Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
สีสันแห่งการเลือกตั้ง เมื่อ ‘หมา’ เข้าร่วมชิงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีประจำเมืองแคนาดา!!
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีประจำเมือง หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกคนก็คงจะเคยเห็นกันมาแล้ว หรือหากว่าอายุเกิน 18 ปี ก็คงจะต้องเคยไปลงคะแนนเลือกตั้งกันมาบ้าง ทว่าการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่เกิดขึ้นในเมืองเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดานั้น กลับมีความแปลกออกไป เมื่อมีเจ้าหมาตัวหนึ่งได้ลงชื่อเข้ามาสมัครชิงตำแหน่งกับเค้าด้วย!? สุนัขตัวนี้มีชื่อว่า Finn เป็นสุนัขสายพันธุ์ออสเตรเลียน แคทเทิล วัย 5 ปี ผู้ลงสมัครตัวใหม่ของเมือง พร้อมกับมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอประกาศการลงเลือกตั้งครั้งนี้เอาไว้ในเฟซบุ๊คอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แถมยังมีการเอ่ยถึงนโยบายของตัวเองอีกต่างหาก แต่ว่าไม่ต้องตกใจไปหรอก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเจ้าหมาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากผู้เป็นเจ้าของนามว่า Glenn Redmond และตากล้อง Garry Smyth โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นแบบอย่างให้ผู้ลงสมัครคนอื่นๆ ได้เห็นถึงปัญหา และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต นั่นก็คือการชี้ให้เห็นถึงปัญหาถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ หรือการเก็บกวาดหิมะในช่วงฤดูหนาว โดยปัญหาทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้นจะหมดไป ถ้าหากว่าได้เจ้าหมามาคอยดูแลเป็นนายกเทศมนตรี (ก็ว่าไปนั่น) ที่คอยออกเดินตรวจตราไปตามบ้านเรือน และบนท้องถนนเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้เจ้าหมาก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะได้รับการฝึกฝนมาจากเจ้าของ ที่เป็นทั้งครูฝึกสุนัขและสตั้นท์แมน ทำให้มันเคยได้ออกหน้ากล้อง โชว์ตัวอยู่ในหนังมาบ้าง ไม่มีอาการตื่นกล้องอีกต่อไป… หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปสู่โลกออนไลน์ ก็ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมากๆ ซึ่งทางด้าน Glenn…
-
12 ข้อมูลเด็ด ‘กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น’ แม้ไม่ใช่ทหาร แต่บอกเลยไม่ธรรมดา..!!
จากสถานการณ์ความตึงเครียด หลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธอยู่เรื่อยๆ อย่างเมื่อล่าสุดก็ช่วงเช้ามืดของวันที่ 15 กันยายน 2017 ที่มีการทดสอบยิงขีปนาวุธเหนือน่านฟ้าเกาะฮอกไกโด เล่นเอาทางการญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ที่ใกล้เคียงต้องออกมาเตรียมรับมืออย่างเร่งด่วน และเป็นอย่างที่เราทราบกันดีว่า หลังจากที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ได้มีการประกาศยกเลิกไม่ให้มีกองทัพทหารไป แต่เปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า ‘กองกำลังป้องกันตนเอง’ (Japan Self-Defense Froce) แทน หลังจากที่ได้ยินชื่อแล้วหลายคนอาจไม่คุ้นหูซักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเราจะพาทุกคนไปชมข้อมูลของกองกำลังป้องกันตนเอง จากเว็บไซต์ GlobalFirePower ขอบอกเลยว่า… ถึงจะชื่อกองกำลังป้องกันตนเอง แต่ถ้าพวกเขาได้ออกโรงแล้วเรื่องไม่จบง่ายๆ แน่นอน!! 1. กองกำลังป้องกันตนเองมีกำลังพลทั้งหมด 311,875 คน 2. กองกำลังพลที่พร้อมจะออกปฏิบัติหน้าที่มีจำนวนทั้งหมด 248,575 คน และกองกำลังสำรอง 63,300 คน กองกำลังภาคอากาศ แม้ว่าดูเผินๆ เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นนวัตกรรมทางทหารของญี่ปุ่นบ่อยนัก แต่ขอบอกเลยว่ากำลังพลทางด้านกองทัพอากาศนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว… 3. กองกำลังป้องกันตนเองมีจำนวนเครื่องบินประจำการทั้งหมด 1,594 ลำ ขณะที่กองทัพไทยมีเครื่องบินประจำการทั้งหมด 555 ลำ 4.…
-
“Thylane Blondeau” เด็กที่เคยถูกมองว่าสวยที่สุดในโลก ตอนนี้ได้เข้าสู่วงการนางแบบเต็มตัว
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 11 ปีที่แล้ว เคยมีการค้นพบนางแบบเด็กที่ขึ้นชื่อได้ว่า “สวยที่สุดในโลก” และเธอคนนั้นก็คือ Thylane Blondeau หนูน้อยดวงตาสีฟ้าในวัย 6 ขวบคนนี้… เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจจะเคยเห็นหน้าเห็นตาของเธอกันมาบ้างแล้ว เรียกได้ว่าเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆ เพราะในตอนนี้ Thylane อายุได้ 16 ปีแล้ว ซึ่งในตอนนี้เธอก็พร้อมสุดๆ ในการก้าวเข้าสู่วงการนางแบบมืออาชีพอย่างเต็มตัว วันที่ 14 กันยายน 2017 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Thylane ในวัย 16 ปี ได้ร่วมงานกับนางแบบระดับแนวหน้าอย่าง Nicole Kidman, Naomi Watts และ Catherine Zeta-Jones ในงาน New York Fashion Week เมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา อีกทั้ง เธอก็เพิ่งจะได้รับการเซ็นสัญญาเป็นครั้งแรก ในฐานะตัวแทนคนล่าสุดของแบรนด์ L’Oreal รวมถึงเป็นนางแบบในสังกัดโมเดลลิ่ง IMG ทำให้ในตอนนี้…
-
หมู่บ้านอายุ 250 ปีที่ยังคงสวยงามไร้การเปลี่ยนแปลง แม้จะอยู่มานานและถูกทิ้งร้างไว้
เมืองที่มีมาอย่างยาวนานและถูกทิ้งร้างไป มักจะเต็มไปด้วยสภาพที่ทรุดโทรม ไม่น่าเข้าไปใกล้หรืออยู่อาศัยกันในละแวกนั้นซักเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดกับหมู่บ้าน Batsto เพราะถึงแม้ว่าจะถูกสร้างมานานมากแล้ว ตั้งแต่ในปี 1766 ยาวนานมาจนถึงผู้อยู่อาศัยคนสุดท้ายที่ออกไปจากที่นี่ในปี 1989 ทว่ามันก็ยังคงความสวยงามและเก่าแก่อยู่เสมอ ตึกรามบ้านช่องต่างๆ นอกจากจะยังคงดูพร้อมใช้งานเหมือนกับมีคนอยู่อาศัยมาตลอดแล้ว ทุกสิ่งก่อสร้างยังคงมีความคลาสสิค ไม่มีความร่วมสมัยเหมือนกับตึกในสมัยนี้เลยแม้แต่น้อย เหมือนกับที่หมู่บ้านนี้เป็นมาตั้งแต่แรก อาคารนอกประจำหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เป็นส่วนหนึ่งของเขตอนุรักษ์แห่งชาติเมือง Pinelands และได้รับการปกป้องโดยกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อม สวนสาธารณะและป่าไม้ของรัฐ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เมืองนี้ยังคงน่าอยู่เสมอ ปราศจากคนเข้ามารุกราน ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของสถานที่นี้เริ่มต้นมาจาก Charles Read ช่างตีเหล็กผู้โด่งดัง เข้ามาสร้างโรงงานเป็นของตัวเองใกล้กับแม่น้ำ Batsto ในเวลานั้นพื้นที่โดยรอบถูกเต็มไปด้วยแร่หินต่างๆ ตามธรรมชาติมากมาย แม่น้ำ Batsto ที่ตัดผ่านหมู่บ้าน นอกจากนั้นทรัพยากรที่จำเป็นก็หาได้ง่ายมาก ใช้น้ำจากแม่น้ำหรือตามบึงรอบๆ ไม้เยออะแยะที่มีอยู่ในป่าใหญ่ และสิ่งจำเป็นสำหรับการตีเหล็กมีอยู่ที่นี่ทั้งหมด ทำให้โรงงานเติบโตได้ดีจนต้องมีลูกจ้างเข้ามาช่วย สิ่งปลูกสร้างเป็นอันดับแรกนอกเหนือจากที่ทำงาน จึงเป็นบ้านพักอาศัยของคนเหล่านั้น และเป็นจุดเริ่มต้นให้กลายเป็นหมู่บ้านที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ จากตอนแรกที่สร้างเพียงแค่ของใช้ภายในบ้าน แต่โรงงานแห่งนี้ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น จน John Cox ได้เข้าซื้อโรงงาน และเปลี่ยนให้เป็นโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ทั้งหลายให้กับกองทัพภาคพื้นทวีป ในช่วงปฏิวัติอเมริกา…
-
การจากไปที่แสนเศร้า ของเจ้า “หมีแพนด้า” ที่แก่ที่สุดในโลกเสียชีวิตด้วยวัย 37 ปี
การจากไปของคนที่เรารู้จักหรือสัตว์ที่เรารัก สร้างความเศร้าโศกเสียใจและความเจ็บปวดให้กับคนใกล้ชิดอย่างมากมาย ยิ่งหากว่าเป็นที่รักของใครหลายคนด้วยแล้ว เรื่องราวต่างๆ ก็จะถูกเก็บไว้ไม่จางหายไปไหน หมีแพนด้า เป็นสัตว์ที่เราทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยความน่ารักน่าชัง สีสันที่เป็นเอกลักษณ์ ถึงขนาดที่บ้านเราเองมีช่องที่สามารถส่องตามติดชีวิตมันได้เลยทีเดียว หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าเจ้าสัตว์ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน จึงทำให้คนนประเทศนั้นรักพวกมันเป็นอย่างมาก และต้องแลกมาด้วยความเศร้าใจอย่างมากเช่นเดียวกัน เมื่อ Basi หมีแพนด้าที่อายุมากที่สุดในโลกได้ตายลงไป ในปัจจุบันยังคงไม่มีการพูดถึงอายุเฉลี่ยของแพนด้า ทว่าตามสถิติเจ้านี่คือตัวที่มีอายุยืนยาวที่สุด ซึ่งอยู่มานานถึง 37 ปี และตลอดเวลานั้นมันก็สามารถมีชีวิตได้อย่างเต็มที่ และสร้างความสุขให้กับใครหลายคน ตัวมันถูกช่วยเหลือมากจากบริเวณแม่น้ำที่เย็นจนจับตัวเป็นน้ำแข็งในมณฑลเสฉวน ปี 1984 ก่อนที่จะพามันไปอยู่บ้านใหม่ นั่นคือศูนย์วิจัยและแลกเปลี่ยนแพนด้ายักษ์ช่องแคบฝูโจว กายกรรมก็ไม่ใช่ปัญหา ต่อมาในปี 1990 มันก็ได้รับเลือกเป็นมาสค็อตให้กับกีฬา เอเชี่ยนเกมส์ และได้เดินทางไปโชว์ตัวในสวนสัตว์แซนดิเอโก ประเทศสหรัฐอเมริกา การเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้ดูตื่นเต้นไม่น้อย ช่วงชีวิตของมันหากเทียบกับมนุษย์แล้ว เรียกได้ว่ามันแก่กว่า 100 ปีเลยทีเดียว การจากไปของมันเป็นไปอย่างสงบและอบอุ่น ภายในบ้านที่คุ้นเคยที่เมืองฝูโจว วันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ทำท่านั่งได้คล้ายกับมนุษย์เลย ทุกคนที่เคยพบเห็นความน่ารักของมันและทางสถาบันที่เลี้ยงดูมันมาเอง…
-
หนุ่มไร้บ้านที่มีความสุขที่สุดในโลก เปิดให้คนมาเช่าตัวเองในราคา 15 บาท มานาน 4 ปี
คนไร้บ้านส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกโดยไม่มีหลักแหล่งที่แน่นอน อีกทั้งอาชีพการงานที่ไม่มีความมั่นคงไม่สามารถหาที่อยู่จริงๆ เป็นของตัวเองได้ ถ้าหากว่าเลือกได้นี่คงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากจะเป็น แต่นั่นไม่ใช่ความคิดของดาราตลกชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Kotani Makoto คนนี้ ที่ต้องออกมาใช้ชีวิตไร้บ้าน แต่กลับสามารถหาความสุขได้จากรายได้เพียง 15 บาทต่อวัน มายาวนานถึง 4 ปี เรื่องราวของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน ย้ายเข้ามาในเมืองโตเกียวเพื่อเส้นทางการเป็นนักแสดงตลก จนรู้ตัวว่าไม่อาจจ่ายค่าเช่าห้องได้ด้วยเองคนเดียว และย้ายไปอยู่กับดาราตลกอีกคนที่รู้จักในชื่อ King Kong Nichino หลังจากนั้นเพียง 2 เดือน เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ของเขาก็ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมเหลวไหล และไม่เป็นระเบียบ ทำให้พูดกับเขาว่า “นับจากวันนี้เป็นต้นไป นายควรเป็นคนไร้บ้านซะ แล้วชีวิตของนายจะดีขึ้น” จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต การต้องออกมานอนอยู่ข้างถนนเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เขาพยายามหางานพิเศษทำ แต่การสัมภาษณ์งานก็ไม่ได้เป็นไปในทางที่ดีนัก จนกระทั่งคนที่บอกให้เขาออกมาอยู่อย่างไร้ที่อยู่อาศัยนี้ ได้ให้คำแนะนำที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ นั่นคือเขาได้โพสข้อมูลและช่องทางติดต่อลงบนทวิตเตอร์และอนุญาตให้คนแปลกหน้าสามารถว่าจ้างเขาทำอะไรก็ได้ในราคา 15 บาท ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้มีลูกค้ามากมายติดต่อกลับมา ในตอนแรกก็ยังคงมีข้อสงสัยอยู่ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร ด้วยเงินจำนวนเพียงน้อยนิด แต่เมื่อได้ลองทำเขาก็รู้ได้เลยว่ามันเป็นไปได้จริงๆ ในเมื่อเงินค่าตอบแทนที่น้อยมากๆ จึงทำให้ลูกค้าทั้งหลายเลือกที่จะตอบแทนเป็นอย่างอื่นเพิ่มเติมทุกอย่างที่เขาจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ค่าเดินทาง อาหาร หรือแม้แต่ชวนไปนอนบ้านก็ยังมี…
-
หนุ่มหื่นกามวัย 25 ปี พยายามล่อลวงเด็กสาววัย 15 แถมอ้าง “ผมหน้าตาดีเกินกว่าจะเข้าคุก”
การระบายความกำหนัดอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เมื่อไหร่ที่ดันทะลึ่งไปทำเรื่องแบบนี้กับคนอื่นที่เขาไม่ได้ยินยอมหรืออายุไม่ถึงเกณฑ์ล่ะก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ เหมือนกับหนุ่มหื่นคนนี้ ที่พยายามล่อลวงสาวน้อยวัย 15 ปี แถมบอกอีกว่า “ผมหล่อเกินไปที่จะเป็นนักโทษนะครับ” Ryan Kirk หนุ่มหื่นวัย 25 ปีถูกตัดสินจำคุก 4 ปี หลังจากที่ใช้ความพยายามกว่าครึ่งปี เพื่อล่อลวงสาวน้อยผ่านทางเฟซบุ๊ก ชายหนุ่มรับสารภาพว่าได้ใช้โซเชียลมีเดียดังกล่าวในทำกิจกรรมทางเพศกับเด็กสาวมาแล้วถึง 3 ครั้ง ชายคนดังกล่าวถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิเสธคำให้การก็ตาม ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจเมือง South Yorkshire ก็ได้ออกมายกย่องความกล้าของเหยื่อที่ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของหนุ่มหื่นรายนี้ “เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่นาย Kirk พยายามที่จะล่อลวงสาวน้อยคนนี้ และพยายามบังคับให้เธอมีเซ็กส์กับเขา โดยที่ Kirk รู้จักกับเด็กหญิงคนดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุได้ 22 ปี แต่หลอกเธอว่าเขาอายุแค่เพียง 19 ปีเท่านั้น… และหลังจากที่เริ่มสนิท ชายคนดังกล่าวก็เริ่มชักชวนเหยื่ออกไปข้างนอก และขอมีเพศสัมพันธ์กับเธอ โดยอ้างว่าเธออายุมากพอที่จะทำเรื่องแบบนี้แล้ว พร้อมกับพูดจาลวนลามเธอต่างๆ นานา” คุณ Lee Corker เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก South Yorkshire กล่าว ชายหนุ่มคนดังกล่าวทั้งข่มขู่และใช้ประโยชน์จากเด็กหญิง และเมื่อเขารู้ว่าเธอเริ่มติดต่อกับตำรวจ…
-
ศิลปินนำ “อึ” ตัวเองบรรจุกระป๋องให้เป็นงานศิลปะ จนกลายเป็นผลงานที่มีมูลค่านับล้านบาท
พูดถึง “อึ” ปุ๊บ หลายคนถึง “ยี้” ทันที โอ้ยก็มันเป็นขี้อะ ใครๆ ก็รังเกียจกันทั้งนั้น แต่เดี๋ยวก่อน เพราะในขณะที่เราพากันรังเกียจขี้นั้น มีใครคนหนึ่งทำให้ขี้กลายเป็นงานศิลปะ แถมยังมีมูลค่าจนทำให้ได้ดีในทุกวันนี้ นี่คืองานศิลปะที่ชื่อว่า Artist’s Shit เป็นการบรรจุขี้ใส่กระป๋อง ปริมาณ 30 กรัม โดย Piero Manzoni ศิลปินชาวอิตาเลียน และมีนักสะสมซื้อไปในราคาหลายหมื่นบาท Manzoni ได้ไอเดียการนำขี้มาทำเป็นงานศิลปะครั้งแรกเมื่อปี 1961 โดยการใช้ขี้ตัวเองบรรจุในกระป๋องขนาด 30 กรัม จนวันหนึ่งเขาก็ได้ขายมันในราคาที่แพงอย่างเหลือเชื่อ ในปี 2007 แกลเลอรี่ศิลปะ Tate ในกรุงลอนดอนได้ซื้อกระป๋องบรรจุขี้ของ Manzoni จำนวน 90 กระป๋อง มูลค่ารวม 900,000 บาท ในปีเดียวกันนี้กระป๋องบรรจุขี้ของ Merda d’Artista ก็ได้ถูกประมูลในมิลาน โดยมีราคาประมูลสูงถึง 3,500,000 บาท มันฟังดูบ้ามากใช่มั้ย แต่นั่นยังน้อยไป เพราะราคากระป๋องขี้ของ Manzoni ล่าสุด สูงถึง 13…
-
อดีตนักรักบี้ เล่าถึงประสบการณ์ของพ่อตา ที่เคยถูกหมาแทะเท้าจนนิ้วโป้งหายวับไปกับตา!!
(อาจมีภาพที่รุนแรงประกอบภายในเนื้อหา และไม่เหมาะสำหรับคนกลัวเลือด) การที่เราเลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้านนั้น เป็นเพราะด้วยความไว้ใจของสัตว์เลี้ยงน่ารักที่ไม่มีทีท่าจะทำร้ายเราได้ แต่หารู้ไม่ว่าการปล่อยปละละเลยบางสิ่ง ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายของเราได้อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว… Campbell Brown อดีตนักกีฬารักบี้ฟุตบอลสัญชาติออสเตรเลีย ผู้เคยเล่นให้กับทีม Gold Coast Football Club ได้ออกมาเล่าถึงเรื่องราวสุดสยองของพ่อตาของเขา ที่ถูกสุนัขพันธ์เล็กที่เลี้ยงไว้แทะหัวนิ้วโป้งเท้าจนขาด!? เขาเล่าว่า Tom ผู้เป็นพ่อตานั้นได้นอนหลับและตื่นขึ้นมาพบเลือดที่อาบอยู่เต็มเตียง พร้อมกับนิ้วโป้งเท้าซ้ายที่หายไป และประกอบกับอาการป่วยเป็นโรคเบาหวานของเขา ผลของโรคร้ายก็ทำให้เขาไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณเท้า จึงทำให้เขาไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเวลานั้น และจากเหตุการณ์ความเสียหายในครั้งนี้ ก็ถูกค้นพบว่า Sabel สุนัขชิวาว่าที่พวกเขาเลี้ยงไว้คือต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ซึ่ง Campbell ยังเล่าว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เมื่อสองปีก่อนสุนัขของเขาก็ทำแบบนี้เช่นกัน… โดยย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อนนั้น ทางครอบครัวก็ได้ปล่อยให้เจ้าหมานอนอยู่ที่ปลายเตียงของพ่อตา และแล้วก็เกิดขึ้นกับนิ้วโป้งเท้าข้างขวาของคุณพ่อตา Tom โดยเหตุการณ์ในครั้งแรกก็คล้ายกันเลย นั่นก็คือตื่นมาพบกับเลือดที่อาบเต็มเตียงไปหมด แน่นอนว่า Campbell เห็นแบบนั้นจึงสั่งให้จัดการเจ้า Sabel ซะ แต่ภรรยาของเขาไม่เห็นด้วยจึงยังทำการเลี้ยงมันต่อมา… สภาพเละสุดๆ รักษาปกติคงเอาไม่อยู่อีกแล้ว มันเละซะจนต้องตัดออก และทำแผลโดยไร้นิ้วโป้งเท้า ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ผ่านมาได้สองปี เจ้า Sabel ก็ยังคงไม่ลืมรสชาติเท้าของลุง Tom…
-
นี่คือ ‘นิทานก่อนนอน’ ของเด็กในเยอรมันที่น่าขนลุก จนไม่คิดว่าเป็นหนังสือเด็ก
หนังสือนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กมักจะเป็นเรื่องเหนือจินตนาการที่แฝงไปด้วยข้อคิด และที่ขาดไม่ได้คือรูปภาพประกอบที่มีความน่ารัก เหมาะสมกับเด็กๆ แต่มีนิทานก่อนนอนของเยอรมันเรื่องหนึ่งชื่อว่า Struwwelpeter ที่ประกอบไปด้วยเรื่องราวแปลกๆ และภาพที่ดูน่าขนลุก จนไม่คิดว่าถูกเขียนขึ้นมาเพื่อเด็ก ภายในหนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเรื่องย่อยๆ ที่มีเนื้อหาที่รุนแรง ตั้งแต่การเล่นอะไรแปลกๆ ไปจนถึงการตายอย่างน่ากลัว เนื้อหาของเรื่อง Struwwelpeter เริ่มด้วยเรื่องของเด็กผู้ชายที่ไม่ได้ดูแลตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น และด้วยเหตุนี้ทำให้เขากลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจ ในเรื่อง The Dreadful Story of the Matches เด็กผู้หญิงเล่นกับไม้ขีดไฟ แล้วเกิดพลาดท่า ทำให้ถูกไฟไหม้จนตาย เรื่อง The Story of the Black Boys มีคนที่ชื่อ Nikolas ได้จับตัวเด็กที่ไปล้อคนผิวสี แล้วสอนบทเรียนให้พวกเขาด้วยการใช้หมึกสีดำมาทาตัวทุกคน เรื่อง The Story of the Thumb-Sucker เป็นเรื่องของแม่ที่ตักเตือนลูกไม่ให้ดูดนิ้วมือ แต่เมื่อลูกออกไปข้างนอก เธอกลับดูดนิ้ว จนช่างเย็บผ้าเห็นเข้า ก็เลยใช้กรรไกรยักษ์ตัดนิ้วมือเด็กคนนั้นจนขาด เรื่อง The Story of the Soup-Kaspar เป็นเรื่องของ Augustus…
-
สุดสลดใจ… เจ้าม้าล้มพับกลางทาง จากการลากรถคู่บ่าวสาว ผ่านเนินสูงและแดดร้อนระอุ
การเดินทางโดยรถม้านั้นมีมาอย่างยาวนาน และยังคงสามารถพบเห็นได้ในบางพื้นที่ ยังคงมีเสน่ห์และความโรแมนติกที่ทำให้สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากนั่ง เหมือนกับได้เป็นเจ้าหญิงในเทพนิยาย ตัวแปรสำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนอย่าง ‘ม้า’ ก็ยังคงเป็นสิ่งมีชีวิตมีร่างกายและจิตใจไม่ต่างไปจากสิ่งอื่นๆ เพราะถึงแม้ว่าจะดูแข็งแรง ในบางครั้งพวกมันอาจจะอ่อนเพลียมาก แต่ไม่อาจบอกให้เรารับรู้ได้เช่นนั้น… อย่างภายในคลิปวิดีโอของเจ้าม้าสีขาวที่ดูสง่างาม กำลังทำหน้าที่ลากรถพาเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าสู่พิธีสมรส แต่อยู่ดีๆ มันก็นอนล้มพบกลางถนน ทำให้เจ้าบ่าวและแขกเหรื่อที่อยู่ใกล้ๆ ต้องเข้ามาช่วยกันยกโครงลากเลื่อนที่ยังติดกับตัวมันออกไป เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในแคว้นซิชิลี ประเทศอิตาลี ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกถ่ายมาโดยผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้น ก่อนที่จะนำมาเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ เหตุผลที่ทำให้เจ้าม้าลงไปนอนอยู่กับพื้นนั้น อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่ต้องวิ่งกลางแสงแดดอันร้อนระอุ อีกทั้งยังต้องลากรถเลื่อน ที่มีน้ำหนักรวมกับผู้โดยสารมากถึง 400 – 800 กิโลกรัม โดยผ่านเส้นทางขึ้นเนินตรงไปยังโบสถ์ ซึ่งถ้าจะหนักหนาขนาดนี้ ก็คิดว่าคงไม่น่าแปลกใจที่มันจะล้มลงไป… คลิปวิดีโอผู้คนกำลังช่วยกัน ถอดโครงเหล็กลากรถเลื่อนออกจากตัวม้า แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ก็สร้างความไม่พอใจให้กับใครหลายคน พวกเขาจึงออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมายในโลกโซเชียลในทำนองว่า… “พวกเขาทำในสิ่งที่น่าอับอาบขายหน้าเป็นอย่างมาก” “เป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ!! เพราะไม่ควรมีม้าตัวไหน ที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ดำเนินคดีพวกเขาไปซะเลย” “เป็นเรื่องที่แย่จริงๆ เพราะปัจจุบันพวกมันไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องมาวิ่งอยู่บนถนนแล้ว” ทางด้านโฆษกกรมคุ้มครองสัตว์แห่งอิตาลี ก็ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าวไว้ว่า “เราได้ทำการเขียนหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อให้พวกเขารายงานสภาพของเจ้าม้ากลับมาทางเรา”…
-
ชาวประมงรัสเซียนำ ‘ปลามูนฟิช’ ขนาด 1.2 ตัน ไปเป็นอาหารหมี แทนที่จะมอบให้พิพิธภัณฑ์
ขนาดที่ใหญ่โตผิดธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตมากมายบนโลก น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นกัน เหมือนกับเจ้าปลาตัวนี้ที่ถูกจับโดยชาวประมงในรัสเซีย ซึ่งมันมีน้ำหนักมากกว่า 1 ตันเลยทีเดียว สิ่งมีชีวิตที่มาพร้อมกับขนาดอันมโหฬารตัวนี้ คือ ปลามูนฟิช ที่ถูกจับได้บริเวณชายฝั่ง Iturup หมู่เกาะคูริล ประเทศรัสเซีย ในช่วงวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา โดยทั่วไปที่จะพบเห็นกันน้ำหนักของปลาชนิดนี้จะอยู่ที่ราวๆ 300 กิโลกรัม และน้ำหนักของตัวที่ใหญ่ที่สุดก็คือ 2.2 ตัน ถูกจับขึ้นมาในปี 1908 ทว่าเจ้าตัวนี้กลับมีขนาดอยู่ที่ 1.2 ตันซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในบริเวณนั้นเลยทีเดียว โดยที่ Arthur Balkarov หนึ่งในชาวประมงท้องถิ่นกล่าวว่า… “แถวๆ นี้ไม่ค่อยจะมีปลาตัวใหญ่ขนาดนี้หรอก อย่างพวกตระกูลปลาหนังที่พบก็มีขนาดตัวเฉลี่ยทั่วๆ ไป และมีความยาวสุดๆ ก็ 1.5 เมตร ทว่าเจ้าตัวนี้กลับเป็นปลามูนฟิชตัวเดียวในละแวกนี้ ที่มีน้ำหนักมากกว่า 1 ตัน” และเมื่อจับเจ้าตัวนี้ขึ้นมาได้ชาวประมงกลับแขวนมันทิ้งไว้นานกว่า 1 วัน จนในที่สุดมันก็ตายลงไป หลังจากนั้นก็ตัดแบ่งเนื้อของมันทั้งหมด และไปโยนทิ้งไว้เพื่อเป็นอาหารให้กับหมีในป่าแทน ถูกแขวนทิ้งไว้จนกลายเป็นซากที่ไร้ชีวิต ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่พวกเขาได้ถ่ายโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากชาวเน็ตเยอะมากๆ…
-
ภาพการเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจของคุณตา “เขี้ยวเหล็ก” ผู้เสพติดการกินแก้วมานานกว่า 32 ปี
พวกเราทุกคนมีความชอบในเรื่องของอาหารการกินที่แตกต่างกันไป บางคนชอบกินปลา ชอบผัก หรือว่าชอบเนื้อก็คงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าชอบกินแก้วอย่างคุณตาคนนี้คงไม่ใช่จะได้เห็นกันง่ายๆ คุณตาคนดังกล่าวมีชื่อว่า Liu Zundun วัย 71 ปี ผู้มีงานอดิเรกและความสามารถที่แปลกประหลาด เพราะเขาชื่นชอบในการกินแก้วมานานกว่า 32 ปีแล้ว มีภาพแสดงให้เห็นเขาหยิบแก้วน้ำขึ้นมา กัดเข้าปาก เคี้ยวดังกรุ๊บๆ เหมือนกับมันเป็นอาหารที่คนเรากินได้ทั่วไป ก่อนที่จะกลืนน้ำตามลงไป โดยไม่มีอาการอะไรเลย และถึงแม้ว่าตัวเขาจะชื่นชอบสิ่งนี้ โดยเฉพาะการกินแก้วเบียร์ ทว่าเขากลับไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลยแม้แต่น้อย ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังดื่มด่ำและเมามายไปกับพิษของสุรา ตัวเขาก็จะนั่งเคี้ยวแก้วไปแบบสบายใจ ความสามารถพิเศษของเขานี่เองที่ทำให้เวลาไปไหนมาไหน ผู้คนก็จะขอให้เขาช่วยแสดงให้ดูจนกลายเป็นความเคยชิน ถึงขนาดที่ว่าผู้อยู่อาศัยในเมืองเดียวกันกับเขา บอกว่าเขาจะถูกขอแสดงให้ดูในทุกงานแต่งเลยทีเดียว งั่มๆๆ แน่นอนว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นี้คงจะไม่แปลกหากเขาจะมีอาการป่วยที่ท้องหรือลำคออยู่บ้าง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีความผิดปกติเหล่านั้นเลย เขาบอกว่าสิ่งเดียวที่แปลกไปในตัวเองคือฟันซี่หนึ่งที่แข็งแรงกว่าซี่อื่น ทั้งที่ควรจะอ่อนแอไปตามอายุ และสิ่งนี้ก็ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “เขี้ยวเหล็ก” ทั้งหมดนี้อาจเป็นไปได้ว่านี่คืออาการที่เรียกว่า Pica ซึ่งทำให้มีนิสัยชอบกินในสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร เหมือนกับกรณีของเด็กออทิสติกชาวอังกฤษวัย 4 ขวบชอบกินพลาสติก และแรงงานในอินเดียที่ชอบกินทราย ใช้ฟันกัดซะแหว่งเลย …
-
คุณหมอชาวจีนลงทุนเอากล้องสวนทวารด้วยตัวเอง เพื่อที่จะเข้าใจความรู้สึกคนได้ดียิ่งขึ้น
หลายคนมักจะคิดว่าหมอคือคนที่รู้ทุกอย่าง เข้าใจทุกอาการ แต่จริงๆ แล้วหมอก็พูดไปตามทฤษฎีและประสบการณ์จากคนไข้ที่ผ่านมานั่นแหละ เพราะหมอไม่ได้ประสบกับทุกโรคด้วยตัวเอง แต่นั่นไม่ใช่สำหรับคุณหมอเฟิ่งโจว รองผู้อำนวยการแผนก Proctology Department ของโรงพยาบาลเซี่ยงไฮ้ เพื่อที่จะเข้าใจคนไข้ได้ดียิ่งขึ้น คุณหมอเฟิ่งถึงกับใช้กล้องสวนทวารด้วยตัวเองเป็นเวลา 15 นาที เพื่อที่จะรู้ว่ามันรู้สึกยังไง สำหรับคนที่เคยตรวจด้วยการสวนทวารแบบนี้คงจะเข้าใจความรู้สึกนั้นดีว่า มันทั้งปวด หน่วง และรู้สึกอึดอัดในเวลาเดียวกัน วัตถุประสงค์หลักที่คุณหมอลงทุนสวนกล้องด้วยตัวเองคือเพื่อที่จะพัฒนาทักษะการผ่าตัดของเขา และเพื่อที่จะได้รู้แต่ละขั้นตอนนั้นควรจะทำอย่างไรให้คนไข้รู้สึกสบายตัวที่สุด หลังจากที่ลองสวนกล้องใส่ทวารเรียบร้อยแล้ว คุณหมอเฟ่ย ได้โพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์เหล่านี้ลงในหน้า WeChat ของตัวเอง โดยอธิบายว่า เวลาที่แพทย์ทำการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ควรจะทำด้วยความเบามือ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนไข้รู้สึกปวด แต่ทางที่ดีควรใช้ยาระบายคุณภาพดีๆ จะดีกว่า จริงๆ แล้ว หมอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก แต่คุณหมอคนนี้คิดว่าเพื่อความปลอดภัย และการอยู่รอดของคนไข้แล้ว มันคุ้มที่จะเสี่ยงนะ แบบนี้สิ ถึงจะเรียกว่าเป็นหมอที่เข้าใจคนไข้จริงๆ ที่มา odditycentral
-
โมเม้นต์น่ารัก เมื่อเจ้าเมียร์แคทโจมตีเสือชีต้าร์ แต่พี่เสือคิดว่าตัวเองโดนลูบ ฟินเฉยเลย!!
ใครจะไปคิดว่าสัตว์นักล่าอย่างเสือชีตาร์จะมีโมเม้นต์อ่อนโยน มุ้งมิ้งกับเค้าด้วย โดยเฉพาะเจ้าตัวที่ชื่อ Kinji ที่เป็นมิตรกับสัตว์เล็กสัตว์น้อยเกือบทุกตัว Kinji อาศัยอยู่ที่ Cheetah Experience องค์กรไม่หวังผลกำไรในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงสำหรับสัตว์หลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะสัตว์ที่ถูกคุกคามอย่าง เสือชีตาร์ เสือดาว สิงโตตัวผู้ เสิร์ฟ แคราแคล แมวป่าแอฟริกัน หมาป่า เมียร์แคท และเสือไซบีเรีย สำหรับ Kinji นั้น มันชอบเมียร์แคทมากๆ และมักจะไปหาพวกมันอยู่บ่อยๆ แต่ทางด้านเมียร์แคท มันเห็นเสือชีตาร์เป็นศัตรูที่จะมาคุกคามพวกมัน ดังนั้นเมื่อ Kinji เข้ามาใกล้ มันจะพยายามโจมตีเพื่อป้องกันตัวที หารู้ไม่ว่าการโจมตีของพวกมันถูกใจเจ้า Kinji มาก เพราะการที่ถูกเมียร์แคทโจมตีด้วยอุ้งมือเล็กๆ ทำให้มันคิดว่าพวกมันเล่นด้วย และรู้สึกฟินเหมือนกำลังโดนลูบยังไงอย่างงั้น นี่เป็นเหตุผลที่มันมาหาเจ้าสัตว์เล็กพวกนี้บ่อยๆ ยังไงล่ะ ผู้ดูแล Dolph C. Volker บอกว่า “ปกติแล้ว Kinji จะไม่ค่อยทำเสียงคำราม แต่มีเพียงพวกเมียร์แคทเท่านั้นที่ทำให้มันเผยเสียงแห่งความฟินออกมาได้” เห็นได้ชัดว่า Kinji ชอบและรู้สึกฟินเมื่อถูกเกาตัว เหมือนที่พวกเมียร์แคททำ แม้ว่าจริงๆ…
-
หนุ่มแอบขโมยสุนัขเพื่อนบ้านไปทำอาหารขาย โดนเจ้าของหมาไล่ตามสืบจนจับตัวได้
ในขณะที่คนส่วนใหญ่เลี้ยงสุนัขด้วยความทะนุถนอมด้วยความรักและเอ็นดูพวกมันเหมือนลูกคนหนึ่ง แต่ยังมีคนอีกกลุ่มที่เห็นสุนัขเป็นอาหาร และฆ่าพวกมันอย่างเหี้ยมโหด เหมือนกับเจ้าของร้านอาหารในเมืองยี่ฉางในมณฑลเหอเป่ย ที่แอบขโมยและฆ่าสุนัขในละแวกใกล้เคียงเพื่อไปทำอาหาร แต่สุดท้ายก็โดนเจ้าของหมาตามสืบจนเจอ เช้าวันพุธที่ผ่านมา ตำรวจในเมืองยี่ฉาง ได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งว่า สุนัขของเขาถูกฆ่าและตอนนี้มันอยู่ในรถ และเขากำลังไล่ตามรถคันนั้น เมื่อตำรวจมาถึงที่รับแจ้ง ก็พบรถสีดำคันหนึ่งจอดทิ้งไว้บนทางเท้า โดยมีล้อข้างหนึ่งหลุด คาดว่าน่าจะผ่านการชนมาอย่างรุนแรง วันต่อมาได้มีการเผยแพร่คลิปในสื่อออนไลน์ของประเทศจีน เป็นเหตุการณ์ขณะที่เจ้าของหมาตามรถที่ขโมย ก่อนจะชนเข้าที่ท้ายรถ จนทำให้รถคันดังกล่าวขึ้นมาอยู่บนทางเท้าอย่างที่เห็น คนที่เหตุการณ์เล่าว่า หลังจากที่เกิดเหตุ คนที่ขับรถคันนี้ได้วิ่งหนีไปทันที จากนั้นตำรวจก็ได้เปิดดูท้ายรถ ปรากฏว่าในนั้นมีสุนัขที่ตายแล้วถึง 8 ตัว ซึ่งบางตัวเป็นหมาของชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง คนร้ายลอยนวลได้ไม่นาน ตำรวจก็ตามจับตัวจนได้ เขาให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆ ในท้องถิ่น โดยที่รู้จักกันในชื่อ dog hot pot และเพื่อที่จะทำเมนูพิเศษสำหรับลูกค้า เขาจึงได้ออกไปล่าสุนัขในตอนเช้ามืด โดยมีภรรยาเป็นคนคอยเก็บสุนัขที่เขาฆ่าตายมาใส่ไว้ในรถ ขณะที่ยังไม่สามารถระบุโทษที่ชัดเจนสำหรับผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากจีนมีกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่หละหลวมมาก ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องทำการพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง มนุษย์หนอ กะจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าหรือไง ที่มา shanghaiist
-
ร้านอาหารทำพิซซ่า 200 ถาด แจกเจ้าหน้าที่กู้ภัย หลังเกิดเหตุระเบิดรถไฟในกรุงลอนดอน..!!
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2017 ได้เกิดเหตุระเบิดในรถไฟใต้ดินที่กรุงลอนดอน ณ สถานีพาร์สันน์ ทำให้มีผู้โดยสารหลายคนได้รับบาดเจ็บ และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนในท้องที่ โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าทั้งหมดน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวรอยเตอร์เผยว่า ต้องใช้รถดับเพลิงฉุกเฉินถึง 6 คัน และเฮลิคอปเตอร์ประจำการอีก 1 ลำ ในเหตุการณ์ร้ายๆ ก็มักจะมีเรื่องดีๆ แฝงอยู่เสมอ… เพราะหลังจากเจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างหนัก Teo Catino เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียน Il Pagliaccio ที่ตั้งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ได้อาสาทำพิซซ่ากว่า 200 ถาด แจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานฟรี เจ้าตัวนำน้ำดื่มและพิซซ่าทั้งหมดที่ทำมาเดินแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ในบริเวณนั้น Teo Catino ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “ผมและครอบครัวอาศัยอยู่ในย่านนี้มานานกว่า 25 ปีแล้ว ทุกๆ วันภรรยาและลูกของผมต้องเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสายนี้ แต่วันนี้กลับเกิดเหตุที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้น ผมก็อยากจะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทุกคนตามกำลังที่เราพอจะทำได้” นอกจากจะใจดีแล้ว เจ้าหน้าที่หลายคนยังชมเป็นเสียงเดียวกันว่า.. พิซซ่าของ Teo อร่อยจริง!! ลำพังจะเดินแจกอย่างเดียวก็กลัวจะไม่ทัน พนักงานของร้านก็ช่วยกันไถสเก็ตบอร์ดแจกพิซซ่าให้เจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน …
-
เฮิร์ทแบบคูลๆ… หนุ่มประกาศจะเล่นเปียโนไม่หยุด เพราะอกหักจากรักที่เธอไม่เอา~
เรื่องเฮิร์ทๆ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากเจอ ก็แหงล่ะ… เมื่อเราได้รู้สึกตกหลุมรักใครซักคนแล้ว เราก็อยากจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจเธอ แต่บางทีความรักก็มักไม่เข้าข้าง เหมือนกับพ่อหนุ่ม Luke Howard วัย 34 ปี ที่ถูกแฟนสาวที่คบกันมาได้ 4 เดือน (ห๊ะ!!) ทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย เจ้าตัวเลยขอประกาศระบายความโศกไปกับโน๊ตเปียโนในที่สาธารณะซะเลย แด่ความรัก… ผมชื่อ Luke และวันนี้ผมจะมาเล่นเปียโนให้กับรักที่เพิ่งผ่านพ้นไป (แถมมีบอกให้ไลค์&แชร์ เพจบนเฟซฯ ด้วยนะ) ถ้าเป็นเราก็อาจจะเปิดเพลงเศร้าเคล้าน้ำตาที่เจิ่งนอง แล้วก็เอาฝักบัวมาสาดน้ำใส่หัวให้ดูเศร้าหมอง แต่ Luke Howard ลงทุนเล่นใหญ่กว่านั้น เขาจัดแจงนำเงินเก็บไปซื้อเปียโน จากนั้นก็นำมาตั้งไว้กลางที่สาธารณะในเมืองบริสตอล รัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐฯ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่า “ผมมาที่นี่เพื่อเล่นเปียโน… เพราะผมก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรดี” ทุกๆ ฉาก ทุกๆ ตอน ฉันจะคิดถึงเธอเสมอนะลินดา… (แฟนเค้าไม่ได้ชื่อลินดานะ) พ่อหนุ่มเล่าถึงความสัมพันธ์ของตนกับอดีตแฟนสาวไว้ว่า… “ผมตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอเป็นคนที่วิเศษมากๆ ผมไม่เคยเจอใครแบบนี้มาก่อน แต่สุดท้ายก็เหมือนกับว่าเราสองคนไปกันต่อไม่ได้ ผมขอเลือกที่จะไม่ยอมแพ้และตัดใจ แต่ผมจะพิสูจน์ให้เธอเห็นถึงความรักด้วยการเล่นเปียโนอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะแดดออก…
-
บริษัทจีนเปิดตัว ‘บริการเช่าตุ๊กตายาง’ พร้อมเลือกสเปคสาวๆ ได้ พาไปนอนจับมือคลายเหงา!!
เราคงต้องยอมรับกันจริงๆ แล้วแหละ ว่าเทรนด์ตุ๊กตายางเป็นอะไรที่มาแรงมากๆ ไม่ว่าจะด้านนวัตกรรมฟังก์ชั่นที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด จนล่าสุดมีบริษัทจีนเปิดตัวแอพฯ ให้เช่าไปนอนกอดกันได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส แอพฯ ดังกล่าวใช้ชื่อว่า ‘Touch’ (น่าสัมผัสมากจ๊ะ) และเพิ่งจะประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนไปเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2017 ตัวอย่างคอสตูมของสาวๆ ตุ๊กตายาง มีตั้งแต่นักเรียน พยาบาล สาวห้าว หรือวันเดอร์วูแมนก็มี บริษัท Touch ตั้งอยู่ในเมืองฟู๋เจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน โดยในช่วงแรกบริษัทจะเปิดให้บริการเฉพาะในเมืองเซี่ยงไฮ้ก่อน และเมื่อผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ บริษัทก็จะขยายบริการให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ตามลำดับ ค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่าตุ๊กตายางต่อ 1 วัน ก็จะประกอบไปด้วย… ค่ามัดจำตัวน้องนางจำนวน 8,000 หยวน (ราว 40,000 บาท) และค่าบริการอีกจำนวน 298 หยวน/วัน (ราว 1,500 บาท) ไม่ต้องกลัวว่าจะได้สัมผัส ‘จิมมี่’ โดยมีคราบสกปรกของผู้เช่าเก่าติดอยู่ เพราะบริษัทเคลมว่าจะมีการเปลี่ยนอวัยวะส่วนนั้นใหม่ทุกครั้งก่อนให้บริการ บริษัทเปิดตัว 5 สาวตุ๊กตาเซ็กส์ดอลที่ถอดแบบมาจากหญิงสาวรูปงามของประเทศ…
-
14 เรื่องน่าสนใจจากเมืองจีน ที่จะทำให้คุณมองดินแดนมังกรแห่งนี้ เปลี่ยนไปจากเดิม…
หากใครได้ติดตามข่าวเศรษฐกิจโลกบ้าง ก็พอจะทราบได้ว่าช่วงนี้เศรษฐกิจประเทศจีนกำลังมาแรงสุดๆ อย่างน้อยก็เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ออกเดินทางไปจับจ่ายใช้เงินกันทั่วโลก ด้วยความที่ ‘จีน’ เป็นประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาลเอามากๆ จึงทำให้ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย และทั้งหมดนี้คือ 14 สิ่งน่าสนใจจากเมืองจีน ที่จะทำให้เราเข้าใจในวัฒนธรรมของประเทศนี้มากยิ่งขึ้น 1. มีเมนูเปิบพิศดารเยอะที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ นับว่าเป็นความยูนีคอย่างหนึ่งเลยล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็น… หมา แมว เต่า จระเข้ กิ้งก่า กิ้งกือ แมลงป่อง แมลงสาบ หรือแม้แต่กรณีเนื้อคนก็เคยมีออกข่าวให้เห็นมาแล้ว!! 2. เด็กๆ ที่จีนจะมีกางเกงแบบเปิดก้น เป็นนวัตกรรมอย่างหนึ่งที่เราจะได้เห็นบ่อยๆ หากลองไปเยือนประเทศจีนดูซักครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเด็กน้อยวัย 2 – 3 ขวบ มักจะสวมใส่กางเกงแบบเปิดก้น สาเหตุก็เพราะเวลาที่เด็กอยากจะขับถ่ายตรงไหนก็ถ่ายได้เลยไม่ต้องวิ่งหากระโถน 3. จีนมีรถไฟความเร็วสูงไม่แพ้ประเทศอื่นใดในโลก มีเส้นทางสายหนึ่งในจีนที่ให้บริการรถไฟความเร็วสูง (350 กม./ชั่วโมง) จุดประสงค์ก็เพื่อกระจายระบบขนส่งสาธารณะให้เข้าถึงถิ่นฐานทุรกันดาร อีกทั้งในปี 2010 จีนยังเคยทำสถิติความเร็วรถไฟได้สูงถึง 486 กม./ชั่วโมง เลยทีเดียว 4. ตัดผมกันข้างทางเป็นเรื่องธรรมดา ในสังคมที่ทุกคนต้องรีบเร่งทำงานอย่างขยันขันแข็ง…
-
มือปืนโหดพาเด็กออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนลงมือกระหน่ำยิงเหยื่อจนเสียชีวิต
เรื่องราวเกิดขึ้นในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเมืองมาราไกโบ ประเทศเวเนซุเอล่า เมื่อชายหนุ่มนิรนามสวมหมวกและปกปิดหน้าตาผู้นี้ เดินเข้ามาในร้าน ก่อนที่จะดึงแขนสาวน้อยที่กำลังเดินเข้ามาในที่เกิดเหตุออกไป และลงมือกระหน่ำยังเป้าหมาย โดยมือปืนพุ่งเป้าไปที่นาย Climaco Segundo Uriana หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี และลงมือยิงไปทั้งสิ้น 4 นัดด้วยกัน หลังจากที่เหยื่อล้มลงกับพื้น ผู้คนในร้านต่างตื่นตกใจกันอย่างมาก ฆาตกรอาศัยจังหวะดังกล่าวหลบออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นภาพอันน่าสยดสยองของมือปืนคนหนึ่ง กำลังเดินเข้ามาในร้านกาแฟ เพื่อจัดการเหยื่อของเขา แต่บังเอิญมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ภายในร้านด้วย เขาจึงตัดสินใจดึงตัวเด็กผู้หญิงคนนี้ออกไปก่อน จากนั้นก็กระหน่ำยิงไปที่เหยื่อถึง 4 นัด ก่อนที่จะหลบนีไปอย่างไร้ร่องรอย อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจับกุมมือปืนคนดังกล่าว แต่ทางตำรวจท้องถิ่นสันนิฐานว่านาย Uriana อาจมีส่วนเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนของประเทศ ที่มา dailymail
-
สามีต้องแอบอัดคลิป เพื่อใช้ฟ้องภรรยา ในข้อหา “ทำร้ายร่างกายสามี” มานานกว่า 9 ปี!!
การที่คนสองคนได้ตกลงปลงใจแต่งงานกันเป็นเรื่องที่น่ายินดี มันหมายถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่ของทั้งสอง เมื่อแต่งงานกันแล้วก็ต้องดูแลซึ่งกันและกัน จะถึงวันที่ต้องพลัดพรากจากไป ชีวิตคู่สามี ภรรยาก็เหมือนลิ้นกับฟัน อาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง การให้อภัยไม่ถือโทษโกรธกันก็เป็นทางหนึ่งที่จะทำให้ชีวิตคู่ยืนยาว แต่วิธีการนี้ก็ใช้ไม่ได้กับทุกคู่เสมอไป นาย Neil Tweedy และ Helen Tweedy สามีภรรยาคู่หนึ่งในเมือง แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ หลังจากที่แต่งงานกันมา 9 ปี ก็เริ่มมีปัญหากับชีวิตคู่ซะแล้ว นาย Neil ได้เข้าแจ้งความและทำการฟ้องร้องนาง Helen ในข้อหาทำร้ายร่างกาย หลังจากที่เขาทนเรื่องนี้มานานหลายปีแล้ว ตลอดเวลาที่เขาโดนภรรยาทำร้ายร่างกายนั้น เขาได้เข้าแจ้งความกับตำรวจหลายรอบแต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะโดนภรรยาทำร้ายร่างกายจริงๆ จนกระทั่งเขาได้นำกล้องวงจรปิดแอบมาติดตั้งภายในบ้านเพื่อบันทึกหลักฐาน และแล้วเขาก็ได้คลิปวิดีโอที่ยืนยันว่าภรรยาทำร้ายร่างกายเขาจริงๆ เขาได้นำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่ Helen ทำร้ายร่างกายเขาต่อหน้าลูกสาววัย 4 ขวบให้กับศาลเพื่อตัดสินคำฟ้องร้องทันที นอกจากนี้เขายังได้รายงานอีกว่าเธอเคยทำร้ายร่างกายเขาต่อหน้าครอบครัวอีกด้วย Helen ได้ทำร้ายร่างกายเขานับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่คืนแรกที่เข้าแต่งงาน และมาเริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปีที่ผ่านมา เธอมีอาการติดแอลกอฮอล์ อีกทั้งเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพจิต ศาลได้ตัดสินให้ Helen ถูกจำคุกและห้ามติดต่อกับนาย Neil เด็ดขาด เป็นเวลา…
-
หนุ่มโครเอเชียผ่าตัดศัลยกรรมจมูก แต่เกิดผลข้างเคียง ที่ทำให้ “จุ๊ดจู๋” แข็งอยู่ตลอดเวลา
ปัจจุบันการศัลยกรรมเพื่อความงามกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากทั่วโลก เป็นการศัลยกรรมให้ใบหน้าหรือส่วนต่างๆ ของร่างกายที่บกพร่องได้มีรูปที่สวยงามมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในระดับสูงมากจริงๆ เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องของผู้ที่เสพติดการศัลยกรรมที่ชื่อว่า Neven Ciganovic กับการศัลยกรรมครั้งล่าสุดที่มันทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก Neven ได้เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมมากว่า 12 ครั้ง ทั้ง จมูก ปาก คางและส่วนอื่นๆ จนถือได้ว่าเป็นผู้ที่เสพติดการศัลยกรรมเป็นอย่างมาก จนกระทั่งวันที่เขาได้เข้าไปศัลยกรรมเพื่อแก้ไขจมูกอีกครั้ง . แต่ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดส่งผลให้เขาเกิดอาการ อวัยวะเพศแข็งตัวตลอดเวลาทันที แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขาน่าจะเป็นอาการที่เรียกว่า Priapism Priapism คืออะไร Priapism หรือ ภาวะองคชาตแข็งค้าง เป็นอาการที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่า 4 ชั่วโมง เป็นอันตรายมากเพราะทำให้เลือดมาคั่งที่บริเวณอวัยวะเพศ อาจทำให้บวม และภายในอวัยวะเพศเกิดอาการอื่นๆ ตามมาอีกด้วย สาเหตุที่ Neven เกิดอาการ Pripism เนื่องมาจากการดมยาสลบตอนที่เขาเข้ารับการศัลยกรรมนั่นแหละ หลังจากที่เขาได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเบลเกรด ในเมืองหลวงของเซอร์เบีย หลังจากการผ่าตัดรักษาก็จะทำให้ น้องชายของเขาใช้งานไม่ได้อีกหลายเดือนเลย สาเหตุที่เขาได้เข้ารับศัลยกรรมครั้งล่าสุด ก็เพราะว่าเขามีความใฝ่ฝันที่จะเป็นดาราระดับโลกนอกจากนี้ Neven ยังได้กล่าวอีกว่า…
-
ภาพชีวิตช่วงสุดท้าย ของชายผู้ป่วยเป็นโรคอ้วน ก่อนที่จะถูกพรากจากไปด้วย ‘อาหาร’
ตามธรรมชาติ มนุษย์ทุกคนเกิดมาก็ต้องดำรงชีวิตด้วยปัจจัย 4 ทั้ง อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ทุกวันนี้มนุษย์ทานอาหารประมาณ 3 มื้อต่อวัน การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ดูเหมือนจะเป็นอีกทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ดูแลรักษาสุขภาพ การกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนั้นส่งผลที่ทำให้เรามีสุขภาพดี แต่หากได้รับอาหารในปริมาณเยอะเกินความจำเป็นของร่างกาย จะเกิดการสะสมไขมันทำให้เกิดกลายเป็นโรคอ้วน ส่งผลเสียต่อสุขภาพ จนอาจเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้ เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องของ Hector Garcia Jr. ชายผู้ที่ต้องเผชิญกับโรคอ้วน ด้วยน้ำหนักตัวถึง 288 กิโลกรัม มันส่งผลให้ร่างกายของเขาต้องอ่อนแอ แถมยังส่งผลให้เขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอีกด้วย Hector ได้ลองพยายามลดน้ำหนักอยู่หลายต่อหลายครั้ง ทั้งวิธีการอดอาหารหรือการทานยาลดน้ำหนัก แต่สุดท้ายมันก็กลับมาโยโย่อีกครั้ง และส่งผลเสียทำให้เขายิ่งมีร่างกายที่อ่อนแอลงไปอีก เมื่อปี 2000 เขาได้เข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ซึ่งมันทำให้น้ำหนักของเขาหายไปถึง 181 กิโลกรัมเลยในช่วงฟื้นตัว เขาได้บอกว่า “ผมทานอาหารมากเกินไปเพราะกระเพาะอาหารมันไม่เคยปฏิเสธ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่ผมทำลงไปนั้นมันกำลังจะฆ่าผมจริงๆ “ หลังจากนั้นเขาได้เข้ารับการผ่าตัดอีกครั้งแต่เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า แต่ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดทำให้เขาเป็นกลายโรคซึมเศร้าในเวลาต่อมา…
-
เด็กสาววัย 9 ปี ต้องทนทุกข์ทรมาน ป่วยด้วยอาการประหลาด ด้วยโรคที่ยังไม่มีการตั้งชื่อ…
เด็กหญิง Katie Renfroe อายุ 9 ปี ชาวรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการป่วยแปลกประหลาด ไม่เคยมีประวัติของคนที่มีอาการป่วยเป็นโรคนี้ เพราะว่าโรคดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ และยังไม่ได้รับการตั้งชื่อใดๆ เลย Angie Renfroe แม่ของเด็กสาวคนนี้ได้เล่าให้ฟังว่า เธอได้ทราบว่าลูกของเธอกำลังจะมีอาการที่เข้าข่ายในกลุ่มโรค ‘Megalencephaly’ (ลักษณะศีรษะโต) เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 6 เดือน Megalencephaly เป็นอาการที่เกิดจากการเจริญเติบโตทางสมองมากเกินไป ส่งผลข้างเคียงให้กับรูปหน้าของเธอมีความผิดรูปเนื่องจากอวัยวะต่างๆ บนหน้าขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว เธอมักมีอาการชักบ่อยครั้ง ไม่สามารถพูดคุย หรือเดินได้ และต้องได้รับอาหารผ่านทางท่อให้อาหารเท่านั้น เด็กหญิง Katie ต้องได้รับการผ่าตัดหลายครั้งตั้งแต่เธอเกิด ทั้งผ่าตัดสมอง ผ่าตัดลดขนาดหู ขนาดลิ้น แก้ม นับครั้งไม่ถ้วน แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอหายขาดแต่อย่างใด ครอบครัวของเธอเคยพาไปยังฮอลลีวูดเพื่อพบนายแพทย์ Roman Yusupov แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมและความผิดปกติในเด็ก แต่อาการผิดปกติของเธอนั้นไม่เคยถูกพบเจอมาก่อน และมันลึกลับเกินที่จะคาดเดาได้ โดยอวัยวะต่างๆ ยังมีโอกาสที่จะขยายได้อีกในอนาคตข้างหน้า…
-
อินเดียเริ่มสร้างรถไฟหัวกระสุน โดยได้รับความร่วมมือจากญี่ปุ่น เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน การเดินทางถือเป็นกิจกรรมหลักของประชากรส่วนใหญ่ในแต่ละวัน ดังนั้น หลายๆ ประเทศจึงต้องปรับปรุงและพัฒนาระบบการขนส่งให้เหมาะสมกับความต้องการอยู่เสมอ ล่าสุดประเทศที่มีประชากรจำนวนมากอย่างอินเดียก็เริ่มสร้างรถไฟความเร็วสูงแล้ว เพื่อที่จะรองรับการเดินทางของประชากรทั่วประเทศ สำหรับรถไฟความเร็วสูงนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2022 โดยจะลดระยะเวลาการเดินทางจาก 8 ชั่วโมง เหลือเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งนี้อินเดียได้รับความช่วยเหลือจากญี่ปุ่น ในการสร้างรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งได้เกือบ 500 กิโลเมตร ระหว่าง Ahmadabad ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าของอินเดีย ไปยังศูนย์กลางทางการเงินของอินเดียที่เมืองมุมไบ นอกจากเสนอความช่วยเหลือแล้วด้านการสร้างแล้ว ญึ่ปุ่นยังให้ความช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับทำโครงการนี้อีกด้วย โดยการให้กู้เงินและคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ ความร่วมมือดังกล่าวนี้ส่งผลให้ผู้นำอินเดีย Narendra Modi และญี่ปุ่น Shinzo Abe ได้ระดมแรงงานกว่า 4,000 คน เพื่อฝึกอบรมในการทำรถไฟความเร็วเร็วสูง ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า “นายกรัฐมนตรี Narendra Modi เป็นเพื่อนที่ดีของผม เขาเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขาได้ตัดสินใจที่จะสร้างรถไฟความเร็วสูงเมื่อ 2 ปี ก่อน เพื่อที่จะนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่อินเดีย” “เมื่อผมกลับที่นี่อีกครั้งในไม่กี่ปีข้างหน้า ผมคาดหวังว่าจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามของอินเดีย ผ่านหน้าต่างรถไฟหัวกระสุน” ทางด้านนักวิเคราะห์บอกว่า การสร้างรถไฟความเร็วสูงจะช่วยเพิ่มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภาคอุตสาหกรรมตะวันตกของอินเดียที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยลดความแออัดในเมืองด้วย…
-
Selena Gomez เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ที่ได้รับบริจาคจาก “เพื่อนรัก” ของเธอ
กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ขณะนี้เป็นอย่างมาก เมื่อ Selena Gomez นักร้องสาวสุดฮอต ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความลงบนอินสตาแกรมของเธอว่า สาเหตุที่เธอได้หายหน้าหายตาไประยะหนึ่งนั้น เป็นเพราะว่าเธอกำลังรักษาโรค Lupus หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง… วันที่ 14 กันยายน 2017 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า เมื่อปีที่ผ่านมานักร้องสาว Selena Gomez ได้ออกมาประกาศว่า เธอกำลังประสบปัญหาสุขภาพด้วยโรค Lupus จนทำให้เธอต้องพักงานชั่วคราว และจะขอรักษาตัวให้ดีขึ้น เพื่อกลับมาทำงานอีกครั้ง ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา Selena ได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ออกมาหลายเพลง แต่ทว่าเธอกลับปรากฏตัวต่อสาธารณะชนน้อยมาก จนทำให้หลายคนแอบสงสัยว่านักร้องสาวคนนี้หายหน้าหายตาไปไหนกันแน่ และล่าสุด Selena ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพขณะนอนจับมือกับเพื่อนรักที่ชื่อ Francia Raisa อยู่บนเตียงของโรงพยาบาลลงบนอินสตาแกรม พร้อมกันนี้เธอยังได้ออกมาเผยถึงเหตุที่เธอหายหน้าไป เป็นเพราะว่าเธอกำลังอยู่ในช่วงรักษาตัวเองอยู่ “ฉันรู้สึกเป็นกังวลว่าแฟนๆ อาจสังเกตว่าทำไมช่วงซัมเมอร์ฉันถึงหายไป และตั้งคำถามว่าทำไมฉันถึงไม่ออกมาโปรโมตเพลงใหม่ที่ฉันภาคภูมิใจ ฉันต้องเข้ารับการผ่าไตและกำลังรักษาโรค Lupus มันเป็นสิ่งที่ฉันจะทำพื่อสุขภาพของตัวเอง ฉันอยากนำเรื่องนี้ออกมาเผยต่อสาธารณะชน และอยากจะขอบคุณครอบครัวและทีมแพทย์ทุกคน สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาคอยดูแลฉันทั้งก่อนและหลังผ่าตัด สุดท้ายนี้ไม่มีคำไหนที่จะอธิบายนอกจากคำว่าขอบคุณ Francia Raisa…
-
จนแต่ไม่แล้งน้ำใจ….ชายจรจัดพยายามรักษาสุนัขบาดเจ็บ แม้อาจต้องอดข้าวไปหลายวัน
จากคติธรรมที่ว่า “เมตตาธรรม เป็นเครื่องค้ำจุนโลก” เป็นคติธรรมที่แสดงให้เห็นว่า หากโลกของเรามีมนุษย์ที่จิตใจดี มีความเมตตา มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมโลก ก็จะทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้น เช่นเดียวกับชายคนนี้ เขามีชื่อสมมติว่า จาง เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเป็นเพียงคนจรจัด ไร้บ้าน มีรายได้จากการเก็บขยะขายเพียงวันละ 20-30 หยวน หรือประมาณ 150 บาทต่อวันเท่านั้น ไม่มีใครทราบว่าทำไมเขาจึงกลายมาเป็นคนไร้บ้านหาเช้ากินค่ำไปวันๆ แต่สิ่งที่เราทราบได้คือ แม้ชีวิตของเขาจะไม่ได้สุขสบาย แต่นั่นก็ไม่ได้ลดทอนความเมตตาในจิตใจของเขาลงไปแม้แต่น้อย วันหนึ่งเขาได้ไปพบลูกสุนัขวัย 2 เดือนกำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยความรักหมาและความสงสารของเขา เขาไม่สามารถทนดูมันตายต่อหน้าได้ เขาจึงได้พามันไปที่คลินิกสัตว์แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ เมื่อถึงมือหมอแล้ว เจ้าลูกสุนัขก็เข้ารับการรักษาและค่อยๆ มีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้นายจางคนนี้ต้องปวดหัวอีกครั้งก็ค่ารักษาพยาบาล การเข้าคลินิกครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 1000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเกินที่มากกว่ารายได้ที่เขาหาได้ในแต่ละวันหลายเท่า ระหว่างที่เจ้าหมาพักรักษาตัวอยู่ในคลินิกสัตว์ เขาก็พยายามทำงานเก็บเงินอยู่หลายวันจนในที่สุด เขาก็มีเงินไปจ่ายค่ารักษา หลังจากที่เจ้าหมาน้อยหายดี เขาก็ได้ตัดสินใจรับเลี้ยงมันโดยตั้งชื่อว่า Dian Dian แล้วมันก็จงรักภักดี คอยอยู่เป็นเพื่อนกับเขา เพื่อตอบแทนความเมตตาของเขาที่มีให้มันตลอดไป ที่มา shanghaiist
-
สาวนักศึกษาถูกดักปล้น แม้จะถูกปืนจ่อก็ปกป้อง ‘ธีสิส’ ยิ่งกว่าชีวิต เพราะกลัวเรียนไม่จบ!!
เชื่อว่านักศึกษาที่จบออกไปแล้ว ต้องเคยผ่านช่วงเวลาที่สุดแสนทรมานของการเป็นนักศึกษา และสิ่งนั้นก็คือการทำธีสิสหรือวิทยานิพนธ์ อันเป็นด่านสุดท้ายก่อนที่จะจบการศึกษานั่นเอง!! และด้วยช่วงเวลาที่นักศึกษาทั้งหลายต้องอดหลับอดนอน ศึกษาค้นคว้าทำวิจัยหรือทำโปรเจคจบกันอย่างหนัก จนมีสภาวะคล้ายจะเป็นซอมบี้ ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า จนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง และด้วยความลำบากยากเข็ญที่จะได้ธีสิสอันสมบูรณ์มาหนึ่งเล่ม จะให้หายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถึงแม้ว่าภัยร้ายนั้นจะมีความอันตรายถึงชีวิตก็ตามที!! เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2017 ทางสำนักข่าว BBC ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด เป็นเหตุการณ์ที่นักศึกสาวสาวในแอฟริกาใต้ ถูกโจรขับรถดักหน้าและใช้ปืนขู่หวังจะปล้นกระเป๋าสะพายของเธอ แต่เธอกลับมีทีท่าขัดขืน และไม่สะทกสะท้านใดๆ แถมยังรักษากระเป๋าไว้แบบสุดชีวิต ถึงขั้นตัวตายถวายหัวเลยก็ว่าได้!! สาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้มีชื่อว่า นางสาว Noxolo Ntusi เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากสถาบัน National Health Laboratory Service ในประเทศแอฟริกาใต้ และเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโทในช่วงเวลานี้ด้วย คลิปเต็มเหตุการณ์นักศึกษาถูกโจรปล้นกระเป๋า จากในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่า นักศึกษาสาวได้เดินอยู่ริมถนนบริเวณที่พักของเธอในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ แต่แล้วก็มีชาย 2 คนขับรถเก๋งมาจอดเทียบข้างๆ เปิดประตูแล้วย่างก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอทันที เธอได้พยายามวิ่งหนีเมื่อรู้ว่ามีเหตุร้ายมาถึงตัวแล้ว แต่เธอไม่สามารถวิ่งหนีได้ทัน และเมื่อคนร้ายคนหนึ่งชักปืนออกมาข่มขู่และพยายามจะกระชากกระเป๋าสะพายออกจากมือของเธอ แต่สำหรับแม่สาวใจเด็ดแล้ว เธอกลับกอดกระเป๋าสะพายไว้กับตัวเองอย่างแน่น โดยไม่เกรงกลัวว่าปืนที่อยู่ในมือผู้ร้ายนั้นอาจจะลั่นเข้าหัวของเธอแม้แต่น้อย …
-
สาวเปิดเจอภาพถ่ายในหีบเก่า จึงประกาศหาครอบครัวของคนในภาพ เพื่อนำรูปส่งคืนให้…
สำหรับคนที่ชอบสะสมของเก่า อาจจะมีบางครั้งที่คุณเจอกับสิ่งของที่สร้างความประหลาดใจได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวแปลกๆ หรือหลักฐานแปลกๆ จากอดีต เหมือนกับหญิงสาวชาวนิวซีแลนด์ที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @irisshackleton ได้ซื้อหีบเก่าใบหนึ่งมา ซึ่งเป็นหีบโบราณแบบญี่ปุ่น แต่เมื่อเปิดหีบออกมาแล้ว เขาก็เจอรูปภาพขาวดำจำนวนหนึ่งอยู่ในนั้น แม้ตัวเธอเองจะไม่รู้ว่าคนในรูปเหล่านี้คือใคร แต่เธอก็มุ่งมั่นที่จะส่งคืนรูปเหล่านี้ให้กับครอบครัวหรือลูกหลานของคนในภาพ แน่นอนว่าการตามครอบครัวพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เธอได้สอบถามกับทางร้านที่ซื้อหีบใบนี้มา เพื่อถามหาต้นตอของหีบใบนี้ แต่คนที่นำหีบใบนี้มาไว้ที่ร้านไม่อยู่เสียแล้ว จากนั้นจึงได้ตัดสินใจขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียลแทน เธอได้ทำการอัพโหลดรูปภาพเหล่านี้ในทวิตเตอร์และเขียนแคปชั่นว่า “ฉันต้องการความช่วยเหลือ ฉันซื้อหีบเก่าใบหนึ่งมา แล้วเจอรูปภาพเหล่านี้อยู่ข้างใน อยากให้ช่วยตามหาครอบครัวของคนในรูป เพื่อที่ฉันได้ส่งรูปพวกนี้ไปให้พวกเขา” ชาวเน็ตไม่นิ่งเฉย พวกเขาได้แชร์รูปนี้กันอย่างรวดเร็ว โดยมีการแชร์ลงในเฟสบุ๊กด้วย เพื่อขยายกลุ่มสังคมให้กว้างขึ้น โดยเจ้าของทวิตเตอร์ @Snfm23 ได้ส่งเรื่องนี้ไปยังสถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นด้วย นอกจากนี้คนอื่นๆ ยังส่งข้อมูลนี้เพื่อตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์เป็นภาษาญี่ปุ่น ตอนนี้ได้มีการรีทวิตกว่า 34,000 ครั้ง ทางด้านสื่อโทรทัศน์ของญี่ปุ่นก็กำลังนำเสนอเรื่องนี้ และเริ่มแพร่กระจายไปทั่วสังคมออนไลน์ในญี่ปุ่นแล้ว เนื่องจากไม่มีตัวหนังสือหรือตัวเลขใดๆ ในหีบหรือในรูปภาพเลย ดังนั้นชาวเน็ตจึงต้องทำการคาดเดาตำแหน่งและเวลาที่ถ่ายภาพ เพื่อให้ง่ายต่อการตามหาลูกหลาน มีหลายคนบอกว่า ดูจากลักษณะเสื้อผ้าแล้ว น่าจะอยู่ในช่วงปลายยุคเมจิหรือ ช่วงต้นยุคไทโช (ปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20) ขณะที่บางคนคาดเดาจากของเล่นเด็กภายในภาพ โดยจะดูว่าเป็นของในยุคไหนหรืออยู่ในภูมิภาคใดของประเทศ นี่เป็นการแสดงออกถึงพลังโซเชียล…
-
เปิดแฟ้มภาพเชลยศึกช่วงสงครามโลกที่ 2 จากค่ายกักกันญี่ปุ่น ที่ผ่ายผอมจนหนังติดกระดูก
เราคงเคยเห็นภาพประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกที่สอง ที่เผยให้ถึงความความเสียหาย ความหดหู่ และการสูญเสียอีกนับไม่ถ้วน เช่นเดียวกับภาพที่น่าตกใจเหล่านี้ เป็นภาพของเชลยศึกชาวอังกฤษที่ผอมจนหนังติดกระดูก หลังถูกจับและกักกันในค่ายเชลยศึกของฝ่ายญี่ปุ่น ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากการล่มสลายของญี่ปุ่นในปี 1945 ทหารอังกฤษนับร้อยคนถูกพบอยู่ในสภาวะหิวโหย ร่างกายผอมแห้ง และถูกทำร้ายโดยกลุ่มที่จับตัวพวกเขาไป ช่างภาพได้ถ่ายภาพของเชลยศึกเหล่านี้เอาไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในคดีอาชญากรรมสงครามในอนาคต ซึ่งแต่ละคนนั้นดูอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากต้องเผชิญกับความหิวโหย และถูกบังคับใช้แรงงานจนร่างกายผอมแห้งแล้ว พวกเขายังถูกทำร้ายร่างกายด้วยวิธีต่างๆ นานา ซึ่งโหดร้ายเกินจะรับได้ เชลยคนหนึ่งถูกจับขังบนเก้าอี้ทรมานที่ค่ายญี่ปุ่น ในค่ายญี่ปุ่น มีผู้คุมที่โหดเหี้ยมสองคนคือร้อยโท Kishio Usuki และชาวเกาหลีที่มีชื่อว่า Mad Mongrel สำหรับ Usuki นั้น คอยคุมและเฆี่ยนตีเชลยศึกที่ทำงานที่ทางรถไฟสายมรณะ ในบริเวณของประเทศพม่า นอกจากนี้เขายังได้ตัดหัวของหนึ่งในเชลยศึกชาวอังกฤษต่อหน้าคนอื่นๆ เนื่องจากพยายามหลบหนี อย่างไรก็ตามผู้คุมทั้งสองคนนี้ถูกตัดสินประหารชีวิตในภายหลัง ร้อยโท Usuki ผู้คุมอันโหดเหี้ยม ที่รู้จักกันในชื่อ Black Prince ส่วนนี่คือผู้คุมชาวเกาหลี มีฉายาว่า Mad Mongrel นอกจากสองคนนี้แล้วก็ยังมีสิบเอก…
-
สาวๆ ถึงกับยอมพลีกาย เมื่อได้เห็น ‘กลุ่มตำรวจสุดหล่อ’ ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้คนจากพายุเออร์มา
หลังจากที่พายุเออร์มาเข้าถล่มรัฐฟลอริดา ทำให้อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ผู้คนอยู่อย่างหวาดระแวง แต่ในขณะเดียวกันนี้ก็มีเรื่องที่ทำให้ผู้คนหัวใจเบิกบานขึ้นได้บ้าง โดยเฉพาะสาวๆ และคนที่ทำให้หัวใจสาวๆ เต้นระรัวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ Nordman Hamill และ Rengering จาก Gainesville Police Department รัฐฟลอริดาที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังพายุเออร์มาถล่ม ซึ่งเป็นอะไรที่ดีต่อใจสาวๆ มาก!! เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพจเฟสบุ๊กของ Gainesville Police Department ได้โพสต์ภาพตำรวจหนุ่มทั้งสามคน พร้อมแคปชั่นว่า “เจ้าหน้าที่ Norman Hamill และ Rengering พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่แล้ว” ดูเหมือนจะเป็นการลงภาพธรรมดาทั่วไป เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ว่าตำรวจได้ออกปฏิบัติหน้าที่แล้ว แต่เพียงแค่เวลาสั้นๆ รูปภาพดังกล่าวก็ถูกแชร์ไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต โดยมีคนกดถูกใจกว่า 207,000 คน และมีคอมเม้นต์อีก 167,000 ครั้ง และจำนวนแชร์กระหน่ำออกไปอีก 132,000 ครั้ง ซึ่งแต่ละคอมเม้นต์ก็แบบว่าไม่ได้เก็บอาการอะไรเลย… ขนาดไม่ได้อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ก็ยังอยากไปอยู่ที่นี่เพื่อที่จะได้เจอเจ้าหน้าสุดหล่อทั้ง 3 คนนี้ยังไงล่ะ ฮร่าาาา ทักษะมารยาสุดคลาสสิค ‘คุณตำรวจขา ฉันหายใจไม่ออก ช่วยฉันด้วยค่ะ ขอแบบปากติดแนบชิดเลยน้าาา’ นี่สินะที่เป็นเหตุผลของคุณยาย…
-
จากการศึกษาพบว่า ‘การให้สุนัขนอนกับเราในห้อง’ จะช่วยให้คุณหลับสบายมากยิ่งขึ้น!!
หลายคนคิดว่าการพาสุนัขมานอนในห้องด้วย จะทำให้นอนได้ไม่เต็มอิ่ม หรือนอนหลับไม่สบาย เพราะกลัวน้องหมาตื่นมาเล่นหรือเห่าเสียงดังรบกวน แต่ผลการศึกษาใหม่กลับพบว่า การให้น้องหมามานอนกับเรานั้น จะทำให้เรารู้สึกสบาย ปลอดภัย และจะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น นักวิจัยจาก Centre for Sleep Medicine เผยว่าการนอนกับสัตว์เลี้ยงนั้น ส่งผลดีต่อการนอนหลับของมนุษย์ โดยทำการวิจัยกับกลุ่มผู้ใหญ่จำนวน 40 คน ที่เคยนอนกับสุนัขมานานกว่า 5 เดือน Dr Lois Krahn ผู้เขียนงานวิจัยกล่าวว่า “คนส่วนใหญ่คิดว่าการให้สัตว์เลี้ยงมานอนด้วยนั้นจะเป็นอุปสรรคต่อการนอน แต่เราพบว่าหลายคนรู้สึกสบาย ปลอดภัย และนอนหลับได้ง่ายเมื่อมีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย” ทั้งนี้นักวิจัยบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นสุนัขสายพันธุ์อะไรก็ตาม มันจะทำให้คุณนอนหลับได้อย่างสบายเหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้ก็คือ อย่าให้สุนัขนอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคุณโดยเด็ดขาด สาเหตุที่ไม่ควรนอนร่วมผ้าห่มกับสุนัข นั่นก็เป็นเพราะจะทำให้คุณภาพการนอนของทั้งเจ้าของและสุนัขแย่ลง และเพื่อนๆ รู้ไหมว่า สุนัขเองก็ฝันได้เหมือนกับมนุษย์ และสุนัขจะมีลักษณะการฝันที่คล้ายกับมนุษย์ เช่นฝันถึงชีวิตประจำวัน สำหรับสุนัขขนาดกลาง จะฝันรอบละประมาณ 20 นาที สังเกตจากลูกตาของมันเคลื่อนไปมาทั้งๆ ที่เปลือกตาปิดอยู่ และมีจังหวะการหายใจไม่ค่อยสม่ำเสมอ ส่วนสุนัขขนาดเล็กจะฝันบ่อยกว่า แต่ละครั้งก็จะกินเวลาเพียงสั้นๆ เท่านั้น…
-
ชาวบ้านงง พบสิ่งมีชีวิตประหลาดขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาดเท็กซัส หลังถูก ‘ฮาร์วี่ย์’ ถล่ม
เรียกได้ว่าพายุเฮอร์ริเคน ‘ฮาร์วี่ย์’ เป็นอีกหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงที่สุด เท่าที่เคยมีมา แน่นอนว่าภาพที่เราเห็นบ่อยๆ คือสภาพบ้านเมืองที่ถูกซัดกระหน่ำจนไม่เหลือแค่เศษซาก แต่นอกเหนือจากความสูญเสีย ก็ได้เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้น เมื่อมีชาวเมืองคนหนึ่งได้โพสต์ภาพสิ่งมีชีวิตหน้าตาแปลกประหลาดลงบนทวิตเตอร์ โดยอ้างว่าพบมันมาเกยตื้นบนชายฝั่ง Texas City ลักษณะตัวใหญ่ยาว มีฟันแหลมคม และไม่มีตา หลังจากที่มีชาวเน็ตได้นำภาพดังกล่าวเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียล สิ่งมีชีวิตสุดแปลกนี้ก็ได้สร้างเสียงฮือฮาให้ผู้คนไปทั่วเมือง เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน Preeti Desai ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กร National Audobon Society ได้ออกมาให้ข้อมูลสันนิษฐานถึงสิ่งมีชีวิตสุดแปลกนี้ว่า “ภาพแรกที่เห็นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลลึก ตอนแรกดูไกลๆ ผมคิดว่าเป็นปลาแลมป์เพรย์ แต่พอไปเห็นใกล้ๆ แล้วผมว่ามันไม่ใช่เลย ลักษณะปากของมันดูแตกต่างออกไปมากๆ” ทางด้านของนักชีววิทยา ก็ได้ออกมาให้ข้อสันนิษฐานว่า ดูจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกับกลุ่มปลาไหล ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าข้อสันนิษฐานที่น่าเป็นไปได้มากที่สุด คือมันเป็นตัว ปลาไหลเขี้ยวงู (Fangtooth Snake-Eel หรือ Tusky Eel) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตหายากที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งของประเทศเม็กซิโก ทีมสำรวจหลายฝ่ายพยายามพลิกคว่ำพลิกหงายศพมันอยู่หลายรอบ เพื่อจะพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วมันคือตัวอะไรกันแน่ ถ้าหากมันเป็นปลาไหลเขี้ยวงูจริงละก็ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า..…
-
ช่างภาพถ่ายทอด “พิธีขับไล่ปีศาจ” จากเอธิโอเปีย ความเชื่อที่ต้องแลกด้วยเม็ดเงิน…
ทุกวันนี้แม้โลกจะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ผู้คนให้การยอมรับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีกลุ่มคนไม่น้อยที่ยังไม่ละทิ้งความเชื่อแบบดั้งเดิม และสืบทอดมาจนปัจจุบันนี้ อย่างเช่น พิธีขับไล่ปีศาจของชาวเอธิโอเปีย แม้จะไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ แต่พวกเขาต่างก็นับถือและปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด พิธีกรรมดังกล่าวนี้ได้รับการถ่ายทอดโดย David Tesinsky ช่างภาพที่พยายามเก็บเงิน ซื้อตั๋วที่มีราคาถูกที่สุด ศึกษาหาข้อมูล จนพาตัวเองมาอยู่ในเมือง Addis Ababa สภาพของเมืองหลวง Addis Ababa นั้นไม่ต่างจากชุมชนแออัด และเต็มไปด้วยผู้คนที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไหร่ เพราะ David เกือบถูกปล้น แต่เขาได้ทำการต่อสู้และขัดขืนจึงทำให้รอดพ้นมาได้ มันไม่ได้แย่ไปซะทุกอย่าง เมื่อ David รู้ว่าที่นี่มีพิธีขับไล่ และนั่นทำให้เขาตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาประมาณตี 4 ตี 5 เพื่อที่จะไปดูและเก็บภาพพิธีกรรมดังกล่าว ช่างภาพตัดสินใจเดินทางไปยังโบสถ์ ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธี โดยคาดหวังว่าพวกเขาจะอนุญาตให้เขาถ่ายรูประหว่างทำพิธีได้ ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่มาสังเกตการณ์ที่นี่ เขาเห็นผู้คนมากกว่า 150 ชีวิต มานั่งรอเพื่อที่จะได้พบกับนักบวช Memehir พวกเขาเหล่านั้นมีอาการกรีดร้อง ร้องไห้ และหัวเราแบบแปลกๆ เมื่อนักบวชออกมา เขาได้ตบศีรษะของคนที่มีอาการเหล่านั้นทีละคน พร้อมกับสาดน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทำการขับไล่ปีศาจที่สิงสู่อยู่ในร่างกายพวกเขา …
-
เด็กชายถูกปฏิเสธจากการเป็น ‘เจ้าหญิง’ ที่ดิสนีย์แลนด์ เพียงเพราะเขาไม่ใช่เด็กผู้หญิง…
ดิสนีย์แลนด์ อาจจะเป็นสถานที่หนึ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันที่จะไปเที่ยวให้ได้ซักครั้งในชีวิต เพราะในวัยเด็กเราเติบโตมากับการ์ตูนจากดิสนีย์หลายๆ เรื่อง ซึ่งหลายๆ คนคงเคยแอบมโนว่าซักวันตัวเองจะได้เป็นเจ้าหญิงต่างๆ ใช่ไหมล่ะ เด็กชาย Noah McLean วัย 4 ขวบคนนี้ก็เช่นกัน เขาเป็นหนึ่งในเด็กที่ชื่นชอบเจ้าหญิงดิสนีย์มากๆ และเจ้าหญิงที่เขาชอบที่สุดก็คือเจ้าหญิง Elsa จากเรื่อง Frozen คุณแม่ Hayley McLean ก็อยากจะเติมเต็มความฝันให้กับสิ่งที่ลูกชายชอบ เพื่อเป็นการมอบของขวัญคริสมาสต์ล่วงหน้าให้กับเขาในปีนี้ คุณแม่ก็พาไปแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงที่ดิสนีย์แลนด์ ณ กรุงปารีส แต่แล้วฝันก็สลายลง เมื่อเธอได้รับการปฏิเสธไม่ให้ลูกของเธอเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เพียงเพราะว่าลูกของเธอไม่ใช่เด็กผู้หญิง… คุณแม่บอกว่าทางเจ้าหน้าที่ได้กล่าวกับเธอว่า “คุณไม่สามารถจองแพ็กเกจ Princess ให้กับเด็กผู้ชายได้” พร้อมกับเสนอเป็นชุดของเล่นจากดิสนีย์แทน ซึ่งแพ็กเกจที่เธอต้องการจองให้กับลูกชายของเธอนั้น มีแค่การแต่งตัวแต่งหน้าเป็นเจ้าหญิงเพื่อถ่ายภาพเท่านั้นเอง จากคำกล่าวของเจ้าหน้าที่นั้น ก็ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เธอจึงเขียนระบายความรู้สึกลงบนบล็อกส่วนตัวของเธอว่า… “ถ้าเด็กผู้หญิงอยากเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ เธอสามารถเป็นได้ ถ้าเธออยากเป็นเจได เธอก็เป็นได้เช่นกัน พวกเธอสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ เหมือนที่ดิสนีย์เคยกล่าวว่า ‘ถ้าคุณฝันได้ คุณก็ทำได้’ แต่ถ้าคุณเป็นเด็กชายที่อยากสวมชุดเจ้าหญิงในดิสนีย์แลนด์ ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย…
-
8 วิธีทางวิทยาศาสตร์ ที่จะช่วยให้คุณ ‘มีเสน่ห์’ สามารถดึงดูดใจคนรอบข้างได้มากยิ่งขึ้น
ความมีเสน่ห์และดึงดูดใจคนรอบข้าง คงเป็นสิ่งที่หลายๆ คนอยากมี ทำให้ดูน่าคบหาทั้งกับเพื่อนและเพศตรงข้าม ซึ่งแน่นอนว่าการแต่งกายก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยได้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาบอกแนวทางที่จะพัฒนาเรื่องนี้ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องความแตกต่างในตัวบุคคล เพราะวิธีการเหล่านี้ทุกคนสามารถทำได้ไม่แตกต่างกัน จะมีอะไรกันบ้างก็ลองไปดูกันได้เลย มีอารมณ์ขัน ทุกคนคงทราบกันแล้วว่าหากคุณเป็นคนตลกก็จะสามารถดึงดูดคนรอบข้างได้ดี ซึ่งหากคุณมีอารมณ์ขันในเรื่องที่ตัวเองสร้างขึ้น ไม่ใช่ตลกในเรื่องของคนอื่นจะเป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวเองอย่างมาก จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่สามารถทำให้เธอหัวเราะได้ ส่วนผู้ชายไม่ได้มองเรื่องนั้นเพราะเพียงแค่รอยยิ่มของเธอแค่นั้นก็เกินพอ สนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย พบว่าผู้คนจะดูน่าสนใจมากขึ้นเมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เหตุผลเพราะว่าการทำงานของสมองจะรวมหน้าตาของคนในกลุ่มไว้ด้วยกัน ทำให้แต่ละคนดูเฉลี่ยพอๆ กันหมดผลลัพธ์ก็คือ คุณจะดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น กริยาท่าทาง จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การแสดงท่าทางที่เปิดเผยและมั่นใจจะช่วยให้คุณดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นกับคนที่เจอกันครั้งแรก อย่างการโอบกอดคนที่เจอกันทุกคนด้วยความอบอุ่นก็อาจเป็นวิธีการที่ไม่เลวเลยทีเดียว การสื่อสาร การศึกษาจากฮาร์วาร์ดพูดว่าเมื่อเวลาที่คุณพูดถึงแต่ตัวเองเพียงอย่างเดียว คนที่ฟังจะรู้สึกไม่มีความสุขและไม่สนใจในเรื่องเหล่านั้น บางครั้งคุณก็ต้องถามแปลกๆ หรือในเชิงลึกของพวกเขาดูบ้าง คุณจะรู้ได้เลยว่าพวกเขารู้สึกโอเคมากขึ้นขนาดไหน ความเป็นผู้นำ เป็นธรรมชาติของเราที่จะมองว่าผู้นำมีแรงดึงดูดความสนใจ การศึกษาบอกว่าคนที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มจะรู้สึกว่าคนที่เป็นผู้นำในกลุ่มของตัวเองมีเสน่ห์ที่มากกว่าที่จะสร้างแรงดึงดูดให้กับคนนอกกลุ่ม เหมือนกับที่ CEO จะทำให้พนักงานในบริษัทเห็นถึงเสน่ห์ได้มากกว่าคนภายนอก การแสดงออกทางสีหน้า นักวิจัยชาวสวิสทำการศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างเสน่ห์กับรอยยิ้ม สิ่งที่พบคือใบหน้าที่ยิ้มแย้มออกมาอย่างจริงใจจะสามารถดึงดูดคนรอบข้างได้มากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่สังเกตได้หากเราเป็นคนที่แสดงออกถึงความสุขได้ง่าย จะทำให้คลี่คลายเรื่องต่างๆ…
-
สลด!! เด็กนักเรียนหญิงอินเดียฆ่าตัวตาย หลังโดนครูด่าเรื่องเป็นประจำเดือนในห้องเรียน
เป็นเรื่องที่น่าสลดมากสำหรับเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นที่เมือง Palayamkotti ทางตอนใต้ของอินเด่ีย ได้มีการรายงานว่ามีเด็กสาวได้กระโดดระเบียงฆ่าตัวตายหลังถูกคุณครูต่อว่าเธอเรื่องประจำเดือน เมื่อเด็กสาวเมื่ออายุ 11 ปีก็จะเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ร่างกายก็จะเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเช่น เริ่มมีหน้าอก หรือเริ่มมีขนขึ้นตรงอวัยวะเพศ และที่สำคัญสิ่งที่บ่งบอกว่าเด็กหญิงได้โตเป็นสาวแล้วคือการมีประจำเดือนครั้งแรกนั่นเอง แต่นั่นก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่ร่างกายของมนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อรอสืบพันธุ์ต่อไป เด็กหญิงไม่ปรากฏชื่อคนนี้ศึกษาอยู่ในระดับเกรด 7 ที่โรงเรียน Senthill Nargar ในประเทศอินเดีย เธอถูกคุณครูต่อว่าที่เธอทำชุดนักเรียนและม้านั่งของโรงเรียนเปื้อนเลือดประจำเดือนของเธอต่อหน้าเพื่อนๆ และนั่นก็ทำให้เธออับอายมากๆ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะฆ่าตัวตายในตอนเช้าตรู่ของวันต่อมา…. ในช่วงเช้าของวันต่อมา สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเด็กหญิงตัดสินใจกระโดดลงมาจากระเบียบบ้านเพื่อฆ่าตัวตาย พ่อแม่ของเด็กหญิงตกใจมากแต่นั่นก็สายไปแล้ว เพราะลูกสาวของพวกเขาได้จากโลกนี้ไปตลอดกาล พอหาสาเหตุก็พบหลักฐานจากบันทึกของเธอเกี่ยวกับการตัดสินใจของเธอในครั้งนี้ ข้างในบันทึกนั้นมีใจความว่าเธอรู้สึกอับอายมากที่ถูกครูด่าเรื่องประจำเดือนต่อหน้าเพื่อนร่วมห้องของเธอ จดหมายใจความว่า “หนูไม่รู้จะพูดอะไร แต่จนถึงตอนนี้หนูไม่เคยทำเรื่องอะไรเสียหาย แต่หนูไม่เข้าใจทำไมครูต้องด่าหนูขนาดนั้นด้วย” และนั่นก็ทำให้พ่อแม่ของเด็กหญิงโกรธมากจึงได้รวมตัวกันประท้วงคุณครูท่านนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาระงับเหตุและทำการสอบสวนคุณครูที่ถูกกล่าวหาทันทีและยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดจากการสอบสวนในครั้งนี้ อย่างที่ทราบกันดีว่า ผู้หญิงอินเดียประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องประจำเดือนเป็นอย่างมากทั้งทางสังคมและทางสุขอนามัย โดยในปี 2011 ที่ผ่านมา ผู้หญิงอินเดียกว่า 350 ล้านคน มีเพียง 12 เปอร์เซ็นเท่านั้นที่มีผ้าอนามัยใช้ ยิ่งไปกว่านั้น ทางรัฐบาลอินเดียก็ได้ขึ้นภาษีผ้าอนามัยจนทำให้ผู้มีรายได้น้อยไม่สามารถซื้อมาใช้งานได้…
-
ความรู้สึกแรกพบ ของหนูน้อยกับเจ้าหมาขนปุย จะช่วยให้คุณหวนนึกถึงสัตว์เลี้ยงตัวแรก…
ยังจำกันได้มั้ยในครั้งแรกที่เราได้เลี้ยงสัตว์ซักตัว ความรู้สึกของเราตอนนั้นเป็นอย่างไร เราดีใจ ตื่นเต้น หรือว่ามีความสุขมากแค่ไหนกันนะ หากว่ายังคิดกันไม่ออก งั้นต้องลองมาดูสาวน้อยวัย 6 ขวบชื่อ Ava คนนี้ดูว่า เมื่อความฝันที่จะเลี้ยงลูกสุนัขซักตัวของเธอเป็นจริงขึ้นมา จะแสดงออกมาอย่างไรบ้าง แม่ของเธอบอกว่า “เด็กคนนี้อยากที่จะเลี้ยงสุนัขเอามากๆ ทำกับตุ๊กตาเหมือนกับเป็นน้องหมาจริงๆ วางชามข้าวและน้ำเอาไว้ให้ หรือแม้แต่ลากตุ๊กตาสุนัขออกไปเดินเล่นนอกบ้าน” ใครก็ได้บอกพ่อหนูให้หน่อย ว่าหนูอยากเลี้ยงหมา เธอถึงขนาดประกาศขอความช่วยเหลือในทวิตเตอร์ ให้ใครก็ได้บอกพ่อของเธอหาหมามาเลี้ยงสักตัว ไม่รู้ว่าวิธีนั้นประสบความสำเร็จหรือว่าครอบครัวพร้อมที่จะเลี้ยงสุนัขอยู่แล้ว เพราะในที่สุดเมื่อพ่อของเธออ้างว่าจะออกไปหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ แต่เขาดันกลับมาพร้อมกับเจ้าขนปุยตัวน้อย สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับเธอเป็นอย่างมาก!! เธอเข้าไปวิ่งเล่นกับมันทันทีด้วยความน่ารักสดใสร่าเริงอย่างมาก ถึงแม้ว่าในตอนแรกมันจะดูตื่นกลัวอยู่บ้าง แต่ก็สามารถปรับตัวเข้ากับเธอได้โดยง่าย เธอยังบอกอีกว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป และคงจะเป็นอย่างนั้นแน่นอน เพราะทั้งสองเข้ากันได้มากเลยทีเดียว ทุกคนก็อย่าลืมโมเม้นต์ความประทับใจและรักษามันไว้ให้ดีๆ นะ คลิปความน่ารักการพบกันของทั้งคู่ ที่มา: viralnova
-
ครอบครัวยูทูบเบอร์ถูกศาลสั่งตัดสินสั่งจำคุก 5 ปี หลังทำคลิปวิดีโอแกล้งลูกแรงเกินเหตุ
บางครั้งการเล่นสนุกก็ควรจะมีขอบเขตและอยู่ในกรอบบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้คุณต้องกลายเป็นผู้ต้องหาแบบครอบครัวนี้ก็ได้!! Michael และ Heather Martin สองสามีภรรยาจากรัฐแมริแลนด์ เจ้าของช่องยูทูบ DaddyOFive ได้ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี หลังจากที่ถูกแจ้งข้อหาทารุณกรรมเด็กเมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยคลิปวิดีโอที่เป็นต้นเหตุเรื่องครั้งนี้ก็คือคลิปวิดีโอที่ใช้ชื่อว่า “Kids Prank” ซึ่งภายในคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นเผยให้เห็นถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับเด็กๆ ในบ้านของเขา ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่าสองสามีภรรยานั้นได้ตะคอกใส่พวกเด็กๆ อย่างรุนแรงจนพวกเขาร้องไห้ออกมา และนอกจากนี้ยังมีการลงมือทำร้ายร่างกายเด็กน้อยคนหนึ่งด้วยการผลักจนกระทั่งเจ้าหนูมีเลือดออกที่จมูก ทางสำนักงานตำรวจจาก Frederick County และศูนย์คุ้มครองเด็กภายในพื้นที่รัฐแมรี่แลนด์ จึงได้เริ่มทำการสืบสวนหาข้อเท็จริง หลังจากที่ถูกหลายๆ ฝ่ายร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของสามีภรรยาคู่นี้ คุณ Lindy Angel ผู้ช่วยอัยการเขตกล่าวว่า ทางครอบครัว Martins พร้อมกับเด็กๆ อีก 5 คนได้เข้ารับการประเมินทางด้านจิตวิทยา และพบว่าเด็กน้อย 2 จาก 5 คนนั่นก็คือหนูน้อย Cody วัย 10 ขวบและ Emma วัย 11 ขวบได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจซึ่งเป็นผลมาจากคลิปวิดีโอดังกล่าว นอกจากนี้ในคลิปวิดีโอส่วนใหญ่ของพวกเขาแล้ว เจ้าหนูน้อย Cody มักจะตกเป็นคนที่ถูกด่าและทำร้าย โดยหนึ่งในคลิปวิดีโอที่ถูกลบไปนั้น เผยให้เห็นตอนที่คุณ Heather ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของ Cody และ Emma กำลังด่าเด็กน้อยอย่างรุนแรงหลังจากที่เขาทำหมึกหกใส่พรหม…
-
เรื่องราวของ “บ๊อบ” สุนัขที่ชื่นชอบรถไฟเป็นชีวิตจิตใจ จนได้เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลบนรถไฟ
สุนัขไม่ต่างจากมนุษย์เราเลย พวกมันมีสิ่งที่ชอบ มีความฝัน และคาดหวังว่าทำความฝันให้สำเร็จในสักวันหนึ่ง แต่ฝันของบางตัวจะไม่สำเร็จเลย ถ้าไม่ได้โอกาสจากมนุษย์ เช่นเดียวกับ บ๊อบ สุนัขที่ชื่นชอบรถไฟเป็นชีวิตจิตใจ จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ และถูกนำไปสร้างเป็นรูปปั้นในที่สุด บ๊อบ สุนัขรถไฟหรือที่รู้จักกันในชื่อ Terowie Bob ซึ่งเป็นสุนัขที่มีบทบาทสำคัญกับการรถไฟ South Australian Railways บ๊อบเกิดที่ออสเตรเลียใต้เมื่อปี 1882 มันเป็นหมาที่ชอบรถไฟมาก โดยในช่วงปีแรกๆ ของชีวิตบ๊อบเป็นเพียงหมาจรจัด แต่มันจะคอยเดินตามคนงานประจำรางรถไฟไปทำงานเสมอ จนวันหนึ่งน้องหมาถูกคนจับตัวไป เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มันเกือบตาย แต่โชคดีที่นายสถานีผู้ใจดีคนหนึ่งได้ซื้อตัวบ๊อบเอาไว้ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็พาบ๊อบขึ้นรถไฟไปด้วยทุกที่ นอกจากพาไปด้วยทุกที่แล้ว เจ้าของยังแต่งตั้งให้เจ้าบ๊อบเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลรถไฟในตู้รถไฟด้วย ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ได้ดีเสมอ ในที่สุด เจ้าของของน้องหมาก็ได้เลื่อนตำแหน่งให้ นั่นทำให้เจ้าของกับบ๊อบจำเป็นต้องแยกทางกัน และทำให้บ๊อบเริ่มขึ้นรถไฟออกเดินทางไปตามลำพังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บ๊อบได้เดินทางไปทั่วออสเตรเลียใต้ จนทำให้มันกลายเป็นภาพที่คุ้นตาและเป็นที่รักของทุกคนที่ขึ้นรถไฟสายที่มีบ๊อบดูแลอยู่ บางครั้ง เมื่อบ๊อบต้องการอยู่ตามลำพัง มันก็จะไปอยู่ในตู้รถไฟที่ว่างเปล่า แต่หากมีผู้โดยสารมันจะขับไล่โดยการเห่าจนอย่างบ้าคลั่งจนพวกเขาต้องหนีไปนั่งที่อื่น นายสถานีและผู้เจ้าหน้าที่ในสถานีทุกคนต่างรู้จักเจ้าบ๊อบดี พวกเขาจึงปล่อยให้มันเดินทางตามใจชอบ สำหรับในตอนกลางคืน มันจะตามคนขับรถไฟกลับบ้านไปกินอาหารอุ่นๆ นอนในที่นอนนุ่มๆ และกลับมาขึ้นรถไฟอีกครั้งในเช้าวันต่อมา เมื่อเวลาผ่านไป บ๊อบก็กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น และมีชื่อเสียงโด่งดัง จนเคยได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยง Melbourne…
-
สาวป่วยเป็นโรค ‘จิตหลงผิด’ ควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะคิดว่าตัวเองเป็นไดโนเสาร์หรือลิง!?
จะเป็นยังไงถ้าคุณต้องป่วยเป็นอาการทางจิต แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นไดโนเสาร์หรือไม่ก็สิงมีชีวิตอย่างอื่นตลอดเวลา ซึ่งคุณคงคิดไม่ออกใช่ไหม แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ กับหญิงสาวชาวอังกฤษคนหนึ่งแล้วนั่นเอง Lucy Evans หญิงสาววัย 18 ปี จากเมือง Aberystwyth ประเทศเวลส์ ผู้ป่วยเป็นอาการทางจิตขั้นรุนแรง ซึ่งมันส่งผลให้ในบางครั้งเธอจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นไดโนสาร์ทีเร็กซ์ที่ก้าวร้าว หรือบางครั้งก็เป็นลิงจ๋อที่อยู่ในสวนสัตว์แล้วแต่ช่วงเวลา โดยก็ผลคือมันทำให้เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย เธอบอกว่าอาการของเธอค่อยๆ รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในตอนที่คิดว่าเป็นทีเร็กซ์จะดุมากๆ นานวันเข้าก็แรงขึ้นๆ ซึ่งเธอก็ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้วว่าเธอป่วยเป็นโรค Anti-NMDA receptor encephalitis ซึ่งหายากมากๆ โดยจะพบแค่ 1 คน จาก 75,000 คนเท่านั้น เธอต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่โชคยังดีที่ที่ปรึึกษาของเธอเคยเจออาการแบบนี้มาก่อนจึงสามารถรับมือได้เป็นอย่างดี รวมถึงแม่ของเธอที่อยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา เธอยังเล่าว่าเธอรู้ตัวว่าเริ่มป่วยครั้งแรกก็ตอนที่เพื่อนบ้านเริ่มเห็นเธออาเจียนและมีอาการหวาดระแวงอย่างต่อเนื่อง โดยในตอนแรกทุกคนก็เริ่มคิดว่าเธอเป็นไบโพล่าร์ แต่ทว่ากลับไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด เพราะว่าในปี 2017 อาการของเธอก็ยังดำเนินต่อไปและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบัน มีช่วงหนึ่งอาการของเธอกำเริบหนักมากๆ เธอเริ่มมีอาการคลั่งอย่างรุนแรงและควบคุมร่างกายไม่ได้ ร่างกายเริ่มหายใจถี่ขึ้น โดยในตอนแรกเธอถูกส่งไปยังโรงพยาบาล Bronglais Hospital แต่ว่าที่นี่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญโรคดังกล่าวอยู่ เธอจึงถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาล Swansea’s Morriston…
-
ครอบครัวส่งต่อ “ชุดโรงเรียนอนุบาล” ที่ถูกใส่ตั้งแต่ยุค 1950 มาจนถึงรุ่นลูกหลานในปัจจุบัน
“เสื้อผ้า” ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันแห่งความสุข ที่นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ในบางครั้งก็เต็มไปด้วยความหมายและความรู้สึกดีๆ มากมายได้เช่นกัน การที่คนรักได้เลือกเสื้อผ้าสวยๆ ให้กับเรา หรือการส่งต่อเสื้อผ้าให้กับคนในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น ก็ถือเป็นการสร้างสตอรี่ดีๆ ที่อบอวลไปด้วยความรัก และความทรงจำเก่าๆ ที่ไม่เคยจางหาย สำหรับการเปิดเทอมวันแรก พ่อแม่ส่วนใหญ่อาจจะมองหาเครื่องแต่งกายที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้แก่ลูกๆ ของพวกเขา แต่สำหรับ Jenny Hirt แล้ว เธอกลับไม่ทำเช่นนั้น เพราะเมื่อ Caroline ลูกสาววัย 4 ขวบของเธอได้เข้าเรียนโรงเรียนอนุบาลเป็นวันแรก เธอจึงเลือกที่จะให้ลูกสวมใส่ชุดเดรสสีเหลืองที่ประดับด้วยลวดลายสีม่วงแสนน่ารักชุดนี้… สำหรับชุดดังกล่าวบอกเลยว่าไม่ใช่ชุดเดรสธรรมดาๆ ทั่วไป แต่มันเป็นชุดที่ถูกส่งต่อกันมาหลายทศวรรษ จากรุ่นย่า-ยาย มาสู่รุ่นแม่ จนถึงรุ่นหลาน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว Jenny ก็เคยใส่ชุดนี้มาแล้วเช่นกันในวันแรกของการเรียน ครอบครัวของ Jenny ได้สวมใส่ชุดเดรสสีเหลืองชุดนี้มาแล้วกว่า 3 ชั่วอายุคน และ Caroline ก็เป็นคนที่ 18 ที่ได้สวมชุดนี้ ขณะที่ Ally วัย 6 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวได้สวมชุดนี้เป็นคนที่ 17…
-
พาทัวร์ “ห้องพักสุดหรู” ของโรงแรมในประเทศญี่ปุ่น ที่มีราคาถึง 100,000 บาทต่อคืน!!
หากใครที่เคยเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น คุณจะเห็นว่าประเทศนี้มีที่พักให้เลือกมากมาย สำหรับนักเดินทางหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของงบประมาณและความสะดวกสบายที่จะได้รับ ซึ่งนอกเหนือจากห้องพักราคาถูกแล้ว แน่นอนว่ามันจะต้องมีห้องพักที่หรูหราและมีราคาแพงแสนแพงสำหรับนักท่องเที่ยวที่ยินดีจะจ่ายเพื่อความสุขของตัวเอง ซึ่งคุณก็สามารถพบห้องพักเหล่านั้นได้ที่เซ็นได เมืองเอกของจังหวัดมิยางิแห่งนี้!! Chris Broad ยูทูบเบอร์จากช่อง Abroad in Japan เพิ่งจะเดินทางไปยังเมืองเซ็นไดกับคุณเรียวทาโร่ เพื่อนของเขาเพื่อไปแอบส่องดูภายใน Sendai Royal Park Hotel โรงแรมสุดแสนจะหรูหราแห่งนี้ ว่ากันว่าห้องสวีทของโรงแรมแห่งนี้ มีราคาที่พักแพงมากถึง 3,000 เหรียญ (ราวๆ 100,000 บาท) ต่อคืน ซึ่งมันเทียบเท่ากับราคาห้องพักของจักรพรรดิญี่ปุ่นเลยทีเดียว เรามารับชมคลิปวีดีโอการทัวร์ห้องพักสุดหรูที่โรงแรม Sendai Royal Park Hotel กันเลย นี่อาจจะเป็นห้องพักในฝันของใครหลายๆ คนที่เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้ามันมีราคาแพงขนาดนี้ ก็คงจะได้แค่มองตาปริบๆ ส่วนนี่คือห้องประชุม และห้องรับประทานอาการที่ประดับตกแต่งไปด้วยโคมไฟระย้า ห้องนั่งเล่นพร้อมโซฟาที่จะทำให้คุณได้นั่งอย่างสบายๆ และนี่คือเตียงขนาดมหึมา จะสังเกตเห็นได้ว่าภายในห้องนั้นมีพื้นที่กว้างขวางมาก แตกต่างจากโรงแรมในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ นอกจากนี้…
-
รู้ไว้ก่อนจะสาย… 14 สิ่งที่อาจทำให้คุณตายได้ หากทานในปริมาณ ‘มหาศาล’ เกินจะรับไหว
อาหารที่เราทานเข้าไปทุกวันนี้มีทั้งที่ดีและไม่ดีต่อร่างกาย แต่นอกจากตัวอาหารเองแล้ว ปริมาณที่เราทานเข้าไปก็มีผลต่อร่างกายเช่นกัน อาหารบางชนิดมีสารอาหารที่มีประโยชน์ แต่ถ้าหากทานมากเกินไป แทนที่จะส่งผลดีแต่กลับกลายเป็นยาพิษที่ย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ และทางเว็บไซต์ Brightside ก็ได้เผยรายชื่ออาหารทั้ง 15 ที่เป็นอันตราย ถ้าหากทานในปริมาณที่มากเกินไป 1. น้ำ (ภาวะน้ำเป็นพิษ) เราอาจะเคยได้ยินว่าควรจะดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร แต่หากคุณดื่มมากกว่านั้น 3 เท่า ไตของคุณจะไม่สามารถประมวลปริมาณของเหลวที่มากขนาดนั้นได้ และทำให้ระบบการทำงานในร่างกายเสียหายไปด้วย ผลของการมีของเหลวในร่างกายมากเกินไปคือ ทำให้สมองบวมน้ำ และจะหยุดหายใจในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดกับ Jennifer Strange ที่ดื่มน้ำเข้าไปถึง 7.5 ลิตร ระหว่างการแข่งขัน “Hold Your Wee for a Wii” 2. กาแฟ เชื่อกันว่าหากทานคาเฟอีนเข้าไปครึ่งออนซ์อาจถึงตายได้ เพราะเทียบเท่ากับกาแฟ 113 แก้ว หรือ 250 มิลลิลิตร!! สำหรับบางกรณีอาจจะไม่ตายเพราะได้รับคาเฟอีนมากเกินไป แต่เป็นเพราะกาแฟ 113 แก้ว ที่มีน้ำอยู่ถึง 30 ลิตร ที่จะก่อให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ…
-
7 เหตุผลที่ทำให้โรงเรียนในฟินแลนด์เจ๋งที่สุดในโลก ที่หลายประเทศไม่อาจเลียนแบบได้
ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในด้านการศึกษามากที่สุด แน่นอนว่าพวกเขาคงจะมีเคล็ดลับดีๆ ที่หลายประเทศอยากรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษาบ้าง ทางเว็บไซต์ Businessinsider จึงได้รวบรวมเหตุผลที่ทำให้โรงเรียนในประเทศฟินแลนด์นั้น มีความเจ๋งที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะพยายามทำตามแล้ว แต่ก็ไม่อาจทำในระดับที่เทียบเท่าได้เลย จะเป็นเพราะอะไรบ้าง เรามาดูกันเถอะ!! 1. โรงเรียนและศูนย์ชุมชน Kastelli ตั้งอยู่ในเมือง Oulu ประเทศฟินแลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี 2014 สามารถรองรับนักเรียนได้ 1,500 คน นอกจากเป็นโรงเรียนแล้วและศูนย์ชุมชนแล้ว Kastelli ยังเป็นที่พักผ่อนและศูนย์สุขภาพสำหรับผู้ใหญ่ด้วย แต่วัตถุประสงค์หลักของสถานที่แห่งนี้ก็คือ เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ทีมสถาปนิก Lahdelma & Mahlamäki จึงได้ออกแบบทางเดินและลานกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเช่นเดียวกันสำหรับพื้นที่ด้านนอก ก็จะเป็นลานกิจกรรมสำหรับคนอีกช่วงอายุหนึ่ง 2. ภายในจะมีทางเดินที่ทอดยาวและพื้นที่ว่าง สำหรับให้นักเรียนได้พบปะ พูดคุยกับเพื่อนได้ตามสะดวก Reino Tapaninen หัวหน้าของทีมสถาปนิกกล่าวว่า แม้จะมีพื้นที่ว่างสำหรับให้นักเรียนพูดคุยกัน แต่ด้วยการออกแบบที่พิเศษ จะช่วยลดเสียงของพวกเขาไม่ให้ดังเกินไปจนสร้างความรำคาญให้คนอื่น นอกจากนี้ภายในอาคารก็จะมีเก้าอี้นุ่มๆ เบาะขนาดใหญ่ เก้าอี้โยก โซฟา ผนังที่สามารถเลื่อนได้ และที่กั้น…
-
20 ภาพของผู้คนสายบันเทิง แม้จะโดนพายุเล่นงานอย่างหนัก แต่ก็ยังสรรหาเรื่องตลกทำได้อยู่ดี
ในขณะที่รัฐฟลอริดากำลังถูกพายุเออร์มาถล่มอย่างหนัก จนทำให้เกิดน้ำท่วมและสร้างความเสียหายต่ออาคาร บ้านเรือนอย่างต่อเนื่อง และผู้คนจำเป็นที่จะต้องอพยพไปยังในพื้นที่ที่ปลอดภัยแทน แน่นอนว่าสถานการณ์ที่ร้ายแรงแบบนี้ ผู้คนคงจะอยู่ในภาวะที่ตึงเครียด จนไม่เป็นอันทำอะไร แต่ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ชีวิตติดตลก แม้จะอยู่สถาการณ์ที่โหดร้าย แต่ก็ยังมองโลกในแง่ดีมีความตลกอยู่เสมอ… แหม่ นี่ก็ยิ้มสู้ภัยสินะเนี่ย 1. เราจะเปิดให้บริการไปเรื่อยๆ จนกว่าตัวอักษรจะหลุดออกจากป้าย 2. ขอบคุณพายุเออร์มาที่พัดพาแทรมโพลีนมาให้ (ของใครก็ไม่รู้) 3. แจกต้นไม้ฟรีจ้า เอาไปได้เลย 4. แทนที่จะนั่งดูน้ำท่วมเฉยๆ เรามาสนุกกันเถอะ 5. น้ำจะท่วมหรอ ไม่หวั่นหรอก เพราะเราเตรียมเสื้อชูชีพไว้แล้ว 6. ในขณะที่นักข่าวรายงานความรุนแรงของพายุเออร์มา พี่คนข้างหลังยังโต้ลมเพลินๆ อยู่… 7. กลัวแม่เป็นห่วงเลยส่งภาพนี้ไปให้ “ยังโอเคอยู่แม่” 8. นี่คงจะเกลียดเกาหลีเหนือมากสินะ 9. เออร์มา โปรดรับสิ่งนี้ไปด้วยเถอะ 10. อืม สนุกมั้ยละเธอ 11.…
-
13 สุดยอดผลงานภาพถ่าย ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ในการประกวดภาพถ่ายสัตว์ป่าแห่งปี 2017
การแข่งขัน Wildlife Photographer of the Year หรือการประกวดภาพถ่ายแห่งปี ที่จัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติลอนดอนนั้น บอกเลยว่าได้รับความสนใจจากช่างภาพทั่วทุกมุมโลกเป็นอย่างมาก โดยในปี 2017 นี้ มีช่างภาพกว่า 92 ประเทศทั่วโลก ได้ส่งภาพถ่ายของสัตว์เข้ามาร่วมแข่งขันกันมากกว่า 10,000 ภาพ โดยจะมีเพียงแค่ 100 ภาพเท่านั้นที่จะได้รับคัดเลือดจากกรรมการ เพื่อค้นหาภาพถ่ายที่จะได้รับรางวัลชนะเลิศประจำปีนี้ และล่าสุด ทางสื่อต่างประเทศก็ได้ออกมาประกาศผล 13 ภาพถ่ายจากการแข่งขัน Wildlife Photographer of the Year ที่ถูกคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่าผลงานภาพถ่ายของช่างภาพแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ทีนี้เราก็ได้แต่ลุ้นกันละว่าภาพของใครที่จะได้รับรางวัลชนะเลิศภาพถ่ายสัตว์ป่าแห่งปี 2017 ว่าแล้วก็มารับชม 13 ภาพถ่ายสุดท้ายที่ได้เข้ารอบกันเลย 1. ภาพถ่ายอันงดงามของสุนัขจิ้งจอกอาร์กติก จากผลงานของช่างภาพชาวรัสเซียนามว่า Sergey Gorshkov 2. ภาพถ่ายของแม่และลูกแมวน้ำ ที่กำลังแหวกหว่ายอยู่ใต้ธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติกา โดย Laurent Ballesta ช่างภาพจากประเทศฝรั่งเศส 3. หอยทากเพศผู้และเพศเมียที่กำลังสืบพันธุ์กัน…
-
พาชมห้องเปิดตัวสินค้ามูลค่า 500 ล้าน ของ Apple ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ Steve Jobs
เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ iPhone 8 และ iPhone X แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในเวลาเดียวกันนี้ได้มีการเปิดตัวโรงละคร Steve Jobs Theater ที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ Steve Jobs โดยโรงละครแห่งนี้ตั้งอยู่ Apple Park สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ใน Cupertino รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งทางบริษัทคาดการณ์ไว้ว่าจะใช้ในการจัดงานสื่อมวลชนในปีต่อๆ ไป Steve Jobs Theater ตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงาน Apple Park โดยทางบริษัทคาดว่าจะย้ายพนักงานมาที่สำนักงานแห่งนี้ภายในสิ้นปี Steve Jobs Theater สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่สำหรับเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple โดยมีมูลค่าถึง 500 ล้านบาท Apple ได้มีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่คือ iPhone 8 และ iPhone X เมื่อวันที่ 12 กันยายน ปี 2017 ตัวพื้นที่จัดแสดงหรือโรงละครนั้นจะอยู่ชั้นใต้ดิน เพื่อที่จะเข้าไปในนั้นคุณต้องลงจากห้องกระจกที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ ชั้นล็อบบี้…
-
20 ภาพความหวาดกลัวและหยดน้ำตาจากแอฟริกากลาง เรื่องจริงปี 2014 ที่น้อยคนจะได้รู้
ย้อนกลับไปในปี 2014 สาธารณรัฐแอฟริกากลางได้เผชิญกับวิกฤติด้านความมั่นคง และวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่ร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่ได้รับอิสระในปี 1960 ทั้งประเทศต้องเผชิญกับความรุนแรงจากเหตุสงครามกลางเมืองอย่างต่อเนื่อง ประชาชนได้รับผลกระทบมากมายทั้งถูกบังคับให้อพยพออกไปจากที่อยู่อาศัยของตัวเอง ส่วนใครที่ยังคงอยู่ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากลูกหลงของสงคราม อาชญากรรมเกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ และปัญหาที่รุนแรงที่สุดคือการกวาดล้างชาวมุสลิม จนเป็นเหตุให้มีการหยิบยืมมือจากกองกำลังจากสหภาพยุโรปเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ โดยตั้งชื่อปฏิบัติการนี้ว่า ปฏิบัติการ Sangaris โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในสาธารณรัฐแอฟริกา นับตั้งแต่ปฏิบัติการ Sangaris เริ่มต้นขึ้น เหตุการณ์ความไม่สงบก็เริ่มลดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยีงมีรายงานว่า หลังจากที่สงครามได้สงบลงแล้วทางด้านกองกำลังรักษาสันติภาพขององค์การสหประชาชาติในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง (MINUSCA) และกองกำลังรักษาสันติภาพจากองค์การสหภาพแอฟริกัน (African Union : AU) จะเป็นผู้รับช่วงต่อภารกิจในการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่างๆ ของแอฟริกากลาง รวมถึงในกรุงบังกีที่เป็นเมืองหลวงต่อไป และนี่คือภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองจากช่างภาพ Michael Zumstein จากสำนักข่าว Le Monde ของประเทศฝรั่งเศสที่ได้ลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลมาให้พวกเราได้รับชมกัน **ภาพอาจมีความรุนแรง** 1. ในย่าน Combattant ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคริสเตียน มีกลุ่มผู้ชายฉลองการกลับมาของ Alexandre Ferdinand N’Guendet ประธาน CNT (สภาสันติภาพชั่วคราวของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง) และประธานาธิบดีเฉพาะกาลหลังจากการลาออกของ…
-
เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ลั่นไกใส่ท้ายทอยคุณแม่ขณะนอนหลับ เหตุเพราะทะเลาะกันเรื่องหมา
เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้น เมื่อชายหนุ่มวัย 19 ปีได้เกิดความโมโห คว้าอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะของแม่ตัวเองในขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ หลังจากที่เธอไม่ยอมให้เขาเลี้ยงลูกหมา!! เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา นาย Andrew Wilson ถูกรวบตัวและตั้งข้อหาฆาตกรรมหลังจากที่เขาใช้อาวุธปืนทำร้ายคุณ Lisa Marie Wilson หญิงสาววัย 51 ปีผู้เป็นแม่แท้ๆ ของตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สัมภาษณ์ว่า เด็กวัยรุ่นคนดังกล่าวเป็นคนโทรแจ้งตำรวจด้วยตัวเอง เมื่อประมาณ 7 โมงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา เด็กหนุ่มในการกับตำรวจว่าเขากลับมาถึงบ้านในตอนเช้าและพบแม่ของตัวเองถูกฆาตกรรมภายในบ้าน จากนั้นตำรวจรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ และพบกับร่างของคุณ Lisa Marie Wilson นอนแน่นิ่งอยู่ภายในห้องของเธอ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าหญิงวัย 51 ปีถูกยิงเข้าที่ด้านหลังของศีรษะ 1 นัด คุณ Charles Buckland นักสืบจากสถานีตำรวจ Ingham กล่าวว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านของพวกเขาเลยนอกจากเด็กหนุ่มและแม่ของเขา นักสืบ Buckland กล่าวว่า คุณ Lisa Marie Wilson ได้บอกให้ลูกของเธอดูแลและพาเจ้าหมาที่พวกเขาเพิ่งพบในบ้านของพ่อเด็กหนุ่มในเมือง Dansville เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาให้ดี เด็กหนุ่มให้การสารภาพว่าหลังจากในคืนที่ก่อเหตุเขาได้นำปืน .22 แม็กนั่มจากตู้เก็บของออกมา จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องและยิงเข้าที่ด้านหลังของศีรษะคุณแม่ ก่อนที่จะขับรถออกไปเพื่อทำลายอาวุธปืน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเล็ดลอดสายตาของคุณตำรวจไปได้ …
-
นางแบบนู้ดเบลเยี่ยมเกือบถูกจับเข้าคุกอียิปต์ หลังจากถ่ายภาพเปลือยในโบราณสถาน
บางครั้งการถ่ายภาพนู้ดก็มีอะไรที่มากกว่าเรื่องเพศ นอกจากความสวยงามของเรือนร่างนางแบบแล้ว มันยังเปรียบเสมือนกับศิลปะอีกแขนงหนึ่งอีกด้วย แต่บางครั้งการออกไปถ่ายภาพนู้ดนอกสถานที่นั้นก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องได้ เหมือนกับกรณีของนางแบบท่านนี้ คุณ Marisa Papen นางแบบนู้ดชาวเบลเยี่ยมเกือบจะต้องเปลี่ยนที่นอนและย้ายไปค้างคืนในเรือนจำของอียิปต์แล้ว หลังจากที่เธอและทีมงานได้เข้าไปถ่ายแบบในโบราณสถานแห่งหนึ่งของเมือง Luxor นางแบบสาวอ้างว่าการถ่ายภาพเปลือยของเธอนั้นเป็นการปลดปล่อยจิตวิญญาณและเข้าถึงธรรมชาติ เธอและช่างภาพคุณ Jesse Walker ได้เดินทางไปที่ทวีปอเมริกาเหนือเพื่อถ่ายภาพนู้ดในสถานที่อันมีชื่อเสียงของอียิปต์ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโบราณสถานแห่งนั้นจะไม่เข้าใจการปลดปล่อยจิตวิญญาณของเธอ เมื่อเขาได้เข้ารวบตัวเธอและช่างภาพหลังจากที่เห็นถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมนี้ คุณ Papen นั้นเคยเดินทางไปถ่ายรูปนู้ดคู่กับช่างภาพของเธอมาแล้วมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และทริปการถ่ายภาพของเธอก็มักจะจบลงในลักษณะแบบนี้ แม้ว่าเธอจะทราบดีถึงความแตกต่างด้านวัฒนธรรมและกฎหมายเกี่ยวกับการเปลือยกายในอียิปต์และชาติตะวันตก แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดเธอและช่างภาพคู่ใจได้ หลังจากที่ทั้งคู่เดินทางมาถึงอียิปต์เมื่อประมาณช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา สถานที่แรกที่พวกเขาเลือกก็คือบริเวณหน้าพีระมิด Giza เธอบอกว่าได้ให้เงินใต้โต๊ะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อเข้าไปถ่ายภาพเปลือยในนั้น “ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ พวกเราพยายามอธิบายว่าเรามาทำงานศิลปะที่แสดงถึงความเคารพอย่างสูงสุดกับวัฒนธรรมอียิปต์ และจ่ายเงินประมาณ 15 ปอนด์ให้กับพวกเขา” แต่สำหรับการถ่ายภาพในวิหารแห่ง Karnak นั้นไม่ง่ายเหมือนกับการแอบเข้าไปในพื้นที่ของพีระมิด ทั้งคู่ตัดสินใจแอบอยู่ในวิหารจนกระทั่งถึงเวลาปิดทำการ ก่อนที่จะออกมาถ่ายภาพในผลงานชุดตามรอยคลีโอพัตรา และถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าจับกุมตัวและส่งตัวไปยังสถานีตำรวจ โชคดีที่เจ้าหน้าที่ไม่เห็นภาพนู้ดของเธอ เพราะช่างภาพคู่หูของเธอดันลบภาพดังกล่าวไปก่อนที่พวกเขาจะตรวจพบ และในที่สุดตำรวจก็ส่งตัวทั้งสองกลับออกมา “ฉันรู้ดีว่าคุกที่อียิปต์นั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกับที่เบลเยี่ยม ที่นั่นฉันได้เห็นภาพที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ และโชคดีจริงๆ ที่ไม่ได้ติดอยู่ในนั้น” คุณ Papen กล่าว แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถกู้ไฟล์ภาพที่ลบไปแล้วได้ด้วยโปรแกรมพิเศษเมื่อกลับถึงโรงแรม และก็เป็นโชคดีของเธอกับคู่หูจริงๆ ที่ไม่ต้องย้ายที่นอนในคืนนั้น!! ที่มา dailymail
-
พาไปดู “เครื่องแบบตำรวจ” ใน 14 ประเทศทั่วโลก ดูซิว่าพวกเขาจะเท่ห์กันขนาดไหน!
ผู้พิทักษ์สันติราชหรืออาชีพที่เรารู้จักกันดีอย่าง “ตำรวจ” เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องเคยเจอเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย อยู่ในทุกที่ที่เราไป ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องครอบคลุมดูแลประชาชนทุกคน ภาพของตำรวจบ้านเราในชุดสีกากี ตั้งด่าน ตรวจตราความเรียบร้อย ไล่จับผู้ร้าย คือสิ่งปกติที่เกิดขึ้นในไทย แล้วเครื่องแบบตำรวจของประเทศอื่นๆ ล่ะ จะเป็นอย่างไร เคยสงสัยกันหรือเปล่าเอ่ย? พูดไปก็คงจะไม่เห็นภาพ งั้นลองไปดูภาพของพวกเขากันเลยดีกว่า ว่าแต่ละที่จะมีเครื่องไม้เครื่องมือ และการแต่งกายอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ประเทศอิตาลี นายตำรวจ Ben Sinclair ในชุดตำรวจนครบาลและเสื้อสะท้อนแสง ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปราบปรามผู้ก่อการร้ายพิเศษ นครเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ตำรวจนครบาลหน่วยสำรองรัฐบาลกลาง พร้อมอุปกรณ์ควบคุมการก่อจราจล ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตำรวจแห่งเมืองนิวยอร์ก ยืนเฝ้ายามพาเหรดเฉลิมฉลองวันอินเดียตะวันตก ที่บรูคลิน สหรัฐอเมริกา ภาพของนายตำรวจ เมืองคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน สมาชิกกองกำลังความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ด้านหน้าสำนักงานใหญ่ของฝั่งยุโรป นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษ ในจุดฝึกซ้อม…
-
พิธีกรรม “ขุดศพคนตาย” ของชาวอินโดนีเซีย ชำระล้างแต่งตัวให้ แล้วพาเดินแห่รอบหมู่บ้าน…
ในทั่วทุกพื้นที่บนโลกใบนี้ ล้วนเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย และมีการสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน ยกตัวอย่างเช่น พิธีกรรมทำศพก็มีความแตกต่างกันไปตามความเชื่อ และตามแต่ละพื้นที่ แต่หากว่าใครได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับพิธีทำศพของชาวบ้านแห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกขนลุกอย่างแน่นอน เพราะพิธีกรรมที่ว่ากันนี้เป็นการปลุกศพขึ้นมาจากหลุมนั่นเอง เว็บไซต์เดลีเมล์ของอังกฤษ ได้เปิดเผยภาพพร้อมเรื่องราวพิธีกรรมชวนขนลุกของชนเผ่าพื้นเมือง โทราจา (Torajan) ทางตอนใต้เกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย โดยพิธีกรรมดังกล่าว มีชื่อเรียกว่า Ma’nene หรือ พิธีกรรมทำความสะอาดศพ ซึ่งชาวโทราจา จะทำการขุดศพญาติพี่น้องที่เสียชีวิตไปแล้วขึ้นมาจากหลุม ก่อนที่พวกเขาจะทำการชำระล้างทำความสะอาด และจับแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ จากนั้นก็พาศพเดินแห่ไปรอบๆ หมู่บ้าน และหลังจากเสร็จสิ้นพิธีก็จะนำกลับไปฝังในหลุมศพดังเดิม ทั้งนี้ หากผู้ตายได้เสียชีวิตในระหว่างการเดินทาง ครอบครัวก็จะต้องพาศพกลับไปยังสถานที่เดิม และเดินทางกลับหมู่บ้านไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าเป็นการนำดวงวิญญาณกลับไปสิงสถิตยังบ้านเกิด อย่างไรก็ตาม ทางชาวบ้านได้ออกมาอธิบายว่า การที่มีพิธีกรรมเหล่านี้เป็นการแสดงออกถึงความรัก และความผูกพันที่ชาวโทราจามีต่อบรรพบุรุษ นอกจากนี้ การทำพิธีกรรมดังกล่าวยังทำให้พวกเขาคาดหวังว่าพืชผลทางการเกษตรจะได้ผลผลิตที่งอกงาม เพราะได้รับความคุ้มครองจากวิญญาณของบรรพบุรุษอีกด้วย . “นี่เป็นวิธีเคารพคนตายของเรา ไม่มีช่วงแห่งการไว้ทุกข์ใดๆ ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสำหรับเราเสียมากกว่า เพราะมันจะทำให้เราได้กลับมาอยู่กับคนในครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้วอีกครั้ง เราพยายามที่จะให้เกียรติพวกเขา และในทางกลับกันเราก็ได้ขอพรจากพวกเขา เพื่อให้พืชผลทางการเกษตรเจริญงอกงาม”…
-
เจ้าหนูวัย 8 ขวบเกือบตาย!! หลังถูกเด็กวัยรุ่น “เหยียดเชื้อชาติ” พร้อมกับจับแขวนคอ
ปัญหาความแตกต่างของเชื้อชาตินั้นดูเหมือนว่านับวันจะมีความรุนแรงมากขึ้น และในครั้งนี้มันได้รุกลามไปถึงเด็กตัวน้อยๆ แล้ว หลังจากที่เจ้าหนูวัย 14 ปี ที่พยายามจะแขวนคอเจ้าหนูลูกครึ่งวัย 8 ขวบ เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนละเชื้อชาติกัน เมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา เด็กชาย Quincy หนูน้อยวัย 8 ขวบถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนพร้อมกับรอยแผลที่คอของเขาหลังจากที่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งพยายามจะแขวนเจ้าหนูไว้กับเชือก คุณ Cassandra ผู้เป็นแม่ของเจ้าหนูได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กของเธอเพื่อประณามการกระทำของเด็กวัยรุ่นคนดังกล่าว “ลูกชายของฉันถูกส่งตัวมาโรงพยาบาล Dartmouth หลังจากที่เด็กไว้รุ่นวัย 14 ปี พยายามที่จะแขวนคอเขา ฉันไม่สนว่านี่มันเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ แต่ลูกของฉันเกือบตายเพราะเด็กคนนั้นแล้ว” ส่วนทางด้านคุณ Lorrie Slattery คุณย่าของเจ้าหนูน้อยได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าหลานชายของเธอได้เล่นกับเด็กวัยรุ่นหลุ่มหนึ่งอยู่บริเวณสนามหญ้าเมื่อประมาณ 5 โมงเย็น จากนั้นกลุ่มเด็กวัยรุ่นก็เริ่มล้อหลานชายของเธอเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติและเริ่มเอากิ่งไม้และก้อนหินมาขว้างใส่เขา หลังจากนั้นเด็กคนหนึ่งก็ได้ปีนขึ้นไปบนโต๊ะพร้อมกับแกว่งเชือกเส้นหนึ่งไปมา จากนั้นเด็กชายคนดังกล่าวก็พูดขึ้นมาว่า “ดูนี่!!” พร้อมกับเอาเชือกเส้นดังกล่าวมาพันที่รอบคอของเจ้าหนู Quincy จากนั้นเด็กชายวัยรุ่นคนนั้นจึงถีบเจ้าหนูน้อยลงมาจากโต๊ะพร้อมกับกระตุกเชือกขึ้น!! ถึงแม้ว่ากลุ่มเด็กวัยรุ่นดังกล่าวจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเพียงแค่อุบัติเหตุ แต่ทางคุณยายของเจ้าหนูไม่คิดแบบนั้น และเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจงใจของพวกเขา คุณ Cassandra ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่เธอยอมเผยแพร่ภาพของลูกชายลงบนโลกออนไลน์นั่นก็เพราะว่าเธออยากจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า การเหยียดเชื้อชาติและการเหยียดผิวนั้นยังคงมีอยู่ในสังคม และตอนนี้มันได้รุกลามมาถึงพวกเด็กๆ แล้ว ที่มา dailymail
-
หนุ่มรักสัตว์ของแท้ ผู้เลี้ยง “นก” กว่า 3,000 ตัว ทุกวันๆ แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
หลายคนมีสัตว์เลี้ยงที่เราคอยดูแลพวกมันอยู่เสมอ ทั้งเจ้าหมาเจ้าเหมียวทั้งหลาย หรือแม้แต่นกสายพันธุ์ต่างๆ ชายคนนี้เองก็เป็นผู้ชื่นชอบนกและเลี้ยงไว้เช่นเดียวกัน ทว่าความเจ๋งก็คือเขาไม่ได้เลี้ยงแค่ตัวเดียวเนี่ยสิ Harsukh Bhai Dobariya หนุ่มชาวอินเดียผู้โด่งดังอย่างมาก โดยเฉพาะกับนกแล้วละก็ เขาเป็นที่รู้จักพอสมควรเลย เพราะจะมีนกแก้วและนกกระจอกราวๆ 3,000 ตัวมาหาเขาที่บ้านทุกๆ วัน เรื่องแบบนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2000 ในตอนที่เขาขาหัก ต้องนอนอยู่บนเตียงแทบจะตลอดเวลา จนเมื่อคนแถวบ้านมาซื้อข้าวฟ่างมุกจากเขา ทำให้เกิดไอเดียนำซังข้าวฟ่างวางล่อตาเจ้านกให้มากินตรงระเบียงบ้านของตัวเอง วันต่อมาพบว่ามีนกแก้วสองตัวกำลังกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ผ่านไปจำนวนของพวกมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งภายในหนึ่งเดือน ก็มีนกขาประจำมาราว 200 ตัวทุกๆ วัน ด้วยพื้นที่ที่จำกัด จึงนำเอาท่อน้ำเก่าๆ มาวางเรียงกันและเอาฝักไปห้อยไว้ ทำให้เจ้านกทั้งหลายที่มาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สามารถกินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ที่พักใจกลางของเขาที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเหล่านกมากมาย สร้างความเดือดร้อนให้คนข้างบ้านและผู้สัญจรไปมา ด้วยเสียงร้องที่มีให้ได้ยินกันตลอด แล้วยังเรื่องของขี้นกอีกก็เป็นปัญหาสำคัญ ทำให้เขาและครอบครัวตัดสินใจย้ายออกไปอยู่นอกเมืองในปี 2012 บนพื้นที่กว่า 16,000 ตารางเมตร และมั่นใจว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ทำให้สามารถให้อาหารพวกนกได้อย่างเต็มที่ เรียกว่าเป็นฟาร์มนกไปแล้ว ปัจจุบันเขาและครอบครัวให้อาหารนกราว 3,000 ตัวต่อวัน ที่บินกันมาเป็นระยะๆ เกาะอยู่บนแผงทรงตัวที่พวกเขาสร้างให้ จำนวนที่มากขนาดนี้ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนซักข้าวฟ่างสองครั้งต่อวันกันเลย…
-
ลิงทั้งฝูงล้มตายอย่างประหลาด คาดเกิดจากหัวใจวายจาก “เสียงคำราม” ของเสือโคร่ง
เราคงจะเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับอาการหัวใจวายจากการตกใจกันบ้างใช่ไหม บ้างก็มาจากการแกล้งหรือการตกใจสุดขีด แต่น้อยครั้งที่เราจะเห็นมันเกิดขึ้นกับสัตว์ ที่สำคัญกว่าคือครั้งเดียวตายยกฝูง!!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ป่าแห่งหนึ่งในเขต Kotwali Mohammadi ของอินเดีย ซึ่งมีรายงานว่ามีคนพบลิง 12 ตัวนอนตายอยู่ข้างกัน และยังได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านสัตวแพทย์ว่า พวกมันตายเพราะหัวใจวายจากอาการตกใจกลัวอะไรบางอย่าง (คาดว่าน่าจะเป็นเสือโคร่ง) แปลกดีใช่ไหมล่ะ? แต่เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากหลายฝ่าย รวมทั้งชาวบ้านเองก็บอกว่าบริเวณป่าดังกล่าวมีอยู่เสือเพ่นพ่านอยู่เยอะ ด็อกเตอร์ Sanjeev Kumar ผู้เชี่ยวชาญก็บอกเช่นเดียวกัน แต่เขาบอกว่ามันอาจจะมีปัจจัยอื่นเสริมเช่น ลิงอาจจะได้รับพิษจากอะไรบางอย่างมาก่อนแล้ว อาจจะเป็นอาหารหรืออะไรก็ตาม ทว่าเมื่อพวกมันเจอเสือคำรามใส่บวกกับพิษที่เป็นอยู่ จึงทำให้เกิดอาการหัวใจวายและตายพร้อมกันหมดนั่นเอง แต่ถึงแม้สื่ออินเดียจะรายงานตามคำบอกเล่ายังไง ชาวเน็ตก็ยังไม่ปักใจเชื่อซะทีเดียว พวกเขาต่างพากันไปในทิศทางเดียวกันว่า ฝูงลิงดังกล่าวถูกฟ้าผ่าจนทำให้พวกมันช็อคตายราวกับหัวใจวาย เพราะกระแสไฟฟ้าจากฟ้าผ่ามันแรงมากจนทำให้พวกมันตายได้นั่นเอง ชาวเน็ตหลายคนบอกว่าพวกมันถูกฟ้าผ่า อย่างคนนี้ก็บอกว่ามันเกิดขึ้นในบางครั้งกับกวางเรนเดียร์ แต่ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร การตายของพวกมันก็ยังเป็นเรื่องประหลาดอยู่ดีนั่นเอง แล้วเพื่อนๆ คิดว่าพวกมันตายเพราะสาเหตุอะไรกัน ลองคอมเม้นต์มาดูนะ… ที่มา dailymail
-
คนงานเหมืองทองในบราซิลบุกรุนผืนป่า และสังหารชนเผ่าพื้นเมืองอย่างโหดเหี้ยม!!
แม้เราจะเติบโตกันในยุคสมัยที่เจริญแล้วก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าในโลกใบนี้ยังมีชนเผ่าพื้นเมืองอีกมากมาย ที่ยังไม่เจริญตามยุคสมัยหรือเข้าถึงเทคโนยีและยังรักษาแนวทางของพวกเขาไว้ ชนเผ่าอะเมซอนที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของบลาซิลก็เช่นกัน พวกเขาเป็นชนเผ่าที่ไม่ติดต่อกับโลกภายนอก แต่ทว่าจุดที่พวกเขาอยู่นั้นมันกลับเป็นจุดที่มีแร่ธาตุต่างๆ อยู่นั้นรวมถึงทองด้วย จึงทำให้มีนายทุนเลือกที่จะส่งคนเข้าไปทำเหมืองบริเวณดังกล่าว แต่ว่าเรื่องสุดโหดเหี่ยมก็เกิดขึ้น เมื่อคนเหมืองสองคนถูกจับได้โทษฐานฆ่าหั่นศพชนเผ่าพื้นเมืองดังกล่าวถึง 20 คน ซึ่งพวกเขาได้ทำลายหลักฐานโดยการเอาศพไปทิ้งลงแม่น้ำนั่นเอง จากรายงานบอกว่า สถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่ที่ Vale do Javari ซึ่งเป็นที่ดินพื้นเมืองอันเก่าแก่ โดยอยู่ห่างจากเมืองมาเนาส์ราวๆ ของประเทศบลาซิล 1200 กิโลเมตร คนงานเหมืองทั้งสองที่ถูกจับ ได้บอกถึงสาเหตที่ต้องฆ่าชนเผ่าว่า ถ้าไม่ฆ่าชนเผ่าพวกเขาก็จะถูกฆ่า ฉะนั้นจึงต้องลงมือทันที และจากรายงานที่บอกว่ามีผู้ตาย 20 คนนั้น จริงๆ แล้วก็ยังไม่มีการระบุตัวเลขที่ชัดเจน แต่ก็คาดว่าอยู่ราวๆ 19 ถึง 21 คน… อย่างไรก็ตามเรื่องราวในครั้งนี้นั้นถูกประนามโดยองค์กร Survival International และพวกเขายังบอกอีกว่า การฆาตกรรมครั้งนี้เกิดมาเป็นเดือนๆ แล้ว แต่พึ่งจะถูกเปิดเผยไม่นานนี้ ซึ่งถือว่าเป็นความไม่ใส่ใจของรัฐบาล ที่มา metro
-
เรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากการถูก “สาดน้ำกรด” สะท้อนถึงความโหดร้ายในตัวมนุษย์
ความทรมานจากบาดแผลที่ถูกสาดด้วยน้ำกรด ไม่ได้ทิ้งไว้เพียงแค่แผลเป็นบนร่างกาย ที่สำคัญคือจิตใจที่จะต้องใช้ชีวิตต่อไปด้วยสภาพแบบนั้น ช่างภาพชาวเยอรมัน Ann-Christine Woehrl จึงเดินทางไปเอเชียและแอฟริกา เพื่อถ่ายภาพของหญิงสาวผู้รอดชีวิตจากสิ่งนั้น โปรเจกต์นี้มีชื่อว่า IN / VISIBLE ซึ่งจัดขึ้นในนามขององค์กรการกุศล ASTi คอยช่วยเหลือเหยื่อจากสารเคมีชนิดนี้ทั่วโลก ในอูกันด้า กัมพูชา ปากีสถาน เนปาล อินเดีย และบังกลาเทศ คือสถานที่เธอเข้ามาถ่าย เพราะประเทศเหล่านี้เกิดเหตุการณ์ถูกทำร้ายประเภทนี้เยอะมาก เหยื่อมากมายต้องเสียโฉม ตัดขาดการเข้าสังคม บางคนถึงกับยอมรับว่าต้องการที่จะฆ่าตัวตายไปเลยเสียด้วยซ้ำ ภาพที่ไม่ได้แสดงให้เห็นเพียงรูปลักษณ์ของพวกเธอ แต่สื่อให้เห็นความรู้สึกภายในลึกๆ และเหตุการณ์อันเลวร้ายที่ต้องเจอมา มาร่วมรับรู้ส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านั้นกัน Sokneang ชาวกัมพูชา เธอถูกทำร้ายเมื่อปี 2005 จากหญิงสาวที่อิจฉาในความสัมพันธ์ของเธอและสามี ขณะที่เธอนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน ก็ต้องพบกับอาการแสบร้อน ไหม้ใบหน้าและร่างกายด้านซ้ายของเธอ Makima สาวชาวอินเดีย หนุ่มข้างบ้านต้องการแต่งงานกับเธอ แต่เธอปฏิเสธไป ทำให้ขณะที่เธอหลับอยู่ในคืนหนึ่ง แม่ของฝ่ายชายเอาน้ำกรดมาเทไปทั่วหน้า ผู้กระทำผิดเพียงแค่จ่ายค่าทำขวัญให้กับเธอ และรอดจากการถูกจับกุมไปได้ เรื่องนี้เองที่ทำให้เธอต้องการเป็นตำรวจ ต่อสู้เพื่อความถูกต้องให้มากกว่านี้ Chantheoun ชาวกัมพูชา มีหญิงสาวและญาติๆ ของเธอขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าเธอไป พร้อมกับสาดน้ำกรดจำนวน 2…
-
Promobot หุ่นยนต์อัจฉริยะที่เคยหนีออกจากห้องทดลอง ได้จับมือกับ Vladimir Putin
ดูเหมือนว่าโลกอนาคตที่มีหุ่มยนต์เป็นส่วนหนึ่งของสังคมกำลังใกล้เป็นจริงแล้ว เมื่อหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถจดจำใบหน้าของผู้นำรัสเซียได้อย่างแม่นยำ และสามารถเข้าไปทักทายได้ราวกับเป็นมนุษย์คนหนึ่ง วันที่ 12 สิงหาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Promobot หุ่นยนต์อัจฉริยะ ได้พบกับ Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซีย ในขณะที่เขาได้เดินทางไปเยี่ยมชมงานแสดงนิทรรศการด้านไอทีในเมือง เปียร์ม ประเทศรัสเซีย จากการรายงานระบุว่า ภายหลังจากที่เจ้าหุ่นยนต์ Promobot ได้พบกับ Putin มันก็สามารถจดจำเขาได้ทันที พร้อมกันนี้ Promobot ยังได้กล่าวคำทักทาย และแนะนำตัวเองให้ Putin รู้จัก ก่อนที่ทั้งคู่จะจับมือกัน สำหรับ Promobot ถือเป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะที่สามารถจำจำใบหน้า และเสียงพูดของมนุษย์ได้ โดยก่อนหน้านี้สื่อหลายสำนักได้ออกมารายงานว่า เจ้า Promobot ทำเอาผู้คนที่อยู่บนท้องถนนในเมืองเปียร์มของประเทศรัสเซียพากันแตกตื่น ภายหลังจากที่มันได้หลบหนีออกมาจากห้องทดลอง และได้ออกมาเดินเพ่นพ่านกลางถนนเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง สร้างความวุ่นวายให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก แต่โชคดีที่การหลบหนีของมันในครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ เพราะท้ายที่สุดแบตเตอรี่ของมันเกิดดันหมดไปซะก่อนตอนที่กำลังข้ามถนน ทำให้มันไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้และยืนหยุดอยู่นิ่งๆ กลางถนน งานนี้ จึงทำให้พลเมืองดีต้องรีบโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สุดท้ายพวกเขาก็สามารถนำตัวของมันออกไปจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้ในที่สุด…
-
หนุ่มออสซี่ เข้าคิวรอกว่า 10 วันเพื่อหวังเป็นเจ้าของ ‘iPhone รุ่นใหม่’ คนแรกของโลก!!
สำหรับใครที่ติดตามข่าวสารในแวดวงเทคโนโลยีอยู่ตลอด ก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าในวันที่ 12 กันยายนนี้จะมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่จากค่ายผลไม้อย่าง Apple นั่นก็คือรุ่น iPhone 8, iPhone 8s และ iPhone X และแน่นอนว่าการที่ได้เป็นเจ้าของคนแรกๆ นั้นก็อาจจะทำให้หลายๆ คนฟินกันสุดๆ เหมือนกับพ่อหนุ่มคนนี้ที่ยอมเข้าคิวรอนานถึง 10 วันเพื่อเป็นเจ้าของโทรศัพท์รุ่นนี้คนแรก!! Mazen Kourouche ชายหนุ่มที่เดินทางมาไกลกว่า 12,000 กิโลเมตร เพื่อเข้าคิวรอซื้อ iPhone X อยู่ที่บริเวณหน้าแอปเปิลสโตร์ในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หนุ่มวัย 20 ปีที่มาเข้าแถวรอเป็นคนแรก!! ชายหนุ่มวัย 20 ปีที่ศึกษาอยู่ในคณะวิศวะกรรมซอฟแวร์ ในมหาวิทยาลัย University of New South Wales เชื่อว่าการรอคอยของเขานั้นจะต้องคุ้มค่าอย่างแน่นอน ซึ่งเขากำลังพยายามเป็นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้คนแรกของโลก เพื่อเหล่าแฟนคลับในช่องยูทูบของเขา “ผมเป็นยูทูบเบอร์ และผมกำลังจะไลฟ์สดเพื่อเหล่าแฟนๆ ของผมที่จะได้เห็นว่าผมได้เป็นเจ้าของ iPhone รุ่นใหม่คนแรก” ชายหนุ่มกล่าว ชายหนุ่มมารออยู่ที่นี่เป็นคนแรก และเขามั่นใจว่าจะไม่ยอมเสียเอกราชของเขาให้ใครแน่นอน “มีบางคนถามผมถึงที่นั่งตรงนี้ และผมก็ตอบพวกเขาไปว่า ได้สิแลกกับเงิน 50,000 เหรียญ…
-
ท้าความตายกับ 10 ถนนหนทางที่อันตรายที่สุดในโลก มองไกลๆ ยังหวาดเสียว
สำหรับคนที่ต้องใช้รถใช้ถนนทุกวัน อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แม้ว่าคุณขับรถดีแล้ว ก็ต้องสังเกตรถคนอื่นด้วย และถึงแม้ว่าคันอื่นจะขับกันดีแล้ว อย่าลืมที่จะดูเรื่องถนนด้วย เพราะบางทีเส้นทางที่เราใช้มันก็อาจไม่สะดวกสบายอย่างที่เราคิด เพราะ #เหมียวตะปู จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ 10 ถนนที่ขึ้นชื่อว่า อันตรายที่สุดในโลก บอกเลยว่าถ้าเป็นอย่างนี้ยอมจ่ายเงินนั่งเครื่องบินเดินทางไป อาจดีกว่ากันเยอะเลยนะ ถนนไฮเวย์เสฉวน – ทิเบต ในประเทศจีน ถนนเส้นนี้จะพาคุณขึ้นไปบนภูเขาสูงและลาดชัน อีกทั้งยังมีปัญหาดินและหินถล่มลงมาเป็นเรื่องปกติ และหากคุณคิดว่าก็ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ จากสถิติพบว่า 1 แสนคนที่ขับรถผ่านทางนี้ จะมีคนตาย 7,500 คน ซึ่งไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย ถนนตัดผ่าน Stelvio ในอิตาลี ถนนที่มีความยาวและสูงเป็นอันดับสองในบรรดาถนนบนเทือกเขาแอลป์ทั้งหมด ซึ่งสูงกว่า 2 กิโลเมตร รูปร่างเหมือนกับเด็กมาวาดอะไรเล่นขยึกขยือเต็มไปหมด ความอันตรายของมันก็คือความเร็วขณะที่ต้องขับลงมา ทางโค้งในมุม 180 องศา และที่กั้นคอนกรีตเตี้ยๆ รวมแล้วคือหายนะชัดๆ ถนนตัดผ่าน Los Caracoles ประเทศชิลี . เป็นถนนตัดผ่านเทือกเขาแอนดีส อยู่ระหว่างประเทศชิลีและอาร์เจนตินา เต็มไปด้วยทางสูงชันและโค้งหักศอกมากมาย…
-
ร่วมรำลึกเหตุการณ์ 9/11 กับภาพเหตุการณ์วันมหาวิปโยคในมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน!!
ถึงแม้จะผ่านมาแล้วกว่า 16 ปี แต่เหตุการณ์ 9/11 นั้นยังคงเป็นภาพเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ยังคงติดอยู่ในความทรงจำของหลายๆ คนแน่นอน และเพื่อถือโอกาสร่วมไว้อาลัยกับการครบรอบ 16 ปี โศกนาฏกรรมที่สะเทือนขวัญครั้งนี้ เราก็มีภาพจากฝีมือของช่างภาพทั้งสมัครเล่นและมืออาชีพผู้บันทึกเหตุการณ์ในวันมหาวิปโยคนั้นไว้ได้มาฝากกัน… 1. ภาพของผู้คนบนถนน Beekman ที่กำลังมองไปยังตึกอีกฝั่งที่กำลังพังทลายลงมา 2. ภาพของเครื่องบินลำที่สองที่กำลังพุ่งเข้าชนตึก South tower 3. ภาพของนักท่องเที่ยวสาวที่ตั้งครรภ์ 8 เดือน และหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตของเธอ 4. ผู้คนกำลังวิ่งหนีฝุ่นควันที่มาจากการถล่มของอาคาร World Trade Center บนถนน Broadway 5. ภาพถ่ายจากอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ตรงข้ามกับตึก เผยให้เห็นกลุ่มควันที่มาจากอาคาร North Tower หลังจากที่ถูกเครื่องบินลำแรกพุ่งชน 6. ชายหนุ่มและงานของเขา 7. เศษซากของอาคาร South Tower ที่ร่วงลงมาบริเวณโบสถ์ Trinity 8. ภาพของอาคาร South Tower ที่กำลังถล่มลงมา 9.…
-
คุณปู่อดีตคนดูแลม้า ขอให้อาหารม้าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจากโลกนี้ไปด้วยรอยยิ้มอันแสนสุข
แม้ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต คนเราก็ยังคงมีความสุขได้เสมอ เช่นเดียวกับคุณปู่ Patrick Saunders วัย 87 ปีที่เขากำลังจะจากโลกใบนี้ไป แต่เขาก็ยังคงยิ้มแย้มและมีความสุขในช่วงเวลาสุดท้าย คุณตา Patrick Saunders นั้นเป็นอดีตคนดูแลฟาร์มม้าแห่งหนึ่ง และเขาใช้เวลาชีวิตไปกับสัตว์ โดยเฉพาะม้า นั่นทำให้เขากลายเป็นคนที่มีสายสมพันธ์อันดีกับเหล่าสัตว์มากๆ พยาบาลคนหนึ่งที่ดูแลอาการของคุณปู่เล่าว่า เธอจะไม่ลืมรอยยิ้มของคุณปู่เลย เพราะสามวันก่อนที่คุณปู่จะสิ้นใจ คุณปู่ยังคมยิ้มแย้มอยู่เสมอ และพอถามถึงคำขอสุดท้ายก่อนจาก สิ่งที่คุณปู่ขอก็ยังคงเป็นสิ่งที่ผูกพันธ์เขามาตลอด นั้นก็คือการได้ให้อาหารม้าเป็นครั้งสุดท้าย… แน่นอนว่าพยาบาลก็ไม่ขัด พร้อมกับติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือเพื่อขอให้พวกเขาพาม้ามาให้หน่อย Victor คือม้าที่ได้มาเจอกับคุณปู่เป็นตัวสุดท้าย แน่นอนว่าร่างกายคุณปู่ก็ไม่ดีพอที่จะเดินออกไปให้อาการม้าเอง ทางทีมแพทย์จึงย้ายเตียงคุณปู่ออกไปไว้ข้างนอกเพื่อเจอกับม้าซะเลย คุณปู่จึงได้เจอกับเจ้า Victor ในท้ายที่สุดและให้อาการมันเป็นแอปเปิ้ล แครอท และใบมิ้นท์ Jayne ลูกสาวของคุณปู่ Patrick ก็มาเยี่ยมคุณพ่อในวันเดียวกัน และเธอได้เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของพ่อเธอก็บอกว่า เธอมีความสุขมากๆ ทั้งม้าและพ่อของเธอก็ต่างสื่อถึงกันได้แม้จะพึ่งเคยเจอกันก็ตาม เธอเล่าว่า “ฉันไม่คิดเหมือนกันว่า พ่อของฉันจะได้รับประสบการณ์อะไรแบบนี้ที่โรงพยาบาล แน่นอนว่าเขาก็มีวันแย่ๆ มาก่อนแต่ว่าในวันนี้เขาดูมีความสุขมากๆ เมื่อได้อยู่กับสัตว์ที่เขารัก ม้านั้นเป็นส่วนสำคัญมากๆ ของครอบครัวเรา ฉะนั้นวินาทีนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากๆ สำหรับเขา…
-
สายไบค์เกอร์ญี่ปุ่น เปลี่ยนมอเตอร์ไซค์เป็น “เครื่องดนตรี” ไม่เน้นเร็วแต่เน้นไพเราะเสนาะหู!!
มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะอย่างหนึ่งซึ่งมีคนชื่นชอบและหลงใหลที่จะใช้ขับขี่ไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยความคล่องตัว และความเร็วของมัน บางคนถึงกับอุทิศตนเข้าสู่วิถีของไบค์เกอร์กันเลยทีเดียว โดยที่ราคาของมอเตอร์ไซค์รุ่นดีๆก็มีราคาแพงมาก บางคันมีมูลค่าถึงระดับเจ็ดหลักเลยทีเดียว ในประเทศญี่ปุ่นมีกลุ่มนักแว้นมอเตอร์ไซค์ชื่อว่า “Bōsōzoku” แก๊งค์นี้ชื่นชอบการแต่งรถจักรยานยนต์เป็นอย่างมาก และการแต่งรถของพวกเขาไม่ได้แต่งเพื่อใช้ประลองความเร็วกันนะ เค้าใช้แข่งกันเรื่องเสียงต่างหากล่ะ ช่วงต้นปี 2000 แก๊งค์ Bosozoku ยังไม่ค่อยได้การยอมรับจากญี่ปุ่นซักเท่าไหร่ การแต่งมอเตอร์ไซค์ถือว่าเป็นเรื่องอันตรายและผิดกฏหมาย ยิ่งแก๊งค์นี้ได้สร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านโดยการแข่งรถซิ่งผ่านถนนในเมือง การเบิิ้ลเครื่องทำให้เกิดเสียงดังเวลาติดไฟแดง ทำให้ภาพลักษณ์ของกลุ่มนี้ดูไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ จากนั้น ชาวแก๊งค์ Bosozoku ได้เปลี่ยนแปลงและหาวิธีในการทำสิ่งที่พวกเขารักแต่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ด้วยการนำจักรยานยนที่พวกเขาแต่งมาประลองเสียงกันโดยเฉพาะ จัดกิจกรรมในสนามแข่งรถที่ไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้านอีกด้วย การแบทเทิลเรื่องเสียงมอเตอร์ไซค์ของแก๊งค์นี้ เขาแข่งกันที่จังหวะและความสนุกของการบิดคันเร่งและคลัทซ์ สร้างเป็นทำนองเพลงที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะทำได้ โว๊วววว งงล่ะสิว่ามันจะเป็นเสียงยังไง ดูคลิปนี่ก่อน หลังจากที่คลิปนี้ได้เผยแพร่ออกไป ก็มีคนจำนวนหนึ่งสนใจด้านการแบทเทิลเสียงมอเตอร์ไซต์ของกลุ่มนี้ เกิดการค้นหาที่มาของการแข่งขันนี้ และถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่มากๆ กับการนำมอเตอร์ไซต์มาทำเป็นเสียงดนตรี การแบทเทิลด้วยเสียงของรถมอเตอร์ไซต์เกิดมาจากการดัดแปลงรถเพื่อให้ได้เสียงที่พิเศษ อีกทั้งลีลาการบิดคันเร่งทำให้หลายๆ คนชื่นชอบอยู่ไม่น้อย หากคุณคิดว่านี่เป็นการแข่งขันเสียงมอเตอร์ไซต์แบบกะโหลกกะลาล่ะก็ มันไม่ใช่เลยนะ ทำนองเสียงส่วนมากเป็นดนตรีในยุค 40s หรือเก่ากว่านั้นเลยทีเดียว เห็นแบบนี้กันแล้ว ลองเปลี่ยนจากประลองความเร็วบนถนนมาแข่งแบบสร้างสรรค์แบบนี้ก็โอเคน้าาา…
-
ภาพถ่ายสุดท้ายของสาวสวย ก่อนจะโดนแฟนเก่า “ฆาตกรรม” อย่างโหดเหี้ยม
ภาพถ่ายธรรมดาๆ ในอินสตาแกรมที่ถูกโพสต์ไว้ คุณรู้หรือไม่ว่ามันอาจจะเป็นภาพถ่ายวาระสุดท้ายของหญิงสาวคนหนึ่งก่อนที่เธอจะถูกฆาตรกรรมโดยแฟนของเธอเอง… Loren Bunner ได้โพสต์ภาพสุดท้ายของ Jolee Callan ก่อนที่เขาจะทำให้เธอจากโลกนี้ไปตลอดกาล…. ภาพนี้ถูกโพสต์โดย Bunner แฟนเก่าของ Jolee เป็นรูปของเธอที่กำลังเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพตรงหน้าผาที่ Pinhoti Trail ของ Cheaha State Park โดยที่เธอไม่รู้ว่าอันตรายในชีวิตของเธอได้มาถึงแล้ว เหตุการณ์การฆาตรกรรมนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2015 เมื่อเขาและ Jolee ได้ทำสัญญากันไว้ว่าจะฆ่าตัวตายพร้อมกัน แบบเดียวกับโรมิโอและจูเลียต แต่พอไปถึงที่หน้าผา Bunner กลับไม่ทำตามที่สัญญากันไว้ และใช้ปืนยิงเธอหนึ่งนัดที่กลางศีรษะด้านหลัง แล้วก็ผลักเธอให้ตกจากหน้าผา ไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ออกจากที่เกิดเหตุ โทรหา 911 และสารภาพกับตำรวจตอนนั้น จากการชันสูตรพบว่า Jolee ไม่ได้ถูกยิงแค่นัดเดียว แต่เธอยังถูกยิงซ้ำที่ระหว่างดวงตาทั้งสองข้างอีกด้วย หลังจากนั้นศพของเธอก็ถูกนำไปโยนทิ้งไว้ที่หน้าผา Allison Davidson ครูสอนภาษาอังกฤษของ Jolee กล่าวว่า เขารู้จักกับเธอเป็นอย่างดี เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่เรียบร้อย ฉลาดและเป็นที่รักของเพื่อนๆ เธอได้โทรศัพท์มาพูดกับครูว่าเธอกำลังเดทกับผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Matt…
-
แม้เทคโลยีจะก้าวไกล แต่ทหารรัสเซียก็ยังใช้ “หมาและกวางเรนเดียร์” เดินทางในอาร์กติกอยู่ดี
ในพื้นที่อาร์คติกนั้นเรารู้กันดีว่าเป็นสถานที่ ที่มีอากาศหนาวเย็นสุดๆ ยากจะเข้าถึง แต่ก็ยังมีทรัพยากรน้ำมันก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรอื่นๆ อยู่ที่นี่อีกเพียบที่ยังไม่ได้รับการเข้ามาเก็บเกี่ยว ซึ่งนั้นทำให้ทหารรัสเซียนั้นมีโอกาสที่มากกว่าคนอื่นๆ และกลายเป็นผู้ชนะในการเข้าเก็บเกี่ยวทรัพยากรต่างๆ ในเขตอาร์คติกด้วยผลพวงของสภาพอากาศโลกที่กำลังเปลี่ยนไป สภาพอากาศแบบนี้ ก็ต้องฮัสกี้นี่แหละ เพราะในช่วง 2 ถึง 3 ปีมานี้ทางรัสเซียได้ทำการฝึกทหารจำนวนหลายทีมเพื่อเตรียมความพร้อมในการบุกเบิกและป้องกันทรัพยากรในอาร์กติก แน่นอนว่านอกจาการทหารแล้วพวกเขาก็ยังมีกองกำลังรบที่ทันสมัยอยู่อีกเพียบ!! ว่ากันว่าพวกเขามีเรือตัดน้ำแข็งรออยู่แล้วถึง 40 ลำเลยนะ แถมยังสั่งสร้างเพิ่มอีก 11 ลำเลยทีเดียว พร้อมกับยังมีรถถังหุ้มเกราะลุยหิมะรุ่นใหม่และอาวุธนิวเคลียร์ขนาดยักษ์ที่กำลังพัฒนาอยู่ด้วย ถ้าเป็นฮัสกี้ก็จะสะดวกสำหรับการเดินลาดตระเวนคนเดียว ใช้แค่สองตัวก็วิ่งไปทั่วได้ชิวๆ ทว่าแม้จะมีกองกำลังทันสมัยแค่ไหน แต่ทางเลือกหลักที่กองกำลังทหารของรัสเซียในอาร์กติกเลือกใช้นั้น ก็ยังเป็นพาหนะแบบเก่าอย่างสุนัขลากเลื่อนหรือกวางเรนเดียร์อยู่ดีนั่นเอง… สาเหตุหลักที่พวกเขายังคงเลือกใช้นั้นก็เพราะว่า สัตว์เหล่านี้มีความคล่องตัวที่สูงกว่า ใช้ทรัพยากรน้อยกว่า ที่สำคัญค่าบำรุงรักษาก็ไม่มากเท่า ที่สำคัญกวางเรนเดียร์นั้นสามารถเดินทางได้ไกลและเหนื่อยน้อยมากๆ ในสภาพอากาศแบบนี้ แต่ถ้าเป็นเรนเดียร์ก็จะสามารถลาดตระเวนพร้อมกันได้หลายคน ประหยัดทรัพยากรและไม่ส่งเสียงดังมากนัก อะไรจะเหมาะไปกว่านี้ ไม่จำเป็นต้องซานต้าก็ใช้เรนเดียร์ได้!! สุดท้ายแล้ว นอกจากรัสเซียก็ยังมีอีกหลายประเทศเช่นกันที่ยังใช้สัตว์เป็นพาหนะหลัก หรือใช้เพื่อการทหาร อย่างเช่นโลมาของอเมริกาที่ใช้ในการตรวจจับทุ่นระเบิดใต้น้ำ หรือจะใช้ม้าในการเดินทางก็มีเช่นกัน… ที่มา businessinsider
-
คู่รักวัยมัธยมเลิกรากันไป 20 ปี กลับมาพร้อมหน้ากับอีกครั้ง หลังทั้งคู่สูญเสียคนรักไป
หลายครั้งที่คู่รักหลายๆ คู่ ต้องจบความสัมพันธ์กันไปด้วยเหตุผลต่างๆ เรื่องราวของความสัมพันธ์อันแสนหอมหวานทั้งหมดก็จบลงตรงนั้น บางคู่อาจจะเกลียดกันถึงขั้นไม่เผาผีกันเลยก็ได้ แต่สำหรับคู่ที่จะเล่าถึงต่อไปนี้แล้ว พวกเขาได้กลับมาคบกันอีกครั้ง หลังจากที่แยกทางกันไปเมื่อ 20 ปีก่อน Rebecca Jensvold Hayes และ David Ward ได้เลิกกันไปหลังจากที่ Rebecca ได้ตั้งท้องตอนมัธยม โดยที่ทั้งคู่ได้เลิกกันก่อนที่เด็กน้อยจะลืมตาขึ้นมาดูโลกซะอีก ทั้งคู่แยกย้ายกันออกไปมีชีวิตของตัวเองและมีครอบครัวตามปกติ แต่เมื่อปี 2013 สามีของ Rebecca ได้เสียชีวิตไป และต่อมาในปี 2016 ภรรยาของ David ก็ได้สูญเสียภรรยาไปด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก ทั้งคู่จึงกลับมาหากันด้วยความรู้สึกเข้าอกเข้าใจกัน และการที่กลับมาเยียวยาซึ่งกันและกันในครั้งนี้เป็นการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของทั้งสองคนอีกครั้ง… Rebecca ได้มีความคิดที่จะถ่ายภาพในคอนเซป “Newborn Baby” เนื่องในโอกาสที่ครอบครัวได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้งเพื่อชดเชยความทรงจำในวัยเด็กให้กับลูกชายของเธอ ตอนที่ Rebecca โพสต์ว่า “ตอนที่ฉันสูญเสียสามีไป เดวิดและภรรยาของเขาก็คอยเป็นกำลังใจให้ฉันตลอด แล้วปีต่อมาเขาก็สูญเสียภรรยาไป เราจึงตกอยู่ในภาวะเดียวกัน และมันทำให้เราเข้าใจกันในที่สุด” “เราพูดคุยทางข้อความและโทรศัพท์พูดคุยกันเรื่องต่างๆ และกินกาแฟด้วยกันอย่างบ้าคลั่ง ขุดเรื่องราวเก่าๆ มาคุยกัน เหมือนกับเปิดสมาคมพ่อหม้ายแม่หม้ายเลยล่ะ” David กล่าวว่า…
-
18 ภาพถ่ายทางทหารที่ได้รับคัดเลือกว่าดีที่สุด จากวันชาติสหรัฐอเมริกาปีล่าสุด
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นวันประกาศอิสระภาพและวันชาติของสหรัฐอเมริกา ในวันดังกล่าวได้มีการจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองกันในหลายพื้นที่ และหนึ่งในผู้ที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับวันสำคัญอย่างนี้ก็คือ เหล่าทหารที่คอยช่วยปกป้องประเทศของพวกเขานั่นเอง และวันนี้เราก็มีภาพถ่ายทางทหารที่ได้รับคัดเลือกว่าดีที่สุด จากวันประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกาปีล่าสุด มาฝากกัน ลองไปชมเลยดีกว่าว่าทหารต่างประเทศเค้าทำอะไรกันบ้าง… 1. ภาพของนายทหารที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหน่วย Black Knights ของฝูงบินขับไล่ยุทธวิธี (VFA) 154, ถ่ายเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2017 2. ปืนกลขนาด 0.5 ที่ติดตั้งอยู่บนเรือขีปนาวุธนำวิถี Arleigh Burke – USS Ross (DDG 71) ระหว่างที่กำลังแล่นข้ามมหาสมุทรนอร์เวย์, ถ่ายเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2017 3. เปลวไฟที่ออกมาจากเครื่องบิน Strike Eagle F-15E ระเข้าสนับสนุนปฏิบัติการแก้ปัญหาถาวร (Operation Inherent Resolve), ถ่ายเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2017 4. ลูกเรือของเฮลิคอปเตอร์ MH-60 Jayhawk กับภารกิจช่วยลูกเรือประมงในอลาสก้า, ถ่ายเมื่อวันที่…
-
ตั้ลล๊ากกก!! ความใสซื่อของน้องหมาคอร์กี้ ที่ยอมแบ่งกระดูกให้กับ “เงาในกระจก” ของตัวเอง
เจ้าหมาน้อยคอร์กี้ ถือสุนัขที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยช่วงขาที่สั้นจุ๊ดจู๋ ชอบวิ่งเล่นดุ๊กดิ๊กไปมา เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่น่ารักน่าฟัดเอามากๆ เลย พวกมันชอบที่จะเล่นสนุกไปกับทุกๆ สิ่ง และทำให้เรายิ้มได้อยู่เสมอ เหมือนกับเจ้าตัวนี้ที่นอกจากจะชอบความสนุกสนานแล้วก็ยังจะใสซื่อเอามากๆ อีกด้วย ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Eric Smith ได้โพสต์คลิปวิดีโอความน่ารักของมันให้ทุกคนได้เห็น เมื่อเจ้าคอร์กี้กำลังพยายามแบ่งกระดูกอันหวานฉ่ำ ให้กับเงาสะท้อนตัวมันเอง เรื่องมันเริ่มจากวันหนึ่งเจ้าหมาน้อยได้เดินผ่านตู้เย็นไป พบเข้ากับเพื่อนคอร์กี้อีกตัวในกระจก ด้วยความอัธยาศัยดีไม่อยากให้เพื่อนต้องจากไปมือเปล่า เลยแบ่งกระดูกของตัวเองให้ซะเลย ความน่ารักของเจ้าคอร์กี้ แบ่งปันกระดูกให้กับเงาสะท้อนของตัวเอง เอามาวางเขี่ยๆ ให้เหมือนกับจะบอกว่า “เอาไปได้เลยนะไอ้เกลอ” ส่วนท่าทางของมันก็น่ารักซะจริงๆ ทำอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้เลยว่านั่นคือตัวมันเอง ชักจะใสซื่อบริสุทธิ์ผุดผ่องเกินไปแล้ววว คลิปดังกล่าวทำให้เห็นว่ามันเป็นสัตว์ที่ใจดีขนาดไหน จนชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นเข้ามามากมาย อย่างเช่น “ใบหน้ายิ้มแย้มของมันที่มีให้กับเพื่อน เป็นความบริสุทธิ์ที่สุดบนโลกใบนี้ที่ฉันเคยเห็นเลย” “คุณพระ ช่างน่ารักมากๆ ฉันอดใจไม่ไหวที่จะเลี้ยงพวกมันสักตัวหนึ่ง มันคงจะวิ่งเล่นไปทั่วอย่างแน่นอน” “ฉันชอบตอนจบ มองเข้าไปในกระจก เห็นตัวเองแล้วยิ้ม” ผมอยากกินอ่ะครับคุณพ่อ และเหล่าคนรักคอร์กี้ก็เข้ามาโพสต์รูป อวดความน่ารักของแต่ละตัวกันในคอมเม้นท์ พวกมันสุดยอดมาก ทำให้ลูกสาวของฉันอาการดีขึ้นเยอะมาก ฮีโร่ของพวกเรา แน่นอนว่าฉันเข้าใจความรู้สึกเดียวกันเลย…
-
ชวนชมเสน่ห์ของ 11 สถานที่ที่ถูกทิ้งร้าง งดงามดึงดูดใจราวกับฉากหนึ่งในหนังวันสิ้นโลก
สถานที่ที่ถูกทิ้งร้างเกือบทุกแห่ง ด้วยความเก่าแก่และไม่มีใครมาคอยดูแล จึงทำให้ดูไม่น่าเข้าไป หมดความสวยงาม หรือชวนให้รู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบกันอยู่บ้างก็มี ทว่าพื้นที่รกร้างใช่จะเป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะถึงแม้จะไม่มีใครได้คอยทำดูแล แต่ที่เหล่านั้นก็สามารถสร้างเสน่ห์ขึ้นมาได้เอง หนังสือภาพของ Kieron Connolly จะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพของสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้งานโดยมนุษย์ แต่ปัจจุบันถูกทิ้งร้างไปแล้ว จนเกิดเป็นความงดงามที่หาที่ไหนอีกไม่ได้ ประภาคาร Rubjerg Knude ประเทศเดนมาร์ก ประภาคารนี้ถูกสร้างอยู่บนหน้าผาในปี 1900 และเลิกการใช้งานในปี 1968 ด้วยปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งกับการเคลื่อนที่ของหาดทรายอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าพื้นที่จะถูกกัดเซาะทำให้หอคอยจมทะเลไปในปี 2023 ห้องโถงทรงกลมในโรงงานผลิตก๊าซ Wola ประเทศโปแลนด์ สถานที่แห่งนี้เปิดใช้ในปี 1888 ก่อนที่จะถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังสงครามจบลง จนในที่สุดก็เลิกใช้ไปในช่วงต้นยุค 1970 เพราะว่าในเมืองหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติแทน ปัจจุบันส่วนหนึ่งของโรงงานถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ แต่บางจุดอย่างเช่นห้องโถงนี้ อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมไปแล้ว สถานีรถไฟใต้ดิน ของศาลากลางเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกออกแบบมาเพื่ออวดโฉมระบบรถไฟใต้ดินแบบใหม่ของนิวยอร์ก เปิดใช้เมื่อปี 1904 ด้วยการตกแต่งอันหรูหราสไตล์ย้อนยุคแบบโรมัน มีความสวยงามอย่างมาก ทว่าต้องถูกเลิกใช้ในปี 1945 เพราะว่าทางโค้งมันแคบจนเกินไป รถไฟที่มีขบวนยาวจึงไม่สามารถจอดได้ หมู่บ้านออราดูร์ ซู…
-
11 สิ่งที่น่าแปลกใจเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพ บ่งบอกบางอย่างที่แอบแฝงอยู่ในตัวคุณ
เรามักจะได้ยินคนพูดว่า “อย่าตัดสินคนที่ภายนอก” ถึงเราจะเชื่อตามนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลักษณะภายนอกเป็นส่วนที่มีความสำคัญในการใช้ชีวิตเหมือนกัน และเชื่อมั้ยว่า การตัดสินใจคนจากภายนอกนั้นไม่ผิดเสมอไป เพราะลักษณะภาพนอกของบางคนนั้นสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายๆ อย่าง 1. หากคุณเป็นคนหน้าตาดี คนอื่นจะคิดกับคุณในแง่บวก ปรากฏการณ์ที่นักจิตวิทยาเรียกว่า the halo effect คือการตัดสินใจคนจากลักษณะภายนอก คือเมื่อเห็นใครก็ตามที่ดูดี เรามักจะคิดว่าคนนั้นมีความพิเศษอ่ื่นๆ เช่น ฉลาด หรือเป็นคนดี ในขณะที่ Daniel Hamermesh นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย University of Texas บอกว่า คนที่ดูดีนั้นมีโอกาสที่จะได้สร้างรายได้มากกว่า 2. รูปบ่งบอกลักษณะนิสัย ในปี 2009 นักวิจัยพบว่าไม่ว่าคุณจะถ่ายรูปมุมไหนหรือทำท่าอะไร ผู้คนจะคาดเดาได้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน เป็นคนนับถือตัวเองมากแค่ไหน นับถือศาสนาอะไร พอใจกับอะไร และมีความซื่อสัตย์มากแค่ไหน 3. ความยาวของหน้าบ่งบอกความเป็นผู้นำ ในปี 2013 กลุ่มนักจิตวิทยา นักประสาทวิทยา และนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จากยุโรปและสหรัฐอเมริกา ได้ประเมินภาวะการเป็นผู้นำโดยดูจากรูปภาพของผู้ชายและผู้หญิงรวม 130 คน การวิจัยพบกว่า เพศและความยาวของใบหน้าสามารถบอกความสูงของคนคนนั้นได้ และปัจจัยเดียวกันนี้สามารถบอกความเป็นผู้นำได้ด้วย โดยคนที่มีใบหน้ายาวถูกจัดอันดับให้อยู่ในคนที่เหมาะกับเป็นผู้นำที่ดี 4. โครงหน้าบอกความก้าวร้าวได้…
-
หญิงสาวยอมกู้เงิน และขายของทุกอย่างที่มี เพื่อช่วยชีวิตน้องหมาที่เป็นโรคลิ้นหัวใจ
ใครก็ตามที่ได้เลี้ยงสุนัขคงรู้สึกว่ามันเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง พวกมันเป็นเหมือนกับคนในครอบครัว ที่หากพวกมันเป็นอะไร เราก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อมัน เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่ยอมขายข้าวของทุกอย่างที่มี รวมทั้งของที่เธอรักมากที่สุด เพื่อนำเงินไปช่วยชีวิตน้องหมาตัวโปรด ซึ่งต้องใช้เงินมากถึง 1,600,000 ล้านบาท Snoopy เป็นสุนัขพันธุ์ผสมระหว่างยอร์คเชียร์กับชิวาวา มันได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์พักพิงในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 9 ปีก่อน หลังจากที่ถูกทิ้งโดยครอบครัวหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว Dolly-Ann Osterloh เจ้าของของ Snoopy ได้พามันไปหาสัตวแพทย์หลังจากที่สังเกตว่ามันหายใจลำบาก จากการตรวจร่างกายพบว่า น้องหมาเป็นโรคลิ้นหัวใจ เนื่องจากหัวใจของมันมีขนาดใหญ่เกินไป และหากไม่ทำการผ่าตัดหัวใจให้ มันก็อยู่ได้อีกเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น Dolly-Ann บอกว่า “ฉันต้องให้ยา Snoopy 11 ครั้งต่อวัน นั่นหมายความว่าฉันต้องตั้งนาฬิกาปลุก 11 ครั้งต่อวันด้วย และเพราะว่ามันตัวเล็ก ฉันก็ต้องหั่นยาให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้มันกินได้ง่ายขึ้น” “โชคดีที่เขายอมกินยา และยาตัวนี้ก็ส่งผลดีกับร่างกายของเขา ซึ่งหมายความมันจะส่งผลดีต่อการผ่าตัดของเขาด้วย” “เรามีนัดผ่าตัดวันที่ 19 กันยายน ที่ปารีส โดยสัตวแพทย์ที่มาจากโตเกียวจะเป็นผู้ผ่าตัดให้ เนื่องจากการผ่าตัดโรคนี้มักจะไม่ค่อยประสบความเร็จ” “หมอคนอื่นๆ เมื่อทำการผ่าตัดโรคนี้ สุนัขนะมีโอกาสรอดเพียง 15-20 % แต่หมอที่มาจากโตเกียวคนนี้เป็นคนเดียวที่ทำให้สุนัขมีโอกาสรอดถึง…
-
6 เซเลบเน็ตไอดอลที่สร้างตัวตนปลอมในโซเชียล แต่ก็มีคนเชื่อจนกลายเป็นคนโด่งดัง
ทุกวันนี้ใครมียอดไลค์หรือยอดฟอลโล่วเยอะๆ ก็ถูกเรียกว่าเน็ตไอดอลแล้ว ทั้งๆ ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่รู้เลยว่าตัวตนที่แท้จริงกับสิ่งที่เห็นในโซเชียลนั้นจะเหมือนกันหรือเปล่า เหมือนกับเน็ตไอดอลในอินสแกรมเหล่านี้ ที่สร้างบัญชีขึ้นมาด้วยข้อมูลปลอม บางคนไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ แต่ก็มีคนหลงเชื่อจนทำให้คนเหล่านี้โด่งดังขึ้นมาได้ 1. หนุ่มใหญ่วัย 35 ปี Pawel Ladziak ชาวโปร์แลนด์ อายุ 35 ปี แต่ทำให้ตัวเองดูแก่กว่าอายุถึง 10 ปี และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นคนโด่งดัง มักจะมีคนพูดถึง Pawel ว่า เป็นหนุ่มใหญ่วัย 40 ปีที่มีความร้อนแรง บางคนคิดว่าเขาอายุ 60 ด้วยซ้ำ แต่เมื่อดูจากหุ่น และไลฟ์สไตล์แล้วเหมือนคนหนุ่มเลย จริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นของลุคหนุ่มใหญ่หุ่นแสบนี้ มาจากตอนที่ Pawel เริ่มมีผมสีเทาเมื่อหลายปีก่อน เขาก็เลยตัดสินใจย้อมผมกับเคราให้เป็นสีเทาซะเลย ต่อมาเมื่อเขาเริ่มโพสต์รูปลงในอินสตาแกรม ปรากฏว่ามีคนเข้ามาถูกใจจำนวนมาก ส่งผลให้เขากลายเป็นคนดังในทุกวันนี้ เอาง่ายๆ เหตุผลที่ดังคือ เป็นเพราะคนคิดว่าเขาเป็นคนมีอายุแต่ยังดูแซ่บนั่นเอง 2. อินสตาแกรมที่โด่งดังจาการโพสต์ภาพเก่า ก็อย่างที่รู้ว่าอินสตาแกรมนั้นสามารถสร้างรายได้ได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างให้เป็นจริงไปทั้งหมด เพราะคุณสามารถโพสต์ภาพหรือข้อมูลปลอมได้โดยที่คนอื่นไม่รู้ ด้วยเหตุนี้ Mediakix จึงบัญชีอินสตาแกรมปลอมขึ้นมา…
-
แบบนี้ก็ได้เหรอ!! รวม 20 ภาพที่ทำให้คุณหงุดหงิดหัวใจ ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยย
ทุกวันนี้บ้านเมืองมีกฏเกณฑ์เพื่อจัดระเบียบให้สังคมอยู่กันอย่างสงบสุข แต่ก็อย่างที่เห็นแหละ ทุกวันนี้ยังคงมีความวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน เพราะมีบางคนบางพวกชอบแหกกฏ บางที่อาจไม่มีข้อห้าม แต่เราน่าจะรู้มารยาทในการอยู่ร่วมกันนะ และนี่คือตัวอย่างคนแหกกฏในสังคม…. 1. อะไรคือแรงบันดาลใจให้เขาจอดรถแบบนี้ 2. บอกว่าไม่มีกลูเต็น แต่บรรทัดล่างบอกมีกลูเต็น นี่มันคืออะไรกัน 3. ใครเป็นคนออกแบบหนังสือภาพเล่มนี้กันนะ 4. เค้าทำเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัย แต่นี่ดันทำของเลียนแบบเพื่อหลอกตำรวจซะงั้น 5. ถ้าเงื่อนไขการตั้งพาสเวิร์ดมันจะยุ่งยากขนาดนี้ ไม่ตั้งมันซะเลยดีกว่า 6. ความผิดใครละเนี่ย เจ้าของบ้านที่ไม่ทำที่เผื่อพัสุดหรือพนักงานส่งของที่ไม่คิดว่าฝนจะตก 7. อยากกินก็ซื้อซิ ทำแบบนี้ของเสียหมด 8. เอิ่ม คงคิดว่านอนอยู่ที่บ้านสินะ 9. นี่ก็เช่นกัน 10. “มีใครรู้วิธีกำจัดผึ้งบ้าง มันอยู่ในสวนดอกไม้เต็มไปหมด” 11. โลกนี้ช่างหลอกลวง 12. สุดท้ายก็ลงถังเดียวกัน แต่ทำไมต้องทำช่องทิ้งแยกกัน งงเลย 13. เราควรจะทำยังไงกับคนแบบนี้ 14. ป้ายเตือนไม่ได้มีผลอะไรกับพวกเขาเลย…
-
รวม 4 เกาะสุดอันตราย จงอย่าแม้แต่จะคิดไปเยี่ยมเยือนเป็นอันขาด ถึงตายแน่นอน!!
สำหรับใครที่กำลังหาโปรแกรมเที่ยววันหยุด หรือวางแผนระยะยาวว่าอยากจะไปเกาะสวรรค์หาดหรรษาสักแห่งบนโลก แล้วกำลังไล่ดูชื่อเกาะสวยๆ อยู่ คุณคิดถูกแล้วที่เปิดเข้ามาโพสต์นี้… เพราะเกาะที่เราจะมาพูดถึงกันในครั้งนี้ มันไม่เป็นมิตรต่อการไปเที่ยวสุดๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามตัดมันออกจากรายชื่อไปได้เลย เพราะถ้าไปแล้วอาจจะมีแค่ตั๋วขาไปแต่ไม่มีขากลับก็เป็นได้นะ ว่าแต่จะมีเกาะอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูกันเลยดีกว่า หมู่เกาะ Izuในประเทศญี่ปุ่น ถ้าใครที่เคยดูอนิเมชั่นเรื่อง Your name จะต้องคุ้นหน้าคุ้นตากับเกาะนี้แน่นอน และก็คงคิดกันว่ามันสวยงามตามในอนิเมะ แต่ความจริงแล้วเกาะนี้มันโหดร้ายกว่าที่คุณคิด หมู่เกาะอิซุนั้นเป็นหมู่เกาะที่มีภูเขาไฟอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเมื่อปี 2000 เคยเกิดการประทุครั้งใหญ่จนต้องอพยพออกกันจนหมด ต่อมาในปี 2005 ทางการก็อนุญาตให้คนกลับไปอยู๋ได้ แต่ด้วยสารพิษที่มีเยอะมากๆ ทำให้ต้องสวมหน้ากากกันแก๊ซตลอดเวลา ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยถ้าไม่จำเป็นอย่าไปเลยจะดีกว่า… เกาะ Ramree ในประเทศพม่า ถ้าคุณเป็นคนกลัวจระเข้ละก็ ควรออกให้ห่างจากตัวเกาะนี้ให้ไวที่สุด เพราะที่นี้คือจุดศูนย์รวมของจระเข้น้ำเค็มจำนวนมาก และมันก็เป็นสัตว์เลี้ยนคลานที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย ความดุร้ายของพวกมันได้รับการันตีโดยการเป็นสถานที่ที่คนถูกจระเข้โจมตีเยอะมากที่สุดในโลก นี่ยังไม่นับรวมสัตว์มีพิษอื่นๆ อีกมากมาย เกาะ Gruinard ในประเทศสก็อตแลนด์ ความอันตรายของเกาะนี้อาจจะไม่เห็นผลทันตา และอาจจะต้องพึ่งโชคกันสักหน่อย เพราะเกาะแห่งนี้นั้นเคยเป็นสถานที่ใช้ทดสอบอาวุธเชื้อโรค Anthrax ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แน่นอนว่าเชื้อโรคอาจจะหายไปบ้างแล้ว แต่มันก็ยังลงเหลืออยู่ในพื้นดิน ซึ่งเสี่ยงอาจจะทำให้ติดเชื้อโรคดังกล่าวได้ แน่นอนว่าร้ายแรงถึงตาย… เกาะ Ilha da Queimada ในประเทศบลาซิล เกาะสุดอันตรายที่ถูกทหารเรือบราซิลห้ามประชาชนทั่วไปเข้าไปอย่างเด็ดขาด…
-
พิธีการรัดเท้า หรือที่เรียกว่า ‘เท้าดอกบัว’ ความงดงามสุดแปลกตาตามแบบฉบับจีนโบราณ…
ถ้าเราบอกว่าความงดงามในปัจจุบันเป็นอะไรที่แปลกตาแล้วละก็ เชื่อเถอะว่าพวกคุณคงไม่เคยเห็นความงดงามตามฉบับจีนโบราณที่เรียกกันว่า ‘เท้าดอกบัว‘ แน่ๆ ที่บอกว่าเท้าดอกบัว มันแปลกนั้นก็เพราะว่า เท้าดอกบัวหรือที่เรียกว่าการรัดเท้านั้น เป็นแฟชั่นสุดฮิตในยุคสมัยจีนโบราณที่ใช้วัดคุณค่าของหญิงชาวจีนเลยก็ว่าได้ ยิ่งเท้าใครเล็กคนนั้นก็จะยิ่งถูกมองว่าเป็นหญิงที่งดงาม . ความงามสุดแปลกตานี้มีต้นกำเนิดมาจากชนชั้นสูงที่เป็นนางระบำรำฟ้อนในราชสำนักจีนช่วงห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 หรือ 11 จากนั้นก็ได้รับความนิยมเรื่อยๆ จนกระทั่งในช่วงปี 1911 จึงเริ่มมีการแบนการรัดเท้าเกิดขึ้น พอศตวรรษที่ 20 จึงจะถึงจุดสิ้นสุดของแฟชั่นดังกล่าว . ความงามของเท้าดอกบัวนั้นจะถูกจัดแบ่งออกเป็นหลายชนชั้น ซึ่งก็แล้วความยาวของนิ้วเท้าของแต่ละคน คนที่มีนิ้วเท้ายาว 3 นิ้วจะถูกเรียกว่าเท้าดอกบัวทอง โดยถือเป็นความงามสูงสุด จากนั้นก็ลดย่อนลงมาลำดับป็นดอกบัวเงิน และดอกบัวเหล็ก ซึ่งยิ่งอยู่ในระดับบัวทองก็จะการันตีว่าจะมีชายร่ำรวยมาขอแต่งงานอย่างแน่นอน หน้าตาของรองเท้าดอกบัว ขั้นตอนการทำพิธีรัดเท้านั้นจำเป็นจะต้องทำแต่เด็กในช่วงอายุ 4 ถึง 9 ขวบ โดยการทำลายกระดูกเสียก่อน จากนั้นก็จัดรูปเท้าใหม่ให้เป็นเหมือนเกือกม้า ตามด้วยการถอดเล็บออกให้หมดเพื่อป้องกันปัญหาที่ตามมาไม่ว่าจะเล็บที่อาจจะงอกใหม่และเชื้อโรคต่างๆ จากนั้นก็จะมัดให้คงรูปไว้เพื่อให้เท้าดอกบัวที่สมบูรณ์ แน่นอนว่ามันเจ็บสุดๆ เด็กๆ จะต้องถูกรัดเท้าด้วยผ้าตลอดเวลา ภาพเปรียบเทียบของเท้าที่ทำบัวกับไม่ทำ …
-
ึระยะทางไม่ใช่ปัญหา!! พบกับ 7 บุคคลที่มีวิธีการเดินทางไปทำงานแบบ ชิคๆ คูลๆ
บางครั้งการเดินทางไปทำงานในแต่ละวันนั้นอาจจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับหลายๆ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ หรือพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีปัญหาการจราจรสักเท่าไหร่ แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาทางด้านร่างกายหรือใครที่อาศัยอยู่เมืองหลวงแล้วบางครั้งการเดินทางไปทำงานในแต่ละวันนั้นอาจไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย และวันนี้เราก็มีตัวอย่างการเดินทางจากเหล่าผู้คนที่เลือกวิธีไปทำงานที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งแต่ละคนจะมีวิธีการเดินทางไปทำงานอย่างไรกันบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. ชายหนุ่มผู้พายเรือคายัคไปทำงานในทุกๆ วัน สำหรับชาวออฟฟิศในเมืองหลวง การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอาจจะเป็นสิ่งที่สะดวกและช่วยประหยัดเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทว่าบางครั้งปัญหารถติดก็อาจจะทำให้เราไปถึงที่ทำงานสายได้ง่ายๆ คุณ Zach Schwitzky หนุ่มออฟฟิศท่านนี้จึงเลือกใช้วิธีการพายเรือคายัคข้ามแม่น้ำแมนฮัตตันเพื่อไปทำงานแทนทุกๆ วันเขาจะใช้เวลาพายเรือประมาณ 20 นาทีก่อนที่จะเดินเท้าต่ออีกประมาณ 45 นาทีจนถึงที่ทำงาน 2. หนุ่มเยอรมันที่ว่ายน้ำไปทำงานทุกๆ วัน คุณ Benjamin David หนุ่มเยอรมันวัย 40 ปีผู้เบื่อหน่ายกับปัญหารถติด เขาจึงเลือกใช้วิธีการว่ายน้ำแทน!! ในทุกๆ เข้าเขาจะกระโดดลงแม่น้ำ Isar และว่ายเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรเพื่อไปทำงาน (อ่านข่างเก่า หนุ่มเยอรมันจิตหงุดเงี้ยว ไปทำงานก็รถติดทุกวัน เลยตัดสินใจว่ายน้ำไปออฟฟิศแม่มเลย..!!) 3. ชายหนุ่มที่ลงทุนสร้างเครื่องบินเพื่อย่นระยะเวลาการเดินทาง คุณ Frantisek Hadrava หนุ่มวัย 45 ปีจากหมู่บ้านเล็กๆ ทางตะวันตกของสาธารณรัฐเช็ก ใช้เวลากว่า 2 ปีเพื่อสร้างเครื่องบินลำเล็กที่ชื่อว่าเจ้า Vampira โดยใช้ต้นแบบจากเครื่องบินเล็กของสหรัฐ ซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าวช่วยให้เขาย่นระยะเวลาการเดินทางลงถึง 7 นาทีเลยทีเดียว!! 4. ชายชาวจีนที่เดินทางข้ามแม่น้ำไปทำงานด้วยไม้ไผ่แค่ท่อนเดียว คุณ Fang…
-
สาวเหยื่อถูก “น้ำกรด” สาดจนเสียโฉม พบรักแท้ อยู่กับชายผู้รับทุกอย่างที่เป็นเธอได้
เชื่อว่ารักแท้คงเปรียบได้ดั่งความฝันของใครหลายคน เพราะท้ายที่สุดแล้วในชีวิตเราต่างก็อยากจะมีใครซักคนที่คอยดูแลซึ่งกันและกัน แม้แต่ Turia Pitt วัย 30 ปี เอง ก็เคยเชื่อว่าครั้งหนึ่งเธอได้เจอกับรักที่ดี กระทั่งวันหนึ่งเธอกลับถูกน้ำกรดสาดจนเสียโฉมทั้งใบหน้า ซึ่งในตอนนั้นเธอก็แทบจะไม่เชื่อตัวเองว่า จะมีโอกาสได้รับความรักจากคนอื่นอีกครั้ง Turia Pitt 6 ปีก่อนเธอต้องประสบปัญหาจากการถูกน้ำกรดสาด ทำให้ผิวหนังกว่า 65% ของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลพุพอง และเธอก็มักจะถ่ายภาพตัวเองลงอินสตาแกรม เพื่อทำให้โลกได้รู้ว่า เธอไม่เคยมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองต้องเผชิญ “ลึกๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่เราพยายามจะลืมมัน ถึงแม้มันจะผ่านมา 6 ปีแล้วก็ตาม แต่ทุกความรู้สึกและความทรงจำแห่งความเจ็บปวดยังคงอยู่ในใจเราเสมอ” เรื่องราวของเธอก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆ ทั่วโลก หลังจากที่เธอประกาศพบชายผู้เป็นรักแท้ เธอแทบไม่เชื่อมาก่อนว่าเธอจะมีโอกาสได้เจอรักแท้ และได้พบกับชายผู้มีหัวใจที่อยากจะดูแลเอาใจใส่เธอจริงๆ ซึ่งหลังจากที่เธอแต่งงานกับ Michael Hoskin ทั้งคู่ก็ได้มีทายาทตัวน้อยถือกำเนิดขึ้นมาในท้องคุณแม่ “มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก เราสูญเสียทุกอย่างทั้งความเป็นตัวเองและสภาพจิตใจ แต่ขอฝากสาวๆ ทุกคนว่า เราจงอย่าได้เอาตัวเองไปจมอยู่กับอะไรที่มันแย่ และอย่าสูญสิ้นความหวังให้กับอนาคต” ทันทีที่คุณแม่มือใหม่โพสต์ภาพลูกน้อย เรื่องราวของเธอก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้หญิงสาวอีกหลายคนที่กำลังถูกกดขี่อยู่ ตอนนี้ทั้ง Turia และ Michael…
-
17 สิ่งของจากอดีตอันไกลโพ้น ที่คุณเห็นแล้วอาจจะนึกไม่ออกว่าพวกมันเอาไว้ทำอะไรได้
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะเมื่อมีเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าออกมา แม้แต่เทคโนโลยีที่เจ๋งสุดในตอนนี้ วันข้างหน้ามันอ่าจจะกลายเป็นแค่สิ่งที่ล้าสมัยก็ได้ เช่นเดียวกับสิ่งของต่อไปนี้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของใหม่ ทันสมัย และเป็นที่นิยมมาก แต่พอมาถึงยุคปัจจุบัน มันกลายเป็นสิ่งที่เราแทบนึกไม่ออกว่ามันมีไว้ทำอะไรกันแน่ 1. ไม้จิ้มฟันในอังกฤษปี 1620 เมื่อเทียบกับไม้จิ้มฟันในปัจจุบันแล้ว แทบไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือไม้จิ้มฟัน ซึ่งพอจะเดาได้ว่าคนสมัยนั้นคงใส่ใจเรื่องฟันกันมาก 2. กล้องส่องของกองทัพทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วิธีการใช้กล้องตัวนี้คือ จะเอาไปติดกับตัวนกพิราบแล้วก็ให้มันบินสำรวจพื้นที่ต้องการ อาจฟังดูแปลกๆ แต่สำหรับคนในยุคนั้น นี่คือเทคโนโลยีที่ล้ำมาก กล้องตัวข้างบน เมื่อนำมาติดในตัวนกพิราบแล้ว มันก็จะเป็นประมาณนี้ คือต้องยอมรับว่าคนสมัยก่อนนี้มีความคิดสร้างสรรค์มากเลยนะ 3. เก้าอี้พร้อมเครื่องชั่ง เก้าอี้ที่มาพร้อมเครื่องชั่งนี้ ผู้ออกแบบได้คำนึงถึงปัญหาสุขภาพของคนที่นั่ง นั่นคือเป็นการเตือนผู้คนเมื่อนั่งนานเกินไป ควรจะลุกไปออกไปกำลังกายบ้าง ดังนั้นมันจึงเป็นเก้าอี้ที่ใครได้นั่งจะรู้สึกกังวลนิดๆ ตลอดเวลา 4. เข็มฉีดยาสำหรับทำแท้ง การทำแท้งไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่สังเกตเทคโนโลที่นำมาใช้ในการทำแท้งสิ นึกไม่ออกเลยไปว่ามันใช้ยังไง 5. หมวกออกซิเจน หมวกออกซิเจนนี้จะช่วยให้คุณมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น สังเกตตรงช่องตามั้ย มันเป็นช่องเล็กๆ นั้นก็เพื่อให้คุณโฟกันที่งานเพียงอย่างเดียว ที่สำคัญออกซิเจนในถังก็มีจำกัด ซึ่งช่วยให้คุณตื่นตัวและทำงานภายเวลาที่จำกัด 6.…
-
แบรนด์ซันโทรี่เตรียมเปิดตัว ‘เครื่องดื่มชานมสีใส’ หน้าตาเหมือนน้ำเปล่า แต่มีรสชานมด้วย!?
ปกติแล้วเราเชื่อกันว่าน้ำเปล่านั้นไม่มีรสชาติ เพราะมันคือน้ำเปล่าๆ ที่ไม่ได้ผสมอะไรเลย แต่ล่าสุดบริษัท ซันโทรี่ ผู้ผลิตเครื่องดื่มจากญี่ปุ่น ได้เปิดมิติใหม่ด้วย ‘น้ำเปล่ากลิ่นชานม’ สำหรับน้ำเปล่ารสชานมนี้ ทางบริษัทซันโทรี่ต้องการให้ผู้คนได้รับประสบการณ์ใหม่จากการดื่มน้ำเปล่า ให้คุณรู้สึกสดชื่นและฟินยิ่งขึ้น เมื่อดื่มน้ำเปล่า ทางบริษัทได้ผลิตน้ำเปล่ารสชานมจากชาอัสสัมและ ‘ส่วนผสมลับที่สกัดออกมาจากนม’ นั่นจะทำให้เราได้รสชาติของนมเวลาดื่มน้ำ หรือใครจะดื่มคู่กับมื้อเช้าก็ได้ ฟังดูเหมือนทุกอย่างจะดีหมดใช่มั้ย? แต่มีคนได้ลองน้ำดื่มรสมะนาวก่อนหน้านี้ที่ทางซันโทรี่ผลิตออกมา ปรากฏว่ามันทีรสมะนาวจริง แต่ขวดจะมีกลิ่นเหมือนสนิมและสารเคมีแปลกๆ อยู่ และสำหรับน้ำดื่มรสชานมนี้ยังไม่มีใครได้ลิ้มรสมาก่อน เพราะทางบริษัทยังไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ในราคาขวดละประมาณ 40 บาทเท่านั้น เป็นอะไรที่แปลกใหม่ และน่าลองเหมือนกันนะ ที่มา rocketnews24
-
นักโทษกว่า 100 คนในหมู่เกาะ British Virgin หนีออกจากคุกไปได้ หลังเฮอร์ริเคนเออร์มาเข้าถล่ม…
ณ เวลานี้สำหรับใครที่ได้มีโอกาสติดตามข่าวต่างประเทศอย่างใกล้ชิด คงจะทราบกันดีว่าในหลายๆ พื้นที่นั้นกำลังประสบกับภัยพิบัตรทางธรรมชาติอย่างพายุเฮอร์ริเคนอยู่ และหนึ่งในนั่นก็คือหมู่เกาะ British Virgin ด้วย นอกจากอาคารบ้านเรือนต่างๆ จะได้รับอันตรายแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัญหาใหญ่นั่นก็คือ หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนเออร์ม่าได้พัดเข้าถล่มหมู่เกาะ British Virgin คาดว่ามีนักโทษมากกว่า 100 คนที่อาศัยช่วงจังหวะที่เรือนจำได้รับความเสียหายหลบหนีออกไปได้!! จากการรายงานของ Sky News คาดกันว่านักโทษราวๆ 120 คนได้พากันหลบหนี โดยอาศัยเส้นทางของอาคารที่ได้รับความเสียหาย หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนดังกล่าวได้พัดเข้ามาที่เกาะ Tortola ทางด้านคุณ Paul Exner ผู้ประกอบกิจการด้านเรือสำราญที่อาศัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหล่าผู้ต้องขังที่นั้นถูกคุมตัวด้วยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ แต่ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากจนเจ้าหน้าที่ยอมปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยพวกเขาไป หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแพร่กระจายออกไป จึงได้มีการส่งกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสหราชอาณาจักรไปยังในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าไปจัดการและตามตัวของเหล่านักโทษกลับมา โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 นาย พร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 53 นาย จากสถานีตำรวจทั้ง 14 แห่ง ได้เดินทางออกจากสนามบิน Brize Norton เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อไปสมทบกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้ว รายงานระบุเป็นการปิดท้ายว่าพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ที่พัดถล่มทะเลแถบแคริเบียนครั้งนี้ถือว่ามีความรุนแรงมากที่สุดอีกลูกหนึ่ง ซึ่งมูลค่าความเสียหายบนเกาะ British Virgin ครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านปอนด์ หรือกว่า…
-
สปิริตแรงกล้า!! นักข่าวสาว CNN ยืนหยัดรายงานข่าว ท่ามกลางลมพายุจนตัวเกือบจะปลิว…
จะเป็นยังไงหากเราต้องไปยืนอยู่ในรัศมีของพายุเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงอย่างมาก แน่นอนว่าหากเราไม่เคยเจอเข้ากับตัวเองคงยากที่จะพูดได้ แต่หากได้ดูคลิปนี้แล้วจะทำให้คุณเห็นภาพได้ดีขึ้นมากเลยแหละ เมื่อนักข่าวภาคสนามแห่งสำนักข่าว CNN ที่ชื่อว่า Sara Sidner ลงพื้นที่ไปยังชายหาดเดย์โทนา รัฐฟลอริด้า สถานที่ซึ่งกำลังรับผลกระทบจนทำให้ผู้คนต้องอพยพออกไป ผลกระทบดังกล่าวเกิดจากเฮอร์ริเคนเออร์มา ทำให้เกิดแรงลมที่โหมกระหน่ำ พัดพาเอาข้าวของต้นไม้ลอยไปคนละทิศละทาง และน้ำท่วมไปทั่วท้องถนนเพราะฝนที่ตกอย่างหนัก โดยในตอนที่เธอกำลังยืนทำข่าวอยู่ แรงลมและขนาดของเฮอร์ริเคนนั้นอยู่ในระดับที่ 2 จาก 5 ระดับ แต่ในคลิปวิดีโอสามารถเห็นได้เลยว่า ลมที่พัดเข้ามาทำให้เธอแทบจะยืนไม่อยู่เลยทีเดียว คลิปวิดีโอการลงภาคสนามของนักข่าว CNN ต้องขอบคุณเธอที่ลงทุนลงแรงไปยังสถานที่จริง พร้อมทั้งกล่าวเตือนทุกคนให้ระวังอุบัติเหตุ หากว่ายังอยู่ใกล้กับพื้นที่ของพายุ แต่ถึงอย่างไรก็ตามกระแสตอบรับของผู้ชมที่ตอบกลับมาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เพราะหลายคนมองว่าการให้นักข่าวต้องไปเสี่ยงชีวิตขนาดนี้ มันเป็นอะไรที่มากจนเกินไป ชาวเน็ตจึงได้ออกมาคอมเม้นท์กันในทำนองไม่ค่อยเห็นด้วย “ฝากถึง CNN นักข่าวของคุณไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ ช่วยบอกให้พวกเขาหยุดทีเถอะ และหวังว่าจะไม่ได้ทำไปเพราะเรตติ้งของช่องหรอกนะ ให้พวกเขาได้อยู่ด้านใน เรารู้แล้วว่าลมมันแรงขนาดไหน” “ฉันเพิ่งดูคลิปนี้จบและอยากจะบอกเลยว่า นักข่าวคนนี้โหดมาก พวกเขาสมควรที่จะได้รับสิ่งตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อทำอย่างนี้น่ะหรอ? ฉันไม่คิดว่าอย่างนั้นนะ” “ทำไมเธอต้องถูกพาไปเสี่ยงอันตรายอย่างนี้ด้วย!?? เธอยังสามารถที่จะรายงานข่าวได้ แม้ว่าไม่ต้องออกไปอยู่ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้” เพียงแค่ยกมือขึ้น ตัวก็แทบจะปลิวไปตามแรงลมแล้ว… ที่มา: CNN
-
เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ พะยูนเกยตื้นตามแนวชายฝั่ง หลังพายุเออร์มาพัดน้ำทะเลจนแห้ง…
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ หลายคนคงได้ยินชื่อพายุเออร์มาผ่านสื่อต่างๆ แทบทุกวัน สาเหตุที่ต้องมีการรายงานเพราะนี่ถือเป็นหนึ่งพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ พายุเออร์มาไม่ได้ส่งผลกระทบกับแค่คน สัตว์เลี้ยง หรืออาคาร บ้านเรือน เท่านั้น แต่สัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติก็ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงเช่นกัน โดยสัตว์ที่ต้องอาศัยน้ำอย่างพะยูนแมนนาทีตัวนี้ อยู่ในสภาพเกยตื้นตามแนวชายฝั่ง และไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ หลังพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาถล่ม พัดเอาน้ำออกไปจากชายฝั่งฟลอริดาจนแห้ง ภาพเหตุการณ์นี้ถูกแชร์ในเฟสบุ๊กโดย Michael Sechler เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นภาพพะยูนแมนนาทีสองตัวเกยตื้นอยู่บนผิวทะเลที่เหือดแห้ง เมื่อทางการได้เห็นภาพดังกล่าว จึงได้รีบประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ของเขต Manatee County ทันที เพื่อให้เข้าไปช่วยเหลือพวกมันเป็นการด่วน Marcelo Clavijo หนึ่งในชาวบ้านที่เข้าไปช่วยเหลือพะยูนบอกว่า พะยูนทั้งสองตัวหนักมาก มีน้ำหนักตัวราวๆ 226 กิโลกรัมเลยทีเดียว ทำให้ทีมช่วยเหลือต้องดันมันขึ้นอยู่บนผืนผ้าใบ แล้วก็ค่อยๆ ลากมันกลับลงไปถึงพื้นที่ระดับผิวน้ำ จนทำให้ทั้งสองตัวรอดจากความโหดร้ายนี้ไปได้ สำหรับความรุนแรงของเออร์มานั้น อยู่ในระกับ 5 ซึ่งถือว่ารุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา มันได้พัดเอาน้ำออกจากชายฝั่งจนเหือดแห้งไปหมด ส่งผลทำให้สัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบไปด้วย นับว่าโชคดีที่ยังมีคนใจดีเข้าช่วยเหลือสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือเหล่านี้ แต่นี่อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะทางเจ้าหน้าที่คาดว่าพื้นที่ห่างไกลผู้คนอาจมีสัตว์อีกจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม มีหลายคนออกมาบอกว่าลักษณะน้ำทะเลแห้งเช่นนี้คล้ายกับสึนามิ…
-
‘กระโปรงสุ่มไก่’ แฟชั่นแห่งความตายจากยุค ‘วิคตอเรีย’ ที่คร่าชีวิตหญิงสาวมากกว่า 3,000 คน!!
หนึ่งในแฟชั่นที่ยอดนิยมมากที่สุดในช่วงยุค ‘วิคตอเรีย’ ก็คงหนีไม่พ้นกระโปรงสุ่มไก่ ซึ่งเป็นกระโปรงที่มีขนาดกว้างราวกับสุ่มไก่จริงๆ ทว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่า แท้จริงแล้วแฟชั่น Crinoline หรือกระโปรงบานเป็นสุ่มไก่นี้ จะมีจุดกำเนิดมาจากอะไร และมีจุดประสงค์ทำไปเพื่ออะไร เอาเป็นว่าเราไปตามหาคำตอบพร้อมๆ กันเลย ตัวอย่างโครงสุ่มไก่ที่ถูกนำมาใช้จริงในอดีต เริ่มแรกสุดในช่วงศตวรรษที่ 18 มีการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับกระโปรงสุ่มไก่ขึ้น โดยพบว่าในยุคแรกกระโปรงจะถูกทำจากขนแข็งของม้า เพื่อรักษาสภาพความบานให้คงอยู่ได้ตลอดทั้งวัน กระทั่งเมื่อแฟชั่นเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น ก็เริ่มมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนเส้นใยผ้าที่ทำจากขนม้ามาเป็นผ้าฝ้ายแทน ซึ่งตอนแรกสุดเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มชนชั้นสูงเท่านั้น จนต่อมาแฟชั่นดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะหญิงเล็กหรือหญิงใหญ่ต่างก็ต้องมีกระโปรงสุ่มไก่เก็บเอาไว้อย่างน้อย 1 ตัว ถ้าไม่อย่างนั้นจะถือว่าไม่อินเทรนด์ตามฉบับของคนยุคนั้น โครงสุ่มไก่จะถูกสร้างขึ้นจากโครงเหล็กดัด หรือโครงไม้ดัด ก่อนจะนำผ้ามาติดให้สวยงามจนกลายเป็นกระโปรง แฟชั่นสุ่มไก่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จนกระทั่งช่วงปี 1875 George Routledge นักวาดการ์ตูนและนักเขียนได้ออกหนังสือที่บรรยายถึงโทษของแฟชั่นสุ่มไก่ให้สาวๆ ในยุคนั้นได้รับรู้กัน เนื้อหาส่วนหนึ่งในหนังสือที่มีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นในยุคนั้น ได้ระบุไว้ว่า: ‘กระโปรงสุ่มไก่เป็นกระโปรงที่ต้องระวังมากๆ สำหรับหญิงสาว ไม่ว่าตอนนั่ง ยืน หรือแม้แต่ตอนเดินผ่านประตูเราก็มักจะเห็นพวกเธอติดปัญหาเรื่องกระโปรง อีกทั้งจากสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้น เราก็ได้เห็นแล้วว่า กระโปรงสุ่มไก่ถูกใช้เป็นที่ลักซ่อนอาวุธที่จะนำมาใช้ก่อเหตุความไม่สงบได้มากน้อยขนาดไหน’ แม้ว่าจะมีคนพยายามออกมาต่อต้านแฟชั่นนิยมแต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะสุ่มไก่กลับได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงขนาดที่ว่าแม้แต่โสเภณีในยุคนั้นก็ยังต้องหามาใส่กัน แต่ความน่ากลัวของแฟชั่นสุ่มไก่อีกอย่างหนึ่งก็คือ…
-
นกแก้วและฟลามิงโก้ ต่างดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากเฮอร์ริเคน ‘เออร์มา’ รวมกับสัตว์อีก 3,000 ชีวิต
หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ พึ่งจะพัดผ่านและถล่มรัฐเท็กซัสไปไม่ทันหายดี พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาก็เคลื่อนตัวเข้าถล่มรัฐฟลอริดา ไม่เหลือชิ้นดีเช่นกัน และก็ไม่ใช่กับคนเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ เหล่าสัตว์ก็โดนด้วยเช่นกัน… ซึ่งไม่นานก็มการแพร่ภาพออกมาว่า พายุดังกล่าวมันรุนแรงขนาดแม้แต่นกฟลามิงโก้สองตัวยังต้องหนีไปหัวซุกหัวซุน จนได้รับการช่วยเหลือจาก Cheryl Lu-Lien โดยให้หลบภัยอยู่ในห้องซักรีดของเธอ ซึ่งเธอก็ทวีตข้อความขอความช่วยเหลือให้แก่เพื่อนสีชมพูทั้งสองตัว นอกจากนั้นยังมีภาพของนกแก้วสองตัวที่มีคนแชร์ต่อกันมา ซึ่งภาพนั้นมาจากครอบครัวที่พักอยู่บน Marriott Hotel ชั้น 22 ในเมืองไมอามี่ สภาพของเจ้านกทั้งสองนั้นเปียกโชกและดูเหมือนว่าพวกมันต้องการที่หลบภัยอย่างเร่งด่วน แต่ด้วยความที่พวกเขาไม่สามารถเปิดหน้าต่างออกไปช่วยมันได้ ก็ทำได้แค่มองดูและให้พวกมันหลบภัยอยู่ขอบหน้าต่างอย่างน่าเวทนา พร้อมกับเอาใจช่วยว่าทั้งคู่จะปลอดภัย… . นอกจากสัตว์เหล่าทั้งสองแล้ว สัตว์อื่นๆ ในสวนสัตว์ไมอามี่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เช่นกัน และด้วยจำนวนที่มีมากกว่า 3,000 ตัว เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ก็หัวปั่นสุดๆ เนื่องจากมีสัตว์ป่าหลากหลายประเภท ทำให้การจัดการจึงเป็นเรื่องที่เหนื่อยพอสมควรเลยทีเดียว แต่สัตว์ทั้งหมดก็ไม่ได้ไปไหน ยังคงหลบภัยอยู่ในสวนสัตว์นั่นเอง ส่วนถ้าใครสงสัยว่าทำไมไม่อพยพสัตว์ออกมา เจ้าหน้าที่ก็ได้ให้เหตุผลว่า พวกเขามองเห็นว่าพายุจะเปลี่ยนทิศทางในเร็วๆ นี้ และถ้าไปอพยพสัตว์จำนวนมากขนาดนั้นจะยิ่งอันตรายกว่าการหลบภัยอยู่ในสวนสัตว์ นกแร้งเทาหลังขาวยังต้องให้เจ้าหน้าที่มาสั่งเข้ากรง ดูๆ แล้วก็น่ารักดีนะ การขนย้ายสัตว์อย่างชีตาห์ก็อาจจะไม่ค่อยปลอดภัยก็ได้นะ ส่วนเครื่องยืนยันว่าวิธีดังกล่าวนั้นดีกว่าอพยพจริงไหมนั้น เจ้าหน้าทีก็บอกว่า พวกเขาเคยได้รับประสบการณ์ขนย้ายสัตว์หนีพายุ Andrew เมื่อ…
-
หญิงสาวป่วยเป็นมะเร็ง ปฏิเสธที่จะทำเคมีบำบัด เพื่อให้ลูกในท้องได้คลอดอย่างปลอดภัย…
หลายๆ คนทราบดีว่าหากพบว่าตนป่วยเป็นโรคมะเร็ง หนึ่งในการรักษาและยื้อเวลาผู้ป่วย คือการทำคีโมที่ใช้ยาหรือสารเคมีเข้าไปต่อสู้กับเซลล์ที่เป็นภัย หากว่าควบคู่ไปกับการฉายรังสีด้วยแล้ว จะถือว่าเป็นวิธีช่วยผู้ป่วยได้ดีที่สุด แม้จะรู้อย่างนั้น แต่ Carrie DeKlyen ก็เลือกที่จะปฏิเสธที่จะใช้วิธีการดังกล่าว จนทำให้เธอต้องจากไปอย่างสงบ เพราะไม่ต้องการให้การรักษากระทบกับลูกในท้องของเธอ เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อเธอได้รับการวินิจฉัยว่า ป่วยเป็นมะเร็งสมองที่มีชื่อเรียกว่า Glioblastoma Multiforme ซึ่งเป็นเนื้อร้ายชนิดเดียวกับที่พบในตัวแทนพรรครีพับลิกันในสหรัฐอเมริกา John Mccain ในตอนแรกเธอและสามีไม่ทราบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ จนเมื่อรู้ว่ามีเด็กสาวอยู่ในท้อง จึงละทิ้งการใช้ยาและสารเคมีบำบัดที่จะช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง เพราะหากไม่ทำอย่างนั้นลูกของเธอก็จะไม่มีชีวิตรอดได้ การทำคีโมไปในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ทำให้ลูกของเธอต้องมีกำหนดการคลอดเร็วกว่าปกติ นั่นคือ 28 สัปดาห์ของระยะเวลาตั้งครรภ์ หลังจากที่เธอเลิกใช้ยาช่วยและหันมาใช้แค่รังสี บวกกับการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อร้ายออก และดูดของเหลวออก กลับไม่สามารถช่วยให้สภาพร่างกายของเธอดีขึ้นได้ เจ้าเซลล์ดังกล่าวยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง น้องสะใภ้ของเธอ Sonya ได้ตั้งเพจชื่อว่า Cure 4 Carrie เพื่อเล่าถึงสถานการณ์ทั้งหมดที่เธอเป็นและต้องเจออยู่ ให้กับญาติ เพื่อนๆ หรือคนที่สนับสนุนเธออยู่ได้รับรู้ไปด้วยกัน . จากสถิติแล้วผู้คนที่ป่วยเป็นมะเร็งสมองขั้นรุนแรง จะมีเพียงแค่ 10% เท่านั้นที่จะสามารถมีชีวิตอยู่รอดนานถึง 5 ปีภายหลังจากการวินิจฉัย อาการของโรคที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้เธอหมดสติและไม่มีการตอบสนองของร่างกาย…
-
เปิดมุมมองของกรุงลอนดอน บรรยากาศบนท้องถนนในยามค่ำคืน อุดมความเงียบที่แตกต่าง…
ภาพถ่ายในยามค่ำคืนหลายคนคงจะเคยเห็นมาบ้าง แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาไร้ผู้คนอย่างตอนหลังเที่ยงคืน แล้วยิ่งเป็นภาพจากลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษด้วยแล้ว มันคือสิ่งที่น้อยคนนักจะได้เห็น และสังเกตถึงเสน่ห์ของมัน ช่างภาพชื่อว่า Edo Zollo ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของท้องถนนในลอนดอน ผ่านรูปภาพที่ไม่มีการจัดวางใดๆ ทุกสิ่งคือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ชวนให้สงสัยและดูลึกลับ ไม่สามารถบอกได้ว่าแท้จริงแล้วผู้คนที่ปรากฎในรูป กำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่ามีความตั้งใจที่จะทำอะไรกันแน่ เกิดมาเป็นเสน่ห์อันน่าอัศจรรย์ ที่จะชวนให้คุณได้ดูและคิดหาคำตอบไปด้วยกัน และเว็บไซต์ MyModernMet ก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เขา ว่าทำไมผลงานชิ้นนี้ถึงได้เกิดขึ้น เขาได้รับต้นแบบในการเป็นช่างภาพมาตั้งแต่เด็ก เพราะมันคือสิ่งที่พ่อเขาทำมาตลอด ความทรงจำที่ได้เห็นการล้างรูป ทำให้กระดาษแผ่นเล็กๆ มีรูปปรากฎให้เห็น เป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับตอนเป็นเด็กของเขาเอามากๆ ยังจำได้ดีที่เห็นพ่อของตัวเองภูมิใจ กับงานถ่ายรูปคู่บ่าวสาว และรอยยิ้มที่มีให้กันของทั้งสองคน ภาพถ่ายครอบครัวของเขาเองก็มีอยู่เต็มไปหมด และเมื่อนึกย้อนกลับไปมันคือสิ่งที่หาอะไรมาเปรียบไม่ได้เลย การที่ได้อยู่ในเมืองนี้มานานถึง 15 ปี ทำให้เขาเห็นความแตกต่างที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก มักจะมีสิ่งใหม่เข้ามาเปลี่ยนความคิดบางเรื่องคุณไป แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเบื่อเมืองนี้ เพราะทุกอย่างที่เป็นลอนดอนสามารถทำให้คุณเกิดจินตนาการต่อสิ่งต่างๆ อย่างไร้ข้อจำกัด จุดเริ่มต้นของผลงานชิ้นนี้คือเขามีเวลานอนที่ไม่ปกติ เพราะว่าก่อนจะเป็นช่างภาพหลายปีนั้น เขาได้ทำงานหลายอย่าง ที่ต้องทำเป็นกะกลางคืนทั้งสิ้น เมื่อสังเกตตัวเองจึงรู้ว่าในตอนดึก สามารถทำงานและตื่นตัวมากกว่ากลางวัน ในวันหนึ่งเขาเริ่มเบื่อการนอนดูทีวี จึงออกมาข้างนอกในตอนกลางคืนบ่อยครั้ง และเริ่มที่จะเสพติดกับการทำแบบนี้ เมื่อพบว่าทุกสิ่งมันแตกต่างจากตอนกลางวันไปหมด…
-
20 อันดับผลงานสุดอลังการ จากเทศกาลพาเหรดดอกไม้ประจำปี 2017 ที่เนเธอร์แลนด์
ทุกๆ ปี วันอาทิตย์แรกของเดือนกันยายน ประชากรชาวเมืองบ้านเกิดของศิลปินระดับโลกอย่าง Vincent Van Gogh จะมีการจัดเตรียมงานสำหรับเทศกาลพาเหรดดอกไม้ โดยจะแห่ไปตามท้องถนน ท่ามกลางผู้ชมที่แห่แหนมาจากทั่วโลก นี่คือเทศกาลที่เรียกว่า Corso Zundert เป็นขบวนบุปผชาติที่ Zundert เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งในประเทศเนเธอแลนด์ โดยมีจุดเริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ปี 1936 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่พื้นที่ส่วนนี้เป็นผู้ส่งออกดอกรักเร่ที่มีชื่อเสียงของโลก และจะทำการเดินขบวนบุปผชาติในวันอาทิตย์แรกของเดือนกันยายนเป็นประจำทุกปี ขบวนชนะเลิศอันดับที่ 1 Op Handen Gedragen สำหรับปีนี้จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 เดือนกันยายนที่ผ่านมา มีขบวนดอกไม้สุดอลังการกว่า 20 ขบวน ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิด เป็นรูปร่างและธีมต่างๆ เช่น รูปสัตว์ บุคคล โครงสร้างต่างๆ กว่าดอกไม้จะมาเป็นรูปร่างและขนาดสุดอลังการนี้ ทีมที่ส่งเข้าประกวดจะมีการเตรียมตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน โดยสมาชิกทุกเพศทุกวัยจะมาร่วมกันออกแบบขบวนดอกไม้ของหมู่บ้านตัวเอง อันดับที่ 2 Aangeslagen เมื่อวางแผนแล้ว พวกเขาจะเริ่มลงมือสร้างดอกไม้ตามโครงที่วางไว้ในช่วง 3 เดือน ก่อนที่เทศกาลการเดินขบวนพาเหรดจะเริ่มขึ้น แน่นอนว่าต้องใช้ความประณีต ความละเอียดที่ค่อนข้างสูง เพื่อให้ออกมาเป็นงานที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุด สำหรับปีนี้ขบวนที่ชนะเลิศคือขบวน Op…
-
ศิลปินอิสราเอล ลองวาดภาพการ์ตูนลงบนร่างกาย แต่ละส่วนจะกลายเป็นอะไรได้บ้าง?
ความเป็นศิลปะสามารถพบเจอได้จากทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติรอบตัว สิ่งก่อสร้างต่างๆ หรือแม้แต่ร่างกายเราเอง ก็มองและตีความออกมาเป็นงานศิลป์ได้มากมาย เหมือนกับเธอคนนี้ ศิลปินสาวชาวอิสราเอลใช้ร่างกายตัวเองแทนผืนผ้าใบ ใช้เป็นพื้นหลังของสิ่งต่างๆ ที่เธอสามารถจินตนาการได้จากหลายๆ ส่วนในร่างกายของเรา Sophia Weisstub วาดตั้งแต่สัตว์น่ารักๆ ไปจนถึง ท่าทางที่สื่อถึงเรื่องเพศ โดยส่วนต่างๆ บนร่างกายอย่างหู ขนตา ปาก หรือว่าจมูก ก็สามารถเป็นส่วนประกอบให้กับสิ่งที่เธอวาดได้เป็นอย่างดี . เธอได้อธิบายไว้ในนิตยสาร Sleek ว่าเธอต้องการให้โลกใบนี้สามารถทำให้ทุกคน แสดงออกในเรื่องต่างๆ อย่างอิสระ โดยเฉพาะเรื่องเพศด้วยแล้ว บางภาพจึงเป็นการสื่อให้เห็นเรื่องนั้นอย่างชัดเจน ตามเนื้อแท้แล้วมีความหมายให้ทุกคนได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับร่างกายของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนรูปร่างที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ มองว่าเรื่องเพศทั้งหลายก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั่นเอง เป็นเม่นที่ขนนุ่มมาก ลิ้นไก่เธอใหญ่ไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว “เพศมีความชัดเจนและมีด้านที่ดีอยู่ในตัวของมันเอง ทว่าวัฒนธรรมกลับตีความมันออกมาในแง่ลบ เช่นหนังโป๊ที่ลดเกียรติของผู้หญิง และแสดงถึงบางอย่างที่ผู้หญิงทุกคนไม่พึงปรารถนา” เธอกล่าว การใช้ร่างกายของเธอเองคือสิ่งตัวเลือกพื้นฐานที่เธอตั้งใจจะเลือก และมีความแม่นยำกับความต้องการของเธอมากที่สุด หมายความว่าเธอเองก็สามารถเลี่ยงปัญหาจากการ นำความคิดของเธอไปใช้กับสิ่งอื่นได้อีกด้วย หลับสบายๆ อยู่บนเตียงที่นุ่มเอามากๆ . ตอนคลอดออกมาคงจะจั๊กจี๋แย่เลย …
-
เรื่องราวรักแท้ที่เกิดขึ้นจริงบนเรือ ‘ไททานิค’ แม้แต่ความตาย ก็ไม่อาจแยกพวกเขาจากกันได้
หนังเรื่อง Titanic คงเป็นเรื่องโปรดของใครหลายคน เพราะความรักของแจ็คกับโรสมันช่างสวยงามเสียเหลือเกิน ขนาดที่ว่าตายแทนกันได้เลย แต่ว่าทั้งคู่ก็เป็นเพียงตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวความรักอันสุดแสนประทับใจแบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นจริงไปซะทีเดียว วันนี้ #เหมียวตะปู จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับความรักอันน่าจดจำ ของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ไม่อาจพรากกันได้ แม้ว่าความตายจะรอพวกเขาอยู่ก็ตาม “เราอยู่ด้วยกันมานานหลายปี เธอไปไหน ฉันก็จะไปด้วย” เป็นประโยคที่ Rosalie Ida Strauss พูดกับสามีของเธอ Isidor Strauss ในวันสุดท้ายของชีวิตพวกเธอ ทั้งคู่แต่งงานกันตั้งแต่อายุเพียง 20 กว่าๆ มีลูกด้วยกันถึง 7 คน โดยสามีนั้นทำงานเป็นนักธุรกิจ และต้องเดินทางออกไปทำงานทั้งในอเมริกา หรือแม้แต่ข้ามไปยุโรป ทว่าทั้งสองก็แทบจะไม่ได้แยกห่างจากกันเลย เพราะภรรยาจะเดินทางไปด้วยกับเขาอยู่เสมอ เรียกได้ว่าติดกันเป็นปาท่องโก๋เลย หรือถ้าหากว่าจำเป็นต้องอยู่ห่างกันจริงๆ ก็จะใช้วิธีการส่งจดหมายพูดคุยกันอยู่ตลอด ชีวิตคู่ของทั้งสองที่แต่งงานกันมา 40 ปี ฟังดูเหมือนจะไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างจากคู่อื่นเท่าไหร่นัก ทว่าสิ่งพิเศษในความรักของทั้งคู่ได้เกิดขึ้นในฉากสุดท้ายของชีวิต ในปี 1912 ทั้งคู่ออกเดินทางหนีหนาวไปที่ยุโรป ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่แหลม Martin ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส จนถึงช่วงต้นเดือนเมษายน ก็ตัดสินใจที่จะกลับบ้านในนิวยอร์ก…
-
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ประกาศเป็นเสียงตัวละคร Looney Tunes สร้างสีสันให้ผู้โดยสาร!!
ลองจินตนาการถึงการประกาศประชาสัมพันธ์แบบทั่วๆ ไป นั่นอาจจะฟังดูน่าเบื่อไม่น้อยใช่ไหมละ แต่สำหรับการประกาศที่เราจะนำมาให้คุณได้รับชมนี้ บอกเลยว่านอกจากจะทำให้คุณชื่นชอบแล้ว ยังทำให้ยิ้มตามได้อีกด้วย เมื่อพนักงานต้อนรับของสายการบิน Southwest Airlines ได้ค้นพบวิธีที่จะสร้างรอยยิ้มให้กับทีมนักฟุตบอลชายของมหาวิทยาลัย Utah Valley University ซึ่งเป็นกลุ่มผู้โดยสารที่กำลังเดินทางอยู่บนเครื่องบิน ณ ขณะนั้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาได้ตัดสินใจเลียนแบบเสียงของตัวละครจากการ์ตูนสุดคลาสสิค Looney Tunes ไม่ว่าจะเป็น Elmer Fudd, Bugs Bunny, Daffy Duck, Foghorn Leghorn, Porky Pig, Sylvester, นก Tweety, Yosemite Sam และ Tasmanian Devil มาใช้ประกาศบนเครื่องบิน และเมื่อสิ้นเสียงประกาศ ทั้งผู้โดยสาร และพนักงานบนเครื่องบินก็ต่างพากันหัวเราะไปตามๆ กัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างรอยยิ้มให้ผู้โดยสารได้แบบง่ายๆ เลยนะเนี่ย สำหรับคลิปวีดีโอของพนักงานสายการบินคนดังกล่าว ได้ถูกบันทึกเอาไว้ได้โดย Jordy Elizabeth ซึ่งภายหลังจากที่เธอได้นำคลิปของเขาไปโพสต์ลงบนโลกออนไลน์…
-
อดีตผู้อำนวยโรงเรียนในอังกฤษ ถูกสั่งจำคุก 16 เดือน หลังสั่งซื้อตุ๊กตายางเด็กมาจากจีน!!
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2017 เว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า David Turner อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวัย 72 ปี จากเมือง Ramsgate มณฑลเคนต์ ประเทศสหราชอาณาจักร ถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลานาน 16 เดือน ภายหลังจากที่เขาได้สั่งซื้อตุ๊กตายางเด็กมาจากประเทศจีน ในเดือนพฤศจิกายนเมื่อปีที่ผ่านมา โดยนำเข้าผ่านทางสนามบิน Stansted แต่ถูกสกัดจับเอาไว้ได้เสียก่อน จากการรายงานระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติของอังกฤษ (NCA) ได้เข้าตรวจค้นบ้านของนาย David และได้พบตุ๊กตา Sex Doll จำนวน 2 ตัว ทางด้าน NCA ก็ได้ออกมาเผยว่า นาย David ได้เปิดดูเว็บไซต์ขายสินค้าเกี่ยวกับตุ๊กตายางเด็ก นอกจากนี้ยังพบอีกว่า เขาได้ดาวน์โหลดภาพอนาจารของเด็กมามากกว่า 34,000 ภาพอีกด้วย โดยภาพของเด็กกลุ่ม A จำนวน 138 ภาพนั้น เป็นภาพเกี่ยวกับการทารุณกรรมเด็กที่มีความรุนแรงมาก ส่วนภาพในกลุ่ม B มีจำนวน…
-
19 สถานที่แปลกๆ จากทั่วทุกมุมโลก น้อยคนนักจะรู้จัก แบบนี้มันก็มีด้วยเร๊อะ!?
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีสถานที่สวยงามเกิดขึ้นมากมาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว บนโลกอันแสนกว้างใหญ่ใบนี้กลับมีสถานที่ที่น่าสนใจรอให้หลายๆ คนได้ไปสัมผัสอยู่นะ และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอมานำเสนอ 19 สถานที่จากรอบโลก ที่แม้ว่ามันจะค่อนข้างลึกลับ และอาจไม่มีใครรู้จักมาก่อน แต่ต้องบอกเลยว่ามันกลับน่าสนใจไม่น้อย บางที่ก็น่าไปมาก ในขณะที่บางที่ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าทึ่งมากมาย ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลย 1.หมู่บ้าน Fucking หมู่บ้าน Fucking แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรีย เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่น่าอยู่ ซึ่งในขณะนี้ชาวบ้านกำลังเผชิญหน้ากับปัญหานักท่องเที่ยวชอบขโมยป้ายบอกทางของหมู่บ้าน เพราะไม่ว่าจะทำใหม่ออกมาเรื่อยๆ ก็จะถูกขโมยอยู่ตลอด (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) 2.ทะเลสาบฮิลเลียร์ ทะเลสาบฮิลเลียร์ ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย ที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยนมสตรอเบอร์รี่สีชมพูนี้ จริงๆ แล้วเกิดจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า Donariela Salina ซึ่งเป็นสาหร่ายชนิดหนึ่งนั่นเอง (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) 3.ถนนที่แคบที่สุดในโลก ว่ากันว่า Schleier Hof Avenue ในประเทศเยอรมนี เป็นถนนที่แคบที่สุดในโลก โดยมีความกว้างเพียงแค่ 31-50 เซนติเมตรเท่านั้น โดยถนนสายนี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 1727 4.บ้านทรงแคบที่ถูกสร้างด้วยเจตนาร้าย ปี…
-
ฆาตกรต่อเนื่องผู้สังหารเหยื่อ 7 ราย รับสารภาพต่อศาลสูง และจะรับโทษจำคุก 360 ปี!!
สำหรับคดีร้ายแรงอย่างการฆ่าคนนั้น ส่วนใหญ่จะผู้ต้องหาจะต้องได้รับโทษสูงสุดคือ ‘ประหารชีวิต’ แต่สำหรับกรณีดังกล่าว บางประเทศก็ได้มีการยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้ว จึงกลายเป็นว่าโทษสูงสุดถูกแปรเปลี่ยนให้กลายมาเป็นการถูกจำคุกตลอดชีวิตแทน และหากผู้หาก่อคดีร้ายแรงต่อเนื่องหลายคดีก็ต้องรับโทษตามจำนวนของคดีที่ก่อเอาไว้ อย่างเช่นคดีสะเทือนขวัญของฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนไปถึง 7 คน เป็นเหตุให้ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 360 ปี William Devin Howel วัย 47 ปี จากเมือง New Britain รัฐ Connecticut ได้รับสารภาพระหว่างการพิจารณาคดีภายในศาลสูงแห่งเมือง New Britain ว่าเขาได้ลงมือฆาตกรรมเหยื่อมากถึง 6 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เคยก่อคดีฆาตกรรมเหยื่อรายหนึ่งมาก่อนหน้านี้แล้ว นั่นก็คือ Nilsa Arizmendi และถูกตัดสินความผิดร่วมกับการก่อเหตุที่เกิดขึ้นอีกรวมทั้งสิ้น 7 ราย Howell เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ Connecticut เท่าที่เคยเกิดขึ้นมา โดยที่ไม่นับรวมกับเหตุการณ์สังหารหมู่ในโรงเรียนประถม Sandy Hook ณ เมือง Newtown เมื่อปี 2012 ทั้งนี้ศพของเหยื่อทั้ง 7 ราย ถูกฝังอยู่ในพื้นที่ป่าแห่งหนึ่งบนถนน Hartford หมายเลข…
-
นักโบราณคดีค้นพบ หลุมศพของมัมมี่แห่งใหม่ พร้อมสมบัติล้ำค่าอายุมากกว่า 3,500 ปี!!
นับว่าเป็นอีกหนึ่งการค้นพบที่ช่วยทำให้นักโบราณคดี หรือนักประวัติศาสตร์ ได้เข้าใจและเข้าถึงความเป็นไปของอาณาจักรอียิปต์มากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานถึงการขุดค้นพบหลุมฝังศพมัมมี่ช่างทองหลวงของกษัตริย์ฟาโรห์ โดยระบุร่างที่พบในสุสานนั้นก็คือ ‘อาเมเนมฮัต’ ที่เชื่อว่ามีอายุมากกว่า 3,500 ปี ในเมืองลักซอร์ ประเทศอียิปต์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าช่างทองหลวงน่าจะเคยมีชีวิตอยู่ในช่วงราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์ Khaled el-Anany รัฐมนตรีอียิปต์กล่าวว่า แม้สภาพโลงศพของช่างทองหลวงจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก แต่สิ่งของอื่นๆ ที่ถูกฝังมาด้วยกลับเป็นสมบัติอันล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ นอกจากนั้นทีมโบราณคดียังขุดพบข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของกษัตริย์ ที่โยงไปถึงความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายของอียิปต์โบราณ อีกทั้งยังมีร่างของภรรยาและร่างของเด็กอีก 2 คน การค้นพบครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชาวอียิปต์มากๆ เพราะในอีกแง่หนึ่งพวกเขาก็หวังว่ามันจะช่วยทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศดีขึ้น แต่ถึงกระนั้นทีมค้นหาก็ระบุว่า ยังมีอีกหลายส่วนพื้นที่ๆ พวกเขายังค้นหาไม่สำเร็จ และเชื่อว่าในอนาคตจะมีการค้นพบประวัติศาสตร์ของอียิปต์ที่ถูกฝังอยู่ ส่วนหนึ่งของรูปปั้นไม้ที่ถูกค้นพบจากสุสาน Draa Abul Nagga รูปปั้นจากหินทรายที่ชี้ให้เห็นภาพของช่างทองหลวงอาเมเนมฮัต ที่มีภรรยานั่งอยู่เคียงข้าง ตั้งตระหง่านอยู่ตรงทางเข้าสุสาน ในส่วนของเครื่องปั้นดินเผา หรือเครื่องใช้ต่างๆ นักโบราณคดีจะนำไปฟื้นฟูก่อนจะส่งให้เป็นการดูแลของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ซึ่งหลักฐานที่ถูกค้นพบทั้งหมด จะช่วยให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณถูกเติมเต็มให้มากขึ้น …
-
ศิลปินชาวญี่ปุ่นโชว์สกิลเทพ วาดภาพ ‘ซองขนม’ ทั้งแสงและสี เก็บเนี้ยบจนแยกไม่ออก!?
ภาพวาดยังไงก็คือภาพวาด เพราะแม้จะวาดเหมือนแค่ไหนก็ยังมีจุดให้เราสังเกตได้ว่ามันมีความแตกต่างกันอยู่ แต่ในครั้งนี้กลับทำให้เรารู้สึกอึ้งไปอีก เนื่องจากว่าการวาดภาพในครั้งนี้มันเนียนจนแทบจะแยกไม่ออกเลยจริงๆ ด้วยความสามารถของศิลปินชาวญึ่ปุ่น Polka ที่ไม่ใช่แค่วาดรูปเก่งเท่านั้น แต่เธอยังวาดรูปได้เหมือนของจริงเป๊ะๆ อย่างกับเสกออกทุกสิ่งให้ออกมาได้จากปลายพู่กัน โดยเฉพาะการวาดรูปซองขนมต่างๆ สำหรับผลงานสุดน่าทึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างคู่สามีภรรยาที่รักในการวาดรูป โดย Polka จะทำหน้าที่วาดรูป ส่วนสามี KxWxR จะทำการบันทึกวิดีโอและตัดต่อคลิปวิดีโอ เทคนิคการวาดรูปของ Polka คือการใช้สีอะคริลิคเป็นหลักและวาดลงบนสมุดสเก๊ตของเธอ โดยมักจะเลือกใช้สีรองพื้นเป็นสีดำ เพราะจะทำให้ให้เห็นรายได้ละเอียดได้ชัด และใช้เวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมง ต่อ 1 ภาพ ภาพที่ Polka ใช้เป็นแบบในการวาดรูปนั้นส่วนใหญ่เป็นภาพถ่ายที่หามาได้ทั่วไป แต่บางครั้งเธอก็จะเอาของจริงมาวางคู่กันแล้วก็วาดตามนั้นเลย เมื่อถามว่าปัจจุบันเธอทำอาชีพอะไร Polka บอกว่า “ฉันคิดว่าฉันเป็นแม่บ้านนะ ฮาๆๆ” แหม่ ช่างถ่อมตัวเหลือเกิน ฝีมือขนาด ดูยังไงก็ศิลปินชัดๆ จะเหมือนแค่ไหน ดูเอาละกัน ไม่มีความผิดเพียงทั้งรูปทรง สี และแสง . . . . บอกได้คำเดียวว่า ‘โคตรเก่ง’ ฝีมือเกินจะเป็นแม่บ้านแล้ว!! ที่มา kotaku
-
รวม 20 ภาพของสุดยอดพ่อบ้าน ผู้ยอมเสียสละให้มนุษย์เมีย มีรูปสวยๆ ไว้อวดโซเชียล!!
คนที่เข้าใจยากมากที่สุดในโลกนี้ไม่ใช่เด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ ไม่ใช่คนไม่มีเหตผล แต่พวกเค้าคือมนุษย์แฟนหรือเมีย โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบเล่นโซเชียลกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สังเกตมั้ยว่าเวลาสาวๆ ลงรูปในโซเชียล ไม่ว่าจะในเฟสบุ๊กหรืออินสตาแกรม ส่วนใหญ่แล้วรูปที่ลงนั้นต้องผ่านการถ่ายมาเป็นสิบๆ รูป แล้วคัดเลือกรูปที่ดูดีที่สุดมาลง และผู้หญิงคงจะฟินมาก หากคุณผู้ชายเข้าใจเธอในจุดนี้!! เหมือนกับหนุ่มเหล่านี้ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แฟนสาวมีภาพสวยๆ ลงอินสตาแกรม แม้ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน แต่เพื่อความสุขแฟนแล้ว ยอมได้ทั้งนั้น เพราะด้วยเหตุผลนี้ ถึงกับต้องมีไอจีในชื่อ @boyfriends_of_insta ที่รวบรวมความเสียสละของเหล่าพ่อบ้านที่เป็นเบื้องหลังรูปสวยๆ ให้กับเหล่ามนุษย์เมียยังไงล่ะ ฮร่า 1. เต็มที่เลยสาวๆ ไม่ต้องห่วงความปลอดภัยพี่หรอก 2. ผู้ชายอาจจะหงายหลังได้ แต่แฟนสาวต้องได้รูปสวยๆ ก่อน 3. เพื่อความสุขของเธอ ต่อให้ต้องหมอบหน้าจูบพื้นก็ยอมทั้งนั้น 4. ถ่ายรูปอย่างเดียวไม่พอ ต้องหิ้วกระเป๋าให้ด้วย 5. โพสท่าเต็มที่เลย นึกว่าเป็นช่างภาพละกัน 6. แอ่นอีก ที่รัก แอ่นอีก 7. อืม ยอมนอนพื้นเพื่อท่านี้ของแฟนสาว…
-
งี้ก็มี!? หนุ่มเมกันผุดกิจกรรม ‘กระหน่ำปืนใส่เฮอร์ริเคน Irma’ หวังไล่ให้มันออกไปไกลๆ..!!
อาจจะเป็นธรรมเนียมของชาวเมกันก็ได้นะ ที่แบบว่า… ถ้าไม่ชอบใจอะไรซักอย่างแล้ว ก็ยิงแม่มเลยล่ะกัน!! เช่นเดียวกับพายุเฮอร์ริเคน Irma ที่กำลังจะเข้ามาพัดถล่มหมู่เกาะและชายฝั่งในรัฐฟลอริดา จนทำให้ล่าสุดทางการต้องสั่งอพยพชาวเมืองกว่า 5,600,000 คน อย่างเร่งด่วนที่สุด แน่นอนว่าไม่มีใครชอบหรอก.. ที่จู่ๆ จะมีฟ้าฝนลมแรงมาพัดบ้านเราพังไปทั้งหลัง ด้วยเหตุนี้หนุ่มเฟี้ยววัย 22 ปี Ryon Edwards ผู้อาศัยอยู่ในฟลอริดามาตั้งแต่เด็กจนโต รู้สึกว่าเขาต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อปกป้องบ้านเมืองของตัวเอง แต่ตัวเองไม่มีพลังวิเศษ… งั้นก็เอาปืนมายิงใส่แบบสไตล์อเมริกันคาวบอยเลยละกัน Ryon ได้สร้างอีเวนท์ ‘Shoot At Hurricane Irma’ บนเฟซบุ๊ก และถูกอกถูกใจชาวเมืองจนมีคนกดติดตามเข้าร่วมด้วยมากกว่า 50,000 คน อันที่จริงแล้วในช่วงเวลาที่ชาวเมืองทุกคนต่างเร่งรีบอพยพหนีภัยจากพายุแบบนี้ คงไม่มีใครมายืนยิ้มยิงปืนใส่พายุหรอกจริงมั้ย? แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนเอาปืนออกมาเล็งใส่พายุจริงๆ หรอกนะ… Ryon ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “ด้วยพลังแห่งความเครียดผสมกับความเซ็งและเบื่อหน่าย ผมเลยจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาซะเลย แถมผลตอบรับนี่โคตรจะเซอร์ไพรส์สุดๆ ไปเลยครับ ตอนแรกผมก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีคนบ้าเอาปืนมาเล็งใส่พายุกันจริงๆ เราก็แค่อยากเกรียนไปเล่นๆ แค่นั้น เอาไปเอามากลายเป็นเรื่องจริงจังเฉยเลย” มีหนุ่มฟลอริด้าคนหนึ่ง……
-
ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด… ชาวเน็ตร่วมแชร์ 17 ผลงานการวาดรูป ที่พัฒนาขึ้นไปอีกระดับ
หากคุณเป็นคนที่รักในการวาดรูป อยากหยุดวาดเพียงเพราะคุณผิดหวังผลงานของตัวเองในครั้งแรก อย่าหยุดเพียงคนอื่นมองว่ามันไม่สวย และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดคุณก็ไม่ควรทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ทุกอย่างล้วนต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝน การวาดรูปก็เช่นกัน วาดครั้งแรกไม่สวย ไม่ถูกใจ เอาใหม่ วาดใหม่ แล้ววันหนึ่งคุณจะพบว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ 1. พัฒนาการจากปี 2011 จนถึงปี 2017 2. หญิงสาวที่ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค แม้จะไม่ถนัดวาดร่างกาย แต่เธอก็พยายามจนเกิดการเปลี่ยนแปลง 3. ภาพด้านซ้ายคือผลงานตอนปี 2016 ด้านขวาคือปี 2017 4. ภาพเดียวกันที่วาดตอนอายุ 12 และ 18 ปี 5. ทุกการฝึกฝนย่อมทีการพัฒนาเสมอ 6. 13 ปีที่แล้วกับตอนนี้ 7. ฝีมือตอนอายุ 10 ขวบ กับตอน 21 ปี 8.…
-
เจ้าเหมียวจรยอมเข้ากรงแต่โดยดี เพราะเป็นห่วงเหล่ามิ้วน้อย ที่อยู่ภายใต้การดูแล…
การเอาใจใส่ดูแลคนรอบข้างไม่ได้เกิดขึ้นเพียงกับมนุษย์เท่านั้น กับแมวเองก็มีความรักความเมตตาให้กับเพื่อนตัวอื่นเช่นเดียวกัน เหมือนกับเจ้าตัวนี้ที่ดูแลเอาใจใส่เพื่อนตัวน้อยของมัน ถึงแม้ว่าจะป่วยอยู่ก็ตาม เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย เมื่อสองสาว Sarah Chelskea และ Crystal Mackey พบกลุ่มลูกแมวจรจัด จึงได้พยายามจับมันไว้ และพบว่าแท้จริงแล้วพวกมันมีผู้ปกครองแสนน่ารักอยู่ . เพราะในขณะที่พวกเธอกำลังทำการล้อมจับลูกเหมียว 6 ตัวและแม่ของพวกมัน ได้มีแมวจรจัดอีกตัวโผล่เข้ามา และเข้าไปในกรงดักด้วยตัวเอง เพื่อเดินทางไปพร้อมกับตัวที่เหลือที่มันเป็นเพื่อนด้วย เธอทั้งสองที่อยู่ในทีม CatRescue 90 จึงได้พาลูกแมวทั้งหมดรวมถึง Ali เจ้าเหมียวที่คอยดูแลตัวอื่นๆ แม้ว่าจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน และเข้ามาโดนจับด้วยตัวเอง กลับไปที่สถานที่ดูแลแมวจรจัด เจ้าเหมียวที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Ali . และจากการตรวจดูพบว่ามันป่วยเป็นโรค FIV+ ที่ทำให้มันมีภูมิต้านทานบกพร่อง และเชื้อไวรัสนี้สามารถกระจายสู่แมวตัวอื่นๆ ได้ ผ่านรอยแผลที่เกิดขึ้น ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติที่เวลาเจ้าเหมียวเล่นกัน แล้วจะเกิดรอยแผลขึ้นมาบ้าง แต่นั่นไม่ใช่สำหรับมันเลย ด้วยนิสัยอ่อนโยนและมีความสุภาพ ทำให้มันคอยดูแลและเล่นกับตัวอื่นๆ รวมถึงมนุษย์เองได้อย่างนิ่มนวล จะน่ารักเกินไปละนะ . ความน่ารักและขี้อ้อนของเจ้าเหมียว…
-
จดหมายลึกลับในศตวรรษที่ 17 เขียนโดยแม่ชีที่ถูกปีศาจครอบงำ เพิ่งได้รับการถอดรหัสบางส่วน…
Maria Crocifissa della Concezione หรือเรียกสั้นๆ ว่า Maria เธอเป็นแม่ชีในศตวรรษที่ 17 โดยมีตำนานเล่าว่าเธอถูก Lucifer จอมมารแห่งนรกเข้าครอบงำ และในปี 1676 เธอก็ได้เขียนจดหมายลึกลับฉบับหนึ่งเอาไว้ที่สำนักนางชี Palma di Montechiaro จดหมายลึกลับที่ซาตานใช้ร่างของเธอเขียนเอาไว้ ไม่มีใครสามารถไขปริศนาได้จนกระทั่ง 341 ปีต่อมา กลุ่มนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอิตาลี ก็ได้ทำการถอดรหัสคำแปลที่อยู่บนจดหมายออกมาได้ โดยใช้โปรแกรมถอดรหัสที่ได้ค้นพบบนเว็บไซต์สายมืด และได้พบว่าข้อความที่ปรากฏบนในจดหมายเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก เพราะมันได้อธิบายถึงพระเจ้า และพระเยซูว่าเป็น “ตัวถ่วง” สำหรับ Maria เธอได้เข้ามาอยู่ในสำนักนางชีเมื่อตอนที่อายุ 15 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เธอมีชื่อว่า Isabella Tomasi โดยเช้าวันหนึ่งในปี 1676 เธอได้เผยว่า… เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับข้อความลึกลับที่ถูกเขียนลงบนจดหมาย โดยเธอได้บอกน้องสาวของเธอว่า เธอกำลังถูกซาตานครอบงำ และบอกให้เธอเขียนข้อความเหล่านี้ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานหลายปี ข้อความที่อยู่ในจดหมายก็ยังคงเป็นปริศนา และยังไม่มีแม่ชีคนไหนสามารถแปลข้อความลึกลับที่ Maria เขียนลงบนจดหมายได้เลย และเราก็ต้องขอขอบคุณทีมงานจากศูนย์วิทยาศาสตร์ Ludum ในคาตาเนีย ประเทศอิตาลี…
-
ญี่ปุ่นผลิต ‘หุ่นยนต์หมา’ ที่ช่วยตรวจสอบว่ากลิ่น “ทีน” ของคุณ ยังโอเคอยู่ไหม..!!
กลิ่น ‘ทีน’ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะเมื่อไหร่ที่มันเผลอไปเตะจมูกคนอื่นเข้า ขอให้รู้ได้เลยว่า… มลพิษทางกลิ่นได้เกิดขึ้นแก่เพื่อนร่วมโลกของคุณแล้ว แต่ใช่ว่าปัญหานี้จะไม่มีทางออก เพราะนอกเหนือจากสเปรย์ดับกลิ่นเท้าแล้ว สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแห่งชาติประจำประเทศญี่ปุ่น (NITkit) ได้ค้นพบนวัตกรรมที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นเท้า นั่นคือหุ่นยนต์หมาน้อยนั่นเอง!! (ทำเสียงแบบโดเรม่อนชูของ) นี่คือ.. เจ้า Hana หุ่นยนตร์ 4 ขาขนปุกปุย ที่จะช่วยคุณจัดการกับกลิ่นเท้าที่เหม็นหึ่ง นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสุดเจ๋งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะบริเวณ ‘จมูก’ ของเจ้าสุนัขตัวจิ๋วจะถูกใช้งานด้วยเครื่องตรวจจับกลิ่นที่มีขนาดความยาวกว่า 15 ซม. หลักการทำงานของมันก็ง่ายมาก เพียงแค่คุณยื่นเท้าอันหอมหวลไปให้เจ้าตูบดม มันก็จะใช้เซนเซอร์ตรงจมูกตรวจจับกลิ่นโดยจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้… 1. ถ้ากลิ่นเท้าของคุณอยู่ในเกณฑ์ที่ยังไม่เป็นภัยต่อคนรอบข้าง เจ้าตูบจะแสดงผลด้วยการเดินเข้ามาคลอเคลียกับเท้าของเรา (เหมือนสื่อเป็นนัยยะว่ากลิ่นเท้าไม่น่ารังเกียจ) 2. หากกลิ่นเท้าของเราอยู่ในระดับที่มีความเหม็นพอสมควร และอาจไปกระทบต่อคนรอบข้างได้ เจ้าตูบจะทำการส่งเสียงเห่าเตือนใส่เรา 3. ระดับสุดท้ายพีคสุด..!! ถ้ากลิ่นเท้าของคุณมันแรงซะจนอาจทำให้คนรอบข้างรู้สึกขมคอ เจ้าตูบก็จะแกล้งตายและสลบคากลิ่นเท้าของคุณทันที สิ่งประดิษฐ์สุดบรรเจิดนี้กำลังจะนำมาวางขายในท้องตลาดญี่ปุ่นในอีกไม่นาน ซึ่งราคาเปิดตัวก็อยู่ที่ 100,000 – 200,000 เยน…
-
อุทาหรณ์… สาววัย 14 เป็นโรคอัมพาตขา เข้านอนตามปกติ แต่ตื่นมาถูกหนูแทะนิ้วเท้า!!
อีกหนึ่งอุทาหรณ์ที่ถูกนำมาเล่าผ่านเว็บไซต์ Mirror ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัยเพียง 14 ปี ที่ป่วยด้วยโรคอัมพาตขา ที่ถูกหนูกัดกินนิ้วเท้าจนกลายเป็นอาการติดเชื้อขั้นรุนแรง จากต้นฉบับรายงานว่า ครอบครัวของหญิงสาวคนนี้อาศัยอยู่ที่เมืองรูแบ ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส โดยคุณพ่อ Jerome ได้เล่าว่า… คืนวันนั้นลูกสาวของเขาได้เข้านอนตามปกติ บนเตียงระดับเดียวกันกับพื้นบ้าน จากนั้นตื่นมาก็พบว่าลูกสาวของตนถูกหนูแทะนิ้วเท้าข้างที่เป็นอัมพาตไปเสียแล้ว **คำเตือน: ภาพประกอบเนื้อหานี้มีความรุนแรง และอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจได้** Courrier-Picard สื่อท้องถิ่นของฝรั่งเศสได้รายงานว่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 กันยายน ทุกอย่างภายในบ้านดูปกติดี หลังจากที่ Samantha (ลูกสาว) เข้านอนก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งเช้าวันต่อมาพวกเขาก็ได้เห็นภาพเลือดของลูกสาวที่เปื้อนอยู่เต็มเตียง พอสืบหาสาเหตุก็พบว่าเป็นรอยกัดของหนูที่มาจากปัญหาขยะของพื้นที่แถวนั้น “ภาพแรกผมเห็นเลือดไหลออกมาจากหู และเลือดก็เปื้อนเต็มเตียงไปหมด เธอไม่สามารถลุกขึ้นมาจากเตียงได้ด้วยตัวเอง และคุณหมอก็วินิจฉัยออกมาว่า เธอมีบาดแผลทั้งหมด 45 จุดบนใบหน้า 150 จุดบนแขน และอีก 30 กว่าแผลตรงเท้าของเธอ เป็นภาพที่เศร้าสลดมากสำหรับหัวอกคนเป็นพ่ออย่างเรา” Jerome ให้สัมภาษณ์ หลังเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น คุณพ่อและครอบครัวก็ได้ยื่นเรื่องฟ้องเจ้าของบ้านเช่าทันที โดยให้เหตุผลว่าก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวมีปัญหาเรื่องการจัดการขยะมานานแล้ว และเจ้าของที่ก็ไม่ยอมแก้ปัญหาจนนำมาซึ่งความสูญเสียที่เกิดขึ้น “ลูกสาวของเราบาดเจ็บสาหัสมาก…
-
สาวน้อยได้รับมือเทียมใหม่ พร้อมเป็นพิทเชอร์เปิดเกมให้ทีมเบสบอล จนทั้งลีกพากันแย่งตัว!!
เรื่องราวอันน่าประทับใจของสาวน้อยวัย 7 ขวบ Hailey Dawson ซึ่งเธอป่วยด้วยโรค Poland Syndrome เป็นโรคหายากที่ส่งผลให้เธอสูญเสียนิ้วมือไปถึง 3 นิ้วด้วยกัน แม้ว่าโรคที่เธอเผชิญจะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1 ใน 200,000 คน แต่ด้วยวิทยาการแพทย์ผนวกเข้ากับการร่วมมือกันระหว่างสถาบันวิจัยแห่งสหรัฐฯ และแอฟริกาใต้ ในที่สุดเธอก็ได้รับมือเทียมที่ทำจากเครื่องปริ๊นท์ 3D ซึ่งสามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน!! หนูน้อย Hailey Dawson ก่อนหน้านี้ Hailey ไม่สามารถที่จะทำกิจกรรมตามใจที่เธออยากจะทำเหมือนเด็กคนอื่นๆ ได้ ทว่าในที่สุดด้วยการช่วยเหลือของสภาการแพทย์ เธอก็ได้รับมือข้างใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยนวัตกรรมเครื่องปริ๊นท์ 3D หนึ่งในภารกิจที่เธอรู้สึกอยากจะทำมาโดยตลอด ก็คือการได้ทำหน้าที่เป็น ‘Pitcher’ ตำแหน่งผู้ขว้างในครั้งแรกของแต่ละเกม ให้กับทีมเบสบอลที่เธอรักมากที่สุด แน่นนอนว่าหนูน้อยได้รับโอกาสออกทัวร์กับทีมที่ตนรัก และเรื่องราวของเธอก็กลายเป็นที่โด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ Cutest ever. #RickyMartin #RickyMartinResidency #rickymartinallin #allin #sexysouls #3d #3dprinting #flexyhand #robotichand @ricky_martin pic.twitter.com/FaSyz9TEYq — Haileys_hand (@haileys_hand)…
-
พบตัวตลกออกอาละวาดอีกครั้ง ทำตัวมีพิรุธอยู่ตามบ้านในสหรัฐฯ คาดเพราะกระแสเรื่อง ‘IT’
ในตอนนี้คงมีใครหลายคนได้ไปรับชมภาพยนตร์หลอนแห่งปีเรื่อง IT กันมาแล้ว และจำกันได้กับความหลอนของ Pennywise ปีศาจตัวตลกภายในเรื่อง ซึ่งสามารถสร้างผลกระทบได้มากกว่าความน่ากลัวภายในเรื่อง เมื่อกล้องจากกริ่งหน้าบ้านหลังหนึ่งในรัฐ Wisconsin ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถจับภาพคนแต่งหน้าและสวมชุดตัวตลกคล้ายกับในหนัง พร้อมกับถือลูกโป่งสีดำ เดินไปเดินมาอยู่บริเวณสวนหน้าบ้าน ก่อนที่จะมองเข้ามาในบ้านอย่างมีพิรุธ การแต่งตัวแต่งหน้าทาปาก และภาพในลักษณะขาวดำ ทำให้ดูไม่ออกเลยว่าบุคคลนี้เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง . เหตุการณ์นี้จึงทำให้ตำรวจคาดการณ์ว่า หนังเรื่องดังกล่าวจะทำให้ “อาชญกรรมในคราบของตัวตลก” กลับมาอีกครั้ง เพราะเจ้าหน้าที่ในรัฐเพนซิลเวเนีย ได้ทำการออกมาแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังภัยของตัวตลกชวนขนหัวลุกเหล่านี้ ที่จะกลับมาออกอาละวาดในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่หนังเรื่อง IT กำลังจะเข้าฉายพอดี Pennywise ปีศาจตัวตลกจากหนังเรื่อง IT วิดีโอที่ถูกถ่ายโดยกล้องจากกริ่งหน้าบ้านหลังหนึ่ง บุคคลในคลิปวิดีโอที่ถ่ายมาได้ คาดว่าน่าจะเป็น Gags ตัวตลกในเมือง Green Bay แห่งนี้ ซึ่งมีผู้พบอยู่บ่อยครั้งในช่วงสิงหาคมที่ผ่าน มีรูปที่แชร์ผ่านเพจเฟซบุ๊คของตัวตลกตัวดังกล่าว เผยให้เห็นลักษณะการแต่งตัวและถือลูกโป่งในแบบเดียวกันที่เห็นในคลิป ตัวตลกที่รู้จักกันในชื่อ Gags มีผู้พบเจอไปทั่วเมือง . หนึ่งในผู้วิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่า ตัวตลกที่ออกมากลั่นแกล้งสร้างความน่ากลัวในเมืองนี้…
-
เจ้าสาวอ้างช่วยจัดการปาร์ตี้สละโสด ให้เจ้าบ่าวและเพื่อนๆ แต่ดันเชิดเงินหนีกว่า 5 แสนบาท!!
แม้หลายคนจะให้ความสำคัญกับความรักมากกว่าสิ่งอื่นใด แต่บางทีเมื่อมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ความรักอาจสำคัญน้อยกว่าเงินก็เป็นได้… เหมือนกับกรณีนี้ เมื่อชายหญิงคู่หนึ่ง คบกันมาได้สักพักจนถึงขั้นตกลงปลงใจแต่งงานกัน แต่แล้วฝ่ายหญิงก็หายตัวไปพร้อมเงินของว่าที่เจ้าบ่าวและเพื่อนๆ ขณะที่ Chris Mahone อายุ 27 ปี กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับ Rachel Doran วัย 29 ปี เขาจึงวางแผนจัดปาร์ตี้สละโสด โดยว่าที่เจ้าสาวอาสาจัดการทุกอย่างให้ ทั้งจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และเรื่องเล็กน้อยจิปาถะอื่นๆ Doran ได้เรียกเก็บเงินจากเพื่อนๆ ของ Mahone ทั้งหมด 29 คน คนประมาณละ 19,000 บาท รวมแล้ว 551,000 บาท โดยอ้างว่าจะจัดการทุกอย่างให้ แต่แล้วขณะที่ว่าที่เจ้าบ่าวและเพื่อนๆ กำลังเดินทางไปยังสนามบิน Leeds-Bradford เพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังเกาะสวรรค์อีบิซ่าที่เฝ้ารอคอย แต่ทุกคนก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกว่าที่เจ้าสาวตัวแสบหลอกซะแล้ว เพราะเธอไม่ได้จองตั๋วเครื่องบิน ไม่ได้จองที่พักให้ แถมยังหายตัวไปพร้อมเงินของพวกเขาด้วย เพื่อนเจ้าบ่าวบอกว่า ตั๋วเครื่องบินที่ได้จาก Doran นั้นเป็นของปลอม ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจโทรไปเช็คโรงแรมที่เธออ้างว่าจองให้ แต่ปรากฏว่าผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ได้ทำการจองแต่อย่างใด แต่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว เพราะ Doran…
-
ผู้เชี่ยวชาญเผยถึงเหตุผลสำคัญที่ว่า “ทำไมชื่อของพายุเฮอร์ริเคน ต้องตั้งตามชื่อคน?”
เมื่อเกิดเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคนถล่มแต่ละครั้ง จะมีการตั้งชื่อให้กับพายุแต่ละลูกตามชื่อของมนุษย์ แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่ามันมีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่ในการตั้งชื่อเช่นนั้น? ชื่อพายุเฮอร์ริเคนในแถบมหาสมุทรแอตแลนติกเหล่านี้ ถูกตั้งขึ้นโดยศูนย์พายุหมุนแห่งชาติในช่วงปี 1950 ซึ่งบริหารจัดการโดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานที่นั่นได้ตัดสินใจตั้งชื่อให้เฮอร์ริเคนแต่ละลูก โดยมีเหตุผลสำคัญที่ทำเช่นนั้น ทำไมเราต้องตั้งชื่อให้พายุเฮอร์ริเคน? หลักการนั้นไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากมาย นั่นก็คือการตั้งชื่อจะทำให้จำง่ายกว่าตัวเลข และที่สำคัญมันง่ายต่อการเตือนภัยและสามารถนำเสนอผ่านสื่อให้เข้าใจตรงกันได้ เมื่อมีการตั้งชื่อให้พายุเฮอร์ริเคน เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะใช้ชื่อดังกล่าวเตือนภัยให้ประชาชน เพื่อที่จะสามารถเตรียมตัวรับมือและอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ได้ทันเวลา โดยหวังจะให้เกิดความสูญเสียน้อยลง นอกจากนี้การตั้งชื่อจะทำให้เกิดโอกาสผิดพลาดในการวางแผนน้อยลง แต่หากใช้ละติจูด ลองจิจูด หรือวิธีระบุถึงพายุด้วยวิธีอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชื่อ อาจทำให้ยากต่อการแจ้งเตือนได้ นอกจากนี้การตั้งชื่อจะช่วยให้เรือ ฐานเฝ้าระวังชายฝั่งทะล และสถานีตรวจสอบสถานการณ์ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและสื่อสารกันได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ วิธีการตั้งชื่อพายุเฮอร์ริเคน พายุเฮอร์ริเคนจะถูกตั้งชื่อโดยเรียงตามตัวอักษร แต่ต้องมีความสอดคล้องกับลำดับวันเดือนปี โดยจะมีทั้งหมด 6 ชื่อ และมีการวนทุกๆ หกปี เดิมทีจะมีการนำชื่อผู้หญิงมาใช้ แต่ต่อมาในปี 1979 ได้มีการนำชื่อผู้ชายมาใช้ด้วย จนทำให้มีชื่อทั้งหมด 12 ชื่อ โดยจะนำไปตั้งเป็นชื่อของพายุแปซิฟิก ไซโคลน และไต้ฝุ่น อย่างไรก็ตาม ชื่อที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร Q U…
-
ครอบครัวชาวรัสเซียถึงกับช็อค ไปทำงานที่อื่นเดือนเดียว กลับมาบ้านหายกลายเป็นถนน!!?
เป็นใครก็ต้องตกใจ เมื่อออกจากไปนานๆ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แล้วกลับอีกทีปรากฏว่าบ้านหาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าของไม่ได้รับแจ้งอะไรเลย นี่เป็นเรื่องที่เกิดในรัสเซีย เมื่อครอบครัวนี้ได้เดินทางออกจากบ้านในชานเมือง Nizhny Novgorod ของประเทศรัสเซีย เพื่อไปทำงานที่อื่น แต่พอกลับมาอีกทีก็บ้านที่เคยอยู่ก็สลายหายไปเสียแล้ว ปกติแล้วครอบครัว Udalov มักจะออกไปทำงานนอกเมืองบ่อยๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Nizhny Novgorod เท่าไหร่นัก และนานๆ ครั้งก็จะกลับมาพักที่บ้าน แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่าน เพราะเมื่อกลับมาหลังจากที่ออกไปทำงาน 1 เดือน ปรากฏว่าบ้านของพวกเขาถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครั้งอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากซากปรักหักพังเลย เท่านั้นยังไม่พอ บ้านที่หายไปครึ่งหนึ่งนั้น มันถูกแทนที่ด้วยถนนลาดยางไปเรียบร้อย ส่วนข้าวของถูกทิ้งกระจายอยู่ข้างถนน โดยที่ทางครอบครัวไม่เคยรู้หรือได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ด้วยเหตุนี้ Valeria Udalov และสามี จึงตัดสินใจนำไม้มาทำเป็นที่กั้นบนถนน ในส่วนที่มันเคยเป็นพื้นที่บ้านของพวกเขามาก่อน เพราะในทางเอกสารแล้ว พื้นที่ส่วนนี้เป็นของพวกเขาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้พวกเขายังได้กางเต้นท์นอนอยู่ข้างๆ บ้านส่วนที่เหลือ ซึ่งสามารถพังลงได้ทุกเมื่อ อีกทั้งยังยืนยันว่าจะปิดกั้นถนนส่วนนี้จนกว่าเจ้าหน้าที่จะแสดงความรับผิดชอบและจ่ายค่าชดเชยให้ ทางครอบครัวได้ติดต่อไปยังหน่วยงานระดับภูมิภาค พร้อมแสดงเอกสารสิทธิ์ในการถือครองพื้นที่ดังกล่าวเป็นหลักฐาน แต่กลับได้รับคำชี้แจ้งที่ไม่ชัดเจนและฟังไม่ขึ้น เจ้าหน้าที่อ้างว่า ครอบครัว Udalovs มักจะออกจากบ้านบ่อยๆ ซึ่งแต่ละครั้งก็หายไปนานมาก…
-
ล้ำได้อีก… หมอนข้างทรง “Y” เพิ่มฟีเจอร์ที่มากกว่าการกอด เพื่อประสบการณ์นอนที่ดีกว่า!?
สำหรับหนุ่มโสดอารมณ์เปลี่ยว การนอนคนเดียวในค่ำคืนที่เหว่ว้า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดีไม่ดีอาจนอนไม่หลับจนถึงเช้าเลยก็ได้ บางคนบอกก็หาแฟนสิ แหม่ จะบ้าหรอ แฟนนะไม่ใช่เสื้อผ้า ที่จะหาได้ตามร้านค้าทั่วไป บางคนแนะนำให้ซื้อตุ๊กตายางมาแก้เหงาสิ มันก็อยากได้อยู่หรอก แต่ราคาเนี่ยสิ ไม่ใช่เล่นเลย อย่างเพิ่งหมดหวังค่ะ เพราะคุณยังมีอีกหนึ่งทางเลือก ขอแนะนำหมอนรูปตัว “Y” ที่มาพร้อมรูปตู๊กตาหน้าตาจิ้มลิ้ม ที่เด็ดสุดๆ คือ เธอไม่ใส่เสื้อผ้าด้วยนะ!! หมอนทรงตัว Y ออกแบบโดยนักวาดภาพประกอบ Konomi โดยทำได้เพิ่มภาพของตัวละคร Kamikaze จากเกมและการ์ตูนเรื่อง Kantai Collection ในสภาพที่แตกต่างกันบนปลอกหมอนทั้งสองด้าน ด้านหนึ่งใส่เสื้อผ้าชิ้นน้อย แบบว่าพอยั่วให้คุณตื่นตัวได้ ส่วนอีกด้านเปลือยหมด พร้อมให้คุณจู่โจมได้ทันที และที่ทำเป็นรูปตัว Y เพราะส่วนตรงที่แยกนั้นคือส่วนขายังไงล่ะ คือคุณสามารถจับขาแม่สาวน้อยแหวกกว้างเท่าไหร่ก็ได้… แหม่ แม้ว่ามันจะถูกผลิตให้เป็นหมอนข้างสำหรับนอนกอด แต่ดูจากรูปทรงและภาพการ์ตูนสาวเปลือยแล้ว คุณผู้ชายคนจะไม่หยุดแค่การกอดแน่ๆ คงไม่ต้องบอกว่ามันเอาไปทำอะไรได้อีก เพราะคุณผู้ชายที่ตัดสินใจซื้อหมอนรูปตัว “Y” คงจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว รออะไรล่ะ เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน พุ่งเลยสิ อิอิ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะให้ความรู้สึกไม่สมจริงนะ…
-
“เดินตามรอยพ่อ” คือเหตุผลว่าทำไม ‘Robert Irwin’ ถึงได้รับรางวัลถ่ายภาพสัตว์ยอดเยี่ยม
เมื่อลูกมีความสามารถหรือชอบทำอะไรเหมือนพ่อแม่ มักจะมีคนพูดว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” เหมือนกับช่างภาพคนนี้ที่เดินตามรอยพ่อจนประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขารัก… Robert Irwin ลูกชายของ Steve Irwin Robert Irwin เป็นลูกชายของ Steve Irwin เขาเป็นคนที่ชอบไปไหนมาไหนกับพ่อตั้งแต่เด็กๆ และนั่นทำให้กลายเป็นคนที่ตกหลุมรักธรรมชาติเช่นเดียวกับพ่อ Robert เป็นคนที่หลงใหลในโลกธรรมชาติตั้งแต่เด็กๆ ขณะเดียวกันเขาก็ชอบถ่ายรูปด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหนเขาจะถ่ายรูปสัตว์เอาไว้เสมอ นอกจากชอบถ่ายรูปแล้ว Robert คงเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในด้านนี้ เพราะตอนที่อายุ 13 ปี เขาได้โพสต์ภาพถ่ายสัตว์ต่างๆ ลงในอินสตาแกรม ปรากฏได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก และชื่นชมฝีมือของเขา นั่นกลายเป็นแรงบันดาลให้เขาพัฒนาฝีมือขึ้นไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันนี้ Robert และครอบครัวมักจะออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายภาพความงดงามของสัตว์ตามธรรมชาติ แน่นอนว่าเมื่อเวลาเปลี่ยน ฝีมือของเขาก็พัฒนาขึ้นมาก และมันก็สวยมากพอที่ทำให้มั่นใจในการส่งผลงานภาพถ่ายเข้าประกวด ไม่เพียงเท่านั้นเขายังกวาดรางวัลมาแล้วนับไม่ถ้วน สำหรับรางวัลล่าสุดคือ รางวัลถ่ายภาพสัตว์ยอดเยี่ยม และเมื่อได้เห็นผลงานของเราแล้ว จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้รางวัลนี้ เพราะแต่ละภาพนั้นงดงามจริงๆ นอกจากพรสวรรค์และการฝึกฝนแล้ว เขาบอกว่าที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ได้เพราะเขาเลือกที่จะเดินตามรอยพ่อ จนทำให้เขาได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองรักในที่สุด ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Instagram และเว็บไซต์ robertirwinphotos.com . .…
-
33 ภาพเปิดตำนาน “Facebook” จากโปรเจ็คของเด็กเนิร์ด สู่บริษัทโซเชียลยักษ์ใหญ่ระดับโลก!!
ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็มีบัญชีเฟสบุ๊กเป็นของตัวเอง เพราะด้วยจุดประสงค์การเริ่มต้นที่มีไว้ใช้ทำการติดต่อเพื่อนๆ คนรู้จักได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และกลายเป็นแหล่งรวมความบันเทิงน้อยใหญ่อีกเพียบ และเมื่อพูดถึงเฟสบุ๊กแล้ว จะไม่กล่าวถึง Mark Zuckerberg คงเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเขาคือผู้ก่อตั้งและประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกลายเป็นผู้มีอิทธิคนหนึ่งของโลกในปัจจุบันไปแล้ว ปัจจุบัน เฟสบุ๊กมีมูลค่าประมาณ 16.560 ล้านล้านบาท และมีผู้ลงชื่อเข้าใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คนี้มากกว่า 2 พันล้านคนในทุกๆ เดือน แน่นอนว่าความสำเร็จนี้คงไม่ได้มาง่ายๆ เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาย้อนดูกันหน่อยว่าตั้งแต่เฟสบุ๊กก่อตั้งครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 จนถึงวันนี้ เป็นยังไงบ้าง? เฟสบุ๊กได้กำเนิดขึ้นที่หอพัก Kirkland House ในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นหอพักเดียวกันกับ Wallace Shawn ผู้ให้เสียง Rex ในเรื่อง Toy Story ในตอนที่เขายังเรียนอยู่ที่ฮาร์วาร์ด Mark Zuckerberg ได้เข้ามาเรียนที่ฮาร์วาร์ดในปี 2002 และต่อมาในปี 2003 ในขณะที่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 เขาก็ได้สร้างเว็บไซต์หนึ่งขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า Facemash Facemash เป็นเว็บไซต์แบบ Hot or Not หรือเว็บไซต์แนวหาคู่ที่จะให้ผู้ใช้เว็บไซต์เข้ามาให้คะแนนรูปภาพของบุคคลที่อัพโหลดเข้าไป สำหรับ Zuckerberg…
-
Bigglesworth กระต่ายไร้ขนกับเอกลักษณ์ความน่ารัก กลายเป็นดาวเด่นโซเชียลไปซะแล้ว!!
ภาพของ Mr. Bigglesworth เจ้ากระต่ายไร้ขนแสนน่ารักตัวนี้ กำลังกลายเป็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ฮอตที่สุดในโลกอินเตอร์เน็ต ณ ขณะนี้เลยก็ว่าได้ นั่นอาจเป็นเพราะความน่ารักที่ไม่เหมือนใคร เลยทำให้เจ้ากระต่ายได้รับความสนใจเป็นพิเศษ แถมยังดูเหมือนแมวไร้ขนของ Dr. Evil จากภาพยนตร์เรื่อง Austin Powers อีกด้วย วันที่ 29 สิงหาคม 2017 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้เผยภาพน่ารักๆ ของ Mr. Bigglesworth กระต่ายพันธุ์เร็กซ์วัยเพียง 2 เดือน ที่มีความน่ารักมุ้งมิ้งเหมือนกับกระต่ายทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันดูแตกต่าง ก็คงเป็นเพราะว่าเจ้า Bigglesworth เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางพันธุกรรมที่หาได้ยากมากๆ จึงทำให้มันกลายเป็นกระต่ายไร้ขนนั่นเอง ด้วยความที่ไม่เหมือนใครเลยทำให้เจ้า Bigglesworth ได้กลายเป็นหนึ่งในดาวเด่นบนโลกอินสตาแกรม โดยในตอนนี้มีคนเข้าไปติดตามมันมากกว่า 14,000 คนแล้วจ้า (ถ้าอยากสนับสนุนน้องเพื่อนๆ ก็ไปฟอลโล่ในไอจี loafy_mrbigglesworth ได้เลย) ทางด้าน Cassandra Hall คุณแม่ลูกสองและนักออกแบบกราฟฟิก วัย 40 ปี…
-
ทารกน้อยวัย 10 วัน ถ่ายภาพคู่กับเรือที่ช่วยชีวิตเธอจากพายุฮาร์วีย์ จนรอดมาได้อย่างปลอดภัย…
ว่ากันว่าฟ้าหลังฝนมักสดใสเสมอ เหมือนกับพายุฮาร์วีย์ที่พัดถล่มเท็กซัสในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเสียหายมหาศาล แต่ในความร้ายแรงนั้นมันทำให้เราได้เห็นถึงน้ำใจของผู้คน เห็นการช่วยเหลือ เห็นการแบ่งปัน เช่นกับหนูน้อยคนนี้ที่รอดมาด้วยเรือชูชีพลำหนึ่งได้อย่างปลอดภัย ทางครอบครัวจึงเลือกที่จะถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเจออะไรมาบ้าง… เด็กน้อย Hope จาก Beaumont รัฐเท็กซัส อายุเพียง 10 วัน ในช่วงที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากเหตุการณ์น้ำท่วมเนื่องจากถูกพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ถล่ม เมื่อหนูน้อยรอดมาได้อย่างปลอดภัย พ่อแม่จึงตัดสินในที่จะถ่ายรูปเธอกับเรือลำเดียวกับที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ เพื่อให้เธอได้ดูเมื่อโตขึ้นและบอกให้รู้ว่าเธอรอดมาได้เพราะอะไร สำหรับช่วงเวลาที่เด็กน้อยกับพ่อแม่ Emily และ Levi Chimenoก อยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายนั้นเกิดขึ้นเมื่อวัน 30 สิงหาคม 2017 ครอบครัวได้อพยพไปยังเมือง Lake Charles เพื่อรอให้พายุสงบลง ตอนนั้น Hope ในวัย 10 วัน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เธอนอนอยู่ในอ้อมกอดของแม่ท่ามกลางพายุที่รุนแรง คุณแม่บอกว่า วันนั้นเธอไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย ไม่ห่วงบ้าน ไม่ห่วงข้าวของ เธอห่วงแค่ลูกสาวตัวน้อยที่เพิ่งคลอด แม้เธอเองจะยังเจ็บจากการคลอด แต่ก็ยอมลุยน้ำเพื่อพาลูกไปอยู่ในที่ปลอดภัย จนกระทั่งพายุเข้าทางตะวันออกของเท็กซัส ครอบครัวตัดสินใจที่จะอพยพไปยังพื้นที่ที่สูงกว่านี้ จากนั้นพวกเขาก็ขึ้นเรือของกลุ่มช่วยเหลือผู้ประสบภัย Cajun Navy ออกจากบ้านพร้อมเด็กๆ…
-
หนุ่มเซลฟี่ทุกวันตั้งแต่อายุ 12 ปี ไม่เคยยิ้มซักรูป พอถึงวันแต่งงานปุ๊บ ก็ยิ้มออกเสียที!!
เรามักจะมีเหตุผลในการยิ้มเสมอ บางคนยิ้มเพราะมีความสุข บางคนยิ้มเพราะมีเรื่องที่ทำให้ยิ้ม แต่เกือบทุกคนที่เมื่อรู้ว่าอยู่หน้ากล้อง พวกเขาจะยิ้มโดยไม่ต้องมีเหตุผล พูดแบบนี้เราอาจจะคิดว่าทุกคนจะยิ้มเมื่อถ่ายรูป มันก็ไม่จริงเสมอไปหรอก โดยเฉพาะผู้ชายบางคนที่เวลาถ่ายรูปต้องทำหน้าเคร่งขรึม ไม่ยอมยิ้มเลย ทำอย่างกับไปโกรธใครมาแหนะ… กรณีของการถ่ายรูปเซลฟี่แบบไม่เคยจะเผยรอยยิ้มนั้น ก็เกิดขึ้นกับหนุ่ม Hugo Cornellier จากประเทศแคนาดา ผู้ไม่เคยจะยิ้มให้กับกล้องเลยซักรูป จะว่าเกลียดกล้องก็ไม่เชิง เพราะเขาเซลฟี่เองทุกวัน เริ่มตั้งแต่ปี 2008 ตอนอายุ 12 ปี ไม่ว่าจะเซลฟี่เดี่ยว เซลฟี่กับเพื่อนหรือแฟน ไม่ว่าจะอยู่ในปาร์ตี้ หรืองานสังสรรค์ เวลาถ่ายรูปเขาจะทำหน้าเดียวคือ หน้าตึง ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำแบบนั้นทำไม หรืออาจเป็นเพราะทำหน้าบึ้งแล้วทำให้เขามั่นใจ? หรือมันเป็นคอนเซปต์การถ่ายรูปของเขา? เราคาดเดาไม่ได้เลย แต่ที่รู้คือมันกลายเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปแล้ว ต่อมาเขาก็ได้เผยแพร่คลิปภาพตัวเอง ที่มีการรวมรูปตั้งแต่ตอนอายุ 12 ปี จนถึงปัจจุบัน ที่เขาถ่ายทุกวัน รวมแล้วประมาณ 2,500 รูป ซึ่งก็ไม่มีรูปไหนที่เขายิ้มเลยแม้แต่รูปเดียว คลิปนี้มีความยาว 2.38 นาที แน่นอนว่ามันอาจจะน่าเบื่อที่ต้องดูผู้ชายที่ทำหน้าเดียวหน้าเดิมตลอดทุกชอต แต่อย่างเพิ่งกดข้าม เพราะในช่วงสุดท้ายของคลิปเขาได้เผยภาพเซลฟี่พร้อมรอยยิ้ม…
-
ทีมวิจัยส่งเครื่องบินเข้าใจกลาง ‘พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา’ เผยให้เห็นความสงบแบบที่หลายคนยังไม่รู้…
‘พายุเฮอร์ริเคน’ ถือเป็นอีกหนึ่งภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีความร้ายแรงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยแรงลมที่มีความรุนแรงจนสามารถพัดพาทุกอย่างลอยขึ้นไปบนอากาศได้อย่างง่ายดาย โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเคยเห็นหรือรับรู้กันดีว่ารูปร่างหน้าตาภายนอกของพายุนั้นมีหน้าตาคล้ายๆ กับทรงกรวย แต่มีน้อยคนนักที่จะเคยได้เห็นส่วนที่เป็นใจกลางของมัน สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมกันว่าภายในใจกลางของพายุเฮอร์ริเคนนั้นมันจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันนะ? จะมีข้าวของเครื่องใช้เศษหินเศษดินอยู่เต็มไปหมดเลยรึเปล่า? หรือมีแต่ภาพมัวๆ ไม่เห็นอะไรเลย…วันนี้เราจะได้ทราบไปพร้อมๆ กัน ทีมนักล่าพายุขององค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration) ได้ทำการขับเครื่องบินเข้าไปยังใจกลางของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ที่กำลังเข้าถล่มประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในขณะนี้ โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อเก็บข้อมูลนำไปทำงานวิจัย และนำข้อมูลที่เก็บได้นั้นไปศึกษาซึ่งมันสามารถคาดเดาทิศทางการเดินของของพายุเฮอร์ริเคนได้ ทำให้สามารถเตรียมการรับมือได้อย่างทันท่วงที เราอาจจะคิดว่าการขับเครื่องบินฝ่าพายุลมแรงเข้าไปยังใจกลางเป็นอะไรที่บ้าระห่ำมาก แต่พอเข้าไปถึงใจกลางพายุเฮอร์ริเคนแล้วกลับพบว่ามันน่าเหลือเชื่อจริงๆ เพราะมันช่างแตกต่างกับภาพภายนอกที่ดูน่ากลัวและรุนแรง แต่กลับกันมันดันดูสงบ และงดงามอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…. แถม…นี่เป็นคลิปวิดีโอของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ที่ถ่ายจากดาวเทียมของ NASA พอได้เห็นแล้วมันช่างยิ่งใหญ่เสียจริงๆ และสาเหตุที่ทำให้ใจกลางของพายุเฮอร์ริเคนดูสงบและงดงาม นั่นก็เป็นเพราะว่าตรงจุดศูนย์กลางหรือ ‘ตา’ ของพายุนั้นจะเป็นส่วนที่มีลมเบามากที่สุดและเป็นจุดกำเนิดของลม ซึ่งถ้าหากไม่มีจุดศูนย์กลางที่ว่านี้ก็จะทำให้พายุเฮอร์ริเคนไม่สามารถก่อกำเนิดขึ้นมาได้ โดยปกติแล้วแรงลมที่พัดวนอยู่รอบตาพายุนี้ก็จะมีอุณหภูมิสูงและมีความหนาแน่น ซึ่งมันจะก่อสร้างเป็นเสมือนกำแพงขึ้นมาเพื่อปกป้องตาพายุ และพื้นที่นี้เองก็จะเป็นพื้นที่ที่มีความสงบ ท้องฟ้าจะเป็นสีฟ้าใส สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้อย่างชัดเจน…
-
สาวน้อยถูกเซอร์ไพรส์ด้วยลูกหมาสุดคิ้วท์ หลังอ้อนพ่อแม่อยากเลี้ยงสุนัขมานาน
จำความรู้สึกตอนเป็นเด็กได้มั้ย เวลาที่เราอยากได้อะไรหรือต้องการอะไร เราก็จะอ้อนพ่อแม่ให้ซื้อให้ บางคนอ้อนให้ซื้อของกิน บางคนอยากได้ของเล่น บางคนอยากได้เสื้อผ้าใหม่ สำหรับ Ava เด็กหญิงวัย 6 ขวบ มีความใฝ่ฝันที่อยากมีน้องหมาเป็นของตัวเอง แต่แล้วเธอก็รู้สึกหมดหวังเมื่อครอบครัวไม่อนุญาตให้เลี้ยง คุณแม่เล่าว่าเด็กหญิงอยากได้ลูกหมามาก ถึงกับนำตุ๊กตามาเป็นตัวแทนน้องหมา ให้น้ำให้อาหารมัน แถมยังพามันไปเดินเล่นด้วย แม้ที่บ้านจะบอกไปแล้วว่าไม่ให้เลี้ยง แต่เด็กน้อยผู้น่ารักก็ยังพยายามที่จะอ้อนคุณพ่อให้ซื้อมาให้ได้ พร้อมทั้งขอให้ผู้คนทวีิตหาคุณพ่อด้วย เพื่อให้พวกเขาช่วยพูดกับพ่อให้ซื้อหมาให้เธอ จนในที่พ่อแม่ก็ใจอ่อน แต่พวกเขายังไม่ได้บอกลูกสาวเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะอยากทำเซอร์ไพรส์เธอ พ่อได้ซื้อลูกหมาตัวหนึ่งและให้มานั่งรอที่ร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ในขณะที่คุณแม่ได้พาลูกสาวไปยังร้านดังกล่าว แล้วบอกเธอว่ามีบางอย่างจะให้ และทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เด็กหญิงถึงกับตะลึง เพราะที่เห็นคือ น้องหมาน่ารักตัวหนึ่งนั่งรอเธออยู่ในห้องนั้น Ava รู้ทันทีว่านั่นเป็นสุนัขที่พ่อซื้อมาให้ เธอรีบเข้าไปกอดมัน ทักทายมัน แน่นอนว่ามันเป็นช่วงว่าที่เด็กหญิงมีความสุขที่สุด เพราะนี่คือความฝันสูงสุดของชีวิต ณ ตอนนั้น โมเม้นต์ตอนที่ความฝันของเด็กหญิงเป็นจริงและเธอได้พบกับน้องหมาครั้งแรก ทีมเหมียวขอแสดงความยินดีกับน้องด้วยนะคะ ยังไงก็ขอให้รักกันไปนานๆ นะ ที่มา viralnova
-
รวม 20 ภาพอีกด้านหนึ่งของธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยความสยดสยอง และน่าขนลุก…
ในเมื่อธรรมชาติได้สร้างสรรค์สิ่งสวยงามมาให้เราได้ชื่นชมกันมากมายแล้ว มันก็สามารถสร้างความสยดสยองให้เรารู้สึกขนลุกได้เช่นกัน และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอนำภาพอีกด้านหนึ่งของธรรมชาติมาให้เพื่อนๆ ได้ชม และนั่นก็จะทำให้คุณรู้สึกขนลุกขนพองทันทีที่ได้เห็น เพราะมันมีทั้งความหลอน ความน่ากลัว และบางภาพก็สยดสยองสุดๆ 1. หลุมลาวาที่ดูเหมือนกับเป็นแหล่งรวมของคนตาย 2. ปูเสฉวนที่ใช้หัวตุ๊กตาแทนเปลือกหอย 3. ตัวต่อที่สร้างรังอยู่บนตุ๊กตาเด็กเล่นที่ถูกทิ้ง 4. รังแตนถูกทิ้งร้างที่อยู่กับรูปปั้นไม้ 5. แม่ตะขาบที่กำลังปกป้องลูกน้อยของมัน 6. สุนัขจิ้งจอกที่จมน้ำตายจนกลายเป็นน้ำแข็ง ถูกใครบางคนตัดขึ้นมาตั้งไว้เพื่อบอกให้ผู้อื่นได้รู้ว่าอย่าเข้ามาในพื้นที่บริเวณนี้ 7. แมงกินลิ้น เป็นปรสิตที่อาศัยอยู่ในเหงือกปลา และกินลิ้นปลาเป็นอาหาร 8. เห็ดนิ้วมือปีศาจที่มีลักษณะคล้ายกับเอเลี่ยน 9. ปลาฉลามกอบลินตอนเบบี๋ 10. ซากดอกไม้ที่ตายแล้ว แต่กลับดูเหมือนกะโหลกซะอย่างนั้น 11. ผึ้งจำนวนมากที่ไปทำรังในกำแพงจนน้ำผึ้งไหลออกมาข้างนอก 12. หนอนแก้วหัวงู 13. นกเค้าแมวที่ฆ่าหนูเลมมิ่งมากถึง 70 ตัว…
-
นักวิจัยเผย “อุจจาระ” ของชาวมังสวิรัติมีค่า เพราะสามารถใช้รักษาโรคทางเดินอาหารได้
สำหรับคนทั่วไปแล้ว “อึ” ถือเป็นของเสียในร่างกายที่ต้องได้รับการขับไถ่เป็นประจำ แต่สำหรับ “อึ” ของชาววีแกนถือเป็นสิ่งที่มีค่า เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้ วีแกน (Vegans) คือการใช้ชีวิตหลีกเลี่ยงจากอาหารที่ทำมาจากส่วนประกอบทั้งทางตรงและทางอ้อมของสัตว์ การงดอาหาร รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในปรัชญา ที่ว่าด้วยการปฏิเสธ เครื่องอุปโภคบริโภคที่ได้มาจากการทรมานสัตว์ เพราะการเลือกกินแบบนี้ ส่งผลให้มีการยก “ขี้” ของชาววีแกนเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างหนึ่งในปัจจุบัน Faecal microbiota transplant (FMT) คือ การนำอุจจาระจากคนที่มีสุขภาพดีพร้อมด้วยแบคทีเรียดีนำไปใส่ในลำไส้ของคนที่มีแบคทีเรียไม่ดี นอกจากนี้อุจจาระดังกล่าวยังสามารถนำไปรักษาโรคโครห์น (Crohn’s disease) ซึ่งเป็นความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ทำให้เกิดการระคายเคืองและทางเดินอาหารบวม ข่าวดีคือโรคนี้สามารถรักษาได้โดยอุจจาะระของชาววีแกน ลองดูกระบวนการของ FMT จากวิดีโอด้านล่างนี้ Dr Greger จาก Nutrition Facts บอกว่า “โดยทั่วไปแล้ว ในลำไส้ของเราประกอบไปด้วยแบคทีเรียจำนวนมากทั้งดีและไม่ดี” “เรามีการปลูกถ่ายไตและหัวใจ ร่วมทั้งอวัยวะอื่นๆ แล้วทำไมเราถึงไม่ปลูกถ่ายแบคทีเรียในลำไส้ เพื่อนำแบคทีเรียที่ดีมาทดแทนแบคทีเรียที่ไม่ดี” Dr Gerger บอกว่า ชาววีแวนมีแนวโน้มที่จะมีแบคทีเรียดีในกระเพาะอาหาร เนื่องจากอาหารที่พวกเขาทานนั้นล้วนมาจากพืชที่มีเส้นใยสูง และยิ่งคุณทานไฟเบอร์มากเท่าไหร่ แบคทีเรียดีในลำไส้ของคุณยิ่งมากเท่านั้น ทั้งนี้จากการวิจัยเมื่อปีที่แล้ว…
-
สาวแชมป์โลกด้านความจำ สามารถจำแคตตาล็อก IKEA ทั้งหมด 328 หน้าได้ภายใน 1 สัปดาห์!!
บางครั้งการจดจำเรื่องราวต่างๆ อาจจะเป็นปัญหาสำหรับใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่กับ Yaanja Wintersoul สาววัย 23 ปีแชมป์โลกด้านความจำถึง 2 สมัยคนนี้แน่ๆ เพราะล่าสุดเธอเพิ่งใช้เวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์ก็สามารถจดจำทุกอย่างที่อยู่ในแคตตาล็อกของ IKEA กว่า 328 หน้าได้แล้ว!! Yaanja เล่าว่า “IKEA ได้ส่งแคตตาล็อกของปี 2018 มาให้ฉัน และท้าให้ฉันจำสิ่งที่อยู่ภายในให้ได้ทั้งหมดภายใน 1 อาทิตย์” ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ชื่นชอบความท้าทาย หญิงสาวจึงตอบรับคำท้านั้น เธอเริ่มเปิดแคตตาล็อกทีละหน้า จากนั้นก็เริ่มใช้เทคนิคการจำของเธอ จนในที่สุดแชมป์โลกด้านความจำก็ใช้เวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น สามารถจดจำรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ได้ทั้งหมด!! นอกจากสินค้าทั้งหมดกว่า 4,818 รายการแล้ว Yaanja ยังสามารถจำคุณสมบัติการใช้งาน ราคา หรือแม้แต่ของตกแต่งต่างๆ ที่อยู่ในหน้าแสดงสินค้านั้นๆ ได้อีกด้วย ทีมงานจากเว็บไซต์ Mashable ก็ได้ร่วมทำการทดสอบเกี่ยวกับความจำของเธอ โดยถามเกี่ยวกับรายละเอียดแคตตาล็อกในหน้า 92-93 จากนั้นเธอก็ตอบมาว่า “มันคือห้องครั้ว ที่มีชั้นวางติดกับผนัง มีพื้นกระเบื้องลายตารางหมากรุกและมีถังขยะ…
-
ภาพหาชมยากของ “อัฟกานิสถาน” ในอดีต ก่อนที่จะถูกยึดครองโดยกลุ่มตอลิบาน
ในปี 1967 Dr. William Podlich ได้ลาจากการสอนที่มหาวิทยาลัย Arizona State University และเริ่มทำงานกับเพื่อที่จะไปสอนที่ Higher Teachers College ในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ในฐานะผู้ชำนาญด้านการศึกษา ภรรยาของเขา Margaret และลูกสาวสองคน Peg กับ Jan ก็ไปกับเขาด้วย จนกระทั่งโตขึ้นพวกเขาก็ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน American International School of Kabul ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับเด็กชาวอเมริกันและชาวต่างชาติที่อาศัยและทำงานในประเทศ นอกจากเป็นผู้ชำนาญด้านการศึกษาด้วย Podlich ยังเป็นช่างภาพมือสมัครเล่นที่รักการถ่ายรูปมาก นั่นทำให้ตามเก็บภาพวิถีชีวิตใน Kabul 10 ปี ก่อนการคุกคามจากโซเวียต ชาวอัฟกานิสถานมีชีวิตที่เรียบง่าย สงบ และถือเป็นประเทศที่งดงามในระดับหนึ่งเลยทีเดียว และนี่คือภาพที่่ถ่ายระหว่างปี 1967-1968 แสดงให้เห็นถึงชีวิตของผู้คนที่ความเรียบง่าย ซึ่งแตกต่างกับปัจจุบันที่เต็มไปด้วยสงครามและการสู้รบ Jan (ซ้าย) และ Peg (ขวา) ขณะอยู่ที่ Paghman Gardens ซึ่งถูกทำลายในช่วงไม่กี่ปีก่อนการรุกรานของสหรัฐฯในปี 2001 ภาพของ Peg Podlich ถ่ายใน Kabul Peg Podlic ใส่แว่นกันแดดขณะเดินทางไปกับครอบครัวบนรถบัส…
-
รวมพลังมนต์ดำ พ่อมดกว่าร้อยชีวิตรวมตัวร่ายคาถาป้องกันสิ่งไม่ดีจาก ‘โดนัลด์ ทรัมป์’
ถ้าจะบอกว่าประเทศไทยเชื่อเรื่องเวทมนตร์ดำ คาถาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับต้นๆ ของโลกแล้วก็ละก็ ลองมาดูข่าวนี้กันก่อน เมื่อแม่มดนามว่า Vicky Adams จากเมืองฮอลลีวูดเรียกรวมตัวเหล่าพ่อมดแม่มดเพื่อร่ายคาถาป้องกัน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’!! ฟังแล้วงงใช่ไหมล่ะ Vicky Adams นั้นเปิดร้านขายของเกี่ยวกับไสยศาสตร์อยู่ในเมืองฮอลลีวูด โดยเธอได้ส่งคำเชิญไปยังเหล่าผู้เชื่อว่าตัวเองเป็นพ่อมดแม่มดในโลกแห่งความจริง ให้เดินทางมาซื้อวัตถุดิบที่ร้านของเธอ จากนั้นก็มาร่วมกันร่ายคาถาผูกมัด เธอบอกว่าคาถาและพิธีที่เธอจะทำนั้นไม่ใช่คำสาปชั่วร้ายหรืออะไรที่ไม่ดี แต่มันเป็นคาถาผูกมัดที่จะป้องกันสิ่งไม่ดีที่โดนัลด์ ทรัมป์สร้างขึ้น และส่งผลเสียแก่ทั้งสังคม ผู้คน สัตว์ต่างๆ และสิ่งแวดล้อม เธอยังบอกอีกว่าการร่ายคาถานี้จะทำกันทุกๆ ช่วงข้างแรมของทุกเดือน และการทำพิธีกรรมก็ไม่ได้ส่งคำเชิญไปแค่ในประเทศอเมริกาเท่านั้น แต่ส่งไปทั่วโลกอีกต่างหาก แน่นอนว่าก็มีพ่อมดแม่มดสนใจและเดินทางมากันเพียบ!! เราอาจจะมองว่ายังไงก็งมงาย แต่ Vicky ยังเคลมว่าไสยศาสตร์นั้นมีมานานแล้ว และมันก็อยู่ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติมาโดยตลอด อย่างที่อังกฤษสามารถป้องกันการรุกรานของเยอรมนีได้ ก็เพราะมีแม่มดชาวอังกฤษช่วยยังไงล่ะ เธอยังบอกอีกว่าสมัยนาซีรุกรานก็มีการร่ายเวทมนตร์เพื่อป้องกัน ฉะนั้นโดนัลด์ ทรัมป์ที่ถือเป็นภัยก็จะต้องถูกร่ายเวทมนตร์ใส่เช่นกัน เธอบอกว่า ในพิธีกรรมจำเป็นจะต้องใช้ไพ่หอคอยเพื่อป้องกันไม่ให้ทรัมป์สามารถทวีตข้อความอะไรได้ในช่วงตี 3 และใช้เทียนไขสีส้มหรือแครอทจิ๋วเพื่อเป็นตัวแทนของเขา ตามด้วยภาพที่ไม่มีการยกยออะไรในตัวทรัมป์ จากนั้นพวกเขาก็จะร่ายคาถาเพื่อให้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์นั่นเอง สุดท้ายแล้ว Vicky บอกว่าคนอื่นอาจจะไม่เชื่อ…
-
พาไปดูแม่น้ำในญี่ปุ่นสุดเฟี้ยว เมื่อมองมุมสูงแล้วหน้าตาอย่างกับ “มังกร” อู้วหู้ววว!!
หลายๆ อย่างในโลกนี้มักจะมีรูปร่างที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะสถานที่ต่างๆ ตามธรรมชาติหลายประเทศ ซึ่งถ้าเราบวกจินตนาการเข้าไปสักนิดเราจะได้ ภูมิประเทศที่เหมือนกับสิ่งต่างๆ มากมาย อย่างเช่นแม่น้ำสายหนึ่งในจังหวัดโคชิ ประเทศญี่ปุ่นที่มีชาวเน็ตคนหนึ่งได้แชร์ภาพมาให้ดูกัน ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับมังกรเอเชียที่มีลักษณะเด่นที่ตัวยาวเลยล่ะ ภาพดังกล่าวถูกถ่ายโดย @chicago0812 ขณะที่กำลังบินสำรวจเหนือเกาะชินจูกุ โดยแม่น้ำดังกล่าวนั้นมีชื่อว่าแม่น้ำโยชิโนะ ซึ่งมีความยาว 194 กิโลเมตร โดยมีต้นน้ำมาจากภูเขาคาเมะกาโมริ ซึ่งส่วนหัวของมังกรนั้นเป็นทะเลสาบที่ชื่อว่า ทะเลสาบซาเมอุระ ยังไงก็ตามหลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นภาพที่เผยแพร่ออกมา หลายคนก็ต่างพากันบอกว่ามันเหมือนกับเกียราดอสจากโปเกม่อน ไม่ก็เหมือนเทพเจ้ามังกรจากดราก้อนบอลเลย ซึ่งก็ต่างๆ นานาตามแต่จะจินตนาการนั่นเอง แต่เมื่อพูดถึงมังกรแล้ว แม่น้ำแห่งนี้ก็มีตำนานเกี่ยวกับมังกรมาอย่างช้านานเช่นกัน แต่ตัวมังกรนั้นถือเป็นอะไรที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เพราะว่าเมื่อช่วงปี 1975 ได้มีการสร้างเขื่อนขึ้น จึงทำให้แม่น้ำใหญ่ลดขนาดลง และทำให้แม่น้ำกลายเป็นสระน้ำหัวมังกรอย่างที่เราเห็นนั่นเอง… ที่มา rocketnews24
-
ตามสบายเลยจ้า…สามีจัดงานวันเกิดให้ภรรยา แต่ดั๊นมีหมีโผล่มาฟาดเค้กซะเกลี้ยง
งานวันเกิดของหลายๆ คน จะมีช่วงเวลาที่ทุกคนในงานรอคอย นั่นคือการเป่าเทียนและกินเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย และร่วมสนุกพูดคุยทำกิจกรรมร่วมกัน ทว่าไม่ใช่สำหรับงานนี้ เมื่อมีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามา หญิงสาวชื่อว่า Jennifer ได้ฉลองวันเกิดครบรอบ 35 ปีิิอย่างยิ่งใหญ่เอามากๆ เพราะนี่คือ 1 ปีหลังจากที่เธอรู้ตัวว่าป่วยเป็นมะเร็ง ดังนั้นทั้งหมดก็เพื่อทำให้เธอเข้มแข็งและสามารถยืนหยัดผ่ายไปให้ได้ โดยในงานมีผู้มาให้กำลังใจและมาเฉลิมฉลองสาวใจแกร่งคนนี้มากถึง 125 คน โดยแท้จริงแล้วคงต้องบอกว่า 126 คนมากกว่า แต่บังเอิญแขกที่ไม่ได้รับเชิญรายสุดท้ายนี้ กลับไม่ใช่คนเนี่ยสิ ไม่รู้อะไรไปเชิญชวนให้เจ้าหมีตัวใหญ่สีดำเข้ามาร่วมงานกับเขาได้ พอมันมาถึงเท่านั้นแหละ ผู้คนในงานก็พร้อมใจกันเล่นซ่อนหาโดยไม่ได้นัดหมาย แตกกระจายหายไปคนละทิศคนละทาง (ใครจะอยู่ล่ะพ่อ) นอกจากจะมาทำให้ทุกคนแตกตื่นกันไปหมดแล้ว ก็ยังจะไม่วายกินเค้กในงานที่เหลือไว้ได้อย่างหน้าตาเฉย ถ้าจะขนาดนี้ทำไมไม่เตรียมของขวัญมาให้เจ้าภาพด้วยเลยละ แขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามารับประทานเค้กซะเกลี้ยงเลย เรียกได้ว่าอิ่มหนำ เพราะมันเล่นฟาดเค้กที่เหลือเอาไว้เยอะแยะซะเรียบ ขนาดที่ว่าเผลอทำตกพื้นก็ยังจะไปหยิบมากินต่ออีีก ไปอดยากปากแห้งจากไหนมาละเนี่ย สุดท้ายแล้วมันก็จากไปด้วยความสงบ และไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ เหลือทิ้งไว้เพียงเค้กอันน้อยนิด ที่คงไม่มีใครจะเอามากินแล้วแหละนะ เป็นการเซอร์ไพรส์วันเกิดที่ยอดเยี่ยมวิธีหนึ่งเลย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาจากความตั้งใจของใครก็ตาม ใครชอบก็ลองไปจ้างหมีแถวบ้านรับบทนี้กันเอาเองนะ เชื้อโรคคงยังไม่ทันเห็นหรอกเนาะ ที่มา: viralnova
-
หญิงสาววอนให้ทุกคนหยุดที่จะตัดสินเธอว่า “โง่” เพียงเพราะหน้าตาที่ไม่เหมือนคนอื่น
สิ่งที่เรามองเห็นแต่เพียงภายนอก ไม่อาจตัดสินได้ว่าภายในแท้จริงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่ เหมือนกับเธอคนนี้ แม้ว่าใบหน้าจะไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป แต่เราไม่สามารถบอกได้ว่าภายในของเธอจะมีความผิดปกติตามไปด้วย Katie Whicker หญิงสาววัย 21 ปีผู้เกิดมาพร้อมกับข้อบกพร่องทางกรรมพันธุ์ โครงหน้าของเธอจึงมีความแตกต่างกับคนอื่นๆ ครั้งหนึ่งเธอเคยถูกถามว่าประสบอุบัติเหตุมาหรือเปล่า หน้าตาถึงได้เป็นแบบนี้ การอยู่ในสังคมเลยต้องเจอกับการถูกกลั่นแกล้ง และคนมากมายตัดสินว่าเธอ “โง่” แท้จริงแล้วโรค Treacher Collins จะสร้างผลกระทบให้กับกระดูกกระโหลกและใบหน้าเท่านั้น จึงหมายความว่ามันไม่ได้เกิดผลกระทบต่อความคิดหรือจิตใจแต่อย่างใด หลายคนมักคิดว่าเธอขาดความสามารถในความคิด ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่สิ่งที่ผิด เธอรู้สึกเจ็บปวดกับการถูกผู้คนตัดสินไปในทางที่ไม่ดี ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าทำงานเพราะคิดว่าเธอไม่ฉลาด และสังคมรอบข้างเองก็คิดอย่างนั้น ความผิดปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ เมื่อคลอดออกมาเธอไม่สามารถหายใจทางจมูกได้ ร่างกายเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเพราะขาดอากาศ แพทย์จึงต้องทำการเจาะคอเพื่อช่วยให้สามารถรอดชีวิตมาได้ นอกจากนั้นเธอยังมีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร เธอต้องใช้ภาษากายในการพูดคุยกับคนอื่นๆ จนถึงอายุสามขวบ ในช่วงนั้นแม้แต่เสียงร้องไห้ก็แผ่วเบาเอามากๆ ทำให้พ่อแม่ของเธอต้องดูจากการแสดงออกทางสีหน้า ว่าเธอร้องไห้หรือหัวเราะอยู่กันแน่ แต่ในที่สุดตอนอายุ 5 ขวบ เธอก็สามารถพูดได้เหมือนคนปกติ ชีวิตในโรงเรียนที่ต้องเจอนั้นไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ จากการที่ต้องถูกกลั่นแกล้ง และน้อยคนที่จะถามว่าทำไมถึงมีหน้าตาแบบนี้ เพราะส่วนใหญ่ตัดสินว่าเธอไร้สมองตั้งแต่แรกเห็นไปแล้ว เธอจึงกำราบพวกนั้นด้วยการตั้งใจเรียนและทำคะแนนสอบหลายๆ วิชา ให้เหนือกว่าคนพวกนั้นซะเลย ขณะเดียวกันเธอก็มีเพื่อนๆ ดีไม่ทำให้เธอเสียใจ จึงช่วยให้เธอสามารถผ่านเวลานั้นมาจนสำเร็จการศึกษาได้ …
-
เด็กอินเดียวัย 11 ขวบ ป่วยเป็นโรคพิเศษทำให้โตไวกว่าอายุถึง 8 เท่า!! แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้…
Shreyash Barmate เด็กชายวัย 11 ขวบจากอินเดียผู้ป่วยเป็นโรค Progeria หรือโรคชราในเด็ก ซึ่งมันทำให้เขาที่เป็นเด็กแต่กลับมีร่างกายที่แก่กว่าปกติราวกับว่า เขาอายุ 70 หรือ 80 เข้าไปแล้ว!! Shreyash นั้นอาศัยอยู่ที่รัฐมัธยประเทศ ประเทศอินเดีย ซึ่งแม้เขาจะเป็นเด็ก 11 แต่ร่างกายภายนอกของเขานั้นแก่ไปมากๆ แล้ว ทั้งแขนขาที่ผอมแห้งราวกับคนแก่ หัวที่โตและล้านกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งจากบันทึกพบว่ามีเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้แค่ราวๆ 150 คนเท่านั้น แต่ถึงร่างกายของเขาจะไม่ปกติ Shreyash ก็ไม่ปล่อยให้โรคนี้มาสร้างความคิดลบกับเขา เขายังคงหัวเราะและยิ้มแย้มอยู่เสมอ และเขายังบอกว่าเขาอยากเป็นนักร้องด้วย แม้ว่าทีมแพทย์จะคาดว่าเขาจะเสียชีวิตอีก 2 ปีจากนี้ก็ตาม เด็กชายได้เล่ากับ The Sun ว่า “ผมเล่นได้ทั้งเครื่องดนตรี ร้องเพลงก็ได้ ปั่นจักรยานก็เก่ง และผมก็ยังชอบว่ายน้ำด้วย ที่สำคัญผมก็รู้ว่าผมป่วยเป็นอะไร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะทำลายฝันของผมที่จะเป็นนักร้องชื่อดังหรอกนะ โตขึ้นผมจะโด่งดังมีชื่อเสียง ที่สำคัญผมจะเก่งกว่าคนอื่น และผมก็มีความสุขมากๆ เลยล่ะ” ด้าน Arvind Barmate ผู้เป็นพ่อก็บอกว่า เขามีลูกสองคนเป็นฝาแฝดก็คือ Shreyash…
-
ชายชาวจีนนำไพ่มาพับและสร้างเป็น “แจกันจีน” ขนาดเท่าของจริง งดงามมาก
ของเล่นบางอย่างนั้นไม่เพียงแค่ให้ความสนุก แต่มันยังทำให้เกิดการเรียนรู้ ยิ่งไปกว่านั้นหากเราเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ก็สามารถนำของเล่นไปประยุกต์ทำอย่างอื่นได้อีก จางเก๋อหัว วัย 65 ปี จากเมือเฉียนเจียง มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน เป็นผู้มีทักษะอันเป็นเอกลักษณ์ เขาสามารถทำแจกันจีนที่เหมือนของจริงด้วยการพับไพ่ของเล่น หลังจากที่เกษียณจากการทำงาน Zhang ก็หันมานั่งพับไพ่ของเล่น และพยายามจะเรียนรู้วิธีการพับในรูปแบบต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่เพียงแค่พับเล่นๆ เท่านั้น แต่นายจางตั้งใจที่จะนำไพ่ที่พับเหล่านี้มาประกอบกันเป็นแจกันเท่าของจริง และตกแต่งด้วยลวดลายแบบดั้งเดิมของแจกันจีนด้วย ผลงานของเขาแทบจะไม่ที่ให้ติเลย เพราะเขาได้ทำมันอย่างตั้งใจทุกขึ้นตอน และเก็บรายละเอียดทุกส่วน จนไม่น่าเชื่อว่ามันทำมาจากไพ่ นอกจากนี้ผลงานของ นายจาง ได้รับการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษด้วย จนได้รับความสนใจผู้คนทั่วโลก บางคนถึงขั้นค้นหาประวัติของเขา สำหรับ นายจางเคยทำงานเป็นช่างก่ออิฐ ในมณฑลหูเป่ย โดยในช่วงชีวิตส่วนใหญ่แล้ว เขาจะทำงานกับการฟื้นฟูอาคารโบราณในย่านเจี้ยนลี่ นั่นหมายความว่าเขามีโอกาสได้ชมพระธาตุโบราณ ซึ่งเต็มไปด้วยโบราณวัตถุ หนึ่งในนั้นคือ แจกันโบราณ ซีี่งเป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบมาก สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาคือ การรวมกันของเครื่องลายครามสีขาวและสีฟ้าและรูปแบบที่ซับซ้อน แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะทำแจกันแบบนี้ด้วยตัวเองได้ จนกระทั่งขณะที่เขานั่งเล่นไพ่อยู่คนเดียว จนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความคิดเกี่ยวกับศิลปะก็ได้เข้ามาในความคิดของเขาหลังจากที่เห็นเด็กๆ พับกระดาษใส่ลงในขวดโหลสามเหลี่ยมใบเล็กๆ นั่นทำให้เขาคิดขึ้นได้ว่าสามารถพับกระดาษให้เกิดเป็นรูปร่างที่ต้องการได้ และสิ่งแรกที่แว็บเข้ามาในหัวคือแจกัน ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้านเขาจึงเริ่มที่จะฝึกพับไพ่ทันที แม้นายจางจะล้มเหลวในการทำงานหลายต่อหลายครั้ง…
-
สาวมะกันป่วย “โรคอยากถึงจุดสุดยอดพร่ำเพรื่อ” จนต้องร้องขอให้แฟนหนุ่มทำให้ตลอดเวลา
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เปิดเผยเรื่องราวของ Amanda McLaughlin หญิงวัย 23 ปี จากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้ออกมาเผยว่า… เธอต้องขอร้องให้แฟนหนุ่มมีเพศสัมพันธ์อยู่ตลอด เนื่องจากเธอเป็น โรคอยากถึงจุดสุดยอดพร่ำเพรื่อ (Persistent sexual arousal syndrome) ส่งผลให้เธอมีอารมณ์ทางเพศอยู่ตลอดเวลา สำหรับโรคดังกล่าวนับได้ว่าเป็นโรคที่พบได้ยากมาก โดยอาการของโรคเกิดจากการที่มีสภาพวะผิดปกติของเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศมากเกินไป ทำให้ผู้ป่วย (ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง) รู้สึกอยากถึงจุดสุดยอดบ่อยครั้ง บางคนอาจมากถึง 200 ครั้งต่อวันเลยทีเดียว ทางด้าน Amanda ได้ออกมาเผยว่า โรคที่เป็นอยู่ทำให้เธอไม่สามารถทำงาน หรือขับรถได้ เธอต้องนั่งบนแผ่นความร้อน เพื่อลดอาการปวดในกระดูกเชิงกราน และบริเวณขา นอกจากนี้ เธอยังต้องใส่น้ำแข็งเข้าไปในช่องคลอด เพื่อช่วยบรรเทาอาการบวม “ตั้งแต่ที่ฉันอายุ 15-18 ฉันสำเร็จความใครบ่อยกว่าวัยรุ่นโดยทั่วๆ ไป ฉันรู้ว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง ฉันยังคงบอกคนอื่นว่า ฉันต้องการมีเพศสัมพันธ์ แต่กลับไม่มีใครฟังฉันเลย ไม่เว้นแม้แต่แม่ของฉัน” Amanda กล่าว …
-
เรื่องราวของ ‘Roberts’ โจรสลัดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคทองของโจรสลัด
โจรสลัดอาจเป็นเรื่องที่เราคนไทยไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ แต่หากนึกไม่ออกจริงๆ ให้จินตนาการถึงการ์ตูนเรื่อง วันพีซ เพราะนั่นเป็นเรื่องที่เผยมุมมองของโจรสลัดได้ชัดมาก แม้จะเป็นแค่การ์ตูนก็ตาม สำหรับในชีวิตจริงนั้น ก็มียุคหนึ่งที่โจรสลัดระบาดหนักเช่นกัน แต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกสวยงามเหมือนในการ์ตูนนะ เพราะโจรสลัดในชีวิตจะออกปล้นอย่างบ้าคลั่ง เพื่อสะสมสมบัติให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับ Bartholomew “Black Bart” Roberts ที่แม้ไม่ได้ตั้งใจเป็นโจรสลัด แต่โชคชะตาก็นำพาให้เขากลายเป็นโจรสลัดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง Bartholomew “Black Bart” Roberts เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ปี 1682 ใน Casnewydd-Bach ประเทศเวลส์ ชื่อจริงของเขาคือ John Roberts ในช่วงที่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม เขาได้ออกทะเลเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นทหารเรือ เขาไม่เคยคิดที่จะเป็นโจรสลัดมาก่อน แต่สุดท้ายแล้วเขากลับกลายเป็นโจรสลัดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของยุคทอง ในปี 1719 เขาได้ทำงานเป็นผู้ช่วยต้นหนเรือบนเรือของบริษัทค้าทาสอังกฤษที่ชื่อ Princess for the Royal Africa Company ภายใต้การนำของกัปตันเรือ Abraham Plumb แต่ต่อมาเรือดังกล่าวถูกปล้นโดยโจรสลัด Howell Davis ซึ่งเป็นผู้ที่มีเรือใต้บังคับบัญชา 2 ลำคือ Royal Rover และ Royal James ตอนนั้นเองที่ลูกเรือ Princess รวมทั้ง Roberts…
-
เรื่องราวของ ‘Mary Read’ สาวที่ชอบแต่งตัวเป็นผู้ชาย จนกลายเป็นโจรสลัดที่โลกต้องจดจำ
ย้อนกลับไปในอดีต ผู้หญิงส่วนใหญ่ในโลกตะวันตกมักจะแต่งตัวคล้ายกันคือใส่กระโปรงสุ่มใหญ่ๆ รักสวยรักงาม เลี้ยงลูกอยู่บ้าน และมีกิริยา มารยาทที่เรียบร้อย แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ Mary Read เลยแม้แต่น้อย เพราะแม้จะเกิดมาเป็นผู้หญิง แต่เธอกลับชอบแต่งตัวเป็นผู้ชาย ที่สำคัญคือชอบขึ้นเรือโจรสลัดด้วย Mary เป็นที่รู้จักกันในฐานะลูกเรือโจรสลัดที่นำโดย Calico Jack Rackham โดยมีคู่หูเป็นโจรสลัดหญิงที่ชื่อ Anne Bonny แม้จะเป็นผู้หญิง แต่ Mary เป็นคนที่เก่งกาจและเป็นที่น่าเกรงขามไม่ต่างจากโจรสลัดชายที่แล่นเรือไปตามทะลเลย เธอเข้าร่วมการเป็นโจรสลัดในช่วงศตวรรษที่ 18 โดยแม่ของเธอได้ปลอมตัวให้กลายเป็นเด็กผู้ชายและใช้ชื่อพี่ชายของเธอที่เสียชีวิตไปแล้วแทน เธอจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า Mark Read สาเหตุที่ต้องปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชายเพราะแม่ของเธอไม่อยากเสียผลประโยชน์จากย่าของเธอ และย่าก็หลงเชื่อมาตลอดว่า Mary คือ Mark พี่ชายของเธอ หญิงสาวจึงต้องแต่งตัวเป็นเด็กชายมาตลอดและทำงานเป็นเด็กรับใช้จนกระทั่งได้ออกเรือ นอกจากแต่งเป็นผู้ชายได้อย่างแนบเนียนแล้ว เธอยังเลือกทำงานสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะด้วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า Mary จะมีรสนิยมเหมือนผู้ชายทุกอย่าง เธอยังคงเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ใจเต้นแรงเมื่อเจอผู้ชายที่ชอบ และนั่นทำให้เธอยอมเผยตัวตนที่แท้จริง หลังตกหลุมรักทหารชาวดัชต์คนหนึ่งในระหว่างที่เธอเข้าร่วมกับกองเรืออังกฤษ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับฮอลแลนด์ในเวลานั้น สุดท้ายทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน แต่ความสุขนั้นก็สั้นเหลือเกิน สามีเธอเสียชีวิตหลังจากแต่งงานเพียงไม่นาน Mary จึงต้องกลับไปแต่งตัวเป็นชายอีกครั้ง และเข้าร่วมกับกองทัพเรือฮอลแลนด์ ก่อนที่เรือของเธอจะถูกโจรสลัดยึดได้ …
-
ศิลปินสร้างผลงาน “ภาพอีโรติคแบบหลอน” เผยความกลัวที่ซ่อนอยู่ภายในแรงปรารถนา
หลายคนอาจจะคิดว่าความหลอนกับความอิีโรติกเป็นคนละเรื่อง คนละสายทางที่ไม่สามารถรวมกันได้ เพราะมันสื่ออารมณ์ต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่สำหรับ Brittany Markert เลือกที่จะนำความหลอนกับความอิีโรติกมาผสมผสานเป็นงานศิลปะภายใต้ชื่อ In Rooms UNTITLED NEW ORLEANS ปี 2017 In Rooms คือ ภาพชุดที่ชวนขนลุกให้ความรู้สึกหลอน แต่ในนั้นยังมีความอีโรติกแฝงอยู่ ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากจิตใต้สำนึกของศิลปินเอง Markert เริ่มทำงานด้านนี้ครั้งแรกในปี 2011 หลังจากที่กลับไปดูภาพชุดแรกที่เธอเคยถ่ายเอาไว้ และได้ตกหลุมรักงานแนวนี้ตั้งแต่นั้นมา UNTITLED CALIFORNIA ปี 2015 จากนั้นเธอก็มักจะทำงานในห้องมืดสลัว นอกจากนี้สำหรับ Markert แล้ว การถ่ายภาพตัวเองเปรียบเสมือนการเขียนไดอารี่ที่ไม่ต้องเขียนด้วยปากกาแต่บรรยายด้วยภาพแทน เธอบอกว่า “ห้องที่มืดสลัวจะช่วยจัดระเบียบจิตใจของเรา ซึ่งเป็นวิธีการที่จะทำให้จินตนาการของเราชัดเจนขึ้น มันทำให้เรารู้สึกกลัวและมีความปรารถนาในเวลาเดียวกัน” UNTITLED LOUISIANA ปี 2015 สำหรับงานเหล่านี้ เธอได้รับอิทธิพลจากการวิเคราะห์เงาและศิลปะเหนือจริงที่เคลื่อนไหวได้ของ Jungian ผลงาน In Rooms ของ Markert นั้น จะเป็นการปลดปล่อยจินตนาการ ความกลัว และความปรารถนาที่ถูกปิดกั้นอยู่ในจิตใจของเรา …
-
10 โลโก้ของแบรนด์ดังกับเรื่องราวที่แอบซ่อนอยู่ในสัญลักษณ์ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
ทุกวันนี้เราเห็นโลโก้สินค้าอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะโฆษณาในทีวี ป้ายตามทาง ถุงสินค้า หรือแม้แต่ในตัวสินค้าเอง แต่รู้มั้ย โลโก้บางอย่างมีเร่ื่องราวแอบแฝงมากกว่าที่เรารู้นะ เรามาดูกันสิว่าในสัญลักษณ์ต่างๆ นั้นมีอะไรซ่อนอยู่? 1. McDonald’s นักออกแบบคนแรกของแมคโดนัลด์ได้มีการตกแต่งหน้าร้านด้วยซุ้มสีทองขนาดใหญ่ ก่อนที่ซุ้มนั้นจะถูกนำมาใช้เป็นโลโก้ของแมคโดนัลด์ในภายหลัง ต่อมาทางบริษัทต้องการยกเลิกการโลโก้นี้ แต่นักจิตวิทยา Louis Cheskin แนะนำให้ใช้ต่อไป โดยให้เหตุผลว่ามันเหมือนเต้านมผู้หญิง ซึ่งเป็นการแสดงถึงความห่วงใยนั่นเอง 2. Chanel Coco Chanel เป็นผู้ออกแบบและวาดสัญลักษณ์ชาเนลด้วยตัวเอง ขณะอยู่ที่ Château Crémat ในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส บางสื่อบอกว่าสัญลักาษณ์นี้ได้แรงบันดาลใจจากซุ้มโค้งของปราสาท แต่ก็มีหลายคนบอกว่า สัญลักษณ์นี้มาจากตัว C สองตัว คือ “CC” ซึ่งหมายถึงตัวอักษรตัวแรกในชื่อปราสาทและชื่อย่อของ Coco 3. Google ผู้ที่สร้างโลโก้กูเกิ้ลได้ใช้สีหลัก 3 สีคือ สีน้ำเงิน สีแดง และสีเหลือง โดยมีการจัดเรียงสีในตำแหน่งเฉพาะ แต่มีเพียงตัวอักสีเขียวที่ตัวโดดเด่น เป็นการบ่งบอกว่ามันเป็นอักษรที่สำคัญที่สุดในนี้ ความพิเศษของตัวอักษรสีเขียวนี้ ดูเหมือนผู้ออกแบบต้องการสื่อว่า กูเกิ้ล ไม่มีกฏที่ตายตัวและจะไม่ทำตามกฏทั่วไปด้วย 4. Gillette…
-
Rough Guide จัดอันดับ 20 ประเทศที่สวยที่สุดในโลก ที่คุณควรไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง
ในโลกนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมายกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ ซึ่งบางประเทศนั้นมีภูมิประเทศที่ช่างงดงามจนน่าอิจฉามากเลยทีเดียว Rough Guide เป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทท่องเที่ยว อีบุ๊ก และบล็อก ได้เผยรายชื่อประเทศที่สวยที่สุดในโลกซึ่งได้รับการโหวตจากผู้อ่าน และนี่คือ 20 อันดับที่จัดโดยเว็บไซต์ของ Rough Guide 20. เวียดนาม ประเทศเวียดนามมีภูมิทัศน์ที่งดงาม น่าประทับใจ รวมทั้งทุ่งหญ้าในเทือกเขา Sa Pa ที่มีความงดงามจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 19. โครเอเชีย โครเอเชียมีสถานที่ที่ขึ้นชื่ออย่าง ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก เพราะเป็นเมืองเก่าดั้งเดิม ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ตลอดแนวกำแพง 2 กิโลเมตร ที่โอบเมืองเก่าเอาไว้ 18. ไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์มีภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อนและน้ำพุที่งดงาม จนกลายเป็นประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก 17. นอร์เวย์ ไม่ว่าจเป็นภูเขาน้ำแข็ง เมืองคึกคักไปด้วยผู้คน รวมทั้งแสงเหนือ ทั้งหมดนี้กลายเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่มาเยือนนอร์เวย์ จนต้องกลับมาเที่ยวอีกเป็นครั้งที่สอง 16. เปรู เปรูมีภูมิทัศน์ที่น่าสนใจ และมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าฝนที่มีความชื้นตลอดปี ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และทะเลทรายหลายๆ…
-
หนุ่มไต้หวันแต่งงานกับ “ร่างไร้ชีวิตของแฟนสาว” หลังเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ
การที่จะได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวกับคนที่เรารักมัน คงจะเป็นสิ่งที่หลายๆ คนวาดฝันเอาไว้ บางคนก็สุขสมหวัง ในขณะที่บางคนกลับต้องมาเจอกับเรื่องราวที่พวกเขาไม่มีวันคาดคิด วันที่ 7 กันยายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Tsai Shang-chen หนุ่มชาวไต้หวันวัย 30 ปี ได้จัดพิธีแต่งงานกับแฟนสาวที่กำลังตั้งท้อง แม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไปพร้อมกับลูกในท้อง ภายหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุรถสกู๊ตเตอร์ล้มคว่ำ จากการรายงานระบุว่า นาย Tsai ได้คบหาดูใจกับ Chen Yi-chi สาววัย 23 ปี มาเป็นเวลานานถึง 5 ปี จนกระทั่งเธอท้องได้ 5 เดือน ทั้งคู่ก็มีแผนที่จะแต่งงานกัน รวมทั้งมีการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าเรื่องราวที่ไม่คาดฝันดันเกิดขึ้นซะก่อน เพราะในปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงได้เกิดอุบัติเหตุรถสกู๊ตเตอร์คว่ำจนเสียชีวิต แม้ว่าแฟนสาวจะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังหวังที่อยากจะแต่งงานกับเธอ ด้วยเหตุนี้นาย Tsai จึงได้จัดพิธีแต่งงานตามที่เคยวาดฝันเอาไว้ สำหรับพิธีงานแต่งของทั้งคู่ได้จัดขึ้นที่เมือง Yuanlin ทางฝั่งตะวันตกของไต้หวัน โดยมีญาติ…
-
Disney รับสมัครหนุ่มสาวหน้าเหมือนเจ้าหญิงเจ้าชาย เพื่อทำงานที่ “ดิสนีย์แลนด์ปารีส”
หากคุณเคยใฝ่ฝันว่าครั้งหนึ่ง จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในปราสาทแสนสวยของดิสนีย์ ดูเหมือนว่าความฝันของคุณอาจจะได้กลายเป็นจริงก็คราวนี้แหละ เพราะล่าสุดทางดิสนีย์ ได้ออกมาประกาศตามหาผู้ที่จะมารับบทบาทเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายที่มีชื่อเสียงโด่งดัง อย่างเช่น Aladdin หรือ Snow White เพื่อไปประจำการในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งใหม่ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า ขณะนี้ดิสนีย์กำลังมองหาผู้ที่จะมารับบทเป็นเจ้าหญิงเจ้าชาย ซึ่งถ้าหากใครมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ แน่นอนว่าคุณจะได้ย้ายไปอยู่ที่ดิสนีย์แลนด์ปารีส ประเทศฝรั่งเศส!! แต่นี่อาจไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วๆ ไปจะสามารถทำได้ เพราะถึงมันจะดูเป็นการประกาศที่น่าสนใจ แต่กลับมีเงื่อนไขที่เข้มงวดมาก เนื่องจากผู้สมัครจะต้องมีรูปร่างหน้าตาที่ดูคล้ายกับตัวละครต้นฉบับตามที่ดิสนีย์ต้องการ อีกทั้งคุณจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษทั้งด้านการแสดง และด้านการเต้นอีกด้วย ด้านบริษัทดิสนีย์ ได้ออกมาเผยว่า “เรากำลังมองหาคนที่มีความกระตือรือร้น และมีพลังในการที่จะมารับบทเป็นตัวละครดิสนีย์ที่มีชื่อเสียง ถ้าคุณมีทักษะในการเต้นที่ดีเยี่ยม คุณก็อาจจะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในขบวนพาเหรดของเรา” และที่สำคัญไม่เพียงแต่ผู้สมัครจะมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับตัวละครเท่านั้น แต่คุณจะต้องมีความสูงตามที่ทางบริษัทกำหนดอีกด้วย โดยทั้งหญิงชายจะต้องมีความสูงไม่ต่ำกว่า 4 ฟุต 5 นิ้ว (หรือราวๆ 135 เซนติเมตร) และสูงไม่เกินกว่า 6 ฟุต 3 นิ้ว (หรือราวๆ 190 เซนติเมตร) คุณมีคุณสมบัติครบตามที่ดิสนีย์กำหนดหรือไม่?…
-
คุณพ่อชาวญี่ปุ่น สวมใส่เสื้อโปโลตัวเก่าๆ เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ด้วยเหตุผลของความคิดถึง…
ความผูกพันของคนเรานั้นยากเกินกว่าที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว แต่ก็ยังคงมีบางสิ่งบางอย่างเป็นตัวแทน ที่ยังคงทำให้หวนระลึกถึงช่วงเวลาดีๆ เหล่านั้นอยู่เสมอ เรื่องราวต่อไปนี้ถูกแชร์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @922_riaru ที่สังเกตมาตลอดเวลาว่า คุณพ่อของเธอชอบสวมเสื้อโปโลตัวเก่าๆ ไปไหนมาไหนเสมอ เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นงานสำคัญ หรือการทานอาหารกับครอบครัว เสื้อโปโลสีเขียวตัวนี้ถึงแม้ว่ามันจะขาดเป็นรูเท่าไหร่ คุณพ่อก็ยังคอยซ่อมแซมอยู่เสมอและใส่ด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ว่าจะมีเสื้อใหม่กี่ตัว แต่งานสำคัญๆ ก็จะเลือกใส่เพียงเสื้อตัวนี้เท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลูกสาวเกิดความสงสัยว่า ทำไมพ่อของเธอถึงเลือกที่จะใส่แต่เสื้อโปโลตัวนี้ จนได้ไปพบกับอัลบั้มรูปถ่ายที่พ่อกับแม่ของเธอไปฮันนีมูนด้วยกัน และแล้วก็รู้คำตอบถึงเหตุผลที่พ่อของเธอเลือกที่จะทำแบบนี้… คุณพ่อใส่เสื้อตัวนี้เพื่อรำลึกถึงคุณแม่ของเธอนั่นเอง… คุณแม่ของเธอได้จากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อ 18 ปี ก่อน โดยที่เสื้อโปโลตัวนี้คุณพ่อของเธอก็ได้ใส่ไปฮันนีมูนกับคุณแม่ มันจึงเป็นเหมือนตัวแทนความทรงจำของช่วงเวลาดีๆ เหล่านั้น และหลังจากที่คุณแม่เสียชีวิตไปแล้ว คุณพ่อก็ยังคงใส่เสื้อตัวนี้มาตลอดเพราะคิดถึงแม่ พอลูกสาวรู้เหตุผลแล้วถึงกับน้ำตาคลอเลยล่ะ… เธอได้แบ่งปันเรื่องราวนี้ลงในทวิตเตอร์และมีผู้รีทวีตไปถึง 81,000 ครั้งด้วยความซึ้งใจในเรื่องราวของความรักของชายหญิงสองคนนี้ ประทับใจและซึ้งมากๆเลยกับเหตุผลของคุณพ่อ ทำให้รู้ว่ารักแท้มีอยู่จริง ถึงแม้ว่าคนรักจะจากไปนานแล้ว แต่ก็ยังคิดถึงตลอดเวลา T^T ที่มา buzzfeed ,twitter
-
18 ภาพที่จะเผยให้เห็นว่า “พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา” สร้างหายนะให้กับมนุษย์ได้มากแค่ไหน…
พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ถือเป็นอีกหนึ่งภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อมนุษย์ โดยพายุดังกล่าวเป็นพายุลูกใหญ่ และมีความร้ายแรงกว่าพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์หลายเท่าตัว!! และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางสื่อต่างประเทศมีรายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ได้มุ่งหน้าไปยังทะเลแคริบเบียน เข้าสู่เกาะประเทศแอนติกา บาร์บูดา ในมหาสมุทรแอตแลนติก และหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ที่มีกำลังแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้คนนับล้านกลายเป็นคนเร่รอน และไร้ที่อยู่อาศัย เนื่องจากพายุลูกนี้ได้สร้างความเสียหายอย่างหนัก จนทำให้ผู้คนไม่มีน้ำ ไม่มีไฟใช้ โดยล่าสุดมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วอย่างน้อย 10 ราย วันนี้เราได้รวมภาพถ่ายความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก “พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา” มาให้ได้รับชมกัน ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย 1.ผู้คนได้พากันอพยพสัตว์เลี้ยงของพวกเขา 2.ภาพก่อนและหลังการเกิดเหตุพายุลูกใหญ่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน 3.อ่าว Paraquita ก่อนและหลังเกิดเหตุ 4.บรรดาน้องหมาที่มาหลบภัยอยู่ใต้ต้นไม้ ที่รัฐโดมินิกัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา 5.แนวชายฝั่งของเกาะเซนต์มาร์ติน ที่ได้รับความเสียหายจากพายุดังกล่าว หลังคาบ้านที่ปลิวออกจากตัวบ้าน และถูกพัดออกไปอยู่บนถนน 6.Beach Plaza Hotel บนเกาะเซนต์มาร์ติน ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน 7.ภาพความเสียหายของร้าน Popular Honky Tonk ในเมือง…
-
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ขายเพียงแค่ 2 เมนู แต่ถูกใจลูกค้ามาก จนเปิดมานานกว่า 40 ปีแล้ว!!??
เชื่อว่าทุกคนนั้นต้องร้านโปรดร้านประจำกันอยู่ทุกคนแน่ๆ และร้านนั้นต้องอาหารที่เด็ดสุดๆ จนไม่ว่าเมื่อไหร่ก็อยากที่จะทานและลิ้มรสอาหารนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก… เช่นเดียวกันกับร้านร้านหนึ่งในญี่ปุ่นที่มีอายุว่า 40 ปีแล้ว แต่ก็ยังเป็นที่นิยมของผู้คนในท้องถิ่นอยู่เสมอ แต่ที่แปลกกว่านั้นคือร้านนี้ขายอาหารเพียงแค่ 2 เมนูเท่านั้น!!?? ร้านอาหารนี้มีชื่อว่า Ajigin ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สถานี Oshiage ในกรุงโตเกียว ซึ่งร้านนี้ก็มีตู้โชว์อาหารด้านหน้าร้านเหมือนกับร้านทั่วๆ ไปแถวนั้น แต่เมื่อสังเกตดีๆ แล้วก็จะเห็นว่าร้านนี้ขายอยู่เพียง 2 เมนูเท่านั้น นั่นก็คือ เต้าหู้ห่อข้าวซูชิ และซูชิโรล แม้ว่าร้านนี้จะขายเพียงแค่ 2 เมนูอย่างเต้าหู้ห่อข้าวซูชิ และซูชิโรล ธรรมด๊า ธรรมดา แต่ร้านนี้ประสบความสำเร็จมาเป็นเวลากว่าสี่ทศวรรษแล้ว . . เมื่อเข้าไปในร้านก็จะเห็นเมนูเป็นเซ็ตหลากหลายขนาด และเซ็ตนี้คือ เต้าหู้ห่อข้าวซูชิและซูชิโรลอย่างละสี่ชิ้น มีราคาอยู่ที่ 680 เยน หรือประมาณ 200 บาทเท่านั้น พนักงานที่ร้านนี้ใจดีและเป็นมิตรสุดๆ ใครมานั่งทานก็จะได้ฟิลเหมือนทานอยู่ที่บ้าน เมื่อมองมาที่อาหารก็จะเห็นว่า เต้าหู้ห่อข้าวซูชิของที่นี่จะมีสีเข้มกว่าที่อื่นๆ เต้าหู้ห่อข้าวซูชิของร้านนี้ จะมีความหวานเล็กน้อยและหอมเครื่องเทศ มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เต้าหู้นั้นมีความกรอบเล็กน้อยและด้านในมีความชุ่มฉ่ำลิ้นสุดๆ…
-
สื่อนอกเผย “เฮอร์ริเคนเออร์มา” ที่กำลังถล่มสหรัฐอยู่ในขณะนี้ ร้ายแรงยิ่งกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์!!
ช่วงนี้ข่าวที่ได้รับการรายงานผ่าสื่อต่างๆ เกือบทุกวันคงจะหนีไม่พ้นข่าวพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาที่กำลังมุ่งหน้าไปยังทะเลแคริบเบียน ซึ่งมีความรุนแรงในระดับที่น่ากลัวมากสำหรับหมู่เกาะแอตแลนติกและประเทศใกล้เคียง โดยเมื่อวันอังคารที่ 5 กันยายน 2017 ชาวเกาะได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับพายุเฮอริเคนเออร์มา ที่น่าจะเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากกว่าที่เคยเจอมา… พายุเออร์มามีความรุนแรงในระดับ 5 ซึ่ง เป็นระดับที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ โดยมีความเร็วลมอยู่ที่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีขนาดใหญ่เทียบเท่าได้กับประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว สำนักข่าว BBC รายงานว่า พายุเออร์มาได้พัดขึ้นฝั่งเกาะบาร์บูดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศแอนติกาและบาร์บูดาในทะเลแคริบเบียนเมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 6 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจะพัดถล่มเกาะซินต์มาร์เติน และกำลังมุ่งหน้าสู่เปอร์โตริโก เฮติ คิวบา รวมทั้งสหรัฐฯ ด้วย ทางด้านนายกรัฐมนตรีของประเทศบาฮามาส Hubert Minnis กล่าวว่า ขณะนี้ได้วางแผนที่จะอพยพประชากรออกจากไปพื้น และคาดว่าน่าจะเป็นการอพยพคนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ในขณะที่ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา Rick Scott ก็ได้ประกาศให้พื้นที่ใน 67 เมือง ของรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกาเป็นพื้นที่อันตราย “เฮอร์ริเคนเออร์มาเป็นพายุขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคน ดังนั้นฟลอริด้าจึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถาณการณ์ฉุกเฉินนี้” เจ้าหน้ากรมอุตุเผยว่า พายุขนาดใหญ่เช่นนี้จะทำให้เกิดฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน และอาจมีคลื่นสูงถึง 7…
-
จิตใจโหดเหี้ยม… คนร้ายแอบย่องเข้าไปในคอกม้า ใช้มีดแทงม้าแก่ถึง 15 ครั้ง จนบาดเจ็บไปทั้งตัว
เมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ได้มีการแชร์ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียเพื่อหาตัวผู้ร้ายที่บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายม้าด้วยการแทงเข้าที่ลำตัวของมันถึง 15 ครั้ง ที่ฟาร์ม Down Barns ในเมือง Northolt ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอน เจ้าม้าที่ชื่อว่า Kizzy อายุ 25 ปี ถูกคนร้ายบุกเข้ามากระหน่ำแทงจนเป็นบาดแผลทั่วร่างกายถึง 30 แผล และนั่นทำให้ Angel Reed เจ้าของวัย 16 ปี รู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก Angel และเจ้า Kizzy ม้าแสนรักของเธอ ในช่วงเช้าวันพุธที่ 30 สิงหาคม 2017 เธอได้เข้ามาในฟาร์มเพื่อทักทายเจ้าม้าแสนรักของเธอตามปกติ แต่ก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าเจ้า Kizzy มีบาดแผลตามร่างกายกว่า 30 แผล!! เธอจึงได้โพสต์รูปม้าของเธอลงในเฟสบุ๊คเพื่อตามหาตัวคนที่กระทำอันโหดร้ายนี้ และหลังจากที่เธอโพสต์ลงไปไม่นานก็มีคนแชร์ไปมากกว่า 4,500 ครั้ง ชาวเน็ตต่างแสดงความสงสารและโกรธแค้นที่คนร้ายมาทำร้ายสัตว์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย… ทั่วร่างกายของมันมีรอยลึกจากการโดนมีดแทง “Kizzy เป็นม้าที่แก่ที่สุดและมันก็เป็นมิตรกับคนอื่นๆ ฉันไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น มันถูกแทงถึง 15 ครั้ง ทั้งตรงใบหน้า หลัง และใบหูของเธอ อีกทั้งยังมีร่องรอยจากการถูกทุบตีอีกด้วย” อย่างไรก็ตาม…
-
“กลุ่มนักช่วยสัตว์แห่งเชอร์โนบิล” แม้จะเสี่ยงภัยจากรังสี แต่ก็ยอมเพื่อให้มันมีชีวิตที่ดีขึ้น
พลังงานนิวเคลียร์ เป็นพลังงานอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้จากการคายความร้อน ปัจจุบันใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานนิวเคลียร์มีคุณประโยชน์มากแต่ก็มีโทษมากเช่นเดียวกัน หลายๆ คนอาจทราบถึงอานุภาพของพลังงานนิวเคลียร์เป็นอย่างดี จากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมาจนมีผู้คนล้มตายจำนวนมาก เรื่องราวของ เชอร์โนบิล (Chernobyl) ประเทศยูเครน หลายๆ คนอาจเคยทราบถึงประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ ที่มีเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งสำคัญของโลก ที่ผ่านมากว่า 31 ปีแล้วผู้คนก็ยังไม่มีวันลืม วันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986 ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ทางตอนเหนือของยูเครน ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อวิศวกรได้ทดสอบการทำงานของระบบหล่อเย็นและระบบทำความเย็นฉุกเฉินของแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่การทดสอบระบบนั้นมีความผิดพลาด เมื่อระบบไม่ทำงาน แรงดันไอน้ำได้เพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความร้อนพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วถึง 2,000 องศาเซลเซียส แกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ถูกหลอมละลายด้วยความร้อนและระเบิดทันที อุบัติเหตุในครั้งนี้คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ไปกว่า 32 ราย ผู้คนที่อาศัยในเมืองใกล้ๆ อย่างเมืองพรีเพียตต้องอพยพโดยด่วนกว่า 300,000 ราย อีกทั้งสารกัมมันตภาพรังสีก็ยังส่งผลเสียระยะยาว ผู้คนกลายเป็นโรคมะเร็ง และสภาพแวดล้อมอื่นๆ ต้องเสียไป จนปัจจุบันเมืองพรีเพียตก็ยังเป็นเมืองร้างที่มีระดับสารกัมมันตภาพรังสีอยู่ในปริมาณมาก เมื่อ 31 ปีที่แล้ว ชาวเมืองทุกคนต้องอพยพตัวเองออกจากบ้านเกิดเมืองนอน ในขณะนั้นทุกคนต่างจำเป็นต้องเอาตัวรอด…
-
คุณแม่ตั้งครรภ์ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร้านอาหาร เพราะว่าเธอใส่ “เสื้อครอปท็อป” โชว์พุง
เมื่อพูดถึงการแต่งตัวของคุณแม่ตั้งครรภ์ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าคุณแม่ต้องแต่งด้วยชุดคลุมท้องแบบเดิมๆ กันใช่ไหม รู้ไหมว่าปัจจุบันนี้แฟชั่นชุดคุณแม่ได้มีการพัฒนาขึ้น เพื่อให้คุณแม่สมัยนี้สนุกกับการแต่งตัวและกล้าที่จะเดินเฉิดฉายด้วยความภูมิใจจนกระทั่งวันคลอดเลยล่ะ Charisha Gobin อายุ 35 ปี คุณแม่ตั้งครรภ์ 7 เดือนเกิดอาการหัวร้อนทันทีเมื่อถูกพนักงานเสิร์ฟของร้าน Buzz Inn Steakhouse ในเมืองแมรีวิลล์ สหรัฐอเมริกา ปฏิเสธไม่ให้เธอเข้าร้านเพียงเพราะเหตุผลที่ว่าเธอแต่งกายไม่สุภาพ เธอได้แต่งกายด้วยเสื้อครอปสีดำและกระโปรงยาวสีขาว เนื่องจากอากาศร้อน แต่เธอได้เกิดความสงสัยว่าชุดที่เธอใส่มันไม่สุภาพตรงไหน เธอจึงได้ถ่ายรูปและโพสต์ถามเพื่อนๆในโลกโซเชียล นี่คือภาพการแต่งตัวของเธอในวันนั้น เธอโพสต์ว่า “ฉันพึ่งถูกปฏิเสธการให้บริการจากร้าน Buzz Inn บน State Avenueในเมืองแมรีวิลล์ พนักงานงานเสิร์ฟบอกว่าฉันละเมิดกฏของร้าน” หลังจากที่เธอโพสต์ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างมากและแบ่งความคิดเห็นเป็นสองฝ่าย ความคิดเห็นฝั่งหนึ่งได้เข้าข้างคุณแม่คนนี้ “อากาศร้อนๆแบบนี้ ยิ่งตั้งครรภ์อยู่ด้วยการแต่งตัวแบบนี้ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน ไม่ท้องไม่เข้าใจหรอก” “โคตรไร้สาระเลย กฏบ้าบอ บางคนยังใส่กางเกงขาสั้นเข้าไปทานอาหารในร้านได้เลย” ความคิดเห็นอีกฝั่งหนึ่งก็ได้บอกว่าพนักงานเสิร์ฟของร้านทำถูกต้องแล้ว “ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขอโทษเลย” “พนักงานเสิร์ฟทำถูกต้องแล้ว การแต่งตัวแบบนั้นมันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การท้องไม่ใช่เรื่องผิด แต่คุณควรแต่งตัวสุภาพกว่านี้เพื่อปกปิดท้องของคุณไว้” Charisha ได้ออกมากล่าวอีกว่า “มันน่าตลกมากเลย ตอนแรกฉันรู้สึกอายมากที่ถูกปฏิเสธแบบนี้ ฉันอุตส่าห์ขับรถข้ามเมืองเพื่อที่จะมาทานอาหารร้านนี้โดยเฉพาะเลยนะ มันคงจะไม่ผิดขนาดนี้ถ้าฉันไม่ได้ท้อง”…
-
สาวโดนจับหลังขโมยของในร้าน “สะเดาะกุญแจมือ” เองได้ แล้วขับรถตำรวจหนีเฉย!?
หลายๆ คนที่ดูหนังแอ็คชั่นบ่อยๆ คงจะคุ้นเคยกับฉากที่พระเอกหรือตัวร้ายหนีตำรวจ เป็นฉากเบสิคที่หนังแอคชั่นทุกเรื่องต้องมี แต่ถ้าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นจริงๆ จะรับมือกันอย่างไรนะ ภาพต่อไปนี้เป็นภาพจริง ไม่ใช่ภาพจากการถ่ายทำหนัง คนที่เห็นก็เป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ตัวแสดง จากวิดีโอข้างต้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้การจับกุม Toscha Fay Sponsler อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาคดีการขโมยของจากร้านเสริมสวยในละแวกนั้น เธอได้ใช้ช่วงเวลาที่ตำรวจเผลอละสายตาสะเดาะกุญแจมือออกอย่างง่ายดาย จากนั้นสักพักเธอก็ได้ขับรถตำรวจคันนั้นหลบหนีออกไป ทางตำรวจได้เรียกกำลังเสริมและทำการไล่ล่าเธออย่างทันท่วงที แหม่ อย่างกับในหนังเลยอ่ะ การไล่ล่าแม่สาวคนนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาทีก่อนที่เธอจะถูกยิงสกัดยาง ทำให้เสียการควบคุม และมันก็เป็นไปตามแผน รถตำรวจคันที่เธอขับมาไถลลงสู่ข้างทางชนกับต้นไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปจับกุมตัวเธอโดยทันที . เธอได้รับข้อหาเพิ่มเติมคือ ใช้ยานพาหนะของเจ้าหน้าที่โดยไม่ได้รับอนุญาตและใช้ในการหลบหนีในการจับกุม หลังจากนี้ทางตำรวจได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำอีกรอบ หื้มมม นึกว่าเล่นเกม GTA อยู่หรอแม่คุณ ฮ่าๆ ๆ ที่มา dailymail
-
20 ภาพประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกทำให้เป็นภาพสีราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ในสมัยที่ยังไม่มีกล้องถ่ายภาพสี ภาพถ่ายจะมีแค่สีขาวดำ ซึ่งบางทีภาพที่ปราศจากสีอาจสื่อความรู้สึกหรืออารมณ์ได้ไม่ชัดเจนเท่าภาพสี ด้วยเหตุนี้ Doug และศิลปินคนอื่นจาก Colourisehistory Group จึงได้นำภาพประวัติศาตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกถ่ายเป็นขาวดำมาเติมสี ราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน 1. เครื่องบิน Vc ‘Tropical’ JK707 MX-P ถูกยิงตกลงระหว่างการสู้รบ ถูกเติมสีโดย Paul Reynold 2. ทหารฟินแลนด์ในช่วงฤดูหนาวท่ามกลางหิมะที่โรงเรียนฝึกสุนัขทหารระหว่างสงคราม Finnish-Soviet Continuation War เติมสีโดย Jared Enos 3. เครื่องบิน Focke Wulf FW-190A6 Nº20 ที่สนามบิน Immola ในฟินแลนด์ ภาพสีโดย Jared Enos 4. ทหารสัญชาติจีนกำลังยืนคุ้มกันเครื่องบิน Curtiss P-40 ‘Warhawks’ ของกลุ่ม American Volunteer Group (AVG) ภาพสีโดย Tom Thounaojam จากอินเดีย 5. ทหารกำลังทำความสะอาดรถถัง Sd.Kfz ภาพสีโดย Royston Leonard …
-
ครอบครัวยังยิ้มได้และลุกขึ้นสู้ ถึงแม้ “พายุฮาร์วีย์” จะได้พัดเอาบ้านพังไปทั้งหลัง
พายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ ได้พัดขึ้นบริเวณฝั่งรัฐเท็กซัส มีความเร็วกว่า 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าเป็นพายุที่ถล่มสหรัฐที่รุนแรงที่สุดในรอบ 12 ปี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูง เส้นทางการจราจรถูกตัดขาดในหลายพื้นที่ ทางการได้สั่งอพยพผู้คนจำนวน 5 หมื่นคนออกจากพื้นที่ทันที นครฮิวส์ตัน เมืองที่ใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากน้ำท่วมสูงถึง 21 เมตร พังบ้านเรือนเสียหาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ภาพถ่ายต่อไปนี้เป็นภาพหลังจากที่ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว ครอบครัวและความเสียหายทรัพย์สินของ Joy ชาวเมืองคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ Joy และ Jennifer น้องสาวของเธอ ค้นพบพระคัมภีร์ของปู่และธงชาติของพ่อเธอใต้ซากปรักหักพังของบ้าน บ้านเพียงสองหลังที่ยังคงอยู่รอดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ห้องซักรีดและห้องครัวพังลงไปถึงโรงรถด้านล่าง ทาวน์โฮม 3 ชั้นพังลงมาไม่เหลือชิ้นดี ฝ้าเพดานของห้องนอนถล่ม น้ำท่วมมาถึงห้องนั่งเล่นบริเวณชั้น 2 . . เศษซากต้นไม้ที่โดนน้ำท่วมสูง . . เสบียงและอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ถูกเตรียมเข้าพื้นที่ประสบอุทกภัย…
-
ชายหนุ่มแชร์ประสบการณ์ ชีวิตการเป็นอัมพาต แต่พลังแห่งรักทำให้เขาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง!!
คนเราต่างก็ต้องมีช่วงเวลาที่แย่ๆ ในชีวิตกันเกือบทุกคน แต่ละคนก็เจอปัญหาที่แตกต่างกันไป ถือว่าเป็นบททดสอบของชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต Martin Pistorius ได้เปิดเผยช่วงเวลาของชีวิตที่ประสบโรคร้ายส่งผลให้ร่างกายเป็นอัมพาตยาวนานสิบกว่าปี เพื่อให้คนที่กำลังย่อท้อต่ออุปสรรคในชีวิตได้มีแรงลุกขึ้นสู้ต่อไป เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเขาอายุ 12 ปี เขากลับจากโรงเรียนด้วยอาการเจ็บคอ ตอนแรกคิดว่าคงเป็นอาการไข้หวัดทั่วไปจึงได้กินยาบรรเทาตามปกติ แต่อาการกลับแย่ลงเรื่อยๆ จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งผลการตรวจก็พบว่าเขาป่วยด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และวัณโรคสมอง ส่งผลให้ร่างกายของเขาอ่อนแอ ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นมันทำให้เขาพูดไม่ได้และสูญเสียการควบคุมร่างกายไปโดยสิ้นเชิง การวินิจฉัยของแพทย์เมื่อ 10 ปีที่แล้วยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าทำไมร่างกายของเขาถึงได้เกิดอาการเช่นนี้ขึ้น ต้องรอให้เขาเสียชีวิตก่อนเท่านั้นถึงจะสามารถพิสูจน์ได้ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยนั้นยังไม่ค่อยดีมากนัก อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายของเขาได้หากได้รับการรักษาแบบผิดวิธี แต่ Joan และ Rodney พ่อแม่ของเขาไม่ยอมแพ้ที่จะรักษาชีวิตของเขา และคอยดูแลเขาอย่างใกล้ชิด เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นสิ่งไม่มีชีวิต รู้สึกรับรู้ได้ทุกอย่างแต่ไม่สามารถตอบสนองได้เลย มันรู้สึกไร้ค่ามากๆ และหวาดกลัวที่จะสูญเสียความทรงจำอีกด้วย เขาได้บอกอีกว่า ช่วงชีวิตของเขาตอนนั้นย่ำแย่มากๆ เขารู้สึกเป็นภาระแต่พ่อแม่มาก กิจวัตรประจำวันก็วนลูปอยู่แต่แบบเดิมๆ จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ของเขาพูดออกมาว่า “ลูกคงจะต้องตายแน่ๆ” คำพูดนั้นทำให้เขายิ่งคิดไปว่าถ้าเขาตายไปทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น แต่มาวันหนึ่งข่าวดีของการรักษาร่างกายของเขาก็มาถึง ตอนที่เขาอายุ 25 ปี ด้วยการบำบัดจากศูนย์ Virna van der Walt ที่พบว่าถึงแม้ว่าเขาจะสื่อสารออกมาเป็นคำพูดไม่ได้แต่เขาก็ยังสามารถแสดงออกได้ผ่านการเคลื่อนไหวบนใบหน้า ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเขาเลยก็ได้หลังจากที่ไม่สามารถสื่อสารกับใครเลยตลอดเวลา 13…
-
วินาทีตำรวจจับ “หญิงที่กำลังอุ้มลูก” ทุ่มลงพื้น เด็กน้อยโดนลูกหลงหัวโขกพื้นอย่างแรง
ขึ้นชื่อว่าตำรวจคือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เป็นที่พึ่งของประชาชนอยู่เสมอ คอยดูแลทุกข์สุขอยู่เสมอ เป็นอาชีพที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีมาก และหลายๆ คนใฝ่ฝันที่จะได้เป็นตำรวจอีกด้วย แต่เรื่องราวนี้ กำลังถูกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ของจีนกันอยู่ในขณะนี้ เมื่อมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทะเลาะกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กำลังอุ้มเด็กน้อย และได้มีการจับหญิงคนนั้นทุ่มลงพื้นจนทำให้เด็กที่เธออุ้มอยู่กระเด็นลงหน้าทิ่มกับพื้นอย่างรุนแรง . คลิปวิดีโอที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ หลังจากที่หนูน้อยตกลงบนพื้นก็มีชาวเมืองที่อยู่แถวนั้นเข้ามาช่วยเหลือทันที แต่ทางตำรวจได้จับตัวหญิงคนนั้นกดลงกับพื้นอย่างรุนแรงทำให้หญิงคนนั้นหมดแรงที่จะขัดขืน และทำการใส่กุญแจมือ ท่ามกลางเสียงร้องไห้หวาดกลัวของเด็กน้อยและเสียงก่นด่าจากชาวเมือง การกระทำของตำรวจคนนี้ถูกมองว่ากระทำรุนแรงเกินเหตุและถูกร้องเรียนให้สืบสวนถึงที่มาของเรื่องนี้ด้วย สำนักข่าวเซี่ยงไฮ้อิสต์ได้รายงานว่า จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ใจความว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 สิงหาคม 2017 ในเขตพื้นที่ Songjiang หญิงคนนี้ได้กระทำผิดโดยการจอดรถในบริเวณที่ห้ามจอด ตำรวจจึงได้เข้ามาเตือนแต่เธอก็ได้ต่อว่าตำรวจ จึงทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน และตำรวจก็ได้ยอมรับว่า การกระทำของตนนั้นเป็นการกระทำที่รุนแรงกว่าเหตุจริง จึงถูกสั่งให้พักงานทันที ชาวเน็ตแสดงอาการไม่พึงพอใจกับเหตุการณ์นี้เพราะมันรุนแรงเกินไปอีกทั้งเกิดขึ้นโดยตำรวจผู้เป็นที่พึ่งของประชาชน แต่ทำร้ายผู้หญิงเป็นสิ่งไม่ควรทำ อีกทั้งเด็กน้อยก็เจอลูกหลงจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย จึงกลายเป็นประเด็นที่กำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ ที่มา shanghaiist
-
24 รูปภาพความมหัศจรรย์แห่ง “ป่าอเมซอน” และแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ทำลายมันไปแค่ไหน…
อเมซอน เป็นป่าฝนเขตร้อนที่มีขนาดใหญ่ในทวีปอเมริกา มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอาศัยอยู่หลากหลายสายพันธุ์ แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นปอดของโลกอีกด้วย แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่มนุษย์เข้าไปทำลายเพื่อกอบโกยผลประโยชน์จากป่าแห่งนี้ ภาพต่อไปนี้เป็นภาพที่จะสะท้อนให้เห็นว่าป่าอเมซอนถูกทำลายไปมากแค่ไหน และวิถีชีวิตของผู้ที่อยู่ในป่านั้นเป็นอย่างไร ป่าอเมซอนครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของบราซิล โคลอมเบีย และเปรู มุมมองจากหอคอย Amazon Tall Tower เมือง Sao Sebastiao do Uatuma ประเทศบราซิล ป่าแห่งนี้มีพื้นที่เกือบ 2.6 ล้านตารางไมล์ แม่น้ำอเมซอนที่มีความยาวถึง 4,100 ไมล์ หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนและสัตว์ป่า มีพืชหลายสายพันธุ์ที่สามารถพบได้เฉพาะป่าแห่งนี้ และยังมีอีกมากมายที่รอการค้นพบ รวมไปถึงสัตว์อีกหลากหลายสายพันธุ์ที่ใช้ป่าอเมซอนเป็นที่อยู่อาศัย นกกระสาที่ถูกพบเจอได้ทั่วไป Caiman สีขาวที่พบได้เฉพาะลุ่มน้ำอเมซอน นอกจากสัตว์แล้วป่าอเมซอนก็เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ มีกลุ่มชาติพันธุ์ 350 กลุ่มอาศัยอยู่ที่นี่ ที่อยู่อาศัยของเผ่า Huni Kui ชายคนนี้กำลังลากเรือข้ามแม่น้ำอเมซอนในช่วงฤดูแล้ง Dream Braga อายุ…
-
แตกตื่นกันทั้งเมือง!! เมื่อชาวประมงบรรทุก “ฉลามวาฬ” ขึ้นรถกระบะไปขายที่โรงแรม
ปัจจุบันการทำประมงชายฝั่ง การรุกล้ำพื้นที่ทะเลเป็นปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของสิ่งแวดล้อมชายทะเล การจับปลาเยอะเกินไปอาจส่งผลให้ปลามีจำนวนน้อยลงและไม่เพียงพอต่อการบริโภคในอนาคต อีกทั้งการทำลายสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่จะทำให้โลกเข้าสู่ภาวะการเปลี่ยนแปลง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บนถนน Fujian ในเมือง Xiapu ประเทศจีน ผู้คนต่างแตกตื่นกับการที่มีชาวประมงคนหนึ่งบรรทุกซากฉลามวาฬเข้ามาในเมือง ทำเอาซะผู้คนตกใจไปตามๆกัน มาแบบนี้ไม่ให้ตกใจได้ยังไงเล๊าาาา!!! ชาวประมงผู้ที่บรรทุกฉลามวาฬเข้ามา มีจุดประสงค์ที่จะนำไปเสนอขายให้กับห้องอาหารของโรงแรมแต่ก็ถูกปฎิเสธเพราะอ้างว่าปลาที่เขานำมาขายนั้นมันเริ่มจะมีกลิ่นเหม็นๆแล้ว เพื่อให้ไม่เป็นการเสียเที่ยวชาวประมงผู้นั้นก็แล่เนื้อฉลามวาฬขายในราคาถูกให้กับผู้คนแถวนั้นเลย รูปถ่ายจากชาวเมือง ถูกแชร์ไปอย่างรวดเร็วและขอให้ทางตำรวจสืบสวนเรื่องนี้โดยด่วน ตามข้อบังคับของจีน กำหนดไว้ว่าห้ามจับปลาฉลามวาฬเด็ดขาด และการซื้อขายเนื้อฉลามวาฬก็เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมายอีกด้วย กฏหมายการห้ามล่าฉลามวาฬได้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2014 เพราะว่าฉลามวาฬเป็นสัตว์ใหญ่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ไม่ให้สูญพันธุ์ แต่ชาวประมงรู้เท่าไม่ถึงการณ์คิดว่าถ้าบรรทุกมาขายในเมืองจะได้รับกำไรสูงขึ้นไปอีก และเมื่อวันพุธที่ผ่านมารัฐบาลท้องถิ่นของมณฑล Xiapu ได้ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดในข้างต้น พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัยในข้อหาขายสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ และยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่าบทลงโทษจะเป็นอย่างไร ที่มา shanghaiist
-
ช่างภาพซื้อกล้องมือสองมา พร้อมกับฟิล์มอายุ 70 ปีอยู่ในนั้น และนี่คือภาพที่ล้างออกมา..!!
สมบัติของเก่านี่เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ บางคนอาจจะตามของเก่าที่ต้องการมาแทบทั้งชีวิตก็ไม่เจอ ในขณะที่บางคนอาจจะไม่เคยไขว่คว้าหามันเลย แต่ดันได้มาแบบงงๆ ซะงั้น Martijn Van Oers ช่างภาพชาวดัตช์ ที่ได้ซื้อกล้องมือสองมาจากร้านค้าแห่งหนึ่งในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่านอกจากกล้องแล้ว เขายังจะได้ฟิล์มที่มีอายุมากกว่า 70 ปี แถมมาให้ในนั้นด้วย!! Zeiss Ikon Ikonta 520/2 กล้องตัวดังกล่าว เป็นกล้องที่ออกแบบโดย Dr. August Nagel และถูกผลิตโดยบริษัท Zeiss Ikon สัญชาติเยอรมัน แน่นอนว่านี่คือกล้องรุ่นเก่าที่ช่างภาพหลายคนต่างใฝ่ฝันอยากจะหาซื้อมาเก็บไว้… ตอนแรกเจ้าตัวคิดว่ากล้องอยู่ในสภาพที่ไม่ถูกใช้งานมาก่อน ทว่าเมื่อกลับมาเปิดดูที่บ้านเขาก็ค้นพบฟิล์มเก่าแก่ติดมาด้วย ด้วยความสงสัย Van Oers จึงได้ไปค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า กล้องที่เขาได้มาถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1929 ส่วนฟิล์มที่ติดมาด้วยน่าจะถูกผลิตขึ้นมาในช่วงปี 1940 – 1970 มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะนำฟิล์มอายุกว่า 70 ปีมาล้างใหม่อีกครั้ง แต่เจ้าตัวก็ขอลองหน่อยแล้วกัน ช่างภาพต้องฟื้นฟูฟิล์มอย่างระมัดระวัง “รู้ตัวอีกทีผมก็เอาแต่หมกมุ่นกับฟิล์มอายุ 70 ปี…
-
ครูสุดโหด ตบหน้านักเรียนกว่า 20 คนหน้าชั้นเรียน ทั้งที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรก
การว่ากล่าวตักเตือนหรือลงโทษนักเรียน ก็ควรจะมีขอบเขตและกรอบที่เหมาะสม การกระทำเกินกว่าเหตุหรือการล่วงล้ำสิทธิในตัวของเด็กนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทำร้ายร่างกายเหมือนกับที่อาจารย์คนนี้ทำ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของมณฑลอานฮุย ประเทศจีน กับคลิปวิดีโอที่อาจารย์คนหนึ่งตบหน้าเด็กถึง 20 คนในวันเปิดเทอมวันแรก คลิปวิดีโอคุณครูตบนักเรียนหน้าห้อง ว่ากันว่าเสียงที่เกิดจากการตบนั้นดังมากขนาดที่ว่านักเรียนที่อยู่ห้องข้างๆ ยังได้ยิน โดยจากการรายงานของสำนักข่าวปักกิ่งเล่าไว้ว่า คุณครูคนนี้เดินทางมาจากย่านชนบทและให้นักเรียนเขียนบทกวีเก่าแก่ที่อยู่ในความทรงจำมาส่ง ถ้าหากว่าเขียนผิดก็จะถูกตบหน้าห้องเรียนเหมือนในคลิปที่ได้เห็น เป็นการลงโทษที่ไม่ว่าใคร ก็ไม่สมควรที่จะได้รับ เพราะไม่ใช่เป็นเพียงการกระทำที่เกินกว่าเหตุ แต่นี่คือการทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา กระแสของชาวเน็ตมากมายรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นและออกมาคอมเม้นท์ถึงการศึกษาในจีนเอาไว้อย่างเช่น “ผู้ชายในจีนเป็นคนที่อ่อนแอ จึงเอาความก้าวร้าวมาลงกับเด็กที่ไม่มีทางสู้” “การปฏิวัติทางวัฒนธรรมที่ทำให้ครูฉลาดๆ หายไปกันหมด” “เฮ้อออ.. นี่แหละนะการศึกษาที่ดีในประเทศที่ดี” หลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป เขาก็ถูกเชิญออกจากโรงเรียนทันที ปิดฉากอาชีพครูแต่เพียงเท่านี้ แน่นอนว่านั่นคือความรุนแรงที่ไม่สมเหตุสมผล จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว ดังนั้นหากจะทำอะไรก็อย่าลืมที่จะตระหนักถึงความเหมาะสม หรือหนทางที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรงจะดีกว่า ที่มา: shanghaiist
-
‘พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา’ พัดถล่มสนามบินที่ชื่อดัง Princess Juliana สร้างความเสียหายมหาศาล!!
สนามบินนานาชาติ Princess Juliana ถือเป็นสนามบินที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ตอนนี้สนามบินดังกล่าวถูกพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่โจมตี จนเละเทะไปหมด มีรายงานพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ได้เคลื่อนผ่านสนามบินนานาชาติ Princess Juliana ด้วยความเร็ว 185 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุณพระ!) ทำลายรั้วกั้นและชายหาด Maho ที่อยู่ติดกัน นอกจากนี้พายุยังได้พัดทรายไปกองอยู่บนรันเวย์ ในขณะที่ก้อนจำนวนมากได้ตกลงมาใส่เครื่องบินจนได้รับความเสียหายหนัก ซากสิ่งของถูกกระจายอยู่ทั่วรันเวย์ หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนพัดเข้าเกาะแซงมาเตียง ก็เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงขึ้นทั่วเกาะ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้ประชนชนอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน แต่จนถึงขนาดนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พายุได้พัดผ่านเข้าอาคาร จนทำให้ข้าวของกระจายอย่างที่เห็น Alex Woolfall หนึ่งในผู้ที่อยู่บนเกาะตอนที่พายุเข้า เล่าว่าตอนนั้นเขาและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ อยู่ในอาคาร อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงพายุ ก่อนที่ข้าวของจะพังลงมาและถูกพัดกระจายไปทั่ว ในขณะที่ Brit Carolyne Coleby เจ้าของธุรกิจเกสต์เฮาส์แห่งหนึ่งบนเกาะเล่าว่า ชาวบ้านแถวนั้นพยายามจะปกป้องบ้านและทรัยพ์สินด้วยเอง ด้วยการนำบอร์ดมาตั้งเพื่อกันลม ท่าเทียบเครื่องบินถูกพายุทล่มจนขาดเป็นสองส่วน เธอบอกอีกว่า “ก่อนที่เกิดพายุเฮอร์ริเคนนี้ ท้องฟ้าสดใส แดดส่องสว่างจ้า แต่แล้วอยู่ดีๆ พายุก็เข้าในแบบที่เราคาดไม่ถึงเลย” เที่ยวบินหนึ่งของสายการบิน British…
-
ศิลปินผุดไอเดีย สร้างโรงแรมขนาดจิ๋วให้กับแมลงทุกชนิด หวังเพิ่มสีสันให้สวนหลังบ้าน!!
นับว่าเป็นอีกไอเดียที่เป็นมิตรต่อเพื่อนร่วมโลกตัวจิ๋วมากที่สุด ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ Boleslav Daska ดีไซน์เนอร์มือฉมังจากบริษัท DILNA HAMMER โดยโรงแรมขนาดจิ๋วสำหรับเหล่าแมลงทุกชนิด จะถูกออกแบบมาให้มีความคล้ายคลึงกับรังผึ้งมากที่สุด เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าหลักที่มักจะเป็นประชากรผึ้งที่เดินทางมาหาน้ำหวานในทุกๆ ปี . . . โรงแรมนี้ใช้ชื่อว่า.. ‘The BumbleBee House’ จุดเด่นก็คือโรงแรมแห่งนี้ไม่มีการเก็บค่าบริการ หรือเซอร์วิซชาร์จใดๆ ทั้งสิ้น (อยู่ฟรีกินฟรีไปเลย) ทุกห้องพักของแมลงตัวจิ๋วจะถูกออกแบบมาให้ พวกมันสามารถบินเข้ามาอาศัยได้ทันที อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นพื้นที่กักเก็บสเบียงก่อนจะนำกลับรังได้ด้วย . . . . . . . เห็นแบบนี้ก็รู้สึกเลยว่า ต้องเป็นที่พักที่ทำให้เหล่าแมลงตัวน้อยโลดแล่นกันสนุกสนานมากขึ้น ที่มา: DYT
-
หนุ่มดีใจขอแฟนสาวแต่งงานได้สำเร็จ แต่ตื่นเต้นเกินเหตุ จนพลาดตกสะพานเสียชีวิต…
สำหรับผู้ชายบางคน การขอแฟนสาวแต่งงานไม่ใช่เรื่อยง่ายๆ ที่จะขอที่ไหนก็ได้ แต่พวกเขาจะเลือกเวลา เลือกสถานที่ที่ดีที่สุด เพื่อให้ฝ่ายหญิงยอมตกลงให้ได้ เหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ที่เลือกสะพานที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกมาเป็นสถานที่ขอแต่งงาน และเขาก็ทำให้เธอตอบตกลงได้สำเร็จซะด้วย แต่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นก็เกิดเหตุสลด เนื่องจากฝ่ายชายดีใจมากเกินเหตุ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สะพานเชื่อมระหว่างเกาะมิยาโกะและเกาะอิราบุ ในจังหวัดโอะกินะวะ เมื่อหนุ่มวัย 32 ปี ขับรถพาแฟนสาวมาที่นี่เพื่อขอแต่งงาน หลังจากที่ให้เธอชื่นชมความงามและทิวทัศน์โดยรอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการหยิบแหวนขึ้นมา และคุกเข่าขอเธอแต่งงาน หญิงสาวไม่ลังเล เธอตอบตกลงทันที ชายหนุ่มดีใจมาก กระโดดไปมาด้วยความตื่นเต้น แค่นั้นยังไม่พอ เขายังกระโดดขึ้นไปบนราวสะพานด้วย แต่แล้วเขาก็เกินเสียการทรงตัวและพลาดท่าจนทำให้ตกจากสะพานที่มีความสูงถึง 30 เมตร ลงไปสู่ทะเล แฟนสาวตกใจมาก เมื่อไม่เห็นเขาขึ้นมา เธอจีงรีบโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยทันที ซึ่งเจ้าหน้าได้ทำการค้นหาเป็นเวลานานพอสมควร จนกระทั่ง 7 ชั่วโมงต่อมา เขาก็ถูกพบเป็นศพแล้ว ต่อมาจากรายของเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า ก่อนที่จะขอแต่งงาน ชายคนนี้ได้ดื่มเหล้ามาก่อน นั่นอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เกิดเหตุสลดในครั้งนี้ ที่มา dailymail
-
เนื้อตูอยู่ไหน!? หนุ่มประท้วงหนักด้วยกกน. พร้อมกับบ้องกัญชาน้อย หลังถูกตำรวจยึดของไป
ของๆ ใครของใครก็ห่วง แน่นอนละโดยเฉพาะถ้าเป็นสายเขียวด้วยแล้ว ไม่ต้องสืบก็รู้ว่าพวกเขาจะรักและหวงแหนอะไรมากที่สุด เช่นเดียวกับหนุ่มวัย 31 ปี Jeffrey Shaver จากรัฐออแทริโอ ผู้ชื่นชอบการพากันชี้ (พี้กัญชา) เป็นชีวิตจิตใจ ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น.. เมื่อจู่ๆ วันหนึ่งเจ้าตัวก็ถูกตำรวจจับซะงั้น!? Jeffrey Shaver กับการประท้วงที่ไม่เหมือนใครในโลก เรื่องมันมีอยู่ว่าพ่อหนุ่มคนนี้ ได้ไปยื่นเรื่องทำบัตรผู้ใช้กัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ทว่าหลังจากนั้นได้แค่ 5 เดือน เจ้าตัวก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ แต่ที่มากกว่าจับคือ… ทำไมต้องยึดบ้องและกัญชาไปด้วย!! “ผมทำบัตรผู้ใช้กัญชาถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แล้ววันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาค้นตัวผมและยึดเอากัญชาของผมไป ทั้งที่ผมก็พกบัตรติดตัวอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็ทำให้ผมต้องไปนอนในคุกเป็นครั้งแรกของชีวิต ผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้บ้องและกัญชาของผมคืน” ซึ่งคราวนี้พ่อหนุ่มได้ออกไปทำการประท้วงด้วยตนเองที่หน้าโรงพยาบาล Cambridge Memorial Hospital ด้วยการถือบ้องกัญชาอันเล็ก พร้อมกับใส่กางเกงในสีเขียวเพียงแค่ตัวเดียว จากนั้นก็จุดไฟใส่บ้องทำการระเบิดหลุมแล้วก็ปล่อยความคิดให้กว้างออกไปกว่าเดิมอีกหลายขุม แต่ใช่ว่าพ่อหนุ่มจะประท้วงแค่วันเดียวเท่านั้น “ผมมีกางเกงในอยู่หลายสี วันแรกผมใส่ชมพูพาสเทล จากนั้นก็สีเหลือง แล้วก็สีเขียวแบบชิลๆ ซึ่งผมมีอีกหลายสีเลยที่ยังไม่ได้ใส่และมันก็ไม่ซ้ำแน่นอน” แม้ว่าพ่อหนุ่มจะพยายามประท้วงมาหลายครั้ง และไม่มีทีท่าว่าจะได้บ้องกับกัญชาคืนมา ถึงกระนั้นเรื่องราวของเขาก็กลายเป็นที่โด่งดังบนโลกออนไลน์ จนเรียกได้ว่ากลายเป็นเน็ตไอดอลของสายเขียวแห่งแคนาดาไปแล้วก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากเรื่องราวนี้ถูกแชร์ต่อและเป็นที่พูดถึง ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อดังนี้… “เราได้รับข้อติเตียนจากประชาชนถึงเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเราจะทำการติดต่อคุณ…
-
ทางการญี่ปุ่นเลือกใช้ ‘อนิเมะ’ เพื่อโปรโมทเข้าถึงผู้คน ให้มาเข้าร่วมกองกำลังป้องกันตนเอง!!
ประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดประเทศหนึ่ง และบ่อยครั้งที่พวกเรามักจะเห็นชาวแดนปลาดิบนั้นหยิบเอาวัฒนธรรมเจ๋งๆ ของพวกเขามาใช้ในการโปรมทกิจกรรมต่างๆ อย่างล่าสุดนี้ที่พวกเขาเลือกที่จะใช้การ์ตูนอนิเมะ เพื่อประกาศรับสมัครบุคคลมาเข้าร่วมกองกำลังป้องกันตนเอง หรือ Japan’s Self-Defense Forces (JSDF) และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางการญี่ปุ่นได้นำไอเดียนี้มาใช้ประกาศรับสมัครคนเข้ากองกำลังป้องกันตนเอง เพราะเมื่อประมาณปีที่แล้ว พวกเขาได้มีการโฆษณาเชิญชวนในลักษณะนี้มาก่อน และในปี 2017 นี้ ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับการ์ตูนเรื่องใหม่!! อนิเมะชุด The Irregular at Magic High School (พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวท) ที่ใช้ในการโปรโมทครั้งนี้ โดยตัวเอกของอนิเมะเรื่องนี้มีชื่อว่า Tatsuya Shiba ตัวละครหนุ่มที่ออกมาพร้อมกับคาร์แรคเตอร์ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีข้อความเล็กๆ ใต้รูปพระเอกของเราอีกด้วย โดยสโลแกนดังกล่าวแปลเป็นไทยว่า “ปกป้องปัจจุบัน ปกป้องอนาคต กองกำลังป้องกันตัวเองกำลังต้องการคุณ!!” ซึ่งเนื้อเรื่องของการ์ตูนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 3 ระหว่างกองทัพจากอเมริกาเหนือ สหภาพโซเวียตใหม่ และฝ่ายพันธมิตรเอเชีย โดยทางญี่ปุ่นเองก็กำลังพยายามรักษาเสถียรภาพของประเทศ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่นั้นสามารถใช้พลังเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่งได้ เรื่องที่ใช้โปรโมทของปีที่ผ่านมาก็คือเรื่อง GATE ในส่วนของเนื้อเรื่องอนิเมะ GATE ที่เคยปล่อยออกมานั้น ได้พูดถึง Takumi เด็กมัธยมปลายผู้เป็นตัวเองของเรื่องนี้ ที่ต้องการจะพิสูจน์ตนเองให้กองกำลัง JSDF ได้เห็นถึงศักยภาพของเขา ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะมีอายุไม่ถึงเกณฑ์ แต่ทว่าหัวใจและร่างกายนั้นก็พร้อมสำหรับการรับใช้ชาติแล้ว ไปชมตัวอย่างของอนิเมะใหม่ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ทางการญี่ปุ่น…
-
รถพังแต่หน้าไม่พังนะคะ!! สาว “อวดหน้าแบบจัดเต็ม” หลังประสบอุบัติเหตุรุนแรง
สำหรับใครที่เป็นแฟนละครไทย อาจจะคุ้นเคยกับความตะขิดตะขวางใจของการแต่งหน้าแบบจัดเต็มในทุกๆ เวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนตื่น ตอนนอน ตอนเข้าโรงบาล หรือบางทีอุบัติเหตุรุนแรงๆ ก็ไม่อาจจะทำให้สีลิปติกของพวกเธอหลุดได้เลย แต่ก็ใช้ว่าเรื่องแบบในละครนี้ใช่ว่าจะเกิดขึ้นจริงไม่ได้นะเออ!! เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์ภาพของเธอระหว่างที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังจากประสบอุบัติเหตุรถชน พร้อมกับใบหน้าแบบจัดเต็ม แค่รถชน ทำอะไรมาสคาร่าฉันไม่ได้หรอก!! Alice Brewer สาวน้อยวัย 19 ปี บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเธอขับรถมาด้วยความเร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และชนประสานงาเข้าอย่างจังกับรถอีกคันหนึ่ง จนเป็นเหตุให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาล แพทย์รีบสวมอุปกรณ์ช่วยชีวิตให้เธออย่างเร่งด่วน จากการวินิจฉัยของแพทย์พบว่าเธอได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ทั้งกระดูกไหปลาร้าและกระดูกหน้าอกหัก แต่อย่างหนึ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเลยนั่นก็คือเครื่องสำอางของเธอนั่นเอง อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนครบรอบวันเกิดอายุ 19 ปีของเธอ หญิงสาวได้อัพภาพของเธอระหว่างการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพร้อมกับข้อความตลกๆ ว่าเครื่องสำอางบนใบหน้าของเธอยังแข็งแรงกว่ากระดูกซะอีก “ใบหน้าของฉันเหมือนมีถุงลงนิรภัยคอยช่วยอยู่ และหน้าฉันก็ยังคงดูสดใสอยู่ถึงแม้ว่ามันจะผ่านไปเกือบ 12 ชั่วโมง” หญิงสาวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว นี่คือสภาพรถยนต์ของเธอหลังจากประสบอุบัติเหตุ หลังจากนั้นเธอได้แชร์ข้อความของเธอไปยังแฟนเพจ Urban Decay Cosmetics ยี่ห้อเครื่องสำอางที่เธอใช้ และได้รับความนิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก หลายๆ คนบอกว่าการลงทุนแต่งหน้าของเธอครั้งนี้ช่างคุ้มจริงๆ…
-
หญิงจีนถูกครอบครัวกดดัน ‘ให้คลอดแบบธรรมชาติ’ สู่เหตุสลดกระโดดตึก พร้อมกับลูกในท้อง
ปัจจุบันการคลอดบุตรของคุณแม่นั้น มีหลากหลายทางเลือกเพื่อให้เหมาะสมกับคุณแม่แต่ละคน แต่ก็มักจะกลายมาเป็นประเด็นถกเถียงกันว่า การคลอดบุตรแบบธรรมชาตินั้นดีกว่าการคลอดแบบผ่าตัดหรือไม่ และควรจะอยู่ที่จุดใดระหว่างความปลอดภัยของคุณแม่หรือความพึงพอใจของคนอื่น… และเรื่องโศกนาฏกรรมเรื่องนี้ เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลในเมืองหยูหลิน มณฑลซานซี ประเทศจีน เมื่อหญิงตั้งครรภ์แซ่หม่า วัย 26 ปี ได้เข้ารับการตรวจที่แผนกสูติกรรม หลังจากที่เธอตั้งครรภ์มาแล้ว 41 สัปดาห์ หลังจากทำการตรวจแล้ว แพทย์ได้ลงความเห็นว่าเธอจะต้องได้รับทำคลอดด้วยการผ่าตัด เนื่องจากศีรษะของทารกมีขนาดใหญ่เกินไป ซึ่งถ้าหากว่าคลอดด้วยวิธีธรรมชาตินั้น ก็อาจจะเป็นอันตรายทั้งแม่และเด็กด้วย แต่ทว่าทางครอบครัวของนางหม่า ยืนกรานปฏิเสธที่จะไม่ให้ผ่าคลอด เนื่องจากในประเทศจีนมีกฎหมายกำหนดเอาไว้ว่า ก่อนผ่าตัดทำคลอดนั้นจะต้องได้รับการเซ็นยินยอมจากสมาชิกในครอบครัวเสียก่อน ซึ่งตัวเธอก็ได้ขอร้องให้ทางครอบครัวเซ็นยินยอมหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธและสั่งย้ำให้เธอต้องคลอดด้วยวิธีธรรมชาติเท่านั้น จากการถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า แม้เธอจะพยายามบอกกับครอบครัวว่าเธอรู้สึกเจ็บปวดมากจนแทบรับไม่ไหว แต่ครอบครัวของเธอก็ยังคงยืนกรานเช่นเดิมไม่ยอมอ่อนข้อใดๆ ด้วยความผิดหวังและเสียใจ เธอจึงตัดสินใจกระโดดลงมาจากชั้น 5 ของโรงพยาบาลพร้อมกับทารกในครรภ์…. เหตุการณ์ดังกล่าวได้กลายเป็นข่าวดังในประเทศจีนทันที หลายคนได้แสดงความโกรธและเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงค่านิยมดั้งเดิมกับการคลอดโดยวิธีธรรมชาติเพียงอย่างเดียว อีกทั้งในเรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับการทำคลอดด้วยวิธีผ่าตัด ที่ไม่จำเป็นจะต้องขอความเห็นใดๆ นอกเสียจากผู้เป็นแม่ที่จะทำคลอดเท่านั้น รวมไปถึงการมองผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องมือในการผลิตเด็กทารกด้วย ในขณะที่ชาวเน็ตจีนหลายราย ก็ได้เรียกร้องให้ทางครอบครัวออกมารับผิดชอบเกี่ยวกับกรณีนี้ และร่วมกันเรียกร้องให้มีการลงโทษตามกฎหมาย หลังจากที่ครอบครัวคือสาเหตุที่ทำให้หญิงคนดังกล่าวก่อเหตุอันน่าสลดใจนี้ ที่มา shanghaiist
-
The Rock เข้าพบเด็กหนุ่มวัย 10 ขวบ ที่ช่วยน้องชายจมน้ำด้วยการจำจากหนังที่เจ้าตัวแสดง..!!
นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่า… ทำไมละครหรือภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง ควรสอดแทรกข้อมูลให้ตรงตามหลักการความถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นด้านการปฐมพยาบาล การทำงานของแพทย์ และอื่นๆ อีกมากมาย และนี่คือเรื่องราวที่เกิดจากการสอดแทรกข้อมูลให้ถูกต้องลงไปในหนัง โดยเว็บไซต์ Huffingtonpost ได้รายงานเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 10 ขวบ ที่สามารถช่วยน้องชายวัย 2 ขวบ ด้วยวิธีที่จำมาจากหนังเรื่อง ‘San Andreas’ เรื่องราวของ Jacob O’ Connor เด็กหนุ่มวัย 10 ขวบ ที่โด่งดังไปทั่วโลก เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่สระว่ายน้ำแห่งหนึ่งในเมืองโรสวิลล์ รัฐมิชิแกน ในระหว่างที่สองพี่น้องกำลังเล่นน้ำอยู่ในสระนั้น จู่ๆ คนพี่ก็สังเกตเห็นน้องวัย 2 ขวบ เกิดอาการจมน้ำ ทันทีที่เห็น Jacob ก็รีบเข้าไปช่วยเหลือน้องชายที่กำลังจะจมน้ำ ด้วยการใช้วิธี CPR ที่จำมาจากหนังเรื่อง ‘San Andreas’ ซึ่งเป็นฉากที่ The Rock เข้าไปช่วยเหลือลูกสาว เจ้าตัวจึงนำวิธีนั้นมาใช้กับน้องชายตนเอง “ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าควรทำยังไงดี จู่ๆ ก็มีภาพในหนังโผล่ขึ้นมาในหัว และผมก็เริ่มคิดถึงภาพในซีนนั้น จากนั้นผมก็เริ่มทำตามภาพที่เราเห็นในหนัง”…
-
รวมภาพ “อุบัติเหตุทางรถยนต์” ที่เห็นแล้วถึงกับต้องตั้งคำถามว่า มันเกิดขึ้นได้ยังไงฟร๊ะ!?
“อุบัติเหตุ” มักจะเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาเสมอ ดังนั้น เราจะต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง และมีสติทุกครั้งเมื่ออยู่บนท้องถนน แต่บางครั้งเมื่อเราได้เห็นการเกิดอุบัติเหตุแบบแปลกๆ นั่นทำให้เราถึงขึ้นตั้งคำถามขึ้นมาทันทีว่า เห้ย!! มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน มันไม่น่าจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำ หูยยย น่ากลัวเนาะ ใจหายใจคว่ำแทนเลย ดีนะที่ไม่ตกไปทั้งคัน ยังไงกันละเนี่ย เห้ย!! ลงไปได้ยังไง ช่วยด้วยยย มันก็จะดูน่ากลัวหน่อยๆ อันตรายมากกกก แบบนี้ต้องขับรถกันอย่างระมัดระวังนะจ๊ะ ฉลองรถใหม่ ยังไม่ทันพ้นวันเลยเธอ!! หรือนี่จะเป็นรถบินได้ น่าสงสารรถจริงๆ ถึงขั้นทะลุเลยทีเดียว มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน เห็นแล้วหวาดเสียวเลย เดี๋ยวนะ พี่ขึ้นมาได้ยังไง งานนี้เล่นเอาคนดูอ้าปากค้าง เพราะคงไม่มีใครคาดถึง มีอุบัติเหตุแปลกๆ แบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ พัง พัง พัง…
-
ความรักอันแสนเศร้า ของคู่รักที่คบกันตั้งแต่มัธยม แต่สุดท้ายก็มีฝ่ายหนึ่งต้องจากไป…
การตามหารักแท้ว่ายากแล้ว แต่การรักษารักแท้ให้อยู่กับเราไปตลอดชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ยากกว่า เพราะวันหนึ่งไม่เขาหรือเราก็ต้องจากกันด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง… นี่เป็นเรื่องราวของ Jake Coates และ Emmy Collett คู่รักที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม จนกระทั่งได้แต่งงานกัน แต่ไม่นานหลังจากนั้นฝ่ายหญิงก็ได้จากไปอย่างน่าเศร้า เหลือเพียงความทรงจำอันงดงามที่อยู่ในใจของฝ่ายชายตลอดไป เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้มีการแชร์เรื่องนี้ในเฟซบุ๊กที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว Jake เขียนไว้ว่า “ทุกวันที่ได้อยู่ด้วยกัน ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ผมสงสัยเสมอว่า ทำไมคนอย่าง Emmy ถึงเลือกผม” “แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เธอทำ เราอาจจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในเวลาอันสั้น แต่ตอนนี้ผมคิดถึงเจ้าสาวแสนสวยมากกว่าครั้งไหนๆ” Jake กับ Emmy พบกันตอนที่คนหนึ่งอายุ 11 ปี จนกระทั่งอายุ 13 ปี Jake ก็ได้ตกหลุมรักฝ่ายหญิง และเขาก็ได้บอกเธอว่า เธอคือ กุ้งล็อบสเตอร์ ผู้ที่จะคอยโอบกอดเขาไว้นั่นเอง ต่อมาทั้งคู่ก็ได้ตกลงคบกันเป็นแฟน จนกระทั่ง 3 ปี ผ่านไป ตอนนั้นพวกเขาอยู่ในวัย 19 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องเรียนระดับมหาวิทยาลัย และเนื่องจากเรียนคนละที่จึงจำเป็นต้องแยกทางกัน อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี พวกเขาก็ยังคงติดต่อกันตลอด แม้กระทั่งวัยทำงาน Jake…
-
15 เรื่องน่ารู้ของ MiG-31 เครื่องบินรบที่มีแสนยานุภาพที่สุด แห่งกองทัพรัสเซีย
ปกติเวลาเราพูดถึงเครื่องบินรบ เรามักนึกถึงเครื่องบินรบตระกูล F ของกองทัพสหรัฐอเมริกามากกว่า ไม่ว่าจะเป็น F-15 F-16 F-20 หรือรุ่นล่าสุดอย่าง F-22 แต่รู้หรือไม่ ทางฝั่งรัสเซียเอง ก็มีเครื่องบินรบที่เจ๋งไม่แพ้ของสหรัฐอเมริกา เครื่องบนรบที่ว่านั่นก็คือ MiG-31 ที่ว่ากันว่ามีแสนยานุภาพมากที่สุดแห่งกองทัพรัสเซียในปัจจุบัน และนี่ทั้งหมดนี้คือ 15 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินรบผลงานบริษัท Russia’s Mikoyan ที่ครั้งหนึ่งเคยขับไล่ฝูงบินสอดแนมของฝั่งสหรัฐฯ มาแล้ว!! 1. MiG-31 มีอีกชื่อเรียกว่า ‘Foxhound’ บินครั้งแรกเมื่อปี 1975 ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในรุ่น MiG-25 2. MiG-31 ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ออกไปสู้รบ แต่เป็นเครื่องบินที่ถูกใช้สำหรับการป้องกันน่านฟ้าชายแดนรัสเซีย 3. MiG-31 มีเบาะหลังสำหรับควบคุมระบบเรดาร์ตรวจจับอาวุธ 4. MiG-31 ต้องใช้ระยะทางมากกว่า 3,900 ฟุต ในการเทคออฟ 5. ใช้เครื่องยนตร์เทอร์โบเจ็ท Tumanski R-15BD-300 สองตัว ซึ่งทำให้มันพุ่งสู่ความสูง…
-
หนุ่มชาวประมงว่ายขึ้นบนผิวน้ำเร็วเกินไป ส่งผลให้ร่างกายปูดบวม และพองเหมือนลูกโป่ง!!
ในทุกๆ สายงานอาชีพ แม้จะมีความชำนาญมากแค่ไหน แต่หากไม่ระวัง ก็อาจเกิดความผิดพลาดหรืออุบัติเหตุได้เสมอ เหมือนกับกรณีของชาวประมงคนนี้ Alejandro Ramos Martinez ชาวเปรู ได้ดำลงไปใต้ท้องทะเลเพื่อหาสัตว์ทะเลเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้กลับเกิดความผิดพลาดอย่างร้ายแรง นั่นจึงทำให้ร่างกายของเขาบวมขึ้นอย่างน่าตกใจ!! ความผิดพลาดนี้เกิดจากการที่เขาลอยขึ้นไปยังผิวน้ำเร็วเกินไป ส่งผลให้ไนโตรเจนในเลือดก่อตัวกันเป็นฟองอากาศจำนวนมหาศาล และทำให้ร่างกายพองตัวเหมือนลูกโป่ง ไนโตรเจนที่พองตัวในถุงน้ำดีนั้นทำให้ร่างกายถูกบีบอัดจน Alejandro รู้สึกเจ็บปวด ทรมานไปหมด จนต้องไปให้คุณหมอช่วยเหลือ คุณหมอได้ให้การรักษาเบื้องต้น จนลมในร่างกายลดลงไปประมาณ 30% แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นลมในร่างกายของ Alejandro ยังเหลืออยู่จำนวนมาก สำหรับโรคนี้มีชื่อเรียกว่า โรคน้ำหนีบ เป็นโรคที่มีโอกาสเกิดได้กับนักดำน้ำทั้งหลาย เกิดจากการดำน้ำลึกมากกว่า30 ฟุตและใช้เวลานานเกินกำหนด จากนั้นก็ขึ้นสู่ผิวน้ำทันทีโดยไม่หยุดลดความกดดันภายในร่าง ซึ่งอาจมีผลกระทบที่ร้ายแรงต่อร่างกาย อย่างเช่น ข้อต่อบวม ผิวหนังอักเสบ สมองได้รับความเสียหาย เป็นอัมพาต ไอ เวียนศีรษะ และคลื่นไส้ แต่กรณีของ Alejandro ไนโตรเจนได้ก่อตัวกันเหมือนลูกโป่งในบริเวณกล้ามเนื้อของเขา ซึ่งถือเป็นกรณีที่พิเศษที่ไม่เหมือนเคสอื่นๆ ขณะนี้คุณหมอได้ให้การรักษาด้วยออกซิเจนในห้องที่มีแรงดันสูง Miguel Alarcon แพทย์จากโรงพยาบาล San Juan de Dios Hospital…
-
พนักงานส่งของหวังดี วางพัสดุไว้ให้ใต้ลูกบิดประตู กลายเป็นขังเจ้าของไว้ในบ้านซะงั้น!?
เป็นธรรมดาสำหรับพนักงานส่งที่จะวางพัสดุไว้หน้าบ้าน กรณีที่เจ้าของไม่อยู่บ้านหรือไม่มีคนออกมารับของ แต่จะวางสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ เดี๋ยวของหายแล้วยุ่งเลย… สำหรับกรณีนี้ไม่ต้องกลัวของหายหรอก เพราะพนักงานส่งของได้วางพัสดุเอาไว้หน้าบ้านเป็นอย่างดี แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำนี้ได้ขังเจ้าของบ้านไว้โดยไม่รู้ตัว!? เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองดับลิน รัฐแคลิฟอร์เนีย พนักงานส่งของจาก UPS ได้นำพัสดุไปวางไว้หน้าบ้านติดกับลูกบิด หวังจะให้เจ้าของบ้านเห็นทันทีที่เปิดประตู เหมือนภาพด้านล่างนี้ ดูเหมือนพนักงานจะลืมดูลักษณะของลูกบิดนะ เพราะถ้าบิดจากข้างใน ที่จับด้านนอกจะต้องหมุนลงไปข้างล่างด้วย แต่ตอนนี้มันไม่สามารถลงได้เพราะมีของมาขวางอยู่ แล้วจะบิดประตูยังไงล่ะทีนี้!? หลังจากเกิดเรื่องนี้ Jessie Lawrence ก็ได้โพสต์ทวิตเตอร์ว่าเขาถูกขังอยู่ในบ้านด้วยความไม่รอบคอบของพนักงานส่งของคนหนึ่ง เขาต้องโทรเรียกคนซ่อมบำรุงอาคารมาย้ายของออก จนสามารถเปิดประตูได้ในที่สุด หลังจากนั้นโพสต์ของเขาก็มีคนเข้ามากดไลค์กว่า 137,000 คน และรีทวิตอีก 53,000 ครั้ง บางคนก็เข้ามาแซวเล่นขำๆ ด้วย พนักงานส่งของคงจะบอกว่า “ผมได้ยินคนอยู่ข้างใน แต่ไม่มีใครเปิดประตูให้ ก็เลยจัดให้อยู่ในบ้านไปนานๆ ซะเลย” พนักงานส่งของไม่ทำแบบนั้นหรอก เพื่อนบ้านจอมแสบของคุณต่างหากที่เป็นคนทำ ต่อมา เมื่อทาง UPS ทราบเรื่องดังกล่าวจึงได้เขียนขอโทษ Jessie ว่า “เราต้องขออภัยสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น เรายินดีที่จะช่วยเหลือคุณ กรุณาคลิ๊กปุ่มด้านล่างนี้ เพื่อรายงานปัญหาของคุณให้เราทราบ” แต่ดูเหมือนมันจะเป็นข้อความตอบกลับอัตโนมัติมากกว่านะ… (เหมือนกับผู้ให้บริการต่างๆ ในเว็บบอร์ดไทยหลักหมื่นแถวๆ นี้เลย)…
-
“บ้านแม่มดแห่งซาเล็ม” สิ่งก่อสร้างเดียวที่หลงเหลืออยู่ จากเหตุการณ์ล่าแม่มดในปี 1692
หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคดีล่าแม่มดแห่งเมืองซาเล็ม ที่เคยเกิดขึ้นในอเมริกาในปี 1692 ซึ่งโด่งดังมากในยุคสมัยนั้น และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ มารับชม “บ้านแม่มดแห่งซาเล็ม” สิ่งก่อสร้างเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์ล่าแม่มดนั่นเอง สำหรับบ้านหลังนี้ ถือเป็นบ้านที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองซาเล็ม รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของคือ ผู้พิพากษาจอมแขวนคอนามว่า Jonathan Corwin โดยบ้านหลังดังกล่าวได้ถูกสร้างขึ้นในระหว่างปี 1620 และ 1642 จนกระทั่ง Jonathan ในวัย 35 มาซื้อในปี 1672 ซึ่งเขาก็ได้เป็นผู้ครอบครองบ้านหลังนี้มานานถึง 4 ทศวรรษเลยทีเดียว โดยในช่วงเวลานั้น Jonathan Corwin ได้ทำการพิพากษาคดีล่าแม่มดภายในบ้านหลังนี้ และระหว่างการไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด เด็กหญิงหลายคนเกิดอาการเป็นลมหน้ามืดขึ้นมาอย่างรุนแรง ทำให้คนที่เฝ้าดูอยู่ ต่างพากันเชื่อว่านี่คือการกระทำของแม่มด และยิ่งเวลาผ่านไป การกล่าวหาและตามล่าแม่มดก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น หลากหลายชีวิตต้องถูกสังเวยจากการไต่สวนที่ไม่เป็นธรรม จนกระทั่งในที่สุดแล้วศาลพิเศษนี้ก็ถูกล้มเลิกไป เนื่องจากการพิจารณาคดีนั้นมีหลักฐานที่ไม่เพียงพอ บ้านแม่มดแห่งซาเล็ม เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมสไตล์นิวอิงแลนด์ ภายในจะประกอบไปด้วยห้อง 2…
-
มาได้ยังไง!? เมื่อป้ายบอกข้อมูลใจกลางเมือง แสดงหน้าเว็บโป๊โจ๋งครึ่มแบบไม่อายฟ้าดิน ฮร่า
ในปัจจุบันนั้นป้ายโฆษณาหรือป้ายให้ข้อมูลต่างๆ ก็ล้วนปรับเปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิตอลกันหมดแล้ว และด้วยความเป็นดิจิตอลนี้เอง ก็ทำให้เกิดความผิดพลาดจากฝ่ายควบคุมป้ายอยู่บ่อยๆ อย่างเช่นเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2017 ป้ายบอกข้อมูลที่ตั้งภายในศูนย์การค้า Southwater ในเมือง Telford เกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา เพราะแทนที่จะโชว์ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ก็ดันกลายมาเป็นหน้าเว็บโป๊ซะอย่างนั้น… แน่นอนว่าเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น กว่าฝ่ายดูแลจะรู้ตัวก็มีประชาชนคนพบเห็นไปหลายรายแล้ว และจนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ตัดสินใจตัดอินเตอร์เน็ตของป้ายทุกตัวในศูนย์การค้าเป็นการชั่วคราว เพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กลับมามาอยู่ในสภาพปกติอีกครั้ง ด้าน Emily Taylor ตัวแทนจากสภาเมือง ไม่เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นมาจากภายในองค์กร แต่มันจะต้องเกิดจากการที่มีมือดีเข้ามาแฮคและเล่นพิเรนทร์แน่ๆ ซึ่งจะต้องให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบหาต้นตอที่ชัดเจน เดิมทีแล้วป้ายดังกล่าวจะแสดงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับศูนย์การค้าและใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ รวมถึงโฆษณาต่างๆ แต่การมาเยือนของเว็บโป๊นั้น ก็อาจจะเป็นการโฆษณาแบบเนียนๆ ก็เป็นไปได้เหมือนกันนะ… ที่มา metro
-
ชาวบ้านจีนทำพิธี ‘แห่สุนัข’ ขอความอุดมสมบูรณ์ ฉลองความเท่าเทียมแห่งชีวิต
ความเชื่อนั้นถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์กันมาอย่างช้านาน โดยเฉพาะกับสังคมที่เกิดร่างฐานมาจากความเชื่อ อย่างหมู่บ้านในละแวกพื้นที่อันห่างไกลนั้น ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มกำลังใจในการใช้ชีวิตของพวกเขา ล่าสุดชาวจีนชนเผ่าแม้ว ที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ตอนกลางของประเทศจีน ก็ได้จัดพิธีแห่สุนัขขึ้นมา แต่อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นแห่เพื่อกินหรืออะไรนะ อย่าพึ่งคิดว่าคนจีนจะกินสุนัขไปเสียทั้งหมด… เพราะสุนัขในงานแห่นี้ถือเป็นตัวแทนแห่งความสุขของพวกเขา โดยพวกเขาจะดูแลเอาใจใส่เจ้าตูบที่พวกเขาเอามาแห่กันเป็นอย่างดี โดยพิธีนี้มีชื่อว่าพิธี taigoujie (抬狗节) หรือในชื่อภาษาไทยว่า ‘พิธีแห่สุนัข’ ฟังดูแล้วเหมือนพิธีแห่นางแมวขอฝนในบ้านเราเลย โดยจะมีจุดประสงค์ที่คล้ายกันนิดหน่อย เพราะพิธีแห่สุนัขนั้นทำเพื่อขอลม ขอความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผลผลิตของพวกเขา รวมถึงขอบคุณที่มอบชีวิตที่เท่าเทียมและความสุขให้กับชาวบ้านนั่นเอง ขั้นตอนในการทำพิธีกรรมก็ง่ายมาก พวกเขาจะนำเสื้อผ้าทอและเครื่องเงินมาสวมให้กับสุนัข จากนั้นก็ให้พ่อหมอของหมู่บ้านมานำพิธี โดยให้เจ้าตูบนั่งเก้าอี้และแห่ไปตามหมู่บ้าน พร้อมกับเสียงดนตรีที่แสดงถึงความสุขของชาวบ้าน นอกจากนั้นพวกเขายังปาโคลนใส่กันเพื่อแสดงถึงความสงบสุข และความสุขที่พวกเขาได้รับตลอดมา ช่วงทำพิธีก็ดูจะเป็นห่วงเจ้าตูบกันสุดๆ เจ้าตูบก็คงรู้สึกว่า ได้เที่ยวรอบหมู่บ้านแบบ VVIP ดูๆ ไปก็น่ารักดีนะ ส่วนสาเหตที่ทำไมต้องเป็นสุนัขนั้น ก็เล่าขานกันมาตามความเชื่อดั้งเดิมที่ว่า สุนัขเป็นสัตว์ที่นำพาชาวบ้านไปเจอกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทำให้ชาวบ้านรอดพ้นจากความแห้งแล้งนั่นเอง สุนัขสบายดี ชาวบ้านแฮปปี้ ที่มา shanghaiist
-
ร้านแมคโดนัลด์สาขาที่สาม หนึ่งในสาขาที่เก่าแก่ที่สุด เปิดมาตั้งแต่ปี 1953 จนถึงปัจจุบัน…
แมคโดนัลด์เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ผู้คนใช้บริการมาเป็นเวลานาน โดยมีสาขาใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก แล้วเราเคยสงสัยมั้ยว่าสาขาที่เก่าแก่ที่สุดเปิดมาตั้งแต่ปีอะไร ปัจจุบันยังอยู่มั้ย และมันตั้งอยู่ที่ไหน? เว็บไซต์ Thevintagenews ได้เปิดเผยว่าหนึ่งในร้านแมคโดนัลด์สาขาที่เก่าแก่ที่สุด ตั้งอยู่ที่ 10207 Lakewood Boulevard ใน Florence Avenue รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นสาขาที่ 3 เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 1953 สำหรับตำนานร้านอาหารแมคโดนัลด์นั้น เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1937 โดยสองพี่น้อง Richard และ Maurice McDonald เปิดร้านอาหารที่ชื่อว่า Airdrome ก่อนที่จะย้ายอาคารที่ตั้งในปี 1940 มาที่ 1398 North E Street เป็นรูปแบบอาหารบาร์บีคิวไดรฟ์ทรู ในเมืองแซนเบอร์นาร์ดีโน ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และพบว่ากำไรจากการขายอาหารส่วนใหญ่นั้นมาจากเมนู ‘แฮมเบอร์เกอร์’ จากนั้นในปี 1948 ทางร้านก็ได้ปิดให้บริการเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้งในเดือนธันวาคมในรูปแบบเพิงขายมีที่นั่งด้านนอกแบบชั่วคราวเพียงเล็กน้อย โดยมาพร้อมเมนูใหม่คือ แฮมเบอร์เกอร์ มันฝรั่งทอด และน้ำส้ม และภายปีต่อมาได้เพิ่มเฟรนซ์ฟราย…
-
สาวผู้ตกเป็นเหยื่อสาดน้ำกรด เผยภาพหลังการรักษา ไม่มีรอยแผลเป็นเลยแม้แต่น้อย!!
การโจมตีด้วยน้ำกรดถือเป็นหนึ่งในการทำร้ายร่างกายที่เลวร้ายที่สุด เพราะแม้จะไม่ถึงกับตาย แต่การต้องใช้ชีวิตหลังจากนั้นไม่ต่างจากการตายทั้งเป็นเลย… สำหรับกรณีของ Resham Khan หญิงสาววัย 21 ปี ถูกสาดน้ำกรดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่เธออาศัยอยู่กับญาติ Jameel Muhktar ในลอนดอนตะวันออก แต่ 3 เดือนหลังจากเกิดเหตุ หญิงสาวได้โพสต์ภาพการฟื้นตัวหลังการรักษา เผยให้เห็นใบหน้าที่ไม่รอยแผลเป็นจากการถูกสาดน้ำกรดแม้แต่น้อย สำหรับสาเหตุนั้นเกิดจากที่มีคนพยายามปั่นป่วนและด่าทอเธอผ่านอินสตาแกรม หญิงสาวรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงเลี่ยงด้วยการไม่ตอบข้อความของเขา จนกระทั่งวันที่ 21 มิถุนายน เธอก็ถูกชายคนดังกล่าวลอบทำร้าย ด้วยการสาดน้ำกรดใส่โดยไม่ทันได้ตั้งตัว… นาย Muhktar ลูกพี่ลูกน้องของเธอ เล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่า “Khan กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ตาของเธอพุพอง ใบหน้าเริ่มละลาย ส่วนผมโดนแค่ด้านข้าง แต่มันก็แสบไม่ใช่เล่นเลย” หลังจากนั้นหญิงสาวก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลทันที แพทย์ได้ทำการผ่าตัดใบหน้าให้และรักษาด้วยขั้นตอนต่างๆ จนทำให้ใบหน้าของเธอกลับมาอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ภายในเวลา 3 เดือนเท่านั้น สภาพของเธอหลังจากโดนน้ำกรดสาด ต่อมาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม John Tomlin คนที่สาดน้ำกรดใส่หญิงสาวได้ปรากฏตัวต่อหน้าศาล Snaresbrook…
-
ชุดภาพของมาริลิน มอนโร ตอนรับสเด็จควีนอลิซาเบธที่ 2 เมื่อปี 1956 ดูปังมาก
ถ้าถามว่าผู้หญิงที่คนไหนทรงอิทธิพลต่อโลกมากที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 20 คงจะต้องมีชื่อของ สมเด็กพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และ มาริลิน มอนโร นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่จากทางฝรั่งอเมริกา แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า.. ครั้งหนึ่งมาริลิน มอนโร เคยเข้าเฝ้ารับสเด็จการมาเยือนของราชินีอลิซาเบธที่ 2 มาแล้ว จนกลายมาเป็นภาพแห่งตำนานที่ยังดูปังมาจนถึงทุกวันนี้ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1956 เป็นปีเดียวกับการจัดงาน Royal Film Premier ในกรุงลอนดอน และภายในงานจะมีการฉายหนังเรื่อง ‘The Battle of The River Plate’ เป็นรอบปฐมทัศน์ด้วย ซึ่งทั้งสองก็ได้เข้าชมหนังรอบดังกล่าว ถึงแม้ว่าอันที่จริงมอนโรจะไม่ได้มีบทบาทในหนังเรื่องข้างต้นแต่อย่างใด แต่เมื่อสมเด็จพระราชชินีนาถอลิซาเบธทรงสเด็จ เธอก็เป็นหญิงสาวเพียงไม่กี่คนที่มีสิทธิได้รับเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด บรรยากาศภายในงานก็เป็นไปอย่างง่ายๆ องค์ราชินีทรงจับมือทักทายกับมอนโรพอเป็นพิธี จากนั้นทั้งสองคนก็กล่าวคำพูดทักทายกันเล็กน้อย ในช่วงเวลานั้นทั้งสองต่างมีอายุได้ 30 ปี เท่ากัน แต่ใครเล่าจะรู้ว่า… หลังจากนั้น 6 ปี มาริลิน…
-
Google Street View จับภาพ “คุณป้าปั่นจักรยานตกร่องน้ำ” กลายเป็นความฮาระดับนานาชาติ..!!
บ่อยครั้งเรามักจะเห็นภาพตลกโปกฮาโดยไม่ได้ตั้งใจของชาวบ้าน ที่ดั๊นมาปรากฎโชว์อยู่บนภาพของกูเกิลสตรีท งานนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทนอายไปอีกกี่ปี (กว่าจะเปลี่ยนภาพใหม่) ซึ่งล่าสุดก็ได้มีชาวเน็ตตาดีผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @ichigoKJC บังเอิญสังเกตเห็นภาพของคุณป้านิรนามคนหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าปั่นจักรยานอีท่าไหน ต๊กกะใจโม๊ะเลย!! ภาพของคุณป้าสุดฮาปรากฎขึ้นมา เมื่อเจ้าตัวลองมาสำรวจพื้นที่ย่านฟูจิเอดะ ในเมืองชิซูโอกะ แต่ดูเหมือนชาวเน็ตคนนี้จะเจอสิ่งที่น่าสนใจกว่า… เอ้าา สู้เขาคุณป้า คุณป้าแกจะค่อยๆ ปั่นมาอย่างช้าๆ ราวกับว่ากำลังบริหารร่างกาย โผล๊ะ..!! เสียงถุงแกงแตกทันทีเมื่อตกพื้น ตอนแรกคุณป้าก็แอบงงๆ ปั่นอยู่ดีๆ มายืนได้ไง ดูเหมือนว่าแรงโน้มถ่วงของโลกจะหมุนเอียง คุณป้าถึงกับต้องเอนกล้ามเนื้อเอวไปข้างหน้าตามเลย เพียงชั่วพริบตาเดียวจักรยานของคุณป้าก็ถูกโลกดูดลงไป เช่นเดียวกับขาของเธอ หรือนี่จะเป็นจุดจบนะ โอ้ววไม่นะ.. สู้ต่อไปคุณป้าทานาโกะจัง (ชื่อมั่วเอา) ดูเหมือนว่าคุณป้ามิอาจต้านแรงจีของโลกได้ เธอจึงต้องยอมสละทั้งตัวเองและจักรยานก้าวลงไปในท่อน้ำทิ้ง อ้ออ๊อยยย… หลังจากที่มีชาวเน็ตนำเรื่องนี้มาโพสต์บนอินเตอร์เน็ต ก็มีหลายคนออกมาแสดงความเห็นว่า เหตุใดรถกูเกิ้ลถึงใจร้ายใจดำไม่ยอมลงไปช่วยคุณป้า ในขณะที่อีกหลายๆ คน ต่างก็แสดงความคิดเห็นเชิงเป็นห่วงเป็นใย ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะผ่านมานานแล้วแต่ความตลกของคุณป้าจะอยู่ในใจทุกคนเสมอ… แรงโน้มถ่วงของโลกเรามันรุนแรงจริงๆ ขับรถขับราต้องระวังไว้นะจ๊ะ ที่มา: Rocketnews24
-
หนูน้อยป่วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่ กลับมายิ้มได้อีกครั้ง หลังสู้ฝ่าฟันรับการศัลยกรรม
หลังจากที่ Charlotte Halliday คุณแม่วัย 23 ปี จากควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย ได้ให้กำเนิดลูกชายตัวน้อยขึ้นมาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2017 เธอก็พบกับความจริงอันน่าสะเทือนใจว่า เด็กชายเกิดมาพร้อมอาการผิดปกติเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ แน่นอนว่าวิธีการรักษาโรคปากแหว่งฯ นี้มีเพียงวิธีเดียว นั่นก็คือการผ่าตัดศัลยกรรม แต่การผ่าตัดเด็กน้อยอายุไม่ถึงหนึ่งขวบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวการต่อสู้ของเด็กน้อย กับการเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อที่จะได้กลับมามีรอยยิ้มสดใสน่ารักเฉกเช่นเด็กคนอื่นๆ อีกครั้ง หนูน้อยชาร์ลี เรื่องราวการต่อสู้ของชาร์ลีนั้นไม่ธรรมดาเลย เพราะหนูน้อยเพิ่งมีอายุได้เพียงแค่ 8 สัปดาห์เท่านั้น สำหรับหัวอกคนเป็นแม่แล้ว คงไม่มีอะไรจะน่ากลัวและน่าเป็นห่วงไปมากกว่าการส่งลูกน้อยเข้าห้องผ่าตัด “ดิฉันกลัวมากเลยค่ะ กลัวว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก เพราะเขาทั้งยังเด็กมากๆ ก็ต้องมาต่อสู้กับการผ่าตัดซะแล้ว” คุณแม่กล่าว สำหรับหนูน้อยชาร์ลี หลังการผ่าตัดก็มีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย หนูน้อยก็สามารถที่จะฉีกแก้มสร้างรอยยิ้มให้เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ แล้ว “มันเป็นหลากหลายความรู้สึกที่รวมกันจนบอกไม่ถูก ตอนแรกที่รู้ว่าลูกเราป่วยเราก็แอบเศร้า แต่พอคุณหมอสามารถช่วยเหลือได้ เราก็ดีใจเช่นกัน” และนี่เป็นภาพเปรียบเทียบหลังการผ่าตัดสำเร็จ เรียกได้ว่า Charlie ได้กลับมามีความสุขแบบที่ควรจะเป็นอีกครั้ง …
-
เหล่าคุณแม่ร่วมใจบริจาคน้ำนม ช่วยเหลือเด็กน้อยผู้ประสบภัย จนมีพอกินได้ทั้งปี..!!
อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการพัดถล่มของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วี่ย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เราคงเคยเห็นภาพของประชาชนออกมาแจกอาหาร และของยังชีพต่างๆ แต่คราวนี้กลับแตกต่างและพิเศษออกไป เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานถึงความเสียสละของคุณแม่ Danielle Palmer ชาวเมือง Owensville ว่า ทันทีที่เธอเห็นว่าเกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ เธอก็รู้สึกได้ทันทีว่าเธอควรทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยเหลือเด็กคนอื่นๆ ที่มีรุ่นราวคราวเดียวกับลูกของเธอ “ดิฉันเข้าใจว่าในช่วงเวลาแบบนี้เราควรดูแลซึ่งกันและกัน มีคุณแม่อีกหลายคนที่ประสบปัญหาเต้านมคัด ฉันเข้าใจดีไม่ว่าคุณจะพยายามแค่ไหนน้ำนมมันก็ไม่ออกมา และเราควรทำตัวเป็นเหมือนแม่หมี คือช่วยกันดูแลลูกของกันและกันด้วย” Danielle Palmer กล่าว หลังจากเริ่มแคมเปญ ตอนนี้มีคุณแม่บริจาคน้ำนมเข้ามาแล้วกว่า 364 ขวด หลังจากนั้นน้ำนมทั้งหมดที่คุณแม่บริจาคมา จะถูกส่งไปเก็บแช่เย็นไว้อย่างดีในสถาบันที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองแดลลัส รัฐเท็กซัส “คุณแม่ทุกคนย่อมรู้ดีว่าความเครียดส่งผลต่อการให้นมลูกมากขนาดไหน เมื่อไหร่ที่พวกเธอรู้สึกเครียด หรืออยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก มันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะสามารถเค้นนมให้ลูกดื่มได้” เจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์ และน้ำนมทั้งหมดก็จะถูกส่งไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่ประสบภัยในครั้งนี้… ผู้คนย่อมไม่ทิ้งกันให้ ช่วยเหลือกัน ไม่ปล่อยให้ลำบากอย่างเดียวดาย ที่มา: Dailymail
-
รู้จักกับ ‘วัดเสียนคง’ อายุกว่า 1,500 ปี ถูกสร้างไว้บนหน้าผา ด้วยฝีมือของพระสงฆ์เพียงรูปเดียว…
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้พาคุณไปพบกับความหวาดเสียวกับทางเดินริมหน้าผาหัวซาน (อ่านข่าวเก่า ปลุกความกล้าในตัวคุณ สัมผัสทางเดินสุดหวาดเสียวบน “หน้าผาหัวซาน” ประเทศจีน) และครั้งนี้เรากลับมาอีกครั้ง พร้อมกับวัดโบราณจากประเทศจีนที่น่าหวาดเสียวไม่แพ้กัน!! วัดดังกล่าวมีชื่อว่า “วัดเสียนคง” วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาของหุบเขาเหิงซาน ในมณฑลซานซี ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินเกือบ 100 เมตรเลยทีเดียว ความน่าทึ่งของวัดยังไม่หมดแค่เพียงเท่านี้ เพราะวัดอันแสนเก่าแก่นี้ ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในปีคริสต์ศักราชที่ 491 หรือเมื่อกว่า 1,500 ปีที่แล้ว และตามตำนานเล่าว่าวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่ชื่อว่า เล่าเหลียน ในช่วงสมัยของราชวงศ์เว่ย วัดเก่าแก่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 15 ศตวรรษ เสาค้ำยันอาคารที่ถูกเพิ่มเข้ามาไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมา เพราะเหตุผลในเรื่องของความปลอดภัย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมาก แต่การจะสร้างสิ่งก่อสร้างที่เหมือนกับวัดเสียนคง ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่ดี ส่วนสาเหตุหลักของการสร้างวัดแห่งนี้ก็คือ การหลีกเลี่ยงปัญหาน้ำท่วม และการใช้ประโยชน์จากหน้าผาเหิงซาน เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติอื่นๆ อย่างเช่นฝนและหิมะ และนอกจากความน่าทึ่งทางด้านวิศวกรรมแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านของมรดกโลกที่สำคัญอีกด้วย ซึ่งวัดเสียนคง นั้นเหมือนเป็นตัวแทนของหลักความเชื่อจากทั้ง 3 ศาสนาได้แก่ พุทธ ขงจื้อ และลัทธิเต๋า ในวิหารแขวนที่ยาวกว่า 300 เมตรนี้ ประกอบไปด้วยห้องโถงกว่า 40 ห้อง…
-
เด็กชาย 9 ขวบ เดินข้ามภูเขาสองลูกไปโรงเรียนทุกวัน แม้จะเป็นนักเรียนเพียงคนเดียวก็ตาม…
บางครั้งอุปสรรคของการศึกษาก็อาจจะมาในรูปที่หลายคนคาดไม่ถึง อย่างเช่นในเรื่องของระยะทาง หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเห็นข่าวของเหล่าเด็กที่ต้องขาดโอกาสทางการศึกษาไป เพียงเพราะว่าพวกเขาอยู่ห่างไกลจากสถานศึกษา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเด็กๆ อีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคเหล่านี้ พวกเขายังคงหาทางมาโรงเรียนให้ได้ถึงแม้ว่าเส้นทางนั้นจะยากลำบากเพียงไหน เหมือนกับเจ้าหนูน้อยจากประเทศจีนคนนี้!! พบกับเรื่องราวของ หลี่เจี้ยนเวิ่น และเรื่องราวการเดินทางฝ่าอุปสรรคเพื่อทำตามความฝัน เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2017 เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกของโรงเรียนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ของโรงเรียนประถมต้าเหยียนต้ง อำเภอหลิวเฉิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของประเทศจีน โดยหนูน้อยวัย 9 ขวบ ต้องออกเดินจากบ้านของเขาไปตามถนนหนทางเพียงลำพัง เพื่อไปเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เขาจะต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เพื่อเดินตามเส้นทางผ่านภูเขาถึง 2 ลูก เจ้าหนูบอกว่า “การเดินป่าสำหรับผมนั้นไม่ใช่เรื่องยากและน่ากลัวสักเท่าไหร่ เพราะความใฝ่ฝันของผมก็คือการได้เรียนหนังสือ และวันหนึ่งผมหวังว่าจะได้มีโอกาสไปได้ไกลกว่านี้” เส้นทางระหว่างการไปโรงเรียนของหลี่เจี้ยนเวิ่น หมู่บ้านของเจ้าหนูน้อยนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง โดยในหมู่บ้านดังกล่าวมีผู้คนอาศัยอยู่เพียงแค่ 360 คนเท่านั้น และหลังจากจบภาคเรียนเมื่อปีก่อน นักเรียนชั้น ป.3 ของที่นี่ก็ทยอยไปเรียนที่อื่นจนหมด เหลือแค่เด็กชายหลี่ที่อยู่ชั้น ป. 1 ซึ่งเป็นนักเรียนเพียงคนเดียวของโรงเรียนแห่งนี้ หลี่เจี้ยนเวิ่นนักเรียนเพียงคนเดียวของโรงเรียนแห่งนี้ . คุณครูปุ้นซิง อาจารย์เพียงคนเดียวของโรงเรียนประถมแห่งนี้…
-
นักศึกษาชาวแคนาดา ค้นพบหมู่บ้านเก่าแก่ที่หายไป อายุมากกว่าปิรามิดอียิปต์ถึง 10,000 ปี..!!
นับเป็นเวลานานหลายสิบปีที่กลุ่มโบราณคดี Heiltsuk Nation ได้พยายามศึกษาและค้นคว้าวัตถุโบราณในแถบรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา และล่าสุดนับว่าเป็นการค้นพบระดับโลกเลยก็ว่าได้ เมื่อทีมนักศึกษาชาวแคนาดา สามารถค้นพบหมู่บ้านที่มีอายุเก่าแก่มากกว่าปิรามิดอียิปต์โบราณถึง 10,000 ปีเลยล่ะ โดย Alisha Gauvreau ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีและนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยวิคตอเรีย ได้นำทีมนักศึกษาเข้าไปสำรวจยังบริเวณเกาะ Triquet ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปี 2016 ทีมสำรวจได้ขุดพบชิ้นส่วนหลักฐานทางโบราณคดี ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ที่ทำจากไม้ ถ่านหิน และหลักฐานทุกชนิดที่เชื่อมโยงไปถึงวัฒนธรรมชุมชนอันเก่าแก่ ณ ที่แห่งนี้ Triquet Island เมื่อทีมสำรวจได้เก็บตัวอย่างถ่านหิน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ขุดพบ เพื่อไปศึกษาหาอายุขัยของมันก็พบว่า ทั้งหมดล้วนเป็นวัตถุที่มีอายุเฉลี่ยมาแล้ว 13,613 – 14,086 ปี ซึ่งก็นับว่าเป็นช่วงเวลาก่อนการเกิดขึ้นของอารยธรรมอียิปต์โบราณเสียอีก แล้วการค้นพบดังกล่าวมันสำคัญอย่างไร? เพราะแค่อ่านเผินๆ เราอาจจะรู้สึกว่าเป็นการค้นพบที่ค่อนข้างไกลตัว แต่อันที่จริงในการค้นพบครั้งนี้ช่วยให้นักโบราณคดีรู้และเข้าใจความเป็นมาของวัฒนธรรมในแถบทวีปอเมริกาเหนือมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เคยมีการแบ่งทฤษฏีที่พูดถึงการย้ายถิ่นฐานเข้ามาของมนุษย์ในแถบทวีปอเมริกาเหนือ ส่วนหนึ่งเชื่อว่ามาจากการเดินทางหลังยุคน้ำแข็ง และอีกส่วนหนึ่งกลับเชื่อว่ามาจากเรือค้าขายในครั้งสมัยโบราณ “การค้นพบครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญมากๆ เพราะมันจะช่วยพาเราย้อนกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์ในหลายๆ ส่วนที่เราอาจเคยตกหล่นไปในอดีต ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นปัญหาที่เราพยายามหาคำตอบมานานนับ 1,000…
-
แม่โพสต์ตัดพ้อ อยากให้มีคนมา “งานวันเกิดลูกออสทิสติก” ตำรวจทั้งโรงพัก ก็ชวนชาวบ้านมากันเพียบ!!
การฉลองวันเกิดอาจเป็นเหตุการณ์สำคัญที่วัยรุ่นทุกคนต้องการที่จะฉลองซักครั้งในชีวิต โดยเฉพาะสำหรับชาวอเมริกันที่จะสามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างถูกกฎหมายในวัย 21 ปี มันเลยเป็นช่วงชีวิตที่สำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับการฉลองวันเกิดปีที่ 21 ของหนุ่ม Matthew แต่งานนี้มันไม่เหมือนกับคนอื่นเพราะว่าหนุ่มน้อยคนนี้มีอาการผิดปกติทางสมองหรือออทิสติกนั่นเอง ซึ่งมันทำให้เขาไม่สามารถพูดและเคลื่อนไหวร่างกายได้ด้วยตัวเอง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คุณ Kim Davis-Robinette แม่ของเขาละความพยายามที่จะจัดงานวันเกิดให้เขาได้เลย ภาพของ Kim Davis-Robinette แม่ของเขา และ matthew ลูกชายแสนรัก คุณแม่ได้ทำการโพสต์ลงในเฟสบุ๊คว่า “นี่คือคำขอพิเศษสำหรับวันเสาร์นี้ แมธธิวลูกชายของฉันกำลังจะมีอายุครบ 21 ปี และฉันต้องการที่จะทำอะไรเพื่อเขาสักอย่างในวันเกิดของเขาในปีนี้ สิ่งที่เค้าโปรดปรานมากที่สุดก็คือการชมขบวนพาเหรด ดังนั้นฉันจึงอยากให้เขามีขบวนพาเหรดวันเกิดของตัวเองซักครั้ง ฉันขอความร่วมมือจากเพื่อนๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้ขับรถผ่านหน้าบ้านของฉันและบีบแตร เขาชอบรถทุกชนิดทั้งรถจักรยานยนต์หรือแม้กระทั่งรถตำรวจ ฉันหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากทุกคนในวันเสาร์นี้นะ” หลังจากที่เธอโพสต์ไปเธอก็ไม่คิดว่าจะมีคนเห็นอกเห็นใจเธอและร่วมมือกันจัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ลูกชายของเธอเยอะขนาดนี้ เช้าวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคมก็เกิดสิ่งที่ไม่น่าคาดคิดขึ้น เมื่อขบวนพาเหรดของหนุ่มน้อยแมทธิวได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!! ขบวนพาเหรดประกอบด้วยรถตำรวจ รถดับเพลิง จักรยาน หรือแม้กระทั่งรถซิ่ง แถมด้วยวงโยธวาทิตด้วย เจ๋งไหมล่ะ แมทธิวดูมีความสุขมากๆ ถึงแม้ว่าเขาจะพูดออกมาไม่ได้แต่ก็สังเกตจากรอยยิ้มที่มีความสุขมากๆ ของเขาได้ พี่ชายของแมทธิวกล่าวว่า “นี่เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมากๆ…
-
เพื่อนรักได้กลับมาเจอกันอีกหลังผ่านไป 16 ปี เพราะลูกสาวของทั้งคู่ ดั๊นมาอยู่หอเดียวกัน!!
ในชีวิตมหาลัย เชื่อว่าหลายๆคนจะต้องพบเจอกับประสบการณ์การอยู่หอใน ซึ่งคุณก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้มาอยู่กับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนซักนิด แต่ภายหลังมารูมเมทของคุณอาจกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณก็ได้นะ เรื่องบัญเอิ๊ญบังเอิญโลกกลมพรหมลิขิตครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ Nissma Bencheikh กับ Roaya Jannatipour ได้พบกันขณะที่รายงานตัวเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ แล้วรู้สึกถูกชะตา ทั้งสองสาวก็เลยกลายเป็นเพื่อนสนิทกันและกลายเป็นรูมเมทในช่วงปีที่ 2 แต่เรื่องที่ทำให้สองสาวต้องประหลาดใจสุดๆไปเลยก็เมื่อรู้ว่าแม่ๆ ของพวกเธอเป็นเพื่อนรักที่ห่างจากกันไป 16 ปี!! ในวันที่ย้ายของเข้าอพาร์ตเมนท์ Roaya ได้วิดีโอคอลหาแม่หาเธอเพื่อแนะนำให้รู้จัก Nissma และพ่อของเธอผู้ที่มาช่วยขนของในครั้งนี้ พ่อแม่ของเธอคุยกันสักพักก็พบว่านี่แหละเพื่อนที่หายไปในเวลา 16 ปีที่ผ่านมา เมื่อ 16 ปีที่แล้วทั้งสองครอบครัวมีเหตุจำเป็นต้องแยกกันไป หลังจากครอบครัวของ Roaya ต้องย้ายจากแคนนาดาไปแคลิฟอร์เนีย และครอบครัวของ Nissma ย้ายไปทางตอนเหนือของรัฐเวอร์จิเนีย แต่ด้วยเทคโนโลยีเมื่อ 16 ปีก่อนยังไม่มีคอมพิวเตอร์ อีกทั้งโทรศัพท์ก็ยังใช้งานได้ไม่ค่อยดีนัก ทำให้ทั้งสองครอบครัวต้องห่างหายกันไป และแล้วเพื่อนรักทั้งสองก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง… Naima Souissi และ Saida Chehboun สวมกอดกันทันทีที่ได้เจอหน้ากันและร้องไห้ไม่หยุด คุณแม่ทั้งสองได้เล่าถึงมิตรภาพอันดีงามในอดีตของทั้งสองว่า ทั้งสองเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมากๆ พวกเธอได้ตั้งครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน…
-
เอ็งทำท่าไหน!? เด็กชายวัย 11 ปี ต้องเข้าผ่าตัดด่วน หลังเล่นลูกบอลแม่เหล็ก 26 ลูกไปติดในหรรมส์
นี่อาจจะเป็นเรื่องที่เด็กชายวัย 11 ปีคนนี้จะต้องจดจำไปตลอดชีวิต แหม่… ยังไม่ทันโตเป็นหนุ่มก็เกือบจะไม่ได้ใช้กระปู๋เพราะความเล่นพิเรนทร์ของตัวเองแท้ๆ ขอสงวนชื่อของเด็กชายคนนี้ไว้ก่อนนะ เด็กชายคนนี้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเด็ก Yuying เมือง Wenzhou จังหวัดเจ้อเจียง ประเทศจีน ด้วยอาการเจ็บอวัยวะเพศและมีเลือดไหลทางช่องปัสสาวะ พอเอ็กเรย์ดูแล้วก็พบว่ามีลูกบอลแม่เหล็กจำนวน 26 ลูกติดอยู่ในบริเวณท่อปัสสาวะ!?! เด็กชายได้สารภาพว่าเขาเป็นคนที่นำลูกบอลแม่เหล็กนี้ยัดจุ๊ดจู๋ของเขาเอง เพราะว่าพอเล่นไปเล่นมาแล้วมันเพลิน พอฉี่กลายเป็นเลือดแล้วกลายเป็นเรื่องใหญ่เลย ดอกเตอร์ Wang แพทย์ผู้ดูแลรักษาเคสเด็กชายคนนี้กล่าวว่า “การผ่าตัดนำลูกบอลแม่เหล็กนี้ค่อนข้างยากเพราะลูกบอลมีขนาดเล็กมาก แค่เพียง 3 มิลลิเมตร ลูกบอลทั้ง 26 ลูกเรียงตัวกันและติดในบริเวณท่อปัสสาวะ” เด็กชายต้องได้รับการผ่าตัดถึง 2 ชั่วโมง เพราะต้องทำการคีบลูกบอลแม่เหล็กออกทีละลูก ซึ่งทางคุณหมอยังกล่าวเสริมอีกว่า ถ้าพ่อแม่พาเขามาช้ากว่านี้อาจเป็นอันตรายกว่านี้อีกมาก แพทย์ได้ออกมาเตือนว่าลูกแม่เหล็กหรือ Buckyballs อาจเป็นอันตรายต่อเด็กเล็ก ด้วยขนาดที่เล็กอาจทำให้เด็กกลืนเข้าในร่างกายได้ ผู้ปกครองควรระวังและดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ที่มา dailymail
-
นอกจากรักษาคนแล้ว ชาวจีนแห่ใช้วิธีการ ‘ฝังเข็ม’ เพื่อรักษาอาการป่วยให้กับสัตว์เลี้ยง
การฝังเข็มเป็นศาสตร์ในการรักษาสุขภาพทางเลือกอีกอย่างหนึ่งที่เพิ่งได้การยอมรับจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าสามารถรักษาโรคและบรรเทาปวดได้ การฝังเข็มมีมานานหลายพันปีเป็นศาสตร์หนึ่งของชาวจีนที่ถูกเผยแพร่ไปในหลายประเทศ โดยจะใช้เข็มทิ่มลงในจุดต่างๆของร่างกายที่เรียกว่า เส้นลมปราณ และเส้นลมปราณนั้นจะเชื่อมต่อกับอวัยวะต่างๆทำให้เกิดการกระตุ้นและรักษาทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล ปัจจุบันการฝังเข็มรักษาโรคไม่ได้ใช้แค่กับมนุษย์ แต่ยังถูกศึกษาและพัฒนาไปรักษาพวกสัตว์เลี้ยงได้ด้วยนะ คลินิกศูนย์สุขภาพสัตว์และศูนย์ฝังเข็มในเซี่ยงไฮ้ (TCM) ได้เปิดให้บริการฝังเข็มให้กับสุนัขและแมวที่ีมีอาการบาดเจ็บจากกระดูกสันหลังและระบบประสาท การฝังเข็มรักษาโรคของหมาและแมวกำลังเป็นที่นิยมที่เซี่ยงไฮ้ มีลูกค้านำสัตว์มารักษาด้วยการฝังเข็มประมาณ 20 คนต่อวันและกำลังจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สุนัขจำนวนมากต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการบาดเจ็บที่หลัง หรือการเสื่่อมสภาพของกระดูกเป็นสาเหตุที่ทำให้มันไม่สามารถเดินได้ และเกิดในสุนัขหลา่ยสายพันธุ์ทั้ง บูลด็อก เยอรมันเชฟเฟิร์ด คอลลี่ บาสเซ็ต ฮาวน์ และชิสุ “ร้อยละ 70 ของสัตว์ที่มาทำการรักษาที่นี่เกิดจากการเจ็บปวดในกระดูกสันหลัง ส่งผลให้มันเป็นอัมพาตในขาหลังหรือบางตัวก็เป็นทั้ง 4 ข้างเลย ซึ่งการรักษาแบบแพทย์ตะวันตกก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก” นายจิน วัย 53 ปีเจ้าของคลีนิกกล่าว ยกตัวอย่างเคสการรักษาของเจ้า Dan Jiao ที่เป็นอัมพาต เจ้าของตัดสินใจพามันเข้ารับการรักษา หลังจากการฝังเข็ม 3 วัน มันสามารถยืนด้วยเท้าด้านหน้าของมันและอีก 7 วันต่อมามันสามารถยืนทั้ง 4 ขาได้ ราวกับปาฏิหาริย์ ตอนแรกมันได้รับการรักษาด้วยการช็อตไฟฟ้ากระแสอ่อนๆ…
-
เด็กข้ามเพศฆ่าตัวตาย หลังถูกโรงเรียนห้ามเปลี่ยนชื่อ แต่ชาวเน็ตคิดว่ามีอะไรมากกว่านั้น…
บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นเหตุการณ์ฆ่าตัวตายของเด็กวัยรุ่นในปัจจุบัน ที่มักจะเกิดจากสาเหตุต่างๆ รอบตัวของพวกเขาไม่ว่าจะเป็น ครอบครัวหรือไม่ก็เกี่ยวกังสังคมที่โรงเรียนเป็นต้น Louise Etherington เด็กชายวัย 15 ปีจากเมืองบักกิงแฮมเชอร์ ที่เกิดมาแล้วรู้สึกว่าตัวเองนั้นเกิดมาอยู่ผิดร่างกาย เพราะเขารู้สึกว่าจริงๆ ตัวเองเป็นหญิง และอยากใช้ชื่อว่า Leo นับจากนั้นมาเธอก็บอกความรู้สึกดังกล่าวกับพ่อของเธอไป แต่ยังไงก็ตามแม้ว่าคุณพ่อ Martin Etherington จะเข้าใจในตัวลูกทันที แต่ว่าเมื่อไปยื่นเรื่องดังกล่าวกับทางโรงเรียนว่าขอเปลี่ยนชื่อเป็น Leo อย่างเป็นทางการ แต่ทางอาจารย์ใหญ่ Sharon Cromie ได้ปฏิเสธคำขอดังกล่าว พร้อมกับยื่นเหตุผลว่าเธอจะต้องมีอายุ 16 ปีเสียก่อน หลังจากการปฏิเสธดังกล่าว เขาก็บอกว่างั้นเราก็ควรจะรออีก 1 ปีก็แล้วกัน ซึ่งมันฟังแล้วดูเหมือนเธอจะยอมรับและพร้อมรอ ซึ่งถ้ามองจากองค์ประกอบโดยรอบทั้งพ่อและโรงเรียนก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะทั้งพ่อและเพื่อนก็ดูจะยอมรับในสิ่งที่เธอเป็น แต่ยังไงก็ตามสุดท้ายแล้ว Leo ก็ตัดสินใจฆ่าตัวตายในห้องนอนที่บ้านพร้อมทิ้งจดหมายไว้ ด้านคุณพ่อที่เปิดห้องมาเจอก็ต้องตกใจกับสภาพของลูก ซึ่งเขาก็ยังไม่เข้าใจถึงสาเหตุการตายของลูกอยู่ดี เพราะเขาเป็นคนแรกที่รู้ว่าลูกนั้นจิตใจเปลี่ยนไป และก็ยอมรับในตัวลูกถึงขนาดคิดว่าเมื่อลูกมีอายุที่พร้อม เขาจะช่วยออกเงินค่าแปลงเพศให้ลูกเลย ยังไงก็ตามเราก็ไม่สามารถจะโทษในตัวอาจารย์ใหญ่ได้ เพราะกฎนั้นถูกกำหนดมาก่อนแล้ว และจากข่าวที่สื่อไปสัมภาษณ์ตัวอาจารย์เอง เธอก็บอกว่า Leo เป็นเด็กดีและเธอก็ชอบในตัว Leo มากๆ เพียงแต่กฎก็ต้องเป็นกฎเท่านั้น…
-
พาไปดูตึกรูปร่างแปลกๆ ใน “คาบสมุทรแอตแลนติค” กับตำนานลี้ลับที่คุณควรรู้!!
ย้อนกลับไปในอดีตฝรั่งเศสถือเป็นอีกประเทศที่ออกล่าอาณานิคมไปทั่วโลก และแน่นอนว่าในช่วงนั้นก็มีการทำสงครามกับฝั่งอังกฤษด้วยเช่นกัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทหารอังกฤษบุกเข้าโจมตีจาก 2 ฝั่ง สถาปนิกชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งเชื่อว่านี่เป็นโอกาสที่จะพิสูจน์ผลงานของตัวเอง เขาจึงบรรจงอย่างตั้งใจที่จะสร้างตึกรูปร่างแปลกๆ นี้ออกมา หากคุณทอดสายตาไปยังมหาสมุทร Ile d’Aix และ Ile d’Oléron ที่ประเทศฝรั่งเศส คุณจะได้เห็นตึกต่างรูปร่างประหลาดหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล และนี่ก็เป็นความจริงของสถานที่แห่งนี้… อันที่จริงมันไม่ใช่ตึกอาคาร แต่มันถูกสร้างมาเพื่อเป็นเกาะกลางทะเลที่อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของ Fort Boyard ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการสำหรับป้องกันเมือง Charente และอ่าว Rochefort ในช่วงศตวรรษที่ 17 จุดประสงค์แรกสุดก็เพื่อใช้เป็นฐานทัพกองกำลังแห่งฝรั่งเศสภายใต้การปกครองของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 โปรเจกต์ถูกเริ่มตั้งแต่ปี 1662 ด้วยวิทยาการอะไรต่างๆ ทำให้โครงการสร้างไม่สำเร็จเพราะค่าใช้จ่ายสูงเกินไป แต่ก็ใช่ว่ามันจะถูกทิ้งร้างไว้อย่างน่าเสียดาย ครั้งหนึ่ง Vauban ผู้เป็นดั่งบิดาแห่งสาขาสถาปนิก เคยออกมากล่าวว่าสิ่งก่อสร้างดังกล่าวใกล้เคียงกับคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ สูงมาก ถึงแม้ว่ามันจะถูกสร้างมาอย่างลวกๆ แต่มันก็ถูกใช้งานมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ทำสงครามกับอังกฤษ จนกระทั่งในปี 1801 ยุคการปกครองของนโปเลียน ได้สั่งให้มีการบูรณะสถานที่แห่งนี้ใหม่อีกครั้ง …
-
พาชมหมู่บ้านสุดแปลกในเดนมาร์ก ที่ถูกออกแบบมาหมู่บ้าน “วงกลม” แห่งเดียวในโลก
ปกติเวลาเรามองภาพมุมสูงของเมืองต่างๆ คงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าที่นั่นคือที่ไหน เพราะแต่ละเมืองต่างมีผังเมืองี่คล้ายๆ กันหมด แต่นั่นไม่ใช่กับที่นี่ รับรอบว่าแค่มองครั้งเดียว คุณจะรู้แน่นอนว่าที่นี่คือที่ไหน เพราะหมู่บ้านนี้มีการวางผังเมืองอย่างมีเอกลักษณ์และแปลกไม่ซ้ำใคร เมื่อบ้านเรือนของหมู่บ้านนี้จับกลุ่มเรียงกันเป็นวงกลมเล็กๆ และแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน จนดูเหมือนกับว่ามีล้อรถมาวางเรียงรายอยู่เต็มพื้นที่สีเขียวไปหมด หมู่บ้านดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตของเมือง Brøndby ทางตะวันออกของประเทศเดนมาร์ก ที่ครอบคลุมพื้นที่โดยรอบกว่า 20 ตารางกิโลเมตรและปีประชากรอยู่อาศัยกันกว่า 35,000 คน โดยส่วนใหญ่จะอยู่อาศัยกันแบบเป็นครอบครัวเดี่ยวพ่อแม่ลูก ซึ่งหมู่บ้าน Brøndby Haveby นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนที่มีลักษณะเป็นวงกลมชื่อว่า Runde Haver ของสถาปนิกที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก Carl Theodor Sørensen ทำให้รูปร่างของหมู่บ้านมีความคล้ายคลึงกับการออกแบบนั้นมาก (Runde Haver) โดยวงกลมในแต่ละวงจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 24 ส่วนและปลูกไม้พุ่มเอาไว้เพื่อกั้นเป็นรั้ว เป็นการสร้างความเท่าเทียมให้กับพื้นที่ใช้สอยของบ้านแต่ละหลังได้อย่างสวยงาม และเห็นได้ว่ายังคงรักษาพื้นที่สีเขียวไว้ได้อย่างชัดเจน นับว่าเป็นไอเดียที่ไม่ใช่แค่แปลกหรือดูสวยงาม แต่การแบ่งสันปันส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สะดวกในการไปมาหาสู่กันและรู้จักกับเพื่อนบ้านได้ง่าย สร้างความสัมพันธ์ให้กับคนในเมืองได่ดีเลยทีเดียว ที่มา: สำรวจโลก , wikipedia
-
คุณแม่สะเทือนใจ เมื่อทราบว่าลูกสาววัย 12 ถูกข่มขืน หลังอ่านไดอารี่ที่เธอเขียน
ในตอนเด็กหลายคนอาจชื่นชอบการเขียนไดอารี่บันทึกเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละวันลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย เหมือนกับเด็กสาวคนนี้ที่เขียนแม้กระทั่งเรื่องราวอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ และเป็นหลักฐานสำคัญในการจับกุมผู้ที่กระทำผิดนั้น คุณแม่ของเด็กสาววัยเพียง 12 ปีบังเอิญไปอ่านเรื่องราวในไดอารี่ของเธอจนพบว่า สาวน้อยได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวถูกวัยรุ่นชายคนหนึ่งขมขื่น ซึ่งเขาคนนั้นมีชื่อว่า Taylor James Dusen อายุ 18 ปี เด็กหนุ่มจากเขต Muskegon ในรัฐมิชิแกนคนนี้ถูกจับในเดือนกรกฎาคมและโดนจำคุกอย่างต่ำ 5 ปีในข้อกล่าวหาที่ว่าเขากระทำการรุกล้ำทางเพศกับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีนับเป็นความผิดพฤติกรรมอาญาในทางเพศระดับที่หนึ่ง การสืบสวนของคดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อแม่ของเด็กสาวได้นำเรื่องที่อ่านเจอในไดอารี่มาเล่าให้ตำรวจฟัง ซึ่งอัยการเขต Timothy Maat ได้ออกมาบอกว่าทั้งสองคนนั้นรู้จักกันมาก่อนในปี 2016 โดยเด็กสาวเป็นเพื่อนของเพื่อนเด็กหนุ่มอีกที และเขาก็ได้กระทำการข่มขืนในเดือนมีนาคมปี 2017 ที่ผ่านมาภายในบ้านของเธอเอง อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มก็ไม่เคยถูกจับในข้อหาใดๆ มาก่อนหน้านี้ การจำคุกของเขาสามารถถูกยืดเวลาไปได้มากที่สุด 25 ปีขึ้นอยู่กับแนวทางของรัฐ แม้ว่าจะเป็นความผิดพลาดหรือไม่ก็ตาม แต่หากว่าทำผิดกฎระเบียบของสังคมก็จำเป็นที่จะต้องได้รับโทษที่ก่อไว้ เพราะการอยู่ร่วมกันก็จะต้องมีกรอบที่สามารถดูแลให้เกิดความเรียบร้อยภายในพื้นที่ได้ ที่มา: dailymail
-
ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพม่า บ้านเรือนถูกเผาไปกว่า 700 หลัง
ความรุนแรงและป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นบนโลกยังมีอีกมากที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ อย่างเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตกของพม่า ที่ต้องเจอกับปัญหาความรุนแรงจากความแตกต่างทางศาสนาตั้งแต่ปี 2012 จนปัจจุบันก็ได้บานปลายมาอย่างมาก มีภาพถ่ายจากดาวเทียมออกมาให้เห็นหมู่บ้านหนึ่งของชาวโรฮิงยาที่เป็นชาวมุสลิมถูกเพลิงไหม้ไฟลุกโชน สร้างความเสียหายกว่า 700 หลังคาเรือนจนเหลือเพียงแค่เถ้าธุลี ซึ่งคาดว่านี่เป็นหนึ่งในการกวาดล้างฆาตกรรมหมู่ เหตุการณ์นี้เพิ่งผ่านมาเพียงไม่กี่วัน และในช่วงเวลาเดียวกันชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็ต้องอพยพไปยังชายแดนประเทศบังคลาเทศ Chris Lewa ผู้อำนวยการโปรเจคท์ Arakan องค์กรสิทธิมนุษยชนที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เข้าไปสังเกตการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐดังกล่าวและบอกว่ามีชาวโรฮิงยามากมายถูกฆ่าโดยทหารพม่าหรือกลุ่มชาติพันธุต่างๆ และมากกว่า 130 คนอย่างแน่นอน ทว่ากลับไม่พบหลักฐานเลยแม้แต่น้อย เพราะทหารและคนที่ลงมือฆ่านำศพไปเผาไฟอย่างไม่เหลือร่องรอยอยู่เสมอ และจากเรื่องราวเหล่านี้ก็ทำให้กลุ่มสิทธิมนุษยชนกังวลว่าความรุนแรงของเรื่องทั้งหมดในรัฐนี้จะแย่กว่าที่คิดไว้ตั้งแต่ต้น และนี่เป็นเพียงแค่ 1 ใน 17 แห่งที่บ่งบอกได้ว่าถูกเผา การลงพื้นที่สังเกตการณ์อย่างอิสระจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเปิดเผยและกระตุ้นให้ทุกคนได้รับรู้ว่า ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นที่นั่นบ้าง รัฐยะไข่ได้เกิดเหตุจราจลมาอย่างยาวนาน ชาวโรฮิงยาถูกสังหารนับพันคนซึ่งส่วนใหญ่ในนั้นก็จะเป็นชาวมุสลิม ทำให้พวกเขาต้องพากันหนีออกมา จนกลายเป็นคนไร้บ้าน อย่างเหตุการณ์ล่าสุดนี้ก็ทำให้ชาวบ้านราว 1 แสนคนลี้ภัยออกไปจากฝั่งตะวันตกของพม่าที่กำลังเผชิญกับความป่าเถื่อนอยู่ ความรุนแรงรอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มก่อการร้ายโรฮิงยาโจมตีแบบกองโจรฆ่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกลไป 15 คนและเผาหมู่บ้านนั้นอีกด้วย หัวหน้ากองทัพพม่ากล่าวว่าตั้งแต่นั้นมามีผู้เสียชีวิตเกือบ 400 รายโดยในนั้นมีผู้ก่อการร้ายโรฮิงญา 370 คน กองกำลังรักษาความปลอดภัยของพม่าได้มีปฏิบัติการกวาดล้างผู้ก่อการร้ายภายในประเทศ ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็นผู้ก่อการร้าย แต่ภาพจากดาวเทียมที่ได้เห็นกันนี้ก็เป็นสิ่งยืนยันได้แล้วว่าทำไมถึงควรอนุญาตผู้ตรวจสอบนานาชาติลงไปสำรวจพื้นที่ในรัฐนี้ …
-
คุณแม่จัดตั้งองค์กรการกุศลให้แก่ลูกสาววัย 5 ขวบ ที่จากไปด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย
ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอเรื่องราวของหนูน้อยวัย 5 ขวบจากมอเร่ ประเทศสก็อตแลนด์ที่ได้แต่งงานกับเพื่อนรักของเธอ (สามารถย้อนอ่านได้ที่นี่ CatDumb) ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้สร้างความซึ้งใจ และความประทับใจแก่ผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก เพราะในระหว่างที่หนูน้อย Eileidh Paterson กำลังเผชิญหน้ากับโรคมะเร็งต่อมหมวกไตในเด็ก (Neuroblastoma) ระยะสุดท้าย เธอได้เลือกแต่งงานกับ Harrison Grier เพื่อนสนิทวัย 6 ขวบ ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปอย่างสงบ ล่าสุดทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ภายหลังจากที่ Eileidh ได้เสียชีวิตไปในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาทางครอบครัวของหนูน้อยก็ได้ตัดสินใจที่จะตั้งองค์กรการกุศล Eileidh Rose Rainbow Trust ขึ้นมา เพื่อใช้ในการระดุมทุนช่วยเหลือครอบครัวอื่นๆ ที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับ Eileidh อีกด้วย โดยในขณะนี้องค์กรดังกล่าวได้มีการจัดตั้งโครงการขึ้นมาทั้งหมด 2 โครงการด้วยกัน ได้แก่ Home from Home ซึ่งเป็นบ้านที่ให้ทางครอบครัวได้มาอยู่กับลูกของพวกเขาให้ได้นานที่สุด ส่วนโครงการที่สอง สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้พ่อแม่ที่มีลูกป่วยเป็นมะเร็งได้รับเงินทุน รวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการ หลังจากที่หนูน้อย Eileidh ได้อยู่ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต…
-
หนุ่มหายตัวอย่างลึกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน ครอบครัวเชื่อเขาอาจยังมีชีวิตอยู่ในเกาหลีเหนือ
วันที่ 3 กันยายน 2560 เว็บไซต์ Viralnova ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของ David Sneddon ชายหนุ่มวัย 24 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริคแฮม เขาหายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ปี 2004 ภายหลังจากที่เขาได้เดินทางไปทริปมิชชันนารีที่ประเทศเกาหลีใต้ และช่องเขาเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge) ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน อย่างไรก็ตาม David ได้หายตัวไปหลังจากเดินออกจากร้านอาหารเกาหลีในจีน และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครพบเจอเขาอีกเลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของจีน ก็ได้มีการสันนิษฐานเอาไว้ว่า เขาอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากได้ออกตามหาแต่กลับไม่พบตัวของ David เลย ในขณะที่ทางครอบครัวก็ยังคงเชื่อว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ จากการรายงานระบุว่า David สามารถพูดภาษาเกาหลีได้อย่างคล่องแคล่ว และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ทางครอบครัวเชื่อว่าเขาอาจจะตกเป็นเป้าหมายที่ถูกลักพาตัวในจีนโดยเจ้าหน้าที่ชาวเกาหลีเหนือ และถูกนำตัวไปยังกรุงเปียงยางในฐานะครูสอนภาษาอังกฤษของ Kim Jong Un ทางด้าน Choi Sung-yong หัวหน้ากลุ่ม Abductees’ Family Union ได้ออกมาเผยว่า…
-
นิตยสารท่องเที่ยวยก “สก็อตแลนด์” เป็นประเทศที่สวยงามน่าเที่ยวที่สุดในโลก
โลกนี้มีสถานที่ที่สวยงามเยอะแยะไปหมด ถ้าหากมีคนถามคุณว่าอยากไปเที่ยวไหนแล้วละก็ คำตอบที่ออกมาคงไม่ได้มีแค่สถานที่เดียวอย่างแน่นอน แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมว่า คนส่วนใหญ่คิดว่าสถานที่ไหนบนโลก คือสถานที่ที่สวยที่สุด มีการสำรวจความคิดเห็นจากผู้อ่านคู่มือการท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีชื่อว่า Rough Guide คนส่วนใหญ่ก็ได้ลงคะแนนให้ว่าสก็อตแลนด์เป็นประเทศที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลก เหนือกว่าอันดับสองอย่างแคนาดา และนิวซีแลนด์ ทางเว็บไซต์ของบริษัทที่จัดทำการลงคะแนนี้ขึ้นมา ก็ได้เขียนคำอธิบายเกี่ยวกับสก็อตแลนด์เอาไว้ว่า “ประเทศที่สวยงามที่สุดในโลกคือสก็อตแลนด์ ไม่ว่าใครก็คงปฏิเสธไม่ได้กับชายหาดธรรมชาติ ทะเลสาบอันสวยงาม และปราสาทที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมุมมองอันแสนอัศจรรย์บนดาวดวงนี้” Malcolm Roughead ผู้บรหารระดับสูงของ VisitScotland รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เขาได้ออกมาบอกว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศของเราได้รับรางวัลอันน่าทึ่งนี้จากผู้อ่าน แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็คงจะไม่ได้ทำให้ใครหลายคนที่มาประเทศของเราต้องรู้สึกแปลกใจ” “ด้วยพื้นที่ทางธรรมชาติอันสวยงาม ประวัติศาสตร์ที่น่าดึงดูดใจกลางเมืองที่คึกคัก และความมีสีสันของเรา จะทำให้คุณต้องหลงใหลจนลืมหายใจกันไปเลย ที่สำคัญคือความรับผิดชอบต่อความสวยงามนี้ ที่ทั้งผู้มาเที่ยวและผู้อยู่อาศัยให้ปกป้องอนุรักษ์ธรรมชาติเหล่านี้เอาไว้ให้ลูกหลานรุ่นต่อไปๆ จะได้มีโอกาสมาชมความงามนี้เช่นกัน” และนี่คือ 20 อันดับแรกของการจัดอันดับโดยผู้อ่านนิตยสาร Rough Guide เราลองมาดูกันดีกว่าว่าคนส่วนใหญ่เขาคิดว่าที่ไหนน่าเที่ยวกันบ้าง 20. Vietnam 19. Croatia 18. Ireland 17. Norway 16. Peru 15. Switzerland 14.…
-
ออสเตรเลียเกิดไอเดีย “ป้ายหรรษา” ลดปัญหา หลับในบนถนนที่ยาวที่สุดในประเทศ
เวลาที่เราขับรถอยู่บนถนนเพียงลำพังหรือต้องอยู่บนถนนอันแสนยาวเหยียดที่มีแต่ทางตรง สิ่งหนึ่งที่หลายคนต้องระวังคืออาการหลับใน ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ ด้วยเหตุนี้เอง กรมทางหลวงออสเตรเลียจึงปิ๊งไอเดียเจ๋งๆ ขึ้นมาเพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว ในประเทศออสเตรเลียนั้นมีถนนเส้นหนึ่งที่เชื่อมต่อเมือง Balladonia และ Caiguna เข้าด้วยกัน ซึ่งถนนเส้นดังกล่าวมีความยาวมากกว่า 140 กิโลเมตร แถมยังจะเป็นทางตรงล้วนๆ ไม่มีทางเลี้ยวทางโค้งใหญ่ๆ เจือปนเลยแต่อย่างใด แน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นประจำคืออุบัติเหตุที่เกิดจากอาการหลับใน ด้วยเหตุนี้เอง กรมทางหลวงออสเตรเลียจึงได้ปิ๊งไอเดีย นำป้ายคำถามมาติดระหว่างทาง เพื่อให้เหล่านักขับได้ขบคิดไประหว่างขับรถ จะไปยังไงลองไปชมกันเลย ป้ายเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณตื่นตัวได้ เล่มเกมส์จากป้ายนี้ไปเรื่อยๆ บางทีอาจทำให้คุณรักษาชีวิตเอาไว้ได้ มีการเล่นปัญหาถามตอบเกี่ยวกับเอกลักษณ์ประจำเมืองต่างๆ พร้อมคำเฉลย ทุกคำถามจะเป็นความรู้รอบตัวทั้งสิ้น และหากว่าคุณคิดไม่ออกละก็แค่คุณขับต่อไปก็จะเจอกับเฉลยได้ง่ายดาย “ยอดเขาที่สุดที่สุดในรัฐควีนส์แลนด์คือยอดเขาอะไร” นอกจากจะเป็นการช่วยให้สมองได้ทำงานแล้ว ก็ยังจะได้รับความรู้กลับไปด้วย อย่างไรก็ตาม อย่ามัวแต่อ่านป้ายจนลืมดูถนนหนทาง ไม่งั้นอุบัติเหตุก็คงจะเกิดขึ้นเหมือนเดิม แล้วคุณคิดว่าเกมนี้สามารถช่วยให้คุณตื่นตัวได้จริงหรือไม่ ? หลังจากมีการเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตคิดอย่างไรกับป้ายเหล่านี้บ้างนะ ฉันเป็นชาวออสเตรเลีย สามารถยืนยันได้เลยว่า ความเหนื่อยล้าในการขับรถนั้นคือฆาตกรบนท้องถนนของแท้เลย คุณมีโอกาสที่จะเผลอหลับไปได้เลยจริงๆ…
-
พ่อแม่ลงทุนบินจากอินเดียมาหาลูกชายที่ฟลอริดา เพื่อทำร้ายร่างกายสะใภ้ โทษฐานไม่เชื่อฟัง
Devbir Kalsi วัย 33 ปี พร้อมพ่อแม่ของเขา Jasbir วัย 67 ปีและ Bhupinder วัย 61 ปี ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังจากภรรยาของเขา Silky Gaind วัย 33 ปี แจ้งตำรวจ เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเริ่มจากการที่ Devbir ได้โทรเรียกพ่อแม่ของเขาจากอินเดียให้บินมายังฟลอริดา ที่บ้านของเขาในเมือง Riverview เพื่อช่วยจัดการสั่งสอนภรรยาของเขาที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งต่างๆ ของเขา ตัวภรรยานั้นถูกครอบครัว Kalsi ทุบตีอย่างหนัก และกักขังไว้ในห้องพร้อมกับลูกน้อย จากนั้นก็ทำการยึดโทรศัพท์มือถือมาด้วย เพื่อสั่งสอนให้เธออยู่ในโอวาทของพวกเขา และทุกครั้งที่ Silky พยายามจะสู้เธอก็จะถูกทำร้ายหนักกว่าเดิม ซึ่งร้ายแรงสุดๆ ก็คงจะเป็นการถูกสามีถือมีดและขู่ว่าจะแทงถ้ายังไม่ฟังในขณะที่เธอยังอุ้มลูกน้อยอยู่นั่นเอง แต่ยังไงก็ตามสุดท้ายแล้ว Silky ก็สามารถหาทางโทรกลับไปหาพ่อแม่ที่อินเดียของเธอจนได้ ซึ่งทำให้พ่อแม่ของเธอติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ในรัฐฟลอริด้าและเดินทางมาช่วยเธอในเวลาต่อมา ด้านเจ้าหน้าที่เล่าว่าในช่วงเวลาที่พวกเขามาถึง ตอนแรกประตูถูกล็อคไว้และเมื่อพยายามจะพังเข้าไปก็จะถูกดันไว้โดยตัว Kalsi เอง ทว่าทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่พยายามพวกเขาจะได้ยินเสียงกรีดร้องให้มาช่วยเหลือลูกและตัวเธอเองดังออกมาตลอด นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ยิ่งแน่ใจว่าต้องรีบเข้าไปช่วย สุดท้ายแล้วเรื่องก็จบลงที่ทั้งสามคนถูกจับ พร้อมถูกตั้งข้อหามากมายโดยหลักๆ แล้วก็จะเป็นคดีทำร้ายร่างกายและกักขัง แต่ภายหลังก็ถูกเพิ่มข้อหาเกี่ยวกับการทำร้ายเด็กรวมถึงมีอาวุธร้ายแรงไว้ครอบครองด้วย และทั้งหมดจะถูกส่งกลับไปดำเนินคดีต่อที่อินเดีย ทว่าตอนนี้ยังถูกกักขังไว้เพื่อรอการสอบสวนต่อไป……
-
ทีมสำรวจค้นพบฟันปลอมสีเขียวที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป คาดว่ามีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14
เมื่อช่วงท้ายปี 2016 ได้มีการขุดค้นพบฟันของศพคนตายจำนวนสามศพ ซึ่งความแปลกที่ทีมสำรวจเจอคือฟันของศพทั้สามดันมีสีเขียว แทนที่ปกติเราจะคิดว่ากระดูกจะเป็นสีขาว… สาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าฟันดังกล่าวนั้นเป็นฟันปลอมนั่นเอง ซึ่งพวกเขาขุดได้จากบริเวณโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองลุกกาประเทศอิตาลี ซึ่งทีมสำรวจคาดกันว่าฟันปลอมนี้มีอายุมานานตั้งแต่ยุคสมัยของ Leonardo Da Vinci เลยทีเดียว ทีมสำรวจจากมหาวิทยาลัย Pisa บอกว่าพวกเขาค้นพบฟันปลอมดังกล่าวขณะที่กำลังขุดสำรวจ สุสานแห่งหนึ่งใต้โบสถ์ San Francesco ซึ่งในนั้นมีศพโครงกระดูกอยู่เป็นร้อยๆ เลยทีเดียว บริเวณที่พวกเขาทำการขุดนั้นเป็นสุสานของตระกูล Guinigi ซึ่งเป็นตระกูลที่ทำงานเป็นนายธนาคาร และมีอำนาจในการควบคุมเมืองในตอนนั้น ซึ่งทำให้คาดได้ว่าการทำฟันปลอมแบบนี้ในตอนนั้นจะมีเฉพาะในคนที่มีเงิน เพราะสังเกตจากฟันปลอมทั้งห้าซี่แล้ว จะมีการผูกติดโลหะผสมไว้ด้วยทองหรือเงินนั่นเอง และถ้าให้พูดถึงการทำฟันปลอมครั้งแรกที่ถูกบันทึกนั้น คงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงอียีปต์หรือโรมันโบราณกันเลยทีเดียว ส่วนสาเหตุที่ทำให้ฟันปลอมกลายเป็นสีเขียวนั้นก็เพราะว่า ผลจากแผ่นโลหะที่ผสมทองแดงและทองเข้ากันดัน มันส่งผลต่อสภาพของฟันปลอมและแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นสีเขียวนั่นเอง สังเกตดีๆ จะเขียวแค่ช่วงที่มีเหล็กยืดตรงรากฟันเท่านั้น ด้านนักวิจัยได้บอกปิดท้ายการสำรวจนี้ว่า วิธีการทำฟันปลอมแบบนี้นั้นถือเป็นเทคโนยีที่อยู่ในระดับสูงมากๆ ในยุคนั้นนั่นเอง… ทำฟันปลอมยุคนี้สบายกว่าเย๊อะ ไม่เขียวด้วย ที่มา dailymail
-
ใครเชิญเอ็ง… เจ้าของบ้านผงะ “จระเข้ยักษ์” โผล่มานอนเล่นในบ้านเฉย เรียกเจ้าหน้าที่แทบไม่ทัน
อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ส่งผลให้หลายพื้นที่ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอย่างรุนแรงเป็นประวัติการณ์ จนทำให้ท้องถนนหลายสายโดยเฉพาะในเมืองฮิวสตันกลายสภาพเป็นแม่น้ำ และนอกจากชาวฮิวสตันจะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักแล้ว พวกเขาก็ต้องมาเผชิญกับเรื่องที่แสนจะปวดขมับกันต่อ เพราะหลังจากที่ประชาชนจำนวนมากได้เริ่มทยอยเดินทางกลับบ้าน ก็มีอีกหลายๆ คนต้องมาเจอกับแขกที่ไม่รับเชิญ อย่างเช่น “พี่เข้” เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่เริ่มเบาบางลง ผู้คนก็เริ่มเดินทางกลับบ้านของตัวเอง เพื่อไปทำความสะอาด และตรวจสอบความเสียหาย แต่ปรากฏว่ามีเจ้าของบ้านหลังหนึ่งในเขตฮัมเบิล เท็กซัส เมืองฮิวสตัน ได้พบว่าที่บ้านของเขานั้นมีผู้บุกรุกขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายจระเข้มาพักอาศัยอยู่ งานนี้เลยทำให้เขาไม่รอช้ารีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือทันที จากการรายงานระบุว่า เจ้าของบ้านรายนี้มีชื่อว่า Brian Foster ซึ่งภายหลังจากที่เขาได้กลับถึงบ้าน เขาก็ต้องผงะเพราะเจอจระเข้ขนาดใหญ่มานอนอ้าซ่าตอนรับอยู่ใต้โต๊ะในห้องครัว “ผมเดินตรงเข้าไปในบ้าน เพื่อสำรวจดูจุดต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย แต่เดินไปในห้องครัวและก้มลงดูบนพื้น ก็เห็นจระเข้ขนาด 10 ฟุต (หรือราวๆ 3 เมตร) นอนอยู่ตรงนั้น” Brian กล่าว เมื่อทางเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงพวกเขาก็พากันนำตัวผู้บุกรุกออกจากบ้านของ Brian โดยเริ่มจากมัดปากของมันเอาไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่…
-
แอร์กีต้าร์ตกรุ่นไปแล้ว เมื่อต้องเจอกับการแข่งขัน “กระเด้าลม” ชิงแชมป์ในประเทศอเมริกา
ก่อนหน้านี้เราคงจะได้รู้จักกับการแข่งขันกีต้าร์ลมหรือแอร์กีต้าร์กันไปบ้างแล้ว ซึ่งเป็นการแข่งขันที่แปลกและได้รับความนิยมไม่ใช่น้อยจากทั่วโลก แต่ถ้าคิดว่าการแข่งกีต้าร์ลมว่าแปลกแล้ว ต้องมาเจอกับการแข่งขันอันนี้ รับรองว่าคุณจะต้องอึ้งไปเลย การแข่งขันที่ว่านั่นก็คือการแข่งขัน Air Sex Championships หรือเข้าใจกันง่ายๆ ก็คือ การแข่งขันชิงแชมป์กระเด้าลมนั่นเอง ซึ่งจัดขึ้นกันเป็นปีที่ 9 เข้าไปแล้ว และการแข่งขันนี้จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เป็นการผสมผสานกันระหว่างกีฬา ศิลปะ และความตลกจากผู้เข้าแข่งขันมากมายที่ขึ้นไปทำท่าเหมือนกับว่ามีอะไรกับคนอื่นอยู่ ด้วยลีลาที่มีทั้งแบบพิสดารและสมจริง ชวนให้ผู้ชมสามารถคิดภาพตามกันได้ง่ายๆ ผู้เข้าแข่งขันบางคนก็จะใส่เสื้อผ้าครบปกติ หรือบางคนก็อาจจะมีถอดบ้างเป็นบางชิ้น แต่ยังไม่มีใครถึงกับเปลือยมาแข่ง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะบางทีเราคงไม่อยากเห็นกันหรอกเนาะ รูปแบบของานหลักๆ ได้บอกไว้ว่า “Air Guitar คือการแข่งทำท่าทางการเล่นเครื่องดนตรีแบบเดิมๆ ที่ผมบอกเลยว่าน่าเบื่อ คุณต้องมาเจอกับการแข่งขันนี้ที่รับรองว่าคุณต้องอ้าปากค้างกับการทำท่ามีเซ็กซ์ระหว่างผู้เข้าแข่งขันกับคู่ขาล่องหน โดยไม่ต้องใช้อะไรเลยนอกจากศิลปาการเล่าเรื่อง และจินตนาการอย่างแท้จริง” Chris Trew ดาราตลกและเจ้าของงานนี้ได้ออกมาบอกว่า “เราเริ่มต้นจัดการแข่งขันนี้ขึ้นมา เพราะพวกเราคิดว่าโลกเราต้องมีอะไรเจ๋งๆ แปลกๆ ท้าทาย แข่งขันในเรื่องของเพศที่มาพร้อมกับความตลกขึ้นมา ซึ่งผู้คนที่ได้ขึ้นมาบนเวทีก็จะเต็มไปด้วยพลังงานอันเหลือล้น ความตลก และความแปลกที่หาดูไม่ได้จากที่ไหนบนโลก” การแข่งขันนี้เป็นการชักชวนให้ทุกคนได้ขึ้นมาร่วมสนุกกันโดยไม่สนเรื่องเพศ อายุ เชื้อชาติ ความพิการหรืออะไรก็ตามทั้งสิ้น ทำให้เกิดโชว์ที่หลากลายที่แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นกัน ไฮไลท์ในงานจาก Portland…
-
บริษัทในจีนผลิตตัวต่อ ที่ทำให้คุณสามารถสร้าง “ซ่อง” เป็นของตัวเองได้ง่ายๆ
ตัวต่อถือว่าเป็นหนึ่งในของเล่นยอดนิยมสำหรับเด็กๆ ด้วยรูปแบบที่หลากลาย สามารถต่อได้ทั้งตามรูปแบบที่กำหนด หรือจะต่อตามจินตนาการของตนเองก็ได้ แต่อย่าคิดว่าตัวต่อทุกรุ่นจะเหมาะสมกับเด็กๆ เพราะล่าสุด บริษัทในจีนได้ปล่อยชุดตัวต่อแบบผู้หญ้ายผู้ใหญ่ออกมา จะเป็นยังไง เราลองไปชมกัน เจ้าตัวต่อสไตล์เลโก้ตัวนี้ผลิตโดยบริษัท Xingbao พวกเขาได้ร่วมมือกับแฟนๆ ตัวต่อเลโก้สายฮาร์ดคอร์เพื่อออกแบบตัวต่อชุดใหม่ ที่อาจทำให้แฟนๆ เลโก้ที่มีศีลธรรมอันดีดีงามต้องกุมขมับนั่นก็คือ ชุดตัวต่อ “ซ่องสไตล์จีนโบราณ” ชุดตัวต่อดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของของเล่นชุด “ท้องถนนจีนโบราณ” ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปในอดีต ราวกลับหลุดเข้าไปอยู่ในหนังจีนโบราณ พร้อมคำพูดคุ้นหูว่า “เสี่ยวเอ้อ! จัดนางโลมให้ข้าซักคนซิ” แน่นอน ด้วยความที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเลโก้ ตัวต่อชุดนี้ไม่ได้มีเพียงสิ่งปลูกสร้างให้คุณต่อเท่านั้น ตัวต่อที่เป็นมนุษย์ก็มีให้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหนุ่มกลัดมัน หรือ สาวขายบริการแสนยั่วยวน (ทุกตัวยังมีเสื้อผ้าใส่นะ ไม่ต้องกลัวว่าเด็กจะเล่นไม่ได้) ตอนนี้ตัวต่อชุดดังกล่าวมีขายในชื่อว่า “สวนหน้าบ้าน Yihong” บนเว็บไซต์ Brick Fanatics โดยตอนแรกพวกเขาตั้งชื่อมันว่า “ซ่องโสเภณี Yihong” ซึ่งทางผู้จัดจำหน่ายคงคิดได้ว่ามันฮาร์ดคอร์เกินไป เลยเปลี่ยนชื่อเป็นเป็นสวนหน้าบ้านแทน ที่ประหลาดอีกอย่างคือแม้ทางผู้ผลิตจะบอกว่าออกแบบมาเพื่อผู้ใหญ่ แต่ในรายละเอียดของมันกลับเขียนว่า มีไว้เพื่อการศึกษา แถมเหมาะกับด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป สงสัยอีกไม่นานเราคงได้เห็นตัวต่อชุดนี้ในโรงเรียนอนุบาลแน่นอน ก็ถือว่าเป็นไอเดียแปลกๆ ที่ดันมีขายจริงๆ แฟนๆ ที่ชอบสะสมเลโก้แปลกๆ ก็ลองหาซื้อไปต่อกันได้นะฮะ แต่ซื้อแล้วอย่าลืมเก็บให้พ้นมือเด็กล่ะ เดี๋ยวจะได้ตอบคำถามกันวุ่นวายอีก ฮาาาา…
-
พบกับผู้ประกาศข่าวที่มาในชุดฮันบกสีชมพู เห็นเธอเมื่อไหร่เรื่องร้ายๆ ตามมาแน่นอน!!
ทุกครั้งที่เราได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ โดยส่วนมากแล้วมักจะเป็นข่าวที่ไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมรบ การยิงขีปนาวุธไปที่นู่นที่นี่ และสิ่งที่มาพร้อมกับการรายงานข่าวในการประกาศแสนยานุภาพของชาวโสมแดงนั่นก็คือคุณย่าในชุดฮันบกสีชมพูผู้นี่นี่เอง!! Ri Chun-hee ผู้ประกาศสาววัย 74 ปี ที่เปรียบเสมือนฝันร้ายของผู้ที่ติดตามข่าวต่างประเทศ เพราะเมื่อไหร่ที่เห็นคุณย่าแกออกมา หลายๆ คนต้องเตรียมใจไว้เลยว่า วันนี้ตูจะได้ฟังเรื่องจรวด รถถัง และการยิงอะไรซักอย่างอีกแล้วแน่ๆ ถึงแม้ว่าจะเกษียณอายุการทำงานของตัวเองไปตั้งแต่ปี 2012 แล้ว แต่ทุกวันนี้คุณย่าผู้นี้ก็ยังคงทำหน้าที่ของแกอยู่เช่นเคย และข่าวล่าสุดที่เธอได้ประกาศออกมานั่นก็คือ การทดสอบหัวรบนิวเคลีย์ของเกาหลีเหนือนั่นเอง “การทดสอบหัวรบนิวเคลียร์ที่มีการออกแบบใหม่ของเราเพื่อนำไปติดกับขีปนาวุธนำวิถี ที่สามารถยิงข้ามทวีปได้คือความสำเร็จของพวกเรา นี่เป็นหนึ่งในความข้าวหน้าของโครงการอาวุธนิวเคลียร์แห่งชาติ” คุณ Ri Chun-hee รายงาน คุณ Chun-hee นั้นเริ่มต้นงานผู้ประกาศข่าวครั้งแรกเมื่อปี 1971 โดยหลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Pyongyang University เธอก็ถูกทางสถานีโทรทัศน์ KCTV หรือสถานีโทรทัศน์กลางบนแผ่นดินเกาหลีเหนือดึงตัวเข้าไปทำงาน นอกจากชุดประจำตัวที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว อีกสึ่งหนึ่งที่น่าจดจำของเธอก็คือน้ำเสียง คุณ Jason Strother ผู้เชี่ยวชาญทางการทูตสหรัฐกล่าวว่า “ผู้ประกาศข่าวนั้นเปรียบสเมือนสิ่งเครื่องมือของเกาหลีเหนือ และน้ำเสียงของพวกเขาเองก็สำคัญเช่นกัน อย่างเช่นน้ำเสียงของ Chun-hee นั้นจะดูสูงและสั่นเพื่อเป็นการสรรเสริญผู้นำของประเทศ” พูดง่ายๆ ก็คือเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นเธอผ่านหน้าจอ ข่าวร้ายๆ ก็จะตามมานั่นเอง ที่มา ladbible
-
สุดสยอง กับ 10 เรื่องราวของ “ตุ๊กตา” ที่ถูกผีสิง ชวนขนหัวลุกและน่ากลัวมากที่สุดในโลก
หนังแนวตุ๊กตาผีสิงได้สร้างความหวาดผวาให้กับใครหลายคนมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นแอนนาเบล ชักกี้ หรือตุ๊กตาจ๋าของเขา ในเรื่องมักเล่าว่าตุ๊กตาเหล่านั้นถูกวิญญาณหรือปิศาจร้ายสิ่งสู่ ทำให้ชอบออกอาละวาดสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คน ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ เรื่องราวส่วนใหญ่ที่เราได้ชมกัน มักถูกดัดแปลงหรือได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง รู้แบบนี้บางคนถึงกับไม่อยากมีตุ๊กตาติดบ้านกันไปเลย เราลองมาดูเรื่องราวของตุ๊กตาที่ว่ากันว่ามีผีสิงและน่ากลัวมากที่สุดในโลก 10 อันดับกันบ้าง ว่ามันจะเป็นอย่างไร Joliet ตุ๊กตาโจเลียตตัวนี้เป็นตุ๊กตาประจำครอบครัวของครอบครัวหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไปก็มันก็ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ว่ากันว่าตุ๊กตาตัวนี้ได้มอบคำสาปบางอย่างให้กับสมาชิกผู้หญิงทุกคนในครอบครัว พวกเธอจะต้องมีบุตรสองคน หนึ่งชาย หนึ่งหญิง หลังคลอดได้สามวัน เด็กชายทุกคนจะเสียชีวิตอย่างปริศนา สมาชิกหลายคนในครอบครัวเล่าว่า พวกเขาได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ออกมาจากตุ๊กตาโจเลียตตัวนี้ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าวิญญาณของเด็กชายที่เสียชีวิตทั้งหมด ถูกกักขังอยู่ภายในตุ๊กตาตัวนี้ Mercy มีคนเล่าว่าตุ๊กตาตัวนี้มีวิญญาณของเด็กสาววัย 7 ขวบสิงสถิตอยู่ เจ้าของหลายคนบอกว่าเห็นตุ๊กตายืนขึ้นมาเอง และขยับออกจากที่ที่พวกเขาวางไว้ บางคนก็บอกว่าวิทยุหรือว่าทีวีจะเปลี่ยนช่องไปเองหากว่ามีตุ๊กตาตัวนี้อยู่ใกล้ๆ Mandy ตุ๊กตาพอร์ซเลนตัวนี้นับว่าเป็นหนึ่งในตุ๊กตาผีสิงที่น่ากลัวที่สุดในโลก มันได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1910 ก่อนที่ปัจจุบันจะถูกบริจาคให้กับนพิพิธภัณฑ์บริติชโคลัมเบีย เจ้าของตุ๊กตาคนเก่าบอกว่าเธอได้ยินเสียงร้องไห้ออกมาจากตุ๊กตาตัวนี้ในตอนกลางคืน และเมื่อนำมาส่งต่อให้พิพิธภัณฑ์เสียงนั้นก็หายไป ความน่ากลัวของมันยังคงเกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์นี้ เพราะมีคนได้ยินเสียงฝีเท้าดังอยู่ในโถงทางเดินทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่เลย หลอนไปอีก! Amanda ประวัติความเป็นมาของตุ๊กตาตัวนี้ไม่อาจทราบได้ แต่ตำนานของมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อนที่มีการวางขายอยู่ใน…
-
คุณแม่ชาวจีนสุดสตรองคลอดลูกชิลล์ๆ กลางถนน คลอดเสร็จอุ้มเดินกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
การที่จะให้กำเนิดมนุษย์คนหนึ่งเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก ตั้งแต่การอุ้มท้องเป็นเวลา 9 เดือน จะต้องตรวจครรภ์ ต้องดูแลร่างกายอีกหลายอย่าง จนกระทั่งขั้นตอนที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือการคลอดลูก ที่เราก็ต่างรู้กันดีว่าการคลอดลูกนั้นมันดูทรมานและเจ็บตัวเป็นอย่างมาก แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณแม่ชาวจีนคนนี้จะเป็นผู้ที่คลอดลูกได้ชิลล์ขนาดนี้ จากการเผยแพร่คลิปวิดีโอวินาทีที่หญิงชาวจีนคนหนึ่งขณะที่กำลังเดินช้อปปิ้งในเมือง Yunfu มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน แต่เบบี๋ในท้องของเธอก็ดันอยากออกมาวิ่งเล่นบนโลกในตอนนั้น เธอจึงตัดสินใจคลอดลูกข้างถนนนั่นเลย ในเหตุการณ์ได้มีคนมามุงเพื่อให้กำลังใจเธอเป็นจำนวนมาก มีหญิงหลายรายเข้ามาช่วยคุณแม่คนนี้ มีอุปกรณ์ทำคลอดเพียงแค่เก้าอี้และกระดาษลังอีก 2 -3 แผ่นเท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้มีแพทย์เข้ามาดูอาการของคุณแม่ท่านนี้ทันที . หลังจากการตรวจร่างกายแล้วพบว่าคุณแม่และลูกสาวที่พึ่งคลอดออกมาไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ จึงได้ทำการตัดสายสะดือ และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคืออีกชั่วโมงต่อมาคุณแม่สายสตรองคนนี้ก็เดินกลับบ้านชิลล์ๆ มือหนึ่งอุ้มลูก อีกมือหนึ่งถือถุงของกลับบ้านราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น สตรองไปไหมคะคุณแม่!!! ที่มา shanghaiist
-
กล้องวงจรปิดเผยภาพเจ้าหน้าที่กว่า 15 นายเข้าควบคุมนักโทษ ‘หนึ่งคน’ ที่กำลังคลั่ง
ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นวินาทีที่เจ้าหน้าที่กว่า 15 นายต้องเข้าช่วยกันระงับเหตุนักโทษอาละวาด ซึ่งในเหตุกาณ์ชุลมุนวุ่นวายครั้งนี้มีนักโทษก่อเหตุเพียงแค่ 1 คนเท่านั้น!! โดยต้นเหตุของความวุ่นวายครั้งนี้เกิดจากนักโทษคนหนึ่งที่ถูกคุมตัวอยู่ใน สถานีตำรวจในเมืองชิคาโก เกิดอาละวาดและเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ 2 นายที่พยายามจะเจรจากับเขา นักโทษคนดังกล่าวเข้าคว้าที่คอเสื้อของนายตำรวจท่านหนึ่งกล่อนที่จะผลักตัวเขาลงกับพื้นและพยายามจะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ท่านนั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ที่เข้ามาเห็นเหตุการ์จึงพยายามที่จะเข้าระงับเหตุดังกล่าว พวกเขาใช้สเปย์พริกไทยฉีดไปที่หน้าของนักโทษเพื่อเป็นการระงับเหตุ แต่ดูเหมือนว่าชายคนดังกล่าวจะไม่ยอมหยุดง่ายๆ เขายังคงวิ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่คู่กรณี จนในที่สุดตำรวจกว่า 15 นายต้องเข้ารุมนักโทษคนนั้นและใช้กำลังถึงจะสามารถควบคุมเหตุการณ์ทั้งหมดได้ และนี่คือภาพเหตุการณ์ดังกล่าวจากกล้องวงจรปิด หลังจากนั้นคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก และกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก โดยมีผู้เข้าชมคลิปวิดีโอดังกล่าวมากถึง 1.6 ล้านครั้ง และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากถึง 15,000 ความคิดเห็นเลยทีเดียว ความเห็นจากชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าวว่า “อะไรกันนี่ ตำรวจทั้งโรงพักกับชายแค่คนเดียวที่ไม่มีอาวุธ ฉันเห็นสามคนในพวกเขามีกระบอง แต่ก็ไม่สามารถหยุดชายคนนี้ได้เลยเนี่ยนะ” และอีกท่าหนึ่งก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่น่าจะจับเขาใส่กุญแจมือตั้งแต่แรกก่อนที่มันจะวุ่นวายขนาดนี้ แล้วเพื่อนๆ มีความคิดเห็นกับเหตุการณ์นี้อย่างไร ก็สามารถคอมเม้นต์เข้ามากันได้เลยนะ ที่มา mirror
-
ประชาชนและตำรวจร่วมไว้อาลัยสุนัข K-9 หลังจากปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันมาตลอด 10 ปี
สุนัขตำรวจถือว่าเป็นหนึ่งในทีมงานที่สำคัญในการปัญหาต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บกู้ระเบิดหรือตามจับยาเสพติด ทำให้มันเป็นที่รักของทั้งตำรวจและประชาชน และเมื่อถึงวันที่สุนัขเหล่านี้ต้องจากโลกนี้ไป นั่นจึงกลายเป็นความเสียใจสำหรับผู้คนจำนวนมาก อย่างเช่นเรื่องราววันนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Hunter สุนัขตำรวจที่เข้ารับการฝึกฝนและเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม K9 ต้องประสบปัญหาสุขภาพขั้นรุนแรงจนต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลสัตว์ อาการของมันไม่ค่อยสู้ดีอยู่ร่วมสัปดาห์ จนกระทั่งผลตรวจออกมาว่ามันป่วยเป็นโรคมะเร็งตับขั้นรุนแรง แพทย์จึงแนะนำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ Michael D’Aresta คู่หูคนสำคัญของเจ้าหมา ตัดสินใจให้มันได้หลับไปตลอดกาล สุดท้ายแล้วในวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา เจ้า Hunter ก็ได้จากไปอย่างสงบในเมืองมิดเดิ้ลทาวน์ รัฐคอนเนตทิคัต ประเทศอเมริกา เมืองที่มันปฏิบัติหน้าที่มาตลอด 10 ปี โดยในพิธีศพของเจ้า Hunter มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนเข้ามาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ซึ่งค่าใช้จ่ายภายในงานทางสถานีตำรวจมิดเดิ้ลทาวน์เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด Michael และ Hunter ได้เข้าเป็นหน่วยพิเศษและปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2007 ในเมืองมิดเดิ้ลทาวน์ โดยทั้งคู่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด การจากไปครั้งนี้ทำให้ครอบครัวของ Michael รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาคอยดูแลมันมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ปัจจุบันในสถานีตำรวจมิดเดิ้ลทาวน์มีรูปของเจ้า Hunter ติดอยู่พร้อมกับข้อความเขียนว่า “Hunter และเจ้าหน้าที่ D’Aresta เป็นส่วนสำคัญในการทำงานตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ความทุ่มเทที่มีให้ในฐานะทีม K-9…
-
45 ภาพประวัติศาสตร์ของสงคราม “Pearl Harbor” ในปี 1941 ที่ควรค่าแก่การรับชม
ถือว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์โลกที่กลายเป็นที่จดจำไปทั่วโลก สำหรับสงครามในอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ เมื่อปี 1941 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงแก่กองทัพสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สาเหตุของการโจมตี สืบเนื่องมาจากสงครามจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่ 2 เมื่อจักรวรรดิญี่ปุ่นได้บุกเข้ายึดครองดินแดนแมนจูเรียหลังเกิดกรณีมุกเดน (เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้น) เนื่องจากญี่ปุ่นได้เล็งเห็นผลประโยชน์ในดินแดนแมนจูเรียหลายประการ หลังจากยึดครองสำเร็จก็แต่งตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดให้อยู่ภายใต้การนำของจักรวรรดิญี่ปุ่น โดยมีจักรพรรดิปูยี (อดีตจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิง) ให้มาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและเป็นจักรพรรดิแห่งแมนจูเรียได้แต่เพียงในนามเท่านั้น เรือรบยูเอสเอสชอว์ระเบิด ในระหว่างการจู่โจมที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ ในฮาวาย เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจแก่สาธารณรัฐจีนเป็นอย่างมากจึงได้ไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปยังสันนิบาตชาติ เวลาต่อมาสันนิบาตชาติดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นสันนิบาตชาติก็ได้ลงความเห็นเห็นว่า จักรวรรดิญี่ปุ่นเป็นฝ่ายผิดและเป็นผู้รุกราน จึงออกแถลงการณ์ลิตตัน เพื่อประณามการกระทำของญี่ปุ่นในการรุกรานแมนจูเรียและออกคำสั่งให้ญี่ปุ่นถอนกองทัพออกจากดินแดนแมนจูเรีย ทำให้ญี่ปุ่นไม่พอใจพร้อมประกาศถอนตัวออกจากสันนิบาตชาติไปทันที นักบินญี่ปุ่นได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเรือบรรทุกเครื่องบินก่อนการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ขณะนั้นกองทัพจีนได้พ่ายแพ้กองทัพญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องจนแทบจะสิ้นชาติ แม้จะพยายามขอความช่วยเหลือจากหลายๆ ประเทศ แต่ก็ไม่มีใครยอมส่งกำลังมาช่วย ทันใดนั้นเองพวกเขาก็นึกออกว่ามีประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ที่น่าจะช่วยเหลือพวกเขาได้ นั่นก็คือสหรัฐอเมริกา ดังนั้นจีนจึงส่งขอความช่วยเหลือไปยังสหรัฐฯทันที แม้ว่าสหรัฐฯจะพยายามทำตัวเป็นกลางไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามก็ตามแต่ก็ยินดีให้ความช่วยเหลือกับจีนอย่างเต็มที่ เรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่นซุยคาคุ ในเดือนกันยายนของปี 1941 โดยซุยคาคุ จะแล่นไปฮาวาย ซึ่งเป็นหนึ่งในหกสายการบินที่ใช้ในการโจมตีโดยกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีรูสเวลท์ก็ได้ประกาศยุติการส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่น เช่น น้ำมัน เหล็ก เป็นต้น ทำให้ญี่ปุ่นขาดปัจจัยในการบำรุงกองทัพโดยเฉพาะน้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่นำไปสู่สงคราม จักรวรรดิญี่ปุ่นจึงได้ส่งทูตไปเจรจากับสหรัฐฯเพื่อขอให้ส่งน้ำมันต่อ แต่ว่าการเจรจาก็ล้มเหลวเพราะสหรัฐฯ…
-
ค้นพบกระเบื้องโมเสกโรมันอายุ 1,600 ปี ที่น่าตื่นตามากที่สุดในรอบ 50 ปีของอังกฤษ
การค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในอดีตที่มีอายุเก่าแก่นานนับพันๆ ปี นอกจากจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและน่าอัศจรรย์แล้ว ยังทำให้เราได้รับรู้ข้อมูลใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ล่าสุด มีการรายงานจากสำนักข่าวเดลีเมล์ ในวันที่ 2 กันยายน 2560 ว่า ทีมนักโบราณคดีสมัครเล่นและนักประวัติศาสตร์ ได้ค้นพบกระเบื้องโมเสกสมัยโรมันในย่านบ็อกส์ฟอร์ด เวสต์เบิร์กเชอร์ ประเทศอังกฤษ งานนี้เรียกได้ว่าสร้างความตื่นตาให้บรรดาผู้ค้นพบเป็นอย่างมาก สำหรับกระเบื้องโมเสกที่ถูกพบนี้ มีความยาวมากถึง 6 เมตร และมีอายุมากถึง 1,600 ปี แถมยังเป็นกระเบื้องที่ยังดูสมบูรณ์และเต็มไปด้วยลวดลายของสัตว์ในตำนาน ทาง Antony Beeson ผู้เชี่ยวชาญด้านโมเสกได้ออกมาเผยว่า “การค้นพบกระเบื้องโมเสกในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุดของอังกฤษในรอบ 50 ปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ “ ขณะที่ Duncan Coe หัวหน้าผู้รับเหมาของโครงการ Cotswolds Archeology ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมการขุดหากระเบื้องได้ออกมากล่าวว่า “กระเบื้องชิ้นนี้ถือว่าเป็นกระเบื้องที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบมาในประเทศนี้” อย่างไรก็ตาม งานศิลปะบนกระเบื้องได้ปรากฏก็ให้เห็นเป็นภาพของบิลเลโรฟอน วีรบุรุษผู้ขี่ม้าบินปราบอสูรคิเมร่า รวมถึงสัตว์อย่างสิงโต แพะ และมังกร ส่วนอีกภาพหนึ่งคาดว่าเป็นภาพของเฮอคิวลิสขณะกำลังต่อสู้อยู่กับเซ็นทอร์ ทั้งนี้ การขุดค้นกระเบื้องโมเสกในบ็อกส์ฟอร์ดครั้งถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 3…
-
ความหลอนจากหนังเรื่อง IT ทะลุออกมานอกจอ กับลูกโป่งสีแดงลอยเต็มเมืองซิดนีย์
ตอนนี้คงมีใครหลายคนรอที่จะได้รับชมภาพยนตร์สยองขวัญแห่งปีที่มีชื่อว่า IT เพราะกระแสการตอบรับจากรอบสื่อออกมาค่อนข้างดี แม้แต่ผู้แต่งนิยายเรื่องนี้อย่าง Stephen King ถึงกับออกมาบอกว่ามันดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากจริงๆ เรื่องราวของกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ถูกมองว่าแปลกแยก เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่ากลุ่มของคนขี้แพ้ ต้องเข้าไปเผชิญและต่อสู้กับปีศาจที่ไม่มีวันตายในคราบตัวตลกที่ชื่อว่า Pennywise รับบทโดย Bill Skarsgard เอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัดของมันก็คือ จะมีลูกโป่งสีแดงติดตัวไปไหนมาไหนและมันจะใช้ลูกโป่งสีแดงนี้หลอกล่อเหยื่อให้เข้ามาติดกับ สิ่งนั้นได้กลายมาเป็นไอเดียของการโปรโมตหนังไปในปริยาย ตอนนี้ท่อระบายน้ำในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มีลูกโป่งสีแดงผูกไว้เต็มไปหมด พร้อมกับประโยคชวนหลอนว่า “มันอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด” ซึ่งทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต้องรู้สึกขนหัวลุกไปตามๆ กัน สิ่งนี้ได้รับกระแสตอบรับในทวิตเตอร์ออกมามากมาย “ตอนนี้มีลูกโป่งแดงลอยเต็มเมืองไปหมด และฉันก็จะเป็นบ้าอยู่แล้ว” “จากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้มาก่อนแล้ว ฉันอยากแนะนำว่าอย่าที่จะไปเข้าใกล้เจ้าลูกโป่งนี่เด็ดขาด” “ไม่ได้อย่างแน่นอน ลูกโป่งสีแดงบ้าๆ นี่มีอยู่ให้เห็นเต็มซิดนีย์ไปหมด และคุณเองจะลอยขึ้นฟ้าไปเหมือนกัน” . ถ้าใครจำได้ ช่วงสัปดาห์ก่อน Eagan Tilghman ไม่รู้เบื่ออะไรมา จึงเกิดปิ๊งไอเดียจับน้องของเขาเองมาแต่งหน้าทาปากและยัดลูกโป่งแดงเข้ามือ เป็นความหลอนแบบน่ารักๆ ถือว่าเป็นไอเดียเจ๋งๆ ในการโปรโมตหนังจริงๆ ใครที่สนใจรอชมหนังเรื่องนี้กันในวันที่ 7 กันยายนเลยจ้าาา ที่มา: ladbible
-
นกพิราบถูกยิงร่วง หลังทำตัวน่าสงสัยในคุกอาร์เจนตินา ก่อนตรวจพบขนยาเสพติดอยู่บนหลัง
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำในเมืองซานต้าโรซ่า ประเทศอาร์เจนตินา ได้จับตายนกพิราบที่น่าสงสัยตัวหนึ่ง หลังจากที่เห็นมันบินวนไปมาอยู่ในคุก ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงได้ตัดสินใจยิงมันทันที ซึ่งภายหลังจากที่ยิงนกตัวดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำร่างของมันมาตรวจสอบ และพบว่าเจ้านกตัวนี้ได้ถูกติดถุงผ้าเล็กๆ ที่มีการอำพรางสีให้เหมือนกับขนเอาไว้ที่หลังของมัน เมื่อผ่าดูก็พบว่ามียาเสพติด กัญชา และ USB อยู่ภายในนั้น จากการรายงานระบุว่า ย้อนกลับไปในปี 2013 ในเรือนจำแห่งหนึ่งอาร์เจนตินาได้ออกมาเตือนว่า มีการลักลอบแอบใช้นกพิราบสื่อสารในการขนส่งยาเสพติดและสารลับอื่นๆ หลังจากทำการสอบสวน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 3 คน พวกเขากล่าวว่าได้ใช้นกพิราบในการส่งสารมากถึง 10 – 15 เที่ยวในทุกๆ วัน อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการใช้นกพิราบสื่อสารเป็นเครื่องมือในการส่งยาเสพติด และเอกสารลับอื่นๆ เพราะเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีนกพิราบต้องสงสัยตัวหนึ่งถูกจับในคูเวตใกล้ชายแดนอิรัก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พบว่าบนหลังของมันมีการติดถุงผ้าขนาดเล็กเอาไว้ โดยภายในมีการบรรจุยาเสพติดจำนวนทั้งสิ้นถึง 178 เม็ดเลยทีเดียว ที่มา : metro
-
เด็กสาวตก “ดาบเอกซ์แคลิเบอร์” เก่าแก่ได้ในทะเลสาบ ราวกับเป็นผู้ถูกเลือกในตำนาน!!
เมื่อพูดถึงดาบในตำนานบนโลกใบนี้ เราก็คงจะนึกถึงดาบกันอยู่แค่ไม่กี่เล่ม แน่นอนว่า เอกซ์แคลิเบอร์ ถือเป็นดาบในตำนานที่ต้องถูกพูดถึงเป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน ด้วยความพิเศษและอำนาจของมันที่ผู้ถูกเลือกเท่านั้นจะใช้ได้ ทว่าล่าสุด Matilda Jones หนูน้อยวัย 7 ขวบ ดันตกดาบในตำนานนี้ระหว่างไปออกทริปกับครอบครัวที่ทะเลสาบ Dozmary Pool ในประเทศอังกฤษได้เฉยเลย แบบนี้เธอก็เป็นคนที่ถูกเลือกสิเนี่ย!! จากคำบอกเล่าของคนในท้องถิ่น พวกเขาเล่าว่าทะเลสาบแห่งนี้นี่แหละ เป็นทะเลสาบที่กษัตริย์อาเธอร์ได้เอาดาบเอกซ์แคลิเบอร์ของจริงมาทิ้งไว้ หลังจากบาดเจ็บสาหัสหลังสู้รบในเหตุการณ์ Battle of Camlann แต่ที่แปลกกว่าคือ ตอนที่มาถึงทะเลสาบดังกล่าว Paul Jones วัย 51 ซึ่งเป็นคุณพ่อของน้องหนู Matilda พึ่งจะได้คุยกับเธอและ Lois น้องสาวของเธอว่าที่นี้มีตำนานของดาบดังกล่าวอยู่ แล้วไม่นานพวกเขาก็เจอดาบจริงๆ ซึ่งใครจะเชื่อว่าเด็กสาวที่อยากจะมาเล่นน้ำเพราะอากาศร้อน จะสามารถเจอดาบในตำนานบริเวณแม่น้ำที่ลึกแค่เอวของเด็กสาวได้…ยิ่งบวกเข้ากับที่มาของชื่อ Matilda ที่ตั้งตามจักรพรรดินี Matilda จากราชวงค์อังกฤษด้วยแล้ว มันก็ดูจะเป็นไปได้นะที่เธอจะถูกเลือกจากดาบเล่มนี้ แต่แม้ว่าดาบดังกล่าวจะมีความยาวถึง 1.2 เมตรราวกับเป็นของจริง บวกเข้ากับตำนานต่างๆ แต่คุณพ่อของน้องหนู Matilda ก็บอกว่าตัวดาบอาจจะมีอายุราวๆ 30 ปีเท่านั้น ที่สำคัญมันอาจจะเป็นแค่พรอพประกอบหนังที่ถูกเอามาทิ้งไว้นั่นเอง… ที่มา dailymail
-
พาทัวร์โลกกับความสวยงามของ ‘Kelimutu’ ทะเลสาบ 3 สีจากประเทศอินโดนีเซีย
ถ้าหากพูดถึงประเทศอินโดนีเซีย หนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจของที่นี่ก็คือการเดินป่าศึกษาธรรมชาตินั่นเอง และวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจมาแนะนำกัน นั่นก็คือภูเขาไฟ Kelimutu นั่นเอง Kelimutu คือภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บนเกาะ Flores ในประเทศอินโดนีเซีย ความอัศจรรย์ของที่นี่ก็คือแอ่งน้ำทั้งสามแห่งที่อยู่ในปากปล่องของภูเขาไฟนั่นเอง โดยแอ่งน้ำที่ว่านี้จะมีสีสันที่แตกต่างกันซึ่งเกิดจากการปฏิกริยาเคมีที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยแต่ละทะเลสาบจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป ประกอบด้วยทะเลสาบแห่งแรกซึ่งห่างจากทะเสสาบอีกสองแห่งประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีชื่อว่า Tiwu Ata Mbupu หรือแปลว่าทะเลสาปแห่งจิตวิญญาณบรรพบุรุษ ส่วนแห่งที่สองชื่อว่า Tiwu Nuwa Muri Koo Fai หรือทะเลสาบจิตวิญญาณของคนหนุ่ม และแห่งสุดท้ายคือ Tiwu Ata Polo หรือทะเลสาบแห่งจิตวิญญาณอันชั่วร้าย ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยหน้าผาหินสูงประมาณ 100 เมตร โดยสีในทะเลสาบทั้ง 3 แห่งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอด โดยปรากฏการณ์อันแสนน่ามหัศจรรย์นี้ เกิดจากปริมาณของก๊าซที่อยู่ใต้ดินอย่าง คาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไฮโดรเจนคลอไรด์และไฮโดรเจนซัลไฟด์ ที่ปะทุออกมาจากรอบแตกบริเวณก้นทะเลสาบและแร่ธาตุอื่นๆ แต่ทางตำนานกล่าวไว้ว่าสีของทะเลสาบที่เปลี่ยนไปนั้นเกิดพลังเหนือธรรมชาติของบรรพบุรุษ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ยังคงสวยงามอยู่ดี โดยเวลาที่เหมาะที่จะชมความสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้มากที่สุดนั่นก็คือช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินนั่นเอง โดยในตอนเช้าคุณอาจจะต้องลุกออกจากที่พักประมาณตี 3 ครึ่งและเดินตามเส้นทางเพื่อมาถึงที่นี่ ส่วนใครที่อยากจะเดินทางมาเที่ยวที่สะเลสาบแห่งนี้ ก็สามารถหาที่พักในเมือง Moni เมืองเล็กๆ ที่ใกล้กับทะเลสาบแห่งนี้ และนอกจากนั้นที่เมืองนี้ยังมีกิจกรรมทางธรรมชาติที่น่าสนใจอย่างการเดินป่า และเล่นน้ำตกอีกด้วย ภาพมุมสูงของทะเลสายทั้ง 3…
-
พยาบาลออกมาแนะ วิธีดีที่สุดที่ควรทำ หากคุณถูกโจมตีด้วย “น้ำกรด” เพื่อลดความเสียหาย
หนึ่งในการใช้สารเคมีทำร้ายร่างกายที่เลวร้ายที่สุดคือ การสาดน้ำกรด ที่มักจะเกิดกับปัญหาเมียหลวง เมียน้อย หรือการเล่นชู้ที่เคลียร์กันไม่ลงตัว การโดนทำร้ายร่างกายด้วยการทุบตี อาจรักษาให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ แต่ใครก็ตามที่โดนสาดน้ำกรด นั่นหมายความว่าชีวิตคุณอาจจะพังไปตลอดกาล เนื่องจากไม่สามารถรักษาให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ โดยเฉพาะหากโดนสาดบริเวณใบหน้า คุณอาจสูญเสียการมองเห็นไปตลอดกาล แต่น้ำกรดอาจจะไม่ทำให้ชีวิตพังเสมอไปก็ได้ หากเรารู้จักวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เว็บไซต์ independent ระบุว่า หากคุณโดนน้ำกรดสาด ให้รีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันทีเพื่อลดความเสียหายที่เกิดกับผิวหนัง สำหรับการปฐมพยาบาลนี้เป็นคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่พยาบาลที่เข้าไปช่วยเหลือเหยื่อถูกน้ำกรดสาด 5 คน เมื่อช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ประสบเองหรืออยู่ในเหตุการณ์ สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเห็นคนถูกน้ำกรดสาดคือ ตรวจสอบให้แน่ใจพื้นที่โดยรอบมีความปลอดภัย จากนั้นก็สวมถุงมือเพื่อที่จะโดนสารเคมี พยาบาลจาก St John’s Ambulance แนะนำว่า “ในกรณีที่สารเคมีอยู่ในรูปแบบผง ให้ปัดออกจากผิวได้เลย” ที่สำคัญคืออย่าพยายามตามหายาแก้พิษหรือหาอะไรมาหยุดยั้งการเผาไหม้จากน้ำกรด ยกเว้นในกรณีที่คุณได้รับการฝึกอบรบในเรื่องนี้มาแล้ว วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ เทน้ำลงไปในส่วนที่ถูกน้ำกรดเพื่อเจือจางกรดและลดการเผาไหม้ นี่คือวิธีที่ง่ายและดีที่สุดที่เราทุกคนทำได้ ทั้งนี้ให้เทน้ำเปล่าต่อเนื่องกันอย่างน้อย 20 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีกรดปนเปื้อนบนผิวหนังของเหยื่อแล้ว ในขณะที่เทน้ำ ให้ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของเหยื่อที่มีน้ำกรดปนเปื้อนออก จากนั้นก็ให้เรียกรถพยาบาลทันที ระหว่างนั้นตรวจเช็คเหยื่อตลอดว่ายังหายใจหรือมีการตอบสนองอยู่ กรณีที่น้ำกรดเข้าไปในตา ให้ลืมตาแล้วค่อยๆ เทน้ำเย็นลงไปประมาณ 10 นาที โดยล้างด้วยน้ำทั้งในดวงตาและรอบดวงตาให้ทั่วถึงที่สุด ที่สำคัญคือ…
-
มาได้ไง!? นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาดีๆ แต่ดันมีรถพุ่งทะลุกำแพงบ้านเข้ามา จนมีผู้บาดเจ็บ 4 ราย
ทุกวันนี้ชีวิตเราเต็มไปด้วยเรื่องที่คาดไม่ถึง เพราะต่อให้คุณอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปไหน หรือแม้แต่การนั่งเฉยๆ บางทีเรื่องก็อาจจะมาหาถึงที่แบบงงๆ อย่างเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นในย่านคลิฟตั้นมอร์ ประเทศอังกฤษ ในขณะที่ชายหนึ่งกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้านของตัวเองอย่างมีความสุข จู่ๆ ก็มีรถคันหนึ่งพุ่งทะลุกำแพงบ้านเข้ามาชน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คนคือ คนขับ 1 คน ผู้โดยสาร 2 คน และชายเจ้าของที่นั่งอยู่ในโซฟาห้องนั่งเล่น ดูจากสภาพที่รถพุ่งทะลุกำแพงแล้ว คาดว่าน่าจะมีความรุนแรงในระดับหนึ่ง แต่นับว่ายังมีความโชคดีอยู่บ้างที่ไม่มีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บรายแรง ชายเจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บที่ขาเล็กน้อย ส่วนภรรยาและลูกลุกหนีไปทัน ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนผู้โดยสารในรถทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ศีรษะและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทคนขับรถทันที นั่งอยู่ในบ้านตัวเองแท้ๆ อุบัติเหตุก็ยังอุส่าห์มาหาถึงที่ ที่มา unilad
-
เด็กหญิง ‘Marcia’ และ ‘Mille’ ฝาแฝดคนละสีผิว โอกาสเกิดเพียง 1 ในล้านคู่เท่านั้น
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นฝาแฝดก็ไม่ได้หมายความจะเหมือนกันทุกอย่าง บางคู่มีความต่างในเรื่องเพศ สีผม สีดวงตา แต่สำหรับฝาแฝดคู่นี้ความแตกต่างของพวกเขาคือสีผิว ซึ่งมีโอกาสเกิดได้เพียงหนึ่งในล้านคู่เท่านั้น พวกเขาคือ Marcia แฝดผิวขาวกับผมสีบลอนด์ ในขณะที่ Mille เป็นแฝดผิวสีกับผมสีดำ ทั้งคู่ไม่ใช่แค่พี่น้อง แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กันและกันด้วย เรื่องราวของพวกเธอนั้นถือว่าประหลาดและหาได้ยากมาก แม้กระทั่งคุณครูประจำชั้นของทั้งสองยังไม่เชื่อว่าพวกเธอเป็นฝาแฝดกัน ดังนั้นคุณแม่ Amanda Biggs จึงต้องเข้าไปพูดคุยกับทางโรงเรียน King Solomon International Business School ในเมืองแอสตั้น ประเทศอังกฤษเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับปีการศึกษาใหม่ Amanda บอกว่า “ตอนนี้พวกเขายังอยู่ในระดับประถม และคนอื่นๆ มันจะสับสนเสมอ ตอนที่ฉันไปรับลูกหลังเลิกเรียน ผู้ปกครองคนได้เข้ามาห้ามฉันแล้วถามว่า ‘พวกเขาเป็นลูกสาวคุณหรอ?’” “และเมื่อฉันตอบพวกเขาไปว่า ‘ทั้งคู่เป็นฝาแฝดกัน’ นั่นยิ่งทำให้คนอื่นแปลกใจ พวกเขาถึงกับต้องถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ” คุณแม่กล่าว เธอยังบอกอีกว่า บางทีก็รู้สึกรำคาญเหมือนกันที่ต้องเจออะไรแบบนี้เป็นประจำ อย่างเวลาเดินเล่นกับลูกอยู่ดีๆ ก็มีคนเข้ามาขัดขวาง เพราะคิดว่าเธอไปเอาลูกคนอื่นมา อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณแม่คิดขึ้นได้ว่าเธอโชคดีแค่ไหนที่ได้เป็นแม่ของเด็กน้อยมหัศจรรย์ทั้งสองคน ความโกรธเหล่านั้นก็หายไป สำหรับฝาแฝดที่เกิดมามีผิวคนละสีเช่นนี้ มีโอกาสเกิดขึ้นได้เพียง 1 ในล้านคู่เท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทั้งสองคนถึงเป็นคนที่พิเศษที่สุดสำหรับพ่อแม่ สำหรับ Michael ผู้เป็นพ่อนั้น ก็ตื่นเต้นไม่น้อยเช่นกัน…
-
นักวิจััยเผย การไว้หนวดเคราช่วยยับยั้งรังสี UV ไม่ให้ซึมเข้าผิวหนัง สาเหตุหนึ่งของมะเร็ง
การไว้หนวดบนใบหน้านั้นถือเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่งของคุณผู้ชายหลายท่าน (เอ๊ะ หรือบางคนไว้เพราะขี้เกียจโกนกันนะ?) แต่ไม่ว่าจะไว้ด้วยเหตุผลอะไร ขอให้รู้ไว้ว่ามันมีประโยชน์นะเออ ประโยชน์ที่ว่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่มันสามารถช่วยชีวิตคุณได้เลย เพราะหนวดเคราบนใบหน้านั้นช่วยป้องกันรังสี UV อันที่สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ นักวิจัยชาวออสเตรเลียจาก University of Southern Queensland พบว่า หนวดเคราสามารถยับยั้งรังสี UV เข้าสู่ผิวหนังได้มากถึง 95% ในขณะที่ศาสตราจารย์ Alfio Parisi หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า “แม้หนวดเคราจะไม่ได้มีคุณสมบัติป้องกันแดดเหมือนครีมกันแดด แต่รู้มั้ยมันสามารถทำหน้าที่ยับยังรังสี UV สู่ผิวหนังได้ดีเลยล่ะ” นอกจากนี้พวกเขายังบอกอีกว่า หนวดและเส้นผมคือส่วนที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดน้อยที่สุด แม้จะเป็นช่วงเที่ยงหรือช่วงบ่ายที่ดวงอาทิตย์ขึ้นสูงสุดในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม นักวิจัยไม่แน่นำให้เลิกใช้ครีมกันแดด แต่ตรงข้ามเราควรใช้ครีมกันแดดที่มีคุณภาพสูงเพราะมันจะช่วยป้องกันแสงแดดได้มาก และอย่าลืมว่าหนวดไม่ได้มีคุณสมบัติในการป้องกันแดด แต่มันจะช่วยปิดกั้นไม่ให้รังสี UV ซึมเข้าไปในผิวหนังของเรา แต่ต้องไว้หนวดคราวในปริมาณที่หนาระดับหนึ่งนะ ผู้ชายไว้หนวดคือผู้ชายสายเฮลตี้นะ รู้ยัง ที่มา dailymail
-
ผลงานสุดอลังการ ‘ปราสาททรายสูงที่สุดในโลก’ โดย 19 นักก่อทรายระดับเทพจากทั่วโลก
ตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยเล่นปั้นดิน ปั้นทราย แต่พอวันเวลาผ่านไป การละเล่นเหล่านี้ก็ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา แต่ยังมีอีกหลายคน ที่นำความสนุกในวัยเด็กมาพัฒนาต่อตอนโตจนเกิดเป็นงานศิลปะสุดอลังการ เหมือนกับปราสาททรายที่จะให้ดูกันในวันนี้ ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยทีมงานนักก่อทรายระดับเทพ 19 คน จนเกิดเป็นผลงานการปั้นทรายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยประติมากรทรายจาก 10 ประเทศทั่วโลกได้มารวมตัวกันในเมืองดืสบูร์ก ประเทศเยอรมนี เพื่อทำในส่ิ่งที่ผู้คนไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ ทีมงานทั้งหมดประกอบไปด้วยสมาชิก 19 คน พวกเขาได้ร่วมสร้างปราสาททรายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา โดยปั้นในธีมสถานที่ท่องเที่ยวต่างจากๆ รอบโลก ในตัวปราสาททรายนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมาย เช่น ซากราดาฟามีเลียในบาร์เซโลนา สะพานริเอลโต้อิตาลี มหาพีระมิดกิซ่า หอเอนเมืองปิซา และที่ฝังศพของเอลวิสเพรสลีย์ เจ้าของสถิติก่อนหน้านี้ได้สร้างปราสาททรายที่มีความสูงถึง 14 เมตร และนั่นทำให้ทีมเยอรมนีรู้ว่าต้องทำลายสถิติให้ได้เพื่อสร้างสถิติใหม่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมนี้ต้องการทำลายสถิติ เพราะเมื่อปีที่ผ่านมาพวกเขาก็เคยพยายามมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ประสบกับความล้มเหลว มาครั้งนี้ นักปั้นจึงได้เปลี่ยนกลยุทธ์ด้วยการเลือกใช้ทรายควอทซ์ ซึ่งเป็นทรายที่ดีที่สุดสำหรับการขึ้นรูปโครงต่างๆ ตามต้องการ Eugenia Kolot ประติมากรชาวยูเครน บอกว่า “ครั้งนี้มันจะไม่พังลงมาเหมือนครั้งที่ผ่านมาแน่นอน เพราะเราเลือกทรายที่มีคุณภาพ สร้างอยู่ในที่ที่มีอากาศดี ที่สำคัญเราวางแผนมาอย่างดีมาก” ในที่สุดพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ ได้ผลงานปราสาททรายที่มีความสูงเกือบ 16…
-
ชาวมะกันจัดกิจกรรมรวมตัว เบ่งพลังและกรีดร้องให้เหมือน “โงกุน” เห็นแล้วแสบคอแทน!!
สำหรับใครที่เป็นแฟนการ์ตูนชุดเรื่อง “ดราก้อนบอล” คุณคงจะรู้จัก “ซง โกคู” หรือ “โงกุน” ตัวละครหลักจากการ์ตูนเรื่องนี้อย่างแน่นอน และสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เราสามารถจำจดเขามาได้จนถึงทุกวันนี้ก็คือ การเบ่งพลังซุปเปอร์ไซย่าออกมาในแบบไม่รู้จะเวอร์วังไปไหนนั่นเอง เพราะการเบ่งพลังที่เป็นเอกลักษณ์ของโงกุน เลยทำให้บรรดาแฟนๆ เอามาทำเป็นมุกแซวกันแบบขำๆ มากมาย เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2017 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศก็ได้มีรายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ได้มีคนได้จัดกิจกรรมสุดแปลกขึ้นทางเฟสบุ๊คในชื่อว่า “Scream Like Goku In Front of Washington Square Arch” ซึ่งเป็นการนัดรวมตัวกัน เพื่อไปตะโกนเบ่งพลังเหมือนตัวละครในตำนาน ณ Washington Square Arch ใจกลางนครนิวยอร์ก ในช่วงบ่ายของวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ฟังแล้วดูเหมือนจะเป็นการนัดแนะที่ไร้จุดหมาย คนคงจะไม่บ้าจี้ไปตามกันหรอก… แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีคนเข้าไปร่วมกิจกรรมอย่างจริงจังประมาณ 12 คน และมีคนคอยดูอยู่รอบๆ อีกประมาณ 20 คน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดแปลกที่ประสบความสำเร็จ เพราะมีคนมาร่วมจริงๆ ฮร่าาาา …
-
ผัวถูกเมียแอบ ‘ตัดหรรมส์’ ตอนหลับ ด้วยโทษฐาน… ติดกอล์ฟมากเกินจนไม่สนใจเมีย!!
สำหรับท่านผู้ชายทั้งหลายแล้ว นอกจากเมียสุดที่รักที่ต้องเทิดทูลเหนือหัวแล้ว ก็คงมีแต่น้องชายตัวจิ๋วสุดที่รักของเรานี่แหละ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าอยู่กับฉันไปนานๆ นะๆ ~ ทว่าเหตุการณ์ที่เปรียบดั่งฝันร้ายของชายฉกรรจ์ก็ได้มาเยี่ยมเยือนพ่อบ้านวัย 50 ปี เมื่อตื่นมาเขาก็ต้องพบว่า… พี่จ๋าหรรมส์ลาไปซะแล้ว!! สำนักข่าวท้องถิ่น Jeju Weekly ได้รายงานว่า ภรรยาวัยใกล้เคียงกับสามี ‘คิม’ (นามสมมติ) ได้ตัดสินใจกระทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะกล้าทำจริงๆ เมื่อชาวบ้านได้ยินเสียงร้องมาจากบ้านของคิมถึงกับต้องกดโทรเรียกตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็พบภาพของสามีกำลังนอนร้องโอดโอย และอยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัสโดยมีเลือดจำนวนมากหลั่งออกมาจากบริเวณเป้ากางเกง หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนภรรยา ก็ให้การณ์ว่า หลังจากที่ตัดหรรมส์แล้ว ตนได้นำอวัยวะเพศไปทิ้งลงในชักโครก โดยให้เหตุผลถึงการกระทำในครั้งนี้ว่า “สามีเอาแต่เล่นกอล์ฟมากเกินไปจนไม่สนใจผู้เป็นภรรยา” นอกจากนั้นภรรยายังชี้แจงว่า ทุกช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันเธอไม่เคยได้รับการดูแลเอาใจใส่จากฝั่งสามีเลย และโดยเฉพาะในช่วงระยะหลังสามีเธอก็เริ่มทำตัวห่างเหิน อีกทั้งเธอไม่เคยได้รับเงินดูแลจากเขาเลยแม้แต่สตางค์เดียว ซึ่งตอนนี้ทางฝั่งสามีก็ได้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว ส่วนทางด้านของภรรยานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อทำการตั้งข้อหาจากแรงจูงใจที่อาจยังเปิดเผยไม่หมด… อย่าได้ริอาจทำมนุษย์เมียโกรธเชียว ไม่งั้นจุดจบอาจกลายเป็นแบบนี้ ที่มา: jejuweekly, Mirror
-
ช่างภาพนำเจ้าหญิงดิสนีย์ จัดฉากเข้าเผชิญ ‘ความจริงอันโหดร้าย’ ที่เกิดขึ้นในสังคม
เมื่อเรื่องราวของการ์ตูนดิสนีย์ได้จบลง เรามักจะคิดว่าตัวละครเหล่านั้นคงจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป ซึ่งมันเป็นภาพรวมที่ดูสมบูรณ์แบบของนิยายที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจผู้คน แต่ถ้าหากมาลองคิดในแง่ของความเป็นจริง มันอาจจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราเห็นในโลกการ์ตูนก็เป็นได้ เพราะถ้าหากตัวละครเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในโลกนิทานที่ถูกแต่งขึ้น มันคงจะจบไม่สวยแน่ๆ Shannon Dermody ช่างภาพสาวชาวอเมริกาวัย 20 ปี ที่อาศัยอยู่นิวยอร์ก ได้นำเอาตัวละครเจ้าหญิงดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็น Belle, Ariel หรือ Tiana มาถ่ายภาพเพื่อสร้างผลงานตีแผ่ปัญหาของสังคม และกระตุ้นให้ทุกคนได้มองโลกแห่งความเป็นจริง โดยแต่ละคนมาในสภาพที่บอบช้ำ และไม่ได้สวยงามเหมือนในโลกนินานที่เราเคยเห็น แม้ว่ามันอาจจะดูทำร้ายจิตใจของบางคนไปบ้าง แต่ต้องยอมรับนะว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคม ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาขยะและมลพิษ ความโหดร้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โรคพิษสุราเรื้อรัง ปัญหาการข่มขืน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ผลงานส่วนหนึ่งของเธอเท่านั้น และนั่นก็แสดงให้เราได้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า บางทีโลกอาจไม่สวยหรูอย่างที่คิด อีกทั้งภายในสังคมก็เต็มไปด้วยปัญหามากมายที่ยากเกินจะแก้ไข ซึ่งเราก็ได้แต่รอวันที่มันจะได้รับการเยียวยาให้ลดน้อยลงไปบ้าง คุณสามารถเข้าไปรับชมผลงานอื่นๆ ของเธอได้เลยที่เฟสบุ๊ค SDermodyPhotos ที่มา : huffingtonpost
-
ทัวร์จีน 6 ล้านคน เตรียมเที่ยว “ไทย” เป้าหมายอันดับหนึ่งในช่วงสัปดาห์ทองนี้!!
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครที่มีกิจการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพราะอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้จะเป็นช่วงสัปดาห์ทองของประเทศจีน ซึ่งจะมีวันหยุดติดกันนานถึง 8 วันเลยทีเดียว!! โดยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์ทองของชาวจีนเลยก็ว่าได้ เพราะทางการได้ออกมาประกาศให้เป็นวันหยุดยาว เนื่องจากเป็นงานเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติของพวกเขานั่นเอง จากการรายงานมีการคาดการกันว่าในช่วงหยุดยาวนี้จะมีชาวจีนออกมาเที่ยวภายในประเทศมากถึง 650 ล้านคน และอีกกว่า 6 ล้านคนที่จะเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศอีกด้วย โดยปกติแล้วชาวจีนจะนิยมวางแผนเที่ยววันหยุดยาวในต่างประเทศประมาณ 4-6 วัน แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปีหลังๆ ระยะเวลาในการท่องเที่ยวในต่างประเทศนั้นกลับมีตัวเลขเพิ่มสูงถึง 10 วันต่อทริปเลยทีเดียว ส่วนจากการสำรวจพบว่า 3 ประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมไปมากที่สุดในปีนี้ได้แก่ ประเทศไทย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าประเทศไทยนั้นเป็นเป้าหมายหลักในฝันของชาวจีนหลายๆ คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขของนักท่องเที่ยวในประเทศ ญี่ปุ่น ไทย อินโดนีเซีย และกัมพูชา จะมีการเพิ่มสูงขึ้นอีก หลังจากที่มีการปรับให้การขอวีซ่านั้นง่ายขึ้น และนอกจากความนิยมในการท่องเที่ยวแล้ว บางพื้นที่ในประเทศจีนเองก็เป็นสถานที่ยอดนิยมไม่แพ้กัน อย่างเช่นจังหวัดต่างๆ ในมลฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ประเทศมองโกเลีย เนื่องจากมีความสะดวกในการเดินทางนั่นเอง แบบนี้ใครที่กำลังมีแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศจีนในช่วงเดือนตุลาคม ก็คงจะต้องวางแผนกันดีๆ ล่ะนะ แต่สำหรับใครที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวหรือค้าขายล่ะก็อาจจะเป็นข่าวดีก็ได้นะ!!ที่มา chinadaily
-
อดีตอันมืดมน ‘โรงพยาบาลบ้ามิสซิสซิปปี’ ดั่งผืนป่าช้าที่ฝังร่างผู้ป่วยจิตเภทกว่า 7,000 ศพ
นี่คือเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย Mississippi State University ในเมือง Jackson ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสถานที่ดูแลรักษาผู้ป่วยทางจิตทั่วไป แต่จริงๆ แล้วในอดีตเกิดเรื่องราวอันน่ากลัวขึ้นที่นี่ “โรงพยาบาล Mississippi State Lunatic Asylum เปิดทำการเมื่อปี 1855 และดำเนินการจนถึงปี 1935 ที่นี่เคยมีผู้ป่วยประมาณ 35,000 คน ตลอดระยะเวลากว่า 80 ปี” คำบอกเล่าจาก Molly Zuckerman รองศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยรัฐมิสซิสซิปปี Mississippi State Lunatic Asylum ดำเนินการโดย Dorothea Dix นักปฏิรูปสังคมที่มีชื่อเสียง เธอเป็นที่รู้จักในนาม Angel of the Madhouses Dix ได้เดินทางมายังมิสซิสซิปปีและประกาศว่าจะช่วยผู้ป่วยทางจิตหรือผู้มีพัฒนาการที่บกพร่อง โดยจะเปิดโรงพยาบาลให้กับพวกเขา แต่หลังจากที่สร้าง ปรากฏว่าสถานที่ดังกล่าวไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ระบบความปลอดภัยก็ไม่น่าไว้วางใจด้วย ในช่วงสงครามกลางเมือง กลุ่มทหารได้เข้ามาปล้นโรงพยาบาล ทำลายข้าวของ และบังคับให้พนักงาน 7 ใน 10 คน เข้าร่วมกับกองกำลังฝ่ายเหนือของอเมริกา ต่อมาช่วงปลายปี 1880 ผู้ป่วยจำนวนมากป่วยเป็นโรคร้ายแรง…
-
คนงานก่อสร้างจีนขุดพบ ‘ศพโบราณ’ ในสภาพที่เกือบสมบูรณ์ แม้จะผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว
สำหรับคนงานก่อสร้างการเจอวัตถุแปลกๆ ระหว่างการขุดเจาะนับเป็นเรื่องปกติ แต่งานนี้ดูจะไม่ปกติแล้วซะแล้ว เมื่อคนงานดันขุดเจอศพ!! เรื่องราวนี้เกิดที่ประเทศจีน เมื่อคนงานก่อสร้างขุดเจอโลงศพที่น่าจะมีอายุหลายร้อยปี ภายในมีศพผู้ชายที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี สำหรับศพดังกล่าวนั้นถูกค้นพบในหมู่บ้าน Zhizhu มณฑล Anhua คาดว่าน่าจะถูกฝังในช่วงราชวงศ์หมิง ราวๆ ปี 1368-1644 หรือราชวงศ์ชิง ประมาณปี 1644-1912 โดยศพสวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าละเอียด ภายในยังพบพัดที่คาดว่าน่าจะเป็นพัดใบโปรดของผู้ตาย สำหรับโลงศพนั้น ทำมาจากหินปูนและไม้เนื้อดี ทั้งสองอย่างมีคุณสมบัตในการป้องกันไม่ให้ศพย่อยสลาย ส่งผลให้ศพยังอยู่ในสภาพดีอย่างที่เห็น ทั้งที่เวลาผ่านไปเป็นหลายร้อยปีแล้ว เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ดูแลมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศจีน กล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่าชายคนนี้เป็นขุนนาง หรือไม่ก็มาจากตระกูลที่ร่ำรวย ส่วนสถานที่พบศพนั้นเป็นของครอบครัวตระกูล “Wang” ตอนนี้ศพถูกนำออกมาจากไซต์ก่อสร้างและนักโบราณดคีอยู่กำลังทำการศึกษาร่องรอยทางประวัติศาสตร์จากศพดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้คนจีนมีความเชื่อว่า การเปิดโลงศพนั้น มักจะนำความโชคร้ายมาให้ ด้านศูนย์ดูแลมรดกทางวัฒนธรรมได้สั่งระงับการก่อสร้างอย่างไม่มีกำหนด และนอกจากนำศพไปศึกษาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้มีการแถลงการณ์ใดๆ ว่าจะตามหาลูกหลานของศพหรือไม่ แม้จะพบในพื้นที่ของครอบครัว Wang ก็ตาม คลิปเต็ม พบศพอายุกว่าร้อยปีในประเทศจีน ที่มา dailymail
-
ชายใจดีช่วยชีวิตนกฮัมมิ่งเบิร์ด ให้รอดพ้นจากใยกับดัก ก่อนจะเป็นอาหารของแมงมุม!!
บนโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่มากมาย และพวกเราซึ่งอยู่ในฐานะมนุษย์ ก็จะต้องช่วยกันดูแล และปกป้องสัตว์ตัวน้อยๆ เมื่อเห็นว่าพวกมันกำลังได้รับอันตราย และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอนำเสนอเรื่องราวสุดอบอุ่นหัวใจ เมื่อเจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดตัวหนึ่งต้องการความช่วยหลังจากที่มันดันไปติดกับแมงมุม งานนี้เลยทำให้ Steve Hill ชายผู้ใจดีไม่รอช้า รีบเข้าไปช่วยชีวิตมันทันที ในช่วงเช้าของวันที่แสนธรรมดาวันหนึ่ง ณ เมือง Lilburn ในรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา Steve ได้เดินออกไปข้างนอกบ้าน และจู่ๆ เขาก็ได้เห็นบางสิ่งบางอย่างเข้า ใช่!! นั่นคือเจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดตัวเล็กๆ ที่กำลังถูกแขวนอยู่กลางอากาศ นั่นทำให้ Steve ได้รีบเดินเข้าไปใกล้ๆ มันเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมมันถึงดูนิ่ง และไม่ขยับตัวเลย พอเขาได้เข้าไปใกล้มัน ก็เห็นว่าเจ้านกตัวดังกล่าวได้ติดกับแมงมุมเข้าซะแล้ว ด้วยเหตุนี้ Steve จึงรีบเข้าช่วยเหลือมันอย่างรวดเร็ว โดยนำร่างของเจ้านกน้อยออกมาจากกับดักของแมงมุม ร่างกายของเจ้านกฮัมมิงเบิร์ดถูกปกคลุมไปด้วยใยแมงมุมเหนียวๆ ที่แมงมุมทิ้งไว้สำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ และทำให้มันไม่สามารถบินได้ งานนี้เลยทำให้ Steve ได้นำตัวของมันเข้าไปในบ้าน เพื่อทำความสะอาด เขาได้นำเจ้านกน้อยไปยังอ่างล้างจน และค่อยๆ…
-
พาทัวร์ระบบซูเปอร์มาร์เก็ตที่ “เกาหลีเหนือ” หลังท่านผู้นำคิม ประกาศนโยบายเศรษฐกิจใหม่
เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา หากใครที่ติดตามข่าวของประเทศเกาหลีเหนือ คุณจะรู้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศได้เติบโตขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ท่ามกลางการคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลจีน เพื่อหยุดยั้งโครงการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนอกจากการเติบโตของเศรษฐกิจ จะส่งผลทำให้เกาหลีเหนือมีทุนในการพัฒนาอาวุธต่อ ยังทำให้ชนชั้นการค้าขายเติบโตขึ้นตามไปด้วย ภายหลังจากทางผู้นำ Kim Jong Un ได้ประกาศนโยบายเศรษฐกิจใหม่อีกด้วย ในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะพาคุณมารับชมระบบซูเปอร์มาร์เก็ตของ “เกาหลีเหนือ” ที่ไม่ได้หาชมได้ง่ายๆ เลย และนี่จะถือเป็นจุดเริ่มต้นในการแสดงถึงสัญญาณการสร้างแบรนด์ และการสร้างยอดขายที่กำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคต ภาพวิวัฒนาการผู้บริโภคชาวเกาหลีเหนือที่เปลี่ยนไปอย่างมาก ภายใต้การควบคุมของ Kim Jong Un หลังจากที่ผู้นำเกาหลีเหนือคนล่าสุด ได้ประกาศนโยบายเศรษฐกิจใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยแผนพัฒนาเศรษฐกิจภายใน 5 ปี ทำให้โรงงานในเกาหลีเหนือได้ให้ความสำคัญ กับการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้ดีมากขึ้น ร้านค้าต่างๆ เช่น ร้าน Potonggang ให้ลูกค้าสามารถชำระด้วยเงินสดหรือบัตรเดบิตธนาคารได้แล้ว ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในกรุงเปียงยาง ก็เริ่มกระจายเข้าสู่พื้นที่ชนบทของประเทศแล้ว ในทางกลับกัน แม้ว่ายังคงมีการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐหรือหยวนของจีนประปรายในบางพื้นที่… แต่ก็มีผู้ใช้บัตรเติมเงินหรือตั๋วเงินในประเทศเพิ่มขึ้นที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น และเสถียรภาพของสกุลเงินในประเทศก็เพิ่มมากขึ้น …
-
ด้วยรักของพี่ ที่แม้จะ “พิการไม่มีปลายแขน” ก็พยายามปลอบประโลม ไม่ให้น้องร้องไห้…
ความรักในครอบครัวที่มีให้กันทำให้ทุกคนจะคอยช่วยเหลือกันอยู่เสมอในยามที่มีปัญหา เหมือนกับเด็กสองคนนี้ที่ถึงแม้ว่าคนพี่จะไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์พร้อมแต่ด้วยความที่โตกว่า เขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือน้องของเขาอย่างเต็มที่ คลิปวิดีโอของเด็กน้อยที่เกิดมาพิการไม่มีแขนท่อนล่าง กำลังช่วยปลอบประโลมน้องชายทารกของตัวเองที่นอนอยู่ข้างๆ กัน โดยพยายามนำจุกหลอกให้เขาได้ดูดไว้ส่งคืนให้ เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก ซึ่งในตอนแรกนั้นทั้งคู่ก็ยังคงดูสนุกสนานร่าเริงอยู่บนเตียง จนเมื่อจุกปลอมที่ดูดอยู่ได้หลุดออกจากปากของทารกและทำให้เขาเริ่มร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่โชคดีที่พี่ชายของเขาที่อยู่ข้างๆ ได้เข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ทั้งหมดให้คลี่คลายลงในที่สุด พี่ชายที่โตกว่าไม่มากและไม่มีปลายแขนหรือมืออย่างคนปกติทั่วไป หมุนตัวไปหาทารกน้อยและใช้แขนขวาเล็กๆ กับคางของเขาดันให้สามารถจับเจ้าจุกหลอกนั้นขึ้นมาได้ และพยายามขยับตัวเข้าไปใกล้น้องของเขาที่กำลังร้องไห้ พร้อมกับดันเจ้าจุกนั้นเข้าไปในปากอย่างนิ่มนวล และทำให้ทารกผู้น้องสงบลงได้ในที่สุด คลิปวิดีโอความรักของพี่ที่มีให้กับน้องชาย และภาพความน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นในเมือง Jabriya ประเทศคูเวต ก็ได้ถูกโพสต์ลงไปในอินสตาแกรมและทำให้ผู้คนเข้ามารับชมความน่าเอ็นดูของทั้งคู่กับพฤติกรรมที่ชวนอมยิ้มของคนเป็นพี่ที่มีให้กับน้อง ทำให้มียอดวิวมากกว่า 150,000 วิวเลยทีเดียว มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมาย อย่างเช่น “ขอให้พระเจ้าคุ้มครองด้วยนะ” หรือ “พวกเขาน่ารักมากจริงๆ” แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่าภาพที่ได้เห็นนี้ทำให้รู้สึกอย่างไรกันบ้าง คอมเม้นท์กันไว้ได้เลยนะ ที่มา: dailymail , shnshoona_almzyoona
-
คุณปู่วัย 81 พิสูจน์ความแกร่งในรายการ Ninja Warrior จนชาวเน็ตสงสัย จริงหรือเฟค!?
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยดู American Ninja Warrior รายการตะลุยวิบากที่จะให้ผู้เข้าแข่งขันได้มาพิสูจน์ความแข็งแรงของร่างกายตัวเอง โดยการจัดวางรูปแบบของรายกันนั้นจะมาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การห้อยโหน การปีนป่าย ฯลฯ ซึ่งคุณจะต้องฝ่าแต่ละด่านให้สำเร็จภายในเวลาที่ทางรายการได้กำหนดเอาไว้ ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เข้ามาร่วมแข่งขันในรายการดังกล่าว มักจะเป็นผู้คนที่อยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว แต่ในครั้งนี้กลับมีคุณปู่วัย 81 ปีเข้ามาร่วมท้าพิสูจน์ความแกร่งของร่างกายด้วย เห้ยยย!! จริงดิ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2017 ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ American Ninja Warrior Nation ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอของ Arthur Hickenlooper คุณปู่วัย 81 อดีตพนักงานไปรษณีย์ ที่มาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งทันทีที่เขาได้ออกมาปรากฏตัวนั้น บอกเลยว่าคุณปู่ได้สร้างความตะลึงให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก อีกทั้งหลายๆ คนคิดว่าเขาไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน แต่เดี๋ยวก่อน!! ดูเหมือนว่าคุณจะต้องคิดใหม่ซะแล้ว เพราะทันทีที่เกมได้เริ่มขึ้น คุณปู่ก็รีบทดสอบความแข็งแรงของร่างกายตัวเอง จนสามารถพิชิตด่านสุดโหดมาได้อย่างง่ายๆ โดยมีภรรยาของเขามาร่วมให้กำลังใจในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะตะลึงในความสามารถของคุณปู่ แต่ก็มีผู้ชมจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่านี่คือเรื่องจริง หรือเป็นการแสดงกันแน่ บางคนก็ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า คุณปู่มีตัวตนอยู่จริงๆ…
-
สุดล้ำ!! KFC ในจีนเปิดบริการ “ยิ้มก่อนจ่าย” ผ่านเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ เป็นที่แรกของโลก
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีได้เข้ามาทีบทบาทในชีวิตเราเกือบทุกด้าน ทำให้แรงงานคนถูกใช้น้อยลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันช่วยทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆ เลยล่ะ และล่าสุดนี้ ก็มีเทคโนโลยีสุดล้ำที่ได้นำมาใช้ในธุรกิจ KFC ในประเทศจีน ผ่านเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ ที่ต้องยิ้มก่อนถึงจะจ่ายค่าอาหารได้!! เครื่องสั่งอาหารนี้สร้างขึ้นบนพื้นฐาน Face Recognition หรือเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Ant Financial ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัท Alipay ผู้นำด้านระบบการจ่ายเงินของประเทศจีน โดยบริการนี้จะเริ่มเปิดใช้บริการครั้งที่สาขา KFC ในเมืองหางโจว และถือเป็นการนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้ามาในใช้ร้านอาหารแห่งแรกของโลกด้วย สำหรับขั้นตอนในการจ่ายเงินด้วยการจดจำใบหน้านั้นทำได้ง่ายๆ เพราะทันทีที่คุณเริ่มทำรายการ เครื่องจะบอกให้คุณทำตามทีละขั้นตอน จนกว่าจะทำรายการสำเร็จ ในส่วนของการจดจำใบหน้า เครื่องจะทำการถ่ายรูปคุณด้วยกล้อง 3 มิติ จากนั้นก็เอาไปวิเคราะห์กับฐานข้อมูลลูกค้า KFC ว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อตรงกัน ระบบก็จะให้คุณกดเบอร์โทรศัพท์เพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้ง จากนั้นก็จ่ายเงินได้เลย บางคนอาจมีความกังวลว่า เมื่อแต่งหน้า หรือ ตัดผมแล้ว อาจต้องเริ่มสร้างข้อมูลใหม่ทั้งหมด หายห่วงได้เลยค่ะ เพราะต่อให้คุณแต่งหน้าจัด หรือไม่แต่งหน้าเลย เปลี่ยนทรงผม หรือเปลี่ยนสีผม เครื่องก็ยังคงจำใบหน้าเดิมของคุณได้ตามปกติค่ะ…
-
คุณตาวัย 91 ปี ลื่นล้มจนสาหัสหนัก จากเหตุออกมาต่อว่าเด็กวัยรุ่น ที่ขว้างปาข้าวของเข้าบ้าน…
ในตอนเด็กๆ บางคนอาจจะเล่นสนุกจากการกดกริ่งหน้าบ้านของคนที่ไม่รู้จักและวิ่งหนีไป โดยไม่ได้คิดร้ายหรืออะไรแต่อย่างใด แต่นับว่าเป็นการกวนใจเจ้าของบ้านอยู่พอสมควร จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้ก็มีความคล้ายคลึงกัน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับเกินความคาดหมายไปอย่างมาก… เมื่อเด็กผู้หญิงสองคนมาคอยสร้างความกวนใจให้กับบ้านหลังหนึ่ง ด้วยการขว้างหินและลูกแอปเปิ้ลใส่กำแพงหรือกระจกบ้าน แน่นอนว่ามันจะต้องเกิดเสียง หรือว่าเสี่ยงที่จะทำให้กระจกแตก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าของบ้านไม่พอใจ George Roscoe ชายแก่วัย 91 ปี ผู้เป็นเจ้าของบ้านตั้งใจที่จะออกมาต่อว่าเด็กทั้งสองให้เลิกทำสิ่งที่พวกเธอทำมานานเป็นสัปดาห์ซะที แต่ในตอนที่เขาเดินออกมาก็ได้ลื่นล้มจนทำใบหน้ากระแทกเข้ากับพื้นทางเดินบนระเบียงเกิดเป็นแผลขนาดใหญ่บริเวณตาขวา มีเลือดออกตรงหน้าแข้ง และกระดูกซี่โครงหัก เหตุการณ์ทั้งหมดภรรยาของเขาได้เป็นคนเล่าให้ฟังว่า “ฉันเคยเห็นเด็กสาวทั้งสองคนมาก่อนหน้านี้ อยู่กับวัยรุ่นผู้ชาย และสิ่งที่พวกเธอทำก็ทำมาตลอดทั้งสัปดาห์แล้ว ฉันทนไม่ไหวและได้ออกไปบอกต่อว่าเด็กพวกนั้น แต่เด็กคนหนึ่งก็กลับยิ้มเยาะเย้ยฉัน ฉันจึงกลับเข้าไปข้างในและบอกสามีไม่ต้องออกไปข้างนอก” ทว่าเด็กเหล่านั้นก็ไม่ยอมหยุด ทำให้ชายชราลุกออกไปดุด่าพวกเธออีกเช่นกัน ในขณะที่ภรรยาไม่ทราบว่าเขาเดินออกไปข้างนอก หลังจากนั้นเขาก็จำไม่ได้ว่าเขาล้มลงไปในตอนไหนตอนนั้นมันดูเลือนลาง ภาพที่จำได้อีกครั้งคือตอนที่รถพยาบาลมาถึงแล้ว ในตอนที่พวกเด็กสาวคู่กรณีวิ่งหนีไป มีคนสองคนเดินผ่านมาพอดีพบว่าเขากำลังนอนอยู่บนพื้นมีเลือดไหลออกมาจากศีรษะ ทำให้รีบเรียกรถพยาบาลและเข้าไปบอก Dorothy ภรรยาของเขาที่อยู่ด้านใน ในตอนนั้นเธอตกใจเป็นอย่างมากและได้รีบโทรหาลูกๆ ของพวกเธอ ในตอนนั้นเธอก็ได้แต่คิดสิ่งต่างๆ เต็มไปหมด เธอรู้สึกกังวลและตกใจ จนไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้ หลังจากทั่วพื้นที่เต็มไปด้วยแอปเปิ้ลมากมาย ตำรวจที่ควรจะอยู่รอบๆ หายไปไหน ทุกอย่างกลับไร้วี่แววของคำตอบ… สิ่งนี้จึงทำให้ Lisa Gerrard…
-
ครูสาวถูกจับกุม หลังส่งภาพเปลือยของตัวเอง ให้นักเรียนชายกว่า 5 คนในระยะหลายเดือน…
“ครู” ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ดังนั้นจึงต้องวางตัวให้เหมาะสมและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนอยู่เสมอ สิ่งไหนผิดก็ต้องตักเตือน สิ่งไหนไม่ควรก็อย่าไปส่งเสริม และเมื่อเห็นว่านักเรียนทำดีก็ต้องชื่นชม แต่สำหรับคุณครูคนหนึ่งในเมือง Logan รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย กลับส่งภาพเปลือยของตัวเองให้กับนักเรียนไม่ต่ำกว่า 5 คน จนทำให้เธอถูกจับกุมในข้อหาเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร Tracy Miller ครูสาววัย 27 ปี ได้ส่งรูปภาพเปลือยของตัวเอง เป็นจำนวนหลายภาพให้กับนักเรียนชายหลายคนผ่านแอพโซเชียล Snapchat และทำแบบนี้มาเป็นระยะเวลาหลายเดือนแล้ว เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน Logan High School กล่าวว่า พวกเขารับได้รับแจ้งเรื่องนี้หลังจากที่นักเรียนชายคนหนึ่งเข้ามาหา และให้ดูภาพที่เขาได้รับจากคุณครู Miller ต่อมาครูคนสาวคนดังกล่าวจึงถูกเรียกตัวไปสอบสวน เธอรับสารภาพว่าในปีนี้เธอได้มีการแลกเปลี่ยนภาพโป๊ของตัวเองกับนักเรียนชายอย่างน้อย 5 คน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของเธอทั้งหมด โดยจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้กันต่อไป และจะทำการสอบนักเรียนเพิ่มด้วยว่า นอกจาก 5 คนนี้แล้ว ยังมีคนอื่นๆ อีกหรือไม่ที่ได้รับภาพเปลือยจาก Miller? ตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Miller เชื่อมต่อกับแอพที่กลุ่มนักเรียนใช้ได้อย่างไร นำเบอร์โทรศัพท์ของพวกเขามาจากไหน และเธอมีแรงจูงอะไรในการทำแบบนี้? สำหรับ Miller นั้น เธอได้รับว่าจ้างให้มาเป็นครูที่โรงเรียนตั้งแต่เดือนมกราคม…
-
ร้านเบเกอรี่ในเท็กซัสถูกน้ำท่วม แต่ยังคงทำงานกันต่อไป เพื่อแจกขนมปังให้กับผู้ประสบภัย
หากใครที่ติดตามข่าวในช่วยสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คงจะเห็นข่าวพายุฮาร์วีย์ถล่มเท็กซัส สร้างความเสียหายมหาศาล ถนนและบ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูง จนทำให้ผู้คนไม่มีที่อยู่อาศัย แต่ก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะท่ามวิกฤติอันเลวร้ายนี้ ผู้คนไม่ทอดทิ้งกัน และทุกคนต่างให้ความช่วยเหลือกันและกันเท่าที่จะทำได้ โดยไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติหรือศาสนาใดๆ ล่าสุดเจ้าของร้านขนมปังก็ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยการมอบขนมปังให้ทานกันฟรี เพราะนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาจะช่วยเพื่อนมนุษย์ในขณะนี้ และนี่คือร้านขนมปัง El Bolillo Bakery ที่ต้องปิดรับลูกค้าตั้งแต่เกิดภาวะน้ำท่วม แต่นั่นก็ไม่ได้ปิดโอกาสให้พวกเขาทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนมนุษย์ หลังจากที่ปิดให้บริการไป 2 วัน แทนที่นั่งรอการช่วยเหลือ เจ้าของกิจการพร้อมพนักงานเลือกที่จะทำงานต่อไปด้วยการนำขนมปังไปอบตลอดทั้งคืน เพื่อที่จะเตรียมแจกจ่ายให้ผู้ที่ต้องการ จริงๆ แล้วพนักงานของ El Bolillo หลายคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม บางคนเสียบ้าน เสียรถไป แต่พวกเขาก็ยินดีทำงานต่อเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้อื่น แม้จะไม่ได้ค่าตอบแทนก็ตาม เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอีกแล้ว จากภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องอยู่เคียงข้างกัน ฝ่าฟันมันไปด้วยกันให้ได้ และหวังว่าขนมปังจากร้าน El Bolillo จะทำให้วันแย่ๆ ของผู้ประสบภัยสดใสขึ้นได้บ้าง การช่วยเหลือกันนี้ได้ส่งทอดกันเป็นโดมิโนเลย เพราะก่อนหน้านี้ ร้านเฟอร์นิเจอร์ Gallery Furniture of Houston ก็ได้เปิดร้านให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัยเช่นเดียวกัน ที่มา lifebuzz
-
สัตวแพทย์เร่งเข้าช่วยเหลือ ‘สุนัขติดเฮโรอีน’ ในอัฟกานิสถาน เพื่อให้มันได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่า
ในช่วงฤดูร้อนของปี 2016 ได้มีคลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ทั่วอัฟกานิสถาน เพียงไม่กี่ชั่วโมงมีคนเข้าดูนับพันๆ ครั้ง และกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ในคลิปนั้น เผยให้เห็นสุนัขจรจัดตัวหนึ่งที่มีแววตาเหม่อลอยตลอดเวลา นอนอยู่ใต้สะพานแห่งหนึ่ง และเห็นได้ชัดว่ามันมีอาการเหมือนคนติดยาเสพติด สำหรับอัฟกานิสถานนั้นถือเป็นประเทศที่มีการปลูกฝิ่นมากที่สุดในโลก โดยมีฝิ่น 93% ของโลก ถูกปลูกไว้ที่นั่น ส่งผลให้คนจรจัดจำนวนมากติดยา โดยอาศัยอยู่ตามข้างถนนในเมือง Kabul และตามตรอกซอยมืดๆ ที่ไม่ค่อยมีคนผ่าน นอกจากคนแล้ว สุนัขจรจัดก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน… ในชุมชนนั้นมีหมาหนุ่มตัวหนึ่งชื่อ Nesha ที่มีความหมายว่า “มึนเมา” ในภาษา Dari ซึ่งเป็นหนึ่งในภาษาประจำชาติของอัฟกานิสถาน สุนัขตัวนี้ถูกพบอยู่ใต้สะพาน Pul-e-Sokhta มันมีอาการแปลกๆ ก่อนที่ทราบภายหลังว่ามันติดยาเสพติด จริงๆ แล้วเป็นที่ทราบกันดีว่าคนใน Kabul จำนวนมากติดยา แต่ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะลามไปถึงสุนัขด้วย ต่อมามีวิดีโอที่เผยแพร่โดยลูกของเพื่อนบ้านคนหนึ่ง เผยเห็นตอนที่ Nesha ในสภาพที่มึนเมา หลังถูกคนบังคับให้มันเสพยา แต่ไม่กี่วันต่อมา วิดีโอนั้นก็ถูกลบออกไป อย่างไรก็ตามเรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ ทั้งยังได้รับความสนใจจากสำนักข่าวต่างๆ จนมีการนำเสนอออกทีวี Hannah Surowinski ผู้ร่วมก่อตั้ง Nowzad ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงแห่งเดียวในอัฟกานิสถาน กล่าวว่า “สัตวแพทย์ของเรารู้สึกแย่มาก…
-
หนุ่มน้อยวัย 6 ขวบ ผู้มีแขนซ้ายข้างเดียว บนเส้นทางสู่โปรกอล์ฟแห่ง PGA Tour!!
ยังจำกันได้มั้ยว่าตอน 6 ขวบเราทำอะไรกันอยู่? เพราะเรื่องราวของเราดูเบสิคไปเลย เมื่อได้เจอกับเรื่องราวของ Tommy Morrissey หนุ่มน้อยผู้มีแขนซ้ายข้างเดียวที่กลายเป็นคนดังแห่งวงการกอล์ฟไปซะแล้ว โดยเรื่องราวของ Tommy ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กที่เกิดมาพร้อมความผิดปกติอีกทั่วโลก หลังจากที่ได้ไปโชว์ผลงานการสวิงในการแข่งขัน Honda Classic เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา “ผมสนุกมากกับการได้รับชัยชนะ” เป็นเพียงคำสัมภาษณ์สั้นๆ ของหนูน้อย ที่ทำให้เรารู้ว่าแม้อายุอานามเพิ่งจะแค่ 6 ขวบ แต่ความมุ่งมั่นของเขานั้นไม่ธรรมดาเลย Tommy เกิดมาพร้อมอาการผิดปกติที่ทำให้เสียแขนขวาไปหนึ่งข้าง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ด้านการตีกอล์ฟ เพียงอายุได้แค่ 3 ขวบ หนูน้อยก็ได้รับเชิญให้เข้าแข่งขันกอล์ฟเป็นรายการแรกในชีวิต “เหมือนว่าเขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยล่ะ ในฐานะที่เป็นพ่อแม่เราพยายามที่จะสนับสนุนลูกให้ได้ทำในสิ่งที่เขาตั้งใจมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เมื่อไหร่ที่พูดถึงเรื่องกีฬาและความสร้างสรรค์ มันย่อมไม่มีเรื่องของความพิการเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว เพราะเราต่างล้วนมีวิธีการที่แตกต่างกัน” คุณพ่อให้สัมภาษณ์ ย้อนกลับไปในช่วงวัยแบเบาะ Tommy มักจะมีปฏิกริยาที่ไม่ค่อยพอใจเสมอ เมื่อเขากำลังดูการแข่งขันกีฬากอล์ฟและถูกพ่อแม่เปลี่ยนช่องทีวี ในวัย 14 เดือน Tommy ก็ได้สัมผัสกับไม้กอล์ฟเป็นครั้งแรก เรียกได้ว่าแม้แต่ยามกิน ยามนอน หรือแม้แต่ยามพักผ่อน เขาก็มักจะไปไหนมาไหนเพราะไม้กอล์ฟติดตัวเสมอ หนูน้อยโชว์วงสวิงในรายการ…
-
สาวออซซี่กลั้นหายใจในน้ำได้นานกว่า 4 นาที จนได้รับขนานนามเป็น “นางเงือก” ในชีวิตจริง
ในตอนเป็นเด็ก สาวๆ หลายๆ คนคงเคยรับชมการ์ตูน The Little Mermaid กันมาบ้างแล้ว และนั่นก็กลายมาเป็นแรงบันดาลใจและความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นเงือกสาวแสนสวย Julia Wheeler สาววัย 31 ปี จากเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย คนนี้ก็เช่นกัน เธอได้เติมเต็มความฝันในวัยเด็กของตัวเองให้กลายเป็นนางเงือกในชีวิตจริงได้แล้ว สำหรับ Julia เธอเป็นนักดำน้ำ Freediver มืออาชีพ ที่สามารถกลั้นหายใจในน้ำได้นานถึง 4 นาที ขณะที่กำลังว่ายน้ำอยู่ในมหาสมุทร เมื่อตอนที่ Julia อายุได้เพียง 5 ขวบ เธอได้ฝึกกลั้นหายใจในอ่างอาบน้ำ หลังจากที่ได้รับชมภาพยนตร์การ์ตูนดิสนีย์เรื่อง The Little Mermaid และนั่นก็ทำให้เธอได้เริ่มหลงใหลในตัวนางเงือก ทางด้าน Julia ได้ออกมาเผยว่า “ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันชอบกลั้นหายใจอยู่ในอ่างอาบน้ำที่โรงเรียน ฉันชอบว่ายน้ำ และอยากอาศัยอยู่บนชายฝั่ง และในมหาสมุทร ฉันหลงใหลในตัวของ Ariel เป็นอย่างมาก และฉันก็อยากจะเป็นนางเงือกเหมือนเธอ” …
-
ตำรวจสหรัฐฯ เตือนประชาชน ระวังภัยตัวตลกออกอาละวาดอีกครั้ง หลังภาพยนตร์ It เข้าฉาย…
ภาพยนตร์รีเมคเรื่อง “It” จากผลงานบทประพันธ์ของนักเขียนชื่อดัง Stephen King กำลังจะกลับมาสร้างความสยดสยองจนทำให้คนดูต้องพากันหวาดผวาอีกครั้ง ในวันที่ 7 กันยายน 2017 นี้ และนั่นก็ทำให้ภายในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เกิดปรากฏการณ์คอสเพลย์ตัวตลก หรือ Clown (แต่งเลียนแบบตัวตลกในภาพยนตร์) แพร่ระบาดหนักจนทางการต้องออกมาประกาศเตือนให้ประชาชนระมัดระวังตัวกันมากขึ้น โดยเมื่อปีที่แล้ว ก็เคยมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสถาณการณ์ความวุ่นวายภายในสหรัฐฯ หลังพบกระแสของคนแต่งชุดตัวตลกออกมาทำร้ายผู้คน ทำลายทรัพย์สิน และออกปล้นทรัพย์ผู้คนในยามค่ำคืน ซึ่งในปี 2017 นี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ก็ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า เจ้าตัวตลกดังกล่าวอาจมีแนวโน้มที่จะกลับมาระบาดอีกครั้ง หลังจากที่ภาพยนตร์ “It” เข้าฉายไปแล้ว โดยในวันที่ 2 กันยายน 2017 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐเพนซิลเวเนีย มีความกังวลเรื่องการกลับมาของปรากฏการณ์ตัวตลก Clown ที่อาจจะออกมาละวาดอีกครั้งเหมือนปีที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ออกมาแถลงการณ์ว่า “เราคาดว่าอาจจะมีรายงาน การพบเห็นตัวตลกที่น่าขนลุกออกมาอาละวาดอีกครั้งในเดือนนี้” จากการรายงานระบุว่า ปรากฏการณ์ตัวตลก Clown ทำให้พ่อแม่เด็ก แม้แต่ที่โรงเรียนทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ทำการแจ้งให้เข้าจับกุมคนที่แต่งเป็นตัวตลกดังกล่าว ในข้อหาสร้างความวุ่นวายเป็นจำนวนมาก…
-
อาจารย์โอดะเผย “เจ็ดเทพโจรสลัด” ทำให้วันพีซดำเนินเรื่อง มาได้นานกว่าที่ตั้งใจเอาไว้…
วันพีซกลายเป็นการ์ตูนที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลก เพราะมีเนื้อหาที่น่าตื่นเต้น แฝงข้อคิด รวมทั้งมิตรภาพของความเป็นเพื่อน จนแฟนๆ การ์ตูนไม่อยากจะให้เรื่องนี้มีจุดจบเลยล่ะ… แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการ์ตูนวันพีซ #เหมียวขี้ส่อง ขอสรุปให้สั้นๆ ว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีความปรารถนาอยากเป็นราชาโจรสลัด ทั้งนี้ความสนุกตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณผู้เขียนมากฝีมืออย่าง อ.เออิชิโร โอะดะ ที่ไม่เคยทำให้แฟนๆ ผิดหวังเลย หากใครที่ติดตามมาตั้งแต่แรกคงจะคุ้นชื่อ เจ็ดเทพโจรสลัด (ชิชิบุไค) กันเป็นอย่างดี หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องมี 7 คน ซึ่งล่าสุดนี้ อาจารย์โอดะก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านคอลัมน์นักเขียนในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์แล้วว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น… “เหตุผลที่ทำให้วันพีซดำเนินมาได้กว่า 20 ปี เป็นเพราะเจ็ดเทพโจรสลัด จากตอนแรกที่ตั้งใจไว้ว่า จะเป็นเรื่องราวการต่อสู้กับจักรพรรดิทั้งสี่องค์ (Yonko) แต่แลัวมันก็จบลงภายใน 5 ปีเท่านั้น นั่นทำให้ผมคิดขึ้นได้ว่าถ้ามีเจ็ดเทพโจรสลัด มันน่าจะทำให้การ์ตูนน่าลุ้นยิ่งขึ้น ก็เหมือนกับหนังสยองขวัญที่ความซับซ้อนทำให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างยาวนานขึ้น หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมไม่เป็น สองหรือห้าเทพโจรสลัด? แต่สำหรับผมแล้ว “เจ็ดเทพ” มันฟังดูเท่กว่า ดังนั้นตั้งแต่เริ่มวาดจนถึงตอนนี้ผมไม่เคยเสียใจกับมันเลย เพราะผมได้วาดในสิ่งตัวเองต้องการ แม้มันจะนานกว่าที่ตั้งใจไว้ไปนิดนึงก็ตาม” นี่แหละเหตุผลของอาจารย์โอดะ เหตุผลที่ต้องเป็นเจ็ดเทพโจรสลัด (ชิชิบุไค) เพราะมันฟังดูดี…
-
ผลงานภาพถ่ายของ ‘สแตนลีย์ คูบริก’ กับวิถีชีวิตของปุถุชนคนนิวยอร์ก จากช่วงยุค 1940s
ภาพถ่ายต่างๆ ก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ผ่านเลนส์ของช่างภาพแต่ละคนที่ต่างกันออกไป ทั้งเรื่องของฝีมือและสิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมา ยิ่งหากเป็นเรื่องราวในอดีตที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นด้วยแล้ว นี่ก็คงจะเป็นสิ่งที่เราไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้และต้องขอบคุณภาพเหล่านี้ที่ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศเหล่านั้นโดยที่ไม่ต้องจินตนาการ Stanley Kubrick (สแตนลีย์ คูบริก) เป็นผู้กำกับหนังชาอเมริกันที่ใช้ชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 และเป็นทั้งนักเขียน โปรดิวเซอร์ ช่างภาพ ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษช่วง 40 ปีสุดท้ายในสายอาชีพของตัวเอง การทำงานของเขาในตอนนั้นเต็มไปด้วยความพิถีพิถัน ความหลากหลายและความสามารถในการควบคุมศิลปะต่างๆ ให้ออกมาเป็นไปตามที่เขาต้องการ แต่ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นผู้สร้างหนังต่างๆ มามากมาย เขาได้ทำงานเป็นช่างภาพให้กับนิตยสาร Look ในนิวยอร์ก จากจุดเริ่มตั้งแต่ปี 1945 ที่เขาได้ขายภาพให้กับทางนิตยสารเป็นครั้งแรก และได้เริ่มเข้าทำงานที่นี่ในปี 1946 จนถึงปี 1950 ตลอดการทำงานเขาได้เก็บประสบการณ์และมุมมองของคนในเมืองไว้มากมายกว่า 300 ชิ้นงาน เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองนิวยอร์กแห่งนี้ การแต่งตัวในชุดลายจุด Polka Dot ของผู้หญิงในยุคนั้น เด็กหนุ่มกับการปีนข้ามรั้วเหล็กในเมือง การพลอดรักแบบไม่แคร์สายตาประชาชีบนบันไดหนีไฟ ไม่รู้ว่าหันมามองไกล หรือว่าการลงบันไดเลื่อนคนเดียวมันแปลกกันแน่ ภาพการเขียนระบายอารมณ์ของหญิงสาว เด็กหนุ่มทำงานรับขัดรองเท้าตามข้างถนน การทำงานหนักโดยไม่สนเรื่องของอายุ …
-
เคล็ดลับอิสระในการทำงานของสาววัย 23 ปี ที่หารายได้ผ่านไอจี ได้มากกว่าการเป็นนางแบบ…
ปัจจุบันการสร้างรายได้ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็สามารถเห็นกันได้เป็นเรื่องปกติ อย่างเช่นการเปิดราคาให้คนสามารถเข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันในโลกออนไลน์ การทำโฆษณา หรือแม้แต่การมีสปอนเซอร์ให้เราช่วยโปรโมทสินค้าต่างๆ เหมือนกับเธอคนนี้ที่บอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว Gabby Epstein หญิงสาววัย 23 กับการทำงานในฝันของใครหลายคน ที่ตอนนี้เธอมีรายได้จากการโปรโมทสินค้าให้กับผู้ที่เป็นสปอนเซอร์ให้ต่างๆ มากมายผ่านอินสตาแกรมกับยอดติดตามมากกว่า 1.8 ล้านคน และบอกเลยว่าการเป็นนางแบบอาชีพที่เธอทำควบคู่กัน รายได้การทำงาน 4 วันในการเป็นนางแบบของเธอยังไม่เท่ากับสปอนเซอร์ที่เข้ามาจ่ายค่าโฆษณาในโซเชียลมีเดียเพียงรายเดียวเลย . และครั้งนี้เธอก็ได้ออกมาบอกเล่าสาวๆ ทั้งหลายว่า เธอมาถึงจุดที่สามารถนำการทำงานมาผนวกเข้ากับการไปเที่ยว ความสวยงาม ชุดว่ายน้ำ แฟชั่น หรือแม้แต่การใช้ชีวิตไปรอบๆ โลกอย่างนี้ได้อย่างไรห ย้อนกลับไปในตอนที่เธอยังเรียนมหาวิทยาลัยสาขาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ เธอก็ได้มาทำความรู้จักกับอินสตาแกรมผ่านการแนะนำของเพื่อนๆ ซึ่งในตอนนั้นนอกจากเรื่องเรียนแล้วเธอยังทำงานพาร์ทไทม์ และเป็นนางแบบอีกด้วย การเป็นนางแบบแน่นอนว่าต้องออกเดินทางไปตามที่ต่างๆ ที่สวยงาม จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอได้ถ่ายรูปและโพสต์ลงอินสตาแกรม เพื่อนๆ ของเธอมากมายก็ได้เข้ามาเห็นว่าเธอได้ออกมาเจอกับอะไรบ้างในชีวิต จนเมื่อทางแบรนด์สินค้าหรือบริษัทต่างๆ ติดต่อเข้ามายื่นข้อเสนอให้เธอได้รับเสื้อผ้าฟรีๆ ผลิตภัณฑ์หรือแม้แต่ทริปท่องเที่ยว เพื่อแลกกับการโปรโมทสินค้าให้กับพวกเขาเหล่านั้นลงในหน้าเพจของเธอ จนกระทั่งมันเติบโตกลายเป็นอาชีพหลักของเธอไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงตอบรับกับข้อเสนอที่ได้รับจากโรงแรมหรือบริษัทท่องเที่ยวเพื่อออกเดินทางไปยังประเทศต่างๆ มากมาย โดยเมื่อช่วง 2 ปีก่อน เธอกล่าวว่า “ฉันได้ใช้เวลาเพียงแค่ 2 เดือนในการทัวร์ยุโรปและถ่ายภาพในเนื้อหาที่เหมาะกับคู่รัก…
-
สำนักราชวังญี่ปุ่นยืนยัน เจ้าหญิงมาโกะเตรียมสละฐานันดรศักดิ์ เพื่อสมรสกับหนุ่มสามัญชน
หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเจ้าหญิงมาโกะ หลานสาวคนโตของสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เตรียมที่จะหมั้นหมายกับหนุ่มสามัญชน (อ่านข่าวเก่า เจ้าหญิง Mako แห่งญี่ปุ่น สละสถานะราชวงศ์ เพื่อแต่งงานกับหนุ่มธรรมดาที่พบรักในร้านอาหาร…) ล่าสุดดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนแล้ว หลังจากที่ทางสำนักราชวังของญี่ปุ่นได้มีการประกาศยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2017 และอย่างที่ทราบกันดีว่าพระองค์นั้น จะต้องสละฐานันดรศักดิ์และกลายเป็นเพียงแค่สามัญชน เหมือนดั่งพระสหายคนสนิท ‘เคอิ โคมุโระ’ จากงานแถลงข่าวต่อสาธารณะชน ณ สำนักราชวัง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหญิงมาโกะกล่าวว่า “ในครั้งแรกที่พบกัน ฉันตกหลุมรักเพราะรอยยิ้มที่สดใสราวกับดวงตะวันของเขา” พระองค์เผยว่าได้พูดคุยกับฝ่ายคู่หมั้นครั้งแรกในงานที่จัดขึ้น สำหรับนักเรียนที่กำลังเตรียมตัวจะไปศึกษาต่อต่างประเทศเมื่อห้าปีก่อน และเมื่อเวลาผ่านไป เจ้าหญิงมาโกะ และคุณเคอิ โมคุโระ ก็ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น พระองค์กล่าวว่าคู่หมั้นของพระองค์นั้นเป็นคนที่มีความจริงใจ ตั้งใจทำงานและมีหัวใจที่เข้มแข็ง ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละที่ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยังคงหนักแน่น จนกระทั่งพระองค์ได้แนะนำให้ฝ่ายชายได้รู้จับกับพระบิดาและพระมารดา และกล่าวว่า ‘ผู้ชายคนนี้คือชายที่เธออยากจะร่วมสร้างอนาคตด้วย’ ทางด้านฝ่ายชายเองก็ได้กล่าวว่า เขารู้สึกขอบคุณพระองค์และเขามีความสุขอย่างมาก ที่ได้รับการยอมรับจากพระบิดาและพระมารดาของเจ้าหญิง รวมถึงสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะด้วย ทางฝ่ายชายได้ให้คำมั่นสัญญาว่าเขาพร้อมที่จะดูแลคู่ชีวิตของเขาอย่างดี พร้อมกับมอบความรักที่แสนจะอบอุ่นให้กับเธอ “การมีครอบครัวยังคงเป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้ แต่ฉันหวังว่าบ้านของเราจะมีความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม” ฝ่ายเจ้าหญิงมาโกะกล่าว…
-
นักจิตวิทยาเผย “พิซซ่า” เป็นแรงจูงใจที่ช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น มากกว่าเงินโบนัสซะอีก!?
ถ้าคุณไม่มีความกระตือรือร้นในการทำงานตอนเช้าๆ ชอบงีบหลับบนโต๊ะทำงานในช่วงบ่าย วันนี้เราก็มีทางออกง่ายๆ มานำเสนอ… จากการวิจัยใหม่ที่เพิ่งออกมา พบว่า พิซซ่าเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้คุณรู้สึกตื่นตัว ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ด้วยแหนะ!! งานวิจัยนี้มาจาก Payoff: The Hidden Logic That Shapes Our Motivations หนังสือเล่มใหม่ของนักจิตวิทยา Dan Ariely ระบุว่า แผ่นแป้งที่เต็มไปด้วยชีสเหนอะหนะ เป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้ดี การวิจัยนี้ Ariely ได้ทำการทดลองกับคนงานประกอบชิปคอมพิวเตอร์ในบริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่งในอิสราเอล เพื่อค้นหาแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขาทำงานหนักขึ้น ในช่วงเริ่มต้นของสัปดาห์การทำงาน ผู้ที่เข้าร่วมการวิจัยได้รับหนึ่งในข้อความเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นแรงจูงใจว่า ‘สัญญาว่าจะพาไปเลี้ยงพิซซ่า’ ‘ให้โบนัสเป็นเงินสดประมาณ 800 บาท’ หรือ ‘คำชมจากจากเจ้านายในรูปแบบของข้อความ’ ถ้าหากว่าพวกเขาทำงานได้ตามเป้าในแต่ละวัน และพนักงานอีกส่วนจะไม่ได้รับข้อความใดๆ เลย ทั้งๆ เพื่อเป็นการถ่วงดุลระดับความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน ที่จะส่งผลทำให้ไม่มีกำลังใจในการทำงาน และอาจจะมีความเฉื่อยต่อการทำงานได้ ซึ่งเมื่อนำมาเทียบกับอีกกลุ่มที่ได้รับข้อความ ซึ่งเป็นพนักงานที่ได้รับข้อความ เกี่ยวกับคำสัญญาว่าจะพาไปเลี้ยงพิซซ่า ปรากฏว่าหลังการทดลองวันแรก พวกเขาก็มีความกระตือรือร้นเพิ่มขึ้นถึง 6.7% ในขณะที่พนักงานอีกกลุ่มที่ได้รับข้อความ รับรางวัลคำชมจากเจ้านาย การทำงานของพวกเขาดีขึ้น 6.6% และสำหรับกลุ่มที่ต้องการเงินโบนัส มีการทำงานดีขึ้นเพียง…
-
หญิงสาวปลอมตัวเป็นตำรวจเป็นเวลา 2 ปี เพื่อจับตามองแฟนเก่า แต่ดันโป๊ะแตก!!
ความหึงหวงถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับคู่รัก มีมากมีน้อยก็ตามแต่พฤติกรรมของอีกฝ่าย (รวมถึงของเราเองด้วย) แต่ก็ต้องควบคุมความรู้สึกนี้ให้ดีๆ หน่อย เพราะไม่งั้นมันอาจจะเลยเถิดใหญ่โตจนกู่ไม่กลับแบบกรณีที่เราจะเล่าต่อไปนี้ได้ นี่เป็นเรื่องราวความหึงหวงของ Lauren Adderley สาววัย 21 ปี ที่มีต่อ Mitcell Lloyd อดีตแฟนหนุ่มของเธอ ถึงแม้ว่าเลิกกันไปแล้วแต่แม่สาวคนนี้ก็ยังตามราวีไม่ให้ชายหนุ่มมองหญิงอื่น จนถึงขั้นต้องปลอมเป็นตำรวจติดต่อกัน 2 ปี ที่อ่านแล้วคิดว่า โอ๊ย คนแบบนี้ก็มีหรอ!? Adderley ได้ใช้วิธีการการปลอมตัวนี้อย่างแยบยล เนียนซะจนแทบไม่มีใครจับได้ โดยการบอกแฟนหนุ่มของเธอว่าเธอน่ะเป็นตำรวจ แล้วก็กำลังจับตาดูเขาอยู่ทุกฝีก้าว เธอใช้อีเมล 3 อีเมลเพื่อสมัครเฟซบุ๊กเพื่อส่องดูว่าเขาคุยกับสาวๆ คนอื่นหรือไม่ สร้างเฟซบุ๊กปลอมเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือว่าเธอเป็นตำรวจจริงๆ Mitcell Lloyd แฟนเก่าผู้ถูกคุกคามเป็นเวลา 2 ปี เธอมักจะข่มขู่แฟนเก่าของเธอว่าถ้าเขาคุยกับหญิงคนอื่นล่ะก็เธอจะแจ้งข้อหาและปรับเงินเป็นจำนวน 3,000 ปอนด์ หรือราวๆ 120,000 บาท เธอใช้อีเมลปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ เพื่อติดตามเขาและข่มขู่เป็นระยะๆ หากว่าเขาคุยกับคนอื่นก็จะได้รับอีเมลเตือนทันที ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมาที่เธอได้ใช้วิธีนี้และมันทำให้เขารู้สึกไร้อิสรภาพ Adderly…
-
เปิดกรุภาพถ่าย ‘ย่านโคมแดงวินเทจ’ อดีตความบันเทิงแห่งกามารมณ์ ของแดนอาทิตย์อุทัย..!!
จริงอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องสยิวๆ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ออกแนว 20+ เราคงต้องยกให้กับประเทศนี้เค้าเลยล่ะ แต่คราวนี้เราจะย้อนอดีตไปในช่วงยุค 1970 – 1980 กันบ้าง โดยภาพถ่ายสุดเรียลทั้งหมดนี้เป็นผลงานของ Araki Nobuyoshi ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของซ่องญี่ปุ่นในอดีต ภาพทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในย่านชินจูกุ เมืองโตเกียว ที่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวโคมแดงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้นมากมายในย่านนี้ และมันก็ถูกขนานนามว่าเป็นถนนที่ไม่เคยหลับใหล สำหรับชาวญี่ปุ่นจะเรียกถนนเส้นนี้ว่า ‘ถนนแห่งความสุข’ ซึ่งปรากฎครั้งแรกในสมัยราชวงศ์เอโดะ ไม่ใช่แค่วัดวาอาราม หรือวิหารเท่านั้น ที่เป็นประวัติศาสตร์อยู่คู่ญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน เพราะ ‘ซ่อง’ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆ บอกเล่าเรื่องราวของคนยุคนั้นได้ดีไม่แพ้กัน สำหรับการบริการเหล่านี้ในอดีต จะใช้วิธีการโทรเรียกจากพนักงานโรงแรม จากนั้นก็จะมีคนส่งตัวโสเภณีมาให้ ค่าใช้จ่ายในยุคนั้นก็จะอยู่ที่ราวๆ 30,000 เยน/ชั่วโมง (คิดเป็นประมาณ 10,000 บาท ในปัจจุบัน) สถานบริการหลายๆ แห่งจะเปิดใกล้กับวัด หรือสถานที่ชื่อดัง แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็มองว่ามันเป็นเหมือนสถานให้บริการความสุขอย่างหนึ่ง สำหรับในแถบคันโตนั้น ค่าตัวของโสเภณีในยุคนั้นจะอยู่ที่ราวๆ…
-
คุณแม่ใช้เวลานานกว่า 42 ปี ตามค้นหาความจริง เมื่อศพของลูกชายหายไปอย่างไร้ร่องรอย…
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2017 ทางเว็บไซต์ Mirror มีรายงานว่า Lydia Reid คุณแม่วัย 68 ปี ได้พยายามค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นกับ Garry ลูกชายที่เพิ่งเกิดได้เพียงแค่ 7 วัน หลังจากที่เขาได้เสียชีวิตในเดือนกรกฎาคมปี 1975 และถูกจัดการนำไปฝังทั้งๆ ที่เธอไม่เคยได้เห็นร่างของลูกเลย… แต่ทว่าภายหลังจากที่ได้มีการขุดหลุมฝังโลงศพของเขาขึ้นมา นั่นทำให้ Lydia ถึงขั้นเสียใจหนักกว่าเดิม เพราะร่างของ Garry ในโลงนั้นกลับหายไปอย่างเป็นปริศนา จากการรายงานระบุว่า Lydia ใช้เวลาต่อสู้นานถึง 42 ปี เพื่อตามหาสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Garry โดยเธอได้อ้างว่า เมื่อเธอขอดูหน้าของลูกชายที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเด็กในเมืองเอดินบะระ ทางโรงพยาบาลก็ได้นำร่างของเด็กคนอื่นซึ่งไม่ใช่ลูกของเธอมาให้ดู “ฉันได้คัดค้าน แต่พวกเขาบอกว่าฉันกำลังได้รับความทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ลูกของฉันมีผมสีบลอนด์ แต่เด็กคนนี้มีผมสีดำ นี่ไม่ใช่ลูกของฉัน” Lydia กล่าว อย่างไรก็ตาม Lydia ได้รับคำสั่งจากศาลให้ทำการขุดหลุมฝังศพในเอดินบะระเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เธอกลับพบว่าไม่มีแม้ร่องรอยของศพมนุษย์อยู่เลยแม้แต่น้อย …
-
เด็กหนุ่มชาวบราซิล ฟ้องร้องพ่อตัวเองต่อศาลในกรณี ‘บกพร่องหน้าที่แห่งความเป็นพ่อ’
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2017 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า เด็กหนุ่มชาวบราซิลวัย 18 ปีรายหนึ่ง ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในกรณีที่ถูกพ่อของเขาทอดทิ้ง โดยที่เขาจะไม่ขอเงินค่าชดเชยใดๆ แต่เพียงอยากได้คำตัดสินที่เป็นธรรม เพราะอย่างน้อยจะได้ทำให้พ่อรู้สึกผิดที่ไม่เคยเอาใจใส่เขาเลย ทางด้าน Gabriela Jardon ผู้พิพากษาจากศาลรัฐบาลกลางของบราซิลได้ออกมากล่าวว่า นี่เป็นหนึ่งในกรณีที่ยากที่สุดในอาชีพการงานของเธอ หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวของเด็กอายุ 18 พยายามฟ้องร้องพ่อของตัวเอง หลังจากที่ทำให้เขากลายเป็นเด็กกำพร้าพ่อ และทันทีที่โตเป็นผู้ใหญ่ เด็กหนุ่มคนนั้นจึงมีความรู้สึกว่าจะต้องพาพ่อไปศาล เพื่อให้เราได้รับผิดชอบในสิ่งที่เคยทำเอาไว้… อย่างไรก็ตาม Gabriela ยังได้เขียนในบันทึกไว้ว่า ในระหว่างที่จะเริ่มการพิจารณาคดีนั้น ผู้เป็นพ่อพยายามจะเดินออกจากห้อง และนั่นก็ทำให้เด็กหนุ่มคนดังกล่าวไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ และทำให้เขาเริ่มร้องไห้ออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เกิดจากที่เขาเป็นเด็กกำพร้าพ่อ โดยครั้งหนึ่งพ่อของเขาเคยตกลงที่จะเข้าร่วมการประชุมที่โรงเรียน แต่สุดท้ายเขาก็เบี้ยวนัด บางครั้งก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ และไม่เคยไปเยี่ยมเขาแม้เวลาที่ป่วยหนักเลย อย่างไรก็ตาม เด็กชายรายนี้ได้เผยความในใจออกมาต่อหน้าพ่อของเขาด้วยความกล้าหาญ แต่ถึงกระนั้น พ่อของเขาก็ยังไม่แยแสเขาเลยแม้แต่น้อย และแม้ว่าในตอนนี้ เขาจะได้เรียนมหาวิทยาลัยที่มีทั้งแฟน และเพื่อนมากมาย แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองจะต้องได้รับความเป็นธรรม และต้องการฟ้องร้องพ่อของตัวเอง เพื่อให้เขาได้รับผิดชอบในสิ่งที่เคยทำเอาไว้ สุดท้ายนี้ Gabriela ไม่ได้เผยถึงผลของการตัดสินในคดีนี้…
-
ภาพถ่ายของทะเลสาบน้ำแข็งที่กว้างที่สุด ลึกที่สุด และเก่าแก่ที่สุดบนดาวดวงนี้
ทะเลสาบที่เราเคยเห็นกันเป็นเรื่องปกติคงจะถูกล้อมรอบไปด้วยแนวเขาหรือธรรมชาติอันสวยงามต่างๆ มากมาย ทว่าสำหรับทะเลสาบแห่งนี้ความสวยงามนั้นไม่ได้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างพื้นน้ำและความเขียวขจีรอบข้าง แต่ความสวยงามของมันสามารถรับรู้ได้แม้เพียงแค่ตัวทะเลสาบเพียวๆ เพียงอย่างเดียว ที่พูดอยู่นี้คือทะเลสาบ Baikal ที่ซึ่งมีความพิเศษไม่เหมือนที่ใดในโลก ครองสถิติความเป็นที่สุดของทะเลสาบบนดาวดวงนี้ 3 อย่างได้แก่ ความกว้างใหญ่ ความลึก และการที่มันบรรจุน้ำจืดเอาไว้มากถึง 20 เปอร์เซนต์จากที่มีทั้งหมดบนโลกใบนี้ ความกว้างใหญ่ของมันเท่ากับ 31,722 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าบางประเทศอย่าง เบลเยี่ยม เฮติ อิสราเอล และการ์ตาซะอีก นอกจากความกว้างที่มากที่สุดแล้วความลึกเองก็เช่นกัน เพราะมันลึกลงไปถึง 1,642 ตารางเมตร ซึ่งบนโลกนี้มีเพียงแค่ 3 แห่งเท่านั้นที่มีความลึกมากกว่า 1 พันเมตร ไม่ใช่เพียงเท่านั้นเพราะที่แห่งนี้ถูกคำนวนว่ามีอายุมานานมากถึง 25 ล้านปี และเป็นที่พักอาศัยให้กับสิ่งมีชีวิตกว่า 2,000 ชนิดที่รอให้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบอยู่ เป็นหนึ่งในมรดกโลกขององค์กร UNESCO เป็นที่เรียบร้อย และได้รับความนิยมจากช่างภาพและเหล่าผู้ที่ชอบการผจญภัยเป็นอย่างมาก ความสวยงามที่มากยิ่งกว่าสามารถหาดูได้จากปรากฎการณ์ที่ผิวน้ำจับตัวเป็นน้ำแข็ง 5 ครั้งต่อปี และพื้นผิวที่หนาของมันสามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 15 ตัน…
-
เว็บไซต์ดังเผย ทำไมสูดฮีเลียมเข้าไปแล้ว “เสียงเปลี่ยนโทนสู๊งสูง” ฟังแล้วตลกพิลึก!?
คลิปที่เพื่อนๆ ได้ดูไปนี้ จะเห็นว่าคนในคลิปในมีเสียงเปลี่ยนเป็นเสียงแหลมและฟังดูตลกหลังจากดื่มเครื่องดื่มที่มีฮีเลียมเข้าไป บางคนอาจสงสัยว่าเสียงเปลี่ยนไปจริงๆ หรือเป็นการเฟคขึ้นมากันแน่? #เหมียวขี้ส่อง ก็สงสัยเหมือน จึงได้หาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้จนได้ไปเจอข้อมูลหนึ่งที่อ้างอิงจากเว็บไซต์ Mentalfloss ลองไปดูซิ เค้าจะว่ายังไงกันบ้าง… สำหรับแก๊สฮีเลียมนั้นเป็นแก๊สเฉื่อย ระดับเฉื่อยที่สุดและความหนาแน่นต่ำ โดยที่ความเฉื่อยนี้ทำให้ไม่มีผลเสียอะไรต่อร่างกายมนุษย์ ในขณะที่ความหนาแน่นต่ำ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของเส้นเสียง ทำให้เส้นเสียงสั่นได้มากขึ้น เสียงที่ออกมานั้นจึงสูงขึ้นกว่าระดับปกติ ธรรมชาติของเสียง เวลาที่เราพูด อากาศจะเดินทางจากปอดผ่านกล่องเสียงซึ่งอยู่ตรงกับเส้นเสียง ทำให้เส้นคู่ขนานของเยื่อเมือกยืดออกในแนวนอนผ่านกล่องเสียง และกระทบกับด้านล่างจนทำให้เกิดการสั่น การสั่นของเส้นเสียงจะช่วยกระตุ้นโมเลกุลของอากาศในระบบเสียงของเรา และจะตั้งค่าความถี่ของระดับเสียง ทั้งนี้การสั่นของเส้นเสียงจะมีผลต่อการรับรู้ความถี่พื้นฐานเสียงของเรา ทีนี้เมื่อเสียงของเราเจอกับฮีเลียมจะเป็นอย่างไร? นอกจากการสั่นและกระบวนการที่มีผลต่อเสียงของเราแล้ว พื้นที่ที่เราเปล่งเสียงก็มีผลต่อการสร้างเสียเช่นกัน เมื่อเราพูดกับใครสักคนในห้อง มันจะประกอบด้วยไนโตรเจนร้อยละ 78.08 ออกซิเจนร้อยละ 20.95 อาร์กอนร้อยละ 0.93 คาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 0.038 และก๊าซอื่นๆ อีกเล็กน้อย ช่องลมของเราจะประกอบด้วยไนโตรเจนเป็นส่วนใหญ่ โดยจะมีมวลประมาณ 7 เท่าของฮีเลียม เนื่องจากฮีเลียมมีน้ำหนักเบากว่าอากาศ ทำให้คลื่นเสียงเดินทางได้เร็วขึ้น ในห้องที่อุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส เสียงจะเดินทางด้วยความเร็ว 344 เมตรต่อวินาที โดยผ่านอากาศ…
-
ชายหนุ่มบังเอิญพบดินแดนและซากอารยธรรม ที่ถูกทิ้งร้างตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เราคงจะเคยเห็นภาพสถานที่ที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ต่างๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสุสานรถเก่า หรือตึกร้างที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แม้แต่พื้นที่ในประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และเคยมีความหมายเมื่อครั้งอดีต บางครั้งก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าจะมีภูติผีวิญญาณอาศัยอยู่บริเวณนั้นก็ได้ เหมือนกับที่ชายหนุ่มสมาชิกเว็บไซต์ Imgur ที่มีชื่อว่า CanadaSpeedoMan ได้ไปพบและสำรวจพื้นที่สนามบินเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บนเกาะกรีนแลนด์ ที่ดูรกร้างทิ้งสิ่งปลูกสร้างเอาไว้มากมาย ชวนให้คิดถึงสภาพสงครามในยุคนั้น เขาได้เก็บภาพเหล่านั้นมาเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้ไปเจอมา บอกอีกว่าเขาใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ก็ยังสำรวจพื้นที่แห่งนี้ไม่ทั่วเลย เขาและภรรยามีโอกาสเดินทางไปเขตทุรกันดารแถบตะวันออกเฉียงใต้ในกรีนแลนด์ พวกเขาเคลื่อนที่ไปตามอ่าวแคบๆ จนพบเข้ากับ “Bluie East Two” ซึ่งห่างไกลจากคำว่าอารยธรรมอย่างมาก ชวนให้ขนลุกไม่ใช่น้อย มันเป็นที่สำหรับเติมน้ำมันเครื่องบินของอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 . จะเดินทางเข้ามาที่นี่ต้องล่องเรือมาเป็นเวลาหลายเดือนเท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถเข้ามาได้เลยจากปัญหาทะเลน้ำแข็ง . มีถังน้ำมันทิ้งเอาไว้มากมาย และบางถังยังคงมีน้ำมันหลงเหลืออยู่ด้านใน ในสถานที่นี้ยังคงมีสิ่งต่างๆ ทิ้งร้างเอาไว้เพียบ อย่างเช่นโรงเก็บรถและเครื่องบิน ชาวเอสกิโมเดินเท้าหรือเรือหาปลาเล็กเข้ามากู้ซากต่างๆ ที่สามารถใช้ได้ไป เตาไฟสำหรับพลังงานและความร้อนของโรงเก็บนี้ หอสัญญาณวิทยุเก่า ภรรยาของเขากำลังเดินข้ามสะพานเก่า ซึ่งไม้ที่ใช้ถูกลำเลียงมากจากไซบีเรียด้วยเรือ เพราะแถวนั้นไม่มีต้นไม้ที่สามารถนำมาใช้ได้เลย ความแห้งแล้งรอบข้างที่เห็นได้ชัด…
-
ศิลปินสร้างผลงาน “ห้องแห่งความตาย” ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรง ตามที่เคยได้เห็นมา…
จะว่าไปแล้วปัญหาการตายในห้องพัก ก็เป็นเรื่องที่มีให้เห็นบ่อยๆ ในประเทศญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ตามมาดูเหมือนจะโหดร้ายกว่านั้น เพราะไหนจะต้องเก็บกวาดคราบสกปรก แถมเพื่อนบ้านก็ต้องอดทนกับกลิ่นเหม็นอันน่าสยดสยองอีก… แต่ผลงานศิลปะของ Miwa Kojima พนักงานบริษัท ToDo-Company จะทำให้เรารู้สึกเหม็นกลิ่นศพหึ่งๆ เลยล่ะ เพราะเธอได้จำลอง ‘ห้องแห่งความตาย’ ออกมาจากประสบการณ์ที่เคยเห็นได้อย่างสมจริงซะยิ่งกว่าจริง!! โดยบริษัทที่เธอทำงานอยู่นั้น ก็เป็นบริษัทรับจ้างทำความสะอาดและเก็บกวาดซากศพนั่นเอง อีกทั้งเธอยังเป็นหนึ่งในทีมงานที่ลงพื้นที่จริง เพราะฉะนั้นแล้วภาพศิลปะทุกอย่างที่เธอถ่ายทอดออกมา จึงเป็นภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งนั้น ถึงจะดูสมจริงเอามากๆ แต่แท้จริงแล้วมันก็คือหุ่นจำลองขนาดเล็กนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นการตายในอ่าง การตายบนเตียง การตายในกองขยะ หรือแม้แต่นอนตายแบบเปลือยๆ เธอก็เห็นมาหมดแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าธุรกิจดังกล่าว กลับได้รับความนิยมสูงมากขึ้นเรื่อยๆ เอาเป็นว่าเราลองตามไปชมผลงานศิลปะจากภาพห้องของคนตายที่เธอเห็นจริงๆ กันเลยดีกว่า . . เป็นอาชีพที่ต้องเห็นคนตายบ่อยขนาดไหนนะ ถึงรวบรวมออกมาเป็นงานศิลปะแบบนี้ได้ ที่มา: Rocketnews24
-
หนุ่มวัย 15 ปี ใช้จอบขุด ‘บ่อน้ำแห่งชีวิต’ เพียงลำพังกว่า 27 ปี หวังเพื่อให้หมู่บ้านได้มีน้ำกินน้ำใช้…
ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างวุ่นวายอยู่กับธุระของตัวเอง พอมีปัญหาเกิดขึ้นในชุมชนก็จะรอความช่วยเหลือจากคนนั้นคนนี้ ทั้งๆ ที่ปัญหาบางสามารถแก้เองได้ เพียงแค่เห็นความสำคัญของส่วนรวมบ้าง อย่างเช่นหมู่บ้าน Saja Pahad ในเขต Koriya รัฐฉัตตีสครห์ ประเทศอินเดีย ที่ประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ทำให้วัวของชาวบ้านแทบจะไม่ได้กินน้ำเลย โดยที่ชาวบ้านไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร ในขณะที่ทางรัฐบาลก็ไม่มีทีท่าว่าจะให้การช่วยเหลือด้วย จนกระทั่งวันหนึ่ง Shyam Lal ชายหนุ่มวัย 15 ปี ตัดสินใจที่จะใช้จอบขุดบ่อน้ำด้วยตัวเอง หวังเพื่อจะทำให้หมู่บ้านของเขามีน้ำกินน้ำใช้อีกครั้ง ชาวบ้านคนอื่นๆ ต่างบางกันหัวเราะกับความคิดของชายหนุ่ม พวกเขาบอกมันเป็นเพียงแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น Lal ก็ยังยืนยันที่จะทำตามความตั้งใจของเขา Lal เริ่มด้วยการหาแหล่งที่เหมาะสมกับการขุดบ่อน้ำในป่าแห่งหนึ่ง จากนั้นเขาก็ลงมือขุดอย่างมุ่งมั่นเพียงลำพัง และใช้เวลาในการขุดนานถึง 27 ปีด้วยกัน และผลที่ได้ก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถของมนุษย์ ในระยะเวลา 27 ปี เขาขุดบ่อได้ลึกประมาณ 4.5 เมตร และในนั้นก็เต็มไปด้วยน้ำที่เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงชีวิตของคนในหมู่บ้าน Lal ในวัย 42 ปี เล่าว่า “ไม่มีใครช่วยผมทำงานเลย ไม่ว่าจะเป็นผู้นำหมู่บ้านหรือชาวบ้านทั่วไป ทั้งๆ ที่ทั้งหมดนี้ผมทำเพื่อทุกคนในหมู่บ้านรวมทั้งสัตว์เลี้ยงของเราด้วย” หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในการขุดบ่อให้หมู่บ้าน ชาวบ้านก็พากันยกให้เป็นบุคคลต้นแบบและผู้ช่วยชีวิตหมู่บ้านไปโดยปริยาย ในขณะที่ Ramsaran…
-
นักวิทย์ในอดีต ควบคุมประชากรกระต่ายป่า ด้วยการปล่อยเชื้อร้ายที่คร่าชีวิตกว่า 500 ล้านตัว…
ระบบนิเวศในธรรมชาติไม่มีอะไรที่มากหรือน้อยเกินไป ทั้งพืชและสัตว์ต่างอยู่ร่วมกัน อาศัยซึ่งกันและกันอย่างเป็นระบบ อันจะนำไปสู่ความสมดุลในธรรมชาตินั่นเอง เว้นเสียแต่ธรรมชาตินั้นถูกคุกคาม ตัดสิน และจัดการโดยมนุษ์ เมื่อนั้นภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในระบบนิเวศอย่างแน่นอน!! เหมือนกับครั้งหนึ่งในอดีต เมื่อนักวิทยาศาสตร์นำโรคร้ายไปปล่อยในหมู่กระต่ายป่า หวังควบคุมประชากร แต่หารู้มั้ยว่านั่นเป็นการทำลายสิ่งมีชีวิตอย่างเลือดเย็น… ในวันที่ 13 พฤษภาคม ปี 1787 กลุ่มเรือ 11 ลำ ที่เรียกตัวเองว่า First Fleet left England ได้ค้นพบอาณานิคมที่ต่อมากลายเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของยุโรปแห่งแรกในออสเตรเลีย จากจุดเริ่มต้นในประเทศอังกฤษ กลุ่มเรือดังกล่าวจะเดินทางไปยังกรุงรีโอเดจาเนโร ก่อนจะไปยังทางตะวันออกสู่เมืองเคปทาวน์ และอ่าว Botany Bay (ปัจุบันอยู่ในซิดนีย์) โดยผ่านเส้นทางเดินเรือมหาสมุทรใต้ เรือทั้ง 11 ลำ ประกอบด้วย เรือสำหรับราชนาวีอังกฤษ 2 ลำ เรือขนของ 3 ลำ และอีก 6 ลำ สำหรับลำเลียงนักโทษที่กระทำความผิดพร้อมด้วยกระต่ายจำนวนหนึ่ง และเรือทั้งหมดก็ได้เดินทางมาถึงออสเตรเลียในช่วง 18-20 มกราคม ปี 1788… …
-
หญิงสาวส่งต่อชุดแต่งงานให้กับว่าที่เจ้าสาวอีก 12 คน เพื่อเติมเต็มความฝันให้พวกเธอ
ผู้หญิงแทบทุกคนก็คงจะวาดฝันถึงงานแต่งงานของตัวเองกันเอาไว้มากมายตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม วงดนตรีบรรเลงอันไพเราะเพื่อให้ซาบซึ้งกับบรรยากาศความรักของคนสองคน และที่สำคัญก็คือชุดเจ้าสาวแสนสวยสีขาวสะอาดตา ที่ทำให้แขกในงานต้องพากันออกปากชม เมื่อถึงวันที่เราจะต้องจัดงานขึ้นมาจริงๆ ก็จะรู้ได้เลยว่าสิ่งเหล่านั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เยอะมาก ดับความฝันของใครหลายคนไป แต่เธอคนนี้มีความต้องการที่จะช่วยทุกคนให้ได้มากที่สุดจึงเกิดเป็นไอเดียนี้ขึ้นมา Dawnetta Heinz หญิงสาวที่เมื่อไม่นานมานี้ยังคงไร้บ้านและต้องอาศัยอยู่ในกับสามีในอนาคตของเธอ จนเมื่อเธอได้มีงานแต่งอย่างที่เธอต้องการเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กำลังเก็บข้าวของเพื่อย้ายไปอยู่บ้านใหม่ก็ได้เจอกับชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ เธอจึงตัดสินใจที่จะส่งต่อชุดนี้ให้กับเจ้าสาวคนอื่นๆ ต่อไป เธอเข้าใจความรู้สึกของการแต่งงานด้วยงบประมาณที่จำกัดเป็นอย่างดี จึงตัดสินใจมอบให้ฟรีๆ แทนที่จะขายไป จากนั้นก็โพสต์ลงในเฟซบุ๊กประกาศหาผู้ที่จะมารับชุดเจ้าสาวนี้ไปดูแลต่อไป ทว่ากลับไม่ได้มอบให้กับคนคนเดียว เธอเลือกที่จะส่งต่อไปเรื่อยๆ ให้กับเจ้าสาวมากถึง 12 คนด้วยกัน นี่เป็นโพสต์ที่เธอประกาศตามหาผู้ที่จะมาสวมใส่ชุดแต่งงานต่อจากเธอ ผู้หญิงคนแรกที่ได้รับชุดของเธอไปใส่มีชื่อว่า Arianna ซึ่งมีพิธีแต่งงานไปในวันที่ 23 สิงหาคม เธอคนนี้ไม่สามารถใส่ชุดแต่งงานอย่างที่เธอต้องการได้ในการแต่งงานครั้งแรกของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นการได้แต่งชุุดเจ้าสาวสวยๆ ก็ช่วยทำให้เธอรู้สึกมีกำลังใจมากยิ่งขึ้นหลังจากที่เธอต้องแท้งลูกของเธอไป เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้รับประสบการณ์อันสวยงามนี้ เธอบอกอีกว่า “มันก็เหมือนการเป็นพี่น้องกัน เราทุกคนได้สร้างสายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันแตกสลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกคนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกันเลย” เจ้าสาวคนที่สองก็คือ Valarie Fitzgerald ที่เธอและสามีต้องใช้ชีวิตกันแบบเดือนชนเดือนด้วยรายได้ที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้เธอไม่มีงบเพียงพอสำหรับราคาชุดหนึ่งชุด เธอจึงรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้สวมชุดแต่งงานในวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา…
-
สถาปนิกรีโนเวทห้องขนาด 39 ตรม. แบบใหม่ยกแผง ดูหรูหราล้ำค่าใจกลางแมนฮัตตัน!!
เปลี่ยนอารมณ์มาดูห้องพักห้องเช่าแถวเขตแมนฮัตตันกันดีกว่า ไม่ใกล้ไม่ไกลเหมือนอารมณ์อยู่แถวทองหล่ออะไรประมาณนั้น เมื่อพูดถึงที่พักอาศัยในเมืองใหญ่แล้ว คงจะเป็นการยากกับการที่จะได้เห็นบ้านหลังใหญ่โต ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เว้นเสียแต่ว่าคุณจะรวยมากพอซื้อที่ดิน สร้างบ้านอยู่ได้… แต่ #เหมียวบ็อบ กำลังจะกล่าวถึงก็คือห้องพักห้องเช่าขนาดเล็กภายในอพาร์ทเม้นท์ต่างๆ โดยจะเป็นที่พักอาศัยของคนส่วนมากในเมืองขนาดใหญ่นั่นเอง ว่าแต่สภาพที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหนาสาหัส ทำให้ดูซอมซ่อไม่น่าอยู่เอาซะเลย… ว่าแล้วก็ลองมาดูตัวอย่างการรีโนเวทห้องขนาด 39 ตารางเมตรในย่าน Upper West Side เขตแมนแฮตตัน ณ เมืองนิวยอร์ก โดยทั้งหมดที่จะได้ชมนี้เป็นผลงานการรีโนเวทของบริษัทสถาปนิก Specht Harpman Archtects ในปี 2014 เห็นแล้วก็อยากถูกหวยมาทำรีโนเวทแบบนี้บ้างจัง… เรามาดูรูปก่อนรีโนเวทกันดีกว่า สำหรับพื้นที่เล็กๆ ก็อาจจะไม่มีช่องว่างมากพอให้เก็บของ วิธีแก้ปัญหาของสถาปนิคก็คือ ต้องสร้างมิติใหม่ขึ้นมาในพื้นที่ๆ จำกัด โดยยังให้คงความรู้สึกของที่ว่างและการใช้งานได้เป็นหลัก อีกหนึึ่งจุดมุ่งหมายของทีมออกแบบก็เพื่อจำแนกความรู้สึกที่อยู่อาศัยจะได้รับให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เตียงนอนขนาดใหญ่จะตั้งอยู่ส่วนห้องโถงตรงชั้น 3 ส่วนห้องน้ำขนาดจิ๋วก็ถูกย้ายมาอยู่ใต้บันไดแทน นอกจากนั้นยังเปลี่ยนพื้นที่ใต้บันไดให้กลายเป็นช่องเก็บของเอนกประสงค์ ได้แรงบันดาลมาจากสไตล์ Kaidan Dansu ของชาวญี่ปุ่น …
-
‘Gunung Kemukus’ หุบเขาแห่งเซ็กส์ในอินโดนีเซีย ที่ผู้คนจะเดินทางไปมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้า!?
อินโดนีเซียหนึ่งในประเทศที่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ที่นี่ยังมีอีกหนึ่งสถานที่แปลกๆ ที่เราอยากจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จัก นั่นก็คือหุบเขา Gunung Kemukus หรือหุบเขาแห่งเซ็กในจังหวัดชวากลาง นั่นเอง ในทุกๆ ปี ผู้แสวงบุญจากทั่วทุกสารทิศในประเทศอินโดนีเซีย จะเดินทงมาที่หุบเขาแห่งนี้ เพื่อร่วมรักกับคนแปลกหน้า ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในพิธีกรรมทางศาสนาของพวกเขา คุณ Patrick Abboud ช่างภาพผู้คนพบพิธีกรรมสุดแปลกนี้และมันทำให้เขาต้องประหลาดใจเลยทีเดียว ช่างภาพหนุ่มบอกว่าในทุกๆ 35 วัน คุณจะต้องมีเซ็กส์ติดต่อกัน 7 ครั้งเพื่อเป็นการประกอบพิธีของที่นี่ “มันน่าประหลาดใจมาก ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย บางทีมันอาจจะมากเกิน 8,000 คนเลยด้วยซ้ำ มันยากที่จะเชื่อว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ พิธีกรรมที่ว่านี้จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกัน” คุณ Abboud กล่าว พิธีกรรมโบราณนี้ไม่ได้เพิ่งมีเป็นครั้งแรก แต่มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แล้ว และผู้เข้าร่วมพิธีกรรมนี้ก็เชื่อว่าการร่วมเพศกับคนแปลกหน้านั้นจะทำให้พวกเขาพบเจอกับโชคดี ที่หุบเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายทั้งชายที่แต่งงานแล้ว แม่บ้าน นักการเมือง หรือแม้กระทั่งโสเภณี แต่สำหรับประเทศที่มีข้อห้ามเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสอย่างดินโดนีเซีย พิธีกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาๆ “ย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่ 16 มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้มีเพศสัมพันธ์กับแม่เลี้ยงของเขา และจากนั้นทั้งคู่จึงหนีออกไปจากภูเขาแห่งนี้ และถูกตามฆ่าพร้อมกับฝังศพไว้ยังที่แห่งนี้ จากนั้นผู้คนจึงมาสร้างศาลเพื่อกราบไหว้ทั้งคู่ และมีความเชื่อว่าถ้าหากใครมาที่นี่และทำแบบพวกเขาก็จะเจอแต่เรื่องดีๆ ” ช่างภาพหนุ่มเล่าถึงตำนานของที่นี่…
-
ชาวบ้านถึงกับเกาหัว เมื่อพบเจอ “จู๋ไม้แกะสลักอันเบ้อเร่อ” ถูกนำทิ้งไว้กลางสวนสาธารณะ!?
ทำเอาผู้คนในประเทศสวีเดนถึงกับงง เมื่ออยู่ดีๆ มีคนไปเจออวัยวะเพศชายปลอมขนาดมหึมาถูกทิ้งไว้ในสวนสาธารณะที่พลุกพล่านเต็มไปด้วยผู้คน โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2017 หญิงคนหนึ่งพบผลงานไม้แกะสลักอวัยวะเพศชาย ถูกนำมาวางอยู่ในสวนสาธารณะ Blinkenbergs Park โดยบังเอิญ เธอจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เทศบาลเมือง Hagfors ให้มาตรวจสอบทันที จริงๆ แล้ว นี่ไม่ใช่ผลงานแกะสลักไม้ชิ้นแรกที่มีการค้นพบ โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ก็เคยเจอถูกทิ้งไว้ในป่าบ้าง แหล่งว่ายน้ำ และแหล่งชุมชนต่างๆ แต่สำหรับผลงานชิ้นนี้มันใหญ่มาก โดยมีความยาวมากกว่า 1 เมตร และอาจจะใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบก็เป็นได้!! ทางด้าน Nathalie Andersson เจ้าหน้าที่เทศบาลเมือง Hagfors กล่าวว่า “เราได้รับโทรศัพท์จากชาวเมืองท่านหนึ่งที่ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ Blinkenbergs ในจังหวะนั้นเธอบอกว่าพบจู๋ไม้ขนาดมหึมา ถูกวางอยู่กลางสวนสาธารณะเลย” ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนนำผลงานสุดทะลึ่งตึงตังมาทิ้งไว้แบบนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มลัทธิ หรือกลุ่มวัยรุ่นวัยคะนองที่ทำขึ้นมาเพื่อความสนุก และได้นำมาทิ้งไว้ที่นี่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และได้เก็บผลงานจู๋ไม้อลังการชิ้นนี้ไว้ที่สำนักงานกลางของเทศบาลเมือง และเจ้าหน้าที่ Andersson ก็ทิ้งท้ายให้ไว้ด้วยว่า… “พวกเรากำลังตามหาเจ้าของผลงานชิ้นนี้อยู่ คงจะดีไม่น้อยถ้าหากได้พบกับศิลปิน ผู้เป็นเบื้องหลังความคิดสร้างสรรค์ในงานศิลปะ ถ้าหากอยากจะได้คืน ก็มาเอาคืนไปได้เลยนะ” โอ้ละพ่อ…
-
เปิดคำปราศัยของ ‘ปูติน’ จากวันเด็กในรัสเซีย “ผู้ใดนำหน้าทางด้าน AI ผู้นั้นคือผู้ครองโลก”
ไม่ใช่แค่บ้านเราเท่านั้นที่จะมีเทศกาลวันเด็กที่ถูกจัดขึ้นทุกปี แล้วหลังจากนั้นก็จะมีนายกฯ ออกมาให้คำขวัญเป็นประโยคสั้นๆ ง่ายๆ เหมือนแฝงปรัชญาลี้ลับให้เด็กไทยเก็บไปคิดต่อ จนแตกฉานกลายเป็นบุคลากรคุณภาพอย่างที่เราเห็นๆ กัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประเทศรัสเซียก็ได้มีการจัดงาน National Knowledge Day ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนในรัสเซียนั่นเอง ลักษณะก็คล้ายๆ กับงานวันเด็กบ้านเรานั่นแหละ แถมคราวนี้วลาดิเมียร์ ปูติน ยังออกมากล่าวคำปราศัยให้แก่เด็กๆ ด้วยตัวเองอีกด้วย… ซึ่งวัน Knowledge Day ก็เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของเด็กๆ ในรัสเซียด้วยเช่นกัน คำปราศัยของปูตินนั้นน่าสนใจมาก เพราะปกติเรามักจะคุ้นเคยแต่อะไรที่เป็นประโยคสั้นๆ มีความกำกวม และชวนให้เก็บไปคิดต่อ และทั้งหมดนี้คือประเด็นที่ถูกนำมาพูดในงานปราศัย เพื่อถ่ายทอดไปให้แก่เด็กๆ ชาวรัสเซียทุกคน “ปัญญาประดิษฐ์ถือเป็นอนาคต ไม่ใช่แค่สำหรับรัสเซียเท่านั้น แต่หมายถึงมวลมนุษยชาติทุกคน และสิ่งเหล่านี้จะมาพร้อมกับโอกาสครั้งใหญ่ แต่ก็ยังยากที่เราจะทำนายอนาคตให้ชัดเจนได้ และใครก็ตามที่สามารถขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านนี้ได้ พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะปกครองโลกได้มากกว่า และหากรัสเซียได้เป็นผู้นำนวัตกรรมด้านนี้ เราจะแชร์ความรู้และวิธีการต่างๆ ให้กับมวลมนุษยชาติ เฉกเช่นเดียวกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่เราเคยสร้างขึ้นมา” นอกจากนั้นในคาบแรกของการเปิดภาคการศึกษา ประธานาธิบดีปูตินได้ใช้เวลาพูดคุยถกเถียงเรื่องนวัตกรรมการแพทย์ อวกาศ ด้านวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงด้านการทำงานในสมองของมนุษย์ “การเคลื่อนไหวของดวงตาก็เปรียบได้กับการสอดส่องระบบต่างๆ ในคราเดียวกัน…
-
คู่รักกับวิถีชีวิตสมถะ สร้างของใช้ปลูกผักกินเอง และมีรายจ่ายเพียงแค่ 50,000 บาทต่อปี…
ประโยคที่ว่า ‘พอเป็นก็เย็นใจ’ เป็นประโยคคำพูดที่เราหลายคนล้วนเคยได้ยินมาอยู่บ่อยๆ แต่น้อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นตัวอย่างของคนที่ทำแบบนี้ได้จริงๆ ถ้าไม่นับพี่ผู้ชายกับผู้หญิงที่อยู่ในโฆษณาโรงหนังอ่ะนะ และนี่ก็เป็นเรื่องราวของคู่รักชาวอังกฤษ ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาก็มีชีวิตเฉกเช่นคนอื่นๆ มีหนี้สิน มีความโลภ มีความโหยหา แต่หลังจากที่ได้รู้จักคำว่า ‘พอ’ ชีวิตของพวกเขาก็กลายเป็นสุขขึ้นมาทันที Nigel Mepham วัย 44 ปี (ผู้ชาย) และ Sarah Simpson วัย 27 ปี (ผู้หญิง) ก่อนหน้านี้พวกเขาก็มีชีวิตเหมือนชาวเมืองคนอื่นๆ ต้องตื่นเช้าไปทำงาน แออัดอยู่กับการจราจรที่ติดขัด และต้องดิ้นรนทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่เมื่อทั้งคู่ได้ดูรายการทีวีซิทคอมอันโด่งดังในยุค 1970 เรื่อ ‘The Good Life’ พวกเขาก็รู้สึกเหมือนได้ค้นพบบางอย่างที่ตัวเองตามหามาทั้งชีวิต และเริ่มเดินบนเส้นทางของความสมถะ ภาพจากซิทคอมสุดฮิตในช่วง 1970 ทั้งสองเลือกที่จะหันมาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดของทั้งสองคนคิดคร่าวๆ เพียงปีละประมาณ 1,250 ปอนด์ (คิดเป็นเงินไทยราว 53,000 บาท) ซึ่งรับว่าเป็นจำนวนเงินที่น้อยมากสำหรับประเทศที่มีอัตราค่าครองชีพที่สูงมาก …