Category: ข่าวคราวรอบโลก

  • หนุ่มยัด ‘แม่กุญแจจิ๋ว’ เข้าไปในจู๋ผ่านทางรูฉี่ จนเดือดร้อนถึงหมอต้องมาผ่าออก

    หนุ่มยัด ‘แม่กุญแจจิ๋ว’ เข้าไปในจู๋ผ่านทางรูฉี่ จนเดือดร้อนถึงหมอต้องมาผ่าออก

    การใช้อุปกรณ์เข้ามาช่วยให้คุณมีความสุขทางเพศเช่นแท่งหรรษา ตุ๊กตายาง หรือจิ๊มิ๊ส์กระป๋อง ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน แต่กับอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะอย่างแม่กุญแจ หากนำมาใช้ก็อาจเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้เหมือนกับชายหนุ่มชาวจีนวัย 31 ปีคนนี้ เมื่อเขาได้นำแม่กุญแจขนาดจิ๋วไปยัดเข้าไปผ่านทางท่อปัสสาวะเพื่อให้มันไปติดอยู่ตรงบริเวณองคชาติ ซึ่งเขาบอกว่าเขาทำเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศของตัวเอง แต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาตั้งใจไว้เพราะแม่กุญแจดันไหลไปอยู่ในกระเพาะปัสสาวะของเขาเฉยเลย   หนุ่มชาวจีนยัดแม่กุญแจเข้าไปทางท่อปัสสาวะจนไปติดอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ   พอเขารู้สึกว่าแม่กุญแจไหลลึกลงไปด้านในแล้วก็รีบเดินทางไปโรงพยาบาลของนครฝูโจวพร้อมกับครอบครัวทันที หมอจึงทำการเอ็กซเรย์และพบว่ามันฝังเข้าไปอยู่ตรงกลางกระเพาะปัสสาวะของชายหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด สร้างความตกใจให้กับทั้งคนไข้และแพทย์เอง   สามารถเห็นแม่กุญแจได้อย่างชัดเจนจากผลเอ็กซเรย์   จากนั้นชายหนุ่มก็ต้องเข้ารับการตรวจทดสอบร่างกายในหลายๆ ด้านว่าพร้อมสำหรับการผ่าตัดหรือไม่ ก่อนที่แพทย์จะทำการผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะของเขานำเอาแม่กุญแจออกมาได้ในที่สุด เรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ Metro เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 และในปัจจุบันคนไข้ยังคงต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลรอดูต่อไปว่าจะมีอาการบาดเจ็บหรือผลข้างเคียงตามมาภายหลังหรือไม่   ชายหนุ่มยังคงต้องนอนพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล   ในประเทศจีน พฤติกรรมทางเพศแปลกๆ แบบนี้เคยมีให้เห็นช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา กับกรณีของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เสียบเข็มเข้าไปตามท่อปัสสาวะถึง 15 อัน   คุณหมอในโรงพยาบาลได้ทำการอธิบายถึงวิธีการผ่าตัดนำแม่กุญแจออกมา   พวกเราจะทำอะไรก็อย่าลืมคิดให้รอบคอบและถ้าเป็นไปได้ก็ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไปตามจุดประสงค์ของมัน อย่าพยายามไปใช้นอกเหนือจากนั้นเลยดีกว่า   ที่มา: thesun , metro

  • ตำนานแมวมัมมี่ในอียิปต์ นำไปสู่การฆ่าแมวหลายพันตัว หวังหารายได้จากความเชื่อ!!

    ตำนานแมวมัมมี่ในอียิปต์ นำไปสู่การฆ่าแมวหลายพันตัว หวังหารายได้จากความเชื่อ!!

    ในวัฒนธรรมอียิปต์นั้นมีระบบความเชื่อที่ซับซ้อนหลากหลายรูปแบบ และหนึ่งในนั้นคือ “ตำนานมัมมี่” ที่ทำเพื่อรักษาสภาพศพเพื่อรอวันฟื้นคืนชีพ นอกจากศพคนที่ถูกทำเป็นมัมมี่แล้ว ศพแมวก็ถูกทำเช่นเดียวกัน เนื่องจากคนอียิปต์ให้การนับถือแมวในฐานะเทพบาเตส (Bastet) หรือเทพเจ้าแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นหากแมวมาเกิดที่บ้านไหน คนอียิปต์จะถือว่ามันจะนำความมั่งคั่งมาให้ และใครก็ตามที่ทำร้ายแมว จะถือเป็นความผิดร้ายแรง ซึ่งอาจถูกเทพเจ้าลงโทษสถานหนักจนถึงตายได้     จากความเชื่อเหล่านี้ทำให้คนอียิปต์จัดการกับศพของแมวเหมือนกับศพมนุษย์ นั่นคือการฝังศพของพวกมันเป็นมัมมี่ โดยใส่เพชรพลอย เครื่องประดับ หรือของมีค่าลงไปด้วย โดยแมวมัมมี่จำนวนมากจะถูกฝังไว้ตามศาสนสถานต่างๆ ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ได้มีคนบางกลุ่มฉวยโอกาสนี้หาประโยชน์จากความเชื่อดังกล่าว ด้วยการเลี้ยงแมวไว้เพื่อฆ่า เมื่อแมวอยู่ในวัยที่กำหนด พวกเขาก็จะฆ่าและขายให้กับนักบวชผู้แสวงบุญหรือคนอื่นๆ ที่ต้องการนำไปประดับศาสนสถานของตน ทั้งนี้เชื่อกันว่ากลุ่มคนดังกล่าวนี้น่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการฝังศพแมวมัมมี่จำนวนมหาศาลที่ถูกเคยค้นพบในปี 1888     ในปี 1888 ขณะที่ชาวนาคนหนึ่งกำลังขุดบ่อน้ำในทะเลทรายที่อยู่นอกเมือง Beni Hasan ห่างจากกรุงไคโร ของอียิปต์ประมาณ 160 กิโลเมตร เขาได้ขุดเจอศพแมวมัมมี่ แค่ตัวแรกก็ประหลาดใจแล้ว แต่ปรากฏว่ายังเจอตัวที่สอง ที่สาม เขาจึงขุดต่อไปเรื่อยๆ จนทำให้พบศพแมวกว่า 80,000 ตัว ที่ถูกฝังอยู่ที่นั่น การค้นพบในครั้งนี้ ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก และในไม่ช้าที่นั่นก็เต็มไปด้วยชาวบ้านที่มาหาของมีค่าที่ถูกฝังไว้กับแมว จากการค้นคว้าคาดว่าแมวเหล่านี้ถูกฝังในช่วง 2,000 ปีก่อนคริสตกาล  …

  • ทหารผ่านศึกวัย 83 ปี ยืนเฝ้าโลงศพเพื่อนรัก เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้ตอนสมัยร่วมรบด้วยกัน

    ทหารผ่านศึกวัย 83 ปี ยืนเฝ้าโลงศพเพื่อนรัก เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้ตอนสมัยร่วมรบด้วยกัน

    เพื่อนคือคนที่จะคอยอยู่ข้างคุณในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะทุกข์หรือทุกข์ และเพื่อนแท้ต้องไม่ผิดคำสัญญา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เหมือนกับคุณตาทหารผ่านศึกวัย 83 ปีคนนี้ ที่ได้ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนรักตอนเป็นหนุ่มๆ เมื่อครั้งร่วมรบด้วยกันในสงครามเวียดนาม นี่เป็นเรื่องราวของ William H. Cox และ James ‘Hollie’ Hollingsworth ที่รอดจากการสู้รบในวันคริสต์มาสอีฟ ณ สมรภูมิภูเขาหินอ่อน ในประเทศเวียดนาม     เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปี 1968 ในช่วงวันคริสมาสต์อีฟ เมื่ออดีตนาวิกโยธินทั้งสองกำลังร่วมรบในสงครามเวียดนาม ในวันนั้นกองทหารของพวกเขาถูกข้าศึกโจมตีอย่างหนัก ทั้งสองซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ต้องพยายามเอาชีวิตรอดจากทั้งปืนใหญ่และระเบิด พวกเขาคุยกันเล่นๆ ว่า ถ้าพวกเขารอดไปได้ พวกเขาจะนัดเจอกันทุกๆ ปีในวันนี้ แน่นอนว่าพวกเขารอดออกมาได้ นับตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนสนิท และต้องนัดเจอกันทุกปีตามคำสัญญา และเมื่อปีก่อน Cox ก็ได้เดินทางจากรัฐเซาท์แคโรไลนาไปยังรัฐจอร์เจีย เพื่อไปหาเพื่อนรัก Hollingsworth ในวัย 80 ที่กำลังป่วยหนัก ในระหว่างการพบปะกันครั้งนี้ Hollingsworth ได้ขอให้เพื่อนรักให้สัญญากับเขาอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งเป็นคำสัญญาครั้งสุดท้ายของทั้งสองคน     เขาได้ขอให้เพื่อนรักยืนเฝ้าโลงศพของเขาและเป็นคนกล่าวคำสรรเสริญในงานศพของเขา ซึ่ง Cox ก็ตกลง และสัญญาว่าจะทำตามที่เขาขอ แม้จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่ไปอยู่ในสถานการณ์นั้นก็ตาม จากนั้นทั้งคู่ก็ได้นั่งคุยกัน…

  • เทรนด์ใหม่ใน IG เมื่อสาวๆ แต่งหน้าครึ่งหนึ่งหน้าสดครึ่งหนึ่ง คุณว่าแบบไหนดูดีกว่ากัน?

    เทรนด์ใหม่ใน IG เมื่อสาวๆ แต่งหน้าครึ่งหนึ่งหน้าสดครึ่งหนึ่ง คุณว่าแบบไหนดูดีกว่ากัน?

    เอาจริงๆ แล้วในตอนนี้โลกยังไม่สามารถตัดสินได้หรอกว่า ผู้หญิงหน้าสดที่สวยแบบธรรมชาติ หรือผู้หญิงหน้าสวยเพราะแต่งหน้าแบบไหนจะดีกว่ากัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจที่จะนำเสนอภาพถ่ายของเหล่าสาวๆ ในโลกออนไลน์ ที่พากันมาโพสต์ภาพถ่าย “การแต่งหน้าครึ่งเดียว” นั่นเป็นเพราะพวกเธออยากรู้ว่าผู้หญิงแต่งหน้าหรือไม่แต่งแบบไหนจะดีกว่ากัน? คุณสามารถแสดงความเห็นของตัวเองได้นะ…   20   19   18   17   16   15   14   13   12   11   10   9   8   7   6   5   4   3   2   1   จริงๆ แล้วการแต่งหน้าหรือไม่แต่งมันก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไป ซึ่งการแต่งหน้ามันก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงหลายๆ…

  • ผู้โดยสารเซ็งเครื่องแอร์เอเชียมีปัญหาจนต้องดีเลย์ แต่ประเด็นคือ…กัปตันหล่อมาก

    ผู้โดยสารเซ็งเครื่องแอร์เอเชียมีปัญหาจนต้องดีเลย์ แต่ประเด็นคือ…กัปตันหล่อมาก

    วันที่ 18 พฤศจิกายน 2560 ทางเฟซบุ๊กที่ชื่อ Wasinee Kiatadisorn ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ประเทศเกาหลี เมื่อสายการบิน Airasia XJ 703 เกิดปัญหาส่งผลทำให้ไฟลต์บินดีเลย์นานกว่า 18 ชั่วโมง จนต้องยกเลิกไป งานนี้เลยทำเอาผู้โดยสารถึงขั้นเซ็งไปตามๆ กัน ตามสถานการณ์ในคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นถึงภาพของผู้โดยสารที่ติดค้างอยู่ในสนามบิน ภายหลังจากที่เครื่องบินไม่พร้อมให้ใช้บริการ และต้องทำให้เครื่องดีเลย์ล่าช้าออกไปอีก     จนในที่สุดทางกัปตันหนุ่มของสายการบินดังกล่าว ก็ได้ตัดสินใจออกมาพูดถึงปัญหาและสาเหตุที่ทำให้ยังไม่พร้อมบิน และงานนี้ก็ดูเหมือนจะได้ผลซะด้วยสิ…จากที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดก็ดูผ่อนคลายลงในทันที   เพราะอะไรนะหรอ แกรรรรก็ดูสิ กัปตันคือดีคือหล่อขนาดนี้ เล่นเอาผู้โดยสารใจร่มไปชั่วขณะกันเลยทีเดียว   โอ๊ยยย คือออกมาอธิบายและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับสายการบิน ทั้งหล่อทั้งเก่งแบบนี้ไม่ว่าเครื่องจะช้าและดีเลย์นานแค่ไหน ชั้นก็ยอมมมมม   อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย เช่น “เคยเจอเเล้วค่ะไฟลต์นี้ เบรคเสียรอประมาณ 4 ชั่วโมง สวดมนต์ตลอดการบิน ยังคงจำได้ดี” “ใจเย็นๆ เป็นเหตุสุดวิสัยนะ ดีกว่าเครื่องไปไหม้ขณะบิน ใจเย็นรอนิดนึง เราเคยเจอค่ะ เรื่องชดเชยได้แน่นอนค่ะ นอกจากอยากจะได้มากเกินกว่าที่เขากำหนดคงต้องร้องอีกนาน”  …

  • ชายป่วยโรคซึมเศร้าเขียนจดหมายเปิดผนึกตามหามิตรภาพ แล้วเขาก็ได้รับกลับอย่างล้นหลาม

    ชายป่วยโรคซึมเศร้าเขียนจดหมายเปิดผนึกตามหามิตรภาพ แล้วเขาก็ได้รับกลับอย่างล้นหลาม

    ในช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิต เรามักจะหาใครซักคนที่คอยเป็นกำลังใจและเป็นที่ระบายได้ซึ่ง “เพื่อน” สามารถเติมเข้ามาเต็มในจุดนั้นได้ แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนก็คงจะแย่น่าดูและอาจทำเหมือนชายคนนี้ที่เขียนข้อความหาเพื่อนลงในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง ซึ่งนั่นได้ทำให้เขาได้เพื่อนใหม่อย่างมากมาย เมื่อเดือนธันวาคมปี 2016 มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อได้เขียนข้อความลงในเว็บบอร์ดชื่อดังในทวีปยุโรปที่ชื่อว่า Yik Yak โดยมีเนื้อหาว่า “ผมหมดหวังที่จะเจอเพื่อนใหม่จริงๆ ตอนนี้ผมว้าเหว่มากและกำลังเผชิญอยู่กับช่วงที่ยากที่สุดในชีวิตของผม ผมจะนั่งคอยอยู่ที่บันไดหน้าศาลากลางเมืองตั้งแต่เวลาบ่าย 2 จนถึง 2 ทุ่ม ผมใส่กางเกงสีดำและสะพายกระเป๋ายี่ห้อ North Face หากใครเห็นผมช่วยเข้ามาคุยเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ” ในเวลานั้น หนุ่มคนนั้นคงคิดไม่ถึงว่าข้อความของเขากำลังจะส่งผลให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเพราะว่าได้มีข้อความเข้ามาเขามากกว่า 10,000 ครั้งเลยทีเดียว   ข้อความที่ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล   “ความเครียดของผมนั้นเกิดขึ้นจากประสบการณ์ในวัยเด็กของผม ซึ่งในวัยเด็กผมต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ ความไม่ปลอดภัย และเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ซึ่งนั่นทำให้ผมเป็นคนเหมือนทุกวันนี้ โดยตอนนี้ผมเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตนเองและรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไร้ค่า” “ในเดือนกันยายนปี 2016 แฟนสาวที่คบกันมา 6 ปีของผมได้ทิ้งผมไป โลกทั้งโลกของผมในตอนนั้นเหมือนกับได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ผมไม่รู้จะทำอย่างไรจึงพยายามที่จะฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่สำเร็จ ผมถูกส่งให้ไปอยู่โรงพยาบาลจิตเวชในท้องถิ่นและถูกปล่อยตัวออกมาในภายหลัง และผมมีเพื่อนจริงๆ เพียงแค่ 2-3 คนเท่านั้น” “นั่นคือสิ่งที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้ ไม่มีครอบครัว ไม่มีกระทั่งเพื่อนหรือแฟนผมรู้สึกโดดเดี่ยวมากจริงๆ ผมจึงเขียนข้อความและตัดสินใจนำมาโพสต์ให้ทุกคนได้เห็น” ชายหนุ่มคนนั้นได้เขียนเอาไว้ ชายหนุ่มคนที่เขียนข้อความดังกล่าวใช้ชีวิตวัยเด็กมากกว่าครึ่งในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า   มีคนจำนวนมากได้อ่านข้อความที่เขาเขียนและมีคนถึง 13 คนตัดสินใจจะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาในวันที่หมดความหวังเช่นนี้…

  • คู่รักชาวจีนหัวใสเปิดโรงสกัดแร่ทองจากซากมือถือ แต่ถูกจับหลังทิ้งสารเคมีลงในดินและห้วย

    คู่รักชาวจีนหัวใสเปิดโรงสกัดแร่ทองจากซากมือถือ แต่ถูกจับหลังทิ้งสารเคมีลงในดินและห้วย

    คุณจะทำอย่างไรกับโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่ไม่ใช้แล้ว บางคนคงเก็บเอาไว้ในตู้โชว์บางคนก็เอาไปทิ้งถังขยะ แต่รู้ไหมว่าคุณกำลังมองข้ามขุมทองไปซะแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ตำรวจเซี่ยงไฮ้ ได้เข้าจับกุมโรงงานผิดกฎหมายแห่งหนึ่งบริเวณชานเมืองซึ่งเต็มไปด้วยถังสารเคมีต่างๆ ที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมานอกโรงงาน โดยโรงงานแห่งนี้เป็นของสองผัวเมียคู่หนึ่งที่ดำเนินธุรกิจรับซื้อของเก่า   แร่ทองที่อยู่ในโทรศัพท์เก่าต่างๆ   ซึ่งพวกเขาได้มาเช่าที่แห่งนี้เมื่อเดือนเมษายนในปีนี้เพื่อใช้เป็นที่สำหรับสกัดแร่ทองที่อยู่ภายในโทรศัพท์มือถือที่ใช้แล้ว และนำไปผ่านกระบวนการต่างๆ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะสามารถทำเงินได้มากถึง 20,000 หยวน (99,000 บาท) เลยทีเดียว นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่า เราสามารถทำสกัดแร่ทองจนทำแหวนใส่ได้เลย โดยจะต้องใช้โทรศัพท์มือถือราวๆ 100 เครื่อง จึงจะได้แหวนทอง 1 วง   สภาพของโรงงานแห่งนี้   อย่างไรก็ตาม โรงงานของคู่รักที่สกัดทองคู่นี้ไม่เคยได้รับใบอนุญาตจากทางการท้องถิ่นเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของพวกเขา อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ใดๆ สำหรับการกำจัดสารเคมีที่ใช้ในการสกัดทองโดยวิธีที่พวกเขาใช้กำจัดสารเคมีก็คือ พวกเขาใช้การขุดหลุมเพื่อที่จะเทสารเคมีลงดิน และยังเทลงในห้วยด้านหลังโรงงานอีกด้วย และนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่โดนจับ โดยทั้งคู่โดนจับในข้อหาทิ้งสารเคมีอันตรายโดยผิดกฎหมายและสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเอง   รีบกลับไปแกะโทรศัพท์มั่งดีกว่า เผื่อจะรวยเหมือนเค้า ที่มา: shanghaiist

  • อบอุ่นหัวใจ!! พบกับชายผู้อุทิศชีวิตตนเพื่อเป็นพ่ออุปถัมภ์ รับเลี้ยงเด็กป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการ

    อบอุ่นหัวใจ!! พบกับชายผู้อุทิศชีวิตตนเพื่อเป็นพ่ออุปถัมภ์ รับเลี้ยงเด็กป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการ

    จะมีอะไรทำให้เรารู้สึกดีไปกว่าการได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน แต่คงไม่มีใครยิ่งใหญ่เหมือนชายคนนี้ที่ยอมอุทิศชีวิตของตัวเองรับเลี้ยงเด็กที่ป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการถึงกว่า 40 ชีวิต นาย Mohamed Bzeek ผู้อพยพชาวมุสลิมวัย 62 ปีในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ได้ใช้เวลาสองทศวรรษที่ผ่านมาในชีวิตของเขาอุปถัมภ์ดูแลเด็กป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการ     โดยเด็กเหล่านี้ถูกทอดทิ้งจากระบบอุปการะต่างๆ และต้องใช้เกือบทั้งหมดของชีวิตของพวกเขาอยู่กับโรงพยาบาลของรัฐเนื่องจากไม่มีใครเลี้ยงดู นั่นทำให้พวกเขาไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับ ความรัก ความหวัง และเสียงหัวเราะที่คนธรรมดามีมากนัก เด็กๆ ประมาณ 600 คนจาก 35,000 คนที่อยู่ภายใต้การสังเกตการณ์จาก แผนกบริการเด็กและครอบครัวของเขตลอสแองเจลิส เด็กเหล่านั้นเป็นเด็กป่วยหนักที่ต้องการการรักษาจากแพทย์และยังต้องการบ้านที่ให้ความรักแก่พวกเขาได้ ซึ่งมีเพียง Bzeek เท่านั้นที่รับเด็กที่น่าสงสารเหล่านี้มาเลี้ยงดู สำหรับประวัติของ Bzeek นั้นเขาได้ย้ายมาจากประเทศลิเบีย มายังรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 1978 ในฐานะนักเรียน และในปี 1987 เขาก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า Dawn หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน โดยเธอเป็นคนเริ่มอุปถัมภ์เด็กคนแรกตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 บ้านของ Dawn ได้กลายมาเป็นแห่งพักพิงสำหรับเด็กๆ ที่ต้องการการดูแลทั้งหลายและต่อมาในปี 1989 หลังจากที่แต่งงานกันมาได้ 2 ปีทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะอุทิศชีวิตทั้งชีวิตให้กับการเลี้ยงดูเด็กๆ ที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอทั้งหลายและครอบครัว Bzeeks ได้ทำบ้านของพวกเขาให้กลายเป็นบ้านของเด็กหลายสิบคนตั้งแต่นั้นมา     และเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้นครั้งแรกในปี…

  • หนุ่มตัดสินใจเสี่ยงชีวิตกระโดดลงไปช่วยเหลือ ‘เจ้าหมี’ ที่กำลังจะจมน้ำ โดยไม่ห่วงตัวเอง

    หนุ่มตัดสินใจเสี่ยงชีวิตกระโดดลงไปช่วยเหลือ ‘เจ้าหมี’ ที่กำลังจะจมน้ำ โดยไม่ห่วงตัวเอง

    เป็นที่รู้กันดีว่าหมีเป็นหนึ่งในสัตว์นักล่าที่อันตรายที่สุดในป่า และมันพร้อมที่จะโจมตีเหยื่อทุกเมื่อ แม้จะอยู่ในระยะไกลก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงมัน อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์หมีอาจตกอยู่ในอันตรายและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง หากคุณเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์นั้น จะทำอย่างไร? แน่นอนว่าเราต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าสัตว์ป่าให้มาช่วยเหลือและส่งมันกลับสู่ธรรมชาติ     แต่สำหรับนักชีววิทยา Adam Warwick ไม่อาจรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าสัตว์ป่าได้ เพราะกลัวว่าหมีจะตายซะก่อน ในที่สุดเขาตัดสินใจเข้าไปช่วยหมีที่กำลังจะจมน้ำด้วยตัวเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2008 เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าได้รับแจ้งจาก Florida Fish and Wildlife Conservation Commission ว่าพบหมีมาเดินใกล้กับย่านชุมชน ในเขตฟลอริด้า     เมื่อได้ยินดังนั้น เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าจึงได้รีบไปยังที่รับแจ้งทันที เพื่อหยุดยั้งหมีก่อนที่มันจะทำอันตรายกับผู้คนในชุมชนดังกล่าว พวกเขาจัดการกับหมีด้วยวิธีที่คุ้นเคย นั่นคือการยิงลูกดอกยาสลบให้มัน แต่เกิดความผิดพลาดเมื่อหมีตื่นตระหนกจนวิ่งหนีลงไปในทะเล     เจ้าหมีได้ว่ายห่างออกไปเรื่อยๆ พร้อมกำลังที่ค่อยๆ อ่อนแรงลง เพราะฤทธิ์ลูกดอกยาสลบ นั่นทำให้มันมีโอกาสจมน้ำสูงมาก ขณะนั้นทุกคนต่างเฝ้าดูด้วยความเป็นห่วงและคิดหาวิธีที่จะพามันขึ้นฝั่ง แต่ Adam ที่เฝ้าดูอยู่ เกรงว่าหมีจะจมน้ำตายซะก่อน เขาจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเจ้าหมีขึ้นฝั่งให้ทันเวลา     ว่าแล้วเขาก็ถอดเสื้อ ถอดรองเท้า แล้วกระโดนลงไปในน้ำ เพื่อไปช่วยเจ้าหมีตัวนั้นที แม้ว่ามันจะมีน้ำหนักมากถึง 170 กิโลกรัม แต่ในที่สุด Adam…

  • เรื่องราวของ Markie Pasternak ผู้มีความจำเป็นเลิศ มีเพียง 60 คนบนโลกที่มีความสามารถนี้!!

    เรื่องราวของ Markie Pasternak ผู้มีความจำเป็นเลิศ มีเพียง 60 คนบนโลกที่มีความสามารถนี้!!

    เราทุกคนในโลกต่างก็อยากมีความจำดี เพราะการจดจำรายละเอียดต่างได้ดีจะนั้นส่งผลต่อการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการงาน แต่ความเป็นจริงแล้ว มีน้อยคนนักที่จะมีความจำเป็นเลิศ เห็นอะไรจำได้หมด เหมือนกับ Markie Pasternak ที่ค้นพบความสามารถด้านการจำของตัวเองเมื่อปี 2014 ระหว่างเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Marquette University รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา     หญิงสาวได้ค้นพบความสามารถของตัวเองขณะที่นั่งเรียนวิชา Learning and Memory ของสาขาจิตวิทยาที่ทดสอบความสามารถของผู้เรียนเกี่ยวกับความจำในด้านต่างๆ ในการทดสอบนี้ อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละคนนึกย้อนไปถึงอดีตของตัวเอง แล้วให้เขียนลงไปว่าจำอะไรได้บ้าง ในขณะที่นักศึกษาส่วนใหญ่จำได้แต่ภาพรวม ไม่สามารถจำรายละเอียดยิบย่อยได้ แต่ Pasternak กลับจำได้ทุกรายเอียด วันที่ เดือน และปี     หลังจากจบคลาสในวันนั้น อาจารย์ได้แนะนำให้เธอไปทดสอบความสามารถด้านการจำ ผลปรากฏว่าความสามารถด้านการจำของเธอนั้นอยู่ในเกณฑ์เดียวกับคนที่เกิดมาพร้อมกับ Highly Superior Autobiographical Memory (HSAM) หรือก็คือความสามารถด้านการจดจำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นเลิศ ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษที่ว่านี้หายากมากๆ ในคนทั่วไป มีเพียงแค่ 60 คนจากทั่วโลกเท่านั้นที่มีความสามารถแบบนี้ ด้วยความพิเศษนี้ทำให้หญิงสาวสามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอตั้งแต่ปี 2005 จนถึงได้ปัจจุบันได้อย่างละเอียดโดยไม่มีผิดพลาดเลย     หญิงสาวบอกว่าเมื่อต้องนึกถึงวันที่ผ่านมา…

  • สาวใหญ่นักธุรกิจวัย 55 ตัดสินใจ ‘ลดพุง’ ของตัวเอง จนมีหุ่นเช้งกระเด๊ะ เหมือนสาววัยแรกรุ่น

    สาวใหญ่นักธุรกิจวัย 55 ตัดสินใจ ‘ลดพุง’ ของตัวเอง จนมีหุ่นเช้งกระเด๊ะ เหมือนสาววัยแรกรุ่น

    เมื่ออายุมากขึ้น รูปร่างก็จะเปลี่ยนไปตามวัย ผิวหนังที่เคยกระชับก็จะหย่อนยานขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้มีการบำรุงหรือดูแลอย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับ Angela Middleton นักธุรกิจหญิงวัย 55 ปี ที่ต้องอยู่กับผิวที่เหี่ยว หน้าท้องหย่อนคล้อย หลังจากที่คลอดลูกไปแล้ว 6 คน อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งเธอตัดสินใจลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนพบว่ามันเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า เพราะนอกจากหุ่นจะกลับมาเช้งกระเด๊ะแล้ว ยังทำให้มีสุขภาพแข็งแรงด้วย     สำหรับการเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้ Angela ใช้เวลาไปเพียง 1 ปี เท่านั้น โดยลดน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัม และมีหุ่นเหมือนยี่สิบอีกครั้ง จนใครๆ ก็พากันอิจฉา เธอบอกว่า “ฉันได้มุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง โดยพยายามรักษาเวลาที่กำหนดเอาไว้ และถ้าฉันทำได้ คนอื่นก็ทำได้เช่นกัน” นอกจากความสำเร็จเรื่องรูปร่างแล้ว เธอยังบอกอีกว่าการออกกำลังกายยังช่วยให้เธอจัดการกับงานที่ยุ่งเหยิงได้ดีขึ้นด้วย เพราะการออกกำลังกายสอนให้คุณมีระเบียบในเรื่องเวลา และมันก็สามารถนำไปใช้กับเรื่องอื่นๆ ได้     ส่วนวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้น เธอบอกว่าได้ไปลงชื่อกับ UP Fitness ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่จัดโปรแกรมลดความอ้วนสำหรับผู้หญิง Angela เริ่มด้วยการยกน้ำเป็นเวลา 1 ชั่วโมงต่อวัน และทำ 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและเลือกทานแต่อาหารเพื่อสุขภาพ…

  • คุณตาฝังรถโรงเรียนกว่า 42 คันไว้ใต้ดิน เพื่อทำเป็นบังเกอร์หลบภัยรองรับวันสิ้นโลก

    คุณตาฝังรถโรงเรียนกว่า 42 คันไว้ใต้ดิน เพื่อทำเป็นบังเกอร์หลบภัยรองรับวันสิ้นโลก

    ทางตอนเหนือของโตรอนโต ประเทศแคนาดา จะมีหมู่บ้าน Horning’s Mills ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบของชาวแคนาดา ที่น่าสนใจคือที่นั่นมีพื้นที่รกร้างเนื้อที่ 12.5 เอเคอร์ (ราวๆ 31 ไร่) Bruce และ Jean Beach ไว้สำหรับทำบังเกอร์หลบภัยรองรับวันสิ้นโลก หากใครที่ไม่รู้จะมองว่าในพื้นที่ดังกล่าวนั้นไม่ได้ต่างอะไรจากพื้นที่ทั่วไป แต่จริงๆ แล้ว ภายใต้พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหญ้าเขียวๆ นั้นมี The Ark Two ซึ่งเป็นที่หลบภัยขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ ที่หลบภัยของ Bruce วัย 83 ปี เป็นอุโมงค์คอนกรีต ภายใต้ความลึก 4.2 เมตร ซึ่งประกอบด้วยรถโรงเรียนเก่าๆ กว่า 42 คัน     The Ark Two ถูกออกแบบให้รองรับผู้คนได้ 500 คน และสามารถอยู่ได้เป็นเวลาหลายเดือน เพราะในนั้นมีทุกอย่างที่จำเป็นต่อความอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ห้องน้ำ ระบบประปา ไฟสำรอง รวมไปถึงยารักษาโรค สำหรับอุโมงค์หลบภัยดังกล่าวนี้ Bruce ได้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 1980 ระหว่างที่เกิดสงครามเย็น…

  • ช่างสักสร้างรอยสักแบบถมดำบนร่างกาย แต่กลับถูกชาวเน็ตวิจารณ์ว่า “เหยียดสีผิว”

    ช่างสักสร้างรอยสักแบบถมดำบนร่างกาย แต่กลับถูกชาวเน็ตวิจารณ์ว่า “เหยียดสีผิว”

    Belle Atrix เป็นชื่อของช่างสักจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากโลกออนไลน์อย่างหนัก ภายหลังจากที่เธอได้ตัดสินใจสักร่างกายของตัวเองด้วยรอยสักสไตล์ Blackwork หรือ รอยสักแบบถมดำ ภายหลังจากที่ Belle ได้แชร์ภาพถ่ายการสักดังกล่าวลงในอินสตาแกรม พร้อมโพสต์คลิปวิดีโอสั้นๆ เกี่ยวกับรอยสัก Blackwork งานนี้ทำเอาบรรดาชาวเน็ตหลายๆ กลับคนรู้สึกไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก     ในขณะที่ Belle กลับเห็นว่าการสร้างศิลปะบนร่างกายของตัวเองเป็น “การบำบัดรักษา” ซึ่งก็มีผู้ที่ติดตามได้เข้ามาแสดงความเห็นกันมากมาย บางคนก็เข้ามาให้กำลังใจพร้อมบอกว่ามันงดงาม เยี่ยมยอด และเป็นแรงบันดาลใจของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ได้เข้ามาโต้แย้งว่า นี่มันเป็นการเหยียดสีผิวชัดๆ บางคนก็บอกว่ามันน่ารังเกียจ ซึ่งจริงๆ แล้วรอยสักแบบ Blackwork นั้นได้รับความนิยมและมีมานานมากแล้วนั่นเอง ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าทำไมรอยสักดังกล่าวถึงไม่เป็นที่พอใจของผู้คนจำนวนมาก     แล้วคุณล่ะคิดอย่างไร?               คุณสามารถรับชมภาพและผลงานการสักแบบอื่นๆ ของเธอได้ในอินสตาแกรม atrixbelle เลยจ้า ที่มา : boredpanda

  • แม่มัดลูกน้อยไว้กับราวบันได เหตุจากอดีตสามีจ่ายค่าเลี้ยงดูน้อยกว่าที่ตกลงกันไว้!?

    แม่มัดลูกน้อยไว้กับราวบันได เหตุจากอดีตสามีจ่ายค่าเลี้ยงดูน้อยกว่าที่ตกลงกันไว้!?

    ทุกวันนี้การที่คู่สามีภรรยาทะเลาะกัน เลิกกัน หย่ากัน กลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมเสียแล้ว และผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการตัดสินใจเหล่านี้ก็มักจะเป็นลูกของพวกเขา เหมือนกับเด็กชายคนนี้ที่ถูกแม่มัดติดไว้กับราวบันได โดยอ้างว่าอดีตสามีขาดการจ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นเงิน 5,000 บาท เลยตัดสินใจทำร้ายลูกเพื่อเป็นการประชด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองเล่ยหยาง มณฑลหูหนาน ของประเทศจีน โดยผู้เป็นแม่ได้ถ่ายภาพลูกขณะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะส่งไปให้อดีตสามีดู เพื่อเรียกร้องเงินจากเขา     เมื่อผู้เป็นพ่อเห็นภาพดังกล่าว เขาตัดสินใจที่จะไปช่วยลูก แต่ถ้าไปเองต้องใช้เวลาอย่างต่ำถึง 4 ชั่วโมง เขาจึงส่งรูปนี้ไปให้ปู่กับย่าของลูกดูเพื่อขอความช่วยเหลือเพราะทั้งคู่อยู่ใกล้กว่า ภายใน 20 นาที ปู่กับย่าก็มาถึงที่เกิดเหตุ และช่วยแก้มัดให้หลานชายตัวน้อย และอยู่ปลอบใจเขาให้หายกลัว… ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า “ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนกระทั่งถึงวันที่อดีตภรรยาของผมมัดลูกไว้กับราวบันได ผมได้ส่งเงินให้เธอไปแล้ว 65,000 บาท” “แต่เหตุผลที่เธอทำร้ายลูกแบบนั้น เพราะวันนั้นผมให้เธอแค่ 4,900 บาท แทนที่จะเป็น 9,900 บาท เหมือนทุกครั้ง”     ต่อมาภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปทั่วสังคมออนไลน์ของจีน โดยตามรายงานบอกว่าพ่อแม่ของเด็กชายหย่าร้างกันเมื่อปี 2016 ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอยู่กับแม่ ส่วนคนน้องลูกกับพ่อ และนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ผู้เป็นพ่อได้ขอให้อดีตภรรยาช่วยดูแลลูกคนเล็กเป็นเวลา 1 ภาคการศึกษา โดยเขาจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ 9,900 บาท ต่อเดือน…

  • ลองชมงานประชุมครั้งแรกของ ‘กลุ่มคนที่เชื่อว่าโลกแบน’ และปฏิเสธข้อมูลจาก NASA

    ลองชมงานประชุมครั้งแรกของ ‘กลุ่มคนที่เชื่อว่าโลกแบน’ และปฏิเสธข้อมูลจาก NASA

    ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้มนุษย์เราสามารถออกไปนอกอวกาศได้ อีกทั้งยังมีดาวเทียมต่างๆ โคจรอยู่รอบโลก ซึ่งภาพถ่ายของโลกเราที่ใครๆ ต่างก็เคยเห็นก็คือมีลักษณะกลม แต่มีคนจำนวนหนึ่งที่มีความคิดที่ต่างกันออกไป โดยพวกเขาเชื่อว่าโลกของเรานั้นแบนและภาพถ่ายต่างๆ จากองค์การนาซ่านั้นเป็นเรื่องโกหก!! งานประชุมประจำปีครั้งแรกของกลุ่มคนที่เชื่อว่าโลกนี้มีลักษณะแบน จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9-10 พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยงานนี้มีผู้ที่มีความคิดแบบเดียวกันเข้าร่วมกว่า 400 คน   ลักษณะที่พวกเขาเชื่อว่าโลกของเราเป็น   โดยการจะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ได้นั้นจะต้องมีการซื้อตั๋วเพื่อเข้างานด้วย ซึ่งตั๋วที่ขายนั้นก็มีราคาสูงถึง 250 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 8,215 บาท) เลยทีเดียว ซึ่งเนื้อหาใจความหลักๆ ในการประชุมครั้งนี้ก็คือเพื่อจะบอกว่าโลกของเรานั้นมีลักษณะแบนเหมือนจาน และยังบอกอีกด้วยว่า Nasa และองค์การอวกาศอื่นๆ นั้นได้โกหกเรามาตลอดว่าโลกของเรานั้นมีลักษณะกลมอีกทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ นั้นเป็นเรื่องโกหก   ทีมงานโลกแบนได้เข้าร่วมจำนวนมาก   Mark Sargent มีผู้ติดตามในเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Youtube ถึง 40,000 คนจากทฤษฎีโลกแบนที่เขาคิด ได้บอกไว้ในงานว่า “วงการวิทยาศาสตร์จะต้องออกมาอธิบายเรื่องนี้ พวกเขาหลบเราไม่ได้ตลอดไปหรอก ไม่มีใครชอบความรู้สึกอึดอัดที่จะอยู่ในลูกบอลเล็กๆ อย่างนี้พวกเขาอยากจะบินไปนอกอวกาศจนถึงจุดสิ้นสุดของจักรวาลเลยมากกว่า”   พวกเขาเหล่านี้ต่างไม่เชื่อว่าโลกของเรากลมจริงๆ   “นานมาแล้วที่เราอยู่ภายใต้ความคิดที่ว่าโลกนั้นกลม ไม่รู้สิผมคิดว่าเรากำลังถูกหลอกมากกว่าแต่อย่าเชื่อคำพูดของผมมากนะ ผมอาจจะเป็นผู้ป่วยทางจิตที่เพิ่งออกมาจากโรงบาลบ้าก็ได้” Mark กล่าว…

  • คุณแม่หน้าเด็กวัย 40 ปี โพสต์ภาพคู่กับลูกสาว ทำเอาชาวเน็ตคิดว่าเป็นพี่สาวของลูกๆ ซะอีก

    คุณแม่หน้าเด็กวัย 40 ปี โพสต์ภาพคู่กับลูกสาว ทำเอาชาวเน็ตคิดว่าเป็นพี่สาวของลูกๆ ซะอีก

    อายุของคนเรามักจะบ่งบอกออกมาทางใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ความเหี่ยวย่น ระดับความหยาบกร้าน แต่กับบางคนกลับมีหน้าตาที่สวนทางกับอายุซะเหลือเกิน เหมือนกับ Kienya Booker วัย 40 ปี ที่หน้าเด็กซะจนใครๆ ก็คิดว่าเธอเป็นเพื่อนกับลูกสาวทั้งสองคนของเธอ ทั้งๆ ที่คนพี่ K’Lienya ก็อายุ 18 ปีแล้ว ในขณะที่คนน้อง Kolieya อายุ 16 ปี     ความหน้าเด็กของ Kienya ถูกแชร์ไปทั่วโซเชียลเมื่อเธอโพสต์รูปภาพที่เคยถ่ายกับลูกสาวตอนพวกเขาอายุ 13 และ 12 ปี กับอีกรูปเป็นภาพถ่ายล่าสุดของพวกเขา สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตสะดุดตาคือ ลูกสาวทั้งสองได้มีการเปลี่ยนแปลงตามวัย แต่ Kienya กลับดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ที่สำคัญเธอดูเหมือนพี่สาวของลูกๆ ซะมากกว่า     หน้าตาที่ดูเหมือนอยู่วัยเดียวกับลูกสาว ทำให้กลายคนเข้าใจว่าเธอเป็นคุณแม่วัยใส หรือคนที่มีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นหมายความตอนนี้เธอก็คงอายุห่างจากลูกๆ ไม่มากนัก แต่เปล่าเลย Kienya เผยว่าเธอนั้นอายุ 40 ปีแล้ว นั่นยิ่งทำให้ชาวเน็ตทึ่งหนักไปอีก เพราะดูในภาพแล้ว แยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าใครเป็นแม่     หลังจากที่ภาพของเธอถูกแชร์ไปทั่วโซเชียล…

  • 20 การโฆษณาสุดสร้างสรรค์ ที่น่าสนใจจนต้องต้องยอมซูฮกให้กับครีเอทีฟจริงๆ

    20 การโฆษณาสุดสร้างสรรค์ ที่น่าสนใจจนต้องต้องยอมซูฮกให้กับครีเอทีฟจริงๆ

    การโฆษณาถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการค้า จึงทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะทำการโฆษณาให้ออกมาน่าสนใจที่สุด เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คน ในโฆษณาแต่ละชิ้นจึงเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความตลก รวมทั้งการประชดประชัน เหมือนกับการโฆษณาต่อไปนี้ ที่จะทำให้ใครๆ ก็ต้องหันมามอง   1. การโฆษณาเปิดตัวหนัง Alice in Wonderland   2. เป็นการโฆษณาไวน์ที่น่าลิ้มลองซะจริงๆ… ใช่มั้ยหนุ่มๆ?   3. โฆษณากินเนสส์   4. รณรงค์ต่อต้านการทุจริตทางสังคม หมายความว่าเมื่อมีการทุจริต ยังไงก็ปกปิดไม่มิด   5. กระตุ้นให้ตระหนักถึงอันตรายเมื่อฝนตก   6. ป่ายโฆษณาของ McDonald เรียบแต่เก๋   7. โฆษณาถุงยางอนามัย   8. โฆษณาสเปรย์พริกไทย ใครโดนเข้าไปนี่ เตรียมหาลูกตาใหม่ได้เลย   9. โฆษณา Ambi Pur   10. โฆษณาหูฟัง JBL ดังแค่ไหนก็ไม่หวั่น   11. โฆษณา Pedigree   12. ต่อต้านการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ  …

  • ร้านอาหารเปิดรับ “ขยะพลาสติก” มีค่าเทียบเท่าเงินตราเพราะใช้แลกซื้ออาหารได้

    ร้านอาหารเปิดรับ “ขยะพลาสติก” มีค่าเทียบเท่าเงินตราเพราะใช้แลกซื้ออาหารได้

    ขยะหลายๆ อย่างเราอาจมองว่ามันไร้ค่าไม่สามารถทำประโยชน์อะไรได้อีก อย่างเช่นพวกผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพลาสติกที่เมื่อทิ้งไปก็รอให้มันย่อยสลายเพียงอย่างเดียว แต่ว่าในร้านอาหารแห่งนี้กลับมองค่าของมันต่างออกไปเพราะสามารถนำขยะพลาสติกเหล่านั้นมาใช้แทนเงินตราจ่ายค่าอาหารได้ ร้านนี้มีชื่อว่า Methane Gas Canteen เป็นร้านของคู่สามีภรรยา Sarimin และ Suyatmi โดยจุดเด่นของร้านอาหารนี้ก็คือการใช้ปริมาณของขยะพลาสติกที่คุณเก็บมาได้แทนเงินตราเพื่อมาแลกเป็นอาหารหนึ่งจาน   Suyatmi (คนซ้าย) และ Sarimin (คนขวา) สองสามีภรรยาเจ้าของร้าน   ร้านดังกล่าวตั้งอยู่ในลานที่ทิ้งขยะ Jatibarang เมืองเซอมารัง ประเทศอินโดนีเซีย กลุ่มลูกค้าหลักที่เข้ามาใช้บริการก็คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ทำอาชีพเป็นคนเก็บขยะในบริเวณนั้นอยู่ก่อนแล้ว วิธีการนำขยะพลาสติกมาเปลี่ยนเป็นอาหารในลักษณะนี้เป็นไอเดียของนายกเทศมนตรีประจำเมือง Hendrar Prihadi ที่ได้มอบหมายหน้าที่ให้สองสามีภรรยาเมื่อปี 2014 เพื่อช่วยลดจำนวนของขยะพลาสติกในสถานที่แห่งนี้ให้ลดน้อยลง     ขยะพลาสติกและขยะที่ย่อยสลายไม่ได้นับเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของขยะ 800 ตันที่ถูกนำมาทิ้งในที่แห่งนี้ทุกๆ วัน และถึงแม้ว่าจำนวนของขยะประเภทนี้มีอยู่เยอะมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไม่เก็บไปขายเพราะเงินที่ได้กลับมานั้นถือว่าถูกมากๆ โดยขยะพลาสติกเมื่อชั่งขายจะได้เพียงกิโลกรัมละ 1.3 บาทเท่านั้น เมื่อไม่มีใครเก็บขยะประเภทนี้ไปขาย มันก็จะไหลลงไปในแม่น้ำและสะสมกันอยู่ข้างใต้จนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นและอาจท่วมหมู่บ้านได้ในที่สุด นอกจากนั้นในปี 2014 ก็ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่สร้างความเสียหายโดยรอบไปกว่า 40,000 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าเกิดจากก๊าซมีเทนที่กระจายตัวออกมาจากขยะประเภทนี้  …

  • ภาพถ่ายเพื่อนเมื่อปี 2000 ถูกนำมาถ่ายอีกครั้งในปี 2017 เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคน…

    ภาพถ่ายเพื่อนเมื่อปี 2000 ถูกนำมาถ่ายอีกครั้งในปี 2017 เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคน…

    บางครั้งเวลาผ่านไปไว้เหมือนโกหกเลยนะ กระพริบตาแป๊บๆ ก็ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว หรือบางทีเวลาผ่านไปแล้วเป็นปี 5 ปี 10 ปี เรายังไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเลย ช่างภาพ Josephine Sittenfeld ก็มีประสบการณ์เช่นนั้นเหมือนกัน เธอเคยถ่ายรูปเพื่อนร่วมชั้นตอนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Princeton University เมื่อปี 2000   Sophie   หลังจากที่เรียนจบ Josephine ก็เก็บรูปเพื่อนๆ เอาไว้โดยไม่ได้เอาออกมาดูเลย กระทั่งหลายปีผ่านไป เมื่อทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าของพ่อแม่ เธอก็ได้เจอกับรูปภาพเหล่านี้ และเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ทางมหาลัยกำลังจะมีงานมีทติ้งศิษย์เก่าปี 15 ทำให้เธอนึกถึงรูปภาพที่เคยถ่ายเมื่อปี 2000 และตัดสินใจที่จะสร้างรูปภาพเหล่านั้นอีกครั้ง   Ellie Kemper   ในที่สุดหญิงสาวก็ได้สร้างชุดภาพที่มีชื่อว่า Reunion เป็นการนำภาพเพื่อนร่วมชั้นเมื่อปี 2000 กับปี 2017 มาเทียบกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าแต่ละคนเปลี่ยนไปยังไงบ้าง เพื่อนคนหนึ่งของ Sittenfeld บอกว่า “เมื่อ 20 ปีก่อน ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตบ้าง แต่ตอนนี้ ฉันสามารถบอกได้ว่าตัวเองมาไกลแค่ไหน และมันยังไม่จบลงแค่นี้ แต่ยังมีหลายสิ่งรอเราอยู่ในวันข้างหน้า”   Larry  …

  • เจ้าหมาได้รับเหรียญกล้าหาญเป็นรางวัล หลังเสี่ยงชีวิตรับใช้ชาติในอัฟกานิสถาน

    เจ้าหมาได้รับเหรียญกล้าหาญเป็นรางวัล หลังเสี่ยงชีวิตรับใช้ชาติในอัฟกานิสถาน

    เหรียญกล้าหาญคือสิ่งที่มอบให้กับผู้ที่มีหน้าที่สำคัญในสมรภูมิรบ เผชิญหน้ากับศัตรูและสามารถช่วยให้กองทัพผ่านสถานการณ์อันยากลำบากมาได้ โดยเหรียญในลักษณะนี้ไม่ได้มีไว้ให้แค่กับพลทหารเท่านั้น เพราะสัตว์ที่สร้างผลงานอันทรงเกียรติเอาไว้ในสมรภูมิก็สามารถได้รับเหรียญเหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 เว็บไซต์ Odditycentral ได้เปิดเผยเรื่องราวของสุนัขทหารสายพันธุ์เบลเยี่ยม มาลีนอยส์วัย 8 ขวบที่ชื่อว่า Mali ที่ได้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่เอาไว้เมื่อปี 2012 จนทำให้มันได้รับเหรียญกล้าหาญที่มีชื่อว่า PDSA Dickin Medal ซึ่งเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มอบให้สัตว์ผู้กล้าหาญ   Mali สุนัขที่ได้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่เอาไว้ให้กับกองทัพอังกฤษเมื่อปี 2012   เจ้าสุนัขผู้รับใช้กองทัพอังกฤษตัวนี้ได้สร้างผลงานเอาไว้ในเดือนมิถุนายน ปี 2012 จากภารกิจ Special Boat Service (หรือเรียกว่า SBS) กับการแฝงตัวเข้าไปในนครคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน และต้องอยู่ท่ามกลางสมรภูมินานกว่า 7 ชั่วโมงครึ่ง เหล่าทหารจากหน่วย Special Forces ที่ได้ออกรบไปพร้อมกับมันเล่าว่า เจ้า Mali ได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและการเป็นฮีโร่ของทุกคน บุกตะลุยฝ่ากระสุนเข้าไปเพื่อจัดการขับไล่กลุ่มก่อการร้ายตาลีบันที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคารร้าง และในระหว่างที่ทหารอังกฤษกำลังทำการจู่โจมอยู่นั้น เจ้าสุนัขตัวนี้ก็สามารถดมกลิ่นจนเจอคนร้ายที่แอบซ่อนตัวอยู่ในที่ที่พวกเขาเคลื่อนทัพไปได้หลายๆ ครั้ง ช่วยลดจำนวนทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตลงจากที่คาดเอาไว้อย่างมาก   มันเปรียบได้กับวีรบุรุษสงครามผู้ปกป้องชีวิตของพลทหารนายอื่นๆ  …

  • มองชีวิตผ่านเครื่องบิน ซีรีส์ภาพถ่ายทางอากาศ ที่เผยให้เห็น ‘การเกิดดับ’ ของสรรพสิ่ง

    มองชีวิตผ่านเครื่องบิน ซีรีส์ภาพถ่ายทางอากาศ ที่เผยให้เห็น ‘การเกิดดับ’ ของสรรพสิ่ง

    ตามธรรมชาติของทุกสรรพสิ่งบนโลกนั้น ล้วนมีเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปทั้งสิ้น และภาพของสนามบินจากผลงานชุด Life Cycles ของช่างภาพชื่อดังอย่างคุณ Mike Kelley เองก็ได้เผยให้เห็นถึงหลักของสัจธรรมข้อนี้ได้อย่างชัดเจน “ภาพถ่ายชุดนี้ทำให้เราได้เข้าใจถึงหลักการที่แท้จริงของการเดินทางด้วยเครื่องบิน และการถ่ายภาพของเครื่องบินจากบนท้องฟ้า มันเผยให้เห็นถึงอาคารผู้โดยสารที่แออัดและจำนวนเครื่องบินที่จอดกันอยู่อย่างหนาแน่น” ช่างภาพหนุ่มกล่าว     “ภาพมุมมองที่แตกทำให้ผู้คนได้เห็นมุมมองของการเดินทางด้วยเครื่องบินที่ไม่เหมือนเดิม และเผยให้เห็นถึงความพยายามของมนุษย์ที่จะเอาชนะอุปสรรคในการเดินทาง” ช่างภาพหนุ่มอธิบาย   ภาพถ่ายชุดดังกล่าวได้เผยให้เห็นถึงช่วงการใช้งานของสนามบินแต่ละแห่งใน 3 ช่วงเพื่อให้เห็นถึงการเปลื่ยนแปลง คุณ Kelley นั้นได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ในการบินถ่ายภาพและบันทึกเรื่องราวเอาไว้   ภาพของเครื่องบินโบอิ้งและรันเวย์ในเมืองซีแอตเทิล เผยให้เห็นในช่วงแรกของการเริ่มต้นประกอบเครื่องบินในสนามบิน .   การเริ่มต้นของเครื่องบินนั้นก็เปรียบเหมือนกับชีวิตของคนที่กำลังเริ่มต้นขึ้น และการเดินทางออกจากรันเวย์ก็เปรียบเหมือนกับชีวิตของเราที่กำลังเดินทางผ่านวันและเวลาต่างๆ นั่นเอง .   ภาพถ่ายจากท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส ก็ได้แสดงให้เห็นถึงการใช้งานเครื่องบิน และการลำเลียงสินค้าต่างๆ มากมาย .   สินค้าและสัมภาระมากมายที่กำลังจะเตรียมเดินทางไปพร้อมกับเครื่องบิน เปรียบเหมือนกับภาระหน้าที่ที่เราต้องทำ และเมื่อชีวิตได้เริ่มต้นขึ้นมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะปฏิเสธภาระหน้าที่เหล่านั้น . . .   และสุดท้ายภาพของซากสนามบินในสุสานเครื่องบินในแถบทะเลทรายทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่เผยให้เห็นถึงเครื่องบินที่ถูกปลดประจำการและซากปรักหักพังของสนามบินที่ถูกทิ้งร้าง .   ซากเครื่องบินที่ถูกทิ้งไว้ในสุสานเครื่องบินทางตอนใต้ของประเทศ .   เศษซากปรักหักพังเหล่านี้ ได้แสดงให้เราได้เห็นว่าสุดท้ายแล้วชีวิตนั้นก็จะต้องเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดในซักวันหนึ่ง และสุดท้ายแล้วทุกอย่างล้วนต้องกลับคืนสู่จุดเริ่มต้น   มีเกิดก็ต้องมีดับ นับเป็นความจริงของจักรวาลที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ที่มา petapixel

  • คุณตาวัย 76 ปี ได้เจอรถของตัวเองอีกครั้ง หลังจากลืมไว้เมื่อ 20 ปีก่อน!?

    คุณตาวัย 76 ปี ได้เจอรถของตัวเองอีกครั้ง หลังจากลืมไว้เมื่อ 20 ปีก่อน!?

    สำหรับบางคนที่อาจจะมีนิสัยขี้ลืม อาจจะเคยลืมสิ่งของบางอย่างไว้นานๆ และกว่าจะนึกได้เจ้าสิ่งของที่ว่านั้นก็อาจจะหายไปเสียแล้ว และชายชราวัย 76 ปีผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันหลังจากที่เขาดั๊นจำไม่ได้ว่าตัวเองจอดรถไว้ที่ไหนเมื่อ 20 ปีก่อน ย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 คุณ Helmut Kohl ชายชาวเยอรมันวัย 76 ปี ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองแฟรงก์เฟิร์ตว่ารถของตนเองหาย หลังจากที่เขาหารถของตัวเองไม่เจอและคิดว่ามันถูกขโมยไป     ชายชราตัดสินใจรื้อโรงรถของเขาหลังจากที่ตามหารถที่หายไปไม่เจอ แต่พอเวลาผ่านไป 20 ปี คุณปู่ท่านนี้ก็ได้พบว่ารถของตัวเองจอดอยู่ที่เดิมที่เขาลืมไว้นั่นเอง เมื่อได้พบกับรถของเขา คุณปู่กลับบอกว่าตอนนี้เขาไม่ต้องการเจ้ารถคันนั้นอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ซากรถคันดังกล่าวอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ และถูกส่งไปยังสุสานรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “รถคันดังกล่าวไม่ได้ใช้งานมาเป็นเวลานาน และเรากำลังจะส่งมันไปที่สุสานรถ” เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองแฟรงก์เฟิร์ต กล่าว     นอกจากนี้เมื่อประมาณปีที่แล้วก็ได้มีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษเช่นกัน หลังจากที่มีรายงานว่าหนุ่มสก็อตแลนด์ผู้หนึ่งได้พบกับรถ BMW ของเขาที่จอดลืมไว้นานถึง 6 เดือนอีกครั้ง หลังจากที่เขาจอดลืมไว้ใกล้ๆ กับสนาม Etihad Stadium ของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้นั่นเอง ชายคนดังกล่าวพยายามจะค้นหารถของเขา แต่กลับไม่พบ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถคันดังกล่าวในอีกหกเดือนต่อมา ซึ่งชายหนุ่มบอกว่าเขาต้องเสียค่าจอดรถเป็นเงินถึง 5,000 ปอนด์ หรือประมาณ 210,000 บาทเลยทีเดียว     บางทีอาจจะไม่ได้ขี้ลืมหรอกนะ แต่มันแค่นึกไม่ออกเท่านั้นเอง แฮะๆ…

  • ‘Daiheiwa Kinento’ หอคอยขาวโพลนทรงประหลาด ใจกลางเมืองทนดะบะยะชิ ประเทศญี่ปุ่น

    ‘Daiheiwa Kinento’ หอคอยขาวโพลนทรงประหลาด ใจกลางเมืองทนดะบะยะชิ ประเทศญี่ปุ่น

    ถ้าหากพูดถึงประเทศญี่ปุ่น (อีกแล้ว!! เอาน่าอย่าเพิ่งเบื่อเลยนะ ฮ่าๆ ) หนึ่งในหอคอยขึ้นชื่อที่หลายๆ คนนึกถึงคงหนีไม่พ้นโตเกียวทาวเวอร์แน่นอน แต่นอกจากหอคอยอันขึ้นชื่อประจำกรุงโตเกียวแล้ว ที่นี่ยังมีหอคอยสุดแปลกที่ชื่อว่า Daiheiwa Kinento จากจังหวัดโอซาก้าอีกด้วยนะเออ!! เจ้าหอคอยสีขาวรูปร่างแปลกๆ นี้ตั้งอยู่ในเมืองทนดะบะยะชิ ในจังหวัดโอซาก้า มันดูเหมือนกับหอคอยจากโลกเทพนิยายและอาจทำให้หลายๆ คนคิดถึงหอคอยจากเกมชื่อดังอย่าง Final Fantasy เลยทีเดียว     Daiheiwa Kinento หอคอยสีขาวที่สูงถึง 180 เมตรนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟของเมือง ซึ่งคุณสามารถเดินทางมาที่นี่ได้โดยการนั้งรถไฟสาย Kintetsu Nagano และนั่งรถบัสต่อมาที่หอคอยแห่งนี้ ถึงแม้ว่ารูปร่างของมันนั้นจะดูเหมือนหอคอยในการ์ตูน แต่ทว่าอันที่จริงแล้วตัวมันเองนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับอนิเมะ หรือเกมใดๆ เลย ซึ่งประติมากรรมที่ว่านี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1970 โดย Perfect Liberty ลัทธิหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งชื่อของมันนั้นหมายถึง “หอคอยเพื่อเสรีภาพอันยิ่งใหญ่”     Daiheiwa Kinento อาคารสูงเกือบ 200 เมตร ที่ตั้งอยู่กลางเมืองทนดะบะยะชิ   หอคอยสูงแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ระลึกและสวดมนต์ให้กับดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในช่วงสงครามทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นชาติหรือศาสนาใดก็ตาม บรรยากาศภายในอาคารหลังนี้ค่อนข้างผ่อนคลายและยินดีต้อนรับผู้ที่สนใจ โดยคุณสามารถเข้ามาร่วมเรียนรู้หลักการของลัทธินี้และสวดมนต์ได้ทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4…

  • พบกับ Rayssa Leal นักสเก็ตสาวน้อยวัย 9 ขวบ ที่มาพร้อมกับชุดนางฟ้าสุดน่ารัก

    พบกับ Rayssa Leal นักสเก็ตสาวน้อยวัย 9 ขวบ ที่มาพร้อมกับชุดนางฟ้าสุดน่ารัก

    ประเทศบราซิลอาจจะขึ้นชื่อในเรื่องของฟุตบอล การแต้นแซมบ้า และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แต่นอกจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้แล้วที่นี่เองก็ยังมีนักสเก็ตชื่อดังมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ Rayssa Leal สาวน้อยวัย 9 ขวบผู้นี้นี่เอง!! Rayssa Leal หรือที่ชาวบราซิลตั้งฉายาให้เธอว่า Fadinha Do Skate (นางฟ้านักสเก็ต) สาวน้อยผู้นี้ไม่เพียงแค่เป็นนักสเก็ตรุ่นเยาว์ที่มีฝีมือและกวาดถ้วยรางวัลต่างๆ มามากมาย แต่เธอยังได้รับคำชื่นชมจากนักสเก็ตระดับโลกอย่าง Tony Hawk อีกด้วย “ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย แต่ผมชอบมากๆ นางฟ้าตัวน้อยจากบราซิล” ข้อความจากอินสตาร์แกรมของ Tony พร้อมกับคลิปวิดีโอของสาวน้อย     ถึงแม้ว่าจะเป็นนักสเก็ตบอร์ด แต่เธอก็ยังเหมือนกับเด็กสาวทั่วๆ ไปที่ชอบคุณนางฟ้า และชุดนางฟ้าสีฟ้าสดใสนี้ก็เป็นที่มาของฉายา นางฟ้านักสเก็ตของเธอนั่นเอง .   เล่นได้คล่องแคล่วไม่แพ้ผู้ใหญ่เลยนะเนี่ย   แต่กว่าจะได้มาซึ่งท่าสวยๆ ก็ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนักและก็เจ็บตัวมาเยอะเหมือนกันนะ   ปัจจุบันเธออายุ 9 ขวบ และตอนนี้สาวน้อยก็กำลังก้าวสู่เส้นทางนักสเก็ตบอร์ดมืออาชีพ เหมือนกับรุ่นพี่ของเธออย่าง Eliana Sosco และ Leticia Bufoni โปรสเก็ตสาวชาวบราซิล .   ไปชมวิดีโอสเก็ตของเธอได้ที่ด้านล่างนี้เลย…   และสำหรับใครที่อยากสมัครเป็นแฟนคลับสาวร้อยนักสเก็ตผู้นี้ล่ะก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่อินสตราแกรม  rayssalealsk8 และเฟซบุ๊ก Rayssa Leal ของเธอได้เลย…

  • เด็กหนุ่มวัย 15 ถูกไล่กลับบ้าน หลังถักเปียผมสุดเฟี้ยวไปโรงเรียน คุณแม่งงทำไมผู้หญิงทำได้?

    เด็กหนุ่มวัย 15 ถูกไล่กลับบ้าน หลังถักเปียผมสุดเฟี้ยวไปโรงเรียน คุณแม่งงทำไมผู้หญิงทำได้?

    กลายเป็นกระแสสังคมกันพอสมควร หลังเด็กหนุ่มคนหนึ่งถูกโรงเรียนสั่งให้กลับบ้านทันทีเนื่องจากทรงผมที่เขาทำมานั้น มันขัดกับข้อตกลงของทางโรงเรียน ด้านผู้เป็นแม่จึงเกิดคำถามมากมายขึ้นในใจทันทีจากเหตุการณ์ดังกล่าว… Trisha Jukes คุณแม่ลูกสองวัย 34 ปี เล่าว่าเธอได้รับโทรศัพท์จากลูกชายของเธอ Jordan Waterfield วัย 15 ปี ซึ่งเขาโทรมาด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดมากๆ โดยเขาบอกกับเธอว่าเขาถูกอาจารย์สั่งให้กลับบ้าน ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาถูกไล่กลับนั้น มันเกิดขึ้นจากการที่ทรงผมของ Jordan ไม่เหมาะสม โดย Trisha ผู้เป็นแม่ก็ตั้งคำถามกับทางโรงเรียนว่ามันผิดตรงไหน ทั้งๆ ที่ผมทรงนี้ผู้หญิงก็ยังทำได้ แถมยังบอกว่าตนส่งลูกเรียนมาปีที่ 4 แล้วยังไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยจนกระทั่งตอนนี้     ทางด้านอาจารย์จากโรงเรียน RSA Academy ในประเทศอังกฤษก็ได้ออกมาชี้แจงว่า เขาได้ส่ง Jordan กลับบ้านจริงด้วยเหตุหลักคือทรงผมมันสุดโต่งเกินไป ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมผู้หญิงถึงทำได้ส่วนเขาถึงถูกส่งกลับก็เพราะว่า ทรงผมของเขามันสั้นเกินไปนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ทางด้าน Trisha ก็ได้เข้าไปต่อรองกับคณะอาจารย์ของโรงเรียนเพื่อให้ลูกของเธอได้กลับเข้าคาบเรียนอีกครั้ง โดยเธอบอกว่าเธอไม่ยอมให้ลูกต้องสูญเสียการเรียนไปหนึ่งวันเพราะเพียงแค่เรื่องของทรงผม     อย่างไรก็ตาม Jordan นั้นก็ได้อนุญาตให้กลับเข้าไปเรียนต่อได้หลังจากเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง แต่ผู้ปกครองหรือ Trisha ยังต้องมีการกลับเข้าไปหารือกับคณะอาจารย์อีกครั้งเพื่อหาข้อตกลงในเรื่องทรงผมของลูกชายนั่นเอง…     ทรงผมไม่เกี่ยวกับการเรียน แต่ไว้ให้มันพอดีๆ ไม่ดูเฟี้ยวฟ้าวเกินก็น่าจะดีกว่านะ แล้วเพื่อนๆ คิดว่าไงกับเรื่องราวในครั้งนี้ลองมาแชร์กันดูนะ  …

  • หนุ่มดาวน์ซินโดรมกลายเป็นฮีโร่ หลังกระโดดลงไปช่วยคนกำลังจะจมน้ำอย่างไม่ลังเล

    หนุ่มดาวน์ซินโดรมกลายเป็นฮีโร่ หลังกระโดดลงไปช่วยคนกำลังจะจมน้ำอย่างไม่ลังเล

    คุณจะกล้าเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อเข้าไปช่วยเหลือคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนหรือไม่? เราเชื่อนะว่าหลายๆ คนคงอาจจะไม่กล้าเขาไปหรอก นั่นอาจเป็นเพราะมีเหตุผลอะไรหลายๆ อย่าง ที่ทำให้เราไม่อาจจะเสี่ยงชีวิตเข้าไป เพราะสุดท้ายตัวเราอาจจะเป็นคนที่ซวยเสียเอง แต่สำหรับ Valerio Catoia หนุ่มดาวน์ซินโดรมรายนี้ เขากลับไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำเช่นไรหากเห็นผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย และเขาก็ได้รับการทดสอบเป็นที่เรียบร้อย แถมยังได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขานั้นคือวีรบุรุษตัวจริง     ย้อนกลับไปตอนที่ Valerio อายุได้เพียง 3 ขวบ ครอบครัวได้ส่งให้เขาเข้าเรียนว่ายน้ำ เพื่อเป็นการช่วยสร้างความแข็งแรงและความอดทน และนั่นก็ทำให้เขาได้กลายเป็นสุดยอดนักว่ายน้ำ ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสำหรับผู้เป็นดาวน์ซินโดรม ทั้งยังผ่านการฝึกอบรมเพื่อช่วยเหลือผู้คนจมน้ำในทะเลอีกด้วย     กระทั่งในวันหนึ่งขณะที่ Valerio ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ชายหาดแห่งหนึ่งในอิตาลีกับพ่อและพี่สาว ในขณะนั้นครอบครัวของเขาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นเสียงของเด็กผู้หญิงสองคนที่มีอายุราวๆ 10 และ 14 ปีกำลังจะจมน้ำ และพยายามที่จะกลับขึ้นฝั่ง เมื่อได้ยินดังนั้น Valerio และพ่อของเขาก็ไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปหาเด็กผู้หญิง 2 คนทันที ซึ่งเขาก็ได้ใช้ทักษะการว่ายน้ำทั้งหมดที่มีเพื่อช่วยเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ให้รอดพ้นจากอันตราย และแน่นอนว่าเขาสามารถทำมันได้สำเร็จ     และภายหลังจากที่เรื่องราวของ Valerio ได้ถูกนำไปเผยแพร่ออนไลน์ เขาก็ได้รับเสียงชื่นชมจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก หลายคนก็ได้เข้ามายกย่องในความกล้าหาญของเขา และการกระทำที่กล้าหาญนี้ก็ได้ส่งผลให้…

  • นี่คือ ‘จักรยานสุดแซ๊บ’ ติดเครื่องเสียงเบสกระหึ่มพร้อมกับเปิดจังหวะโจ๊ะๆ ให้ได้ดิ้นกันในอิตาลี

    นี่คือ ‘จักรยานสุดแซ๊บ’ ติดเครื่องเสียงเบสกระหึ่มพร้อมกับเปิดจังหวะโจ๊ะๆ ให้ได้ดิ้นกันในอิตาลี

    ตามงานมอเตอร์โชว์ส่วนใหญ่จะมีการจัดแสดงเครื่องเสียงเพื่อติดรถยนต์หรือรถกระบะ เปิดเพลงโจ๊ะๆ สามช่า สายย่อ ตามสไตล์ใครสไตล์มัน แต่ในเมืองปาร์แลโม แคว้นซิซิลี ประเทศอิตาลี กลับมีอะไรที่ล้ำกว่านั้น เพราะเครื่องเสียงแบบเดียวกันมันดันมาติดอยู่กับรถจักรยานซะได้!! เทรนด์การนำเครื่องเสียงมาติดรถจักรยานนี้เกิดขึ้นโดยกลุ่มวัยรุ่นผู้รักเสียงเพลงภายในเมือง ได้ดัดแปลงนำลำโพงและเครื่องขยายเสียงมาผสานเข้ากับจักรยานคู่ใจเพื่อให้พวกเขาสามารถฟังเพลงได้ในทุกที่ทุกเวลา   เทรนด์จักรยานสุดจี๊ด ตอบโจทย์สำหรับคนรักในเสียงเพลง   จักรยานแนวใหม่นี้ได้ถูกคิดค้นมานานกว่า 5 ปี จนกลายเป็นที่นิยมของวัยรุ่นภายในเมืองให้พวกเขาได้ใช้เวลาไปกับการแต่งรถ (จักรยาน) ด้วยชุดเครื่องเสียงต่างๆ และการได้ขี่ออกไปโชว์ประสิทธิภาพของเสียงที่มี รวมถึงการได้เปิดเพลงแข่งขันกับคนอื่นๆ ก็ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขไปกับมัน พวกเขามีกลุ่มเฟซบุ๊กเป็นของตัวเองไว้ใช้สำหรับพูดคุย และแนะนำแนวการแต่งรถในลักษณะนี้ เรียกว่าเป็นการแบ่งปันให้ข้อมูลกับคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน   จักรยานรูปแบบนี้ประกอบด้วยแผงควบคุมตรงแฮนด์รถ ลำโพงติดตั้งตรงโครงรถ ส่วนแบตเตอรี่และเครื่องขยายเสียงติดอยู่ตรงเบาะหลัง   โดยจักรยานติดเครื่องเสียงสุดคูลแบบนี้มีราคาที่ค่อนข้างแพงไม่ใช่น้อย หนึ่งคันใช้งบประมาณราวๆ 7,700–46,000 บาท และนอกจากเรื่องของเงินแล้วเด็กส่วนใหญ่ก็ได้ทุ่มเทแรงกายและเวลาประกอบ ดัดแปลงมันขึ้นมาทั้งหมดด้วยตัวเองอีกด้วย เรียกว่าเป็นการลงทุนเพื่อความชอบเลยสินะเนี่ย เมื่อทีมข่าวในประเทศ La Republica ได้เข้าไปสอบถามคนกลุ่มนี้ว่าทำไมถึงยอมลงทุนมากขนาดนั้น คำตอบส่วนใหญ่ก็คือเป็นเพราะความชอบในเรื่องดนตรี และมันทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกับได้รับอิสระ อีกทั้งมันยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้นำเงินและเวลาไปใช้ในทางที่ไม่ดี อย่างการเสพยา หรือการก่ออาชญากรรม   คลิปวัยรุ่นหนุ่มเปิดเพลงโจ๊ะๆ ผ่านเครื่องเสียงติดจักรยานของเขา .  …

  • ลูกชายมือบอนวาดภาพบนผนังบ้าน แต่พ่อแม่ไม่ได้ว่าอะไรกลับจับใส่กรอบเป็นผลงานศิลปะ

    ลูกชายมือบอนวาดภาพบนผนังบ้าน แต่พ่อแม่ไม่ได้ว่าอะไรกลับจับใส่กรอบเป็นผลงานศิลปะ

    หากใครที่มีลูกหรือเคยได้ดูแลเด็กมาก่อนอาจทนไม่ได้และต่อว่าพวกเขากับพฤติกรรมการเล่นซนหรือมือบอนวาดรูปไปตามผนังบ้าน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่คู่นี้เป็นเพราะถึงแม้ลูกจะเป็นอย่างนั้น พวกเขากลับหาทางแก้ไขได้อย่างน่ารักโดยไม่ต่อว่าลูกน้อยของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องราวของดอกเตอร์ Eric Massicotte เมื่อเขากลับบ้านมาพร้อมกับภรรยาก็ได้เจอกับสิ่งที่ลูกชายของเขาได้ทิ้งเอาไว้บนกำแพงภายในบ้าน   ภาพวาดสีเขียวจากฝีมือลูกชายของเขาที่มีพื้นหลังเป็นกำแพงบ้านสีขาว   ถ้าเป็นพ่อแม่คู่อื่นๆ ก็อาจต่อว่าในสิ่งที่ลูกทำลงไปและพยายามลบภาพที่ติดอยู่ออกให้ได้ แต่ Eric และภรรยากลับไม่ได้ทำอย่างนั้น เพราะเขาได้ทำมันให้ออกมาดูสร้างสรรค์มากยิ่งกว่าเดิม พวกเขานำกรอบรูปมาติดครอบภาพนั้นเอาไว้และกระดาษอธิบายข้อมูลแผ่นเล็กๆ ติดไว้ด้านข้างกรอบรูป ทำให้มันดูเหมือนกับเป็นงานศิลปะชั้นนำที่ถูกจัดแสดงเอาไว้ในนิทรรศการงานศิลป์ชัดๆ   เปลี่ยนความซนของเด็กให้กลายเป็นภาพฝาผนังที่ดูมีคุณค่า   ภาพนี้มีชื่อว่า “Interrupted House” ถูกวาดด้วยปากกามาร์กเกอร์ เป็นของขวัญให้กับพ่อแม่ของเขาในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017   จากนั้น Eric ก็ได้ทำการโพสต์สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 พร้อมแคปชั่นว่า “เด็กอาจทำบางสิ่งที่ไม่สมควรลงไป แต่มันจะช่วยให้ดีขึ้นได้ถ้าคุณแต่งงานกับใครซักคนที่มีความตลกอยู่ในตัว” สงสัยไอเดียนี้คงมาจากภรรยาของเขาสินะ ความคิดสุดบรรเจิดของครอบครัวนี้ได้ถูกรีทวิตไปมากกว่า 100,000 ครั้ง มีคนถูกใจกว่า 270,000 ครั้ง และคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับพ่อแม่หลายๆ คนได้ลองนำวิธีนี้ไปใช้ดู     ดอกเตอร์ Eric ผู้เป็นทั้งศัลยแพทย์ส่วนประสาท ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์…

  • ภาพวาดของ Da Vinci ที่เคยขายไป 2,000 บาท ถูกประมูลขายอีกครั้งได้ราคา 15,000 ล้านบาท!!

    ภาพวาดของ Da Vinci ที่เคยขายไป 2,000 บาท ถูกประมูลขายอีกครั้งได้ราคา 15,000 ล้านบาท!!

    เมื่อกล่าวถึงชื่อ Leonardo Da Vinci หลายคนอาจจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะเขาคืออัจฉริยบุคคลที่มีความสามารถหลากหลาย โดยเฉพาะผลงานด้านศิลปะที่โด่งดัง จนมีมูลค่ามหาศาลและมีผลจนถึงปัจจุบันนี้ ล่าสุดภาพวาด Salvator Mundi ของ Da Vinci ที่เคยขายในราคา 2,000 บาท ได้ถูกนำมากลับมาประมูลอีกครั้งและขายไปที่ราคา 15,000 ล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นราคาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะเลยก็ว่าได้     “Salvator Mundi” หรือ “พระผู้ช่วยให้รอดของโลก” เป็นภาพพระเยซูคริสต์ที่ยกพระหัตถ์ขวาขึ้น ส่วนพระหัตถ์ซ้ายได้ถือโลกเอาไว้ ในปี 1958 ทาง Auctioneers Sotheby ได้ขายภาพวาดดังกล่าวในราคาเพียง 2,000 บาท เนื่องจากในตอนแรกผู้คนเข้าใจว่าภาพดังกล่าวเป็นผลงานของลูกศิษย์ของ Da Vinci เท่านั้น และนับตั้งแต่นั้นมาภาพนี้ก็มีการเปลี่ยนมือหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะหายสาปสูญไป     กระทั่งเมื่อปี 2005 ถาพเขียนดังกล่าวได้ถูกค้นพบอีกครั้ง และในคราวนี้ กลุ่มศิลปินที่ติดตามผลงานของ Da Vinci ได้ทำการประเมินภาพดังกล่าวอีกครั้ง และพวกเขาก็ได้รู้ว่า จริงๆ แล้วภาพดังกล่าวเป็นผลงานของ Da Vinci โดยตรง มิใช่ของลูกศิษย์แต่อย่างใด…

  • รู้จักกับ “Snowflake” ดินแดนสำหรับ “ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่” ที่ใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันไม่ได้!?

    รู้จักกับ “Snowflake” ดินแดนสำหรับ “ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่” ที่ใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันไม่ได้!?

    ในทุกวันนี้การที่มีเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วได้ทำให้ชีวิตของเรามีความสะดวกเพิ่มมากขึ้น แต่ในเมื่อมีผลดีก็ต้องมีผลเสีย เพราะสารเคมีหรือว่ารังสีบางอย่างอยู่รอบๆ ตัวเรา นั้นอาจทำให้บางคนที่ไวต่อการสัมผัสรู้สึกไม่สบายได้ นั่นจึงเป็นที่มาของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมือง Snowflake ที่ตั้งอยู่บริเวณขอบของรัฐแอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ที่เจ็บป่วยทรมานต่อสารเคมีต่างๆ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่” ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้เป็นโรคเรื้อรังที่แพ้ต่อสารเคมีและเทคโนโลยีในปัจจุบัน อาการบางอย่างของผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ก็คือ จะรู้สึกไม่สบายตัว ในบางรายอาจมีร่างกายที่ทรุดโทรมไปเลยอย่าง มีอาการคลื่นไส้รุนแรง ไมเกรน เป็นโรคหวาดระแวง และวิงเวียนศีรษะในบางครั้ง     สาเหตุที่ทำให้พวกเขามีอาการเหล่านี้ พวกผู้ป่วยได้บอกไว้ว่าเป็นเพราะสารเคมีและเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ ที่อยู่รอบตัวพวกเขา อย่างเช่น น้ำหอม เส้นใยสังเคราะห์ในเสื้อผ้าหรือหมอนมุ้ง สารกำจัดศัตรูพืชทั้งหลาย รวมถึงอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายหรือ Wi-Fi ด้วย ซึ่งหมอส่วนมากลังเลที่จะประกาศว่าอาการเหล่านี้เป็นโรคชนิดหนึ่ง เพราะว่ามันขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แต่พวกเขาจะเรียกว่า อาการจิตทางสังคมที่ก่อให้เกิดอาการทางกายภาพอย่างฉับพลัน ด้วยเหตุเหล่านี้ ผู้ป่วยเหล่านี้จึงไม่สามารถหาความช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับโรคที่พวกเขาเป็น และต้องหาที่อยู่ใหม่เพื่อเป็นการรักษาตัวเอง เนื่องจากสาเหตุเหล่านี้ทำให้ในปี 1998 ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่ทั้งหลายจึงได้ตัดสินใจที่จะกำหนดสุขภาพของพวกเขาด้วยมือตนเอง โดยพวกเขาได้ย้ายไปในเมืองทะเลเล็กๆ ในเมือง Snowflake     Bruce McCreary ผู้บุกเบิกที่นี่เป็นอดีตวิศวกรไฟฟ้าได้ตัดสินใจทิ้งบ้านของเขาในเมือง Mesa หลังจากที่เกือบจะพิการจากการสัมผัสสารเคมีในโรงงานผลิตสารเคมีที่เขาทำงาน ต่อมาช่วงต้นๆ ปี 1990 ก็มีผู้ป่วยทางสังคมอีกกว่า 30 คนเข้ามาสมทบกับเขาด้วย และได้เกิดเป็นเมืองๆ หนึ่งในที่สุด ผู้อยู่อาศัยคนอีกคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ชื่อว่า…

  • ญี่ปุ่นสร้างบ้านโดมที่ทำจากโฟม น้ำหนักเบา แต่สามารถต้านแรงแผ่นดินไหวได้อย่างเหลือเชื่อ

    ญี่ปุ่นสร้างบ้านโดมที่ทำจากโฟม น้ำหนักเบา แต่สามารถต้านแรงแผ่นดินไหวได้อย่างเหลือเชื่อ

    เมื่อเกิดเหตุแผ่นเดินไหวในแต่ละครั้ง มักจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล ไม่เว้นแม้กระทั่งบ้านเรือนหรืออาคารที่คิดว่าโครงสร้างแข็งแรงแล้ว ก็ยังพังลงได้ ด้วยเหตุนี้ญี่ปุ่นจึงได้สร้างโดมที่ทนต่อแรงสั่นสะเทือน เพื่อรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นทุกเมื่อ จนตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศ     บ้านพักโดมที่ทนต่อแรงสั่นสะเทือนกว่า 450 หลัง ถูกสร้างเป็นรีสอร์ทที่มีชื่อว่า Aso Farm Land ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ที่นั่นมีทั้งสวนดอกไม้และรูปปั้นไดโนเสาร์ จนกลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วเอเชีย     บ้านโดมถูกสร้างจากชิ้นส่วนของโฟมที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ โดยใช้กาวติดเพื่อสร้างเป็นรูปโดม ดังนั้นบ้านทั้งหลังจึงมีน้ำหนักรวมประมาณ 80 กิโลกรัมเท่านั้น     แม้จะมีน้ำหนักเบา แต่โครงสร้างของบ้านทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานสูงมาก ซึ่งสามารถรับมือกับแผ่นที่ไหวที่รุนแรงได้     ในเดือนเมษายนปี 2016 จังหวัดคุมะโมะโตะได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.0 แมกนิจูด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 49 รายและบาดเจ็บอีก 3,000 คน แต่บ้านโดมที่ทำจากโฟมจากโฟมดังกล่าวนี้ กลับไม่ได้รับผลกระทบเลย     Katsuyuki Kitagawa หัวหน้ารีสอร์ท Aso Farm Land ได้ออกแบบบ้านให้เป็นรูปทรงเป็นโดม เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากงานของเขาในอุตสาหกรรมขนมญี่ปุ่น  …

  • เปิดท้ายขายของในตลาด ‘ถ่านไฟเก่า’ ในเวียดนาม เปลี่ยนเศษซากความรักให้กลายเป็นเงิน

    เปิดท้ายขายของในตลาด ‘ถ่านไฟเก่า’ ในเวียดนาม เปลี่ยนเศษซากความรักให้กลายเป็นเงิน

    เมื่อครั้งรักยังหวานชื่น หนุ่มสาวมักจะซื้อของขวัญให้กันและเพื่อเป็นสิ่งแทนใจหรือเอาไว้ดูต่างหน้าเมื่อต้องไกลกัน แต่เมื่อรักขมขื่นจนต้องเลิกรากันไป ของขวัญเหล่านั้นก็กลายเป็นแค่เศษขยะที่ไม่ค่าต่อใจอีกต่อไป แต่หากคุณคิดที่จะนำของขวัญเหล่านั้นไปทิ้งหรือทำลาย ได้โปรดคิดให้ดีก่อน เพราะคุณอาจหาประโยชน์จากมันได้ เหมือนกับ Dinh Thang วัยรุ่นชาวเวียดนาม ที่ได้ผุดไอเดียสุดบรรเจิดสำหรับจัดการกับของที่แฟนเก่าเคยให้ แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับความรักที่พังทลาย อยู่กับของที่แฟนเก่าเคยให้อย่างอาลัยอาวร Thang เลือกที่จะนำสิ่งของเหล่านั้นไปขายเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า     ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 เขาเริ่มที่จะก่อตั้งตลาด “ถ่านไฟเก่า” ในเวียดนาม ให้คนที่เลิกกับแฟนนำของของอดีตแฟนมาขายให้กับคนที่สนใจ Thang บอกว่า “นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ไอเดียที่ผมกับเพื่อนๆ คิดขึ้นมา หลังจากที่ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับอดีตแฟนและสิ่งของต่างๆ ที่เคยรับตอนที่ยังคบกัน”     “หลังจากที่เลิกกัน เราพบว่ามีของหลายสิ่งที่เคยได้รับจากแฟนเก่าและเราก็ไม่อยากเห็นมันอีกต่อไปแล้ว เพราะมันทำให้เราคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด อย่างไรก็ตาม สิ่งของเหล่านั้นยังอยู่ในสภาพดี ถ้าเราทิ้งไป มันอาจจะเป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเราจึงคิดว่าควรจะนำมันไปแลกเปลี่ยนกับคนอื่นดีกว่า”  “สิ่งของได้ไปอยู่กับเจ้าของใหม่ ผู้คนได้ซื้อของใหม่ๆ ที่สำคัญคือเป็นวิธีที่ดีในการปกป้องสิ่งแวดล้อม ส่วนเราก็ได้เงินจากการขาย มันวินวินด้วยกันทุกฝ่าย”     สองครั้งแรกที่เปิดตลาดถ่านไฟเก่า มีคนนำของแฟนเก่ามาขายเพียง 10 คนเท่านั้น แต่ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ก็มีคนมาขายเพิ่มมากจนพื้นที่ไม่เพียงพอ ปัจจุบัน Thang ให้ทุกคนที่ต้องการขายของแฟนเก่าเข้ามาเปิดขายฟรี ผู้ซื้อหรือคนทั่วไปก็สามารถเข้ามาชมฟรี แต่ใครที่นำของใหม่ที่ไม่ใช่ของแฟนเก่า…

  • คุณปู่วัย 81 แจ้งพบวัตถุประหลาด คาดเป็นระเบิดยุคสงครามโลก เจ้าหน้าที่ก็จัดมาซะเต็มที่!!

    คุณปู่วัย 81 แจ้งพบวัตถุประหลาด คาดเป็นระเบิดยุคสงครามโลก เจ้าหน้าที่ก็จัดมาซะเต็มที่!!

    เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ชายวัย 81 ปีที่อาศัยในเมือง Bretten ประเทศเยอรมนี ได้ทำการติดต่อไปหาทางตำรวจท้องถิ่นหลังจากที่เขาเดินออกไปที่สวนผักของเขาเพื่อสำรวจพืชผักเหมือนเช่นในทุกวัน แต่วันนี้มันดันไม่เหมือนทุกวันน่ะสิ เพราะเขาได้สะดุดกับวัตถุทรงยาวอันหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าตัวเองโดนของดีเขาให้แล้ว!!! เขารู้ว่าในสมัยก่อนพื้นที่แถบนี้เคยเกิดการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 และไอ้เจ้าวัตถุประหลาดนี้มันจะต้องวัตถุระเบิดที่มีพลังทำลายล้างสูง ที่ฝ่ายสัมพันธมิตรหรือไม่ก็นาซี เผลอทิ้งไว้ก็ได้ ซึ่งหากวัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่สองจริงๆ ก็ต้องมีการอพยพผู้คนให้ออกจากพื้นที่โดยด่วน   งานนี้คุณลุงเลยแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งมาพร้อมกับหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด!!   เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมาพร้อมกับหน่วยเก็บกู้ระเบิด ที่มาในชุดเต็มยศ หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องจัดการกับระเบิดดังกล่าว และทำให้คนในพื้นที่ปลอดภัยให้ได้ เมื่อพวกเขามาที่จุดเกิดเหตุ ระเบิดนั้นสร้างความประหลาดใจให้กับพวกเขาอย่างมาก ไม่ใช่ว่ามันซับซ้อนจนกู้ไม่ได้ แต่มันไม่มีทางกู้ระเบิดได้เลยต่างหาก!!!   เพราะ.. มัน.. คือ…  บวบ!!!! เอ้า!!   งานนี้เจ้าหน้าที่ก็โล่งอกโล่งใจไปหน่อย โชคดีที่ไม่ต้องมาเก็บวัตถุระเบิดสมัยสงครามโลก แต่ต้องมาเก็บบวบแทน สรุปจบข่าวไปด้วยความโล่งใจของคุณลุง และรอยยิ้มจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่แม้จะไม่มีระเบิดให้กู้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณลุงสบายใจขึ้นแล้วล่ะนะ ว่าแต่ใครกันนะที่บังอาจแอบมาโยนบวบไว้ที่สวนของคุณตากันเนี่ย ตกอกตกใจหมดเลย!! ที่มา oddee

  • กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงขอโทษ หลังนักบินวาด ‘รูปหรรมส์’ บนท้องฟ้าจนดังไปทั่วโลก

    กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงขอโทษ หลังนักบินวาด ‘รูปหรรมส์’ บนท้องฟ้าจนดังไปทั่วโลก

    เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวบ้านในเขต Okanogon รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ต่างพากันงงและสงสัยเมื่อพวกเขาพบว่าบนท้องฟ้าได้มีควันสีขาวที่วาดออกมาจนดูเหมือนกับ “หรรมส์” ขนาดใหญ่กำลังลอยอยู่ ความพิสดารแบบนี้จึงทำให้บางคนถ่ายภาพสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเก็บไว้และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย สร้างความสงสัยให้กับคนจำนวนมากว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร จนกระทั่งกองทัพเรือแห่งสหรัฐฯ ได้ออกมาอธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นฝึมือของนักบินในสังกัดของพวกเขาเอง   หรรมส์ลอยอยู่บนท้องฟ้าซะอย่างนั้น .   นาวาตรี Leslie Hubbell ได้ออกมาชี้แจงกับทางสำนักข่าว Buzzfeed ว่า “ทางกองทัพเรือขอโทษสำหรับสิ่งที่ดูขาดความรับผิดชอบและขาดวุฒิภาวะอย่างนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในการฝึกซ้อมการขับเครื่องบินผาดโผนของคนในกองทัพ” “เราตั้งมาตรฐานของนักบินเราไว้สูงมากเพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ทำให้การซ้อมรบในครั้งนี้ของพวกเขาไร้ค่าไปโดยปริยายและลูกเรือของเราก็คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น” นาวาตรีกล่าวเสริม     พลเรือโท Mike Shoemaker แห่งหน่วยกองทัพอากาศของกองทัพเรือได้ออกมาพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหนึ่งในอีกทางหนึ่งว่า “ชาวอเมริกันทุกคนมีสิทธิ์คาดหวังว่านักบินที่ได้รับ Wings of Gold จะแสดงให้เห็นถึงระดับวุฒิภาวะที่มากพอสำหรับการไว้วางใจให้พวกเขาได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจเสี่ยงๆ” เขาอธิบายต่ออีกว่า “ในหน่วยการบินของกองทัพเรือเราพยายามส่งเสริมให้เกิดการแสดงออกในเรื่องของศักดิ์ศรีและความน่าเคารพ ดังนั้นคนที่มาเล่นมุขตลกในเรื่องเพศเหมือนคนไม่มีวุฒิภาวะ ก็จะไม่มีที่ยืนในหน่วยของเราเด็ดขาด”   .   อย่างไรก็ตามยังไม่มีการแถลงว่านักบินคนดังกล่าวจะได้รับบทลงโทษอย่างไรบ้าง   ที่มา: buzzfeed

  • 19 สิ่งที่ผู้หญิงทำแล้วจะรู้สึกผิดมากๆ เมื่ออยู่ในช่วงที่มี “ประจำเดือน” นี่เราทำอะไรลงไป!?

    19 สิ่งที่ผู้หญิงทำแล้วจะรู้สึกผิดมากๆ เมื่ออยู่ในช่วงที่มี “ประจำเดือน” นี่เราทำอะไรลงไป!?

    เป็นผู้หญิงนี่มันไม่ง่ายเลยนะ กว่าจะออกจากบ้านได้แต่ละวัน ต้องแต่งหน้าแต่งตัวเป็นชั่วโมงๆ แหนะ แต่สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เมื่อถึงวันนั้นของเดือน ใช่ค่ะ เรากำลังพูดถึงวันที่ผู้หญิงมีประจำเดือน มันเป็นช่วงที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกหงุดหงิดในเวลา เพราะสาวๆ ต้องคอยรับมือกับความรู้สึกผิดต่างๆ อย่างเช่น 19 ข้อนี้   1. คุณจะรู้สึกไม่อยากไปค้างบ้านเพื่อนในช่วงแดงเดือดเด็ดขาด เพราะมันจะแย่ถ้านอนเตียงคนอื่นแล้วทำให้ผ้าปูเตียงเปื้อนเลือด ซึ่งคุณจะรู้สึกผิดมากๆ   2. แม้ประจำเดือนจะเลอะที่นอน คุณก็ทำได้แค่ซักผ้าปูให้สะอาด และต้องทนใช้ที่นอนนั้นต่อไป เพราะคงไม่มีใครอยากซื้อที่นอนใหม่ทุกเดือนหรอก   3. สมัยใช้ผ้าอนามัยใหม่ๆ คุณต้องเคยเผลอทิ้งมันลงชักโครก แล้วมารู้ทีหลังว่ามันเป็นพฤติกรรมที่แย่ม๊ากมากกกกกก   4. หรือทิ้งมันลงในถังขยะโดยลืมห่อให้ดี และคนที่มาเปิดก็จะเจอกับภาพอันสยองงงง     5. การใช้ส้วมในช่วงนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องโคตรระมัดระวัง คุณมักจะพลาดทำประจำเดือนเลอะใต้ฝาครอบชักโครกเสมอ   6. หรือทำเปื้อนบนพื้น แล้วคุณก็ต้องเสียเวลาทำความสะอาด… หนักไปกว่านั้นคือมันเปื้อนผนังด้วย (เปื้อนไปได้ยังไง)   7. เวลาทิ้งผ้าอนามัยในถังขยะห้องน้ำสาธารณะที่เต็มมากๆ คุณจะรู้สึกผิดต่อคนที่มาทำความสะอาด   8. หรือแม้แต่ถังขยะคุณเองก็จะเต็มภายในเวลาอันรวดเร็ว แถมยังส่งกลิ่นเหม็นด้วย    …

  • ภาพอันเจ็บปวด เมื่อเด็กมือบอนทำลายเครื่องสำอางร้าน Sephora มูลค่ารวม 42,000 บาท!!

    ภาพอันเจ็บปวด เมื่อเด็กมือบอนทำลายเครื่องสำอางร้าน Sephora มูลค่ารวม 42,000 บาท!!

    รู้มั้ย อะไรที่ผู้หญิงหวงยิ่งกว่าชีวิต? ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่บ้าน ไม่ใช่รถ ไม่ใช่เงิน แต่มันคือเครื่องสำอาง หวงแบบว่าถ้าหายหรือพัง คนทำคือได้ไปเกิดใหม่แน่นอน ผู้ชายอาจจะคิดว่าทำไมต้องหวงอะไรเบอร์นั้น คำตอบนั้นผู้หญิงจะทราบกันดี เพราะเครื่องสำอางแต่ละชิ้นนั้นราคาไม่ใช่น้อยๆ กว่าจะได้มาครอบรองต้องเก็บตังตั้งนานแหนะ นั่นกลายเป็นเหตุผลว่าทำไมสาวๆ ผู้รักเครื่องสำอางถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อรู้ว่ามีเด็กคนหนึ่งทำลายเครื่องสำอางมูลค่ากว่า 42,000 บาท ของชอปชื่อดังอย่าง Sephora     สำหรับเครื่องสำอางที่ถูกทำลายนั้นเป็นอายแชโดว์ Make Up Forever ทั้งแผง ที่ตั้งเอาไว้ให้สาวๆ เทสก่อนซื้อ ถึงจะเป็นสินค้าทดลอง แต่ราคารวมทั้งแผงก็เกือบ 50,000 เลยนะ คนที่ไปเจอภาพสุดปวดร้าวดังกล่าวคือช่างแต่งหน้า Brittney Nelson ซึ่งเธอมั่นใจว่าเป็นฝีมือเด็ก เพราะเขาหรือเธอคนนั้นคงคิดว่ามันเป็นสีทาเล็บ เลยเอานิ้วจิ้มซะอายแชโดว์เละหมดเลย ต่อมา Nelson ได้ถ่ายรูปและโพสต์ในเฟสบุ๊กว่า “อายแชโดว์ Make Up Forever มูลค่ากว่า 42,000 บาท ใน Sephora ถูกทำลายโดยเด็กมือบอนคนหนึ่ง”     “แน่นอนว่าคนที่ไปชอปที่ Sephora วันนั้นต่างก็ไม่สบายใจกับสิ่งที่เห็น ดังนั้นฉันอยากขอร้องผู้ปกครองของเด็กๆ ว่ากรุณาอย่าพาลูกๆ ของคุณเข้าไปในร้านเครื่องสำอาง เพราะมันอาจจะไม่ดีต่อตัวคุณเอง คนอื่น…

  • กลุ่มวัยรุ่นอัดคลิป “เสพยา” ผ่านหน้ากล้อง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดในยูทูบ

    กลุ่มวัยรุ่นอัดคลิป “เสพยา” ผ่านหน้ากล้อง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดในยูทูบ

    ปัจจุบันยูทูบคือสื่อกลางที่ทุกคนสามารถแชร์วิดีโอต่างๆ กันได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเอ็มวีเพลง การทำช่องเพื่อเป็นสื่อโฆษณา หรือแม้แต่การเสพยาโชว์หน้ากล้องอย่างของช่อง Drugslab ก็มีให้เห็นได้อย่างถูกกฎหมาย ช่อง Drugslab เป็นช่องจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ทำขึ้นมาเพื่อการศึกษาให้ความรู้เกี่ยวกับสารเสพติด ผ่านผู้ดำเนินรายการ 3 คนได้แก่ Nellie Benner , Rens Polman และ Bastiaan Rosman โดยรายการนี้เริ่มปล่อยคลิปตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2016   ผู้ดำเนินรายการทั้งสาม Bastiaan (คนซ้าย) Nellie (คนกลาง) Rens (คนขวา)   ในรายการพวกเขาทั้งสามคือคนอธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับสารเสพติดที่นำมาใช้ในแต่ละครั้ง ตั้งแต่เรื่องของวิธีการใช้สารดังกล่าวอย่างถูกต้อง สามารถใช้ได้บ่อยมากแค่ไหน มันส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจหรืออุณหภูมิร่างกายอย่างไร และเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกมีการเปลี่ยนแปลงมากขนาดไหน สารเสพติดที่เลือกมาในแต่ละคลิป พวกเขาเลือกจากการอ่านในคอมเม้นต์ของคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเอาไว้ว่า อยากให้พวกเขาได้ลองเสพและให้ความรู้เกี่ยวกับสารเสพติดตัวไหนบ้าง พวกเขาไม่ได้อธิบายปากเปล่าเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเขาเสพมันให้เห็นต่อหน้ากล้องจริงๆ อีกด้วย ทำให้คนดูสามารถสังเกตอาการที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาได้ผ่านปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับพวกเขาโดยตรง     ตัวยาหรือสารที่นำมาออกรายการนั้นแทบจะมีด้วยกันเกือบทุกประเภทตั้งแต่ยาสูบ กัญชา ยาอี สาร LSD หรือแม้แต่โคเคน…

  • ย้อนชมการแต่งตัวของวัยรุ่นในอดีต ที่เทียบกับปัจจุบันแล้ว มันเฟี้ยวฟ้าวแตกต่างกันซะจริงๆ

    ย้อนชมการแต่งตัวของวัยรุ่นในอดีต ที่เทียบกับปัจจุบันแล้ว มันเฟี้ยวฟ้าวแตกต่างกันซะจริงๆ

    วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะแต่งตัวเลียนแบบเซเลบหรือคนดัง จะเข้ากับตัวเองหรือเปล่าไม่รู้แต่ขอให้ได้แต่งตามไว้ก่อน จะได้ไม่ตกเทรนด์ ตอนเป็นวัยรุ่นมันก็รู้สึกมั่นใจกับการแต่งตัวของตัวเองในระดับหนึ่งนะ แต่พอเวลาผ่าน ลองมองย้อนไป นี่เราทำอะไรลงไปฟะ คิดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ แต่ใครยังไม่รู้ตัว ภาพเหล่านี้อาจบอกได้ว่าสมัยวัยรุ่นคุณแต่งตัวยังไง?   1. ครั้งหนึ่ง วัยรุ่นนิยมใส่หมวกตาข่ายกันมาก ไม่ว่าจะสวมชุดอะไร ต้องมีหมวกอยู่เสมอ   2. ฮิตใส่กระโปรงชายระบาย ที่ดูยังไงก็เหมือนผ้าปูโต๊ะ   3. อย่าปฏิเสธว่าคุณไม่เคยสวมหมวกผ้ายีนส์กับแว่นกันแดด ตอนนั้นแบบมั่นใจมากอะ   4. นอกจากนี้ คุณยังจะพยายามใส่หมวกที่เข้ากับเสื้อผ้าของคุณ ไม่ว่าเป็นสีหรือลวดลาย และคิดว่านี่แหละคูลสุดๆ แล้ว   5. ที่ขาดไม่ได้คือ เข็มขัดที่มีปุ่มเหล็กอยู่รอบๆ แล้วต้องโชว์ให้เห็นด้วยนะ   6. เสื้อเปิดไหล่กับกางเกงคาปรี ก็ใส่ออกงานได้   7. และที่ผู้ชายขาดไม่ได้คือการโชว์ลิ้นรองเท้า ใครใส่แบบนั้นคือเท่อะ   8. ครั้งหนึ่งเรามักคิดว่ากางเกงยีนส์ใส่กับอะไรก็ดูดี มาค่ะ จัดเต็มมาเลย   ตัดภาพไป   9. แล้วมาดูวัยรุ่นวันนี้สิ มันช่างแตกต่างกันซะจริงๆ…

  • 25 ภาพคู่รักจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังอยู่เคียงข้างกันเหมือนเดิม แสดงให้เห็นว่ารักแท้มีอยู่จริง

    25 ภาพคู่รักจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังอยู่เคียงข้างกันเหมือนเดิม แสดงให้เห็นว่ารักแท้มีอยู่จริง

    เชื่อมั้ยว่าในโลกนี้จะมีคนอยู่คนหนึ่งที่ทำให้เราใจเต้นแรงตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน และเขาคือคนที่เราอยากใช้ชีวิตด้วยตลอดชีวิต เหมือนกับคู่รักเหล่านี้ที่ครองรักกันมาอย่างยาวนาน แม้ต้องเจอความลำบาก อุปสรรคมากมายแค่ไหนแต่พวกเขาก็ไม่เคยปล่อยมือจากกัน นั่นแหละคือรักแท้ที่หลายคนใฝ่หา   1. หญิงสาวที่รอดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และทหารที่ช่วยชีวิตเธอเอา ใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่า 70 ปี   2. คู่รักเกย์ที่โดนดูถูกว่าเป็นแค่ความลุ่มหลงชั่วคราว แต่จนถึงตอนนี้พวกเขารักกันมา 25 ปีแล้ว   3. คู่รักที่อยู่บนปกอัลบั้ม The Woodstock(เทศกาลดนตรี) ยังคงอยู่ด้วยกันแม้จะผ่านมาแล้วถึง 46 ปี   4. หนุ่มที่หมายปองเพื่อนสาวตั้งแต่เด็ก ในที่สุดก็ได้แต่งงานกันจริงๆ   5. พ่อแม่ที่แต่งงานกันมา 60 ปีแล้ว แต่รักยังหวานชื่นอยู่เสมอ   6. คู่รักที่จัดงานแต่งขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากอยู่ด้วยกันมาถึง 70 ปี   7. คู่รักเลสเบี้ยนที่คบกันตั้งแต่ปี 1970 ในที่สุดพวกเขาก็ได้แต่งงานกันในวันครบรอบ 44 ปี   8. เพื่อนสาวที่เคยเต้นรำด้วยสมัยเด็กๆ วันนี้เธอกลายเป็นเจ้าสาวในชีวิตจริงของเขา   9.…

  • หนุ่มฟลอริด้ารู้สึกตัวเองเป็นคนข้ามสัญชาติ หลังค้นพบว่าเนื้อแท้เป็น ‘ปินอย’ ไม่ใช่ ‘เมกัน’

    หนุ่มฟลอริด้ารู้สึกตัวเองเป็นคนข้ามสัญชาติ หลังค้นพบว่าเนื้อแท้เป็น ‘ปินอย’ ไม่ใช่ ‘เมกัน’

    การเป็นคนข้ามเพศนั้น คือคนที่รู้สึกว่าตนเองไม่ได้เป็นเพศที่ตนเองเกิดมา ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถพบเจอคนข้ามเพศได้ทั่วโลก แต่วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับชายคนหนึ่งที่รู้สึกว่าตนเองเป็นคนข้ามสัญชาติ! Ja Du หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า Adam เป็นหนุ่มชาวอเมริกันผิวขาวที่เกิดมาแล้วรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่ใช่คนอเมริกัน แต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองมีความเป็นคนฟิลิปปินส์สูง หรือจริงๆ เนื้อแท้เขาอาจจะเป็นคนฟิลิปปินส์เลยด้วยซ้ำ     เขาเล่าว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้วว่าตัวเองเป็นข้ามสัญชาติแน่ๆ โดยเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ผมได้ดูรายการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์บ้างเป็นบางครั้ง รวมๆ กันก็หลายชั่วโมง แต่คุณเชื่อไหมผมไม่เคยรู้สึกสนใจอะไรเลยนอกจากวัฒนธรรมของฟิลิปปินส์” อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่ได้ติดสินใจบอกถึงสิ่งที่เขาเป็นแก่ครอบครัว เพราะเขาเกรงว่าถ้าบอกไปครอบครัวจะหัวเราะเยาะเขา รวมถึงคนในสังคมจะดูแคลนที่เขาเป็นแบบนี้ เพราะเดิมทีเขาก็เป็นคนข้ามเพศอยู่แล้วด้วย…     แม้ว่าเขาจะมีความกลัวในเรื่องดังกล่าวแต่ เขาก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อจาก Adam เป็น Ja Du เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับยังหันไปขี่ ‘รถตุ๊กๆ’ ซึ่งเป็นพาหนะที่นิยมของประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนั้นเขายังย้อมรถตุ๊กๆ ของเขาเป็นสีม่วงด้วยนะ สุดท้ายเขาได้บอกว่า “ทุกครั้งที่ผมได้ฟังเพลงหรือกินอาหารฟิลิปปินส์ ผมรู้สึกว่าผมได้อยู่ในร่างที่แท้จริงของตัวเองแล้ว”     Ja Du ไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ค้นพบว่าตัวเองเป็นคนข้ามสัญชาติ เพระาว่ายังมีคนอีกหลายคนที่จัดอยู่ในประเภทดังกล่าวเช่นกัน อย่างเช่นเมื่อปี 2015 Rachel Dolezal ก็เป็นอีกคนที่มีอาการดังกล่าว โดยเธอนั้นเกิดในครอบครัวคนผิวขาว แต่เธอนั้นคิดว่าตัวเองนั้นเป็นคนผิวสี ภายหลังเธอนั้นได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าขององค์กรเพื่อคนผิวสีต่างๆ…

  • ส่องโอปป้า ‘จอง แฮ อิน’ ว่าที่หลัวแห่งชาติคนใหม่ ดีกรีพระรองแต่ไม่เป็นรองพระเอก อิแม่ไค่ได้!!

    ส่องโอปป้า ‘จอง แฮ อิน’ ว่าที่หลัวแห่งชาติคนใหม่ ดีกรีพระรองแต่ไม่เป็นรองพระเอก อิแม่ไค่ได้!!

    หลังจากที่ล่าสุดหลัวแห่งชาติคนล่าสุดอย่าง ซง จุง กิ เพิ่งประกาศแต่งงานกับ ซง เฮ เคียว ไปเมื่อไม่นานมานี้ จนทำให้สาวๆ กว่าครึ่งค่อนโลกอกหักไปตามๆ กัน แต่ไม่ต้องเสียใจไป เพราะ #เหมียวขี้ส่อง มีหลัวแห่งชาติคนใหม่มาแนะนำให้ทุุกคนรู้จัก บอกเลยว่า ณ จุดๆ นี้ วินาทีนี้ คงไม่มีใครฮอตไปกว่าหนุ่มน่ากิน เอ้ย หนุ่มหน้าหล่ออย่าง จองแฮอิน อีกแล้ว สำหรับโอปป้าจองแฮอินนั้น แม้ว่าจะได้รับบทเป็นพระรองซะส่วนใหญ่ แต่ออร่าความหล่อของเขาได้แซงหน้าพระเอกมาแล้วหลายคนนะจ๊ะ โดยเฉพาะซีรีส์เรื่อง You Were Sleeping หรือจะเถียง!?     เรียกได้ว่าเป็นอีกคนที่ขโมยใจสาวๆ ไปแล้วครึ่งโลก (มั้ง!?) ดังนั้น เรามาทำความรู้จักเขาให้มากขึ้นอีกสักนิดละกัน จะได้สมกับเป็นแฟนตัวจริง จองแฮอิน หรือ Jung Hae In เป็นนักแสดงเกาหลีในค่าย FNC Entertainment เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี 2531 ตอนนี้อายุ 29 ปี     ส่วนสัดส่วนนั้น บอกได้เลยว่าเหมาะกับสาวเอเชียอย่างเรามากๆ…

  • แผนที่โลกแสดง “ความปลอดภัยบนท้องถนน” ของแต่ละประเทศ เดี๋ยวนะ.. มะ.. ไม่.. ไม่จริงน่า!!

    แผนที่โลกแสดง “ความปลอดภัยบนท้องถนน” ของแต่ละประเทศ เดี๋ยวนะ.. มะ.. ไม่.. ไม่จริงน่า!!

    ระหว่างนั่งเล่นอินเตอร์เน็ตเพลินๆ ผมสะดุดตาเข้ากับแผนที่โลกซึ่งแสดงข้อมูลความปลอดภัยบนท้องถนนของแต่ละประเทศ ซึ่งอ้างอิงข้อมูลของทาง World Health Organisation มาอีกต่อหนึ่ง ข้อมูลดังกล่าวแสดงอัตราการเสียชีวิตของประชากรต่อ 100,000 คน โดยจะนับเฉพาะอุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นบนท้องถนนของประเทศนั้นๆ       ซึ่งจากแผนที่ เราจะเห็นได้ว่าประเทศที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุน้อยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศที่อยู่ในข่าย “ประเทศพัฒนาแล้ว” ตัวอย่างเช่น สวีเดน อัตราการเสียชีวิต 3 คนต่อประชากร 100,000 คน   ฟินแลนด์ อัตราการเสียชีวิต 4.7 คนต่อประชากร 100,000 คน หรือญี่ปุ่น ที่ตัวเลขตรงนี้อยู่ที่ 4.8 คน   แต่เมื่อเรามองอีกด้านหนึ่งของการจัดอันดับ ประเทศที่ได้ชื่อว่าท้องถนนอันตรายที่สุดในโลกนั้น กลับมีอัตราที่ต่างออกไปมาก ตัวอย่างเช่น เอริเทรีย อัตราการเสียชีวิตสูงถึง 48.4 คนต่อประชากร 100,000 คน ตามมาด้วยสาธารณรัฐโดมินิกัน และลิเบีย ตัวเลขอยู่ที่ 41.7 และ 40.5 คน ตามลำดับ   ขณะที่ทางฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย พบว่าตัวเลขของผู้เสียชีวิตบนท้องถนนจะสูงมากในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยเราที่สูงถึง 38.1…

  • เทรนด์ใหม่ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจับแมวเหมียวของตัวเองวางไว้บนหัวแล้วเซลฟี่

    เทรนด์ใหม่ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจับแมวเหมียวของตัวเองวางไว้บนหัวแล้วเซลฟี่

    ว่ากันด้วยเทรนในโลกออนไลน์ มันก็คงจะมีเยอะแยะเต็มไปหมดจนเราตามไม่ทัน แต่ตอนนี้มีเทรนหนึ่งที่กำลังมาแรงและคนเลี้ยงแมวไม่ควรพลาด แทน แท่น แท๊นนน มันคือเทรนการเซลฟี่ที่ชาวเน็ตจับแมวเหมียวของตัวเองมาวางไว้บนหัวแล้วรูปด้วยกัน แม้ว่าน้องแมวบางตัวจะทำหน้าไม่เต็มใจก็ตาม   เพิ่มความน่ารักให้ผู้หญิงไปอีก เมื่อเอาแมวมาเซลฟี่ด้วย   ต้นตอของเทรนนี้มาจากการที่ Dr. Seuss ได้สร้างตัวละครเด็กผู้น่ารักในเรื่อง Cat in the Hat โดยการวางแมวไว้บนหมวกของตัวละคร จริงๆ เรื่องนี้ก็ถูกฉายมานานแล้วนะ แต่ไม่รู้ชาวเน็ตไปสะดุดกับอะไรเข้า จู่ๆ พวกเขาก็จับแมวเหมียวของตัวมาทำเป็นหมวกบ้าง จนกลายเป็นเทรนฮิตในขณะนี้   เป็นผู้ชายมีหนวดก็แบ๊วได้   ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างก็ไม่อยากพลาดเทรนนี้   แมวตัวน้อยกับเจ้าของกล้ามโต เป็นความลงตัวที่น่ารัก มุ้งมิ้งฝุดๆ   นี่หน้ากากแมวดำเอง   สาวอยากตามเทรน แต่ดูเหมือนน้องแมวไม่ค่อยเต็มใจเซลฟี่ด้วยนะ   มนุษย์นี่ก็มนุษย์เนาะ แมวไม่เล่นด้วยก็ยังจะถ่ายให้ได้   ขนฟูฟ่องดีนัก จับทำหมวกซะเลย   ดูจากสายตาเหมียวแล้ว มนุษย์ทั้งสองคนนี้คงไม่รอดแน่ๆ   เจ้าเหมียวทำหน้าโกรธ เมื่อถูกเจ้าของจับวางไว้บนหัว   ของจริงมันต้องแบบนี้ ยืนเอง ไม่ต้องให้จับ…

  • 11 ประเภทบุคคลที่คุณควรหลีกเลี่ยง หากต้องการมีความสัมพันธ์รักที่ราบรื่น

    11 ประเภทบุคคลที่คุณควรหลีกเลี่ยง หากต้องการมีความสัมพันธ์รักที่ราบรื่น

    หากคุณคิดจะใช้ชีวิตอยู่กับใครสักคน รักอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่คุณควรจะพิจารณาลักษณะนิสัย และทัศนคติของเขาคนนั้นด้วย เพราะบางคนอาจไม่เหมาะที่สานสัมพันธ์ด้วยและมันยากที่จะอยู่ด้วยกัน ดังนั้นถ้าคุณต้องการมีความสัมพันธ์ในความรักที่มีความสุข คุณควรจะหลีกเลี่ยงประเภทของบุคคลต่อไปนี้   1. คนขี้วิจารณ์ คนขี้วิจารณ์จะไม่ชอบอะไรในตัวคุณเลย พวกเขาจะวิจารณ์ทุกอย่างทั้งเรื่องมารยาท การแต่งตัวของคุณ พวกเขาพยายามจะบอกความไม่สมบูรณ์แบบในตัวและเปลี่ยนคุณให้เป็นในสิ่งที่เขาต้องการ สำหรับคนที่ขี้วิจารณ์นั้น พวกเขามักจะคิดว่าทำไปเพราะหวังดีกับคนรัก แต่ตามกฎแล้วการคบกับคนขี้วิจารณ์ ไม่ดีต่อความสัมพันธ์รักแน่นอน   2. คนขี้หึง การคบกับคนขี้หึงดูเหมือนจะดีนะ แต่ลองคิดดูดีๆ นะ ถ้าคนรักของคุณหึงเวลาที่คุณให้ความสำคัญกับเพื่อน ครอบครัว หรือแฟนเก่า เขาคงจะกลายเป็นคนบ้าเพราะหึงแน่ๆ   3. คนขี้โกหก ถ้าคนรักของคุณโกหกตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน หลังจากนั้นเขาก็จะโกหกคุณอีก พวกเขาไม่ใช่แค่ปกปิดบางส่วนในชีวิต แต่ยังพยายามสร้างตัวตนใหม่ที่ไม่ใช่ตัวของตัวเองด้วย และแน่นอนว่าคนขี้โกหกจะไม่ไว้ใจคุณเด็ดขาด แล้วคิดหรอว่าความสัมพันธ์ที่ขาดความไว้ใจนั้นมันจะราบรื่น?   4. คนที่ชอบคิดมากไปเอง คนแบบนี้มักจะคิดว่าผู้คนทั้งโลกต่อต้านเขา ทั้งเพื่อนร่วมงาน คนรัก รวมทั้งครอบครัวของพวกเขา และมักจะเรียกร้องความสนใจ ถ้าคุณคบคนแบบนี้คุณจะต้องคอยปลอบเขา คอยอธิบายให้เขาฟังทุกอย่างตลอดเวลา คุณคิดว่าจะทำได้มั้ย?   5. คนที่ไม่รู้จักโต คนที่มีนิสัยเหมือนเด็กมักจะไม่เคยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง แต่จะให้คนอื่นตัดสินใจแทน รับผิดชอบแทน ก่อนจะทำอะไร…

  • หนุ่มเปลี่ยนสิ่งของต่างๆ ให้กลายเป็นตัวการ์ตูน หน้าตามันก็จะเป็นแบบนี้แหละ อิอิ

    หนุ่มเปลี่ยนสิ่งของต่างๆ ให้กลายเป็นตัวการ์ตูน หน้าตามันก็จะเป็นแบบนี้แหละ อิอิ

    หากเราต้องอยู่ในสังคมเดิมๆ สิ่งแวดล้อมเดิมๆ ต้องเจออะไรซ้ำซากทุกวัน อาจทำให้เรารู้สึกเบื่อได้ แต่ถ้าคุณลองคิดต่างอีกนิด คุณสามารถทำลายความน่าเบื่อนั้นได้อย่างง่ายดายเลยหละ เหมือนกับ Keith Larsen ที่ลองเปลี่ยนสิ่งที่เจอในชีวิตประจำวันให้อยู่ในรูปของการ์ตูน พร้อมกับแต่งเรื่องให้พวกมันด้วย ดูสิ น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลย   ที่แขวนสิ่งของกลายเป็นปลาหมึกใส่นวม   ที่เปิดกระป๋อง   ไฟสำรองกลายเป็นกบอ๊บๆ   ท่อดับเพลิงมินเนี่ยน   กระเป๋าสะพาย   เครื่องเก็บเงินค่าจอดรถ   คราดที่มีสนิมเกาะ   ไฟแช็ก   ลายไม้แกะสลัก   หัวที่ดูดฝุ่น   ฝาแก้วพลาสติก   สลักกลอนประตู   มันฝรั่ง   เสาไม้   ที่แขวนสิ่งของกลายเป็นเจ้าช้างน้อย   เครื่องสื่อสารกับคนนอกบ้าน   กระปุกใส่เกลือผู้มีหน้าตาเบื่อหน่าย   ที่ทิ้งก้นบุหรี่   ซิงค์น้ำที่อ้าปากรอรับน้ำ   โซฟาที่มีหน้าตาคล้ายคุณยายใจดี   ถ้าชีวิตมันน่าเบื่อนัก ก็ลองหาอะไรสนุกทำสิ…

  • ถ่ายภาพสไตล์บาโรก ที่ใช้เด็กผิวสีมาเป็นแบบ เพื่อให้เห็นความงามภายใต้สีผิวที่แตกต่าง

    ถ่ายภาพสไตล์บาโรก ที่ใช้เด็กผิวสีมาเป็นแบบ เพื่อให้เห็นความงามภายใต้สีผิวที่แตกต่าง

    โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร ผิวสีอะไร เด็ก หรือผู้ใหญ่ ล้วนมีความงดงามอยู่ในตัวกันทั้งนั้น เราแค่ต้องเผยมันออกมา ด้วยเหตุนี้ สองสามีภรรยา Regis และ Kahran ผู้อยู่เบื้องหลัง CreativeSoul จึงได้เลือกเด็กหญิงผิวสีมาเป็นแบบให้โดยมุ่งเน้นไปที่ทรงผมของพวกเขา     ทั้งคู่ได้สร้าง Afro Art ซึ่งเป็นชุดภาพที่เผยให้เห็นความงดงามของเด็กสาวผิวสีจนสะกดทุกสายตา จุดเด่นของชุดภาพดังกล่าวนี้ประกอบด้วยเสื้อผ้าที่เนี๊ยบทุกระเบียบนิ้วและทรงผมที่มีความเก๋ไก๋ในสไตล์ยุคบาโรก สำหรับ บาโรก นั้นเป็นสมัยหนึ่งของศิลปะตะวันตกซึ่งเริ่มประมาณต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี บาโรกจะเน้นความเป็นนาฏกรรม ศิลปะจะแสดงความขัดแย้งและความหรูหรา โอ่อ่า     Kahran กล่าวว่า “เราคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กที่จะมองความหลากหลายของสีผิวในเชิงบวก แต่น่าเสียดายที่ค่านิยมในสังคมมักจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอจนทำให้กลายเป็นคนขาดความนับถือในตัวเอง” “ดังนั้น เราจึงหวังว่าภาพชุดนี้จะทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความงามและเอกลักษณ์ของทรงผมแอฟโฟร์ และเราก็หวังว่ามันจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กหญิงทั่วโลกในการรักความแตกต่างและความงามที่ไม่ซ้ำใครภายในตัวของพวกเขาเอง”     สำหรับชุดภาพนี้ Regis และ Kahran ได้ไปถ่ายรูปของเด็กๆ ผิวสีตามรัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ โดยให้เด็กๆ สวมเสื้อผ้าที่เตรียมไปให้ ทำทรงผมแอฟโฟร์ แต่ถึงอย่างนั้นคู่รักก็ยังรักษาความเป็นธรรมชาติของเด็กๆ ไว้ได้อย่างดี เพราะนั่นคือจุดประสงค์หลักของภาพถ่าย     เราไม่จำเป็นต้องพยายามสร้างความงามให้ตัวเองเพื่อให้ได้รับการยอมรักจากคนอื่น แต่แค่ภูมิใจในสิ่งที่เป็น นับถือในตัวเอง เพราะนั่นคือความงามที่หาจากไหนไม่ได้   . . . . .…

  • รวมชุดภาพถ่ายที่เผยให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเผชิญอะไรบ้างจากการปฏิบัติหน้าที่…

    รวมชุดภาพถ่ายที่เผยให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเผชิญอะไรบ้างจากการปฏิบัติหน้าที่…

    การเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยในต่างประเทศนั้นเป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลย ซึ่งเราก็คงรู้กันดีว่าเป็นปัจจุบันคนก็มักจะทำอะไรตามใจตัวเอง ฉะนั้นตำรวจจึงเป็นงานที่หนักหน่วงเพื่อควบคุมประชาชนของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดบอกว่าจากการสำรวจจะพบว่าทุกๆ 22 นาทีจะต้องมีตำรวจหนึ่งคนที่บาดเจ็บล่ะ เราจะเชื่อกันไหม? ฟังดูอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่เชื่อเหอะว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่โดย The Police Federation ผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2017 ซึ่งเป็นภาพของเหล่าเจ้าหน้าที่ที่มีใบหน้าฟกฟกช้ำเต็มไปหมด บ้างก็เจ็บเล็กน้อย บ้างก็อาการหนักเลยก็มี โดยเป็นการยืนยันว่าสถิติที่ว่ามันเป็นเรื่องจริง และในปีก่อนก็มีตำรวจถูกทำร้ายมากกว่า 22,000 คนเลยทีเดียวล่ะ   ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็พ่อหนุ่มคนนี้ DS James Dowler เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกไปปฎิบัติหน้าที่บริเวณ South Wales แล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายเมื่อปี 2015   เจ้าหน้าที่ PC Karl Heath ถูกทำร้ายโดยชายคนหนึ่งระหว่างที่เขาเจอตอนกำลังไปทำงาน จนหัวไหล่ได้รับบาดเจ็บสาหัส   เจ้าหน้าที่ PC Heather Caruana วัย 30 ปี ถูกทำร้ายโดยวัยรุ่นจนเกิดเป็นแผลรอบดวงตาจนลืมตาไม่ขึ้น ห้าวันต่อมาแผลดังกล่าวได้สร้างรอยแผลเป็นให้กับเธอ   PC Safia Finlow ถูกทำร้ายร่างกายขณะไปทำงานที่เมือง Devon…

  • Sylvester Stallone โดนกล่าวหาว่าบังคับเด็กสาว 16 ร่วมเซ็กส์ทรีซัม เมื่อ 30 ปีก่อน!?

    Sylvester Stallone โดนกล่าวหาว่าบังคับเด็กสาว 16 ร่วมเซ็กส์ทรีซัม เมื่อ 30 ปีก่อน!?

    หากใครชื่นชอบหนังแอคชั่นบู๊ล้างผลาญก็คงจะต้องรู้จักดาราดังอย่าง Sylvester Stallone ผู้ฝากผลงานที่มีชื่อเสียงเอาไว้มากมายเช่น Rambo , Rocky Balboa หรือ Expendable แต่ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ได้มีการแชร์เรื่องฉาวของพระเอกนักบู๊ในเว็บไซต์ Pagesix เมื่อเขาถูกกล่าวหาว่าบังคับขืนใจเด็กอายุ 16 ปีให้มามีเพศสัมพันธ์กับเขาและบอดี้การ์ดส่วนตัว (หรือที่เรียกว่า Threesome)     เหตุการณ์ที่ว่านั้นหญิงสาวผู้กล่าวหาได้เล่าว่ามันเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 1986 เธอได้ไปเข้าพักกับครอบครัวของเพื่อนเธอที่โรงแรม Las Vegas Hilton เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา ในตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 16 ปี ในวันหนึ่งที่เธอกำลังขึ้นลิฟต์ของโรงแรมอยู่ก็ได้เจอกับ Sylvestor ที่ตอนนั้นอายุได้ 40 ปี ผ่านการแนะนำของดาราชายอีกคนหนึ่ง David Mendenhall และนั่นคือการพบกันครั้งแรกของทั้งสอง ผ่านไปสองวันเธอได้ไปขอลายเซ็น Sylvestor เขาได้ถามถึงอายุและพูดชมเกี่ยวกับรูปร่างของเธอ ซึ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกเขินอายกับคำพูดของเขา   ภาพของ Sylvester เมื่อปี 1986   จนกระทั่งในวันต่อมา Michael De Luca…

  • สาวเจอภาพเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ก็เลยพยายามจะเอาไปคืนเจ้าของให้ได้

    สาวเจอภาพเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ก็เลยพยายามจะเอาไปคืนเจ้าของให้ได้

    Judi Palumbo หญิงสาวจากรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ไปเจอกับรูปภาพงานแต่งงานของชายหญิงชาวญี่ปุ่นคู่หนึ่ง บนเกาะคาไว รัฐฮาวาย โดยบังเอิญ ภาพถ่ายใบนี้ถูกถ่ายเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ปี 1940 ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ โดยกองทัพญี่ปุ่นในรัฐฮาวาย จนทำให้ทหารอเมริกันจำนวนหลายพันนายเสียชีวิต     Judi เชื่อว่าชาวญี่ปุ่นสองคนที่อยู่ในรูปภาพใบนี้จะต้องถูกจับตัวในค่ายกักกันเชลยศึกของสหรัฐอเมริกาเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง   เธอได้โพสต์ตามหาญาติของบุคคลที่อยู่ในภาพนี้บนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอเพื่อที่จะจัดส่งรูปภาพดังกล่าวไปให้ “ฉันได้เห็นรูปครอบครัวรูปนี้ในร้านขายของเก่าแห่งหนึ่งและเกิดความสงสัยว่าคนในรูปหรือญาติๆ ไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับการเก็บรักษารูปถ่ายใบสำคัญใบนี้ ซึ่งฉันไม่รู้ว่าเรื่องราวในภาพมันมีความเป็นมาอย่างไร แต่เนื่องจากว่ารูปถ่ายใบนี้ได้ถ่ายเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 1940 ที่สตูดิโอทาคาซะวะ เกาะคาไว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์โจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ “ฉันคิดว่าคู่บ่าวสาวที่อยู่ในรูปนี้อาจจะตกเป็นเชลยในสงครามญี่ปุ่น ฉันจึงมีความคิดที่อยากจะคืนรูปใบนี้ให้กับครอบครัวของคู่บ่าวสาว ใครที่คุ้นหน้าคุ้นตาบุคคลในภาพ กรุณาติดต่อฉัน”   .   และหลังจากที่เธอโพสต์ออกไปก็ได้มีคนแชร์เรื่องราวนี้ไปมากมายเพื่อช่วยตามหาญาติของบุคคลที่อยู่ในภาพ เพื่อที่พวกเขาจะได้รับภาพถ่ายใบสำคัญใบนี้เก็บไว้เป็นสมบัติของตระกูล ที่มา nextshark

  • หนุ่มสั่งซื้อไม้ถูพื้นออนไลน์ แต่สภาพที่ได้มาไม่ตรงปก ทำไมมันอันเล็กแบบนี้ล่ะเนี่ย!?

    หนุ่มสั่งซื้อไม้ถูพื้นออนไลน์ แต่สภาพที่ได้มาไม่ตรงปก ทำไมมันอันเล็กแบบนี้ล่ะเนี่ย!?

    เดี๋ยวนี้จะซื้อของสักชิ้นไม่จำเป็นต้องไปถึงร้านแล้ว เพราะคุณสามารถสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้เลย ง่าย สะดวก และประหยัดเวลาแบบสุดๆ แต่ข้อเสียคือคุณจะไม่ได้เห็นสินค้าจริงก่อนซื้อ จะเห็นแค่รูปภาพเท่านั้น หากคุณไม่สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ่ม สิ่งที่ได้มาอาจไม่ตรงกับที่คุณคิดไว้ก็ได้ เหมือนกับ Wallace Kennedy จากสก็อตแลนด์ที่ได้สั่งซื้อไม้ถูพื้นพร้อมถังซับน้ำผ่านเว็บไซต์ eBay ให้แฟนสาว โดยไม่ได้บอกเธอก่อน แต่พอของมาส่ง มันกลับมีขนาดเล็กเหมือนกับของเล่นเด็กยังไงอย่างงั้น     การสั่งซื้อครั้งนี้นับว่าเป็นบทเรียนสำหรับ Wallace ในการสั่งซื้อของออนไลน์ เนื่องจากตอนที่ตัดสินใจซื้อนั้น เขาเห็นว่ามันราคา 700 บาท เลยคิดว่าถ้าแพงขนาดนี้มันต้องมีคุณภาพแน่ๆ จึงกดซื้อโดยไม่ได้เช็กรายละเอียดหรือข้อมูลเพิ่มเติมก่อน แต่ก็มีความโชคดีอยู่บ้างที่ Rebecca ผู้เป็นแฟนสาวไม่โกรธ ตรงข้าม เธอเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลก แถมยังหัวเราะตอนที่เห็นแฟนหนุ่มพยายามลองใช้งานไม้ถูพื้นดังกล่าว     Rebecca เล่าว่า “มันถูกส่งมาในกล่องขนาดใหญ่ เราเลยไม่คิดว่ามันจะเป็นของเล่น จนกระทั่งได้เปิดกล่องนั่นแหละจึงได้รู้ขนาดที่แท้จริงของมัน” “ที่ตลกคือ ตอนที่เขาเปิดกล่องออก ฉันรู้เลยว่ามีบางอย่างผิดพลาด เพราะ Wallace ทำหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนเค้าตกใจมากเลยนะ นั่นแหละทำให้ฉันหัวเราะออกมาแบบกลั้นไม่อยู่จริงๆ”     จริงๆ พวกเขาเลือกที่จะคืนของชิ้นนี้ได้ แต่ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะเก็บไม้ถูพื้นของเล่นนี้ไว้ เพื่อเป็นบทเรียนและยังเป็นสิ่งเตือนใจให้ Wallace ว่าไม่ควรซื้อของโดยไม่ปรึกษาแฟนสาวก่อน…

  • โมเม้นต์สะเทือนใจ เมื่อแม่วัววิ่งตามลูกๆ ที่ถูกจับแยกไปไว้ที่อื่นด้วยเหตุผลด้านปศุสัตว์

    โมเม้นต์สะเทือนใจ เมื่อแม่วัววิ่งตามลูกๆ ที่ถูกจับแยกไปไว้ที่อื่นด้วยเหตุผลด้านปศุสัตว์

    ขึ้นชื่อว่าแม่ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ต่างก็รักและหวงลูกยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งนั้น นั่นหมายความว่าแม่จะปกป้องและไม่ยอมให้ใครพาลูกไปจากอ้อมอก เหมือนกับแม่วัวตัวนี้ที่ถูกจับแยกกับลูกด้วยเหตุผลทางด้านสุขภาพ มันจึงวิ่งไล่ตามรถคันที่กำลังพาลูกๆ ของมันไปไว้ที่อื่น   คลิปขณะที่แม่วัววิ่งตามลูก   จากคลิปข้างต้นนี้จะเห็นว่าแม่วัวได้วิ่งตามลูกๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เห็นได้ชัดว่ามันทำตามสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่ไม่อยากให้ใครมาพรากลูกไปจากมัน     ส่วนสาเหตุที่ต้องจับแม่ลูกแยกกันนั้น ทาง RSPCA ระบุว่าลูกวัวที่เกิดใหม่มักจะถูกแยกจากแม่เพื่อลดความเสี่ยงการติดโรคที่อาจมาจากแม่ นอกจากนี้ยังต้องควบคุมปริมาณอาหารและนมที่เพียงพอด้วย การแยกแม่ลูกออกจากกันเช่นนี้มักจะสร้างความเครียดให้กับทั้งแม่และลูก ดังนั้นเวลาจะแยกผู้ดูแลจะต้องรอให้ถึงเวลาและจังหวะที่เหมาะสม เพื่อลดความทุกข์ใจให้พวกมัน     วัวนมที่เลี้ยงเพื่อจุดประสงค์ทางอุตสาหกรรมจะต้องถูกจับแยกภายใน 12 ชั่วโมงหลังเกิด ยิ่งแยกเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีต่อแม่และลูกๆ เพราะหากปล่อยให้พวกมันอยู่ด้วยกันนานๆ จะยิ่งเกิดความผูกพัน จนแยกจากกันได้ยากหรือเจ็บปวดมากกว่า อย่างไรก็ตาม นักวิจัยบอกว่าลูกวัวที่เติบโตกับแม่นั้นจะแสดงพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงการมีความสุขมากกว่า เข้าสังคมได้ง่าย นอกจากนี้พวกมันจะมีน้ำหนักมากกว่า มีสุขภาพที่ดีกว่า โดยมีอัตราการป่วยและการตายต่ำกว่าด้วย     แน่นอนว่าสิ่งที่คนเลี้ยงวัวทำนั้นตรงข้ามกับผลวิจัย แต่เพราะพวกเขาเลี้ยงเพื่อการปศุสัตว์ การจับแยกจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเจ้าของฟาร์ม   ที่มา dailymail

  • เด็กหญิงได้รับ ‘ของขวัญสุดพิเศษ’ จากบริษัทตัดต้นไม้ หลังต้นไม้สุดรักของเธอถูกโค่นลงไป

    เด็กหญิงได้รับ ‘ของขวัญสุดพิเศษ’ จากบริษัทตัดต้นไม้ หลังต้นไม้สุดรักของเธอถูกโค่นลงไป

    ในช่วงวัยเด็กของเราทุกคน เชื่อว่าต้องมีสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เราผูกพันเป็นอย่างมาก สำหรับบางคนอาจเป็นหมอนข้างใบโปรดที่นอนกอดทุกคืน บางคนอาจเป็นสัตว์เลี้ยงที่เติบโตมาด้วยกัน สำหรับเด็กหญิง เช คัลลีย์ ชาวแคนาดาวัยสี่ขวบนิดๆ คนนี้ก็เช่นกัน นับตั้งแต่จำความได้ เธอได้เห็นต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งตั้งตระหง่าอยู่บริเวณหน้าบ้านของเธอ คอยมอบร่มเงาและความชุ่มฉ่ำให้กับครอบครัวคัลลีย์ จนเธอรู้สึกผูกพันกับมันเป็นอย่างยิ่ง     แต่วันหนึ่งเธอตื่นขึ้นมาเธอก็ได้พบกับสิ่งที่ทำให้เธอต้องใจสลาย เมื่อต้นไม้สุดที่รักของเธอ กำลังถูกโค่นลง “ฉันตกใจมาก ฉันเห็นเธอยืนมองผ่านหน้าต่างออกไปแล้วก็ร้องไห้ ฉันถามเธอว่าเธอเป็นอะไร เธอตอบว่า ‘ต้นไม้!! พวกเขากำลังตัดต้นไม้’ จากนั้นเธอก็ร้องไห้อย่างหนัก” แจ็คกี้ แม่ของเชกล่าว “ต้นไม้ต้นนี้มันยืนต้นตายมาซักพักแล้ว และตอนนี้กิ่งก้านมันเริ่มร่วงลงมา ฉันกลัวจะเป็นอันตรายต่อบ้าน ต่อทุกคนที่อาศัยอยู่แถบนี้ รวมถึงเด็กๆ ด้วย ก็เลยจ้างบริษัทตัดต้นไม้มาจัดการกับมัน”     หลังจากต้นไม้ต้นนั้นถูกโค่นลงไป สองแม่ลูกก็พากันเดินไปยังต้นไม้ที่ถูกโค่นลงไป เชเดินเข้าไปกอดต้นไม้ต้นนั้นเป็นครั้งสุดท้ายและกล่าวว่า “ลาก่อนนะเจ้าต้นไม้ ฉันรักเธอ” ถ้าเป็นบริษัทอื่นอาจแค่นำต้นไม้ดังกล่าวไปแปรรูปหรือทำลายทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่นั่นไม่ใช่สำหรับบริษัทอัลลิอันซ์ ทรี แคร์ ที่รับหน้าที่ตัดต้นไม้ดังกล่าวแห่งนี้ ในเย็นวันนั้นเอง พวกเขาได้นำของขวัญสุดพิเศษกลับมาให้เด็กหญิงผู้ใจสลาย พวกเขาได้นำไม้บางส่วนจากต้นไม้ดังกล่าว มาสลักตัวอักษรเป็นชื่อของเชและทำเก้าอี้เล็กๆ มามอบให้กับเธอ ซึ่งของขวัญดังกล่าวทำให้เธอประทับใจมากๆ     “พวกเราพยายามเยียวยาทุกความเจ็บปวดเท่าที่เราทำได้ และเรารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็นคนที่มีความรักความผูกพันต่อต้นไม้เหมือนกับพวกเรา”…

  • บริษัทรถไฟญี่ปุ่นแถลงขอโทษ หลังรถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานี เร็วกว่ากำหนด 20 วินาที!!

    บริษัทรถไฟญี่ปุ่นแถลงขอโทษ หลังรถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานี เร็วกว่ากำหนด 20 วินาที!!

    รถไฟในประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเคร่งครัดในเรื่องเวลามาก ดังนั้นบางคนที่ต้องสัญจรด้วยรถไฟเป็นประจำถึงกับตั้งนาฬิกาให้ตรงกับเวลาของรถไฟเลย ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เกิดความผิดพลาดกับผู้ให้บริการรถไฟ Tsukuba Express ทำให้รถไฟออกจากสถานีเร็วกว่ากำหนด 20 วินาที จนทำให้หลายคนพลาดรถไฟขบวนดังกล่าวไป ตามรายงานข่าวบอกว่า ตามกำหนดรถไฟสายนี้ต้องออกจากสถานี Minami Nagareyama ในเวลา 9:44 น. แต่กลับออกในเวลา 9:43:40 ซึ่งเร็วกว่ากำหนด 20 วินาที     แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล็กเลยสำหรับประเทศที่ตรงต่อเวลาเช่นนี้ ทาง Tsukuba Express จึงได้ออกมาแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ในคำแถลงการณ์ มีใจความดังนี้… เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 9:44 น. ทางรถไฟของเราได้ออกจากสถานี Minami Nagareyama ก่อนเวลาในตารางเดินรถถึง 20 วินาที เราขออภัยอย่างสุดซึ้งสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดกับผู้ใช้บริการทุกท่าน เป็นที่ทราบกันดีกว่ารถไฟในประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความตรงต่อเวลาและแม่นยำที่สุด มากกว่าหลายๆประเทศ นั่นทำให้หลายต้องคนวางแผนการนั่งรถไฟไว้เป็นอย่างดี  ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ จึงทำให้บางคนพลาดขึ้นรถไฟขบวนดังกล่าวที่ออกเร็วกว่าปกติ 20 วินาที ซึ่งรถไฟขบวนต่อไปจะถึงสถานีใน 4 นาที ใน 4 นาทีนี้ อาจทำให้บางคนพลาดการขนส่งอื่นๆ…

  • ชาวบ้านคริสเตียนในจีนปลดภาพพระเยซูแล้วติดภาพท่านผู้นำแทน เพื่อรับประโยชน์จากรัฐบาล!!!

    ชาวบ้านคริสเตียนในจีนปลดภาพพระเยซูแล้วติดภาพท่านผู้นำแทน เพื่อรับประโยชน์จากรัฐบาล!!!

    เป็นที่รู้กันว่าประเทศจีนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ แต่ว่าในตอนนี้ประเทศมหาอำนาจนี้กลับมีนโยบายสุดแปลกคือให้ปลดสัญลักษณ์ประจำศาสนาออกแล้วให้ติดรูปของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง แทนหากอยากได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการแก้จนของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ชาวคริสต์หลายพันคนในเขตพื้นที่ยากจนทางตอนตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนได้เปลี่ยนรูปพระเยซู และสัญลักษณ์ประจำศาสนาอย่างไม้กางเขนออก แล้วเป็นภาพวาดของประธานาธิบดีของพวกเขาแทนเพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือของโครงการบรรเทาความยากจน ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลท้องถิ่นที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงให้ผู้ที่ศรัทธาในศาสนามาศรัทธาในรัฐบาลแทน     ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณทะเลสาบผอหยาง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ในมณฑลเจียงซี เป็นที่รู้จักกันว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณเหล่านี้ ส่วนมากจะมีฐานะที่ไม่ค่อยดีนักและนับถือศาสนาคริสต์ โดยประชาชนประมาณ 11 เปอร์เซ็นที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว มีรายได้ต่ำกว่ามาตรฐานความยากจนที่รัฐบาลจีนได้จัดทำขึ้นและมีประชากรอีกเกือบ 10 เปอร์เซ็นที่นับถือศาสนาคริสต์ที่นั่นตามข้อมูลจากทางการของประเทศจีน     แต่ว่าในตอนนี้รัฐบาลท้องถิ่นของประเทศจีนได้นำมาตรการบรรเทาความยากจนมาเป็นข้ออ้างให้ ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์นำรูปภาพของพระเยซูที่อยู่กลางบ้านของพวกเขาออกรวมทั้งให้เลิกเชื่อต่อคำสอนต่างๆ โดยให้ติดรูปของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแทน เพื่อฝึกให้ประชาชนเคารพเชื่อฟังรัฐบาลมากกว่าคำสอนของศาสนา เหมือนกับในสมัยของท่านผู้นำคนก่อนอย่าง เหมาเจ๋อตุง ที่บางบ้านของประเทศจีนในตอนนี้ยังมีรูปของเขาติดอยู่ที่บ้านอยู่เลย     ภายใต้การนำของท่านผู้นำสี ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะกำจัดความยากจนให้หมดไปภายในปี 2020 ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของรัฐบาลในตอนนี้ แคมเปญนี้ไม่เพียงแต่สำคัญต่อมรดกทางด้านการเมืองที่รับช่วงต่อมาจากประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตุง แต่ยังทำให้ผู้คนระดับรากหญ้าเชื่อฟังรัฐบาลมากขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้รัฐบาลมั่นคงตามไปด้วยนั่นเอง โดยในเมืองยู่กัง ผู้นำที่ไม่เชื่อในศาสนากำลังต่อสู้กับอิทธิพลของศาสนาคริสต์ซึ่งแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่บ้านชนบทยากจนและในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองบางเมือง ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิวัติวัฒนธรรมเมื่อ 40 ปีก่อน ในตอนนี้คาดว่ามีคนที่นับถือศาสนาคริสต์ในประเทศจีนแล้วกว่า 90 ล้านคนเลยทีเดียว     ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการนี้ก็คือในตอนนี้มีชาวบ้านกว่า 600 คนที่ “สมัครใจ” กำจัดภาพเขียนที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่มีอยู่ในบ้านของพวกเขาออกไปและแทนที่ด้วยภาพของท่านผู้นำสี ซึ่งนี่เป็นตัวเลขจากวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ในตอนนี้โครงการนี้กำลังเดินหน้าต่อไปอย่างเรื่อยๆ ในจังหวัดอื่นๆ  …

  • พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน กับลีลาสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินสุดเซ็กซี่ สร้างรอยยิ้มถ้วนหน้า

    พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน กับลีลาสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินสุดเซ็กซี่ สร้างรอยยิ้มถ้วนหน้า

    ทุกครั้งที่ขึ้นเครื่อง เราจะเห็นพนักงานต้อนรับแจ้งข้อปฏิบัติพร้อมสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน ซึ่งการดูครั้งแรกก็น่าตื่นเต้นนะ แต่ใครที่ต้องเดินทางบ่อยๆ คงจะรู้สึกเบื่อจนไม่อยากดูแล้วแน่ๆ ด้วยเหตุนี้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน Southwest Airlines คนหนึ่ง จึงตัดสินใจสร้างความบรรเทิงให้ผู้โดยสารด้วยการสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินในรูปแบบที่เซ็กซี่และเร้าใจสุดๆ     Nicholas Demore เป็นลูกเรือที่ให้บริการบนเที่ยวบิน 1597 จากดัลลัสไปยังลาสเวกัส เขาคือผู้ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารจนทำให้ตลอดการเดินทางเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ในระหว่างที่เขาสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินนั้น Samantha Lynch Kintner หนึ่งในผู้โดยสารได้ถ่ายคลิปเอาไว้ ก่อนจะนำไปแชร์ในโซเชียล ทำเอาชาวเน็ตติดอกติดใจเพียบ   พนักงานต้อนรับกับลีลาการสาธิตที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน   ในคลิปด้านนี้จะเห็น Demore ทำการสาธิตพร้อมกับวาดลวดลายสุดเซ็กซี่ในแบบที่คุณไม่เคยเห็นพนักงานต้อนรับคนไหนทำมาก่อน ในช่วงแรกของคลิปจะเห็นว่าเขาเอาเข็มขัดนิรภัยพาดไว้ข้างหลัง จากนั้นก็โยกย้ายสะโพกไปมา เป็นความเซ็กซี่ปนฮาที่ใครเห็นเป็นต้องยิ้ม     อย่าว่าแต่ผู้โดยสารเลย ขนาดพนักงานต้อนรับด้วยกันเองก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่ ขำหนักถึงขั้นเข่าอ่อนนั่งลงไปกองกับพื้นเลยเดียว ตอนนี้คลิปดังกล่าวมีคนเข้าไปดูแล้วกว่า 30,000 คน และถูกแชร์ไปทั่วโซเชียล โดย Kintner บอกว่า Demore ไม่ได้สร้างความประทับใจเฉพาะตอนสาธิต แต่เขาทำให้ทุกคนหัวเราะตลอดการเดินทางเลย     ต่อมา ทางสายการบินได้ออกมาพูดว่า “เขารู้ว่าต้องทำยังไงเพื่อสร้างความสนุกให้กับตัวเขาเองและผู้โดยสาร และเราเองก็ต้องชื่นชมเขาที่สร้างประสบการณ์อันน่าจดจำให้กับทุกคน” ยิ่งไปกว่านั้นคือ ชาวเน็ตหลายๆ คนถึงกับอยากไปใช้บริการเที่ยวบินดังกล่าว เพื่อที่จะได้เจอพนักงานคนนี้โดยเฉพาะ    …

  • Drake หยุดคอนเสิร์ตกลางคันพร้อมตำหนิชายคนหนึ่งที่กำลังลวนลามผู้หญิง

    Drake หยุดคอนเสิร์ตกลางคันพร้อมตำหนิชายคนหนึ่งที่กำลังลวนลามผู้หญิง

    หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดตามศิลปินต่างประเทศ คงไม่มีใครไม่รู้จัง Drake หรือ นักร้องชาวแคนนาดาสุดเท่ ที่มีเพลงดังอย่าง Hotline Bling กับยอดวิวกว่า 1.3 พันล้านครั้ง และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีเหตุการณ์ในคอนเสิร์ตของ Drake ที่โด่งดังมากๆ ในโลกโซเชียล เพราะเขาได้พูดบางอย่างในขณะที่ทำการแสดงอยู่ ทำเอาผู้ชมทั้งงานเงิบไปเลย!!   .   นักร้องชื่อดัง Drake ได้ทำการแสดง Afterparty ในทัวร์คอนเสิร์ตของเขาที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียในคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศของฝูงชนที่กำลังอินกันเพลงของเขานั้น Drake ก็หยุดทำการแสดงกลางคัน และพูดตำหนิผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังลวนลามผู้หญิงอยู่ I got this close to Drake threatening to jump into the crowd to start a fight with a guy groping a woman in the audience. Violence against women, 6 God says…

  • หนุ่มถ่ายภาพด้วยกล้องสมาร์ทโฟน โอ้โห!! มันงดงามจริงๆ นึกว่าหยิบกล้องโปรมาเอง

    หนุ่มถ่ายภาพด้วยกล้องสมาร์ทโฟน โอ้โห!! มันงดงามจริงๆ นึกว่าหยิบกล้องโปรมาเอง

    เคยถามตัวเองมมั้ยว่าเสียไปเท่าไหร่แล้วเพื่อให้รูปภาพสวยๆ อวดโซเชียล บางคนลงทุนซื้อกล้องแพงๆ บางคนจ้างช่างภาพมืออาชีพ หรือแม้แต่การใช้โฟโต้ชอปเข้ามาช่วย แต่สำหรับ Mounir Belmokhtar หนุ่มวัย 19 ปี จากแอจีเรีย ผู้มีภาพสวยเกินคาดเหมือนถ่ายจากกล้องโปร ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเขาใช้แค่กล้องสมาร์ทโฟนเท่านั้น     เราส่วนใหญ่มีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือแต่น้อยคนนักจะใช้มันอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะการบันทึกภาพในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะถ่ายรูปออกมาได้สวยเหมือนกันหมด Mounir เองก็เช่นกัน แม้ตอนแรกภาพที่ได้จากสมาร์ทโฟนจะไม่ได้แตกต่างจากของคนอื่น แต่เขาไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ตรงข้ามเขาได้พัฒนาสกิลการใช้กล้อง แสง สี จนทำให้ภาพออกมาได้งดงามราวกับใช้กล้องโปร     สกิลการถ่ายภาพแสงในตอนกลางคืน   ภาพถนนที่ปราศจากผู้คน ให้ความรู้สึกเหงาๆ ชอบกล   Mounir บอกว่าทุกคนสามารถสร้างภาพที่สวยงามด้วยสมาร์ทโฟนได้ แต่ต้องอาศัยการเรียนรู้ การฝึกฝนบ่อยๆ แล้วคุณจะรู้เองว่าควรจะทำยังไงให้ได้ภาพตามต้องการ   . . . . . . . . . . . . . .   บางครั้งคุณต้องรู้ว่าควรเล่นกับกล้องยังไง…

  • ศิลปินวาดภาพ “เสียดสีสังคม” สะท้อนปัญหาของมนุษย์ที่อยู่ภายใต้ค่านิยมของยุคปัจจุบัน

    ศิลปินวาดภาพ “เสียดสีสังคม” สะท้อนปัญหาของมนุษย์ที่อยู่ภายใต้ค่านิยมของยุคปัจจุบัน

    ทุกวันนี้มีปัญหาเกิดขึ้นในสังคมมากมายและเราต่างก็รู้อยู่แก่ใจ แต่หลายคนไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านั้น จนกลายเป็นคนทุกคนอยู่กับปัญหาสังคมด้วยความเคยชิน ด้วยเหตุนี้ศิลปิน Gunduz Aghayev จึงได้วาดภาพที่มุ่งเน้นให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาสังคมอย่างจริงจัง และแสดงให้เห็นถึงความจริงของสังคมที่เราปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะการตกอยู่ภายใต้ค่านิยมของสังคม!!   Attractive TV   The last Oasis   Miracle travel   Hate   Terror order   Applause   Rescue   Destroying alternative   Execution of Sofia   For The International Day of the Girl Child   Trump’s toy   Wall   Modern Human   Policitial Prisoners   Happy…

  • คุณพ่อสร้างไอจีเลียนแบบลูกสาว แต่ดั๊นมีคนนิยมและติดตามมากกว่าลูกสาวซะอีก!!

    คุณพ่อสร้างไอจีเลียนแบบลูกสาว แต่ดั๊นมีคนนิยมและติดตามมากกว่าลูกสาวซะอีก!!

    ในยุคที่ใครก็ใช้โซเชียลในชีวิตประจำวันนั้น ทำให้หลายๆ คนอยากมีตัวตนในโซเชียล ด้วยการพยายามอัพรูปให้น่าดึงดูด เพื่อจะได้มีคนกดไลค์ กดแชร์ และกลายเป็นคนดังในที่สุด ในขณะที่หลายๆ คนพยายามสร้างผู้ติดตามในโซเชียลอย่างยากลำบากนั้น คุณพ่อคนหนึ่งกลับมีผู้ติดตามจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย ด้วยการเลียนแบบลูกสาว Cassie Martin หญิงสาวที่มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 70,000 คน ซึ่งเธออ้างว่าได้มาจากการโพสต์รูปขณะดื่มไวน์เท่านั้นเอง     70,000 คนนี่ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะสำหรับคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่นี่ยังไม่มากเท่ายอดผู้ติดตามของพ่อของเธอ Chris Burr Martin ที่มียอดฟอลโลว์มากกว่า 151,000 คนเลยทีเดียว เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อปกติพ่อแม่ไม่ค่อยเล่นโซเชียลนี่ บางคนยังไม่รู้จักอินสตาแกรมเลยด้วยซ้ำ แต่คุณพ่อคนนี้กลับมาผู้ติดตามมากกว่าลูกสาวซะงั้น     นั่นคงไม่ใช่กับ Chris เพราะเขาชอบที่จะอัพรูปลงอินสตาแกรม แล้วทำไมเขาถึงดังนะหรอ ก็เพราะเขาโพสต์ท่าเซลฟี่เลียนแบบลูกสาวยังไงล่ะ ไม่ว่าลูกสาวจะถ่ายภาพแบบไหน ยังไง Chris ก็จะเลียนแบบไปซะทุกท่า ทั้งเซลฟี่หน้ากระจกในห้องน้ำ ถ่ายรูปฮาโลวีน รวมทั้งการเพิ่มฟิลเตอร์ในรูปภาพ     Chris บอกว่า “ผมอยากรู้ว่าถ้าลองโพสต์ท่าแบบวัยรุ่นมันจะเป็นยังไง แล้วผมก็เริ่มโพสต์รูปเลียนแบบเป็นประจำ ปรากฏว่าผู้คนมากมายชอบรูปภาพเหล่านั้น นั่นทำให้ผมมีความสุขไปด้วย” ส่วนลูกสาว Cassie บอกว่า “ฉันชอบในความพยายามของพ่อที่โพสต์รูปเลียนแบบฉัน เขามักจะวาดเครื่องประดับ วาดรอยสัก รวมทั้งแต่งหน้าแต่งตาให้ดูเหมือนฉันมากที่สุด”    …

  • สวนสัตว์เดือด หลังเจ้าหน้าที่รัฐสั่งให้ฆ่าแมวป่าที่หลุดออกไป เพราะกลัวมันไปทำร้ายมนุษย์

    สวนสัตว์เดือด หลังเจ้าหน้าที่รัฐสั่งให้ฆ่าแมวป่าที่หลุดออกไป เพราะกลัวมันไปทำร้ายมนุษย์

    สัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติจะไม่ทำร้ายมนุษย์ หากมันไม่เป็นฝ่ายโดนคุกคามก่อน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มนุษย์เข้าไปแทรกแซง มันก็ย่อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณของสัตว์ป่า ดังนั้นมันจึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงขึ้นมาทันทีเมื่อสภาเมืองได้สั่งให้นาย Andrew Venables ซึ่งเป็นนักแม่นปืนไปฆ่า Lillith แมวป่าที่หลุดออกจาก Wild Animal Kingdom ในเวลส์ เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน โดยอ้างว่ากลัวมันจะไปทำร้ายมนุษย์     Lillith ในวัย 1 ปีครึ่ง ถูกยิงตายหลังจากที่มันถูกพบว่านอนอยู่ในที่จอดรถใกล้กับสวนสัตว์ สร้างความไม่พอใจให้เจ้าของสวนสัตว์ Tracy Turn เป็นอย่างมาก เธอบอกว่ามันเป็นการกระทำที่โหดร้ายและเกินความจำเป็น     Andrew บอกว่า “มันถูกพบอยู่ใต้รถ ซึ่งที่นั่นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และมีความเป็นไปได้สูงที่มันจะทำร้ายมนุษย์ อีกอย่างตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลากลางคืน จึงยากที่จะจับตัวมัน เราก็เลยตัดสินใจยิงมันก่อนจะมีใครได้รับบาดเจ็บเพราะมัน” ในขณะเดียวกัน George Turner ช่างภาพสัตว์ป่าได้ออกมาตั้งแง่เกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “จำเป็นต้องฆ่ามันด้วยเหรอ? ดูเหมือนคุณแค่อยากยิงมันมากกว่าเหตุผลอื่น… คุณควรจะหาข้อมูลเกี่ยวกับแมวป่ามาอ่านซะบ้างนะ”     หลังจากที่ยิงมันจนตายแล้ว นาง Tweedy วัย 47 ปี ผู้ที่บริจาคเงินให้ทางสวนสัตว์ อ้างว่าสภาไม่ยอมให้ทางสวนสัตว์เอาศพกลับไปด้วย เธอบอกว่า “ฉันรู้สึกโกรธมาก พวกเขาเรียกตัวเองว่ามนุษย์แต่กลับฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างเลือดเย็น” “มันหลุดออกไปจากส่วนสัตว์ก็จริง แต่ถ้าคุณได้อ่านเกี่ยวกับแมวป่าบ้างจะรู้ว่ามันไม่ใช่สัตว์อันตราย ตั้งแต่ที่หลุดออกไป มันก็พยายามหลีกเลี่ยงผู้คนตลอด”…

  • 18 เรื่องยืนยันที่ทำให้เรารู้ว่า ประเทศญี่ปุ่นล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์

    18 เรื่องยืนยันที่ทำให้เรารู้ว่า ประเทศญี่ปุ่นล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์

    ‘ญี่ปุ่น’ หนึ่งในประเทศยอดนิยมที่ผู้คนทั่วโลกต่างพูดถึงและอยากไปมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ เพราะเรารู้ว่าที่แห่งนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรม เทคโนโลยีและแฟชั่นสุดเจ๋งเต็มไปหมด แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่เรื่องทั่วไปที่เรารู้กันในวงกว้าง ด้วยเหตุนี้ทาง Bright Side ก็เลยรวบรวม 18 เรื่องสุดเซอร์ไพรส์ที่จะช่วยเพิ่มความอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นของเราให้มากยิ่งขึ้นไปอีก!!   โตเกียวเป็นเมืองหลวงที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ขึ้นชื่อว่าเมืองหลวงย่อมปลอดภัยเป็นธรรมดา แต่ประเทศญี่ปุ่นมีถึงสองเมืองที่ติดอันดับเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก นั่นคือโตเกียวในอันดับหนึ่ง และโอซาก้าในอันดับสาม   ป้ายแนะนำที่เข้าใจง่าย ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องป้ายเป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่าคนต่างชาติไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็รู้เรื่องได้ในเวลาไม่นาน   เด็กๆ มีวันเกิดพิเศษกันทุกคน เด็กๆ ที่มีอายุ 3 ปี, 5 ปี, และ 7 ปี จะมีวันเกิดร่วมกันในวันที่ 15 พฤศจิกายนในชื่อวันว่า Shiti-Go-San ซึ่งแปลตรงตัวว่า 3,5,7 โดยชาวญี่ปุ่นถือว่าเลขทั้งสามเป็นเลขนำโชค และยังหมายถึงการเจริญเติบโตด้วย   ทุกเช้าจะมีการออกกำลังกาย ในโรงเรียนหรือหลายๆ บริษัทนั้นจะมีการประกาศให้นักเรียนและพนักงานออกกำลังในตอนเช้าเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรง โดยนโยบายนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 1928 แล้ว   วันหยุดศุกร์พิเศษ ญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่การแข่งขันเรื่องงานสูงมาก และประชาชนก็จะเหนื่อยกันสุดๆ จากการทำงาน ฉะนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ รัฐจึงประกาศให้ทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือนเหล่าพนักงานบริษัทจะสามารถเลิกงานก่อนเวลาเพื่อไปพักผ่อนได้   ธุรกิจส่วนใหญ่จะเก่าแก่ ธุรกิจส่วนใหญ่ร่วมถึงอาคารต่างๆ…

  • สาวจีนมัวแต่เล่นวีแชท รู้ตัวอีกทีก็ลงไปอยู่ในสระน้ำพร้อมกับรถหรูมูลค่า 10 ล้านบาท!!

    สาวจีนมัวแต่เล่นวีแชท รู้ตัวอีกทีก็ลงไปอยู่ในสระน้ำพร้อมกับรถหรูมูลค่า 10 ล้านบาท!!

    เรียกว่าเป็นความสูญเสียมูลค่าหลายล้านที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย เมื่อสาวจีนคนหนึ่งได้ขับรถสุดหรูของเธอพุ่งลงสระน้ำข้างทาง ด้วยสาเหตุที่ว่าเธอมัวแต่เล่นวีแชทจนไม่ได้มองถนน เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยทาง South China Morning Post รายงานว่า ระหว่างทางที่หญิงสาวกำลังขับรถ Maserati GranTurismo มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทไปยังเมืองหนานจิง เธอก็มัวแต่พิมพ์วีแชทจนสุดท้ายรถเสียหลักพุ่งลงบ่อน้ำข้างทาง     แต่อีกสื่อหนึ่งก็ได้รายงานแตกต่างกันออกไป โดยได้รายงานว่าหญิงสาวนั้นหักหลบรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามา สุดท้ายเสียการควบคุมรถไปจนพุ่งลงบ่อน้ำข้างทาง อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการรายงานต้นเหตุของเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนกันคือรถหรูของเธอจบสภาพลงที่บ่อน้ำข้างทาง ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ Xu Jie ผู้มารับผิดชอบในคดีนี้ก็บอกว่า “ตอนที่ผมมาถึงยังที่เกิดเหตุ หญิงสาวคนนี้ก็กำลังเดินออกจากสระน้ำด้วยอาการสั่นจากอากาศที่หนาวเย็น โชคยังดีที่น้ำไม่ลึกมากนักโดยตัวรถยังไม่จมลงไปทั้งหมดเหลือส่วนหลังคาไว้เกือบๆ 30 เซนติเมตร นอกจากนี้ตัวรถก็ยังทำงานได้ปกติดี”     นอกจากความเสียหายที่เกิดจากตัวรถแล้ว ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใดๆ จะมีก็แต่หญิงสาวเจ้าของรถที่ถูกตั้งข้อหาใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ จึงโดนปรับเป็นเงิน 50 หยวน หรือเป็นเงินไทยราวๆ 250 บาท สุดท้ายแล้วก็ไม่มีการรายงานต่อว่า หญิงสาวได้ทำยังไงกับตัวรถหลังจากยกมันขึ้นจากบ่อน้ำ และตัวเธอนั้นเป็นเจ้าของรถหรือไม่นั้น ก็คงต้องรอรายงานกันต่อไป…     ที่มา nextshark

  • 18 เรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องสุดสยอง กับวีรกรรมอันโหดร้ายที่เปิดเผยให้โลกได้รับรู้

    18 เรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องสุดสยอง กับวีรกรรมอันโหดร้ายที่เปิดเผยให้โลกได้รับรู้

    การฆาตรกรรมเป็นอีกหนึ่งการกระทำที่ดูร้ายแรงสำหรับมนุษย์ การฆ่าชีวิตคนๆ หนึ่งนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดและเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าด้วยรูปแบบหรือวิธีใดก็ตาม ฆาตกรมักจะมีจุดจบคือการถูกตัดสินจำคุกหรือประหารชีวิต ตามข้อหาและระดับความรุนแรงที่พวกเขาได้ทำไป ซึ่งในประวัติศาสตร์แล้วจำนวนเหล่าฆาตรกรนั้นมีมากมายหลายคน แต่ก็มีฆาตกรจำนวนหนึ่งที่ต้องจำรึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าพวกเขาเป็นฆาตรกรที่โหดเหี้ยมที่สุด ยกตัวอย่างเช่น 18 คนนี้   1. Jeffrey Dahmer หรือที่เรียกกันว่า Milwaukee Cannibal ผู้ต้องหาคดีฆ่าชาย 17 ราย ข่มขืน และกินเนื้อมนุษย์ เขามีความผิดปกติทางบุคลิกภาพหลายอย่างจนขึ้นชื่อว่าเป็นที่สุดแห่งความโรคจิต เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต หลังจากที่เขาได้เข้าไปอยู่ในคุกก็ถูกเหล่านักโทษรุมทำร้ายจนเสียชีวิต   2. The Zodiac Killer ฆาตรกรนิรนามที่สังหารประชากรชาวรัฐแคลิฟอร์เนียและเนวาดากว่า 37 ราย ฆาตรกรได้ส่งรหัสลับไปให้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเพื่อเพิ่มความซับซ้อนในการตามหา มีหลายคนที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมได้เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ   3. Luis Garavito ฉายา The Beast สารภาพว่าเขาฆ่าเด็กชายอายุ 6 ถึง 16 ปีจำนวน 147 คนในระยะเวลา 7 ปีที่โคลอมเบีย ซึ่งตำรวจคาดว่าเขาน่าจะฆ่าคนมากกว่า 300 คนจากการสารภาพระบุแผนที่จุดซ่อนศพที่เขาทยอยให้ปากคำออกมาเรื่อยๆ   4.…

  • ชายชาวจีนป่วยประหลาด…อายุ 30 ปี แต่กลับมีร่างกายและสติปัญญาเท่าเด็กหัดเดิน

    ชายชาวจีนป่วยประหลาด…อายุ 30 ปี แต่กลับมีร่างกายและสติปัญญาเท่าเด็กหัดเดิน

    วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวเดลีเมลล์ได้นำเสนอเรื่องราวของ Wang Tianfang ชายชาวจีนวัย 30 ปีจากหมู่บ้านหวังฟาน มณฑลอานฮุย ที่ต้องทนใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก ตามรายงานบอกว่าเขาป่วยเป็นโรคหายากที่แม้แต่แพทย์ก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้ ซึ่งโรคดังกล่าวส่งผลทำให้เขามีสภาพร่างกายและสติปัญญาเท่ากับเด็กวัยหัดเดิน แถมยังไม่สามารถพูดคุย เดิน หรือดูแลตัวเองได้เลย     ทางด้าน Chu Xiaoping แม่วัย 52 ปีได้ออกมากล่าวว่า “สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฉันต้องการคือ การได้ยินเสียงลูกชายร้องเรียกคำว่าแม่ แต่ที่น่าเศร้าคือเขาไม่สามารถทำได้ ลูกชายของฉันหยุดโตมาตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ เขามีความสูงเพียงแค่ 80 เซนติเมตร ซึ่งนอกจากจะหยุดโตแล้ว สติปัญหาของเขาก็ไม่พัฒนาด้วย”     ในตอนที่ Wang อายุได้เพียง 2 ขวบ ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างก็ได้แนะนำให้นาง Chu นำลูกไปทิ้งตามถนน หรือหน้าวัด และปล่อยให้คนอื่นนำไปเลี้ยง แต่ทว่าด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่ของคนเป็นแม่ เธอได้ยืนกรานว่าจะไม่ทำเช่นนี้เด็ดขาด และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็จะขอเป็นผู้ที่คอยอยู่ดูแลลูกชายด้วยตัวเอง     Chu ต้องดิ้นรนทำงานอย่างหนัก…

  • ตำรวจชี้ “แมวจร” เข้าข่ายผู้ต้องสงสัยคดีพยายามฆ่าหญิงชรา หลังพบหลักฐานจากรอยข่วน

    ตำรวจชี้ “แมวจร” เข้าข่ายผู้ต้องสงสัยคดีพยายามฆ่าหญิงชรา หลังพบหลักฐานจากรอยข่วน

    เป็นอีกหนึ่งคดีฆาตกรรมสุดโหดที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิษฐานว่าสาเหตุที่ทำให้หญิงชราชาวญี่ปุ่นได้รับบาดเจ็บอย่างหนักบริเวณใบหน้า อาจมาจากฝีมือของ “แมวเหมียว” ก็เป็นได้ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Mayuko Matsumoto คุณยายวัย 82 ปี ที่อาศัยอยู่กับสามีและลูกสาวคนโตในเมืองมิฟุเนะ จังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เหตุเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสในสภาพใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือด     จากการรายงานระบุว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็นของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2017 ลูกสาวของ Mayuko ถึงขั้นตกใจอย่างหนัก หลังจากที่พบว่าใบหน้าของผู้เป็นแม่เต็มไปด้วยรอยเลือดจากบาดแผลปริศนากว่า 20 แห่ง ที่สำคัญคุณยายไม่สามารถพูดได้ ดังนั้น เธอจึงไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นผู้ที่เข้ามาทำร้ายเธอ “ตอนที่พบเธอ เราเห็นเลือดไหลออกมาเต็มใบหน้า ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ลูกสาวของ Mayuko กล่าว     ด้านทางการญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงชราวัย 82 ปีมันเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าทำการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน เนื่องจากการก่อเหตุดังกล่าวถือเป็นคดีรุนแรงอาจถึงขั้นพยายามฆ่า แต่ถึงกระนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่พบร่องรอยของการบุกรุก หรือการต่อสู้เลยเลยแม้แต่น้อย     อย่างไรก็ตาม…

  • พบ “อัญมณีแกะสลัก” อายุ 3,500 ปี ที่มีรายละเอียดชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา

    พบ “อัญมณีแกะสลัก” อายุ 3,500 ปี ที่มีรายละเอียดชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา

    วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ Odditycentral มีรายงานว่า นักโบราณคดีได้ค้นพบ “อัญมณีแกะสลัก” หนึ่งในผลงานศิลปะของยุคกรีกโบราณที่มีอายุมากถึง 3,500 ปี ทั้งยังเป็นงานแกะสลักที่มีรายละเอียดชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมาอีกด้วย     จากการรายงานระบุว่าในปี 2015 ทางนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซินซินแนติ ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ขุดพบหลุมฝังศพยุคกรีกโบราณในเมืองไพลอส ทางตอนใต้ของประเทศกรีซ โดยภายในหลุมฝังศพมีโครงกระดูกสภาพสมบูรณ์ของชาวไมเซเนียน ที่เรียกว่า “Griffin Warrior” อยู่ พร้อมกันนี้ยังมีการค้นพบทรัพย์สมบัติที่ถูกนำมาฝังอีก 3,000 ชิ้น เท่านั้นไม่พอยังพบแก้วแหวนเงินทอง อาวุธ ภาชนะที่ทำจากโลหะมีค่า รวมถึงลูกปัดที่แกะสลักจากแร่รัตนชาติอีกกว่า 1,000 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีชุดเกราะ หวีงาช้าง สร้อยคอทองคำ และหินตราประทับอีกกว่า 50 ชิ้น     แต่หนึ่งในการค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือ Pylos Combat Agate ซึ่งเป็นอัญมณีชิ้นเล็กแสนหายากที่ถูกแกะสลักเป็นรูปนักรบกำลังต่อสู้กัน โดยการค้นพบอัญมณีดังกล่าว เรียกได้ว่าสร้างความประหลาดใจให้กับนักโบราณคดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันถูกออกแบบขึ้นมาให้มีรายละเอียดที่ดูซับซ้อน และเป็นผลงานชิ้นเอกที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยค้นพบมา     สำหรับอัญมณีสุดล้ำค่านี้…

  • ตู้อควาเรียมอันแสนเศร้าในโตเกียว หลังจำนวนปลาลดลงอย่างมาก เพราะช่วยชีวิตพวกมันไว้ไม่ทัน

    ตู้อควาเรียมอันแสนเศร้าในโตเกียว หลังจำนวนปลาลดลงอย่างมาก เพราะช่วยชีวิตพวกมันไว้ไม่ทัน

    ภาพตู้อควาเรียมอันคุ้นตาที่เต็มไปด้วยปลาของ Sunshine Aquarium ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นั้นอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลังจากเกิดเหตุการณ์สุดช็อคเมื่อสัตว์น้ำเกือบทุกตัวในตู้ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง… เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่อควาเรียมสังเกตเห็นว่าสัตว์หลายตัวในแทงค์มีอาการป่วย พวกเขาจึงเริ่มแผนการรักษาโดยการใส่สารบางอย่างลงไปภายในแทงค์ แต่ด้วยความที่ระบบคำนวนอัตโนมัติของแทงค์อควาเรียมนั้นเกิดผิดพลาด ทำให้เกิดการปิดตัวชั่วขณะ และการปิดตัวชั่วขณะนั้นเอง กลับส่งผลให้ออกซิเจนภายในตัวแทงค์น้ำเกิดไม่พอทำให้สัตว์น้ำทั้งหมดกว่า 1,200 ตัวเสียชีวิตทันที   ภาพแทงค์น้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตก่อนเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น   เดิมทีนั้นในอควาเรียมแห่งนี้มีสัตว์อาศัยอยู่กว่า 1,300 ตัว ซึ่งประกอบด้วยสัตว์หลากหลายชนิดทั้งปลาสวยงาม ปลาไหล ปลากระเบนและอื่นๆ อีกมากมายอาศัยรวมกันในอควาเรียมขนาด 12 เมตร   ภาพของอควาเรียมที่เหลือสัตว์อยู่ภายในไม่มากเท่าแต่ก่อน   ซึ่งในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @ipen_3 ชาวเน็ตญี่ปุ่นที่ได้ไปเที่ยวยังอควาเรียมดังกล่าว และเขาก็ได้พบว่าตู้ที่เคยมีปลานับพัน ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น จากภาพที่เขาถ่ายมานั้น เราจะรู้เลยว่ามันไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ เพิ่มเติมเพราะความเหงาและเศร้าโศกมันส่งผ่านตัวอควาเรียมที่เราเห็นอย่างชัดเจน ยิ่งมีหนูน้อยที่ตั้งใจมาดูสัตว์น้ำที่เธอชื่นชอบแต่กลับพบแทงค์น้ำที่ว่างเปล่าด้วยแล้ว…   ภาพของหนูน้อยและคุณแม่ที่พาลูกมาดู แต่กลับเจอเพียงตู้ที่ว่างเปล่า   สุดท้ายทาง Sunshine Aquarium ได้ออกมาแถลงว่า พวกเขาจะรีบเติมสัตว์น้ำกลับเข้าไปให้ไวที่สุดเพื่อดึงดูดคนให้กลับมาเยี่ยมชมอควาเรียมของพวกเขาอีกครั้งนั่นเอง ที่มา rocketnews24

  • รวมโฉมหน้า 83 ผู้เข้าประกวด Miss Universe ประจำปี 2017 แต่ละชาติจะปังขนาดไหน ตามไปชม…

    รวมโฉมหน้า 83 ผู้เข้าประกวด Miss Universe ประจำปี 2017 แต่ละชาติจะปังขนาดไหน ตามไปชม…

    กลับมาอีกครั้งกับการประกวด Miss Universe ที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างเกาะกระแสและร่วมลุ้นกันทุกปี และสำหรับปี 2017 นี้ แต่ละประเทศก็ได้ทำการคัดเลือกตัวแทนแล้วเรียบร้อย แฟนๆ นางงามคนอยากเห็นกันแล้วล่ะสิว่าตัวแทนจากแต่ละประเทศนั้นจะมีหน้าตาเป็นยังไงบ้าง ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก Miss Universe ก็ได้เผยโฉมนางงามทั้ง 83 คน จาก 83 ประเทศให้ทุกคนได้ชมกัน แต่ละคนจะเป็นยังไงบ้าง เชิญชมเด้อค่ะ   1. ตัวแทนจากประเทศแอลเบเนีย   2. ตัวแทนจากประเทศแองโกลา   3. ตัวแทนจากประเทศอาร์เจนตินา   4. ตัวแทนจากประเทศอารูบา   5. ตัวแทนจากประเทศออสเตรเลีย   6. ตัวแทนจากประเทศออสเตรีย   7. ตัวแทนจากประเทศบาฮามาส   8. ตัวแทนจากประเทศบาร์เบโดส   9. ตัวแทนจากประเทศเบลเยียม   10. ตัวแทนจากประเทศโบลิเวีย   11. ตัวแทนจากประเทศบราซิล   12. ตัวแทนจากประเทศบัลแกเรีย…

  • หญิงสาวขโมยทิปอูเบอร์แล้วถูกจับได้ โดนชาวเน็ตวิจารณ์ยับทั้งๆ ที่เธอคืนเงินไปแล้ว…

    หญิงสาวขโมยทิปอูเบอร์แล้วถูกจับได้ โดนชาวเน็ตวิจารณ์ยับทั้งๆ ที่เธอคืนเงินไปแล้ว…

    เมื่อไม่นานมานี้ได้มีวีดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้ขโมยเงินในกล่องใส่ทิปเงินของคนขับอูเบอร์ และเหตุการครั้งนั้นก็ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2017 ที่ผ่านมา โดยหญิงสาววัย 18 ปีคนหนึ่งชื่อว่า Gabrielle Canales ได้ถูกจับภาพไว้ได้จากกล้องติดหน้ารถขณะที่เธอขโมยเงินทิปของคนขับรถอูเบอร์คนหนึ่งในเมือง New York และต่อมาภาพการขโมยของเธอก็ได้เผยแพร่ออกไปในสื่อออนไลน์ชื่อดังอย่าง Youtube     วิดีโอแสดงให้เห็นถึง Canales ขณะขโมยเงิน   หลังจากวิดีโอนี้ได้เผยแพร่ออกไป เธอก็ต้องรับกระแสสังคมที่ถาโถมเข้ามาหาเธอถึงพฤติกรรมที่ไม่สมควรนี้ แต่ว่ามันไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะว่ามีการขุดค้นไปถึงตัวตนของเธอผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ อย่าง Twitter และ Instagram ในภายหลังเธอก็ได้ออกมาบอกว่าเธอได้คืนเงินทั้งหมดให้แก่เจ้าของแล้วในวันนั้น และเธอก็ได้สำนึกผิดต่อการกระทำในวันนั้นพร้อมทั้งได้กล่าวขอโทษไปแล้ว   ภาพตอนกำลังขโมยเงินในกล่องทิป   ทว่ากระแสสังคมกลับไปหยุดอยู่แค่นั้น และยังคงโจมตีเธออย่างต่อเนื่องโดยเงินทั้งหมดที่เธอขโมยไปนั้นเป็นเงินประมาณ 5 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 165 บาท) และนั่นได้สร้างความเจ็บปวดให้แก่ชีวิตของเธอเป็นอย่างมาก “มันเป็นพฤติกรรมแบบเด็กๆ ที่น่าละอายสำหรับฉัน แต่ว่าฉันก็ได้สำนึกผิดและได้รับบทเรียนในวันนั้นแล้ว” “ฉันได้คืนเงินไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ว่ากระแสสังคมยังคงกดดันฉันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้ว” Canales กล่าว   จำนวนเงินที่เธอคืนให้แก่คนขับรถคันนั้น   เธอได้พยายามออกมาแก้ต่างให้แก่ตัวเองโดยอธิบายให้เข้าใจถึงเหตุการณ์ในวันนั้น แต่เหมือนว่ายิ่งเธอออกมาพูดเท่าไหร่ กลับเหมือนการเติมน้ำมันลงในกองไฟเท่านั้นโดยนอกจากคำด่าทอทั้งหลายแล้วเธอยังได้รับการสาปแช่งต่างๆ รวมทั้งคำพูดจาที่ส่อไปทางล่วงละเมิดเรื่องเพศในรูปภาพต่างๆ…

  • คุณแม่เพ้นท์รูปดอกไม้ลงบนศีรษะลูกสาวที่ผมร่วง เพื่อให้เธอกลับมายิ้มอย่างสดใสอีกครั้ง

    คุณแม่เพ้นท์รูปดอกไม้ลงบนศีรษะลูกสาวที่ผมร่วง เพื่อให้เธอกลับมายิ้มอย่างสดใสอีกครั้ง

    โรคผมร่วงเป็นหย่อมๆ (Alopecia Areata) เป็นโรคที่เกิดจากที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายเกิดความแปรปรวน ทำให้ภูมิคุ้มกันทำลายรากผมของตัวเองและหยุดการเจริญเติบโตของรากผม เป็นสาเหตุทำให้ผมและขนตามส่วนต่างๆ ร่วง ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือกรรมพันธุ์ Madisyn Babcock นักเรียนสาววัย 17 ปีป่วยเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมๆ นี้เช่นกัน หลังจากที่เธอเริ่มมีอาการของโรคนี้ เธอก็เลือกที่จะปกปิดมันมาตลอดเพราะว่าอายที่ศีรษะของเธอไม่มีผมสวยงามเหมือนดังคนอื่น     แต่แล้วความคิดของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอเลือกที่จะก้าวออกจากความอายที่ต้องคอยปกปิดในสิ่งที่เธอเป็นอยู่ กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้เธอกล้าที่จะเปิดเผยให้เห็นความงามที่แท้จริงที่เธอได้ซ่อนมันจากสายตาของผู้คนมาตลอด     เธอได้ขอให้แม่ของเธอเพ้นท์รูปดอกไม้สวยงามลงบนหนังศีรษะของเธอเพื่อถ่ายรูปเก็บความทรงจำก่อนที่เธอจะจบชั้นมัธยมในปีการศึกษานี้ ซึ่งแม่ของเธอก็ได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการออกแบบและเริ่มเพ้นท์ดอกไม้เหล่านี้ และผลงานก็ออกมาสวยเป็นที่น่าพอใจสำหรับ Madisyn   .   “แม่เป็นกำลังใจให้ฉันอยู่เสมอ เธอสนับสนุนให้ฉันเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา แถมยังรู้ว่าฉันชอบดอกไม้ที่สุด ฉันรู้ว่าแม่จะเป็นคนที่สร้างสรรค์ผลงานแสนสวยให้กับศีรษะของฉันได้” “ฉันมีมุมมองใหม่ในชีวิต มันดีกว่าตอนที่ฉันเรียนมัธยมแรกๆ ฉันได้เห็นว่าตัวเองเติบโตขึ้นเยอะเลย” Masidyn กล่าว   . .   เธอได้ให้ช่างภาพที่ชื่อว่า Chelsea Taylor เป็นผู้ถ่ายทอดความงามที่มาจากข้างใน รวมไปถึงความรักที่แสนอบอุ่นจากแม่ที่ได้มอบความงามและความรักให้กับลูกสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจของเธอ ที่มา boredpanda

  • หญิงชาวอินเดีย มีตะปูฝังอยู่ในขามากถึง 70 ตัว โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง!?

    หญิงชาวอินเดีย มีตะปูฝังอยู่ในขามากถึง 70 ตัว โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง!?

    บางครั้งร่างกายของเราอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยที่เกือบทั้งหมดเราสามารถทราบความเป็นมาของอาการนั้นๆ เวลาไปพบแพทย์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวชาวอินเดียคนนี้ เพราะเธอพบว่ามีตะปูกว่า 70 ตัวที่ฝังอยู่ในขาของเธอและแม้แต่แพทย์ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่ามันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร   ตะปูจำนวนมากถูกพบในขาของหญิงสาวชาวอินเดีย   เธอมีชื่อว่า Anusuiya Devi วัย 35 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ เขต Fatehpur ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย เมื่อปี 2012 เธอเริ่มเจ็บขาอย่างรุนแรงและพบว่าความเจ็บนั้นเกิดจากตะปูจำนวนมากที่ฝังอยู่ด้านในขาของเธอ ครั้งแรกที่ทำให้เธอทราบได้ว่ามีตะปูอยู่ด้านในคือตอนที่มีถุงซีสต์งอกขึ้นมาตรงขาของเธอ จากนั้นมันก็แตกออกเป็นน้ำหนองและมีเข็มกับตะปูที่โผล่ออกมาด้วย สิ่งที่ฝังอยู่ในขาของเธอมีอยู่ด้วยกันสามชนิดคือ เข็ม ตะปู และเข็มฉีดยาที่ใช้ในโรงพยาบาล น่าสงสัยมากว่าของแบบนี้เข้าไปอยู่ในขาของเธอได้อย่างไร ความเจ็บของเธอทำให้ยากต่อการเดิน ยืน หรือแม้แต่นั่ง และนั่นเองจึงทำให้เธอตัดสินใจไปหาหมอ แต่แล้วเธอก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เลย เพราะไม่มีหมอคนไหนสามารถบอกได้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และพากันคิดว่าเธอนำตะปูฝังเข้าไปด้วยตัวเอง   เธออาศัยอยู่กับพี่ชายมานานถึง 7 ปี   การไม่ได้รับความช่วยเหลือนี้ทำให้พี่ชายของเธอ Awadhesh Kumar ที่อาศัยอยู่กับเธอมานานถึง 7 ปีได้ออกมาบอกว่า “เราไปหาหมอท้องถิ่นในหลายๆ ที่ แต่การทำอย่างนั้นก็ไม่อาจช่วยแก้ปัญหาของน้องผมได้เลยซักนิด และผมขอยืนยันว่าน้องไม่ได้ทำร้ายตัวเองเลยจริงๆ ผมอยู่กับเธอแทบจะตลอดเวลา เธอไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้นเลย”…

  • ศิลปินถ่ายทอดความ ‘โดดเดี่ยวอ้างว้าง’ ในแดนอาทิตย์อุทัย ในสไตล์เรโทรย้อนยุค 8-Bit

    ศิลปินถ่ายทอดความ ‘โดดเดี่ยวอ้างว้าง’ ในแดนอาทิตย์อุทัย ในสไตล์เรโทรย้อนยุค 8-Bit

    ความรู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยวสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ทุกเวลาไม่เว้นแม้แต่ในเมืองใหญ่ๆ ในประเทศญี่ปุ่นอย่างโตเกียว โอซาก้า หรือนาโงย่า ที่ต่อให้มีผู้คนรายล้อมมากมายเพียงใดก็ยังคงทำให้เรารู้สึกเคว้งคว้างได้อยู่ดี ศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Motocross-Saito จึงได้ทำการถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านั้นผ่าน Gif สไตล์ย้อนยุคพิกเซล 8 บิท ภายในโซเชียลมีเดีย tumblr เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่าความโดดเดี่ยวภายใต้แสงไฟในเมืองใหญ่นั้นมันทำให้เรารู้สึกอ้างว้างได้มากขนาดไหน   ในยามค่ำคืนหน้าร้านสะดวกซื้อที่ร้างผู้คน   มองออกไปจากบนที่สูงกลับรู้สึกว่าไม่เห็นใครเลย   บนถนนที่ไม่มีอะไรดึงดูดความสนใจไปได้เลย   ทุกอย่างยังคงแล่นไป แต่เหมือนกับว่าเรากำลังย่ำอยู่กับที่   ไม่มีอะไรมากระตุ้น เหมือนกับสายน้ำที่เรียบนิ่ง   กางร่มสามารถกันฝนที่ตกลงมาจากฟ้าได้ แต่ไม่สามารถกันฝนที่ตกอยู่ในใจได้   ใต้ร่มเงามีเพียงเรากับสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจเข้าใจกันด้วยคำพูดได้   การทำสิ่งต่างๆ ช่วยให้ลบความคิดทุกอย่างได้หมด แต่ไม่อาจลบความรู้สึก   ยังคงยืนรออยู่อย่างนั้น แม้ไม่มีรถขับผ่านมาเลยก็ตาม   ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงเราที่ยังคงเชื่องช้าไม่ยอมไปไหน   มีเพียงเสียงคลื่นที่พัดเข้ามา ไร้ซึ่งเสียงของผู้คน   ลองทำหลายๆ สิ่งเพื่อขจัดความรู้สึกนี้ออกไปให้ได้   อาจมีบ้างที่ความเหงาถูกแทนที่ด้วยเพื่อนที่เข้าใจกันด้วยบางสิ่งที่ไม่ใช่คำพูด   บางทีเราอาจไม่ได้เหงา แต่เราแค่เบื่อกับชีวิตในบางช่วง   เป็นการรอผ้าที่นานกว่าปกติอย่างไม่มีเหตุผล…

  • รู้หรือไม่?? ว่า “โดนัท” ของแต่ละประเทศนั้น มีชื่อเรียกแตกต่างกัน? มีอะไรบ้างมาดูกัน

    รู้หรือไม่?? ว่า “โดนัท” ของแต่ละประเทศนั้น มีชื่อเรียกแตกต่างกัน? มีอะไรบ้างมาดูกัน

    ในภูมิภาคต่างๆ นั้นก็มักจะมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละที่ แต่อาหารชนิดหนึ่งที่เรามีอยู่เหมือนกันทั่วโลกนั้นก็คือโดนัทนี่เอง ถึงแม้จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่ก็มีวัตถุดิบและวิธีการทำที่คล้ายคลึงกันเอามากๆ ว่าแต่โดนัทของแต่ละประเทศจะมีชื่อว่าอะไรกันบ้าง? และจะน่าอร่อยขนาดไหนเราไปส่องทั้ง 15 ประเทศกันเลย   1. อิตาลี –  Bomboloni ในอิตาลี Bomboloni นั้นมีขนาดไม่ใหญ่มากและยังสอดไส้คัสตาร์ด ช็อกโกแลต แยมส้ม และเคลือบด้วยน้ำตาลไอซิ่งอีกด้วย   2. เม็กซิโก – Churros Churros ได้รับความนิยมอย่างมากในวัฒนธรรมอเมริกัน ในขณะที่จุดกำเนิดของขนมชนิดนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แป้งทอด Churros นี้เคลือบไปด้วยน้ำตาลและอบเชย  มักจะเสิร์ฟพร้อมกับฟัดจ์ร้อนหรือช็อกโกแลตเหลว Churros tower from @elcapo_cantina, plus it’s happy hour all night tonight. #EATMCR โพสต์ที่แชร์โดย EATMCR (@eatmcr) เมื่อ ต.ค. 26, 2017 เวลา 9:20am PDT     3. อิสราเอล – Sufganiyot sufganiyots…

  • ช่างสักหนุ่มปกปิด ‘รอยแผลเป็นอันเลวร้าย’ ให้หญิงสาวกลับมามีความสุขอีกกครั้ง

    ช่างสักหนุ่มปกปิด ‘รอยแผลเป็นอันเลวร้าย’ ให้หญิงสาวกลับมามีความสุขอีกกครั้ง

    แทบทุกคนมีสิ่งที่ต้องการจะลืมหรือทิ้งมันไว้ให้กลายเป็นอดีต แต่หลายๆ ครั้งเราก็ไม่สามารถทำได้เพราะยังคงมีสิ่งที่ทำให้เรานึกถึงช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดนั้นอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับเธอคนนี้ เพราะบาดแผลที่เธอได้สร้างเอาไว้มันกลับติดตรึงอยู่บนร่างกายของเธอจนไม่อาจหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้ หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Aoife Lovett ชาวไอริชวัย 19 ปี เธอเคยสร้างบาดแผลเอาไว้ที่แขนของตัวเองด้วยการกรีดข้อมือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอรู้สึกว่าแผลเป็นนั้นทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลาร้ายๆ ในอดีต เธอจึงอยากลบมันออกไป ซึ่งเธอได้รับความช่วยเหลือจากช่างสักหนุ่มผู้มีจิตอาสา   Aoife Lovett หญิงสาวผู้ไม่อาจหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้ เพราะแผลเป็นของเธอ   เรื่องราวนี้ถูกแชร์ในเว็บไซต์ Boredpanda วันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 โดย Aoife บอกว่าในสมัยก่อนเธอเคยมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อย่างมากจนทำให้เธอใช้ของมีคมกรีดเข้าไปที่บริเวณแขนของตัวเองหลายต่อหลายครั้ง พอเวลาผ่านมาจนถึงตอนนี้จิตใจของเธอก็ได้ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่แผลที่เคยสร้างไว้ก็ยังคงปรากฎให้เห็นเป็นรอยแผลเป็นบนแขนของเธอ และสิ่งนี้เองที่ทำให้เธอยังคงรู้สึกถึงช่วงเวลาอันเจ็บปวดในตอนนั้นอยู่เสมอ   แผลเป็นที่เกิดขึ้นจากความทุกข์และความเศร้า ยังคงติดตรึงจนทำให้เธอย้อนไปคิดถึงอดีตที่เลวร้ายอยู่ทุกครั้งที่ได้เห็น   Aoife บอกว่า “มันเป็นเรื่องที่ยากมากในการเยียวยาตัวเองตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ทุกครั้งที่ฉันเห็นสิ่งนี้ ความเจ็บปวดในอดีตก็จะกลับมาหลอกหลอนฉันเสมอ เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปและความรู้สึกนี้ก็จะรุนแรงมากๆ ตอนที่ฉันอยู่กับคนในครอบครัว” นั่นจึงทำให้เธอต้องการสักทับรอยแผลนั้นเอาไว้เพื่อปกปิดไม่ให้ได้นึกถึงมันอีก แต่เมื่อเธอไปหาช่างสักคนไหนกลับไม่มีใครยอมรับงานจากเธอเลยแม้แต่คนเดียว ในขณะที่กำลังหมดสิ้นหนทาง แม่ของเธอก็ได้ไปเจอเข้ากับช่างสักหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Ryan Kelly เจ้าของโปรเจกต์ Scars Behind Beauty เป็นโครงการที่เขาสักลายทับบนแผลเป็นให้กับคนที่ต้องการแบบฟรีๆ   Ryan…

  • บ้าน ‘ประกอบ’ แนวโมเดิร์นจากจีน ใช้เวลาสร้างไม่ถึง 24 ชั่วโมง ในงบแค่ 330,000 บาท!!

    บ้าน ‘ประกอบ’ แนวโมเดิร์นจากจีน ใช้เวลาสร้างไม่ถึง 24 ชั่วโมง ในงบแค่ 330,000 บาท!!

    สำหรับในประเทศจีน การจะมีบ้านดีๆ ซักหลังเป็นเรื่องยาก เพราะราคาของมันนั้นแพงเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจ่ายไหว โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้ นั่นจึงทำให้ Fan และลูกของเธอต้องอาศัยอยู่ในบ้านเก่าๆ โทรมๆ อยู่ตรงลานหน้าบ้านพ่อแม่ของเธอด้านนอกตัวเมือง แม้ว่าเธอได้อยู่ใกล้ๆ กับครอบครัวอย่างที่เธอต้องการ แต่เธอก็ยังคงมีความฝันที่จะได้มีบ้านสไตล์โมเดิร์นซักหลังและด้วยปัญหาเรื่องของงบประมาณ เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากบริษัทดีไซน์ People’s Architecture Office (หรือ PAO) ที่ช่วยทำให้ฝันของเธอกลายเป็นจริงในที่สุด   บ้านที่ Fan ได้รับ ช่วยเติมเต็มความฝันของเธอ   นักออกแบบของบริษัทจึงได้ออกแบบผลงานบ้านที่มีชื่อว่า Plug-in House ในเดือนธันวาคม 2016 ก่อนที่จะนำมันมาสร้างให้กับหญิงสาวและลูกชาย บ้านหลังนี้มีความพิเศษตรงที่วัสดุอุปกรณ์ทั้งหมดใช้งบประมาณเพียงแค่ 330,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถนำมาประกอบสร้างโดยใช้เวลาแค่ไม่ถึง 1 วัน!!   จากตอนแรกบ้านมีลักษณะเก่าและทรุดโทรม แต่ก็เปลี่ยนไปได้ในเวลาแค่ไม่ถึง 1 วัน   ไม่ใช่เพียงแค่ภายนอกที่ดูเปลี่ยนแตกต่างกันมาก เพราะภายในนี่คือมันยิ่งกว่าคำว่าบ้านคนละหลังแต่นี่มันคือคนละโลกชัดๆ   โครงสร้างแต่ละส่วนสามารถนำมาประกอบเข้ากันได้อย่างง่ายดาย ทางทีมออกแบบถึงกับบอกเลยว่า “บ้านหลังนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรใดๆ และไม่ต้องใช้ช่างฝีมือเฉพาะทางเลย” ประมาณว่าขอแค่มีแรงคนก็เกินพอแล้วว่างั้น   การก่อสร้างที่ใช้เวลาไม่ถึง…

  • หนุ่มอังกฤษปรากฎตัวในรายงานข่าวสดไปทั่ว เขาเป็นใคร? ทำไมถึงออกทีวีบ่อยจัง?

    หนุ่มอังกฤษปรากฎตัวในรายงานข่าวสดไปทั่ว เขาเป็นใคร? ทำไมถึงออกทีวีบ่อยจัง?

    การรายงานข่าวในยุคปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนารูปแบบไปเรื่อยๆ เพื่อให้ผู้ที่ได้ดูข่าวได้รับข้อมูลที่ตรงประเด็น ง่ายต่อความเข้าใจและมีความรวดเร็ว หลายๆ สำนักข่าวก็เริ่มที่จะใช้วิธีการไลฟ์ถ่ายทอดสดในการรายงานข่าว ในการรายงานสดข่าวของสำนักข่าวในอังกฤษเช่น ITV BBC จะพบว่ามีหนุ่มลอนดอนที่ชื่อว่า Paul Yarrow พบว่าหน้าของเขามักจะไปปรากฏอยู่ เป็นภาพของเขาที่มักจะโผล่อยู่หลังนักข่าวเสมอในหลายๆ โอกาส จนเริ่มมีคนสังเกตและสืบว่าเขาคือใคร ทำไมถึงชอบมาปรากฏตัวหลังนักข่าวเสมอๆ     คุณ Paul ได้บอกว่าสาเหตุที่เขาไปปรากฏตัวตามสื่อต่างๆ ก็เพราะว่าเขาตั้งใจที่จะโชว์หน้าของเขาในทุกๆ ที่ที่มีการสื่อข่าว เนื่องจากว่าเขาเคยมีประสบการณ์การถูกเมินเฉยจากผู้สื่อข่าวที่มองข้ามตัวเขาไปสัมภาษณ์คนอื่นแทน ผู้สื่อข่าวมักจะเลือกสัมภาษณ์แต่คนหน้าตาดีๆ และมักจะมองข้ามคนอ้วนๆ อย่างเขาไปอยู่เสมอ     “การที่ผมมีน้ำหนักตัวเยอะทำให้ผมมักจะถูกมองข้ามไปในเหตุการณ์บางอย่าง บางครั้งไมโครโฟนถูกส่งต่อไปยังคนที่อยู่ข้างๆ แทน และนั่นเป็นประเด็นที่ผมคิดว่า ยิ่งพวกเขาเลือกที่จะมองข้ามผมมากเท่าไหร่ ผมก็จะมุ่งมั่นที่จะไปปรากฏตัวตามสื่อต่างๆ ให้บ่อยยิ่งขึ้น” Paul บอกกับสำนักข่าว EveningStandard   และการปรากฏตัวในการรายงานข่าวบ่อยครั้งของเขาก็ทำให้รายการทีวีของ BBC ที่มี Russel Howard เป็นผู้ดำเนินรายการได้กล่าวว่า ชายผู้นี้เป็นเพียงคนอ้วนที่อยากจะออกทีวีคนหนึ่ง     Paul ได้สัมภาษณ์กับเรื่องนี้ว่า “ผมรู้สึกโกรธที่โดนว่าแบบนี้ การล้อคนอ้วนมันไม่ใช่เรื่องตลกเลยมันแย่มากที่ทำให้คนอ้วนกลายเป็นตัวตลก” เขากล่าวปิดท้าย     ที่มา ladbible, standard

  • ‘Shibuya Mirai’ ปัญญาประดิษฐ์ตัวแรกที่ได้รับสถานะเป็นพลเมืองของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ!!

    ‘Shibuya Mirai’ ปัญญาประดิษฐ์ตัวแรกที่ได้รับสถานะเป็นพลเมืองของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ!!

    โลกแห่งอนาคตกำลังใกล้เข้ามาทุกวันๆ แล้ว หลังจากที่ไม่นานนี้หุ่นยนต์ Sophia ได้ไปโชว์ความฉลาดในการสนทนาแลกเปลี่ยนกับคนจริงๆ แถมตอนนี้ก็นับเป็นประชาชนของประเทศซาอุดีอาระเบียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     และเมื่อไม่นานมานี้ทางการญี่ปุ่นก็เอากับเขาด้วย โดยได้ประกาศให้ Shibuya Mirai ที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ได้รับสถานะการเป็นพลเมืองของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการแล้ว Shibuya Mirai นั้นเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกโปรแกรมมาให้เป็นเด็ก 7 ขวบ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นระบบตอบโต้อัตโนมัติผ่านแอพลิเคชั่น LINE     นอกจากนี้ ความหมายของชื่อ Mirai ก็สามารถแปลจากภาษาญี่ปุ่นได้ว่า อนาคต โดยบริษัทที่ผลิตตัวปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ขึ้นมาได้ตั้งเป้าให้ประชาชนพูดคุยโต้ตอบและแสดงความคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับย่าน Shibuya เพื่อที่ทางการญี่ปุ่นจะได้นำเสียงตอบรับจากประชาชนไปปรับใช้และพัฒนาย่านดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้น     ทาง Shibuya Ward ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแล Mirai ก็ได้พูดปิดท้ายเกี่ยวกับนิสัยของปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ผ่าน AFP ว่า “Mirai นั้นมีงานอดิเรกเป็นการถ่ายรูปและสังเกตผู้คนที่ผ่านไปมาใน Shibuya เธอชอบพูดคุยกับผู้คน ฉะนั้นก็อย่าลืมแวะเวียนเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเธอด้วยล่ะ เธอสามารถคุยได้ทุกเรื่องเลย”     ปัจจุบันเราก็มีหุ่นยนต์ที่ถูกนับเป็นประชากรของประเทศแล้ว 1 ตัว ปัญญาประดิษฐ์อีก 1 ตัว แบบนี้ในอนาคตเราจะต้องเจอกับอะไร โลกจะเปลี่ยนไปทางไหน เพื่อนๆ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงก็ลองเอามาแชร์กันดูได้นะ…   ที่มา  designtaxi,konbini,yahoo,newsweek

  • ประมวลภาพความเสียหาย ชายแดนอิรัก-อิหร่าน จากเหตุแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในปี 2017

    ประมวลภาพความเสียหาย ชายแดนอิรัก-อิหร่าน จากเหตุแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในปี 2017

    เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.3 แมกนิจูดใกล้กับชายแดนประเทศอิรัก-อิหร่าน สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเมือง Sarpol-e Zahab ในประเทศอิหร่าน และทางตอนเหนือของแหล่งที่อยู่อาศัยชาวเคิร์ดในประเทศอิรัก สำนักงานข่าว Reuters ได้รายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากการกระทบกันของชั้นเปลือกโลกจนเกิดเป็นการสั่นสะเทือนที่รุนแรง ทำให้ในตอนนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างต่ำ 406 คนและบาดเจ็บอีกกว่า 7,185 คน ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในปีนี้เลยทีเดียว เราได้ประมวลภาพผลกระทบที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้เพื่อนๆ ได้เห็นถึงความรุนแรงของมัน การเข้ามาช่วยเหลือจากหลายฝ่าย รวมถึงการสูญเสียที่อยู่อาศัยและคนที่ตนเองรักไปอย่างน่าเศร้า   สิ่งปลูกสร้างภายในเมือง Sarpol-e Zahab ต้องพังทลายลงไปด้วยแรงสั่นสะเทือน   คนที่เดินอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังภายในเมือง Darbandikhan ในเคอร์ดิสถาน ทางตอนเหนือของประเทศอิรัก   ทีมช่วยเหลือพยายามตามหาผู้รอดชีวิตภายในเมือง Sarpol-e-Zahab โดยใช้การดมกลิ่นของสุนัข   ภาพนี้ถูกถ่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 แสดงให้เห็นถึงความเสียใจของชายคนนี้ที่อยู่ในเมือง Sarpol-e-Zahab   ญาติของผู้จากไปภายในเมืองเดียวกัน ที่ยังคงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น   สิ่งก่อสร้างภายในเมืองแทบจะพังพินาศไปทั้งหมด และในตอนเกิดอาฟเตอร์ช็อคก็ทำให้ทุกคนหวาดกลัวและรีบวิ่งออกมาอยู่ในที่โล่งแจ้ง   นี่เป็นแผ่นดินไหวครั้งที่ 4 ในปีนี้ที่เกิดขึ้นในประเทศอิหร่าน แต่ในสามครั้งก่อนนั้นมีจำนวนการตายแค่ไม่เกินเลข 1 หลักเท่านั้น และภาพด้านล่างนี้ก็คือผลกระทบอันรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมือง Darbandikhan  …

  • เปิดประเด็นเดือด…เมื่อเจ้าหน้าที่เจอโน็ตแปะหน้ากระจกรถพยาบาลว่า “อย่ามาจอดขวาง”

    เปิดประเด็นเดือด…เมื่อเจ้าหน้าที่เจอโน็ตแปะหน้ากระจกรถพยาบาลว่า “อย่ามาจอดขวาง”

    กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันหนักมากๆ หลังจากที่มีการโพสต์ภาพรถพยาบาลที่ถูกชาวบ้านเอากระดาษมาแปะไว้ข้างหน้ารถว่า “รู้นะว่ามาช่วยคนเจ็บ แต่ช่วยอย่าจอดรถขวางทางตรูจะได้ไหม” ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2017 โดยเป็นภาพที่ทาง West Midlands Ambulance Service เป็นคนปล่อยออกมา โดยพวกเขาเล่าว่ามันเกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับแจ้งให้ไปช่วยเหลือชายที่บาดเจ็บสาหัส แน่นอนว่าในจังหวะนั้นการจอดรถให้ถูกจุดมันเป็นเรื่องรองสำหรับพวกเขา การช่วยชีวิตต้องมาก่อน     แต่ด้วยการจอดรถแบบเร่งรีบโดยไม่ได้แคร์อะไร เพื่อนบ้านของชายที่บาดเจ็บจึงมอบกระดาษโน็ตพร้อมคำพูดดังกล่าวไว้ให้กับทีมกู้ภัย ซึ่งเป็นใครอ่านแล้วก็ต้องรู้สึกแย่ เจ้าหน้าที่ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวผ่าน Mirror Online ว่า “พวกเรารีบเดินทางไปช่วยชายคนหนึ่งที่อาเจียนออกมาเป็นเลือดไม่หยุด สภาพของเขาย่ำแย่มากๆ ขนาดที่ว่าพอไปถึงโรงพยาบาลต้องเข้าห้องไอซียูทันที แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ของเราพยายามจะจอดรถเพื่อไม่ให้เดือดร้อนใครมากที่สุด แต่บางครั้งก็เกรงว่าจะไม่ทันเวลา”     อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่นั้นก็จะแสดงไปในทิศทางเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่มาเพื่อช่วยเหลือทำไมเจ้าของกระดาษโน็ตถึงเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ หรือไม่ก็แนวๆ ว่า ถ้าคราวหน้าเจ้าของกระดาษโน็ตนี้ป่วยแล้วโทรแจ้งก็บอกเขาไปว่า ไปช่วยไม่ได้นะถนนมันโดนปิดอยู่…   .    แล้วเพื่อนๆ มีความคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้บ้าง ลองเข้ามาแชร์ความคิดเห็นกันดูสิ   ที่มา ladbible

  • อดีตคุณพ่อทิ้งเมียและลูกทั้ง 7 เพื่อไปใช้ชีวิตเป็นเด็กหญิงวัย 6 ขวบตามที่ฝัน!!

    อดีตคุณพ่อทิ้งเมียและลูกทั้ง 7 เพื่อไปใช้ชีวิตเป็นเด็กหญิงวัย 6 ขวบตามที่ฝัน!!

    หลายคนอาจจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตการเป็นผู้ใหญ่ จนในบางครั้งก็คิดถึงวันวานและอยากจะกลับเข้าไปสู่วัยเด็กอีกครั้ง แต่นั่นอาจจะเป็นเพียงแค่ความคิดลมๆ แล้งๆ เพราะคงไม่มีใครสามารถกลับไปเป็นเด็กได้จริงๆ หรอกว่าไหม? แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ Stefonknee Wolschtt อดีตคุณพ่อวัย 46 ปีจากโตรอนโต ประเทศแคนาดา ที่ยอมทิ้งภรรยาและลูกทั้ง 7 คนของตัวเองไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะ “เด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบ”     ก่อนหน้านี้ Stefonknee ได้แต่งงานและอยู่กินกับอดีตภรรยามาเป็นเวลานานกว่า 23 ปี แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้ได้ว่าไม่ต้องการที่จะเป็นผู้ใหญ่อีกต่อไป และอยากจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเด็กๆ อีกครั้ง “ฉันปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันไม่ได้แต่งงาน ฉันปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันไม่ได้มีลูก แต่ตอนนี้ฉันแค่ต้องการก้าวไปข้างหน้า และกลับไปเป็นเด็กเท่านั้น ภรรยาของฉันไม่สามารถยอมรับได้เมื่อฉันได้ผ่าตัดแปลงเพศ เธอบอกให้ฉันหยุดทั้งเรื่องแปลงเพศ และเรื่องที่ฉันจะไป แต่ฉันไม่สามารถทำได้จริงๆ” Stefonknee กล่าว     อย่างไรก็ตามเมื่อ Stefonknee ไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว นั่นทำให้เขาต้องไปอาศัยอยู่กับครอบครัวบุญธรรม ซึ่งทาง Stefonknee ได้ออกมาเผยว่า “ฉันสบายดี ฉันเป็นเด็กผู้หญิงตัวน้อย” นอกจากนี้เขายังได้บอกอีกว่า หลานสาวคนเล็กของพ่อแม่คนใหม่ต้องการน้องสาวคนเล็ก และได้ตัดสินใจให้เขาเป็นน้องสาวของเธอ    …

  • นี่คือสิ่งที่เหล่าผู้ป่วยมักจะพูดและทำเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะสิ้นลมหายใจ…

    นี่คือสิ่งที่เหล่าผู้ป่วยมักจะพูดและทำเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะสิ้นลมหายใจ…

    วันที่ 11 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์ Independent ได้เปิดเผยเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าพยาบาลที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายในโรงพยาบาล Royal Stoke University Hospital ที่ Stoke-on-Trent ประเทศอังกฤษ โดยพวกเขาได้ใช้เวลาทั้งวันอยู่กับบรรดาผู้ป่วยเหล่านั้น พร้อมกันนี้พวกเธอยังได้ออกมาบอกเล่าคำขอและความคิดสุดท้ายของผู้ป่วยก่อนที่พวกเขากำลังจะตายอีกด้วย     “มีคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่แต่งงานกันแล้วทั้งสองกำลังจะตาย พวกเขาได้ขอให้เราเอาเตียงมาอยู่ใกล้กัน พวกเขาจับมือกัน ร้องเพลง Slow Boat to China ด้วยกัน และ 10 วันหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เสียชีวิตพร้อมกัน” นางพยาบาล Angela Beeson กล่าว นอกจากนี้ยังมีการเผยอีกว่า ผู้ป่วยที่ป่วยหนักสามารถคาดเดาได้บ่อยๆ ว่าพวกเขากำลังจะตาย และจะมองเห็นภาพสวรรค์ในขณะที่กำลังนอนอยู่     ก่อนที่พวกเขาจะจากโลกนี้ไป ผู้ป่วยหลายๆ คนมักพูดถึงสิ่งที่พวกเขาชอบ ในขณะที่บางคนก็กล้าที่จะพูดคุยอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องความตายของพวกเขาที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งในบางครั้งพวกเขาก็สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่     ด้านนางพยาบาล Nicki Morgan ได้ออกมากล่าวว่า “มีคนเคยพูดกับเราว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเขาจะมีอายุครบ 80 ปี และจะจัดงานปาร์ตี้วันเกิด…

  • 25 ภาพอุบัติเหตุทางรถยนต์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นแบบงงๆ เออ….แบบนี้ก็มีเนอะ!!

    25 ภาพอุบัติเหตุทางรถยนต์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นแบบงงๆ เออ….แบบนี้ก็มีเนอะ!!

    อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ดังนั้น ผู้ที่เดินทางโดยใช้ยานพาหนะส่วนตัวจะต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง และมีสติทุกครั้งเมื่ออยู่บนท้องถนน แต่ทว่าในบางครั้งอุบัติเหตุก็ไม่ได้อยู่ในลักษณะที่รุนแรงจนถึงขั้นทำให้เสียชีวิต เพราะบางทีก็มาในรูปแบบแปลกๆ ชนิดที่ทำให้เราคาดไม่ถึง และวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์เดลีเมล์ก็ได้รวบรวมภาพสถานการณ์แปลกๆ ของอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ผู้ใช้รถใช้ถนนได้นำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์ บอกเลยว่าแต่ละอย่างทำให้เราต้องมานั่งตั้งคำถามอีกว่ามันเกิดถึงได้อย่างไรเนี่ยยย   รถคันหนึ่งที่พุ่งออกจากกำแพงชั้นสองของอาคาร เป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ แต่มันก็เกิดไปแล้ว   อีกหนึ่งกรณีสุดแปลก ที่เราต้องสงสัยว่าเกิดขึ้นได้ไงที่มันทางลงบันไดนะแกร   แม้แต่ในเวลาสั้นๆ ก็สามารถเกิดอุบัติเหตุได้   ที่จริงแล้วมีคนขับอีกคนติดอยู่ด้านใน แต่ทำไมเพื่อนร่วมเดินทางถึงลงมาถ่ายรูปแบบนี้ล่ะ   อุบัติเหตุที่เกิดในร้านซ่อมรถยนต์ เมื่อรถยนต์คันใหญ่ร่วมลงมาจากแม่แรงยกรถ   ขับรถยังไงล่ะเนี่ย เห็นทีต้องไปสอบใบขับขี่ใหม่ซะแล้ว   ก็ซวยกันไป   แม้จะรถจะชนแต่ก็ยังมีเวลาถ่ายรูปนะ   เพิ่งจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แต่ก็ยังยิ้มได้ เมื่อสาวคนนี้เห็นถุงลมนิรภัยเลอะคราบเครื่องสำอาง   เมื่อสวรรค์ส่งมอบอาหารเช้ามาให้ในระหว่างการเดินทาง เย้ยย!! ว่าแต่มันเกิดขึ้นได้ไงเนี่ย   วิ่งอยู่บนถนนดีๆ ก็อยู่สภาพนี้ซะอย่างนั้น   สองหนุ่มที่ยังมีอารมณ์มานั่งถ่ายรูปเล่นหลังรถบรรทุกของพวกเขาพลิกคว่ำ   อุ้ย!! เจองานหนักซะแล้ว เราหวังว่าเขาคงจะมีประกันชั้นหนึ่งนะ   ขับพลาดนิดเดียวชีวิตเปลี่ยนทันที  …

  • ชาวเน็ตครหา ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ ตัดต่อก้นลายใส่นางแบบ ยัดเยียดความงามตามธรรมชาติ!?

    ชาวเน็ตครหา ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ ตัดต่อก้นลายใส่นางแบบ ยัดเยียดความงามตามธรรมชาติ!?

    จะดีแค่ไหนถ้ามีแบรนด์เสื้อผ้าที่เลือกโชว์ความงดงามของนางแบบ ด้วยการไม่นำการถ่ายแบบนั้นมาตกแต่งด้วยโปรแกรมโฟโต้ชอปจนเกินไป เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสวยงามที่แท้ของผุู้หญิงนั้น ควรจะเริ่มจากการที่ทุกคนยอมรับความงามที่เป็นธรรมชาติ แบรนด์เสื้อผ้า missguided จึงขอตอกย้ำแนวคิดนี้ ด้วยการโพสต์สื่อโฆษณาที่มีนางแบบสวมใส่ผ้าและโชว์ก้น ที่มีรอยแตกอยู่ ทำเอาชาวเน็ตต่างชื่นชมยินดีและหวังว่าการเริ่มต้นนี้ จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เปิดกว้างเรื่องแนวคิดความหลากหลายของร่างกาย     แต่เมื่อชื่นชมอยู่ได้ไม่นาน แบรนด์เสื้อผ้าจากอังกฤษ Missguided ก็เกิดอาการที่เรียกว่า “โป๊ะแตก!!” เพราะชาวเน็ตรู้สึกว่าภาพของนางแบบในชุดบิกินี่สีเมทัลลิค มันมีอะไรผิดปกติไปนะสิ   ชาวเน็ตคนหนึ่งได้แสดงความเห็นในภาพโฆษณานี้ว่า “จริงๆ แล้วพวกเขาน่าจะตกแต่งรอยแตกลงไปบนก้นของนาแบบ มากกว่าที่จะเป็นรอยธรรมชาตินะ” ส่วนอีกความคิดเห็นก็กล่าวว่า “รอยแตกที่ก้นของนางแบบนั้น ได้รับการตกแต่งจากโปรแกรมโฟโต้ชอปแน่นอน เพราะ มันดูไม่เป็นธรรมชาติเลย”     เมื่อลองดูดีๆ ก็จะพบว่ารอยแตกนั้นไม่มีความเหมือนกันเลยในแต่ละภาพ ทั้งๆ ที่ใช้นางแบบคนเดียวกัน!!??   เมื่อลองซูมดูใกล้ๆ ก็จะพบว่ามีความผิดปกติที่ขอบของสะโพก ซึ่งดูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า “แกต้องใช้โฟโต้ชอปแน่ๆ”   ไม่นานนักโฆษกของแบรนด์ Missguided ก็ออกมากล่าวในแถลงการณ์ว่า “ในส่วนของข้อกล่าวหาทั้งหมดนั้น เราไม่ได้มีการใช้โปรแกรมตัดต่อเพื่อการตกแต่งแต่อย่างใด เราต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับความหลากหลายของร่างกาย และนโยบายของเราคือการไม่ใช้โฟโต้ช็อปเพื่อลบในสิ่งที่เป็นข้อบกพร่อง” “โปรแกรมโฟโต้ชอปนั้นจะทำให้สิ่งที่อยากสื่อสารออกไปนั้นผิดไปจากเดิม ซึ่งสิ่งที่ต้องการสื่อสารก็คือความสมบูรณ์แบบที่ไม่สมบูรณ์แบบนั้นเอง”     แล้วคุณล่ะคิดว่ายังไงกันบ้าง? ที่มา designtaxi

  • สาวตกใจหนักเมื่อเห็นแมวแสนรักนอนแน่นิ่ง ก่อนจะรู้ความจริงว่าเป็นเพราะฤทธิ์กัญชา

    สาวตกใจหนักเมื่อเห็นแมวแสนรักนอนแน่นิ่ง ก่อนจะรู้ความจริงว่าเป็นเพราะฤทธิ์กัญชา

    คนส่วนใหญ่คงรู้จัก “กัญชา” และทราบถึงฤทธิ์เดชของมันดี เพราะถ้าหากว่ามีสัตว์ตัวไหนได้ลิ้มลองเข้าไป มันก็จะเกิดอาการเมาปลิ้น หรือบางตัวก็นอนแน่นิ่งเหมือนตายจนทำให้เจ้าของตกใจกันมานักต่อนักแล้ว อย่างไรก็ตาม หากคุณเลี้ยงแมว พร้อมกับปลูกกัญชาเอาไว้ในบริเวณบ้านนั้น รู้หรือไม่ว่ามันเสี่ยงเกินไป เพราะถ้าประมาทขึ้นมาเมื่อไหร่ กัญชาที่ปลูกเอาไว้อาจมีโอกาสถูกแมวแสนรักกินก็เป็นได้     เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า มีหญิงสาวจากรัฐแมสซาชูเซตส์คนหนึ่งได้ปลูกกัญชาเอาไว้ในห้องปลูกต้นไม้ของตนเอง แต่ทว่าวันหนึ่งหลอดไฟยูวีในห้องปลูกต้นไม้ของเธอดันพัง ด้วยเหตุนี้ สาวรายดังกล่าวจึงได้ย้ายกระถางกัญชามาไว้ยังระเบียงบ้าน เพื่อให้พืชที่ปลูกได้ดื่มด่ำไปกับแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่     และวันหนึ่งในขณะที่หญิงรายนี้ได้ออกไปข้างนอก และได้กลับมาถึงบ้าน นั่นทำให้เธอต้องตกใจอย่างหนัก เมื่อพบว่าเจ้าเหมียวแสนรักได้พากันมาลิ้มรสชาติของต้นกัญชาที่ปลูกเอาไว้เข้าซะแล้ว   เท่านั้นยังไม่พอพวกมันยังทำกระถางตกแตกจนทำให้พื้นบ้านเลอะเทอะเต็มไปหมด เฮ้อ…เห็นแล้วเหนื่อยใจแทนทาสจริงๆ   และนี่คือสภาพของแมวตัวแสบหลังจากที่ได้ลิ้มลองกัญชาเข้าไป   ตอนแรกเธอก็นึกว่ามันตายซะแล้ว แต่ที่จริงแค่น็อคไปเพราะฤทธิ์ยาเฉยๆ   นอนนิ่งสนิทเชียว   เห็นภาพอย่างเดียวคงไม่พอ ถ้าอย่างนั้นเชิญมารับชมคลิปกันเลย   อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีชาวเน็ตรายหนึ่งได้คนได้เข้ามาแสดงความเห็นว่า… “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสัตว์เลี้ยงของฉันกินกัญชา? ถ้าคุณสงสัยว่าสุนัขหรือแมวได้กินกัญชาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมกัญชาเข้าไป ให้โทรติดต่อเจ้าหน้าที่ดูแลด้านสัตว์แพทย์เพื่อขอความช่วยเหลือทันที เพราะพิษของกัญชาอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตสัตว์เลี้ยงได้ นั่นขึ้นอยู่กับปริมาณหรือความแรงของกัญชาด้วย  มันไม่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงเลย”   ที่มา : ladbible

  • เด็กชายวัย 5 ขวบมีคนส่งของเป็นไอดอล ทางบริษัทก็เลยจัดทั้งชุดทั้งรถให้แบบครบเซ็ท!!

    เด็กชายวัย 5 ขวบมีคนส่งของเป็นไอดอล ทางบริษัทก็เลยจัดทั้งชุดทั้งรถให้แบบครบเซ็ท!!

    UPS คือบริษัทขนส่งสินค้าและไปรษณีย์เอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา บวกกับสาขาอีกมากมายทั่วโลก ทำให้ต้องใช้พนักงานจัดส่งจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Kellie Martin ผู้ทำงานเป็นคนขับรถส่งพัสดุมานานกว่า 25 ปีอยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา จนได้กลายเป็นไอดอลของเด็กน้อยคนหนึ่ง เรื่องราวนี้ถูกแชร์ลงในเว็บไซต์ Inspiremore วันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 เมื่อเด็กคนหนึ่งที่มีชื่อว่า James Walker วัย 5 ขวบ บ้านของหนุ่มน้อยคนนี้ตั้งอยู่ระหว่างทางที่ Kellie ต้องขับไปส่งของเป็นประจำ จึงทำให้ในทุกๆ วันเด็กน้อยจะวิ่งออกไปทักทายเธออยู่เสมอ   Kellie และ James เด็กน้อยวัย 5 ขวบที่มองว่าเธอเป็นไอดอล   ทั้งสองได้เจอกันครั้งแรกเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วในตอนที่เธอมาส่งของให้กับบ้านหลังนี้ หลังจากนั้นพอเธอนำรถมาจอดตรงถนนหน้าบ้านของเขาปุ๊บ เด็กคนนี้ก็จะวิ่งออกไปหาในทันทีและช่วยเธอขนสินค้าต่างๆ ที่ถูกส่งมาบ้านของตัวเอง รวมถึงช่วยหาสินค้าอื่นๆ ที่เธอต้องนำไปส่งต่อให้บ้านหลังอื่นอีกด้วย Lauren Walker แม่ของเด็กได้บอกว่า “ฉันคิดว่า Kellie นำของมาส่งให้ที่ประตูแค่ครั้งเดียวเองมั้ง เพราะหลังจากนั้น James ก็ได้เข้าไปช่วยเธออยู่ตลอด” เรียกว่าเป็นความน่ารักของทั้งคู่ที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกๆ คนจริงๆ…

  • ชาวเน็ตช่วยตามหาเด็กที่ถูกลักพาตัวไปจากโรงพยาบาล หลังเห็นข้อความบนโลกออนไลน์

    ชาวเน็ตช่วยตามหาเด็กที่ถูกลักพาตัวไปจากโรงพยาบาล หลังเห็นข้อความบนโลกออนไลน์

    สื่อโซเชี่ยลในปัจจุบันเรียกว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากๆ แน่นอนว่าถ้าใช้ในทางที่ผิดมันก็จะเป็นเครื่องมืออันชั่วร้าย แต่ถ้าใช้ในทางที่ถูกมันก็จะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้อย่างน่าอัศจรรย์แม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม เช่นเดียวกับเรื่องราวในครั้งนี้ เมื่อ Mélissa McMahon และ Simon Boisclair สองสามีภรรยาที่เพิ่งจะให้กำเนิดลูกน้อย Victoria ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองควิเบก ประเทศแคนาดา แต่แล้วไม่กี่ชั่วโมงต่อมาลูกน้อยของพวกเขาก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!?     Daniel Cossette ผู้เป็นลุงของหนูน้อย Victoria เล่าว่า เขาเห็นพยาบาลคนหนึ่งเดินออกไปยังทางเดินพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งโดยเธอใส่เครื่องแบบของโรงพยาบาล เลยทำให้ตัวเขาไม่ได้สงสัยอะไรว่าเด็กคนนั้นอาจจะเป็นหนูน้อย Victoria แต่เมื่อทั้งหมดรู้ว่าลูกของ Mélissa และ Simon ได้หายไป ทางโรงพยาบาลจึงรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อช่วยตามหาหนูน้อย Victoria ทันที นอกจากนี้ ตัวคุณพ่อก็ได้โพสต์ภาพลูกสาวบนโซเชี่ยลเผื่อว่าจะมีใครบังเอิญเห็นคนร้ายและสามารถช่วยพวกเขาตามหาได้     เชื่อไหมว่าคนกลุ่มแรกที่ยื่นมือเข้ามาช่วยนั้นคือ Mélizanne Bergeron และเพื่อนๆ ซึ่งเป็นวัยรุ่นอายุราวๆ 20 ปีเท่านั้น เธอเล่าว่าบังเอิญเห็นข้อความผ่านหน้าเฟซบุ๊กของพวกเขา จึงตัดสินใจทันทีว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง ทุกคนจึงช่วยกันออกตามหาคนร้ายอย่างเร่งด่วน     เวลาผ่านไปไม่นานพวกเขาก็พบว่ามีรถโตโยต้ายาริสสีแดง พร้อมกับป้าย ‘มีเด็กบนรถ’ วิ่งผ่านไปด้วยท่าทีน่าสงสัย ทุกคนจึงพากันค้นกล้องวงจรปิดเพื่อหาเจ้าของรถ และพวกเขาก็พบกับโฉมหน้าของคนร้าย     ที่เยี่ยมกว่านั้นคือพวกเขาจำได้ว่า หญิงคนในภาพดังกล่าวนั้นเป็นเพื่อนบ้านของพวกเขาซึ่งอาศัยอยู่ในอพาตเมนต์ใกล้ๆ ทั้งหมดจึงรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และเจ้าหน้าที่สามารถจับคนร้ายได้ในที่สุดพร้อมส่งคืนหนูน้อย Victoria ให้กับพ่อแม่ของเธอ…

  • หนุ่มแผนร้าย…หลอกให้แฟนมาเล่นเกมที่เขาสร้างขึ้น แล้วก็ขอเธอแต่งงานซะ!!

    หนุ่มแผนร้าย…หลอกให้แฟนมาเล่นเกมที่เขาสร้างขึ้น แล้วก็ขอเธอแต่งงานซะ!!

    การคุกเข่าขอแต่งงานแบบเดิมๆ มันคงจะดูจืดและธรรมดาเกินไปสำหรับหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน เพราะสมัยนี้เขาลงทุนสร้างเกมขึ้นมาหลอกให้แฟนสาวเล่น เพื่อขอเธอแต่งงานกันแล้วนะเออ!! งานนี้มีความเซอร์ไพรส์มากกว่าการสวมแหวนอี๊กกกกก และนี่คือเรื่องราวสุดแสนโรแมนติกผสมความน่ารักของสมาชิกผู้ใช้เว็บไซต์ Reddit ชื่อ LA Pike ชายหนุ่มผู้ที่ลงทุนสร้างวีดีโอเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมชื่อดังอย่าง Super Mario Brothers ขึ้นมา เพื่อขอ Lauren ผู้เป็นแฟนสาวแต่งงาน     ทางด้าน LA Pike ได้ออกมาเผยว่า “ผมสร้างวีดีโอเกมนี้ขึ้นมาสำหรับ Lauren เพื่อให้เธอได้จำจดช่วงเวลาดีๆ นี้เอาไว้ในตอนที่เรากำลังเดทกันอยู่…เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมถูกกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน โดยทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์ในอดีตของเราที่เคยเกิดขึ้นจริง”   .   ในตอนแรกเขาได้หลอกให้แฟนสาวมาช่วยเป็นผู้ทดสอบเกมที่ได้สร้างขึ้น ซึ่งในระหว่างที่กำลังเล่นเกมอยู่นั้นดูเหมือนว่าเธอยังไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอผ่านไปถึงด่านสุดท้ายก็ทำให้ Lauren เริ่มแปลกใจว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นแน่ๆ     เพราะในตอนนั้นก็มีเพลงที่คุณปู่ของ LA Pike เคยเปิดตอนขอคุณย่าแต่งงานนั้นได้บรรเลงขึ้น พร้อมกับมีข้อความขึ้นมาบนหน้าจอว่า “มันอันตรายเกินไปที่จะเดินทางคนเดียว รับนี่ไปสิ” จากนั้นเขาก็ได้มอบแหวนที่ซ่อนอยู่หลังคอมพิวเตอร์ให้กับ Lauren ทันที     ดูเหมือนว่าแผนการสุดแสบในครั้งนี้จะได้ผลซะด้วยสิ เพราะสุดท้ายมันก็ทำให้ Lauren ตอบตกลง…

  • ตำนานของ Jim Thorpe ผู้พิชิต 2 เหรียญทองโอลิมปิกปี 1912 ด้วยรองเท้าที่คุ้ยมาจากถังขยะ

    ตำนานของ Jim Thorpe ผู้พิชิต 2 เหรียญทองโอลิมปิกปี 1912 ด้วยรองเท้าที่คุ้ยมาจากถังขยะ

    หลายคนมีความคิดว่าการที่เรามีอุปกรณ์กีฬาที่ดีก็จะทำให้เราสามารถเล่นกีฬานั้นๆ ได้ดีขึ้น แต่ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เพียงอย่างเดียวเสมอไป เพราะอย่างชายคนนี้ที่ใช้เพียงแค่รองเท้ากีฬาที่เก็บได้จากถังขยะก็ยังทำให้เขาได้ถึง 2 เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเลย!! ชายคนนั้นมีชื่อว่า Jim Thorpe หนุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันที่เกิดในปี 1887 และได้สร้างผลงานเอาไว้ในการแข่งขันกรีฑาในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกประจำปี 1912 ที่กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดยเขาสามารถคว้าเหรียญทองกลับมาได้ถึง 2 เหรียญด้วยรองเท้าที่เก็บได้จากถังขยะ   Jim Thorpe ผู้คว้า 2 เหรียญทองด้วยรองเท้าที่เก็บมาจากถังขยะ   Jim มีพี่ชายฝาแฝดอยู่หนึ่งคน แต่ก็ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนอายุเพียง 9 ขวบ ต่อมาอีกไม่กี่ปีแม่และพ่อของเขาก็ได้จากโลกนี้ตามพี่เขาไป ทำให้เขาต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่นั้นมา แต่เขาก็ไม่ได้ย่อท้อกับชีวิต จนเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ได้เข้าร่วมการทดสอบคัดตัวนักกรีฑาตัวแทนสหรัฐอเมริกาที่ต้องไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกปี 1912 ด้วยศักยภาพความสามารถทางด้านกีฬาของเขาทำให้สามารถติดเป็นหนึ่งในทีม Pentathlon (หรือ ปัญจกรีฑา) ได้ไม่ยาก อีกทั้งยังถูกเลือกให้ลงการแข่งขันประเภท Decathlon (หรือ ทศกรีฑา) เพิ่มเข้าไปอีก แต่ถึงแม้เขาจะต้องลงแข่งหลายรายการขนาดไหนก็ไม่น่ากังวลเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนวันแข่ง เพราะรองเท้าของเขาถูกขโมยไปในวันนั้น แน่นอนว่ารองเท้าคือสิ่งสำคัญสำหรับนักกรีฑาอย่างมาก แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดเขาได้ตัดสินใจใช้รองเท้าที่เก็บมาได้จากถังขยะ โดยรองเท้าทั้งสองข้างนั้นไม่ได้มาจากที่เดียวกัน ขนาดของรองเท้าจึงต่างกันทำให้เท้าข้างหนึ่งของเขาต้องใส่ถุงเท้าหลายๆ ชั้นเพื่อเพิ่มความหนาไม่ให้รองเท้าหลุดออกมาระหว่างแข่ง     ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องรองเท้าก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับชายคนนี้ เพราะในการแข่งประเภท…

  • ชีวิตอันยากลำบากของ ‘เด็กอ้วนที่สุดในโลก’ อายุเพียง 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ!!

    ชีวิตอันยากลำบากของ ‘เด็กอ้วนที่สุดในโลก’ อายุเพียง 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ!!

    คำว่า “ที่สุดของโลก” หลายคนเข้าใจว่ามันคงมีแต่เรื่องเจ๋งๆ เช่นวิ่งเร็วที่สุดในโลกหรือกระโดดได้สูงที่สุดในโลก แต่ในความเป็นจริงการเป็นที่สุดของบางเรื่องอาจตามมาด้วยผลกระทบที่เลวร้าย เหมือนกับเด็กน้อยคนนี้ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพราะเขาเป็นเด็กที่อ้วนที่สุดในโลก เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่า Luis Manuel อาศัยอยู่แถบชายฝั่งแปซิฟิก รัฐโกลีมา ประเทศเม็กซิโก เด็กชายคนนี้มีอายุเพียงแค่ 10 เดือนแต่กลับมีน้ำหนักมากถึง 28 กิโลกรัม!! เทียบเท่ากับเด็ก 9 ขวบเลยทีเดียว   เด็กน้อยที่อ้วนที่สุดในโลกวัย 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ   ในตอนแรก Isabel Pantoja แม่ของเด็กคิดว่าที่ลูกเธอมีน้ำหนักมากกว่าปกติขนาดนี้เป็นเพราะว่าน้ำนมจากอกของเธอมีคุณภาพดีเท่านั้นเอง เด็กคนนี้เกิดมามีน้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม พอๆ กับเด็กทั่วๆ ไป พอผ่านไป 2 เดือนเขาก็มีน้ำหนัก 10 กิโลกรัมจนกระทั่งมีกลายเป็นเด็กที่อ้วนที่สุดในโลกในปัจจุบัน ซึ่งเขามีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า Mario พี่ชายอายุเกือบ 3 ขวบของเขาซะอีก   ร่างกายของเด็กมีขนาดใหญ่กว่าเด็กที่โตกว่าซะอีก   ด้วยความผิดปกติที่เห็นได้ชัดขนาดนี้ครอบครัวจึงได้พาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาลท้องถิ่น แต่หมอกลับไม่สามารถให้คำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แพทย์สันนิษฐานว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจากโรคที่มีชื่อว่า Prader-Willi Syndrome…

  • ชายชาวโอซาก้าหลับนอนกับ ‘ศพคนรัก’ นาน 5 วัน เพราะสะเทือนใจจนไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

    ชายชาวโอซาก้าหลับนอนกับ ‘ศพคนรัก’ นาน 5 วัน เพราะสะเทือนใจจนไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

    ในบางสถานการณ์เราอาจไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะว่าสิ่งที่เราเจอมันทำให้เรารู้สึกไม่อยากยอมรับความจริงจนในสมองมันตันไปหมด เหมือนกับชายคนนี้ที่พอเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาเขาก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก จนทำให้ต้องนอนอยู่กับศพไปนานถึง 5 วัน เรื่องราวนี้ถูกพบในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองฮิระกะตะ จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าตรวจค้นบ้านของชายวัย 48 ปีคนหนึ่งในสภาพที่ดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ และพบเข้ากับศพหญิงสาววัย 44 ปีที่เป็นคนรักของเขานอนอยู่บนเตียงภายในบ้าน   สถานีตำรวจเมืองฮิระกะตะ   ตำรวจได้ทำการตรวจค้นหลังจากที่ผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้นบังเอิญไปเห็นศพของหญิงสาวสวมชุดนอนอยู่ข้างๆ กับชายเจ้าของห้องบนเตียง จึงได้ทำการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ จากการสอบถามข้อมูลทำให้ทราบว่าชายคนนี้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยให้กับบริเวณที่อยู่อาศัยดังกล่าว โดยในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาคนรักของเขาก็จะเข้ามานอนที่ห้องบ้างเป็นบางครั้ง ชายคนนี้ได้บอกว่าคนรักของเขามีสุภาพที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว และเธอก็ไม่ยอมเข้ารับการตรวจหรือรักษาจากแพทย์ ทำให้อาการแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งในคืนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2017 เธอก็ได้เสียชีวิตไปขณะที่ยังหลับอยู่     เขาเล่าว่า “ในคืนนั้นร่างกายของเธอเย็นยะเยือก จนทำให้ผมไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไปดี” เขาตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ทั้งจิตใจและความรู้สึกของเขาแทบจะเป็นอัมพาตไปเลยในตอนนั้น จึงได้ตัดสินใจเก็บร่างไร้วิญญาณของคนรักเอาไว้เป็นเวลานานถึง 5 วันจนกระทั่งมีคนไปพบเข้า     ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงหาสาเหตุการตายของหญิงสาวต่อไปและไม่ได้มองว่าชายคนนี้เป็นคนฆ่าเธอ แต่ก็ได้ทำการจับกุมเขาในความผิดที่ไม่ยอมแจ้งความเกี่ยวกับการเสียชีวิตของหญิงสาวและไม่ยอมพาเธอไปรักษาแม้รู้ว่าเธอกำลังอยู่ในขั้นอันตราย   ที่มา: rocketnews24

  • คุณแม่กะจะส่งรูปไปให้พ่อ แต่ดั๊นส่งผิดไปให้ลูก เอ๊ะ.. แล้วแม่ส่งรูปอะไรมาล่ะนั่น!?

    คุณแม่กะจะส่งรูปไปให้พ่อ แต่ดั๊นส่งผิดไปให้ลูก เอ๊ะ.. แล้วแม่ส่งรูปอะไรมาล่ะนั่น!?

    ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่เด็กวัยรุ่นเท่านั้นที่มีสมาร์ทโฟนเพราะผู้หลักผู้ใหญ่หรือคุณพ่อคุณแม่เราเองก็มีเช่นเดียวกัน ทำให้ทั้งครอบครัวสามารถพูดคุยหรือส่งรูปภาพหากันได้ง่ายยิ่งขึ้น และบางครั้งก็อาจมีการส่งหาคนผิดบ้างเหมือนกับคุณแม่คนนี้ที่ส่งรูปหาผิดคนแค่ครั้งเดียว แต่กลับกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลซะอย่างนั้น เรื่องราวนี้ได้ถูกแชร์ลงในทวิตเตอร์ของ Liam McDonald หนุ่มวัย 24 ปีที่อยู่ในเมืองดันดี ประเทศสก็อตแลนด์ เมื่อมือถือของเขาแจ้งเตือนว่าคุณแม่ได้ส่งรูปมาให้ผ่านแอพฯ WhatsApp แต่เขากลับไม่กล้าเปิดขึ้นมาเพราะคุณแม่ดันส่งข้อความทิ้งท้ายว่า “ขอโทษที คิดว่าพ่อ (ฮา)”   คุณแม่ส่งมาให้ตั้ง 3 ภาพ แถมติดรูปหัวใจมาให้ด้วย แต่ดันผิดแชท   ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตรงข้อความที่ 3 เธอดันใส่อิโมจิรูปหัวใจมาให้อีก รูปแบบของข้อความแบบนี้ทำเอาลูกชายไม่กล้าเปิดเลย เพราะไม่แน่ว่ามันอาจเป็นรูปแบบส่วนตัวๆ ของพวกเขาก็ได้ จากนั้นเขาจึงได้นำภาพการแจ้งเตือนนี้ไปแชร์ลงในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2017 พร้อมกับคำพูดที่ว่า “เช็ดเขร้ ผมไม่กล้าเปิดมันขึ้นมาเลย”   โพสต์ของชายหนุ่มที่ยังคงคาใจกับรูปที่แม่ของเขาส่งมา   เรื่องราวนี้ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันสงสัยไปพร้อมๆ กับเขาจนมีการรีทวีตไปมากกว่า 25,000 ครั้ง กดไลก์อีกกว่า 85,000 ครั้ง และได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเต็มไปหมด ซึ่งเกือบทั้งหมดต้องการให้เขาเปิดดูรูปนั้นซะสงสัยเรื่องนี้คงไปกระตุ้นต่อมความอยากรู้ของใครหลายๆ คนเข้าแล้วสินะ   “โถ่วจารย์ จะมาปล่อยให้พวกเราคาใจแบบนี้ไม่ได้นะ”   อย่างคนนี้ก็ถึงกับตั้งค่าการแจ้งเตือน เพื่อให้ได้รู้ทันทีเวลาที่ Liam เข้ามาอัพเดทเรื่องราวนี้…

  • คนขับรถบัสกลายเป็นฮีโร่ หลังจอดขวางทางหลบหนีของคนร้ายที่กำลังถูกตำรวจตามล่า

    คนขับรถบัสกลายเป็นฮีโร่ หลังจอดขวางทางหลบหนีของคนร้ายที่กำลังถูกตำรวจตามล่า

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากที่คนขับรถบัสได้ตัดสินใจเลี้ยวรถกระทันหันเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในการสกัดจับคนร้ายที่กำลังพยายามหลบหนี ในเมือง Sidcup ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รถบัส 2 ชั้นสาย 132 ไปยัง North Greenwich ได้เลี้ยวกระทันหัน และจอดขวางทางการจราจร และทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ   ภาพของรถบัสคันดังกล่าวที่ช่วยเจ้าหน้าที่ในการสกัดจับคนร้าย   คุณ Tracey Emmerton หนึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเล่าว่า “รถบรรทุกคันดังกล่าววิ่งอยู่บนถนนทั้งสองเลน ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถูกตำรวจไล่จับ รถบัสที่ขับนำหน้าได้จอดกระทันหันและจากนั้นมันก็จอดขวางทางเอาไว้ ตอนที่ผมขับรถผ่านดูเหมือนว่าจะมีคนได้รับบาดเจ็บด้วยนะ “ ส่วนทางด้านโฆษกของทางสถานีตำรวจก็ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามรถของผู้ต้องสงสัย หลังจากที่เขาได้พยายามหนีจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่เมื่อเวลาประมาณ 12:30 ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา     “ระหว่างการติดตามรถต้องสงสัยคันดังกล่าว ผู้ต้องหาได้ขับชนรถที่จอดอยู่หลายคน และหลังจากการสกัดจับ เราได้ควบคุมตัวชายผู้ต้องหาคนหนึ่งได้ใกล้ๆ กับถนน Blackfen Road” โฆษกจากสถานีตำรวจกล่าว และแน่นอนว่าวีรกรรมของคนขับรถบัสท่านนี้ก็กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ ซึ่งก็มีทั้งความคิดเห็นที่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา และบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยเช่นกัน และนี่ก็คือความคิดเห็นบางส่วนของชาวเน็ตต่อเหตุการณ์นี้   “ฉันไม่มีวันนั่งรถบัสคันนี้แน่ๆ “   หรือบางคนก็บอกว่าการกระทำแบบนี้อาจจะดูกล้าหาญนะถ้าหากว่ารถบัสคันนั้นไม่มีคน แต่ถ้ามีผู้โดยสารอยู่เต็มรถล่ะก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ   ส่วนหญิงสาวท่านนี้ก็ได้แสดงความเห็นว่า “บริษัทอาจจะไล่เขาออกก็ได้นะสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น”…

  • คุณแม่เสนอวิธีเอา ‘เสี้ยน’ ที่ตำมือออกแบบง่ายๆ จนนึกไม่ถึง ชาวเน็ตถูกใจแชร์ไปเป็นแสน

    คุณแม่เสนอวิธีเอา ‘เสี้ยน’ ที่ตำมือออกแบบง่ายๆ จนนึกไม่ถึง ชาวเน็ตถูกใจแชร์ไปเป็นแสน

    ปัญหาเสี้ยนตำมือ โดยเฉพาะกับเด็กๆ ถือเป็นปัญหาระดับชาติ เพราะถึงมันจะเป็นแค่เศษไม้เล็กๆ แต่พลังทำลายล้างสูงมาก ทั้งเจ็บ ทั้งแสบ แถมยังเอาออกยากอีกต่างหาก แต่ปัญหาเสี้ยนตำมือจะไม่ใช้เรื่องใหญ่อีกต่อไป เพราะ Claire Bullen-Jones คุณแม่จากสหราชอาณาจักรได้แนะวิธีการเอาเสี้ยนออกแบบง่ายๆ และไม่เจ็บอย่างที่คิด     Bullen-Jones ได้แชร์บนเฟซบุ๊กของเธอว่า “เมื่อลูกของคุณหรือแม้แต่ตัวคุณเองโดนเสี้ยนตำมือ ให้นำหลอดดูดยา (Syringe) ขนาดที่พอเหมาะกับเสี้ยนนั้นมาช่วยในการเอาออก” “เอาหลอดดูดยาครอบลงไปตรงบริเวณที่ถูกเสี้ยนตำ โดยกดลงไปให้แน่น และอย่าลืมเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างให้ลมภายนอกเข้าไปในกระบอกเข็มฉีดยาได้”     “ขั้นตอนต่อไปคือการดึง ให้ดึงออกอย่างเร็วที่สุด แล้วจะพบว่าเสี้ยนนั้นหลุดออกมาพร้อมหลอดดูดยา แต่หากไม่ออกในรอบแรกให้ทำต่อไปอีก 2-3 ครั้ง รับรองว่ามันออกมาแน่นอน” “วิธีนี้นอกจากช่วยประหยัดเวลาแล้ว จะทำให้ลูกน้อยไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดนานอีกด้วย หากคิดว่านี่เป็นประโยชน์ อย่าลืมส่งต่อให้พ่อแม่คนอื่นๆ ด้วยนะคะ”     รู้แบบนี้แล้ว พ่อแม่คงไม่ทรมานลูกด้วยการใช้เข็มทิ่มแทงเพื่อให้เสี้ยนออกอีกแล้วนะ ที่สำคัญนี่เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้     เสี้ยนหรอ ไม่กลัวหรอก หึหึ   ที่มา didyouknowfacts

  • สถานสงเคราะห์สัตว์แบ่งหมาให้อยู่เป็นบ้านต่างๆ ตามบุคลิกภาพ เหมือนใน “ฮอกวอตส์” เลย

    สถานสงเคราะห์สัตว์แบ่งหมาให้อยู่เป็นบ้านต่างๆ ตามบุคลิกภาพ เหมือนใน “ฮอกวอตส์” เลย

    ทุกคนที่เคยดู Harry Potter ต่างก็หลงรักโลกแห่งเวทมนตร์ บางคนถึงกับอยากเข้าไปอยู่ในฮอกวอตส์จริงๆ แต่ต้องผ่านการคัดกรองก่อนว่าคุณจะเหมาะกับบ้านหลังไหน ไอเดียการแยกคนให้เหมาะสมกับบ้านในเรื่อง Harry Potter ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้สถานสงเคราะห์สัตว์ Pet Alliance of Greater Orlando ไปใช้กับสุนัขของพวกเขาด้วย     สถานสงเคราะห์สัตว์ Pet Alliance of Greater Orlando ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขามีวิธีจัดการกับสัตว์เลี้ยงการคัดแยกกลุ่มสุนัขจากบุคลิกภาพของพวกมัน สาเหตุที่ต้องแบ่งแยกสัตว์เลี้ยง เพราะเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าคนที่ต้องการรับเลี้ยงสุนัขนั้นมักจะมุ่งเน้นไปที่สายพันธุ์มากกว่าบุคลิกภาพจริงๆ ของพวกมัน     ในการคัดแยกนั้น พวกเขาจะใช้ของเล่นที่ออกแบบโดย Diane Andersen ซึ่งเป็นนักศึกษาพฤติกรรมสัตว์และแฟนตัวยงของหนังสือ Harry Potter จากนั้นก็ให้สัตว์เลี้ยงสวมหมวกเพื่อคัดสรรเลือกบ้านเหมือนนักเรียนในโรงเรียนฮอกวอตส์ แต่ของสถานสงเคราะห์ได้ตั้งชื่อล้อเลียนว่า Pawgwarts     สำหรับบุคลิกภาพของสุนัขนั้นจะแยกออกเป็น 4 แบบ โดยถอดความหมายจากหนังสือต้นฉบับ ได้แก่ บ้าน Gryffindors ความกล้าหาญและเป็นวีรบุรุษ บ้าน Slytherins มีความมุ่งมั่นและเจ้าปัญญา บ้าน Hufflepuffs ความใจดีและซื่อสัตย์ และบ้าน…

  • จากหญิงสาวผู้อพยพ สู่การเป็นผู้แทนหญิงเอเชีย-อเมริกันคนแรกของสภารัฐเวอร์จิเนีย

    จากหญิงสาวผู้อพยพ สู่การเป็นผู้แทนหญิงเอเชีย-อเมริกันคนแรกของสภารัฐเวอร์จิเนีย

    หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องของหญิงสาวไร้บ้านชาวเอเชียที่ผลักดันตัวเองจนกลายมาเป็นสมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์ที่อายุน้อยที่สุด (อ่านข่าวเก่า หญิงสาวชาวเอเชียผันตัวเองจาก “คนไร้บ้าน” สู่ “สมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์” ที่อายุน้อยที่สุด) ล่าสุดเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ก็ได้เกิดขึ้นในรัฐเวอร์จิเนีย หลังจากที่ Kathy Tran ผู้สมัครหญิงชาวเวียดนามจากพรรคเดโมแครตสามารถคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งของเธอได้เมื่อวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา Kathy กลายเป็นหนึ่งในผู้แทนหญิงชาวเอเชีย ที่ได้รับเลือกตั้งให้เขาไปในสภาของรัฐเวอร์จิเนียคนล่าสุด หลังจากได้รับคะแนนโหวตมากถึง 61 เปอร์เซ็นต์     Kathy นั้นเป็นหนึ่งในผู้อพยพชาวเวียดนามที่เข้ามาในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เด็กๆ ประสบการณ์ความรู้สึกของผู้ลี้ภัยและความรุนแรงต่างๆ ที่เธอได้เจอนั้นเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เธอเลือกที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งครั้งนี้ “ฉันเข้ามาในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงยุค 80 ตอนนั้นฉันอายุได้แค่ 2 ขวบเท่านั้น ครอบครัวของเราได้รับการช่วยเหลือจากคณะกรรมการช่วยเหลือนานาชาติ (International Rescue Committee)” ผู้แทนสาวเชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน ของสภารัฐเวอร์จิเนียกล่าว     ก่อนหน้านี้ Kathy เคยผ่านประสบการณ์การทำงานในกระทรวงแรงงานของสหรัฐนานถึง 12 ปี และเธอเองก็มีส่วนในการช่วยกำหนดนโยบายต่างๆ เกี่ยวกับผู้ลี้ภัย ซึ่งนโยบายในการหาเสียงของเธอครั้งนี้คือการมอบโอกาสและช่วยเหลือผู้ลี้ภัยให้มีชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง ส่วนทางด้านนาง Charniele Herring หนึ่งในสมาชิกของพรรคเดโมแครตเองก็ได้ออกมาชื่นชม Kathy ว่าประสบการการณ์ทำงานในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยของเธอนั้นจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเธอเหมาะกับตำแหน่งนี้จริงๆ     “การเป็นลูกสาวของผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม และประวัติการทำงานของเธอนั้นจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ความฝันของพวกเราเป็นจริง” Herring…

  • นักวิจัยเผย… คุณจะลดน้ำได้มากแค่ไหน ถ้าเอา “อึหรือตด” ออกจากร่างกาย!?

    นักวิจัยเผย… คุณจะลดน้ำได้มากแค่ไหน ถ้าเอา “อึหรือตด” ออกจากร่างกาย!?

    เราเคยคิดกันเล่นๆ มั้ยว่าถ้ากำจัดอึทั้งหมดออกจากร่างกาย เราจะเหลือน้ำหนักเท่าไหร่? หรือแม้แต่การผายลมเนี่ยจะช่วยลดน้ำหนักด้วยมั้ย? วันนี้ความสงสัยเหล่านั้นได้รับคำตอบทางวิทยาศาสตร์แล้ว… นักวิจัยเผยว่า อึมีน้ำหนักตั้งแต่ 70-450 กรัมโดยเฉลี่ย แต่คนตะวันตกส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักอึที่เบากว่านั้น เพราะเขาชอบกินอาหารไม่มีเส้นใยอาหาร     ในการทดสอบน้ำหนักของตด นักวิจัยได้ใช้ท่อสอดเข้าไปในทวารหนักประมาณ 24 ชั่วโมง พบว่าตดเพิ่มขึ้นถึง 450 กรัม ถึง 1.4 กิโลกรัมต่อวัน นักโภชนาการ Adina Pearson กล่าวว่าการบริโภคอาหารที่มีเส้นใยและน้ำมากขึ้น จะทำให้คุณเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะช่วยในการลดน้ำหนัก     นอกจากนี้ประเภทของอาหารที่คุณทานเข้าไปก็มีผลต่อน้ำหนักอึ โดยผัก 450 กรัม ที่คุณทานเข้าไปจะย่อยสลายกลายเป็นอึในที่สุด แต่อาหารบางชนิดจะกลายเป็นไขมันสะสมในร่างกายของคุณ นักวิจัยยังบอกอีกว่าในการขับถ่ายแต่ละครั้ง ร่างกายสามารขับอึออกมาได้ 400-900 กรัม แต่อย่าคิดที่จะลดน้ำหนักด้วยการกินยาระบายเพื่อที่จะได้อึมากขึ้นเชียวหล่ะ เพราะยิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งจะรู้สึกว่าอ้วนขึ้น     ใครที่คิดจะลดน้ำหนักด้วยการอึ นั่นไม่ใช่สิ่งที่นักวิจัยแนะนำ เพราะวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการลดน้ำหนักคือการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกายนั่นเอง ที่มา didyouknowfacts

  • คุณพ่ออุ้มลูกน้อยที่เกิดมาไม่สมบูรณ์ เต้นรำด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป

    คุณพ่ออุ้มลูกน้อยที่เกิดมาไม่สมบูรณ์ เต้นรำด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป

    ของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับคนเป็นพ่อแม่ก็คือลูก และแน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนก็คงอยากใช้ชีวิตร่วมกับลูกให้นานที่สุดในชีวิต แต่น่าเศร้าที่หนูน้อย Millie เกิดมาในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ต้องลาโลกก่อนวัยอันควร Kevin McGuire ผู้เป็นพ่อจึงอุ้มเธอเต้นรำเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อบันทึกช่วงเวลาแห่งความทรงจำกับเธอ     Millie เกิดมาพร้อมความเสียหายทางสมองและต้องทนทุกข์ทรมานกับสภาวะที่กระดูกโตผิดรูป… เธอกำลังจะอายุครบ 2 ขวบในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม McGuire และภรรยาก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำให้เธอมีความสุขมากที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ และสร้างความทรงจำร่วมกันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ McGuire ได้จัดกิจกรรมส่วนตัวขึ้น โดยจ้างวงดนตรี Stone Foundation มาบรรเลงเพลง เพื่อที่จะได้เต้นรำกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะจากไปตลอดกาล     ในขณะที่พ่ออุ้มลูกน้อยเต้นรำนั้น สมาชิกวง Stone Foundation แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พวกเขาเห็นถึงความรักของพ่อ เห็นช่วงเวลาที่งดงามของพ่อลูก และการจากลาที่จะมาถึงในไม่ช้านี้ McGuire บอกว่า “เราทำใจยอมรับได้ที่ Millie จะจากไป แต่เราจะไม่ยอมปล่อยให้เวลาที่เหลืออยู่สูญเปล่า ดังนั้นเราจึงได้สร้างความทรงที่แสนพิเศษกับเธอ” “สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมได้เรียนรู้คือ ผมจะไม่มีโอกาสได้เต้นรำกับเธอในวันเกิดหรือในวันแต่งงานของเธอ และเมื่อผมเห็นวิดีโอที่พ่อเต้นรำกับลูกสาวในงานต่างๆ ทำให้ผมตระหนักได้ว่ามันเป็นกิจกรรมที่ผมกับลูกสาวไม่ควรพลาด”     ส่วนเพลงที่ McGuire เลือกเต้นรำกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายนั้น เป็นเพลงที่เขาร้องให้เธอฟังเป็นประจำ และเขาก็เชื่อว่ามันเป็นเพลงที่ลูกน้อยจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟัง “Millie ตื่นขึ้นมาตอนที่ผมเปิดเพลงนี้ เธอมองมาที่ผมแล้วทำเสียงเล็กๆ น่ารักๆ นั่นเป็นเสียงที่ผมจะจดจำไปตลอดชีวิต” คุณพ่อกล่าว สำหรับหนูน้อย Millie…

  • หญิงสาวตามหาพ่อแม่บุญธรรมที่ดูแลเธอในวัยเด็ก เพื่อขอบคุณพวกเขาแม้จะผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี

    หญิงสาวตามหาพ่อแม่บุญธรรมที่ดูแลเธอในวัยเด็ก เพื่อขอบคุณพวกเขาแม้จะผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี

    ใครก็ตามที่มีพระคุณต่อเรา ทำให้เราเติบโตจนมีทุกวันนี้ได้ แม้จะไม่ใช่พ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่แท้จริง แต่เขาคนนั้นก็สมควรได้รับการตอบแทน เหมือนกับหญิงสาวกำพร้าชาวไต้หวันคนนี้ ที่ตามหาพ่อแม่บุญธรรมที่เคยดูแลเธอตอนเป็นเด็ก เพื่อขอบคุณพวกเขาที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้ Lin Ching-Mei วัย 29 ปี ได้ออกตามหาพ่อแม่บุญธรรมของเธอเป็นเวลาหลายปี เธอเดินทางไปยังเทศมณฑลผิงตงในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่อยู่เดิมในวัยเด็กที่เคยอยู่กับพ่อแม่บุญธรรม ถึงสามครั้งเพื่อดูว่าพวกเขายังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า แต่ก็ไม่เคยพบพวกเขาที่นั่นเลยสักครั้ง ทำให้หญิงสาวต้องกลับไปพร้อมน้ำตา…     อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้ยินคนพูดถึงสถานสงเคราะห์ ทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน หญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนวิธีการตามหาพ่อแม่บุญธรรมของเธอ Lin ได้เดินทางกลับไปยังผิงตงอีกครั้ง คราวนี้เธอได้ติดต่อกับ Taiwan Fund for Children and Families ซึ่งเป็นหน่วยงานช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในไต้หวัน เพื่อให้ช่วยตามหาพ่อแม่อุปถัมภ์ของเธอ ที่นั่นเธอได้พบกับนักสังคมสงเคราะห์ Huang Shu-Ling ที่ทำหน้าที่เก็บบันทึกข้อมูลของผู้อุปการะเด็กทุกคน เขาได้ให้ชื่อของคนที่น่าจะตรงกับที่ Lin ตามหา สองชื่อคือ Chang Hung-Chi และ Kuo Chin-Chin จนกระทั่งวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา Huang ก็พาหญิงสาวไปที่บ้านของบุคคลดังกล่าว… เมื่อไปถึงเธอก็พบกับ Chang กับ Kuo และจำได้แม่นยำว่าทั้งคู่คือคนที่เธอตามหา…

  • คู่รักช่วยเหลือแมวจรฟันผุที่เอาแต่หลบมนุษย์ จนกลายเป็นเหมียวที่ติดการลูบไล้ตลอดเวลา

    คู่รักช่วยเหลือแมวจรฟันผุที่เอาแต่หลบมนุษย์ จนกลายเป็นเหมียวที่ติดการลูบไล้ตลอดเวลา

    ดูภายนอก แมวอาจจะเป็นแค่สัตว์ขนปุยเหมือนกันหมด แต่หากคุณได้คลุกคลีอยู่กับมัน จะรู้ว่าแมวแต่ละตัวมีความน่ารักที่แตกต่างกัน เหมือนกับ Panda Bear แมวที่ชอบแลบลิ้นเป็นประจำ จนทำให้ใครๆ ต่างก็พากันหลงรักมัน     เจ้า Panda ถูกพบครั้งแรกบนถนนในเมือง Flint รัฐมิชิแกน และได้มีคนนำเรื่องราวของมันไปโพสต์ลงในโซเชียลเพื่อหาคนใจดีรับไปเลี้ยง กระทั่งช่วงต้นเดือนมีนาคม 2017 Cassandra Claxton และแฟนหนุ่ม Blake ได้เห็นโพสต์ดังกล่าว ทั้งคู่จึงตัดสินใจไปช่วยเหลือมันทันที     เมื่อไปถึง ทั้งคู่ค่อยๆ เข้าหามัน แต่เจ้าเหมียวหวาดระแวงมาก มันพยายามจะหนี แต่ด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนแอ ทำให้มันหนีไปไหนไม่ได้ Claxton และ Blake จึงอุ้มน้องแมวกลับบ้าน อาบน้ำให้มัน และปล่อยให้มันนอนพักใต้ผ้าห่มอุ่นๆ สักพัก ก่อนจะพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คร่างกาย     จริงๆ วันนั้นมันค่อนข้างดึกแล้ว แต่คู่รักไม่อยากปล่อยให้เจ้าเหมียวต้องรอนานกว่านี้ เพราะดูจากสภาพร่างกายแล้ว มันจำเป็นต้องไปหาหมอโดยด่วนที่สุด จากการตรวจร่างกายเบื้องต้น คุณหมอบอกว่า Panda น่าจะอายุประมาณ 1 ปีครึ่ง แต่ดันมีน้ำหนักแค่ 1 กิโลนิดๆ เท่านั้น    …

  • สาวเจอแมวจรที่ปั๊มน้ำมัน พอพากลับมาบ้านมันก็กอดแขนไม่ยอมปล่อยเลย

    สาวเจอแมวจรที่ปั๊มน้ำมัน พอพากลับมาบ้านมันก็กอดแขนไม่ยอมปล่อยเลย

    เวลาที่เราได้เจอกับคนที่ใช่หรืออะไรที่ชอบเราก็คงไม่อยากจะปล่อยมันให้หลุดมือไป คอยพยายามเกาะสิ่งๆ นั้นเอาไว้เหมือนกับน้องเหมียวตัวนี้ที่เมื่อมันได้เจอกับทาสของมันเรียบร้อย ก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากแขนของเธอเลย เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ได้ถูกแชร์ลงในยูทูบเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2017 โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อราวๆ 1 ปีก่อนหญิงสาวชื่อว่า Rose ได้ไปเจอกับเจ้าเหมียวที่มีอายุเพียงแค่ 6 สัปดาห์นอนอยู่บนพื้นในสภาพอิดโรยอยู่หน้าปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา บ้านเกิดของเธอ   เจ้าเหมียวถูกเจอในสภาพร่อแร่ ก่อนที่หญิงสาวจะพามันไปอยู่ด้วย   เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอจึงตัดสินใจพามันกลับไปด้วยในทันทีและตั้งชื่อให้มันว่า Andy เธอเล่าว่าตอนสองคืนแรกที่เจ้าเหมียวมาอยู่ด้วยก็ถึงกับทำให้เธอหลับไม่ลง เจ้าเหมียวนอนอยู่ในที่นอนบนพื้นและกอดแขนของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวจึงลงไปนอนบนพื้นกับมันและคอยสังเกตอาการของมันด้วยความเป็นห่วง   กอดไม่ปล่อยเลยนะเจ้าเหมียว น่ารักขนาดนี้ใครจะกล้าปลุกกันล่ะ   ในตอนแรกเจ้าเหมียวมีอาการขนร่วงอยู่บ้าง แต่เมื่อผ่านไป 1-2 สัปดาห์มันก็กลับมาแข็งแรงเป็นปกติอีกครั้ง และถึงแม้จะโตขึ้นมาแล้วมันก็ยังคงนอนกอดแขนของเธอในทุกๆ คืน   ถึงจะโตขึ้นมายังไง เวลานอนก็ต้องมีแขนของเธอมาอยู่ในอ้อมกอดอยู่ดี   เธอได้บอกว่า “มาถึงตอนนี้ฉันเองก็ไม่สามารถหลับได้เลยถ้าไม่มีเจ้าเหมียวมานอนด้วย พวกเราเป็นเด็กกำพร้าด้วยกันทั้งคู่ ฉันรู้สึกได้เลยว่าพวกเราคือคู่แท้ที่มอบความรักและความอบอุ่นให้กันได้อยู่เสมอ”   คลิปเรื่องราวการพบกันและความน่ารักของทั้งสอง   นี่อาจไม่ใช่ความบังเอิญแต่คือพรหมลิขิตเสียมากกว่าที่ทำให้ทั้งสองได้เจอกัน และมอบความอบอุ่นให้กันและกันอย่างเปี่ยมล้นมาจนถึงทุกวันนี้ โชคดีกันทั้งคู่เลยจริงจริ๊งงง   ที่มา: iizcat

  • คู่รักเปลี่ยนบ้านที่ซื้อมาในราคาแค่ 43 บาท สภาพเละเทะดูไม่ได้ ให้กลายเป็นบ้านสุดน่าอยู่

    คู่รักเปลี่ยนบ้านที่ซื้อมาในราคาแค่ 43 บาท สภาพเละเทะดูไม่ได้ ให้กลายเป็นบ้านสุดน่าอยู่

    บ้านคือสถานที่พักพิงสำหรับทุกคนในครอบครัว จึงเป็นสถานที่จำเป็นสำหรับการตกแต่งให้น่าอยู่ซึ่งการที่จะทำบ้านให้สวยงามนั้น เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คงไม่พ้นเรื่องเงิน แต่มีครอบครัวหนึ่งที่ซื้อบ้านเก่าราคาเพียงแค่ 1 ปอนด์ (43 บาท) มาปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นบ้านที่แสนจะน่าอยู่ได้ราวกับปาฏิหาริย์ Sam และ Rachael Kamau ได้ซื้อบ้านหลังหนึ่งจากทางการของเมือง Liverpool ประเทศอังกฤษมาในราคาเพียงแค่ 1 ปอนด์ ซึ่งบ้านในตอนแรกที่พวกเขาได้มานั้นอยู่ในสภาพที่สุดแสนจะโทรมและไม่สามารถเข้าไปดูข้างในบ้านได้เพราะเต็มไปด้วยอันตรายต่างๆ   ภาพภายนอกของบ้านก็ดูดีอยู่นะ   ครอบครัว Kamau ได้เช่าบ้านอาศัยอยู่ในเมือง Liverpool มากว่า 16 ปีและได้ตัดสินใจเจียดเงิน 1 ปอนด์เพื่อจะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ โดยคุณนาย Kamau ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า “เราได้ยินเรื่องบ้านที่มีราคาเพียงปอนด์เดียวและเราก็ช่วยกันคิดว่าทำไมจะไม่ซื้อไว้ล่ะ เพราะพวกเรามีลูกสาว 2 คนที่กำลังเจริญเติบโตซึ่งพวกเขามักจะใช้ห้องนอนแคบๆ ด้วยกัน” “ตอนเรามาเห็นบ้านหลังนี้ มันทำให้เรารู้สึกช็อคหน่อยๆ มันเหมือนมีน้ำตกอยู่ในบ้านเลยเพราะว่าหลังคานั้นมันรั่ว อีกทั้งห้องน้ำก็ไม่มีแม้แต่พื้นปู และหากพูดถึงเรื่องห้องครัวนั้นฉันบอกไว้เลยว่ามันดูไม่จืดจริงๆ “ ดูเหมือนว่าทุกๆ อย่างในบ้านนี้ต้องการการปรับปรุงยกเว้นก็แต่อิฐหน้าบ้านเท่านั้นแหละที่น่าจะพอดูได้…   แต่พอมาดูข้างในบ้านเท่านั้นแหละ…   การปรับปรุงบ้านหลังนี้ซึ่งต้องปรับปรุงแทบจะทุกจุด พวกเขาจึงได้ใช้เงินนับหมื่นปอนด์เพื่อรีโนเวทบ้านให้ออกมาให้สวยดั่งใจฝัน “มันเป็นบ้านที่มีสภาพเลวร้ายที่สุดที่ฉันเคยเห็น ผู้คนส่วนมากมักจะเลือกเดินผ่านบ้านสุดโทรมหลังนี้ไปแต่ว่าพวกเรากลับเห็นสิ่งที่ต่างออกไปจากบ้านเก่าๆ หลังนี้ก็คือหากไม่นับเรื่องสภาพของบ้านแล้ว บ้านหลังนี้ก็มีพื้นที่ให้พวกเรากว้างขวางทีเดียว”  …

  • 20 เหล่า “นางแบบ” ผู้ที่เป็นทั้งความหวัง และอนาคตของวงการนางแบบระดับโลก

    20 เหล่า “นางแบบ” ผู้ที่เป็นทั้งความหวัง และอนาคตของวงการนางแบบระดับโลก

    หลายๆ คนคงรู้จักนางแบบชื่อดังอย่าง Adriana Lima, Candice Swanepoel และ Doutzen Kroes แต่จริงๆ แล้วยังมีนางแบบอีกหลายๆ คนในอเมริกาที่กำลังมาแรงไม่แพ้กัน ว่าแต่พวกเธอคือใครกันล่ะ? แม้ว่านางแบบชื่อดังจะเป็นที่รู้จักและที่ชื่นชอบของผู้คน แต่ถึงกระนั้น ในวงการนางแบบรวมถึงวงการแฟชั่นก็ต้องการผู้หญิงหน้าใหม่ ที่พร้อมจะมาแสดงความสามารถบนเวทีระดับโลกอยู่เสมอ ในขณะที่บางคนยังคงยึดติดอยู่กับนางแบบรุ่นใหญ่ และมองว่าพวกเธอดีที่สุด แต่ถ้าหากลองเปิดใจให้กับนางแบบรุ่นต่อไปบ้าง คุณจะเห็นว่าพวกเธอนั้นมีทั้งความสวย และความสามารถที่ไม่แพ้กันเลย ดังนั้น ใครกันที่จะเป็นทั้งความหวัง และอนาคตของวงการนางแบบโลก ถ้าหากคุณอยากรู้ ก็เชิญเลื่อนลงไปรับชมด้านล่างได้เลย   20. Molly Bair Molly Bair หญิงสาวจากรัฐเพนซิลเวเนีย ผู้ที่มีเรียวขาที่สวยที่สุด และเคยโดนดูถูกว่าอัปลักษณ์ แต่ตอนนี้เธอได้กลายเป็นนางแบบหน้าเก๋ที่ฮอตมากที่สุดคนหนึ่ง จนได้รับความสนใจจากแบรนด์ดังอย่าง Prada และ Karl Lagerfeld   19. Gigi Hadid ถึงคุณจะไม่ได้คลุกคลีอยู่ในวงการแฟชั่น แต่เราเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะรู้จักชื่อ Gigi Hadid น้องสาวของ Bella Hadid ที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอได้ไปปรากฏตามแบรนด์แฟชั่นระดับโลกมากมาย…

  • เด็กยากไร้ในอังกฤษ แอบนำอาหารกลางวันที่โรงเรียนใส่กระเป๋ากลับบ้าน เพื่อประทังความหิว

    เด็กยากไร้ในอังกฤษ แอบนำอาหารกลางวันที่โรงเรียนใส่กระเป๋ากลับบ้าน เพื่อประทังความหิว

    เด็กนักเรียนในประเทศอังกฤษ บางคนอาจเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้เพียบพร้อมเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ ต้องประสบปัญหาโดนทารุณหรือใช้ชีวิตอยู่กับความยากจน ทำให้ต้องเก็บเสื้อผ้าเอาไว้ในถุงขยะ ไม่มีข้าวกินจนถึงกับต้องแอบเก็บอาหารในโรงเรียนกลับบ้านไปเพื่อเอาไว้ประทังชีวิตตัวเองในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปัญหาของเด็กยากไร้ในประเทศอังกฤษได้กระจายตัวออกไปในวงกว้างอย่างน่าเป็นห่วง ทางโรงเรียนหลายๆ แห่งจึงพยายามหาทางแก้ปัญหาให้กับเด็กเหล่านั้น เช่นเดียวกับ Helen Slack ครูใหญ่ในโรงเรียนประถม Twickenham ที่ได้คิดแนวทางการช่วยเหลือลูกศิษย์ในหลายๆ เรื่อง   Helen ครูใหญ่ผู้พยายามช่วยเหลือลูกศิษย์ของเธอจากปัญหาความยากจน   เธอได้สร้างนโยบายให้เด็กๆ ที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้ามาสามารถเข้ามากินอาหารได้ฟรีในครึ่งชั่วโมงแรกก่อนเรียน และในวันศุกร์ทางโรงเรียนก็จะห่ออาหารเอาไว้ให้สำหรับเด็กที่ต้องการอาหารประทังชีวิตในช่วงวันหยุด ไม่ใช่แค่เรื่องของอาหาร แต่รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับชุดนักเรียน การออกไปทัศนศึกษา หรืออุปกรณ์ดนตรีและกีฬา ทุกอย่างล้วนเป็นความรับผิดชอบของทางโรงเรียนทั้งสิ้น Helen บอกว่า “โปรเจกต์ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินมากกว่า 3,400,000 บาทต่อปี หากโปรเจกต์นี้ดำเนินไปถึงปี 2020 แต่ฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงช่วยเหลือให้ปัญหาครอบครัวยากไร้ให้หมดไป”     ถึงแม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นยังคงมีให้เห็นอย่างชัดเจน แต่รัฐบาลอังกฤษกลับทำการตัดงบประมาณที่ใช้สำหรับช่วยเหลือในด้านการศึกษาลงไปกว่า 13,000 บาทต่อเด็กนักเรียนหนึ่งคน ทำให้งบประมาณที่แต่ละโรงเรียนได้รับอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือเด็กในครอบครัวยากไร้ได้ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 ผู้นำโรงเรียนกว่า 7 แห่งจึงได้ทำการเข้าพูดคุยกับเลขานุการกระทรวงการศึกษา Angela Raynor เพื่อโต้แย้งเกี่ยวกับการตัดงบประมาณและปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยยังไม่มีการพูดถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการพูดคุยของพวกเขา    …

  • ห้างประดิษฐ์รถเข็นแบบพิเศษ เพื่อช่วยให้คุณแม่ลูก 3 สามารถช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลิน

    ห้างประดิษฐ์รถเข็นแบบพิเศษ เพื่อช่วยให้คุณแม่ลูก 3 สามารถช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลิน

    โดยทั่วไปเราจะเห็นได้ว่ารถเข็นที่มีให้สำหรับใช้จับจ่ายซื้อของในห้างสรรพสินค้ามักมีที่นั่งไว้สำหรับเด็กเล็ก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกน้อยมาสามารถซื้อของได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ที่นั่งนั้นมีไว้ให้เด็ก 1 – 2 คนเท่านั้น ทำให้คุณแม่ลูกแฝดสามคนนี้ต้องเจอกับปัญหาในการช้อปปิ้ง เรื่องนี้ถูกแชร์ผ่านเว็บไซต์ Dailymail ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2017 เมื่อ Tori Stratton คุณแม่ที่มีลูกแฝดสามประสบปัญหากับการที่เธอไม่สามารถพาลูกๆ ของเธอช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ แต่เมื่อทางห้างสรรพสินค้า Sainsbury’s ได้รับรู้ปัญหาของเธอเข้า จึงได้ประดิษฐ์รถเข็นสำหรับสามที่นั่งมาให้เธอและลูกๆ โดยเฉพาะ   รถเข็นที่ห้างทำขึ้นมาเองสำหรับคุณแม่ลูกสาม   แฝดสามผู้โด่งดังในอินสตาแกรม มีคนติดตามพวกเขามากกว่า 19,000 คน   ที่มาของมันเกิดขึ้นเพราะคุณแม่รายนี้รู้สึกเหนื่อยและไม่อาจเดินซื้อของในขณะที่ต้องดูแลลูกน้อยถึง 3 คนได้อย่างสบายใจ เธอจึงได้นำปัญหานี้ไปพูดกับทางห้างและพวกเขาก็หาทางแก้ไขปัญหาให้กับเธอ รถเข็นคันนี้มีที่นั่งเพียงพอสำหรับเด็กน้อยทั้งสาม Oliver , Jacob และ Tobias ทำให้คุณแม่สามารถเดินช้อปปิ้งในห้างที่ตั้งอยู่ในเมือง Cowes บนเกาะไอล์ออฟไวต์ ประเทศอังกฤษ แห่งนี้ได้อย่างเพลิดเพลินและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเด็กๆ อีก   นั่งกันครบทุกคนแบบนี้ ทำให้การเดินไปหยิบโน่นหยิบนี่ก็สามารถทำได้ง่าย   Tori บอกว่า “ก่อนหน้านี้ฉันมักจะไม่ได้ออกมาซื้อของด้วยตนเองเพราะระหว่างนั้นฉันต้องคอยดูแลลูกทั้ง 3 อยู่เสมอ ซึ่งมันทำให้การช้อปปิ้งเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่พอมีรถเข็นคันนี้ฉันก็สามารถเดินช็อปปิ้งได้อย่างสบายใจเหมือนคนทั่วไปแล้ว”…

  • “Barnaby” เซเลบแมวจาก IG ที่มากับใบหน้าอึนๆ มุ้งมิ้งขนาดนี้กดฟอลโลว์กันยัง!?

    “Barnaby” เซเลบแมวจาก IG ที่มากับใบหน้าอึนๆ มุ้งมิ้งขนาดนี้กดฟอลโลว์กันยัง!?

    ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้นำเสนอภาพแมวเหมียวน่ารักๆ จากอินสตาแกรมมาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งแต่ละตัวที่คัดมาบอกเลยว่าเด็ดๆ ทั้งนั้น บางตัวก็เป็นแมวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น บางตัวก็เป็นแมวเซเลบที่โด่งดัง และครั้งนี้ก็ถึงคิวของ Barnaby แมวน้อยขนฟูที่จะกลายเป็นหนึ่งในดาวดวงใหม่บนโลกออนไลน์ในไม่ช้า เพราะมันมาพร้อมกับใบหน้าที่มึนๆ อึนๆ จนเราไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ เอาเป็นว่าหากใครได้เห็นหน้าตาของมันคุณจะต้องหลุดขำแน่ๆ อ่ะ   พบกับ Barnaby แมวหน้ามึนส่งตรงจากรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐฯ ที่มีคนตามฟอลโลว์ไอจีมากถึง 40,000 คน โว้ววว!! ธรรมดาที่ไหน   สำหรับน้อง Barnaby เป็นแมวพันธุ์เปอร์เซีย (Persian Cats) ชนิด Shade Golden ที่มีขนสีน้ำตาลอ่อน มีปลายขนสีดำเล็กน้อยที่หัว ด้านหลัง ด้านข้าง และหาง ในส่วนของคาง ขนหู หน้าอก รวมถึงท้องนั้นจะเป็นสีครีม มีดวงตาสีเขียวหรือฟ้าอ่อน ขณะที่สีจมูกจะเป็นสีกลีบกุหลาบเข้มๆ  มีขอบจมูก ขอบตา และขอบปากสีดำ พอดูรวมๆ แล้วน่ารักเหลือหลาย     เจ้าเหมียวได้เข้ามาอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกับเจ้านายของมันเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2016…

  • หมาอ้วนพยายามหนีออกจากบ้าน แต่ดันติดบนหลังคา เดือดร้อนเจ้าหน้าที่ต้องมาช่วยอีกกก!!

    หมาอ้วนพยายามหนีออกจากบ้าน แต่ดันติดบนหลังคา เดือดร้อนเจ้าหน้าที่ต้องมาช่วยอีกกก!!

    ใครจะไปรู้ล่ะว่าเจ้าหมาอ้วนตัวหนึ่งที่พยายามหนีออกจากบ้านทางหลังคาจะมีจุดจบที่น่าเศร้า เพราะสุดท้ายมันก็ไปไม่รอด แถมยังต้องติดอยู่บนหลังคาเป็นเวลานานอีกต่างหาก งานนี้เดือดร้อนมนุษย์ต้องมาช่วยอีกเนี่ยยย เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์ Metro มีรายงานว่า Ruby สุนัขพันธุ์บุลล์แมสติฟฟ์ ที่มีน้ำหนักตัวมากถึง 38 กิโลกรัม ดันไปติดอยู่บนหลังคาบ้านเป็นเวลานาน 4 ชั่วโมง ภายหลังจากที่มันพยายามหนีออกจากบ้านทางหน้าต่าง งานนี้ทางเจ้าของบ้านจึงต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จากสถานีดับเพลิงเวลลิงตันในชาร์ปเชอร์ ประเทศอังกฤษให้เข้ามาช่วยเหลือเป็นการด่วน เพราะเจ้าหมาอ้วนมันลงเองไม่ได้ยังไงล่ะ…เอิ่ม!!     ทางด้าน Craig Jackson ผู้จัดการของสถานีดับเพลิงได้เผยว่า “เราได้รับโทรศัพท์ในเวลาประมาณ 11.00 น. แต่เจ้า Ruby ได้ติดอยู่บนหลังคาตั้งแต่ 7.30 น. แล้ว… ตอนแรกเราคิดว่ามันเป็นสุนัขตัวเล็กๆ แต่พอไปถึงที่เกิดเหตุเราก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่ามันเป็นสุนัขพันธุ์บูลล์แมสติฟฟ์ตัวใหญ่ที่กำลังนั่งอยู่บนหลังคา นั่นจึงทำให้เราต้องใช้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดถึง 5 คน เพื่อขึ้นไปช่วยชีวิตของเจ้าหมาจอมซนให้ลงจากหลังคาอย่างปลอดภัย” อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือเจ้า Ruby บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือมัน จนสุดท้ายพวกเขาก็สามารถช่วยเจ้าหมาลงมาจากหลังคาได้สำเร็จ     “พวกเรากังวลว่าน้ำหนักตัวของมันจะทำให้ตัวเจ้า Ruby…

  • ชาวเน็ตชอบใจ น้องหมาไปยืนให้กำลังใจ ‘ไฮไฟว์’ เหล่านักวิ่งในงานวิ่งมาราธอน

    ชาวเน็ตชอบใจ น้องหมาไปยืนให้กำลังใจ ‘ไฮไฟว์’ เหล่านักวิ่งในงานวิ่งมาราธอน

    ในงานวิ่งมาราธอนเราจะได้เห็นนักวิ่งจำนวนมากและเหล่ากองเชียร์ที่คอยมาให้กำลังใจอยู่เต็มสองข้างทางเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อวันที่ 5 พศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาในงานวิ่งมาราธอนที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กลับมีอะไรที่มากกว่านั้น เพราะไม่ได้มีแต่คนที่ไปยืนให้กำลังใจ แต่ดันมีน้องหมามายืนให้กำลังใจนักวิ่งด้วย น้องหมาตัวนี้มีชื่อว่า Marty McFly วัย 1 ขวบ พันธุ์ผสมระหว่างบีเกิ้ลกับลาบราดอร์ ตามรายงานจากเว็บไซต์ The Dodo บอกว่ามันได้ไปร่วมให้กำลังใจเหล่านักวิ่งภายในงาน โดยการให้เจ้าของดึงตัวมันขึ้นยืนสองขาแล้วยื่นมือออกไปไฮไฟว์กับพวกเขา   ไฮไฟว์!!   คลิปวิดีโอน่ารักๆ ของมันจึงได้ถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรม martygetstogo ของมันเอง สร้างความประทับใจและเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ตจำนวนมาก   คลิปความน่ารักของน้องหมายืนสองขาแปะมือให้กำลังใจ   Jenny McCoy และ Guilherme de Oliveira เจ้าของที่รับมันมาเลี้ยงได้เล่าว่าพวกเขาไปเจอมันจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Badass Brooklyn ที่พาน้องหมามาทำการแสดงในรัฐเท็กซัส เมื่อช่วงต้นปี 2017 ครั้งแรกที่พวกเธอได้เห็นภาพของเจ้า Marty ในอินสตาแกรมของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ดังกล่าว ทำให้ทั้งสองตัดสินใจที่จะต้องไปรับมันมาเลี้ยงให้ได้ นั่นจึงทำให้พวกเขาได้ไปดูการแสดงของมันในเท็กซัส และได้เจอกับมันจริงๆ เป็นครั้งแรก   .   พวกเขาเล่าว่า “ในวันนั้นพวกเราได้ลองอุ้มมันขึ้นมาเป็นครั้งแรกทำให้มันดูมีอาการตื่นกลัวอยู่บ้าง แต่ในการแสดงเจ้าหมาตัวนี้ก็สามารถเอ็นเตอร์เทนทุกคนได้อย่างยอดเยี่ยม…

  • หนุ่มเล่าประสบการณ์หลอนเจอผีเด็กตามหลอก ตอนนี้โผล่หน้าออกมาให้เห็นแล้ว

    หนุ่มเล่าประสบการณ์หลอนเจอผีเด็กตามหลอก ตอนนี้โผล่หน้าออกมาให้เห็นแล้ว

    หากใครเคยติดตามเรื่องเล่าผีๆ ของ Adam Ellis นักวาดภาพประกอบจากนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ คุณจะรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ได้พบเจอกับเหตุการณ์แปลกประหลาด ในแบบที่ไม่สามารถอธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ได้ โดยเขาได้ออกมาเล่าถึงเรื่องราวชวนขนหัวลุกที่เกิดขึ้นในอพาร์ตเมนต์ที่อาศัยอยู่ ลงบนทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @moby_dickhead และไม่น่าเชื่อเลยว่าเรื่องราวดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตจำนวนมาก จนกลายเป็นกระแสไวรัลที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลกออนไลน์     อย่างไรก็ตาม Adam นักวาดภาพประกอบได้ออกมาเผยว่า เขาถูกวิญญาณเด็กตามหลอกหลอนอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง โดยผีเด็กได้เริ่มปรากฏขึ้นในความฝันของเขา ซึ่งในตอนนั้นมันทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนผีอำ นอกจากนี้เขายังเห็นเด็กคนนั้นมีหน้าตาที่น่ากลัว เพราะกะโหลกศีรษะแหว่งอีกด้วย     หลายวันต่อมา Adam ก็ได้ฝันถึงเหตุการณ์แปลกๆ อีกครั้ง และในครั้งนี้เขาฝันว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหาเขาพร้อมพูดว่า คุณเจอ David (Dear David) ที่รักแล้วใช่ไหม? อีกทั้งเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ได้บอก Adam อีกว่าถ้าหากเขาพูดว่า David ที่รัก Adam จะได้รับอนุญาตให้ถามคำถามเด็กคนนั้นได้เพียง 2 ข้อเท่านั้น     ในเดือนต่อมา หลังจากที่ Adam ได้ย้ายขึ้นไปอยู่ชั้นบนของอพาร์ตเมนต์ เขาก็ได้สังเกตเห็นแมวของเขาสองตัวมักจะมานั่งอยู่ตรงหน้าประตูในเวลาเที่ยงคืน และจ้องมองลอดช่องด้านล้างอยู่แบบนั้นราวกับมันกำลังเห็นสิ่งปกติบางอย่างอยู่ นอกจากนี้เขายังได้ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ในระหว่างที่เขาได้พบเจอกับเหตุการณ์ชวนหลอน โดยในคลิปได้แสดงให้เห็นว่าเก้าอี้ที่ตั้งอยู่เฉยๆ และขวดโหลสามารถเคลื่อนไหวได้เองโดยไม่มีใครแตะต้องเลย…

  • ชายหนุ่มโดนปฏิเสธงานกว่า 30 ครั้งเพราะรอยสักที่สักไว้เพื่อระลึกถึงคุณตาที่เสียไป

    ชายหนุ่มโดนปฏิเสธงานกว่า 30 ครั้งเพราะรอยสักที่สักไว้เพื่อระลึกถึงคุณตาที่เสียไป

    การสักลายบนเรือนร่างนั้นไม่ใช่แค่เพื่อความงามเท่านั้น แต่รอยสักสำหรับบางคนมันแฝงไปด้วยความหมายสำคัญและความทรงจำดีๆ ในชีวิต อย่างไรก็ตาม คนมีรอยสักนั้นมักถูกมองในเชิงลบ จนทำให้โอกาสทางสังคมสำหรับพวกเขามีน้อยลงไปด้วย เหมือนกับหนุ่มคนนี้ที่โดนปฏิเสธงานเพราะมีรอยสักที่คอ Joe Parsons วัย 21 ปี ได้สักลายที่คอเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2016 เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณตาที่เสียไป ขณะที่ทำงานอยู่ในโรงงาน     แต่เพราะลายสักนี้ทำให้เขาถูกปฏิเสธงานกว่า 30 ครั้ง… แม้ว่าชายหนุ่มจะใส่เสื้อคอเต่าเพื่อปิดรอยสัก แต่ลายสักส่วนที่เป็นปีกอยู่สูงเกินจะปิดได้มิด Joe บอกว่า “ตอนที่ผมสักลายนี้ใหม่ๆ ผู้คนคิดว่าผมมีความสุขและมีความมั่นใจในตัวเอง แต่สำหรับผมแล้ว ผมเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องมีงานดีๆ ทำ” “ผมรู้สึกว่ามันเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะผมมีทักษะและมีคุณสมบัติทุกอย่างตามที่พวกเขาต้องการ แต่ผมกลับถูกปฏิเสธเพียงเพราะลายสักที่คอ” ชายหนุ่มบอก อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มก็ไม่ได้เสียใจและไม่อยากลบรอยสักนี้ออก เพราะมันมีความหมายสำหรับเขามาก แต่ที่เขาเสียใจคือทัศนคติของคนอื่นที่มีต่อรอยสัก     Joe เคยทำงานอยู่ที่ McVites แต่แล้วก็ต้องลาออก เพื่อกลับไปดูแลแม่ที่ประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ลาออกจากงานได้ไม่นาน ชายหนุ่มก็ตระหนักว่าเขาต้องทำงานเพื่อหาค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้าน เขาจึงเริ่มสมัครงานในเดือนมกราคม แต่กลับถูกปฏิเสธงานถึง 30 ครั้ง แม้แต่งานที่เขาเคยทำก่อนสัก ก็ไม่ยอมรับเขาเช่นกัน นับว่าเป็นความโชคร้ายของ Joe เพราะเขาเคยมีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว 4 ปี…

  • ศิลปินสร้างประติมากรรมของใช้ในชีวิตประจำวัน ที่ดูบางเบา แต่ทำมาจากหินอ่อนล้วนๆ

    ศิลปินสร้างประติมากรรมของใช้ในชีวิตประจำวัน ที่ดูบางเบา แต่ทำมาจากหินอ่อนล้วนๆ

    ประติมากรรมหรือรูปปั้นส่วนใหญ่มักจะทำมาจากหินอ่อน ซึ่งไม่ต้องเข้าไปลองยกหรือสัมผัสเราก็รู้อยู่แล้วมันต้องหนักมากแน่ๆ แต่ศิลปินผู้มีนามว่า Alasdair Thomson ได้สร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมของใช้ในชีวิตประจำวัน ที่ทำด้วยหินอ่อนล้วนๆ และมันกลับอ่อนโยนและบางเบาอย่างบอกไม่ถูก     ปกติเราจะเห็นประติมากรรมหินอ่อนในรูปแบบรูปปั้น โต๊ะ หรือเก้าอี้ แต่ Thomson ได้นำหินอ่อนมาทำเป็นเสื้อผ้า รองเท้า แถมยังแขวนบนไม้แขวนเสื้อ จนคิดไม่ถึงว่ามันทำจากหินอ่อน Thomson อาศัยและทำงานอยู่ที่ Edinburgh ประเทศสก็อตแลนด์ แต่เราได้เรียนรู้เทคนิคประติมากรรมจากประติมากรชาวอิตาลี จากนั้นเขาก็ฝึกฝนด้วยตัวเองจนสร้างผลงานมากมาย แล้วตั้งมันไว้ทั่วสก็อตแลนด์และต่างประเทศ     ผลงานที่โดดเด่นของ Thomson คือผลงานชุดนี้แหละ ที่ได้นำหินอ่อนมาทำเป็นเสื้อผ้าที่ดูมีน้ำหนักเบา และเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร แม้จะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานประติมากรรมต่อไปเรื่อยๆ โดยเรียนรู้ที่จะสร้างความแตกต่างจากหินอ่อน และแน่นอนว่าผลงานของเขาทำให้เราหลงใหลได้ไม่มีวันจบ   . . . . . . . . . . . . .   ที่มา boredpanda

  • เด็กหญิงชาวรัสเซียวัย 12 ปี ถูกลักพาตัวไปข่มขืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสตรีมมิ่งสดหนังโป๊เด็ก…

    เด็กหญิงชาวรัสเซียวัย 12 ปี ถูกลักพาตัวไปข่มขืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสตรีมมิ่งสดหนังโป๊เด็ก…

    ทุกวันนี้ได้มีการทำคลิปโป๊ขึ้นมากมายเพื่อหารายได้ผ่านสื่อออนไลน์ ยิ่งคลิปมีความดึงดูดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะทำเงินได้มากเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคลิปโป๊เหล่านี้พยายามนำเสนอคลิปที่ดูแตกต่าง ตื่นเต้น เร้าใจ มาเผยแพร่ และหนึ่งในนั้นคือการข่มขืน เหมือนอย่างคดีนี้ที่เด็กนักเรียนชาวรัสเซียวัย 12 ปี ที่ถูกลักพาตัวไปข่มขืน เพื่อถ่ายคลิปและเอาไปลงเว็บโป๊เด็ก…     เด็กหญิงคนดังกล่าวนี้ถูกลักพาตัวโดยชายสองคน ขณะที่เดินกลับบ้าน หลังจากเรียนดนตรีเสร็จ ใน Ekaterinburg ทางตะวันออกของเทือกเขาอูราล ประเทศรัสเซีย ตำรวจเผยว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ที่เด็กหญิงรอดชีวิตมาได้ เพราะเธอถูกข่มขืนหลายครั้ง ระหว่างที่ถูกลักพาตัวนานกว่า 9 ชั่วโมงครึ่ง เด็กหญิงเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าขณะที่เดินกลับบ้านตามปกติ ก็มีคนนำถุงมาคลุมหัวของเธอ ก่อนจะลากขึ้นรถแล้วพาไปยังที่พักของพวกเขา     เมื่อไปถึง คนร้ายทั้งสองคนก็ผลัดกันข่มขืนเธอ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง สร้างความเจ็บปวดให้เธอเป็นอย่างมาก แต่ที่เจ็บกว่านั้นคือพวกเขาได้ถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย จากนั้นคนร้ายก็บังคับเธอถือป้ายโฆษณาเว็บโป๊เด็กแล้วโชว์ไปที่กล้อง เพื่อเป็นการโปรโมทเว็บไซต์นั่นเอง หลังจากที่คนร้ายได้สิ่งต้องการแล้ว พวกเขาก็จับเด็กหญิงยัดใส่กระเป๋าแล้วขับรถไปที่ชานเมือง ก่อนจะทิ้งเธอไว้ข้างทางในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน     เด็กหญิงใช้เวลาหลายชั่วโมงในการพาตัวเองออกจากกระเป๋าใบนั้น กระทั่งตี 3 เธอก็ทำสำเร็จ ต่อมามีมอเตอร์ไซค์ขับผ่านและสังเกตเห็นเด็กหญิงเข้า จึงได้โทรแจ้งตำรวจทันที เบื้องต้นเด็กหญิงให้การว่าหนึ่งในคนร้ายที่ข่มขืนเธอสวมกางเกงหนังสัตว์อายุประมาณ 50 ปี … ด้านโฆษกตำรวจ Valery Gorelykh กล่าวว่า “ขณะนี้เรากำลังกระจายเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200…

  • หญิงชาวอียิปต์หย่ากับสามี หลังแต่งงานได้สองอาทิตย์ เพราะแย่งทำงานบ้านหมดเลย!?

    หญิงชาวอียิปต์หย่ากับสามี หลังแต่งงานได้สองอาทิตย์ เพราะแย่งทำงานบ้านหมดเลย!?

    แม้ว่าปัจจุบันนี้ผู้ชายและผู้หญิงจะมีความเท่าเทียมกันในสังคม แต่จะสังเกตเห็นว่างานบ้านมักจะตกเป็นหน้าที่ของผู้หญิงส่วนใหญ่อยู่ดี จนบางทีพวกเธอก็อยากให้สามีช่วยทำงานบ้านบ้าง แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนความพอดี เพราะถ้ามากไปอาจเกิดเรื่องเหมือนภรรยาคนนี้ที่ตัดสินใจหย่ากับสามี เพราะเขาแย่งทำงานบ้านทุกอย่าง!? หญิงชาวอียีปต์วัย 28 ปี ได้แต่งงานกับแฟนหนุ่มวัย 31 ปี แต่แล้วสองสัปดาห์หลังแต่งเธอก็ขอหย่ากับเขา เพราะสามีเปิดร้านขายเสื้อผ้า โดยจ้างพนักงานไว้หลายคน ทำให้เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านและเขาก็ว่างพอที่จะทำงานบ้านทั้งหมด     Samar M. ผู้เป็นภรรยาอ้างว่า “เวลาที่อยู่บ้านเขามักจะทำความสะอาดบ้านเสมอ รวมทั้งจัดเฟอร์นิเจอร์ใหม่ และฉันก็ไม่สามารถจะทำอะไรกับพฤติกรรมของเขาได้” เธอยังบอกอีกว่า Mohammad S. สามีของเธอทำตัวเหมือนแม่บ้าน จนเธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่เห็นเขาเป็นแบบนี้ และไม่ใช่แค่ทำงานบ้านทุกอย่างนะ แต่เขายังไม่ยอมให้เธอช่วยทำอะไรด้วย ตลอด 2 สัปดาห์ที่แต่งงานกันมา Samar ต้องทนอยู่กับความเบื่อหน่ายนี้ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเปิดใจคุยกับเขา แต่คำตอบที่ได้มาคือ “ถ้าคุณอยากอยู่ในบ้านของผม คุณต้องปฏิบัติตามกฎของผม”     ฝ่ายหญิงเผยว่า “ฉันคบกับเขาด้วยความรักมามากกว่า 2 ปี แต่ภายในเวลา 2 สัปดาห์ที่แต่งงานกันมา ทำให้ฉันรู้สึกเกลียดที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกับเขา” “สามีของฉันทำตัวเหมือนแม่บ้าน เขาไม่ให้ฉันสัมผัสอะไรในบ้านของเราเลย ทั้งทำอาหาร ทำความสะอาด และงานบ้านทั่วไป เขาจะจัดการเองทั้งหมด” “เขาควบคุมทุกอย่างในบ้าน โดยที่ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้ แม้แต่เรื่องเล็กน้อยๆ อย่างการวางตำแหน่งทีวี ฉันยังไม่มีสิทธิ์พูดเลย”…

  • ผู้ปกครองรุมตีครูเนอสเซอรี่ หลังจากที่เธอใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า 2 ขวบ

    ผู้ปกครองรุมตีครูเนอสเซอรี่ หลังจากที่เธอใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า 2 ขวบ

    กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียล เมื่อมีการเผยแพร่คลิปกลุ่มพ่อแม่ชาวจีนที่รุมทำร้ายครูจากเนอสเซอรี่ เพราะเธอตีลูกๆ ของพวกเขาระหว่างอยู่ในห้องเรียน สำหรับการกระทำของครูสาวคนดังกล่าวนี้มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นขณะที่เธอใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียน โดยบังคับให้กินอาหารที่มีวาซาบิและให้กินยานอนหลับ     สื่อจีน The Paper รายงานว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เนอสเซอรี่ Ctrip โดยพบว่ามีการทารุณกรรมเด็กหญิงคนหนึ่งในห้องเรียนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 จากกล้องวงจรปิดพบผู้ดูแลหญิงคนหนึ่งได้นำกระเป๋าเด็กหญิงคว้างลงกับพื้น ก่อนจะผลักเด็กอย่างแรง จนทำให้เธอสะดุดและหัวไปจนกับขอบโต๊ะ     นอกจากนี้ยังมีอีกคลิปหนึ่งถูกบันทึกเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน เผยให้เห็นกลุ่มนักเรียนประมาณ 18 คน นั่งเรียงกันในห้อง โดยมีผู้ดูแลบังคับให้กินวาซาบิทีละคน ทำให้เด็กๆ พากันร้องไห้และพยายามปิดปาก หลังจากคลิปเหล่านี้ถูกเผยแพร่ไป ทางเนอสเซอรี่ Ctrip ได้ออกมายอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเนอสเซอรี่จริง ทำให้เนอสเซอรี่ถูกแจ้งความดำเนินคดีทันที     ส่วนเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้าย ได้รับการยืนยันแล้วว่ามาจากคลาส Rainbow Class ซึ่งทุกคนในนั้นอายุต่ำกว่า 2 ขวบ จนเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ครูผู้ก่อเหตุได้คุกเข่าบนเวที เพื่อขอโทษผู้ปกครองของนักเรียน ระหว่างการประชุมผู้ปกครอง     เธอบอกว่า…

  • หนึ่งวันในหนึ่งปี ณ เวลา 11.11 น. จะเกิดความมหัศจรรย์ที่อนุสาวรีย์ในแอริโซนา

    หนึ่งวันในหนึ่งปี ณ เวลา 11.11 น. จะเกิดความมหัศจรรย์ที่อนุสาวรีย์ในแอริโซนา

    ในโลกนี้มีสถานที่มหัศจรรย์หลายแห่ง ทั้งสถานที่ทางธรรมชาติ แหล่งที่มนุษย์สร้างขึ้น และการผสมผสานระหว่างทั้งสองอย่าง เหมือนกับ Anthem Veterans Memorial (AVM) ใน Anthem รัฐแอริโซนา ที่เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การรับใช้และการเสียสละของกองทัพสหรัฐอเมริกา     อนุสาวรีย์ดังกล่าวนี้จะอยู่ในสภาพสมบูรณ์แค่ปีละครั้งเท่านั้น เพราะมันต้องอยู่ในเวลาที่พอดีกับแสงอาทิตย์ตกกระทบ นั่นก็คือเวลา 11:11 น. ของวันทหารผ่านศึกที่ตรงกับวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนของแต่ละปี ทุกๆ ปี เมื่อถึงเวลา 11:11 น. ของวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายน แสงจากดวงอาทิตย์จะส่องผ่านวงกลมของเสา Armed Services ทั้ง 5 แล้วจะตกกระทบลงที่พื้นกระเบื้องโมเสคที่มีตรามหาสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาอยู่     สำหรับเสาหลักทั้ง 5 นี้ เป็นตัวแทนของความสามัคคีใน 5 สาขาของกองทัพสหรัฐให้คำมั่นสัญญาร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วย นาวิกโยธินสหรัฐ กองทัพเรือสหรัฐ กองทัพอากาศสหรัฐ และหน่วยยามฝั่งสหรัฐ ทั้งนี้เสาแต่ละต้นจะมีความสูงที่แตกต่างกัน โดยเรียงตามตำแหน่งตราสัญลักษณ์ที่ทางกระทรวงกลาโหมกำหนดไว้ก่อนหน้านี้ เพราะความมหัศจรรย์นี้ ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปชมเป็นจำนวนมากเมื่อถึงวันทหารผ่านศึก     Jim Martin หัวหน้าวิศวกรผู้ออกแบบ AVM กล่าวว่า “ในแต่ละปี ศูนย์กลางดวงอาทิตย์จะมีการหักเหเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม…

  • เมื่อลูกสาว “สอนพ่อเซลฟี่” แต่ไม่คิดเลยว่าพ่อจะเอามาใช้กับเจ้าตูบ แหม… น่ารักเชียว

    เมื่อลูกสาว “สอนพ่อเซลฟี่” แต่ไม่คิดเลยว่าพ่อจะเอามาใช้กับเจ้าตูบ แหม… น่ารักเชียว

    ปัจจุบันนี้ลูกๆ มักจะเป็นฝ่ายสอนพ่อแม่ใช้สื่อเทคโนโลยีโดยเฉพาะการสมาร์ทโฟน ที่นอกจากสอนโทรเข้า โทรออกแล้ว ยังต้องสอนการเซลฟี่ให้ด้วย เพื่อให้ท่านได้บันทึกภาพช่วงเวลาแห่งความทรงจำเอาไว้ ถึงจะเป็นผู้ใหญ่ แต่เวลาที่พวกเขาได้เรียนรู้หรือลองสิ่งใหม่ๆ ก็คงตื่นเต้นไม่ต่างจากเด็กๆ หรอก เหมือนกับคุณพ่อคนนี้ที่ได้เรียนรู้การเซลฟี่จากลูกสาวจนทำให้เขากลายเป็นคนที่สนุกกับการถ่ายรูปซะงั้น     นี่เป็นชุดภาพน่ารักๆ ที่ถูกโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊ก Cool Dog Group เป็นภาพของคุณพ่อคนหนึ่งใน Walcha ประเทศออสเตรเลีย ที่เซลฟี่กับสุนัขและแกะของเขา แน่นอนว่าทุกคนที่ได้เห็นภาพต่างพากันยิ้มไม่หุบเลย เพราะมันเป็นภาพที่น่าประทับใจสุดๆ ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าคนเป็นพ่อจะมีโมเมนต์ที่น่ารักแบบนี้กับเค้าด้วย   ทั้งพ่อทั้งน้องหมา น่ารักแบบชนะเลิศไปเลย   คุณพ่อเซลฟี่ว่าน่ารักแล้ว แต่ดูสัตว์เลี้ยงของเขาแต่ละตัวสิ โดยเฉพาะน้องหมาที่ให้ความร่วมมือกับถ่ายรูป ขึ้นกล้องยิ่งกว่าเราบางคนซะอีก ข้อมูลที่โพสต์ในเพจบอกแค่ว่าลูกสาวเป็นคนสอนให้พ่อเซลฟี่ ซึ่งเธอไม่เคยคาดคิดว่าจะออกมาเป็นแบบนี้ น่ารักซะจนชาวเน็ตอยากรู้จักตัวตนของเขามากขึ้น   ดูหน้าน้องหมาสิ แบ๊วเชียว   อย่างไรก็ตาม หากเรารู้ข้อมูลหรือมีภาพของคุณพ่อคนนี้อีกจะมาอัพเดตให้นะ ตอนนี้ชมภาพสุดคูลชุดนี้ไปก่อน แล้วอย่าลืมส่งต่อให้เพื่อนๆ ได้ดูด้วยเด้อ   ที่มา boredpanda

  • ชายหนุ่มแต่งงานกับคุณยายของตัวเอง เพื่อที่จะได้กินเงินบำนาญ หลังจากที่เธอจากไปแล้ว

    ชายหนุ่มแต่งงานกับคุณยายของตัวเอง เพื่อที่จะได้กินเงินบำนาญ หลังจากที่เธอจากไปแล้ว

    ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันเงินคือสิ่งสำคัญในการแลกเปลี่ยนแทบทุกอย่างในชีวิตของเรา ทำให้ทุกคนพยายามทุกหนทางเพื่อให้ได้มีเงินเยอะๆ เหมือนกับชายคนนี้ที่ได้ใช้วิธีการแปลกๆ แต่งงานกับพี่สาวของคุณยายเพื่อให้ได้รับเงินบำนาญ เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Mauricio Ossola วัย 25 ปีและครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านพี่สาวของคุณยายตัวเองที่ชื่อว่า Yolanda ในเมือง Salta ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอาร์เจนตินา หลังจากที่พ่อแม่ของเขาแยกทางกัน จนกระทั่งในวันหนึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนเขาได้ปรึกษากับคุณยาย Yolanda ว่าจะเลิกเรียนหนังสือ แต่คุณยายไม่เห็นด้วยและยืนกรานว่าช่วยเหลือทุกทางเพราะว่าเขาเป็นเด็กดีคอยดูแลเธอมาตลอด   Ossola และพี่สาวของคุณยายตัวเอง Yolanda วัย 91 ปี   ชายหนุ่มที่ในขณะนั้นอายุได้ 23 ปีจึงตัดสินใจขอเธอแต่งงานเพื่อให้ได้รับเงินบำนาญของหญิงชราวัย 91 ปี จึงเกิดเป็นการแต่งงานตามพิธีการในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ผ่านไป 14 เดือนคุณยายก็จากโลกไปด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด Mauricio จึงคิดว่าตนเองมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินบำนาญหลังจากนั้นเพื่อเติมเต็มความต้องการสุดท้ายของเธอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่ได้เป็นไปอย่างง่ายดายเหมือนที่เขาคิดไว้ เพราะคนในละแวกบ้านดันมาบอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าทั้งคู่แต่งงานกัน     ชายหนุ่มเล่าว่า “ข้างบ้านของเรามีคนสร้างกำแพงขึ้นมาจึงทำให้พวกเขาไม่อาจรู้ได้ว่าพวกเราแต่งงานกัน และหากถูกยึดสิทธิ์ผมก็พร้อมจะขึ้นศาลสูงสุดเพื่อต่อสู้คดี เพราะเราทั้งสองรักกันอย่างบริสุทธิ์ ซึ่งเงินบำนาญก้อนนี้คือสิ่งที่เราทุ่มเททำมันอย่างโปร่งใสและเป็นความปรารถนาสุดท้ายของเธอ” สิ่งที่เขาทำได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันในสองด้าน ส่วนหนึ่งบอกว่าเขาเป็นพวกฉวยโอกาส Rony Romarr บอกว่า…

  • เทรนเนอร์หนุ่ม ‘หรรม’ ติดกับเหล็กยกน้ำหนัก หมอใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการเอามันออกมา

    เทรนเนอร์หนุ่ม ‘หรรม’ ติดกับเหล็กยกน้ำหนัก หมอใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการเอามันออกมา

    หนุ่มๆ ทุกคนรู้ดีว่าอวัยวะเพศที่เรามีอยู่นั้นแม้ภายนอกอาจดูแข็งแกร่ง แต่ความเป็นจริงมันอ่อนไหวเอามากๆ บางครั้งแค่ไปกระแทกหรือชนกับอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็อาจทำให้เจ็บปวดหรือจุกได้เลย เราจึงต้องคอยดูแลมันเอาไว้ให้ดีอย่าให้เหมือนกับชายคนนี้… ภาพด้านล่างนี้ถูกแชร์ในสำนักขาว Dailymail เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 เผยให้เห็นว่าอวัยวะเพศของเทรนเนอร์ชายนิรนามท่านหนึ่งได้เข้าไปติดอยู่ในช่องว่างตรงกลางของแผ่นเพิ่มน้ำหนักที่มีน้ำหนักถึง 2.5 กิโลกรัม ทำให้น้องชายของเขาถึงกับกลายเป็นสีม่วงไปเลย   ภาพหลุดว่อนเน็ต เผยภาพจุ๊ดจู๋ของชายหนุ่มติดอยู่ตรงช่องของแผ่นเพิ่มน้ำหนัก   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Worms รัฐไรน์ลันท์-ฟัลทซ์ ประเทศเยอรมนี เมื่อหนุ่มฟิตเนสเห็นแบบนี้ปุ๊บก็รีบไปหาหมอในโรงพยาบาลทันที ก่อนที่แพทย์จะตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากนักดับเพลิงประจำเมือง หลังจากภาพนี้หลุดออกมา นักดับเพลิงจึงเล่าว่าพวกเขาใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยการใช้เครื่องบดและเลื่อยไฟฟ้าในการแยกชิ้นส่วนแผ่นเหล็กออกมาหรรมส์ของชายหนุ่ม ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครรู้เลยว่าแผ่นเพิ่มน้ำหนักนั้นไปติดอยู่กับอวัยวะสำคัญของเขาได้อย่างไร   ภาพนี้ถูกถ่ายโดยนักดับเพลิง ในตอนก่อนมีภาพหลุดออกมา พวกเขาอ้างว่านี่คือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการทำงาน   อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวไม่ได้ถูกปล่อยออกมาด้วยความตั้งใจ แต่เกิดจากการรั่วไหลที่ไม่ทราบสาเหตุทำให้มันมาโผล่อยู่ในโลกออนไลน์และกลายเป็นกระแส ซึ่งทางโรงพยาบาลได้พยายามสืบหาต้นตอของเพื่อปกป้องสิทธิคนไข้ไม่ให้ถูกเปิดเผยตัวตน สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ก็ยังคงทิ้งความสงสัยไว้ให้ทุกคนอยู่ดีว่ามันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร? หรือที่จริงนี่อาจเป็นวิธีกายบริหารลดน้ำหนักแบบใหม่หรือเปล่านะ?!   เอ๊าบึ๊ดจ้ำบึ๊ดๆๆ   ที่มา: dailymail

  • ใหญ่เกิ๊น!! หนุ่มชาวรัสเซียอยากมีกล้ามใหญ่ทางลัด จึงฉีดสารซินทอลเข้าไปในร่างกายซะเลย

    ใหญ่เกิ๊น!! หนุ่มชาวรัสเซียอยากมีกล้ามใหญ่ทางลัด จึงฉีดสารซินทอลเข้าไปในร่างกายซะเลย

    ตามธรรมชาติของผู้ชายก็อยากที่จะมีกล้ามใหญ่ๆ ไว้เพื่อเสริมลุคให้ตัวเองดูดี หรือปกป้องคนที่เรารักได้ ซึ่งหลายคนก็ใช้เวลาในการสร้างกล้ามเป็นเวลานานผ่านการออกกำลังกายด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งการจะมีกล้ามใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะว่าต้องมีระเบียบวินัยในตัวเองและต้องควบคุมอาหารการกินให้ถูกวิธีด้วย แต่ว่ามีหนุ่มคนหนึ่งที่อยากใช้ทางลัดในการมีกล้ามด้วยการฉีดสารเคมีเข้าไปแขนซะเลย   ของพี่ใหญ่ไหมน้อง   เมื่อไม่นานมานี้ Kirill Tereshin เด็กหนุ่มวัย 21 ปีจากเมือง Pyatigorsk เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศรัสเซียได้แชร์ภาพร่างกายอันแปลกประหลาดของเขาบนสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งเป็นภาพของกล้ามแขนขนาด 24 นิ้วที่ดูเหมือนบวมๆ มากกว่าจะมีกล้าม เพราะว่าความใหญ่ที่ได้มานี้ไม่ได้มาจากการออกกำลังกายในยิม และการกินอาหารที่มีโปรตีนจำนวนมาก แต่ว่าเป็นเพราะการฉีดสารเคมีบางอย่างเข้าไปที่แขน โดยสารเคมีตัวนี้มีชื่อเรียกโดยทั่วไปว่า “ซินทอล”   นึกว่าป็อปอายมาเองเลยนะเนี่ย   เจ้าหนุ่มคนนี้เริ่มต้นฉีดซินทอลเข้าแก่ร่างกายตัวเองหลังจากปลดประจำการทหารเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว จากการฉีดสารเคมีนี้เข้าสู่ร่างกายมันทำให้แขนของเขามีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า 10 นิ้วในเวลาเพียงแค่ 10 วันเท่านั้น จุดเริ่มต้นของเขาคือเขาได้ลองฉีดซินทอลใส่แขนของเขาก่อนประมาณ 250 มิลลิลิตรแต่ปรากฏว่าด้วยสารเคมีเพียงน้อยนิดนั้นทำให้กล้ามแขนของเขาโตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น   ใหญ่แบบแปลกๆ   “ตอนที่ผมฉีดมันเข้าไปในร่างกายมันทำให้ผมเป็นไข้หนักเลยทีเดียว ตอนนั้นไข้ขึ้นสูงถึง 40 องศา ผมต้องนอนเป็นผักอยู่บนเตียง ในตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังใกล้ตายเข้าไปทุกที แต่หลังจากที่อาการไข้ของผมดีขึ้น ผมก็หายเป็นปกติดีอีกทั้งยังรู้สึกดีกว่าเดิมด้วย”  Tereshin บอก พ่อหนุ่มนักกล้ามคนนี้ยังบอกเพิ่มอีกว่าการฉีดสารเคมีนี้เข้าไปในร่างกายทำให้น้ำหนักตัวของเขาเพิ่มขึ้นจาก 62 กิโลกรัมไปเป็น 68 กิโลกรัมเลยทีเดียว   ใหญ่หรือบวมมากกว่ากัน…

  • หนุ่มเมาหนัก ได้ใบขับขี่คืนพร้อมตั๋วเครื่องบินราคา 2 แสน (ที่ไม่ได้จอง) ที่แท้แค่ล้อเล่น!?

    หนุ่มเมาหนัก ได้ใบขับขี่คืนพร้อมตั๋วเครื่องบินราคา 2 แสน (ที่ไม่ได้จอง) ที่แท้แค่ล้อเล่น!?

    วันไหนที่เราดื่มกันหนักๆ ชนิดที่เรียกว่าเมาหัวราน้ำ ตื่นมาตอนเช้าจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้และอาจมีของบางอย่างหายไปเช่น กุญแจรถ กระเป๋าเงิน หรืออาจเหมือนกับเขาคนนี้ที่เมาหนักจนทำใบขับขี่หาย อีกทั้งยังต้องเจอกับตั๋วเครื่องบินราคาแพงหูฉี่ที่ไม่รู้เลยว่าไปจองเอาไว้เมื่อไหร่!? สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์ของ William George Armstrong จากเมือง Crystal City ในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2017 เมื่อเขาเมาหนักจนทำใบขับขี่หายและพอตื่นมาก็ต้องพบเข้ากับจดหมายค่าจองตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสไปมัลดีฟ   โพสต์ของ George ในวันที่ 7 พฤศจิกายน เมื่อเขาต้องเจอกับเหตุการณ์สุดเซอร์ไพรส์   หลังจากที่ดื่มไปอย่างหนักหน่วง เช้าวันรุ่งขึ้นใบขับขี่ของเขาก็ได้หายไป แต่กลับได้รับจดหมายฉบับนี้จากเอเจนซี่จองตั๋วเครื่องบิน Flight Centre มาแทน   ภายในซองจดหมายระบุว่าเขาได้จองตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสเอาไว้ โดยมีปลายทางเป็นเกาะมัลดีฟ พร้อมกับรายละเอียดครบถ้วนทั้งขาไปและขากลับ   ดูรายละเอียดกันให้ชัดๆ อีกที เฮ้ย!? นี่ตูไปจองตอนไหนแว้   ตอนแรกว่าตกใจแล้ว เปิดมาเจอหน้านี้เข้าไปตกใจยิ่งกว่า เพราะราคาของตั๋วเครื่องบินทั้งหมดนั้นสูงกว่า 231,000 บาทเลยทีเดียว!!   ขอย้ำว่า 231,000 บาทตัวโตๆ สีแดงๆ โอ้ววววววว!!  …

  • คู่รักจ้างช่างภาพไปปีนเขาใช้เวลาขึ้นลงภูเขากว่า 14 ชั่วโมง เพื่อถ่ายพรีเวดดิ้งแสนงดงาม

    คู่รักจ้างช่างภาพไปปีนเขาใช้เวลาขึ้นลงภูเขากว่า 14 ชั่วโมง เพื่อถ่ายพรีเวดดิ้งแสนงดงาม

    Trolltunga หรือที่เรียกว่า Troll Tongue คือแนวหินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศนอร์เวย์ หากใครได้ไปเห็นทิวทัศน์ด้านบนนั้นแล้วก็อาจหยุดหายใจกันไปเลยเพราะมันสวยงามเอามากๆ จนทำให้คู่บ่าวสาวคู่หนึ่งต้องการขึ้นไปถ่ายรูปแต่งงานในสถานที่แห่งนั้น   วิวทิวทัศน์ด้านบนแนวหิน Trolltunga   พวกเธอจึงไปร้องขอให้ช่างภาพสาว Priscila Valentina ตามขึ้นไปเก็บภาพของพวกเธอ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์ภาพชุดนี้ที่แสดงให้เห็นเลยว่าการเดินทางอันยากลำบากและผลลัพธ์ที่คุ้มค่านั้นมันออกมาเป็นอย่างไร   เรื่องราวนี้ถูกแชร์ในเว็บไซต์ Petapixel เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017   พวกเขาทั้งสามจำเป็นต้องเดินทางกันตั้งแต่เวลา 5.25 นาฬิกา หรือเช้าตรู่ของวันนั้น เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับการเดินขึ้นลงแนวโขดหิน .   เมื่อมาถึงที่จอดรถด้านล่างโขดหิน พวกเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินขึ้นไป   เจ้าบ่าวเจ้าสาวคอยดูแลกันและกันไม่ห่าง .   ความน่ารักที่มากมายขนาดนี้ทำให้ช่างภาพต้องคอยเก็บภาพบรรยากาศต่างๆ เอาไว้อยู่เสมอ   การเดินทางอันแสนเหน็ดเหนื่อยและยากลำบากของทั้งคู่ รวมถึง Priscilla ที่ต้องแบกอุปกรณ์ถ่ายภาพทุกอย่างหนักเกือบ 16 กิโลกรัม   ในที่สุดทั้งสามก็ขึ้นมาถึงด้านบนเป็นที่เรียบร้อย กางเต้นท์ไว้สำหรับเปลี่ยนชุด   ชายหนุ่มในมาดเจ้าบ่าวแบบเต็มตัว   และเจ้าสาวที่สวยสง่า เข้ากับบรรยากาศด้านหลังสุดๆ .…

  • ความโหดร้ายของฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ทำร้ายวัวทั้งเตะและตีอย่างหนัก

    ความโหดร้ายของฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ทำร้ายวัวทั้งเตะและตีอย่างหนัก

    ปัญหาเรื่องการทรุณกรรมสัตว์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไม่สามารถแก้ให้หมดไปจากโลกนี้สักที แถมยังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนต้องมีกฎหมายเพื่อคุ้มครองสัตว์โดยเฉพาะ และไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์จะมีจิตใจโหดเหี้ยมถึงขนาดต้องรังแกสัตว์ที่ไม่มีทางสู้เพื่อระบายอารมณ์ เมื่อในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการทารุณกรรมสัตว์ในฟาร์มโคนม Larson เมือง Okeechobee รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา     ในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่ามีพนักงานดูแลฟาร์มคนหนึ่งกำลังเตะเข้าไปที่ลำตัวของวัวและตีด้วยท่อนเหล็กหลายต่อหลายครั้ง .   ฟาร์มโคนมแห่งนี้เป็นหนึ่งในฟาร์มโคนมที่ใหญ่ที่สุดในรัฐฟลอริดา โดยดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 1947 ผลิตภัณฑ์นมจากฟาร์มแห่งนี้ถูกส่งไปขายทั่วรัฐฟลอริดาและห้างสรรพสินค้าบริเวณใกล้เคียง หลังจากที่สำนักงานเมือง Okeechobee และองค์กร Animal Recovery Mission ได้รับทราบเรื่องราวก็ทำการเข้าสอบสวนที่ฟาร์มโคนมแห่งนี้ทันที     ซึ่งการทารุณกรรมสัตว์ที่โหดร้ายนี้ถือว่าเป็นคดีอาชญากรรม คนงานที่ทำร้ายร่างกายวัวจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายคุ้มครองสัตว์ Jacob Larson เจ้าของฟาร์มโคนมได้ออกมาแถลงการณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า “ทางเรารู้สึกเสียใจกับการกระทำของคนงานของเราในวิดีโอนี้ การใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถยอมรับได้ คนงานที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอจะต้องถูกพักงานเพื่อแก้ไขปรับปรุงในสิ่งที่ได้กระทำลงไป”     คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกไปทำให้ฟาร์มโคนมแห่งนี้เสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก บริษัทหลายบริษัทยกเลิกการรับผลิตภัณฑ์นมที่มาจากฟาร์ม Larson เพื่อเป็นบทลงโทษในคดีการทารุณกรรมสัตว์ที่ไม่เหมาะสม   เนื้อหาในคลิปวิดีโอมีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญานในการรับชม   ที่มา palmbeachpost, dailymail

  • ธรรมดาที่ไหน…”มิสเตอร์บีน” ในวัย 62 ได้เป็นพ่อคนอีกครั้ง หลังภรรยาสาวท้องลูกคนที่ 3

    ธรรมดาที่ไหน…”มิสเตอร์บีน” ในวัย 62 ได้เป็นพ่อคนอีกครั้ง หลังภรรยาสาวท้องลูกคนที่ 3

    ข่าวคราวเงียบหายไปนานเหลือเกินสำหรับ โรแวน แอทคินสัน (Rowan Atkinson) หรือที่เรารู้จักกันดีในบท “มิสเตอร์บีน” นักแสดงตลกชื่อดังจากซีรีส์ Mr. Bean ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสื่อหลายสำนักก็ได้มาเผยว่า หลังครองความโสดมาได้พักใหญ่ มิสเตอร์บีนก็ได้พบรักใหม่อีกครั้งกับแฟนสาวรุ่นลูกอย่าง หลุยส์ ฟอร์ด (Louise Ford) แถมเขายังดูแลเธอเป็นอย่างดีชนิดที่ว่ามดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมกันเลยทีเดียว     และล่าสุดวันที่ 11 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า โรแวน แอทคินสัน ในวัย 62 ปี กำลังจะได้กลายเป็นคุณพ่อลูก 3 หลังจากที่ภรรยาสาววัย 33 ได้ตั้งท้อง ซึ่งทั้งคู่ก็คาดว่าลูกคนแรกของพวกเขาจะได้เกิดมาลืมตาดูโลกในช่วงต้นปีหน้านี้แน่นอน     จากการรายงานระบุว่าก่อนหน้านี้โรแวนได้แต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอดีตภรรยา ซูเนทรา แซสทรี (Sunetra Sastry) เป็นเวลานานกว่า 25 ปี ทั้งคู่ก็ได้มีลูกด้วยกัน 2 คนคือ Benjamin ลูกชายวัย 23 และ Lily ลูกสาววัย 21 ปี…

  • นักวิทยาศาสตร์ค้นพบกะโหลกมนุษย์อายุกว่า 300,000 ปี เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา

    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบกะโหลกมนุษย์อายุกว่า 300,000 ปี เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา

    หากจะว่าด้วยเรื่องต้นกำเนิดของมนุษย์เรานั้น ในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรและเกิดขึ้นมาตอนไหน แต่ว่าในตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานสำหรับที่มาของมนุษยชาติแล้ว เพราะว่าพวกเขาได้ค้นพบหัวกะโหลกที่มีอายุมากกว่า 300,000 ปี ซึ่งอาจเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของโลกไปเลย Jean-Jacques Hublin และทีมงานของเขาจากสถาบันวิจัย Pax Planck ได้ค้นพบโครงกระดูกอายุกว่า 300,000 ปีซึ่งน่าจะเป็นที่มาของมนุษยชาติซึ่งเหล่าฟอสซิลเหล่านี้น่าจะเป็นโครงกระดูกที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ที่เคยมีการค้นพบเลยก็ว่าได้     ซึ่งที่มาของการค้นพบครั้งนี้เกิดจากเมื่อประมาณเมื่อ 20-30 ปีก่อนคนงานเหมืองแร่ใน Marrakesh ประเทศโมร็อกโกได้สะดุดเข้ากับหัวกะโหลกของมนุษย์เข้า นั่นจึงได้เริ่มการขุดค้นบริเวณนี้ขึ้นเพราะเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้ยังมีโครงกระดูกอื่นๆ อีกมาก จนมาพบเข้ากับซากโครงกระดูกโบราณนี้ในที่สุดโดยในตอนแรกพวกเขาสันนิษฐานกันไว้ว่ากะโหลกมนุษย์ที่ค้นพบนี้มีอายุกว่า 40,000 ปีเลยทีเดียวแต่เมื่อนำไปเทียบกับหลักฐานในยุคต่างๆ ที่เคยมี ปรากฏว่ามันไม่ตรงกับยุคไหนเลยและน่าจะมีความเก่าแก่มากกว่านั้น     นอกจากกะโหลกอันนี้แล้วพวกเขายังพบโครงกระดูกอื่นๆ อีกในบริเวณนี้โดยน่าจะเป็นโครงกระดูกสำหรับคน 5 คนอีกทั้งยังพบมีดที่ทำมาจากหินอยู่ข้างๆ โครงกระดูกและเมื่อนำสิ่งต่างๆ ไปตรวจสอบรังสีแล้วก็พบว่าโครงกระดูกเหล่านี้น่าจะมีอายุกว่า 300,000-350,000 ปีก่อนเลยทีเดียว ในตอนแรก Hublin คิดว่าลักษณะของกะโหลกโบราณต้องมีกระดูกคิ้วที่แข็งแรง รูปร่างกะโหลกค่อนข้างใหญ่และมีใบหน้ามีแบนเรียบ แต่เมื่อมีการค้นพบนี้ขึ้นก็ปรากฏว่ากะโหลกของมนุษย์เมื่อ 3 แสนปีก่อนมีความใกล้เคียงกับมนุษย์ในยุคปัจจุบันเลย Hublin ยังมีความเชื่ออีกว่าประเทศโมร็อกโกนี้ยังมีซากดึกดำบรรพ์ซึ่งอาจเป็นกุญแจในการไขจุดกำเนิดของมนุษย์ ที่รอคอยการค้นพบอีกจำนวนมาก     ที่มา: unilad , businessinsider

  • ช่างภาพมาถ่ายวิวทดสอบกล้อง แต่ดันได้ภาพขอแต่งงานของคนแปลกหน้าซะงั้น!?

    ช่างภาพมาถ่ายวิวทดสอบกล้อง แต่ดันได้ภาพขอแต่งงานของคนแปลกหน้าซะงั้น!?

    เรื่องบังเอิญเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา บางครั้งก็อาจจะเป็นเรื่องราวดีๆ บางครั้งก็อาจจะเป็นเรื่องราวร้ายๆ สลับกันไปบ้างถือว่าเป็นสีสันในชีวิต ซึ่งเรื่องราวที่ #เหมียวบู้บี้ จะเล่าต่อไปนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องบังเอิญเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องราวของช่างภาพคนหนึ่งที่ชื่อว่า Andy Crawford ชาวเมือง Prairieville รัฐหลุยส์เซียนา ทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะที่เขาขึ้นไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่ Sunset Rock ในรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในตอนนั้นเขาได้ตั้งกล้องเพื่อที่จะเก็บภาพพระอาทิตย์ตกในเย็นวันนั้น แต่ก็ได้พบกับคู่รักจากเมือง Chattanooga ที่มานั่งดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน ท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันแสนสวยงามจากแม่น้ำ Tennessee เขาจึงขอเก็บภาพคู่รักที่แสนโรแมนติกนี้ไว้ด้วย   .   สักพัก Alex Roberts ชายคู่รักก็ขอให้ช่างภาพถ่ายรูปของเขาและ Bridget Moore แฟนสาวอีกสักภาพสองภาพ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ คุกเข่าลงต่อหน้าแฟนสาวแล้วดึงกล่องแหวนเพชรออกมาขอแต่งงาน “คุณจะแต่งงานกับผมไหม?” Alex ถาม Bridget แฟนสาวของเขา เธอถึงกับเงียบไปสักพักหนึ่ง   . .   และคำตอบที่เขารอคอยก็มาถึง แฟนสาวของเขาพยักหน้าตอบตกลง   เขาบรรจงสวมแหวนให้กับแฟนสาวท่ามกลางความโรแมนติกนี้   Andy ได้บันทึกภาพเหตุการณ์นี้ไว้ได้ทั้งหมด ตอนแรกแฟนสาวคิดว่าเขาจ้างช่างภาพมาเพื่อถ่ายงานนี้โดยเฉพาะซะอีก แต่กลับกลายเป็นเรื่องบังเอิญซะงั้น .  …

  • สาวบุกยิงชายวัย 36 ปี ถึงบ้านแถมขโมยเงินไป 4 แสน พอโดนจับอ้างเพราะเขา “เบิร์นไม่มันส์”

    สาวบุกยิงชายวัย 36 ปี ถึงบ้านแถมขโมยเงินไป 4 แสน พอโดนจับอ้างเพราะเขา “เบิร์นไม่มันส์”

    เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมาสำนักข่าว Myeverettnews ได้รายงานว่ามีการตัดสินคดีความคดีหญิงสาวยิงชายวัย 36 ปีที่ศีรษะจนเสียชีวิต เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่ Marissa Wallen ได้บุกเข้าไปในบ้านของชายวัย 36 ปีที่บ้านของเขาในเมือง Everett รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา จากนั้นก็ได้ยิงเขาเข้าที่ศีรษะถึง 2 นัด     เมื่อเพื่อนบ้านได้ยินเสียงปืนก็ได้โทรแจ้งให้ตำรวจเมือง Everett เข้าไปตรวจสอบก็พบชายนิรนามนอนหายใจรวยริน ร่างกายเริ่มไร้การตอบสนองและมีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ เขาถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดในละแวกนั้นทันที     เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานในบริเวณบ้าน พบว่ากระเป๋าสตางค์ของเขานั้นหายไป อีกทั้งเงินในบัญชีประมาณ 400,000 บาทได้หายไปด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้สืบหาคนที่เกี่ยวข้องจนพบว่า Marrissa หญิงคนที่เคยมีความสัมพันธ์กับเขาเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้     หลังจากนั้นไม่นานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าไปจับกุมตัวนางสาว Marrissa เพื่อมาให้ปากคำถึงสาเหตุในการยิงชายผู้นี้ เธอได้ให้การสารภาพว่า “ที่ฉันยิงเขาก็เพราะว่าเขาออรัลเซ็กส์ให้ฉันได้แย่สุดๆ และมันทำให้ฉันโมโหมากจนไม่รู้จะทำอย่างไร” (ห๊ะ!? แบบนี้ก็ได้เหรอ??)     คดีนี้ก็ได้ถูกตัดสินไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 ผ่านมาโดยศาลมีคำสั่งให้หญิงสาวมีความผิดในคดีทำร้ายร่างกายโดยเจตนาและโจรกรรม ซึ่งหากต้องการประกันตัวต้องหาหลักทรัพย์มาประกันเป็นจำนวนเงิน…

  • หนุ่มออทิสติกยืนรอดูรถเครนทุกวัน ได้รับการจัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่จากบริษัทรถเครน

    หนุ่มออทิสติกยืนรอดูรถเครนทุกวัน ได้รับการจัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่จากบริษัทรถเครน

    วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 เว็ยบไซต์ Metro ได้เผยเรื่องราวของ Ben Lawton ชายหนุ่มผู้ที่มักจะออกมายืนต้อนรับรถเครนจากบริษัท ABA Crane Hire ในเมืองวอลซอลล์ ประเทศอังกฤษ ที่ขับผ่านประตูในช่วงเช้าและเย็นของทุกๆ วันเป็นเวลานานกว่า 20 ปี จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต สำหรับ Ben เป็นหนุ่มออทิสติกที่ป่วยเป็นโรคลมชัก เขาได้เสียชีวิตลงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยวัยเพียง 35 ปี จากอาการหยุดหายใจกะทันหัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีการระบุถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัด   .   จากการรายงานระบุว่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โลงศพของ Ben ได้ถูกนำขึ้นรถตู้ของบริษัทรถเครน พร้อมกันนี้ทางบริษัทยังได้จัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่ให้กับ Ben ตามคำร้องขอของ Steve ผู้เป็นพ่อ โดยให้รถเครนคันใหญ่จำนวน 3 คัน รวมถึงขบวนรถเครนคันเล็กได้ขับตามหลังรถตู้อีกด้วย งานศพของ Ben ได้ถูกจัดขึ้นที่ Streetly Crematorium ในเมืองวอลซอลล์ ประเทศอังกฤษ โดยมีแขกเดินทางเข้าไปร่วมงานกันอย่างมากมาย   .…

  • วัยรุ่นเกาหลีกรี๊ดหนัก ไม่ใช่เพราะเจอ Melania Trump นะ แต่เป็นมินโฮ SHINee ต่างหาก!!

    วัยรุ่นเกาหลีกรี๊ดหนัก ไม่ใช่เพราะเจอ Melania Trump นะ แต่เป็นมินโฮ SHINee ต่างหาก!!

    เมื่อ Melania Trump สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ถูกนักร้อง K-pop ชื่อดังหนึ่งในสมาชิกวง SHINee อย่าง ชอยมินโฮ แย่งซีนกลางเวที งานนี้ทำขุ่นแม่ถึงขั้นไปไม่เป็น เล่นออกอาการเหวอให้เห็นกันเลยทีเดียว     เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ Melania Trump ได้เดินทางไปเยือนเกาหลีใต้พร้อมกับ Donald Trump ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ และในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ผ่านมา เธอก็ได้เดินทางไปร่วมงาน 2018 PyeongChang Olympics พร้อมนำเสนอแคมเปญ Girls Play 2! ที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ในกรุงโซลด้วย ซึ่งแคมเปญดังกล่าวได้จัดทำขึ้นเพื่อให้กำลังใจและส่งเสริมสุภาพสตรีให้หันมาเล่นกีฬา และออกกำลังกายมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยในการโปรโมทโอลิมปิกฤดูหนาวที่จะถูกจัดขึ้นในเกาหลีใต้ปี 2018 ที่จะถึงนี้นั่นเอง     จากการรายงานระบุว่านอกจาก Melania แล้ว ภายในงานดังกล่าวยังมีหนุ่ม มินโฮ นักร้อง-นักแสดงหนุ่มชื่อดังได้เดินทางเข้ามาร่วมงานในฐานะทูตวัฒนธรรมด้วย โดยภายหลังจากการปรากฏตัวของเขา ก็ทำเอาบรรดาเด็กนักเรียนหญิงที่มาร่วมงานต่างพากันกรี๊ดหนักด้วยความดีใจ โดยไม่มีใครสนใจสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ เลยแม้แต่น้อย งานนี้เล่นเอาขุ่นแม่ถึงขั้นหน้าเหวอไปเลยจ้า  …

  • ภรรยาของชายผู้บริจาคอวัยวะได้สัมผัสใบหน้าของอดีตคนรัก ที่กลายเป็นใบหน้าคนอื่นอีกครั้ง

    ภรรยาของชายผู้บริจาคอวัยวะได้สัมผัสใบหน้าของอดีตคนรัก ที่กลายเป็นใบหน้าคนอื่นอีกครั้ง

    การให้หรือการมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับผู้อื่นนั้น บางครั้งอาจจะไม่เกิดผลที่เราสามารถเห็นได้อย่างทันที แต่มันอาจเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อย่างคาดไม่ถึง เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนนี้ ก่อนหน้านี้เราได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องของคุณ Andy Sandness ชายหนุ่มที่เข้ารับการบริจาคใบหน้าจากครอบครัวของคุณ Lilly Ross เมื่อปี 2016 หลังจากผ่านไปหนึ่งปีกว่า คุณ Lilly ก็ได้มีโอกาสได้สัมผัสผิวหน้าของสามีที่เธอคุ้นเคยเธออีกครั้ง และถึงแม้ว่าในครั้งนี้จะไม่เหมือนกับการได้พบกับสามีของเธอเหมือนทุกๆ ครั้ง แต่มันก็ทำให้เธอมีความสุขได้ไม่น้อยเลยทีเดียว     ทั้งสองพบกันเมื่อประมาณเดือนตุลาคม หลังจากได้รับคำเชิญจาก Mayo Clinic ณ ห้องสมุดของคลินิกดังกล่าว ในรัฐมินนิโซตา หญิงสาวได้เริ่มพูดคุยกับชายผู้รับบริจาคใบหน้าของสามีเธอ ก่อนที่จะเริ่มสัมผัสไปที่ผิวของของเขา การทำศัลยกรรมดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่คุณ Sandness ต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายเนื้อเยื่อที่ใบหน้า หลังจากที่เขาเคยคิดสั้นโดยการใช้ปืนจ่อยิงที่ใต้คางของตัวเอง จนทำให้สูญเสียจมูก แก้ม ปาก ริมฝีปาก ขากรรไกร และฟัน     การตัดสินใจบริจาคอวัยวะครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้ฆ่าตัวตายในขณะที่คุณ Lilly ตั้งท้องลูกชายของเธอได้เพียงแค่ 8 เดือน แน่นอนว่าการตัดสินใจที่จะมาพบผู้รับบริจาคใบหน้าของอตีดสามีเธอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และถึงแม้จะมีความกลัวอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจมาพบกับชายผู้รับบริจาคใบหน้าของสามีเธอก็คือ Lilly ต้องการให้ลูกชายตัวน้อยของเธอได้รับรู้ถึงสิ่งที่พ่อของเขาทำ ความกลัวของเธอก็หายไปทันทีหลังจากที่ได้พบกับชายหนุ่มคนดังกล่าว เพราะหลังจากการศัลยกรรมแล้วใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้ไม่มีส่วนใดที่คล้ายกับสามีของเธอเลย     หลังจากที่เธอได้พบกับชายหนุ่มที่ได้รับบริจาคใบหน้าไป หญิงสาวผู้ใจบุญก็รู้สึกตื้นตันใจและรู้สึกว่าเธอได้ช่วยเหลือคนคนหนึ่งให้สามารถมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ต่อไป “มันทำให้ฉันภูมิใจมาก สามีของฉันน่าจะได้เห็นใบหน้าของเขาในตอนนี้ เขาต้องไม่เคยเห็นตัวเองแบบนี้มาก่อนแน่ๆ “ Lilly กล่าว  …

  • แม่ลูกสี่เล่าประสบการณ์ ‘เสพติดเซ็กส์’ นอนกับผู้ชายมาแล้วกว่า 100 คน มากกว่า 1,000 ครั้ง

    แม่ลูกสี่เล่าประสบการณ์ ‘เสพติดเซ็กส์’ นอนกับผู้ชายมาแล้วกว่า 100 คน มากกว่า 1,000 ครั้ง

    การเสพติดอะไรบางอย่างจนมากเกินไปนั้นมักจะไม่ใช่เรื่องที่ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกิน การดื่ม ยาเสพติด หรือแม้กระทั่งการติดเซ็กส์ อย่างคุณแม่ลูกสี่คนนี้ ที่เธอเคยติดเซ็กส์อย่างหนักจนกังวลใจว่าจะเป็นแม่ที่ดีของลูกๆ ไม่ได้ เธอคนนี้จะเอาชนะมันไปได้อย่างไร เราไปตามหาคำตอบกันในบทความนี้เลย     Monique Price คุณแม่ลูกสี่ วัย 25 ปี ที่มีภาวะเสพติดเซ็กส์กว่า 10 ปี ที่มันเกือบจะคร่าชีวิตเธอ และในตอนนี้แม้ว่าเธอจะเป็นคุณแม่แล้ว แต่ก็ยังคงต้องการมีเพศสัมพันธ์กับสามีถึง 6 ครั้งต่อวัน ในอดีตนั้นเธอเคยมีเพศสัมพันธ์มากว่า 1,000 ครั้งกับคู่ขานับร้อยคน และเธอก็ได้บอกว่าเธอมีอาการเสพติดเซ็กส์ครั้งแรกเมื่อเธออายุ 15 ปี ภายหลัง Monique ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค STDs (กามโรค) หลายครั้งหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน แม้ในขณะตั้งครรภ์ก็ตาม และเธอก็กังวลว่าเธอเป็นแม่ที่ดีไม่ได้ แต่เรื่องราวชีวิตของเธอก็พลิกผันเมื่อได้เจอกับหนุ่มแปลกหน้า Brandon อายุ 31 ปี ที่มีอาชีพขับรถยก เขาขอให้เธอแต่งงานกับเขาและช่วยให้เธอเอาชนะการเสพติดเซ็กส์ที่วนเวียนซ้ำๆ อยู่ในชีวิต     แพทย์ที่รักษาเธอก็ได้ออกมากล่าวเพื่อปลูกจิตสำนึกและช่วยเหลือผู้อื่น ว่าการเสพติดเซ็กส์ก็เหมือนกับการเสพยาเสพติด “คุณสนใจเพียงแค่สิ่งที่จะได้รับ คุณไม่สนใจคนรอบข้างและผลที่จะตามมา มันเป็นเพียงสิ่งที่กระตุ้นให้คุณอยากทำ และมันจะค่อยๆ ครอบงำคุณไปเรื่อยๆ” Monique กล่าวว่าเธอนั้นเป็นแม่ที่ไม่ดีเท่าไหร่ เธอพาลูกเข้านอนและหลังจากนั้นเธอก็ออกจากบ้านเพื่อไปมีเซ็กส์โดยไม่กลับมาบ้านหลายวันเลยทีเดียว ทุกคนในครอบครัวโกรธและไม่ไว้วางใจเธอ “แม้ในขณะที่ฉันกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 4 ฉันก็ยังคงมีความปรารถนาที่จะมีเซ็กส์…

  • เซอร์ไพรส์!! หนุ่มจีนหัวใสขอแฟนสาวแต่งงานด้วย iPhone X 25 เครื่องรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

    เซอร์ไพรส์!! หนุ่มจีนหัวใสขอแฟนสาวแต่งงานด้วย iPhone X 25 เครื่องรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

    การขอแต่งงานในสมัยนี้หากขอธรรมดาไปมันก็คงจะไม่ตื่นเต้น ทำให้มีการขอแต่งงานที่แปลกๆ กันออกไป และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งการเซอร์ไพรส์แฟนสาวที่คนทั้งโลกต่างร้อง อู้หูวว เพราะว่าเขาคนนี้ขอแฟนสาวแต่งงานด้วย iPhone X ถึง 25 เครื่อง!! Chen Ming หนุ่มนักออกแบบเกมจากเมือง Shenzhen ประเทศจีน ได้สร้างความอิจฉาตาร้อนให้แก่แฟนๆ สาวก iPhone ทั่วทั้งโลกหลังจากเขาซื้อ iPhone X ที่เพิ่งวางขายเมื่อไม่นานมานี้กว่า 25 เครื่องมาเรียงกันเป็นรูปหัวใจเพื่อเซอร์ไพรส์แฟนสาวของเขาและขอแต่งงาน สำหรับแผนการแต่งงานของเขา Chen ได้สั่งพรีออเดอร์เครื่องเอาไว้ก่อนหน้าและเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ Apple ก็ได้มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีน เขาจึงไปรับเครื่องทั้งหมดมาและนำไปเรียงบนกองกุหลาบขนาดยักษ์เป็นรูปหัวใจโดยมีแหวนแต่งงานวางไว้อยู่ตรงกลาง     แผนการของเขายังไม่จบเพียงเท่านั้นเพื่อความแน่ใจว่าแฟนสาวของเขาจะไม่สงสัย Chen จึงได้เกณฑ์เหล่าบรรดาเพื่อนๆ ของเธอและขอร้องให้พาเธอไปยังจุดนัดพบที่เขาเตรียมเซอร์ไพรส์ไว้ให้ เมื่อแฟนสาวของเขาที่ชื่อว่า Lee เดินทางมาถึงเธอก็เห็นกองโทรศัพท์หรูวางเอาไว้อยู่หลังจากนั้น Chen ก็ปรากฎตัวออกมาพร้อมกับคุกเข่ายื่นแหวนขอเธอแต่งงานและด้วยบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกเธอจึงไม่ลังเลที่จะตอบว่า “ตกลงค่ะ” หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม Chen ถึงเลือก iPhone X ในการขอแต่งงานเขาก็ได้อธิบายไว้ว่า เขาและแฟนสาวของเขาเป็นสาวกตัวยงของเกมโทรศัพท์มือถือ โดยทั้งสองได้พบกันผ่านเกมที่ Chen ได้เป็นผู้พัฒนาและการเล่นเกมด้วยกันก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ถามเขาต่อว่าทำไมต้อง…

  • โลกสดใสขึ้นเมื่อหญิงสาวรับเลี้ยงสุขในวันเกิดตัวเอง กลายเป็นของขวัญที่ล้ำค่าในชีวิต

    โลกสดใสขึ้นเมื่อหญิงสาวรับเลี้ยงสุขในวันเกิดตัวเอง กลายเป็นของขวัญที่ล้ำค่าในชีวิต

    เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิด หลายๆ คนมักจะรอของขวัญจากคนอื่น ซึ่งสิ่งที่ได้มาอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดก็ได้ แต่ถ้าเราเลือกของขวัญด้วยตัวเอง มันหมายความว่าสิ่งนั้นมีความหมายกับชีวิตเรา เหมือนกับสมาชิก Imgur ที่ใช้ชื่อว่า Jekyllandclyde ที่เพิ่งจะอายุครบ 25 ปี เธอตัดสินใจหาของขวัญให้ด้วยเองด้วยการรับเพื่อนใหม่เข้ามาในชีวิต     หญิงสาวได้รับเลี้ยง Teddy สุนัขพันธุ์ผสมระหว่าง Australian Cattle Dog กับโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ มันมีนัยตาสีฟ้าและรอยยิ้มที่ทำให้ใจละลาย Jekyllandclyde บอกว่า “มันเป็นสุนัขที่น่ารักมากๆ มันชอบที่จะอยู่กับมนุษย์ ฉันก็เลยตัดสินใจพามันกลับบ้านด้วย เพื่อให้สิ่งที่มันสมควรได้รับ”     นับว่าเป็นความโชคดีของ Teddy ที่ถูกรับเลี้ยงในช่วงหน้าหนาวพอดี มันไม่ต้องอยู่อย่างเดียวดายในค่ำคืนที่เหน็บหนาวอีกแล้ว น้องหมาแสดงออกทางสีหน้าชัดเจนว่ามันมีความสุขขนาดไหน ตอนที่อยู่ศูนย์พักพิง มันดูเหมือนหมาทั่วไปตัวหนึ่ง แต่พอได้บ้านใหม่แล้วมันแทบจะไม่หุบยิ้มเลย     ไม่ใช่แค่น้องหมาเท่านั้นที่แฮปปี้กับชีวิตใหม่ แต่ Jekyllandclyde ก็เช่นกัน เธอบอกว่าตั้งแต่ Teddy เข้ามาในชีวิต เธอเหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัย 25 ปี พร้อมกับสหายที่ทำให้เธอมีความสุขได้เสมอ ทั้งสุนัขและเจ้าของใหม่ต่างกลายเป็นของขวัญที่ล้ำค่าของกันและกัน พวกเขาไปด้วยในทุกๆ ที่ และทำให้หญิงสาวรู้ว่ามันดีแค่ไหนที่ตัดสินใจเลือกของขวัญวันเกิดด้วยตัวเอง     เรื่องราวของหญิงสาวทำให้หลายๆ คน…

  • ร้ายกาจ!! หญิงลักลอบซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 60,000 บาท แต่จ่ายเพียงแค่ 120 บาท

    ร้ายกาจ!! หญิงลักลอบซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 60,000 บาท แต่จ่ายเพียงแค่ 120 บาท

    ปัจจุบันตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อในต่างประเทศได้นำเครื่องมือหนึ่งที่เรียกว่า เครื่องจ่ายเงินบริการตัวเอง ให้ลูกค้าสามารถนำของที่ซื้อมาสแกนบาร์โค้ดเองได้ที่เครื่อง เรียกว่าสะดวกสบายๆ รวดเร็วทันใจเรามากกว่าเดิม ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้มีเพียงแค่ข้อดี เพราะข้อบกพร่องที่ชัดเจนของเครื่องนี้ก็คือ มันสามารถทำให้ลูกค้าโกงราคาของสินค้าได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกันกับที่เธอคนนี้ได้ทำลงไป เธอมีชื่อว่า Cheyenne Amber West สาววัย 25 ปีในเมือง Fort Pierce รัฐฟลอริด้า วันหนึ่งเธอไปซื้อของในร้าน Walmart กับแม่ของเธอ และได้ทำการโกงราคาสินค้า ทำให้เธอจ่ายเพียงแค่ 120 บาท แต่กลับได้สินค้าที่มีมูลค่ากว่า 60,000 บาท!!   Amber หญิงสาวผู้โกงเงินในร้านสะดวกซื้อ   จากการรายงานข่าวในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 บอกว่าเธอเข้าร้านมาเลือกหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จอยเกม และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายรายการ ก่อนที่จะนำบาร์โค้ดที่ตัวเองเตรียมไว้ติดทับไปกับบาร์โค้ดของสินค้าเหล่านั้นและเดินไปจ่ายเงินที่เครื่องจ่ายเงินบริการตัวเอง แน่นอนว่าเครื่องไม่สามารถรับรู้ได้ว่าบาร์โค้ดที่มันสแกนอยู่ไม่ตรงกับสินค้านั้นๆ ทำให้ราคาที่ออกมาถูกลงไปเยอะมาก แต่สิ่งที่เธอทำทั้งหมดก็ไม่อาจรอดสายตาของพนักงานรักษาความปลอดภัยไปได้ เธอจึงโดนตรวจสอบในทันที หลังจากนั้นเธอถูกจับข้อหาลักทรัพย์ตามคดีอาญาและข้อหาขโมยของในร้านค้า โดยเมื่อถามถึงสาเหตุเธอก็ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า “ฉันต้องการนำคอมพิวเตอร์นั้นไปให้สามีเพื่อตอบแทนที่เขาซื้อกระเป๋าเงินราคาแพงให้ ส่วนจอยเกมฉันต้องการนำไปฝากลูก ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถมีกำลังซื้อได้เอง”     การสอบปากคำแม่ของเธอที่ไปด้วยกัน Alicia West…

  • ร้าน ‘ราเม็งข้อสอบ’ ออกเซ็ทให้คุณได้โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาโดยไม่ต้องออกมากินที่ร้าน!?

    ร้าน ‘ราเม็งข้อสอบ’ ออกเซ็ทให้คุณได้โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาโดยไม่ต้องออกมากินที่ร้าน!?

    หากใครชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นเชื่อว่าต้องเคยได้ยินชื่อร้าน Ichiran Ramen หรือ ราเม็งข้อสอบ กันอย่างแน่นอน ด้วยรสชาติของน้ำซุปหมูที่หอมหวาน และรูปแบบของการนั่งกับการสั่งอาหารที่ทำให้เราเหมือนอยู่ในห้องสอบจริงๆ เพราะจะมีแผงกั้นซ้ายขวาทำให้เราสามารถดื่มด่ำกับรสชาติของราเม็งได้อย่างเต็มที่   รูปแบบการนั่งเหมือนกับอยู่ในห้องสอบ ทำให้เราไม่ต้องสนใจกับสิ่งรอบข้างและสามารถลิ้มรสราเม็งได้อย่างลึกซึ้งถึงความอร่อย   การสั่งอาหาร เราต้องวงกลมในตัวเลือกในแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้นของน้ำซุป ปริมาณของกระเทียม หรือแม้แต่ความเผ็ดที่เพิ่มได้มากถึง 200 เท่า!!   ความมีเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้านบวกกับรสชาติอันแสนอร่อย ทำให้ราเม็งร้านนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และได้ขยายสาขาส่งต่อไปอีกหลายๆ ประเทศจนเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน อย่างเช่นสาขาหนึ่งในเมืองไทเป เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีคนรอต่อคิวเข้าไปกินนานกว่า 10 วันเลยทีเดียว ในบ้านเราเองก็ได้มีร้านหนึ่งที่นำต้นแบบมาจากร้านนี้เหมือนกันนะ ชื่อว่า A Ramen ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วยความโด่งดังที่มากขนาดนี้ ทางร้านในญี่ปุ่นจึงได้เกิดไอเดียที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศของราเม็งข้อสอบได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาถึงที่ร้าน เพราะเซตกลับบ้าน Gokujo ไม่ได้ส่งไปให้แค่ราเม็ง แต่มันยังส่งแผงกั้นกระดาษที่มีลักษณะคล้ายกับที่ทางร้านใช้ไปให้ด้วย   เซตกลับบ้าน Gokujo มีขายในร้านที่ประเทศญี่ปุ่น   แผงกั้นแบบเดียวกับที่ตั้งอยู่ในร้าน เพียงแต่ว่ามันทำมาจากกระดาษ ส่งมาให้คุณสามารถประกอบเองได้ที่บ้าน   เวลาอยู่กับใครหลายๆ คนแล้วรู้สึกว่าถูกสิ่งแวดล้อมรบกวนการกินของเรา มั่นใจว่าเจ้าสิ่งนี้ช่วยแก้ปัญหาตรงจุดนั้นได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าอยู่บ้านคนเดียวมันก็คงเหงาๆ หน่อยอะเนาะ…

  • เปิดตัวแอพฯ ใหม่คล้ายกับ Uber แต่ว่าคราวนี้ให้บริการด้วย “เครื่องบินส่วนตัว” แทน

    เปิดตัวแอพฯ ใหม่คล้ายกับ Uber แต่ว่าคราวนี้ให้บริการด้วย “เครื่องบินส่วนตัว” แทน

    เดี๋ยวนี้การเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกสบายเพราะว่ามีแอพพลิเคชั่นที่คอยอำนวยความสะดวกให้อย่าง Grab หรือ Uber ที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะไปที่ไหนและมีการคำนวณให้ด้วยว่าจะเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่รู้หรือไม่ว่าเดี๋ยวนี้มีเครื่องบินที่ให้บริการแบบนี้แล้วด้วยนะ! แอพพลิเคชั่นใหม่อันหนึ่งที่เรียกกันว่า Wingly เป็นแอพฯ ที่ให้ผู้โดยสารเลือกเชื่อมต่อกับนักบินส่วนตัวที่จะกำหนดจุดหมายปลายทางร่วมกันในราคาที่ถูกที่สุด ยกตัวอย่างเส้นทางจากเมือง London ประเทศอังกฤษไปยังเมือง Le Touquet ประเทศฝรั่งเศสนั้นมีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 61 ยูโร(2,350 บาท) ส่วนใครที่อยากนอนอาบแดดชิวๆ ก็สามารถไปได้ง่ายๆ เช่นเส้นทางจากเมือง Cannes ประเทศฝรั่งเศสไปยังเกาะ Majorca ในประเทศสเปนนั้นก็มีราคาเบาๆ เพียง 131 ยูโร(5,000) บาทแค่นั้นเอง   เครื่องบินที่ให้บริการในแอพพลิเคชั่น “Wingly”   ส่วนวิธีการทำงานของแอพฯ นี้ก็ง่ายมากๆ คือนักบินจะมาโพสต์ถึงจุดหมายปลายทางพร้อมทั้งที่นั่งที่ยังว่างอยู่พร้อมทั้งตั้งราคาต่อเที่ยว ส่วนลูกค้าเมื่อมาเห็นเส้นทางที่ถูกใจก็จองผ่านทางออนไลน์จากนั้นเพียงแค่มาเตรียมเอกสารและมาแสดงตัวที่สนามบินก็สามารถที่จะออกเดินทางตามเส้นทางที่ต้องการได้เลย   เดินทางจาก Munchen ไปยัง Salzburg มีราคาเพียง 1,800 บาทเท่านั้น   ในตอนนี้มีผู้ใช้บริการ Wingly แล้วมากมายในทวีปยุโรปโดยเส้นทางที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับพวกเขาคือการเดินทางจากเมือง Linz ประเทศออสเตรียไปยัง Mali Lošinj ประเทศโครเอเชีย ส่วนสาเหตุที่นักบินส่วนใหญ่หันมาบินเครื่องบินประเภทนี้มากขึ้นส่วนใหญ่จะบอกว่า “เพื่อแบ่งปันความสนุกในการบิน” และพวกนักบินยังได้สนุกกับเส้นทางที่พวกเขามักจะไม่ได้บินบ่อยๆ ด้วย ซึ่งเครื่องบินส่วนใหญ่ที่ให้บริการในแอพฯ Wingly นี้จะเป็นเครื่องบินแบบ…

  • เต็มไปหมดเลย!! สาวญี่ปุ่นฉลองวัน “นมแห่งชาติ” ด้วยการโพสต์ภาพตรงคอนเซ็ปต์ในโซเชียลต่างๆ

    เต็มไปหมดเลย!! สาวญี่ปุ่นฉลองวัน “นมแห่งชาติ” ด้วยการโพสต์ภาพตรงคอนเซ็ปต์ในโซเชียลต่างๆ

    ในประเทศญี่ปุ่นจะมีวันประจำชาติวันหนึ่งที่ผู้ชายทั้งประเทศ ไม่ดีกว่าเอาเป็นว่าผู้ชายทั้งโลกต่างรอคอยวันนี้เพราะว่านี่คือวันที่พวกเขาใฝ่หามานานเพราะว่ามันคือ วันนมแห่งชาติ นั่นเอง!! ซึ่งที่มาของวันนมแห่งชาตินี้มีที่มาจากวันที่ 8 พฤศจิกายนที่อาจใช้ตัวเลขเขียนแทนเดือนเหล่านี้ได้อย่าง 11-8 หรืออีกแบบหนึ่งคือ 11-08 ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นเลข 1 จะออกเสียงว่า “i” และเลข 8 จะออกเสียงว่า “ppai” และก็มีการดัดแปลงตัวอักษรอีกเล็กน้อยจากเลข 0 เป็นตัว “o” ซึ่งหากนำตัวอักษรต่างๆ มารวมกันก็จะได้เป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “ii oppai” ที่แปลว่านมสวยนั่นเองด้วยเหตุนี้เหล่าเน็ตไอดอลรวมถึงดารานักร้องและบรรดาคอสเพลย์ทั้งหลายจึงได้ออกมาเฉลิมฉลองวันแห่งชาตินี้ ด้วยการอวดนมกันผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ งานนี้บอกได้เลยว่ากำไรของผู้ชมอย่างแท้จริง   เปิดหัวมาด้วยคนนี้เลยละกัน @jun_amaki   มีมุมต่ำแล้วก็มีมุมสูงบ้าง   แหม เธอคนนี้ฉลองถึง 2 เซตเลยทีเดียว   นางฟ้าชัดๆ    Erina Kamiya นักร้องชื่อดังก็เอากับเขาด้วยติดตามกันได้ที่ @kamiya__erina   สีไหนก็สวยน่ารัก   Saki Yanase สาวผู้มีข่าวว่านมของเธอเหมือนตัวโปเกม่อนตัวหนึ่งเมื่อคราวก่อน @saki_yanase   วันที่ 8 พฤศจิกายนจะเป็นวันที่ยุ่งมากสำหรับเหล่าคอสเพลย์ที่จะหาชุดเพื่ออวดทรวดทรง @moe_five…

  • ‘Taken สู้ไม่รู้จักตาย’ คุณพ่อหยิบปืนออกมายิงแก๊งวัยรุ่น ที่พยายามลักพาตัวลูกสาวของเขา

    ‘Taken สู้ไม่รู้จักตาย’ คุณพ่อหยิบปืนออกมายิงแก๊งวัยรุ่น ที่พยายามลักพาตัวลูกสาวของเขา

    เรื่องราวของคุณ Terry Brackney คุณพ่อท่านหนึ่งจากรัฐฟลอริด้า ที่กลายเป็นฮีโร่ทันทีหลังจากตัดสินใจเข้าเผชิญหน้ากับแก๊งที่พยายามลักพาตัวลูกสาววัย 17 ปีของเขา!! เมื่อคืนวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายนปี 2017 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับ Amber Brackney หญิงสาววัย 17 ปีจากเมือง Preservation Path หลังจากที่เธอพบถังน่าสงสัยใบหนึ่งขวางทางรถของเธอ หญิงสาวพยายามที่จะขับรถหลบถังดังกล่าว ก่อนที่เธอจะถูกแก๊งโจรที่ซ่อนอยู่เข้ามาที่รถของเธอและพยายามที่ลักพาตัว     จากการให้สัมภาษณ์ของตำรวจ คุณ Brackney ผู้เป็นพ่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากลูกสาวของเขาและได้หยิบปืนวิ่งออกไปที่โรงรถ ก่อนที่จะยิงไปที่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวจนทำให้พวกเขาหนีไปในที่สุด คุณพ่อวัย 51 ปี พบว่าสัญญาณเตือนภัยในบ้านของเขานั้นถูกปิดลง ซึ่งเป็นไปได้ว่านี่อาจจะเป็นความพยายามในการลักพาตัวลูกสาวของเขาเป็นครั้งที่ 2     อย่างไรก็ตามหลังจากที่แก๊งลักพาตัวได้หนีออกจากบ้านของคุณ Brackney ไป ทางเพื่อนบ้านได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้ช่วยสกัดรถของคนร้าย จนในที่สุดแก๊งทั้งหมดก็ถูกจับกุมตัวได้สำเร็จ ภายในรถของคนร้ายพบกลุ่มวัยรุ่น 4 คน ประกอบด้วย นาย Keilon Johnson วัย 19 ปี นาย Austin French วัย 17 ปี นาย Tyree Johnson วัย 16 ปี และนาย Kamauri Horn วัย 15 ปี พร้อมกับของกลาง…

  • จร้าาา!! สื่อนอกเผยภาพ Brooklyn สวมกอด Chloe ในนิวยอร์ก หวานกันไปอี๊กกกก

    จร้าาา!! สื่อนอกเผยภาพ Brooklyn สวมกอด Chloe ในนิวยอร์ก หวานกันไปอี๊กกกก

    แหม!! เพิ่งจะมีข่าวออกมาให้ได้ยินว่าสาว Chloe Moretz วัย 20 ปี และหนุ่มน้อยหน้าใส Brooklyn Beckham วัย 18 ปี คู่รักต๊ะติ๊งโหน่งได้กลับมารีเทิร์นกันอีกครั้ง จนทำให้หนุ่มสาวทั่วโลกถึงขั้นอิจฉาตาร้อนไปได้ไม่นาน ล่าสุดวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์ก็ได้นำภาพอันสุดแสนหวานของสาว Chloe และหนุ่ม Brooklyn มาตอกย้ำความรักที่แสนชื่นมื่นของกันอีกครั้ง เมื่อทั้งคู่ได้พากันไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ณ ย่านเชลซี ในนครนิวยอร์ก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายนผ่านมา งานนี้ก็กลายเป็นการเพิ่มดีกรีความอิจของหนุ่มสาวทั่วโลกกันไปอี๊กกกกกกก     จากภาพปรากฏให้เห็นว่าหนุ่ม Brooklyn กำลังยืนโอบกอด และปลอบใจสาว Chloe อยู่ภายนอกร้านอาหาร ภายหลังจากที่ได้รับข่าวว่าภาพยนตร์เรื่อง I Love You, Daddy (ผลงานของผู้กำกับ Louis C.K.) ที่เธอได้ร่วมแสดงนั้นจะไม่ได้รับการปล่อยฉายภายในเดือนนี้ตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม     ภาพของน้องอี้ที่กำลังได้รับอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของหนุ่ม Brooklyn มันช่างน่าอิจฉาจริงจริ๊งงงงง…

  • ทำเพื่อ?! พลเมืองดีจับภาพหนุ่มโยนน้องหมาลงไปในทะเลที่อุณหภูมิเย็นจัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ทำเพื่อ?! พลเมืองดีจับภาพหนุ่มโยนน้องหมาลงไปในทะเลที่อุณหภูมิเย็นจัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในปัจจุบันการทารุณกรรมสัตว์ยังคงมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับน้องหมาที่เรามักได้เห็นมันถูกเตะหรือถูกขว้างปาของใส่ หรือโดนไล่ตะเพิดหัวซุกหัวซุน และไม่ว่าเราจะเห็นเหตุการณ์แบบนี้อีกสักกี่ครั้งเราก็ไม่อาจทำใจให้ชินกับมันได้เลย   เหตุการณ์ที่ #เหมียวตะปู จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2017 เมืองฮาร์ตลีพูล ประเทศอังกฤษ เมื่อมีผู้พบเห็นน้องหมาพันธุ์เกรย์ฮาวด์ถูกชายหนุ่มคนหนึ่งอุ้มไปบนสะพานที่ยื่นออกไปในทะเลและโยนเจ้าสุนัขตัวนั้นลงน้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า   เจ้าสุนัขถูกโยนลงไปจากปลายสะพาน   พยานผู้พบเห็นบอกว่าตรงปลายสะพานดังกล่าวมีชาย 3 คนสวมชุดปิดหน้าปิดตาตัวเองเอาไว้และมีน้องหมาเกรย์ฮาวด์อีก 9 ตัว ซึ่งพวกมันต้องถูกโยนลงทะเลไปทีละตัวๆ จากความสูงประมาณ 1.8 เมตร หลังจากนั้นพวกมันก็จะถูกลากขึ้นมาจากน้ำและถูกโยนลงไปใหม่ซ้ำไปซ้ำมาอย่างน่าสงสาร พยานบอกว่า “อุณหภูมิอันเย็นยะเยือกและความแรงของคลื่นทะเลที่ค่อนข้างมาก ทำให้คิดไม่ออกเลยว่าถ้าเจ้าสุนัขถูกพัดไปชนกับขอบสะพานขึ้นมาแล้วมันจะเป็นอย่างไร”   เมื่อตกน้ำไป มันก็จะถูกเชือกที่มัดเอาไว้ลากกลับขึ้นมาอีก   คนที่ได้เก็บภาพนี้มารีบติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์ในทันที ทำให้ทาง สมาคมสงเคราะห์สัตว์ (หรือที่เรียกว่า RSPCA) รีบยื่นมือเข้ามาช่วยในเรื่องของการสืบสวนและพยายามระบุให้ได้ว่าชายทั้ง 3 เป็นใครมาจากไหน เจ้าหน้าที่เล่าว่า “หลังจากได้รับแจ้งมา เราก็รีบทำการสอบสวนหาข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเราเดินทางไปที่แห่งนั้น ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ก็ไม่อยู่เสียแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังคงทำการสืบหาเบาะแสกันต่อไป”   ปัจจุบันชาวเมืองและเจ้าหน้าที่ได้ร่วมมือกันเพื่อจับกุมตัวคนเหล่านี้มาดำเนินคดี   นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจอย่างมาก หวังว่าเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้คงไม่เกิดขึ้นที่บ้านเราหรอกนะ…

  • อีกด้านของญี่ปุ่น “ย่านชิบูยะ” ที่เต็มไปด้วยขยะ กับการทิ้งเรี่ยราดหลังจากงานฮาโลวีน

    อีกด้านของญี่ปุ่น “ย่านชิบูยะ” ที่เต็มไปด้วยขยะ กับการทิ้งเรี่ยราดหลังจากงานฮาโลวีน

    โดยปรกติแล้วหลังจากเสร็จสิ้นงานกิจกรรม หรือปาร์ตี้ต่างๆ สิ่งที่มักจะตามมาหลังจากความสนุกจบลงนั่นก็คือเศษขยะจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งดูเหมือนว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในบ้านเราเท่านั้น แต่ประเทศที่มีระเบียบวินัยอย่างญี่ปุ่นเองก็มีเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นเช่นกัน!!   เศษขยะมูลฝอยจำนวนมาก ในย่านชิบูยะ หลังจากเทศกาลฮาโลวีนเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา   ภาพของขยะมูลฝอยในย่านชิบูยะ แห่งนี้มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี ซึ่งจำนวนปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้นนั้นก็เพิ่มขึ้นตามขนาดของงานที่ใหญ่ขึ้นในแต่ละปีนั่นเอง คุณ avogado6 ชาวเน็ตท่านหนึ่งที่ได้อัพเดทภาพของตัวการ์ตูนในชุดแฟนซีที่เดินอยู่บนกองขยะ พร้อมกับภาพของเด็กหญิงที่เดินตามเก็บขยะมูลฝอยที่ตัวการ์ตูนเหล่านั้นทิ้งเอาไว้ ซึ่งสื่อให้เห็นถึงสถาณะการณ์ปริมาณขยะที่ตามมาหลังจากงานเทศกาลใหญ่ๆ แบบนี้   ภาพการ์ตูนจากคุณ avogado 6   กองขยะจำนวนมากที่อยู่บนถนน Dogenzaka หนึ่งในถนนยอดฮิตในย่านชิบูยะ ซึ่งนอกจากจะมีปริมาณมากแล้ว มันยังส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วย   ภาพของชายที่กำลังจัดการกับขยะหน้าร้านสะดวกซื้อ หลังจากคืนวันปล่อยผีจบลง   มีผู้คนมากมายที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อรูปภาพของคุณ avogado 6 ซึ่งหลายๆ ความคิดเห็นก็ได้โจมตีไปยังกลุ่มผู้ที่ทิ้งขยะเหล่านั้น พร้อมกับแนะให้ใช้ภาพดังกล่าวในการรณรงค์เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเทศกาลฮาโลวีนเท่านั้น แต่ยังมีให้เห็นในเทศกาลอื่นๆ ของญี่ปุ่นอีกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตท่านหนึ่งได้ออกมากล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมามีอาสาสมัครจากโรงเรียนประถมออกมาช่วยกันจัดการกับขยะในย่านนี้ แต่ทว่ามีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเด็กๆ ในปีนี้จึงไม่มีการจัดอาสาสมัครดังกล่าว     แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีชาวญี่ปุ่นบางคนที่ไม่ยอมอยู่เฉยๆ พวกเขาได้ร่วมมือกันจัดกลุ่มอาสาสมัครเพื่อออกมาทำความสะอาดย่านชิบุยะในวันต่อมา ภายใต้ชื่อกิจกรรม Clean by Ourselves ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี   ประกาศเชิญชวนจากกิจกรรม Clean by…

  • ทัวร์คลาสเรียนของมหาวิทยาลัย ‘เจลาโต’ ในอิตาลี หนทางสู่เชฟมือหนึ่งด้านไอศกรีม!!

    ทัวร์คลาสเรียนของมหาวิทยาลัย ‘เจลาโต’ ในอิตาลี หนทางสู่เชฟมือหนึ่งด้านไอศกรีม!!

    สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการทานไอศกรีมเป็นชีวิตจิตใจและชอบการทำขนมทานเองที่บ้าน คุณอาจจะหลงรักมหาวิทยาลัยจากประเทศอิตาลีแห่งนี้ก็ได้ เพราะที่นี่จะทำให้คุณกลายเป็นนักทำไอศกรีมไตล์อิตาลีแบบมืออาชีพได้ภายใน 1 เดือน!! มหาวิทยาลัย Carpigiani Gelato University จากเมืองโบโลญญา ประเทศอิตลาลีแห่งนี้เตรียมเปิดคลาสเรียนที่จะสอนให้คุณกลายเป็น Gelato Master หรือนักทำไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ โดยในชั้นเรียนคุณจะได้เรียนรู้ระหว่างความแตกต่างของเจลาโต กับไอศกรีมแบบธรรมดาทั่วไป แถมยังได้ฝึกลงมือปฏิบัติจริงๆ อีกด้วย     มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2003 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Carpigiani บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือในการทำเจลาโตชื่อดังจากประเทศอิตาลี โดยหลักสูตรการฝึกเป็นนักทำไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยนมืออาชีพนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งจะแบ่งออกเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเจลาโต 3 สัปดาห์ และฝึกงานในร้านไอศกรีมอีก 1 สัปดาห์นั่นเอง     คุณ Samuel Kelerstein เจ้าของร้านขายเจลลาโตที่ Parkland รัฐฟลอริดา หนึ่งในศิษย์เก่าของที่นี่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การเรียนในชั้นเรียนนั้นจะช่วยทำให้เราเข้าใจถึงการทำเจลาโตแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ ได้อย่างลึกซึ้ง พวกเขาช่วยให้ผมเข้าใจถึงกระบวนการต่างๆ และขั้นตอนการเลือกวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังรวมถึงความแตกต่างระหว่างไอศกรีมกับเจลาโตอีกด้วย”   ในแต่ละชั้นเรียนจะมีนักเรียนประมาณ 10 ถึง 30 คน และนักเรียนส่วนมากนั้นไม่ใช่ชาวอิตาลี   คุณ Kelerstein เล่าว่าเขาเริ่มลงทุนเปิดร้านเจลาโตของตัวเองในปี 2014 หลังจากที่เรียนคอร์สทำเจลาโตที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จบ ซึ่งตัวเขาเองนั้นมาจากครอบครัวของนักทำไอศกรีมจากเม็กซิโก มันจึงทำให้เขาสนใจในการทำไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยน “มันเหมือนกับการเรียนภาคฤดูร้อนเลย พวกเขามีห้องพักให้คุณ และจะปลุกคุณไปเรียนในทุกๆ…

  • หญิงชาวอเมริกาถูกศาลตัดสินจำคุกนาน 10 ปี ข้อหาแต่งงานกับแม่แท้ๆ ของตัวเอง

    หญิงชาวอเมริกาถูกศาลตัดสินจำคุกนาน 10 ปี ข้อหาแต่งงานกับแม่แท้ๆ ของตัวเอง

    เรื่องราวอันแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นระหว่าง Misty Spann หญิงสาววัย 26 ปี ผู้เติบโตขึ้นมาโดยการดูแลของคุณยายเธอตั้งแต่ยังเล็กๆ ก่อนจะเกิดความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับแม้แท้ๆ ของเธออย่าง Patricia Ann Spann แม่แท้ๆ วัย 44 ปี ทั้ง Misty และ Patricia เริ่มต้นความสัมพันธ์ของพวกเขาตั้งแต่ปี 2014 ก่อนที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งสองกำลังเตรียมที่จะแต่งงานกัน     แต่ตามความต้องการของทั้งสองกลับต้องสะดุดลง หลังจากที่การแต่งงานกับผู้ที่เป็นญาติกันนั้นขัดต่อข้อกฎหมายของรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามทางด้านนาง Patricia ก็ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ในปัจจุบันของเธอกับลูกสาว พร้อมทั้งบอกว่าการกระทำของพวกเธอนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ผิด เนื่องจากเธอไม่ได้ระบุว่าเป็นผู้ปกครองไว้ในสูติบัตรของลูกสาวเธอ ก่อนหน้านี้ในปี 2008 หญิงคนดังกล่าวเคยจดทะเบียนแต่งงานกับลูกชายของเธอมาก่อน แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 15 เดือนทั้งสองก็หย่ากัน โดยฝ่ายชายอ้างว่าเขารับไม่ได้กับการร่วมประเวณีระหว่างญาติ     การแต่งงานของทั้งสองนั้นถูกศาลตัดสินว่าเป็นโมฆะ โดย Misty Spann อ้างว่าแม่ของเธอบอกว่าเขาสามารถจัดการเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ และให้คำมั่นสัญญากับเธอว่าทั้งคู่จะสามรถแต่งงานกันได้ อย่างไรก็ตาม Misty Spann และแม่ของเธอถูกศาลสั่งตัดสินจำคุกนาน 10 ปี หลังจากที่ทั้งสองยอมรับว่ามีการร่วมประเวณีกัน ส่วนทางด้านนาง Patricia ยังมีการตั้งข้อกล่าวหาในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย และเตรียมเข้ารับการพิจารณาคดีอีกครั้งในเดือนมกราคมปีหน้า     ที่มา ladbible

  • ชาวเน็ตถึงกับลั่น เมื่อทหารหนุ่มนั่งคั่นระหว่างทรัมป์กับนายกฯ เกาหลีใต้ ขณะทานอาหาร

    ชาวเน็ตถึงกับลั่น เมื่อทหารหนุ่มนั่งคั่นระหว่างทรัมป์กับนายกฯ เกาหลีใต้ ขณะทานอาหาร

    กลายเป็นประเด็นขำๆ ในโซเชียล เมื่อชาวเน็ตเห็นคลิปนายทหารผู้น่าสงสารคนหนึ่งที่ต้องนั่งตรงกลางระหว่างทรัมป์ กับนายกฯ เกาหลีใต้ ขณะรับประทานอาหาร… คิดดูว่าถ้าเป็นเราจะรู้สึกยังไง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ จากสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับทหารและมูนแจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ระหว่างการไปเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ     ด้วยความที่ผู้จัดการงานต้องให้บรรยากาศเป็นกันเอง จึงจัดให้ทรัมป์กับมูแจอินนั่งร่วมโต๊ะกับทหาร แทนที่จะจัดให้ทั้งสองคนนั่งติดกัน แต่กลับให้ทหารนั่งคั่นกลางระหว่างทั้งสองคนซะงั้น แน่นอนว่าทหารผู้โชคร้าย (หรือโชคดี) ที่นั่งตรงกลางระหว่างผู้นำทั้งสองคนนั้นต้องอึดอัดมากแน่ๆ เมื่อทรัมป์กับมูนแจอินพูดคุยกันผ่านหน้าเขา ทหารหนุ่มจะก้มกินข้าว เดี๋ยวก็กลัวเป็นการขัดขวางการสนทนาของทั้งสองคน จะนั่งฟังพวกเขาคุยกันก็กลัวจะหาว่าอยากมีส่วนร่วม คือเขาทำอะไรไม่ได้จริงๆ นอกจากยิ้มกลบเกลื่อน ประหนึ่งว่า ‘ฉันมาทำอะไรที่นี่…’     ต่อมาคลิปดังกล่าวถูกแชร์ไปทั่วโซเชียลเกาหลีใต้ ชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านั่งอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ใครมันจะไปกินลง  บางคนบอกว่า “ดีนะที่ไม่ใช่ปูติน ไม่งั้นทหารคนนี้คงพบกับความอัปยศตลอดชีวิตแน่ๆ”   “ดูเขาสิ ไม่กล้าขยับเลย” “นี่ช่างเป็นการประชุมที่ยอดเยี่ยมจริงๆ จะเป็นยังไงนะ ถ้าเราเป็นทหารหนุ่มคนนั้น?”     สำหรับอาหารมื้อนั้น ได้ทำเมนูพิเศษเพื่อทหารอเมริกา ทหารเกาหลีใต้ และผู้นำของทั้งสองประเทศ มีทั้งทาโก้ บาร์ริโต และ curly fries (เฟรนช์ฟรายด์ที่มีลักษณะโค้งบิดเป็นเกลียว) แต่ชาวเน็ตสงสัยว่าทหารหนุ่มคนนั้นจะได้กินอาหารพวกนี้บ้างมั้ยนะ?…

  • นางแบบพลัสไซส์ สวมชุดชั้นในเลียนแบบนางฟ้า Victoria’s Secret ที่ดูเซ็กซี่ไม่แพ้กันเลย

    นางแบบพลัสไซส์ สวมชุดชั้นในเลียนแบบนางฟ้า Victoria’s Secret ที่ดูเซ็กซี่ไม่แพ้กันเลย

    Tabria Majors เป็นชื่อของนางแบบพลัสไซส์ผู้ที่เคยสร้างความฮือฮาบนโลกโซเชียลมาแล้ว โดยการออกมาสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนรักตัวเองให้มากขึ้น และนั่นก็ทำให้เธอได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนมุมมองให้กับสาวอวบทั่วโลก ล่าสุดนางแบบสาวร่างอวบคนนี้ ก็ได้กลับมาเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง ซึ่งได้มาพร้อมกับการปฏิวัติวงการนางแบบ Victoria’s Secret เพื่อสร้างมาตรฐานความงามรูปแบบใหม่ และพิสูจน์ให้เห็นว่าสาวร่างอวบก็สามารถเป็นนางแบบชุดชั้นในได้เหมือนกัน     Tabria ได้โพสต์ภาพถ่ายเลียนแบบนางแบบ Victoria’s Secret ลงในอินสตาแกรม ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีคนเข้ามากดไลก์มากกว่า 27,000 ครั้งเลยทีเดียว     โดยปกติแล้วเรามักจะเห็นนางแบบเอวบางร่างเล็กมาถ่ายแบบแฟชั่นชุดชั้นใน แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ล้าสมัยไปแล้ว เพราะวงการนางแบบสมัยนี้เรียกได้ว่ามีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น   และนี่เป็นภาพถ่ายระหว่าง Tabria Majors และเหล่านางแบบ Victoria’s Secret . .   “บางทีฉันอาจจะเป็นนางฟ้า Victoria’s Secret สำหรับวันฮาโลวีนในปีนี้ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตจริง” Tabria กล่าว   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางแบบพลัสไซส์ได้ออกมาปฎิวัติวงการนางแบบ Victoria’s Secret เพราะก่อนหน้านี้ Lane Bryant แบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงพลัสไซส์ ก็ได้ปล่อยแคมเปญออกมาชื่อว่า “#ImNoAngel”…

  • หนุ่มอังกฤษพัฒนาชุด ‘เจ็ตสูท’ ที่บินได้เร็วขึ้นและนานขึ้น เท่อย่างกะ Iron Man

    หนุ่มอังกฤษพัฒนาชุด ‘เจ็ตสูท’ ที่บินได้เร็วขึ้นและนานขึ้น เท่อย่างกะ Iron Man

    เวลาเราดูหนังเรื่อง Iron Man เราต่างรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็น Tony Stark เหาะเหินเดินอากาศด้วยชุดสูทสุดล้ำ แม้เราจะรู้ว่ามันเป็นเพียงเทคนิคพิเศษ แต่หลายๆ คนก็คาดหวังที่จะบินได้แบบนั้นในชีวิตจริง และด้วยความสามารถของมนุษย์ ความหวังนี้ดูเหมือนจะเข้าใกล้ความจริงแล้วทุกที ก่อนหน้านี้ Richard Browning ผู้เป็นนักบินและนักประดิษฐ์ได้พยายามพัฒนาชุดเกราะที่สามารถบินได้แบบ Iron Man และดูเหมือนว่าชุดสูทของเขาก็ประสบความสำเร็จประมาณหนึ่ง อ่านข่าวเก่า ชายหนุ่มผู้ตามฝัน สร้างชุด “Iron Man” ฝ่าฟันล้มลุกคลุกคลาน ตอนนี้มันเริ่มบินได้แล้วด้วย!!     ล่าสุด Browning ได้เผยคลิปวิดีโอที่เขาใส่ชุดเจ็ตสูทแล้วบินไปรอบๆ สวนสาธารณะในเมืองเรดดิ้ง ในสหราชอาณาจักร ด้วยความเร็วสูงสุด 32 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 51.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วและนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ สำหรับชุดดังกล่าวนี้ ชายหนุ่มได้สร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยต้องผ่านการทดสอบ ลองผิดลองถูก และล้มลุกคลุกคลานนับไม่ถ้วน ในที่สุด วันนี้เขาก็ประสบความสำเร็จจนได้รับการบันทึกใน Guinness World Record     ในตอนแรกเขาใช้ Micro Gas Turbine (คล้ายๆ เครื่องยนต์ของเครื่องบินแต่มีขนาดเล็กกว่า) ติดอยู่ที่แขนทั้งสองข้าง จากนั้นก็ติดเพิ่มที่เท้าและพยายามจะขึ้นบินให้ได้ เขารู้ดีว่าความหวังนี้มันเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝัน…

  • โจรกลับใจ ตัดสินใจนำลูกหมาที่ขโมยไป กลับมาคืนให้หนูน้องผู้เป็นเจ้าของ

    โจรกลับใจ ตัดสินใจนำลูกหมาที่ขโมยไป กลับมาคืนให้หนูน้องผู้เป็นเจ้าของ

    คนส่วนใหญ่ที่เลี้ยงสุนัข จะให้ความสำคัญกับน้องหมาเทียบเท่ากับสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง ชนิดที่ว่าเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม เหมือนกับครอบครัวหนึ่งในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ที่รู้สึกเศร้าใจเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าสุนัขของพวกเขาถูกขโมยไปพร้อมกับคอมพิวเตอร์แลปท็อป, iPad, และเครื่องเพชร Sasha เป็นสุนัขลาบราดอร์ที่ถูกขโมยไปเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวรวมทั้ง Maia วัย 4 ขวบ ต่างเศร้าใจสำหรับการสูญเสียในครั้งนี้     ในบรรดาสิ่งที่โดนขโมยไปนั้น ทางครอบครัวบอกว่าเสียดายน้องหมามากที่สุด พวกเขาจึงได้ออกตามหาพร้อมประกาศหาบนสื่อโซเชียลด้วย และไม่รู้ว่าโจรที่ขโมยเห็นโพสต์ดังกล่าวหรือเปล่า แต่เมื่อวานนี้ Sasha ถูกนำมาคืนที่บ้านอย่างปลอดภัย สร้างความประแปลกใจให้ทุกคนไม่น้อยเลย สำหรับ Sasha นั้นถูกรับเลี้ยงตอนอายุประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น เจ้าของบอกว่าสุขภาพมันไม่ค่อยดี เลยต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ     นับตั้งแต่วันที่มันหายไป หนูน้อย Maia ก็ร้องไห้ไม่หยุดเลย เพราะเธอรักน้องหมาตัวนี้เหมือนน้องชายคนหนึ่ง และพวกเขามักจะเล่นด้วยกันเสมอ อย่างไรก็ตาม เมื่อเร่ื่องนี้โด่งดังไปทั่วโซเชียล โจรที่ขโมยน้องหมาก็ตัดสินใจนำมันมาคืนที่เดิม และโชคดีที่ Sasha ไม่ได้เป็นอะไร     Ryan Hood พ่อของ Maia บอกว่า “เราคิดว่าคนที่ขโมยน่าจะรู้สึกผิดก็เลยพา Sasha มาคืนที่หน้าบ้าน ไม่ว่าคนๆ นั้นจะสำนึกหรือไม่ เราก็ดีใจที่ได้น้องหมากลับคืนมา โดยเฉพาะลูกสาวตัวน้อยของเราที่กลับมายิ้มได้อีกคร้ั้ง” ทั้งนี้ตำรวจเผยว่าของมีค่าอ่ื่นที่ถูกขโมยไปพร้อมสุนัขไม่ได้ถูกนำมาคืน…

  • เมื่อให้ Gordon Ramsay คอมเม้นต์อาหารจากทางบ้าน ทวิตเตอร์ก็เลยเดือดเป็นครัวนรก!!

    เมื่อให้ Gordon Ramsay คอมเม้นต์อาหารจากทางบ้าน ทวิตเตอร์ก็เลยเดือดเป็นครัวนรก!!

    สำหรับคนที่ชอบดูรายการทำอาหารก็คงไม่พลาดรายการยอดฮิตอย่าง Hell’s Kitchen ที่มีผู้นำรายการฝีปากจัดจ้าน ดุดัน โหดเหี้ยมอย่างเชฟชาวสก็อตแลนด์ Gordon Ramsay ผู้มากฝีมือและผ่านประสบการณ์การทำอาหารมาอย่างโชกโชน ด้วยการวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาของเขาชนิดที่ว่าชมเป็นชม ด่าเป็นด่า (หนักไปตรงการด่าหน่อยอ่ะนะ) ทำให้แฟนคลับหลายๆ คนอยากลองได้รับคำวิจารณ์ของเขาดูบ้าง เลยทำการถ่ายรูปอาหารที่ตัวเองได้ทำหรือได้ไปเจอลงทวิตเตอร์และขอคอมเม้นต์จากเชฟท่านนี้ เราลองไปดูกันดีกว่าว่าอาหารแต่ละอย่างและคำตอบที่ได้กลับมาจากปากของเชฟสุดโหด มันเป็นอย่างไรกันบ้าง?   หูฉลามและซุปไก่ถ้วยนี้ เชฟขอบอกเลยว่ามันคือการทำลายระบบนิเวศชัดๆ เดี๋ยวฉลามก็สูญพันธ์ุหมดหร๊อกกก   ก็ถ้าคู่หมั้นคุณทำอาหารออกมาได้น่ากินขนาดนี้ ก็แต่งงานกับเขาเลยเถอะครับ   เชฟ Gordon ถึงกับงง เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาถ่ายรูปกันในคุกได้ด้วย   นี่ไม่ใช่ไก่ย่างแล้ว นี่มันไก่โดนฌาปนกิจชัดๆ   คำวิจารณ์อาหารของเด็กน้อย ติดอยู่บนเสื้อของเขาแล้ว “ยอดเยี่ยม!!”   เผื่ออาจจะลืมอะไรไปนะ นี่มันเดือนมีนาคมอยู่เลย จะรีบทำคุกกี้คริสต์มาสไปหนายยย   นี่มันสลัดจากร้านอาหารของ Gordon เองนี่นา กะตีเนียนให้เชฟด่าตัวเองละสิท่า ไม่ได้แอ้มเขาหร๊อกกก   เป็นลาซานญ่าที่แห้งมากครับ ดูเหมือนคุณยายผมที่แห้งตายไปเมื่อ 20 ปีก่อนเลย   อาหารเย็นมื้อนี้ไม่น่าเอามาถามเชฟนะ ดูจากในรูปขนาดหมายังเมินเลย   พิซซ่าแช่แข็งก็ต้องเป็นไปตามชื่อ แช่แข็งคือ…

  • โปรเจกต์ Firsts รวบรวมสุดยอด “ผู้หญิงเก่ง” ที่ได้ทำอะไรเป็นคนแรกๆ ของโลกนี้

    โปรเจกต์ Firsts รวบรวมสุดยอด “ผู้หญิงเก่ง” ที่ได้ทำอะไรเป็นคนแรกๆ ของโลกนี้

    เหล่าผู้หญิงคนแรกในเรื่องต่างๆ พิสูจน์ให้เห็นว่าหากพวกเธอพยายามไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ โปรเจกต์ Firsts เป็นโปรเจกต์ที่ช่างภาพชาวบราซิลที่ชื่อว่า Luisa Dorr ตามถ่ายเหล่าผู้หญิง 46 คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ เช่นด้านกีฬา ด้านการเมือง การทหาร บันเทิงหรือด้านวิทยาศาสตร์ #เหมียวบู้บี้ ได้นำผู้หญิงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง 10 ท่าน และสามารถดูข้อมูลผู้หญิงที่เก่งที่สุดในโลกเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ time   1. Selena Gomez นักร้องซูเปอร์สตาร์ หญิงคนแรกที่มียอดผู้ติดตามทางอินสตาแกรม 100  ล้านคน   2. Mae Jemison ผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ได้ท่องไปในอวกาศ เธอจบวิศวกรรมศาสตร์และการแพทย์ โดยเธอได้ท่องอวกาศในปี 1992   3. Ann Dunwoody ผู้หญิงที่ได้ยศนายพล 4 ดาวคนแรกในกองทัพสหรัฐ เธอใช้เวลาเกือบ 40 ปีในกองทัพสหรัฐ ได้ยศนายพล 4 ดาวในปี 2008 และเกษียณในปี 2012 ในตำแหน่งผู้บังคับบัญชากองทัพบก   4.…

  • ขุ่นแม่บริทนีย์เปิดประมูลภาพวาดของตนเองเพื่อบริจาคให้การกุศล จนได้เงินกว่า 3 แสน

    ขุ่นแม่บริทนีย์เปิดประมูลภาพวาดของตนเองเพื่อบริจาคให้การกุศล จนได้เงินกว่า 3 แสน

    บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นเหล่าคนดังในต่างประเทศออกมาทำสิ่งต่างๆ เพื่อเรี่ยไรเงินหรือหาเงินเพื่อบริจาคให้กับการกุศล โดยออกมาทำกิจกรรมต่างๆ เช่นวิ่ง วาดรูปหรือมอบเงินให้ตรงๆ ก็ตาม ทุกอย่างนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งสิ้น ล่าสุดนักร้องชื่อดัง Britney Spears ก็ได้ออกมาทำกิจกรรมแนวนี้เช่นกัน โดยเธอได้เปิดประมูลภาพวาดของตัวเอง เพื่อที่จะช่วยหาเงินมาช่วยเหลือเหยื่อกราดยิงในโบสถ์ที่รัฐเท็กซัสเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา     แน่นอนว่าเธอไม่ใช่ศิลปินหรือนักวาดภาพภาพตัวยง ฉะนั้นรูปของเธอก็อาจจะไม่ได้ดูเวอร์วังมากมาย โดยเธอได้วาดรูปภาพดอกไม้เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ว่าเราต้องสู้แล้วก้าวต่อไปนั่นเอง     ภาพดอกไม้ของเธอนั้นสามารถขายเป็นเงินได้มากกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเป็นเงินไทยก็จะอยู่ที่ราวๆ 330,000 บาท โดยคนที่ซื้อไปนั่นก็คือ Robin Leach ผู้เป็นเจ้าของหนังสือ Lifestyles of the Rich and Famous นั่นเอง     แม้การขายรูปภาพนี้จะดูเป็นเรื่องที่ดี แต่ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยก็ยังคงโจมตี Britney Spears ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ว่าภาพที่วาดนั้นไม่สวยเอาซะเลย เด็กยังวาดได้สวยกว่า หรือไม่ก็ทำนองว่าทำไมไม่นำเงินไปบริจาคตรงๆ จะมาวาดรูปไปทำไม     และแน่นอนว่าเมื่อมีคนที่ไม่เห็นด้วย ก็ย่อมมีคนที่เห็นด้วยพร้อมออกมาปกป้องเช่นกัน โดยคนกลุ่มนี้ก็ได้ให้เหตุผลทำนองว่า ทำไมคนเราถึงมองแค่ทำไมภาพไม่สวยมากกว่าผลลัพธ์ที่ออกมา หรือไม่ก็ประมาณว่าผลลัพธ์นั่นก็คือเงินก็ไปลงที่การกุศลอยู่ดี ส่วนภาพวาดก็เป็นของแถมทางใจให้กับผู้ซื้อ     สุดท้ายต่อให้คนจะโจมตีหรือออกมาแสดงความคิดเห็นยังไง ผลลัพธ์ทั้งหมดก็เป็นเรื่องที่ดีวันยังค่ำ เพราะเงินก้อนนี้ก็จะถูกนำไปช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอยู่ดี ถ้าสิ่งที่ Britney ไม่ได้ผิดกฎหมายหรือขัดศิลธรรมมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?   แล้วเพื่อนๆ…

  • ชมภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านบนเทือกเขาหิมาลัย กับการปลูก ‘ไร่กัญชา’ เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต

    ชมภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านบนเทือกเขาหิมาลัย กับการปลูก ‘ไร่กัญชา’ เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต

    ในช่วงปี 1980 การใช้กัญชาและฝิ่นในประเทศอินเดียนั้นถือเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่หลังจากที่มีการประกาศทำสงครามกับยาเสพติดทั่วโลกในปี 1985 และมีการผ่านกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดหรือ NDPS ก็ทำให้พืชชนิดนี้กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายในทันที แต่ถึงอย่างไรก็ตามปัจจุบันยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีการปลูกพืชชนิดนี้ ซึ่งทางคุณ Romesh Bhattacharji อดีตเจ้าหน้าที่ด้านคดียาเสพติดจากประเทศอินเดียได้เปิดเผยว่ามีการปลูกกัญชามากถึง 400 เมืองจากทั้งหมด 640 เมืองของประเทศอินเดียเลยทีเดียว และหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกลอย่างเทือกเขาหิมาลัยเองก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการปลูกกัญชาเช่นกัน และที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องการผลิต Hash หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกัญชาอีกด้วย     ชาย 2 คนที่กำลังแบกผลผลิตกัญชาจากฟาร์มเพาะปลูก พวกเขาใช้เวลาในการเดินเท้า 2 ชั่วโมงในระยะทาง 3 กิโลเมตรจากหมู่บ้าน   กระท่อมที่พักใกล้ๆ กับฟาร์มกัญชา เหล่าเกษตกรต้องพยายามย้ายที่ปลูกให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันการบุกตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ หลังจากที่มีการบังคับใช้ข้อกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดหรือ NDPS   เหล่าผู้สูงอายุที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับเทวสถาน ซึ่งเชื่อกันว่าพวกเขาเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เริ่มการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวกัญชาในหมู่บ้านแห่งนี้   ภาพของการเผาป่าใกล้ๆ หมู่บ้าน พื้นที่เพาะปลูกส่วนมากถูกนำมาใช้ในการปลูกกัญชา มากกว่าการทำไร่เลื่อนลอยและเลี้ยงสัตว์ ที่มีการทำลายดินอย่างต่อเนื่อง   การฆ่าสัตว์ของคนในหมู่บ้านเพื่อทำการสักการะเทพเจ้าก่อนทำการเพาะปลูก ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าการบูชาเทพนั้นจะช่วยให้ได้ผลผลิตที่ดี   Charas หนึ่งในผลิตภัณฑ์จากกัญชา ซึ่งผลิตมาจากการปั้นยางสดๆ ของกัญชาด้วยมือ หนึ่งในเทคนิคการผลิตที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านแแห่งนี้   ภาพของเหล่าเด็กนักเรียนที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่น ที่นี่มีเพียงแค่โรงเรียนประถมเท่านั้น และไม่มีโรงพยาบาลหรือว่าร้านค้าใดๆ…

  • โครงการดีๆ ของ BBC รีโนเวทหมู่บ้านร้าง แล้วมอบให้แก่ทหารผ่านศึกที่พิการจากการไปรบ

    โครงการดีๆ ของ BBC รีโนเวทหมู่บ้านร้าง แล้วมอบให้แก่ทหารผ่านศึกที่พิการจากการไปรบ

    เมื่อยามมีศึกสงครามเหล่าทหารทั้งหลายก็มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องบ้านเมือง แต่แน่นอนว่าสงครามย่อมมีการสูญเสียอยู่แล้ว บางคนอาจเสียชีวิตในสงคราม บางคนอาจจะพิการไปตลอดชีวิต ด้วยความซาบซึ้งในความเสียสละของพวกเขาจึงมีคนที่อยากจะตอบแทนเหล่าทหารกล้าเหล่านี้ด้วยการทำอะไรให้ซักอย่าง ด้วยเหตุผลนี้ทาง BBC จึงได้คิดค้นโครงการหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า DIY SOS ซึ่งเป็นโครงการการกุศลที่ตั้งใจจะรีโนเวทหมู่บ้านร้างให้กลายเป็นที่อยู่สำหรับทหารผ่านศึกที่พิกลพิการทั้งหลาย โดยโครงการนี้จะถ่ายทอดออกโทรทัศน์ด้วยทางช่อง BBC1 ในคืนวันที่ 9 พฤศจิกายนเวลา 03.00 น. ตามเวลาบ้านเรา ผู้ดำเนินโครงการนี้ Nick Knowles และทีมงานของเขาตั้งใจที่จะรีโนเวทบ้านร้างบริเวณถนน Canada ย่าน Miles Platting เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษซึ่งย่านนี้เป็นย่านเก่าแก่ของเหล่าคนงานโรงงานทั้งหลายให้กลายเป็นบ้านของเหล่าทหารผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บมาจากสงคราม   บ้านในย่านถนน Canada   “ประชาชนทั่วไปแนะนำให้เราสร้างที่พักสำหรับเหล่าทหารกล้าในเขตทหารเก่า แต่ว่ามันสำหรับผมอยากที่จะสร้างบนถนนที่มีพลเรือนทั่วไปปะปนอยู่ด้วย” “มันคงจะรู้สึกดีเป็นอย่างมากถ้าหากเราได้นั่งจิบน้ำชากับคนที่รู้ว่าเราผ่านอะไรมาบ้างแต่ในทางกลับกัน มันก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกันที่เราจะเดินข้ามถนนไปคุยเรื่องฟุตบอลหรือตกปลากับคนที่ไม่ใช่ทหารบ้าง มิฉะนั้นคุณก็จะไม่รู้เรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องทหาร” Knowles ผู้ดำเนินรายการกล่าว   บ้านของเหล่าทหารกล้าที่ปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว   โดยโครงการนี้สภาเมืองแมนเชสเตอร์ สมาคมต่างๆ องค์กรการกุศล ผู้รับเหมาและอาสาสมัครต่างก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่พวกเขาได้ให้เงินสำหรับปรับปรุงบ้านจำนวน 4.6 ล้านดอลล่าร์(ประมาณ 152 ล้านบาท) และยังมีเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าชายแฮรี่ก็ได้บริจาคเงินสมทบอีกด้วย บ้านที่ว่างเปล่าในถนนนี้จะถูกรีโนเวททั้งหมดและจะต่อเติมเพื่อความจำเป็นของผู้อยู่อาศัยอย่างเช่นผู้การขา เป็นต้นส่วนบ้านที่มีทหารเข้าอยู่แล้วก็จะได้รับการพัฒนาให้ดีกว่าเดิม ในตอนนี้ถนน Canada ดูแตกต่างไปจากเดิมโดยมีบ้านสีขาวสะอาดตา สวนขนาดย่อมและแปลงดอกไม้เล็กๆ ช่วยให้พื้นที่นี้ดูมีสีสันขึ้นมาทันตา   เจ้าชาย…

  • เด็กๆ กว่า 90 คนร่วมกันสร้าง ‘สถานีอวกาศร้าง’ กลางป่าให้ที่ให้อารมณ์แบบเหมือนจริงสุดๆ

    เด็กๆ กว่า 90 คนร่วมกันสร้าง ‘สถานีอวกาศร้าง’ กลางป่าให้ที่ให้อารมณ์แบบเหมือนจริงสุดๆ

    จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดมีเด็กเกือบ 100 คนมาเข้าค่ายพร้อมกันหลายคนอาจจะคิดว่ามันคงจะวุ่นวายน่าดูและน่าจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ดูแล แต่ไม่ใช่สำหรับค่ายนี้ที่สอนให้เด็กๆ สร้างสรรค์งานต่างๆ ซึ่งครั้งนี้พวกเขาได้สร้างสถานีอวกาศที่ถูกทิ้งร้างขึ้นมาในป่าใหญ่ โดยเด็กกลุ่มนี้มีชื่อว่า Beam Camp เป็นค่ายที่จะรวบรวมเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 10-18 ปีมาฝึกการทำงานฝีมือโดยครั้งนี้พวกเขาได้สร้างสถานที่ที่ชื่อว่า Salvage Station No. 8 ขึ้นในป่าแห่งหนึ่งของรัฐ New Hampshire ประเทศอเมริกาโดยพวกเขาใช้เวลาทำทั้งหมดเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น พวกเด็กๆ จะได้เรียนรู้งานไม้ งานศิลปะ ระบบไฟฟ้าต่างๆ งานปั้น และอื่นๆ อีกมากเพื่อให้เด็กทั้งหลายใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในค่ายแห่งนี้     สำหรับโปรเจกต์ Salvage Station No. 8 นี้เป็นสถานที่ที่เหมือนกับสถานีอวกาศที่ถูกทิ้งร้างไว้กลางป่า โดยพวกเด็กๆ ได้สร้างของตกแต่งเจ๋งๆ มากมายเช่น บอร์ดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบย้อนยุค ซากสัตว์ประหลาดต่างๆ กล่องจดหมายแบบวินเทจ เป็นต้น ค่าย Beam Camp เป็นส่วนหนึ่งของ Beam Center องค์กรไม่หวังผลประโยชน์แห่งกรุงนิวยอร์คที่อุทิศให้แก่การพัฒนาและเรียนรู้ของเด็กๆ ที่จะให้เจ้าตัวน้อยเหล่านี้ได้เรียนรู้งานฝีมือต่างๆ การทำงานเป็นทีมจนออกมาเป็นผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันในที่สุด   ผลงานอันน่าประทับใจของเด็กๆ   เป็นไงเหมือนสถานีอวกาศจริงๆ ใช่ไหมล่ะ   มีชุดดับเพลิงเตรียมพร้อมไว้ด้วย   ใส่ความย้อนยุคเข้าไปนิดหน่อย…

  • ยิ่งกว่า 3310!! กล้อง Go Pro ตกลงไปในลาวาแต่ภาพข้างในยังอยู่ครบแถมใช้งานต่อได้ด้วย

    ยิ่งกว่า 3310!! กล้อง Go Pro ตกลงไปในลาวาแต่ภาพข้างในยังอยู่ครบแถมใช้งานต่อได้ด้วย

    ใครๆ ก็ต่างรู้กันดีว่าลาวาที่ออกมาจากภูเขาไฟนั้นมีความร้อนแรงขนาดไหน หากมีสิ่งใดที่ตกลงไปก็ไม่น่าจะมีเศษซากเหลือให้เราเห็นแล้ว แต่ว่ามีกล้องตัวหนึ่งที่ถูกลาวาหลอมแต่ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ กล้องที่ว่านี้คือกล้อง GoPro ของชายที่ชื่อว่า Erik Storm ไกด์นำทางและเจ้าของเว็บไซต์ kilaueaecoguides ซึ่งเป็นเว็บไซต์นำเที่ยวภูเขาไฟในเกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน เขาได้นำนักท่องเที่ยวไปยังภูเขาไฟแห่งหนึ่งและเขาได้ตั้งเจ้ากล้อง GoPro ตัวนี้ไว้ตามซอกหินต่างๆ เพื่อที่จะถ่ายภาพลาวาไหล แต่กล้องตัวหนึ่งดันร่วงไปขวางทางไหลลาวาซะอย่างงั้น     “ผมจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังในตอนที่ลาวาเหลวๆ กำลังห้อมล้อมและขยับเข้ามาใกล้กล้องของผมขึ้นทุกทีมีส่วนหนึ่งของกล้องเกิดไฟลุกขึ้นเมื่อผมเห็นอย่างนั้นผมจึงรีบนำค้อนตวัดมันขึ้นมา ในตอนที่ผมเห็นไฟลุกผมก็ทำใจไว้แล้วแหละว่ามันต้องพังแน่นอน” Storm เจ้าของกล้องสุดทนนี้เล่าให้ฟัง แต่เมื่อเขากลับมาที่บ้านก็พบว่าไฟแสดงการเปิดสัญญาณ Wi-Fi บนกล้องยังคงทำงานอยู่นั่นทำให้เขามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง     Storm จึงแกะการ์ดความจำที่อยู่ในกล้องนี้เปิดดูก็ปรากฏว่าเป็นวิดีโอที่มีรายละเอียดอยู่อย่างครบถ้วน ซึ่งวีดีโอนี้แสดงให้เห็นถึงตอนที่ลาวากำลังไหลผ่านและเผาไหม้ตัวกล้อง     “กล้องของผมยังคงทำงานได้อยู่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีเหมือนเก่า แต่แค่นี้มันก็น่าเหลือเชื่อแล้วที่มันยังเอาชีวิตรอดมาได้” Storm กล่าวปิดท้ายไว้อย่างอารมณ์ดี   ดูสภาพกล้องซะก่อน   หลังกล้องยังคงไม่ถูกทำลาย   ไม่น่าเชื่อว่ามันจะสามารถเอาไปใช้ต่อได้   เห็นสีแล้วนึกว่าเนื้อย่าง   นับได้ว่าเป็นกล้องที่ทนที่สุดที่เคยเห็นเลยนะเนี่ย   ที่มา: petapixel

  • 11 มารยาททางวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณต้องร้องโอ้โห มันขนาดนี้เลยรึนี่!?

    11 มารยาททางวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณต้องร้องโอ้โห มันขนาดนี้เลยรึนี่!?

    ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานนั่นจึงทำให้วัฒนธรรมบางอย่างในประเทศนั้นออกจะแตกต่างไปจากชาติอื่นบ้างนิดหน่อยอย่างเรื่องอาหารการกิน ชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวัน วิถีในการใช้ชีวิตรวมถึงมารยาทต่างๆ ซึ่งมารยาทบางอย่างในประเทศญี่ปุ่นก็อาจทำให้เรางงว่าแบบนี้ก็มีด้วยหรอ หากช่วงนี้ใครมีแพลนที่อยากไปญี่ปุ่นลองศึกษามารยาทโดยทั่วไปของญี่ปุ่นแบบนี้กันดูนะไปบ้านเมืองเขาจะได้ทำตัวได้ถูก ฮ่าๆ   1. การเรียกชื่อคนต่างๆ   การเรียกชื่อคนในประเทศญี่ปุ่นจะมีวิธีการเรียกที่ไม่เหมือนชาวตะวันตกที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็เรียกเพียงแต่ชื่อเฉยๆ โดยที่นี่จะมีคำต่อท้ายคล้ายๆ กับของบ้านเราโดยจะมีคำต่างๆ อย่างนี้ “-kun” ใช้สำหรับเรียกเพื่อนๆ “-chan” คำนี้เป็นคำที่อ่อนโยนสำหรับใช้เรียกเด็กๆ สมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิง คู่รัก รวมถึงเพื่อนสนิท “-sama” ใช้สำหรับการเรียกผู้ที่เราให้ความเคารพอย่าง ขุนนางต่างๆ แต่ในทุกวันนี้บางครั้งก็ใช้ในการเสียดสี “-senpai” ใช้สำหรับเรียกรุ่นพี่ “-kōhai” ใช้เรียกคนที่รุ่นน้อง “-sensei” ใช้เรียกแทนสำหรับ คุณครู หมอ นักวิทยาศาสตร์ นักการเมืองหรือผู้มีอำนาจ “-shi” สำหรับการเขียนที่เป็นทางการ   2. การแลกเปลี่ยนนามบัตร   การแลกเปลี่ยนนามบัตรจะมีกฎง่ายๆ ดังนี้ -ยื่นด้านหน้าของนามบัตรให้เท่านั้น -ใช้สองมือในตอนที่ยื่น -ถ้าตำแหน่งของคุณน้อยกว่าคนที่จะรับ คุณต้องยื่นนามบัตรให้ต่ำกว่าคนๆ นั้น -ถ้าคุณได้รับนามบัตรต้องรีบนำมันใส่ในกระเป๋าใส่นามบัตรและใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อจ้องดูมัน -อย่าลืมคำนับ -ถ้าคุณไม่มีกระเป๋าใส่นามบัตร นั่นคือหายนะของคุณเพราะมีเยอะมากก   3. กฎการใช้ลิฟท์ต่างๆ  …

  • ยูทูบเบอร์วัย 10 ขวบอัดคลิปร่ำไห้ หลังไม่มีแฟนๆ มางานมีทติ้ง ทั้งๆ ที่รับปากไว้แล้ว…

    ยูทูบเบอร์วัย 10 ขวบอัดคลิปร่ำไห้ หลังไม่มีแฟนๆ มางานมีทติ้ง ทั้งๆ ที่รับปากไว้แล้ว…

    ปัจจุบันโซเชียลได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของเราในหลายๆ ด้าน จนทำให้บางคนสร้างตัวตนขึ้นในโลกโซเชียลและให้ความสำคัญมากกว่าโลกแห่งความจริงซะอีก อย่างไรก็ตาม โซเชียลนั้นเปรียบเหมือนดาบสองคมที่ให้ความสุขเราได้ มันก็ทำร้ายเราได้เหมือนกัน จึงไม่ควรไปยึดติดกับมันมาก เหมือนกับเด็กหญิงคนนี้ที่ออกมาร่ำไห้ด้วยความไร้เดียงสา หลังจากที่แฟนๆ ไม่มางานมีทติ้งที่เธอจัดขึ้น ทั้งๆ ที่พวกเขารับปากแล้วว่าจะมา     Alina เป็นยูทูบเบอร์ชาวรัสเซียวัย 10 ขวบ เธอได้วางแผนที่จะจัดงานมีทติ้ง โดยคาดหวังแฟนๆ กว่า 3,000 คนจะมาร่วมงานนี้ ในจำนวน 3,000 คนนี้ มี 20 คนที่รับปากว่าจะมาอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วเมื่อถึงวันงาน กลับไม่มีใครมาสักคน ทำให้ Alina เสียใจมากจนต้องหลั่งน้ำตาออกมา เด็กหญิงจึงตัดสินใจอัดคลิปวิดีโอเพื่อพูดถึงความรู้สึกหลังจากที่แฟนๆ ผิดสัญญากับเธอ Alina ได้ขอร้องผู้ติดตามว่าอย่าโกหกเธอ เพราะมันทำให้เสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก     ในคลิปที่ Alina พูดความในใจนั้น เธอบอกว่า “ฉันเพิ่งกลับจากงานมีทติ้งที่จัดขึ้นเพื่อแฟนทุกคน แต่น่าเศร้าที่ไม่มีใครมาเลย” “ฉันอารมณ์เสียมาก เพราะในคอมเมนต์มีมากกว่า 20 คนที่รับปากว่าจะมาแน่นอน ฉันรออยู่ที่นั่น 30 นาที แล้วก็เดินดูรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นใครอยู่ดี” “ขอร้อง อย่าโกหกฉันอีก ฉันรู้สึกผิดหวังมากจริงๆ…

  • บริษัทสัญชาติอิสราเอล ผลิต ‘ผงหนอนแมลงวัน’ เป็นแหล่งโปรตีน เพื่อช่วยโลก!!??

    บริษัทสัญชาติอิสราเอล ผลิต ‘ผงหนอนแมลงวัน’ เป็นแหล่งโปรตีน เพื่อช่วยโลก!!??

    ปัญหาการขาดแคลนอาหารของโลกเรา เหมือนว่าจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ประชากรของโลกก็มีจำนวนมากขึ้นเช่นกัน การหาสิ่งอื่นมาทดแทนอาหารจึงเป็นเรื่องจำเป็น บริษัทไอเดียเจ๋งจากอิสราเอลจึงขอนำปัญหานี้มาแก้ไขโดยการคิดค้นผลิตแหล่งโปรตีนแหล่งใหม่ ที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน บริษัท Flying SpArk สัญชาติอิสราเอลได้นำเสนอแนวทางที่น่าสนใจสำหรับความหิวกระหายของโลกโดยใช้หนอนแมลงวันในผลไม้มาทำเป็นผงโปรตีน (ทั้งรูปแบบปกติและไขมันต่ำ) ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถนำมาใช้เพื่อทำทุกอย่างตั้งแต่เป็นเนื้อสัตว์ พาสต้า ซีเรียล หรือแม้กระทั่งนำมาทำเป็นขนมปัง     แมลงวันผลไม้มีอายุขัยเพียงหกวัน แต่สามารถวางไข่ได้ถึง 15 ครั้งในเวลานั้น ทำให้ง่ายและราคาถูกในการเลี้ยงและเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ในกระบวนการผลิตแทบไม่มีของเหลือ เนื่องจากทุกส่วนของตัวอ่อนจะถูกนำมาใช้ ทางบริษัทหวังว่าการที่หนอนกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาหารของมนุษย์ อาจช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ไม่มากก็น้อย     “โปรตีนจากตัวอ่อนแมลงวันไม่มี ยาปฏิชีวนะ สารกำจัดศัตรูพืชหรือคอเลสเตอรอล อีกทั้งมันมีความยั่งยืนสูง ในขณะที่เรากินโปรตีนจากสัตว์ในวันนี้ มันเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราและยังทำลายสิ่งแวดล้อม” “การเลี้ยงปศุสัตว์ต้องใช้น้ำและดินเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดขยะจำนวนมหาศาล นอกจากนี้โปรตีนจากสัตว์ยังเต็มไปด้วยฮอร์โมนยาปฏิชีวนะและสารกำจัดศัตรูพืชที่ไม่ดีต่อสุขภาพของมนุษย์” ข้อดีอีกประการหนึ่งของแมลงวันผลไม้ก็คือคุณค่าทางโภชนาการที่พวกมันได้รับจากผลไม้ที่พวกมันกิน “พวกหนอนแมลงวันกินผลไม้และผักต่างๆ เช่นผักกาด แครอท ฟักทอง และผักอื่นๆ ดังนั้นเราจึงคิดว่าคุณค่าทางโภชนาการของตัวอ่อนนั้น สามารถนำมาแปรรูปได้”     Flying SpArk รู้ดีว่าการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคหนอนเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก แต่ความต้องการผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหนอนมีสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งผลิตภัณฑ์จากหนอนแมลงยังได้รับความสนใจจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง IKEA “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ IKEA accelerator และมีโอกาสได้เรียนรู้วิธีการทำงานร่วมกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่อย่าง IKEA”  “สิ่งนี้จะช่วยยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราและความก้าวหน้า ทาง IKEA…

  • หญิงสาวชาวเอเชียผันตัวเองจาก “คนไร้บ้าน” สู่ “สมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์” ที่อายุน้อยที่สุด

    หญิงสาวชาวเอเชียผันตัวเองจาก “คนไร้บ้าน” สู่ “สมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์” ที่อายุน้อยที่สุด

    มีโอกาสน้อยมากที่คนไร้บ้านจะกลายเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญทางสังคม โดยเฉพาะในแวดวงการเมือง แต่ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ หากเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง Nadya Okamoto นักศึกษาวัย 19 ปี จากที่เคยเป็นเพียงคนไร้บ้าน เธอได้ผลักดันตัวเองจนกระทั่งมีโอกาสได้เป็นสมาชิกสภาที่อายุน้อยที่สุด Okamoto เป็นผู้ก่อตั้ง PERIOD องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพให้กับผู้หญิงที่มีรายได้ต่ำ ตอนนั้นเธอเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลายเท่านั้น     ปัจจุบันเธอได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ในรัฐแมสซาชูเซตส์ และกำลังรับมือกับสิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิต นั่นคือการถูกเสนอชื่อให้เป็นสมาชิกสภาพเมืองเคมบริดจ์ที่อายุน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม กว่าหญิงสาวจะประสบความสำเร็จในวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย Okamoto เติบโตขึ้นในสังคมที่มีคนผิวขาว ในพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ทำให้ถูกคนรอบข้างรังแกตั้งแต่เด็กเพราะเธอเป็นคนเอเชียซึ่งเป็นคนส่วนน้อยในสังคม     หญิงสาวเล่าว่า “ตอนนั้นฉันเป็นเด็กเอเชียตัวเล็กคนหนึ่ง แต่ผู้คนมักจะมองมาที่ฉันสายตาแปลกๆ นั่นทำให้ฉันต่อต้านทุกอย่างที่เป็นการบ่งบอกว่าเป็นคนเอเชีย” “ฉันบอกคนอื่นๆ ว่าเกลียดคณิตศาสตร์ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วฉันเก่งคณิตศาสตร์และฉันก็ชอบคณิตมากด้วย” นอกจากนี้หญิงสาวยังต้องเผชิญกับปัญหาภายในครอบครัวด้วย ทั้งการใช้ความรุนแรงและการเหยียดผิวภายในครอบครัวของตัวเอง     พ่อของเธอเป็นคนญี่ปุ่น-อเมริกัน ส่วนแม่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวันที่เกิดในอินเดีย นั่นทำให้ครอบครัวของเธอมีความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติอย่างต่อเนื่อง เท่านั้นยังไม่พอ Okamoto เติบมากับตายายที่เป็นชาวไต้หวัน ซึ่งเกลียดคนญี่ปุ่นมากๆ เพราะพวกเขาเคยอยู่ในบ้านที่ถูกยึดครองโดยทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ตายายของหญิงสาวยังรังเกียจและดูถูกคนจีนด้วย เวลาที่เดินผ่านย่านไชน่าทาวน์…

  • คุณตายอมเดินเป็นพันๆ กิโล เพื่อขอรับบริจาคไตให้ภรรยา หวังจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันให้นานขึ้น

    คุณตายอมเดินเป็นพันๆ กิโล เพื่อขอรับบริจาคไตให้ภรรยา หวังจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันให้นานขึ้น

    หากคนที่คุณรักตกอยู่ในภาวะวิกฤตหรืออยู่ในภาวะอันตราย คุณจะทุ่มเทมากแค่ไหนเพื่อช่วยเขาหรือเธอให้ผ่านพ้นสิ่งเหล่านั้นและมีชีวิตที่ขึ้น? สำหรับคุณตา Wayne Winters วัย 74 ปี จาก Farr West รัฐยูทาห์ ได้ใช้เวลาหลายเดือนในการเดินทางด้วยเท้าเพื่อขอรับบริจาคไตให้ภรรยาผู้เป็นที่รัก Deanne ภรรยาของคุณตาป่วยเป็นโรคไตระยะที่ 5 เธอจำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนไตเพื่อความอยู่รอด คุณตาจึงต้องทำทุกทางเพื่อหาไตมาให้เธอ     ในระหว่างที่รอการบริจาคไตนั้น Deanne ได้เข้ารับการฟอกเลือดมานานกว่า 2 ปี เขาบอกว่า “การต้องเฝ้าดูคนที่รักฟอกเลือด มันช่างเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดสำหรับผม ผมช่วยอะไรเธอไม่ได้ นอกจากจับมือเธอเอาไว้” สำหรับ Wayne และ Deanne พวกเขาแต่งงานกันมา 26 ปีแล้ว และทั้งคู่ก็หวังว่าจะมีเวลาได้อยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้ ดังนั้น เมื่อภรรยาป่วยจนอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ คุณตาจึงนำป้ายที่เขียนว่า “Need A Kidney 4 Wife” ห้อยไว้ที่คอแล้วก็เดินไปตามที่ต่างๆ เพื่อขอรับบริจาคไตให้ภรรยา     หลังจากที่เรื่องราวของคุณตาถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ ก็มีคนใจบุญโทรเข้ามาไม่ขาดสาย เพื่อให้การช่วยเหลือเขาและภรรยา จนกระทั่ง 3 สัปดาห์ต่อมาความหวังของ Wayne ก็เป็นจริง เขาได้รับโทรศัพท์จากคนที่บอกว่ามีไตที่จะบริจาคให้ และโชคดีที่ไตนั้นเข้ากับอวัยวะของ Deanne พอดี ปัจจุบัน Deanne…

  • บริษัทญี่ปุ่นทำโฆษณาหูฟังบลูทูธ โดยเอาทรัมป์กับคิมจองอึนมาเป็นเพื่อนรักกัน มุ้งมิ้งสุดๆ

    บริษัทญี่ปุ่นทำโฆษณาหูฟังบลูทูธ โดยเอาทรัมป์กับคิมจองอึนมาเป็นเพื่อนรักกัน มุ้งมิ้งสุดๆ

    ใครๆ ก็รู้ดีว่าคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือกับทรัมป์จากสหรัฐอเมริกานั้นต่างเป็นคู่เวรคู่กรรมที่ไม่ลงรอยกัน และคงจะเป็นเรื่องยากที่จะเห็นทั้งสองคนเผชิญหน้ากันอย่างเป็นมิตร ท่ามกลางความบาดหมางนี้ บริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นจึงผุดไอเดียการโฆษณา โดยเอาคนมาสวมบทเป็นทรัมป์กับคิมจองอึนให้เป็นเพื่อนรักกัน แบบว่ามุ้งมิ้งสุดๆ     Bonx หรือที่รู้จักในชื่อ Bonx Grip เป็นอุปกรณ์สื่อสารของญี่ปุ่น ที่ทำงานร่วมกับโทรศัพท์มือถือและเครื่องรับส่งวิทยุด้วยระบบบลูทูธ หนึ่งอุปกรณ์ที่ขึ้นชื่อคือหูฟังบลูทูธที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างหมดจด โดยอุปกรณ์ดังกล่าวนี้ได้รับการพัฒนาครั้งแรกเพื่อกลุ่มคนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา ปีนเขา หรือแม้กระทั่งไปตกปลา     จริงๆ แล้ว มันไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะกับกลุ่มคนข้างต้น แต่มันเป็นประโยชน์กับทุกคนที่ต้องการสื่อสารกับแบบใกล้ชิดกับคนที่อยู่ห่างไกล เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพการใช้งานอุปกรณ์นี้ นักแสดงหนังผู้ใหญ่ Mana Sakura จึงได้เปิดตัวโฆษณาชุดแรกที่เธอเป็นคนกำกับเอง ในโฆษณาชุดนี้ เธอให้คนสวมบทเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ และคิมจองอึน โดยให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันผ่านทาง Bonx     ช่วงแรกของโฆษณา เราจะเห็นผู้นำคิมล่องเรือกลางทะเล พร้อมตกปลาอย่างสบายอารมณ์ โดยมีลูกน้องในเครื่องแบบขนาบข้างเขาด้วยใบหน้าระรื่น ขณะที่อยู่บนเรือนั้น คิมก็ได้คุยกับทรัมป์ที่อยู่ในอเมริกาผ่านหูฟังบลูทูธ โดยเรียกเขาว่า Tra อย่างสนิทสนมพร้อมชวนทรัมป์มาร่วมตกปลาด้วย     แต่ทรัมป์ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่ค่อยดี จึงอยากพักผ่อนอยู่ที่บ้านมากกว่า อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ได้คุยกันผ่าน Bonx ซึ่งได้ยินเสียงกันชัดแจ๋วเหมือนอยู่ใกล้กันเลย ส่วนคำสำคัญที่ปรากฏในโฆษณาชุดนี้คือคำบรรยายด้านล่างที่บอกว่า “แม้เรามีความเห็นต่างกัน ไม่ได้แปลว่าเราจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้”     ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้นำที่มีความขัดแย้งกัน กลายเป็นเพื่อนสนิทที่สามารถเม้ามอยกันได้ตลอด โดยทรัมป์ได้เรียกคิมอย่างเป็นมิตรว่า…

  • “เรียนกฎหมายอังกฤษซะบ้าง” คู่รักบริติชกินอาหารไทยแล้วไม่ยอมจ่ายเงินพร้อมพูดจาเหยียดหยาม

    “เรียนกฎหมายอังกฤษซะบ้าง” คู่รักบริติชกินอาหารไทยแล้วไม่ยอมจ่ายเงินพร้อมพูดจาเหยียดหยาม

    กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งให้บริการอาหารแก่ลูกค้าซึ่งลูกค้าก็กินจนหมดแต่กลับมาบอกว่าอาหารไม่ดีและด่าทอพนักงานจนแทบน้ำตาร่วง คุณกิติมา แม้นเหมือนจันทร์ เจ้าของร้านอาหารชื่อว่า Bangkok Canteen ในเมือง Gloucester ได้เล่าให้ฟังว่ามีคู่รักคู่หนึ่งวัยประมาณ 30 ปีได้เข้ามาใช้บริการในร้านอาหารแห่งนี้เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ในคืนวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าพวกเขาได้ต่อว่าพนักงานทั้งคืนพร้อมทั้งหนีไปก่อนที่จะจ่ายเงินค่าอาหารจำนวน 68.50 ปอนด์ (2,976 บาท)   สภาพจานอาหารที่คู่รักคู่นี้กินจนเกลี้ยงจริงๆ   “ผู้หญิงคนนั้นได้ดูถูกฉันต่างๆ นานาและบอกว่าฉันควรกลับไปที่ที่ฉันจากมาแล้วเรียนกฎหมายของประเทศอังกฤษซะ” “เธอคนนั้นหยาบคายเอามากๆ โดยเธอได้ดูถูกพนักงานเสิร์ฟของฉันสองคนโดยบอกว่า “ถึงจะได้รับเพียงค่าแรงขั้นต่ำแต่ก็ควรรู้กฎหมายในประเทศอังกฤษนะ” แม้ว่าพนักงานเสิร์ฟทั้งสองคนจะเป็นคนอังกฤษก็ตาม” “นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกช็อคอย่างมาก พนักงานของเราเกือบจะร้องไห้อยู่แล้วเพราะว่าพวกเธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต” คุณกิติมา เล่าให้ฟัง   ร้านอาหาร Bangkok Canteen   โดยคู่รักที่ว่านี้ได้สั่งทอดมันปลาเพื่อเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยและกินมันจนหมดเกลี้ยงทุกอย่าง แต่ว่าหลังจากกินจนหมดพวกเขากลับต่อว่าคุณกิติมาและไม่ยินยอมที่จะจ่ายค่าอาหารโดยให้เหตุผลไว้ว่าทอดมันปลานั้น “เหนียวเกินไป” “ฉันบอกว่าฉันไม่สามารถคืนเงินให้ได้เพราะว่าพวกคุณไม่แจ้งให้รู้ตั้งแต่กินชิ้นแรก ซึ่งฉันรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” “ผู้หญิงคนนั้นก็บอกเราว่าควรจะยอมรับคำวิจารณ์บ้าง แต่ฉันคิดว่าต้องมีความยุติธรรมกับเราบ้างเพราะว่าพวกเขากินอาหารทั้งหมดเข้าไปแล้วทั้งจาน ไม่เหลือไว้แม้กระทั่งผักประดับจานเลย” “โดยปกติแล้วหากอาหารผิดปกติ พวกเรายินดีที่จะเปลี่ยนจานหรือคืนเงินให้แต่ว่านี่พวกเขากินทั้งหมดเข้าไปแล้ว คุณไม่สามารถคืนกล่องช็อกโกแลตเปล่าคืนให้แก่ซุปเปอร์มาเก็ตใช่ไหมล่ะ” “มีลูกค้าจำนวนมากเมื่อคืนวันนั้นและทุกคนที่รับประทานอาหารก็ดูมีความสุขดี” เจ้าของร้านกล่าวเสริม   ร้านอาหาร Bangkok ได้รับรางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยมเมื่อเดือนที่แล้ว…

  • ร้านอาหารในญี่ปุ่นเปิดโปรโมชั่น ‘บุฟเฟ่ต์เบียร์ ตลอด 24 ชั่วโมง” ในราคาไม่ถึงร้อยบาท!!

    ร้านอาหารในญี่ปุ่นเปิดโปรโมชั่น ‘บุฟเฟ่ต์เบียร์ ตลอด 24 ชั่วโมง” ในราคาไม่ถึงร้อยบาท!!

    สำหรับนักดื่มเบียร์ตัวยงแล้ว ‘เบียร์บุฟเฟ่ต์’ ถือเป็นอะไรที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าหลายร้านในบ้านเรามักจะมีการจำกัดเวลาที่ไม่มากนัก แต่ถ้าบอกว่ามีร้านที่กินได้ตลอด 24 ชั่วโมงล่ะ จะน่าสนใจไหม? Yokatai คือชื่อร้านอาหารในเขตซุงินะมิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดเฟี้ยวฟ้าวเอาใจนักดื่ม กับการดื่มเบียร์ฟรีได้ทั้งวันตลอด 24 ชั่วโมง     ในส่วนของราคาโปรโมชั่นปกตินั้นจะอยู่ที่ 2,400 เยน หรือตีเป็นไงไทยก็ราวๆ 690 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับโปรโมชั่นเบียร์บุฟเฟ่ต์รายชั่วโมงทั่วไปในญี่ปุ่นด้วยกันแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามากๆ แต่ที่ทำให้ร้านนี้พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือ โปรโมชั่นพรีเมี่ยมประจำวันที่ 24 ของทุกเดือน ทางร้านจะลดราคาโปรโมชั่นเบียร์ 24 ชั่วโมงจากราคาเต็มเหลือเพียง 240 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 70 บาทเท่านั้น ถูกสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ   .   ส่วนถ้าใครคิดว่าดื่มเบียร์อย่างเดียวจะเบื่อ ไม่มีกับแกล้มหรืออะไรเลยเหรอ ก็ไม่ต้องห่วงไปเพราะทางร้านมีอาหารพร้อมเสริฟมากมายทั้งเมนูข้าว หรือเมนูเสียบไม้ต่างๆ งานนี้เรียกว่าสวรรค์ชัดๆ (อันนี้ไม่บุฟเฟ่ต์นะ)   .   เพียงแต่ว่าข่าวร้ายของร้านนี้ก็คือ ทางร้านจะไม่มีการเปิดจองโต๊ะใดๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้นถ้าใครอยากบินไปดื่ม คงต้องพกดวงกันไปให้เต็มกระเป๋าหน่อย…

  • น้ำตาท่วมศาล เมื่อคุณพ่อสวมกอด ‘ฆาตกร’ ที่ฆ่าลูกชายของตัวเอง และเลือกที่จะให้อภัยเขา

    น้ำตาท่วมศาล เมื่อคุณพ่อสวมกอด ‘ฆาตกร’ ที่ฆ่าลูกชายของตัวเอง และเลือกที่จะให้อภัยเขา

    การให้อภัยใครสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนต้องใช้เวลานานเป็นปีๆ ในขณะที่บางคนเลือกที่จะไม่ให้อภัยเลยตลอดชีวิต แต่สำหรับคุณพ่อคนนี้กลับสวมกอดฆาตกรที่ฆ่าลูกชายของเขา ในระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล และให้อภัยเขาอย่างหมดใจ จนทำให้ศาลท่วมไปด้วยความน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ในวันอังคารที่ผ่านมานาย Trey Relford วัย 24 ปี ถูกตัดสินจำคุก 31 ปี ข้อหาฆาตกรรม นายสาลาฮูดิน จิตต์หมวด ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างที่ส่งพิชซ่าในรัฐเคนทักกี เมื่อวันที่ 19 เมษายน ปี 2015     โดยในวันนั้น นายสาลาฮูดิน ได้ออกไปส่งพิซซ่า แต่ในระหว่างทางเขาถูกแก๊งวัยรุ่นสามคนดักปล้น และถูกแทงด้วยมีดพกจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในวันไต่สวนคดี ดร. สมบัติ จิตต์หมวด ผู้เป็นพ่อได้พูดถึงลูกชายที่เสียชีวิตว่า “เขาเป็นคนอ่อนโยน ใจกว้าง และขี้อาย ในคือนั้นลูกชายของผม ต้องไปส่งพิชซ่าอีกแค่เที่ยวเดียวก็จะได้กลับบ้านแล้ว แต่เขากลับถูกสังหารไปซะก่อน” ในตอนท้าย คำพูดของ ดร. สมบัติ ทำให้ทุกคนในศาลต้องทึ่ง เมื่อเขาหันไปพูดกับฆาตกรที่ฆ่าลูกชายของเขาว่า “ผมไม่โทษคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมโกรธปีศาจที่ทำให้คุณหลงทำผิด” คุณพ่อยังบอกอีกว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาเลือกที่จะให้อภัยฆาตกร เพราะการให้อภัยเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในศาสนาอิสลาม ท่าน ดร. สมบัติ จิตต์หมวด คุณพ่อของนายสาลาฮูดิน เป็นชาวไทยมุสลิมที่ไปแต่งงานและอยู่อาศัยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ท่านยังเป็นนักการศึกษาและนักกิจกรรมทางสังคมที่แข็งขันอีกด้วย     แน่นอนว่าคำพูดของ ดร. สมบัติ…

  • ตาวิเศษเห็นนะ เมื่อผู้นำญี่ปุ่น ‘ชินโซ อะเบะ’ ไปออกรอบกับทรัมป์แล้ว ดันร่วงลงบ่อทราย

    ตาวิเศษเห็นนะ เมื่อผู้นำญี่ปุ่น ‘ชินโซ อะเบะ’ ไปออกรอบกับทรัมป์แล้ว ดันร่วงลงบ่อทราย

    แม้ว่าการมาเยือนญี่ปุ่นของผู้นำสหรัฐจะผ่านไปแล้ว แต่เรื่องเล่าต่างๆ ก็ยังคงเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน ยิ่งล่าสุดได้มีการเผยภาพเหตุการณ์สุดเงิบ ที่อาจจะทำให้ความมั่นคงต้องสั่นคลอนกันเลยทีเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อสองผู้นำ ‘ชินโซ อะเบะ‘ และ ‘โดนัลด์ ทรัมป์‘ ได้พากันไปออกรอบในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งทุกอย่างก็ดูเป็นไปอย่างเรียบร้อยดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น     ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้นำทั้งสองที่โชว์ลีลาการออกวงสวิงได้ถึงพริกถึงขิง หรือจะเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพอันดับ 4 อย่าง ฮิเดกิ มัตซึยามะ ก็ได้มาร่วมแจมกับเขาด้วย ทว่าเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดเป็นกระแสพูดถึงไปทั่วอินเตอร์เน็ตนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ชินโซ อะเบะได้ตีลูกไปตกลงในบ่อทราย ซึ่งตัวเขาก็อาสาจะลงไปเก็บเอง     โชคไม่ดี อะเบะที่กำลังพยายามเดินขึ้นจากบ่อทรายก็เหมือนจะก้าวขาผิดจนตัวเองสะดุดล้มลงกลิ้งไปกับกองทราย โดยที่ทรัมป์ก็ยังคงเดินหน้าต่อไปโดยไม่รู้เลยว่าเพื่อนผู้นำของเขาได้ล้มลง ส่วนภาพเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นถูกจับภาพโดยเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่นั่นเอง   ด้วยวัย 63 ปี การเดินขึ้นจากบ่อทรายแบบนี้มันก็จะลำบากหน่อยๆ   นั่นไง พลาดจนได้   ลอยละลิ่วลงไปนอนอยู่ก้นบ่อเลยทีเดียว   คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งอาจจะต้องรีบดูกันหน่อยนะ เพราะคลิปนั้นบินไปไวซะเหลือเกิน   เหตุการณ์นี้ถูกพูดถึงกันไปต่างๆ นานาทั้งในเชิงสัญลักษณ์หรือล้อเลียนกันขำๆ ว่าพลังของทรัมป์นั้นมีมากขนาดที่ส่งผลให้อะเบะล้มลงเลยทีเดียว หรือบางคนก็บอกว่านี่เป็นลางบอกเหตุที่ไม่ดีว่าญี่ปุ่นอาจจะต้องล้มลงต่อหน้าสหรัฐอเมริกา ยังไงก็ตามสำหรับผู้นำทั้งสองแล้วมันก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะพวกเขาก็ยังคงเล่นกันต่ออย่างสนุกสนานและมีการแซวกันเล็กๆ ผ่านทวิตเตอร์ในเรื่องของคะแนนด้วย   แบบนี้มันต้องโบรฟิสต์   เมื่อกี้นายไม่เห็นอะไรใช่ไหมโดนัลด์?  …

  • ใยแมงมุมขนาดยักษ์ปกคลุมทั่วผืนป่าในนครเยรูซาเล็ม ความอัศจรรย์ใจของธรรมชาติ

    ใยแมงมุมขนาดยักษ์ปกคลุมทั่วผืนป่าในนครเยรูซาเล็ม ความอัศจรรย์ใจของธรรมชาติ

    แมงมุมที่มาชักใยอยู่ในบ้าน มักจะสร้างความรำคาญใจให้กับเรา เพราะใยของมันจะกักเก็บเศษขยะจนทำให้พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกและมีความยุ่งยากในการทำความสะอาด แต่เมื่อแมงมุมชักใยตามแหล่งธรรมชาติ มันกลับกลายเป็นความงดงามที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้มันถูกทำลาย นอกจากจะนี้มันยังเป็นที่อยู่อาศัยและกับดักล่อเหยื่อของแมงมุมด้วย จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเข้าไปแทรกแซง     ล่าสุดมีการค้บพบใยแมงมุมขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นโดยแมงมุมเขี้ยวยาว (Tetragnatha) ปกคลุมทั่วผืนป่าข้างลำห้วย Soreq ใกล้กับกรุงเยรูซาเล็ม     แน่นอนว่านี่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ค่อนข้างแปลกที่แมงมุมจำนวนมากมาชักใยอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทั้งๆ ที่ปกติพวกมันจะชักใยแยกกันและเป็นหย่อมเล็กๆ เท่านั้น มีคำอธิบายทางด้านวิทยาศาสตร์ว่าลำห้วย Soreq และบริเวณใกล้เคียงนั้น มีสารอาหารที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการแพร่พันธุ์ของยุง     ส่วนยุงนั้นถือเป็นแหล่งอาหารสำคัญของแมงมุม ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมข้างลำห้วย Soreq จึงเต็มไปด้วยใยแมงมุมขนาดยักษ์     สำหรับใยของแมงมุมนั้นแม้จะมีขาดเล็กและบาง แต่มันมีคุณสมบัติเหนียวเป็นพิเศษแถมยืดหยุ่นได้ดีและสามารถรับน้ำหนักได้ดีอย่างเหลือเชื่อ     พื้นที่ไหนที่มีความอุดมสมบูรณ์ แมงมุมจะยิ่งชักใยเป็นวงกว้างขึ้น เพราะจะทำให้เหยื่อมาติดใยได้ง่ายนั่นเอง .   ใยแมงที่ดูบางเบา แต่มันกลับยืดหยุ่นและแข็งแรงอย่างเหลือเชื่อ . . .   ที่มา designyoutrust

  • ช่างภาพเผยเบื้องหลังการถ่ายภาพ ที่ต้องทุ่มทั้งร่างกายและความคิด เพื่อความสมบูรณ์แบบ

    ช่างภาพเผยเบื้องหลังการถ่ายภาพ ที่ต้องทุ่มทั้งร่างกายและความคิด เพื่อความสมบูรณ์แบบ

    เราอาจจะเคยเห็นภาพถ่ายที่สวยงามไร้ที่ติ ทั้งแสง สี มุมกล้อง รวมทั้งองค์ประกอบอื่นๆ แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่ากว่าจะได้ภาพแบบนั้นมาช่างภาพต้องทำอะไรบ้าง? Gilmar Silva ช่างภาพชาวอิตาเลียนจึงได้รวบรวมเบื้องหลังของการถ่ายภาพ ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ ทุ่มเททั้งร่างกายและความคิดในการครีเอทภาพ โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมใด     สำหรับโปรเจกต์นี้มีชื่อว่า LUGARxPHOTO (สถานที่และภาพถ่าย) ซึ่งเป็นภาพที่ต้องอาศัยทั้งสิ่งแวดล้อมรอบตัวและความคิดสร้างสรรค์ของช่างภาพในการทำให้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบ     ในการถ่ายรูปนั้น คนส่วนใหญ่จะหาสถานที่ ฉากหลังที่สวยงามเพื่อให้ภาพออกมาตามที่ต้องการ แต่สำหรับช่างภาพมืออาชีพนั้น พวกเขาสามารถเปลี่ยนสถานที่ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่พิเศษได้   . .   บางครั้งจำเป็นต้องพึ่งโฟโต้ชอปเหมือนกัน .   แม้แต่หญ้าแห้งข้างทาง ช่างภาพก็สามารถเนรมิตรให้กลายเป็นทุ่งหญ้าที่สว่างสดใสได้   บางครั้งการถ่ายภาพต้องทำงานเป็นทีม ไมว่าจะเป็นช่างภาพ ผู้ช่วย และตัวนางแบบหรือนายแบบเอง . .   น้ำโคลนที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นสถานที่ถ่ายรูปได้ แต่ช่างภาพทำได้ .   ทีมเวิร์คคือสิ่งสำคัญในการถ่ายภาพนอกสถานที่   ไม่ต้องไปไกลถึงทะเล ก็มีภาพคู่สุดโรแมนติกได้ . . . . .…

  • ไต้หวันเตรียมสร้าง “F4” เวอร์ชั่น 2018 พร้อมเผยโฉม 4 นักแสดงนำที่หล่อขยี้ใจสาวทั่วเอเชีย

    ไต้หวันเตรียมสร้าง “F4” เวอร์ชั่น 2018 พร้อมเผยโฉม 4 นักแสดงนำที่หล่อขยี้ใจสาวทั่วเอเชีย

    นับเป็นซีรีส์ดังที่ทำเอาแฟนๆ ติดกันทั่วทั้งเอเชียเลยจริงๆ สำหรับ “Meteor Garden รักใสๆ หัวใจสี่ดวง” หรือ “F4” ซีรีส์สุดฮอตระดับตำนานจากไต้หวัน ซึ่งดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น ที่เรียกได้ว่ามีอิทธิพลมากที่สุดในช่วงปี 2000 เลยก็ว่าได้ ที่สำคัญยังส่งผลให้ 4 หนุ่มนักแสดงนำของเรื่องอย่าง Jerry Yan, Vic Zhou, Vanness Wu และ Ken Chu กลายเป็นซุปตาร์ที่โด่งดังเป็นพลุแตกอีกด้วย     และด้วยความนิยมที่ไม่มีวันเสื่อมคลายนี้เอง เลยทำให้หลายประเทศในเอเชีย เช่น ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงประเทศเกาหลีใต้ ได้นำ F4 กลับมารีเมคให้ผู้ชมได้ดูกันอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าทั้ง 2 เวอร์ชั่นนี้ได้รับเสียงตอบรับจากบรรดาแฟนๆ ไม่แพ้กับเวอร์ชั่นไต้หวันเลยทีเดียว   F4 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น   F4 เวอร์ชั่นเกาหลี   ล่าสุด วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ทางไต้หวันเตรียมทุ่มทุนสร้างซีรีส์…

  • หนุ่มวางแผนลวงร่วมมือกับตำรวจ เพื่อพิสูจน์ว่าภรรยาตั้งใจส่งมือปืนมาฆ่าเขาจริงๆ

    หนุ่มวางแผนลวงร่วมมือกับตำรวจ เพื่อพิสูจน์ว่าภรรยาตั้งใจส่งมือปืนมาฆ่าเขาจริงๆ

    ชีวิตคนเราเนี่ยมันยิ่งกว่าละครในทีวีหรือหนังอีกนะ ใครจะคิดว่าสามีภรรยาที่อยู่กินกันมาอยู่ดีๆ จะส่งมือปืนมาลอบฆ่ากันซะอย่างนั้น แต่ที่เด็ดกว่าคือมีการตลบหลังกันเกิดขึ้น!? Ramon Sosa โค๊ชมวยวัย 50 ปีจากเท็กซัสได้เล่าว่า เขาได้ยินข่าวลือจากวงในว่าภรรยาของเขานั้นตั้งใจจะส่งคนมาฆ่าเขา เพื่อที่จะได้ไปมีชีวิตใหม่และฮุบเงินของเขาไป แต่ Ramon นั้นก็ได้แต่ยิ้มมุมปากเบาๆ ว่าภรรยาของตนนั้นตามตัวเองไม่ทันหรอก     เพราะ Ramon ได้รู้ข่าวคราวมาจากชายที่ชื่อ Gustavo ว่าภรรยาของเขาจ้างนายคนนี้ให้มาจัดการกับเขาด้วยเงิน 2,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 66,225 บาท) ซึ่งหารู้ใหม่ว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน เขาเล่าว่า Gustavo เคยเป็นนักมวยในความดูแลของเขา ด้วยความที่ Gustavo มีปัญหาครอบครัวอยู่แล้วตัวเขาจึงพูดคุยและช่วยเปลี่ยนชีวิตให้ Gustavo กลับมาดีอีกครั้ง     และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเรื่องทั้งหมดมันจริง Ramon จึงร่วมมือกับตำรวจเพื่อกุข่าวการตายของเขา จากนั้นก็จ้างทีมแต่งหน้ามาแต่งให้หน้าเขาดูเหมือนถูกยิงเข้าที่หัวจริงๆ แล้วก็พาตัวเองไปนอนตายอยู่ในหลุมดินพร้อมถ่ายรูปเก็บไว้ ต่อมา Gustavo ได้เดินทางไปพบกับภรรยาของ Ramon เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับภารกิจของพวกเขา แต่ด้านภรรยาไม่รู้เลยว่านักฆ่าที่เธอตั้งใจส่งไปกลับซ่อนเครื่องบันทึกเสียงไว้ และใช้แบล็คเมล์ในตอนหลัง เมื่อเธอเห็นรูปของ Ramon นอนอยู่ในหลุม เธอก็คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี     แต่สุดท้ายภรรยาของ Ramon ก็ถูกจับตำรวจจับกุมและถูกตัดสินจำคุก 20 ปีจากข้อหาพยายามฆ่า ส่วนตัวสามีก็ได้กลับมามีชีวิตอิสระอีกครั้งหนึ่ง…   คุก…

  • เรื่องราวอันน่าสลดใจของหญิงสาวผู้ถูกขังให้เป็นทาสเซ็กส์กว่า 6 ปี ในที่สุดก็ถูกปลดปล่อยแล้ว

    เรื่องราวอันน่าสลดใจของหญิงสาวผู้ถูกขังให้เป็นทาสเซ็กส์กว่า 6 ปี ในที่สุดก็ถูกปลดปล่อยแล้ว

    เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าวเดลี่เมลล์ได้เผยแพร่ข่าวเหตุการณ์ผู้หญิงวัย 20 ปีที่ทางตำรวจได้เข้าไปช่วยเหลือหลังจากที่เธอถูกขังไว้ในบ้านเกือบ 6 ปี เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Lilia ได้พบเจอกับ Rinat Bilyanov ผ่านทางเว็บไซต์หาคู่ของชาวมุสลิม หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เข้าแต่งงานกันด้วยพิธีทางศาสนา แต่ไม่ได้แต่งงานกันทางกฏหมาย     ต่อมาเธอก็ย้ายเข้าไปอาศัยในบ้านของฝ่ายชายเป็นซึ่งแฟลตเล็กๆ ที่ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีแม้แต่แสงเล็ดลอดเข้ามา และตัดขาดเธอจากโลกภายนอกทั้งหมด แฟลตแห่งนี้ทั้งสกปรกและไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้น     เธอถูกขังไว้ในที่แห่งนี้เป็นเวลา 6 ปี เธอไม่ได้รับโอกาสในการออกไปข้างนอกเลย เขาขังเธอไว้ในที่แห่งนี้เพื่อใช้เป็นทาสเซ็กส์และที่ระบายอารมณ์ เธอถูกทุบตีบ่อยครั้งจนร่างกายฟกช้ำ บางครั้งก็เป็นแผลฉกรรจ์ อีกทั้งยังต้องมารองรับอารมณ์ทางเพศแบบพิศดาร หากเธออยากหลุดพ้นจากขุมนรกแห่งนี้ เขาบอกว่าเธอต้องหาเงินประมาณ 100 ล้าบาทเพื่อปลดปล่อยเธอ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่ทางครอบครัวของเธอจะเอาเงินจำนวนมหาศาลนั้นมาช่วยเหลือเธอได้     ในเวลา 6 ปีที่เธออยู่ในที่แห่งนี้ เธอตั้งครรภ์ถึง 4 ครั้ง ลูกของเธอทุกคนมีปัญหาในด้านการพูดและเรียนรู้ช้า เนื่องจากต้องอยู่ในที่ที่ีไม่มีแม้แต่แสงเล็ดลอดเข้ามา โดยที่ลูกๆ มีโอกาสออกไปข้างนอกเพียงปีละครั้งเท่านั้น     เขาทำร้ายเธอทุกครั้งเมื่อเขาอารณ์เสีย จนกระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถอดทนต่อไปได้…

  • ประมวลภาพเทศกาล ‘การล่าวาฬ’ ประจำปีในหมู่เกาะแฟโร ที่อาจไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน

    ประมวลภาพเทศกาล ‘การล่าวาฬ’ ประจำปีในหมู่เกาะแฟโร ที่อาจไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน

    *คอนเทนท์นี้อาจมีเนื้อหารุนแรง   มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกของเราเมื่อน้ำทะเลเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีแดงด้วยเลือดของปลาทั้งหลายที่ถูกฆ่าจากน้ำมือของมนุษย์อย่างเราๆ ปลาโลมาและวาฬจำนวนมากถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมบริเวณหมู่เกาะแฟโร ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมาเหล่านี้ได้นี้ถูกถ่ายออกมาโดยกลุ่มอนุรักษ์กลุ่มหนึ่งที่ชื่อว่า Sea Shepherd Global      ปลาเหล่านี้ถูกฆ่าตายทุกปีเนื่องในเทศกาลที่ชาวแฟโรเรียกว่า grindadráp หรือเทศกาลล่าวาฬซึ่งจะมีขึ้นในช่วงฤดูร้อน โดยพวกเขาจะใช้หอกที่ทำขึ้นโดยเฉพาะล่าวาฬในว่ายมาใกล้ๆ กับหาด รัฐบาลของหมู่เกาะแฟโรออกมาเปิดเผยในปีนี้มีปลาตายในเทศกาลนี้รวมแล้วกว่า 1,700 ตัว โดยตัวแทนของรัฐบาลบอกว่าเทศกาลนี้ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อแสวงหาผลกำไรแต่ว่าทำขึ้นเพื่อควบคุมประชากรของปลาโลมาและวาฬ สำหรับเนื้อปลาที่ได้มาก็จะนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนของหมู่เกาะเพื่อใช้เป็นอาหารเนื่องจากหมู่เกาะแฟโรมีสภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับการปลูกพืชใดๆ   ภาพเทศกาลล่าวาฬแห่งหมูเกาะแฟโร . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   ที่มา: dailymail

  • เฮ๊ยจริงดิ่!! ‘Sengun-Joshi’ เกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่น ที่หลงใหลในวัฒนธรรมเกาหลีเหนือ

    เฮ๊ยจริงดิ่!! ‘Sengun-Joshi’ เกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่น ที่หลงใหลในวัฒนธรรมเกาหลีเหนือ

    ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา สถาณการณ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือนนั้นจะมีความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามสภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดสงครามกลับไม่ทำให้เสียงดนตรีนั้นหยุดบรรเลงได้เลย Sengun-Joshi หรือกลุ่ม Military-First Girls เกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่นที่หลงใหลในวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีเหนือ และพวกเธอยังเป็นหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับของ Moranbong band เกิร์ลกรุ๊ปของประเทศเกาหลีเหนืออีกด้วย หนึ่งในสมาชิกของวงกล่าวว่า พวกเธอนั้นก็เหมือนคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมต่างชาติทั่วๆ ไป และไม่อยากให้ใครตัดสินพวกเธอเพียงเพราะว่ามีความหลงใหลในวัฒนธรรมของชาติที่เป็นคอมมิวนิสต์     Chunhun สาวน้อยผู้ก่อตั้งเกิร์ลกรุ๊ปนี้กล่าวว่าเธอเริ่มมีความสนใจในประเทศเกาหลีเหนือในตอนที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยศิลปะ ซึ่งสิ่งที่เธอสนใจนั่นก็คือความสวยงามและคุณค่าทางศิลปะของป้ายโฆษณาชวนเชื่อในเกาหลีเหนือนั่นเอง “มันมีความลึกซึ้ง และการแสดงออกที่ชัดเจน พวกเขาใส่ใจกับทุกๆ รายละเอียดไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หรือใบไม้ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอย่างมาก” Chunhun ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น     นอกจากจะมีความสนใจในงานศิลปะจากโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือแล้ว Chunhun ยังได้หาความรู้เกี่ยวกับงานศิลปะของเกาหลีเหนือจากสื่ออื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเว็บไซต์ Rodong Sinmun เว็บข่าวอย่างเป็นทางการของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ รวมถึงการแต่งตัวให้คล้ายกับชาวเกาหลีเหนืออีกด้วย Chunhan เริ่มต้นการรวมกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปของเธอบนโลกออนไลน์ เพื่อชักชวนกลุ่มคนที่มีความชอบเหมือนกันให้มารวมตัวกัน นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือ นอกจากนี้พวกเธอยังเคยจัดงานเต้นโคฟเวอร์วง Moranbong band ในกรุงโตเกียวอีกด้วย     และด้วยประวัติศาสตร์ความขัดแย้งที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้ Chunhun และกลุ่ม Sengun-Joshi นั้นต้องเผชิญกับคำวิพากย์วิจารณ์อย่างมากบนโลกออนไลน์ ซึ่งบางครั้งพวกเขาเองถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศต่อชาติเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามพวกเธอก็ได้ออกมาอธิบายว่า อันที่จริงแล้วสิ่งที่พวกเธอสนใจนั้นมีเพียงแค่วัฒนธรรมเท่านั้น แต่พวกเธอยังคงเกลียดชังการปกครองที่เต็มไปด้วยความกดขี่และสิ่งที่พวกเขาทำเหมือนกับชาวญี่ปุ่นทั่วๆ ไป “การสนใจในวัฒนธรรมเกาหลีเหนือคือความสนใจใน เพลง แฟชั่น และงานศิลปะของพวกเขา ฉันไม่อยากให้ชาวญี่ปุ่นตัดสินพวกเขาเพียงเพราะสิ่งที่รัฐบาลของพวกเขาทำ พวกเราก็เหมือนกับกลุ่มเด็กผู้หญิงที่ชอบเพลงเกาหลี หรือชอบฟัง…

  • หญิงสาวต่อสู้กับโรคมะเร็งร้าย ได้รับกำลังใจรวมทั้งความช่วยเหลือจาก ‘เมียใหม่ของผัวเก่า’

    หญิงสาวต่อสู้กับโรคมะเร็งร้าย ได้รับกำลังใจรวมทั้งความช่วยเหลือจาก ‘เมียใหม่ของผัวเก่า’

    ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้วสิ่งหนึ่งที่พวกเขาต้องการก็คือกำลังใจเพราะว่าหากใจไม่สู้แล้วร่างกายก็คงจะแย่ตามไปด้วย ซึ่งกำลังใจสามารถหาได้จากคนในครอบครัวหรืออาจจะเป็นเพื่อนๆ คนสนิทแต่คงไม่มีใครเหมือนเธอคนนี้ที่ป่วยเป็นมะเร็งแต่ได้กำลังใจรวมทั้งความช่วยเหลือบางส่วนจากภรรยาใหม่ของสามีเก่าของเธอเอง Nicola Hitchen คุณแม่ลูกสองจากเมือง Chester สหราชอาณาจักรได้ป่วยด้วยโรคบางอย่างในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาและต่อมาเธอก็ได้รับการการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งมดลูกขั้นที่ 2     เหมือนว่าข่าวร้ายนั้นได้บั่นทอนกำลังใจของเธอเป็นอย่างมากในระยะเวลาเพียง 7 สัปดาห์หลังจากที่ต้องเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิด มะเร็งก็ลุมลามไปไวจนถึงขั้นที่ 4 นั่นคือจุดที่หมอที่รักษาบอกกับ Niki ว่าเธอไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้อีกแล้ว เพราะว่ามะเร็งลุกลามอย่างรวดเร็ว และเธออาจมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกแค่สองหรือสามเดือนเท่านั้น     แต่ว่าคุณแม่ลูกสองนี้ก็ยังไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรม เธอได้ออกเดินทางไปยัง Northumberland และยังเดินทางไปที่ Istanbul ประเทศตุรกรีเพื่อหาวิธีที่จะรักษามะเร็งนี้ หลักจากที่ใช้เงินไปกว่า £80,000 (ประมาณ 3 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งขั้น 4 นี้ โดยเนื้อร้ายที่มดลูกของเธอก็เกือบจะหายไปทั้งหมด     ถึงแม้ว่าการรักษาของเธอจะเป็นไปด้วยดี แต่ว่าการเดินทางไปตุรกีแต่ละครั้งต้องใช้เงินมากกว่า 10,000 ปอนด์ (เกือบ 4 แสนบาท) นั่นทำให้เธอสูญเสียเงินทั้งหมดที่มีไป และปัญหาเรื่องเงินนี้ก็ทำให้เธอไม่สามารถเข้ารับการรักษานี้ได้อีก แต่ก็มีใครคนหนึ่งที่เธอไม่เคยนึกถึงยื่นมือเข้ามาช่วย โดยคนๆ นั้นคือ ภรรยาใหม่ของสามีเก่าเธอที่มีชื่อว่า Clare Hitchen     Clare ได้จัดตั้งแคมเปญเพื่อช่วยระดมทุนในการหาเงินมารักษาโรคมะเร็งให้แก่…

  • หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อโดนน้ำกรดสาด ได้พบรักแท้กับชายที่เจอตอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

    หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อโดนน้ำกรดสาด ได้พบรักแท้กับชายที่เจอตอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

    ขึ้นชื่อว่ารักแท้แล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลต่างๆ หรือว่ามีรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร รักก็ยังคงเป็นความรักที่บริสุทธิ์อยู่ดีเหมือนกับสาวคนนี้ที่แม้จะถูกพิษน้ำกรดทำร้ายเธอ แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เจอคู่ชีวิตของเธอที่รักเธอด้วยใจจริง Pramodini Roul หรือชื่อที่บ้านเธอเรียกเธอว่า Rani สาวอินเดียซึ่งมีอายุเพียง 15 ปีในขณะที่เธอถูกทหารรักษาการณ์คนหนึ่งขี่จักรยานยนต์แล้วสาดน้ำกรดใส่เธอเพราะว่าเธอปฏิเสธการขอแต่งงานของเขา ซึ่งการถูกทำร้ายในครั้งนั้นได้ทำให้เธอเสียโฉมและการมองเห็นไป     ในช่วงหลายปีตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น Rani ต้องเข้าออกโรงพยาบาลนับครั้งไม่ถ้วนเพราะว่าเธอต้องเข้าการผ่าตัดรวมทั้งการรักษาปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่เธอต้องทนทุกข์ทรมาน นี่เองจึงทำให้เธอได้กับ Saroj Kumar Sahoo ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนกับพยาบาลของเธอและกำลังจะเป็นคู่ชีวิตในอนาคต     Rani ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนอยู่ในห้อง ICU ทันทีหลังจากเกิดเหตุและหลังจากนั้นเธอก็ต้องใช้เวลาถึง 4 ปีรักษาตัวจากบาดแผลเรื้อรังที่บ้านของเธอใน Odisha ทางตะวันออกของประเทศอินเดียซึ่งมีแม่ของเธอดูแลเพียงลำพัง หลังจากเผชิญความเจ็บปวดเกือบนับสิบปีผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งมาแล้วกว่า 5 ครั้งรวมถึงการผ่าตัดเพื่อทำให้ดวงตาข้างซ้ายของเธอกลับมามองเห็นอีกครั้งและยังต้องต่อสู้กับภาวะของโรคซึมเศร้าในตอนนี้ Rani บอกว่าเธอได้พบเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่อีกครั้งนั่นก็คือ Soroj Kumar Sahoo นั่นเอง     โดยทั้งคู่ได้พบรักกันในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งและได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลาหนึ่งปีในเมือง New Delhi  ” Saroj ปฏิบัติกับฉันราวกับฉันเป็นเจ้าหญิง เขารักฉันในสิ่งที่ฉันเป็นและยังให้กำลังใจฉันให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข” “ตอนนี้เขาเป็นส่วนหนึ่งของฉันไปแล้ว ฉันอาจจะไม่สามารถอยู่บนโลกนี้ได้จนถึงตอนนี้หากว่าไม่มีเขาในชีวิต” Rani กล่าว…

  • 11 ทริคเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับร่างกาย ที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น ทำไมไม่รู้ให้เร็วกว่านี้ฟร๊ะ!?

    11 ทริคเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับร่างกาย ที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น ทำไมไม่รู้ให้เร็วกว่านี้ฟร๊ะ!?

    ร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำอะไรได้หลายอย่าง ยิ่งเรารู้จักร่างกายมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่มนุษย์ส่วนใหญ่มักจะไม่รู้จักกลไกบางอย่างภายในร่างกาย ที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น โดยเฉพาะ 13 ทริคต่อไปนี้   1. คุณสามารถหยุดการจามได้โดยการใช้นิ้วกดลงบนบริเวณเหนือริมฝีปากบน การจามเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่อาจห้ามได้ แต่หากคุณอยู่ต่อหน้าคนที่คุณแอบปลื้มหรืออยู่ในสถานการณ์สำคัญ การไม่จามน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า วิธีทำให้หยุดจามคือ ใช้นิ้วใดนิ้วหนึ่งกดลงบนบริเวณเหนือริมฝีปากบน แล้วจะทำให้คุณหายจากการอยากจามทันที แต่ในกรณีที่ไม่ได้ผล ให้คุณเอามือปิดปากและจมูกระหว่างจาม หรือจะยกแขนขึ้นแล้วจามใส่ข้อพับศอกก็ได้   2. เมื่อร่างกายได้รับความเย็นมากเกินไป จนรู้สึกว่าสมองแข็งทื่อไปด้วย ให้ดันลิ้นขึ้นไปที่เพดานปาก มันคือวิธีแก้ฉุกเฉิน ก่อนที่คุณจะได้ดื่มน้ำอุ่น หรือคุณหาน้ำดื่มตรงนั้นไม่ได้แล้วจริงๆ  สำหรับสาเหตุของอาการสมองตึงและเทคนิคอื่นในการคลายความตึง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ npr   3. หากอยู่ในห้องที่เสียงดังมากๆ แล้วอยากได้ยินเสียงของคนข้างๆ ที่คุยกับคุณ ให้ค่อยๆ ดึงหูทั้งสองข้างไปด้านหลัง จากนั้นก็ดันหูทั้งสองข้างเข้าหากัน ที่หูของเราจะมีส่วนที่เรียกว่า “tragus” เป็นส่วนที่ป้องกันไม่ได้ให้เสียงรอบนอกเข้ามารบกวนการฟังเสียงและทำให้คุณได้ยินคนข้างๆ ได้ชัดขึ้น   4 การนอนตะแคงซ้ายจะช่วยทำให้ไม่เกิดอาการเสียดท้อง หลังจากที่คุณเพิ่งจัดมื้อหนักไป เราเคยได้ยินว่า หลังจากที่กินไม่ควรจะเข้านอนทันที แต่ควรรอสัก 3-4 ชั่วโมงก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียดท้อง แต่จริงๆ คุณไม่จำเป็นต้องรอนานขนาดนั้น เพราะการนอนตะแคงซ้ายช่วยคุณได้   5 ห้ามเลือดกำเดาด้วยการเอียงศีรษะไปข้างหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็บีบจมูกไว้ประมาณ…

  • หญิงสาวที่เคยอ้วนจนต้องนั่งรถเข็น ลดน้ำหนักได้เกือบ 200 กิโล จนกลับมีชีวิตที่มีแฮปปี้อีกครั้ง

    หญิงสาวที่เคยอ้วนจนต้องนั่งรถเข็น ลดน้ำหนักได้เกือบ 200 กิโล จนกลับมีชีวิตที่มีแฮปปี้อีกครั้ง

    การลดน้ำหนักนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนจึงยอมแพ้และยอมอยู่กับความอ้วนอย่างภาคภูมิใจ แต่คุณจะรู้สึกภูมิใจกว่าเมื่อสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จ Amber Rachdi จาก Troutdale รัฐออริกอน เป็นหนึ่งในตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกในการลดความอ้วน เพราะเธอเคยมีน้ำหนักมากถึง 298 กิโลกรัม ตอนอายุ 23 ปี     การต้องใช้ชีวิตกับน้ำหนักเกือบ 300 กิโลนั้น ทำให้หญิงสาวไม่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เธอไม่สามารถขับรถได้(แทบจะนั่งในรถไม่ได้ด้วยซ้ำ) เธอไม่สามารถอาบน้ำเองได้ และแทบจะไม่สามารถออกจากบ้านเพื่อซื้อาหารได้     เวลาไปไหนมาไหน Amber ต้องใช้สกู๊ตเตอร์หรือมอเตอร์ไซต์ ที่สำคัญเธอต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ เพราะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต่อมาหญิงสาวได้ไปออกรายการ TLC… ตอนนั้นเองที่เธอตระหนักได้ว่าชีวิตมันไม่ควรเป็นแค่การอยู่รอดไปวันๆ เท่านั้น     Amber ตัดสินใจทำในสิ่งที่เธอคิดมาตลอดว่าไม่สามารถทำได้ นั่นคือการลดน้ำหนัก และเธอก็ได้เริ่มลงมือทำ ณ ตอนนั้นเลย สิ่งแรกที่ทำคือการเดินเพื่อลดน้ำหนัก โดยอยู่ภายใต้การดูแลของ Dr. Younan Nowzardian ขณะที่ทางครอบครัวก็ย้ายไปอยู่ในฮูสตัส รัฐเท็กซัส เพื่อที่จะได้อยู่ชิดกับลูกในระหว่างที่เธอต่อสู้กับลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ “คุณต้องทุ่มเทที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีและยั่งยืน มันไม่สายเกินไปเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” Amber กล่าว     จากนั้นเธอก็เริ่มลดปริมาณแคลอรี่…

  • เด็กหญิง 9 ขวบ จองทริปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ มูลค่า 35,000 บาท เพราะเดารหัสผ่าน Paypal พ่อถูก

    เด็กหญิง 9 ขวบ จองทริปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ มูลค่า 35,000 บาท เพราะเดารหัสผ่าน Paypal พ่อถูก

    เมื่อก่อนผู้ใหญ่จะเป็นคนสอนเด็กๆ ให้ใช้สื่อเทคโนโลยีต่างๆ แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีเข้าถึงง่าย เด็กสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เผลอๆ เด็กจะสอนผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ เหมือนอย่างกรณี เมื่อเด็กหญิงวัยเพียง 9 ขวบ ได้ทำการซื้อบัตรดิสนีย์แลนด์ด้วยตัวเอง ในราคา 35,000 บาทผ่าน  PayPal โดยการเดารหัสผ่านของพ่อ วันนั้น Ian Wilson ผู้เป็นพ่อกำลังนอนกลับ โดยที่ Susan ลูกสาววัย 9 ได้เอาโทรศัพท์พ่อไปเล่น ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร     Susan จึงได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินในราคา 17,000 บาท จองโรงแรม 9,000 บาท และตั๋วเข้าดิสนีย์แลนด์อีก ประมาณ 17,000 บาท โดยเธอได้เลือกวันถัดไปสำหรับทริปนี้ เธอได้เข้าไปจองตั๋วผ่านเว็บไซต์ Getyourguide ส่วนโรงแรมกับตั๋วเครื่องบินได้จองผ่านเว็บไซต์ Bravofly… ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอบังเอิญเดารหัสผ่าน Paypal ของพ่อถูก ทางด้าน Ian ไม่รู้เรื่องเลยว่าลูกสาวได้ทำอะไรไปบ้าง จนกระทั่ง 3 วันต่อมา เขาเห็นข้อความแจ้งเตือนว่ามีเงินออกจากบัญชีของเขา เมื่อรู้ว่าเงินที่หายไปนั้น เป็นเพราะลูกสาวได้ทำการจองตั๋วต่างๆ เขาจึงตัดสินใจโทรไปหา Yorkshire Bank Paypal และบริษัทท่องเที่ยว เพื่อยกเลิกการจองและขอรับเงินคืน  …

  • นายพรานถูกกวางป่าฆ่าตาย หลังจากที่ต้อนให้มันจนมุม ทำให้มันหันมาสู้แทนการหนี…

    นายพรานถูกกวางป่าฆ่าตาย หลังจากที่ต้อนให้มันจนมุม ทำให้มันหันมาสู้แทนการหนี…

    ธรรมชาติของสัตว์ส่วนใหญ่มักจะไม่ทำร้ายใครก่อน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกทำร้าย จู่โจม หรือถูกทำให้กลัว มันก็จะสู้ไม่ถอยเพื่อปกป้องตัวเองเช่นกัน อย่างกรณีนี้ เมื่อนายพรานคนหนึ่งเข้าไปล่ากวางในป่า แต่สุดท้ายเขากลับถูกกวางป่าจู่โจมจนเสียชีวิต…     เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Regis Levasseur นายพรานวัย 62 ปี ได้เข้าไปล่าสัตว์ในป่า France’s Compiegne ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีสประมาณ 80 กิโลเมตร ขณะนั้นเขาได้เจอกับกวางป่าตัวหนึ่ง และแน่นอนว่าเขาอยู่ในสถานะที่เหนือกว่า เพราะมีอาวุธติดตัวด้วย จากนั้นเขาก็พยายามไล่ต้อนให้เจ้ากวางจนมุม     เมื่อกวางป่าอ่อนแรงจากการหนี มันจึงตัดสินใจที่จะหันหน้ามาต่อสู้มากแทนที่จะวิ่งหนี เพื่อปกป้องตัวเองจากความตาย สำนักข่าว The Local รายงานว่า Levasseur ถูกกวางป่าโจมตีโดยการใช้เขาแทงเข้าไปที่ด้านหลังของเขา ส่งผลให้มีเลือดออกภายในอย่างรุนแรง และเสียชีวิตก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะมาถึง สื่อยังบอกอีกว่า Levasseur กำลังจะแต่งงานในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้     ด้านทาง Guy Harlé ประธานสหพันธ์ล่าสัตว์ในท้องถิ่นเผยว่า “สำหรับ Levasseur แล้ว การล่าสัตว์เป็นมากกว่างานอดิเรก แต่มันคือชีวิตของเขา” “โดยปกติแล้ว เวลาที่สัตว์โดนล่า มันจะวิ่งหนีจนวินาทีสุดท้าย แต่กวางตัวนี้เลือกที่จะสู้แล้วก็ใช้เขาแทงไปที่ด้านหลังของ Levasseur” “สำหรับเขากวางนั้น มันเหมือนมีดหลายๆ ใบที่เจาะเข้าร่างกายของคุณ แล้วคุณจะไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากต้องยอมจำนนต่อความตาย”…

  • 23 ไอเดียในการประหยัดพื้นที่ ให้ห้องเล็กๆ ของคุณยังเหลือพื้นที่ให้ใช้สอยอีกเยอะ!!

    23 ไอเดียในการประหยัดพื้นที่ ให้ห้องเล็กๆ ของคุณยังเหลือพื้นที่ให้ใช้สอยอีกเยอะ!!

    การอยู่หอหรืออยู่บ้านที่มีพื้นที่ไม่มากหรือคับแคบ อาจกลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้เราไม่สามารถทำหรือซื้อทุกอย่างที่ต้องการได้ แต่จริงๆ แล้ว หากคุณรู้จักจัดการพื้นที่อย่างสร้างสรรค์ จะพบว่าแม้จะอยู่ในพื้นที่แคบๆ แต่คุณก็สามารถมีทุกอย่างที่ต้องการได้ เหมือนกับไอเดียต่อไปนี้   1. โต๊ะพับเก็บได้   โต๊ะที่คุณสามารถเอามากางทุกเมื่อที่ต้องการใช้ และสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน โดยที่ไม่ต้องลำบากยกไปไว้ที่อื่น ทั้งยังสามารถใช้พื้นเดียวกันวางหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อีก     2. ชั้นวางรองเท้า เป็นการเก็บรองเท้าหลายๆ คู่ ในพื้นที่เล็ก แถมยังดึงเข้าดึงออกได้สะดวกด้วย   3. เก้าอี้นวมแบบปรับนอน จะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถมีที่นั่งกับที่นอนเป็นอันเดียวกัน ไม่ต้องซื้อมาทั้งสองอย่าง เพราะนอกจากเปลืองเงินแล้ว มันยังกินที่อีกด้วย .   4. แผ่นรองรีดผ้าแบบแม่เหล็ก แทนที่จะซื้อโต๊ะรีดผ้ามา คุณแค่ซื้อแผ่นรองรีดผ้าแล้วเอาไปปูบนเครื่องซักผ้าหรือพื้นผิวที่เป็นโลหะ เมื่อใช้งานเสร็จจะพับเก็บหรือปูไว้แบบนั้นก็ได้ ไม่เกะกะแน่นอน   5. ตู้หนังสือแบบขั้นบันได สำหรับคนที่ชอบสะสมหนังสือ นี่อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คุณเก็บหนังสือได้อย่างเป็นที่เป็นทาง หาง่าย และเป็นการใช้พื้นได้อย่างคุ้มค่า   6. เก้าอี้ซ้อนพร้อมโต๊ะ เก้าอี้พร้อมโต๊ะที่สามารถจัดเก็บไว้ได้อย่างเป็นระเบียบเมื่อไม่ใช้งาน จะไว้ในบ้านหรือตามที่สาธารณะก็ไม่ต้องห่วงว่าจะกินพื้นที่แต่อย่างใด .   7. เก้าอี้…

  • คุณตาเสียชีวิตหลังมีคนได้ยินเสียง “ดอกไม้ไฟ” กว่า 200 ครั้งในบ้าน ตำรวจคาดเป็นฆาตกรรม

    คุณตาเสียชีวิตหลังมีคนได้ยินเสียง “ดอกไม้ไฟ” กว่า 200 ครั้งในบ้าน ตำรวจคาดเป็นฆาตกรรม

    สำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานเหตุการณ์สุดสลดที่เกิดขึ้นในเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ วันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเป็นชายสูงอายุ 1 รายและภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่บ้านของนาย Tony Nicholls ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่ามีดอกไม้ไฟระเบิดภายในบ้านเกือบ 200 ครั้ง     ซึ่งในขณะนั้นนาย Tony และภรรยากำลังอาศัยอยู่ในบ้าน แรงระเบิดทำให้เขามีแผลไฟไหม้อย่างรุนแรงและได้รับการสูดดมควันไฟเข้าไปจนอยู่ในอาการโคม่า เขาถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในละแวกนั้นทันที แต่อาการของเขาหนักมาก 5 วันหลังจากนั้นเขาก็เสียชีวิตลง ส่วนภรรยาของเขาได้กระโดดหนีออกทางหน้าต่าง ซึ่งเธอก็ได้รับบาดเจ็บ แขนและขาร้าว และยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล     เจ้าหน้าที่ตำรวจ West Midlands ได้เข้ามาสืบสวนเรื่องนี้ทันที โดยที่สันนิษฐานว่านี่อาจจะเป็นการวางแผนฆาตกรรมและลอบวางเพลิง สารวัตร Paul Joyce ฝ่ายสืบสวนกล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ผู้เสียหายจากเหตุการณ์นี้ได้เสียชีวิตลง และทางครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลในครอบครัวไปหนึ่งคน การเสียชีวิตของเขาในครั้งนี้ ทางเราคาดว่าเป็นเหตุการณ์วางแผนฆาตกรรม ซึ่งเราต้องทำการสืบสวนเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด”     ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบหาจากพยานหลักฐาน รวมถึงกล้องวงจรปิดตามถนนเพื่อหาผู้ต้องสงสัยที่ทำการก่อคดีอุกอาจเช่นนี้ และยังมีรายงานอีกว่าเหตุการณ์สุดสลดนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการยื่นคำร้องให้เขียนกฎหมายห้ามขายดอกไม้ไฟและห้ามใช้ดอกไม้ไฟในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีผู้โหวตเห็นด้วยกว่า 37,000 คน และเมื่อรายชื่อถึง 100,000…

  • ซากเรือสวีเดนโบราณอายุกว่า 350 ปี ถูกค้บพบพร้อมกับความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้น้ำลึก

    ซากเรือสวีเดนโบราณอายุกว่า 350 ปี ถูกค้บพบพร้อมกับความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้น้ำลึก

    ใต้ท้องทะเล นอกจากจะมีสิ่งมีชีวิต พืช และสิ่งธรรมชาติอื่นๆ แล้ว ยังมีซากสิ่งของของมนุษย์จมอยู่ ทั้งที่ตั้งใจให้จมและไม่ตั้งใจ หนึ่งในสิ่งที่มักถูกค้นใต้ทะเลคือ “เรือ” ซึ่งบางลำจมอยู่ใต้ท้องทะเลนานนับร้อยๆ ปีกว่าจะถูกค้นพบ เหมือนกับเรือ Bodekull ที่อยู่ใต้ทะเลบอลติกมานานถึง 350 ปี เรือดังกล่าวนี้ถูกพบเมื่อปี 2003 ที่หมู่เกาะสตอกโฮล์ม ทางตอนใต้ของประเทศฟินแลนด์ แต่ที่น่าสนใจคือเรือลำนี้มีความลี้ลับซ่อนอยู่ ทั้งขนาดและสิ่งที่อยู่ภายในต่างสร้างความประหลาดใจให้ผู้ค้นพบไม่น้อยเลยทีเดียว     ตั้งแต่มีการค้นพบ นักโบราณคดีได้ดำน้ำลงไปสำรวจเป็นระยะๆ โดยใช้อุปกรณ์สมัยใหม่เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือที่จมอยู่ใต้ทะเล เรือ Bodekull ได้รับการระบุโดยดอกเตอร์ Niklas Eriksson จากศูนย์การศึกษาทางทะเลและภาควิชาโบราณคดีและการศึกษาคลาสสิกของมหาวิทยาลัยสตอกโฮล์ม จากการสำรวจพบว่ามันเป็นเรือสมุทรของสวีเดนที่จมลงใต้ทะเลในช่วงสงคราม Scanian เมื่อปี ค.ศ. 1678… Eriksson กล่าวว่า “เรือ Bodekull เป็นเรือขนาดเล็ก และรายละเอียดสัดส่วนต่างๆ ถูกสร้างขึ้นให้เหมือนเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่”     ภายในเรือ Bodekull มีหลายสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ อาวุธปืน ดาบ กระสุนปืน ปืนใหญ่ กระจก ภาชนะเครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือ และรองเท้า นอกจากนี้ยังทีมงานยังพบว่ามีปืนใหญ่ติดตั้งอยู่ทางด้านข้างของเรือ มีรูปสิงโตแกะสลักบนคันธนู แต่มีส่วนที่หายไปคือสัญลักษณ์ของอาณาจักรสวีเดน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เรือรบสมัยนั้นทุกลำต้องมี…

  • 20 สุดยอดไอจีนักท่องเที่ยว ที่จะปลุกความเป็นนักเดินทางในตัวคุณ ฟอลโล่วกันเร็ว!!

    20 สุดยอดไอจีนักท่องเที่ยว ที่จะปลุกความเป็นนักเดินทางในตัวคุณ ฟอลโล่วกันเร็ว!!

    ในปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เราได้ยลโฉมความงดงามของสถานที่ต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกได้แบบง่ายๆ เพราะเพียงแค่คลิกเข้าไปเราก็จะได้เห็นสิ่งที่น่าสนใจที่อยู่บนโลกใบใหญ่ได้ทั้งใบแล้ว ทางเว็บไซต์ Business Insider จึงได้รวบรวม 20 บัญชีของเหล่านักท่องเที่ยวจากอินสตาแกรมที่มีคนติดตาม และทรงอิทธิพลมากที่สุด โดยอินสตาแกรมเหล่านี้ นอกจากจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรักการผจญภัยแล้ว ยังช่วยให้คุณได้พบกับสถานที่ต่างๆ จากทั่วโลกที่คุณอยากไป แถมยังทำให้เราได้รู้จักอะไรใหม่ๆ ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอีกด้วย   20. @damonandjo นี่เป็นไอจีของ Damon และ Jo คู่รักนักเดินทางที่มักจะชอบพากันออกไปผจญภัยทั่วโลก ในตอนนี้มีคนตามฟอลโล่วกว่า 119,000 คนแล้ว   19. @migrationology Mark Wiens ผู้ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ตอนนี้มีคนตามฟอลโล่วเขามากกว่า 162,000 คนแล้วจ้า   18. @Jordhammond Jordan Hammond นักเดินทางจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่มีคนตามในไอจีมากถึง 111,000 คน ปัจจุบันเขากำลังเดินทางไปทั่วโลกและถ่ายรูปในสถานที่ต่างๆ เช่น เมือง Cappadocia   17. @andyto Andy เติบโตที่โอ๊กแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย…

  • ทารกน้อยทำหน้าไม่พอใจอย่างหนัก หลังถูกแม่ปลุกให้ตื่นขณะนอนชิวๆ อยู่ในอ่าง

    ทารกน้อยทำหน้าไม่พอใจอย่างหนัก หลังถูกแม่ปลุกให้ตื่นขณะนอนชิวๆ อยู่ในอ่าง

    วันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอโมเม้นต์น่ารักปนฮาของ Amari ทารกน้อยวัยเพียง 7 เดือน ที่ทำหน้าบึ้งตึงใส่แม่ของตัวเอง หลังถูกปลุกให้ตื่นขณะกำลังนอนผ่อนคลายอยู่ในอ่างน้ำ จากการรายงานระบุว่า ในช่วงเช้าของวันที่แสนสดใส Tiandra Malone คุณแม่ลูกสองจากเมืองแซคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้อาบน้ำให้กับ Amari ที่กำลังก้มหัวนั่งหลับโดยมีมือแม่คอยประคองเอาไว้อยู่ในอ่างอาบน้ำอย่างชิวๆ     และนั่นก็ทำให้ Tiandra ได้ตัดสินใจถ่ายคลิปวีดีโอช่วงเวลาอันน่าประทับใจของลูกชายเอาไว้เป็นเวลานาน 40 วินาที แต่ทว่าเมื่อเธอได้พยายามที่จะปลุก Amari ให้ตื่น ลูกชายตัวแสบถึงกับเงยหน้าขึ้นมา พร้อมแสดงใบหน้าที่โกรธอย่างเห็นได้ชัดราวกับอยากบอกให้แม่รู้ว่า คุณคือใคร? แล้วมาปลุกฉันทำไมเนี่ยยย!?     ทางด้าน Tiandra ได้ออกมาเผยว่า เธอได้ถ่ายคลิปนี้เอาไว้เป็นเวลา 40 วินาทีในช่วงเช้าของวันหนึ่ง ก่อนที่จะส่ง Aniyah พี่สาวของ Amari ไปโรงเรียน     “ปกติแล้ว ฉันจะลุกไปอาบน้ำ และเตรียมตัวทำอะไรหลายๆ อย่าง ฉันรู้ว่าเขารักการนอนมากแค่ไหน…

  • “Gabola” โบสถ์สายน้ำเมา จากประเทศแอฟริกาใต้ ที่บูชาพระเจ้าด้วยการดื่มเบียร์

    “Gabola” โบสถ์สายน้ำเมา จากประเทศแอฟริกาใต้ ที่บูชาพระเจ้าด้วยการดื่มเบียร์

    “สรรเสริญพระเจ้าด้วยการดื่ม” นี่คือคติประจำโบสถ์คริสต์นอกรีตแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ โบสถ์ Gabola แห่งนี้แปลเป็นภาษา Tswana ว่า “การดื่ม” พวกเขาจะเปิดรับสมาชิกและกระตุ้นให้พวกเขาสนใจในการดื่มเพื่อการเฉลิมฉลอง ในทวีปแอฟริกานั้นมีลัทธินอกรีตมากมาย และแต่ลัทธิก็พยายามดึงดูดผู้คนให้มานับถือลัทธิของพวกเขา ซึ่งโบสถ์ Gabola แห่งนี้เป็นโบสถ์แห่งแรกที่มีการเผยแพร่คำสอนให้คนหันมาสนใจการดื่มเป็นหลัก     ในพิธีล้างบาปของโบสถ์แห่งนี้จะใช้เหล้าศักดิ์สิทธิ์จากบาทหลวงในการทำพิธี นอกจากนี้ก็ยังมีการดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ ไวน์ และเหล้าระหว่างการเทศน์อีกด้วย Tsietsi Makiti หัวหน้าบาทหลวงประจำโบสถ์กล่าวว่า การดื่มเครื่องดื่มแอกกอฮอล์กับการสักการพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่เหมือนกัน บาทหลวงท่านนี้ยังได้บอกอีกว่าโบสถ์แห่งนี้ยินดีต้อนรับทุกคนที่ถูกปฏิเสธจากคริสตจักรเดิม และมอบพื้นที่ให้พวกเขาได้สักการะพระผู้เป็นเจ้า “นี่คือพื้นที่ในการรวมตัวสำหรับคนที่เชื่อในพระเจ้าโดยที่พวกเขาไม่ต้องอับอายในการดื่ม นี่คือสิ่งแวดล้อมที่พวกเราจะสามารถดื่มได้โดยที่ไม่ถูกตัดสิน” บาทหลวงกล่าว     โบสถ์แห่งนี้ก่อตั้งเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมปี 2017 ปัจจุบันพวกเขามีสมาชิกมากถึง 500 คนและมีคนเข้ารับศีลล้างบาปด้วยเหล้าแล้วมากกว่า 2,000 คน นอกจากนี้บาทหลวงคนดังกล่าวยังได้เผยอีกว่าเขาได้รับเชิญให้ไปเผยแพร่ลัทธินี้ทั่วประเทศอีกด้วย “ถ้าหากว่าคุณดื่มเบียร์ นั่นหมายถึงว่าคุณได้ทำการล้างบาปด้วยเบียร์แล้ว และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน นอกจากนี้พวกเรายังมีการสวดมนต์เพื่อระลึกถึงพระเจ้าก่อนการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ในที่อื่นๆ อีกเช่นกัน”     ถึงแม้ว่าขณะนี้ในลัทธิดังกล่าวจะมีแต่ผู้ชาย แต่บาทหลวงเองก็มีแผนที่ปรับปรุงและเผยแพร่แนวคิดของเขาให้เข้าทั่วถึงคนในทุกเพศ “พวกผู้หญิงนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในโบสถ์แห่งนี้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกผู้ชายเกิดอาการเมา อาจจะเป็นอันตรายต่อพวกเธอได้ แต่อย่างไรก็ตามเรากำลังมีการวางแผนและเตรียมที่จะรับผู้หญิงเข้ามาร่วมด้วย” บาทหลวง Tsietsi Makiti กล่าว     ปัจจุบันนี้ ทางโบสถ์จะมีการพบปะกันทุกวันอาทิตย์ที่บาร์ของคุณ Freddy ทางตอนใต้ของเมืองโจฮันเนสเบิร์ก โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่ช่วง 11 โมงเช้า จนถึงช่วงบ่าย…

  • ชายว่างงานชาวโรมาเนีย ออกไปดื่มกับเพื่อนจนเมาแอ๋ รู้ตัวอีกทีไปโผล่ไกลถึงอังกฤษ!?

    ชายว่างงานชาวโรมาเนีย ออกไปดื่มกับเพื่อนจนเมาแอ๋ รู้ตัวอีกทีไปโผล่ไกลถึงอังกฤษ!?

    หลายคนคงเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับคนเมาหนักแล้ววาร์ปไปโผล่อีกที่ หรือจะเมาแล้วป่วนไปทั่วอะไรทำนองนี้ก็คงเห็นมาบ้าง มาคราวนี้เป็นทีของคนเมาแล้วบินข้ามประเทศกันมั่ง ที่สำคัญไม่ใช่ใกล้ๆ เลยด้วย… Mihai Danciu หนุ่มว่างงานชาวโรมาเนียเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ กำลังตกเป็นประเด็นให้พูดถึงกันอย่างหนาหูสุดๆ หลังจากที่เขาดื่มจนเมามาย พอมารู้ตัวอีกทีก็ไปโผล่ข้ามประเทศจากโรมาเนียไปอยู่ลอนดอนเฉ๊ย   ระยะทางที่เขาเมาไปโผล่อีกประเทศนั้นไกลถึง 1,675 ไมล์ หรือเท่ากับ 2,695 กิโลเมตรเลยทีเดียว!!   เจ้าตัวได้เล่าว่า เขาจำอะไรไม่ได้เลยนอกจากก่อนเมา เขาบอกว่าเขาไปดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ ที่ผับแห่งหนึ่งในเมือง Albesti ประเทศโรมาเนีย เพื่อพูดคุยกันถึงเรื่องที่ Mihai อาจจะได้งานทำในอนาคต ทำให้เขารู้สึกดีใจจนดื่มกันหนักมากๆ และต่อจากเหตุการณ์ดังกล่าว Mihai ก็บอกว่าเขาจำอะไรไม่ได้แล้ว รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาอยู่ที่สนามหญ้าของอาคารแห่งหนึ่งใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมกับความแปลกใจ ว่าทำไมทุกคนรอบตัวถึงพูดภาษาอังกฤษกัน ซึ่งต่อมาเขาก็ได้เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล Whipps Cross Hospital ในลอนดอน     Adina Costache พยาบาลชาวโรมาเนียที่เข้ามาช่วยรื้อฟื้นสติให้กับ Mihai ก็ได้ยืนยันและเล่าผ่านเฟซบุ๊กของเธอว่า เขามาโผล่ที่ลอนดอนจริงๆ และก่อนหน้าแค่คืนเดียวเขาก็อยู่โรมาเนียมาก่อนด้วย ที่สำคัญยิ่งเกิดเรื่องนี้เจ้าตัวยิ่งไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าจริงๆ เขาเป็นใคร นอกจากนั้นยังมีรอยฝกช้ำจากการถูกซ้อมอีก ยังไงก็ตามเรื่องราวทั้งหมดมันกระจ่างขึ้นเมื่อเรื่องทั้งหมดถูกเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ เพราะสื่อของประเทศโรมาเนียก็ได้ลงข่าวและออกไปหาความจริง ซึ่งก็พบว่า Mihai อาศัยอยู่กับครอบครัวของเขา และก่อนหน้านั้นในคืนก่อนเกิดเหตุการณ์ ก็มีคนเห็นเขาอยู่ในผับที่ Albesti กับเพื่อนที่โรมาเนียจริงๆ ฉะนั้นเรื่องทั้งหมดจึงเป็นเรื่องจริง  …

  • คุณแม่ออกไปเช่าหนัง กลับมาเปิดกล่องดู เจอโน้ตพร้อมตังค์แถมมาให้ด้วย!?

    คุณแม่ออกไปเช่าหนัง กลับมาเปิดกล่องดู เจอโน้ตพร้อมตังค์แถมมาให้ด้วย!?

    สำหรับในหลายๆ ประเทศ ตู้อัตโนมัติไว้สำหรับเช่าหนังแผ่นถือว่าเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ด้วยวิธีการที่ง่ายให้คุณสามารถเลือกชมหนังเรื่องโปรดได้ที่บ้านของตัวเองในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เหมาะสำหรับคนที่บ้านไม่มีอินเตอร์เน็ตไว้ดูหนังออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในตู้ยอดนิยมนั้นเป็นของบริษัท Redbox   ตู้เช่าหนังอัตโนมัติของ Redbox   เพียงแค่จ่ายเงินเข้าเครื่องก็สามารถเลือกนำหนังที่อยากดูกลับบ้านได้ง่ายๆ แต่ไม่แน่ว่าคุณอาจได้ของแถมที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเหมือนกับคุณแม่ท่านนี้ก็ได้นะ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Liz ได้แชร์เรื่องราวในวันที่ 27 มกราคม 2017 เมื่อคุณแม่ของเธอได้ไปเจอเข้ากับของแถมสุดเซอร์ไพรส์จากกล่องดีวีดีหนังที่เธอไปเช่ามาจากตู้อัตโนมัติ     ตอนที่เธอมาถึงบ้านและได้เปิดดูก็พบเข้ากับแผ่นหนังดีวีดีแต่ไม่ได้มีเพียงแค่นั้นเพราะมันกลับมีกระดาษโน้ตและเงินกว่า 3,300 บาทติดมาด้วย!!   เซอร์ไพรส์มั้ยละคุณ นอกจากจะได้ดูหนังแล้วยังได้เงินไปซื้อหนมมากินอีกด้วย   ไม่รอช้าเธอได้นำกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่านจนทำให้เข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงมีของแถมเหล่านี้   กระดาษโน้ตเขียนไว้ว่า “สวัสดี!! ผมชื่อ Marcos นะ ทุกเดือนผมจะนำเงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐให้คนแปลกหน้า นี่เป็นเดือนแรกที่ผมหันมาใช้วิธีใส่ลงไปในกล่องดีวีดีของ Redbox แทน คุณเป็นคนแรกที่ได้รับมันในปี 2017 เลยนะ!! ขอให้คุณนำเงินไปใช้ในทางที่ดี แต่ถ้าไม่ต้องการก็ส่งมันต่อไปให้คนอื่น ขอให้เป็นวันที่ดีนะ บายยย”     นับว่าเป็นความน่ารักและเป็นวิธีการที่สามารถมอบความสุขให้กับใครหลายคนได้ดีเลยจริงๆ ชาวเน็ตที่ได้เห็นต่างมาแสดงความชื่นชมให้กับชายคนนั้น “นั่นเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก ฉันเชื่อมาตลอดว่าความดียังคงมีอยู่ในตัวมนุษย์จริงๆ”…

  • ความเชื่อที่ยังคงอยู่.. การล่าแม่มดในอินเดีย จับผู้หญิงผูกไว้กับต้นไม้และทุบตีอย่างรุนแรง

    ความเชื่อที่ยังคงอยู่.. การล่าแม่มดในอินเดีย จับผู้หญิงผูกไว้กับต้นไม้และทุบตีอย่างรุนแรง

    ความเชื่อโบร่ำโบราณของหลายพื้นที่ยังคงมีอยู่สืบต่อกันมา จนอาจปลูกฝังเข้าไปในความคิดและเกิดออกมาเป็นพฤติกรรมความรุนแรงเช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ กับการล่าแม่มดในประเทศอินเดีย วันที่ 6 พฤศจิกายน 2017 เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยคลิปวิดีโอหญิงสาว 5 คนถูกมัดติดกับต้นไม้ จากนั้นคนอื่นที่อยู่รอบๆ ก็เข้ามาทุบตีพวกเธออย่างรุนแรง โดยไม่มีการห้ามหรือเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด แม้แต่จากสามีของพวกเธอเอง   พวกเธอถูกมัดติดกับต้นไม้เอาไว้อย่างไร้ทางสู้   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Madhupur รัฐโอริศา ประเทศอินเดีย โดยคนในหมู่บ้านเชื่อว่าหญิงสาวเหล่านั้นเป็นแม่มด แอบทำพิธีกรรมหรือมีเวทมนต์ จึงถูกตราหน้าว่าเป็นตัวกาลกิณี พวกเธอและสามีถูกลงโทษด้วยพฤติกรรมอันป่าเถื่อน และไม่สามารถป้องกันตัวหรือหนีออกมาจากสถานการณ์นี้ได้เลย ภายในคลิปแสดงให้เห็นว่ามีคนถือกิ่งไม้ฟาดใส่พวกเธออยู่ตลอด อีกทั้งยังมีคนวิ่งเข้ามาตบซ้ำเข้าไปอีก   หญิงชาวอินเดียถูกทุบตีอย่างหนัก เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด   เหยื่อทั้ง 5 คนกล่าวอีกว่าเรื่องทั้งหมดไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมดูแลเลย จนกระทั่งมีคลิปนี้ออกมาถึงได้ยอมเข้ามาตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะอย่างนั้นจึงทำให้ 2 ปีที่ผ่านมาในเขต Mayurbhanj นั้น มีหลายเหตุการณ์ที่กลุ่มคนตัดสินคนอื่นๆ และลงโทษพวกเขากันเองโดยไม่มีการควบคุม ในเดือนตุลาคมปี 2017 ที่ผ่านมามีคน 3 คนถูกทุบตีอย่างทารุณ ไร้ความปรานีในหมู่บ้าน Gangraj หรือเหตุการณ์ที่หญิงสาวรายหนึ่งถูกตีจนตายเพราะมีอาการทางจิตและพยายามขโมยเด็กในหมู่บ้าน Domuhani   ความรุนแรงที่มาจากความเกลียดชัง เพียงเพราะความเชื่อที่ถูกปลูกฝังมา   ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าความเชื่อของคนสามารถกำหนดพฤติกรรมที่ออกมาได้มากกว่าการใช้เหตุผลในปัจจุบัน และบางครั้งความเมตตาหรือความผิดชอบชั่วดีก็ไม่อาจหยุดสิ่งนี้เอาไว้ได้เลย…

  • ร้านสตาร์บัคแห่งใหม่ ‘สไตล์ยุคเมจิ’ เปิดใกล้กับออนเซ็นที่เคยโผล่ใน Spirited Away

    ร้านสตาร์บัคแห่งใหม่ ‘สไตล์ยุคเมจิ’ เปิดใกล้กับออนเซ็นที่เคยโผล่ใน Spirited Away

    สตาร์บัค คือร้านกาแฟชื่อดังที่ได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศ ซึ่งหนึ่งในประเทศที่นิยมกาแฟร้านนี้มากๆ ก็คือญี่ปุ่น โดยทางร้านได้คิดค้นหลายๆ อย่างมาเพื่อดึงดูดใจลูกค้าแดนอาทิตย์อุทัยทั้งหลายอยู่เสมอ เช่น Frappuccino ดอกซากุระ หรือแก้วกาแฟลายภูเขาไฟฟูจิ แต่ในครั้งนี้ทางร้านได้สร้างเอกลักษณ์ที่เจ๋งกว่าเดิม เพราะถึงกับจะเปิดสาขาใหม่ในสไตล์ญี่ปุ๊นน ญี่ปุ่น ที่เหมือนกับทำให้ลูกค้าทุกคนได้ย้อนกลับไปในยุคสมัยเมจิตอนช่วงศตวรรษที่ 19 โน้นนน     ร้านกาแฟแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ตรงทางออกของสถานีรถไฟอันเก่าแก่ที่ใช้มานานกว่า 100 ปี ในจังหวัดเอะฮิเมะ บนเกาะชิโกกุ สถานีรถไฟดังกล่าวร่วมมือกับสตาร์บัคส์เพื่อออกแบบและสร้างมันออกมาให้มีความเข้ากันกับบรรยากาศอันเก่าแก่ของเมือง และภายในร้านเองก็มีความคลาสสิคที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการนั่งรถไฟ ทำให้ความรู้สึกของทุกคนเหมือนกับได้แวะพักดื่มกาแฟระหว่างการเดินทางอันยาวนานบนรถไฟ     ร้านนี้มีด้วยกันอยู่สองชั้น โดยชั้นแรกมีเคาน์เตอร์พนักงานไว้สั่งเครื่องดื่มหรือของหวานต่างๆ ที่ด้านหลังของพนักงานจะมีกระจกทำให้ลูกค้าทุกคนสามารถมองเห็นเวลารถไฟมาถึงหรือว่าออกไปจากสถานี   เดินเข้าไปก็เจอเข้ากับเคาน์เตอร์ที่ดูเข้ากันกับสถานีรถไฟแห่งนี้   ชั้นสองมีโซฟาและโต๊ะนั่งที่ทำออกมาเหมือนกับเราได้นั่งอยู่ในรถไฟจริงๆ หรือถ้าหากใครอยากนั่งจิบกาแฟรับลมด้านนอกก็สามารถไปนั่งตรงระเบียงได้ แต่ต้องรีบไปจับจองหน่อยนะเพราะส่วนนั้นมีเก้าอี้พอสำหรับ 8 คนเท่านั้น   การตกแต่งชั้นบนยังคงคอนเซ็ปต์เอาไว้เหมือนกับชั้นล่าง   นอกจากนั้นร้านกาแฟดังกล่าวได้สร้างเอาไว้ใกล้กับออนเซ็น Dogo อันเก่าแก่และมีชื่อเสียงอย่างมากในญี่ปุ่น เพราะมันคือต้นแบบของโรงอาบน้ำในการ์ตูนที่ใครหลายๆ คนรู้จัก Spirited Away จากสตูดิโอ Ghibli   ออนเซ็นชื่อดังที่ได้ไปโผล่ในหนังการ์ตูน   ความสวยงามของที่แห่งนี้ช่วยเสริมให้บรรยากาศโดยรอบดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ร้านกาแฟแห่งใหม่นี้ก็เช่นกัน   หากใครอยากไปลองนั่งกินกาแฟในบรรยากาศยุคเมจิ…

  • ชีวิตของหญิงสาวต้องพังทลาย เพราะรอยสักรูป ‘ตรีนสุนัข’ ที่เธอรัก เซ็งเป็ดเลย…

    ชีวิตของหญิงสาวต้องพังทลาย เพราะรอยสักรูป ‘ตรีนสุนัข’ ที่เธอรัก เซ็งเป็ดเลย…

    รอยสักของหลายๆ คนอาจได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่ตัวเองรักเหมือนกับเธอคนนี้ ที่ได้ตัดสินใจสักรูปรอยเท้าน้องหมาสุดที่รักเอาไว้บนหน้าอก จนเมื่อเวลาผ่านไปทำให้เธอรู้ว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์เลยจริงๆ Adele Smith หญิงสาววัย 28 ปี เลี้ยงน้องหมาพันธ์ุนิวฟาวด์แลนด์ วัย 8 ขวบที่ชื่อว่า Max มาตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความรักที่เธอมีให้กับมันจึงสักรูปรอยเท้าน้องหมาตัวนี้เอาไว้บนหน้าอกของเธอ เพื่อให้ตัวเองและทุกคนได้เห็นและคิดถึงมันไปพร้อมๆ กัน   Adele ผู้ตัดสินใจสักรูปรอยเท้าหมาลงไปบนหน้าอกของตัวเอง   รอยสักนี้มีขึ้นมาตั้งแต่ปี 2007 หรือในตอนที่เธออายุได้ประมาณ 18 ปี ในเวลาต่อมาเธอได้เข้าเรียนมหาลัยในเมืองพอร์ตสมัท ประเทศอังกฤษ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ปราศจากความสุขของสาวน้อย เธอบอกว่า “ทุกคนในมหาลัยต่างสนใจและพูดถึงรอยสักนี้ ฉันกลายเป็นน้องใหม่ที่หลายๆ คนรู้จัก ทำให้ฉันชอบแต่งตัวโชว์รอยสักของตัวเองให้หลายๆ คนเห็น เพราะมันคือสิ่งที่สามารถบ่งบอกถึงตัวเองและสิ่งที่ฉันรัก”   Max น้องหมาสุดที่รักของเธอ   แต่หลังจากนั้นหลายอย่างก็เริ่มแย่ลง คนอื่นๆ เริ่มแสดงความคิดเห็นในด้านลบใส่หญิงสาวและเรียกเธอว่า “ยัยนมเท้าหมา” เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนสนใจแค่หน้าอกของเธอ ไม่มีใครสนใจตัวเธอจริงๆ เลย จากที่เคยชอบรอยสักดังกล่าว ตอนนี้ Adele กลับรู้สึกอยากหายตัวไปทุกครั้งที่มีคนทักเจ้าสิ่งนี้ เพราะตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครเข้ามาคุยกับเธอหรือมองหน้าเธอเลย…

  • ถ้วยบะหมี่สุดเก๋ ที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องดินเผาโบราณ มีมูลค่าเกือบ 2 หมื่นบาท

    ถ้วยบะหมี่สุดเก๋ ที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องดินเผาโบราณ มีมูลค่าเกือบ 2 หมื่นบาท

    เมื่อพูดถึงญี่ปุ่น งานศิลปะและสถาปัตยกรรมเป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวอาทิตย์อุทัยได้เป็นอย่างดี ดั่งงานศิลปะเก่าแก่อย่าง Kaengata Doki ที่เป็นภาชนะดินเผาอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช  Kaengata Doki คือสมบัติประจำชาติที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น หม้อเครื่องปั้นดินเผาเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นงานปั้นยุค Jomon ที่มีรูปร่างเป็นรูปเปลวไฟสวยงาม และมีเอกลักษณ์มากที่สุดอันหนึ่ง       Kaengata Doki หมายถึงรุ่งอรุณของอารยธรรมในประเทศญี่ปุ่นเมื่อมนุษย์เริ่มที่จะพัฒนาชุมชน เพื่อปรุงอาหารโดยการประดิษฐ์เครื่องปั้นดินเผา Nissin แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้เห็นถึงคุณค่าของภาชนะใส่อาหารดั้งเดิมที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น จึงได้นำแรงบันดาลใจนี้มาสร้างสรรค์ Jomon Doki Doki Cooker ที่วางขายไปแล้วเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2017     เทคนิคการจำลอง Jomon Doki Doki Cooker แต่ละชิ้นนั้นต้องตกแต่งอย่างประณีตโดยใช้ไม้ไผ่ในการสร้างลวดลาย ซึ่่งเป็นเทคนิคดั้งเดิมตั้งแต่หลายพันปีก่อน   Jomon Doki Doki Cooker ไม่ได้ใช้งานยากเลย เพียงแค่ยกฝาด้านบนที่มีลวดลายดั่งเปลวเพลิงออกไป แล้ววางถ้วยบะหมี่เข้าไปในถ้วย จากนั้นเติมน้ำร้อนลงไปในถ้วยบะหมี่ ภาชนะที่เป็นเซรามิคจะช่วยรักษาความร้อนและทำให้เส้นเหนียวนุ่ม จากนั้นเปิดฝาซดน้ำซุป ใช้ตะเกียบค่อยม้วนเส้นเข้าปาก จะมีอะไรฟินไปกว่านี้อีก     กระแสในโลกออน์ไลน์ก็ดูเหมือนว่าจะชอบ Jomon Doki Doki…

  • เด็กชายผู้อ้างตัวว่ามาจากดาวอังคาร กลับมาเกิดใหม่บนโลก พร้อมความสามารถมากมาย!?

    เด็กชายผู้อ้างตัวว่ามาจากดาวอังคาร กลับมาเกิดใหม่บนโลก พร้อมความสามารถมากมาย!?

    เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ทาง Dailymail ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องอันน่าประหลาดใจบนสื่อรัสเซีย เมื่อเด็กชายคนหนึ่งได้เคลมว่าเขาเป็นชาวดาวอังคารกลับมาเกิดใหม่บนโลก ซึ่งปกติแล้วมันอาจจะฟังดูไร้สาระ แต่เขากลับเกิดมาพร้อมความสามารถที่เด็กแรกเกิดไม่น่าจะทำได้!? Boriska Kipriyanovich วัย 20 ปี จากรัสเซียได้ออกมาบอกว่า เขานั้นมีความรู้ด้านอวกาศที่มากมายถึงระดับเป็นผู้เชี่ยวชาญ ไม่หมดเท่านั้นด้านพ่อแม่ของเขาก็ออกมาคอนเฟิร์มอีกว่า ลูกของพวกเขาสามารถพูดได้หลังจากเกิดมาไม่กี่เดือน แถมยังสามารถถกเถียงประเด็นต่างๆ ที่โรงเรียนหรือพวกเขาไม่ได้สอนได้อีกด้วย     ยัง ยังไม่หมดเท่านั้น ตอน 2 ขวบ Boriska ก็ทำให้แพทย์ที่ดูแลเขาต้องตกใจ เพราะแม้จะเป็นเด็กแต่เขาสามารถที่จะอ่าน เขียนและวาดรูปได้แล้ว จากนั้นเมื่อเขาโตขึ้นมา เขาก็ได้เล่าว่าเขาเริ่มจะจำสิ่งต่างๆ จากชาติก่อนของเขาได้ โดยตัวเขาบอกว่าเขาเป็นชาวดาวอังคารในช่วงสงครามทำลายล้าง และล่มสลายจากระเบิดนิวเคลียร์     แค่นั้นยังไม่พอ เขายังเล่าเพิ่มเติมอีกว่าชาวดังอังคารแบบเขานั้น จะมีความเป็นอมตะจากอายุขัย ซึ่งจะหยุดเจริญเติบโตเมื่อมีอายุ 35 ปี ที่สำคัญชาวดาวอังคารยังมีเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถท่องอวกาศได้     เขายังเคลมอีกว่าชาติก่อนเขาเคยมาที่โลกครั้งหนึ่งในฐานะนักบิน พร้อมกับบอกว่าชาวดาวอังคารนั้นมีความสัมพันธ์อันดีกับวัฒนธรรมอียิปต์ ซึ่ง Boriska พูดว่า หลังหูของรูปปั้นสฟิงค์ในกิซ่านั้นเป็นที่ๆ เก็บความลับทางเทคโนโลยีไว้ ถ้ามนุษย์สามารถปลดล็อคมันได้ โลกใบนี้จะเปลี่ยนไปอย่างมากเลยทีเดียว…  …

  • หนุ่มใหญ่รัสเซีย ชวนสาวมาทานข้าวที่บ้าน ก่อนจับมัดและลงมือกัดใบหู-กินเนื้อเธอสดๆ

    หนุ่มใหญ่รัสเซีย ชวนสาวมาทานข้าวที่บ้าน ก่อนจับมัดและลงมือกัดใบหู-กินเนื้อเธอสดๆ

    เรื่องราวสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย หลังจากที่นาย Anatoliy Ezhkov วัย 41 ปี ได้กัดเข้าที่ใบหู จมูก และปลายนิ้วของคู่เดทของเขา หลังจากที่ชวนเธอมาทานอาหารเย็นที่บ้าน ตามรายงานของเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา บอกว่านาย Anatoliy ได้เชิญคุณ Irina Gonchar พยาบาลสาววัย 41 ปีผู้ตกเป็นเหยื่อความโหดร้ายในครั้งนี้มาที่อพาร์ทเม้นท์ของเขาหลังจากที่ทั้งสองรู้จักกันผ่านเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์   นาย Anatoliy Ezhkov ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้   หลังจากที่ให้เธอดื่มเหล้าจนเมาได้ที่แล้ว ชายคนดังกล่าวได้จับเธอมัดและเริ่มใช้ฟันของเขากัดลงไปบนเนื้อของเธอ มีการคาดการณ์ว่าชายวัย 45 ปีคนดังกล่าวอาจจะอยู่ในอาการเมาสารเสพติดและแอลกอฮอล์ Anatoliy ใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมงในการกัดส่วนใบหู จมูก ปลายนิ้ว และเนื้อส่วนหลังของเธอด้วยฟันของเขา แต่โชคดีที่หญิงสาวคนดังกล่าวถูกช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา หลังจากที่เพื่อนบ้านได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอและโทรแจ้งตำรวจ     ภาพต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม . . . . .   หญิงสาวถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้ๆ เพื่อทำการรักษาทันที ส่วนทางด้านญาติของเธอก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า…

  • แฟนเพลงถูกเสนอขายภาพเปลือยของ Sia ตัวเธอเองก็เลยตอกกลับ จนหน้าหงายกันไป!!

    แฟนเพลงถูกเสนอขายภาพเปลือยของ Sia ตัวเธอเองก็เลยตอกกลับ จนหน้าหงายกันไป!!

    การขู่แบล็คเมล์ นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในวิธีการที่เหล่ามิจฉาชีพใช้ในการหาเงินจากเหยื่อได้ง่ายๆ และเหล่าคนดังหรือผู้มีชื่อเสียงเองก็มักจะตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าว และนักร้องสาวและนักแต่งเพลงมากความสามารถอย่าง Sia เองก็ตกเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน หลังจากที่แฟนเพลงคนหนึ่งของเธอได้รับข้อความจากคนร้ายรายหนึ่ง แล้วบอกว่าเขามีภาพลับของนักร้องสาวพร้อมกับเสนอขายภาพเหล่านั้นให้กับเธอ     “ถ้าหากคุณยอมซื้อ คุณจะได้ภาพแบบชัดๆ รวมถึงอีก 14 ภาพที่เหลือ” ข้อความและภาพของมิฉาชีพที่ส่งมาให้กับแฟนเพลงของเธอ (ของจริงไม่มีสติ๊กเกอร์แมวหรอกนะ!!)   และถ้าหากอยู่ในสถานการณ์แบบนี้บางคนอาจจะเลือกที่ยอมทำตามคนร้าย แต่หลังจากที่แฟนเพลงได้ส่งภาพดังกล่าวให้กับ Sia เธอกลับเลือกที่จะเอาข้อความดังกล่าวมาอัพลงทวิตเตอร์ซะเองเลย พร้อมกับบอกประมาณว่า เอ็งไม่ต้องอัพ เดี๋ยวข้าอัพเอง!!   “มีใครบางคนพยายามจะขายรูปโป๊ของฉันให้กับเหล่าแฟนๆ อย่าไปเสียเงินกับมันเลย นี่ฉันเอามาแจกเอง จัดไป ทุกๆ วันเป็นวันคริสต์มาส”   งานนี้ทำเอาโรคจิตคนดังกล่าวถึงกับเงิบกันเลยทีเดียว หลังจากที่นักร้องสาวของเราออกมาแจกรูปมันซะเองแบบนี้ อืม… บอกแล้วอย่ามายุ่งกับขุ่นแม่!! และหลังจากนั้นไม่นานวีรกรรมของเธอก็ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ มีชาวเน็ตหลายๆ คนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมาก บางคนก็ถึงกับยอมให้กับบารมีของขุ่นแม่กันเลยทีเดียว   และนี่ก็เป็นความคิดเห็นบางส่วนจากชาวเน็ต   “นั่นมันเป็นอะไรที่ต่ำตมมาก ฉันภูมิใจในตัวเธอจริงๆ”   “ทุกๆ วันคือวันคริสต์มาส เธอสุดยอดจริงๆ “   ส่วนสาวคนนี้ก็ออกมาสนับสนุนเธอ พร้อมกับบอกประมาณว่าถ้าถอดเสื้อออกก็โป๊เหมือนกันหมดนั่นแหละ และไม่มีอะไรจะต้องอาย  …

  • หนุ่มอยากเลี้ยงแมว แต่ดันมีปัญหากับที่บ้าน งั้นก็ขอกอดทุกตัวที่เจอแทนละกัน

    หนุ่มอยากเลี้ยงแมว แต่ดันมีปัญหากับที่บ้าน งั้นก็ขอกอดทุกตัวที่เจอแทนละกัน

    นี่คือ Nick ชายหนุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพที่โรงพยาบาลในท้องถิ่น เขาเป็นผู้ที่ชื่นชอบแมวเหมียวเป็นชีวิตจิตใจ และก็อยากที่จะเลี้ยงมันมากๆ แต่น่าเสียดายสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบันดันไม่เอื้ออำนวย ดังนั้น Nick จึงไม่สามารถนำเจ้าเหมียวมาเลี้ยงได้ นั่นทำให้เขาได้คิดวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการกอดแมวทุกตัวที่พบตามสถานที่ต่างๆ ซะเลย นอกจากนี้ เขายังได้สร้างอินสตาแกรมส่วนตัวขึ้นมา เพื่อโพสต์ภาพน่ารักๆ ระหว่างเขาและเจ้าเหมียวที่ได้พบเจอ และขอเป็นสื่อกลางที่จะทำให้ผู้คนได้ตระหนักถึงเรื่องการรับเลี้ยงแมวเหมียวจรจัดให้มากขึ้น     แม้ว่าในบางครั้งจะมีแมวเหมียวบางตัวอยากกระโดดออกไปจากแขนของเขา หรือบางตัวที่ไม่ชอบเขาก็มักจะทิ้งร่องรอยขีดข่วนเอาไว้ตามแขนเต็มไปหมด แต่เขาก็ยังอยากถ่ายภาพกับแมวทุกตัวอยู่ดี   และนี่คือภาพถ่ายของ Nick และเหล่าแมว มารับชมกันเลย . . . . . . . .   ไม่ให้จับว้อยย . . . . . . .   นี่เป็นเพียงแค่ภาพส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วยังมีภาพน่ารักๆ ของเขากับแมวอีกมากมาย หากใครอยากรับชมล่ะก็ เชิญได้ที่อินสตาแกรม ncanning2014 ของเขาเลยจ้า ที่มา : boredpanda

  • ความแตกต่างระหว่างผู้นำของสหรัฐฯ สองยุคสมัย เมื่อออกไปเยือนต่างประเทศ…

    ความแตกต่างระหว่างผู้นำของสหรัฐฯ สองยุคสมัย เมื่อออกไปเยือนต่างประเทศ…

    ว่ากันว่าการกล่าวทักทายนั้นสามารถแสดงออกถึงนิสัยของแต่ละคนได้อย่างไม่ยากเย็น เช่นบ้านเราถ้าเจอผู้ใหญ่แล้วไหว้ก็จะดูเป็นคนที่มีมารยาท และเมื่อมันเกิดขึ้นกับผู้นำระดับสูงมันจึงส่งผลกับภาพลักษณ์ภายนอกมากๆ เลยทีเดียว ยิ่งล่าสุดเมื่อประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Donald Trump ได้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับแวะไปกล่าวคำทักทายกับจักรพรรดิ Akihito และจักรพรรดินี Michiko เมื่อช่วงวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน ก่อนจะไปพบกับนายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ในเวลาต่อมา     โดยเมื่อ Trump ได้เจอกับพระมหากษัตริย์ทั้งสอง เขาได้ทำเพียงแค่ก้มหัวเล็กน้อยพร้อมกับจับมือเท่านั้น ซึ่งหลังจากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป เขาก็ถูกนำเปรียบเทียบกับผู้นำคนก่อน Barack Obama ที่ได้มาเยือนเมื่อช่วงเวลาเดียวตอนปี 2009 แถมยังพบเจอกันในสถานที่เดียวกันด้วย     ซึ่งภาพของ Obama นั้น เขาได้ก้มโค้งลงทั้งตัวเพื่อแสดงความนับถือต่อพระมหากษัตริย์ทั้งสอง และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งเดียวที่ Obama ทำแบบนี้ เพราะ 7 เดือนก่อนในปีเดียวกันนั้น เขาก็ได้ไปเจอกับพระมหากษัตริย์ Abdullah แห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย พร้อมกับกล่าวทักทายด้วยท่าทีเดียวกันนั่นเอง     ยังไงก็ตาม แม้ว่าความแตกต่างดังกล่าวอาจจะทำให้ Trump ดูไม่ให้ความเคารพพระมหากษัตริย์ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นแบบนั้น เพราะก่อนจะแวะมาเขาก็ยังได้ไปเยี่ยมอนุสรณ์สถาน Pearl Harbor มาแล้วด้วย สุดท้ายนั้น เมื่อมีสื่อไปสัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวว่าทำไมเขาถึงแค่ก้มนิดหน่อยและจับมือ เจ้าหน้าที่ผู้ติดตามในการเดินทางครั้งนี้ของ Trump ก็บอกว่า เขาให้การเคารพจักรพรรดิและจักรพรรดินีทั้งสองมากๆ…

  • เผยอีกด้านหนึ่งของอิทธิพลมืด ยากูซ่าแจกขนมวันฮาโลวีน มอบความสุขให้กับเด็กๆ

    เผยอีกด้านหนึ่งของอิทธิพลมืด ยากูซ่าแจกขนมวันฮาโลวีน มอบความสุขให้กับเด็กๆ

    ในวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีนอกจากจะเป็นวันสิ้นเดือนที่หลายๆ คนรอคอยเงินเดือนออกแล้ว ยังเป็นวันเทศกาลฮาโลวีนด้วยเช่นกัน และที่ประเทศญี่ปุ่นเองเค้าก็ได้มีการฉลองวันนี้เหมือนกัน และก็เป็นธรรมเนียมของทุกๆ ปีที่แก๊งยามากุชิ-กุมิ แก๊งยากูซ่าของญี่ปุ่นจะเปิดสำนักงานใหญ่ของพวกเขาเพื่อแจกขนมให้กับเด็กๆ และผู้คนในพื้นที่รอบๆ นั้น     ก่อนหน้านี้ทางแก๊งได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมาว่าพวกเขาจะงดจัดงานปาร์ตีฮาโลวีนในปีนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหัวหน้า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารนาย Ninkyo Yamaguchi-gumi หัวหน้ากลุ่มเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ทว่าเมื่อเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาพวกเขากลับเปิดประตูสำนักงานใหญ่และนำถุงขนมออกมาแจกเหล่าเด็กเหมือนทุกๆ ปี นอกจากนี้สมาชิกแต่ละคนของแก๊งก็ล้วนแต่งตัวด้วยชุดแฟนซีออกมาต้อนรับเหล่าเด็กน้อย พร้อมกับตกแต่งสนามหญ้าด้วยไฟหลากสี   ป้ายประกาศในวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา   ถุงขนมที่ทางแก๊งเตรียมมามอบให้กับพวกเด็กๆ   สมาชิกบางคนของแก๊งแต่งตัวมาในชุดแฟนซี พร้อมกับเดินแจกขนมให้กับเด็กๆ ผู้ร่วมงานพร้อมกับกล่าวคำว่า “สุขสันต์วันฮาโลวีน”   แต่อย่างไรก็ตามในบริเวณสำนักงานใหญ่ดังกล่าวยังคงมีความรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา และสมาชิกบางส่วนก็ตรวจตราดูความเรียบร้อยพร้อมกับชุดกันกระสุน “มีการรักษาความปลอดภัยสูงมาก” คุณแม่ท่านหนึ่งที่มาร่วมงานกล่าว คุณพ่อท่านหนึ่งที่มาร่วมสนุกในงานได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “เด็กๆ ทุกคนจะได้รับแจกถุงหนึ่งใบซึ่งมีมูลค่าประมาณ 250 บาท ภรรยาของผมบอกว่ามันเป็นงานที่สนุกมากๆ”     และนี่คือขนมที่อยู่ในถุงของวัญจากแก๊งยามากุชิ-กุมิ   ถึงแม้ว่ายากูซ่านั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย ต่างๆ…

  • สนไหม? บ้านหลังเล็กอยู่สบาย สไตล์นกน้อยทำรังแต่พอตัว เปิดขายที่ญี่ปุ่นแล้วจ้า

    สนไหม? บ้านหลังเล็กอยู่สบาย สไตล์นกน้อยทำรังแต่พอตัว เปิดขายที่ญี่ปุ่นแล้วจ้า

    อย่างที่เรารู้กันดีว่าการจะเป็นเจ้าของที่ดินในญี่ปุ่นนั้นเป็นอะไรที่ยากลำบากพอสมควร ด้วยความที่ที่ดินนั้นมันช่างแพงแสนแพงแบบไม่น้อยหน้าประเทศไหน จะซื้อแต่ละทีก็ต้องคิดหนัก ไหนจะแบบบ้านที่ต้องสร้างให้พอดีกับพื้นอันจำกัดอีก เล่นเอาปวดหัวสุดๆ ด้วยเหตุนี้บริษัท Muji ซึ่งเป็นบริษัทที่ขายของใช้ต่างๆ ภายในบ้านตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องสำอางยันเฟอร์นิเจอร์ ก็ได้หยิบแนวคิดดังกล่าวมาสร้างบ้านขนาดเล็กขายซะเลย โดยตั้งชื่อมันว่า Muji Hut     โดยย้อนไปเมื่อสองปีก่อน ตอนที่เจ้า Muji Hut นั้นได้เกิดขึ้นมา ซึ่งทาง Muji ยังไม่ได้ตั้งใจจะขายมันจริงๆ ยังเป็นเพียงคอนเซ็ปต์และใช้ไปร่วมโชว์กับขายเฉพาะตามงานเท่านั้น แต่มาตอนนี้ทาง Muji ก็ได้ตัดสินใจสักทีว่าจะเปิดขายมันแบบให้ทุกคนซื้อได้ ตัวบ้านนั้นก็จะมีขนาดพื้นฐานอยู่ที่ 9.1 ตารางเมตร สำหรับพื้นที่อยู่อาศัยและ 3.1 ตารางเมตรสำหรับระเบียงหน้าบ้าน     ส่วนราคาของตัวบ้านเมื่อรวมกับภาษีแล้วจะมีราคาอยู่ที่ราวๆ 3 ล้านเยน หรือตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ เกือบๆ 9 แสนบาท นั่นเอง ราคาอาจจะดูแพงไปบ้างสำหรับตัวบ้านขนาดเท่านี้ แต่ด้วยคุณภาพและดีไซน์ที่สวยงามล้ำสมัย รับรองว่าคุ้มค่าเงินในกระเป๋าอย่างแน่นอน   เล็กๆ แต่ดูเรียบหรู น่าอยู่สุดๆ   เปิดเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ก็ได้นะ   ตกแต่งภายในสวยๆ หน่อยเป็นอันใช้ได้ .   ถ้าใครที่สนใจอยากได้บ้านหลังนี้ คุณจะต้องอาศัยอยู่ใน Tokyo, Chiba,…

  • คุณแม่มีปัญหา “นมโตไม่หยุด” จนต้องหาทางรักษา เพราะมันทำชีวิตลำบากเหลือเกิน!!

    คุณแม่มีปัญหา “นมโตไม่หยุด” จนต้องหาทางรักษา เพราะมันทำชีวิตลำบากเหลือเกิน!!

    สาวๆ หลายคนอาจจะไม่พอใจที่ตัวเองเกิดมามีขนาดหน้าอกเล็ก นั่นจึงทำให้พวกเธอต้องหาวิธีที่จะเพิ่มขนาดด้วยการทำศัลยกรรมอัพไซส์ จากคัพ A ให้กลายเป็นคัพ D เอาแบบที่ว่าวางระเบิดลงตู้มมมมเดียวจอด!! แต่สำหรับ Sheridan Larkman คุณแม่วัย 23 ปี จาก Trafalgar ในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลียคนนี้ เธอกลับรู้สึกไม่พอใจขนาดหน้าอกคัพ K ของตัวเอง จนต้องไปหาทางในการรักษา เนื่องจากมันส่งผลให้เธอใช้ชีวิตลำบากนั่นเอง   .   วันที่ 27 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยว่า หน้าอกของ Sheridan ได้เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเมื่อตอนที่เธออายุเพียงแค่ 8 ขวบ และพออายุได้ 10 ขวบหน้าอกก็ขยายใหญ่ขึ้นอีก (ซึ่งหากเทียบเป็นไซส์หน้าอกก็จะอยู่ที่ประมาณคัพ D) ที่สำคัญดูเหมือนว่ามันจะไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะหน้าอกเจ้ากรรมดันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นทำให้ Sheridan แทบจะไม่สามารถหาชุดชั้นในที่พอดีกับขนาดหน้าอกมาใส่ได้เลย     ทางด้าน  Sheridan ได้ออกมาเผยว่า เธออยากจะวิ่งเล่นกับลูกๆ โดยที่ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดและไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ซึ่งตอนนี้เธอกำลังวางแผนที่จะบินไปต่างประเทศ เพื่อเข้ารับการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก…

  • ล้ำไปอีก “รถรางพลังไฮโดรเจน” ไร้มลพิษขบวนแรกของโลก เริ่มใช้งานในจีนแล้ว

    ล้ำไปอีก “รถรางพลังไฮโดรเจน” ไร้มลพิษขบวนแรกของโลก เริ่มใช้งานในจีนแล้ว

    วันที่ 31 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า รถรางไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจนคันแรกของโลก ได้ถูกนำมาใช้งานในเมืองถังซาน มณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีนแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา     จากการรายงานระบุว่า รถรางแบบไฮบริดคันนี้ เป็นรถรางเชิงพาณิชย์ที่ใช้พลังงานจากไฮโดรเจน ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Tangshan Railway Vehicle (TRC) ภายใต้การแนะนำของบริษัทผลิตรถไฟชั้นนำของจีนอย่าง China Railway Rolling Stock Corporation (CRRC)     สำหรับรถรางไฮบริดคันนี้ สามารถเดินทางได้ไกลถึง 40 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต่อการเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง และบรรทุกผู้โดยสารได้ถึง 336 คน และที่สำคัญ ยังใช้เวลาเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนให้เต็มเพียง 15 นาทีเท่านั้น     และแน่นอนว่าสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดเกี่ยวกับรถรางไฮบริดคันนี้ก็คือ ไม่มีการปล่อยมลพิษใดๆ ออกมาทั้งสิ้น ยกเว้นแต่ไอน้ำเท่านั้น     ทั้งนี้ การสร้างรถรางไฮบริดดังกล่าว…

  • ห้องสมุดกลางแจ้งในบัลแกเรีย ที่ส่งเสริมการอ่านให้กับผู้คนที่ผ่านไปมาตามท้องถนน คือดีย์อะ…

    ห้องสมุดกลางแจ้งในบัลแกเรีย ที่ส่งเสริมการอ่านให้กับผู้คนที่ผ่านไปมาตามท้องถนน คือดีย์อะ…

    เวลาพูดถึงการอ่านในยุคปัจจุบัน หนังสือมักจะเป็นอะไรที่เด็กๆ หรือคนยุคดิจิตอลเริ่มมองข้ามกันไป อาจจะด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเพราะมันน่าเบื่อหรือการที่มันเทอะทะ ทำให้หลายคนไม่อยากพกหนังสือออกไปไหนมาไหน ด้วยเหตุนี้ Yuzdzhan Turgaev, Boyan Simeonov, Ibrim Asanov และ Mariya Aleksieva ทีมนักออกแบบรุ่นใหม่ จึงร่วมมือกันเพื่อสร้างห้องสมุดที่จะช่วยให้ทุกคนกลับมาอ่านหนังสือกันอีกครั้ง และด้วยความร่วมมือของทีมนักออกแบบทั้งหมด ห้องสมุดกล้างแจ้ง Rapana จึงเกิดขึ้น!!     ห้องสมุดที่ว่านี้ตั้งอยู่ในเมือง Varna ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเลของประเทศบัลแกเรีย และยังถูกเรียกว่าเป็นเมืองท่าหลักของประเทศอีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าหน้าตาของห้องสมุดจึงมีรูปทรงคล้ายกับหอย เพราะพวกเขาอยากให้มันเป็นคอนเซ็ปต์ที่สามารถสื่อถึงชาวเมืองไปในตัวนั่นเอง ด้านวิธีการสร้างห้องสมุดแห่งนี้ ทีมนักออกแบบได้ใช้โปรแกรม Rhinoceros 3D และ Grasshopper มาช่วยในการออกแบบ ซึ่งพวกเขาได้ออกแบบห้องสมุดกล้างแจ้งไว้ถึง 20 แบบ พร้อมกับปรับเปลี่ยนรูปทรงขนาดและอื่นๆ จนได้มาเป็น Rapana ที่ใช้ไม้จำนวน 240 อันเป็นวัสดุหลัก นอกจากนั้นก็ตัวห้องสมุดก็ยังมีหนังสือถึง 1,500 เล่ม!!   .   ใครๆ ก็เข้ามาอ่านได้ อย่าขโมยก็พอนะ .   รับลมสบายๆ แดดอ่อนๆ และยังได้เจอเพื่อนฝูงอีก .…

  • คู่แฝดมหัศจรรย์ที่สามารถเข้าใจและรับรู้สิ่งเดียวกันได้ เพราะใช้ “กะโหลกและสมองร่วมกัน”

    คู่แฝดมหัศจรรย์ที่สามารถเข้าใจและรับรู้สิ่งเดียวกันได้ เพราะใช้ “กะโหลกและสมองร่วมกัน”

    Tatiana และ Krista Hogan เป็นคู่พี่น้องฝาแฝดวัย 10 ขวบ ที่มีความใกล้ชิดกันเป็นพิเศษในแบบที่แฝดคู่อื่นๆ ไม่เคยได้สัมผัส และไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกว่ามันเป็นอย่างไร เพราะพวกเธอทั้งคู่คือ “ฝาแฝดที่ใช้กะโหลกและสมองร่วมกัน” มาตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เกิดมาลืมตาดูโลก แต่ถึงแม้ว่าหนูน้อยจะเกิดมาผิดปกติไม่เหมือนแฝดทั่วๆ ไป แต่นั่นกลับไม่เป็นอุปสรรคเลย เพราะทั้งคู่กลับสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข     เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ Tatiana และ Krista หนูน้อยฝาแฝดคู่นี้ ใช้สมองและกะโหลกศีรษะเชื่อมต่อกัน โดยในระหว่างที่พวกเธออยู่ในครรภ์ของมารดาทางแพทย์ก็ได้เผยกับ Felicia แม่และ Brendan ผู้เป็นพ่อว่า ลูกๆ ของพวกเขามีอวัยวะส่วนศีรษะและมีสมองที่เชื่อมต่อกัน  อีกทั้งเด็กๆ อาจจะมีชีวิตอยู่อีกเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น     อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Felicia จะได้รับข่าวที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต แต่เธอก็เผยว่าการทำแท้งไม่ใช่ทางเลือกสำหรับเธอ ซึ่งเธอก็ได้เดินทางไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และเมื่อหนูน้อยทั้งสองได้ลืมตาดูโลก ก็ทำให้แพทย์รู้สึกประหลาดใจว่าพวกเธอสามารถใช้สมองร่วมกันได้อย่างไร?     แม้ว่า Tatiana และ…

  • การลงทุนที่คุ้มค่า เปลี่ยนบ้านจากสภาพเน่าเละเทะ ให้กลับมาน่าอยู่ได้ในเวลาเพียง 2 เดือน

    การลงทุนที่คุ้มค่า เปลี่ยนบ้านจากสภาพเน่าเละเทะ ให้กลับมาน่าอยู่ได้ในเวลาเพียง 2 เดือน

    เราอาจเคยเห็นการตกแต่งบ้านมาหลากหลายรูปแบบเพื่อให้บ้านดูน่าอยู่ แต่สำหรับผลงานในครั้งนี้จะเรียกว่าการตกแต่งหรือรีโนเวทธรรมดาๆ มันก็คงไม่ใช่ เพราะนี่มันเหมือนกับการรื้อด้านในแล้วทำใหม่หมดเลย ผลงานนี้เป็นฝีมือของผู้ใช้เว็บไซต์ Imgur ที่ชื่อว่า Maytherman2 โดยหลังจากที่เขานำมาเผยแพร่ในโลกโซเชียลก็ได้มีการแชร์ต่อๆ เป็นจำนวนมากในวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา   บ้านหลังเก่าที่ดูไม่น่าอยู่ ในเขตเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน   เขาเล่าว่า “ผมออกจากงานมาตั้งแต่เดือนมีนาคม จากนั้นจึงไปทำงานตกแต่ง ทาสีบ้านกับเพื่อนอีก 2 คนแทน จนกระทั่งพวกเราคิดที่จะทำการตลาดในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน โดยการซื้อบ้านเก่ามาทำใหม่แล้วค่อยขายออกไป” พวกเขาจึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ด้วยเงินทั้งหมดที่มีและยืมพ่อแม่มาบ้าง แต่พวกเขาก็เชื่อว่าการลงทุนนี้ต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน   เมื่อเข้าไปในบ้านเห็นได้เลยว่า เจ้าของเก่าไม่คิดจะเก็บหรือทำความสะอาดใดๆ ก่อนออกไปเลย .   สภาพของห้องกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าๆ   ไม่มีการทาสีใหม่ใดๆ ทั้งสิ้น   ขยะที่ถูกทิ้งเอาไว้เต็มห้องจนมองไม่เห็นพื้น   สภาพความผุพังที่เกิดขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไปโดยไม่มีใครเข้ามาดูแล . .   ขยะเยอะขนาดนี้น่าเอาไปชั่งกิโลขายจริงๆ เลยนะเนี่ย   หลังบ้านมีความรกร้าง ขาดความเขียวขจี   เวลาผ่านไปเพียงแค่ 2 เดือน ด้วยทีมงานเพียง 3…

  • ผู้หญิงผู้เป็นโรคกลัวชุมชน ได้ออกท่องโลกผ่าน Google Street View และทำให้เธอยิ้มได้อีกครั้ง!!

    ผู้หญิงผู้เป็นโรคกลัวชุมชน ได้ออกท่องโลกผ่าน Google Street View และทำให้เธอยิ้มได้อีกครั้ง!!

    โรคกลัวชุมชน (หรือเรียกว่า Agoraphobia) เป็นความผิดปกติที่ทำให้ผู้ป่วยไม่กล้าออกไปในที่สาธารณะหรือสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย และยิ่งหากเป็นหนักมากเหมือนกับ Jacqui Kenny ก็อาจทำให้ไม่กล้าออกบ้านไปไหนเลย   Jacqui หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคกลัวชุมชน   Jacqui หญิงสาวชาวนิวซีแลนด์ผู้ย้ายมาอยู่ที่กรุงลอนดอน อาการของโลกดังกล่าวได้ทำลายความฝันในการออกไปถ่ายรูปรอบโลกของเธอ เพราะเธอไม่สามารถออกจากหอพักของตัวเองได้เลย จนกระทั่งเธอได้รู้จักกับ Google Maps สิ่งที่ช่วยฟื้นคืนความฝันของเธอกลับมาอีกครั้ง ด้วยโหมดสตรีทวิว (Street View) ทำให้เธอสามารถเห็นบรรยากาศทุกที่ทั่วโลกตามความต้องการได้อย่างสมจริง ทั้งวิวทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม รวมทั้งผู้คนภายในภาพ   ภาพแรกที่เธอแชร์ลงไปวันที่ 12 พฤษภาคม 2016 เมืองดาร์คาน ประเทศมองโกเลีย   เธอตัดสินใจเซฟภาพบรรยากาศต่างๆ ที่เธอชื่นชอบมาเก็บไวในเครื่อง หลังจากนั้นเธอจึงแต่งรูปและโพสต์ลงอินสตาแกรมเพื่อแชร์มุมมองของเธอว่า แต่ละสถานที่ที่เธอได้เห็นนั้นมันออกมามีหน้าตาเป็นอย่างไร ต่อมา Jacqui มีชื่อเสียงอย่างมาก เพราะผู้คนสนใจในโรคของเธอ รวมถึงการแชร์เรื่องราวในรูปแบบนี้ เธอโด่งดังถึงขั้นได้ร่วมมือกับ Google ในการนำเสนอความสวยงามที่รับรู้ได้จากโหมดสตรีทวิว ผ่านแกลเลอรี่ของเธอที่ชื่อว่า The Agoraphobic Traveller ถูกจัดแสดงในนครนิวยอร์ก เ ราลองไปชมส่วนหนึ่งของผลงานเธอได้เลยยย  …

  • นักวิทย์ฯ ร่วมไขความลับภายในพีระมิดกิซ่า จนพบ “ห้องลับ” ห้องใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน

    นักวิทย์ฯ ร่วมไขความลับภายในพีระมิดกิซ่า จนพบ “ห้องลับ” ห้องใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน

    พีระมิด สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่จากยุคโบราณที่แม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยียอดเยี่ยมขนาดไหน ภายในของมันก็ยังคงเป็นปริศนา สำรวจเท่าไหร่ก็ไม่มีหมดสักที โดยเฉพาะภายในพีระมิดกิซ่า พีระมิดขนาดใหญ่ที่สุดที่มีการเข้าไปสำรวจภายในอย่างต่อเนื่องแต่ปัจจุบันก็ยังสำรวจไม่ทั่วอยู่ดี ยิ่งล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ก็ได้มีการค้นพบห้องลับห้องใหม่ หลังจากที่สงสัยจุดดังกล่าวมาเป็นเวลานาน     ห้องลับดังกล่าวนั้นถูกระบุว่าตั้งอยู่ใน Grand Gallery ซึ่งเป็นทางยาวที่เชื่อมไปยัง King’s Chamber โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้วิธีการสืบหาข้อมูลหลากหลายวิธีทั้ง รังสีคอสมิก, 3D สแกนด้วยแสงเลเซอร์ และกล้องอินฟาเรดเพื่อตรวจจับความร้อนในจุดต่างๆ ของพีระมิด   . .   การสแกนนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2015 โดยทีมวิจัยจากฝรั่งเศสและญี่ปุ่นที่รวมทีมกันในชื่อ ScanPyramids โดยหลักๆ แล้วจะการใช้เครื่องสแกนรังสีคอสมิกหรือที่เรียกกันว่า Muons ทีมงานจะทำการวางเครื่องดังกล่าวไว้ตรงใจกลางพีระมิด ซึ่งตรงจุดนั้นก็คือ Queen’s Chamber ที่ตั้งอยู่ใจกลางพอดี ด้วยวิธีการสแกนแบบนี้จะทำให้พวกเขาสามารถศึกษาพีระมิดได้อย่างปลอดภัย รวมถึงไม่ต้องสร้างความเสียหายกายภาพให้แก่พีระมิดด้วย จนปัจจุบันปี 2017 ทีมสำรวจดังกล่าวก็มั่นใจแน่แล้วว่าพื้นที่ที่พวกเขาเจอมันเป็นห้องลับที่พวกเขายังไม่ค้นพบแน่นอน โดยทีมงานได้กะขนาดของห้องไว้ที่ยาว 50 เมตร สูง 8 เมตร และกว้างราวๆ 1 เมตร   หน้าตาของเจ้าเครื่องสแกนรังสีคอสมิก   ส่วนเรื่องที่ว่าห้องดังกล่าวมีไว้ทำไมนั้น ทางทีมงานคาดว่ามันอาจจะไว้ใช้สำหรับขนย้ายหินและวัสดุก่อสร้างต่างๆ ของคนงานที่ใช้ในการสร้าง Grand…

  • หนุ่มเมาหนัก ถึงขั้นส่งจดหมายไปขอทางการเดนมาร์ก เพื่อยืมผืนแผ่นดินกรีนแลนด์ ห๊ะ!?

    หนุ่มเมาหนัก ถึงขั้นส่งจดหมายไปขอทางการเดนมาร์ก เพื่อยืมผืนแผ่นดินกรีนแลนด์ ห๊ะ!?

    เข้าใจว่าคนเราเมื่อเมานั้น มักจะมีความกล้าและทำอะไรที่หลายคนคาดไม่ถึงเสมอ อย่างกล้าไปจีบสาวที่ตัวเองแอบชอบแต่ไม่กล้าพูด เป็นต้น ใครจะคิดว่าจะมีพ่อหนุ่มคนนึงกล้าถึงขั้นส่งจดหมายไปยืมประเทศกรีนแลนด์ จากรัฐบาลเดนมาร์กหน้าตาเฉย!? อ่านแล้วคงงงว่า ห๊ะ!? ไปขอยืมประเทศเนี่ยนะ ยืมได้ด้วยเหรอ แต่เขาทำแบบนั้นจริงๆ โดย ChefShwasty ชาวเน็ตวัย 23 ปีได้เล่าเรื่องราวของเขาว่า เขาดื่มเหล้าเข้าไปเยอะมากจนเมา จนถึงกับคิดว่าโลกทั้งใบควบคุมได้ด้วยปลายนิ้วของเขา   โฉมหน้าของพ่อหนุ่มที่อยากจะครองกรีนแลนด์   เขายังเล่าอีกว่าเขาจำอะไรได้ไม่มากนัก จำไม่ได้ด้วยว่าทำไมต้องเป็นกรีนแลนด์ แค่รู้สึกคร่าวๆ ว่ามันต้องเป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ ที่มีพื้นที่เยอะๆ เหมาะกับคนแบบเขา จนเจอกรีนแลนด์ พร้อมบ่นว่าสเปนขโมยดินแดนไป สมองที่กำลังเมาหนักของเขาเลยสั่งการว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เลยส่งจดหมายขอยืมทั้งประเทศจากทางการมันซะเลย   เนื้อหาคร่าวๆ ก็ประมาณแนะนำตัวว่า เขาชื่อ Joe อายุ 23 เขากับเพื่อนกำลังมองหาประเทศสักประเทศหนึ่งที่พวกเขาจะเป็นเจ้าของได้ แต่ก็อยากทำให้มันถูกต้องเลยต้องมาถามเจ้าของประเทศดูเสียก่อน เพราะไม่อยากทำให้ประเทศดีๆ ต้องพังพินาศ นอกจากนี้ในจดหมายยังบรรยายอีกว่า แม้เขาไม่มีประสบการณ์ในการบริหารสเกลระดับประเทศอะไรทำนองนี้แต่ก็ใช่ว่าเขาจะทำไม่ได้นะ เพราะเขายังบอกอีกว่าเขาเคยดูแลลูกจ้างมาแล้ว ส่วนเพื่อนเขาก็มีพรสวรรค์ด้วย ถ้าให้ดูแลด้วยกัน รับรองเอาอยู่!!   นอกจากนี้พี่แกยังบอกอีกว่า จักรวรรดิเดนมาร์กนั้นยิ่งใหญ่ไม่สนเรื่องเล็กๆ อย่างใครจะมาดูแลประเทศหรอก กลับกันถ้าให้เขาดูแลจนเขาพอใจ เขาจะให้ภาพถ่ายของ Hugh Thomassen เป็นการตอบแทน…

  • เปิดเผยเงินเดือนวงการอนิเมะญี่ปุ่น แต่ละตำแหน่งได้ค่าจ้างเท่าไร จริงไหมที่บ่นว่าได้น้อย!?

    เปิดเผยเงินเดือนวงการอนิเมะญี่ปุ่น แต่ละตำแหน่งได้ค่าจ้างเท่าไร จริงไหมที่บ่นว่าได้น้อย!?

    เมื่อพูดอนิเมะ ประเทศแรกที่เราจะนึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้นญี่ปุ่นอย่างแน่นอน และเราก็น่าจะรู้กันดีว่าในแต่ละซีซันก็จะมีอนิเมะใหม่ๆ ตบเท้าออกมาให้เราดูกันเพียบเป็นตอนแบบรายสัปดาห์เลยทีเดียว บางเรื่องก็ได้รับความนิยมสูงจากผลพวงของฉบับมังงะหรือนิยายอะไรก็แล้วแต่ แต่บางเรื่องนั้นก็ไม่ได้ดังมากนัก ถึงความนิยมอาจจะออกมาต่างกัน สิ่งที่เหมือนกันคืออนิเมะนั้นมีขั้นตอนในการสร้างที่ยากพอสมควรเลยล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นรายรับในการทำงานนี้มันกลับไม่ได้สูงอย่างที่หลายคนคิด…     เพราะถ้าใครที่ติดตามก็คงจะเคยได้ยินคนบ่นกันมาบ้างว่างานสายนนี้คนอยากทำเยอะและคนก็แย่งงานกันเยอะ ทำให้รายได้จึงหดลงเพื่อเพียงพอต่อความต้องการ แต่เราก็ไม่ชัวร์ว่ามันจริงไหม ด้วยเหตุนี้ทางเว็บไซต์ Kotaku ก็เลยหยิบเอารายได้จากสตูดิโอ Shirobako ซึ่งกำลังเปิดรับทีมงานมาช่วยสร้างอนิเมะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ถึงแม้จะบอกว่ามันแย่ แต่เชื่อว่าหลายคนคงคาดไม่ถึงกับความจริงที่มันเกินคำว่าแย่ไปอีกแน่นอน โดยรายได้เริ่มต้นของทีมงานทำอนิเมะที่เปิดรับจะอยู่ที่ราวๆ 220 บาทต่อชั่วโมง ซึ่งเราอาจจะมองว่าต่อชั่วโมงถ้าทำวันละ 8 ชั่วโมงก็วันล่ะตั้ง 1,760 บาท เลยนะ ถ้าทำงาน 260 วันก็จะได้เงิน 457,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว   แต่…!! อย่าลืมว่างานสายอนิเมะนั้นมันเป็นอะไรที่ต้องใช้ความสามารถและยากมากๆ ทว่ากลับได้เงินรายชั่วโมงเพียงเท่านั้นที่ยังน้อยกว่าค่าจ้างรายชั่วโมงของพนักงานร้านสะดวกซื้อที่ได้ชั่วโมงละ 265 บาท หรือพนักงานร้านแมคโดนัลด์ที่ได้รายชั่วโมงตั้งแต่ 285 บาท ไปจนถึง 356 บาท ซึ่งมันต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ     แม้ว่าผู้คนจะชอบดูอเมิเมะกันทั่วโลกเยอะจนเรารู้สึกว่าเงินมันหมุนในวงการเยอะมากๆ แต่เราก็หนีความจริงในเรื่องที่ค่าแรงนักทำอนิเมะมันต่ำเตี้ยอยู่ดี สื่อออนไลน์ญี่ปุ่นหลายๆ แห่งถึงกับเรียกสายงานนี้ว่าเป็นทาสของผลประโยชน์เลยก็มี เพราะอาศัยความชอบคนทำงานสายนี้เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาทำต่อไปเท่านั้น แต่ว่าก็ไม่ใช่ทุกสตูดิโอที่จะจ่ายเงินให้กับพนักงานน้อย เพราะบางสตูดิโอก็ให้เงินสูงกว่าบางแห่งเช่นกัน เช่น P.A.…

  • วิถีชีวิตคนเลี้ยงแกะในที่สูงสุดแห่งยุโรป ต้อนแกะย้ายถิ่นฐานจากที่สูงสู่ที่ต่ำ เป็นประจำทุกปี…

    วิถีชีวิตคนเลี้ยงแกะในที่สูงสุดแห่งยุโรป ต้อนแกะย้ายถิ่นฐานจากที่สูงสู่ที่ต่ำ เป็นประจำทุกปี…

    ปกติเรามักจะเห็นแกะถูกเลี้ยงในทุ่งหญ้าเขียวๆ ดูแล้วสบายหู สบายตา จนอยากลองไปเป็นเด็กเลี้ยงแกะสักครั้ง แต่การเลี้ยงแกะในชีวิตจริง มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปนะขอบอก วันนี้เราจะพาไปดูอีกมุมของการเลี้ยงแกะของผู้คนที่ภูเขา Tusheti ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจอร์เจีย ที่มีแกะมากกว่ามนุษย์ และชีวิตแบบสมัยใหม่แทบจะไม่ได้เห็นจากที่นี่     ภูเขา Tusheti มีถนนที่อันตรายที่สุดในยุโรป มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยมากที่สุด แต่พวกเขามีการอพยพสัตว์ที่น่าทึ่งที่สุดในทวีปเลยก็ว่าได้ ทุกๆ เดือนตุลาคม คนเลี้ยงแกะจะออกเดินทางพร้อมเหล้าของท้องถิ่นที่เรียกกันว่า Chaca และเสี่ยงชีวิตเพื่ออพยพแกะนับร้อยๆ ตัวจากยอดภูเขาไปยังที่ราบของ Kakheti สำหรับภาพการเดินทางในปีนี้ได้รับการบันทึกโดย Amos Chapple ช่างภาพจาก Radio Free Europe โดยได้ถ่ายภาพไว้ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจนกระทั่งสิ้นสุดการเดินทาง นั่นหมายความว่าเขาได้ออกเดินทางพร้อมคนเลี้ยงแกะด้วย     นี่คือภูมิทัศน์ของพื้นที่ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ซึ่งคนภายนอกไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น .   Dato Chkhareuli เป็นหนึ่งคนเลี้ยงแกะจาก 6 คน ที่พาฝูงแกะกว่า 1,000 ตัวเดินทางผ่านภูมิประเทศที่ยากลำบากในครั้งนี้   สำหรับไอเดียในการมาตามถ่ายภาพคนเลี้ยงแกะในครั้งนี้ Chapple คิดขึ้นได้ขณะที่ถ่ายภาพด้วยกล้องโดรน เขาได้มาอยู่ในภูเขา Tusheti เป็นเวลา 2 วัน และได้รับมอบหมายให้ถ่ายภูมิประเทศทั้งหมดด้วยโดรน แม้ว่าจะมีเวลาอยู่ที่นี่จำกัด แต่เมื่อเขาได้ยินว่ามีการอพยพแกะผ่านหนทางที่สุดจะอันตราย Chapple ก็คิดขึ้นได้ว่าถ้าไปที่นั่นได้ ต้องได้ภาพเจ๋งๆ…

  • 20 ภาพการเซอร์ไพรส์ผู้โดยสารแบบเจ๋งๆ  ของเหล่าคนขับ Uber ในหลากหลายประเทศ

    20 ภาพการเซอร์ไพรส์ผู้โดยสารแบบเจ๋งๆ ของเหล่าคนขับ Uber ในหลากหลายประเทศ

    การเดินทางไปไหนในทุกวันนี้เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเพราะนอกจากระบบขนส่งสาธารณะแล้วยังมีสิ่งที่เรียกว่า Uber ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ให้เราเรียกรถจากที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่ารถ Uber แต่ละคันนั้นจะมีอะไรอยู่ข้างในรถบ้างซึ่งบางคนอาจเคยเจอของใช้ส่วนตัวของคนขับแต่นั่นก็ดูธรรมดาๆ ใช่ไหมล่ะถ้าอยากเจอประสบการณ์ Uber แบบแปลกใหม่คุณมาถูกทางแล้วเพราะในวันนี้เราได้รวมภาพของคนขับ Uber ที่ทำอะไรฮาๆ มาให้ชมซึ่งจะทำให้คุณหัวเราะจนปวดท้องเลยทีเดียวจะจริงไหมไปชม…   เยอะกว่ากระเป๋าโดเรม่อนก็ต้องคันนี้แหละ   เมื่อลืมโทรศัพท์ไว้บนรถ Uber แล้ววันต่อมาเขาเอามาคืนพร้อมรูปแปลกๆ ในโทรศัพท์..   อาจจะเป็น Uber ที่เฉียบที่สุดในเมืองก็ว่าได้   เมื่อคนขับ Uber ให้หลานมาแต่งรถในวันฮาโลวีน   นี่จะพาไปส่งหรือพาไปฆ่ากันแน่ฮะ   นั่งไปถึงขั้วโลกเหนือเลยได้ไหม อย่างนี้มีเพลิน   พี่ๆ พี่ใส่สูตรรถลอยน้ำมาหรอหลงไกลเกิ๊นน   รักน้ำ รักปลา รักหมาด้วยนะครับ   โอ้โห ถ้ารวยอย่างนี้ไม่ต้องมาขับ Uber ให้เสียเวลาหรอกพี่   เอาไปเลย 10 คะแนนเต็มครบเครื่องดีจริงๆ   มีการ์ดอวยพรให้อีก น่ารักจริงๆ ให้ตายเถอะ   นามบัตรฮาร์ดคอยังงี้ใครจะกล้าโทร   มันก็สวยดีนะแต่จะมองทางได้หรอครับเฮีย…

  • วินาทีชีวิต.. เมื่อนักกายกรรมสาวประสบอุบัติเหตุจนหัวและคอลงมากระแทกพื้นอย่างจัง!!

    วินาทีชีวิต.. เมื่อนักกายกรรมสาวประสบอุบัติเหตุจนหัวและคอลงมากระแทกพื้นอย่างจัง!!

    อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาโดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน และผลลัพธ์ของมันอาจทำให้เราเกือบต้องเสียชีวิตเลยก็ได้ เช่นเดียวกับเธอคนนี้ที่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิดหลังจากที่บริเวณศีรษะของเธอตกลงมากระแทกพื้นจากความสูงเกือบ 4 เมตร   Sam Panda นักกายกรรมสาวผู้ประสบอุบัติเหตุตกมาจากความสูงเกือบ 4 เมตร   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม 2017 เมื่อนักกายกรรมสาวชาวอเมริกันวัย 26 ปี Sam Panda กำลังทำการแสดงอยู่บนเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ได้เกิดอุบัติเหตุห่วงเหล็กที่เธอกำลังเกาะอยู่หล่นตกลงมาที่พื้นเวทีอย่างแรง นั่นทำให้ศีรษะและคอของเธอได้รับแรงกระแทกเข้าไปเต็มๆ กระดูกบริเวณคอของเธอหักไปหลายแห่ง และไม่สามารถลุกเดินได้เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับไขสันหลัง แต่ยังคงขยับแขนขาได้ปกติและรีบพาตัวเธอส่งโรงพยาบาลโดยด่วน   คลิปวินาทีเสี่ยงตายของ Sam ที่ตกลงมาระหว่างทำการแสดง   จากการสัมภาษณ์เพื่อนของเธอ Olivia Leonie บอกว่า “Sam บอกกับทางผู้จัดแล้วว่าเธอไม่อยากขึ้นไปบนอุปกรณ์ที่ไม่มีความปลอดภัย ฝ่ายนั้นจึงให้คนนอกเข้ามาตรวจเช็คดูเพื่อยืนยันว่ามันปลอดภัยจริงๆ” แต่สุดท้ายก็เห็นแล้วว่ามันไม่ได้ปลอดภัยเลย     ศีรษะของเธอกระแทกกับพื้นเข้าอย่างจัง   เธอล้มลงไปนอนแต่ยังมีสติ เพียงแค่ไม่สามารถลุกขึ้นมาเดินได้   หัวของเธอแตกเย็บไป 8 เข็ม และช่วงคอของเธอก็ได้รับการใส่เฝือกเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือบริเวณไขสันหลังของเธอที่มีความเสียหายหลายจุด ซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการรักษาโดยด่วนในเรื่องนี้เธออาจต้องพิการเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต หากเธอเดินไม่ได้ก็เท่ากับเธอต้องจบอาชีพที่เธอรักในการเป็นนักกายกรรมที่เธอทำมากว่า…

  • หญิงน้ำใจงามก่อตั้ง “Cleaning for a Reason” คุณรักษามะเร็งไป เราดูแลบ้านให้อย่างดี!!

    หญิงน้ำใจงามก่อตั้ง “Cleaning for a Reason” คุณรักษามะเร็งไป เราดูแลบ้านให้อย่างดี!!

    ผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่มักจะไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิต เพราะนอกจากต้องทำเคมีบำบัดและฉายรังสีเป็นประจำแล้ว พวกเขายังต้องทำงานในชีวิตประจำวันด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยหญิงที่ต้องห่วงเรื่องงานบ้าน ด้วยเหตุนี้ Debbie Sardone จึงได้ก่อตั้ง Cleaning for a Reason องค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อทำความสะอาดบ้านฟรีให้กับผู้หญิงที่กำลังต่อสู่กับโรคมะเร็ง     เดิมทีนั้น Sardone มีธุรกิจทำความสะอาดอยู่แล้ว กระทั่งวันหนึ่งมีผู้ป่วยมะเร็งคนหนึ่งโทรมาเรียกใช้บริการจาก Sardone แต่เมื่อสอบถามค่าบริการแล้ว เธอบอกว่ามีเงินไม่พอและจะโทรหาอีกครั้งเมื่อมีเงินพอ เมื่อได้ยินดังนั้น Sardone จึงได้รวมทีมงานส่วนหนึ่งแล้วไปที่บ้านของผู้ป่วยคนนั้น และช่วยกันทำความสะอาดบ้านอย่างดี โดยไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว ประสบการณ์ในครั้งนั้น ทำให้หญิงสาวเกิดแรงบันดาลใจในการต่อตั้งมูลนิธิเพื่อทำความสะอาดบ้านให้ผู้ป่วยมะเร็งฟรี และเธอก็คิดถึงผู้ป่วยคนนั้นมาตลอด     หลายปีต่อมา Sardone ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวในที่ชุมของผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด สร้างความสนใจให้ผู้คนเป็นจำนวนมาก และหลายคนอยากร่วมทำงานกับเธอ ในที่สุดเธอจึงได้ก่อตั้ง Cleaning for a Reason ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อทำความสะอาดบ้านฟรีให้กับผู้ป่วยมะเร็งหญิง มีทั้งบริษัทใหญ่ เล็ก และบุคคลทั่วไปที่อยากทำงานร่วมกับเธอ เพราะทุกคนคิดเหมือนกันว่าผู้ป่วยมะเร็งเจ็บปวดจากการรักษาแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่ควรต้องมาห่วงเรื่องงานบ้านอีก     ปัจจุบัน Cleaning for a Reason ครอบรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เธอได้ทำความสะอาดบ้านฟรีให้ผู้ป่วยมะเร็งมากกว่า 19,000 คนแล้ว คิดเป็นมูลค่า 182…

  • เปิดตำนาน “ต้นไม้ฆาตกร” ผู้ล่อลวงนกน้อยมากินอาหาร จากนั้นก็สังหารพวกมันให้ตายช้าๆ

    เปิดตำนาน “ต้นไม้ฆาตกร” ผู้ล่อลวงนกน้อยมากินอาหาร จากนั้นก็สังหารพวกมันให้ตายช้าๆ

    ปกติแล้ว ต้นไม้จะทำหน้าที่เป็นที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ โดยเฉพาะนกที่ชอบทำรังบนอยู่บนนั้น แต่สำหรับ Pisonia Brunoniana มันคือต้นไม้ที่ฆ่านกมาแล้วนับไม่ถ้วน Pisonia Brunoniana เป็นพรรณไม้ดอกขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดในแถบเขตร้อนจากฮาวายไปจนถึงนิวซีแลนด์และทางตะวันตกของอินเดีย ต้นพีโซเนียจะมีเนื้ออ่อนนุ่ม มีใบขนาดใหญ่ มันวาว และมีความลี้ลับบางอย่างแฝงอยู่…หากขุดลงไปยังส่วนราก คุณจะพบซากกระดูกเต็มไปหมด จนทำให้มันถูกเรียกว่า “ต้นไม้ฆาตรกร”     ต้นพีโซเนียจะผลิตฝักเมล็ดที่ปกคลุมไปด้วยของเหลวที่มีความเหนียว หากนกหรือแมลงไม่ทันระวังหรือไม่รู้แล้วบินมาเกาะเมล็ด ยิ่งขนของพวกมันไปติดบนเมล็ดหลายๆ ลูก ก็จะยิ่งบินออกยาก และอาจตายอยู่ตรงนั้น หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว นกที่มาติดกับดักของต้นพีโซเนีย มักจะหนีออกมาไม่ได้ ทำให้มันตายและกลายเป็นศพแห้งบนต้นไม้ แล้วห้อยลงมาเหมือนสิ่งประดับต้นคริสต์มาสยังไงอย่างงั้น ย่ิงไปกว่านั้น นกที่ติดอยู่บนต้นไม้ ทั้งมีชีวิตอยู่และตายไปแล้ว มักจะเป็นเหยื่อล่อให้นกตัวอื่นๆ สนใจ และมาติดกับดักด้วยในที่สุด     ต่อมาเมื่อ Alan Burger นักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับต้นไม้ที่คร่าชีวิตนกนับไม่ถ้วน เขาเกิดความสงสัยว่ามันเหตุผลอยู่เบื้องหลังกลไกการดักจับหรือมันอาจจะเป็นแค่วิวัฒนาการของต้นไม้เท่านั้น ดังนั้นในต้นเดือนพฤษภาคม ปี 1999 Burger จึงเดินทางไปยังหมู่เกาะเซเชลส์ในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อทำการศึกษาต้นพีโซเนีย และอยู่ที่นั่นนานถึง 10 เดือน Burger กล่าวว่า “จากการทดลองของผมพบว่า…

  • เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ผู้เกิดมาพร้อมหัวใจเพียงครึ่งดวง ขอแต่งงานกับรักแท้ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด

    เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ผู้เกิดมาพร้อมหัวใจเพียงครึ่งดวง ขอแต่งงานกับรักแท้ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด

    การที่เราเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะขาดหรือเกินไปบ้าง ไม่ได้แปลว่าเราจะมีชีวิตต่างจากคนอื่น แต่เราสามารถมีทุกอย่างได้เหมือนคนทั่วไป ทั้งความสุข ความรัก และความสำเร็จ เหมือนกับ Sophia Chiappalone เด็กหญิงที่แม้จะเกิดมาพร้อมหัวใจเพียงครึ่งเดียว แต่เธอรู้จักความรักและขอแต่งงานกับรักแท้ด้วยวัยเพียง 5 ขวบ     เด็กหญิงตัวเล็กๆ คนนี้ เกิดมาพร้อมความบกพร่องทางพันธุกรรม ส่งผลให้เธอมีหัวใจเพียงครึ่งเดียว และจะต้องเข้ารับการผ่าตัดไปตลอดชีวิต นั่นทำให้เธอเข้าออกโรงพยาบาลตั้งแต่เกิด ตอนแรกคุณหมอคิดว่าเด็กหญิงน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 1 ขวบ แต่การคาดการณ์นั้นผิดพลาด เพราะ Sophia พยายามต่อสู้กับความบกพร่อง จนตอนนี้เธอมีอายุได้ 5 ขวบแล้ว     เด็กหญิงจะต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่ก่อนที่วันนั้นมาถึง Sophia บอกกับ Kristy Somerset-Chiappalone ผู้เป็นแม่ว่าเธออยากแต่งงานกับหนุ่มน้อยในฝันของเธอ นั่นก็คือเพื่อนชายที่เรียนด้วยกันนั่นเอง มันอาจจะเป็นคำขอที่ดูเป็นเด็ก แต่คุณแม่รู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่มีความหมายกับลูกมาก เธอจึงได้จัดให้ตามคำขอและถ่ายรูปแต่งงานให้พวกเขาด้วย     สำหรับความบกพร่องที่ Sophia เผชิญอยู่นี้ คุณหมอได้บอกว่ารายละเอียดว่า เธอเกิดมาโดยไม่มีอวัยวะที่เชื่อมต่อระหว่างหัวใจและหลอดเลือดแดงในปอด แพทย์คิดว่าเธอเป็นโรค DiGeorge ซึ่งเป็นความผิดปกติของโครโมโซม เธอมีหัวใจแค่ครึ่งซ้าย โอกาสที่จะรอดมีน้อยมาก และแทบจะไม่มีเหตุผลอะไรทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ แต่เด็กน้อยกลับมีวันนี้ได้อย่างเหลือเชื่อ จนกลายเป็นเด็กน้อยมหัศจรรย์สำหรับผู้เป็นแม่…

  • วินาทีชีวิต…ผู้ดูแลเสือถูกขย้ำภายในกรงของสวนสัตว์ หลังพลาดเปิดประตูทิ้งไว้!?

    วินาทีชีวิต…ผู้ดูแลเสือถูกขย้ำภายในกรงของสวนสัตว์ หลังพลาดเปิดประตูทิ้งไว้!?

    สวนสัตว์คือสถานที่สำหรับจัดแสดงสัตว์นานาชนิดจากหลายๆ แห่งมารวมกันไว้ในที่เดียว เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับการได้สังเกตวิถีชีวิตของพวกมัน แต่สวนสัตว์แห่งนี้กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว เพราะมันดันเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนต้องขวัญผวาขึ้นมาซะได้ สวนสัตว์ดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในเมืองคาลินินกราด ประเทศรัสเซีย ได้เกิดเรื่องสุดหวาดเสียวขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์รายหนึ่งนำอาหารเข้าไปให้เสือไซบีเรียภายในกรงของพวกมัน ก่อนที่จะถูกเจ้าเสือร่างยักษ์เข้าโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส   เหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นเมื่อเจ้าเสือหลุดออกมาและเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ที่นำอาหารมาให้   เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา เหตุการณ์มีอยู่ว่าเจ้าหน้าที่สาวได้นำอาหารไปให้กับเสือร้ายภายในกรงของพวกมัน ในขณะที่เจ้าเสือกำลังพักอยู่ในกรงแยกอีกส่วนหนึ่ง แต่ประตูกรงที่แยกเจ้าเสือเอาไว้กลับเปิดอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เจ้าเสือไซบีเรียวัย 16 ปีขนาดมหึมาที่ชื่อว่า Typhoon หลุดออกมาและพุ่งเข้าหาเธอทันที   มันใช้กรงเล็บและเขี้ยวอันแหลมคมทำร้ายเธอ   ผู้คนจำนวนมากที่เห็นเหตุการณ์อยู่เหนือกรงต่างรู้สึกตกใจและขวัญผวากับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก พวกเขาเล่าว่าเจ้าหน้าที่สาวคนนั้นได้กรีดร้องออกมาและพยายามต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้ ผู้ชมคนหนึ่งสามารถดึงสติกลับมาได้ เขาจึงพยายามตะโกนและปาหินเข้าไปในกรงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าเสือที่กำลังยืนอยู่บนตัวของหญิงสาว คนอื่นๆ เองก็รีบยกสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหรือม้านั่งของร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ๆ โยนลงไปในกรงเพื่อดึงดูดความสนใจของเจ้าเสือเพิ่มมากขึ้น จนในที่สุดมันก็ออกห่างมาจากเจ้าหน้าที่หญิงและทำให้เธอสามารถวิ่งหนีออกมาได้ในที่สุด   ผู้ชมที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันโยนข้าวของลงไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ   เรื่องราวที่น่าตกใจมากขนาดนี้กลับไม่มีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์คนอื่นๆ เข้ามาเห็นหรือมาช่วยเหลือเลย แม้แต่ตอนที่เธอหนีออกนอกกรงไปซ่อนอยู่ในห้อง คนที่โทรเรียกรถฉุกเฉินให้มาที่เกิดเหตุก็คือหนึ่งในผู้ชมที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อยู่ดี จนเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ถึงได้เข้ามายิงยากล่อมประสาทใส่เจ้าเสือในที่สุด ส่วนหญิงสาวได้ถูกพาไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน คุณหมอบอกว่าเธอมีบาดแผลอยู่หลายจุดตามร่างกายและแขนขา แต่ถึงแม้ว่าอาการจะสาหัสและค่อนข้างน่าเป็นห่วง ผลตรวจโดยรวมก็ยังคงมีความคงที่และเธอก็มีสติอยู่ จึงไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต    …

  • หนุ่มตัดใจขาย “บลูอายส์ ไวท์ดราก้อน” ของแท้ 4 ใบ มูลค่า 480,000 บาท เพื่อส่งลูกสาวเรียน

    หนุ่มตัดใจขาย “บลูอายส์ ไวท์ดราก้อน” ของแท้ 4 ใบ มูลค่า 480,000 บาท เพื่อส่งลูกสาวเรียน

    “ความทรงจำแสนมีค่าของผม กลายเป็นค่าเล่าเรียนลูกสาวที่ผมรักแล้ว…”   คุณพ่อชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @KnightMiyabi ได้ทวีตข้อความข้างบนพร้อมกับภาพการ์ด “บลูอายส์ ไวท์ดราก้อน” จำนวน 4 ใบของเขาพร้อมบอกเล่าเรื่องราวการตัดสินใจสุดยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต โดยเขาเล่าว่า เขาจะต้องหาเงินเพื่อส่งลูกสาวเรียนหนังสือ เพียงแต่ค่าเล่าเรียนนั้นแพงแสนแพง เงินที่เขามีก็ไม่มากนัก และวิธีการจะได้เงินมารวดเร็วที่สุดนั่นก็คือการขายของรักของเขา ซึ่งก็คือคอลเลคชั่นการ์ดยูกิสุดหายาก การ์ดที่เขาขายไปก็คือการ์ด “บลูอายส์ ไวท์ดราก้อน” จำนวน 4 ใบ ซึ่งเป็นของแท้และเป็นการ์ดบลูอายส์ฟรอยชุดแรกที่มีเพียง 1,000 ใบเท่านั้น แต่ละใบก็จะมีมูลค่าราวๆ 4 แสนเยน หรือตีเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 120,000 บาทต่อใบ เรียกว่าเป็นการ์ดที่หายากสุดๆ ในปัจจุบัน   แม้จะแรร์แค่ไหน แต่เพื่ออนาคตลูกเขาทำได้   เงินก้อนที่เขาได้จากการขายการ์ดทั้ง 4 ใบ   อย่างไรก็ตามแม้เขาจะตัดสินใจขายการ์ดดังกล่าวไปแล้ว เขาก็ยังคงเลือกที่จะเล่นการ์ดยูกิต่อไป โดยเขาบอกว่าตอนนี้เขาเก็บการ์ดเซต Holy Knight ไว้ เพราะเป็นเด็คปัจจุบันที่เขาใช้เล่นอยู่นั่นเอง   เขาเล่าว่าตอนลูกหยิบการ์ดของเขาออกมาเล่น เขาถึงกับหลั่งน้ำตาเลยล่ะ   นอกจากบลูอายส์ ไวท์ดราก้อนทั้ง 4 ใบแล้ว…

  • ความรักไร้พรมแดนของหญิงสาวผู้ ‘หลงรัก’ และตกลงปลงใจ ‘แต่งงาน’ กับหอไอเฟล!!

    ความรักไร้พรมแดนของหญิงสาวผู้ ‘หลงรัก’ และตกลงปลงใจ ‘แต่งงาน’ กับหอไอเฟล!!

    หลายคนอาจหลงใหลหรือรู้สึกรักสิ่งของบางอย่างเช่น ตุ๊กตาตัวโปรด หรือรถยนต์ แต่ถึงแม้ว่าคุณจะรักมันมากเพียงใด คุณก็คงไม่ทำเหมือนหญิงสาวคนนี้แน่นอน เพราะเธอรักสิ่งๆ หนึ่งมากจนถึงกับแต่งงานกับมันเลย!! เธอคนนี้มีชื่อว่า Erika Labrie วัย 37 ปี อดีตทหารหญิงผู้อาศัยอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอหลงใหลในสิ่งๆ หนึ่งอย่างมาก นั่นคือ หอไอเฟล ที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ความรักที่เธอมีให้นั้นมากซะจนถึงขั้นแต่งงานกับมันไปเลย     ความรักในสิ่งของของเธอที่มากขนาดนี้เริ่มต้นขึ้นในตอนที่เธอได้ตกหลุมรักกับธนูคู่ใจของตัวเองที่สามารถทำให้เธอกลายเป็นนักธนูระดับโลก ต่อมาเธอก็เกิดความรู้สึกหวั่นไหวให้กับกำแพงเบอร์ลิน หนึ่งในสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง และไม่ใช่เพียงแค่นั้นเพราะเธอบอกว่าแม้แต่รั้วกั้นที่อยู่ในห้องนอนของเธอ ก็น่าหลงใหลจนเธออยากจะมีความสัมพันธ์ทางกายกับมันเลยทีเดียว กระทั่งวันที่ 4 มิถุนายน 2007 ในที่สุดเธอก็ได้มาพบรักกับหอไอเฟล อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่งดงามและโด่งดังไปทั่วโลก เธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับมันและเปลี่ยนนามสกุลเป็น La Tour Eiffel เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอรักมันมากขนาดไหน   เธอคนนี้คือนักธนูระดับโลก   ความหลงใหลในสิ่งของที่มากขนาดนี้ของเธอเป็นผลมาจากโรคที่ชื่อว่า Objectum-Sexual ทำให้เธอรู้สึกว่าสิ่งของสิ่งหนึ่งเป็นเหมือนกับคนรักหรือสามีของเธอ ซึ่งทั่วโลกมีผู้ป่วยเพียงแค่ประมาณ 40 คนเท่านั้น เพราะอย่างนั้นจึงทำให้เธอรู้สึกกับหอไอเฟลมากขนาดนี้ เธอบอกว่า “สิ่งที่ฉันเป็น ฉันไม่เคยมองว่ามันเป็นปัญหาเลย ฉันโอเคกับมันและฉันชอบที่จะได้เดินทางไปสัมผัสสิ่งที่ฉันรักหรือสามีของฉันอยู่เสมอ”   คลิปการให้สัมภาษณ์ของหญิงสาวที่แต่งงานกับหอไอเฟล…

  • ดราม่าทั่วเน็ต!! สาวอินเดียถูกชาย 4 คนรุมข่มขืน แต่เมื่อไปแจ้งความ ตำรวจกลับไม่รับแจ้ง…

    ดราม่าทั่วเน็ต!! สาวอินเดียถูกชาย 4 คนรุมข่มขืน แต่เมื่อไปแจ้งความ ตำรวจกลับไม่รับแจ้ง…

    ในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการถูกข่มขืนเพราะมันเจ็บปวดทั้งกายและใจราวกับว่าตายทั้งเป็น และอาจจะเป็นการทำลายชีวิตของผู้หญิงคนนั้นไปเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมาที่ประเทศอินเดียเมื่อมีเด็กสาวอายุ 19 คนหนึ่งถูกข่มขืนโดยชายกว่า 4 คนเป็นระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง หญิงสาวคนนี้ต้องไปแจ้งความกับตำรวจถึง 3 แห่งแต่ตำรวจกลับมองว่าเธอสร้างเรื่องขึ้นมาเองแม้ว่าพ่อแม่ของเด็กสาวคนนี้จะเป็นตำรวจก็ตาม ซึ่งในตอนสุดท้ายตำรวจก็ได้รับเรื่องดังกล่าวแต่ว่ารับในตอนที่เธอไล่ล่าและสามารถจับกุมชาย 2 คนที่ข่มขืนเธอด้วยตัวของเธอเองรวมทั้งได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ของเธอที่เป็นตำรวจ     ขณะนี้กรมตำรวจในนครโพปาล รัฐมัธยประเทศได้ประกาศพักงานแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสที่ปฏิเสธการแจ้งความของหญิงสาวคนนี้แล้ว สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันอังคารที่ 31 ตุลาคมเมื่อผู้หญิงคนนี้ได้ออกจากสถานที่เรียนพิเศษสำหรับสอบข้าราชการตำรวจ เพราะว่าเธอใฝ่ฝันอยากจะเป็นตำรวจเหมือนพ่อแม่ของเธอ ในช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่มชายคนหนึ่งซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า Golu Bihari Chadha (ซึ่งเป็นคนที่มีคดีฆาตกรรมเด็กทารกติดตัวแต่ได้รับประกันตัวออกมา) พยายามกระชากแขนเธอไปเพื่อที่จะข่มขืนและแน่นอนว่าผู้หญิงคนนี้ก็ได้ต่อสู้กับชายคนดังกล่าว จนกระทั่ง Chadha ได้เรียกเพื่อนที่ชื่อว่า Amar Ghuntu ให้มาช่วยกันลากตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายไปบริเวณใต้สะพานแห่งหนึ่ง     หญิงสาวคนดังกล่าวก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ง่ายๆ แม้ว่าจะโดนชายฉกรรจ์ 2 คนรุมอยู่ก็ตามโดยเธอได้หยิบหินทุบไปยังชายทั้ง 2 ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาโมโหและใช้หินทุบเธอบ้างซึ่งแน่นอนว่าเธอย่อมสู้ไม่ได้ จากนั้นเธอก็ถูกกระชากเสื้อผ้าออกแล้วก็ถูกข่มขืนในเวลาต่อมา หลังจากเสร็จกิจแล้ว Chadar ก็ได้ไปซื้อบุหรี่ขณะที่ Amar นั้นยังข่มขืนสาวคนดังกล่าวอยู่แต่ปรากฏว่าเมื่อเขากลับมาเขาได้พาเพื่อนมาอีก 2 คนซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า Rajesh และ Ramesh หลังจากนั้นทั้ง…

  • เสือดาวยอดนักล่า คาบจระเข้ตัวยาวกว่า 2 เมตร มารับประทานเป็นอาหารเย็น!!

    เสือดาวยอดนักล่า คาบจระเข้ตัวยาวกว่า 2 เมตร มารับประทานเป็นอาหารเย็น!!

    เราอาจไม่เคยคิดกันมาก่อนว่าเสือดาวสามารถล่าจระเข้ได้ เพราะลักษณะการใช้ชีวิตของพวกมันแทบไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันเลย แต่ภาพและคลิปวิดีโอนี้ช่วยยืนยันว่าเสือดาวสามารถทำอย่างนั้นได้จริงๆ ข้อมูลดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดมาจากช่างภาพชาวอังกฤษวัย 31 ปี Edward Selfe ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในประเทศแซมเบียมานานกว่า 10 ปี เพื่อบันทึกเรื่องราวความขาดแคลนในสถานที่แห่งนั้น วันหนึ่งเขากำลังเก็บข้อมูลอยู่ในอุทยานแห่งชาติ South Luangwa และเจอเข้ากับเหตุการณ์ที่หาดูได้ยากมาก เมื่อเสือดาวตัวหนึ่งได้คาบจระเข้ความยาวกว่า 2 เมตรมานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย   เสือดาวที่สามารถล่าจระเข้ตัวยาวกว่า 2 เมตรกลับมาเป็นอาหารได้   ทางฝั่งอเมริกาใต้และอินเดีย การที่เสือจะกินจระเข้บางสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่ในฝั่งแอฟริกา ไม่เคยมีการบันทึกเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน เขาจึงไม่รอช้ารีบคว้ากล้องขึ้นมาเก็บภาพเอาไว้ เจ้าเสือดาวตัวนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของฝูงเสือดาวที่มีจำนวนค่อนข้างมาก แต่มันชอบที่จะปลีกวิเวกออกมาอยู่ตัวเดียวในบริเวณนี้บ่อยๆ ทำให้การติดตามถ่ายภาพมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ Edward   ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายตอนเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ตอนฟ้ามืด   คลิปวิดีโอเสือดาวกำลังกินจระเข้อย่างเอร็ดอร่อย   เขาบอกว่า “เป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างมากที่เสือดาวสามารถฆ่าจระเข้ได้สำเร็จ ผมเชื่อว่าภาพที่ผมถ่ายคือภาพที่แสดงให้เห็นสิ่งนี้ได้ชัดเจนมากที่สุดแล้ว” นอกจากนั้นช่างภาพหนุ่มเชื่อว่าการที่เสือดาวตัวนี้สามารถฆ่าจระเข้ได้นั้นเกิดจากความบังเอิญมากกว่าที่มันจะวางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว “ผมเชื่อว่าเจ้าเสือดาวคงกำลังเดินไปกินน้ำที่แม่น้ำและพบเข้ากับเจ้าจระเข้ที่กำลังหลับอยู่และไม่รู้สึกถึงการมาของมัน ทำให้เสือดาวฉวยโอกาสเข้าไปกัดจระเข้ที่บริเวณกะโหลกศีรษะจนตายในที่สุด” เขากล่าว     อย่างไรก็ตามเสือดาวนั้นได้ถูกบันทึกเอาไว้ว่าพวกมันล่าสัตว์สายพันธุ์อื่นมากกว่า 90 ชนิด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการกินอาหารของพวกมันมีความหลากหลายมากอยู่แล้ว จะมีจระเข้เพิ่มเข้าไปก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลก…

  • สายเที่ยวฟังทางนี้!! เว็บไซต์ AirlineRating จัดอันดับ 10 สายการบินที่ดีที่สุดในโลกในปี 2018

    สายเที่ยวฟังทางนี้!! เว็บไซต์ AirlineRating จัดอันดับ 10 สายการบินที่ดีที่สุดในโลกในปี 2018

    การเดินทางด้วยการบินในทุกวันนี้นับได้ว่าเป็นการเดินทางที่หลายคนเลือกที่จะใช้เพราะว่ามีความสะดวกรวดเร็วอีกทั้งยังปลอดภัยอีกด้วยนั่นจึงเป็นเหตุให้มีสายการบินใหม่ๆ เกิดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด ในวันนี้เราจะมาจัดอันดับ 10 สายการบินที่นับได้ว่าดีที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ airlineratings เพื่ออยากจะให้ทุกคนได้รับแต่สิ่งดีๆ นั่นเอง การจัดอันดับต่อไปนี้ได้มีการทำขึ้นโดย Geoffrey Thomas บรรณาธิการใหญ่แห่งเว็บไซต์ AirlineRatings.com โดยมีหลักเกณฑ์ในการให้คะแนนสายการบินต่างๆ คือ ความปลอดภัยในการบิน, การรีวิวจากผู้โดยสาร, อายุของสายการบิน, ความเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม, การจัดการสิ่งแวดล้อม, เหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้น และอื่นๆ อีกมาก นั่นจึงได้ออกมาเป็น 10 อันดับสายการบินที่ดีที่สุดในโลกดังนี้   10. Japan Airlines   สายการบินนี้สามารถพลิกฟื้นมาจากปัญหาทางด้านการเงินในปี 2010-2011 ได้และด้วยความที่พวกเขาได้เรียนรู้จากอดีตทำให้ทุกวันนี้พวกเขาได้ออกมาให้บริการได้อย่างโดดเด่น   9. Cathay Pacific   สายการบินนี้ได้ผ่านความยากลำบากในด้านการแข่งขันระหว่างสายการบินทั้งในประเทศฮ่องกง หรือกระทั่งจีนแต่ถึงอย่างไรด้วยมาตรฐานที่ดีพวกเขาก็สามารถเอาชนะคนอื่นๆ มาได้   8. Korean Air   สายการบินนี้เหมือนความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการการบินเพราะว่าในปี 2000 พวกเขายังถูกจัดอันดับไว้อยู่ในอันดับล่างๆ แต่ว่าทุกวันนี้พวกเขาได้กลายขึ้นมาเป็นแนวหน้าทางด้านการบินโดยสร้างความประทับใจให้กับผู้คนต่างๆ มาแล้วมากมาย   7. All Nippon Airways…

  • ภาพนางแบบสาวบนเก้าอี้ไม้ ที่คนแชร์กันทั่วโลก ที่แท้ไม่ใช่คน แต่เป็นจินตนาการของศิลปินญี่ปุ่น!!

    ภาพนางแบบสาวบนเก้าอี้ไม้ ที่คนแชร์กันทั่วโลก ที่แท้ไม่ใช่คน แต่เป็นจินตนาการของศิลปินญี่ปุ่น!!

    การที่ศิลปินจะวาดภาพให้สมจริงนั้น จำเป็นต้องมีแบบหรือคนต้นแบบ เพื่อให้ภาพที่ออกมาไม่ผิดเพี้ยน แต่ได้มีศิลปินญี่ปุ่นคนหนึ่งได้วาดภาพเหมือนจริงที่ออกมาจากจินตนาการของเขา Osamu OBI เป็นศิลปินชาวญี่ปุ่นที่มีทักษะในการวาดรูปเหมือนจริงที่น่าทึ่งมาก โดยล่าสุดเขาได้เผยแพร่ภาพนางแบบสาวบนเก้าอี้ไม้ จนมีคนแชร์กันทั่วโลก     แต่แล้วทุกคนก็ต้องเซอร์ไพรส์ เมื่อรู้ว่าภาพนางแบบที่เห็นในภาพนั้นเป็นภาพวาดไม่ใช่คนจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ใช่คนที่ตัวตนอยู่จริง แต่เป็นผู้หญิงที่มาจากจินตนาการของ Osamu ล้วนๆ สำหรับใครที่อยากไปดูภาพนี้แบบใกล้ชิด สามารถเข้าชมได้ที่พิพิธภัณฑ์ Hoki ในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2017 โดยจะจัดแสดงที่นั่นเป็นเวลา 3 ปีเลยทีเดียว     เนื่องจากมีหลายคนสนใจผลงานของ Osamu ชิ้นนี้มาก เขาจึงได้เผยเบื้องหลังของการวาดภาพดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์   . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…

  • “Bagel House” อาคารทรงแปลกอายุเกือบ 50 ปีที่ยังคงใช้งานอยู่ในประเทศรัสเซีย

    “Bagel House” อาคารทรงแปลกอายุเกือบ 50 ปีที่ยังคงใช้งานอยู่ในประเทศรัสเซีย

    การอนุรักษ์อาคารต่างๆ ในสมัยก่อนไว้นั้นนอกจากจะทำให้เห็นถึงผลงานการออกแบบในยุคสมัยก่อนแล้ว ความสวยงามของตัวอาคารนั้นก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เช่นกัน และอาคาร Bagel House ในประเทศรัสเซียเองนี้ก็เช่นกัน อาคารอายุเกือบๆ 50 ปี หลังนี้เป็นผลงานการออกแบบของนาย Evgeny Stamo กับนาย Alexander Markelov สถาปนิกและวิศวกรชาวรัสเซีย โดยอาคารดังกล่าวนั้นได้เริ่มก่อสร้างในช่วงปี 1970 และแล้วเสร็จภายในปี 1972 ซึ่งนอกจากรูปทรงอาคารแบบวงแหวนขนาดรัศมีกว่า 150 เมตรที่มีต้นแบบมาจากขนมปัง Bagel แล้ว ในส่วนตรงกลางนั้นยังเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวและสนามเด็กเล่นอีกด้วย   และนี่คือโฉมหน้าของอาคาร Bagel House จากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย   โดยอาคารหลังนี้ถูกใช้เป็นที่พักอาศัย ซึ่งภายในนั้นประกอบไปด้วยอพาร์ทเม้นท์มากถึง 913 ห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านซักรีด ร้านค้า ร้านขายยา รวมถึงที่ทำการไปรษณีย์อีกด้วย ในปี 1980 ขณะที่สหภาพโซเวียตได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ทางการได้มีการสร้างอาคารคล้ายๆ กันเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขันโอลิมปิก แต่อย่างไรก็ตามกลับมีเพียงอาคารแค่หลังเดียวเท่านั้นที่สร้างแล้วเสร็จ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของสหภาพโซเวียตที่กำลังตกต่ำอยู่ในขณะนั้น     อาคารที่สร้างเพิ่มขึ้นมานั้นก็ตั้งห่างจากกันมากจนทำให้มันดูไม่เหมือนสัญลักษณ์ของกีฬาโอลิมปิกเลย แต่อย่างไรก็ตามยังมีการเปิดใช้อาคารทั้ง 2 แห่งนี้เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน อาคารแต่ละหลังนั้นมีความสูงมากถึง 9…

  • นักมายากลบันทึกสถิติเดินบนเศษแก้วยาวที่สุดในโลก มอบเงินเพื่อช่วยเหลือเด็ก

    นักมายากลบันทึกสถิติเดินบนเศษแก้วยาวที่สุดในโลก มอบเงินเพื่อช่วยเหลือเด็ก

    เรื่องราวน่าประทับใจของคุณ Russell Fox หนุ่มนักมายากลชาวแอฟริกาใต้วัย 43 ปี ที่ตั้งใจจะทำลายสถิติโลกด้วยการเดินบนเศษแก้วเป็นระยะทางกว่า 32 กิโลเมตรภายในเวลา 29 ชั่วโมง แต่นอกจากการได้จารึกสถิติโลกแล้ว ในการเดินครั้งนี้เขายังตั้งเป้าหมายเพื่อมอบเงินช่วยเหลือเด็กออทิสติกของมูลนิธิ Josh foundation อีกด้วย เนื่องจากตัวเขาเองเคยได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิดังกล่าวในวัยเด็กนั่นเอง     คุณ Fox ตั้งเป้าหมายว่าจะส่งเด็กที่มีความผิดปรกติทางด้านพัฒนาการนั้นเข้ารับการรักษาโดยสเต็มเซลล์ที่สถาบัน NeuroGen Brain and Spine ในประเทศอินเดีย นักมายากลท่านนี้ได้กล่าวว่าการฝึกซ้อมเพื่อบันทึกสถิติโลกครั้งนี้ของเขานั้นต้องมีการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจอย่างมาก เขาต้องซ้อมเดิน วิ่ง ทำสมาธิและลดน้ำหนักเพื่อให้การเดินบนเศษแก้วครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี “สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของผมก็คือการเสียสมาธิและเกิดอาการเหนื่อยล้านั่นเอง ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ผมเกิดอาการบาดเจ็บจากการโดนแก้วบาดได้ ตอนนี้ผมกำลังมุ่งไปที่การฝึกสมาธิและหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกๆ คน” นักมายากลหนุ่มกล่าว     การบันทึกสถิติดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ที่ศูนย์การค้า V&A Waterfront ในเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ โดยนักมายากลหนุ่มของเราจะต้องเดินผ่านทางเศษแก้วยาว 25 เมตรจำนวนทั้งสิ้น 1,280 รอบจึงจะได้รับการบันทึกสถิติในครั้งนี้ และเศษแก้วจะมีการเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 2 ชั่วโมง   และนี่ก็คือการแสดงการเดินบนเศษแก้วของนักมายากลท่านนี้   ที่มา odditycentral

  • วัยรุ่นที่เคยผ่าน “ค่ายดัดนิสัยติดอินเตอร์เน็ต” เผยภายในนั้น คือการทรมานขั้นรุนแรง!!

    วัยรุ่นที่เคยผ่าน “ค่ายดัดนิสัยติดอินเตอร์เน็ต” เผยภายในนั้น คือการทรมานขั้นรุนแรง!!

    การเสพย์ติดโลกอินเตอร์เน็ตนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายๆ พื้นที่รวมถึงประเทศจีนด้วยเช่นเดียวกัน และหนึ่งในมาตรการที่พวกเขาใช้แก้ปัญหาที่ว่านี้ก็คือการอบรมพิเศษสำหรับเด็กที่ติดอินเตอร์เน็ต แต่ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพการฝึกในค่ายดังกล่าวออกมา นักเรียนผู้หนึ่งที่เคยผ่านค่ายบำบัดอาการติดอินเตอร์เน็ตของสถาบัน Yuzhang Shuyuan เล่าว่าในสถาบันดังกล่าวนั้นคุณครูจะควบคุมพวกเขาอย่างเข้มงวด และเฆี่ยนพวกเขาด้วยแส้มากกว่า 30 ครั้ง พร้อมกับขังให้อยู่ในห้องเล็กๆ เป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์     ค่ายอบรมดังกล่าวตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในเมืองหนานชาง มลซลเจียงซี ซึ่งผู้ปกครองที่มีความต้องการอยากจะนำลูกๆ มาบำบัดอาการติดอินเตอร์เน็ตนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินกว่า 150,000 บาทสำหรับการเข้าค่ายนานกว่า 6 เดือน ในประเทศจีน อาการติดอินเตอร์เน็ตนั้นถือเป็นความผิดปรกติของร่างกาย และกำลังเพิ่มมากขึ้นในหมู่วัยรุ่น โดยเด็กๆ ที่มีอาการดังกล่าวจะละเลยการเข้าสังคม ไม่ใส่ใจคนรอบข้างและสนใจแต่โลกออนไลน์     ในการโฆษณาของสถาบันดังกล่าวได้อ้างว่าพวกเขาสามารถช่วยให้เด็กๆ หลุดพ้นจากการเสพติดอินเตอร์เน็ตได้ด้วยหลักปรัชญาจีนโบราณของขงจื๊อ และมันจะช่วยทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น ภาพโปรโมทของสถาบันดังกล่าวได้เผยให้เห็นนักเรียนของที่นี่ในชุดประจำชาติของจีน ที่กำลังอ่านวรรณกรรมคลาสสิคและกำลังฝึกการเขียนตัวอักษร แต่ในความเป็นจริงแล้วจากคำบอกเล่าของเด็กนักเรียนที่ใช้ชื่อว่า Shan Ni Ma Da Wang สถาบันแห่งนี้มีโหดร้ายกว่าที่เห็นในภาพมาก   Shan Ni Ma Da Wang อดีตนักเรียนที่ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องประสบการณ์อันโหดร้ายในสถาบันแห่งนี้   ในโพสต์บนโลกออนไลน์ของหญิงสาวคนดังกล่าวเผยว่า เธอถูกแม่ของตัวเองหลอกให้เข้ามารับการรักษาที่สถาบันแห่งนี้ในปี 2014…

  • วิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับสงคราม เผยภาพของประเทศซีเรียในมุมที่ไม่เคยเราเห็นมาก่อน

    วิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับสงคราม เผยภาพของประเทศซีเรียในมุมที่ไม่เคยเราเห็นมาก่อน

    สำหรับใครที่ติดตามข่าวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ คงจะพอทราบกันดีเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศซีเรีย และข่าวของการสู้รบในพื้นที่ดังกล่าวอยู่บ่อยๆ แต่นอกจากภาพของความสูญเสียและซากปรักหักพังที่เราเคยเห็นกันตามสื่อต่างๆ แล้ว ในบางพื้นที่นั้นผู้คนของประเทศนี้ก็ยังคงใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขากันตามปกติและแทบไม่ต่างอะไรกับคนทั่วๆ ไปเลย เมื่อไม่นานมานี้คุณ Christian Lindgr นักเดินทางหนุ่มผู้หนึ่งได้เดินทางไปยังเมืองดามัสกัส เมืองอะเลปโป และพื้นที่ชนบทอื่นๆ ในประเทศซีเรีย เขาได้เก็บภาพวิถีชีวิตพร้อมกับความสวยงามในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเผยให้เห็นภาพของประเทศซีเรียในมุมที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน   Umayyad Mosque มัสยิดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมือง ดามัสกัส ประเทศซีเรีย   Aleppo Citadel ป้อมปราการในยุคกลางที่ตั้งอยู่ในเมืองอะเลปโป ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย .   ภาพที่มองออกมาจากด้านในของ Aleppo Citadel   ภาพมุมสูงของเมืองอะเลปโป ที่มองจากป้อมปราการแห่งนี้   ภาพของหมู่บ้านชาวซีเรียที่ตั้งอยู่บนเขา   ผู้คนที่ออกมาทานอาหารด้านนอก ในร้านอาหารแห่งหนึ่งของเมืองดามัสกัส   ภาพด้านในของตลาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศซีเรีย   คนขายน้ำผลไม้บนถนนสายหนึ่งในเมืองดามัสกัส   คนในพื้นที่ ที่ออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติในเมืองหลวง   ถึงแม้ซีเรียกับภาวะสงครามนั้นจะเป็นของคู่กัน แต่คนในพื้นที่ก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และนี่คือภาพของผู้คนที่ออกมาสังสรรค์กัน   คนขายนมบนถนนสายหนึ่งของเมืองดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรีย   หอศิลป์ที่ยังคงเปิดให้บริการตามปรกติในเมืองอะเลปโป   Krak…

  • Pippa น้องหมาที่ชอบการรับจดหมาย จนไปรษณีย์ต้องแอบเขียนให้เองในวันที่ไม่มีส่ง

    Pippa น้องหมาที่ชอบการรับจดหมาย จนไปรษณีย์ต้องแอบเขียนให้เองในวันที่ไม่มีส่ง

    การเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนดีของเจ้านายอย่างเดียวมันอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะปัจจุบันบรรดาน้องหมาทั้งหลายได้หันมาทำหน้าที่รอรับจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์ เพื่อนำไปส่งให้ถึงมือของเจ้านายแล้วนะ และนี่คือเรื่องราวน่ารักๆ ของ Pippa น้องหมาพันธุ์โกลเด้นที่ดูเหมือนจะสนิทสนมกับ Martin Studer บุรุษไปรษณีย์เป็นพิเศษ นั่นเป็นเพราะว่าเขามักจะมาส่งจดหมายที่บ้านเจ้านาย Pippa เป็นประจำทุกวันยังไงล่ะ     นอกจากนี้ Martin ยังได้โพสต์รูปภาพของ Pippa พร้อมแชร์เรื่องราวของมันให้ผู้คนได้อ่านลงบนเฟซบุ๊กของเขา ซึ่งก็ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าเจ้าหมาตัวนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในรายการโปรดของเขาไปซะแล้ว     Pippa มักจะมารอรับจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์ในทุกๆ วัน เพราะเมื่อเห็น Martin มันก็จะรีบวิ่งเข้ามาทักทาย พร้อมกับรอคอยจดหมายที่จะได้รับ จนกระทั่งในวันที่ไม่มีจดหมายมาส่งให้เจ้านาย นั่นทำให้ Pippa ต้องนั่งรอเก้อทั้งวันอย่างน่าสงสาร ด้วยเหตุนี้ทำให้ Martin ได้ตัดสินใจทำอะไรบางสิ่งบางอย่าง เพราะเขาเองก็ไม่อยากเห็นมันรู้สึกผิดหวัง ดังนั้นเขาเลยต้องเขียนจดหมายปลอมขึ้นมามอบให้กับมัน พร้อมเขียนข้อความลงในใบแจ้งการจัดส่งพัสดุว่า “จดหมายสำหรับ Pippa ♡♡”     “Pippa ได้ออกมานั่งรอรับจดหมายในทุกๆ วัน แต่บางครั้งก็ไม่มีจดหมายสำหรับเจ้านายของมัน นั่นทำให้ผมต้องเขียนจดหมายปลอมขึ้นมาแทน” Martin เขียนไว้ในเฟซบุ๊กของเขา   ที่สำคัญเขายังได้ออกมาเผยอีกว่า การที่ได้มาพบกับเจ้า Pippa…

  • มาดูอาหารกลางวันของ “เด็กฝรั่งเศส vs. เด็กอเมริกัน” ทำไมถึงได้แตกต่างขนาดนี้

    มาดูอาหารกลางวันของ “เด็กฝรั่งเศส vs. เด็กอเมริกัน” ทำไมถึงได้แตกต่างขนาดนี้

    อาหารการกินสำหรับเด็กๆ เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะว่านอกจากวัยเด็กเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโตและต้องการใช้สารอาหารที่มีประโยชน์แล้ว โรคภัยต่างๆ ก็ดูจะเป็นเหมือนสิ่งที่คอยรุมเร้าทุกช่วงของชีวิตเหมือนกัน หลายคนคงได้ยินคำว่า You are what You eat หรือที่แปลได้ว่ากินยังไงก็ได้อย่างนั้น ซึ่งรู้หรือไม่ว่าทำไมเด็กชาวอเมกันกว่า 1 ใน 3 มีน้ำหนักที่เกินเกณฑ์นั่นก็เป็นสิ่งที่ Rebeca Plantier อยากรู้เช่นกัน เธอจึงได้ทำการเปรียบเทียบอาหารกลางวันระหว่างเด็กฝรั่งเศสที่มีน้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกับเด็กอเมริกันว่าแตกต่างกันมากขนาดไหน ซึ่งเธอก็พบว่าโรงเรียนในประเทศฝรั่งเศสจะใช้อาหารที่สดและจัดให้แบบเป็นคอร์สเพื่อให้สารอาหารได้อย่างครบถ้วนขณะที่โรงเรียนที่อเมริกานั้นมีความแตกต่างกันออกไป มาลองดูกันดีกว่าว่าอาหารในแต่ละวันของเด็กๆ จะเป็นอย่างไร   ประเทศฝรั่งเศส (โรงเรียนที่ฝรั่งเศสจะไม่มีการเรียนในวันพุธ)   วันจันทร์   อาหารเรียกน้ำย่อย: สลัดแตงกวากับมะเขือเทศ อาหารหลัก: เนื้ออบซอสเสิร์ฟพร้อมกับเห็ด, บร็อคโคลี่ ของหวาน: ทาร์ตแอปเปิล   วันอังคาร   อาหารเรียกน้ำย่อย: สลัดกระหล่ำปลีและมะเขือเทศ อาหารหลัก: เนื้ออบ, มันฝรั่ง, มะเขือเทศอบสมุนไพร, ชีส ของหวาน: กีวี่   วันพฤหัสบดี   อาหารเรียกน้ำย่อย: สลัดเบบานิส (ข้าวสาลียำรวมกับผักต่างๆ) อาหารหลัก: ไส้กรอก ผักซุกินี…

  • “โรงเรียนเกาหลีเหนือ” ใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่คุณไม่คิดว่าจะมีอยู่ด้วย

    “โรงเรียนเกาหลีเหนือ” ใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่คุณไม่คิดว่าจะมีอยู่ด้วย

    หลายคนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการทดสอบการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่ยิงข้ามน่านน้ำไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะนั่นอาจเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดสงครามกันได้ตลอดเวลา แต่ถึง 2 ประเทศนี้จะมีความขัดแย้งขนาดไหนก็ตาม แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าภายในประเทศญี่ปุ่นนั้นได้มีการก่อตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กเกาหลีเหนือเพื่อบ่มเพาะให้เด็กๆ มีแนวคิดแบบเกาหลีเหนือภายในประเทศญี่ปุ่นด้วยนะ โดยโรงเรียนแห่งนี้มีการเรียนการสอนในรูปแบบของชาติเกาหลีเหนือโดยสมบูรณ์แบบ ทั้งการเรียนประวัติศาสตร์เกาหลีเหนือ ภาษาเกาหลีรวมถึงการนำรูปภาพของผู้นำเกาหลีเหนือมาติดไว้ในทุกๆ ห้องเรียน นอกจากนั้นโรงเรียนแห่งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวเกาหลีเหนือที่มาคอยปกป้องเด็กๆ จากผู้ประท้วงชาวญี่ปุ่นหลังจากรู้ว่ามีโรงเรียนนี้อยู่ด้วย     เมื่อไม่กี่วันมานี้เว็บไซต์ข่าวชื่อดังอย่าง Vox ได้นำเสนอวิดีโอหนึ่งที่มีชื่อว่า “Inside North Korea bubble in Japan” ซึ่งเป็นวีดีโอที่ทำให้เราได้เห็นภาพโรงเรียนแห่งนี้ว่ามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร   สำหรับชาวเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีประวัติที่ยาวนานและซับซ้อนอย่างมาก โดยเริ่มจากบรรพบุรุษของพวกเขาถูกบังคับให้ย้ายมาอยู่ประเทศญี่ปุ่นหลังจากจักรวรรดิญี่ปุ่นได้พยายามผนวกประเทศเกาหลีให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นในปี 1910 หลังจากนั้นประเทศญี่ปุ่นได้พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเกาหลีจึงสามารถแยกตัวออกมาจากประเทศญี่ปุ่นได้ แต่ก็มีคนเกาหลีจำนวนมากที่ยังอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นและได้ตัดสินใจที่จะอยู่อย่างถาวรเลย   อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้กล่าวขอบคุณเกาหลีเหนือถึงสิ่งที่มอบให้   ทว่าเรื่องราวกลับซับซ้อนเข้าไปอีกเมื่อประเทศเกาหลีได้เกิดการแบ่งเป็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้และนั่นเป็นเหตุให้ประเทศเกาหลีเหนือหยุดช่วยเหลือชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นโดยสร้างโรงเรียนแห่งนี้ให้เป็นสิ่งสุดท้าย นอกเหนือจากการปล่อยมิสไซล์และอาวุธนิวเคลียร์ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งโลกแล้ว ในปี 1970 เกาหลีเหนือยังได้ลักพาตัวชาวญี่ปุ่นหลายคนจากชายหาดแล้วส่งตัวไปที่ประเทศเกาหลีเหนือซึ่งนั่นได้เป็นเหตุการณ์ระดับชาติและได้เริ่มกลายเป็นปรปักษ์ต่อประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้   เงินสมทบช่วยเหลือสำหรับโรงเรียนชาวเกาหลีเหนือแห่งนี้ลดลงทุกปี โดยโรงเรียนแห่งนี้ในปัจจุบันแทบจะไม่มีเงินไว้จ้างคุณครูอยู่แล้ว การแยกให้เห็นถึงสิ่งที่โรงเรียนแห่งนี้ต้องเผชิญซึ่งก็มีทั้งคนญี่ปุ่นที่มีความชาตินิยม ความแบ่งแยกและการขอความช่วยเหลือจากประเทศเกาหลีเหนือ   เหมือนกับพวกเขาสร้างโรงเรียนของ โอซาม่า บินลาเดนในอเมริกา   ชีวิตของเด็กๆ ที่น่าสงสารโดยพวกเขาต้องเปลี่ยนชุดตอนออกไปนอกโรงเรียนเพราะถูกจ้องมองตลอดเวลา  …

  • 9 เรื่องที่จะทำให้เห็นว่าการเป็นเชื้อพระวงศ์ของอังกฤษนั้น ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะ!!

    9 เรื่องที่จะทำให้เห็นว่าการเป็นเชื้อพระวงศ์ของอังกฤษนั้น ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะ!!

    หลายคนอาจคิดว่าการเป็นราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์ เป็นอะไรที่เลิศเลอที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เพราะยิ่งถ้าได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น ทั้งการเป็นราชวงศ์ยังเต็มไปด้วยกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามประเพณีอันเก่าแก่อย่างเคร่งครัดด้วย อย่างไรก็ตามเราได้รวบรวมกฎ และข้อปฏิบัติ 9 ข้อที่ราชวงศ์อังกฤษต้องปฏิบัติตาม แล้วคุณจะรู้ว่าการเติบโตมาในราชวงศ์อังกฤษนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย   1. ไม่อนุญาตให้ใช้ชื่อเล่น ชาวอังกฤษจะทราบกันเป็นอย่างดีว่าเจ้าหญิงไดอาน่าแห่งเวลส์ จะมีชื่อสั้นๆ ว่า “ได” ส่วน และเคท มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ จะมีชื่อเล่นว่า “เคท” แต่ทว่าภายหลังจากที่ทั้งสองพระองศ์ได้กลายเป็นเชื้อพระวงศ์แห่งอังกฤษแล้ว จะต้องห้ามผู้อื่นเรียกชื่อเล่นเพราะมิฉะนั้นจะถือว่าเป็นการละเมิดกฎ   2. ห้ามมอบของที่สืบทอดจากราชวงศ์ให้แก่บุคคลอื่นโดยเด็ดขาด พระชายาทุกพระองศ์ของราชวงศ์อังกฤษ จะต้องห้ามขายหรือมอบมรดกที่สืบทอดจากราชวงศ์ให้แก่บุคคลอื่นโดยเด็ดขาด แต่จะสามารถส่งต่อให้กับทายาทองค์ต่อไปได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เรามักจะเห็นเจ้าหญิงไดอานา หรือสมาชิกคนอื่นๆ ในราชวงศ์สวมแหวนวงเดียวกัน   3. เชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์จะต้องปฏิบัติตามสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ตามกฎของราชวงศ์อังกฤษเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในระหว่างที่เสด็จไปร่วมการประชุม หรือมีเหตุการณ์สำคัญในครอบครัว เช่น หากพระองศ์ทรงยืน ทุกคนก็จะต้องทำแบบเดียวกัน หากทรงหยุดกินทุกคนก็จะต้องหยุดด้วย เป็นต้น   4. เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ…

  • หนุ่มลงทุนสร้างโฆษณาสุดเวอร์วัง เพื่อขาย “รถมือสอง” อายุ 20 ปี ให้แฟนสาวโดยเฉพาะ!!

    หนุ่มลงทุนสร้างโฆษณาสุดเวอร์วัง เพื่อขาย “รถมือสอง” อายุ 20 ปี ให้แฟนสาวโดยเฉพาะ!!

    เมื่อเร็วๆ นี้ Carrie Hollenbeck แฟนสาวของ Max Lanman มีความจำเป็นที่จะต้องขายรถยนต์ Honda Accord ปี 1996 ของเธอ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือแฟนสาว Max จึงได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการทำโฆษณาสุดเวอร์วังอลังการขึ้นมา ทั้งนี้ก็เพื่อการขายรถยนต์เพียงคันเดียวโดยเฉพาะ สำหรับ Max เขามีอาชีพเป็นนักเขียน และผู้อำนวยการหนุ่มวัย 29 ปีจากลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาเคยทำโฆษณาให้แก่บริษัทชื่อดังหลายแห่ง เช่น Microsoft และ Häagen-Dazs     แต่สำหรับโครงการล่าสุดของเขาดูเหมือนว่าจะเป็นอะไรที่พิเศษ และได้รับความสนใจไม่น้อย เพราะเมื่อแฟนสาวสุดที่รักต้องการขายรถยนต์คันเก่าที่ชื่อว่า Greenie งานนี้เขาก็เลยสร้างโฆษณาขายรถให้เธอซะเลย และที่สำคัญเขายังได้เชิญให้ Anne Marie นักร้อง และนักแต่งเพลง กับแมวเหมียวอีก 1 ตัวมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทำโฆษณาชิ้นนี้อีกด้วย     ด้าน Max ได้ออกมากล่าวว่า “ขอบคุณ Carrie มากๆ นะที่ยอมให้ผมทำแบบนี้…

  • อุบ๊ะ!! พาไปชมภาพของภัตตาคารใต้น้ำสุดหรู ซึ่งหากดูผิวเผินแล้วเหมือนก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น

    อุบ๊ะ!! พาไปชมภาพของภัตตาคารใต้น้ำสุดหรู ซึ่งหากดูผิวเผินแล้วเหมือนก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น

    ตามประสามนุษย์ทั่วไปหากจะดำเนินชีวิตก็ต้องมีการกินอาหารตกถึงท้อง แต่ว่าการกินอาหารแบบธรรมดาๆ ทุกวันๆ เราก็อาจรู้สึกเบื่อได้ เราก็อาจเปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนร้านอาหารที่กิน เปลี่ยนคนที่กินอาหารด้วย หากเปลี่ยนมาหมดแล้วทุกอย่างแต่ยังไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือช่วยให้ดีขึ้นงั้นลองมาดูร้านนี้หน่อยเป็นไง เพราะมันจะทำให้บรรยากาศตอนกินอาหารของคุณต่างออกไปโดยสิ้นเชิงเพราะที่นี่คือภัตตาคารใต้น้ำ   กลมกลืนกับธรรมชาติมากเลย ดูเผินๆ นึกว่าก้อนหิน   บริษัทที่ชื่อว่า Snøhetta มีแผนที่จะสร้างภัตตราคารอาหารใต้น้ำทางตอนใต้ของประเทศนอร์เวย์ ใกล้กับหมู่บ้าน Båly ซึ่งหน้าตาของภัตาคารแห่งนี้จะดูเหมือนตู้คอนเทนเนอร์ที่สร้างจากคอนกรีตถูกโยนลงในน้ำ หากมองผ่านๆ โดยไม่สังเกตดีๆ จะพบว่ามันเหมือนหินก้อนหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับภายในจะมีกระจกแบบพาโนราม่าให้เราสามารถดูวิวใต้น้ำกว้างถึง 10 เมตร ภัตตาคารสุดแหวกแห่งนี้มีพื้นที่เพียงพอที่จะรับลูกค้าได้ถึงคราวละ 100 คนและมีแผนที่จะทำให้เป็นสถานที่สำหรับการวิจัยเมื่อไม่มีลูกค้าแล้ว   ใครเอาก้อนหินนี้โยนลงมาจากฟ้ากันนะ   “มันเป็นมากยิ่งกว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสิ่งก่อสร้างแห่งนี้จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของทะเล เพราะว่าที่นี่จะอยู่ลึกลงไป 5 เมตรเหนือจากผิวน้ำทะเลและภายในจะมีกระจกขนาดยักษ์ให้เราได้ชมใต้ท้องทะเลในเวลาที่ฤดูกาลเปลี่ยนผันหรือสภาพอากาศที่แปรปรวนว่าท้องทะเลเป็นอย่างไร” ตัวแทนจาก Snøhetta ได้กล่าวไว้ สำหรับทางบริษัท Snøhetta ก็มีแผนที่จะก่อสร้างภัตตาคารในปีหน้านี้และคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการให้คนทั่วไปได้มาลองสัมผัสบรรยากาศที่หาที่ไหนไม่ได้นี้ในปี 2019   เมื่อเข้ามาดูข้างในถึงกับต้องร้องว่า โอ้โห   หน้าตาอาหารในร้านอาหารแห่งนี้   เริ่มหิวกันรึยังเอ่ย   มองจากมุมสูงลงมานี่ถ้าไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยว่าเป็นภัตตาคาร   รูปร่างคล้ายๆ กล้องส่องทางไกลว่าไหม??   ใครอยากลองไปใช้บริการก็อดใจรอกันหน่อยละกันนะ ฮ่าา   ที่มา: boredpanda

  • เอากับเขาหน่อย!! หมอแต่งตัวเป็น Joker ในวันฮาโลวีนมาทำคลอดเด็กให้กับครอบครัวหนึ่ง

    เอากับเขาหน่อย!! หมอแต่งตัวเป็น Joker ในวันฮาโลวีนมาทำคลอดเด็กให้กับครอบครัวหนึ่ง

    ในช่วงเทศกาลฮาโลวีนไม่ว่าใครๆ ต่างก็พากันแต่งชุดเป็นตัวละครต่างๆ อย่างผี ปิศาจ ซุปเปอร์ฮีโร่ต่างๆ ซึ่งก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเหมือนกับหมอคนนี้ที่แต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์จากเรื่องแบทแมน แต่ที่แปลกคือพี่แกแต่งชุดแบบนี้มาทำคลอดซะงั้น!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ Justin กับ Brittany Selph ได้ไปที่โรงพยาบาล Henry County ในรัฐเทนเนสซีเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันสำคัญของทั้งคู่เพราะว่าเป็นวันที่ลูกของทั้งคู่ถึงกำหนดคลอดซึ่งตรงกับวันฮาโลวีนพอดี   หน้าตาของคู่รักที่มาทำคลอดในวันฮาโลวีน   เมื่อทั้งคู่มาถึงโรงพยาบาลก็ถึงกับตะลึงเพราะว่ามีหมอที่จะทำคลอดให้ลูกของเขาที่ชื่อว่า Paul Locus ได้แต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์คู่ปรับตัวฉกาจของแบทแมน “ตอนที่เรามาถึงโรงพยาบาลเขาได้แต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์และเขาก็ได้ออกไปตอนบ่ายๆ ขณะที่เมียผมอยู่ในส่วนรับรองเพื่อที่จะออกไปแจกลูกอมแก่เด็กๆ” Justin พ่อของเด็กที่จะเกิดได้กล่าวไว้   แต่งซะเหมือนเลยนะคุณหมอ…   ถึงจะดูเป็นเรื่องที่ชวนประหลาดใจสักหน่อย แต่ทาง Justin กับ Brittany ก็ไม่ได้รู้สึกติดใจใดๆ เพราะพวกเขารู้จักกับคุณหมอ Locus เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และคุณหมอเองก็ดูแลการทำคลอดและการตั้งครรภ์ของเธอเป็นอย่างดีด้วย สาเหตุที่คุณหมอรายนี้ลงทุนแต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์ก็เพราะว่าเขาเตรียมที่จะออกไปแจกจ่ายลูกอมให้กับเด็กๆ ในตอนบ่าย แต่ก็ตั้งใจแล้วว่าจะกลับไปเปลี่ยนชุดเพื่อกลับมาทำคลอดด้วย แต่ Brittany ได้บอกหมอคนนี้ว่าพวกเขาอยากจะให้คุณหมอแต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์ในตอนทำคลอดซะอย่างงั้น   จัดว่าเท่สุดในโรงพยาบาลละกัน   หมอคนนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด   เด็กที่เกิดมาคงดีใจน่าดูที่มีโจ๊กเกอร์มาทำคลอดให้   ดูหน้าหมอไม่เครียดเลยนะแล้วยังถามคุณพ่ออีกด้วยว่าจะตัดสายสะดือเองไหม   Don’t be serious…   ในที่สุดครอบครัว Selph…

  • บันไดต้องสาป!! หญิงสาวนั่งถ่ายคลิป มีคนสะดุดบันไดขั้นเดิมติดๆ กันมากกว่า 15 ครั้ง

    บันไดต้องสาป!! หญิงสาวนั่งถ่ายคลิป มีคนสะดุดบันไดขั้นเดิมติดๆ กันมากกว่า 15 ครั้ง

    ปกติการเดินขึ้นบันไดต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะหากพลาดพลั้งขึ้นมา อาจจะได้เจ็บเนื้อเจ็บตัวกัน แต่เหตุการณ์ต่อไปนี้ก็เป็นเรื่องราวอันน่าประหลาดที่เกิดขึ้นในสนามแข่งอเมริกันฟุตบอล Ohio Stadium หลังจากที่มีผู้เข้าได้เดินสะดุดบันไดขั้นเดียวกันติดต่อกันมากถึง 15 คน!! อืม… หรือว่าที่นี่อาจจะมีมวลสารหรือพลังงานอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ก็เป็นได้     คุณ Abby Grau หญิงสาวเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวได้บันทึกภาพของเหล่าผู้เช้าชมที่ต่างพากันเดินสะดุดบันไดขั้นเดียวกันในระหว่างการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลที่ผ่านมา โดยหญิงสาวคนดังกล่าวเผยว่าเธอไม่เคยเห็นผู้คนที่เดินสะดุดขั้นบันไดแบบติดๆ กันแบบนี้มาก่อน และเธอยังได้กล่าวอีกว่าจริงๆ แล้วมีคนที่สะดุดขันบันไดดังกล่าวมากกว่าที่เธอถ่ายไว้เสียอีก   และนี่คือคลิปวิดีโอที่ว่านั้น   อย่างไรก็ตามการเดินสะดุดขั้นบันไดแบบในคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผยคลิปวิดีโอที่ผู้คนต่างพากันสะดุดบันไดขั้นเดียวกันระหว่างทางขึ้นลงในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของเมืองนิวยอร์ก และอันที่จริงไม่เพียงแต่ต่างประเทศเท่านั้นในบ้านเราเองหรือตามสถานที่ต่างๆ นั้นก็อาจจะเกิดเหตุการณ์คล้ายกับในคลิปวิดีโอดังกล่าวได้เช่นกัน ซึ่งหลังจากที่คลิปวิดีโอของคุณ Abby Grau ได้ถูกเผยแพร่ออกไปชาวเน็ตหลายๆ คนก็ได้คาดกันว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดจากระยะห่างของขั้นบันไดที่ไม่เท่ากันนั่นเอง     แต่ก็ยังมีชาวเน็ตบางคนที่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับบันไดขั้นดังกล่าวที่แตกต่างกันออกไป และนี่ก็คือความเห็นจากชาวเน็ตบางส่วนเกี่ยวกับบันไดอาถรรภ์นี้   “นี่ฉันเสียเวลาไป 42 วินาทีเพื่ออะไรเนี่ย??”   “ฉันว่าเธอน่าจะมีความสุขที่ได้เห็นผู้คนสะดุดบันไดมากกว่านะ”   “บางทีอาจจะต้องแจ้งเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่ของสนามทราบและรีบแก้ไขจะดีกว่านะ”   “ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้เลยจริงๆ “   “บางที่ผมคิดว่าน่าจะเตือนพวกเขาดีกว่ามานั่งอัดวีดีโอนะ“   “มันก็แค่การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานเท่านั้นเอง ไม่ใช่วิญญาณร้ายซะหน่อย”   เอ๊า.. เจอเป้าหมายใหม่แล้ว รีบเก็บกระเป๋าแล้วจองตั๋วเครื่องบินกันให้เร็วๆ เลย ไม่แน่นะ…

  • แรดท้องแก่ถูกยิงตายเพื่อจะเอานอ ทำให้ลูกที่อยู่ในท้องไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก

    แรดท้องแก่ถูกยิงตายเพื่อจะเอานอ ทำให้ลูกที่อยู่ในท้องไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก

    การตั้งท้องเหมือนจะเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก เพราะโลกเรากำลังจะมีอีกชีวิตหนึ่งได้ลืมตาออกมา แต่ก็มีบางชีวิตที่อุตส่าห์จะได้เกิดมาอยู่แล้วกลับถูกสังหารพร้อมกับแม่ก่อน อย่างเช่นเรื่องราวของแรดตัวนี้ เหตุการณ์น่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติ Pilanesberg ในเมือง Mogwase ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อมีแรดสองตัวแม่ลูกกำลังเดินอยู่ดีๆ กลับถูกพวกลับลอบล่าสัตว์สังหารด้วยอาวุธปืน     หลังจากที่พวกลับลอบล่าสัตว์ได้ฆ่าเจ้าแรดสองตัวนี้ไปแล้ว ก็ได้พยายามที่จะตัดนอเพื่อที่จะนำไปขายแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานเข้ามาพบเข้าจึงได้หนีไปก่อนที่จะได้นอแรดไป เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ไล่พวกโจรออกไปหมดแล้วก็ได้พยายามที่จะช่วยชีวิตแรดทั้งสอง แต่ก็ไม่ทันการ ที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือ แรดตัวแม่กำลังตั้งท้องลูกน้อยอีกตัว และมันก็ได้เสียชีวิตไปพร้อมแม่ โดยที่ยังไม่ทันได้ลืมตามาดูโลก     โดยทางอุทยานแห่งนี้ได้เขียนลงในเพจเฟซบุ๊กของทางอุทยานไว้ว่า “แรดที่กำลังตั้งท้องและลูกแรดถูกยิงโดนพวกลักลอบฆ่าสัตว์ยิงจนตายเพื่อเอานอแรด ในตอนนี้ฆาตกรที่ฆ่าเจ้าแรดสองตัวนี้กำลังลอยนวลอยู่ เพราะพวกเขาหนีไปได้ก่อนที่เจ้าหน้าที่เราจะไปถึง พวกเราเสียใจจริงๆ “ นอกจากนี้ อุทยาน Pilanesberg ยังได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับใครก็ตามที่มีเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมได้ อีกทั้งโฆษกของอุทยานยังออกมาบอกอีกด้วยว่าแรดตัวแม่ที่กำลังตั้งท้องนั้นมีอายุเพียงแค่ 8 ปีและลูกของมันที่เดินมาด้วยกันก็พึ่งมีอายุได้ 2 ปีเท่านั้น ซึ่งกำหนดคลอดของเจ้าแรดน้อยที่อยู่ในท้องของแม่แรดตัวนี้ก็คือเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ที่จะมาถึงนี้เอง     “ในปี 2017 นี้เราเสียแรดไปถึง 16 ตัวและแรดที่ยังอยู่ในครรภ์อีก 3 ตัว การสูญเสียนี้ไม่ได้มาจากการไม่สนใจของเจ้าหน้าที่ แต่เป็นเพราะว่าอุทยานแห่งนี้มีความกว้างใหญ่มีภูเขาเล็กใหญ่มากมาย นั่นจึงง่ายต่อพวกลักลอบทั้งหลายที่จะเข้ามาล่าสัตว์” โฆษกของอุทยานได้บอกไว้ ตั้งแต่ปี 2007 มีแรดมากกว่า 6,000…

  • เห็นแล้วใจสั่น… ขวดน้ำยาล้างจานญี่ปุ่นเปิดดีไซน์ใหม่ ดูเผินๆ นึกว่าแหนมตุ้มจิ๋ว…..

    เห็นแล้วใจสั่น… ขวดน้ำยาล้างจานญี่ปุ่นเปิดดีไซน์ใหม่ ดูเผินๆ นึกว่าแหนมตุ้มจิ๋ว…..

    น้ำยาล้างจานเป็นสิ่งที่ทุกครัวเรือนต้องมีติดเอาไว้ คุณสมบัติมันก็ตามชื่อนั่นแหละ ซึ่งโดยปกติแล้วขวดน้ำยาล้างจานที่เราเห็นโดยทั่วๆ ไปก็จะเป็นขวดสูงๆ ผอมๆ แต่มีน้ำยาล้างจานยี่ห้อหนึ่งในญี่ปุ่นที่ขวดของมันมีรูปร่างเหมือนแหนมตุ้มจิ๋วซะงั้น โดยปกติแล้วขวดน้ำยาล้างจานจะมาในรูปทรงกระบอกสูงๆ เพื่อที่จะได้ประหยัดพื้นที่ในอ้างล้างจานแล้วก็มีรูอยู่ตรงกลางเพื่อป้องกันการหยดเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งแนวคิดนี้น้ำยาล้างจานยี่ห้อ Awa no Chikara Tehada Premium จากบริษัท Lion ในประเทศญี่ปุ่นก็ได้นำมาประยุกต์ใช้เหมือนกัน แต่ทำไมดีไซน์มันออกมาเป็นแบบนี้ล่ะเนี่ย!?     ซึ่งน้ำยาล้างจานดังกล่าวก็ได้กลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตญี่ปุ่นเฮฮากันยกใหญ่เมื่อมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ผู้หนึ่งที่ใช้ชื่อว่า @asuuuuuna ได้นำถ่ายรูปน้ำยาล้างจานยี่ห้อนี้พร้อมกับแคปชั่นสุดฮาว่า “ไม่รู้ว่ารูปทรงแบบนี้ได้ผ่านการอนุมัติมาได้ไงเนี่ย”     จากนั้นก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างเมามัน… “ฉันเดาว่าทุกคนที่ทำงานที่บริษัท Lion คงอับอายขายขี้หน้าที่จะพูดถึงและอธิบายการดีไซน์ที่ผิดปกติแบบนี้ระหว่างการประชุมแน่เลย” “มันช่างเป็นขวดน้ำยาล้างจานที่สวยสดงดงามมากๆ ทั้งการใช่สีชมพูและทรวดทรงที่มีเสน่ห์ของมัน นี่แหละคือสิ่งที่พวกเรากำลังมองหาอยู่ ใช่ไหม?” “จริงๆ แล้วหากเราลองพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าจุดประสงค์ที่เขาดีไซน์แบบนี้ออกมาเพราะว่าอยากให้เราล้างไม้ล้างมือก่อนช่วยตัวเองต่างหาก”     เราก็ไม่รู้ว่านี่เป็นแผนการตลาดที่จะโปรโมทสินค้าให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจากดีไซน์นี้รึเปล่า แต่บางทีมันก็คงรู้สึกแปลกๆ ใช่ไหมล่ะที่ทุกครั้งเวลาเราล้างจานกลับเหมือนเราจับเจ้าแหนมตุ้มจิ๋วสีชมพูแบบนี้อยู่น่ะ ฮ่าา   ที่มา: en.rocketnews24

  • จดหมายสุดซึ้งจากแม่ถึงลูกสาว สั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจากไปด้วยโรคมะเร็ง…

    จดหมายสุดซึ้งจากแม่ถึงลูกสาว สั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจากไปด้วยโรคมะเร็ง…

    ความสูญเสียเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะพบเจอแต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นธรรมชาติของโลกใบนี้ที่จะต้องมีการจากลาเสมอ แน่นอนว่าการจากลาย่อมเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ในความเศร้านั้น ก็ยังมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ เรื่องราวสุดซึ้งนี้ได้รับการเปิดเผยในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาจาก Hannah Summers หญิงสาวในรัฐ Indiana ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอได้บอกว่าแม่ของเธอ Peggy ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งที่ไตขั้นที่ 4 เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา   นี่คือรูปถ่ายของเธอกับแม่ในช่วงที่ป่วย   Hannah ได้บอกว่าแม่ของเธอเป็นเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกและดูเหมือนว่าแม่ของเธอรู้ว่าตัวเองจะต้องเสียชีวิตเธอจึงทิ้งจดหมายไว้ให้ลูกๆ ของเธอ โดยในจดหมายที่ Peggy ทิ้งไว้ให้นั้นเต็มไปด้วยข้อความที่แสดงถึงความรักที่มากล้นที่เธอมีต่อ Hannah รวมถึงคำแนะนำในการใช้ชีวิตต่างๆ   จดหมายฉบับสุดท้ายจากแม่ถึงลูกสาว   “ถึง Hannah ลูกรัก ถ้าลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้แสดงว่าการผ่าตัดเป็นไปไม่ดีนัก แม่ต้องขอโทษลูกด้วย แม่ได้พยายามจะทำให้ดีที่สุดแล้วที่จะเอาชนะโรคร้ายนี้ แต่แม่เดาว่าพระเจ้าคงต้องมีสิ่งอื่นที่อยากจะให้แม่ทำมากกว่า จงตั้งสติให้ดี สิ่งร้ายๆ มักเกิดขึ้นในชีวิตซึ่งเราต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับมันไม่ว่ามันจะทำให้เราเจ็บปวดสักเท่าไหร่” “แม่อยากให้ลูกมีความสุขและใช้สิ่งที่พระเจ้าได้ให้ไว้กับลูก ในอนาคตลูกจะต้องเป็นพยาบาลที่แสนวิเศษเหมือนกับที่ลูกเป็นลูกที่แสนวิเศษสำหรับแม่ พยายามตั้งใจเรียนเข้าไว้และไม่ต้องกังวลเรื่องงานมากนัก” “จงใช้ความอดทนกับพ่อของลูกเพราะนี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยากสำหรับเขาและเขาอาจต้องการเวลาที่เยียวยาสักหน่อย ลูกและพ่อของลูกต้องต้องหัดพึ่งพาคนอื่นบ้างรวมถึงพูดคุยกันให้เยอะขึ้น ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทั้งสองคนถนัดนักแต่จงพยายายามและอย่ายอมแพ้ จำเอาไว้ว่าลูกมีผู้คนมากมายที่รักลูกอยู่ฉะนั้นลูกควรไปพูดคุยกับพวกเขาให้บ่อยขึ้น”     “ใช้สัญชาตญาณของลูกในการทำสิ่งต่างๆ เช่นอย่าไปไหนคนเดียวและอย่าลืมที่จะเอาชุดปฐมพยาบาลไว้ในรถของลูกในช่วงฤดูหนาว พยายามห่างจากปาร์ตี้เข้าไว้ เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเรื่องดี พวกหนุ่มๆ ก็เหมือนกัน พวกเขาอาจไม่ได้เลวร้ายทั้งหมด…

  • บรรยากาศภายในรัฐสภารัสเซีย กับหลากหลายวิธีการผ่อนคลายเพื่อลดความตึงเครียด

    บรรยากาศภายในรัฐสภารัสเซีย กับหลากหลายวิธีการผ่อนคลายเพื่อลดความตึงเครียด

    รัฐสภาคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและแรงกดดัน เพราะเหล่านักการเมืองที่เข้าประชุมต้องพบกับการตัดสินใจระดับชาติ ที่อาจทำลายหรือพัฒนาประเทศของตัวเองได้ในพริบตา แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถจมอยู่กับความเครียดได้ตลอด จึงต้องมีการผ่อนคลายกันบ้าง หลายคนอาจคิดภาพกันไม่ออกว่าพวกเขาจะผ่อนคลายกันอย่างไร? วันนี้ #เหมียวตะปู จึงมาชวนให้เพื่อนๆ ทุกคนไปดูวิธีการผ่อนคลายอารมณ์ในช่วงพักการประชุมภายในรัฐสภาของรัสเซีย ลองไปดูกันว่าในตอนนั้นพวกเขาทำอะไรกันบ้าง?   แชะซักภาพ โพสต์ลงกลุ่มซะหน่อย   ฮั่นแน่ กระซิบกระซาบอะไรกันอยู่หรอ?! .   มองงง เธอสาวเธอสวยฉันจึงได้มองงง . .   อายุเยอะแล้ว นั่งนานๆ ก็ต้องนวดกันซักหน่อย   กอดกันกลมอย่างนี้ จะชวนกันเต้นรำหรือเปล่าเอ่ย?   การนอนหลับคือการผ่อนคลายทั้งกายและใจ   หม่าล่าร้านนี้ใช้ได้เลยนะ เล่นเอาซะลิ้นชาไปหหมดเลยเนี่ย . .   ไม่ทราบว่าเมื่อเช้านี้กินข้าวคลุกกะปิมาใช่มั้ย? .   พอดีเห็นว่ามีอะไรก็ไม่รู้ติดอยู่เลยจะเอาออกให้   เข้าฮอสแล้ว คราวนี้แหละชนะใสๆ   ทักทายกันซักเล็กน้อยพอเป็นพิธี   สงสัยจะอภิปรายกกันเยอะไปหน่อย ปากแห้งต้องเติมปากนิดนึง . .   แปปนะครับ เมื่อคืนหนักไปหน่อย ขอล้วงคอซักนิด…

  • เรื่องราวของพี่น้องฝาแฝดที่ ‘กอดกันในครรภ์’ จนรอดจากความตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์

    เรื่องราวของพี่น้องฝาแฝดที่ ‘กอดกันในครรภ์’ จนรอดจากความตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์

    หลายๆ คนอาจไม่เชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ แต่หากได้ฟังเรื่องราวของฝาแฝดคู่นี้อาจทำให้คุณเปลี่ยนความคิดใหม่เลยก็ได้ เพราะพวกเขาสามารถช่วยเหลือกันจนรอดชีวิตมาได้แม้จะยังอยู่ในท้องแม่ก็ตาม เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี 2015 เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งในประเทศอังกฤษชื่อว่า Vicky Plowright วัย 30 ปี ได้ตั้งครรภ์ลูกแฝดในถุงน้ำคร่ำเดียวกันหรือที่เรียกว่า Monoamniotic-Monochorionic (หรือฝาแฝดแบบ Mo-Mo) ซึ่งเป็นประเภทของฝาแฝดที่หาได้ยากมาก มีโอกาสเกิดขึ้นเพียงแค่ 1 ใน 60,000 คู่   Reuben และ Theo ฝาแฝดผู้เกิดมาด้วยรูปแบบที่หายาก .   ที่สำคัญกว่านั้นคือด้วยความที่เด็กทั้งสองอยู่ในถุงน้ำคร่ำเดียวกัน แต่ทั้งคู่มีสายสะดือเป็นของตัวเองไว้สำหรับการเจริญเติบโตของใครของมัน พวกเขาจึงมีโอกาสมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ที่สายสะดือจะพันกันจนไม่สามารถรับออกซิเจนได้ และตายในครรภ์ของมารดา ความเสี่ยงที่มากขนาดนั้นทำให้คุณแม่ผู้ตั้งท้องอยู่และ Chris Cremer คู่หมั้นของเธอรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก กลัวว่าลูกๆ อาจไม่มีโอกาสได้ออกมาลืมตาดูโลก     เธอบอกว่า “ตอนแรกที่ฉันรู้ว่าได้ลูกแฝด ฉันก็กลัวว่าจะไม่สามารถดูแลพวกเขาทั้งสองได้ดี เพราะลำพังแค่ Jocelyn ลูกสาววัย 4 ขวบที่มีอยู่เพียงคนเดียว ก็ค่อนข้างจะรับมือยากแล้ว” คุณแม่อธิบายต่อว่า “แต่พอผลตรวจออกมา คุณหมอได้อธิบายทุกอย่างให้ฟัง ฉันรู้สึกตกใจและกังวลอย่างมาก…

  • คุณตาป่วยเป็นโรคประหลาดได้ยิน “เพลงชาติอังกฤษ” เล่นวนอยู่ในหัวตลอดเวลา

    คุณตาป่วยเป็นโรคประหลาดได้ยิน “เพลงชาติอังกฤษ” เล่นวนอยู่ในหัวตลอดเวลา

    เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Ron Goldspink คุณตาชาวอังกฤษวัย 87 ปี ป่วยเป็นโรคประหลาดมักจะได้ยินเสียงเพลงชาติสหราชอาณาจักร “God Save the Queen” เล่นวนไปมาอยู่ในหัวมากถึง 1,700 ครั้งต่อสัปดาห์ จากการรายงานระบุว่า Ron ต้องทนทุกข์ทรมานจากการป่วยเป็นโรคหายากที่ชื่อว่า Musical Ear Syndrome (MES) โดยมีผลกระทบต่อการสูญเสียความสามารถในการได้ยิน และในบางครั้งก็อาจจะทำให้เกิดภาพหลอน     อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครที่สามารถอธิบายถึงสาเหตุและกลไกของการเกิด MES ได้อย่างแน่ชัด แต่ทางนักวิจัยเชื่อว่า มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อหูขาดการกระตุ้น และถูกกีดกันทางประสาทสัมผัสทำให้สมองจะเริ่มผลิตเสียงแปลกๆ ออกมา โดยอาการดังกล่าวมักจะเป็นเรื่องปกติในผู้ที่มีภาวะสูญเสียการได้ยิน นอกจากนี้ยังเชื่อว่าจะมีโอกาสพบ MES ได้ประมาณ 1 ใน 10,000 คนในสหราชอาณาจักร และจะเกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี     ด้าน Ron ได้ออกมาเผยว่า เขาได้เริ่มมีอาการดังกล่าวตั้งแต่ 3-4…

  • เมื่อตระกูล Kardashian ลงทุนยกทีมงานไปถ่าย “ใบขับขี่” เอง อะไรจะขนาดน้านนนน!!

    เมื่อตระกูล Kardashian ลงทุนยกทีมงานไปถ่าย “ใบขับขี่” เอง อะไรจะขนาดน้านนนน!!

    เชื่อว่าการถ่ายรูปติดบัตรเช่น บัตรประชาชน หรือใบขับขี่ของสาวๆ หลายๆ คน มักจะออกมาสวยน้อยกว่าตัวจริง ซึ่งมันก็ทำให้เรารู้สึกเฟลเล็กน้อยจะถ่ายใหม่ก็ไม่ได้ แถมยังอยู่ติดกับเราไปอีกนานหลายปีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าถ้าหากมีสตูดิโอส่วนตัวแล้วยกทีมงานไปถ่ายเอง รูปที่ได้มันคงจะเป๊ะปังมากแน่นอน ทว่านั่นเป็นเพียงแค่ความคิดลมๆ แล้งๆ ที่ไม่มีใครสามารถทำได้หรอก แต่…ถ้าเป็นเซเลบตระกูล Kardashian ก็ไม่แน่นะแกรรร เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ในตอนล่าสุดของรายการทีวีเรียลลิตี้ชื่อดังของอเมริกาอย่าง Keeping Up with the Kardashians ได้เผยช่วงเวลาขณะที่สาว Khloe Kardashian กำลังทำการถ่ายรูปใบขับขี่…     หลายคนอาจจะคิดว่าแค่ถ่ายรูปใบขี่เอง ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลย แต่แหมมมม…รู้ๆ กันอยู่ว่าตระกูลนี้เขาไม่ธรรมดา เพราะเมื่อ Khloe อยากจะได้ภาพใบขับขี่ให้ออกมาสวยสมบูรณ์แบบ งานนี้เธอเลยตัดสินใจยกช่างภาพส่วนตัว พร้อมช่างแต่งหน้า เพื่อเดินทางไปถ่ายภาพใบขับขี่ที่กรมการขนส่งทางบกรัฐแคลิฟอร์เนีย (DMV) โดยเฉพาะ     นี่คือการถ่ายรูปติดใบขับขี่ที่แท้ทรูของตระกูล Kardashian และดูเหมือนว่าเธอจะพอใจกับภาพที่ได้มากๆ เลยล่ะ   สำหรับคนธรรมดาๆ อย่างเราอาจจะไม่ถึงขั้นมีทีมงานส่วนตัวไปถ่ายรูปให้ แต่จริงๆ แล้วคุณก็สามารถเอาชนะปัญหาเหล่านี้ได้แบบง่ายๆ ด้วยการแต่งตัวแต่งหน้าให้ดูดี เท่านี้ก็สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่งแล้วจ้า ที่มา…

  • ญี่ปุ่นประสบปัญหาใหญ่ คนรุ่นใหม่ยังไม่เคยผ่านการมีเซ็กส์ แม้จะเข้าสู่วัย 30 ปีแล้วก็ตาม…

    ญี่ปุ่นประสบปัญหาใหญ่ คนรุ่นใหม่ยังไม่เคยผ่านการมีเซ็กส์ แม้จะเข้าสู่วัย 30 ปีแล้วก็ตาม…

    ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นในสายตาพวกเราชาวไทยนั้นจะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเพศไม่ว่าจะเป็นหนัง AV หรือของฝากที่เพื่อนๆ มักจะซื้อมาฝากเราอย่างจิ๋มกระป๋องหรือดิลโด้ และถึงแม้อุตสาหกรรมแบบนี้จะเติบโตอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น แต่แท้จริงแล้วพวกเขากำลังเผชิญปัญหากับจำนวนประชากรที่ลดลงเนื่องผู้คนส่วนใหญ่นั้นการละเลยเรื่องเพศ และจากผลสำรวจนั้นกลับพบว่า 31 เปอร์เซ็นต์ของผู้คนที่อายุน้อยกว่า 35 ปีในประเทศนี้ยังคงบริสุทธิ์อยู่!!     และเมื่อนักข่าวได้สัมภาษณ์หญิงชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับสถิติดังกล่าว พวกเธอแสดงความเห็นว่า หนุ่มๆ ญี่ปุ่นมักกลัวที่จะขอชวนสาวๆ ไปออกเดท อาจเพราะกลัวการถูกปฏิเสธ ดังนั้นพวกเขาจึงหันเข้าหาสื่อลามก เพราะไม่ต้องกลัวที่จะผิดหวังนั่นเอง จากการรายงานของกระทรวงสาธารณะสุขกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมานั้นประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดลดลงมากถึง 1 ล้านคนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และนอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าจำนวนประชากรของญี่ปุ่นนั้นจะลดลงกว่า 40 ล้านคนภายในปี 2065     ปัญหาดังกล่าวถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ นักแสดงตลก Ano Matsui หนุ่มวัย 26 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่าเขามักจะถูกผู้หญิงปฏิเสธเวลาที่ชวนพวกเธอออกไปข้างนอก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะดูการ์ตูนอนิเมะดีกว่าที่จะออกไปเดทกับสาวๆ เพราะกลัวความผิดหวัง ส่วนคุณ Megumi Igarashi ศิลปินวัย 45 ปีเองก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การสร้างความสัมพันธ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันคิดว่าพวกผู้ชายส่วนมากนั้นไม่ค่อยใส่ใจ พวกเขาสามารถมีความพึงพอใจทางเพศได้จากการดูเว็บโป๊อยู่ที่บ้าน”     การลดลงของจำนวนประชากรนั้นยังส่งผลกระทบถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรวมถึงตลาดแรงงานและอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย และนอกจากประเทศญี่ปุ่นแล้วในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา เดนมาร์กและสิงคโปรเองก็กำลังประสบปัญหาเดียวกันนี้ด้วย และจากผลสำรวจของสถาบันวิจัยประชากรและสังคมแห่งชาติยังพบว่า…

  • หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เหลือเวลาใช้ชีวิตอีกแค่ 18 เดือน ลั่นระฆังวิวาห์กับชายผู้เป็นที่รัก

    หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เหลือเวลาใช้ชีวิตอีกแค่ 18 เดือน ลั่นระฆังวิวาห์กับชายผู้เป็นที่รัก

    การแต่งงานเป็นความฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะกับสาวๆ เพราะมันคือวันสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวรักและพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป ซึ่งงานแต่งงานคือความปรารถนาอย่างหนึ่งของเธอคนนี้ แม้ว่าตนเองกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไม่เกิน 18 เดือนเท่านั้นก็ตาม หญิงสาวช่างเสริมสวยคนนี้มีชื่อว่า Martine Kilminister เธอป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะที่ 4 ทำให้สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เพียง 6 – 18 เดือนเท่านั้น   Martine ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกสันหลังระยะที่ 4   สาววัย 28 ปีผู้อาศัยอยู่ในเมืองแบรดฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เธอบอกว่าเริ่มรู้สึกมีอาการเจ็บหลังตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2017 ที่ผ่านมาจึงเข้าปรึกษาแพทย์ ตอนนั้นหมอบอกว่าเธออายุยังน้อย ไม่ต้องกังวลอะไร ตัวเธอเองคิดว่าเธออาจมีความผิดปกติที่ระบบประสาท ผ่านไปไม่นานเธอก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวจึงกลับไปหาหมออีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม และเธอได้ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกสันหลังระยะที่ 4   ภาพของเธอก่อนที่จะเป็นอัมพาต จนทำให้ไม่สามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง   บริเวณไขสันหลังของเธอมีก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่กดทับเอาไว้ นั่นจึงทำให้หลังการถูกวินิจฉัยเพียง 4 สัปดาห์ ร่างกายของเธอตั้งแต่เอวลงไปกลายเป็นอัมพาต และไม่สามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นคือหมอบอกว่าเธอสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เพียงแค่ 6 – 18 เดือน ข่าวร้ายที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนนี้ทำให้เธอและแฟนหนุ่ม Christopher รู้สึกช็อคและเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งสองจึงตัดสินใจที่จะจัดงานแต่งงานขึ้นมาในทันที เพราะแม้ว่าเขาและเธอจะอยู่ด้วยกันมานานถึง…

  • หนุ่มน้อยเลือกแต่งคอสเพลย์เป็น “พ่อ” ของตัวเอง เพราะคิดว่าพ่อนี่แหละ คือซูเปอร์ฮีโร่ตัวจริง!!

    หนุ่มน้อยเลือกแต่งคอสเพลย์เป็น “พ่อ” ของตัวเอง เพราะคิดว่าพ่อนี่แหละ คือซูเปอร์ฮีโร่ตัวจริง!!

    เมื่อถึงวันฮาโลวีน เด็กๆ ส่วนใหญ่ที่มองหาคอสตูมสวยๆ อย่างซูเปอร์ฮีโร่ในดวงใจเช่นแบทแมน ซูเปอร์แมน สไปเดอร์แมนเป็นต้น แต่สำหรับหนูน้อยคนนี้เขากลับเลือกอะไรที่แตกต่างออกไป BScribbs ชาวเน็ตคนหนึ่งได้เล่าถึงเรื่องราวของเขาและลูกในช่วงฮาโลวีน โดยเขาบอกว่าช่วงก่อนฮาโลวีนเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับงาน พอต้องพาลูกไปซื้อชุดฮาโลวีนมันก็เป็นช่วงเวลาที่ยากมากๆ ที่จะหาชุดที่ถูกใจให้ลูก ด้วยเหตุนี้คุณพ่อก็เลยบอกกับลูกชายว่า “งั้นเอางี้ ลูกเลือกซูเปอร์ฮีโร่มาสักตัวหนึ่ง เดี๋ยวพ่อจะทำชุดให้ก็แล้วกัน” ปกติเราอาจจะคาดหวังให้เด็กชายเลือกฮีโร่มาสักตัวจริงๆ แต่คำตอบของหนูน้อยกลับทำให้ผู้เป็นพ่อถึงกับหลั่งน้ำตาทันที     นั่นก็เพราะว่าลูกชายของเขาได้ให้คำตอบว่า “พ่อ!!” ผู้เป็นพ่อรู้ได้ทันทีว่าลูกชายต้องการจะแต่งเป็นเขา เพราะพ่อเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของเขา เพราะพ่อของเขาทำงานหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวตลอดเวลา แม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้เป็นทนายหรือหมอ แต่เขาก็เปิดร้านอาหารและทำงานในครัวตลอด ทุกครั้งที่กลับมาก็จะมีท่าทางเหนื่อยตลอดเวลา แต่ก็ไม่บ่นเลย ฉะนั้นลูกของเขาจึงภูมิใจในตัวพ่อและชื่นชมมากๆ ส่วนผู้เป็นพ่อก็ภูมิใจในตัวลูกที่มองเขาเป็นฮีโร่เช่นกัน     น่ารักไหมล่ะ   สุดท้าย BScribbs ได้เล่าปิดท้ายว่า ในวันฮาโลวีนตอนที่ลูกไปเคาะประตูบ้านคนอื่นแล้วขอลูกอมพร้อมบอกว่าเขาแต่งเป็นพ่อของเขา วินาทีนั้นแม้แต่ครอบครัวอื่นๆ ก็ยังบอกกับเขาว่าพวกเขาภูมิใจในตัวเด็กคนนี้มากๆ นั่นเอง     ที่มา boredpanda

  • หนุ่มเวียดนามใช้เวลากว่า 150 วัน แว้นมอไซค์ไปฝรั่งเศส เพื่อประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม!!

    หนุ่มเวียดนามใช้เวลากว่า 150 วัน แว้นมอไซค์ไปฝรั่งเศส เพื่อประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม!!

    หลายคนมีความฝันอยากเดินทางไปต่างประเทศ อยากเที่ยวรอบโลก แต่ส่วนใหญ่อาจติดปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบินที่มีราคาแพง ซึ่งเหตุผลนั้นไม่สามารถใช้ได้กับชายคนนี้ เพราะเขาสามารถเดินทางข้ามทวีปได้ด้วยมอเตอร์ไซค์เก่าๆ เพียงคันเดียว!! นี่คือเรื่องราวการเดินทางของหนุ่มเวียดนามอายุ 30 ปี มีชื่อว่า Tran Dang Dang Khoa ผู้ที่ใช้เวลากว่า 150 วันในการเดินทางจากประเทศเวียดนาม ไปยังกรุงปารีส ด้วยมอเตอร์ไซค์สุดคลาสสิคของตัวเอง   Khao หนุ่มเวียดนามผู้มีความฝันอยากขี่มอเตอร์ไซค์ไปรอบโลก   โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา   ชายหนุ่มคนนี้ได้โพสต์ภาพความประทับใจจากการเดินทางของเขาในวันที่ 28 ตุลาคม 2017 เพื่อบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าความฝันในการเดินทางรอบโลกของเขาสำเร็จมาครึ่งนึงแล้ว การเดินทางนี้เริ่มต้นในเดือนมิถุนายน เขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปยังกรุงปารีส ด้วยระยะทางกว่า 20,000 กิโลเมตร ต้องเติมน้ำมันไปมากกว่า 500 ลิตร น้ำมันเครื่องอีก 25 ขวด และต้องเปลี่ยนยางหน้าหลังไปอย่างละชุด   .   เขาขี่ผ่านประเทศต่างๆ ไปมากถึง 23 ประเทศ เริ่มจากประเทศเวียดนามบ้านเกิด ต่อไปยังกัมพูชา ไทย เนปาล อินเดีย ปากีสถาน…

  • คลิปสาธิตการผลิตอาหารปลอมจากญี่ปุ่น ที่เอาไว้โชว์ตามตู้หน้าร้านอาหารต่างๆ

    คลิปสาธิตการผลิตอาหารปลอมจากญี่ปุ่น ที่เอาไว้โชว์ตามตู้หน้าร้านอาหารต่างๆ

    ตามร้านอาหารเรามักเห็นมีการนำผัก ผลไม้ หรืออาหารปลอมมาตั้งโชว์แทนของจริง เพราะมันอยู่ได้นานโดยไม่เหี่ยวหรือเสีย หลายๆ คนอาจสงสัยว่าอาหารปลอมเหล่านั้นมันทำยังไงกันนะ ทำไมถึงเนียนและเหมือนของจริงเป๊ะเลย วันนี้เราจะพาไปดูเบื้องหลังการทำอาหารปลอมภายในเวลาไม่กี่นาที     นี่เป็นการสาธิตการอาหารปลอมในญี่ปุ่น ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นบางคนยังต้องแปลกใจ เพราะมันเป็นการเปลี่ยนของเหลวให้กลายเป็นอาหารรูปร่างต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง     คลิปการทำอาหารปลอมที่ถ่ายใน Gujo Town จังหวัดกิฟุ ของญี่ปุ่น   คลิปข้างต้นนี้ถ่ายใน Gujo Town ในจังหวัดกิฟุ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดอุตสาหกรรมการทำอาหารพลาสติกของญี่ปุ่น โดยเป็นการทำอาหารปลอมจากขี้ผึ้งแล้วเทลงในน้ำอุ่น หากต้องการให้อาหารออกมาเป็นสีแบบไหน ก็เทสีนั้นลงไป อย่างในคลิปนี้เป็นการทำกะหล่ำ คนทำก็จะเทขี้ผึ้งสีขาวกับสีเขียวลงไป     แน่นอนว่ากะหล่ำไม่ได้มีผิวเรียบ ดังนั้นคนทำจึงค่อยๆ ใช้มือขยับแผ่นขี้ผึ้งเบาๆ เพื่อให้มีผิวหยาบและบางลง เสร็จแล้วก็ทำการม้วนแผ่นขี้ผึ้งนั้นให้เป็นก้อนกลมๆ คล้ายกับรูปทรงกะหล่ำ   . .   หลังจากที่ทำเป็นก้อนกลมๆ แล้ว ก็นำไปแช่ไว้ในน้ำเย็น เพื่อทำให้มันอยู่ทรงและเก็บรักษาไว้ได้นาน .   เมื่อผ่าครึ่ง มันก็ดูเหมือนกะหล่ำจริงๆ   นอกจากนี้เขายังสาธิตการทำกุ้งเทมปุระปลอมด้วย โดยทำจากขี้ผึ้งเหมือนกัน   เคล็ดลับอย่างหนึ่งของการทำอาหารปลอมคือ ต้องรักษาอุณภูมิของน้ำให้พอดีและคงที่…

  • เมืองลิเวอร์พูลสร้าง “ทางเท้าสำหรับคนเดินเร็ว” แห่งแรกในอังกฤษ เอ๊า!! เอ๋วิ่งดิเอ๋

    เมืองลิเวอร์พูลสร้าง “ทางเท้าสำหรับคนเดินเร็ว” แห่งแรกในอังกฤษ เอ๊า!! เอ๋วิ่งดิเอ๋

    สำหรับในเมืองใหญ่ๆ แล้ว ทางเท้านั้นอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับผู้คนอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่แล้วผู้คนในเมืองใหญ่ๆ เน้นใช้งานระบบขนส่งสาธารณะมากกว่ารถส่วนตัว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อขึ้นชื่อว่ามหานครแล้วสิ่งที่ตามมาพร้อมๆ กับความเจริญนั่นก็คือจำนวนของผู้คนที่มากขึ้นตามไปด้วย และแน่นอนว่าการจะเดินบนทางเท้าแบบชิวๆ เหมือนในงานแฟชั่นโชว์นั้นอาจจะทำให้คุณถูกคนด้านหลังลูบท้ายทอยเอาได้ง่ายๆ และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาการจราจรบนทางเท้าสำหรับบางคนที่ชอบเดินเร็วๆ ทางเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษเขาจึงได้สร้างทางเท้าสำหรับคนเดินเร็วเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งช่องทางเลยทีเดียว     ทางเดินเท้าสำหรับคนเดินเร็วแห่งแรกของประเทศอังกฤษที่เปิดใช่ในถนน St John Street เมืองลิเวอร์พูลนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาสำหรับผู้คนที่ชอบเดินเร็ว หลังจากที่มีผลสำรวจเผยว่าผู้คนกว่า 47 เปอร์เซ็นต์เกิดความรำคาญเมื่อต้องเดินตามคนที่เดินช้า บริษัท Argos ผู้ทำการสำรวจครั้งนี้ได้เผยว่าเหล่านักชอปส่วนมากนั้นเบื่อที่ต้องเดินตามผู้คนที่เอาเดินช้าและมัวแต่พูดคุยกันบนถนนเส้นดังกล่าวที่ตั้งอยู่กลางแหล่งชอปปิงในเมือง     นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดเผยอีกว่าทางเดินเท้าสำหรับคนเดินเร็วนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่านักชอปวัยรุ่นมากกว่า โดยจากผลสำรวจพบว่ากว่า 69  เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปีนั้นพอใจอย่างมากกับทางเท้าที่ว่านี้ และอีก 37 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ให้การสนับสนุนโครงการนี้ โดยเหตุผลที่หลายๆ คนชื่นชอบทางเท้าสำหรับคนเดินเร็วนี้ก็เพราะว่ามันช่วยทำให้พวกเขาประหยัดเวลาในเดินได้มาก ซึ่ง 31 เปอร์เซ็นต์จากผลสำรวจกล่าวว่ามันช่วยให้พวกเขาหลบคนที่เดินขวางทางได้ และอีก 18 เปอร์เซ็นต์ให้เหตุผลว่ามันช่วยให้พวกเขาสามารถหลบคนที่มัวแต่เช็กโทรศัพท์ได้     นอกจากทางเท้าสำหรับคนเดินเร็วแล้ว ก่อนหน้านี้ในปี 2014 ทาง National Geographic ยังได้สร้างทางเท้าแยกสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระหว่างเดินกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ในวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อใช้ในการทดลองพฤติกรรมทางสังคมอีกด้วย อืม… เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการแก้ปัญหาที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียวนะเนี่ย แบบนี้คงจะถูกใจหลายๆ…

  • คุณแม่ไว้ผมทรงเดิมตลอด 37 ปี ลูกๆ เลยพาไปออกรายการ แปลงโฉมให้สวยเช้งเลย

    คุณแม่ไว้ผมทรงเดิมตลอด 37 ปี ลูกๆ เลยพาไปออกรายการ แปลงโฉมให้สวยเช้งเลย

    ผู้หญิงหลายๆ คนมักจะเสริมสร้างความมั่นใจจากการตัด แต่ง ทรงผม โดยจะเปลี่ยนทรงผมที่แตกต่างกันตามสถานการณ์ ความชอบ ยุคสมัย และแฟชั่นในช่วงเวลานั้นๆ แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่า Joan Irvine เป็นคุณแม่ที่ทำผมทรงเดิมมาตลอด 37 ปี โดยที่ไม่รู้สึกเบื่อ จนลูกๆ และคนรอบข้างพากันเบื่อแทน     Cindy และ Christine ลูกสาวของ Joan ไม่เคยเห็นแม่เปลี่ยนทรงผมเลย เพราะเธอทำทรงเดิมตั้งแต่ก่อนที่ลูกๆ จะจำความได้ซะอีก ที่สำคัญทรงที่ทำอยู่นี้ก็ดูแก่กว่าวัยด้วย ครั้งแรกลูกๆ คิดว่าแม่คงไม่อยากทำอะไรซับซ้อน เลยไม่ได้เปลี่ยนทรงผม แต่ที่ไหนได้ ทรงที่แม่ทำอยู่นี้ต้องทำสัปดาห์ละครั้ง ครั้งหนึ่งใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง ทั้งสระ ดัด เป่าแห้ง และย้อมให้เป็นสีเทาทั้งหัว     เท่านั้นยังไม่พอ Joan ต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือทำผมต่างๆ ทำให้ผมอยู่ทรงได้นานที่สุดด้วย และทุกครั้งที่ไปว่ายน้ำ เธอจะไม่ยอมให้ผมเปียกเด็ดขาด นอกจากทรงผมแล้ว เสื้อผ้า และเครื่องสำอางของแม่ก็กำลังจะหมดแล้วเหมือนกัน ดังนั้น Cindy และ Christine จึงได้ขอความช่วยเหลือจาก Oprah Winfrey พิธีกรรายการชื่อดัง The Oprah Winfrey Show  …

  • เฮ้ยยย!!? จริงดิ คู่รักหนุ่มสาวเกาหลี หน้าละอ่อนเหมือนวัยมัธยม มีลูกสองแล้วนะจ๊ะ!?

    เฮ้ยยย!!? จริงดิ คู่รักหนุ่มสาวเกาหลี หน้าละอ่อนเหมือนวัยมัธยม มีลูกสองแล้วนะจ๊ะ!?

    ขณะนี้ได้มีกระแสหนึ่งที่เป็นที่ถกเถียงกันในโลกออนไลน์ เป็นเรื่องคู่รักวัยรุ่นชาวเกาหลีที่ท้องก่อนแต่ง โดยประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดคือ “พวกเขายังเด็กเกินไปที่จะเลี้ยงลูกได้” จริงๆ แล้ว พ่อแม่วัยใสนั้นแทบจะเป็นเรื่องที่พบบ่อยในสังคมปัจจุบัน แต่การที่คู่รักคู่นี้ถูกยกมาเป็นประเด็นถกเถียง นั่นก็เพราะว่าพวกเขายังดูเป็นเด็กอยู่นั่นเอง     ฝ่ายหญิงคือ Hong Yingqi เกิดเมื่อปี 1992 ตอนนี้อายุ 25 ปี เธอสูงเพียง 148 ซม. เธอทั้งตัวเล็กและหน้าเด็กจนถูกเข้าใจว่าเป็นเด็กประถมตลอดเวลา ส่วนแฟนหนุ่มคือ Li Shirong เกิดปี 1995 อายุ 22 ปี เขาเป็นคนที่หน้าเด็กมากเช่นกัน ทั้งคู่เดทกันเมื่อปี 2011 โดยฝ่ายชายเป็นคนสารภาพรักก่อน     ภาพของพวกเขามักถูกนำไปแชร์ในเฟซบุ๊กบ่อยๆ จนกระทั่งปลายเดือนมีนาคมของปี 2014 Yingqi ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่าเธอมีลูกกับ Shirong และตั้งชื่อให้ลูกว่า Sejong แน่นอนว่านั่นกลายเป็นประเด็นร้อนที่ถกเถียงกันในโลกออนไลน์ มีแต่คนบอกว่าพวกเขาจะไปไม่รอด พวกเขาเด็กเกินไปที่จะเลี้ยงลูกได้ และคำดูถูกอื่นๆ อีกมากมาย     ท่ามกลางกระแสโจมตีนั้น ยังโชคดีที่ทั้งคู่ไม่ต้องฝ่าฟันปัญหาตามลำพัง แต่ได้รับกำลังใจและการสนับสนุนจากพ่อแม่ จนในที่สุดทั้งคู่ก็ให้กำเนิดลูกน้อย Sejong     ต่อมา…

  • สาวก Apple อุตส่าห์ไปรอคิวออก iPhone X ตั้งนาน ได้มาไม่ทันไรหลุดมือแตกซะงั้น!?

    สาวก Apple อุตส่าห์ไปรอคิวออก iPhone X ตั้งนาน ได้มาไม่ทันไรหลุดมือแตกซะงั้น!?

    ทันทีที่มีการเปิดตัว iPhone X ออกมาก็ทำเอาสาวกของเจ้าโทรศัพท์ยี่ห้อแอปเปิลแหว่งกรี๊ดกร๊าดไปตามๆ กันจนถึงขั้นต้องต่อคิวกันเข้าซื้อแต่ว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ได้โทรศัพท์มาปุ๊บก็ดีใจจนทำร่วงแตกหมดเลยซะงั้น ทวิตเตอร์ของเว็บไซต์ Trusted Review ได้เผยแพร่วีดีโอหนึ่งจากประเทศจีนว่ามีคนๆ หนึ่งที่ถ่ายวีดีโอรีวิวโทรศัพท์ iPhone X อันใหม่ของเขาที่เพิ่งจะไปถอยมาสดๆ ร้อนๆ ลงในทวิตเตอร์ แต่ปรากฎว่าขณะหมุนไปหมุนมามันดันหลุดมือร่วงซะดัง “โบ๊ะ” ทำเอาเจ้าของวีดีโอนี้ถึงกับเหวอเลยทีเดียว   ชมคลิปได้ที่นี่ (หากดูคลิปไม่ได้ให้กดที่นี่เลยนะ) Someone dropped their #iPhoneX already and it's painful to watch https://t.co/PVsFRJGg8k pic.twitter.com/N0jwbRGCMx — Trusted Reviews📱💻 🎮 (@trustedreviews) November 3, 2017   หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าของ iPhone X ดังกล่าวได้โพสต์อัพเดทบนโซเชียลมีเดียของจีนอย่าง Weibo ซึ่งปรากฎว่า กระจกทั้งหน้าทั้งหลังแตกกระจายเลยจ้า   (iPhone X ผู้โชคร้าย)   iPhone X ที่ออกมาใหม่นี้จะมีกระจกทางด้านหลังเพื่อให้รองรับการใช้งานการชาร์จแบบไร้สาย…

  • รู้จัก Mahdi Gilbert นักมายากลผู้ไม่มีแขน แต่ก็เสกสรรค์เวทมนตร์ได้น่าอัศจรรย์

    รู้จัก Mahdi Gilbert นักมายากลผู้ไม่มีแขน แต่ก็เสกสรรค์เวทมนตร์ได้น่าอัศจรรย์

    นี่เป็นเรื่องราวสุดอเมซิ่งของชายที่ชื่อว่า Mahdi Gilbert อายุ 25 ปี นักมายากลชาวแคนาดา ผู้ที่สามารถเล่นมายากลได้ราวกับมีเวทมนต์ ถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่มีมือทั้งสองข้าง เขาเล่าประสบการณ์ชีวิตของเขาว่า ตอนที่เขาเป็นเด็กนั้นเขาไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับมายากลมาก่อน แต่เขาเคยได้ยินคนพูดว่า “มีคนบนโลกที่เรียกว่า นักมายากล พวกเขาสามารถทำเรื่องน่าอัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้”      เมื่อได้เห็นนักมายากลทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์ เขาก็ได้เกิดความสนใจจึงได้เริ่มศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังโดยการดูคลิปวิดีโอต่างๆ และเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ของ David Blaine คอยติดตามผลงานเขาอยู่เสมอๆ ซึ่งในตอนแรกๆ ที่เขาได้ฝึกการเล่นมายากล เขารู้สึกท้อแท้ใจเพราะว่าเขานั้นไม่ได้เกิดมามีร่างกายครบสมบูรณ์เหมือนคนอื่น และเขาก็ได้พบกับนักจิตแพทย์ชาวอังกฤษที่ชื่อว่า Derren Brown ผู้ที่มาสร้างความเชื่อมั่นว่าเขาสามารถทำได้ เขาก็เริ่มกลับมาต่อสู้อีกครั้งหนึ่งด้วยการฝึกความจำและกลเม็ดต่างๆ ในการเล่นมายากล และเริ่มฝึกมายากลเกี่ยวกับไพ่     ทั้งนี้เขาได้ศึกษาเรื่องจิตวิทยาเบื้องต้น และเรื่องการอ่านจิตใจคน ทดลองผิดทดลองถูกจนกระทั่งกลายเป็นคนที่ใช้มายากลได้อย่างคล่องแคล่ว เขาไม่ปล่อยให้ความพิการมาเป็นอุปสรรคในการทำตามความฝัน เขาเริ่มมีชื่อเสียงจากการเล่นมายากล ได้ออกรายการทีวีและได้ออกไปแสดงโชว์ตามประเทศต่างๆ ถึง 18 ประเทศ   มาดูกันซิว่า ฝีมือการเล่นมายากลของเขาเด็ดแค่ไหน   ที่มา odditycentral

  • บอสส่งข้อความไล่ลูกน้องออกทั้งหมด ก่อนที่จะประกาศยกเลิกกิจการ เจอแบบนี้ก็เหวอดิ

    บอสส่งข้อความไล่ลูกน้องออกทั้งหมด ก่อนที่จะประกาศยกเลิกกิจการ เจอแบบนี้ก็เหวอดิ

    เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2017 สำนักข่าว BBC ได้รายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์การปิดกิจการแบบกะทันหันของบริษัท Nippy Bus บริษัทเดินรถที่ดำเนินการอยู่ในทางตอนใต้ของเมืองซัมเมอร์เซต ประเทศอังกฤษ พนักงานของบริษัทนี้บอกว่าพวกเขาได้รับข้อความจากผู้ว่าจ้างเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพวกเขาถูกปลดออกจากการเป็นพนักงาน โดยมีผลเริ่มตั้งแต่วันจันทร์และจะมีการปิดกิจการบริษัทในทันที     เรื่องนี้ทำเอาพนักงานบริษัทเกิดอาการโมโหทันที เพราะอยู่ดีๆ ก็ถูกไล่ออกแบบกะทันหันแบบนี้ แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงยอมรับและดำเนินชีวิตต่อไป การปิดกิจการในครั้งนี้นอกจากจะส่งผลโดยตรงต่อพนักงานแล้ว ก็ยังส่งผลต่อนักเรียนกว่า 300 คนที่ใช้บริการรถบัสบริษัทนี้     บริษัทแห่งนี้เริ่มมีปัญหามาตั้งแต่มีหัวหน้าคนใหม่เข้ามาบริหารงาน การจัดการที่ผิดพลาด ทำให้บริษัทต้องยกเลิกเส้นทางหลายสายและมีคนขับรถที่ทนพฤติกรรมของเขาไม่ไหวจนต้องลาออกไปก่อนหน้านี้ถึง 2 คน นอกจากนี้หัวหน้าคนใหม่ยังชอบออกไปเที่ยวในเวลางาน และทิ้งภาระหน้าที่ไว้ให้คนอื่นจัดการ แต่พอมีปัญหาก็เลือกที่จะหนีทุกครั้ง   .   แถมเรื่องการบริการที่แย่ลงทั้งออกรถไม่ตรงเวลา หรือบางทีก็งดเดินเส้นทางเอาดื้อๆ ทำให้กิจการแย่ลงๆ จนต้องปิดตัวลงไป     การมีเจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่ดีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พนักงานทำงานออกมามีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเจอเรื่องแย่ๆ แบบนี้ไม่ว่าใครก็คงต้องขอบาย   ที่มา bbc, ladbible, dailymail

  • หมีสีน้ำตาลที่ถูกร้านอาหารขังไว้ในอาร์มีเนีย ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว

    หมีสีน้ำตาลที่ถูกร้านอาหารขังไว้ในอาร์มีเนีย ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว

    เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม เราได้นำเสนอเรื่องราวของหมีสีน้ำตาลผู้น่าสงสารสองตัว ที่ถูกกักขังไว้ภายในกรงเหล็กขนาดเล็ก เพื่อให้เป็นจุดสนใจสำหรับดึงลูกค้าเข้ามารับประทานอาหาร อ่านข่าวเก่า ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังพบร้านอาหารใน ‘อาร์มีเนีย’ ขังหมีไว้ให้ลูกค้าดูเล่น..!? หมีทั้งสองตัวคือ Misha และ Dasha พวกมันถูกขังไว้ที่ริมน้ำของร้านอาหารในอาร์มีเนีย ตามรายงานบอกว่ามันมีชีวิตอยู่ได้ด้วยเศษอาหารเหลือของลูกค้า และอยู่ในกรงเหล็กแคบๆ นี้มาเป็นเวลา 10 ปี แล้ว     แต่โชคดี หลังจากที่ข่าวดังกล่าวถูกนำเสนอไป และมีการแชร์ต่อในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เข้าไปช่วยเหลือมันออกมา เมื่อทีมช่วยเหลือไปถึง พวกเขาได้ใช้เครื่องมือไฟฟ้าทำลายกรงเหล็ก ก่อนจะย้ายหมีทั้งสองตัวไปอยู่ในกรงใหม่ที่มีขนาดใหญ่และอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ     เชื่อกันว่า Misha และ Dasha เป็นหมีสีน้ำตาลสองตัวแรกใน 80 ตัว ที่ได้รับการปลดปล่อยมาจากอาร์เมเนียโดยองค์กร International Animal Rescue (IAR) และ Federation for the Preservation of Wildlife and Cultural Assets ทั้งสององค์กรนี้ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้หมีหลุดพ้นจากสภาพที่โหดร้ายพร้อมพาพวกมันไปอยู่ในที่ปลอดภัย     นอกจากนี้เว็บไซต์ IAR ยังเผยอีกว่ามีหมีจำนวนมากที่ถูกขังไว้ในกรงแคบๆ เช่นนี้ โดยมีน้ำหรืออาหาร…

  • หนุ่มฟ้องดาราชาย เอาเบอร์ของเขาไปออกฉากในหนัง ทำให้มีคนโทรเข้ามากวนจนเมียหนี

    หนุ่มฟ้องดาราชาย เอาเบอร์ของเขาไปออกฉากในหนัง ทำให้มีคนโทรเข้ามากวนจนเมียหนี

    ในละครหรือภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ฉากที่นับได้ว่าเห็นได้บ่อยก็คือฉากคุยโทรศัพท์ ส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นเบอร์มั่วๆ แต่ก็คงไม่มีใครซวยเหมือนเจ้าหนุ่มคนนี้ เพราะเบอร์โทรศัพท์ที่พระเอกหนังกดมั่วๆ ในเรื่อง ดันไปตรงกับเบอร์จริงๆ ของเขา จนมีคนโทรมากวนวันละกว่า 300 สาย ซุปเปอร์สตาร์ชาวบังคลาเทศคนหนึ่งชื่อว่า Shakib Khan ถูกหนุ่มขับรถตุ๊กตุ๊กคนหนึ่งยื่นฟ้องร้องเพราะว่าเบอร์โทรศัพท์ของเขาไปปรากฏอยู่ในภาพยนต์ที่ Khan แสดง โดยตั้งแต่ที่หนังเรื่องนี้ออกฉาย เขาก็ต้องรับโทรศัพท์จากแฟนคลับของพระเอกคนนี้จนกลายมาเป็นปัญหาสำคัญในชีวิตเขาเลยทีเดียว     โดยภาพยนตร์ดังกล่าวมีชื่อว่า Rajneeti ออกฉายในวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งมีฉากหนึ่งที่ Khan ได้พูดเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่งขึ้นมา แต่แทนที่เบอร์นั่นจะเป็นเบอร์มั่วๆ มันกลับเป็นเบอร์โทรศัพท์ในชีวิตจริงของ Ijajul Mia คนขับรถตุ๊กตุ๊กจากหมู่บ้าน Jatrapasha ในเมือง Baniachang ฉากๆ เดียวในหนังเรื่องดังกล่าวได้เปลี่ยนชีวิตของหนุ่มคนนี้ให้กลายเป็นฝันร้ายเลยทีเดียว เพียง 2-3 สัปดาห์หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายเบอร์โทรศัพท์ของ Mia ก็มีคนโทรเข้าซะจนสายแทบไหม้ โดยในระยะเวลาเพียง 5 วันเขาได้รับโทรศัพท์กว่า 500 สายจากหญิงสาวที่โทรมาตามหาดาราหนุ่ม     “ทุกๆ วันผมได้รับโทรศัพท์เป็นร้อยๆ สายซึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับผู้หญิงของ Shakib Khan” “พวกเขามักจะโทรมาแล้วพูดว่า สวัสดี Shakib ฉันเป็นแฟนคลับคุณ พอจะมีเวลาซัก 2 นาทีคุยกับฉันไหม” Mia ได้บอกไว้ เมื่อถึงจุดหนึ่งเมื่อมีโทรศัพท์เข้ามาถี่มากๆ…

  • คุณรู้รึยัง.. งานวิจัยเผยว่า ชายหนุ่ม “จู๋คด” จะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งสูงกว่าคนทั่วไป

    คุณรู้รึยัง.. งานวิจัยเผยว่า ชายหนุ่ม “จู๋คด” จะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งสูงกว่าคนทั่วไป

    ผู้ชายหลายๆ คนอาจไม่ค่อยใส่ใจเรื่องขนาดหรือรูปร่างของอวัยวะเพศ แต่รู้มั้ยว่ารูปร่างของอวัยวะเพศเนี่ยสามารถบอกโรคได้นะ… จากการศึกษาใหม่ล่าสุดค้นพบว่าผู้ชายที่มีอวัยวะเพศคดงอ มีความเสี่ยงมากที่จะเป็นโรคมะเร็งชนิดต่างๆ โดยมีโอกาสเป็นมะเร็งเร็งอัณฑะ 40% มะเร็งผิวหนัง 29% และมะเร็งกระเพาะอาหาร 40% โรคดังกล่าวนี้มีชื่อเรียกว่า โรคอวัยวะเพศชายโค้งงอ (Peyronie’s disease) ซึ่งคาดว่าผู้ชายน่าจะมีโอกาสเป็นได้ถึง 7% เลยทีเดียว     ผลการวิจัยดังกล่าวถูกนำเสนอใน American Society for Reproductive Medicine หลังจากที่วิทยาลัย Baylor College ในฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ได้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ป่วยมากกว่า 1.5 ล้านคน ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังการวิจัยกล่าวว่าผู้ชายที่มีอวัยวะเพศโค้งงอ ควรได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ในขณะที่อังกฤษได้เพิ่มเติมว่าควรมีการตรวจคัดกรองเป็นประจำ เพื่อที่จะได้พบมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและทำการรักษาอย่างทันท่วงที ทางด้าน Alexander Pastuszak ผู้นำการวิจัยบอกว่า “เราได้วิเคราะห์พันธุกรรมของพ่อลูกคู่หนึ่งที่เป็นโรคอวัยวะเพศชายโค้งงอเหมือนกันพบว่าพวกเขามีชุดของยีนที่เหมือนกัน และอาจนำไปสู่มะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะได้”     Pastuszak ยังบอกอีกว่า “โรคนี้มีลักษณะคล้ายกับโรค Dupuytren ซึ่งเป็นภาวะที่นิ้วมือ 1 นิ้วหรือมากกว่านั้นงออย่างถาวร นอกจากนี้มันยังมีความเกี่ยวข้องกับโรคพังผืดที่ฝ่าเท้าด้วย” สำหรับโรคอวัยวะเพศชายโค้งงอนี้ ผู้ชายมีโอกาสเป็นตั้งแต่ 3.7-7.1 เปอร์เซนต์ แต่อาจมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งมากกว่านี้หากผู้ป่วยไม่ยอมบอกความจริงกับแพทย์ เนื่องจากเรื่องนี้ค่อนข้างสร้างความอับอายให้กับผู้ชายพอสมควร ในขณะที่โฆษกของสถาบันวิจัย Cancer…

  • 25 ภาพก่อน-หลังการลดน้ำหนัก ที่เปลี่ยนไป จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนเดียวกัน…

    25 ภาพก่อน-หลังการลดน้ำหนัก ที่เปลี่ยนไป จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนเดียวกัน…

    การลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ยิ่งยากเท่าไหร่มันก็ยิ่งมีความท้าทายให้เราอยากเอาชนะ และหากเรามีความพยายาม มีความมุ่งมั่นพอ มันจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ที่มุ่งมันจนเอาชนะความอ้วนได้ ไม่เพียงแต่จะมีรูปร่างที่ดีขึ้น แต่ยังได้สุขภาพที่ดีกลับมาและเป็นแรงบันดาลให้คนอื่นๆ อีกด้วย   1. จากที่เคยมีน้ำหนักมากถึง 270 กิโลกรัม วันนี้รูปร่างเธอเปลี่ยนไป จนกลับมามั่นใจอีกครั้ง   2. การลดน้ำอาจใช้เวลาเป็นปีๆ ที่สุดท้ายแล้วคุณจะมีความสุขเมื่อทำสำเร็จ   3. ภายใน 1 ปี ลดไปถึง 20 กิโลกรัม   4. จากที่เคยหนัก 101 กิโลกรัม ลดเหลือ 65 กิโลกรัม ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี   5. หลังจากที่ลดน้ำหนักไป 133 กิโลกรัม เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย   6. รูปร่างเปลี่ยน หลังเลิกดื่มเป็นเวลา 1 ปี   7. คู่รักที่ลดน้ำหนักไปพร้อมกัน แต่พวกเขาบอกว่านี่ยังไม่พอและจะทำต่อไป…