Category: ข่าวคราวรอบโลก

  • สาวไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับรูมเมทผิวสี เอาผ้าอนามัยใช้แล้วถูกระเป๋า-แกล้งสารพัด ชาวเน็ตจวกยับ!!

    สาวไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับรูมเมทผิวสี เอาผ้าอนามัยใช้แล้วถูกระเป๋า-แกล้งสารพัด ชาวเน็ตจวกยับ!!

    การเป็นรูมเมทของกันและกันอาจจะมีบางอย่างที่เข้ากันไม่ได้บ้าง ซึ่งอาจจะแก้ไขด้วยการคุยกันหรือพยายามปรับปรุงเข้าหากันแต่หากว่าไม่ไหวจริงๆ ก็อาจจะต่างคนต่างอยู่ก็ได้แต่คงไม่มีใครรังเกียจรูมเมทถึงขั้นเธอคนนี้ ที่เอาผ้าอนามัยที่ใช้แล้วไปถูกับกระเป๋าของเพื่อนร่วมห้อง Brianna Brochu เป็นนักศึกษาใหม่ที่เริ่มเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย Hartford โดยเธอได้อยู่ร่วมห้องกับ Chennel ‘Jazzy’ Rowe นักศึกษาผิวสีที่ Brianna เรียกกว่า “จาไมก้าบาร์บี้” ผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของเธอตลอดทั้งปี   Brianna Brochu หญิงสาวผิวขาวที่กลั่นแกล้งรูมเมทของเธอ   สาวทั้งสองคนนี้อยู่ห้องเดียวกันจากการสุ่มจากทางมหาวิทยาลัยและ Jazzy ก็เป็นที่ “ไม่ต้องการ” ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้อยู่ร่วมกันและรู้สึกเหมือนไม่มีตัวตนทั้งที่อยู่ในห้องของเธอเอง หลังจากที่ Jazzy ได้ตัดสินใจจะย้ายออก Brianna ก็จะโพสต์ข้อความลงใน Instagram บอกถึงชัยชนะเหนือเพื่อนร่วมห้อง โดยเธอได้ใส่รายละเอียดการแกล้งต่างๆ ที่น่ารังเกียจเอาไว้อย่างน่าสะอิดสะเอียน     “หลังจากเดือนครึ่งที่ฉันคอยถุยน้ำลายลงในครีมมะพร้าวของเธอ เอาขี้ดินใส่ลงในขวดโลชั่น ถูผ้าอนามัยแบบสอดที่ใช้แล้วกับกระเป๋าของเธอ นำแปรงสีฟันของเธอไปไว้ในที่ๆ ไม่มีแสงแดดและอื่นๆ อีกมาก ในที่สุดฉันก็ได้กล่าวคำลากับตุ๊กตาบาร์บี้จาไมก้าสักที” Brianna เขียนเอาไว้ใน Instagram ของเธอ หลังจาก Jazzy รู้เรื่องนี้เข้าแน่นอนว่าเธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟและในที่สุดเธอก็ได้ไลฟ์วิดีโอสดบอกถึงความช้ำใจและการเจ็บป่วยตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกับผู้หญิงคนนี้   วีดีโอที่ Jazzy ได้โพสต์ลงในเฟสบุ๊คส่วนตัวของเธอ   โดยในวีดีโอนี้มียอดผู้ชมแล้วกว่า 1 ล้านวิวเธอได้อธิบายถึงความทุกข์ทรมานที่อยู่ร่วมกับ Brianna โดยมีข้อความหลักๆ…

  • เทรนด์ใหม่ในประเทศจีน! สาววัย 14-16 ปี โพสต์ภาพการตั้งครรภ์ของตัวเองสนั่นโซเชียล

    เทรนด์ใหม่ในประเทศจีน! สาววัย 14-16 ปี โพสต์ภาพการตั้งครรภ์ของตัวเองสนั่นโซเชียล

    ปัญหาเรื่องการท้องก่อนวัยอันควรเป็นปัญหาเรื้อรังในทุกที่บนโลกนี้ เมื่อไม่นานมานี้ก็มีเรื่องที่ทำให้เราต้องอึ้งเพราะว่าในประเทศจีนแม่วัยใสกลับเอาเรื่องที่ตัวเองตั้งท้องมาอวดแข่งกันในโลกโซเชียลซะงั้น เมื่อไม่นานมานี้มีผู้ใช้งานเว็บไซต์ Weibo ยูสเซอร์หนึ่ง ได้ออกมาเปิดเผยรูปภาพของคุณแม่วัยใสที่ไลฟ์สดผ่านแอพพลิเคชั้นที่ชื่อว่า Kuaishou ซึ่งเป็นแอพไว้แชร์วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน โพสต์ดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสไวรัลในโซเชียลมีเดียของประเทศจีนและยังได้สร้างความสะพรึงให้กับชาวเน็ตทั่วโลกจนทำให้บัญชีต่างๆ ในแอพถูกลบไปในที่สุด     ในแอพพลิเคชั่น Kuaishou จะมีแท็กหนึ่งที่ชื่อว่า “00后宝妈” (ซึ่งหมายถึงคุณแม่มือใหม่ที่เกิดหลังจากปี 2000) ซึ่งเป็นแฮชแท็กที่ได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้ในหมู่เด็กสาวที่มีอายุ 14-16 ปี ซึ่งถ้าเข้าไปดูในแท็กดังกล่าวจะเห็นภาพและวิดีโอของเด็กสาวที่ตั้งท้องมากมายและหากดูจากโพสต์เหล่านั้นจะเห็นได้ว่าเหล่าคุณแม่ดูจะภูมิใจกับการตั้งท้องมากเลยทีเดียว     หลังจากโพสต์ของผู้ใช้ Weibo คนนี้ได้โด่งดังขึ้นทางแอพพลิเคชั่น Kuaishou ก็ได้ไล่ปิดบัญชีที่มีรูปของเด็กสาวที่ตั้งท้องเหล่านี้และเปลี่ยนเป็นคำแถลงจากทางตำรวจออกมาแทน     ต่อมาชาวอินเทอร์เน็ตก็ได้แสดงความคิดเห็นวิจารณ์แอพ Kuaishou ที่ปล่อยให้ภาพของเด็กๆ เหล่านี้ออกมาบนโลกออนไลน์เพราะว่ามีความไม่เหมาะสมอีกทั้งยังเรียกร้องให้รัฐบาลปิดแอพพลิเคชั่นอันนี้ซะ     แต่ก็มีบางคนที่ออกมาต่อต้านโดยบอกว่า “แอพแชร์วิดีโอดังกล่าวไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเด็กๆ ไม่ได้ท้องกับแอพซะหน่อย แค่เพียงว่าคุณไม่เห็นเด็กๆ วัยกระเตาะเหล่านี้ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอยู่จริงนี่” ชาวเน็ตรายหนึ่งได้กล่าวไว้   ดูเหมือนเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติที่ลงตัว แต่ถ้ามีความคืบหน้ายังไง Catdumb จะเอามานำเสนออย่างแน่นอน   ที่มา: mp.weixin.qq

  • หนุ่มไปยืนถือป้ายของานทำที่ข้างถนน เหมือนกับยืนโบกรถ ใครจะคิดว่าพี่แกได้งานจริงๆ !!

    หนุ่มไปยืนถือป้ายของานทำที่ข้างถนน เหมือนกับยืนโบกรถ ใครจะคิดว่าพี่แกได้งานจริงๆ !!

    ในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังตกต่ำ การหางานดีๆ ซักงานเป็นเรื่องยาก แม้คุณจะเรียนจบมีเกรดดีๆ จากมหาลัยดีๆ ก็ตาม  เช่นเดียวกับหนุ่มคนนี้ที่เบื่อจะส่งเรซูเม่หรือแบกกายหยาบตัวเองไปสมัครงาน Nathan Campbell วัย 22 ปี จากสกอตแลนด์ที่เดินทางไปสมัครงานมาแล้วหลากหลายที่ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมาเลยจนเขารู้สึกเบื่อแล้ว เขาเลยตัดสินใจใช้วิธีที่เป็นใครก็คงไม่คิดจะทำมัน เขาไปตัดกระดาษลังมา จากนั้นก็เขียนข้อความง่ายๆ ลงไปว่า “ได้โปรด มอบงานให้ผมที” จากนั้นก็ไปยืนถือป้ายโบกอยู่ข้างถนน เชื่อไหมว่าไม่ถึง 20 นาทีก็มีคนขับรถมาจอดพร้อมเสนองานให้เขาทันที!?     Nathan เล่าว่า “ผมมายืนตรงนี้แค่ 20 นาที จากนั้นก็มีชายคนหนึ่งขับรถตู้จากบริษัท McTaggart Civils มาจอดและถามผมว่านายมีประสบการณ์ทำงานอะไรบ้าง ผมก็เลยตอบเขาไปว่าผมมีประสบการณ์เป็นคนงานก่อสร้างบ้างนิดหน่อย จากนั้นชายคนนี้ก็เลยมอบงานให้ผม พร้อมบอกว่าเริ่มงานอาทิตย์หน้าได้เลย”   นอกจากนี้ Nathan ยังเล่าเพิ่มว่า เขาไปสมัครงานมาแล้ว 14 หรือ 15 งานด้วยกัน แต่ที่ไหนๆ ก็เหมือนกันหมด คือไม่รับ แต่ยังไงเขา ก็ไม่ยอมแพ้และต้องทำอะไรสักอย่างดีกว่านั่งอยู่บ้านเฉยๆ เพื่อรอคำตอบแล้วไม่ได้อะไรเลย แน่นอนว่าสุดท้ายผลลัพธ์มันก็ออกมาดีสุดๆ เลย ทางด้าน…

  • เจ้าหน้าที่ตำรวจกับโมเม้นท์สุดประทับใจในวันสุดท้าย ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ

    เจ้าหน้าที่ตำรวจกับโมเม้นท์สุดประทับใจในวันสุดท้าย ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ

    การที่คุณทำงานอะไรและทุ่มเทกับมันมาเป็นเวลานานจนกระทั่งถึงเวลาที่คุณเกษียณ บางครั้งคุณอาจจะไม่คาดหวังว่าจะได้รับการบอกลาอย่างดี หรือคำขอบคุณดีๆ จากเพื่อนร่วมงาน แต่ถ้ามันเกิดขึ้น มันก็ล้วนป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ใครก็อยากจะจำไว้เสมอ เช่นเดียวกับจ่า Douglas Hogate Sr. ที่ทำงานมาเป็นเวลานานจนถึงวันสุดท้ายของการทำงาน เขาก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะได้รับการเซอร์ไพรส์หรือขอบคุณในวันสุดท้าย เช้าวันนั้นเขาออกไปทำงานตามปกติเหมือนทุกที เขาได้ก็ติดต่อไปยังศูนย์ปฏิบัติการเพื่อขอออกตรวจพื้นที่     Douglas ได้รายงานไปว่า “Code 3 ขออนุญาติออกปฏิบัติหน้าที่เป็นครั้งสุดท้าย” หลังจากนั้นทางปลายสายของสถานีก็เงียบไปครู่หนึ่ง โดยปลายสายที่เป็นเสียงลูกชายของเขาก็ได้ตอบกลับมาว่า “เขต Salem ขอประกาศให้รถเจ้าหน้าและทุกสถานีทราบว่า ทางสถานีเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ประกาศว่า จ่า Douglas Hogate Sr. ได้ปฏิบัติหน้าที่จนครบ 1,800 ชั่วโมงในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้วในวันนี้ หลังจากรับใช้เรามากว่า 28 ปีเต็ม พ่อของผมเจ้าหน้าที่ Douglas Hogate Sr. หมายเลข 612 ได้เกษียณพร้อมกับรับ Code 3 เป็นครั้งสุดท้าย”  (หมายเหตุ : Code 3 นั้นเป็นคำสั่งสำหรับออกลาดตระเวณปกติ โดยสามารถเปิดไฟฉุกเฉินและส่งสัญญานได้)     วินาทีนั้นจ่า Douglas ถึงกลั้นความยินดีไว้ไม่อยู่…

  • เด็กหนุ่มวัย 12 ปี ต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาหาเงินดูแลรักษาคุณแม่ที่ป่วยใกล้ตาย

    เด็กหนุ่มวัย 12 ปี ต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาหาเงินดูแลรักษาคุณแม่ที่ป่วยใกล้ตาย

    เมื่อเด็กชายวัย 12 ปี ต้องตัดสินใจเลือกสิ่งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาระหว่างเลือกไปเรียนเพื่ออนาคต กับเลือกที่จะออกไปทำงานเพื่อหาเงินมารักษาแม่ที่ป่วย เป็นคุณจะเลือกอะไร สำหรับหนุ่มน้อย Gu Guang Zhao วัย 12 ปี จากประเทศจีน เขาเลือกที่จะออกมาหางานและรักษาแม่ เนื่องแม่ของเขานั้นป่วยเป็นโรคไตวาย ต้องได้รับการปลูกถ่ายไตใหม่ให้ไวที่สุด     ในตอนแรกที่เด็กชาย Gu รู้ว่าแม่ของเขามีอาการไตวายและต้องการเงินจำนวนมาก เขาได้ตัดสินใจเขียนข้อความบอกอาจารย์ทันทีว่าเขาต้องหยุดเรียนเพื่อช่วยแม่ของเขา แม้ว่าเขานั้นจะเป็นเด็กเก่งที่มีรางวัลจากการเรียนมากมายก็ตาม ด้านจำนวนเงินที่จะต้องหามาเพื่อใช้ในการรักษานั้น เด็กชายต้องหาเงินมากกว่า 2,500,000 บาท แต่โชคไม่ดีนักที่สถานะการเงินของเขาและครอบครัวไม่ดีเท่าไหร่และยังเป็นหนี้อีกกว่า 500,000 บาท ถึงอย่างนั้นเด็กชาย Gu ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินเพื่อช่วยแม่ต่อไป ทางด้านพ่อของเขาก็ได้ออกจากการเป็นคนงานก่อสร้างเพื่อมาดูแลภรรยาที่ป่วย ในตอนนี้เขากับลูกชายก็ต้องช่วยกันทำงานเก็บถั่วเพื่อหารายได้หลัก ส่วน Gu ก็ยังทำงานบ้านอีกหลายอย่างเพื่อให้แม่ของเขามีสุขภาพและชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้     อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องราวของเขาได้ถูกเผยแพร่ออกไปยังสื่อต่างๆ ในจีน ก็มีการบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้จนได้รับเงินตามจำนวนที่ต้องการเรียบร้อย ซึ่งหลังจากนี้แม่ของ Gu จะเข้ารับการรักษาที่ Henan Medical University ทันที สุดท้ายแล้วเรื่องราวของ Gu ก็ยังไม่จบ เขาเป็นเด็กที่ดีและสำนึกบุญคุณ ถึงขนาดที่เขาบอกกับแม่ว่าเขาได้ทำรายชื่อของคนที่เข้ามาช่วยเหลือทุกคน และเขาจะตอบแทนคนเหล่านี้อย่างแน่นอน    …

  • โหดฝัดรัสเซีย!! หญิงชาวรัสเซียใจกล้า เดินผ่านดงระเบิดแบบชิวๆ เพื่อทดสอบชุดเกราะรุ่นใหม่

    โหดฝัดรัสเซีย!! หญิงชาวรัสเซียใจกล้า เดินผ่านดงระเบิดแบบชิวๆ เพื่อทดสอบชุดเกราะรุ่นใหม่

    ประเทศรัสเซียเป็นประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดมาตั้งแต่สมัยอดีตอยู่แล้ว ยิ่งในเรื่องยุทโธปกรณ์แล้วนับได้ว่าเป็นแนวหน้าในเรื่องนี้เลยทีเดียว และล่าสุดก็ได้มีการทดสอบชุดเกราะด้วยการนำผู้หญิงมาใส่ชุดเกราะแล้วให้เดินผ่านระเบิดซะอย่างงั้น!!! เหตุการณ์นี้ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ Youtube เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาโดยภาพที่เห็นคือผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่า Viktoria Kolesnikova ได้สวมชุดเกราะตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเดินผ่านระเบิดที่ฝังเอาไว้ใต้ดิน และดูเหมือนว่าเธอจะเดินแบบหน้าตาเฉยและไม่มีความกังวลใดๆ เกี่ยวกับระเบิดเลย   อย่างโหด   ซึ่งปรากฏว่าขณะที่เธอเดินผ่านระเบิดชุดเกราะอันนี้ได้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบและระเบิดไม่สามารถทำอันตรายอะไรให้แก่เธอได้เลย โดยสิ่งที่ระเบิดทำได้มีเพียงอย่างเดียวคือฝากรอยเขม่าสีดำๆ ไว้บนหน้าเธอเพียงเท่านั้น   ถอดหน้ากากออกมายังกับนางฟ้า   หลังจากเธอแสดงความโลดโผน เธอก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าชุดเกราะที่เธอสวมได้ให้ความรู้สึกเธออธิบายไม่ได้เลยทีเดียว “การเดินอยู่ในระยะระเบิดเป็นอะไรที่แสนวิเศษไปเลย มันสวยงามมากและฉันอธิบายได้เพียงแค่ว่า ว้าว” Kolesnikova กล่าว   เหมือนในหนังใช่ปะล่ะ   สำหรับ Kolesnikova นั้นเธอมีอาชีพเป็นสตั๊นท์แมนหรือนักแสดงแทนหญิงในฉากเสี่ยงอันตราย แม้เธอจะเคยเล่นฉากอันตรายมาก็มา แต่การเดินลุยดงระเบิดนี่มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว Sergey Kitov หัวหน้าทีมพัฒนาพัฒนาชุดเกราะนี้ได้ออกมาบอกว่าชุดที่เธอใส่เดินผ่านระเบิดนั้นเป็นชุดพิเศษที่ผลิตขึ้นมาจาก Aramid Fiber ซึ่งเป็นไฟเบอร์สังเคราะห์แบบพิเศษที่สามารถทนต่อความร้อนและการฉีกขาดได้ดี เขายังบอกอีกว่าชุดนี้ดีพอที่จะสามารถป้องกันกระสุนและระเบิดได้ แต่ว่าชุดที่ว่านี้สามารถทนต่อไฟได้เพียง 30 วินาทีเท่านั้น ซึ่งพวกเขาตั้งใจจะพัฒนาให้ดีขึ้นกว่านี้ ทางผู้พัฒนาก็หวังไว้ว่าการสาธิตให้เห็นนี้จะทำให้มีการเซ็นสัญญาเกิดขึ้นระหว่างบริษัทผู้ผลิตกับกองทัพนั่นเอง   ลองมาดูวีดีโอความใจกล้าของสาวคนนี้กัน   ที่มา: rt

  • สร้างศูนย์ Apple ปลอมๆ ขึ้นมา พร้อมหน้าม้ารอซื้อ iPhone อีก 50 คน จนมีคนหลงเชื่อจริงๆ

    สร้างศูนย์ Apple ปลอมๆ ขึ้นมา พร้อมหน้าม้ารอซื้อ iPhone อีก 50 คน จนมีคนหลงเชื่อจริงๆ

    ไอโฟนถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทุกครั้งมีการวางจำหน่ายไอโฟนรุ่นใหม่จะมีคนนับร้อย นับพัน มาต่อแถวรอซื้อ หวังจะได้ครอบครองเป็นคนแรกๆ ของประเทศ และเพื่อทดสอบปฏิกิริยาของผู้คนที่มีต่อไอโฟน ผู้คนกลุ่มหนึ่งจึงได้ทำภารกิจสร้างศูนย์ Apple ปลอม โดยการดัดแปลงจากลิฟท์โดยสารสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในนิวยอร์ก     จากนั้นพวกก็ได้ติดตั้งโลโก้ Apple ปลอมที่ด้านข้างของลิฟท์ พร้อมหน้าม้าอีก 50 คน ให้ทำเหมือนกำลังรอต่อแถวซื้อไอโฟน X ที่เพิ่งออกใหม่ ไอเดียนี้เป็นความคิดของ Deanna Director, Maggie McClurken และ Josh Berger พวกเขาได้เลือกลิฟท์ที่สถานีรถไฟฟ้า 23rd Street เพราะมันเป็นตู้กระจกที่ดูเหมือนกับศูนย์ Apple จริงๆ     Deanna และทีมงานได้ทำภารกิจปลอมๆ นี้ ภายใต้ชื่อ Improv Everywhere โดยได้ขอความร่วมมือจากผู้คนอยู่ใน Madison Square Park เพื่อให้มาเป็นหน้าม้าต่อแถวรอซื้อไอโฟน ตัวแทน Improv Everywhere ได้รับความสนใจจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาตั้งแต่ตอนติดตั้ง เตรียมการ จนกระทั่งเปิดศูนย์ Apple     จริงๆ แล้วโปรเจกต์นี้ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จ หลังจากที่ติดตั้งเสร็จ ทีมงานก็ได้มีการพูดคุยกับหน้าม้า จากนั้นแผนก็เริ่มขึ้น ส่วนทีมงานของ Apple ปลอมนั้น…

  • บริษัทญี่ปุ่น เริ่มนโยบายรณรงค์ลดสูบบุหรี่ ด้วยการเพิ่มวันหยุดพิเศษให้พนักงานที่ไม่สูบบุหรี่

    บริษัทญี่ปุ่น เริ่มนโยบายรณรงค์ลดสูบบุหรี่ ด้วยการเพิ่มวันหยุดพิเศษให้พนักงานที่ไม่สูบบุหรี่

    ใครๆ ก็รู้ว่าการสูบบุหรี่นั้นไม่ดีต่อสุขภาพทั้งยังส่งผลต่อคนรอบข้างด้วย แต่เมื่อติดไปแล้วก็ยากที่จะเลิก แม้แต่การขึ้นราคาบุหรี่ก็ไม่อาจหยุดยั้งพวกเขาได้ ด้วยเหตุนี้ Piala Inc บริษัทการตลาดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น จึงได้ออกนโยบายรณรงค์ลดการสูบหรี่ ด้วยการเพิ่มวันลาพักร้อนให้กับพนักงานที่ไม่สูบบุหรี่     Hirotaka Matsushima โฆษกของ Piala Inc เผยว่า “เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีพนักงานที่ไม่สูบบุหรี่คนหนึ่งได้เขียนข้อความลงในกล่องแนะนำของบริษัท โดยบอกว่าการพักไปสูบบุหรี่ทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน”     สำหรับสำนักงานใหญ่ของ Piala Inc ตั้งอยู่บนชั้นที่ 29 ของอาคารสำนักงานในเขต Ebisu ของโตเกียว เวลาที่ต้องการสูบบุหรี่ พนักงานต้องลงไปที่ใช้ใต้ดิน ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดอย่างต่ำ 15 นาที ในการออกไปสูบบุหรี่แต่ละครั้ง     ต่อมาเมื่อ CEO ก็เห็นข้อความนั้น เขาก็เห็นด้วย และตัดสินใจจะชดเชยให้กับพนักงานที่ไม่สูบบุหรี่ โดยออกนโยบายเพิ่มวันหยุดพิเศษให้เป็น 6 วันต่อปี หลังจากที่ประกาศใช้นโยบายนี้มีพนักงาน 30 คนจาก 120 คน ได้ใช้สิทธิดังกล่าวในการหยุดงานเพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     Matsushima บอกว่า “นโยบายนี้เริ่มใช้ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน จนถีงตอนนี้มีพนักงานเลิกสูบบุหรี่แล้ว 4…

  • สาวญี่ปุ่นร่วมกันเปิดเผย ‘เสน่ห์’ ของผู้ชาย ที่ทำให้พวกเธอหลงใหลได้มากที่สุด!?

    สาวญี่ปุ่นร่วมกันเปิดเผย ‘เสน่ห์’ ของผู้ชาย ที่ทำให้พวกเธอหลงใหลได้มากที่สุด!?

    ในสังคมญี่ปุ่นนั้น หน้าที่ของพ่อกับแม่จะถูกแบ่งไว้ค่อนข้างชัดเจน คือพ่อจะทำงานนอกบ้านและทุ่มเทให้กับอาชีพของตัวเอง โดยไม่ต้องสนใจเรื่องในบ้านใดๆ ทั้งสิ้น (ง่ายๆ คือเป็นกระเป๋าเงินก็พอ) ในขณะที่ผู้เป็นแม่จะเลิกไปทำงานนอกบ้าน แล้วหันมาดูแลทุกอย่างในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลลูก ทำอาหาร และทำงานบ้านทุกอย่าง     อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 ที่ผ่านมา หน้าที่ของผู้ชายและผู้หญิงได้มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก โดยผู้หญิงที่มีการศึกษาเริ่มทำงานนอกบ้านมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงนี้อยู่ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงควรจะช่วยกันทำมาหากิน และควรจะแบ่งความผิดชอบภายในบ้านอย่างเท่าเทียมกัน     แต่บรรทัดฐานทางสังคมที่มีมานาน ไม่ได้หายไปอย่างรวดเร็วอย่างที่คิด ทำให้ชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเผยถึงเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ ดังนี้ “การให้ภรรยาทำทุกอย่างในบ้านนั้นจะทำให้คู่รักอยู่กันไม่ยืนยาว แต่ถ้าให้สามีทำงานบ้านอย่างจริงจัง ภรรยาก็จะมองว่าความสุภาพบุรุษของสามีมีน้อยลง มีภรรยาคนไหนที่ชื่นชมเวลาที่เห็นสามีซักผ้า พับผ้า หรือรีดผ้า พวกเธอคงจะคิดว่ามีเพื่อนชายช่วยทำงานบ้านมากกว่า”     จากความเห็นข้างต้นนี้ ดูเหมือนผู้ชายจะไม่ค่อยเข้าใจความต้องการของผู้หญิงสักเท่าไหร่ ดังนั้นผู้หญิงญี่ปุ่นจึงออกมาเผยว่าการที่ผู้ชายช่วยทำงานและดูแลลูกนั้น ทำให้ผู้ชายมีเสน่ห์มากขึ้นต่างหาก โดยแม่บ้านได้ร่วมกันแชร์ภาพของผู้ชายที่มีเสน่ห์ บางคนแชร์ภาพสามีตัวเอง บางคนแชร์ภาพเซเลบชายในบทบาทพ่อบ้าน รวมทั้งผู้ชายญี่ปุ่นคนอื่นๆ ผ่านทางแฮชแท็ก #หากผู้ชายทำงานบ้านและดูแลลูก     หลังจากที่มีการแชร์ภาพของสามีที่เสน่ห์ ก็มีผู้หญิงอีกมามายเข้ามาแสดงความเห็น บางคนบอกว่า “สามีที่ซักผ้า พับผ้า น่าสนใจมากกว่าผู้ชายที่ประสบความสำเร็จจากการทำงานนอกบ้านซะอีก”…

  • หญิงสาวถูกจับกุม หลังก่อเหตุฆาตกรรมว่าที่สามีและครอบครัวของเขา เพราะไม่อยากแต่งงานด้วย

    หญิงสาวถูกจับกุม หลังก่อเหตุฆาตกรรมว่าที่สามีและครอบครัวของเขา เพราะไม่อยากแต่งงานด้วย

    ปัจจุบันนี้ในบางประเทศยังมีการคลุมถุงชนให้เห็นกันอย่างเปิดเผย และผู้หญิงมักจะตกเป็นเหยื่อการกระทำเช่นนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับ Aasia Bibi หญิงสาววัย 20 จากปากีสถานที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่รัก เธอจึงตัดสินใจฆ่าว่าที่สามีพร้อมครอบครัว หวังจะหลุดพ้นจากการคลุมถุงชน     Bibi อาศัยอยู่ในเมือง Muzaffargarh ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศปากีสถาน เธอเพิ่งจะกลับมาหาพ่อแม่ แต่แล้วเธอก็ถูกบังคับให้กลับไปยังบ้านของว่าที่สามีทั้งๆ ที่เธอเองก็มีคนรักอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงวางแผนฆ่า Amjad ว่าที่สามีของเธอ ด้วยการวางยาพิษในภาชนะที่บรรจุนม ตอนแรกเธอหวังจะให้เขาดื่มแค่คนเดียวเท่านั้น     แต่ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาด ทำให้ครอบครัวของฝ่ายชายทุกคนดื่มนมที่มียาพิษนั้นเข้าไป ยกเว้น Amjad คนเดียวที่ไม่ได้ดื่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจ Awais Ahmad Malik บอกว่า Bibi ได้วางยาพิษในภาชนะที่บรรจุนม และให้ว่าที่สามีกับครอบครัวของเขาดื่มเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย และกำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 11 คน     ต่อมาตำรวจพบว่าเหยื่อทุกคนได้รับสารพิษชนิดเดียวกัน และยังมีหลักฐานด้วยว่าเป็นฝีมือของ Bibi ดังนั้นเธอจึงถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม ร่วมกับคนรักของเธอ Shahid และป้าของเขา Zarina Mai ทั้งสามคนถูกจับภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ Malik บอกว่า “เพื่อยับยั้งคนในท้องถิ่นไม่ให้ก่ออาชญากรรม”     ทางด่าน Bibi ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด…

  • คุณแม่ลงมือก่อเหตุฆาตรกรรมลูกชายพิการ เพราะกลัวไม่มีใครดูแลเขา ขณะที่เธอแก่ลงทุกวัน

    คุณแม่ลงมือก่อเหตุฆาตรกรรมลูกชายพิการ เพราะกลัวไม่มีใครดูแลเขา ขณะที่เธอแก่ลงทุกวัน

    เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัว ได้รายงานถึงการตัดสินของศาลในเมืองกว่างโจว ในคดีที่คุณแม่สูงวัยฆ่าลูกชายพิการของตนเองที่เธอคอยดูแลมานานหลายสิบปี เหตุสลดนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นางหวง อายุ 83 ปีได้ทำการฆาตรกรรมลูกชายแท้ๆ ของเธอด้วยการป้อนยานอนหลับ 60 เม็ด ก่อนที่จะนำสำลีอุดจมูกแล้วใช้ผ้าพันคอรัดคอเขาจนเสียชีวิต รุ่งขึ้นนางหวง ก็ได้โทรแจ้งตำรวจและรับสารภาพว่าเธอเป็นคนทำทั้งหมด     ในส่วนของการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมานางหวง ได้อธิบายถึงเหตุจูงใจในการฆ่าลูกชายของตัวเองไว้ว่า “ฉันแก่และก็อ่อนแอลงทุกวัน ฉันกลัวว่าสักวันหนึ่งเมื่อฉันตายไปอาจจะไม่มีใครเข้ามาดูแลลูกชายของฉัน ฉันตัดสินใจเรื่องนี้เป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์”  แล้วเธอก็ยังได้บอกอีกว่า เธอไม่สามารถผลักภาระในการดูแลลูกชายให้กับสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ได้ เนื่องจากว่าเธอคิดว่าไม่มีใครที่จะดูแลเขาได้ดีเท่ากับแม่แท้ๆ และเธอก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเกิดมาเป็นแบบนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจฆ่าลูกดีกว่าทิ้งไว้ให้คนอื่นดูแล     “การทำให้เขาจบชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมันคงจะดีกว่าที่จะปล่อยให้เขาทุกข์ทรมานจากสิ่งที่เขาเป็น ฉันไม่เคยแม้แต่จะโกรธจะเกลียดที่ลูกชายของฉันที่เป็นแบบนี้ ฉันมันแย่เองที่ดูแลเขาได้ไม่ดีพอ” ลูกชายของนางหวงพิการมาตั้งแต่กำเนิดเนื่องจากการคลอดก่อนกำหนด ทำให้เขามีภาวะบกพร่องทั้งด้านร่างกายและสมอง เขาไม่สามารถพูดคุยหรือใช้ชีวิตได้ตามลำพัง และช่วงหลายปีที่ผ่านมาอาการก็เริ่มแย่ลงจากภาวะกล้ามเนื้อลีบ และช่วงนั้นก็ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องตัดสินใจลาออกจากงานเมื่อเธออายุ 47 ปีเพื่ออุทิศเวลาทั้งหมดในการดูแลเขา     และศาลก็ได้ให้คำตัดสินคดีฆาตกรรมนี้ หลังจาากที่ได้พิสูจน์ว่าสาเหตุนางหวง ฆ่าลูกชายนั้นไม่ได้มาจากความเกลียดชังใดๆ ทั้งสิ้น เธอเพียงแค่อยากจะให้ลูกชายของเธอไปสบายไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามนางหวง ก็ยังต้องได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 3…

  • คุณยายสุดเฟี้ยวกลายเป็นเซเลบบนโลกโซเชียล เพราะแต่งตัวมันเฟี้ยวจนวัยรุ่นยังอาย

    คุณยายสุดเฟี้ยวกลายเป็นเซเลบบนโลกโซเชียล เพราะแต่งตัวมันเฟี้ยวจนวัยรุ่นยังอาย

    เคยคิดไหมว่าถ้าเราแก่ตัวไปแล้ว เราจะใช้ชีวิตกันอย่างไร จะยังคงใช้ชีวิตแบบเฟี้ยวๆ อย่างตอนเป็นวัยรุ่นกันอยู่หรือเปล่า วันนี้ #เหมียวบู้บี้ จะมาแนะนำให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกับคุณยาย Lin วัย 80 ปี ชาวเมืองฉงชิ่ง ผู้มาสร้างปรากฏการณ์ความแซ่บ ถึงยายจะแก่แต่ยายก็ยังไม่หมดไฟเด้อ     เซ็ตภาพของคุณยายที่ถูกหลานสาวจับแต่งตัวแบบจัดหนักจัดเต็ม กลายเป็นคุณยายสมัยใหม่ สวยเช้ง แซ่บไม่แพ้ตอนเป็นสาวๆ   หลานรักจัดชุดไหนมา ยายก็ไม่หวั่น   จัดมาเลยหลานเอ๊ย!!!   ยอมใจในท่าโพสของคุณยายเลยค่ะ   พร๊อบจัดหนักขนาดนี้ ไม่กดไลค์กันได้ยังไงล่ะ   เห็นแล้วอยากจะจับคุณยายที่บ้านแต่งตัวแบบนี้เหลือเกิน   ภาพถ่ายเหล่านี้หลายเป็นไวรัลที่โด่งดังไปทั่วสังคมออนไลน์ของชาวจีน เพราะว่าความเฟี้ยวฟ้าวของคุณยายที่โดนใจชาวเน็ต และเป็นภาพที่ดูแล้วอบอุ่นแสดงถึงความเข้ากันระหว่างวัยรุ่นกับวัยดึก     ดูภาพเหล่านี้แล้วลองหันไปชวนคุณตาคุณยายที่อยู่ใกล้ๆ มาทำอะไรสนุกๆ แบบนี้กันสิ   ที่มา nextshark

  • พ่อทานขนมที่ลูกเอามาให้ในวันฮาโลวีน มารู้ทีหลังว่ามันหมดอายุไปแล้ว 18 ปี!!

    พ่อทานขนมที่ลูกเอามาให้ในวันฮาโลวีน มารู้ทีหลังว่ามันหมดอายุไปแล้ว 18 ปี!!

    เทศกาลวันฮาโลวีนที่ผ่านมา เราคงจะได้เห็นผู้คนออกมาร่วมเฉลิมฉลองด้วยการแต่งตัวเป็นภูติผีต่างๆ ซึ่งแต่ละคนต่างงัดไม้เด็ดมาประชันกัน Adrain Johnson ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่โดนหลอกเข้าอย่างเต็มเปา แต่เขาไม่ได้โดนผีหลอกนะ แต่โดนขนมหลอกต่างหาก   Adrain Johnson ผู้เคราะห์ร้ายของเราในวันนี้…   ไอ้ขนมที่ว่านั่นก็คือ บิสกิตเคลือบช็อกโกแลตห่อสีน้ำตาลห่อนี้นี่เอง   สงสัยกันสิว่า ขนมจะหลอกคนได้ยังไง เรื่องราวมันมีอยู่ว่าคุณพ่อ Adrain เนี่ย แกได้ขนมห่อนี้มาจากลูกที่ออกไปตระเวนหาขนมในวันฮาโลวีนแล้วเอาขนมมาแบ่งให้พ่อทาน พอคุณพ่อแกะขนมห่อนี้ก็รู้สึกแปลกๆ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอกัดเข้าไปแค่นั้นแหละรู้เรื่องเลย รสชาติของมันแย่มากๆ จนคุณพ่อต้องคายทิ้งและล้วงคอออกเป็นการด่วน     พอมาพิจารณาบิสกิตห่อนี้เขาก็พบว่ามันหมดอายุแล้ว แต่ไม่ใช่ว่ามันพึ่งหมดอายุภายในปีนี้ แต่มันหมดอายุเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ปี 1999 นั่นก็หมายความว่ามันหมดอายุมาแล้ว 18 ปี *0* โชคดีที่ลูกๆ ของเขาไม่ได้ทานบิสกิตห่อนี้เข้าไป คุณพ่อ Adrain เกิดอาการหัวเสียเป็นอย่างมากจึงได้มาโวยวายบนทวิตเตอร์เพื่อเตือนให้เหล่าผู้ปกครองได้รับทราบ     เขาเอามาโพสต์ผ่านทวิตเตอร์ จนมีชาวเน็ตมาร่วมกดถูกใจอย่างมากมาย   “ผมพึ่งจะทานบิสกิตห่อนี้ (ลูกได้มาจากการออกไปเล่น Trick or Treat)…

  • ช่างภาพใช้โดรนเก็บภาพลาวาทางอากาศ เผยให้เห็นความร้อนแรงที่งดงามซะเหลือเกิน

    ช่างภาพใช้โดรนเก็บภาพลาวาทางอากาศ เผยให้เห็นความร้อนแรงที่งดงามซะเหลือเกิน

    ด้วยอุณหภูมินับพันองศาเซลเซียส ลาวาจากภูเขาไฟจึงเป็นสิ่งที่อันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก แต่มันก็มีความงดงามอย่างล้ำลึก อย่างไรก็ตามควรมองด้วยตาเท่านั้นอย่าสัมผัสหรือเข้าใกล้เป็นอันขาด เพื่อเผยให้เห็นความงามของลาวาภูเขาไฟ ช่างภาพ Erez Marom จึงเดินทางไปยังฮาวายเมื่อเดือนตุลาคมปี 2017 และใช้เวลาอยู่ที่นั่น 2 สัปดาห์ด้วยกัน     Erez กับเพื่อนได้ไปเก็บภาพที่ Big Island เป็นจุดแรก ที่นั่นมีการไหลของลาวาจากภูเขาไฟ Kilauea พวกเขาเห็นสีแดงจากความร้อนและสีดำจากการเผาไหม้ อยู่รวมกันได้อย่างงดงามยิ่ง     แต่กว่าจะเห็นลาวาเหล่านี้มันไม่ง่ายเลย พวกเขาต้องเดินทางขึ้นเขาเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร โดยพบว่ามีลาวาบางส่วนที่ไหลออกนอกอุทยานแห่งชาติด้วย ดังนั้นเพื่อให้เห็นลาวาได้ทั่วทุกมุม ช่างภาพจึงใช้กล้องโดรนบินเก็บภาพตามทิศทางต่างๆ รวมทั้งส่วนที่เข้าถึงได้ยาก     ช่างภาพบอกว่า “ลาวาไหลลงมาจากเนินเขาอย่างช้าๆ สร้างความประทับใจไม่น้อยเลย เราได้ใช้เวลาในการเก็บภาพประมาณ 3 ชั่วโมง ทั้งตอนกลางวัน ตอนพระอาทิตย์ตก และตอนพลบค่ำ”     เมื่อแน่ใจว่าได้ภาพครบทุกมุมตามต้องการแล้ว Erez และเพื่อนๆ จึงได้เดินทางกลับที่พัก และเมื่อเขาเช็คสภาพของโดรนที่ส่งไปถ่ายภาพ เขาก็ถึงกับเซอร์ไพรซ์เลยทีเดียว เพราะความร้อนได้ทำลายส่วนที่เป็นพลาสติกทั้งหมด     อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดดูภาพ เขากลับรู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไป เพราะสิ่งที่ได้คือภาพการไหลของลาวาที่งดงามตระการตายิ่งนัก…

  • ทนายอียิปต์กล่าว ‘ผู้หญิงที่สวมกางเกงยีนส์ขาด ควรถูกข่มขืน’ และผู้ชายทุกคนควรทำแบบนั้น

    ทนายอียิปต์กล่าว ‘ผู้หญิงที่สวมกางเกงยีนส์ขาด ควรถูกข่มขืน’ และผู้ชายทุกคนควรทำแบบนั้น

    กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อทนายความชาวอียีปต์คนหนึ่งได้พูดออกรายการว่า ผู้หญิงที่สวมกางเกงยีนส์ขาด ควรถูกข่มขืน และเป็นหน้าที่ของผู้ชายทุกคนที่ควรทำแบบนั้น นี่คือคำพูดของทนาย Nabih al-Wahsh ที่พูดผ่านรายการโทรทัศน์ของช่อง Al-Assema ในระหว่างที่ทางรายการให้แขกรับเชิญมาพูดภายใต้หัวข้อสิ่งผิดกฎหมายร้ายแรง     เขาบอกว่าการที่ผู้หญิงสวมกางเกงยีนส์ขาดแล้วเผยให้เห็นเนื้อหนัง ไม่ว่าจะส่วนไหนก็ตาม มันคือการยั่วยวนให้ผู้ชายเกิดอารมณ์ทางเพศ     เขายังบอกอีกว่า การข่มขืนผู้ที่สวมกางเกงยีนส์ขาดคือหน้าที่ระดับชาติ นั่นหมายความว่าไม่ใช่แค่สิ่งผู้หญิงเหล่านั้นสมควรถูกกระทำ แต่มันคือหน้าที่ของผู้ชายอียีปต์ทุกคนที่ต้องทำแบบนั้น เพื่อให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะเคารพในตัวเอง “ผู้หญิงต้องเคารพตัวเองก่อนที่จะให้คนอื่นมาเคารพ เหมือนกับการปกป้องศีลธรรมที่สำคัญกว่าการปกป้องชายแดน” al-Wahsh กล่าว   เขาบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของชายชาวอียีปต์ทุกคนที่ควรข่มขืนผู้หญิงที่สวมกางเกงยีนส์ขาด   แน่นอนว่าหลังจากที่เขาพูดแบบนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศเสรี และกลุ่มสตรีนิยม จนนำไปสู่การถกเถียงในสื่อออนไลน์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทนาย Al-Wahsh พูดจาแบบนี้ผ่านรายการโทรทัศน์ เมื่อปีที่แล้วเขาได้ไปร่วมรายการทอล์คโชว์ในประเทศออสเตรเลีย เขาบอกว่าการใส่ฮิญาบเป็นเพียงทางเลือกของผู้หญิง ไม่ใช่ความต้องการทางศาสนาตามที่หลายคนเข้าใจ…     ที่มา dailymail

  • ชีวิตอันแสนเศร้าของเจ้าช้าง ที่เปลี่ยนเจ้าของมากกว่า 27 ครั้ง และถูกขังมานานกว่า 50 ปี

    ชีวิตอันแสนเศร้าของเจ้าช้าง ที่เปลี่ยนเจ้าของมากกว่า 27 ครั้ง และถูกขังมานานกว่า 50 ปี

    ช้างเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่มักจะถูกมนุษย์ใช้งานด้วยการให้ขนสัมภาระที่มีน้ำหนักมาก เช่น ลากไม้ แบกของ และอื่นๆ ที่มนุษย์ไม่สามารถทำด้วยพละกำลังของตัวเองได้ เท่านั้นยังไม่พอ สัตว์ยังถูกซื้อขายในฐานะสัตว์ใช้งานอีกด้วย พวกมันต้องทำตามที่ควาญช้างสั่งทุกอย่าง หากไม่ทำก็จะถูกทำโทษอย่างรุนแรง     Raju คือหนึ่งในช้างที่ถูกมนุษย์ทารุณและกักมานานกว่า 50 ปี เพื่อใช้งาน แต่ในที่สุดองค์กรเพื่อสัตว์ Wildlife SOS-UK ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือมันจากทางตอนเหนือของ Uttar Pradesh ประเทศอินเดีย ก่อนจะย้ายไปที่ Elephant Conservation and Care Centre ในเมือง Mathura และนี่คือข้อมูลจาก Mirror และ Wildlife SOS เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตอันแสนเศร้าของ Raju ที่ทำให้รู้ว่าก่อนจะได้รับการช่วยเหลือมันเคยผ่านอะไรมาบ้าง     ก่อนที่ Wildlife SOS-UK จะเข้าไปช่วยเหลือ Raju เคยมีเจ้าของมาแล้วกว่า 27 คน และแน่นอนว่าการช่วยครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ด้วยเหตุนี้ Wildlife SOS-UK จึงต้องเข้าไปช่วยเหลือพร้อมทีมสัตวแพทย์กว่า 10 คน ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์จากองค์กรการกุศล คนที่ทำงานใน Palmers Green…

  • หนุ่มตกปลาที่ลำตัวแทบขาดครึ่งจาก “เศษพลาสติก” เพราะมันโตมาพร้อมการถูกรัดจากขยะ

    หนุ่มตกปลาที่ลำตัวแทบขาดครึ่งจาก “เศษพลาสติก” เพราะมันโตมาพร้อมการถูกรัดจากขยะ

    ปัญหาเรื่องขยะดูเหมือนที่จะมีอยู่ทุกแห่งบนโลกใบนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตอย่างเช่นปลาตัวนี้ที่โดยเศษพลาสติกจากขวดน้ำรัดมันจนตัวแทบขาดครึ่ง!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Medicine Hat รัฐ Alberta ประเทศแคนาดาเมื่อมีชายคนหนึ่งชื่อว่า Adam Turnball ได้ตกปลาสุดแปลกมาได้ตัวหนึ่งที่มีลำตัวแทบจะขาดครึ่ง โดยเขาได้เล่าเหตุการณ์ว่าวันนั้นก็เป็นวันปกติที่เขามักจะออกไปตกปลาอยู่แล้ว    หน้าตาของหนุ่มที่พบปลาแสนโชคร้าย   แต่เมื่อเขาตกปลาตัวนี้ขึ้นมาได้เขาก็เห็นว่าลำตัวของมันดูแหว่งๆ ซึ่งอาจจะมาจากการถูกปลาตัวอื่นทำร้าย แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นพลาสติกที่หุ้มปากขวดของเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งที่มีชื่อว่า Powerade   อะไรสีดำๆ ตรงนั้นนะ   “ผมไม่เคยเห็นเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต มันทำผมช็อคไปเลยทีเดียว” “เจ้าปลาตัวนี้ต้องใช้ชีวิตที่ผ่านมาโดยมีพลาสติกหุ้มตัวมันตลอดเวลาอย่างนี้ มันน่าเศร้าจริงๆ” Adam ได้กล่าวไว้   ที่หุ้มขวดน้ำนั่นเอง   ก่อนที่จะปล่อยมันกลับสู่ธรรมชาติ Adam ก็ได้ถ่ายรูปปลาตัวนี้ไว้พร้อมกับแชร์ไปบน Facebook ของเขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลบนอินเทอร์เน็ตที่มีผู้แชร์โพสต์ของเขาแล้วกว่า 15,000 ครั้ง   โพสต์สร้างจิตสำนึกให้คนอื่นๆ เห็นถึงปัญหาขยะ   นั่นทำให้เขารู้สึกดีใจที่สามารถทำให้ผู้คนได้เห็นความสำคัญของการทิ้งขยะมากขึ้น “เมื่อคุณนำสิ่งของเข้ามา ก็เอากลับไปกับคุณด้วย” Adam ได้บอกทิ้งท้ายไว้   แหม เกือบไปแล้วไหมล่ะ   สงสารเจ้าปลาน้อยจริงๆ หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกนะ   ที่มา: buzzfeed

  • ทำความรู้จักกับ Swim Reaper ยมฑูตที่จะมารับวิญญาณคนตายจากการจมน้ำโดยประมาท

    ทำความรู้จักกับ Swim Reaper ยมฑูตที่จะมารับวิญญาณคนตายจากการจมน้ำโดยประมาท

    การลงสู่แม่น้ำหรือทะเลแต่ละครั้ง มีเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงเสมอไม่ว่าจะเมื่อไหร่ เพราะเราไม่รู้ว่าข้างใต้น้ำนั้นมีอะไรอยู่บ้าง ซึ่งหลายคนได้ละเลยถึงความสำคัญของข้อนี้ไปจึงนำไปสู่ความตายในที่สุด ในปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตในประเทศ New Zealand จากการจมน้ำกว่า 106 ราย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วลงเล่นน้ำ หรือการกระโดดน้ำจากที่สูงๆ แล้วไม่รู้ว่าข้างใต้น้ำนั้นมีตอไม้อยู่หรือกระทั่งการสวมชุดที่ไม่เหมาะสมกับการเล่นน้ำ ด้วยเหตุนี้รัฐบาลของประเทศ New Zealand จึงมีความคิดที่แสนจะบรรเจิดคือพวกเขาได้สร้าง Instagram ขึ้นมายูสเซอร์หนึ่งชื่อว่า iamtheswimreaper เขาได้นำเอาตำนานที่ชื่อว่า Grim Reaper ซึ่งเป็นยมฑูตที่คอยรับวิญญาณคนที่ตายแล้วมาดัดแปลงเป็น Swim Reaper เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปคำนึงถึงความปลอดภัยในการลงสู่ทะเล มิเช่นนั้นยมฑูตคนนี้จะมาคอยรับวิญญาณไปยมโลกนั่นเอง   . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   หากใครชื่นชอบผลงานภาพสวยๆ ก็สามารถติดตามได้ที่ swimreaper และ iamtheswimreaper นะจ๊ะ   นั่งเรือเป็ดน่ารักเชียว   ที่มา: designyoutrust

  • ชื่นชมความอลังการของ “ทรานซิลเวเนีย” ดินแดนที่สวยงามราวกับอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์

    ชื่นชมความอลังการของ “ทรานซิลเวเนีย” ดินแดนที่สวยงามราวกับอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์

    ทรานซิลเวเนีย (Transylvania) เป็นดินแดนที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศโรมาเนีย เป็นดินแดนที่ห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาคาร์เพเทียนที่สุดแสนจะงดงาม อากาศบริสุทธิ์ รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัส     ดินแดนแห่งนี้เปรียบเสมือนกับดินแดนแห่งเวทมนตร์ ความงามจากธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นมา ทำให้ Alex Robciuc เป็นหนึ่งในคนที่ตกหลุมรักในความเป็นทรานซิลเวเนีย     เขาบอกว่าเมื่อเขาได้มาเยือนในที่แห่งนี้ ราวกับว่าเขาได้ต้องมนตร์ หลงใหลไปกับความสวยงามของธรรมชาติ หมู่บ้านของชนเผ่าที่ปล่อยทิ้งไว้  ปราสาทเก่าๆ ที่ยังคงความลึกลับ และความงามหลายๆ อย่างที่ยังคงรอคอยให้คนมาสัมผัส     Alex ได้ท่องเที่ยวไปทั่วทรานซิลเวเนีย และได้เก็บภาพดินแดนแห่งนี้ไว้ แล้วนำมาอวดในโลกออนไลน์ให้ทุกคนได้ชื่นชมความสวยงามของดินแดนแห่งนี้     ปราสาทที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ ท่ามกลางความเงียบสงบ .   ดินแดนแห่งเมฆหมอก ราวกับว่าเป็นดินแดนแห่งเวทมนต์ .   ไร่องุ่น และท้องฟ้ายามค่ำคืน . .   บรรยากาศเงียบสงบ . . . . .   เสพบรรยากาศของดินแดนทรานซิลเวเนียกันเต็มๆ เลยจ้า .…

  • เชิญพบกับโรงอาหารมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แคนทีนที่เรียกว่าดีที่สุดในสหรัฐฯ

    เชิญพบกับโรงอาหารมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แคนทีนที่เรียกว่าดีที่สุดในสหรัฐฯ

    ทุกครั้งที่เราคิดถึงโรงอาหารในรั้วมหาวิทยาลัย เราจะนึกถึงโรงอาหารแบบไหน มีอาหารดีๆ ไหมหรือว่าสะอาดน่าใช้หรือเปล่า แน่นอนว่าโรงอาหารนักเรียนแต่ละแห่งก็จะแตกต่างกันออกไป ล่าสุดเว็บไซต์ This is Insider ได้จัดอันดับโรงอาหารนักเรียนที่ดีสุดในอเมริกา และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียก็ได้อันดับหนึ่งไปครอง แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่า การเป็นอันดับหนึ่งเนี่ย มันดีกว่าโรงอาหารนักเรียนที่อื่นยังไง ด้วยเหตุนี้ This is Insider ก็เลยออกมาขยายความพร้อมโชว์ให้เห็นมุมต่างๆ กันไปเลยว่าทำไมโรงอาหารมหาลัยดังกล่าวถึงเป็นผู้ชนะ อ่านแล้วก็ชักสงสัยมันจะดีแค่ไหนกันเชียว สู้โรงอาหารในไทยได้ไหม อย่ารอช้าเลื่อนไปดูกันเลย!!   เริ่มด้วยจากความจุของคนกันก่อน โรงอาหารแห่งนี้จุนักศึกษาได้พร้อมๆ กันถึง 900 คน เลยทีเดียว!!   ภายในโรงอาหารก็จะมีโซนอาหารถึง 5 โซนด้วยกัน   เริ่มกันด้วยอาหารเช้ากันก่อน น่ากินไหมล่ะ   โซนเตาย่างก็จะมีอาหารที่สดใหม่ และมีวัตถุดิบดีๆ เพียบ เพื่อสุขภาพที่ดีของนักเรียนทุกคน   โซนเตาย่างก็จะมีอาหารหน้าตาประมานนี้   หรือแบบนี้   อาหารทุกจานจะได้รับคำแนะนำจากเชฟโดยตรง เพื่อสุขภาพและอาหารที่ดีแก่นักศึกษาทุกคน   ดูเฮลตี้ไหมล่ะ   โซนสลัดนั้นนอกจากเมนูข้างบนแล้ว ก็ยังมีผักอีกเยอะแยะมากมายสำหรับคนไม่กินเนื้อเลย  …

  • นายทหารทาสีบ้านไม่เสร็จ เพราะต้องไปสนามรบ นักศึกษากว่า 40 คนจึงมาช่วยจัดการให้!!

    นายทหารทาสีบ้านไม่เสร็จ เพราะต้องไปสนามรบ นักศึกษากว่า 40 คนจึงมาช่วยจัดการให้!!

    การที่คนในชุมชนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนั้นเป็นสิ่งที่งดงามมาก เพราะในยามยากลำบาก คนที่จะมาช่วยเหลือกันและกันก็เป็นคนในชุมชนนั่นเอง เช่นเดียวกับเรื่องราวของนายทหารในครั้งนี้… เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ William และ Kim Cookson สองสามีภรรยาที่อาศัยอยู่ในบ้านและต้องการจะทาสีบ้านใหม่ทั้งหลัง แต่ระหว่างที่กำลังทำๆ อยู่ William ก็ดันถูกเรียกตัวเพื่อไปช่วยรบที่ประเทศคูเวตซะได้     ด้วยเหตุนี้ บ้านจึงยังทาสีไม่เสร็จและก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตัวเจ้าของบ้านผู้เป็นนายทหารจะกลับมาปิดงาน อาสาชุมชนเห็นแบบนั้นจึงจัดการรวบรวมนักศึกษากว่า 40 คนเพื่อมาช่วยปิดงานที่นายทหารเริ่มไว้ให้เสร็จ กลุ่มอาสาบอกถึงความในใจของพวกเขาว่า นี่คือสิ่งที่พวกเขาพอที่จะตอบแทนให้กับชุมชนและคนที่ไปต่อสู้เพื่อชาติแทนพวกเขา ทุกคนจึงตั้งใจทำงานกันอย่างไม่บ่นสักคำ ที่สำคัญพวกเขาก็ดูจะแฮปปี้กับการทำงานนี้มากๆ   .   ทางด้านร้านของ Selina ซึ่งเป็นร้านค้าในชุมชน พอได้ยินเรื่องราวดังกล่าวก็ตัดสินใจออกค่าสีและอาหารกลางวันให้กับนักเรียนอาสาที่มาทาสีทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ร่วมลงมือช่วยนักศึกษาทาสีด้วย Austin Workman หนึ่งในนักศึกษาที่มาช่วยทาสีก็บอกว่า “พวกเรานักศึกษามีเงินกันไม่มากหรอก แต่ว่าพวกเรามีเวลา ฉะนั้นการทำแบบนี้จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่พวกเราจะตอบแทนชุมชนได้”     ที่มา inspiremore

  • ภาพถ่ายของเศษซากเมืองบนเกาะมาราวีในฟิลิปปินส์ ผลพวงจากรุกรานของกองกำลัง ISIS

    ภาพถ่ายของเศษซากเมืองบนเกาะมาราวีในฟิลิปปินส์ ผลพวงจากรุกรานของกองกำลัง ISIS

    กลายเป็นว่าเป็นเรื่องปกติที่เรารู้กันดีไปแล้วว่า ถ้ากองกำลัง ISIS โผล่ไปที่ไหนสถานที่แห่งนั้นจะต้องมีการต่อสู้ที่รุนแรง จนสุดท้ายก็จะเหลือแต่เศษซากของความสูญเสียเสมอ ล่าสุดหลังจากที่ทางการฟิลิปปินส์สามารถจัดการกองกำลัง ISIS ในเมืองมาราวีไปได้แล้ว พวกเขาจึงเผยแพร่ภาพซากเมืองที่เสียหายจากการต่อสู้กับกองกำลังดังกล่าวมาให้ดูกัน   สภาพของเมืองหลังจากที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างหนักหน่วง   กองกำลัง ISIS สามารถเข้ายึดเมืองทั้งเมืองได้ภายในเวลาไม่กี่วันหลังจากการซุ่มโจมตี   แต่กว่าทางการจะยึดเมืองกลับมาได้นั้น จะต้องใช้เวลานานถึง 5 เดือนเต็มๆ   มัสยิดคือทำเลทองที่กองกำลัง ISIS ใช้เป็นที่ซุ่มยิง ด้วยเหตุดังกล่าวมิสยิดก็เลยมีความเสียหายหนักกว่าบริเวณอื่น   ส่วนที่สภาพบ้านเมืองโดยรอบพังแบบที่เห็นนั่นก็เพราะ มีการใช้ระเบิดขนาดใหญ่ในการต่อสู้   การต่อสู้ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางรัฐบาลต้องสู้กับกองกำลังย่อยสองกลุ่มด้วยกันนั่นก็คือ Maute และ Abu Sayyaf ทางการได้พยายามจับตัวหัวหน้าของทั้งสองกลุ่มมาตลอด จนกระทั่งทั้งสองได้เข้าร่วมกับ ISIS และยึดเมืองดังกล่าวไป เวลาผ่านไป 5 เดือนการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปจนสุดท้ายได้ผลสรุปเป็นที่เรียบร้อย กองกำลัง jihadis สูญเสียกำลังพลไปกว่า 900 คน ส่วนกองกำลังฝ่ายรัฐบาลสูญเสียไป 165 คน รวมถึงพลเรือนอีก 45 คน ด้วยกัน   . . .  …

  • กระจ่าง!! ไขปริศนาที่ข้องใจว่า “สิ่งปฏิกูล” ที่จัดหนักบนเครื่องบิน มันหายไปอยู่ไหนกันนะ?

    กระจ่าง!! ไขปริศนาที่ข้องใจว่า “สิ่งปฏิกูล” ที่จัดหนักบนเครื่องบิน มันหายไปอยู่ไหนกันนะ?

    ตอนสมัยเด็กๆ เคยคิดกันไหมว่าหากเราเกิดถ่ายสิ่งปฏิกูลบนเครื่องบินเนี่ยมันจะหายไปไหนกันนะ มันจะตกมาใส่เราไหม? มันจะตกใส่หลังคาบ้านใครรึเปล่า? วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว ไปดูเรื่องการขับถ่ายธรรมดาที่ไม่ธรรมดากันเลยดีกว่า   ครั้งแรกของบางคนนี่กลัวจนไม่กล้าเข้าห้องน้ำกันเลยทีเดียว แต่อย่าทำอย่างนั้นเลยมันไม่ดีต่อสุขภาพนักหรอก   หลักการทำงานนั้นก็ไม่มีอะไรยุ่งยากแค่ “ย้ายจากท้องของคุณมาสู่ท้องของเครื่องบิน” แทนแค่นั้นเอง   ไหนมีใครงงไหม ถ้ามีเดี๋ยวเราจะบอกให้ฟังเอง เมื่อเราเสร็จภารกิจแล้วกดชักโครกทันใดนั้นเองที่ก้อนดินเหนียวของเราได้ลงไปสู่ถังเก็บสิ่งปฏิกูล   เครื่องบินทุกเครื่องจะมีถังสำหรับเก็บสิ่งปฏิกูลเอาไว้ภายใน โดยจำนวนถังที่มีของแต่ละเครื่องบินก็จะแตกต่างกันออกไป   และเมื่อมีของเสียเหล่านั้นถึงกำหนดก็จำเป็นที่จะต้องปิดถัง มิเช่นนั้นมันอาจจะตกเรี่ยราดออกจากเครื่องบิน ซึ่งในอดีตเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นจริง   สำหรับความจุที่ถังหนึ่งถังนั้นสามารถจุได้ก็คือประมาณ 20 แกลลอนหรือเกือบ 100 ลิตรเลยทีเดียว   และเมื่อเครื่องบินลงจอดก็จะมีรถสูบส้วมมาสูบสิ่งเน่าเสียเหล่านี้ออกไปจากถังนั่นเอง   และนี่คือสิ่งที่ผู้โดยสารอย่างเราๆ ทิ้งไว้บนเครื่องบิน หยึยย   และนี่คือเรื่องราวของ “ขี้” ที่เดินทางไปกับเราบนเครื่องบินนั่นเอง   แล้วก็คลายความสงสัยกันไปได้สำหรับใครที่เคยมีความคิดอย่างนี้ อย่างน้อยก็มีผมคนนึงนี่แหละที่เคยคิดแบบนี้จริงๆ ฮ่าๆๆ   ที่มา: wittyfeed

  • หญิงสาวตอกกลับหนุ่มที่บอกไม่ใช้ถุงยางเพราะ “ใหญ่เกินไป” จนชาวเน็ตถูกใจแชร์กันยกใหญ่

    หญิงสาวตอกกลับหนุ่มที่บอกไม่ใช้ถุงยางเพราะ “ใหญ่เกินไป” จนชาวเน็ตถูกใจแชร์กันยกใหญ่

    เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ว่าจะมีเครื่องมืออยู่หนึ่งชนิดที่ผลิตขึ้นมาเพื่อยับยั้งความไม่พึงประสงค์ต่างๆ ที่จะตามมาอย่างเช่นโรคร้ายหรือการตั้งครรภ์ สิ่งนั้นก็คือ “ถุงยางอนามัย” นั่นเอง แต่ก็มีผู้ชายบางคนไม่อยากที่จะใส่เจ้าห่วงมหัศจรรย์อันนี้ด้วยเหตุผลบางประกา จนข้ออ้างบอกว่า “ไอ่จ้อนของเขามีขนาดใหญ่เกินไป” ซึ่งนี่ทำให้เกิดกระแสไวรัลในโซเชียลเน็ตเวิร์คเพราะว่ามีสาวน้อยผู้หนึ่งออกมาตอกกลับคนที่บอกเหตุผลนี้ พร้อมกับยืนยันด้วยรูปที่เถียงไม่ได้เลยทีเดียว สาวน้อยอายุ 18 ปีจากรัฐ Utah ประเทศสหรัฐอเมริกา คนหนึ่งชื่อว่า Emily ได้สร้างกระแสไวรัลบนอินเทอร์เน็ตในเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอได้โพสต์รูปภาพตอบกลับผู้ชายที่ชอบบอกว่าของตัวเองนั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะใส่ถุงยางได้ โดยเธอได้สาธิตด้วยการเอามือใส่เข้าไปทั้งมือและยังครอบคลุมได้ถึงต้นแขนบางส่วนเลยล่ะ   รูปภาพประชดสุดฮา   โดยเธอได้ใส่แคปชั่นในภาพไว้ว่า “ถ้ามีผู้ชายคนหนึ่งบอกว่าของเขาใหญ่เกินกว่าจะใส่ถุงยางได้ ส่งรูปนี้ให้เขาซะ” รูปภาพทั้ง 3 ภาพนี้ได้กลายมาเป็นกระแสไวรัลที่ตอนนี้มีผู้รีทวีตของเธอแล้วกว่าเกือบ 4 หมื่นครั้ง สำหรับผลตอบรับที่เธอได้รับส่วนมากจะเป็นในแง่บวกโดยเฉพาะความคิดเห็นที่มาจากผู้หญิงและก็มีผู้ชายส่วนหนึ่งที่ออกมาปกป้องเพศของพวกเขาเช่นเดียวกันโดยสามารถติดตามกันได้ที่ @DramaticEmily   มีใครให้ใหญ่กว่านี้อีกไหม   กำมือในนี้ยังได้เลย   ไหนใครจะเถียงฮะ   มาลองดูความคิดเห็นของชาวเน็ตที่มีต่อภาพของเธอบ้างดีกว่า   อย่างชายคนนี้ที่เขาได้ตอบกลับเธอว่า “การเอาแขนใส่ในถุงยางอนามัยได้ ไม่ได้หมายความว่ามันจะสบายสำหรับคนที่สวมมันนะ”     และเมื่อมีลบก็ต้องมีบวกเหมือนเธอคนนี้ที่ให้กำลังใจคนโพสต์ภาพว่า “มันสุดยอดไปเลย ขอบคุณสำหรับการมีอยู่ของเธอนะ”     จริงๆ แล้วถุงยางอนามัยมีประโยชน์มากมายหลายอย่าง นอกจากจะสามารถคุมกำเนิดได้กว่า 98% แล้วยังสามารถลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างโรคเอดส์ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิตได้ นอกจากนั้นยังสามารถลดความเจ็บระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์กันได้อีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วคนไหนที่อยากกระชับรักแบบปลอดภัยและไม่ต้องกังวลหน้ากังวลหลังอย่าลืมที่จะใช้เจ้าห่วงวิเศษอันนี้กันนะ แล้วอย่าแก้ตัวกันด้วยการบอกว่ามีขนาดใหญ่เกินไปอีกล่ะ คิคิ  …

  • คลิปสาวเอาคืนหนุ่มที่แซวเธอกลางถนน ด้วยการ “ถีบล้ม-จับนมฟาดหน้า” ถูกพูดถึงทั่วเน็ต!!

    คลิปสาวเอาคืนหนุ่มที่แซวเธอกลางถนน ด้วยการ “ถีบล้ม-จับนมฟาดหน้า” ถูกพูดถึงทั่วเน็ต!!

    ปัจจุบันเราจะได้เห็นคลิปโปรโมทแคมเปญต่างๆ ในแนวเรียลริตี้ เพื่อทำให้สังคมพูดถึงแคมเปญนั้นอย่างมากมาย และในคราวนี้ก็ถูกสังคมออนไลน์หยิบมาพูดถึงอย่างมากอีกครั้งหนึ่ง คลิปเหตุการณ์สุดแปลกนี้ เกิดที่บริเวณใจกลางเมือง Ribeirao Preto  ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศบราซิล เอาคืนชายแปลกหน้าที่ส่งสายตาลวนลามและพูดจาล่วงละเมิดทางเพศเธอในที่สาธารณะ เธอทำงานเป็นเซลล์ขายของ แต่กลับถูกชายหนุ่มทำให้ถูกคุกคามทางเพศ จึงระเบิดโทษะด้วยการเดินไปเตะตัดหนุ่มคนนั้นจนล้มลง พร้อมกับเปลื้องผ้าเพื่อเอาหน้าอกไปให้เขาลิ้มลองซะสาแก่ใจ     หลังจากที่เขาล้มลงนั้น เธอก็ตะโกนยกใหญ่และด่าทอหนุ่มคนดังกล่าว ด้านชายหนุ่มก็ตะโกนโต้กลับว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เขามาเที่ยวกับภรรยาและลูก เธอคนนี้เข้าใจผิดไปเอง เมื่อการถกเถียงของทั้งคู่เริ่มระุอุขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวที่ทนไม่ไหวเต็มทีจึงถอดเสื้อของเธอและเปิดหน้าอกออกมา พร้อมถามชายคนดังกล่าวว่าเขาอยากได้หน้าอกนี้นักใช่ไหม จากนั้นเธอจึงจัดการทุบตีหนุ่มคนดังกล่าว รวมถึงเอาหน้าอกหนีบเข้าไปที่หน้าของเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย นอกจากนี้ยังตะโกนว่า “นี่ใช่ไหมที่แกอยากได้!?”     ซึ่งหลังจากคลิปเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป เนื่องจากความสมจริงและถูกถ่ายด้วยกล้องมือถือ มีชาวเน็ตออกมาชอบใจกันยกใหญ่ บ้างก็บอกว่าการตอบโต้ของเธอนั้นถูกต้องแล้ว แต่ก็มีชาวเน็ตอีกไม่น้อยที่รู้สึกว่าการกระทำนี้มันผิด เพราะว่าเธอเปิดหน้าอกต่อหน้าเด็กมากมายและยังเป็นที่สาธารณะที่ผู้คนผ่านไปมามากมาย     แต่แล้วความจริงก็ถูกเปิดเผย เมื่อมีการเฉลยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจัดฉากขึ้น โดยกลุ่มนักแสดงจาก Confluências ซึ่งให้เหตุผลของการจัดฉากนี้ว่า เพื่อแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ผู้หญิงจะต้องเจอเหตุการณ์อันเลวร้ายจนลุกลามไปเป็นการลวนลามทางเพศ ทางด้าน Fausto Ribeiro ผอ. ของ Confluências ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า เขาต้องการแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ผู้หญิงต้องเผชิญในทุกๆ วัน และการจัดฉากนี้ก็เพื่อให้ผุ้ชายเห็นว่าถ้าผู้หญิงเอาคืนแบบนี้พวกคุณจะรู้สึกยังไงจนพวกเขาต้องกลับไปคิดว่าการกระทำที่เป็นต้นเหตุมันถูกต้องหรือเปล่า   สามารถรับชมคลิปได้ข้างล่างเลยครับ   แม้จะมีการออกมาบอกว่าเป็นคลิปไวรัลเพื่อโปรโมทแคมเปญดังกล่าว แต่หลายคนก็ยังแสดงความคิดเห็นในเชิงว่าไม่เห็นด้วยกับการทำคลิปลักษณะนี้เท่าไรนัก…

  • พี่ชายใจดียอมให้น้องสาวฝึกฝน “ทำเล็บ” ด้วยการเอาตัวเองเป็นหนูทดลองซะเลย

    พี่ชายใจดียอมให้น้องสาวฝึกฝน “ทำเล็บ” ด้วยการเอาตัวเองเป็นหนูทดลองซะเลย

    เมื่อน้องสาวคุณมีความฝันอยากจะเป็นช่างเสริมสวยก็คงจะขัดใจไม่ได้ เหมือนกับชายคนนี้ที่ยอมให้น้องสาวลองทำสีเล็บให้แล้วถ่ายรูปลงโซเชียลต่อมากลายเป็นกระแสไวรัลเฉยเลย ชายคนนี้มีชื่อว่า Sugar Siah อายุ 18 ปี อาศัยอยู่ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาบอกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วน้องสาวของเขา London อายุ 14 ปี ผู้มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นช่างเสริมสวย เธอจึงขอฝึกสกิลการทำเล็บบนเล็บของเขา งานนี้เขาบอกว่าเขาเต็มใจด้วยนะ เอ้า    หน้าตาของชายผู้อยากลองของ   โดยสิ่งที่น้องสาวของเขาทำให้ก็คือการติดเล็บปลอมแล้วลองทาสีเล็บให้เป็นสีแดง หน้าตาอย่างฟิน เป็นใช่ไหมเนี่ยย   ใกล้จะเสร็จแล้ว   และนี่คือผลลัพธ์จากฝีมือน้องสาวเขา ไม่เลวเหมือนกันนะเนี่ย   แลดูตัวเขาจะชอบเหมือนกัน   หลังจากนั้นเขาตัดสินใจอัพรูปถ่ายของเขาลงใน Twitter พร้อมกับแคปชั่นว่า “เมื่อน้องสาวอยากฝึกทำเล็บหรืออะไรทำนองนั้น เธอเลยเอามาลงกับผม ซึ่งผมจะไม่โกหกเลยนะว่าผมรู้สึกเหมือนเป็นนางมารร้ายแล้วตอนนี้” Sugar กล่าวไว้บน Twitter ของเขา     และดูเหมือนว่าผู้คนในโลกออนไลน์จะชอบรูปที่เขาลง จึงมีการพูดถึงเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังมีผู้คนจำนวนมากที่ให้กำลังใจพี่ชายที่แสนดีอย่างเขา อย่าง   “เธอมีฝีมือทีเดียวนะ คุณนี่เป็นสุดยอดพี่ชายที่แสนดีและยังน่ารักอีกนะเนี่ย”     “มันดูร้อนแรงจริงๆ เธอเก่งนะเนี่ย”  …

  • 22 ภาพที่จะมาบอกว่าเหล่าแฟนๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ คือคนที่ทำให้ฮาโลวีนมีสีสันมากที่สุด

    22 ภาพที่จะมาบอกว่าเหล่าแฟนๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ คือคนที่ทำให้ฮาโลวีนมีสีสันมากที่สุด

    ในเทศกาลฮาโลวีนของทุกๆ ปี เราจะเห็นผู้คนแต่งตัวแปลกๆ ด้วยการแต่งให้น่ากลัว น่ารักบ้าง รวมทั้งการคอสเพลย์ตัวละครจากภาพยนต์ต่างๆ และแน่นอนว่าเหล่าแฟนๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ก็ไม่พลาดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างจัดเต็มในธีมแฮร์รี่ พอตเตอร์ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างสีสันให้ฮาโลวีนไม่น้อยเลย   1. ลูน่า เลิฟกู๊ด ผู้มองเห็นคนตาย   2. นี่ก็แต่งเป็น ลูน่า เลิฟกู๊ด เหมือนกัน   3. แฮร์รี่ พอตเตอร์ตัวน้อยขี่มังกร   4. หนูน้อยแมนเดรก   5. นี่ก็ถูกจับแต่งเป็นแมนดดรกเช่นกัน แต่ดูเหมือนเจ้าหนูไม่เต็มใจเลยนะ   6. แต่งเป็น Hogwarts Express รถไฟด่วนประจำโรงเรียนเวทมนตร์   7. เฮ็ดวิก นกฮูกผู้ซื่อสัตย์   8. เฮ็ดวิกสไตล์น้องหมา   9. Patronus ผู้พิทักษ์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์   10. ส่วนนี่คือทรีลอว์นีย์   11.…

  • ญี่ปุ่นเดินหน้าดัน E-Sport เตรียมเปิดคอร์สเรียน เพื่อสร้างอาชีพในสายงานนี้อย่างเต็มตัว

    ญี่ปุ่นเดินหน้าดัน E-Sport เตรียมเปิดคอร์สเรียน เพื่อสร้างอาชีพในสายงานนี้อย่างเต็มตัว

    เมื่อพูดถึงกีฬาและธุรกิจที่มาแรงสุดๆ ในช่วงนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น E-Sport อย่างแน่นอน ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกก็เดินนำหน้ากันไปไกลแล้ว หลายประเทศก็กำลังเดินตามไปติดๆ อย่างเช่นที่ประเทศไทยก็พึ่งก่อตั้งสมาคม E-Sport ไป ทางด้านญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน ล่าสุดได้มีการเปิดตัวทีมและคอร์สเพื่อดันให้ชาวญี่ปุ่นหันมาสนใจในตัว E-Sport โดยมุ่งเน้นไปที่เกม League of Legend ซึ่งมีความนิยมสูงเป็นอันดับต้นๆ และมีการจัดแข่งระดับภูมิภาคที่อยู่บ่อยๆ     ด้วยเหตุนี้ทาง Tokyo School of Anime ซึ่งเดิมทีเป็นโรงเรียนที่เปิดคอร์สสอนการทำอนิเมะและเป็นนักพากย์ จึงเปิดคอร์สเรียนใหม่ขึ้นมา โดยทางโรงเรียนก็จะเปิดเป็นคอร์สเกี่ยวกับอุตสาหกรรม E-Sport เป็นหลัก ซึ่งแบ่งออกเป็น นักเล่นเกมมืออาชีพ นักพากย์ ผู้จัดงานสาย E-Sport ผู้จัดการทีม และนักพัฒนาเกม   .   นอกจากคอร์สเรียนดังกล่าว ก็จะมีการสอนในด้านการฝึกทักษะการฝึกความเป็นนักเล่นเกมอาชีพว่าจะต้องทำยังไง มีความรับผิดชอบแค่ไหน รวมถึงจัดการยังไงในธุรกิจสายนี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เว็บไซต์แนะนำมานั่นก็คือ การตั้งชื่อสำหรับเป็นโปรนั่นเอง เพราะมันสำคัญมากๆ เลยล่ะเวลามีคนพูดถึง ถ้าเลือกมาไม่ดีรับรองมีดับแน่ๆ   มีสนามฝึกซ้อมด้วยนะ   มีการจัดงานแถลงข่าวด้วย   ส่วนถ้าใครอยากจอยคลับอื่นๆ ในโรงเรียน ที่นี่ก็มีคลับคอสเพลย์และร้องเพลงอนิเมะด้วยนะ…   ที่มา rocketnews24

  • คุณแม่ส่งลูกชายเข้านอนเช้ามืดคืนก่อนฮาโลวีน ตื่นเช้ามากลับพบว่าชายคนนั้นไม่ใช่ลูก อ้าว!?

    คุณแม่ส่งลูกชายเข้านอนเช้ามืดคืนก่อนฮาโลวีน ตื่นเช้ามากลับพบว่าชายคนนั้นไม่ใช่ลูก อ้าว!?

    เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมนั้นเป็นวันฮาโลวีนหรือก็คือวันปล่อยผีนั่นเอง และแน่นอนว่าหลายคนก็คงได้ไปปล่อยผีกันในวันนั้น บางคนอาจจะจัดหนักจัดเต็มเลยก็ได้นะ เช่นเดียวกับ Juliet คุณแม่ที่ตื่นมาตอนประมาณตีสี่ของวันที่ 29 ตุลาคม 2017 แล้วพบว่ามีชายคนหนึ่งนอนอยู่ที่พื้นกลางบ้าน เธอก็คิดว่าคงเป็น Steward ลูกชายของเธอที่เพิ่งกลับมาจากการสังสรรค์กับเพื่อนๆ ในช่วงก่อนวันฮาโลวีน เห็นดังนั้น เธอจึงหยิบหมอนไปยื่นให้กับลูกชาย ซึ่งลูกชายเธอก็ตอบกลับมาสั้นๆ ว่า “ขอบคุณครับ”      หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว Juliet ก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพียงแต่สงสัยว่าทำไมเสียงของ Stewart นั้นดูแปลกไปจากเดิม แต่เธอคิดว่าเธอคงง่วงจนได้ยินเสียงผิดไป ต่อมาไม่นานในช่วงเช้าตรู่ เธอก็พบว่าสามีของเธอ Cliff นั้นกำลังโวยวายว่ามีชายแปลกหน้านอนแก้ผ้าอยู่ในบ้าน แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ลูกชายของพวกเขา แต่เป็นใครก็ไม่รู้ที่หน้าคล้ายๆ เฉยๆ     Juliet เล่าว่า “ชายคนนี้บอกว่าเขาชื่อ Marc เขาบอกฉันว่าเขาเพ้นท์หน้าไปเที่ยวคืนก่อนฮาโลวีนและเมามากๆ และด้วยความที่เสื้อผ้าก็เปื้อนโคลนไปหมด เขาเลยถอดมันออก แต่ตอนที่ฉันเอาหมอนมาให้เขา เขาเหมือนลูกชายฉันมากเลยนะ”     หลังจากที่หายเมา Marc ก็ได้ขอบคุณ Juliet และ Cliff ที่ดูแลเขาเป็นอย่างดีหลังจากได้พูดคุยกัน สุดท้ายทางด้าน Juliet ก็โพสต์เรื่องราวดังกล่าวติดตลกว่า นี่ลูกชายคนใหม่ของเธอ ฮ่าๆ    …

  • ยังไงกันล่ะเนี่ย จัสติน บีเบอร์ กับ เซเลน่า โกเมซ เดินจู๋จี๋ดูดี๋ กระหนุ่งกระหนิง หรือจะรีเทิร์น?

    ยังไงกันล่ะเนี่ย จัสติน บีเบอร์ กับ เซเลน่า โกเมซ เดินจู๋จี๋ดูดี๋ กระหนุ่งกระหนิง หรือจะรีเทิร์น?

    ได้กลิ่นตุๆ เหมือนกลิ่นไหม้ สงสัยว่าถ่านไฟเก่ากำลังจะคุกรุ่น เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีภาพอดีตคู่รักเซเลบอย่าง Selena Gomez และ Justin Bieber ออกมาปั่นจักรยานเล่นกันกระหนุงกระหนิงเหมือนซีรีส์เกาหลี แบบนี้ก็ไม่รู้สินะว่าจะมีลุ้นรีเทิร์นหรือเปล่า!!!??   คู่รักทรหด Selena Gomez และ Justin Bieber ที่เคยเปิดตัวว่าคบกันหวานชื่นในหลายปีนู้นนน!!! ได้กลับมาป๊ะกันอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่ก็ต่างเลิกกันไปมีคนใหม่ ที่ดูเหมือนว่ายังไง๊ ยังไง คู่นี้ก็ไม่น่าจะรีเทิร์นกลับมาหากันได้ แต่ว่ากันบุญบาป วัวเคยขาม้าเคยขี่ แฟนเก่าอาจจะเป็นคนที่เข้าใจเราที่สุดแล้วกระมัง???   หลังจากที่สาวเสียงดี Selena Gomez ได้เลิกลากับแฟนหนุ่มสุดคูล The Weeknd ที่คบกันมาได้กว่า 10 เดือน ในวันพุธที่ผ่านมาเธอก็ได้ปรากฏตัวในชุดสีเทาสบายๆ กับแฟนเก่าอย่าง Justin Bieber แถวย่าน L.A. ที่ดูแล้วไม่น่าจะมาในฐานะเพื่อน เพราะกิริยาก็เธอมันบ่งบอกน่ะสิ   ทั้งคู่ปันจักรยานไปจอดที่ร้านกาแฟในท้องถิ่นและเดินดื่มกาแฟเย็นแบบแฮปปี้สุดๆ มีบางช่วงที่แม่นาง Selena ปวดคอจึงโน้มไปพาดที่ไหลของจัสติน   Justin มาในลุคสบายๆ กับเสื้อ Thrasher สีแดงโดดเด่นเรียกสายตาปาปารัสซี่ แต่ก็นั่นก็ยังโดดเด่นน้อยกว่าความหวานที่อบอวลไปทั่วท้องถนน .   กาแฟไม่ต้องใส่น้ำตาลสินะ .   แฮปปี้สุดๆ   ทั้งคู่ถูกจับตาในหลายๆ โอกาสด้วยกัน…

  • สุดสลด… หญิงสาวเสียชีวิตคาที่ หลังเด็กวัย 12 ขวบกระโดดสะพานลอยตกใส่รถเธอ

    สุดสลด… หญิงสาวเสียชีวิตคาที่ หลังเด็กวัย 12 ขวบกระโดดสะพานลอยตกใส่รถเธอ

    เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในรัฐเวอร์จิเนียเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา หลังจากที่เด็กชายวัย 12 ปีผู้หนึ่งได้กระโดดลงมาจากสะพานลอยสูง 10 เมตร ลงมาใส่หลังคารถ Ford Escape ของหญิงสาววัย 22 ปีที่ผ่านมาบนเส้นทางดังกล่าวพอดี ในระหว่างที่ Marisa Harris หญิงสาวจากรัฐแมริแลนด์กำลังขับรถอยู่บนทางด่วนหมายเลข 66 นั้น จู่ๆ เด็กชายไม่ทราบชื่อวัย 12 ปีก็ได้กระโดดลงมาบนหลังคารถของเธอ เป็นเหตุให้เธอเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ส่วนเด็กชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส     เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 4 โมงเย็นใกล้ๆ กับทางออกถนนหมายเลข 62 ในเมือง Fairfax County รัฐเวอร์จิเนียร์ เด็กชายวัย 12 ปีถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล Fairfax Hospital หลังจากเกิดเหตุ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดในการร่วงลงมาของเด็กชายผู้นี้ นอกจากนี้ภายในรถคันดังกล่าวยังมีเพื่อนของหญิงสาวที่นั่งมากับเธอด้วย แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บและยังเป็นคนที่ช่วยหยุดรถหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุอีกด้วย     สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐได้เผยว่าระหว่างช่วงปี 1999 ถึงปี 2015 มีเด็กอายุ 12 ปีกว่า 711 รายที่ฆ่าตัวตาย ในจำนวนนั้นเป็นเด็กชายถึง 507 คน…

  • คนขับ Grab ฟิลิปปินส์ถูกยิงตายและขโมยรถ ภัยอันตรายที่เหล่านักขับไม่อาจมองข้าม

    คนขับ Grab ฟิลิปปินส์ถูกยิงตายและขโมยรถ ภัยอันตรายที่เหล่านักขับไม่อาจมองข้าม

    เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา สำนักข่าว CNN ในประเทศฟิลิปินส์ได้รายงานว่า คนขับรถ Grab Car รายหนึ่ง ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบชื่อใช้ปืนยิงจนเสียชีวิต ก่อนจะชิงรถและหลบหนีไป จากการรายงานระบุว่ามีชาวบ้านได้ยินเสียงปืนลูกซองดังขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 7.50 น. ของวันที่ 26 ตุลาคม ก่อนจะมีคนเห็นชายคนหนึ่งขับรถ Toyota สีบรอนซ์ไปตามถนนโบนันซ่าในเมืองปาไซ     จากนั้นก็มีคนพบศพนาย Gerardo Amolato Maquidato ถูกยิงเสียชีวิต คาดว่าผู้โดยสารที่มากับเขาเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ และยังนำรถของเขาหลบหนีไปอีกด้วย ซึ่งทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้ โดยได้นำกำลังไล่ติดตามคนร้ายต่อไป . .   โฆษกของทางบริษัท Grab ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเขาได้กล่าวว่า “เราขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับการเสียชีวิตของนาย Gerardo Amolato Maquidato ทางเราจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเรื่องนี้และติดตามตัวผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด”     นาย Maquidato ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ขับ Grab ดีเด่น เรื่องราวของเขาถูกเผยแพร่ไปทั่วเฟซบุ๊กถึงความดีที่เขาได้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังเดือดร้อนโดยที่ไม่เรียกเก็บเงินซักบาท ที่มา cnnphilippines

  • ภรรยาวัย 40 ปี ออกมาเล่าความน่ารักของสามีที่แปลงร่างเป็นฮีโร่มาช่วยเหลือยามคับขัน

    ภรรยาวัย 40 ปี ออกมาเล่าความน่ารักของสามีที่แปลงร่างเป็นฮีโร่มาช่วยเหลือยามคับขัน

    Amy Betters-Midtvedt บล็อกเกอร์ชื่อดัง ได้ออกมาเล่าถึงความรักของสามีของเธอที่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแสนนาน แต่ความรักของทั้งคู่ก็ยังน่ารักเหมือนสมัยจีบกันใหม่ๆ ครอบครัวแสนอบอุ่นของ Amy ประกอบด้วยเธอ สามีที่ชื่อว่า Todd และลูกๆ ที่น่ารักอีก 5 คนอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข     Amy และ Todd ปัจจุบันอายุ 40 ปี ทั้งคู่พบรักกันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาจนมีลูก 5 คน แต่ความหวานของทั้งคู่ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง     Amy ได้ออกมาแบ่งปันเรื่องราวความน่ารักของสามีของเธอในเพจ Hiding in the Closet with Coffee ไว้ว่า “ฟังไว้ให้ดีหนุ่มๆ สาวๆ ทั้งหลาย นี่เป็นเรื่องราวของอัศวินขี่ม้าขาวที่คอยมาช่วยเหลือหญิงวัย 40 ปีคนนี้ อัศวินคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือสามีของฉันเอง คนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพร้อมกับบัตรเครดิตของเขา ในยามที่ฉันช้อปปิ้งสิ่งของต่างๆ จนเต็มรถเข็น แต่ดันไม่มีเงินจ่าย เพราะว่ากระเป๋าตังของฉันดันหายไป หรือไม่ก็ลืมไว้ที่ไหนซักที่ เขาเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม เขาเพิ่งจะลางานมาเพื่อช่วยเหลือ เขาพูดทั้งรอยยิ้ม ‘ที่รัก คุณไม่ต้องออกมาซื้อของตอนนี้ ผมบอกแล้วไงว่าจะพามาในสุดสัปดาห์นี้’ สำหรับคนหนุ่มสาว…

  • รู้จักแม่น้ำตามธรรมชาติที่ร้อนจนเดือดปุดๆ จากตำนานเล่าขานในวัยเด็กสู่การค้นพบที่มีอยู่จริง!!

    รู้จักแม่น้ำตามธรรมชาติที่ร้อนจนเดือดปุดๆ จากตำนานเล่าขานในวัยเด็กสู่การค้นพบที่มีอยู่จริง!!

    เคยคิดไหมว่าในโลกนี้นอกจากบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติแล้วจะมีแม่น้ำที่ร้อนเดือดราวกับลาวาอยู่? ร้อนขนาดที่ถ้าตกลงไปเท่ากับตายอย่างเดียว…คุณคงคิดภาพมันไม่ออกใช่ไหมล่ะ แต่แบบนั้นมันมีอยู่จริงๆ นะเออ Shanay-timpishka คือชื่อของแม่น้ำที่ว่านี้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของป่าอเมซอนในประเทศเปรู ซึ่งเป็นแม่น้ำตามธรรมชาติที่ร้อนตลอดเวลา ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตไหนก็ตามที่เหยียบย่ำลงไปมีอันจบชีวิตทันที     สำหรับใครที่คิดว่าในน้ำมีสารเคมีหรือมีสีแปลกๆ หรือเปล่านั้น คำตอบคือไม่มีเลย เพราะน้ำในแม่น้ำดังกล่าวนั้นมีสีสันที่เหมือนแม่น้ำปกติ สามารถนำมาใช้ทำอาหาร ทำยาและดื่มได้ปกติ จะต่างก็แค่มีไอน้ำลอยออกมาตลอดเวลาเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าที่นี่มันร้อน อย่าเข้ามาใกล้นะ     Andrés Ruzo นักธรณีวิทยาที่เล่าว่าตอนเด็กเคยได้ยินเรื่องเล่าในตำนานของเปรูหลายๆ อย่างจากปู่ของเขา ทั้งเรื่องเมืองที่ทำจากทองคำ ตำนานความโหดเหี้ยมของป่าอเมซอนหรือแม้แต่แม่น้ำที่เดือดตลอดเวลาแห่งนี้ด้วย เขาคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเล่าไม่มีอยู่จริง จนกระทั่งโตขึ้นเขาเริ่มศึกษาและจบปริญญาเอกสาขาธรณีวิทยา ซึ่งในตอนนั้นเขาก็ได้กลับมาฉุกคิดเรื่องเล่าของปู่อีกครั้ง เรื่องเล่าเกี่ยวกับแม่น้ำที่เดือดตลอดเวลาว่ามันมีจริงๆ เหรอ? เขาถามทั้งเพื่อน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือบริษัทใหญ่ๆ ทุกคนก็ล้วนบอกว่า มันไม่มีอยู่จริง…     ซึ่งตัว Andrés ก็คิดเช่นเดียวกันว่า ถ้ามันจะมีแม่น้ำที่เดือดตลอด หรือมีน้ำพุร้อนมันก็จะต้องมีเรื่องของภูเขาไฟมาเกี่ยวข้อง แต่เขาพบว่าป่าอเมซอนในประเทศเปรู มันไม่มีอะไรเกี่ยวกับภูเขาไฟเลย แล้วแบบนี้แม่น้ำที่เดือดตลอดจะมีจริงได้ยังไง? ทว่าสุดท้ายเรื่องราวนี้ก็ถูกยืนยันโดยตัวป้าและลุงของเขาเอง ซึ่งนั่นทำให้ป้าของเขากลายเป็นไกด์และนำพาตัวเขาไปยังแม่น้ำที่เดือดตลอดเวลาในอเมซอน ที่นั่นเขาก็ได้พิสูจน์ด้วยตาแล้วว่ามันมีจริงๆ แม่น้ำที่เดือดตามธรรมชาติไม่ใช่แค่ตำนาน แถมยังมีชาวบ้านอาศัยอยู่ใกล้ๆ ทำหน้าที่เป็นเหมือนหมอผีอีกด้วย นับตั้งแต่การค้นพบในปี 2011 ของเขา เขาได้เดินทางไปยังที่แห่งนี้ทุกปีเพื่อศึกษาว่าทำไมแม่น้ำแห่งนี้จะมีความร้อนมากกว่าปกติ…

  • อดีตสมาชิกวง AKB48 ออกมาพูดถึงกรณีย้อมผมดำในโรงเรียน เพราะเคยถูกบังคับเช่นกัน

    อดีตสมาชิกวง AKB48 ออกมาพูดถึงกรณีย้อมผมดำในโรงเรียน เพราะเคยถูกบังคับเช่นกัน

    เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราได้พูดถึงกรณีของหญิงสาววัย 18 ปีจากโอซาก้ารายหนึ่ง ที่ถูกทางโรงเรียนบังคับให้ย้อมผมสีดำ ซึ่งถ้าหากเธอไม่ยอมทำตามกฎเธอจะไม่มีสิทธิ์ได้กลับเข้ามาเรียนอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม สาวรายนี้ก็ได้ยื่นเรื่องต่อศาลแขวงโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เพื่อฟ้องค่าเสียหายกว่า 2.2 ล้านเยน (ราวๆ 640,000 บาท) ขณะที่ทางการโอซาก้ารวมถึงโรงเรียนมัธยมก็ได้พยายามที่จะคัดค้านศาลให้ยกเลิกคดีนี้ ทางด้านโรงเรียนก็ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า การย้อมผมสีดำเป็นกฎของทางโรงเรียน ต่อให้เป็นนักเรียนต่างชาติที่มีผมสีบลอนด์ก็จะต้องย้อมผมให้เป็นสีดำอยู่ดี (คุณสามารถอ่านเรื่องราวย้อนหลังได้ที่นี่ : เด็กนักเรียนญี่ปุ่นยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ เพราะบังคับให้ย้อมผมสีดำ ทั้งที่ผมสีน้ำตาลโดยกำเนิด)     ประเด็นนี้ได้กลายเป็นที่พูดถึง และได้รับความสนใจในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ถึงขนาดทำให้ Sayaka Akimoto ลูกครึ่งสาวชาวฟิลิปปินส์-ญี่ปุ่น อดีตสมาชิกแห่งวง AKB48 ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา   Sayaka Akimoto อดีตสมาชิกวง AKB48   โดยเธอได้แบ่งปันประสบการณ์ของเธอ ในฐานะที่เคยเป็นนักเรียนมัธยมปลายของญี่ปุ่นที่ไม่ได้มีสีผมดำตามธรรมชาติว่า “ตอนที่ฉันอยู่โรงเรียนมัธยม ฉันก็ถูกบังคับให้ย้อมผมสีดำอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าฉันจะไม่อยากทำก็ตาม แต่สุดท้ายฉันก็จำใจยอมย้อมผมให้เป็นสีดำ และเมื่อฉันไปทำผมสีดำ พ่อของฉันก็พูดว่า…’นั่นผมสีอะไรของเธอ?’ ซึ่งเวลาที่เขาไปโรงเรียนของฉัน เขามักจะพูดว่า…

  • เปิดภาพประวัติศาสตร์แห่งรัสเซียช่วงยุค 90s หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

    เปิดภาพประวัติศาสตร์แห่งรัสเซียช่วงยุค 90s หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

    รัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่ยิ่งใหญ่นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ผ่านยุคแห่งความโหดร้าย ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ภายหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียด จนได้กลายมาเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก และในครั้งนี้เราจะขอพาเพื่อนๆ ทุกคนมาย้อนชมภาพประวัติศาสตร์แห่งรัสเซียในช่วงยุค 90 ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจมากมายในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย   ชาวมุสลิมหลายพันคนพากันเดินขบวนถือธงรัสเซียไปยังจัตุรัสแดงในกรุงมอสโก เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 1991 เพื่อฉลองให้แก่อดีตสหภาพโซเวียตที่มีชัยชนะเหนือกองทัพนาซี-เยอรมัน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2   ในเดือนมีนาคม 1993 นักการตลาดอิสระสองคนพากันโชว์สินค้าของตัวเองกลางตลาดใน Petropavlovsk ซึ่งเป็นเมืองเพียงแห่งเดียวบนคาบสมุทรคัมชัตคาของรัสเซีย   เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 1993 เกิดความขัดแย้งระหว่างเยลซิน (ประธานาธิบดีคนแรกของรัสเซีย) กับทางรัฐสภา ซึ่งส่งผลให้เกิดการใช้กำลังความรุนแรงขึ้น… โดยเยลซินได้สั่งให้กองกำลังหน่วยรบพิเศษเข้าบุกยึดรัฐสภาฝ่ายตรงข้าม ในภาพด้านล่างแสดงให้เห็นว่ารถถังของรัสเซียกำลังเดินทางไปยังทำเนียบขาวในมอสโก   ทหารม้าของรัสเซียในเดือนมีนาคม 1994 ขณะกำลังรับขวดวอดก้า หลังจากที่ได้ปฏิบัติภารกิจในขบวนพาเหรดเซนต์แพททริค ณ กรุงมอสโก   ทหารผ่านศึกชาวรัสเซียขณะกำลังหยุดพูดคุยอยู่กับลูกเรือ ใจกลางกรุงมอสโกในโรงละคร Bolshoi ในวันแห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 1994   ทหารรัสเซียขณะออกกำลังกายอยู่ในเมือง Plesetsk…

  • แม้แต่คนญี่ปุ่นก็สงสัย ทำไมเครื่องขายตั๋วรถไฟ มีแต่ “ค่าโดยสาร” ไม่เป็นชื่อสถานีให้จบๆ ฟร๊ะ!?

    แม้แต่คนญี่ปุ่นก็สงสัย ทำไมเครื่องขายตั๋วรถไฟ มีแต่ “ค่าโดยสาร” ไม่เป็นชื่อสถานีให้จบๆ ฟร๊ะ!?

    หลายๆ คนอาจเคยใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือรถไฟฟ้ากันมาก่อน และเราก็ต้องเจอกับวิธีการที่ดูแล้วค่อนข้างจะทำให้เรางงหน่อยๆ ว่าทำไมตอนซื้อตั๋วจากเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติต้องกดเลือกค่าโดยสาร ทำไมไม่ให้กดเลือกจุดหมายปลายทางไปเลยทีเดียว ข้อสงสัยดังกล่าวไม่ได้มีเพียงแค่บ้านเราที่สงสัย แต่ในประเทศญี่ปุ่น เขาก็คิดเหมือนกันกับเราว่าทำไมมันต้องเป็นอย่างนั้นด้วย จนเกิดเป็นคำถามในทวิตเตอร์บ้านเขาว่า “ใส่ชื่อจุดหมายปลายทางลงไปให้เลือกเลยมันน่าจะดีกว่าหรือเปล่า?”   การซื้อตั๋วรถไฟฟ้าเริ่มจากไปยืนดูแผนที่ก่อนว่าเราจะไปสถานีไหน   และต้องสังเกตให้ดีๆ ว่าสถานีที่เราจะไปมันราคาเท่าไหร่   จากนั้นจึงมาเลือกราคาตามนั้นเลย ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าทำไมไม่ให้เลือกสถานีที่เครื่องไปเลยตั้งแต่แรก?   คำถามดังกล่าวทำให้หลายคนเริ่มคิดตามไปพร้อมๆ กัน ลองคิดดูอย่างเครื่องขายน้ำอัตโนมัติมันก็ยังเขียนชื่อของเครื่องดื่มลงไปตรงๆ เลยจริงมั้ย?! แต่ก็มีหลายคนที่แสดงความคิดเห็นว่าเป็นแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว เพราะหากต้องมายืนเลือกจุดหมายปลายทางอยู่ที่เครื่องมันก็จะยิ่งทำให้เสียเวลายืนอยู่ตรงนั้นนานขึ้น และทำให้คนต้องมายืนต่อแถวรอกันเป็นจำนวนมาก “ถ้าคุณใส่แผนที่ลงไปให้มันแสดงขึ้นมาบนจอ นั่นก็จะยิ่งทำให้ต้องใช้เวลายืนหานานกว่าเดิมและมันจะทำให้คนต้องต่อแถวกันยาวขึ้น” “ไปยืนหาชื่อสถานีใช้เวลามากกว่าการไปเลือกจากตัวเลขเพียงไม่กี่ตัว อย่าให้ต้องมีคนไปยืนต่อแถวกันเยอะๆ เลย” “แทนที่จะปรับปรุงมัน การผลิตให้เครื่องจำหน่ายตั๋วมีเยอะขึ้นนั้นเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่ามาก”     ถึงอย่างนั้นเรื่องของเวลาที่อาจเพิ่มมากขึ้นในการซื้อตั๋ว ก็มีเพียงแค่คนที่ใช้รถไฟเดินทางเป็นประจำเท่านั้นที่จะรู้สึกกังวลกับเรื่องนี้ แต่จริงๆ มันก์มีทางออกที่ดีอยู่นั่นคือการเติมเงินเข้าบัตรรถไฟซะเลย เท่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องมายืนต่อคิวใช้บริการเจ้าเครื่องจำหน่ายตั๋วนี้กันแล้ว ส่วนเรื่องของการใส่จุดหมายปลายทางหรือชื่อสถานีลงไปให้เลือก ในสถานีรถไฟฟ้าของเมืองโตเกียว ก็มีวิธีการดังกล่าวให้ใช้กันได้อยู่แล้ว แม้ว่าในสถานีอื่นๆ จะยังคงต้องเลือกจากค่าโดยสารเพียงอย่างเดียวเหมือนเดิมอยู่ก็ตาม   ว่ากันว่าวิธีในปัจจุบันทำให้ไม่ต้องมีคนไปยืนต่อแถวรอกันยาวๆ .   บริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก (๋JR) ได้ออกมาชี้แจงว่า เครื่องจำหน่ายตั๋วไม่ได้มีพื้นที่พอสำหรับการใส่แผนที่ลงไป และวิธีการปัจจุบันที่ใช้อยู่ก็ทำให้เสียเวลาในการซื้อตั๋วน้อยที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตามในปี…

  • รวมไอเดียชุดเดรสออกงาน ในคอนเซปท์ธรรมชาติเวอร์วัง ราวกับหลุดจากโลกเทพนิยาย!!

    รวมไอเดียชุดเดรสออกงาน ในคอนเซปท์ธรรมชาติเวอร์วัง ราวกับหลุดจากโลกเทพนิยาย!!

    ทุกวันนี้เครื่องแต่งกายได้รับการออกแบบขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งเสื่อผ้าที่เน้นความแตกต่าง เน้นความทันสมัย เน้นแฟชั่นย้อนยุค หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่มีความเวอร์วังอลังการ และนี่คืออีกหนึ่งคอสตูมที่จะมาสร้างความแตกต่างให้โลกของแฟชั่น ด้วยชุดเสื้อผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติราวกับหลุดมาจากโลกแห่งเทพนิยายยังไงอย่างนั้น     ชุดเสื้อผ้าอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้ได้รับการออกแบบและผลิตโดย Rachel Sigmon ซึ่งเป็นการแสดงให็เห็นถึงศิลปะบนเครื่องแต่งกายในแบบที่ไม่ซ้ำใคร     Rachel ไม่ได้ทำเสื่อผ้าลักษณะนี้เป็นงานอดิเรก แต่นี่คืองานหรืออาชีพหลักของเธอ โดยได้จำหน่ายผ่านเว็บไซต์ Etsy ภายใต้ชื่อร้าน Posh Fairytale Couture     สำหรับความโดดเด่นของเสื้อผ้าเหล่านี้มักจะเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ ทั้งสี ลวดลาย และสิ่งที่มาประดับบนเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ กิ่งไม้ขนาดเล็ก และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เธอบอกว่าต้องใช้ความละเอียดและความประณีตสูงมาก     สำหรับสาวๆ คนไหนที่ได้ใส่ชุดเหล่านี้คงจะมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉมที่มีความลึกลับในโลกแห่งจินตนาการ แต่เวลาจะใส่ต้องเลือกสถานที่และเวลาด้วยนะ      Rachel เป็นคนที่มีความหลงใหลในเรื่องเสื้อผ้ามาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งปี 2009 เธอเริ่มทำผ้าคลุมศีรษะ ก่อนจะพัฒนามาทำเป็นคอสตูมเต็มตัวจนทุกวันนี้     ปกติเราจะเห็นเสื้อผ้าลักษณะนี้ให้เช่ามากกว่าขาย แต่สำหรับ Rachel เธอรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมและไม่สุภาพสำหรับผู้ออกแบบและผู้ขาย เพราะคุณได้ใส่ชุดนั้นไปแล้ว เมื่อใส่จนพอใจก็นำมาคืน เธอจึงตัดสินใจขายตั้งแต่แรกแทนที่จะให้เช่าเหมือนคนอื่นๆ   . . .…

  • หนุ่มซุ่มจับโจรขโมยรถ เข้าไปดูใกล้ๆ พบเป็น “เด็กหนุ่มดาวน์ซินโดรม” ที่แค่อยากขับรถเองสักครั้ง…

    หนุ่มซุ่มจับโจรขโมยรถ เข้าไปดูใกล้ๆ พบเป็น “เด็กหนุ่มดาวน์ซินโดรม” ที่แค่อยากขับรถเองสักครั้ง…

    ลองจินตนาการดูว่าถ้าวันหนึ่งคุณเดินมายังลานจอดรถแล้วเห็นชายแปลกหน้ากำลังพยายามจะขโมยรถของคุณ คุณจะทำยังไง? คุณจะเดินเข้าไปด่า คุณจะรีบวิ่งไล่จับและเตะตูดโจรคนนั้น หรือจะยิงก่อนถามทีหลังกัน… แต่สำหรับ Jimbo Bazoobi ดาวตลกชาวออสเตรเลียผู้เป็นเจ้าของแพะอีกหนึ่งตัวนามว่า Gary ไม่ทำแบบนั้น เพราะวินาทีที่เขาออกมาจากร้านค้าแล้วเจอกับโจรแปลกหน้าทำท่าเหมือนจะพยายามขโมยรถของเขา เขาค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ อย่างใจเย็น จนเขาพบว่าชายแปลกหน้าที่พยายามขโมยรถนั้นเป็นวัยรุ่นหนุ่มดาวน์ซินโดรมที่ดูแล้วไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร   Jimbo กับ Gary นั้นมีช่องยูทูบของตัวเองด้วยนะ Gary The Goat   ระหว่างนั้นเขาได้บันทึกคลิปวิดีโอเอาไว้ด้วย คิดว่าถ้าจับโจรได้คลิปจะต้องดังแน่ๆ แต่การพบกับหนุ่มดาวน์ซินโดรม กลับทำให้คลิปของเขาดังกว่าที่เขาคิดไว้ตอนแรกซะอีก ตอนที่เขาเข้าไปหาหนุ่มดาวน์ซินโดรมคนดังกล่าว เขาก็ถามอย่างใจเย็นว่า “เฮ้ นายทำอะไรน่ะ? อยากขับรถเหรอ?” ด้านหนุ่มดาวน์ซินโดรมตอบกลับมาว่า “ใช่”     วินาทีนั้นทั้งคู่รู้ตัวได้ทันทีว่าต่างคนก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรต่อกัน ดังนั้นการพูดคุยจึงเป็นไปอย่างราบรื่น ด้าน Jimbo ก็เข้าใจหนุ่มดาวน์ซินโดรมได้ทันทีว่าเขาคงอยากจะลองนั่งหรือขับรถด้วยตัวเองดูบ้าง เขาก็เลยเริ่มสอนหลายๆ อย่างพร้อมกับถามชื่อหนุ่มคนดังกล่าวและได้รู้ว่าเขาชื่อ Ryan Jimbo ยังถาม Ryan อีกว่า “นี่นายเคยขับรถมาก่อนไหม” หนุ่มดาวน์ซินโดรมก็ตอบอย่างใจเย็นพร้อมสายตาที่สนใจตัวรถข้างหน้าว่า “ไม่”     เมื่อคำตอบมันออกมาเป็นแบบนั้น Jimbo ก็ไม่รอช้าเปิดประตูและหยิบกุญแจให้กับ Ryan…

  • เด็กชายชาวจีนจ้างสาวผ่านแอพเดท เพื่อให้ไปเป็น “แม่ปลอม” ในวันประชุมผู้ปกครอง

    เด็กชายชาวจีนจ้างสาวผ่านแอพเดท เพื่อให้ไปเป็น “แม่ปลอม” ในวันประชุมผู้ปกครอง

    ในปัจจุบันคุณสามารถเช่าทุกสิ่งทุกอย่างได้ในประเทศจีน ตั้งแต่การเช่าตุ๊กตายาง เช่าแฟนหลอกๆ ไปจนถึงจ้างผู้ปกครองปลอมก็มีแล้วเช่นกัน และเมื่อเร็วๆ นี้ บนสื่อโซเชียลในจีนได้มีกระแสฮอตที่ชาวเน็ตกำลังถกเถียงกันอย่างหนัก ภายหลังจากที่เด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษารายหนึ่ง ได้เสนอเงินให้กับหญิงสาวเพื่อจ้างวานให้เธอมาเข้าร่วมการประชุมผู้ปกครองแทนพ่อแม่ของเขาที่โรงเรียน     วันที่ 30 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า หญิงสาวรายนี้ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนโลกออนไลน์ว่า โดยปกติแล้วเธอจะรับค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่มาจ้างให้เธอไปเป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยวผ่านแอปจ้างแฟนตัวปลอม แต่เมื่อเร็วๆ นี้เธอได้พบว่าลูกค้าคนล่าสุดของเธอเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนชั้นประถมเท่านั้น โดยเขาได้จ่ายเงินให้เธอจำนวน 500 หยวน (หรือราวๆ 2,500 บาท) เพื่อจ้างให้เธอปลอมเป็นแม่ของเขาในการไปเข้าร่วมประชุมผู้ปกครองกับทางโรงเรียนเป็นเวลา 2 ชั่วโมง     อย่างไรก็ตาม เด็กชายรายดังกล่าวได้เผยว่า พ่อแม่ของเขามักจะเดินทางไปทำธุระอยู่บ่อยครั้ง และไม่สามารถมาร่วมประชุมผู้ปกครองได้ ดังนั้นเขาเลยตัดสินใจที่จะจ้างผู้หญิงคนนี้ไปประชุมผู้ปกครองกับคุณครูแทนแม่ของตัวเอง ทั้งนี้ ในรายงานไม่ได้ระบุชัดเจนว่าหญิงรายดังกล่าวได้ตกลงที่จะไปเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้หรือไม่     ภายหลังจากที่เรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในสื่อออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตหลายๆ คนได้พากันเข้าแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย โดยมีชาวเน็ตรายหนึ่งได้เล่าเรื่องราวของเขาว่า… เขาเองก็เคยจ้างผู้หญิงที่ขายไอศกรีมอยู่นอกโรงเรียน ให้มาเข้าร่วมการประชุมผู้ปกครองแทนพ่อแม่ของเขาเช่นกัน แต่ทว่าเขากลับพลาดเพราะครูดันไปรู้จักกับคนขายไอศกรีมซะอย่างนั้น       ในขณะที่ชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างก็พากันกังวลเกี่ยวกับเด็กที่ถูกพ่อแม่ละเลย ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าพวกเขาไม่เคยสนใจเรื่องการศึกษาของลูกเลย    …

  • หนุ่มอัพภาพคู่อันแสนหวานกับแฟนสาว จนชาวเน็ตพากันสงสัย…ใครมันไปกดถ่ายให้ฟร๊ะ!?

    หนุ่มอัพภาพคู่อันแสนหวานกับแฟนสาว จนชาวเน็ตพากันสงสัย…ใครมันไปกดถ่ายให้ฟร๊ะ!?

    นี่คือ Sergio Ledezma หนุ่มวัย 18 ปี และ Taylor Ramirez แฟนสาววัย 17 ที่อาศัยอยู่ในแซนแอนโทนีโอ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่ได้พบกันในทวิตเตอร์ และได้พูดคุยกันจนได้กลายเป็นเพื่อนกัน ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เริ่มพัฒนาขึ้น จนได้เป็นแฟนกันในที่สุด     สำหรับ Sergio และ Taylor ได้คบหาดูใจและอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน 3 เดือนแล้ว โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หนุ่ม Sergio ได้ทำการแชร์ภาพของเขากับแฟนสาวขณะนอนหลับ พร้อมกอดเจ้า Jeffry น้องหมาพันธุ์อิงลิช ค็อกเกอร์ สแปเนียล อยู่บนเตียง นอกจากนี้ เขายังระบุแคปชั่นเอาไว้อีกว่า “ผมไม่สามารถบอกได้เลยว่าผมไม่มีความสุข”     โดยปกติแล้วเวลาที่ได้เห็นภาพคู่รักที่มาพร้อมแคปชั่นว่าอยู่กันสองคน นั่นอาจทำให้หลายๆ คนสงสัยว่าพวกเขาอยู่แค่ 2 คนจริงหรอ…มีใครถ่ายให้หรือเปล่านะ?     ซึ่งภายหลังจากที่ Sergio ได้นำภาพถ่ายของเขาและแฟนสาวไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ บรรดาชาวเน็ตต่างก็พากันสงสัยเช่นเดียวกันว่าภาพคู่มันถูกถ่ายขึ้นได้อย่างไร พวกเขาไม่ได้หลับจริงๆ ใช่ไหม?…

  • ทัวร์โรงงานผลิตกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปลี่ยนจากโรงงานร้าง สร้างงานสร้างรายได้ใหม่!!

    ทัวร์โรงงานผลิตกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปลี่ยนจากโรงงานร้าง สร้างงานสร้างรายได้ใหม่!!

    กัญชายังคงเป็นพืชผิดกฎหมายในบ้านเรา แต่ในบางประเทศมันเป็นสมุนไพรที่สามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อย่างเช่นประเทศแคนาดา ที่มีบริษัทผู้ผลิตกัญชารายใหญที่สุดในโลกตั้งอยู่!! บริษัทนี้มีชื่อว่า Canopy Growth เป็นผู้ผลิตกัญชาออกจำหน่ายเพื่อนำไปใช้ในทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย และบริษัทของเขายังเจาะกลุ่มลูกค้าได้มากถึง 1 ใน 3 จากสถานพยาบาลและผู้ป่วยกว่า 200,000 แห่งในแคนาดา ทำให้กลายเป็นผู้จำหน่ายกัญชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก วันนี้เราจึงมาพาเพื่อนๆ ไปชมบรรยากาศภายในโรงงานหลักที่ตั้งอยู่ในเมือง Smiths Falls รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ภายในโรงงานจะเป็นอย่างไรกันบ้างไปดูกันเลยจ้าาา   บริษัทแห่งนี้มีโรงงานตั้งอยู่หลายแห่งทั่วแคนาดา แต่ที่เราพามาดูคือโรงงานหลักของเขา   ที่นี่เคยเป็นโรงงานบริษัทช็อกโกแลตชื่อดัง Hershey ก่อนที่จะกลายเป็นโรงงานร้าง ต่อมาบริษัทกัญชาจึงเข้ามาปรับปรุงและพัฒนาจนยิ่งใหญ่   โรงงานมีการดูแลผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นให้มีคุณภาพ   Bruce Linton ผู้ก่อตั้งบริษัทในปี 2014 เป็นคนที่สามารถสานต่อแนวทางของตัวเองให้ประสบความสำเร็จ   การตรวจเช็คสินค้าทุกชิ้นก่อนส่งออกไปให้ลูกค้าแต่ละราย   ทางโรงงานจะทำทุกขั้นตอนตั้งแต่ปลูก เก็บเกี่ยว ไปจนถึงแพ็คอย่างดีส่งไปให้บริษัทลูกค้ารายย่อยอื่นๆ   หนึ่งในนั้นคือ Tweed เจ้าของผลิตภัณฑ์กัญชาสำหรับใช้ในทางการแพทย์ ที่มีบรรจุภัณฑ์อันทันสมัยจนอาจเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเจลใส่ผมของผู้ชาย   และยังมีอีกหลากหลายบรรจุภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์จากของแต่ละบริษัทย่อย   หากพูดถึงจุดเริ่มต้นของบริษัทแห่งนี้…

  • เมื่อสตรีมเมอร์สาวสุดฮอตประกาศเปิดตัวแฟนหนุ่มเอเชีย ชาวเน็ตก็เลยเกรียนแตกรับไม่ได้!!

    เมื่อสตรีมเมอร์สาวสุดฮอตประกาศเปิดตัวแฟนหนุ่มเอเชีย ชาวเน็ตก็เลยเกรียนแตกรับไม่ได้!!

    ถ้าใครยังจำกันได้เมื่อช่วง ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีข่าวเกี่ยวกับดราม่าเกมเมอร์สาวสุดสวยที่เปิดตัวเป็นแฟนกับหนุ่มเอเชีย จนชาวเน็ตออกมาแสดงความไม่พอใจกันยกใหญ่ แต่เรื่องแนวๆ เหยียดเชื้อชาติแบบนี้ยังไม่หมด เพราะคราวนี้เป็นคราวของสตรีมเมอร์สาวสุดฮอตกันบ้าง (กลับไปอ่านข่าวเก่าได้ที่ “เน็ตไอดอลสาวแคนาดาสุดแซ่บ เปิดตัวแฟนเป็น ‘หนุ่มเอเชีย’ เจอกระแสชาวเน็ตวิจารณ์เพียบ!?“) โดยมาม่าในครั้งนี้เกิดขึ้นกับสตรีมเมอร์สาวจาก Twitch นามว่า Pink_Sparkles ซึ่งเธอเป็นสตรีมเมอร์ที่มีหนุ่มๆ ติดตามอยู่เพียบ ด้วยดีกรีความเซ็กซี่และฝีมือการเล่นเกมที่ไม่ได้เป็นสองรองใครจนมียอดคนดูรวมถึง 10 ล้านครั้ง แต่ล่าสุดเธอได้เปิดตัวแฟนหนุ่มตัวจริงของเธอผ่านทวิตเตอร์   ผ่างงง!! ชาวเน็ตช็อคกันสุดๆ เพราะแฟนหนุ่มของเธอเป็นหนุ่มเอเชียยังไงล่ะ   และเมื่อหนุ่มๆ จากอินเตอร์เน็ตเห็นดังนั้น ก็เลยออกมาโวยวายกันยกใหญพร้อมยกเหตุผลมากมายออกมาโจมตี ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีว่าแฟนหนุ่มเป็นเอเชีย ไม่หล่อ หรืออาจจะเพราะแฟนหนุ่มของเธอรวยเธอจึงเลือกคบกับเขา     บ้างก็ออกมาบอกให้ส่งพี่คนนี้กลับประเทศไป เจ้าตัวเลยออกมาสวนเลย นายนี่ขี้เหยียดจัง แฟนฉันเป็นคนอเมริกันว๊อย   ไม่หมดเท่านั้น ชาวเน็ตอีกหลายคนก็ยังไม่ยอมหยุด ออกมาพูดด้วยถ้อยคำหยาบคายใส่ Pink_Sparkles ว่าเธอคงอดกินไอ้จ้อนไซส์ยักษ์ของเขาแล้วล่ะ   หรือบ้างก็ล้อเลียนหุ่นของแฟนหนุ่มของเธอว่า เธอมีรสนิยมแบบนี้นี่เอง   สุดท้ายแล้วยังไงก็ตาม ชาวเน็ตที่รู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ก็ยังโจมตีเธอต่อไป แต่นั่นก็หยุดความรักอันแสนสวยงามของ Pink_Sparkles ไว้ไม่ได้ แถมเธอยังโพตส์ภาพคู่ตอกกลับชิวๆ ว่า บัยนะ ไปนอนก่อนแล้วเจอกันพรุ่งนี้ อิอิ…

  • ‘โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ’ ชายคนที่สอง ผู้รวบรวมประเทศญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียว

    ‘โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ’ ชายคนที่สอง ผู้รวบรวมประเทศญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียว

    เวลาพูดถึงผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในอดีตของญี่ปุ่นนั้น เราก็คงจะนึกชื่อออกมาได้กันอยู่ไม่กี่คน โดยคนแรกก็คงจะหนีไม่พ้น โอดะ โนบูนางะ และถ้าพูดถึงอีกหนึ่งบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ก็ต้องเป็นอีกชื่อหนึ่งที่คนนึกถึงแน่นอน โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ แรกเริ่มเดิมทีนั้นเขาเป็นคนธรรมดาที่มาจากครอบครัวของชาวนา เกิดในช่วงระหว่างปี 1536 ถึง 1539 โดยในตอนแรกเขามีชื่อว่า ฮิโยชิมารุ ซึ่งหลังจากที่พ่อของเขาตายไปแม่ก็ได้แต่งงานใหม่กับคนจากตระกูลโอดะ ส่วนตัวเขาในวัยเด็กก็ถูกส่งไปร่ำเรียนหนังสือที่วัดแห่งหนึ่ง     ทว่าการใช้ชีวิตแบบนั้นมันไม่เหมาะกับเขาสักเท่าไหร่ เขาจึงตัดสินใจหนีออกมาแล้วออกผจญภัยไปในโลกกว้าง โดยเริ่มแรกเขาได้รับใช้  มะสึชิตะ ยุกิสึนะ คนจากตระกูลอิมากาวะ ซึ่งเขาก็ได้รับใช้อยู่เป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งเขาตัดสินใจที่จะกลับบ้านเกิด…     ที่นั่นเขาได้เจอกับตระกูลโอดะที่แม่ของเขารับใช้อยู่ เขาได้เสนอตัวเข้าเป็นเบี้ยล่างให้กับโอดะ โนบูนางะ โดยมีตำแหน่งเป็นคนดูแลรองเท้า และได้รับฉายาจากโอดะว่า “เจ้าหน้าลิง” เพราะหน้าตาของเขาคล้ายๆ กับลิง ต่อมาระหว่างที่เขาได้ติดตามโอดะไปทำศึก ฮิเดโยชิก็ได้สร้างผลงานที่ใครหลายคนก็คาดไม่ถึง เมื่อเขาได้ค้นพบเส้นทางลับช่วยให้โอดะสามารถชนะในศึกที่ปราสาทกิฟุบนยอดเขาอินาบะได้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียง หลังจากรับใช้โอดะมาหลายปี ประจวบกับตระกูลอาซาอิแห่งแคว้นโอมิได้ล่มสลาย ฮิเดโยชิก็ได้รับดินแดน 3 เขตทางตอนเหนือของแคว้นเป็นของรางวัลตอบแทน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรับใช้ตระกูลโอดะในฐานะนายพลต่อมา     ต่อมาในปี 1582 โอดะ ได้ถูก มิสึฮิเดะ นายทหารชั้นสูงคนหนึ่งหักหลังเข้า ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้โอดะต้องเสียชีวิตที่วัดฮนโนจิ แต่หลังจากการตายในครั้งนี้ฮิเดโยชิก็ไม่รอนาน เขาได้แก้แค้นให้กับนายของเขาโดยเป็นคนสังหารมิสึฮิเดะในศึกยามาซากิ…

  • “โตแล้วจะทำอะไรก็ได้!!” ครูหัวร้อนโวยวาย หลังโดนนักเรียนจับได้ ว่าแอบดูหนังโป๊ในโรงเรียน

    “โตแล้วจะทำอะไรก็ได้!!” ครูหัวร้อนโวยวาย หลังโดนนักเรียนจับได้ ว่าแอบดูหนังโป๊ในโรงเรียน

    เรื่องราวสุดเงิบ เมื่อชาวเน็ตเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ที่เล่าถึงครูคนหนึ่งออกมาโวยวายเกี่ยวกับการถูกนักเรียนจับได้ ว่าเขากำลังแอบดูหนังโป๊อยู่ในห้องพักครู งานนี้เลยกลายเป็นกระแสโต้เถียงกันยกใหญ่ ซึ่งทาง The Chive ได้รายงานว่าอาจารย์คนนี้ถูกนักเรียนคนหนึ่งแอบย่องเข้าไปในห้องพักครู ระหว่างที่เขากำลังนั่งดูหนังโป๊อย่างสบายใจ เมื่ออาจารย์รู้ตัวว่ามีคนแอบเห็น เขาจึงเข้ามาโวยวายนักเรียนคนดังกล่าวในห้องอย่างถึงพริกถึงขิง     เขากล่าวว่า เขานั้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะทำอะไรก็ได้ ส่วนนักเรียนก็ไม่ควรเข้าไปจุ้นจ้านในห้องพักอาจารย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจากการโวยของเขาอาจทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่หรืออาจารย์ที่ไม่ได้เรื่องเลย แต่มันกลับมีเรื่องราวอะไรที่มากกว่านั้น คุณชายคนดังกล่าวระบุว่าเพราะเรื่องราวจริงๆ ทั้งหมด มันเริ่มจากนักเรียนคนดังกล่าวมักจะแอบเข้าไปในห้องพักครู แล้วดูว่าอาจารย์คนนี้แอบทำอะไรอยู่ เพื่อที่จะได้นำข้อมูลนั้นมาแบล็คเมล์เขาเพื่อแลกเกรด โดยตัวอาจารย์ก็บอกว่านี้ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย เพราะมันเป็นครั้งที่ 5 แล้ว!!     แต่ยังไงก็ตามการที่เขาแอบดูหนังโป๊ในโรงเรียนก็ยังเป็นเรื่องที่ผิดอยู่ดี เพราะการที่ตัวเขาเองเป็นอาจารย์นั้น จะต้องทำให้ตัวให้เป็นบุคคลที่น่ายกย่อง มีความน่าคารพเชื่อถือและไม่ใช้อารมณ์เป็นหลักยิ่งปัจจุบันสื่อโซเชียลก็มีผลกับชีวิตมากๆ เลย   ลองชมคลิปที่ตัวอาจารย์ออกมาพูดหน่อยเป็นไง   ชาวเน็ตที่ได้รับชมต่างก็วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าคุณครูทำไม่เหมาะสมทั้งการดูหนังโป๊ หรือมาตามด่านักเรียนรุนแรงไป ขณะที่บางคนก็บอกว่านักเรียนเองก็ทำไม่ถูกเช่นกัน นอกจากนั้นล่าสุดโรงเรียนออกมาบอกว่าได้ทำการไล่อาจารย์คนดังกล่าวออกไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่คลิปนี้จะถูกปล่อยออกมาซะอีก ยังไงก้ตามหวังว่านี่จะเป็นบทเรียนให้กับสังคมได้เห็นแง่คิดของทั้งการปฏิบัติตัวให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่คุณครูหรือนักเรียนก็ตาม และคาดหวังว่าเราคงจะไม่ได้เห็นข่าวทำนองนี้ในเมืองไทยเลยนะ   ไปสาวต่อที่บ้านก็แล้วกันนะคุณครู… ที่มา thechive

  • ภารโรงชาวญี่ปุ่นถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม หลังจากค้นพบว่าแอบปลูกกัญชาในคราบบอนไซ!?

    ภารโรงชาวญี่ปุ่นถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม หลังจากค้นพบว่าแอบปลูกกัญชาในคราบบอนไซ!?

    แม้จะมีผลวิจัยมากมายออกมาบอกว่ากัญชานั้นเป็นพืชมีประโยชน์มากมาย จนหลายประเทศอนุมัติให้กัญชาเป็นพืชถูกกฎหมาย ทว่าในหลายประเทศก็ยังคงจัดมันอยู่ในหมวดสารเสพติดอยู่ดี ซึ่งญี่ปุ่นก็เป็หนึ่งในกลุ่มประเทศที่ยังให้กัญชาผิดกฏหมายอยู่นั่นเอง และล่าสุดก็มีสำนักข่าวได้รายงานว่าภารโรงคนหนึ่งในเมืองโอซาก้าได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมหลังพบว่าแอบปลูกต้นกัญชาในคราบบอนไซเพื่อขายส่ง…   เนียนเลยนะ มีเสาค้ำด้วย   Satoshi Ohashi ภารโรงวัย 35 ปี ได้แอบหารายได้เสริมด้วยการขายกัญชาที่ปลูกในอพาร์ตเมนต์ของเขาเอง ซึ่งในญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘Taima’ โดยจำนวนกัญชาที่เขาปลูกนั้นมีมากถึง 21 ต้นเลยทีเดียว ซึ่งคิดเป็นกัญชาหนัก 212 กรัมและตีเป็นเงินมูลค่ากว่า 6.6 ล้านบาท!!     นอกจากนี้ต้นกัญชาของเขายังมีขนาดที่โตถึง 40 เซนติเมตร ซึ่ง Satoshi กล่าวกับเจ้าหน้าที่อย่างภาคภูมิใจ ว่าเขาไม่เคยปลูกจนโตขนาดนี้มาก่อน   เจ้าตัวอวยเต็มที่ บอกปลูกมาดี .   อย่างไรก็ตาม การครอบครองและขายกัญชาในญี่ปุ่นแบบนี้จะมีโทษจำคุก 5 ปี เลยล่ะ ยังไงถ้ามันดีจริงๆ รอให้มันถูกกฏหมายกันก่อนนะ จากนั้นค่อยว่ากัน ที่มา nextshark

  • หนุ่มอังกฤษส่งเลนส์ผ่านไปรษณีย์ พอถึงมือผู้รับ สภาพอย่างกับโดนช้างกระทืบซะอย่างนั้น

    หนุ่มอังกฤษส่งเลนส์ผ่านไปรษณีย์ พอถึงมือผู้รับ สภาพอย่างกับโดนช้างกระทืบซะอย่างนั้น

    ช่วงที่ผ่านมาเราคงได้ยินข่าวความเสียหายของสิ่งของที่ถูกส่งผ่านไปรษณีย์มาหลายต่อหลายเคส หลายคนอาจคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้มีแต่ในประเทศแถวนี้ แต่ความเป็นจริงแล้วไปรษณีย์ทั่วโลกก็มีเหตุการณ์คล้ายๆ กัน แม้กระทั่งในอังกฤษก็ยังไม่เว้น Jacob Hawkins ช่างภาพวัย 24 ปี ได้ขายเลนส์มือสองยี่ห้อ Tamron มูลค่า 8,700 บาททางเว็บ eBay ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งการซื้อขายก็เป็นไปตามปกติ มีการขอที่อยู่จากทางผู้ซื้อเพื่อจัดส่งทางไปรษณีย์ Royal Mail   เขาก็จัดการแพ็คเลนส์เป็นอย่างดี มีการใช้โฟมกันกระแทกและส่งไปตามที่อยู่ที่ทางผู้ซื้อได้ให้ไว้   หลังจากนั้นไม่กี่วัน ลูกค้าของเขาก็ได้ส่งรูปภาพมาให้ เมื่อเปิดเข้าไปดูก็เห็นสภาพเลนส์กล้องที่เขาส่งไปให้อยู่ในสภาพแหลกละเอียด .   ขนาดก้อนหินยังแหลกเป็นเม็ดทราย นับประสาอะไรกับเลนส์กล้อง   แน่นอนว่าเมื่อสถาพเลนส์แบบนี้ เขาจึงร้องเรียนไปยัง Royal Mail ทันทีเพื่อทำการตรวจสอบและเรียกร้องค่าเสียหาย   สภาพของกล่องนั้นราวกับว่าโดนช้างกระทืบมา   “ลูกค้าของผมส่งเลนส์นี้ไปยังทาง Royal Mail เพื่อให้พวกเขาประเมินความเสียหาย แต่ทางไปรษณีย์ส่งมันกลับมาหาผมพร้อมจดหมายที่บอกว่าจะไม่จ่ายชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น โดยบอกไว้ว่าเป็นความผิดของผู้ส่งที่ไม่แพ็คให้ดี “ “เลนส์นี้ถูกจัดส่งแบบพิเศษ นั่นหมายความว่าผมจะได้รับประกันหาพัสดุเสียหายต้องจ่ายเงินคืน เทียบเท่ามูลค่าของสินค้า ตามเงื่อนไขที่บอกว่าหากสินค้าเสียหายเราจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน”     “ผมคิดว่าการที่ผมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อส่งพัสดุแบบพิเศษจะช่วยป้องกันไม่ให้เลนส์ของผมเสียหายก่อนถึงมือผู้ซื้อ…

  • 18 ภาพความโรแมนติก ของ “ฤดูใบไม้ร่วง” จากรอบโลก สวยจนอยากไปเที่ยวทุกที่เลย

    18 ภาพความโรแมนติก ของ “ฤดูใบไม้ร่วง” จากรอบโลก สวยจนอยากไปเที่ยวทุกที่เลย

    หลังจากผ่านฤดูที่ร้อนที่แสนจะหงุดหงิดและเต็มไปด้วยความเหนอะหนะ ในต่างประเทศก็จะมีฤดูใบไม้ร่วงอยู่ช่วงหนึ่งซึ่งฤดูนี้เป็นฤดูที่มีอากาศเย็นสบายเหมาะกับการออกไปข้างนอก อีกทั้งต้นไม้ในสถานที่ต่างๆ ยังพร้อมใจกันผลัดใบเปลี่ยนสีออกมาเป็นสีส้ม-สีแดง เป็นความสวยงามจากธรรมชาติที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้พบเห็น และนี่คือภาพสถานที่ต่างๆ บนโลกที่ฤดูใบไม้ร่วงได้เพิ่มเสน่ห์ความสวยงามให้แต่ละที่จนอยากจะย้ายไปอยู่เลยทีเดียว จะมีที่ไหนกันบ้างเชิญรับชมกันได้เลยจ้า   ใบไม้สีแดงตัดกับกับภาพปราสาทที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น   ปราสาทเก่ากับฉากใบไม้เปลี่ยนสี ริมทะเลสาบใน Loch Awe ประเทศสกอตแลนด์   ต้นไม้สีร้อนแรงเหมาะแก่การนั่งปิกนิกใน Central Park นคร New York   บ้านริมน้ำแสนร่มเย็นที่ Stockholm ประเทศสวีเดน   หมู่บ้านริมทะเลสาบ Hallstaetter ที่สวยดั่งกะนิยายประเทศ ออสเตรีย   ลองนึกภาพไปนั่งเล่นริมน้ำเย็นๆ ที่นี่นะฟินเลย เพราะนี่คือบ้านในเมือง Boston รัฐ Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา   น้ำตก Niagara ยิ่งมีเสน่ห์เพิ่มไปอีกในฤดูใบไม้ร่วง   เมฆหมอกเหนือน้ำช่างสุดจะบรรยายที่ White Mountains National Forest ประเทศ อเมริกา   พิพิธภัณฑ์ Louvre ในตอนที่มีแสงแดดอ่อนๆ ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่ที่เมือง…

  • หนุ่มติดอยู่ในตู้เบียร์ เพราะประตูล็อคอัตโนมัติหลังเที่ยงคืน ไหนๆ ก็ออกไม่ได้ ซัดเบียร์ซะเลย

    หนุ่มติดอยู่ในตู้เบียร์ เพราะประตูล็อคอัตโนมัติหลังเที่ยงคืน ไหนๆ ก็ออกไม่ได้ ซัดเบียร์ซะเลย

    การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้จะไม่ผิดกฏหมาย แต่ก็ต้องดื่มหรือซื้อในเวลาที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งบางประเทศเคร่งครัดในเรื่องนี้มาก ถึงกับปิดตู้เครื่องดื่มตามเวลาเป๊ะๆ เหมือนกับเมือง Marshfield ในสหรัฐอเมริกาที่มีกฏห้ามขายเหล้าเบียร์หลังเวลาเที่ยงคืน ดังนั้นเมื่อเที่ยงคืนปุ๊บ ตู้เครื่องดื่มจะทำการปิดอย่างอัตโนมัติ     แต่แล้วก็เกิดเหตุบังเอิญ เมื่อ Jeremy Van Ert วัย 38 ปี ติดอยู่ในตู้เบียร์ของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง เพราะเข้าไปในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันพอดี เมื่อทำอะไรไม่ได้เขาจึงกินเบียร์ในนั้นก่อนจะหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ Rick Gramza บอกว่า Van Ert ได้เดินเข้าไปในร้าน Marshfield Kwik Trip เมื่อคืนวันอังคารก่อนเวลาเที่ยงคืน แต่พอถึงเวลาเที่ยงคืนปุ๊บประตู้เบียร์ล็อคทันที จึงทำให้เขาติดอยู่ในนั้น     เมื่อรู้ว่าตัวเองติดอยู่ในตู้เบียร์และรู้ว่าทางร้านไม่ขายเบียร์หลังเที่ยงคืน Van Ert จึงตัดสินใจอยู่ในนั้นทั้งคืนโดยไม่ขอความช่วยเหลือ พร้อมดื่มเบียร์ในตู้อย่างเต็มที่ กระทั่งเวลา 6 โมงเช้า มีลูกค้าเข้ามาซื้อเบียร์ และเห็นเขาถูกขังอยู่ในตู้ จึงทำให้เขาออกมาได้ ก่อนจะหนีไปโดยไม่ได้จ่ายค่าเครื่องดื่มที่เขากินไป     ตามรายงานของตำรวจบอกว่านาย Van Ert ดื่มเบียร์ Icehouse Beer ขนาด 18 ออนซ์ 1 ขวด…

  • โคตรคูล!! พาบินชั้นเฟิร์สคลาส Lufthansa ราคา 200,000 บาท มันจะหรูหราฟู่ฟ่าขนาดไหนกัน..

    โคตรคูล!! พาบินชั้นเฟิร์สคลาส Lufthansa ราคา 200,000 บาท มันจะหรูหราฟู่ฟ่าขนาดไหนกัน..

    การเดินทางโดยเครื่องบินในทุกวันนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างสูงเพราะนอกจากจะมีความรวดเร็ว ปลอดภัย และยังมีราคาถูกอีกด้วย แต่ในวันนี้จะมีหนุ่มคนหนึ่งพาเราไปนั่งชั้น First Class ของสายการบิน Lufthansa ที่มีราคาต่อเที่ยวสูงถึง 200,000 บาท!! หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Gilbert Ott เขาเป็นเจ้าของเว็บไซต์ Godsavethepoints ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่แนะนำทริคต่างๆ อย่างการสะสมแต้มไมล์ วิธีหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและทำยังไงให้นั่งชั้นประหยัดสบายเหมือนชั้นธุรกิจ     เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเขาได้จองที่นั่งชั้น First Class ของสายการบิน Lufthansa ซึ่งมีมูลค่า 5,900 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 200,000 บาท) แต่เขาควักเงินจ่ายจริงๆ เพียงแค่ 750 ดอลล่าร์ (ประมาณ 25,000 บาท) เท่านั้นจากการใช้แต้มไมล์ที่ได้สะสมมา โดยเขาเริ่มเดินทางจากสนามบิน Frankfurt ไปยังสนามบิน New York ระหว่างที่บินอยู่นั้นเขาได้บันทึกความหรูหราของเครื่องบินลำนี้ไว้ในกล้องวีดีโอของเขาด้วย มาลองดูกันดีกว่าว่าชีวิตของเขาจะดูดีขนาดไหนกัน   เขาใช้ Asiana Club Miles เพื่อเป็นส่วนลดในการซื้อตั๋วครั้งนี้ซึ่งเขาได้มาจากการพักโรงแรมในเครือ Starwood การได้บินพร้อมกับลูกเรืออีก 4 คนแถมยังมีที่นั่งอีก 8 ที่สำหรับเขาคนเดียวเป็นอะไรที่โคตรจะเจ๋งไปเลย   ตอนก่อนเริ่มบินเขามาถึงอาคารของผู้โดยสาร First…

  • คุณยายถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อได้ของขวัญสุดล้ำค่า ที่ช่วยทำให้หัวใจอบอุ่นขึ้นเป็นกอง

    คุณยายถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อได้ของขวัญสุดล้ำค่า ที่ช่วยทำให้หัวใจอบอุ่นขึ้นเป็นกอง

    ตอนเรายังเป็นเด็ก เวลาที่ได้กล่องของขวัญอะไรมาเราจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากและลุ้นว่าด้านในจะเป็นอะไร ซึ่งช่วงเวลาแบบนั้นอาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแค่ตอนวัยเด็กเท่านั้น เพราะต่อให้อายุมากขึ้นขนาดไหนเหตุการณ์นั้นก็อาจหวนกลับมาได้เสมอ เช่นเดียวกับคุณยายคนนี้ มีคลิปวิดีโอของคุณยายนิรนามท่านหนึ่งโพสต์ลงในยูทูบ เผยให้เห็นความน่ารักและความซาบซึ้งในตอนที่เธอกำลังลุ้นกับของขวัญวันคริสต์มาส และรู้สึกเซอร์ไพรส์มากเมื่อรู้ว่าด้านในเป็นอะไร   ค่อยๆ ถือนะครับคุณยาย   คลิปนี้ถูกโพสต์โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า Long Nguyen และใต้วิดีโอก็มีคำอธิบายสั้นๆ ไว้ว่า “ของขวัญคริสต์มาสให้แม่” ตอนแรกที่คุณยายได้รับกล่อง แกก็บอกว่ารู้สึกมันหนักๆ จึงนำมาวางไว้บนตักแล้วค่อยเปิดฝากล่องขึ้นมา ซึ่งเมื่อเธอเห็นสิ่งที่อยู่ภายในแล้ว มันก็ทำให้เธอรู้สึกตกใจและดีใจเอามากๆ   ด้านในคือน้องเหมียวตัวสีดำสุดน่ารักที่กระเด้งออกมาสร้างรอยยิ้มให้กับคุณยาย   เธอดีใจมากจนถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความสุขออกมาและโอบกอดเจ้าเหมียวเอาไว้ด้วยความรัก สิ่งที่เธอทำสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่เห็นได้อย่างง่ายดาย   ยินดีต้อนรับเจ้าเหมียวที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว คุณยายตั้ลล๊ากกก   คลิปเซอรไพรส์คุณยายด้วยของขวัญที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจ   ด้วยความน่ารักของเธอและเจ้าเหมียว จึงทำให้ในยูทูบมีคนเข้าดูมากกว่า 1.2 ล้านคน ยอดไลค์กว่า 50,000 ครั้ง และคอมเม้นต์อีกกว่า 3,700 ข้อความ แสดงให้เห็นว่าคลิปนี้สร้างความสุขและความซาบซึ้งให้กับคนอื่นๆ มากขนาดไหน   ทุกคอมเม้นต์ต่างรู้สึกซาบซึ้งกับการแสดงออกของคุณยาย จนบางคนถึงกับร้องไห้เลยก็มี   ความสุขสามารถทำให้เราย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้งจริงๆ สินะเนี่ย   ที่มา: inspiremore

  • เจ้ากระรอกน้อยผู้พลาดพลั้งดันไปกิน ‘เห็ดป่า’ จนทำให้ต้องนอนกองอยู่กับพื้นด้วยความเมา

    เจ้ากระรอกน้อยผู้พลาดพลั้งดันไปกิน ‘เห็ดป่า’ จนทำให้ต้องนอนกองอยู่กับพื้นด้วยความเมา

    กระรอกที่เราเคยเห็นอยู่ตามต้นไม้ทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่พวกมันก็จะวิ่งเล่นไปมาไม่ค่อยหยุดอยู่กับที่ แต่กระรอกตัวที่หญิงสาวคนนี้ไปเจอกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพราะมันกลับนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นซะได้ อาการดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าเจ้ากระรอกน้อยมันเสียชีวิตหรอกนะ แต่ที่มันต้องเป็นอย่างนั้นก็เพราะว่ามันเมา!!   โดนคำเดียวก็ได้ไปอยู่ที่ลอนดอน โดนคำเดียวก็ได้ไปอยู่อเมซอน สรุปว่ามาววว   กระรอกตัวนี้ถูกพบโดยผู้ใช้ยูทูบที่ชื่อว่า Vet Wife ผู้โพสต์คลิปนี้เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2016 ขณะที่เธอกำลังพาน้องหมาไปเดินเล่น เธอก็ได้เจอกับเจ้ากระรอกน้อยนอนหายใจรวยรินไม่ยอมขยับอยู่กับพื้น ตอนแรกเธอคิดว่ามันอาจถูกสัตว์อื่นทำร้ายมา แต่เมื่อลองสังเกตก็พบว่ามีอะไรคาอยู่ในปากมันอยู่และเมื่อมองไปรอบๆ ก็ทำให้เธอพอเดาได้แล้วว่ามันเป็นอย่างนี้เพราะอะไร พื้นที่ตรงนั้นดันมีเห็ดงอกขึ้นมาจนทำให้เจ้ากระรอกทนความหิวเอาไว้ไม่ได้และกินมันเข้าไปแน่ๆ ซึ่งจากลักษณะแล้วเห็ดเหล่านั้นไม่น่าจะถึงกับมีพิษอันตราย แต่คงมีผลทำให้มันมึนเมามากกว่า   เห็ดเหล่านี้ คือตัวการที่ทำให้เจ้ากระรอกต้องล้มตัวนอนโดยไม่ได้ตั้งใจ   เพราะอย่างนั้นเจ้ากระรอกตัวนี้เลยมีสภาพอย่างที่เห็น หญิงสาวจึงตั้งใจจะพามันไปหาสัตวแพทย์ แต่ระหว่างที่เธอกำลังห้ามหมาของตัวเองไม่ให้เข้าไปทำร้ายมัน จู่ๆ เจ้ากระรอกก็ลุกขึ้นมาวิ่งหน้าตาเฉย?! แต่มันก็วิ่งไปได้แค่นิดเดียวแล้วก็ล้มลงไปอยู่ในสภาพเดิม น่าสงสารจริงๆ เลยนะเจ้ากระรอกไม่น่าซ่าไปกินเห็ดเมาเล๊ยยย   คลิปกระรอกเมานอนแอ้งแม้ง   พวกเราเองเวลาจะกินอะไร อย่าลืมดูให้ดีๆ ก่อนนะ ไม่อย่างนั้นอาจเป็นเหมือนกับเจ้ากระรอกน้อยตัวนี้ก็ได้   ที่มา: todaysdot

  • โรงเรียนในอินเดีย ฝึกให้นักเรียนสามารถเขียนหนังสือด้วยมือทั้งสองข้างในเวลาเดียวกัน

    โรงเรียนในอินเดีย ฝึกให้นักเรียนสามารถเขียนหนังสือด้วยมือทั้งสองข้างในเวลาเดียวกัน

    ที่โรงเรียนเล็กๆ ในเมือง Madhya Pradesh ประเทศอินเดีย ได้มีรายงานว่านักเรียนจำนวนกว่า 300 คนมีความสามารถพิเศษคือสามารถเขียนหนังสือได้ทั้งสองมือ โดยที่ปกติมนุษย์ทั่วไปจะใช้มือข้างที่ถนัดในการเขียนเพียงข้างเดียวเท่านั้น Veena Vandini ผู้ก่อตั้งโรงเรียนได้มีความคิดริเริ่มการฝึกให้เด็กนักเรียนเขียนหนังสือด้วยมือทั้งสองมือ โดยได้รับแรงบรรดาลใจมาจากประธานาธิบดี Rajendra Prasad ประธานาธิบดีคนแรกของอินเดีย ที่มีความสามารถในการเขียนหนังสือได้ทั้งสองมือ     หลังจากนั้นเธอก็ได้ฝึกให้นักเรียนในโรงเรียนเขียนหนังสือด้วยมือทั้งสองข้าง โดยเริ่มตั้งแต่นักเรียนชั้นเกรด 1 เป็นต้นไป ซึ่งทุกคนก็สามารถเขียนหนังสือทั้งสองมือได้ โดยที่เด็กนักเรียนในเกรดสูงๆ ขึ้นไปจะสามารถเขียนได้รวดเร็วขึ้นและมีความแม่นยำ     ทุกๆ คลาสจะมีการเรียนการสอน 45 นาที ส่วนอีก 15 นาทีจะเป็นการฝึกให้นักเรียนได้เขียนสองมือ โดยการฝึกนี้ยังช่วยเสริมทักษะให้นักเรียนได้เรียนรู้ภาษาหลายภาษาในเวลาเดียวกัน     แต่จากการศึกษาวิจัยของ Scientific American กล่าวไว้ว่า เด็กที่มีความสามารถในการใช้มือทั้งสองข้างจะมีคะแนนทางด้านคณิตศาสตร์แย่กว่าเด็กที่ถนัดซ้ายหรือถนัดขวาโดยเฉพาะ นอกจากนี้ การศึกษาของฟินแลนด์ก็ยังศึกษาพบอีกว่า เด็กที่ถนัดสองข้างจะมีปัญหาสุขภาพจิต สมาธิสั้น รวมไปถึงการมีปัญหาทางด้านการเรียนรู้ทางวิชาการอีกด้วย     มาดูกันว่าการเขียนหนังสือสองมือมันเป็นอย่างไร   ที่มา odditycentral

  • คดีสะเทือนขวัญชาวญี่ปุ่น ตำรวจบุกจับชายหนุ่มคาห้องพัก พบ 9 ศพ และ 2 หัวที่ถูกตัด!?

    คดีสะเทือนขวัญชาวญี่ปุ่น ตำรวจบุกจับชายหนุ่มคาห้องพัก พบ 9 ศพ และ 2 หัวที่ถูกตัด!?

    เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม สำนักข่าว Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดสะเทือนขวัญเกี่ยวกับการเข้าจับกุมชายชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่านาย Takahiro Shiraishi หลังจากที่มีการตรวจพบศพจำนวน 9 ศพภายในห้องเช่าของเขา   โฉมหน้าของฆาตกรสุดโหด ฆ่าหั่นศพ Takahiro Shiraishi   ตำรวจ ผู้สื่อข่าว และชาวบ้านแถวนั้นจำนวนมาก ต่างมามุงดูที่เกิดเหตุ   ตำรวจนครบาลและผู้สื่อข่าวจำนวนมากได้เข้าไปในสถานที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่พักอาศัยของชายคนนี้ภายในเมืองซะมะ จังหวัดคะนะงะวะ ประเทศญี่ปุ่น และได้เจอเข้ากับศพของผู้หญิง 8 คนกับศพผู้ชายอีก 1 คน กับรอยเลือดที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วห้อง Shiraishi ยอมรับข้อกล่าวหาว่าเขาเป็นคนตัดแบ่งร่างกายของเหยื่อออกเป็นส่วนๆ ด้วยตัวเอง เพื่อทำลายหลักฐานการฆาตกรรมของเขา ทำให้ตำรวจพบศีรษะของเหยื่อสองคนและชิ้นส่วนร่างกายอื่นๆ อยู่ในกล่องเก็บความเย็นภายในห้องและกล่องลังไม้บางส่วน   เจ้าหน้าที่ต้องดูแลความเรียบร้อยของสถานที่เกิดเหตุเอาไว้   ในระหว่างการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่พบว่าหนึ่งในศพที่เป็นเหยื่อของเขา คือหญิงสาววัย 23 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองฮะชิโอจิ ซึ่งเธอถูกแจ้งความว่าหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2017 ในช่วงที่เธอหายตัวไปพี่ชายของเธอพบว่าหญิงสาวได้เข้าไปพูดเอาไว้ในเว็บไซต์สำหรับการฆ่าตัวตายว่า “ฉันกำลังหาคนที่จะตายไปพร้อมกันกับฉัน”     จากการสืบสวนทำให้ทราบว่าฆาตกรได้สร้างเว็บไซต์ขึ้นมาให้สำหรับคนที่อยากจะฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นจึงมีการนัดพบกันและลงมือฆ่าเหยื่อเหล่านั้นภายในอพาร์ตเม้นท์ของตัวเอง หญิงสาวที่ถูกแจ้งว่าหายตัวไปคือหนึ่งในเหยื่อของเขา โดยทั้งสองนัดเจอกันที่สถานีรถไฟและเดินทางมายังอพาร์ตเม้นท์ของเขาด้วยกัน ซึ่งกล้องวงจรปิดภายในสถานีสามารถจับภาพช่วงเวลาขณะที่ทั้งคู่กำลังอยู่ด้วยกันเอาไว้ได้…

  • ยลพระสิริโฉมอันงดงามของ “ควีนอลิซซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ” สมัยยังทรงพระเยาว์

    ยลพระสิริโฉมอันงดงามของ “ควีนอลิซซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ” สมัยยังทรงพระเยาว์

    เมื่อพูดถึงราชวงค์อังกฤษ เราเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้จัก “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร” หรือ “ควีนเอลิซาเบธที่ 2” อย่างแน่นอน พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ของ 16 ประเทศ จาก 53 รัฐสมาชิกในเครือจักรภพแห่งชาติ และยังเป็นประธานเครือจักรภพและผู้ปกครองสูงสุดแห่งคริสตจักรแห่งอังกฤษอีกด้วย     ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2469 ปัจจุบันมีพระชนมายุ 91 พรรษา โดยเสด็จขึ้นของราชเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2495 ขณะที่มีพระชนมายุเพียง 25 ชันษา ภายหลังจากที่พระราชบิดาได้เสด็จสวรรคต ในช่วงคล้ายวันพระราชสมภพ 21 ชันษา พระองค์ทรงประกาศหมั้นกับเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ และได้อภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2490  โดยมีพระราชบุตรทั้งสิ้น 6 พระองค์คือ… เจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์, เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี, เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด…

  • ชีวิตอันน่าพิศวงของ “Ri Sol-ju” ภรรยาของท่านผู้นำแห่งเกาหลีเหนือ ที่พักหลังหายไปจากสื่อ

    ชีวิตอันน่าพิศวงของ “Ri Sol-ju” ภรรยาของท่านผู้นำแห่งเกาหลีเหนือ ที่พักหลังหายไปจากสื่อ

    ในประเทศเกาหลีเหนือนอกจากเรื่องทางการเมืองแล้ว ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ถูกเก็บเอาไว้เป็นความลับ แม้แต่เรื่องครอบครัว และทายาทของท่านผู้นำ Kim Jong Un ก็ยังไม่มีการนำออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนเลย แต่ถึงกระนั้นก็ยังพอมีกระแสข่าวความเคลื่อนไหวชีวิตส่วนตัวของท่านผู้นำออกมาบ้าง อย่างเช่นเรื่องของ Ri Sol-ju หญิงวัย 28 ปีที่ถูกระบุว่าเป็นภรรยาของ Kim Jong Un และเธอก็เพิ่งจะให้กำเนิดลูกคนที่ 3 (ยังไม่ได้รับการยืนยันเพศ) ไปเมื่อไม่นานมานี้ สำหรับ Ri เธอเกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะ คุณพ่อเป็นศาสตราจารย์และมีคุณแม่เป็นหมอ ซึ่งหลายๆ คนอาจไม่ได้สนใจหรือรู้เรื่องราวชีวิตของเธอกันสักเท่าไหร่ จนกระทั่ง Ri ได้กลายมาเป็นภรรยาของผู้นำสุดเผด็จการที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และนี่คือเรื่องราวทุกอย่างที่เรารู้เกี่ยวกับ Ri Sol-ju…   เมื่อเดือนกรกฎาคม 2012 สื่อเกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า Ri Sol-ju คือภรรยาของท่านผู้นำ Kim Jong Un   และภายหลังจากที่ Ri Sol-ju ได้ออกมาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะชนพร้อมกับ Kim Jong Un เธอก็ได้รับความสนใจจากบรรดาสื่อต่างประเทศอย่างล้นหลาม   หลังจากที่…

  • ฝาแฝดหนุ่มวัย 19 ที่ดูเหมือนกันมาก จนชาวเน็ตพากันคิดว่านี่มันเป็นภาพตัดต่อหรือเปล่า!?

    ฝาแฝดหนุ่มวัย 19 ที่ดูเหมือนกันมาก จนชาวเน็ตพากันคิดว่านี่มันเป็นภาพตัดต่อหรือเปล่า!?

    สิ่งที่เราได้เห็นจากคู่พี่น้องที่เป็นฝาแฝดกันก็คือ พวกเขาเกิดมามีใบหน้าที่คล้ายกันมาก แต่แน่นอน ไม่มีอะไรที่เหมือนกันเป๊ะๆ ถึงสองสิ่งบนโลกใบนี้ แม้แต่ฝาแฝดเองก็มีจุดที่เราสามารถสังเกตได้ว่าใครเป็นใคร แต่สำหรับคู่แฝดหนุ่มที่เราจะมาแนะนำให้คุณได้รู้จักในวันนี้ บอกเลยว่ามันอาจจะทำให้หลายคนถึงขั้นขยี้ตาหลายรอบกันเลยทีเดียว เพราะพวกเขาเหมือนกันยันเงาถึงขนาดที่ทำเอาหลายๆ คนสงสัยว่านี่คือแฝดจริงๆ หรือเป็นการแต่งภาพด้วยโฟโต้ช้อปกันแน่…     เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Ahmed และ Abdullah ฝาแฝดหนุ่มวัย 19 ปี ได้กลายเป็นคนดังในทวิตเตอร์ไปชั่วข้ามคืน ภายหลังจากที่ Ahmed ได้โพสต์ภาพของเขาและ Abdullah ลงในโลกออนไลน์เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบวันเกิดของพวกเขา     ในรูปถ่ายได้ปรากฏให้เห็นว่า ทั้งคู่ได้แต่งตัวในชุดเดียวกันเป๊ะ งานนี้เลยทำให้ภาพดังกล่าวกลายเป็นกระแสไวรัลไปในทันที โดยมีคนเข้าไปกดไลก์มากกว่า 61,000 ครั้ง และรีทวิตไปมากถึง 14,000 ครั้งเลยทีเดียว นอกจากนี้ ภาพของ Ahmed และ Abdullah ยังทำให้ชาวเน็ตรู้สึกประหลาดใจกับรูปลักษณ์ของพวกเขาเป็นอย่างมาก อีกทั้ง แต่ละคนต่างก็ให้ความสนใจในเรื่องความเหมือนจนแยกไม่ออกของแฝดคู่นี้กันยกใหญ่     อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตบางคนได้เข้ามาแสดงความเห็นว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นพี่น้องกันจริงๆ หรือว่าภาพทั้งหมดมันถูกแต่งขึ้นด้วยโปรแกรมโฟโตชอปกันแน่ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ทาง Ahmed ก็ได้ออกมาโชว์หลักฐานเพื่อยืนยันให้ทุกคนได้เห็นกันอีกครั้งว่า เขาและ…

  • รักนี้เพื่อเธอ!! คุณตาชาวญี่ปุ่นเนรมิต “ทุ่งดอกไม้หอม” เพื่อช่วยเยียวยาจิตใจภรรยาที่ตาบอด

    รักนี้เพื่อเธอ!! คุณตาชาวญี่ปุ่นเนรมิต “ทุ่งดอกไม้หอม” เพื่อช่วยเยียวยาจิตใจภรรยาที่ตาบอด

    พูดถึงเรื่องความรัก หนุ่มๆ จากทั่วโลกมักจะมอบช่อดอกไม้ให้กับแฟนสาวเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความรักของพวกเขาในวันวาเลนไทน์ แต่จะมีสักกี่คนกันนะที่ยอมทุ่มเวลานานหลายปีเพื่อสร้างทุ่งดอกไม้ให้แก่คนรัก คุณอาจจะมองว่ามันเป็นอะไรที่เวอร์วังไปสักหน่อย แต่สำหรับ Toshiyuki Kuroki คุณตาชาวญี่ปุ่นผู้ที่ยอมทำทุกอย่างให้กับภรรยาตาบอดคนนี้ ได้มอบของขวัญสุดพิเศษด้วยการปลูกทุ่งดอกไม้หอมให้กับเธอ เพื่อหวังที่จะให้คุณยายได้สัมผัสกลิ่น และกลับมาสดใสอีกครั้ง     นี่คือคุณตา Toshiyuki และคุณยาย Yasuko Kuroki ทั้งคู่มีอาชีพเป็นเกษตรกร อาศัยอยู่ในจังหวัดมิยาซากิ ประเทศญี่ปุ่น และครองคู่อยู่ด้วยกันเป็นเวลานานกว่า 60 ปีแล้ว ภายหลังจากที่ได้แต่งงานกัน พวกเขาก็ได้ทำฟาร์มเลี้ยงวัว และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา โดยมีลูกด้วยกัน 2 คน     นอกจากนี้ ทั้งสองยังเคยใฝ่ฝันว่าจะใช้ชีวิตในยามเกษียณด้วยการเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วญี่ปุ่น แต่หลังจากที่แต่งงานอยู่กินกันมาได้ 30 ปี คุณยาย Yasuko ได้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เธอเริ่มมีอาการซึมเศร้า และตัดขาดจากโลกภายนอก ซึ่งก็ทำให้คุณตา Toshiyuki รู้สึกเศร้าไปด้วย     กระทั่งวันหนึ่งในขณะที่เขากำลังทำสวนอยู่หน้าบ้าน คุณตาก็ไปเห็นดอก “Shibazakura” หรือ “พิงค์มอส” สีชมพูอันงดงาม และมีกลิ่นหอมหวานเป็นพิเศษเข้า…

  • ศิลปินติดป้ายโฆษณาแบรนด์เสื้อผ้า เผยให้เห็นเบื้องหลังแสนหดหู่ของอุตสาหกรรมแฟชั่นในบังคลาเทศ

    ศิลปินติดป้ายโฆษณาแบรนด์เสื้อผ้า เผยให้เห็นเบื้องหลังแสนหดหู่ของอุตสาหกรรมแฟชั่นในบังคลาเทศ

    เมื่อระบบทุนนิยมเติบโตมากขึ้น อุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าของบริษัทผู้ผลิตแบรนด์เสื้อผ้าต้องแข่งกันแสวงหากำไรให้ได้มากที่สุด โดยใช้วิธีการลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง และพึ่งพาแรงงานราคาถูกในการตัดเย็บ “บังคลาเทศ” เป็นประเทศที่ผลิตเสื้อผ้าให้กับแบรนด์ดังมากมาย เช่น Zara, H&M ฯลฯ อีกทั้ง ยังมีฐานการผลิตเสื้อผ้าที่มีค่าแรงถูกที่สุดในโลก คนงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ทำให้พวกเขาต้องทำงานหนักแบบไม่ได้หยุดพัก ขณะที่ผู้บริโภคได้ใส่เสื้อผ้าที่มีคุณภาพ ทันสมัย และสวยงาม แต่หารู้ไม่ว่าความงามเหล่านั้นมันเต็มไปด้วยเบื้องหลังการผลิตที่แสนหดหู่และเลวร้าย     อย่างไรก็ตาม ในปี 2013 ที่ผ่านมา โรงงานเสื้อผ้าในประเทศบังคลาเทศหลายแห่งได้เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ เนื่องจากส่วนใหญ่โรงงานเหล่านี้ไม่ได้มาตรฐาน ส่วนเจ้าของโรงงานก็ไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องความปลอดภัย ดังนั้น จึงทำให้ผู้ใช้แรงงานได้เสียชีวิตไปมากถึง 1,134 คน ซึ่งก็นับเป็นโศกนาฏกรรมร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์แฟชั่นบังคลาเทศเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้ ศิลปินนามว่า Igor Dobrowolski จึงได้ตัดสินใจทำป้ายโฆษณาแบรนด์เสื้อผ้าไปติดไว้บนถนนในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เพื่อแสดงให้ผู้คนได้เห็นถึงเบื้องหลังอันแสนเลวร้าย และน่าสะพรึงกลัวของวงการอุตสาหกรรมแฟชั่นในบังคลาเทศ   และนี่คือผลงานของเขา… . . .   สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานขอเขา คุณสามารถเข้าไปติดตามเขาได้ทางเฟซบุ๊ก igor.dobrowolski.5 และอินสตาแกรม igordobrowolski ได้เลยจ้า ที่มา : boredpanda

  • ย้อนรอยภาพ ‘วัยเยาว์’ ของเด็กๆ จาก 22 ประเทศทั่วโลกเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว

    ย้อนรอยภาพ ‘วัยเยาว์’ ของเด็กๆ จาก 22 ประเทศทั่วโลกเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว

    ช่วงเวลาในวัยเด็กนั้นอาจจะเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนจะมีความสุขสำหรับใครหลายๆ คน และบางคนก็อาจจะมีการถ่ายภาพความทรงจำในวัยเด็กเก็บไว้กันบ้างแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ ภาพถ่ายในเก่าๆ ในวัยเด็กนั้นนอกจากจะทำให้เราได้เห็นความทรงจำดีๆ กันแล้ว มันยังทำให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวเราอีกด้วย และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพเหล่าเด็กๆ จากแต่ละประเทศเมื่อ 100 ปีก่อน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันได้เลย…   1. ประเทศแอลจีเรีย   2. ประเทศเยอรมนี   3. ประเทศเนปาลและประเทศจีน   4. ประเทศอังกฤษ ด้านซ้ายคือภาพของเด็กนักเรียนจากโรงเรียน Kensington ในกรุงลอนดอน ส่วนด้านด้านขวาคือภาพของเด็กๆ ที่กำลังเตรียมตัวลงหาปลาในทะเลสาบ Serpentine   5. ประเทศสกอตแลนด์และประเทศไอร์แลนด์ ด้านขวาคือสีของเด็กชาวไอร์แลนด์วัย 14 ปีที่มาในชุดประจำชาติของเธอ ภาพนี้ถ่ายราวๆ ปี 1913   6. ประเทศโรมาเนียและประเทศแอลเบเนีย   7. ประเทศญี่ปุ่น ภาพทางด้านซ้ายคือเหล่าเด็กๆ ในชุดประจำชาติอย่างชุดกิโมโน ส่วนทางด้านขวาคือเด็กนักเรียนจากโรงเรียนในเมืองฟุกุโอะกะ   8. ประเทศอาร์เจนตินา และประเทศเม็กซิโก   9. ประเทศสเปน   10. ประเทศเอสโตเนีย และประเทศโปแลนด์  …

  • ท่านผู้นำคิมพาภรรยาปรากฎตัวต่อหน้าสื่อ พร้อมทัวร์โรงงานเครื่องสำอางในกรุงเปียงยาง

    ท่านผู้นำคิมพาภรรยาปรากฎตัวต่อหน้าสื่อ พร้อมทัวร์โรงงานเครื่องสำอางในกรุงเปียงยาง

    แม้ว่าส่วนใหญ่เวลาเราได้ยินข่าวเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือนั้นมักจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะสบายใจชาวโลกมากสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมรบ หรือการพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ท่านผู้นำคิมกลับพักเรื่องราวหนักๆ เอาไว้ก่อน หลังจากที่เขาได้เข้าชมโรงงานผลิตเครื่องสำอาง พร้อมกับสตรีหมายเลขหนึ่งของเกาหลีเหนือ     นาย Kim Jong-un ได้เข้าชมโรงงานผลิตเครื่องสำอางในกรุงเปียงยางพร้อมกับภริยาของเขานาง Ri Sol-ju  และมีข่าวว่าเธอนั้นได้ให้กำเนิดบุตรคนที่ 3 ของท่านผู้นำด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทั้งสองได้ปรกฏตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในงานฉลองการประสบความสำเร็จในทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปหรือ ICBM และนอกจากนี้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเธอยังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงให้กับเหล่าช่างเทคนิคที่ทำการพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์อีกด้วย     ทั้งสองแต่งงานกันในปี 2009 และจากการรายงานของสื่อเกาหลีใต้กล่าวว่านาง Ri นั้นเติบโตมาจากครอบครัวธรรมดาโดยพ่อของเธอเป็นนักวิชาการส่วนแม่ของเธอนั้นมีอาชีพเป็นแพทย์ นอกจากนี้นาง Ri ยังเคยไปเยือนประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2005 ในฐานะผู้นำเชียร์ของทัพนักกีฬาเกาหลีเหนือในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชียอีกด้วย ทางสำนักข่าวนักข่าวแห่งชาติของเกาหลีหรือ KCNA ยังได้รายงานเพิ่มเติมว่ามีผู้ติดตามอื่นๆ นอกเหนือจากสตีหมายเลขหนึ่งอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นนาย An Jong-su รองประธานกรรมการพรรคกรรมกรแห่งเกาหลีเหนือ และผู้นำคนอื่นๆ ในพรรค รวมถึงนาง Kim Yo-jong น้องสาวของท่าผู้นำด้วยเช่นกัน     คณะกรรมการทั้งหมดได้เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงโรงงาน จากการรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่น นาย Kim ได้กล่าวว่า “ที่นี่มีเครื่องสำอางที่มากมายและเต็มไปด้วยคุณภาพ แต่ไม่เพียงแค่นั้นยังมีการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่สวยงามน่าใช้อีกด้วย มันเป็นเหมือนความฝันของผู้หญิงทุกคนที่ต้องการความสวยความงาม”     ผู้นำคิมและน้องสาวของเขา กับผู้นำในพรรคกรรมกรแห่งเกาหลีเหนือ…

  • เผยภาพบรรยากาศในงานแต่งของคู่รัก “ซงซง” ที่จูงมือกันเข้าพิธีวิวาห์ในวันนี้

    เผยภาพบรรยากาศในงานแต่งของคู่รัก “ซงซง” ที่จูงมือกันเข้าพิธีวิวาห์ในวันนี้

    คือ…เอาจริงๆ ป่ะ!! ก่อนหน้านี้ทั้งสาวไทยสาวและเกาหลีต่างก็พากันใจสลายกันไปแล้ว หลังจากที่ทางสื่อเกาหลีใต้ได้ออกมายืนยันความสัมพันธ์ของ Song Hye Kyo และ Song Joong Ki สองนักแสดงคู่พระนางจากซีรีย์สุดฮิตเรื่อง Descendants Of The Sun ว่าทั้งคู่ได้ตกลงคบหาดูใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าบาดแผลที่ยังไม่ทันได้เยียวยาก็ถูกย่ำยีอีกครั้ง เมื่อมีแหล่งข่าวได้ออกมาประกาศว่าสองซุปตาร์จากแดนโสมจะเข้าพิธีวิวาห์กันปลายเดือนตุลาคมนี้     ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเราก็ได้แต่ภาวนาว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่แล้วในที่สุดวันที่ไม่อยากให้ถึงก็มาถึงจนได้ เพราะล่าสุดในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 Hye Kyo และ Joong Ki สองนักแสดงชื่อดังได้เข้าพิธีแต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า…     สำหรับพิธีงานแต่งของทั้งคู่เป็นงานแต่งแบบกลางแจ้ง ถูกจัดขึ้นที่ Yeong Bin Gwan ในโรงแรม Shilla โดยมีเหล่าดารานักแสดงชื่อดังได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่รักซงซงกันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น… Minho (SHINee), Park Bo Gum, Kim Ji Won, Donghae (Super Junior),…

  • แม่คือแม่!! หญิงชราวัย 98 ยอมย้ายไปอยู่บ้านพักคนชรา เพื่อดูแลลูกชายวัย 80 ปี

    แม่คือแม่!! หญิงชราวัย 98 ยอมย้ายไปอยู่บ้านพักคนชรา เพื่อดูแลลูกชายวัย 80 ปี

    ไม่ว่าไม่ว่าคุณจะโตแค่ไหนก็ตาม คุณเองก็ยังคงเป็นเจ้าหนูน้อยของคุณแม่อยู่ดี และด้วยความรักความห่วงใยที่ไม่มีวันหยุดของคุณแม่นี้ก็ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นไม่น้อยเลยทีเดียวนะว่าไหม? และเรื่องราวของ Ada Keating คุณแม่วัย 98 ปีผู้นี้เองก็คงจะทำให้เราได้เข้าใจความรักของคุณแม่ที่มีต่อลูกได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เธอได้ย้ายเข้าไปดูแลลูกชายวัย 80 ปีถึงในบ้านพักคนชราเลยทีเดียว!!     คุณปู่ Tom รักแม่ของเขามากๆ ชายวัย 80 ปีที่ไม่มีครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพักคนชราในเมืองลิเวอร์พูลตั้งแต่ปี 2016 หลังจากที่เขาต้องการคนช่วยดูแลเนื่องจากอายุที่เริ่มมากขึ้น และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปีแม่ของเขาก็ตามมาอยู่ที่นี่ด้วยเพื่อช่วยดูแลเขา ทั้งสองชอบนั่งชมรายการโปรดด้วยกัน และบางครั้งก็เล่นบอร์ดเกมด้วยกัน ส่วนงานอดิเรกของคุณ Ada นั้นก็คือการถักไหมพรมนั่นเอง “ฉันคอยบอกฝันดีกับลูกชายของฉันทุกคืน และฉันจะคอยบอกอรุณสวัสดิ์เขาในทุกๆ เช้า เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันออกไปทำผม เขาจะคอยอยู่ที่บ้านเพื่อรอฉันกลับมา Tom จะเข้ามากอดฉันอย่างดีใจเมื่อเห็นฉันกลับมาบ้าน ฉันไม่เคยหยุดทำหน้าที่แม่เลย”     นอกจากคุณปู่ Tom แล้ว Ada ยังมีลูกอีก 3 คนด้วยกัน คุณปู่วัย 80 ปีดีใจอย่างมากที่แม่ของเขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วย “ที่นี่ใจดีมากๆ ที่พวกเขายอมให้แม่ผมมาอยู่ด้วย ผมดีใจจริงๆ ที่เห็นเธออยู่ข้างๆ แม่ผมคอดูแลผมอย่างดี” ส่วนทางด้านคุณ Philip Daniels ผู้จัดการของบ้านพักคนชราแห่งนี้ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการได้เห็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันของทั้งสองนั้นเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ “มันเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ ที่จะได้เห็นแม่และลูกชายของเขาในบ้านพักคนชราแบบนี้ เราอยากมอบช่วงเวลาดีๆ…

  • กำแพงกันน้ำท่วม NOAQ Boxwall เบาสบาย ควบคุมแนวน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    กำแพงกันน้ำท่วม NOAQ Boxwall เบาสบาย ควบคุมแนวน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ภาพกระสอบทรายเรียงกันอย่างเป็นระเบียบถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้นตากันดีสำหรับคนไทยในยามที่เกิดน้ำท่วม แต่ตอนนี้ได้มีนวัตกรรมใหม่ออกมาที่สามารถทำให้เราป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้านเราได้ง่ายยิ่งกว่านั้นเยอะ นวัตกรรมชิ้นนี้มีชื่อว่า NOAQ Boxwall อุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย สามารถป้องกันไม่ให้น้ำเข้ามาในบ้านหรือเบี่ยงให้น้ำไหลไปทางอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ     อุปกรณ์ชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท NOAQ จากประเทศสวีเดน ซึ่งแต่ละชิ้นมีน้ำหนักเพียงแค่ 3.4 กิโลกรัม กว้าง 1 เมตร โดยวิธีการใช้งานก็เพียงแค่นำมันมาวางเรียงต่อๆ เหมือนกำแพงเท่านั้นเอง การใช้งานก็แค่วางลงไปกับพื้นเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องเอาอะไรไปวางทับหรือยึดมันติดกับพื้น เพราะว่ามันจะใช้น้ำหนักของน้ำที่วิ่งเข้ามาเป็นตัวรักษาบาลานซ์เอาไว้ไม่ให้ล้ม เราจึงสบายใจได้หายห่วง   สิ่งที่ต้องยึดเอาไว้มีเพียงแค่ด้านบนที่เป็นรอยต่อของกำแพงแต่ละชิ้น   หากว่าอยากตั้งให้มันโค้งไปรอบๆ บ้าน ก็สามารถเรียงแบบโค้งๆ โดยที่ประสิทธิภาพของการกั้นน้ำยังคงดีเหมือนเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกการใช้งานเลยจริงๆ     ที่สำคัญคือทางบริษัทได้ทำการทดสอบดูว่ามันใช้งานง่ายขนาดไหน ผลออกมาว่าเพียงแค่ไม่ถึง 10 นาทีด้วยคนจำนวน 2 -3 คนก็สามารถกั้นน้ำล้อมรอบสถานที่ทดสอบได้เรียบร้อย สะดวกสบายกว่ากระสอบทรายที่ต้องใช้ทั้้งแรงใช้ทั้งเวลา     ใช้เสร็จก็นำมาล้างและเก็บเอาไว้ใช้ใหม่ได้ โดยทางบริษัทการันตีอายุการใช้งานไว้ถึง 5 ปี ซื้อครั้งเดียวใช้ยาวๆ แต่เจ้าสิ่งนี้ก็ยังติดปัญหาอยู่นิดหน่อยตรงที่ว่ามันสามารถกั้นน้ำได้ในระดับไม่เกิน 1.5 เมตรเท่านั้น   การจัดเก็บก็สะดวกสบาย  …

  • แบบนี้ก็ได้!? พนักงานซุปเปอร์มาร์เก็ตถูกไล่ออก หลังจากที่เขาทำงานหนักและมาเช้าจนเกินไป…

    แบบนี้ก็ได้!? พนักงานซุปเปอร์มาร์เก็ตถูกไล่ออก หลังจากที่เขาทำงานหนักและมาเช้าจนเกินไป…

    ว่ากันว่าคนที่ทำงานพนักและทำอย่างตั้งใจมักจะเป็นที่รักขององค์กรเสมอนั้น ดูท่าจะเป็นนิยามที่ดูจะไม่ค่อยจริงสำหรับเรื่องราวในครั้งนี้สักเท่าไหร่ เพราะพนักงานคนนี้ดันถูกไล่ออกจากงานเพราะตั้งใจทำงานมากเกินเนี่ยสิ งงไหม Jean P. ผู้จัดการของซุปเปอร์มาร์เก็ต Lidl ในสเปนได้ถูกเจ้านายไล่ออกหลังจากทำมานานถึง 12 ปี ด้วยเหตุผลที่ว่า เขานั้นตั้งใจทำงานหนักและมาเข้างานเช้าจนเกินไป และเมื่อเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นที่พูดถึงกันยกใหญ่เลยทีเดียว     โดยเขาจะเป็นคนที่มาเข้างานก่อนปกติราวๆ 1 ชั่วโมงเพื่อเช็คชั้นสินค้า เช็คความเรียบร้อยเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าพร้อมที่จะเปิดขายแล้วจริงๆ แต่ว่าทางหัวหน้าใหญ่ก็บอกว่าการทำแบบนี้มันเป็นการล่วงระเมิดกฎของบริษัท เพราะเขามักจะมาก่อนและทำอะไรคนเดียวลับๆ ซึ่งตัวหัวหน้ามองว่าการทำแบบนี้ยังไงก็ผิดเพราะถือเป็นการทำงานล่วงเวลาที่บริษัทไม่ได้จ่ายนั่นเอง     และเมื่อเรื่องนี้มันไปถึงชั้นศาล ก็มีการฟ้องกันยกใหญ่ แต่ทางศาลก็ได้ยกขึ้นมาว่าทาง Lidl นั้นยอมรับว่าพวกเขาไม่เคยบอกกับ Jean ว่าห้ามมาทำงานก่อนเวลาเลย ฉะนั้นการมาทำงานก่อนของเขาจึงไม่มีข้อผิดพลาดอะไร ด้านนาย Jean ก็ยังบอกอีกว่า การมาทำงานล่วงเวลาของเขาไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรจากบริษัทหรือหาเงินจากช่องโหว่ของกฎเลยด้วยซ้ำ เขาแค่ต้องการให้ร้านค้าของเขาเปิดบริการได้อย่างปกติเท่านั้น     นอกจากนั้นตัวทนายยังยืนยันว่าเพราะลูกความของเขาต้องอยู่ในความกดดันจากการทำยอดขายและโปรแกรมควบคุมคุณภาพพนักงาน ทำให้เขาต้องรีบมาทำงานแต่เช้า เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด สุดท้ายแล้วผลสรุปของเรื่องราวนี้จะจบยังไงก็ไม่มีใครรู้ เพราะการสอบสวนและฟ้องร้องยังคงดำเนินต่อไป ยังไงก็ตามบางครั้งการหวังดีกับบริษัทที่ไม่ได้รักพนักงานจริงๆ ก็อาจจะเกิดผลเสียกับตัวคุณได้นั่นเอง ที่มา mirror

  • นักบินอวกาศผู้ใช้ชีวิตในอวกาศนาน 1 ปี เผยว่าการใช้ชีวิตบนนั้น ยากเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้…

    นักบินอวกาศผู้ใช้ชีวิตในอวกาศนาน 1 ปี เผยว่าการใช้ชีวิตบนนั้น ยากเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้…

    นักบินอวกาศอาจเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน เพราะนี่คือหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่จะได้ออกไปอยู่ในอวกาศ ได้เห็นสิ่งสวยงามต่างๆ ที่ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมาก่อน หลายคนอาจบอกว่าอาชีพนี้น่าอิจฉาแต่ความเป็นจริงอาชีพนี้ก็ต้องแลกมาด้วยความยากลำบากและความทุกข์มากมาย Scott Kelly นักบินอวกาศจากสหรัฐอเมริกา จึงได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวให้ทุกคนได้รู้ว่า การใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศนาน 1 ปีของเขานั้นต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรมาบ้าง   Scott Kelly ถ่ายภาพเซลฟี่ภายในยานอวกาศมีพื้นหลังเป็นโลกของเรา   ชายคนนี้เป็นนักบินอวกาศคนแรกที่ขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่ใน สถานีอวกาศนานาชาติ เป็นเวลานานขนาดนี้ เขาบอกว่าการใช้ชีวิตอยู่นอกโลก เพียงแค่การเดิินก็ทำให้เขาเหนื่อยมากๆ แล้ว เขาจำเป็นต้องเดินอยู่ในอวกาศด้านนอกของสถานีเพื่อเช็คความเรียบร้อยหรือซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของยาน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมากๆ นอกจากนั้นยังมีครั้งหนึ่งที่เขาหลงทางอยู่นอกอวกาศหาทางกลับไม่ได้เพราะตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนมันจึงค่อนข้างมืด “ผมต้องอยู่ในสภาพเหมือนกับยืนกลับหัว และแม้ว่ามันจะไม่ได้น่ากลัวอะไรแต่ความก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกนะ” เขาพูดถึงตัวเองในตอนนั้น อีกทั้งบนอวกาศมีเศษหินก้อนเล็กๆ ลอยอยู่เต็มไปหหมด และถ้าหากมันลอยมาโดนตัวก็จะสร้างแรงปะทะได้มากพอสมควรเลยทีเดียว     เขาได้พูดถึงนักสำรวจ Ernest Shackleton ผู้ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในขั้วโลกเหนือได้ โดย Scott บอกว่า “สิ่งที่ผมและเขามีเหมือนกันในการเอาชีวิตรอดคือความอดทน พลังงาน และความกระตือรือร้นที่มีอยู่ในตัว” เขาพูดอีกว่า “แต่ผมคิดว่าเราไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ซะทีเดียว เพราะ Ernest ต้องอยู่กับความพยายามเอาชีวิตรอดจากสภาพอากาศอันเลวร้าย ส่วนของผมมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”     สิ่งที่เขาคิดว่ายากที่สุดสำหรับภารกิจนี้ก็คือ การที่ต้องตัดขาดจากครอบครัวหรือคนรู้จักออกไปเป็นเวลานาน โดยที่เขาไม่มีโอกาสเดินทางกลับไปหาญาติสนิทมิตรสหายเหล่านั้นในระหว่างภารกิจได้เลย…

  • ช่วงเวลาแห่งความทรงจำ แฟนเพลงร่วมร้อง In The End ส่งท้ายให้ Chester Bennington

    ช่วงเวลาแห่งความทรงจำ แฟนเพลงร่วมร้อง In The End ส่งท้ายให้ Chester Bennington

    ถือว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาแห่งความทรงจำของเหล่าสาวก Linkin Park กันเลยทีเดียว ในงานคอนเสิร์ตรำรึกถึงอตีดนักร้องนำที่จากไปอย่าง Chester Bennington ที่ Hollywood Bowl ในลอสแองเจลิส เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา โดยในงานได้มีเพื่อนๆ ศิลปินมามาที่ได้ร่วมขึ้นแสดงไม่ว่าจะเป็น Blink-182, System Of A Down และ Jonathan Davis จากวง Korn และหนึ่งในไฮไลต์สำหรับงานคอนเสิร์ตนี้นั่นก็คือการร่วมร้องเพลง In The End ของเหล่าแฟนเพลงเพื่อเป็นการรำรึกถึงอดีตฟร้อนต์แมนผู้ล่วงลับ     โดยทาง Mike Shinoda หนึ่งในสมาชิกของวงได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร KROQ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเกี่ยวกับงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า “พวกเราในวงมีความกลัวนิดหน่อยที่จะขึ้นเวที แต่ผมจะขอเป็นตัวแทนของพวกเราที่จะพูดบางอย่าง เรารู้ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่ และรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องจะร่วมรำลึกถึง Chester “ Shioda ยังได้เผยอีกว่าผู้ที่มีส่วนในการผลักดันให้งานคอนเสิร์ตครั้งนี้เกิดขึ้นได้นั่นก็คือ โปรดิวส์เซอร์ชื่อดังอย่าง Rick Rubin นั่นเอง นอกจากนี้ Shioda เองยังได้พูดถึงความรู้สึกแฟนเพลงที่มีต่ออดีตเพื่อนร่วมวงของเขาอีกว่า “พวกเรารู้สึกดีใจมาก พวกคุณเหมือนเปรียบเหมือนกำลังใจของพวกเรา Chester คงจะมีความสุขมากๆ เขาโชคดีจริงๆ คอนเสิร์ตครั้งนี้คือคอนเสิร์ตเพื่อเขาจริงๆ “     ไปชมงานคอนเสิร์ตนี้กันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย… ส่วนเพลง In The End…

  • มาอีกรอบ!! ชาวเน็ตร่วมแชร์ 20 ภาพปู่ย่าตายายในวัยเยาว์ กับความเก๋าที่มีมาตั้งแต่อดีต

    มาอีกรอบ!! ชาวเน็ตร่วมแชร์ 20 ภาพปู่ย่าตายายในวัยเยาว์ กับความเก๋าที่มีมาตั้งแต่อดีต

    เมื่อได้มองไปที่ปู่ย่าตายายหรือพ่อแม่ หลายคนอาจจะนึกถึงภาพที่พวกเขาเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็กจนโต หรือบางคนก็มองว่าท่านแก่ชราลงไปมาก ซึ่งจริงๆ แล้วเรามักจะลืมนึกว่าปู่ย่าตายายก็เคยมีช่วงเวลาสมัยที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นเหมือนกับเรานี่แหละ แถมบางคนยังใช้ชีวิตสุดคูลในแบบที่ลูกหลานเองก็คาดไม่ถึง เมื่อเป็นเช่นนี้ ชาวเน็ตหลายๆ คนจึงได้ร่วมใจกันแชร์ภาพของปู่ย่าตายายตัวเองในสมัยวัยเยาว์ผ่านเว็บไซต์ Boredpanda และนั่นก็ได้แสดงให้เราเห็นว่าคนรุ่นเก่าก็มีความเก๋าและความคูลไม่แพ้วัยรุ่นยุคนี้เลยนะจ๊ะ   ภาพของคุณยายในวัยสาวที่นั่งเซลฟี่อยู่บนหลังสิงโตเมื่อปี 1947   คุณยายสมัยยังสาวในช่วงต้นยุค 70   เมื่อคุณย่าได้ส่งภาพของคุณปู่สมัยยังเอ๊าะๆ มาให้หลานรัก   ภาพในปี 1926 ของคุณยายที่กำลังถ่ายรูปสุดชิคกับรถฮาเล่ย์คันโปรด   ภาพของคุณย่าในอดีตที่ทำให้หลานๆ พากันยิ้ม   คุณย่าสมัยยังสาวกำลังเล่นอยู่กับสุนัขคอร์กี้แสนรัก ถ้าเป็นสมัยนี้คงได้ไลก์จากหนุ่มรัวๆ   ป้าดดด!! สมัยเป็นสาวยายก็สวยแบบนี้แหละลูกเอ๊ยย   ความเป๊ะปังในอดีตมันมีอยู่จริง   หลานสาวที่ดูเหมือนจะภูมิใจกับความเท่ในตัวคุณยายสุดๆ   ในวันที่ 14 กันยายน 1959 คุณยายได้ถ่ายรูปกับนักบินอวกาศ John Glenn, Gus Grissom และ Alan Shepherd ด้วยนะ   ภาพนี้แหละที่ยายของฉันได้ส่งให้คุณตาดูระหว่างที่เขาไปทำสงครามในช่วงปี 1943  …

  • ฉาวโฉ่แคทวอล์ก… นางแบบวัย 14 เสียชีวิตจากการเดินแบบยาวนานถึง 13 ชั่วโมงต่อเนื่อง!?

    ฉาวโฉ่แคทวอล์ก… นางแบบวัย 14 เสียชีวิตจากการเดินแบบยาวนานถึง 13 ชั่วโมงต่อเนื่อง!?

    เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Siberian times ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุสลดที่เกิดขึ้นในวงการแฟชั่น เมื่อนางแบบวัย 14 ปี เสียชีวิตหลังจากที่ทำงานติดต่อกันถึง 12 ชั่วโมง…. Vlada Dzyuba นางแบบสาวชาวรัสเซีย อายุ 14 ปี ได้รับมอบหมายให้เดินแบบโชว์ในงานแฟชั่นวีค ที่จัดขึ้นในประเทศจีน โดยขอบเขตของงานนี้มีระยะเวลานานถึง 3 เดือน     เธอได้เซ็นสัญญากับทางผู้ว่าจ้างไว้ว่า เธอจะทำงานเพียงแค่ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น เนื่องจากเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่สัญญานั้นกลับกลายเป็นสัญญาลมๆ ที่ความเป็นจริงนั้น Vlada ถูกใช้งานหนักกว่านั้น Vlada เริ่มป่วยเนื่องจากร่างกายของเธออ่อนแอประกอบกับการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายของเธอทรุดโทรมลงเรื่อยๆ จนวันหนึ่งเธอได้โทรหานาง Oksana ผู้เป็นแม่แล้วบอกว่า “แม่ หนูเหนื่อยเหลือเกิน หนูอยากนอนมากๆ”      ผู้เป็นแม่เมื่อได้ยินลูกสาวพูดแบบนั้นก็เริ่มเป็นห่วง แต่ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากลูกสาวทำงานที่ประเทศจีนส่วนเธออยู่ที่รัสเซีย Vlada ไม่ได้ไปโรงพยาบาลเนื่องจากว่าไม่มีประกัน และในสัญญาจ้างก็ไม่ได้ระบุสวัสดิการที่เธอควรได้รับ แต่หลังจากนั้น Vlada ก็ยังแสดงความรับผิดชอบด้วยการแสดงโชว์ต่อไป จนกระทั่งเธอทรุดตัวลงและหมดสติไป    …

  • 8 พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับ ‘สมอง’ ที่ทำให้เราได้เห็นสมองของผู้ที่ป่วยโรคทางประสาทนานาชนิด

    8 พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับ ‘สมอง’ ที่ทำให้เราได้เห็นสมองของผู้ที่ป่วยโรคทางประสาทนานาชนิด

    ถ้าจะให้พูดถึงอวัยวะที่ซับซ้อนที่สุดในร่างกายของเรา ก็คงจะไม่พ้นอวัยวะที่ไว้สำหรับควบคุมร่างกายในทุกๆ ส่วนอย่างสมอง ที่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถจะหาข้อมูลเกี่ยวกับมันได้ทั้งหมด อาจจะเป็นเพราะระบบการทำงานของมันมีความซับซ้อนจนมนุษย์ไม่สามารถศึกษาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และในวันนี้จะขอแนะนำทุกท่านถึงสถานที่ที่มีการเก็บสมองของคนจริงๆ ซึ่งบางสถานที่อาจจะเก็บไว้สะสมหรือว่าเก็บไว้เพื่อศึกษา ยังไงมันก็ยังคงมีความน่ากลัวอยู่นะ บรื๋ออ   1. คอลเลกชันสมองของ Cushing   สถานที่นี้ก่อตั้งโดยผู้บุกเบิกการแพทย์เกี่ยวกับโรคประสาทชื่อว่า Harvey Cushing ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยที่นี่มีสมองเก็บไว้มากเป็นร้อยๆ ไห สมองบางอันมีความสมบูรณ์แบบ บางอันก็มีเพียงแค่ชิ้นส่วนเพียงบางส่วนเท่านั้น และบางอันก็มีเนื้องอกที่โผล่ออกมาด้วย สถานที่นี้ต้องอยู่ที่โรงเรียนการแพทย์ในมหาวิทยาลัย Yale โดยรวมๆ แล้วที่นี่มีสมองของคนเรามากถึง 400 ก้อนและยังมีอีก 150 ก้อนในห้องแล็บทำหรับการศึกษาของแพทย์ ซึ่งที่นี่มุ่งเน้นการศึกษาในเรื่องของเนื้องอกที่เกิดขึ้นที่สมอง   2. พิพิธภัณฑ์สมอง The Mammalian   สมองที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์นี้ไม่ใช่สมองจริงๆ ของมนุษย์ แต่เป็นการจำลองสมองของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่างๆ ถึง 275 ก้อน เพื่อให้เห็นความแตกต่างกันและความเหมือนกันของส่วนต่างๆ ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่ที่ รัฐแมริแลนด์ ทางตอนเหนือของกรุงวอชิงตัน ดีซี   3. พิพิธภัณฑ์สมอง Lima   สถานที่นี้ซ่อนตัวอยู่ในสถาบันประสาทแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่เมือง Ancon ประเทศเปรู ที่นี่เป็นสถานที่เก็บสมองที่ใหญ่ที่สุดในแถบละตินอเมริกาเลยทีเดียว โดยที่แห่งนี้มีสมองถึง 3,000 ก้อน ซึ่งบางอันได้รับความความเสียหาย…

  • ผู้เชี่ยวชาญแนะให้หลีกเลี่ยง “ทิชชูเช็ดก้น” ไม่สะอาด-เกิดแผล ควรหันใช้สายฉีดน้ำ

    ผู้เชี่ยวชาญแนะให้หลีกเลี่ยง “ทิชชูเช็ดก้น” ไม่สะอาด-เกิดแผล ควรหันใช้สายฉีดน้ำ

    เวลาเข้าห้องน้ำ เราหลายๆ คนเคยชินกับการใช้สายฉีดก้นก่อนแล้วค่อยเช็ดด้วยทิชชู่ แต่ห้องน้ำบางแห่งไม่มีสายฉีดก้น มีแค่ทิชชู่ แล้วเวลาใช้ทิชชู่อย่างเดียวเนี่ย เคยรู้สึกมั้ยว่ามันไม่สะอาดพอ? ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้น คุณมาถูกทางแล้วล่ะ เพราะผู้เชี่ยวชาญเผยว่าการใช้ทิชชู่เพียงอย่างเดียวนั้น นอกจากไม่ช่วยทำความสะอาดแล้ว อาจทำให้เกิดแผลบริเวณทวารหนักได้ด้วย     Rose George ผู้เขียนเรื่อง The Big Necessity: The Unmentionable World of Human Waste และ Why It Matters ได้ให้เหตุผลว่าทำไมการใช้กระดาษชำระจึงไม่สามารถทำความสะอาดได้เท่าที่ควร เขาบอกว่า “กระดาษชำระแค่ย้ายที่สิ่งสกปรก (อุจจาระ) มันไม่ได้ช่วยในการเช็ดล้างอย่างที่เราเข้าใจ หรือต่อให้เช็ดกี่รอบ มันก็ออกไม่หมดอยู่ดี”     ทางด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า “การใช้กระดาษชำระนั้น ช่วยทำความสะอาดเพียงเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้นมันอาจทำให้เกิดแผลได้ง่าย เนื่องจากกระดาษชำระเป็นของแห้ง เมื่อมันเสียดสีกับทวารหนักของเราที่แห้งอยู่แล้ว ก็จะทำให้เกิดแผลตามมา ดังนั้นเราควรใช้ผ้าเช็ดก้นเด็กแทนจะดีกว่า” ปัจจุบันในบางประเทศอย่างญี่ปุ่น จะมีโถสุขภัณฑ์ที่มาพร้อมกับเครื่องทำความสะอาดอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก ในขณะที่อีกหลายๆ ประเทศยังคงใช้วิธีเดิมๆ อยู่     ส่วนการใช้สายฉีดเพียงอย่างเดียวโดยไม่เช็ดให้แห้งนั้นจะทำให้เกิดการอับชื้นและทำให้เกิดเชื้อราในร่มผ้าได้ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ใช้ทิชชู่เปียก เพราะมันทั้งสะอาดและปลอดภัยต่อทวารหนักของเรา  …

  • หญิงสาวอัดคลิปรีวิว iPhone X ก่อนวางจำหน่ายเป็นเหตุให้พ่อถูกไล่ออกจากงาน

    หญิงสาวอัดคลิปรีวิว iPhone X ก่อนวางจำหน่ายเป็นเหตุให้พ่อถูกไล่ออกจากงาน

    อันที่จริงแล้วความลับของบริษัทนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญและห้ามเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต และถ้าหากมีการฝ่าฝืนก็อาจจะถูกลงโทษหนักเหมือนกับหนุ่มวิศวกรของแอปเปิลผู้นี้ได้!! เมื่อไม่นานมานี้ได้มีรายงานว่าบริษัทแอปเปิลได้ไล่วิศวกรหนุ่มคนหนึ่งออกหลังจากที่ลูกสาวของเขาได้อัพโหลดคลิปวิดีโอรีวิวการทำงานของโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อย่าง iPhone X ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ ระหว่างการเที่ยวใน Apple’s campus Brooke Amelia Peterson ยูทูบเบอร์สาวเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวได้บอกในคลิปวิดีโอว่าพ่อของเธอนั้นเป็นวิศวกรของแอปเปิ้ลพร้อมกับอธิบายถึงการออกแบบของ iPhone X และฟีเจอร์บางส่วนไม่ว่าจะเป็น Animoji และการแจ้งเตือนในโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้     นอกจากนี้ภายในคลิปวิดีโอดังกล่าวยังได้เผยให้เห็นถึง QR Code พิเศษที่มีเฉพาะสำหรับพนักงานของแอปเปิลและรหัสของผลิตภัณฑ์บางชิ้นที่ยังไม่ได้ออกวางจำหน่ายอีกด้วย อย่างไรก็ตามทางเว็บไซต์  Engadget ได้ออกมาให้ข้อสังเกตว่า Apple นั้นได้มีกฎห้ามการบันทึกวิดีโอภายในองค์กร ซึ่งพวกเขาเกรงว่าอาจจะทำให้ความลับของบริษัทนั้นรั่วไหลได้ และในส่วนของ Caffè Macs ที่หญิงสาวได้เข้าไปนั้นก็เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับพนักงานเท่านั้น     และถึงแม้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวจะได้ออกมาขอโทษกับสิ่งที่เธอทำและอ้างว่าพ่อของเธอนั้นถูกไล่ออกจากงานหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการทัวร์ในแคมปัส Apple ของเธอ พร้อมกับลบคลิปวิดีโอดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็คลิปวิดีโอที่ว่านั้นกลับถูกเผยแพร่อย่างมากในโลกออนไลน์ นอกจากนี้ทางสำนักข่าวต่างประเทศยังได้พยายามติดต่อกับแอปเปิลเพื่อถามถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันใดๆ จากพวกเขา     ที่มา gizmodo, engadget, theverge

  • ความน่ารักของเด็กน้อยวัย 9 เดือนที่มีเพื่อนแท้เป็นน้อง ‘เป็ด’ ก้าบ ก้าบ ก้าบ

    ความน่ารักของเด็กน้อยวัย 9 เดือนที่มีเพื่อนแท้เป็นน้อง ‘เป็ด’ ก้าบ ก้าบ ก้าบ

    สัตว์เลี้ยงของพวกเราเปรียบเสมือนกับเพื่อนซี้คู่ใจ หลายๆ คนจึงเลือกที่จะให้มันอยู่ในบ้านด้วย ได้กิน นอน เล่นอยู่กับพวกมัน แต่ว่าสำหรับบางคนกลับมีสัตว์เลี้ยงที่ต่างออกไปจนเราคาดไม่ถึงและไม่เคยคิดมาก่อนว่าสัตว์ชนิดนี้จะเข้ามาอยู่ในบ้านกับเราได้อย่างเช่น เจ้าเป็ด!! น้องเป็ดตัวนี้มีชื่อว่า Beaker เป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวหนึ่งในเมือง Houston รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการใช้ชีวิตไม่เหมือนกับเป็ดทั่วไป เพราะมันไม่ได้ออกไปอยู่ตามลำธารหรือพื้นที่โล่ง แต่นี่มันดันอาศัยอยู่ในบ้านร่วมกันกับมนุษย์เลย   เจ้า Beaker เจ้าเป็ดที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับคนในครอบครัว   เรื่องราวของมันถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียในวันที่ 23 ตุลาคม 2017 เล่าว่าเมื่อหลายปีก่อนสามีภรรยาของครอบครัวนี้ได้ออกไปร้านขายอาหารสัตว์ใกล้บ้านเพื่อหาเมล็ดพันธุ์ไว้ให้นกป่า แต่แล้วพวกเขาก็พบเข้ากับน้องเป็ดสองตัวน่ารักน่าชัง จึงพาพวกมันกลับบ้านในทันที เวลาผ่านไปพวกเขาก็หาเป็ดน้อยมาเพิ่มเรื่อยๆ ในที่สุดจำนวนของพวกมันก็มากกว่าจำนวนคนที่อาศัยอยู่ในบ้านซะอีก     ในเวลานั้นทั้งสองคนมีลูกชายวัย 9 เดือนอยู่คนหนึ่งชื่อว่า Tyler ด้วยความที่บ้านนี้เต็มไปด้วยเป็ด ทำให้เด็กน้อยมีเพื่อนคนแรกเป็นเจ้า Beaker หนึ่งในเป็ดตัวเล็กๆ ที่พวกเขาพามา หลังจากนั้นมิตรภาพของทั้งสองก็ได้ก่อตัวขึ้น ทั้งสองแทบจะตัวติดกันอยู่ตลอดและยังมีช่วงเวลาที่ดีให้กันอยู่เสมอ ทุกการเริ่มต้นของเด็กน้อยจะคอยมีเจ้าเป็ดอยู่เคียงข้างให้กำลังใจ   เพื่อนคนแรกของเด็กน้อยวัย 9 เดือน   ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน อยู่เคียงข้างกันไม่ห่าง   ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้ครอบครัวนี้ไม่สามารถไล่มันออกไปนอกบ้านหรือให้มันไปอยู่ในฟาร์มได้ แม้ว่าเป็ดตัวอื่นๆ…

  • เหล่าแมวเหมียวผู้น่าสงสาร โดนไฟไหม้จนคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว แต่โชคดีที่มีนางฟ้าเข้ามาช่วยไว้

    เหล่าแมวเหมียวผู้น่าสงสาร โดนไฟไหม้จนคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว แต่โชคดีที่มีนางฟ้าเข้ามาช่วยไว้

    นี่อาจจะเป็นเรื่องราวที่ทำให้คนรักแมวรู้สึกสงสารและเห็นอกเห็นใจเหล่าเหมียวมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เมื่อเหล่าเหมียวผู้โชคร้ายถูกไฟไหม้จนทำให้มันมีสภาพที่ย่ำแย่และเหมือนใกล้ตาย แต่โชคดีที่อย่างน้อยมันก็สามารถรอดชีวิตมาได้ เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเหล่านางฟ้า…     เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์ Lovemoew ได้นำเสนอเรื่องราวของหญิงสาวสองคนที่ออกไปตามหาแมวแสนรักของพวกเธอ หลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์ไฟป่าขึ้นทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยในระหว่างที่กำลังค้นหาอยู่นั้น พวกเธอก็ได้พบกับเจ้าเหมียว 2 ตัวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์อันแสนเลวร้ายมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ และแน่นอน สองนางฟ้าก็รู้ว่าจะต้องช่วยชีวิตพวกมัน     เมื่อบ้านของ Brandi Ann ถูกทำลายล้างจากไฟป่า เธอกับ Steph Gediman ผู้เป็นแฟนสาวก็ได้พากันออกไปตามหา Apu เจ้าเหมียวแสนรักที่ได้หายตัวไป     “เราได้กลับมาที่บ้านในตอนเช้าหลังจากที่เกิดไฟไหม้ขึ้น เรามองหาแมวของเรา แต่ก็ไม่พบมันเลย ไฟได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น ในขณะที่เรากำลังตามหาเจ้าเหมียว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากถนน ฉันหันไปรอบๆ จนได้รู้ว่ามีแมวตัวหนึ่งได้เดินออกมาจากบ้านที่ถูกไฟไหม้ และกำลังต้องการความช่วยเหลือ ตอนนั้นสภาพใบหน้าของเจ้าเหมียวถูกไฟไหม้จนแทบจำเค้าโครงเดิมไม่ได้เลย ฉันรู้ว่าฉันต้องช่วยเหลือแมวน้อยที่น่าสงสารตัวนี้ ซึ่งเราก็ได้นำตัวของมันไปรักษายังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ใน Rohnert Park” Steph กล่าว     ในวันรุ่งขึ้น พวกเธอก็เดินกลับไปยังพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้เพื่อตามหา Apu…

  • ผลกระทบจากสงคราม สวนสัตว์กาซ่าขาดการดูแลและไม่มีอาหาร จนสัตว์ป่าต้องอดตาย

    ผลกระทบจากสงคราม สวนสัตว์กาซ่าขาดการดูแลและไม่มีอาหาร จนสัตว์ป่าต้องอดตาย

    ภาพของเหล่าสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่อยู่ในสภาพมัมมี่ในสวนสัตว์ Khan Younis zoo ในพื้นที่ฉนวนกาซ่า ได้เผยให้เห็นการจากไปอย่างน่าอนาถใจของพวกมัน ซึ่งการสูญเสียครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในผลพวงของสงครามระหว่างรัฐปาเลสไตน์และประเทศอิสราเอลนั่นเอง ย้อนกลับไปในปี 2007 นาย Mohammed Awaida ได้ลงทุนกว่าหลายล้านเหรียญในการเปิดสวนสัตว์แห่งนี้ แต่หลังจากนั้นเพียง 1 ปี เม็ดเงินที่เขาลงทุนไปก็กลับสูญสลายไปอย่างน่าเสียดาย ตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ของการโจมตีรัฐบาล Hamas ของอิสราเอล Awadida เล่าว่าเขาไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่สวนสัตว์ของตัวเองได้เลย และนั่นจึงเป็นเหตุให้พวกมันต้องอดตายอย่างน่าเศร้า     และนอกจากนี้ในปี 2014 ประวัติศาสตร์ก็กลับมาซ้ำรอยอีกครั้ง หลังจากที่เกิดการสู้รบกันในฉนวนกาซ่า ซึ่งเป็นเหตุให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากถึง 1,960 คน และสัตว์กว่า 80 ตัวของสวนสัตว์ Al-Bisan zoo ในพื้นที่ Beit Lahia ต้องตายไป แต่เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของที่นี่ และไม่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการคุ้มครองสัตว์ในพื้นที่นี้ ทำให้สวนสัตว์ Khan Younis zoo นั้นเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด     ภาพถ่ายเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เผยให้เห็นซากของพวกสัตว์ที่ตายหลังจากการเกิดสงคราม   ซากเสือ ลิง และกระดูกของพวกสัตว์ป่าอื่นๆ ที่อยู่ภายในสวนสัตว์แห่งนี้ .   หลังจากที่สงครามสงบลง Awaida ได้เริ่มใช้ทักษะในการสตาฟสัตว์ของเขา เพื่อเก็บรักษาร่างของพวกสัตว์ที่ตายระหว่างช่วงสงครามเอาไว้ ซึ่งซากสัตว์เหล่านั้นก็ได้แก่…

  • สื่อออนไลน์ยกย่องพนักงานห้าง ช่วยหนูน้อยเลือกชุดสำหรับฮาโลวีน แถมจ่ายเงินให้ด้วย

    สื่อออนไลน์ยกย่องพนักงานห้าง ช่วยหนูน้อยเลือกชุดสำหรับฮาโลวีน แถมจ่ายเงินให้ด้วย

    เมื่อเราไปซื้อของที่ห้างหรือร้านค้าต่างๆ เราก็อยากได้รับการบริการที่ดีรวมถึงคำแนะนำจากพนักงานใช่ไหมล่ะ แต่คงไม่มีใครเคยเจอเหมือนพนักงานคนนี้ที่นอกจากเธอจะให้คำแนะนำต่างๆ แล้วเธอยังซื้อของทั้งหมดให้เลยด้วย!? เว็บไซต์ Inspiremore ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดน่าประทับใจนี้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า มีแม่คนหนึ่งชื่อว่า Aimee ได้พาลูกชายของเธอ Jack เด็กชายที่ต้องนั่งรถวีลแชร์เข้าไปช็อปปิ้งที่ร้าน Home Depot เพื่อมองหาวัสดุที่จะทำให้ตกแต่งรถวีลแชร์ของเขาให้กลายเป็นรถตำรวจสำหรับเทศกาลฮาโลวีนที่จะมาถึงนี้ ในตอนแรก Aimee ไดัถามหากล่องตู้เย็นขนาดใหญ่และนั่นเองที่ทำให้ผู้จัดการชื่อว่า Valerie ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ     “ฉันประทับใจ Valerie ตั้งแต่แรกเห็นเพราะเธอเป็นถึงผู้จัดการแต่กลับก้มไปตัดกล่องให้ฉันบนพื้นเลย” Aimee กล่าวไว้บน Facebook ของเธอ     หลังจากนำกล่องดังกล่าวขึ้นรถของแม่ลูกคู่นี่แล้ว Valerie ยังถามต่อด้วยว่าต้องการอะไรอีกเพื่อให้รถตำรวจของเจ้าหนูคนนี้เป็นจริงขึ้นมา? โดยเธอได้นำทั้งคู่ไปเดินหาของต่างๆ ในห้างที่กว้างใหญ่แห่งนี้ แล้วก็เกิดสิ่งที่สุดจะพิเศษก็เกิดขึ้นเมื่อได้ของที่ต้องการครบทุกอย่างแล้วและกำลังนำไปคิดเงิน     ปรากฏว่าผู้จัดการคนดังกล่าวได้ออกเงินให้สำหรับวัสดุทุกชื้นที่แม่ลูกคู่นี้ต้องการ “ฉันพยายามจะปฏิเสธแล้ว แต่เธอบอกว่าเธอมีความสุขอย่างยิ่งที่ได้ทำอย่างนี้” Aimee อธิบาย     “ลูกชายของฉันอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ โดยอาจเข้าใจเพียงว่าเธอเป็นคนใจดี แต่สิ่งที่ฉันได้รับมันคือความมีน้ำใจที่แสนจะยิ่งใหญ่เลยล่ะ” คุณแม่ของ Jack กล่าวเพิ่ม แต่ว่าความโชคดีของเธอยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะ Valerie…

  • อัพเดท 18 ประเทศที่ Passport ทรงพลังที่สุดในโลก สามารถเดินทางเข้าได้นับร้อยประเทศ

    อัพเดท 18 ประเทศที่ Passport ทรงพลังที่สุดในโลก สามารถเดินทางเข้าได้นับร้อยประเทศ

    เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศสิงคโปร์ได้ขึ้นแท่นเป็นประเทศที่มีพาสปอร์ตทรงพลังที่สุดในโลก หลังจากที่ผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศดังกล่าว สามารถเดินทางเข้าประเทศอื่นๆ ได้กว่า 159 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า เนื่องจากการขอวีซ่านัั้นมีขั้นตอนทั้งการเตรียมเอกสาร เตรียมเงิน และอะไรต่างๆ อีกมากมาย การที่หนังสือเดินทางของชาตินั้นๆ สามารถไปได้หลายประเทศ ไม่เพียงแต่เป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน แต่ยังรวมถึงการแสดงพลังอำนาจ หรือความสัมพันธ์อันดีที่ประเทศนั้นมีกับประเทศอื่นด้วย คราวนี้เราเลยจะมาอัพเดทให้ได้ทราบกันว่า ในปี 2017 นี้ ประเทศใดที่มีพาสปอร์ตทรงพลังที่สุดกัน   Rank 5 เดินทางเข้าได้ 155 ประเทศ ประเทศโปรตุเกส   ประเทศออสเตรีย   ประเทศเบลเยี่ยม   ประเทศเนเธอร์แลนด์   ประเทศสวิตเซอร์แลนด์   ประเทศลักเซมเบิร์ก     Rank 4 เดินทางเข้าได้ 156 ประเทศ สหราชอาณาจักร   ประเทศญี่ปุ่น   ประเทศนอร์เวย์   ประเทศสเปน   ประเทศฝรั่งเศส   ประเทศอิตาลี   ประเทศฟินแลนด์…

  • 5 สถานที่เที่ยวตามรอยการ์ตูน Ghibli ในประเทศญี่ปุ่น ที่สาวกทุกคนไม่ควรพลาด!!

    5 สถานที่เที่ยวตามรอยการ์ตูน Ghibli ในประเทศญี่ปุ่น ที่สาวกทุกคนไม่ควรพลาด!!

    เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักกับ Studio Ghibli บริษัทผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญแห่งประเทศญี่ปุ่น และการ์ตูนมากมายหลายเรื่องของค่ายนี้ก็เกิดจากมันสมองของ Hayao Miyazaki ผู้ที่สร้างสรรค์ตัวละครและเรื่องราวแฟนตาซีเหล่านั้นมานานกว่าทศวรรษ การ์ตูนที่มีชื่อเสียงของเขาได้แก่ Spirited Away, Howl’s Moving Castle, My Neighbour Totoro และเรื่องอื่นอีกเพียบ ซึ่งเรื่องราวเหล่านั้นอาจารย์ Miyazaki ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถานที่จริง!! จึงได้มีการคัดเลือกมา 5 สถานที่ที่ขอแนะนำเลยว่าสาวกตัวจริงห้ามพลาดเด็ดขาด ไปดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง   พิพิธภัณฑ์ Ghibli ในเมืองโตเกียว   พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวภาพวาดหรือผลงานของค่ายนี้เอาไว้ สาวก Ghibli ตัวจริงควรไปอย่างมาก เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่รูปปั้นหรือภาพวาดต่างๆ เอาไว้เท่านั้น แต่ยังมีหนังสั้นสุดพิเศษของค่ายที่มีจัดแสดงแค่ที่นี่ที่เดียวด้วย!!   เมือง Tomonoura ชายฝั่งทะเลเซโตะ .   เมืองท่าที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุยาม่าแห่งนี้ เชื่อว่าเป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับการ์ตูน Ponyo โดยภายในเมืองเต็มไปด้วยความสงบ วัฒนธรรมอันสวยงาม และเสน่ห์ไม่ต่างกับสถานที่ภายในการ์ตูน แนะนำว่าต้องลองไปสัมผัสดูนะ   เกาะ Yakushima .   คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนึกถึงการไปเดินเที่ยวป่าดิบชื้นที่มีอายุเก่าแก่ในประเทศญี่ปุ่นสักเท่าไหร่…

  • ถึงจะเหลือขาเพียงข้างเดียว แต่ Josh ก็แต่งแฟนซีเพื่อให้คนมีความสุขในวันฮาโลวีนของทุกๆ ปี!!

    ถึงจะเหลือขาเพียงข้างเดียว แต่ Josh ก็แต่งแฟนซีเพื่อให้คนมีความสุขในวันฮาโลวีนของทุกๆ ปี!!

    ในวันฮาโลวีนเราก็จะได้เห็นหลายๆ คนแต่งตัวในชุดที่ดูแปลกตา สร้างความสนุกสนานให้กับคนรอบข้าง เช่นเดียวกับ Josh Sundquist หนุ่มพิการผู้เหลือขาเพียงข้างเดียว แต่เขาก็ยังคงสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนในวันฮาโลวีนทุกๆ ปี สาเหตุที่เขาเสียขาข้างซ้ายไปก็เพราะว่ามีการตรวจพบโรคมะเร็งตอนอายุเพียง 9 ขวบ ก่อนที่จะรักษาจนหายขาดตอนอายุ 13 ปี   Josh ชายผู้ไม่ยอมแพ้ แม้ต้องเสียขาไปตั้งแต่ยังเด็ก   ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ยอมแพ้ให้กับชีวิตของตัวเอง เขาตัดสินใจเล่นสกีตั้งแต่อายุ 16 และได้กลายเป็นนักกีฬาพาราลิมปิกตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาในปี 2006 ต่อมาเขาก็ได้กลายเป็นนักพูดผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ   ความแตกต่างไม่ได้แย่เสมอไป เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังยิ้มได้อย่างมีความสุข   อย่างไรก็ตามเขาและคนในสังคมก็ยังคงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับการได้เห็นเขาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับขาเพียงข้างเดียว เขาจึงคิดหาทางออกให้กับการอยู่ร่วมกับผู้อื่นโดยการแต่งคอสตูมเจ๋งๆ น่ารักๆ สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนในวันฮาโลวีน เขาบอกว่า “ผมใช้นิสัยตลกๆ ของผมรับมือกับความอึดอัดใจเวลาอยู่ในสังคม ด้วยการแต่งชุดฮาโลวีนเพื่อเป็นการแสดงออกว่าผมยังคงรู้สึกดีแม้ว่าตัวเองจะพิการก็ตาม และนั่นก็ทำให้ทุกคนยิ้มได้ไปพร้อมๆ กัน”   ในปี 2010 เขาแต่งตัวเป็นเจ้าคุกกี้ที่ถูกกัด จากหนังอนิเมชั่นเรื่อง Shrek   ในปี 2012 ภรรยาของเขาได้ไอเดียนี้มาจากหนังเรื่อง A Christmas Story เก๋ไก๋ไปอีกแบบ  …

  • หญิงสาวเขียนจดหมายใส่ขวดเอาไปลอยทะเล… 30 ปีผ่านไป มันกลับมาหาเธอแบบไม่น่าเชื่อ

    หญิงสาวเขียนจดหมายใส่ขวดเอาไปลอยทะเล… 30 ปีผ่านไป มันกลับมาหาเธอแบบไม่น่าเชื่อ

    คนสมัยก่อนมักจะเขียนข้อความสำคัญ อย่างเช่น ข้อความช่วยเหลือ การค้นพบสิ่งใหม่ๆ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ แล้วใส่ขวดก่อนจะเอาไปลอยน้ำ หวังจะให้ข้อความไปถึงบุคคลตามเป้าหมาย แต่หญิงสาวจากเซาท์แคโรไลนาคนนี้กลับมีประสบการณ์ในการลอยข้อความใส่ขวดที่แปลกออกไป เพราะหลังนำจดหมายไปลอยทะเลแล้ว มันดันกลับมาหาเธอในอีก 30 ปีต่อมา     ย้อนกลับไปเมื่อ Miranda Chavez อายุเพียง 8 ขวบ เธอได้ไปเที่ยวในช่วงวันหยุดกับพ่อแม่ที่ชายหาด Edisto Beach ในเซาท์แคโรไลนา ขณะที่เด็กหญิงเดินเล่นตามชายฝั่ง เธอก็นึกสนุกขึ้นมา จึงได้เขียนจดหมายใส่ขวด ก่อนจะนำไปลอยทะเล แต่ Chavez จำได้ว่าคุณแม่ให้เขียนวันที่ลงไปด้วย เผื่อจะมีคนเจอในภายหลัง     ดังนั้นเธอจึงระบุวันที่วันนั้นเอาไว้ด้วยคือ วันที่ 26 กันยายน ปี 1988… เธอลอยมันไปโดยไม่รู้ว่าใครจะพบมัน หรือจะมีใครเจอมันหรือเปล่า จนกระทั่งเกือบ 30 ปีต่อมา ขณะที่ Linda Humphries และสามี David กำลังเดินทางไปที่เกาะ Sapelo นอกชายฝั่งจอร์เจีย เพื่อทำความสะอาดขยะและเศษซากต่างๆ หลังจากเกิดพายุเฮอริเคนเออร์ม่า     ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังทำความสะอาด พวกเขาก็สังเกตเห็นบางอย่าง เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่ามันเป็นขวดที่มีจดหมายอยู่ข้างใน แม้จดหมายเปียกไปบ้าง…

  • ตายายครองรักกันมานาน 72 ปี แม้จะเป็นมะเร็งร้าย แต่ก็ต่อสู้เพื่อให้ได้มีชีวิตอยู่ด้วยกัน

    ตายายครองรักกันมานาน 72 ปี แม้จะเป็นมะเร็งร้าย แต่ก็ต่อสู้เพื่อให้ได้มีชีวิตอยู่ด้วยกัน

    คนที่รักด้วยหัวใจ ต่อให้วันเวลาผ่านไปนานแค่ไหนความรักของพวกเขาก็จะไม่จืดจาง และแม้ว่าต้องเจออุปสรรคมากมายแค่ไหน พวกเค้าก็จะไม่ทิ้งกันแต่จะจับมือกันไปจนถึงวันสุดท้าย เหมือนกับตายายคู่นี้ ที่แม้จะแต่งงานกันมานานถึง 72 ปีแล้ว แต่ความรักของทั้งคู่ก็ยังหวานชื่นเหมือนกับสมัยตอนที่จีบกันใหม่ๆ     พวกเขาคือ Zhang Hongye และ Wu Biqing คู่รักชาวจีนที่เกิดในปีเดียวกัน ดังนั้นปัจจุบันทั้งคู่จึงมีอายุ 93 ปีเท่ากัน และอยู่ด้วยกันในศูนย์สวัสดิการสังคม Nanchang Lake Qingshan ทั้งสองได้พบกันครั้งแรกที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 1960 ตั้งแต่นั้นมาทั้งคู่ก็ศึกษาดูใจกัน จนกระทั่งตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน   คุณตากับคุณยายและลูกๆ ของพวกเขาบางส่วนที่ทำงานใน Nanchang Lake Qingshan   ต่อมาพวกเขาได้ย้ายไปทำงานด้วยกันที่โรงงานวิทยุในเมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี และอยู่ที่นั่นจนกระทั่งเกษียณอายุการทำงาน ตลอดชีวิตแต่งงาน 72 ปี พวกเขาได้ผ่านความยากลำบากมาด้วยมากมาย รวมทั้งการที่คุณตาเป็นมะเร็งด้วย แต่พวกเขาก็ยังคงดูแลกันอย่างดี และไม่เคยมีสักครั้งที่ทั้งสองจะทอดทิ้งกัน   ตายายใช้เวลาด้วยกันในห้องอ่านหนังสือ   ปัจจุบันทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันที่ศูนย์สวัสดิการสังคม Nanchang Lake Qingshan ซึ่งลูกๆ มักจะมาเยี่ยม มาสร้างความสุขให้เสมอ คุณยาย Wu Biqing…

  • ตำนาน “ชิลานากิก” เทพีแหกขาผู้มีประวัติความเป็นมาที่ไม่แน่นอน ปัจจุบันก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่

    ตำนาน “ชิลานากิก” เทพีแหกขาผู้มีประวัติความเป็นมาที่ไม่แน่นอน ปัจจุบันก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่

    บนโลกมนุษย์มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของพระเจ้า และตำนานเกี่ยวกับเทพมากมาย ซึ่งในบางครั้งเพื่อนๆ หลายคนก็อาจจะพอได้ยินชื่อ หรือรู้จักกันมาพอสมควรแล้ว เช่น ตำนานเทพเจ้ากรีก-โรมัน ฯลฯ ดังนั้น ในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จึงจะขอนำเอาประวัติของ “เทวีชิลานากิก” (Sheela-Na-Gigs) มาเผยแพร่ให้คุณได้รู้จักกัน เพราะเราเชื่อว่าเทวีชิลานากิกเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่คุณอาจไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็น และไม่เคยได้ยินมาก่อนแน่นอน     สำหรับเทวีชิลานากิก เป็นเทพลึกลับที่ยังไม่มีใครสามารถอธิบายถึงความหมาย และทราบที่มาที่ไปอย่างแน่ชัด ซึ่งจะถูกพบมากในแถบยุโรปตอนเหนือ โดยเฉพาะในไอซ์แลนด์ที่มีการค้นพบประติมากรรมรูปปั้นของเทพองค์นี้มากกว่า 100 แห่ง โดยเทวีชิลานากิกเรียกได้ว่าเป็นเทพที่มีรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาด ซึ่งจะมาในภาพลักษณ์ของสตรีที่นั่งแหกขาโชว์อวัยวะเพศอย่างเปิดเผย     รูปปั้นของของเทพองค์นี้มักจะถูกพบบนหอคอย โบสถ์ในสมัยยุคกลาง คริสตจักร หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แต่ปัญหาคือรูปปั้นดังกล่าวได้ทำให้นักเทววิทยาและนักประวัติศาสตร์ รู้สึกงงงวยกันมานานนับหลายศตวรรษว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นเทพอะไรกันแน่?     มีนักวิจัยบางคนได้ออกมาเสนอว่า เทวีชิลานากิกเป็นเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ การเจริญพันธุ์ การให้กำเนิดชีวิต และเป็นผู้ให้กำเนิดโลกและสิ่งมีชีวิตผ่านการแหกขาของเธอ บ้างบอกก็บอกรูปปั้นลึกลับที่แกะสลักเป็นรูปผู้หญิงนี้เป็นตัวแทนภรรยาของ St. Patrick ซึ่งเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของไอร์แลนด์ ซึ่งทาง Dr. Folklorist Shane Lehane จากมหาวิทยาลัยในคอร์ก ประเทศไอร์แลนด์…

  • ชาวสวนอึ้ง!! เห็นแอปเปิ้ลนับหมื่นลูกหล่นเกลื่อนกลาด หลังจากถูกพายุเฮอร์ริเคนถล่ม

    ชาวสวนอึ้ง!! เห็นแอปเปิ้ลนับหมื่นลูกหล่นเกลื่อนกลาด หลังจากถูกพายุเฮอร์ริเคนถล่ม

    ถึงแม้ว่าพายุนั้นจะสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและทำลายพืชผลทางการเกษตรอย่างมาก เพราะหลังจากที่พายุจากไปนั้นมักจะทิ้งไว้เพียงแค่ซากของพืชผลต่างๆ แต่ภาพของผลแอปเปิ้ลนับหมื่นลูกที่ร่วงลงในสวนผลไม้แห่งหนึ่งของเมืองทิปเปอร์แรรี ประเทศไอซ์แลนด์ หลังจากที่ถูกพายุเฮอร์ริเคน Ophelia กลับดูแตกต่างจากภาพหลังจากการพัดถล่มของพายุทั่วๆ ไป เพราะพื้นที่ส่วนมากของสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยสีเหลืองและสีแดงของลูกแอปเปิ้ลดูสวยงามและน่าทึ่งอย่างมาก   และนี่คือภาพของสวนแห่งนี้หลังจากที่ถูกพายุพัดถล่ม   พายุเฮอร์ริเคน Ophelia นั้นได้พัดเขาถล่มพื้นที่การเกษตรหลายพื้นที่ และหลังจากที่มันจากไป เกษตกรเจ้าของไร่แอปเปิ้ลแห่งนี้ก็ต้องถึงกับตกใจมาก หลังจากที่เขาได้เห็นลูกแอปเปิ้ลที่ร่วงลงมานั้นเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ แอปเปิ้ลเหล่านี้กำลังจะถูกเตรียมไว้สำหรับจำหน่ายให้กับบริษัท C&C Group เพื่อใช้ในการผลิตน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ยี่ห้อ Bulmers Irish cider ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทเองกำลังหารือกับเกษตกรเพื่อหาทางจัดการกับแอปเปิ้ลที่ร่วงเหล่านี้ “พวกเรากำลังร่วมมือกับเกษตรกรเพื่อให้แน่ใจว่าแอปเปิ้ลเหล่านี้มีคุณภาพเพียงพอและเหมาะสำหรับนำไปผลิตสินค้าของเรา” ตัวแทนจากบริษัท C&C กล่าว     และนี่คือภาพมุมสูงของสวนแอปเปิ้ลแห่งนี้   พายุเฮอร์ริเคน Ophelia นั้นมีความเร็วลมมากกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันได้เข้าทำความเสียหายในหลายๆ พื้นที่ของเกาะอังกฤษ และตอนนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตในประเทศไอซ์แลนด์จากพายุลูกนี้แล้วถึง 3 ราย   ที่มา dailymail

  • พาชมพรมแดนเขตปลอดทหารของสองเกาหลี (DMZ) ระหว่างแดนเหนือและแดนใต้

    พาชมพรมแดนเขตปลอดทหารของสองเกาหลี (DMZ) ระหว่างแดนเหนือและแดนใต้

    ความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในช่วงปี 1950 จนนำมาสู่การแบ่งประเทศออกเป็น 2 ฝ่าย และหลังจากการทำสนธิสัญญาหยุดยิงเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมปี 1953 ก็ได้มีการกำหนดเส้นแบ่งเขตแดน พร้อมกับเขตปลอดทหารหรือ Demilitarized Zone (DMZ) เขตปลอดทหารนั้นถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว และหนึ่งใน Demilitarized Zone ที่น่าสนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อนั่นก็คือ Joint Security Area (JSA) ในหมู่บ้านปันมุนจอมนั่นเอง     Eric Lafforgue ช่างภาพที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่สถานที่แห่งนี้ถึงสามครั้ง ได้บันทึกภาพความสวยงามพร้อมกับเล่าเรื่องราวต่างๆ ของ Joint Security Area (JSA) ทั้งจากฝั่งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ และนี่คือผลงานการถ่ายภาพของเขาที่เรานำมาฝากกันในวันนี้   ภาพประตูทางเข้าของเขตปลอดทหารนี้จากประเทศเกาหลีเหนือ ที่ตั้งอยู่ในเมืองแคซ็อง ที่เชื่อมต่อกับทางหลวงของประเทศเกาหลีใต้ ประตูซีเมนต์ขนาดใหญ่นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันผู้รุกราน   ส่วนนี่คือทางหลวงในประเทศเกาหลีใต้   สำหรับการเดินทางเข้าไปใน JSA ของทั้งสองประเทศนั้นจะมีทหารคอยนั่งไปกับนักท่องเที่ยวด้วยตลอด แต่สำหรับในเกาหลีเหนือคุณสามารถถ่ายภาพได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุญาตจากทหารเท่านั้น   และนี่คือกฎข้อห้ามต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับก่อนออกเดินทางไปยัง JSA นอกจากนี้ยังมีการระบุถึงเครื่องแต่งกายที่ห้ามสวมใส่เข้ามาในพื้นที่นี้อย่างเสื้อยืดคอกลมไม่มีปก กระโปงสั้น และเสื้อผ้าสีฉูดฉาดอีกด้วย   ภาพของทหารฝ่ายเกาหลีเหนือ . .   ก่อนที่จะพาไปเยี่ยมชมในพื้นที่ DMZ จะมีการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับเขตปลอดทหารแห่งนี้…

  • อ.โกโช อะโอะยะมะ ผู้ให้กำเนิด “โคนัน” ทำงานหนักถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์

    อ.โกโช อะโอะยะมะ ผู้ให้กำเนิด “โคนัน” ทำงานหนักถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์

    สำหรับใครที่เป็นแฟนของยอดนักสืบจิ๋วโคนัน คงจะคุ้นเคยกับชื่อของอาจารย์โกโช อะโอะยะมะ ผู้ในกำเนิดการ์ตูนเรื่องนี้กันเป็นอย่างดี แต่หลายๆ คงอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาบนอาชีพนักเขียนการ์ตูนนั้นอาจารย์โกโชของเราทำงานหนักมากแค่ไหน?? แน่นอนว่าการจะประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่สิ่งที่ได้มาง่าย และอาจาย์โกโชเองก็ทำงานหนักไม่น้อยเลยทีเดียว ในหนึ่งสัปดาห์เขาจะใช้เวลาในการวาดการ์ตูน 5 วัน และเขาใช้เวลาทำงานมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อวัน และพักกินข้าวแค่ 15 นาทีเท่านั้น!! และนอกจากการทำงานอย่างหนักแล้ว เขายังมีเวลานอนเพียงแค่วันละ  3 ชั่วโมงเท่านั้น หรือบางวันก็ถึงขั้นไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว     แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของทำสตอร์รี่บอร์ดนั้นค่อนข้างจะแตกต่างกัน โดยอาจารย์โกโชของเราจะใช้เวลาในการร่างส่วนเนื้อเรื่องเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น และการทำงานในส่วนนี้จะค่อนข้างสบายและผ่นอคลายมากกว่า อาจารย์โกโชได้เล่าเอาไว้ในหนังสือ Aoyama Gosho 30-Shūnen Hon หนังสือฉลองครบรอบ 30 ปีในการทำงานของเขาว่า เขาใช้เวลาในการทำงานส่วนของสตอร์รี่บอร์ดเพียงแค่วันละ 8 ชั่วโมงเท่านั้น และพักผ่อนวันละ 12 ชั่วโมง แถมยังใช้เวลาว่างกับเกมอีกด้วย     ส่วนในการสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนของอาจารย์นั้นก็ยังมีผู้ช่วยอีกมากว่า 6 คนเลยทีเดียว แต่ตารางการทำงานของพวกเขานั้นไม่ได้เหมือนกับอาจารย์โกโชของเราหรอกนะ ซึ่งในหนังสือได้บอกเอาไว้ว่าพวกเขาอาจจะได้พักระหว่างที่อาจารย์เข้านอนหรือประมาณตี 1 นั่นเอง โดยก่อนการเริ่มร่างตอรรี่บอร์ดและลงมือวาดนั้น อาจารย์โกโชยังได้มีการประชุมร่วมกับผู้ช่วยในทุกๆ…

  • เจ็บหนัก!! สาวใหญ่โดนแก๊งต้มตุ๋นข้ามชาติจีบผ่านเฟซบุ๊ค ก่อนถูกหลอกเอาเงินไป 3.5 ล้านบาท

    เจ็บหนัก!! สาวใหญ่โดนแก๊งต้มตุ๋นข้ามชาติจีบผ่านเฟซบุ๊ค ก่อนถูกหลอกเอาเงินไป 3.5 ล้านบาท

    มีจุดประสงค์มากมายในการใช้สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คในปัจจุบัน ไม่ว่าจะในด้านธุรกิจ การหาคู่ หรือการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนใหม่ๆ บนโลกใบนี้ ซึ่งจุดอ่อนของโลกออนไลน์คือมีผู้คนมากหน้าหลายตาที่เราไม่รู้จัก และอาจจะเจอมิจฉาชีพเหมือนสาวคนนี้ที่โดนโกงเงินไปถึง 3.5 ล้านบาท!! Patricia Meister สาวใหญ่วัย 64 ปีจากรัฐ Queensland ประเทศออสเตรเลีย อ้างว่าเธอถูกผู้ใช้ Facebook คนหนึ่งหลอกเงินไปกว่า 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) โดยเธอบอกว่าเธอตกหลุมรักกับผู้ใช้รายหนึ่งที่ชื่อว่า Carlos นักธุรกิจชาวอิตาลีก่อนจะค้นพบว่าจริงๆ แล้วผู้ใช้นี้เป็นมิจฉาชีพชาวไนจีเรีย     Meister เล่าให้ฟังว่า ชายคนดังกล่าวได้เล่าชีวิตของเขาให้เธอฟังในทุกแง่มุมและเขาได้ส่งข้อความหาเธอทุกวัน “ฉันไม่เคยเข้าเว็บไซต์หาคู่นะ ฉันเล่นเพียงแค่ Facebook เพื่อการติดต่อธุรกิจ ดังนั้นหากมีคนส่งคำขอเป็นเพื่อนมา มันก็ดูไม่อันตรายใช่ไหมล่ะ ตอนนั้นฉันเหงาและฉันโสดมาได้สักพักแล้ว เมื่อมีเขาเข้ามาฉันนึกว่าชีวิตของฉันจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป” “ตอนเราเริ่มคุยกันเขาดูเป็นคนที่มีเสน่ห์ มีการศึกษา ภาษาอังกฤษของเขาดีมากเลยทีเดียวและที่เด็ดที่สุดคือเขาเป็นคนโรแมนติกมาก ฉันบอกได้เลยว่าฉันหลงรักเขาอยู่ช่วงหนึ่งเลยล่ะ” Meister กล่าว     เธอยังเล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกว่า ชายคนดังกล่าวบอกเธอว่าเขาอาศัยอยู่ในเมือง Brisbane และเป็นนักออกแบบภายในโดยเขาเป็นลูกครึ่งอิตาลีกับสกอตแลนด์ ทั้งคู่ก็ได้ส่งข้อความหากันทุกวันจนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้โทรศัพท์หาเธอ “ครั้งแรกที่ฉันคุยกับเขา เขามีสำเนียงที่แปลกกว่าที่ฉันคิดไว้ ฉันยังจำได้เลยว่าตอนนั้นฉันคิดว่า นี่มันสำเนียงอะไรเนี่ย แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเป็นสำเนียงแอฟริกันแน่นอน เพราะเขาเป็นชาวไนจีเรีย” สาวใหญ่เล่าให้ฟังด้วยอารมณ์ที่คับแค้นใจ     แม้ว่า…

  • ความน่ารักของคนในครอบครัว เมื่อพ่อลูกถ่ายรูปคู่กันในสถานที่เดิมทุกปีมานานถึง 35 ปี

    ความน่ารักของคนในครอบครัว เมื่อพ่อลูกถ่ายรูปคู่กันในสถานที่เดิมทุกปีมานานถึง 35 ปี

    เป็นเรื่องปกติที่เราจะชอบถ่ายรูปเวลาได้ไปเที่ยวกับครอบครัว แต่จะให้ไปเที่ยวที่เดิมและถ่ายรูปมุมเดิมทุกปีเหมือนกับครอบครัวนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติแน่นอน ครอบครัวนี้นำโดยคุณพ่อชาวจีนที่ชื่อว่า Hua Yunqing ทุกปีพวกเขาจะพากันไปเที่ยวที่ทะเลสาบ Taying ในเมืองจั่นเจียง ทางตะวันออกของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน นอกจากเขาจะไปที่เดิมทุกปีแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษของทริปนี้คือเขาและลูกสาวที่ชื่อ Huahua จะต้องถ่ายรูปด้วยกันในมุมเดิมทุกครั้งที่ไปอีกด้วย   ภาพแรกเกิดขึ้นในปี 1980 ตอนที่ลูกสาวอายุเพียงแค่ 1 ขวบ   เพราะแบบนั้นเองจึงทำให้พวกเขามีรูปถ่ายเก็บเอาไว้ในแต่ละปี ตั้งแต่ตอนที่ลูกสาวอายุ 1 ขวบ รวมแล้วพวกเขาได้รูปถ่ายออกมา 34 รูปจากช่วงเวลา 35 ปีที่ผ่านมา เพราะว่าในปี 1998 ลูกสาวติดธุระทำให้ไม่สามารถไปเที่ยวกับครอบครัวได้ น่าเสียดายจริงๆ เลย เกือบจะครบทุกปีอยู่แล้วเชียว   การถ่ายรูปดำเนินต่อไปทุกปี ทุกครั้งที่ไปเที่ยว   จากภาพขาวดำก็เริ่มกลายเป็นภาพสี   ช่วงเวลาที่ผ่านไปทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้จากรูปของพวกเขา สิ่งแวดล้อมโดยรอบที่ไม่เหมือนเดิม อายุที่เพิ่มขึ้นของเขาทั้งสอง โดยเฉพาะลูกสาวที่ตอนแรกยังเป็นแค่เด็กแบเบาะ โตขึ้นเข้าโรงเรียน จนสุดท้ายเธอก็ได้มีครอบครัวเป็นของตัวเองและมีลูกสาวถึง 2 คน   .  …

  • ซีรีส์ภาพถ่าย ‘ตลาดสด’ ในฮ่องกงที่เต็มไปด้วยแมว แมว และแมวเต็มไปหมดเบยยย

    ซีรีส์ภาพถ่าย ‘ตลาดสด’ ในฮ่องกงที่เต็มไปด้วยแมว แมว และแมวเต็มไปหมดเบยยย

    ตลาดสดเป็นที่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายบวกกับความเลอะเทอะเละเทะตามร้านขายของสดทั้งหลาย ทำให้หลายคนรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเข้าไปกันเท่าไหร่นัก แตกต่างกับเจ้าเหมียวเหล่านี้ที่สามารถอยู่อาศัยกันได้อย่างมีความสุขซะงั้น น้องแมวจำนวนมากที่ใช้ชีวิตอยู่ในตลาดสดที่ฮ่องกง สร้างแรงบันดาลใจให้กับช่างภาพชาวดัตช์ Marcel Heijnen รู้สึกสนใจและตามมาเก็บภาพความเป็นอยู่ของพวกมัน   สงสัยจะหิวนะ ยืนมองตาไม่กระพริบเลยเชียว   นักท่องเที่ยวเดินผ่านถึงกับตกอยู่ในมนต์สะกด กลายเป็นทาสของมันไปโดยปริยาย   สถานที่แห่งนี้แม้จะดูไม่เหมาะเป็นที่อยู่อาศัยของพวกมัน แต่เมื่อได้ลองมองผ่านภาพเหล่านี้กลับสามารถเห็นถึงความเชื่อมโยงได้อย่างน่าประหลาด มีความกลมกลืนกันซะจนบางครั้งเราอาจหาแมวภายในรูปไม่เจอเลยก็ได้ นอกจากเจ้าเหมียวจะเข้ามาสร้างความน่ารักแล้ว พวกมันยังช่วยควบคุมจำนวนประชากรของหนูภายในตลาดอีกด้วย   เห็นได้ว่าสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างสกปรก แต่เจ้าเหมียวก็สามารถใช้ชีวิตอยู่กันได้   กลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมรอบๆ   เขาบอกว่า “ซีรีส์ภาพถ่ายนี้มีความแตกต่างกับที่ที่ผมไปเก็บภาพน้องเหมียวที่อาศัยอยู่ตามร้านค้าทั่วไปมาก เพราะในตลาดจะมีความสกปรกกว่าและพ่อค้าแม่ค้าก็จะไม่ค่อยได้มาเล่นกับมันกันซักเท่าไหร่” อย่างไรก็ตามพวกมันก็ยังคงดูมีความสุขดี เหมือนว่าเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งนี้ไปแล้ว   น้องแมวสามารถเดินไปไหนมาไหนได้โดยที่ไม่มีใครห้าม   บางครั้งก็อาจมาซ่อนตัวอยู่ในกล่องลัง เวลาต้องการจะแอบงีบไรงี้   นอกจากจะมีทาสมนุษย์และเพื่อนร่วมสายพันธุ์แล้ว ก็ยังมีคุณพี่สุนัขเป็นเพื่อนอีกด้วย   ภาพนี้ก็เนียนอยู่นะ หาอยู่นานเลย   อย่าเผลอโดดลงมานะ ไม่งั้นมีหวังกลายเป็นโศกนาฏกรรมแน่นอน   วันนี้จะรับอะไรดีครับป๋ม   คุณลูกค้าต้องระวังๆ หน่อยนะ อย่าไปเผลอเหยียบมันเชียว   ภาพนี้ก็มีแมวอยู่นะเออ ลองสังเกตกันดีๆ   ตาปรือแบบนี้…

  • สาวโพสต์ภาพ เทียบที่เมื่อก่อนชอบชายแต่ตอนนี้ชอบหญิง จุดกระแสให้คนเปิดเผยตัวตนมากขึ้น

    สาวโพสต์ภาพ เทียบที่เมื่อก่อนชอบชายแต่ตอนนี้ชอบหญิง จุดกระแสให้คนเปิดเผยตัวตนมากขึ้น

    ในทุกวันนี้นอกจากเพศชาย-หญิงก็มีเพศทางเลือกอีกมากมายอย่างชายชอบชาย หรือหญิงชอบหญิงและสังคมก็เริ่มจะยอมรับกันได้แล้ว แต่มีเคสของหญิงสาวคนหนึ่งที่ออกมาเปิดเผยว่ามีแฟนเป็นผู้หญิงและได้จุดประกายให้คนในเน็ตที่เป็นแบบเดียวกัน ออกมาเปิดเผยตัวเองจำนวนมาก!! นักเรียนสาวคนหนึ่งในรัฐฟลอริด้า ได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้เธอกำลังคบเพื่อนสาวของตัวเองที่ชื่อว่า โดยเธอบอกว่าได้คบว่า Kirrin มาปีกว่าๆ แล้วแต่เพิ่งออกมาเปิดเผยเมื่อ 6 เดือนที่แล้วนี่เอง หลังเธอออกมาเปิดตัวก็มีคนให้กำลังใจเธอมากอย่างล้นหลามเลยทีเดียว   Caitlin Crowley (ขวามือ) และแฟนสาวของเธอ Kirrin Chew (ซ้ายมือ)   และเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Crowley ก็ได้ออกมาเปิดเผยรูปเก่าของเธอในตอนที่เธอไปงานเต้นรำกับชายคนหนึ่งที่ชื่อ ซึ่งตอนนี้เธอและเขาก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่ที่เธอนำรูปออกมาเปิดเผยเพราะว่าเธอขำตัวเองที่เปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงระยะเวลาแค่ 2-3 ปีมานี้     ด้วยความขบขันกันในกลุ่มเพื่อน เธอจึงตัดสินใจทำรูปเปรียบเทียบระหว่างรูปในอดีตกับรูปที่เธอเป็นในตอนนี้ จนกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว แต่เธอก็ย้ำอีกว่าเธอทำขึ้นเพื่อความขบขันในหมู่ของเพื่อนเธอเท่านั้น “มันมีความหมายในแง่เรื่องตลกระหว่างกลุ่มเพื่อนกับฉันเท่านั้นนะ เพราะว่าตอนนี้ฉันกับ Dylan ก็ยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ พวกเรายังนั่งหัวเราะรูปนี้ด้วยกันอยู่เลย” Crowley กล่าว     ต่อมารูปของเธอได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนที่คบคนเพศเดียวกันเริ่มออกมาเปิดเผยมากขึ้น โดยพวกเขากล่าวไว้ว่ารูปของ Crowley เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างที่เก็บเงียบมานาน ยกตัวอย่างเช่น Katy Nicholson ได้กล่าวไว้ว่า “ตลอดระยะเวลาสามปีที่อยู่ในโรงเรียน ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นเพศอะไรกันแน่ และปีถัดมาฉันจึงตัดสินใจคบหากับแฟนสาวของฉันในปัจจุบัน” โดยเธอได้พบคู่รักของเธอ Victoria Leggett บนแอพหาคู่เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ว่าเพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ที่อพาร์ทเมนท์เดียวกันเมื่อเร็วๆ นี้เอง Sydney Carlson สาวสวยอายุ…

  • เกิดปรากฏการณ์แปลกๆ แสงทรงกลมลอยว่อนบนท้องฟ้าในรัสเซีย งดงามตระการตายิ่งนัก

    เกิดปรากฏการณ์แปลกๆ แสงทรงกลมลอยว่อนบนท้องฟ้าในรัสเซีย งดงามตระการตายิ่งนัก

    ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก มนุษย์เรามักจะได้พบเจอกับปรากฏการณ์ธรรมชาติแปลกๆ ในบางครั้ง ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ล่าสุดในรัสเซียเมื่อไม่กี่คืนก่อน ก็เกิดปรากฏการณ์แสงที่ก่อตัวเป็นลักษณะกลมๆ ขนาดใหญ่ ลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือไซบีเรีย     แน่นอนว่าผู้คนที่พบเห็นต่างพากันถ่ายรูปแสงดังกล่าวแล้วเอาไปลงโซเชียล จนชาวเน็ตจำนวนมากบอกว่าเป็นการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาว ขณะเดียวกันชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลก็อ้างว่าเกิดแรงสั่นสะเทือนด้วย อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันถึงสาเหตุของการเกิดแสงกลมๆ นี้ มีบางคนบอกว่ามันเป็นร่องรอยของจรวดทั้ง 4 ตัวที่ทหารรัสเซียได้เปิดตัวก่อนหน้านี้ จนทำให้เกิดปรากฏการณ์พิเศษนี้ในเวลากลางคืน     ทั้งนี้มีหลักฐานที่ช่วยยืนยันการสันนิษฐานดังกล่าว เพราะเมื่อปี 2009 ได้เกิดแสงที่คล้ายกันนี้บนท้องฟ้าเหนือนอร์เวย์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากขีปนาวุธที่ผิดพลาด โดยในช่วงที่เกิดแสงกลมๆ เหนือท้องฟ้านั้น เป็นช่วงที่แสงจากดวงอาทิตย์สะท้อนกับน้ำมันเชื้อเพลิงของขีปนาวุธที่รั่วไหลออกมา     Vasily Zubkov คนที่เห็นแสงทรงกลมเป็นคนแรกๆ บอกว่า “ผมเห็นมันตอนที่ออกไปสูบบุหรี่ข้างนอก ตอนนั้นผมคิดว่ามันมาถึงวันสิ้นโลกแล้วแน่ๆ แต่ไม่นานหลังจากนั้น แสงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นทรงโค้ง ก่อนจะเลือนหายไป”     ในขณะที่หลายฝ่ายกำลังถกเถียงกันถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ มีทฤษฎีหนึ่งที่น่าจะเป็นได้มากที่สุดคือ ผู้นำรัสเซีย Vladimir Putin พยายามทำให้ประเทศในแถบตะวันตกรู้สึกหวาดกลัว โดยแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกองกำลังนิวเคลียร์ของเขา Putin ได้ดูแลการเปิดตัวจรวดขีปนาวุธนิวเคลียร์จำนวน 4 ลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมรบของกองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซีย     จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าแสงดังกล่าวคือร่องรอยของขีปนาวุธนิวเคลียร์ ตามที่มีการสันนิษฐานไว้ก่อนหน้านี้…

  • รัสเซียไม่น้อยหน้า ทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่มีอานุภาพทำลายประเทศได้ในพริบตา

    รัสเซียไม่น้อยหน้า ทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่มีอานุภาพทำลายประเทศได้ในพริบตา

    ก่อนหน้านี้หลายคนคงได้ยินข่าวประเทศเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์กันไปบ้างแล้ว ประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซียจึงไม่ยอมน้อยหน้า ทำการทดสอบขีปนาวุธของตัวเองบ้างซะเลย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อทางรัสเซียได้ทดสอบขีปนาวุธไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ RS-28 Sarmat หรือรู้จักกันในชื่อ Satan 2 เป็นมิสไซล์นำวิถีที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล     ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงจากจุดปล่อยจรวดที่ชื่อว่า Plestek Cosmodrome ตั้งอยู่ในเมือง Mirny หลังจากนั้นมันก็ได้พุ่งออกไปไกลกว่า 5,700 กิโลเมตรเพื่อไปยังเป้าหมายพื้นที่ทดสอบขีปนาวุธที่ชื่อว่า Kura   ในครั้งนี้เป็นการปล่อยจรวดมิสไซล์นำวิถีเป็นครั้งที่ 3 ของปี เพราะก่อนหน้านี้รัสเซียเคยทดสอบขีปนาวุธชื่อว่า Topol   กองกำลังทหารของรัสเซียได้ออกมาบอกว่า ขีปนาวุธ Satan 2 นี้มีอานุภาพร้ายแรงขนาดที่ว่าชนะทุกการป้องกันและสามารถลบประเทศหนึ่งให้หายไปได้ในพริบตา เพราะมันได้บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์เอาไว้ภายในถึง 12 อัน ซึ่งคาดว่ามันจะพร้อมใช้งานได้จริงในปี 2019 – 2020   Satan 2 หนักกว่า 100 ตัน และอานุภาพของมันรุนแรงกว่าระเบิดที่ถูกทิ้งในฮิโรชิม่าและนางาซากิ เมื่อปี 1945 กว่า 2,000…

  • “Rihanna” กับภาพเซตใหม่ในธีมราชินีแห่งอียิปต์บนปกนิตยสาร Vogue เริ่ดเว่อร์มากขุ่นแม๊!!

    “Rihanna” กับภาพเซตใหม่ในธีมราชินีแห่งอียิปต์บนปกนิตยสาร Vogue เริ่ดเว่อร์มากขุ่นแม๊!!

    สำหรับ “Rihanna” ถือเป็นหนึ่งในซุปตาร์หญิงสุดฮอตคนหนึ่งในวงการฮอลลีวู้ดเลยก็ว่าได้ เพราะนอกเหนือจากการเป็นนักร้องที่มีเสียงอันทรงพลัง และได้สร้างผลงานเพลงที่ฮิตติดหูมากมายแล้ว เธอยังเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในด้านแฟชั่นอย่างแท้ทรู ถึงขั้นเคยได้รับเลือกให้เป็นดีไซน์เนอร์ออกแบบเสื้อผ้า และเครื่องแต่งกายแบรนด์ดังมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ทั้งยังเคยกวาดรางวัลในด้านแฟชั่นและเครื่องแต่งกายมาแล้วกว่าหลายรางวัล ไม่ธรรมดาเลยอ่ะขุ่นแม่!!     แต่ผลงานล่าสุดของนักร้องสาว Rihanna ในวัย 29 ดูเหมือนน่าจะน่าสนใจ และน่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะครั้งนี้เธอได้มาพร้อมกับภาพเชตใหม่ในธีม Nefertiti ราชินีแห่งอียิปต์บนปกนิตยสาร Vogue Arabia   ภาพ Rihanna จากนิตยสารดังกล่าวถูกถ่ายโดยช่างภาพชื่อดัง Greg Kadel เธอมาในชุดเครื่องแต่งกายสุดหรูหรา จับคู่กับโค้ทสีน้ำเงินสุดเท่ พร้อมสวมมงกุฎจำลองให้เหมือนกับราชินี Nefertiti บอกเลยว่าดูทรงพลังมาก!!   สำหรับการถ่ายภาพเซพใหม่ล่าสุดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านักร้องสาว Rihanna ได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่ไหน ใช่แล้ว!! รอยสักรูปองค์ราชินี Nefertiti ที่อยู่บริเวณข้างอกด้านซ้ายนั่นเอง     ทางด้าน Manuel Arnaut บรรณาธิการของนิตยสาร Vogue Arabia ได้ออกมาพูดถึงการถ่ายทำที่น่าตื่นเต้นว่า “Rihanna ไม่ได้เป็นเพียงแค่นักร้องที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอุตสาหกรรมบันเทิง ด้วยเพลงที่มีพลังและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเท่านั้น…

  • ช่วงเวลาแห่งความประทับใจ เมื่อพยาบาลสาวร้องเพลงโปรดให้คนไข้ฟังในวาระสุดท้าย

    ช่วงเวลาแห่งความประทับใจ เมื่อพยาบาลสาวร้องเพลงโปรดให้คนไข้ฟังในวาระสุดท้าย

    แพทย์หรือพยาบาลหลายๆ คนไม่ได้ดูแลคนไข้ตามหน้าที่หรือตามคำสั่งเท่านั้น แต่พวกเขาใส่ใจคนไข้เสมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง เหมือนกับพยาบาลคนนี้ที่อยู่เคียงข้างคุณยายที่กำลังจะหมดลมหายใจ เพื่อร้องเพลงโปรดให้เธอฟัง และคุณยายยังต้องการให้บรรเลงนี้ในงานศพด้วย     Margaret Smith วัย 63 ปี มีปัญหาเกี่ยวกับตับ แต่เธอป่วยหนักจนไม่สามารถรอการปลูกถ่ายตับได้ นั่นหมายความว่าเธอไม่สามารถรับการผ่าตัดได้ด้วย เพื่อทำให้คุณยายรู้สึกดีขึ้นและไม่กลัวต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น พยาบาล Olivia Neufelder จาก Vanderbilt University Medical Center จึงได้อาสามาร้องเพลงโปรดของยายให้ฟังทุกวัน และแล้วช่วงเวลาแห่งการจากลาก็มาถึง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม คุณหมอบอกว่าคุณยายจะอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่วันข้างหน้า แต่ถึงอย่างนั้น Olivia ก็ยังทำในสิ่งที่เคยทำเสมอมานั่นคือการร้องเพลงให้คุณยายฟัง     แต่นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณยายจะได้ฟังเพลงโปรดจาก Olivia ครอบครัวของคุณยายจึงได้บันทึกวิดีโอขณะที่พยาบาลร้องเพลง Dancing In The Sky พร้อมจับมือคุณยายและพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ตลอด คุณยายฟังเพลงโปรดของตัวเองด้วยรอยยิ้ม บ่งบอกว่าเธอมีความสุขมากแค่ไหน จน Olivia เกือบหลั่งน้ำตาหลายครั้ง แต่เธอพยายามจะกลั้นมันเอาไว้ เพราะนี่คือช่วงเวลาเธออยากให้ผู้ป่วยมีแต่ความสุข     ต่อมา Megan Smith ลูกสาวของ Margaret ได้โพสต์ช่วงเวลาแห่งความประทับใจลงในเฟซบุ๊กพร้อมคำอธิบายว่า “พยาบาลคนนี้นั่งอยู่กับแม่ฉันเป็นเวลาหลายชั่วโมง เธอร้องเพลงโปรดของแม่ให้ฟัง เพื่อทำให้แม่รู้สึกสบายใจ” “เราไม่สามารถหาคำพูดไหนมาอธิบายความรักความห่วงใจของพยาบาล Olivia ที่มีต่อแม่ของฉัน และแม่ยังเรียกเธอว่านางฟ้าด้วย”…

  • คุณแม่สุดแกร่งเผยภาพความเจ็บปวดในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อความหวังในการมีชีวิต

    คุณแม่สุดแกร่งเผยภาพความเจ็บปวดในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อความหวังในการมีชีวิต

    โรคร้ายที่ยากต่อการรักษามักจะเป็นปัจจัยพรากความหวังไปจากผู้คน ทำให้คนที่เข้มแข็งกลายเป็นคนอ่อนแอ ทำให้คนมั่นใจกลายเป็นคนขี้กลัว จนแทบไม่อยากทำอะไรกับชีวิตที่เหลือ ตรงข้ามกับหญิงสาวคนนี้ ที่แม้ต้องเผชิญกับมะเร็งที่สร้างแต่ความเจ็บปวดให้ แต่เธอกลับถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยคนอื่นๆ Ruth Naylor วัย 32 ปี เป็นคุณแม่ลูกสอง ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin ซึ่งเป็นมะเร็งที่เกี่ยวกับระบบน้ำเหลือง เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา     ก่อนจะไปเป็นมะเร็ง Naylor มีอาการเหมือนไข้หวัด เธอจึงไปหาหมอ และเมื่อเอ็กซ์เรย์ก็พบสิ่งที่ดูเหมือนก้อนเนื้ออยู่ที่ปอดข้างขวา และผลเลือดก็ผิดปกติ ซึ่งคุณหมอคาดเดาว่าน่าจะเป็นมะเร็ง จึงได้นัดมาทำ CT สแกนอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น เธอบอกว่า “นั่นคือตอนที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันสำหรับฉัน โลกทั้งใบของฉันเหมือนจะหยุดหมุนในทันที”   Naylor กำลังต่อสู่กับความเจ็บปวด ขณะทำเคมีบำบัด   ข่าวร้ายในครั้งนี้ ทำให้ Naylor หวนคิดถึงคุณแม่ที่จากไปด้วยมะเร็งตอนอายุ 47 ปี ส่วนเธอตอนนั้นอายุ 21 ปี ดังนั้นเธอจึงคิดถึงลูกๆ ว่าพวกเขาจะรับมือไหวได้อย่างไรถ้าไม่มีแม่ เพราะพวกเขายังเด็กมาก พอวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เข้ารับการตรวจด้วย CT สแกน หมอก็พบเนื้องอกอยู่ระหว่างปอดและหัวใจ เธอรู้สึกความมันคือความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้   ลูกๆ ของเธอ  Eva วัย…

  • หนูน้อย 6 ขวบโชว์ความฉลาดด้านการบิน จนสายการบินต้องเชิญมาลองเป็นกัปตัน 1 วันเต็มๆ

    หนูน้อย 6 ขวบโชว์ความฉลาดด้านการบิน จนสายการบินต้องเชิญมาลองเป็นกัปตัน 1 วันเต็มๆ

    อาชีพในฝันของเด็กๆ หลายคนหนึ่งในนั้นอาจจะมีอาชีพนักบินอยู่ด้วยก็เป็นได้ เพราะมันเป็นอาชีพที่ดูเท่และยังมีค่าตอบแทนที่ดีอีกด้วย แต่จะมีใครที่มีโอกาสที่ดีได้เท่ากับเด็กคนนี้ Adam Mohammad Amer เด็กชายวัย 6 ขวบที่มีความสนใจในอาชีพกัปตันเครื่ิองบินโดยเขาได้เรียนรู้การขับเครื่องบินเบื้องต้นผ่านทาง Youtube ครั้งหนึ่งเมื่อเขามีโอกาสได้ขึ้นเครื่องบิน เขาได้บอกกับลูกเรือของเครื่องบินลำนั้นว่าอยากที่จะเข้าไปที่ห้องกัปตันและเขาก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไป กัปตัน Samer Yakhlef จึงได้บันทึกวีดีโอความน่ารักและรอบรู้ของเด็กหนุ่มคนนี้เอาไว้และนำไปเผยแพร่จนกลายเป็นคลิปไวรัลในอินเทอร์เน็ตในเวลานี้   วีดีโอที่กัปตันคนนี้ถ่ายความน่ารักไว้   สายการบิน Etihad เห็นวีดีโอความน่ารักนี้จึงเกิดความประทับใจในความฉลาดของเด็กหนุ่มคนนี้มาก จึงเชิญเขาให้มาลองขับเครื่อง Simulator จำลองการบินด้วยเครื่องบินที่เขาชื่นชอบนั่นคือเครื่องบิน Airbus-A380   ความฝันของเด็กน้อยคนหนึ่ง   และดูเหมือนว่า Adam จะรู้สึกดีใจมากจนแทบจะกระโดดโลดเต้นเลยทีเดียว ในวันที่แสนดีของเขาเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนชุดให้เป็นชุดกัปตันจิ๋วที่สั่งตัดโดยเฉพาะ จากนั้นก็ได้เข้าเครื่องจำลองการบินและได้เรียนรู้วิธีการขับเครื่องบินต่างๆ ซึ่งเขาทำได้ดีทีเดียวทั้งการนำเครื่องขึ้นและการลงจอดอย่างปลอดภัย   ฉายแววแต่ยังเด็ก   ระหว่างที่ Adam ควบคุมเครื่องบินอยู่ดูเหมือนเขาภูมิใจในอาชีพนี้เป็นอย่างมากและดูสนุกเหมือนได้มาเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก ไม่แน่นะว่าสักวันเราอาจจะได้นั่งบนเครื่องบินที่เขาขับอยู่ก็เป็นได้   เห็นแล้วก็ดีใจแทน   มาลองชมความเฉลียวฉลาดของเด็กชายคนนี้ระหว่างบินกันเลย   ที่มา: huffingtonpost, Etihad Airways

  • ป๊าดด…ลูกพลับระดับพรีเมี่ยมในญี่ปุ่นถูกประมูลในราคาโคตรแพง!? คู่ละ 150,000 บาท

    ป๊าดด…ลูกพลับระดับพรีเมี่ยมในญี่ปุ่นถูกประมูลในราคาโคตรแพง!? คู่ละ 150,000 บาท

    ลูกพลับเป็นผลไม้ที่เราคุ้นเคยกันดี และสามารถหาซื้อได้ทั่วไปเมื่อถึงฤดูของมัน ราคาก็ไม่แพง เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ แต่ล่าสุดมีลูกพลับระดับพรีเมี่ยม 2 ลูก ที่เก็บมาจากทางภาคกลางของญี่ปุ่น ได้รับการประมูลในราคาสูงถึง 150,000 บาท ในการประมูลครั้งแรกของฤดูกาลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา     การที่ลูกพลับถูกประมูลในราคาสูงขนาดนี้ เพราะมันเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นโดยรัฐบาลของกิฟู ซึ่งปลูกอยู่ในภาคกลางของญี่ปุ่น และจำหน่ายในตลาดขายส่งในท้องถิ่น ทั้งนี้ รัฐบาลของกิฟู ได้ใช้เวลาในการพัฒนาพลับสายพันธ์นี้นานถึง 10 ปี และวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว โดย 2 ลูกแรกที่ถูกประมูลไปมีมูลค่าสูงถึง 94,000 บาท     ลูกพลับชนิดนี้มีความพิเศษที่หลากหลาย ทั้งกรอบ และมีปริมาณน้ำตาลอย่างน้อย 18% เทียบกับสายพันธ์อื่นจะมีน้ำตาล 16% สำหรับลูกพลับที่ถูกเก็บเกี่ยวในปีนี้ ได้แก่ลูกพลับที่มีปริมาณน้ำตาลมากกว่า 25% ซึ่งจะวางขายในห้างสรรพสินค้า Matsuzakaya ในนาโกย่า ส่วนลูกพลับแบบพรีเมี่ยม คาดว่าน่าจะมีอยู่ทั้งหมด 2,000 ลูก ซึ่งจะวางขายช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน และมีราคาขายปลีกอยู่ที่ลูกละ 290 บาท     ในขณะที่ลูกพลับระดับไฮเอนด์จะมีราคาสูงกว่า 3,000…

  • เมื่อปลาในทะเลสาบตายนับแสน ทางการอินเดียไม่รอช้า สั่งตัดไฟโรงงานยา 14 แห่งทันที!!!

    เมื่อปลาในทะเลสาบตายนับแสน ทางการอินเดียไม่รอช้า สั่งตัดไฟโรงงานยา 14 แห่งทันที!!!

    เหตุการณ์สารเคมีที่เข้าไปปนเปื้อนต่อระบบนิเวศมีให้เห็นมามากมายหลายเหตุการณ์ ซึ่งก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขสักที และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่นับว่าน่าเศร้าเพราะว่ามีสารเคมีที่ทำให้ปลาตายมากกว่า 230,000 ตัว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2017 ที่ผ่านมาบริเวณ Gandigudem Lake นอกเมือง Hyderabad ประเทศอินเดีย โดยทางการของรัฐ Telangana ได้ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุที่ปลาตายนับแสนตัวอาจจะมาจากโรงงานผลิตยาปฏิชีวนะเหล่านี้ ในเบื้องต้น Pollution Control Board (PCB) หรือศูนย์ควบคุมมลพิษได้สั่งให้โรงไฟฟ้าหยุดจ่ายไฟให้แก่โรงงานผลิตยาปฏิชีวนะ 14 แห่งรอบๆ บริเวณที่ปลาตาย ซึ่งจะสั่งจ่ายอีกครั้งเมื่อยินยอมทำตามแผนหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยที่ให้ไว้     สิ่งที่ตามมาหลังจากเหตุการณ์นี้ก็คือ PCB ได้สั่งให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ กว่า 29 แห่งให้จ่ายค่าชดเชยเป็นเงินกว่า 10 ล้านรูปี (ประมาณ 5 ล้านบาท) ให้แก่สมาคมชาวประมงสำหรับเหตุที่เกิดขึ้น โดยผู้รวบรวมเงินคือส่วนบริหารของภูมิภาค Sangareddy จะเป็นผู้รวบรวมแล้วส่งให้ชาวประมงต่อไป     โรงงานอีก 29 แห่งที่ว่านี้ยังถูกเรียกให้เข้ามาประชุมเพื่อหาข้อสรุปสาเหตุที่ทำให้ปลาเหล่านี้ตายจากสมาคมชาวประมง เพราะเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวประมงที่ต้องพึ่งพาทะเลสาบแห่งนี้อย่างมาก โดยส่วนใหญ่ชาวประมงที่อยู่ในบริเวณนี้จะจับปลาขึ้นมาเพื่อบริโภคหรืออาจจะจับมาเพื่อขายหาเงินจุนเจือตัวเองนั่นเอง ซึ่งจากการเก็บซากปลาที่ตายในแม่น้ำแล้วเอาขึ้นมาพิสูจน์ ตรวจสอบพบว่าสาเหตุที่ปลาตายนั้นมาจากการที่น้ำเป็นพิษนั่นเอง     ด้วยเหตุนี้ทางการจึงได้สั่งให้โรงงานต่างๆ เขียนแผนการป้องกันสารปนเปื้อนของแต่ละโรงงานลงมาเจือปนกับน้ำในแม่น้ำอีก โดยพวกเขาให้เวลาโรงงานเขียนแผนนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ สารพิษจากโรงงานทั้งหลายที่ไหลลงสู่น้ำนี้ได้ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ…

  • แบงค์โอนเงินผิด ทำให้สาวออสเตรเลีย ตื่นมาเป็นเศรษฐี มีเงินในบัญชี 650 ล้านบาท!!

    แบงค์โอนเงินผิด ทำให้สาวออสเตรเลีย ตื่นมาเป็นเศรษฐี มีเงินในบัญชี 650 ล้านบาท!!

    ใครจะไปเชื่อว่าซักวันเมื่อเราตื่นมาจะได้เป็นเศรษฐีเหมือนกับแม่สาว Clare Wainwright ชาวออสเตรเลียคนนี้ เช้าวันที่ 26 ตุลาคม Clare ได้ตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนว่ามียอดเงินเข้าในบัญชีธนาคารของเธอจำนวน 24.5 ล้านเหรียญหรือ 650 ล้านบาท!!!!     เธอได้เข้าแอพพลิเคชั่น Mobile Banking ของเธอเพื่อตรวจสอบยอดเงินนั้นทันทีซึ่งก็ได้ทราบว่ายอดเงินเหล่านั้นอยู่ในบัญชีของเธอจริงๆ     เธอได้โพสต์ภาพแสดงจำนวนเงินในธนาคารของเธอ ด้วยแคปชั่นติดตลกว่า “เมื่อธนาคาร NAB อนุมัติเงินกู้และเพิ่มเงินให้ถึง 24.5 ล้านเหรียญ ฉันจะออกนอกประเทศนี้ยังไงดีนะ”   หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้นำเงินจำนวนนี้ไปใช้แต่อย่างใด เพราะเธอรู้ว่ามันเป็นคงจะเป็นความผิดพลาดอย่างใดอย่างหนึ่งของธนาคาร เธอได้เปิดเผยเรื่องราวนี้ในรายการข่าวเช้า Nine Network ที่ได้เชิญเธอเข้าไปสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องเงินจำนวนมหาศาลที่อยู่ในบัญชีธนาคาร     “ฉันเป็นทนายความ และฉันก็คิดว่าฉันไม่สามารถใช้เงินจำนวนนั้นได้ ฉันคิดว่ามันไม่ควรนำมาใช้เลยมากกว่า” “ตอนแรกที่เห็นยอดเงินไม่ว่าใครๆ ก็ตกใจกันทั้งนั้น โอ้พระเจ้า นี่มันเกือบ 25 ล้านเหรียญเลยนะ ฉันนำยอดเงินนี้ให้โบรกเกอร์ประจำตัวของฉันดู เขาก็พูดว่า พระเจ้า มันต้องมีเรื่องที่ต้องแก้ไขแน่ๆ” Clare กล่าว     หลังจากตรวจสอบแล้วก็พบว่ายอดเงินจำนวนนี้ถูกโอนมาจากธนาคาร St.…

  • 2 ตำรวจนิวยอร์กโดนตั้งข้อหา “ข่มขืนสาววัย 18 ปี” ทั้งที่ใส่กุญแจมือ อยู่ในรถหน่วยงานด้วย!!

    2 ตำรวจนิวยอร์กโดนตั้งข้อหา “ข่มขืนสาววัย 18 ปี” ทั้งที่ใส่กุญแจมือ อยู่ในรถหน่วยงานด้วย!!

    นายตำรวจจากสถานีตำรวจนิวยอร์ก 2 นาย ตกเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนหลังจากที่ทั้งสองได้ทำการข่มขืนหญิงสาวที่ถูกใส่กุญแจมือในท้ายรถตู้ของพวกเขา เจ้าหน้าที่ Eddie Martins และ Richard Halls ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการข่มขืนเด็กสาววัย 18 ปี หลังจากที่ได้ทำการจับกุมเธอในทางใต้ของบรูคลิน     จากการรายงานของหนังสือพิมพ์ The New York Post กล่าวว่า นายตำรวจทั้งสองถูกตั้งข้อหาข่มขืนระดับ 1 ตามคำตัดสินของคณะลูกขุนเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับในข้อหามีกัญชาในครอบครอง ซึ่งตามกฎหมายแล้วในเมืองนิวยอร์กนั้นอนุญาตให้ใช้เพื่อการแพทย์ได้เท่านั้น     ทั้งสองพาตัวเหยื่อไปยังที่จอดรถของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน Coney Island ก่อนที่ทั้งสองจะบังคับให้เธอทำออรัลเซ็กส์ และจากนั้นนาย Martins ก็เริ่มลงมือข่มขืนเธอก่อน ทั้งสองได้ยอมรับกับเพื่อนร่วมงานว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงๆ แต่ทางผู้ต้องหานั้นเป็นฝ่ายยินยอมไม่ได้มีการใช้กำลังบังคับแต่อย่างใด ส่วนทางด้านฝ่ายทนายความของผู้เสียหาย ได้เรียกร้องให้ทางสถานีตำรวจนิวยอร์กลงโทษทางวินัยอย่างหนักกับนายตำรวจทั้งสอง “เราคาดหวังว่าทางสถานีตำรวจต้นสังกัดควรจะดำเนินการเรื่องนี้ทันที และให้พวกเขาออกจากราชการ” คุณ Michael David ทนายความของเหยื่อสาวกล่าว     และนอกจากนี้ทางทนายความของเหยื่อยังได้ออกมาโต้แย้งในกรณีที่ว่าลูกความของเขายินยอมและเธอไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายใดๆ เลย และตอนนี้คดีความของนายตำรวจ 2 คนนี้กำลังอยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐาน และพิจารณาคดีในชั้นศาลต่อไป และทั้งสองยังต้องเข้ารับการพิจารณาคดีในชั้นศาลอีกครั้งในสัปดาห์หน้าซึ่งถ้าหากมีความผิดจริงพวกเขาจะถูกจำคุกเป็นเวลา 25 ปี   ที่มา independent

  • คลิปซิ๊ดๆ สาธิตการตัดจมูกเล็บออกแบบฟินๆ สำหรับคนที่เสพติดความเจ็บปวด…

    คลิปซิ๊ดๆ สาธิตการตัดจมูกเล็บออกแบบฟินๆ สำหรับคนที่เสพติดความเจ็บปวด…

    อู้ววว ซิ๊ดดด จิ๊ดดด… ใครที่ชอบดูคลิปความเจ็บปวดที่เกิดกับร่างกาย คุณมาถูกทางแล้ว แต่หาคุณเป็นคนจิตใจอ่อนไหวง่าย ไม่ชอบความรุนแรง คุณสามารถข้ามบทความนี้ไปเลยนะ ความเจ็บปวดอย่างหนึ่งที่ผู้คนชอบนำมาแชร์ในโซเชียลคือ “การตัดจมูกเล็บ” ไม่ใช่เพื่อนำเสนอความเจ็บปวดนะ แต่เป็นการสอนตัดจมูกเล็บด้วยวิธีต่างๆ ใครที่เคยเป็นคงจะเข้าใจดีว่าทำไมต้องสอนเรื่องพวกนี้ ว่ากันด้วยเรื่องจมูกเล็บหรือเล็บขบ ที่เป็นพื้นผิวเล็กๆ ห้อยออกจากเนื้อบริเวณเหนือเล็บ เมื่อขาดการดูแลที่ถูกต้องมักจะเกิดความความแห้ง เจ็บปวดและอาจติดเชื้อจนทำให้เกิดอาการบวมและแดงขึ้นมา     และเมื่อเข้าสู่ระยะที่บวมแล้ว ทางเดียวที่พ้นจากความเจ็บปวดนั้นคือ การตัดจมูกเล็บออกซะ พูดเหมือนง่ายแต่ทำยากเด้อ เพราะหลายคนมักจะทำให้จมูกเล็บฉีกระหว่างตัดออก เพราะใช้วิธีที่ไม่ถูก แถมยังเป็นการเพิ่มเลเวลความเจ็บปวดขึ้นไปอีก เว็บไซต์ Mayo Clinic ได้แนะนำว่าวิธีการรักษาเล็บขบอยู่สองวิธีคือ การใช้ไหมขัดฟันค่อยยกเล็บส่วนที่เป็นเล็บขบขึ้นจากเนื้อหนัง แล้วก็ตัดออก อีกวิธีหนึ่งคือให้หมอถอดเล็บออกหมดเลย เพื่อป้องกันการงอกของเล็บขบ ในกรณีที่ตัดออกไม่หมด แต่ก็มีอีกหลายคนที่มีวิธีรักษาเล็บขบในแบบฉบับของตัวเอง และได้นำวิธีเหล่านั้นมาแชร์ลงโซเชียล เผื่อจะเป็นความรู้ให้คนอื่นๆ ด้วย     สำหรับใครที่อยากดูคลิปการตัดจมูกเล็บ ไม่ต้องเสียเวลาหา เพราะยูทูบช่อง IngrownLife ได้รวบรวมมาให้ส่วนหนึ่งแล้ว รับรองว่าฟินได้ใจแน่ๆ      หลังจากตัดส่วนที่เป็นเล็บออกไปแล้ว ต้องดึงส่วนหนังที่เหลือออกด้วยนะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเล็บขบซ้ำอีก อื้มม มันก็จะซิ๊ดๆ หน่อยอะนะ     สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะเลือกกำจัดเล็บขบด้วยตัวเอง…

  • สองสาวเล่าประสบการณ์ ติดอยู่กลางทะเล 5 เดือน ที่สุดท้ายก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์

    สองสาวเล่าประสบการณ์ ติดอยู่กลางทะเล 5 เดือน ที่สุดท้ายก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์

    จะเป็นอย่างไรหากเราจำเป็นต้องเอาชีวิตรอดอยู่กลางทะเลโดยไม่สามารถเดินทางกลับชายฝั่งได้ด้วยตัวเอง เหมือนกับเหตุการณ์ที่ผู้หญิงสองคนนี้ต้องเจอ ทั้งสองมีชื่อว่า Jennifer Appel และ Tasha Fuiava หญิงสาวจากนครโฮโนลูลู ในรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา พวกเธอได้บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางไปยังเกาะตาฮิตี ที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ซึ่งระหว่างการเดินทางครั้งนี้กลับเกิดปัญหาที่เหนือความคาดหมาย จนทำให้พวกเธอต้องติดอยู่กลางทะลนานกว่า 5 เดือน!!   Tasha (คนซ้าย) และ Jennifer (คนขวา)   พวกเธอออกทะเลกันไปตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พอผ่านไปเป็นเวลาเกือบเดือน ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนจึงทำให้เรือของพวกเธอสูญเสียพลังงานจนไม่สามารถเดินทางต่อได้และต้องติดอยู่กลางทะเล เรื่องที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือโทรศัพท์มือถือของเธอที่มีกันอยู่เครื่องเดียวจมลงไปในทะเลตั้งแต่วันแรกที่ออกเดินทาง     การเอาชีวิตรอดของพวกเธอจึงเริ่มต้นขึ้นและต้องเจอกับอุปสรรคอีกมาก เครื่องกรองน้ำที่มีอยู่บนเรือใช้การไม่ได้จนทำให้พวกเธอเกือบต้องตายเพราะว่าขาดน้ำ แต่โชคดีที่ Jennifer สามารถซ่อมมันได้ ในคืนหนึ่งมีฝูงฉลามเข้าโจมตีเรือลำน้อยของพวกเธอ สร้างความหวาดผวาให้กับสองสาวเป็นอย่างมาก พวกเธอบอกว่า “ฉันรู้สึกหวาดกลัวและรีบพาน้องหมาที่พามาด้วยลงไปใต้ท้องเรือ ทำตัวให้เงียบที่สุดเพื่อไม่ให้ฉลามได้ยินเสียงหรือได้กลิ่นพวกเรา” คืนนั้นพวกเธอสามารถรอดตายมาได้เพราะความแข็งแรงของเรือทำให้ฉลามไม่สามารถจมเรือพวกเธอลงได้ แต่ในวันรุ่งขึ้นเธอก็บอกว่ามีฉลามอยู่ตัวหนึ่งว่ายกลับมาหา   ภาพของ Zeus หนึ่งในน้องหมาที่พวกเธอพามาด้วย   ตลอดช่วงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือนานถึง 98 วัน พวกเธอพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออยู่ตลอด แต่เพราะระยะทางที่ไกลจากฝั่งมากเกินไป รวมถึงคนที่แล่นผ่านไปมาก็ไม่อาจสังเกตเห็นได้เลย ความรู้สึกตอนนั้นพวกเธอบอกว่า…

  • เด็กหญิงชาวปากีสถานวัย 9 ขวบ ป่วยเป็นโรคประหลาด ส่งผลทำให้คองอ 90 องศา!?

    เด็กหญิงชาวปากีสถานวัย 9 ขวบ ป่วยเป็นโรคประหลาด ส่งผลทำให้คองอ 90 องศา!?

    ทุกวันนี้แม้เทคโนโลยีจะพัฒนามากขึ้น มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาทุกโรคที่มีอยู่บนโลกนี้ได้ เนื่องจากมีบางโรคที่เพิ่งถูกค้นพบและไม่สามารถระบุได้ว่ามันเกิดจากอะไร เหมือนกับโรคที่ Afhseen Qumbar เด็กหญิงวัย 9 ขวบคนนี้เผชิญอยู่ในตอนนี้ เป็นสภาพความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ทำให้คอของเธองอ 90 องศา และไม่สามารถยืนหรือเดินได้ปกติ นอกจากต้องนั่งเพียงอย่างเดียว เด็กหญิงคนนี้อาศัยอยู่ใน Mithi จังหวัด Singh ของปากีสถาน โดยต้องมีคนคอยช่วยเหลือเธอในเรื่องการกินและการเข้าห้องน้ำ     พ่อของเด็กหญิง Allah Jurio วัย 55 ปี และแม่ Jameelan วัย 50 ปี เผยว่าพวกเขาได้ปรึกษาแพทย์มาแล้วหลายคน แต่ได้คำตอบว่าความผิดปกตินี้ไม่สามารถรักษาได้ใน Mithi Jameelan บอกว่า “มันเป็นความเจ็บปวดที่ต้องเห็นลูกมีชีวิตในสภาพแบบนั้น ฉันไม่อยากเห็นเธอต้องอยู่อย่างทรมานอีกต่อไป แต่ไม่มีหมอคนไหนวินิจฉัยความผิดปกตินี้ได้เลย” “มีคนแนะนำให้พาเธอไปที่ Jinnah Post Graduate Medical Centre ใน Karachi แต่เราไม่มีเงินพอสำหรับโรงพยาบาลขนาดใหญ่แบบนั้น” ผู้เป็นแม่บอก     ย้อนกลับไปตอนที่ Afsheen เกิด เธอเป็นทารกปกติเหมือนพี่น้องอีก 6 คน แต่แล้วสภาพร่างกายของเธอก็เปลี่ยนไปเมื่ออายุได้ 8 เดือน มันเกิดขึ้นที่ตอนที่เด็กน้อยเล่นอยู่นอกบ้านแล้วเกิดหกล้ม จนทำให้เธอปวดคอ ตอนแรกพ่อแม่ไม่คิดว่าจะเป็นอะไรร้ายแรงเลยปล่อยไว้แบบนั้น…

  • ล้ำไปอีก!! จีนผุด “รถบัสอัจฉริยะ” ไร้คนขับ ที่ดูเหมือนรถไฟวิ่งบนรางเป็นครั้งแรกของโลก

    ล้ำไปอีก!! จีนผุด “รถบัสอัจฉริยะ” ไร้คนขับ ที่ดูเหมือนรถไฟวิ่งบนรางเป็นครั้งแรกของโลก

    วันที่ 24 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า ผู้ผลิตรถไฟของจีนได้พัฒนารถบัสอัจฉริยะเออาร์ที (ART – Autonomous Rail Rapid Transit) แบบไม่จำเป็นต้องพึ่งคนขับเป็นครั้งแรกของโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการนำออกมาทดสอบบนถนนในนครจูโจว มณฑลหูหนานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     จากการรายงานระบุว่า รถโดยสารดังกล่าวถูกพัฒนาโดยหน่วยวิจัยของบริษัท CRRC Zhuzhou Locomotive ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย ART เป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ารุ่นมาตรฐานที่มีความยาวราว 30 เมตร มีขนาดกว้าง 3.75 เมตร เดินทางด้วยความเร็ว 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถจุผู้โดยสารได้มากถึง 300 คนเลยทีเดียว     นอกจากนี้ ART ยังมาในรูปลักษณ์ที่ผสมผสานระหว่างรสบัสและรถไฟแบบดั้งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมถูกติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ที่สามารถวัดขนาดถนน และวางแผนเส้นทางได้ด้วยตัวเอง   สุดยอดดด!!   ด้าน Feng Jianghua หัวหน้าวิศวกรรถไฟได้ออกมากล่าวว่า “การสร้างรถบัส ART ขึ้นมาจะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเมื่อเทียบกับการสร้างระบบรถไฟใต้ดิน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 150-200…

  • เด็กนักเรียนญี่ปุ่นยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ เพราะบังคับให้ย้อมผมสีดำ ทั้งที่ผมสีน้ำตาลโดยกำเนิด

    เด็กนักเรียนญี่ปุ่นยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ เพราะบังคับให้ย้อมผมสีดำ ทั้งที่ผมสีน้ำตาลโดยกำเนิด

    ในโรงเรียนทุกที่ต้องมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด เพื่อที่จะได้ทำให้เด็กมีระเบียบวินัยและสามารถออกไปสู่โลกภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่บางครั้งกฎระเบียบก็อาจจะต้องมีขอบเขตสักนิด เพราะไม่งั้นมันอาจสร้างปัญหายุ่งยากตามมาได้… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อมีหญิงสาวอายุ 18 ปีคนหนึ่ง ได้ยื่นเรื่องต่อศาลแขวง Osaka ประเทศญี่ปุ่น ฟ้องค่าเสียหายมูลค่า 2.2 ล้านเยน (ประมาณ 640,000 บาท) จากกรณีที่เธอถูกโรงเรียน Kaifukan บังคับให้ย้อมสีเป็นผมสีดำมิเช่นนั้นจะไม่ให้เธอมาเรียนอีกต่อไป โดยทางการ Osaka รวมถึงโรงเรียนมัธยมได้พยายามคัดค้านศาลให้ยกเลิกคดีนี้     กฎสีผมนักเรียน ของโรงเรียนในญี่ปุ่น โรงเรียนไฮสคูลหลายแห่งใน Osaka มีการลงทะเบียนเกี่ยวกับเรื่องสีผมตามธรรมชาติที่ไม่ใช่สีดำให้สามารถตรวจสอบได้ เมื่อถึงเวลาตรวจสอบนักเรียนประเภทนี้จะถูกตรวจสอบเส้นผม แล้วนำไปบันทึกลงข้อมูลเอาไว้ และนักเรียนประเภทนี้ยังต้องมีใบรับรองสีผมเพื่อที่จะรับรองได้ว่าพวกเขาไม่ได้โกหก หากพวกเขามีสีผมอื่นๆ ตามธรรมชาติจริงๆ   โรงเรียนมีกฎห้ามย้อมผมเป็นสีอื่น เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องย้อมดำ!? ก่อนหน้าที่จะเข้าเรียนแม่ของเธอได้แจ้งกับทางโรงเรียนก่อนแล้วว่าเธอนั้นมีผลสีน้้ำตาลมาตั้งแต่กำเนิด แต่คุณครูในโรงเรียนกลับบังคับให้เธอย้อมผมเป็นสีดำหลายครั้งทำให้เธอมีผื่นขึ้นบนหนังศีรษะ รวมทั้งหนังศีรษะลอกเนื่องจากฤทธิ์ของยาย้อมผมทำให้เธอทุกข์ทรมานมาก แต่คุณครูก็บอกว่านั่นยังดำไม่พอในเวลาที่ผมงอกออกมาใหม่ และยังถามนักเรียนสาวคนนี้อีกว่าจะย้อมผมหรือจะออกจากโรงเรียนไป? ซึ่งนั่นทำให้เธอหยุดไปโรงเรียนตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว     ติดแบล็คลิสต์ จนถึงขั้นไม่ได้ไปโรงเรียน มีเหตุการณ์หนึ่งที่คุณครูใช้คำพูดรุนแรงกับนักเรียนสาวคนนี้โดยเธอบอกว่า “เพราะเธอเป็นลูกไม่มีพ่อใช่ไหม ถึงชอบทำตัวเด่นที่จะเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีน้ำตาลอยูเรื่อย” ซึ่งหลังจากเธอได้ยินคำพูดนี้ก็ทำให้เธอมีอาการ Hyperventilate หรือที่เราเรียกกันว่า โรคไฮเปอร์จนต้องรีบส่งเข้าโรงพยาบาล เมื่อกันยายนปีที่แล้วก็มีคุณครูคนหนึ่งออกมาบอกกับนักเรียนสาวรายนี้ว่า “ถ้าเธอไม่ย้อมผมเป็นสีดำ เธอก็ไม่ต้องมาโรงเรียนอีกต่อไป”…

  • วัยรุ่นสังหารเพื่อนตัวเอง เพราะลวนลามแฟนสาว หลังขอปั่มป๊ามแล้วเธอไม่ยอม!!

    วัยรุ่นสังหารเพื่อนตัวเอง เพราะลวนลามแฟนสาว หลังขอปั่มป๊ามแล้วเธอไม่ยอม!!

    เพื่อนแท้คือคนที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ช่วยเหลือกัน แบ่งปันทุกอย่างให้กันและ แต่ไม่ว่าจะสนิทกันมากแค่ไหน บางอย่างย่อมต้องมีขอบเขต โดยเฉพาะแฟนที่เพื่อนไม่สามารถใช่ร่วมกันได้… และหากคุณคิดว่าสามารถใช้แฟนร่วมกับเพื่อนได้ มันอาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมเหมือนกรณีนี้ เมื่อชายคนหนึ่งขอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนเพื่อน จนทำให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียในที่สุด นาย Nikita Rasskazov อายุ 16 ปี ได้ลงมือสังหารนาย Artyom Shustov วัย 19 หลังจากที่แฟนสาวของเขามาบอกว่าถูกนาย Shustov ขืนใจในงานปาร์ตี้ เพราะเธอไม่ยอมมีเซ็กส์กับเขา     Olena Matsneva วัย 17 ปี แฟนสาวของ Rasskazov ได้เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นว่า Shustov และเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆ ได้จับหน้าอกและอวัยวะเพศของเธอ โดยมีเพื่อนผู้หญิงคอยช่วยล็อคตัวเธอเอาไว้ เหตุการณ์นี้ทำให้ Matsneva ทั้งอับอายและเจ็บใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่กล้าไปแจ้งตำรวจว่าตัวเองถูกข่มขืน… ทางด้าน Rasskazov อ้างว่าเขาไม่ได้ตั้งใจฆ่าหรือตัดหัวของเพื่อน แต่เขาแค่อยากให้เพื่อนคนนั้นขอโทษแฟนสาวตอนที่พวกเขามาเจอกันในวันที่ 28 ตุลาคม ปี 2016     แต่แล้วระหว่างที่พูดคุยกันดูเหมือนต่างฝ่ายต่างไม่ยอม จนเกิดการทะเลาะวิวาทและลงไม้ลงมือกัน ในที่สุด Rasskazov ในวัย 16 ปีก็ก่อเหตุแทงเพื่อนของเขาจนเสียชีวิตในสวนสาธารณะที่ Komsomolsk-on-Amur…

  • ถึงกับงง! หมาพันธุ์ Puli ตัวหนึ่งที่เจ้าของแต่งตัวให้มันเป็นไม้ม็อบ ทำเอาขโมยซีนงานทั้งงานเลย

    ถึงกับงง! หมาพันธุ์ Puli ตัวหนึ่งที่เจ้าของแต่งตัวให้มันเป็นไม้ม็อบ ทำเอาขโมยซีนงานทั้งงานเลย

    เคยไหม เวลาเราไปงานโชว์สัตว์เลี้ยงก็จะเห็นพวกมันแต่งตัวกันแสนจะน่ารัก อย่างเป็นซุปเปอร์ฮีโร่หรือเป็นตัวละครในหนังสือการ์ตูนต่างๆ แต่ว่าในวันนี้มีหมาอยู่ตัวหนึ่งที่แหวกแนวเดิมๆ ถึงขั้นขโมยซีนทั้งงานเพราะเจ้าของมันแต่งตัวให้มันเป็นไม้ถูพื้น?? ที่เมืองหนึ่งที่อยู่ในรัฐ Kentucky ชื่อว่า Covington จะมีเทศกาลประจำปีอยู่งานหนึ่งชื่อว่า Mainstrasse Paw-Rade ซึ่งนี่เป็นงานที่ผู้คนจะนำสัตว์เลี้ยงมาแต่งตัวเป็นตัวต่างๆ แล้วนำมาประกวดกัน แต่ว่าในปีนี้มีหมาพันธุ์ Puli อยู่ตัวหนึ่งชื่อว่าเจ้า Keki ด้วยความที่หมาพันธุ์นี้จะมีขนที่ดกเป็นอย่างมากเจ้าของมันจึงมีไอเดียแปลกๆ จับมันมานั่งในถังซับน้ำแล้วเดินไปรอบๆ ทั้งงานจนสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่คนที่พบเจออย่างมาก เพราะว่ามันเหมือนกับไม้ถูพื้นจริงๆ นั่นเอง   พาไม้ม็อบมาเดินเล่นได้ด้วยหรอ   ไม้ม็อบอันนี้แปลกๆ นะ มีลิ้นด้วย…   สงสัยพื้นสกปรกจัด ดำเชียว   ฮัลโหล ไม่ต้องงง นี่หมาเอง   มีคนมาเล่นด้วยแล้วว   และหลังจากที่ภาพสุดน่ารักของมันได้ลงสู่โลกไซเบอร์ก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย อย่าง   “มันทำให้ฉันยิ้มออกและสามารถผ่านวันยากๆ ไปได้จริงๆ”   คนนี้แต่งกลอนให้มันเลยทีเดียว   แหม มันช่างน่ารักน่าแกล้งอะไรขนาดนี้ ต้องให้เครดิตเจ้าของเลยนะเนี่ยที่มีไอเดียที่ทำให้คนยิ้มได้อย่างนี้ ที่มา: boredpanda

  • อย่างเจ๋ง! นักวิทยาศาสตร์จีนพัฒนาสายพันธุ์ข้าว ให้สามารถปลูกในน้ำเค็มได้แล้ว!?

    อย่างเจ๋ง! นักวิทยาศาสตร์จีนพัฒนาสายพันธุ์ข้าว ให้สามารถปลูกในน้ำเค็มได้แล้ว!?

    ข้าวเป็นอาหารหลักของผู้คนในหลายๆ ประเทศ เมื่อมีผู้บริโภคจำนวนมากก็ทำให้ต้องหาแหล่งที่ใช้ปลูกจำนวนมากตามไปด้วย แต่ปัญหานี้จะหมดไปเพราะว่านักวิทยาศาสตร์จากประเทศจีนได้พัฒนาให้สามารถปลูกในน้ำเค็มได้แล้ว!! ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา มีข้าวมากกว่า 200 ชนิดได้ปลูกที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาข้าวแห่งเมือง Qingdao ซึ่งเป็นเมืองติดชายฝั่งแห่งหนึ่งในมณฑล Shandong ประเทศจีน โดยพวกเขาได้สูบน้ำจากทะเลเหลืองขึ้นมาทำให้เจือจางและใช้ในการทดลองปลูกข้าวจากน้ำทะเลนี้     การเจือจางสำหรับการปลูกข้าวได้นั้นจะเจือจางโดยการผสมน้ำจืดธรรมดาเพื่อลดความเค็มของน้ำทะเลลงให้เหลือ 6 กรัมต่อ 1 ลิตร ซึ่งจริงๆ แล้วน้ำทะเลมีความเค็มกว่าเกลือถึง 5 เท่า Yuan Longping ผู้นำการวิจัยในครั้งนี้กล่าวว่า การปลูกข้าวสายพันธุ์นี้จะสามารถช่วยให้ผู้คนได้มีข้าวกินได้ถึง 200 ล้านคน โดยการปลูกข้าวในน้ำเค็มนี้มีการทดลองมาแล้วหลายครั้งในประเทศจีน     และในตอนนี้ข้าวที่ปลูกในน้ำเค็มเหล่านี้ก็ได้ออกสู่ตลาดให้ผู้คนได้ทดลองชิมแล้วโดยพวกเขาใช้ชื่อว่า “ํYuan Mi” ซึ่งนี่เป็นความภาคภูมิใจของนักวิทยาศาสตร์ที่ได้พัฒนามันขึ้นมาอีกด้วย สำหรับข้าวที่พวกเขานำมาขายนี้เป็นการปลูกจากปีที่แล้ว และในปีนี้ข้าวที่ปลูกไว้ก็พร้อมให้เก็บเกี่ยวในเดือนพฤศจิกายนที่จะมาถึง     โดยราคาของข้าวชนิดนี้จะมีราคาที่แพงกว่าข้าวปกติถึง 8 เท่าโดยราคาขายต่อ 1 กิโลกรัมจะอยู่ที่ 250 บาท แต่ว่าข้าวชนิดนี้จะมีแคลเซียมและธาตุอาหารที่มีอยู่มากมายจากน้ำทะเลเข้ามาเสริมด้วย นอกจากนั้นเกลือจากน้ำทะเลสามารถที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่อยู่ในเม็ดข้าวได้ ทำให้ข้าวชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพนั่นเอง   ที่มา: nextshark , scmp

  • ทำไปได้! สองหัวขโมยฉกกระเป๋าเงินคุณยายวัย 87 ปี ในซุปเปอร์มาเก็ตก่อนเดินออกไปหน้าตาเฉย

    ทำไปได้! สองหัวขโมยฉกกระเป๋าเงินคุณยายวัย 87 ปี ในซุปเปอร์มาเก็ตก่อนเดินออกไปหน้าตาเฉย

    ขึ้นชื่อว่าหัวขโมย ก็สามารถนำสิ่งของที่เป็นของคนอื่นมาเป็นของตัวเองได้โดยง่าย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะไร้หัวใจขนาดขโมยกระเป๋าตังของคุณยายแก่ๆ ได้ลงคอ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ร้าน Aldi เมือง Shropshire ประเทศอังกฤษ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า คนร้ายทั้ง 2 คนได้เล็งคุณยายคนหนึ่งอายุ 87 ปีไว้เป็นเหยื่อจากนั้นคนแรกก็ทำทีเข้าไปพูดคุย และคนร้ายคนที่สองก็ล้วงเข้าไปที่กระเป๋าถือของคุณยายเพื่อที่จะค้นหากระเป๋าตัง   รอจังหวะก่อน   โดยในครั้งแรกนั้นคนร้ายเห็นว่ามีจังหวะที่ไม่ดีจึงดึงมือกลับออกมา ก่อนที่จะลงมือซ้ำในครั้งที่ 2 และได้กระเป๋าเงินไป ก่อนที่จะเดินออกไปอย่างหน้าตาเฉย   หมับเข้าให้   ในตอนนี้ทางตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดและกำลังหาตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งสันนิษฐานไว้ว่าเป็นชาวยุโรปตะวันออก และมีอายุราวๆ 40-50 ปี โดยคนแรกมีผมสั้นและสวมแจ๊คเก็ตสีน้ำเงิน ส่วนคนที่สองหัวล้านสวมแว่นตาและมีรูปร่างค่อนข้างท้วม   หน้าตาของผู้ร้ายทั้งสอง   ลองมาชมภาพขณะก่อเหตุกันดูดีกว่า   ขนาดคนแก่ยังไม่เว้นอย่างนี้ ก็ขอให้โดนจับในเร็ววันด้วยเถอะ ที่มา: dailymail

  • คุณแม่เผยภาพอันน่าเศร้าของลูกชายผู้มีบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง จนถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย

    คุณแม่เผยภาพอันน่าเศร้าของลูกชายผู้มีบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง จนถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย

    ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่งจะมีลักษณะการแสดงออกทางอารมณ์ที่แตกต่างไปจากคนปกติ โมโหร้าย ฉุนเฉียวง่ายและแสดงออกมาเป็นการใช้ความรุนแรง หรือหนักกว่านั้นพวกเขาอาจถึงกับตัดสินใจฆ่าตัวตายเช่นเดียวกับเด็กหนุ่มคนนี้ เมื่อคุณแม่ที่ชื่อว่า Helen Barnes ได้แชร์เรื่องราวของลูกชายเธอ Jack ผู้ที่มีอาการผิดปกติดังกล่าว และได้พยายามฆ่าตัวตายในวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ความผิดปกติของเขาเริ่มต้นขึ้นในเมือง Pembrokeshire ประเทศเวลส์ ตอนที่เขาอายุได้ 13 ปี ในตอนนั้นเด็กหนุ่มต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อให้สามารถจัดการกับความโกรธของตัวเอง   Helen และลูกชายของเธอ Jack   เวลาผ่านไปจนกระทั่งอายุได้ 15 ปีเขาก็เริ่มมีการแสดงออกที่ค่อนข้างรุนแรง หากรู้สึกหงุดหงิดเขาก็จะทำลายข้าวของ กรีดแขนตัวเอง ต่อยกระจกหรือกำแพง ทั้งหมดนั้นทำให้แม่ของเขารู้สึกเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก และถึงแม้เขาจะมีเพื่อนบ้างเล็กน้อย แต่เด็กหนุ่มก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องเล่นเกม ไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเหมือนเด็กๆ ในวัยเดียวกัน ในตอนนั้นความผิดปกติของเขารุนแรงถึงขั้นตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ช่วยเขาไว้ได้ทันก่อนที่คุณหมอจะวินิจฉัยว่าสิ่งที่เขาเป็นอยู่นี้เป็นผลมาจากความผิดปกติของบุคลิกภาพ Helen เล่าว่า “ครั้งแรกที่โรงเรียนโทรมาบอกว่าเขาต่อยกำแพง ฉันรู้สึกว่านั่นไม่ใช่เขาเพราะเขาเป็นเด็กดีมาตลอด เอาใจใส่ดูแลคนใกล้ตัวโดยเฉพาะน้องสาวฝาแฝด Lucy และ Jordan Arthur น้องชายอีกคน” หลังจากนั้นมาเด็กหนุ่มได้เข้ารับการบำบัดเกี่ยวกับพฤติกรรมและการพูดคุย รวมถึงการบำบัดกันเป็นกลุ่มทุกๆ เดือน     พออายุ 18…

  • ช่างภาพตามถ่ายใบหน้าของลูกครึ่งญี่ปุ่นจาก 192 ประเทศ หน้าตาจะเป็นแบบไหนกันนะ??

    ช่างภาพตามถ่ายใบหน้าของลูกครึ่งญี่ปุ่นจาก 192 ประเทศ หน้าตาจะเป็นแบบไหนกันนะ??

    มนุษย์แต่ละเชื้อชาตินั้นมักจะมีหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ จนทำให้เราสามารถเดาเชื้อสายคนจากใบหน้าได้ เว้นแต่คนที่เป็นลูกครึ่ง ที่อาจจะเดายากสักหน่อย ด้วยเหตุนี้ช่างภาพลูกครึ่งเบลเยียม-ญี่ปุ่น จึงได้ตามถ่ายภาพใบหน้าของผู้ที่มีเชื้อสายญี่ปุ่นในโตเกียว เพื่อแสดงให้เห็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนเป็นลูกครึ่ง นี่คือโปรเจกต์ Hafu2Hafu ของ Tetsuro Miyazaki ที่ได้สัมภาษณ์ผู้มี่เชื่อสายญี่ปุ่น และเรียนรู้เกี่ยวกับอัตลักษณ์ของพวกเขา     Miyazaki บอกว่า “ผมต้องการให้ผู้คนเข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความซับซ้อนของตัวตน เมื่อพ่อแม่ของพวกเขาไม่ใช่คนเชื้อสายเดียวกัน” ส่วนตัวช่างภาพเองนั้น อายุ 39 ปี พ่อเป็นชาวญี่ปุ่น แม่เป็นชาวเบลเยี่ยม ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และล่าสุดโครงการของเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากองค์ไม่แสวงหาผลกำไรหลายแห่งในสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ด้วย     ภาพถ่ายของ Miyazaki ถูกอัพโหลดบนหน้าเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย โดยมีคำบรรยายว่าโปรเจกต์นี้ต้องการนำเสนอภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์ของการเป็นลูกครึ่ง เขาได้จัดทำเป็นภาพพร้อมคำถามเกี่ยวกับลูกครึ่งในช่วงวัยที่แตกต่างกันทั้งเพศ ที่อยู่อาศัย และเป็นการรวบรวมลูกครึ่งเชื้อสายญี่ปุ่นจาก 192 ประเทศทั่วโลก หลังจากที่โปรเจกต์ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับการยกย่องจาก The New York Times เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยเขียนไว้ในบทความเรื่อง Hapa Japan Festival ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองสำหรับเชื้อสายผสม เชื่อสายผสมญี่ปุ่นและวัฒนธรรม     Miyazaki ใช้เวลาในการทำโปรเจกต์ Hafu2Hafu ยาวนานถึง 2 ปีด้วยกัน เขาได้ทำการสัมภาษณ์ไปแล้ว…

  • หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคจำได้ทุกอย่าง เปิดเผยความรู้สึกแรกหลังจากที่มีความสามารถนี้

    หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคจำได้ทุกอย่าง เปิดเผยความรู้สึกแรกหลังจากที่มีความสามารถนี้

    เราแทบทุกคนไม่สามารถจำได้ว่าตอนเป็นเด็กเรารู้สึกอย่างไรหรือมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งนั้นเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อเราใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ความทรงจำเก่าๆ ก็จะยิ่งเลือนรางจางหายไปทุกที แต่สิ่งที่ว่ามานั้นกลับไม่ได้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่มีชื่อว่า Rebecca Sharrock ผู้ป่วยเป็นโรค Highly Superior Autobiographical Memory (หรือที่เรียกว่า HSAM) ทำให้เธอสามารถจำเหตุการณ์ในชีวิตของเธอได้แทบจะทั้งหมด แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ     โรค HSAM เรียกได้ว่าหายากมากๆ มีเพียงไม่ถึง 100 คนบนโลก โดยผู้ป่วยสามารถจดจำความรู้สึกหรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ แต่หากเป็นเรื่องอื่นๆ หรือของคนรอบข้างความจำก็จะมีความเลือนรางอยู่เหมือนคนทั่วไป ซึ่งโรคดังกล่าวยังคงไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเกิดจากอะไร ในกรณีตัวอย่างของเธอคนนี้ที่ิอาศัยอยู่ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย แม้ว่าจะไม่สามารถจำวันแรกที่ตัวเองลืมตาดูโลกได้ แต่เธอสามารถจดจำทุกอย่าง ทั้งความรู้สึก ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือแม้กระทั่งรสชาติอาหาร ซึ่งเธอจำได้ตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอายุเพียงแค่ 12 วันเท่านั้น   เธอสามารถจำความรู้สึกของตัวเองในตอนที่อายุเพียงแค่ 12 วันได้   เธอเล่าว่า “ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันน่าจะนอนอยู่บนเปลในโรงพยาบาล และตอนที่ได้อยู่ในห้องนอนก็มีความรู้สึกหลงใหลไปกับพัดลมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่สามารถลุกออกไปดูและทำความรู้จักกับมันได้” เล่าต่ออีกว่าตอนที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ จะพูดหรือใช้เครื่องมือต่างๆ ก็ไม่ได้ ในตอนนั้นเธอรู้สึกสนใจและสงสัยสิ่งรอบตัวมากกว่าปัจจุบันหลายเท่าเลย แสดงให้เห็นเลยว่าเธอสามารถจดจำได้กระทั่งว่าตอนนั้นเธอรู้สึกอย่างไร   คนทั่วไปแค่คิดถึงตอนอายุ…

  • การแต่งงานแปลกๆ ของหนุ่มอินโดนีเซีย ที่เล่นแต่งทีเดียวพร้อมกันกับเจ้าสาวถึง 2 คน!!

    การแต่งงานแปลกๆ ของหนุ่มอินโดนีเซีย ที่เล่นแต่งทีเดียวพร้อมกันกับเจ้าสาวถึง 2 คน!!

    การมีภรรยาหลายคนเป็นเรื่องที่ผู้ชายในประเทศอินโดนีเซียสามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย โดยแต่งงานกับผู้หญิงทีละคน แต่จู่ๆ ในโลกโซเชียลก็เกิดกระแสฮือฮาขึ้น เมื่อมีภาพการ์ดงานแต่งถูกแชร์ออกไปอย่างมากมาย สาเหตุที่มันดังก็เพราะว่าในการ์ดระบุว่ามีเจ้าสาว 2 คน ในขณะที่เจ้าบ่าวมีเพียงคนเดียว!? ชาวเน็ตหลายคนที่ได้เห็นต่างก็คิดว่ามันอาจเป็นเพียงแค่มุขตลกทำขึ้นมาขำๆ ก็ได้ แต่ทางสำนักข่าว Detik ของอินโดนีเซียได้ออกมายืนยันแล้วว่าบัตรเชิญที่ได้เห็นกันนั้นมันคือของจริง   บัตรเชิญงานแต่งของจริง ที่ประกอบด้วย 1 เจ้าบ่าว 2 เจ้าสาว   การแต่งงานดังกล่าวเกิดขึ้นในหมู่บ้าน Teluk Kijing ทางตอนใต้ของเกาะสุมาตรา โดยเจ้าบ่าวของงาน Panser ได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้แบ่งการแต่งงานออกเป็น 3 วัน วันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมาเขาแต่งงานกับเจ้าสาวคนแรกก่อน ต่อมาในวันที่ 8 ก็แต่งกับอีกคนหนึ่ง และสุดท้ายก็คือวันเฉลิมฉลองครั้งใหญ่สำหรับทั้งสามคนที่จัดขึ้นในวันที่ 9 ตุลาคม คิดแล้วก็คงหมดค่างานแต่งไปเยอะอยู่นะ ก่อนหน้านั้นเขาได้เข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของเจ้าสาวทั้งสอง Cindra และ Indah ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคุณพ่อคุณแม่ของฝั่งผู้หญิงก็เห็นด้วยกับกำหนดการของงานนี้   ชายหนุ่มมีเจ้าสาวชื่อ Indah หญิงสาวในเมืองเดียวกัน และ Cindra สาวจากหมู่บ้านใกล้ๆ   แม้ว่าเรื่องนี้จะดูแปลกตาสำหรับพวกเรา…

  • ครอบครัวเร่งช่วยเหลือชายชาวฟิลิปปินส์ที่ขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าวเป็นเวลานานกว่า 3 ปี!?

    ครอบครัวเร่งช่วยเหลือชายชาวฟิลิปปินส์ที่ขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าวเป็นเวลานานกว่า 3 ปี!?

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะมีคนที่อยู่กินบนต้นไม้นานถึง 3 ปีโดยไม่ลงมาเลย ซึ่งพอเกริ่นแบบนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันโอเวอร์ แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ ที่สำคัญยังเป็นต้นมะพร้าวอีกด้วย!? Gilbert Sanchez ชายชาวฟิลิปปินส์วัย 47 ปี จากเมือง La Paz คือชายผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ โดยเขาได้หนีจากการใช้ชีวิตบนพื้นดินขึ้นไปบนอยู่บนต้นมะพร้าวตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันก็นับได้กว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเขาไม่เคยลงมาเหยียบพื้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนสุดท้ายทุกคนก็ตัดสินใจจะพาเขาลงมาจากที่ตรงนั้น…     เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นจาก Gilbert ที่หนีออกจากบ้านหลังจากถูกทุบเข้าที่หัวอย่างรุนแรงระหว่างที่มีปากเสียงกันในครอบครัว มันส่งผลให้เขาเกิดอาการจิตหลอนจนคิดว่าถ้าเขายังอยู่บนพื้นต่อไปก็จะมีคนมาตามฆ่าเขา เมื่อความคิดดังกล่าวมันฝังลึกอยู่ในหัวและจิตใจของเขา เขาจึงตัดสินใจขึ้นไปอาศัยอยู่บนต้นมะพร้าว พร้อมกับตั้งเป้าว่าจะไม่ลงมาอีกเลยต่อให้ใครจะมากล่อมหรือจะโดนแมลงและสภาพอากาศที่รุนแรงโจมตีก็ตาม     ในด้านอาหารการเป็นอยู่ของเขา ก็จะได้รับการส่งเสบียงผ่านเชือกที่ห้อยลงมา ซึ่งตัวแม่ของเขาจะเป็นคนส่งให้เสมอๆ แม้จะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม เพราะเธอได้ลองกล่อมเขาหลากหลายทางแล้วจดสุดท้ายก็ต้องยินยอมและทำแบบนี้เรื่อยมา Aldrin Sanchez น้องชายของ Gilbert เล่าว่า เขาเคยพยายามเรียกให้พี่ชายลงมาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธเสมอ มีครั้งหนึ่งเขาบอกให้พี่ชายลงมาแต่ตัวพี่กลับบอกให้เขาไปไกลๆ เพราะถ้าลงไปเขาจะถูกฆ่า     ด้านลูกๆ สองคนของ Gilbert ที่เกิดจากภรรยาที่เสียชีวิตก็ได้รับการดูแลจากตาและยายของพวกเขา แต่น่าเศร้าที่ครอบครัวไม่สามารถส่งเด็กๆ ไปเรียนได้เพราะหัวหน้าครอบครัวก็ดันติดอยู่บนต้นไม้ ที่แปลกกว่าคือทุกคนใน La Paz รับรู้ถึงเรื่องราวของ Gilbert Sanchez…

  • ชาวเน็ตญี่ปุ่นจัดอันดับ ตัวการ์ตูนไหนเหมาะสมที่จะมาเป็นนายกคนต่อไปมากที่สุด!!

    ชาวเน็ตญี่ปุ่นจัดอันดับ ตัวการ์ตูนไหนเหมาะสมที่จะมาเป็นนายกคนต่อไปมากที่สุด!!

    ในขณะที่บ้านเรายังคงรอวันเลือกตั้งไปอีกเป็นปีๆ แต่ทางฝั่งญี่ปุ่นนั้นกลับใกล้เข้ามาทุกที และด้วยความเป็นประเทศมหาอำนาจแห่งการ์ตูน การจะโยงการ์ตูนเข้ากับการเมืองจึงเป็นอะไรที่ทำได้ไม่ยากเลยล่ะ แต่ถึงจะบอกว่าโยงเข้ามา มันก็ไม่ได้เป็นการโยงทีซีเรียสอะไรนัก แต่เป็นสมมุติขึ้นมาเล่นๆ ของชาวเน็ตญี่ปุ่นว่า ถ้าให้เลือกตัวการ์ตูนสักตัวมาเป็นนายก พวกเขาจะเลือกใครมาเป็นกัน ซึ่งผลที่ออกมาก็น่าสนใจทีเดียวล่ะ   อันดับที่ 10 Hidetoshi Dekisugi จากเรื่อง Doraemon (240 โหวต) ไม่แปลกเลยที่ตัวละครจาการ์ตูนระดับตำนานจะถูกโหวตเข้ามา แต่คงไม่ต้องแปลกใจอะไรถ้าคนที่ถูกเลือกไม่ใช่โนบิตะ ทว่าด้านเดคิสุงิก็ถือเป็นตัวละครที่มีความเป็นผู้นำ ฉลาด และใจเย็น ถ้าเขาได้เป็นนกยกก็คงไม่ทุ่มโพเดียมแน่ๆ   อันดับที่ 9 Naruto Uzumaki จากเรื่อง Naruto (310 โหวต) จากเด็กเจ้าปัญหาแห่งโคโนฮะ สู่การเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 7 ฉะนั้นเรื่องการปกครองหรือบริหารบ้านเมืองต้องไม่เป็นสองรองใครแน่ๆ ไหนจะวิชานินจาที่เทพสุดๆ ถ้าเขาได้เป็นนายกคงจะแยกร่างเป็นพันๆ แล้วแบ่งไปทำหน้าที่ต่างๆ ได้สบายเลยล่ะ   อันดับที่ 8 Koro Sensei จากเรื่อง Assassination Classroom (364 โหวต) คุณครูหนวดปลาหมึกที่สามารถบินได้เร็วสุดๆ คนนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีก็เป็นได้ เพราะถ้าเขาได้เป็นนายก เขาคงจะดันให้คนทั้งประเทศฝึกฝีมือให้เก่งขึ้นเพื่อฆ่าตัวเขาเองแน่ๆ ไม่งั้นโลกอาจจะหายไปก็ได้นะ   อันดับ 7 Gintoki Sakata จากเรื่อง…

  • หนุ่มโสดวัย 37 ปี เปิดเว็บไซต์เพื่อตามหาหญิงสาวในฝัน พร้อมบอกคุณสมบัติที่ไปกันได้

    หนุ่มโสดวัย 37 ปี เปิดเว็บไซต์เพื่อตามหาหญิงสาวในฝัน พร้อมบอกคุณสมบัติที่ไปกันได้

    เราหลายๆ คนอยากพบรักกับคนในฝันหรือคนในอุดมคติกันทั้งนั้น แต่ในความจริงแล้วแทบจะเป็นไม่ได้เลยที่เราจะได้ลงเอยกับคนในฝัน อาจจะเพราะหาไม่เจอบ้าง เจอแล้วเค้าไม่ชอบเราบ้าง แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้ไม่ยอมละความพยายาม เขาอยากพบกับสาวในฝัน ถึงกับสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อตามหาสาวคนนั้น เอาล่ะสาวโสดทุกคน ตอนนี้เราขอแนะนำให้รู้จะกับ Alan หนุ่มโสดวัย 37 ปี จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ขณะนี้เขากำลังอยู่ในช่วยตามหารักแท้ที่จะมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขา     แต่ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ เพราะ Alan กำลังตามหาผู้หญิงในฝัน และเพื่อเพิ่มโอกาสในการหาหญิงสาวคนนั้น เขาจึงได้สร้างเว็บไวต์ขึ้นมา เพื่อบอกให้ผู้ที่สนใจว่าต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง Alan อธิบายเกี่ยวกับตัวเองว่าเขาเป็นชาวยุโรป เกิดเมื่อปี 1980 สูง 189 เซนติเมตร เป็นคนรูปร่างดี ผอมและแข็งแรง เขาไม่ชอบการแบ่งประเภทพฤติกรรมของคนตาม INFJ (เป็นคนที่อ่อนโยน สุภาพเรียบร้อย และซับซ้อน เป็นคนที่ใช้สัญชาตญาณหรือลางสังหรณ์เข้าช่วยบ่อยมาก มีความเป็นศิลปินและมีความคิดสร้างสรรค์) ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังหาทางออกจากการแข่งขันกันในสังคมและต้องการหาผู้หญิงที่เหมาะสำหรับเขา เพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่ไปด้วย คุณสนใจหรือเปล่า? Alan บอกว่า “ตอนที่ผมอายุ 30 ปีต้นๆ ผมเคยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับหญิงสาวคนหนึ่ง และเป็นช่วงที่ผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิต ผมก็เลยบอกตัวเองว่าให้เริ่มจากจุดเริ่มต้น และตัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกไปจากชีวิต”     ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มเขียนสิ่งที่ไม่ชอบและคอยอัพเดตข้อมูลเหล่านั้นทุกๆ ปี และเมื่อตัดสิ่งที่ไม่ชอบออกไปก็ทำให้เขาได้ค้นพบผู้หญิงในฝัน และนี่คือลักษณะผู้หญิงที่ Alan…

  • ครอบครัวในอินเดีย ข่มขืนลูกหลานตัวเองที่เป็น “เกย์” เพื่อให้หายจากอาการรักร่วมเพศ!!

    ครอบครัวในอินเดีย ข่มขืนลูกหลานตัวเองที่เป็น “เกย์” เพื่อให้หายจากอาการรักร่วมเพศ!!

    ในประเทศอินเดียนั้น พ่อแม่ส่วนใหญ่จะต่อต้านเพศที่สาม หากรู้ว่าลูกตัวเองเป็นเกย์หรือเลสเบี้ย พวกเขาก็จะให้ญาติ พี่ชาย น้องชาย หรือพ่อแม่เอง ลงมือข่มขืนลูก เพื่อให้ลูกกลับคืนเพศสภาพ โดยไม่ผิดกฏหมาย ทั้งนี้ในอินเดีย การที่คนเพศเดียวกันมีเพศสัมพันธ์กันนั้นจะต้องถูกลงโทษ สูงสุดจำคุก 10 ปี จนทำให้หลาย ครอบครัวรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีทางเลือก นอกจากการข่มขืนเพื่อให้ลูกหลานของตัวเองเปลี่ยนใจมาชอบคนต่างเพศ หนึ่งในผู้ตกเป็นเหยื่อคือ Mvuleni Fana… วันที่เกิดเหตุนั้น เธอกำลังเดินกลับบ้านหลังจากซ้อมฟุตบอลเสร็จ แต่ระหว่างทางก็มีชายสี่คนมารุมข่มขืนเธอ โดยอ้างว่าจะทำให้เธอกลับมาเป็นผู้หญิงจริงๆ ที่รักเพศตรงข้าม สุดท้ายพวกเขาได้เตะ ตี และปล่อยให้เธอนอนตายอยู่ตรงนั้น     นอกจากนี้ยังมีเหยื่ออีกหลายคนที่ถูกฆาตกรรมในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งผู้หญิงสองคนที่ถูกมัด ทรมาณ และสุดท้ายถูกยิงที่หัวในแอฟริกาใต้เมื่อปี 2007 ที่น่าตกใจคือไม่มีสถิติที่แน่นอนเกี่ยวการข่มขืน ซึ่งนักรณรงค์เชื่อว่าที่มีอยู่นี้เป็นตัวเลขที่น้อยกว่าความเป็นจริงมาก ทั้งนี้เป็นเพราะส่วนใหญ่แล้วครอบครัวของเหยื่อเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและมีส่วนร่วมในการข่มขืนนั่นเอง อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ถูกเรียกว่า LGBT Collective ในรัฐทางใต้ของรัฐเตกานี ได้ทำการบันทึกการข่มขืนกระทำชำเราในช่วงห้าปีที่ผ่านมา Vyjayanti Mogli กล่าวว่า “เรามั่นใจว่ามีกรณีการข่มขืนที่มากกว่านี้ แต่แค่ไม่มีการเปิดเผย บางครั้งเราก็เจอกับกรณีที่เหยื่อเดินทางมาร้องเรียนกับเรา ไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากแจ้งความ แต่พวกเขาอยากจะหนีไปจากครอบครัว”     ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ พ่อแม่รู้ดีเกี่ยวกับเรื่องการข่มขืนและยังเป็นคนขอให้คนในครอบครัว โดยเฉพาะญาติที่เป็นพี่น้อง พ่อ…

  • นางแบบสาวยูเครนสักลายให้แมวตัวเอง ถูกชาวเน็ตวิจารณ์หนักว่าเป็นการทรมานสัตว์…

    นางแบบสาวยูเครนสักลายให้แมวตัวเอง ถูกชาวเน็ตวิจารณ์หนักว่าเป็นการทรมานสัตว์…

    กลายเป็นประเด็นดราม่า เมื่อนางแบบสาวชาวยูเครนจับแมวตัวเองสักเพื่อให้มันมีเสน่ห์ดึงดูดเหมือนเธอ แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยมองว่านั่นคือการทารุณกรรมสัตว์ Elena Ivanickaya จาก Chernihiv ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศยูเครน ได้ตัดสินใจจับเจ้าแมวสฟิงซ์ของเธอมาสักลายรูปปีกของชาวอียีปต์บนหน้าอกของมัน     ภาพที่ถูกเผยแพร่เป็นตอนที่เจ้าเหมียวกำลังถูกสักลาย และดูเหมือนมันจะหมดสติเนื่องจากถูกวางยาชา จากนั้นช่างสักก็ได้ลงมือสัก โดยมีนางแบบเจ้าของแมวช่วยจับแมวเอาไว้ หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำเอาชาวเน็ตไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสัตว์ พวกเขาได้ประณามการกระทำของ Ivanickaya ว่าเป็นการทรมานแมว     Inna Milovanova หนึ่งในชาวเน็ตได้บอกว่า “มันจะดีกว่านะถ้าจะสักบนหน้าผากของเธอ แล้วเขียนคำว่า ‘งี่เง่า’ และควรจะหักนิ้วของเธอด้วย โทษฐานทรมานสัตว์ แมวน่าสงสารมาก” ชาวเน็ตอีกคนบอกว่า “คุณไม่ควรทรมานผู้ที่อ่อนแอกว่า แล้วนั่นก็ไม่ใช่ของเล่น แต่มันคือสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกเหมือนกับเรา และมันก็คงไม่ต้องการรอยสักบนหน้าอกหรอก”     หลังจากที่โดนถล่มยับ Ivanickaya ก็ได้ออกมาโต้กลับว่า “ฉันเลี้ยงแมวตัวนี้แบบตามใจทุกอย่าง มันมีเพจอินสตาแกรมของตัวเอง มันกินหอยนางรมสดเป็นอาหาร แน่นอนว่ามันมีชีวิตที่ดีกว่าคนที่บ่นเหล่านี้ซะอีก” นางแบบสาวยังได้พูดปกป้องการกระทำของตัวเองอีกว่าในการสักนี้มันไม่ได้เป็นอันตรายกับแมวแต่อย่างใด…เธอจึงมั่นใจว่าไม่ได้ทรมานสัตว์ตามที่ถูกกล่าวหา     หญิงสาวย้ำอีกครั้งว่า “แมวตัวนี้มีชีวิตที่ดีกว่าพวกคุณ การสักอาจเป็นเรื่องที่พวกคุณรับไม่ได้ แต่สำหรับเจ้าเหมียวตัวนี้มันรู้สึกดี มันไม่ได้ถูกทำร้าย และจะไม่มีวันถูกทำร้ายด้วย” “ก่อนที่จะสักให้มัน ฉันได้สอบถามกับสัตวแพทย์แล้ว ซึ่งหมอก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนที่สัก แพทย์ก็อยู่ที่นั่นด้วย ดังนั้นทุกอย่างจึงอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลเป็นอย่างดี” “ฉันดูรักษามันด้วยความรักและความห่วงใย” Ivanickaya บอก “มันเป็นแมวที่ฉลาดและมีความสุขกับชีวิตของมัน…

  • หุ่นยนต์ Sophia ได้รับสิทธิการเป็นพลเมืองของประเทศซาอุฯ ตัวแรกของโลก

    หุ่นยนต์ Sophia ได้รับสิทธิการเป็นพลเมืองของประเทศซาอุฯ ตัวแรกของโลก

    นับวันเทคโนโลยีของโลกเรานั้นดูเหมือนจะกลายเป็นหนังไซไฟเข้าไปทุกทีๆ แล้ว อย่างล่าสุดก็ได้เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ประเทศซาอุดิอาราเบียได้มอบสถานะพลเมืองให้กับหุ่นยนต์ตัวหนึ่งเป็นที่เรียบร้อย เมื่อมันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า Sophia หุ่นยนต์ AI ที่หน้าตาคล้ายมนุษย์จากบริษัท Hanson Robotics ได้ประกาศตัวบนเวทีงาน the Future Investment Initiative ที่ผ่านมาว่าเธอเองนั้นได้รับมอบสถานะพลเมืองซาอุดิอาราเบียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     ทางด้านบริษัทผู้ผลิตได้ออกมาเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของพวกเขาว่า หุ่นยนต์ตัวนี้เป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะที่พวกเขาสร้างขึ้น และเธอเองก็สามารถที่จะพัฒนาระบบความคิดและจดจำเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ “ภารกิจของพวกเราคือการสร้างหุ่นยนต์แบบ Sophia เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับมนุษย์และทำให้หุ่นยนต์สามารถเข้าใจและดูแลพวกเราได้” นาย David Hanson กล่าว     นี่คือส่วนระบบปฏิบัติการที่ถูกเก็บไว้ในส่วนหัวของเธอ ที่ทำหน้าที่คล้ายกับสมองของมนุษย์   และนอกจากนี้เธอยังสามารถเรียนรู้ และแสดงออกทางสีหน้าได้อีกด้วย .   ขณะนี้ทางบริษัท Hanson นั้นกำลังมีแผนที่จะพา Sophia ไปเปิดตัวยังที่ต่างๆ ของโลก และในอนาคตพวกเขาวางแผนที่จะสร้างหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ เพื่อเป็นเพื่อนกับ Sophia และหวังจะสร้างสังคมของเธอ และทาง Hanson เองก็เชื่อว่าในอนาคตนั้นหุ่นยนต์จะสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้     นี่คือการให้สัมภาษณ์บนเวทีและความมารถในการแสดงออกทางอารมณ์ของเธอ   ที่มา businessinsider

  • โปรเกม LOL หัวร้อน ทะเลาะกับแฟนสาวพร้อมขู่ฆ่าขณะกำลังสตรีมสด จนถูกไล่ออกจากทีม

    โปรเกม LOL หัวร้อน ทะเลาะกับแฟนสาวพร้อมขู่ฆ่าขณะกำลังสตรีมสด จนถูกไล่ออกจากทีม

    วันที่ 27 ตุลาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Li Wei Jun หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งในเกมว่า “Vasilii” หนุ่มชาวจีนโปรเกมจากทีม Newbee ที่ลงแข่งเกม LOL (League of Legends) ได้ถูกไล่ออกจากทีมของเขา ภายหลังจากที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทะเลาะกับแฟนสาวผ่านสตรีมสดขณะที่กำลังโชว์การเล่นเกม     จากการรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เริ่มขึ้นเมื่อแฟนสาวได้ออกมาแนะนำว่า เขาดูเคร่งเครียดเวลาที่เล่นเกมมากเกินไป ซึ่งมันอาจจะทำให้แฟนๆ ที่เข้ามารับชมคอมเม้นต์ด่าได้ ด้วยคำพูดนี้เองที่ทำให้หนุ่มรายนี้ได้แสดงอาการไม่พอใจอย่างหนัก ถึงขั้นระเบิดอารมณ์ออกมาด้วยความโกรธ พร้อมกันนี้เขายังได้ทำลายโต๊ะคอมพิวเตอร์ ดึงกล้องเว็บแคมทิ้ง และทะเลาะกับแฟนสาวด้วยถ้อยคำที่หยาบคายต่อหน้าชาวเน็ตที่กำลังชมสตรีมสดอยู่ในขณะนั้น     จากคลิปวีดีโอที่ถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ได้แสดงให้เห็นว่า ระหว่างที่ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงแฟนสาวของเขาก็ได้กรีดร้องออกมาเพราะ Vasilii ได้เริ่มตบตีเธอ และถึงแม้ว่าเธอจะร้องไห้อย่างหนัก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เลย มิหนำซ้ำยังพูดขู่เธอด้วยว่า “ฉันจะตีเธอให้ตาย…ฉันจะฆ่าเธอ”     อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เกิดเหตุได้ไม่นาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เรียกตัวนาย Vasilii ให้เข้าไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ     ทางด้านชาวเน็ตที่อยู่ในเหตุการณ์ก็พากันตกอกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งคลิปวีดีโอตรีมสดของโปรเกมรายนี้ก็ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตหลายรายก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นต่อพฤติกรรมสุดเถื่อนของโปรเกมรายนี้กันอย่างมากมาย เช่น…

  • เด็กน้อยวัย 7 ขวบนอนหลับยาว 11 วัน โดยที่แพทย์ก็ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด

    เด็กน้อยวัย 7 ขวบนอนหลับยาว 11 วัน โดยที่แพทย์ก็ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด

    เรื่องราวสุดประหลาดนี้เกิดขึ้นกับเจ้าหนู Wyatt Shaw หนูน้อยวัย 7 ขวบจากเมือง Elizabethtown รัฐเคนทักกี หลังจากที่เขานอนหลับไปนานถึง 11 วัน!! คุณ Amy แม่ของหนุ่มน้อยเล่าว่า ลูกชายของเธอเข้านอนหลังจากที่กลับมาจากงานแต่งงานของน้าสาวของเขา แต่หลังจากนั้นเจ้าหนูก็นอนยาวถึง 11 วันเลยทีเดียว และถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะพยายามเรียกเท่าไหร่ Shaw ก็ไม่รู้สึกตัวและไม่มีการตอบสนองใดๆ เลย     “เขาดูปกติมากในงานแต่ง เขาร่าเริงและเต้นรำเหมือนกับเด็กๆ ทั่วไป แต่เมื่อวันจันทร์ตอนที่ฉันไปปลุก เขาก็ไม่ยอมตื่น และถึงแม้ว่าจะเรียกนานเท่าไหร่เขาก็ยังคงนอนอยู่ ตอนนั้นมันน่ากลัวมากๆ เลย” คุณ Amy กล่าว หลังจากที่เริ่มเห็นความผิดปกติกับเจ้าตัวเล็ก คุณ Amy จึงพาลูกของเธอไปหาหมอ เด็กชายถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเด็ก Norton ในเมืองลุยส์วิลล์ แพทย์สันนิฐานว่าเจ้าหนูอาจจะโดนเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียเล่นงาน เนื่องจากเจ้าหนูบ่นว่ามีอาการปวดหัวและปวดท้องก่อนที่จะหลับยาว แต่อย่างไรก็ตามแพทย์กลับไม่พบสาเหตุใดๆ เลย     คุณ Amy ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า สิ่งที่ทำให้ลูกชายของเธอนั้นนอนหลับนานถึง 11 วันนั้นก็เพราะว่าสารสื่อประสาทในสมองของเขาไม่ทำงาน แต่แพทย์ก็พยายามใช้เครื่องมือและวิธีการรักษาที่ทันสมัยจนสามารถช่วยลูกของเธอได้หลังจากที่นอนหลับไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ตอนนี้เจ้าหนู Wyatt ยังคงมีปัญหาในการพูดอยู่บ้าง และยังคงเดินไม่ได้เหมือนปกติ แต่ว่าอาการของเค้าก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด  …

  • 15 ภาพข่าวทรงพลังที่สุดในรอบสัปดาห์นี้ จากเหตุการณ์ต่างประเทศ ที่คุณไม่ควรพลาด…

    15 ภาพข่าวทรงพลังที่สุดในรอบสัปดาห์นี้ จากเหตุการณ์ต่างประเทศ ที่คุณไม่ควรพลาด…

    ในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือน และแต่ละปี มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งเศร้าบ้าง หดหู่บ้าง ดีบ้าง ร้ายบ้าง รวมทั้งเหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนทั้งโลก เหมือนภาพต่อไปนี้ได้มาจากการรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบโลก ซึ่งเป็นภาพที่ทรงพลังที่สุดในสัปดาห์นี้ ซึ่งคุณอาจจะพลาดไปหรือไม่ได้รับชมมากนัก เพราะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่บอกให้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง   1. ชายเสื้อขาวถูกชกโดยโดยชายนิรนามท่ามกลางฝูงชน ใกล้กับที่ Richard Spencer ผู้เผยแพร่แนวคิดคนขาวเป็นใหญ่ (White Nationalist)  กำลังขึ้นปราศรัยนโยบายของเขาที่มหาวิทยาลัย University of Florida เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม   2. กลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรคุกเข่าอยู่นอกโรงแรมที่มีการจัดประชุมลีก NFL ในวันที่ 17 ตุลาคม ที่เมืองนิวยอร์ก เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกต่อต้านการเหยียดผิวในอเมริกา   3. ป้ายที่มีข้อความเชิงบวก หลังเกิดเหตุการณ์ไฟป่าลุกลามและเกิดความเสียหายมหาศาล ถูกติดตั้งอยู่ที่ไร่ไวน์ Cline Cellars ในวันที่ 13 ตุลาคม ในโซโนมา รัฐแคลิฟอร์เนีย   4. นักดับเพลิงกำลังดับไฟที่โรงแรม Kandawgyi Palace ในย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อวันที่…

  • รู้จักความสัมพันธ์สุดฮิต “เฟรนด์โซน” ที่ดูเหมือนซับซ้อน สับสน มีอยู่จริงหรือเราสร้างมันขึ้นมาเอง?

    รู้จักความสัมพันธ์สุดฮิต “เฟรนด์โซน” ที่ดูเหมือนซับซ้อน สับสน มีอยู่จริงหรือเราสร้างมันขึ้นมาเอง?

    เฟรนด์โซน (Friend zone) เป็นคำที่หลายคนอาจรู้จักกันบ้างแล้ว ซึ่งเป็นชุดความสัมพันธ์ที่หลายคนคงไม่อยากให้เกิดกับตัวเองสักเท่าไหร่ แน่นอนว่าบางคนอาจจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเฟรนด์โซน ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคำนี้กันให้มากขึ้นว่า แท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ มันอยู่จริงไหม หรือเราแค่มโนกันไปเอง?   เฟรนด์โซนคืออะไร? ดิชชันนารีของเคมบริดจ์ได้ให้ความหมายของคำว่า เฟรนด์โซน ว่าคือการที่คุณต้องการเป็นเพื่อนกับใครสักคน โดยไม่หวังความโรแมนติกหรือการมีเพศสัมพันธ์กับเขาหรือเธอ ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่อยากพัฒนาความสัมพันธ์นี้มากกว่าการเป็นเพื่อน   เฟรนด์โซนเกิดขึ้นได้อย่างไร? เฟรนด์โซนเกิดขึ้นเมื่อใครคนหนึ่งแอบรักคนๆ หนึ่งและต้องการให้ความสัมพันธ์ของเขาและเธอเป็นมากกว่าเพื่อน แต่กลับถูกคนที่แอบชอบมองแค่เพื่อนเท่านั้น จะเรียกว่าเป็นการปฏิเสธก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น นาย A เข้าหานางสาว B โดยหวังจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอมากกว่าความเป็นเพื่อน แต่ในทางตรงกันข้าม นางสาว B คิดกับนาย A แค่เพื่อน และขีดเส้นไว้แล้วว่าเขาเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น     สิ่งที่บ่งบอกว่าตอนนี้คุณอยู่ในเฟรนด์โซนแล้ว นี่เป็นภาวะที่สำคัญเพราะหลายคนไม่รู้ตัวว่าอยู่ในเฟรนด์โซนแล้ว สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะว่าเวลาที่คุณแอบรักใครสักคน คุณจะเข้าหาเขาหรือเธอในฐานะคนรักตั้งแต่แรก โดยพยายามใช้ทั้งคำพูดและการกระทำที่บ่งบอกว่าคุณคิดกับใครคนนั้นมากกว่าเพื่อน โดยปกติแล้วหากคุณพูดดีทำดีกับใครสักคน คุณก็จะได้รับคำพูดและการกระทำเช่นเดียวกันนั้นกลับมา ด้วยเหตุนี้ทำให้คุณจะคิดเสมอว่าใครคงนั้นคงจะคิดกับคุณเหมือนกับคุณ เพียงแต่ต้องรอเวลาในการเผยความรู้สึกนั้นออกมา   แต่แล้วเมื่อมาถึงจุดที่คุณเผยความรู้สึกให้อีกฝ่ายรู้ ปรากฏว่าเขาหรือเธอคนนั้นกลับไม่ได้คิดกับคุณมากกว่าเพื่อน ที่เขาพูดดีหรือทำดีด้วยก็เพราะเห็นคุณเป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น จริงๆ แล้วคนที่คุณแอบชอบอาจจะพยายามบอกคุณมาตลอดว่า เขาหรือเธอคิดกับคุณแค่เพื่อนเท่านั้น เพียงแต่คุณคิดเข้าข้างตัวเองจนไม่ทันได้สังเกต…

  • เผยรายชื่อ 12 การ์ตูนดังวัยใส ที่ถูกทางการประเทศต่างๆ “สั่งแบน” มาแล้ว!!

    เผยรายชื่อ 12 การ์ตูนดังวัยใส ที่ถูกทางการประเทศต่างๆ “สั่งแบน” มาแล้ว!!

    ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่เราเชื่อว่าลึกๆ ในใจทุกคนก็ต้องมีรายชื่อการ์ตูนเรื่องโปรดในดวงใจกันแทบทั้งนั้น แต่เชื่อไหมว่าการ์ตูนบางเรื่องที่เราโปรดปราน ครั้งหนึ่งพวกมันก็เคยถูกรัฐบาลประเทศต่างๆ สั่งแบนมาแล้วนะ และทั้งหมดนี้ก็เป็น 12 รายชื่อการ์ตูนพร้อมเหตุผลที่ว่าทำไมถึงถูกสั่งแบน?   1. Winnie the Pooh – ประเทศจีน สาเหตุ: หน้าคล้ายประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง รูปแบบการแบน: แบนห้ามฉายในประเทศ เป็นการสั่งแบนที่อาจจะดูน่ารักที่สุดแล้วก็ว่าได้… เมื่อก่อนหน้านี้ชาวเน็ตได้นำภาพประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง มาเปรียบเทียบกับพี่หมีวินนี่เดอะพูห์ แถมมันยังดูเหมือนซะยิ่งกว่าเหมือน งานนี้ทางการจีนเลยสั่งแบนเลยจ้า   2. Peppa Pig – ประเทศออสเตรเลีย สาเหตุ: ทำให้เด็กๆ ไม่กลัวแมลงหรือสัตว์ที่มีพิษ รูปแบบการแบน: หลายตอนถูกแบนห้ามฉายในประเทศออสเตรเลีย ก่อนหน้านี้ก็ได้รับการอนุญาตให้ฉายอย่างปกตินั่นแหละ ทว่าใน Ep. หนึ่งตัวละครได้สอนเด็กๆ ให้อยู่ร่วมกับแมงมุมอย่างน่ารักสดใส ทางการออสเตรเลียเห็นเข้าจึงสั่งแบนซะเลย เหตุผลก็เพราะ… ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีแมงมุมพิษร้ายแรงมากกว่า 10,000 สายพันธุ์ และคำแนะนำให้อยู่ร่วมกับสัตว์ร้ายอย่างสงบสุขก็ดูจะเป็นอะไรที่ใช้ไม่ได้จริงกับชาวออสซี่   3. Pokemon –…

  • ทางการตั้งค่าหัวผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมแมวต่อเนื่อง 250 ตัว เป็นจำนวนกว่า 350,000 บาท

    ทางการตั้งค่าหัวผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมแมวต่อเนื่อง 250 ตัว เป็นจำนวนกว่า 350,000 บาท

    ปกติแล้วเรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับฆาตกรที่ก่อเหตุเกี่ยวกับคนมาตลอด แต่เคยไหมที่เราจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อเหตุกับแมว…ไม่เหรอ? งั้นข่าวนี้ก็คงเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับคุณแน่ๆ ที่สำคัญมันทำร้ายทาสแมวสุดๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีแมวจำนวนกว่า 250 ตัวได้ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมในหลากหลายเมืองตลอดช่วงทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษ     คดีดังกล่าวนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2015 และได้รับการสืบสวนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดได้มีการค้นพบศพของเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Taz เป็นเจ้าเหมียวสายพันธุ์ Domestic Shorthair ซึ่งถูกพบเมื่อวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมาอยู่ในสวนที่บ้านของมันในสภาพตัวขาดวิ่น หลังจากที่มันหายไปนานเป็นสัปดาห์ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับคดีมาก็รู้สึกว่าการตายของ Taz จะมีความเชื่อมโยงกับการตายของแมวที่ลักษณะคล้ายกันตั้งแต่ปี 2015 เรื่อยมายิ่งล่าสุดก็พบว่ามีการตายของแมวในลักษณะเดียวกันที่เยอะมากๆ   ย่านที่ Taz ถูกพบ   ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 24 ก็ยังมีการพบศพแมวตายอีกหนึ่งตัวในรถคันหนึ่งบริเวณเมือง Surrey ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าคนร้ายน่าจะใช้ของเล่นและอาหารหลอกล่อแมวในเวลากลางคืนจากนั้นก็ลงมือฆ่า และเมื่อเหตุการณ์นี้มันบานปลายจนแมวได้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 250 นี่ยังไม่นับสุนัขจิ้งจอกอีกกว่า 50 ตัว ซึ่งเป็นความสูญเสียจำนวนมาก ทางการจึงตั้งค่าหัวฆาตกรดังกล่าวในราคากว่า 350,000 บาท   Mimi หนึ่งในเจ้าเหมียวที่ถูกพบว่ากลายเป็นเหยื่อไปเสียแล้ว   ทางด้าน The South Norwood Animal Rescue และ Liberty…

  • คุณพ่อไลฟ์สดฆ่าตัวตาย เหตุน้อยใจ หลังลูกสาวแต่งงานโดยที่ไม่ได้ถามความเห็น

    คุณพ่อไลฟ์สดฆ่าตัวตาย เหตุน้อยใจ หลังลูกสาวแต่งงานโดยที่ไม่ได้ถามความเห็น

    เรื่องน่าเศร้าสลดใจนี้เกิดขึ้นเมื่อนาย Ayhan Uzun อายุ 54 ปีได้ทำการไลฟ์สดผ่านทาง Facebook ส่วนตัว เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจในชีวิต จนนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น นาย Ayhan ได้ถ่ายทอดสดด้วยสีหน้าที่ดูเศร้า พูดถึงเรื่องความในใจที่เขามีทั้งน้ำตา… ใจความในการถ่ายทอดสดนั้นเขาได้พูดถึงความน้อยใจที่ลูกสาวของเขาที่หมั้นกับชายคนอื่น โดยที่ไม่เคยมาปรึกษาคนเป็นพ่อแม้แต่น้อย รวมถึงการที่เขาถูกครอบครัวทิ้งให้อยู่ตามลำพังมาเป็นเวลานาน     “การที่ผมมาถ่ายทอดสดในคืนนี้ ผมถ่ายด้วยความตั้งใจของผมเอง ผมไม่อยากให้คนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้มาร่วมงานศพของผม” “ในวันแห่งความสุขของลูกสาว พวกเขาโทรมาเพื่อให้ผมไปแสดงความยินดี โดยไม่มีใครถามผมเลยว่าผมคิดยังไง พ่อฝ่ายเจ้าบ่าวรับหน้าที่เองทั้งหมด เขาไม่มีสิทธิทำแบบนั้นด้วยซ้ำ ไม่มีคิดถึงผมเลย แม้ผมจะรอคำชวนของพวกเขาก็ตาม” “ภรรยาของผมเพิ่งโทรหาผม ผมก็ถามกลับไปว่า ทำไมเธอถึงไม่มาชวนผมต่อหน้า ซึ่งเธอก็ตอบกลับมาว่า พวกเธอไม่ว่างมาหาผม” “บางทีบางคนอาจบอกว่านี่เป็นแค่ละคร ผมบอกเลยว่าผมไม่อยากให้ใครมาเจออย่างที่ผมเจอ อีกไม่กี่วินาที ผมจะจบชีวิตตนเองด้วยปืนในมือของผม ลาก่อน ขอให้พวกคุณดูแลตัวเองด้วย”   หลังจากนั้นคุณพ่อก็จบชีวิตของตัวเองด้วยการยิงปืนเข้าสู่ขมับของตัวเอง และการถ่ายทอดสดนั้นก็จบไปท่ามความตกอกตกใจของผู้ที่กำลังรับชมอยู่   ทางครอบครัวพอได้ทราบข่าวก็เรีบเดินทางไปยังที่บ้านทันทีแต่ก็พบว่าคุณพ่อได้เสียชีวิตลงแล้วทางตำรวจก็ได้ทำการสอบสวน และนำร่างของนาย Uzun ไปชันสูตรอีกที     ที่มา metro

  • หญิงคนหนึ่งรอคอยกว่า 40 ปี เพื่อจะได้แต่งงานกับคนรัก หลังถูกคุณพ่อกีดกันในวัยรุ่น

    หญิงคนหนึ่งรอคอยกว่า 40 ปี เพื่อจะได้แต่งงานกับคนรัก หลังถูกคุณพ่อกีดกันในวัยรุ่น

    เชื่อว่าใครหลายๆ คนต่างก็ต้องมีคนที่เรารักแบบสุดหัวใจ แต่ด้วยเหตุผลบางประการที่ทำให้ความรักไม่สมหวัง ทำให้ความรักครั้งนั้นต้องจบลง แต่คนคนนั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจของเราอยู่ตลอดเวลา ขึ้นชื่อว่าความรัก ก็ต้องมีทั้งสมหวังและผิดหวัง อยู่ที่ว่าเราจะมีความอดทนและรอคอยให้โชคชะตานำพามาพบกันอีกครั้งหรือเปล่า Madeleine Coburn และ Bill Brookman เข้าพิธีวิวาห์หลังจากที่รอคอยกันมาถึง 40 ปี ท่ามกลางความยินดีของแขกที่มาร่วมงานกว่า 300 คน ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานกับความรักสุดทรหดของทั้งคู่     เรื่องราวของทั้งคู่เริ่มต้นในเมือง Loughborough ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 1978 นาย Bill หนุ่มหล่อวัย 23 ปี ได้พบรักกับ Madeleine อายุ 16 ปีที่โรงเรียนมัธยม เขาจึงรวบรวมความกล้าแล้วชวนแม่สาวน้อยไปเดท ซึ่งเธอได้ตอบตกลง   Bill Brookman   Madeleine Coburn   แต่พอถึงเวลานัด Madeleine ไม่ได้ไปตามนัด เพราะว่าพ่อของเธอไม่อนุญาตให้ไปเดท เพราะว่าดูท่าทางเจ้าหนุ่ม Bill จะดูเจ้าชู้ไม่ใช่น้อย   ทั้งสองได้นัดเดทกันหลายต่อหลายครั้ง แต่คุณพ่อของฝ่ายหญิงก็ไม่เป็นใจ จนเขาต้องยอมแพ้และถอยออกมาอยู่ห่างๆ    …

  • หนุ่มชาวอังกฤษดื่มเหล้าจนเมาแอ๋ ขอร้องให้ช่างสักคำว่า “ไต้หวัน” ลงบนหน้าผาก

    หนุ่มชาวอังกฤษดื่มเหล้าจนเมาแอ๋ ขอร้องให้ช่างสักคำว่า “ไต้หวัน” ลงบนหน้าผาก

    การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นสามารถทำให้คนขาดสติได้ ซึ่งในบางครั้ง มันก็นำพาไปสู่เรื่องราวที่ไม่มีวันคาดคิดถึง อย่างเช่นเรื่องราวของหนุ่มอังกฤษคนนี้ Paul Ferrell อายุ 32 ปี เป็นชาวอังกฤษที่มาอาศัยอยู่ที่ประเทศไต้หวันเป็นเวลา 13 ปี เขาใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาสาวชาวไต้หวันในทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเกาสูยง     วันหนึ่งนาย Paul ได้เข้าไปแฮงเอาท์ที่บาร์ชื่อดังในเมือง เขาดื่มแบบจัดหนักจัดเต็มจนเมาแอ๋ และเขาก็ได้ถกเถียงกับเพื่อนที่นั่งดื่มด้วยกันถึงประเด็นเรื่องความรักชาติ แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาไปเถียงกันอีท่าไหน หนุ่ม Paul ถึงได้ของขึ้น แล้วเดินไปยังร้านสักที่อยู่ใกล้ที่สุดในตอนนั้น     เขาได้รบเร้าให้ช่างสักที่ชื่อว่า เว่ยเฉิง สักคำว่า “ไต้หวัน” ตรงกลางหน้าผากของเขาด้วยหมึกสีดำ ถึงแม้ว่าช่างสักจะถามย้ำซ้ำๆ ว่าเขาต้องการจะสักที่หน้าผากด้วยคำๆ นี้จริงๆ หรอ ซึ่งหนุ่ม Paul ที่อยู่ในสภาพเมามากๆ ก็ยังยืนยันคำตอบเดิมว่า “ผมรักไต้หวัน สักมันลงบนหน้าของผมเลยลูกพี่”     เมื่อไม่สามารถปฏิเสธลูกค้าได้ นายเว่ยก็เลยสนองความต้องการของคุณลูกค้าด้วยการสักคำว่า “ไต้หวัน” เป็นอักษรจีนขนาดใหญ่ตรงกลางหน้าผาก แถมธงสีเขียวตรงปลายคางให้อีกด้วย หลังจากที่สักเสร็จหนุ่ม Paul ก็ได้ขับรถเพื่อที่จะกลับมานอนที่บ้าน แต่ทว่าเขาถูกจับกุมในข้อหาเมาแล้วขับ     พอภรรยาของเขามาถึง เธอรู้สึกโกรธมากๆ ซึ่งเขาก็สงสัยว่าภรรยาโกรธอะไรนักหนา…

  • แอบดู 7 วัฒนธรรมการกินอาหารกลางวันของมนุษย์ออฟฟิศในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

    แอบดู 7 วัฒนธรรมการกินอาหารกลางวันของมนุษย์ออฟฟิศในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

    หากจะพูดถึงเรื่องอาหารกลางวัน สำหรับในประเทศไทย คนส่วนใหญ่ที่ทำงานออฟฟิศก็จะมีเวลาพักประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งใน 1 ชั่วโมงที่ได้มา แต่ละคนก็จะออกไปหาร้านอร่อยๆ กิน หรือบางคนอาจห่อข้าวมาเองจากบ้าน แล้วแต่ความสะดวก แต่ถ้าลองดูในประเทศต่างๆ อาหารกลางวันสำหรับมนุษย์ออฟฟิศจะมีความแตกต่างกันออกไป โดยในแต่ละประเทศก็จะมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกันแต่จะแตกต่างกันอย่างไร ลองไปดูกันดีกว่า   ประเทศ สิงคโปร์   ในประเทศสิงคโปร์จะมีสถานที่ที่เรียกว่า Hawker centers ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับศูนย์อาหารในบ้านเรา สิ่งของที่ขายก็จะมีราคาที่ไม่แพงมากนักอย่าง ลูกชิ้น ไก่ ข้าวต่างๆ รวมทั้งก๋วยเตี๋ยว ซึ่งในช่วงโมงพักเที่ยงที่นี่จะเต็มไปด้วยนักธุรกิจต่างๆ อย่างเนืองแน่นเลยทีเดียว   ประเทศ สหรัฐอเมริกา   ดินแดนแห่งชาวเสรีชนแห่งนี้ มนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่นิยมที่จะซื้ออาหารที่ทำง่ายได้ไวๆ อย่างสลัดหรือแซนวิซมานั่งกินขณะที่ทำงานไปด้วย และถ้าไม่ออกไปพบลูกค้าข้างนอก จะไม่มีการแตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด การทานอาหารกลางวันร่วมกันดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมทางสังคมที่ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ในประเทศแห่งนี้   ประเทศ บราซิล   ในประเทศนี้นิยมรับประทานอาหารกลางวันในร้านอาหาร ซึ่งที่พิเศษกว่าที่อื่นคือที่นี่เป็นอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ สิ่งที่นิยมในร้านเหล่านี้ก็มีทั้ง ข้าว เนื้อต่างๆ ถั่วดำ และเครื่องเคียงอย่างผักต่างๆ หรือเฟรนช์ฟรายส์   ประเทศ เยอรมัน…

  • หญิงสาวช่วยเหลือหนุ่มไร้บ้าน หลายเดือนต่อมาเขานำเงินมาคืนพร้อมอุดหนุนบ้านที่เธอขาย

    หญิงสาวช่วยเหลือหนุ่มไร้บ้าน หลายเดือนต่อมาเขานำเงินมาคืนพร้อมอุดหนุนบ้านที่เธอขาย

    การช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากบางครั้งเราก็ไม่ต้องการที่จะได้รับอะไรตอบแทน เพราะว่าเราเจตนาที่จะช่วยให้เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เชื่อว่าโลกนี้หากทำความดีย่อมได้รับการตอบแทน ในเดือนมกราคมปี 2017 หญิงสาวนายหน้าค้าบ้านคนหนึ่งชื่อว่า ShelbyLynn Alexander กำลังติดไฟแดงอยู่บนถนนแห่งหนึ่งในรัฐ North Carolina และเธอก็ได้เหลือบไปเห็นชายไร้บ้านคนหนึ่งนั่งอยู่กับหมาของเขาที่ข้างถนน โดยเขาได้ถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “ต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย ผมจ่ายคืนแน่ในวันข้างหน้า”     เธอได้สังเกตเห็นว่าสภาพเสื้อผ้าของเขามอมแมมอย่างมาก แถมยังไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้เพียงพอเทียบกับอากาศในตอนนั้นด้วย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเสียสละผ้าห่มให้แก่หมาของเขา เธอรู้ในตอนนั้นเลยว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีและเธอต้องลงจากรถไปช่วยเหลือเขาแล้ว “ฉันเดินตรงเข้าไปหาเขาและบอกว่า ปกติฉันจะให้แต่อาหารแทนที่จะเป็นเงิน แต่ในคราวนี้ฉันยื่นแบงค์ดอลล่าให้เขาสามใบพร้อมด้วยนามบัตรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของฉัน หากว่าเขาต้องการที่สำหรับอยู่อาศัย” ShelbyLynn ให้สัมภาษณ์     เธอยังบอกอีกว่าเขาทำหน้าเขินอายเล็กน้อยในตอนที่กำลังรับเงินจากเธอ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นไร้บ้านจริงๆ หรือว่าเป็นคนที่กำลังดวงตกอยู่กันแน่ แต่เธอก็ได้อวยพรให้เขาโชคดีก่อนที่จะขับรถออกไป หลายเดือนต่อมา นายหน้าสาวคนนี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าคนหนึ่งให้หาบ้านให้หน่อย เธอจึงนัดพบเขาในวันถัดมา เพื่อจะพาไปดูบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในละแวกนั้น เมื่อเธอไปถึงจุดที่นัดพบกับลูกค้าคนนั้นก็มีหมาตัวหนึ่งวิ่งมาหาเธอ ซึ่งเธอจำหมาตัวนี้ได้ว่าเป็นของชายไร้บ้านเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ว่าคราวนี้หมาตัวนี้กลับมีรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์และดูมีความสุข ทันใดนั้นเจ้าของหมาตัวนี้ก็ลงมาจากรถกระบะคันใหม่เอี่ยม     ซึ่งได้สร้างความเซอไพรส์แก่เธอมากเพราะว่าชายคนดังกล่าวดูราวกับเป็นคนละคนกับคนที่เธอเคยให้ความช่วยเหลือ โดยในครั้งนี้เขาแต่งตัวสะอาดสะอ้านและมีใบหน้าที่สดใส นายหน้าสาวคนนี้ได้สารภาพว่าตอนแรกที่เจอเขา เธอคิดว่าเขาเป็นมิจฉาชีพที่แต่งตัวโทรมๆ เพื่อมาขอเงินจากคนอื่นแต่จริงๆ มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยทีเดียว     “ฉันพูดไม่ออกเลยทีเดียว เขาอธิบายให้ฉันฟังว่าภรรยาเก่าของเขาเอาทุกอย่างที่เป็นของเขาไปและหนีไปอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ในตอนนั้นเขาไม่อยากได้เงินหรอกเขาแค่อยากได้ความช่วยเหลือ”  “เขามีอาชีพเป็นวิศวกร และในตอนนี้เขาก็มีงานใหม่ รถใหม่ และกำลังมองหาบ้านใหม่ นอกจากนั้นเขาต้องการตอบแทนความหวังดีของฉันด้วยการอุดหนุนบ้านที่ฉันเป็นนายหน้าให้ เขาใช้คืนเหมือนอย่างที่เขียนตอนแรกจริงๆ ”  แล้วเขาก็คืนแบงค์ดอลล่าร์สามใบให้เธอพร้อมกับนามบัตรของเธอเองเหมือนกับที่เขาเคยได้รับ…

  • จากคลิปดัง “กระรอกกินหนู” แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่สัตว์กินพืช ตามที่เราเข้าใจงั้นหรือ!?

    จากคลิปดัง “กระรอกกินหนู” แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่สัตว์กินพืช ตามที่เราเข้าใจงั้นหรือ!?

    [บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน]   โดยปกติแล้ว เราเข้าใจว่ากระรอกเป็นสัตว์กินพืช โดยเฉพาะเมล็ดถั่่วที่ถือเป็นอาหารโปรดของพวกมัน แต่รู้มมั้ยว่าจริงๆ แล้ว กระรอกไม่ได้กินแค่พืชนะ แต่มันยังกินสัตว์เป็นอาหารด้วย   และนี่คือคลิปที่ยืนยันว่ากระรอกกินแค่พืชแต่ยังกินสัตว์เป็นอาหารด้วยเช่นกัน   เนื่องจากร่างกายกระรอกไม่สามารถย่อยเซลลูโลสได้ ดังนั้นพวกมันจึงต้องพึ่งพาอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของปีสำหรับกระรอก เพราะถั่วที่ถูกฝังจะเริ่มงอกออกเป็นต้น ซึ่งนั่นทำให้กระรอกไม่สามารถกินได้ และแหล่งอาหารใหม่ๆ ก็ยังไม่สามารถกินได้ ในช่วงเวลานี้พวกมันจึงต้องพึ่งพาตาต้นไม้แทน แม้ว่ากระรอกจะกินพืชหลากหลายชนิดเป็นอาหารหลัก แต่สำหรับกระรอกบางตัวมันยังกินสัตว์เป็นอาหารด้วย โดยเฉพาะเวลาที่พวกมันต้องเผชิญกับความหิว สัตว์ที่กระรอกกินก็จะมีหลายชนิดเช่นกัน อย่างแมลง ไข่ นกขนาดเล็ก งูขนาดเล็ก และหนูที่มีขนาดเล็ก ในขณะที่กระรอกเขตร้อนบางสายพันธุ์ได้กินแมลงทุกชนิดเป็นอาหาร     สำหรับพฤติกรรมการล่าสัตว์นั้น นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตจากพฤติกรรมของกระรอกดินสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะ Thirteen-lined ground squirrel ยกตัวอย่างเช่น Bailey ในช่วงปี 1920 นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตเห็นกระรอกดิน Thirteen-lined กินไก่ตัวเล็กๆ เป็นอาหาร นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ากระรอกชนิดเดียวกันนี้ได้กินซากงูขนาดเล็กด้วย ต่อมาได้มีการตรวจภายในของกระรอกที่ตายแล้ว 139 ตัว พบชิ้นส่วนของนกอยู่ในท้องของกระรอก 4 ตัว และพบเนื้อหนูหางสั้นในพวกมันอีกหนึ่งตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการค้นพบอีกว่า…

  • เพื่อนร่วมงานใจป้ำ ออกรถเซอร์ไพรส์ให้เธอ หลังเห็นว่าใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมง

    เพื่อนร่วมงานใจป้ำ ออกรถเซอร์ไพรส์ให้เธอ หลังเห็นว่าใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมง

    ถือเป็นอีกหนึ่งราวดีๆ ที่จะสร้างรอยยิ้ม และความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลกออนไลน์ เมื่อเจ้านายและเพื่อนร่วมงานสุดใจป้ำ ทุ่มทุนควักเงินซื้อรถยนต์ให้กับหญิงผู้โชคดี เพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษที่เธอพยายามบากบั่นเดินทางมาทำงานไปกลับนานถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน     วันที่ 26 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์รายงานว่า Linda Walton หญิงจากรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความสุขเอาไว้อยู่ เมื่อ Krissy Marcellini Tammaro ผู้เป็นเจ้านายพร้อมกับเพื่อนร่วมงานจาก Pristine Clean & Organisation Services ในเมือง Cordova รวม 6 คน ได้โผล่เซอร์ไพรส์ด้วยรถยนต์ Pontiac Grand Prix ปี 1998 ภายหลังจากที่พวกเขารู้ว่าเธอต้องเดินทางมาทำงานวันละ 6 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ยังได้ช่วยจ่ายค่าประกันรถยนต์ในเดือนแรก และเปลี่ยนยางใหม่ให้อีกด้วย     จากการรายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ Linda มีช่วงเวลาในการเดินทางไปทำงานที่แสนจะยาวนาน โดยเธอจะเริ่มจากการนั่งรสบัสเป็นเวลา 2 ชั่วโมง…

  • นักบินอวกาศ Apollo 16 แอบทิ้งรูปถ่ายไว้บนดวงจันทร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงครอบครัวของเขา

    นักบินอวกาศ Apollo 16 แอบทิ้งรูปถ่ายไว้บนดวงจันทร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงครอบครัวของเขา

    การได้ไปเหยียบดวงจันทร์ถือว่าเป็นความฝันของใครหลายคน แน่นอนว่าด้วยโอกาสที่หายากแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องอยากทำอะไรพิเศษๆ บางคนอาจเก็บหินดวงจันทร์ลงมา บางคนอาจถ่ายรูปเก็บไว้ แต่จะมีใครเหมือนเขาคนนี้ที่นำรูปถ่ายของครอบครัวไปทิ้งไว้บนดวงจันทร์ซะเลย ในวันที่ 20 เมษายนปี 1972 นักบินอวกาศประจำยาน Apollo 16 ชื่อว่า Charles Duke ได้ทิ้งรอยเท้าของเขาไว้บนดวงจันทร์ ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียง 36 ปีเท่านั้น เขาจึงเป็นมนุษย์ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เดินบนผิวของดวงจันทร์ แต่เขาไม่ได้ทิ้งไว้เพียงประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่เขายังทิ้งสิ่งอื่นไว้บนดวงจันทร์ด้วย     สิ่่งที่เขาทิ้งไว้นั้นก็คือรูปถ่ายครอบครัวที่มีตัวเขา ภรรยา และลูกชายแสนน่ารักทั้งสองคนของเขา ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงอยู่บนดวงจันทร์จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งข้างหลังภาพที่เขาทิ้งไว้ยังมีข้อความที่เขาเขียนเอาไว้ว่า “นี่คือภาพครอบครัวของนักบินอวกาศ Charlie Duke จากดาวโลกผู้ที่มาเยือนดวงจันทร์ในวันที่ 20 เมษายน ปี 1972″     และนี่คือภาพก็อปปี้ของรูปที่เขาทิ้งไว้บนดวงจันทร์ โดยคนซ้ายสุดคือลูกชายคนโตของเขา Charles Duke III ที่ในตอนนั้นมีอายุ 7 ขวบ และเด็กชายในชุดสีแดงก็คือลูกชายคนเล็กของเขา Thomas Duke อายุ 5 ขวบในขณะนั้น โดยมีเขาและภรรยา Dorothy Meade Claiborne เป็นฉากหลังดั่งในภาพ “ผมวางแผนที่จะทิ้งรูปไว้บนนั้นตลอด” Duke ได้ให้สัมภาษณ์  …

  • Smile Mirror กระจกยิ้มสุดวิเศษ ที่จะยอมสะท้อนใบหน้าของผู้ใช้ ก็ต่อเมื่อคุณยิ้มให้มัน…

    Smile Mirror กระจกยิ้มสุดวิเศษ ที่จะยอมสะท้อนใบหน้าของผู้ใช้ ก็ต่อเมื่อคุณยิ้มให้มัน…

    คุณเคยเห็นกระจกแห่งความสุขที่จะไม่ยอมสะท้อนใบหน้าจนกว่าจะยิ้มให้มันหรือไม่? ฟังดูแล้วมันอาจจะออกแนวขำๆ ไปหน่อย แต่ Berk Ilhan นักออกแบบชาวตุรกีได้เนรมิต Smile Mirror กระจกยิ้มสุดวิเศษที่ช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหวบนใบหน้าขึ้นมาแล้ว สำหรับ Smile Mirror ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และช่วยสร้างช่วงเวลาดีๆ ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยเฉพาะ ซึ่งกระจกดังกล่าวจะมีลักษณะคล้ายกับแท็บเล็ตโดยมาพร้อมกับกล้องในตัว ถูกพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีตรวจจับการเคลื่อนไหวของใบหน้า และจะสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่เต็มใบด้วยความสุขของผู้ใช้ ก็ต่อเมื่อคุณส่งยิ้มให้กับมันเท่านั้น     ภายหลังจากที่ได้เห็นผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งคนหนึ่ง Berk ก็ได้ตัดสินใจสร้างผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสร้างความสุข และเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็งขึ้นมา ด้าน Berk ได้ออกมาเผยว่า “เธอบอกผมว่าในวันแรกหลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง มันทำให้เธอรู้สึกแย่ทุกครั้งเวลาที่ส่องกระจก และได้รับรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นโรคมะเร็ง การแสดงออกทางสีหน้าของเรามันมีผลต่อความรู้สึกมาก ถ้าเราเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเราด้วยการยิ้ม ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี และส่งผลให้ชีวิตมีความสุขขึ้น”     เมื่อเรียนจบปริญญาโทในนิวยอร์ก Berk ก็ใช้เวลานานหลายสัปดาห์ในการเข้าไปสำรวจโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยมะเร็งในตุรกี ซึ่งเขาก็ได้เข้าไปพูดคุยกับทางแพทย์พร้อมทั้งผู้ป่วยด้วย “ผมได้เรียนรู้ว่ากำลังใจ และการสนับสนุนทางสังคม เป็นปัจจัยสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี” Berk กล่าว และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้ทุ่มเวลานานกว่า 2 ปี เพื่อออกแบบ และพัฒนา Smile Mirror กระจกวิเศษที่จะช่วยสร้างกำลังใจ…

  • เด็กหญิงชาวเนปาล ผู้เกิดมาพร้อมกับความสามารถพิเศษ “แยกแยะสีด้วยการดม”

    เด็กหญิงชาวเนปาล ผู้เกิดมาพร้อมกับความสามารถพิเศษ “แยกแยะสีด้วยการดม”

    Deepti Regmi อายุ 11 ปี ชาวเนปาล ได้ค้นพบความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเธอที่ไม่มีใครเหมือนคือ เธอสามารถอธิบายสีได้อย่างชัดเจน และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น นั่นก็คือสามารถบอกสีของสิ่งของที่ถืออยู่ได้ แม้กระทั่งปิดตา ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเธอถูกเรียกในทางการแพทย์ว่า Synaesthesia เป็นการอาการที่ตอบสนองของประสาทสัมผัสต่อสิ่งต่างๆ ที่แตกต่างกัน  เช่นเห็นภาพสี ในขณะที่ได้ยินเสียงเพลง มองสิ่งต่างๆ แล้วได้กลิ่นในจมูก หรือสามารถลิ้มรสชาติได้เมื่อได้ฟังเพลง     การผสมผสานแบบ Cross Wire Sensory นี้ยังไม่ได้การรับรองการที่แน่ชัดจากทางการแพทย์ อาการ Synaesthesia เกิดขึ้นได้น้อยมากแต่ไม่ส่งผลใดๆ ต่ออวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย Deepti เชื่อว่าความสามารถพิเศษของเธอได้รับมาจากพระเจ้า ที่ได้ประทานความสามารถพิเศษมาให้เธอได้ใช้เพื่อช่วยเหลือคนอื่น ความสามารถในการดมกลิ่นเพื่อแยกแยะสีของเธอจะถูกนำไปศึกษาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่บกพร่องทางการมองเห็นอีกต่อไป     “ฉันได้รับการตรวจสอบด้วยการปิดตาเพื่อไม่ให้มองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่แปลกที่ฉันสามารถแยกแยะสีของสิ่งของเหล่านั้นผ่านการดมได้ มันเป็นความสามารถที่พิเศษมากๆ และไม่มีใครเหมือน” Deepti กล่าว จากการวิจัยของสมาคมจิตวิทยาอเมริกันพบว่า อาการ Synaesthesia สามารถพบได้ในผู้หญิง 1 ใน 2000 คน ซึ่งสาเหตุของการเกิดอาการและวิธีการรักษายังไม่ปรากฏแน่ชัด แต่จากการศึกษาก็พบว่าส่วนหนึ่งมีผลมาจากปัจจัยทางพันธุกรรม อาการ Synaesthesia ไม่ได้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรก ยังมีนักดนตรีอีกจำนวนหนึ่งที่ประสบกับอาการนี้ เช่น Mary…

  • หญิงข้ามเพศเก็บสเปิร์มของตัวเองไว้เพื่อมีลูกของตัวเองในอนาคต ก่อนที่จะกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัว

    หญิงข้ามเพศเก็บสเปิร์มของตัวเองไว้เพื่อมีลูกของตัวเองในอนาคต ก่อนที่จะกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัว

    หนึ่งชีวิตของคนเราที่ได้เกิดมา การทำตามความฝันและความชื่นชอบของตัวเองเป็นอีกหนึ่งในเป้าหมายของชีวิตที่กำหนดไว้ว่าจะต้องทำให้ได้ เพื่อที่จะได้รู้สึกว่าการเกิดมาใช้ชีวิตในโลกนี้มีความคุ้มค่า Lea Membrey อายุ 20 ปี ชาวเมือง Auckland ประเทศนิวซีแลนด์ สาวข้ามเพศผู้ที่มีร่างกายและจิตใจเป็นผู้หญิงเต็มตัว แต่เพศสภาพโดยกำเนิดนั้นเป็นชาย     เธอได้เล่าประสบการณ์ชีวิตของเธอว่า เธอได้ค้นพบว่าตัวเองเป็นเกย์ตั้งแต่อยู่มัธยม แต่เธอไม่ได้ชอบผู้ชายเหมือนเกย์คนอื่น แต่เธอต้องการที่จะเป็นผู้หญิงมากกว่า   Lea ในวัยเด็ก   นอกจากนี้ Lea ยังโดนกลั่นแกล้งสารพัดจากเพื่อนร่วมชั้นด้วยการนำป้ายมาติดไว้ว่าเธอเป็นเกย์ และมันก็ยังฝังลึกอยู่ภายในจิตใจของเธอตลอดมา     เธอต้องทุกข์ทรมานภายในจิตใจอยู่เสมอว่า เธอต้องการที่จะเป็นผู้หญิงจริงๆ หรือเปล่า ความรู้สึกของเธอเริ่มสับสนบวกกับสภาพร่างกายที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์มากขึ้น สุดท้ายเธอก็เลือกทำตามหัวใจของตัวเอง     เธอได้ทุ่มเทเงินในการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อให้ตัวเองมีความคล้ายผู้หญิงที่สุดทั้งเสริมหน้าอก เสริมริมฝีปาก ฉีดโบท็อกซ์ กำจัดหนวดขนด้วยเลเซอร์ เป็นจำนวนเงินประมาณมากกว่า 228,500 บาทจนสวยเช้ง อย่างกับผู้หญิงจริงๆ     นอกจากนี้ด้วยความที่มีจิตใจเป็นผู้หญิงแบบเต็มเปี่ยม เธอคิดไว้ว่าจะมีลูกตัวน้อยๆ สักคนในอนาคตและเด็กที่จะกำเนิดมานั้นก็ต้องเป็นลูกที่มี DNA ของเธอ     เธอเชื่อว่าในอนาคตความก้าวหน้าทางการแพทย์จะช่วยให้เธอมีลูกได้ Lea…

  • เด็กหนุ่มวัย 18 ปี กลับมาเซอร์ไพรส์วันเกิดแม่ที่แท้จริงของตัวเอง หลังถูกรับเลี้ยงไปตั้งแต่แบเบาะ

    เด็กหนุ่มวัย 18 ปี กลับมาเซอร์ไพรส์วันเกิดแม่ที่แท้จริงของตัวเอง หลังถูกรับเลี้ยงไปตั้งแต่แบเบาะ

    โลกเปรียบดังโรงละครขนาดใหญ่ที่มนุษย์แต่ละคนต้องได้รับบทละครของตัวเอง ชีวิตของแต่ละคนเกิดมาไม่เหมือนกัน บางคนเกิดมารวยล้นฟ้า แต่อีกคนกลับจนจนแทบไม่มีข้าวกิน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สามารถกำหนดทิศทางของชีวิตของเราได้นั่นก็คือตัวเรานั่นเอง เรื่องราวชีวิตที่เป็นเหมือนดั่งละครของ Tammy Oswalt คุณแม่ผู้ที่ต้องตัดสินใจยกลูกชายของตัวเองเพื่อให้ผู้อื่นนำไปอุปการะ เมื่อ 18 ปี ที่แล้วหลังจากที่คุณ Tammy รู้ตัวว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ เธอก็ประสบปัญหามรสุมชีวิต ทุกสิ่งพังทลายลงเมื่อคู่ชีวิตของได้ทิ้งไป พร้อมกับลูกสาวทั้งสอง เธอต้องสูญเสียทั้งงานและเกือบจะกลายเป็นคนไร้บ้าน     “รู้ดีว่า ครอบครัวก็ต้องอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ฉันไม่สามารถรักษามันไว้ได้” Tammy กล่าว หลังจากนั้นไม่นานเธอก็คลอดลูกชายออกมาแล้วตั้งชื่อว่า Bruce คุณแม่ต้องตัดใจยกลูกของตัวเองให้คนอื่นเลี้ยงเพื่อไม่ให้ลูกน้อยต้องมาลำบากด้วยกัน     เด็กชาย Bruce ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Dylan ในระยะแรกเธอก็ยังติดต่อกับแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงลูกชายเธออยู่เสมอ แต่ระยะหลังมาเธอก็เลือกจะออกจากชีวิตลูกชายของเธอไปเงียบๆ ทั้งที่ในใจก็ยังรักอยู่ เธอหวังไว้ว่า หากมีโอกาสก็คงได้กลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง     เวลาก็ผ่านไป 17 ปี Dylan ก็ได้พบกับ Sammy Hewett พี่สาวของเขาผ่านทางโลกออนไลน์ พอได้รับรู้เรื่องราวแล้วทั้งสองก็วางแผนที่จะเซอร์ไพรส์แม่อย่างเงียบๆ     ในวันเกิดของ Tammy ลูกสาวก็ได้เซอร์ไพรส์ด้วยการพาไปดินเนอร์พร้อมกับของขวัญวันเกิดที่เธอตามหามานานกว่า…

  • หมาน้อยลอยคอกลางทะเลกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือที่บังเอิญผ่านมาพอดี

    หมาน้อยลอยคอกลางทะเลกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือที่บังเอิญผ่านมาพอดี

    เมื่อเราไปล่องเรือกลางทะเลเราอาจจะได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่แปลกหูแปลกตามากมายอย่างโลมาขึ้นมาหายใจบนน้ำ หรือแมวน้ำที่อยากจะมาเล่นด้วย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่ากลางทะเลจะมีหมาลอยน้ำที่รอการช่วยเหลือรออยู่! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อ่าวเนเปิล เจ้าหมาน้อยผู้โชคร้ายตัวนี้มีชื่อว่า Noodle  เกิดพลาดท่าพลัดตกลงจากเรือเฟอรี่ของนาย Mario Di Meglio ที่กำลังแล่นเรือกลับบ้าน เมื่อเขาคนนี้เห็นเจ้าหมาตกลงในทะเลก็ได้ตะโกนบอกลูกเรือว่ามีหมาตกน้ำ แต่พวกลูกเรือกลับคิดว่าเจ้า Noodle นั้นได้จมน้ำไปแล้วเลยตัดสินใจที่จะไม่หยุดเรือและเดินทางต่อไป     แต่ก็เป็นโชคดีของเจ้า Noodle ที่วันนั้นบังเอิญมีสมาชิกของชมรมแล่นเรือ RYCC Savoia ได้ผ่านมาเห็นพอดีโดยนาย Massimiliano Cappa และลูกเรือของเขาได้เห็นเจ้าหมาน้อยพยายามลอยตัวเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองไว้ขณะที่กำลังอ่อนแรงลงเรื่อยๆ โดยเขาคาดว่าเจ้าลูกหมาตัวนี้น่าจะลอยคอมาแล้วเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง     เมื่อเห็นดังนั้น พวกเขาจึงพยายามเรียกเจ้าหมาให้เข้ามาใกล้ๆ เรือเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือได้ และดูเหมือนกับว่ามันจะเข้าใจในสิ่งที่มนุษย์กำลังจะช่วยเหลือมัน โดยมันก็ได้ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆ เรือและได้รับการช่วยเหลือในที่สุด หลังจากที่พวกเขาช่วยเจ้าลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ตัวนี้ไว้ได้ก็พบว่า ขาของมันเกือบที่จะใช้งานไม่ได้ด้วยเหตุจากความเย็นของน้ำ สมาชิกคนหนึ่งของทีมนี้จึงได้กอดมันไว้ตลอดเวลาเพื่อจะให้ความอบอุ่นแก่มันนั่นเอง     และในที่สุดเจ้า Noodle ก็ได้กลับสู่อ้อมอกของเจ้าของมันอีกครั้ง โดยเจ้าของได้อธิบายว่าในตอนที่เจ้าหมาตัวนี้จะตกน้ำ เขาได้มัดมันไว้แล้วแต่ด้วยความแสนซนของมันก็ได้ดิ้นจนหลุดจากเชือกทำให้พลัดตกน้ำ “ผมขอขอบคุณผู้ช่วยเหลือหมาของผมจริงๆ ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสกอดมันอีกครั้ง” Mario เจ้าของหมาตัวนี้ได้กล่าวขอบคุณไว้ทิ้งท้าย   นาทีชีวิตของเจ้า Noodle ที่ได้รับความช่วยเหลือ   ที่มา: inspiremore

  • โคตรเจ๋ง! หมู่บ้านแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นทำวีดีโอเกมซอมบี้เสมือนจริง เพื่อหาคนมาอยู่เพิ่ม

    โคตรเจ๋ง! หมู่บ้านแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นทำวีดีโอเกมซอมบี้เสมือนจริง เพื่อหาคนมาอยู่เพิ่ม

    ด้วยความที่ผู้คนต่างพากันไปหางานทำในเมืองใหญ่แล้วไม่กลับมาอยู่บ้านเกิดอีกเลย จึงทำให้หมู่บ้านที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีคนอยู่น้อยลงทุกวัน หมู่บ้านแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยหัวใสจัดทำวีดีโอที่จำลองผู้คนในหมู่บ้านให้อยู่ในรูปแบบเกมซอมบี้ซะเลย โดยหมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่า Kosugemura เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัด Yamanashi โดยในหมู่บ้านแห่งนี้มีผู้อาศัยอยู่ราวๆ 700 คนได้รวบรวมคนในหมู่บ้านเพื่อจัดทำคลิปวีดีโอเกมขึ้นมาที่จำลองเหตุการณ์เกมที่ต้องเอาชีวิตรอดในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยซอมบี้โดยมีฉากหลังเป็นพื้นที่ในหมู่บ้าน และใช้คนจริงๆ แทนตัวละครที่อยู่ในเกม   ดูตัวละครซะก่อน   น่ารักป่ะล่ะ   ใช้เมืองเป็นฉากในเกมอย่างเท่   มีสู้กับหมีด้วยนะ   น่ากลัวมากกก   ซึ่งวีดีโอเกมนี้ในตอนจบตัวละครที่เราเล่นจะตายด้วยน้ำมือของซอมบี้ตัวหนึ่งและเมื่อออกไปนอกบ้านก็เจอกับซอมบี้จริงๆ และวีดีโอนี้ก็ได้เชิญชวนถึงคนดูว่าหากอยากเล่นต่อในชีวิตจริง หมู่บ้านแห่งนี้ได้จัดหมู่บ้านซอมบี้ขึ้นจริงๆ ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ หากใครอยากสัมผัสบรรยากาศที่สยดสยองล่ะก็ รับรองได้ว่าที่นี่จัดเต็มเหมือนในวีดีโออย่างแน่นอน   ลองชมวีดีโอสุดน่ากลัวนี้กัน   ที่มา: en.rocketnews24, こ、こすげぇー ~小菅村情報発信中!~

  • โป๊ะเช๊ะ! ตำรวจพบโรงงานผลิตโคเคนเพราะลูกชายโทรไปแจ้งว่า “พ่อไม่เหมือนปกติ”

    โป๊ะเช๊ะ! ตำรวจพบโรงงานผลิตโคเคนเพราะลูกชายโทรไปแจ้งว่า “พ่อไม่เหมือนปกติ”

    ขึ้นชื่อว่าเป็นยาเสพติดย่อมเป็นพิษเป็นภัยต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง แม้แต่เด็กที่ไม่ได้เสพยังทนไม่ไหวโทรไปบอกตำรวจว่า “พ่อไม่เหมือนปกติ” จนตำรวจมาค้นบ้านแล้วเจอโรงงานโคเคนเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษจากการมีหนูน้อยคนหนึ่งได้โทรศัพท์ไปหาตำรวจว่าพ่อสูดผงสีขาวๆ และดื่มเหล้าตำรวจจึงได้เข้าตรวจค้นที่บ้านของหนูน้อยคนนี้ซึ่งมีเจ้าของคือ Barry Dermott พ่อของเด็ก     การตรวจค้นในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบปืนลูกโม่.38 ซ่อนอยู่ในตู้ใต้บันไดและส่วนผสมในการทำโคเคนต่างๆ อย่างกรดบอริกอีก 18 กิโลกรัม น้ำตาลซูโครส  และผลจากการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่ารอยนิ้วมือบนปืนนี้เป็นของ Thomas Rowan ชายอายุ 24 ปี     โดยทนายความของ Dermott ได้บอกว่าลูกความของเขาเสพติดโคเคนและมีหนี้สินมากมายและด้วยเหตุนี้เขาจึงทำบ้านของตัวเองให้เป็นโรงงานผลิตยารวมทั้งเป็นที่เก็บอาวุธซะเลย และต่อมาระหว่างให้การกับตำรวจเขาก็ได้สารภาพว่าเขามักใช้โคเคนและดื่มเหล้าในเวลาหลังเลิกงาน แต่ปฏิเสธที่จะบอกถึงชื่อลูกค้าที่มาซื้อยาจากเขา ซึ่งโทษที่ Dermott ได้รับคือจำคุกเป็นเวลากว่า 6 ปี 2 เดือนในข้อหาใช้สถานที่เป็นโรงงานผลิตยาเสพติด และ Rowen ก็โดนจำคุกเช่นกันในข้อหาครอบครองอาวุธผิดกฎหมายเป็นเวลากว่า 7 ปี เลยทีเดียว   งานนี้บอกเลย เด็กเป็นพระเอกนะเนี่ย ฮ่าๆ   ที่มา: mirror

  • สุดซึ้ง พี่สาวตั้งแคมเปญหาคนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้น้องชายออทิสติกที่ไม่มีเพื่อนเลย

    สุดซึ้ง พี่สาวตั้งแคมเปญหาคนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้น้องชายออทิสติกที่ไม่มีเพื่อนเลย

    ความรักของพี่น้องดูเหมือนจะเป็นความรักที่น่าประทับใจจริงๆ เหมือนเหตุการณ์นี้ที่พี่สาวพยายามจะตั้งแคมเปญให้ผู้คนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้กับน้องชายที่เป็นโรคออทิสติก เหตุการณ์สุดน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นในเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อ James Weir ผู้ป่วยเป็นโรคออทิสติกกำลังจะมีวันเกิดมีอายุครบ 21 ปีในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ แต่ด้วยโรคที่เขาเป็นนี้ทำให้เขามีเพื่อนที่ไม่มากนักและทำให้เข้าสังคมไม่เก่งนัก โดย Lucy พี่สาวของ Jame บอกว่าเขามักจะมีความว้าเหว่เกิดขึ้นเพราะไม่มีเพื่อน และเธอก็ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าการเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มบนวันที่แสนวิเศษของเขา   Jame และพี่สาวทั้งสองคน Lucy(คนซ้ายมือ)  Rachel(คนกลาง)   และด้วยเหตุนี้เธอจึงโพสต์ในเฟซบุ๊กเชิญชวนให้ผู้คนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดมาเพื่อสร้างเซอไพรส์ให้แก่น้องชายของเธอ “เขาเป็นคนขี้วิตกกังวลกับการเข้าสังคมมาก เขาจึงมีเพื่อนไม่มากนัก” “และนี่ก็ใกล้วันเกิดเขาเข้ามา ฉันจึงเกิดไอเดียนี้ขึ้นมาเพื่ออยากจะให้น้องชายของฉันมีความสุขที่สุดในวันนั้น”  Lucy กล่าว       “ที่ฉันตัดสินใจทำแบบนี้ก็เพราะว่าเขาเป็นน้องชายคนเล็กของบ้านและมันเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจฉันทุกวันที่ว่า เขาเป็นคนไม่มีเพื่อนซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการเป็นอย่างมากรวมทั้งการมีแฟนก็ด้วย” “ถึงแม้จะมีคนส่งการ์ดมาให้เขาเพียงน้อยนิด แต่ฉันคิดว่านั่นน่าจะทำให้น้องชายฉันดีใจจนแทบจะบินได้เลยล่ะ” Lucy กล่าวทิ้งท้าย     ความรักของพี่น้องนี่มีพลังมากจริงๆ ทำเอาเหมียวซึ้งเลยนะเนี่ย   ที่มา: dailymail

  • ทาสแมวมาทางนี้!! สวรรค์สำหรับคนรักแมวเพราะที่นี่มีเจ้าสุดกวนให้ได้เล่นมากกว่า 600 ตัว

    ทาสแมวมาทางนี้!! สวรรค์สำหรับคนรักแมวเพราะที่นี่มีเจ้าสุดกวนให้ได้เล่นมากกว่า 600 ตัว

    สำหรับคนรักสัตว์สุดกวนอย่างแมว เชื่อว่าคงไม่มีอะไรที่จะทำให้ฟินไปกว่าการที่มีเจ้าขนปุยมาเดินยั้วเยี้ยพันแข้งพันขาเต็มไปหมด และวันนี้เรามีสถานที่ที่จะทำให้กลายเป็นสวรรค์ของคนเหล่านี้เพราะที่นี่มีแมวให้เล่นได้มากกว่า 600 ตัวเลยทีเดียว ที่ที่ว่านี้ก็คือ Lanaicatsanctuary หรือสถานสงเคราะห์แมวแห่งเมือง Lanai ตั้งอยู่ที่เกาะ Hawaii ซึ่งสถานที่นี้เป็นที่รับเลี้ยงแมวที่ไม่มีเจ้าของให้มีชีวิตที่ดีขึ้นโดยที่นี่มีอาหารที่ดีให้แก่แมว รวมทั้งยังมีสัตวแพทย์คอยฉีดวัคซีนให้แก่แมวทุกตัวที่นี่ และหากใครไปเที่ยวชมแล้วถูกใจแมวตัวไหนก็สามารถรับไปเลี้ยงได้ด้วยแหละ เอ้อออ นอกจากจะเป็นสวรรค์สำหรับทาสแมวแล้ว ที่นี่ยังได้มีการช่วยเหลือนกที่ใกล้สูญพันธ์ุให้มีที่อยู่ที่เหมาะสมอีกด้วย สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวทะเลสวยๆ ที่นี่ก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมบ้านแมวแสนน่ารักนี้ได้หรือจะช่วยบริจาคเพื่อช่ววยให้แมวทั้งหลายมีชีวิตที่ดีขึ้นก็ได้ที่ lanaicatsanctuary   ว่าแล้วก็ไปดูภาพเจ้าแมวแสนน่ารักเหล่านี้กันดีกว่า . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   ลองมาดูภาพเคลื่อนไหวกันบ้างดีกว่า   ที่มา: boredpanda, lanaicatsanctuary

  • ลูกสาวสุดช้ำเมื่อรู้ความจริงว่า “แม่แท้ๆ” ที่เพิ่งเสียไป เป็นผู้ทำลายชีวิตของเธอจนพัง

    ลูกสาวสุดช้ำเมื่อรู้ความจริงว่า “แม่แท้ๆ” ที่เพิ่งเสียไป เป็นผู้ทำลายชีวิตของเธอจนพัง

    สำหรับลูกๆ แล้ว แม่คือโลกทั้งใบพวกเขา เพราะแม่เป็นทั้งที่พักพิง ที่กำบัง ที่ปลอดภัย ที่ให้ความอบอุ่น นั่นทำให้ลูกส่วนใหญ่ไว้ใจแม่มากที่สุดชีวิต แต่สำหรับ Axton Betz-Hamilton เธอกลับถูกแม้แท้ๆ ทรยศต่อความไว้ใจที่มีให้ โดยแอบทำลายชีวิตเธออย่างลับๆ และเธอเพิ่งมารู้ความจริงตอนที่แม่ได้จากไปแล้ว เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Axton อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาปีที่สองในปี 2001 และเธอกำลังจะมีอพาร์ทเมนต์หลังแรกเป็นของตัวเอง ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาลัย     ในระหว่างที่หญิงสาวได้ดำเนินการตามขั้นตอนนั้น เธอก็พบบางอย่างผิดปกติ เมื่อเธอได้รับจดหมายจากบริษัทไฟฟ้า โดยอธิบายว่าจำเป็นต้องมีเงินฝากในบัญชีตามเงื่อนไข เนื่องจากระดับเครดิตของเธอไม่ค่อยดีนัก Axton รู้สึกงงกับจดหมายฉบับนั้นมาก เพราะเธอไม่เคยยืมเงินใคร แต่ด้วยความอยากรู้ เธอจึงได้ทำการสำเนาเอกสารประวัติการใช้งานของบัตรเครดิตของเธอทั้งหมด Axton ในวัย 35 ปี เล่าว่า “6 เดือนต่อมา ฉันก็ได้รับจดหมายที่มีความยาว 10 หน้า ในนั้นระบุคะแนนบัตรเครดิต อยู่ที่ 380 แต่ฉันจำได้ว่าเคยทดสอบใช้ไปตอนอยู่โรงเรียนเพียง 100 ครั้งเท่านั้น ต้องมีบางอย่างผิดปกติแล้วหล่ะ” ต่อมาเธอก็สังเกตเห็นบัตรเครดิตหลายร้อยใบเป็นชื่อของฉัน และทุกใบล้วนมีหนี้ติดมาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เธอพบว่ามีเพียง…

  • แม่ที่สูญเสียลูกน้อยทำรูปภาพใบสุดท้ายของลูกหาย แต่แล้วก็มีแม่อีกคนเก็บมาคืนให้…

    แม่ที่สูญเสียลูกน้อยทำรูปภาพใบสุดท้ายของลูกหาย แต่แล้วก็มีแม่อีกคนเก็บมาคืนให้…

    บางครั้งโชคชะตาก็อาจมีวิธีแปลกๆ ในการทำให้คนแปลกหน้าสองคนมาเจอกัน… เหมือนกับ Monica Taylor ที่พบรูปถ่ายตกอยู่บนพื้นที่ถูกเหยียบย่ำโดยฝูงชน ขณะที่เธอเดินออกมาจากงานคอนเสิร์ตใน Royal Melbourne Show ประเทศออสเตรเลีย Monica จึงหยิบรูปนั้นขึ้นมาดูแล้วก็พบว่าเป็นรูปทารกที่เหมือนโดนขยำมา… ภาพนี้ทำให้เธอนึกถึงประสบการณ์เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ลูกของเธอหายตัวไป เหลือเพียงแค่รูปถ่ายของเขาที่เธอหวงแหนมากกว่าอะไรในชีวิต     นั่นทำให้ Monica รู้ทันทีว่ารูปที่เธอบังเอิญเจอนี้ มันคงไม่ใช่แค่รูปถ่ายธรรมดา แต่อาจจะเป็นสิ่งล้ำค่าเพียงชิ้นเดียวเกี่ยวกับลูกที่แม่คนนั้นเหลืออยู่ ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้าน เธอจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ คือการโพสต์รูปนี้ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อตามหาเจ้าของภาพนี้ เธอบอกว่า “นี่เป็นรูปลูกของใครบางคน ฉันหวังว่าจะตามหาเจ้าของรูปนี้เจอ” เพียงไม่นาน ภาพที่เธอโพสต์ก็ถูกแชร์ไปกว่า 7,000 ครั้ง และแล้วโชคชะตาก็ทำให้แม่ของทารกในรูปผู้เป็นเจ้าของภาพได้เห็นรูปนั้นในเฟซบุ๊ก     คุณแม่คนนั้นจึงติดต่อไปหา Monica ทันที เธอรู้สึกซาบซึ้งมากที่มีคนเก็บรูปใบนั้นให้ และทั้งคู่ก็ได้นัดคืนรูปให้กันในวันรุ่งขึ้น Monica บอกว่าแม่ของทารกไม่ต้องการให้เปิดเผยชื่อ แต่เธอเล่าว่าได้เก็บรูปลูกน้อยไว้ในกระเป๋าเสื้อตลอดเวลา ตั้งแต่ที่ลูกน้อยเสียขีวิตไปในปี 2008 มันเป็นภาพเดียวที่เธอเหลืออยู่ และไม่มีวันไหนที่เธอจะไม่เปิดดูรูปของลูก การคิดถึงลูกคือแรงผลักดันที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้     แต่วันหนึ่ง ภาพลูกน้อยก็หล่นจากกระเป๋าเสื้อ เธอพยายามหาทุกซอกทุกมุม ทุกที่ที่ไปแต่ก็ไม่เจอ จนคิดว่ามันคงจะหายไปแล้วแน่ๆ กระทั่ง Monica เก็บรูปนี้ขึ้นมาจากท่ามกลางฝูงชนตามที่กล่าวมา เพื่อเป็นการขอบคุณ…

  • เจ้าโจรโดนจับจากการช่วยเหลือของตำรวจหญิงเกษียณวัย 90 ปี ถึงจะแก่แต่ยังฟิตปั๋งอยู่นะจ๊ะ

    เจ้าโจรโดนจับจากการช่วยเหลือของตำรวจหญิงเกษียณวัย 90 ปี ถึงจะแก่แต่ยังฟิตปั๋งอยู่นะจ๊ะ

    ขึ้นชื่อว่าเป็นตำรวจแล้ว เมื่อคุณตัดสินใจเริ่มอาชีพนี้ จะไม่สามารถเลิกเป็นได้ เพราะแม้คุณจะเกษียณไปแล้ว แต่สัญชาตญาณการเป็นตำรวจก็ยังคงมีอยู่ในตัวเสมอ เหมือนกับ Barbara McArthur อดีตตำรวจหญิงวัยเกษียณ ที่แม้จะอายุ 90 ปีแล้ว แต่ก็ยังช่วยตำรวจจับผู้ร้าย Jonathan Tawse วัย 28 ปีได้อย่างเหลือเชื่อ Barbara เริ่มทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่ออายุ 25 ปี และผลงานล่าสุดคือการจัดการกับ Tawse ได้อย่างอยู่หมัด สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนเป็นอย่างมาก     เหตุการนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Tawse ได้มาเสนอทำความสะอาดกระจกบ้านให้ Barbara โดยคิดราคา 200 บาท แต่พอทำไปสักพัก เขาก็อ้างว่าได้ทำการซ่อมแซมรอยร้าวบนประตูให้ด้วย จึงคิดราคาเพิ่มอีก 2,000 บาท ซึ่งเธอรู้ดีว่านั่นเป็นการหลอกลวง แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นเธอจำเป็นต้องทำเหมือนไม่รู้ว่าโดนหลอก ก่อนจากไป Tawse ได้ให้ใบปลิวกับเจ้าของบ้าน และบอกว่าเธอว่าจะกลับมาทำให้อีก หากมีอะไรต้องวซ่อมเรียกเขาได้เลย และใบปลิวใบนั้นที่ Barbara เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อมัดตัวเขา ต่อมา Barbara ได้เข้าพบตำรวจและแจ้งความเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็รู้ข้อมูลเกี่ยวกับ Tawse และพ่อของเขา Michael วัย 51 ปีว่าทั้งคู่เป็นนักต้มตุ๋น  …

  • เชียร์ลีดเดอร์สาวผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ก้าวข้ามความพิการ จนเป็นนักกีฬาระดับชาติ

    เชียร์ลีดเดอร์สาวผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ก้าวข้ามความพิการ จนเป็นนักกีฬาระดับชาติ

    กิจกรรมบางชนิด อย่างเชียร์ลีดเดอร์ จำเป็นต้องอาศัยไหวพริบ การเคลื่อนไหวที่กระฉับกระเฉง และสายตาที่ว่องไว แต่มีหญิงสาวอยู่คนหนึ่งที่ได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ระดับนานาชาติ ทั้งๆ ที่มีปัญหาทางสายตา Steph เป็นส่วนหนึ่งของทีม England ParaCheer ที่แม้จะมีบางส่วนของร่างกายบกพร่อง แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของเธอ     การแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ 2017 World Cheerleading Championships ในฟลอริด้า เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ ที่ทีม England ParaCheer จะได้เข้าร่วมเป็นครั้งแรก แม้ในทีมจะมีคนที่มีความบกพร่องทางร่างกายอยู่ แต่พวกเขาก็ทำได้ดีและประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้ทีมอื่นๆ…     Steph บอกว่าการมีปัญหาทางสายตั้งแต่กำเนิดทำให้เธอไม่สามารถรับรู้ถึงความลึกหรือความสูงได้ แต่เธอสามารถมองเห็นได้ลางๆ ด้วยตาข้างขวา อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถบอกรายละเอียดของสิ่งที่เห็นได้     แต่ Steph จะเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีม เพราะเธอมองไม่เห็น เพื่อนๆ จึงต้องทำสัญลักษณะเป็นสีเพื่อให้เธอรู้ว่าควรเคลื่อนไหวไปในทิศทางไหน เมื่ออยู่ในสนามแข่ง หญิงสาวได้แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ตามที่ซ้อมมา และเธอก็ทำได้ดีจนไม่มีใครดูออกว่าเธอมีปัญหาทางสายตา     เธอยังบอกอีกว่าในการแข่งขันแต่ละครั้ง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เธอก็รู้สึกภูมิใจเพราะได้ทำมันอย่างเต็มที่ทุกครั้ง การเป็นนักกีฬาทั้งๆ ที่ร่างกายบกพร่อง เป็นสิ่งที่ท้าทายไม่น้อย แต่เราแค่ต้องก้าวข้ามมันไป และแสดงศักยภาพของตัวเองออกมา    …

  • งานภาพถ่ายคุณตาคุณยายที่แต่งงานกันมา 68 ปี แต่ความรักก็ยังคงชื่นมื่นไม่มีเปลี่ยนแปลง

    งานภาพถ่ายคุณตาคุณยายที่แต่งงานกันมา 68 ปี แต่ความรักก็ยังคงชื่นมื่นไม่มีเปลี่ยนแปลง

    การตามหารักแท้ว่ายากแล้ว แต่การรักษารักแท้นั้นให้หวานชื่นอยู่เสมอเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า เพราะหลายๆ คู่เมื่ออยู่กันไปนานๆ ก็เริ่มจะรู้สึกเบื่อ ไม่ได้เติมความรักให้แก่กัน จนทำให้ความรักเริ่มจืดจางลงตามกาลเวลา แต่สำหรับตายายคู่นี้ วันเวลาไม่อาจทำลายความรักของพวกเขาได้ แม้แต่งงานกันมานานถึง 68 ปีแล้ว แต่รักก็ยังคงชื่นมื่นเหมือนตอนจีบกันใหม่ๆ     นี่คือการถ่ายรูปคู่ของตายาย ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก เพื่อฉลองครอบรอบวันแต่งงานปีที่ 68 ที่หวานซะจนวัยรุ่นอย่างเรายังต้องอิจฉา ช่างภาพที่ได้ถ่ายภาพให้กับตายายคู่นี้ บอกว่าเธอรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับหน้าที่เก็บภาพความทรงจำให้กับทั้งคู่ และตลอดการทำงานเธอสัมผัสได้ถึงความรักที่พวกเขามีให้กัน     ช่างภาพยังรู้มาอีกว่า ตายายยังเคยไปท่องเที่ยวมาด้วยกันในรัฐต่างๆ กว่า 50 รัฐ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมความรักของพวกเขาถึงไม่จืดจางเลย เวลาที่พวกเขาจูบกัน มันไม่ใช่แค่การจูบแต่เป็นการสื่ออารมณ์ความรู้สึกภายในให้แก่กันและกัน… พวกอธิษฐานก่อนนอนด้วยกันทุกคืน จับมือกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนนั่งดูทีวีบนโซฟา ในโบสถ์ บนถนน และในทุกๆ ที่ไม่เคยปล่อยมือกัน     คุณยายเป็นรักเดียวและรักแท้ของคุณตา สายตาที่เขามองภรรยาไม่ต่างอะไรจากตอนที่วัยรุ่นมองคนที่แอบชอบเลย จนทุกวันนี้ พวกเขาก็ยังขยันมอบความรักให้กันอยู่เสมอ สำหรับใครที่เจอรักแล้ว อยากให้รักษามันไว้ให้ดี เพราะคงมีไม่กี่คนที่จะอยู่เคียงข้างคุณไม่ว่าทุกข์หรือสุขและตลอดไปเหมือนกับตายายคู่นี้   . . . . .…

  • เจ้าของร้านโพสต์คลิปทรมาน ‘หนู’ เพราะมันแอบขโมยกินอาหาร สร้างประเด็นดราม่าหนัก…

    เจ้าของร้านโพสต์คลิปทรมาน ‘หนู’ เพราะมันแอบขโมยกินอาหาร สร้างประเด็นดราม่าหนัก…

    เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางยูทูบ เป็นคลิปวิดีโอการทารุณกรรมสัตว์ที่ดูโหดร้ายและน่าสงสารมากๆ ในคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่ามีหนูตัวหนึ่งถูกจับขึงพืดกับเหยือก และโดนมัดด้วยเชือกสีเขียวที่ขาทั้ง 4 ของมัน แล้วโดนชายคนหนึ่งเอาไม้เรียวฟาดรัวๆ     หน้าตาของมันแสดง ถึงความเจ็บปวดและน่าเวทนามากๆ   มันพยายามดิ้นเพื่อที่จะหลบไม้เรียวที่ฟาดลงมา แต่ก็ทำไม่ได้   ชายในคลิปวิดีโอก็ถามว่า “แกยังจะแอบกินแป้งกับข้าวสาลีของฉันอีกไหม?”   คลิปวิดีโอมีความยาว 32 วินาที หลังจากจบคลิปวิดีโอนี้ก็ไม่ทราบชะตากรรมของเจ้าหนูตัวนี้ว่ามันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่   จากการสืบก็พบว่าชายในคลิปคือนาย Melahalli Ramanna เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง Mysore ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย Anthony Rubin เจ้าหน้าที่รักษาสวัสดิภาพของสัตว์ในอินเดีย ได้ออกมากล่าวต่อว่าให้กับการกระทำของเจ้าของร้านอาหารผู้นี้ว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ “นี่เป็นวิดีโอที่ดูแล้วหดหู่ใจ ผมไม่รู้ว่าโลกกำลังเกิดอะไรขึ้น คนเราสามารถทำร้ายสัตว์ได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ? “ ถึงแม้ว่าหนูจะเป็นสัตว์ที่เป็นพาหะนำเชื้อโรค แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการสอบสวนถึงคดีการทารุณกรรมสัตว์ต่อไป   คลิปวิดีโอแสดงการทารุณกรรมสัตว์ ที่มา dailymail

  • นักกีฬายอมเสียโอกาสชนะ เพื่อช่วยแบกเพื่อนที่เจ็บขา ให้วิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมกัน..

    นักกีฬายอมเสียโอกาสชนะ เพื่อช่วยแบกเพื่อนที่เจ็บขา ให้วิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมกัน..

    นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ดีๆ ที่ซึ้งกินใจชาวเน็ตไปทั่วโลก จากงานแข่งขันกีฬาประจำปีที่ Sugar House Park รัฐยูทาห์ โดยเว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่า สองเพื่อนซี้จากโรงเรียนมัธยมเดียวกัน Sean Rausch และ Blake Lewis ได้เข้าร่วมการแข่งขันกรีฑาในครั้งนี้     การแข่งขันวิ่งเดี่ยวระยะ 3 ไมล์ (ราว 4.8 กิโลฯ) ได้เป็นไปอย่างราบรื่นปกติ จนกระทั่งเมื่อถึงระยะ 200 เมตรก่อนเข้าเส้นชัย อาการเจ็บที่ต้นขาก็ทำเอาพ่อหนุ่ม Blake Lewis ล้มไปกองกับพื้นอย่างดื้อๆ “ในช่วง 300 เมตรสุดท้าย จู่ๆ ผมก็รู้สึกเจ็บปวดที่ต้นขามากๆ จากนั้นพอวิ่งไปได้อีกซักระยะผมก็รู้สึกเหมือนกระดูกเคลื่อน และมันก็เจ็บมากจนผมวิ่งต่อไม่ไหว ต้องนอนกองกับพื้นอยู่ตรงนั้นเลยละครับ” Blake เล่า   แต่ในเรื่องร้ายๆ ยังมีเรื่องดี เมื่อเพื่อนซี้ Sean Rausch ตัดสินใจที่จะทิ้งตำแหน่งแชมป์ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนรักที่เคยลำบากด้วยกันมา…   หนุ่ม Rausch เล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า…

  • ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังพบร้านอาหารใน ‘อาร์มีเนีย’ ขังหมีไว้ให้ลูกค้าดูเล่น..!?

    ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังพบร้านอาหารใน ‘อาร์มีเนีย’ ขังหมีไว้ให้ลูกค้าดูเล่น..!?

    กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ทั่วโลกต่างพูดถึง หลังจากที่มีการแพร่ภาพของร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศอาร์มีเนีย โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอภาพของหมีสีน้ำตาลผู้น่าสงสาร ที่ถูกกักขังไว้ภายในกรงเหล็กขนาดเล็ก เพียงเพื่อใช้มันเป็นจุดสนใจสำหรับดึงลูกค้าเข้ามารับประทานอาหาร..!?   สภาพของน้องหมีที่ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่คับแคบ และนั่งดูลูกค้ารับประทานอาหาร   มุมจากโต๊ะอาหารของลูกค้า จะเห็นได้ว่าหมีสีน้ำตาลถูกขังไว้อย่างน่าสงสาร และพยายามเรียกร้องขอความช่วยเหลือ   แม้ว่า ‘อาร์มีเนีย’ จะเป็นประเทศที่มีประเพณีการจับหมีเพื่อเลี้ยงดูมาอย่างช้านาน ทว่าการจับหมีสีน้ำตาลออกมาจากแหล่งอาศัยตามธรรมชาติ และนำมันมาใช้หาผลประโยชน์เช่นนี้ ก็ถูกหลายองค์กรทั่วโลกโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก   จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว ทำให้กลุ่ม IAR จากอังกฤษ ได้ประกาศลดจำนวนหมีที่ถูกนำมาขังในประเทศอาร์มีเนียให้ได้มากที่สุด…   “บางตัวถูกขังอยู่ในนั้นมาเกือบทั้งชีวิต ประทังชีวิตอยู่ด้วยเศษอาหารเหลือจนพวกมันมีสภาพร่างกายผอมซูบ”   “อีกทั้งพวกมันยังต้องอาศัยอยู่ในน้ำที่ไม่มีการระบาย และเหม็นอับ หลายๆ ตัวพยายามหาวิธีปีนหนีออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ” Alan Knight หัวหน้าองค์กร IAR เล่า   ซึ่งตอนนี้ทางองค์กรกำลังวางแผนและระดมเงินทุน หวังปลดปล่อยอิสรภาพให้พี่หมีกว่า 80 ชีวิตทั่วทั้งอาร์มีเนีย   การจะช่วยเหลือหมีตัวหนึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายรวมแล้วสูงถึง 4,000 ยูโร (ราว 150,000 บาท) ไม่ว่าจะค่าขนส่ง ค่ารักษาพยาบาล ค่าที่อยู่พักฟื้น…

  • Daphne คุณยายผู้อุทิศชีวิตช่วย ‘ช้างแอฟริกา’ มาตลอด 40 ปี สานต่อเจตนารมย์ของสามีที่เสียไป

    Daphne คุณยายผู้อุทิศชีวิตช่วย ‘ช้างแอฟริกา’ มาตลอด 40 ปี สานต่อเจตนารมย์ของสามีที่เสียไป

    เป็นเวลากว่าหลายปีที่สองสามีภรรยาได้ทำงานเป็นทีมร่วมทุกข์ร่วมสุขเพื่อดูแลเหล่าสัตว์ป่าในประเทศแอฟริกา อีกทั้งยังรณรงค์สร้างความตระหนักให้ทุกคนเห็นว่าการล่าช้างเพื่อเอางานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในปี 1977 หลังจากที่คู่รักได้ย้ายมาอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Nairobi สามีของ ด็อกเตอร์ Dame Daphne Sheldrick ก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ     แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงสืบสานเจตนารมย์ของผู้เป็นสามีต่อไปด้วยการก่อตั้งมูลนิธิที่มีชื่อว่า David Sheldrick Wildlife Trust ขึ้นมา ซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์ช่วยดูแลเหล่าลูกช้างป่ากำพร้าแม่ทั้งหลาย จนพวกมันเติบโตสามารถดูแลตัวเองได้จึงจะปล่อยกลับไปสู่ป่าตามเดิม เจ้าลูกช้างบางตัวก็ต้องสูญเสียแม่ของตัวเองเพราะเหยียบกับดัก บางตัวก็ตกลงไปในบ่อน้ำแล้วขึ้นไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะถูกฆ่าเพียงเพื่อเอางาไปขายเท่านั้น หากไม่มีการช่วยเหลือจากมนุษย์เหล่าลูกช้างตัวน้อยๆ กำพร้าแม่ก็จะต้องตาย เพราะอาหารของพวกมันในช่วง 2 ปี แรกก็คือน้ำนมจากแม่ และต้องใช้เวลาอีก 2 ปีสำหรับการหย่านม     และคุณ Daphne ก็เป็นคนแรกที่สามารถคิดค้นและผลิตน้ำนมสูตรเฉพาะที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของลูกช้างป่าได้สำเร็จ ซึ่งส่วนประกอบของมันประกอบไปด้วยไขมันในผัก และน้ำมันมะพร้าว     ลูกช้างมากมายถูกส่งมายังสถานสงเคราะห์ DSWT (David Sheldrick Wildlife Trust) จากหลากหลายที่ทั่วประเทศแอฟริกา และพวกมันก็จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีด้วยความรักและความอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ในสถานที่แห่งนี้     เมื่อเหล่าลูกช้างเติบโตและแข็งแรงดี พวกมันก็จะถูกส่งต่อไปยังอุทยานแห่งชาติ Tsavo National Park…

  • 21 ภาพนักกีฬารักบี้ ที่ทำให้เรารู้สึกว่า มันน่าเล่นซะจริง.. เล่นกีฬาเหรอ เล่นคนเนี่ย!!

    21 ภาพนักกีฬารักบี้ ที่ทำให้เรารู้สึกว่า มันน่าเล่นซะจริง.. เล่นกีฬาเหรอ เล่นคนเนี่ย!!

    สำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬาแล้ว คงรู้ดีว่ามันส่งผลดีต่อร่างกายแค่ไหน ทั้งทำให้สุขภาพดีและยังมีรูปร่างที่ปราดเปรียวน่ามองอีกด้วย ดังนั้นวันนี้จึงจะชวนเพื่อนๆ ทุกคนไปเล่นกีฬารักบี้กัน แต่เอ๊ะ! มันจะเจ็บตัวหรือหนักไปสำหรับเรารึเปล่านะ!? อย่าได้ลังเลใจเพราะประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ครั้งนี้เราจะไปแอบส่องนักกีฬาสุดแซ่บ ที่ทำให้อยากลุกจากที่นอนไปซอย(เท้า) เข้าสนาม ให้เหงื่อชุ่มร่างกายจนแฉะไปหมดเลยล่ะ   1. Pierre Spies (South Africa) บาร์หนักขนาดนี้ยังยกได้ แสดงว่าต้องยกเราไหวแน่นอน   2. David Pocock (Australia) เป็นนักกีฬารักบี้ที่ไหล่งามเอามากๆ   3. TJ Perenara (New Zealand) นักกีฬามีรอยสักมันโดนใจอีแม่สุดๆ   4. Sonny Bill Williams (New Zealand) กล้ามเป็นมัดๆ น่าลูบไล้เสียจริงๆ   5. Leigh Halfpenny (Wales) เปลี่ยนจากแย่งลูกรักบี้มาแย่งเราแทนได้ไหม??   6. Israel Folau (Australia) ผิวสีแทนแบบนี้ดูเซ็กซี่สุดๆ   7. George North (Wales) อุ้มเพื่อนแบบสบายๆ แบบนี้ ต้องอุ้มเราได้แน่นอน…

  • ชมภาพประวัติศาสตร์ เผยช่วงเหตุการณ์ตอนชาวเยอรมันเลือก ‘ฮิตเลอร์’ มาเป็นผู้นำ..!!

    ชมภาพประวัติศาสตร์ เผยช่วงเหตุการณ์ตอนชาวเยอรมันเลือก ‘ฮิตเลอร์’ มาเป็นผู้นำ..!!

    หนึ่งในเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่กลายเป็นบทเรียนราคาแพงให้ชาวเยอรมันได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์หลังจากที่ ‘อดอล์ฟ ฮิตเลอร์’ ถูกเลือกให้เป็นผู้นำ หลังมีการประกาศนโยบายสร้างชาติครั้งใหม่..!! แต่ใครเล่าจะรู้ว่าหลังฮิตเลอร์ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้นำ เขาได้กำจัดคู่แข่งทางการเมืองอย่างโหดเหี้ยม รวมทั้งดำเนินนโยบายทางการทหารอย่างสุดโต่ง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด   ในเมือง Nuremberg ปี 1928 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ได้กล่าวคำปราศรัยเพื่อสร้างฐานเสียง พร้อมกลุ่มทหารผู้ติดตาม ‘Brownshirts’   ในช่วงแรกสมาชิกกลุ่ม ‘Brownshirts’ มักจะเข้าไปเจรจาพูดคุยกับชาวเมืองเพื่ออธิบายถึงนโยบายและความดีงามของพรรคนาซี   มกราคม 1933 กลุ่มผู้สนับสนุนได้ออกมาเดินขบวนพาเหรด หลังฮิตเลอร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีประจำเยอรมนี   ย้อนกลับไปปี 1925 นี่คือภาพของผู้คนที่เดินทางมาฟังฮิตเลอร์ปราศรัยในโรงเบียร์แห่งหนึ่งในเมืองมิวนิค   จากนั้นไม่นานเขาก็กลายเป็นผู้มีอิทธิพลอันสูงส่ง และมีกองกำลังทหารเป็นของตัวเอง   ปี 1932 งานเลี้ยงของพรรคนาซีที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูง และมีการประดับลูกโป่งด้วยสัญลักษณ์สวัสติกะ   เมษายน ปี 1931 มีการเดินขบวนพรรคนาซี และเหล่า ‘Brownshirts’ ต่างก็ยืนฟังคำปราศรัยจากฮิตเลอร์อย่างเป็นระเบียบ   ภาพของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และสมาชิกพรรคนาซีในปี 1930   หลังได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์…

  • 10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘การผ่าตัด & ศัลยกรรม’ จากยุคกลาง แหม๊… มันช่างน่ารักสดใสซะจริ๊งง!!

    10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘การผ่าตัด & ศัลยกรรม’ จากยุคกลาง แหม๊… มันช่างน่ารักสดใสซะจริ๊งง!!

    ถ้าพูดถึงการเข้ารับการผ่าตัด & ศัลยกรรมในสมัยนี้ หลายคนอาจจะไม่รู้สึกกลัว เพราะไหนจะมีทั้งยาชา ยาสลบ แถมยังมีกรรมวิธีอีกมากมายที่ช่วยให้อะไรๆ ก็เป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการผ่าตัดทางการแพทย์ในสมัยยุคกลาง ซึ่งเป็นยุคสมัยที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ยังไม่ก้าวหน้ามากนัก และการจะรักษาโรคแต่ละอย่างมันก็ช่างแหม๊… ดูน่าลิ้มลองซะจริง!!   1. การผ่าตัดในยุคกลางมีแต่ความเจ็บปวด เจ็บปวด และเจ็บปวด   ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าการผ่าตัดในยุคกลางนั้นเป็นเรื่องที่ทารุนแบบสุด (ถึงขั้นที่คุณอาจเสียชีวิตจากความเจ็บปวดได้เลย) ไม่ว่าจะสาเหตุมาจากความรู้ความเข้าใจในเรื่องกายวิภาคของมนุษย์ที่ยังไม่มากพอ หรือจะเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ ที่ยังไม่เอื้ออำนวย ที่สำคัญ ในสมัยนั้นผู้ที่รับหน้าที่เป็นหมอส่วนใหญ่แล้วจะมาจากอาชีพบาทหลวงมาก่อน และส่วนใหญ่จะใช้ตำราการแพทย์จากฝั่งอาหรับเป็นหลัก จนกระทั่งในปี 1215 พระสันตปาปาได้ประกาศให้บาทหลวงห้ามยุ่งเกี่ยวกับการแพทย์ และเปิดโอกาสให้เป็นพื้นที่ของคนที่ตั้งใจศึกษาด้านนี้จริงๆ แต่ถึงกระนั้นการผ่าตัดก็ยังไม่ใช่เรื่องทั่วไปเหมือนสมัยนี้อยู่ดี     2. ยาชา/ยาสลบ ในยุคกลางจะใช้สิ่งที่เรียกว่า ‘Dwale’   ชีวิตของผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดในยุคกลางค่อนข้างจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย ในสมัยนั้นมีการใช้ยาชาที่เรียกว่า ‘Dwale’ ซึ่งเกิดจากการผสมสารต่างๆ ที่สกัดได้จากธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน แต่ก็ใช่ว่าการผ่าตัดจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย เพราะเจ้า Dwale นี่แหละ บางทีก็สร้างปัญหาให้ตัวหมอเอง เนื่องจากบางครั้งมันก็แรงมากซะจนทำให้ผู้ป่วยหลับสนิทจนไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย…     3. วิธีการรักษาต้อกระจกสุดโหด…!!   หากใครเป็นโรคต้อกระจกในช่วงยุคกลาง…

  • เจอแบบนี้มีผวา… วินาทีหมอตรวจฟันคนไข้สาว เปิดปากเจอฟันเหลือง-หนอนแมลงไชเต็มปาก!!!

    เจอแบบนี้มีผวา… วินาทีหมอตรวจฟันคนไข้สาว เปิดปากเจอฟันเหลือง-หนอนแมลงไชเต็มปาก!!!

    เนื้อหานี้อาจจะภาพและคลิปที่มีความรุนแรง ไม่เหมาะกับผู้อ่านบางท่านนะครับ ลองคิดดูว่าหากเราเป็นหมอฟัน ที่ต้องมารักษาช่องปากให้คนไข้สาวรายนี้ วินาทีที่เราเห็นเหล่าหนอนยั้วเยี้ยอยู่ในปากของเธอ คงจะเป็นอะไรที่น่าตกใจไม่น้อย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศอินเดีย และถูกเปิดเผยออกมาเป็นคลิปวิดีโอผ่านทางเว็บไซต์ไลฟ์ลีกส์อีกต่อหนึ่ง   คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ถ้าคลิปไม่แสดง สามารถกดชมได้ที่นี่) .   คนไข้ดังกล่าวมาด้วยอาการฟันผุ ฟันมีคราบหินปูน และดูเหมือนจะมีแผลติดเชื้อในช่องปาก ซึ่งนั่นทำให้มีหนอนในปากของเธออยู่จำนวนมากที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่ด่วน คนไข้คนดังกล่าวถูกวางยาสลบ ก่อนที่จะทำการรักษา โดยมีสายยางสอดเข้าทางจมูกของเธออยู่ในขณะที่ทำการถ่ายคลิปวิดีโอ     ทั้งนี้ทางแพทย์สันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจจะเกิดจากการไม่ดูแลช่องปากของคนไข้เอง ซึ่งอาจจะถูกแมลงวางไข่ในช่องปาก (เกิดขึ้นได้ขณะหลับ) จากนั้นไข่ก็กลายเป็นตัวอ่อนแล้วกินเนื้อโดยรอบ ซึ่งก็คือในบริเวณช่องปากของเธอเอง หมอต้องทำการรักษาโดยการนำตัวอ่อนแมลงเหล่านั้นออกมาจากมากให้หมด พร้อมกับทำความสะอาดแผลและบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติม  จากนั้นจึงค่อยวางแผนรักษาฟันของคนไข้ต่อไป     แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ยากมาก แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งขาดสุขอนามัยที่ดีพอของประเทศกำลังพัฒนาหลายๆ ประเทศรอบโลก ยกตัวอย่างจากในเหตุการณ์ข้างต้นซึ่งเกิดในชนบทของประเทศอินเดีย แมลงสามารถวางไข่ในปากของคนตอนเราหลับได้ และเมื่อคนไข้ขาดการดูแลรักษาช่องปากที่ดีพอ หรือทำความสะอาดแล้วก็ตาม ไข่แมลงดังกล่าวก็ยังสามารถฟักออกมาได้อย่างที่เราเห็น   ที่มา: dailymail, liveleak

  • หญิงสาวเล่าประสบการณ์อันน่าหวาดเสียว ขณะที่เล่นเซ็กส์กันจนกระปู๋ของแฟนหนุ่มหัก

    หญิงสาวเล่าประสบการณ์อันน่าหวาดเสียว ขณะที่เล่นเซ็กส์กันจนกระปู๋ของแฟนหนุ่มหัก

    การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่มันจะไม่ปกติก็เพราะบางครั้งเราอาจจะทำอะไรแผลงๆ อย่างการโชว์ท่วงท่าลีลาแปลกๆ หรือการบุกตะลุยสานสัมพันธ์กันอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ผลที่ตามมามันเลวร้ายกว่าที่คิดไปเลยก็ได้ เหมือนกับที่ชายคนนี้ต้องเจอ เมื่อสาวสวยวัย 23 ปี Megan Barker จากเมือง Guildford ประเทศอังกฤษ ได้เล่าถึงประสบการณ์การมีเซ็กส์กับแฟนหนุ่มที่หนักหน่วงและพิสดาร จนถึงขนาดทำให้น้องชายของเขาต้องหักในระหว่างทำกิจกรรม จากช่วงเวลาแห่งความสุขก็ได้กลายเป็นช่วงเวลาอันแสนเจ็บปวดไปในทันที   Megan และ Adam แฟนหนุ่มของเธอ   เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อทั้งสองได้เจอกันเป็นครั้งแรกในปี 2013 ด้วยความเท่จากหน้าตาและรูปร่างของนายแบบหนุ่มวัย 24 ปี Adam Francis ทำให้ทั้งคู่เริ่มออกเดทและคบกันในเวลาต่อมา ชีวิตคู่ของพวกเขาไม่ได้มีเพียงรักอันหวานฉ่ำ แต่ยังเต็มไปด้วยการมีเซ็กส์อันแสนร้อนแรง เติมเต็มความต้องการของกันและกันได้อย่างเต็มที่ จนกระทั่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้น เมื่อในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 พวกเขากำลังเพลิดเพลินกับค่ำคืนแห่งความเร่าร้อน ท่วงท่าลีลาความหนักหน่วงแบบจัดหนักจัดเต็ม     Megan เล่าว่า “เขาพลิกตัวเข้ามาอยู่ด้านหลังฉัน ส่วนฉันก็พยายามโก่งตัวแอ่นหลังรับแรงกระแทก แต่จู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนกับอะไรซักอย่างหัก” เมื่อเธอหันกลับไปดูพบว่าแฟนหนุ่มได้ลงไปนอนขดตัวเอามือกุมอวัยวะเพศไว้แน่น ใบหน้าซีดเผือดและส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มีเลือดพุ่งออกมาจากน้องชายของเขาอย่างไม่ขาดสาย เธอเล่าต่อว่า “มันเหมือนกับฉากฆาตกรรมชัดๆ เลือดที่พุ่งออกมาเลอะเต็มเตียงไปหมด” หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป ก่อนที่หญิงสาวจะตามเข้าไปดูและพบว่าเธอทำให้กระปู๋ของเขาหัก ขณะที่ชายนอนลงอยู่บนพื้นห้องน้ำที่เต็มไปด้วยเลือด เธอจึงรีบโทรตามรถพยาบาลมาในทันที…

  • ปล้นแบบแฟนซี!! โจรสวมหน้ากาก Stormtrooper ขณะกำลังปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งในสเปน

    ปล้นแบบแฟนซี!! โจรสวมหน้ากาก Stormtrooper ขณะกำลังปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งในสเปน

    ในภาพยนตร์เรื่อง Star wars จะมีตัวละครตัวหนึ่งที่เป็นที่คุ้นตาของใครหลายคนอย่าง Stormtrooper ซึ่งในเรื่องก็คือกองทหารเลวประจำกองทัพฝั่งตัวร้าย แต่ว่าในเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคนสวมหน้ากากของตัวละครนี้มาปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งซะอย่างนั้น โดยผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นชาวอังกฤษคนหนึ่งอายุ 41 ปี ได้ก่อเหตุปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งในเมือง Mijas ประเทศสเปน โดยเขาได้เงินไปทั้งหมดกว่า 1500 ยูโร (58,673 บาท) ซึ่งตำรวจพยายามแกะรอยชายในหน้ากากสุดน่ารักนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม และจับกุมได้ในทีสุด   ส่งเงินมานะเจ้ามนุษย์   ภาพจากในกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า มีผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดสีดำและสวมหน้ากากของตัว Stormtrooper ข่มขู่พนักงานต้อนรับของโรงแรมด้วยอาวุธปิืน และบังคับให้ส่งเงินให้เขา พนักงานคนนั้นก็ส่งเงินให้แต่โดยดี จากนั้นโจรคนนี้ก็รีบกวาดเงินทั้งหมดลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ก็ดำเดินต่อไปจนถึงจุดที่กำลังจะหนีแต่ปรากฎว่าไปผิดทาง (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนนี้เขาเข้ามาจากทางไหน) จนพนักงานคนนั้นต้องบอกทางออกที่ถูกต้องให้แก่ชายคนดังกล่าว   จะหนีได้อยู่แล้วไปผิดทางซะงั้น   แต่ก่อนจะออกไปนาย Stormtrooper ก็ยังมีความรอบคอบอยู่ โดยเขาได้กลับมาที่เคาน์เตอร์และดึงสายโทรศัพท์ออกเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานคนดังกล่าวโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินนั่นเองและได้ถามถึงทางออกอีกครั้งเพราะกลัวจะไปผิดทางอีก ขณะที่ทางตำรวจของสเปนกำลังหาทางแกะรอยเจ้าทหารอวกาศคนนี้อยู่ ก็ได้รับรายงานว่ามีการปล้นในลักษณะเดียวกันนี้ เกิดขึ้นที่บ้านพักตากอากาศแห่งหนึ่งในละแวกเดียวกันกับที่โรงแรมตั้งอยู่   เพื่อความชัวร์ต้องป้องกันซะหน่อย   และมาคราวนี้เจ้าโจรคนนี้เหมือนอยากจะเย้ยหยันตำรวจที่จับเขาเข้ากรงไม่ได้สักที เพราะว่าเขาสวมหน้ากากอันเดิมพร้อมกับเสื้อกั๊กที่เขียนคำว่า “Interpol” หรือองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศนั่งเอง แหมช่างกล้าซะจริงๆ แต่ว่าครั้งนี้เขาไปไม่รอดเพราะว่า คนที่อาศัยอยู่ในบ้านพักตากอากาศหลังนั้นได้ขวางไม่ให้ชายผู้นี้บุกเข้าไปในบ้าน และเขาก็ยอมแพ้ในที่สุด ตำรวจได้เปรียบเทียบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมกับคนที่จับมาได้ ปรากฎว่าคือคนเดียวกัน แต่ว่าชื่อของเขาไม่ได้รับการเผยแพร่ออกมา อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ถูกคุมขังอยู่กับตำรวจแล้วล่ะ  …

  • ศิลปินชาวโรมาเนียสุดล้ำ ใช้ “เลื่อย” แกะสลักต้นไม้ จนออกมาเป็นผลงานระดับเทพ

    ศิลปินชาวโรมาเนียสุดล้ำ ใช้ “เลื่อย” แกะสลักต้นไม้ จนออกมาเป็นผลงานระดับเทพ

    คำว่าศิลปะ ถ้าได้ยินคำนี้หลายคนคงนึกถึงภาพวาดภาพเขียนหรือไม่ก็การปั้นอะไรซักอย่าง แต่ว่าชายคนนี้จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่าศิลปะอยู่ในทุกสิ่งบนโลกจริงๆ เพราะว่าเขาคนนี้ได้สร้างศิลปะจากการแกะสลักลงบนต้นไม้! ชายคนที่มีฝีมือระดับปรมาจารย์คนนี้มีชื่อว่า Gabi Rizea อายุ 42 ปี ชาวโรมาเนียที่ได้มีสกิลการแกะสลักบนต้นไม้ระดับเทพ เขาบอกว่าเขาค้นพบความสามารถนี้โดยบังเอิญ โดยตอนนั้นเขาได้ซื้อเลื่อยอันใหม่มาเลยอยากจะลองของแกะสลักเป็นหน้าคนที่ต้นไม้ ปรากฎว่าผลที่ออกมามันดีเกินคาดเขาเลยสร้างศิลปะอย่างนี้มาเรื่อยๆ และเป็นโชคดีของเขาที่รัฐบาลท้องถิ่น Craiova ซึ่งเป็นที่ที่เขาอาศัยอยู่ได้มาเห็นฝีมือเข้าจึงอนุญาตให้เขาสามารถแกะสลักลงบนต้นไม้ในสวนสาธารณะได้ ผลงานทั้งหลายจึงได้ประจักษ์แก่สายตาของผู้คนมากมายและนั่นทำให้เขาเป็นคนดังในประเทศโรมาเนียเลยล่ะ   เห้ย ทำได้ไงเนี่ย   จากตอไม้ธรรมดาๆ กลายเป็นงานศิลปะสุดสวย   แหวกออกมาทำไมเนี่ยฮะ   คล้ายพ่อมดเทาใน The Lord of The Ring มาก   เรียกได้ว่างานละเอียดจริงๆ   เป็นหน้าผู้หญิงก็ได้ ชิวๆ   เป็นที่นั่งที่คิกขุอะไรขนาดนี้เนี่ย   เหมือนใครเอาสติกเกอร์ไปแปะไว้เลย   หน้าตาของศิลปินผู้สร้างผลงานบนผืนไม้   ขณะทำงานก็ต้องสร้างอารมณ์นิดนึง   เห็นไหมล่ะเพื่อนๆ ว่าศิลปะอยู่รอบตัวจริงๆ ว่าแล้วก็ลองหาแกะอะไรซักอย่างดีกว่า ฮ่าๆ ที่มา: boredpanda

  • เผยมุมน่ารักๆ ของ ‘อาเบะ’ ทั่นผู้นำญี่ปุ่น ได้ไอติมมากินยิ้มแฉ่งเป็นเด็กน้อยเลยน๊าา

    เผยมุมน่ารักๆ ของ ‘อาเบะ’ ทั่นผู้นำญี่ปุ่น ได้ไอติมมากินยิ้มแฉ่งเป็นเด็กน้อยเลยน๊าา

    นี่คือบทพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นพ้องต้องกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใครถ้าคุณได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ยังไงคุณก็ต้องรักไอศครีมแน่น๊อนน!! เพราะคราวนี้เราจะพาไปชมภาพน่ารักๆ จาก Shinzo Abe นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่ดูเหมือนว่าพอได้กินไอติมแล้วก็ยิ้มแฉ่ง ออกอาการเป็นเด็กน้อยเอาซะน่ารักเชียว   ปกติแล้วถ้าอยู่ในเวลางาน เป็นธรรมดาที่นักการเมืองจะต้องดูเคร่งขรึม จริงจัง เพราะต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบไว้มากมาย   ในตอนนี้ญี่ปุ่นได้ผ่านช่วงเลือกตั้งไปแล้วและเพิ่งจะประกาศผลการเลือกตั้งไปเมื่อ 2 วันก่อนว่า Shinzo Abe สามารถเอาชนะคะแนนเสียงจากผู้ท้าชิงอย่าง Yuriko Koike ไปได้อย่างขาดลอย ทำให้เขายังคงยึดตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นได้ในสมัยที่ 2   แต่สิ่งที่ดูจะฮือฮาในโลกออนไลน์ไม่แพ้กับผลการเลือกตั้ง ก็คือภาพขณะที่เจ้าตัวยืนถือไอศกรีมและดื่มด่ำรสชาติของมัน จนกลายเป็นกระแสถูกอกถูกใจชาวเน็ตกันยกใหญ่   บ้างก็ว่าเมื่อได้เห็นภาพผู้นำประเทศยืนทานไอติมแบบนี้แล้ว มันให้ความรู้สึกเหมือนได้ผ่อนคลายจากความเครียดยังไงไม่รู้แฮะ   อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ามมมมม ก็คนมันชอบนี่นาา   ไม่ว่าวันนั้นจะหนักหนาแค่ไหน ขอได้ลิ้มรสไอติมฉ่ำๆ ท่านผู้นำก็ดูจะยิ้มแย้มอารมณ์ดีขึ้นมาทันที   เมื่อภาพดังกล่าวถูกแชร์ต่อบนโลกโซเชียลญี่ปุ่น ผลก็เป็นอย่างที่เรารู้กันดีว่า ชาวเน็ตต่างออกมาให้ความเห็นมากมายเกี่ยวกับอิริยาบถน่ารักๆ ของตัวผู้นำคนนี้ “เขาต้องทำงานหนักหลายอย่าง… ไม่แปลกเลยที่จะมีความสุขกับสิ่งที่ได้เลือกบ้าง” ชาวเน็ตคนหนึ่งให้ความเห็น   ไม่ใช่แค่ไอติมเท่านั้นนะที่เขาจะดูดื่มด่ำไปกับมัน แต่ดูเหมือนว่าอะไรที่มันอร่อย ท่านผู้นำคนนี้ก็พร้อมที่จะหลับตาพริ้มไปกับมันตลอดเลย แฮร่!!   ที่มา: Rocketnews24

  • คูู่รักออกเดินทางท่องเที่ยว แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มระหว่างทาง พอออกมาได้หมามาร่วมทางเฉ๊ย!!

    คูู่รักออกเดินทางท่องเที่ยว แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มระหว่างทาง พอออกมาได้หมามาร่วมทางเฉ๊ย!!

    เมื่อเราขับรถออกเดินทางท่องเที่ยวก็ต้องมีบ้างบางครั้งที่จะจอดพักหรือแวะเติมน้ำมันบ้าง แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อจอดเติมน้ำมันแปบเดียวกลับมีเพื่อนมาขอร่วมทางแต่ว่ามันกลับไม่ใช่คนน่ะสิ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Emily Trost และแฟนหนุ่มของเธอที่ขับรถเที่ยวข้ามประเทศเป็นระยะเวลากว่า 10 สัปดาห์ ระหว่างที่พวกเขาแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในรัฐ Montana และได้เข้าไปซื้อในร้านมินิมาร์ท เมื่อกลับมาที่รถก็พบลูกหมาน่ารักตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างรถเหมือนกับว่ามันกำลังรอพวกเธออยู่   เอ้ามายังไง   “ตอนแรกเราคิดว่ามันคงเป็นหมาของใครซักคนที่แวะเติมน้ำมันนี่แหละ” “เราเดินไปทั่วทั้งปั๊มน้ำมันเพื่อหาว่าใครเป็นเจ้าของมันกันแน่ แต่ก็ไม่มีใครที่มาตามหาเจ้าหมาตัวนี้เลย และดูจากสภาพมอมแมมของมันแล้วฉันก็เลยรู้ทันทีว่ามันไม่มีเจ้าของ” Emily กล่าว   เห็นหน้าตาน่ารักอย่างนี้ ใครจะอดสงสารไม่ได้   ในอีกครู่ต่อมา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งขับรถเข้ามาในปั๊มและเมื่อเห็นเจ้าหมาอยู่กับทั้งคู่จึงบอกว่า หมาตัวนี้เป็นหมาที่หลงทางมาและขอให้ทั้งคู่นำหมาตัวนี้ไปเลี้ยง เพราะว่าหมาตัวนี้เป็นหมาที่ฉลาดและควรจะได้อยู่กับคนดีๆ คู่รักทั้งคู่จึงตกลงกันว่าอย่างน้อยก็รับหมาตัวนี้ไปก่อนละกันแล้วค่อยหาองค์กรที่ช่วยเหลือสัตว์ที่หลัง แต่หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกับมัน ความน่ารักของหมาตัวนี้ก็ทำให้ทั้งคู่ใจอ่อนรับมันไปเลี้ยงที่บ้านจนได้   อ้อนเชียวนะ   ทั้งสองตัดสินใจตั้งชื่อเจ้าสี่ขาตัวนี้ว่า Montana ตามรัฐที่ได้เจอมันโดยบังเอิญ ซึ่งตอนที่รับมันมาขึ้นรถมันคงหวังแค่เพียงว่าเจ้าของรถคันนี้อาจจะสงสารให้ข้าวมันกินสักนิดหน่อย แต่มันคงไม่รู้หรอกว่ามันเจอโชคครั้งใหญ่เข้าแล้ว “เช้าวันแรกหลังเรารับ Montana เป็นวันที่ดีที่สุดเลย มันตื่นขึ้นมาในเต็นท์ของเราและพยายามปีนขึ้นมาบนหัวของเราและหอมแก้มเรา มันคงตกใจที่วันหนึ่งตื่นมาแล้วมีคนอยู่ข้างกายของมันมั้ง” Emily กล่าวเพิ่ม   หลับปุ๋ยเชียว   ในช่วงแรก Montana ใช้เวลาในการนอนเยอะมากและมีความสุขที่มีคนดูแล และเมื่อมีความคุ้นเคยมากขึ้นกับเจ้าของใหม่ มันก็ค่อยๆ เผยนิสัยที่แท้จริงออกมา ซึ่งมันดูมีความสุขกับในการออกทริปครั้งนี้ไปพร้อมกับพ่อและแม่ใหม่ของมัน และเมื่อจบการเดินทางอันยาวนานเขาทั้ง 2 คนและอีก 1…

  • ตำรวจอึ้งหลังชายไต้หวันเข้ามอบตัว พร้อมกับถุงขยะบรรจุศพลูกสาวที่เคยพลั้งมือฆ่าเมื่อ 12 ปีก่อน

    ตำรวจอึ้งหลังชายไต้หวันเข้ามอบตัว พร้อมกับถุงขยะบรรจุศพลูกสาวที่เคยพลั้งมือฆ่าเมื่อ 12 ปีก่อน

    วันที่ 20 ตุลาคม 2017 สำนักข่าวเดลีเมลได้เปิดเผยเรื่องราวชวนช็อกที่เกิดขึ้น ณ เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน เมื่อชายวัย 43 ปีรายหนึ่งได้เดินเข้าไปมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมถือถุงขยะมาด้วย 1 ใบ ซึ่งเขาได้อ้างว่า ในถุงขยะใบนั้นมีศพของลูกสาววัยเพียง 1 เดือน ที่เคยพลั้งมือฆ่าไปเมื่อ 12 ปีก่อน เหตุเพราะรู้สึกโมโหที่ลูกไม่ยอมหยุดร้องไห้ขณะเอานมให้ดื่ม     ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตซานมิน เมืองเกาสง ได้ออกมาเผยว่าพวกเขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อชายที่ชื่อหลิน วัย 43 ปีรายนี้ เดินถือถุงศพเข้ามาสารภาพในสิ่งที่เคยทำไว้เมื่อปี 2005 อย่างไรก็ตามนายหลินได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่า หลังจากที่เขาพลั้งมือตีลูกสาวจนตาย ในเวลานั้นเขารู้สึกตกใจ และทำอะไรไม่ถูก เขาจึงนำร่างของเธอไปยัดใส่ในถุงขยะ และแอบซ่อนเอาไว้ใต้เตียงนอน     นอกจากนี้เขายังโกหกภรรยาวัย 38 ปี อีกว่าผู้เป็นย่าได้มารับเอาลูกไปเลี้ยงแล้ว ซึ่งเขาก็ห้ามเอาไว้ไม่อยู่ และไม่สามารถที่จะหาทางนำตัวลูกสาวกลับมาได้เลย     จากการรายงานระบุว่า อีก 2 ปีต่อมา นายหลินและภรรยาของเขาก็ได้มีลูกสาวด้วยกันอีกครั้ง โดยเขาได้ปล่อยให้ลูกนอนอยู่บนเตียงที่เคยซ่อนศพที่เน่าเปื่อยของลูกคนแรกเอาไว้นานถึง…

  • เด็กสาวตัวน้อยแสนใจบุญ ปลูกผักและสร้างบ้านให้กับ ‘คนไร้บ้าน’ ได้ถึง 11 หลัง!!

    เด็กสาวตัวน้อยแสนใจบุญ ปลูกผักและสร้างบ้านให้กับ ‘คนไร้บ้าน’ ได้ถึง 11 หลัง!!

    เวลาที่เจอกับคนไร้บ้าน พวกเราส่วนใหญ่ก็จะซื้ออาหารไปให้พวกเขาหรือเอาเงินให้ไปซื้อของที่จำเป็น โดยที่ไม่ได้ต่อยอดอะไร แต่สำหรับเด็กน้อยคนนี้กลับทำสิ่งที่มากกว่านั้น เมื่อเด็กสาววัย 9 ขวบที่ชื่อว่า Hailey Ford ตัดสินใจปลูกผักแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน รวมทั้งพยายามสร้างบ้านให้กับพวกเขาอีกด้วย จนเรื่องราวของเธอกลายเป็นที่ชื่นชมบนโลกอินเตอร์เน็ต จะเป็นอย่างไร เราลองไปชมกันเลย   สาวน้อยคนนี้อาศัยอยู่ในเมือง Bremerton รัฐวอชิงตัน วันหนึ่งเธอกับแม่ได้เจอกับชายไร้บ้านตกงานชื่อ Edward เข้า พวกเธอจึงซื้ออาหารมาให้เขา แต่ว่าการให้ในครั้งนั้นเด็กสาวเชื่อว่ามันยังไม่เพียงพอ   เธอตัดสินใจปลูกผักสวนครัวเพื่อที่จะทำไปแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน โดยในปีแรกที่เธอเริ่มปลูกผัก เธอสามารถแจกจ่ายไปได้ถึง 58 กิโลกรัม และเธอก็ทำมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้   แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพออีกอยู่ดี หลังจากนั้นไม่นาน เธอจึงเกิดไอเดียสร้างบ้านเคลื่อนที่ให้กับคนไร้บ้านซะเลย   เธอบอกว่า “การที่ยังมีคนไร้บ้านอยู่เป็นเรื่องไม่ถูกต้องอย่างมาก ฉันคิดว่าทุกคนควรต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง” .   บ้านที่เธอได้วางแผนเอาไว้คือ หลังคาจะติดตั้งด้วยแผ่นรับพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนรอบๆ ก็จะบุด้วยผ้ายีนส์เพื่อกันความร้อน   แน่นอนว่าหากไม่มีเงินทุนเธอคงไม่สามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้ Miranda แม่ของเธอจึงได้ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ให้เข้ามาบริจาคเงินผ่านองค์กรที่ชื่อว่า Together Rising เพื่อนำมาสานฝันครั้งนี้ .   เธอได้รับเงินบริจาคมากถึง 100,000…

  • “ชาชีส” เครื่องดื่มสุดฮอตฮิตที่มาแรงมาก ถึงขนาดชาวจีนยอมต่อแถวซื้อนานถึง 5 ชั่วโมง

    “ชาชีส” เครื่องดื่มสุดฮอตฮิตที่มาแรงมาก ถึงขนาดชาวจีนยอมต่อแถวซื้อนานถึง 5 ชั่วโมง

    มันอาจจะฟังดูค่อนข้างแปลกสำหรับใครหลายๆ คน หากมีการนำชีสมารวมตัวกับเครื่องดื่มอย่างชาจนกลายมาเป็นชาชีส และแน่นอนว่าเมนูเครื่องดื่มสุดแหวกแนวนี้ได้ก่อกำเนิดขึ้นในทวีปเอเชียแล้ว แถมยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ชาวจีนหลายพันคนได้พากันมายืนต่อแถวเป็นเวลานานถึง 5 ชั่วโมง เพื่อรอซื้อ “ชาชีส” โดยเฉพาะ จากการายงานระบุว่า ไม่มีเดือนที่ผ่านมา Hey Tea ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังการผลิตชาชีสชื่อดังของจีน ก็ได้ทำให้วงการชากลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายหลังจากที่ได้ออกเมนูใหม่ “ชาผสมชีส” เครื่องดื่มสุดแหวกแนว ที่สื่อจีนต่างพากันกล่าวขวัญถึงกระแสความฮอตที่ฉุดไม่อยู่     เพราะเมื่อได้เริ่มนำออกมาจำหน่ายได้ไม่ทันไร ก็ได้สร้างสถิติให้คนรอนานถึง 2 ชั่วโมงแล้ว หรือถ้าหากใครที่มาช้าหน่อยก็อาจจะได้รอนานถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว สำหรับบริษัท Hey Tea แรกเริ่มเป็นร้านขายชาเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนริมถนนในมณฑลกวางตุ้ง ปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทชาที่กำลังมีอัตราการเติบโตสูง โดยได้ขยายกิจการทั่วมณฑลกวางตุ้งไปมากกว่า 50 สาขา นอกจากนี้ ยังได้ไปเปิดในเมืองใหญ่ๆ อย่างเซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่งอีกด้วย     “ชาชีส” ถือเป็นเมนูเครื่องดื่มใหม่ที่มาแรงมาก ประกอบไปด้วยน้ำชาหลากสีสัน หรืออาจจะเป็นชาใส่นมหรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ส่วนสำคัญอยู่ตรงที่วิปชีสหนานุ่มที่ใส่เอาไว้ด้านบน…

  • ไอเดียสุดเจ๋งของ ‘สุสานยุคโมเดิร์น’ บอกเล่าถึงกระแสสังคมที่ตายจากเราไปตามกาลเวลา

    ไอเดียสุดเจ๋งของ ‘สุสานยุคโมเดิร์น’ บอกเล่าถึงกระแสสังคมที่ตายจากเราไปตามกาลเวลา

    ป้ายหลุมศพที่เราเห็นตามสุสานจะมีลักษณะที่ไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ และบันทึกชื่อของผู้ตายหรืออื่นๆ เพียงแค่ไม่กี่ประโยค แต่วันนี้เราจะพาไปดูสุสานสุดพิสดารที่ถ้าขับรถผ่านก็คงต้องแวะจอดลงไปดูกันเลย เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2017 ได้มีการแชร์รูปของสุสานประหลาดๆ ที่เป็นไอเดียของ Michael Fry ผู้เป็นทั้งคุณพ่อและอาจารย์ศิลปะ เขาได้สร้างผลงานนี้ในลักษณะของ “สุสานยุคโมเดิร์น” เพื่อแสดงให้เห็นว่าตามสื่อหรือโลกออนไลน์ในปัจจุบันได้มีอะไรตายไปแล้วบ้าง แน่นอนว่าข้างใต้ของหลุมฝังศพก็ไม่ได้มีคนนอนตายอยู่จริงๆ หรอกนะ   การทำท่า Dab หรือสร้างสไลม์ขึ้นมาเอง คือสิ่งที่เราไม่ได้เห็นกันเท่าไหร่แล้วในปัจจุบัน ทั้งๆ ที่มันเคยได้รับความนิยมอย่างมาก   เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านผีสิงของดิสนีย์ ก่อนที่จะมาดัดแปลงหน้าบ้านของตัวเองให้กลายเป็นป้ายหลุมฝังศพที่พูดถึงกระแสในสื่อต่างๆ ที่เคยดังมาก่อน   แฟชั่นของสาวๆ อย่างการทำสีผมสไตล์ Ombre หรือทำปากให้ดูอวบอิ่มก็เริ่มซาลงไป รวมถึง Taylor Swift คนเก่าที่ได้ตายจากเราไปแล้ว เห็นได้จากซิงเกิ้ลใหม่ของเธอ   เด็กรุ่นใหม่ก็ไม่ได้มานั่งดูทีวีกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อยากดูอะไรก็หาในยูทูบไรงี้ก็ได้แหละนะ   ในวันฮาโลวีนเมื่อปีที่แล้ว เขาก็ได้ตกแต่งประตูบ้านด้วยหัวกระโหลกอีกด้วย เห็นอย่างนี้แล้วจะมีเด็กคนไหนกล้าเข้าไปขอขนมลูกอมกันล่ะเนี่ย   นับว่าเป็นแนวคิดเจ๋งๆ ที่ทำให้เห็นว่าโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงของกระแสต่างๆ อยู่เสมอ   ที่มา: theberry

  • ชมความยิ่งใหญ่ของ สะพานข้ามทะเล 55 กิโล ยาวสุดในโลก เชื่อม 3 เกาะในจีนเข้าด้วยกัน

    ชมความยิ่งใหญ่ของ สะพานข้ามทะเล 55 กิโล ยาวสุดในโลก เชื่อม 3 เกาะในจีนเข้าด้วยกัน

    สมัยนี้เส้นทางการคมนาคมได้มีการพัฒนาเพื่อทำให้เราสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย และหากเป็นประเทศที่เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำอย่างประเทศจีน นอกจากความสะดวกสบายที่ได้มาแล้ว พวกเขายังเพิ่มเติมความยิ่งใหญ่อลังกาลให้สมกับการเป็นประเทศชั้นนำของโลกอีกด้วย วันนี้ #เหมียวตะปู จะมาชวนเพื่อนๆ ไปเจอกับสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลกของประเทศจีน มีความยาวมากถึง 55 กิโลเมตรเลยทีเดียว!!   สะพานแห่งนี้มีชื่อว่าสะพาน ฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ตามชื่อเมืองที่เชื่อมหากัน   สะพานแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2009 จนแล้วเสร็จในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2017 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิดใช้งานในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ สิ่งก่อสร้างอันสวยงามและยิ่งใหญ่ต้องใช้เหล็กกว่า 420,000 ตัน เทียบเท่ากับการสร้างหอไอเฟลได้มากถึง 60 แห่ง และต้องเสียเงินไปมากกว่า 500,000 ล้านบาท   ความยาวที่ถึงกับมองไม่เห็นปลายทางอีกฝั่งเลย   นอกจากนั้นไม่ได้มีเพียงแค่สะพานข้ามทะเล เพราะระหว่าทางพวกเขาได้สร้างเกาะเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ในการแวะจอดพักรถกัน อีกทั้งยังมีอุโมงค์ลอดใต้ทะเลที่ยาวที่สุดประกอบเป็นส่วนหนึ่งของสะพานอีกด้วย อุโมงค์ดังกล่าวมีความลึกอยู่ใต้ผิวน้ำไป 40 เมตรและยาวถึง 6.7 กิโลเมตร   จุดพักรถที่เหมือนกับเป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางทะเลเลยก็ว่าได้   อีกไม่นานเกินรอมันก็จะเปิดให้ผู้คนได้เข้าไปโลดแล่นกันแล้ว   สะพานอันยิ่งใหญ่อลังการนี้ตั้งอยู่บนทะเลทางตอนใต้ของปนะเทศจีน เพื่อเชื่อมระหว่าง 3 เมืองใหญ่ได้แก่…

  • 18 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “ยีน” ของมนุษย์ ช่างเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และมหัศจรรย์ในเวลาเดียวกัน

    18 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “ยีน” ของมนุษย์ ช่างเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และมหัศจรรย์ในเวลาเดียวกัน

    “ยีน” คือหน่วยที่ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมต่างๆ ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและน่าอัศจรรย์ ในบางครั้งลักษณะทางพันธุกรรมเหล่านี้ ก็ได้สร้างให้มนุษย์ที่ลักษณะที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางคนเกิดมาเป็นพี่น้องกัน แต่กลับดูต่างกันอย่างสิ้นเชิงก็มี และวันนี้เราได้นำเรื่องราวที่น่าสนใจของยีนมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน และมันก็จะพิสูจน์ให้คุณได้เห็นว่า ยีนของมนุษย์มันน่าประหลาดใจ และซับซ้อนมากขนาดไหน   สาวลูกครึ่งเอเชีย-ยุโรป ที่มีผมสีแดงเหมือนฝรั่งแต่หน้าตากลับเหมือนคนเอเชีย   หนุ่มผิวเข้มชาวเมลานีเซียที่มีดวงตาสีอ่อน และเส้นผมสีขาวทั้งๆ ที่ไม่ได้เกิดมาเป็นคนเผือก   หนุ่มแฝดที่ดูต่างกัน เมื่อคนหนึ่งดูเหมือนชาวไอริช แต่อีกคนกลับไม่ใช่   สองพี่น้องที่มีพ่อเป็นคนยุโรป และแม่เป็นชาวอาร์เจนตินา แต่กลับดูต่างกันเพราะคนน้องกลับมีผมสีสว่าง และดวงตาสีฟ้า ในขณะที่คนพี่เป็นคนผิวเข้ม   ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้หรอกว่าพวกเธอเป็นพี่น้องฝาแฝด เพราะคนหนึ่งมีผิวสีน้ำผึ้ง คนหนึ่งมีผิวสีขาว   ”ตอนที่พวกเราเกิดมา แม่ของเราแทบพูดไม่ออกเลย”   เธอคนนี้มีพ่อเป็นคนผิวสีและแม่เป็นคนผิวขาว แต่เธอกลับได้เชื่อแม่มาเต็มๆ   คู่พ่อลูกที่ดูแตกต่างกันมาก   หญิงสาวผู้เกิดมามีผมสีแดงและดวงตาสองสี   “ผู้คนมักจะชอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับดวงตาของฉัน และฉันก็ได้ตอบกลับไปว่า Sectoral Heterochromia” Sectoral Heterochromia เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ทำให้เม็ดสีเมลานินในดวงตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน และสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นผ่านพันธุกรรม หรือบางกรณีก็อาจเกิดจากอุบัติเหตุได้ด้วยเช่นกัน…

  • ชาวเน็ตผงะ!! สภาพห้างดังใน ‘แคนาดา’ หลังประกาศเซลส์ เละตุ้มเป๊ะไม่เป็นท่า..!?

    ชาวเน็ตผงะ!! สภาพห้างดังใน ‘แคนาดา’ หลังประกาศเซลส์ เละตุ้มเป๊ะไม่เป็นท่า..!?

    เป็นธรรมดาอย่างที่เราทราบกันดีว่า เมื่อไหร่ที่ของแบรนด์เนมตามห้างประกาศเซลส์ลดราคาเมื่อไหร่ เหล่านักช็อปก็จะตามแห่แหนไปแย่งซื้อกันจนล้นห้าง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีชาวเน็ตออกแชร์พฤติกรรมของนักช็อปในห้าง SEARS จากประเทศแคนาดา หลังมีการประกาศเซลส์ครั้งใหญ่แบบลดล้างสต็อคก่อนที่ห้างจะปิดตัวลง และนี่คือสภาพในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…   โซนรองเท้าผ้าใบถูกรื้อกระจัดกระจาย   หลังห้างประกาศลดราคาสินค้าทุกอย่างลง 20 – 50% ผู้คนก็เลือกซื้อกันอย่างบ้าคลั่ง มีการฉีกกล่องทิ้งเรี่ยราดเต็มไปหมด…   ชาวเน็ตเจ้าของภาพเล่าว่า มันเต็มไปด้วยความบ้าบิ่นของมนุษย์   ทุกคนเลือกที่จะโยนของที่เลือกมาแต่ไม่ต้องการทิ้งอย่างไม่ใยดี เพียงเพราะมันลดราคา   ภายในไม่กี่ชั่วโมงทั่วทั้งห้างก็เต็มไปด้วยกองขยะที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวของผู้คน   ไม่ใช่แค่โซนเครื่องแต่งตัวเท่านั้น แม้แต่ชั้นวางสินค้าอย่าง ‘หมอน’ ก็ถูกเทกระจาดเช่นกัน   ชาวเน็ตบางคนเล่าว่า นักช็อปทั้งหลายแค่ต้องการจะหยิบมันมาก่อนเพียงเพราะมันลดราคา พวกเขาต่างพยายามหยิบมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ต้องการ   ชั้นวางรองเท้าผู้หญิงไม่ต้องพูดถึง เละที่สุดในห้างเลยก็ว่าได้   แต่ถึงกระนั้นเหล่านักช็อปหลายคนก็ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ยังลดราคาได้ไม่น่าพอใจ ทำให้ตัดสินใจไม่ซื้อของหลายอย่างที่หยิบมา”   พฤติกรรมดังกล่าวของผู้บริโภคในห้างแคนาดา ก็ได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตจากทั่วโลก…   บ้างก็เล่าว่าเคยทำงานในห้างมาก่อน และก็ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมทุกครั้งที่มีลดราคา ผู้คนจะต้องทำนิสัยแบบนี้อยู่เสมอๆ   บ้างก็เห็นใจพนักงานที่ต้องคอยรับมือกับผู้บริโภคแย่ๆ แบบนี้   แต่ชาวเน็ตบางคนก็ออกมาแซะว่า… ทีนี้ละคนแคนาดาก็อย่ามาว่าให้คนอเมริกันตอนช่วง Black Friday…

  • ครอบครัวออกท่องเที่ยวไปพร้อมกับลูกน้อย พร้อมมอเตอร์ไซค์พ่วงคู่ใจ กลายเป็นทริปที่น่าจดจำ

    ครอบครัวออกท่องเที่ยวไปพร้อมกับลูกน้อย พร้อมมอเตอร์ไซค์พ่วงคู่ใจ กลายเป็นทริปที่น่าจดจำ

    หลายคนมีความฝันอยากพักจากการทำงานหรือการเรียน ขับรถออกไปเที่ยวในที่ไกลๆ สูดรับออกซิเจนให้เต็มปอดท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่เหมือนกับครอบครัวนี้ ครอบครัวนี้มีด้วยกันอยู่สามคนพ่อแม่ลูกผู้ที่รักการเดินทางกันอย่างมาก ในปี 2015 พวกเขาได้ใช้รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างคู่ใจพากันออกไปเที่ยวทั่วทวีปยุโรป แต่พอผ่านไปหนึ่งปีพวกเขาก็ได้ออกเดินทางในแบบที่เจ๋งกว่านั้น ปี 2016 ทั้งครอบครัวตัดสินใจนำเจ้ามอเตอร์ไซค์คันเดิมแล่นไปทางตะวันออกมุ่งหน้าสู่เทือกเขาคอเคซัส ที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศจอร์เจีย และอาร์เมเนีย บนเส้นทางลูกรังที่ไม่ใช่ถนนใหญ่และไม่ค่อยมีใครขับผ่าน ไปดูกันเลยว่าการเดินทางไกลของพวกเขาในครั้งนี้ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง   พวกเขาต้องนั่งพักรอเรือข้ามฟาก เพื่อเดินทางจากเมืองโอเดสซา ประเทศยูเครน ไปยังเมืองบาทูมี ประเทศจอร์เจีย   ในที่สุดเรือก็มาถึงและกำลังแล่นผ่านทะเลดำไปอย่างสงบ   อาจต้องเจอกับลมพายุบ้างเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรฟ้าหลังฝนก็สวยงามเสมอ   พอถึงฝั่งพวกเขาก็ได้ขับเข้าหมู่บ้าน Ushgali ประเทศจอร์เจีย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สูงที่สุดที่ยังมีคนอาศัยอยู่   คุณแม่กับลูกชายวัย 5 ขวบ ที่ชื่อ Vladimir นั่งกอดกันกลมเชียว   ภาพของเด็กน้อยกำลังขี่ม้าที่พวกเขาได้เจอขณะพักกันอยู่ในหมู่บ้าน   ออกลุยกันต่อด้วยเส้นทางตัดผ่านเทือกเขาไปยังหมู่บ้าน Lentekhi   เทือกเขาคอเคซัส ที่กว้างไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา   แวะพักกันในเมืองกอรี หายร้อนกันไปทั้งคนทั้งรถ   วันหนึ่งเมื่อเด็กชายตื่นขึ้นมา เขามีไข้ขึ้นสูงมากและอาหารเป็นพิษ ทำให้คลื่นไส้จนอ้วกออกมาเต็มที่นอนไปหมด แต่ก็ไม่มีคำว่าย่อท้อหรอกนะ   พวกเขาพยายามจะขับรถผ่านหนึ่งในเส้นทางที่อันตรายที่สุดเพื่อไปยังหมู่บ้าน…

  • ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนแอบเข้าไปเล่นบาสในยิม แทนที่จะไล่ออกไป กลับออกค่ายิมให้แทน

    ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนแอบเข้าไปเล่นบาสในยิม แทนที่จะไล่ออกไป กลับออกค่ายิมให้แทน

    ปกติแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะทำตามกฏหมาย ผิดว่าไปตามผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ก็มีเจ้าหน้าที่บางคนยอมฟังรับฟังเหตุผล ลดโทษ รวมทั้งไม่เอาโทษ ในกรณีที่เป็นการกระทำผิดที่ไม่ร้ายแรง เหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ที่ไม่ใช่แค่ไม่ทำโทษ แต่ยังช่วยเหลือผู้กระทำผิดจนได้รับการชื่นชมจากผู้คนจำนวนมาก     เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Vincent Gonzales เด็กหนุ่มวัย 15 ปี จาก Skokie ได้แอบเข้าไปเล่นบาสในโรงยิมท้องถิ่น X-Sport Fitness และโดนเจ้าหน้าที่โรงยิมเตือนไปหลายครั้งแต่เขาก็ยังทำอยู่เหมือนเดิม จริงๆ แล้วเด็กหนุ่มเคยเป็นสมาชิกของโรงยิมนี้ แต่หลังจากบัตรสมาชิกหมดอายุ ครอบครัวของเขาไม่ได้จ่ายค่าสมาชิกให้โรงยิม จึงทำให้เขาหมดสิทธิ์เข้ามาใช้ ด้วยความเป็นคนชอบเล่นบาส เด็กหนุ่มเลยแอบเข้ามาเล่นตอนที่เจ้าหน้าที่ไม่อยู่ แต่ก็มักจะถูกจับได้ทุกครั้ง จนครั้งล่าสุด เมื่อปลายเดือนสิงหาคมเขาถูกจับได้อีก เจ้าหน้าโรงยิมทนไม่ได้จึงได้โทรแจ้งตำรวจท้องถิ่นทันที     ผู้ที่รับเรื่องนี้คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ Mario Valenti ที่สังกัดในกรมตำรวจ Skokie Police Department เขาจึงไปยังโรงยิมทันทีหลังจากที่วางสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามเด็กหนุ่มว่าทำไมถึงแอบเข้าไปเล่นในนั้น? และได้คำตอบว่า Vincent กำลังฝึกซ้อมเพื่อเตรียมคัดตัวเป็นนักกีฬาของโรงเรียน Uplift Community High School Vincent บอกว่า “ผมอยากเล่นกีฬามากกว่าใช้ชีิวิตอยู่ข้างถนน เพราะนั่นอาจทำให้เกิดปัญหาสังคมได้” หลังจากได้ยินเขาพูด เจ้าหน้าที่ตำรวจ Mario…

  • ทางม้าลาย 3 มิติ ในหมู่บ้านจากประเทศไอซ์แลนด์ หวังช่วยให้ผู้คนขับช้าๆ ลดอุบัติเหตุ

    ทางม้าลาย 3 มิติ ในหมู่บ้านจากประเทศไอซ์แลนด์ หวังช่วยให้ผู้คนขับช้าๆ ลดอุบัติเหตุ

    ในบางครั้งการใช้รถใช้ถนนที่ผ่านในเขตชุมชนหรือหมู่บ้านเล็กๆ นั้นอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ แต่นอกจากความระมัดระวังของผู้ขับขี่แล้ว บางครั้งการใช้สัญลักษณ์จราจรเข้าช่วยนั้นก็อาจจะเพิ่มความปลอดภัยได้ด้วยเช่นกัน เหมือนกับหมู่บ้านเล็กๆ จากประเทศไอซ์แลนด์ แห่งนี้ที่นำเทคนิคการสร้างภาพ 3 มิติมาช่วยในการลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ อย่าง Ísafjörður ในเมือง Westfjords ได้เกิดไอเดียสุดเจ๋ง โดยการสร้างทางม้าลายแบบ 3 มิติขึ้นเป็นแห่งแรกในเมือง เพื่อหวังช่วยให้ผู้ขับขี่รถยนต์ชะลอความเร็วลง และลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุภายในเมือง     โครงการนี้เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของบริษัท Vegmálun GÍH โดยสื่อท้องถิ่นได้รายงานว่าทางม้าลายแบบ 3 มิตินี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย และจากนั้นพวกเขาจึงนำมันมาปรับใช้กับที่นี่ พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ในการสร้างทางม้าลายแบบ 3 มิตินี้ หลังจากที่เริ่มทำการขออนุญาตกับทางกรมขนส่งและตำรวจจราจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     คุณ Ralf Trylla ผู้นำไอเดียทางมาลาย 3 มิติมาใช้กับที่เมืองนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่าอันที่จริงนั้นภายในหมู่บ้านเองก็ได้มีการจำกัดความเร็วอยู่ที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่นั่นก็ยังสูงไปสำหรับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงหาวิธีที่จะชะลอความเร็วของรถยนต์โดยการสร้างทางม้าลายที่ว่านี้ อย่างไรก็ตามหากวิธีนี้ได้ผล และสามารถลดปัญหาอุบัติเหตุทางท้องถนนได้จริง ทางสภาเทศบาลของเมืองเองก็มีแผนที่จะทำทางม้าลาย 3 มิตินี้เพิ่มยังจุดต่างๆ ของเมืองด้วยเช่นกัน   . . . .   ไปชมเจ้าทางม้าลาย 3 มิติแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย……

  • จิตใจทำด้วยอะไร!? วัยรุ่นใจโหด “ทำร้ายแมวอย่างรุนแรง” จนมีการเรียกร้องให้นำตัวมาลงโทษ

    จิตใจทำด้วยอะไร!? วัยรุ่นใจโหด “ทำร้ายแมวอย่างรุนแรง” จนมีการเรียกร้องให้นำตัวมาลงโทษ

    สัตว์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่รกโลก แต่มันคือเพื่อนร่วมโลกที่ทำให้โลกเป็นโลกอย่างทุกวันนั้น ดังนั้นเราควรจะดูแลและปฏิบัติกับมันเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง สำหรับคนที่ไม่ชอบสัตว์ ไม่เห็นความสำคัญของพวกมัน คุณไม่ต้องดูแลหรือเลี้ยงมันก็ได้ แค่ไม่ทำร้ายมันเหมือนอย่างที่ชายใจโหดคนนี้ทำก็พอ ก่อนอื่นขอเตือนคนรักสัตว์หรือคนที่มีจิตใจอ่อนไหวง่ายก่อนว่า คุณสามารถข้ามคลิปนี้ไปได้เลย เพราะมีภาพที่มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงและอาจกระทบกระเทือนจิตใจได้ คลิปวิดีโอด้านนี้เป็นภาพชายแปลกหน้าจับแมวดำผู้เคราะห์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาแล้วเตะมันอย่างแรง จนถูกชาวเน็ตประณามว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์     ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าแมวตัวนี้เป็นของชายคนที่เตะหรือเป็นของคนอื่น แต่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ในบัญชีอินสตาแกรมที่ชื่อ The Street Blogs จนมีคนแจ้งไปยังสมาคมสงเคราะห์สัตว์ (RSPCA) ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ส่วนสาเหตุก็ยังระบุไม่ได้เช่นกัน แต่ทางองค์กรการกุศลด้านสวัสดิภาพสัตว์เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ มีวิดีโอเกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์ที่ถูกแชร์ใน Snapchat เพิ่มขึ้นถึง 340% ต่อมา RSPCA ได้ออกมาประณามการกระทำของชายที่อยู่ในคลิป โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นที่อายุไม่เกิน 18 ปี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบและเปิดเผยข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด     Dermot Murphy จาก RSPCA กล่าวว่า “นี่เป็นการกระทำที่ทารุณเกินจะรับได้ และดูจากแรงเตะแล้ว น่าจะทำให้แมวตัวนั้นบาดเจ็บไม่น้อยเลย” “ไม่ว่าเขาจะทำเพราะสาเหตุอะไร เราอยากขอความร่วมมือจากคนที่เห็นเหตุการณ์ หรือผู้คนบริเวณนั้นแจ้งข้อมูลที่พอจะรู้มาให้เราทราบด้วย เพื่อจะได้ดำเนินการกับชายคนนั้นให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำ” ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ ผู้คนที่มาคอมเม้นต์ใต้คลิปนี้ต่างมองว่าเป็นเรื่องตลก ซึ่งทัศนคติแบบนี้มักจะนำไปสู่การทำร้ายสัตว์ตัวอื่นๆ อีก RSPCA ได้ย้ำอีกว่า “เราไม่สามารถทนต่อกระทำเหล่านี้ได้ เราอยากให้เยาวชนทำความเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องตลก…

  • 15 ของเหลวที่มีราคาแพงที่สุดในโลก กับส่วนประกอบพิเศษ ที่คุณอาจคิดว่าใส่มาด้วยเหรอ!?

    15 ของเหลวที่มีราคาแพงที่สุดในโลก กับส่วนประกอบพิเศษ ที่คุณอาจคิดว่าใส่มาด้วยเหรอ!?

    ของเหลวอย่างเช่น น้ำหอมที่เป็นแบรนด์ดัง หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วมันมีราคาค่อนข้างแพง แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่ามีของเหลวอีกหลายชนิดที่ราคาแพงจนคิดไม่ถึง เว็บไซต์ Bright Side จึงได้จัดทำรายชื่อของเหลวที่ขึ้นชื่อว่าราคาแพงที่สุดในโลก ดูสิ๊จะมีอะไรบ้าง…   15. น้ำยาลบคำผิด ราคา 4,900 บาทต่อแกลลอน น้ำยาลบคำผิดมีส่วนผสมของแนฟทา ตัวทำละลาย สารขจัดคราบน้ำมัน และน้ำหอม ซึ่งทำให้มันมีราคาแพงแม้จะแค่ขวดเล็กๆ ก็ตาม   14. เพนิซิลลิน ราคา 7,500 บาทต่อแกลลอน เพนิซิลลินเป็นกลุ่มยาปฏิชีวนะที่มีเพนิซิลลิน V เพนิซิลลิน G เบนซาทีน เพนิซิลลิน และโปรเคนเพนิซิลลิน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในการรักษาโรคที่เกิดจากแบคทีเรียชนิดต่างๆ   13. น้ำมันหอมระเหย แพทชูรี่ ราคา 20,000 บาทต่อแกลลลอน น้ำมันหอมระเหยที่มีราคาแพงชนิดนี้ ผลิตจากส่วนใบทั้งสดและแห้งของพืชที่เรียกว่า Pogostemon สรรพคุณของน้ำมันใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ ช่วยในการรักษาไข้ รักษาเชื้อราและนิ่วในไต และยังมีกลิ่นหอมที่ช่วยดับกลิ่นตัวได้   12. เลือดมนุษย์ ราคา 44,000 บาทต่อแกลลอน ในร่างกายมนุษย์แต่ละคนจะมีเลือดอยู่ 1.3 แกลลอน ซึ่งประกอบด้วยพลาสมาและเซลล์ และร่างกายจะไม่สามารถทำงานได้ถ้าปราศจากเลือด…

  • รวม 12 ภาพสะพานยักษ์ใหญ่ของจีน เชื่อมการขนส่งสู่พื้นที่ห่างไกล จนความเจริญไปทั่วถึง

    รวม 12 ภาพสะพานยักษ์ใหญ่ของจีน เชื่อมการขนส่งสู่พื้นที่ห่างไกล จนความเจริญไปทั่วถึง

    ประเทศจีน หนึ่งในยักษ์ใหญ่จากทวีปเอเชียที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทในด้านต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ  สังคม หรือแม้แต่ในด้านเทคโนโลยีในการก่อสร้างเองก็ตาม แน่นอนว่านอกจากรถไฟความเร็วสูงแล้ว ในแดนมังกรแห่งนี้เองก็เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างขนาดยักษ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารพาณิชย์ สนามกีฬา เขื่อน และรวมถึงสะพานด้วยเช่นกัน และในวันนี้เราก็ได้รวบรวม 12 สะพานยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่แสดงให้เห็นว่าถึงความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมของที่นี่…   1. สะพานซื่อตู้เหอในเมืองเอินซือ มณฑลหูเป่ย ท่ามกลางไอหมอก   2. สะพานข้ามอ่าวเจียวโจวในเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง สะพานที่มีระยะทางยาวกว่า 40 กิโลเมตร และใช้เงินในการก่อสร้างมากถึง 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ   3. สะพานจาหนาง ข้ามแม่น้ำยาลุงซังโปร์ ในอำเภอจาหนาง เขตซานหนาน เขตปกครองตนเองทิเบต ที่มีความยาวทั้งหมด 5.7 กิโลเมตร   4. สะพานข้ามแม่น้ำเป่ยผานเจียงที่เชื่อมมณฑลกุ้ยโจวกับมณฑลยูนนานเข้าไว้ด้วยกันมีความยาวทั้งหมด 1.24 กิโลเมตร   5. สะพานข้ามแม่น้ำต้าตู้ในเสฉวน   6. ไซต์ก่อสร้างส่วนหนึ่งของสะพานข้ามทะเลเชื่อมฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า…

  • คุณลุงป่วยโคม่า ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ หลังได้ฟังเพลงเชียร์ของทีมฟุตบอลสุดรัก

    คุณลุงป่วยโคม่า ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ หลังได้ฟังเพลงเชียร์ของทีมฟุตบอลสุดรัก

    “ฟุตบอลมันอยู่ในสายเลือด” คำพูดสั้นๆ ที่หลายๆ คนคงจะเคยได้ผ่านหูกันมาบ้างแม้ว่าคุณเองจะไม่ใช่แฟนฟุตบอลตัวยงเองก็ตาม และเรื่องราวของชายคนนี้ก็คงจะทำให้เราเข้าใจความหมายของประโยคนี้ได้มากขึ้น คุณ Tony Kemp แฟนบอลวัย 59 ปีของทีม Plymouth Argyle FC ซึ่งกำลังแข่งขันอยู่ในลีกวันของประเทศอังกฤษ ถูกนำตัวเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนหลังจากที่เขาเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก จนต้องอยู่ในสภาวะโคม่า     โดยคุณ Danna Kemp ภรรยาของชายคนดังกล่าวกล่าวว่า ทางครอบครัวมีเวลาเพียงแค่ 2 วันก่อนที่แพทย์จะทำการถอดเครื่องช่วยชีวิตของ Tony ออก แต่แล้ว Danna ก็ทำบางอย่างเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อสามีของเธอ หญิงสาวเปิดเพลงเชียร์ของทีมรักผ่าน iPad และให้สามีของเธอดู “ฉันถูกเรียกให้เข้าไปดูอาการของเขา และพูดคุยกับเขา ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาคงจะจากไปแล้วจริงๆ ” Danna กล่าว     “เราเข้าไปในห้อง ICU และพวกเขาก็บอกเราว่าถ้าหากเขาไม่มีอาการตอบสนองใดๆ เลยภายใน 48 ชั่วโมง แพทย์จำเป็นต้องถอดเครื่องช่วยชีวิต ตอนนั้นเราพยายามทำทุกอย่างทั้งบีบมือและพูดคุยกับเขา จนสุดท้ายฉันพาลูกๆ เข้ามาและเริ่มร้องเพลงเชียร์ของทีม Plymouth Argyle และจากนั้นเขาก็เริ่มลืมตา” Danna กล่าว     คุณ Tony แฟนบอลตัวจริงของทีม Plymouth Argyle FC จากลีกวัน…

  • หนุ่มเก็บกล้อง GoPro ที่จมน้ำได้แถมยังเปิดติด เขาจึงใช้พลังโซเชียลตามหาเจ้าของจนพบ!!

    หนุ่มเก็บกล้อง GoPro ที่จมน้ำได้แถมยังเปิดติด เขาจึงใช้พลังโซเชียลตามหาเจ้าของจนพบ!!

    กล้องถ่ายรูปนั้น นอกจากเปรียบเหมือนทรัพย์สินอันล้ำค่าแล้ว มันยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ไว้บรรจุภาพความทรงจำที่เกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียวอีกด้วย และถ้าเกิดว่ากล้องถ่ายรูปหายไปนอกจากเจ้าตัวจะเสียใจแล้ว ยังต้องเสียความทรงจำอันล้ำค่าไปอีกเช่นกัน เรื่องราวในครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อ Karl Bly คุณพ่อผู้กล้าหาญกับลูกชายออกไปพายเรือเล่นกัน แล้วบังเอิญเห็นกล้อง GoPro จมอยู่ใต้น้ำ เขาจึงกระโดดลงไปและเก็บมันขึ้นมาตรวจสอบดู     วัดจากสภาพของกล้องตัวดังกล่าวนั้น เป็นใครก็ต้องคิดว่ามันไม่น่าจะใช้งานได้อีกแล้ว แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะว่าตัวกล้องยังสามารถใช้ได้ปกติดีทุกอย่าง และภายในก็มีภาพของหญิงสาวคนหนึ่งกับภาพอีกกว่า 1,600 รูป Karl ไม่รอช้ารีบหยิบรูปภาพจำนวนหนึ่งออกมาพร้อมโพสต์ลงบนโชเชียลทันที เพื่อประกาศตามหาตัวเจ้าของ เพราะเขาเข้าใจได้ในทันทีว่าเจ้าของก็จะต้องคิดถึงความทรงของเขาที่ถ่ายมามากเช่นกัน เมื่อภาพที่เขาเลือกมาได้ถูกแชร์ออกไปคนมากมายก็ต่างพากันช่วยแชร์กว่า 168,000 ครั้ง จนในที่สุดเจ้าของที่แท้จริงก็มาเห็นเข้า เธอคนนั้นมีชื่อว่า Chynna Phillips ซึ่งเธอบอกว่าเธอทำกล้องตัวนี้หายตั้งแต่เดือนกรกฎาคมในช่วงที่เธอกับเพื่อนๆ กำลังเมาๆ และมีเพื่อนคนหนึ่งมาแกล้งคว่ำเรือนั่นเอง   ภาพความทรงจำต่างๆ ที่นำมาแชร์เพื่อตามหาตัวเจ้าของ . . .   ซึ่งถ้ามันเป็นไปตามที่เธอเล่าก็เท่ากับว่ากล้องตัวนี้นั้นได้หายไปนานแล้วกว่า 3 เดือน แต่มันก็ยังคงทำงานได้อยู่ ยังไงก็ตามกล้องนี้ก็จะกลับไปสู่เมื่อเจ้าของมันในท้ายที่สุด ต้องขอบคุณชาวเน็ตที่ช่วยกันแชร์และขอบคุณ GoPro ที่สร้างกล้องสุดอึดแบบนี้ออกมา…   ดูสภาพสิ ไม่น่ารอดเลยนะเนี่ย   ที่มา mirror

  • เผยภาพจากหนังสือเรียนของ ‘ISIS’ ที่นำมาใช้ล้างสมองเด็กๆ ให้เข้าร่วมกองทัพ..!!

    เผยภาพจากหนังสือเรียนของ ‘ISIS’ ที่นำมาใช้ล้างสมองเด็กๆ ให้เข้าร่วมกองทัพ..!!

    การล้างสมองนับว่าเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการที่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือหน่วยงานรัฐเอง ก็มักจะนำมาใช้ผ่านสื่อต่างๆ หรือที่เราเรียกกันว่า Propaganda เพื่อสร้างแนวคิดหรือทัศนคติอะไรบางอย่าง ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งการสร้าง Propaganda เองก็ยิ่งมีความสำคัญมากเมื่อหน่วยงานนั้นเป็นกลุ่มก่อการร้ายอย่าง ISIS พวกเขาได้สร้างหนังสือเรียนขึ้นมาเพื่อสั่งสอนเด็กๆ ให้รู้สึกเชื่อตามและพร้อมจะสละชีวิตเพียงเพื่ออุดมการณ์ของผู้นำ   ภาพของเด็กจับปืน กลายเป็นภาพธรรมดาที่เห็นได้ในหนังสือเรียนทั่วไปของ ISIS   โดยเนื้อหาจากหนังสือที่กองทัพอิรักไปเจอมา จะมีความยาวเพียงแค่ 7 หน้า และจะมีเพียงข้อความสั้นๆ พร้อมภาพประกอบสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ประชาชนในรัฐคาลิปต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า เด็กๆ ทุกคนแห่งรัฐคาลิปต้องเข้าร่วมประกอบศาสนพิธีประจำวันอย่างเคร่งครัด ต้องเป็นเด็กดีของพ่อแม่ และต้องต่อสู้เพื่ออัลเลาะห์   ทั้งมีการระบุว่า ผู้หญิงต้องคลุมดำทั้งหมด และมีภาพของพ่อที่ถือ AK-47 ที่ดูเป็นเรื่องธรรมดา   มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ‘เด็กอ้วน’ คือเด็กที่ไม่แข็งแรง เป็นเพราะความขี้เกียจ และจะสร้างปัญหาให้กับสังคมสืบต่อไป… (มีการห้ามทานของหวาน ข้าว พาสต้า และมันฝรั่ง)   นอกจากนั้นยังมีหลักสูตรสอนวิธีดูแลช่องปากให้กับเด็กๆ ซึ่งระบุไว้ว่าวิธีการที่เหมาะสมที่สุดคือการใช้กิ่งของต้น Arak (เรียกอุปกรณ์ชิ้นนี้ว่า Miswak) ซึ่งเป็นภูมิปัญญาการทำความสะอาดฟันแบบดั้งเดิมของประเทศแถบอาหรับต่างๆ     นอกจากนั้นยังมีการทำภาพโฆษณาชวนเชื่อ ให้เห็นว่ารัฐคาลิป…

  • งานวิจัยเผย “มลพิษ” คร่าชีวิตผู้คนมากกว่าสงครามและภัยพิบัติถึง 4.6 ล้านคนต่อปี!!

    งานวิจัยเผย “มลพิษ” คร่าชีวิตผู้คนมากกว่าสงครามและภัยพิบัติถึง 4.6 ล้านคนต่อปี!!

    กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก หลังจากที่มีผลงานวิจัยจาก The Lancet ที่ได้ตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์ เกี่ยวกับปัญหามลพิษที่คร่าชีวิตผู้คนมากกว่าสงคราม และภัยพิบัติ..!! โดยข้อมูลส่วนหนึ่งจากงานวิจัย มีการเปิดเผยออกมาว่า เมื่อปี 2015 ผู้คนจำนวน 1 ใน 6 ของประชากรโลก มีสาเหตุต้นตอการเสียชีวิตมาจากปัญหามลพิษที่รวมไปถึงสารพิษตกค้างต่างๆ จากทั้งในอากาศและน้ำ     จากการสำรวจสถิติทั่วโลกของ The Lancet พบว่าประชากรกว่า 9 ล้านคนทั่วโลกมีสาเหตุการเสียชีวิตมาจากปัญหามลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยหลัก เฉลี่ยตัวเลขการเสียชีวิตอยู่ที่ 6.5 ล้านคน และจากมลพิษทางน้ำรองลงมาอีกกว่า 1.8 ล้านคน จำนวนประชากรกว่า 9 ล้านคนที่เสียชีวิตจากมลพิษนับว่าเป็นสาเหตุหลักที่มากกว่าการเสียชีวิตจากโรคเอดส์ และโรคมาลาเรียรวมกันถึง 3 เท่า และคิดเป็น 15 เท่าของจำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามรวมกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ   ภาพแผนที่ชี้ให้เห็นว่า กว่า 92% ของปัญหามลพิษจะส่งผลกับประชากรในประเทศที่กำลังพัฒนามากกว่า   ปัญหามลพิษที่ส่งผลกระทบถึงระบบเศรษฐกิจ… จากการรายงานพบว่าปัญหามลพิษที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าปัจจัยอื่นๆ ส่งผลเกี่ยวเนื่องกันกับระบบเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ด้วย โดยตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วมีการคำนวนค่าความเสียหายทั้งหมดคิดเป็น 6.2% ของเศรษฐกิจโลกเลยทีเดียว (4.6…

  • เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องสอบ จิตใจของคนเป็นแม่แทบสลาย

    เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องสอบ จิตใจของคนเป็นแม่แทบสลาย

    ในการสอบแต่ละครั้ง ผู้ที่เข้าสอบทั้งหลายก็ต้องพยายามอ่านหนังสือเพื่อให้เข้าใจในวิชานั้นๆ อย่างถ่องแท้ซึ่งบางครั้งอาจก่อให้เกิดเป็นความเครียดและความกังวลขึ้นมาจนอาจทำให้ใครบางคนคิดสั้นและตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะว่าจำเนื้อหาที่จะสอบไม่ได้ เหตุน่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่เมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ โดยผู้ที่ออกมาเล่าเหตุการณ์นี้คือ Emma Oliver อายุ 43 ปี แม่ของ Daniel Long นักเรียนคนหนึ่งที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเครียดกับการเตรียมสอบ GCSE ซึ่งเป็นข้อสอบที่จะนำไปใช้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย ที่มีกำหนดสอบในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้     คุณแม่ใจสลายคนนี้เล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมา โดยเธอได้ลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่า “ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ฉันได้ขึ้นไปห้องของ Daniel ก็เห็นเขากำลังอ่านหนังสืออยู่ ฉันจึงลงไปข้างล่างเพื่อเตรียมอาหาร” “แต่อีก 20 นาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงดังลั่นมาจากข้างบน ฉันจึงรีบวิ่งขึ้นไปและพบว่าลูกชายของฉันกำลังใกล้ตายแล้ว ตอนนั้นฉันได้แต่กรี๊ดและวิ่งไปหาเพื่อนบ้านให้โทรหาโรงพยาบาล จากนั้นฉันก็ได้ CPR เบื้องต้นให้แก่ลูกชาย” โดยเธอไม่ได้บอกแหล่งข่าวว่าลูกชายของเธอตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยวิธีใด     หลังจากนั้นเธอก็พบว่า Daniel ยังหายใจอยู่จึงส่งไปที่โรงพยาบาลในเมือง Leeds และเขาต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา “ฉันนั่งอยู่ข้างเตียงของเขาและหวังว่าเขาจะปลอดภัย” Emma กล่าว แต่ว่ามันกลับไม่เป็นไปอย่างที่เธอหวัง ทีมแพทย์ได้ออกมาบอกว่า Daniel ได้มีภาวะสมองตายวินาทีที่เธอได้ฟังนั้นเธอบอกว่าใจแทบสลายเลยทีเดียว และเขาได้เสียชีวิตในวันที่ 28 กุมภาพันธ์…

  • ชายรุ่นพ่อทำร้ายร่างกายและข่มขืนหญิงสาวอย่างหนัก ทั้งขวด ทั้งไม้คิว ถึงขั้นต้องแท้งลูก!!

    ชายรุ่นพ่อทำร้ายร่างกายและข่มขืนหญิงสาวอย่างหนัก ทั้งขวด ทั้งไม้คิว ถึงขั้นต้องแท้งลูก!!

    เรื่องราวสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ผู้หนึ่ง เธอตกเป็นเหยื่อของการข่มขืนและทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง หลังจากที่นาย Michael Banks Gray ชายวัย 50 ปีได้ใช้สิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ ไม้พูล ยัดเข้าไปในช่องคลอดเธอ จนเป็นสาเหตุให้เธอแท้งลูกในไม่กี่วันหลังจากนั้น หญิงสาวผู้โชคร้ายรายนี้เป็นหนึ่งใน 8 เหยื่อที่ถูกนาย Gray ข่มขืนและทำร้ายร่างกาย ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา นาย Gray ถูกตั้งข้อหาทั้งสิ้น 18 ข้อหาซึ่งประกอบไปด้วยการข่มขืน การทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ระหว่างปี 1987 ถึงปี 2012 และจะถูกพิพากษาในเดือนมกราคม ปีหน้า ตามการรายงานของสื่อต่างประเทศ     หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อคนล่าสุดได้กล่าวว่าเธอรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมของชายคนนี้ แต่ก็รู้สึกโชคดีที่เรื่องเกี่ยวกับการเปิดโปงการล่วงละเมิดทางเพศนักแสดงหญิงของนาย Harry Weinstein นั้นทำให้เธอกล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ “ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือใครก็ตามที่กำลังใช้กำลังและทารุณพวกคุณ คุณควรที่จะออกมาพูดถึงสิ่งที่พวกเขาทำ ฉันพยายามรวบรวมความกล้า ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด” หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อกล่าว       นอกจากนี้หญิงรายนี้ยังได้เผยอีกว่า เธอถูกนาย Gray นั้นทำร้ายร่างกายมาเป็นเวลานานกว่า 7 ปีแล้ว หลังจากที่พบเขาครั้งแรกเมื่อปี 1998 ที่บ้านของเพื่อนเธอ ชายวัย 50…

  • หนุ่มมอบรองเท้า Nike Air Max มูลค่ากว่า 4,500 บาทให้คนไร้บ้าน หลังเห็นเขาต้องเดินเท้าเปล่า

    หนุ่มมอบรองเท้า Nike Air Max มูลค่ากว่า 4,500 บาทให้คนไร้บ้าน หลังเห็นเขาต้องเดินเท้าเปล่า

    เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นที่เมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษหลังจากที่หนุ่มใหญ่คนหนึ่ง ได้มอบรองเท้า Nike Air Max มูลค่ากว่า 4,500 บาทให้กับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่ง หลังจากที่เห็นชายคนดังกล่าวเดินเท้าเปล่าอยู่บนถนน ในระหว่างที่ Craig Wells ชายวัย 36 ปีกำลังทานอาหารอยู่ในร้าน Wagamama ในเมืองนอตทิงแฮม พร้อมกับภรรยาและลูกๆ ทั้ง 3 คนของเขา ชายหนุ่มได้สังเกตเห็นหนุ่มไร้บ้านคนดังกล่าวเดินผ่านเขาไป Wells จำชายไร้บ้านคนนั้นได้ เขาชื่อ Mark คุณพ่อลูก 3 จึงรีบวิ่งออกไปจากร้านด้วยเท้าเปล่าพร้อมกับทักทายหนุ่มไร้บ้านคนนั้นทันที     หลังจากที่ได้พูดคุยกัน คุณ Wells ก็ทราบว่าหนุ่มไร้บ้านคนนั้นใส่รองเท้าเบอร์เดียวกันกับเขา และด้วยความมีเมตตาคุณพ่อวัย 36 ปีจึงได้ถอดรองเท้าออกกำลังการคู่โปรดของเขาให้กับหนุ่มไร้บ้านทันที “นี่อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ดูหุนหันไปหน่อย แต่หลังจากที่ผมมองเห็นเขาผ่าหน้าต่าง สภาพของเขานั้นดูแย่มาก เขาสวมเพียงแค่ถุงเท้าขาดๆ เท่านั้น” คุณ Wells เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น คุณพ่อผู้ใจดีเล่าว่าชายไร้บ้านคนดังกล่าวรู้สึกทราบซึ้งอย่างมากที่ได้รองเท้าคู่ใหม่ ” Mark ร้องไห้และบอกกับผมว่าไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้กับเขามาก่อน ผมรู้สึกว่าเขาต้องการรองเท้าคู่นั้นมากกว่าผม” Wells กล่าว     ภาพของทั้งสองถูกผู้คนในร้านอาหารถ่ายเอาไว้ได้ และจากนั้นเรื่องราวของคุณพ่อลูก 3 ก็ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ “ผมไม่ต้องการคำยกย่องอะไรสำหรับสิ่งที่ผมทำ สิ่งที่ผมอยากจะบอกทุกๆ คนก็คือ ความรักเป็นเหมือนของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด…

  • คู่รักไว้ทรงผมยาวชาวร็อคเกือบ 30 ปี ไม่ยอมตัดซักทีพอได้เปลี่ยนปุ๊บก็แทบจะจำกันไม่ได้…

    คู่รักไว้ทรงผมยาวชาวร็อคเกือบ 30 ปี ไม่ยอมตัดซักทีพอได้เปลี่ยนปุ๊บก็แทบจะจำกันไม่ได้…

    วิถีชาวร็อคนี่ช่างดูจะเต็มไปด้วยความยากลำบากจริงๆ เพราะต้องบ่งบอกความเป็นตัวเองผ่านเสื้อผ้าหน้าผม แต่จะมีใครใจได้เท่าคู่รักคู่นี้ที่ไม่ตัดผมมาเกือบ 30 ปี! Tim White และ Wendy White เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “คู่รักทรงผม Rock n’ Roll” สำหรับ Tim นั้นไม่เคยตัดผมมาตั้งแต่อายุ 18 ปีจนตอนนี้เขามีอายุกว่า 43 ปีขณะที่ Wendy นั้นก็ไม่แพ้กันโดยเธอไม่ตัดผมมาตั้งแต่อายุ 11 ปีและในตอนนี้มีอายุกว่า 39 ปีซึ่งหมายความว่าเธอไว้ผมมา 28 ปีเลยทีเดียว   ผมไม่พันกันมั่งหรอเนี่ย   และในตอนนี้ทั้งคู่เริ่มคิดที่จะเปลี่ยนแปลงทรงผม พวกเขาจึงเรียกรายการ Oprah Winfrey Show ให้มาช่วยออกแบบทรงผมให้หน่อย งานนี้บอกเลยว่าทีมงานของรายการจัดเต็ม ขนมาทั้งช่างแต่งหน้า ช่างทำผมมืออาชีพ เพื่อจะมาแปลงโฉมให้ทั้งคู่   ทรงผมสุดจ๊าบที่ไว้มาเกือบ 30 ปี   เป็นไง ลุคใหม่ของเจ๊   ซึ่งคนแรกที่ออกมาหลังจากเปลี่ยนร่างแล้วนั้นคือ Wendy ซึ่งผลที่ออกมาน่ะหรอ เหมือนสาวฮอตในวงการฮอลลีวูดเลยล่ะ   หน้าสวย ผมก็สวย…

  • ผลจากการทิ้งขยะของมนุษย์ ทำให้เกาะในทะเลแคริบเบียนเต็มไปด้วยขยะนับล้านชิ้น

    ผลจากการทิ้งขยะของมนุษย์ ทำให้เกาะในทะเลแคริบเบียนเต็มไปด้วยขยะนับล้านชิ้น

    เราทราบกันดีว่าสภาพอากาศของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อากาศเริ่มร้อนขึ้นมากทุกวันจนทำให้มนุษย์เริ่มจะดำรงชีวิตไม่ได้ อีกทั้งต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ตามที่เราได้เห็นในเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งความแปรปรวนทางสภาพอากาศนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการกระทำของมนุษย์ที่ทำลายธรรมชาติเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จนทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ   ช่างภาพที่ชื่อว่า Caroline Power ได้เดินทางไปยังเกาะ Roatan หนึ่งในหมู่เกาะของทะเลแคริบเบียนเพื่อทำการสำรวจพื้นที่   แต่เมื่อเธอเดินทางไปยังเกาะแห่งนี้ แทนที่จะได้พบกับผืนน้ำทะเลสีครามสดใส แต่กลับพบว่าทะเลที่แสนสวยงามนั้นเต็มไปด้วยขยะนับล้านชิ้นที่ลอยเกลื่อนเต็มท้องทะเล   บนผืนน้ำปกคลุมไปด้วยเศษขยะเช่น ขวดพลาสติก ช้อนส้อม กล่องโฟม และเศษพลาสติกอื่นๆ ขยะเหล่านี้สันนิษฐานว่าไหลมาตามแม่น้ำของกัวเตมาลา   Caroline จึงได้ถ่ายภาพท้องทะเลที่เต็มไปด้วยขยะเหล่านี้ เผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักและดูแลรักษาธรรมชาติให้ดีกว่านี้   John Hourston จาก Blue Planet Society ได้ออกมารณรงค์เพื่อให้ผู้คนออกมาปกป้องท้องทะเลและมหาสมุทร เขาชี้ให้เห็นว่าพลาสติกทั้งหลายที่ลอยบนท้องทะเลจะปะปนกับสาหร่ายที่เป็นอาหารของพวกแพลงตอนและปลาทะเล     นอกจากนี้ยังมีนกทะเล เต่าทะเล และวาฬที่เข้าใจผิดคิดว่าพลาสติกเป็นอาหาร และพวกมันก็กินเข้าไปซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ปัญหาขยะในท้องทะเลไม่ได้เกิดที่เกาะแห่งนี้เพียงที่เดียว ยังมีชายหาดทั่วโลกที่ยังมีปัญหาเรื่องขยะในท้องทะเล และก็น่าจะถึงเวลาที่มนุษย์ควรจะออกมารับผิดชอบดูแลสิ่งแวดล้อม ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้   ที่มา Dailymail

  • สายมัง! หมู่บ้านสำหรับคนรักสุขภาพในรัสเซีย ที่เปิดรับเฉพาะคนที่เป็นมังสวิรัติให้เข้าอยู่เท่านั้น

    สายมัง! หมู่บ้านสำหรับคนรักสุขภาพในรัสเซีย ที่เปิดรับเฉพาะคนที่เป็นมังสวิรัติให้เข้าอยู่เท่านั้น

    ผู้คนในทุกวันนี้เริ่มที่รักษาสุขภาพกันมากขึ้นเห็นได้จากการออกกำลังกายและกินอาหารมังสวิรัติที่ได้กลายเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เป็นมังสวิรัติแบบสุดโต่งนี่อาจเป็นหมู่บ้านที่คุณกำลังฝันหาถึงอยู่ก็ได้ เพราะนี่คือหมู่บ้านที่มีแต่มังสวิรัติ! หมู่บ้านแห่งมังสวิรัตินี้ตั้งอยู่แถวๆ ชานเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในประเทศรัสเซียโดยหมู่บ้านนี้มีชื่อว่า Veda ซึ่งหมู่บ้านนี้ได้ออกแบบมาเพื่อชาวมังสวิรัติที่รักสุขภาพจะได้อยู่กับคนที่มีความคิดเหมือนๆ กัน     กฎเหล็กข้อแรกของผู้ที่ซื้อหรือเช่าบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้คือต้องเป็นมังสวิรัติเท่านั้น โดยจะต้องเข้าสัมภาษณ์กับตัวแทนขายของหมู่บ้านนี้ก่อน และถ้าไม่ผ่านการสัมภาษณ์ก็หมดสิทธิ์ที่จะซื้อบ้านที่นี่ แต่ไม่ใช่แค่เป็นมังสวิรัติก็จะเข้าอยู่ที่นี่ได้ง่ายๆ เพราะที่นี่ยังห้ามสูบบุหรี่และดื่มเหล้าอีกด้วย “ไอเดียหลักที่สร้างชุมชนแห่งนี้คือ อยากให้คนที่มีความคิดความชอบเหมือนๆ กันได้มารวมตัวกัน หากคุณเป็นมังสวิรัติ ที่นี่เปิดประตูต้อนรับคุณแน่นอน” Maya Podlipskaya ผู้จัดการของหมู่บ้านแห่งนี้ได้บอกไว้     หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นหมู่บ้านที่พึ่งพาตัวเองโดยพวกเขาได้มีการจัดการทรัพยากรอย่าง ไฟฟ้า น้ำ การบำบัดของเสียและการผลิตอาหารในชุมชนเอง อีกทั้งหมู่บ้านยังมี ฟิตเนส สถานที่สำหรับโยคะ สปา รวมทั้งร้านอาหารมังสวิรัติ ให้คนในชุมชนนี้ได้ใช้อีกด้วย โดยอพาร์ตเม้นท์ที่อยู่ในชุมชนนี้ เสร็จแล้ว 2 ตึกจาก 7 ตึกและตึกที่เหลือมีกำหนดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า และสามารถรองรับได้ถึง 210 ครอบครัวเลยล่ะ ลองมาชมความน่าอยู่ของหมู่บ้านนี้กันไหมล่ะ   ที่มา: odditycentral

  • สิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋ง ‘เนินหลังเต่าอัจฉริยะ’ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามความเร็วของรถที่ขับผ่าน

    สิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋ง ‘เนินหลังเต่าอัจฉริยะ’ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามความเร็วของรถที่ขับผ่าน

    สิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆ ยังคงมีออกมาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ และแน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นสามารถตอบโจทย์ให้กับการใช้ชีวิตของเราได้มากขึ้นอย่างแน่นอน เช่นเดียวกันกับของสิ่งนี้ มารู้จักกับเนินหลังเต่าอัจฉริยะ สิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทในประเทศสเปน เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาการขับขี่บนท้องถนนให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น     ความพิเศษของมันก็คือมันจะเปลี่ยนสถานะไปตามความเร็วของรถที่วิ่งผ่าน ถ้าหากขับผ่านแบบช้าๆ ก็จะมีลักษณะที่อ่อนนุ่มขับผ่านไปได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าขับมาเร็วมันก็จะแข็งตัวขึ้นมาในทันที ทำให้ผู้ขับขี่ต้องตื่นตัวและจำกัดความเร็วในการขับขี่ของตัวเองอยู่เสมอ   ขับมาช้าก็ผ่านไปได้แบบสบายๆ   แต่ถ้าขับเร็วมันก็จะแข็งตัวเด้งดึ๋งขึ้นมา   ความสามารถนั้นเกิดจากนนั่นของเหลวประเภท Non-Newtonian ที่อยู่ภายในสิ่งประดิษฐ์ เมื่อถูกกระตุ้นด้วยความเร็วของวัตถุที่เข้ามาหามันก็จะเกิดการแข็งตัวขึ้นเอง   เป็นการนำของเหลวแปลกๆ นี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์   ปัจจุบันเจ้าสิ่งนี้ได้ถูกนำออกมาใช้งานในเมือง Villanueva de Tapia ประเทศสเปน เป็นที่เรียบร้อย และกำลังได้รับความสนใจจากประเทศอิสราเอลกับเยอรมนี   คลิปแสดงการทำงานของเนินหลังเต่าอัจฉริยะ   ไม่รู้ว่าในอนาคตบ้านเราจะได้เห็นเจ้าสิ่งนี้เข้ามาใช้กันบ้างหรือเปล่านะ คงต้องทำให้เรารู้สึกแปลกตากันมากๆ แน่เลย   ที่มา: businessinsider

  • เจ้าหมาทำตามคำสั่งของเจ้าของ นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ยอมขยับไปไหน เอาขนมมาล่อหรือลากไปก็ไม่ไป

    เจ้าหมาทำตามคำสั่งของเจ้าของ นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ยอมขยับไปไหน เอาขนมมาล่อหรือลากไปก็ไม่ไป

    เราอาจเคยเห็นน้องหมาน้องแมวถูกทิ้งไว้ข้างถนน พวกมันจะห้อยป้ายที่เขียนเอาไว้ว่า “วอนผู้ใจบุญช่วยรับมันไปดูแล?” ได้อ่านแล้วก็รู้สึกสลดใจแทนพวกมัน แต่กับเจ้าหมาตัวนี้แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นกลับแตกต่างออกไป ถึงแม้ว่าเจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนี้มีป้ายห้อยเอาไว้อยู่เหมือนกัน แต่ข้อความที่เขียนเอาไว้กลับต้องทำให้คนเดินผ่านไปผ่านมาต้องอมยิ้มให้กับความน่ารักของมัน   น้องหมาโกลเด้นนั่งรอเฉยๆ ไม่ยอมขยับไปไหน   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2011 เมื่อเจ้าหมาที่ชื่อ Jackson ได้นั่งรออยู่หน้าร้าน Target ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ไม่ยอมขยับไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียวจนทำให้ชาวบ้านรู้สึกสนใจและเดินมาอ่านข้อความที่ห้อยไว้ตรงคอของมัน ข้อความดังกล่าวเขียนเอาไว้ว่า “พ่อผมบอกให้รอตรงนี้ ผมก็รออยู่ครับ” ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็รู้สึกเอ็นดูในความใสซื่อของเจ้าหมาทันที   ในขณะที่พ่อกำลังไปทำธุระ ผมก็จะนั่งรอตรงนี้ตามที่พ่อบอกครับ   การที่มันสามารถนั่งรออยู่เฉยๆ อย่างนี้ได้นั่นเป็นเพราะว่า Steve Moore ไปรับมันมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงดูสัตว์เมื่อ 1 เดือนก่อน จากนั้นเขาก็ได้ฝึกให้มันได้มีเทคนิคหรือทักษะพิเศษต่างๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นนักฝึกหมามืออาชีพ แต่อย่างน้อยเขาก็สอนให้มันรู้จักรอโดยไม่ขยับไปไหนเลย แม้จะมีคนเอาขนมมาล่อหรือพยายามฉุดกระชากก็ตาม   คนที่มาซื้อของที่นี่จะเข้ามาลูบหัวให้กับความน่ารักน่าเอ็นดู   แม้เจอสาวๆ ผ่านสายตาไป ผมก็ไม่หวั่นไหวหรอกนะ   Steve พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า “น่าตกใจอย่างมากที่ตอนนี้ทุกคนกลับต้องการพามันกลับไปบ้าน ทั้งๆ ที่ 4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ไม่มีใครยอมพามันกลับไปเลี้ยงเลย”   น่ารักขนาดนี้ขอถ่ายรูปกลับไปให้ภรรยาที่บ้านได้เห็นหน่อยนะ  …

  • หญิงสาวใช้แอป Tinder ตามหาเจ้าเหมียวที่หายไป ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็เจอตัวจนได้

    หญิงสาวใช้แอป Tinder ตามหาเจ้าเหมียวที่หายไป ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็เจอตัวจนได้

    โดยปกติแล้วแอป Tinder จะเป็นที่รู้จักในฐานะแอปหาคู่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แล้วเราเคยคิดว่ามั้ยนอกจากหาคู่แล้ว เราจะหาประโยชน์อะไรได้จากแอปนี้อีก? Katie หญิงสาวจาก Northampton ประเทศอังกฤษ ปิ๊งไอเดียในการใช้แอป Tinder ได้อย่างสร้างสรรค์ ด้วยการใช้มันตามหาแมวที่หายไป   นี่คือ Peanut น้องเหมียวที่หายไป   Peanut เป็นแมวที่ซนมากและมันได้หนีออกจากบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่ง Katie ไม่รู้ว่ามันออกไปได้ยังไง แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของมันมากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะมีข่าวการฆ่าแมวออกมาให้ได้ยินบ่อยๆ ตั้งแต่ที่มันหายไป หญิงสาวไม่เคยได้อยู่อย่างสบายใจเลย เธอคิดถึงมันตลอดเวลา เธอจึงประกาศตามหามันในเพจเฟซบุ๊ก Lost Pets ขณะเดียวกันก็พยายามคิดหาหนทางอื่นไปด้วย และแล้วก็มีเหมือนมีอะไรมาดลใจทำให้นึกถึงแอป Tinder ซึ่งเป็นแอปหาคู่ที่สามารถระบุระยะของคนที่ต้องการคุยได้ เพื่อได้คู่ตามต้องการ     ตอนนั้นหญิงสาวรู้ว่า Peanut คงอยู่ไม่ไกลจากแถวบ้านแน่ๆ เธอก็เลยใช้แอป Tinder เพื่อให้คนที่อยู่บริเวณใกล้กันนี้ช่วยตามหา หญิงสาวเล่าว่า “ฉันใช้รูป Peanut เป็นภาพโปรไฟล์ โดยทำให้เป็นโปสเตอร์ที่มีข้อความว่า ‘มีรางวัลสำหรับผู้พามันกลับมาอย่างปลอดภัย’ และเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงก็มีคนบอกฉันว่ามันอยู่ที่ไหน”     เจ้าของได้ออกไปหาเจ้าเหมียวตามที่มีคนแจ้งมา แล้วก็พบมันอยู่ที่นั่น ซึ่งไม่ไกลจากบ้านเลย แต่เธอกลับไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมาอยู่ที่นี่ ครั้งแรกที่เข้าไปหา น้องเหมียวตกใจจนวิ่งหนีไป ดังนั้น Katie จึงต้องใช้กลิ่นที่เจ้าเหมียวชอบ จนล่อมันกลับบ้านได้ในที่สุด…

  • หญิงสาวเผย เพียงแค่โพสต์รูปภาพ ‘เท้า’ ของตัวเอง ก็ทำเงินได้ปีละเป็นล้านแล้ว!!

    หญิงสาวเผย เพียงแค่โพสต์รูปภาพ ‘เท้า’ ของตัวเอง ก็ทำเงินได้ปีละเป็นล้านแล้ว!!

    ในวัฒนธรรมบ้านเรา เท้าถือเป็นของต่ำที่ไม่ควรไว้บนที่สูง เช่น บนโต๊ะ บนหัวนอน หรือแม้กระทั่งบางสถานที่อย่างวัด คุณจะต้องระวังไม่ให้เท้าชี้ไปทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะอาจถือเป็นการลบหลู่ได้ นอกจากนี้ในทางโซเชียล รูปเท้ายังถือเป็นสัญลักษณ์ที่หยาบคายและเปรียบเสมือนการด่าที่รุนแรงมาก แต่ในขณะเดียวกันกลับมีหญิงสาวบางคนที่สามารถทำรายได้ปีละเป็นล้าน เพียงแค่ ‘โพสต์รูปเท้า’ ลงในโลกออนไลน์เท่านั้น     Jessica Gould วัย 32 ปี อาศัยอยู่ในรัฐออนตาริโอ มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 100,000 คน หลังจากที่เธอโพสต์รูปเท้าลงไอจีทุกวัน แถมยังสร้างรายมากกว่าล้านบาทต่อปีด้วย หญิงสาวใช้นามแฝงว่า Scarlett Vixen เธอโพสต์รูปเท่าเพราะรู้ว่ามีคนบางกลุ่มที่เกิดอารมณ์ทางเพศเพียงแค่ได้มองเท้าของเธอ     ผู้คนเหล่านั้นมักจะเรียกร้องให้เธอถ่ายรูปตั้งแต่ข้อเท้าลงไป แต่หญิงสาวไม่ได้ถ่ายแค่รูปเท้าเฉยๆ เธอยังหาพร็อพมาตกแต่งเท้าให้ดูเซ็กซี่ขึ้นเพื่อเอาใจแฟนๆ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้ฟรีๆ นะ แฟนๆ ที่ต้องการให้ Jessica ถ่ายรูปเท้าตามคำขอ ต้องจ่ายเงินให้ผ่านเพจ Paypal ของเธอด้วย     ลูกค้าที่ใช้บริการเป็นประจำจะรู้จักเพจของเธอในชื่อ ‘pay pigs’ ซึ่งก็จะมีรูปเท้าให้ดูมากมาย แม้จะเคยมีคนเสนอให้เธอแก้ผ้าซะเลย แต่เธอก็ปฏิเสธข้อเสนอนั้น ในการโพสต์ภาพเท้าแต่ละครั้ง Jessica มักจะทำให้เท้าดูสะอาดที่สุด แต่บางครั้งเธอก็ทำให้สกปรกบ้าง รวมทั้งทำให้เปื้อนด้วยอาหารตามคำขอของลูกค้า    …

  • สุนัขที่มีน้ำหนักเกินปกติถึง 4 เท่า ลดน้ำหนักจนกลับมาหุ่นเฟิร์ม เหมือนได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง

    สุนัขที่มีน้ำหนักเกินปกติถึง 4 เท่า ลดน้ำหนักจนกลับมาหุ่นเฟิร์ม เหมือนได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง

    สัตว์ที่มีรูปร่างอ้วนๆ กลมๆ อาจจะดูน่ารักน่ารักน่ากอด แต่รู้มั้ยว่าในความน่ารักนั้นมีความเสี่ยงอยู่ ก็เหมือนกับเรานี่แหละ หากอ้วนเกินไป มักจะมีปัญหาสุขภาพตามมา เพราะแบบนี้จึงจำเป็นต้องกำจัดน้ำหนักส่วนเกินนั้นออก เหมือนกับน้องหมา Buddy ที่พอลดความอ้วนได้ ก็เหมือนมีชีวิตใหม่เลย     Buddy เป็นสุนัขพันธ์ุ Australian-shepherd มีน้ำหนักมากถึง 81 กิโลกรัม จนทำให้มันแทบเดินไม่ได้ และยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวายเฉียบพลันด้วย ทีมช่วยเหลือ Hull’s Haven Border Collie Rescue อธิบายว่า Buddy ถูกช่วยเหลือมาจากประเทศแคนาดา ในสภาพที่อ้วนจ้ำม่ำจนเหมือนจะระเบิดออกยังไงอย่างงั้น เพราะมันมีน้ำมากกว่าสุนัขทั่วๆ ไปถึง 4 เท่าเลยทีเดียว สัตวแพทย์บอกว่าหากน้องหมายังอยู่ในสภาพนี้ต่อมันจะอยู่ได้อีกแค่ 6 เดือนเท่านั้น Angela Hand และ Samantha Gagnon ผู้ดูแลจากทีมช่วยเหลือจึงพยายามช่วยเหลือมันด้วยการลดปริมาณอาหารในแต่มื้อ จนกระทั่งมันสามารถออกกำลังกายได้     ตอนนี้น้องหมาสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 50 กิโลกรัม ที่ดีไปกว่านั้นคือมันได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่กับเจ้าของที่ใจดีอย่าง Alex และ Valerie Dewar Buddy กลายเป็นหมาที่โด่งดังในท้องถิ่น ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนในชุมชนในเรื่องการลดน้ำหนักด้วย สัตวแพทย์ Angela กล่าวว่า “ครั้งแรกที่เห็น…

  • Adobe เปิดตัวฟังก์ชั่น ‘Cloak’ ที่ช่วยให้คุณลบวัตถุในวิดีโอได้อย่างแนบเนียน!!

    Adobe เปิดตัวฟังก์ชั่น ‘Cloak’ ที่ช่วยให้คุณลบวัตถุในวิดีโอได้อย่างแนบเนียน!!

    เป็นประจำทุกๆ ปี ที่ผู้นำด้านซอฟต์แวร์อย่าง ‘Adobe’ จะจัดงาน Adobe MAX ขึ้นเพื่อทดสอบฟังก์ชั่นและระบบใหม่ต่างๆ ที่จะช่วยให้การทำโปรดักชั่นต่างๆ เป็นไปได้อย่างราบเรียบยิ่งขึ้น และดูเหมือนว่าสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดในปี 2017 นี่ ก็คงเป็นเดโม่การเปิดตัวฟังก์ชั่น ‘Cloak’ สุดล้ำ ที่จะช่วยให้มือตัดต่อวิดีโอสามารถลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากวิดีโอได้!!   ภาพบรรยากาศ Adobe MAX 2017   โดยทาง Adobe ได้เคลมผ่านงานประชุมครั้งล่าสุดเอาไว้ว่า “Cloak จะช่วยให้คุณสามารถลบวัตถุ เงา หรือรายละเอียดเล็กๆ ต่างๆ บนวิดีโอที่คุณไม่ต้องการให้หายไปได้อย่างง่ายดาย…”   เมื่อลองเลือกวัตถุที่ต้องการลบออกในวิดีโอแล้ว ระบบจะประมวลผลภาพจุดนั้นใหม่ไล่เรียงไปทีละเฟรมๆ   และนี่คือตัวอย่างผลลัพธ์อันน่าทึ่ง เห็นไหมละว่ามันเป็นประโยชน์ต่อการตัดต่อวิดีโอมากขนาดไหน   ไม่ใช่แค่วัตถุเท่านั้น แต่ Cloak ยังสามารถลบบุคคลออกจากวิดีโอได้ด้วยเช่นกัน   หรือแม้แต่จะลบวัตถุที่มีขนาดเล็กก็ทำได้เหมือนกัน เช่น.. สายรัดอกตรงกระเป๋าสะพายของผู้ชายจากคลิปวิดีโอนี้   วิดีโอเปิดตัว #ProjectCloak จากงาน Adobe MAX 2017 ตัวเต็ม  …

  • ชายแก่ผู้ป่วยเป็นโรคประหลาดทำให้เขาเก็บสะสมขยะและของทุกชิ้นเอาไว้จนล้นบ้าน

    ชายแก่ผู้ป่วยเป็นโรคประหลาดทำให้เขาเก็บสะสมขยะและของทุกชิ้นเอาไว้จนล้นบ้าน

    คนเก็บขยะเป็นเหมือนกับอาชีพที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ส่วนใหญ่พวกเขาก็จะนำไปขายเพื่อเอาเงินไปทำอย่างอื่น แต่ไม่ใช่กับชายคนนี้เพราะเขาเก็บขยะทุกชิ้นเอามาไว้ในบ้านของตัวเองซะอย่างนั้น ชายแก่วัย 60 ปีที่ชื่อว่า Jean เขาป่วยเป็นโรคที่ชื่อว่า Diogenes Syndrome ทำให้เขาไม่สนใจที่จะดูแลตัวเองเลยและยังมีพฤติกรรมประหลาดอีกอย่างคือ เขาจะออกไปเก็บขยะมาไว้ที่บ้านของตัวเองทุกวัน   เพราะโรคประหลาดหายากนี้ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เหมือนใคร   กองขยะที่เก็บเอาไว้จนแทบไม่เหลือพื้นที่ทางเดิน   ชายคนนี้เคยเป็นช่างเทคนิคงานก่อสร้างมาก่อน จนกระทั่งปี 2002 เขาได้เกษียณตัวเองและออกมาประทังชีวิตด้วยของที่เก็บได้จากถังขยะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเงินเลย เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้นำมรดกที่ได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่านั้นเอง   ในทุกคืนเขาจะออกบ้านไปเก็บขยะมาเรื่อยๆ โดยไม่สนว่าชีวิตของตัวเองจะเป็นอย่างไร   ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้อะไรก็ตามเขาจะนำกลับไปด้วยเสมอ   หรือแม้แต่อาหารที่ไม่ต้องเสียเงินเลยซักบาทก็อิ่มท้องได้   หากปล่อยให้เขาเก็บทุกอย่างมาไว้ในบ้านไปเรื่อยๆ แบบนี้มีหวังคงได้จมกองขยะตายแน่ๆ ทางรัฐบาลจึงบังคับให้มีการเก็บกวาดบ้านปีละหนึ่งครั้งเพื่อป้องกันในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย โดยการทำความสะอาดทุกครั้งชายแก่ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง   เขาต้องจ่ายเงินให้คนที่เข้ามาทำความสะอาดให้ด้วยตัวเอง   รัฐบาลบังคับให้ทำความสะอาดเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยในการใช้ชีวิต   พฤติกรรมแปลกๆ นี้ทำให้ช่างภาพชาวฝรั่งเศส Arnaud Chochon สนใจเข้ามาเก็บภาพการใช้ชีวิตของชายแก่ ช่างภาพคนนี้ใช้เวลากว่า 3 เดือนในการขอให้ชายแก่อนุญาตให้เขาเข้าบ้าน หลังจากนั้นการตามเก็บภาพต่างๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น   เศษอาหารที่กินไปทุกอย่างถูกเก็บเอาไว้ ไม่ได้นำออกไปทิ้ง   ประตูที่ถูกปิดตายด้วยกองขยะขนาดมหึมา…

  • เมืองหนึ่งในอิตาลีที่อยากให้คนย้ายเข้าไปอยู่ จนถึงกับยอมควักเงินจ่ายให้เลยนะเออ

    เมืองหนึ่งในอิตาลีที่อยากให้คนย้ายเข้าไปอยู่ จนถึงกับยอมควักเงินจ่ายให้เลยนะเออ

    เราต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากให้กับการย้ายบ้านหรือย้ายที่อยู่ ทั้งเรื่องรถขนของ ค่าเช่าบ้านใหม่ ค่าซ่อมแซมอื่นๆ แต่ถ้าคุณได้ย้ายมาที่เมืองนี้รับรองว่าไม่ได้ทำให้คุณเสียเงินเพียงอย่างเดียว เพราะคุณจะได้รับเงินค่าตอบแทนที่ย้ายเข้ามาอีกด้วย เมืองดังกล่าวมีชื่อว่า Candela ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี โดยพวกเขาได้ให้ข้อเสนอเอาไว้ว่าถ้าหากคุณย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในเมือง จะทำให้ได้รับเงินมากกว่า 78,000 บาทเลยทีเดียว   .   เหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้นก็เพราะจำนวนประชากรที่ลดลงไปมาก จากที่เคยมีคนอยู่กว่า 8,000 คนตอนนี้กลับเหลือเพียงแค่ 2,700 คนเท่านั้นเอง เมื่อคนหายไป ความครึกครื้นมีชีวิตชีวาของเมืองก็หายตามไปด้วย วัยรุ่นหนุ่มสาวส่วนใหญ่ก็หนีไปที่อื่น เหลือไว้เพียงแค่ผู้เฒ่าผู้แก่ เพราะอย่างนั้นหากปล่อยทิ้งไว้เมืองนี้คงกลายเป็นเมืองร้างอย่างแน่นอน Nicola Gatta นายกเทศมนตรีประจำเมืองจึงไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้ เขาจึงคิดข้อเสนอใหม่สำหรับดึงดูดให้คนเข้ามาอยู่กันมากขึ้น   สังเกตเห็นได้ว่าในเมืองมีผู้สูงอายุอยู่กันเป็นส่วนใหญ่   ถนนที่ทอดยาวเชื่อมหาเมืองใกล้ๆ   ข้อเสนอนั้นคือการมอบเงินค่าตอบแทนให้โดยแบ่งตามจำนวนคนในครอบครัว ถ้ามาแบบคนเดียวโสดๆ ก็จะได้รับ 30,000 บาท มากับแฟนได้ 46,000 บาท มาเป็นครอบครัวสามคนได้ 70,000 บาท และถ้าหากมากัน 4 – 5 คนจะได้มากกว่า 78,000 บาทกันไปเลย และยังมีเรื่องของภาษีค่าใช้จ่าย…

  • เมื่อเราต้องโตขึ้น… เปรียบเทียบชีวิตตัวเองเป็นหมา ตั้งแต่เกิดจนโต กับสิ่งที่ต้องพบเจอ

    เมื่อเราต้องโตขึ้น… เปรียบเทียบชีวิตตัวเองเป็นหมา ตั้งแต่เกิดจนโต กับสิ่งที่ต้องพบเจอ

    ในแต่ละช่วงของวัย ตั้งแต่เกิดจนโต ชีวิตมนุษย์เราต้องพบเจอกับสถานการณ์หลากหลายรูปแบบ มีทั้งความสุข ความทุกข์ ความลำบาก ความสบาย ปะปนกันไป และหากเราลองพิจารณาดูดีๆ การเติบโตในแต่ละวัยของเรามันไม่ได้ต่างอะไรจากชีวิตน้องหมาเลย ลองดูภาพต่อไปนี้ แล้วจะรู้ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่?   ตอนเกิดมามีแต่คนต้อนรับคนเห่อเต็มไปหมด   ช่วงวัยเด็กไปที่ไหนมีแต่คนรักคนเอ็นดู   คุณมีช่วงวัยแห่งการเจริญเติบโต   วันหนึ่ง เริ่มอยากออกไปใช้ชีวิตข้างนอก   ตอนแรกก็คิดว่าไหวนะ…   แต่มาคิดอีกที ขอเป็นเด็กต่อไปดีกว่า   การเป็นผู้ใหญ่ ฟังดูเหมือนง่ายนะ   แต่คุณจะไม่รู้เลยจนกว่าคุณจะเข้าสู่วัยทำงานจริงๆ   คุณพยายามลองอะไรใหม่ๆ   หลังจากนั้นคุณก็จะได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบ   และจะโฟกัสอยู่กับสิ่งนั้น   แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องไล่ตามความฝัน   ระหว่างนั้นคุณอาจจะเจอทั้งคนที่ไม่ชอบ   และคนที่ไม่น่านับถือ   พวกเขามักจะข่มขู่คุณ   แต่คุณก็แค่ต้องทำให้สิ่งตัวเองทำต่อไป   บางวันคุณอาจจะรู้สึกเหนื่อย   รู้สึกว่าชีวิตมันช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย   จนคิดว่ามันยากที่จะผ่านไปได้   แล้วคุณก็จะหาเวลาดูแลตัวเอง…

  • ศิลปินเกาหลีวาดภาพการ์ตูนบอกเล่าเรื่องราวชีวิตอันแสนสนุก ที่ได้เติบโตมากับพี่สาว

    ศิลปินเกาหลีวาดภาพการ์ตูนบอกเล่าเรื่องราวชีวิตอันแสนสนุก ที่ได้เติบโตมากับพี่สาว

    ความผูกพันระหว่างพี่น้องเป็นเป็นอะไรที่วิเศษมากๆ เพราะมันเป็นความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ เป็นมิตรภาพที่งดงาม ทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและเสียงหัวเราะ เหมือนกับศิลปินคนนี้ที่จำได้การเติบโตมากับพี่สาวนั้นมีความสุขและงดงามแค่ไหน เธอจึงได้บรรยายประสบการณ์เหล่านั้นออกมาในรูปแบบการ์ตูน     ศิลปินผู้ใช้นามปากกา Paper fly เป็นนักวาดการณ์ตูนชาวเกาหลี เธอได้วาดความทรงจำในวัยเด็กของตัวเอง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สดใสในระหว่างที่เธอเติบโตมากับพี่สาว เธอจำได้ว่าได้ทำกิจกรรมกับพี่สาวมากมาย ทั้งงีบหลับด้วยกันนอกบ้าน ทำความสะอาด เล่นเกม และแบ่งปันความรักเล็กๆ น้อยๆ ให้กันและกัน     หากบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือหรือคำพูดคงจะสื่อประสบการณ์ในวัยเด็กได้ไม่ชัดเจนพอ เธอจึงใช้การวาดรูปเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายและสัมผัสถึงความงดงามเหล่านั้นได้อย่างลึกซึ้ง ใครที่ชื่นชอบผลงานแนวนี้ สามารถติดตามเธอได้ที่เว็บไซต์ grafolio และอินสตาแกรม paper_fly07   .   วันวานที่เรามีความสุขกับการละเลงสีแบบง่ายๆ .   แอบเอาเครื่องสำอางของแม่มาเล่น .   มีของกินก็แบ่งกัน . . . . . . . . . . . . . . . . . .…

  • หญิงที่รอดชีวิตจากการถูกแม่ทิ้งตั้งแต่เกิด ใช้เวลา17 ปี ตามหาแม่จนเจอ…และเรียนรู้ที่จะให้อภัย

    หญิงที่รอดชีวิตจากการถูกแม่ทิ้งตั้งแต่เกิด ใช้เวลา17 ปี ตามหาแม่จนเจอ…และเรียนรู้ที่จะให้อภัย

    หลายคนที่ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เกิด มักจะกลายเป็นความโกรธแค้นจนไม่อยากเจอหน้าผู้ให้กำเนิดอีก แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่อยากเจอหน้าบุพการีสักครั้ง แม้จะรู้ว่าถูกพวกเขาทิ้ง เหมือนกับ Melissa Ohden วัย 40 ปี ที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งลงถังขยะตั้งแต่เกิด แต่เธอก็ยังออกตามหาแม่จนเจอ และยังได้ให้อภัยเธอด้วย Melissa เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ปี 1977 ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม ทีี่ร้ายกว่านั้นเธอถูกพบอยู่ในถังขยะโดยมีสายไฟพันรอบตัว แต่ไม่มีแม้แต่เงาผู้ให้กำเนิด     จริงๆ แล้ว แม่ของ Melissa พยายามจะทำแท้งตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ 8 เดือน แต่ไม่สำเร็จ จนในที่สุดแม่ก็คลอดลูกออกที่โรงพยาบาลในรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากคลอดแล้วแม่ของ Melissa ก็หนีออกจากโรงพยาบาล พร้อมนำลูกน้อยไปทิ้งในขยะ และเธอก็คิดไม่ถึงว่าลูกจะรอดจากการถูกทิ้้ง เมื่อโตขึ้น Melissa ก็ได้รับรู้เกี่ยวกับการเริ่มต้นชีวิตที่แสนเจ็บปวดของเธอ เธอจึงใช้เวลาเกือบ 20 ปี ในการหาคำตอบว่าทำไมแม่ถึงทำกับเธอเช่นนั้น แล้วก็ได้รู้ว่าเธอเกิดจากความไม่ตั้งใจและแม่ก็ไม่อยากให้เธอเกิดมาด้วย     Melissa ยังรู้อีกว่าที่ยังมีชีวิตมาจนทุกวันนี้ เป็นเพราะพยาบาลได้ยินเสียงร้องของเธอดังมาจากถังขยะ พวกเขาได้ช่วยเหลือเธอเอาไว้จนได้รับการรักษาฉุกเฉิน ความเจ็บปวดที่เธอรู้อีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อถูกช่วยเหลือแล้วกลับมีพยาบาลคนหนึ่งบอกกับคนอื่นๆ ว่า ‘ปล่อยให้เด็กคนนี้ตายดีกว่า’ ที่ร้ายไปกว่านั้นคือเธอมารู้ที่หลังว่าพยาบาลคนนั้นคือยายแท้ๆ…

  • โรงพยาบาลในจีนให้เด็กเล่น ROV ขณะ “ขลิบกระปู๋” ได้ แถมมอบส่วนลดสุดพิเศษหากได้คะแนนสูง

    โรงพยาบาลในจีนให้เด็กเล่น ROV ขณะ “ขลิบกระปู๋” ได้ แถมมอบส่วนลดสุดพิเศษหากได้คะแนนสูง

    เมื่อการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กผู้ชายรู้สึกหวาดกลัว ด้วยเหตุนี้ ทางคลินิกบางแห่งในประเทศจีน จึงได้ปิ๊งไอเดียสุดแหวกแนวที่จะช่วยทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายนั่นก็คือ การอนุญาตให้เล่นเกมบนมือถือได้ในขณะเข้ารับการผ่าตัดขลิบจู๋!!     เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า คลินิกเอกชนสามแห่งในประเทศจีนได้เสนอส่วนลดสุดพิเศษในการผ่าตัดขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเด็กชาย สำหรับคนที่สามารถเล่นเกม “King of Glory” หรือ  “ROV” จนได้คะแนนสูงถึงเกณฑ์ที่คลินิกตั้งไว้ และยิ่งไปกว่านั้น หากผู้เข้ารับการผ่าตัดคนไหนสามารถทำคะแนนได้สูงสุดก็จะได้รับการผ่าตัดแบบฟรีๆ ไปเลย โดยโปรโมชั่นส่วนลดค่าผ่าตัดนี้ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูพักร้อนของจีน ซึ่งโดยรวมแล้วกินเวลานานถึง 2 เดือนเลยทีเดียว     จากการรายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ทั่วโลกออนไลน์ของจีนได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอของเด็กชายคนหนึ่ง ที่กำลังเล่นเกมสุดฮิตอย่าง ROV บนมือถือ ขณะที่เข้ารับการผ่าตัดขลิบอวัยวะเพศ ซึ่งคลิปดังกล่าวก็ได้กลายกระแสไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์ ทั้งยังถูกทางเว็บไซต์ข่าวต่างๆ ของจีนนำไปตีข่าวอย่างรวดเร็ว     ภาพของหนูน้อยกำลังนอนเล่นเกมอยู่บนเตียงอย่างชิวๆ โดยในขณะนั้นทางแพทย์กำลังทำการผ่าตัดขลิบกระปู๋ให้กับเขา   อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากคลินิกทั้ง 3 แห่งแล้ว ยังรวมไปถึงโรงพยาบาล Guigang Wuzhou ในมณฑลกว่างซีจ้วง, โรงพยาบาล Jiangjin Ren’ai ในฉงชิ่ง และโรงพยาบาล Baotou Jiuzhou Urology…

  • กองกำลังที่ถูกลืม หน่วยรบสำคัญผู้เป็นเบื้องหลังกองทัพสหรัฐฯ ที่เป็นชาวเอเชียอเมริกัน…

    กองกำลังที่ถูกลืม หน่วยรบสำคัญผู้เป็นเบื้องหลังกองทัพสหรัฐฯ ที่เป็นชาวเอเชียอเมริกัน…

    หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่า… หนึ่งในกองกำลังทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามหลังเหตุการณ์ที่ Pearl Harbour มีกองกำลังที่ชื่อว่า ‘Nisei’ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นผู้อาศัยในสหรัฐฯ แทบทั้งสิ้น!! ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรุ่นลูกของชาวญี่ปุ่นที่ก่อนหน้านี้ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ก่อนแล้ว และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของ ‘Nisei’ หน่วยรบสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังชัยชนะของกองทัพสหรัฐฯ ในยุคนั้น…   ภาพของกองกำลัง 442nd Regimental Combat Team เมื่อปี 1944   ถ้าจะให้สาวเรื่องราวการก่อตั้งหน่วยกองกำลังพิเศษนี้ขึ้นมา คงต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 1941 หลังกองทัพญี่ปุ่นบินมาถล่ม Pearl Harbour แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือกระแสสังคมชาวอเมริกัน ที่หันมาเกลียดชังคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ แต่กระนั้นทางรัฐบาลก็ได้ยื่นข้อเสนอโดยให้ผู้ชายชาวญี่ปุ่นทั้งหมดเลือกว่า จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลัง หรือจะถูกจัดให้เป็น ‘ศัตรู!!’     แต่ก็ใช่ว่าทางการจะส่งตัวเหล่าชายฉกรรจ์สัญชาติญี่ปุ่นไปเป็นทหารทันที เพราะในช่วงแรกพวกเขาถูกส่งตัวมายังค่ายกักกันบนเกาะฮาวาย… ลองนึกภาพดูว่า จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มหลายพันคนย้ายมาอาศัยบนเกาะที่มีพื้นที่จำกัด แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น พวกเขามีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจและแรงงานต่างๆ บนเกาะฮาวายกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง   วันที่ 15 กรกฎาคม 1942 ทางการได้ออกคำสั่งให้ชายฉกรรจ์ชาวญี่ปุ่นที่ย้ายมาอยู่ในค่ายกักกันทั้งหมด ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยรบ 100th Infantry Battalion  …

  • นี่คือ.. “บาร์ฮิปสเตอร์” ที่มีแต่ฮิปสเตอร์แท้ๆ เท่านั้นที่เข้าได้ แล้วคุณล่ะฮิปสเตอร์รึเปล่า?

    นี่คือ.. “บาร์ฮิปสเตอร์” ที่มีแต่ฮิปสเตอร์แท้ๆ เท่านั้นที่เข้าได้ แล้วคุณล่ะฮิปสเตอร์รึเปล่า?

    ไม่เคยรู้กันมาก่อนใช่มั้ยล่ะ ว่าโลกนี้มันมีบาร์ที่เปิดให้บริการเฉพาะ ‘ฮิปสเตอร์’ เท่านั้น แต่คำถามคือ.. แล้วอะไรคือฮิปสเตอร์? ซึ่งอันที่จริงธุรกิจบาร์ฮิปสเตอร์ที่จะพาไปชมนี้ ไม่ได้เป็นร้านที่หวังมาสร้างกระแสเพียงอย่างเดียว แต่เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ของ Max Dovey ศิลปินผู้ต้องการเรียกร้องให้เหล่าเด็กฮิปสเตอร์ปลีกตัวออกมาจากสังคม..!!   Max Dovey หวังจะสร้างระบบ A.I. ที่สามารถตรวจจับค่าความเป็นฮิปสเตอร์ในตัวคุณ (แล้วมันวัดจากอะไรเนี่ย?)   ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ที่ Max Dovey ได้เดินทางไปทั่วเกาะอังกฤษ และเขาก็ได้ค้นพบที่จะอยากลองสร้างระบบปฏิบัติการณ์ที่จะช่วยคัดแยก ‘ฮิปสเตอร์’ ออกจากชาวบ้านทั่วไป “เห็นแบบนี้มันก็กลายเป็นสังคมเล็กๆ ที่อบอุ่นแห่งหนึ่งละครับ ไม่ได้มีแค่วัยรุ่นเท่านั้น มีทั้งคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ รุ่นผู้สูงวัยก็เป็นฮิปสเตอร์ได้ แต่ตอนนี้ปัญหาคือ.. เราคัดคนจากระบบซอฟท์แวร์ที่ผมสร้างขึ้น บางครั้งก็มีคนมาเป็นครอบครัวแต่ระบบ AI ให้อนุญาตแค่คุณพ่อเข้ามา ส่วนลูกๆ ก็ยังไม่นับว่าเป็นฮิปสเตอร์ก็มี” Max เล่า พื้นฐานข้อมูลส่วนหนึ่งที่นำมาใช้เป็นแหล่งอ้างอิงให้ AI ได้ตัดสินความฮิปในตัวคุณ ก็มาจากภาพวัยรุ่นฮิปสเตอร์ทั่วโลก 1,000 ภาพ และภาพคนธรรมดาทั่วไปอีก 1,000 ภาพ  …

  • ปฏิวัติวงการ!! แคนาดาคิดค้น ‘Arctic Apple’ แอปเปิ้ลที่ไม่เปลี่ยนสี แม้จะถูกผ่าหรือทำให้ช้ำ!!

    ปฏิวัติวงการ!! แคนาดาคิดค้น ‘Arctic Apple’ แอปเปิ้ลที่ไม่เปลี่ยนสี แม้จะถูกผ่าหรือทำให้ช้ำ!!

    แอปเปิ้ลที่มีรอยช้ำสีน้ำตาล อาจจะดูไม่ค่อยน่าทานสำหรับบางคนมากเท่าไหร่ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ทางทีมค้นคว้าของบริษัท Okanagan Specialty Fruits จากประเทศแคนาดา ได้ทำการพัฒนาแอปเปิ้ลที่จะไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แม้ว่าจะอยู่ในสถาพใดก็ตาม และกำลังวางแผนจำหน่ายในร้านค้าทั่วไปเร็วๆ นี้ การเปลี่ยนสีของเนื้อแอปเปิ้ลนั้นเกิดจากเอนไซม์ที่ชื่อว่า polyphenol oxidase (PPO) ในแอปเปิ้ลเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีทำให้เนื้อของแอปเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเวลาที่คุณผ่า กัด หรือโดนลม   เจ้า Arctic Apple นี้เป็นหนึ่งในผลงานการคิดค้นของทีมวิศกรรมทางพันธุศาสตร์ของบริษัทดังกล่าว มันสามารถคงความสดได้เป็นเวลานาน ซึ่งทางบริษัท Okanagan Specialty Fruits อ้างว่าการคิดค้นครั้งนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณการบริโภคแอปเปิ้ลและลดปริมาณขยะอาหารลง คุณ Neil Carter ประธานบริษัท Okanagan และ Louisa ภรรยาของเขาใช้เวลานานกว่า 20 ปีในการคิดค้นและพัฒนาเจ้า Arctic Apple นี้ ก่อนหน้านี้ทั้งสองได้ทำการทดลองปลูกแอปเปิ้ลสายพันธุ์ที่ไม่เปลี่ยนสีอย่าง Golden Delicious และ Granny Smith ในปี 2013 ทั้งสองใช้เวลาพัฒนาและทดสอบอยู่นานหลายปี เพื่อให้แน่ใจว่าผลไม้ที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมของพวกเขาจะปลอดภัยกับทุกคน     Arctic Apple นั้นผ่านมาตรฐานของกรมวิชาการเกษตรของสหรัฐ “การลดลงของเอนไซม์ PPO นั้นทำให้แอปเปิ้ลไม่เปลี่ยนสี ต้นของ Arctic Apple นั้นมีการเจริญเติบโตที่เหมือนกับแอปเปิ้ลต้นอื่นๆ แอปเปิ้ลพันธุ์นี้ปลอดภัยต่อสุขภาพ และนอกจากนี้มันยังมีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนกับแอปเปิ้ลพันธุ์ Granny Smith แต่ Arctic Apple…

  • เมื่อพ่อแม่พากันอวดสภาพก่อนและหลังการมีลูกของตัวเองใน IG แต่ละคนเปลี่ยนไปมากจริงๆ

    เมื่อพ่อแม่พากันอวดสภาพก่อนและหลังการมีลูกของตัวเองใน IG แต่ละคนเปลี่ยนไปมากจริงๆ

    สำหรับใครที่กลายเป็นพ่อแม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่คุณสามารถมองเห็นได้เลยก็คือ ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะจากที่เคยเต็มที่กับทุกอย่าง พอมีลูกแล้วก็เริ่มไม่มีเวลาดูแลตัวเองจนทำให้สภาพร่างกายทรุดโทรม บางคนก็ถึงขั้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว และเมื่อเร็วๆ นี้ บรรดาพ่อแม่ทั้งหลายก็ได้พากันมาแบ่งปันภาพถ่ายความเปลี่ยนแปลงของตัวเองลงในอินสตาแกรม เพื่อแสดงให้เห็นสภาพร่างกายก่อนและหลังการมีลูก พร้อมติดแฮชแท็ก #GotToddlered สำหรับไอเดียนี้ได้เริ่มต้นขึ้นมาจาก Mike Julianelle คุณพ่อลูกสองที่ได้เริ่มโพสต์ภาพก่อนและหลังมีลูกของตัวเองลงในโซเซียลในชื่อว่า Dad and Buried งานนี้เลยกลายเป็นกระแสฮิตติดลมบนจนทำให้ผู้ปกครองรายอื่นพากันทำตามกันเพียบ   และนี่คือภาพของพวกเขา มาดูกันเลยว่าแต่ละคนจะเปลี่ยนไปขนาดไหนกัน   เมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มกับสภาพล่าสุดหลังมีลูก   จากที่เคยถือแต่แก้ว ตอนนี้กลายมาเป็นอุ้มลูกแทนไปซะแล้ว   เดิมทีเป็นหนุ่มหน้าใสที่สาวๆ พากันหลงใหล แต่ตอนนี้กลายเป็นคุณพ่อสุดโหดไปแล้ว   ความเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวกับสภาพก่อนและหลังการมีลูก   โอ้วววว นี่คนๆ เดียวกันหรือเปล่าเนี่ย   จากสาวปาร์ตี้ที่ต้องออกไปดื่มนอกบ้านกับเพื่อนทุกวัน แต่หลังจากมีลูกก็หันมาดื่มไวน์ที่บ้านแทนแล้ว   ชีวิตก่อนและหลังการมีลูกมันช่างดูแตกต่างจริงๆ   ภาพด้านซ้ายคือสาวสวยในวัยแรกแย้ม แต่เมื่อเข้าสู่โหมดคุณแม่เธอก็ดูเปลี่ยนไป   นี่คนๆ เดียวกันใช่ไหม เขาดูเปลี่ยนไปเยอะเลย   และนี่คือภาพถ่ายสุดทึ่งที่แสดงให้เห็นถึงสภาพของตัวเองก่อนและหลังการมีลูก แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่งนี่ถือเป็นข่าวดีที่จะทำให้พ่อแม่มือใหม่ทั้งหลาย ได้พยายามเรียนรู้ และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากขึ้น ที่มา…

  • นักเรียนระดมเงินให้คุณครูผู้ทุ่มเทสอนตั้งแต่วัยหนุ่ม เพื่อนำไปจ่ายค่ารักษาตัวของเขาและภรรยา

    นักเรียนระดมเงินให้คุณครูผู้ทุ่มเทสอนตั้งแต่วัยหนุ่ม เพื่อนำไปจ่ายค่ารักษาตัวของเขาและภรรยา

    เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับคุณครู Walter Erickson อาจารย์ผู้ทุ่มเทให้กับการสอนอย่างเต็มเวลาและผันตัวมาเป็นอาจารย์ช่วยสอนหลังจากเกษียณอายุเป็นเวลามานานกว่า 25 ปี ชายวัย 80 ปีผู้เป็นที่รักของนักเรียนจากโรงเรียน Champlin Park High School ถึงแม้ว่าเขาจะถึงวัยเกษียณอายุไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ในทุกๆ วันเขาก็ยังคงทำหน้าที่สอนหนังสืออย่างเต็มที่เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว     คุณ Erickson นั้นรักในการสอนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาต้องการเงินจากค่าจ้างในการสอนนั้นไปเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาภรรยาของเขา และเมื่อ Kelsy Breiter และ Katie Blodgett นักเรียนของเขาทั้ง 2 คนทราบเรื่องนี้ ทั้งคู่จึงพยายามหาทางที่จะช่วยคุณครูของพวกเขา ทั้งสองได้ระดมทุนผ่านเว็บไซต์ GoFundMe โดยตอนแรกพวกเขาตั้งเป้าของยอดบริจาคไว้ที่ 500 เหรียญหรือประมาณ 16,000 บาทเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 9 วันยอดบริจาคกลับเพิ่มสูงขึ้นถึง 14,000 เหรียญหรือประมาณ 460,000 บาทเลยทีเดียว   .   การระดมทุนได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด คุณครูวัย 80 ปีได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนมากมาย “มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก เขาเป็นครูช่วยสอนที่สนิทกับพวกเรา เขารักในสิ่งที่เขาทำและการสอนของเขานั้นก็ทำให้เราสนใจที่จะเรียนรู้มากขึ้นด้วย” Katie กล่าว ส่วนทางด้านคุณ Erickson นั้นก็รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณกับสิ่งที่นักเรียนทั้งสองและคนอื่นๆ ได้ทำให้เขา “ผมบอกเรื่องนี้กับภรรยาผมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เธอดีใจมากและรู้สึกชื่นชมพวกเด็กๆ จริงๆ “ คุณครูวัย 80…

  • พาไปดูการสอบข้อเขียนการเป็น “นินจา”​ ไม่ใช่แค่ว่าใส่ชุดและสู้เป็นเท่านั้น ต้องมีใบรับรองด้วย

    พาไปดูการสอบข้อเขียนการเป็น “นินจา”​ ไม่ใช่แค่ว่าใส่ชุดและสู้เป็นเท่านั้น ต้องมีใบรับรองด้วย

    บางครั้งการจะประกอบอาชีพบางอาชีพได้นั้น คุณอาจจะจำเป็นต้องผ่านการเรียนรู้และการฝึกฝนทักษะต่างๆ และที่สำคัญบางครั้งคุณเองอาจจะต้องผ่านการทดสอบเพื่อยืนยันว่าคุณมีคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับอาชีพนั้นจริงๆ และนินจาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยการจะเป็นนินจาที่สมบูรณ์แบบได้นั้นคุณเองก็จะต้องสอบให้ผ่านข้อเขียนวัดทักษะด้วยเช่นกัน!!     นินจา Koga นั้นเป็นกลุ่มนินจาที่อยู่ภายใต้การนำของ Ieyasu Tokugawa นายพลผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงสมัย Edo โดยการทดสอบความรู้ความสามารถของนินจาครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ที่วัด Zojo-ji วัดพุทธในกรุงโตเกียวที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูล Tokugawa การทดสอบครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้วนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดการทดสอบขึ้นมา ซึ่งในระดับแรกนั้นผู้เข้าร่วมการทดสอบนั้นจะต้องตอบคำถามทั้งหมด 50 ข้อภายในระยะเวลา 30 นาที เมื่อได้คะแนนมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปถึงจะผ่านการทดสอบ จากนั้นผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้เข้ารับการทดสอบในการสวมชุดนินจาและทักษะการใช้อาวุธนินจา และเมื่อผ่านระดับนี้ไปได้คุณก็จะกลายเป็นนินจาเต็มตัวแล้ว     และนอกจากการทดสอบความรู้ความสามารถทางด้านนินจาแล้ว ในงานดังกล่าวยังมีการแสดงทักษะพิเศษของเหล่านินจาอีกด้วย โดยการแสดงนั้นจะจัด 2 รอบต่อวัน ในเวลา 11.00 – 11.30 และเวลา 12.00-12.30 ในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคมนี้   และสำหรับใครที่สนใจรายละเอียดงานเพิ่มเติมล่ะก็ สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ koka-kanko กันได้เลยจ้า ที่มา kotaku, moshimoshi-nippon

  • เชฟ Gordon Ramsey พาไปชมกรรมวิธีผลิต “โคเคน” ไม่ได้เอามาทำอาหาร แต่ให้รู้ถึงภัยของมัน

    เชฟ Gordon Ramsey พาไปชมกรรมวิธีผลิต “โคเคน” ไม่ได้เอามาทำอาหาร แต่ให้รู้ถึงภัยของมัน

    ถ้าหากพูดถึงชื่อของ Gordon Ramsay หลายๆ คนคงจะนึกถึงภาพของเชฟสุดโหดที่ด่าทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ไม่น่าเชื่อว่าพ่อหนุ่มเชฟใหญ่อย่างเขาจะมาทำรายการที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอย่างรายการ Gordon Ramsay on Cocaine  โดยสารคดีดังกล่าวจะมีทั้งหมด 2 ตอนด้วยกัน ซึ่ง Gordon Ramsay on Cocaine นั้นจะเป็นหนึ่งในตอนของซีรีย์สารคดีอาชญากรรมอย่าง Crime & Punishment ที่ออกอากาศทางช่อง ITV     โดยชื่อของเชฟใหญ่อย่าง Gordon Ramsay กับยาเสพติดชื่อก้องโลกอย่างโคเคนนั้นดูเหมือนจะไม่มีจุดที่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทางเชฟของเรานั้นก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า เขาต้องการที่จะทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้โคเคนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านอาหาร “ผมอยากเข้าใจโลกของยาเสพติดชนิดนี้ ตั้งแต่ตอนที่ผมเสียพ่อครัวดีๆ คนหนึ่งไปเพราะมัน และผมอยากจะรู้ว่าทำไมมันถึงระบาดไปทั่วโลก และโดยเฉพาะในด้านธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร” Gordon Ramsay กล่าว     โดยในรายการนี้พ่อครัวของเราจะเดินทางเข้าไปในป่า เพื่อเจาะลึกการทำยาเสพติดชนิดนี้ และเผยให้เห็นถึงความน่ากลัวของสารตั้งต้นต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตโคเคน “ผมสาบานได้เลยว่าใครที่ดูรายการนี้แล้ว คุณจะไม่อยากนึกถึงโคเคนอีกเลย” เชฟหนุ่มของเรากล่าว รายการ Gordon Ramsay on Cocaine นั้นจะออกอากาศตอนแรกในวันที่ 19 ตุลาคม และตอนที่ 2 ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ทางช่อง ITV…

  • คุณแม่ลูกเจ็ดหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง จนกลับมามีหุ่นสวยเหมือนเป็นพี่สาวของลูกเลยทีเดียว!!

    คุณแม่ลูกเจ็ดหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง จนกลับมามีหุ่นสวยเหมือนเป็นพี่สาวของลูกเลยทีเดียว!!

    กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมากบนโลกออนไลน์ หลังจากที่คุณ Jessica Enslow คุณแม่ลูก 7 ที่ใช้เวลาในการลดน้ำหนักและดูแลตัวเองอย่างเข้มงวดตลอดระยะเวลา 6 เดือน และกลับมาดูดีได้อีกครั้งพร้อมกับเผยหุ่นสุดแซบของเธอบนอินสตราแกรม คุณแม่วัย 43 ปี จากเมือง Salt Lake City รัฐยูทาห์ ได้พยายามต่อสู้กับสภาวะน้ำหนักเกินหลังการคลอดลูก หลังจากที่เธอให้กำเนิดลูกคนแรกเมื่อตอนอายุ 20 ปี โดยแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักของเธอนั้นเริ่มจากการที่เธอสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่าไม่ได้ และรู้สึกว่าตัวเองนั้นอ้วนเกินไป     หลังจากที่เริ่มลงมือศึกษาการออกกำลังกายตั้งแต่ตอนที่คลอดลูกคนแรกของเธอ แต่มันก็ไม่เป็นผลสำเร็จจนกระทั่งหลังจากที่คลอดลูกคนสุดท้ายของเธอเมื่อปี 2013 คุณแม่วัย 43 ปี จึงเริ่มกลับมาตั้งใจดูแลตัวเองอย่างจริงจังอีกครั้ง หลังจากที่ตั้งท้องลูกคนสุดท้ายคุณ Jessica มีน้ำหนักตัวประมาณ 61 กิโลกรัม แต่ตอนนี้น้ำหนักตัวของเธอนั้นเหลือเพียงแค่ 52 กิโลกรัมเท่านั้น แถมรูปร่างและหน้าตาของเธอยังดูเด็กลงอีกด้วย   คุณ Jessica และครอบครัวของเธอ   “ฉันรู้สึกตกใจกับร่างกายของฉันหลังจากที่ตั้งครรภ์ลูกคนแรกมาก ฉันจำได้ว่าหลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลฉันพยายามที่จะใส่กางเกงยีนส์ตัวเก่า แต่มันก็ใส่ไม่ได้ มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันปล่อยตัวเองมากเกินไปแล้วนะ” คุณ Jessica กล่าว และหลังจากคลอดลูกคนที่ 7 คุณ Jessica…

  • ครูสาวสามารถเอาชนะอาการ “เสพติดอาหาร” ได้ และกลับมามีรูปร่างดีได้อีกครั้ง

    ครูสาวสามารถเอาชนะอาการ “เสพติดอาหาร” ได้ และกลับมามีรูปร่างดีได้อีกครั้ง

    หลังจากที่ต้องเจอเรื่องราวร้ายๆ ในวัยเด็ก ทำให้คุณ Camila Coelho Nery ครูสาววัย 29 ปีต้องพบกับปัญหาความเครียดและนั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุของน้ำหนักตัวที่มากกว่า 91 กิโลกรัมของเธอ แต่เมื่อหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี เพื่อนๆ ของเธอก็แทบจะตกใจ เมื่อคุณครูสาวของเราสามารถลดน้ำหนักไปได้มากกว่า 40 กิโลกรัม และตอนนี้เธอเหลือน้ำหนักเพียงแค่ 58 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจหันมาดูแลตัวเองและลดน้ำหนักนั่นก็คือร่างกายที่ใหญ่โตของเธอนั้นทำให้หาเสื้อผ้าใส่ยากนั่นเอง     “ฉันไปที่ร้านขายเสื้อผ้า และเข้าไปในห้องลองเสื้อเพื่อพยายามหาเสื้อผ้าที่พอดีกับตัวฉัน แต่มันก็ไม่มีเลย ฉันเสียใจอย่างมากและคิดว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว” คุณครูวัย 29 ปีกล่าว นอกจากนี้ความอ้วนนั้นยังส่งผลต่อร่างกายและจิตใจของเธออีกด้วย มันทำให้เธอหายใจลำบากและรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่มีค่า Nery เล่าว่าเธอมักจะตื่นขึ้นมาตอนดึกพร้อมกับอาการเหนื่อยและหายใจแบบสั้นๆ หญิงสาวเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยเริ่มจากการควบคุมอาหาร เธอลดปริมาณพลังงานจากอาหารให้เหลือเพียงแค่ 1,400 กิโลแคลอรี่ต่อวันในวันปรกติ และเพิ่มเป็น 1,900 กิโลแคลอรี่ในวันที่เธอออกกำลังกาย     Nery เล่าว่าส่วนที่ยากที่สุดในการลดน้ำหนักของเธอคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินอาหารและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง แต่หลังจากที่การลดน้ำหนักของเธอเริ่มประสบผลสำเร็จ สุขภาพร่างกายของเธอก็เริ่มกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง “หลังจากการลดน้ำหนัก ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง และมีสุขภาพจิตที่ดีกว่าเดิม” หญิงสาวกล่าว นอกจากนี้ Nery ยังได้ให้คำแนะนำอีกว่าการลดน้ำหนักนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทนทานแต่อาหารที่ไม่ชอบ แต่คุณแค่ต้องปรับปรุงเมนูอาหารบ้างนิดหน่อย และรู้จักเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ  …

  • พนักงานมินิมาร์ทสุดเมพ ไล่โจรที่จะมาปล้นร้านสะดวกซื้อด้วยดาบไม้เคนโด้เพียงอันเดียว

    พนักงานมินิมาร์ทสุดเมพ ไล่โจรที่จะมาปล้นร้านสะดวกซื้อด้วยดาบไม้เคนโด้เพียงอันเดียว

    เวลามีการปล้นเกิดขึ้น คนส่วนใหญ่มักจะให้ในสิ่งที่โจรนั้นต้องการ เพราะเกรงกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ไม่ใช่กับพนักงานร้านสะดวกซื้อคนนี้ เพราะพี่แกหวดโจรยับจนต้องหนีกันจ้าละหวั่นด้วยดาบไม้อันเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อมีชายคนหนึ่งใส่หมวกไอ้โม่งและถือชะแลงเข้ามาในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเวลา 04.00 น. ของเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา   หน้าตาของร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุ   ซึ่งพนักงานได้ถามชายคนดังกล่าวว่าจะเข้ามาปล้นหรอเขาคนนั้นก็ตอบกลับมาว่า “ก็ใช่น่ะสิ“   เขาจึงกดปุ่มฉุกเฉิน และด้วยความที่พนักงานที่เฝ้าร้านอยู่ในขณะนั้นได้ฝึกวิชาเคนโด้จนถึงขั้น 1 ดั้ง (ซึ่งเปรียบได้กับสายดำของกีฬาต่อสู้อื่นๆ ) เขาจึงรีบหยิบดาบไม้ขึ้นมาเพื่อวางท่าทางเพื่อข่มขู่โจรคนนั้น และบอกกับโจรว่า “ฉันเรียนวิชาดาบญี่ปุ่นมานะ” เมื่อโจรเห็นแอบหวั่นๆ จะสู้หรือจะหนีดี สุดท้ายโจรก็เลือกที่จะหนีและวิ่งหน้าออกร้านไปอย่างรวดเร็ว สำนักข่าวญี่ปุ่นรายงานว่า หลังจากนั้นไม่นานทางตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ   ข่าวในประเทศญี่ปุ่นที่นำเสนอการปกป้องร้านของพนักงานคนนี้   เอาจริงๆ เหมียวแนะนำว่ายอมๆ โจรไปเถอะ แล้วค่อยให้ตำรวจตามจับกุมทีหลัง เกิดโจรมีอาวุธอันตราย อาจไม่จบแบบสวยๆ อย่างนี้ก็เป็นได้ ที่มา: nextshark

  • สื่อนอกจัดอันดับ 10 อันดับ “ชาวจ๊าบและแก๊งค์วัยรุ่น” กวนเมืองจากทั่วโลก เฟี้ยวๆ ทั้งนั้น!!

    สื่อนอกจัดอันดับ 10 อันดับ “ชาวจ๊าบและแก๊งค์วัยรุ่น” กวนเมืองจากทั่วโลก เฟี้ยวๆ ทั้งนั้น!!

    ชาวแก๊งค์หรือกลุ่มวัยรุ่นที่มักจะก่อความวุ่นวายในเมืองนั้น เป็นอีกมุมหนึ่งของสังคมที่เรามักจะเคยได้ยินชื่อเสียงของพวกเขาในด้านไม่ดีอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อความวุ่นวาย หรือการทำลายทรัพย์สินต่างๆ แน่นอนว่าชาวแก๊งค์แบบนี้นั้นไม่ได้มีอยู่แค่ในบ้านเราเท่านั้น แต่ในต่างประเทศเองก็มีเช่นกัน และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 อันดับแก๊งค์วัยรุ่นกวนเมืองจากทั่วโลก จะมีแก๊งค์ไหนบ้างนั้นไปชมกันเลย…   1. Racaille จากประเทศฝรั่งเศส สมาชิกของแก๊งค์ Racaille นั้นเป็นชาวฝรั่งเศสทั้งหมด โดยกิจกรรมหลักๆ ของพวกเขาก็คือการออกไปเที่ยวเล่นที่สถานีรถไฟใต้ดิน ฟังเพลงจากโทรศัพท์ ลักขโมยของ และรังแกเด็กๆ นอกจากนี้พวกเขายังชื่นชอบเสื้อผ้ายี่ห้อ Lacoste อีกด้วย   2. White trash จากสหรัฐอเมริกา White trash คือกลุ่มคนระดับล่างของที่นี่ พวกเขามักจะเมากันตลอดเวลา และส่วนมากนั้นไม่มีงานทำ นอกจากนี้กิจกรรมของพวกเขาก็คือการออกไปสังสรรค์ ทะเลาะวิวาท และก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่น   3. Chavs จากประเทศอังกฤษ พวกเขานั้นมักจะอยู่ในเขตที่พักอาศัยของผู้มีรายได้น้อย และมักจะแต่งตัวด้วยเสื้อแจ๊กเก็ตกีฬา สวมหมวกไหมพรม และคาบบุหรี่ตลอดเวลา กิจกรรมของพวกเขาโดยส่วนมากแล้วก็การต้มตุ๋น การก่อความวุ่นวายบนถนน และออกไปมั่วสุมกันตามสถานที่ต่างๆ   4. Yankii จากประเทศญี่ปุ่น Yankii คือกลุ่มคนทำงานวัยรุ่นของประเทศญี่ปุ่น แต่พวกเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับแก๊งค์ยากูซ่าเลย โดยพวก Yankii นั้นจะชอบก่อความวุ่นวายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับมอเตอร์ไซค์เสียงดัง…

  • ขุ่นแม่ประหยัดเงินได้เป็นล้านจากการซื้อแต่ ‘เสื้อผ้ามือสอง’ เพื่อเอาไว้ใช้เที่ยวรอบโลก

    ขุ่นแม่ประหยัดเงินได้เป็นล้านจากการซื้อแต่ ‘เสื้อผ้ามือสอง’ เพื่อเอาไว้ใช้เที่ยวรอบโลก

    การช็อปปิ้งเสื้อผ้ามักจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชื่นชอบ แต่จะมีซักกี่คนที่เหมือนเธอคนนี้ที่ซื้อแต่เสื้อผ้ามือสองทุกชิ้นยกเว้นชุดชั้นใน เพื่อเก็บตังไปเที่ยวรอบโลก แทนที่เธอคนนี้จะไปเลือกซื้อของแบรนด์ดังทั้งๆ ที่มีเงินมากพอ แต่สาวในเมืองบริสเบน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของนัฐควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลียอย่าง Hannah Klose นักจัดรายการวิทยุสาวสวยวัย 36 ปี กลับเลือกที่จะประหยัดเงินในส่วนนี้เพื่อเอาไปใช้ฟุ่มเฟือยระหว่างการท่องเที่ยวรอบโลกกับสามีและลูกๆ ของเธอมากกว่า   สาบานว่านี่คือเสื้อผ้ามือสอง   เธอได้บอกไว้ว่า “ฉันสามารถเก็บเงินได้ 280,000 ดอลล่าร์ออสเตรเลีย(ประมาณ 7,300,000 บาท) จากในส่วนนี้โดยเสื้อผ้าที่ฉันซื้อแต่ละชิ้นมีราคาไม่ถึง 5ดอลลาร์เลยซักตัว ซึ่ง 99% ในตู้เสื้อผ้าของฉันเป็นแบบนั้น แต่ยกเว้นกับชุดชั้นในนะ” โดยเสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเธอจะเป็นยี่ห้อชื่อดังแต่ว่าตกรุ่นแล้ว แต่ที่หน้าทึ่งยิ่งกว่าคือเธอสามารถแต่งตัวได้สวยขนาดไปเดินแบบได้เลยทีเดียว   นางแบบมาเองเลยนะเนี่ย   สำหรับเงินที่ได้จากการประหยัดการซื้อเสื้อผ้านี้เธอจะมาแบ่งออกเป็นส่วนๆ คือส่วนหนึ่งไว้สำหรับเที่ยวรอบโลก ส่วนหนึ่งไว้สำหรับการใช้หนี้ และส่วนหนึ่งบริจาคให้แก่การกุศล “ฉันมักบอกผู้คนว่า คุณอยากจะใช้เงินซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ใหม่ๆ หรืออยากจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากการเที่ยวรอบโลกล่ะ” ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเธอได้เดินทางไปทั้งฝรั่งเศส อิตาลี สหราชอาณาจักร รวมถึงไปอเมริกาอีกถึง 3 ครั้งซึ่งนิวยอร์คเป็นที่ๆ เธอบอกว่าเสื้อผ้ามือสองที่นั่น “แย่มาก”   จัดได้ว่าเธอเป็นคนที่ตาถึงมากเลยทีเดียว   โดยนิสัยประหยัดนี้เธอบอกว่าได้รับมาจากพ่อแม่ของเธอและเธอได้พยายามที่จะถ่ายทอดไปให้ลูกสาววัย…

  • นักท่องเที่ยวสุดห่าม พยายามเข้าไปถ่ายรูปแบบชิคๆ กับกวาง ทั้งที่มีป้ายเตือนถึงอันตราย

    นักท่องเที่ยวสุดห่าม พยายามเข้าไปถ่ายรูปแบบชิคๆ กับกวาง ทั้งที่มีป้ายเตือนถึงอันตราย

    เวลาเราไปเที่ยวสวนสัตว์ เราจะเห็นป้ายเตือนที่คอยบอกว่าห้ามทำสิ่งใดบ้าง เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเองหรืออาจจะเป็นอันตรายต่อสัตว์ได้ แต่ก็มีคนบางจำพวกที่ไม่รู้ถึงความอันตรายของสัตว์เหล่านี้โดยเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ เพียงเพื่อให้ได้มาเพียงรูปภาพสวยๆ เท่านั้น Ted Shillitto ช่างภาพอายุ 70 ปี ได้เฝ้าดูนักท่องเที่ยวที่พยายามเข้าไปถ่ายภาพกับกวางอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าจะมีป้ายเตือนถึงอันตราย แต่ก็ไม่สนใจ จนเป็นภาพชินตา     โดยเขาได้เฝ้าดูเหตุการณ์ที่ Wollaton Hall Park ในเมือง Nottingham ประเทศอังกฤษ “ผู้คนไม่รู้ว่าสัตว์เหล่านี้มีอันตรายมากขนาดไหน ยิ่งในช่วงฤดูผสมพันธุ์ที่พวกมันจะยิ่งมีความดุร้ายมากขึ้น เพราะมักจะมีการต่อสู้เกิดขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตัวเมีย” Ted กล่าว เขาได้พยายามเตือนนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ก็ไม่มีใครสนใจและยังคงถ่ายรูปแบบที่พวกเขาทำกันต่อไป     ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ที่กวางทำร้ายคนเกิดขึ้น ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายคือ Yuan Li อายุ 43 ปี ดีไซน์เนอร์จากเลย์ตันสโตนซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของลอนดอน เธอบอกว่า “นึกว่าตัวเองตายไปแล้ว” หลังจากเธอโดนเขากวางแทงเข้าที่ช่วงท้องและขา ระหว่างที่พยายามเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ จนเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน     เมื่อรูปทั้งหลายได้ถูกเผยแพร่ออกไปชาวเน็ตก็มีความเห็นที่หลากหลายเช่นกัน อย่าง   “ถึงกวางจะมีความสวยงาม แต่ก็อย่าลืมว่ายังไงมันก็เป็นสัตว์ป่าอยู่นะ” , “เมื่อมีคนบุกรุกพื้นที่ของคุณ ไม่ว่าเป็นคนหรือสัตว์ก็ต้องป้องกันตัวเองทั้งนั้นแหละ”     เห็นอย่างนี้แล้วทางที่ดีหากเพื่อนๆ ไปเที่ยวสวนสัตว์หรือไปเจอสัตว์เหล่านี้ที่ไหน ก็พยายามอย่าเข้าใกล้จะเป็นการดีกว่าเนอะ เพราะยังไงพวกมันก็ยังมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่าอยู่ จริงไหม…   ที่มา: dailymail

  • แรคคูนตาบอดพาแมวน้อยสองตัวไปหาคนที่ให้อาหารมัน ครอบครัวจึงรับทั้งสองเป็นลูกซะเลย

    แรคคูนตาบอดพาแมวน้อยสองตัวไปหาคนที่ให้อาหารมัน ครอบครัวจึงรับทั้งสองเป็นลูกซะเลย

    หลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์สัตว์หลงเข้ามาในบ้าน แล้วเราก็เกิดความสงสารให้อาหารพวกมัน จนบางทีมันก็เลยเกิดความเคยชินและเข้ามาขออาหารกินทุกวัน แต่จะเป็นอย่างไรถ้าวันหนึ่งพวกมันพาเพื่อนเข้ามาขออาหารด้วย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อได้มีผู้ใช้อินสตาแกรมคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า @Eryn09 ได้ออกมาเผยเรื่องราวว่า เมื่อเกือบ 5 ปีก่อน ได้มีแรคคูนตาบอดตัวหนึ่งมักจะเข้ามาที่บ้านของ Eryn ที่ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ เพื่อหาอาหารตั้งแต่ปี 2009 โดยมันมักจะเข้ามาในตอนเช้าประมาณ 6.00-9.00 น. และบางทีก็อาจจะกลับมา 2-3 ครั้งในวันเดียวกันจนเรียกได้ว่าเป็นแขกประจำของบ้านเลยทีเดียว   “มันมีตาสีเขียว และดูเหมือนว่ามันจะมีอาการตาบอด นอกจากนี้มันยังกลัวต่อสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะทั้งลมพัด นก รวมทั้งหิมะด้วย” Eryn กล่าวไว้ และในช่วงปลายปี 2014 ก็มีเจ้าแมว 2 ตัวโผล่ขึ้นมาขณะที่เจ้าแรคคูนก็มาตามปกติของมัน พวกแมวได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าแรคคูนและเริ่มเดินตามมันเหมือนเป็นบอดี้การ์ดให้มันเลยล่ะ     นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อเจ้าแรคคูนมาหาเจ้าของบ้านนี้ แมวทั้ง 2 ตัวก็พลอยอิ่มท้องไปด้วยทำให้มันเดินตามแรคคูนต้อยๆ ตลอดทั้งวัน หลังจากพวกมันกินเสร็จ ทั้งสามตัวก็กลับเข้าไปในป่า โดยมีแมวทำหน้าที่เหมือนเป็นตาที่เจ้าแรคคูนเสียไป คอยนำทางไปยังที่พักของพวกมัน   ลองชมความน่ารักเมื่อครั้งเจ้าแรคคูนพาลูกแมวทั้งสองเข้ามาในบ้านใหม่ๆ ได้ที่นี่   แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นานเจ้าแรคคูนก็ได้ตายลงไปในเดือนมิถุนายนปี 2015 ซึ่งในขณะนั้นมันมีอายุ 5 ปี ซึ่งมากกว่ากว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปของอายุแรคคูนซึ่งอยู่ที่ 2-3 ปี “ด้วยความที่มันตาบอดและพิการ…

  • ลงไปยังไง!! ลูกม้าน้อยหายไป เจ้าของฟาร์มระดมคนออกตามหา ปรากฎว่ามันตกไปในรังมด!!

    ลงไปยังไง!! ลูกม้าน้อยหายไป เจ้าของฟาร์มระดมคนออกตามหา ปรากฎว่ามันตกไปในรังมด!!

    สิ่งมีชีวิตเมื่อแรกเกิดมักจะทำให้พ่อแม่เป็นห่วงในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกิน การเดิน หรือทุกๆ อย่าง รวมถึงในกรณีนี้ ที่มีแม่ม้ามาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์เพราะว่าลูกที่มันเพิ่งคลอดเมื่อคืนหายไปไหนไม่รู้?? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Sao Gabriel do Oeste ประเทศบราซิล เมื่อมีม้าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Boneca ได้วิ่งรอบทุ่งเลี้ยงสัตว์อย่างผิดปกติ ทำให้เจ้าของมันเริ่มสังเกตว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ   เจ้า Boneca วิ่งวุ่นอย่างไม่มีสาเหตุ อย่างนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ   เมื่อเจ้าของฟาร์มสังเกตดีๆ ก็พบว่า ท้องที่โย้จากการตั้งครรภ์ของเจ้า Boneca ยุบลงไปแล้ว แสดงว่ามันต้องออกลูกมาแล้วแน่ๆ ว่าแต่ลูกของมันหายไปไหนกันล่ะ?   เฮ้ย นี่มันรังมดนี่หว่า   พวกเขาจึงระดมคนออกตามหาลูกม้าตัวนี้ว่ามันหายไปไหน ตอนแรกเขาคิดว่าอาจถูกคนขโมยไปแล้ว เพราะถ้ามันตายก็ต้องมีศพอยู่แถวๆ นั้น หลังจากตามหาอยู่พักใหญ่ๆ หนึ่งในทีมค้นหาได้ยินเสียงร้องของอะไรบางอย่างดังมาจากใต้พื้นดิน ตอนแรกพวกเขานึกว่าหูฟาด เพราะอะไรมันจะไปอยู่ใต้ดินได้ แต่เมื่อลองฟังดีๆ นั่นมันเสียงลูกม้านี่หว่า พวกเขาจึงพยายามหาต้นเสียงว่ามาจากตรงไหน ในที่สุดพวกเขาก็เจอว่าต้นเสียงมาจากที่ไหน ปรากฎเจ้าม้าน้อยดั๊นตกไปในรังมดขนาดใหญ่ซะอย่างนั้น แหม ก็ว่าหายไปไหน มาช่วยแล้ววววว   พวกเขาได้ทำการขยายปากหลุมเพื่อช่วยเจ้าม้าน้อยขึ้นมา และในที่สุดมันก็ได้โผล่ขึ้นมาเจอแม่อีกครั้ง   แหม มาถ่ายรูปด้วยกันก่อน แชะ   ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ช่วยกันขุดลูกม้าขึ้นมา…

  • ตามส่องวิถีเน็ตไอดอลรัสเซีย จ่ายเศษเงินเช่าเครื่องบินเจ็ท เพื่อถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียล!!

    ตามส่องวิถีเน็ตไอดอลรัสเซีย จ่ายเศษเงินเช่าเครื่องบินเจ็ท เพื่อถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียล!!

    สำหรับใครที่มีอินสตาแกรม คุณอาจจะเคยเข้าไปตามส่องวิถีชีวิตคนรวยจากทั่วโลกมาแล้วมากมาย โดยพวกเขามักจะอัพเดทภาพไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองอยู่เสมอ และนั่นก็ทำให้เราเกิดความคิดเข้ามาในหัวว่า ทำไมคนเหล่านี้ถึงเกิดมาโชคดีเหลือเกิน บางคนก็ร่ำรวยซะจนซื้อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเลยก็มี แหม!! คิดแล้วมันน่าอิจฉาชะมัด อยากมีเครื่องบินส่วนตัวบ้างอะแกรร     แต่เดี๋ยวก่อนภาพที่คุณเห็นในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ก หรือ อินสตาแกรมนั้น มันอาจเป็นภาพลวงตาที่ทำให้เราหลงเชื่อว่าผู้คนเหล่านั้นร่ำรวยจริงๆ ก็เป็นได้ และนี่คือภาพจากอินสตาแกรม Privatejetstudio ที่ได้แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของเหล่าเน็ตไอดอลรัสเซีย โดยการยอมจ่ายเศษเงินเช่าเครื่องบินเจ็ท เพื่อถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียล!!     การที่คุณไม่ได้มีเงินมหาศาล ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีสิทธิ์ได้นั่งเครื่องบินเจ็ทเสมอไป เพราะถ้าหากคุณมีงบเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเหรียญ เท่านี้คุณก็สามารถเช่าเครื่องบิน Gulfstream G650 สุดหรู แล้วถ่ายเซลฟี่ลงในอินสตาแกรมเหมือนกับผู้คนเหล่านี้ได้แล้ว อ้อ ลืมบอกไปว่าการเช่าเครื่องบินเจ็ทที่ว่านี้ ไม่ได้มีการบินขึ้นแต่อย่างใด แต่ทางบริษัทเจ้าของเครื่องบินจะอนุญาตให้คุณเข้าไปนั่งเล่นนอนเล่นถ่ายรูปได้ตามสะดวกเท่านั้นเอง     นอกเหนือจากที่คุณจะได้รับสิทธิในการเป็นเจ้าของเครื่องบินส่วนตัวในเวลา 2 ชั่วโมงภายหลังจากที่ชำระเงินเช่าแล้ว คุณยังสามารถจ้างทีมช่างภาพมืออาชีพ พร้อมกับช่างแต่งหน้ามาช่วยเสกให้คุณได้ดูเหมือน “มหาเศรษฐี” จริงๆ อีกด้วย   จากนั้นก็ถ่ายรูปแบบชิคๆ แล้วอัพลงบนอินสตาแกรมให้เพื่อนๆ อิจฉาเล่นๆ   สำหรับการจ้างช่างถ่ายรูปเพื่อมาถ่ายภาพบนเครื่องบินให้คุณนั้น จะมีราคา 244 เหรียญ…

  • จากงานแต่งกลายเป็นงานศพ!! เมื่อเจ้าสาวถูกรถชนเสียชีวิตก่อนวันแต่งงาน และวันเกิดของตัวเอง

    จากงานแต่งกลายเป็นงานศพ!! เมื่อเจ้าสาวถูกรถชนเสียชีวิตก่อนวันแต่งงาน และวันเกิดของตัวเอง

    วันที่ 18 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่องานแต่งกลายเป็นงานเศร้า หลังว่าที่เจ้าสาวเกิดประสบอุบัติเหตุถูกรถบัสโรงพยาบาลชนเสียชีวิต ก่อนวันงานแต่งงานเพียง 5 วัน และอีก 1 วัน ก็จะเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบอายุ 32 ปีของเธออีกด้วย     สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 บริเวณสี่แยกในเขตเทศบาลเถาหยวนของไต้หวัน เมื่อ Ren An Ni ว่าที่เจ้าสาวผู้เคราะห์ร้ายกำลังเดินออกมาจากโรงพยาบาล หลังจากที่เธอได้เข้าพบแพทย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ในขณะที่เธอกำลังเดินข้ามถนนนั้น จู่ๆ ก็มีรถบัสของโรงพยาบาลได้พุ่งเข้าชนร่างของเธออย่างจัง จนเป็นเหตุให้ Ren ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที     ทางด้าน Lu Chun-Hsien ว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังหัวใจแตกสลาย ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในโลกออนไลน์ว่า “นี่ก็ 19 วันแล้ว ที่ผมไม่ได้คุยกับคุณ ในที่สุดผมก็ได้เอาแหวนมาสวมไว้ที่นิ้วของคุณสักที เราได้แต่งงานกันแล้วนะ… ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องรอนานกว่า 2 สัปดาห์ แม้ว่าคุณจะไม่สามารถสวมแหวนให้ผมได้ และแม้ว่าคุณจะไม่ได้เห็นผมใส่ชุดเจ้าบ่าวก็ตาม ถึงตอนนี้ผมจะอยู่คนเดียว…

  • เต่าแก่ที่สุดในโลก ถูกพบว่าเป็นเกย์ เยกับเต่าตัวผู้ 26 ปี เพราะเจ้าหน้าที่เอามาผิดตัว!?

    เต่าแก่ที่สุดในโลก ถูกพบว่าเป็นเกย์ เยกับเต่าตัวผู้ 26 ปี เพราะเจ้าหน้าที่เอามาผิดตัว!?

    แค่รู้ว่าเต่ามีอายุขัยประมาณ 250 ปีก็ทำให้เราทึ่งแล้ว แต่คุณจะต้องประหลาดยิ่งกว่าถ้ารู้ว่าเต่าที่อายุมากที่สุดในโลกขณะนี้ถูกพบว่าเป็นเกย์!? และนี่คือเรื่องราวของ Jonathan เต่าที่อายุมากที่สุดในโลก ที่เพิ่งถูกค้นพบว่าเป็นเกย์ หลังได้อยู่กับคู่รักและผสมพันธุ์กันมานานถึง 26 ปี     Jonathan ในวัย 186 ปี ได้เข้ามาอยู่ที่ St Helena ดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ ตอนอายุ 30 ปี ในฐานะของขวัญของผู้ปกครองรัฐในขณะนั้น เจ้าเต่าตัวนี้มีชีวิตอยู่หลายชั่วอายุคน ครั้งหนึ่งมันเคยถ่ายรูปร่วมเฟรมกับนักโทษที่ถูกคุมขังบนเกาะในระหว่างสงครามโบเออร์ด้วย     แต่แล้วในช่วงปลายอายุ 80 ปี Jonathan เริ่มหงุดหงิดง่ายและชอบขัดขวางการเล่นกีฬาคริกเก็ตของผู้คนบนสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์จอร์เจียของผู้ปกครองรัฐ ในที่สุดสัตวแพทย์ก็ตัดสินใจหาเพื่อนสาวให้มันในปี 1991 เต่าตัวเมียนี้ชื่อว่า Frederica ตั้งแต่นั้นมา Jonathan ก็เพลิดเพลินกับช่วงเวลาสุดโรแมนติกกับตัวเมีย โดยจะผสมพันธุ์กันทุกๆ เช้าวันอาทิตย์     แต่น่าแปลกใจตรงที่ว่าทั้งคู่ไม่เคยมีลูกเลย ทำให้หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น กระทั่งตอนนี้ก็เกือบ 30 ปีที่มันได้พบกับคู่รัก จนในที่สุดข้อสงสัยก็ถูกไขให้กระจ่าง ข้อสงสัยถูกเปิดเผยเมื่อสัตวแพทย์ได้เข้าไปทำการรักษากระดองให้เจ้า Frederica แล้วก็ต้องทึ่งเมื่อรู้ว่ามันเป็นตัวผู้ไม่ใช่ตัวเมีย!!     และแม้ว่าพวกมันจะรู้ว่าเป็นเพศเดียวกัน แต่ก็ยังมีอะไรกันทุกๆ เช้าวันอาทิตย์ สัตวแพทย์ Catherine Man กล่าวว่า “ทั้งคู่ชอบกินและนอนเป็นเวลา…

  • พายุ Ophelia พัดรุนแรงจนทำให้พบ ‘โครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณ’ ที่มีค่าทางประวัติศาสตร์

    พายุ Ophelia พัดรุนแรงจนทำให้พบ ‘โครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณ’ ที่มีค่าทางประวัติศาสตร์

    หลายๆ ครั้ง หลักฐานทางประวัติศาสตร์มักจะถูกพบหลังจากที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง เช่น พายุ น้ำท่วม และแผ่นดินไหว ครั้งนี้ก็เช่นกัน หลังจากเกิดพายุ Ophelia ที่มีความรุนแรงจนทำให้โครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณโผล่ออกมาให้เห็น ซึ่งนับว่าเป็นหลักฐานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่ง     โครงกระดูกดังกล่าวนี้คาดว่าน่าจะมีอายุถึงพันปี ถูกค้นพบโดยนักเดินทางหลังจากเกิดพายุพัดอย่างรุนแรงและทำให้น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งไอริช ประเทศไอร์แลนด์ สำหรับพายุ Ophelia ได้พัดผ่านประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีความเร็วลมอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนเผยให้เห็นสถานที่ที่เหมือนหลุมฝังศพโบราณ นักพยาธิวิทยา Marie Cassidy ได้เดินทางมาถึงสถานที่ดังกล่าวเมื่อวานนี้ และได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหลักฐานชิ้นนี้น่าจะมาจากยุคเหล็กที่ถูกสร้างเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว     ตอนนี้โครงกระดูกที่พบถูกนำไปไว้ที่ Dublin เพื่อตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์หาสาเหตุการตายและอายุที่แท้จริง หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้วก็จะนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Ireland’s National ใน Dublin นักโบราณคดี Maeve Sikora ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติและเป็นผู้ช่วยขุดโครงกระดูกขึ้นมา กล่าวว่า “จากสถานที่ที่โครงกระดูกถูกพบ เราสามารถบอกได้อย่างมั่นใจว่ามันไม่ใช่ศพที่เพิ่งถูกฝัง” “ศพดังกล่าวอาจจะถูกวางไว้ในโลงศพและถูกปิดด้วยหินหลายๆ ชั้น แต่หินเหล่านั้นถูกทำลายโดยการกัดกร่อนจากน้ำทะเลเป็นเวลาหลายปี” Sikora กล่าว     เขายังบอกอีกว่า “ศพถูกฝังเป็นอย่างดี โดยการจัดให้แขนศพวางอยู่ข้างลำตัว ซึ่งเราสามารถบอกได้จากตำแหน่งที่ศพถูกพบ” “ศพอาจจะมีอายุมากกว่า 1,000 ปี แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถระบุปีได้ชัดเจน จนกว่าจะทำการ Radiocarbon (กัมมันตภาพรังสีในรูปของคาร์บอนที่ใช้คำนวณอายุของอินทรีย์วัตถุ)”  …

  • นักวิทย์เผยแล้วว่า สุนัขสามารถแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้า เพื่อสื่อให้มนุษย์รับรู้ได้

    นักวิทย์เผยแล้วว่า สุนัขสามารถแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้า เพื่อสื่อให้มนุษย์รับรู้ได้

    โดยปกติแล้วสุนัขมักจะสื่อสารกับมนุษย์ผ่านเสียงหรือท่าทาง แต่ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์เผยแล้วว่าสุนัขสามารถแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้าได้ นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องใบหน้าของสุนัขบอกว่า เมื่อมนุษย์ให้ความสนใจน้องหมามันจะมีการเคลื่อนไหวใบหน้ามากกว่าปกติ รวมทั้งการยกคิ้วและมันจะเปิดตาให้กว้างกว่าตอนถูกละเลยหรือตอนถูกล่อด้วยอาหาร     การวิจัยยังได้โต้แย้งความเชื่อที่ว่าการแสดงออกผ่านใบหน้าของสุนัขนั้นเป็นการสะท้อนความรู้สึกภายใน ไม่ใช่วิธีการสื่อสารของมัน Bridget Waller ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาวิวัฒนาการจากมหาวิทยาลัย University of Portsmouth ในประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “การแสดงออกทางสีหน้าของสุนัขมักถูกมองว่าเกิดจากอารมณ์ความรู้สึกที่คงที่ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งสามารถเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้”     แต่จากการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขพบว่า สุนัขสามารถเข้าใจทั้งคำพูดและโทนเสียงของมนุษย์ ทั้งนี้มีงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports เป็นการใช้กล้องบันทึกความเคลื่อนไหวใบหน้าของสุนัข 24 ตัว โดยให้มนุษย์ให้ความสนใจมัน ละเลยมัน รวมทั้งเอาอาหารที่น่ากินให้และไม่ให้มันเลย แล้วสังเกตสีหน้าของพวกมันในแต่ละสถานการณ์     ผลการวิจัยพบกว่าเมื่อมนุษย์มองไปที่สุนัข มันจะแสดงออกทางสีหน้ามากกว่าตอนที่ถูกละเลย ที่เห็นได้ชัดคือมันจะแลบลิ้นและยกคิ้วขึ้น ในส่วนของการใช้อาหารล่อนั้น ไม่ได้มีผลต่อการแสดงออกของพวกมัน… จากผลวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าการแสดงออกของสุนัขไม่ได้เป็นเพียงแค่ความตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังทำให้เราสงสัยว่าสุนัขใช้การแสดงออกผ่านสีหน้าเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของหรือไม่?     Waller กล่าวว่า “เราอยากรู้ว่าสุนัขจะแสดงสีหน้าออกมาได้เต็มที่หรือไม่เมื่อได้รับความสนใจและอาหาร เพราะนั่นอาจบอกเราได้ว่าพวกมันกำลังเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์เพื่อจะได้รับอาหาร” ด้วยเหตุนี้ทีมวิจัยจึงตั้งข้อสงสัยว่าการแสดงออกของสุนัขไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงอารมณ์ แต่อาจเป็นกลไกในการสื่อสารกับมนุษย์ด้วย ทั้งนี้วิธีการฝึกสุนัขจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกมันสื่อสารกับมนุษย์ได้มากขึ้น…     อย่างไรก็ตาม นักวิจัยได้เน้นย้ำว่างานวิจัยนี้ไม่ได้ชี้ชัดถึงสิ่งที่สุนัขต้องการสื่อสารหรือเจตนาในการแสดงออกของสีหน้าว่า แท้จริงแล้วมันต้องการบอกอะไรกันแน่? Juliane…

  • ลูกน้อยน้ำตาคลอ หลังได้ยินเสียงคุณแม่เป็นครั้งแรกจากการช่วยเหลือของเครื่องช่วยฟัง

    ลูกน้อยน้ำตาคลอ หลังได้ยินเสียงคุณแม่เป็นครั้งแรกจากการช่วยเหลือของเครื่องช่วยฟัง

    เสียงที่มนุษย์ได้ยินเป็นครั้งแรกในชีวิตเมื่อลืมตาดูโลกมักจะเป็นเสียงของแม่ ซึ่งเป็นเสียงที่เปล่งออกมาด้วยความรักและมักทำให้ลูกน้อยรู้สึกอุ่นใจเสมอ อย่างหนูน้อย Charly ที่ได้ยินเสียงแม่เป็นครั้งแรก แม้จะช้ากว่าปกติ แต่เธอก็ได้แสดงความรู้สึกนั้นออกมาผ่านใบหน้า ที่ทำให้รู้ว่าเธอดีใจมากแค่ไหน   โมเม้นต์ตอนที่เด็กน้อยได้ยินเสียงแม่ครั้งแรก   Charly ลูกสาวของ Christy Keane เกิดเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2017 เธอเป็นเด็กที่น่ารักมากๆ แต่น่าเศร้าเธอหูหนวกตั้งแต่เกิด อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองของเด็กน้อยก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกน้อยได้ยินเสียง ในที่สุดพวกเขาก็หาเครื่องช่วยฟังให้เด็กน้อยสำเร็จ     จากคลิปข้างบนเมื่อ Charly ได้ยินเสียงแม่พูดว่า “สวัสดีจ้า” ซึ่งเป็นเสียงแรกที่เธอได้ยินในชีวิต เด็กน้อยก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แม้ Charly ยังเป็นแค่ทารกที่เพิ่งเกิดไม่กี่เดือน แต่เธอก็สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และรู้ว่าควรจะแสดงออกมายังไง     โดยปกติแล้ว เมื่อเด็กดีใจ พวกเขาจะยิ้มหรือหัวเราะออกมา และเมื่อเสียใจ พวกเขาจะหน้าเศร้าหรือร้องไห้ แต่สำหรับ Charly แม้ดีใจจนอยากร้องไห้แต่เธอก็กลั้นน้ำตาแห่งความสุขนั้นไว้ สักพักคุณแม่ก็พูดกับเธออีกว่า “แม่รักลูกนะ” เด็กน้อยก็เผยรอยยิ้มที่สดใสอีกครั้ง…     คุณแม่ Keane บอกว่า “มันเป็นช่วงเวลามหัศจรรย์ของเราแม่ลูก เราไม่คิดว่าเธอจะได้ยินเสียงอีกแล้วในชีวิตนี้ แต่แล้วเราก็ได้เครื่องช่วยฟัง จนทำให้เธอได้ยินเสียงเป็นครั้งแรกในวันนี้” นี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ซึ่งต่อไปนี้ทางครอบครัวจะทำทุกทางเพื่อให้หนูน้อยได้ยินพร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษาต่อไป…

  • เจ้าหน้าที่สั่งปลด Lulu ให้พ้นการเป็น “สุนัขดมกลิ่น” หลังแสดงอาการชัด…นี่ไม่ใช่ทางของหนู!!

    เจ้าหน้าที่สั่งปลด Lulu ให้พ้นการเป็น “สุนัขดมกลิ่น” หลังแสดงอาการชัด…นี่ไม่ใช่ทางของหนู!!

    จากความสามารถในการรับกลิ่นชั้นยอดของสุนัข นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้มนุษย์ได้นำพวกมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในหลายๆ ด้าน เช่น การตามหาคนหาย การค้นหายาเสพติด รวมไปถึงการดมกลิ่นเพื่อค้นหาวัตถุระเบิด และเจ้า Lulu น้องหมาสายพันธุ์ลาบราดอร์ อายุ 18 เดือนตัวนี้ ก็เป็นหนึ่งในสุนัขที่ทางศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจได้คัดเลือกให้เข้ามารับการฝึกฝนอย่างเข้มงวด เพื่อให้มันได้กลายเป็นสุดยอด “สุนัขตำรวจ K9” ของกรมตำรวจในเขตแฟร์แฟกซ์ ในรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา     เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รับการรายงานจากบัญชีทวิตเตอร์ของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่เป็นสุนัขดมกลิ่นในเวลาอันสั้นของเจ้า Lulu ว่า… เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ Lulu ได้รับการฝึกอบรม มันก็เริ่มแสดงสัญญาณบางอย่างออกมา และนั่นก็ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ได้รู้ว่าเจ้าหมาไม่สนใจที่จะรับงานนี้ และพวกเขาก็คาดว่าอาจจะต้องปลดมันออกจากตำแหน่งในเวลาก่อนกำหนด     “Lulu ไม่สนใจที่จะมาทำหน้าที่เป็นสุนัขดมกลิ่นค้นหาระเบิด ถึงแม้ว่าเราจะกระตุ้นมันด้วยอาหาร หรือให้มันได้เล่น แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่แฮปปี้เอาซะเลย” ทาง CIA กล่าว ตามรายงานบอกว่าโครงการนี้เป็นการฝึกแบบเร่งรัด ใช้เวลาเพียง 10 สัปดาห์ โดยสุนัขในหน่วยนี้จะต้องดมกลิ่นวัตถุระเบิดให้ได้ทั้งหมด 19,000 ชนิด ซึ่งหลังจากฝึกจบสุนัขที่ได้คะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของชั้นจะได้ไปทำหน้าที่ตรวจหาระเบิดในอาคารต่างๆ…

  • นักศึกษาป.เอก ป่วยโรคระบบประสาทเสื่อม ตัดสินใจหยุดรักษาและบริจาคหัวเพื่อให้แพทย์ได้ศึกษา

    นักศึกษาป.เอก ป่วยโรคระบบประสาทเสื่อม ตัดสินใจหยุดรักษาและบริจาคหัวเพื่อให้แพทย์ได้ศึกษา

    เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวสุดน่าเศร้าของผู้หญิงที่ชื่อว่า Lou Tao อายุ 29 ปี นักศึกษาระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่มีความเสียสละจนกระทั่งวาระสุดท้ายในชีวิตของเธอ นางสาว Lou ได้เข้ารับการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกทางด้านประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยปักกิ่งเมื่อปี 2015 ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ป่วยอย่างหนัก ภายหลังจากการวินิจฉัยแล้วก็พบว่าเธอเป็นโรค ALS หรือ โรคเสื่อมของระบบประสาท     โรค ALS คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย เกิดอาการเสื่อมและตายลงช้าๆ ส่งผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง และปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษา เดือนมกราคม ปี 2017 นางสาว Lou เริ่มสูญเสียการเคลื่อนไหวที่เท้าซ้ายของเธอ อาการก็เริ่มแย่ลงๆ จนต้องเข้ารับการรักษาตัวในห้อง ICU     จนกระทั่งวันที่ 7 ตุลาคม เธอได้บอกกับคุณพ่อว่าเธอต้องการที่จะหยุดการรักษา เนื่องจากสภาพร่างกายของเธอไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้แล้ว และเธอตัดสินใจบริจาคอวัยวะเพื่อให้แพทย์ได้ใช้ในการศึกษาหลังจากที่เธอได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว… เธอได้เขียนจดหมายไว้ว่า “หลังจากที่ฉันเสียชีวิต ฉันขอบริจาคหัวของฉันสำหรับการวินิจฉัยทางการแพทย์ หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะค้นพบวิธีการรักษาโรค ALS มนุษย์จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการของโรคนี้” “ส่วนร่างกายของฉัน ขอให้เผาให้มอดไหม้กลายเป็นกองขี้เถ้าแล้วนำไปลอยที่แม่น้ำแยงซี ไม่ต้องฝังร่างของฉันไว้ในสุสาน โปรดปล่อยให้ฉันได้จากโลกใบนี้ไปอย่างเงียบๆ ราวกับไม่เคยมีฉันบนโลกใบนี้…”     ทั้งนี้นางสาว…

  • ร้านก๋วยเตี๋ยวใจงาม แจกอาหารเช้าให้กับคนกวาดถนนกว่า 20,000 ถ้วย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

    ร้านก๋วยเตี๋ยวใจงาม แจกอาหารเช้าให้กับคนกวาดถนนกว่า 20,000 ถ้วย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

    การช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเจ้าของธุรกิจเล็กๆ แต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการทำสิ่งที่ดีให้แก่สังคม เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่ชื่อ Sun Zhiwen ได้ติดป้ายประกาศไว้หน้าร้านว่า “อาหารเช้าฟรีสำหรับคนกวาดถนน ทหาร และคนแก่ที่อายุมากกว่า 70 ปี”   คนกวาดถนนสามารถเข้ามากินอาหารเช้ากันได้แบบฟรีๆ   ร้าน Loving Heart Tofu นี้ตั้งอยู่ในเมืองจุนอี้ มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2015 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 2 ปี เขาได้แจกจ่ายอาหารเช้าให้กับผู้คนไปมากกว่า 20,000 ถ้วยเลยทีเดียว เขาได้ให้เหตุผลว่า “คนกวาดถนนต้องเจอกับภาระหนักเอามากๆ โดยเฉพาะในฤดูหนาว ที่พวกเขาต้องตื่นแต่เช้าและไม่ได้กินอะไรจนถึงเที่ยง ผมจึงหวังที่จะมอบอาหารเหล่านี้ให้พวกเขาได้กินกันในตอนพักระหว่างงาน”   เจ้าของร้านที่ทำให้หลายๆ คนได้อิ่มทั้งกายและใจ   ส่วนสำคัญที่ทำให้เขาแจกอาหารฟรีเป็นเพราะว่าตั้งแต่เด็กเขาต้องโตมากในครอบครัวที่ยากจน แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากคนรอบข้างมาตลอดจนเขาสามารถมีวันนี้ได้ จึงอยากแบ่งปันความรู้สึกดีๆ นี้ไปให้ผู้อื่นด้วย “ผมเป็นเพียงคนทำธุรกิจทั่วๆ ไป แต่ไม่จำเป็นว่ารายได้จะมากน้อยแค่ไหน ผมเพียงให้ทุกๆ คนได้รู้สึกอบอุ่นเหมือนกับที่ผมเคยได้รับมาตลอด” เขากล่าว   เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่ไม่เกินกำลังตัวเอง เพื่อช่วยผู้อื่นให้ได้มากที่สุด   ในอนาคตชายคนนี้ตั้งใจว่าอยากเพิ่มสาขาออกไปอีกหลายแห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความสุขให้ผู้คนได้มากยิ่งขึ้น…

  • การคอสเพลย์แบบจัดหนักจัดเต็มในงาน NYCC เมื่อมีเจ้า Bumblebee ตัวมหึมาเดินอยู่ในงาน

    การคอสเพลย์แบบจัดหนักจัดเต็มในงาน NYCC เมื่อมีเจ้า Bumblebee ตัวมหึมาเดินอยู่ในงาน

    ในงาน New York Comic Con 2017 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 – 8 ตุลาคมที่ผ่านมา สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ร่วมงาน ด้วยการแต่งกายของแต่ละคนแต่ละซุ้มที่เรียกว่าจัดหนักจัดเต็ม แต่การคอสเพลย์ที่พิเศษสุดๆ ชนิดที่ว่าทุกคนในงานต้องพูดถึง คือการแต่งเป็นหุ่นยนต์ Bumblebee ผลงานของ Thomas DePetrillo   หุ่นยนต์สุดเท่ หนึ่งในตัวเอกจากหนังเรื่อง Transformers   ชายคนนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มที่ชื่อว่า Extreme Costumes โดยเขาได้กลายเป็นจุดสนใจของคนรอบข้างทันทีที่ก้าวเข้าไปภายในงาน   การโชว์ตัวของเจ้าหุ่นยักษ์ Bumblebee   ความเจ๋งที่สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี บวกกับขนาดอันมหึมาแต่กลับสามารถขยับ เดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ บอกได้เลยว่านี่คือผลงานที่เยี่ยมที่สุดของปีนี้อย่างแน่นอน   ขนาดใหญ่สูงเป็นเท่าตัวของขนาดคนเลยทีเดียว   ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างจริงๆ   ไม่แปลกเลยที่เวลาเดินไปไหนก็จะตกเป็นเป้าสายตา   ไม่รู้ว่าในงาน Comic Con บ้านเราจะมีอะไรแบบนี้ให้เห็นกันบ้างมั้ยเนี่ยยย   ที่มา: cosplay.kotaku

  • ชายหนุ่มโดนจับเพราะถูกเข้าใจผิดคิดว่าน้ำตาลไอซิ่งคือยาไอซ์ ฟ้องกลับได้เงินกว่า 1 ล้านบาท

    ชายหนุ่มโดนจับเพราะถูกเข้าใจผิดคิดว่าน้ำตาลไอซิ่งคือยาไอซ์ ฟ้องกลับได้เงินกว่า 1 ล้านบาท

    บางครั้งเราก็อาจเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่ง อย่างเช่นคิดว่าน้ำตาลเป็นเกลือหรือถ้าหนักกว่านั้นหน่อยก็อาจคิดว่าน้ำตาลเป็นยาไอซ์ก็ได้ เหมือนกับที่ชายคนนี้โดนตั้งข้อหาและถูกจับในวันที่ 11 ธันวาคม 2015 นี่เป็นเรื่องราวของ Daniel Rushing วัย 65 ปี ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้วเขาถูกตรวจค้นรถขณะที่กำลังขับไปห้างสรรพสินค้า ก่อนที่เขาจะถูกจับข้อหามีอาวุธและสารเสพติดไว้ในครอบครอง เขาได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขามีใบอนุญาตครอบครองอาวุธอย่างถูกกฎหมาย ส่วนเรื่องของสารเสพติดก็ยืนยันว่าเศษผงบนพื้นรถที่ตำรวจพบเป็นน้ำตาลที่หล่นมาจากโดนัทที่เขากินไปเท่านั้นเอง   Krispy Kreme โดนัทร้านโปรดของเขา   ถึงอย่างนั้นเจ้าหน้าที่ Shelby Riggs-Hopkin ไม่เชื่อในคำแก้ตัวของเขาและบอกว่า “จากประสบการณ์เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกว่า 11 ปีของฉัน บอกได้เลยว่าเจ้าสิ่งนี้ต้องเป็นยาเสพติดแน่นอน” เพื่อความแน่ใจเธอจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ ทำการทดสอบตรงด่านข้างถนนทันที เพื่อดูว่ามันใช่ยาเสพติดจริงหรือไม่ และผลลัพธ์ก็ออกมาว่ามันเป็นสารที่ใช้ในยาเสพติดจริง ทำให้ Daniel ถูกตั้งข้อหาและถูกจับกุมตัวไปขังเอาไว้นานกว่า 10 ชั่วโมงก่อนที่จะถูกประกันตัวออกมาด้วยเงินกว่า 80,000 บาท   ภาพถ่ายที่ต้องการจะสื่อว่า เขาถูกจับเพียงเพราะโดนัทเนี่ยนะ?!   แต่แล้วคดีก็พลิกเพราะหลังจากที่เศษผงดังกล่าวถูกส่งต่อไปตรวจในห้องแล็บที่ฟลอริด้าหลายสัปดาห์ต่อมา ผลตรวจกลับออกมาว่าสิ่งนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสารเสพติดเลย นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มจ้างทนายและฟ้องร้องเจ้าหน้าที่รัฐในทันที เพราะเขารับไม่ได้ที่ต้องมาถูกจับโดยไม่มีเหตุผล ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกมาบอกกับสื่อว่า ตำรวจที่ทำการตรวจสอบสารเสพติดตรงด่านตรวจไม่ได้รับการฝึกอบรมที่เพียงพอ ทำให้การใช้เครื่องมือตรวจได้ผลลัพธ์ที่คลาดเคลื่อน ส่วนเจ้าหน้าที่ Shelby ก็ได้ถูกตำหนิและลาออกไป…

  • หญิงสาวถูกแก๊งอันธพาลท้องถิ่นลักพาตัว แต่ถูกช่วยเหลือไว้ โดยคนขายดอกไม้…

    หญิงสาวถูกแก๊งอันธพาลท้องถิ่นลักพาตัว แต่ถูกช่วยเหลือไว้ โดยคนขายดอกไม้…

    เตือนภัยสำหรับสาวๆ ทั้งหลายเวลาไปท่องเที่ยวในสถานที่ๆ ไม่คุ้นเคย คุณไม่ควรที่จะอยู่ลำพังในที่เปลี่ยวๆ โดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคุณอาจประสบกับเหตุการณ์ที่ตากล้องสาวคนนี้ก็เป็นได้ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Gaia Guarnotta ช่างภาพสาวจากเมือง Livorno วัย 25 ปี ได้เดินทางไปยังเมือง Tuscany ทางตอนเหนือของอิตาลีเพื่อถ่ายภาพเก็บประสบการณ์และท่องเที่ยวไปในตัว     แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเธอเดินอยู่บนถนนใกล้ๆ กับ Piazza della Repubblica ช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. ทันใดนั้นก็พบกับแก๊งอันธพาลท้องถิ่นเข้ามารุมฉุดเธอไปข่มขืน Gaia เล่าให้ฟังว่าพวกแก๊งอันธพาลพาเธอไปยังจุดที่ทั้งมืดและเปลี่ยว ชายเหล่านั้นเมาและพยายามที่จะลวนลามเธอ แถมยังเรียกเธอว่า “นังโสเภณี” แล้วถ่มน้ำลายใส่เธออีกด้วย     หนึ่งในชายกลุ่มนั้นก็ยังพยายามพูดแกมบังคับให้เธอมีเซ็กส์กับชาย 25 คนที่กำลังรออยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เลวร้ายเกินกว่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะรับได้ ในจังหวะที่ทุกอย่างกำลังเลวร้ายลงเรื่องๆ ทันใดนั้นเองก็มีฮีโร่เข้ามาช่วยเธอ เหตุการณ์ดูชุลมุนเล็กน้อย เธอบอกว่าไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนช่วงนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไล่พวกแก๊งนั้นไปได้ยังไง แต่เมื่อเธอรู้ตัว เหล่าแก๊งอันธพาลเหล่านั้นได้วิ่งหนีออกไปก่อนที่จะลงมือก่อเหตุกับตัวเธอ   ผู้ที่ช่วยเธอให้รอดพ้นจากเหตุกาณ์ในครั้งนี้นั่นก็คือ Hossein Alamgir คนขายดอกไม้ที่อยู่ในบริเวณนั้นนั่นเอง   นาย Hossein อายุ 58 ปี เป็นชาวบังคลาเทศที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในประเทศอิตาลี เขาได้ช่วยเหลือชีวิตของเธอไว้…

  • มหาวิทยาลัยในประเทศจีนผุดไอเดีย ให้นักศึกษาลดน้ำหนักแลกเกรด เพื่อสุขภาพทที่ดี!?

    มหาวิทยาลัยในประเทศจีนผุดไอเดีย ให้นักศึกษาลดน้ำหนักแลกเกรด เพื่อสุขภาพทที่ดี!?

    Zhou Quanfu อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยการเกษตรหนานจิง ประเทศจีน ได้ผุดไอเดียในการลดน้ำหนักของเหล่านักศึกษา ด้วยวิธีที่ไม่ว่าใครก็อยากทำ ข้อเสนอที่ว่านั้นก็คือ ถ้านักศึกษาลดน้ำหนักได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้ก็รับคะแนนไปเลย และคะแนนเหล่านี้ก็มีผลต่อเกรดอีกด้วย โดยเงื่อนไขการรับคะแนนนั้นนักศึกษาจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกาย หากไขมันในร่างกายมีมากกว่า 30% และดัชนีมวลกายมากกว่า 28 จะต้องเข้าคอร์สการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง รวมไปถึงการควบคุมอาหารด้วย     โดยปกติแล้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งนี้จะมีคาบพละศึกษาแค่หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ แต่หากใครลงวิชานี้ จะต้องเรียนคาบละ 90 นาที 3 คาบต่อสัปดาห์ โดยทุกคนจะต้องออกกำลังกายด้วยวิธีการวิ่ง ซิทอัพ แพลงกิ้ง หรือกิจกรรมอื่นๆ ตามที่ชอบ เกณฑ์การให้คะแนนคือ นักศึกษาจะต้องลดน้ำหนักให้ได้ 7% ของน้ำหนักเดิม ถึงจะได้คะแนนพิเศษในส่วนนี้ไป คะแนนกิจกรรมการออกกำลังกายคิดเป็น 60% และคะแนนในชั้นเรียนจะคิดเป็น 40%     นอกจากการออกกำลังกายแล้ว นักศึกษาต้องบันทึกปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับทุกวัน และส่งรูปถ่ายอาหารที่ทานเข้ากลุ่ม Wechat ที่ตั้งขึ้น โดยจะได้รับการแนะนำจากนักโภชนาการระดับมืออาชีพ เงื่อนไขคะแนนนี้เป็นที่น่าสนใจในหมู่นักศึกษาหลายๆ คน และก็ยังประสบความสำเร็จอีกด้วย นักศึกษาคนหนึ่งได้ลดน้ำหนักจาก 110 กิโลกรัมเหลือเพียง 84.5…

  • ภารกิจตามหา iPhone ที่หายไป พบว่ามันหนีได้ด้วยว่ะแม่ม… อ๋อ มันอยู่ตรงเบาะข้างๆ ตรูนี่เอง

    ภารกิจตามหา iPhone ที่หายไป พบว่ามันหนีได้ด้วยว่ะแม่ม… อ๋อ มันอยู่ตรงเบาะข้างๆ ตรูนี่เอง

    ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้ช่วยให้หลายอย่างในชีวิตของเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นสมาร์ทโฟนที่เรามีกันเกือบทุกคน มันก็จะมีฟังก์ชั่นหรือแอปภายในเครื่องที่ช่วยปกป้องข้อมูลและตามหามันได้อย่างง่ายดาย แต่ในบางครั้งมันก็อาจทำให้เรื่องเล็กๆ อย่างการลืมมือถือเอาไว้ กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาก็ได้ เช่นเดียวกับกรณีของชายวัย 36 ปีคนนี้ เขามีชื่อว่า Gareth Robinson อาศัยอยู่ในเมืองแบรดฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาพบว่ามือถือไอโฟนของเขาได้หายไป และเชื่อว่ามันต้องถูกขโมยอย่างแน่นอน   Gareth และภรรยา Caroline   หลังจากนั้นเขาก็รีบเปิดไอแพดขึ้นมาและเข้าแอปที่ชื่อ Find My iPhone เพื่อตามหามือถือที่หายไปของเขา พบว่าจุดที่แสดงภายในแผนที่อยู่ในบริเวณบ้านนี่เอง เขาได้เขียนลงในเฟซบุ๊กว่า “ผมขับรถหาไปรอบๆ นานเป็นชั่วโมง เพราะตอนที่ใกล้จะถึงตัวโจรแล้วมันก็จะขยับหนีผมไปทุกที มันต้องรู้แล้วแน่ๆ ว่าผมกำลังไล่ตามอยู่”   หนีไม่พ้นหรอกเจ้าโจรกระจอกเอ๊ยยย   สุดท้ายแล้วความจริงก็ได้เผยออกมา เมื่อเขาเหลือบไปเห็นไอโฟนสุดที่รักอยู่บนที่นั่งข้างคนขับนี่เอง!! เล่นเอาซะเขินกันไปเลย สังเกตได้ว่าภายในแอปมันจะบอกเป็นวงกว้างว่ามือถืออยู่ในบริเวณไหน ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่ใดที่หนึ่งทำให้เขาต้องขับรถวนหาซะทั่ว นอกจากนั้นเวลาขับรถไปหาวงมันก็จะขยับตามไปจนเหมือนกับว่าโจรมันวิ่งหนีเขานี่เอง   เงิบกันมั้ยละครับคุณผู้ชม   สุดท้ายเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องตลกสำหรับเขา รวมถึงภรรยา Caroline ที่เตือนแล้วว่ามันอาจไม่ได้ถูกขโมยแต่แค่ลืมไว้ก็ได้ ถ้าค่อยๆ หาแต่แรกก็คงไม่ต้องเปลืองน้ำมันแล้ววว เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าก่อนที่จะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เราต้องอย่าลืมจัดการปัญหาด้วยตัวเองอย่างรอบคอบและไตร่ตรองให้ดีเป็นอันดับแรก   ที่มา: ladbible

  • เรื่องราวแสนประทับใจ เมื่อ 4 พี่น้องที่พลัดพรากจากกันมานานกว่า 30 ปี ได้เจอกันเป็นครั้งแรก

    เรื่องราวแสนประทับใจ เมื่อ 4 พี่น้องที่พลัดพรากจากกันมานานกว่า 30 ปี ได้เจอกันเป็นครั้งแรก

    เคยคิดกันบ้างมั้ยว่าแท้จริงแล้วเราอาจมีพี่น้องที่พลัดพรากจากกันไปก็เป็นได้ เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่ได้ไปเจอกับพี่น้องร่วมสายเลือดถึง 3 คนเลยทีเดียว!! เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในรัฐวอชิงตัน เมื่อ Christina Housel หญิงสาวที่ถูกรับมาเลี้ยงและไม่เคยเจอหน้าหรือรู้จักแม่ที่แท้จริงของตัวเองมาก่อน จนตอนนี้เธอโตขึ้นมีครอบครัวมีลูกจึงเริ่มสงสัยและสืบหาดูว่าครอบครัวที่แท้จริงของเธอ   หญิงสาวที่ต้องการตามหาครอบครัวที่แท้จริง   จนกระทั่งได้พบกับน้องชายของเธอ Lyle James Berryman ที่อาศัยอยู่ในรัฐแอริโซนา เธอจึงรีบเดินทางไปหาเขาในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Lyle บอกว่า “เห็นปุ๊บผมก็รู้ปั๊บว่าเธอคือพี่สาวผม เพราะหน้าเราเหมือนกันมาก”   ใบหน้าที่มีความเหมือนกันทำให้เขาสามารถรับรู้ได้ในทันทีที่เห็น   ทั้งสองได้ใช้เวลาพูดคุยกัน เขาได้โชว์รูปแม่ให้เธอได้ดู แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าการได้เห็นหน้าแม่ครั้งแรกก็คือ เขาบอกกับเธอว่าแม่ได้สารภาพเอาไว้ก่อนจากโลกนี้ไปว่าความจริงแล้วทั้งคู่มีน้องสาวฝาแฝดอีกสองคน   คุณแม่ที่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว   การตามหาครั้งใหม่จึงเริ่มต้นขึ้น โดนทั้งสองได้ถ่ายรูปอัพลงเฟซบุ๊กและขอให้ชาวเน็ตช่วยกันแชร์เรื่องนี้ออกไป ผลตอบรับที่ออกมาคือมีการแชร์มากกว่า 225,000 ครั้ง   ทั้งสองต้องการตามหาฝาแฝดที่เกิดในฟลอริด้า เมื่อปี 1992 – 1994 ได้รับความช่วยเหลือจากชาวเน็ตอย่างท่วมท้น   จากการช่วยเหลือของทุกคนบนโลกออนไลน์จึงทำให้ 1 สัปดาห์ต่อมาพวกเธอก็ได้รับการติดต่อจากแฝดสาวคู่หนึ่ง Ashley Bo และ Lauren Rutherford  …

  • เปิดตำนาน 7 เมืองที่หายสาบสูญไปของโลก อารยธรรมที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมาก่อน

    เปิดตำนาน 7 เมืองที่หายสาบสูญไปของโลก อารยธรรมที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมาก่อน

    โลกของเรามีอยู่มาอย่างยาวนานและเกิดการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการที่ไม่รู้จบ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าสิ่งที่เราเห็นและรับรู้ได้ในปัจจุบันยังคงไม่ใช่ทุกสิ่งที่โลกเรามีหรือเคยมี วันนี้ #เหมียวตะปู จึงชวนให้เพื่อนๆ มารู้จักกับ 7 ตำนานเมืองที่สาบสูญไปของโลก ที่ความเป็นจริงแล้วในสมัยก่อนเราอาจเคยมีอารยธรรมที่รุ่งเรืองมากกว่าตอนนี้ก็เป็นได้ เราไปดูกันเลย   Lemuria   จากการสันนิษฐานของนักวิชาการชาวอังกฤษเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้เชื่อมระหว่างศรีลังกา ออสเตรเลีย และเกาะมาดากัสการ์รวมกันเป็นแผ่นดินใหญ่ก่อนที่จะจมหายไปใต้ก้นมหาสมุทร และชื่อ Lemuria ถูกตั้งมาจากชื่อของตัว ลีเมอร์ (Lemur) ซึ่งเป็นสัตว์ที่สามารถพบเห็นได้จากทั้งสามแห่ง นอกจากนั้นก็มีความเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของชาวทมิฬ กลุ่มประชากรที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยตามภาษาทมิฬแล้วที่แห่งนี้จะมีชื่อว่า Kumari Kandam   Mu   เป็นดินแดนที่เชื่อว่าเคยอยู่ระหว่างทวีปอเมริกาและเอเชีย คาดว่าเป็นที่อยู่อาศัยของประชากร Naacals ต้นกำเนิดของมนุษย์ที่ย้อนกลับไปเมื่อ 50,000 ปีที่แล้ว ผู้สร้างพีระมิดในอียิปต์หรือชาวมายันก็ถูกสันนิษฐานว่าจะอพยพออกมาจากดินแดนแห่งนี้ในตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จนทำให้สถานที่นี้จมลงไปใต้มหาสมุทร เคยมีทฤษฎีที่บอกเอาไว้ด้วยว่าโขดหินใต้น้ำโยนากุนิ ในประเทศญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงถึงการมีอยู่ของ Mu   Beringia   ดินแดนที่เปรียบได้กับสะพานขั้นกลางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกาเหนือ ก่อนที่จะจมหายพร้อมกับการสิ้นสุดยุคน้ำแข็งเมื่อ 12,000 ปีก่อน มีทฤษฎีที่เชื่อว่า 25,000 ปีก่อนมีผู้คนย้ายถิ่นฐานมาจากไซบีเรีย ผ่านไป 10,000 ปีพวกเขาได้อพยพไปอเมริกาเหนือและค่อยกระจายลงไปอเมริกาใต้ จึงเชื่อว่าพวกเขาอาจเป็นบรรพบุรุษของชาว…

  • หนุ่มขโมย “ลำโพง” แต่อยากเปลี่ยนเป็นทุน เลยเอาไปขายร้านเดิม หลังขโมยมาได้ 7 นาที?

    หนุ่มขโมย “ลำโพง” แต่อยากเปลี่ยนเป็นทุน เลยเอาไปขายร้านเดิม หลังขโมยมาได้ 7 นาที?

    เมื่อคนเราตกอยู่ในภาวะหน้ามืดตามัวที่ขาดทั้งเงินและขาดทั้งศีลธรรม การขโมยของเหมือนจะเป็นวิธีหาเงินที่เร็วที่สุด แต่การจะทำอะไรอย่างนี้ก็จำเป็นต้องคิดดีๆ เพราะว่ามีความเสี่ยงสูงอย่างมากที่จะได้เข้าไปนอนในตะรางเหมือนกับชายคนนี้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา มีเด็กอายุ 19 ปีจากจังหวัดนิงาตะ ประเทศญี่ปุ่น ได้วางแผนขโมยของจากร้านขายของมือสองแห่งหนึ่ง โดยเขาจะเข้าร้านขายของมือสองในเวลา 11.40 น. และทำทีว่ามาหาซื้อของอะไรบางอย่าง จากนั้นเขาก็ฉวยโอกาสที่พนักงานในร้านเผลอ ขโมยลำโพงตัวหนึ่งมูลค่า 18,252 เยนหรือกว่า 5,340 บาท ใส่ลงไปในกระเป๋าแล้วเดินออกจากร้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น     แต่เหตุการณ์ก็น่าจะจบลงตรงที่สินค้าหายไป และเด็กชายคนนี้ก็ได้ลำโพงไปใช้ แต่เขามีความคิดที่ดีกว่านั้น นั่นคือการเปลี่ยนสินค้าเป็นเงินสด เขาจึงนำป้ายราคาออก แล้วกลับเข้าไปที่ร้านเดิมที่พึ่งขโมยของมาเมื่อ 7 นาทีก่อนเพื่อเสนอขายลำโพงตัวนี้คืน แต่ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะว่าพนักงานคนดังกล่าวสามารถจำสินค้าชิ้นนี้ได้ เขาจึงได้หลอกล่อให้หัวขโมยอยู่ในร้านอีกซักพักและโทรเรียกตำรวจมาจับกุมในที่สุด     และด้วยกฎหมายของญี่ปุ่นที่ว่า หากอายุไม่ถึง 20 ปีจะไม่เผยชื่อผู้กระทำผิดออกมา แต่เชื่อเถอะว่าเขาเดินทางสายนี้ไม่รุ่งหรอกว่าไหม   ที่มา: en.rocketnews24

  • หนุ่มรับปากกับตำรวจ ถ้าโพสต์ได้ 1,000 แชร์ จะไปมอบตัว และเขาก็ทำที่สัญญาไว้จริงๆ

    หนุ่มรับปากกับตำรวจ ถ้าโพสต์ได้ 1,000 แชร์ จะไปมอบตัว และเขาก็ทำที่สัญญาไว้จริงๆ

    สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค ในปัจจุบันมีประโยชน์อย่างมากในการช่วยงานของตำรวจ อย่างเช่นการแชร์เหตุการณ์หรือสถานที่ที่สามารถนำไปสู่การจับกุมได้ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าสื่อโซเชียลจะทำให้มันง่ายถึงขนาดที่ว่าผู้ร้ายเดินมามอบตัวด้วยตัวเองเลยทีเดียว ชายคนที่มีการกระทำดังกล่าวมีชื่อว่า Michael Martin Zaydel อายุ 21 ปี ชาวมิชิแกน หลังจากที่เขาโดนข้อหาเมาแล้วขับรถ เขาได้ท้าทายกรมตำรวจ Redford ว่าหากโพสต์ต่อไปของทางกรมมีคนแชร์โพสต์ดังกล่าวมากกว่า 1,000 ครั้งเขาจะยอมมอบตัวพร้อมทั้งซื้อโดนัทไปให้ตำรวจทั้งกรมเลย   โพสดังกล่าวที่ทำให้ชายคนนี้ถูกจับ   “ผมรู้สึกไม่กังวลเท่าไหร่ ถ้าโพสต์ต่อไปของกรมตำรวจถึง 1,000 แชร์ ผมจะยอมมอบตัวพร้อมซื้อโดนัทไปให้เลย นี่คือคำสัญญา นอกจากนั้นผมจะเก็บขยะบริเวณโรงเรียนให้อีกด้วย ถ้าแชร์กันถึงนะ”   หน้าตาของคุณพี่คนนี้   หลังจากพ่อหนุ่มคนนี้โพสต์ไป ดูเหมือนว่าชาวเน็ตจะอยากให้เขาไปมอบตัวมาก เพราะโพสต์ต่อมาของกรมตำรวจผู้แชร์กว่า 4,400 คนและคอมเม้นท์อีกกว่า 260 คอมเม้นท์   พอยอดแชร์ถึง พ่อหนุ่ม Zaydel ก็เข้ามอบตัวตามที่บอก แถมเอาโดนัทมาให้ตามสัญญาด้วย   ภาพโดนัทที่เขาได้นำมาให้   “เราต้องขอขอบคุณแก่ผู้ที่ติดตามโพสต์และกดแชร์ทุกคน เขาอาจจะมาหรือไม่มามอบตัวก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือเราได้เห็นความช่วยเหลือของผู้คนในสังคมที่อยากให้โลกนี้ดีขึ้น” ตัวแทนของกรมตำรวจได้กล่าวไว้บนเพจเฟซบุ๊ก โดย Zaydel โดนจำคุกเป็นเวลาหนึ่งคืน ก่อนที่จะไปพบผู้พิพากษาเพื่อพิจารณาความผิดของเขา ในตอนเช้าของวันถัดไป   อย่างน้อยก็มีสัจจะนะ ที่มา: dailymail

  • สาวน้อยยอมเสียสละเงินในกระปุกออมสินทั้งหมด เพื่อซื้อนมแบ่งให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียน

    สาวน้อยยอมเสียสละเงินในกระปุกออมสินทั้งหมด เพื่อซื้อนมแบ่งให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียน

    นมถือว่าหนึ่งในอาหารสำคัญที่เด็กๆ ควรจะได้ทานเพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ทว่าเด็กทุกคนก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะดื่มนม เพราะนมนั้นก็มีราคาที่สูงพอสมควรสำหรับเด็กเล็กๆ Sunshine Oelfke เด็กสาววัย 5 ขวบคนนี้ก็รู้สึกเช่นเดียวกันว่า นมนั้นมีราคาที่สูงมากสำหรับเด็กๆ 5 ขวบอย่างเธอ โดยเฉพาะกับเพื่อนๆ ร่วมชั้นที่ไม่ค่อยจะได้เงินมาโรงเรียนเยอะมากนัก จนไม่มีโอกาสได้ดื่มนมแสนอร่อย หนูน้อยจึงเริ่มนับเงินเก็บจากกระปุกออมสินของเธอแล้วใส่ลงไปในถุงพลาสติก จากนั้นก็ยัดใส่กระเป๋าเป้เพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน ด้านคุณย่า Jackie Oelfke ตอนแรกก็คิดว่าหลานสาวกำลังเล่นอยู่ เลยลองถามหนูน้อยว่าจะเอาเงินพวกนี้ไปทำอะไรเหรอ   เงินเก็บของหนูน้อยที่จริงๆ แล้วสามารถนำไปซื้อของที่เธออยากได้สบายๆ   แต่เธอก็ไม่คิดถึงเรื่องตัวเองเป็นอันดับแรก   หนูน้อย Sunshine ก็ตอบกลับมา “หนูจะเอามันไปโรงเรียน” พร้อมกับอธิบายให้คุณย่าของเธอฟังว่า เธอจะเอาเงินไปซื้อนมให้กับ Layla เพื่อนของเธอที่โรงเรียนซึ่งไม่มีโอกาสได้ดื่มนมเลยเพราะคุณแม่ของเธอนั้นไม่มีเงินพอให้ลูกสาวมาโรงเรียนแล้วซื้อนมเพิ่ม วินาทีนั้น คุณย่าถึงกับตื้นตันใจในความไร้เดียงสาของหลานสาวอันแสนบริสุทธิ์ที่อยากช่วยเหลือเพื่อนๆ แม้ตัวเองจะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูจากแม่ก็ตาม เพราะแม่ของเธอมีปัญหาเรื่องยาเสพติดและต้องอยู่ในคุก     แต่ถึงจะไม่มีแม่ คุณย่า Jackie ก็พร้อมจะช่วยพลักดันหลานเสมอ เธอเดินทางไปยังโรงเรียนพร้อมกับเงินเก็บของหนูน้อยจำนวนเกือบๆ 1,000 บาท พร้อมมอบเงินนี้ให้กับครูประจำชั้นเพื่อซื้อนมให้เพื่อนทุกคนในห้อง นมหนึ่งกล่องนั้นจะมีราคาอยู่ที่ราวๆ 15 บาท ด้วยเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อนๆ 20 คนในชั้นเรียนของเธอจะมีนมดื่มได้ทั้งสัปดาห์เลยล่ะ   คุณย่ากับหนูน้อยที่พากันไปบริจาคเงินให้อาจารย์ประจำชั้น  …

  • ‘ผู้นำหญิง’ ที่อายุน้อยที่สุดในโลก!! Jacinda Ardern ขึ้นแท่นนายกฯ คนล่าสุดของนิวซีแลนด์

    ‘ผู้นำหญิง’ ที่อายุน้อยที่สุดในโลก!! Jacinda Ardern ขึ้นแท่นนายกฯ คนล่าสุดของนิวซีแลนด์

    โดยปกติแล้วผู้นำประเทศมักจะเป็นผู้ชายและมีอายุพอสมควร มีน้อยมากที่จะเป็นผู้หญิง แต่ล่าสุดนิวซีแลนด์ได้ผู้นำเป็นผู้หญิงที่มีอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตอนนี้นิวซีแลนด์กำลังจะมีรัฐบาลชุดใหม่ โดยมีผู้นำเป็น Jacinda Ardern จากพรรค Labour ที่เคยเป็นฝ่ายค้านในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา Ardern ในวัย 37 ปี ได้กลายเป็นผู้นำหญิงที่มีน้อยที่สุดในโประเทศ นับตั้งแต่ปี 1856 โดยพรรค Labour ของเธอมีคะแนนมาเป็นอันดับสองในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา     แต่ 26 วัน หลังจากการเจรจา พรรค New Zealand First ที่ชนะการเลือกตั้งประกาศร่วมมือกับพรรค Labour ในการเป็นรัฐบาล โดยรัฐบาลชุดใหม่นี้ได้รับการสนับสนุนจากพรรค Green แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมา Ardern ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอสามารถทำงานในด้านการเมืองได้ แต่ที่สำคัญคือหลังจากนี้ เพราะเธอต้องเผชิญกับบทบาทและหน้าที่ท้าทาย     อันดับแรกคือชาวนิวซีแลนด์ส่วนใหญ่ไม่ได้ลงคะแนนเสียงให้เธอ (นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพรรคของเธอจึงมีคะแนนเป็นอันดับสองในการเลือกตั้ง) แต่หลังจากนี้ เธอจะต้องทำหน้าที่ให้ประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจให้ได้ และที่สำคัญ เธอต้องนำไปรัฐบาลผสมชุดใหม่นี้ ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างราบรื่นตลอดลอดฝั่ง     รัฐบาลชุดนี้ประกอบด้วยสมาชิกพรรค New Zealand First จำนวน 9 ที่นั่ง พรรค Labour…

  • สาวน้อยวัย 11 ขวบ ยื่นฟ้อง ‘รัฐบาลสหรัฐฯ’ ข้อหาพยายามทำให้กัญชาผิดกฎหมาย..!!

    สาวน้อยวัย 11 ขวบ ยื่นฟ้อง ‘รัฐบาลสหรัฐฯ’ ข้อหาพยายามทำให้กัญชาผิดกฎหมาย..!!

    อีกหนึ่งเรื่องราวการต่อสู้ของ Alexis Bortell สาวน้อยชาวเท็กซัสวัย 11 ขวบ ที่ออกมายื่นเรื่องฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเข้าถึงยารักษาโรคที่สกัดจาก ‘กัญชา’ เรื่องราวทั้งหมดมีอยู่ว่า… เมื่อ 3 ปีก่อน Alexis ป่วยเป็นโรคลมชักขั้นรุนแรง ส่งผลให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เฉกเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆ   Alexis Bortell และคุณพ่อของเธอ   อาการโรคลมชักขั้นรุนแรงของเธอไม่สามารถหายาชนิดไหนมารักษาได้ จนกระทั่งครอบครัวของเธอมีโอกาสได้รู้จักกับวิธีการรักษาด้วย CBD Oil (เป็นน้ำมันสกัดจากกัญชาชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์) แต่ด้วยความที่กฎหมายของรัฐเท็กซัสยังไม่มีการประกาศให้สามารถใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ ทำให้ครอบครัวของเธอตัดสินใจย้ายไปอาศัยอยู่ที่รัฐโคโลราโดแทน และการรักษาด้วย CBD Oil ก็ทำให้เธอไม่มีอาการชักมาแล้วกว่า 2 ปี     ทว่าการเคลื่อนไหวของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ภายใต้การสนับสนุนของอัยการสูงสุด Jeff Sessions ดูจะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม มีการเสนอผลักดันให้กัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 1 ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษา หรือแม้แต่จะทำการทดลองใดๆ ได้ จากประเด็นนี้เองที่ทำให้ครอบครัวของ Alexis Bortell ตัดสินใจร่วมมือกับอีก 4 ครอบครัว ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อเป็นการต่อต้านความพยายามออกกฎหมายมาปิดกั้นการเข้าถึงยารักษาที่สกัดจากกัญชาโดยตรง  …

  • “ความยากจน-ยาเสพติด-เซ็กส์” ชีวิตของคนจรจัดในสถานีรถไฟ Kamalapur แห่งบังกลาเทศ

    “ความยากจน-ยาเสพติด-เซ็กส์” ชีวิตของคนจรจัดในสถานีรถไฟ Kamalapur แห่งบังกลาเทศ

    Kamalapur เป็นสถานีรถไฟที่ใหญที่สุดในบังกลาเทศ และยังเป็นสถานีขนส่งทางรถไฟที่สำคัญที่เชื่อมระหว่างกรุงธากา เมืองหลวงของประเทศและส่วนที่เหลือของบังกลาเทศด้วย เด็กข้างถนนจำนวกมากมาอาศัยอยู่ที่สถานีแห่งนี้ และส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน ที่สำคัญที่นี่เป็นทั้งสถานที่เกิดและสถานที่ตายสำหรับพวกเขาบางคน   ช่างภาพถ่ายรูปขณะที่เด็กชายคนนี้สูบบุหรี่ที่รางรถไฟ แม้ว่าเด็กจะรู้ว่าช่างภาพมองอยู่แต่เขาก็ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป ช่างภาพพยายามถามชื่อเขาหลายครั้ง แต่เขาไม่ยอมบอก ที่รู้ๆ คือเขาอายุแค่ 9 ขวบเท่านั้น   สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ ถูกทิ้งตั้งแต่เกิดเพราะพวกเขาเป็นลูกนอกสมรสบ้าง เกิดมาในครอบครัวที่ยากจนบ้าง จนทำให้ถูกนำตัวมาทิ้งไว้ที่นี่ เด็กหลายคนโตมาเป็นขโมย วิ่งราวสัมภาระของผู้โดยสารในสถานี แต่ก็มีอีกหลายคนที่ช่วยเหลือตัวเองด้วยการเก็บขวดพลาสติกไปขาย   ช่างพยายามถามชื่อเด็กชายที่มีแขนข้างเดียวนี้ แต่เขาก็ไม่ยอมบอกอีกเหมือนกัน เขาอายุ 9 ขวบ ที่น่าตกใจคือ เขาบอกว่ายอมให้เพื่อนๆ ตัดแขนออกข้างหนึ่ง เพื่อที่จะได้กลายเป็นขอทานข้างถนน   ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เด็กผู้หญิงที่โตขึ้นต้องทำอาชีพโสเภณีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนเด็กผู้ชายโตก็จะอยู่ในแวดวงยาเสพติด แม้จะมีองค์พัฒนาสังคมหลายแห่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอสำหรับจำนวนคนจรจัดในสถานี Kamalapur ภาพเหล่าและเรื่องราวเหล่านี้บันทึกโดย ​Nasif Imtiaz   เด็กชายคนนี้ชื่อ Nishad เป็นหนึ่งในคนจรจัดที่สถานี Kamalapur   เด็กชายพยายามกระโดดลงมาจากหลังคารถไฟ   ขอทานผู้ไม่มีขากำลังสูบกัญชา   เขากำลังผสมบุหรี่กับกัญชา  …

  • ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สร้างชุดเดรสจากน้ำ ใช้ความอดทนและความพยายาม จนสำเร็จในที่สุด

    ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สร้างชุดเดรสจากน้ำ ใช้ความอดทนและความพยายาม จนสำเร็จในที่สุด

    ในการถ่ายภาพคนให้ออกมาสวยงามสมบูรณ์แบบนั้นจำเป็นต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น เสื้อผ้าหน้าผม มุมกล้อง แสงเงา ที่สำคัญต้องมีความคิดสร้างสรรค์และความอดทนด้วย เหมือนกับ Kappa Ryu กับโปรเจกต์ล่าสุดของเขาที่แหวกแนวโดยการนำน้ำมาทำเป็นชุดเดรส จนออกมาเป็นภาพที่สวยงามอย่างน่าทึ่ง โดยปกติแล้วชุดนางแบบหรือนายแบบต้องทำจากผ้าหรือสิ่งของที่จับต้องได้ เพื่อจัดให้อยู่ในทรงที่ต้องการ แต่สิ่งที่ Kappa Ryu ต้องการคือการเครื่องแต่งกายจากน้ำ     ในการถ่ายนั้นนางแบบ Eri ต้องกระโดดให้ลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้น Souya ก็จะนำน้ำจากถังน้ำสาดไปที่ตัวเธอ ส่วน Kappa Ryu หาจังหวะ หามุม เพื่อให้ถ่ายภาพให้ออกมาเหมือนนางแบบสวมชุดน้ำอยู่ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้งสามคนต้องใช้ทั้งความอดทนและความพยายามหลายครั้งมาก กว่าจะได้ภาพตามที่วางแผนเอาไว้     จนในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ทีมงานรู้สึกภูมิใจเท่านั้น แต่ยังได้รับคำชื่นชมจากผู้คนไม่ขาดสายเลย “มันเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก ฉันไม่รู้จะพูดว่าไงดี แต่มันสมบูรณ์แบบ” “เหมือนน้ำมีชีวิตเลย” “นี่เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก เขาทำได้ยังไง?” “มันต้องยากมากแน่ๆ กว่าจะได้ภาพนี้มา”   ภายหลัง Kappa Ryu ได้มากล่าวเพิ่มเติมว่า “กว่าผมจะได้ภาพนี้มา เราต้องถ่ายรูปมากกว่า 100 ครั้ง แต่มันจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มี Eri นางแบบที่มีความสามารถในการโพสต์ท่า และทักษะการสาดน้ำของ Souya”…

  • พ่อหนุ่มของขาด… เมมเบอร์มือถือของ ‘ตำรวจ’ เป็นเบอร์ ‘ดีลเลอร์’ สุดท้ายโดนจับเลยจ้า!!

    พ่อหนุ่มของขาด… เมมเบอร์มือถือของ ‘ตำรวจ’ เป็นเบอร์ ‘ดีลเลอร์’ สุดท้ายโดนจับเลยจ้า!!

    กลายเป็นเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี แถมยังเกิดขึ้นแบบงงๆ กับกลุ่มตำรวจกองปราบปรามยาเสพติดประจำรัฐฟลอริด้า..!! เรื่องมันก็มีอยู่ว่า.. เช้าวันหนึ่งของเดือนสิงหาคม William Lamberson วัย 29 ปี เกิดความรู้สึกของขาดอยากเติมให้เต็มอิ่ม แน่นอนว่าเมื่อความเสี้ยนเข้ามาเจ้าตัวก็ไม่รีรอที่จะติดต่อ ‘ดีลเลอร์’ ทันที   แต่ดูเหมือนพ่อหนุ่มจะเมมเบอร์ผิด กลายเป็นส่งข้อความหาตำรวจแทน… และนี่คือบทสนทนาทั้งหมด   หนุ่ม: “วิล… เฮ้นาย!!” ตำรวจ: “แล้วนี่ใครอ่ะ?” หนุ่ม: “เราวิลเอง ที่เราเจอกันที่ 7-11 ไงจำได้ป่ะ?” ซึ่งทางตำรวจชี้แจงว่า ในตอนแรกที่พ่อหนุ่ม William พยายามทักมา ฝ่ายตำรวจเองก็พยายามที่จะบอกว่าเขาทักผิดคน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เชื่อและดื้อดึงจะเอาของให้ได้     ตำรวจ: “เอ้ออ… ว่าไง มีอะไร?” หนุ่ม: “ไม่มีไรมากเพื่อน.. ตอนนี้โคตรอยากเติมเลยว่ะ นายมีของแบ่งขายหน่อยมั้ย? (กัญชา)” ตำรวจ: “เอ่อ.. เราไม่รู้จักนายว่ะ ช่วยส่งรูปมาให้ดูก่อนได้ป่ะ?” จนถึงตอนนี้พ่อหนุ่ม William ก็ยังไม่รู้สึกตะขิดตะควงใจเลยแม้แต่น้อยว่าเขากำลังสนทนากับตำรวจอยู่ งานนี้ผู้หมวดเลยขอจัดการสืบสาวอีกซักหน่อยดีกว่า    …

  • ภาพของสาวๆ ก่อน ระหว่าง และหลัง “ถึงจุดสุดยอด” กับความรู้สึกที่ไม่ควรถูกซ่อน…

    ภาพของสาวๆ ก่อน ระหว่าง และหลัง “ถึงจุดสุดยอด” กับความรู้สึกที่ไม่ควรถูกซ่อน…

    มนุษย์เรามักจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกผ่านใบหน้า โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ มนุษย์จะแสดงสีหน้าหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับขณะนั้นพวกเขาอยู่ในขั้นตอนไหน และเพื่อนำเสนอความรู้สึกขณะมีเพศสัมพันธ์ ช่างภาพ Marcos Alberti จึงได้ถ่ายภาพผู้หญิงก่อน ระหว่าง และหลังถึงจุดสุดยอด ว่าพวกเขาจะทำหน้ายังไงกันบ้าง     สำหรับชุดเหล่านี้อยู่ภายใต้โปรเจกต์ The O Project ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องเพศของผู้หญิงในแบบที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก Alberti ได้ถ่ายใบหน้าของผู้หญิงมากกว่า 20 คน โดยไม่ระบุชื่อ ซึ่งเป็นการแสดงออกก่อน ระหว่าง และหลังถึงจุดสุดยอด โดยใช้เซ็กส์ทอย     โปรเจกต์นี้ได้ทำร่วมกับ Smile Makers ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยเผยให้เห็นใบหน้าของผู้หญิงในแต่ชั่วขณะอย่างชัดเจน แม้จะเป็นการถ่ายใบหน้า แต่หญิงสาวแต่ละคนจะอยู่ในมุมที่ลับตาคน แล้วช่วยตัวเองด้วยเครื่องสั่น แม้แต่ช่างภาพเองก็ไม่เห็นเช่นกัน     อีกหนึ่งความโดดเด่นของโปรเจกต์คือ ช่างภาพได้เลือกผู้หญิงจากหลายๆ เชื้อชาติเท่าที่จะหามาได้ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีน และสิงคโปร์ Fan Yang ผู้จัดการแบรนด์ระดับโลกของ Smile Makers กล่าวว่า “ผู้หญิงมักจะซ่อนสีหน้าขณะมีเพศสัมพันธ์ เพราะรู้สึกอาย แต่ในภาพชุดนี้เราได้เผยให้สังคมเห็นถึงสีหน้าที่ถูกซ่อนเอาไว้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้หญิงได้แสดงสีหน้าแห่งความสุขโดยไม่ต้องรู้สึกอาย”…

  • ใครว่าชาวนาไม่เท่!? รู้จักกับ ‘Kiyoto Saito’ ชาวนาผู้แต่งตัวได้โคตรคูลที่สุดในโลก..!!

    ใครว่าชาวนาไม่เท่!? รู้จักกับ ‘Kiyoto Saito’ ชาวนาผู้แต่งตัวได้โคตรคูลที่สุดในโลก..!!

    ในยุคที่เศรษฐกิจบ้านเราดูจะลุ่มๆ ดอนๆ เหล่าผู้ทำการเกษตรต่างก็ต้องคอยรับมือกับปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ลดตัวลงอย่างฮวบฮาบ แต่ครั้งนี้เราจะพาไปรู้จักกับหนุ่มทำนาชาวญี่ปุ่น Kiyoto Saito ผู้ที่จะทำให้เรารู้สึกว่า… การทำเกษตรไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าเก่าๆ อย่างเดียวนะ จะแต่งตัวให้โคตรคูลเหมือนเดินออกมาจากรันเวย์แฟชั่นวีคส์ก็ได้เหมือนกัน..!!   Kiyoto Saito ชาวนาที่น่าจะเท่ที่สุดในสามโลก   Kiyoto Saito หนุ่มวัย 29 ปี ผู้เป็นเจ้าของผืนนาข้าวหลายสิบไร่ ได้กลายเป็นเซเลบริตี้ประจำจังหวัดยามากาตะ ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยจุดประสงค์ส่วนหนึ่งของการออกมาแต่งตัวสุดเนี๊ยบ ใส่ของแบรนด์ดังตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าตัวเล่าว่าเขาไม่ได้อยากจะอวดรวย หากแต่เขาต้องการนำเสนอให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นว่า การทำนาไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่หลายคนคิด   แต่ก่อนจะหันมาใช้ชีวิตคูลๆ เจ้าตัวก็เคยเป็นมนุษย์เงินเดือนในเมืองใหญ่มาแล้วเหมือนกัน   ในช่วงแรกหลังเรียนจบ เจ้าตัวเคยเป็นมนุษย์เงินเดือนให้กับบริษัทสถาปนิก และใช้ชีวิตอยู่ในกรุงโตเกียวเฉกเช่นคนอื่นๆ ทว่าวันหนึ่งเขากลับรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ว่าจะด้วยปัญหาจากงาน หรือความแออัดของการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ จนในที่สุดเจ้าตัวก็ได้ตัดสินใจกลับมายังบ้านเกิดเพื่อทำนาสืบสานปณิธานของครอบครัวต่อไป     Kiyoto Saito เล่าว่า ต้นตระกูลของเขายึดอาชีพทำนาข้าวมานานกว่า 400 ปี!! และสำหรับตัวเขาเองก็อยู่ในรุ่นที่ 16 ของครอบครัวเข้าให้แล้วล่ะ “ช่วงแรกหลังกลับมาอยู่บ้าน ผมมักจะโดนพี่ชายล้ออยู่เสมอว่า.. เป็นไงไปอยู่ในเมืองได้ใส่แต่สูทละสิ!! อะไรทำนองนั้น จนมันทำให้ผมปิ๊งไอเดียที่จะเอาสองอย่างนี้มายำรวมกันซะเลย” Kiyoto…

  • หญิงสาวจำใจต้องทิ้งเจ้าเหมียวไปเพราะไฟป่า แต่โชคชะตาก็พาให้กลับมาพบกันอีกครั้ง

    หญิงสาวจำใจต้องทิ้งเจ้าเหมียวไปเพราะไฟป่า แต่โชคชะตาก็พาให้กลับมาพบกันอีกครั้ง

    เหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาสร้างความเสียหายมหาศาล ผู้คนต้องจำใจทิ้งของมีของทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดจากเปลวไฟนรกที่พร้อมเผาผลาญทุกอย่าง รวมทั้งสัตว์เลี้ยงของพวกเขา เช่นเดียวกับ Laura Ringenberger ขณะที่เธออยู่ในบ้านกับสามีพร้อมลูกอีก 2 คน จู่ๆ เธอก็ได้รับแจ้งให้อพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากไฟป่าได้ลามมาถึงเขตบ้านเรือนแล้ว     ตอนแรกที่ได้รับโทรศัพท์ พวกเขาคิดว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรงมาก แต่เมื่อเดินออกไปดูนอกบ้าน ก็เห็นทุกอย่างเป็นสีส้มพร้อมไฟป่าที่ลุกลามอย่างน่ากลัว Ringenberge และสามีจึงพาลูกๆ หนีออกจากบ้านและส่งพวกเขาไปอยู่กับญาติในที่ปลอดภัย แม้ทุกอย่างจะกะทันหันและวุ่นวาย แต่เธอก็ไม่ลืมเจ้าเหมียว Kitty Kitty Star ผู้เปรียบเสมือนคนในครอบครัว     สามีวิ่งไปเคาะประตูเพื่อนบ้าน เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าพวกเขาออกจากไปแล้ว ทางด้าน Ringenberge เดินร้องเรียกแมวของเธอ ผ่านไปประมาณ 15-20 นาที ก็ไม่มีวี่แววของ Kitty Kitty Star เลย ขณะที่ไฟก็ลุกลามเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที หญิงสาวบอกว่า “ฉันไม่อยากทิ้งมันไว้ที่นั่น แต่สถานการณ์ตอนนั้นเราต้องเลือกระหว่างชีวิตหรือความตาย ที่สำคัญมีผู้คนมากมายตายในกองเพลิงนั่น” ในที่สุดเธอก็ต้องหนีออกมาด้วยความจำใจ     แม้จะรู้ดีว่า Kitty Kitty Star เป็นแมวที่เข้มแข็งและฉลาด แต่เธอก็อดเป็นห่วงมันไม่ได้ และคิดว่าคงจะไม่ได้เจอมันอีกแล้ว วันรุ่งขึ้น Ringenberger พร้อมด้วยครอบครัวและผู้อพยพคนอื่นๆ ต่างอยู่ในอาการซึมเศร้าและรอฟังข่าวจากเจ้าหน้าที่ จนวันต่อมา ทุกคนก็ได้รับแจ้งว่าบ้านเรือนของพวกเขาถูกไฟไหม้จนหมด…

  • นักวิทย์เผยเหตุผลสำคัญ อะไรคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์ “งมงาย” เชื่อแต่เรื่องเหนือธรรมชาติ??

    นักวิทย์เผยเหตุผลสำคัญ อะไรคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์ “งมงาย” เชื่อแต่เรื่องเหนือธรรมชาติ??

    เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมปัจจุบันยังมีผู้ที่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ทั้งๆ มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ ตาม Merriam-Webster ระบุว่า ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเป็นความเชื่อที่ไร้สาระ เพราะมันคือความงมงาย กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น และให้ความศรัทธาต่อเวทมนตร์ “กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความเชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติคือการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์” Stuart Vyse นักจิตวิทยาและศาสตราจารย์จาก Connecticut College กล่าว     แม้วิทยาศาสตร์จะได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งจริงสูงสุดในขณะนี้ แต่จำนวนผู้ที่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติก็ยังคงมีมากอย่างน่าแปลกใจ ยกตัวอย่างเช่น มีชาวอเมริกันมากถึง 17-21 ล้านคนเชื่อเรื่องวันศุกร์ที่ 13 และมีชาวสหราชอาณาจักรร้อยละ 74 ทำพิธีเคาะไม้เพื่อเป็นการปัดเป่าความโชคร้าย และชาวอเมริกัน 13% ให้แมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย ทั้งนี้ผลสำรวจล่าสุดของ Gallop พบว่า ได้ตอบคำถามว่าทำไมผู้คนมากกว่า 50% จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงเชื่อเรื่องโชคลาง? แล้วคนที่ไม่เชื่อล่ะ โชคลางจะส่งผลกระทบต่อชีวิตพวกเขาหรือไม่?     Vyse นักเขียนเรื่อง Believing in Magic : The Psychology of Superstition กล่าวว่า “เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะผู้คนถูกปลูกฝังให้เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และเป็นกระบวนการพื้นฐานของการขัดเกลาทางสังคม” “ประการที่สองคือ เราอยู่ในโลกที่ควบคุมผลลัพธ์ไม่ได้ แต่ดูเหมือนความเชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติอยู่เหนือกฎเกณฑ์…

  • เจ้าของร้านเสริมสวยสุนัข ต้องเปิดร้านกลางดึกเพื่อแต่งสวยให้กับเจ้าหมาจรจัดขนพะรุงพะรัง

    เจ้าของร้านเสริมสวยสุนัข ต้องเปิดร้านกลางดึกเพื่อแต่งสวยให้กับเจ้าหมาจรจัดขนพะรุงพะรัง

    โดยปกติแล้วร้านเสริมสวย ทั้งสำหรับคนและสำหรับสัตว์ มักจะเปิดในช่วงเวลากลางวัน แต่เจ้าของร้านเสริมสวยสุนัขคนนี้ยอมตื่นมาเปิดร้านกลางดึก เพื่อน้องหมาจรจัดตัวหนึ่งเท่านั้น ทุกอย่างเริ่มขึ้นในกลางดึกคืนหนึ่งเมื่อคู่รักคู่ขับรถผ่านเมืองโอเวียโด้ รัฐฟลอริด้า แล้วพวกเขาก็สังเกตเห็นสุนัขถูกทิ้งไว้บนถนนในสภาพมอมแมม     ขนของน้องหมาทั้งยาวและสกปรก ที่สำคัญมันเกาะกันเป็นก้อนแข็งๆ ทั่วร่างกาย จากสภาพนี้พอเดาได้ว่ามันไม่เคยได้รับการดูแลมานานมาก แน่นอนว่าช่วงกลางดึกแบบนี้คงไม่มีร้านตัดขนสุนัขที่ไหนเปิดแล้ว ทั้งคู่จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียล เพราะพวกเขาไม่อยากให้น้องหมารอนานกว่านี้อีกแล้ว     ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับการตอบรับจากช่างเสริมสวยสุนัข Kari Falla แม้ว่าเวลานั้นร้านของเธอจะปิดไปนานแล้วก็ตาม ดังนั้นคู่รักจึงได้พาสุนัขผู้น่าสงสารไปส่งที่นั่นทันที Falla บอกว่า “การที่ขนสุนัขเกาะกันเป็นก้อนแข็งขนาดนี้ อาจทำให้เลือดไม่ไหลเวียนได้ และอาจทำให้มันมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย”     หลังจากที่เห็นภาพแล้ว Falla คิดว่าสุนัขจรจัดตัวนี้ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน เธอจึงรีบไปยังร้านเสริมสวยของเธอ BGE Grooming และเปิดร้านกลางดึกเพื่อน้องหมาตัวนั้น “ฉันรู้ว่ามันแย่มาก ฉันไม่ได้เตรียมใจว่าต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ มันมีกลิ่นเหม็นเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว ที่แย่กว่านั้นคือมันไม่สามารถเดินได้” ช่างเสริมสวยบอก     แต่ไม่ว่าสภาพของมันจะเลวร้ายแค่ไหน Falla ก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้มันพ้นจากความทรมานนี้ให้เร็วที่สุด และแล้วเธอก็โกนขนให้มันจนเสร็จในเวลาประมาณตี 3 ก่อนจะอาบน้ำให้และพาไปหาสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้     เมื่อไปถึงแพทย์พบว่ามันหูหนวกและตาบอด อย่างไรก็ตามมันก็ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด ได้ชื่อใหม่คือ Lucky และตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ เพื่อนๆ สามารถติดตามเจ้า Lucky ได้ที่เพจ BGE Grooming  …

  • สามีเพิ่งเสียภรรยาไปต้องมาช้ำใจ หลังเห็นบุรุษพยาบาลกำลังมีอะไรกับศพของภรรยา

    สามีเพิ่งเสียภรรยาไปต้องมาช้ำใจ หลังเห็นบุรุษพยาบาลกำลังมีอะไรกับศพของภรรยา

    การที่คนๆ หนึ่งต้องสูญเสียคนรักไปก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและเศร้าสลดอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์นี้กลับยิ่งทำให้ใจของคนๆ หนึ่งสลายเพราะนอกจากเขาจะสูญเสียภรรยาไปแล้ว เขายังต้องมาเห็นบุรุษพยาบาลกระทำชำเราศพของภรรยาเขาอีก! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศโบลิเวีย เมื่อชายคนหนึ่งได้เดินทางไปที่ห้องเก็บศพเพื่อจะกล่าวคำอำลาสุดท้ายแก่ภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไปด้วยโรคที่เกี่ยวกับปอด แต่ว่าเขากลับไปเห็นบุรุษพยาบาลคนหนึ่งที่ทราบชื่อภายหลังว่า Grover Macuchapi อายุ 27 ปีกำลังมีเพศสัมพันธ์กับศพของภรรยาของเขาอยู่   โดนจับกุมจากการก่อเหตุวิปริต   Douglas Uzquiano นายตำรวจผู้จับกุมเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์อัปยศนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากผู้หญิงคนหนึ่งได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล Hospital de Clinicas ที่เมือง Lapaz และถูกส่งมาที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาล โดยญาติทั้งหมดของผู้เสียชีวิตได้กลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อชำระค่ารักษาของผู้เสียชีวิตคนนี้ เหลือเพียงสามีของเธอเพียงคนเดียวที่จะเข้าไปอำลาเธอและเห็นสิ่งที่เขากำลังทำ หลังจากนั้นเขาจึงไล่ตีบุรุษพยาบาลที่พยายามวิ่งหนีโดยที่กางเกงยังกองอยู่ที่ข้อเท้าอยู่ และจับส่งตำรวจในที่สุด   หน้าตาของบุรุษพยาบาลที่ลงมือก่อเหตุวิปริต   บุรุษพยาบาลคนนี้ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “มีบางอย่างเกิดขึ้นเหมือนมันเป็นความฝัน ตอนนั้นผมรู้สึกได้ว่ามีลมพัดเข้ามาจากข้างหลังหลังจากนั้นผมก็โดนสามีของผู้หญิงคนนี้ทำร้าย” โดยศพของผู้หญิงคนนี้มีอายุ 28 ปีและพึ่งเสียชีวิตก่อนหน้านั้นเพียง 1 ชั่วโมงเดียวก่อนที่จะถูกกระทำชำเราโดยบุรุษพยาบาลวิปริต อย่างไรก็ตามอัยการกล่าวว่า เขาอาจถูกปล่อยตัวและไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากการสมสู่กับศพนั้นไม่ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายใดๆ ของโบลิเวีย   ที่มา: dailymail

  • หญิงสาวถูกเจ้านายคุกคามทางเพศ แต่กลับถูกเมินเฉย และซ้ำเติมโดยเพื่อนร่วมงาน…

    หญิงสาวถูกเจ้านายคุกคามทางเพศ แต่กลับถูกเมินเฉย และซ้ำเติมโดยเพื่อนร่วมงาน…

    การคุกคามทางเพศสำหรับผู้หญิงดูเหมือนจะเป็นภัยเงียบที่เกิดขึ้นมานานในสังคมของทุกประเทศ แต่ว่าก็มีทั้งผู้คนที่ออกมาพูดเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ตัวเองและผู้ที่เลือกที่จะเก็บเงียบ และนี่คือเหตุการณ์ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาพูดเรื่องนี้ แต่ว่าปฏิกิริยาที่เธอได้รับหลังจากนั้นทำให้รู้ว่าทำไมหลายคนเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ   Emily Houser เด็กสาวอายุ 18 ปีที่ถูกผู้จัดการคุกคาม   Emily Houser เด็กสาวอายุ 16 ปีเมื่อตอนเริ่มทำงานที่ร้านอาหาร Chili ซึ่งเป็นร้านอาหารแฟรนไชส์ที่รัฐเพนซิลเวเนีย เธอบอกว่า Josh Davidson ผู้จัดการร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่มีความสนใจในตัวเธอ โดยเขามักจะมาหาเธอทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนและยังให้ของขวัญที่เธอไม่ต้องการอีกจำนวนมาก แต่เมื่อเธอไม่ได้สนใจในตัวเขาและได้ปฏิเสธเขา เขาจึงเริ่มที่จะกลั่นแกล้งเธอเกี่ยวกับเรื่องงาน และยังมีเด็กสาวอีกหลายคนที่เขาทำพฤติกรรมอย่างนี้ใส่อีกด้วย นี่จึงเป็นจุดที่ทำให้เธอรายงานเรื่องนี้ไปที่สำนักงานใหญ่ของ Chili นั่นทำให้ผู้จัดการสาขาคนนี้ถูกย้ายไปที่สาขาอื่นแทน และเธอก็ได้ลาออกจากร้านอาหารแห่งนี้   โพสต์ที่เธอโพสหลังจากลาออกจากงาน   “นี่คือสิ่งที่ได้รับเมื่อคุณรายงานว่า มีผู้ใหญ่ได้บีบบังคับในเรื่องความสัมพันธ์กับคุณเป็นเวลามากกว่า 1 ปี ผู้จัดการเก่าได้เล่าเรื่องนี้ให้กับอดีตเพื่อนร่วมงานของฉันฟังทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นความลับ พร้อมใส่ความฉันมากมาย” “จากนั้นพวกเขาจัดปาร์ตี้ ‘อีสารเลว Emily Houser’ ขึ้นมา โลกนี้มันช่างเลวร้ายน่ารังเกียจเหลือเกิน “ Emily Houser ได้กล่าวไว้บน Facebook ของเธอ   ภาพงานปาร์ตี้ดังกล่าว   แคปชั่นของอดีตเพื่อนร่วมงานของเธอ “กินเค้กของแกซะนังโสเภณี”   ทุกคนต่างติดแท็ก…

  • 22 ภาพที่บังเอิญเหมือนอะไรบางอย่าง จนต้องมองซ้ำอีกรอบ เห้ย!! แบบนี้ก็ได้เหรอ?

    22 ภาพที่บังเอิญเหมือนอะไรบางอย่าง จนต้องมองซ้ำอีกรอบ เห้ย!! แบบนี้ก็ได้เหรอ?

    วัตถุหรือสิ่งของที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน บางทีมันก็ดูแปลกหูแปลกตา เท่านั้นยังไม่พอมันดันไปเหมือนบางอย่างที่เราก็รู้จักดี จนต้องหันไปดูอีกรอบว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ เหมือนกับสิ่งของต่อไปนี้ ที่เรารู้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร แต่ความผิดปกติที่เกิดจากการจัดวางบ้าง มุมกล้องบ้าง จนทำให้มันดูเป็นสิ่งที่แปลกไปเลย   1. แตงกวาที่ไม่รู้ไปรู้อะไรมา เลยทำหน้าหวาดกลัวกันซะอย่างนั้น   2. ราวกับว่าสองอาคารนี้กำลังกอดกันเลย   3. แสงไฟสะท้อนเก้าอี้ ที่ดูเหมือนมีการเกิดดวงดาวใหม่   4. เป็นการจัดวางสิ่งของจนออกมาเหมือนตัวการ์ตูนที่เราคุ้นเคย   5. ลายไม้ที่บังเอิ๊ญบังเอิญเหมือนหน้าสุนัข   6. กลัวจะโดนเสียบขนาดเลยหรอ?   7. ก๊อกน้ำที่ดูเหมือนคนหน้าตื่น   8. มองแว๊บแรกนึกว่านกแก้วสีเขียว   9. นี่กระรอกจาก Ice Age ไง   10. มีคนตาดีเห็นหัวเข่าเหมือนหน้าเด็ก   11. มาเป็นทรงรองเท้าเชียว   12. พุงที่ย้อยทับกันซะจนเหมือนหน้าคน   13. มาแยกนี้ทีไร เหมือนโดนจ้องอยู่ตลอดเวลา  …

  • ญี่ปุ่นรณรงค์ให้คน “ขอบคุณ” รถที่จอดให้ข้าม กลายเป็นคลิปไวรัลที่ชาวเน็ตหลงรัก

    ญี่ปุ่นรณรงค์ให้คน “ขอบคุณ” รถที่จอดให้ข้าม กลายเป็นคลิปไวรัลที่ชาวเน็ตหลงรัก

    การโค้งคำนับ ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการทักทายของชาวญี่ปุ่นที่ดูอ่อนช้อยและสวยงาม นอกจากจะใช้แทนการกล่าวทักทายกันแล้ว การโค้งคำนับยังยังเป็นการแสดงความขอบคุณอีกด้วยเช่นกัน และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีหนึ่งในแคมเปญรณรงค์อันสุดแสนจะน่ารักของที่นี่ นั่นก็คือการสนับสนุนให้ทุกคนโค้งคำนับให้กับรถที่จอดให้ข้ามถนนเพื่อเป็นการแสดงถึงความขอบคุณน้ำใจของผู้ใช้รถนั่นเอง     คลิปวิดีโอไวรัลจาก จังหวัด Iwate ทางต้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น ได้ทำเอาหลายๆ คนรู้สึกดีไปตามๆ กัน หลังจากที่เห็นการแสดงวัฒนธรรมนี้ระหว่างผู้ใช้รถและคนเดินเท้า บริเวณสี่แยกในจังหวัด Iwate เด็กๆ ในเมืองนี้จะได้รับการสอนให้โค้งคำนับแก่ผู้ที่มีน้ำใจบนท้องถนนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ซึ่งการโค้งคำนับนี้ถูกจัดอยู่ในวิชามารยาทของเด็กๆ ในจังหวัดนี้เลยทีเดียว และถึงแม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะไม่ได้มีข้อกำหนดทางกฎหมาย แต่นิสัยนี้ก็ติดตัวผู้คนในจังหวัดนี้ และกลายเป็นเหมือนวัฒนธรรมของที่นี่ไปเลยทีเดียว     เด็กๆ ที่แสดงการโค้งคำนับเพื่อขอบคุณ คนขับรถที่ยอมให้พวกเขาข้ามถนนก่อน   แหม่.. ดูน่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย   และเมื่อคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับคำชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมาก หลายๆ คนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย “ฉันเห็นการโค้งคำนับนี้ทุกๆ ครั้งที่ฉันจอดให้คนข้ามถนนในตอนที่ไม่มีสัญญาณไฟ และถึงแม้ว่าฉันจอดเพราะติดไฟแดง พวกเขาก็ยังคงโค้งคำนับเช่นกัน” หนึ่งในความคิดเห็นของชาวเน็ต “ฉันมาจากจังหวัด Iwate ฉันคิดว่าทุกคนที่นี่ทำแบบนี้ แต่ทำแบบเดียวกันนี้ที่ Yokohama เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มันกลับเป็นเรื่องแปลกมากสำหรับคนที่นั่น” “นี่เป็นสิ่งที่เราควรจะเริ่มทำกันไม่ว่าจะที่ใดก็ตามในประเทศ” นอกจากมารยาทในการใช้รถใช้ถนนแล้ว ที่จังหวัดแห่งนี้ยังมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนที่ต่ำมากๆ อีกด้วย โดยจากการศึกษาในปี…

  • ศิลปินวาดภาพแลนด์สเคปเมืองนิวยอร์คทั้งเมืองจากความทรงจำ หลังนั่งเฮลิคอปเตอร์แค่ 45 นาที

    ศิลปินวาดภาพแลนด์สเคปเมืองนิวยอร์คทั้งเมืองจากความทรงจำ หลังนั่งเฮลิคอปเตอร์แค่ 45 นาที

    การวาดรูปแต่ละรูปต้องใช้จินตนาการอันสูง ซึ่งถือว่าเป็นความสามารถพิเศษของแต่ละคนที่จะมีพรสวรรค์ในด้านนี้ แต่คงไม่มีใครเหมือนเขาคนนี้ที่วาดรูปเมืองได้ทั้งเมืองจากความทรงจำเพียง 45 นาที Stephen Wiltshire ศิลปินชาวอังกฤษผู้เป็นป่วยเป็นโรคออทิสติก ได้วาดภาพเมือง New York ทั้งเมืองจากการนั่งชมเมืองบนเครื่องเฮลิคอปเตอร์เพียง 45 นาที เขาใช้เวลาทั้งหมด 5 วันในการวาดเมืองโดยแทบจะไม่หยุดพักเลยทีเดียว     ซึ่งการที่เขามาวาดภาพเมือง New York ในครั้งนี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบการสร้างตึก Empire State  “Stephen เป็นของขวัญอย่างแท้จริง เขามีพรสวรรค์ที่สุดยอด” “การมีเขาอยู่ที่ตึก Empire State นับว่าเป็นเกียรติอย่างแท้จริง และการมีโอกาสได้ชมเขาวาดแบบสดๆ คือความโชคดีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้” Anthony E Malkin ประธานบริษัท Empire State Realty Trust กล่าว     Stephen Wiltshire เป็นศิลปินที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย โดยรางวัลแรกที่เขาได้รับมาจากนายกรัฐมนตรีของอังกฤษในวัยเพียง 8 ปีเท่านั้น โดยเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคออทิสติกตั้งแต่อายุ 3 ปี และเขาไม่สามารถพูดได้จนกระทั่งอายุ 5 ปี     เขาเคยวาดภาพเมืองทั้งเมืองแบบนี้มาแล้วทั่วโลก ทั้งโตเกียว มาดริด ดูไบ…

  • เรื่องราวของหญิงสาวที่กลายเป็น ‘เจ้าหญิง’ หลังพบรักกับเจ้าชายแห่งอาณาจักรเอธิโอเปียที่ไนท์คลับ

    เรื่องราวของหญิงสาวที่กลายเป็น ‘เจ้าหญิง’ หลังพบรักกับเจ้าชายแห่งอาณาจักรเอธิโอเปียที่ไนท์คลับ

    ตอนเด็กๆ เราคงจะเคยอ่านนิทานที่เป็นเรื่องราวของเจ้าชายที่เดินทางตามหารักแท้ โดยเจ้าชายปลอมแปลงตัวเป็นคนธรรมดา จนกระทั่งได้พบหญิงสาวธรรมดาที่รักในตัวของพระองค์ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์จนกระทั่งได้แต่งงานกันในที่สุด เรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อว่า Ariana Austin เปรียบดั่งกับเทพนิยายที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ที่สุด     เรื่องราวเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2005 ที่ไนท์คลับแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน เจ้าชาย Joel Makonnen ได้มาเที่ยวตามปกติเหมือนดังสามัญชนคนธรรมดาแล้วได้พบกับ Ariana ที่เดินเข้ามาในไนท์คลับแห่งนี้อย่างสง่างาม เจ้าชายก็ได้สะดุดกับความงามของ Ariana ในทันที และกล่าวว่าเธอเหมือนดั่งนางแบบโฆษณาแอลกอฮอล์ที่หลุดออกมาในชีวิตจริง แถมยังรู้สึกถูกชะตาแม่สาวคนนี้ยิ่งนัก อีกทั้งยังคิดไว้ว่าจะต้องกลายมาเป็นคู่รักกันอย่างแน่นอน     หลังจากนั้นเจ้าชายก็เดินเข้าไปหา Ariana แล้วทำความรู้จักในทันที โดยที่ปกปิดสถานะที่แท้จริงของตัวเองไว้ บอกไปเพียงว่าเขาเป็นทนายความธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น     หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คบหาดูใจกันเรื่อยมาเป็นเวลาเกือบ 12 ปี ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคในการที่ต้องแยกจากกันไปบ้าง แต่ทั้งสองก็ยังคุยกันอยู่ตลอด     จนกระทั่งวันวาเลนไทน์ปี 2014 เจ้าชาย Joel ได้ซื้อแหวนเพชรและลูกโป่ง เดินทางไปยังบ้านของ Ariana เพื่อพบพ่อแม่ของเธอและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของพระองค์ให้หญิงสาวได้ทราบ ซึ่งเธอก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่คิดว่าคนที่คบอยู่ด้วยนั้นเป็นเจ้าชายแห่งเอธิโอเปีย    …

  • ผมไม่ไหวแล้วนะ!! คุณลุงหนีไปใช้ชีวิตในป่านาน 5 ปี ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียว ‘เบื่อเมีย’

    ผมไม่ไหวแล้วนะ!! คุณลุงหนีไปใช้ชีวิตในป่านาน 5 ปี ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียว ‘เบื่อเมีย’

    เรื่องราวของคุณลุงวัย 62 ปี จากเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษผู้นี้ กลายเป็นข่าวดังในต่างประเทศทันที หลังจากที่เขาได้หนีเข้าไปใช้ชีวิตในป่านานถึง 5 ปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในที่พักอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้มาจากสาเหตุเดียวเท่านั้นคือ “เบื่อเมีย” ก่อนหน้าที่จะแต่งงานคุณ Malcolm Applegate เป็นคนที่ชื่นชอบในการทำสวน และมักจะสอนคนอื่นๆ เกี่ยวกับเทคนิคการทำสวนของเขา แต่หลังจากที่เริ่มต้นชีวิตแต่งงาน เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว คุณลุงก็เริ่มพบว่าชีวิตของเขานั้นเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ     คุณลุงเล่าว่าในช่วงแรกของการแต่งงานนนั้นทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี และภรรยาของเขาก็เป็นคนดีมากด้วย แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มเข้ามาควบคุมชีวิตของเขา บางครั้งเขาต้องงดกิจกรรมโปรดเพื่อเอาใจเธอ และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความอดทนถึงขีดสุดเขาจึงตัดสินใจที่จะเก็บข้าวของหนีมาแบบดื้อๆ โดยไม่ได้ทำการหย่าร้างหรือบอกเธอเลย “ผมแต่งงานอยู่กับเธอประมาณ 3 ปี และจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มแย่ลง และหลังจากนั้นผมก็เริ่มเบื่อที่เรามักจะทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ ” คุณลุงเล่าถึงชีวิตคู่ของเขา     ในตอนที่หนีออกมา คุณลุงวางแผนที่จะขับรถมอเตอร์ไซค์ไปรอบๆ กรุงลอนดอน แต่ทว่าระหว่างทางรถมอเตอร์ไซค์ของเขากลับถูกขโมยไป คุณ Malcolm จึงต้องเดินเท้าเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ จนกระทั่งมาถึงป่าแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับเมืองคิงส์ตัน ทางตอนใต้ของลอนดอน คุณลุงตัดสินใจค้างคืนที่นั่นและออกมาทำงานเกี่ยวกับการดูแลสวนให้กับศูนย์ชุมชนใกล้ๆ ในตอนเช้า “มีพวกเรา 3 คนค้างคืนอยู่ตรงนั้น เราไปทำงานที่ศูนย์ชุมชนใกล้ๆ…

  • โหดสัสรัสเซีย… ช่างตัดผมถูกแทงเสียชีวิต หลังตัดให้ผมไม่ถูกใจลูกค้า ได้ทรงคล้ายนักโทษ

    โหดสัสรัสเซีย… ช่างตัดผมถูกแทงเสียชีวิต หลังตัดให้ผมไม่ถูกใจลูกค้า ได้ทรงคล้ายนักโทษ

    บางครั้งคำว่า “เอาออกนิดเดียว” ของเราและช่างตัดผมนั้นมักจะไม่เท่ากัน และบางครั้งคุณอาจจะเกิดอาการเขินนิดหน่อยหลังจากที่ออกมาจากร้านตัดผม แต่ถึงแม้ว่าช่างจะตัดได้ขัดใจแค่ไหน ก็คงไม่มีใครที่จะโกรธถึงขั้นลงไม้ลงมือกับช่างตัดผมเหมือนหนุ่มรัสเซียคนนี้แน่ ภาพจากคลิปวิดีโอของกล้องวงจรปิดบนถนนสายหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงมอสโคได้เผยให้เห็นวินาทีที่นาย Pavel Luzyanin ได้ใช้อาวุธแทงเข้าที่หน้าอกของคุณ Dastan Adkhamov ช่างตัดผมวัย 24 ปี จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต หลังจากที่เขาเพิ่งใช้บริการช่างตัดผมผู้โชคร้ายไปหมาดๆ   นาย Pavel Luzyanin ลูกค้าผู้ก่อเหตุในครั้งนี้   เจ้าหน้าตำรวจกล่าวว่า หลังจากที่แทงหน้าอกเหยื่อถึง 3 ครั้ง นาย Luzyanin ได้เดินหนีไปอย่างช้าๆ แต่ทว่าหลังจากที่เขาเห็นว่าคุณ Adkhamov นั้นยังมีลมหายใจอยู่ ชายหนุ่มจึงได้กลับมาทำร้ายเขาอีกครั้ง โดยการใช้เหล็กเสียบบาบีคิวแทงเข้าที่คอจนเสียชีวิตในที่สุด จากคำให้การของเพื่อนผู้ตาย ช่างตัดผมผู้นี้เป็นชาวอุซเบกิสถาน ที่หลบหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย และเริ่มต้นอาชีพช่างตัดผมของเขาที่เมืองนี้   และนี่คือวินาทีที่คุณ Adkhamov ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต   นาย Luzyanin ได้มาใช้บริการตัดผมเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ในตอนแรกหลังจากที่กลับออกจากร้านตัดผมไป เขามีความสุขกับผมทรงใหม่อย่างมาก แต่ในวันต่อมา ชายหนุ่มกลับมาที่ร้านตัดผมหลังจากที่เขาถูกเพื่อนบอกว่าผมทรงใหม่นั้นเหมือนกับนักโทษเลย Luzyanin บอกกับเพื่อนของเขาว่าเขาไม่สามารถทนต่อคำเยาะเย้ยได้ และจะกลับไปหาช่างตัดผมคนนั้น ถึงแม้ว่าคุณ Adkhamov จะยอมแก้ไขทรงผมให้ใหม่ แต่ชายหนุ่มกลับไล่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิต     Luzyanin ถูกจับกุมตัวได้ไม่นานหลังจากที่เกิดเหตุ…

  • หญิงสาวตอกหน้าทุกคน ที่เคยดูถูกเธอว่า ‘โง่’ ด้วยการคว้าปริญญาตรีเกียรตินิยม

    หญิงสาวตอกหน้าทุกคน ที่เคยดูถูกเธอว่า ‘โง่’ ด้วยการคว้าปริญญาตรีเกียรตินิยม

    บางครั้งคำดูถูกก็อาจจะเป็นแรงผลักดันให้เราลุกขึ้นมาพิสูจน์ตัวเอง เพื่อเอาชนะคำสบประมาทเหล่านั้นให้ได้ และหญิงสาวชาวออสเตรเลียผู้นี้เองก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนที่สามารถเอาชนะคำดูถูกและตอกหน้าคนที่เคยทำร้ายจิตใจของเธอ     “เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ฉันโดนดูถูกมานานหลายปี แต่ฉันใช้มันเป็นแรงผลักดัน” หญิงสาวที่ชื่อว่า Phoebe ได้เขียนผ่านเฟซบุ๊กของเธอ หญิงสาวต้องทนต่อความอับอายที่หลายๆ คนบอกว่าเธอนั้นไม่ฉลาด เธอมีปัญหาด้านการเรียนรู้หลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นความบกพร่องในการอ่านหนังสือ (Dyslexia) ความบกพร่องทางการคำนวน (Dyscalculia) ความบกพร่องทางการเขียน (Dysgraphia) และโรคสมาธิสั้น หลังจากที่สามารถคว้าใบปริญญาพร้อมเกรียรตินิยมมาครองได้สำเร็จ Phoebe ก็เขียนระบายความในใจของเธอผ่านเฟซบุ๊กว่า     “ถึงครูที่เคยบอกกับพ่อแม่ของฉันว่าให้ควรให้ฉันเลิกเรียนเพราะฉันจะทำให้เกรดของเด็กคนอื่นๆ ตกไปด้วย ถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ด่าฉันหน้าชั้นเรียนจนฉันแทบร้องไห้ เพียงเพราะว่าฉันสะกดคำผิด ถึงพ่อแม่ของนักเรียนคนอื่นที่เคยบอกครูประจำชั้นว่าอย่าให้ลูกๆ ของพวกเขานั่งใกล้ฉัน เพราะกลัวจะทำให้พวกเขาติดเชื้อโง่ไปด้วย ถึงระบบการศึกษาสุดห่วย ที่บอกว่าฉันมีคะแนน ATAR แค่ 49 (คะแนน ATAR เป็นระบบวัดความรู้ของเด็กนักเรียนออสเตรเลีย คนที่ได้คะแนนเยอะที่สุดในชั้นปีจะมีคะแนน 100 ถ้าได้ 49 คะแนน แปลว่าคุณได้คะแนน 49 เปอร์เซ็นของคนที่ได้เยอะที่สุด) หลังจากที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ฉันก็พบว่าตัวเองป่วยด้วยโรคหลายโรค แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็สามารถจบการศึกษาด้วยเกรดที่สูงที่สุดคนหนึ่งของคณะ สำหรับใครก็ตามที่ทำให้ฉันอับอาย เพราะฉันไม่เหมือนพวกคุณ ระวังให้ดีล่ะ เด็กพิการอย่างพวกเราก็สามารถเอาชนะพวกคุณได้ด้วยวิธีการของพวกเรา”      และแน่นอนว่าเรื่องราวของเธอนั้น กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วอินเตอร์เน็ต และหลังจากที่เธอโพสต์ข้อความดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์…

  • ครอบครัว Irwin พร้อมจะสานต่อรายการอีกครั้ง หลังคุณพ่อ Steve จากไปนานกว่า 11 ปี

    ครอบครัว Irwin พร้อมจะสานต่อรายการอีกครั้ง หลังคุณพ่อ Steve จากไปนานกว่า 11 ปี

    เมื่อพูดถึงพิธีกรสารคดีสัตว์ระดับตำนานก่อนจะมาเป็น Bear gryll ที่เรารู้จักนั้น Steve Irwin ถือว่าเป็นบุคคลที่ทำรายการแนวนี้ยุคแรกและโด่งดังสุดๆ จนกลายเป็นตำนานเลยก็ว่าได้ ทว่ากลับน่าเสียดายที่เราต้องเสียเขาไปอย่างรวดเร็ว… นับเป็นเวลากว่า 11 ปีแล้วที่ครอบครัว Irwin ได้สูญเสียเสาหลักของครับครัว Steve Irwin ผู้ดำเนินรายการสารคดีเกี่ยวกับสัตว์มากฝีมือแห่งช่อง Animal Planet จากการถูกแทงโดยปลากระเบนขณะถ่ายทำสารคดีชุด Ocean’s Deadliest     แต่ล่าสุดด้านภรรยาของเขา Terri Irwin ได้ตัดสินใจเตรียมพร้อมจะกลับมาสานต่อรายการของสามีบนช่อง Animal Planet พร้อมกับลูกสาว Bindi วัย 19 และลูกชาย Robert วัย 14 ปี ในปี 2018 ซึ่งก่อนหน้าที่พวกเขาจะตัดสินใจกลับมาทำรายการต่อ พวกเขาก็ยังคงสานต่องานเชิงอนุรักษ์ต่างๆ ที่ Steve ได้ทิ้งไว้ให้อย่างเช่นดูแลสวนสัตว์ ดูแลสัตว์ป่าสงวน และสนับสนุนโครงการที่พยายามช่วยสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ทั่วโลกเป็นต้น     แม้ว่าจะมีการบอกว่าครอบครัวนี้จะกลับมาสานต่อและทำรายการใหม่บน Animal Planet แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทิศทางของรายการใหม่ของครอบครัวจะเป็นยังไง เพราะเดิมทีที่ตัว Steve ทำนั้นจะเป็นแนวเฮฮาสร้างความสุขนั่นเอง   .   ส่วนถ้าใครคิดว่าแล้วลูกๆ สองคนจะทำหน้าที่ได้ดีเท่าพ่อของพวกเขาไหม ก็ต้องบอกเลยว่าพวกเขาเนี่ยลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลยล่ะ ลูกสาว Bindi นั้นก็มีผลงานทางทีวีบ่อยๆ ล่าสุดพึ่งคว้าแชม์ปแข่งเต้น Dancing With the…

  • บริษัทผ้าอนามัย หันมาใช้ของเหลว ‘สีแดง’ แทน ‘สีน้ำเงิน’ แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมด๊าา!!

    บริษัทผ้าอนามัย หันมาใช้ของเหลว ‘สีแดง’ แทน ‘สีน้ำเงิน’ แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมด๊าา!!

    กำลังเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกชาวเน็ตพูดถึงอย่างร้อนแรง เมื่อบริษัทผ้าอนามัย ‘Bodyform’ ได้เปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ ที่หันมาใช้ของเหลวสีแดงแทน..!!   โดยปกติแล้วตามโฆษณาผ้าอนามัยที่เราเห็นกันทั่วไป มักจะเลือกใช้ของเหลวสีน้ำเงิน แทนภาพของประจำเดือนสีแดงใช่ไหมล่ะ?   แต่วิดีโอแคมเปญ #bloodnormal ของ Bodyform ได้เลือกทำสิ่งที่ต่างออกไป นั่นคือการใช้น้ำสีแดงเป็นภาพสะท้อนประจำเดือนของสาวๆ   เอาเป็นว่าลองไปชมคลิปโฆษณาความยาวแค่ 20 วินาที กันก่อนเลย…   จากผลงานวิจัยของสถาบันแห่งหนึ่งในอังกฤษ มีการระบุตัวเลขชี้ชัดว่ากว่า 74% ของผู้บริโภค ต้องการเห็นภาพโฆษณาตามสื่อต่างๆ ที่นำเสนอความจริงอย่างตรงไปตรงมามากกว่า และดูเหมือนว่างานโฆษณาชิ้นนี้ของ ‘Bodyform’ จะถูกอกถูกใจชาวเน็ตไปทั่วโลก ซึ่งตัวโฆษณาชิ้นนี้ทางบริษัทผู้ผลิตอ้างว่า เป็นภาคต่อจากโฆษณาสปอร์ตเกิร์ลเมื่อปี 2016 ที่มีการนำเสนอภาพของประจำเดือนสีแดงที่เกิดขึ้นกับการเล่นกีฬาของสาวๆ เช่นเดียวกัน     และด้วยสโลแกน “No Blood Should Hold Us Back” นี่เอง ที่ทำให้ยอดขายผ้าอนามัยของ Bodyform เพิ่มขึ้นอย่างน่าติดตาม   Tanja Grubna หนึ่งในพนักงานของบริษัทผู้อยู่เบื้องหลังไอเดียภาพโฆษณา ได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC…

  • ลิงแก่อายุ 59 ปี ป่วยหนักกินอาหารไม่ได้ พอได้เจอเจ้านายเก่า กลับมีแรงดีใจน้ำตาแทบไหล

    ลิงแก่อายุ 59 ปี ป่วยหนักกินอาหารไม่ได้ พอได้เจอเจ้านายเก่า กลับมีแรงดีใจน้ำตาแทบไหล

    สัตว์ที่เคยใกล้ชิดกับมนุษย์แทบจะทุกชนิด มักจะมีสายใยบางอย่างที่เชื่อมโยงกันอยู่ เช่น การจดจำเสียงของคนดูแลได้ การจำกลิ่นได้ และในวาระสุดท้ายชีวิตของพวกมันก็คงอยากให้มนุษย์ที่ดูแลพวกมันอยู่ด้วยเหมือนกับเจ้าลิงตัวนี้ ลิงชิมแปนซีตัวนี้มีชื่อว่า Mama อายุ 59 ปี เพศเมีย มันนับได้ว่าเป็นลิงที่เป็นผู้อาวุโสที่สวนสัตว์ Royal Burgers Zoo ในเมือง Arnhem ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงจากการศึกษาวิจัยพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม     ย้อนกลับไปในเดือน เมษายน ปี 2016 เจ้าลิงตัวนี้ได้เข้าสู่ช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต มันทั้งเผชิญทั้งความเจ็บป่วยและไม่สามารถที่จะกินอาหารได้ หลังจากนั้นข่าวนี้ก็ไปเข้าหูของ Jan van Hooff ผู้ก่อตั้งอาณาจักรแห่งลิงที่นี่ เธอจึงตัดสินใจกลับมาที่นี่เพื่อให้ดูแลเจ้า Mama ในช่วงสุดท้ายของชีวิตซึ่งทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่ปี 1972 ทำให้ทั้งคู่มีสายใยที่ผูกพันกันอย่างเหนียวแน่น นอนป่วยอย่างน่าสงสาร   ในตอนแรก Mama นั้นมีอาการอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดและเมื่อ Jan เข้ามาใกล้มันก็จำเธอไม่ได้ แต่หลังจากเธอเปล่งเสียงพูดออกมาก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับเจ้าลิงตัวนี้ แววตาของมันมีประกายแห่งความสุขและมันก็จำเธอได้ในที่สุด เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงสายใยระหว่างมนุษย์และสัตว์ตัวหนึ่งที่มีให้กัน ซึ่งสามารถสร้างความสุขให้แก่คนรอบข้างได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว   แววตาเศร้าสลดเนื่องจากอาการป่วย   เมื่อรู้ข่าว เพื่อนเก่าก็กลับมาเยี่ยมเยือน   ดูหน้าตาแห่งความสุขของมันสิ   แต่ทว่าหลังจากนั้น 1 สัปดาห์เจ้าลิงตัวนี้ก็ได้จากไปอย่างสงบในวัย…