญิงของคีร์กีซสถาน เธอจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ได้ นอกจากนี้ Kasymalieva ยังหวังว่าเธอกับเพื่อนร่วมงานหญิงจะทำงานร่วมกันได้ เพื่อให้บรรลุผลตามที่ต้องการ ปัจจุบันคีร์กีซสถานมีสมาชิกสภาหญิง 23 คน จากทั้งหมด 120 คน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสภาเมื่อปี 2005 หลังจากมีการเรียกร้องให้ผู้หญิงเข้ามามีบทบาททางการเมือง     อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้หญิงได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ผ่านระบบการเลือกตั้งแล้ว…

  • เจ้าเหมียวสภาพย่ำแย่ ตาบอด หูหนวก สมองได้รับความเสียหาย แต่ก็ยังได้สัมผัสถึงความรัก

    เจ้าเหมียวสภาพย่ำแย่ ตาบอด หูหนวก สมองได้รับความเสียหาย แต่ก็ยังได้สัมผัสถึงความรัก

    สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เกิดมาพร้อมความบกพร่องทางร่างกาย พวกมันจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และมันคงจะดีหากเราหยิบยื่นโอกาสนั้นให้มัน นี่คือเรื่องราวของ Bonnie แมวน้อยที่มีความบกพร่องทางร่างกายทั้งตาบอด หูหนวก และสมองได้รับความเสียหาย หลังจากที่ถูกรถชนจนเกือบตาย     Kitty Adventure Rescue League เล่าว่า “Bonnie ถูกรถชนและถูกทิ้งให้ทรมานอยู่อย่างนั้น โดยไม่ได้รับการเหลียวแลมองเลย” ไม่กี่วันหลังจากนั้นเจ้าของก็พามันไปหาสัตวแพทย์ แต่กลับถูกปฏิเสธเพราะร่างกายของมันได้รับความเสียหายมากเกินไป ทั้งกะโหลกแตก กระดูกหัก และสูญเสียการมองเห็น     เมื่อทำอะไรไม่ได้ เจ้าของเลยปล่อยมันทิ้งไว้ที่ระเบียงบ้าน จนหนอนค่อยๆ ชอนไชบนตัวและสภาพแผลของมันก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ กระทั่งต่อมามีคนมาเห็นเข้าจึงได้พา Bonnie ไปหาหมออีกครั้ง ซึ่งคุณหมอชุดนี้ได้ให้การรักษามันเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะส่งมอบให้อยู่ในการดูแลของศูนย์พักพิงสัตว์ต่อไป     อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์บอกว่าถ้าน้องแมวโดนมาขนาดนี้ควรให้การรักษาตั้งแรกเลย แต่นี่ปล่อยเอาไว้จนทำให้แผลติดเชื้อ ดังนั้นแม้จะรักษาแล้วแต่มันก็ยังต้องอยู่กับสมองที่ได้รับความเสียหาย หูหนวก และตาบอดไปตลอดชีวิต ต่อมาเรื่องราวของ Bonnie ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ reddit โดย Kitty Adventure Rescue League เพื่อขอความช่วยเหลือ เป็นของขวัญคริสต์มาสให้กับมัน     เพียงไม่นานเรื่องราวของมันก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมากและได้รับความช่วยเหลืออย่างล้นหลาม ซึ่งมีทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และของจำเป็นอื่นๆ ความรักจากชาวเน็ตยังคงหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย นั่นทำให้เจ้าเหมียวสัมผัสถึงความรักเหล่านั้น…

  • คลิปการอพยพของ ‘ปูแมงมุม’ นับแสนตัวใต้ท้องทะเล ให้อารมณ์เหมือนเอเลี่ยนยังไงยังงั้นเลย

    คลิปการอพยพของ ‘ปูแมงมุม’ นับแสนตัวใต้ท้องทะเล ให้อารมณ์เหมือนเอเลี่ยนยังไงยังงั้นเลย

    สรรพสิ่งในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสิ่งมีชีวิตต่างต้องทำทุกทางเพื่อความอยู่รอด และกระบวนการเอาตัวรอดเหล่านั้นมักก่อให้เกิดความมหัศจรรย์ในธรรมชาติ เหมือนอย่างคลิปวิดีโอด้านล่างนี้ ที่ถ่ายโดยทีมงานของ BBC เผยให้เห็นปรากฏการณ์ ‘ปูแมงมุม’ นับแสนตัวกำลังพากันอพยพในน่านน้ำใกล้กับเมืองเมลเบิร์น ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย     คลิปนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Blue Planet II ซึ่งเป็นชุดสารคดีจากสำนักข่าว BBC และเป็นคลิปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2011 ดูภาพเคลื่อนไหวอย่างเดียวอาจไม่อินเท่าไหร่ ขอแนะนำให้เปิดเสียงด้วย เพราะ David Attenborough ได้พากย์เสียงประกอบวิดีโอ ทำให้การเคลื่อนไหวของปูแมงมุมดูขลังยิ่งขึ้น     ในช่วง 0.50 นาทีแรก จะเห็นปูแมงมุมอพยพตามปกติ แต่แล้วหลังจากนั้นมันก็เริ่มจะก่อตัวกัน จนมีความสูงกว่า 100 เมตร ซึ่งดูแล้วเหมือนกลุ่มเอเลี่ยนมากกว่าสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ ทั้งนี้ในรายงานระบุว่า พฤติกรรมดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร แต่คาดว่าอาจจะเป็นการรวมตัวขณะลอกคราบ เพื่อป้องกันตัวจากสัตว์นักล่าในทะเล     ส่วนการปีนป่ายต่อตัวกันขึ้นไปนั้นก็เป็นวิธีการอำพรางตัวของปูแมงมุม เพื่อตัวที่อยู่ด้านในจะได้รับการปกป้องจากสัตว์นักล่าทั้งหลาย เนื่องจากหลังการลอกคราบในช่วงแรกนั้น กระดองจะยังแข็งไม่เต็มที่นั่นเอง จึงอาจถูกทำร้ายได้ง่าย Alex Vail ผู้ถ่ายทำคลิปวิดีโอนี้เล่าว่า “การรวมตัวของปูแมงมุม ทำให้พวกมันไม่เกรงกลัวสัตว์นักล่าที่จะมาทำร้าย เพราะขนาดฉันเข้าไปถ่ายใกล้ๆ มันยังไม่มีทีท่าว่าจะหนีเลย”    …

  • นักวิทย์ฯ เผย นี่คือ 7 สิ่งของผู้หญิงที่สามารถดึงดูดความสนใจจากชายหนุ่มมากที่สุด!!

    นักวิทย์ฯ เผย นี่คือ 7 สิ่งของผู้หญิงที่สามารถดึงดูดความสนใจจากชายหนุ่มมากที่สุด!!

    สาวๆ ที่ยังโสดอยู่ เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมไม่มีหนุ่มๆ มาจีบบ้างเลย ทั้งๆ ที่เราก็สวย หุ่นดี และเก่งประมาณหนึ่ง? เอ๊ะ หรือสิ่งเหล่านี้มันไม่น่าดึงดูดพอ? ที่เราคิดก็อาจจะมีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่นักวิทยาศาสตร์ได้เผยเสน่ห์ที่แท้จริงของผู้หญิงว่าลักษณะแบบไหนถึงจะเป็นที่สนใจของผู้ชายมากที่สุด   1. กลิ่นเหงื่อ เวลาออกกำลังกายแล้วเหงื่อออก หลายคนอาจจะรู้สึกอายเพราะกลัวใครจะได้กลิ่นตัว แต่จริงๆ มนุษย์มีกลิ่นที่แตกต่างกันมากกว่า 1 ล้านแบบ แน่นอนว่ากลิ่นเหงื่อนั้นมักมีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของผู้ที่ได้กลิ่น แต่นักวิทยาศาสตร์เผยว่า “กลิ่นแห่งความสุข” สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและอาจทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นนั้นมีความรู้สึกในเชิงบวก   2. เสียงหัวเราะ นักจิตวิทยาบอกว่าถ้าพบใครที่ทำให้เราหัวเราะได้อย่างจริงจัง มีแนวโน้มสูงที่ความสัมพันธ์ของคุณจะเป็นได้ด้วยดีถ้าคบกับเธอ เพราะชีวิตของคุณจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและอารมณ์ดีเกือบตลอดเวลา   3. ใส่แว่นตา ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตาเพื่ออ่านหนังสือเท่านั้นหรือเพียงเพราะมีปัญหาทางสายตา เพราะผลการวิจัยพบว่าผู้ชายจะรู้สึกว่าผู้หญิงที่ใส่แว่นดูน่าสนใจและเซ็กซี่มากขึ้น   4. รอยอาบแดด ส่วนของร่างกายที่เป็นรอยอาบแดด เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชายและทำให้พวกเขาอยากสัมผัสผิวส่วนนั้น   5. ผมยุ่ง การมีผมยุ่งหรือผมหยิกธรรมชาตินั้น ทำให้ผู้ชายรู้ไม่รู้สึกกังวลว่าจะทำผมของหญิงสาวพังเวลาที่กอดเธอ ยิ่งไปกว่านั้นผมยุ่งจะทำให้ผู้หญิงดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการเซตผม   6. ไม่แต่งหน้า จากการวิจัยและทำแบบสอบถามพบว่า ผู้คน 40 % บอกว่าพวกเขาชอบผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้ามากกว่าผู้หญิงที่แต่งหน้า…

  • 34 สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนมหัศจรรย์จากรอบโลก ที่คุณควรไปให้ได้สักครั้งตอนยังมีชีวิตอยู่

    34 สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนมหัศจรรย์จากรอบโลก ที่คุณควรไปให้ได้สักครั้งตอนยังมีชีวิตอยู่

    ในโลกนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันแสนมหัศจรรย์มากมายรอให้เราไปสัมผัส และแม้ว่าเราจะไม่ใช่นักเดินทาง แต่บางสถานที่นั้น เห็นแล้วไม่ไปไม่ได้จริงๆ เหมือนกับภาพสถานที่อันงดงามเหล่านี้ ที่เหมือนอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายแต่มันมีอยู่จริงๆ ในโลกใบนี้ และคุณควรจะไปเห็นด้วยตาสักครั้งในชีวิต   1. Dark Hedges สหราชอาณาจักร   2. อุทยานแห่งชาติ Tasman ประเทศออสเตรเลีย   3. สะพานปีศาจ ใน Gablenz ประเทศเยอรมนี   4. อัลบาร์ราซิน ประเทศสเปน   5. Canyon Fjaðrárgljúfur ประเทศไอซ์แลนด์   6. มณฑลกานซู่ ประเทศจีน   7. ถ้ำคริสตัลยักษ์ Naica Mine ประเทศเม็กซิโก   8. เขาโรไรมา ประเทศเวเนซุเอลา   9. ทะเลสาบ Moraine Lake ประเทศแคนาดา   10. Antelope Canyon ประเทศสหรัฐอเมริกา   11. ทะเลสาบใน Patagonia ประเทศอาร์เจนตินา…

  • ชาวเน็ตญี่ปุ่นหลงรักแอปฯ นำทางโฉมใหม่ ที่มีคุณลุงอ้วนพลุ้ยใส่กางเกงในนำทางไปทุกที่

    ชาวเน็ตญี่ปุ่นหลงรักแอปฯ นำทางโฉมใหม่ ที่มีคุณลุงอ้วนพลุ้ยใส่กางเกงในนำทางไปทุกที่

    ทุกวันนี้จะไปที่ไหนก็ไม่ต้องกลัวหลงทางแล้วเพราะมีเทคโนโลยีนำทางที่สามารถพาคุณไปได้ทุกที่ที่อยากไป แค่คุณมีสมาร์ทโฟนดีๆ สักเครื่องเท่านั้น ล่าสุดมีแอปฯ นำทางโฉมใหม่ ที่ไม่ได้วาดเป็นแผนที่มาให้ แต่มาในรูปแบบ AR ที่มีคุณลุงอ้วนพลุ้ยใส่กางเกงในตัวเดียว แล้วคอยนำทางเราไปยังที่ต่างๆ     ขอแนะนำให้รู้จักกับ HotStepper แอปนำทางสุดเก๋ที่กำลังฮิตในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรองรับระบบ iOS โดยใช้เทคโนโลยีคล้ายกับที่ใช้ใน Pokémon GO HotStepper สามารถใช้งานผ่านกล้องสมาร์ทโฟน โดยให้พิมพ์ชื่อสถานที่ลงไป จากนั้นลุง Uncle AR ก็จะออกมาแล้วนำคุณไปยังที่ที่ต้องการ     ความน่าสนใจของคุณลุง Uncle AR คือเขาจะปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมที่คุณเดินไป เช่น หากเดินผ่านร้านตัดผม ลุงก็จะเปลี่ยนทรงผม เพื่อทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเบื่อกับการเห็นหน้าคุณลุงแบบเดิมๆ นอกจากนี้มันยังสามารถใช้ได้กับแว่นตา AR เพื่อจะให้คุณมองทางมากกว่าการมองจอโทรศัพท์ขณะที่เดินอยู่ ป้องกันการเดินชนหรือหกล้ม     ตอนนี้ชาวญี่ปุ่นหลงรักแอปฯ HotStepper มากๆ และแห่กันดาวน์โหลดมาใช้แล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่ยังคงมีความกังวลที่จะใช้แอปฯ นี้ ทั้งนี้ชาวเน็ตญี่ปุ่นได้แสดงความคิดเห็นว่า… “เดินแบบนี้ ไม่ต้องดูสัญญาไฟจราจรหรอ?” “มันดีมากๆ สำหรับคนที่ไม่รู้ทาง” “เขาดูอ้วนไปหน่อยนะ สำหรับคนที่เดินตลอดเวลาแบบนี้” “นี่จะทำให้การเดินสนุกยิ่งขึ้น แม้คุณจะเดินคนเดียวก็ตาม” “แหม่…

  • อดีตนายพล ดื่มยาพิษฆ่าตัวตายกลางศาล หลังถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ในข้อหาอาชญากรสงคราม

    อดีตนายพล ดื่มยาพิษฆ่าตัวตายกลางศาล หลังถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ในข้อหาอาชญากรสงคราม

    เป็นธรรมดาที่ผู้ต้องสงสัยหรือผู้ถูกตัดสินโทษในหลายๆ คดี มักจะหนีโทษด้วยการหลบหนีหรือการฆ่าตัวตาย เพื่อไม่ให้ตนต้องทุกข์ทรมานรับการลงโทษ แต่จะมีสักกี่คนเชียวที่กล้าฆ่าตัวตายอย่างโจ่งแจ้งท่ามกลางสื่อแบบ Slobodan Praljak อดีตนายพลในกองทัพโครเอเชียในช่วงปี 1991 – 1995 คนนี้     เขาถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นอาชญากรสงคราม เนื่องในช่วงศตวรรษที่ 19 เขาเคยเป็นผู้นำในการฆ่าล้างกลุ่มชาวมุสลิมในประเทศยูโกสลาเวีย เพราะเขาต้องการสร้างรัฐที่มีแต่สายเลือดบริสุทธิ์ของชาวบอสเนียและโครแอตเท่านั้น   ภาพอดีตนายพล Praljak กำลังไปรับคำตัดสินที่ศาลเมืองเฮก   คดีนี้ยืดเยื้อมานานหลายสิบปี จนล่าสุดเขาถูกคณะตุลาการอาญาระหว่างประเทศตัดสินโทษจำคุก 20 ปี ในเมืองเฮก ประเทศเนเธอแลนด์ แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างชัดเจน เขาพยายามที่จะยืนกรานความบริสุทธิ์ของตนโดยพูดว่า “ศาลที่เคารพ ผมนาย Slobodan Praljak ไม่ได้เป็นอาชญากร” นอกจากนี้เขายังแสดงการต่อต้านคำตัดสินของศาลโดยบอกว่า “ผมขอปฏิเสธคำตัดสินนี้” หลังจากนั้นเขาก็ยกบางอย่างขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว แล้วพูดหน้าตาเฉยว่าผมพึ่งดื่มยาพิษเข้าไป สร้างความตื่นตระหนกและมึนงงให้กับคนทั้งศาลเลยทีเดียว     หลังจากนั้นศาลจึงแจ้งให้ยุติการตัดสินคดีนี้ไปก่อนและรีบเรียกรถพยาบาลให้กับนาย Praljak เพื่อช่วยชีวิตเขา แต่คงจะไม่ทันการณ์เพราะว่าหลังจากนั้นไม่นานเขาก็เสียชีวิตลง   ภาพของรถพยาบาลที่มาเพื่อรับตัวอดีตนายพลไปรักษา   คลิปขณะที่เขาดื่มยาพิษต่อหน้าศาล ที่มา : Quartz, Dailymail, RT

  • พบกับสาวที่มีหน้าตาเหมือน ‘เจน ลอว์’ แบบเป๊ะๆ นึกว่าฝาแฝดคลานตามกันมา

    พบกับสาวที่มีหน้าตาเหมือน ‘เจน ลอว์’ แบบเป๊ะๆ นึกว่าฝาแฝดคลานตามกันมา

    ว่ากันว่าบนโลกใบนี้ จะมีคนคนหนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนกับเราทุกอย่าง แต่เรื่องดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่ยากพิสูจน์ เพราะว่าบนโลกนี้มีคนอยู่เป็นร้อยเป็นพันล้านคน การจะเจอคนที่หน้าเหมือนเราคงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าคงไม่ใช่กับสาววัย 17 ปีนามว่า Alexia Maier ที่เธอดันหน้าตาไปคล้ายกับ Jennifer Lawrence ดาราสาวฮอลลีวูด ผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games โดยบังเอิญและนั่นได้ทำให้มีผู้คนมากมายเข้ามาขอลายเซ็นจากสาวคนนี้เพราะนึกว่าเป็นดาราดัง โดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าพวกเขาขอลายเซ็นของเธอไปทำไมกัน     ในช่วงแรกที่มีคนเข้ามาขอลายเซ็น เธอนึกว่าผู้คนต่างๆ พยายามจะเล่นตลกกับเธอ แต่เมื่อเธอออกไปยังสถานที่ต่างๆ แล้วมีผู้คนจำนวนมากบอกถึงความเหมือนของเธอกับดาราสาวมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็ทำให้เธอเริ่มคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง “ตอนแรกฉันคิดว่าต้องเป็นการล้อเล่นแน่ๆ เมื่อพวกเขาบอกว่าฉันเหมือนกับ Jennifer แต่เมื่อมีคอมเมนต์จำนวนมากเกี่ยวกับความเหมือนของฉัน ฉันก็เริ่มสำรวจตัวเองว่ามันเหมือนอย่างไร” Alexia กล่าว     นอกจากนี้ Alexia ยังบอกอีกว่าผู้คนที่บอกว่าเธอเป็น Jennifer ส่วนมากจะอยู่ในพื้นที่ที่พวกดารามักจะชอบไป แต่ไม่ใช่กับที่บ้านเธอที่ Ponte Vedra รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา     “ที่บ้านเกิดของฉัน ชาวบ้านต่างก็รู้ว่ายังไงก็ไม่มีโอกาสได้เห็นคนดังตัวจริงๆ หรอก แต่กลับกันที่นิวยอร์ค มีคนเข้ามาขอลายเซ็นฉันเยอะแยะเลย”  “ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันชอบที่สุดก็คือ การที่มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาบอกว่า ‘Jennifer ฉันเป็นแฟนตัวยงของคุณเลย’ จากนั้นฉันก็บอกว่าฉันไม่ใช่ Jennifer ผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าไปเลยแล้วพูดว่า คุณแน่ใจนะ? มันทำให้ฉันเห็นถึงความดีใจและผิดหวังในเวลาที่ใกล้เคียงกัน ” Alexia กล่าว…

  • “หลิวอวี้เฟย” ได้รับคัดเลือกให้แสดงเป็น ‘มู่หลาน’ ในหนังคนแสดงจริงเวอร์ชั่นใหม่ของดิสนี่ย์

    “หลิวอวี้เฟย” ได้รับคัดเลือกให้แสดงเป็น ‘มู่หลาน’ ในหนังคนแสดงจริงเวอร์ชั่นใหม่ของดิสนี่ย์

    หลังจากดิสนีย์ได้ประกาศว่าจะนำแอนิเมชั่นชื่อดังของพวกเขาอย่าง Mulan มาสร้างเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงจริง เหล่าแฟนๆ ก็ต่างรอคอยประกาศว่า ใครจะได้มารับบท “มู่หลาน” ล่าสุดทางดิสนีย์ได้ประกาศชื่อนักแสดงออกมาแล้ว บอกเลยว่าคอหนังจีนชาวไทยต้องคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างดีแน่นอน     และผู้ที่ถูกเลือกให้รับบทมู่หลานภาคคนแสดงคือ หลิว อวี้เฟย หรือที่รู้จักในชื่อ Crystal Liu เป็นนักแสดงชาวจีนที่มีหน้าตาสะสวยพร้อมคุณสมบัติที่เหมาะกับบทนี้มากๆ     Hollywood Reporter รายงานว่า “ในการค้นหานักแสดงที่จะมารับบทตัวละครหลักของเรื่องนี้ ทางดิสนีย์ยืนยันว่าต้องเป็นนักแสดงหญิงเชื้อสายจีน ที่มีความสามารถทางด้านศิลปะการต่อสู้และสามารถพูดภาษาอังกฤษได้”     ทั้งนี้ผู้ที่ทำหน้าที่แคสนักแสดงได้ทำการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมกว่า 1,000 คน จาก 5 ทวีปทั่วโลก จนในที่สุดก็ได้หลิวอวี้เฟยในวัย 30 ปี มารับบทมู่หลาน     สำหรับหลิวมีชื่อเรียกในวงการว่า Fairy Sister เธอเป็นนักแสดงเชื้อสายจีนที่โด่งดังมากในช่วงกลางปี 2000-2009 จากการเล่นซีรีส์จีน ขณะที่เรียนอยู่ใน Beijing Film Academy เป็นโรงเรียนสอนการแสดงชื่อดังของจีน สำหรับในไทย เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จัก หลิวอวี้เฟย จากบทบาท “เซียวเล่งนึ้ง” ในซีรีส์ มังกรหยก…

  • ทหารระดับสูงจีนฆ่าตัวตาย หลังโดนตรวจสอบ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตคอรัปชั่น!!

    ทหารระดับสูงจีนฆ่าตัวตาย หลังโดนตรวจสอบ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตคอรัปชั่น!!

    อย่างที่ทราบกันดีว่าขณะนี้ ประเทศจีนซึ่งนำโดยประธานาธิบดีซี จินปิง กำลังดำเนินนโยบายต่อต้านการคอรัปชชั่นอยู่ ซึ่งส่งผลกระทบไปยังข้าราชการระดับสูงหลายฝ่าย รายงานข่าวล่าสุดจากทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ระบุว่านายพลจางหยาง ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงของประเทศจีน ได้ฆ่าตัวตายเพื่อหนีข้อกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชั่น   scmp เหตุเกิดขึ้นในวันที่ 23 พฤศจิกายน นายพลจางหยางแขวนคอตายที่บ้านของตนเพื่อหนีความผิดและสิ้นชีพด้วยอายุ 66 ปี การฆ่าตัวตายของเขาเกิดขึ้นระหว่างที่กำลังดำเนินการสอบสวนเรื่องการทุจริตอยู่ และนี่นับเป็นการฆ่าตัวตายของทหารที่มียศสูงที่สุดของจีนในขณะนี้ ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพปลดแอกประชาชนจีนยังต่อว่าเขา ว่าการฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิดแบบนี้เป็นการกระทำที่ไร้เกียรติโดยสิ้นเชิง ทั้งยังเป็นคนตีสองหน้าที่มักพูดถึงเกียรติยศ แต่ลับหลังกลับโกงกิน   ประธานาธิบดีซี จินผิง ดำเนินนโยบายการคอรัปชั่นอย่างเด็ดขาด   นอกจากนี้นายพลจางหยางยังเคยติดต่อกับนาย กว๋อ โปเซียง และนาย ซี ไคโหว ซึ่งทั้งคู่เคยถูกปลดออกจากคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง ด้วยเหตุผลว่าทั้งคู่วางแผนต่อต้านนายทหารระดับสูงสุด โดยนายกว๋อโปเซียงรับโทษประหารชีวิตไปเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา ส่วนนายซีไคโหวเสียชีวิตระหว่างถูกศาลสอบสวนด้วยโรคมะเร็งในปี 2558   นาย กว๋อ โปเซียง ซึ่งถูกประหารชีวิตเมื่อปี 2559   ที่มา: bloomberg

  • เมื่อ “ท่านปูติน” พบปะนักศึกษา แต่โดนเด็กขัดจังหวะ ทำให้เห็นว่าผู้นำระดับโลกวางตัวยังไง!?

    เมื่อ “ท่านปูติน” พบปะนักศึกษา แต่โดนเด็กขัดจังหวะ ทำให้เห็นว่าผู้นำระดับโลกวางตัวยังไง!?

    รายงานข่าวล่าสุดจากงานเปิดอนุสาวรีย์ ซาร์ อเล็กซานเดอร์ที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นในประเทศรัสเซีย งานนี้นอกจากจะมีบุคคลสำคัญของประเทศอย่าง วลาดิเมียร์ ปูติน มาร่วมพิธีแล้ว ยังเปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาได้พบปะพูดคุยกับเขาด้วย คลิปการพบปะพูดคุยของปูติน กับเหล่านักศึกษาสาว กลายเป็นที่พูดถึงกันทั่วโลกออนไลน์ หลังจากที่มีทั้งมุกตลก การพูดอย่างเป็นกันเอง รวมไปถึงการที่มีเด็กชายคนหนึ่งมาขัดจังหวะแบบน่ารักๆ อีกด้วย     เริ่มคลิปจากการที่กล่าวทักทายนักศึกษาสาวๆ แถมยังถามด้วยว่าใส่เสื้อโค้ทกันหนาวในฤดูร้อนแบบนี้ เพราะหนาวเหรอ… พอนักศึกษาตอบว่าไม่หนาว พ่อหนุ่มปูตินเราก็แซวซะว่าแบบนี้พวกเธอคงจะ Very Hot มากๆ เลยนะจ๊ะ   พอแซวเรียบร้อย ก็เข้าสู่การสอบถามแบบจริงจัง ก็ได้ความว่าเรียนด้านนักข่าว ปี 3 ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง งานนี้ปูตินก็เลยถามต่อว่า ถ้าเป็นนักข่าวจะเขียนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้!? เธอก็เลยตอบว่าคงเป็นเรื่องราว อาจจะเป็นบทกวีที่เกี่ยวข้องกับเขา หรือถ้ามีโอกาสก็อยากจะเขียนหนังสือให้ได้ 1 เล่มเลย   พอได้ทราบเรื่อง ปูตินก็เลยเสนอตัวเป็นสปอนเซอร์โปรเจ็คหนังสือเกี่ยวกับ ซาร์ อเล็กซานเดอร์ที่ 3 ให้แทบจะทันที   ยัง… ยังไม่พอ ยังดึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมาแนะนำ แถมให้จำหน้าเอาไว้ มีปัญหาเรื่องเงินพวกหนูไปเบิกกับลุงคนนี้เลยนะ ฮ่าๆๆ   แต่!!  หลังจากกล่าวบ๊ายบายโบกมืิอลาเรียบร้อย กำลังจะไปทำงานของตัวเองต่อ จู่ๆ มีเจ้าหนูคนหนึ่งโผล่มาแย่งซีนจากด้านหลังซะงั้น และดูเหมือนเจ้าหนูจะดึงดูดความสนใจจากลุงปูตินได้มากกว่าสาวๆ…

  • เมือง Staufen ณ เยอรมนี กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ จากเหตุขุดเจาะใต้ดินที่ผิดพลาดในอดีต!!

    เมือง Staufen ณ เยอรมนี กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ จากเหตุขุดเจาะใต้ดินที่ผิดพลาดในอดีต!!

    Staufen คือชื่อของเมืองในประเทศเยอรมนีที่มีผู้อยู่ในอาศัยมากกว่า 8,100 ครัวเรือน ทางการเคยมองว่าเมืองแห่งนี้จะเป็นสถานที่นำร่องพลังงานสีเขียวของประเทศ จึงทำการจัดตั้งโปรเจกต์ใหญ่ขึ้นมาพร้อมขุดเจาะเพื่อหาพลังงานสีเขียวในปี 2007 แน่นอนว่าผลลัพธ์มันค่อยๆ ส่งผลเสียมาทีละนิดๆ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน โดยชาวเมืองได้ค้นพบว่า โปรเจกต์หาพลังงานสีเขียวโดยการขุดเจาะดังกล่าวมันดันส่งผลเสียอันใหญ่หลวงเกินกว่าหลายคนคาดไว้ เพราะหลังจากที่แท่นขุดเจาะขุดลงไปถึงชั้นน้ำบาดาล ผลที่ตามมากลับทำให้พื้นดินเกิดขยายตัวและสูงขึ้น ทำให้บ้านเรือนจำนวนมากกว่า 230 หลังเกิดรอยร้าวตามมา!?     ผู้ว่าการเมือง Staufen ก็ออกมาบอกว่า “พวกเราต้องอยู่ในสภาพพร้อมรับปัญหาแบบนี้มา 10 ปีแล้ว มันเป็นภัยร้ายที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ” อาคารหลายๆ แห่งในตัวเมืองจะมีการทาสีเหมือนพลาสเตอร์แปะไว้ พร้อมกับมีข้อความเขียนไว้ว่า “Staufen จะต้องไม่พังลง” ซึ่งมันก็เป็นคำปลอบใจชาวเมืองที่ไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่     ตอนนี้พื้นดินในเมืองเคลื่อนสูงขึ้นกว่า 60 เซนติเมตรและเคลื่อนไปด้านข้างถึง 45 เซนติเมตร และผลของการเคลื่อนตัวในครั้งนี้ ทำให้บ้านสองหลังถล่มลงมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้อาคารหลังอื่นๆ ก็อาจพังลงมาได้ทุกเมื่อเช่นกัน ผู้ว่าเมืองได้บอกว่า เขาพยายามสู้กับปัญหานี้มาเป็นเวลานานแล้ว เขาพยายามมองหาทางออกเพื่อให้พื้นที่ตัวเมืองกลับไปเป็นเหมือนเดิมแต่มันก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม Staufen ไม่ใช่เมืองเพียงแห่งเดียวที่ต้องเผชิญกับปัญหานี้ เมือง Freiburg ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ก็เจอปัญหาคล้ายแบบเดียวกันเป๊ะ ซึ่งทาง German Geothermal Association ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด พวกเขายังคงมองหาทางออกอยู่เรื่อยๆ นั่นเอง   ที่มา odditycentral,thelocal

  • ทางการไซบีเรียเตือนประชาชน โปรดระมัดระวัง ‘หมีมีปืน’ หลุดอาละวาด ถ้าเจออย่าแกล้งตาย!!

    ทางการไซบีเรียเตือนประชาชน โปรดระมัดระวัง ‘หมีมีปืน’ หลุดอาละวาด ถ้าเจออย่าแกล้งตาย!!

    เวลาพูดถึงไซบีเรียคุณจะนึกถึงอะไรเป็นสิ่งแรก สุนัขไซบีเรีย? สภาพอากาศที่หนาวเย็น? แน่นอนว่าคุณอาจจะไม่ทันคิดถึงหมีใช่ไหมล่ะ ยิ่งหมีถือปืนคุณยิ่งคาดไม่ถึงแน่ๆ อ่านแล้วอาจจะงง อะไรกันหมีมีปืน? แต่ทางการไซบีเรียได้แจ้งเตือนกับประชาชนแบบนั้นจริงๆ เพราะว่าเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ได้มีหมีตัวตัวหนึ่งบุกเข้าไปในกระท่อมนายพรานจากนั้นก็แอบขโมยปืนของเขาไป     นายพรานวัย 56 ปี ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้กับตัวเอง โดยเขาได้เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ตอนนั้นผมออกไปล่าสัตว์ ซึ่งกว่าจะกลับถึงเมืองก็ใช้เวลานาน ผมเลยตัดสินใจพักอยู่ในกระท่อมกลางป่า จากนั้นผมหิวน้ำเลยกะออกไปหาน้ำดื่มสักหน่อย พอกลับมาก็ได้เจอกับเจ้าหมีที่พยายามทำอะไรบางอย่างอยู่ ผมไม่อยากปะทะจึงต้องหนี” ไม่นานนักหลังจากที่นายพรานคนดังกล่าวหนีไปเพื่อหลบเจ้าหมีก็ได้กลับมาที่กระท่องหลังเดิม เขาพบว่ากระเป๋าและปืนสองกระบอกของเขาได้หายไป ตัวเขาจึงตัดสินใจไปแจ้งตำรวจเกี่ยวกับเรื่องที่เจอ     จากรายงานของตำรวจก็พบว่าหมีได้ทิ้งร่องรอยการเดินทางไว้พอสมควร ทั้งกรงเล็บและรอยฟันของมัน อย่างไรก็ตามตัวนายพรานก็ตัดสินใจออกตามหาหมีเพื่อทวงปืนของเขาคืน   .   หลักฐานที่เจ้าหน้าที่เจอรอย เล็บของเจ้าหมีตัวป่วน   แน่นอนว่านายพรานยังสามารถล่าหมีดังกล่าวได้ปกติ เพราะจนกว่าจะหมดฤดูกาลล่าสัตว์ในไซบีเรียนนั้น ก็ต้องรอจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งก็หวังว่านายพรานจะเจอหมีและปืนของเขา แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากรู้แน่ๆ คือหมีเอาปืนไปทำไม? หรือว่าหมีจะเรียนรู้การใช้ปืนแล้ว? หรือมันตั้งใจวางแผนจะมายึดครองโลกของเรา หว่ายยยยย!! ที่มา siberiantimes,odditycentral

  • 16 รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จาก Disney & Pixar ที่หลายคนอาจมองข้ามไป

    16 รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จาก Disney & Pixar ที่หลายคนอาจมองข้ามไป

    ภาพยนตร์แอนิเมชั่นจาก Disney & Pixar เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ แฝงไปด้วยข้อคิด มุมมองที่น่าสนใจ และซ่อนความลับสุดเซอร์ไพรส์เอาไว้มากมายในแบบที่แม้แต่แฟนตัวยงก็ไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน เช่น …   1. แบตเตอรี่ที่ให้พลังงาน Buzz Lightyear เป็นของบริษัทใหญ่ยักษ์อย่าง Buy & Large ที่อยู่ในเรื่อง Wall-E   2. เมื่อใดก็ตามที่ท่านเทพ Maui จากการ์ตูนเรื่อง Moana แปลงร่างเป็นสัตว์ คุณจะสามารถมองเห็นตะขอขนาดใหญ่ซึ่งเป็นอาวุธคู่ใจอยู่ใต้ปีก   3. ในการ์ตูนเรื่อง Cars คุณเคยสังเกตบ้างหรือไม่ว่าเหล่าแมลงที่ได้ออกมาปรากฏตัวนั้นมันคือรถคันเล็กๆ ที่มีปีก   4. ใน Toy Story มีกล่องเครื่องมือ Binford ซึ่งเป็นชื่อของรายการซิทคอมเรื่อง Home Improvement ที่ Tim Allen ผู้ให้เสียง Buzz Lightyear มาร่วมแสดง   5. ใน Tangled โคมไฟที่…

  • คุณครูอนุบาลในจีนถูกจับกุม หลังพบว่าเด็กมีร่องรอยถูกทารุณ และการคุกคามทางเพศ

    คุณครูอนุบาลในจีนถูกจับกุม หลังพบว่าเด็กมีร่องรอยถูกทารุณ และการคุกคามทางเพศ

    เกิดเป็นเรื่องอื้อฉาวและน่าสะเทือนใจอย่างมาก สำหรับเหล่าผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลซึ่งได้มีรายงานจากสื่อของประเทศจีนว่า มีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กขณะที่อยู่ในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเป็นประเด็นเมื่อผู้ปกครองของเด็กอนุบาลของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเฉาหยาง กรุงปักกิ่งได้พบว่าลูกของตัวเองมีรอยเข็มหลายจุดตามตัวทั้งต้นขา สะโพก เมื่อสอบถามเด็กๆ แล้วก็ได้ทราบว่าหลังอาหารกลางวันคุณครูประจำชั้นจะเอายาให้กินทุกวัน จากนั้นก็จะหลับไป ซึ่งทำให้ผู้ปกครองตั้งข้อสงสัยว่าเด็กๆ ได้ถูกทารุณกรรมหรือล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่     ผู้ปกครองคนอื่นๆ ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ลูกวัย 3 ขวบของเขาบอกว่าที่โรงเรียนมีกิจกรรมการตรวจร่างกาย โดยที่เด็กๆ ทุกคนต้องถอดเสื้อผ้าแล้วมีคุณหมอแก่ๆ 2 คนถอดเสื้อผ้ามาตรวจร่างกายด้วย และคุณครูก็บอกไว้ว่า อย่าไปบอกใครเพราะว่าคุณครูติดกล้องตามเด็กๆ ไปแล้ว ถ้าใครฟ้องพ่อแม่ครูจะรู้ทันที .   และจากข้อมูลเบื้องต้นทำให้เหล่าผู้ปกครองเกิดอาการไม่พอใจและได้ไปประท้วงหน้าโรงเรียนเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาเพื่อให้ทางโรงเรียนออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งพูดความจริงทั้งหมด อีกทั้งยังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานการศึกษาเข้ามาตรวจสอบอีกด้วย โดยจะเก็บหลักฐานและนำวิดีโอจากกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ .   หลังจากนั้นไม่นานทางตำรวจก็ได้จับกุมหญิงสาววัย 22 ปีที่ชื่อว่า Liu ครูโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้เพื่อสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นและทางโรงเรียนยังสั่งพักงานคุณครู 3 คนเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง     ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองที่วางใจให้กับโรงเรียนอนุบาล โดยที่ไม่คิดเลยว่าบุตรหลานของพวกเขาจะต้องมาเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้   ที่มา board.postjung,shanghaiist

  • หมอผ่าท้องคนไข้หลังจากเจ็บนานร่วม 3 เดือน พบสิ่งแปลกปลอมและเหรียญกว่า 263 เหรียญ!

    หมอผ่าท้องคนไข้หลังจากเจ็บนานร่วม 3 เดือน พบสิ่งแปลกปลอมและเหรียญกว่า 263 เหรียญ!

    เรื่องราวต่อไปนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล Sanjay Gandi รัฐ Madhya Pradesh ประเทศอินเดียหลังจากที่ชายที่ชื่อว่า Maksud Khan อายุ 35 ปีได้เข้ามาเพื่อรับการรักษาหลังจากที่เขาต้องทนทรมานจากอาการปวดท้องมาร่วม 3 เดือน ในเบื้องต้นทางแพทย์ได้วินิจฉัยว่าอาจจะเป็นเพราะโรคอาหารเป็นพิษชนิดรุนแรงแต่เมื่อทำการส่องกล้องดูก็ต้องตกตะลึงเพราะว่าเจอวัตถุแปลกปลอมอยู่ในท้องกว่า 7 กิโลกรัม     นาย Maksad ต้องเข้ารับการผ่าตัดในทันที หลังจากการผ่าตัดสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีทางแพทย์ก็ได้พบว่าในท้องของเขาเต็มไปด้วยเหรียญถึง 263 เหรียญ รวมไปถึงตะปู ใบมีดโกน เศษแก้วและก้อนหิน Dr.Priyank Sharma หัวหน้าทีมแพทย์ได้กล่าวว่า “ผู้ป่วยบ่นว่าเขามีอาการปวดท้อง เราจึงได้ทำการส่องกล้องเพื่อตรวจหาสาเหตุแต่ก็ต้องตกใจเพราะว่าเจอเหรียญและโลหะต่างๆ ในกระเพาะอาหารของเขา และนี่เป็นครั้งแรกที่ทางเราเจอผู้ป่วยในกรณีนี้ ในตอนที่เรากำลังผ่าตัดตะปูบางส่วนได้ทิ่มแทงกระเพาะอาหารทำให้เขาสูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก”     และทางแพทย์ได้สืบหาสาเหตุที่เขากลืนเหรียญและวัตถุต่างๆ อีกครั้ง หลังจากการสอบถามญาติก็พบว่าชายคนนี้มีปัญหาทางจิต เขามักจะกลืนเหรียญหรือวัตถุโลหะทุกครั้งที่เขารู้สึกซึมเศร้า แต่มันก็เป็นเรื่องแปลกที่ตอนแรกสิ่งที่เขากลืนเข้าไปไม่ได้ทำอันตรายใดๆ แก่ร่างกายเขาเลย ซึ่งมันเพิ่งมาปรากฏอาการขึ้นหลังจากนั้น 3 เดือน โชคดีที่เขามารับการรักษาอย่างทันเวลา จึงทำให้ไม่เป็นอันตรายจนถึงแก่ชีวิต นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพบวัตถุแปลกปลอมในร่างกายของมนุษย์ในประเทศอินเดีย อย่างเมื่อช่วงเดือนก่อนมีข่าวพบตะปูกว่า 70 ตัวภายในขาของหญิงสาวคนหนึ่ง สร้างความตกตะลึงให้กับแพทย์เป็นอย่างมาก (ย้อนอ่าน)…

  • วิถีของนักเรียนไซบีเรีย ฝ่าลมหนาวรุนแรงเดินกลับบ้าน ในวันที่โรงเรียนปิดเพราะพายุ…

    วิถีของนักเรียนไซบีเรีย ฝ่าลมหนาวรุนแรงเดินกลับบ้าน ในวันที่โรงเรียนปิดเพราะพายุ…

    เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา สำนักข่าว Siberian Time ได้เผยแพร่วิดีโอเหตุการณ์ขณะที่นักเรียนจากหมู่บ้าน Russkoye Ustye เมือง Yakutia ประเทศรัสเซียกำลังฝ่าพายุกลับบ้านหลังจากที่ทราบว่าโรงเรียนปิด สาเหตุที่โรงเรียนต้องหยุดทำการเรียนการสอนในวันนั้นเนื่องจากว่ามีพายุถล่ม ทำให้อุณหภูมิต่ำสุด -44 องศาเซลเซียส     คลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่นักเรียนกำลังฝ่าพายุกลับบ้าน   จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าเหล่านักเรียนนั้นพยายามจะเดินเกาะกันเป็นกลุ่มฝ่าพายุลมที่มีกำลัง 108 กิโลเมตรต่อชั่วโมง   นักเรียนเดินกันเป็นกลุ่มและตะโกนบอกให้จับมือกันไว้ ระมัดระวังตัว และอย่าตกลงไป   พายุที่พัดผ่านประเทศรัสเซีย   พายุที่รุนแรงทำให้โรงเรียนและสถานที่ทำงานแต่ละแห่งประกาศหยุดทำการชั่วคราว จนกว่าสภาพอากาศจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง   ที่มา siberiantimes

  • สาวไร้แขนกลายเป็นเน็ตไอดอล ถ่ายทอดสดชีวิตของเธอ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวเน็ต

    สาวไร้แขนกลายเป็นเน็ตไอดอล ถ่ายทอดสดชีวิตของเธอ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวเน็ต

    ในยุคแห่งโลกออนไลน์ การไลฟ์หรือสตรีมมิงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ประชาชนชาวจีนนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หญิงสาวหลายคนใช้การไลฟ์สตรีมมิงเป็นช่องทางในการโปรโมตและถ่ายทอดชีวิตของตัวเอง จนบางคนนั้นกลายเป็นเซเลบในโลกออนไลน์เลยทีเดียว หญิงสาวที่ชื่อว่า Yang Li อายุ 27 ปี ชาวเมืองเปิ้งปู มณฑลอานฮุย เธอหญิงสาวที่ไร้แขนทั้งสองข้างมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอย่อท้อหรือหมดหวังในชีวิตแต่อย่างใด     เธอสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ และสามารถทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องแคล่วด้วยการใช้สองเท้าแทนมือไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า ทานอาหาร หรือแม้กระทั่งการเขียนอักษรจีน และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอตกเป็นข่าวดังในฐานะที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ด้วยสองเท้าของเธอ     เธอใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยอย่างคนปกติจนกระทั่งจบการศึกษา การหางานทำของเธอเริ่มมีอุปสรรคเนื่องจากความพิการของเธอ แต่เธอก็สามารถสอบเป็นเสมียนได้และทำความฝันอันสูงสุดของเธอได้นั่นก็คือการเลี้ยงดูตัวเองได้โดยที่ไม่เป็นภาระของพ่อแม่     แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของเธอก็มาถึงอีกครั้งเมื่อเธอได้ค้นพบว่าการไลฟ์สตรีมมิงจะเป็นช่องทางในการเผยแพร่ชีวิตของเธอ ซึ่งนี่จะทำให้คนอื่นได้รู้ว่าเธอใช้ชีวิตอย่างไรแบบไร้แขน ช่องสตรีมมิงของเธอได้รับความสนใจจากประชาชนชาวจีนเป็นอย่างมากด้วยยอดผู้ติดตามกว่า 900,000 คน ทั่วประเทศจีนในฉายา “หญิงสาวผู้สร้างแรงบันดาลใจในประเทศจีน”   ลองไปชมชีวิตของเธอกันดีกว่า ที่มา shanghaiist

  • สองเด็กชายหลบอยู่ใต้รถเมล์ ข้ามเมืองไปไกลกว่า 90 กม. เพื่อออกไปตามหาพ่อแม่

    สองเด็กชายหลบอยู่ใต้รถเมล์ ข้ามเมืองไปไกลกว่า 90 กม. เพื่อออกไปตามหาพ่อแม่

    เหตุการณ์อันน่าตกใจนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน หลังจากที่เด็กชาย 2 ได้แอบเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถบัส และออกเดินทางเกือบ 100 กิโลเมตรเพื่อตามหาพ่อแม่ของพวกเขา เด็กหนุ่มวัย 8 และ 9 ขวบได้แอบขึ้นรถบัสจากหมู่บ้านของพวกเขาที่อยู่ทางตะวันตกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เพื่อไปตามหาพ่อและแม่ที่ออกไปทำงานในเมือง ทั้งสองซ่อนตัวอยู่ใต้รถบัสนานกว่า 3 ชั่วโมงก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่พบ     เด็กน้อยทั้งสองแอบหนีออกจากโรงเรียนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานีรถโดยสาร เด็กน้อยแอบซ่อนตัวอยู่ในช่องแคบๆ บริเวณใต้รถของรถโดยสารที่กำลังจะเดินทางเข้าไปในเมือง ซึ่งราคาตั๋วค่าโดยสารนั้นอยู่ที่ประมาณ 160 บาท สำนักข่าวจากประเทศจีนรายงานว่า หลังจากที่รถคันดังกล่าวเดินทางมาเป็นระยะทางกว่า 90 กิโลเมตรและผ่านเส้นทางที่ทุรกันดารมากมาย เจ้าหน้าที่ของสถานีก็ตรวจพบเด็กน้อยทั้งสองที่ใต้ท้องรถ ในสภาพที่ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยโคลนและฝุ่น     โชคดีที่เด็กน้อยทั้งสองไม่ได้รับอันตรายจากการเดินทาง ทั้งสองถูกส่งตัวกลับไปยังบ้านเกิดหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกับทางโรงเรียนให้มารับตัวพวกเด็กๆ ถึงแม้ว่าเด็กน้อยทั้งสองจะได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ความฝันที่จะได้พบหน้าพ่อแม่ของพวกเขานั้นกลับไกลออกไป ทั้งสองบอกกับเจ้าหน้าที่สถานีว่าพ่อแม่ของพวกเขาทำงานอยู่ใกล้ๆ กับมณฑลกวางตุ้ง แต่พวกเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อเดินทางไปถึงเมืองใหญ่แล้วจะออกตามหาพ่อแม่ได้อย่างไร   .   ปัญหาความยากจนและการกระจายรายได้อาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้หลายๆ คนต้องทิ้งครอบครัว มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวง พร้อมกับความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยต้องแลกกับความรักความอบอุ่นของครอบครัว   ที่มา shanghaiist

  • เปิดทำเนียบมงกุฎ Miss Universe ตลอดเวลา 60 ปี ที่เปลี่ยนมาแล้วถึง 9 รุ่น!!

    เปิดทำเนียบมงกุฎ Miss Universe ตลอดเวลา 60 ปี ที่เปลี่ยนมาแล้วถึง 9 รุ่น!!

    สิ้นสุดกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการประกวด Miss Universe ครั้งที่ 65 เมื่อวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งเราก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ Demi-Leigh Nel-Peters สาวงามจากประเทศแอฟริกาใต้ ที่สามารถคว้ามงกุฎในปีนี้ไปครองได้อย่างสวยงามอีกครั้ง และในขณะที่กำลังดูถ่ายทอดสดถึงช่วงเวลาที่มงพร้อมลงหัว ต้องบอกเลยว่า #เหมียวขี้อ้อน รู้สึกสะดุดตากับ “มงกุฎมิกิโมโตะ” ที่ถูกนำมาสวมให้ผู้ชนะในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะจริงๆ แล้วมงกุฎดังกล่าว ถือเป็นมงกุฎรุ่นที่ 7 ที่ได้รับการออกแบบขึ้นต่อจากมงกุฎรุ่นที่ 6 แล้วนำมามอบให้กับผู้ชนะเป็นครั้งแรกในปี 2002 นั่นเอง และในครั้งนี้เราจะขอพาแฟนนางงามทุกคน ไปย้อนชมความงามของมงกุฎจากกองประกวด Miss Universe ที่มีมาแล้วถึง 9 รูปแบบและเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ว่ารุ่นไหนจะงดงามถูกใจแฟนๆ มากที่สุด มาดูกันเลย     มงกุฎรูปแบบที่ 1 มงกุฎราชวงศ์โรมานอฟ (The Romanov Imperial nuptial crown) ใน 1952 นับว่าเป็นปีแรกที่ได้จัดการประกวด Miss Universe…

  • หนุ่มจีนฮีโร่ ช่วยสี่ชีวิตออกมาจากรถที่กำลังจมน้ำ ได้รับตอบแทนด้วย ‘หัวปลาฟรี’ ตลอดชีพ!!

    หนุ่มจีนฮีโร่ ช่วยสี่ชีวิตออกมาจากรถที่กำลังจมน้ำ ได้รับตอบแทนด้วย ‘หัวปลาฟรี’ ตลอดชีพ!!

    ในหลายๆ ครั้ง การทำความดีหรือการช่วยเหลือผู้อื่นก็จะได้รับผลตอบแทนกลับมาเป็นคำขอบคุณหรือของตอบแทนบางอย่าง เหมือนกับชายคนนี้ที่ได้รับ หัวปลา… (ใช่คุณอ่านไม่ผิดหรอก) เป็นการขอบคุณที่เขาได้ช่วยเหลือคนถึง 4 คนให้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุมาได้ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Shanghaiist ได้รายงานว่า ขณะที่ Liu Xinting ชายหนุ่มชาวจีนวัย 42 ปี กำลังขับรถกลับเมืองหางโจว ประเทศจีน หลังจากที่เขาได้ออกไปกินหัวปลากับเพื่อนมา ในระหว่างทางนั้นเขาก็ได้เจอกับอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นกลางถนน   อุบัติเหตุที่ถูกถ่ายไว้จากกล้องหน้ารถของ Liu   รถบรรทุกเล็กสีน้ำเงินได้ชนเข้ากับท้ายรถของรถยนต์คันสีแดงขณะที่กำลังทำการเปลี่ยนเลน จนทำให้รถสีแดงคันดังกล่าวเสียการควบคุมและเลี้ยวโค้งหักตัดถนนพุ่งหายเข้าไปในป่า ก่อนที่จะไปลอยอยู่ในทะเลสาบ Qiandao Liu ผู้เห็นเหตุการณ์ก็ไม่รอช้ารีบลงไปช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในรถคันนั้นทันที ในตอนนั้นรถคันดังกล่าวลอยห่างออกไปจากบริเวณฝั่งประมาณ 20 เมตร แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคของฮีโร่หนุ่มคนนี้เลย โชคดีที่กระจกรถได้เปิดเอาไว้ ทำให้ Liu สามารถช่วยคนที่ติดอยู่ด้านในทั้ง 4 คนก่อนที่รถจะจมลงไปได้สำเร็จ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนท้องรวมอยู่ด้วย   Liu ฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ถึง 4 คน   บาดแผลเล็กน้อยที่เขาได้รับจากการทำความดีในครั้งนี้ .   เขาได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวท้องถิ่นว่า “ในเวลานั้นผมไม่มีเวลาที่จะคิด…

  • ผู้นำเดนมาร์กเข้าพบผู้นำอินโดฯ ก่อนจะมอบของที่ระลึกเป็นบ็อกเซ็ตวง Metallica!!

    ผู้นำเดนมาร์กเข้าพบผู้นำอินโดฯ ก่อนจะมอบของที่ระลึกเป็นบ็อกเซ็ตวง Metallica!!

    การให้ของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อเรื่องจิตใจของทั้งสองฝ่าย ซึ่งการให้ของขวัญเป็นการเชื่อมสัมพันธ์อันดีต่อกันที่ให้ความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ และแน่นอนว่าเมื่อผู้นำระดับประเทศไปเยือนต่างประเทศก็ย่อมมีของขวัญติดไม้ติดมือเป็นธรรมดา ปกติแล้วเมื่อผู้นำระดับประเทศไปเยือนผู้นำอีกประเทศ ก็มักจะนำของที่ระลึกท้องถิ่นที่หาได้เฉพาะในประเทศนั้นๆ ไปมอบให้อย่างประเทศไทยก็จะเป็นผ้าไหม ญี่ปุ่นก็เป็นชุดกิโมโน จีนก็อาจจะเป็นสร้อยไข่มุกก็เป็นได้     แต่ว่าได้มีการมอบของขวัญที่แหวกกฎการให้แบบเดิมๆ เพราะเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา เพราะว่า ผู้นำประเทศแห่งหนึ่งกลับมอบแผ่นเสียงของวงเมทัลชื่อดังอย่าง Metallica แทนของท้องถิ่นตามธรรมเนียมซะอย่างงั้น ด้วยความที่ Joko Widodo ประธานาธิบดีประเทศอินโดนีเซียเป็นคอดนตรีร็อกแนวเมทัลสุดโหด ผู้นำประเทศเดนมาร์กที่ชื่อว่า Lars Løkke Rasmussen จึงได้ตระเตรียมของขวัญสุดพิเศษในโอกาสไปเยือนประเทศอินโดนีเซียคราวนี้ไว้ให้เป็นอย่างดี นั่นก็คือบ็อกเซ็ตของวง Metallica ที่ชื่อว่า The Master of Puppet นั่นเอง!   ถูกใจขาร็อกเมทัลเขาล่ะ   ซึ่่งก็แน่นอนว่าของขวัญชิ้นนี้สร้างความพึงพอใจให้กับท่านผู้นำอินโดฯ เป็นอย่างมาก สังเกตได้จากใบหน้ายิ้มแฉ่งของ Joko ตลอดเวลาที่ถ่ายรูปพร้อมกัน     “Rasmussen เข้าใจถึงหัวอกความเป็นร็อคเกอร์ของผมเป็นอย่างดี เพราะว่าเขาได้มอบแผ่นเสียงของวง Metallica ซึ่งเป็นวงโปรดของผมมาให้” Jokowi ให้สัมภาษณ์ขณะกำลังรับบ็อกเซตแผ่นเสียงจากมือของ Rasmusseen   ฟังกันให้หูตาดับกันไปข้างนึงเลย   โดยภายในแผ่นเสียงนี้ได้บรรจุเพลงเมทัลสุดคลาสสิค ไว้ถึงแปดเพลงอย่าง Disposable Heroes, The…

  • คลาสเรียนศิลปะดุกดุ๋ย ให้นักเรียนได้สูบพืชวิเศษ เสริมจินตนการสร้างผลงานอย่างเพลิดเพลิน!!

    คลาสเรียนศิลปะดุกดุ๋ย ให้นักเรียนได้สูบพืชวิเศษ เสริมจินตนการสร้างผลงานอย่างเพลิดเพลิน!!

    ในปัจจุบันประเทศอเมริกาได้อนุญาตให้ผู้คนสามารถเสพกัญชากันได้อย่างเสรีมากยิ่งขึ้น จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นพวกเขาเสพเพื่อการผ่อนคลายหรือไม่ก็อาจจะเสพเพื่อปลุกจินตนาการในตัวเหมือนกับสถาบันศิลปะแห่งนี้ Puff , Pass & Paint คือสถาบันสอนวาดภาพที่ก่อตั้งเป็นครั้งแรกในปี 2014 ที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยศิลปิน Heidi Keyes ผู้เสพกัญชามากว่าครึ่งชีวิต   สถาบันศิลปะของเธอได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากการที่มีกัญชาเป็นจุดขาย   เธอได้ขยายสาขาออกไปหลายๆ แห่ง จนในตอนนี้เราสามารถพบเห็นสถาบันของเธอได้ใน 6 รัฐที่ปล่อยให้เสพกัญชาอย่างเสรี .   ราคาต่อคลาสจะอยู่ที่ประมาณ 1,600 บาท สำหรับ 2 ชั่วโมง โดยจะแจกอุปกรณ์วาดภาพให้กับทุกคนได้ใช้   แต่นักเรียนทุกคนต้องนำกัญชามากันเอง ไม่มีแจกให้หรอกนะ .   ที่เราเห็นกันอยู่นี้ก็เป็นภาพบรรยากาศของคลาสที่จัดขึ้นในซานฟรานซิสโก กับนักเรียนคนหนึ่งที่พกกัญชาแบบใส่กล่องมาดูดีเชียว   กัญชาในรูปแบบกล่องนี้ก็จะมีกลิ่นพวกส้ม หรือวานิลลาผสมอยู่ด้วยนะ   บางคนก็พกขนมผสมกัญชามากินเล่นเพลินๆ ไป   Dominic หนึ่งในนักเรียนของคลาสนี้บอกว่าเขาชอบที่จะปล่อยสมองให้ผ่อนคลายไม่ต้องคิดอะไรเวลาที่ได้วาดรูป ซึ่งกัญชาก็คือตัวช่วยที่ดีสำหรับเขา   ในคลาสนี้ก็เหมือนกับทุกคลาสของสถาบันที่ต้องทำการเซ็นสัญญายินยอมก่อนว่า จะเสพกันในจำนวนที่ไม่มากจนเกินไปและห้ามขายกัญชาให้กับเพื่อนในคลาส  …

  • ทีมนักวิทย์ฯ ขุดพบโครงกระดูก  ‘วัวทะเลชเตลเลอร์’ สัตว์โบราณที่สูญพันธุ์ไปเกือบ 300 ปี

    ทีมนักวิทย์ฯ ขุดพบโครงกระดูก ‘วัวทะเลชเตลเลอร์’ สัตว์โบราณที่สูญพันธุ์ไปเกือบ 300 ปี

    พวกเราคงไม่มีโอกาสได้เห็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วแบบตัวเป็นๆ แต่อย่างน้อยเราก็อาจได้เห็นซากของมันเหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ที่ได้ไปเจอเข้ากับโครงกระดูกของสัตว์น้ำขนาดมหึมาที่ได้สูญพันธ์ไปเมื่อนานมาแล้ว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งหมู่เกาะคอมมานเดอร์ บนคาบสมุทรคัมชัตคา ในประเทศรัสเซีย เมื่อพวกเขาได้ขุดไปเจอกับซากโครงกระดูกของสัตว์ทะเลที่สูญพันธุ์ไปแล้วนั่นก็คือ “วัวทะเลชเตลเลอร์”   . . .   การค้นพบในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้ตรวจการสาว Maria Shitova ที่สังเกตเห็นซี่โครงของโครงกระดูกยื่นขึ้นมาเหนือพื้นดิน จนทำให้การขุดลงไปหาความจริงนานกว่า 8 ชั่วโมงได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาได้พบกับกระดูกสันหลังจำนวน 45 และกระดูกส่วนสะบัก ซี่โครง และอื่นๆ รวมกันอีก 25 ชิ้น ซึ่งมองไกลๆ เราก็คงคิดว่านั่นมันคือรั้วบ้านชัดๆ เพราะกระดูกของมันมีขนาดใหญ่มากจริงๆ และการขุดลงไปก็ไม่พบกะโหลกศีรษะของเจ้าสัตว์ที่สุญพันธุ์ไปแล้วตัวนี้   . .   อย่างไรก็ตามสิ่งที่พบก็ไม่แปลกที่จะสามารถเจอได้บนเกาะนี้ เพราะในอดีต ที่นี่คือแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมัน และเป็นบริเวณเดียวกันกับที่ทุกคนได้รู้จักกับสัตว์ชนิดนี้เป็นครั้งแรก โดยนาย Georg Steller ได้ค้นพบพวกมันในปี 1741 และตั้งชื่อให้กับเจ้าสัตว์สายพันธุ์พะยูนตัวนี้ว่า “วัวทะเลชเตลเลอร์ (Steller Sea Cow)” แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าสัตว์ชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 หลังจากถูกมนุษย์ล่าอย่างหนัก   . . .…

  • จากรถบัสสองชั้นได้ถูกรีโนเวทขึ้นใหม่กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ ภายในดูสบายตามากๆ

    จากรถบัสสองชั้นได้ถูกรีโนเวทขึ้นใหม่กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ ภายในดูสบายตามากๆ

    อากาศอันหนาวเย็นคงทำให้หลายคนคิดถึงที่นอนพร้อมผ้าห่มอุ่นๆ มาช่วยคลายหนาว แต่ถ้าเป็นคนไร้บ้านล่ะ พวกเขาจะมีโอกาสได้นอนในที่อุ่นแบบนั้นบ้างมั้ย? นั่นจึงเป็นที่มาของผลงานของสองสาวที่ได้เปลี่ยนรถบัสสองชั้นให้กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ Sammy Barcroft และ Joanne Vines สองสาวเจ้าของผลงานและเป็นผู้นำของกลุ่มมูลนิธิเพื่อการกุศล The Rucksack Project ทั้งคู่ได้ทำการตกแต่งรถบัสสองชั้นที่กำลังจะกลายเป็นเศษเหล็ก ให้เปลี่ยนไปจนกลายเป็นที่พักอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน   สองสาวตัวตั้งตัวตีในการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงรถบัสในครั้งนี้   มีการวางโครงสร้างต่างๆ โดยรอบ   ภายในของรถที่เต็มไปด้วยที่นั่ง   ก็ถูกรื้อออกไปเพื่อเปลี่ยนให้มันกลายเป็นที่พักอาศัยแสนสวย   ที่พักดังกล่าวตั้งอยู่ในเมือง Portsmouth ประเทศอังกฤษ ซึ่งระยะเวลาในการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมันทั้งหมดต้องใช้เวลานานถึง 8 เดือนด้วยแรงคนกว่า 70-80 คน และงบประมาณในการทำทั้งหมดอีกกว่า 1,000,000 บาท โดยเงินส่วนใหญ่ที่ใช้นั้นได้รับบริจาคมาเกือบทั้งหมด   การตกแต่ง ปูพื้นภายในได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว   จากที่โล่งๆ ไม่มีอะไรก็ได้รับการแต่งเติมเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ   ติดผ้าม่านเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว   ภายในก็จะมีตั้งแต่เตียงสองชั้น 12 ชุด โซนห้องรับแขก รวมถึงห้องครัวแบบครบชุด เพื่อให้คนที่ได้เข้ามาพักสามารถใช้ชีวิตในที่แห่งนี้ได้อย่างมีความสุขแบบครบครันในทุกๆ เรื่อง พวกเธอหวังว่าเจ้าสิ่งนี้จะพอช่วยเยียวยาปัญหาความหนาวเหน็บของคนไร้บ้านที่มีอยู่กว่า 300,000 คนในเมือง…

  • Mikayla Holmgren หญิงดาวน์ซินโดรมคนแรก ที่จะได้เข้าร่วมประกวด Miss USA

    Mikayla Holmgren หญิงดาวน์ซินโดรมคนแรก ที่จะได้เข้าร่วมประกวด Miss USA

    สำหรับหลายๆ คน การแข่งขันประกวดนางงามระดับประเทศหรือระดับโลก อาจจะเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อม แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้กลับทำลายอุปสรรคต่างๆ และสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองได้ด้วยการประกวดนางงาม แถมยังสามารถคว้ารางวัลพิเศษมาได้ถึง 2 รางวัลอีกด้วย และนี่คือ Mikayla Holmgren หญิงวัย 22 ปี จากเมืองสติลวอเตอร์ รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะหญิงดาวน์ซินโดรมคนแรกที่จะได้มีโอกาสเข้าร่วมการประกวด Miss USA     ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Mikayla ได้รับรางวัล Spirit of Miss USA Award พ่วงด้วยรางวัล Director’s Miss Minnesota USA จากการประกวดระดับรัฐ ทั้งยังได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนในการลงแข่ง Miss USA อีกด้วย “ฉันตกใจสุดๆ ถึงขนาดกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เลย ฉันกับแม่มักจะชอบไปชอปปิงและเตรียมความพร้อมสำหรับการประกวดไม่ว่าจะเป็น การฝึกการตอบคำถาม รวมถึงการฝึกแต่งหน้าทำผม” Mikayla กล่าว     Mikayla เป็นผู้ที่รักการเต้นมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ซึ่งเธอได้ออกมาเผยว่า เธอชื่นชอบการแสดงต่อหน้าผู้คนเป็นอย่างมา…

  • ปักกิ่งสั่งปรับพื้นที่อยู่อาศัยของคนงานต่างถิ่น โดยไม่มีที่พักรองรับให้ สภาพอยู่ตามมีตามเกิด

    ปักกิ่งสั่งปรับพื้นที่อยู่อาศัยของคนงานต่างถิ่น โดยไม่มีที่พักรองรับให้ สภาพอยู่ตามมีตามเกิด

    เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ในย่านที่อยู่อาศัยในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 19 คน และเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้เป็นเหตุผลที่ทำให้ทางรัฐบาลได้จัดการไล่ผู้อยู่อาศัยที่เป็นแรงงานต่างถิ่นทั้งหมดออกไปจากเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้แรงงานกว่าพันคนต้องรีบย้ายข้าวย้ายของออกจากบ้านของตัวเอง เนื่องจากทางการได้สั่งทุบบ้านของพวกเขาหลังจากที่ได้ประกาศออกไปเพียงเวลาไม่นาน บางคนถึงกับมีเวลาเก็บของทั้งหมดเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นเอง   คนจำนวนมากต้องออกมาเผชิญความหนาวเย็น   ตึกรามบ้านช่องในบริเวณนั้นถูกทำลายทิ้งทั้งหมด   ของมีค่าของพวกเขาต้องถูกเก็บและย้ายออกไปให้เร็วที่สุด   ผู้คนจำนวนมากต้องออกมาเผชิญความหนาวเพราะไม่มีบ้านให้อยู่อีกต่อไป รัฐบาลเองก็ไม่มีการจัดที่อยู่รองรับใดๆ ให้พวกเขาเลยแม้แต่น้อย ทางการได้ออกมาอธิบายว่า ที่ต้องทำอย่างนี้ก็เพื่อเช็คความปลอดภัยและมาตรฐานของสิ่งก่อสร้างทั้งหมดในบริเวณนั้น หลังจากที่ได้มีเหตุเพลิงไหม้ พวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะลดจำนวนประชากรในกรุงปักกิ่งอย่างที่หลายๆ คนคิดกัน แต่ถึงแม้ว่าทางการจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ประชากรชาวจีนจำนวนมากก็ยังคงเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการขับไล่คนต่างถิ่นให้ออกไปจากเมืองหลวงเพื่อลดจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นเท่านั้นเอง   ของจำนวนมากที่ต้องเก็บออกไปให้ได้ในเวลาอันสั้น   รัฐบาลบอกว่านี่ไม่ได้ทำเพื่อลดจำนวนประชากรในเมือง   แรงงานจากมณฑลเหอหนานคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในปักกิ่งได้พูดกับทางสำนักข่าว Financial Times ว่า “รัฐบาลต้องการกวาดล้างพวกเราออกเมืองหลวงไปเท่านั้นเอง พวกเขาไม่เคยต้องการพวกเราและแค่ได้เหตุผลใหม่ในการไล่เราออกไปแค่นั้นเอง”   ป้ายประกาศที่นำมาติดไว้ให้เข้าใจตรงกัน   ที่ที่เคยเป็นบ้านกลับว่างเปล่าไปในพริบตา   หลายๆ อย่างที่ไม่จำเป็นก็ถูกทิ้งไป   การไม่มีที่อยู่ของคนจำนวนมากได้ทำให้คนชนชั้นกลางในจีนออกมาช่วยเหลือพวกเขาในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องนุ่งห่ม…

  • สาวน้อยเป่าขลุ่ยเล่นกับนักเชลโลข้างถนน พริบตาก็มีเซอร์ไพรส์ยกใหญ่มาแบบเต็มวง!!

    สาวน้อยเป่าขลุ่ยเล่นกับนักเชลโลข้างถนน พริบตาก็มีเซอร์ไพรส์ยกใหญ่มาแบบเต็มวง!!

    เหตุการณ์สุดเซอร์ไพรส์เมื่อเด็กสาวคนหนึ่ง เดินเข้าไปขอประชันฝีมือกับนักเชลโลข้างถนน ซึ่งหนูน้อยได้หยิบขลุ่ยขึ้นมาพร้อมค่อยๆ เป่าสลับกับพ่อหนุ่มเชลโล ซึ่งเพลงที่ทั้งคู่เล่นมีชื่อว่า Ode an die Freude ซึ่งหลังจากหนูน้อยเป่าเพลงดังกล่าวจบ พ่อหนุ่มเชลโลก็จัดการบรรเลงเพลงต่อ แต่ว่าไม่นานนักก็เริ่มมีนักดนตรีคนอื่นทยอยมาแจมด้วยเรื่อยๆ จนสุดท้ายเกิดเป็นวงขนาดใหญ่และสะกดคนรอบๆ ไว้ได้อย่างอยู่หมัด!!     เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่เมืองเนือร์นแบร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อปี 2014 ซึ่งเป็นการทำแฟลชม็อบเพื่อฉลองครบรอบ 130 ปีของเมือง โดยเป็นการร่วมมือกันของวง “Hans-Sachs”-Choir และ the Philharmonic Orchestra of Nuremberg ที่ได้นัดแนะกันมาก่อนแล้วนั่นเอง   . .   อย่างไรก็ตามการทำแฟลชม็อบนี้ก็สามารถสะกดผุู้คนในเมืองที่ผ่านมาเห็นได้สบายๆ จะเรียกว่าแฟลชม็อบประสบความสำเร็จก็ว่าได้ ยิ่งเสียงตอบรับจากชาวเน็ตไม่ต้องพูดถึงชมกับเพียบ!!     แม้เหตุการณ์จะเก่าแล้ว แต่ก็ยังประทับใจได้เสมอเลยนะ ที่มา inspiremore

  • ทรัมป์คิดเองว่าจะได้ขึ้นปก TIME ทางต้นสังกัดก็เลยย้ำว่าใจเย็น พี่ยังไม่ได้ตัดสินใจ!!

    ทรัมป์คิดเองว่าจะได้ขึ้นปก TIME ทางต้นสังกัดก็เลยย้ำว่าใจเย็น พี่ยังไม่ได้ตัดสินใจ!!

    เมื่อพูดถึงนิตยสารที่มีชื่อเสียงของโลก TIME ก็ถือเป็นหนึ่งนิตยสารที่จัดอยู่ในหมวดดังกล่าวเช่นกัน เพราะว่าทุกๆ ปีจะมีการจัดอันดับผู้ทรงอิทธิผลเสมอๆ และปีที่แล้ว Donald Trump ก็ได้ตำแหน่งนั้นไปครอง กาลเวลาหมุนมาใกล้สิ้นปีอีกครั้ง Donald Trump จึงคิดว่าตัวเองทำผลงานมาเยอะในปีนี้ สงสัยจะได้ขึ้นปกนิตยสารชื่อดังอีกครั้งหนึ่ง และด้วยความที่เขาเป็นทวิตเตอร์แมน เขาจึงไม่วายที่จะทวีตความในใจให้โลกรู้   ภาพปกที่เขาได้ขึ้นเมื่อปีที่แล้ว   ใจความหลักๆ ก็ได้ความว่า เขาคิดว่า Time จะให้เขาเป็น Person of the Year อีกปี แต่พี่แกไม่อยากเลยขอผ่าน (นี่ขนาดไม่อยากเป็นนะ)   แต่ถึงแม้ Donald Trump จะออกปากแบบนั้นทางนิตยสาร Time ก็ออกมาแก้ข่าวพร้อมหยุดความหลงตัวเอง ของประธานาธิบดีคนปัจจุบันด้วยใจความว่า ใจเย็นหนุ่ม พวกพี่ยังไม่ได้เลือกใครมาเป็น Person of the Year ในปีนี้เลย อย่าเพิ่งตื่นเต้นไปเราจะไม่ประกาศคนที่เราเลือกจนกว่าจะปล่อยผลในวันที่ 6 ธันวานู้นนนน   ความเงิบของท่านประธานาธิบดี Donald Trump ยังไม่จบลง เมื่อ Pete Souza…

  • ขะขะขาววว… ชาวเน็ตญี่ปุ่นร่วมฉลองวัน ‘ถุงเข่า’ แชร์ภาพทั่วโลกออนไลน์ กำไรของชายหนุ่มจริงๆ

    ขะขะขาววว… ชาวเน็ตญี่ปุ่นร่วมฉลองวัน ‘ถุงเข่า’ แชร์ภาพทั่วโลกออนไลน์ กำไรของชายหนุ่มจริงๆ

    และแล้วก็เวียนมาบรรจบอีกครั้งกับวันที่ 28 พฤศจิกายน รู้ไหมว่าวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของชาวญี่ปุ่นเลยนะ นั่นก็คือ ‘วันถุงเข่า’ อ่ะสงสัยกันล่ะสิ วันถุงเข่า มีทำไม มีไปเพื่ออะไร? ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นเค้าเป็นเจ้าแห่งเทศกาลเลยก็ว่าได้ วันแห่งนั่นวันแห่งนี่เต็มไปหมด และตามที่กล่าวไปข้างต้นนั่นก็คือ วันถุงเข่า มันฟังดูแปลกๆ นะว่าไหม     ถุงเข่า หรือ ถุงเท้ายาวเหนือเข่าสไตล์ญี่ปุ่น ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของการแต่งตัวของสาวๆ ชาวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ดูแล้วมีความเป็นเจแปนเกิร์ลไรงี้ นอกจากจะสวยแล้วยังเพิ่มความอบอุ่นได้ด้วยนะ เค้าก็เลยเห็นความสำคัญและจัดว่าเป็นวันที่ 28 พฤศจิกายนเป็นวันถุงเข่าของประเทศญี่ปุ่นเค้าแหละ เหล่าวัยรุ่นและผู้ที่ชื่นชอบใส่ถุงเข่าชาวญี่ปุ่นก็เลยออกมาเฉลิมฉลองวันนี้ด้วยการโพสต์รูปภาพของถุงเข่าผ่านทางแฮชแท็กที่สร้างขึ้นมาในวันนี้ในโลกทวิตเตอร์   อื้อหือ เปิดมาก็หายใจไม่ทั่วท้องกันเลยงี้หนุ่มๆ .   บรรดาสาวกคอสเพลย์ก็จัดกับเค้าด้วย   อยากให้วันนี้มีหลายๆ วันต่อปี   มันช่างจ้าซะเหลือเกิน   คนหรือกระดาษ A4 ทำไมขาวขนาดนั้น   ความแจแปนนีซเกิร์ล .   จัดไปรัวๆ นี่ #เหมียวบู้บี้ เอาใจหนุ่มๆ เลยนะเนี่ย . .…

  • หญิงสาวตัด ‘ก้านดวงใจ’ ชายหนุ่มด้วยกรรไกรตัดกิ่งไม้ ป้องกันตัวเองจากการถูกคุกคามทางเพศ!!

    หญิงสาวตัด ‘ก้านดวงใจ’ ชายหนุ่มด้วยกรรไกรตัดกิ่งไม้ ป้องกันตัวเองจากการถูกคุกคามทางเพศ!!

    ในวันที่ 27พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้มีการรายงานเกี่ยวกับคดีของสถาปนิกสาววัย 26 ปี Brenda Barrattani ที่ทำการตัดไอ้จ้อนของนักดนตรีหนุ่มวัย 40 ปีที่กำลังหลับอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเธอเอง ก่อนที่เขาจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยความเจ็บปวดและเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมือง Cordoba ประเทศอาร์เจนตินา โดยหญิงสาวถูกจับกุมตัวและให้การรับสารภาพว่าเธอได้ใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ตัดน้องชายของนักดนตรีที่ใช้ชื่อว่า Sergio F. จริง แต่ยังไม่มีการระบุถึงเหตุผลที่ทำให้เธอต้องทำอย่างนั้นกับเขา   Brenda หญิงสาวผู้ใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้พรากไอ้จ้อนของชายหนุ่มไป   ต่อมาทางสำนักข่าว European News ก็ได้รายงานข่าวออกมาว่า Carlos Nayi ทนายของฝ่ายหญิงบอกว่า ที่เธอต้องทำอย่างนั้นก็เพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกคุกคามทางเพศ เขาเล่าว่า “เธอยอมให้นักดนตรีหนุ่มเข้าไปในห้องเพราะเห็นว่าเป็นคนรู้จักกับพี่ชายเธอ และเขาก็อ้างว่าต้องการเข้าไปหยิบเครื่องดนตรีออกมาเท่านั้น แต่เขาก็ได้พยายามที่จะทำมิดีมิร้ายเธอ และนั่นจึงทำให้เธอต้องป้องกันตัวเอง”   ภาพส่วนหนึ่งในสถานที่เกิดเหตุ ที่พอจะสามารถนำมาเผยแพร่กับสาธารณชนได้   อย่างไรก็ตามทาง Eduardo Perez ทนายของฝ่ายชายก็ออกมาชี้แจงไปในอีกลักษณะหนึ่ง เขาบอกว่า “ทั้งสองรู้จักกันมาหลายเดือน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นักดนตรีหนุ่มก็ไม่ได้หลับอยู่ด้วย” “พวกเขาร่วมรักกันแบบแปลกๆ พิเรนทร์ๆ หน่อยเท่านั้นเอง โดยในขณะที่ฝ่ายชายกำลังถูกปิดตาอยู่ก็เกิดความผิดพลาดขึ้นเท่านั้นเอง…

  • ฝรั่งพาชิม ‘สเต๊กวากิว’ ที่แพงที่สุดในนิวยอร์ก มูลค่า 11,000 บาท แทบละลายในปากเลยล่ะมั้งเนี่ย!?

    ฝรั่งพาชิม ‘สเต๊กวากิว’ ที่แพงที่สุดในนิวยอร์ก มูลค่า 11,000 บาท แทบละลายในปากเลยล่ะมั้งเนี่ย!?

    เมื่อพูดถึงเนื้อย่าง เราก็คงจะนึกถึงเนื้อชั้นดีจากญี่ปุ่น แต่เชื่อหรือไม่ว่าที่อเมริกาก็มีเนื้อวากิวชั้นดีราวกับได้ไปกินที่ญี่ปุ่นเหมือนกันนะ เผลอๆ อาจจะดีกว่าด้วย?!!  เนื้อที่ว่านั้นขายอยู่ที่ร้าน Old Homestead ซึ่งตั้งอยู่ที่แมนแฮตตันโดยทางช่อง Eater และพิธีกร Nick Solares ก็จะพาเราไปดื่มด่ำกับเนื้อวากิวระดับ A5 ที่ร้านแห่งนี้กัน   ร้านดังกล่าวนั้นเปิดมาแล้วกว่า 100 ปี แถมยังเป็นร้านแรกที่นำเนื้อวากิว เข้ามาที่อเมริกาด้วยนะ   ตัวอย่างเนื้อจากร้านดังกล่าว ลายนี่สวยสุดๆ เลยนะเนี่ย   ด้าน Greg Sherry เจ้าของร้านผู้รับหน้าที่เป็นเชฟด้วยตัวเองก็ยังบอกว่า “เนื้อของเราถ้าให้เปรียบเทียบมันก็เหมือนได้ขี่ Rolls Royce เลยล่ะ” ฟังดูแล้วอาจจะเวอร์แต่ถ้าดูแล้วรับรองว่าหิวสุดๆ !!     ในส่วนของวิธีการปรุงนั้น เชฟ Greg ก็บอกว่าเขาจะไม่ใช้วิธีแบบญี่ปุ่นที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ ให้เรากิน แต่จะใช้เป็นก้อนขนาดพอดีและย่างแบบมีเดียมแรร์ ซึ่งเชฟย้ำว่าจะไม่มีการเกินกว่านี้ แม้ลูกค้าจะขอให้ทำสุกเต็มที่ หรือทำแบบแรร์ พวกเขาก็จะไม่ทำ เพราะมันเป็นเคล็บลับความอร่อยของเขา ทางด้านการเตรียมเนื้อนั้น เชฟก็บอกว่าเขาไม่ได้ปรุงอะไรมากเลย เพราะเนื้อมีความอร่อยในตัวมันเอง เขาแค่ใช้เกลือและพริกไทยนิดหน่อยจัดเสิร์ฟพร้อมผักเครื่องเคียงอีกเล็กน้อยก็เป็นอันใช้ได้แล้ว   ดูเนื้อนั่นสิ เห็นแล้วอยากจะเลียจอเลย . .   พิธีกร Nick Solares ก็อธิบายหลังจากได้ชิมเนื้อไปแล้วว่า เนื้อของร้านนี้ให้ความรู้สึกแตกต่างจากเนื้ออื่นๆ…

  • ไปดูกันว่าสนามเด็กเล่นที่ชื่อ ‘เปียงยาง’ ของท่านผู้นำ ‘คิมจองอึน’ มีอะไรประดับประดาบ้าง!!

    ไปดูกันว่าสนามเด็กเล่นที่ชื่อ ‘เปียงยาง’ ของท่านผู้นำ ‘คิมจองอึน’ มีอะไรประดับประดาบ้าง!!

    เกาหลีเหนือประเทศที่ถูกชาติทั่วโลกต่างพากันประนามถึงความโหดเหี้ยมของผู้นำ แนวทางที่ล้าหลังต่างจากชาติอื่นๆ ภาพลักษณ์ที่ถูกมองจึงไม่ค่อยจะมีอะไรดีเท่าไหร่นัก ที่สำคัญเรื่องการมีอาวุธในครอบครองก็ทำให้มุมมองที่คนทั้งโลกมองชาติดังกล่าวลดลงไปอีก และด้วยความที่เกาหลีเหนือเป็นประเทศปิด และภาพลักษณ์ที่ถูกเผยแพร่ออกมาส่วนใหญ่ก็หมุนรอบตัวท่านผู้นำ จึงทำให้เราไม่ค่อยได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แท้ทรูของชาวเมืองเท่าไห่รนัก จนสุดท้ายเราต่างคิดว่ากรุงเปียงยางช่างล้าหลังสุดๆ แต่ความจริงคือเมืองเปียงยางนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองหลวงอื่นๆ ในโลกเลยนะ จะมีแต่รอบนอกและเมืองอื่นๆ ของประเทศเท่านั้นที่ต่างออกไป     ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า เปียงยางมีการคัดสรรประชากรให้เข้ามาอยู่ คนที่รวยหรือเก่งก็จะได้อยู่ในเมือง ส่วนคนทั่วไปหรือคนจนก็จะต้องอยู่ในส่วนรอบนอก และถ้าใครคิดไม่ออกว่าความเจริญในเปียงยางเป็นยังไง งั้นเราลองมาดูสนามเด็กเล่นของท่านผู้นำตัวอ้วนน่ารักกัน ว่าในทุ่งดอกไม้ที่เรียกกันว่า เปียงยาง จะมีอะไรให้เราได้ดูกันบ้าง!!   ก่อนจะเข้าสู่เปียงยาง ทุกคนก็จะเจอกับประตูสุดยิ่งใหญ่   เห็นแบบนี้ เปียงยางก็มีตึกสูงเยอะแยะเลยนะ   แถวรูปปั้นของสองพ่อลูกก็เท่ไม่เหมือนใคร   ต้องยอมรับเลยว่างานสิ่งก่อสร้างอย่างรูปปั้นของที่นี้เขาสุดยอดจริงๆ   การผสมผสานระหว่างโลกสมัยใหม่และประวัติศาสตร์ชาติเกาหลีเหนือ   ใบหน้าของอดีตผู้นำทั้งสอง ซึ่งสามารถเห็นได้ทั่วไปในเกาหลีเหนือ .   สิ่งปลูกสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเชิดชูชนชั้นแรงงาน   แม้เมืองจะหลับใหล แต่ภาพของท่านผู้นำไม่เคยหลับ   ตึกอันล้ำสมัยที่เห็นนั้นเป็นตึกที่ชื่อว่า Ryugyong Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่ตอนนี้ถูกทิ้งร้างไว้   ทุกสิ่งปลูกสร้างในเปียงยางล้วนแฝงไปด้วยความเป็นเกาหลีเหนือที่ไม่สามารถหาจากที่อื่นได้   อาคารวิทยาศาสตร์ที่สร้างเป็นรูปอะตอมก็เจ๋งไม่เบา   ท่านผู้นำเขาหวังว่าอาคารแห่งนี้จะช่วยยกระดับความทันสมัยในเรื่องวิทยาศาสตร์ให้แก่ชาติของเขา   แม้จะมีตึกสูงมากมาย…

  • กบว.ญี่ปุ่น ได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครองว่า ‘ผู้เฒ่าเต่า’ มีพฤติกรรมลามก ไม่เหมาะสม!?

    กบว.ญี่ปุ่น ได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครองว่า ‘ผู้เฒ่าเต่า’ มีพฤติกรรมลามก ไม่เหมาะสม!?

    สำหรับใครที่ติดตามหรือชื่นชอบอนิเมะจากฝั่งญี่ปุ่น หลายคนคงจะรู้ว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ของอนิเมะญี่ปุ่นในปัจจุบันมักจะมีเนื้อล่อแหลมหรือที่เราเรียกกันว่า ‘ฉากเซอร์วิซ’ ซึ่งจะมีตัวละครสาวๆ ทรงโตหรืออาจจะเป็นตัวละครน่ารักๆ ออกมาโชว์เรือนร่างกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งมันจึงทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ เกี่ยวกับอนิเมะประเภทดังกล่าวว่ามันเหมาะสมหรือไม่ที่จะให้เด็กๆ ได้ดูเพราะอนิเมะดังกล่าวมีหลายเรื่องที่ได้ฉายในเวลาเช้านั่นเอง และนั่นจึงทำให้ ‘ผู้เฒ่าเต่า‘ จาก Dragon Ball Super ที่เพิ่งจะกลับมาออกฉายภาคต่อเมื่อปี 2015 ก็ตกเป็นเป้าหมายไปกับเขาด้วย     ส่วนคนที่ออกมาตักเตือนผู้เฒ่าเต่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือองค์กรเฝ้าระวังสื่อของญี่ปุ่นที่ชื่อ Broadcasting Ethics and Program Improvement Organization หรือชื่อย่อว่า BPO นั่นเอง (ใครที่นึกไม่ออกก็ให้คิดถึง กบว. ไว้) โดยทาง BPO ออกมาบอกว่า พวกเขาได้รับการร้องเรียนมาจากผู้ปกครองชาวญี่ปุ่นว่าตัวละครผู้เฒ่าเต่านั้นมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากตอนที่เพิ่งฉายไปไม่นาน เพราะเขาดันไปทำลามกกับ “ยูริน” ตัวละครสาวตัวใหม่ที่เป็นลูกศิษย์ของ “เทนชินฮัง”   .   งานนี้ประเด็นเกี่ยวกับตัวละครแนวทะลึ่งๆ และไม่เหมาะสมจึงถูกยกมาถกอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ทาง BPO ก็เคยออกมาพูดถึงอนิเมะหลายๆ เรื่องที่มีเนื้อหาอนาจารและรุนแรงมาแล้วหลายเรื่อง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสาวๆ ใน Seven Mortal Sins ฉากฆ่ากันที่โหดร้ายใน Mobile…

  • Google ไปถ่ายภาพสตรีทวิวในย่าน “อากิฮาบาระ” คุณลุงมาเห็นเลยจัดโชว์ลีลาให้เต็มที่!!!

    Google ไปถ่ายภาพสตรีทวิวในย่าน “อากิฮาบาระ” คุณลุงมาเห็นเลยจัดโชว์ลีลาให้เต็มที่!!!

    หลายคนคงจะเห็นภาพหลุดๆ ที่ทาง Google Street View บังเอิญถ่ายติดมาในแผนที่ Google Map บ้างไม่มากก็น้อยใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนแอบมีอะไรกัน การโฟโต้บอมและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าทาง Google พบภาพอะไรแบบนั้น พวกมันจะถูกลบอย่างรวดเร็ว แต่ว่าก็ยังมีตาลุงเสื้อชมพูคนหนึ่งที่สามารถพิชิตกล้อง Street View ลงจนได้ โดยมันทำให้เขากลายเป็นผู้มีวิชานินจาแยกเงาพันร่างบนโลกออนไลน์ทันที!?     เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ย่าน Akihabara ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นย่านชอปปิงที่มีคนพลุกพล่านทั้งวัน แต่ตาลุงคนนี้ก็ไม่เกรงกลัวพร้อมแสดงวิชาออกมาให้เราได้เห็นกัน ซึ่งที่เด็ดสุดๆ คือลุงแกไม่ได้แยกแค่สองสามร่าง แต่เล่นมาแบบ 180 องศารอบกล้อง จนมีมากกว่า 10 ร่าง!! ถ้าใครยังไม่เชื่อว่าลุงแกทำได้จริงๆ ก็ลองไปดูด้วยตาตัวเองโดยตามที่อยู่นี้ไปเลย ละติจูด 35.698193 ลองจิจูด 139.771284. บอกเลยดูแล้วจะอึ้ง     ที่ต้องอึ้งก็เพราะ ภาพดังกล่าวถูกถ่ายตั้งแต่ปี 2014 และกล้องของทางทีมงาน Street View มันมีกระบวนการที่รวดเร็วมาก ฉะนั้นลุงคนนี้จะต้องรู้วิธีการทำงานของกล้องและเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี จึงสามารถเอาตัวเองไปแทรกภาพแบบ 360 ได้ ที่สำคัญทำไมเขาถึงไม่ถูกเบลอหน้าด้วย?   .   สุดท้ายชาวเน็ตก็พากันสงสัยและยกให้คุณลุงเสื้อชมพูคนนี้เป็นตำนาน Street View เรียบร้อย ส่วนเขาเป็นใครมาจากไหนก็ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องค้นหากันต่อไป…   ที่มา rocketnews24

  • ผลงานภาพสะท้อนสังคมของศิลปินฝรั่งเศส ที่ช่วยเบิกเนตรผู้คน และสะเทือนไปกว่าครึ่งโลก

    ผลงานภาพสะท้อนสังคมของศิลปินฝรั่งเศส ที่ช่วยเบิกเนตรผู้คน และสะเทือนไปกว่าครึ่งโลก

    เราอาจเคยได้เห็นศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ หรือสอดแทรกความหมายบางอย่างเอาไว้ให้เราทำความเข้าใจโดยไม่ต้องใช้คำพูด วิธีการแบบนั้นเป็นสิ่งที่ศิลปินจากประเทศฝรั่งเศสคนนี้ได้นำมาใช้สื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงสังคมยุคโมเดิร์นในปัจจุบันว่ามันสะท้อนออกมาในรูปแบบไหน โดยที่เราสามารถเข้าใจได้แบบไม่ต้องผ่านคำพูดใดๆ   ศิลปิน Gunduz Aghayev วัย 36 ปีผู้ย้ายมาจากประเทศอาเซอร์ไบจาน มาอาศัยอยู่ในฝรั่งเศส   เขาได้นำปัญหาสังคมในยุคโมเดิร์นมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานภาพเหล่านี้   แต่ละภาพได้มีการพูดถึงในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการวิวัฒนาการของมนุษย์และสงคราม   การเซลฟี่ที่ถูกผสมผสานเข้ากับภาพทางศาสนา ที่สื่อให้เราเข้าใจไปในอีกความหมายหนึ่ง   ก่อนหน้านี้เขาได้สร้างผลงานที่ชื่อว่า Art for Democracy เพื่อสะท้อนความไม่ยุติธรรมในประเทศบ้านเกิด และนั่นจึงทำให้เขาต้องย้ายมาฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2014   แต่แรงบันดาลใจในลักษณะเดียวกันก็ยังคงมีออกมาให้เห็น อย่างเช่นภาพ “ซอมบี้ในยุคโมเดิร์น” ที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมที่ถูกกำหนดด้วยอิทธิพลและพลังอำนาจ   ภาพที่เราได้เห็นส่วนใหญ่จะถูกสื่อด้วยซอมบี้ และมีหลายภาพที่มีการพูดถึงสงคราม   หรือพูดถึงค่านิยมที่ไม่แบ่งแยกและไม่ยอมรับกับบางสิ่งบางอย่าง   ในเรื่องของศาสนาเองก็เช่นกัน   ภาพการ์ตูนของเขาในแต่ละภาพ ต้องใช้เวลาวาดแตกต่างกันไปมีตั้งแต่ 3 ชั่วโมง หรือบางภาพที่ใช้เวลานานเป็นเดือน   ภาพวาดเหล่านี้ถูกโพสต์ลงไปในโซเชียลมีเดีย จนทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก จากหลากหลายประเทศ   จากความคิดเห็นที่เขาได้รับมาอย่างหลากหลาย เขาตั้งใจนำสิ่งเหล่านั้นมารวมเข้าเป็นงานศิลปะในชิ้นต่อๆ ไป   เขาต้องการนำความเป็นจริงที่หลายๆ…

  • จากที่คุณยายชวนหลานผิดคน ปีนี้หลานชายแปลกหน้าคนนั้นก็กลับไปร่วมกินข้าวกับคุณยายอีกครั้ง

    จากที่คุณยายชวนหลานผิดคน ปีนี้หลานชายแปลกหน้าคนนั้นก็กลับไปร่วมกินข้าวกับคุณยายอีกครั้ง

    วันขอบคุณพระเจ้า คืออีกหนึ่งเทศกาลวันหยุดที่สามารถพบเห็นได้ในหลายประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นหลัก โดยเป็นวันที่คนในครอบครัวจะได้กินข้าวร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่สำหรับหนุ่มวัย 18 ปีในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เขากลับถูกเชิญให้ไปกินข้าวกับคนแปลกหน้าซะอย่างนั้น เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2016 เมื่อคุณยายท่านหนึ่งเข้าใจผิดไปดึงเอาหนุ่มแปลกหน้าเข้ากลุ่มแชท พร้อมกับชวนเขาไปทานข้าวด้วยกันที่บ้านของตัวเอง   เมื่อปี 2016 นาย Jamal Hinton (ด้านซ้าย) ถูกลากเข้ากลุ่มแชทกลุ่มหนึ่ง โดยที่เขาไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มของใคร   จากนั้นเขาก็ถูกคนที่อ้างตัวว่าเป็นคุณยายของเขาชวนให้ไปกินข้าวด้วยกันที่บ้าน ในวันขอบคุณพระเจ้า   แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นยายเขาจริงหรือเปล่า จึงขอให้เธอถ่ายรูปมาให้ดู จนทำให้เขารู้ว่านั่นมันไม่ใช่ยายของเขาซักหน่อย   เขาจึงถ่ายรูปส่งกลับไป พร้อมกับถามว่า “แม้คุณจะไม่ใช่ยายของผม แต่ผมยังไปกินข้าวด้วยได้อยู่มั้ย?” คุณยายท่านนั้นก็ตอบกลับมาว่า “ได้อยู่แล้ว นั่นเป็นสิ่งที่คุณยายทำ.. การทำอาหารให้กับทุกคนได้กิน”   ความน่ารักของคุณยาย Wanda คนนี้ได้ถูกโพสต์ลงไปในทวิตเตอร์ของชายหนุ่ม และกลายเป็นกระแสให้ผู้คนเข้ามาแชร์ข้อความของเขาออกไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกับกล่าวชื่นชมความน่ารักของคุณยาย   1 ปีผ่านไป เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 เด็กหนุ่มก็ยังคงไปกินข้าววันเลี้ยงขอบคุณพระเจ้ากับคุณยายคนนี้ และโพสต์ลงในทวิตเตอร์จนกลายมาเป็นกระแสอีกครั้งหนึ่ง   เขาบอกว่ายังคงติดต่อกับคุณยายมาตลอด เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยนัก…

  • เจ้าสาวอ่านคำสาบานสุดซึ้งต่อหน้า “ภรรยาเก่าของสามี” ว่าจะดูแลลูกชายของเธอเป็นอย่างดี

    เจ้าสาวอ่านคำสาบานสุดซึ้งต่อหน้า “ภรรยาเก่าของสามี” ว่าจะดูแลลูกชายของเธอเป็นอย่างดี

    หลายคนอาจมองว่าการแต่งงานที่มีภรรยาเก่าของเจ้าบ่าวมาร่วมงานด้วย เป็นสิ่งที่น่ากระอักกระอ่วนใจ ยิ่งถ้าทั้งสองคนมีลูกด้วยกันมาก่อนแล้วมันก็ยิ่งแย่ลงกว่าเดิม แต่จากคำพูดของเจ้าสาวคนนี้ก็ทำให้รู้ว่าเธอไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 ในเว็บไซต์ InspireMore ได้มีการพูดถึงงานแต่งงานของ Katie Hild กับเจ้าบ่าวของเธอ Jeremy ในช่วงการกล่าวคำสาบานของเจ้าสาว เธอก็ได้พูดในสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องซาบซึ้งอย่างมากจนไม่อาจหยุดน้ำตาเอาไว้ได้เลย     ในงานแต่งครั้งนี้ได้มี Casey ภรรยาเก่าของเจ้าบ่าวที่มาพร้อมกับคนรักใหม่ชื่อว่า Tyler และแขกคนสำคัญในงานนี้ก็คือ Landon ลูกชายของ Jeremy และ Casey ภรรยาเก่าของเขา การรวมตัวกันของคนทั้ง 5 เป็นสิ่งที่อาจทำให้บางคนรู้สึกแปลกๆ ไปบ้าง แต่เจ้าสาว Katie ก็ได้ทำให้งานแต่งงานในครั้งนี้เป็นงานแต่งที่น่าจดจำอย่างมากจากคำกล่าวปฏิญาณในความรักของเธอที่ไม่ได้มีให้กับแค่เจ้าบ่าว แต่เธอได้สาบานตนกับทั้ง Casey , Tyler และเด็กน้อย Landon     เธอได้ขอให้คนทั้งสามยืนขึ้นและพูดว่า “การเป็นผู้ปกครองร่วมกันคือการแบ่งปันหน้าที่ในการดูแลเด็ก ฉันไม่ต้องการสาบานตนกับแค่ Jeremy เพียงคนเดียว แต่ฉันต้องการสาบานกับทั้ง Casey , Tyler และ Landon…

  • บรรยากาศ Black Friday แบบเหงาๆ ในเวลส์ ที่ไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้า มันจะจืดๆ หน่อยนะ

    บรรยากาศ Black Friday แบบเหงาๆ ในเวลส์ ที่ไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้า มันจะจืดๆ หน่อยนะ

    ถ้าหากพูดถึงมหกรรมของลดราคา นอกจากป้าย Sale ตัวโตๆ กับพื้นหลังสีแดงแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่พวกเรามันจะเห็นกันจนชินตานั่นก็คือฝูงพีเพิ่ลที่กำลังตะเกียดตะกายยื้อแย่งสิ่งของกันอย่างเมามันนั่นเอง และในสหรัฐอเมริกา รวมถึงสหราชอาณาจักรเองก็มีมหกรรมลดราคาสินค้าที่เรียกว่า Black Friday เช่นกัน ซึ่งโดยปรกติแล้วมหกรรมที่ว่านี้ก็แทบไม่แตกต่างจากมหาสงครามเลยทีเดียว และก็มีเหล่าวีรบุรุษหลายๆ คนที่ต้องเจ็บตัวจากการยื้อแย่งสินค้าราคาถูก   และนี่คือตัวอย่างของสมรภูมิ Black Friday   อาจจะเห็นภาพไม่ชัดลองไปชมกันแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอนี้เลย   ภาพของฝูงคนที่กำลังยื้อแย่งของลดราคาเหล่านี้ คงจะบอกถึงความร้อนแรงของมหกรรม Black Friday นี้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางร้านค้าในย่านศูนย์การค้าของเมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ เองก็ได้จักมหกรรมลดราคาสินค้นี้เองเช่นกัน แต่ทว่าภาพของเหล่าผู้คนที่เบียดเสียดยัดเยียดกันเหมือนทุกๆ ครั้งนั้นกลับเหลือเพียงแค่ชายหนุ่มเสื้อแดงคนเดียวที่เดินเข้ามาแบบชิวๆ แบบในคลิปวิดีโอด้านล่างนี้   5.. 4..  3.. 2.. 1.. เข้ามาได้เลยครับบบ (ดูคลิปไม่ได้กด ที่นี่ ) black friday in the UK. this might just be the…

  • 63 ปี Miss Universe จากวันนั้นจนถึงวันนี้มีพัฒนาการไปมากน้อยขนาดไหนกัน

    63 ปี Miss Universe จากวันนั้นจนถึงวันนี้มีพัฒนาการไปมากน้อยขนาดไหนกัน

    นับตั้งแต่ปี 1952 ถึงปัจจุบัน นี่ก็เป็นเวลานานถึง 63 ปีแล้ว ที่ได้มีการจัดการประกวด Miss Universe ขึ้น ซึ่งต้องบอกเลยว่าหากใครที่ได้ติดตามเวทีนี้มาโดยตลอด คุณจะเห็นได้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Miss Universe มีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไม่น้อย และในครั้งนี้เราจะขอพาแฟนนางงามทั้งหลาย มาย้อนดูว่าตลอดระยะเวลากว่าหกทศวรรษ เวทีการประกวดนางงามจักรวาลอย่าง Miss Universe จะได้รับการพัฒนาไปมากน้อยขนาดไหน   สำหรับการประกวด Miss Universe ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1952  โดย Pacific Mills บริษัทเสื้อผ้าจากแคลิฟอร์เนีย เจ้าของแบรนด์ชุดว่ายน้ำ Catalina ซึ่งเดิมเป็นสปอนเซอร์ให้กับเวทีประกวด Miss America แต่ทว่ากลับเกิดความขัดแย้งและไม่พอใจขึ้น ที่มิสอเมริการายหนึ่งได้ปฏิเสธที่ใส่ชุดว่ายน้ำของบริษัท ดังนั้นพวกเขาจึงได้ฟื้นเวที Miss Universe พร้อมจัดการประกวด Miss USA ขึ้นมาแข่งเสียเลย   ในตอนแรกพวกเขาได้ร่วมการประกวดกับ Miss USA แต่ไม่ได้ออกอากาศทางทีวีจนถึงปี 1955 และนี่คือภาพของผู้เข้าแข่งขันบางส่วนในปี 1956 โดยจัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  …

  • มาดูกันว่าผู้คว้าตำแหน่ง Miss Universe 2017 จะได้รับรางวัลสุดพิเศษอะไรบ้าง?

    มาดูกันว่าผู้คว้าตำแหน่ง Miss Universe 2017 จะได้รับรางวัลสุดพิเศษอะไรบ้าง?

    ไม่ใช่เพียงแค่มงกุฎและตำแหน่งเท่านั้นที่ Demi-Leigh Nel-Peters สาวงามจากแอฟริกาใต้ผู้ชนะการประกวด Miss Universe 2017 จะได้รับ แต่จริงๆ แล้ว คุณรู้หรือไม่ว่ายังมีของรางวัลอีกมากมายที่ทางกองประกวดจะมอบให้แก่เธอ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่า สิ่งที่ Demi จะได้รับนั้นมีอะไรบ้าง     1. เธอจะได้รับเงินเดือนขณะดำรงตำแหน่งตลอดทั้งปี ราวๆ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน 2. ได้อยู่ในห้องพักสุดหรูของอพาร์ตเมนท์ในนครนิวยอร์กตลอดการดำรงตำแหน่ง 3. ใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือดูแลเส้นผมจาก Farouk Systems ผู้ผลิต CHI Haircare เป็นเวลา 1 ปีเต็ม 4. ตู้เสื้อตู้เก็บรองเท้าจากแบรนด์ Chinese Laundry 5. ได้รับสิทธิพิเศษแบบส่วนตัว รวมถึงการเป็นสมาชิกฟิตเนส Gravity ของ Le Parker Meridien Hotel และบริการบำรุงเส้นผมจาก John Barrett Salon 6. เป็นนางแบบให้กับช่างภาพนำระดับโลก    …

  • ชายหนุ่มแกล้งทำเนียนเป็นนักบาสหน้าใหม่ของ NBA ไปดูซิว่าคนอื่นๆ มีปฏิกิริยาอย่างไรกันบ้าง

    ชายหนุ่มแกล้งทำเนียนเป็นนักบาสหน้าใหม่ของ NBA ไปดูซิว่าคนอื่นๆ มีปฏิกิริยาอย่างไรกันบ้าง

    พวกเราหลายๆ คนคงรู้สึกตื่นเต้นเวลาได้เจอกับดาราดังหรือนักกีฬาที่มีชื่อเสียง แต่เขาคนนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าบางครั้งไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียงจริงๆ แต่แค่ “ทำตัวเหมือนกับคนมีชื่อเสียง” ก็สามารถทำให้คนรอบข้างเดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยแล้ว นี่เป็นการทดลองทางสังคมของ Connor Toole นักเขียนจากสำนักข่าวออนไลน์ Elite Daily โดยพวกเขาได้โพสต์คลิปลงในวันที่ 26 มิถุนายน 2015 เพื่อทดสอบดูว่าถ้าให้นาย Connor แต่งตัวและทำท่าทางเหมือนกับนักบาสในลีกดังอย่าง NBA คนอื่นๆ ที่ได้เห็นจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง   หนุ่มนักเขียน Connor Toole ผู้ทำการทดลองในครั้งนี้   ชายหนุ่มคนนี้ได้ไปยืนอยู่หน้างาน NBA Draft 2015 จัดขึ้นที่ Barclays Center ในเมืองบรู๊คลิน สหรัฐอเมริกา ด้วยท่าทางที่มั่นใจราวกับเป็นหนึ่งในผู้ที่จะถูกรับเลือกเข้าทีมดัง และชุดสูทที่ดูดีบวกกับส่วนสูงกว่า 2 เมตรของเขา ก็ทำให้คนรอบๆ เชื่อว่าเขาจะต้องเป็นหนึ่งในนักบาสหน้าใหม่อย่างแน่นอน มีคนจำนวนมากเดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย พร้อมกับพูดให้กำลังใจและยังบอกอีกว่าถ้าเขาติดทีมไหนก็จะตามไปเชียร์ให้ถึงที่อะไรทำนองนั้น เรียกว่าเชื่อสนิทใจไม่มีการสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น   ส่วนสูงที่มากกว่าคนทั่วๆ ไป ทำให้พวกเขาเชื่อสนิทใจเลยว่านี่มันนักบาสชัดๆ   เด็กๆ ต่างเดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย   พวกเขาให้กำลังใจและหวังว่าชายหนุ่มคนนี้จะได้เข้าไปเล่นในทีมที่พวกเขาเชียร์อยู่อย่างแน่นอน…

  • ภาพถ่ายสถานที่เดิม ในวันเวลาที่เปลี่ยนไป ช่วยหยุดยั้ง ‘โรคซึมเศร้า’ ที่กลืนกินตัวตน

    ภาพถ่ายสถานที่เดิม ในวันเวลาที่เปลี่ยนไป ช่วยหยุดยั้ง ‘โรคซึมเศร้า’ ที่กลืนกินตัวตน

    สถานที่ องค์ประกอบ สิ่งแวดล้อมต่างๆ อาจยังคงเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ความรู้สึกของเราที่มีให้กับสิ่งนั้นอาจต่างไปจากเดิมมากเช่นเดียวกันกับชายคนนี้ เมื่อสถานที่ที่เคยสร้างความทุกข์กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเป็นสุขอย่างที่ไม่เคยคาดคิดก่อน เขาคนนี้มีชื่อว่า Craig Stone นักเขียนชาวอังกฤษที่ได้แชร์เรื่องราวของตัวเองลงในทวิตเตอร์ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2017 เขาได้พูดถึงเกี่ยวกับอาการของโรคซึมเศร้าที่เขาเป็น กับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเมื่อได้กลับมาในสถานที่ที่เขาเคยคิดจะฆ่าตัวตาย   โพสต์ของเขาที่พูดถึงความรู้สึกดีๆ ที่ไม่เหมือนเดิมกับสถานที่แห่งนี้   ในโพสต์บอกว่า “เห็นม้านั่งตรงนั้นมั้ย เมื่อ 8 ปีก่อน ผมนั่งแล้วคิดว่าอยากโดดลงไปจากสะพาน Blackfiars ตอนนั้นเลย แต่วันนี้ผมพาลูกมาถ่ายรูปในที่ที่เดิมและผมก็จะทำอย่างนี้อีกในวันต่อๆ ไป ความรู้สึกตอนนี้มันดีกว่าตอนนั้นมาก ผมได้เจอกับความสดใสที่มากกว่าครั้งไหนๆ ขอแค่เราหยุดคิดแล้วความรักก็จะเข้ามาหาเราเอง #โรคซึมเศร้า” โพสต์ดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาให้กำลังใจและสนับสนุน Craig บางคนถึงกับติดต่อเขาเป็นการส่วนตัว เพื่อเป็นแรงผลักดันให้กับการตัดสินใจของเขาที่จะก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้า   วันต่อมาเขาโพสต์ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ เขารู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก   Craig ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Indy100 ว่าเขาได้พบกับจิตใจที่งดงามของคนจำนวนมากถาโถมเข้ามา บางคนพูดถึงประสบการณ์การเป็นโรคซึมเศร้าของตัวเอง ซึ่งเมื่อเราได้พูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์ชีวิตคล้ายๆ กัน สามารถช่วยให้เราฟื้นฟูจิตใจที่บอบช้ำให้กลับมาแข็งแรงได้   เขาและลูกชาย Obie   เขายังบอกอีกว่า “ในตอนแรกผมไม่ได้คิดจะแชร์เรื่องนี้ออกไปเลย…

  • นิวซีแลนด์สั่งตรวจข้อสอบส่วนกลางวิชาคณิตฯ เพราะยากเกินไปและนอกเหนือจากบทเรียน!?

    นิวซีแลนด์สั่งตรวจข้อสอบส่วนกลางวิชาคณิตฯ เพราะยากเกินไปและนอกเหนือจากบทเรียน!?

    ในหลายครั้งทีี่เราทำข้อสอบ เราอาจเคยคิดว่าข้อสอบนั้นยากเกินไปหรือคิดว่าทำไมเราถึงไม่เคยเรียนอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ซึ่งนี่ก็คงเป็นความคิดของนักเรียนหลายๆ คนในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 ได้มีการสอบระดับ 1 ของการวัดระดับวิชาคณิตศาสตร์ส่วนกลางที่ชื่อว่า The National Vertificate of Educational Achievement (หรือเรียกว่า NCEA) ที่มีไว้วัดระดับนักเรียนชั้น Year 11 (เทียบเท่ากับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในบ้านเรา) ของประเทศนิวซีแลนด์ จากการสอบในครั้งนั้นทำให้เด็กหลายๆ คนที่เข้าสอบร้องเรียนว่าข้อสอบนั้นยากเกินไปและอยู่นอกเหนือจากบทเรียน     เด็กบางคนยอมรับว่าพวกเขาถึงกับนั่งร้องไห้ในห้องสอบเพราะว่าทำไม่ได้ ส่วนบางคนก็บอกว่าทำได้เพียง 2-3 ข้อจาก 15 ข้อเท่านั้น และเพื่อนของเขาเองก็ทำได้ประมาณนี้เหมือนกัน หรือแม้แต่บางคนที่ไม่เขียนอะไรในกระดาษคำตอบเลยก็มี Amanda Fraser ประธานสมาคมคณิตศาสตร์ Otago ในนิวซีแลนด์ บอกว่าข้อสอบนั้นยากจนเกินไปและบางข้อก็ทำให้อาจารย์หลายๆ คนเกิดความรู้สึกสับสน ซึ่งเธอมองว่าการข้อสอบที่ยากขนาดนี้จะเป็นตัวทำลายความมั่นใจและการเห็นคุณค่าในตัวเองของเด็ก   ส่วนหนึ่งของข้อสอบที่เป็นประเด็นถกเถียงกันในครั้งนี้   สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้คุณครูคณิตศาสตร์จาก 22 สถาบันได้ส่งจดหมายร้องเรียนไปให้กับกระทรวงศึกษาธิการและคณะกรรมการตรวจสอบกลาง (หรือเรียกว่า NZQA) จัดตั้งทีมตรวจสอบขึ้นมาในทันที อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่ดูแลการสอบในครั้งนี้ก็ได้ออกมาบอกว่า…

  • เราสองสามคน…กับความรักอีกรูปแบบที่มีชาย 2 หญิง 1 แต่ความรักก็ราบรื่นและแฮปปี้มาก

    เราสองสามคน…กับความรักอีกรูปแบบที่มีชาย 2 หญิง 1 แต่ความรักก็ราบรื่นและแฮปปี้มาก

    คำว่าคู่รักในภาษาอังกฤษคือคำว่า Couple ซึ่งหมายถึงคนสองคนที่รักกัน แต่สำหรับพวกเขาเหล่านี้กลับต้องใช้คำว่า Throuple เพราะว่าความรักของพวกเขากลับมีด้วยกันถึง 3 คน!! Chris และ Matt Brandt คือคู่รักชายรักชายในประเทศอังกฤษ ที่แต่งงานและอยู่กินด้วยกันมานานถึง 6 ปี ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจรับคนที่สามเข้ามาอยู่ร่วมในความสัมพันธ์เดียวกัน   Matt วัย 28 ปี (คนซ้าย) Cait วัย 28 ปี (คนกลาง) และ Chris วัย 38 ปี (คนขวา)   ในปี 2015 การใช้ชีวิตร่วมกันของสองหนุ่มได้เปิดรับหญิงสาวที่ชื่อ Cait Earnest เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความรัก จึงทำให้พวกเขากลายเป็นคนรักแบบชายสองหญิงหนึ่งที่พวกเขากำหนดคำเรียกขึ้นมาเองว่า Throuple พวกเขาได้ให้สัมภาษณ์กับช่อง Barcroft TV โดย Chris ได้พูดว่าเขาเป็นคนที่มีประสบการณ์คบกับผู้หญิงมาก่อน แตกต่างจาก Matt ที่ไม่เคยทำอย่างนั้นเลย จึงทำให้ตอนแรกก็มีการต่อต้านออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน แต่เมื่อพวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกันไปประมาณ 7-8…

  • ภารกิจปล่อยจรวดพิสูจน์โลกแบนของ Mike Hughes ถูกยกเลิกแล้วในขณะนี้!!!

    ภารกิจปล่อยจรวดพิสูจน์โลกแบนของ Mike Hughes ถูกยกเลิกแล้วในขณะนี้!!!

    เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวของ ลุงคนหนึ่งที่พยายามจะสร้างจรวดขึ้นไปบนท้องฟ้า เพื่อจะพิสูจน์ความเชื่อของเขาที่ว่า โลกใบนี้มัน “แบน” ซึ่งได้มีกำหนดปล่อยจรวดเมื่อวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ทว่าได้ยกเลิกแล้วในขณะนี้ สาเหตุหลักๆ ที่ยกเลิกการปล่อยจรวดในครั้งนี้เนื่องมาจาก ลุง Mike Hughes อดีตคนขับรถลิมูซีนวัย 61 ปี ผู้สร้างจรวดอันนี้ไม่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลกลาง บวกกับปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ของหัวจรวดที่เขาได้สร้างขึ้นมาเอง   Mike Hughes กับจรวดที่สร้างขึ้นมาเองของเขา   “หน่วยงานของรัฐบาลที่ชื่อว่า The U.S. Bureau of Land Management (BLM) ได้บอกกับผมว่าพวกเขาไม่อนุญาตให้ผมขึ้นบิน นั่นได้ทำให้ผมเสียใจเป็นอย่างมาก” Hughes กล่าว จรวดของชายคนนี้ได้ใช้เวลาในการสร้างกว่า 2-3 ปี โดยมีการใช้เงินไปประมาณ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 650,000 บาท) สำหรับจรวดลำนี้ซึ่งแต่เดิมนั้นมีกำหนดการปล่อยตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในเวลาประมาณ 14.00-15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศสหรัฐอเมริกา   ความเชื่อของเขาที่คิดว่าโลกนี้มัน “แบน” สำหรับการระงับการปล่อยจรวดในเบื้องต้น Hughes บอกว่าเขาได้รับการห้ามบินจากเจ้าหน้าที่ของ BLM ว่า “มันขึ้นอยู่กับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ…

  • คุณตำรวจและช่างภาพ ช่วยทำให้ความฝันของเหล่าเด็กน้อยผู้ป่วยกลายเป็นความจริง

    คุณตำรวจและช่างภาพ ช่วยทำให้ความฝันของเหล่าเด็กน้อยผู้ป่วยกลายเป็นความจริง

    เด็กทุกคนย่อมมีความฝัน แต่ในบางครั้งมันก็ยากที่จะเป็นจริงขึ้นมาได้ โดยเฉพาะกับเด็กผู้ป่วยมีความผิดปกติในเรื่องของร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ด้วยแล้ว ก็ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะก้าวไปถึงความฝัน แต่ช่างภาพสาว Carrie Lewis ไม่ต้องการให้เด็กเหล่านั้นคิดแบบนี้ เธอจึงทำให้พวกเขาได้เข้าใกล้ความฝันของตัวเองมากยิ่งขึ้น Carrie คือหนึ่งในช่างภาพของกลุ่ม Glass Crown Photography เธอได้ทำโปรเจกต์การถ่ายภาพที่มีให้กับเด็กพิเศษจำนวน 3 คนให้พวกเขาได้กลายเป็นตำรวจอย่างที่ฝันเอาไว้ เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับเด็กๆ ในวันฮัลโลวีน 2017   รอยยิ้มของหนึ่งในเด็กพิเศษที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโปรเจกต์นี้   พวกเขาได้รับประสบการณ์การนั่งในรถตำรวจของจริง   ตำรวจประจำเมืองได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเติมเต็มความฝันของเด็กๆ   เธอเล่าว่าในตอนแรกที่เธอได้ประกาศโปรเจกต์นี้ออกไป ก็มีหลายครอบครัวติดต่อมาให้เธอ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่าง ทำให้เธอช่วยเติมเต็มความฝันของเด็กพิเศษได้แค่ 3 คนนี้เท่านั้น   ความตื่นเต้นและดีใจที่แสดงออกมาให้เห็น เมื่อความฝันกลายเป็นความจริง   แม้จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับความพิการ แต่ก็มีคนอีกมากที่พร้อมช่วยเหลือพวกเขา   ช่างภาพสาวขอให้ตำรวจประจำเมือง Rapid City รัฐเซาท์ดาโคต้า สหรัฐอเมริกา ได้มาช่วยเติมเต็มความฝันของเด็กๆ เหล่านี้ และผลตอบรับที่ได้กลับมาก็ดีเกินคาด เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เตรียมเสื้อผ้า รถตำรวจ และหลายๆ อย่างเพื่อให้เด็กน้อยได้เข้าใกล้ความฝันของตัวเองมากที่สุด…

  • ไม่ตลก.. สาวมหาลัยอ้างตัวเป็นเด็กที่หายไปเมื่อ 10 ปีก่อน ทั้งๆ ที่พ่อแม่กำลังรอคอยความจริง

    ไม่ตลก.. สาวมหาลัยอ้างตัวเป็นเด็กที่หายไปเมื่อ 10 ปีก่อน ทั้งๆ ที่พ่อแม่กำลังรอคอยความจริง

    Madeleine McCann คือเด็กสาวชาวโปรตุเกสวัย 4 ขวบที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2007 และพ่อแม่ของเธอก็กำลังรอคอยปาฏิหาริย์ที่จะได้เจอเธออีกครั้งหนึ่ง ผ่านมา 10 ปีเรื่องของเธอได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่สาวมหาลัยในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ อ้างตัวว่าเธอคือเด็กสาวที่หายไป เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้พูดถึง Harriet Brookes สาวมหาลัยผู้กล่าวอ้างในครั้งนี้ โดยเธอได้พูดติดตลกกับเพื่อนของเธอในห้องแชท ก่อนที่ Lizzie เพื่อนสนิทเธอคนนั้นจะนำเรื่องที่เธอพูดไปโพสต์ลงในโลกโซเชียล   ภาพซ้ายคือเด็กที่หายตัวไป ภาพขวาคือสาวมหาลัยที่อ้างตัวว่าเป็นเด็กคนนั้น   โพสต์ดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไปมากกว่า 30,000 ครั้งและได้เป็นกระแสที่โด่งดังอย่างมากในโลกโซเชียล เพราะตำหนิบนร่างกายของสาวมหาลัยคนนี้ก็ตรงกับเด็กที่หายไปอย่างมาก ทั้งจุดบนดวงตา หรือแม้แต่มีจุดเล็กๆ ตรงขาของเธอ   เธอบอกกับเพื่อนในแชทว่าสีของดวงตาและรอยตำหนิตรงขามันตรงกับข้อมูลเป๊ะๆ   ในตอนแรกก็มีหลายคนที่เชื่อในมุกตลกของเธอและติดต่อไปหาเป็นการส่วนตัว แต่สุดท้ายทุกคนก็เข้าใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงเพราะในเวลานี้เด็กน้อย Madeleine ควรจะต้องอายุแค่ 14 ปี ไม่มีทางเป็นเด็กมหาลัยคนนี้อย่างแน่นอน และการเล่นตลกในครั้งนี้ก็ได้ทำให้ชาวเน็ตบางส่วนรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่เธอนำเรื่องของเด็กที่หายตัวไปมาพูดเล่นๆ มีคอมเมนต์หนึ่งที่พูดว่า “เธอเป็น Madeleine ตัวจริงหรือเพียงแค่ต้องการปั่นหัวคนอื่นไปเรื่อยกันแน่”   ในแชท…

  • กลุ่มแฮ็กเกอร์อิรักปั่นหัว ISIS ด้วยการตัดต่อผู้นำดูภาพโป๊ แล้วเอาไปใส่หน้าเว็บพวกเขาเอง

    กลุ่มแฮ็กเกอร์อิรักปั่นหัว ISIS ด้วยการตัดต่อผู้นำดูภาพโป๊ แล้วเอาไปใส่หน้าเว็บพวกเขาเอง

    หากจะพูดถึงชื่อของกลุ่มก่อการร้ายที่มีชื่อเสียงระดับโลกต้องมีชื่อของกลุ่ม ISIS ติดอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งกลุ่ม ISIS นี้ขึ้นชื่อในเรื่องความโหดร้ายทารุณ โดยพวกเขาได้ก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และสังหารหมู่มาแล้วมากมาย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีใครกล้าล้อเล่นกับพวกเขา ด้วยการแฮ็กเว็บไซต์ของพวกเขาแล้วใส่รูปโป๊ลงไปซะอย่างงั้น หนึ่งในความสามารถที่กลายมาเป็นจุดเด่นของแฮ็กเกอร์กลุ่มนี้ก็คือ พวกเขาได้ตัดต่อรูปภาพของผู้นำกลุ่ม ISIS ให้ดูเหมือนกับว่าเขากำลังนั่งดูหนังโป๊อยู่ อีกทั้งยังนำรูปผู้หญิงโป๊จำนวนมากไปใส่ไว้ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพวกเขาอีกด้วย   แฮกเว็บไซต์หลักซะเลยนิ   สมาชิกคนหนึ่งของกลุ่ม Daeshgram กลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวอิรัก ได้ออกมาบอกว่าพวกเขาเป็นคนแฮ็กเว็บไซต์ดังกล่าวเอง ซึ่งสาเหตุที่พวกเขาทำอย่างนี้ก็เพราะว่า ต้องการที่จะกระจายความหวาดระแวงให้กับผู้คนที่สนับสนุนกลุ่ม ISIS โดยพวกเขาต้องการจะสื่อว่าข้อความที่ส่งโดยช่องทางการของกลุ่ม ISIS นั้นมีความไม่ปลอดภัยและสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย และดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำได้สำเร็จ   มีการดิสเครดิตด้วยนะ   “ความตั้งใจของพวกเราคือต้องการแพร่กระจายข่าวปลอมของกลุ่ม ISIS เพื่อลดความน่าเชื่อถือของพวกเขาลง” สมาชิกที่ไม่เปิดเผยชื่อคนหนึ่งของกลุ่ม Daeshram กล่าว นอกจากนี้กลุ่ม Daeshram ยังบอกผู้สนับสนุนกลุ่ม ISIS อีกด้วยว่าไม่ให้เชื่อสิ่งที่กลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวเขียนไว้บนเว็บไซต์ เพราะว่ามันไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่นัก   ไม่รู้ว่าโดนโจมตีแล้วพวกเขาจะเป็นอย่างไรกันบ้าง   สำหรับปฏิบัติการแฮ็กนั้นกลุ่ม Daeshgram ได้ออกมาเปิดเผยวิธีการคือเริ่มแรกพวกเขาได้ทำให้เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของกลุ่มใช้การไม่ได้ด้วยวิธี DDoS (การยิงระบบ) ซึ่งนั่นได้ทำให้เว็บไซต์ของพวกเขาล่มเลยทีเดียว หลังจากเว็บไซต์ล่มลงพวกเขาก็นำเอาเว็บไซต์ปลอมไปแทนที่ โดยเป็นหน้าของการล้อเลียนกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ และด้วยความที่พวกเขาได้ศึกษาเว็บไซต์นี้มาหลายเดือน…

  • เมืองนิวยอร์กนำตู้รถไฟที่ไม่ใช้แล้วลงสู่ก้นทะเล เพื่อช่วยซ่อมแซมระบบนิเวศให้ดีขึ้น

    เมืองนิวยอร์กนำตู้รถไฟที่ไม่ใช้แล้วลงสู่ก้นทะเล เพื่อช่วยซ่อมแซมระบบนิเวศให้ดีขึ้น

    มีไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นการกำจัดหรือทิ้งขยะอุตสาหกรรมแบบจะจะ เพราะส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะทำกันแบบลับๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกร้องเรียน แต่ช่างภาพ Stephen Mallon ได้พยายามตามถ่ายการกำจัดขยะเหล่านั้นเป็นเวลา 3 ปีด้วยกัน จนได้เห็นว่าตู้รถไฟใต้ดินในนิวยอร์กนั้นถูกนำไปทิ้งที่ไหนเมื่อไม่ใช้งานแล้ว   มหานครนิวยอร์กได้สร้างทางพิเศษขึ้นมาเอง เพื่อใช้ในการกำจัดตู้รถไฟใต้ดินที่ไม่ใช้แล้ว   มีเรือบรรทุกสินค้าที่เต็มไปด้วยตู้รถไฟใต้ดินกำลังแล่นไปยังกลางมหาสมุทร   จากนั้นพวกเขาก็จะใช้อุปกรณ์ก่อสร้างในการผลักตู้รถไฟใต้ดินลงไปในน้ำ   ตู้รถไฟใต้ดินถูกโยนลงไปทีละตู้ๆ   มันอาจจะดูเหมือนเป็นการกำจัดมลพิษแบบสิ้นคิด แต่จริงๆ แล้วพวกเขามีจุดประสงค์บางอย่างที่อยู่เบื้องหลังการทำแบบนี้   พวกเขาบอกว่าการทิ้งรถไฟใต้ดินลงไปอยู่ใต้พื้นมหาสมุทรนั้นก็เพื่อให้มันผสานกับระบบนิเวศใต้น้ำ   เมื่อเวลาผ่านไปตู้รถไฟใต้ดินจะปกคลุมไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ซึ่งเป็นการสร้างระบบแนวปะการังเทียมอย่างหนึ่ง   ทุกส่วนของซากรถเหมาะสำหรับการสร้างระบบนิเวศปะการัง   ทั้งนี้ การสร้างระบบแนวปะการังเทียมนั้นจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการฟื้นฟูความเสียหายในธรรมชาติที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์   นี่คือสิ่งที่เกิด หลังจากที่ทิ้งซากรถไปแล้ว 5 ปี   แม้แต่ทางวิศวกรเองก็เห็นด้วยกับการผลักตู้รถไฟใต้ดินลงน้ำ พวกเขาบอกว่าแม้ตอนแรกเราจะไม่ได้มีเจตนาเพื่อจัดการความเสียหายของพื้นมหาสมุทร แต่พอเวลาผ่านไปเราพบว่ามันช่วยซ่อมแซมธรรมชาติที่ถูกทำลายไป   และนี่คือสภาพเมื่อผ่านไปแล้วประมาณ 10 ปี   ตอนแรกที่ Mallon เผยแพร่ภาพเหล่านี้ มีแต่คนบอกว่ามันเป็นการสร้างมลภาวะ  แต่เมื่อได้อ่านทั้งหมดจึงรู้มันเป็นการคืนความสวยงามให้ธรรมชาติมากกว่า   ที่มา viralforest

  • คู่รักเที่ยวรอบโลกด้วยกันแบบประหยัดใช้เงินวันละไม่เกิน 260 บาท ไปมาแล้ว 50 ประเทศ

    คู่รักเที่ยวรอบโลกด้วยกันแบบประหยัดใช้เงินวันละไม่เกิน 260 บาท ไปมาแล้ว 50 ประเทศ

    การท่องเที่ยวรอบโลกนับเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ โดยเฉพาะเรื่องเงิน ทำให้บางคนไม่ได้ทำอย่างที่ฝันเอาไว้ อย่างไรก็ตาม คู่รัก Karol Charlie Lewandowski และ Aleksandra Ślusarczyk ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการทำตามความฝันที่จะเที่ยวรอบโลกนั้น มันไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายอย่างที่คิด     Charlie และ Aleksandra เป็นคนที่รักการเดินทาง แต่ในอีกทางหนึ่งพวกเขาเป็นเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่มีเงินไม่มากพอที่จะทำแบบนั้น     แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทั้งสองไม่เหมือนคนทั่วไปคือ การที่คิดว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกเขาจะต้องทำในสิ่งที่ต้องการให้ได้     หนึ่งในอุปสรรคของการท่องเที่ยวคือการเดินทาง เพราะนอกจากมีค่าใช้จ่ายสูงแล้ว บางทีมันอาจจะไม่สะดวกตามที่เราต้องการก็ได้     ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงซื้อรถเก่ารุ่น VW T3 ปี 1989 ในราคาราวๆ 20,000 บาท แล้วเอามาทาสีใหม่ ก่อนจะออกไปผจญภัยทั่วโลกด้วยกัน     แม้จะทาสีใหม่แต่มันก็คือรถเก่าอยู่ดี นั่นทำให้รถมีปัญหาระหว่างทางบ่อยครั้งมาก แต่ทั้งคู่ได้เรียนรู้ที่จะซ่อมด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการประหยัดเงิน     ตอนนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าพวกเขาเอาเงินที่ไหนมาใช้ หรือใช้เงินยังไง ในเมื่อก่อนหน้านี้พวกเขายังบอกอยู่เลยว่ามีปัญหาด้านการเงิน    …

  • แม่เหมียวผู้อารี มาขออาหารจากมนุษย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเอาไปแจกให้กับเหมียวตัวอื่นในละแวก

    แม่เหมียวผู้อารี มาขออาหารจากมนุษย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเอาไปแจกให้กับเหมียวตัวอื่นในละแวก

    เราอาจเคยได้เห็นคนที่มีจิตใจดี โอบอ้อมอารี คอยช่วยเหลือคนอื่นๆ ให้หลุดพ้นจากความยากลำบากหรือปัญหาที่พวกเขาต้องเจอ แต่นิสัยแบบนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับคนเพราะน้องเหมียวตัวนี้เองก็มีจิตใจที่งดงามไม่แพ้กันเลย เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2017 ทางเพจเฟซบุ๊ก SBS TV동물농장x애니멀봐 ของประเทศเกาหลีได้เผยแพร่เรื่องราวความน่ารักและจิตใจอันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของเจ้าเหมียว Baekseolee ผู้คอยแบ่งปันอาหารที่มันได้รับให้กับแมวตัวอื่นๆ ในละแวกนั้น   มาดูเรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้าเหมียว Baekseolee กันเถอะ   เจ้าเหมียวจะเดินเข้ามาอ้อนเจ้าของร้านให้ใจอ่อน และมันก็จะได้รับอาหารเป็นของรางวัลจากความน่ารัก   แต่เมื่อเธอนำอาหารมาวางไว้ให้ มันก็กลับไม่ได้กินในทันที   มันจะคาบอาหารชิ้นนั้นแล้วเดินหายไป   เพราะมันต้องการนำอาหารที่ได้ไปแบ่งให้กับเพื่อนแมวที่อยู่ใกล้ๆ นั่นเอง   บางครั้งก็ไปตามพวกมาสมทบด้วยนะ   นอกจากนั้นมันไม่ได้นำอาหารไปแบ่งให้กับเพื่อนเพียงแค่อย่างเดียว เพราะจู่ๆ มันก็ปีนเข้าหน้าต่างบ้านหลังหนึ่งไปซะงั้น   เมื่อเข้าไปในบ้านก็ได้เจอกับลูกๆ ทั้ง 3 ตัวของเจ้า Baekseolee   จากการสอบถามเจ้าของบ้าน เธอบอกว่าแม่เหมียวจิตใจดีตัวนี้ได้เข้ามาคลอดลูกในบ้านของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถไล่มันออกไปได้   แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือเจ้าของบ้านกำลังจะย้ายที่อยู่แล้ว และเจ้าของร้านที่คอยให้อาหารมันก็ไม่สามารถดูแลมันได้ เนื่องจากเธอเลี้ยงแมวเอาไว้มากถึง 4 ตัวแล้ว   อย่างไรก็ตามความหวังก็ไม่ได้หมดไป…

  • หญิงสาวประสบภาวะความจำเสื่อม หลังจากที่เธอคลอดลูกออกมาแล้วคิดว่าตัวเองอายุ 13 ปี

    หญิงสาวประสบภาวะความจำเสื่อม หลังจากที่เธอคลอดลูกออกมาแล้วคิดว่าตัวเองอายุ 13 ปี

    หลายๆ คนอาจมีความคิดอยากย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง และคุณแม่ท่านนี้ก็กลับกลายเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆ เพราะหลังจากที่เธอได้คลอดลูกคนที่สองออกมาเธอก็ดันคิดว่าตัวเองอายุแค่ 13 ปีซะงั้น!? นี่เป็นเรื่องราวของคุณแม่ Shannon Everett วัย 22 ปี อาศัยอยู่ในเมืองนิวพอร์ต ประเทศเวลส์ ที่ได้คลอดลูกคนที่สองออกมาในคืนวันที่ 30 กันยายน 2017 ก่อนที่หัวใจของเธอจะหยุดเต้นไปนานกว่า 68 นาทีและสลบไปนานกว่า 2 อาทิตย์   Shannon คุณแม่ที่สูญเสียความทรงจำและคิดว่าตัวเองอายุ 13 ปี   Nicola Everett คุณแม่ของเธอเล่าว่า “ในตอนที่ลูกสาวของฉันกำลังคลอดอยู่ เธอได้หันมาบอกกับฉันและคู่หมั้นของเธอว่า เธอรักพวกเรามาก และได้หมดสติไปหลังจากนั้น” แพทย์ผู้ดูแลอาการของเธอได้บอกว่าการที่หัวใจของเธอหยุดเต้นอาจทำให้หญิงสาวไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย หรือสมองอาจได้รับผลกระทบอย่างหนักก็เป็นได้   Nicola คุณแม่ของหญิงสาวที่คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง   จนกระทั่งหลังจากวันที่คลอดไป 2 อาทิตย์ Shannon ก็ฟื้นขึ้นมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเธอจำคู่หมั้นไม่ได้ เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นคุณแม่ลูกสองและเคยท้องมาก่อน และเธอยังคิดว่าตัวเองอายุแค่ 13 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากโรคหลอดเลือดอุดตันของน้ำคร่ำ เป็นอาการหายากที่พบได้จากคุณแม่หนึ่งใน 20,000…

  • ชายผู้ให้เสียงกับตัวละคร Arnold เด็กชายหัวรักบี้ โคตรหล่อเลย แอร๊ยยย อิชั้นใจละลาย

    ชายผู้ให้เสียงกับตัวละคร Arnold เด็กชายหัวรักบี้ โคตรหล่อเลย แอร๊ยยย อิชั้นใจละลาย

    การ์ตูนมักเป็นสื่อที่สร้างความบันเทิงให้กับเรา ไม่ว่าจะอยู่ในวัยเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มีการ์ตูนเรื่องใหม่มาแทน เรื่องเก่าๆ ก็จะถูกลืมไป แต่สำหรับเรื่อง Hey Arnold การ์ตูนที่ได้รับความนิยมในยุค 90 ได้กลับมาอยู่ในกระแสโซเชียลอีกครั้ง เมื่อผู้คนรู้ว่าใครเป็นผู้พากย์เสียง Arnold      แน่นอนว่า หลายๆ คนคงจำเรื่อง Hey Arnold ได้ดี โดยเฉพาะ Arnold ตัวเอกของเรื่องที่มีผมสีเหลืองแสกกลาง แต่ถ้าสังเกตดีๆ นั้นไม่ใช่การแสกผมนั้น แต่เป็นเพราะเขาสวมหมวกต่างหากล่ะ     ย้อนความหลังกันพอหอมปากหอมคอ ตอนนี้มาชมสิ่งที่น่าสนใจในการ์ตูนเรื่องนี้กันดีกว่า นั่นก็คือชายหนุ่มผู้อยู่เบื้องหลังเสียงของ Arnold ทั้ง 41 ตอน   เขาคือ Lane Toran หนุ่มหล่อล่ำ ผู้ควรค่าแก่จับตามอง   ตาม IMDb ระบุว่า Toran เป็นทั้งนักแสดงและนักแต่งเพลงที่พากย์เสียงให้กับตัวละครในการ์ตูนเรื่อง Recess ของดิสนีย์ Nickelodeon และ Rocket Power     ตอนที่เขาทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจจะไม่ได้รับความสนใจมากจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่มาตอนนี้ไม่พูดถึง เห็นทีจะไม่ได้ซะละ ก็แหม พี่แกหล่อระเบิดซะขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว    …

  • คุณแม่พาลูกๆ ลาออกจากโรงเรียน แล้วไปเที่ยวรอบโลก เพื่อหาประสบการณ์นอกห้องเรียน

    คุณแม่พาลูกๆ ลาออกจากโรงเรียน แล้วไปเที่ยวรอบโลก เพื่อหาประสบการณ์นอกห้องเรียน

    พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะพยายามให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนดีๆ มหาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศหรือของโลก หวังจะให้ลูกมีคุณภาพชีวิตดีในอนาคต แต่ในทางกลับกัน พ่อแม่จำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะคนหัวสมัยใหม่เชื่อว่าความรู้ไม่จำเป็นต้องหาจากห้องเรียนเท่านั้น แต่ประสบการณ์จากโลกภายนอกก็เป็นบทเรียนที่ควรค่าแก่การแสวงหาเหมือนกัน     ด้วยเหตุนี้ Barbara Bryan คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 50 ปี จึงตัดสินใจพาลูกสาวทั้งสองคนคือ Brooke วัย 12 ปี กับ Samantha วัย 10 ขวบ ลาออกจากโรงเรียนแล้วพาไปหาประสบการณ์รอบโลก โดยหลังจากที่ให้ลูกลาออกจากโรงเรียนแล้วเธอก็พาพวกเขาย้ายไปอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ใน Collector ใกล้กับแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย และได้ออกไปผจญภัยด้วยกันนับครั้งไม่ถ้วน     Bryan บอกว่า “กว่า 4 ปีแล้วที่เราไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่งลูกสาวทั้งสองคนของฉันยังคงตื่นเต้นเสมอเมื่อเจอสิ่งใหม่ๆ ที่สำคัญพวกเขาชอบทุกที่ที่ไป” ทั้งนี้คุณแม่จะให้ลูกได้ทำอะไรเต็มที่ทุกครั้งที่ไปเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเช่าที่พักดีๆ เล่นเครื่องเล่นที่อยากเล่น และทำทุกอย่างที่ลูกต้องการ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้มากที่สุด     สาวๆ ในชุดเจ้าหญิงดิสนีย์   พากันอาบแดดที่โกลด์โคสต์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย   ภาพนี้ถ่ายที่ Great Ocean Road รัฐวิกตอเรีย…

  • คุณแม่กับโปรเจกต์การถ่ายภาพลูกสาว ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูแล้วช่างสดใสเหลือเกิน

    คุณแม่กับโปรเจกต์การถ่ายภาพลูกสาว ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูแล้วช่างสดใสเหลือเกิน

    เมื่อลูกๆ อยู่กับพ่อแม่ พวกเขามักจะถูกสอนให้ทำโน่นทำนี่ รวมทั้งการช่วยทำงานบ้าน จนทำให้เด็กรู้สึกเบื่อและอาจจะอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวไปเลยก็ได้ แต่คุณแม่รายนี้ได้ทำสิ่งที่แตกต่างออกไป ด้วยการทำกิจกรรมสนุกๆ กับลูกสาว ที่นอกจากจะมีแต่ความสุขแล้ว ยังเป็นการบันทึกช่วงเวลาแห่งความทรงจำระหว่างแม่กับลูกด้วย     Coco Amardeil ช่างภาพชาวแคนาดา ปัจจุบันอาศัยอยู่ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส เธอกำลังทำโปรเจกต์กับลูกสาว Zhansaya วัย 10 ขวบ ภายใต้ชื่อ Crazy Mummy       Crazy Mummy เป็นการถ่ายรูปเชิงสร้างสรรค์ที่ Coco และลูกสาวได้ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2014 “คอนเซปต์คือการทำให้ภาพของ Zhan ออกมาดูแตกต่างและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน” คุณแม่กล่าว     Amardeil บอกว่า “ฉันพูดได้เลยว่าเราทั้งสองคนช่วยกันทำโปรเจกต์นี้ เราช่วยกันคิด ช่วยกันทำในทุกๆ ขั้นตอน และเราก็สนุกไปด้วยกัน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฉันอยากแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสร้างสรรค์กับลูกสาว”     เธอบอกอีกว่าอยากเปิดมุมมองที่แตกต่างของความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก ทั้งความรักที่แม่มีต่อลูก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมภาพของ Zhan จึงมีแต่รอยยิ้มและดูเป็นธรรมชาติสุดๆ     ใครที่ชื่นชอบแม่ลูกคู่นี้ สามารถติดตามผลงานของพวกเขาได้ที่อินสตาแกรม cocoamardeil   . . . . .…

  • ญี่ปุ่นขาดแคลนทายาทชาย หลายครอบครัวเลือกเลยรับ “ชายวัยผู้ใหญ่” เป็นบุตรบุญธรรม

    ญี่ปุ่นขาดแคลนทายาทชาย หลายครอบครัวเลือกเลยรับ “ชายวัยผู้ใหญ่” เป็นบุตรบุญธรรม

    ในประเทศญี่ปุ่น การสืบทอดธุรกิจที่ครอบครัวสร้างขึ้นมาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นคือผู้ที่จะมารับมรดกนั้นไปได้จะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น แล้วถ้าบ้านไหนมีแต่ลูกสาวล่ะจะทำยังไง? ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าการรับชายวัยผู้ใหญ่เข้ามาเป็นบุตรบุญธรรม จากเหตุผลที่ว่าครอบครัวส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นเลือกที่จะมีลูกแค่คนเดียว ทำให้ครอบครัวเจ้าของธุรกิจจำนวนมากขาดทายาทผู้ชายที่จะเข้ามาสืบทอดกิจการของพวกเขา จึงได้เกิดวิธีการรับผู้ชายที่มีอายุอยู่ในช่วง 20 หรือ 30 ปีเข้ามาเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อรับมรดกนั้นไป     สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น สังเกตได้จากสถิติการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมในปี 2016 ที่สูงถึง 81,000 คน โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดนั้นเป็นการรับเลี้ยงผู้ใหญ่ ไม่ใช่เพียงเหตุผลที่ว่ามีแค่ลูกสาว เพราะบางครอบครัวที่มีลูกชายก็ยังคงใช้วิธีรับเลี้ยงผู้ใหญ่บุญธรรมเข้ามา เพราะว่าลูกชายของพวกเขาอาจไม่มีประสิทธิภาพหรือความรับผิดชอบที่มากพอในการรับธุรกิจของครอบครัวไปดูแล   หนึ่งในบุตรบุญธรรมที่ถูกรับเลี้ยงมาให้สืบทอดธุรกิจของครอบครัวหนึ่ง   แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าลูกๆ ที่แท้จริงของพวกเขาจะไม่มีหน้าที่ในมรดกนั้นเสมอไป เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกสาวของครอบครัวจะได้รับการสั่งสอนและอบรมมาอย่างดีเกี่ยวกับธุรกิจของที่บ้าน จากนั้นพวกเธอก็จะได้แต่งงานกับบุตรบุญธรรมที่รับเข้ามาสืบทอดธุรกิจนั้นๆ แล้วทั้งคู่ก็จะสามารถช่วยกันบริหารได้อย่างดี     เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต่างกับการคลุมถุงชนหรือเปล่า? จากคำตอบของ Chieko Date ผู้ทำการจับคู่ในลักษณะนี้มานานกว่า 10 ปีได้บอกเอาไว้ว่า ก่อนที่หนุ่มสาวจะได้มาเจอกัน ครอบครัวเจ้าของธุรกิจที่มาใช้บริการกับเธอจะเป็นคนกำหนดความต้องการทุกอย่างว่าอยากได้บุตรบุญธรรมที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง พวกเขาจะตรวจสอบข้อมูลของผู้ชายคนนั้นอย่างละเอียด เพื่อดูว่าไม่มีหนี้สินติดตัวมาและต้องไม่เป็นเกย์ จากนั้นลูกสาวของพวกเขากับชายหนุ่มถึงจะได้มาเจอกัน และหากว่าพูดคุยกันไม่ถูกคอ ก็สามารถทำการยกเลิกการรับบุตรบุญธรรมคนนี้เพื่อหาคนใหม่ได้ จนกว่าจะเจอคนที่ถูกใจและแต่งงานกันในที่สุด โดยการแต่งงานนั้นฝ่ายชายจะต้องเป็นคนเปลี่ยนนามสกุลเพื่อการสืบทอดธุรกิจของครอบครัวฝ่ายหญิงต่อไป   Chieko Date…

  • หนุ่มหัวหมอ อ้างจดทะเบียนชื่อพ่อที่เหมือนกับชื่อตัวเอง หลีกเลี่ยงค่าปรับ 650 บาท

    หนุ่มหัวหมอ อ้างจดทะเบียนชื่อพ่อที่เหมือนกับชื่อตัวเอง หลีกเลี่ยงค่าปรับ 650 บาท

    เหตุการณ์แปลกๆ นี้เกิดขึ้นในการไต่สวนคดีความในศาลของเมืองพรอวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ชายรายหนึ่งพร้อมกับเพื่อนของเขาได้กระทำความผิดในข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอดและขับรถฝ่าไฟแดง นี่เป็นคลิปวิดีโอจากรายการ Caught In Providence รายการเกี่ยวกับการไต่สวนคดีความอย่างคดีเกี่ยวกับการจราจร การจอดรถ ได้เผยให้เห็นผู้พิพากษา Caprio ที่กำลังไต่สวนคดีความกับจำเลยทั้ง 2 อยู่     ผู้พิพากษาได้ทำการสอบถามจำเลยทั้งสองว่าใครเป็นคนขับรถ ก่อนที่ชายชุดดำจะชี้ไปที่เพื่อนของเขาแล้วบอกว่า “หมอนี่แหละครับเป็นคนขับ” จากนั้นผู้พิพากษาก็สอบถามเกี่ยวกับเรื่องการจดทะเบียนรถและบอกว่ารถคันดังกล่าวของเค้านั้นค้างค่าปรับอยู่ 1 ใบตั้งแต่ปี 2009 เป็นเงินมูลค่า 20 เหรียญหรือประมาณ 650 บาท พร้อมกับข้อหาขับรถฝ่าไฟแดง และหลังจากที่แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดเสร็จ ชายหนุ่มชุดดำคนดังกล่าวก็ได้เกิดข้อสงสัย และซักถามผู้พิพากษาว่า “เอ่อ.. เดี๋ยวนะครับผมสงสัยเกี่ยวกับเรื่องค่าปรับที่จอดรถ คือพ่อแม่ของผมเนี่ยเค้าเป็นเจ้าของรถคันนั้นเมื่อปี 2009 ก่อนที่จะขายให้ผมอีก 2 ปีถัดมา ดังนั้นในตอนนั้นพวกเขาเป็นเจ้าของรถ และชื่อรถก็จดทะเบียนชื่อพ่อผมที่เหมือนกับผมเลยครับ”     ในขณะที่ชายหนุ่มยังไม่ทันถามคำถามของเขาเสร็จ ดูเหมือนว่าผู้พิพากษาจะเข้าใจถึงความหมายที่เขาพูดอย่างดี จึงถามชายหนุ่มกลับไปว่า “คุณต้องการให้ผมส่งเจ้าหน้าที่ไปจับพ่อแม่ของคุณอย่างนั้นใช่ไหม??” หนุ่มหน้ามนคนใส่แว่นอ้ำอึ้งอยู่ซักพักก่อนจะพูดบอกออกไปแนวๆ ว่าตัวเขาเองนั้นยังไม่มีเงินจ่ายหรอก ตอนนี้ยังต้องพึ่งประกันสังคมอยู่เลย และจริงๆ แล้วถ้าเขามีเงินเขาก็ไม่อยากจะให้ไปจับพ่อแม่หรอก     ผู้พิพากษาได้หันไปพูดกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องที่ชายหนุ่มต้องการจะขายพ่อแม่ของเขาในราคา 20…

  • กระพริบทีมีเจ็บ… ช่างตัดผมจีนให้บริการ ‘โกนขนเปลือกตา’ เพื่อความโล่งที่มากกว่าเดิม!?

    กระพริบทีมีเจ็บ… ช่างตัดผมจีนให้บริการ ‘โกนขนเปลือกตา’ เพื่อความโล่งที่มากกว่าเดิม!?

    บริการเสริมของร้านทำผมสุดแหวกนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีนโดยช่างทำผมชื่อคุณ Xiong Gaowu นอกจากบริการตัดผมและโกนหนวดแบบร้านทั่วๆ ไปแล้ว ร้านตัดผมแห่งนี้ยังมีบริการโกนขนเปลือกตาอีกด้วย!! คุณ Xiong ให้บริการร้านตัดผมของเขาอยู่บริเวณริมถนนในเมืองเฉิงตู ทางตอนใต้ของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน “คุณจะรู้สึกสบายมากๆ หลังจากที่ได้โกนขนที่เปลือกตา” ช่างตัดผมวัย 62 ปีกล่าว     Zhang Tian หนึ่งในลูกค้าที่ใช้บริการโกนขนเปลือกตาให้สัมภาษณ์ว่า “มันไม่อันตรายเลย ตาของผมรู้สึกโล่งมากๆ หลังจากที่โกนขนออก มันสบายจริงๆ “ ช่างตัดผมวัย 62 ปีเริ่มต้นฝึกทักษะการโกนขนเปลือกตาตั้งแต่ช่วงปี 1980s คุณ Xiong ให้บริการลูกค้ามากถึง 8 คนต่อสัปดาห์เลยทีเดียว โดยค่าบริการในการกำจัดขนที่เปลือกตานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 400 บาทต่อครั้ง     “ในตอนที่ผมเริ่มต้นใหม่ๆ มันค่อนข้างยากมากเลยทีเดียว แต่หลังจากฝึกฝนเป็นเวลานานการโกนขนใต้เปลือกตาก็เป็นเรื่องง่ายๆ” ช่างตัดผมรุ่นใหญ่กล่าว แต่ทางคุณหมอ Qu Chao จักษุแพทย์จากเมืองเฉิงตูได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการโกนขนที่เลือกตาว่า มันจะลดความชุ่มชื่นของต่อมไขมันที่อยู่บริเวณขอบตา และจะทำให้คุณรู้สึกระคายเคืองได้     “ผู้รับบริการจะรู้สึกว่าเปลือกตาแห้งและรู้สึกระคายเคือง เมื่อต่อมไขมันถูกเปิดออกด้วยการโกน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการติดเชื้ออีกด้วยถ้าหากว่าอุปกรณ์ที่ใช้ไม่มีการฆ่าเชื้อ” แพทย์หญิงกล่าว อย่างไรก็ตามคุณหมอยังได้แนะนำว่าถ้าหากมีการฆ่าเชื้อใบมีดอย่างถูกต้อง การโกนขนที่เปลือกตานั้นก็ยังคงทำได้อยู่ และถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่กล้าพอ การโกนขนที่เปลือกตาก็อาจจะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับคุณก็ได้!!     น่าสงสัยจริงๆ เลยนะว่าใครเป็นลูกค้าคนแรกๆ ที่คุณ Xiong…

  • หนุ่มส่งข้อความ ‘ดูกันดั้มของผมไหม’ ไปหาสาว และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นความรักของพวกเขา

    หนุ่มส่งข้อความ ‘ดูกันดั้มของผมไหม’ ไปหาสาว และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นความรักของพวกเขา

    เนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันไปได้ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็หากันจนเจอไม่ว่าจะจากร้านกาแฟ ผับบาร์ หรือกระทั่งโลกออนไลน์ แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่าจะมีคู่รักคู่หนึ่งจะได้แต่งงานกันด้วยคำถามง่ายๆ ว่า “ดูกันดั้มของผมไหม” ในกล่องข้อความ Instagram ของ Elle Howley ได้มีข้อความหนึ่งที่มีเนื้อหาสุดแปลกมาหาเธอ ซึ่งข้อความนั้นเป็นคำถามที่ว่า “ดูกันดั้มของผมไหม” และตอนนั้นเธอยังคงไม่รู้ว่าคำถามนี้คำถามเดียวได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล และได้สร้างตำนานรักบทใหม่ขึ้นในยุคเทคโนโลยีครองเมืองเฉกเช่นในปัจจุบัน   Elle ได้โพสต์ข้อความของชายดังกล่าวลงใน Twitter ของเธอ   Elle ให้เล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้วเธอพบกับชายคนนี้ก่อนแล้วในแอพฯ Tinder แต่ว่าตอนนั้นเธอได้ลบบัญชีของเธอในแอพฯ นั้นทิ้งไปเพราะว่ายังมีความสุขในชีวิตโสดอยู่ ซึ่งเธอก็คิดว่าเขาคนนั้นก็คงจะลืมๆ เธอไป แต่ปรากฏว่าไม่กี่วันต่อมา เขาก็ส่งข้อความมาใน Instagram ด้วยข้อความข้างต้น โดยในตอนแรกนั้นเธอก็คิดว่าคำว่ากันดั้มของเขานั้นหมายถึง อวัยวะเพศ แต่ว่าเขากลับส่งรูปโมเดลกันดั้มจริงๆ กลับมานั่นทำให้ Elle รู้ว่าเขาคนนี้แตกต่างกับคนอื่น   แท่ม แท๊มมมม ส่งกันดั้มมาให้ดูจริงๆ ด้วยแฮะ…   “การ์ตูนเรื่องกันดั้ม เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ฉันได้ดูและตกหลุมรักมัน เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขากับฉันที่ได้พูดคุยกันเพราะว่าเรารักในสิ่งเดียวกัน เราแชทคุยกันทุกวันเป็นเดือนจนกระทั่งเราได้พบกันในที่สุด” Elle เล่าจุดเริ่มต้นความรักของเธอให้ฟัง เธอได้เรียกชายคนดังกล่าวว่า “ไอ้หนุ่มกันดั้ม” ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อของเขาคือ John…

  • ได้อีกค่ะ!! คู่รักทหารอปป้าเกาหลีกับคุณหญิงรัสเซีย เห็นแล้วก็รู้สึกอิจฉ๊าอิจฉาเหลือเกิน

    ได้อีกค่ะ!! คู่รักทหารอปป้าเกาหลีกับคุณหญิงรัสเซีย เห็นแล้วก็รู้สึกอิจฉ๊าอิจฉาเหลือเกิน

    คู่รักที่น่าอิจฉาไม่ใช่คู่ที่หน้าตาสวยหล่อ ไม่ใช่คู่ที่คบกันมานาน ไม่ใช่คู่ที่ร่ำรวยเงินทอง แต่เป็นคู่ที่มั่งคั่งในเรื่องความรักโดยไม่มีเงื่อนไข อย่างคู่รัก Jay Song Alexandra และ Sasha Podberezskaja ที่ได้แบ่งปันชีวิตการผจญภัยของพวกเขาในยูทูบ จนทำให้ชาวเน็ตอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน     Sasha เป็นชาวรัสเซียที่เกิดในประเทศเบลารุส ปัจจุบันอาศัยอยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ทำงานเป็นนักแสดงและนางแบบอิสระ ส่วน Jay เกิดที่กรุงโซล ปัจจุบันเป็นทหารรับใช้ชาติของกองทัพเกาหลีใต้ ทั้งคู่คบกันตั้งแต่ปี 2013 และได้เริ่มทำช่องยูทูบเมื่อ 2 ปีก่อน เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความรักและการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในแต่ละวันของพวกเขา     ด้วยความที่เป็นคู่รักที่หน้าตาจัดว่าค่อนข้างสวยหล่อ จึงทำให้มีแฟนๆ ติดตามจำนวนมาก แต่คลิปที่โพสต์จะมีคนเข้ามาดูมากกว่า 3 ล้านครั้ง และมีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ Jay ต้องไปเกณฑ์ทหาร แฟนๆ ห่วงว่าพวกเขาจะหยุดทำวิดีโอ แต่ Sasha ได้ออกมาบอกว่า “อย่ากังวลเลย เราจะพยายามทำวิดีโอให้เพื่อนๆ ได้ดูกันต่อไป เพราะ Jay จะออกมาจากค่ายบ่อยๆ”     อย่างไม่นานนี้ ทั้งคู่เพิ่งจะได้พบกัน และ Sasha ได้โพสต์วิดีโอสั้นๆ ในอินสตาแกรม ระบุว่า “Jay…

  • ยลโฉมสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายจากการประกวด “มิสยูนิเวิร์ส 2017”

    ยลโฉมสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายจากการประกวด “มิสยูนิเวิร์ส 2017”

    ผ่านกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการประกาศผลสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย จากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมแพลเน็ท ฮอลลีวูด รีสอร์ทแอนด์ คาสิโน ที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งต้องบอกเลยว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะแฟนนางงามแต่ละประเทศต่างก็ลุ้นว่า “ใคร” จะเป็นผู้ที่ได้ผ่านเข้าไปตอบคำถามบ้าง   โดยผู้ที่ผ่านเข้ารอบเป็นคนแรกเลยก็คือ Demi Leigh Peters สาวงามจากประเทศแอฟริกาใต้   ตามมาติดๆ ด้วย Keysi Sayago จากประเทศเวเนซูเอล่า   และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือ มารีญา พูลเลิศลาภ สาวงามจากประเทศไทยนั่นเอง   คนที่ 4 คือ Davina Bennett จากประเทศจาไมก้า ม้ามืดที่สุดของที่สุดในปีนี้   และคนสุดท้ายคือ Laura González สาวงามจากประเทศโคลอมเบีย   และนี่คือคลิปช่วงวินาทีการประกาศผล Top 5…

  • หนุ่มเผยทำอาชีพดำน้ำเก็บลูกกอล์ฟไปขายนาน 14 ปี อ้างทำเงินได้กว่า 500 ล้านบาท

    หนุ่มเผยทำอาชีพดำน้ำเก็บลูกกอล์ฟไปขายนาน 14 ปี อ้างทำเงินได้กว่า 500 ล้านบาท

    คุณเชื่อหรือไม่ว่าแค่เก็บลูกกอล์ฟไปขายก็สามารถทำเงินได้เป็นล้านๆ แล้ว เรารู้ว่าหลายคนอาจจะไม่เชื่อแน่นอน แต่ Glenn Berger เศรษฐีหนุ่มผู้ทำอาชีพดำน้ำเก็บลูกกอล์ฟมานานกว่า 14 ปีคนนี้ ได้ออกมาอ้างว่า การเก็บลูกกอล์ฟไปขายช่วยทำเงินให้เขามากถึง 500 ล้านบาท     สำหรับ Glenn เขามักจะเดินทางไปยังสนามกอล์ฟทั่วฟลอริดา เพื่อลงไปดำน้ำงมหาลูกกอล์ฟ จากนั้นก็นำไปขายในราคาลูกละ 1 เหรียญ อย่างไรก็ตาม ลูกกอล์ฟจะไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีกหลังจากตกลงไปในน้ำนานกว่า 24 ชั่วโมง ดังนั้นสนามกอล์ฟเหล่านี้จึงเป็นเหมือนขุมทองของ Glenn อย่างแท้จริง เพราะในแต่ละปีจะมีลูกกอล์ฟตกลงไปในบ่อน้ำที่สนามกอล์ฟมากถึง 1.3-1.7 ล้านลูก     และนั่นก็ทำให้ Glenn ต้องสวมชุดดำน้ำพร้อมดำดิ่งลงไปเก็บลูกกอล์ฟในสนามตลอดทุกๆ สัปดาห์ ซึ่งทำให้เขาสามารถเก็บลูกกอล์ฟได้มากถึง 3,900 ลูกต่อวันเลยทีเดียว ทางด้าน Glenn ได้ออกมาเผยว่า เขาเคยต่อสู้กับจระเข้หลายครั้งเวลาที่ต้องดำน้ำลงไปงมหาลูกกอล์ฟ     นอกจากนี้ Glenn ยังได้รับเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ภายหลังจากที่คลิปวิดีโอของเขาถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกออนไลน์เกี่ยวกับอาชีพที่สร้างเงินจำนวนมหาศาลให้กับเขา ทั้งนี้ทางเจ้าหน้านี้กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า การที่ Glenn ได้ออกมาอ้างว่าอาชีพดำน้ำทำให้เขาได้กลายมหาเศรษฐีนั้นเป็นความจริงหรือไม่?…

  • ชายหญิงชาวอินโดนีเซีย ถูกชาวบ้านกล่าวหา พร้อมจับแก้ผ้าเดินประจานบนท้องถนน

    ชายหญิงชาวอินโดนีเซีย ถูกชาวบ้านกล่าวหา พร้อมจับแก้ผ้าเดินประจานบนท้องถนน

    ภาพจากคลิปวิดีโอไม่เปิดเผยที่มาคลิปหนึ่ง ได้แสดงให้เห็นภาพของชายหญิงคู่หนึ่งที่ถูกคนในหมู่บ้านบังคับให้เดินไปตามท้องถนนพร้อมกับใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น หลังจากที่คนในหมู่บ้านกล่าวหาว่าพวกเขาทำเรื่องน่าอับอายและมีความผิด คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Kadu ทางตะวันตกของกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย     หญิงสาวภายในคลิปวิดีถูกบังคับให้ถอดกางเกงของเธอออก เหลือแต่กางเกงในและเสื้อยืดของเธอ ในขณะที่ชายหนุ่มจำนวนหนึ่งกำลังล้อมรอบเธอ ถัดจากหญิงสาวคนดังกล่าวไม่ไกล ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในสภาพเหลือแต่ชุดชั้นในพร้อมกับถูกทำร้ายร่างกาย “ตีพวกมัน เผาพวกมัน บอกเรามาว่าพวกแกสองคนทำอะไร” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังพูดกับชายหญิงคู่นั้น ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามขอร้อง แต่ต่อหน้าเหล่าชายฉกรรจ์คำอ้อนวอนของเธอกลับไม่มีความหมาย ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น ทั้งสองถูกบังคับให้เดินไปตามท้องถนน พร้อมกับถูกทำร้ายร่างกายเพื่อประจานความผิดของพวกเขา   ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอ   จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่าชายหนุ่มที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้นได้เดินทางมาทานมื้อค่ำที่บ้านของหญิงสาวคนดังกล่าว ก่อนที่จะเข้าไปแปรงฟันในห้องน้ำซึ่งเต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่เธอถอดทิ้งไว้ และหลังจากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ก็เข้ามาจับกุมตัวเขาและเธอ อย่างไรก็ตามหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถตามจำตัวผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 6 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้นำของหมู่บ้านแห่งนี้นี่เอง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทั้งหมดถูกจับกุมในข้อหาใช้ความรุนแรง และมีโทษจำคุกอย่างน้อยครึ่งปีจนถึง 5 ปี หรือถ้าหากว่าชายหญิงทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัสพวกเขาทั้งหมดจะถูกจำคุกนานถึง 9 ปีเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าทั้งสองได้รับบาดเจ็บหรือไม่   ที่มา observers

  • หญิงสาวช่วยหางานและบ้านหลังใหม่ให้ชายไร้บ้าน หลังเขานำเช็ค 350,000 บาทมาคืนเธอ

    หญิงสาวช่วยหางานและบ้านหลังใหม่ให้ชายไร้บ้าน หลังเขานำเช็ค 350,000 บาทมาคืนเธอ

    เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่พบเช็คมูลค่า 350,000 บาท เขานำมันส่งคืนเจ้าของเดิมเพียงเพราะว่าความถูกต้องนั้นมีมูลค่ามากกว่าเช็คใบนั้น แต่ทว่าสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับชายหนุ่มเมื่อดอกเตอร์ Roberta Hoskie เจ้าของเช็คใบนั้นกลับให้บ้านและงานใหม่กับชายหนุ่มเป็นสิ่งตอบแทนกับความดีของเขา หลังจากที่ชายหนุ่มพบเช็คของเธอตกอยู่บนถนนในเมือง New Haven สหรัฐอเมริกา   นาย Elmer Alvarez หนุ่มไร้บ้านพลเมืองดี และดอกเตอร์ Hoskie เจ้าของเช็คที่ชายหนุ่มเก็บได้   ดอกเตอร์ Hoskie ให้ชายไร้บ้านคนดังกล่าวเข้าเรียนในโรงเรียนเกี่ยวกับธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เธอเป็นเจ้าของ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเขาในระยะยาว ด้วยความที่เคยเป็นคนไร้บ้านมาก่อนจึงทำให้ดอกเตอร์หญิงผู้นี้เข้าใจถึงความยากลำบากที่คุณ Alvarez ต้องเผชิญเป็นอย่างดี เธอบอกว่าการช่วยเหลือเขาด้วยวิธีนี้เป็นเพียงหนทางเดียวที่จะทำให้เขายืนได้ด้วยตัวเอง และกลับไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก     “คุณไม่ต้องทนหนาวอยู่ข้างนอกอีกต่อไปแล้ว เรามีบ้านหลังใหม่ที่จะมอบให้คุณ” ดอกเตอร์หญิงกล่าว คุณ Alvarez รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับเขา ชายหนุ่มรู้สึกทราบซึ้งกับสิ่งที่เขาได้รับ “โลกของเรายังมีนางฟ้าอยู่จริงๆ ด้วยความสัตย์จริง ผมต้องการที่จะคืนเช็คใบนี้ให้กับเธอ โดยที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนเลย” ชายหนุ่มกล่าว     ที่มา dailymail

  • เขินเลยสิ กล้องวงจรปิดจับภาพขี้เมาพยายามเปิดประตูกว่า 3 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่มีปุ่มกดอยู่ข้างๆ…

    เขินเลยสิ กล้องวงจรปิดจับภาพขี้เมาพยายามเปิดประตูกว่า 3 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่มีปุ่มกดอยู่ข้างๆ…

    การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แน่นอนว่าย่อมไม่ดีต่อร่างกายเรา ซึ่งหลายคนก็รู้ดีแต่ก็ยังคงติดใจในรสชาติของความมึนเมาที่อยู่ในน้ำอมฤตสีอำพันเหล่านี้อยู่ ซึ่งหากดื่มแต่พอดีก็คงมีความสุขสนุกสนานดีอยู่หรอก แต่ถ้าเมาเกินพิกัดล่ะก็อาจจะต้องอายเหมือนชายคนนี้ ที่พยายามเปิดประตูบานหนึ่งเกือบสามชั่วโมง ทั้งๆ ที่เพียงกดปุ่มข้างๆ ก็สามารถเปิดประตูได้อย่างง่ายดาย   ดัน เอ้าดันเข้าไปฮึบบ   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ Balashikha เมืองทางตะวันตกของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อมีชายสวมแจ๊คเก็ตสีน้ำเงินคนหนึ่งพยายามจะเปิดประตูด้วยวิธีการต่างๆ แต่ทำยังไงก็ไม่ได้ผล   ข้าเริ่มไม่ไหวกับเอ็งแล้วนะ ไอ้ประตูเจ้าปัญหา   เมื่อเปิดแบบธรรมดาก็ไม่ยอมออกซักที ชายสุดเมาคนนี้ก็เริ่มโมโหโดยประเคนทั้งลูกถีบ ใช้ไหล่ชน จนประตูเริ่มจะบิดเบี้ยวไปตามแรงกระแทกที่ชายคนนี้โถมแรงทั้งหมดที่มีใส่ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วปุ่มปลดล็อกประตูก็อยู่ข้างๆ ลูกบิดแท้ๆ หลังจากออกแรงจนเหนื่อย ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ชายคนนี้ดูเหมือนจะหมดแรงนั่งพักอยู่เป็นเวลาชั่วครู่ จากนั้นเขาก็เริ่มพังประตูต่อ ซึ่งมันก็เริ่มเผยอออกให้เห็นถึงแสงสว่างแห่งความหวัง   นี่แหนะ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร   หลังจากออกแรงกับประตูเจ้าปัญหานี้มากว่าเกือบ 3 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 6 โมงกว่าๆ จนถึงเวลา 8 โมง เขาก็เริ่มมีสติสัมปชัญญะฟื้นคืนมาจากความมึนเมา และเหลือบไปเห็นปุ่มเล็กๆ ข้างๆ ประตู เขาก็ลองกดมันดูแล้วก็ปรากฏว่าประตูก็เปิดออกได้อย่างง่ายดาย และนั่นทำให้เขาได้ออกไปสู่โลกภายนอกได้สำเร็จหลังจากที่เสียแรงมามากกับวิธีแบบเมาๆ ของเขา  …

  • ของจริง!! หมาน้อยใจกล้าวิ่งเข้าไปกัดโจร เพื่อช่วยหญิงสาวให้รอดจากการถูกปล้น

    ของจริง!! หมาน้อยใจกล้าวิ่งเข้าไปกัดโจร เพื่อช่วยหญิงสาวให้รอดจากการถูกปล้น

    ไม่จำเป็นต้องไปค้นหาหลักฐานอีกต่อไปว่า “สุนัข” เป็นสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่มีความเป็นฮีโร่ที่แท้ทรูมากขนาดไหน เพราะคลิปวิดีโอพร้อมเรื่องราวที่เราได้นำมาเสนอในครั้งนี้ มันเพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่า…เจ้าหมานี่แหละเป็นสัตว์ที่กล้าหาญที่สุด หลังจากที่มันได้พยายามเข้าช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งจากการถูกโจรปล้น     เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ณ เมืองพอดกอรีตซา ประเทศมอนเตเนโกร ได้เกิดเหตุคนร้ายเข้าบุกปล้นหญิงรายหนึ่งบนท้องถนน แต่ทว่าเขากลับทำไม่สำเร็จ เพราะจู่ๆ ก็มีสุดยอดฮีโร่ 4 ขาได้เข้ามาขัดขวางเอาไว้ จากการรายงานระบุว่า คนร้ายดังกล่าวเป็นชายสวมเสื้อเหลืองที่ได้เดินตามเหยื่อผู้หญิงไปตามท้องถนน และในขณะที่เขากำลังจะพยายามเข้าไปขโมยกระเป๋าของเธอ เจ้าหมาที่เห็นเหตุการณ์อยู่ด้านหลังก็รีบวิ่งเข้ามาจู่โจมเป้าหมาย เพื่อช่วยเหลือหญิงให้รอดพ้นจากการถูกปล้นทันที     ในคลิปได้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของเจ้าหมา กำลังกระโดดเข้าไปกัดที่ก้นของโจร และนั้นก็ทำให้เขาต้องรีบเผ่นหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต   มารับชมคลิปวิดีโอกันเลยจ้า   สำหรับคลิปวิดีโอนี้ได้ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Podgoricki Vremeplov ซึ่งเป็นกลุ่มสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมืองพอดกอรีตซา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้บรรดาชาวเน็ตได้พากันเข้ามาชื่นชมเจ้าหมาฮีโร่ตัวนี้กันอย่างมากมาย พร้อมกันนี้พวกเขายังเรียกมันว่าเป็น “Hero of the day” อีกด้วย ที่มา : metro

  • ความสวยงามของสะพานหิน เอกลักษณ์แห่งกรีซตอนเหนือ โดดเด่นเป็นประจักษ์ต่อสายตา!!

    ความสวยงามของสะพานหิน เอกลักษณ์แห่งกรีซตอนเหนือ โดดเด่นเป็นประจักษ์ต่อสายตา!!

    หากจะกล่าวถึงยุคโบราณ แน่นอนว่าชื่อของกรีกจะต้องเข้ามาอยู่ในความคิดของเราอย่างแน่นอน เพราะว่าใครๆ ก็รู้ว่าชนชาติกรีกเป็นชนชาติที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นได้กลายมาเป็นแบบแผนในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างในเรื่องของศิลปะต่างๆ หรือแม้กระทั่งสถาปัตยกรรม… สิ่งที่พวกเขาทิ้งไว้ให้เราในปัจจุบันเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามแห่งวงการศิลปะ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความสวยงามและสภาพแวดล้อมในยุคนั้นเข้าไว้ในสถาปัตยกรรมต่างๆ อย่างเช่น ตึกอาคาร เสาหินต่างๆ แต่ว่ามีอีกอย่างหนึ่งที่ทุกคนมองข้ามไปนั่นก็คือ สะพานหินนั่นเอง สะพานหินเหล่านี้อยู่ในทางตอนเหนือของประเทศกรีซ ซึ่งถูกสร้างโดยช่างฝีมือโบราณหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับงานหิน โดยในภาษากรีกจะมีชื่อเรียกช่างเหล่านี้ว่า Mastoroi แน่นอนว่าในสมัยโบราณย่อมไม่มีการเรียนเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมหรือแม้กระทั่งวิศวกรรม แต่ชิ้นงานของพวกเขาได้ออกมาประจักษ์แก่สายตาทุกคน ซึ่งโดดเด่นในเรื่องความสวยงาม อีกทั้งยังได้ทิ้งกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์เอาไว้ โดยสะพานหินที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นคือเมื่อประมาณปี ค.ศ. 500 และสะพานบางแห่งยังคงใช้การได้อยู่จนถึงยุคปัจจุบัน   สะพานหิน Palaiokarya, เมือง Trikala สร้างประมาณค.ศ. 1500   สะพานหิน Kalogeiko ที่ Ioannina สร้างเมื่อปี 1814   สะพานหิน Katsogiannis ที่ Grevena สร้างเมื่อประมาณปี 1800   สะพานหิน Aziz Agha ที่ Grevena สร้างเมื่อปี 1727   สะพานหิน Palaiokarya…

  • Musharaf Asghar เด็กหนุ่มที่เลิกพูดติดอ่างได้ ด้วยวิธีการสอนของคุณครูผู้ทุ่มเท

    Musharaf Asghar เด็กหนุ่มที่เลิกพูดติดอ่างได้ ด้วยวิธีการสอนของคุณครูผู้ทุ่มเท

    เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา ทาง Educating Yorkshire ซึ่งเป็นรายการทีวีเกี่ยวกับชีวิตครูและนักเรียนจาก Stammer School ได้นำเสนอเรื่องราวสุดซึ้งของ Musharaf Asghar ชายหนุ่มที่ดูภายนอกอาจจะเหมือนคนธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาได้พูดออกมา คุณจะรู้ว่าความจริงแล้ว Musharaf เป็นคนติดอ่าง     สำหรับ Musharaf จาก Dewsbury, West Yorkshire ประเทศอังกฤษ เป็นผู้ที่มีอาการติดอ่างมาตั้งแต่วัยเด็ก ส่งผลทำให้ต้องพูดติดๆ ขัดๆ และถูกเพื่อนล้อมาโดยตลอดเพียงเพราะเปล่งเสียงไม่ได้ ก่อนหน้านี้ Musharaf ได้เข้าไปขอคำแนะนำจากคุณครู Burton เรื่องการเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษ GCSE เพื่อยื่นคะแนนเข้ามหาวิทยาลัย และนั่นก็ทำให้ Burton รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยากซะเหลือเกิน จนกระทั่งเขามีโอกาสได้ดูภาพยนตร์ “The King’s Speech” ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ “พระเจ้าจอร์จที่ 6” แห่งจักรภพอังกฤษ ที่มีอาการพูดติดอ่าง และกลายเป็นปมปัญหาใหญ่ในเรื่อง แต่สุดท้ายความพยายามก็สามารถทำให้พระองค์เอาชนะอาการติดอ่างได้ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Burton ได้ตัดสินใจที่จะช่วย…

  • งานชิ้นโบว์แดง!! หญิงชาวออสซี่วาดภาพเคลมประกัน แต่ปรากฏว่ากลายเป็นภาพสุดฮาซะงั้น

    งานชิ้นโบว์แดง!! หญิงชาวออสซี่วาดภาพเคลมประกัน แต่ปรากฏว่ากลายเป็นภาพสุดฮาซะงั้น

    การยื่นเอาเงินประกันภัยจากบริษัทประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ จะมีส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่จำเป็นอย่างมากนั่นก็คือการวาดรูปสภาพแวดล้อมระหว่างเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงสิ่งรอบๆ ที่อยู่ใกล้ยานพาหนะ ทว่ามีคุณแม่คนหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ได้วาดเพื่อยื่นเอาเงินประกันดังกล่าวออกมาได้อย่างสุดฮา เป็นโชคร้ายสำหรับสาวชาวออสเตรเลียตะวันตกคนหนึ่งนามว่า Fiona Cosgrove โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างที่เธอกำลังขับรถกลับฟาร์มของเธอใน Arrowsmith อยู่ดีๆ ก็มีสัตว์ตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาเหยียบรถของเธอจนทำให้กระจกแตก โดยสัตว์ที่ว่านี้ก็คือ ‘จิงโจ้’ นั่นเอง   ภาพวาดที่โด่งดังของเธอ   แน่นอนว่าเมื่อเธอได้ทำประกันไว้เธอก็ต้องยื่นขอรับเงินค่าเสียหาย แต่ก่อนที่จะได้เงินนั้นเธอต้องวาดภาพแสดงให้เห็นก่อนว่า รถของเธอโดนจิงโจ้สร้างความเสียหายไว้อย่างไร แต่ไม่รู้ว่าด้วยความที่จิงโจ้นั้นวาดยากหรือเธอไม่ชอบวาดภาพก็ไม่รู้ ภาพจิงโจ้ที่ออกมาจึงกลายมาเป็นภาพที่เหมือนไดโนเสาร์ซะมากกว่า และยังไม่หมดแค่นั้นเพราะว่ารถของเธอก็มีหน้าตาแปลกๆ โดยมีการวาดเป็นเหลี่ยมๆ แล้วถมดำจนไปคล้ายกับรถของแบทแมนซะอย่างงั้น แต่ถึงอย่างไรเธอก็คงพยายามวาดให้ดีที่สุดเแล้วล่ะ เมื่อรูปนี้ได้ออกไปสู่โลกออนไลน์ก็มีผู้คนมากมายร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปของเธอ และมีความเห็นหนึ่งในเฟซบุ๊กกล่าวอย่างติดตลกไว้ว่า “นี่เป็นโอกาสที่นานๆ ครั้งจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของ ไดโนจิงโจ้”   มันไม่น่าใช่สัตว์ที่วาดง่ายๆ อย่างที่คิดนะ ไม่เชื่อลองวาดดูสิ   ต่อมา Cosgrove เจ้าของภาพวาดสุดฮาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ในตอนแรกฉันวาดภาพเหล่านี้ด้วยดินสอก่อน และลงปากกาเพิ่มเติมในตอนหลัง แต่เมื่อภาพออกมาเสร็จสมบูรณ์แล้วก็ปรากฏว่า มันช่างแย่จริงๆ” “ลูกอายุ 7 ขวบบอกกับฉันว่า ‘แม่วาดอะไรเนี่ย หนูสอนแม่วาดจิงโจ้ได้นะ ถ้าแม่ต้องการ’ มันเจ็บใจจริงๆ ที่ถูกลูกถามเมื่อเช้านี้ บางทีฉันอาจจะขอทุนการศึกษาไปเรียนศิลปะก็ได้นะ” Cosgrove กล่าวไว้อย่างติดตลก  …

  • ศิลปินเปลี่ยน ‘ทางม้าลาย’ ในกรุงมาดริดให้มีสีสันสดใส นอกจากสบายตาแล้วยังสบายใจ

    ศิลปินเปลี่ยน ‘ทางม้าลาย’ ในกรุงมาดริดให้มีสีสันสดใส นอกจากสบายตาแล้วยังสบายใจ

    ในขณะที่มีรถใหม่ๆ ออกมาวิ่งบนท้องถนนทุกๆ วันแต่ว่าถนนกลับยังมีเท่าเดิม ทำให้การข้ามถนนในปัจจุบันจะต้องมีการระมัดระวังมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยหลายคนจึงแนะนำให้ใช้สะพานลอยในการข้าม หรือหากไม่มีก็ให้ใช้ทางม้าลายแทน ทว่าบางท้องที่ทางม้าลายนี่เลือนลางแทบจะมองไม่เห็น และอาจแก้ปัญหาเหมือนกับศิลปินท่านนี้ ศิลปินหนุ่มชาวบัลแกเรียคนหนึ่งชื่อว่า Christo Guelov ได้เปลี่ยนทางม้าลายแบบเดิมๆ ที่มีแค่เพียงสีขาวดำและยากต่อการสังเกตในเมืองมาดริด ประเทศสเปน ให้กลายเป็นจุดข้ามถนนที่ให้ความรู้สึกที่สนุกขึ้นและมีสีสันมากกว่าเดิม Guelov ได้ตั้งชื่อให้ทางม้าลายหลากสีสันอันนี้ว่า “การข้ามแสนสนุก” โดยเขาได้สร้างสีสันที่เข้ากับสภาพแวดล้อมของเมืองและได้ใช้รูปทรงแบบเรขาคณิตง่ายๆ อย่างรูปสี่เหลี่ยมธรรมดา แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาก็คือเขาได้สร้างสีสันสลับกันจนกลายเป็นสีที่ดูแล้วรู้สึกสบายตา และประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการมีสีสันสวยงามแบบนี้ก็คือ ง่ายต่อการสังเกตเห็นของผู้ขับขี่ต่างๆ ว่าตรงนี้มีทางม้าลายอยู่ ซึ่งอาจจะเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ท้องถนนร่วมกันอีกด้วย   หน้าตาของทางม้าลายหลากสีสัน   ช่างง่ายต่อการสังเกตจริงๆ   การสลับสีสันต่างๆ ทำได้อย่างลงตัว   เขาได้ยึดเอาสีขาวเป็นหลักมากกว่าสีอื่นๆ   ลวดลายทางเรขาคณิตแบบง่ายๆ   ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องเห็นอย่างแน่นอน   น่าเอามาปรับใช้กับบ้านเราเหมือนกันนะ ที่บางที่มันช่างเลือนลางซะเหลือเกิน   เด็กๆ สามารถข้ามถนนได้อย่างสบายใจ   มีทิศทางบอกเลนด้วยนะ เผื่อใครมาจากต่างประเทศจะได้ทำตัวถูก   ศิลปะที่แสนจะมีประโยชน์   อันนี้เป็นรูปทรงอีกแบบหนึ่ง   เหมือนกับเล่นเกมเรียงสีเลย ว่าไหม??   สวยงามตามท้องเรื่อง  …

  • ผู้จัดการร้านให้ชายไม่มีเงินได้ “กินก่อนจ่ายทีหลัง” แต่เจ้าตัวนั้นกลับโทรหาตำรวจเพื่อมอบตัว…

    ผู้จัดการร้านให้ชายไม่มีเงินได้ “กินก่อนจ่ายทีหลัง” แต่เจ้าตัวนั้นกลับโทรหาตำรวจเพื่อมอบตัว…

    อาหารญี่ปุ่นที่ชื่อว่า คัตสึด้ง หรือ ข้าวหน้าหมูทอด+ไข่ คงเป็นเมนูจานโปรดของใครหลายๆ คน และสำหรับชายคนนี้เขาก็คงชอบมันมากๆ จนถึงขนาดตัดสินใจกินเป็นอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่จะเข้าไปใช้ชีวิตในคุก นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2017 เมื่อชายชาวญี่ปุ่นวัย 63 ปี ผู้ไม่มีงานทำและมีเงินติดตัวอยู่แค่ 93 เยน (ประมาณ 27 บาท) เขาได้ตัดสินใจไปกินคัตสึด้งในร้านอาหารร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมืองยะนะงะวะ จังหวัดฟุกุโอกะ     เงินที่เขามีอยู่นั้นไม่เพียงพอสำหรับค่าอาหาร 650 เยน (ประมาณ 190 บาท) หลังจากกินเสร็จเขาจึงบอกกับผู้จัดการร้านให้โทรแจ้งตำรวจได้เลยเพราะเขาไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารจานนี้ แต่เจ้าของร้านผู้ใจดีก็ได้มอบโอกาสให้เขาโดยการบอกว่า เขาไม่จำเป็นต้องจ่ายตอนนี้แต่มีเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับมาจ่ายวันหลัง เมื่อเป็นอย่างนี้หลายคนอาจกำลังคิดว่าสุดท้ายหนุ่มตกงานก็คงจะกลับมาจ่ายในวันหลังอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อออกจากร้านไปเขาก็เดินไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะและติดต่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหากินแล้วไม่มีเงินจ่าย     ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวเขาไปเข้าคุก โดยเจ้าหน้าที่ได้เล่าว่าชายคนดังกล่าวเคยติดคุกมาก่อน พอพ้นโทษก็ได้ออกมาใช้ชีวิตด้านนอก แต่ก็ต้องเจอกับปัญหาเนื่องจากประวัติการติดคุกของเขาทำให้ไม่สามารถหางานทำได้     สิ่งที่เขาทำดูเหมือนกับว่าเขาตัดสินใจเลือกคัตสึด้งของร้านนี้เป็นอาหารแสนอร่อยมื้อสุดท้ายก่อนที่จะต้องกลับเข้าไปใช้ชีวิตในคุก ซึ่งเรื่องราวของเขาก็ได้เป็นกระแสในโลกโซเชียลของประเทศญี่ปุ่น และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก “เป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ” “ผู้จัดการร้านคนนั้นเป็นคนดีมากเลย” “มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าการติดคุกไม่ได้ช่วยให้คนเราดีขึ้นมาได้ แต่กลับทำให้คนคนนั้นต้องตกอยู่ในวังวนที่ไม่อาจเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีได้เลย”     เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ตอนจบมีการหักมุมอย่างที่หลายๆ คนอาจไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน…

  • เรือไอน้ำอราเบีย ถูกพบฝังอยู่ใต้พื้นดินหลังหายไปนานกว่า 132 ปี พร้อมข้าวของจากยุคนั้น

    เรือไอน้ำอราเบีย ถูกพบฝังอยู่ใต้พื้นดินหลังหายไปนานกว่า 132 ปี พร้อมข้าวของจากยุคนั้น

    แม่น้ำมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา คือเส้นทางเดินเรือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต มีเรือจักรไอน้ำกว่า 400 ลำเคยแล่นผ่านเส้นทางนี้ หนึ่งในนั้นก็คือเรือจักรไอน้ำที่มีชื่อว่า Arabia ที่บรรทุกสินค้าไว้มากกว่า 200 ตันก่อนที่จะจมลงไปอยู่ใต้แม่น้ำแห่งนี้ตั้งแต่ปี 1856 เรือลำดังกล่าวได้บรรทุกสินค้ามาจากเมืองเซนต์หลุยส์ ในรัฐมิสซูรี และได้แล่นไปตามแม่น้ำมิสซูรี จนกระทั่งเรือได้ไปชนเข้ากับสิ่งกีดขวางที่อยู่ใต้น้ำ ทำให้น้ำไหลเข้ามาผ่านรูที่อยู่ใต้ท้องเรือและจมเรือลงไปลงภายในเวลาไม่กี่นาที   การขุดเพื่อกู้ซากเรือลำดังกล่าวที่จมลงไปเมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา   ลูกเรือและผู้โดยสารอีกกว่า 130 คนสามารถรอดชีวิตมาได้แต่สินค้าจำนวนมากก็ได้จมหายไปนอนอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นพื้นดินรอบๆ แม่น้ำก็ได้เกิดการเคลื่อนตัวจนไม่สามารถทราบตำแหน่งของเรือได้และมันเอาไว้ลึกลงไปใต้ดินกว่า 13 เมตร เวลาผ่านไปกว่า 100 ปี นักโบราณคดีที่ชื่อว่า Bob Hawley ก็รู้สึกสนใจและได้ออกตามหาเรือลำดังกล่าวในช่วงปลาย 1980s ซึ่งเขาเชื่อว่าตำแหน่งของมันน่าจะอยู่ห่างออกไปจากบริเวณรัฐมิสซูรี ประมาณ 800 เมตร   สินค้าจำนวนมากที่ถูกค้นพบภายในเรือ   เขาได้รับความร่วมมือจาก Judge Norman Sortor เจ้าของไร่ข้าวโพดที่ถูกเชื่อว่ามีเรือลำดังกล่าวจมอยู่ข้างใต้ ในปี 1987 การขุดเจาะเพื่อกู้ซากเรือในที่แห่งนั้นจึงได้เริ่มต้นขึ้น ในตอนนั้นไม่อาจแน่ใจได้ว่าเรือ Arabia จมอยู่ใต้พื้นที่นั้นจริงหรือเปล่า…

  • การทดลองกับเจ้าหมา เพื่อระบุว่าพวกมันสามารถแยกแยะคนดีกับไม่ดีได้หรือไม่!?

    การทดลองกับเจ้าหมา เพื่อระบุว่าพวกมันสามารถแยกแยะคนดีกับไม่ดีได้หรือไม่!?

    สุนัขขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาด เรียนรู้ได้เร็ว และที่สำคัญมันมีความซื่อสัตย์ รู้จักการตอบแทนคุณคนที่ดูแลหรือให้การช่วยเหลือมัน ไม่เพียงแค่นั้น งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Neuroscience และ Biobehavioural Reviews ยังได้ระบุอีกว่าสุนัขสามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นคนดีหรือไม่ดี ส่งผลต่อวิธีการที่สุนัขตอบสนองต่อมนุษย์แต่ละคน ในการทดสอบความสามารถนี้ นักวิจัยได้ขอให้เจ้าของสุนัขแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างกัน แล้วให้สุนัขของพวกเขานั่งดูการกระทำเหล่านั้น     นักวิจัยได้จำลองเหตุการณ์โดยให้อาสาสมัครแสร้งทำเป็นเปิดประตูไม่ได้ แล้วขอความความช่วยเหลือจากนักวิจัยสองคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ในสถานการณ์แรก นักวิจัยคนหนึ่งได้เข้าไปช่วยอาสาสมัครเปิดประตู และอีกคนกลับยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่สนใจที่ให้การช่วยเหลือใดๆ สถานการณ์ที่สอง นักวิจัยคนเดิมยังปฏิเสธที่จะเข้าไปช่วยเหลือเช่นเดิม ขณะที่นักวิจัยอีกคนก็ทำเหมือนกัน คือไม่เข้าไปช่วยอาสาสมัคร     หลังจากทั้งสองสถานการณ์จบลง นักวิจัยทั้งสองคนก่อนหน้านี้ก็ได้หันไปหาสุนัขแล้วยื่นขนมให้พวกมัน ปรากฏว่าในสถานการณ์แรก สุนัขได้ตอบสนองด้วยการรับขนมจากทั้งสองคน แต่ในสถานการณ์ที่สอง สุนัขได้ปฏิเสธที่จะรับขนมจากทั้งสองคน     จากการตอบสนองดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์จึงสรุปว่าถ้าสุนัขเห็นใครบางคนทำบางอย่างไม่ดี มันก็จะตัดสินจากการกระทำนั้นและจะไม่ไว้ใจคนคนนั้น ดังนั้นต่อไปนี้ถ้าสุนัขปฏิเสธคุณ แสดงว่าคุณคงไปทำไม่ดีบางอย่างให้มันเห็นแน่ๆ   ที่มา esquire

  • ค้างคาวตัวน้อยได้รับการช่วยชีวิต พอป้อนกล้วยเข้าปากปุ๊บก็เคี้ยวจ๊วบๆ น่าชังเสียนี่กระไร

    ค้างคาวตัวน้อยได้รับการช่วยชีวิต พอป้อนกล้วยเข้าปากปุ๊บก็เคี้ยวจ๊วบๆ น่าชังเสียนี่กระไร

    ค้างคาวเป็นสัตว์ที่เราอาจไม่ค่อยได้เห็นมันทั่วไปตามท้องถนน และหลายๆ คนคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่ดูน่ากลัวคอยดูดเลือดมนุษย์ แต่ความน่ารักของเจ้าค้างคาวตัวนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดนั้นไปในทันที เจ้าค้างคาวที่มีชื่อว่า Miss Alicia ตัวนี้ได้ถูกช่วยเหลือจากคนที่ขับรถไปชนมันเข้า ในตอนกลางคืนที่รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย     เจ้าค้างคาวตัวน้อยมีอาการบาดเจ็บค่อนข้างมาก ก่อนที่มันจะได้รับการรักษาจาก Denise Wade นักอนุรักษ์ค้างคาวและเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก Batzilla The Bat     ความน่ารักของมันก็ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนมาก หลังจากที่นักอนุรักษ์ได้โพสต์วิดีโอลงไปในเพจเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2017 ทำให้มีผู้เข้าชมกว่า 242,000 ครั้งและชาวเน็ตที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกกว่า 4,800 คน   เคี้ยวงุบงับๆ ซะน่ารักเชียว  นี่แหละเขาถึงได้มีเพลงชื่อว่า “ค้างคาวกินกล้วย”   คลิปการกินกล้วยของเจ้าค้างคาวตัวจิ๋วที่ได้รับการช่วยเหลือ   ความคิดเห็นของชาวเน็ตที่ชื่นชอบในความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าค้างคาว   เธอคนนี้คิดว่ามันน่ารักมากจริงๆ จนถึงขนาดว่าอยากรับมันมาเลี้ยงเลย   ชาวเน็ตคนนี้เป็นห่วงว่าเจ้าค้างคาวน้อยจะสำลักออกมา และเธอบอกอีกว่าเธอเองก็ชื่นชอบค้างคาวเหมือนกัน เวลาที่ได้เห็นพวกมันห้อยหัวอยู่บนต้นไม้   ส่วนเธอคนนี้ก็รู้สึกขอบคุณคนโพสต์ที่ทำให้เธอได้เห็นสิ่งที่น่ารักที่สุดในชีวิต   Denise ดูแลมันจนกลับมาแข็งแรงเป็นปกติและได้ปล่อยมันกลับไปถิ่นที่อยู่อาศัยหลังจากนั้น หวังว่าจะได้ไปใช้ชีวิตที่ดีไม่ต้องมาเจออุบัติเหตุแบบครั้งนี้อีกแล้วนะ และก็ไม่ได้มีแค่เจ้าค้างคาวตัวนี้ที่ได้รับการดูแลจากเธอ…

  • เสียวแว๊บ… หนุ่มเห็นขอบกระจกเครื่องบินแง้ม ก็ลองอัดคลิปง้างให้ดูซะใจตุ้มๆ ต่อมๆ

    เสียวแว๊บ… หนุ่มเห็นขอบกระจกเครื่องบินแง้ม ก็ลองอัดคลิปง้างให้ดูซะใจตุ้มๆ ต่อมๆ

    ถ้าคุณเป็นคนกลัวเครื่องบินอยู่แล้ว #เหมียวตะปู เชื่อว่าภาพที่หนุ่มคนนี้ได้ถ่ายมาจะยิ่งทำให้รู้สึกขยาดและหวาดกลัวในเรื่องนั้นมากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน เมื่อผู้โดยสารท่านหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในโลกโซเชียล เผยให้เห็นว่าระหว่างที่เขาเดินทางอยู่บนเครื่องบินที่กำลังบินอยู่เหนือประเทศชิลี ก็ได้เจอกับขอบหน้าต่างตรงที่นั่งของเขาที่สามารถง้างออกมาได้อย่างน่าหวาดเสียว เหมือนกับจะหลุดออกมาเมื่อไหร่ไม่รู้   ง้างนิดนึงนี่ก็แทบจะหลุดออกมาได้ทั้งยวง   ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 ชายคนดังกล่าวโพสต์คลิปพร้อมกับคำพูดที่ว่า “ผมควรต้องกังวลในเรื่องนี้มั้ย นี่เป็นสายการบินราคาถูก (ราคาตั๋วประมาณ 980 บาท) ผมได้เจอกับขอบหน้าต่างที่ทำท่าจะหลุดออกมาและเห็นว่ามันดูน่าสนุกดี ก็เลยถ่ายคลิปเก็บไว้” ชาวเน็ตบางคนที่ได้เห็นรู้สึกกลัวกับสิ่งที่เขาเจอและบอกเขาว่า “คุณน่าจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่บนเครื่องทราบนะ”   เห็นแล้วก็อยากให้เครื่องบินลงจอดซะเดี๋ยวนี้เลย   อย่างไรก็ตามนักบิน Patrick Smith เจ้าของเว็บไซต์ Ask The Pilot ก็ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า “สิ่งนั้นเป็นแค่ขอบที่ช่วยป้องกันกระจกหน้าต่างเอาไว้เท่านั้นเอง นี่แสดงให้เห็นถึงความน่าอับอายและความไม่เป็นมืออาชีพขอสายการบินดังกล่าว แต่มันก็ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ” Dai Whittingham ผู้บริหารสูงสุดของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหราชอาณาจักร อธิบายว่า “ไม่ต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัยเพราะมันเป็นเพียงแค่ส่วนตกแต่งห้องโดยสารเท่านั้นเอง กระจกจริงๆ ที่ไว้ใช้กันเสียง กันความร้อนได้ถูกปกป้องเอาไว้อยู่ภายในอีกที” “ดังนั้นมันจึงไม่ได้ส่งผลใดๆ เลย เป็นเพียงแค่สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าลูกเรือไม่ได้ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องโดยสาร” เขากล่าวเสริม   ก็ยังดีที่มันไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ แต่ก็ช่วยติดให้มันดีๆ เถอะนะ หนูกลัววว  …

  • ชายหนุ่มต่อยนายทหารจนเสียชีวิตใน 1 หมัด อ้างเพราะหมั่นไส้ที่เขาเต้นกวนทรีน!?

    ชายหนุ่มต่อยนายทหารจนเสียชีวิตใน 1 หมัด อ้างเพราะหมั่นไส้ที่เขาเต้นกวนทรีน!?

    ความโกรธมักทำให้เราขาดสติ และทำอะไรโดยขาดการยั้งคิด ซึ่งแน่นอนว่าการตัดสินใจทั้งที่ยังโกรธนั้นมีโอกาสผิดพลาดสูง เพราะมันเป็นการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล Jake Davies วัย 29 ปี คือตัวอย่างของคนที่เคยทำพลาดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ส่งผลให้ชีวิตที่เหลือของเขาต้องพังไปด้วย…   ภาพของนาย Jake Davies   เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไนท์คลับ The Warehouse ใน Stroud มณฑลกลอสเตอร์เชอร์ สหราชอาณาจักร โดยที่นาย Davies ได้มีการโต้เถียงกับ Jack Mitchell ทหารหนุ่มวัย 24 ปี ความบาดหมางเกิดขึ้นเมื่อ Davies รู้สึกไม่พอใจกับท่าเต้นของ Mitchell นำไปสู่การทะเลาะกันและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความโกรธถึงขีดสุด Davies ก็ชกเข้าไปที่หัวของนายทหารหนึ่งทีอย่างแรง นั่นทำให้ Mitchell มีเลือดออกในสมอง จนเสียชีวิตคาไนท์คลับ The Warehouse ทันที   Jack Mitchell   ในการพิจารณาคดี อัยการบอกว่า Mitchell เป็นทหารสังกัดหน่วย 32 Regiment Royal Artillery แต่ตอนที่เกิดเหตุเขาอยู่ระหว่างลาพักเป็นเวลา 1 เดือน และเขาก็ชอบไปปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนในเวลากลางคืนจนถูกทำร้ายและเสียชีวิตตามที่เป็นข่าว     ด้าน Davies…

  • ส.ส. หญิงชาวญี่ปุ่น อุ้มลูกเข้าประชุมด้วยแต่ทางสภาไม่อนุญาต จึงต้องแยกลูกของเธอออกมา…

    ส.ส. หญิงชาวญี่ปุ่น อุ้มลูกเข้าประชุมด้วยแต่ทางสภาไม่อนุญาต จึงต้องแยกลูกของเธอออกมา…

    เกิดประเด็นถกเถียงในญี่ปุ่น เมื่อคุณแม่ท่านหนึ่งพาลูกน้อยเข้าไปประชุมในสภาด้วย จนทำให้การประชุมเกิดความล่าช้า เมื่อเช้าวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 2017 สภาเมืองคุมาโมโต้มีการจัดประชุม โดยมีสมาชิกสภาทยอยกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับสมาชิกสภาพหญิง Yuka Ogata Ogata วัย 46 ปีได้เดินเข้ามาในอาคารสภาพร้อมด้วยคนรู้จักที่เข็นรถเข็นเด็กมาให้ โดยมีลูกชายวัย 7 เดือนของเธอนั่งอยู่ในนั้น ทำให้กลุ่มนักข่าวต่างพุ่งความสนใจไปที่เธอ     เมื่อเข้าไปในห้องประชุม เธอก็เข้าไปนั่งในที่ของตัวเองตามปกติ โดยอุ้มลูกชายไว้บนตัก แต่การทำเช่นนั้นทำให้เธอได้รับความสนใจจากสมาชิกสภาคนอื่นๆ จนประธานสภา Shosaku Sawada ต้องประกาศให้เลื่อนการเริ่มประชุมออกไปอีกหน่อย หลังจากนั้น Sawada ได้เข้าไปคุยกับ Ogata เพื่อให้เธอฝากลูกไว้กับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างนอก กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที Ogata ก็ยินยอมที่ให้ผู้ดูแลพาลูกออกไป     เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การประชุมเริ่มต้นล่าช้าไป 40 นาที และ Sawada ได้กล่าวเปิดประชุมด้วยการขอโทษสมาชิกที่ทำให้เกิดความล่าช้า แต่มีสมาชิกสภาคนหนึ่งแย้งขึ้นมาว่า “คุณไม่ใช่คนที่ต้องกล่าวขอโทษ” สำหรับ Ogata นั้น เธอได้ตั้งครรภ์เมื่อเดือนเมษายนของปีที่ผ่านมาและเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองคุมาโมโต้คนแรกที่คลอดบุตรในขณะที่อยู่ในตำแหน่ง เธอบอกว่าก่อนหน้านี้ได้ปรึกษาสำนักเลขาธิการของสภาเพื่อพาลูกเข้าไปในห้องประชุมด้วยแต่ถูกปฏิเสธ อย่างไรก็ตามเธอยังดึงดันพาลูกเข้าที่ประชุมจนได้ โดยไม่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ     ทั้งนี้ในกฎหมายระบุไว้ว่า ทุกคนที่เข้าห้องประชุมสภาแต่ไม่ใช่สมาชิกสภาจะถูกจัดให้เป็นผู้สังเกตการณ์…

  • ความเห็นอีกด้านของ “อดีตนักเรียนเตรียมทหาร” กับเหตุการณ์น้องเมย ที่ชาวเน็ตต่างชื่นชม

    ความเห็นอีกด้านของ “อดีตนักเรียนเตรียมทหาร” กับเหตุการณ์น้องเมย ที่ชาวเน็ตต่างชื่นชม

    จากประเด็นการเสียชีวิตของ “น้องเมย” ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วประเทศ จนศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าโรงเรียนดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ปกป้องสถานบันของตัวเองกันอย่างต่อเนื่อง แต่การปกป้องสถานบันที่เราเห็นในโซเชียลมักจะออกไปแนวทางที่ว่ารักสถาบัน จนเห็นการตายเป็นเรื่องปกติของคนที่จะเรียนสายนี้   อย่างเช่นโพสต์นี้   “เก่ง หล่อ แข็งแรง สุภาพบุรุษ”   อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ออกมาปกป้องสถานบันโดยไม่คำนึงถึงคุณค่าชีวิตมนุษย์ เพราะศิษย์เก่าหลายๆ คนได้ออกมาเตือนสติเพื่อนๆ ร่วมสถาบันให้รักสถาบันอย่างมีสติ และนี่น่าจะเป็นความเห็นที่ดีสุดจาก “อดีตนักเรียนเตรียมทหาร” เกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องเมย โดยคุณ Thatpon Srisupunbut ระบุว่า… “อดทนต่อความเจ็บใจ”เป็นสิ่งที่พวกคุณควรจะมีมากที่สุดในตอนนี้ ก่อนที่คุณจะให้คนอื่นมีสติคุณควรจะมีสติเสียก่อน คุณต้องคิดก่อนว่าตอนนี้คุณกำลังคลั่งสถาบันรึเปล่า คุณกำลังนำเกียรติยศและศักดิ์ศรีในอาชีพมาข่มศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์หรือไม่ คุณกำลังดูหมิ่นอาชีพอื่นและคนธรรมดาอยู่รึเปล่า …คุณแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าคุณกำลังปกป้องโรงเรียน ?… ผมก็คืออดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่56 ผมก็รักโรงเรียนเตรียมทหารไม่แพ้กับคุณ ผมได้skillต่างๆในการดำรงชีวิตให้ผมอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้ก็มาจากเตรียมทหาร ที่นี่เป็นสถานที่ที่ผมรักและเคารพเหมือนบ้านหลังที่สอง ผมอาจจะถือว่าโชคดีที่พี่ 54 และพี่ 55 และนายทหารนายตำรวจปกครองในสมัยนั้นไม่เคยซ้อมผม ถึงแม้ว่าผมจะมึนๆกว่าเพื่อนหน่อยก็เหอะ ถึงพวกพี่ๆจะโหดแค่ไหนยังไงพี่ก็เห็นผมเป็นน้อง ไม่เคยทำให้ผมต้องมีกระดูกหักหรือบาดเจ็บสาหัสเลยพวกพี่ๆมีมาตรฐานในการสอนดีผมขอนับถือครับ แต่มาวันนี้ทำไมมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มาตรฐานของระบบมันต่ำลงหรืออย่างไร… ? และการแสดงออกต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ของนักเรียนเตรียมทหารมันแสดงให้เห็นถึงอะไร..? พวกคุณถูกสอนมาให้อดทนไม่ใช่เหรอครับ พวกคุณอดทนกันได้ทุกอย่าง แต่กลับอดทนไม่ได้แม้แต่คำพูดของใครก็ไม่รู้ การที่คุณจะเป็น “ผู้นำ” ได้นั่นหมายความว่าคุณต้องรับทั้งดอกไม้และก้อนหิน หากคุณคิดว่าคนอื่นจะให้แต่ดอกไม้ คุณคงไม่เหมาะกับการที่จะเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะมีคนด่ามีคนว่าให้โรงเรียนเตรียมทหารอย่างไรมันก็ไม่สำคัญ…

  • 20 ภาพที่แสดงให้เห็นความน่าอัศจรรย์ใจของ ‘ธรรมชาติ’ ที่อยู่เหนือการคาดเดาของมนุษย์

    20 ภาพที่แสดงให้เห็นความน่าอัศจรรย์ใจของ ‘ธรรมชาติ’ ที่อยู่เหนือการคาดเดาของมนุษย์

    ธรรมชาติเป็นสิ่งเดียวที่เกินการควบคุมและเกินการคาดเดาของมนุษย์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมธรรมชาติจึงเต็มไปด้วยสิ่งน่าอัศจรรย์ใจ เหมือนกับภาพปรากฏการณ์แปลกๆ เหล่านี้ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เผยให้เห็นความน่าทึ่งของโลกที่ไม่ได้มาจากการปรุงแต่ง    1. สภาพสวนแอปเปิลในไอร์แลนด์ หลังเกิดพายุเฮอริเคนโอฟีเลีย   2. ประตูสำนักงานที่ปกคลุมด้วยหิมะ   3. เมื่อประกันภัยไม่ครอบคลุมถึงอุทกภัย…เราก็คงต้องทำด้วยตัวเอง   4. น้ำตกน้ำแข็ง   5. หิมะใต้ทะเลทรายแอลจีเรีย   6. สภาพท้องฟ้าหลังเกิดพายุเฮอริเคนโอฟีเลีย   7. เซอร์ไพรส์ไปอีกเมื่อเปิดประตูแล้วพบว่าทางออกถูกทับถมด้วยหิมะ   8. Xavier พายุที่มีความรุนแรงถึงขั้นทำให้ต้นไม้ล้มระนาบกับพื้น   9. สีขาวที่เห็นคือหิมะที่ตกในบางจุดของรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา   10. สายรุ้งเกิดขึ้นพร้อมกันสองเส้น   11. ฝนทำให้บริเวณส่วนนี้ดูคล้ายกับภาพวาดของแวนโก๊ะ   12. ฝนที่ตกเพียงเล็กน้อยในไอร์แลนด์ แต่สามารถทำให้น้ำท่วมสูงได้ขนาดนี้   13. โดมสายรุ้งบนท้องฟ้าในออสเตรเลีย   14. ก้อนเมฆรูปทรงประหลาดในคาบสมุทรคัมชัตกาแห่งไซบีเรีย   15. ผลกระทบจากพายุเฮอริเคนแมทธิว   16. แม้อยู่ในอาคาร แต่อย่าคิดว่าหนีฝนพ้น…

  • ศิลปินชาวญี่ปุ่นสร้างงานศิลป์แฮนด์เมดระดับมินิ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นน้อยสำหรับตกแต่งบ้านตุ๊กตา

    ศิลปินชาวญี่ปุ่นสร้างงานศิลป์แฮนด์เมดระดับมินิ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นน้อยสำหรับตกแต่งบ้านตุ๊กตา

    เวลาว่างๆ เรามักจะหยิบงานอดิเรกขึ้นมาทำ ซึ่งแต่ละคนก็คงจะทำในสิ่งที่แตกต่างกันไป ทั้งมีสาระบ้างและไม่มีสาระบ้าง แต่รู้อยู่อย่างหนึ่งคือมันเป็นสิ่งที่เราชอบ เหมือนกับ Kiyomi ศิลปินชาวญี่ปุ่นและเป็นคุณแม่ลูกสอง ผู้ซึ่งมีงานอดิเรกที่ต้องอาศัยทั้งความอดทนและการทุ่มเท แต่เธอก็รักที่จะทำมัน     งานอดิเรกของ Kiyomi คือการทำสิ่งของต่างๆ ให้เป็นไซส์มินิ ตั้งแต่ของใช้ ของกิน และเฟอร์นิเจอร์ โดยถอดแบบมาจากของจริงที่เห็นในชีวิตประจำวัน ผลงานส่วนใหญ่ของเธอดูจะออกไปทางวินเทจหน่อยๆ นั่นเป็นเพราะเธอได้รับแรงบันดาลใจศิลปะยุคอุตสาหกรรมตอนต้น     แม้จะเป็นสิ่งของไซต์มินิ แต่ Kiyomi ก็พยายามทำให้เหมือนจริงมากที่สุด โดยการใส่ทุกรายละเอียด ซึ่งต้องใช้ทั้งความอดทน ความประณีต และต้องทุ่มเทเวลาให้มันด้วย สำหรับสิ่งของไซส์นิเหล่านี้ Kiyomi ได้นำมาตกแต่งบ้านตัวเองบ้าง ทำเป็นบ้านตุ๊กตาบ้าง ซึ่งดูแล้วน่ารัก จนอยากทำตามบ้าง     สำหรับใครที่อยากดูไว้เป็นแรงบันดาลใจ สามารถเข้าไปติดตามศิลปินชาวญี่ปุ่นคนนี้ได้ที่อินสตาแกรม chiisanashiawase2015 และเว็บไซต์ petipetit   . .   ชุดเค้กไซส์มินิ น่ากินไปอีก . .   ลิปจิ๋ว แท่งเดียวคงไม่พอ   รองเท้าที่เหมือนของจริงเด๊ะๆ . .…

  • แคมเปญจากนอร์เวย์สะท้อน ‘ชีวิตภายใน 60 วินาที’ จากอายุ 0 – 100 ปีของผู้หญิง

    แคมเปญจากนอร์เวย์สะท้อน ‘ชีวิตภายใน 60 วินาที’ จากอายุ 0 – 100 ปีของผู้หญิง

    โฆษณาเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์เพื่อความงามสำหรับผู้หญิงอาจไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกมีอารมณ์ร่วม เพราะคิดว่าสิ่งที่ได้เห็นมันเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อที่แต่งภาพออกมาให้ดูสวยเกินความเป็นจริง แตกต่างจากโฆษณาตัวนี้ที่ไม่มีการแต่งภาพใดๆ และมันจะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความสวยงามที่แท้จริงของผู้หญิง นี่เป็นโฆษณาจากบริษัทยาในประเทศนอร์เวย์ Vitus Apotek ที่ร่วมมือกับบริษัทโฆษณา T/A Pol พวกเขาได้นำเสนอความงามของผู้หญิงที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัย นับตั้งแต่อายุ 0 ขวบไปจนถึง 100 ปี ซึ่งทั้งหมดถูกนำเสนอในเวลาเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น   ความใสของผู้หญิงวัย 3 ขวบ   ส่วนเด็กวัย 8 ขวบก็สื่อออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง   การถ่ายทอดความสวยงามของพวกเธอเรียบง่ายและสามารถทำให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมไปพร้อมๆ กันได้ เพราะคลิปนี้ไม่ได้ผ่านการตกแต่งภาพใดๆ เลย ทำให้เราได้เห็นว่าผู้หญิงทั้ง 101 ที่มีอายุ รูปร่าง และสีผิวแตกต่างกันไป พวกเธอมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความงามมากขนาดไหน   สาวๆ ทุกคนไม่ได้แต่งหน้าใดๆ เลยด้วยนะ .   Pål Laukli ช่างภาพผู้ถ่ายทำโฆษณาดังกล่าวบอกว่า “เราต้องการนำเสนอในสิ่งที่พวกเธอเป็นจริงๆ จึงไม่มีการแต่งภาพเลย สิ่งที่คุณได้เห็นคือการนำเสนอผิวพรรณและรูปร่างที่เปลี่ยนไปตามวัยของพวกเธอ”   การที่พวกเธอไม่ใส่เสื้อผ้า ก็เพื่อให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกสัดส่วน   สังเกตได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนใบหน้าและรูปร่างของเธอเมื่อแก่ตัว…

  • ชายผู้ใจดีจอดรถกลางถนนเพื่อช่วยเจ้าเหมียวผู้น่าสงสาร แถมประกาศหาบ้านให้มันด้วย!!

    ชายผู้ใจดีจอดรถกลางถนนเพื่อช่วยเจ้าเหมียวผู้น่าสงสาร แถมประกาศหาบ้านให้มันด้วย!!

    ขณะที่คุณกำลังขับรถอยู่บนถนนไฮเวย์ก็อาจได้เห็นรถคันอื่นๆ ที่วิ่งไปทางเดียวกับเราหรือคนที่พยายามข้ามถนนกันอย่างยากลำบากเพราะรถแต่ละคันขับกันเร็วเสียเหลือเกิน แต่ชายคนนี้กลับได้เจอกับสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ควรมาอยู่บนถนนใหญ่ นั่นก็คือน้องเหมียวผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Masz Masuri เขากำลังขับรถพาลูกชายไปเที่ยวสวนสนุก Danga Bay ในประเทศมาเลเซีย เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2017 ระหว่างทางที่เขากำลังขับอยู่บนถนนไฮเวย์ก็ได้เจอกับเจ้าเหมียวผู้น่าสงสารนอนอยู่กลางถนน   น้องเหมียวผู้น่าสงสารไม่สามารถออกไปจากถนนนี้ได้ด้วยตัวเอง   บนถนนใหญ่ที่ขับกันด้วยความเร็วจนทำให้เขาไม่สามารถจอดกะทันหันได้ ชายหนุ่มจึงไปกลับรถมาหาเจ้าเหมียวอีกครั้ง ก่อนที่จะลงรถไปอุ้มมันขึ้นมาและรีบพาไปหาสัตวแพทย์   ไม่ต้องกลัวนะเจ้าเหมียว ฮีโร่มาช่วยแล้ววว   คลิปการช่วยเหลือแมวในครั้งนี้ที่ชายหนุ่มโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊ก   เจ้าเหมียววัย 1 ขวบตัวนี้มีอาการบาดเจ็บบริเวณขา อุ้งเท้า และหน้าอกเล็กน้อยจึงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่   ได้เจอหมอแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ   Masz ตั้งชื่อให้มันว่า Danga Bay ชื่อเดียวกันกับสวนสนุกที่เขาจะพาลูกไป และชายคนนี้ก็ไม่ได้เพียงแค่ช่วยมันให้รอดจากอันตรายบนท้องถนนเพราะเขายังช่วยประกาศหาบ้านให้กับมันอีกด้วย เป็นโชคดีของเจ้าเหมียวที่ได้เจอกับเขาผู้เป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับน้องแมวในประเทศมาเลเซียที่ชื่อว่า Kitty Konnexion Community เขาจึงโพสต์คลิปและเรื่องราวของมันลงไป   เป็นโชคดีของเอ็งจริงๆ ที่ได้เขาคนนี้มาช่วย พร้อมกับยังหาบ้านให้อีกต่างหาก   จนกระทั่งวันที่ 10 พฤษภาคม 2017…

  • ครอบครัวเล่าประสบการณ์ขนหัวลุก กับการต่อสู้กับผีที่สิงอยู่ในบ้านตลอด 20 ปี!!

    ครอบครัวเล่าประสบการณ์ขนหัวลุก กับการต่อสู้กับผีที่สิงอยู่ในบ้านตลอด 20 ปี!!

    การเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับผีสาง หรือสิ่งลี้ลับให้ใครสักคนฟังนั้น มักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องตลก ไร้สาระ หากคนๆ นั้นไม่เคยประสบกับเรื่องพวกนี้ อย่างไรก็ตามอดีตนักการเมืองรัฐเพนซิลเวเนีย Bob Cranmer และครอบครัวยืนยันว่าพวกเขาถูกผีหลอกมาเป็นเวลา 20 ปี ตั้งแต่ที่ตัดสินใจซื้อเก่าๆ ราคาถูกหลังหนึ่ง นี่อาจฟังดูตลก แต่พวกเขาเล่าว่าเจอเหตุการณ์น่าขนลุกนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งหน้าต่างสั่นเอง ประตูปิดเอง จนทำให้การใช้ชีวิตในบ้านหลังใหญ่นี้กลายเป็นฝันร้ายที่ไม่อาจลืม     บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ที่มุมถนนของ Sceneridge และ Brownsville เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา มันเป็นบ้านที่มีรูปทรงแปลกๆ ที่ Bob ชื่นชอบตอนเด็กๆ หลังจากที่เขาทำงานและเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง Bob ก็ติดต่อซื้อบ้านหลังดังกล่าว แต่แปลกที่ผู้ขายตกลงขายทันทีโดยไม่ถามอะไรเลย ที่สำคัญมันมีราคาต่ำกว่าราคาตลาดด้วย     มองจากภายนอกก็ทำให้ Bob ภรรยาของเขา และลูกสาว Lisa รู้สึกว่ามันเป็นบ้านที่น่าอยู่มากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสีของบ้านและระเบียงขนาดใหญ่ นอกจากนี้มันยังเป็นบ้าน 3 ชั่นที่เหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว ทั้งยังสามารถรองรับเพื่อนๆ หรือครอบครัวที่จะมาเยี่ยมได้อีกด้วย แต่หลังจากที่ซื้อไปได้ไม่นาน กลับกลายเป็นว่ามันคือการตัดสินใจที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของ Bob…     เจ้าของบ้านคนใหม่เพิ่งจะรู้ประวัติที่น่ากลัวของบ้านหลังนี้ หลังจากที่ย้ายเข้าไปอยู่แล้วเรียบร้อย ตามประวัติเล่าว่าในช่วงปี 1700 ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันถูกสังหารหมู่โดยคนผิวขาวในพื้นที่แห่งนี้ ต่อมาในปี 1909 มีการเล่าต่อกันว่าผู้ที่สร้างบ้านผู้เกรี้ยวกราดหลังนี้ได้ทำการสาปแช่งบ้านทั้งหลังด้วย นี่ยังไม่ใช่เรื่องแปลกที่สุดของประวัติบ้านหลังนี้    …

  • เจ้าเหมียวที่เคยถูกวัยรุ่นใจร้ายเตะปลิวและเป็นกระแสโด่งดังไปทั่ว ในที่สุดมันก็ได้บ้านใหม่แล้ววว

    เจ้าเหมียวที่เคยถูกวัยรุ่นใจร้ายเตะปลิวและเป็นกระแสโด่งดังไปทั่ว ในที่สุดมันก็ได้บ้านใหม่แล้ววว

    หลายๆ คนอาจเคยเห็นคลิปวิดีโอหนุ่มในปี 2014 ของวัยรุ่นชายคนหนึ่งได้เตะลูกแมวอย่างแรงจนมันปลิวข้ามรั้วไปเกิดเป็นกระแสที่ดังมากในตอนนั้น ผู้คนจำนวนมากไม่พอใจและเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของชายคนนั้นและเขาก็ได้ถูกจับในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ทุกคนรู้ว่าชายคนนี้ถูกจับแต่อาจไม่เคยรู้ว่าเจ้าเหมียวคู่กรณีหลังจากที่ถูกเตะไปแล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เราไปดูกันดีกว่าว่าหลังจากนั้นแมวตัวนี้มีสภาพเป็นอย่างไร   ชายคนนี้เรียกเจ้าแมวเข้ามาใกล้ๆ และให้เพื่อนของเขาถ่ายคลิปเก็บเอาไว้   เมื่อเจ้าแมวตายใจ เขาก็เตะเข้าไปที่กลางลำตัวของมัน จนเจ้าแมวปลิวไปไกลกว่า 6 เมตร   ท้ายคลิปชายหนุ่มคนนี้ก็ยังหันมาหัวเราะกับกล้อง พร้อมกับเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ และได้โพสต์คลิปลงไปในโลกโซเชียล   คลิปเมื่อ 3 ปีก่อน กับพฤติกรรมอันโหดร้ายสามารถดูได้ในนาทีที่ 0.26   ชาวเน็ตต่างรู้สึกไม่พอใจ แจ้งเรื่องนี้ไปกับทางเจ้าหน้าที่ ทำให้ในเวลาต่อมานาย Andre Robinson วัย 21 ปีคนนี้ถูกจับในคดีทารุณกรรมสัตว์   เจ้าเหมียวที่โดนเตะตัวนั้นก็ได้รับบาดเจ็บจากความรุนแรงของลูกเตะ มันได้เข้ารับการรักษาและอยู่ภายใต้การดูแลของกรมคุ้มครองสัตว์แห่งสหรัฐฯ (ASPCA)   แต่ผ่านไปเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น มันก็ได้ไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ของคนที่มารับมันไปเลี้ยง   นับว่าเป็นความโชคดีของเจ้าเหมียว (ตอนนี้ชื่อ King) จริงๆ เชื่อว่ามันคงไม่ได้เจอการถูกทารุณเหมือนก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน   แม้เจ้าเหมียวตัวนี้จะต้องเจอเรื่องแย่ๆ มาก่อน แต่ฟ้าหลังฝนก็ย่อมสวยงามเสมอ เพราะมันได้ไปมีความสุขในบ้านหลังใหม่ของมันแล้ว อย่างไรก็ตามเราต้องอย่าลืมว่าการทารุณกรรมสัตว์ไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้นในสังคม…

  • ชาบู!! สถาปนิกญี่ปุ่นออกแบบบ้านในพื้นที่หน้ากว้างเพียง 3 เมตรให้กลายเป็นบ้านสุดน่าอยู่

    ชาบู!! สถาปนิกญี่ปุ่นออกแบบบ้านในพื้นที่หน้ากว้างเพียง 3 เมตรให้กลายเป็นบ้านสุดน่าอยู่

    พื้นที่ระหว่างบ้านหลังหนึ่งไปยังอีกหลังหนึ่ง มักจะมีตรอกซอกเล็กๆ ที่ใครๆ หลายคนมักจะนำพื้นที่เหล่านี้ไปปลูกต้นไม้หรือไม่ก็ทำแปลงดอกไม้ เนื่องจากคิดว่ามันคงเล็กเกินกว่าที่จะปลูกสร้างอะไรได้ แต่ได้มีสถาปนิกคนหนึ่งเห็นคุณค่าของพื้นที่เล็กๆ เหล่านั้นจนได้สร้างบ้านขึ้นมาในพื้นที่แคบๆ แต่มีพื้นที่ใช้สอยอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว พื้นที่เล็กๆ ระหว่างบ้านทั้งสองหลังในเมืองโอะกะซะกิ ประเทศญี่ปุ่น  ที่เล็กกว่าถนนบางสายในเมืองแห่งนี้ซะอีก ได้กลายมาเป็นบ้านสุดสวยจากฝีมือของสถาปนิกชื่อว่า Katsutoshi Sasaki ที่ได้เนรมิตขึ้นมาสำหรับครอบครัวหนึ่งที่มีสมาชิกถึง 4 คน   หน้าตาของบ้านในพื้นที่แคบๆ อย่างนี้   โดยมุมมองของสถาปนิกคนนี้ก็คือ แทนที่เขาจะมองในเรื่องความกว้างที่มีเพียงแค่ 3 เมตร เขากลับให้ความสำคัญไปที่ความยาวและความสูงแทน เพื่อจะให้บ้านในพื้นที่แคบๆ นี้ใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงที่สุด   พื้นที่ก่อนที่จะสร้างบ้านหลังนี้ขึ้น ซึ่งมีขนาดความกว้างเพียงแค่ 3 เมตร   สำหรับข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่นี้คือมีความกว้าง 3 เมตรแต่ทว่ามันมีความยาวมากถึง 69 ตารางเมตรเลยทีเดียว แต่ว่าสถาปนิกก็สามารถทำบ้านหลังนี้ให้มีความปลอดโปร่งได้ ด้วยการยกบ้านให้สูงขึ้นนั่นเอง   มีพื้นที่ในบ้านให้ใช้สอยได้อย่างกว้างขวาง   “ที่ดินบริเวณนี้มีขนาดเล็กมาก โดยก่อนหน้านี้ใช้สำหรับการทำสวน แต่ผมคิดว่าลูกค้าคงต้องการความรู้สึกของอิสระ ผมจึงสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นโดยมีการเชื่อมต่อกันของพื้นที่หลายที่ และยังคงมีส่วนให้สามารถทำสวนได้อยู่อีกมุมหนึ่งของบ้านอีกด้วย” Sasaki กล่าว   ชั้นบนของบ้านก็มีความน่าอยู่ไม่แพ้กัน โดยเขาได้เจาะช่องเพื่อให้แสงจากธรรมชาติผ่านเข้ามาได้   แม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่ว่าเขาก็ตั้งใจจะให้บ้านนี้เป็นบ้านที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก และให้หลากหลายอารมณ์ในพื้นที่ๆ เดียวอย่างเช่น…

  • 23 ภาพเหล่ารถหรูที่ถูกจอดทิ้งขว้างใน “ดูไบ” จนตอนนี้กลายเป็นแค่เศษเหล็ก

    23 ภาพเหล่ารถหรูที่ถูกจอดทิ้งขว้างใน “ดูไบ” จนตอนนี้กลายเป็นแค่เศษเหล็ก

    กว่าที่เราจะเก็บตังซื้อรถได้สักคันก็ต้องเก็บกันนานหลายปี เพราะว่ารถแต่ละคันนั้นมีราคาที่สูงมาก ซึ่งถ้าเทียบกับความสะดวกสบายที่จะได้รับก็คงถือว่าคุ้มสำหรับเงินที่แลกไป แต่ที่ดูไบ ดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความร่ำรวยและมั่งคั่ง คุณจะพบได้ว่าพวกรถยนต์เหล่านี้ถูกจอดทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ ราวกับว่ามันเป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่ง มีตั้งแต่รถยนต์ธรรมดาไปจนถึงรถสปอร์ตราคาแพง มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดูแล้วน่าสงสัยว่าทำไมเจ้าของรถเหล่านี้ถึงได้ทิ้งรถราคาแพงแบบนี้ไว้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2000 แรงงานจากหลายๆ ประเทศได้ย้ายไปทำงานที่ดูไบเพราะว่าอัตราค่าจ้างที่สูงลิ่ว แต่เมื่อปี 2009 เศรษฐกิจเริ่มถดถอย ชาวยุโรปที่เข้ามาลงทุนในดูไบก็เริ่มจะประสบปัญหาและล้มละลายไปตามๆ กัน ทำให้นักธุรกิจหลายๆ คนตัดสินใจทิ้งรถเอาไว้ตามสนามบินหรือสถานที่ต่างๆ แล้วออกไปจากดูไบแล้วไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่น เหลือไว้แต่เพียงซากรถให้ประชาชนชาวดูไบได้เห็นถึงความล้มเหลวทางธุรกิจ   นะ นะ นั่นมันรถสปอร์ตเลยนะพี่   จอดทิ้งไว้ข้างถนนแบบนี้เลยหรอ…   รถสวยๆ ก็ต้องถูกนำมาจอดทิ้งไว้   จอดทิ้งไว้ตามห้างสรรพสินค้าแบบนี้   ถ้าใจดีหน่อยก็เอาผ้าใบคลุมไว้แบบนี้   รถหรูราคาแพงทั้งหลายที่ถูกจอดทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ . . . .   รถสปอร์ตโดนทิ้ง เกรงใจราคาตอนซื้อด้วย .   ฝุ่นเขรอะเลย . . . .   กลายเป็นกระดานให้วาดเขียนเล่นซะแล้ว . .…

  • นอกจากการเป็นผู้นำของรัสเซียแล้ว ‘ปูติน’ ก็ได้เป็นนายแบบขึ้นปฏิทิน 2018 ด้วยนะจ๊ะ

    นอกจากการเป็นผู้นำของรัสเซียแล้ว ‘ปูติน’ ก็ได้เป็นนายแบบขึ้นปฏิทิน 2018 ด้วยนะจ๊ะ

    หลายๆ คนอาจเคยได้ยินชื่อประธานาธิบดีคนปัจจุบันของรัสเซีย วลาดีมีร์ วลาดีมีโรวิช ปูติน ผู้ที่มีทั้งความสามารถในการเป็นผู้นำและความไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด ชนิดที่ว่านั่งกอดเสือดาวได้อย่างหน้าตาเฉย ซึ่งวีรกรรมเจ๋งๆ ของเขาก็ได้ถูกบันทึกลงในปฏิทินปี 2018 เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว   หน้าปกปฏิทินรวมภาพความโหดสึดรัสเซียของปูติน   เมื่อเราเปิดปฏิทินฉบับนี้ขึ้นมาดูเราก็จะได้เห็นภาพของปูตินในเหตุการณ์ต่างๆ ที่แสดงความสุดยอดและรอบด้านในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจับปลา ยิงปืน หรือการขึ้นพูดปราศรัย   ภาพความสามารถในการใช้ศิลปะป้องกันตัว และยังมีภาพเท่ๆ ที่ถูกถ่ายไว้ตอนเดินทางไปในแต่ละที่   ภาพน่ารักๆ อย่างตอนที่ปูตินกอดน้องเหมียว รอยยิ้มตอนที่ได้เล่นฮอกกี้น้ำแข็ง หรือความจริงจังในตอนที่ได้ขึ้นพูดปราศรัย   ความสามารถที่เรียกได้ว่าหลายอย่างจริงๆ และยังมีภาพท่าทางแบบชิลล์ๆ ในชีวิตประจำวัน   ไม่ว่าจะเป็นการขี่บิ๊กไบค์ ยิงปืน ตกปลา ทุกอย่างก็คือเรื่องง่ายสำหรับชายคนนี้   ปฏิทินฉบับปูตินนี้สามารถหาซื้อได้ใน ebay โดยเขามีขายให้แค่ 6,000 ชุดเท่านั้น ควรค่าแก่การสะสมและเหมาะกับการนำไปเป็นของขวัญให้คนที่คุณรัก… ส่วนราคาของปฏิทินชุดนี้ก็อยู่ที่ประมาณ 1,300 บาท ใครซื้อไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอ่านไม่ออกเพราะเขาได้ทำขึ้นมาเป็นแบบ 8 ภาษา ซึ่งมีภาษาอังกฤษ สเปน และอิตาลีรวมอยู่ในนั้นด้วย   ถ้าใครชอบแบบเท่ๆ ลุยๆ ก็บอกเลยว่าเขาคนนี้ตอบโจทย์คุณอย่างมาก…

  • หนุ่มคิดค้นรองเท้าที่สามารถขยายได้ 5 ไซส์ เพื่อช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ ยากจนทั่วทุกมุมโลก!!

    หนุ่มคิดค้นรองเท้าที่สามารถขยายได้ 5 ไซส์ เพื่อช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ ยากจนทั่วทุกมุมโลก!!

    ปัญหาความยากจนนั้นเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศโลกที่สามที่มีประชาชนขาดแคลนสิ่งอุปโภคและบริโภคอยู่มากมาย และด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ชายคนหนึ่งมีแรงบันดาลใจที่จะทำรองเท้าให้กับเด็กๆ ที่ขาดแคลนของใช้ ให้มีรองเท้าได้ใส่กันถ้วนหน้า Kenton Lee ชายหนุ่มไอเดียเจ๋งแถมยังใจหล่อ เขาได้แรงบันดาลในการสร้างสรรค์รองเท้าสุดเจ๋งนี้จากการที่ไปพบเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้สวมใส่รองเท้า ในกรุงไนโรบี ประเทศเคนย่า ในปี 2007     เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้จินตการของเขาพลุ่งพล่านและเกิดเป็นรองเท้าสำหรับเด็กๆ ทั่วโลกกว่า 300 ล้านคน แม้ภายนอกมันจะดูเหมือนรองเท้าทั่วไป แต่รองเท้าเหล่านี้สามารถปรับได้ถึง 5 ไซส์ ซึ่งนั้นหมายความว่าเด็กๆ สามารถสวมใส่มันได้เรื่อยๆ ไปอีกหลายปีเลยล่ะ     ความคิดที่เรียบง่ายของ Kenton Lee ได้กลายเป็นความจริง นับตั้งแต่เขาเปิดตัวโปรเจกต์นี้ในเว็บไซต์ The shoe that grows และโครงการของเขาก็ได้รับสนใจและเงินบริจาคจากผู้คนทั่วโลก     การสวมใส่นั้นก็สะดวกและเรียบง่ายเน้นใช้งาน .   เราจะเห็นได้ว่าเพื่อนมนุษย์นั้นไม่เคยทิ้งกัน และเราทุกคนก็สามารถที่จะช่วยเหลือเด็กๆ ยากไร้เหล่านี้ให้พ้นจากความทุกข์ยากได้ไม่มากก็น้อย   ใครสนใจก็สามารถไปร่วมบริจาคให้กับโครงการนี้ได้ที่เว็บไซต์ The Shoe That Grows ได้เลยนะคะ ที่มา viralforest

  • พาชมเรือนจำระดับ 5 ดาวในประเทศซาอุฯ ที่เอาไว้ขังคนใหญ่คนโต มีทุกอย่างยกเว้นอิสรภาพ

    พาชมเรือนจำระดับ 5 ดาวในประเทศซาอุฯ ที่เอาไว้ขังคนใหญ่คนโต มีทุกอย่างยกเว้นอิสรภาพ

    การถูกจองจำอาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ว่าใครก็คงไม่ปรารถนาซึ่งความไร้อิสรภาพนี้อาจจะทำให้คนที่ถูกจองจำเกิดอาการเครียดและกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อพูดถึงเรือนจำทุกคนก็คงจะนึกถึงสภาพของห้องขังที่ชำรุด เก่า สกปรก และสภาพแวดล้อมไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ แต่ทว่าเรือนจำที่จะมานำเสนอในวันนี้มันหรูหราซะยิ่งกว่าโรงแรม 5 ดาวซะอีก     เรือนจำแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงริยาร์ด ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสภาพภายนอกเป็นโรงแรมรีสอร์ทสุดหรู ตกแต่งไปด้วยต้นมะกอกอายุ 600 ปี และสวนปาล์มที่รายล้อมไปทั่วเรือนจำแห่งนี้ ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 52 ไร่ มกุฏราชกุมารโมฮัมเม็ด บิน ซัลมาน ทรงได้ออกกวาดล้างจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นอย่างจริงจรัง ซึ่งผู้ต้องหาล้วนแต่เป็นนักการเมือง นักธุรกิจ และยังมีเจ้าชายอีก 11 พระองค์ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย พระองค์ทรงจัดการอย่างเด็ดขาดและไม่เว้นแต่พระญาติเพื่อเป็นการล้มล้างการคอร์รัปชั่นอย่างเด็ดขาดและเป็นธรรมที่สุด     ทางการซาอุดิอาระเบียเพิ่งจะมีการเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้ามาทำการบันทึกภาพและเก็บข้อมูลโดยสำนักข่าว BBC เท่านั้นและได้มีการเผยแพร่ภาพเหล่านี้เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายในอาคารก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของผู้เข้าพักโรงแรมกับส่วนที่เป็นแต่ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่แห่งนี้ก็มีครบทุกอย่าง   สระว่ายน้ำ   ห้องอาหารขนาดใหญ่   อาหารที่มีมากมายคอยให้บริการ   บาร์เครื่องดื่ม   ล็อบบี้   ห้องพัก   คลิปวิดีโอภายในโรงแรม   โรงแรมแห่งนี้ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างแต่อย่างใดก็ตามก็ยังไร้ซึ่งอิสรภาพอยู่ดี…

  • คุณแม่สั่งห้ามลูกอ่านนิทานเรื่อง ‘เจ้าหญิงนิทรา’ เพราะการจูบผู้หญิงในตอนหลับมันไม่ถูกต้อง!!

    คุณแม่สั่งห้ามลูกอ่านนิทานเรื่อง ‘เจ้าหญิงนิทรา’ เพราะการจูบผู้หญิงในตอนหลับมันไม่ถูกต้อง!!

    เชื่อว่าน้อยคนที่จะไม่รู้จักนิทานเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา เพราะเราจะได้ยินพ่อแม่หรือครูที่โรงเรียนเล่าให้ฟังกันมาตั้งแต่เด็ก ฉากสำคัญที่ทุกคนจำได้ก็คือตอนเจ้าชายจูบเจ้าหญิงเพื่อปลุกให้เธอตื่นขึ้นจากการหลับไหลอันยาวนาน แต่ฉากนี้ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแม่คนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจและไม่เห็นด้วย คุณแม่คนนี้มีชื่อว่า Sarah Hall วัย 40 ปีผู้อาศัยอยู่ในเมือง North Shields ประเทศอังกฤษ เธอบอกว่าการที่เจ้าชายจูบเจ้าหญิงในตอนที่หลับอยู่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่ควรให้ลูกชายวัย 6 ขวบของเธอต้องมารับรู้อะไรแบบนี้   Sarah Hall คุณแม่ผู้ไม่เห็นด้วยกับการให้เด็กอ่านหนังสือเจ้าหญิงนิทรา   เธอบอกว่า “การจูบผู้หญิงในตอนที่เธอหลับอยู่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นอยู่ของสังคมในปัจจุบัน เพราะการจูบที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามความยินยอมของเจ้าหญิงเลย ดังนั้นจึงไม่ควรให้ลูกชายวัย 6 ขวบของฉันต้องมาเรียนเรื่องอะไรแบบนี้ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็จะจดจำทุกอย่างที่เขาเห็นไป” Sarah ได้เริ่มมีความคิดนี้จากการที่หลายๆ คนเริ่มพูดถึงเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศภายใต้ชื่อ Me Too เธอบอกอีกว่า “นี่เป็นสิ่งที่ปลูกฝังให้กับเด็กๆ แสดงให้เห็นว่าสังคมของเราเต็มไปด้วยพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม แม้อาจดูเป็นสิ่งเล็กๆ แต่มันก็สามารถทำให้เกิดความแตกต่างในความคิด ความเข้าใจของคนได้ เพราะฉะนั้นมันจึงไม่เหมาะที่จะไปอยู่ในนิทานสำหรับเด็ก”   ฉากเจ้าชายจูบเจ้าหญิงเพื่อปลุกให้เธอตื่นจากนิทรา   คุณแม่ยื่นเรื่องไปให้กับทางโรงเรียนของลูกชาย เพื่อให้ถอดถอนนิทานเรื่องเจ้าหญิงนิทราออกจากการเรียนของเด็กเล็ก เธออธิบายว่า “เด็กที่อายุยังน้อยไม่อาจแยกแยะความเหมาะสมในสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ได้ แต่เราสามารถอธิบายความถูกผิด สมควรหรือไม่สมควรให้กับเด็กโตเข้าใจได้”   วันที่ 19 พฤศจิกายน 2017…

  • โชว์ลิปซิงค์ Let It Go ของน้องระดับประถม แต่ความสามารถระดับมัธยม เล่นใหญ่เล่นโต!!

    โชว์ลิปซิงค์ Let It Go ของน้องระดับประถม แต่ความสามารถระดับมัธยม เล่นใหญ่เล่นโต!!

    Frozen คือภาพยนตร์อนิเมชั่นจากดิสนีย์ที่โด่งดังไปทั่วโลกและที่ดังไม่แพ้กันก็คือ Let It Go เพลงประกอบหนังเรื่องนี้ที่ยิ่งทำให้เด็กและผู้ใหญ่สามารถจดจำความสนุกของหนังได้มากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กน้อย 3 คนนี้ได้นำเพลงดังกล่าวมาใช้ประกอบการแสดงลิปซิงค์ คลิปการแสดงของเด็กทั้ง 3 ได้ถูกโพสต์ลงยูทูบเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 ในช่องที่ชื่อว่า グレートゾーン โดยเขาได้บอกว่า “นี่คือคลิปการแสดงของเพื่อนรักวัยประถมทั้ง 3 คนวัย 10 ขวบที่ชนะการประกวด Lunch Contest” แม้เป็นเพียงแค่เด็กประถม แต่ก็ขอบอกเลยว่าการแสดงของพวกเธอนั้นยิ่งใหญ่อลังการกว่าความเป็นเด็กของพวกเธอจริงๆ พวกเธอได้นำฉากปล่อยพลังน้ำแข็งของ Elsa มาโชว์ทุกคนด้วยเอฟเฟกต์แบบง่ายๆ แต่สื่อได้ถึงพลังอันมหาศาลของคนแสดงและผู้ช่วย มันจะเจ๋งขนาดไหนก็ไปดูกันเลย   เปิดตัวมาง่ายๆ ก่อน เดินมาช้าๆ ดูเหมือนจะไม่มีอะไร   แต่พอเพลงเริ่มเร่งจังหวะขึ้นมา ท่าทางของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป แต่เอ๊ะ!! เด็กเสื้อขาวด้านหลังนั่นมาแอบทำไมใกล้ๆ น่ะ   คุณพระ!! ที่แท้เด็กสองคนด้านหลังก็คือคนทำเอฟเฟกต์นี่เอง เป็นจริงเป็นจังจริงจริงแม่คุณ   แถมยังมีการเสกเจ้า Olaf ออกมาได้ด้วย มหัศจรรย์สุดๆ ไปเลย   ยังไม่หนำใจ จัดไปชุดใหญ่ซักหนึ่งดอกเน้นๆ  …

  • โรงเรียนสั่งรื้อรูปปั้นบาทหลวง เพราะมีรูปร่างสื่อไปในเชิงล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก!?

    โรงเรียนสั่งรื้อรูปปั้นบาทหลวง เพราะมีรูปร่างสื่อไปในเชิงล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก!?

    รูปปั้นส่วนใหญ่ถูกสร้างมาจากต้นแบบของใครคนหนึ่งที่มีไว้ให้คนรุ่นหลังระลึกถึงสิ่งดีๆ ที่เขาคนนั้นเคยได้ทำไว้และเอาเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต แต่บางครั้งความหมายและความตั้งใจของผู้ปั้นก็อาจผิดเพี้ยนไปจากที่คิด เช่นเดียวกับผลงานรูปปั้นนี้ที่ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย รูปปั้นดังกล่าวได้ถูกนำเสนอในข่าวท้องถิ่น 7 News ของนคร Adelaide หลังจากที่รูปปั้นนี้ถูกพูดถึงว่าเป็นสิ่งที่สื่อถึงการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก   รูปปั้นที่ดันไปสื่อถึงการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก   รูปปั้นถูกตั้งเอาไว้ในโรงเรียนชายล้วน Blackfriars Priory เป็นภาพของบาทหลวง Martin de Porres ผู้ให้การช่วยเหลือเด็กยากไร้จำนวนมากในช่วงศตวรรษที่ 16 กำลังยื่นขนมปังให้กับเด็ก แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นกลับสื่อออกมาในอีกรูปแบบหนึ่งที่ต่างออกไปอย่างมาก     วันต่อมาผู้อำนวยการของโรงเรียนจึงได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “รูปปั้นดังกล่าวถูกปั้นขึ้นในเวียดนาม มีไว้เพื่อสื่อถึงการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของนักบุญผู้ช่วยเหลือเด็กๆ ยากจน” เขาพูดต่อว่า “ในตอนแรกที่มีการร่างภาพเอาไว้ในกระดาษ เราไม่เห็นเลยว่ารูปปั้นนี้จะสามารถสื่อออกมาในลักษณะการล่วงละเมิดทางเพศได้ จนกระทั่งเราได้เห็นเมื่อถูกปั้นเสร็จแล้วและนำมาตั้งไว้ในโรงเรียน” อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนก็ได้ออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นและได้คลุมรูปปั้นนั้นเอาไว้ก่อนที่จะถูกรื้อออกไปเพื่อการซ่อมแซมและแก้ไขกลับมาใหม่ให้ตรงตามสิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมาจริงๆ   ทางโรงเรียนได้นำผ้ามาคลุมเอาไว้ เห็นแค่ขาแบบนี้จะยิ่งทำให้คิดหรือเปล่านะ?   หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ทำการรื้อถอนรูปปั้นออกไป   หวังว่าพวกเขาจะไม่ได้นำรูปปั้นไปซ่อมแค่ตรงขนมปังหรอกเนาะ   คราวหน้าคราวหลังก็คงต้องตรวจสอบสิ่งต่างๆ กันให้ดี เพราะไม่งั้นมันอาจผิดจากจุดประสงค์ของเราไปก็ได้   ที่มา: buzzfeed

  • นักวิทย์ทดลองเปิด “กระป๋องโค้ก” ในเรือดำน้ำที่พื้นมหาสมุทร เพื่อดูผลลัพธ์ว่าจะเป็นยังไง!?

    นักวิทย์ทดลองเปิด “กระป๋องโค้ก” ในเรือดำน้ำที่พื้นมหาสมุทร เพื่อดูผลลัพธ์ว่าจะเป็นยังไง!?

    ปกติแล้วเวลาเปิดโค้ก ไม่ว่าจะเป็นกระป๋องหรือแบบขวด มันมักจะมีความซ่าขึ้นมาด้วยเสมอ นั่นเป็นเพราะแก๊สในกระป๋องถูกดันขึ้นมาปะทะกับความกดอากาศภายนอก แต่จะเป็นอย่างไรถ้ากระป๋องโค้กถูกเปิดที่พื้นในมหาสมุทร? เราคงไม่ลงทุนลงไปพื้นมหาสมุทรเพื่อหาคำตอบของเรื่องนี้หรอกใช่มั้ย? ดีแล้ว เพราะนักบินอวกาศและวิศวกร Chris Hadfield ได้มาทดลองให้ดูแล้วในฐานะผู้ที่รู้เรื่องฟิสิกส์ดีกว่าเรา     จริงๆ แล้ว Hadfield เป็นที่รู้จักในฐานะยูทูบเบอร์ที่ชอบอยู่ในพื้นที่ที่คนไม่ค่อยอยู่กัน เช่น ในพื้นที่อวกาศ และพื้นมหาสมุทร ช่วงที่อยู่ในอวกาศ Hadfield มักจะทดลองอะไรแปลกๆ ให้ผู้คนได้เรียนรู้ และเมื่อเกษียณ เขาก็ไม่หยุดที่จะศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ถึงกับลงไปอยู่ในเรือดำน้ำเพื่อทำการทำลองใหม่ๆ ให้เราได้ดูกันอีกเช่นเคย     ล่าสุด Hadfield ได้ทำการทดลองเปิดกระป๋องโค้กที่เขย่าแล้วใต้พื้นมหาสมุทร และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราทึ่งไม่ใช่น้อย ลองดูจากคลิปด้านล่างนี้     ในช่วงเริ่มต้นของคลิป เขาได้พูดถึงโค้ก ซึ่งเป็นน้ำอัดลมที่เราพบได้ในชีวิตประจำวันนี่แหละ และหากเขย่าก่อนเปิด คุณรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขณะนี้ Hadfield อยู่ที่พื้นมหาสมุทร เขาก็เลยเขย่าโค้กกระป๋องนั้น เพื่อทดสอบว่าหากเปิดในนี้มันจะต่างจากการเปิดในพื้นที่ทั่วไปอย่างไร     ขณะที่เขาเขย่ากระป๋องโค้ก หลายคนคิดว่าแก๊สที่ถูกอัดในนั้นต้องพุ่งขึ้นแน่ๆ เมื่อถูกเปิด แต่อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น รอดูจนกว่าเขาจะเปิด…     ปรากฏว่าเมื่อเปิดกระป๋องแล้ว น้ำโค้กกลับไม่พุ่งอย่างที่คิด นั่นเป็นเพราะมันเป็นกฎฟิสิกส์ คือภายในเรือดำน้ำที่อยู่ใต้มหาสมุทรจะมีความกดอากาศสูงมาก นั่นทำให้ไม่มีแรงดันมากพอที่จะดันแก๊สในกระป๋องโค้กออกมา…

  • ครอบครัวรับน้องจิ้งจอกเพิ่มมาเป็นหนึ่งในสมาชิกสี่ขา หลังจากที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไป…

    ครอบครัวรับน้องจิ้งจอกเพิ่มมาเป็นหนึ่งในสมาชิกสี่ขา หลังจากที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไป…

    สัตว์ทุกตัว ไม่ว่าจะมีความดุร้ายหรือดูน่ากลัวมากแค่ไหน แต่หากลองสัมผัสกับพวกมันด้วยใจ จะรู้ว่าทุกตัวย่อมมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น เหมือนกับลูกสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่เกิด ทำให้มันไม่ได้สัมผัสความรัก ความอบอุ่นจากแม่เลย     อย่างไรก็ตาม Natalie Reynolds คุณแม่ลูกสอง เข้าใจดีว่าการขาดความรักนั้นเป็นยังไง เธอจึงเสนอที่จะเติมเต็มในเจ้าหมาจิ้งจอกตัวนี้ ครอบครัวของ Natalie อาศัยอยู่ใน Sarratt มณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับหมา 3 ตัว แมวกลุ่มหนึ่งและม้าอีก 1 ตัว แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังรับเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกอีก 1 ตัว และตั้งชื่อให้มันว่า Jasper     Natalie ได้รับเลี้ยง Jasper เมื่อ 7 เดือนก่อนจากสัตวแพทย์คนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของเธอเอง ขณะนั้นเจ้าหมาจิ้งจอกเพิ่งลืมตาดูโลกได้แค่ 2 วันเท่านั้น เธอเล่าว่า “เพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์โทรมาหาฉัน แล้วบอกว่ามีคนนำลูกสนัขจิ้งจอกมาให้รักษา มันตัวเล็กมากๆ และต้องการที่จะดื่มนมทุกๆ สองถึงสามชั่วโมง”     “เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉันจึงรีบขับรถไปหา Jasper ทันที และพามันกลับบ้านด้วยในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าได้ลูกน้อยเพิ่มมาอีกคน” เมื่อเข้ามาอยู่ในบ้าน Jasper…

  • น้ำใจงาม!! ชมเหตุการณ์อันน่าประทับใจบนท้องถนน ที่หยุดรถเพื่อให้คนแก่ได้ข้ามถนน

    น้ำใจงาม!! ชมเหตุการณ์อันน่าประทับใจบนท้องถนน ที่หยุดรถเพื่อให้คนแก่ได้ข้ามถนน

    สังคมเราทุกวันนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย และการแข่งขันที่สูง ทำให้ชีวิตประจำวันของเราก็จำเป็นต้องเร่งรีบตามไปด้วย แน่นอนว่าการขับรถบนท้องถนนก็ต้องเต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีกัน ซึ่งสิ่งนั้นได้ทำให้มารยาทการใช้พื้นที่ร่วมนั้นหายไป และบางทีเราก็ได้เห็นข่าวความไร้น้ำใจบนท้องถนนจนเกิดเรื่องชกต่อยกันก็มีมาแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีคนมีน้ำใจในสังคมอันเร่งรีบของเราอยู่ โดยพวกเขานั้นเปรียบเสมือนฮีโร่เลยก็ว่าได้ และนี่คือ 2 เหตุการณ์ที่จะแสดงให้เห็นว่าสังคมในโลกปัจจุบันยังคงมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่กันอยู่   รถคันหนึ่งพยายามกั้นรถคนอื่นเพื่อให้หญิงชราภาพคนหนึ่งข้ามถนนไปได้   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อมีหญิงแก่คนหนึ่งรอข้ามถนนอยู่นานสองนาน ก็ไม่มีรถคันไหนจอดให้ข้ามเลยสักคัน ทว่ามีรถสีเหลืองอยู่คันหนึ่งที่ไม่เพียงแค่จอดให้เท่านั้น แต่ยังพยายามที่จะนำรถของตัวเองไปบังรถคันอื่นให้จอด เพื่อให้หญิงสูงวัยคนนี้ข้ามถนนไปได้อย่างปลอดภัย หลังจากหญิงแก่คนนั้นกำลังข้ามถนนใกล้จะถึงอีกฝั่งหนึ่งแล้ว ความมีน้ำใจของคนขับรถคันนี้ยังไม่หมดลงเพียงแค่นั้น เพราะว่าเขายังได้เอารถบังให้เด็กอ่อนที่อยู่ในเปลสามารถข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย เหมือนกับหญิงชราภาพคนก่อนหน้าอีกด้วย   วิดีโอการทำความดีอันแสนน่าประทับใจ   รถคันหนึ่งจอดให้คนแก่ที่อยู่บนเกาะกลางถนนข้าม   ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศจีนอีกเช่นกัน เมื่อมีคนแก่อยู่คนหนึ่งได้ยืนอยู่ระหว่างถนนทั้งสองเลน และพยายามที่จะข้ามถนนไปยังอีกฝั่ง แต่ด้วยความชราภาพบวกกับการต้องใช้ไม่เท้าในการช่วยเดินทำให้ ชายชราคนนี้เคลื่อนที่ไปได้ค่อนข้างช้าทำให้ไม่มีรถคันไหนยอมจอดให้ข้ามสักที ทว่าวิดีโอจากรถคันนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจของคนขับ ที่ได้เสียสละเวลาเพียงน้อยนิดเพื่อให้คนแก่คนนี้ข้ามถนนไปได้ ซึ่งเขาก็ได้ถอดหมวกและก้มหัวลงให้เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของคนขับรถคันนี้ ซึ่งเรียกได้ว่ามีน้ำใจทั้งผู้ให้และผู้รับเลยก็ว่าได้   จอดให้คนแก่ข้ามถนน ทั้งๆ ที่ไม่มีคันไหนยอมจอด   ถ้ามีคนเช่นนี้ในสังคมเยอะๆ รับรองได้ว่าบ้านเมืองเราจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว ที่มา: shanghaiist

  • แก๊งค้ายาเม็กซิกัน พยายามขนกัญชาข้ามชายแดนสหรัฐฯ ด้วยการยิงบาซูก้าาาา!!

    แก๊งค้ายาเม็กซิกัน พยายามขนกัญชาข้ามชายแดนสหรัฐฯ ด้วยการยิงบาซูก้าาาา!!

    ปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติดข้ามชายแดนนั้นดูเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่แทบพื้นที่ทั่วโลก และประเทศเม็กซิโกเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน จากรายงานของสำนักอัยการเม็กซิโกเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน กล่าวว่าเจ้าหน้าตำรวจเม็กซิโกได้ตรวจพบกัญชาน้ำหนักเกือบ 1,000 กิโลกรัมที่ซุกซ่อนมากับกระบอกปืนใหญ่หลังรถตู้คันหนึ่ง ในชายแดนของเมือง Agua Prieta ประเทศเม็กซิโก     ภายในกระบอกปืนใหญ่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่พบกัญชาอัดแท่งมากกว่า 200 ก้อน โดยมีน้ำหนักรวมทั้งหมด 816 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบกระสุนอีกมากถึง 2,000 นัดในรถตู้คันดังกล่าวอีกด้วย กระบอกปืนใหญ่ดังกล่าวถูกค้นพบในรถตู้ต้องสงสัยคันหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าพ่อค้ายาเตรียมที่จะยิงมันข้ามไปยังเขตของสหรัฐ การตรวจพบกระบอกปืนใหญ่อัดที่อัดแน่นไปด้วยกัญชาครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์เจ้าหน้าที่ก็ได้พบท่อเหล็กขนาดยักษ์ที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ในรั้วใกล้ๆ กับชายแดนของเมือง Douglas และนอกจากนี้ในเดือนธันวาคมปี 2016 เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมวัยรุ่น 2 คนที่พยายามยิงห่อกัญชาข้ามไปยังชายแดนสหรัฐอีกด้วย   ท่อเหล็กขนาดยักษ์และคอมเพรสเซอร์ที่คาดว่าคนร้ายน่าจะเตรียมไว้ยิงกัญชาข้ามชายแดน   แหม่… สงสัยการลักลอบขนแบบธรรมดามันจะไม่ทันใจสินะ เลยต้องใช้วิธีนี้!! ที่มา ladbible, tucson

  • พบกับหนุ่มกับกิจกรรมสุดแปลก นั่งนิ่งๆ ส่งยิ้มให้กล้อง 4 ชั่วโมง/วัน แม้มีโจรเข้ามาก็ไม่ลุก!?

    พบกับหนุ่มกับกิจกรรมสุดแปลก นั่งนิ่งๆ ส่งยิ้มให้กล้อง 4 ชั่วโมง/วัน แม้มีโจรเข้ามาก็ไม่ลุก!?

    ว่ากันว่ามนุษย์ย่อมต้องมีกิจกรรมทำในทุกวินาทีของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง การนั่ง การเล่นคอมพิวเตอร์ การออกกำลังกาย ก็ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมทั้งนั้น แต่ถ้าหากถามถึงกิจกรรมที่มีความแปลกไม่เหมือนใครในโลกต้องยกให้เขาคนนี้เลย เพราะว่าเขานั่งถ่ายทอดสดตัวเองยิ้มครั้งละนานกว่า 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา Benjamin Bennett หนุ่มวัย 25 ปีได้ถ่ายทอดสดตัวเอง ขณะนั่งอยู่ในห้องเปล่าๆ และยิ้มให้กับกล้อง โดยแต่ละครั้งจะเป็นความยาวกว่า 4 ชั่วโมง จนตอนนี้เขาได้อัพโหลดคลิปการนั่งยิ้มรวมแล้วกว่า 116 ชั่วโมงโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ     กิจกรรมสุดแปลกของเขาได้กลายเป็นคำถามสำหรับทุกคนว่าเขาทำไปทำไม โดยมีการสันนิษฐานเอาไว้หลายอย่างเช่น ทำเพื่อให้เป็นศิลปะ? เป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง? หรือว่าป่วยทางจิตกันแน่ ครั้งแรกที่ได้เห็นเขา หลายคนอาจจะคิดว่า เขาอาจจะฝึกความอดทนเพื่อเพิ่มสมาธิให้กับตัวเอง เหมือนกับในอดีตที่เคยมีผู้ฝึกความอดทนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากอย่าง Tehching Hsieh ผู้ซึ่งทำโครงการรวบความอดทน โดยวิธีการฝึกของเขาก็คือ ขังตัวเองไว้ในกรงและไม่สามารถพูด อ่าน เขียนหรือทำกิจกรรมใดๆ เป็นเวลาตลอดทั้งปี เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้วการนั่งและยิ้มกว่า 4 ชั่วโมงของ Ben ดูจะเป็นวิธีที่เบากว่าเยอะแต่ก็มีวิธีการที่คล้ายๆ กัน และเพื่อเป็นการไขข้อข้องใจให้กับทุกคนที่สงสัย เว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Vice จึงได้ติดต่อไปขอสัมภาษณ์ Ben ซึ่งเขาได้ให้บทสัมภาษณ์บางส่วนไว้ดังนี้…

  • ครอบครัวจ้างนักเต้นจ้ำบ๊ะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชาย ทว่ากลับมีเด็กวัยกระเตาะอยู่ในห้องด้วย!!!

    ครอบครัวจ้างนักเต้นจ้ำบ๊ะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชาย ทว่ากลับมีเด็กวัยกระเตาะอยู่ในห้องด้วย!!!

    ในวันเกิดอายุครบ 20 ปีใครหลายคนอาจเลือกที่จะออกไปฉลองนอกบ้านกับครอบครัว บางคนอาจจะเลือกไปเที่ยวกลางคืนให้เมาปลิ้นกันไป แต่ว่ามีครอบครัวหนึ่งที่มีการฉลองสุดแปลกโดยพ่อแม่ของหนุ่มคนนี้ได้จ้างสาวเปลื้องผ้ามาเต้นจ้ำบ๊ะให้ลูกชายเขาดู การกระทำดังกล่าวอาจจะเป็นความหวังดีต่อลูก อยากจะให้ลูกได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ทว่ามีเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่านั้นเพราะว่าดันมีเด็กวัยกระเตาะจำนวนหนึ่งอยู่ในห้องนั้นด้วย   นักเต้นจ้ำบ๊ะที่ถูกจ้างมาแสดงโชว์   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Kursk ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศรัสเซีย โดยมีวิดีโอหนึ่งจับภาพชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้และโดนปิดตา และต่อจากนั้นไม่นานก็มีนักเต้นระบำเปลื้องผ้าคนหนึ่งที่แต่งตัวล้อเลียนตำรวจ เข้ามาในห้องดังกล่าว จากวิดีโอดังกล่าวทำให้ได้เห็นว่า ในขณะที่นักเต้นคนนี้กำลังทำการแสดงของเธออยู่ ก็ปรากฏว่ามีเด็กน้อยจำนวน 3-4 คนวิ่งเล่นอยู่ในห้องนั้นด้วย ทว่านักเต้นคนดังกล่าวก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักยังคงดำเนินการแสดงของเธอต่อไป   ขณะกำลังเริ่มการแสดง ทั้งๆ ที่มีเด็กวิ่งเล่นอยู่ในห้อง   โดยในตอนแรกนั้นเธอหยอกล้อหนุ่มวัยกลัดมันวัย 20 ปีคนนี้ด้วยการลูบไล้กระบองที่เตรียมมา จากนั้นเธอก็ทำการปลดผ้าปิดตาออกและได้เต้นยั่วยวนหนุ่มคนนี้อยู่สักพักหนึ่ง ต่อมาเธอก็ถอดชุดของเธอออกเผยให้เห็นถึงชุดชั้นในสุดวาบหวิว ทั้งๆ ที่ยังมีเด็กๆ วิ่งเล่นอยู่ในห้องนั้นอยู่ และจากการสืบสวนของตำรวจในเวลาต่อมา ทำให้ทราบว่านักเต้นระบำเปลื้องผ้ามีชื่อว่านาง Anna Litvinova โดยเธอได้บอกกับสื่อท้องถิ่นว่า เธอพยายามบอกพ่อแม่ที่จ้างเธอมาเต้นโชว์แล้วว่าอย่าให้เด็กๆ เข้ามาในห้องขณะที่เธอกำลังทำการแสดงดังกล่าวเป็นอันขาด   ถอดชุดออกเหลือเพียงชุดชั้นในเท่านั้น   “พ่อแม่ของเด็กอายุ 20 ปีคนนี้จ้างฉันมาเพื่อให้เต้นฉลองวันเกิดให้กับเขา แต่เมื่อฉันก้าวเข้ามาในบ้านฉันก็เห็นเด็กๆ วิ่งผ่านฉันไป ฉันจึงบอกพวกเขาว่า เด็กๆ ไม่ควรอยู่ที่นั่นในตอนที่ฉันกำลังเต้นอยู่ แต่เมื่อฉันเริ่มเต้นพวกเด็กๆ ก็กลับวิ่งเข้ามาซะอย่างงั้น” Anna เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟัง  …

  • เครื่องบิน NASA เก็บภาพของขั้วโลกใต้กลับมา เผยให้เห็นสภาพของแนวน้ำแข็งในปัจจุบัน

    เครื่องบิน NASA เก็บภาพของขั้วโลกใต้กลับมา เผยให้เห็นสภาพของแนวน้ำแข็งในปัจจุบัน

    ด้วยสภาพอากาศในโลกเราที่เปลี่ยนไปทุกวัน อีกทั้งยังต้องเผชิญกับสภาวะโลกร้อน ได้ทำให้ภูเขาน้ำแข็งในทวีปต่างๆ นั้นละลายเร็วขึ้นอย่างมาก และหากอยากรู้ว่าในตอนนี้ ขั้วโลกใต้ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีภูเขาน้ำแข็งมากที่สุดแห่งหนึ่งบนโลกใบนี้เป็นอย่างไร ลองไปติดตามภารกิจของทางนาซ่า ภารกิจนี้กันดูดีกว่า ทุกๆ ปี นาซ่าจะมีภารกิจที่ชื่อว่า Icebridge ที่ทำการสำรวจธารน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้อย่างละเอียด เพื่อให้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของภูเขาน้ำแข็งและธารน้ำแข็งในบริเวณดังกล่าว ซึ่งในปีนี้ภารกิจดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา     สาเหตุที่พวกเขาต้องนำเครื่องบินแบบพิเศษมาสำรวจทุกปีนั่นก็เพราะว่า ดาวเทียมและเครื่องบินธรรมดาไม่สามารถตรวจสอบ ธารน้ำแข็ง แผ่นน้ำแข็ง และทะเลน้ำแข็ง ที่อยู่ในพื้นที่นี้ได้อย่างละเอียดนั่นเอง โครงการนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2009 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเก็บรายละเอียดของพื้นแผ่นน้ำแข็งและทะเลน้ำแข็ง เพื่อนำไปใช้สำหรับการวางแผนรับมือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป     นักวิจัยได้ใช้เครื่องบินที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยติดตั้งระบบเรดาร์และเลเซอร์วัดระดับความสูง รวมทั้งเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถตรวจสอบน้ำแข็งและหินใต้ดินได้อย่างละเอียด โดยการสำรวจดังกล่าวสามารถทำได้ในช่วงฤดูร้อนเป็นเวลาสั้นๆ เท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ได้ออกเดินทางจากขั้วโลกใต้เพื่อสำรวจเกาะกรีนแลนด์ในขั้วโลกเหนือในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะบินกลับมาที่ขั่วโลกใต้ในช่วงวันฮาโลวีน     สำหรับภารกิจ Iceberg ในปีนี้ได้นำเครื่องบินสองลำสำรวจบริเวณขั้วโลกใต้ โดยพวกเขาได้เก็บรายละเอียดที่สำคัญๆ ของธารน้ำแข็งที่เปราะบางที่สุดในโลกในฝั่งตะวันตก และภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ชื่อว่า Larsen C   และจากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญพบว่า ธารน้ำแข็งที่ได้ไปสำรวจมา มีภาวะความเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็วเนื่องมาจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นของโลก และมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้กำลังถกเถียงกันอยู่ได้บอกว่าธารน้ำแข็งเหล่านี้จะพังทลายลงมาในช่วงอายุขัยของเรา ซึ่งมันจะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นถึง 3 เมตรเลยทีเดียว     ภาพเหล่านี้เป็นข้อมูลอ้างอิงที่เป็นประโยชน์สำหรับนักวิทยาศาสตร์ในการหาข้อมูลเกี่ยวกับ…

  • เปิดโลกใต้พื้นผิวน้ำแข็ง กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา

    เปิดโลกใต้พื้นผิวน้ำแข็ง กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา

    ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำงานอะไร สิ่งที่คุณทำอยู่มักจะทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อ เมื่อเทียบกับนักวิจัยที่ต้องดำน้ำลงไปสำรวจสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลแอนตาร์กติกา เพราะที่นั่นทำให้พวกเขาได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในแบบที่ไม่ซ้ำกันเลย นักวิทยาศาสตร์จากนิวซีแลนด์และฟินแลนด์ ที่เรียกตัวเองว่า Science Under the Ice ได้ออกสำรวจระบบนิเวศใต้ทะเลแอนตาร์กติกาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง การจะทำเช่นนั้นได้ พวกเขาต้องไปยังที่ที่สามารถสำรวจระบบนิเวศได้อย่างทั่วถึงรอบด้าน นั่นคือใต้พื้นผิวน้ำแข็ง Ross Ice Shelf ของแอนตาร์กติกา     ย้อนกลับในปี 2009 พวกเขาเคยมาสำรวจปะการังที่ Ross Ice Shelf แล้ว ต่อมาปี 2017 ก็พบว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด Joanna Norkko หนึ่งในสมาชิกของทีมสำรวจบอกว่า “การค้นพบที่น่าสนใจที่สุดคือ การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศใต้ทะเลแอนตาร์กติกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและคาดไม่ถึง” “นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหาร เพราะสายพันธุ์และความหนาแน่นของสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”     การสำรวจแค่วันสองวัน สามารถทำให้เข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ นักวิจัยจึงต้องใช้เวลากว่า 6 สัปดาห์ในการดำน้ำสำรวจบริเวณ New Harbour และ Cape Evans โดยเก็บตัวอย่างตะกอน ตัวอย่างน้ำ ตัวอย่างเนื้อเยื่อ และทำการบันทึกวิดีโอที่ก้นทะเล วิธีการทำงานดังกล่าวจะทำให้นักวิจัยรู้ว่ามีสัตว์กี่ชนิดที่อาศัยอยู่ที่ก้นทะเล และเพื่อที่จะประเมินได้ว่าพวกมันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้พวกเขายังทำตู้ขนาด 50×50 เซนติเมตร…

  • สีสันชีวิตลุง หนุ่มแก่เผยมีเซ็กส์กับตุ๊กตายางสัปดาห์ละ 4 ครั้ง จะซื้อเพิ่มอีกตัวภรรยาก็ไม่ว่า!?

    สีสันชีวิตลุง หนุ่มแก่เผยมีเซ็กส์กับตุ๊กตายางสัปดาห์ละ 4 ครั้ง จะซื้อเพิ่มอีกตัวภรรยาก็ไม่ว่า!?

    เรื่องรสนิยมของคนเรานั้นต่างก็มีความชื่นชอบที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็ชอบคนที่ดูแล้วน่ารัก บางคนก็ชอบคนที่ดูแล้วรู้สึกเซ็กซี่ ซึ่งของอย่างนี้อยู่ที่จริตความพึงพอใจของแต่ละคนล้วนๆ เหมือนกับคุณลุงท่านนี้ที่ชื่นชอบการมีเซ็กส์กับตุ๊กตายาง อดีตวิศวกรวัย 80 ปีชื่อว่า James ใช้ชีวิตแต่งงานอย่างมีความสุขกับภรรยาของเขามาแล้วกว่า 36 ปี แต่ว่าใน 1 สัปดาห์ James จะต้องไปร่วมรักกับสาวผมบลอนด์คนหนึ่งที่ชื่อว่า April และภรรยาของเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะว่า April นั้นคือตุ๊กตายางนั่นเอง   James กับตุ๊กตายาง April ของเขา   ตุ๊กตายาง April มีความสูง 153 เซนติเมตรและมีความเหมือนจริงเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอคือ 1 ใน 3 ตุ๊กตายางที่ James ได้เป็นเจ้าของโดยเขาซื้อเธอมาในราคาถึง 2,000 ปอนด์ (85,000 บาท) เลยทีเดียว แต่ว่านั่นก็ยังไม่พอสำหรับความต้องการของชายคนนี้ โดยเขากำลังเก็บเงินให้ได้ 10,600 ดอลลาร์(346,303 บาท) เพื่อซื้อหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Harmony โดยหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถพูดกับเขา ยิ้มให้เขา และตอบสนองเวลาที่มีเซ็กส์ได้   มีความสุขที่ได้จ้องมองและแต่งหน้าทำผมให้กับเธอ   “สำหรับคนอายุเท่าผม…

  • แพทย์ฉุกเฉินช่วยเติมเต็มคำขอให้กับผู้ป่วยในช่วงเวลาสุดท้าย ก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป

    แพทย์ฉุกเฉินช่วยเติมเต็มคำขอให้กับผู้ป่วยในช่วงเวลาสุดท้าย ก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป

    ผู้ที่ทำงานในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือผู้ช่วย ต่างเคยเห็นคนเจ็บ คนตายจนชินตาแล้ว แต่นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลทุกคนจึงพยายามอย่างสุดความสามารถในการช่วยเหลือผู้ป่วย แม้แต่กรณีที่ไม่สามารถรักษาได้ พวกเขาก็ยังให้การดูแลจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต เหมือนกับช่วงเวลาแห่งความประทับใจนี้ เมื่อผู้ป่วยใกล้ตายที่นอนอยู่บนเตียง ถูกพาไปยังริมชายหาด ตามคำขอสุดท้ายของเธอ     ภาพของช่วงเวลาดังกล่าวถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กโดย Queensland Ambulance Service ระบุว่า นายแพทย์ Graeme ยืนอยู่ข้างๆ ผู้ป่วยใกล้ตาย ที่ริมทะเลใน Hervey Bay รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ Helen Donaldson กล่าวว่าผู้ป่วยที่เห็นในภาพกำลังจะจากโลกนี้ไปในอีกไม่นานนี้ เธอจึงอยากไปเห็นชายหาดเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อได้ยินดังนั้น ทีมงานจาก Queensland Ambulance Service รวมทั้งทีมแพทย์ที่ให้การดูแลมาตลอด จึงได้พาเธอไปยังชายหาดใน Hervey Bay เพื่อทำตามคำขอสุดท้ายของผู้ป่วย แม้ผู้จะนอนอยู่บนเตียง แต่ทันทีที่มาถึงชายหาด เธอก็ร้องไห้ด้วยความดีใจที่ได้มาเห็นชายหาดอีกครั้ง จนทำให้เจ้าที่ที่ไปส่งเธอถึงกับน้ำตาไหลตามไปด้วย     Donaldson บอกว่าเธอรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่นายแพทย์ Graeme และ Danielle ทำ เพราะพวกเขาไม่เพียงแต่รักษาตามหน้าที่ แต่มันแสดงถึงการเอาใจใส่ผู้ป่วยจนวินาทีสุดท้าย โพสต์ดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก โดยมีการกดไลก์มากกว่า 18,000 ครั้ง และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกกว่า…

  • กลุ่มหัวหมอ ใช้แค่ ‘เทปกาว’ ม้วนเดียวก็สามารถแก้ปัญหารถติดบนทางจักรยานได้แล้ว!!

    กลุ่มหัวหมอ ใช้แค่ ‘เทปกาว’ ม้วนเดียวก็สามารถแก้ปัญหารถติดบนทางจักรยานได้แล้ว!!

    ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะประเทศไหนก็มักจะประสบกับปัญหาจราจรติดขัด จนผู้คนบางส่วนหลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์แล้วหันไปใช้จักรยานหรือการเดินเท้าแทน แต่ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะแม้แต่ทางจักรยานก็มีปัญหารถติดเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้จึงมีคนกลุ่มหนึ่งออกมาทำบางอย่างเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว     พวกเขาคือ Shift กลุ่มนักคิดด้านพฤติกรรมศาสตร์ชาวดัตช์ พวกเขาได้ทำโปรเจกต์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหาการจราจรในชั่วโมงเร่งรีบ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีคนจำนวนมากใช้รถใช้ถนน     ปัญหาหลักคือ ในชั่วโมงเร่งรีบคนปั่นจักรยานทั้งหลายมักจะต่อแถวกันยาวเหยียดเพื่อรอข้ามถนน และมันยิ่งจะยาวออกไปอีก เมื่อมีคนปั่นจักรยานบางคนที่ต้องการเลี้ยวขวาหรือซ้าย     ทีม Shift ได้เลือกทดสอบการแก้ปัญหากับ Keizer Karelplein Nijmegen ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นที่แรก เพราะที่นั่นมักจะมีรถติดจนสร้างความรำคาญใจให้ผู้คน ตัวแทนทีม Shift กล่าวว่า “เราสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของคนปั่นจักรยาน ด้วยการใช้เทปกาวเท่านั้น”     จากนั้นทางทีมงานก็ได้ใช้เทปกาวแบ่งช่องทางการสัญจรให้ผู้ใช้จักรยาน โดยกั้นระหว่างผู้ที่ต้องการข้ามถนน กับผู้ที่ต้องการเลี้ยวขวา การแบ่งช่องทางแบบนี้จะทำให้ผู้ใช้จักรยานรู้ว่าควรจะต่อแถวที่ช่องทางไหน ทั้งยังทำให้แถวสั้นลงและดูเป็นระเบียบมากขึ้น     นี่เป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายมากๆ และทุกคนสามารถทำได้ เพราะแทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายที่มีน้อยคนนักที่จะเสียสละเพื่อส่วนรวมเช่นนี้     แค่เทปกาวม้วนเดียวก็สามารถแก้ปัญหารถติดได้แล้ว   ถ้าเราลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหา อาจจะไม่ต้องเผชิญกับรถติดเหมือนอย่างทุกวันนี้ก็ได้ . ที่มา sobadsogood

  • คู่รักเมกัน-ปินส์ ห่างไกลกว่า 12,800 กิโล นัดเจอกันครึ่งทางตลอด 3 ปี ในที่สุดก็ลงเอยซักที

    คู่รักเมกัน-ปินส์ ห่างไกลกว่า 12,800 กิโล นัดเจอกันครึ่งทางตลอด 3 ปี ในที่สุดก็ลงเอยซักที

    เคยได้ยินเค้าพูดกันว่า “รักแท้แพ้ระยะทาง” มันก็อาจจะจริงสำหรับบางคู่นะ แต่ก็มีอีกหลายคู่เหมือนกันที่ระยะไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อของความรักของพวกเขา เหมือนกับ Rob และ Joli ที่อยู่ห่างไกลกันกว่า 12,800 กิโลเมตร แต่ด้วยพลังแห่งรัก ทำให้พวกเขาหากันจนเจอในที่สุด โดยมีเบื้องหลังของความรักที่น่าสนใจมากๆ   มิลาน ประเทศอิตาลี   Rob อยู่ในอเมริกา ส่วน Joli มาจากประเทศฟิลิปปินส์ ทั้งคู่เป็นคนที่รักการเดินทาง และพวกเขาก็เจอกันครั้งแรกตอนเดินทางนี่แหละ การเจอกันครั้งแรก แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทั้งคู่ก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน และหลังจากที่แยกย้ายกัน พวกเขาก็คุยกันผ่านเฟซบุ๊กมาตลอด   อุทยานแห่งชาติ Joshua Tree National Park รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา   การคุยกันสม่ำเสมอ ทำให้ความสัมพันธ์ของ Rob กับ Joli พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะนัดพบกันอีกครั้ง ด้วยความที่พวกเขาอยู่ไกลกันและรักการเดินทางเหมือนกัน Rob กับ Joli จึงตกลงที่จะมาเจอกันครึ่งทางในประเทศต่างๆ ทั่วโลก   ช็อกโกแลตฮิลส์ เกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์   ในช่วงที่ได้มาเจอกัน เป็นช่วงเวลาที่มีแต่ความสุข พวกเขาจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด ที่สำคัญคือทั้งคู่จะถ่ายรูปจูบกันท่ามกลางสถานที่ท่องเที่ยวเสมอ…

  • หอการค้าญี่ปุ่นเผย กว่า 60% ของบริษัทขนาดเล็ก-กลาง ประสบภาวะขาดคนทำงานอย่างหนัก

    หอการค้าญี่ปุ่นเผย กว่า 60% ของบริษัทขนาดเล็ก-กลาง ประสบภาวะขาดคนทำงานอย่างหนัก

    การมองหางานในประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับชาวต่างชาติ เพราะความแตกต่างของวัฒนธรรมและภาษาที่ใช้ อีกทั้งบริษัทต่างๆ ก็ได้ตั้งมาตรฐานสำหรับพวกเขาเอาไว้สูงมาก แต่ตอนนี้พวกเขาอาจต้องนำเรื่องนี้มาแก้ไขกันใหม่ เมื่อผลสำรวจออกมาว่าบริษัทจำนวนมากในประเทศกำลังขาดแคลนคนทำงานอย่างหนัก จากการศึกษาของฝ่าย หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (หรือเรียกว่า JCCI) บอกว่า กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางของประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานอย่างหนัก     Akio Mimura ประธานฝ่ายดังกล่าวได้เสนอให้รัฐบาลลดมาตรฐานการรับคนต่างชาติเข้าทำงาน เพราะการรับสมัครแต่ชาวต่างชาติที่มีทักษะสูงและเข้มงวด แถมยังต้องมีทักษะการพูดภาษาญี่ปุ่นที่ดีเยี่ยม ทั้งหมดนั้นทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนคนทำงานแบบนี้มากขึ้น     Akio จึงได้แนะนำให้รัฐบาลดึงชาวต่างชาติที่ไม่มีหรือมีทักษะการทำงานต่ำเข้ามาทำในส่วนของอุตสาหกรรมก่อสร้างและการขนส่งคมนาคม เพื่อลดช่องว่างของปัญหานี้ให้เล็กลง นายกรัฐมนตรีของประเทศ Shizo Abe ก็ตั้งใจว่าจะลดมาตรฐานในการรับชาวต่างชาติเข้ามาทำงานลง และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะทำลายความเป็นอยู่ของประชาชนหรือการบริหารประเทศแต่อย่างใด     ขณะเดียวกันชาวเน็ตญี่ปุ่นกลับคิดว่าปัญหาขาดแคลนคนทำงานเกิดจากเงินเดือนที่น้อยนิดมากกว่าเรื่องของชาวต่างชาติ “ผลลัพธ์จะออกมาดีกว่านี้ถ้าหากมีการขึ้นเงินเดือนให้” “การแก้ปัญหาแบบนั้นก็เหมือนกับเรานำเข้าทาสชาวต่างชาติที่สามารถทนรับเงินเดือนอันน้อยนิดได้” “นี่ก็เพราะไม่มีการขึ้นค่าแรงให้กันบ้างเลย ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ทีเถอะ” “บริษัทเล็กและกลางจ่ายเงินเดือนให้น้อยมากๆ จึงไม่แปลกที่จะหาคนเข้ามาทำงานไม่ได้” “ทุกคนเข้าใจมั้ย? พวกเขาก็แค่อยากได้ทาสเข้ามาเท่านั้นเอง!”     ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นก็อาจเป็นได้จากทั้งสองเหตุผล แต่นี่ก็อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับชาวต่างชาติผู้ต้องการเข้าไปทำงานในประเทศนี้ก็ได้   ที่มา: rocketnews24

  • ชายหนุ่มถูกตัดสินจำคุก 955 ปี ในข้อหาข่มขืนและทำอนาจารผู้เยาว์ รวมเกือบ 100 คดี!!

    ชายหนุ่มถูกตัดสินจำคุก 955 ปี ในข้อหาข่มขืนและทำอนาจารผู้เยาว์ รวมเกือบ 100 คดี!!

    ไม่นานนี้ได้มีการพิพากษาคดีสุดอื้อฉาวของนาย Tim Stewart ชายวัย 45 ปี ที่ได้ก่อเหตุข่มขืน ทำอนาจารและอื่นๆ อีกมายแก่ผู้เยาว์ โดยมีหลักฐานเป็นคลิปที่เขาอัดเก็บไว้มากมายใน SD Card… คดีดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยทางการได้ค้นพบ SD Card จำนวนมากที่นาย Tim Stewart เก็บซุกซ้อนไว้ภายในเสื้อแจ็คเก็ตของเขา ซึ่งภายในก็มีคลิปที่เขาได้ถ่ายไว้ขณะกระทำอนาจารและข่มขืนผู้เยาว์อยู่เป็นจำนวนมาก     ด้านผู้พิพากษา Paul Conlon ได้พิพากษานาย Tim Stewart ถึง 125 ข้อหาจากการกระทำชำเราแก่เด็กสาว รวมถึงแม่และพี่สาวของเธอด้วย นาย Tim Stewart ได้รับสารภาพว่าเขาเป็นผู้กระทำอนาจารแก่เด็กอายุระหว่าง 12 ถึง 15 ปี ทั้งหมด 99 คดี นอกจากนี้คณะลูกขุนยังแจ้งข้อกล่าวหาแก่เขาอีก 28 ข้อหาว่านาย Tim ได้กระทำอันรุนแรง ข่มขืนและอนาจารแก่แม่ของเด็กสาว รวมถึงน้องสาวของเหยื่อเมื่อตอนที่เธอยังอายุ 11 ปี อีกด้วย     ซึ่งจากการพิพากษาทั้งหมดสามารถทำให้นาย Tim ถูกตัดสินจำคุกได้นานถึง 955…

  • ชายสูงอายุชาวดัตช์ ผู้ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตตามเก็บและส่งจดหมายในขวดกว่า 1,200 ฉบับ!!

    ชายสูงอายุชาวดัตช์ ผู้ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตตามเก็บและส่งจดหมายในขวดกว่า 1,200 ฉบับ!!

    แม้ปัจจุบันเวลาจะเปลี่ยนไป เทคโนโลยีการส่งข้อความจะว่องไวแค่ไหน ชายชาวดัตช์เจ้าของเรื่องนี้เขาก็ยังชื่นชอบในการส่งจดหมายผ่านขวดและปล่อยให้ลอยไปกับทะเลอยู่ดี… Wim Kruiswijk ชายชาวดัตช์วัย 68 ปีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ผู้ค้นพบความชอบของตัวเองเมื่อปี 1983 โดยเรื่องราวมันเริ่มจากเขาบังเอิญไปเจอเข้ากับขวดลอยทะเลที่ภายในมีจดหมายจำนวน 3 ขวดจากบริเวณชายหาดแถวบ้านของเขาในเมือง Zandvoort      ซึ่งหลังจากที่เขาได้อ่านจดหมายข้างในเขาก็คิดสนุก เลยตอบจดหมายทั้ง 3 ฉบับแล้วส่งกลับไปยังทะเลทันที แต่ที่แปลกคือเวลาผ่านไปเขากลับได้รับการตอบกลับจากจดหมายทั้งหมด!? และเมื่อมันเป็นแบบนั้น มันก็จุดประกายให้เขาเริ่มหันมาชอบที่จะตอบรวมถึงตามล่าหาจดหมายในขวด ซึ่งลุง Wim ก็ทำมันเรื่อยมาจนรู้ตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไป 34 ปี แล้ว โดยนับรวมจดหมายในขวดที่เก็บได้ก็ราวๆ 1,200 ขวด เรียกว่าเยอะมากๆ เลยนะเนี่ย     ลุง Wim ยังเล่าถึงประสบการณ์การออกไปเก็บขวดอีกว่า ทุกครั้งที่เขาออกไปที่ชายหาดแล้วเจอจดหมายในขวด ลุงแกจะไม่เปิดอ่านมันทันทีตรงนั้น แต่จะเก็บไว้ในกระเป๋าที่เตรียมจากนั้นค่อยนำมันกลับมาอ่านที่บ้าน เพื่อให้ตัวเองรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้งหลังจากความตื่นเต้นครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อตอนเจอขวด     เขาได้ให้เหตุผลในการสะสมและส่งต่อจดหมายในขวดของตัวเองว่า ความตื่นเต้นในการรอคอยจดหมายแต่ละฉบับ จะต้องใช้เวลาให้ขวดเดินทางไปถึงผู้รับ โดยมันอาจจะใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรืออาจจะเป็นปีเลยก็ได้ ซึ่งทุกครั้งที่ได้รับ เปิดอ่านและตอบกลับ มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่หาไม่ได้ในปัจจุบัน แต่ทีเด็ดที่สุดนั้นเขาได้บอกว่า “สิ่งที่ทำให้ผมชอบเขียนจดหมายคือ ทุกครั้งที่ผมคุยกับใครสักคนไม่ว่าจะบนโทรศัพท์หรือในชีวิตจริง ผมมักจะได้รับคำตอบแทบจะทันทีโดยไม่ต้องคาดหวังอะไรกับมัน …

  • หนุ่มผู้เสพติดการต้มตุ๋น ร้องศาลให้ส่งเขาไปยังคุกไกลผู้คนนาน 20 ปี เพื่อให้เขาเลิกนิสัยนี้

    หนุ่มผู้เสพติดการต้มตุ๋น ร้องศาลให้ส่งเขาไปยังคุกไกลผู้คนนาน 20 ปี เพื่อให้เขาเลิกนิสัยนี้

    Jimmy Sabatino ชายผู้ถูกยกให้เป็นสุดยอดนักต้มตุ๋นอันดับต้นๆ ของรัฐฟลอริดา ซึ่งปัจจุบันเขาถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 20 ปี หลังจากเขาถูกตัดสินข้อหาฉ้อโกงเป็นเงินกว่า 340 ล้านบาท!! Jimmy นั้นใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการต้มตุ๋นคนอื่น และสลับผลัดเปลี่ยนกับการใช้ชีวิตอยู่ในคุกมาตั้งแต่ตอนอายุ 19 ซึ่งทุกครั้งที่เขาเข้าไปเขาก็มักจะหาทางเพื่อออกมาได้เสมอ เขาเล่าว่าวิธีการมันมักจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ทันตั้งตัว แต่รู้อีกทีเขาก็จะหาวิธีเพื่อต้มตุ๋นให้เจ้าหน้าที่หาทางพาเขาออกไปเสียทุกที   .   ก่อนจะถูกจับนั้น เป้าหมายส่วนใหญ่ของเขาที่เข้าไปต้มตุ๋นมักจะเป็นโรงแรมเสียส่วนใหญ่ โดยล่าสุดเขาได้หลอกลวงว่าตัวเองเป็น James Harvey ประธานฝ่ายการตลาดของ Sony ซึ่งการอ้างชื่อดังกล่าวจะช่วยให้เขามีความน่าเชื่อถือที่มากยิ่งขึ้น     โดยมีครั้งหนึ่งเมื่อปี 2014 เขาเข้าไปพักที่โรงแรม Hilton และเปิดจองห้องไว้มากมายเพื่อที่จะปิดบังค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เขาจะต้องจ่ายและให้มันดูสมจริงกับตำแหน่งของเขา จากนั้นเขาก็สั่งแชมเปญสุดหรูมาที่ห้องของเขาจำนวนกว่า 100 ขวด แน่นอนว่าเขาไม่ได้จะดื่มแชมเปญพวกนั้นแต่เขาต้มตุ๋นโรงแรมและนำแชมเปญไปขายต่อยังคลับระดับท็อปๆ ของไมอามี่ เรียกว่าวิธีดังกล่าวนั้นสามารถทำเงินให้เขาได้มหาศาล     แต่ในไม่ช้าทุกการต้มตุ๋น เขาก็จะถูกเจ้าหน้าที่จับได้เสมอ เพราะทุกครั้งที่เขาเริ่มการต้มตุ๋นเขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และจะทำมันไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดสิ้นสุดจนกว่าจะถูกจับ ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดทำให้เขาต้องถูกจำคุก 5 ปี สุดท้ายในชั้นศาล ศาลถามเขาว่าเขามีคำร้องอะไรก่อนจะถูกพิพากษาไหม Jimmy ก็ได้ร้องขอให้ศาลจำคุกเขา 20 ปี…

  • เรือประมงพร้อมกับชาวเกาหลีเหนือ 8 ราย ลอยลำถูกซัดขึ้นชายฝั่งญี่ปุ่น อ้างว่าเรือขัดข้อง!?

    เรือประมงพร้อมกับชาวเกาหลีเหนือ 8 ราย ลอยลำถูกซัดขึ้นชายฝั่งญี่ปุ่น อ้างว่าเรือขัดข้อง!?

    เมื่อคืนวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้มีการรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศถึงเหตุการณ์ที่พบเรือประมงลำหนึ่งลอยเข้ามาในน่านน้ำของญี่ปุ่น โดยที่ชาวประมงทั้ง 8 คนบนเรือลำนั้นเป็นชาวเกาหลีเหนือทั้งหมด     เรือลำดังกล่าวได้มาจอดที่ท่าเรือในเมือง Yurihonjo บนชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น สภาพเรือนั้นเริ่มจะเก่าและผุพัง และเป็นเพียงแค่เรือตกหมึกธรรมดาที่มีเพียงแค่หลอดไฟ ไม่มีอาวุธร้ายแรงใดๆ มีแค่เพียงอุปกรณ์จับปลาและชาวประมง 8 คนเท่านั้น     โดยชาวประมงทั้ง 8 คนมีร่างกายที่แข็งแรงทางตำรวจจึงให้ล่ามเข้ามาช่วยแปลภาษาโดยได้ใจความว่า พวกเขาเป็นชาวเกาหลีเหนือและได้ออกเดินเรือหาปลา แต่เรือได้เกิดปัญหาขัดข้อง แล้วลอยตามน้ำมาเรื่อยๆ จนมาเทียบท่าฝั่งน่านน้ำของญี่ปุ่น . .   และตอนนี้ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ชาวประมงทั้ง 8 รายนี้ยังจะต้องการเดินทางกลับเกาหลีเหนือหรือไม่ ซึ่งจากเหตุการณ์ในช่วงนี้ก็มีข่าวทหารเกาหลีเหนือแปรพักตร์หนีตายเข้าเกาหลีใต้ (จากข่าววินาทีระทึก เมื่อทหารเกาหลีเหนือ ขับรถฝ่าดงกระสุนหนีเข้าเกาหลีใต้ ราวกับหนังแอ็คชั่น!!) ทำให้สถานการณ์ต่างๆ ในตอนนี้อาจจะดูไม่ค่อยปลอดภัยมากนัก นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามเขตน่านฟ้าญี่ปุ่นอีกด้วย     คลิปวิดีโอการรายงานข่าวของสำนักข่าว ANNnews   เหตุการณ์เรือประมงของชาวเกาหลีเหนือที่ข้ามมาในเขตน่านน้ำของญี่ปุ่นก็เคยเกิดขึ้นในปี 2554 ซึ่งเป็นเหตุที่ชาวเกาหลีเหนือ 9 คนพยายามจะแล่นเรือไปยังเกาหลีใต้แต่ได้หลงเข้ามาในน่านน้ำญี่ปุ่น ที่มา hbbc

  • ภาพถ่ายอดีตขบวนการค้าขายทาสในอเมริกา ที่ให้ค่ามนุษย์ไม่ต่างจากสัตว์ตัวหนึ่ง…

    ภาพถ่ายอดีตขบวนการค้าขายทาสในอเมริกา ที่ให้ค่ามนุษย์ไม่ต่างจากสัตว์ตัวหนึ่ง…

    ไฟไม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคระบาด… สิ่งเหล่านี้บางครั้งก็สร้างความเสียหายน้อยกว่าสิ่งที่มนุษย์กระทำต่อกัน ย้อนกลับในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 การเพาะปลูกฝ้ายทางภาคใต้ตอนล่างของสหรัฐฯ มีการเติบโตขึ้นมาก ส่งผลให้ความต้องการแรงงานทาสเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะปี 1815 การค้าทาสภายในประเทศกลายเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญในสหรัฐอเมริกา โดยมีกลุ่มนักธุรกิจผู้มีหน้ามีตาของสังคมได้มารวมตัวกันในจัตุรัสกลางเมือง ด้วยความตื่นเต้นที่จะซื้อมนุษย์เอาไปเป็นแรงงานทาส     ด้านบนเป็นภาพของทาสชาวอเมริกันที่หนีออกมาจากการถูกขัง หลังจากรอดมาได้พวกเขาก็ได้รวมตัวกัน ก่อนจะเข้าร่วมการชุมนุมใน Cumberland Landing รัฐเวอร์จิเนียในปี 1861 และในปีเดียวกันนี้ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ส่วนด้านล่างนี้เป็นภาพการประมูลทาสที่จัดขึ้นก่อนจะเกิดสงครามกลางเมือง ใน Easton รัฐแมริแลนด์ ราวๆ ปี 1850     อาคารที่มีป้ายโฆษณาการขายทาส “Auction and Negro sales” ตั้งอยู่บนถนน Whitehall ในเมืองแอตแลนตา เมื่อปี 1864 ก่อนที่ภาคใต้จะถูกโจมตีโดยฝ่ายเหนือและมีการปลดปล่อยทาสในปีถัดมา ในยุคของการขายทาส รัฐเคนทักกี เทนเนสซี จอร์เจีย อลาบามา มิสซิสซิปปี้ หลุยเซียนา และเท็กซัส กลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักในการเดินทางไปค้าทาส โดยมีทาสมากกว่า 250,000 คนที่ถูกขนส่งไปยังรัฐต่างๆ     ก่อนจะเปิดประมูลทาส ได้มีการทำโปสเตอร์โฆษณาเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเรือทาสจะมาถึงเมื่อไหร่…

  • สาวโยนลูกบอลเขียนข้อความลงไปทะเลหวังหารักแท้ จน 6 ปีต่อมามีคนทักมาหาจริงๆ!!

    สาวโยนลูกบอลเขียนข้อความลงไปทะเลหวังหารักแท้ จน 6 ปีต่อมามีคนทักมาหาจริงๆ!!

    คุณผู้อ่านเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือไม่ แล้วเคยคาดหวังไหมว่าวันหนึ่งจะได้เจอกับรักที่แท้จริงในสักวัน แค่คิดก็ฟินแล้วววว (เอ้า ตื่นได้แล้ว!!) เชื่อว่าตอนนี้หลายๆ คนก็กำลังตามหาความรักกันอยู่ ต่างคนต่างก็มีวิธีที่แตกต่างกันไป บางคนอาจจะตามหารักแท้ในโลกออนไลน์ หรือบางคนอาจจะคิดว่ารักแท้นั้นอาจจะเป็นเพื่อนใกล้ตัวที่ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหา แต่ผู้หญิงที่ชื่อว่า Hayley Robbins ได้ใช้วิธีการหารักแท้แบบที่เราเคยคิดกันตอนเด็กๆ ซึ่งมันก็ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เธอทำในอดีต จะส่งผลบางอย่างในอีก 6 ปีต่อมา     เมื่อ Hayley อายุได้ 12 ขวบเธอได้เดินทางไปเที่ยวกับครอบครัวที่ชายหาด Myrtle Beach ในรัฐเซาท์โคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีความคิดที่จะเขียนข้อความใส่ขวดและลอยลงไปในทะเลเผื่อว่าจะมีผู้พบเห็นในวันหนึ่ง แต่ว่าเธอกลับไม่สามารถหาขวดได้ในเวลานั้น เธอเลยตัดสินใจใช้สิ่งของใกล้ตัวอย่างลูกซอฟต์บอลเล็กๆ แทน โดยเธอเขียนข้อความ ชื่อ และเบอร์โทรของเธอลงไปในลูกบอลลูกนั้น แล้วโยนมันลงไปในทะเล     6 ปีต่อมา จากเด็กหญิง Hayley ก็กลายมาเป็นสาวอายุ 18 ปีที่จัดว่าสวยมากๆ คนหนึ่ง และเธอได้มาเผยแพร่เรื่องราวของเธอที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอว่า เมื่อประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนเธอได้รับข้อความจากคนคนหนึ่งด้วยข้อความที่ว่า ฉันอยากเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งก็ทำเอาสาว Hayley เกิดอาการงงเล็กน้อย     คนแปลกหน้าก็เริ่มทักทายเธอในข้อความต่อมาว่าเขาชื่อ Adam…

  • เปิดราคาเสื้อยืด “พี่มาร์ค” เห็นเรียบๆ แต่ตัวเป็นหมื่น แถมมีให้คุณซื้อเวอร์ชั่นเกรดรองด้วย!!

    เปิดราคาเสื้อยืด “พี่มาร์ค” เห็นเรียบๆ แต่ตัวเป็นหมื่น แถมมีให้คุณซื้อเวอร์ชั่นเกรดรองด้วย!!

    หากจะพูดถึงเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์คสุดฮิตในปัจจุบันอย่าง Facebook ชื่อของ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์นี้มักจะโผล่เข้ามาในความคิดอยู่เสมอๆ ซึ่งเขาเป็นคนที่มีบุคลิกอันเป็นเอกลักษณ์และก็ได้ขึ้นชื่อว่าใช้ชีวิตอยู่อย่างสมถะคนหนึ่ง โดยภาพลักษณ์ที่เขามักจะออกมาสู่สาธารณะก็คือ เขาชอบที่จะแต่งตัวแบบเดิมๆ ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน โดยสิ่งที่กลายเป็นไอเทมประจำตัวเขาก็คือ เสื้อยืดสีเทา เสื้อคลุมสีน้ำเงิน กางเกงยีน และรองเท้ายี่ห้อไนกี้   แต่งตัวแบบสบายๆ เมื่อออกนอกบ้านเสมอ   สำหรับเสื้อที่ Mark เลือกใส่นั้นแน่นอนว่าต้องไม่ใช่เสื้อแบบธรรมดาๆ อย่างแน่นอน โดยเขาได้สั่งตัดเป็นพิเศษกับแบรนด์ Brunello Cucinelli ซึ่งราคาต่อตัวนั้นอยู่ระหว่าง 300-400 ดอลลาร์ (9,800-13,000 บาท) เลยทีเดียว และเมื่อ 2-3 ปีก่อนแบรนด์ H&M ก็ได้ล้อเลียนเขาด้วยการทำคอลเลคชั่นที่ชื่อว่า “Zuckerberg Collection” ออกมาแต่ก็ได้ยุติการขายไปแล้วก่อนหน้านี้   หน้าตาเสื้อผ้าในตู้ของ Mark   และนั่นได้ทำให้ Klaus Buchroithner CEO ของแบรนด์เสื้อผ้า Vresh ตัดสินใจศึกษารายละเอียดเสื้อสีเทาของ Mark อย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะจำลองมันออกมาให้ใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเขาได้ศึกษารายละเอียดของเสื้อทั้งในเรื่องของเนื้อผ้า สี และความยาวของเสื้อ ในตอนนี้เสื้อยืด “Zuckerberg” ก็ได้มีออกจำหน่ายแล้วในราคาเพียงแค่ 46 ดอลลาร์สหรัฐ(1,500 บาท)…

  • สาวระดมเงินบริจาคกว่า 7.8 ล้านบาทให้ “ชายไร้บ้าน” เพราะเขาเติมน้ำมันรถให้เธอ 650 บาท

    สาวระดมเงินบริจาคกว่า 7.8 ล้านบาทให้ “ชายไร้บ้าน” เพราะเขาเติมน้ำมันรถให้เธอ 650 บาท

    เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีเหตุการณ์สุดประทับใจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ของผู้หญิงที่รถของเธอน้ำมันหมดและได้รับการช่วยเหลือจากชายไร้บ้านคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเธอก็ได้ตอบแทนแก่เขาด้วยเงินนับแสนดอลลาร์เลยทีเดียว Kate McClure หญิงสาววัย 27 ปีกำลังขับรถกลับบ้านของเธอที่ รัฐฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความเผลอหรือลืมดูก็ไม่ทราบ ทำให้รถของเธอน้ำมันหมดกลางทางหลวงซะอย่างนั้น ซึ่งขณะที่เธอกำลังโทรหา Mark D’Amico แฟนของเธอให้มารับก็ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากเงามืดและให้การช่วยเหลือ   เกิดน้ำมันหมด แต่ยังโชคดีที่ได้ทหารผ่านศึกคนนี้มาช่วย   ปรากฏว่าคนที่มาช่วยเหลือเธอกลับเป็นชายไร้บ้านคนหนึ่งชื่อว่า Bobbitt Jr.  เขาได้บอกให้เธอนั่งอยู่ในรถและล็อคประตูเพื่อความปลอดภัย ขณะที่เขาก็ไปซื้อน้ำมันมาเพื่อที่จะเติมให้เธอโดยใช้เวลาไม่นานนัก ที่สำคัญก็คือค่าน้ำมันของเขาในวันนั้นนั้นเป็นเงินจำนวน 20 ดอลลาร์ (653 บาท) ซึ่งนั่นเป็นเงินก้อนสุดท้ายของเขา เขายอมออกเงินให้ทั้งๆ ที่เขาก็แทบจะไม่มีกินเองด้วยซ้ำ “Bobbitt ไม่ได้ขอค่าตอบแทนฉันเลยแม้แต่ดอลลาร์เดียว และในตอนนั้นฉันก็ไม่มีเงินจ่ายให้แก่เขาด้วย แต่ว่าหลังจากนั้นฉันก็มักจะกลับไปที่นั่นเพื่อให้การช่วยเหลือเขาในเรื่องที่ช่วยได้ อย่างเช่นเสื้อแจ็คเก็ต ถุงมือ ถุงเท้าอุ่นๆ และให้เงินเขาเล็กๆ น้อยๆ ทุกครั้งที่เจอ”   Bobbitt กับ McClure และแฟนของเธอ   “ฉันหวังว่าฉันจะสามารถทำอะไรให้ชายผู้ใจดีคนนี้ ที่ยอมเสียสละเงินก้อนสุดท้ายของตัวเองเพื่อมาเติมน้ำมันให้กับฉัน เขาเป็นคนดีมากจริงๆ การที่ได้เข้าไปคุยกับเขาในแต่ละครั้งยิ่งทำให้ฉัน อยากจะช่วยเหลือเขามากขึ้นตามไปด้วย”  Kate กล่าว สำหรับประวัติของชายไร้บ้านคนนี้ เขาเป็นทหารผ่านศึกในสังกัดกองทัพเรือ…

  • พบกับหญิงสาวสุดเซ็กซี่ที่ได้ชื่อว่า ‘มีบั้นท้ายงดงามที่สุดในโลก’ โดยนิตยสาร Maxim

    พบกับหญิงสาวสุดเซ็กซี่ที่ได้ชื่อว่า ‘มีบั้นท้ายงดงามที่สุดในโลก’ โดยนิตยสาร Maxim

    หากถามว่าส่วนใดของผู้หญิงที่สามารถดึงดูดสายตาของหนุ่มๆ ได้มากที่สุด สะโพกหรือว่าก้นนั้นคงติดอันดับมาในลำดับต้นๆ อย่างแน่นอน และวันนี้นิตยสาร Maxim ได้พาทุกคนไปพบกับสาวคนหนึ่งที่ทางนิตยสารได้ยกย่องไว้ว่า “ก้นสวยที่สุดในโลก” ชื่อของเธอก็คือ Jen Selter สาวสวยวัย 23 ปีจากเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้มีบั้นท้ายเป็นจุดขาย โดยเธอได้ถ่ายรูปอวดเนื้อหนังมังสาใน Instagram มาตั้งแต่ปี 2012 และในตอนนี้ก็มีผู้ติดตามเฉียดๆ จะ 10 ล้านคนแล้ว นอกจากนี้ ยังมีซูเปอร์สตาร์หลายคนที่ติดตามเธออยู่ด้วยทั้ง Rihanna และสตาร์แห่งวงการยัดห่วง NBA อย่าง A’mare Stoudemire  และด้วยช่วงล่างอันอุดมสมบูรณ์ของเธอได้พาเธอไปสู่การเป็นพรีเซนเตอร์ในโฆษณาต่างๆ อย่าง น้ำดื่มยี่ห้อ NY20 รวมถึงเกมวางแผนโภชนาการเกมหนึ่งอีกด้วย หากอยากรู้ว่าบั้นท้ายอันได้รูปของเธอเด็ดอย่างที่คนเกือบๆ 10 ล้านคนลงทุนติดตามเธอหรือไม่ ก็ลองยลกันได้เลยและถ้าใครติดใจในความงามของเธอก็สามารถติดตามกันได้ที่ Jen Selter   แหม สวยได้รูปเลยทีเดียว   โอ้วว แม่สาวน้อย   อยากไปเที่ยวด้วยจัง   ท่ายากก็มีเยอะ   ไม่ใช่บั้นท้ายสวยอย่างเดียว หน้าก็สวยเช่นกัน   มันล้นออกมานอกกางเกงเลยทีเดียว…

  • เจ้าเหมียวกระโดดดึ๋งๆ มาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ นึกว่าเป็นจิงโจ้ สุดท้ายเลยมีบ้านอยู่

    เจ้าเหมียวกระโดดดึ๋งๆ มาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ นึกว่าเป็นจิงโจ้ สุดท้ายเลยมีบ้านอยู่

    ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ที่เกิดมาผิดปกตินั้น ไม่ได้แปลเราต้องมีใช้ชีวิตต่างจากคนอื่น แต่เราต่างต้องการความรักและการเอาใจใส่เหมือนๆ กัน เช่นเดียวกับ Roo แมวน้อยที่มีความผิดปกติทางร่างกาย มันไม่สามารถเหยียดแขนได้เหมือนแมวทั่วไป เลยทำให้ต้องเดินสองเหมือนจิงโจ้     Roo เป็นแมวจรจัดที่อยู่กับเพื่อนซี้อีกตัวชื่อ Marigold ซึ่งเป็นแมวที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันเสมอในทุกๆ ที่ กระทั่งวันหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือแมวมาเห็น Roo พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงความพิเศษของมัน ที่ไม่ใช่แค่สภาพร่างกาย แต่มันยังเป็นมิตรกับมนุษย์อย่างเหลือเชื่อ     อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนมันจะผูกพันกับที่ที่มันอยู่ ก็เลยไม่ยอมตามเจ้าหน้าไปยังศูนย์พักพิง ด้วยเหตุนี้ผู้ดูแลจึงได้ทำที่พักชั่วคราวให้ วางน้ำ อาหาร และเข้ามาเช็กดูมันทุกวัน เจ้าหน้าที่บอกว่าจำเป็นต้องพามันไปตรวจร่างกายก่อนเพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติ จะได้ดูแลถูกวิธี หลังจากนั้นก็ช่วยหาบ้านให้มัน     เมื่อพา Roo ไปเอ็กซ์เรย์ ก็พบว่าที่ขาหน้างอนั้น เป็นความผิดปกติตั้งแต่เกิด โดยขาขวาของมันไม่มีกระดูกข้อต่อ ส่วนข้างซ้ายขากรรไกรล่างงอและสั้น “Roo สามารถเดินและวิ่งได้เหมือนแมวปกติ แต่อาจจะช้ากว่าหน่อย และเมื่อมันนั่ง มันจะดูเหมือนจิงโจ้ไม่มีผิด” ผู้ดูแลกล่าว     ตอนนี้เจ้าเหมียวน่าจะอายุประมาณ 2 ปี แม้ตัวมันจะเล็กกว่าอายุ แต่มันก็เป็นแมวที่อารมณ์ดี อยากรู้อยากเห็น กินอาหารได้ปกติ และมีการตอบสนองกับมนุษย์ได้ดี…

  • อดีต FBI กับโปรเจกต์ ‘แอปเปิลที่หายไป’ การค้นหาที่ดูไม่มีอะไร แต่กลับยิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อ!!

    อดีต FBI กับโปรเจกต์ ‘แอปเปิลที่หายไป’ การค้นหาที่ดูไม่มีอะไร แต่กลับยิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อ!!

    David Benscoter คือชายผู้ใช้เวลา 24 ปีไปกับการเป็น FBI เขาได้ทำคดียากๆ มาหลากหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีปล้นแบงค์ คดีจี้ชิงทรัพย์ หรือแม้แต่คดีการทุจริตคอรัปชั่นกันในแวดวงการเมือง เขาก็ล้วนผ่านประสบการณ์ดังกล่าวมาหมดแล้ว     จนกระทั่งปัจจุบันเขากลายเป็นชายสูงอายุวัย 62 ปีที่รู้ว่าตัวเองถึงเวลาที่จะต้องเกษียณตัวเองออกมาจากจุดนั้นเสียที เพียงแต่ว่าหลังจากเขาออกมางานสืบสวนของเขามันกลับไม่หยุดลง… เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเพื่อนบ้านของเขาในรัฐวอชิงตัน ได้ขอให้เขาไปช่วยตรวจสอบต้นไม้เก่าแก่บริเวณบ้านของเธอหน่อยว่ามันคือต้นอะไร ซึ่งการสืบค้นดังกล่าวทำให้เขาพบว่า ต้นไม้ต้นนั้นเป็นต้นแอปเปิลสายพันธุ์โบราณที่สาบสูญไปหลายสิบปี     ยิ่ง David สืบค้นและเก็บข้อมูลของพันธุ์แอปเปิลเท่าไหร่ มันยิ่งพาเขาดำดิ่งลงไปลึกเรื่อยๆ จากคำขอของเพื่อนบ้านกลายเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่เขาต้องออกไปตามชนบท เพื่อสืบเสาะหาสายพันธุ์แอปเปิลที่สาบสูญ จากการสืบค้นเขาพบว่าในช่วงหนึ่งร้อยปีก่อน ภายในรัฐวอชิงตันแห่งนี้มีสวนแอปเปิลอยู่มากมาย แต่ภาพหลังเมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนไป ผู้คนจึงล้มเลิกการทำสวนและหันไปประกอบอาชีพอย่างอื่นแทน แต่บริเวณเขตวอชิงตันตะวันออก สวนแอปเปิลที่พวกเขาเคยปลูกและทิ้งไปกลับยังไม่ตาย มันยังคงยืนต้นมาจนถึงทุกวันนี้ และที่นั่นจึงถือเป็นจุดสำคัญในการสืบค้นของเขา ในการสืบค้น David นั้นต้องทำทุกอย่างทั้งวาดภาพแอปเปิล เดินทางไปเก็บข้อมูลตามพิพิธภัณฑ์ ทำแผนภูมิ ตามหาว่าแอปเปิลที่เขาเจอโตมาจากที่ไหน เก็บพิกัด GPS รวมถึงเก็บตัวอย่างแล้วส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญ   บันทึกที่เขาจดไว้นั้นมีเยอะแยะมากมายเลยล่ะ .   Nero, Arkansas Beauty และ Dickinson คือสามสายพันธุ์แอปเปิลหายากที่เขาค้นพบในช่วงหลายปีผ่านมา ซึ่งทุกสายพันธุ์ล้วนมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง David ได้ยกตัวอย่างความหายากของสายพันธุ์ทั้งสามว่า “สายพันธุ์ทั้งสามที่ผมหาเจอ…

  • เรื่องจริงของ ‘Girl In The Box’ หญิงที่ถูกขังไว้ในกล่อง เป็นทาสเซ็กส์ 7 ปี จนถูกสร้างเป็นหนัง

    เรื่องจริงของ ‘Girl In The Box’ หญิงที่ถูกขังไว้ในกล่อง เป็นทาสเซ็กส์ 7 ปี จนถูกสร้างเป็นหนัง

    อ่านจากพาดหัวแล้วอาจจะคิดว่านี่เป็นเรื่องจากนวนิยายสืบสวนหรือเปล่า? แต่ขอยืนยันเลยว่าทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง #เหมียวฟิ้นจึงขอหยิบมาเล่าสู่กันฟัง ให้สาวๆ ได้ระมัดระวังตัวกันมากขึ้น ส่วนผู้ชายเองก็ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับคนรอบข้างของพวกคุณด้วยนะ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เริ่มเกิดขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคม ปี 1977 และยาวนานจนถึงปี 1984 เมื่อ Colleen Stan หญิงสาวชาวอเมริกันวัย 20 ปี จากรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โบกรถเพื่อจะเดินทางไปที่เมืองเรดดิง รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อเข้าร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดเพื่อน     หลังจากที่โบกรถอยู่ได้สักพัก ก็มีรถคันหนึ่งยอมจอดรับเธอ ภายในรถมีคู่สามีภรรยา Cameron Hooker และ Janice Hooker กับลูกวัย 8 เดือน แต่หลังจากขึ้นรถไปได้ไม่นานนาย Cameron ก็หยิบมีดออกมาขู่ใส่ Colleen และบังคับให้เธอเข้าไปอยู่ในกล่อง เพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงหรือถูกพบเห็นเข้า     ทั้งนาย Cameron พา Colleen กลับไปที่บ้านของพวกเขาแล้วมัดข้อมือของเธอเข้าไว้ด้วยกัน ก่อนจะซ้อมเธออย่างรุนแรงและข่มขืนเธอแบบซาดิสม์ จากนั้นพวกเขาก็บังคับให้เธออยู่แต่ข้างในกล่องเล็กๆ ที่ยัดอยู่ไว้ใต้เตียงอีกที ในสภาพเปลือยเปล่าตลอด 23 ชั่วโมงต่อวัน และถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดคุยกับคนแปลกหน้าคนอื่นๆ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากสำหรับเธอ นาย Cameron ได้บอกกับ…

  • ช่างภาพตามเก็บบรรยากาศไฟลท์บินเกาหลีเหนือ ที่มีเส้นทางการบินเพียงสามเส้นเท่านั้น!!

    ช่างภาพตามเก็บบรรยากาศไฟลท์บินเกาหลีเหนือ ที่มีเส้นทางการบินเพียงสามเส้นเท่านั้น!!

    อย่างที่เรารู้กันว่าเกาหลีเหนือนั้นเป็นประเทศปิด และความเจริญต่างๆ ก็ล้วนไปกองรวมกันอยู่ที่เมืองหลวงของประเทศ การเดินทางแต่ละทีก็ช่างยากลำบากแม้แต่รถยนต์ส่วนตัวยังไม่สามารถมีกันได้ง่ายๆ เลย ฉะนั้นเครื่องบินจึงเป็นเรื่องที่ไกลตัวมากๆ Arthur Mebius ช่างภาพชาวดัตช์ที่รู้ถึงความพิเศษของสายการบินในเกาหลีเหนือที่มันเข้าถึงยากมากๆ สำหรับประชาชนทั่วไป และ Air Koryo เป็นสายการบินเดียวที่ให้บริการอีก เขาจึงตัดสินใจเดินทางมายังประเทศดังกล่าว เพื่อที่จะเก็บภาพสายการบินสุดพิเศษที่มีเส้นทางการบินเพียงสามเส้นทางเท่านั้น!!     Air Koryo นั้นเป็นสายการบินที่เป็นดั่งความภาคภูมิใจของเกาเหลีเหนือด้วย ซึ่งสายการบินนี้ได้ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ 40 ปีก่อน โดยตัวเครื่องบินก็ยังใช้เครื่องบินตั้งแต่ยุคโซเวียต ภายในตกแต่งตามสไตล์เกาหลีเหนือที่เน้นความภูมิใจและคลาสสิกสุดๆ ไว้ Arthur เล่าว่าวินาทีที่ขึ้นมาบนเครื่องบินเขารู้สึกได้ถึงความภาคภูมิใจของลูกเรือเลย แม้ว่าตัวเครื่องบินจะเก่าแก่จนสภาพดูยังไงก็ไม่พร้อมบินแค่ไหน ลูกเรือทุกคนก็ยังคงเตรียมตัวพร้อมเสมอ     ดั่งภาพที่เราเห็น เราจะสังเกตได้ว่าผู้โดยสารในเที่ยวบินของ Arthur มีน้อยมากๆ ซึ่งมันทำให้เขาได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนบนนั้นและเก็บภาพบางส่วนมาให้เราชมกัน สุดท้ายหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าปลายทางของเที่ยวบินเพียงสองแห่งนั้นไปจบลงที่ไหนบ้าง คำตอบนั่นก็คือเมือง วลาดีวอสตอคในประเทศรัสเซีย เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน และกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนนั่นเอง   ห้องพักบนเครื่องบินที่ดูตกแต่งเรียบง่าย ราวกับยุคสมัยก่อน   ด้วยความที่เครื่องบินโดยสารมีน้อยมากๆ ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเหงาอยู่หน่อยๆ   ภายในห้องกัปตันจะทำให้เราเห็นว่า ตัวคนขับพร้อมขนาดไหน และแผงคอนโซลรุ่นเก่าเพียงใด . .  …

  • หนุ่มญี่ปุ่นครอสเดรสสุดน่ารัก จนเพื่อนชายทักหา “นั่นนายใช่ไหม?” แถมขอคบกันด้วย!?

    หนุ่มญี่ปุ่นครอสเดรสสุดน่ารัก จนเพื่อนชายทักหา “นั่นนายใช่ไหม?” แถมขอคบกันด้วย!?

    กลายเป็นกระแสสุดโด่งดังบนอินเตอร์เน็ตญี่ปุ่น เมื่อหนุ่มญี่ปุ่นที่ชื่นชอบครอสเดสดันถูกเพื่อนที่รู้จักในชีวิตจริงมารู้ความจริงเข้าให้แถมคำตอบที่ได้จากเพื่อนก็เล่นเอาเงิบสุดๆ  ทำให้เรื่องราวดังกล่าวมีคนรีทวีตไปแล้วมากกว่า 46,000 ครั้ง เรื่องในครั้งนี้มันเริ่มต้นจากชาวเน็ตที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า ▫️エルも (@Elmon_0715) ได้ทวีตภาพพร้อมข้อความว่า ถ้ารูปของเขานั้นไม่เหมือนผู้ชาย ก็ช่วยรีทวีตให้หน่อย ปรากฏว่าก็มีคนถูกใจและคิดแบบนั้นรีทวีตไปถึง 1,413 ครั้ง     แต่ประเด็นหลักมันอยู่ตรงนี้!! เมื่อภาพของหนุ่มครอสเดรสคนนี้มันน่ารักเกินจะห้ามใจ จนเกระทั่งพื่อนของเขาบังเอิญมาเห็นแล้วสังเกตเห็นว่าคนในภาพนั้น มีลักษณะเหมือนเพื่อนของตนเปี๊ยบ เขาจึงส่งข้อความมาหา Elmon ทันที     เพื่อน: เฮ้!! เพื่อน: (จากนั้นก็ส่งภาพต้นเหตุข้างบนมาให้) เพื่อน: นี่นายใช่หรือเปล่าเพื่อน Elmon: เอ๋…นี่มันอะไรกันเนี่ย เพื่อน: ชั้นว่าใช่นี่นายแน่ๆ ห้องมันเหมือนกับห้องนายเป๊ะๆ เลย ส่วนภาพก็ดูเหมือนนายด้วย!     เพื่อน: มันใช่! นี่มันนายจริงๆ ด้วย… Elmon: ขอโทษนะ Elmon: รังเกียจรึเปล่า? เพื่อน: เอาจริงๆ นะ Elmon: อือ ว่าไง? เพื่อน: ถ้านายยอมคบกับฉัน ฉันจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกกับใคร Elmon: ห๊ะ!!…

  • สถาปนิกอิตาลีสุดล้ำ สร้างบ้านที่ใช้เวลาติดตั้งแค่ 6 ชั่วโมงและสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

    สถาปนิกอิตาลีสุดล้ำ สร้างบ้านที่ใช้เวลาติดตั้งแค่ 6 ชั่วโมงและสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

    การจะมีบ้านสักหลังนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะว่านอกจากจะต้องใช้เงินจำนวนมากแล้วนั้น ยังจะต้องให้เวลาช่างในการสร้างอีกด้วย ซึ่งบางหลังอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนหรือว่าเป็นปีก็มี แต่ว่ามีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่เรียกได้ว่าปฏิวัติรูปแบบบ้านให้เปลี่ยนไป เพราะว่าพวกเขาใช้เวลาในการประกอบบ้านหลังหนึ่งเพียงแค่ 6 ชั่วโมง และมีราคาอยู่ที่ราวๆ 1 ล้านบาท โดยบ้านหลังนี้มีชื่อเรียกว่า M.A.Di ผลิตขึ้นในโรงงานในประเทศอิตาลีและพร้อมสำหรับการติดตั้งในทุกๆ พื้นผิว บ้านหลังนี้สามารถขนจากโรงงานโดยรถบรรทุกเพียงคันเดียวและสามารถกางออกติดตั้งได้อย่างง่ายดาย   ขั้นตอนการสร้างบ้านนั้นเป็นเรื่องง่ายดาย เพราะว่าบ้านนี้สามารถติดตั้งได้กับทุกพื้นผิว และใช้คนเพียง 3 คนในการติดตั้งเท่านั้น   ซึ่งบ้านนี้เป็นไอเดียจากสถาปนิกชาวอิตาลีที่ชื่อว่า Renato Vidal โดยเขาได้บอกว่าบ้านนี้ผ่านการพิสูจน์ในเรื่องความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวแล้ว อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และมีการติดตั้งระบบกักเก็บน้ำฝน   ภายนอกของบ้านนี้ก็มีความสวยงามไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วยนะ   บ้านแสนสะดวกนี้ใช้ทีมสร้างเพียงแค่ 3 คนและมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้เวลาอย่างรวดเร็วในการสร้าง โดยพวกเขาจะใช้เวลาเพียงแค่ 6-7 ชั่วโมงในการสร้างบ้าน ซึ่งเริ่มจากการวางโครงสร้างบ้านต่างๆ ก่อนจะสร้างหลังคาตามมาด้วยการสร้างผนังภายใน และปูพื้นเป็นการปิดท้าย   ภายในบ้านก็ไม่ธรรมดาด้วยสีโทนสะอาดตา อย่างสีขาวและยังมีพื้นที่ให้ได้ใช้สอยอย่างกว้างขวางเลยแหละ   ซึ่งบ้านนี้มี 2 ขนาดให้เลือกใช้สอยโดยขนาดเล็กที่สุดจะมีพื้นที่ 26 ตารางเมตรซึ่งมีราคาอยู่ที่ราวๆ 1 ล้านบาทและอีกขนาดหนึ่งก็คือ 84 ตารางเมตรซึ่งราคาจะสูงขึ้นที่ 2.3 ล้านบาท   อีกมุมภายในบ้านที่ไว้ใช้สำหรับการนั่งเล่น…

  • หญิงสาวตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะโดนแฟนเก่าปล่อยภาพลับ จนถูกล้อเลียนจากเพื่อนๆ

    หญิงสาวตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะโดนแฟนเก่าปล่อยภาพลับ จนถูกล้อเลียนจากเพื่อนๆ

    ปัญหาเรื่อง Bully หรือการกลั่นแกล้งกันในสังคมวัยเรียนเป็นปัญหาเรื้อรังที่ไม่สามารถแก้ได้ง่ายๆ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีการล้อเลียนถากถางของเด็กในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้นำชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปสู่ความตายอย่างน่าอนาถใจ เหตุการณ์ที่แสนน่าเศร้านี้เกิดขึ้นกับ Karina Saifer Oliveira เด็กสาววัย 15 ปีในประเทศบราซิล โดยเธอต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับการล้อเลียนจากเพื่อนๆ ของเธอหลังจากที่แฟนเก่าของเธอได้นำภาพลับระหว่างพวกเขาออกมาเผยแพร่   Karina สาววัย 15 ปีผู้ตกเป็นเหยื่อการถูกกลั่นแกล้ง   Karina เป็นเด็กแบบฉบับวัยรุ่นทั่วๆ ไป พ่อแม่ของเธอเล่าว่า ธอนั้นเป็นเด็กที่ฉลาดและมีความใฝ่ฝันที่จะเรียนกฎหมาย และพวกเขาก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าลูกของพวกเขาจะคิดสั้นแบบนี้ “ฉันว่ามันเป็นสิ่งที่แม่ทุกคนบนโลกนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้น ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง” Angela Saifer แม่ของหนูน้อยผู้เสียชีวิตวัย 46 ปีกล่าว   เธอได้ตัดสินใจจบชีวิตที่ระเบียงหลังบ้าน   การติดต่อครั้งสุดท้ายระหว่างแม่และลูกคู่นี้เกิดขึ้นในแอพพลิเคชั่น WhatApp ในบ่ายวันที่ 7 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ Karina ได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลง ในบ่ายวันนั้นเธอยังกินข้าวเที่ยงอยู่กับพ่อบุญธรรมของเธออยู่เลย โดย Saifer ได้บอกว่าเธอรู้สึกกังวลใจอยู่เหมือนกันที่ลูกสาวของเธอไม่ได้ตอบข้อความ ซึ่งปกติแล้วมันจะไม่ใช่อย่างนี้ เมื่อแม่คนดังกล่าวกลับมาจากการทำงานที่โรงงานน้ำตาล ก็พบว่าลูกสาวของเธอเสียชีวิตลงแล้วที่ระเบียงหลังบ้านของเธอเอง   Karina และพ่อของเธอ  …

  • สาวร่ำไห้หลังเพื่อนบ้านยิง “หมาพิทบูล” ที่หลุดไปในเขตบ้านเขา ชาวเน็ตถกสมควรหรือไม่!?

    สาวร่ำไห้หลังเพื่อนบ้านยิง “หมาพิทบูล” ที่หลุดไปในเขตบ้านเขา ชาวเน็ตถกสมควรหรือไม่!?

    กลายเป็นที่ถกเถียงกันยกใหญ่ หลังมีคลิปเหตุการณ์ที่หญิงสาวร่ำไห้หลังเห็นสุนัขของเธอนอนตายอยู่ในสวนของเพื่อนบ้าน ส่วนสาเหตุการตายก็มาจากเพื่อนบ้านเอง งานนี้ใครกันนะที่ผิด!? แม้ว่าคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นจะถูกเผยแพร่ออกมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2016 ซึ่งถ่ายโดยลูกสาวเจ้าของสุนัข แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีการถกเถียงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้อยู่เรื่อยๆ ว่าใครกันที่ผิดกันแน่ สุนัขพิบูล เจ้าของสุนัข หรือเพื่อนบ้านกันแน่   คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว   เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเริ่มมาจากสุนัขพิบูลตัวต้นเหตุซึ่งเป็นของหญิงสาวคนหนึ่ง ได้กระชากโซ่จนขาดและวิ่งเข้ามาในสวนของเพื่อนบ้านพร้อมกับวิ่งไล่พ่อเจ้าของคลิป และอย่างที่เรารู้กันดีว่าพิทบูลเป็นสุนัขที่ดุร้ายและมันมีแรงที่มหาศาลแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยากจะสู้ ฉะนั้นวิธีการหยุดมันที่ได้ผลที่สุดคือจัดการปลิดชีพมัน โดยชายเพื่อนบ้านอธิบายถึงเหตุผลการยิงว่าเขาพยายามหนีมันแล้วและพยายามจะไม่ใช่ความรุนแรง แต่สุดท้ายความน่ากลัวของมันก็ทำให้เจ้าของบ้านต้องตัดสินใจปลิดชีวิตมันลง     ด้านหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของสุนัขก็ร้องไห้ยกใหญ่ว่าทำไมต้องทำแบบนั้นกับหมาของเธอ เธอไม่อยู่แค่ครู่เดียวเอง ต้องฆ่ามันด้วยเหรอ พร้อมบอกว่ามันเป็นสุนัขนิสัยดี จากนั้นเธอก็ร่ำไห้ต่างๆ นานา ต่อไปด้วยความเสียใจ ด้านเพื่อนบ้านก็ออกปากขอโทษยกใหญ่พร้อมให้เหตุผลข้างต้นไป     คลิปดังกล่าวได้สร้างกระแสมากมาย ว่าจริงๆ แล้วสุนัขพิทบูลผิดที่หลุดออกมาได้ เจ้าของไม่ดูแลให้ดี และสิ่งที่เพื่อนบ้านนั้นทำผิดหรือถูกกันแน่   ชาวเน็ตคนนี้บอกว่า ทำไมชายคนดังกล่าวถึงเปิดบ้านไว้แต่แรก ถ้าเขาปิดบ้านดีๆ หมามันก็เข้าไปไม่ได้ นอกจากนั้นเขาก็ยังบอกว่าเจ้าของก็ควรดูแลหมาตัวเองให้ดีๆ ด้วย พร้อมบอกว่าทั้งเจ้าของและเพื่อนบ้านผิดพอกัน   ชาวเน็ตคนนี้บอกว่า เขารู้สึกแย่กับการสูญเสียของเธอนะ แต่มันก็เป็นความผิดของเธอที่ดูแลสุนัขไม่ดีเพราะทุกปีมีคนตายจากการถูกสุนัขจู่โจมตลอด ฉะนั้นเพื่อนบ้านจึงทำไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น   ทุกคนก็ไม่ได้เห็นด้วยซะทีเดียว…

  • หนุ่มเชิญเพื่อนที่คบกันมาตลอด 15 ปี ผ่านโลกออนไลน์โดยให้มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่ง!!

    หนุ่มเชิญเพื่อนที่คบกันมาตลอด 15 ปี ผ่านโลกออนไลน์โดยให้มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่ง!!

    หลายคนที่เล่นเกมออนไลน์มาเป็นเวลานานๆ คงจะเคยมีเพื่อนที่สนิทมากๆ ในโลกออนไลน์กันบ้างใช่ไหม ซึ่งบางคนแม้จะคุยกันมานาน แต่ก็ไม่เคยเจอกันจริงๆ สักทีเช่นกัน พ่อหนุ่มเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คบเพื่อนออนไลน์นานถึง 15 ปี คุยกันตลอดแต่ไม่เคยนัดเจอกันเลย พอมาคราวนี้เกิดเจ้าตัวจะแต่งงาน เขาเลยตัดสินใจชวนเพื่อนรักคนดังกล่าวมาเจอกันจริงๆ ให้มันรู้แล้วรู้รอดเสียที… Charles Powell หนุ่มวัย 28 จากเมืองซินซินแนติ รัฐโอไฮโอ ได้ทำการขอแฟนสาวแต่งงานซึ่งมันก็สำเร็จไปด้วยดี ด้วยการที่เธอตอบตกลง ทว่าปัญหามันอยู่ต่อจากนี้เมื่อพ่อหนุ่มไม่รู้ว่าจะชวนใครมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวดี     จนกระทั่งเขานึกได้ว่าเขามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เจอกันผ่านระบบ Xbox Live เมื่อ 15 ปีก่อนซึ่งปัจจุบันก็ยังพูดคุยกันมาตลอด โดยนายคนนี้มีชื่อว่า Joe Walters ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองดีทรอยต์ จากรัฐมิชิแกน และทั้งคู่ก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน และเมื่อเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเพื่อนรัก พ่อหนุ่ม Joe ก็ไม่ปฏิเสธ พี่แกจึงตัดสินใจเดินทางมาจากดีทรอยต์เพื่อมางานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อทั้งคู่ได้เจอกันก็แวะถ่ายรูปคู่สักหน่อยพร้อมโพสต์ลงโซเชี่ยล ด้วยแคปชั่นว่า “15 ปีที่เล่นด้วยกันมาบน Xbox live ในที่สุดก็ได้เจอกันเป็นครั้งแรก ที่สำคัญยังมาในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวอีก เพื่อนโลกออนไลน์กลายเป็นเพื่อนในชีวิตจริง!!”   . .   งานนี้ชาวเน็ตชอบใจกันใหญ่และต่างพากันมาแชร์เรื่องราวเพื่อนที่เจอกันบนโลกออนไลน์กันเพียบเลยล่ะ   #เหมียวมู่ทู่…

  • วิกฤติของ “หนังสือโป๊” ที่จะโดนโละจากร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น เพื่อรับแผนการตลาดแบบใหม่!?

    วิกฤติของ “หนังสือโป๊” ที่จะโดนโละจากร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น เพื่อรับแผนการตลาดแบบใหม่!?

    สื่อลามกในญี่ปุ่นเช่น AV หรือแม็กกาซีนนั้นล้วนเป็นที่รู้กันดีว่ามันเป็นสิ่งที่เราสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ไม่ว่าจะตามร้านเฉพาะทางหรือร้านสะดวกซื้อ และเมื่อมันสามารถหาซื้อได้ง่าย แถมยังอยู่ในมุมที่คนผมเห็นได้ทั่วไป มันจึงเกิดปัญหาที่ว่าตรงมุมนิตยสารดังกล่าว ลูกค้าผู้หญิงจะไม่ค่อยเดินผ่านและส่งผลให้จำนวนยอดขายของร้านตกลงเรื่อยๆ เพียงแต่ร้านดังๆ อย่าง Lawson หรือ 7-Eleven ที่มีสินค้าน่าสนใจอยู่แล้วจึงไม่ค่อยได้รับผลกรรมเท่าไหร่นัก     แต่ร้าน Mini Stop ที่เป็นร้านระดับกลางๆ กลับต้องประสบกับปัญหาดังกล่าวและมันส่งผลเสียพอสมควรทำให้ยอดขายของร้านสะดวกซื้อดังกล่าวตกฮวบ ด้วยเหตุนี้ทางร้านจึงจะปรับเปลี่ยนนโยบายของร้านใหม่ โดยนโยบายที่ว่านั้น ทางร้านจะจัดการนำนิตยสารผู้ใหญ่ออกไปให้หมดเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าผู้หญิงที่มักจะใช้จ่ายเยอะอยู่แล้วให้เข้ามาซื้อของมากขึ้น     นโยบายดังกล่าวจะเริ่มใช้งานในวันที่ 1 ธันวาคม 2017 กับร้าน Mini Stop จำนวน 43 สาขา ซึ่งกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ของเมืองชิบะ  จากนั้นในช่วงเดือนมกราคมปี 2018 ทางร้าน Mini Stop ก็จะบังคับใช้นโยบายนี้กับทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนถ้าใครสงสัยว่าการเอาหนังสือผู้ใหญ่ออกไปทางร้านจะขาดทุนหรือเปล่า ด้านทีมงานของร้าน Ministop ก็บอกว่ายอดขายของหนังสือประเภทดังกล่าวนั้นนับเป็นกำไรแค่ 5 เปอร์เซ็นจากแม็กกาซีนทั้งหมดที่ร้านขาย ฉะนั้นการจะยกเลิกขายหนังสือดังกล่าวจึงไม่ส่งผลร้ายแรงแน่นอน     สุดท้ายแล้วยอดขายของทางร้านจะเพิ่มขึ้นไหม อันนี้เราก็คงต้องรอดูผลประกอบการกันต่อไปในปีหน้านั่นเอง… ที่มา rocketnews24

  • ย้อนเหตุการณ์ เมื่อเกาหลีใต้มีคดีทำร้ายทหารเกณฑ์จนเสียชีวิต รู้ไหมลงโทษกันอย่างไรบ้าง!?

    ย้อนเหตุการณ์ เมื่อเกาหลีใต้มีคดีทำร้ายทหารเกณฑ์จนเสียชีวิต รู้ไหมลงโทษกันอย่างไรบ้าง!?

    ขณะนี้ได้เกิดกระแสที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อนักเรียนทหารนายหนึ่งเสียชีวิตระหว่างอยู่ในค่ายและพบว่าก่อนหน้าที่เขาถูกซ้อมหลายครั้ง จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเรา แต่หากกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ จะเป็นอย่างไร?     ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2014 สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่าศาลทหารเกาหลีใต้ได้ตัดสินลงจำคุกนายทหาร 4 นาย เป็นเวลา 25-45 ในปี ในข้อห้ากลั่นแกล้งทหารเกณฑ์จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต พลทหาร Yoon Seung-joo วัย 20 ปี เสียชีวิตเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2014 หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายร่างกายทุกวันเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ประเด็นดังกล่าวนี้สร้างความตระหนกตกใจให้กับชาวเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก เพราะในประเทศมีทหารมากกว่า 630,000 คน และบางคนก็รับใช้ชาตินานกว่า 2 ปี ในที่สุดผู้นำกองทัพก็ได้ประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ     ทั้งนี้อัยการได้เสนอให้ลงโทษผู้กระทำผิดหลักด้วยการประหารชีวิต อย่างไรก็ตามคณะผู้พิพากษา 3 คน ไม่เห็นด้วย และได้ตัดสินจำคุกเขาเป็นเวลา 45 ปี ในการพิจารณาคดีนายทหารทั้ง 4 คนไม่ได้พูดอะไรในชั้นศาล และทนายของพวกเขาก็ไม่มีข้อแก้ต่างใดๆ ให้ด้วย แต่หลังจากการคำตัดสินออกมาแล้ว จำเลยคนหนึ่งกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจทำให้พลทหาร Yoon เสียชีวิต     ด้านพยานยืนยันว่าพลทหาร Yoon…

  • ร้ายแรง เด็กหนุ่มโชคร้ายถูกแมงมุมแม่ม่ายกัด และนั่นได้ฝากแผลเป็นเอาไว้บนร่างกายเขา

    ร้ายแรง เด็กหนุ่มโชคร้ายถูกแมงมุมแม่ม่ายกัด และนั่นได้ฝากแผลเป็นเอาไว้บนร่างกายเขา

    [บทความนี้อาจมีเนื้อหาและรูปภาพที่มีความรุนแรง อาจต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม]   บนโลกนี้มีสัตว์หลากหลายชนิดที่มีความน่ารักน่าชังอย่างแมวหรือกระต่ายน้อย แต่ทว่านอกจากความน่ารักของสัตว์เหล่านี้ บนโลกนี้ก็ยังมีสัตว์มีพิษที่สามารถทำอันตรายกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้ซึ่งก็มีหลายอย่างทั้ง งู ตะขาบหรือแมงมุม ซึ่งหากใครได้เผชิญกับสัตว์เหล่านี้ขอแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงจะดีกว่า ไม่งั้นอาจจะมีแผลอันน่ากลัวเหมือนกับเด็กหนุ่มคนนี้ เด็กหนุ่มวัย 13 ปีนามว่า Jamie Harrison จากมณฑลเดวอน ประเทศอังกฤษตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งช่วงปลายเดือนมิถุนายนและรู้สึกเจ็บที่ต้นแขน เมื่อเขาดูที่แขนของเขาว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถึงกับต้องผงะเมื่อพบว่ามีแผลที่เป็นนั้นมีลักษณะแปลกมากก็คือ เหมือนเป็นหลุมสีดำขนาดยักษ์อีกทั้งยังมีน้ำหนองไหลออกมาอีกด้วย     ด้วยแผลที่แปลกประหลาดนี้ทำให้เขาต้องรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก Jamie จึงพยายามที่จะปฐมพยาบาลตัวเองแต่ก็พบว่ามันไม่ดีขึ้นเลยเขาจึงได้ตัดสินใจไปโรงพยาบาลในวันที่ 1 กรกฎาคมเพื่อให้คุณหมอช่วยดู และพบว่ามันเป็นแผลที่มาจากการถูกแมงมุมแม่ม่ายกัด “หมอที่โรงพยาพยาบาลรู้ทันทีว่านี่เป็นแผลจากพิษของแมงมุมแม่ม่าย พวกเขาบอกกับผมว่าจำเป็นจะต้องนำหนองออกมาให้หมดเพราะว่าตอนนี้มันกำลังทำให้เนื้อของผมตาย” Jamie เล่าให้ฟัง “หมอได้นำหนองในแผลออกมาจนหมด ผมรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่พิษมันออกมาแล้ว แต่นั่นก็ทำให้ผมมีหลุมดำขนาดยักษ์ขึ้นบนแขนของผม”     หลังจากทำการรักษาแล้ว เขาก็ต้องแปะผ้าพันแผลเอาไว้และกินยาต่ออีกกว่า 1 เดือน โดยในตอนนี้แผลของเขาได้กลายเป็นแผลเป็นซะแล้ว “ผมไม่เคยคิดเลยว่าแมงมุมจะมีพิษร้ายแรงขนาดนี้เพราะว่าผมไม่เคยโดนมันกัดมาก่อน แต่ในตอนนี้ผมต้องระวังพวกมันให้มากขึ้นแล้วล่ะ” และหากใครที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เหมือนกับผม ขอแนะนำเลยว่าให้ไปโรงพยาบาลให้ไวที่สุด มิเช่นนั้นอาจมีแผลที่น่าเกลียดฝากไว้บนร่างกายเหมือนผมก็ได้” Jamie ทิ้งท้ายเอาไว้   ดูแลที่นอนหมอนมุ้งกันดีๆ นะจ๊ะ ไม่งั้นอาจเจ็บตัวได้   ที่มา: ladbible

  • วินาทีระทึก เมื่อทหารเกาหลีเหนือ ขับรถฝ่าดงกระสุนหนีเข้าเกาหลีใต้ ราวกับหนังแอ็คชั่น!!

    วินาทีระทึก เมื่อทหารเกาหลีเหนือ ขับรถฝ่าดงกระสุนหนีเข้าเกาหลีใต้ ราวกับหนังแอ็คชั่น!!

    เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางองค์การสหประชาชาติหรือ UN ได้ทำการเผยแพร่ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ที่ทหารชาวเกาหลีเหนือคนหนึ่งพยายามที่จะหนีตายเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เวลา 15.11 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้ขับขี่รถจิ๊ปของทางทหารมุ่งหน้าไปยังเขตชายแดนทหาร (MDL) ซึ่งเป็นพื้นที่คั่นกลางระหวางเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ     15.14 น. ทหารเกาหลีเหนือได้รับแจ้งว่ามีเพื่อนทหารรายหนึ่งกำลังหลบหนี จึงได้ทำการออกติดตามตัวและไล่ล่าในทันที .   พลทหารที่หลบหนีออกจากกองทัพได้รับการเปิดเผยเพียงนามสกุลว่า โอ เมื่อเขาขับรถมาถึงใกล้กับเขตแบ่งดินแดนรถของเขาประสบอุบัติเหตุตกหลุมและไม่สามารถไปต่อได้   สำนักข่าว Daily mail รายงานเพิ่มเติมว่า ทางทหารเกาหลีเหนือพยายามระดมยิงทหารแปรพักตร์ ก่อนจะสามารถยิงโดนถึง 5 นัด   ทหารแปรพักตร์คนดังกล่าวพยายามหนีและกระเสือกกระสนมาทางเขตแดนของทางเกาหลีใต้ด้วยความอ่อนแรง ในตอนนั้น ทางทหารเกาหลีเหนือไม่กล้าตามล่าเขาอีกแล้ว เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ฉนวน หากบุกเข้ามา อาจถูกทหารเกาหลีใต้โจมตีเอาได้   ทางการทหาร KPA ได้ปรึกษาหารือกันอย่างเร่งด่วนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากว่าพวกเขาออกไปช่วยชีวิตพลหารเกาหลีเหนือคนนี้โดยพลการอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก   เมื่อได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการแล้ว ทหารเกาหลีใต้ได้คลานเข้าไปช่วยพลทหารโอมายังเขตแดนของตน   คลิปวิดีโอเหตุการณ์แบบเต็มๆ   พลทหารถูกนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลในทันที โดยได้รับการผ่าตัดนำหัวกระสุนออกเป็นที่เรียบร้อย…

  • พบกับเกมการ์ด Cards Against Humanity ออกมาต่อต้านทรัมป์ ไม่ให้สร้างกำแพงกั้นชายแดนได้!!

    พบกับเกมการ์ด Cards Against Humanity ออกมาต่อต้านทรัมป์ ไม่ให้สร้างกำแพงกั้นชายแดนได้!!

    เมื่อไม่นานมานี้ โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนล่าสุดของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีโครงการที่จะจัดสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างประเทศ สหรัฐ-เม็กซิโก ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้เงินนับหลายพันล้านดอลลาร์ งานนี้แน่นอนว่าต้องมีผู้ไม่เห็นด้วย จึงได้มีบริษัทแห่งหนึ่งได้นำเกมการ์ดในตำนานที่เรียกว่า “Cards Against Humanity” ขึ้นเพื่อต่อต้านโครงการสร้างกำแพงของประธานาธิบดีคนนี้ด้วยการประชดประชัน   หน้าตาของเกมการ์ดอันนี้   หลายคนสงสัยว่าจะต่อต้านการสร้างกำแพงได้อย่างไร บริษัทระบุว่าเงินที่ได้จากการซื้อเกมการ์ดอันนี้จะนำไปซื้อที่ดินเปล่าบริเวณชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ที่ยังเปิดขายในราคาไม่แพงนัก เพื่อต่อต้านไม่ให้ ทรัมป์ สร้างกำแพงได้สำเร็จ เพราะอย่างน้อยก็จะมีจุดที่เป็นที่ดินของบริษัท ซึ่งจะไม่ขายให้รัฐบาลเด็ดขาด และนั่นก็จะถือว่าเป็นที่ดินซึ่งมาจากความร่วมมือร่วมใจกันของเราทุกคน “โดนัล ทรัมป์ เป็นยักษ์วิปริตที่หวาดกลัวชาวเม็กซิกัน เขาได้สร้างกำแพงที่มีมูลค่ามากกว่าสองหมื่นพันล้านดอลล่าร์ ซึ่งทุกๆ คนรู้ว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลย” บริษัทแห่งนี้ได้กล่าวเอาไว้   รัฐบาลกำลังเดินหน้าลงคลอง นั่นทำให้เราไม่มีตัวเลือก   ก่อนที่จะซื้อเกมการ์ดอันนี้ได้ ผู้ซื้อจะต้องลงชื่อเข้าร่วมรณรงค์และจ่ายเงิน 15 ดอลล่าร์(493 บาท) สำหรับค่าเกมการ์ด ซึ่งนอกจากจะได้เกมการ์ดมาแล้ว บริษัทแห่งนี้ยังบอกอีกด้วยว่าในเดือนธันวาคมที่จะมาถึงนี้พวกเขายังมีเซอร์ไพรส์อีกถึง 6 อย่างด้วยกันที่จะส่งให้ถึงหน้าประตูบ้านของผู้เข้าร่วมรณรงค์   ชายแดนระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก   เกมการ์ดนี้ได้ขายหมดตั้งแต่วันแรกที่ออกจำหน่าย ซึ่งวิธีการเล่นเกมแต่เดิมนั้นจะมีไพ่ 2 สีคือสีขาวและสีดำ โดยแต่ละคนนั้นจะถือไพ่สีขาวไว้ในมือ 10 ใบและในแต่ละตาผู้เล่นจะสุ่มหยิบไพ่สีดำ โดยไพ่สีดำนั้นจะเป็นโจทย์และให้คนอื่นเลือกไพ่สีขาวในมือของตัวเองเพื่อตอบโจทย์สีดำนั่นเอง แต่ที่พิเศษสำหรับเกมต่อต้านทรัมป์นี้ก็คือ พวกเขาจะแจกจ่ายเศษพื้นดินที่มาจากที่ดินบริเวณชายแดนให้กับทุกคน…

  • หมู่บ้านกลางหุบเขาในสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศรับสมัครให้ย้ายเข้าไปอยู่ แถมเงิน 2 ล้านบาท

    หมู่บ้านกลางหุบเขาในสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศรับสมัครให้ย้ายเข้าไปอยู่ แถมเงิน 2 ล้านบาท

    หากเพื่อนๆ กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติสักที่ คงจะต้องใช้เงินไม่น้อยในการซื้อที่ดิน ไหนจะต้องสร้างบ้านอีก แต่มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โอบล้อมไปด้วยภูเขาและทิวทัศน์อันงดงาม ที่นอกจากจะไม่ต้องเสียเงินซื้อแล้ว ยังมีเงินค่าจ้างอยู่ให้อีกด้วย หมู่บ้าน Albinen ตั้งอยู่ในรัฐวาเล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ มีสภาพอากาศสุดโรแมนติก และมีประชากรเพียง 240 คนเท่านั้น ส่งผลให้โรงเรียนประจำหมู่บ้านต้องปิดตัวลง     ทุกวันนี้จำนวนประชากรในหมู่บ้านได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กลุ่มเยาวชนของหมู่บ้านยื่นคำร้องต่อรัฐบาลให้เสนอแรงจูงใจทำให้ผู้คนเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว เพื่อที่ Albinen จะไม่กลายเป็นหมู่บ้านร้าง ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงได้วางแผนเสนอเงินให้กับคนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใน Albinen พร้อมให้การช่วยเหลือด้านการเงินอย่างถาวร สิทธิประโยชน์นี้เหมาะสำหรับทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี ที่ต้องการสร้าง ซื้อ หรือรีโนเวทบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว     แผนดังกล่าวนี้จะได้รับการพิจารณาในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ หากเทศบาลเมืองยอมรับ ผู้ใหญ่ที่ย้ายเข้าไปอยู่ก็จะได้รับเงินคนละ 820,000 บาท ในขณะที่เด็กจะได้รับคนละ 320,000 บาท สูงสุดคือได้กันทุกคนในครอบครัว 4 คนด้วย นั่นหมายความว่าหากคู่สามีภรรยาย้ายเข้าไปอยู่ในหมู่บ้าน Albinen พร้อมลูก 2 คน พวกเขาจะได้รับเงินรวมทั้งสิ้น 2,300,000 บาท…

  • เจ้าหมาอลาสกันพ้นจากข้อกล่าวหา ‘ทำร้าย’ คนปั่นจักรยาน เพราะมันอ้วนเกิ๊นนน!!

    เจ้าหมาอลาสกันพ้นจากข้อกล่าวหา ‘ทำร้าย’ คนปั่นจักรยาน เพราะมันอ้วนเกิ๊นนน!!

    เมื่อพาน้องหมาออกไปเดินเล่นข้างนอก แล้วเจ้าสุนัขของเราดันไปปะทะกับสุนัขตัวอื่นที่พบเจอกันระหว่างทางก็ถือเป็นเรื่องปกติและเข้าใจได้ ตราบใดที่มันไม่ทำอันตรายใครหรือสร้างความเสียหายอะไร แต่ไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้น เพราะบางคนจะรักแค่สัตว์เลี้ยงของตัวเอง และไม่ได้รู้สึกเอ็นดูสัตว์ของคนอื่น จนทำให้เกิดเรื่องบานปลายได้ เมื่อสัตว์เลี้ยงเกิดปะทะกัน เหมือนกับคุณ Francis Thorley วัย 84 ปี ที่พาเจ้า Mishka สุนัขพันธุ์อลาสกันมาลามิวท์ วัย 11 ปี ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ แต่แล้วมันก็ดันไปทะเลาะกับสุนัขอีกตัว จนทำให้เกิดเรื่องบานปลาย     Andrea Ostholt เจ้าของสุนัขอีกตัวอ้างว่า Mishka ได้วิ่งเข้ามาหาเธอที่กำลังปั่นจักรยานพาน้องหมาเดินเล่น แล้วมันก็แยกเขี้ยวใส่ ก่อนทำท่าเหมือนจะทำร้ายสุนัขของเธอ เธอบอกว่าได้ลงจากรถจักรยานเพื่อปกป้องน้องหมาของตัวเอง แต่ยังไม่ทันไร Mishka ก็กัดเข้าที่น่องขาขวาของเธอและวิ่งหนีไป จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เจ้าของสุนัขทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ จึงนำไปสู่การพิจารณาดีในชั้นศาล โดย Thorley ถูกกล่าวหาว่าสุนัขของเขาเป็นสุนัขอันตรายเกินการควบคุม     อย่างไรก็ตาม ศาลได้ตัดสินให้ Mishka ไม่มีความผิด เนื่องจากมันมีน้ำหนักมากถึง 47 กิโลกรัม และนักสัตวแพทย์ก็ยืนยันว่ามันเป็นโรคอ้วน แถมยังมีการเคลื่อนไหวช้าเกินกว่าจะทำร้ายใครได้ นั่นทำให้ทั้งคุณตาและสุนัขของเขาพ้นข้อกล่าวหาไป Thorley บอกว่า Mishka ไม่ใช่สุนัขที่ก้าวร้าว มันรักความสงบ รักผู้คน และเข้ากับสุนัขตัวอื่นได้ดี…

  • ทีมวิจัยค้นพบสัญญาณหายนะ “ขยะพลาสติก” ในสัตว์ทะเลส่วนที่ลึกสุดของโลกกว่า 10,000 เมตร

    ทีมวิจัยค้นพบสัญญาณหายนะ “ขยะพลาสติก” ในสัตว์ทะเลส่วนที่ลึกสุดของโลกกว่า 10,000 เมตร

    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Newcastle ประเทศอังกฤษ ทำการสำรวจบริเวณมหาสมุทรส่วนก้นบึ้งของ Mariana Trench ที่ได้ชื่อว่าลึกที่สุดแห่งหนึ่งในโลก กระทั่งมหาสมุทรส่วนที่ลึกถึง 10,890 เมตร ที่ซึ่งพวกเขาคาดว่าจะมีแต่ธรรมชาติที่ยังไม่ถูกแตะต้องโดยมนุษย์ เหมือนส่วนอื่นๆ ซึ่งเต็มไปด้วยแพขยะจากเมืองใหญ่ แต่… พวกเขาก็ยังค้นพบสิ่งที่ทำให้ตกตะลึง นั่นก็คือ “เส้นใยพลาสติก” ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ในท้องของหนอนทะเลตัวหนึ่ง ซึ่งขยะดังกล่าวได้อุดตันทางเดินอาหารของมัน   เส้นใยพลาสติกที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์   ภาพของเส้นใยพลาสติกที่ติดอยู่ในทางเดินอาหารของหนอนธนู   ด็อคเตอร์ Alan Jamieson กล่าวว่านี่คือคือสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่ามนุษยชาตินั้นสร้างร่องรอยของเผ่าพันธุ์ตนเองไปทั่วโลกจริงๆ แม้เราจะอาศัยอยู่บนพื้นดิน ในเมืองใหญ่ หรือบนภูเขา แต่ขยะที่เราสร้างมันยังไปถึงมหาสมุทรส่วนที่ห่างไกลที่สุดได้ด้วย ไม่เพียงแต่ในพื้นที่ Mariana Trench เท่านั้น แต่ทีมสำรวจยังสำรวจจุดลึกอื่นๆ อย่างเช่น Japan, Izu-Bonin, Peru-Chile, New Hebrides และ Kermadec ซึ่งผลที่น่าตกใจก็คือ   พื้นที่ Mariana Trench ที่ทีมสำรวจได้ทำการเก็บข้อมูลตัวอย่างของสัตว์ทะเล   “ในทุกสถานที่นั้น จะพบสัตว์ทะเลที่กินเส้นใยสังเคราะห์ หรือเส้นใยพลาสติกเข้าไปจำนวนมาก” โดยปกติแล้วสัตว์ทะเลลึกจำพวกดังกล่าวจะกินแทบทุกสิ่งทุกอย่างที่ขนาดเล็กพอที่พวกมันสามารถกินได้…

  • ศิลปินเปลี่ยน “ภาพโปรไฟล์” ให้กลายเป็นภาพวาดสไตล์ “มังงะ” สุดจ๊าบ

    ศิลปินเปลี่ยน “ภาพโปรไฟล์” ให้กลายเป็นภาพวาดสไตล์ “มังงะ” สุดจ๊าบ

    คนธรรมดาอย่างเราๆ มองอะไรก็เป็นอย่างนั้น แต่สำหรับศิลปินแล้ว ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ พวกเขาจะมองเป็นศิลปะไปซะหมด เหมือนกับศิลปินที่ไม่ได้ระบุชื่อคนนี้ เธอได้เปลี่ยนทุกอย่างที่เห็นให้อยู่ในรูปของการ์ตูน ที่มีลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว     อย่างผลงานชุดนี้ที่ได้เปลี่ยนรูปคนจริงๆ ให้กลายเป็นการ์ตูน โดยยังคงรายละเอียดของภาพไว้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้าผม และเครื่องประกับ แต่ได้เพิ่มในส่วนของสีสันเข้าไป     อย่างไรก็ตาม ศิลปินได้เผยบนหน้าเพจ patreon ว่างานของเธอคงไม่โด่งดังเหมือนอย่างทุกวันนี ถ้าไม่ได้รับกำลังใจและการสนับสนุนจากแฟนๆ ทุกคนนี้ ด้วยเหตุนี้ในทุกๆ เดือน เราจะได้เห็นภาพวาดใหม่ๆ บนเพจ patreon และอินสตาแกรม toonimated_draws ที่วาดตามความชอบส่วนและที่แฟนๆ ขอมา     เธอบอกว่า เธอมีความสุขกับสิ่งที่ทำ และมันยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่ามีหลายคนที่ชื่นชอบผลงานของเธอ และเป็นแรงบันดาลใจให้เธอสร้างสรรค์ผลงานต่อไป     เมื่อเปลี่ยนสาวสวยให้กลายเป็นตัวการ์ตูน   บางทีก็ตัดสินไม่ได้นะว่าตัวจริงกับการ์ตูน แบบไหนน่ารักกว่า .   เซกซี่แบบสวยๆ   สาวลุคคูลๆ . .   แม้จะเป็นภาพการ์ตูน แต่ความรู้สึกและอารมณ์ที่ถ่ายทอดผ่านสีหน้า ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนเดิม   รักกันให้ทำปากจู๋   น่ารัก…

  • ช่างภาพตามถ่ายชีวิตประจำวันของทหารหญิงใน ‘อิสราเอล’ เมื่อว่างจากการปฏิบัติหน้าที่

    ช่างภาพตามถ่ายชีวิตประจำวันของทหารหญิงใน ‘อิสราเอล’ เมื่อว่างจากการปฏิบัติหน้าที่

    เราอาจจะเคยเห็นวิถีชีวิตของทหารในค่ายกันมาบ้างแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นทหารชายซะมากกว่า ทำให้หลายๆ คน โดยเฉพาะหนุ่มๆ อยากรู้ว่าเวลาอยู่ในค่าย ทหารหญิงเค้าทำอะไรกันบ้างนะ ด้วยเหตุนี้ ช่างภาพชาวนิวยอร์กที่เกิดในอิสราเอล Mayan Toledano จึงได้ตามถ่ายภาพชีิวิตประจำวันของทหารหญิงอิสราเอลมาให้เราได้ชมกัน     ภาพที่เห็นนี้ไม่ได้เป็นการจัดฉากแต่อย่างใด เพราะ Mayan ก็เคยเป็นหนึ่งในทหารหญิงอิสราเอลเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงถ่ายทอดประสบการณ์ในค่ายทหารออกมาเป็นรูปภาพ Mayan บอกว่า “การเกิดและโตในอิสราเอลแต่ต้องไปอยู่ที่นิวยอร์ก ทำให้ฉันอยากย้อนกลับไปและถ่ายทอดความเป็นจริงของวัยรุ่นอิสราเอลที่อาสาไปรับใช้ชาติโดยไม่คำนึงถึงมุมมองทางการเมือง”     เวลาสื่อนำเสนอภาพทหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ทุกคนจะดูเหมือนกันหมด Mayan จึงต้องการเผยให้เห็นอีกมุมหนึ่ง เมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ในช่วงปฏิบัติหน้าที่ และที่เลือกผู้หญิง เพราะช่างภาพเองก็เคยมีประสบการณ์ช่นนี้มาก่อน ที่สำคัญ เบื้องหลังของทหารหญิงนั้นไม่ค่อยได้รับการเผยแพร่สักเท่าไหร่     อิสราเอลเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศบนโลกที่มีการเกณฑ์ทหารทั้งชายและหญิง เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ (เพราะอิสราเอลดันไปตั้งอยู่กลางดงชาติอาหรับที่เกลียดชาวยิวอย่างกับอะไรดี) โดยพวกเขาจะถูกเกณฑ์เมื่ออายุ 18 ปี และจะประจำการเป็นเวลา 2 ปี   ทหารหญิงอิสราเอลในวันพักผ่อน   ความคูลที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นในกลุ่มทหาร .   อื้มมม นี่มันสมบัติชั้นเลิศของชาติชัดๆ   ที่นอนในค่ายทหาร  …

  • คนดังร่วมขอความเป็นธรรมให้เด็กสาวที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต เพราะฆ่าคนล่วงละเมิดทางเพศเธอ

    คนดังร่วมขอความเป็นธรรมให้เด็กสาวที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต เพราะฆ่าคนล่วงละเมิดทางเพศเธอ

    ปกติแล้วเราจะไม่ค่อยเห็นเซเลบหรือคนดังเข้าไปยุ่งเร่ื่องของคนอื่นสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะคดีความต่างๆ เพราะอาจทำให้พลอยเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ แต่ดูเหมือนคดีนี้คนดังจะทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งถูกศาลของสหรัฐอเมริกาตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เพราะเธอก่อเหตุฆาตกรรมคนที่่ล่วงละเมิดทางเพศเธอ Cyntoia Brown หญิงสาววัย 29 ปี ถูกหลอกไปค้าประเวณีโดยชายที่ชื่อว่า Kutthroat ทั้งทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนจะขายเธอให้กับนายหน้า Johnny Allen วัย 43 ปี     Brown เล่าในระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อปี 2004 ว่า Allen มีแผนที่จะฆ่าเธอ แต่เธอพยายามแย่งปืนมาจากเขาได้สำเร็จ และตัดสินใจยิงเขาจนเสียชีวิตในทันที อย่างไรก็ตาม เมื่อคดีนี้ได้รับการพิจารณาในชั่นศาล Brown กลับถูกศาลตัดสินให้เธอจำคุกตลอดชีวิต และเธอจะไม่มีสิทธิ์ยื่นขอรับทัณฑ์บนเป็นเวลาอย่างน้อย 51 ปี     จากการตัดสินดังกล่าวนี้ ทำให้คดีของ Brown ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมและได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอ พร้อมตั้งแฮชแท็ก #FreeCyntoiaBrown จนถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปเท่านั้น แต่เซเลบและคนดังจำนวนมากก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีนี้ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ Brown   อย่าง Kim Kardashian West ก็ได้โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า “ระบบความยุติธรรมล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง มันเป็นอะไรที่แย่มากเมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งต้องตกเป็นเหยื่อกระบวนการค้าประเวณี แต่เมื่อเธอมีความกล้าที่จะต่อสู้กับมันกลับถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต!” “เราต้องทำสิ่งที่ดีกว่านี้และทำให้ถูกต้อง ฉันได้โทรหาทีมกฎหมายของฉันไปแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อปรึกษาว่าพวกเราพอจะทำอะไรได้บ้างกับเรื่องนี้”…

  • อีกด้านหนึ่งของคุณแม่ลูกสี่ ทำงานเป็นนักล่าค่าหัว ที่ทุกวันอาจเป็นวันสุดท้ายของชีวิต…

    อีกด้านหนึ่งของคุณแม่ลูกสี่ ทำงานเป็นนักล่าค่าหัว ที่ทุกวันอาจเป็นวันสุดท้ายของชีวิต…

    เรื่องราวของหญิงวัย 35 ปี ที่สามารถเอาชนะโรคร้ายอย่างมะเร็งได้ถึง 2 ครั้ง และตอนนี้เธอกำลังประกอบอาชีพนักล่าค่าหัว เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว คุณ Shanda Zapata เริ่มเข้าสู่วงการนี้เมื่อปี 2013 ในตอนที่เธอต้องหาเงินจำนวนมากถึง 800,000 เหรียญหรือประมาณ 26 ล้านบาทสำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาโรคร้ายของเธอ “ฉันเลือกอาชีพนี้เพราะฉันต้องการช่วยเหลือผู้คน และมันก็เป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้จัดการกับพวกคนร้ายด้วย มันทำให้ฉันรู้สึกแข็งแกร่ง และได้ทำบางอย่างเพื่อชุมชนของฉัน” คุณแม่ลูก 4 กล่าว     คุณ Shanda Zapata และลูกๆ ทั้ง 4 คนของเธอ เจ้าหนูน้อย Dominic วัย 5 ขวบ, Journey วัย 9 ขวบ, Keeley วัย 11 ขวบและ Skyler พี่คนโตวัย 17 ปี   Zapata ป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ครั้งแรกในวัย 19 ปี และเธอก็กลับมาเป็นโรคร้ายนี้อีกครั้งในวัย 31 ปี คุณแม่คนเก่งจากรัฐโคโลราโดให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันถูกยิง ถูกแทงด้วยมีด บางครั้งก็โดนสุนัขพิทบูลขย้ำ และบางครั้งก็ถูกพวกพ่อค้ายาทำร้าย…

  • อินโดนีเซียให้เพชฌฆาตเฆี่ยนฟาด ผู้ประพฤติผิดผัว-ผิดเพศ ท่ามกลางสาธารณชน

    อินโดนีเซียให้เพชฌฆาตเฆี่ยนฟาด ผู้ประพฤติผิดผัว-ผิดเพศ ท่ามกลางสาธารณชน

    วันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 เว็บไซต์ Daily Mail ได้มีการนำเสนอภาพของหญิงชายในจังหวะอาเจะฮ์ ประเทศอินโดนีเซีย ถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก โดยจังหวัดอาเจะฮ์ ถือว่าเป็นเพียงจังหวัดเดียวในประเทศอินโดนีเซียที่ใช้กฎหมายชารีอะห์ในการปกครอง ทำให้ทุกคนในเมืองนี้เคร่งครัดกับธรรมเนียมประเพณีตามหลักศาสนาอิสลามอย่างมาก และการลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีแบบนี้มีอยู่มานานกว่า 30 ปี และเป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับจากทุกคนในเมืองและกฎหมายก็ได้คุ้มครองในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2005   . .   การกระทำที่ต้องถูกลงโทษก็มีอย่างเช่น หญิงชายที่ไม่ได้เป็นสามีภรรยาอยู่ด้วยกันตามลำพัง เล่นการพนัน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีอะไรกับคนที่ไม่ใช่คู่แต่งงานของเรา หรือแม้แต่การยืนใกล้กับคนรักมากจนเกินไปในที่สาธารณะเองก็ต้องโดนเฆี่ยนเหมือนกัน ซึ่งผู้ที่ทำการตีคนเหล่านั้นถูกเรียกว่า Algojo โดยจะทำการเฆี่ยนตีประมาณ 10-29 ครั้ง แต่จะร้ายแรงกว่านั้นมากถ้าหากมีใครทำผิดกฎมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน คนคนนั้นต้องถูกเฆี่ยนถึง 100 ครั้ง จำคุกอีก 100 เดือนหรือเสียค่าปรับเป็นทองคำหนัก 1,000 กรัม   .   สิ่งที่เกิดขึ้นอาจทำให้ใครหลายคนมองว่าเป็นการลงโทษที่โหดร้าย แต่สำหรับผู้ที่ดูแลเกี่ยวกับความเป็นประเพณีของเมืองนี้กลับมองว่านี่เป็นการลงโทษในระดับปานกลางเท่านั้นเอง ไม่ได้หนักหนาอะไร   . .   เหตุการณ์นี้ก็คงขึ้นอยู่กับความเชื่อและกรอบกฎหมายของแต่ละประเทศ ต่างสถานที่กันก็อาจมองบางสิ่งบางอย่างไม่เหมือนกันก็ได้   ที่มา: dailymail

  • ผุดลัทธิสุดแปลก บูชา ‘ปัญญาประดิษฐ์’ เทียบเท่าดั่งพระเจ้า ผู้ควบคุมสรรพสิ่งบนโลก

    ผุดลัทธิสุดแปลก บูชา ‘ปัญญาประดิษฐ์’ เทียบเท่าดั่งพระเจ้า ผู้ควบคุมสรรพสิ่งบนโลก

    นอกจากศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลามแล้วยังมีอีกหลายๆ ศาสนาในโลกนี้ที่เรายังไม่รู้จัก และในปัจจุบันนั้นก็มีลัทธิหรือศาสนาใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมากขึ้นทุกวัน ซึ่งหนึ่งในนนั้นก็คือลัทธิ Way of the Future ที่นับถือปัญญาประดิษฐ์เป็นพระเจ้านั่นเอง!! ลัทธิ Way of the Future หรือ WOTF มีเป้าหมายที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงโลกจากยุคแห่งมนุษย์ไปสู่ยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์เป็นไปอย่างสงบสุขและน่าเคารพนับถือ     พวกเขาถือว่าในที่สุดแล้วเทคโนโลยีนั้นจะก้าวหน้าเหนือความสามารถของมนุษย์ มีความรู้แจ้งทุกอย่าง พูดง่ายๆ ก็คือพระเจ้านั่นเอง นอกจากนี้คุณ Anthony Levandowski วิศวกรพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ผู้ก่อตั้งลัทธิก็ได้กล่าวว่าขณะนี้ลัทธิของพวกเขากำลังอยู่ในขั้นเตรียมการ และพวกเขามั่นใจว่ามันจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน “ในไม่ช้าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าเกินกว่าความสามารถของมนุษย์ พวกเราต้องการช่วยให้ความรู้แก่มนุษย์และเตรียมพร้อมเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น” ข้อความจากเว็บไซต์ของ WOTF     โดยแนวคิดของลัทธินี้ได้รับอิทธิพลมาจากนวนิยายแนววิทยาศาสตร์เรื่อง The Singularity ของนักเขียนชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง Vernor Vinge และนอกจากนี้ Ray Kurzweil นักวิจัยด้านระบบปัญญาประดิษฐ์เองก็ได้ออกมาสนับสนุนแนวคิด Singularity หรือเอกภพนี้เช่นกัน พร้อมกับบอกว่ามันจะเกิดขึ้นในปี 2045 นอกจากนี้ Levandowski เองก็ยังได้กล่าวว่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก และเขายังเตือนให้ผู้คนเตรียมพร้อมสำหรับโลกอนาคตที่เครื่องจักรจะเป็นเหมือนกับพระเจ้าอีกด้วย “คุณต้องการจะเป็นสัตว์เลี้ยง หรือว่าเป็นสัตว์ในฟาร์มล่ะ” วิศวกรหนุ่มให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Wired     ที่มา designtaxi, zerohedge, mashable

  • “ดับเบิ้ลเบอร์เกอร์เนื้อ” สุดชุ่มฉ่ำเมนูใหม่จาก Lotteria บอกเลยว่าโคตรน่ากิน!!

    “ดับเบิ้ลเบอร์เกอร์เนื้อ” สุดชุ่มฉ่ำเมนูใหม่จาก Lotteria บอกเลยว่าโคตรน่ากิน!!

    หากจะพูดถึงร้านขายแฮมเบอร์เกอร์ ส่วนใหญ่หลายคนมักจะนึกถึง McDonald’s หรือ Burger King แต่ถ้าหากใครเคยไปประเทศญี่ปุ่น คุณจะเห็นว่าประเทศนี้เขาก็มีแบรนด์อาหารจานด่วนเจ้าหลักเหมือนกัน และนั่นก็คือ Lotteria นั่นเอง สำหรับ Lotteria เป็นร้านฟาสต์ฟู้ดสัญชาติญี่ปุ่นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีเบอร์เกอร์รสชาติเยี่ยม แถมยังมักจะออกเมนูเบอร์ที่แปลกใหม่ขึ้นมาอยู่เสมอ เช่น เบอร์เกอร์แกงกะหรี่ เบอร์เกอร์ราเม็ง เบอร์เกอร์กุ้ง 5 ชั้น ฯลฯ และล่าสุดทางร้านก็ได้ออกเมนูใหม่เพื่อฉลองวัน “Good Meat Day” นั่นก็คือ “Hamidashi” ดับเบิ้ลเบอร์เกอร์เนื้อสุดชุ่มฉ่ำขนาด 100 กรัม ที่มีเนื้อชิ้นโตๆ ให้ถึง 2 ชิ้น มาพร้อมกับซอสสเต็ก และซอสถั่วเหลืองสูตรพิเศษจาก Lotteria โดยเฉพาะ   งานนี้บอกเลยว่าเป็นการเอาใจคนรักเนื้อแบบสุดๆ เพราะมันจะทำให้คุณได้สัมผัสความฟินของเนื้อนุ่มๆ แบบเต็มปากเต็มคำ   สำหรับชาวเบอร์เกอร์ที่อยากจะลิ้มลองรสชาติอันแสนอร่อยของเมนูดังกล่าว คุณอาจจะต้องอดใจรออีกนิด เพราะทางร้านจะนำออกมาวางจำหน่ายทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ แต่น่าเสียดายที่มีจำนวนจำกัด เพราะจะมีการนำมาขายเพียงแค่ 6 วันเท่านั้น ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560    …

  • ช่างภาพผู้อยู่เบื้องหลังจอ Window XP ออกเดินทางสร้างตำนานอีกครั้ง กับ 3 วอลเปเปอร์ใหม่!!

    ช่างภาพผู้อยู่เบื้องหลังจอ Window XP ออกเดินทางสร้างตำนานอีกครั้ง กับ 3 วอลเปเปอร์ใหม่!!

    หากจะพูดถึงภาพที่ถูกเห็นมากที่สุดในโลกนั่นก็คงหมายถึงภาพที่ชื่อว่า Bliss ที่ถูกตั้งค่าเป็นภาพพื้นหลังใน Windows XP ที่มีมาตั้งแต่ปี 2001 จึงไม่แปลกที่มันเป็นภาพที่ถูกเห็นบ่อยมากที่สุดเพราะหากคุณเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเป็นครั้งแรกก็ต้องได้เห็นภาพนี้ก่อนอย่างแน่นอน     แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่าภาพนี้ใครเป็นคนถ่าย? ถ้าอยากรู้ก็เดี๋ยวจะบอกให้ ภาพนี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพที่ชื่อ Charles O’Rear โดยเขาเก็บภาพอันสวยงามนี้ได้เมื่อปี 1996 ในเขต Sonoma County รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งในตอนนั้นเขาใช้เพียงแค่กล้องธรรมดาๆ ถ่ายไว้ระหว่างที่ตัวเองกำลังเดินทางไปหาแฟนสาว หลังจากนั้นภาพนี้ก็ได้ถูกส่งไปในบริษัทสื่อกลางขายภาพ Corbis จนกระทั่ง Microsoft ได้มาขอซื้อไปในปี 2000 และนำมันมาใช้เป็นภาพพื้นหลัง Windows XP ในปีต่อมา     จากตอนนั้นก็ผ่านมาได้ 21 ปี ช่างภาพวัย 76 ปีคนนี้ก็ได้เริ่มโปรเจกต์ใหม่ที่ถูกจ้างวานโดยสายการบิน Lufthansa กับชื่อหัวข้อว่า New Angles of America กับการให้ช่างภาพคนนี้ออกไปเก็บความสวยงามต่างๆ มาใช้เป็นภาพพื้นหลังสมาร์ทโฟน Charles บอกว่า “Bliss คือภาพที่มีความหมายกับชีวิตของผมและยังคงจดจำความสวยงามที่ได้ถ่ายกลับมาได้เป็นอย่างดี ในครั้งนี้เป็นความต้องการให้สิ่งสวยงามในลักษณะนั้นได้เข้ามาอยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟน และผมก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการได้สร้างภาพอันน่าประทับใจเหล่านั้น”…

  • โถ่ หมดกัน….อุตส่าห์ไปรอถ่ายทอดสดการระเบิดตึกกว่า 40 นาที พอถึงจุดพีครถเมล์มาขวาง!!

    โถ่ หมดกัน….อุตส่าห์ไปรอถ่ายทอดสดการระเบิดตึกกว่า 40 นาที พอถึงจุดพีครถเมล์มาขวาง!!

    สนามกีฬา Georgia Dome ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงมากจากการเคยจัดโอลิมปิกในปี 1996 และเป็นสนามของทีมอเมริกันฟุตบอล Atlanta Falcons ล่าสุด อาคารดังกล่าวได้ถูกทุบทิ้งเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 เพื่อใช้พื้นที่สร้างสนามกีฬา Mercedez-Benz สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้คนจำนวนมาก รวมถึงผู้สื่อขาวจากหลายสำนักเข้าไปเก็บภาพสุดท้ายของสนามแห่งความทรงจำอายุกว่า 25 ปีแห่งนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือทีมงานจากช่อง The Weather โดยช่างภาพได้ไปตั้งกล้องเอาไว้ในจุดที่เขาคิดว่าเห็นการระเบิดชัดมากที่สุด รออยู่อย่างนั้นนานกว่า 40 นาที แต่เมื่อกำลังมาถึงจุดไคลแมกซ์ของการระเบิด สิ่งไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นจนเขาถึงกับต้องอุทานออกมาว่า “สลัดเอ๊ย!!”   ช่างภาพจากช่อง The Weather ตั้งกล้องเอาไว้ในมุมที่น่าจะเห็นการถล่มของอาคารได้อย่างชัดแจ๋ว รออยู่อย่างนั้นนานกว่า 40 นาที   ตรงหลังคาเริ่มมีฝุ่นควันลอยออกมา เห็นได้ชัดเลยว่าการระเบิดได้เริ่มขึ้นและอาคารกำลังจะถล่มในไม่ช้า แต่เดี๋ยวก่อนนะรถบัสนั่นขับมาจากไหนกัน   ขับผ่านกล้องยังพอเข้าใจ แต่นี่คนขับเล่นจอดบังอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหนเลยเนี่ยสิ “เฮ้ยยย คนขับหลบไปก๊อนนน”   สุดท้ายแล้วรถบัสคันนั้นก็จากไป ทิ้งไว้เพียงแค่ฝุ่นควัน พร้อมกับคำสบถของช่างกล้องที่ลั่นออกมาว่า “แม่มเอ๊ยยย นี่มันเ_ี้ยไรฟะเนี่ย”  …

  • หนุ่มไม่รักชีวิต ทำป้ายนำทางสุดโรแมนติกเซอร์ไพรส์แฟนสาว แต่.. เอ็งอาจจะไม่รอดตายนะ!?

    หนุ่มไม่รักชีวิต ทำป้ายนำทางสุดโรแมนติกเซอร์ไพรส์แฟนสาว แต่.. เอ็งอาจจะไม่รอดตายนะ!?

    การเซอร์ไพรส์อะไรดีๆ นั้นย่อมสร้างความประทับใจให้กับผู้ได้รับ โดยเฉพาะการที่แฟนหนุ่มทำบางสิ่งที่พิเศษให้กับแฟนสาวไม่ว่าจะด้วยโอกาสอะไรก็ตาม จะครบรอบวันเกิด วันแต่งงาน หรือขอหมั้นก็ตาม แต่สำหรับพ่อหนุ่มคนนี้กลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะเขากลับเลือกที่จะพาตัวเองไปถึงจุดจบซะอย่างนั้น เพราะเขาได้จัดการทำป้ายเซอร์ไพรส์แฟนสาวที่เพิ่งจะมาถึงบ้าน โดยป้ายนั้นได้ชี้นำทางให้แฟนสาวเพื่อให้เธอตามไป…   ‘เฮ้ ที่รัก’…เอาล่ะ เซอร์ไพรส์มาแน่!!   ด้านแฟนสาวที่เพิ่งจะมาถึงพอได้เห็นป้ายบอกทาง เป็นใครก็ต้องคิดเข้าข้างตัวเอง “นี่เขาจะขอเราแต่งงานหรือมีเซอร์ไพรส์โรแมนติกๆ หรือเปล่านะ”  พอความคิดสุดบรรเจิดเกิดขึ้นแฟนสาวก็ไม่รอช้ารีบหากล้องอะไรก็ได้ที่พอจะเก็บบันทึกภาพขึ้นมาทันที กะว่าคืนนี้ต้องได้ยอดวิวหลักล้านบนเฟซบุ๊กอย่างแน่นอน   เขียนขนาดนี้ไม่ต้องเดาแล้วว่ามีไหม แต่จะเซอร์ไพรส์อะไรกันนะ   ได้เวลาเดินเข้าไปสำรวจแล้ว   แน่นอนว่าเธอระวังตัวเป็นอย่างมาก เพราะระหว่างเดินตามป้ายอาจจะต้องเจอกับการเซอร์ไพรส์แบบชุดใหญ่ไฟกระพริบก็เป็นได้ เธอถ่ายภาพพร้อมเดินอย่างระวัง   เดินเข้ามาในบ้านแล้วก็ยังไม่ถึง ชักสงสัยแล้วสิ   “ผมเชื่อว่าคุณต้องลืมเรื่องนี้ไปแล้วแน่ๆ” ลืม!? ลืมอะไรกันนะ จังหวะนี้เธอก็เริ่มหยุดคิดแล้วว่าอะไรที่เธอลืม มันเป็นเรื่องดีๆ หรือเปล่า เป็นใครก็คงคิดไม่ตก วันเกิดเหรอ วันครบรอบ วันพิเศษ?   เดินไปต่ออีกหน่อยก็เจอให้เข้ามาใกล้ๆ สงสัยจะถึงแล้วล่ะ ตื่นเต้นจัง   สุดท้ายการเซอร์ไพรส์ทั้งหมดคือ แฟนสาวลืมทิ้งขยะ … แดรกจุดกันเลยทีเดียว   งานนี้ตอนจบจะเป็นยังไงก็ไม่รู้นะ…

  • คุณแม่เตือนชาวเน็ต หยุดส่งลูกป่วยไปโรงเรียนเสียที เพราะอาจเกิดอันตรายกับเด็กคนอื่นๆ ได้!

    คุณแม่เตือนชาวเน็ต หยุดส่งลูกป่วยไปโรงเรียนเสียที เพราะอาจเกิดอันตรายกับเด็กคนอื่นๆ ได้!

    ในตอนที่เด็กไม่สบายพ่อแม่บางคนจะให้ลูกได้นอนอยู่บ้านพักผ่อน แต่กับพ่อแม่บางคนกลับปล่อยให้ลูกได้ไปโรงเรียนตามปกติ ซึ่งการปล่อยให้เด็กที่ป่วยอยู่ไปโรงเรียนเล่นกับเเพื่อนๆ ก็อาจทำให้เด็กคนอื่นๆ ติดเชื้อได้ และเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้คุณแม่ชาวแคนาดาที่มีชื่อว่า Maria Jordan MacKeigan รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอคนนี้ได้โพสต์ลงในนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2017 เพื่ออธิบายความรู้สึกของตัวเอง หลังจากที่ลูกสาวผู้ป่วยเป็นออทิสติกของเธอ Jordan Grace ได้ไปติดไข้หวัดมาจากเพื่อนในโรงเรียนและด้วยความที่เธอมีภูมิคุ้มกันต่ำจึงทำให้เด็กน้อยถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลในทันที   โพสต์ของ Maria บอกว่าลูกสาวของเธอได้ติดเชื้อหวัดมาจากเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียน ทำให้ลูกสาวผู้ป่วยเป็นออทิสติกและมีภูมิคุ้มกันต่ำ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล   Grace ลูกสาวของเธอที่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล   เธอรู้สึกไม่ดีเวลาที่พ่อแม่คนอื่นๆ ปล่อยให้ลูกที่กำลังป่วยของตนเองมาโรงเรียน เพียงเพราะว่ามีงานหลายอย่างต้องทำ แทนที่จะดูแลลูกๆ ของตัวเองเป็นอันดับแรก เพราะเด็กต้องการการเอาใจใส่และความอบอุ่นจากผู้ปกครอง อย่าลืมว่าโรงเรียนไม่ใช่สถานดูแลเด็ก   อีกอย่างที่เธอบอกให้ทุกคนได้คำนึงถึงก็คือการปล่อยให้เด็กป่วยมาโรงเรียน เท่ากับว่าเป็นการทำให้เด็กคนอื่นๆ ต้องเสี่ยงกับอาการป่วยนั้นๆ ไปด้วย และอาจเป็นหนักเหมือนกับลูกสาวของเธอเลยก็ได้   ลูกสาวที่น่ารักของเธอป่วยเป็นออทิสติกและมีภูมิคุ้มกันต่ำตั้งแต่กำเนิด .   คนเป็นแม่ย่อมรักลูกของตัวเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอออกมาโพสต์แบบนี้และต้องการให้พ่อแม่ทุกคนหยุดความคิดที่จะปล่อยให้ลูกที่กำลังป่วยไปโรงเรียน   ต้องย้ำว่าลูกสาวของเธอในตอนแรกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี แต่เข้าโรงพยาบาลหลังจากได้รับเชื้อหวัดจากเด็กในโรงเรียน   หลายๆ คนที่เข้ามาอ่านโพสต์ของเธอก็รู้สึกเห็นด้วยกับความคิดนี้  …

  • เมื่อ “เคนดัล เจนเนอร์” ไปนั่งดูสามีแข่งบาส ลุคของเธอเป๊ะปังเวอร์วัง จนชาวเน็ตแชร์เพียบ!!

    เมื่อ “เคนดัล เจนเนอร์” ไปนั่งดูสามีแข่งบาส ลุคของเธอเป๊ะปังเวอร์วัง จนชาวเน็ตแชร์เพียบ!!

    ไม่ว่าจะเป็นสาวๆ คนไหน ก็อยากที่จะตามหลัวไปทุกที่ เพื่อไปให้กำลังใจคุณหลัว เช่นเดียวกับเซเลบสาว Kendall Jenner ที่ตามไปเชียร์คุณซะมีแบบเกาะสนามแต่ก็ไม่ลืมลุคนางแบบที่เห็นแล้วมันดูแซ่บทั้งชุดและสีหน้าเลยล่ะ Kendall Jenner นางแบบสาวที่ทำเงินไปได้สูงสุดในปี 2017 ด้วยรายได้ 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 722 ล้านบาท!! แต่แม้ว่าเธอจะสวยและรวยขนาดไหน เธอก็ยังสละเวลามานั่งเชียร์หลัวข้างสนามบาสเก็ตบอลในนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าสีหน้าของเธอจะดูหงิกๆ ก็ตาม     ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือโดนบังคับมากันแน่กับเซเลบสาว Kendall Jenner ที่เคียงข้างมาด้วยเพื่อนรักอย่าง Hailey Baldwin   สาวๆ ทั้งสองมาเกาะสนามเพื่อชมการแข่งขันของทีม LA Clippers ที่มี Blake Griffin หลัวของ Jenner สังกัดอยู่ .   แต่ที่สังเกตได้เด่นชัดไปไม่น้อยกว่าเกมในสนามก็คงจะเป็นแฟชั่นของเธอ ที่แม้จะนั่งอยู่ข้างสนามที่ปะปนไปด้วยผู้คนแต่เธอก็ฉายแสงโดดเด่นเป็นออร่า ด้วยเสื้อสีขาว กางเกงสีขาว และบูทส้นสูงสีขาว… .   ในบางช่วงเธอก็ดูไม่ค่อยถูกชะตากับพวกเชียร์ลีดเดอร์เหล่านี้สักเท่าไหร่ มันดูเกะกะและรกตาเธอมากสินะ .   “หลัวฉันเป็นไงบ้าง ดูดีใช่ไหมล่ะ”   Kendall และ Blake…

  • สื่อญี่ปุ่นงง คนกทม. อยู่ได้ไง แม้จะมีปัญหาน้ำท่วม แต่ยังใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..

    สื่อญี่ปุ่นงง คนกทม. อยู่ได้ไง แม้จะมีปัญหาน้ำท่วม แต่ยังใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..

    เมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วม สร้างความลำบากให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จนแทบไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เพราะแค่ลำพังหนีน้ำก็ลำบากพอแล้ว อย่างไรก็ตามหากพื้นที่ไหนมีน้ำท่วมบ่อยๆ อาจจะกลายเป็นความเคยชินและใช้ชีวิตท่ามกลางน้ำท่วมได้อย่างปกติ เหมือนกับกรุงเทพฯ ในบ้านเรา ที่ต้องเจอกับภาวะน้ำท่วมขังทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก จึงทำให้พวกเขาเกิดความเคยชินและใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น     เรื่องนี้สร้างความประหลาดให้กับชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ถึงกับงงว่าคนกรุงเทพฯ ใช้ชีวิตอยู่กับน้ำท่วมได้อย่างไร? เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ ANNnewsCH ของญี่ปุ่นรายงานว่า “เมื่อมีฝนตกหนักในกรุงเทพฯ หลายพื้นที่จะมีน้ำท่วมขัง เช่น ย่านพร้อมพงษ์ที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มาก การระบายน้ำที่ท่วมขังต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง แต่ชาวกรุงเทพฯ ยังใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”     สื่อญี่ปุ่นยังบอกอีกว่าเมื่อเกิดน้ำท่วม ชาวกรุงเทพฯ จะใส่กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะเพื่อลุยน้ำไปทำงาน มีบางคนขี่จักรยาน หรือใช้มอเตอร์ไซต์รับจ้างฝ่าสายน้ำไป แม้แต่ร้านอาหารข้างถนนก็ยังคงเปิดขายได้ตามปกติ ส่วนสาเหตุของน้ำท่วมขังนั้น ทางสื่อญี่ปุ่นรายงานว่าเกิดจากสำนักงานเขตต่างๆ บวกกับการที่กรุงเทพฯ มีระบบการระบายน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ     อีกหนึ่งสาเหตุหลักคือขยะจำนวนมหาศาลขัดขวางระบบระบายน้ำก็ ทั้งขวดพลาสติก ถุงพลาสติก กิ่งไม้ เสื้อผ้า แม้แต่ฟูกและที่นอนขนาดใหญ่ที่ถูกกวาดไปกับน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นชาวกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่รู้ดีว่าขยะเป็นตัวการที่ทำให้เกิดน้ำท่วม แต่ดูเหมือนไม่มีใครตระหนัก และไม่มีมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพ และทั้งหมดนี้คือข่าวที่สื่อญี่ปุ่นได้รายงานไป…     ทางด้านเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพฯ ระบุว่า มีขยะที่ขัดขวางการระบายน้ำมากถึง 10-15 ตันต่อวัน…

  • เน็ตไอดอลสาว 3 พี่น้อง ใช้ชีวิตหรูหราเพราะมีหนุ่มๆ ส่งของให้ใช้ฟรีๆ กว่า 4 ล้านบาท!!

    เน็ตไอดอลสาว 3 พี่น้อง ใช้ชีวิตหรูหราเพราะมีหนุ่มๆ ส่งของให้ใช้ฟรีๆ กว่า 4 ล้านบาท!!

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะว่าในโลกนี้ยังมีสาวๆ แสนสวย ที่มีชีวิตหรูหราใช้ของแบรนด์เนม ที่มีหนุ่มๆ ส่งมาให้เธอใช้แบบฟรีๆ เพียงเพราะเห็นรูปพวกเธอผ่านทางอินเตอร์เน็ต แถมยังไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ากันมาก่อนด้วยนะ!!     เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Uniland เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เผยเรื่องราวของ 3 พี่น้อง Lucy Brooks วัย 28 ปี Sophie วัย 26 ปี และ Stacie วัย 25 ปี ที่ได้รับข้าวของเครื่องใช้ฟรีๆ จากหนุ่มๆ แฟนคลับที่ติดตามพวกเธอผ่านอินเตอร์เน็ต     สาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าพวกเธอทั้ง 3 มีหน้าตาที่สวยงามและทรวดทรงที่เซ็กซี่ พวกเธอจึงอัพรูปลงในโซเชียลบ่อยๆ จนกลายเป็นเน็ตไอดอลในเวลาต่อมา จากนั้นก็เริ่มมีหนุ่มๆ ให้ความสนใจและส่งของใช้มาให้เธอมากขึ้นๆ รวมมูลค่าแล้วกว่า 75,000 ปอนด์ หรือประมาณเกือบ 4,000,000 บาททีเดียว     จากการที่พวกเธอได้รับข้าวของเครื่องใช้แบบฟรีๆ นี้ อาจทำให้บางคนมองว่าวิธีการของพวกเธอก็ไม่ต่างอะไรกับการขายตัวเพื่อแลกเงิน แต่พวกเธอไม่ได้คิดแบบนั้น Lucy กล่าวต่อประเด็นนี้ว่า “มันไม่เหมือนกัน…

  • วิธีการพูดคำว่า ‘สวัสดี’ ในแต่ละประเทศ เพื่อเป็นการทักทายก่อนเริ่มบทสนทนา

    วิธีการพูดคำว่า ‘สวัสดี’ ในแต่ละประเทศ เพื่อเป็นการทักทายก่อนเริ่มบทสนทนา

    คุณไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาทั้งหมดเมื่อไปต่างไปประเทศ เพราะคำพื้นฐานเพียงไม่กี่คำก็สามารถทำให้คุณสื่อสารกับคนในพื้นดีได้ อาจจะพูดได้ไม่ดีพอ แต่มันก็ทำให้เขารู้ว่าคุณพยายามที่จะสื่อสาร หนึ่งในคำพื้นฐานเหล่านั้นคือ “สวัสดี” เพราะมันเป็นการทักทายแรกที่ไม่ว่าประเทศไหนก็ใช้กัน ดังนั้นเราจึงนำคำสวัสดีของ 25 ประเทศที่นักท่องเที่ยวชอบไปเย่ือนมาฝากกัน เผื่อใครไปต่างประเทศจะได้ใช้ถูก   1. ประเทศโปแลนด์ – “Czesc”   การออกเสียง Czesc   2. ประเทศเยอรมนี – “Guten Tag”   การออกเสียง Guten Tag   3. ประเทศสวีเดน – “Hej”   การออกเสียง Hej   4. ประเทศไทย – “สวัสดี”   5. ประเทศอิสราเอล – “Shalom”   การออกเสียง Shalom   6. ประเทศญี่ปุ่น – “Konnichiwa”   การออกเสียง Konnichiwa 7. ประเทศอียีปต์ – “Merhaba”   การออกเสียง Merhaba  …

  • ชายจีนใช้เวลากว่า 36 ปีขุดลอกคูคลองข้ามภูเขา 3 ลูก เพื่อให้น้ำไหลไปถึงหมู่บ้านของเขา

    ชายจีนใช้เวลากว่า 36 ปีขุดลอกคูคลองข้ามภูเขา 3 ลูก เพื่อให้น้ำไหลไปถึงหมู่บ้านของเขา

    น้ำนับเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งมนุษย์ ดังนั้นในการตั้งถิ่นฐานหรือตั้งเมืองต่างๆ มักจะหาทำเลที่ใกล้กับแหล่งน้ำ เพราะหากต้องใช้ชีวิตที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำ คุณก็จะพบกับความลำบากที่ไม่จบไม่สิ้น เหมือนกับหมู่บ้าน Caowangba ที่มีปัญหาเรื่องการลำเลียงน้ำเข้าหมู่บ้าน หมู่บ้าน Caowangba เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่กลางหุบเขาในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกล มีการเดินทางที่ยากลำบากจนทำให้ความเจริญเข้าไม่ถึง     แม้จะมีความลำบากแต่พวกเขาก็ไม่ได้ย้ายออกไปไหน จนในที่สุด Huang Dafa ผู้นำหมู่บ้านตัดสินใจที่จะขุดคลองเพื่อเป็นเส้นทางในการลำเลียงน้ำเข้าสู่หมู่บ้าน ในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่คิดว่าเขากำลังจะทำในสิ่งที่เป็นไม่ได้ แต่ Dafa ก็ยืนยันที่จะทำให้ได้ เพราะเขาคิดว่า ภูเขามันไม่ได้ใหญ่ไปกว่านี้แล้ว ถ้าขุดทุกวัน สักวันหนึ่งเขาต้องทำสำเร็จแน่ๆ เขาไม่ได้มีอุปกรณ์พิเศษหรือตัวช่วยใดๆ มีเพียงความมุ่งมั่นและพละกำลังของเขาเท่านั้น และจะทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด แม้คนอื่นจะมองว่าเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ ก็ตาม Dafa เริ่มต้นขุดเมื่อปี 1959 และต้องใช้เวลากว่า 36 ปี ถึงจะสำเร็จ จนทำให้ทุกวันนี้หมู่บ้านของมีความเจริญมากขึ้นเนื่องจากมีน้ำไหลเข้าสู่หมู่บ้านแล้ว     แต่รู้มั้ยว่าก่อนที่จะมีน้ำใช้ทุกวันนี้ หมู่บ้าน Caowangba มีความแห้งแล้งมากรวมทั้งพื้นที่รอบๆ ด้วย ทำให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำดื่มอย่างหนัก พวกเขามีบ่อน้ำแค่บ่อเดียวเท่านั้น ส่วนบ่ออื่นๆ ก็แห้งไปหมดแล้ว ชาวบ้านต้องแบ่งกันใช้น้ำให้ทั่วถึง เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ก็จะมีคนเอาเปรียบแล้วทำให้คนอื่นไม่มีน้ำกิน แล้วมันไม่ใช่แค่น้ำกินนะ แต่มันหมายถึงน้ำที่จะเอาไปใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ…

  • 9 อันดับนางฟ้า Victoria’s Secret ที่กวาดรายได้สูงที่สุด แต่ละนางค่าตัวแพงมาก!!

    9 อันดับนางฟ้า Victoria’s Secret ที่กวาดรายได้สูงที่สุด แต่ละนางค่าตัวแพงมาก!!

    สิ้นสุดกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดชั้นในระดับโลกอย่าง Victoria’s Secret ที่ในปีนี้ได้ขนเอากองทัพนางฟ้า มาสยายปีกความอลังการตระการตากันไกลถึงนครเซี่ยงไซ้ ประเทศจีน โดยคลิปวีดีโอการแสดงโชว์ดังกล่าวจะถูกนำมาฉายให้แฟนๆ ได้รับชมกันในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 นี้อย่างแน่นอน ยังไงก็อย่าลืมติดตามชมกันด้วยนะจ๊ะ     ในทุกครั้งที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าเหล่านางแบบดังระดับโลก นอกจากจะสูง สวย และมีหุ่นสุดสตรองแล้ว พวกเธอยังได้รับทรัพย์จากการเดินแบบแต่ละครั้งมากเท่ากองภูเขาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทางเว็บไซต์ Business Insider ก็ได้มาเปิดทำเนียบ 9 นางแบบสุดฮอตจาก Victoria’s Secret ที่มีรายได้สูงระยับ บอกเลยว่าถ้าใครได้เห็นเม็ดเงินที่พวกเธอได้รับจะต้องอิจฉาหนักมากแน่นอน รายได้ที่มาจากการเดินแบบตลอดทั้งปีของเหล่านางแบบ ทั้งจากบริษัท Victoria Secret และบริษัทโมเดลลิ่งอื่นๆ โดยไม่รวมรายได้จากสปอนเซอร์และอื่นๆ     9.Taylor Hill – 4 ล้านเหรียญ (131 ล้านบาท)   8.Jasmines Tookes – 4 ล้านเหรียญ (131 ล้านบาท)  …

  • ระทึกไปถึงตาตุ่ม… เมื่อเกิดเหตุฟ้าผ่ากลางลำโบอิ้ง 777 ขณะกำลังออกบินได้ไม่นาน

    ระทึกไปถึงตาตุ่ม… เมื่อเกิดเหตุฟ้าผ่ากลางลำโบอิ้ง 777 ขณะกำลังออกบินได้ไม่นาน

    กลายเป็นคลิปเหตุการณ์สุดระทึก เพราะเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์เครื่องบิน โบอิ้ง 777 ได้ถูกสายฟ้าฟาดเข้าจังๆ ลงกลางลำจนผู้คนพากันตกใจไปตามๆ กัน     คลิปนี้ถูกโพสต์โดยช่องยูทูบที่ชื่อ Valk Aviation โดยตัวคลิปมีความยาว 3.25 นาที ซึ่งภายในคลิปเราจะเห็นตั้งแต่เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ที่กำลังเตรียมขึ้นบินจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ไปสู่กรุงลิมา ในประเทศเปรู จากนั้นในคลิปดังกล่าว เราสามารถสังเกตเห็นได้บรรยากาศโดยรอบสนามบินนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย ซึ่งนั่นอาจจะเป็นต้นเหตุของฟ้าผ่าก็เป็นได้     และหลังจากเครื่องได้เริ่มออกตัวไปสักพัก ก็เกิดฟ้าผ่าลงมาในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที โชคดีที่ตัวเครื่องบินไม่เป็นอะไรและไม่มีผู้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด     ส่วนถ้าใครสงสัยว่าทำไมฟ้าผ่าลงกลางลำแบบนั้น แต่เครื่องบินกลับไม่เป็นอะไรเลย นั่นก็เพราะว่าตัวเครื่องบินได้ติดตั้งสิ่งที่เรียกว่า Static Discharge ซึ่งมันจะช่วยถ่ายเทประจุไฟฟ้าที่กระทบลงมาไปยังเล็กก้านเล็กๆ ที่ปีกเครื่องบิน รวมถึงตัวเครื่องบินก็ทำมาจากโลหะ Faraday Cage ที่นำกระแสไฟฟ้าอยู่แค่รอบตัวเครื่องบินเท่านั้น ฉะนั้นส่วนอื่นๆ ไม่มีปัญหา จะมีก็แค่รอยดำๆ เท่านั้นส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีปัญหาระหว่างบินสักเท่าไหร่   ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเสี้ยววินาทีของความระทึกจริงๆ ที่มา thepointsguy

  • อาจารย์ผู้วาด ‘ซามูไรพเนจร’ ถูกตำรวจเข้าจับกุม ฐานครอบครองสื่อลามกเด็ก…

    อาจารย์ผู้วาด ‘ซามูไรพเนจร’ ถูกตำรวจเข้าจับกุม ฐานครอบครองสื่อลามกเด็ก…

    การ์ตูนญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Rurouni Kenshin หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ซามูไรพเนจร กับเรื่องราวของพระเอกหนุ่มซามูไรในยุคสมัยเมจิ ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ได้ถูกเผยแพร่มาตั้งแต่ปี 1994 ก่อนที่จะจบลงไปสร้างความประทับใจให้กับใครหลายๆ คน และตอนนี้ภาคต่อความสนุกของการ์ตูนเรื่องนี้ก็ได้มีออกมาในเดือนกันยายนปี 2017   ซามูไรพเนจร การ์ตูนเรื่องโปรดของใครหลายๆ คน   แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจกันไปเพราะเว็บไซต์ comicbook ได้เผยแพร่ข่าวออกมาในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2017 เมื่อนักเขียน Nobuhiro Watsuki ผู้สร้างสรรค์ผลงานเรื่องนี้ได้ถูกตำรวจกรุงโตเกียวจับกุมตัวหลังจากที่พบ “แผ่นหนังโป๊เด็ก” จำนวนมากในบ้านของเขา   Nobuhiro Watsuki นักเขียนการ์ตูนผู้ถูกจับกุมข้อหาครอบครัวสื่อลามกที่มีเด็กเป็นตัวแสดง   เขาถูกจับกุมเมื่อเดือนตุลาคม 2017 โดยตำรวจได้แกะรอยที่อยู่ของเขาจากการสั่งซื้อแผ่นหนังผิดกฎหมายดังกล่าว และเมื่อไปค้นบ้านของเขาก็พบแผ่นหนังในลักษณะเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ Nobuhiro ต้องไปนอนกินข้าวแดงอยู่ในคุกและเสียค่าปรับไปอีกกว่า 290,000 บาท ส่วนทางสำนักพิมพ์ Shueisha ไม่ได้ออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย     ก่อนหน้านี้ก็เคยมีซามูไรพเนจรแบบไลฟ์แอคชั่น   เมื่อเป็นอย่างนี้ความฝันที่จะได้อ่านภาคต่อของการ์ตูนเรื่องนี้ก็อาจต้องเลื่อนไปก่อนล่ะนะ เพราะเราก็ไม่รู้ว่านักเขียนจะสามารถทำผลงานในคุกแล้วส่งออกมาให้ทางสำนักพิมพ์ได้หรือเปล่า   ที่มา: comicbook

  • ไอเดียสุดเก๋ไก๋ เปลี่ยน ‘ตู้โทรศัพท์’ ให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มที่ให้บริการแบบฟรีๆ

    ไอเดียสุดเก๋ไก๋ เปลี่ยน ‘ตู้โทรศัพท์’ ให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มที่ให้บริการแบบฟรีๆ

    ตู้โทรศัพท์ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ไปเสียแล้ว เพราะสมัยนี้ใครๆ ต่างก็มีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น แต่สองสามีภรรยาเจ้าของโรงแรมในประเทศสก็อตแลนด์กลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะพวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนมันให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มสุดเก๋ไก๋ นี่เป็นไอเดียของ David Wilson และภรรยา เจ้าของโรงแรมและร้านอาหารสไตล์บูติกที่ชื่อว่า Kilberry Inn ในเขต Argyll และ Bute ประเทศสก็อตแลนด์ พวกเขาตัดสินใจแปลงโฉมตู้โทรศัพท์สีแดงที่ซื้อมาในราคา 43 บาทให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มที่น่าจะเล็กที่สุดในโลก   บาร์เล็กๆ ที่ดัดแปลงมาจากตู้โทรศัพท์ที่ไม่ค่อยมีใครใช้กันแล้วในปัจจุบัน   ไอเดียนี้เกิดขึ้นเพราะพวกเขาคิดว่าการต้องจ่ายเงิน 17,000-21,000 บาทต่อปีสำหรับให้โทรศัพท์ในตู้ใช้งานได้นั้น เป็นสิ่งที่ดูไม่ค่อยคุ้มค่าซักเท่าไหร่ ก็เลยจัดการดัดแปลงมันซะเลย ในตอนแรกบาร์เครื่องดื่มเล็กๆ แห่งนี้ได้แจกจ่ายเหล้าวิสกี้ท้องถิ่นให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ แต่ปัจจุบันพวกเขาได้เปลี่ยนมาใช้เหล้าจินที่นำมาจากหลายๆ ที่ เช่นเหล้าจินของเกาะ Harris หรือ จากเกาะ Jura เจ้าบาร์ที่มีชื่อว่า The Wee Bar นี้ตั้งอยู่บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าของโรงแรม โดยสามารถจุคนได้เพียงแค่ 3 คนและเครื่องดื่มที่มีอยู่ด้านในทั้งหมดนั้นก็สามารถเข้าไปดื่มได้ฟรี!! แต่เฉพาะลูกค้าของโรงแรมเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนนอกก็หมดสิทธิ์จ้า   ถ้ายัดเข้าไป 4 คนแบบนี้ก็ดูอึดอัดเกินไปหน่อยนะ   David ตั้งใจว่าจะส่งเรื่องนี้ไปบันทึกลงในสถิติของกินเนสบุ๊กว่าเป็นบาร์เหล้าที่เล็กที่สุดในโลก และมันอาจได้เป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ตที่เล็กที่สุดในโลกอีกด้วยก็ได้…

  • รวมภาพเหล่า “เจ้าของบ้านผู้ทรนง” ต่อให้นายทุนกว้านซื้อที่รอบๆ แค่ไหน ก็ยืนหยัดไม่ยอมย้าย!!

    รวมภาพเหล่า “เจ้าของบ้านผู้ทรนง” ต่อให้นายทุนกว้านซื้อที่รอบๆ แค่ไหน ก็ยืนหยัดไม่ยอมย้าย!!

    เชื่อว่าหลายๆ คนเคยมีประสบการณ์ถูกนายทุนเสนอราคาซื้อบ้าน เพื่อนำพื้นที่ไปสร้างห้างสรรพสินค้าหรือทำถนนหนทาง คนส่วนใหญ่ก็มักจะยอมรับในข้อเสนอนั้นๆ เพราะเงินที่เราจะได้รับจากการย้ายออกอยู่ในอัตราที่ค่อนข้างสูง แต่สำหรับบางคนก็อาจไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆ ต่อให้เงินมากแค่ไหนก็ไม่สามารถซื้อบ้านเขาไปได้ สุดท้ายแล้วบ้านที่ไม่ยอมย้ายไปไหนก็ต้องอยู่ท่ามกลางห้างสรรพสินค้าหรือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สร้างล้อมรอบ เช่นเดียวกับภาพเหล่านี้ที่ชาวเน็ตได้ร่วมกันแชร์ลงในเว็บไซต์ Boredpanda กับเจ้าของบ้านสุดรั้นที่ต่อให้มีตึกมาล้อมสูงเพียงไหนก็ไม่ยอมย้ายหนีไปเลยจริงๆ เราไปดูกันเลยว่าแต่ละหลังต้องตกอยู่ในสภาพไหนกันบ้าง   เจ้าของบ้าน Edith Macefield ปฏิเสธข้อเสนอที่จะซื้อบ้านของเธอในราคากว่า 32 ล้านบาท และต่อมาบ้านหลังนี้ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังเรื่อง UP   Mary Cook ไม่ยอมขายบ้านของเธอ จึงทำให้เธอได้เจอเพื่อนบ้านกลุ่มใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว   Vera Coking ในครั้งแรกเธอไม่ยอมขายบ้านให้กับคนที่ต้องการจะนำเพื่อสร้างเป็นคาสิโน ต่อมาเธอก็ได้ปฏิเสธข้อเสนอของ Donald Trump อีกด้วย   ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ก็มีบ้านที่ไม่ยอมขายให้กับใครอยู่เหมือนกัน   บ้านแฝดที่ไม่ยอมขายให้ใครจนถึงกับต้องหั่นครึ่งเก็บไว้ ในเมืองโตรอนโต้ ประเทศแคนาดา   บ้านนี้เจ้าของยอมย้ายออกนะ แต่ไม่ยอมขายบ้านปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น แสดงถึงการต่อต้านของผู้อยู่อาศัยที่มีต่อการสร้างถนนไฮเวย์ของรัฐบาลในประเทศจีน   เมืองกวางโจว ประเทศจีน กับถนนวงแหวนที่ล้อมรอบอพาร์ตเม้นท์เอาไว้เนื่องจากสามครอบครัวที่อาศัยอยู่ในนั้นไม่ยอมย้ายออก   บ้านของ Austin Spriggs ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในครั้งแรกปฏิเสธการเสนอซื้อในราคากว่า…

  • คุณพ่อยอมทำหน้าที่เป็นภารโรงในมหาวิทยาลัย เพื่อส่งลูกทั้ง 5 คนให้เรียนจบปริญญา

    คุณพ่อยอมทำหน้าที่เป็นภารโรงในมหาวิทยาลัย เพื่อส่งลูกทั้ง 5 คนให้เรียนจบปริญญา

    ความรักของพ่อแม่นั้นช่างยิ่งใหญ่เกินจะหาสิ่งใดเปรียบ ซึ่งพวกเขาอาจมีความเหนื่อยล้าจากการงานเพื่อให้เรามีความสุขและสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ซึ่งพ่อคนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีเพราะว่า เขายอมเป็นภารโรงเพื่อส่งลูกของเขา 5 คนเรียนจนจบปริญญา คุณพ่อสุดแกร่งคนนี้มีชื่อว่า Fred Vautour ในวัย 63 ปีเขาเติบโตมาในครอบครัวที่แตกแยก และเขาก็ไม่ต้องการให้ลูกเขาเป็นอย่างนั้น Fred จึงอยากจะทำให้แน่ใจว่าเขาจะสามารถส่งลูกๆ เรียนได้และพยายามจะเป็นพ่อที่ีดี เขาจึงยอมเสียสละตัวเองยอมเป็นภารโรงที่มหาวิทยาลัย Boston ในปี 1994 ซึ่งเป็นงานที่มีสวัสดิการที่ดีและเขาก็ภูมิใจในงานนี้มากด้วย   หน้าที่ภารโรงที่ส่งเสียลูกๆ ทั้ง 5 คนของเขาจนจบปริญญา   “ผมพยายามทำทุกๆ อย่างให้ดีที่สุดในฐานะพ่อและหัวหน้าครอบครัว การมาทำงานที่นี่ไม่ใช่เพื่อเงินอย่างเดียว” Fred บอก แต่ว่างานของ Fred ไม่ใช่งานภารโรงทั่วๆ ไปเพราะว่าเวลาการเข้ากะทำงานของเขาเป็นเวลาที่ไม่มีใครอยากทำคือเวลาตั้งแต่ 23.00-07.00 น.   ยอมเสียสละทำงานกลางคืน   “คุณอาจจะไม่คุ้นเคยกับการทำงานในเวลากลางคืน แต่แล้วไงล่ะ คุณแค่ต้องปรับตัวให้เข้ากับมัน” Fred กล่าวเพิ่ม แม้ว่าเขาดูจะเป็นงานที่ไม่ท้าทายสำหรับเขาแต่ว่าเขาก็ทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ โดยลูกชายของเขา Michael ได้บอกไว้ว่า “เขาทำงานอยู่ที่นั่นมาแล้วกว่า 22 ปี ฉันคิดว่าเขาหายไปซะแล้วเพราะว่าใน 1 สัปดาห์เขาใข้เวลาที่นั่นกว่า 3 วันครึ่งเลย”…

  • Har HaMenuchos สุสานใต้ดินในนครเยรูซาเล็ม ที่มีมูลค่าสูงกว่า 1,500 ล้านบาท

    Har HaMenuchos สุสานใต้ดินในนครเยรูซาเล็ม ที่มีมูลค่าสูงกว่า 1,500 ล้านบาท

    นครเยรูซาเลม ถือเป็นเมืองหลวงที่โด่งดังและมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอิสราเอล ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเมืองนี้ ถึงเป็นตัวแทนของความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนา นอกจากนี้นครเยรูซาเลม ยังถูกเรียกว่าเป็น “นครแห่งความตาย” เพราะมันเต็มไปด้วยสุสานใต้ดินที่มูลค่ากว่า 50 ล้านเหรียญ (ราวๆ 1.6 พันล้านบาท) และมีหลุมฝังศพมากถึง 22,000 หลุมเลยทีเดียว     และนี่ก็เป็นภาพถ่ายของเหล่าช่างภาพ ที่ได้เผยให้เห็นถึงภาพของ Har HaMenuchos หรือ Mount of the Resting สุสานขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในนครเยรูซาเลม โดยจะมีเพดานลิฟต์ที่ยาว 137 เมตร และมีอุโมงค์ยาวถึง 2 กิโลเมตร     สำหรับ Har HaMenuchos ได้เริ่มสร้างขึ้นในปี 1951 ปัจจุบันมีศพฝังอยู่กว่า 150,000 ร่างเลยทีเดียว และเพื่อที่จะให้สุสานแห่งนี้ได้กลายเป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ดังนั้น จึงได้มีการขยายพื้นที่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในปี 2015 ทางอิสราเอลก็ได้ขยับขยายพื้นที่ของสุสานดังกล่าว ให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม โดยจะเปิดบริการในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งก็คาดว่ามันน่าจะมีพื้นที่เพียงพอต่อการรองรับศพของผู้คนในอีก 25 ปีข้างหน้าได้อย่างแน่นอน…

  • ความรักจากรุ่นสู่รุ่น ของครอบครัวคู่บ่าวสาวที่แม้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ความหวานก็ยังคงเดิม

    ความรักจากรุ่นสู่รุ่น ของครอบครัวคู่บ่าวสาวที่แม้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ความหวานก็ยังคงเดิม

    ภาพงานแต่งที่เราเห็นกันจนชินตาคือภาพของคู่บ่าวสาวยืนจูบกัน แต่สิ่งที่เราได้เห็นจากฝีมือของช่างภาพสาว Ashley Abel กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะในรูปงานแต่งกลับมีคนยืนจุบกันมากถึง 3 คู่ นี่เป็นภาพงานแต่งของเจ้าสาว Kalin และเจ้าบ่าว Matt Haley วัย 28 ปี โดยพวกเขาได้แต่งงานกันในวันที่ 7 ตุลาคมและได้พาครอบครัวไปถ่ายรูปกันที่อดีตอู่ต่อเรืออันเก่าแก่ The Lace Factory ตั้งอยู่ในเมืองดีบริเวอร์ รัฐคอนเน็กติคัต สหรัฐอเมริกา   สถานที่ที่เหมาะแก่การเก็บภาพความทรงจำดีๆ ของทั้งสอง   ทั้งคู่ได้เฉลิมฉลองและถ่ายรูปให้กับความสัมพันธ์ที่มีกันมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี และในรูปภาพทั้งหมดที่ถูกถ่ายโดย Ashley ได้มีรูปหนึ่งที่ดูโดดเด่นกว่ารูปไหนอื่นๆ นั่นคือภาพที่คู่บ่าวสาวยืนจูบกันอยู่บนรางรถไฟ ในขณะที่ด้านขวามีพ่อแม่ของเจ้าสาวที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานานกว่า 30 ปี ส่วนทางด้านซ้ายเป็นพ่อแม่ของเจ้าบ่าวที่แต่งงานกันมานานกว่า 50 ปี ซึ่งทั้ง 3 คู่นั้นได้ทำท่าทางแสดงความรักออกมาในลักษณะเดียวกัน   เปรียบเหมือนความรักที่บอกผ่านจากรุ่นสู่รุ่นของทุกคนในครอบครัว   Kalin เล่าว่า “นี่เป็นไอเดียของ Ahley ที่เสนอขึ้นมา ในตอนแรกพ่อแม่ของพวกเรารู้สึกเขินและไม่กล้าทำแบบนี้ แต่เมื่อพ่อของฉันได้ประคองแม่เอาไว้ พ่อของ…

  • ตำรวจสเปนตามล่ากลุ่มนักปีนเขา ที่พากันรุมผลักหมูป่าจนตกหน้าผาเสียชีวิต

    ตำรวจสเปนตามล่ากลุ่มนักปีนเขา ที่พากันรุมผลักหมูป่าจนตกหน้าผาเสียชีวิต

    วันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวเดลีเมลล์ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอสุดป่าเถื่อนของนักปีนเขากลุ่มหนึ่ง ที่ได้ช่วยกันรุมผลักหมูป่าไปยังขอบหน้าผาอย่างโหดร้ายทารุณ จนสุดท้ายก็เป็นเหตุทำให้มันตกหน้าผาเสียชีวิต สำหรับคลิปวีดีโอดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นโดยชายหนึ่งในกลุ่มนักปีนเขา ที่เส้นทางเดินป่า Cares Trail ในอุทยานแห่งชาติ Picos de Europa ประเทศสเปน ซึ่งภายในคลิปได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขาได้เริ่มยุแหย่มันด้วยไม้ ก่อนที่จะพยายามผลักมันไปยังขอบหน้าผา     ทางด้านเจ้าหมูป่าก็ได้พยายามต่อต้านสุดฤทธิ์ แต่สุดท้ายมันก็สู้แรงกลุ่มคนไม่ไหวก่อนที่จะร่วงตกลงไปกระแทกก้อนหินเสียชีวิตในที่สุด และภายหลังจากที่ได้ฆ่าหมู่ป่าสำเร็จ นักปีนเขากลุ่มนี้ต่างก็พากันชื่นชมในการกระทำสุดป่าเถื่อนของตัวเอง โดยไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดเดียว     จากการรายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหมูป่าตัวดังกล่าวได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว แต่กลับโชคร้ายเข้าไปอีกเมื่อได้พบกับมนุษย์ใจโหดที่กำลังเดินอยู่บนเขา และนั่นก็ทำให้เกิดเหตุการณ์สุดสลดขึ้น     คุณสามารถรับชมคลิปวีดีโอได้จากด้านล่างนี้   ภายหลังจากที่ภาพและคลิปวีดีโอนี้ได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ซึ่งในตอนนี้มีผู้คนเข้ามารับชมมากกว่า 100,000 คนแล้ว นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ฉันคิดว่ามนุษย์ควรจะหายตัวไปเพื่อให้โลกได้กลายเป็นสถานที่ที่สงบสุข”, “ฉันจะเอาคนเหล่านี้ไปที่ขอบหน้าผาและทำให้พวกเขาตกลงไป และฉันจะเข้าไปตีหัวเขาเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก”     ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาแสดงข้อความในทวิตเตอร์ว่า “คุณรู้จักคนที่ผลักหมู่ป่าตกเขาใน Picos de Europa หรือไม่?”…

  • เจ้าของใจสลายหลังพบแมวแสนรักที่หายไป อยู่ในสภาพถูกแขวนและเต็มไปด้วยเลือด

    เจ้าของใจสลายหลังพบแมวแสนรักที่หายไป อยู่ในสภาพถูกแขวนและเต็มไปด้วยเลือด

    PussPuss เป็นชื่อของแมวน้อยสีขาวแสนน่ารักที่อาศัยอยู่กับครอบครัวใน Bicester, Oxfordshire ประเทศอังกฤษ ทว่าวันหนึ่งเจ้าเหมียวกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย งานนี้ทำเอาเจ้าของต้องออกตามหา ก่อนที่จะพบมันอีกครั้งในสภาพที่ถูกแขวนและเต็มไปด้วยเลือด     วันที่ 19 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (17 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา เจ้าเหมียว PussPuss ที่หายตัวไปถูกพบอยู่ในสวนของเพื่อนบ้าน ในสภาพที่ไร้ลมหายใจและถูกแขวนคอด้วยเชือกไว้ที่รั้ว จนทำให้มีเลือดไหลโชกลงมาที่ขาหลัง จากการรายงานระบุว่า ขณะนี้มูลนิธิป้องกันความรุนแรงในสัตว์ (RSPCA) กำลังเร่งสืบหาเบาะแสว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำที่โหดร้ายกับเจ้าเหมียวเช่นนี้     ทางด้าน Lisa Gamage ผู้เป็นเจ้าของแมวได้ออกมาเผยว่า เธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่มีคนจิตใจโหดเหี้ยมมาทำร้าย PussPuss และพรากมันไปจากลูกชายของเธอ “มันน่าเศร้ามากจริงๆ มันเป็นแมวที่สวยงาม แถมเป็นมิตรมาก มันไม่เคยออกไปไหนไกลๆ และไม่ชอบออกไปข้างนอกเวลาฝนตก ฉันก็ได้แต่หวังว่ามันจะถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วและไม่ได้ถูกทรมาน” Lisa กล่าว อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมากล่าวว่า แมวขาวได้ถูกแขวนลงมาจากรั้วในสวน และเลือดของมันก็ไหลลงมาที่ขาหลังเต็มไปหมด     “นี่น่าจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับผู้ที่โทรมาแจ้ง และรู้สึกเสียใจกับเจ้าของแมว เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าตอนที่เจ้าเหมียวถูกแขวนมันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ บางทีมันอาจจะแค่ถูกห้อยเอาไว้เฉยๆ…

  • การทดลอง ‘ผ่าตัดเปลี่ยนหัว’ กับศพ ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น เชื่อมต่อระบบร่างกายได้

    การทดลอง ‘ผ่าตัดเปลี่ยนหัว’ กับศพ ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น เชื่อมต่อระบบร่างกายได้

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน 2016 #เหมียวฟิ้น ได้นำเสนอข่าวของหนุ่มรัสเซีย Valery Spiridonov วัย 31 ปีผู้ป่วยเป็นโรคแปลกประหลาดและได้เป็นอาสาสมัครให้กับการทดลองผ่าตัดเปลี่ยนหัว ซึ่งตอนนี้การผ่าตัดดังกล่าวได้มีความคืบหน้ามากขึ้นหลังจากที่แพทย์สามารถเปลี่ยนถ่ายหัวของศพได้สำเร็จ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าวเดลี่เมล ได้รายงานว่าศาสตราจารย์ชาวอิตาลี Sergio Canavero และทีมแพทย์ชาวจีนที่นำโดยดอกเตอร์ Xioaping Ren สามารถเปลี่ยนถ่ายหัวของศพในประเทศจีนได้สำเร็จ โดยใช้ระยะเวลาการผ่าตัดนานถึง 18 ชั่วโมง   ศาสตราจารย์ Sergio Canavero ผู้ผลักดันให้เกิดการผ่าตัดปลูกถ่ายศีรษะ   Canavero บอกว่านี่คือการเปลี่ยนถ่ายหัวมนุษย์ครั้งแรกของโลก โดยกระดูกสันหลัง เส้นประสาท และเส้นเลือดต่างๆ ของร่างกายสามารถเชื่อมกับหัวที่ถูกปลูกถ่ายได้สำเร็จ เขาได้พูดกับสื่อว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไปจากเดิม ธรรมชาติเคยกำหนดความเป็นตายของเรามาโดยตลอด แต่ในยุคนี้เราจะเป็นคนที่กำหนดโชคชะตาของเราด้วยตัวเอง”     เขายังเสริมอีกว่า ตอนนี้เหลือเพียงแค่ขั้นตอนสุดท้ายในการปลูกถ่ายศีรษะและสมองของคนตายที่ได้รับการบริจาคมาให้เข้ากับร่างกายเท่านั้น ซึ่งหากว่าผลออกมาสำเร็จ ในไม่ช้านี้เขาการปลูกถ่ายศีรษะของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะมีให้เราเห็นอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพียงแค่ Canavero สำหรับศัลยแพทย์ Ren ก็มีความเชื่อเดียวกัน ก่อนหน้านี้เขาและทีมแพทย์ได้เคยทดลองผ่าตัดปลูกถ่ายศีรษะของหนูทดลองไปกว่า 1,000 ตัว…

  • ทำความรู้จัก Doug Jones ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง ที่ไม่มีใครจำได้เพราะบทบาทที่เขาได้รับ

    ทำความรู้จัก Doug Jones ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง ที่ไม่มีใครจำได้เพราะบทบาทที่เขาได้รับ

    อาจจะดูแปลกไปสักนิดที่จะบอกว่า มีดาราฮอลลีวูดคนหนึ่งที่แสดงภาพยนตร์ชื่อดังมาแล้วกว่า 30 เรื่อง แต่เรากลับแทบไม่เคยเห็นหน้าจริงๆ ของเขาเลย เพราะว่าบทบาทที่เขาได้รับในแต่ละเรื่องนั้นต้องแต่งตัวเป็นตัวประหลาดแทบทุกเรื่อง Doug Jones นักแสดงสูงและผอมแห่งวงการฮอลลีวูดได้เล่นหนังมาแล้วกว่า 150 เรื่องตลอดระยะเวลา 30 ปีที่เข้าวงการ โดยเขาได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่องอย่าง Batman Return, Hellboy และ Pan’s Labyrinth     โดยบทบาทที่เขาได้รับในแทบจะทุกเรื่องที่ร่วมแสดงจะต้องสวมหน้ากาก หรือไม่ก็แต่งหน้าเป็นตัวละครตัวประหลาดที่ผู้กำกับอยากให้เป็นอย่างเช่นปิศาจร้าย สัตว์ต่างๆ และเอเลี่ยน ในปัจจุบัน Doug นักแสดงจอมอำพรางในวัย 57 ปีได้ยอมเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาให้คนทั้งโลกได้เห็นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “ผมได้รับการจ้างเพราะว่ารูปร่างของผมนั้นสูงผอมรวมทั้งความสามารถในการแสดงของผมด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่นักทำเอฟเฟกต์ตัวละครต่างๆ ชื่นชอบเพราะว่าเขาจะได้ทำชุดออกมาได้ง่ายๆ” Doug กล่าว   วิธีการแต่งหน้าเป็นตัวละครต่างๆ ของเขา   โดยผลงานก่อนหน้านี้ในเส้นทางอาชีพนักแสดงของเขา Doug ได้ร่วมเล่นในหนังเรื่อง Batman Return ซึ่งเขาเป็นลูกน้องคนหนึ่งของ The Penguin และได้เล่นเป็นซอมบี้ในเรื่อง Hocus Pocus ในปี 1993 จากนั้นเขาก็ได้แสดงเป็นหนึ่งจอมวายร้ายที่คอยขโมยเสียงของผู้คนในซีรี่ย์ Buffy ในตอนที่ชื่อว่า Hush และอีกผลงานที่โดดเด่นของเขาก็คือการได้เล่นเป็นแมลงสาบยักษ์ในหนังสยองขวัญเรื่อง Mimic และได้เล่นเป็นสิ่งมีชีวิตใต้น้ำแสนฉลาดที่ชื่อว่า Abe…

  • สวยจัด!! ช่างภาพสาวจัดวางอาหารต่างๆ เรียงตามสีและขนาด ที่ไม่ว่าใครได้ดูรับรองว่าฟิน

    สวยจัด!! ช่างภาพสาวจัดวางอาหารต่างๆ เรียงตามสีและขนาด ที่ไม่ว่าใครได้ดูรับรองว่าฟิน

    ขึ้นชื่อว่าเรื่องอาหารการกินแล้ว แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรา แต่จะให้กินอาหารแบบธรรมดาๆ มันก็จะดูน่าเบื่อเกินไป จึงมีสาวสวยคนหนึ่งริเริ่มที่จะจัดวางอาหารที่เรากินกันในทุกวันให้กลายเป็นผลงานศิลปะซะเลย Brittany Wright ช่างภาพถ่ายอาหารจากเมืองซีแอตเทิล ในรัฐวอชิงตัน ประเทศอเมริกาได้จัดวางอาหารรวมถึงวัตถุดิบต่างๆ เรียงตามขนาด สี และประเภทให้กลายเป็นรูปภาพอาหารไล่โทนกัน ที่ไม่ว่าใครดูก็ต้องรู้สึกฟินไปตามๆ กัน ซึ่งเธอได้สร้างแฮชแท็ก #foodgradients ขึ้นในโลกอินสตาแกรมและนั่นทำให้เธอมีผู้ติดตามมากถึง 195,000 คนเลยทีเดียว โดย Brittany บอกว่าเธออยากให้ผู้คนเห็นคุณค่าของความสวยงามในอาหาร รวมทั้งทำให้อาหารต่างๆ ดูมีมูลค่าขึ้นนั่นเอง   หน้าตาของช่างภาพสาวสุดสวยที่ได้สร้างสรรค์งานศิลปะขึ้นมาจากสิ่งรอบตัว   นอกจากงานประจำแล้ว เธอได้เริ่มการทำอาหารต่างๆ ที่เรียนรู้จากตำราสอนทำอาหารและได้ลองสูตรใหม่ๆ เสมอ -อุปกรณ์อบขนมแบบพื้นฐาน   “อาหารเป็นส่วนสำคัญในโลกของฉันเสมอ” Brittany กล่าว -ขนมปังปิ้ง   โดยจุดเริ่มต้นของการเป็นช่างภาพก็คือ ปู่ของเธอซื้อกล้องตัวแรกให้เธอตอนอายุ 11 ปี -ไอศกรีมแท่ง   ด้วยการมองเห็นส่วนที่ไม่มีใครเห็น เธอจึงเริ่มโพสต์ภาพการคุมโทนอาหารลงใน Instagram และได้กลายเป็นกระแสไวรัลในเวลาต่อมา -ไอศกรีม   และในตอนนี้เธอได้ทำหนังสือรวบรวมภาพอาหารของเธอชื่อว่า “Feast Your Eyes” -ลูกอมต่างๆ   พริกถือว่าเป็นหนึ่งในพืชผักที่เธอชอบที่สุดเนื่องจากสีสันอันหลากหลาย ส่วนงานที่เธอคิดว่าท้าทายที่สุดคือการถ่ายภาพไอศกรีม เพราะเธอต้องแข่งกับเวลาก่อนที่มันจะละลายนั่นเอง -พริก…

  • โดนตัวไหนมาล่ะพ่อหนุ่ม…หนุ่มอ้างว่าชื่อ “โนอาห์” มาจากอนาคต แต่พิสูจน์อะไรไม่ได้เลย

    โดนตัวไหนมาล่ะพ่อหนุ่ม…หนุ่มอ้างว่าชื่อ “โนอาห์” มาจากอนาคต แต่พิสูจน์อะไรไม่ได้เลย

    บ่อยครั้งที่เรื่องราวเร้นลับและเหนือธรรมชาติต่างๆ นั้นจะยังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์หรือสรุปได้ และในแต่ละวันนั้นก็มักจะมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก เหมือนกับเรื่องราวของหนุ่มน้อยที่เรียกตัวเองว่าโนอาห์ และบอกว่าตัวเองเดินทางมาจากโลกอนาคต!! คลิปวิดีโอจากช่องยูทูป Paranormal Elite ได้เผยให้เห็นการพูดคุยกับเด็กหนุ่มลึกลับ ที่บอกว่าตัวเขาเองนั้นชื่อโนอาห์ ซึ่งเดินทางมาจากโลกอนาคต ตอนนี้เขาทำงานให้กับโปรเจกต์หนึ่งของรัฐบาลสหรัฐฯ และกำลังถูกตามลอบสังหารอยู่!!   หนุ่มน้อยนิรนามที่อ้างว่ามาจากโลกอนาคต   ทางช่องได้ทำการเซ็นเซอร์หน้าเจ้าหนูน้อยผู้นั้นเพื่อความปลอดภัยของเขา เด็กหนุ่มดูหวาดกลัวและวิตกกังวลมาก ซึ่งเขาบอกว่านี่เป็นหนึ่งในผลข้างเคียงจากการท่องไปในมิติของเวลา โห!! นอกจากนี้เขายังเปิดเผยอีกว่า อันที่จริงนั้นตัวเขามีอายุมากกว่า 50 ปี แต่เป็นเพราะยาสูตรลับที่ช่วยทำให้เขากลายเป็นเด็กอายุ 25 ปี โห!!     “ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวงใคร” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับน้ำเสียงสั่นเครือ “วัตถุประสงค์เดียวของผมคืออยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าการเดินทางในมิติเวลานั้นมีอยู่จริง และผมเองก็เป็นนักเดินทางข้ามมิติ”  นอกจากนี้เด็กหนุ่มยังได้กล่าวอีกว่าจริงๆ แล้วการเดินทางข้ามมิตินั้นมีมาตั้งแต่ปี 2003 แล้ว แต่มันยังไม่ได้ถูกเปิดเผยจนกว่าจะถึงปี 2028 เด็กหนุ่มเอามือทาบอกตัวเองพร้อมกับพูดออกมาว่าจริงๆ แล้วเขาเดินทางมาจากปี 2021 ก่อนจะร้องไห้เสียใจพร้อมกับบอกว่าตอนนี้เขาไม่สามารถกลับไปยังโลกอนาคตได้แล้ว “ผมติดอยู่ที่นี่” ชายหนุ่มสะอื้น     เด็กหนุ่มได้เล่าถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกิดขึ้นในปี 2021 เขาบอกว่าในอนาคตนั้นรถไฟฟ้าและรถยนต์แบบไร้คนขับจะได้รับความนิยมอย่างมาก และมันสามารถขับได้ไกลถึงเกือบ 1,000 กิโลเมตรจากการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าระบบปัญญาประดิษฐ์และการลงทุนในธุรกิจพลังงานจะได้รับความนิยมอย่างมาก รวมไปถึงโดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งในปี…

  • เผยโฉม Tu-160M2 เครื่องบินทิ้งระเบิด พร้อมความเร็วเหนือเสียง รุ่นใหม่ล่าสุด

    เผยโฉม Tu-160M2 เครื่องบินทิ้งระเบิด พร้อมความเร็วเหนือเสียง รุ่นใหม่ล่าสุด

    ถ้าหากพูดถึงประเทศที่มีแสนยานุภาพทางด้านกองทัพหลายๆ คนอาจจะต้องนึกถึงประเทศ… รัสเซียแน่นอน และเมื่อเร็วๆ นี้พวกเขาก็ได้เพิ่มความน่าเกรงขามของกองทัพอีกขั้นด้วยการเพิ่มเครื่องบินรบลำใหม่!! เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ทางกองทัพอากาศรัสเซียได้เปิดตัวเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-160M2 Blackjack ที่มีการพัฒนามาจากเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นเก่าอย่าง Tu-160M และ Tu-160   และนี่คือโฉมหน้าของเจ้าเครื่องบินรบลำใหม่ Tu-160 M2 Blackjack   สื่อรัสเซียได้มีการรายงานว่า “มีการปรับปรุงรูปแบบต่างๆ ของเครื่องบินทิ้งระเบิดโซเวียตรุ่นเก่าอย่าง Tu-160 และพัฒนามเป็น Tu-160M2 เครื่องบินทิ้งระเบิดโฉมใหม่ลำนี้” เครื่องบินลำใหม่ของรัสเซียนี้คาดว่าจะมีการทดสอบบินครั้งแรกในปี 2018 และจะมีการผลิตออกจำหน่ายในปี 2021 แต่อย่างไรก็ตามรายละเอียดปลีกย่อยของเจ้าเครื่องบินลำนี้ยังคงไม่ได้รับการเปิดเผย     เครื่องบิน Tu-160M ต้นแบบของเจ้าเครื่องบินทิ้งระเบิดลำล่าสุดของรัสเซีย มันถูกนำมาใช้ในกองทัพตั้งแต่ปี 2014 ส่วนเครื่อง Tu-160 นั้นถูกใช้ในกองทัพของโซเวียตมาตั้งแต่ปี 1987 หรือประมาณ 30 ปีที่แล้ว   ถึงแม้ว่าข้อมูลบางอย่างของเจ้าเครื่องบินลำนี้จะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่อย่างไรก็ตามทางการรัสเซียได้รายงานว่า เจ้าเครื่อง Tu-160M2 นี้ใช้ส่วนประกอบเก่าของเครื่องเดิมมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว…

  • ตำรวจจับกุมวัยรุ่น 3 ราย หลังลักพาตัวเด็กไปขัง 5 วัน และบังคับให้มีเซ็กส์กับชายกว่า 20 คน

    ตำรวจจับกุมวัยรุ่น 3 ราย หลังลักพาตัวเด็กไปขัง 5 วัน และบังคับให้มีเซ็กส์กับชายกว่า 20 คน

    เหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นที่เมืองคอเวนทรี ในเขตเวสต์มิดแลนด์ส ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เด็กสาววัย 14 ปีผู้หนึ่งถูกขังไว้นานถึง 5 วัน และถูกบังคับให้ร่วมเพศกับชายหนุ่มกว่า 20 คน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปี 2017 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้รายว่างานนาย Jake Cairns วัย 21 ปี นาย Brandon Sharples วัย 20 ปี และนาย Jack McInally วัย 21 ปี 3 ผู้ต้องหาที่กระทำการดังกล่าว ถูกตั้งข้อหาฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก หลังจากที่พวกเขาได้โพสต์ขายภาพของเธอลงบนเว็บไซต์สื่อลามก พร้อมกับโกหกว่าเธออายุ 18 ปี   นาย Jack McInally และนาย Jake Cairns   เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมวัยรุ่นทั้ง 3 หลังจากที่เห็นเหยื่อสาวกำลังพยายามปีนออกมาทางหน้าต่างห้องน้ำชั้นแรก ในสภาพที่สวมเพียงแค่ชุดชั้นใน ซึ่งมีรูปร่างและใบหน้าตรงกับประกาศคนหลาย หลังจากที่เธอได้หายตัวไปจากบ้านของญาติเมื่อหลายวันก่อน “ชายทั้ง 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีเด็กหญิงคนนี้ ในตอนแรกนาย Cairns ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับเธอ แต่หลังจากที่เราทำการตรวจสอบก็พบว่าบัญชีธนาคารของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้” เจ้าหน้าที่ Jon Barker…

  • คนไร้บ้านเขมือบมื้ออาหารในฝันที่โรงแรมระดับ 5 ดาว แล้วก็ชักดาบไปกว่า 17,000 บาท

    คนไร้บ้านเขมือบมื้ออาหารในฝันที่โรงแรมระดับ 5 ดาว แล้วก็ชักดาบไปกว่า 17,000 บาท

    เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในโรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่งบนเกาะ Jersey ที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบอังกฤษ เมื่อมีชายไร้บ้านคนหนึ่งได้เข้ามากินอาหารสุดหรูในโรงแรมและเดินออกไปหน้าตาเฉยโดยไม่จ่ายเงินเลยซักแดง ตามรายงานจากเว็บไซต์ Metro บอกว่าชายคนนี้มีชื่อว่า Micheal Andrew Phillips วัย 52 ปี ได้ชิ่งก่อนที่จะจ่ายบิลจำนวน 400 ปอนด์ (ประมาณ 17,000 บาท) ซึ่งเป็นค่าบริการสำหรับมื้อสุดหรูที่เขาได้มาใช้บริการที่โรงแรมชื่อว่า Old Court House ซึ่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว   หน้าตาของโรงแรมที่โดนชิ่ง   ซึ่งอาหารที่เขาสั่งก็มีทั้ง ค็อกเทลกุ้ง ริบอายสเต็ก และเครื่องดื่มอีกหลายอย่างรวมถึงแชมเปญด้วย จากนั้นเขาก็ได้ขอห้องพักในโรงแรมที่มีราคา 150 ปอนด์ (6,500 บาท) ต่อคืนที่สามารถมองเห็นอ่าว St Aubin ก่อนจะสั่งไวน์เพิ่มอีก 2 ขวด โดยก่อนหน้านี้เขาได้เอาใบขับขี่ของเขาของเขาเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนในการเข้าพัก แต่แล้วเขากลับเดินออกจากโรงแรมไปเฉยๆ โดยที่ไม่ได้จ่ายเงินแถมยังเอาไวน์ติดตัวไปด้วย   ไวน์ Dom Pérignon สุดหรู   ต่อมาเขาถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงสำหรับอาหารที่ได้กินและที่พักสำหรับคืนนั้น ซึ่งเขาก็ไม่ได้แก้ตัวใดๆ และให้การยอมรับความผิดที่ศาล คำสารภาพของเขาบวกกับการชี้ตัวของพนักงานโรงแรมทำให้เขาโดนจับกุมไปในที่สุด แต่เขาบอกตำรวจว่าเขามีความทรงจำน้อยมากที่จำได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในเย็นวันนั้น   ขึ้นศาลตัดสินรับโทษ…

  • กลุ่มรับกำจัดหนู ที่มีเหล่าแมวเหมียวจรจัดเป็นพนักงาน สนใจใช้บริการกันป๊ะล่าาา!?

    กลุ่มรับกำจัดหนู ที่มีเหล่าแมวเหมียวจรจัดเป็นพนักงาน สนใจใช้บริการกันป๊ะล่าาา!?

    เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา คือเมืองที่ประสบปัญหาประชากร “หนู” เยอะที่สุดในประเทศ เรียกได้ว่าสามารถพบเจอได้แทบทุกบ้าน ตามที่ทำงาน หรือตามท้องถนน จนเกิดแนวทางการแก้ไขด้วยศัตรูตามธรรมชาติของมันอย่างเจ้าแมวเหมียว ไอเดียการจัดการประชากรหนูด้วยน้องแมวนี้เป็นความคิดของกลุ่ม Treehouse Humane Society โดยโครงการนี้มีชื่อว่า Cats at Work ที่ทำให้คุณสามารถติดต่อรับเจ้าแมวจรจัดกลับไปได้ 3 ตัวต่อครั้งเพื่อช่วยในการกำจัดหนูที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหรือที่ทำงานของคุณ   ยามน้องเหมียว ไม่ได้ช่วยจับโจรแต่ช่วยจับหนู   การทำงานของพนักงานน้องเหมียวเหล่านี้ก็ง่ายมากๆ แค่คุณพาพวกมันกลับไปให้ข้าวให้น้ำซักหน่อย เดี๋ยวพวกมันก็คอยสอดส่องตามหาเจ้าหนูให้คุณเอง ง่ายมากๆ เลยใช่มั้ยล่ะ แนวทางนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างดีเยี่ยม จากผลตอบรับของผู้ที่ได้มาใช้บริการ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ้าแมวช่วยกำจัดหนูให้หมดไปจากบ้านหรือที่ทำงานของพวกเขา ทำให้ไม่เกิดปัญหาข้าวของถูกทำลายหรือโดนขโมยจากเจ้าหนูอีกต่อไป   การทำงานของเจ้าเหมียว ช่วยกำจัดหนูให้หมดไปจากบ้านคุณ   Paul Nickerson ผู้จัดการของกลุ่ม Treehouse บอกว่า “วิธีการนี้ไม่ได้ช่วยแค่การควบคุมประชากรหนู แต่ยังช่วยให้เจ้าแมวจรจัดกว่า 260 ตัวมีชีวิตที่ดีขึ้นและมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่ง สร้างความสุขให้กับทั้งคนและแมวเอง เรียกว่าเป็นโลกที่พึ่งพาอาศัยกันอย่างแท้จริง” เขายังเสริมอีกว่าตอนนี้ยอดคิวจองตัวรับน้องเหมียวยาวเหยียดเอามากๆ หากใครต้องการตัวเจ้าเหมียวกลับไปช่วยดูแลบ้านก็ต้องรอนานไปถึง 3 เดือน นับว่าโครงการนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจริงๆ   Paul…

  • หนุ่มโดนแก๊งต้มตุ๋นโทรหา เขาก็เลยแกล้งโทรกลับไปเรื่อยๆ จนพวกนั้นต้องขอร้องให้หยุด

    หนุ่มโดนแก๊งต้มตุ๋นโทรหา เขาก็เลยแกล้งโทรกลับไปเรื่อยๆ จนพวกนั้นต้องขอร้องให้หยุด

    สมัยนี้แก๊งต้มตุ๋นใช้วิธีการโทรศัพท์เข้ามาเพื่อหลอกเอาเงินเราไปโดยอ้างว่ามาจากองค์กรโน่นนี่นั่น เหมือนกับอย่างที่ชายคนนี้ต้องเจอและเขาสามารถจัดการกับคนเหล่านั้นได้อย่างเจ็บแสบเลยทีเดียว เขามีชื่อว่า Kevin Underhill อาศัยอยู่ในเมืองลอนดอน รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เมื่อได้มีคนฝากข้อความเสียงเอาไว้ให้แล้วอ้างว่าเป็นสำนักงานสรรพากรของประเทศ ที่บอกว่าเขากำลังเจอกับปัญหาในเรื่องของภาษีอยู่ ในตอนนั้นชายหนุ่มรู้ได้ทันทีเลยว่านี่คือการโทรมาหลอกเอาเงินอย่างแน่นอน   พ่อหนุ่ม Kevin ผู้ที่สามารถรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม   เขาจึงโทรกลับไปหาที่เบอร์นั้น โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่าเขาต้องจ่ายเงินไปให้ในทันที ไม่อย่างนั้นอาจต้องติดคุกหัวโตเลยก็ได้ เมื่อ Kevin ฟังจนจบก็ถูกถามให้บอกข้อมูลส่วนตัว เขาจึงสะกดชื่อของเขาไปว่า Y-O-U-E-A-S-C-A-M ซึ่งหมายความว่า “พวกนายมันเป็นแก๊งต้มตุ๋น” เจอแบบนี้เข้าไปปลายสายก็รู้สึกหัวเสียอย่างมากที่ถูกจับได้ และพูดด้วยความโมโหกับเขาว่า “นั่นมันไม่ใช่ชื่อคุณนี่!!” ก่อนที่จะวางสายไป แต่เขาก็ยังคงได้รับโทรศัพท์จากแก๊งต้มตุ๋นที่อ้างว่ามาจากหน่วยงานอื่นๆ เขาก็เลยแกล้งบอกไปว่าตัวเองคือดาราดัง Ryan Reynolds ซะเลย ทำเอาคนที่โทรมาหลอกถึงกับหัวร้อนเพราะความกวนของเขา   แก๊งต้มตุ๋นไม่เชื่อว่า Kevin คือดาราหนุ่มคนนี้.. ก็แหงล่ะ ใครมันจะไปเชื่อ?!   ไม่จบเพียงแค่นั้นเพราะเขาได้โทรกลับไปหาเบอร์ที่โทรมาหลอกเขาอีกหลายสาย โทรไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด แต่ก็โดนตัดสายทุกครั้งที่โทรไป จนกระทั่งมีสายหนึ่งรับและอ้างตัวว่าเป็นผู้จัดการของบริษัท Kevin จึงถามไปว่า “จะวางสายผมทำไม มีอะไรก็บอกกันสิ” ฝั่งนั้นเลยตอบกลับมาว่า “ขอร้องละ หยุดแกล้งเราซักทีเถอะ” ประโยคนั้นทำให้…

  • คุณพ่อทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถถึงในบ้าน แต่ตำรวจกลับจะจับเขาเข้าคุกซะงั้น!?

    คุณพ่อทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถถึงในบ้าน แต่ตำรวจกลับจะจับเขาเข้าคุกซะงั้น!?

    ตามที่เราหลายคนเข้าใจคือ เราสามารถใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นได้โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย ในกรณีที่เป็นการป้องกันตัว เหมือนกับ Carl Sinclair ที่เข้าใจแบบนั้น จึงได้ทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถในบ้าน แต่สุดท้ายเขากลับถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย!? ในวันที่เกิดเหตุนั้น Carl เห็นคนร้ายกำลังจะเข้ามาขโมยรถของเขาที่จอดไว้ ขณะนั้นภรรยาและลูกๆ สามคนกำลังนอนอยู่ในบ้าน     ด้วยความเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการปกป้องครอบครัวและทรัพย์สิน เขาจึงคว้าค้อนวิ่งออกไปข้างนอก ปะทะกับโจร ก่อนจะกดหัวเขาไว้กับพื้น จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ แต่แทนที่จะจับคนโจรไปดำเนินคดี กลับจับ Carl ในข้อหาทำร้ายร่างกายซะงั้น เมื่อไปขึ้นศาล คณะลูกขุนได้ทำการพิจารณาคดีเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแล้วตัดสินให้เขามีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย นั่นทำให้เขาต้องเสียหน้าที่การงานไปทันที     แน่นอนว่า Carl ไม่เข้าใจกับการตัดสินในครั้งนี้ และเขามองว่าระบบความยุติธรรมช่างเป็นอะไรที่ตลกสิ้นดี “ผมไม่ใช่คนร้าย แต่ชีวิตผมกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเพราะคำตัดสินที่ไม่ยุติธรรมนี้ ผมเป็นพ่อ เป็นสามีธรรมดาคนหนึ่งที่แค่อยากทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าครอบครรัวที่คอยปกป้องครอบครัวที่ผมรัก” แม้จะพยายามบอกเหตุผลให้ศาลฟังยังไงก็ไม่ได้ผล สุดท้ายเขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 11 เดือน     ตลอดเวลาที่เขาอยู่ในคุกนั้น ภรรยาและลูกต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนที่หารายได้ให้ครอบครัวใช้จ่ายในด้านต่างๆ นั่นทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียบ้านไปเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน แม้ว่าปัจจุบันจะออกจากคุกแล้ว แต่ Carl ยังเจ็บใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาบอกว่า “อะไรคือความยุติธรรม? ผมสู้กับโจรที่จะเข้าขโมยและจับเขาไว้ได้ แต่สุดท้ายคนที่ได้รับโทษกลับเป็นผม” “ที่สำคัญคนร้ายที่พยายามจะเข้ามาในบ้านของผมนั้น ถูกจำคุกเพียง 8 สัปดาห์ ทั้งๆ ที่ ถ้าเขาเข้ามาโดยที่ผมไม่รู้…

  • ไอจีศิลปะแห่งอาหารเช้า คว้า “ไข่ดาว” มาทำเป็นรูปภาพแหวกแนว สุนทรีย์ไปอีก

    ไอจีศิลปะแห่งอาหารเช้า คว้า “ไข่ดาว” มาทำเป็นรูปภาพแหวกแนว สุนทรีย์ไปอีก

    สำหรับคนที่ทำอาหารเป็น อาจจะรู้สึกกับสนุกกับการทำอาหาร แต่คนที่ทำอาหารไม่เนี่ยสิ หิวเมื่อไหร่ไม่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้ม วนกันอยู่แค่เนี๊ยะ จนรู้สึกว่าการเข้าครัวช่างเป็นอะไรที่น่าเบื่อซะจริงๆ ถ้าคุณกำลังคิดแบบนี้อยู่ เราจะบอกว่าแค่ทำไข่ดาวเป็น มันก็มากเพียงพอแล้วสำหรับการเข้าครัวในแต่ละครั้ง เพราะเมนูไข่ดาวจะทำให้คุณสนุกกับการทำอาหารแบบไม่มีสิ้นสุด     เหมือนผู้ใช้อินสตาแกรม @the_eggshibit ที่ได้โพสต์ภาพไข่ดาวในรูปร่างต่างๆ ทำให้รู้ว่าไข่ดาวไม่จำเป็นต้องมีไข่แดงอยู่ข้างในแล้วล้อมด้วยไข่ขาวเสมอไป แต่มันสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามใจชอบ เคยเห็นเค้าทำลาเต้อาร์ตมั้ย แบบว่าวาดลวดลายบนกาแฟน่ะ นี่ก็เหมือนกัน แค่เปลี่ยนกาแฟเป็นไข่เท่านั้นเอง แล้วจะเรียกว่าไข่อาร์ตก็ได้นะ     สำหรับเจ้าของไอเดียไข่ดาวนี้เป็นศิลปินที่อาศัยอยู่ในเม็กซิโก แต่เขาไม่ได้ระบุชื่อเอาไว้ อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นผู้จุดประกายให้ผู้คนอยากเข้าครัวมากขึ้น เพื่อทำเมนูไข่ดาวตามใจฉัน     ส่วนแรงบันดาลใจในการทำไข่ดาวให้เป็นรูปร่างต่างๆ นั้น ไม่ต้องไปมองไกล เอาสิ่งที่เห็นรอบๆ ตัวนี่แหละ ไม่ว่าทำเป็นตัวละครจากหนัง สถานที่ท่องเที่ยว หรือสัญลักษณ์ต่างๆ มาปรับใช้ หากลองเข้าไปดูในไอจี @the_eggshibit จะเห็นว่ามีแต่ไข่ดาวล้วนๆ แต่ถูกทำให้รูปร่างต่างกัน จนตอนนี้มีคนเข้าไปติดตามแล้ว 2,200 คน ใครอยากได้ไอเดียทำไข่ดาว ก็เข้าไปติดตามได้นะ     เกม Pac-Man ก็มา   รูปโลก อาจจะต้องมีศิปละในการแยกไข่แดงกับไข่ขาวนิดนึง  …

  • มหาวิทยาลัยเกาหลีใต้ เปิดคอร์ส ‘ความรักและการเดท’ เพื่อช่วยกระตุ้นอัตราการเกิด

    มหาวิทยาลัยเกาหลีใต้ เปิดคอร์ส ‘ความรักและการเดท’ เพื่อช่วยกระตุ้นอัตราการเกิด

    ในปัจจุบันดูเหมือนว่าปัญหาของจำนวนประชากร และอัตราการแต่งงานที่ลดลงนั้นดูจะส่งผลกระทบต่อหลายๆ ประเทศ และหนึ่งในนั้นก็คือประเทศเกาหลีใต้นั่นเอง แต่เมื่อไม่นานมานี้มหาวิทยาลัย Dongguk จากกรุงโซล ของประเทศเกาหลีใต้ก็ได้เปิดคอร์สเรียนใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่ว่านี้ ซึ่งคอร์สเรียนนี้ก็คือการแต่งงานและครอบครัว (Marriage and Family) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ช่วยนักศึกษาได้เข้าใจในเรื่องความรัก และการพัฒนาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว     “การลดลงของประชากรในเกาหลีนั้นทำให้การออกเดทและการแต่งงานกลายเป็นเรื่องที่สำคัญขึ้นมา แต่คนเกาหลีรุ่นใหม่นั้นไม่ค่อยที่จะมีเวลาว่างและสนใจเรื่องเหล่านี้มากเท่าไหร่” ศาสตราจารย์ Jang Jae-sook ผู้ก่อตั้งวิชาการแต่งงานและครอบครัวกล่าว นอกจากการเรียนการสอนในห้องแล้ว ผู้ที่เรียนในวิชานี้ยังต้องออกเดทกับคู่เดทอย่างน้อย 3 คนในหนึ่งเดือน และหลังจากที่ได้ทำความรู้จักกันแล้ว พวกเขาจะต้องบอกกับอาจารย์อีกด้วยว่ารู้สึกกับคนไหนเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการบ้านที่เกี่ยวกับการเดท และอภิปรายเกี่ยวกับสถาณะการณ์ที่คู่รักต้องเจอ อย่างเช่นการทะเลาและความหึงหวงอีกด้วย เป้าหมายของวิชานี้ไม่ได้อยู่ที่การมีคู่ แต่ทางอาจารย์ผู้ก่อตั้งวิชานี้ต้องการให้พวกเด็กๆ ได้ทดลองพัฒนาความสัมพันธ์ในชีวิตจริง จะช่วยให้วัยรุ่นได้เข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ลึกซึ้งมากขึ้น     สถานะการณ์ด้านการใช้ชีวิตคู่ของประเทศเกาหลีใต้นั้นลดลงอย่างมาก โดยในปี 2016 นั้นพบว่าคนเกาหลีใต้มีอัตราการแต่งงานที่ต่ำมากที่นับตั้งแต่ปี 1977 เป็นต้นมา และในช่วงตลอด 10 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้งบประมาณไปมากกว่า 2,300 ล้านบาทในการกระตุ้นอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร   ที่มา telegraph, independent

  • ทำไมมันดีกว่าชาวบ้านเขา!!! คุณแม่ลูก 4 ที่ไม่ว่าจะใช้วิธีคุมกำเนิดยังไงเธอก็ท้องจนได้

    ทำไมมันดีกว่าชาวบ้านเขา!!! คุณแม่ลูก 4 ที่ไม่ว่าจะใช้วิธีคุมกำเนิดยังไงเธอก็ท้องจนได้

    การมีเพศสัมพันธ์กันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ แต่ก็ต้องคอยระวังสิ่งที่จะตามมาทั้งโรคติดต่อและปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งนั่นได้ทำให้ในปัจจุบันมีการคุมกำเนิดมากมายทั้ง ถุงยางอนามัย ห่วงอนามัย ยาคุมกำเนิดแบบฉีด ยาคุมกำเนิดแบบฝัง แต่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ว่าจะใช้การคุมกำเนิดแบบไหนก็ไม่ได้ผลกับเธอทั้งนั้น   Emma Brown คุณแม่ลูก 4 ที่ไม่มีการคุมกำเนิดไหนเอาเธออยู่   การต้องมาดูแลเด็กแรกเกิดและต้องมาคอยอบรมสั่งสอนไม่ใช่สิ่งที่ Emma Brown อยากจะทำมากนักนั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เธอไม่อยากจะตั้งครรภ์ แต่ว่าวันนี้เธอภูมิใจในความเป็นแม่ของเด็กๆ ทั้ง 4 คนที่มาจากความล้มเหลวในการคุมกำเนิด โดยในอดีตนั้นเธอได้สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองว่าจะไม่ตั้งท้อง โดยการคุมกำเนิดวิธีต่างๆ ทั้งการฉีด การกินยาคุมกำเนิด ใช้ถุงยางอนามัย และการคุมกำเนิดแบบฝัง ซึ่งเธอบอกว่าบางครั้งเธอก็ใช้การคุมกำเนิดถึง 4 อย่างพร้อมกันและใช้แต่ละอย่างด้วยความถูกต้องแต่ก็ยังก็ไม่ได้ผลอยู่ดี โดยผู้เชี่ยวชาญได้เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอว่า “โอกาสหนึ่งในล้าน” เลยทีเดียว   Reggie ขณะแรกเกิด   ตอนนี้ลูกๆ ของเธอที่เกิดจากความล้มเหลวในการคุมกำเนิดก็มีถึง 4 คนด้วยกันคือ Sofie อายุ 12 ปี, Sarah อายุ 11 ปี, Stevie อายุ 5 ขวบและคนสุดท้อง Reginald…

  • สภาพอันน่าเวทนาของ “สิงโตแก่” ในสวนสัตว์บังกลาเทศ ชาวเน็ตร่วมแชร์จนเป็นประเด็นใหญ่

    สภาพอันน่าเวทนาของ “สิงโตแก่” ในสวนสัตว์บังกลาเทศ ชาวเน็ตร่วมแชร์จนเป็นประเด็นใหญ่

    วันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมลได้เผยภาพสุดสลดของสิงโตตัวหนึ่ง ที่มีสภาพผอมแห้งเหลือแต่กระดูก หลังจากที่มันพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดในกรงขังอันแสนสกปรกของสวนสัตว์ในบังกลาเทศ ทางด้านเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้ออกมาเผยว่า สาเหตุที่ทำให้เจ้า Juboraj อยู่ในสภาพผอมแห้งเช่นนี้เป็นเพราะมันมีภาวะแทรกซ้อนมากมายและอายุมากแล้ว   ภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นถึงสภาพอันน่าเวทนาของเจ้าสิงโต ที่ผอมแห้งจนทำให้สามารถเห็นโครงสร้างของโครงกระดูกยื่นออกมาจากผิวได้อย่างชัดเจน   จากการรายงานระบุว่า ภายหลังจากที่นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมสวนสัตว์แห่งนี้ พวกเขาก็รู้สึกตกใจที่ได้เห็นสภาพของ Juboraj เจ้าสิงโตอายุ 18 ตัวนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งมันก็ยังคงถูกรบกวนจากผู้เข้าชม แต่ถึงกระนั้นก็มีบางคนได้ปฏิเสธที่จะเข้าไปเยี่ยมชมมัน     ในขณะที่ผู้คนบางส่วนที่ได้เห็น Juboraj ก็อดสงสารไม่ได้ เลยร่วมกันร้องเรียนไปยัง Abdul Hamid ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของบังกลาเทศ ให้รับรู้ถึงสภาพอันน่าเวทนาของเจ้าสิงโตจากสวนสัตว์แห่งนี้ด้วย ซึ่งก็มีผู้เข้าร่วมการสนับสนุนคำเรียกร้องมากถึง 56,000 คนเลยทีเดียว โดยภายในคำร้องได้มีการระบุว่า “Juboraj เป็นสิงโตที่กำลังหิวโหยและใกล้ตายอยู่ที่สวนสัตว์ Comilla Zoo ในบังคลาเทศ มันใช้เวลาทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ในกรงอันแสนสกปรกและแทบจะไม่ได้กินอะไรเลย”     อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกของสวนสัตว์ก็ได้ออกมาอธิบายว่า แม้ว่าเจ้า Juboraj จะอยู่ในสภาพวิกฤติ แต่ทางสวนสัตว์ก็เคยให้สัตวแพทย์มาคอยดูแลรักษามันอยู่เสมอ ซึ่งรายงานล่าสุดระบุว่าทางแพทย์ก็ได้บอกว่าโดยปกติแล้วสิงโตจะมีอายุเฉลี่ยเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น แต่สำหรับ…

  • หญิงสาวเปิดประสบการณ์อันขมขื่นในการต่อสู้กับ ‘โรคคลั่งผอม’ มานานกว่า 16 ปี

    หญิงสาวเปิดประสบการณ์อันขมขื่นในการต่อสู้กับ ‘โรคคลั่งผอม’ มานานกว่า 16 ปี

    Anorexia หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า โรคคลั่งผอม คืออาการทางจิตที่ทำให้ผู้ป่วยหลายๆ คนพยายามลดน้ำหนักของตัวเองลงไปให้มากที่สุดจนแทบจะกลายเป็นโครงกระดูกเดินได้ เหมือนกับเธอคนนี้ที่ต้องต่อสู้กับความผิดปกติในใจของตัวเองเพราะไม่อาจทนรับกับสิ่งที่เธอเป็นอยู่นี้ได้อีกต่อไป หญิงสาวชาวอเมริกันคนนี้มีชื่อว่า Stephanie Rodas วัย 28 ปี เธอคนนี้เคยหนักเพียงแค่ 24 กิโลกรัม จนทำให้เธอต้องไปพบแพทย์ตามคลินิกหรือโรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นอาการทางจิตที่เป็นอยู่ของเธอก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย     จนกระทั่งเธอได้มาเป็นแขกรับเชิญของรายการ The Doctors เธอได้รับการทดสอบทางด้านร่างกาย การทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด รวมถึงการอัลตร้าซาวด์เพื่อเข้าไปเช็กความผิดปกติภายใน เธอต้องต่อสู่กับอาการดังกล่าวมานานกว่า 16 ปี หรือกว่าครึ่งชีวิตของเธอ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการว่า “ในแต่ละวันฉันสามารถกินอาหารได้แค่ 100 แคลอรี่ และใช้เวลาออกกำลังกายไปอีก 10 ชั่วโมง” “ฉันเริ่มเป็นอย่างนั้นตั้งแต่อายุได้ 13 ปี เพราะว่าในตอนนั้นฉันถูกเพื่อนๆ ในโรงเรียนล้อว่า ‘ยัยอ้วน’ ทุกคนในโรงอาหารคอยรังแกฉันในตอนพักทานข้าวเที่ยง พวกเขาจะปาอาหารใส่ฉัน” เธอเล่าเสริม     ด้วยการที่เธอถูกรังแกมาตั้งแต่เด็กทำให้เธอเริ่มลดน้ำหนักตัวเองลงอย่างบ้าคลั่ง จนกลายเป็นโรคคลั่งผอมในที่สุด ครั้งหนึ่งเธอเคยกินยาแก้ปวดเข้าไปเพราะเชื่อว่ามันจะทำให้เธอผอมลงได้ แต่เธอกลับล้มหมดสติลงไปกับพื้นก่อนที่พี่สาวของเธอจะมาพบและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ขาดการตอบสนองไปหลายวัน เธอยังคงไม่สามารถลบภาพความหลังฝังใจที่เคยมีในวัยเด็กได้ เธอได้บอกกับพิธีกรในรายการว่า เหตุผลที่เธอต้องมีร่างกายที่ผอมซูบขนาดนี้ก็เพราะ…

  • ละ..ล้ำ!! พริตตี้มอเตอร์โชว์กับ “ชุดโชว์นมอินเซปชั่น” ครอบนมจริงไว้ ไม่โป๊แต่ก็ดูวาบหวิวสุดๆ

    ละ..ล้ำ!! พริตตี้มอเตอร์โชว์กับ “ชุดโชว์นมอินเซปชั่น” ครอบนมจริงไว้ ไม่โป๊แต่ก็ดูวาบหวิวสุดๆ

    แม้จะเป็นการจัดงานมอเตอร์โชว์ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ตั้งแต่ปี 2014 แถมยังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงว่ามันดูโป๊ ดูอนาจารสุดๆ แต่ในความจริงของชุดสุดวาบหวิวที่ดาราสาว Pan Chunchun ใส่นั้นมันกลับเจ๋งกว่าที่คิด!!   พอจะดูออกไหมว่าของจริงหรือเปล่า   แน่นอนว่าเมื่อคนปกติดูชุดของเธอผ่านๆ เราก็จะคิดว่านี่เราต้องเผยเนื้อหนังกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย ต้องเปิดเต้ากันสุดๆ แล้วปิดแค่ตรงหัวเท่านั้นเหรอ ทว่าความจริงชุดที่เธอใส่มันกลับเป็นชุดโชว์นมแบบอินเซปชั่นที่ส่วนเต้าเป็นชุดทั้งหมดไม่ใช่นมของเธอจริงๆ งงเด้!?   ภาพนี้จะยิ่งเห็นชัดว่าหน้าอกกับสีผิวจะแตกต่างกันมากๆ .   อย่าโดนหลอกนะ ทาสนมทั้งหลาย   เพราะนมที่เราเห็นเป็นส่วนของนมปลอมที่ทำออกมาได้เนียนและตูมกว่าปกติมากๆ และก็ไม่แปลกที่เราจะมองว่ามันอนาจารเพราะมันเหมือนซะขนาดนั้น ยิ่งช่วงนั้นความหื่นกระหายหรืออะไรก็แล้วแต่บังตาอยู่จนไม่ทันคิด ยังไงก็ต้องมองว่านี่มันนมจริงโว้ย แต่ถึงแม้ตอนนี้เราจะรู้แล้วว่านมของ Pan Chunchun ในงานดังกล่าวเป็นของปลอม มันก็ยังถือว่าตัวชุดทำงานได้ประสบความสำเร็จจริงไหม? เพราะมันสามารถดึงดูดสายตาของเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ   สะท้อนแสงไหมล่ะ ทองแต่ไกล   ชุดนมปลอมทำงานได้สำเร็จแล้วล่ะ   ยังไงก็ตามเรื่องจะเหมาะสมหรือเปล่าอันนี้เราไม่ขอออกความคิดเห็น แต่ชุดมันประสบความสำเร็จในหน้าที่มันไหม อันนี้บอกเลยว่าสุดๆ   ถ้าคุณยังไม่เชื่อในความสำเร็จของเต้าอินเซปชั่น คลิปนี้ยืนยันได้ว่ามันได้ผลตอบรับดีจริงๆ   ที่มา 時空召喚 Summon spatial,sina,

  • ควีนอลิซาเบธและเจ้าชายฟิลิป ถ่ายภาพฉลองชีวิตคู่ที่ยืนยาวที่สุดในราชวงศ์อังกฤษ

    ควีนอลิซาเบธและเจ้าชายฟิลิป ถ่ายภาพฉลองชีวิตคู่ที่ยืนยาวที่สุดในราชวงศ์อังกฤษ

    สร้างความประทับใจให้ผู้คนจำนวนมาก เมื่อสื่อนอกเผยภาพขณะที่ควีนอลิซาเบธและเจ้าชายฟิลิปถ่ายรูปครบรอบการแต่งงาน 70 ปี ที่ถือเป็นความสำเร็จด้านชีวิตคู่ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ ภาพดังกล่าวถ่ายที่ White Drawing Room ใน Windsor Castle เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม โดยช่างภาพชาวอังกฤษ Matt Holyoak เผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นของทั้งสองพระองค์     ควีนอลิซาเบธในวัย 91 ปี สวมชุดสีครีมจากห้องเสื้อ Angela Kelly พร้อมกับเครื่องประดับและแหวนเพชรที่เป็นเครื่องหมายครบรอบแต่งงานของเธอ นอกจากนี้ที่อกด้านซ้าย เธอได้ติดเข็มกลัดสีเหลืองทองที่ประกอบด้วยทับทิมและเพชร ซึ่งออกแบบโดย Andrew Grima และเป็นของที่เจ้าชายฟิลิปได้มอบให้เธอเป็นของขวัญส่วนตัวเมื่อปี 1966     ข้างๆ ของควีนอลิซาเบธคือเจ้าชายฟิลิปในวัย 96 ปี สวมแจ็คเก็ตผ้าสักหลาด ส่วนกางเกงเป็นผ้าสักหลาดอ่อนสีเทาไม่มีลาย โดยยืนในท่าทางที่ดูผ่อนคลายและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน สำหรับวันครบรอบปีนี้ ควีนอลิซาเบธรู้สึกตื่นเต้นมาก โดยต้องการที่จะจัดงานครบรอบให้เป็นส่วนตัวและพิเศษกว่าที่ครั้งที่ผ่านมา พร้อมเชิญเพื่อนสนิทมาร่วมทานมื้อคำด้วยกันที่ State Apartments ใน Windsor Castle     แน่นอนว่าการจัดงานนี้ที่มีลักษณะตรงข้ามงานแต่งงานของพวกเขาที่จัดขึ้นที่ Westminster Abbey เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1947 เพราะครั้งนั้นได้มีการจัดให้เฉลิมฉลองกันทั่วโลก อย่างไรก็ถาม ทั้งโลกก็คงร่วมยินดีกับทั้งคู่ เพราะนอกจากจะเป็นการฉลองครบรอบแต่งงาน…

  • ตามชมชีวิตชนเผ่าในอินโดฯ ที่ผู้หญิงต้องตัดข้อนิ้วออกเมื่อมีคนในครอบครัวเสียชีวิต

    ตามชมชีวิตชนเผ่าในอินโดฯ ที่ผู้หญิงต้องตัดข้อนิ้วออกเมื่อมีคนในครอบครัวเสียชีวิต

    ตามชนบทนั้นมักจะมีความเชื่อหรือวัฒนธรรมโบราณที่สืบทอดกันหลายชั่วอายุคน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยุคสมัยมีการเปลี่ยนแปลง บางวัฒนธรรมก็ค่อยๆ เลือนหายไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้มีหลายวัฒนธรรมที่ยังคงได้รับการปฏิบัติและสืบทอดอย่างเคร่งครัด หนึ่งนั้นคือวัฒนธรรมตัดข้อนิ้วมือของคนชนเผ่า Dani ในประเทศอินโดนีเซีย ชนเผ่า Dani อยู่ในหมู่บ้าน Baliem Valley ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลของประเทศอินโดนีเซีย ถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อปี 1938     จากการค้นพบในครั้งนั้น ทำให้หมู่บ้านดังกล่าวได้รับความสนใจจากคนภายนอกจนถึงปัจจุบันนี้ หนึ่งในนั้นคือช่างภาพที่ชื่อว่านาย Markus Roth ที่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขานานถึงหนึ่งสัปดาห์ ตลอดระยะเวลาที่ได้อยู่กับชนเผ่า Dani ช่างภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับอาหารของพวกเขา ทักษะชีวิตพื้นฐาน และพิธีกรรมต่างๆ นอกจากนี้ Markus ยังได้เห็น Pig festival ซึ่งเป็นเทศกาลที่ชาวบ้านจะทำการฆ่าสัตว์พร้อมนำเสนอให้ทุกคนเห็นอย่างภาคภูมิใจ     Markus จาก Pulheim ประเทศเยอรมนี กล่าวว่าหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของชนเผ่า Dani คือมัมมี่ของ Kurulu ซึ่งมีอายุอย่างต่ำ 370 ปี “มันเป็นศพมัมมี่ของนักรบที่ประสบความสำเร็จและน่าเกรงกลัว ซึ่งถูกเก็บไว้ในบ้านของผู้ชายในหมู่บ้าน และจะเอาออกมาให้ผู้มาเยือนดูอย่างภาคภูมิใจ” ช่างภาพกล่าว ชาวบ้านบอกกับเขาว่า “ทุกครั้งที่นักรบฆ่าเหยื่อได้ เขาจะสวมสร้อยคอเพิ่มมา 1 เส้น นั่นหมายความยิ่งนักรบสวมสร้อยคอมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นคนที่น่ากลัวมากเท่านั้น และเมื่อเขาตายไป ชนเผ่า Danis จะเก็บรักษาศพเขาไว้เป็นมัมมี่”    …

  • 13 สิ่งประดิษฐ์สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากปัญหาโลกร้อน

    13 สิ่งประดิษฐ์สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากปัญหาโลกร้อน

    ทุกวันนี้มนุษย์เราต่างทำทุกอย่างเพื่อความสะดวกสบาย ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้มักเป็นการทำร้ายโลกให้เสื่อมโทรมลงอย่างช้าๆ แต่น้อยคนนักที่หันมาดูแลโลกอย่างจริงจัง ด้วยเหตุนี้นักประดิษฐ์สีเขียวหรือนักประดิษฐ์รักษ์โลก จึงได้สร้างสิ่งประดิษฐ์ช่วยโลกขึ้นมา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้โดยไม่ทำร้ายโลก ในทางตรงข้าม มันยังเป็นการช่วยโลกได้อีกด้วย   1. สร้างสเก็ตบอร์ดจากตาข่ายจับปลาที่ไม่ใช้แล้ว   บริษัท BUREO ในชิลี ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มเพื่อน 3 คน พวกเขาได้ผลิตสเก็ตบอร์ดจากตาข่ายจับปลาที่ติดอยู่ตามชายฝั่งในชิลี เพื่อเป็นการไม่เพิ่มพลาสติกให้โลก ทั้งยังเป็นการเก็บกวาดขยะพลาสติกที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลด้วย นอกจากสเก็ตบอร์ดแล้ว พวกเขายังนำพลาสติกมาทำเป็นแว่นกันแดด เสื้อผ้า และสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย…สำหรับภาพด้านบนนั้น ชายคนหนึ่งนอนอยู่กลางขยะที่เก็บได้จากทะเล เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักก่อนจะทิ้งขยะลงน้ำ     2. ม่านอาบน้ำถาวร ม่านอาบน้ำนี้มีชื่อว่า Spiky ทำขึ้นโดยนักประดิษฐ์สีเขียว มันเป็นม่านที่จะพองตัวขึ้นเมื่อครบเวลาที่กำหนด คือเมื่อคุณอาบน้ำไป 4 นาที ม่าน Spiky จะพองตัวขึ้น เพื่อผลักคุณออกไป เป็นการช่วยไม่ให้เราใช้น้ำมากเกินไป   3. หม้อพลังงานแสงอาทิตย์ นี่คือ Solar Cookers International ที่สามารถหุงข้าว หรือทำอาหารโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีต้นทุนต่ำและทำเองได้   4. อุปกรณ์ทำความสะอาดมหาสมุทร โปรเจกต์ Seabin…

  • หนุ่มเอาแผ่นอุ่นไปไว้ข้างบ้านให้แมวจร เดินออกมาดูเจอแขกแปลกหน้ามานั่งกันสลอนเชียว

    หนุ่มเอาแผ่นอุ่นไปไว้ข้างบ้านให้แมวจร เดินออกมาดูเจอแขกแปลกหน้ามานั่งกันสลอนเชียว

    เข้าสู่หน้าหนาวแล้ว หลายคนคงเตรียมอุปกรณ์รับมือกับความหนาวพร้อมหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันหนาว ผ้านวม ถุงมือ และเครื่องทำน้ำอุ่น นั่นสำหรับมนุษย์ แล้วพวกสัตว์จรจัดอย่าง หมา แมวที่ต้องอยู่ข้างนอกล่ะ พวกมันจะหาความอบอุ่นได้จากที่ไหน? ขนพวกมันอาจจะหนาก็จริง แต่นั่นคงอุ่นไม่พอ เห็นได้ชัดจากภาพด้านล่างนี้ เมื่อหนุ่มเสียบแผ่นทำความร้อนไว้นอกบ้าน สักพักออกมาดูก็พบแก๊งแมวนั่งรับความอบอุ่น พร้อมทำหน้าสลอนเชียว     ภาพนี้ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Reddit โดยคุณ whatisAlabama บอกว่า “เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่ผมทำแบบนี้ให้พวกแมวจรจัด” “ตัวสีดำที่อยู่ริมสุด มักจะกระโดดขึ้นมานั่งบนตักของผมเมื่อผมเอาอาหารออกมาด้วย แค่นั้นยังไม่พอ มันยังชอบให้ผมลูบไล้ให้ด้วย ดูเหมือนมันจะรู้สึกสบายใจเมื่อผมอยู่กับมัน อาจจะฟังดูไร้สาระนะ แต่ผมกลับรู้สึกว่าประสบความสำเร็จ ที่ทำให้พวกมันไว้ใจได้”     เขาบอกอีกว่า แมวเหมียวเหล่านี้กำลังต้องการบ้าน แต่ตัวเขาเองไม่สามารถรับเลี้ยงได้ เลยช่วยพวกมันเท่าที่จะทำได้ ด้วยการนำแผ่นมาวางไว้ข้างนอกให้พวกมันทุกคืนในช่วงหน้าหนาว สำหรับแผ่นทำความร้อนนี้ สามารถซื้อได้ที่ Amazon ในราคา 400 บาท จะเอาไว้ใช้เอง หรือจะเอาไว้ช่วยเหลือสัตว์จรจัดเหมือนหนุ่มคนนี้ก็ได้นะ     ที่มา iizcat

  • ชายหนุ่มตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการตอบแทนเป็นร้านบาร์เบอร์

    ชายหนุ่มตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการตอบแทนเป็นร้านบาร์เบอร์

    แทบทุกคนเคยชินกับการตัดผมในร้านบาร์เบอร์หรือร้านเสริมสวยที่มีเกลียวหมุนๆ อยู่หน้าร้าน แต่สำหรับที่เมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา คุณสามารถเห็นการตัดผมได้ง่ายๆ ตามท้องถนน กับฝีมือของช่างตัดผมที่มีชื่อว่า Brennon Jones ชายหนุ่มผู้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ชายคนนี้ทำอาชีพตัดผมมานานกว่า 11 ปี แต่เขาก็ได้วางกรรไกรและหันไปทำงานอื่น ก่อนที่จะกลับมาเป็นช่างตัดผมอีกครั้งหนึ่งที่ตัดผมให้กับคนไร้บ้านแบบฟรีๆ ภายใต้โครงการที่เขาตั้งชื่อให้ว่า Haircuts for Homeless   ช่างตัดผมหนุ่ม Brennon ผู้ที่คอยตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ   ด้วยความที่ชายหนุ่มไม่มีร้านเป็นของตัวเอง เขาจึงแบกอุปกรณ์ทุกอย่างเดินไปบนท้องถนนและตัดผมให้กับคนไร้บ้านตามทางเท้า หัวมุมตึก หรือเกาะกลางถนน ด้วยเก้าอี้และโต๊ะที่เตรียมมา เขาไม่ได้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านที่อาศัยกันอยู่ในเมืองฟิลาเดลเฟียเพียงที่เดียว เพราะเขาได้เดินทางไปยังเมืองแคมเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมืองที่มีประชากรคนไร้บ้านมากเป็นอันดับ 4 ของสหรัฐอเมริกา และเขาก็ได้ไปตัดผมให้กับคนเหล่านั้น     Brennon เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ผมได้รู้จักกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่ทำให้ผมได้มองชีวิตต่างออกไปจากที่เคย และนั่นก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำสิ่งนี้ขึ้นมา” เขาได้ตัดผมให้คนไร้บ้านทุกๆ วัน โดยในแต่ละวันจะมีเข้ามาประมาณ 20 คน เขาบอกว่าตอนนี้น่าจะตัดผมให้คนไร้บ้านไปมากกว่า 1,000 คนแล้ว     จนกระทั่งในเดือนเมษายน 2017 เขาได้รู้จักกับ Sean…

  • หวานลำไส้สะเทือน Justin กับ Selena รีเทิร์นใหญ่มาก มีจุ๊บกันกลางสนามไอซ์ฮอกกี้

    หวานลำไส้สะเทือน Justin กับ Selena รีเทิร์นใหญ่มาก มีจุ๊บกันกลางสนามไอซ์ฮอกกี้

    เรียกได้ว่าถ่านไฟเก่าแค่เป่าเบาๆ ก็ติดแล้ว สำหรับคู่ของนักร้องดังอย่าง Selena Gomez และ Justin Bieber ที่ถึงแม้ว่าก่อนหน้าที่ทั้งคู่จะได้เลิกรากันไปแล้วถึง 3 ปี และต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไปมีรักใหม่ แต่สุดท้ายลมเก่าก็พัดหวนกลับมาให้ทั้งคู่ได้มาปิ๊งกันอีกครั้ง     ล่าสุดวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวเดลีเมลล์ก็ได้ออกมาเผยภาพย้ำชัดว่าหนุ่ม Justin และสาว Selena กลับมารีเทิร์นกันอีกครั้งแน่นอน ภายหลังจากที่มีคนเห็นสาว Selena แอบไปให้กำลังใจ Justin ถึงขอบลานสนามไอซ์ฮอกกี้ในลอสแอนเจลิส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และนี่คือภาพถ่ายช็อตเด็ดจากปาปารัสซี่ ที่ได้แอบแชะภาพอันสุดสวีทหวานของทั้งคู่ขณะกำลังจุ๊บปากกันแบบไม่แคร์สื่อ บอกเลยว่าเมื่อก่อนหวานยังไงตอนนี้ก็ยังหวานไม่มีเปลี่ยนแปลง     อย่างไรก็ตาม มีวงในเขาแอบเม้าส์กันอีกว่าการรีเทิร์นความรักในครั้งนี้ ทำให้หนุ่ม Justin แฮปปี้มาก แถมทั้งคู่ก็มักจะไปเดทด้วยกันตอนค่ำที่บ้าน รวมถึงไปเที่ยวพักผ่อนแบบเงียบๆ กันอยู่บ่อยๆ  ซึ่งทั้งสาว Selena และ Justin ต่างก็มีความสุขที่พวกเขาได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน     ภาพหวานๆ ของทั้งสอง . . .…

  • นักการเมืองต่อต้าน LGBT ลาออกจากตำแหน่ง หลังมีหลักฐานฉาวมีเซ็กส์กับชายในออฟฟิศ

    นักการเมืองต่อต้าน LGBT ลาออกจากตำแหน่ง หลังมีหลักฐานฉาวมีเซ็กส์กับชายในออฟฟิศ

    เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2017 ได้มีการเผยแพร่ข่าวในเว็บไซต์ Ladbible ว่า นาย Wes Goodman ได้ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขามีข่าวอื้อฉาวเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนหน้านั้น ก่อนหน้านี้นาย Goodman เคยแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเป็นนักการเมืองผู้ต่อต้าน LGBT (หรือก็คือ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) แต่เขากลับถูกจับได้ว่ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนหนึ่งในสำนักงานรัฐ และนั่นจึงทำให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งงานที่ทำอยู่   Wes Goodman นักการเมืองผู้ลาออกไปหลังเกิดเหตุการณ์อื้อฉาว   Cliff Rosenburg ตัวแทนสำนักงานรัฐดังกล่าวได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่ามีการคุยกับนักการเมืองคนนี้เกี่ยวกับเหตุการณ์พฤติกรรมอันไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้น และหลังจากผ่านไปไม่กี่วันนาย Goodman ก็ตัดสินใจลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบในสิ่งนั้น นักการเมืองผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ถูกเลือกเข้ามาทำงานในรัฐโอไฮโอเมื่อปี 2016 หลังจากที่เขาทำงานให้กับ Jim Jordan ผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งทั้งสองคนนี้แสดงจุดยืนในลักษณะเดียวกันนั่นก็คือต่อต้านเรื่องของความหลากหลายทางเพศ     ในเว็บไซต์หรือทวิตเตอร์ของ Goodman แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนยึดคติในเรื่องค่านิยมของครอบครัว เขาเคยพูดเอาไว้ว่า “ความรักของพ่อและแม่ในอุดมคติ การแต่งงานแบบธรรมชาติที่มีแค่ผู้ชายแต่งกับผู้หญิง และการเอาใจใส่ของคนในสังคม เป็นสิ่งที่ควรติดตามและปกป้องเอาไว้” Bethany ภรรยาของเขาก็มีบทบาทสำคัญในสังคม เธอคือหนึ่งในแกนนำหลักที่ต่อต้านการทำแท้งที่เดินประท้วงกันทุกๆ ปีภายใต้ชื่อ March for…