Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
“ชายไร้บ้าน” เขียนโน้ตของานทำ ทดลองงานฟรีได้ แค่อยากให้ชีวิตมีคุณค่า…
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว Charlotte Howard นักเรียนหญิงวัย 16 ปี ได้เดินผ่านเต็นท์ของชายไร้บ้านนามว่า Anthony Johnson วัย 37 ปี ในทางตะวันออกของเคาน์ตี้ซัสเซ็กส์ ประเทศอังกฤษ และได้เห็นโน้ตแผ่นหนึ่ง เขียนด้วยลายมือว่า “ต้องการงานทำ: ผมจะทดลองทำงานให้คุณฟรีๆ เพื่อให้คุณเห็นว่าผมทำงานดีหรือไม่ ผมไม่เสพยาและไม่ดื่มเหล้า ผมยังสามารถดูแลและพาสุนัขไปเดินเล่น ทำความสะอาดหน้าต่าง ไปซื้อของ ทำสวน ล้างรถ ซักผ้า งานบ้านต่างๆ ทำอาหาร หรืออะไรก็ตามที่หาเลี้ยงชีพได้ และทำให้ชีวิตดูมีคุณค่ามากขึ้น ช่วยเปลี่ยนชีวิตผมที” เต็นท์ที่ Anthony ใช้เป็นที่นอน Charlotte กล่าวว่า โน้ตแผ่นนั้นทำให้ใจเธอสลายที่ได้เห็นความดิ้นรนขอความช่วยเหลือของคนคนหนึ่ง…เธอตัดสินใจช่วย Anthony ผู้ซึ่งเป็นคนไร้บ้านมานานถึง 9 ปี แม้เธอไม่มีงานและเงินเพื่อจ้างเขา แต่เธอช่วยโพสต์รูปกระดาษโน้ตใบนั้นลงในอินเทอร์เน็ต ในที่สุด Nelson Smith ผู้ทำงานเป็นนักจัดสวน (Landscape Gardener) ได้ผ่านมาเห็นโพสต์ของ Charlotte เขาตัดสินใจมอบโอกาสเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่โดยการเข้าไปคุยกับ Anthony…
-
M.A.C เปิดตัว คอลเลคชั่นเครื่องสำอางลิมิเต็ดชุดใหม่ มาในธีม Aladdin
แฟนๆ เจ้าหญิงดิสนีย์ก็ใกล้จะได้ชม อลาดินกับตะเกียงวิเศษ เวอร์ชั่นคนแสดงกันเข้าไปทุกที หลังได้ดูเทรลเลอร์ตัวใหม่ไปก็บอกได้เลยว่า อดใจรอแทบไม่ไหวแล้วววว และถ้าใครเป็นแฟนของเจ้าหญิงจัสมินล่ะก็ วันนี้เรามีข่าวดีมาบอก เพราะแบรนด์เครื่องสำอาง M.A.C ได้ร่วมมือกับดิสนีย์ออกคอลเลคชั่นเครื่องสำอางในธีม Aladdin ซึ่งโทนสีของเครื่องสำอางนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าหญิงจัสมิน ในคอลเลคชั่นนี้ประกอบไปด้วย อายแชโดว์ ลิปสติก บรอนเซอร์ และอื่นๆ โทนสีนั้นอิงจากเครื่องประดับของเจ้าหญิงจัสมิน หน้าตาก็ดูหรูหราสมฐานะเจ้าหญิงแห่งดินแดนอาหรับเลยทีเดียว มีรูปตะเกียงวิเศษติดอยู่ด้วย ทาง M.A.C ก็ได้โพสต์ประกาศทางอินสตาแกรมเกี่ยวกับการออกคอลเลคชั่นใหม่นี้ว่า “ความปรารถนาของท่าน เรารับบัญชา ประจักษ์ชัดในเวทมนตร์ของตัวท่านกับคอลเลคชั่นดิสนีย์ “อลาดิน” โดย M.A.C ในเดือนพฤษภาคมนี้ โทนสีได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าหญิงและเครื่องประดับในคอสตูมของเจ้าหญิง การร่วมมืออันเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาที่เป็นจริงนี้จะขับเน้นความมั่นคงและมั่นใจในตนเองของเจ้าหญิงจัสมินในภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่น “อลาดินกับตะเกียงวิเศษ” ชมพร้อมกันในโรงภาพยนตร์ 23 พฤษภาคม 2019″ ปังมากค่ะเธอ สีนี้เอาไปแต่งตามได้เลยนะ สินค้าทั้ง 3 ชิ้นนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่นเท่านั้น ซึ่งทาง M.A.C ยังขออุบเอาไว้ก่อน…
-
ร้าน ‘บะหมี่เกี๊ยวแผงลอย’ เจ้าเด็ดสิงคโปร์เผย มีคนมาขอซื้อสูตร 47 ล้านแต่พวกเขาไม่ขาย!!
บางสิ่งบนโลกนี้ ‘เงิน’ ก็อาจจะไม่สามารถหาซื้อได้ ดั่งเช่นสูตร ‘บะหมี่เกี๊ยว’ ของร้านดังในแดนลอดช่อง ที่ทางเจ้าของเล่าว่าครั้งหนึ่งเคยมีผู้มาเสนอขอซื้อสูตรบะหมี่ในราคาถึง 2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราวๆ 47 ล้านบาท) แต่พวกเขาไม่ขาย!! Kok Kee Wanton Noodle คือชื่อของบะหมี่เกี๊ยวแผงลอยร้านดังแห่งประเทศสิงคโปร์ที่เปิดให้บริการลูกค้ามาแล้วหลายต่อหลายปีด้วยกัน แต่ว่าในปี 2016 ทั้งสองสาขาของร้านแห่งนี้ก็ปิดตัวลงอย่างปริศนา ซึ่งแฟนๆ ต่างก็คาดเดากันว่าน่าจะเป็นเหตุมาจากเรื่องสุขภาพของทางเจ้าของร้าน หลังจากหลายปีที่รอคอยสำหรับเหล่าคอบะหมี่เกี๊ยว ในที่สุดร้านแห่งนี้ก็ได้เปิดตัวอีกครั้งในเดือนนี้ (มี.ค. 2019) ด้วยการดำเนินงานของเจ้าของคนเก่าคนเดิมและเพิ่มเติมด้วยการช่วยเหลือจากลูกๆ อีกทั้งสอง ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ ลูกชายวัย 35 ปีและลูกสาววัย 32 ปีกล่าวว่าตอนนี้พวกเขายังคงเรียนรู้การทำบะหมี่เกี๊ยวจากพ่ออยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกๆ ชามที่ออกจากมือพวกเขาจะมีรสชาติ ‘ดั้งเดิม’ ที่แฟนๆ ชื่นชอบ การกลับมาเปิดอีกครั้งของร้านบะหมี่ระดับตำนานร้านนี้ ได้ดึงดูดความสนใจของเหล่านักลงทุนจนถึงขนาดที่ว่ามีกลุ่มนักลงทุนกลุ่มหนึ่งยื่นข้อเสนอเป็นเงินจำนวน 2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราวๆ 47 ล้านบาท) สำหรับการซื้อสูตรลับของทางร้าน “เป็นที่ชัดเจนว่านักลงทุนอยากจะได้ผลตอบแทนกลับในระดับที่สูง…
-
คุณแม่ตอบกลับชาวเน็ต หลังเธอตั้งชื่อลูกว่า ‘Disney’ เพราะเป็นสิ่งที่เธอและสามีชอบ!!
การตั้งชื่อให้กับลูกน้อยถือว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่คนเป็นพ่อแม่ต้องตัดสินใจ เพราะชื่อที่ตั้งให้มันอาจเป็นสิ่งที่อยู่กับตัวเด็กไปตลอดทั้งชีวิต แต่ว่าคุณแม่คนหนึ่งก็ยืนกรานถึงการตัดสินใจของเธอที่ตั้งชื่อลูกว่า Disney และตอกกลับชาวเน็ตที่วิจารณ์การตั้งชื่อลูกเช่นนี้ด้วยคำพูดอย่างเจ็บแสบ!! ด้วยความที่ Jade Jeanes และสามี Joshua ที่มีอายุ 27 ปีเท่ากัน ต่างก็เป็นแฟนตัวยงของ Disney บริษัทอภิมหาความบันเทิงที่ฝากผลงานให้ผู้คนทั่วโลกได้ชมผ่านสื่ออย่างการ์ตูน หรือภาพยนตร์ ทั้งคู่จึงตัดสินใจตั้งชื่อลูกตาม หนูน้อย Disney แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ค่อยเห็นด้วยนัก หลังจากที่เธอได้แชร์ชื่ออันโดดเด่นของลูกไปยังกลุ่มคุณพ่อคุณแม่ในเฟซบุ๊ก แล้วก็มีคอมเมนต์ที่เธอกล่าวว่ามันทำร้ายจิตใจเธอเข้ามาอย่างมากมาย ทว่าคุณแม่จากเคาท์ตี้ Somerset ประเทศอังกฤษคนนี้ก็ยังสตรอง เธอเล่าว่าเธอไม่เสียใจกับการตั้งชื่อลูกเช่นนี้แม้แต่น้อย แต่ก็คิดว่าผู้คนควรมองเห็นความขำขันของเรื่องนี้มากกว่าการแสดงความคิดเห็นที่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจอย่างที่เกิดขึ้น “มันก็เป็นแค่ชื่อน่ะ มีชื่อธรรมดามากมายที่ผู้คนตั้งแต่ฉันไม่ชอบ แต่ฉันก็ไม่ได้บอกว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ควรที่จะตั้งชื่อแบบนั้นนี่” “มันเป็นโพสต์ที่ตั้งขึ้นสนุกๆ แล้วฉันก็หวังว่าผู้คนจะโอเคกับมัน แต่ในท้ายที่สุดผู้คนก็ตัดสินว่าจะเกลียดมันหรือรักมัน” “พี่น้องของสามีฉันก็มีลูกน้อยเช่นเดียวกัน และพวกเขาก็ชอบ Disney เหมือนกันด้วย ดังนั้นเราจึงจะสร้างครอบครัว Disney ครอบครัวใหญ่ขึ้นมา” คุณแม่ Jade กล่าว อย่างไรก็ตามตอนนี้ห้องนอนของหนูน้อย Disney ก็ถูกตกแต่งไปด้วยของตกแต่งลายมิกกี้เมาส์ และนอกจากนี้คุณแม่ยังกล่าวด้วยว่าหนูน้อยตะลึงงันไปเลยเมื่อเธอเปิดภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่องหนึ่งให้ดู ส่วนแผนการในอนาคตคุณแม่กล่าวว่า เธอกับสามีวางแผนเอาไว้ว่าจะพาหนูน้อย Disney ไปยัง Disneyland กรุงปารีส ในอีกประมาณ 2 – 3 ปีข้างหน้า “เราทนไม่ไหวแล้วกับการพาเธอไปดิสนีย์เวิลด์ แต่เพราะว่าฉันกับ…
-
พบศพนักปีนเขา 300 ศพบนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ หลังน้ำแข็งละลายเพราะโลกร้อน
ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกอย่าง “เอเวอร์เรสต์” นั้นมีผู้คนมากมายพยายามพิชิตจุดสูงสุดที่มีอันตรายมากมายรอคอยระหว่างทาง ทั้งอากาศหนาวเหน็บ ลมกระโชกแรง ความดันอากาศ ออกซิเจนที่มีอยู่น้อยนิด แถมสภาพอากาศข้างบนนั้นก็แทบจะคาดการณ์อะไรไม่ได้ มีนักปีนเขาหลายคนที่สามารถขึ้นไปถึงด้านบนสุด หลายคนเลิกล้มกลางคัน หรือแม้แต่คนที่เอาชีวิตไปทิ้งไว้ที่นั่นก็มีมากมายนัก… และในขณะนี้ที่โลกของเราเผชิญกับภาวะโลกร้อน ไม่เพียงแต่น้ำแข็งขั้วโลกเท่านั้นที่กำลังละลาย แผ่นน้ำแข็งและธารน้ำแข็งบนเอเวอร์เรสต์ก็เช่นกัน การละลายของน้ำแข็งนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นเหล่าผู้คนที่ถูกภูเขาสูงใหญ่แห่งนี้กลืนกินเข้าไปด้วย เมื่อศพของนักปีนเขาได้เผยตัวออกมาถึง 300 ศพ ศพทั้ง 300 ศพนี้เป็นร่างของผู้คนที่เสียชีวิตข้างบนนั้นในเพียง 2-3 ปีเท่านั้น เพื่อนๆ คงพอคิดภาพออกว่ามันจะต้องมีศพที่เสียชีวิตมาก่อนหน้านั้น ยังคงอยู่ในน้ำแข็งส่วนที่ยังไม่ละลายอีกหลายร้อยศพเลยทีเดียว งานกู้ศพลงจากเอเวอร์เรสต์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากเรื่องสภาพอากาศและภูมิประเทศแล้ว เรื่องกฎหมายของประเทศเนปาลก็ทำให้ต้องส่งเรื่องไปทางรัฐบาลก่อน ค่าใช้จ่ายในการเก็บกู้ก็สูงถึง 60,000 ยูโรเลยทีเดียว (ประมาณ 2,160,000 บาท) ที่มา LADbible และ BBC
-
หญิงเมกันทำใจกับการตายสัตว์เลี้ยงที่รักไม่ได้ เลยตัดสินใจ “โคลนนิ่ง” น้องหมาขึ้นมาใหม่
เราคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าสิ่งมีชีวิตแต่ละประเภทมีอายุขัยไม่เท่ากัน และสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์คงรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวด เมื่อสัตว์เลี้ยงสุดที่รักของเรานั้นต้องตายจากเราไป ด้วยความเจ็บปวดนั้นเอง ทำให้มีบางคนที่ตัดสินใจ “โคลนนิ่ง” สัตว์เลี้ยงสุดที่รักของตัวเองเอาไว้ เช่นเดียวกับผู้หญิงที่เราจะนำมาให้ชมกันในวันนี้… เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน Amy Vangemert หญิงวัย 55 ปีจากเมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ได้สูญเสียเจ้า Buhner น้องหมาสุดที่รักวัย 13 ปีไปและเธอไม่อาจทำใจกับการตายของมันได้ หลังจากที่ Buhner ได้ตายไป เธอพยายามพยายามที่จะหาน้องหมาตัวใหม่มาเลี้ยง แต่ก็ไม่มีน้องหมาตัวไหนที่ถูกตาถูกใจเธอได้เท่าเจ้า Buhner อีกแล้ว ประจวบเหมาะกับเธอไปที่ได้ยินเรื่องของการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงขึ้นมา อยากนั้นเธอจึงทำการศึกษาเกี่ยวกับมันและพบว่ามีบริษัทชื่อว่า ViaGen Pets นั้นมีบริการรับโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยง . ในเดือนสิงหาคม 2016 เธอรีบติดต่อไปยัง ViaGen Pets ทันที ซึ่งทางบริษัทนั้นคิดค่าโคลนนิ่ง 50,000 เหรียญสหรัฐ (1.6 ล้านบาท) สำหรับน้องหมาและ 25,000 เหรียญสหรัฐ (800,000 บาท) สำหรับน้องแมว นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องการตัวอย่างผิวหนังของสัตว์ตัวที่อยากให้โคลนนิ่ง…
-
เด็กชายวัย 13 ปีใช้มีดแทงแม่จนเสียชีวิต หลังจากแม่ฆ่าหมาสุดที่รักของเขาต่อหน้าต่อตา
สำหรับหลายๆ คนที่เลี้ยงสัตว์นั้น สัตว์เลี้ยงของพวกเขาคงเปรียบเสมือนครอบครัวคนสำคัญ ที่เราต้องปกป้องไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำร้าย แม้แต่คนเป็น “แม่” ของเราก็ตาม เมื่อเด็กชายวัย 13 ขวบคนหนึ่งตัดสินใจใช้มีดแทงแม่ของตัวเอง หลังจากคุณแม่ฆ่าน้องหมาของตัวเองเพราะไม่อยากให้เขาเล่นกับมัน วันที่ 22 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ SCMP ได้รายงานเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม Shao Fuming เด็กชายวัย 13 ปีจากเมืองเจียงหู มณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของประเทศจีน หลังจากมีคนโทรแจ้งว่า Shao ได้ใช้มีดแทง Yang Yan คุณแม่วัย 37 ปีของเขาจนถึงแก่ความตาย โดยทางเพื่อนบ้านได้ให้สัมภาษณ์ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ Yang ฆ่าหมาของ Fuming เพราะไม่อยากให้ลูกเล่นกับมันและเพื่อสอนเป็นบทเรียนให้ลูกชาย “คุณแม่ของเขาคิดว่าเขาเล่นกับมันตลอดทั้งวัน ดังนั้นเธอจึงขว้างมันลงพื้นต่อหน้าเขาจนมันตาย” เพื่อนบ้านกล่าว ทันใดนั้น Fuming ก็รู้สึกโกรธแม่ของเขาเป็นอย่างมากและบันดาลโทสะคว้ามีแทงแม่ของเขาจนเสียชีวิต และหลังจากแทงแม่ของตัวเอง Fuming ก็ทำอะไรไม่ถูก บวกกับกลัวความผิด ก็รีบวิ่งออกจากบ้านไปหลบอยู่ร้านอาหารที่เปิด 24 ชั่วโมง เขาอยู่ในนั้นเป็นเวลา…
-
บริษัทน้ำผึ้งญี่ปุ่นผลิตน้ำผึ้งที่มี ‘แตน’ เป็นตัวๆ อยู่ข้างใน ชาวเน็ตสงสัยใส่ไว้ทำไมกัน!?
‘น้ำผึ้ง’ เป็นอีกหนึ่งของกินแสนอร่อยที่มีที่มาจากธรรมชาติ และเราก็สามารถหาซื้อกินกันได้อย่างง่ายดายเพราะเดี๋ยวนี้ร้านสะดวกซื้อทั่วๆ ไปก็มีน้ำผึ้งบรรจุขวดวางขายอยู่เต็มไปหมด แต่ว่าในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูน้ำผึ้งที่ไม่ใช่น้ำผึ้งธรรมดาๆ เพราะว่ามีผู้ผลิตน้ำผึ้งแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นผลิตน้ำผึ้งสุดพิเศษด้วยการใส่ ‘แตน’ เป็นตัวๆ ลงไปในนั้นด้วย จึงเป็นที่มาของความฉงนของชาวเน็ตว่าพวกเขาใส่มันลงไปทำไมกัน!? หน้าตาของ Honey with Hornets โดยน้ำผึ้งที่ว่านี้เป็นผลงานของผู้ผลิตไม่เอ่ยนามแห่งหนึ่งจากจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้มันมีชื่อเรียกเฉพาะว่า Honey with Hornets และความพิเศษของมันก็คือดั่งที่ได้กล่าวไว้มัน คือมีแตนตัวเป้งอยู่ในขวด… เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่พูดถึงในโซเชียลจากทวิตเตอร์ @yusai00 ได้ทวีตรูปภาพออกไป ซึ่งหลายคนก็สงสัยว่าพวกเขาใส่แตนลงไปในนั้นทำไมกันนะ 【蜂注意】ミツバチの天敵であるスズメバチに対する、養蜂家の恨みつらみが詰まったハチミツがもう狂気の沙汰。「命をかけて」生け捕りにしたオオスズメバチを、生きたままハチミツに漬けこむという斜め上のサイコっぷりで、買わずにはいれなかった。 pic.twitter.com/ygddAzIvq3 — ヤギの人🐐 (@yusai00) March 11, 2019 ต่อมาสื่อท้องถิ่นอย่าง SoraNews24 จึงได้ลงค้นหาคำตอบ แล้วพวกเขาก็ได้พบกับคำตอบว่าโดยปกติแตนเหล่านี้จะเป็นศัตรูธรรมชาติกับผึ้งอยู่แล้ว และพวกมันมักจะเข้ามาทำลายรังผึ้ง คนเลี้ยงผึ้งจึงจับตัวแตนเหล่านี้เอาไว้เพื่อนำมันมาประดับขวดโหลน้ำผึ้งซะเลย แต่ที่พีคก็คือพวกมันจะถูกหย่อนลงไปขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วย!! นอกจากนี้ทางผู้ผลิตน้ำผึ้งนี้ก็อ้างว่านอกจากการตกแต่งเพื่อความสวยงามแล้ว ในวาระสุดท้ายของแตนที่กำลังจะตาย พวกมันจะปล่อยส่วนที่สำคัญในร่างกายออกมาสู่น้ำผึ้ง แล้วสิ่งนี้เองมันจะทำให้ผู้ที่ดื่มน้ำผึ้งมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม รวมถึงมีกำลังผู้ดื่มมีกำลังวังชาดีกว่าเดิม… อย่างไรก็ตามทางเว็บไซต์ของผู้ผลิตบอกว่า ‘ไม่ควร’ ที่จะกินตัวของแตนที่อยู่ในน้ำผึ้งเพราะอาจเป็นอันตรายได้…
-
นักวาดญี่ปุ่นเผยดีไซน์ “ชักโครกเกมมิ่ง” ที่จะทำให้เกมเมอร์เล่นต่อได้ แม้ถูกข้าศึกบุกหนัก
เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับเหล่าเกมเมอร์ เราจึงได้เห็น “เกมมิ่งเกียร์” หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาให้สำหรับเกมมิ่งโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเมาส์, คีย์บอร์ด, หูฟังหรือเก้าอี้เกมมิ่งก็ด้วย แต่สำหรับสิ่งที่กำลังจะเสนอให้เพื่อนๆ ดูต่อไปนี้ มันจะยกระดับของเกมมิ่งเกียร์ไปในทันที เมื่อสิ่งนี้จะทำให้การเล่นเกมของเพื่อนไม่ถูกสิ่งใดขัดขวาง แม้จะเป็นการ “ปวดท้องอึ” ก็ตาม เพราะมันคือชักโครกเกมมิ่งเกียร์!! ゲーミングトイレの絵を描いた。 pic.twitter.com/NE2M4SC4FT — 絵を描くPETER (@peter6409) March 14, 2019 วันที่ 14 มีนาคม 2019 ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @peter6409 ได้โพสต์รูปภาพที่เขาออกแบบเองพร้อมกับพร้อมกับแคปชั่นว่า “ผมลองวาดภาพของชักโครกเกมมิ่งดู” โดยแทงค์ชักโครงนั้นเปรียบเสมือนเคสของ PC ที่มีฮาร์ดแวร์มากมายและหากสังเกตดีๆ เราจะเห็นว่ามี PS4 ติดอยู่หน้าแทงค์ด้วย นอกจากนี้ยังที่แขวนหูฟังอยู่ข้างๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าครบเครื่องเรื่องเกมจริงๆ แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เราจะเห็นได้ว่าเกมมิ่งเกียร์ส่วนมากนั้นมีระบบไฟสวยๆ งามๆ เจ้าชักโครกตัวนี้ก็มีเหมือนกันจ้า!! . และหลังจากที่เขาโพสต์ภาพชักโครกเกมมิ่งลงไปในโซเชียลมีเดีย ก็กลายเป็นที่ถูกใจของชาวเน็ตรีทวีตไปกว่า 12,000 ครั้งและกดถูกใจกว่า 33,000 ครั้ง พร้อมกับเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย…
-
งานในฝัน! เว็บไซต์จ้าง 31,000 บาท รับสมัครคนดูหนัง Marvel รวดเดียว 20 เรื่อง
คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ทำสิ่งที่เรารัก และมันจะดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่อทำสิ่งนั้นแล้วได้เงินตอบแทนกลับมา! ซึ่งตอนนี้โอกาสที่จะได้ทำอะไรแบบนั้นสำหรับแฟนๆ ของจักรวาลหนัง Marvel ก็มาถึงแล้ว เว็บไซต์ CableTv.com กำลังเปิดรับสมัครคนมาดูหนังในจักรวาล Marvel Cinematic Universe รวดเดียวทั้ง 20 เรื่อง ก่อนที่ Avengers: Endgame จะเข้าฉายในวันที่ 24 เม.ย. ที่จะถึงนี้ ตัวอย่างล่าสุดของ Avengers: Endgame ผู้ที่ถูกคัดเลือกจะได้รับเงินตอบแทนเป็นจำนวน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31,000 บาท), ของรางวัลเป็นแผ่นบลูเรย์ของหนังในจักรวาล MCU ทั้งหมด และยังมีของที่ระลึกต่างๆ อีกมากมาย สิ่งสำคัญก็คือ คุณจะได้ดื่มด่ำกับหนัง Marvel “ติดต่อกันรวดเดียว” กว่า 40 ชั่วโมง ดูให้ตาแฉะกันไปเลยทีนี้ สำหรับคุณสมบัติของคนที่ทางเว็บอยากได้มาเป็นผู้ชม พวกเขาเขียนไว้ว่า “ฮีโร่ที่เรากำลังมองหาไม่ใช่แค่แฟนเดนตายของ Marvel เท่านั้น แต่ต้องชอบเล่นโซเชียลด้วย” …
-
กลุ่มนักศึกษาใช้ “ลังกระดาษ” สร้าง “สถานที่” อันโด่งดัง จากภาพยนตร์ชุดแฮรี่ พอตเตอร์
แม้ว่าเรื่องราวของ ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์‘ ที่เขียนโดย J. K. Rowling จะจบลงไปนานแล้ว แต่ตำนานโลกเวทมนตร์ยังไม่สิ้นสุด และกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานของคนรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับโมเดลจากนักศึกษา Melbourne School of Design กลุ่มนี้ พวกเขาได้นำ ‘กระดาษลัง‘ มาสร้างเป็นโมเดลจำลองสถานที่ต่างๆ ที่ประกฏอยู่ในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ออกมาได้อย่างสวยงาม น่าอัศจรรย์ เหล่านักศึกษาได้ใช้เวลาออกแบบกว่า 11 วัน และใช้เวลาอีกกว่า 400 ชั่วโมงในการประกอบและลงรายละเอียดต่างๆ ในโมเดล ซึ่งต้องอาศัยการทีมเวิร์คและความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก แม้ว่าวัสดุที่ใช้จะเป็นสีน้ำตาลของกระดาษลังเพียงสีเดียว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผลงานของพวกเขาดึงดูดใจน้อยลง ลองไปชมโมเดลสุดทึ่งของนักเรียนกลุ่มนี้พร้อมๆ กัน บ้านโพรงกระต่าย เพิงโหยหวน กริมโมลด์เพลส ห้องแห่งความลับ . ร้านขายไม้กายสิทธิ์ของโอลลิแวนเดอร์ ร้านตัวบรรจงและหยดหมึก บันไดเวียนฮอกวอตส์ ธนาคารกริงกอตส์ ขั้นตอนการทำงานของนักศึกษากลุ่มนี้ …
-
ทะเลสาบมิชิแกนเต็มไปด้วย “เศษน้ำแข็ง” อันสวยงาม หลังน้ำแข็งเริ่มละลาย
ในช่วงที่ผ่านมานั้นประเทศซีกตะวันตกเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นอันเลวร้ายทั้งทางสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอเมริกาที่เจอทั้งหิมะ ฝนตกหนัก ลมแรง ทะเลสาบมิชิแกนเมื่อปลายเดือนมกราคม 2019 โดยเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมอุณหภูมิทั่วประเทศอเมริกานั้นลดต่ำลงอย่างมาก คือว่าต่ำที่สุดในช่วง 150 ปีเลยทีเดียว โดยในพื้นที่ที่อยู่ติดกับแอนตาร์กติกานั้นอุณหภูมิลดต่ำไปถึง -40 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ซึ่งทะเลสาบมิชิแกนเองก็อยู่ในพื้นที่ประสบภัยในตอนนั้นด้วยเช่นกัน ตอนนี้สถานการณ์บางพื้นที่ก็เริ่มดีขึ้นแล้วตามลำดับ รวมทั้งที่ทะเลสาบมิชิแกนที่อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ความงดงาม เมื่ออากาศอบอุ่นขึ้น น้ำแข็งจากหน้าหนาวก็เริ่มละลายและแตกจากกัน น้ำข้างล่างก็เริ่มไหลดันให้เศษน้ำแข็งแผ่นที่ใหญ่กว่าขึ้นมาอยู่ด้านบน ซึ่งมีให้เห็นเป็นบางจุดของทะเลสาบ ทะเลสาบมิชิแกนเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2019 . มันอาจจะดูสวยงาม แต่ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยริมชายฝั่งก็ได้เตือนประชาชนที่อยากจะเข้าไปชมใกล้ๆ ว่า “ไม่มีน้ำแข็งตรงไหนที่มันปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ของปี มันจะพังทลายและแตกหักลงอย่างรวดเร็วแน่นอน” โดยเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อน พื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกแห่งนี้ ยังถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งอยู่เลย ผู้คนในประเทศก็หวังว่าจะได้พักจากความเลวร้ายของสภาพอากาศหนาวเหน็บแบบนี้เสียที ส่วนใครที่ตั้งใจจะไปชมภาพแบบนี้ที่ทะเลสาบก็อย่าเข้าไปใกล้มากเกินไปจนเป็นอันตรายกับตัวเองนะ . . . ที่มา LADbible
-
อวสานอาหารเที่ยง!! คนไร้เพศถ่ายคลิป “เลียขอบชักโครก” บนเครื่องบินโชว์ชาวโลก
คำเตือน: บทความนี้อาจทำให้ความอยากอาหาร และความเพลิดเพลินในการทานอาหารลดลง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมามีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Grimiestt ซึ่งบอกว่าตนเองเป็นคนไร้เพศ โพสต์คลิปวิดีโอขณะตนเองแลบลิ้นเลียพื้นผิวสีขาวของขอบชักโครกบนเครื่องบิน… คลิปความยาวเพียง 12 วินาทีแต่ทำเอาชาวเน็ตช็อกกันไปตามๆ กันหลังมันถูกรับชมไปถึง 6 ล้านกว่าครั้ง และมีคนเข้ามาแสดงความเห็นกันมากถึง 9,500 คอมเมนต์ โดยผู้โพสต์ได้ใส่แคปชั่นประกอบวิดีโอไว้ว่า “ฉันก็เลียมาเยอะนะ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ทำเอาลิ้นชาอ่ะ” แน่นอนว่าผู้คนต่างก็รู้สึกตกใจและขยะแขยงต่อภาพที่ได้เห็น โดยมีชาวเน็ตคนหนึ่งคอมเมนต์ไว้ว่า “ลองจินตนาการว่าคุณบินไปพร้อมกับใครบางคน แล้วตอนลงจากเครื่องก็ได้มาเห็นคลิปแบบนี้บนไอจีสตอรี่ของคนๆ นั้นดูสิ…” ขณะที่ชาวเน็ตอีกคนก็ถามด้วยความสงสัยว่า “นี่เธอได้อะไรจากการทำแบบนี้เนี่ย” และมีชาวเน็ตอีกคนมาตอบว่า “แล้วเจอกันน้าาา โรคตับอักเสบ” ชาวเน็ตอีกรายก็เข้ามาถามว่าได้ทำความสะอาดขอบชักโครกนั้นก่อนหรือเปล่า โดยที่ Grimiestt ผู้เป็นเจ้าของคลิปก็ได้มาตอบว่า “ใช่สิ ฉันทำความสะอาดก่อน ชู่ เงียบๆ ไว้นะ เพราะมันจะทำให้โพสต์กร่อย” หลังจากนั้นไม่นาน Grimiestt ก็ได้ทวีตแจ้งว่าได้มาถึงบาเซโลนาแล้ว ก่อนจะทวีตอีกว่า “ไม่อยากเชื่อเลยว่าทวิตเตอร์จะทำให้ฉันดังได้ด้วยการเลียชักโครก” ใครใจแข็งก็สามารถดูคลิปได้ที่นี่เด้อ …
-
ครอบครัวอังกฤษประกาศหาพี่เลี้ยงเด็กแต่งเป็น ‘เจ้าหญิงดิสนีย์’ รายได้สูง 1.6 ล้านต่อปี!!
หากคุณเป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่คลั่งไคล้ในการ์ตูนดิสนีย์ และมีความใฝ่ฝันที่จะได้ทำงานในชุดยูนิฟอร์มเหมือนกับเจ้าหญิงในนิทานทุกวัน #เหมียวเปเปอร์ มีงานดีๆ มานำเสนอ ครอบครัวชาวอังกฤษครอบครัวหนึ่งได้ประกาศหาพี่เลี้ยงเด็กที่รักการแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ ด้วยเงินเดือนสูงถึง 53,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,678,500 ต่อปี!! ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้ามาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กในครอบครัวนี้ จะต้องรับหน้าที่ดูแลสาวน้อยคู่แฝดวัย 5 ขวบและสวมชุดเจ้าหญิงดิสนีย์ อย่างเช่น ซินเดอเรลล่า เบลล์ หรือราพันเซล พ่อแม่ชาวอังกฤษคู่นี้หวังว่าพี่เลี้ยงคนใหม่จะเป็นแบบอย่างให้ลูกๆ ของเขาให้มีความเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น คุณแม่ของสาวน้อยคู่แฝดคู่นี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ลูกสาวของเราเหมือนกับเด็กๆ ทั่วไปที่ชื่นชอบเจ้าหญิงดิสนีย์ เราจึงคิดที่จะปลูกฝังนิสัยที่ดีให้แก่พวกเขาผ่านตัวละครเหล่านี้” หน้าที่หลักของพี่เลี้ยงคือการไปรับเด็กๆ จากโรงเรียน 4 วันต่อสัปดาห์ ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับหนูน้อย เช่น งานศิลปะ ทำขนม ร้องเพลง และพาพวกเขาเข้านอน งานดังกล่าวได้ประกาศบนเว็บไซต์ Childcare.co.uk ถ้าสาวๆ คนไหนสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดกันได้เลย ที่มา: thisisinsider
-
เว็บไซต์สำรวจของญี่ปุ่นเผย 10 อันดับคนดังที่สาวญี่ปุ่นอยากได้ (เป็นแฟน) ที่สุด
ผลการจัดอันดับเอาใจสาวน้อย สาวใหญ่มากันอีกแล้วสำหรับวันนี้ คราวนี้เป็นการจัดอันดับของฝั่งเอเชียในประเทศไม่ใกล้ ไม่ไกลจากประเทศไทย นั่นคือแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง โดยเป็นการจัดอันเด็บจากเว็บไซต์ Rankingoo ของประเทศญี่ปุ่น ที่สำรวจสาวๆ ในหัวข้อ “คนดังที่สาวญี่ปุ่นอยากมอบความรักให้” โดยผลสำรวจนั้นได้รับการโหวตกว่า 2,575 โหวตจากผู้หญิงญี่ปุ่นทุกวัย ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงอายุ 40 ปีกันเลยทีเดียว #เหมียวฝึกหัดหมายเลข26 จึงขอนำ 10 อันดับคนดังที่ได้รับการโหวตมากที่สุดมาให้รับชม บอกได้คำเดียวว่าหนุ่มญี่ปุ่นทั้ง 10 อันดับนั้นแค่สายตาก็มองได้ทะลุไปถึงขั้วหัวใจเลยทีเดียว เชื่อว่าสาวไทยบ้านเราหลายคนก็อาจอ่อนระทวยกับความฮ็อตไม่แพ้สาวญี่ปุ่นอย่างแน่นอน ซึ่งในอันดับนั้นจะมีใครบ้าง ไปดูกันเลย! 10. Ryohei Suzuki (81 โหวต) 9. Hiroshi Tamaki (85 โหวต) 8. Tomohisa Yamashita (88 โหวต) 7. Ryoma Takeuchi (88 โหวต) 6. Tomoya Nagase (89…
-
ภาพรณรงค์ปัญหา “ขยะพลาสติก” ที่แค่ดูก็รู้สึกหายใจไม่ออก จนหลายคนบอกว่าน่ากลัวเกินไป
“พลาสติก” ถือว่าเป็นวัสดุยอดนิยมที่มนุษย์มักนำมาใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาชนะใส่อาหาร เครื่องดื่ม, ทำเป็นเครื่องใช้ภายในบ้านและอื่นๆ อีกมากมาย แม้ว่าพลาสติกจะเป็นวัสดุที่มอบความสะดวกให้กับมนุษย์หลายอย่างก็จริง แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่ามันสร้างผลกระทบด้านลบแก่ธรรมชาติโดยเฉพาะ “มหาสมุทร” อย่างมากมายเลยล่ะ วันนี้ Sea Shepherd กลุ่มอนุรักษ์ท้องทะเล จึงได้ปล่อยภาพรณรงค์ ที่ต้องการสะท้อนให้ผู้คนเข้าใจและตระหนักถึงผลกระทบของพลาสติกที่มีต่อชีวิตสัตว์น้ำทั้งหลาย โดยในภาพรณรงค์ดังกล่าวนั้นเป็นรูปของสัตว์น้ำที่กำลังทำท่าหายใจไม่ออก พร้อมมีข้อความว่า “พลาสติกที่คุณใช้เพียงครั้งเดียว ทรมานมหาสมุทรไปตลอดกาล” ซึ่งหลังจากที่พวกเขาได้ทำการโพสต์ภาพดังกล่าวลงโซเชียลมีเดีย ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่บอกว่าทำภาพแบบนี้มันน่ากลัวเกินไป ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาว่า “ช่างเป็นภาพที่ดูแล้วน่าหดหู่อะไรเช่นนี้ ฉันอยากจะร้องไห้เลย” บางคนก็บอกว่า “จริงๆ แล้วพลาสติกไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นพวกคนที่มักง่ายมากกว่า” “สาบานต่อสวรรค์เลยนะ Shepherd นี่มันเป็นภาพที่น่ากลัวมาก แม้ว่าความเป็นจริงมันจะแย่กว่านี้ ฉันรู้ดี แต่ภาพนี้ก็ทำเอาฉันกลัวเลย” แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่าภาพดังกล่าวนี้ รุนแรงเกินไปหรือไม่อย่างไร? ที่มา Ladbible, Sea Sherpherd
-
คนงานก่อสร้างถูกหวย 3,000 ล้านบาท ฉลองด้วยปีกไก่สไปซี่ของโปรด ลั่นชีวิตจะเปลี่ยนไป!!
เรื่องของดวงมันไม่เข้าใครออกใคร สักวันหนึ่งคุณอาจจะถูกโชคหล่นทับกลายเป็นมหาเศรษฐีก็ได้ใครจะไปรู้… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของนาย Ade Goodchild วัย 58 ปี พนักงานโรงงานจากเมืองเฮริฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ผู้โชคดีที่ถูกลอตเตอรี่รางวัลแจ็กพ็อตของสำนักงานสลากกินแบ่งประเทศอังกฤษ รับเงินรางวัลไปทั้งสิ้นกว่า 71 ล้านปอนด์ (3,000 ล้านบาท)!! การถูกลอตเตอรี่ในครั้งนี้ถือเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 15 ของประวัติศาสตร์อังกฤษเลยทีเดียว ซึ่งพี่แกก็ออกมาเปิดเผยว่านับจากนี้ชีวิตของเขาจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน “ผมไม่เหมือนกับคนที่เคยถูกรางวัลคนก่อนๆ ที่ออกมาพูดว่าเงินรางวัลนี้จะไม่มีทางเปลี่ยนฉันได้อย่างแน่นอน” “ยังไงมันก็ต้องเปลี่ยนสิฟะ เงินตั้งมากมายขนาดนี้ แต่มันก็คือการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีสำหรับผมล่ะนะ” “จากนี้ไปผมไม่ต้องทำงานเป็นกะอีกต่อไปแล้ว ผมจะมีเวลาว่างได้ออกไปท่องเที่ยว ซื้อบ้านหลังใหม่ ไปร่วมอีเวนต์การออกกำลังกายต่างๆ และลองสิ่งใหม่ๆ อีกมากมาย” นอกจากนี้เขายังเล่าความรู้สึกตอนที่รู้ว่าตัวเองถูกรางวัลแจ็กพ็อตว่า “ตอนแรกผมได้ยินเสียงปิ๊งขึ้นมาในโทรศัพท์ พอหยิบขึ้นมาแอปลอตเตอร์รี่มันแจ้งว่าผมถูกรางวัล” “ผมเห็นแว๊บๆ ว่าผมได้รางวัล 71,000 ปอนด์ (2.9 ล้านบาท) แค่นี้ผมก็ดีใจจนตัวโยนแล้ว ก็เลยหยิบแว่นมาเช็กดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และพบว่าจำนวนของเลข 0 มันมากกว่านั้น” “ผมค่อยๆ นับเลข 0 ทั้งหมดดูและพบว่าผมถูกรางวัลแจ็กพอตลอตเตอรี่มูลค่ากว่า 71…
-
โครงการ ‘Rent a Finn’ ของฟินแลนด์ พาไปเที่ยวถึงถิ่นฟรี เรียนรู้วิถีความสุขจากคนที่นั่นจริงๆ
ความสุขที่แท้จริงอยู่ตรงไหน? สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับบุคคลทั่วโลก และยังคงตามหาคำตอบให้กับตัวเองมาโดยตลอด แต่สำหรับชนชาติฟินแลนด์แล้ว พวกเขาหาคำตอบให้กับตัวเองได้ และครองแชมป์เป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลกสองปีติดต่อกัน จากการรายงานของสหประชาชาติในหัวข้อ World Happiness Report ล่าสุดนี้ ชาวฟินแลนด์ยังไม่หยุดในเรื่องของความสุข เพราะพวกเขากำลังพยายามส่งออก ‘ความสุข’ ที่พวกเขามี ส่งผ่านไปให้กับทุกคนบนโลกใบนี้ผ่านโครงการ ‘Rent a Finn’ เช่าความฟิน! โครงการที่ว่านี้ คือการส่งมอบประสบการณ์ความสุขของชาวฟินแลนด์ ให้กับคนทุกชนชาติได้มาสัมผัสที่นี่ โดยผ่านการเรียนรู้จากคนในท้องถิ่นชาวฟินแลนด์จริงๆ และจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ท่องเที่ยวในประเทศฟินแลนด์ด้วย ทางการฟินแลนด์ หวังว่าผู้ที่เข้ามาสัมผัสประสบการณ์เช่าความฟิน จะได้เรียนรู้วิถีการมีความสุขแบบชาวฟินแลนด์ และหวังว่าผู้มาเยือนจะได้รับความผ่อนคลาย ตามกระบวนการความรู้สึกและวิถีความเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันมีชาวฟินแลนด์ ลงชื่อเป็นโฮสต์รอต้อนรับผู้มาเยือนทั้งหมด 8 รายด้วยกัน พร้อมจะส่งมอบประสบการณ์ความสุขแบบฟินๆ ในรูปแบบและวิถีที่ต่างกัน ตามมุมมองของแต่ละคน โครงการ Rent a Finn กำลังเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม – 14…
-
ภาพถ่ายชนะเลิศการประกวด มูลค่า 3,800,760 บาท ถูกเปิดเผยความจริง ‘เป็นการจัดฉาก’
เป็นอีกหนึ่งประเด็นอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในวงการช่างภาพ และแวดวงงานการประกวดภาพถ่าย หลังจากที่ Hamdan International Photography Award (HIPA) ประจำปี 2019 ได้ประกาศให้กับผลงานของนาย Edwin Ong Wee Kee ช่างภาพชาวมาเลเซีย เป็นผู้ชนะและคว้าเงินรางวัลกว่า 3,800,760 บาท (120,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ไปครอง โดยผลงานของเขาเป็นการถ่ายภาพคุณแม่ชาวเวียดนาม ขณะสะพายและอุ้มลูกทั้งสองคน โดยมีพื้นฉากหลังเป็นทิวทัศน์คล้ายกับบนภูเขาอันห่างไกล และโจทย์สำหรับการประกวดในปีนี้ก็มาในธีม ‘ความหวัง’ บนเว็บไซต์ของ HIPA ระบุถึงเหตุผลที่ตัดสินมอบรางวัลชนะเลิศให้กับภาพนี้ว่า เป็นการเก็บภาพที่ถ่ายทอดความเป็นมนุษยธรรมได้อย่างลึกซึ้ง สายตาและความรู้สึกของคุณแม่ชาวเวียดนาม ที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ ไม่อาจปกปิดความในใจที่เธอมองเห็นถึงความหวัง ที่ต้องเข้มแข็งเพื่อลูกๆ ของเธอ ทางด้านเจ้าของภาพนาย Kee เปิดเผยกับเว็บไซต์ PDNPulse ว่า ภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดในครั้งนี้ เป็นช่วงจังหวะที่ไม่ได้คาดคิดและเป็นความบังเอิญ… แต่ภายหลังจากนั้นไม่นานนัก ภาพความจริงก็ถูกนำมาเปิดเผยโดยนาย Ab Rashid ช่างภาพและผู้ก่อตั้งนิตยสาร Street…
-
ยูทูปเบอร์วีแกน ถูกจับได้ว่าแอบกินปลาในคลิปคนอื่น มวลมหาประชาชนตราหน้า ‘หลอกลวง’
เป็นเรื่องเป็นราวของทางฝั่งยูทูปเบอร์และแฟนคลับ ในแวดวงของกลุ่มวีแกน ซึ่งเกิดเป็นข้อครหาว่า ‘ทำการหลอกลวง’ ผู้ชมและผู้ติดตามมาโดยตลอด หลังจากที่ถูกจับได้ว่าเธอรับประทานเนื้อปลา ขณะไปร่วมงานในคลิปของยูทูปเบอร์รายอื่น Yovana Mendoza วัย 28 ปี เป็นสาวชาววีแกนในชื่อ Rawvana ถูกถ่ายคลิปและถูกนำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์โดยยูทูปเบอร์อีกราย เผยให้เห็นจานอาหารวางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าเธอเพียงแค่ไม่กี่วินาที แต่กลับทำให้ผู้ติดตามเชื่อกันว่า เป็นเมนูอาหารที่ทำมาปลา จุดสังเกตอีกหนึ่งอย่างที่แฟนคลับเห็น นั่นก็คือเธอแสดงอาการพยายามปกปิดอะไรบางอย่าง มีท่าทีที่เขินอายเมื่อกล้องหันไปถ่าย สำหรับสาว Rawvana เคยระบุตัวตนของเธอบนเว็บไซต์ไว้ว่า ‘จะรับประทานเพียงแต่ผักและผลไม้เท่านั้น’ และชื่อเสียงของเธอนั้นเด่นดังพอสมควร เนื่องจากมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 1.3 ล้านคน และในแชแนลยูทูปทั้ง 2 ภาษาอีกกว่า 2.5 ล้านคน เมื่อข่าวลือถูกแพร่สะพัดไปบนโลกออนไลน์มากขึ้น Mendoza จึงทำคลิปเพื่ออธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนแชแนลยูทูปของเธอเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2019 Mendoza กล่าวถึงการเลือกเดินทางสายวีแกน ที่กำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเธอในปัจจุบัน และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอต้องเลิกเดินทางสายวีแกนไป…
-
โอม มะลึกกึ๊กกึ๋ย.. คาเฟ่แม่มดน้อยโดเรมี เปิดแล้ววันนี้ที่กรุงโซล เกาหลีใต้!
ในที่สุด! “แม่มดน้อยโดเรมี” ก็ได้ปรากฏตัวแก่ประชาชนแล้วในรูปแบบคาเฟ่สุดน่ารัก อันแสนสดใส ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในชื่อว่า คาเฟ่ Mahodang โดเรมี หลังจากได้ทำการทดลองเปิดให้สาวกแม่มดน้อยตื่นเต้นไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในตอนนี้คาเฟ่ Mahodang โดเรมี ที่ได้ร้าน SweetHouse ร่วมมือกับ Toei Animation ก็ดำเนินการเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว! https://www.instagram.com/p/BvPsoESBXAE/ คาเฟ่นี้ตั้งอยู่เลขที่ 395-84 ละแวก Seogyo-dong, Mapo-Gu โดยเปิดบริการตั้งแต่วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 11.30 น. – 20.00 น. เชื่อว่าสาวกแม่มดน้อยโดเรมีต้องคิดถึงตัวการ์ตูนในวัยเด็กและผองเพื่อน รวมทั้งชุดคอสตูมที่น่าประทับใจ พร้อมกับเครื่องประดับคฑาวิเศษอย่างแน่นอน ใครยังนึกภาพไม่ออกว่าคาเฟ่แม่มดน้อยโดเรมีจะมีหน้าตายังไง เราเลยมีภาพตัวอย่างมาแจกให้หายคิดถึงกัน โอม มะลึกกึกกึ๊ย เพี้ยง! เห็นแค่ทางเข้าก็ใจเต้นตึกตัก พายสตอร์เบอร์รี่กับคฑาวิเศษ เซ็ทจิบชาสไตล์แม่มดน้อย น่ารักลงตัวไปหมดดด >…
-
ตำรวจออกประกาศจับอาชญากรตัวเป้ง แต้ใช้รูปสมัยเขาเป็น ‘เด็กน้อย’ ตาแป๋วน่ารักซะไม่มี!!
ในการออกใบประกาศจับผู้ร้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขาอาจจะต้องใช้รูปภาพที่ใกล้เคียงกับสภาพปัจจุบันของบุคคลนั้นๆ ให้มากที่สุด เพื่อที่ประชาชนเมื่อพบเห็นจะได้มั่นใจว่าไม่ผิดตัวแน่ๆ เพื่อไปสู่การจับกุมต่อไป แต่ว่าที่ประเทศจีนได้เกิดเรื่องราวแปลกๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการออกใบประกาศจับ จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ภาพของผู้ร้ายเป็นภาพสมัยเขายังเด็กๆ หน้าใสตาแป๋ว จนชาวเน็ตเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้… รูปภาพที่เจ้าหน้าที่ใช้ตามหาตัวผู้ต้องหา เมื่อไม่นานมานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเขต Zhenxiong มณฑลยูนนาน ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษหลังจากที่พวกเขาโพสต์ภาพใบประกาศจับ Ji Qinghai อาชญากรสุดอันตรายคนหนึ่งที่ถูกตั้งข้อหารุนแรงหลายข้อหาและมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งค์มาเฟียท้องถิ่น แต่ว่าภาพที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กลับเป็นภาพสมัยที่นาย Ji ยังคงเป็นเด็กน้อยแก้มยุ้ยตาใสแป๋ว หน้าตาดูน่ารักอยู่ พร้อมทั้งระบุเลขประจำตัวประชาชนไว้ด้วย… “การใช้ภาพเก่าของเด็กคนนี้ได้ดึงความสนใจจากชาวเน็ตและมันได้สร้างผลที่ไม่ค่อยดีนัก พวกเราต้องขออภัยอย่างสุดซึ้งสำหรับความเลินเล่อของพวกเรา” เจ้าหน้าที่แถลงการณ์ขอโทษ ในเวลาต่อมานักข่าวได้ไปทำการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำไมถึงไม่ใช้ภาพของนาย Ji ให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้คำตอบว่า พวกเขามีภาพของชายคนนี้เพียงภาพเดียวเท่านั้นนั่นก็คือภาพนี้นั่นเอง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ลบภาพนี้ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย แต่มือดีได้นำภาพไปแชร์แซวกันอย่างแพร่หลายในโลกอินเทอร์เน็ต แต่ขณะที่ชาวเน็ตบางคนก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจและคิดว่าพวกเขาทำดีที่สุดแล้ว ที่มา: scmp, shanghaiist, ndtv
-
รองเท้ารักษ์โลกจากเนเธอร์แลนด์ สวยๆ แบบนี้ พี่ทำมาจาก “ใบสับปะรด” นะเออ
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนเวลาเลือกซื้อสินค้าอะไรสักอย่างนั้นก็ต้องคำนึงในหลายๆ ด้าน ทั้งวัสดุ ราคา และแบรนด์ หลายๆ คนก็เลือกซื้อสินค้าที่การันตีว่ากระบวนการผลิตทั้งหมดนั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้วัตถุดิบการคนท้องถิ่น และไม่มีการละเมิดกฎหมายแรงงานเช่น ไม่ใช้แรงงานเด็ก และพนักงานทุกคนถูกจ้างงานอย่างเป็นธรรม วันนี้เรามีสินค้าแนวรักษ์โลกอีกชิ้นมานำเสนอ มันคือรองเท้าจาก Mercer Amsterdam แบรนด์รองเท้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ทำมาจากใบสับปะรด!! ซึ่งเจ้ารองเท้าคู่นี้นั้นเป็นผลงานที่ทางแบรนด์ร่วมมือกับ Piñatex ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตวัสดุจากใบสับปะรดทดแทนการใช้หนังสัตว์ ซึ่งทางแบรนด์ก็ได้เผยรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์ของตนเองว่า “รองเท้า Pinatex ทำจากใบของสับปะรด ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวสับปะรด เพราะฉะนั้นวัตถุดิบตั้งต้นนั้นเราไม่จำเป็นจะต้องผลิตขึ้นมาเองเลย” ใบสับปะรดที่ถูกนำมาใช้ทำรองเท้านั้นทางบริษัทซื้อต่อมาจากเกษตรกรในประเทศฟิลิปปินส์เพื่ออุดหนุนสินค้าจากคนท้องถิ่น นอกจากนี้ในกระบวนการผลิตก็ใช้น้ำและสร้างขยะน้อยมากด้วย หากเพื่อนๆ สนใจสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ของ Mercer Amsterdam จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2019 และหลังจากนั้นก็จะวางขายตามท้องตลาดต่อไป ราคาตกอยู่ที่คู่ละ 250 ยูโร (ประมาณ 9,000 บาท) จ้า ที่มา Mercer Amsterdam และ Metro
-
Google เปิดให้แต่งเพลงได้ด้วยตัวเอง ฉลองวันเกิด โยฮัน เซบัสทีอัน บัค
วันที่ 21 มีนาคม ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่มีสิ่งสำคัญเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นวันดาวน์ซินโดรมโลก วันคล้ายวันเกิดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และล่าสุดก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของโยฮัน เซบัสทีอัน บัค (Johann Sebastian Bach) ผู้เป็นคีตกวี และนักออร์แกนชาวเยอรมัน โยฮันมีอิธิพลทางดนตรีอย่างมากในสมัยบาโรก เขาเป็นนักประพันธ์ดนตรีที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับยุค และมีความสำคัญต่อการพัฒนาดนตรีแถบตะวันตกด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าทั้งโมทซาร์ท และเบทโฮเฟินได้ยอมรับโยฮันในฐานะปรมาจารย์เลยก็ว่าได้ ซึ่งทาง google เลยถือโอกาสในวันนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงโยฮันด้วยการสร้างหน้าจอค้นหาในเว็บไซต์ google เป็นโยฮันกำลังประพันธ์เพลง และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าไปออกแบบตัวโน้ต และสร้างทำนองเพลงได้ตามใจชอบ หน้าจอ Google.com วันนี้ โดย #เหมียวฝึกหัดหมายเลข26 ก็ไม่อยากรีรอ เลยมาแนะนำวิธีการบรรรเลงเพลงเหมือนคีตกวีท่านนี้มาแบ่งปันเพื่อนๆ เผื่อจะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนชอบเพลงคลาสสิค หรือสนใจเพลงคลาสสิคกันมากขึ้น ไปรับชมกันเลย หน้าตาตอนกดปุ่มเล่นเกมแล้วก็จะเป็นแบบนี้ ให้เวลาโยฮันแนะนำว่าจะพาเราไปพบกับอะไรบ้าง “สวัสดี! ผมโยฮัน นักแต่งเพลงในยุคศตวรรษที่ 18 ผมเป็นที่รู้จักในการสร้างบทเพลงแสนน่าหลงใหล เอาล่ะ บทเพลงของผมเป็นแบบไหนหรอ? ไปฟังแบบพื้นฐานกันเลยดีกว่า” โยฮันประพันธ์เพลงเป็นตัวอย่าง “ใส่ตัวโน้ตเพิ่มเติมเข้าไปในทำนองได้เลย…
-
M&S ออกช็อกโกแลตกระต่ายต้อนรับวันอีสเตอร์ น้องแค่เล่นโยคะ พวกเธออ่ะคิดมากก
วันอีสเตอร์ นั้นถือเป็นวันสำคัญทางคริสตศาสนาอีกวันหนึ่ง ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองวันที่พระเยซูคืนพระชนม์จากการถูกตรึงไม้กางเขนตามความเชื่อของชาวคริสต์ ซึ่งทั่วโลกก็จะมีวิธีฉลองวันดังกล่าวแตกต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วสัญลักษณ์ที่เห็นได้บ่อยๆ ช่วงเทศกาลนี้คือไข่อีสเตอร์ และกระต่ายอีสเตอร์ ที่อาจสื่อถึงเทพีเอสตรา เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิและความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเปรียบได้กับการเริ่มต้นใหม่ เอาเป็นว่าในช่วงนี้ต่างประเทศก็จะมีสินค้าที่ทำเป็นรูปไข่และกระต่ายออกมาขายแข่งกันมากมาย เพราะวันนี้นั้นนับว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดของชาวคริสต์ก็ว่าได้ รวมทั้งบริษัท M&S (Mark and Spencer) แบรนด์ชื่อดังเองก็ออกสินค้าเกี่ยวกับเทศกาลอีสเตอร์กับเขาเช่นกัน นอกจากช็อกโกแลตรูปไข่แล้ว สินค้าอีกตัวที่เพิ่งออกมาเร็วๆ นี้ก็คือ ช็อกโกแลตนมรูปทรงกระต่ายทำท่าโก้งโค้งอย่างที่เห็น…ซึ่งบนแพคเกจก็บอกว่าสินค้านี้คือ “กระต่ายเล่นโยคะ” ฮึบ! เมื่อภาพของช็อกโกแลตตัวดังกล่าวเปิดเผยสู่สายตาชาวเน็ต ส่วนใหญ่ก็มองว่ามันไม่น่าจะแค่เล่นโยคะนะ เพราะท่าทางมันดูลามกและทะลึ่งตึงตังอย่างบอกไม่ถูก การตอบรับในอินเตอร์เน็ตเลยออกมาอย่างที่เพื่อนๆ จะได้เห็นต่อไปนี้… ดูเหมือนอีสเตอร์นี้ เจสสิก้าแรบบิท (ตัวการ์ตูนสาวเซ็กซี่ใส่ชุดบันนี่เกิร์ล) จะมีความเชิญชวนอยู่หน่อยๆ นะ ร่วมสวดภาวนาให้กับผู้คนที่เอาของแบบนี้ออกมาขายหน้าตาเฉยกันทุกคนนน นอกจากนี้ยังมีคอมเมนต์ของชาวเน็ตจากทั้งในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กพูดถึงเจ้าสินค้าชิ้นนี้อีกจำนวนหนึ่ง เช่น “ช็อกโกแลตกระต่ายนี้มันช่างมีความ “ประตูห้องฉันไม่ได้ล็อกนะ ขึ้นมาหาฉันข้างบนสิ” มากเลย” “นี่คงเป็นคำตอบว่าลูกกระต่ายตัวน้อยถูกสร้างมาได้อย่างไร” “อยากรู้จริงๆ ว่าใครมันเป็นคนคิดไอเดียนี้ขึ้นมา” สุดท้าย หลังจากที่ชาวเน็ตคอมเมนต์แซวกันไปต่างๆ นานา…
-
ชายเม็กซิกันกำลังมีเซ็กส์กับ ‘แม่วัว’ เจ้าหน้าที่ผ่านมาเห็น จึงเข้ารวบอย่างทันควัน!
เรื่องของ ‘ความต้องการทางเพศ’ เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถึงอย่างไรแล้วเราก็ต้องหาวิธีการที่จะปลดปล่อยให้ถูกให้ควร เพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะต้องถูกจับเหมือนกับชายคนนี้ เพราะเขาดันไปสะบั๊มกั๊มกับ ‘แม่วัว’ ซะอย่างงั้น… นาย Jose Nino นาย Jose Nino ชายสัญชาติเม็กซิกัน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่เส้นแบ่งเขตเคาน์ตี้ Hidalgo และ Starr รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐฯ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตะเวนชายแดนกลุ่มหนึ่งเห็นเขากำลังมีเซ็กส์กับแม่วัวตัวหนึ่ง พวกเขาจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเคาน์ตี้ Starr County ทันที หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดไปยังที่เกิดเหตุ ก็สามารถจับกุมตัวเขาได้เป็นที่สำเร็จด้วยข้อหากระทำชำเราสัตว์ ในเวลาต่อมาผู้พิพากษา JP Guillen ได้กำหนดเงินประกันตัวเอาไว้ที่ 1,500 ดอลลาร์ (ราวๆ 47,000 บาท) ซึ่งเขาก็ถูกปล่อยตัวไปในที่สุด จากเรื่องราวที่ชายคนนี้ได้ก่อขึ้น ได้ทำให้ชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันในเชิงที่ว่าเป็นห่วงการปศุสัตว์ในประเทศสหรัฐฯ เสียจริงๆ “พระเจ้า นี่โลกมันกลายเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย” “เราต้องการกำแพง!!” (พร้อมกับใส่ภาพมีมนายโดนัลด์ ทรัมป์) ที่มา: mirror, valleycentral, foxnewssouthtexas
-
รัสเซียจัดการแข่งขัน ‘ตบหน้า’ ใครไม่ร่วงไปก่อนคนนั้นชนะ เห็นแล้วยังรู้สึกแสบหน้าแทน!?
หากใครเคยถูก ‘ตบหน้า’ คงจะรับรู้ดีว่ามันอะไรที่แสบสันไปถึงทรวงขนาดไหน แต่เชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้ประเทศรัสเซียได้จัดการแข่งขันตบหน้าขึ้นแล้ว และกติกาก็คือใครไม่ร่วงไปก่อนคนนั้นชนะ!! โดยดินแดนครัสโนยาสค์ ประเทศรัสเซียรับหน้าเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนี้ และมันก็เป็นการแข่งขันที่เป็นส่วนหนึ่งของอีเว้นท์ที่มีชื่อว่า Siberian Power Show (อีเว้นท์รวมกิจกรรมโหดๆ ตามแบบฉบับรัสเซีย) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 16 – 17 มี.ค. นี้ อันที่จริงแล้วการแข่งขันตบหน้าเคยมีขึ้นมาก่อนในปีที่ผ่านมาในกรุงมอสโคว แต่ว่าในครั้งนั้นเป็นการแข่งขันระดับมืออาชีพ ส่วนคราวนี้เป็นระดับมือสมัครเล่นที่ใครๆ ก็สามารถสมัครได้นั่นเอง สำหรับกติกาอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขันตบหน้าระดับมือสมัครเล่นยังไม่เป็นที่เปิดเผยออกมาเป็นกิจจะลักษณะ แต่จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเผชิญหน้ากับอีกฝั่งหนึ่งโดยมีเพียงแค่โต๊ะเล็กๆ เหมือนกับที่ใช้แข่งงัดข้อคั่นกลางเอาไว้ จากนั้นก็ให้ผู้เข้าแข่งขันใช้ฝ่ามือฟาดเข้าหน้าอีกฝ่ายหนึ่งให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งหากใครน็อกไปก่อนก็จะเป็นผู้แพ้ไป แต่ถ้าหากผลัดกันตบจนครบ 3 ครั้งแล้วยังไม่มีการน็อกเกิดขึ้น คณะกรรมการก็จะเป็นผู้ตัดสินให้โดยพิจารณาจากความแรงและเทคนิคในการตบเป็นการตัดสินผู้ชนะ ลองดูการแข่งขันแล้วอาจจะรู้สึกแสบหน้าแทน… และถึงแม้ว่าการแข่งขันตบหน้าจะยังไม่ใช่กีฬาที่เป็นทางการ แต่การแข่งขันก็จะมีกฎที่ถือเป็นเบสิคนั่นคือ ห้ามใช้ส่วนล่างของฝ่ามือในการตบจะใช้ได้เพียงแค่ส่วนของนิ้วมือและฝ่ามือส่วนบนเพียงเท่านั้น เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่รุนแรงเกินไป รวมทั้งยังมีข้อห้ามอื่นๆ อย่างเช่นห้ามตบเข้าที่ขมับ หู หรือดวงตาของคู่ต่อสู้ด้วย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัยของผู้เข้าแข่งขัน ทว่าด้วยเหตุผลนี้หลายคนอาจจะคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะตบอีกฝ่ายให้ร่วงไปนอนกับพื้น แต่ด้วยความที่ไม่มีกฎการแข่งแบ่งตามเกณฑ์น้ำหนัก…
-
ฮาเกิ๊น!! หนุ่มญี่ปุ่นเผยวิธีกันไม่ให้สาวเอาน้ำสาดหน้า พร้อมไทอินขายสินค้าได้อย่างครีเอต
หากเพื่อนๆ เคยชมภาพยนตร์ ซีรีส์หรือการ์ตูนอนิเมชั่นญี่ปุ่นล่ะก็ คงเคยเห็นฉากการทะเลาะกันของคู่เดตหรือคู่รัก ในร้านอาหารแล้วฝ่ายชายถูกฝ่ายหญิงสาดน้ำใส่เป็นประจำ วันนี้เองก็เลยมีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง คิดวิธีที่จะป้องกันน้ำที่ถูกสาด ซึ่งเขาจะทำได้มั้ย จะทำได้หรือเปล่านั้น เราต้องไปรับชมกันเ นี่คือคุณ ARuFu ผู้ที่จะมาสาธิตวิธีการป้องกันการถูกสาดน้ำ ถูกสาดน้ำแบบเนี้ย!! เขาจะทำได้หรือไม่ ไปติดตามชมกัน!! ก่อนอื่นต้องเลือกสถานที่ก่อน โดยครั้งนี้จะใช้ร้านกาแฟร้านนี้เป็นสถานที่เกิดเหตุนะครับ และนี่ก็คืออาสาสมัคร (ผู้ถูกบังคับ) สาว ผู้อยู่บริษัทเดียวกับคุณ ARuFu นั่นเอง เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย!! วิธีที่ 1: หลบน้ำแบบกระชั้นชิด อ้าวชะเฮ้ย!! ไหงเอ็งไม่ทันได้แม้แต่จะขยับหัวเลยล่ะเนี่ย ตูม!! มือผู้หญิงนี่มันไวยิ่งกว่า The Flash อีก!! สูดน้ำไปเต็มที่เลยสิพ่อคุณ วิธีที่ 1 ถือว่าเฟลลลลลลล!! เอาใหม่ๆ มาเริ่มวิธีที่ 2 กันเลย…
-
สาวน้อยหัวใสผุดอาชีพ ‘ตั้งชื่อภาษาอังกฤษให้ลูกคนอื่น’ ในจีน ฟันเงินไปร่วม 10 ล้าน!!
บนโลกใบนี้มีอาชีพอยู่นับร้อยพันให้เราได้ทำเพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่ว่าคงมีหลายคนไม่รู้ว่านอกจากอาชีพธรรมดาทั่วๆ ไปแล้ว ก็ยังมีอาชีพแปลกๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย รวมถึงอาชีพ ‘ตั้งชื่อลูกให้กับคนอื่น’ ด้วย!! Beau Jessup หญิงสาวผู้ให้กำเนิดอาชีพดังกล่าว เล่าว่าเธอได้ความคิดนี้มาจากในตอนที่ไปเที่ยวประเทศจีน ซึ่งในตอนนั้นเพื่อนของเธอได้ขอให้เธอเลือกชื่อภาษาอังกฤษให้กับเพื่อนของพ่อ และในเวลาต่อมาเธอก็ได้ใช้ไอเดียนี้หาเงินได้มากถึง 260,000 ปอนด์ (ราวๆ 10 ล้านบาท) การหาเงินได้เยอะถึงขนาดนี้เนื่องมาจากความที่สาววัย 19 ปีได้ค้นพบว่ามีผู้คนมากมายในประเทศจีนอยากจะตั้งชื่อลูกเป็นภาษาอังกฤษ เพราะพวกเขาเชื่อว่ามันอาจเป็นชื่อที่ง่ายกว่าต่อการเรียกเขียนหรืออ่าน รวมทั้งอาจทำให้มีโอกาสเกี่ยวกับเรื่องงานในอนาคตมากกว่าชื่อแบบเดิม และอีกเหตุผลหนึ่งที่มีส่วนก็คือความที่ประเทศจีนมีข้อจำกัดในการเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ จึงทำให้ผู้คนส่วนมากที่มีความต้องการเช่นนี้ไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์แนะนำชื่อเด็กได้เหมือนกับที่ประเทศอื่นๆ ใช้ ตอนนี้จึงมีพ่อแม่หลายคนในประเทศจีนตั้งชื่อให้ลูกของตัวเองว่า ซินเดอเรลล่า, แรมโบ้, หรือแม้แต่แกนดัล์ฟ ตามคำแนะนำของเธอ Beau ได้เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ SpecialName.cn ในปี 2016 ซึ่งเธอบอกว่าเว็บไซต์นี้มีความพิเศษอยู่ตรงที่ว่าจะสามารถเลือกชื่อตามบุคลิกนิสัยของเด็กได้ หน้าตาของเว็บไซต์ ในช่วงแรกของการเปิดเว็บไซต์ เธอได้เปิดให้ 160,000 ชื่อแรกเป็นการให้บริการฟรีๆ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็ตั้งค่าใช้บริการขึ้นมาและมีผู้ใช้บริการมากถึง 670,000 ชื่อ จึงทำให้เธอมีเม็ดเงินไหลมาเทมาอย่างมากมายซึ่งเธอบอกว่าเอาไว้ใช้เป็นค่าศึกษาอยู่ในขณะนี้…
-
รอลุ้น ‘Stranger Things 3’ ปล่อยเทรลเลอร์ฉบับเต็ม ก่อนชมพร้อมกัน 4 กรกฏานี้
ซีรี่ส์เน็ตฟลิกซ์อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรื่อง ‘Stranger Things’ ซึ่งตอนนี้ที่เดินทางมาถึงซีซั่นที่ 3 แล้ว เรื่องราวแนววิทยาศาสตร์ สยองขวัญที่เกิดขึ้นที่เมืองสมมุติ Hawkins ในยุค 80 จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากการหายตัวไปอย่างลึกลับของ Will ทำให้เพื่อนของเขา Mike, Dustin และ Lucus ออกตามหาและพบความจริงว่า Will หลุดไปอยู่ในโลกคู่ขนานที่เต็มไปด้วยอสูรกายอันตรายและพวกมันกำลังคืบคลานเข้ามาในโลกของพวกเขา ในซีซั่นก่อนหน้านี้ เพื่อนๆ ได้ช่วยเหลือ Will ให้ออกจากโลกปีศาจมาได้โดยความช่วยเหลือของ Eleven เด็กสาวผู้มีพลังจิตที่มีความสามารถในการต่อสู้กับเหล่าร้าย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมาได้มีการปล่อยเทรลเลอร์ตัวเต็มของ ‘Stranger Things’ ซีซั่นที่ 3 ออกมาให้แฟนๆ ได้รับชม . เทรลเลอร์ฉบับเต็ม โดยซีซั่นนี้จะเล่าถึงการผจญภัยครั้งใหม่ของเด็กๆ ผู้ชมจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครในเรื่องที่เติบโตตามอายุ รวมถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปจากยุคก่อนๆ ในเทรลเลอร์ยังคงแสดงถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของเด็กๆ การก้าวผ่านวัยเด็กสู่วัยรุ่น และการต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดที่จะสร้างความหวาดผวาให้กับคนดู เรื่องราวของพวกเขาจะดำเนินต่อไปอย่างไรนั้น รอติดตามกันได้ในวันที่…
-
เกาหลีใต้เผยขบวนการ ‘แอบถ่าย’ ติดตั้งกล้องในโรงแรมกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ
กลายเป็นเหตุเตือนภัยที่ผู้ใช้บริการพื้นที่สาธารณะ หรือห้องพักชั่วคราวให้ระวังตัวกันมากขึ้น หลังจากที่มีรายงานพบกล้องแอบถ่ายในโรงแรมกว่า 30 แห่งทั่วประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา สำนักข่าว CNN รายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมชายผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เกี่ยวข้องกับขบวนการแอบถ่ายในห้องพัก 42 ห้องในโรงแรมหลายแห่ง พบผู้เสียหายกว่า 1,600 คน โดยมีการเผยแพร่คลิปวิดิโอและถ่ายทอดสดลงในเว็บไซต์ลับ ที่มีสมาชิกราว 4,000 คน ซึ่งสมาชิกกว่า 97 คนยอมเสียค่าบริการประมาณ 1,420 บาท เพื่อเข้าถึงบริการพิเศษในแต่ละเดือน กล้องแอบถ่ายถูกติดตั้งไว้ตรงกล่องเคเบิ้ล ปลั๊กไฟ หรือแม้กระทั่งไดร์เป่าผม เพื่อบันทึกกิจกรรมที่เกิดขึ้นในห้องพักให้เหล่าสมาชิกได้รับชม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในประเทศเกาหลีใต้พบคดีแอบถ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อปี 2018 มีผู้หญิงกว่าหมื่นออกมาเคลื่อนไหวโดยการประท้วง ภายใต้สโลแกน “My Life is Not Your Porn” เพื่อต่อต้านการกระทำละเมิดสิทธิส่วนบุคคลดังกล่าว หลังจากนั้นทางการเกาหลีใต้ก็ได้ตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาเพื่อตรวจหากล้องแอบถ่ายในพื้นที่สาธารณะทั่วเกาหลี และสั่งปิดเว็บอนาจารอีกจำนวนมาก นับว่าเหตุการณ์ให้ครั้งนี้ ทำให้ประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังกันมากขึ้น…
-
คุณยายวัย 104 ปีถูกตำรวจจับ หลังเขียนคำขอไปว่าอยากถูกจับ เพราะไม่เคยทำผิดมาก่อน
มนุษย์หลายๆ คนนั้นเป็นคนอยากรู้อยากเห็น อยากพบเจอกับประสบการณ์ที่ตัวเองไม่เคยเจอมาก่อน จึงพยายามที่จะหากิจกรรมใหม่หรือออกไปค้นพบเรื่องใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับคุณยายคนที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ เธออยู่ดูโลกนี้มาอย่างยาวนานกว่า 104 ปี แต่ไม่เคยถูกตำรวจจับและอยากมีประสบการณ์การเป็นอาชญากร จึงขอคุณตำรวจมาจับเสียอย่างนั้น คุณยายคนดังกล่าวคือ Anne Brokenbrow ผู้ที่ตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ประวัติขาวสะอาด ไม่เคยปฏิบัตผิดกฎหมายสักครั้งเดียว แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็อยากมีประสบการณ์ถูกจับเหมือนอาชญากรดูบ้าง เธอจึงเขียนเขียนคำขอไว้ให้บ้านพักคนชราที่เธออาศัยอยู่ว่า “อยากถูกจับ เพราะฉันอยู่ 104 ปีแล้ว และยังไม่เคยทำผิดกฎหมายเลยสักครั้ง” เมื่อทางสำนักงานตำรวจ PCSO (Police Community Support Officer) แถวบ้านพักคนชราได้ยินเรื่องของเธอ ก็ตัดสินใจที่จะให้คุณยายสมหวัง จึงเข้ามาจับกุมคนยายถึงบ้านพักคนชรา โดยทางเจ้าหน้าที่จับกุมคุณยายในข้อหา “เป็นพลเมืองดี ที่ทำตามกฎหมายบ้านเมือง” พร้อมกับใส่กุญแจมือแล้วคุมตัวเธอออกจากบ้านพักคนชราไป ก่อนจะปล่อยเธอออกมาในภายหลัง . คุณยาย Anne ตื่นเต้นกับวันดังกล่าวมาก เธอเผยให้เราได้รู้ว่า “ฉันมีวันที่ดีเลยล่ะ มันน่าสนใจมากๆ ไม่มีอะไรแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับฉันมาก่อนเลย พวกเขาใส่กุญแจมือฉันด้วย ถ้าถามว่าความรู้ของการเป็นอาชญากรเป็นอย่างไร? มันน่าจะทำให้ฉันระวังการกระทำของการพูดของฉันมากขึ้น แต่คุณตำรวจก็ดีกับฉันตลอดเลย”…
-
Logan Paul และกลุ่มโลกแบนเตรียมตัวเดินทางไปทวีปแอนตาร์กติกา เพื่อพิสูจน์ว่าโลกแบน!!
บนโลกนี้มีคนอยู่มากมายหลายล้ายคน ซึ่งแต่ละคนย่อมมีความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน แนวคิดทางการเมือง ศาสนา หรือจะเป็นความเชื่อเกี่ยวกับโลกของเราก็ตาม ซึ่งสำหรับโลกของเราหลายๆ คนคงทราบกันดีว่าเป็นรูปทรง “กลม” แต่ก็ยังมีคนอีกบางส่วนที่เชื่อว่าโลกของเรานั้นไม่ได้กลม แต่มีทรง “แบน” แทน ล่าสุดชมรม Flat Earther หรือชมรมโลกแบน ร่วมกับ Logan Paul ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ก็ได้ปล่อยคลิปวิดีโอสารคดีใหม่ที่ชื่อว่า The Flat Earth: To The Edge And Back และเผยว่าพวกเขาใกล้พิสูจน์ว่าโลกแบนไปอีกขั้นแล้ว พร้อมกับเตรียมตัวเดินทางไปยังทวีปแอนตาร์กติกา เพื่อค้นหากำลังแพงน้ำแข็งที่ล้อมโลกเราอยู่ เพื่อพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วโลกนี้มันแบน!! โดยในวิดีโอสารคดีดังกล่าว Logan Paul ได้บอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาของของชมรมโลกแบน ก่อนที่ช่วงท้ายของวิดีโอ เขาก็ขึ้นมากล่าวต่อในการประชุมชมรมโลกแบนในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด “ผมไม่อายที่จะพูดว่าชื่อของผมคือ Logan Paul และผมคิดว่าผมกำลังไขความลับของโลกแบนได้แล้ว” Logan Paul กล่าวก่อนสร้างเสียงฮือฮาให้กับสมาชิกกลุ่มแบนโลกที่กำลังฟังเขาอยู่ นอกจากนี้เขายังเผยกับ…
-
ชาวนิวซีแลนด์เริ่มเคลื่อนไหว นำ ‘อาวุธปืน’ มาคืนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเกิดเหตุกราดยิง
จากเหตุกราดยิงมัสยิดในประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ราย กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก ทำให้ทางการของนิวซีแลนด์ต้องออกมาทบทวนเรื่องกฎหมายการพกพาอาวุธปืนอีกครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าประชาชนของนิวซีแลนด์เองก็เริ่มหันมาให้ความสนใจกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ล่าสุดจากรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศพบว่าตอนนี้ประชาชนนิวซีแลนด์ต่างเริ่มพากันเอา ‘อาวุธปืน’ มาคืนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าเมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่ท่านนายกรัฐมนตรี นาง Jacinda Arden ได้ออกมารณรงค์ให้ชาวนิวซีแลนด์คืนอาวุธปืนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอกล่าวว่า “นี่เป็นการกระทำที่มีความหมายเป็นอย่างมาก ผ่านมาแล้วกว่า 10 วันจากเหตุการณ์กราดยิงอันโหดร้าย เราต้องการที่จะปรับเปลี่ยนกฎหมายเรื่องการครอบครองปืนอีกครั้งหนึ่ง ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะช่วยให้สังคมของเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น” “คณะรัฐมนตรีได้มีมติร่วมกันแล้ว และเราต้องร่วมด้วยช่วยกัน” นายกนิวซีแลนด์กล่าว หลังจากนั้นก็พบว่ามีประชาชนเริ่มเอาปืนมาคืนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วกว่า 37 รายทั่วประเทศ John Hart หนึ่งในคนที่เอาปืนมาคืน เป็นอดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค Green Party ก็ออกมาโพสต์ถึงสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจแบบนั้นว่า “ผมเป็นเจ้าของฟาร์มที่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธเหล่านี้ในการทำงาน แต่ความสะดวกของผมมันอาจจะเพิ่มความเสี่ยงที่อาวุธเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เราไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้ในประเทศของเรา” เอกสารการคืนปืนของนาย John Hart จนเกิดเป็นกระแสให้คนอื่นๆ เริ่มหันมาสนใจและอยากจะทำตาม เช่นเดียวกันกับชาวเน็ตท่านนี้ “ผมเป็นเจ้าของปืนกระบอกนี้มานานแล้ว แต่เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมาผมไม่ลังเลเลยที่จะเอามันไปคืนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ” ทางด้านสถานีตำรวจก็ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการคืนอาวุธปืนว่าดังนี้…
-
เด็กน้อยใสซื่อมอบมิตรไมตรี ด้วยการโบกมือบ๊ายบายขณะผู้ร้ายกำลังโดนตำรวจจับ
ตอนเด็กๆ พ่อแม่ ผู้ปกครองมักสอนให้เราเป็นเด็กดี มีน้ำใจ และปฏิบัติกับคนอื่นๆ ด้วยความเป็นมิตร ซึ่งเราก็อาจจะทำบ้าง ไม่ทำบ้างตามประสาเด็ก แต่น้องน้อยในคลิปเหตุการณ์ต่อไปนี้นั้น บอกได้เลยว่า น้องเชื่อฟังคำสั่งสอนดีมากจริง ๆ เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่า Harry Murphy อายุแค่ 1 ขวบครึ่ง อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในเมืองเกรทเทอร์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งน้องถูกถ่ายคลิปขณะโบกไม้โบกมือ ส่งมิตรไมตรีอย่างกระตือรือร้นตามประสาเด็กไร้เดียงสาผ่านกระจกหน้าต่าง พร้อมกับพูดว่า “บ๊ายบายยยยยยย” ทุกอย่างมันก็จะดูน่ารักน่าเอ็นดู และไม่มีอะไรแปลกถ้าไม่ใช่เพราะขณะนั้นมีชายสวมฮู้ดกำลังถูกจับสวมกุญแจมือ และกำลังโดนลากตัวออกจากบ้านข้างๆ นำไปขึ้นท้ายรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ… ดูอย่างไรพ่อหนุ่มคนนั้นก็กำลังโดนตำรวจจับเพราะไปทำความผิดอะไรสักอย่างมาชัดๆ และตัวน้อง Harry ก็ไม่น่าจะรู้ว่าข้างนอกเกิดเหตุอะไรขึ้น น้องก็แค่บ๊ายบายตามประสาเด็กเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวจะเห็นที่น้องโบกมือไหม และจะรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เห็นดี… บ๊ายบายค้าบบบบบบ ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณพ่อ Liam ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ความจริงแล้วที่น้อง Harry โบกมือหยอยๆ ให้นั้นเป็นเพราะน้องชอบตำรวจมากๆ ต่างหาก เพราะคุณป้าของน้องก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ น้องเลยตื่นเต้นที่ได้เห็นรถตำรวจขับมาแถวบ้าน นอกจากนี้น้องยังปลาบปลื้มพนักงานเก็บขยะด้วย ทุกอาทิตย์น้อง Harry จะคอยโบกมือให้กับพนักงานเก็บขยะที่ขับรถมาปฏิบัติหน้าที่และรอคอยให้พี่ๆ พนักงานโบกไม้โบกมือตอบกลับมา…
-
เนียนซะไม่มี!? หนุ่มลักลอบขนเต่าเข้าเยอรมนีด้วยการจับใส่กล่องให้ดูเหมือนขนม
เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา มีชายไม่ทราบชื่ออายุ 69 ปีคนนึ่งเดินทางจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ไปยังสนามบิน Schönefeld กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจสอบสัมภาระตามปกติ แต่แล้วก็ได้พบกับกล่องขนมธรรมดาที่ดูไม่ธรรมดาอย่างยิ่งกล่องหนึ่ง เมื่อทางเจ้าหน้าที่ไต่ถามถึงของในกล่อง ชายผู้เป็นเจ้าของก็ตอบว่ามันคือช็อกโกแลตธรรมด๊าาาา ธรรมดาครับ เนียนไม่เนียนล่ะ เอาซี่ แต่ทางเจ้าหน้าที่สังเกตว่ามันดูแปลกเอามากๆ จึงได้เปิดกล่องขนมดังกล่าวออก แล้วก็ได้พบว่าความจริงมันไม่ใช่ช็อกโกแลตแต่อย่างใด แต่มันคือเต่าโมร็อกโกที่ยังเป็นๆ อยู่ถึง 3 ตัวด้วยกัน!! เจ้าเต่าพันธุ์นี้นั้นเป็นเต่าที่อยู่ในความคุ้มครองของอนุสัญญาวอชิงตัน ที่ว่าด้วยเรื่องการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ระหว่างประเทศ ซึ่งประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 1976 การลักลอบนำมันข้ามาดื้อๆ เช่นนี้จึงผิดกฎหมายเข้าเต็มๆ ตามข้อกฎหมายโทษของการลักลอบนำสัตว์ป่าชนิดนี้เข้าประเทศ อาจทำให้เขาให้โดนโทษปรับสูงถึง 50,000 ยูโร หรือประมาณ 1.8 ล้านบาท และโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ส่วนน้องเต่าทั้ง 3 ตัวได้ถูกส่งไปอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้วจ้า ที่มา LADbible
-
รู้จักกับ Jacinda Ardern ผู้นำหญิงแกร่ง ขึ้นเป็นนายกฯ นิวซีแลนด์อายุน้อยที่สุด ด้วยวัย 37 ปี
วิถีทางการเมืองทั่วโลกมีรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่แล้วผู้นำขององค์กรต่างๆ มักจะเป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นความเชื่อมาตั้งแต่โบราณ ว่าผู้ชายมักเป็นผู้นำ (Leader) ได้ดีกว่า แต่ด้วยมุมมองที่เปลี่ยนไปในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงต่างมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น และไม่ถูกจำกัดในเรื่องของบทบาทอีกต่อไป ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุกราดยิงอันน่าเศร้าในประเทศนิวซีแลนด์ ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุความเกลียดชังทางด้านแนวคิดในเรื่องของผิวสีและความเชื่อ อย่างไรก็ตาม ทางการนิวซีแลนด์ได้ออกมาตรการณ์ตอบโต้ผู้ไม่หวังดี ด้วยการทำให้ถูกลืม ไม่ได้รับพื้นที่บนสื่อใดๆ หรือแม้แต่กระทั่งชื่อของผู้ก่อเหตุก็จะไม่ได้รับการเอ่ยถึง Jacinda Ardern บุคคลที่ขึ้นประกาศต่อหน้าสื่อทั่วประเทศและทั่วโลกก็คือ Jacinda Ardern นายกรัฐมนตรีคนที่ 40 และคนปัจจุบันของนิวซีแลนด์ โดยเธอได้ดำรงตำแหน่งนี้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม ปี 2017 หลังจากตกลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคนิวซีแลนด์ที่ 1 สำหรับแนวคิดของเธอนั้นเป็นทั้งประชาธิปไตยสังคมนิยมและพิพัฒนนิยม อีกทั้งยังเป็นผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลก โดยเริ่มดำรงตำแหน่งตอนอายุ 37 ปี แต่สิ่งที่นอกเหนือจากหน้าที่การงานด้านนายกรัฐมนตรีแล้ว Jacinda Ardern นั้น มีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากผู้นำคนอื่นๆ อย่างมาก เนื่องจากเธอเคยเป็นดีเจเปิดเพลงมาก่อน …
-
คุณตานึกว่าโดน ‘ผีหลอก’ ตื่นมาพบอุปกรณ์บนโต๊ะทำงานถูกย้าย ที่ไหนได้ ‘หนู’ มาช่วยเก็บ
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ความเชื่อเรื่องผี’ หรือ ‘วิญญาณ’ นั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล จะมีจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่จะบอกว่าไม่มีจริงก็พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของคุณตาท่านนี้… เรื่องราวของคุณตา Stephen Mckers วัย 72 ปี ที่ต้องตื่นมาเจอกับเรื่องประหลาดในทุกๆ วัน ก็คือสิ่งของบนโต๊ะทำงานของตัวเอง ไม่เคยวางอยู่ที่เดิมเลย มีการวางตำแหน่งเปลี่ยนไปทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นคลิปหนีบกระดาษ น็อต และอุปกรณ์เล็กๆ บางครั้งมันก็ถูกเก็บเอาไปไว้ในกล่องเครื่องมือเหมือนเดิม ราวกับว่ามีวิญญาณอยู่เบื้องหลังการกระทำในครั้งนี้ มีครั้งหนึ่งที่คุณตาพยายามจะแก้ไขปริศนานี้ด้วยการเอาสิ่งของออกมาจากกล่องเครื่องมือ ออกมาวางบนโต๊ะ เพื่อเช็คว่าไม่ได้คิดไปเอง และพอเช้าวันต่อมาก็พบว่าบางอย่างมันกลับเข้าไปอยู่ในกล่องเครื่องมือจริงๆ!! นับวันผ่านไป เหตุการณ์ก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณตา Stephen ถึงกับบอกว่า “ถ้าผมไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร ผมคงจะเป็นบ้าแน่ๆ” ว่าแล้วคุณตาก็เลยตัดสินใจติดตั้ง ‘กล้องวงจรปิด’ เพื่อเช็กดูว่าตัวการที่อยู่เบื้องหลังการขยับเขยื้อนของสิ่งของบนโต๊ะทำงานของคุณตานั้นมันคืออะไรกันแน่!? เป็นผีอย่างที่คิดไว้จริงๆ รึเปล่า!? ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนบ้านที่ชื่อว่า Rodney Holbrook เข้ามาติดตั้งกล้องเพื่อไขปริศนาที่คุณตาสงสัยมาโดยตลอด และผลที่ได้ก็คือ….มันไม่ใช่ผีหรือวิญญาณที่ไหนแต่อย่างใด แต่เป็น ‘หนูบ้าน’ ตัวจิ๋ว ที่มาคอยช่วยคุณตาเก็บของบนโต๊ะที่ระเกะระกะจากการทำงานเข้ากล่องเครื่องมือให้เป็นระเบียบเรียบร้อย…
-
แม่แต่งชุดชั้นในล่วงละเมิดทางเพศลูกชายแท้ๆ วัย 4 ขวบ เพื่อขายรูป-คลิปแลกเงิน
แม้ว่าคนเราจะมีรสนิยมทางเพศที่ไม่เหมือนกัน แต่ต้องยอมรับว่าการ “ใคร่เด็ก” นั้นนับเป็นเรื่องใหญ่ของโลกใบนี้ไปแล้ว เมื่อมีเด็กทั้งหญิงและชายจำนวนมากถูกล่อลวง บังคับ ข่มขู่มาทำร้าย เหตุการณ์สลดใจครั้งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศยูเครน เมื่อหญิงสาววัย 26 ปีถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวเนื่องจากทางตำรวจพบว่าหญิงรายนี้มีความเกี่ยวข้องกับคลิปและรูปถ่ายล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย ซึ่งเหยื่อวัย 4 ขวบนั้นเป็นลูกชายแท้ๆ ของเธอเอง เธอแต่งตัวในชุดชั้นในและถ่ายคลิปตนเองข่มขืนลูกชายและขายในกับลูกค้าชาวต่างชาติในราคาคลิปละ 85 ยูโร (ประมาณ 3,050 บาท) รวมทั้งหมดแล้วเธอได้เงินมา 2,500 ยูโร (ราว 90,000 บาท) จากการขายคลิปวิดีโอ 30 คลิปด้วยกัน และนอกจากนี้ยังมีการขายภาพนิ่งในเว็บมืดอีกด้วย โดยทางตำรวจตรวจพบหลักฐานจำนวนมากในคอมพิวเตอร์ของเธอ จากการสอบสวนหญิงคนดังกล่าวให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อเสนองานจากหญิงคนหนึ่งทางอีเมล หญิงคนนั้นบอกให้เธอตามหาเด็กๆ บนโลกออนไลน์ คนที่ยินยอมที่จะถ่ายหนังโป๊แลกเงิน แล้วเธอก็ต้องเป็นคนถ่ายทำคลิปที่บ้านของเด็กเหล่านั้นโดยอาศัยจังหวะที่พ่อแม่ของเด็กๆ ไม่อยู่ หรือไม่ก็พาเด็กมาที่บ้านของเธอ นอกจากนี้เธอยังต้องหาพ่อแม่คนที่ยินยอมให้ลูกถ่ายหนังโป๊แลกกับเงินด้วย ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะเสนอว่าให้เธอทำกับลูกชายของตัวเองแทน โดยบอกว่า “ไม่มีอะไรต้องกลัวเลย” และคุณแม่คนนี้ก็ตอบตกลง หลังจากนั้นเธอก็ทำธุรกิจนี้เรื่อยมาเป็นเวลานานแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเองก็อยู่ในวงการหนังผู้ใหญ่ โดยการถ่ายคลิปตนเองขาย แต่เมื่อมีการเสนอค่าตอบแทนจากการถ่ายหนังให้พวกใคร่เด็กซึ่งมีราคาสูงกว่ามาก เธอจึงตัดสินใจทำ…
-
คุณพ่อไม่พอใจ บุกร้านแมคโดนัลด์ เพราะสั่งเมนูวีแกนแต่ดันได้เนื้อกลับมาถึง 2 รอบ
ขีดความอดทนของแต่ละคนย่อมไม่เท่ากัน และแน่นอนว่าพวกเราต่างมีความอ่อนไหวที่แตกต่างกัน ต่อให้เป็นคนใจเย็นแค่ไหน พอถึงจุดหนึ่งย่อมต้องมีการระเบิดออกมา เรื่องราวการระเบิดอารมณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Aylesford เคาน์ตี้ Kent ประเทศอังกฤษ ช่วงเย็นวันอาทิตย์ คุณพ่อคนหนึ่ง (ไม่ทราบชื่อ) ได้บุกเข้ามาในร้านแมคโดนัลด์ด้วยความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะตะโกนต่อว่าพนักงานยกใหญ่ เขาตะโกนออกมาว่า “พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? ทำมาผิดได้ยังไงตั้ง 2 รอบ?” โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คนอยู่ในร้านที่เกิดเหตุพอดี จึงเข้ามาระงับเหตุก่อนจะบานปลายได้ Jo Dale เป็น 1 ในลูกค้าราว 35 คนที่เห็นเหตุการณ์ และเธอได้ถ่ายคลิปช่วงเกิดเหตุเอาไว้ด้วย ซึ่งจากในคลิปก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่า คุณพ่อคนดังกล่าวและภรรยาของเขานั้นเป็นวีแกนทั้งคู่ และครอบครัวของเขาก็ขับรถเข้ามาสั่งเบอร์เกอร์มังสวิรัติตรงไดรฟ์ทรู แต่พนักงานกลับให้เบอร์เกอร์เนื้อมา และมันเกิดขึ้นถึง 2 รอบด้วยกัน “เขาเข้ามาพร้อมกับภรรยาและลูก นี่ฉันถ่ายตอนที่แย่ที่สุดไว้ไม่ทันนะ คือตอนที่เข้าตึงตังๆ เข้ามา แล้วปาถุงเบอร์เกอร์ใส่พนักงาน บอกว่าจะขอคุยกับผู้จัดการและหัวหน้าออฟฟิศนี้ แล้วตอนนั้นก็มีคนพยายามเข้าไปช่วยคุยให้เขาอารมณ์เย็นลง “แล้วจากนั้นก็มีตำรวจเข้ามาซื้ออาหารพอดี ตอนหลังผู้ชายคนนั้นก็กลับออกไปโดยไม่รับอาหารของตัวเองไปด้วย รวมๆ แล้วเหตุการณ์ก็กินเวลาไปราวๆ 1 ชั่วโมง …
-
เด็กชายป่วยออทิสติกแจ้ง 911 ว่าตุ๊กตาหมีหาย คุณตำรวจใจดีรีบมาช่วยหาให้
Ryan Paul วัย 12 ปี ผู้ป่วยออทิสติก อาศัยอยู่กับครอบครัวที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา Ryan มีตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆ อยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า Freddy ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเขา วันหนึ่งเจ้า Freddy ได้หายไป ทำให้ Ryan ร้อนใจอย่างมาก เมื่อเขาหาเพื่อนรักของตนเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เขาจึงตัดสินใจโทรไปหา 911 เพื่อแจ้งเหตุ ด้วยความที่น้อง Ryan เป็นผู้ป่วยออทิสติกวิธีการพูดของเขาจึงวกวนเล็กน้อย โดยเจ้าหน้าที่ที่รับสายได้ยิน Ryan พูดใส่โทรศัพท์ว่า “ตุ๊กตาหมีของผมหายไปอีกแล้ว ไม่ต้องห่วงนะฉันจะช่วยนายอีกครั้ง ลาก่อนอีกรอบนะ แล้วก็เจอกันใหม่” ทางสถานีตำรวจจึงต้องโทรกลับไปเพื่อรับเรื่องการแจ้งเหตุอีกรอบ คราวนี้ Robert พ่อของหนุ่มน้อยเป็นคนรับสาย เขาถึงได้รู้ว่าลูกทำอะไรลงไป เขาขอโทษทางตำรวจและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ก่อนบอกว่าไม่ได้มีเหตุด่วนเหตุร้ายเกิดขึ้นแต่อย่างใด โชคดีที่ทางสถานีตำรวจมีนโยบายว่า ไม่ว่าประชาชนจะโทรมาด้วยเรื่องด่วนหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือให้ลุล่วง เพียงไม่นานหลังจากวางสาย เจ้าหน้าที่ Khari Manzini ก็มาถึงหน้าบ้านของหนุ่มน้อยในทันที ตัว Manzini เองเป็นตำรวจเข้าใหม่ที่ได้รับการฝึกสอนวิธีพูดคุยและตอบสนองกับผู้ป่วยออทิสติก เขาได้ช่วย Ryan…
-
กล้าลองกันไหม? ซอสพริกรสเจ็บ เลียนแบบความรู้สึกตอนโดน “แมงมุมพิษ” กัด
เราชาวไทยหลายๆ คนคงมีความทนทานต่อ “รสเผ็ด” มากพอดู จากการที่เรามีพริกหลากหลายชนิด ในขณะที่อีกหลายๆ ประเทศ ก็มีอาหารที่มีรสเผ็ดเช่นกัน (แต่อาจจะไม่เหมือนรสเผ็ดในบ้านเรา) วันนี้เราจะนำเสนอซอสพริกสำหรับผู้ที่ทนต่อรสเผ็ดได้ดีเยี่ยม และอยากลองความเจ็บแสบแบบใหม่ มันคือ “Scientific Steve’s Venom Chilli Sauce” ซึ่งเป็นผลงานของ Steven Trim วัย 41 ปี กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง Venomtech เจ้าซอสชื่อยาวๆ นี้มีรสชาติที่เลียนแบบความรู้สึกของการโดนแมงมุมพิษกัด ถ้าจะให้บอกแบบเจาะจงอีกนิดก็เป็น ทารันทูล่าพันธุ์ Trinidad Chevron ซึ่งหากโดนมันกัดเข้าล่ะก็ พิษของมันจะทำให้กล้ามเนื้อกระตุกและเจ็บร้อนเหมือนถูกไฟไหม้ แต่สบายใจได้ว่าในซอสไม่ได้มีส่วนผสมของแมงมุม และไม่มีแมงมุมตัวใดถูกทำร้ายระหว่างการคิดค้นซอสชนิดนี้ขึ้น ซึ่งทางผู้ผลิตได้ใช้พิษสังเคราะห์ทดแทนนั่นเอง Steven ได้กล่าวว่า “มันออกมาดีที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้โดยไม่ทดลองกับพิษจริงๆ ของแมงมุม แต่องค์ประกอบของความร้อนจะใกล้เคียงกับพิษจริงมาก” ถ้าใครอยากท้าทายขีดความสามารถตัวเองล่ะก็ไปสั่งซื้อกันได้ ที่นี่ เลย ราคาขวดละ 6.50 ยูโร (ประมาณ 234…
-
หนุ่มเผยชีวิตที่ถูกภรรยานอกใจ หา 100 วิธีลืมเธอ จนกลายเป็นนักเขียนที่โด่งดัง
Ian Usher ชายชาวอังกฤษผู้ย้ายไปอยู่ประเทศออสเตรเลียพร้อมภรรยา ผู้ที่ต่อมาก็ทิ้งเขาไปพร้อมกับชายคนอื่น ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะแต่งงานกันมาแล้วกว่า 12 ปีก็ตาม นั่นเองเป็นตอนที่เขาตัดสินใจประมูลขาย “ทุกสิ่งทุกอย่างในช่วงชีวิตที่ผ่านมา” จนทำให้เขากลายเป็นที่โด่งดังจนเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล หลังจากนั้นเขาได้ตั้งบล็อกส่วนตัวของตัวเอง โดยเขาได้สร้างเป้าหมายให้ตัวเองคือ “100 เป้าหมายใน 100 สัปดาห์” ที่จะช่วยให้เขาลืมเรื่องการหย่าร้างและเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาเริ่มต้นด้วยการตัดสินใจขายบ้าน และขนข้าวของทั้งหมดให้เพื่อน เขาขายรถเพื่อกู้เงินสด และเริ่มทำเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีแค่เพียงพาสปอร์ตและเงินเท่านั้น ตอนนี้เขาทำสำเร็จไปกว่า 94 เป้าหมายแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2008 และได้สิ้นสุดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2010 ในช่วงระยะการเดินทางนั้น เขาได้พบผู้คนที่น่าทึ่งมากมาย เขาได้เขียนจดหมายเพื่อขอพบ Richard Branson มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Virgin Group และเขาก็ทำสำเร็จ ขณะเดินทางเขายังได้ทำงานเพื่อช่วยสถาบันมะเร็งลำไส้ และศูนย์วิจัยการย่อยอาหาร โดยช่วยระดมทุน และช่วยดึงดูดผู้คนที่สนใจให้เข้าร่วมช่วยเหลือโครงการเหล่านี้ ซึ่ง Richard ก็ตัดสินใจเข้าร่วมด้วย นอกจากนั้นเขายังขายภาพถ่ายในส่วนต่างๆ ของโลก…
-
15 ภาพถ่ายน่ารักๆ ของ ‘เชื้อพระวงศ์’ พระองค์น้อยจากทั่วโลก ที่จะก้าวสู่บัลลังก์ในอนาคต
นอกจากเจ้าชาย George แห่งเคมบริดจ์ ที่พสกนิกรทั่วโลกต่างตกหลุมรักในความสดใส น่ารักของพระองค์แล้ว ยังมีเชื้อพระวงศ์อีกหลายพระองค์ที่ยังอยู่ในวัยเด็ก และกำลังก้าวสู่บัลลังก์ในอนาคต วันนี้ #เหมียวเปปเปอร์ จะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพถ่ายน่ารักๆ ของเชื้อพระวงศ์ตัวน้อย จากทั่วโลกกัน ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันเลย… เจ้าชาย George แห่งประเทศอังกฤษ เจ้าหญิง Charlotte แห่งประเทศอังกฤษ เจ้าชาย Louis จากประเทศอังกฤษ เจ้าหญิง Estelle จากประเทศสวีเดน เจ้าชาย Oscar จากประเทศสวีเดน เจ้าชาย Jacques และเจ้าหญิง Gabriella แห่งประเทศโมนาโก เจ้าหญิง Leonor (ซ้าย) และเจ้าหญิง Sofia (ขวา) แห่งประเทศสเปน เจ้าหญิง Ariane (ซ้าย), เจ้าหญิง Catharina-Amalia (กลาง), Alexia (ขวา)…
-
ส่องไอจี ‘กอล์ฟ สุรัมภา’ ดาราสาวหมวย นางฟ้าแห่งวงการนักปั่น เห็นแล้วใจละลาย
ในยุคสมัยที่ใครๆ ต่างหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่คนดังที่มักจะมีภาพขณะออกกำลังกายมาฝากแฟนๆ สร้างแรงบันดาลใจให้ขยับตัวตามกันอยู่เสมอ เช่นเดียวกับ ‘กอล์ฟ สุรัมภา’ ดาราสาวที่ฝากผลงานการแสดง โฆษณา และพรีเซนเตอร์ต่างๆ ไว้มากมาย อาทิ ภาพยนตร์ “ทองสุก 13” ละคร “ลูกไม้ของพ่อ” และมิวสิควิดิโอ “เพลงจุดเริ่มต้นของจุดจบของ” ดา เอ็นโดรฟิน เป็นต้น https://www.instagram.com/p/Buf8G1zF5iG/ นอกจากผลงานในวงการบันเทิงแล้ว สาวกอล์ฟยังหลงใหลในกีฬาปั่นจักรยานจนคว้ารางวัล ในการแข่งขันสุดโหด Ironman 70.3 Bangsaen แบบทีมหญิงผสมมาได้ด้วยอันดับที่ 4 ด้วยความน่ารักและมุ่งมั่นของสาวคนนี้ทำให้เธอกลายเป็นนางฟ้าแห่งวงการนักปั่น ที่คว้าใจหนุ่มๆ มาได้อย่างง่ายดาย ไปชมภาพของเธอพร้อมๆ กัน อยากชวนเธอมาปั่นจักรยานด้วยกัน https://www.instagram.com/p/BiYSg3Cni3q/ รอยยิ้มสดใสใจละลายยย https://www.instagram.com/p/BvA0-lol8TM/ ไหนบอกซิ ใครน่ารักกว่า https://www.instagram.com/p/BthncsFFz23/ โลกสดใสเพราะมีเธอ https://www.instagram.com/p/BtTA1eoFnA7/ นึกว่าแผ่นดินไหว ที่แท้ก็ใจสั่นนี่เอง https://www.instagram.com/p/BtIToJ9lu67/…
-
ยลโฉม 20 เซเลบสาวผิวใส ไร้เมคอัพ ลุคธรรมชาติแบบนี้ก็ดูดีไม่แพ้กัน!
เป็นเรื่องปกติของเหล่าคนดังเมื่อออกกล้องต้องมีเมคอัพอยู่บนใบหน้าเสมอ เพื่อให้ได้ลุคดึงดูดใจแฟนๆ น้อยครั้งนักที่เราจะเห็นดาราโชว์ผิวใสไร้เครื่องสำอาง ให้เห็นหน้ากันแบบเรียลๆ วันนี้ #เหมียวเปปเปอร์ ได้นำภาพเหล่าเซเลบคนดังที่ยังคงลุคสวยใสแม้ไร้เมคอัพมาฝากเพื่อนๆ กัน จะมีใครบ้างนั้นตามเรามาเลย… Brie Larson Lea Michele Camila Mendes Vanessa Hudgens Eva Longoria Leighton Meester Naomi Watts Gina Rodriguez Hilary Duff Lily Collins Keira Knightley Lucy Hale Kelly Rutherford Jessica Alba Megan Fox …
-
เศรษฐีอังกฤษได้รับโล่ห์ “สุดยอดนักล่า” 19 ปี สังหารไป 500 ตัว โดนกระแสตีกลับ-สังคมรุมวิจารณ์
การออกล่าสัตว์ป่าด้วยเหตุผลด้านการควบคุมจำนวนนั้น ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ทั่วโลก เนื่องจากเป็นรูปแบบธุรกิจหนึ่งที่คาบเกี่ยวในเรื่องของหลักจริยธรรม ในต่างประเทศจะมีรูปแบบสวนสัตว์เปิดซาฟารี ที่อนุญาตให้เหล่านักล่าสัตว์ป่า ออกล่าได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วลูกค้าจะเป็นเหล่านักธุรกิจจากชาติที่พัฒนาแล้ว Malcolm King ล่าสุดนี้ หนึ่งในนักธุรกิจใหญ่ชาวอังกฤษได้รับการเปิดเผยชื่อ เป็นหนึ่งในนักล่าสัตว์ป่าชั้นสูง ผู้คร่าชีวิตสัตว์ป่ามามากไม่ต่ำกว่า 500 ตัว บุคคลที่ถูกกล่าวถึงคือนาย Malcolm King วัย 74 ปี ที่เพิ่งได้รับรางวัลสุดยอดนักล่าจากทาง Safari Club International (SCI) โดยองค์กรดังกล่าวเป็นองค์กรของเหล่านักล่าสัตว์จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องสิทธิในการล่าสัตว์ และโปรโมทการล่าเพื่อการอนุรักษ์ สำหรับนาย Malcolm นั้นเป็นนักล่าสัตว์ป่ารูปแบบ Trophy Hunting มาตั้งแต่ปี 2000 (ล่าเพื่อนำส่วนต่างๆ ของสัตว์มาเป็นถ้วยรางวัล) โดยที่เขาประสบความสำเร็จในการล่าสัตว์บิ๊กไฟว์แห่งแอฟริกามาแล้ว ทั้ง สิงโต ช้าง แรด ควาย และเสือดาว โดยที่ผ่านมามีการเปิดเผยว่า เขาออกเดินทางไปยังพื้นที่ป่าฝนในประเทศแคเมอรูน เพื่อล่าสัตว์ที่ต้องการเป็นจำนวนหนึ่งให้ครบตามเป้าหมาย ตามเงื่อนไขการรับ…
-
สนุกตื่นเต้นไปกับเทรลเลอร์ฉบับเต็ม ‘ทอยสตอรี่ 4’ ก่อนเข้าฉาย 21 มิถุนายนนี้
‘ทอย สตอรี่’ ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องดังจากพิซาร์ กำกับโดยจอห์น แลสเซเทอร์ บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของ Woody ตุ๊กตาคาวบอยและผองเพื่อนของเล่นในบ้าน ที่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเมื่อตอนที่มนุษย์ไม่อยู่ หลังจากสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมมาแล้วในภาคก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมาได้มีการเผยตัวอย่างใหม่ ‘ทอย สตอรี่ 4’ การผจญภัยครั้งใหม่ของเหล่าของเล่นในบ้านเจ้าของคนใหม่ ซึ่งนั่นก็คือหนูน้อย Bonnie ในภาคนี้ Woody ได้แนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักตัวละครใหม่อย่าง Forky พากษ์เสียงโดย Tony Hale ของเล่นที่สร้างขึ้นใหม่โดยหนูน้อย Bonnie ‘Forky’ แต่เมื่อ Forky รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในฐานะส้อมที่เป็นอุปกรณ์ครัวอีกต่อไปแล้ว แต่กลับกลายเป็น ‘ของเล่น’ เขาก็ได้แต่ปฏิเสธและคอยหนีความจริงอยู่ตลอด ทางด้าน Woody เห็นว่า Forky มีความสำคัญต่อหนูน้อย Bonnie ขนาดไหน เขาจึงหาทางพา Forky กลับมา จนเกิดเป็นการผจญภัยสุดตื่นเต้นที่จะสร้างเสียงหัวเราะ และเรียกน้ำตาจากผู้ชม เทรลเลอร์ฉบับเต็ม…
-
7 อาหารต้องห้ามที่ถูกสั่งแบน ห้ามซื้อขายและอาจผิดกฎหมายในหลายประเทศทั่วโลก
ใช่ว่าอาหารการกินทุกอย่างนั้นจะรับประทานได้เหมือนกันหมดทุกที่ในโลกใบนี้ บางอย่างที่ไทยกินได้ อาจผิดกฏหมายในประเทศสิงคโปร์ บางอย่างประเทศแถบยุโรปอาจตระหนักถึงอันตราย แต่ประเทศอเมริกากลับไม่เห็นข้อเสีย จะเห็นได้ว่าแต่ละประเทศก็มีกฏ และข้อห้ามที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริบทสังคม สภาพแวดล้อม หรือทัศนคติที่มีต่อสิ่งเดียวกันในมุมที่ต่างกัน และอาหาร 7 อย่างด้านล่างนี้เองที่เป็นตัวอย่างของความแตกต่างในแต่ละประเทศที่ห้ามซื้อ ห้ามขาย ห้ามบริโภค ที่หากไม่รู้อาจได้เข้าคุกเข้าตารางโดยไม่รู้ตัว… 1. คาเวียร์จากปลาเบลูก้า การนำเข้าคาเวียร์จากปลาเบลูก้านั้นผิดกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 เพราะปลาเบลูก้านั้นเป็นปลาที่เสี่ยงต่อการใกล้จะสูญพันธ์ 2. หูฉลาม การขายซุปหูฉลามนั้นผิดกฏหมายกว่า 12 รัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา และในปี 2012 ประเทศจีนได้ห้ามการบริโภคซุปหูฉลามในงานเลี้ยงของรัฐ 3. ช็อกโกแลต M&Ms ถูกแบนที่ประเทศสวีเดนในปี 2016 เพราะมีสัญลักษณ์ใกล้เคียงกับยี่ห้อช็อกโกแลต Marabou ของบริษัท Mondelez International ซึ่งมีสิทธิ์เครื่องหมายการค้าเฉพาะในประเทศสวีเดน 4. สีผสมอาหาร สีผสมอาหารถูกแบนในหลายประเทศทั่วยุโรป เช่น ออสเตรีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, นอร์เวย์ และอังกฤษ เพราะอาจส่งผลถึงปัญหาสุขภาพได้ …
-
คู่รักรีบขับรถไปดูใจแม่ป่วยหนัก เกิดรถเสียระหว่างทาง คนแปลกหน้าอาสาขับไปส่ง 640 กิโล!!
เรื่องของการมีน้ำใจให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็งดงามเสมอ เฉกเช่นดั่งเหตุการณ์นี้ที่ชายคนหนึ่งยอมเสียสละขับรถไกลกว่า 400 ไมล์ (ราวๆ 643 กิโลเมตร) เพื่อส่งคนแปลกหน้าไปหาแม่ที่ป่วยหนักอยู่ในขั้นนาทีชีวิต!! ระยะทางทั้งหมดกว่า 643 กิโลเมตร เรื่องราวดีๆ เริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17 มี.ค.) เมื่อคู่รักนามว่า Sharleen วัย 58 ปีกับ Ron วัย 77 ปีตั้งใจขับรถจากเมืองเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ไปยังเมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ เพื่อจะไปดูใจแม่ของ Ron ที่อยู่ในช่วงวิกฤติ แต่ว่าทั้งคู่ก็ไปไม่ถึงกับที่วางแผนเอาไว้เพราะรถของทั้งคู่เกิดปัญหาขึ้นระหว่างที่ถึงเมือง Stockton-on-Tees ทำให้ทั้งสองต้องเดินร่อนเร่อยู่ริมถนนโดยมีระยะทางอีกถึงครึ่งทางกว่าจะถึงเมืองที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไป ทุกวินาทีมีค่าสำหรับการเดินทางไปบอกลาคุณแม่ ในเวลาที่รถเสียอยู่นั้นเองทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าพวกเขาต้องไปอยู่กับแม่ของ Ron ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากช้าเพียงแค่วินาทีเดียวพวกเขาอาจสูญเสียช่วงเวลาที่มีค่านี้ไปตลอดกาล ทว่าถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้นจะเข็นรถที่มีปัญหาไปยังสถานีรถไฟก็อาจจะต้องใช้เวลาอย่างต่ำๆ ร่วม 3 ชั่วโมง และไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว… Dean Moore ผู้ใจดี แต่ทันใดนั้นเองก็เหมือนกับสวรรค์ส่งชายวัย 40 ปีชื่อว่า Dean Moore มาช่วยเหลือทั้งคู่ ซึ่ง…
-
หนุ่มยอมรับ ‘คิดผิด’ ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Michael Jackson จะเปลี่ยนคืนแต่ไม่มีเงิน เลยต้องมาเรี่ยไร
การเปลี่ยนชื่อเป็นไอดอล หรือบุคคลที่ชื่นชอบ คงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใครๆ ก็อยากจะลองทำดู เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มคนนี้ ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็น Michael Jackson ไปๆ มาๆ กลับอยากเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเดิม แต่ดันไม่มีเงินค่าเปลี่ยนชื่อ ก็เลยต้องมาขอเรี่ยไรเงินจากคนอื่นซะงั้น!? Joh Michael Jackson ชื่อเดิมว่า John Lomas วัย 38 ปี ผู้คลั่งไคล้ผลงานเพลงของ Michael Jackson เป็นชีวิตจิตใจ แถมยังเคยเปย์เงินซื้อของที่ระลึกไปกว่า 1 ล้านปอนด์ (42 ล้านบาท) กันเลยทีเดียว เขาเล่าถึงความหลงไหลในตัวของ Michael ว่า “ตอนเด็กๆ ผมมีความชื่นชอบหลากหลายมาก และหนึ่งในนั้นก็เป็น Michael Jackson จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ผมเดินทางไป LA และเปลี่ยนชื่อให้เหมือนกับชื่อของเขาอย่างถูกกฎหมาย” “ผมให้การสนับสนุนเขามาโดยตลอด เป็นเงินจำนวนมากมายมหาศาล จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่ทำให้ผมคิดได้ว่า ผมควรยุติเรื่องนี้ให้ได้สักที” “เป็นเวลาหลายปีที่ผมออกมาปกป้องชายผู้เป็นดั่งฮีโร่ของผม ว่าเขาไม่ใช่พวกโรคจิตที่ล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก” (มีข่าวออกมาฉาวออกมาว่า Michael Jackson ล่วงละเมิดทางเพศเด็กผู้ชาย…
-
ภรรยาเปรูโชว์โหด จับได้ว่าสามีเอาเงินค่าอาหารลูกไปเลี้ยงเหล้าสาว ใช้เก้าอี้ทุบจนนอนนิ่ง!?
อะไรจะเกิดขึ้นถ้าหากคุณผู้หญิงจับได้ว่า ‘เงิน’ ที่ให้คุณผู้ชายเอาไปใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นกลับถูกนำมาลงขวด บางคนอาจงอนบางคนอาจจะถึงขั้นทะเลาะกัน หรือคุณผู้หญิงบางคนก็อาจจะโกรธจัดลงมือทำร้ายร่างกายเหมือนกับเหตุการณ์นี้ ที่สามีคนหนึ่งถูกภรรยาเอาเก้าอี้ฟาดใส่คาบาร์ หลังจากที่ถูกจับได้ว่าเขาเอาเงินที่ภรรยาให้ไปจ่ายค่าอาหารโรงเรียนลูก ไปเลี้ยงเหล้าผู้หญิง!? เหตุการณ์ความรุนแรงนี้เกิดขึ้นที่บาร์แห่งหนึ่งภายในเมืองอิกิโตส ทางตอนเหนือของประเทศเปรู โดยภาพจากวิดีโอคลิปได้เผยให้เห็นถึงเหตุการณ์ทั้งหมด คลิปวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมด โดยคลิปวิดีโอเริ่มขึ้นจากความที่ผู้หญิงผมแดงคนหนึ่ง กำลังใช้เก้าอี้ฟาดผู้เป็นสามีที่นอนป้องกันตัวเองด้วยเก้าอี้อยู่บนพื้น จากนั้นก็มีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาห้ามจนทั้งคู่แยกออกจากกันสำเร็จ ใจเย็นคุณพี่ แต่ว่าหลังจากนั้นระหว่างที่เหตุการณ์คลี่คลายลง สามีก็พยายามจะเดินออกไปจากร้านโดยที่ภรรยายังยืนรออยู่หน้าร้าน งานนี้เลยโดนอีกฉาดใหญ่เป็นกำปั้นลุ่นๆ ส่งเขาลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นพร้อมด้วยกองเลือด อีกสักฉาดหนึ่งละกัน โดยในภายหลังภรรยาผู้ไม่ปรากฏชื่อคนนี้ก็เล่าว่า เธอจับได้ว่าสามีของเธอนำเงินที่ต้องเอาไปจ่ายค่าอาหารโรงเรียนให้ลูกมาซื้อเหล้ากิน หนำซ้ำยังเลี้ยงสาวๆ คนอื่นที่อยู่ในโต๊ะอีกสามคนและเห็นคาตาว่ากำลังฉลองกันอย่างสนุกสนาน ทั้งหมดจึงทำให้เธอเกิดบันดาลโทสะขึ้นนั่นเอง… ยอมแล่วว ทว่าทั้งนี้ก็ไม่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังสถานที่เกิดเหตุหรือไม่ หรือกลับบ้านไปแล้วเขาโดนอะไรอีกแต่ดูเหมือนว่าบทเรียนครั้งนี้เขาจะจำไปอีกนานเลยทีเดียว… ที่มา: dailymail, 24 World News
-
นักการเมืองอิตาลีที่ไม่เห็นด้วยกับการบังคับฉีดวัคซีน ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะ ‘โรคอีสุกอีใส’
ณ ตอนนี้ประเทศอิตาลีกำลังจัดการกับปัญหา ‘โรคหัดระบาด’ ด้วยการสนับสนุนให้เด็กๆ ฉีดวัคซีนกันถ้วนหน้า ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งจะออกกฎหมายแบนไม่ให้เด็กที่ไม่รับการฉีดวัคซีนเข้าเรียนในโรงเรียนไป แม้ข้อกฎหมายดังกล่าวจะผ่านการอนุมัติไปเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่านักการเมืองจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ไปซะทุกคน นาย Massimiliano Fedriga ผู้ว่าราชการของแคว้น Friuli Venezia Giulia และเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองฝั่งขวาที่มีชื่อพรรคว่า Northern League ได้ออกมาวิจารณ์ข้อกฎหมายดังกล่าว เขามักจะออกมาโจมตีข้อกฎหมายเรื่องการบังคับให้เด็กฉีดวัคซีนว่ามันคือ ‘การบังคับข่มขู่’ และไม่สามารถทำให้เกิดการแก้ปัญหาที่ถูกจุดได้ ซึ่งข้อกฎหมายนั้นได้ระบุเอาไว้ว่าการเด็กๆ จะต้องฉีดวัคซีนให้ครบทั้ง 12 ตัว ซึ่งมีทั้งวัคซีนป้องกันโรคหัด วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส และอื่นๆ อีกมากมาย หากเด็กคนไหนไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนก็จะไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนนั่นเอง อย่างไรก็ตามนาย Fedriga เป็นคนหนึ่งในเสียงที่โหวต ‘ไม่เห็นด้วย’ ให้กับข้อกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาเปิดเผยว่าไม่ได้เป็น Anti-Vaxxer แต่อย่างใด แถมยังพาลูกๆ ไปฉีดวัคซีนมาหมดแล้วด้วย แต่ล่าสุดมีข่าวรายงานออกมาว่านาย Fedriga ป่วยเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นโรค ‘อีสุกอีใส’ และตอนนี้ก็ได้รับการรักษาจนสามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว เขาออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมสบายดี ตอนนี้ผมกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง”…
-
บริษัทจีนออกกฎ ให้พนักงานทุกคน ‘นอนหลับ’ หลังกินข้าวเที่ยง ไม่หลับโดนลงโทษ!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การนอนหลับในที่ทำงาน’ ถือเป็นกิจกรรมที่บรรดาพนักงานทั้งหลายมักจะแอบทำกัน เพราะคงไม่ดีแน่ หากเจ้านายมาเห็นคุณหลับอยู่ แต่คุณจะไม่ต้องทำแบบหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไปหากไปทำงานในบริษัทนี้!! เว็บไซต์ China Xinhua News เปิดเผยว่ามีบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ได้ทำการประกาศออกกฎให้พนักงานทุกคนต้อง ‘นอนหลับ’ ตามตารางเวลาที่จัดเอาไว้ให้ ซึ่งตรงกับเวลา 13.00-14.00 น. ของทุกวัน ซึ่งเป็นเวลาหลังพักทานอาหารเที่ยง หากใครฝ่าฝืนไม่ยอมนอนหลับในเวลาดังกล่าวจะถูกบทลงโทษ ด้วยการ ‘ซื้อน้ำเปล่า 1 ขวด และนำไปมอบให้กับพนักงานกวาดถนนในเมือง’ ทางบริษัทเปิดเผยว่า เนื่องจากว่าช่วงนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พนักงานหลายคนเริ่มมีอาการง่วงกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จใหม่ๆ เมื่อง่วงแล้วพนักงานหลายคนก็ไม่เป็นอันทำการทำงาน บางคนก็แอบงีบ บางคนก็เปิดเกมเล่น จนทำให้ผู้บริหารตัดสินใจออกกฎดังกล่าวออกมา เพื่อให้พนักงานทุกคนได้พักผ่อน และกลับมาทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามการออกกฎดังกล่าวก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็บอกว่าตัวเองไม่ได้มีนิสัยชอบนอนกลางวัน ยิ่งถูกบังคับให้ต้องนอนยังไงก็นอนไม่หลับอยู่ดี ในขณะที่ฝ่ายที่เห็นด้วยก็เป็นพวกที่ชอบงีบตอนกลางวันอยู่แล้วก็ออกมาบอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับกฎข้อนี้ แถมยิ่งชอบเสียด้วยซ้ำ แหม่ แบบนี้แล้วอยากให้ #ท่านประธานเหมียว ออกกฎแบบนี้บ้างเลยแฮะ #เหมียวหง่าว จะได้ไปงีบบ้างตื่นมาจะได้มีแรงมาเขียนบทความสนุกๆ น่าสนใจให้เพื่อนๆ…
-
งานวิ่งมาราธอนในฝรั่งเศส ที่มีการแจกไวน์ สเต็ก ชีส และหอยนางรมสดๆ ให้นักวิ่ง!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ประเทศฝรั่งเศส’ เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับน้ำหอมจนได้รับสมญานามว่า ‘เมืองแห่งน้ำหอม’ และมีแบรนด์แฟชั่นระดับไฮเอนด์มากมาย ผู้คนมักจะสวมสูทเดินออกไปไหนมาไหนแทบจะตลอดเวลา รวมไปถึงรูปแบบอาหารต่างๆ ที่มักจะมีแต่อะไรหรูๆ ให้รับประทาน ไม่เว้นแม้แต่การ ‘วิ่งมาราธอน’ ที่โดยปกติแล้วนักวิ่งก็จะไปวิ่งกันตามระยะทางต่างๆ ที่สมัครเอาไว้ ระหว่างทางก็จะมีการแจกน้ำ หรือเกลือแร่ให้ดื่มดับกระหาย แต่สำหรับงานวิ่งมาราธอน Marathon du Medoc ที่จัดขึ้นในแคว้น Medoc ประเทศฝรั่งเศสแล้ว กลับมีทั้ง ไวน์ขาว ชีส สเต็ก และหอยนางรมสดๆ ให้บรรดานักวิ่งได้รับประทาน!! ซึ่งในแคว้น Medoc นี้เป็นแคว้นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการผลิตไวน์ ของประเทศฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ งานวิ่งมาราธอน Marathon du Medoc นั้นถูกจัดขึ้นมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 35 ปีแล้ว และในทุกๆ ปี ก็จะมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 8,000 รายเลยทีเดียว เพราะอะไรน่ะหรือ!? เพราะนอกจากการวิ่งแล้ว ในงานก็จะมีการกำหนด ‘ธีม’ ในการวิ่ง ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี และสำหรับปี 2019 นี้ก็มาในธีมของ…
-
รายการใหม่ของ Netflix ที่คุณจะสามารถสั่งให้ ‘แบร์ กริลล์’ ทำอะไรก็ได้เพื่อเอาชีวิตรอด!!
ใน Netflix มักจะมีซีรี่ส์ หรือรายการใหม่ๆ แบบล้ำๆ มาให้เราชมกันอยู่เสมอ ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับรายการ You vs. Wild เป็นรายการใหม่ของ Netflix ที่จะให้ Bear Grylls ไปเอาชีวิตรอดที่ไหน ด้วยอะไรก็ได้ ตามที่คุณต้องการ หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักกับ Bear Grylls ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน #เหมียวหง่าว ก็เลยอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักเขาไปพร้อมๆ กันครับ Bear Grylls สร้างชื่อเสียงมาจากการทำรายการสารคดีเกี่ยวกับ ‘การเอาชีวิตรอด’ โดยที่จะเอาตัวเองไปอยู่ในป่า หรือสภาพแวดล้อมที่สุดจะโหด แล้วเขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอดออกมาจากสถานที่เหล่านั้นให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเอา ‘อึช้าง’ มาบีบเพื่อกินน้ำ การกินงูสดๆ กินหนอนตัวเบ้อเร่อ เพื่อประทังความหิว จนพี่โน้ส อุดม แต้พานิชย์ ถึงกับเอาเรื่องราวของเขามาเล่าในโชว์เดี่ยว จนกลายเป็นที่รู้จักกันในบ้านเรา ซึ่งในรายการใหม่ของ Netflix นี้ พี่…
-
ชาวทวิตญี่ปุ่นร้องเหยด หลังสังเกตเห็นว่า ‘ตารางเวลารถไฟ’ จัดทำขึ้นมาด้วยโปรแกรม Excel
เมื่อกล่าวถึงการทำงานเกี่ยวกับตารางหรือสถิติต่างๆ หลายคนคงต้องร้องหาโปรแกรม Microsoft Excel เป็นเจ้าแรกๆ เนื่องจากได้รับความนิยมและฟังก์ชั่นต่างๆ ก็ตอบสนองงานเอกสารตารางได้หลายรูปแบบ จนถึงขั้นมีคนเอาไว้ใช้ใส่สีแต่ละช่องวาดออกมาเป็นภาพก็มี… รายละเอียดเล็กๆ ที่ถูกระบุไว้มุมซ้ายล่าง นอกจากงานเอกสารและสถิติต่างๆ แล้ว การออกแบบตารางเวลารถไฟและรถเมล์ของประเทศญี่ปุ่น ก็มีที่มาจาก Excel เช่นเดียวกัน โดยที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยสังเกตและไม่เคยรู้มาก่อนด้วย ซึ่งหากมองเพียงผิวเผินก็จะคิดว่าใช้โปรแกรมออกแบบกราฟฟิคเฉพาะทางจัดทำขึ้นมา お前エクセルやったんか…! pic.twitter.com/1lJXRrb7ZF — NDR (@ndr_tw) March 16, 2019 เรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านบัญชีทวิตเตอร์ @ndr_tw ที่ไล่เก็บภาพตารางเวลาการออกรถจากสถานีต่างๆ ของรถไฟสาย Meitetsu Nagoya Line โดยจุดสังเกตที่ทำให้รู้ได้ว่าทำมาจากโปรแกรม Excel นั่นก็คือ ชื่อไฟล์ตารางเวลาพร้อมกับนามสกุลของไฟล์นั้นๆ (.xls หรือ .xlsm) ปรากฎอยู่บนมุมซ้ายล่างของป้าย ยกตัวอย่างเช่น 070405 名鉄一宮_名古屋_平_A.xls . ชาวทวิตเตอร์คนอื่นๆ จึงออกไปหาคำตอบด้วยเช่นกัน และปรากฎว่าใช้โปรแกรม Excel…
-
เมืองเม็กซิโกพบ ‘ตุ๊กตาพระเยซูตอนเด็ก’ ร้องไห้เป็น ‘เลือด’ ชาวบ้านเชื่อเป็นสัญญาณจากพระเจ้า
เรื่องราวแปลกประหลาดเหนือธรรมชาติบางเรื่อง ยังคงเป็นปริศนาที่รอคำตอบอยู่ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร รวมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศเม็กซิโกนี้ ที่ ‘ตุ๊กตาพระเยซูตอนเด็ก’ มีน้ำตาไหลออกมาเป็นสายเลือดอย่างหาสาเหตุไม่ได้!? เรื่องพิศวงที่ว่านี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแถบชนบทชื่อว่า Kilometro 42 เมืองอากาปุลโก โดยชาวบ้านส่วนหนึ่งเล่าว่านี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการที่อัตราอาชญากรรมในหมู่บ้านเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเฉพาะในปี 2019 เหตุการณ์ที่ตุ๊กตาพระเยซูตอนเด็กร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือดเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้ว… สื่อท้องถิ่นรายงานว่าครั้งแรกที่ตุ๊กตาเซรามิกร้องไห้ เกิดขึ้นกับตุ๊กตาของครอบครัวแห่งหนึ่งในวันขึ้นปีใหม่ ชาวบ้านเชื่อว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่ตุ๊กตาแสดงออกมาถึงการไม่มีความสุขตามอัตราอาชญากรรมที่มีตัวเลขสูงขึ้น โดยหมู่บ้านแห่งนี้มีค่าเฉลี่ยการฆาตกรรม 111 ครั้งต่อชาวบ้านจำนวน 100,000 คน จากการรายงานของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ “ผู้คนจำนวนมากบอกว่านี่เป็นฝีมือของปิศาจขณะที่บางคนบอกว่านี่เป็นสารจากพระเจ้าแต่จะอย่างไรก็แล้วแต่ ความจริงก็คือเรามั่นใจว่ามันร้องไห้ออกมาจริงๆ แม้ว่าจะมีคนถือมันอยู่ก็ตาม” หนึ่งในชาวบ้านกล่าว คลิปวิดีโอตุ๊กตาร้องไห้ นอกจากนี้ชาวบ้านยังบอกอีกด้วยว่าไม่มีใครอยากที่จะถือตุ๊กตาเหล่านี้ไปให้กับทางโบสถ์พิสูจน์ความจริงว่าเป็นเช่นไร เพราะกลัวว่าหากเคลื่อนย้ายมันจะมีเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับตัวเอง อย่างไรก็ตามมีนักบวชไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งจากเมืองตัมปิโกกล่าวว่า ตัวแทนจากศาสนาคริสต์จะดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ต่อไป เพื่อทำให้มั่นใจว่าไม่มีผู้ใดได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ รวมทั้งกล่าวว่าอาจเป็นการจัดฉากบางอย่าง เนื่องจากว่า ‘ไม่ใช่ทุกอย่างที่เป็นปรากฏการณ์ลี้ลับ’ ซึ่งก็จะมีการสืบหาสาเหตุต่อไป ที่มา: thesun, mirror, sde
-
ชายมะกันสุดซวย เหน็บปืนไว้ที่เอวปืนลื่นลั่นใส่ ‘ปิ๊กาจู้’ แถมโดนตำรวจจับฐานไม่มีใบอนุญาต!!
โดยปกติแล้วอาวุธปืนเป็นอาวุธที่เราต้องระวังเอาไว้ให้มากที่สุดถ้าหากมีในครอบครอง เพราะหากพลาดเพียงนิดเดียวมันอาจหมายถึงชีวิตหรือพิการเลยก็เป็นได้ ดั่งเช่นในกรณีของชายอเมริกันวัย 46 ปีคนหนึ่งที่ทำปืนลื่นใส่อัณฑะตัวเองคนนี้… Mark Anthony Jones ชายชาวอินเดียน่า ประเทศสหรัฐฯ ถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล Marion General Hospital จากบาดแผลฉกรรจ์บริเวณอวัยวะเพศ ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสอบปากคำซึ่งเขาก็ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าในช่วงเช้าของวันที่เกิดเหตุ (28 ก.พ.) เขาเดินอยู่ใกล้ๆ กับค่ายลูกเสือแห่งหนึ่ง โดยที่เหน็บปืน 9 มม. เอาไว้ที่เอว (ไม่ได้ใส่ซองปืนพกแต่อย่างใด) แต่แล้วจู่ๆ ปืนมันก็ทำท่าเหมือนว่าจะลื่นไถลเขาจึงเอื้อมมือไปคว้ามันไว้ จากนั้นก็โป้ง!! ปืนลั่นออกมาอย่างไม่รู้ว่าไปทำอิท่าไหน “กระสุนเข้าไปยังจุดที่เหนือกว่าองคชาติของเขาแล้วมันก็ออกไปทางถุงอัณฑะเลย” Stephen D Dorsey เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว โดยทั้งนี้ Jones ไม่มีใบอนุญาตพกปืนของรัฐอินเดียน่าแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องความผิดนี้จะถูกส่งไปยังอัยการตัดสินต่อไปว่าเขาจะต้องเผชิญกับการรับโทษอย่างใด ส่วนอาการของเขาตอนนี้ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติม… ที่มา: independent, mirror, dailymail
-
หนุ่มโพสต์ทวิต “แค่ปวดประจำเดือนอย่าบ่น สู้เจ็บจากเข่าถลอกไม่ได้หรอก” เจอชาวเน็ตสวนยับ
“ประจำเดือน” คือสิ่งที่ผู้หญิงต้องเจออยู่เป็นประจำ แต่กลับกัน ประจำเดือนจะเป็นสิ่งที่ผู้ชายไม่มีวันได้สัมผัส ดังนั้นจึงมีผู้ชายหลายคนที่ไม่เข้าใจความเจ็บปวดของคุณผู้หญิงทั้งหลายในช่วงระหว่างที่ประจำเดือนมา เช่นเดียวกับหนุ่มที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้ เขาคงไม่ทราบถึงความเจ็บปวดของประจำเดือน เลยโพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “จนกว่าคุณผู้หญิงจะเจอกับแบบนี้ ผมไม่อยากได้ยินคำบ่นอะไรเกี่ยวกับปวดประจำเดือน” หนุ่มคนดังกล่าว “จนกว่าคุณผู้หญิงจะเจอกับแบบนี้ ผมไม่อยากได้ยินคำบ่นอะไรเกี่ยวกับปวดประจำเดือน” หลังจากที่เขาโพสต์ภาพพร้อมกับข้อความดังกล่าวลงในทวิตเตอร์ ก็สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้หญิงหลายๆ คนและเข้ามาแสดงความคิดเห็นตอบโต้เขาอย่างมากมาย แล้วเข่ามันคลอดเด็กออกมาได้รึไง… นี่คือ… อะไรวะ? เหมือนกับคุณคิดว่าแผลถลอกมันแย่มาก โอ้ เด็กน้อยผู้น่ารักเอ๋ย ไม่มีมดลูก ก็ไม่ต้องมาแสดงความเห็นนาจา ตอนที่ฉันอายุ 8 ขวบ ฉันได้แผลถลอกครั้งแรกที่เข่าของฉัน 20 ปีต่อมามันยังคงเป็นแผลเป็นอยู่ ในช่วงมัธยมปลายฉันเคยถูกหนามทิ่มเข้าที่หลัง เคยนิ้วโป้งหัก เคยถูกไฟเผา เคยเป็นอะไรอีกมาก แต่ยังไม่มีอะไรที่จะเทียบได้กับการเป็นตะคริวจากประจำเดือน โทษทีนะคนอ่อนแอ จนกว่าผู้ชายจะได้เจอกับความเจ็บปวดจากการถูกทำร้าย, คลอดลูกและการกดขี่ ฉันไม่อยากได้ฉันอะไรเกี่ยวกับแผลถลอกเล็กๆ ที่หัวเข่าหรอก น่าขำมาก ตอนที่ฉันเล่นฟุตบอล ฉันทั้งเคยไหลหลุด ข้อเท้าพลิก หัวเข่าถลอกอยู่หลายครั้ง…
-
ขุ่นแม่ซื้อตู้สีฟ้ามาเมื่อ 3 ปีก่อน เพิ่งค้นพบความจริงว่าสีฟ้าที่ว่ามันคือ “ฟิล์มกันรอย”
เวลาซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่เข้าบ้าน แน่นอนว่าเจ้าของบ้านนั้นต้องเลือกสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาด วัสดุหรือสีที่ต้องเข้ากับบ้านของตัวเอง แต่จะเป็นอย่างไรล่ะ หากเฟอร์นิเจอร์ที่เพื่อนๆ อยากซื้อมันดันเหลือสีเดียวและไม่เข้ากับบ้านสุดๆ เหมือนอย่างเรื่องที่คุณแม่คนที่เราจะนำมาให้ชมกันวันนี้เจอ… Kayleigh Greer คุณแม่ลูกสามวัย 35 ปีจากเมือง Stevenage มณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ ได้ซื้อตู้ใส่ของตู้หนึ่งมาจากห้าง B&Q ซึ่งตู้ดังกล่าวนั้นมีรูปทรงถูกใจเธอเป็นอย่างมาก แต่สีไม่ถูกใจเธอซะเหลือเกิน จึงถามพนักงานว่ามีสีอื่นหรือไม่ แต่เจ้ากรรมพนักงานบอกตู้นี้เหลือเป็นตู้สุดท้ายในสต็อกแล้ว เธอจึงไม่มีทางเลือกที่ยอมซื้อมันกลับมา ตลอดเวลาที่ใช้งานตู้ดังกล่าว Kayleigh รู้สึกขัดใจมันเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันไม่เข้ากับห้องนอนของเธอที่มีโทนสีเทากับสีเงินเสียเลย แต่มาวันหนึ่ง ขณะที่กำลังที่เธอกำลังทำความสะอาดห้องนอนอยู่นั้น เมื่อเธอนำเครื่องดูดฝุ่นเข้าไปดูดแถวๆ ตู้ดังกล่าว ก็พบว่ามีเทปสีฟ้าปริออกมา ณ เวลานั้นเองเธอจึงตัดสินใจดึงมันออกมาและพบว่าตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมานี้เจ้าสีฟ้าที่เธอเคยเกลียดนัก เกลียดหนา นั้นเป็นแค่ “ฟิล์มกันรอยเฟอร์นิเจอร์” เท่านั้น!! “ฉันไม่เคยสงสัยว่าเจ้าสีฟ้านั้นมันเป็นฟิล์มกันรอยมาก่อนเลย ในวันฉันขึ้นไปทำความสะอาดห้องนอนและเห็นว่ามีเทปปริออกมา ฉันเลยดึงมัน ก่อนมันจะหลุดออกมาทั้งแผ่นและฉันก็คิดว่าฉันทำมันพังรึเปล่าเนี่ย แต่พอได้ลองออกมาดูแล้ว ข้างในมันเป็นสีเทาสวยงาม ดูดีมากๆ เข้ากับห้องนอนสีเทาและเงินสุดๆ มันเหมือนกับเราได้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่มาโดยไม่ต้องจ่ายเงินสักแดงเดียว” คุณแม่ลูกสามกล่าว …
-
สาวจีนร่วมแต่ง ‘Goth’ ลงโซเซียลประท้วง หลังจากมีหญิงถูกสั่งให้ลบเมคอัพก่อนขึ้นรถไฟ
Goth หรือกอธิกโลลิตา เป็นแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์การแต่งหน้า และแต่งกายด้วยโทนมืด อย่างการทาลิปสติกสีดำ เขียนขอบตาเข้ม ให้ลุคแบบดาร์กๆ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายรวมถึงในประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2019 มีสาวชาวจีนคนหนึ่งได้เขียนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในขณะที่เธอในลุคเมคอัพ Goth จัดเต็ม เธอได้ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟในเมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้งกักตัวไว้ พนักงานคนนั้นได้บอกให้เธอลบเครื่องสำอางออก ก่อนจะอนุญาตให้เธอเข้าไปใช้บริการรถไฟใต้ดิน โดยให้เหตุผลว่าเมคอัพของเธอนั้น ‘น่ากลัว‘ และอาจจะสร้าง ‘ความลำบากใจ’ ให้ผู้โดยสารคนอื่น เธอได้โพสต์ระบายความในใจถึงเจ้าหน้าที่ว่า “กฏหมายข้อไหนที่บอกว่าเธอมีสิทธิที่จะห้ามฉัน และทำให้ฉันเสียเวลา?” หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ทำให้สาวๆ ชาวจีนได้ออกมาทำการเคลื่อนไหวบนสังคมออนไลน์โดยการลงภาพถ่ายเซลฟี่ของตัวเองในลุค Goth เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับหญิงคนนี้หลายพันคน นอกจากนั้นยังมีการใช้ #ASelfieForTheGuangzhouMetro เพื่อเรียกร้องให้สังคมยอมรับถึงความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมในประเทศจีน ทั้งนี้ทางสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งกว่างโจว ได้ออกมาขอโทษ และจะแสดงความรับผิดชอบโดยการพิจารณาโทษพนักงานที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่มา: bbc, theguardian, dailymail, abc.net.au
-
คุณป้าชาวจีนเฉียดตายเพราะฉีด ‘น้ำผลไม้’ เข้าเส้นเลือด หวังช่วยให้สุขภาพดี!?
บ่อยครั้งที่ได้ยินว่า ‘ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ’ เพราะใครๆ ต่างก็อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย เช่นเดียวกับหญิงคนนี้ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา Zeng คุณป้าชาวจีนวัย 51 ปีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองเฉินโจว มณฑลหูหนาน อย่างเร่งด่วน หลังจากฉีดของเหลวที่มีส่วนผสมของผลไม้กว่า 20 ชนิดเข้าสู่ร่างกายหวังช่วยให้สุขภาพดี!? ทันทีที่ถึงโรงพยาบาลด้วยอาการไข้สูง มีผื่นคันขึ้นตามตัว ทีมแพทย์ก็ได้ทำการกรองของเสียออกจากเลือดของคุณป้า พร้อมทั้งฉีดยาปฏิชีวนะ คุณป้าต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดตลอด 5 วัน ก่อนจะถูกส่งไปรักษาด้วยต่อในโรงพยาบาลเฉพาะทางในเครือมหาวิทยาลัย Xiangnan ในมณฑลหูหนาน คุณป้าได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันคิดว่าน้ำผลไม้อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ช่วยบำรุงร่างกาย จึงไม่คิดว่ามันจะเป็นอันตราย” ทางด้าน Liu Jianxiu แพทย์เจ้าของไข้เผยว่า คุณป้ามีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเนื่องจากระบบอวัยวะภายในล้มเหลว และติดเชื้อในกระแสเลือด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเป็นกระแสในสังคมออนไลน์ โดยมีการใช้ #OldWomanPutsJuiceIntoVeins ทำให้คนตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความรู้ทางการแพทย์มากขึ้น ที่มา: bbc, independent, dailymail
-
แคมเปญถ่ายภาพคุณแม่หลังคลอด เปิดโอกาสให้คุณแม่ได้โชว์หุ่นที่แท้จริงอย่างภูมิใจ
ในปัจจุบัน การรับรู้และค่านิยมทางสังคมนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากการนำเสนอของสื่อโฆษณาต่างๆ เช่นเดียวกันกับรูปร่างของคนเรา ที่บางครั้งอาจถูกนำเสนอโดยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง รูปลักษณ์ของคุณแม่หลังคลอดก็เช่นเดียวกัน ที่โดยปกติแล้วมักจะไม่ถูกนำเสนอถึงความจริงที่คนเป็นแม่ต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นรอยแผลเป็น หน้าท้องแตกลาย และผลกระทบทางกายภาพด้านอื่นๆ ของการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร นั่นทำให้แคมเปญถ่ายภาพคุณแม่หลังคลอดเกิดขึ้นเพื่อนำเสนอให้ทุกคนได้เห็นในด้านนี้ แคมเปญนี้เกิดจากกลุ่ม “Mothercare” ที่ต้องการสนับสนุนให้คุณแม่ทุกคนโชว์หุ่นที่มีความหลากหลาย และสร้างความภูมิใจในร่างกายของตัวเองหลังให้กำเนิดลูก โดยจะนำภาพถ่ายที่เปิดเผยหุ่นที่แท้จริงของคุณแม่หลังคลอดไปแสดงบนจอ LCD ในสถานีรถไฟกว่า 30 แห่ง และตามบันได้เลื่อนทั่วกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และในวันนี้ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข26 ก็ภูมิใจนำเสนอภาพถ่ายจากแคมเปญกว่า 6 ภาพให้เพื่อนๆ รับชมกัน รวมถึงความรู้สึกของผู้เข้าร่วมแคมเปญนี้ด้วยเช่นกัน 1. Elanor, 14 สัปดาห์หลังให้กำเนิดลูก “แรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังของการได้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญนี้คือการแสดงให้คนภายนอกเห็นว่าลายแตกและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นตัวกำหนดตัวตนของเรา เราควรยอมรับความแข็งแกร่งและความงามในแบบที่เราเป็น” 2. Nardy, 20 สัปดาห์หลังให้กำเนิดลูก “ฉันไม่สนว่าใครจะกำหนดอย่างไรในการมีหุ่นในอุดมคติ ฉันรู้สึกว่าสังคมต้องกดดันคุณแม่ทุกคนให้น้อยลงเรื่องหุ่นก่อนคลอด – หลังคลอด แต่ไปใส่ใจเรื่องสุขภาพ อารมณ์ ความรู้สึกในการเลี้ยงลูกแทนดีกว่า” 3. Sophia,…
-
NVIDIA โชว์นวัตกรรม ให้ AI เปลี่ยนภาพสเก็ตช์แบบเพ้นท์ๆ กลายเป็นทิวทัศน์เสมือนจริง
นวัตกรรมทุกวันนี้มีการพัฒนาที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก เวลาผ่านพ้นไปโดยที่ยังไม่รู้สึกว่านานเสียเท่าไหร่ เทคโนโลยีใหม่ก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ เพื่อนำไปต่อยอดทางอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของนวัตกรรม AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถนึกคิดและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมาได้เอง แม้ของจริงอาจจะยังไม่เหมือนในภาพยนตร์มากนัก แต่ก็มีความใกล้เคียงมาอีกนิดแล้วล่ะ ล่าสุดภายในงาน NVIDIA GTC 2019 ที่ผ่านมา ทางบริษัท Nvidia ผู้ผลิตเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และหน่วยประมวลผลกราฟฟิค ได้โชว์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถเปลี่ยนภาพวาดง่ายๆ ให้กลายเป็นภาพเสมือนจริงได้เพียงแค่ไม่กี่คลิ๊ก ซอฟต์แวร์ตัวดังกล่าวที่กำลังพูดถึงอยู่ก็คือ GauGAN ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับผลการประมวลภาพที่มนุษย์วาดออกมา และนำภาพสเก็ตช์เหล่านั้นเปลี่ยนให้เป็นภาพเสมือนจริงภายในเสี้ยววินาที ผ่านระบบโครงข่ายประสาทเทียมของคอมพิวเตอร์ (Neural Network) ซึ่งตัวซอฟต์แวร์ที่นำมาใช้สาธิตในงานยังเป็นเพียงตัวทดสอบเท่านั้น แต่ทว่าความสามารถของมันไม่ได้โม้เกินจริงแต่อย่างใด GauGAN จะมีชุดเครื่องมือเพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้น ประกอบไปด้วย ถังสี ปากกา และดินสอ และปุ่มด้านล่างจะเป็นการกำหนดรูปแบบของวัตถุ ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ภูเขา ดอกไม้ หิน ดิน ทราย และอื่นๆ อีกมากมาย…
-
ศิลปะจาก “ฝาท่อน้ำ” ของญี่ปุ่น จุดดึงดูุดให้นักท่องเที่ยว ตามเก็บภาพมันในแต่ละเมือง
“ประเทศญี่ปุ่น” น่าจะเป็นอีกหนึ่งประเทศในฝันของใครหลายๆ คนที่พอไปแล้วก็อยากไปอีกเรื่อยๆ เพราะประเทศนี้มักจะมีรายละเอียดของแต่ละเมืองเยอะมาก จนเราตามเก็บรอบเดียวไม่ไหว หลายๆ เมืองของพวกเขาก็มีสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวในแต่ละแบบ และสิ่งหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องเดินตามเก็บ (ถ้าหลายๆ คนสังเกต) คืองานศิลปะบน “ฝาท่อน้ำ” ข่าวก่อนหน้านี้: นี่คือ “ฝาปิดท่อระบายน้ำ” ในญี่ปุ่น เห็นได้เลยว่าประเทศนี้งานศิลปะมีอยู่ทุกที่!! ช่วงปี 1950 คือจุดเริ่มต้นครั้งแรกของการพิมพ์ลายต่างๆ บนฝาท่อน้ำ โดยลายแรกๆ จะไม่เหมือนกับลวดลายแบบปัจจุบันที่เราเห็นกัน แต่จะเป็นลายง่ายๆ อย่างเช่นทรงเรขาคณิตหลากหลายทรง และจังหวัดแรกๆ ที่เริ่มพิมพ์ลายลงบนฝาท่อ คือจังหวัดโตเกียวและนาโกย่า จนกระทั่งในปี 1985 ลวดลายที่สลับซับซ้อนจึงได้เกิดขึ้นเพื่อเป็นการปรับปรุงทัศนียภาพของเมืองให้ดูทันสมัยมากขึ้นและกลายเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์บนทางเท้าของญี่ปุ่นไปแล้ว ส่วนใหญ่แล้วลายพิมพ์บนฝาท่อเหล่านี้ จะออกแบบตาม “ความเป็นเมืองนั้นๆ” และไม่มีฝาท่อใดที่พิมพ์ลายแบบสุ่มๆ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประทับใจในความแตกต่างของฝาท่อเหล่านี้ เมืองไหนที่ดังด้านอะไรก็มักจะนำเสนองานศิลปะบนฝาท่อออกมาแบบนั้น เช่น จังหวัดทตโตริบ้านเกิดของอาจารย์โกโช อาโอยาม่า ผู้แต่งเรื่อง “นักสืบโคนัน” ก็จะมีลายฝาท่อของเมืองเป็นรูปโคนันตามมุมต่างๆ ของเมือง ทุกวันนี้ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีฝาท่อมากมายตามจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดโอซาก้าแค่จังหวัดเดียวก็มีฝาท่อพิมพ์ลายมากถึง 180,000 อันแล้ว ราคาในการก่อฝาขึ้นมารวมถึงพิมพ์ลายต่างๆ อยู่ที่ 585 ดอลลาร์สหรัฐ (18,530 บาท)…
-
จากเด็ก ม.ปลาย โดนไล่ออกเพราะเกรด 0.9 สู่การเป็นวิทยากรให้กับ “มหาลัยฮาร์วาร์ด”!!
คงไม่มีใครคาดคิดว่าจากหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกไล่ออกจากชั้นมัธยมก่อนจบปีการศึกษาสุดท้ายด้วยเกรดเฉลี่ย 0.9 ทุกวันนี้เขาคือชายผู้ทำหน้าที่เป็น “วิทยากร” ให้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก “มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด” เราลองมาดูกันกับเส้นทางของชายคนนี้ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนสามารถเรียนจบชั้นปริญญาเอกได้ เขาคนนี้ทำได้อย่างไรกัน?? Todd Rose กับภรรยาและลูกๆ ของเขา ในวัยเด็กของ Todd มักจะมีปัญหาในการเรียนอยู่เสมอ และเมื่อเรียนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เขาก็ถูกไล่ออกจากโรงเรียนก่อนจบการศึกษาไม่กี่เดือน เนื่องจากเกรดเฉลี่ยที่ต่ำมากถึง 0.9 หลังจากที่เขาออกจากโรงเรียนมาไม่กี่ปี Todd ต้องคอยทำหน้าที่หาเลี้ยงลูกทั้งสองคนโดยที่เขาอายุได้เพียง 21 ปีเท่านั้น และตลอดช่วงเวลาดังกล่าวเขาก็ต้องยอมทำงานหลายอย่างพร้อมๆ กันเพื่อจุนเจือครอบครัว ทางด้านคุณพ่อของ Todd เองก็ไม่อยากให้เขาต้องมีวุฒิการศึกษาอยู่แค่ในระดับที่ยังไม่จบ ม.6 เลยด้วยซ้ำ จึงขอให้เขากลับไปเรียนใหม่อีกครั้งเพื่อเตรียมสอบเทียบเท่าวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลาย ด้วยคำแนะนำของคุณพ่อเขาได้วุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลายมา และสามารถสอบเข้าในมหาวิทยาลัย Weber State ที่รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกาได้ในที่สุด เมื่อเข้าเรียนในมหาลัยแล้วเขาต้องเผชิญกับปัญหาหนี้สินจากการกู้ยืมค่าเล่าเรียนเป็นจำนวนมาก แต่ Todd พยายามตั้งใจเรียนมาตลอด จนเขาได้เกรด A ทุกตัวในเทอมแรกทำให้ทางมหาลัยช่วยสนับสนุนค่าเทอมและแบ่งเบาภาระได้บ้าง ภายหลังจบการศึกษาชั้นปริญญาตรีจากมหาลัย Weber State ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เขาก็ยังคงติดหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาถึง 40,000…
-
คุณแม่ตะลึงงันซื้อขนมมาให้ลูกเปิดถุงออกมาเจอ ‘แค่ชิ้นเดียว’ นี่มันอะไรกันนี่!?
มันคงเป็นอะไรที่น่าเศร้าเสียใจสลดหดหู่ระทมทุกข์เป็นที่สุด กับเวลาที่เราซื้อขนมมาสักถุงหนึ่งแล้วพอเปิดออกดูพบว่าในถุงนั้นมันมีชิ้นชนมบรรจุอยู่เพียงแค่น้อยนิด (นี่อัดอากาศขายกันใช่ไหมเนี่ย ><) แต่เชื่อเถอะว่าหากคุณคิดว่าสิ่งที่คุณเจอเป็นอะไรที่โลกแตกแล้ว ยังมีคนที่ซวยยิ่งกว่านั่นคือคุณแม่คนหนึ่งที่พบว่าขนมที่เธอซื้อมา ‘ทั้งถุง’ มีขนมอยู่แค่ชิ้นเดียว!? โดยเรื่องราวสุดอับโชคที่ว่านี้เกิดขึ้นกับคุณแม่วัย 28 ปีจากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษชื่อว่า Jade Amy ซึ่งเธอเล่าว่าเมื่อวันที่ 11 มี.ค. เธอได้ไปชอปปิงที่ซุปเปอร์มาเก็ต Aldi และได้หยิบขนมตรา Monster Claws ติดมือมาด้วย (เป็นขนมเฉพาะของทางร้าน) คลิปขณะแกะถุงขนม แต่ในเวลาต่อมาเธอก็สัมผัสได้กับความไม่ชอบมาพากลของถุงขนมถุงนี้ เพราะมันไม่เหมือนกับในตอนแรกที่หยิบมา เธอจึงตัดสินใจถ่ายวิดีโอเอาไว้ขณะที่เปิดถุงออกดู ซึ่งก็พบว่ามันมีขนมเพียงแค่ชิ้นเดียวในถุง… “ฉันหยิบขนมถุงนี้หวังจะเอามาให้ลูกชายกิน แต่แล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้องนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงถ่ายวิดีโอไว้” “ฉันหัวเราะให้กับความช็อกที่เจอนี้ นี่เป็นส่วนหนึ่งของอาหารกลางวันเด็กๆ นะ” Julie กล่าว ส่วนในตอนนี้ Jade ก็ยืนยันว่าจะเลิกซื้อขนมจากซุปเปอร์มาเก็ตแห่งนี้อีกต่อไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมาทาง Aldi ได้ออกมาแถลงการณ์ขอโทษกับเรื่องขนมเจ้าปัญหานี้ “เราต้องขอโทษคุณ Jade เป็นอย่างสูงกับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น เราต้องไปคุยเรื่องนี้กับทางผู้ผลิตต่อไป” โฆษกของ Aldi กล่าว ที่มา: deadlinenews, thesun
-
หนุ่มปารากวัยกับชื่อสุดแนว ‘ออพติมัส ไพร์ม’ พบคุณพ่อแฟนพันธุ์แท้ Transformers ตั้งให้!!
หากพูดถึงชื่อของ ‘ออพติมัส ไพร์ม’ แน่นอนว่าทุกคนต่างก็ต้องนึกถึงหุ่นยนต์สุดเท่ตัวหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Transformers หนังหุ่นยนต์รบสุดมันส์จากฝีมือของ ไมเคิล เบย์ ผู้กำกับคนเก่ง แต่เชื่อหรือไม่ว่าชื่อของออพติมัสมันได้กลายมาเป็นชื่อจริงๆ ให้กับชายคนหนึ่ง และที่มาของเรื่องนี้ก็มาจากความที่คุณพ่อผู้เป็นแฟนตัวยงของการ์ตูนต้นฉบับเรื่องนี้ตั้งให้นั่นเอง ในทุกๆ ครั้งที่หนุ่มปารากวัยวัย 19 ปีนาม Optimosprayn Ismael Meza Barbosa บอกชื่อของตัวเองให้คนอื่นฟัง ผู้คนต่างก็คิดว่าเขาล้อเล่นกันทั้งนั้น เนื่องมาจากชื่อ Optimosprayn เป็นคำพ้องกับชื่อออพติมัส ไพร์มในภาษาสเปน แต่ว่านั่นก็เป็นชื่อจริงๆ ของเขาที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากคุณพ่อแฟนพันธุ์แท้ของการ์ตูนเรื่อง Transformers และชื่อแปลกๆ ชื่อนี้ก็ได้กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดียในเวลาต่อมา รูปภาพบัตรประชาชนของเขา https://twitter.com/Cosas_Curiosas/status/1107371091918389249 หลายคนบนโลกไซเบอร์คิดว่านี่อาจเป็นเรื่องจ้อจี้หรือเปล่า เพราะเดี๋ยวนี้ผู้คนก็มักจะหาวิธีต่างๆ สร้างความมีชื่อเสียงให้กับตัวเอง ทว่าความคิดนี้ก็ต้องหยุดลงเมื่อเขาได้ยืนยันตัวเองด้วยภาพบัตรประชาชนกับสื่อท้องถิ่น ในเวลาต่อมาก็มีการเปิดเผยว่าคุณพ่อเป็นแฟนตัวยงของการ์ตูนมหาสงครามหุ่นยนต์ โดยก่อนหน้านี้เขาเคยดูการ์ตูนอย่างเรื่อง Mazinger Z มาก่อน และทันทีที่ Transformers เข้าฉายบนทีวีในปารากวัย เขาก็หลงรักเข้ากับหัวหน้าฝ่ายออโต้บอทตัวนี้เข้าอย่างจัง จนทำให้ในที่สุดพอรู้ว่าตัวเองกำลังจะมีลูกชายเขาก็ไปขอร้องภรรยาให้ตั้งชื่อลูกเป็นชื่อที่เขาชื่นชอบ สื่อเข้าไปสัมภาษณ์ ทุกวันนี้สำหรับตัวของหนุ่มออพติมัสเขาก็บอกว่าภูมิใจกับชื่อนี้ แม้ว่ามันจะมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นระหว่างที่เขาอยู่ในโรงเรียนอย่างตอนที่แนะนำตัวเองในวันแรกของทุกๆ ปี เพราะจะมีเพื่อนๆ รอขำอยู่ก็ตาม อีกทั้งเวลาบอกชื่อของเขาก็ใครก็ตามมักจะมีคนไม่เชื่อว่านี่เป็นชื่อจริงๆ…
-
Google เผยระบบสตรีมมิ่งเกม “Stadia” ก้าวล้ำไปอีกขั้น ที่ไหนก็เล่นได้แค่มี “Chrome & อินเตอร์เน็ต”
ดูเหมือนว่าตลาดเกมจะคึกคักขึ้นมากทุกที เมื่อทาง Google เองก็กระโดดเข้ามาร่วมวงในวงการเกมกับเขาด้วย โดยทาง Google ได้เผยว่ากำลังพัฒนาบริการสตรีมเกมตัวใหม่ในชื่อ Stadia และมันก็ใกล้เสร็จเข้าไปทุกที!! Stadia นั้นช่วยให้คุณสามารถเล่นและสตรีมเกมความละเอียดสูงผ่านหน้าจออะไรก็ตามที่คุณมีอยู่ในบ้านทั้งเบราว์เซอร์ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป โทรทัศน์ และโทรศัพท์มือถือที่รองรับการแสดงผล ซึ่งในระหว่างเล่นเกมเกมหนึ่ง คุณสามารถเปลี่ยนเครื่องเล่นจากเครื่องหนึ่งไปสู่อีกเครื่องหนึ่งได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มหรือโหลดเกมใหม่เลย Phil Harrison อดีตผู้บริหาร Sony และ Microsoft กล่าวว่า Stadia นั้นจะยกระดับการเข้าถึงเกมให้กับคุณ ยกตัวอย่างเช่นหากคุณดูคลิปตัวอย่างเกม Assassin’s Creed Odyssey บนยูทูบ คุณสามารถกดปุ่ม “Play Now” เพื่อเข้าเกมที่คุณมีอยู่ในเครื่องได้ทันที คลิปแสดงการทำงานของ Stadia . ตัว Stadia เองนั้นก็จะมีจอยควบคุมของตัวเองออกวางขายด้วย แต่ถ้าหากว่าคุณมีจอยของแพลตฟอร์มอื่นๆ ในครอบครองอยู่แล้ว และไม่อยากเสียเงินซื้อใหม่ คุณสามารถใช้จอยของ Xbox หรือ PS4 รวมทั้งเม้าส์และคีย์บอร์ดในการเล่นได้ แต่ในตัวจอยของ Stadia เองนั้นจะมีปุ่มเฉพาะที่เอาไว้เชื่อมต่อกับ…
-
สาววัย 19 ปีเสพติด “หนังโป๊” อย่างหนัก เผย “หันไปพึ่งพระเจ้า” ช่วยให้กลับตัวกลับใจได้
มนุษย์แต่ละคนบนโลกใบนี้ ล้วนแต่มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเอาคนในครอบครัวเป็นที่ยึดเหนี่ยวหรือบางคนอาจใช้ศาสนาก็เป็นได้ ซึ่งสาวคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมนี้ เธอมี “หนังโป๊” เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่เผยว่าเธอสามารถกลับตัวกลับใจได้โดยการ “หันหน้าพึ่งพาพระเจ้า”… สาวคนดังกล่าวคือ Gracelyn Sorrell สาววัย 19 ปีจากเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เธอเผยว่าตั้งแต่อายุ 14 ปี เธอไปเจอเข้ากับภาพวาบหวิวบนโซเชียลมีเดียแล้วนั่นทำให้เธออยากรู้อยากเห็นเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก ซึ่งเนื่องจากคุณพ่อของเธอได้เสียชีวิตไปเมื่อปี 2013 ทำให้ไม่มีใครควบคุมพฤติกรรมของเธอ เธอกล่าวว่าเธอนั้นเสพวิดีโอโป๊อย่างหนัก และสั่งผลเสียต่อการเรียนของเธอ เกรดของเธอตกอย่างรวดเร็ว ในปี 2016 อาการเสพติดหนังโป๊ของเธอยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ เธอใช้เวลาดูหนังโป๊อย่างต่ำวันละ 4 ชั่วโมงและได้นอนหลับพักผ่อนเพียง 3 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น “โทรศัพท์ของฉันคือวิธีที่ง่ายที่สุดที่ฉันจะดูหนังโป๊ ฉันมักแอบดูเป็นประจำเมื่อบ่ายๆ เย็นๆ เมื่อกลับบ้านมาจากโรงเรียนและแม่ พี่สาว พี่ชายยังอยู่ที่ทำงาน หลังจากที่ทุกๆ คนนอนหลับไปแล้ว ฉันก็จะแอบดูวิดีโอโป๊จนถึง 03.00 น. ฉันดูมันวันละ 4 ชั่วโมงได้เลยล่ะ 1 ชั่วโมงตอนตอนกลางวันและ 3-4 ชั่วโมงติดต่อกันอย่างไม่หยุดตอนกลางคืน…
-
แฟนบอลทีมเยือนโปแลนด์ ต้องอยู่ดูในห้องกรงข้างสนาม ป้องกันเหตุปะทะกันหลังจบเกม
สำหรับกีฬาฟุตบอลแล้ว นอกจากนักฟุตบอลจะต้องโชว์ลีลาคว้าชัยชนะมาจากฝ่ายตรงข้าม หนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เล่นมีกำลังใจฮึกเหิม นั่นคือพลังเชียร์จากแฟนบอลที่อยู่ข้างสนามนั่นเอง และบ่อยครั้งที่ปัญหาความวุ่นวายภายในสนามแข่งขัน ก็เกิดมาจากแฟนบอลเลือดเดือดที่เกิดอาการไม่พอใจในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกถากถางจากฝ่ายคู่แข่ง หรือผลการแข่งขันไม่ได้ดั่งใจ จนบานปลายเข้าปะทะกับแฟนบอลฝ่ายตรงข้าม เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นกับทีม Spartakus Daleszyce ทีมฟุตบอลดิวิชั่น 3 จากโปแลนด์ เมื่อมีทีมเยือนมาแข่งที่สนามตนเอง แฟนบอลฝ่ายทีมเยือนจะต้องเข้าไปอยู่ในห้องกรงที่จัดทำไว้ให้เป็นพิเศษ อัดกันอยู่ในนั้นตลอดทั้งเกมการแข่งขัน 90 นาที โดยภาพที่เห็นนี้ก็เป็นภาพของแฟนบอลทีมเยือน Hutnik Krakow อัดแน่นอยู่ในนั้นร่วม 100 ชีวิต ซึ่งในกฎของฟุตบอลโปแลนด์ แฟนบอลทีมเยือนจะต้องถูกจับแยกที่นั่งให้ห่างจากแฟนบอลทีมเหย้า (อาจจะมีรั้วกั้นหรือนั่งอีกฝั่งของสนาม) สำหรับทีม Spartakus Daleszyce ก็เลือกที่จะจัดการปัญหานี้ ด้วยการจัดทำห้องกรงให้กับแฟนบอลทีมเยือน ซึ่งพวกเขาทำมานานหลายปีแล้ว แต่เพิ่งจะกลายมาเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์ หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกนำไปโพสต์บนเว็บไซต์ฟุตบอลของโปแลนด์ สำหรับการแข่งขันในนัดนี้ แฟนบอลทีม Hutnik ยังคงเชียร์ด้วยพลังเปี่ยมล้น บางส่วนก็ปีนขึ้นบนโครงเหล็กเพื่อที่จะเห็นภาพได้ชัดขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะต้องอยู่ในกรงแบบนี้ แต่ทีม Hutnik ก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง…
-
ส่องเทรนด์ ‘รอยสักสีขาว’ สุดฮิต ลายเส้นเรียบง่าย สวยงาม เป็นธรรมชาติ
‘รอยสัก’ เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่หลายคนหลงใหล ลายเส้นที่งดงามเป็นดั่งสัญลักษณ์เตือนใจ และกลายเป็นแฟชั่นของคนในสมัยนี้ รอยสักแตกต่างจากงานศิลปะทั่วไป ต้องอาศัยสมาธิและความแม่นยำเป็นอย่างสูง เพราะหากมีข้อผิดพลาดจะแก้ไขได้ยาก ซึ่งปกติแล้วเราจะเห็นรอยสักเป็นลายเส้นสีดำหรือสีสันฉูดฉาดดึงดูดสายตา แต่ในปัจจุบันลายสีอ่อนๆ ก็เป็นที่นิยมในหมู่หนุ่มสาวๆ เช่นกัน วันนี้จึงรวบรวม ‘รอยสีขาว’ มีความเรียบง่าย สวยงาม เป็นธรรมชาติ มาฝากเพื่อนๆ กัน ใครพร้อมแล้ว เลื่อนลงไปดูกันเลย.. รอยสักลายกราฟฟิกดึงดูดใจ . รอยสักเล็กๆ แบบมินิมอล . รอยสักรูปดอกกุหลาบสวยงาม . รอยสักแนววิทยาศาสตร์แบบเท่ๆ . รอยสักตัวอักษรแบบเรียบๆ . ลายเส้นเล็กๆ น่ารัก . . รอยสักแห่งอิสรภาพ . . . รอยสักตรงใบหู . รอยสักที่เสมือนรอยแผลเป็น ใครคิดที่อยากจะมีรอยสักสีขาวแบบนี้ก็ลองพิจารณากันดูนะฮะ ที่มา: boredpanda
-
ปรากฎการณ์ ‘ต้นไม้พ่นน้ำ’ แห่งมอนเตเนโกร เมื่อพื้นที่กลายเป็นแอ่ง และน้ำซับใต้ดินพุ่งออกมา
บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ยังไม่สามารถหาคำตอบหรือสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่า ‘เกิดขึ้นจากอะไร’ และทำไมถึงออกมาเป็นเช่นนั้น ต้นมัลเบอร์รี่พ่นน้ำ ภายในหมู่บ้านเล็กๆ Dinoša ประเทศมอนเตเนโกร เกิดปรากฎการณ์แปลกประหลาดกับต้นมัลเบอร์รี่ต้นหนึ่ง ที่กลายมาเป็นน้ำพุธรรมชาติทุกครั้ง หลังจากที่มีฝนตกหนักในบริเวณดังกล่าวจนกลายเป็นแอ่ง ตามปกติทั่วไปแล้ว ต้นไม้จะไม่พ่นน้ำออกมาในแบบลักษณะน้ำพุเช่นนี้ อย่างไรก็ตามคำอธิบายปรากฎการณ์ดังกล่าว ถูกบอกเล่าผ่านในคลิปวิดีโอของเว็บไซต์ Radio Free Europe เมื่อพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ทุ่งหญ้าที่ต้นมัลเบอร์รี่เติบโต จะพบว่ามีหลุมน้ำซับเป็นจำนวนมาก (Underground Spring การไหลของน้ำใต้ดินที่ตัดกับผิวดินโดยธรรมชาติ) ซึ่งในพื้นที่บริเวณนี้มักเกิดน้ำท่วมขังทุกครั้งเมื่อมีฝนตกหนัก . . ด้วยแรงของน้ำซับที่สามารถผุดออกมาจากผิวดินได้โดยแรงโน้มถ่วง จึงเกิดเป็นแรงดันน้ำแทรกซึมขึ้นตรงกลางลำต้น รวมไปถึงผุดออกมาจากหลุมบนพื้นดินทั่วบริเวณ ทางด้านชาวบ้านในท้องถิ่น Emir Hakramaj ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปรากฎการณ์ดังกล่าวว่า ต้นมัลเบอร์รี่ต้นนี้ มีอายุมากกว่า 100 ปี หรืออาจจะ 150 ปี และปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องมานาน 20 – 25 ปีแล้ว…
-
นกพิราบแชมเปี้ยน เจ้าของฉายา “ลูวิส แฮมิลตัน” ที่มีค่าตัวถึง 45 ล้านบาท!!
“กรู๊ๆๆ” คือเสียง นกพิราบ ตามเมืองใหญ่ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี บางครั้งพวกเราก็อยากจะไล่มันไปไกลๆ หากพวกมันอยู่รวมกันเยอะๆ เพราะอาจสร้างเชื้อโรคและร้องเสียงดังรบกวนสมาธิ แต่จะมีใครรู้บ้างว่าแท้จริงแล้วนกเหล่านี้คนมักนำมันมาใช้ในการแข่งขันบินระยะไกล แถมมูลค่าของพวกมันก็มีราคาพอๆ กับรถคันนึงเลยด้วย!! โดยล่าสุดเพิ่งมีการประมูลนกพิราบจากการแข่งขันบินระยะไกลไปแล้วและมูลค่าของมันก็สูงถึง 1.25 ล้านยูโร!! (ราวๆ 45 ล้านบาท พอให้ซื้อรถดีๆ มาขับได้หลายคันเลยนะนั่น) สงสัยกันล่ะสิว่าใครเขาจะบ้าประมูลนกพิราบกันในราคานี้?? นั่นก็เป็นเพราะว่ามันไม่ใช่นกพิราบธรรมดาๆ แต่มันคือนกพิราบที่ชนะการแข่งขันบินระยะไกลมาแล้ว และฉายาของมันก็คือ “ลูวิส แฮมิลตัน” (ชื่อของนักแข่งรถฟอร์มูลาวัน) เจ้านกพิราบจากประเทศเบลเยียมตัวนี้มีชื่อว่า Armando ที่ภายนอกอาจดูเหมือนพิราบป่าทั่วๆ ไป แต่จากชัยชนะในครั้งนั้นทำให้มันมีชื่อเสียงกับเหล่าคนชอบการแข่งขันนกมาก ไม่เพียงเท่านั้น ในการแข่งขันชิงแชมป์นกพิราบ Ace Pigeon ปี 2018 และการแข่งขัน Pigeon Olympiad ปี 2019 เจ้านกพิราบ Armando ก็เป็นผู้กวาดรางวัลทั้งหมดไปครองอีกด้วย… โฉมหน้าเจ้านกพิราบ Armando ที่ทุกวันนี้มันไม่ต้องเข้าร่วมแข่งขันแล้ว (หรือเกษียณนั่นเอง) การเปิดประมูลนกพิราบตัวนี้ได้ถูกจัดขึ้นโดยสมาคม Pigeon Paradise หรือเรียกสั้นๆ ว่า Pipa Nikolaas Gyselbrecht ประธานสมาคม กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เราเคยมีการประมูลนกพิราบซึ่งสูงสุดอยู่ที่ 376,000 ยูโร (ราว 13…
-
งานวิจัยใหม่เผย “ช่วงอายุ” ที่เหมาะกับการเรียนรู้ “ภาษา” วัยผู้ใหญ่นั้นอาจจะสายไปหรือ??
ทุกวันนี้ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจในด้านภาษามากขึ้น เพราะภาษานั้นเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์และหากใครก็ตามสามารถพูดได้หลายภาษา พวกเขาก็มักจะมีความได้เปรียบมากกว่าคนอื่น หลายคนน่าจะคิดเหมือนกันว่า แล้วถ้าวันนี้เราอยากเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ อายุแบบนี้ยังจะพอทันอยู่มั้ย? และจริงไหมที่ว่า “เด็ก” สามารถเรียนรู้ “ภาษา” ได้อย่างรวดเร็วมากกว่าผู้ใหญ่? ทีมวิจัยของสถาบันต่างๆ ได้ให้คำตอบมาแล้ว “ภาษา” เป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารของมนุษย์มาตั้งแต่โบราณกาล เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา สถาบัน MIT ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาโดยการทดสอบทางออนไลน์กับคนหลายวัยจำนวน 670,000 คน พบว่าช่วงเวลาของการเรียนรู้ภาษาจะเริ่มยากมากขึ้นเมื่อผ่านพ้นช่วงวัยหนึ่งไปแล้ว ยังทราบอีกว่าช่วงสำคัญที่สุดในการเรียนรู้ให้เทียบเท่าเจ้าของภาษานั้นคือ “ช่วงอายุ 10 ขวบ” ส่วนคนที่อายุ 18 ปียังพอได้เปรียบในการเริ่มเรียนภาษาใหม่ๆ แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงนั้นแล้วจะเริ่มเรียนรู้ได้ยากมากขึ้น ควรเริ่มเรียนภาษาใหม่ก่อนอายุ 18 ปี อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านพ้นช่วงวัย 18 ปี คนเรายังคงสามารถเข้าใจภาษาใหม่ๆ ได้ไวอยู่ก็จริง แต่จะไม่สามารถเรียนรู้ได้เทียบเท่าเด็กที่ยังพอมีเวลาในการเรียนรู้แบบระยะยาวมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเคยมีงานวิจัยจากประเทศอิสราเอลที่ทำการทดสอบกลุ่ม 3 กลุ่มแบ่งออกเป็นช่วงอายุ 8 ปี, 12 ปีและคนหนุ่มสาว (อายุไม่แน่ชัด) เพื่อให้เรียนรู้คำศัพท์ที่คิดขึ้นมาใหม่เองในเวลาไม่กี่นาที ผลที่ออกมาคือคนหนุ่มสาวสามารถทำเวลาในการจำได้ดีกว่า รองลงมาคือเด็กวัย…
-
ตื่นตาตื่นใจไปกับ 20 ผลงานภาพวาดสายดาร์ก ชวนให้คุณขบคิด จากศิลปินชาวเม็กซิโก
ศิลปินแต่ละคนมีเทคนิคที่ใช้ถ่ายทอดผลงานออกมาแตกต่างกัน ทำให้ภาพวาดของพวกเขามีสไตล์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เช่นเดียวกับศิลปินสายดาร์กคนนี้ Tavo Santiago เป็นดีไซเนอร์ที่อาศัยอยู่ในเมืองโอริซาบา ประเทศเม็กซิโก ได้ถ่ายทอดผลงานภาพวาดโปรเจกต์ ‘The Womb Beyond The World’ ภาพวาดเกี่ยวกับความตาย ที่ใช้หัวกะโหลก บาดแผล ดาบและมีด มาเป็นองค์ประกอบของผลงาน นอกจากนั้นผลงานของเขายังเต็มไปด้วยความลึกลับของโลกเวทมนตร์และวิญญาณที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมได้ไม่น้อย ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมผลงานของเขาพร้อมๆ กัน.. โลกแห่งอสุรกายสุดน่ากลัว ภายใต้หน้ากากมนุษย์ . หัวกะโหลกที่ซ่อนอยู่ในผลงานแทบทุกชิ้น . สัตว์ประหลาดในจินตนาการ . . . . โทนสีที่ใช้ถ่ายทอดถึงความตายในรูปแบบต่างๆ ความลึกลับน่ากลัวในโลกที่เราไม่เคยได้สัมผัส . . . . . . การหลอมหลอมของมนุษย์และสัตว์ มังกรผู้ยิ่งใหญ่ ใครที่ชื่นชอบผลงานของศิลปินคนนี้ สามารถเข้าไปให้กำลังใจและติดตามเขาทางอินสตาแกรม tavosantiagoilustrador กันได้เลย ที่มา: designyoutrust
-
บริษัทออสเตรเลีย เสนอนโยบายเด็ด “Life Leave” ให้พนักงานลาไปทำตามฝัน สูงสุด 3 เดือน!!
หลังจากที่ #เหมียวเปปเปอร์ ได้นำเสนอคอนเทนต์ ‘ทำงานให้หนัก พักผ่อนให้สุด’ บริษัทจีนอนุญาตให้พนักงานลาหยุดในวัน ‘อารมณ์เสีย’ ไปแล้ว เพื่อนหลายคนคงอยากจะมีวันหยุดพักผ่อนเพิ่มเหมือนพนักงานในบริษัทนี้ แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถลาหยุดต่อกันได้ถึง 6-12 สัปดาห์ เพื่อเดินทางท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมต่างๆ ตามใจปรารถนา Ernst & Young สำนักงานบัญชีในประเทศออสเตรเลียได้มีนโยบาย “Life Leave” อนุญาตให้พนักงานออกไปใช้ชีวิตตามความฝัน นโยบายดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้พนักงานได้ทำกิจกรรมหรือทำงานพาร์ทไทม์อย่างอื่นชั่วคราว โดยบริษัทจะไม่มีเงินเดือนให้ Kate Hillman หุ้นส่วนของบริษัทนี้กล่าวว่า “นโยบายที่มีความยืดหยุ่นในการทำงานมีความจำเป็น เพราะจะช่วยเพิ่มการแข่งขันและทักษะต่างๆ ของพนักงาน” นโยบาย “Life Leave” จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2019 นี้ เพื่อให้พนักงานทำงานประจำให้ช่วงเดียวกับตอนเปิดภาคเรียนของโรงเรียน และลาหยุดได้ยาวถึง 3 เดือนในช่วงปิดเทอม ซึ่งนอกจากพนักงานจะได้พักผ่อนตามอัธยาศัยแล้ว ยังได้ใช้เวลากับคนในครอบครัว รวมถึงลูกๆ ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้พนักงานมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ยืดหยุ่น และมีเวลาให้กับสิ่งที่สนใจ อย่างเช่น การเป็นอาสาสมัครในต่างแดน…
-
สู้ไม่ถอย! หนูน้อยโฮมเลสวัย 8 ขวบ คว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขันหมากรุก
ว่ากันว่าในชีวิตของคนเราต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย ก่อนถึงจะถึงจุดหมายปลายทางที่หวังไว้ หากใครที่กำลังท้อแท้หมดกำลังใจในการทำตามความฝันอยู่ละก็ #เหมียวเปปเปอร์ ขอแนะนำให้คุณรู้จักหนูน้อยคนนี้ Tanitoluwa Adewumi หนูน้อยวัย 8 ขวบ ผู้ลี้ภัยชาวไนจีเรียอาศัยอยู่ในที่พักพิงชั่วคราวของคนไร้บ้านในสหรัฐอเมริกา ได้คว้าอันดับ 1 การแข่งขันหมากรุก New York State chess championship การแข่งขันดังกล่าว แบ่งตามอายุ โดยคู่แข่งของหนูน้อยคนนี้เป็นนักเรียนชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ด้วยความใฝ่ฝันอยากจะเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันแบบ grandmaster (การแข่งขันหมากรุกขั้นสูง) ทำให้เขาฝึกฝนทักษะการเล่นหมากรุกจนคว้าแชมป์มาได้ ชีวิตของหนูน้อยคนนี้ไม่ได้ราบรื่นเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ครอบครัวของเขาอพยพมาจากประเทศไนจีเรีย และต้องอาศัยอยู่ในเพิงที่พักชั่วคราวของเหล่าโฮมเลส Shawn Martinez โค้ชหมากรุกได้เห็นถึงความสามารถของหนูน้อยคนนี้จึงติดต่อไปทางครอบครัว เพื่อให้เขาได้เข้าร่วมโปรแกรมฝึกฝนการเล่นหมากรุกของทางโรงเรียน อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของหนูน้อย Tanitoluwa ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าสมาชิกโปรแกรมดังกล่าว Russell Makofsky ผู้ใหญ่ใจดีจึงให้การสนับสนุนเขา เพื่อทำตามความฝัน Tanitoluwa ทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการฝึกฝนหมากรุก โดยมีพ่อและแม่ของเขาคอยเป็นกำลังใจให้ จนสุดท้ายเขาสามารถคว้าถ้วยรางวัลจากการแข่งขันต่างๆ มาได้กว่า 7 ถ้วย ถึงแม้ว่าหนูน้อยคนนี้จะมาจากครอบครัวคนไร้บ้าน แต่เขาก็ยังไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และทำตามความฝันจนประสบความสำเร็จ ที่มา: nytimes,…
-
กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ ยืดเวลารื้อฟื้นคดี ‘ทารุณกรรมทางเพศ’ อดีตนักแสดงสาว ‘จางจายอน’
สืบเนื่องมาจากประเด็นอื้อฉาวในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ทำให้หลายคนออกมาต่อต้านความรุนแรงทางเพศมากขึ้น รวมถึงการรื้อฟื้นคดีของอดีตนักแสดงสาว ‘จางจายอน’ ในปี 2009 ขึ้นมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนหมดอายุความ จาจางยอน นักแสดงสาวตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองพร้อมทิ้งจดหมายไว้ หลังจากที่เธอถูกบังคับให้ร่วมกิจกรรมทางเพศกับผู้มีอิทธิพลในแวดวงธุรกิจและวงการบันเทิงมากกว่า 100 ครั้ง จางจายอน นักแสดงสาว เคยร่วมแสดงในซีรีส์ชื่อดังอย่าง “Boys Over Flowers” ออกอากาศทางช่อง KBS ในจดหมายได้เผยถึงรายชื่อผู้มีอำนาจกว่า 31 คน แต่มีเพียงอดีตประธานบริษัทต้นสังกัดและผู้จัดการของเธอเท่านั้นที่ได้รับโทษ หลังจากที่เกิดการเคลื่อนไหวต่อต้านการคุกคามทางเพศโดยใช้ #MeToo ทำให้มีการเรียกร้องให้มีการรื้อคดีของนักแสดงสาวขึ้นมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 โดยมีประชาชนร่วมลงชื่อกว่า 230,000 คน เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมแห่งประเทศเกาหลีได้ประกาศยืดเวลาในการรื้อคดีของจางจายอน ต่อออกไปอีกสองเดือน และจะทำการสืบสวนให้จบสิ้นภายในเดือนพฤษภาคม 2019 นี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราจำเป็นต้องสืบสวนและหาหลักฐานเพิ่มเติมในคดีนี้และคดีอื่นๆ ที่กำลังจะหมดอายุความ” โดยการสืบสวนครั้งใหม่นี้ได้รับความร่วมมือจาก ‘ยุนจีโอ’ เพื่อนนักแสดงของจางจายอนผู้เคยเห็นเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศ ยุนจีโอได้เปิดตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกหลังจากเหตุอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคม พร้อมให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เพื่อสืบสวนและเอาความผิดผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีทารุณกรรมทางเพศของจาจางยอนอย่างเต็มที่ จุดจบของคดีนี้จะเป็นอย่างไร #เหมียวเปปเปอร์ จะรีบนำมารายงานเพื่อนๆ อย่างแน่นอน…
-
ในอนาคต มนุษย์อาจได้กิน “เนื้อจากแล็บ” โดย “ไม่ต้องฆ่าสัตว์” เพื่อการบริโภค
ตั้งแต่ปี 2018 ที่ผ่านมานี้ อุตสาหกรรมอาหารทั่วโลกมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เนื่องมาจากมีกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมทานอาหารที่มาจากพืชเท่านั้นหรือ “วีแกน” สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบาธ ประเทศอังกฤษ ได้ทำการทดลองที่อาจฟังดูแปลกๆ ไปบ้าง นั่นคือการ “เพาะพันธุ์เซลล์ของสัตว์” ภายในห้องแล็บ ซึ่งจะได้เนื้อที่ไม่ได้เกิดจากการถูกฆ่าเพื่อการบริโภค… เนื้อจากแล็บ (Lab-grown meat) ไอเดียทั้งหมดในการทำเนื้อจากแล็บ คือการใช้หญ้าเป็นอาหารให้กับเซลล์ของสัตว์เหล่านี้เพื่อให้มันสามารถเจริญเติบโตได้และท้ายสุดมันจะกลายเป็นก้อนเนื้อโปรตีนล้วนๆ และหากจะให้มีรสสัมผัสที่เหมือนเนื้อจริงมากกว่านี้ อาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตนักวิทยาศาสตร์สามารถเพิ่มเซลล์ของไขมันสัตว์เข้าไปได้อีกด้วย วิธีในการทำเนื้อสังเคราะห์จากแล็บ ดอกเตอร์ Marianne Ellis วิศวกรด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบาธ เห็นว่าเนื้อจากแล็บนี้อาจกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการทานโปรตีนที่สามารถแจกจ่ายแก่คนทั่วโลกในสภาวะขาดแคลนได้ โดยที่มหาวิทยาลัยบาธทำการทดลองด้วยวิธีธรรมชาติทั้งหมดเพื่อให้ปลอดภัยมากที่สุด และเบื้องต้นพวกเขาเริ่มใช้เซลล์ของกลุ่มสัตว์ฟันแทะ (เช่น หนูและกระรอก) ก่อน เพราะราคาถูกกว่าและทำการวิจัยได้ง่ายกว่าหมูหรือวัว หัวหน้าทีมในการทำวิจัย ดร. Marianne Ellis ดร. Marianne Ellis กล่าวว่า… “สิ่งที่เรากำลังทำในตอนนี้คือการออกแบบถังปฏิกรณ์ชีวภาพเพื่อให้เกิดกระบวนการทางชีวะ และสามารถผลิตเนื้อเหล่านี้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว ในอนาคตเราจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านปศุสัตว์ และได้บริโภคเนื้อที่มีความปลอดภัยและมีคุณภาพ” นอกจากนั้นแล้ว Richard Parr ผู้อำนวยการสถาบัน Good…
-
สาวอังกฤษบ่นอุบ สั่งซื้อชุดเดรสไซส์ที่ใส่เป็นประจำ แต่ไหงใส่ได้แค่ขาข้างเดียวก็ฟิตแล้วฟะ!?
ในยุคสมัยของการค้าขายออนไลน์นั้น ก็ข้อดีของมันก็คือความสะดวกสบายและมีขั้นตอนที่ง่าย แถมยังไม่ต้องเดินทางไปซื้อถึงที่ รอรับของได้สบายๆ อยู่ที่บ้าน แต่ข้อเสียของมันก็คือเราจะไม่ได้เห็นตัวอย่างของที่เราอยากได้ก่อนซื้อ นั่นทำให้บางครั้งสินค้าที่เราซื้อมา ก็ไม่ได้ตรงกับที่เราคิดไว้ในตอนแรกสักเท่าไหร่ เหมือนอย่างเรื่องที่สาวคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ชมในวันนี้ประสบมา Julia Magowan สาวนักศึกษาสาววัย 21 ปีจาก Loughborough University ได้ทำการสั่งชุดเดรสมาจาก PrettyLittleThing ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ชื่อดัง โดยเธอได้ทำการสั่งชุดเดรสในไซส์ปกติที่เธอใส่อยู่เป็นประจำ แต่เมื่อชุดดังกล่าวได้มาส่ง ก็พบว่าชุดดังกล่าวไม่ตรงปกเป็นอย่างมาก เพราะขนาดที่สั่งมา เธอสวมได้แค่ขาข้างเดียวเท่านั้น!! สิ่งที่ต้องการ และนี่คือสิ่งที่ได้… เมื่อได้รับสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการแบบนี้ งานนี้เธอเลยหัวเสียเป็นอย่างมากและนำภาพของชุดที่สั่งไปโพสต์บ่นในทวิตเตอร์ทันที “PLT คุณหวังให้ฉันใส่เดรสที่สมควรเป็นไซส์ 8 ให้พอดีอย่างไร? เมื่อฉันสามารถใส่เป็นพอได้กับขาข้างเดียวของฉันเท่านั้น ช่างน่าขันอะไรขนาดนี้” หลังจากที่เธอโพสต์ภาพดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตที่เคยเป็นลูกค้าของ PLT เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย “จริงๆ ! ฉันเคยซื้อเสื้อไซส์ 6 มาจาก PLT และใส่แค่ต้นขาก็ยังไม่ได้เลย ?” “ไม่รู้ใครทำเรื่องขนาดของ PLT…
-
เว็บไซต์ดังเผย ลิสต์รายชื่ออาหารที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง ถ้าได้ไปเที่ยวดิสนีย์ปาร์ก
ในการไปเที่ยวแต่ละครั้ง เชื่อเถอะว่าการลิสต์อาหารที่ห้ามพลาดของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวนั้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวควรเตรียมตัวไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดลิ้มลองเมนูพิเศษจานเด็ดของแต่ละที่ โดยอาหารจานเด็ดที่อยากตั้งใจนำเสนอวันนี้ก็คืออาหารที่ห้ามพลาดจากสวนสนุก Walt Disney ที่รับประกันโดยเชฟชื่อดัง ซึ่งอาหารแต่ละอย่างจะน่าลิ้มลองขนาดไหน ไปดูกัน 😉 1. ไก่งวงรมควัน ได้รับการยืนยันจากเชฟ AJ Voytko แห่งร้านอาหารและบาร์อิตาลี Terrane Italian Kitchen เมืองพอร์ตแลนด์ว่า “เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดที่สวนสนุกแห่งนี้” 2. เพรทเซลมิกกี้เมาส์แสนอร่อย “เพรทเซลรูปร่างมิกกี้เมาส์เป็นสิ่งที่ฉันโปรดปรานมาก เพราะมันกินง่าย และเป็นอาหารที่คลาสสิคสุดๆ ของสวนสนุก” กล่าวโดย Wayne Elias เจ้าของร่วมร้านอาหาร Rockwell Table & Stage และ Crumble Catering ในเมืองลอสแอนเจลิส 3. ชูโรส Edward Huang เชฟ และหนึ่งในผู้ก่อตั้งร้านอาหาร Zai Lai ในเมืองนิวยอร์กกล่าวว่า “ชูโรสคือที่สุด” 4. แซนด์วิชมอนเตคริสโต Brian Malarkey เชฟ…
-
งานวิจัยพบ การอยู่ในอวกาศทำให้ไวรัสโรคเริมกลับมาทำงานได้ เชื่อส่งผลต่อภารกิจระยะยาว
สำหรับเหล่าคนที่ทำงานบนอวกาศแล้ว การที่สภาพพื้นที่นอกโลกส่งผลกับร่างกายมนุษย์นั้นเป็นเรื่องที่พวกเขาทราบกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นอาการเกี่ยวกับกระดูกที่เกิดจากสภาพไร้น้ำหนัก หรืออาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง หากไม่มีการเตรียมตัวให้ดีอวกาศก็จะทำให้คนเราป่วยได้อย่างง่ายๆ เลย และแล้วเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา เหล่านักบินอวกาศก็ได้พบกับผลกระทบใหม่ของการใช้ชีวิตนอกโลกอีกครั้ง เมื่อพวกเขาพบว่าในร่างกายของนักบินอวกาศบนสถานีอวกาศนานาชาติกว่าครึ่ง มีการร่องรอยการแบ่งตัวของไวรัสโรคเริม (Herpes simplex) อีกครั้งทั้งๆ ไวรัสมีสภาพหยุดนิ่งมาเป็นเวลานานแล้ว เป็นเรื่องที่ทราบกันว่าไวรัสโรคเริมนั้น หากติดเชื้อไปแล้วมันจะคงอยู่ในร่างกายไปตลอดชีวิต และกว่าครึ่งของชาวสหรัฐฯ จะเคยเป็นโรคนี้มาก่อนสักครั้งในชีวิต ดังนั้นการที่ไวรัสนี้ตัวนี้กลับมาทำงานอีกครั้งในสภาวะนอกโลกได้จึงทำให้ทางนักวิทยาศาสตร์เป็นกังวลอย่างมาก เพราะแม้ว่าการที่ไวรัสกลับมาแบ่งตัวจะไม่ได้หมายความว่าโรคเริมกลับมาแสดงอาการอีกครั้งเสมอไปก็ตาม แต่ก็มีนักบินบางส่วนแล้วที่มีอาการของโรคเริมขึ้นมาให้เห็นจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่อาศัยในสถานีเป็นเวลานานแล้ว นั่นหมายความว่ายิ่งมนุษย์อยู่ในอวกาศนานแค่ไหน คนเคยมีไวรัสก็จะมีโอกาสกลับไปเป็นโรคอีกครั้งมากขึ้นเท่านั้น และนั่นก็อาจทำให้ไวรัสตัวนี้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำภารกิจระยะยาวอย่างการส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคาร แถมแม้ตัวนักบินจะไม่มีอาการเองพวกเขาก็ยังสามารถแพร่โรคให้กับคนอื่นได้อยู่ดี โรคเริมแบบแสดงอาการที่ริมฝีปากล่าง ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ได้พยายามอย่างมากในการหาทางป้องกันเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ เช่นการทดลองใช้วัคซีน อย่างไรก็ตามในบรรดาวัคซีนป้องกันไวรัสจำพวกนี้นั้น เรามีก็ยังมีเพียงแต่ของโรคงูสวัด ซึ่งแม้จะมีอาการใกล้เคียงกับโรคเริม แต่ก็เป็นไวรัสคนละตัวกันอยู่ดี ที่มา livescience, health และ sciencealert
-
งานวิจัยใหม่เผย สมองคนเรารับรู้สนามแม่เหล็กโลกได้ และบางคนอาจทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ ด้วย
เป็นเรื่องที่ทราบกันดีว่า “สนามพลังแม่เหล็ก” นั้นมีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายแค่ไหน เพราะไม่เพียงแต่มันจะช่วยป้องกันพวกเราจากพายุสุริยะแล้ว สนามพลังแม่เหล็กยังถูกใช้โดยสัตว์ต่างๆ หลายชนิดเพื่อเป็นสื่อนำทางในการเดินทางหรืออพยพอีกด้วย มาถึงตรงนี้แล้วคงมีหลายคนไม่น้อยเลยที่คิดว่าน่าเสียดายจริงๆ ที่มนุษย์เรานั้นไม่สามารถรับรู้การมีอยู่ของสนามพลังแม่เหล็กได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่าอ้างอิงจากงานวิจัยใหม่ล่าสุดของเหล่านักวิทยาศาสตร์ สมองของมนุษย์เรานั้นแท้จริงแล้วก็รับรู้ถึงสนามพลังแม่เหล็กได้เช่นกัน โดยนี่เป็นงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร “eNeuro” และอ้างว่าตัวเองสามารถหาหลักฐานที่ยืนยันว่ามนุษย์สามารถรับรู้ถึงสนามพลังแม่เหล็กได้ จากอนุภาคแม่เหล็กที่กระจายอยู่ในสมอง เอาเข้าจริงๆ แล้วแนวคิดที่ว่าคนเรารับรู้ถึงสนามพลังแม่เหล็กได้นั้น มีมาตั้งแต่ในช่วงยุค 80 แล้ว โดยในสมัยนั้นเรียกกันว่า “Magnetoreception” หรือการรับรู้แม่เหล็ก อย่างไรก็ตามแม้จะมีการทดลองอย่างมากในช่วงยุค 90 เราก็ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันแนวคิดนี้ได้อยู่ดี จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เอง นักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองให้อาสาสมัคร 34 คนไปนั่งในห้องมืดและปล่อยคลื่นแม่เหล็กในระดับเดียวกับสนามแม่เหล็กโลกเป็นระยะๆ (ในระดับที่เบากว่าที่เครื่อง MRI ปล่อยราวๆ 100,000 เท่า) ในขณะที่ทำการสังเกตการณ์คลื่นอัลฟา ในสมองของอาสาสมัครไปด้วย ผลที่ออกมาคือในบรรดาอาสาสมัคร 34 คน จะมีอยู่ 4 คนที่มีปฏิกิริยาต่อคลื่นแม่เหล็กที่ถูกปล่อยอย่างชัดเจน โดยที่พวกเขามีการขยับศีรษะตาม ในขณะที่คลื่นอัลฟาในสมองเองก็ลดลงถึง 60% ในช่วงเวลาเดียวกัน Connie Wang บอกว่านี่เป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์เองก็แปลกใจเช่นกัน เพราะพวกเขาไม่ได้คิดไว้เลยว่าจะพบกับคนที่ตอบสนองต่อคลื่นแม่เหล็กได้อย่างชัดเจนขนาดนี้ และเหล่านักวิทยาศาสตร์เองก็ไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร ดังนั้นเพื่อไม่ให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความบังเอิญนักวิทยาศาสตร์จึงทดลองซ้ำอีกครั้งในอีกหลายสัปดาห์ให้หลัง…
-
นาซาเผย วันที่ 18 ธ.ค. 2018 มีอุกกาบาตระเบิดเหนือท้องฟ้า รุนแรงกว่าปรมาณู 10 เท่า
เพื่อนๆ ยังจำกันได้ไหมว่าวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2018 ตัวเองทำอะไรกันอยู่ หรือในวันนั้นตัวเองมีความรู้สึกแปลกๆ ไหม เพราะในระหว่างที่หลายๆ คนคงจะไม่รู้สึกตัวกัน ในวันนั้นที่เขตแดนระหว่างรัสเซียกับรัฐอลาสก้า ได้มีอุกกาบาตขนาดเท่ารถบัสระเบิดเหนือท้องฟ้าด้วยความรุนแรงเทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นที 173 กิโลตัน หรือมากกว่าระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่าราวๆ 10 เท่า เจ้าอุกกาบาตลูกที่ว่านี้ถูกพบโดยทางนาซาหลังจากที่เกิดเหตุจริงๆ ด้วยระบบตรวจจับขีปนาวุธของกองทัพอากาศ และคาดกันว่ารุนแรงจนมีคลื่นเสียงความถี่ต่ำ (ที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยิน) ดังไปทั่วโลกเลย อ้างอิงจากทางนาซาอุกกาบาตที่ตกมานี้หนักราวๆ 1,360 ตัน มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เมตร และพุ่งด้วยความเร็ว 115,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีรัศมีระเบิดกว้าง 25 กิโลเมตร ซึ่งรุนแรงน้อยกว่าเหตุอุกกาบาตตกในปี 2013 ราวๆ 60% ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมถึงแทบจะไม่มีใครรู้สึกตัวถึงอุกกาบาตลูกนี้เลย? สำหรับเรื่องนี้ทางนาซาได้บอกว่ามาจากการที่อุกกาบาตที่ตกมาค่อนข้างเล็กแถมยังมีจุดระเบิดในชั้นบรรยากาศเหนือทะเลซึ่งห่างไกลผู้คนมากๆ ทำให้ระบบตรวจจับอุกกาบาตโลกจึงตรวจจับไม่ได้ และแทบจะไม่มีใครรู้ โดยข่าวของอุกกาบาตนี้ถูกเฉยแพร่ออกมาให้โลกทราบในงานการประชุมวิทยาศาสตร์ดวงจันทร์และดาวเคราะห์ในเท็กซัส เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาเท่านั้น อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ก็ออกมายืนยันว่าผู้คนไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก…
-
นักวิชาการเผย ผู้มีความบกพร่องทางกายสมัยก่อน อาจได้รับความเคารพและการดูแลดีกว่าที่เราคิด
ตั้งแต่ในอดีตมาเมื่อพูดถึงการปฏิบัติต่อคนที่มีความบกพร่องทางร่างกาย คนส่วนใหญ่ก็มักจะคิดว่าคนในสมัยก่อนน่าจะมีการปฏิบัติตัวกับคนเหล่านี้แบบไม่ดีเท่าไหร่ เพราะคนที่ร่างกายสมบูรณ์เมื่อหลายพันปีก่อนคงจะไม่มานั่งดูแลคนเป็นโรคที่ตัวเองยังไม่รู้จักอย่าง “ภาวะแคระ” หรือ “ปากแหว่งเพดานโหว่” หรอก ชาวสปาตัน หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าคนสมัยก่อนปฏิบัติตัวไม่ดีกับผู้มีความบกพร่องทางร่างกาย แต่แล้วเมื่อล่าสุดนี้เองในการประชุมเหล่านักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ที่กรุงเบอร์ลิน เหล่าผู้เชี่ยวชาญก็ได้เผยแนวคิดใหม่เกี่ยวกับวิถีชีวิตคนที่มีความบกพร่องทางร่างกายในสมัยก่อนออกมา โดยทฤษฎีใหม่ของพวกเขาคือคนที่มีความบกพร่องทางร่างกายนั้น ในสมัยก่อนน่าจะได้รับการเคารพบูชาเป็นอย่างมาก หรืออย่างน้อยๆ ก็ได้ใช้ชีวิตโดยมีคนดูแลในระดับที่ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไป อักษรอียิปต์โบราณพร้อมภาพของเจ้าหน้าที่ศาลผู้มีภาวะแคระ ซึ่งพบในสุสานฟาโรห์เดนแห่งราชวงศ์ที่ 1 แนวคิดนี้มาจากการที่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านๆ มานักโบราณคดีมักจะมีการขุดพบกระดูกของมนุษย์ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ในสถานที่สำคัญทางศาสนาอยู่เสมอ แถมยังมีร่องรอยการให้ชีวิตที่ดีไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ (หรือตอนเสียชีวิต) และไม่ได้ถูกขับไล่ออกจากเมืองอย่างที่เราเคยคิด อย่างมัมมี่ที่มีร่องรอยของโรคลูคีเมีย จากเปรูในช่วง 1,200 ปีก่อนคริสตกาลเอง ก็ถูกฝังเอาไว้อย่างเคารพ ทั้งๆ ที่จากการตรวจสอบกระดูกแล้ว ชายคนนี้น่าจะเดินตรงๆ ไม่ได้ด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีว่าตลอดเวลาที่เขาใช้ชีวิตคนในสังคมค่อยดูแลเขาเป็นอย่างดีเลย โดยหนึ่งในนักชีววิทยาโบราณ Anna Pieri ได้ออกมาบอกว่าเหล่าผู้มีความบกพร่องทางร่างกายนั้นไม่เพียงได้รับการดูแลอย่างดีเท่านั้น แต่ในหลายๆ ครั้งยังถูกเคารพบูชาด้วย โดยอ้างอิงจากการที่ผู้ปกครองในสมัยอียิปต์โบราณมักจะชอบรับคนที่มีภาวะแคระมาเป็นข้าราชบริพาร และนอกจากภาวะแคระแล้ว ดูเหมือนว่าคนเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่เองก็เป็นที่ยอมรับของคนในสมัยก่อนเช่นกัน เพราะนักพยาธิวิทยาโบราณ จากมหาวิทยาลัยแซแกดอย่างคุณ Erika Molnar เองก็ได้รายงานว่า โครงกระดูกของชายผู้เป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่รุนแรงที่มีชีวิตในช่วง 900 ปีก่อนคริสตกาลที่ฮังการี…
-
ญี่ปุ่นเปิดตัวสถานีรถไฟแห่งใหม่ ไม่มีทางขึ้นหรือลง แต่เอาไว้พักชมวิวอันสวยงามต่างหาก!!
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เราสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ด้วยรถไฟ ดังนั้นเรื่องรถไฟที่ญี่ปุ่นจึงมีความพิเศษหลายๆ อย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ล่าสุด รถไฟญี่ปุ่นก็ยังคงทำให้เราต้องประหลาดใจได้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อเปิดมีการเปิดตัวสถานีรถไฟสถานีใหม่ แต่… ไม่มีทางขึ้นหรือลง เพราะว่ามันถูกสร้างขึ้นมาให้รถไฟได้จอดเพื่อให้ผู้โดยสารรับชมทิวทัศน์อันสวยงามต่างหาก!! สถานีเล็กๆ ที่ตั้งอยู่โดดๆ แห่งนี้แหละ 清流みはらし駅全貌駅出口という概念がない、展望専用駅とは…w pic.twitter.com/JPdx4ajvrm — ★Haqua★12/16ジャンプフェスタ・推しの子×東京タワー参戦予定 (@Ruby_21601F_30) March 11, 2019 โดยสถานีรถไฟสถานีใหม่นี้ตั้งอยู่ในเมืองอิวะคุนิ จังหวัดยามางูจิ โดยรถไฟเส้นที่จะผ่านสถานีดังกล่าวก็คือเส้น Nishikigawa Seiryu ซึ่งจะทำการวิ่งขนานไปกับแม่น้ำมิชิกิ ซึ่งระหว่างทางผู้โดยสารก็จะได้เพลิดเพลินไปทิวทัศน์ของแม่น้ำและธรรมชาติอันสวยงาม ทำให้ทางเมืองอิวะคุนิเกิดไอเดียอยากให้ผู้โดยสารได้มีจุดพักชมความสวยงามดังกล่าว ตัวอย่างทิวทัศน์อันสวยงามที่ผู้โดยสารสามารถถ่ายได้ . . . ไอเดียดังกล่าวจึงได้เกิดเป็น Seiryu Miharashi Eki หรือที่แปลได้ว่า “สถานีชมทิวทัศน์น้ำใสไหลเย็น” สถานีไร้ทางขึ้นและลง ที่สร้างมาให้รถไฟได้จอดพัก ให้ผู้โดยสารสามารถชมความสวยงามของแม่น้ำได้อย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม รถไฟจะแวะจอดในสถานีดังกล่าวในโอกาสหรือเทศกาลพิเศษเท่านั้น อย่างเช่นเทศกาลชิมสาเกที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 มีนาคมถึง 1 เมษายนนี้นี่เอง ก็เรียกว่าสถานีอาจจะกลายเป็นแลนมาร์กอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดยามางูจิ หากใครที่ได้ไปเที่ยวในจังหวัดดังกล่าวก็อย่าลืมนั่งรถไฟสาย Nishikigawa Seiryu ไปชมกันดูได้นะครับ …
-
หัวขโมยญี่ปุ่นสวมชุดคอสเพลย์ก่อนลงมือเผย “เวลาสวมชุด มันกระตุ้นให้อยากขโมยของ”
ปัจจุบันนี้วัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้นถือว่ากำลังรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นใครๆ ก็สามารถรับชมการ์ตูน, อนิเมะได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงชุดคอสเพลย์ตัวละครต่างๆ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างหลากหลาย เราจึงเห็นผู้คนจากสายอาชีพต่างๆ ที่มีงานอดิเรกเป็นการคอสเพลย์มากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่หัวขโมยที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้ก็ด้วย หัวขโมยดังกล่าวคือนาย Tetsuya Fujisawa ชายอายุ 37 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองอีสึกะ จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น Tetsuya ถูกจับกุมได้ขณะที่กำลังทำการบุกรุกบ้านหลังหนึ่งในเมืองมุนากาตะเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งจากรายงานพบว่าขณะที่กำลังจะทำการขโมยของเขาได้สวมชุดคอสเพลย์นักบิน “Evangelion” ไว้ด้วย!! ในการขโมยครั้งนั้นเขาได้ขโมยเงินไปทั้งสิ้น 17,000 เยน (4,800 บาท) ซึ่งดูเหมือนไม่มากสักเท่าไหร่ แต่ก็เพียงพอที่จะซื้อฟิกเกอร์การ์ตูนเรื่อง Evangelion ที่เขาชอบ จากการสืบสวนพบว่านาย Tetsuya นั้นก่ออาชญากรรมลักขโมยมาแล้วทั้งหมด 10 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละครั้งเขาก็มักจะสวมชุดคอสเพลย์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นชุด Evangelion ชุดบันนี่เกิร์ลสุดเซ็กซี่ ชุด Spider-Man หรือแม้กระทั่ง “ชุดว่ายน้ำของผู้หญิง” ก็ด้วย และเมื่อตำรวจถามถึงเหตุผลที่ต้องใส่ชุดคอสเพลย์เวลาก่อโจรกรรม นาย Tetsuya…
-
กลุ่มนักเรียนและเยาวชน แสดงพิธีเต้น ‘ฮากา’ พร้อมจุดเทียนอาลัยเหตุกราดยิง ร่วมร้อยชีวิต
บรรยากาศการไว้อาลัยแก่เหตุการณ์กราดยิงมัสยิดในเมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการแสดงพลังของเพื่อนมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันได้ แม้จะต่างเชื้อชาติหรือศาสนาและความเชื่อ วันที่ 18 มีนาคม 2019 ทางกลุ่มนักเรียนและกลุ่มเยาวชนต่างๆ จึงมารวมตัวกันเพื่อแสดงความเสียใจและร่วมไว้อาลัย ให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งมีจำนวนมากถึงหลักร้อยคนกันเลยทีเดียว โดยนักเรียนบางส่วน มารวมตัวกันเพื่อแสดงพิธีการเต้น ‘ฮากา’ อันเป็นการการเต้นรำในพิธีกรรมของชาวเมารี และอีกส่วนเดินทางมาร่วมจุดเทียนแสดงความอาลัย บริเวณด้านนอกมัสยิด Al Noor หนึ่งในสถานที่ที่เป็นเป้าหมายในการก่อเหตุ . . ความเศร้ายังคงปกคลุมไปทั่วประเทศ โดยที่ชาวนิวซีแลนด์เองต่างร่วมใจกันแสดงจุดยืนต่อต้านและประณามการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้น รวมไปถึงแนวคิดสร้างความเกลียดชังทางด้านเชื้อชาติ . . ครอบครัวและเพื่อนของผู้เสียชีวิต ได้ร่วมกันจัดพิธีสวดมนต์ (ละหมาด) ช่วงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ณ บริเวณด้านนอกมัสยิด Al Noor ท่ามกลางเสียงร้องไห้อาวรณ์ โดยมีประชาชนคนทั่วไปเข้าร่วมสังเกตการณ์อย่างน่าเวทนา Saiyad Raza หนึ่งในญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิง เดินทางมาจากเมืองออกแลนด์ เพื่อมาร่วมฝังศพลูกพี่ลูกน้อง…
-
หนุ่มทวีตเล่าประสบการณ์ หมาแมวเพื่อนบ้านบุกห้อง แอบหนีซุกซนชุลมุน เจ้าของตายแล้วรึไง!?
การมีเพื่อนบ้านที่ดีหรือผู้อยู่ร่วมอาศัยในอาคารชุดเดียวกัน นับว่าเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว เนื่องจากจะไม่ต้องมากังวลปัญหาจุกจิกจากนิสัยใจคอในชีวิตความเป็นอยู่ แต่ทว่าอย่าลืมนึกถึงเรื่อง ‘สัตว์เลี้ยง’ ของเพื่อนบ้านด้วย เพราะเราไม่อาจคาดเดาถึงนิสัยของพวกมันได้เลย… เรื่องราวของพ่อหนุ่ม JP Brammer กรรมการผู้จัดการของ Trevor Project องค์การไม่แสวงหาผลกำไร สายด่วนป้องกันเหตุอัตวินิบาตกรรมสำหรับเยาวชนกลุ่ม LGBTQ ก็ต้องเจอกับปัญหาข้างต้นที่กล่าว นั่นก็คือสัตว์เลี้ยงแสนซุกซนของเพื่อนบ้านหลุดเข้ามาในห้องของเขาเอง!! https://twitter.com/jpbrammer/status/1106974178203320322 มีใครมาเคาะประตูหน้าห้องกันนะ!? https://twitter.com/jpbrammer/status/1106974704215183362 นาย Brammer เปิดเผยกับทางทีมงาน BuzzFeed News ว่า เขาต้องทนอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่มากๆ เพราะว่าอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ ขึ้นชื่อในเรื่องความห่วยของบานประตู!! ช่วงจังหวะทักทายกับมะหมาสี่ขาครับ เจ้าเหมียวตัวแสบก็อาศัยช่วงนี้ เล็ดลอดเข้าประตูห้องไปได้! https://twitter.com/jpbrammer/status/1106976389939507209 ด้วยเหตุนี้เอง สัตว์เลี้ยงของเพื่อนบ้าน แมว 1 หมา 2 ก็สามารถหนีออกมาจากห้อง เพื่อแสวงหาอิสรภาพชั่วคราวให้กับตัวเองได้ ออกไปผจญภัยภายในตัวอาคารในระหว่างที่เจ้าของไม่อยู่ และแน่นอนว่าพวกมันก็มาหยุดที่หน้าบานประตูของนาย Brammer ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ เป็นการรายงานสถานการณ์การถูกรุกรานจากเจ้าเพื่อนสี่ขาหน้าหมาหน้าแมว …
-
ชมภาพการผจญภัยครั้งใหม่ของ ‘เลโก้แบ็กแพ็กเกอร์’ ตัวจิ๋วในประเทศนิวซีแลนด์
การเดินทางแบบแบ็กแพ็กเกอร์เป็นความใฝ่ฝันของหลายคน ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้ออกไปสัมผัสโลกกว้างด้วยตัวเอง แต่หากตอนนี้หลายคนยังไม่มีว่าง กางปฏิทินแล้วหาวันหยุดที่ลงตัวไม่ได้สักที #เหมียวเปปเปอร์ ขอชวนทุกคนตาม ‘เลโก้แบ็กแพ็กเกอร์’ ของเล่นตัวจิ๋วที่เดินทางไปยังดินแดนต่างๆ พร้อมกับเจ้าของ ครั้งนี้เขาพร้อมแล้วที่จะพาเราไปนิวซีแลนด์ ประเทศที่มีนกกีวีเป็นสัญลักษณ์ การผจญภัยครั้งใหม่ของเขา จะสนุก ตื่นเต้นขนาดไหน ตามกันมาได้เลย.. เริ่มต้นการเดินทางด้วยการนอน…เก็บแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ สำรวจสวนสาธารณะในออกแลนด์ เตรียมพร้อมสำหรับการล่องเรือ นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตก ในบรรยากาศสุดชิว ถ่ายรูปกับซุ้มประตูหิน Cathedral Cove ล่องเรือหารักแท้ ฮ่าๆ ชมความงามของน้ำตกเมืองวานกาไร แวะร้านค้าในชุมชน ว่ายน้ำในน้ำตก ส่องปลาโลมาในท้องทะเล ชมวิวภูเขาสวยงามสุดลูกหูลูกตา พายเรือในไครสต์เชิร์ช ชมสตรีทอาร์ตเท่ๆ ขับรถเที่ยวในแคนเทอร์เบอรี กิจกรรมล่องแก่งสุดเร้าใจ นอนกางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติ เดินข้ามสะพานสุดหวาดเสียว เก็บทริปนี้ไว้เป็นความทรงจำที่ดี…
-
ประธานาธิบดี ‘มุนแจอิน’ สั่งตรวจสอบคดีคนดัง-ผู้มีอิทธิพลในเกาหลีใต้อย่างละเอียด
การเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่คนดังในประเทศเกาหลีใต้ เริ่มต้นจากคดีทำร้ายร่างกายในคลับ Burning Sun ที่หนุ่มซึงรีเป็นหุ้นส่วน จากนั้นลุกลามมายังการเปิดเผยข้อความในแชทลับ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาบริการประเวณี คลิปอนาจาร รวมถึงการปิดบังความผิดโดยผู้มีอิทธิพล ซึงรี ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีจัดหาบริการประเวณี จองจุนยองผู้เผยแพร่คลิปลับ ย้อนอ่านข่าวเก่าได้ที่ ซึงรี BIGBANG ประกาศลาออกจากวงการหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดี ‘จัดหาบริการค้าประเวณี’ ‘จองจุนยอง’ จำนนต่อหลักฐาน พร้อมยอมรับข้อกล่าวหาและขอยุติผลงานในวงการบันเทิง ประเด็นดังกล่าวทำให้หลายคนออกมาแสดงความต่อต้านการกระทำล่วงละเมิดทางเพศในสังคมเกาหลีใต้อย่างแข็งขัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมีการรื้อคดีในปี 2009 ของ จาจางยอน นักแสดงสาวที่ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองจากถูกการบังคับให้ร่วมกิจกรรมทางเพศกับผู้มีอิทธิพลกว่า 100 ครั้ง ขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้งก่อนหมดอายุความ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2019 ประธานาธิบดี มุนแจอิน ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการให้มีการตรวจสอบคดีของคนดังและผู้มีอิทธิพลในประเทศอย่างละเอียด เพื่อแสดงความรับผิดชอบและคลี่คลายคดีอย่างโปร่งใส ประธานาธิบดีมุนแจอิน กล่าวว่า “หากความจริงถูกละเลย เราจะไม่สามารถเรียกความไว้ใจคืนจากประชาชนได้อีกเลย” “มีการกระทำผิดกฎหมายอย่างการใช้สารเสพติด การล่วงละเมิดทางเพศโดยผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง ผมจึงขอให้รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติตรวจสอบอย่างละเอียด” นอกจากนั้นประธานาธิบดีมุนแจอินยังย้ำอีกว่า “ถ้าเราล้มเหลวในการเปิดเผยความจริงคดีที่ผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง…
-
ความสัมพันธ์ระหว่าง “ดัมเบิลดอร์”และ”กรินเดลวัลด์” ความรักที่เป็นมากกว่าแค่เพื่อนเคยสนิท
ถึงแม้ภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ จะจบไปนานแล้ว แต่ปัจจุบัน เจ.เค. โรว์ลิ่ง ได้ขยายโลกเวทย์มนต์ออกไปอีก จนออกมาเป็นภาพยนตชุดล่าสุดอย่าง Fantastic Beasts : The Crimes of Grindelwald โดยเรื่องราวของภาคนี้จะเน้นไปที่พ่อมดฝ่ายมืดอย่าง กรินเดลวัลด์ ที่ต้องการเข้ามาควบคุมโลกของมักเกิ้ลรวมทั้งโลกของพ่อมดแม่มดทั้งหลาย ซึ่งหากใครได้ดูหนังเรื่องนี้ไปแล้วก็คงจะเข้าใจได้เป็นอย่างดี แต่จะมีใครรู้บ้างว่าเบื้องหลังที่แท้จริงระหว่าง ดัมเบิลดอร์ (อีกหนึ่งตัวละครหลักที่เคยอยู่ในหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์) และกรินเดลวัลด์นั้น พวกเขาทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ซับซ้อน มากเกินกว่าคำว่าเพื่อน… ดัมเบิลดอร์และกรินเดลวัลด์จากภาพยนตร์เรื่อง Fantastic Beasts ในปี 2007 เจ.เค.เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ในงานถาม-ตอบกับแฟนๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ และเผยว่าแท้จริงแล้วศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ของโรงเรียนฮอกวอตส์เป็น “เกย์” ในปีนั้นเป็นปีเดียวกันกับที่เธอได้เผยออกมาอีกว่า เพื่อนชายคนสนิทที่ดัมเบิลดอร์หลงรักมาโดยตลอดตั้งแต่วัยเด็กก็คือกรินเดลวัลด์นั่นเอง “ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่มันรุนแรงเลยทีเดียว มันมีทั้งอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องและที่แน่ๆ มันคือความรัก” เจ.เค.กล่าว ดัมเบิลดอร์และกรินเดลวัลด์ในช่วงที่ทั้งคู่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ความเป็นมาของดัมเบิลดอร์และกรินเดลวัลด์เริ่มต้นในปี 1881 ซึ่งเป็นปีที่ดัมเบิลดอร์เกิด และคาดว่าอายุกรินเดอวัลด์ก็ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ทั้งคู่ไม่ได้เข้าโรงเรียนเดียวกัน ดัมเบิลดอร์เรียนที่ฮอกวอตส์ ส่วนกรินเดลวัลด์เรียนที่โรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ ก่อนจะถูกไล่ออกตอนอายุ 16 ปี กระจกเงาแห่งอาริแซดที่จะสะท้อนภาพของคนที่เรารักหรือสิ่งที่เราอยากได้มากที่สุด ต่อมาในปี 1899 แม่ของดัมเบิลดอร์ได้ถูกฆ่าตายด้วยเวทย์มนต์ เนื่องจากน้องสาวของเขา…
-
หนุ่ม GrabFood โดนยกเลิกออเดอร์จากลูกค้า แต่แทนที่จะทิ้ง นำไปมอบให้กับคุณตาได้ทาน…
ปัจจุบันการให้บริการเดลิเวอรี่ส่งอาหารถึงที่ เกิดขึ้นมากมายหลายเจ้า จนเป็นการแข่งขันการให้บริการดีๆ ส่งมอบให้กับลูกค้า ซึ่งบ่อยครั้งที่เกิดเป็นการยกเลิกออเดอร์สั่งซื้อจากลูกค้า ในขณะที่อาหารพร้อมส่งแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม เมื่อมีการยกเลิกเกิดขึ้น อาหารที่รับมาจะกลายมาเป็นขยะที่ต้องถูกกำจัด ทั้งๆ ที่ยังสามารถรับประทานได้… กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับคุณ Nur Mamat พนักงาน GrabFood จากประเทศสิงคโปร์ โพสต์เรื่องราวภายในกลุ่ม GrabFood Delivery Rider Singapore เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2019 หลังจากที่ลูกค้าใส่ข้อมูลที่อยู่ผิดพลาด ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากตำแหน่งของเขาไกลถึง 15 กิโลเมตร เขาจึงโทรเข้าศูนย์ Grab และทางบริษัทแนะนำให้เขาทิ้งอาหารเหล่านั้นไป เป็นโชคดีของเขา ที่ได้พบกับคุณตาวัย 76 ปีพอดิบพอดี ในย่าน Serangoon Central และเพื่อไม่ให้อาหารเหล่านี้สูญเปล่า เขาจึงตัดสินใจมอบให้กับคุณตาได้รับประทาน . คุณตารู้สึกดีใจมากๆ เพราะดูเหมือนว่าคุณตาไม่ค่อยมีโอกาสได้ทานอาหารเหล่านี้มากเท่าไหร่นัก โดยที่เขาได้รับคำตอบจากคุณตาด้วยใจความประมาณว่า “อาหารดีๆ เยอะเลยนะเนี่ย…
-
อีกระดับของการแพทย์!! หมอจีนใช้สัญญาณ 5G ผ่าตัดสมองคนไข้ที่อยู่ไกลกว่า 3,000 กม. สำเร็จ
เรียกว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีของมนุษย์เรานั้นพัฒนาจากอดีตเป็นอย่างมาก และเทคโนโลยีหลายๆ ก็สามารถอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ได้ในหลายๆ ด้าน ล่าสุดนี้วงการแพทย์จีนก็ก้าวกระโดดขึ้นไปอีกระดับ เมื่อแพทย์จีนสามารถทำการ “ผ่าตัดสมอง” ระยะไกลกว่า 3,000 กิโลเมตร โดยสั่งการหุ่นยนต์ผ่าตัดผ่านเทคโนโลยี 5G วันที่ 18 มีนาคม 2019 สำนักข่าว CGTN ได้รายงานความสำเร็จครั้งใหม่ของวงการแพทย์จีน เมื่อโรงพยาบาล PLA General Hospital ร่วมมือกับเทคโนโลยี 5G ของ Huawei สามารถทำการผ่าตัดระยะไกลได้ โดยในการผ่าตัดครั้งนี้ นายแพทย์ Ling Zhipei หัวหน้าของแพทย์ของโรงพยาบาลไหหลำทางตอนใต้ของประเทศจีนรับผิดชอบผ่าตัดสมองของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกรุงปักกิ่ง การผ่าตัดเริ่มต้นขึ้น ณ 9.00 น. ในวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา นายแพทย์ Ling Zhipei ได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อเริ่มผ่าตัดคนไข้ที่อยู่ห่างจากเขาไปถึง 3,000 กิโลเมตร “ฉันรู้สึกดีมากๆ” คนไข้โรคพาร์กินสันเผยความรู้สึกหลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี โดยใช้เวลาผ่าตัดเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น China's…
-
ยูทูบเบอร์หนุ่มฮ่องกงกลายเป็นไวรัล หลังบันทึกเสียง “เคี้ยวอาหาร” ทำเป็นเสียงเพื่อผ่อนคลาย
#เหมียวโคบี้ เชื่อว่าเสียงเคี้ยวอาหารที่ดัง “แจ๊บๆ ” คงเป็นเสียงที่ทำให้หลายๆ คนรำคาญอย่างแน่นอน แต่คราวนี้มียูทูบเบอร์หนุ่มชาวฮ่องกงคนหนึ่ง ตัดสินใจที่จะเอานำเอาเสียงเคี้ยวอาหารนั้นมาทำเป็น ASMR (Autonomous Sensory Meridian Response) เสียงที่ทำให้ผ่อนคลาย เพื่อช่วยให้คนฟังหลับสบาย ยูทูบเบอร์คนดังกล่าวชื่อว่า Kuok เจ้าของช่องยูทูบ MAR ASMR ช่องที่เปิดขึ้นมาเพื่อนำเสียงเคี้ยวอาหารที่เขาทำการบันทึกมาทำเป็น ASMR “ผมลองค้นหาเกี่ยวกับ ASMR ในฮ่องกงบนยูทูบก่อนหน้านี้ แต่ผมก็เจอไม่กี่คนที่ทำ ASMR ซึ่งกระแสของ ASMR นี้มันยากมากที่เราจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด” Kuok กล่าว ก่อนหน้าที่เขาจะเริ่มเปิดช่องยูทูบดังกล่าว Kuok เผยว่าเขามักจะเปิดวิดีโอ ASMR ของคนอื่นๆ ดูช่วงค่ำๆ ก่อนเข้านอนอยู่เป็นประจำ และเผยอีกว่ามันช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมากจากได้ฟังคลิปเหล่านั้น ในวิดีโอ Kuok ได้อธิบายว่าเขาใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวันในการทำอาหารและนำอาหารมาทานต่อหน้ากล้องพร้อมบันทึกวิดีโอและอัปโหลดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย เขาเผยต่อว่า “ฮ่องกงนั้นค่อนข้างที่จะเสียงดังวุ่นวาย ปกติผมก็เลยจะถ่ายวิดีโอในช่วง 14.00-15.00 น.…
-
พบ “ซากวาฬ” ที่ฟิลิปปินส์ มี “พลาสติก” ในท้องถึง 40 กิโล มากสุดที่นักวิทย์ฯ เคยเจอ
ประเทศฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่แหล่งน้ำต่างๆ มีสารปนเปื้อนมากที่สุดในโลก และผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่า ฟิลิปปินส์เป็นอีกประเทศ (ร่วมกับไทยและเวียดนาม) ที่ขยะพลาสติกกว่า 60 เปอร์เซ็นต์(จากขยะพลาสติกทั้งหมด)ไหลลงสู่ท้องทะเล และล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ก็ได้พบซาก วาฬคูเวียร์ ที่หมู่เกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2019 ส่วนสาเหตุการตายของมันนั้น นักชีววิทยากล่าวว่ามาจากการที่วาฬตัวนี้กลืนขยะพลาสติก เข้าไปเป็นจำนวนมาก ทำให้มันขาดสารอาหารและเกิดภาวะขาดน้ำในที่สุด ภาพของวาฬสายพันธุ์ Cuvier’s beaked ที่เจอในอ่าวบิสเคย์ มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ หลังพบซากของมัน นักชีววิทยาได้ผ่าท้องของมันเพื่อตรวจหาสาเหตุการตาย พวกเขาจึงพบว่ากระเพาะของวาฬมีขยะพลาสติกจำนวนมากถึง 40 กิโลกรัม ภายในท้องของมันมีทั้งถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้า, ถุงพลาสติกในการทำเกษตรกรรม และกระสอบข้าวจำนวน 16 ถุง ***คำเตือน*** มีภาพชำแหละท้องวาฬ Darrell Blatchley ผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์กระดูกสัตว์ทะเล ดึงซากพลาสติกออกจากท้องของวาฬ Darrell Blatchley ผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์ D’Bone ในฟิลิปปินส์ พบว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เขาเจอซากวาฬและโลมาราว 61 ซากในลักษณะเดียวกัน แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นกรณีที่หนักสุดเท่าที่เคยเจอมาเลย โดยพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวได้โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊ก (ปัจจุบันลบโพสต์ทิ้งแล้ว)…
-
มูลนิธิสิ่งแวดล้อมเผย “บริษัท Coca-Cola” ใช้พลาสติกในการทำบรรจุภัณฑ์ถึง 3 ล้านตันต่อปี!
ในขณะที่ทุกฝ่ายต่างตื่นตัวและพยายามเข้าใจถึงสภาพปัญหาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น แต่ทางฝั่งของบริษัทชั้นนำต่างๆ ยังคงใช้พลาสติกในการทำบรรจุภัณฑ์ต่างๆ มาเรื่อยๆ หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเครื่องดื่มอย่าง Coca-Cola หรือโค้ก เพิ่งจะได้รับการเปิดเผยจำนวนการใช้พลาสติกสำหรับทำบรรจุภัณฑ์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่าเป็นจำนวนมากถึง 3,000,000 ตันต่อปี ชุดข้อมูลดังกล่าวถูกเก็บและรายงานโดยมูลนิธิ Ellen MacArthur นักรณรงค์ผู้คอยผลักดันให้บริษัทใหญ่และรัฐบาล หันมาใส่ใจในเรื่องของมลพิษจากพลาสติกมากขึ้น สำหรับจำนวนตัวเลขดังกล่าวนี้ ในอดีตที่ผ่านมาทางบริษัทไม่ยอมเปิดเผยออกมา อย่างไรก็ตามจำนวนตัวเลขนี้เป็นจำนวนของพลาสติกที่ใช้ในปี 2017 แต่ไม่ได้ระบุจำนวนแยกประเภทบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตออกมา หากนำมาแยกตามสัดส่วนของบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัท ในจำนวน 3 ล้านตัน จะสามารถผลิตขวดพลาสติก PET ขนาด 500ml ได้ 108 พันล้านขวดต่อปี ซึ่งรวมอยู่ในตลาดเครื่องดื่มกว่า 500 แบรนด์ของบริษัทโค้ก กราฟแสดงจำนวนพลาสติก ที่ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ของบริษัทใหญ่ นอกจากนี้ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่กว่าอีก 30 ราย เช่น Mars, Nestlé, Danone, Colgate, Unilever ที่ออกมาเปิดเผยถึงจำนวนพลาสติกในการทำบรรจุภัณฑ์ รายชื่อบริษัทที่เข้าร่วมรณรงค์ปัญหาขยะพลาสติก…
-
เด็กชายขอของขวัญวันเกิด เป็นช่อดอกไม้แทนคอมฯ เพื่อร่วมไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิง
เหตุการณ์กราดยิงเมื่อวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2019 ภายในมัสยิด เมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ สร้างความหวาดผวาให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามความรักภายในสังคม ยังคงยึดเหนี่ยวพวกเขาเอาไว้อย่างหนักแน่น หลังจากเกิดเหตุสลดไปแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติผู้เสียชีวิต ก็ยังคงมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมาย เมื่อประชาชนต่างเข้ามาร่วมแสดงความเสียใจ และวางดอกไม้ไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมจากบริเวณหน้ามัสยิดที่เกิดเหตุทั้งสองแห่ง . และในอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกของ Darsh หนุ่มน้อยวัย 9 ขวบ ผู้เป็นลูกชายของนาย Samuel Sen ที่เพิ่งจะถึงวันครบรอบวันเกิดพอดิบพอดี และเขามีโอกาสจะขอของขวัญ ที่เฝ้าฝันอยากได้มานานอย่างคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป แต่ลูกชายกลับทำให้คุณพ่อรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก กับการแสดงออกของลูกชายคนนี้ เพราะหลังจากเกิดเหตุสลดขึ้นภายในนิวซีแลนด์ Darsh บอกกับคุณพ่อว่า อยากได้ของขวัญเป็นช่อดอกไม้แทน เพื่อนำไปวางไว้บริเวณหน้ามัสยิดที่เกิดเหตุ ร่วมไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ อีกทั้งลูกชายยังบอกด้วยว่า น่าจะนำเงินที่ไปซื้อแล็ปท็อปมาบริจาคช่วยเหลือให้กับผู้ที่ประสบความยากลำบากในเมือง Christchurch เพราะตอนนี้ใช้เครื่องเก่าของคุณพ่อทดแทนกันได้ . ที่มา: @master.sens,…
-
ชมความตระการตาของ “Vessel” แลนด์มาร์กแห่งใหม่ในนิวยอร์ก ด้วยทุนสร้าง 80,000 ล้าน!!
เปิดตัวไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยกับสถาปัตยกรรมสุดอลังการแห่งใหม่ The Vessel เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2019 และกลายเป็นแลนด์มาร์กล่าสุดของมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ไปในทันที โดย Vessel ตั้งอยู่ใจกลางเขต Hudson Yards บนเกาะแมนฮัตตัน ท่ามกลางตึกสูงอื่นๆ และมันเป็นหนึ่งใน“อาคารอเนกประสงค์” ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมนี้คือ Thomas Heatherwick สถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ ภายใต้คอนเซปต์ “Indian stepwells” โฉมหน้าของตึก Vessel ที่นิวยอร์ก อาคาร Vessel แห่งนี้มีจุดประสงค์ขึ้นก็เพื่อรองรับพื้นในการใช้ประโยชน์สาธารณะและเป็นอาคารช็อปปิ้งมอลล์ที่มีขนาดพื้นที่มากถึง 66,890 ตารางเมตร รวมทั้งเป็นอาคารสูงขนาด 7 ชั้น ความสูงรวม 45 เมตร ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงแค่ตึกที่มีการใช้งานที่ดูแปลกตา แต่มันยังมีไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาพบปะกันและที่สำคัญคือมันถูกสร้างมาเพื่อชาวนิวยอร์กโดยเฉพาะ “ผมอยากให้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เข้ามาใช้อาคารนี้และรู้สึกว่ามันเองก็เป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา” Stephen Ross หนึ่งในทีมนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กล่าว Vessel ได้แรงบันดาลใจมาจากขั้นบันไดของสถาปัตยกรรมจากประเทศอินเดีย หรือที่เรียกกันว่า “Indian stepwells” ประกอบด้วยขั้นบันไดทั้งหมดจำนวน 2,500 ขั้นและชานพักจำนวน 80 ชุด…
-
อัพเดทเทรนด์ #Trashtag ชาเลนจ์เก็บขยะเปลี่ยนโลก การกระทำดีๆ ที่ส่งต่อกันได้ เพื่อโลกของเรา
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เกิดเป็นกระแสของการถ่ายภาพเปรียบเทียบก่อนและหลัง ของสถานที่ที่เต็มไปด้วยขยะเกลื่อนกลาด แต่พอภายหลังจากตั้งใจเก็บทำความสะอาดให้เรียบร้อย ก็เผยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงง่ายๆ ที่สามารถลงมือได้ด้วยตัวเราเอง ข่าวเก่า: #ChallengeForChange ท้าทุกคนสร้างการเปลี่ยนแปลง ให้โลกน่าอยู่ขึ้นได้ด้วยมือตัวเอง อีกทั้งยังช่วยให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นมากกว่าเดิม จนกลายเป็นที่มาของ #ChallengeForChange ชาเลนจ์ที่จะส่งต่อให้ใครก็ตาม ท้าอาสาให้ไปเก็บขยะ และเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยสองมือของเราเอง เปลี่ยนชายหาดให้กลับมาน่าเดินอีกครั้ง ทว่าการส่งต่อชาเลนจ์ดูเหมือนจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ เพราะยังมี #Trashtag ขึ้นมาอีก เป็นการท้าส่งต่อทางด้านบวก ให้ผู้คนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ที่สกปรกและเต็มไปด้วยขยะ พกถุงมือกับถุงดำไปเก็บกวาดให้เรียบร้อย สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทั้งตัวเองและชุมชน สร้างสังคมให้ปลอดขยะและมีกำลังใจในการช่วยเหลือกันต่อไป เก็บคนเดียว ใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียว ได้กองขยะ 260 กิโลกรัม! . ในถุงพลาสติกใสนั้น บรรจุไปด้วยก้นบุหรี่จำนวน 8,000 มวน จะคนเดียวหรือเป็นกลุ่มก็ได้ . . ช่วยกันคนละนิดละหน่อย ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากสองมือของเราเอง จากพื้นที่รกร้าง ดูสะอาดตามากขึ้น…
-
วิศวกรกูเกิลสร้างสถิติโลก ‘คำนวณค่าพาย’ ออกมาได้ 31.4 ล้านล้านหลัก ใช้เวลาทั้งหมด 121 วัน!
เป็นที่ทราบกันดีว่า ค่าพาย (π) เป็นค่าคงตัวทางคณิตศาสตร์ที่มีความสำคัญ และถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั้งในวงวิชาการทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ อย่างเช่นเส้นรอบวง พื้นที่วงกลม หรือปริมาตรทรงกลม ความมหัศจรรย์ของค่าพายนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจำนวนสิ้นสุดของมันอยู่ตรงไหน โดยค่าของพายจะอยู่ที่ 22/7 หรือ 3.14 เกิดจากการนำความยาวของเส้นรอบวง หารด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลม และจะกลายเป็นค่าตัวเลขที่ยาวไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่มีชุดตัวเลขใดที่ซ้ำกันเลย สถิติเก่าที่สามารถถอดออกมาได้ 22.4 ล้านล้านหลักของนาย Peter Trueb โดยที่ผ่านมา มีผู้พยายามทำการคำนวณจำนวนค่าพายไว้ได้มากที่สุดในปี 2016 นั่นก็คือนาย Peter Trueb ด้วยจำนวน 22.4 ล้านล้าน แต่ทว่าสถิติของเขาก็ถูกทำลายลงด้วยฝีมือของวิศวกรชาวญี่ปุ่น Emma Haruka Iwao Emma Haruka Iwao Emma Haruka Iwao วิศวกรชาวญี่ปุ่นจากบริษัทกูเกิล ใช้ระบบคลาวด์ของบริษัทช่วยในการคำนวณถอดค่าพายออกมา โดยใช้เวลาในการคำนวณทั้งหมด 121 วัน ใช้เวลาตรวจสอบอีก 20…
-
คุณปู่มาสเตอร์เทรนเนอร์ จัดหนักชุดใหญ่ อัปเกรดแผงเป็น 21 เครื่อง ถูกใจบริษัทใหญ่สปอนเซอร์ให้ฟรีๆ!
หากใครยังจำกันได้ กับบุคคลผู้มากความสามารถในการเล่น Pokémon Go ด้วยจำนวนเครื่องที่มากถึงหลักสิบเครื่องในเวลาเดียวกัน แถมยังติดตั้งไว้กับจักรยานเพื่อสามารถออกไปตามล่าโปเกม่อนได้อย่างรวดเร็ว Chen San Yuan คือชื่อของคุณปู่ชาวไต้หวันผู้สร้างตำนานคนนี้ โดยในปีที่ผ่านมาคุณปู่แกใช้สมาร์ทโฟนในการเล่นพร้อมกัน 11 เครื่อง แต่ทว่าในปีนี้แกก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะว่าได้รับสปอนเซอร์จากบริษัทอุปกรณ์เทคโนโลยีรายใหญ่กันเลยทีเดียว ข่าวเก่า: ตำนานเดินได้!! คุณปู่วัย 70 ปีปั่นจักรยานพร้อมกับมือถือ 11 เครื่องเพื่อเล่น Pokemon Go! ด้วยความศรัทธาที่คุณปู่มีต่อตัวเกมไม่เสื่อมคลาย แกยังคงไล่ตามจับโปเกม่อนอย่างขยันขันแข็ง ไล่ตียิมนู้นยิมนี้อย่างไม่หยุดยั้ง… และด้วยทักษะความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหลายเครื่องพร้อมกัน ก็เลยไปเข้าตาของบริษัทใหญ่อย่าง ASUS ที่ทั้งปลื้มและทึ่งในความสุดยอดของคุณปู่ ตอนนี้มี 21 เครื่อง!! จากเดิมที่มีเพียง 11 เครื่อง บริษัทดังกล่าวถูกใจคุณปู่มาก จึงเสนอเป็นสปอนเซอร์อุปกรณ์สมาร์ทโฟนสำหรับมาสเตอร์เทรนเนอร์ เปลี่ยนให้ฟรีแบบยกแผงเป็นรุ่น ZenFone Max Pro (M2) ทั้งหมด 21 เครื่อง!! และในการออกตามล่าโปเกม่อนของคุณปู่ แกจะต้องพกแบตฯ…
-
นักวิจัยค้นพบความเป็นไปได้ว่า สารใน ‘เมล็ดกาแฟ’ ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ การดื่มกาแฟ กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของหลายคนไปแล้ว ในเมล็ดกาแฟมีคุณสมบัติมากมาย นอกจาก ‘คาเฟอีน’ ที่ช่วยแก้ง่วงและทำให้รู้สึกตื่นตัวแล้ว กาแฟยังมีสารที่ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย นักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นได้นำ Kahweol acetate และ cafestol สารสองชนิดที่พบในเมล็ดกาแฟมาทดลองใช้แทนยาที่ใช้ยับยั้งเซลล์ผิดปกติ ผลการศึกษาพบว่ายืนยันแล้วว่าสารประกอบในเมล็ดกาแฟช่วยต้านมะเร็งต่อมลูกหมากได้จริง โดย Hiroaki Iwamoto หัวหน้านักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Kanazawa University ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเราค้นพบว่า Kahweol acetate และ cafestol ช่วยต่อต้านเซลล์ที่ผิดปกติหรือเซลล์มะเร็งได้ จากการทดลองใช้เวลา 11 วัน เซลล์ผิดปกติลุกลามขึ้นกว่า 347 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สารดังกล่าวสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งให้เหลือเพียง 167 เปอร์เซ็นต์” อย่างไรก็ตาม Iwamoto เผยว่าการทดลองดังกล่าวเป็นเพียงความไปได้ทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องทำการศึกษาเพิ่มเติม และยังไม่มีการทดสอบกับมนุษย์ Atsushi Mizokami หนึ่งในทีมวิจัยเสริมว่า “กาแฟให้ทั้งประโยชน์และโทษที่เราต้องศึกษาอีกมากมายก่อนที่จะใช้มันทางการแพทย์ แต่เรายืนยันความเป็นไปได้ในการใช้สารประกอบในเมล็ดกาแฟเพื่อยับยั้งเซลล์มะเร็ง” ที่มา: independent, eurekalert
-
สาวผู้ป่วยมะเร็งแต่งตัวเป็นตัวละครต่างๆ สร้างกำลังใจให้ ‘เพื่อนผู้ป่วย’ ผ่านวันเลวร้ายไปด้วยกัน
ในบางครั้งเหตุการณ์ร้ายๆ ก็เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว จนทำให้หลายคนถึงกับหมดกำลังใจในการใช้ชีวิต ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนนี้ Beth Bagwell Pendergrass กำลังไปได้สวย หากแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2018 เธอกลับพบว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน Beth พยายามต่อสู้กับโรคร้ายด้วยการมองโลกในแง่ดี เธอเล่าว่า เธอได้อ่านงานวิจัยที่แนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งเขียนบันทึกประจำวัน แต่เธออยากสร้างความแตกต่างด้วยการบันทึกการเดินทาง และประสบการณ์ที่ท้าย เธอจงได้สร้างบัญชีอินสตาแกรมขึ้นมาเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในชีวิตของเธอ ตั้งแต่การตรวจพบโรคมะเร็งจนถึงตอนที่เธอเข้ารักษา Beth ได้สร้างสีสันในบันทึกการเดินทางของเธอด้วยการสวมชุดเป็นตามคาแรคเตอร์ต่างๆ ทั้งนี้เพื่อสร้างเสียงหัวเราและเป็นกำลังให้เพื่อนผู้ป่วยคนอื่นๆ ให้ผ่านคืนวันอันเลวร้ายไปพร้อมๆ กัน มาดูกันว่าจะเธอแต่งตัวเป็นใครกันบ้าง.. Maria จากเรื่อง The Sound of Music Charlie Chaplin David Bowie Marilyn Monroe Marge Simpson Miss Piggy Mrs. Doubtfire Buddy จากเรื่อง Elf…
-
มหาวิทยาลัยในจีนใช้ ‘ระบบ AI’ ในการเช็คชื่อเข้าเรียนและติดตามนักศึกษา
ประเทศจีนเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีความก้าวล้ำด้านเทคโนโลยีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ปัจจุบันจีนได้นำระบบ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ (Artificial Intelligence: AI) มาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ มหาวิทยาลัยในประเทศจีนได้นำระบบ AI มาใช้ในการเช็คชื่อเข้าเรียน เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐานสำหรับอาจารย์และนักศึกษา มหาวิทยาลัย Hangzhou Dianzi ในหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ได้พัฒนาระบบเช็คชื่อแบบใหม่ขึ้นมา ซึ่งนักศึกษาสามารถลงชื่อเข้าเรียนโดยใช้รหัสยืนยันจากโทรศัพท์ ระบบจะคอยแจ้งเตือนการขาด ลา มาสายของนักศึกษา โดยนักศึกษาที่ขาดเรียนจะได้รับข้อความเสียงแจ้งเตือนอัตโนมัติ ทุกการตอบกลับของนักศึกษาจะถูกบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อแจ้งกับอาจารย์ Hu Haibin ผู้รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยเผยว่า “ก่อนหน้านี้อาจารย์ใช้เวลา 7-8 นาทีในการเช็คชื่อนักศึกษา แต่หลังจากระบบใหม่มาใช้สามารถลดระยะเวลาให้เหลือเพียง 15 วินาที” กระแสตอบรับจากนักศึกษาส่วนใหญ่เป็นไปทางบวก แถมมีผู้เข้าเรียนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับภาคการศึกษาก่อน Hu ยังบอกอีกว่าระบบดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการบันทึกข้อมูลการเข้าเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นการติดตามนักศึกษาอีกด้วย การเช็คชื่อด้วยระบบ AI ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีได้อย่างชาญฉลาด สร้างความรวดเร็วสะดวกสบายให้กับอาจารย์และนักศึกษา ที่มา: scmp
-
ไขข้อสงสัย ทำไมคนญี่ปุ่นถึงยึดติดกับคำว่า ‘ตรงต่อเวลา’ ผ่านบทสัมภาษณ์คนต่างวัย
‘ความตรงต่อเวลา’ ถือเป็นมารยาทพื้นฐานที่ทุกคนพึงมี ตั้งแต่เล็กจนโตเราจึงถูกปลูกฝังให้เผื่อเวลาในการนัดหมาย เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ในประเทศญี่ปุ่นความตรงต่อเวลาเป็นสิ่งที่คนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เราจึงไม่แปลกใจเลยที่หลายคนแสดงความประทับใจในบริการขนส่งสาธารณะ อย่างระบบรถไฟในประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความตรงต่อเวลา หลายคนอาจจะเกิดคำถามที่ว่า ทำไมคนญี่ปุ่นถึงยึดติดกับความตรงต่อเวลา? เวลามีความสำคัญขนาดไหนในสังคมญี่ปุ่น? วันนี้เราจะไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน “พ่อแม่ของฉันสอนอยู่เสมอว่าอย่าไปสาย และคิดเสมอว่าคนอื่นจะเดือดร้อนหากเรามีความไม่ตรงต่อเวลา” Issei Izawa นักศึกษาวัย 19 ปีกล่าว Kanako Hosomura แม่บ้านวัย 35 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันพยายามไปก่อนนัดอยู่เสมอ ฉันรู้สึกดีที่ได้รอคนอื่นมากกว่าให้คนอื่นมารอฉัน” คนญี่ปุ่นถูกปลูกฝังให้มีความตรงต่อเวลาตั้งแต่เด็กจนโต จนบางคนมองว่าพวกเขาเคร่งเครียดกับเวลาเกินไป แต่แท้จริงแล้วความล่าช้าอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ต่อระบบเศรษฐกิจและบ้านเมือง ‘เวลาคือเงิน’ เป็นประโยคที่คนญี่ปุ่นตระหนักถึงมาโดยตลอด ในสมัยก่อนเวลามีความสำคัญถึงขั้นที่ว่ามีโปสเตอร์แนะนำวิธีจัดทรงผมของผู้หญิงภายใน 5 นาที จากเวลา 55 นาที นอกจากนั้นความตรงต่อเวลายังเป็นสิ่งที่หลายบริษัทยึดมั่น Makato Watanabe ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Hokkaido Bunkyo และอดีตผู้บัญญัติกฎหมายได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ความตรงต่อเวลามีผลต่อความสามารถในการทำงานของบริษัท ถ้าคุณมาสายบริษัทก็จะเกิดความเสียหาย” ทั้งหมดนี้คือความเห็นของคนในสังคมญี่ปุ่นที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความตรงต่อเวลาที่พวกเขาถูกฝังมาตั้งแต่อดีต จนกลายเป็นวัฒนธรรมอันน่าเคารพในปัจจุบัน…
-
เด็กจีนเริ่มเรียน ‘Coding’ ภาษาแห่งอนาคต เตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุค AI
ประเทศจีนถือเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งปัจจุบันมีการนำระบบ Artificial Intelligence (AI) มาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานและการใช้ชีวิต เราจึงไม่แปลกใจเลยที่คนรุ่นใหม่จะหันมาใส่ใจกับวิทยาการคอมพิวเตอร์เหล่านี้มากขึ้น ในประเทศจีนพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนมีความกระตือรือร้นที่จะส่งลูกหลานไปเรียนพิเศษเพิ่มพูนทักษะเพื่ออนาคต จากเดิมที่พ่อแม่ของเด็กส่วนใหญ่จะส่งลูกหลานไปเรียนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ หรือดนตรีทุกวันนี้เด็กๆ ต้องเรียนวิชา Coding หรือภาษาคอมพิวเตอร์เพิ่มเติมด้วย Li Yu นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์กล่าวว่า “Coding เป็นทักษะจำเป็นที่คนรุ่นใหม่ต้องใช้ในยุคของ AI เพื่อไม่ให้หุ่นยนต์เข้ามาแทนที่ในการทำงาน” นอกจากนั้นเธอยังเล่าว่า เธอได้ส่ง Chen Tian ลูกชายวัย 4 ขวบของเธอไปเรียนพิเศษวิชา Coding ทุกสัปดาห์ เพื่อที่จะทำให้เขาเห็นว่าเทคโนโลยีก้าวล้ำไปขนาดไหนแล้ว ภาษาคอมพิวเตอร์มีความจำเป็นต่อการสร้างโปรแกรมซอฟต์แวร์ สร้างเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน การเรียนวิชา Coding จึงถือเป็นสิ่งสำคัญและมีผลต่อความก้าวหน้าของประเทศจีนในอนาคต เรียกได้ว่าเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในประเทศจีนเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมและมัธยม เพื่อสร้างพื้นฐานให้กับประชากรในยุคสมัยใหม่นี้ ที่มา: scmp
-
คุณแม่เท็กซัสสุดมหัศจรรย์ คลอดลูกแฝด 6 ภายใน 9 นาที โอกาสเกิดแค่ 1 ใน 4.7 พันล้าน!!
เราคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าการที่คุณแม่หนึ่งคนจะทำการคลอดลูกแต่ละครั้งนั้นสุดแสนลำบาก รวมถึงยังต้องแบกรับกับความเจ็บปวดช่วงคลอดอย่างมาก จนบางทีก็มีคุณแม่บางคนที่เสียชีวิตในขณะที่กำลังทำการคลอดลูกอยู่เช่นกัน แต่วันนี้การคลอดลูกตามปกตินั้นจะดูธรรมดาไปเลย เมื่อเพื่อนๆ ได้ชมกับเรื่องของ “คุณแม่แฝด 6” ที่เราจะนำมาให้ได้ชมกัน เมื่อเธอสามารถคลอดลูกแฝด 6 คนได้อย่างชิลๆ ภายในเวลา 9 นาทีเท่านั้น!! วันที่ 17 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ Mirror ได้ทำการรายงานข่าวของ Thelma Chiaka คุณแม่คนดังกล่าวได้ให้กำเนิดลูกน้อยแฝด 6 ณ โรงพยาบาลสตรีเท็กซัสในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งไปกว่านั้นก็คือ คุณแม่ใช้เวลาคลอดเพียง 9 นาทีจาก 4.50 น. ถึง 4.59 น. ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการคลอดลูกแฝด 6 ที่น่าอัศจรรย์ที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1 ใน 4.7 พันล้านครั้งเท่านั้น!! โรงพยาบาลสตรีเท็กซัส เด็กที่ Thelma คลอดออกมานั้นเป็นแฝดชาย 2 คู่และแฝดหญิงอีก…
-
ผลพิสูจน์ DNA ชี้ ฆาตกรต่อเนื่อง “Jack the Ripper” แท้จริงแล้วเป็นช่างตัดผม
เชื่อว่าด้วยความโด่งดังในสื่อ ในปัจจุบันคงจะไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของฆาตกรรมต่อเนื่องนาม “Jack the Ripper” อีกต่อไปแล้ว เพราะผลงานการเชือดหญิงสาวในกรุงลอนดอน เมื่อช่วงปี 1888 ของเขานั้น เรียกได้ว่าเป็นคดีที่น่าหวาดผวาที่สุดคดีหนึ่งของอังกฤษมาเป็นเวลากว่าร้อยปีเลย แน่นอนว่าคดีลึกลับที่ไขไม่ออกเช่นนี้ย่อมกลายเป็นคดีที่มีคนออกมาตั้งทฤษฎีเพื่อทำการอธิบายมากมาย ทั้งในทางประวัติศาสตร์ และทฤษฎีสมคบคิด โดยที่ผ่านมาก็มีข้อสันนิษฐานที่น่าสนใจออกมามากมาย ทั้งที่บอกว่าคนร้ายเป็นศัลยแพทย์ คนขายเนื้อ หรือแม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกันเอง แต่แล้วเมื่อล่าสุดนี้เองเหล่านักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Liverpool John Moore ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าพวกเขานั้นอาจจะทราบตัวจริงของ Jack the Ripper แล้ว อ้างอิงจากผลตรวจผ้าคลุมเปื้อนเลือด หนึ่งในหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ผ้าเปื้อนเลือดชิ้นนี้นั้นถูกประมูลไว้โดยนักธุรกิจชื่อ Russell Edwards ในปี 2007 ก่อนที่เขาจะเก็บมันไว้ช่วงเวลาหนึ่งและติดต่อนักวิทยาศาสตร์ให้มาตรวจสอบผ้าชิ้นดังกล่าวในภายหลัง โดยจากการตรวจสอบ DNA บนผ้าโดยละเอียดนักวิทยาศาสตร์ก็พบกับเรื่องที่น่าสนใจเข้า เพราะนอกจากผ้าผืนนี้จะมี DNA ของ Catherine Eddowes หนึ่งในเหยื่อของ Jack แล้ว มันยังมี DNA ของคนอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย คนอีกคนที่ว่านั้นคือ Aaron Kosminski ช่างตัดผมชาวโปแลนด์ที่ในเวลานั้นกำลังอายุได้ 23…
-
สาวลืมตัวว่า “ยัดนักเก็ตใส่นม” เข้าไปในงานปาร์ตี้ หนุ่มดึงเสื้อในออก ไก่เลยร่วงกราว!!
เรื่องในครั้งนี้เกิดขึ้นกับสาวชาวอังกฤษนามว่า Anouska Moss เธอได้แชร์เรื่องราวอันสุดฮาและน่าอับอายในเวลาเดียวกันลงบนบัญชีทวิตเตอร์ @anouskamoss_ เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่เธอดันลืมตัวว่านำ “นักเก็ตไก่ยัดใส่หน้าอก” ไว้เพื่อจะแอบนำเข้าไปในงานปาร์ตี้กับเพื่อนสาว จนกระทั่งขากลับ เธอก็ได้หิ้วชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งกลับบ้านมาด้วย (น่าจะรู้กันว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น) โดยเขาได้แกะเสื้อในของเธอออกและความจริงก็ถูกเปิดเผย… รูปร่างหน้าตาของนักเก็ตที่เธอยัดใส่นมไว้… สาว Anouska เล่าว่าเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2019 เธอเตรียมตัวไปงานปาร์ตี้กับเพื่อนสาวหลายคน และระหว่างที่จะออกจากบ้านเธอได้ยัดนักเก็ตไก่ที่สั่งจากแมคโดนัลด์เข้าไปหลายกำมือ!! “สิ่งที่น่าอายที่สุด คือการที่ฉันพยายามจะแอบเอานักเก็ตไก่เข้าไปในไนท์คลับเนี่ยแหละ” Anouska กล่าวโดยไม่ได้ให้เหตุผลว่ายัดลงไปทำไม… แม่สาว Anouska เจ้าของเรื่อง Tell me a story pic.twitter.com/8JhvTtL1zR — Hun (@anouskamoss_) March 10, 2019 หลังจากงานปาร์ตี้ได้จบลง เธอได้สอยหนุ่มคนหนึ่งที่งานนั้นกลับบ้านไปด้วย โดยลืมไปเลยว่าตรงหน้าอกของเธอนั้นเต็มไปด้วยนักเก็ตไก่หลายชิ้น ทุกอย่างดูจะไปได้สวยและบรรยากาศก็ดูสุดแสนจะเป็นใจ พวกเขาเริ่มต้นคลอเคลียกัน จนกระทั่งชายหนุ่มได้ปลดบราของเธอออก… “คืนนั้นฉันพาหนุ่มคนหนึ่งกลับมาที่บ้านด้วย และเขาก็ปลดบราของฉันออก คุณนึกออกใช่มั้ยว่าหลังจากนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น… นักเก็ตไก่ตรงนมของฉันร่วงลงมาเต็มไปหมด!!” 👋 pic.twitter.com/2eeN46fGhH — Hun (@anouskamoss_) January…
-
แก๊งไบค์เกอร์ชาวเมารี เต้น ‘ฮากา’ ส่งพลังร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์กราดยิง Christchurch
ท่ามกลางความสูญเสียจากเหตุการณ์กราดยิงชาวมุสลิมภายในมัสยิดของเมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ จนกลายเป็นประเด็นข่าวไปทั่วโลก สร้างความหวาดผวาให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก แต่ไม่อาจสั่นคลอนความเป็นเพื่อนมนุษย์ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนาได้ ภายหลังจากที่เหตุการณ์อันเลวร้ายผ่านพ้นไปแล้ว หนึ่งในสมาชิกกลุ่มแก๊งไบค์เกอร์และเป็นชาวเมารีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ มารวมตัวเพื่อร่วมแสดงการเต้น ‘ฮากา’ ไว้อาลัยให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ท่ามกลางการขุดหลุมฝังศพโดยญาติผู้เสียชีวิต ก่อนจะจากกันเป็นครั้งสุดท้าย กลุ่มไบค์เกอร์ Black Power ประมาณหลักสิบคน มารวมตัวกัน ณ บริเวณมัสยิด Al Noor ในเมือง Christchurch โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำการเต้นประกอบพิธีดังกล่าว การเต้นฮากาของพวกเขารายล้อมไปด้วยญาติผู้เสียชีวิตและผู้เข้าร่วมไว้อาลัย จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่สร้างบาดแผลและความเจ็บปวด อาจจะกล่าวได้ว่าการมารวมตัวเต้นฮากานั้น ก็เพื่อเป็นการให้เกียรติและแสดงความเคารพเป็นครั้งสุดท้าย ทางด้านตัวแทนแก๊งไบค์เกอร์ เปิดเผยว่า ไม่มีคำพูดใดๆ ที่จะสามารถอธิบายความรู้สึกเจ็บปวดของผู้คนที่ต้องแบกรับเอาไว้ “แม้ว่าผู้คนจะเรียกเราเป็นกลุ่มแก๊งหรืออะไรก็ตาม พวกเราอยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน และพวกเราจะต้องรวมตัวกันให้หนักแน่นเป็นปึกแผ่น ไม่สำคัญว่าคุณจะใส่เสื้อผ้าแบบไหน มีผิวสีอะไร เชื่อมั่นในสิ่งใด นับถือศาสนาไหน สิ่งเหล่านี้หลอมรวมพวกเราให้กลายเป็นเหมือนปรากฏการณ์แผ่นดินไหว” คลิปการเต้นฮากาจากกลุ่มไบค์เกอร์ Black Power นอกจากนี้แล้ว…
-
เด็ก 2 ขวบรอดชีวิตจากเหตุกราดยิงได้ หลังคุณพ่อใช้ร่างกายบังลูกกระสุนแทนลูก
ในวันที่ 15 มีนาคม 2019 ที่เพิ่งผ่านมา ได้มีเหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อมีหนุ่มคนหนึ่งถือปืนเข้าไปกราดยิงคนในมัสยิดของเมืองไคลสต์เชิร์ช มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย หนึ่งในนั้นก็คือ Averroes Syah เด็กน้อยวัย 2 ขวบที่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ เพราะได้ Zulfirman Syah คุณพ่อของเขาเอาร่างบังเอาไว้ระหว่างเหตุกราดยิงนั่นเอง ในวันนั้นเป็นวันที่คุณพ่อพาลูกชายของตัวเองไปสวดภาวนา ณ มัสยิด Linwood ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่ Brenton Tarrant มือปืนจะเข้าสาดกระสุน ด้วยความรักที่คุณพ่อมีต่อลูก Zulfirman ตัดสินใจใช้ร่างของตัวเองบังลูกน้อยเอาไว้ แม้จะถูกยิงหลายครั้งก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถปกป้องลูกชายเอาไว้ได้ แต่ถึงจะปกติป้องลูกชายไว้ได้ก็จริง แต่ลูกชายก็ยังได้รับบาดเจ็บที่หลังและขา ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว “สามีของฉัน Zulfirman Syah กับลูกชาย ยังมีชีวิตอยู่ แต่บาดเจ็บทั้งคู่จากเหตุกราดยิงในประเทศนิวซีแลนด์ (ซึ่งเราย้ายมาอยู่เมื่อ 2 เดือนก่อน) สามีของฉันถูกยิงหลายแห่งและมีกระสุนทะลุเข้าปอด (จากที่ฉันได้ยิน) แม้ฉันไม่ได้เจอเขาเลยตั้งแต่เขาต้องเข้ารับการผ่าตัด ฉันเพิ่งได้พบกับลูกชาย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่หลังและขา อาการของเขาสาหัสมาก แต่พวกเราทั้งหมดก็ยังมีชีวิตอยู่ ขอบคุณที่คอยสวดภาวนาและส่งข้อความแสดงความเป็นห่วงมาหาเรา” Alta Marie ฝ่ายภรรยากล่าว ที่มา Unilad,…
-
เมื่อรัฐบาลฮังการี จับ “มีม” ชื่อดังในเน็ต มาเป็นนโยบาย “ส่งเสริมการสร้างครอบครัว” แบบฮาๆ
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นมีมดังในโลกออนไลน์ฝีมือของช่างภาพ Antonio Guillem จากเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ในปี 2015 เป็นภาพมีมของรักคู่หนึ่งเดินจูงมือเคียงข้างกัน แต่ฝ่ายชายกลับให้ความสนใจหญิงอื่นจนเหลียวหลังจนเกิดเป็นโมเมนต์รักสามเศร้า ที่หลายคนนำไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ สร้างเสียงหัวเราะทุกครั้งที่เห็นภาพนี้ เมื่อวันที่วันพุธที่ 13 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา รัฐบาลฮังการีนำโดยนายกรัฐมนตรี Viktor Orbán ได้โปรโมทนโยบายส่งเสริม ‘การสร้างครอบครัว’ เพื่อแก้ปัญหาจำนวนประชากรที่ลดลง โดยใช้ตัวละครคู่รักจากมีมดังมาร่วมโปรโมท ภาพของคู่รักคู่นี้ได้ปรากฏอยู่ในบิลบอร์ดแสดงถึงครอบครัวที่อบอุ่นพร้อมที่จะต้อนรับสมาชิกใหม่ พร้อมกับข้อความว่า “คู่รักหนุ่มสาวที่แต่งงานใหม่จะได้รับการสนับสนุนเมื่อมีลูก” โดยเมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลฮังการีได้ประกาศนโยบายลดหย่อนภาษีให้กับหญิงที่มีลูก 4 คนหรือมากกว่า เนื่องจากประชากรในประเทศมีบุตรน้อยลงและบางครอบครัวก็อพยพไปอยู่ที่อื่น อย่างไรก็ตาม ประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นสร้างค่านิยมดั้งเดิมของชาวคริสเตียน ซึ่งเน้นย้ำบทบาทของผู้หญิง ที่มีหน้าที่คลอดบุตรและดูแลครอบครัวเพียงเท่านั้น Anti-Juncker billboards are being replaced with advertisements of the Hungarian government’s "family protection action plan”. But…
-
สัมผัสประสบการณ์สุดหวาดเสียวด้วย ‘สกายไดฟ์วิงในร่ม’ ที่ FlyStation ประเทศญี่ปุ่น
เชื่อว่าแต่ละคนต้องมี Bucket list หรือสิ่งที่อยากทำสักครั้งในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แน่นอนว่าหนึ่งในเป้าหมายของบางคนต้องมีประสบการณ์สุดหวาดเสียวอย่าง ‘สกายไดฟ์วิง’ รวมอยู่ในนั้น แต่ก่อนสกายไดฟ์วิงเป็นกีฬาที่สามารถเล่นได้เฉพาะด้านนอก (Outdoor) แต่ปัจจุบันที่ FlyStation ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดสกายไดฟ์วิงในร่ม ให้คนได้ลองสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ . FlyStation ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 ตั้งอยู่ที่จังหวัดไซตามะ ใกล้กับกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โครงสร้างด้านในประกอบไปด้วยกระจกใส และเหล็ก คล้ายกับบรรยากาศที่เห็นในหนังแนว Sci-Fi แต่ก่อนที่จะเข้าไปอยู่ในท่อทรงกระบอกเพื่อเล่นสกายไดฟ์วิงนั้น ผู้เล่นจะต้องรับชมวิดีโอความปลอดภัย 5 นาที หลังจากนั้นพนักงานจะให้คำแนะนำ ค่อยๆ ปล่อยแรงดันจากด้านล่างให้ร่างของผู้เล่นลอยสูงขึ้นเหมือนกำลังอยู่ในอากาศ คลิปขณะเล่นสกายไดฟ์วิง . คนที่มีไม่มีประสบการณ์เล่นสกายไดฟ์วิ่งมาก่อน จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ในวันธรรมดาราคาเครื่องเล่นอยู่ที่ 3500 เยน (ประมาณ 990 บาท) ส่วนในวันหยุดราคาอยู่ที่ 4500 เยน (1135 บาท) ใครที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์เร้าใจแบบนี้สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ flystation.jp กันได้เลย ที่มา: soranews24
-
มาทำความรู้จักกับ “วินมอเตอร์ไซค์” ที่มีงานพิเศษอีกอย่างหนึ่ง คือ “ช่างภาพ”!!
คุณ พิชัย แก้ววิชิต วัย 43 ปี คือหนึ่งในผู้ประกอบอาชีพ “วินมอเตอร์ไซค์” ที่ดูเหมือนจะมีชีวิตในการทำงานทั่วๆ ไป ตื่นเช้ามาและเริ่มออกไปรับลูกค้าเหมือนวินคนอื่นๆ แต่แล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนไป เมื่อเขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “นี่คือสิ่งเดียวในชีวิตที่ผมทำได้เหรอ? ต้องใช้ชีวิตเดือนชนเดือนแบบนี้แล้วก็ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อทำสิ่งนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปเรื่อยๆ อย่างนั้นหรือ” และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณพิชัยได้เจอกับอีกหนึ่งสิ่งที่เขารัก นั่นก็คือ “การถ่ายภาพ” คุณพิชัยและผลงานของเขาที่จัดแสดงขึ้น ณ งาน Accidentally Professional Exhibition ชายคนนี้เกิดที่จังหวัดพะเยาในครอบครัวชาวนาที่ยากจน และตามพ่อแม่ของเขามายังกรุงเทพฯ ในช่วงที่อสังหาริมทรัพย์กำลังรุ่งเรืองมากๆ ในปี พ.ศ.2533 ณ เมืองหลวงแห่งนี้ คุณพิชัยก็ได้ศึกษาเล่าเรียนจนถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนจะออกจากโรงเรียนมาเพื่อช่วยพ่อของเขาเก็บเศษขยะขาย จนกระทั่งย่างเข้าวัย 22 ปี เขาต้องออกมาหาเลี้ยงชีพตัวเองเพราะแฟนของเขาในตอนนั้นตั้งครรภ์ ทำให้ต้องมีเงินเพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่มากยิ่งขึ้น วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เขาเริ่มทำ ชายคนหนึ่งที่พยายามนำเสนอมุมมองดีๆ ของกรุงเทพมหานครฯ ผ่านภาพถ่าย ผ่านมาหลายปีในการทำอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ขณะเดียวกัน ชายคนนี้ก็ได้เริ่มต้นเส้นทางของการเป็นช่างภาพ ด้วยการขายมอเตอร์ไซค์คันเก่าของเขาเพื่อนำไปซื้อกล้องคอมแพคตัวใหม่ที่ดีกว่ากล้องโทรศัพท์มือถือ และถึงแม้ว่าคุณพิชัยจะมีใจรักให้กับการถ่ายภาพมากขนาดไหน เขาจะไม่นำเวลาในการทำงานเป็นวินมอเตอร์ไซค์มาปนกับการหยุดถ่ายรูปไปตามทาง แต่จะกำหนดเวลาเพื่อการถ่ายภาพแค่ตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปจนถึงเที่ยงเท่านั้น …
-
ผู้เชี่ยวชาญเผยเคล็ดลับแก้ปัญหา ‘นอนไม่หลับ’ ให้กลับมาพักผ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องประสบปัญหาในการนอน เพราะหลายครั้งที่ต้องการพักผ่อนกลับข่มตานอนไม่ได้ แต่เมื่อถึงเวลาต้องตื่น กลับง่วงนอนจนยากที่จะลุกออกจากเตียง Kathryn Pinkham วัย 38 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมการนอน กล่าวว่าการเลิกกินกาแฟหรือลดเวลาที่ใช้บนหน้าจออาจจะไม่ใช่การแก้ใช่การปัญหาที่ตรงจุด แถมยังทำให้อาการนอนไม่หลับแย่ลงกว่าเดิม Kathryn Pinkham ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมการนอน อาการนอนไม่หลับมีผลมาจากความเครียดหรือความกังวลใจ ดังนั้นการข่มตานอนเพราะกลัวว่าชั่วโมงพักผ่อนจะไม่เพียงพอจะกระตุ้นให้สมองทำงานและร่างกายตื่นตัวมากขึ้นกว่าเดิม Pinkham ผู้เชี่ยวชาญจึงเผยวิธีการที่จะทำให้คุณนอนหลับง่ายขึ้นกว่าเดิม เริ่มจากปรับเวลานอนให้เหมาะสม ใช้เวลานอนให้มีคุณภาพที่สุด โดยการนอนดึกหรือตื่นเร็วขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายพักผ่อนทันทีที่หลับตานอน นอกจากนั้น เธอยังแนะนำให้ตั้งเวลาตื่นนอนเวลาเดิมเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายเกิดความเคยชิน และเลิกดูนาฬิกา รวมถึงคำนวณเวลาหลังจากสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก หากนอนไม่หลับ Pinkham แนะนำให้อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อผ่อนคลาย คลายจากความกังวลต่างๆ ก่อนเข้านอน ใครที่มีปัญหาเรื่องการนอนอยู่ ลองเอาคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญคนนี้ไปใช้ดูนะฮะ ได้ผลยังไงแวะมาคอมเมนต์บอก #เหมียวเปปเปอร์ กันบ้างนะ ที่มา: dailymail, dreams.co.uk
-
ประชาชนตื่น หลังมีข่าวนักวิทย์ย้อนเวลาอนุภาคในควอนตัมคอมพิวเตอร์ได้ MIT แย้ง “ไม่จริง”
เพื่อนๆ คิดว่ามนุษย์เรานั้นจะในอนาคตจะสามารถสร้างเครื่องมือย้อนเวลาหรือ “ไทม์แมชชีน” ขึ้นมาได้ไหม และหากสร้างขึ้นได้ เราจะสร้างมันขึ้นมาได้เมื่อไหร่กัน เพราะเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมานี้เองได้มีข่าวที่ว่านักวิทยาศาสตร์ของทางสถาบันฟิสิกส์และเทคโนโลยีแห่งมอสโก (หรือ “MIPT”) สามารถทำการย้อนเวลา “อนุภาค” ภายในควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า “Qubits” ได้สำเร็จ และถูกประกาศออกมาโดยสื่อหลายแห่งในต่างประเทศ มันคืออะไรกันนะ!? นี่เป็นการทดลองที่เกิดขึ้นโดยการจำลองอนุภาคอิเล็กตรอนจำนวนหนึ่ง ซึ่งสามารถกระจายตัวไปได้ในรูปแบบที่หลากหลาย ก่อนที่จะใช้ “ปัจจัยภายนอก” ในการทำให้อนุภาคเหล่านั้นกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม โดยใช้กลุ่มข้อมูลที่อาจจะแสดงผลเป็นเลข “หนึ่ง” เลข “ศูนย์” หรือตัวเลขที่ผสมกัน ทางสื่อต่างประเทศอธิบายว่า การทดลองนี้ก็คล้ายกับการแทงสนุกเกอร์ไปอยู่ในตำแหน่งมั่วๆ ในการแทงครั้งแรก และทำให้ลูกสนุกกลับไปอยู่ที่เดิมโดยการกลิ้งย้อนกลับโดยไม่ใช้มือจับ โดยทางนักวิจัยได้ออกมาอ้างว่าหากมี Qubits สองหน่วยพวกเขาจะสามารถ “ย้อนเวลา” ได้สำเร็จถึง 85% แต่หากมี Qubits สามหน่วยความผิดพลาดจะมากขึ้นทำให้พวกเขาย้อนเวลาสำเร็จเพียง 50% แน่นอนว่าเมื่อผลการทดลองนี้ถูกนำเสนอไปก็มีประชาชนที่ให้ความสนใจกับผลการทดลองที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามทางนิตยสาร MIT Technology Review ของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ได้ออกมาบอกว่างานวิจัยชิ้นนี้นั้นไม่สามารถนำมาอ้างว่าทำการย้อนเวลาได้จริงๆ เลย …
-
เด็ก “ดาวน์ซินโดรม” กว่า 50 คน เต้นแคมเปญ “ไม่ขอเปลี่ยนอะไร” ให้ทั่วโลกตระหนักถึงโรคนี้!!
ทุกวันนี้ ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) ยังคงเป็นกลุ่มอาการที่ไม่สามารถหาวิธีในการรักษาได้ เนื่องจากโรคนี้เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม รวมไปถึงพวกเขามักมีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันเสมอ และเพื่อให้เป็นการตระหนักถึงโรคดาวน์ซินโดรมนี้ จึงเกิดเป็นแคมเปญคลิปวิดีโอ #wouldntchangeathing ขึ้นมา โดยที่หลายครอบครัวจะรวบรวมกันทำคลิปวิดีโอของเด็กๆ ที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม ด้วยเหตุผลที่ว่า “ถึงแม้พวกเราจะต้องเผชิญกับโรคเหล่านี้ แต่ทุกคนก็มีความสุขเฉกเช่นคนอื่นและไม่ขอเปลี่ยนแปลงในสิ่งใด” ข่าวก่อนหน้านี้: สุดแสนอบอุ่นหัวใจ!! เหล่าคุณแม่ทำวิดีโอร้องเพลงกับลูกน้อยรับ ‘วันดาวน์ซินโดรมโลก’ คลิปวิดีโอจากแคมเปญของปี 2018 ที่ผ่านมา ความเป็นมาของแฮชแท็กดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2018 ที่ผ่านมา เมื่อครอบครัวราว 50 ครอบครัวที่มีลูกเป็นดาวน์ซินโดรมทั่วประเทศอังกฤษได้ทำโปรเจกต์ร้องเพลง A Thousand Years ของศิลปิน Christina Perri ในรถ โดยพวกเขาใช้ภาษามากาทอนซึ่งเป็นภาษาที่มีไว้ช่วยพัฒนาทักษะของเด็กๆ จนปัจจุบันยอดวิดีโอของคลิปนี้มีคนดูถึง 5,405,446 คนแล้ว สำหรับในปี 2019 นี้พวกเขาได้ทำโปรเจกต์ดังกล่าวขึ้นอีกครั้งและเลือกเพลง Don’t Stop Me Now ของวง Queen เพื่อแคมเปญนี้โดยเฉพาะ คนที่อยู่เบื้องหลังในการทำวิดีโอของปีนี้คือ Mairi Watkins วัย 43 ปี จากเมือง Newton Mearns ประเทศสกอตแลนด์ เธอมีลูกสองคนและหนึ่งในนั้นคือ Emma ลูกสาววัย 5 ขวบของเธอที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม “ฉันต้องการทำแคมเปญของปีนี้ก็เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ยังมองโรคนี้แบบผิดๆ และอยากที่จะเปลี่ยนความคิดของพวกเขา” Mairi กล่าว…
-
ชายผู้ถูกแจ็คพอต 8,000 ล้าน เผยถึงเหตุการณ์ลืมลอตเตอรี่ไว้ที่ร้าน แต่มีคนเก็บมาคืน!!
ว่ากันด้วยเรื่องของ ‘ลอตเตอรี่’ แน่นอนว่าใครที่ซื้อมันมาไว้ต่างก็ต้องอยากให้โชคก้อนใหญ่หล่นใส่แน่ๆ เช่นเดียวกับชายคนที่เพิ่งถูกรางวัลใหญ่มูลค่า 273 ล้านดอลลาร์ (ราวๆ 8.6 พันล้านบาท) คนนี้ แต่เชื่อหรือไม่ว่าความดวงดีของเขาไม่ใช่เพียงแค่จิ้มได้ถูกเบอร์เพียงเท่านั้น เพราะก่อนที่เขาจะถูกรางวัลนี้เขาลืมล็อตเตอรี่ทิ้งเอาไว้ที่ร้าน ทว่าก็มีพลเมืองดีปริศนานำมันมาคืนให้กับร้านรอเจ้าของที่แท้จริงมารับโชคก้อนนี้ไป!! Mike Weirsky ชาวนิวเจอร์ซีย์คือผู้ที่เดินทางไปรับรางวัลก้อนใหญ่นี้มานอนกอดเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้ลำดับเรื่องราวกว่าจะถึงจุดนี้ให้ฟัง เขาเล่าว่าตัวเองได้เดินทางไปซื้อลอตเตอรี่ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ร้าน Quick Check ในเมือง Phillipsburg แต่ว่าด้วยความเขามัวแต่สนใจโทรศัพท์ตอนนั้นเลยลืมลอตเตอรี่เอาไว้ ณ ตรงนั้น ทว่าในเวลาต่อมาก็มีพลเมืองดีบางคนไปพบมันเข้า และแจ้งให้เจ้าของร้านเก็บลอตเตอรี่ใบนั้นเอาไว้เพื่อมอบให้กับเจ้าของที่แท้จริงมารับคืน ซึ่ง Mike ก็ไปรับคืนในวันถัดมา และได้ตรวจสอบแล้วว่านี่เป็นลอตเตอรี่ใบที่เขาซื้อจริงๆ เจ้าของร้านจึงคืนมันให้นั่นเอง… ทางเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานลอตเตอรี่กล่าวว่า หากคนที่พบเจอลอตเตอรี่เขียนชื่อตัวเองเอาไว้บนลอตเตอรี่ใบนั้น ก็อาจเป็นผู้โชคดีแทนที่ Mike ไปแล้ว!! “ผมกำลังมองหาใครคนนั้นที่นำมันมาส่งคืนให้ ผมอยากจะขอบคุณเขาน่ะและผมอยากจะมอบบางสิ่งให้เขาด้วย แต่มันเป็นอะไรน่ะเหรอผมไม่บอกหรอกผมจะให้เขาเป็นการส่วนตัว” “ผมต้องขอบคุณจริงๆ ตอนแรกผมนึกว่าลอตเตอรี่ใบนั้นมันจะหายไปแล้ว” โดยก่อนหน้าที่จะถูกรางวัล ชายวัย 54 ปีคนนี้เพิ่งจะผ่านการหย่าเมื่อไม่นานมานี้ จากการที่เขาเป็นสามีที่ปล่อยให้ภรรยาทำงานแต่เพียงผู้เดียว และเขาเล่าต่อว่าเขาหางานมาแล้วเป็นปีแต่ว่าก็ไม่มีที่ไหนเรียกสัมภาษณ์เลย…
-
สาวขอระดมทุนจ่ายเป็นค่าชดเชยที่พ่อขับรถชน มีคนบริจาคให้ 300 คน และเธอคืนให้ทั้งหมด!!
อาจมีหลายครั้งหลายคราที่เราเห็นเหตุการณ์ที่ว่าลูกหนี้ไม่ยอมคืนเงินให้กับเจ้าหนี้จนเป็นภาพที่ชินตา แต่ว่ามีเหตุการณ์หนึ่งในประเทศจีนเผยให้เห็นว่า มุมดีๆ ของลูกหนี้ก็ยังมีอยู่ในสังคมเช่นเดียวกัน… โดยเรื่องราวที่ว่านี้เป็นเรื่องของหญิงชาวจีนชื่อว่า Hai Lin จากเมืองหางโจวมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ซึ่งได้เริ่มขึ้นจากในปี 2015 ที่ตอนนั้นเธอได้ขอระดมทุนจากชาวเน็ตในแอปฯ WeChat คนละ 1,000 หยวน (ราวๆ 4,700 บาท) เป็นจำนวน 300 คน การระดมทุนครั้งนั้นเธอได้สัญญากับผู้ที่บริจาคให้ (ส่วนใหญ่เป็นคนแปลกหน้า) ว่าเธอจะคืนเงินทั้งหมดให้ภายใน 5 ปี และเงินจำนวนนี้เธอได้ขอยืมก็เพื่อจะใช้เงินเป็นเงินชดเชยให้กับผู้ประสบเหตุ จากความที่พ่อของเธอซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกขับรถไปพุ่งชนชายคนหนึ่ง ขณะเดียวกันในเวลานั้นแม่ของ Lin ก็นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลเนื่องด้วยภาวะเลือดออกในสมองด้วย “ชายคนที่ถูกชนสาหัสเอามากๆ เราต้องเก็บซ่อนเรื่องอุบัติเหตุนี้ไว้ไม่ให้แม่รู้เพราะจะไม่ได้ไม่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเธอ” Lin กล่าว นอกจากนี้ Lin ยังกล่าวว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของเธอที่ทำให้รู้สึกตื่นกลัว “พ่อบอกฉันว่าถ้าเราไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าชดเชยได้ เขาอาจต้องหลบหนีหนี้ไป ฉันจึงบอกกับเขาว่าฉันจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น” Lin กล่าวเสริม ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงทำให้ Lin ตัดสินใจขอรับบริจาคในแอปฯ ซึ่งก็มีคนจิตใจดีบริจาคให้เธอจนครบจำนวนที่ต้องการภายในคืนเดียว และเธอก็วางแผนไว้ว่าจะคืนเงินให้กับผู้บริจาคเป็นจำนวน…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ระงม หลังแบรนด์เสื้อผ้าเปิดตัวบอดี้สูท แต่มันรัด ‘จิมมี่’ ซะจนสงสารนางแบบ!!
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ได้รับการพูดถึงกันอยู่เสมอสำหรับเรื่องของ ‘แฟชั่น’ ที่เดี๋ยวนี้มักจะมีไอเทมแปลกๆ แผลงๆ ออกมาให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ และคราวนี้มีเรื่องให้ชาวเน็ตได้แซวกันอีกแล้ว เมื่อมีบริษัทเสื้อผ้าแห่งหนึ่งผลิตชุดบอดี้สูทแบบใหม่ขึ้นมา แต่ด้วยความที่มันดูเหมือนว่าไปรัด ‘จุดสำคัญ’ ของนางแบบเข้าให้ งานนี้ชาวเน็ตเลยบอกว่าสงสารนางแบบเสียจริงๆ เลย… โดยเรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าบริษัท FashionNova บริษัทที่ขึ้นชื่อในเรื่องการออกแบบชุดแปลกๆ ได้เปิดตัวบอดี้สูทคอลเลคชั่นใหม่ภายใต้ชื่อเรียกว่า ‘Here For Fun’ เจ้าบอดี้สูทที่ว่านี้มาพร้อมกับสีดำและแดง รวมทั้งมีคำอธิบายว่า ‘มีการตัดให้ยกสูงขึ้น’ และผลิตมาจากโพลีเอสเตอร์ 95% เส้นใยสแปนเด็กซ์อีก 5% เจ้าบอดี้สูทที่ว่านี้ แต่ว่าทันทีที่มันออกสู่สายตาประชาชีเหล่าชาวเน็ตต่างก็บอกกันเป็นเสียงเดียวว่า มันคงไม่ใช่ชุดที่สะดวกสบายนักหากจะต้องใส่จริงๆ แถมยังแสดงความเห็นอกเห็นใจนางแบบที่ต้องใส่ชุดเช่นนี้… ราคาค่างวดของเจ้าชุดนี้ก็อยู่ 24.99 ดอลลาร์ (ราวๆ 790 บาท) และนี่คือความคิดเห็นบางส่วนของชาวเน็ตที่มีต่อชุดนี้ “อ้าาาส์ มันดูเจ็บปวดมากเลยพระเจ้า” “นี่มันสิ่งอะไรกันนี่” “นางแบบแฟชั่นผู้น่าสงสาร” “มันทำให้เธอดูเหมือนหญิงขายบริการเลยนะ” แล้วเพื่อนๆ ล่ะ คิดยังไงกับชุดนี้บอกกันได้นะ หรือถ้าอยากได้ล่ะก็จิ้มซื้อได้ที่ fashionnova นี้กันเล้ย… ที่มา: mirror, dailymail,…
-
‘แซม สมิธ’ ปลดปล่อยตัวตนผ่านบทสัมภาษณ์ ยอมรับว่า ‘เขาไม่ใช่ทั้งชายหรือหญิง’
ใครที่ชื่นชอบฟังเพลงสากลคงจะคุ้นเคยกับน้ำเสียงอันไพเราะของ แซม สมิธ นักร้องและนักแต่งคนนี้ดี หลังจากอัลบั้มเปิดตัว ‘In the Lonely Hour’ ในปี 2014 หนุ่มแซม สมิธได้ทำลายสถิติเพลงฮิตติดชาร์ตยาวนานที่สุดในอังกฤษ 69 สัปดาห์และกวาดรางวัลจากเวทีต่างๆ มากมาย A few months ago, I sat down with @jameelajamil and spoke with her for her incredible @_iweigh movement. I know this sounds dramatic but this interview completely changed my life. Watch in full on my IGTV now (please be…
-
เหล่าพี่ไปรฯ ที่อังกฤษ ใช้แว่น VR จำลองสถานการณ์ หลบหลีกน้องหมาอย่างมืออาชีพ
เวลาอ่านการ์ตูนเรามักเจอมุกตลกคลาสสิกอย่างบุรุษไปรษณีย์โดนน้องหมาวิ่งไล่กัดกันจนชินตา ซึ่งในโลกความจริงนั้น #เหมียวม่วง ก็ไม่เคยเห็นกับตาตัวเองสักที จนบางครั้งก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมน้องหมาถึงจ้องแต่ละไล่พี่ไปรฯเท่านั้น? แต่ดูเหมือนว่าการที่บุรุษไปรษณีย์หรือพนักงานส่งของมักจะโดนหมาเขม่นคงเป็นปัญหาในระดับสากลแน่ๆ เพราะทางบริษัทส่งของแห่งสหราชอาณาจักรอย่าง Royal Mail นั้นลงทุนใช้วิธีแก้-ป้องกันแบบโคตรล้ำ!! เจ้าวิธีแก้ปัญหาที่ว่าก็คือแว่น VR (Virtual Reality) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสร้างความเป็นจริงเสมือนขึ้นมา อธิบายแบบโง่ๆ เลยก็คือ เวลาเราใส่เจ้าเครื่องนี้แล้วมันจะเหมือนเราหลุดไปอยู่ในโลกเสมือนจริงแบบ 360 องศา มักเอาไปประยุกต์ใช้กับวิดีโอเกม ส่วนทาง Royal Mail นั้นได้นำเทคโนโลยีแว่น VR มาใช้กับโปรแกรมที่ชื่อว่า Dog Byte ซึ่งจะจำลองสถานการณ์เวลาเราไปส่งของที่บ้านลูกค้า ก่อนอื่นต้องสอดส่ายสายตาหาดูว่าบ้านนี้เลี้ยงเจ้าตูบไว้หรือไม่ และโปรแกรมจะให้เราฝึกวิธีการป้องกันตัวและหลบหลีกจากการจู่โจมของน้องนั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นโปรแกรมฝึกการป้องกันตนเองที่ไม่ต้องไปทดลองกับสถานการณ์จริงให้เจ็บตัวทั้งหมา ทั้งคน และทาง Royal Mail ก็ทดสอบใช้งานเจ้าโปรแกรมนี้ด้วยแว่น VR ไปเกือบๆ 750 ครั้งแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2018 ผลลัพธ์ก็คือไม่มีรายงานการโดนน้องจู่โจมเกิดขึ้นเกินครึ่งของพื้นที่ที่ได้รับการฝึกด้วยระบบดังกล่าว ทางด้านผู้จัดการฝ่ายการเรียนรู้ออนไลน์ James Barton ก็ได้กล่าวว่า “เราพยายามแก้ปัญหานี้กันมานานหลายปี ทั้งรณรงค์ด้วยสื่อต่างๆ อย่างการใช้สโลแกน โปสเตอร์…
-
ศิลปินชาวดัตช์เปลี่ยนรูปคนให้เป็นผลงานภาพวาด ‘ตัวการ์ตูน’ สุดน่ารัก
ผลงานภาพวาดประกอบเป็นที่นิยมในปัจจุบัน มีศิลปินมากมายถ่ายทอดความเป็นตัวของตัวเองผ่านลายเส้นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เป็นที่จดจำของผู้ชม Laura Brouwers หรือที่รู้จักกันในนาม Cyarine เป็นนักวาดภาพประกอบชาวเนเธอร์แลนด์ ผู้โด่งดังจนมีผู้ติดตามในอินตราแกรมกว่า 1.5 ล้านคน Cyarine ได้เปลี่ยนรูปคนให้เป็นภาพวาดตัวการ์ตูน โดยใช้เทคนิคเดียวกับการใช้สีน้ำหรือหมึกในการสร้างผลงานในคอมพิวเตอร์ ทำให้ภาพที่ออกมามีชีวิตชีวาและมีสไตล์ไม่ซ้ำใคร นอกจากสร้างผลงานของตัวเองแล้ว Cyarine ได้แบ่งปันเทคนิคและเคล็ดลับในการวาดภาพของเธอผ่านคลิปวิดีโอใน Youtube เพื่อให้คนอื่นๆ นำไปใช้พัฒนาทักษะของตัวเอง ถ้าพร้อมแล้วตามเรามาผลงานของเธอชมพร้อมๆ กันเล๊ยย.. ตัวการ์ตูนสาวน้อยใส่แว่นสุดน่ารัก . . . ภาพวาดแบบเต็มตัว . คาแรคเตอร์สาวแบ๊ว . ตัวการ์ตูนสีสันสดใส มีชีวิตชีวา . . . ภาพวาดมุมเดิม องศาเป๊ะ! . . . เสื้อผ้าตรงตามต้นฉบับ . . . ใครที่ชื่นชอบผลงานของศิลปินคนนี้ สามารถติดตามเธอได้ที่อินสตาแกรม cyarine กันได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน…
-
เด็กชายนำเงินที่แม่ให้ไปโรงเรียนไปซื้อการ์ด แม่ขู่ว่ามันผิดกฎหมาย เลยเข้ามอบตัวกับตำรวจ
สิ่งของที่เด็กเกือบทุกคนปรารถนาคงจะหนีไม่พ้น ‘ของเล่น’ เพราะมันคือสิ่งที่ช่วยสร้างความบันเทิงและเสริมสร้างจินตนาการโลกแห่งความฝันให้กับเด็กๆ ที่ได้เล่น เช่นเดียวกับเด็กชายวัย 11 ขวบจากเมืองถงหลิง มณฑลอันฮุย ประเทศจีน คนนี้ ที่ชอบสะสมและเล่นเกมการ์ดเป็นชีวิตจิตใจ แต่ภายหลังมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกผิดจนถึงกับเข้ามอบตัวกับตำรวจ?! เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา เด็กชายคนนี้ได้สะพายเป้มาที่ที่สถานีตำรวจในยามดึก โดยร้องไห้สะอึกสะอื้นขณะที่เข้ามาหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อสอบถามก็ทราบว่าเด็กชายคนนี้ต้องการเข้ามามอบตัวกับตำรวจ เพราะว่าเขาทำผิดต่อพ่อแม่?! เด็กชายคนดังกล่าวเล่าว่า เขาติดเกมการ์ดมาก และเมื่อแม่ให้เงินไปโรงเรียน แทนที่จะนำไปซื้อของกิน เขากลับนำเงินไปซื้อเกมการ์ดจนหมด เมื่อแม่ของเขารู้ความจริงจึงขู่เด็กชายคนนี้ว่าสิ่งที่ทำไปมันผิดกฎหมายนะ! ถ้ามีคนรู้ลูกจะต้องถูกตำรวจจับ เด็กน้อยจึงเกิดความกลัวและรู้สึกผิด เป็นเหตุให้ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมกับเปิดกระเป๋าโชว์เป็นหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ดู เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ถึงกับอดขำไม่ได้กับความไร้เดียงสาของเด็กชายคนนี้ จากนั้นก็ได้ติดต่อไปยังผู้ปกครอง เพื่อมารับตัวเด็กกลับบ้าน และก่อนจะกลับเจ้าหน้าที่ก็ได้อบรมทั้งแม่และเด็กชายคนดังกล่าว ที่มา: China Xinhua News
-
หนุ่มโป๊ะแตก โดนแฟนสาวทั้ง 2 จับได้ว่าคบซ้อน พวกเธอจึงทิ้งเขาแล้วกลายเป็นเพื่อนกัน
Kathleen Maloney อายุ 57 ปี ได้พบกับแฟนหนุ่มชื่อ Anthony ในปี 2012 ด้วยความที่เขาเป็นหนุ่มรูปหล่อ ช่างเอาอกเอาใจ และเป็นสุภาพบุรุษอย่างมาก Kathleen จึงหลงรักเขาหมดใจ และหวังว่าวันหนึ่งจะได้แต่งงานกับเขา หลังจากคบกันเป็นแฟนกันมาหลายปี Kathleen รู้สึกมาตลอดว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล เพราะแฟนหนุ่มดูไม่ได้เปิดเผยเรื่องของตนเองกับเธอมากเท่าที่ควร Kathleen หลังคบกันมาถึง 5 ปี วันหนึ่ง Anthony ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล Kathleen ไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปเยี่ยมแฟนหนุ่ม เมื่อเข้าไปในห้องเธอเห็นเขานอนอยู่บนเตียง มีลูกชายของเขายืนอยู่ใกล้ๆ และผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก เธอกล่าวทักทายเขาก่อน แต่เขาทักทายกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เธอจึงเริ่มรู้สึกสะกิดใจ และแล้วผู้หญิงแปลกหน้าก็ยิ้มและยื่นมือมาจับมือเธออย่างเป็นมิตร และแนะนำตัวว่าชื่อ Susan Kathleen จำได้ทันทีว่า Anthony เคยบอกว่าคนรักเก่าเขาชื่อ Susan ซึ่งเขาบอกว่าเลิกกันไปนาน และไม่ได้เจอกันอีกต่อไป พร้อมกับบอกว่า “ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง” แต่ตอนนี้ “แฟนเก่า” ที่หายไปจากชีวิตเป็นชาติกลับมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เธอเริ่มรู้ว่าอะไรเป็นอะไร Kathleen จึงถาม Susan ออกไปว่า…
-
เยลลี่พร้อมดื่มรสข้าวปั้นโอนิกิริ พกง่าย กินสะดวก ไม่ต้องเคี้ยวให้เมื่อยปาก…
เราคงคุ้นเคยกับเครื่องดื่ม-ขนมเจลาติน นุ่มๆ หวานๆ รสผลไม้ลื่นคอ ที่บรรจุในซองมีจุกเปิดแบบกินกันได้อย่างสะดวก แถมอร่อยด้วย เหมาะแก่การดูดกินเวลาหิวๆ แต่ยังไม่มีเวลาไปหาข้าวทาน เพราะมันช่วยให้อยู่ท้องไปครู่หนึ่ง แต่แทนที่จะกินเยลลี่ผลไม้ บางคนก็เลือกกินของคาวที่กินได้สะดวกแบบแซนด์วิช หรือข้าวปั้นชิ้นเล็กๆ มากกว่า แต่พวกข้าวปั้นก็อาจจะมีการเลอะเทอะระหว่างเหยาะซอส สาหร่ายขาด ข้าวแตกได้ เอาเป็นว่าถ้าไม่เชี่ยวชาญในการแกะห่อข้าวปั้นสำเร็จรูปล่ะก็มันก็ต้องมีเละเทะกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าคุณสามารถทานข้าวปั้นได้โดยไม่หกเลอะเทอะ แค่เปิดจุกซองแล้วดูดกินได้เลย เย้ยยยยย!!!?? #เหมียวม่วง ไม่ได้เล่นมุกแต่อย่างใด เพราะมันเป็นสินค้าจริงจากบริษัท Yokoo Daily Foods ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเขาเรียกเจ้าสินค้าชนิดนี้ว่า “ข้าวปั้นดื่มได้” ซองนึงก็ได้ประมาณ 180 กรัม มี 2 รสชาติให้เลือกดูด ได้แก่ ข้าวปั้นพร้อมดื่มไส้บ๊วยกับปลาแห้ง และบ๊วยกับสาหร่ายทะเล คนที่ได้ทดลองทานมาแล้วบอกว่า มันดิสกว่าที่คีย์มากๆ เพราะภาพในหัวของทุกคนก็จะคิดว่ามันต้องหยึยๆ ดึ๋งๆ เละๆ ลื่นๆ ไม่น่าเหมาะกับรสชาติของอาหารคาวแบบข้าวปั้นได้เลย แต่ปรากฏกว่ามันมีเนื้อมีสัมผัสของข้าวที่อาจต้องเคี้ยวอีกเล็กน้อยก่อนจะกลืน แล้วมีบ๊วยชิ้นเล็กๆ กระจายตัวปนอยู่ในข้าวด้วย ถือว่าโอเคใช้ได้ (สำหรับคนที่ลองกินน่ะนะ) .…
-
สุดเจ๋ง!! “หุ่นยนต์สัมภาษณ์งาน” ตัวแรกของโลก ที่ไร้อคติและจะไม่ตัดสินคุณ!!
ยิ่งวันสัมภาษณ์งานใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกเหมือนกันคืออยากจะเตรียมพร้อมทุกอย่างเพื่อให้คนสัมภาษณ์เกิดความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น แต่ในหลายๆ ครั้งก็มีคนจำนวนมากที่ไม่ผ่านการคัดงานเนื่องจาก เชื้อชาติ ศาสนา อายุหรือแม้แต่เพศก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะเป็นผลมาจากอคติของตัวผู้สัมภาษณ์เอง แต่ปัจจุบันนี้มีการพัฒนาไปไกลขึ้นมาก เมื่อบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศสวีเดนได้ผลิต “หุ่นยนต์สำหรับสัมภาษณ์งาน” ที่ไร้อคติใดๆ ต่อคนที่เข้ามาสมัครงานเป็นครั้งแรก!! โฉมหน้าหุ่นยนต์สัมภาษณ์งาน Tengai บริษัท Furhat Robotics ได้ร่วมมือกับ TNG บริษัทชื่อดังในการจัดหาทรัพยากรทางบุคคล และเริ่มต้นพัฒนาหุ่นยนต์ตัวนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2018 ที่ผ่าน พวกเขาตั้งชื่อให้กับมันว่า Tengai ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่มีความสูง 41 เซนติเมตรและน้ำหนักอยู่ที่ 3.5 กิโลกรัมหรือหากนำไปตั้งไว้บนโต๊ะแล้วจะมีความสูงพอดีกับคนที่นั่งเก้าอี้ หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทั้งสองบริษัทร่วมมือกันพัฒนา Tengai ก็เพราะว่าบริษัท TNG เคยสำรวจการเข้ารับงานทั่วประเทศเลยทำให้ทราบว่าประมาณ 73% ของผู้สมัครงานเคยถูกปฏิเสธ และสาเหตุที่พวกเขาถูกปฏิเสธนั้นมีทั้ง เชื้อชาติ, วัย, เพศสภาพ, รสนิยมทางเพศ, รูปร่างหน้าตา, น้ำหนักไปจนถึงด้านสุขภาพและความพิการ เราจะเห็นได้ว่าเหตุผลเหล่านั้นมักมาจากอคติของผู้สัมภาษณ์แทบทั้งสิ้น แต่สำหรับลักษณะการทำงานของเจ้า Tengai มันจะพูดด้วยเสียงผู้หญิงเรียบๆ และมักจะเปิดขึ้นมาด้วยคำถามว่า “คุณเคยสัมภาษณ์กับหุ่นยนต์มาก่อนหรือไม่?” และที่สำคัญมันจะไม่มีอคติใดๆ กับผู้เข้ารับการสัมภาษณ์แน่นอน จากการสัมภาษณ์งานกับ Tengai…
-
อังกฤษออกกฎหมายใหม่ ทุกคนต้อง ‘บริจาคอวัยวะ’ เพื่อช่วยเหลือชีวิตคนที่ต้องการ
การบริจาคอวัยวะ อาจจะทำให้เราสามารถช่วยชีวิตคนๆ ไว้ได้ แม้ว่าเราจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แต่การบริจาคอวัยวะจะต้องเกิดจาก ‘ความสมัครใจ’ ของผู้บริจาคเท่านั้น!? แต่นับจากนี้มันกำลังจะเปลี่ยนไป…เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2019 รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศใช้กฎหมายที่อาจจะช่วยชีวิตของคนนับพัน นั่นก็คือประชาชนชาวอังกฤษวัยผู้ใหญ่ทุกคน จะถูกลงทะเบียนบริจาคอวัยวะโดยอัตโนมัติ จากเดิมที่ต้องลงทะเบียนด้วยความสมัครใจของตัวเอง เด็กหญิง Keira Bell ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดกฎหมายนี้ สาเหตุที่ทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายนี้เป็นเพราะเด็กหญิง 9 ขวบนามว่า Keira Bell ได้ทำการบริจาคหัวใจของเธอและช่วยชีวิตได้ 4 ชีวิต ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเด็กชาย Max Johnson ที่ประสบโรค Dilated Cardiomyopathy โรคที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจ กฎหมายการบริจาคอวัยวะนี้จึงได้ถูกตั้งชื่อว่า กฎหมาย Max และ Keira ตามชื่อของเด็กทั้งสองที่ช่วยเป็นแรงผลักดันให้เกิดความตระหนักถึงการบริจาคอวัยวะขึ้น เด็กชาย Max Johnson ผู้รอดชีวิตจากการบริจาคอวัยวะ รัฐบาลเผยว่าที่อังกฤษตอนนี้มีคนมากกว่า 6,000 คนที่กำลังรอการบริจาคอวัยวะ มีการเสียชีวิตลง 3 คนต่อวันในขณะที่กำลังรอ กฎหมายใหม่นี้จะช่วยให้ลดจำนวนตัวเลขดังกล่าว อีกทั้ง ชาวอังกฤษ 80%…
-
Brutal Glass บ้องกัญชาสายเดธเมทัล จัดทำโดยชาวหูเหล็ก เพื่อชาวหูเหล็ก!!
คำเตือน: เนื้อหาภายในไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้คนอาจจะติดภาพว่าดนตรี ‘เรกเก้’ เป็นสัญลักษณ์ของ ‘กัญชา’ แต่ก็อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะล่าสุดได้มีการเปิดตัว ‘บ้องกัญชา’ สำหรับชาวหูเหล็กผู้นิยมชมชอบฟังเพลง ‘เมทัล’ ขึ้นมา!? Brutal Glass เป็นบ้องถูกประทับด้วยลวดลายกราฟิก ในสไตล์เดธเมทัล ตามรสนิยมของผู้คิดค้นและก่อตั้งบริษัทขึ้นมา นั่นก็คือนาย Bryon Acevado ผู้รักดนตรีเมทัลมาตั้งแต่อายุ 13 ปี Bryon Acevado ผู้ก่อตั้ง Brutal Glass เมื่อถูกถามถึงแรงบันดาลใจในการขายบ้องกัญชา Bryon เผยว่าก่อนหน้านี้เขาทำงานขายอยู่ในบริษัทผลิตภัณฑ์หล่อลื่นอะไหล่ยนตร์ จากนั้นก็มีโอกาสได้ก้าวเท้าเข้ามารู้จักวงการอุตสาหกรรมกระจกและแก้ว จากนั้นเขาก็มีโอกาสได้ไปงานแสดงโชว์ผลิตภัณฑ์จากแก้วหลายครั้ง และสังเกตเห็นว่าบ้องกัญชาในตลาดนั้นเจาะตลาดไปที่กลุ่มแฟนเพลง ฮิปปี้, ฮิพฮอพ และเรกเก้ แต่กลับไม่มีใครทำตลาดสำหรับชาวเมทัลหูรุนแรง?! เขาเริ่มคิดว่านี่คือโอกาสครั้งใหญ่ที่เขาต้องคว้าไว้ เพราะชาวเมทัลคือตลาดที่กว้างมากและกลุ่มคนพวกนี้ก็รักการสูบ เขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาในการสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา แต่โชคดีที่เขารู้จักคนในอุตสาหกรรมแก้วที่ชี้ให้เขาไปถูกทาง รวมถึงได้มีโอกาสรู้จักกับกราฟิกที่สามารถออกแบบลวดลายบนแบรนด์ให้เขาได้ สำหรับกราฟฟิคบนบ้อง เขาได้ร่วมงานกับนักออกแบบสายเมทัลหลายคน เช่น Tony Koehl ที่เคยออกแบบให้กับวงเมทัลชื่อดังมานับไม่ถ้วน…
-
สาวสร้างรายได้ 5 ล้านบาทต่อปี จากการขายรูปนู้ด โดยมี ‘คุณแม่’ เป็นคนถ่ายให้
หากต้องการที่จะพึ่งพาใครสักคน ‘พ่อแม่’ มักจะเป็นคนที่เราสามารถพึ่งพาได้เสมอ อย่างเช่น การขอให้พ่อช่วยขับรถไปส่งที่ไหนสักแห่ง หรือขอให้แม่ช่วยสอนการบ้านที่ไม่เข้าใจ แต่การร้องขอว่า “พ่อ/แม่คะ แม่ช่วยถ่ายหนูตอนโป๊เพื่อเอามาขายออนไลน์ได้ไหม?” คงจะเป็นเรื่องที่แปลกพิลึก ที่ไม่น่าจะมีพ่อแม่คนไหนยอมทำ หรือลูกๆ คนไหนจะร้องขอ แต่อย่างไรก็ตาม มันได้เกิดขึ้นกับ Beth Spiby หญิงสาวผู้ทำเงินจากการขายรูปนู้ดได้ปีละ 120,000 ปอนด์ (5 ล้านบาท) โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ‘แม่’ ของเธอ! หญิงสาววัย 22 ปีคนนี้เคยทำงานอยู่ที่ Marks & Spencer แต่เธอก็ลาออกมาเอาดีด้านการขายภาพปลุกใจเสือป่า โดยร่วมมือกับคุณแม่นักบัญชีวัย 53 ปีของเธอ ห๊ะ! ปัจจุบันเธอมีฐานแฟนคลับที่กว้างมาก จนสามารถจ่ายเงินจ้างช่างกล้องมืออาชีพเพื่อมาถ่ายรูปเธอ แต่ Beth ก็เผยว่า แม่ของเธอก็ยังคงเข้ามามีบทบาทและช่วยเหลือเมื่อเธอต้องการ “ในตอนแรกเริ่ม แม่เป็นคนที่ถ่ายรูปให้ฉันทุกวัน เธอถ่ายภาพให้ฉันทุกรูปนั่นรวมไปถึงภาพติดเรต ไม่ว่าฉันจะต้องการถ่ายเพิ่มเติมยังไง แม่ก็ยินดีที่จะนำกล้องออกมาถ่ายภาพให้” ปัจจุบัน Beth สามารถทำเงินได้กว่า…
-
ชีวิตไม่สิ้นหวัง อดีตโฮมเลสเรียนดี ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยถึง 17 แห่ง
เราทุกคนต่างมีความฝันที่อยากทำให้สำเร็จ แต่เส้นทางสู่เป้าหมายของแต่ละคนนั้น อาจจะมีอุปสรรคต่างๆ มากมาย จนหลายครั้งต้องยอมแพ้ ถอยทัพกลับมาเริ่มต้นใหม่ หากใครที่กำลังท้อแท้สิ้นหวัง หมดกำลังใจ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับหนุ่มคนนี้ Dylan Chidick วัย 17 ปี หนุ่มไร้บ้านที่อาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ที่ไม่ยอมละทิ้งความฝัน มุ่งมั่นในการเรียนจนได้รับการตอบรับจากมหาลัยถึง 17 แห่ง หนุ่มน้อยคนนี้เรียนอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของโรงเรียนมัธยมปลาย Henry Snyder นับเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้วที่เขาย้ายจากสาธารณรัฐตรินิเดด เข้ามาอยู่ในสหรัฐอเมริกา จนได้รับสัญชาติในเวลาต่อมา เมื่อปี 2017 ครอบครัวของ Dylan ต้องพบเจอกับปัญหาใหญ่ และกลายเป็นคนไร้บ้าน พวกเขาต้องอาศัยอยู่ในเพิงที่พักแบบชั่วคราว จนทางรัฐบาลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก Dylan ต้องช่วยเหลือครอบครัว จนทำให้ผลการเรียนของเขาแย่ลง แต่แม่ของเขาก็ให้กำลังใจเสมอว่า ‘อย่ายอมแพ้’ ด้วยความฝันที่จะเป็นคนแรกในครอบครัวที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยให้ได้ Dylan จึงลงทะเบียนเตรียมความพร้อมเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับสภานักเรียน และทำงานพาร์ทไทม์ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ สุดท้ายแล้วความพยายามของเขาก็เป็นผล เขาได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยให้เข้าเรียนถึง 17…
-
คู่รักเลสเบี้ยนวัยดึกเปิด IG โชว์ ‘ดูดกัญชา’ คอนเทนต์สุดฮาเห็นแล้วอยากหาขนมหวานไปให้!!
เรียกได้ว่าเดี๋ยวนี้โซเชียลเน็ตเวิร์คทั้งหลายอย่าง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์หรืออินสตาแกรม ได้ทำให้เกิดคนดังขึ้นมาอย่างมากมาย ซึ่งแต่ละคนก็จะมีจุดเด่นที่ดึงดูดผู้ติดตามเป็นของตัวเอง แต่ว่าเพื่อนๆ คงยังไม่รู้จักกับคู่รักเลสเบี้ยนคู่นี้ ที่สร้างอินสตาแกรมขึ้นมาเพื่อดูดปุ๊นโชว์แฟนๆ!! วิดีโอแรกของทั้งคู่ https://www.instagram.com/p/BujL9umBtBr/ Lee กับ Sure ชาวรัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าของบัญชี @420oldfatlesbians ด้วยกัน ซึ่งทั้งคู่คบกันมานานแล้วถึง 12 ปีและเข้าพิธีวิวาห์กันเป็นที่เรียบร้อยในปี 2015 บ้องแบบ DIY เท่ๆ https://www.instagram.com/p/BujaiaVhVVD/ พวกเธอเล่าว่าจุดเริ่มต้นของการสร้างแอคเคาท์นี้ขึ้นมาก็เพราะว่าข้อครหาของสังคมที่มักจะมีคำพูดว่าพวกเธอ แก่ อ้วนและเป็นเลสเบี้ยน พวกเธอจึงตัดสินใจสร้างไอจีนี้ขึ้นมาเพื่อเอาชนะคำพูดเหล่านั้น และนั่นจึงเป็นที่มาของชื่อบัญชีด้วย และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือไอจีที่เพิ่งเปิดมาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ในตอนนี้มีผู้ติดตามแล้วถึง 37,000 คน!! บอกเลยว่าอันนี้อย่างได้ https://www.instagram.com/p/BuwLZDYBbNJ/ โดยในวิดีโอแรกที่ทั้งคู่โพสต์ลงในโซเชียลเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ก็คือวิดีโอที่ทั้งคู่สวมแว่นตาดำดูดปุ๊นกันอย่างสบายอารมณ์ด้วยบ้องแบบ DIY ที่ทำมาจากขวดน้ำผลไม้ จากนั้นทั้งคู่ก็ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องกัญชาอย่างต่อเนื่องแถมบางทียังแสดงความหลุดด้วยการแต่งตัวแปลกๆ สร้างสีสันและเสียงฮาจากแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี ยอมแล้วจ้า เต็มปอดแล้วมั้งเนี่ย https://www.instagram.com/p/Buw-hlOBFPu/…
-
แม่ทนไม่ไหว!! ห่วงลูกชายพิการนอนป่วย เลยฉีดเลือดตัวเองเข้าไป หวังให้ รพ. ใส่ใจกว่านี้
ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตเมือง Fairfax รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เคยเกิดเรื่องครั้งหนึ่งว่า “คุณแม่วัย 29 ปีได้ฉีดเลือดของตัวเองเข้าไปในปากและจมูกของลูกชายพิการวัย 5 ขวบ” คุณแม่คนนี้ถูกกล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาลบันทึกไว้ได้เมื่อวันที่ 25 เมษายนปี 2018 เมื่อราวๆ เวลาประมาณสิบโมงเช้าของวันนั้น ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพของ Elizabeth Malone คุณแม่วัย 29 ปี Elizabeth คุณแม่ชาวอเมริกันคนนี้ยอมรับว่าเธอทำแบบนั้นก็เพื่อหวังให้ทางพยาบาลและทีมแพทย์จะช่วยใส่ใจลูกพิการของเธอมากกว่านี้ เธอให้เหตุผลอีกว่าทางแพทย์และพยาบาลไม่สามารถช่วยเหลืออะไรลูกของเธอได้มากเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะลูกชายของเธอพูดคุยโต้ตอบไม่ได้ ทำให้การติดตามผลและอาการเป็นไปอย่างยากลำบาก Elizabeth Malone หลังเกิดเรื่องดังกล่าว Elizabeth ถูกศาลฟ้องร้องและการต่อสู้ภายในศาลนั้น ฝ่ายอัยการได้กล่าวว่าการที่เธอฉีดเลือดเข้าปากและจมูกของลูก ส่งผลทำให้เด็กชายมีอาการติดเชื้อและเป็นไข้สูง โดยเมื่อเดือนเมษายนปี 2018 ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้เก็บหลักฐานไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระบอกฉีดยาที่ Elizabeth เก็บไว้ในแขนเสื้อและคราบเลือดที่เปื้อนทิชชูในห้องน้ำ เพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อศาล หลักฐานที่ทางโรงพยาบาลเก็บไว้สำหรับพิจารณาบนชั้นศาล อีกทั้งก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทางโรงพยาบาลได้โทรแจ้งไปยังองค์กรพิทักษ์เด็ก เนื่องจากพวกเขาสังเกตและกังวลว่าคนเป็นแม่นั้นจะพยายามทำร้ายลูกของตนเอง โดยตลอดสองเดือนก่อนหน้านั้น เด็กชายเคยเข้าโรงพยาบาลมาเพราะเขามีเลือดออกโดยไม่ทราบสาเหตุถึง 7 ครั้งด้วยกัน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นผลมาจากการใช้ความรุนแรงของคนในครอบครัว …
-
หลังเหตุก่อการร้าย ชาวคริสต์พากันส่งข้อความให้กำลังใจชาวมุสลิม “เราคือเพื่อนกัน”
มีคำกล่าวที่ว่า “ความรักชนะทุกสิ่ง” ซึ่งมักใช้ในการเคลื่อนไหวสนับสนุนชาว LGBT แต่จากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่มัสยิดในประเทศนิวซีแลนด์นั้น เหตุการณ์อาจเกิดขึ้นจากความเกลียดชัง และมีวัตถุประสงค์เพื่อดึงเอาความเกลียดชังในใจทุกคนออกมาตอบโต้กัน #เหมียวม่วง คิดว่าประโยคที่ว่า “ความรักชนะทุกสิ่ง” ก็สามารถนำมาใช้ในเหตุการณ์นี้ได้เช่นกัน เมื่อภายหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญผ่านไป มีการริเริ่มส่งผ่านข้อความและความรู้สึกดีๆ ให้กันและกัน จากผู้คนที่นับถือศาสนาคริสต์สู่ชาวมุสลิม Andrew Graystone ชาวคริสต์จากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ได้รู้ข่าวก่อการร้ายในนิวซีแลนด์ เขารู้สึกสะเทือนใจมาก และคิดว่าผู้คนที่นี่จะรู้สึกอย่างไรในตอนที่พวกเขาไปละหมาดในวันศุกร์อย่างสงบ แล้วพวกเขาอาจถูกใครบางคนบุกเข้ามาทำร้าย “เราสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ด้วยทั้งความกลัวและมิตรภาพ ผมเลยคิดว่าผมจะไปที่มัสยิดใกล้ๆ บ้านเพื่อทำให้พวกเขารู้ว่าเราเป็นเพื่อนกันนะ” นักเขียนชาวอังกฤษวัย 57 ปีคนนี้จึงได้เขียนข้อความหนึ่งในไวท์บอร์ดและไปยืนอยู่หน้ามัสยิด Madina ใจความว่า “พวกคุณเป็นเพื่อนผมนะ และผมจะเฝ้าระวังให้ในระหว่างที่พวกคุณละหมาด” ข้อความสั้นๆ ที่มีความหมายและความหวังดีมากมายในนั้นได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวมุสลิมละแวกนั้น ทุกคนพากันมาจับมือเขา บางคนก็ใจดีมอบอาหารของชาวมุสลิมให้เขาได้ลองทาน อิหม่ามประจำมัสยิดชื่อว่า Zafar Iqbal ได้พูดถึงน้ำจิตน้ำใจของ Andrew ว่า “เราเชื่ออย่างยิ่งว่าผู้คนที่นี่นั้นน่ารักและให้เกียรติซึ่งกันและกัน” “ชาวมุสลิมที่ออกจากมัสยิดไปพบกับเขาต่างก็ปรบมือให้และกล่าวขอบคุณเขาเป็นการใหญ่” ไม่เพียงแค่ Andrew เท่านั้นแต่ในหลายๆ พื้นที่ก็มีชาวคริสต์ที่ประกาศตัวให้กำลังใจชาวมุสลิมและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่นิวซีแลนด์กันอย่างท่วมท้นเลยทีเดียว “คริสเตียนคนนี้ขอต่อต้านการเหยียดและความรุนแรงต่อชาวมุสลิม” What happen…
-
หนุ่มปาไข่ใส่หัว ‘สว. ของออสเตรเลีย’ ที่บอกว่า ‘เหตุกราดยิง’ เป็นความผิดของชาวมุสลิม
เหตุการณ์ชาวมุสลิมที่ประเทศนิวซีแลนด์ถูกกราดยิงเสียชีวิต 49 ศพ โดยผู้ก่อการร้ายชาวออสเตรเลียหัว ‘ขวาจัด’ ยังคงเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบไปสู่หลายๆ ฝ่าย รวมถึงเรื่องของการเมือง เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ที่เป็นประเด็นต่อเนื่องมาจากเหตุกราดยิง โดยนาย Fraser Anning สว.ของเขต Queensland ประเทศออสเตรเลีย ได้ถูกเด็กหนุ่มวัย 17 ปี นำไข่มาปาใส่หัวเจ้าอย่างจัง ในขณะที่เขากำลังให้สัมภาษณ์กับนักข่าว หลังจากที่ สว. Anning ถูกไข่ทุบใส่หัวจนไข่ถึงกับแตก เขาก็หันไปมองเด็กหนุ่มก่อนที่จะใช้มือซ้ายตบเข้าใส่หน้าของเด็กหนุ่ม จากนั้นก็เกิดการปะทะกันแต่ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาห้ามและควบคุมตัวเด็กหนุ่มเอาไว้ สาเหตุที่เด็กหนุ่มกระทำแบบนี้คาดว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้ สว. Anning ได้ออกสื่อโจมตีชาวมุสลิมและบอกว่าการที่เปิดโอกาสให้ชาวมุสลิมอพยพเข้าไปในประเทศนิวซีแลนด์ คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เขาแถลงไว้ว่า “อย่างที่เป็นมาทุกครั้ง นักการเมืองฝ่ายซ้ายและสื่อจะรีบอ้างทันทีว่าสาเหตุของการกราดยิงเกิดขึ้นเพราะกฎหมายการพกปืนหรือพวกคนที่มีแนวคิดชาตินิยม แต่ทั้งหมดนี่มันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งเพ!” “สาเหตุจริงๆ ของการนองเลือดที่นิวซีแลนด์เป็นเพราะมีการให้ชาวมุสลิมคนคลั่ง อพยพเข้าสู่นิวซีแลนด์ตั้งแต่ทีแรกต่างหาก!!” วิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว “เพื่อให้ชัดเจน แม้วันนี้ชาวมุสลิมอาจจะเป็นเหยื่อ แต่ปกติแล้วพวกเขาคือฝ่ายที่ทำผิด ชาวมุสลิมฆ่าคนโดยอ้างความเชื่อของพวกเขาโดยมีมุมมองอันน้อยนิด” สว. Anning กล่าวปิดท้าย คำแถลงของ Anning สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับหลายฝ่าย และถึงกับทำให้…
-
สุดแปลก18+!! สนามกอล์ฟสำหรับผู้ใหญ่ พร้อมธีมเหล่าตุ๊กตาเซ็กส์ทอยแต่ละหลุม!!
ทุกวันนี้มีสนามกอล์ฟแบบใหม่ๆ ออกมามากมายเพื่อเอาใจลูกค้าหลากหลายวัย ไม่ว่าจะเป็นสนามแบบทั่วไป 18 หลุมจนถึงแบบเป็นฐานต่างๆ ให้เล่นสำหรับเด็กเล็ก (หรือที่บางคนอาจเรียกกันว่า “สนามมินิกอล์ฟ”) แต่ครั้งนี้ที่เมืองดาร์บี ประเทศอังกฤษ ได้มีสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งที่เปิดให้บริการเฉพาะคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น!! (เด็กน้อยห้ามนะจ๊ะ) ได้ยินแบบนี้แล้วก็คงพอจะเดากันได้แล้วล่ะว่ามันน่าจะเป็นแบบไหน…หึหึ ยินดีต้อนรับสู่ “House of Holes”!! สนามกอล์ฟ House of Holes ต้องเรียกกันว่าทั้งแปลกและแหวกแนวมาก เพราะสนามแห่งนี้ต้องการดึงดูดเหล่าชายโสดที่ชื่นชอบความตื่นเต้น (สั้นๆ ก็ “หื่น”) และนักปาร์ตี้ตัวยงที่มองหาสถานที่ใหม่ๆ สำหรับการจัดงานเป็นหลัก อ้าว…แล้วมันหื่นตรงไหนเนี่ย?? ก็แหมที่นี่มีตุ๊กตาเซ็กส์ทอยเต็มไปหมด อยู่ในทุกหลุมยังไงล่ะ!! เหล่าตุ๊กตาเซ็กส์ทอยในสนามกอล์ฟ (มองหลุมกอล์ฟให้ดีล่ะอย่าไปมองหลุมอย่างอื่นแทน…) นี่เป็นไอเดียของ Simon Liu และ Daniel Doctzan เจ้าของสนามกอล์ฟ House of Holes ผู้มองเห็นความเป็นไปได้ของธุรกิจนี้ พวกเขาจึงเลือกร้านบอลรูมที่เคยเป็นไนท์คลับมาก่อนเพื่อเปิดเป็นสนามกอล์ฟไอเดียสุดแปลก แต่ถ้านี่ถือว่ายังแปลกไม่พอแล้วยังมีดิลโด้หลายขนาดและหลายสีวางหราอยู่ในฐานอื่นๆ อีกด้วย!? ของเล่นเซ็กส์ทอยแบบอื่นๆ ที่สาวๆ บางคน…
-
คู่สามีภรรยาเล่าเหตุการณ์ช่วยกันจนรอดเหตุไฟไหม้ เผยยังไงก็ทิ้งอีกฝ่ายไม่ได้จริงๆ!!
ความรักความห่วงใยที่มีให้กันระหว่างคนในครอบครัว ต้องบอกว่าเป็นสายใยที่มีความแข็งแกร่งเอามากๆ ซึ่งก็มีเหตุการณ์ที่พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วมากมายบนโลก รวมถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนเหตุการณ์นี้… หวัง เสวี่ย ผู้เป็นภรรยาวัย 23 ปี เมื่อคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นที่อาคารแห่งหนึ่งในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน ซึ่งในเหตุฉุกเฉินเช่นนี้มีคู่สามี – ภรรยาที่สามารถเอาชีวิตรอดมาจากเปลวไฟได้อย่างหวุดหวิด หลังจากที่ผ่านเหตุร้ายมาได้หวัง เสวี่ย ผู้เป็นภรรยาวัย 23 ปีก็เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังทั้งน้ำตานองหน้า ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องความรักระหว่างเธอและสามีที่เธออาจลืมไม่ลงไปตลอดทั้งชีวิต จากการที่ทั้งคู่ไม่อาจทิ้งกันได้ลงคอ หลี่ ซั่ว ผู้เป็นสามีวัย 24 ปี เธอเล่าว่าในเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันนั้น ขณะที่เธอและสามีกำลังนอนหลับอยุู่ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนขึ้นมาว่า ‘ช่วยด้วย’ อีกทั้งมีเสียงวิ่งมากมายเกิดขึ้นในชั้นที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ จึงได้ปลุกสามีขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วทั้งสองก็พบว่าได้เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นโดยที่ไฟนั้นได้ลุกลามมาถึงกระจกห้องนอนของทั้งคู่ ในเวลาตอนนั้นทางหลี่ ซั่ว ผู้เป็นสามีวัย 24 ปีจึงคิดแค่เพียงว่าไม่ว่าจะอย่างไรจะต้องหาทางหนีจากสถานการณ์เลวร้ายนี้ให้ได้ เขาเล่าว่าในตอนนั้นความคิดที่แล่นอยู่ในหัวคือจะทำอย่างไรให้ภรรยาของเขารอดก่อน เขาจึงตัดสินใจให้ภรรยาวิ่งลงบันไดนำหน้าไปก่อน โดยที่ตนจะคอยเฝ้าระวังหลังให้ ตึกที่ถูกไฟไหม้ “ตอนนั้นควันมันดำมากฉันมองอะไรไม่เห็นเลย ไม่รู้ว่าพอวิ่งลงไปถึงชั้นไหนไม่รู้ ฉันเรียกชื่อเขาแต่ไม่ได้ยินเสียงเขาขานรับ ฉันก็เลยวิ่งกลับไปตามหาตะโกนเรียกชื่อเขาไปด้วย ตอนนั้นมันร้อนมากๆ…
-
ชายไต้หวันกลายเป็นไวรัลจากการไว้ทรงผม ‘เหลี่ยมบล็อก’ แข็งราวหินเจอพายุก็ไม่กระดิก!!
จริงอยู่ที่ว่าเรื่องของ ‘ทรงผม’ จะเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ใครอยากทำแบบไหนก็แล้วแต่ความพอใจของคนคนนั้น แต่ว่าบางทีทรงผมที่มันดูแปลกประหลาดไม่เหมือนกับชาวบ้านชาวช่องเขามันก็เป็นอะไรที่เตะตาเสียจริงๆ ดั่งเช่นตัวอย่างของชายชาวไต้หวันคนนี้ที่ทรงผมของเขามันเป็นเหลี่ยมๆ บล็อกๆ ยังกับหลุดออกมาจากเกม ‘มายคราฟต์’ ยังไงยังงั้น และนั่นเองทำให้เขากลายเป็นกระแสไวรัลไปโดยปริยาย ชื่อของนาย Wu Goren ชายชาวไทเปวัย 59 ปีได้เป็นที่รู้จักกับชาวโลกเป็นครั้งแรกในปี 2014 จากภาพทรงผมของเขาที่มีมือดีถ่ายเอาไปลงโซเชียล ซึ่งความแปลกนี้ของเขาก็ดังซะจนถึงขนาดที่ว่ามีสื่อท้องถิ่นไปสัมภาษณ์ โดยสื่อได้ถามนักวิทยาศาสตร์เคมีประจำโรงพยาบาล National Taiwan University Hospital คนนี้ว่าได้แต่ทรงผมของเขาใดมา ซึ่งเขาเล่าให้ฟังว่ามันเริ่มขึ้นจากความที่เขาถูกผู้หญิงปฏิเสธไม่รับรัก เขาจึงหาวิธีที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ดูหนุ่มลงราวกับมีอายุช่วง 20 – 30 ปี ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่พบเจอทรงผมเหลี่ยมๆ ของเขาส่วนมากจะเห็นว่าเขาเด็กลงหรือไม่ แต่ที่รู้ๆ คือมันสะดุดตาเหลือคณานับ อย่างไรก็ตามตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เป็นข่าวครั้งแรก เขาก็ยังคงไว้ผมทรงนี้อยู่และมีความสุขมากๆ กับการที่มีผู้คนถ่ายรูปไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน จนตอนนี้ก็มีภาพของเขานับได้เป็นอัลบั้มๆ และได้กลับกลายมาเป็นไวรัลอีกครั้งหนึ่ง แต่นับถึงตอนนี้ Wu ก็ยังคงไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักทีแม้ว่าจะเด่นเพียงใด ทว่าเขาก็ยังคงไว้วางใจกับผมทรงเหลี่ยมนี้ว่าจะสามารถดึงดูดสาวๆ ได้ในวันข้างหน้า โดยสื่อรายงานว่า ช่างตัดผมมืออาชีพต้องใช้เวลากว่า 2…
-
Sanrio เปิดตัวสินค้าฉลองครบรอบ 45 ปี คิตตี้ น่ารักแบบนี้ เงินเดือนพี่เธอเอาไปให้หมดเลย
Hello Kitty เป็นตัวละครสุดฮิตที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกที่สร้างโดยบริษัทซานริโอ้ ประเทศญี่ปุ่น ออกแบบโดยคุณยูโกะ ชิมิซุ และปรากฏครั้งแรกเมื่อปี 1974 จนถึงตอนนี้ในปี 2019 ก็เป็นเวลากว่า 45 ปีแล้ว ที่ตัวการ์ตูนแมวญี่ปุ่นหางสั้น เพศเมีย สีขาว ติดโบสีแดงนั้นเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในวันนี้ เราจะตามติดคุณ Mariko Ohanabatake นักข่าวสาวชาวญี่ปุ่นแห่ง SoraNews24 ที่มีโอกาสได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าสุดตื่นตาตื่นใจของ Hello Kitty และผองเพื่อนของเธอ จะน่ารัก คิขุอาโนเนะขนาดไหน ไปชมกันเล้ย! คุณ Mariko และตัวการ์ตูนสุดโด่งดัง . ภาพบรรยากาศเมื่อเข้ามาในงาน บูธ Hello Kitty ถูกตกแต่งด้วยสีสันที่ดูก็รู้ว่าคืออะไร ชั้นวางสินค้าเต็มไปด้วยการตกแต่งสุดคลาสสิก การตกแต่งแบบยุค 80s และยุค 90s รวมไปถึงสินค้าชุดแรกที่ Hello Kitty ได้วางจำหน่าย . . .…
-
15 เรื่องราวสุดอบอุ่นหัวใจ ต้อนรับวันที่สดใสด้วยสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
ทุกคนคิดว่าสิ่งที่เราเลือกรับรู้เป็นเรื่องแรกในแต่ละวันนั้น สามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ และความรู้สึกของเราได้ไหม? อยากให้มาลองพิสูจน์กันจากรูปภาพ และเรื่องราวสุดน่าประทับใจจากทั่วโลกทั้ง 15 รูปภาพด้านล่างนี้ ที่ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข26 นำมาฝาก เพื่อต้อนรับวันดีๆ แบบนี้กันดีกว่า ไปรับชมกันเลย… 1. ในที่สุด พ่อบุญธรรมก็ได้เป็นคุณพ่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ 2. หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกว่า 8 เดือน คุณหมอบอกว่าเธออาจไม่รอด แต่ตอนนี้ลูกสาวของฉันจะอายุ 1 ขวบในอีก 3 วันข้างหน้านี้แล้ว 3. พรหมลิขิตมีจริงนะ ดูหนุ่มน้อยรายนี้กับแมวตัวนี้สิ การเกิดมาพร้อมสีตาสองข้างที่แตกต่างกันว่ายากแล้ว แต่หาคนหรือสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกันนั้นยากกว่า แต่ทั้งคู่ก็หากันจนเจอ 😀 4. ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งในเด็ก ได้เปลี่ยนฝันร้ายให้กลายเป็นพลังสร้างสิ่งดีๆ จน 20 ปีต่อมา เธอสามารถกลับมายังโรงพยาบาลที่เคยรักษาเธอในฐานะพยาบาลสาว 5. เพราะการทำคีโมรักษามะเร็งทำให้เธอไม่มีขน และเส้นผมบนร่างกายเป็นเวลาหลายปี แต่ในที่สุด เธอก็มีทรงผมทรงแรกหลังจากต่อสู้กับโรคร้าย 6.…
-
เจ้าสาวขอเงินค่าช่อดอกไม้คืนอ้างว่าหาย แต่ดันใช้ถือตอนถ่ายรูปในงานแต่งเฉยเลย
Sarah Weatherill อายุ 34 ปี กับ Lisa Husband อายุ 46 ปี เป็นนักจัดดอกไม้ และเป็นหุ้นส่วนบริษัท Forever to Hold ซึ่งรับทำของตกแต่งในงานแต่งงาน เมื่อปีที่แล้วมีลูกค้าบ่าวสาวคู่หนึ่งมาสั่งทำช่อดอกไม้ที่เธอจะใช้ถือในงานแต่งงาน ซึ่งทั้งคู่ก็จัดทำให้ตามที่ลูกค้าต้องการ ลูกค้าสาวก็จ่ายเงินค่าดอกไม้มาให้ ทั้งคู่ก็ส่งช่อดอกไม้ดังกล่าวไปทางบริษัทส่งของ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ แต่แล้ววันหนึ่งเจ้าสาวคนดังกล่าวก็มาร้องเรียนทาง Sarah และ Lisa ว่าต้องการจะทำเรื่องของเงินค่าดอกไม้คืนจากทั้งคู่ 100 ยูโร (ราว 3,600 บาท) เนื่องจากดอกไม้ช่อที่สั่งไปนั้นมัน “หายไป” เพราะทางเจ้าสาวไม่ได้รับช่อดอกไม้ดังกล่าวเสียที ทั้งที่ทั้งคู่ส่งช่อดอกไม้นั้นไปก่อนกำหนดงานแต่งถึง 8 เดือน แต่เมื่อทางลูกค้าร้องเรียนมาและบ่นกับเธอตลอดเวลา ทาง Sarah ก็พยายามติดต่อประสานงานกับทาง Royal Mail บริษัทส่งของถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น Sarah เล่าว่า “พวกเราวิ่งวุ่นไปไปรษณีย์ และทุกๆ ทาง แต่ที่สุดแล้วเธอคนนั้นก็ยืนยันว่าเธอต้องการขอเงินคืน ฉันเลยยอมตกลงเซ็นเช็คคืนให้ไปเต็มราคา เพราะเราไม่อยากให้ธุรกิจของเรามีปัญหา แล้วพอเธอได้รับเงินแล้ว เธอก็บล็อกพวกเราแล้วหายตัวไปในทันทีเลย …
-
งานวิจัยใหม่ชี้ การบริโภคไข่มากกว่า 3-4 ฟองต่อสัปดาห์ เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจถึง 6%
เพื่อนๆ ชอบทานไข่กันไหม เชื่อว่าคงมีอยู่หลายคนเป็นแน่ที่ชอบเจ้าวัตถุดิบอาหารชิ้นนี้ เพราะไม่ว่าจะต้ม ผัด ทอด หรือนึ่ง ไข่ก็เป็นหนึ่งในของที่ปรุงง่ายและอร่อยอยู่เสมอ ดังนั้นนี่อาจจะนับเป็นข่าวร้ายสำหรับหลายๆ คนเลยก็ได้ เพราะเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาวารสาร JAMA ได้ทำการตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นใหม่ที่บอกว่าการบริโภคไข่มากกว่า 3-4 ฟองต่อสัปดาห์นั้นอาจทำให้เรามีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้สูงขึ้น 6% และมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากเหตุผลอื่นๆ มากขึ้นอีก 8% เทียบกับคนที่ทานไข่น้อยกว่า 3 ฟองต่อสัปดาห์ ดูเหมือนว่าเหตุผลหลักที่ไข่อาจจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพจะมาจากคอเลสเตอรอลของตัวไข่เอง ซึ่งทางทีมวิจัยพบว่าหากทานคอเลสเตอรอลเกิน 300 มิลลิกรัม (ไข่หนึ่งฟองมีคอเลสเตอรอล 373 มิลลิกรัม) คนเราจะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจมากขึ้นถึง 17% เลยทีเดียว โดยนี่เป็นการทดลอง ที่เกิดขึ้นจากการเก็บข้อมูลในกลุ่มผู้ใหญ่ 29,615 คน ผู้อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา และจะถูกติดตามอาการทางสุขภาพเป็นเวลา 17.5 ปี ของเหล่านักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์นไฟน์เบิร์ก แน่นอนว่างานวิจัยนี้ขัดแย้งโดยตรงกับ “แนวทางการบริโภคอาหารสำหรับชาวอเมริกัน” ที่จัดทำโดยกรมอนามัย และกรมการเกษตรของสหรัฐอเมริกา ที่มีการถอดคอเลสเตอรอลจากอาหารต้องควบคุมในปี 2015 และบอกว่าไข่ไก่สามารถทานได้ทุกวันโดยไม่ต้องกังวล สำหรับเรื่องนี้ผู้ทำการวิจัย…
-
รวมเหล่าฮีโร่แห่ง “เหตุกราดยิงนิวซีแลนด์” ใช้ความกล้าหาญ เข้าแย่งปืน-ช่วยชีวิตผู้อื่น
จากเหตุกราดยิงมัสยิดในนิวซีแลนด์ กลายเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญและสะเทือนใจคนทั่วโลก ผู้คนเกือบ 50 คนเสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 50 คน โดยทางตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 รายไว้ได้แล้ว นอกจากนี้ยังทำการเก็บกู้ระเบิดที่ค้นพบบนรถยนต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเหตุการณ์ที่มัสยิด Al Noor นั้นนาย Naeem Rashid ได้พยายามเข้าไปต่อสู้เพื่อแย่งปืนจาก Brenton Tarrant เพื่อช่วยเหลือให้คนอื่นๆ ในมัสยิดหนีออกไป Naeem Rashid แต่โชคร้ายที่ตัวเขาเองถูกยิง และนอนรอความช่วยเหลือจากบาดแผลฉกรรจ์ ภายหลังเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ในค่ำของวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม เขาก็ได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล มีรายงานว่าลูกชายของเขาเองก็อยู่ในมัสยิดนั้นด้วย และได้ตกเป็นเหยื่อกระสุนปืนของ Tarrant เช่นกัน นอกจากนี้ทางมัสยิด Linwood ที่เกิดเหตุอีกแห่ง นาย Syed Mazharuddin ผู้รอดชีวิตได้เล่าว่า มีชายหนุ่มไ่ทราบชื่อคนหนึ่งที่ใช้ความกล้าหาญเข้าไปต่อสู้แย่งปืนกับคนร้าย Syed เล่าสิ่งที่ตนได้เห็นว่า ชายหนุ่มได้ใช้ตัวพุ่งเข้าไปชนคนร้าย ก่อนปลุกปล้ำแย่งปืนมา แล้วไล่ตะเพิดคนร้ายออกจากมัสยิด ก่อนที่ตัวเขาเองจะวิ่งตามออกไป แต่พบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งอยู่ในรถที่รอรับคนร้ายอยู่ด้านนอก คนร้ายจึงขึ้นรถหนีไปได้ Syed Mazharuddin ผู้รอดชีวิต ทำให้มัสยิด Linwood…
-
ไอเดียเจ๋ง เด็กหญิง 8 ขวบ เก็บขวดพลาสติกตามทางเดินไปโรงเรียนมารียูส
ที่ประเทศอังกฤษ เมืองเคมบริดจ์เชอร์ หมู่บ้านแบรมพ์ตัน หนูน้อยวัย 8 ขวบชื่อว่า Leah Simpson แสดงถึงความใส่ใจสิ่งแวดล้อมของเธอด้วยการเก็บขยะทำ “กำแพงรักษ์สิ่งแวดล้อม” (Ecobricks) จากถุงพลาสติก โดยหนูน้อย Leah ได้แสดงให้เพื่อนร่วมชั้นเห็นถึงวิธีการทำกำแพงรักษ์สิ่งแวดล้อม หลังจากเก็บขยะถุงพลาสติกเป็นจำนวนถึง 48 ชิ้น ระหว่างเดินทางไป – กลับจากบ้านและโรงเรียนประถมหมู่บ้านแบรมพ์ตัน หนูน้อย Leah ขณะเก็บขยะ การสร้างกำแพงรักษ์โลกนั้น สามารถทำได้ด้วยการนำวัสดุที่ไม่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ และเป็นพลาสติกชนิด “อ่อน” เช่น ถุงพลาสติก และถุงขนมต่างๆ มาอัดใส่ขวดพลาสติกให้แน่น หนูน้อยได้กล่าวถึงความคิดริเริ่มในการเก็บขยะไว้ว่า “หนูรู้สึกเศร้าที่เห็นขยะเต็มไปหมด พอหนูเก็บขยะ และเห็นว่ามันสะอาดมากขึ้น หนูก็มีความสุขขึ้นมาทันที” “หนูอยากปกป้องโลก และสัตว์เพื่อนร่วมโลกค่ะ หนูหวังว่าคนอื่นจะทำแบบที่หนูทำเหมือนกัน” “กำแพงรักษ์โลก” ที่เธอและแม่ช่วยกันลงมือทำ แม่ของหนูน้อย Leah นามว่า Lianne Simpson วัย 33 ปีกล่าวว่า “Leah เป็นผู้ออกไอเดียในการเริ่มต้นเลือกเก็บขยะ…
-
“ไม่ใช่หลานชายที่รู้จัก” ยายของผู้ก่อเหตุในนิวซีแลนด์ เผยเขาเคยเป็นเด็กดี มาเยี่ยมทุกปี…
จากเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่ง ในเมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ ที่นาย Brenton Harrison ได้บุกเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงใส่ชาวมุสลิมขณะกำลังสวดมนต์ในมัสยิด จนมีผู้เสียชีวิต 49 รายนั้น ล่าสุดยายของผู้ก่อเหตุได้ออกมาเผยว่าไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นว่าหลานที่ได้เจอกันครั้งล่าสุดในเทศกาลคริสต์มาสจะทำการฆาตกรรมไปถึง 49 ศพ Joyce Tarrant คุณยายวัย 94 ปี ของ Brenton เผยกับ Daily Mail Australia ว่านักฆ่าเลือดเย็นที่ทำการถ่ายทอดสดในขณะที่ตัวเองกราดยิงใส่คนมุสลิมในมัสยิดเมื่อวาน ( 15 มี.ค.) ‘ไม่ใช่หลานชายที่เธอรู้จัก’ Brenton Harrison Tarrant อายุ 28 ปี มีพื้นเพมาจากเมือง Grafton รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย หลังก่อเหตุ Brenton Harrison วัย 28 ปีได้รับสารภาพด้วยตัวเอง และเขาก็ถูกศาลนิวซีแลนด์ฟ้องข้อหาฆาตกรรมในวันนี้ (16 มี.ค.) หลังจากที่ก่อเหตุไปเมื่อวาน (15 มี.ค.) การก่อเหตุสร้างความช็อคให้กับครอบครัวของ…
-
สาววีแกนป่วยหนักจนเกือบตาย หันมากินอาหารจากสัตว์จนกลับมาแข็งแรง
Alma-Jade Chanter สาวนักศึกษาด้านชีววิทยาศาสตร์ อายุ 25 ปี เริ่มทานอาหารมังสวิรัติมาตั้งแต่ตอนอายุได้ 13 ขวบ หลังจากได้ดูวิดีโอที่มีเนื้อหาน่ากลัวซึ่งจัดทำขึ้นโดยแคมเปญรณรงค์สิทธิสัตว์ เธอได้ผันตัวเป็นวีแกนอย่างจริงจังมากๆ จนอายุ 14 ปีเธอเลือกทานแต่ผักและผลไม้สดที่ไม่ผ่านการปรุงใดๆ ถึงแม้ว่าตัวเธอเองก็รู้สึกถึงสุขภาพที่เริ่มย่ำแย่ แต่ก็เลือกที่จะเพิกเฉยและมุ่งมั่นทานอาหารมังสวิรัติต่อไป จนน้ำหนักเธอลดลงไปมากถึง 10 กิโลกรัม ในที่สุดพ่อและแม่ของเธอต้องพาเธอไปหาหมอ โดยเธอได้รับคำเตือนจากแพทย์ในเรื่องอาหารการกิน เนื่องจากว่าร่างกายของเธอขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น ถ้าเธอยังทานอาหารแบบที่กำลังกินต่อไปเรื่อยๆ มันจะส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพอย่างแน่นอน แทนที่จะทานอาหารตามที่แพทย์แนะนำ เธอเลือกที่จะทานน้ำผลไม้และใช้วิธีจัดเวลาทาน-อดอาหาร เพราะเธอเชื่อมั่นว่าเธอจะสามารถรักษาอาการป่วยของตัวเองได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเลิกเป็นวีแกน เธอกล่าวว่า “ฉันมันทั้งดันทุรังและหัวแข็ง ไม่ยอมฟังที่คนอื่นๆ เตือน ฉันแค่มอบความเชื่อ ความศรัทธาลงไปในอาหารแบบชาววีแกนที่ฉันคิดว่ามันดีต่อสุขภาพ” จากนั้นเพียง 1 ปี หลังเธอเริ่มเป็น Raw Vegan (ทานแต่ผักและผลไม้สด) ประจำเดือนของเธอหยุดหายไปดื้อๆ เพราะร่างกายขาดสารอาหารที่สำคัญ เล็บก็เป็นร่องคลื่นลึกเพราะขาดแคลเซียม “จากนั้นฟันของฉันก็เริ่มแย่ตามไปด้วย เพราะได้น้ำตาลจากการทานผลไม้มาเยอะ แต่ขาดแคลเซียมไปซ่อมแซม ฉันไปหาหมอฟัน แต่แล้วฟันหน้าของฉันก็หักออกเป็นสองส่วนต่อหน้าหมอ จนเขาถามฉันว่า ‘นี่คุณดื่มน้ำอัดลมเป็นอาหารเช้ารึไง?’”…
-
ล้ำไปอีกระดับ! จีนทดสอบระบบ ‘สแกนใบหน้า’ จ่ายเงินค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน แทน QR โค้ด
จีนเป็นประเทศที่มักนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้อำนวยความสะดวกในสังคม ก่อนหน้านี้จีนได้ประกาศตนเป็นสังคมไร้เงินสดโดยใช้สมาร์ทโฟนสแกนจ่ายเงินแทนธนบัตร สร้างความสะดวกให้ผู้บริโภคสุดๆ แต่ครั้งนี้พวกเขาล้ำขึ้นไปอีกระดับ เพราะจีนกำลังจะนำระบบจ่ายเงินด้วยการสแกนใบหน้ามาใช้แทนการใช้มือถือจ่าย! ผู้ประกอบการของบริษัทรถไฟฟ้าใต้ดิน ณ เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง กำลังทดสอบระบบซื้อตั๋วด้วยการใช้ใบหน้าขึ้นที่สถานี Futian เพราะมองเห็นว่าจะช่วยกว้างความสะดวกให้กับผู้โดยสารจำนวนมาก จากเดิมที่ต้องนำโทรศัพท์ออกมาสแกน QR Code ปัจจุบันผู้โดยสารสามารถยืนอยู่ข้างหน้าหน้าจอที่มีขนาดประมาณแท็บเล็ต ที่จะตั้งอยู่ใกล้กับทางประตูทางเข้า และทำการสแกนหน้า จากนั้นค่าตั๋วก็จะถูกหักออกไปจากบัญชีธนาคารที่ผู้โดยสารเชื่อมเอาไว้โดยอัตโนมัติ! นอกจากระบบสแกนใบหน้าแล้ว สถานีดังกล่าวยังติดตั้งระบบ 5G ไว้เพื่อรองรับผู้โดยสารกว่า 5 ล้านคนต่อวันอีกด้วย ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ระบบสแกนหน้าได้ถูกนำมาใช้ในการจ่ายเงิน ก่อนหน้านี้ KFC สาขาหนึ่งในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ก็ใช้ระบบคล้ายกัน โดยผู้ซื้อสามารถจ่ายเงินได้ด้วยการยิ้มให้กับเครื่องสแกน “การใช้ระบบสแกนหน้าซื้อตั๋วในอนาคต ผู้โดยสารจะต้องทำการลงทะเบียนข้อมูลใบหน้าของพวกเขาไว้ก่อน” “และเชื่อมเข้ากับระบบจ่ายเงินในบัญชีของพวกเขา เหมือนกับวิธีจ่ายเงินที่ KFC เลยครับ” เจ้าหน้าที่สถานีได้ให้สัมภาษณ์ ที่มา: South China Morning Post, nextshark
-
แม่วัย 17 และชาย 3 คน ทุบตีลูกวัย 1 ขวบจนเสียชีวิต เหตุเพราะลูกร้องไห้บ่อย?!
เกิดเหตุการณ์น่าสลดขึ้นที่ประเทศไต้หวัน มีรายงานจาก Taiwan News ออกมาว่า เด็กหนึ่งขวบคนหนึ่งได้เสียชีวิตลงหลังถูกทำร้ายจากแม่แท้ๆ ของเธอและชายอีกสามคน ยาวนานกว่า 3 เดือน.. เหตุเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในเมือง Tainan ในวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา Hsueh คุณแม่วัย 17 ปียอมรับสารภาพกับตำรวจถึงสิ่งที่เธอกระทำ เธอเผยว่าเธอทำร้ายลูกสาวของเธอเป็นประจำ ร่วมกับแฟนหนุ่มและลูกพี่ลูกน้องอีกสองคน รายงานบอกว่าทั้งสี่คนอาศัยอยู่ร่วมกับเหยื่อ และพวกเขากล่าวว่าที่ทำไปเพราะต้องการสร้าง ‘วินัย’ ให้กับเด็ก?! Yeh Ching-Tsai อัยการเมือง Tainan ได้เผยว่าเหยื่อเป็นเด็กอายุยังไม่ถึงปีครึ่ง ยังไม่สามารถพูดได้ และมักจะร้องไห้เสียงดังเป็นเหตุให้ทั้งสี่คนเริ่มลงมือกับเด็ก ทั้งสี่คนเริ่มหมดความอดทนและเริ่มทำร้ายเด็กที่ไร้ทางป้องกันตัวนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ในปีที่แล้ว โดยใช้ทั้งมือเปล่า หรือบางครั้งก็ใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกันไปเพื่อทำร้าย จนกระทั่งในวันที่ 15 ม.ค. 2019 ร่างกายของเด็กคนดังกล่าวก็ทนต่อไปไม่ไหว และเสียชีวิตลง ชายทั้งสามคนถูกเปิดเผยออกมาว่ามีนาย Hsueh วัย 26 ปี ญาติของแม่วัย 17 ปี, Ho วัย 28 ปี ญาติของแฟนหนุ่มของคุณแม่วัย…
-
“นักโทษแหกคุก” แม้จะถูกตำรวจจับกุมตัวได้ก็ไม่หวั่น ขโมยรถตำรวจขับหนีไปได้อีกรอบ!!
เพื่อนๆ อาจเคยได้ยินข่าว “นักโทษแหกคุก” กันมาก่อน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม แต่เมื่อไหร่ที่คนคนนั้นถูกจับกุมตัวได้อีกรอบ ส่วนใหญ่แล้วก็คงจะไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้อีกเป็นครั้งที่สอง แต่ความคิดนั้นใช้ไม่ได้กับนักโทษหนุ่มวัย 30 ปีที่ชื่อว่า Travis Lee Davis ผู้ที่สามารถแหกคุกออกมาได้สำเร็จ และแม้เขาจะถูกจับกุมตัวได้อีกรอบ แต่ก็ยังคงสามารถหนีรอดไปได้หลังจากนั้น Travis นักโทษที่ถูกจับในข้อหาใช้ความรุนแรงในครอบครัว จากการรายงานกล่าวว่า Travis ได้ทำการหลบหนีออกมาจากเรือนจำในเขต Pettis รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2019 โดยวิธีการหลบหนีของเขานั้นยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด ทางผู้คุมขังเชื่อว่าเขาได้ใช้วิธีการปีนขึ้นไปในซอกช่องว่างบริเวณใต้หลังคาเรือนจำ เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ จากนั้นจึงมุดลอดไปตามกำแพงคอนกรีตที่กำลังอยู่ในช่วงของการซ่อมแซม จนกระทั่งหลุดออกไปด้านนอกเรือนจำ หลังจากที่นักโทษหนุ่มหนีออกมาได้ เขาก็ได้ทำการลักพาตัวหญิงสาวคนหนึ่งเพื่อบีบบังคับให้เธอพาเขาออกไปจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด ไม่กี่วันต่อมา หญิงสาวคนดังกล่าวได้โทรแจ้งตำรวจเกี่ยวกับเบาะแสของนักโทษแหกคุกคนนี้ ทำให้สามารถจับกุมตัวเขาได้ในวันที่ 13 มีนาคม 2019 ณ ลานจอดรถในรัฐโอคลาโฮมา ห่างจากเรือนจำไปไกลกว่า 560 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่หลายๆ คนคงรู้สึกดีใจที่สามารถจับกุมตัวนักโทษแหกคุกได้สำเร็จ แต่ว่าเรื่องมันกลับไม่ได้สิ้นสุดลงเพียงแค่นั้น ในระหว่างที่ตำรวจกำลังพูดคุยอยู่กับเหยื่อสาวที่โดนลักพาตัวติดร่างแหมาด้วยนั้น Travis…
-
โรงเรียนจีนออกกฎแยกเด็กชาย-หญิง ระหว่างพักทานอาหารกลางวัน เพื่อหลีกเลี่ยงรักในวัยเรียน?!
ความรักแบบป๊อปปี้เลิฟ น่าจะเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่หลายคนเคยสัมผัสมาในวัยเรียน แต่สำหรับโรงเรียนแห่งนี้ในประเทศจีน พวกเขากลับไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้?! โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในมณฑลเหอหนาน กำลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เหตุเพราะพวกเขาออกกฎให้แยกนักเรียนชายและนักเรียนหญิง ไม่ให้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนอันดับ 1 ในเขต Suiping ได้ออกมายืนยันว่ากฎนี้ถูกบังคับใช้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักเรียนมีความสัมพันธ์โรแมนติกระหว่างกัน ป้ายชี้ทางเพื่อแบ่งแยกเพศของนักเรียนในช่วงพักทานอาหารกลางวัน คุณครูหญิงคนหนึ่งออกมาเผยว่าระบบการเก็บคะแนนก็ถูกนำมาใช้เช่นกัน โดยหากนักเรียนคนไหนที่ถูกหัก 25 คะแนนจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนโดยอัตโนมัติ สำหรับพฤติกรรมที่จะทำให้โดนหักคะแนนก็จะมี การจับมือถือแขนกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือต่างเพศ รวมถึงห้ามอยู่ด้วยกันสองต่อสอง “หากนักเรียนมีการสัมผัสทางกายไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือต่างเพศ และการเดินด้วยกัน พวกเขาจะถูกพิจารณาว่ากำลังมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว” นักเรียนคนหนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนามออกมาเผย นอกจากนี้แล้วเหล่านักเรียนยังถูกห้ามไม่ให้นำกระเป๋าเป้มาโรงเรียน เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงขนมขบเคี้ยวที่โรงเรียนมองว่าไม่เหมาะสม เมื่อกฎอันเคร่งครัดของโรงเรียนดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ชาวเน็ตส่วนมากก็ได้แสดงความคิดเห็นไม่เชิงไม่เห็นด้วยเป็นส่วนมาก “มันผิดเหรอที่มีความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกกับเพื่อน?” ผู้ใช้ Weibo รายหนึ่งกล่าว “เด็กๆ เหล่านี้ควรจะมีความรู้สึกในช่วงที่พวกเขากำลังเติบโตไม่ใช่เหรอ? พวกคุณควรให้คำแนะนำและพูดคุยกับพวกเขา ไม่ใช่ทำลายธรรมชาติของมนุษย์ด้วยวิธีสุดโต่งขนาดนี้” ด้านชาวเน็ตอีกรายก็แนะนำว่า “โรงเรียนควรแยกออกมาสองโรงเรียน เป็นโรงเรียนชาย และโรงเรียนหญิงไปเลย มันจะได้ผลมากกว่าทำแบบนี้” ที่มา: South China…
-
ชมภาพความสวยงาม ‘ใต้ท้องทะเล’ อันลึกลับ โดยฝีมือช่างภาพมือโปรจากบาฮามาส
ภายใต้ท้องทะเลสีครามมีสิ่งมีชีวิตต่างๆ มากมาย ที่เป็นองค์ประกอบของความงดงามตามธรรมชาติที่หลายคนยังไม่เคยได้สัมผัส André Musgrove ช่างภาพมากความสามารถจากประเทศบาฮามาส ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ได้ถ่ายภาพความงามใต้ท้องทะเลในขณะดำน้ำออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผลงานภาพถ่ายของเขาได้ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆใต้ท้องทะเลสีคราม และให้ความรู้สึกว่ามนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ใครที่พร้อมแล้ว ลองไปชมรูปถ่ายฝีมือช่างภาพคนนี้พร้อมๆกัน มนุษย์ตัวเล็กในท้องทะเลกว้างใหญ่ . . ในดินแดนลึกลับ มนุษย์ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติ . ความโดดเดี่ยว อ้างว้างภายใต้มหาสมุทรสีคราม . มิตรภาพระหว่างมนุษย์และสัตว์ทะเล . ความโรแมนติกใต้ผืนน้ำ . . . . องค์ประกอบต่างๆ ของภาพเข้ากันได้อย่างลงตัว . . . . . ใครที่ชื่นชอบโลกใต้ท้องทะเลและอยากชมผลงานของช่างภาพคนนี้เพิ่มเติม สามารถติดตามอินตราแกรม andremusgrove กันได้เลย ที่มา: designyoutrust
-
พ่อ-ลูกประสบมะเร็ง พ่อปฏิเสธการรักษาเพื่อมีเงินเหลือพอ ให้ลูกสาวมีชีวิตรอด
การมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บนั้นถือเป็นต้นทุนที่ดี เพราะสามารถใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการได้ ทั้งนี้ โรคร้ายก็สามารถเกิดได้กับทุกคนเช่นกัน โดยบางครั้งอาจไม่มีสัญญาณเตือน อย่างเช่นครอบครัวหนึ่งในประเทศจีน ที่คู่พ่อลูกคู่หนึ่งถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ปี 2019 ที่ผ่านมานี้เอง เว็บไซต์ Zaobao ของประเทศจีน ได้เปิดเผยเรื่องราวของ Sun Ying นักศึกษามหาวิทยาลัยเหอหนาน วัย 21 ปี ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในปี 2015 การวินิจฉัยโรคของเธอเกิดขึ้นเพียง 1 ปีหลังจากพ่อของเธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปอดในปี 2014 นั้นเอง เป็นที่น่าเศร้าว่าฐานะทางครอบครัวของเธอไม่ดีพอให้ทั้งคู่เข้ารับการรักษาพร้อมกัน ผู้เป็นพ่อจึงเสียสละไม่ยอมรับการรักษา เพื่อให้ Sun Ying ได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์แทน และในที่สุด มะเร็งก็แพร่กระจายในร่างกายของคุณพ่อ และในเดือนธันวาคม ปี 2015 เขาก็ได้เสียชีวิตลง เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ Sun Ying ได้เข้ารับการรักษา เธอผ่านการทำเคมีบำบัดมากกว่า…
-
อาจารย์สั่งงาน ‘เพิ่มเพื่อน’ ในวีแชท อย่างต่ำ 1,000 คนถึงจะผ่าน อ้างเตรียมความพร้อมในชีวิตจริง
หลายคนอาจเคยทราบถึงระบบการให้คะแนนนักศึกษา จากการอัปโหลดผลงานลงในโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Youtube โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนจากยอดไลก์ และยอดวิวต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้ เหตุการณ์คล้ายๆ กันได้เกิดขึ้นที่คณะเศรษฐศาสตร์ และกฎหมาย แห่งหาวิทยาลัยเหอหนาน ประเทศจีน ซึ่งมีความแตกต่างจากบ้านเราเพียงแค่นิดเดียว เพราะอาจารย์ได้สั่งการบ้าน โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนวัดจากจำนวนเพื่อนในแอปพลิเคชันแชท “WeChat” วิชาที่ว่านี้คือวิชา “ออนไลน์และสื่อใหม่” โดยงานนี้ถูกมอบหมายเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2019 ซึ่งนักเรียนที่ลงเรียนวิชานี้ต้องเพิ่มเพื่อนใหม่ใน WeChat ให้ได้อย่างน้อย 1,001 คน เพื่อให้ได้คะแนนขั้นต่ำ 60 จาก 100 คะแนน หากนักเรียนคนใดเพิ่มเพื่อนได้มากกว่า 1667 คน ก็จะได้ 100 คะแนนเต็มไปเลย และงานนี้ถือได้ว่าเป็น 30% สุดท้ายของคะแนนทั้งหมด เกณฑ์การให้คะแนน โดยอาจารย์ผู้สอนวิชานี้ได้ออกมาเปิดเผยว่า “การมอบหมายงานชิ้นนี้ถือเป็นการเตรียมตัวให้นักศึกษา เรื่องทักษะการเข้าสังคมก่อนออกไปเผชิญโลกภายนอก” “งานชิ้นนี้ถือเป็นแก่นสำคัญของเนื้อหาวิชา เพราะเราตระหนักว่าเมื่อนักศึกษาออกไปหางานทำ พวกเขาจะมีทักษะการเข้าสังคมขั้นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานด้านสื่อสังคมออนไลน์”…
-
คุณพ่อผู้เสียสละ ยอมขายบ้านส่งลูกไปเรียนอเมริกา ภูมิใจในตัวลูกแม้จะกลับมาหาไม่ได้
ความรักของพ่อและแม่นั้นเป็นความรักที่บริสุทธิ์ พวกท่านพร้อมจะยอมสละทุกสิ่งอย่าง เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่เพียบพร้อม และสมบูรณ์แบบมากที่สุด เท่าที่แรงกายและแรงใจจะทำได้ คุณพ่อชาวเวียดนามวัย 74 ปีรายหนึ่งก็เช่นกัน ที่มีจุดประสงค์อยากมอบการศึกษาที่ดีที่สุดให้ลูกสาวทั้ง 2 คน นั่นทำให้เขาเสียสละตัวเองเป็นอย่างมาก เพื่อส่งลูกไปเรียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา Duyen Long คือคุณพ่อรายนี้ เขามีอาชีพเป็นเพียงพ่อค้าขายกาแฟ และเครื่องดื่ม ในกรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม โดยเขาเลี้ยงดูลูกสาวทั้ง 2 คนแต่เพียงผู้เดียว หลังจากภรรยาเขาเสียชีวิตลง เขาได้เสียสละโดยการขายบ้านในเมือง และย้ายไปเช่าบ้านในราคาที่ถูกลง เพื่อนำเงินจำนวนหนึ่งส่งเสียให้ลูกสาวได้ไปเรียนไกลถึงประเทศสหรัฐอเมริกา จนขณะนี้ ลูกสาวคนโตของคุณลุงนั้นจบการศึกษา มีอาชีพเป็นนักโภชนาการในรัฐเท็กซัส ในขณะที่ลูกสาวคนเล็กนั้นกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีสุดท้ายในสาขาฟิสิกส์ และเคมี ทั้งคู่ต่างตั้งใจเรียนเพื่อผู้เป็นพ่อของเธอ และถึงแม้ว่าลูกสาวจะไม่ว่างมาเที่ยวหาพ่อที่ประเทศเวียดนามเลย แต่พวกเธอก็โทรศัพท์ถามข่าวคราวของพ่อบ่อยๆ คุณลุงยังกล่าวอีกว่า “อันที่จริงการย้ายไปอยู่ที่อเมริกาก็ไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ผมพอใจที่จะอยู่ที่เวียดนามมากกว่า” “หากไปอยู่ที่นู่นผมคงเหงา เพราะลูกสาวทั้งสองคงวุ่นอยู่กับชีวิตตัวเอง แต่ที่เวียดนาม ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้า ได้ออกกำลังกาย ได้ขายกาแฟตอนบ่าย และได้จิบเบียร์ตอนเย็นก่อนนอน แบบนี้สบายกว่าเยอะ” ทั้งนี้ เขาได้เล่าถึงแพลนที่จะไปเที่ยวหาลูกเป็นเวลากว่า 48 วันไว้ว่าเขาได้เก็บเงินเป็นจำนวนหนึ่งสำหรับซื้อตั๋วเครื่องบินไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเยี่ยมลูกสาวทั้งสอง หลังจากไม่ได้เจอกันเป็นเวลากว่า…
-
เปิดผลสำรวจสาวโสดญี่ปุ่น เธอจะเลือกใครระหว่าง “หัวล้านแต่รวย” กับ “หล่อแต่จน” !?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจะเลือกคบใครสักคน ‘รูปลักษณ์ภายนอก’ ก็เป็นปัจจัยที่คนบางคนใช้พิจารณาเลือกคู่ เช่นเดียวกับ ‘ฐานะ’ เพราะความมั่นคงในชีวิตก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในชีวิตเช่นกัน แต่มันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า? และส่วนมากผู้หญิงคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ล่าสุด Fusamen ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลและเทคนิคเรื่องการฟื้นฟูและดูแลเส้นผม ได้จัดสำรวจหญิงโสดชาวญี่ปุ่นว่า คิดอย่างไรกับผู้ชายที่มีผมบาง หรือผมโล้น? Fusamen ได้ทำการสำรวจกับหญิงสาว 500 คน และคำถามแรกที่ถามก็คือ “คุณชอบผู้ชายที่มีผมบางหรือหัวล้านไหม?” คำตอบออกมาว่า ไม่ชอบ 90% คำถามที่สองถามว่า “คุณจะสามารถตกหลุมรักผู้ชายผมบางหรือหัวล้านไหม?” และ 54% ของหญิงสาวตอบว่าพวกเขาสามารถ เป็นจำนวนเกินครึ่ง คำถามต่อมาคือ “คุณจะสามารถแต่งงานกับผู้ชายผมบางหรือหัวล้านไหม?” และ 61% ตอบว่าได้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจำนวนที่มากพอสมควร และคำถามที่สี่ก็ถามว่า “หากเลือกได้ คุณจะแต่งงานกับคนหัวล้านแต่รวย หรือคนหน้าตาดี (แน่นอนว่ามีผมดกดำ) แต่ฐานะยากจน?” และคำตอบก็ออกมาว่า “หัวล้านแต่รวย อยู่ที่ 76%” ในขณะที่ “หล่อแต่จน อยู่ที่ 24%” ซึ่งแน่นอนว่าตัวเลือกทั้งสองยังไม่ได้อ้างอิงถึงลักษณะนิสัยของบุคคลนั้นๆ และเมื่อเจาะลึกเข้าไปที่หัวข้อว่า “ชายผมบางหรือหัวล้านลักษณะแบบไหนที่คุณอยากจะแต่งงานด้วย?” คำตอบก็ออกมาเป็น – รวย 35% – ใจดี/สุภาพ…
-
หนุ่มน้อยสุดห้าววัย 9 ขวบ บุกปล้นร้านเพชรด้วยปืนของเล่น โดนเจ้าของร้านหิ้วออกทันที
เจ้าของร้านจิวเวลรี่ Nicolás García วัย 30 ปีได้เผชิญหน้ากับเด็กชายวัย 9 ขวบ ขณะเขาพยายามจะปล้นเพชรและทองในร้านแห่งนั้น Nicolas รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะเดินไปหน้าเคาน์เตอร์และพาเด็กชายสุดห้าวออกจากร้าน Nicolas Garcia และร้านจิวเวลรี่ของเขา เหตุการณ์ที่น่าตกใจนี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ ขณะลงมือ เด็กชายหลบอยู่บริเวณประตูทางเข้าก่อนจะเริ่มบุกปล้น โดยเจ้าของร้านกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ว่า… “ตอนที่เด็กชายเข้ามา ผมนึกว่าเขาต้องการเงินเพื่อซื้ออาหาร แต่เขากลับถามผมว่ามีเพชรพลอย และทองหรือไม่ “พร้อมกันนั่นเองที่เขาชักปืนพกออกมา ซึ่งผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นปืนของเล่นหรือปืนจริงๆ ตอนนั้นเองที่เขาบอกให้ผมเอาทุกอย่างให้เขา” . Nicolas ตกใจแต่ก็เดินอ้อมไปหาเด็กชายและพาเขาออกจากร้าน เขาจึงสังเกตว่าเด็กชายนั้นร่วมมือกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอาวุธ และหาความเกี่ยวข้องกับชายหนุ่มคนนั้นที่มากับเด็กชาย คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวนามว่า Daniela พนักงานทำความสะอาดวัย 28 ปี เห็นภาพลูกชายในกล้องวงจรปิดทางโทรทัศน์ เธอจึงรีบพาลูกชายไปสถานีตำรวจในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในเมืองโมเรโน รัฐบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา หลังจากแม่ได้พาลูกชายมาที่สถานีตำรวจนั้น เธอบอกกับผู้สื่อข่าวว่าลูกชายของเธออยู่คนเดียวขณะลงมือ และเขาใช้ปืนของเล่น “ฉันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ฉันรีบพาเขามาสถานีตำรวจทันทีที่เห็นข่าว” Daniela ผู้เป็นแม่ของเด็กชายกล่าว เธออ้างอีกว่า…
-
หนุ่มไว้อาลัย หลังเพื่อนใน “เกมออนไลน์” เสียชีวิต ทั้งที่ไม่เคยเจอหน้ากันตลอด 3 ปี
หลายคนที่เคยเล่นเกมบนโลกออนไลน์น่าจะเข้าใจความรู้สึกที่ว่า “เพื่อนบนโลกออนไลน์ถึงแม้จะไม่เคยเจอกัน แต่ความผูกพันนั้นมีอยู่แน่นอน” เรื่องราวต่อไปนี้เกี่ยวกับเกมเมอร์หนุ่มสองคนที่เป็นเพื่อนกันบนเกมออนไลน์มาตลอด 3 ปี โดยที่พวกเขาไม่เคยพบกันในชีวิตจริงเลย ทั้งสองรู้จักกันครั้งแรกผ่านเกมออนไลน์อย่าง World of Warcraft และความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ก็แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้มีคนใดคนหนึ่งต้องจากโลกนี้ไป…. Jasen หนุ่มเกมเมอร์ เศร้าโศกถึงเพื่อนบนโลกออนไลน์ที่ไม่เคยแม้แต่จะเจอกันในชีวิตจริง เรากำลังพูดถึง 2 เกมเมอร์ Jasen Kasten และ Dave เพื่อนของเขาในเกมออนไลน์ดังกล่าว ซึ่งในตอนแรกนั้นทั้งสองสามารถสนิทกันได้อย่างรวดเร็วและมักจะเล่นเกมด้วยกันอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง Jasen ทราบข่าวร้ายว่า Dave ได้เสียชีวิตลงแล้ว นั่นจึงทำให้เขาออกมาพูดถึงเพื่อนสนิทที่จากไปคนนี้ว่า “ครั้งแรกที่ผมทราบข่าว ทุกอย่างก็เหมือนพังทลายลงมาหมดเลย” เขาได้พูดต่ออีกว่าการที่ต้องสูญเสีย Dave ไปทั้งที่ไม่เคยพบกันมาก่อนนั้น ความรู้สึกที่ได้รับมันก็ไม่ต่างกับว่าเขาต้องเสียเพื่อนคนหนึ่งที่เจอกันในชีวิตจริงทุกวันไปเลย ภาพจากเกมออนไลน์ World of Warcraft ชายหนุ่มเล่าว่าทั้งเขาและ Dave มีกลุ่มที่ตั้งขึ้นไว้สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ และมักจะบอกกันเสมอว่า “คนรอบข้างในชีวิตจริงต้องมาก่อนเสมอ” นั่นหมายความว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามคนในชีวิตจริงของพวกเขาต้องมาก่อนโลกออนไลน์และเกมเหล่านี้เสมอ แต่เมื่อถึงวันที่ต้องมีเพื่อนในเกมจากโลกนี้ไปแบบนี้ นั่นก็ทำให้หลายๆ คน โดยเฉพาะ Jasen เข้าใจว่าเพื่อนในเกมเองก็มีความสำคัญต่อความรู้สึกของเขาไม่ต่างจากเพื่อนในชีวิตจริงเลย โพสต์ที่ภรรยาของ Jasen กล่าวถึงกรณีนี้ว่า อย่าคิดว่าเพื่อนบนโลกออนไลน์ไม่ใช่เพื่อนที่แท้จริง เพราะพวกเขาทุกคนอาจให้ความรักแก่กันได้ไม่ต่างกับเพื่อนในชีวิตจริงเลย…
-
พ่อแม่ต่อต้านวัคซีนฟ้องทางการ ขอให้ลูกได้กลับไปเรียน หลังถูกแบนออกจากโรงเรียน
‘โรคหัด’ ถือเป็นหนึ่งในโรคระบาดร้ายแรงที่คร่าชีวิตของมนุษย์มามากมายหลายล้านชีวิตเมื่อครั้งอดีต แต่มนุษย์เราก็สามารถคิดค้นวัคซีนเพื่อป้องกันมันได้สำเร็จ แต่ปัจจุบัน มีหลายครอบครัวที่มีแนวคิดปฏิเสธไม่ให้ลูก ‘ฉีดวัคซีน’ และนั่นส่งผลก่อให้เกิดการระบาดของโรคหัดอีกครั้งหนึ่ง และจากรายงานของ The New York Times รัฐนิวยอร์กกำลังประสบปัญหาโรคหัดระบาดที่ร้ายแรงมากที่ที่สุดในช่วงทศวรรษ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว นั่นทำให้มีเด็ก 42 คน ถูกแบนไม่ให้ไปโรงเรียน Green Meadow Waldorf ที่ตั้งอยู่ในเขต Rockland ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการระบาดโรคหัดในนิวยอร์ก กรมสาธารณสุขของเขต Rockland ได้ตัดสินใจในเดือนธันวาคม แบนนักเรียนที่ไม่ยอมรับการฉีดวัคซีนไม่ให้ไปเรียนที่โรงเรียน การตัดสินใจนี้ทำให้พ่อแม่ของเด็ก 42 คนที่ถูกแบนจากโรงเรียน ไม่พอใจเป็นอย่างมาก พ่อแม่ของเด็กที่ถูกแบนคนหนึ่งได้กล่าวว่าการแบนลูกของพวกเขาเป็นการสร้างผลร้ายมากกว่าผลดี และตัดสินใจฟ้องสาธารณสุขของเขต Rockland เพื่อขอให้ลูกของเขาได้กลับไปเรียน แต่คำร้องก็ถูกปฏิเสธในวันที่ 12 มี.ค. 2562 เธอกล่าวว่าลูกของเธอถูกกีดกันจากห้องเรียนมาแล้วกว่า 90 วัน และเสริมว่า“การกีดกันไม่ให้ลูกของคุณไปอยู่ในห้องเรียน ได้เจอคุณครู ได้เจอเพื่อนร่วมชั้น จะส่งผลกระทบต่อสถานภาพทางสังคมและทางจิตของเขา” ด้านผู้พิพากษา Vincent Bricetti จากศาลเขต White Plains…
-
นายแบบนางแบบดาวน์ซินโดรมร่วมถ่ายแฟชั่นสุดเริ่ด ต้อนรับวันดาวน์ซินโดรมโลก
ทุกๆ วันที่ 21 มีนาคม ได้มีการกำหนดเอาไว้ให้เป็นวันดาวน์ซินโดรมโลก ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความตระหนักและให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมที่มีอยู่จำนวนหนึ่งบนโลกใบนี้ ล่าสุดทางองค์กรที่มีชื่อว่า Zebedee Management ก็ได้มีการจัดทำโครงการ Radical Beauty ถ่ายภาพแฟชั่น โดยใช้กลุ่มนายแบบนางแบบผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม โดยทางโครงการได้นำเหล่านายแบบนางแบบดาวน์ซินโดรมมาเผยให้เห็นในความงามในแบบที่แต่ละคนนั้นเป็น ผสมผสานกับการแต่งตัวแบบไฮแฟชั่นสุดจี๊ดจ๊าดที่ดูแล้วน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว Ellie Nino Kate แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของแบรนด์เครื่องสำอาง Benefit Cosmetics Callum Adam Kathleen สาวผู้ได้รับการจองตัวเพื่อร่วมโครงการกับภาพยนตร์ของมาร์เวล Harry นอกจากจากนายแบบนางแบบรุ่นใหญ่แล้ว ทางโครงการยังเชิญนายแบบนางแบบรุ่นจิ๋วมาร่วมอีกด้วย Rebecca Sohotha- Gabriel Cora Chloe Grace Frankie เซตภาพถ่ายเซตนี้จะถูกเผยแพร่ออกมาเพื่อสร้างความตระหนักและเฉลิมฉลองวันดาวน์ซินโดรมโลกในวันที่ 21 มีนาคมที่จะถึงนี้ …
-
จากภาพเด็กใส่ชุดหมอ-พยาบาล สุดน่ารัก แต่ถูกดราม่าจากชาวเน็ตว่ารูปแฝงการเหยียดเพศ!?
บางครั้งรูปภาพที่คุณคิดว่ามันแค่น่ารักดี ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น แต่สุดท้ายมันกลับกลายเป็นประเด็นเดือดในโลกโซเชียลซะอย่างนั้น เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ Medical Shots ซึ่งเป็นบัญชีที่มักจะโพสต์รูปภาพเกี่ยวกับการแพทย์ อาการบาดเจ็บที่รุนแรง และโพสต์สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ แต่ครั้งนี้ Medical Shots ได้โพสต์รูปภาพเด็กสองคนจูงมือกัน โดยข้างหลังเสื้อสีชมพูของเด็กหญิงเขียนไว้ว่าเป็น “พยาบาล” ส่วนเด็กชายสวมเสื้อสีเขียวเขียนข้างหลังว่าเป็น “หมอ” พร้อมกับแคปชั่นว่า “ภาพนี้น่ารักใช่ไหม?” https://twitter.com/TheMedicalShots/status/1104773036643835905 มีคนกดถูกใจรูปภาพนี้กว่า 2 หมื่นครั้ง ทำให้ดูเหมือนว่ามีหลายคนที่คิดว่ารูปภาพนี้น่ารักดี ไม่มีอะไร แต่เมื่อเข้าไปดูคอมเมนต์จะพบว่ามันไม่ใช่เลย! มีชาวเน็ตหลายคนคิดว่าภาพนี้แฝงความหมายของ “การเหยียดเพศ” ไว้ในรูปภาพ เพราะมองเพศหญิงเป็นพยาบาล และมองว่าเพศชายเป็นหมอ คอมเมนท์ที่มาจากชาวเน็ตเขียนไว้ว่า “ไม่ มันไม่น่ารัก ทำไมเด็กหญิงถึงไม่ใช่หมอด้วยล่ะ? หรือทำไมเด็กชายถึงไม่ใช่พยาบาล?” No it’s not. Why isn’t she a Dr as well? Or why is the boy not a…
-
เกือบไม่รอด หนุ่มทำ ‘เศษคอตตอนบัด’ ติดอยู่ในหู เป็นเหตุให้กะโหลกติดเชื้อ!!
บางครั้งของใช้ในชีวิตประจำวันก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนกับชายชาวอังกฤษคนนี้ เพราะคอตตอนบัด คือสาเหตุที่ทำให้เขาเกือบจะเสียชีวิต! The Sun รายงานว่าชายไม่ระบุชื่อวัย 31 ปี มีอาการปวดหัวรุนแรงจากนั้นก็สลบลงไป เมื่อฟื้นขึ้นมาจึงรีบไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมือง Coventry ทันที จากนั้นแพทย์ตรวจพบว่า เขาติดเชื้อจากแบคทีเรีย โดยต้นเหตุเริ่มมาจากหู ก่อนจะแพร่กระจายไปสู่กระดูกที่เป็นฐานของกะโหลก และเชื้อกำลังจะเข้าแพร่กระจายไปในสมองของเขา ดร. Alexander Charlton แพทย์ที่ดูอาการกล่าวว่าคนไข้มีอาการทุกข์ทรมานอย่างร้ายแรงที่ระบบประสาท เมื่อมาตรวจก็พบว่าอาการปวดเริ่มต้นมาจากหูด้านซ้าย หมอเสริมว่าคนไข้มีอาการปวดหัวด้านซ้ายอย่างรุนแรงจนทำให้อาเจียนออกมา และเริ่มมีอาการติดขัดในการจำชื่อของคนอื่น หมอคาดว่าอาการของเขาเริ่มมาหลายปีแล้วก่อนที่อาการจะเกิดขึ้น ด้านคนไข้กล่าวว่าอาการปวดหูเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ถึงกับทำให้เขาสูญเสียการได้ยิน อีกทั้งยังเคยรักษาอาการติดเชื้อที่หูซ้ายมาแล้วสองครั้ง หลังทีมแพทย์ส่งคนไข้เข้าเครื่อง CT สแกนเพื่อเช็กสมอง ก็พบฝีหนองอยู่สองจุดในกระดูกที่เป็นฐานของกะโหลกที่อยู่ถัดจากรูหูซ้ายของเขา ทำให้แพทย์สันนิษฐานว่าการติดเชื้อเริ่มมาจากหูของเขาก่อนที่จะแพร่กระจายออกไป ชายคนนี้ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อกำจัดการติดเชื้อ และในระหว่างการผ่าตัดแพทย์ก็พบเศษของปลายสำลีคัตตอนบัด อยู่ในหูของเขา โดยคอตตอนบัดที่พบถูกปกคลุมไปด้วยขี้หู แพทย์คาดว่ามันอยู่ข้างในนั้นมาเป็นเวลานานแล้ว หลังจากนั้น ชายคนดังกล่าวก็ปลอดภัยจากเชื้อแล้ว หลังใช้เวลา 2 เดือนในการกำจัดเชื้อที่หู และไม่น่าแปลกใจที่เขาถูกสั่งข้ามไม่ให้ใช้คอตตอนบัดอีกนับจากนี้ต่อไป เรียกได้ว่าอันตรายมากๆ สำหรับเคสนี้ เพราะฉะนั้นใครที่ใช้คอตตอนบัดแล้วส่วนปลายได้หลุดเข้าไปในหู ต้องรีบไปพบแพทย์ในทันทีเลยเพื่อความปลอดภัย!…
-
แฟนๆ เฮ!! Gordon Ramsay เตรียมวางขายที่ปิดหูจากมีม Idiot Sandwish แล้ว!!
หากใครจำได้กับมีม Idiot Sandwish สุดฮาเมื่อหลายปีก่อน ขอบอกเลยว่ามันจะไม่เป็นเพียงแค่มีมอีกต่อไป แต่ทุกคนสามารถสั่งซื้อที่ปิดหูรูปขนมปังสองแผ่นของเชฟ Gordon กันได้แล้ว! เพราะเมื่อวันพุธที่ 13 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา Gordon Ramsay ได้ออกรายการของ The Late Late Show with James Corden และได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเจ้าที่ปิดหูที่ว่านั้น เชฟชื่อดัง Gordon Ramsay เขาได้บอกผ่านรายการดังกล่าวว่า Hell’s Kitchen (ร้านอาหารของเชฟ Gordon) เตรียมที่จะวางจำหน่ายของที่ระลึกเป็นที่ปิดหูจากมีม “Idiot Sandwish” แล้ว Gordon และเชฟ Julie Chen หญิงสาวที่โดนตะคอกถามว่า “ตอนนี้คุณคืออะไร?!” พร้อมขนมปังประกบข้างหูเธอสองแผ่น ก่อนเธอตอบกลับมาว่า “ฉันคือขนมปังโง่ๆ “ มีมดังกล่าวกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วและตั้งแต่นั้นมาเชฟ Gordon ก็ถูกแฟนๆ พกขนมปังมาด้วยและขอให้เขาตะโกนใส่ว่า “What are you?!” ไม่พอยังต้องคอยเซ็นลายเซ็นลงบนขนมปังอีกต่างหาก.. ถ้าใครจำมีมนี้ไม่ได้มาลองดูกันเถอะ!!…
-
พี่เข้หนัก 600 กิโลกรัม ไล่กินหมาชาวบ้าน ถูกตำรวจออสซี่บุกรวบตัว-จับขังคุก
คุณจะทำอย่างไรหากมีสัตว์ป่าดุร้ายบุกเข้ามาในเขตที่อยู่ของคุณ กินสัตว์เลี้ยงแสนรัก และสร้างความตื่นตระหนกให้กับทุกคนในละแวกนั้น? ถ้ายังนึกไม่ออก เรามาลองดูวิธีการของตำรวจประเทศออสเตรเลียกันก่อนดีกว่าว่าพวกเขาจะจัดการอย่างไร เมื่อมีพี่จระเข้ตัวเบิ้ม หนักถึง 600 กิโลกรัม ปรากฏตัวสร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับชาวบ้านในชุมชน Wurrumiyanga บนเกาะ Tiwi โดยทางชาวบ้านได้เล่าว่า พี่เบิ้มยาว 4 เมตรตัวนี้ออกอาละวาดกัดผู้คน และกินสัตว์เลี้ยงของพวกเขาไปเป็นจำนวนมาก “เด็กๆ ของพวกเราต่างก็ว่ายน้ำเล่นกันในแม่น้ำ เพราะงั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นว่าพี่แกจะจับลูกหลานเราไปกินเมื่อไหร่” ทางตำรวจก็ไม่รอช้า เข้ามาให้ความช่วยเหลือในทันที โดยภาพการจับกุมตัวผู้ร้ายนั้นมีชาวบ้านแห่มารับชมนับร้อยเลยทีเดียว แต่คาดว่าคงไม่เกิดการรุมประชาทัณฑ์ด้วยความโกรธแค้นอย่างแน่นอน สุดท้ายฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถควบคุมตัวพี่เบิ้มตัวนี้ไว้ได้โดยได้นำไปฝากขังไว้ในคุกก่อน เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์มารับตัวผู้ต้องหาต่อไป ทางศาสตราจารย์ Grahame Webb เจ้าของสวนสัตว์ Crocodylus Park ก็ได้ให้ความเห็นว่า การจับกุมตัวครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนประชากรจระเข้ เพราะออสเตรเลียนั้นมีจระเข้เยอะแยะเต็มประเทศไปหมดแล้ว ที่มา LADbible และ 9news
-
“PewDiePie” ถูกมือกราดยิงที่นิวซีแลนด์กล่าวถึง ระหว่างการถ่ายทอดสดเหตุนองเลือด
จากเหตุกราดยิงมัสยิดในนิวซีแลนด์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (15 มีนาคม 2019) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 คน (ปัจจุบันเพิ่มเป็น 49 คนแล้ว) สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้คนทั่วโลก 1 ในคนร้ายผู้ก่อเหตุได้ติดตั้งกล้องโกโปรเพื่อถ่ายทอดสดตอนตนเองก่อเหตุรุนแรงดังกล่าวด้วย ซึ่งในคลิปที่ถ่ายทอดสดไปนั้นในช่วงต้นเป็นภาพตอนเขาขับรถไปยังมัสยิดที่ก่อเหตุ พร้อมกล่าวว่า “มาเริ่มงานปาร์ตี้กันดีกว่า” โดยมีการเปิดเพลงเสียงดังในรถด้วย ก่อนที่เขาจะกล่าวเพิ่มอีกว่า “จำไว้นะเด็กๆ กดติดตาม PewDiePie กันด้วย” ซึ่งเป็นยูทูบเบอร์ชื่อดังวัย 29 ปี มีผู้ติดตามเขามากถึง 89 ล้านคนบนเว็บยูทูบ PewDiePie หรือชื่อจริงว่า Felix Kjellberg เคยตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องการกล่าวคำสบถเชิงเหยียดผิวและชาวยิว และเรื่องราวในครั้งนั้นก็จบลงด้วยดีเมื่อเขาออกมากล่าวยอมรับผิด และขอโทษสังคม ล่าสุดจากการพูดเอ่ยชื่อในไลฟ์สตรีมของมือกราดยิงซึ่งเป็นชายที่มีแนวคิดคลั่งชนชาติผิวขาว ทำให้ทาง PewDiePie ต้องออกมาพูดถึงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวทางทวิตเตอร์ของเขาเองว่า “ผมเพิ่งรู้เรื่องเหตุกราดยิงที่นิวซีแลนด์ ผมรู้สึกแย่มากๆ ที่ชื่อผมถูกคนพรรค์นั้นกล่าวถึง ผมขอส่งกำลังใจให้กับเหยื่อ ครอบครัวของพวกเขา และทุกๆ คนที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ครับ” https://twitter.com/pewdiepie/status/1106419935390171136 ที่มา Mirror, BusinessInsider…
-
หนุ่มสิงคโปร์ออกกำลังกายแบบ “One Punch Man” เป็นเวลา 30 วัน โชว์ให้เห็นความต่าง!!
สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยดูการ์ตูนเรื่อง “One Punch Man” มาล่ะก็ คงรู้เคล็ดความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ของ “ไซตามะ” ตัวเอกจากเรื่องเป็นอย่างแน่นอน นั่นคือการที่แต่ละวันเขาจะออกกำลังกายโดยการวิดพื้น 100 ครั้ง ซิตอัป 100 ครั้ง สควอด 100 ครั้งและวิ่งอีก 10 กิโลเมตร (ซึ่งดูเหมือนธรรมดาไม่น่าทำให้มีพลังเหนือมนุษย์ได้) Sean Seah นักเขียนชื่อดังจากประเทศสิงคโปร์ก็อยากรู้ว่าการออกกำลังกายแบบไซตามะจะช่วยให้ร่างกายของตัวเองเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง เขาจึงทำการท้าทายตัวเอง ว่าจะออกกำลังกายเหมือนไซตามะเป็นระยะเวลาทั้งหมด 30 วัน โดยเริ่มหลังจากหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน โดยเขาแบ่งการออกกำลังกายดังกล่าวออกเป็น 10 ระดับ เริ่มตั้งแต่ระดับ 1 คือวิดพื้น 10 ครั้ง ซิตอัป 10 ครั้ง สควอด 10 ครั้งและวิ่ง 1 กิโลเมตร ก่อนจะเพิ่มระดับไปเรื่อยๆ ณ วันแรกที่เขาเริ่มออกกำลังกายแบบนี้ Seah มีน้ำหนักอยู่ประมาณ…
-
นักวิทย์พบหมึกกระดองที่ถนัดขวา จะมีโอกาสชนะในการต่อสู้และการผสมพันธุ์กว่าหมึกที่ถนัดซ้าย
สำหรับมนุษย์เรานั้นอัตราความแตกต่างระหว่างคนถนัดขวาและคนถนัดซ้าย จะอยู่ที่ประมาณ 9:1 โดยคนส่วนใหญ่จะถนัดขวา และตามปกติแล้วมือข้างที่ถนัดจะไม่สำคัญกับชีวิตมากถึงขั้นที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนนัก (ยกเว้นในกิจกรรมเฉพาะหรือการเล่นกีฬาบางประเภท) แต่ดูเหมือนว่าการถนัดซ้ายหรือถนัดขวานั้น สำหรับสัตว์อย่าง “Cuttlefish” หรือ “หมึกกระดอง” นั้น จะส่งผลกับชีวิตมากกว่ามนุษย์มาก เพราะจากการวิจัยที่ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น หมึกกระดองที่ถนัดขวาจะมีโอกาสชนะในการต่อสู้ และการผสมพันธุ์มากกว่าหมึกกระดองที่ถนัดซ้าย นี่เป็นการค้นพบที่เกิดขึ้นหลังจากที่นักวิทยาศาสตร์สังเกตพฤติกรรมของหมึกกระดองกลุ่มหนึ่ง และพบว่าหมึกกระดองส่วนมากนั้นถนัดซ้าย อ้างอิงจากงานวิจัยดั้งเดิม บวกกับการเคลื่อนไหว และการใช้ดวงตาของมัน ถึงอย่างนั้นก็ตามนักวิทยาศาสตร์กลับพบว่าในยามที่หมึกกระดองเหล่านี้หาคู่ ตัวผู้ที่มักจะได้ผสมพันธุ์กลับเป็นผู้ที่เข้าหาตัวเมียจากทางขวาเสียเป็นส่วนใหญ่ นักวิทยาศาสตร์ยังพบอีกว่าในการต่อสู้กันเองของหมึกกระดอง ตัวผู้ที่ถนัดขวา (ส่วนน้อย) ยังมักจะมีชัยเหนือ ตัวผู้ที่ถนัดซ้าย (ส่วนมาก) อีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดข้อสังเกตมากมายเกี่ยวกับระบบความถนัดในบรรดาสิ่งมีชีวิตในโลกขึ้น (รวมทั้งมนุษย์ด้วย) จากผลการค้นพบในครั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์คาดการว่าการที่หมึกกระดองที่ถนัดขวามักจะมีชัยเหนือหมึกกระดองที่ถนัดซ้ายน่าจะมาจากการที่วิธีว่ายน้ำในตอนสู้ของมัน ซึ่งยากที่จะคาดการณ์กว่า คล้ายกับที่พบในวงการกีฬาของมนุษย์ และเมื่อหมึกกระดองที่ชนะการต่อสู้แย่งชิงตัวเมียมักจะเป็นตัวที่ถนัดขวา ตัวเมียจึงมักชินกับแนวคิดที่ว่าตัวผู้ที่ว่ายน้ำเข้าหาจากทางขวา (ถนัดขวา) จะเป็นตัวผู้ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นตัวผู้ที่เข้าหาตัวเมียในรูปแบบนี้จะมีโอกาสได้รับการยอมรับจากตัวเมีย มากกว่าการเข้าหาจากทางซ้ายไป นี่อาจจะเป็นการศึกษาที่ดูจะไม่มีอะไรสำคัญ แต่เหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ให้ความสนใจกับผลการทดลองที่ออกมาเป็นอย่างมาก เพราะงานวิจัยนี้อาจจะให้คำตอบเราว่าทำไมสิ่งมีชีวิตถึงมีมือข้างที่ถนัด และทำไมคนส่วนมากจึงมักถนัดมือข้างเดียวกันทั้งๆ ที่ถนัดมือข้างอีกข้าง (ที่เป็นส่วนน้อย) อาจทำให้เราได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้นแท้ๆ ที่มา phys และ livescience
-
ร้านมือสองเขียนคำเตือน “ตู้และเตียงผีสิง” หลังลูกค้านำกลับมาคืน เพราะฝันร้ายประจำ
เรื่องราวต่อไปนี้ได้เกิดขึ้นกับสองสามี-ภรรยาชาวอเมริกันที่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้อันเก่าแก่อายุหลายสิบปีกลับไป โดยไม่รู้เลยว่ามันผ่านมากี่มือแล้วและเบื้องหลังของมันเป็นอย่างไร… จนกระทั่งเกิดเรื่องราวชวนสยดสยองขึ้นเพราะพวกเขาไม่สามารถนอนหลับได้เป็นสุขอีกเลยหลังจากนำเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวกลับมาบ้าน จนถึงขั้นต้องนำสิ่งเหล่านั้นกลับไปคืนให้กับทางร้าน ร้านที่ว่านั้นคือร้านขายของมือสอง Habitat for Humanity Rowan County ที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา บรรยากาศของร้านขายของมือสอง Habitat for Humanity Rowan County เฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งชิ้น เป็นเซ็ตสำหรับห้องนอนหนึ่งห้องและถูกทำขึ้นมาตั้งแต่ปี 1950 (หากอยากรู้ว่ามันเก่าแค่ไหนก็ประมาณยุค “มาริลิน มอนโร” กับ “เอลวิส เพรสลีย์”) และหลังจากที่พวกเขาได้รับเซ็ตเฟอร์นิเจอร์นั้นกลับคืนมา พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องติดประกาศแจ้งไว้ถึงลูกค้าที่ต้องการจะซื้อเฟอร์นิเจอร์เก่ามือสองนี้พร้อมคำเตือนว่า “ระวังผีสิง” ประกาศจากทางร้าน “1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31,727 บาท) ชุดเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอน 2 ชิ้น – เตียงสี่เสาควีนไซส์และตู้ไม้ ทำด้วยมือในช่วงปี 1950” “คำเตือน: เจ้าของคนก่อนเคยแจ้งไว้ว่าตู้ไม้นี้อาจมีผีสิงอยู่ เพราะก่อนหน้านั้นทั้งเขาและภรรยาเคยต้องฝันร้ายเป็นประจำเกี่ยวกับตู้ดังกล่าวและหมาที่บ้านก็ไม่หยุดเห่าตู้นี้ด้วย” สภาพของชุดเตียงและตู้ไม้ผีสิงจากช่วงปี 1950… Elizabeth Brady ผู้จัดการร้านได้พูดว่าก่อนหน้านี้คู่สามีภรรยายินดีจ่ายเงินราคาเต็มและทั้งคู่เคยเป็นคนไม่เชื่อเรื่องผีสางนางไม้เลย แต่ตอนนี้หากพูดถึงเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวขึ้นมาเมื่อไหร่ ทั้งสองก็จะขนหัวลุกไปตามๆ กัน จนถึงตอนนี้เฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวได้มีคนรับซื้อไปใช้ต่อแล้ว…
-
นักวิทยาศาสตร์เผย แมงมุมสายพันธุ์ใหม่ ถูกตั้งชื่อตาม “สตอร์มทรูปเปอร์” จากสตาร์วอร์
เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าเวลาที่มีการค้นอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ดวงดาว หรือสายพันธุ์ของสัตว์ บ่อยครั้งผู้ที่เป็นคนค้นพบก็จะได้รับสิทธิ์ในการตั้งชื่อของสิ่งที่พบ โดยมากแล้วชื่อที่ถูกนำมาตั้ง จะเป็นชื่อของผู้ที่พบเองหรือไม่ก็ชื่อที่เกิดจากภาษาโบราณอย่างภาษาละติน แต่มันก็มีบางครั้งเหมือนกันที่ชื่อที่ถูกนำมาตั้งจะได้แรงบันดาลใจมาจากอะไรแปลกๆ อย่างภาพยนตร์เรื่อง “สตาร์วอร์” ได้เช่นกัน นั่นเพราะเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมานี้เอง เหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ได้ออกมาประกาศว่า แมงมุมขาโก่งสายพันธุ์ใหม่ 6 ชนิดซึ่งถูกค้นพบที่ทวีปอเมริกาใต้ จะได้รับชื่อสปีชีส์ว่า “Stormtropis” ชื่อที่มีต้นแบบมาจาก “สตอร์มทรูปเปอร์” เหล่ากองทหารที่มีชื่อเสียงแห่งฝั่งจักรวรรดิ ที่แมงมุมเหล่านี้ได้ชื่อว่า Stormtropis มาจากเหตุผลว่า แมงมุมทั้ง 6 ชนิดนั้นมีรูปร่างที่คล้ายคลึงกันมาก แถมบางพันธุ์ยังมีความสามารถในการพรางตัว และอ้างอิงจากนักวิทยาศาสตร์บางคน มันซุ่มซ่ามเงอะงะคล้ายสตอร์มทรูปเปอร์ที่ยิงอะไรก็ไม่เคยโดน แน่นอนว่าแมงมุมทั้งหกชนิดที่ถูกค้นพบนั้นย่อมมีลักษณะการใช้ชีวิตที่ต่างกันไปตามถิ่นที่อยู่และสายพันธุ์ ถึงอย่างนั้นพวกมันกลับมีรูปร่างที่คล้ายกันมาก โดยตัวผู้จะมีกรงเล็บ 2 อันต่อขาหนึ่งข้าง (ซึ่งน้อยกว่าแมงมุมขาโก่งอื่นๆ ที่จะมีกรงเล็บ 3 อัน) และมีอวัยวะเพศที่เห็นได้ชัด ส่วนตัวเมียจะมีอวัยวะเพศรูปร่างคล้ายเห็ด ซึ่งแน่นอนว่าต่างจากแมงมุมขาโก่งอื่นๆ เช่นกัน อันที่จริงแล้วแมงมุมตระกูล Stormtropis นั้นมีอยู่ค่อนข้างเยอะและพบได้ง่ายกว่าที่คิด…
-
ชม ภาพพาโนรามาของยาน “Opportunity” ที่เก็บภาพวิวสุดท้ายที่ก่อนที่ยานจะหยุดทำงานไว้
หากว่ายังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ทางนาซาได้ออกมาเปิดเผยข้อความสุดท้ายที่ยานสำรวจดาวอังคาร “Opportunity” ส่งกลับมายังโลก และกลายเป็นเรื่องราวสุดซึ้งกินใจจนโด่งดังไปทั่วโลก (อ่านข่าวเก่าได้ที่ นาซาเผย การติดต่อครั้งสุดท้ายกับยาน “Opportunity” ที่กินใจจนโด่งดังไปทั่วโลก) แต่รายงานเรื่องพลังงานของตัวยานนั้น ไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่ยาน Opportunity ส่งกลับมายังโลกในช่วงท้ายของการปฏิบัติการแต่อย่างใด เพราะเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมานี้เอง ทางนาซาก็ได้ออกมาเปิดเผยภาพชุดสุดท้าย ที่ยาน Opportunity ส่งมายังโลก ก่อนที่จะหยุดทำงานไป โดยชุดภาพดังกล่าวนั้นประกอบไปด้วยรูปถ่าย 354 ภาพที่ถูกถ่ายไว้ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม ไปจนถึง 10 มิถุนายน ค.ศ. 2018 ซึ่งถูกนำมารวมกันโดยเจ้าหน้าที่ และเกิดเป็นภาพถ่ายพาโนรามาของสถานที่สุดท้าย ที่ยาน Opportunity หลับใหลอยู่ ผลภาพถ่ายที่ออกมาจาก เว็บไซต์ Nasa ผู้จัดการโครงการ Opportunity คุณ John Callas บอกว่า ภาพพาโนรามาสุดท้ายนี้ แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของการสำรวจและการค้นพบของยาน Opportunity ได้เป็นอย่างดี และที่ภาพบางส่วนยังเป็นสีขาวดำ ก็เพราะพายุพัดเข้ามาก่อนที่ยานจะสำรวจพื้นที่ด้วยระบบสีได้สำเร็จ ทำให้ข้อมูลที่ส่งมาถึงโลกไม่มีสีไป ทางนาซาบอกว่าภาพที่เห็นนี้ก็เป็นภาพที่ถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยภาพชุดสุดท้ายที่ยัง “มองออก” ว่าเป็นภาพอะไร…
-
นักวิทย์พบ เซลล์แมมมอธ “คืนชีพ” ชั่วคราว และพยายามแบ่งตัว หลังฉีดเข้าไปในไข่ของหนู
ย้อนกลับไปในช่วงปี ค.ศ. 2011 ที่ไซบีเรีย นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการค้นพบมัมมี่ของช้างแมมมอธอายุกว่า 28,000 ปีตัวหนึ่ง ถูกฝังอยู่ในชั้นดินที่เป็นน้ำแข็งคงตัวหรือ “เพอร์มาฟรอส” และมีสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีการพบมา แน่นอนว่าตั้งแต่วันนั้นมา เหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ได้พยายามใช้ประโยชน์จากความสมบูรณ์ของมัมมี่ตัวนี้ในการทดลองต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงความพยายามในการคืนชีพแมมมอธด้วยการโคลนนิ่ง และแล้วหลังจากที่เวลาผ่านไปเกือบ 8 ปี ในที่สุดเหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ได้ออกมารายงานความคืบหน้าของการทดลองที่พวกเขาทำจนได้ เพราะเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาเหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ได้ออกมารายงานการ “คืนชีพ” ของเซลล์แมมมอธ หลังจากที่มีการปลูกถ่ายลงไปในไข่ของหนู นี่เป็นการทดลองที่จัดทำขึ้นโดยการนำนิวเคลียสที่มีความสมบูรณ์ค่อนข้างสูงของช้างแมมมอธสายพันธุ์ “Mammuthus primigenius” ไปปลูกถ่ายไว้ในไข่ของหนูทดลองเพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเซลล์ดังกล่าว พวกเขาพบว่าการกระทำนี้จะทำให้โครโมโซมของช้างแมมมอธเกิดการปฏิกิริยาขึ้น และมีร่องรอยของการเริ่มต้นกระบวนการแบ่งตัวให้เห็น ซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีว่าแม้เวลาจะผ่านไปกว่า 28,000 ปี เซลล์ก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาทำงานได้อีกครั้ง น่าเสียดายกระบวนการแบ่งตัวของเซลล์ช้างแมมมอธในไข่หนูกลับหยุดการทำงานลงกลางคันก่อนที่จะมีการแบ่งตัวเกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งเป็นไปได้ว่ามีสาเหตุมาจากความเสียหายของเซลล์ที่นำมาใช้ ทีมนักวิทยาศาสตร์บอกว่าผลการทดลองที่ออกมานั้นทำให้พวกเขามั่นใจว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่มีความก้าวหน้ามากพอที่จะโคลนนิ่งช้างแมมมอธได้ (อย่างน้อยก็ด้วยเซลล์จากมัมมี่ที่พบ) เพราะแม้ว่าพวกเขาจะใช้เซลล์ที่มีสภาพดีที่สุดในการทดลอง แต่ผลที่ออกมาก็ยังคงจบลงด้วยความล้มเหลวอยู่ดี ถึงอย่างนั้นก็ตามตัวการทดลองในครั้งนี้เองก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ เพราะ Rebekah Rogers ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านชีวสารสนเทศของมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนา บอกว่าแค่การที่นักวิทยาศาสตร์สามารถฉีดเซลล์ของช้างแมมมอธลงไปในไข่ของหนูได้ก็เป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์อยู่แล้ว เพราะหากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้เป็นไปตามที่อ้างจริงๆ…
-
กลุ่มนักเรียนอินเดียจำนวน 10 คนถูกตำรวจเข้าจับกุม หลังพบว่าแอบเล่นเกม PUBG Mobile
เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงามสำหรับเกม Player Unknown Battle Ground หรือ PUBG หลังจากที่ทำเวอร์ชั่นมือถือ ก็ได้รับความนิยมและเสียงตอบรับอย่างมากมายจากผู้เล่นทั่วโลก แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ในรัฐคุชราตของประเทศอินเดีย เมื่อล่าสุดนักเรียนทั้งหมด 10 คนที่เล่นเกม PUBG ผ่านโทรศัพท์มือได้ถูกตำรวจเข้าทำการจับกุม เพราะถือว่าเกมดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฎหมายนั่นเอง โดยจากเว็บไซต์ The Times of India ได้ทำรายงานว่าเกม PUBG ในประเทศอินเดียนั้นเป็นเกมที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย ยกเว้นเพียงในรัฐคุชราตเท่านั้นที่มีถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากมีคำร้องมาจากเหล่าผู้ปกครองและนักวิชาการด้านการศึกษาว่าเกมดังกล่าวเสริมสร้างความรุนแรงและขัดขวางการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน ทำให้นักเรียนที่เรากล่าวถึงจำนวน 10 คนถูกตำรวจเข้าจับกุม หลังถูกจับได้ว่าพวกเขาแอบเล่นเกมดังกล่าว (แต่ก็ถูกปล่อยตัวภายหลัง) หลังจากถูกพ่อแม่และนักวิชาการด้านการศึกษาของอินเดียร้องอย่างหนัก ทางทีมงาน PUBG ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตัดสินใจออกแถลงการณ์มาในเดือนกุมภาพันธ์ว่าทางทีมงานเปิดรับความคิดเห็น พร้อมกับยินดีร่วมมือกับพ่อแม่ นักวิชาการด้านการศึกษา รวมถึงทางรัฐบาลเพื่อรับผิดชอบและพัฒนาเกมให้เหมาะสมกับสังคม ที่มา The Verge, Indiatimes
-
ลุงถูกศาลตัดสินมีความผิด ฐานทำร้ายนกนางนวลสัตว์ป่าคุ้มครอง หลังมันขโมยของทอด
ข่าวอังกฤษรายงานว่า ชายผู้หนึ่งถูกจับกุมหลังจากฆ่านกนางนวลซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมายของอังกฤษ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2018 คุณลุง John Llewellyn วัย 64 ปี จากกรุงคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลล์ ได้จัดทริปท่องเที่ยวบริเวณอ่าวเวสตันซูเปอร์แมร์ ประเทศอังกฤษ ที่นี่เองที่เขาได้ฆ่านกนางนวลจนเสียชีวิต หลังจากนกนางนวลได้ขโมยของกินเล่นจากมือของเขา และเขาไม่สามารถทนต่อความน่ารำคาญนั้นได้ พยานผู้พบเห็นเหตุการณ์รวมไปถึงเด็กๆ ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะจอห์นลงมือฆ่านกนางนวลตัวนั้นด้วยมือเปล่า เขาจับที่ขาของนกแล้วลงมือทุบมันเข้ากับกำแพงจนเสียชีวิต ในตอนแรก คุณลุงชาวคาร์ดิฟอ้างว่าการฆ่านกนางนวลนั้นไม่ผิด แต่ผู้พิพากษาเห็นว่าการให้ปากคำของพยานนั้นน่าเชื่อถือมากกว่า โดยพยานกล่าวว่า “จอห์นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่สนใจชีวิตของสัตว์แม้แต่น้อย เขาให้ความสนใจแก่อาหารของตัวเอง มากกว่านกนางนวลที่น่าสงสาร” นั่นเป็นสาเหตุทำให้จอห์นถูกพิพากษาในศาลแห่งเมืองซัมเมอร์เซตตอนเหนือ และต้องโทษถูกกักบริเวณ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น. และทำกิจกรรมรับใช้สังคมเป็นเวลากว่า 12 สัปดาห์ รวมถึงจ่ายเงินค่าปรับกว่า 835 ปอนด์ (ราว 35,000 บาทไทย) ในประเทศอังกฤษ นกนางนวลเป็นสัตว์คุ้มครองภายใต้มาตราที่ 1 ของบทบัญญัติคุ้มครองสัตว์ป่าและชนบท…
-
เกิดเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในนิวซีแลนด์ คนร้ายใช้กล้องโกโปรไลฟ์สตรีมระหว่างก่อเหตุ
วันที่ 15 มีนาคม 2019 (วันนี้) เกิดเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่ง ในเมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ คนร้ายได้บุกเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงใส่ชาวมุสลิมขณะกำลังสวดมนต์ในมัสยิด โดย 1 ในคนร้ายใช้กล้องโกโปรถ่ายทอดสดการก่อเหตุนองเลือดของตนบนอินเทอร์เน็ตด้วย ภาพจากคลิปไลฟ์สตรีมดังกล่าวเผยให้เห็นว่า คนร้ายจอดรถไว้ด้านนอก ก่อนหยิบปืน 2 กระบอกเดินเข้าไปในมัสยิด แล้วรัวกระสุนใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ปลอกกระสุนกระจายไปทั่ว และยังมีภาพศพผู้คนให้เห็น เขากลับไปที่รถรอบหนึ่งเพื่อเปลี่ยนปืน ก่อนจะกลับเข้าไปกราดยิงผู้คนที่เห็นว่ายังไม่เสียชีวิต ในขณะเดียวกันทางมัสยิดที่ Linwood ก็เกิดเหตุทำนองเดียวกันขึ้น ผู้อยู่ในเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่า ในที่เกิดเหตุเจิ่งนองไปด้วยเลือดและมีศพมากมายเกยอยู่บนตัวของเขา ชาวมุสลิมอีกคนเล่าว่า “มือปืนเข้ามาทางประตูหน้า ทุกคนก็วิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปทางประตูด้านหลังขงมัสยิด บางคนก็ไปหลบอยู่ใต้ท้องรถ บ้างก็กระโดดข้ามรั้วหนีออกไป ส่วนผมเข้าไปหลบอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ และได้เห็นตอนคนร้ายเติมกระสุน เปลี่ยนปืน แล้วก็เริ่มกราดยิงอีกครั้ง” มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ยินเสียงปืน และพบเห็นคนอย่างน้อย 4 คนนอนไม่ไหวติงบนพื้น และมีเลือดเต็มไปหมด ขณะนี้คนร้ายทั้ง 4 คนถูกจับกุมตัวได้แล้ว เป็นผู้ชาย 3 คนและผู้หญิง 1…
-
สาวเมกันเอาปืนยิงแฟนหนุ่มจมกองเลือด หลังทะเลาะกันเพราะเขานอนกรนเสียงดังเกินไป
ทุกคนคงพอจะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งการนอนร่วมห้องกับคนที่กรนเสียงดังมาบ้าง หรือบางทีก็อาจเป็นคุณเองที่กรน เอาเป็นว่าใครทนได้ก็ดีไป แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่ไวต่อเสียง และต้องทนทุกข์ทรมานกับเสียงรบกวนแบบนี้ และหญิงชาวอเมริกันวัย 47 ปี ชื่อ Lorie Morin ก็เป็นอีกคนที่จะไม่ทนกับเสียงดังกล่าว เมื่อเธอถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวและตั้งข้อหาพยายามฆ่า และใช้อาวุธก่อเหตุรุนแรง ในวันที่ 13 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา เหยื่อกระสุนในครั้งนี้คือนาย Brett Allgood (นามสมมุติ) เป็นแฟนหนุ่มของ Morin ซึ่งเขาถูกหามส่งโรงพยาบาล โดยปัจจุบันพ้นขีดอันตรายและอาการคงที่แล้ว หลังสอบปากคำรอบแรกทางตำรวจเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ เนื่องจาก Morin ได้ให้การว่า ตอนเกิดเหตุเธอส่งปืนให้กับคนรักก่อนที่ปืนจะลั่นใส่เขาขึ้นมา แต่แล้วคดีก็เกิดพลิกขึ้นมาเมื่อตำรวจไปสอบปากคำฝ่ายคนโดนยิง ซึ่งเรื่องราวจากฝั่งเขานั้นเป็นหนังคนละม้วนกับแฟนสาวเลยทีเดียว โดยเขาให้การว่า ทีแรกเขาทั้งคู่กำลังดื่มและเล่นการ์ดเกมกันอยู่ ก่อนที่จะเริ่มมีปากเสียงกัน และเรื่องนอนกรนเสียงดังของเขาก็ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น ในประหว่างการทะเลาะโต้เถียงเขาก็เดินไปที่ห้องนอน Morin ที่เดินตามเขามาก็ยกปืนลูกซองเล็งมาที่เขาก่อนจะเหนี่ยวไก เขาได้ยินเสียงดัง “ตูม!” มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตนเองนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น และรู้สึกเจ็บบริเวณจั๊กกะแร้ข้างขวา หลังจากเหยื่อเล่าเหตุการณ์ฝั่งตนแล้ว Morin ก็เกิดกลับคำให้การในภายหลัง และพยายามแสดงให้เห็นถึงความเสียใจของเธอโดยการเอามือปิดหน้าร้องไห้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่เคยเห็นเธอเช็ดน้ำตาเลยตลอดการสอบสวน…
-
“เด็กมหาประลัย” นั่งกินที่คนบนรถไฟ งานนี้เลยถูกแก้เผ็ด จงโดนนั่งทับเท้าไปซะ!!
คำว่า “ลูกของคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน” ยังคงใช้ได้เสมอ ถึงแม้เราจะไม่ได้เจอเด็ก (นรก) เหล่านี้ในทุกๆ วัน แต่หากได้พบเจอทีไรก็มักจะสร้างความปวดหัวและอยากตะโกนใส่หน้าดังๆ ว่า “ไอ้เด็กเปร*!!” และยิ่งหากเรารู้มาว่าคนเป็นผู้ปกครองไม่เคยกล่าวเตือนหนูๆ เหล่านั้น มันจะยิ่งทวีคูณความน่ารำคาญเข้าไปใหญ่… ยกตัวอย่างเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว เมื่อคนบนรถไฟฟ้าที่นิวยอร์กต้องมาเจอเด็กมหาประลัยเข้าให้ แต่งานนี้บอกเลยว่าต้องขอปรบมือให้กับวิธีการแก้เผ็ดของผู้โดยสารคนนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2018 ผู้ใช้บัญชีที่ชื่อว่า @da_drought_3 ได้แชร์โพสต์นี้ลงบนทวิตเตอร์พร้อมข้อความว่า “เจ้าเด็กเว*นี่ ไม่ยอมขยับขาให้ผู้ใหญ่ถึง 3 คนได้นั่ง ผู้ชายคนนี้ก็เลยนั่งทับลงไปบนนั้นซะเลย 55555” https://twitter.com/da_drought_3/status/1058009929045499904 จากภาพที่แชร์ลงไปจะเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งนอนเอาหลังพิงผู้ปกครอง (คาดว่าเป็นคุณแม่) อยู่และดูจะไม่สนใจใครเลย ทั้งๆ ที่เขานอนกินที่นั่งจนใครก็เข้ามานั่งไม่ได้ นอกจากนั้นสิ่งที่สร้างความไม่พอใจให้กับใครหลายๆ คนก็เพราะคุณแม่ของเด็กชายคนนี้ดูจะไม่ตักเตือนลูกชายเลยแม้แต่นิดเดียว… กำลังนอนพิงแม่สบายใจเฉิบเล่นเกมมือถือ ผ่านไปได้สักพัก เด็กชายดูจะตกใจกับอะไรบางอย่าง… แน่นอนว่าหลังจากนั้นก็มีชายคนหนึ่งในแว่นตากันแดดสีดำ เดินเข้ามาและ…นั่งทับลงไป!! (ขณะที่คุณแม่ดูเหมือนจะหลับฝันหวานอยู่) เด็กชายที่ถูกนั่งทับเท้าและเริ่มส่งสายตาอำมหิตใส่ชายคนนั้น ก่อนที่ดูเหมือนว่าชายคนดังกล่าวจะลุกเพื่อลงสถานีถัดไป และเด็กชายคนนี้ก็เริ่มเปิดปากตะโกนตามหลังว่า “ไอ้เหี*ย ไอ้เหี*ย!!” ทันที…
-
Greta Thunberg เด็กวัย 16 ผู้เข้าชิงโนเบล หลังสร้างก้าวสำคัญ แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก
หลายคนอาจยังจำได้ว่า เมื่อช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา หนูน้อย Greta Thunberg ชาวสวีเดน วัย 15 ปี ได้กล่าวคำปราศรัยอันเป็นที่น่าจดจำ ในงานประชุมของสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่: Greta Thunberg หนูน้อยวัย 15 ปีกับ “วาทะเด็ดๆ” ในงานประชุมสภาพแวดล้อมโลก! และในปี 2019 นี้เอง ที่นักรณรงค์ และนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมวัย 16 ปี ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ (Nobel Peace Prize) ผู้เสนอชื่อ Greta เข้าชิงคือ Freddy Andre Oevstegaard และสมาชิกของพรรคสังคมนิยมฝ่ายซ้ายอีกจำนวน 2 คน Greta ขณะทำการรณรงค์ โดย Freddy กล่าวถึงเหตุผลในการเสนอชื่อ Greta เข้าชิงไว้ว่า “เราได้เสนอชื่อเธอ เพราะเชื่อว่าปัญหามลภาวะทางอากาศ…
-
สาวอยากเลิกกับแฟนเพราะฐานะยากจน จึงจัดฉากว่าตัวเองถูกฆาตกรรม!!
เมื่อหมดรักแล้ว คนจะไป ห้ามยังไงก็ห้ามไม่อยู่ แต่วิธีการบอกเลิกนั้นมีหลากหลายวิธี แต่สำหรับหญิงสาวคนนี้ เธอกลับเลือกที่จะจัดฉากว่าตัวเองถูกลักพาตัวไปฆ่า… เหตุการณ์นี้เกิดที่ประเทศจีน มีรายงานออกมาว่า Yu หญิงวัย 37 ปี ถูกจับเพราะแสร้งถูกลักพาตัวและเสียชีวิตเพื่อต้องการที่จะเลิกกับ Lin แฟนหนุ่ม เหตุเพราะเขาฐานะยากจนเกินไป… Yu ได้รู้ถึงสถานะการเงินของแฟนหนุ่มหลังจากไปเยี่ยมบ้านเกิดของเขาที่เมือง Yichang เมื่อวันตรุษจีนที่ผ่านมา เธอจึงอยากเลิกกับแฟนหนุ่มหลังจากนั้น แต่กลัวว่าเขาจะไม่ยอม เธอจึงคิดแผนนี้ขึ้นมา Yu หญิงสาวผู้ก่อเหตุ ในวันที่ 21 ก.พ. ไม่นานหลังกลับมาจากบ้านเกิดของแฟนหนุ่ม Yu ก็หายไปจากหอพัก จากนั้นไม่กี่นาทีเธอก็โทรหาแฟนหนุ่ม และบอกว่าเธอถูกลักพาตัวจากสามีเก่าของเธอ และกำลังจะถูกโยนลงทะเลสาบ! “ช่วยฉันด้วย สามีเก่าลักพาตัวฉันมา มาเร็วเข้า! คิดว่าตอนนี้น่าจะอยู่บนทางด่วนแล้ว” เธอเล่นใหญ่ก่อนวางสายไป Lin ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เขาจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจเพื่อที่จะสามารถเจรจากับ ‘สามีเก่า’ ของแฟนของเขา หลังทางการตรวจสอบก็ได้พบภาพจากกล้องว่าแฟนสาวคนนี้อยู่ที่โมเตลแห่งหนึ่งในเขต Tenglong ตำรวจพบว่า Yu อยู่ที่โมเตลแห่งหนึ่งในเขต Tenglong . เมื่อทราบที่อยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ 20…
-
Sora Aoi เผยภาพล่าสุด ยิ้มแฉ่งอวดภาพท้องแฝด 8 เดือน โชว์ให้เห็นว่ามีความสุขสุดๆ
ผู้ชายน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักชื่อของ Sora Aoi หญิงสาวที่ทั้งขวัญใจและเปรียบเสมือนครูสอนเพศศึกษาของชายทุกคน ซึ่งเมื่อเดือนมกราคม 2018 เธอได้ประกาศแต่งงานกับศิลปินญี่ปุ่น DJ Non และหวังจะใช้ชีวิตหลังแต่งงานที่เต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่น แน่นอนว่าคู่รักหลายๆ คนที่แต่งงานกันก็คงคาดหวังเรื่องลูกด้วยกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ Sora Aoi เช่นกัน เมื่อปลายปีที่ผ่านมาเธอได้ประกาศว่าเธอตั้งครรภ์กับสามีสุดที่รัก ซึ่งไม่ใช่ลูกเพียงคนเดียว แต่มาถึงสองคน!! https://www.instagram.com/p/Bse-FNcnYXX/?utm_source=ig_embed และล่าสุดนี้ Sora Aoi ก็ได้โพสต์ภาพท้องอายุครรภ์ 8 เดือนของคู่แฝดให้แฟนๆ ได้รับชมกัน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าท้องดังกล่าวนั้นใหญ่โตเสียจริง แต่ดูจากรอยยิ้มของเธอก็คงจะรับรู้ถึงความสุขของเธอเป็นอย่างแน่นอน ท้องโตก็จริง แต่ดูแล้ว Aoi ของเรานั้นมีความสุขกับการท้องครั้งนี้มากๆ https://www.instagram.com/p/Bu5Os7vHUbB/?utm_source=ig_embed นอกจากนี้ Sora Aoi ยังได้เผยอีกว่าเนื่องจากท้องที่โตขนาดนี้ ทำให้เธอออกไปนอกบ้านได้ลำบากมากขึ้น จึงเริ่มที่หันมาสั่งของออนไลน์แทน และสำหรับหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่หรือใครก็ตามที่ชื่นชอบ Sora Aoi ของเรา ก็อย่าลืมส่งกำลังใจไปให้คุณแม่มือใหม่ของเราคนนี้กันนะครับ ที่มา Soranews, aoi_sola
-
ก๊วนผู้สูงอายุรวมกลุ่มปลูกป่าหลังเกษียน เปลี่ยนเขาหัวโล้นให้กลับมาเขียวชะอุ่ม
ทุกวันนี้ มีการรณรงค์ในวงกว้างให้มนุษย์ตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะธรรมชาติในโลกของเราในทุกวันนี้กำลังค่อยๆ ถูกทำลายลงไปเรื่อยๆ คุณปู่ชาวจีนวัย 70 ปี นามว่า Yang Xiqing ก็ตระหนักถึงสิ่งนี้เช่นเดียวกัน อีกทั้งเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้และรักการปลูกป่าเป็นชีวิตจิตใจ คุณปู่ Yang Xiqing คุณปู่ได้สร้างกลุ่มปลูกป่าขึ้นมาและเปลี่ยนสภาพจากเขาหัวโล้นในบ้านเกิดของคุณปู่ เขตอำเภอเซ่อ มณฑลเหอเป่ย ให้กลายมาเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ คุณปู่ Yang เริ่มต้นไอเดียที่จะสร้างกลุ่มปลูกป่าขึ้นมาในปี 2009 หลังจากที่เกษียนอายุจากงาน จึงเริ่มชวนเพื่อนๆ ที่เกษียนอายุเหมือนกันในหมู่บ้านให้มาช่วยกันปลูกป่า ก๊วนผู้สูงอายุร่วมมือกันปลูกป่า “ทั้งชีวิตของผมอุทิตให้กับการปลูกป่า ผมคุยกับเพื่อนๆ ในหมู่บ้านที่เกษียนอายุแล้ว รวมถึงเหล่าเจ้าหน้าที่ ว่าพวกเราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะพวกเรายังมีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่ จากนั้นเราทุกคนก็เห็นพ้องกันว่า มาปลูกป่ากันเถอะ!” เดิมทีกลุ่มของคุณปู่ Yang มีสมาชิกอยู่เพียงแค่โหลเดียว (12 คน) แต่ปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมากว่า 600 คนแล้ว และอายุเฉลี่ยของคนในกลุ่มก็อยู่ที่ประมาณ 65 ปี เมื่อช่วงปี 1950 อำเภอเซ่อแห่งนี้มีพื้นที่เพียงแค่…
-
นักปั่นรถล้มหน้าพัง เพราะล้อจักรยานไปติดกับ ‘ร่อง’ ทางเท้า ทางการออกมาขอโทษทันควัน!!
คำเตือน: บทความนี้อาจมีเนื้อหาหรือภาพที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม เดี๋ยวนี้อีกหนึ่งการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกก็คือการปั่นจักรยาน ซึ่งในประเทศต่างๆ ก็เล็งเห็นถึงการออกกำลังกายชนิดนี้ จนมีการสร้างช่องจราจรให้กับจักรยานโดยเฉพาะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยอย่างเช่นทางจักรยานเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือว่ามีสิ่งกีดขวางบางอย่างอยู่จนสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่ได้ อย่างเช่นในกรณีของนักปั่นสัญชาตินิวซีแลนด์คนนี้ ที่หน้าแทบพังจากการที่รถจักรยานของเขาไปติดกับ ‘ร่อง’ ทางเท้า แต่ว่าในภายหลังทางการก็ออกมายอมรับว่านี่คือความผิดของพวกเขาเอง!? เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมานักปั่นนามว่า Neville Carpenter ต้องประสบอุบัติเหตุร้ายแรง จากความที่จักรยานของเขาไปติดเข้ากับ ‘ร่อง’ (พื้นที่ต่างระดับ) ของทางเท้า ขณะที่กำลังปั่นอยู่บนทางจักรยานในเมืองออกแลนด์ “มันเป็นเหมือนกับภาพช้า ผมกำลังจับแฮนด์รถอยู่แล้วก็ตู้ม ผมไม่มีแม้แต่เวลาจะดึงมือออกจากแฮนด์เลย” “ถ้าคุณจะสร้างทางสำหรับจักรยาน มันควรเป็นทางที่มีความปลอดภัย หรืออย่างน้อยมีป้ายบอกสักนิดก็ยังดีว่าพื้นที่นี้มีปัญหาเพื่อที่นักปั่นจะได้หลบเลี่ยง” Neville กล่าว ซึ่งในวันนี้ (14 มี.ค.) หน่วยงานด้านการคมนาคมของเมืองออกแลนด์ ก็ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อกรณีของ Carpenter แล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยพวกเขาได้เผยว่าจริงๆ แล้วได้รับแจ้งเรื่องทางเท้าที่มีข้อผิดพลาดนี้มาตั้งแต่ 1 เดือนก่อนหน้า ซึ่งในตอนนี้ก็ได้ให้ผู้รับเหมาแก้ไขเรื่องนี้อยู่และจะมีการซ่อมแซมให้สามารถใช้งานได้อย่างถาวรต่อไป “บางส่วนของฟุตพาทถูกเคลื่อนไปทำให้เกิดช่องว่าง มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้และไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย ตอนนี้เราจะทำให้มั่นใจว่ามันจะได้รับการซ่อมแซมให้ปลอดภัยอย่างแน่นอน ซึ่งเราจะคุยกับทางผู้รับเหมาอีกทีถึงมาตรฐานการทำงาน” เจ้าหน้าที่ทางการกล่าว …
-
หนุ่มน้อยหูหนวก ได้สื่อสารภาษามือกับตัวละครใน Disneyland และได้รับโอบกอดอันอบอุ่น
การ์ตูนดิสนีย์ทั้งหลายนั้นเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และเป็นแรงบันดาลใจของเด็กทั่วโลกทำให้ใฝ่ฝันอยากไป Disneyland และพบกับตัวการ์ตูนเหล่านั้นสักครั้งในชีวิต เช่นเดียวกันกับเด็กพิการในองค์กร Oliver Crest จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนที่มีความเสี่ยงในรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐวอชิงตัน องค์กรนี้มักจะพาเด็กในปกครองมาสวนสนุก Disneyland ทุกปี และในปีนี้เองที่เหตุการณ์ “ช่วงเวลาอันแสนวิเศษ” (Magical Moment) ได้เกิดขึ้นกับเด็กหูหนวกรายหนึ่ง ขณะที่เขาได้พบกับมิกกี้เมาส์ มินนี่เมาส์ และพลูโต เนื่องจากเด็กชายนั้นจำเป็นต้องมีนักแปลภาษามือ คอยติดตามระหว่างเที่ยวในสวนสนุก และตัวละครทั้ง 3 ไม่ทราบถึงความผิดปกติของเด็กชายมาก่อน แต่หลังจากพบกันแล้ว ทั้งมิกกี้ มินนี่ และพลูโต ต่างก็แสดงท่าทาง และสัญญาณตามนักแปลภาษามือ เพื่อให้หนุ่มน้อยเข้าใจ โดยมีใจความว่า “พวกเรายินดีที่ได้พบหนูนะ” และ “พวกเรารักหนู” นั่นทำให้เด็กชายปลื้มปิติเป็นอย่างมาก ขณะส่งภาษามือสื่อสารกัน . เด็กชายดีใจมากที่ได้รับสารเหล่านั้น เขาตื่นเต้นเกินกว่าที่จะโต้ตอบกลับ แต่เขาแสดงออกด้วยการโผเข้ากอดมินนี่เมาส์ และมิกกี้เมาส์แทน ซึ่งนั่นไม่ใช่สไตล์ของเขาเลย เพราะฉะนั้นอาจกล่าวได้ว่า การแสดงออกของเด็กชายขณะโผเข้ากอดตัวละครทั้งคู่นั้น ได้แสดงถึงความสุขอย่างที่สุดของเขานั่นเอง ขณะเข้าโผกอดตัวการ์ตูนทั้งสอง .…
-
ผุดมาอีกราย!! “จงฮยอน” วง CNBLUE ในแชทลับกับ “จองจุนยอง” บอกให้ส่งผู้หญิงมาเร็วๆ
ยังคงเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้กรณีหนุ่ม ซึงรี วง Big Bang มีส่วนในการ“จัดบริการค้าประเวณี” ผ่านบทสนทนาบนแอปพลิเคชัน Kakaotalk ล่าสุดในครั้งนี้หนุ่ม อีจงฮยอน จากวง CNBLUE ก็ยังโดนแฉแชทส่วนตัวของเขาว่าร่วมซื้อบริการค้าประเวณีดังกล่าวด้วย ซึ่งแชทที่ว่านั้นเป็นการพูดคุยกันกับ จอง จุน-ยอง นักร้อง นักแต่งเพลงชาวเกาหลีที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: เผยบทสัมภาษณ์ ‘Kang Kyung Yoon’ นักข่าวสาว ผู้เปิดโปงแชทลับซึงรี-จองจุนยอง อีจงฮยอน มือกีตาร์วง CNBLUE จากการรายงานข่าวล่าสุดวันที่ 14 มีนาคม 2019 ทางสถานีโทรทัศน์ SBS ของเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยภาพแชทของอีจงฮยอนและจอง จุน-ยอง ในแชทนั้น อีจงฮยอนได้ถามถึงภาพของหญิงสาวที่ ชเว จง-ฮุน อดีตนักกีตาร์และสมาชิกของ F.T. Island กำลังหลับนอนอยู่ด้วยว่า “ใครน่ะ หุ่นดี***” พร้อมทั้งพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนผู้หญิงกันและยังบอกอีกว่า “ส่งผู้หญิงมาไวๆ สิ” หลังมีข่าวออกไปแล้วชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นมากมายถึงประเด็นนี้ ซึ่งมีคนไทยบนทวิตเตอร์ชื่อบัญชีว่า @meawless ได้ทำการแปลแชทดังกล่าวไว้ ข้อความที่ @meawless แปลลงบนทวิตเตอร์: ในส่วนของ จงฮยอน CNBLUE แชท ก็มาแล้วนะจ๊ะ 1. ไม่มีผู้หญิงที่…
-
ไอ้หนุ่มโกงความตาย รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ เพราะได้โทรศัพท์มือถือรับลูกธนูแทน
ในช่วงชีวิตคนเราคงมีคนไม่น้อยที่จะได้มีโอกาสรอดตายแบบเฉียดฉิว เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากมีประสบการณ์ใจหายใจคว่ำแบบนั้นบ่อยๆ ส่วนเรื่องราวโกงความตายที่จะมาเล่าในวันนี้นั้นเกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย เมื่อชายคนหนึ่งรอดตายจากลูกธนูมาได้แบบปาฏิหาริย์ ชายวัย 43 ปีคนดังกล่าวได้ขับรถไปยังบ้านหลังที่เขาซื้อไว้ในหมู่บ้านนิมบิน รัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในช่วงเช้าวันที่ 13 มีนาคม 2019 และเขาก็ได้สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่กลางแจ้งพร้อมกับถือคันธนูและลูกธนูในมือ เห็นดังนั้นเขาก็ไม่รอช้าหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปการยิงธนูของชายคนนั้น ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ตั้งท่าเตรียมพร้อมแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า ชายคนนั้นยิงธนูมาทางชายคนที่กำลังจะถ่ายรูป ลูกธนูพุ่งเข้าเข้ามาเสียบทะลุโทรศัพท์มือถือเป็นรู และจากแรงปะทะทำให้โทรศัพท์ในมือกระแทกเข้าที่คางของคนถือ ทำให้เขาได้แผลเล็กน้อย แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บรายแรงใดๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กรมตำรวจ Richmond ได้รับแจ้งเหตุจึงรุดหน้าไปและควบคุมตัวเจ้าของลูกธนูวัย 39 ปีเอาไว้ โดยตั้งข้อหาใช้อาวุธประทุษร้ายและเจตนาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งผู้ต้องหาได้ขอยื่นประกันตัวแบบมีเงื่อนไข และจะต้องไปขึ้นศาลในวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2019 นี้ รูปภาพโทรศัพท์มือถือผู้ช่วยชีวิตเครื่องดังกล่าวถูกโพสต์ขึ้นบนเฟซบุ๊กของกำลังตำรวจนิวเซาธ์เวลส์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงของลูกธนูที่พุ่งตรงเข้ามา ถ้าหากว่าไม่ได้โทรศัพท์มาเป็นโล่ ลูกธนูดอกนี้จะเสียบเข้าที่ศีรษะของชายคนนี้พอดี ซึ่งหลังชาวเน็ตได้เห็นภาพดังล่าวต่างก็สงสัยกันว่าทำไมคนร้ายถึงไม่โดนข้อหาพยายามฆ่าอีกกระทง https://www.facebook.com/nswpoliceforce/posts/10156626157561185?__xts__[0]=68.ARAikFcRAk1Ta7zzP4YT71w3V6MmL9Tce6hQxcVq6b7rFcO7PGUvidpau1VnUL5T4WnkZegX4miSJbaJXYaADJy2FWu10HGmik6W3ALFW9WoUKljCkYf4gPtwRCfTDfM6nj1taSlPZMAwKgDLEG3ZaElO_QbmA0QFYNf45xMw7zfo486TnlNQ8qMesFd8yrQ3gOomyMH_a0rzDoX52Kt-1CJKngeAXPUGb1qAPdOEzvxlhiZBBWvvrepkycWIf7sJW3qNUfhuuE-O4DgNE8IszKeSKqWtrtbCtlBEQVZbwSdHdVYLRiop7e_WFstnKI8xUfFNdYpnxHSNBAZBW_Odgs&__tn__=C-R ที่มา LADbible และ NSW Police Force
-
คุณพ่อหัวร้อนควงปืนบุกโรงเรียนในฟลอริด้า หลังลูกชายบอกว่าถูกครูคนหนึ่งทำร้าย
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ Mirror รายงานว่า มีชายคนหนึ่งพกอาวุธบุกเข้าไปที่โรงเรียนมัธยมต้น Bear Lakes และเรียกร้องขอพบครูคนหนึ่งอย่างเกรี้ยวกราด ผู้บุกรุกทราบภายหลังว่าชื่อ Christopher Freeman อายุ 27 ปี เป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนหนึ่งในโรงเรียนดังกล่าว โดยสาเหตุที่เขาบุกเข้ามาพร้อมอาวุธนั้น เขาอ้างว่า ลูกชาถูกครูคนหนุ่มในโรงเรียนทำร้ายร่างกาย จากรายงานพบว่านาย Freeman และลูกชายพูดคุยกันผ่านทาง FaceTime ตอนเวลาบ่าย 3 โมง ก่อนที่คุณพ่อคนดังกล่าวจะโทรศัพท์คุยกับผู้ช่วยครูใหญ่อย่างดุเดือดอีกพักหนึ่ง โดนทางผู้ช่วยครูใหญ่อ้างว่านาย Freeman ได้กล่าวข่มขู่ไว้ทางโทรศัพท์ว่า “ถ้าคนที่โดนเป็นลูกข้าล่ะก็ พวกเอ็งทุกคนเตรียมตัวตายได้เลย” ไม่นานหลังจากนั้น นาย Freeman ก็มาปรากฏตัวที่โรงเรียนพร้อมกับปืน Cugir AK-47 mini pistol บรรจุกระสุน ด้วยท่าทีอารมณ์เสีย พร้อมกับเรียกร้องขอคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของตน พยานผู้พบเห็นบอกว่าปืนกระบอกดังกล่าวนั้นเหน็บอยู่บริเวณเข็มขัดของเขา รายงานของทางการนั้นระบุว่าเขาได้ขู่ว่าจะฆ่าคนเมื่อมาถึงโรงเรียน และพูดว่า “ขอเจอไอ้ครูคนที่ทำลูกตูหน่อยสิ ตูมีอะไรอะให้มันว่ะ” เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบรุดมายังโรงเรียนดังกล่าวในทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ โดยทางโรงเรียนได้ประกาศภาวะฉุกเฉิดและปิดไปชั่วคราว…
-
คุณพ่อแปลงโฉมลูกน้อยให้เป็น ‘กัปตันมาร์เวล’ สวยไม่แพ้ต้นฉบับเลยทีเดียว
เรียกได้ว่านาทีนี้ไม่มีใครฮอตไปกว่า ‘กัปตันมาร์เวล’ หลังจากเข้าฉายไปเพียงไม่กี่วันก็กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 455 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่หญิงเรื่องนี้ Josh Rossi ช่างภาพคนหนึ่งได้วางแผนเซอร์ไพร์สลูกสาว Nellee ที่ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ด้วยการแปลงโฉมให้เธอเป็นกัปตันมาร์เวล อย่างที่เธอใฝ่ฝัน . . คุณพ่อให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่เธอได้ชมภาพยนตร์เรื่อง กัปตันมาร์เวล เธอก็คลั่งใคล้ซูเปอร์ฮีโร่คนนี้เป็นอย่างมาก และยังชอบเลียนแบบท่าทางของตัวละครในเรื่องอีกด้วย ช่างภาพคนนี้จึงเติมเต็มความฝันให้ลูกสาวด้วยชุดกัปตันมาร์เวลที่ได้รับการสนับสนุนจากดีไซน์เนอร์หญิง Julie Whiteley . Rossi ยังบอกอีกว่า “ผมอยากแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความเข้มแข็งของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำให้ลูกสาวของผมรู้สึกมีอำนาจเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ที่เธอชื่นชอบ” หลังจากการถ่ายภาพ Nellee ในชุดกัปตันมาร์เวล คุณพ่อก็นำรูปของเธอไปตัดแต่งเป็นโปสเตอร์ติดที่โรงภาพยนตร์ สร้างความประทับใจให้หนูน้อยคนนี้เป็นอย่างมาก ภาพเหตุการณ์ บ่อยครั้งที่คุณพ่อคนนี้ต้องทำงานหนัก จนไม่มีเวลาให้กับลูกสาวของเขา เขาจึงใช้โอกาสนี้ในการแสดงความรัก ความห่วงใยต่อคนในครอบครัว จนเกิดเป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของพ่อลูกคู่นี้ ที่มา: huffpost, inspiremore
-
พาชมบ้าน ‘แคปซูล’ ขนาดเล็ก สไตล์มินิมอลโดยสถาปนิกชาวอาร์เจนติน่า
จากจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นในเมืองใหญ่ ทำให้ทรัพยากรในหลายพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ ราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยสูงขึ้นมาก จึงมีการออกแบบสิ่งก่อสร้างต่างๆ โดยใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในปี 2012 Martin Marro สถาปนิกชาวอาร์เจนติน่าได้ออกแบบบ้าน ‘แคปซูล’ ขนาดเล็ก สไตล์มินิมอลขึ้นมาเป็นโปรเจกต์ที่ชื่อว่า “Bunker” . บ้านหลังเล็กหลังนี้ทำจากถังน้ำมัน ภายนอกมีลักษณะคล้ายเรือดำน้ำสีเหลือง ภายในประกอบไปด้วยเตียง ทีวี โซฟาแบบโค้ง และชั้นสำหรับวางของต่างๆ ให้บรรยากาศสบายๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อน เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา Marro ได้นำบ้านหลังนี้ไปจัดแสดงชั่วคราวที่งานศิลปะ ที่เมือง córdoba ประเทศอาร์เจนติน่า ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากผู้ชมในงานอย่างล้นหลาม ใครพร้อมแล้ว ไปชมภาพบ้านหลังเล็กๆ อันแสนอบอุ่นนี้พร้อมๆ กัน พื้นที่ด้านในถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดวางข้าวของต่างๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัด แถมมีเพดานรับแสงจากธรรมชาติ ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก . . เห็นแบบนี้แล้ว #เหมียวเปปเปอร์ ก็อยากมีบ้านแบบนี้สักหลังเหมือนนะ ที่มา: designboom, designyoutrust
-
หนุ่มจีนเมาหนัก ‘ทดสอบรัก’ ของภรรยาด้วยการออกไปยืนกลางถนนกลางดึก
ว่ากันว่าคนเมามักจะทำอะไรออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว บางคนเมาแล้วหัวเราะไม่หยุด บางคนเมาแล้วร้องไห้น้ำตานองต้องปรับทุกข์กับเพื่อนในวงเหล้า หรือบางคนเมาแล้วมีความกล้าบ้าบิ่น เผลอทำอะไรออกไปโดยที่ไม่ได้ทันคิด เช่นเดียวกับหนุ่มจีนคนนี้ที่ดื่มหนัก อยากทดสอบรักของภรรยาโดยการออกไปยืนกลางถนนกลางดึก กล้องวงจรบิดได้แสดงภาพเหตุการณ์ที่เกิดบนถนน Lishui มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของประเทศจีน เมื่อมี Pan วัย 30 สามีขี้เมาทะเลาะกับ Zhou ผู้เป็นภรรยาตรงกลางถนน ในขณะที่ภรรยาพยายามดึงตัวสามีเข้ามาข้างทาง ไม่ให้เกิดอันตรายจากรถที่วิ่งไปมา ฝ่ายสามีที่มีฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในร่างกายก็ยังดึงดันที่จะออกไปยืนกลางถนนให้ได้ โดยที่สามีให้เหตุผลว่า “ผมอยากรู้ว่าภรรยารักผมมากขนาดไหน” ถึงแม้ว่าคนที่ขับรถผ่านไปมาในคืนนั้น พยายามหลีกเหลี่ยงชายคนนี้แล้ว แต่สุดท้ายแล้วเขาก็โดนรถคันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วชนเข้าอย่างจัง ฝ่ายภรรยาที่เห็นเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าต่อหน้าจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ ก่อนเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยนำตัวสามีส่งโรงพยาบาลในทันที แต่โชคดีที่เขาไม่ได้บาดเจ็บถึงแก่ชีวิต เพียงแต่กระดูกแตก คลิปเหตุการณ์ หลังจากรู้สึกตัว เขาก็ให้การกับตำรวจว่า “หลังจากที่ดื่มไปนิดหน่อย ผมก็เริ่มทะเลาะกับภรรยาและเริ่มลงไม้ลงมือ ผมอยากรู้ว่าภรรยารักผมพอที่จะห้ามไม่ให้ออกไปยืนกลางถนนหรือเปล่า แต่สุดท้ายผมก็โดนรถชนจนได้รับบาดเจ็บ” “ผมเสียใจที่ทำแบบนั้นลงไป” ส่วนภรรยาก็บอกกับตำรวจว่า “ฉันพยายามบอกเขาแล้วว่ามันอันตราย และพยายามดึงเขากลับมาหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล” แม้เหตุการณ์ในครั้งนี้จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ก็เป็นบทเรียนให้หลายคนดื่มด้วยความมีสติและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ที่มา: ladbible, dailymail
-
เวเนซุเอลาวิกฤติหนัก ประชาชนพบ “น้ำประปาสีดำ” ปนเปื้อนด้วยน้ำมัน ไม่มีน้ำสะอาดดื่ม
หลังจากที่ประเทศเวเนซุเอลาเกิดวิกฤติไฟฟ้าดับในหลายส่วนของประเทศกว่า 70% เป็นเวลานานกว่า 6 วัน ตอนนี้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่: เวเนซุเอลาไฟฟ้าดับติดกัน 6 วัน-ปชช.โยนเงินเกลื่อนถนน เหตุใช้เข้าถึงระบบสาธารณูปโภคไม่ได้ โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2019 ผู้พักอาศัยในเมืองแซนดีเอโก รัฐการาโบโบ ประเทศเวเนซุเอลา ตื่นขึ้นมาเพื่อพบว่า น้ำที่เคยใช้สำหรับอุปโภค และบริโภคตามปกตินั้นได้กลายเป็นสีดำ! น้ำมันดิบปนเปื้อนในน้ำประปา Y para completar la desgracia en San Diego #Carabobo nos mandan agua limpia y purificada @rafaellacava10 #12Mar #Ahora #13Mar #FelizMiercoles pic.twitter.com/HWK2Dw6R6t — Zoyla Mesa (@damiana0804) March 13, 2019 ประชาชนท้องถิ่นต่างอัพโหลดรูปภาพ และวิดีโอลงสื่อโซเชียลมีเดียถึงปัญหาน้ำสีดำนี้ โดยพวกเขาเชื่อว่ามันถูกปนเปื้อนด้วยน้ำมัน…
-
คุณแม่อินเดียตัดสินใจคลอดลูกด้วยตัวเอง โดยดูวิธีผ่านยูทูบ สุดท้ายไม่รอดทั้งแม่ทั้งลูก
ในปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าเทคโนโลยีของมนุษย์พัฒนาก้าวกระโดดกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก หากไม่เข้าใจหรืออยากรู้วิธีทำอะไรต่างๆ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ค้นหาในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าวิธีที่เราอยากรู้ในอินเตอร์เน็ตจะทำให้เราทำสิ่งนั้นสำเร็จเสมอไป เมื่อคุณแม่วัย 26 ปีคนหนึ่งพยายามจะ “คลอดลูก” ด้วยตนเองโดยดูวิธีตามวิดีโอในยูทูบ จนสุดท้ายเสียชีวิตทั้งแม่และลูก เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองโคราฆปุระ ประเทศอินเดีย ในช่วงกลางดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2019 คุณแม่ท้องแก่คนดังกล่าวเกิดปวดท้องคลอดลูกขึ้นมา แทนที่จะไปคลอดลูกตามปกติที่โรงพยาบาล แต่เธอกลับตัดสินใจที่จะคลอดลูกด้วยตัวเอง เนื่องจากเธอกลัวว่าหากไปโรงพยาบาลจะถูกสังคมรู้และพูดจาเยาะเย้ย เนื่องจากเธอท้องโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน เธอตัดสินใจเปิดวิดีโอจากยูทูบดูวิธีการทำคลอด จากนั้นก็ลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง แต่แล้วเรื่องเศร้าก็เกิดขึ้น… ในเช้าวันที่ 11 มีนาคม 2019 เจ้าของห้องเช่าของเธอเห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากห้องของเธอ จึงทำการพังประตูเข้าไป ซึ่งพบว่าร่างของสองแม่ลูกนั้นนอนแน่นิ่งไปเสียแล้ว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจ พบว่าโทรศัพท์มือถือของเธอนั้นกำลังเปิด “วิธีคลอดลูกโดยตัวเอง” บนยูทูบอยู่ นอกจากนี้ในห้องยังพบกรรไกร, มีดและของอื่นๆ วางอยู่รอบๆ ร่างของเธออีกด้วย “ผู้หญิงคนนี้มาขอเช่าห้องของผมเมื่อสี่วันก่อนและบอกผมว่าเดี๋ยวคุณแม่ของเธอจะมาหาเพื่อจะพาเธอไปคลอดที่โรงพยาบาล หลังจากที่ผมยืนยันตัวตนของเธอผ่านบัตรประชาชน ผมก็ให้เธอเช่าห้อง” เจ้าของห้องกล่าว จะอย่างไรก็ตาม #เหมียวโคบี้ ต้องขอแสดงเสียใจกับครอบครัวของผู้ที่จากไปด้วยครับ ที่มา Dailymail,…
-
ช่างภาพเผยรูปภาพสุดท้ายของ ‘ราชินีช้าง’ ในประเทศเคนยา ก่อนมันจะสิ้นลมตามธรรมชาติ
Will Burrard-Lucas ช่างภาพหนุ่มชาวอังกฤษ ผู้เคยฝากผลงานการถ่ายภาพเสือดาวดำในแอฟริกาที่กลายมาเป็นภาพไวรัลแชร์ส่งต่อกันเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่างภาพหนุ่มตามฝันถ่ายรูป “เสือดาวดำ” ในแอฟริกาได้ชัดๆ เป็นคนแรกในรอบ 100 ปี ราวกับว่าช่างภาพคนนี้มีญาณวิเศษที่สามารถดึงดูดสัตว์ป่าต่างๆ ได้ ล่าสุด เขาได้เผยรูปภาพใหม่เป็นภาพของราชินีช้างอายุกว่า 100 ปี ในเขต Tsavo ประเทศเคนยา ราชินีช้างแอฟริกา Super Tuskers ที่หลงเหลืออยู่บนโลกนี้เพียงแค่ประมาณ 20 ตัว สาเหตุที่ใกล้ทำให้จำนวนของพวกมันลดลงเรื่อยๆ มาจากการล่าช้างเพื่อเอางา งาของช้างชนิดนี้ถือว่าเป็นเป้าหมายอันล้ำค่าของเหล่านักล่า เนื่องจากมันหายาก ใหญ่ สวยและมีราคาแพง และนี่เป็นภาพของช้างที่มีรหัสชื่อว่า F_MU1 ที่เขาได้ถ่ายเก็บเอาไว้ ไม่มีใครคิดว่านี่จะเป็นภาพถ่ายสุดท้ายของมันก่อนที่จะสิ้นลมตามธรรมชาติด้วยอายุประมาณ 60 ปี “เธอมีชีวิตโดยที่ได้ผ่านช่วงเวลาแห่งการรุกล้ำที่น่ากลัว และมันเป็นชัยชนะที่ชีวิตของเธอไม่ได้สิ้นสุดก่อนกำหนดด้วยเหล่ากระสุนหรือลูกดอกอาบยาพิษ” ช่างภาพหนุ่มเขียนเอาไว้ ถ้ามีราชินีแห่งช้าง มันคงจะต้องเป็นเธออย่างแน่นอน ที่มา thisisinsider
-
นักผจญภัยทดลองใช้ชีวิตเป็น ‘คนไร้บ้าน’ 60 วัน เผยพวกเขามีรายได้มากกว่าที่คิด….
การจะเข้าใจผู้อื่นได้ดีที่สุด คงไม่มีวิธีไหนที่ดีไปกว่าการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาวะเดียวกับคนที่เราอยากจะเข้าใจ และก็เช่นเดียวกับผจญภัยคนหนึ่งในประเทศอังกฤษ ที่ตัวเขาเองอยากจะรู้ว่าการเป็นคนไร้บ้านหรือขอทานนั้นเป็นอย่างไร เขาจึงใช้เวลากว่า 60 วันเอาตัวเองไปนอนอยู่ข้างถนนในเมืองต่างๆ จนในที่สุดแล้วเขาก็พบว่าจริงๆ แล้วอาชีพขอทานอาจจะร่ำรวยกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก… Ed Stafford อดีตนายทหารกองทัพบกสหราชอาณาจักร ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นนักสำรวจและนักผจญภัยชื่อดัง ได้เป็นผู้ที่ทำการทดสอบในครั้งนี้ซึ่งจะมีการบันทึกภาพในรูปแบบสารคดีฉายทางช่อง Channel 4 ของประเทศอังกฤษ ในการเอาตัวเองมาผจญภัยในรูปแบบคนไร้บ้านครั้งนี้ Ed ต้องใช้เวลากว่า 60 วันไปกับการนอนข้างถนนตามหัวเมืองใหญ่ๆ ในสหราชอาณาจักรอย่างลอนดอน แมนเชสเตอร์ และกลาสโกว์ นาย Ed ผู้ลงพื้นที่ ในระหว่างที่นักสำรวจคนนี้เป็นคนไร้บ้าน เขายอมรับว่าได้เห็นปัญหาต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นอย่างเช่นปัญหาเรื่องยาเสพติด หรือว่าเรื่องราวสะเทือนใจที่มีเหล่าคนไร้บ้านคนอื่นๆ มาเล่าให้ฟัง แต่ที่ทำให้เขาช็อกที่สุดก็คือเรื่องรายได้ของเหล่าคนเหล่านี้ เพราะบางคืนพวกเขาสามารถหาเงินได้สูงถึง 200 ปอนด์ (ราวๆ 8,400 บาท) เลยทีเดียว อีกทั้งยังไม่ต้องเสียเงินซื้ออาหารเพราะมีผู้คนใจดีหรืออาสาสมัครบริจาคให้อยู่เสมอด้วย… “การขอทานดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ทำให้ร่ำรวยกว่าที่ผมจินตนาการเอาไว้ มันเป็นเรื่องที่ธรรมดาสามัญมากๆ ที่จะทำเงินได้ 100 หรือ 200…
-
น้องหมาหายไปในภูเขา 2 วัน บังเอิญกู้ภัยไปพบเข้า จึงถูกช่วยให้กลับมาเจอเจ้าของอีกครั้ง!
เกิดเรื่องราวน่าประทับใจขึ้น เมื่อมีสุนัขตัวหนึ่งพลัดหลงจากเจ้าของหายไป 2 วันบนภูเขาที่มีสภาพอากาศอันเลวร้าย แต่สุดท้ายมันก็ถูกช่วยให้กลับมาเจอหน้าเจ้าของอีกครั้งหนึ่ง! ขณะนี้ที่สหราชอาณาจักรกำลังถูกพายุ Gareth เข้าเล่นงาน นั่นเป็นสาเหตุทำให้เจ้าเบน สุนัขตัวน้อยวิ่งหนีหายไปจากเจ้าของ ในขณะที่กำลังเดินอยู่ที่เขตภูเขา Cairngorms ที่ตั้งอยู่ในประเทศสก็อตแลนด์ เจ้าเบน เจ้าเบนติดอยู่บนภูเขานานกว่า 48 ชม. บนภูเขา ที่มีอากาศหนาวเหน็บจากพายุและมีหิมะตกลงมา เรียกได้ว่าแทบจะหมดหวังกับการตามหามันแล้ว โชคดีสำหรับเจ้าเบน เพราะตอนนั้นหน่วยกู้ภัยกำลังอยู่ในการซ้อมปฏิบัติการช่วยเหลือ ในตอนที่พวกเขาไปเจอเจ้าเบนเข้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มาร์คตำแหน่งไว้และบินไปรับนักโรยตัวสองคนกลับมาช่วยเจ้าเบน ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 มี.ค. มีรายงานออกมาว่า เฮลิค็อปเตอร์หน่วยกู้ภัย ได้ช่วยสุนัขพันธ์คาวาชอนตัวนี้ให้รอดพ้นจากอันตรายได้สำเร็จ หน่วยกู้ภัยไปพบเจ้าเบนเข้า เจ้าหน้าที่กลับมาที่ขอบผาเล็กๆ ที่เจ้าเบนอยู่ ด้วยอากาศที่กำลังแจ่มใส เจ้าหน้าที่ก็เริ่มปฏิบัติการหย่อนตัวลงไปจากเฮลิค็อปเตอร์เพื่ออุ้มเจ้าเบนขึ้นมา ทีมงานหย่อนตัวจากเฮลิค็อปเตอร์ลงไปช่วย Kate Willoughby และ Mark Stevens สองนักโรยตัวที่กำลังฝึกซ้อมก่อนที่จะไปพบเจ้าเบน หน่วยกู้ภัยเผยว่าในขณะที่เจ้าเบนถูกปกคลุมไว้ด้วยหิมะหลังจากหายไปบนภูเขาสองวัน มันมีอาการหวาดกลัวและหนาวในขณะที่ถูกอุ้มขึ้นมาบนเฮลิค็อปเตอร์ ทางเจ้าหน้าที่จึงพามันไปดูอาการทันที และข่าวดีก็ออกมาว่าเจ้าเบนไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง และตอนนี้ก็ได้กลับไปพบหน้าเจ้าของแล้ว! …
-
อาจพลิก เมื่อท่าเรือชี้แจงดราม่า “หมาโดนการุณยฆาต” อาจไม่ได้ติดจากไทย เอ๋??
จากประเด็นที่มีสุนัขติดเรือจากแหลมฉบังไปโผล่ที่ฮ่องกงและถูกการุณยฆาต ทำให้กลุ่ม Watchdog Thailand ได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม และเตรียมเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ข่าวจากทางฮ่องกง รายงานว่ามีสุนัขไทยติดมากับเรือ หากไม่มีผู้แสดงความเป็นเจ้าของสุนัขตัวนี้จะถูกกำจัดภายใน 4 วัน ล่าสุด เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ได้ออกมาชี้แจง ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าไม่พบสุนัขตัวดังกล่าวที่ท่าเรือแหลมฉบัง ทางท่าเรือแหลมฉบังติดต่อไปยัง คุณเมย์ ผู้โพสต์ในเฟซบุ๊กถึงประเด็นดังกล่าว และกำลังติดต่อไปทางฮ่องกง ซึ่งได้ทราบว่าสุนัขตัวดังกล่าวติดไปกับเรือ “Pelican” ที่ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง วันที่ 6 มี.ค. 2562 ก่อนจะถึงฮ่องกงในวันที่ 12 มี.ค. 2562 และถูกกักตัวเอาไว้ จากการตรวจสอบพบว่าเรือสินค้า Pelican เดินทางมาจากเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เข้ามาเทียบท่าเรือแหลมฉบังในวันที่ 4 มี.ค. และออกไปท่าเรือกรุงเทพฯ วันที่ 5 มี.ค. ก่อนจะกลับมาที่ท่าเรือแหลมฉบังอีกครั้งในวันที่ 6 มี.ค. ทำให้คาดว่าสุนัขตัวดังกล่าวอาจจะไม่ได้ขึ้นเรือที่ประเทศไทย!? WATCHDOG THAILAND รายงานว่าสุนัขตัวดังกล่าวถูกการุณยฆาตแล้ว…
-
ชายหนุ่มโดนหาเรื่อง จากคนไม่รู้จักที่เขาเคยต่อยสลบเมื่อ 4 ปีก่อน ก็เลยต่อยสลบอีกรอบ ห๊ะ!?
“แค้นนี้ต้องชำระ” เป็นคำที่เราคุ้นเคยจากหนังจีนที่พากย์โดยทีมพากย์พันธมิตร แต่บางครั้งเราก็ควรปล่อยวางความแค้น ไม่งั้นอาจจะโดนหวดกลับมาแบบชายคนนี้… ย้อนไปเมื่อปลายปีก่อน มีชายไม่ทราบชื่อ ได้เข้ามาหาเรื่องชายนาม Reece Wilkin พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “เอ็งมันคนที่เคยต่อยข้า มาเคลียร์กันหน่อยเว้ย!” Reece Wilkin หนุ่มผู้ถูกหาเรื่องจากชายที่เขาเคยต่อยเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ชายไร้นามกล่าวต่อว่า “รู้ไหมว่าตรูเป็นใคร? ตรูคือคนที่เคยโดนมรึงต่อยไง” เพียงไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น Wilkin ก็ซัดชายคนนั้นหมดสติลง ‘อีกครั้งหนึ่ง’ แต่คราวนี้หนักกว่าเดิมเพราะ โหนกแก้มถึงกับแตกกันเลยทีเดียว… ต่อมา Wilkin ถูกฟ้องร้อง ข้อหาทำร้ายร่างกาย อัยการ Andrew Bailey ได้บอกกับศาลว่า ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม 2013 ครั้งนั้น Wilkin เคยต่อยชายคนนี้ที่หน้าจนสลบมาแล้ว ซึ่งคดีดังกล่าวทำให้เขาถูกปรับจากศาลในปีต่อมา การเจอกันครั้งที่สอง เหยื่อที่โหนกแก้มแตกจากการโดนซัดเข้าเต็มแรง บาดเจ็บมากขึ้นกว่าเดิมอีก เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดฝังเหล็กเข้าไป 3 ชิ้นภายในแก้มของเขา ทำให้เขาหน้าบวมเป่งเป็นลูกโป่งถึง 2 เดือน ในขณะพักรักษาตัว …
-
นิทรรศการภาพถ่าย “ผู้คนผู้มีสีผิวผิดปกติ” เผยให้เห็นความงดงามอันแสนตรึงใจ
โรค Congenital Melanocytic Naevus (CMN) คือโรคที่ผู้เป็นจะมีไฝและปานดำกระจายทั่วทั้งตัว เป็นโรคหายากพบในทารกแรกเกิด และมีผู้ป่วยพียง 1% จากทารกทั่วโลกเท่านั้น ในโลกที่ผู้คนให้ความสำคัญกับความงามตามค่านิยมสังคมอย่างสีผิวขาวสว่าง หรือผิวเข้มเสมอกันนั้น หลายคนที่ป่วยเป็นโรคทางสภาพผิวเช่นนี้มักรู้สึกไม่มั่นใจและถูกลดทนคุณค่าในตัว ทางมูลนิธิ UK CMN charity Caring Matters Now จึงได้สนับสนุนให้เกิดงานนิทรรศการจัดแสดงภาพถ่ายที่ถ่ายทอดความงดงามของสีผิวของผู้ป่วย CMN ในชื่องานว่า “How Do You C Me Now” (ตอนนี้คุณเห็นฉันเป็นอย่างไร) ทั้งนี้งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อต้องการสื่อว่า “ให้รักสีผิวที่ตนเองมี” โดยเหล่านางแบบและนายแบบล้วนแล้วแต่เป็นผู้ป่วย CMN ที่ไม่เคยเผยร่องรอยแต่กำเนิดของตนมาก่อน โฆษกของมูลนิธิผู้สนับสนุนงานนิทรรศการกล่าวว่า “ผู้คนที่เป็น CMN นั้นมักรู้สึกโดดเดี่ยวจากการเป็นโรคหายากชนิดนี้ และยังต้องรับคือกับความเห็นแง่ลบของคนอื่นๆ เพราะพวกเขาดูแตกต่างจากคนปกติ ทำให้เหล่าผู้ป่วยขาดความนับถือในตนเอง งานนิทรรศการนี้ไม่เพียงแค่ต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ป่วยเท่านั้น มันยังจะช่วยกระตุ้มสังคมให้กลับมามองเห็นความงามและยอมรับในความต่างแทนที่จะลดทอนคุณค่าของผู้อื่น” ภายถ่ายในงานเป็นผลงานของช่างภาพนามว่า Brock Elbank จัดขึ้นที่ Oxo Tower Wharf…
-
เมื่อแคชเชียร์ให้สาวน้อยเด็กพิเศษช่วยเอาของใส่ถุง เธอจึงตอบแทนเขาด้วยความน่ารัก
เด็กที่มีความต้องการพิเศษนั้นคือ เหล่าเด็กที่ต้องการการดูแลในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ เนื่องจากพวกเขามีขาดความสามารถในบางเรื่องไป จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วพวกเขาล้วนมีความน่ารัก สดใส ไม่ต่างจากใครเลย Lily Teach เด็กหญิงตัวน้อยวัย 9 ขวบเองก็เป็น 1 ในเด็กที่มีความต้องการพิเศษเช่นกัน เธอได้รับการดูแลและความรักจากครอบครัวอย่างเต็มเปี่ยม เด็กหญิงจึงสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติได้อย่างมีความสุข และเด็กในวัยนี้มักจะมีความสุขกับเรื่องที่ผู้ใหญ่มองว่าธรรมดา แต่นอกจากตัวน้องที่แฮปปี้แล้ว เด็กน้อยยังส่งต่อความสุขและความน่ารักที่ทำให้โลกสดใสแก่คนรอบข้างด้วย เรื่องราวเล็กๆ ที่แสนน่ารักนี้เกิดขึ้นที่รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ณ ห้างขายอาหารแห่งหนึ่ง Lily และครอบครัวจับจ่ายซื้อของกันจนเสร็จ จึงไปเข้าคิวรอจ่ายเงินที่แคชเชียร์ ในระหว่างคิดเงินนั้นเองเด็กหญิงดูมีความสนใจอยากจะลองเป็นคนเอาของใส่ถุงอย่างมาก เธอเอาถุงใบหนึ่งมาเปิดปากถุงรอแล้ว Issac Witte พนักงานที่เป็นคนคิดเงินให้กับครอบครัว Teach เห็นดังนั้นแทนที่จะห้ามปราม เขาได้แสดงความใจดีออกมาด้วยการถามน้อง Lily ว่า อยากจะช่วยเขาแพ็คของใส่ในถุงมั้ย? พร้อมกับช่วยสอนวิธีการให้กับเด็กหญิงด้วยความใจเย็นและอ่อนโยน Lily ตั้งอกตั้งใจในงานที่เธอเพิ่งได้เรียนรู้อย่างมาก Lisa แม่ของเด็กหญิงบอกว่า ลูกสาวของเธอดูดีใจและตื่นเต้นเอามากๆ ที่พี่ชายที่แคชเชียร์เชื่อใจให้เธอได้ลองทำงานของเขาและปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง หลังจากแพ็คของและจ่ายเงินแล้ว เด็กหญิงได้ตอบแทนความใจดีของ Issac ด้วยการบอกกับเขาว่า “หนูรักคุณค่ะ”…
-
“ฉันไม่หลีก-แกสิหลีกไป” สถานีตำรวจแชร์สายแจ้งความที่ผีบ้าที่สุดของปี 2019
เราต่างก็รู้กันดีว่าเบอร์เหตุด่วนเหตุร้าย 191 หรือ 911 นั้นมีเอาไว้แจ้งเหตุด่วนจริงๆ ไม่ควรโทรไปเล่นๆ เพราะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับทั้งตำรวจและคนที่กำลังเดือดร้อนจริงๆ ได้ แต่บางครั้งคนที่โทรเข้ามาก็อาจจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังเดือดร้อนมากจริงๆ นั่นแหละนะ ถึงแม้ว่ามันจะดูเป็นเรื่องเล็กในสายตาของคนอื่นๆ ก็ตาม อย่างเช่นเรื่องราวที่ทางสถานีตำรวจ Lawrence รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้นำมาแชร์ผ่านทางทวิตเตอร์ของสถานีตำรวจเรื่องนี้… เรื่องเริ่มต้นที่ทางสถานีได้รับแจ้งเหตุมาว่าเกิดเหตุความรุนแรงที่ถนนสายหนึ่งกลางดึก เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายจึงถูกส่งไปตรวจสอบในทันที เมื่อไปถึงสถานที่ที่ได้รับแจ้งเหตุเข้ามาซึ่งเป็นลานจอดรถแห่งหนึ่ง ตำรวจพบรถ 2 คันจอดอยู่ สอบถามคนขับได้ทราบว่าชื่อ Karen และ Chad (นามสมมุติ) ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ตอนนี้รถของทั้งคู่กำลังประจันหน้ากันอย่างใกล้ชิด Karen นั้นต้องการจะออกจากลานจอดรถ ส่วนนาย Chad ก็อยากจะเข้า แต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมหลีกทางให้แก่กัน แม่สาว Karen เป็นฝ่ายคิดวิธีแก้ปัญหาด้วยการโทรเรียกตำรวจมาช่วยเคลียร์ (และนางก็ทำจริงๆ ซะด้วย) ทางตำรวจได้ทวีตถึงเรื่องดังกล่าวว่า “สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็แค่ยอมถอย…แค่ยอมกันเท่านั้นเองจริงๆ เพื่อให้อีกคันไปต่อได้ แต่ตอนที่เราไปถึงนั้นดูเหมือนว่าทั้ง 2…
-
แฟนสาวอ้อนวอนขอแฟนหนุ่ม “ได้โปรด อย่าตาย” ทั้งๆ ที่เพิ่งใช้มีดเสียบเขาไปหยกๆ
คู่รักหลายคู่มักจะจินตนาการชีวิตรักที่เต็มไปด้วยความสวยงามเสมอ แต่ในความจริงแล้วเรื่องราวสวยงามแบบที่คิดไว้อาจไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน เหมือนอย่างเรื่องราวของคู่รักคู่ที่เราจะนำมาให้ชมนี้ ฝ่าย Sonia Amairani Núñez แฟนสาววัย 24 ปีได้ใช้มีดจ้วงใส่ Erick Omar Díaz วัย 29 ปีจนล้มลงไปนอน แต่เธอกลับอ้อนวอนขอให้เขาอย่าตายซะงั้น!? วิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นนอกโรงแรมม่านรูด Las Cascadas ในเมือง Iguala ประเทศเม็กซิโก โดยจากในวิดีโอ เราจะเห็นได้ไกลๆ ว่าคู่รักทั้งสองเหมือนมีปากเสียงและทะเลาะกัน ก่อน Sonia จะใช้มีดเสียบ Erick ลงไปนอนกองกับพื้น และเมื่อเห็นดังนั้น Sonia ก็เข้ามาประคอง Erick ก่อนจะกล่าว “ยกโทษให้ฉันด้วยที่รัก ได้โปรดอย่าตายนะ” ทาง Sonia ได้เผยว่าที่ตนทำไปก็เพื่อป้องกันตัวและเผยว่าก่อนหน้านี้เคยถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย แถมพยายามฆ่าเธอด้วย แต่ทางผู้เหตุการณ์ได้บอกว่าทาง Erick ได้พยายามตะโกนขอร้องให้คนช่วย ซึ่งทางแฟนสาวก็ตะโกนกลับไปว่า “ฉันจะไม่ฆ่าคุณหรอก เพราะว่าฉันรักคุณ ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นกับคุณเด็ดขาด แต่คุณไม่รู้เลยว่าคุณทำอะไรกับฉัน” ตามงานพบว่าก่อนวันเกิดเหตุ…
-
เผยบทสัมภาษณ์ ‘Kang Kyung Yoon’ นักข่าวสาว ผู้เปิดโปงแชทลับซึงรี-จองจุนยอง
กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการเกาหลีที่หลายคนให้การอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการเปิดเผยหลักฐานกรณีหนุ่ม ซึงรี BIGBANG มีส่วนใน ‘การจัดหาบริการค้าประเวณี’ ผ่านบทสนทนาในแอพลิเคชัน Kakaotalk ซึ่งนอกจากหนุ่มซึงรีแล้ว ยังมีเหล่าคนดังและผู้มีอำนาจอีกหลายคนร่วมบทสนาในแชทลับนี้ ทำให้เกิดการขุดคุ้ยข้อความที่กลายเป็นหลักฐานในคดีกระทำความผิดอีกหลายคดี Kang Kyung Yoon นักข่าวสาวจากช่อง SBS ผู้เปิดโปงหลักฐานในแชทกลุ่มของหนุ่มซึงรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เธอตัดสินใจรายงานข่าวของซึงรีหลังจากทราบว่ามีการจัดงานปาร์ตี้อันฟุ้งเฟ้อที่ชื่อว่า ‘Seung-tsby (Seungri + Gatsby) Party.’ ในปี 2015 ซึ่งภายในงานมีแขกรับเชิญเป็นคนดังในวงการและเหล่านักลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งหลังจากนั้นหนุ่มซึงรีก็ได้ตั้งบริษัท Yuri Holdings ขึ้นมาในปี 2016 นักข่าวสาวคิดว่างานปาร์ตี้ในครั้งนั้นตัวแปรสำคัญในการทำธุรกิจของซึงรีในปัจจุบัน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับ ‘การจัดหาบริการค้าประเวณี’ ตามบทสนทนาในแชทลับที่มีการเปิดเผยออกมา นอกจากกลุ่มแชทลับเพื่อทำธุรกิจแล้ว ยังมีกลุ่มแชทอื่นที่มีการเผยแพร่คลิปวิดิโอแอบถ่ายขณะมีกิจกรรมทางเพศกับผู้หญิงอีกด้วย Kang Kyung Yoon เล่าว่า เธอได้รับข้อมูลเกี่ยวกับแชทลับดังกล่าวเมื่อสองปีที่แล้วจากคำให้การของสาวคนดังได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มนั้นโดยบังเอิญ และเมื่อเธอได้มีโอกาสอ่านบทสนาเหล่านั้นด้วยตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ เธอจึงตัดสินใจรายงานข่าวออกไป จนเกิดเป็นประเด็นลุกลามใหญ่โตในวงการบันเทิงเกาหลี หลังจากมีการเปิดเผยเรื่องดังกล่าวออกไปเธอก็ได้รับการต่อว่าจากแฟนของหนุ่มซึงรีอย่างหนัก แต่เธอก็หวังว่าแฟนๆ จะเข้าใจถึงความเจ็บปวดของเหยื่อจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เช่นกัน ทั้งนี้เธอยังบอกอีกว่า ผู้หญิงไม่ควรถูกกระทำเยี่ยงวัตถุทางเพศ ถึงแม้เหล่าคนดังจะมีอิทธิพล…
-
20 ภาพเบื้องหลังสเปเชียลเอฟเฟกต์สุดล้ำในภาพยนตร์เรื่องดัง ที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง การออกไปถ่ายทำที่สถานที่จริงๆ อาจจะมีอุปสรรคต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องงบประมาณ และในบางครั้งยังอันตรายเกินไปสำหรับนักแสดง ผู้สร้างหลายรายจึงเลือก ‘สเปเชียลเอฟเฟกต์’ มาใช้ในการถ่ายทำในห้องสตูดิโอแทนการออกไปข้างนอก หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าในภาพยนตร์หลายเรื่องมีการใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์อยู่หลายฉาก ทั้งนี้เพื่อความตื่นเต้นเร้าใจ และความสนุกสนาน เพิ่มอรรถรสในการชมภาพยนตร์ของผู้ชม วันนี้ #เหมียวเปปเปอร์ จะเพื่อนๆ ไปชมภาพเบื้องหลังของภาพยนตร์เหล่านั้นกัน ใครพร้อมแล้วตามมาได้เล๊ย… The Hobbit Fantastic Beasts and Where to Find Them The Hunger Games Tron: Legacy A Good Day to Die Hard Iron Man Doctor Strange Ender’s Game Jurassic World Pan …
-
อิตาลีออกกฎหมาย ‘เด็กไม่ฉีดวัคซีน ไม่ต้องเข้าเรียนและถูกปรับ’ เพื่อแก้ปัญหาโรคหัดระบาด
ปัจจุบันปัญหาเรื่อง ‘โรคหัดระบาด’ กำลังกลายเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ซึ่งสาเหตุหลักนั้นมาจากการที่พ่อแม่ทั้งหลายได้รับความรู้แบบผิดๆ ที่บอกว่า ‘วัคซีน’ ไม่ดีต่อร่างกายเด็ก แต่ตอนนี้ผู้ต่อต้านที่เป็นพลเมืองชาวอิตาลี อาจจะไม่มีทางเลือกแล้วหากไม่อยากให้ลูกๆ ขาดการศึกษา ล่าสุด อิตาลีได้ออกกฏหมายใหม่ออกมาระบุว่า ‘พ่อแม่คนไหนที่ส่งลูกเข้าเรียนโดยไม่ได้รับวัคซีนจะถูกปรับเงิน 500 ยูโร (ประมาณ 17,000 บาท) และเด็กจะถูกแบนไม่ให้เรียนหนังสือ’ กฏหมายดังกล่าวถูกนำมาใช้เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคหัด ตอนนี้ทางการอิตาลีเผยว่ามีผู้มารับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เริ่มใช้กฏหมายดังกล่าว แต่ขณะเดียวกัน อิตาลีเองก็มีข้อกฎหมายที่ระบุว่า ‘เด็กอายุระหว่าง 6 ถึง 16 ปี ต้องได้รับการศึกษา’ ซึ่งมันดูค่อนข้างจะขัดกันเล็กน้อย ทางรัฐบาลก็เลยออกกฎเพิ่มเติมว่าหากเด็กในช่วงอายุนี้ไม่ได้รับวัคซีน พวกเขาจะไม่ถูกแบนจากการศึกษาแต่จะถูกปรับเพียงอย่างเดียว ซึ่งการแบนไม่ให้เข้าเรียนจะใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ที่เรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาลและเตรียมอนุบาลเท่านั้น ส่วนเด็กที่มีเหตุผลด้านการแพทย์ที่ไม่สามารถรับวัคซีนได้ จะถูกยกเว้นและสามารถเข้าเรียนได้ตามปกติ ส่วนวัคซีน 10 ตัวที่ทางการบังคับก็จะมี โปลิโอ, บาดทะยัก, คอตีบ, ไวรัสตับอักเสบบี, ไอกรน, หัด, หัดเยอรมัน, คางทูม, อีสุกอีใส และ โรคฮิบ Giulia…
-
คุณแม่คลอดลูกเองในห้อง ก่อนนำลูกทิ้งถังขยะ เพื่อเธอจะได้ออกไปปาร์ตี้กินเหล้าต่อ
ว่ากันว่า ‘การให้กำเนิด’ คือความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นแล้วบางคนก็คงไม่ได้เกิดมาเพื่อการเป็นพ่อคน – แม่คน เหมือนดั่งในเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นนี้ที่มีคุณแม่คนหนึ่งให้กำเนิดลูกขึ้นมาในแฟลตของเธอเอง แต่ว่าเธอกลับเลือกที่จะนำเด็กแรกเกิดคนนั้นไปโยนทิ้งถังขยะอย่างไม่ไยดี เพียงเพื่อเธอจะได้ไปปาร์ตี้กินเหล้าต่อ!? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ทางตะวันตกของเมืองไรยาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อคุณแม่ชื่อว่า Yulia วัย 31 ปีได้ให้กำเนิดเด็กทารกคนหนึ่งในห้องน้ำของห้องพักที่เธออาศัยอยู่ หลังจากขั้นตอนการคลอดลูกเสร็จสิ้นเธอก็นำเด็กที่เพิ่งลืมตาขึ้นมาดูโลกคนนี้ ใส่ถุงพลาสติกแล้วนำไปทิ้งถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ ส่วนเธอก็ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ต่อ… แต่ด้วยความที่เด็กร้องไห้กระจองงองแง จึงทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเกิดความสงสัยว่าเสียงอะไรมาจากถังขยะ ในที่สุดแล้วพวกเขาจึงได้เจอตัวเด็กและนำตัวส่งโรงพยาบาลต่อไป “ในตอนแรกฉันคิดว่าเป็นเสียงลูกแมวที่กำลังร้องอยู่ แต่พอแกะถุงออกดูฉันก็อ้าปากค้างเลย เพราะในตู้ที่เต็มไปด้วยขยะเท่าภูเขาอย่างนี้มีเด็กที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วย” พลเมืองดีกล่าว ในเวลาต่อมาคุณแม่ Yuria ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เป็นที่เรียบร้อยและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมเด็กแรกเกิด ซึ่งทำให้ลูกอายุ 4 ขวบและ 3 ขวบของเธอถูกนำตัวออกจากการดูแลของเธอด้วย “คุณแม่บอกว่าเธอไม่ต้องการเด็กคนนี้ เธอไม่แม้แต่จะตรวจดูว่าเด็กคนนี้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก่อนที่จะนำไปทิ้ง และระหว่างที่ถูกจับเธอก็มึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์อยู่ด้วย” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว นอกจากนี้คุณแม่ยังบอกอีกด้วยว่าสายสะดือที่เชื่อมต่อระหว่างเธอและเด็กคนนี้ขาดเองไม่ได้มีการตัดแต่อย่างใด ส่วนอาการของเด็กคร่าวๆ ก็คือมีอาการอวัยวะล้มเหลวแต่ก็อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์แล้ว… ที่มา: mirror, kem, ria
-
คุณพ่อปวดเฮด!! ลูกชายสุดเกรียนขึ้นป้ายยักษ์ ‘ช่วยอวยพรวันเกิดให้พ่อผม’ ทำคนโทรเข้าเป็นหมื่น
ในโอกาสวันแสนพิเศษอย่างวันเกิดของคุณพ่อคุณแม่ ลูกๆ หลายคนก็คงสรรหาวิธีต่างๆ มาทำให้พวกเขาประทับใจอย่างการพาไปทานข้าว พาไปชอปปิง หาซื้อของขวัญต่างๆ ให้ แต่ว่ามีลูกชายคนหนึ่งที่การอวยพรสุดแหวกของเขาอาจทำให้คุณพ่อต้องจดจำไปทั้งชีวิต เพราะใครจะไปคิดว่าเขาจะสามารถทำให้คุณพ่อมีสายโทรเข้ามาอวยพรได้ถึง 15,000 สาย!! ป้ายโฆษณาอันใหญ่ยักษ์ เรื่องมีอยู่ว่าในวันที่ 16 มีนาคมปีนี้คุณพ่อชื่อว่า Chris Ferry จะมีอายุได้ 62 ปี ลูกชายขี้แกล้งของเขาจึงได้คิดค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการอวยพรขึ้นมาเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับคุณพ่อ และวิธีที่ว่านี้ก็คือเขาได้ทำการเช่า ‘ป้ายโฆษณา’ ขนาดใหญ่ยักษ์ในเมือง Linwood รัฐนิวเจอร์ซีย์ที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ แล้วก็เอาเบอร์โทรศัพท์ของคุณพ่อไปแปะไว้พร้อมกับข้อความว่า ‘ช่วยอวยพรวันเกิดให้พ่อของผมหน่อย จากลูกสุดที่รัก…’ พ่อรู้ว่าโดนแกล้งปุ๊บแทนที่จะโกรธ กลับไปเซลฟี่!! ทางด้านคุณพ่อก็เพิ่งมารู้ความจริงว่าถูกลูกแกล้งจากความที่มีชายชื่อว่า Nick โทรเข้ามาอวยพรวันเกิด ด้วยความแปลกใจคุณพ่อจึงถามชายคนนี้ไปว่ารู้ได้ไงว่าวันเกิดของเขากำลังจะมาถึง ปลายสายก็ตอบกลับมาว่า ‘ผมเห็นในป้ายโฆษณา’ ตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องขำๆ เรื่องเล็กๆ และมีแค่คนท้องถิ่นที่จะเห็นเพียงเท่านั้น ซึ่งก็มีคนแปลกหน้าโทรศัพท์เข้ามาอวยพรวันเกิดแค่ไม่กี่คน แต่ว่าหลังจากที่มันกลายเป็นไวรัลในอินเทอร์เน็ต มันก็ลามเร็วราวกับไฟลามทุ่ง… ลูกชายขี้แกล้งของเขา โดยตั้งแต่วันแรกที่ป้ายโฆษณานี้ได้ถือกำเนิดขึ้นคือวันที่ 6 มีนาคมจนถึงวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา คุณพ่อ…
-
หนุ่มแต่งสาวขึ้นหอหญิง หวังเข้าไปแอบถ่ายในห้องน้ำ สุดท้ายโดนจับได้ โดนพ่อเอาร่มหวดยับ!!
มนุษย์ทุกคนย่อมมีความต้องการทางเพศ แต่การควบคุมกำหนัดของตัวเองไว้ไม่อยู่และละเมิดสิทธิของผู้อื่นถือเป็นเรื่องเลวร้ายอย่างมาก เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้… เหตุเกิดขึ้นที่หอพักหญิงมหาวิทยาลัย Tamkang ณ เมืองนิวไทเป ประเทศไต้หวัน มีรายงานออกมาว่า ชายแซ่ Chen อายุ 24 ปี ถูกจับกุมตัวในวันที่ 8 มี.ค. 2019 เนื่องจากลงทุนแต่งหญิงและพยายามเข้าไปแอบถ่ายภาพนักศึกษาในหอหญิง Taiwan News เผยว่าชายคนนี้จบมาจากมหาวิทยาลัยนานาชาติ Tsing Hua ที่อยู่ใกล้กับ ม. Tamkang ในวันที่เกิดเหตุเขาสวมกระโปงยาว, เสื้อโค้ทหนา, วิกผม, แว่น และมาสก์ปิดปาก เพื่อปลอมตัว นศ.หญิงเผยว่า เห็นเขาไปที่ห้องน้ำที่ชั้น 4 ทันทีที่เข้ามาในหอหญิงได้ จากนั้น Chen ก็ถ่ายภาพของนักศึกษาหญิงที่กำลังอาบน้ำ แต่หลังจากที่พวกเธอรู้สึกตัวก็วิ่งหนีออกมาทันที พร้อมกับร้องไห้ หลังถูกจับได้ นศ.หญิงหลายคนฉุนมากและพยายามไปเผชิญหน้ากับนาย Chen เมื่อเห็นท่าไม่ดีเขาจึงวิ่งกลับไปข้างในห้องน้ำ และเข้าไปในห้องส้วมห้องหนึ่งและล็อคประตูจากข้างใน จากนั้น เหล่านศ.หญิงก็ตามเข้ามาและเริ่มทุบประตูให้เขาออกมา ก่อนที่จะแจ้งอาจารย์ Huang และอาจารย์ก็โทรแจ้งตำรวจทันที …
-
แก๊งกุ๊กไก่ช่วยกันรุมฆ่าหมาจิ้งจอกที่แอบเข้ามาในฟาร์ม “ฉันไม่ใช่เหยื่อของแกอีกต่อไป”
เราอาจคุ้ยเคยกับภาพห่วงโซ่อาหารที่สัตว์กินพืชหรือสัตว์ตัวเล็กมักเป็นอาหารของสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่า แต่ทฤษฎีนี้ใช้ไม่ได้กับเหล่ากุ๊กไก่จากฟาร์มใน Brittany ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันหนึ่งคนงานในฟาร์มได้บังเอิญพบกับซากศพของสุนัขจิ้งจอกที่มีรอยแผลจากการโดนจงอยปากจิกเข้าที่คอ ทางฟาร์มคาดว่าเจ้าสุนัขจิ้งจอกเคราะห์ร้ายตัวนี้น่าจะแอบเข้ามาในช่วงกลางคืนที่เหล่าไก่ถูกต้อนให้อยู่รวมกันในเล้า ซึ่งเจ้าจิ้งจอกน่าจะแอบเข้ามาทางประตูที่จะปิดอัตโนมัติหลังจากมีการผ่านเข้าไป มันจึงโดนขังเอาไว้ข้างในกับไก่ราวๆ 3,000 ตัว ถึงแม้ว่าจะอยู่ลำดับสูงกว่าในห่วงโซ่อาหาร แต่ด้วยปริมาณเหยื่อที่เยอะมากขนาดนี้เจ้าจิ้งจอกก็ไม่มีทางสู้ไหว โดยเฉพาะเมื่อเหล่าไก่แตกตื่นจากการมีผู้บุกรุกเข้ามาในเขตของพวกมัน และใช่ว่าไก่ตัวเล็กๆ จะไม่มีอาวุธประจำกาย ด้วยสัญชาตญาณของสัตว์ เหล่าไก่จึงโจมตีจิ้งจอกตัวนั้นด้วยจงอยปากของพวกมัน ในขณะที่เจ้าจิ้งจอกเองก็คงตกใจกับจำนวนศัตรูที่มีเยอะเกินคาด ในที่สุดมันจึงถูกเหล่าไก่รุมจิกจนตาย… “ไก่เองก็มีนิสัยหวงถิ่นเหมือนกันครับ โดยเฉพาะเมื่อพวกมันอยู่รวมกันเป็นฝูง” Pascal Daniel หัวหน้างานฟาร์มแห่งโรงเรียนการเกษตร Gros-Chêne กล่าว แต่เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไก่ในฟาร์มสู้กับสัตว์นักล่าแล้วได้รับชัยชนะกลับมา เมื่อปี 2012 เองก็เคยมีสุนัขจิ้งจอกแอบลอบเข้ามาหวังกินไก่ในฟาร์มแห่งหนึ่ง ครั้งนั้นในเล้ามีไก่เพียง 4 ตัวเท่านั้นคือไก่หนุ่ม 1 ตัว และแม่ไก่อีก 3 ตัว พวกไก่แตกตื่นจนทำคอน (ท่อนไม้ที่วางพาดไว้ให้ไก่เกาะเวลานอนหลับ) ร่วงลงมาฟาดเข้าที่หัวของจิ้งจอก และอาศัยจังหวะนั้นรุมจิกมันจนตาย เช้าวันรุ่งขึ้นเจ้าของไก่ถึงมาพบศพของจิ้งจอก ในขณะที่ไก่ทั้ง 4 ตัวเดินทอดน่องไปมาโดยไม่มีบาดแผลเลยแม้แต่น้อย ที่มา Mirror
-
ผู้โดยสารสาวถูกลูกเรือ Thomas Cook Airline ขู่ไล่ลงเครื่อง หลังสวม “สายเดี่ยว” ขึ้นเดินทาง
วันที่ 2 มีนาคม 2019 ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นกับสายการบิน Thomas Cook Airline เมื่อผู้โดยสารสาวคนหนึ่งใส่เสื้อสายเดี่ยวขึ้นเครื่อง แต่ถูกพนักงานต้อนรับขู่ไม่ให้เธอขึ้นเครื่อง หากไม่ใส่เสื้อให้มิดชิดกว่านี้ ผู้โดยสารสาวคนนั้นคือ Emily O’Connor ผู้ที่จะเดินทางจากเมืองเบอร์มิงแฮมไปยังเกาะเตเนริเฟและในวันดังกล่าวเธอได้สวมเสื้อสายเดี่ยวพร้อมกับกางเกงขายาวไปขี้นเครื่อง ซึ่งเธอก็สามารถผ่านกระบวนการต่างๆ ก่อนขึ้นเครื่องบินมาได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ แต่เมื่อถึงเวลาที่เธอจะได้ขึ้นเครื่องบิน ทางพนักงานต้อนรับกลับบอกเธอว่าให้หาเสื้อมาคลุมเสียหน่อย Emily และญาติๆ ของเธออีก 5 คนที่เดินทางด้วยกัน ณ เวลานั้นเธอได้เล่าว่ามีผู้จัดการและพนักงานต้อนรับอีก 4 คนเข้ามาบอกเธอว่าหากไม่สวมเสื้อคุม จะทำการ “ลบชื่อ” เธอออกจากรายชื่อผู้โดยสาร Emily ตัดสินใจยืนขึ้นและถามว่าเธอทำอะไรไม่เหมาะสมอย่างนั้นหรือ ซึ่งก็ไม่มีผู้โดยสารคนใดส่งเสียงอะไรออกมา ญาติๆ คนอื่นก็ใส่เสื้อคล้ายๆ เธอเหมือนกันนะ แต่มีเสื้อคลุม Emily กล่าวว่า “ผู้จัดการลูกเรือจะเข้ามาเอากระเป๋าของฉันและก็จะไล่ฉันลงจากเครื่อง ทันใดนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งพูดออกมาว่า ‘หุปปากนังผู้หญิงที่น่าสมเพซ สวมแจ็คเก็ตห่านั่นได้แล้ว’ ซึ่งทางพนักงานก็ไม่ว่าอะไรเขาเลย ฉันได้รับเสื้อแจ็คเก็ตมาจากญาติของฉันที่นั่งอยู่หน้าเครื่อง ถึงอย่างนั้นพวกเขา (พนักงานต้อนรับ) ไม่ยอมปล่อยฉันไปจนกว่าจะได้เห็นฉันใส่เสื้อ แถมพวกเขายังประกาศเรื่องของฉันออกทางลำโพงทำให้ฉันอายเป็นอย่างมาก พวกเขาประกาศว่าฉันล่วงเกินและมีกริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าผู้โดยสารทุกคน…
-
‘ยงจุนฮยอง’ ยอมรับว่าได้ดูคลิปลับของ ‘จองจุนยอง’ ขอลาออกจากวง Highlight
จากประเด็นจุดขนวนข่าวอื้อฉาวในหมู่คนดังในวงการเกาหลี เริ่มจากมีการเปิดเผยหลักฐานของหนุ่มซึงรีที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีจัดหาบริการค้าประเวณีผ่านบทสนทนาในกรุ๊ปแชท นอกจากกลุ่มแชทที่หนุ่มซึงรีใช้ทำธุรกิจแล้ว ยังมีกลุ่มแชทอื่นๆ ที่คนมีชื่อเสียงคนอื่นๆ เข้าไปเอี่ยวด้วย หนึ่งในนั้นคือหนุ่ม ‘จองจุนยอง’ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา ได้ออกมายอมรับแล้วว่าตนเป็นผู้เผยแพร่คลิปขณะทำกิจกรรมทางเพศและใช้วาจาคุกคามกับเหยื่อสาวในแชทลับ นอกจากนี้รายการ 8 O’Clock News ทางช่อง SBS ยังเปิดเผยถึงบุคคลในแชทลับนี้อีกหนึ่งคนคือ “ชเวจงฮุน” นักร้องและมือกีต้าร์วง FT Island ซึ่งในบทสนทนา เขาขอได้ให้ผู้มีอิทธิพลที่อยู่ในกลุ่มลับอีกคน ช่วยปิดบังกรณีเมาแล้วขับของตนในปี 2016 ทาง FNC Entertainment ต้นสังกัดจึงออกมาประกาศว่า ชเวจงฮุนจะยุติกิจกรรมต่างๆ ของเขาในช่วงนี้ และให้ความร่วมมือกับตำรวจในการสืบสวนกับตำรวจอย่างเต็มที่ ก่อนหน้านี้หลายคนเกิดความสับสนระหว่างหนุ่ม ‘จองจุนฮยอง’ ผู้ปล่อยคลิป กับ ‘ยงจุนฮยอง’ นักร้องหนุ่มวง Highlight จนทางต้นสังกัดของยงจุนฮยองต้องออกมาปฏิเสธว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ภาพของ ‘ยงจุนฮยอง’ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันที่ 14 มีนาคม 2019 หนุ่มยงจุนฮยองก็ออกมาสารภาพผ่านอินตราแกรมส่วนตัว ใจความว่าตนเคยติดต่อกับจองจุนยองเมื่อปี…
-
Tom Felton ‘เสียใจอย่างสุดซึ้ง’ ออกมาขอโทษประเด็นสวมเสื้อ ‘ธงอาทิตย์อุทัย’
สิ่งที่แสดงถึงความขัดแย้งและความรุนแรงในอดีต เป็นประเด็นอ่อนไหวที่อาจจะทำร้ายความรู้สึกของใครบางคนได้โดยไม่รู้ตัว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือธงนาซีเยอรมนี แต่บางครั้งความไม่รู้ก็ก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ เหมือนเหตุการณ์นี้ที่ Tom Felton ดาราอังกฤษผู้รับบท เดรโก มัลฟอย ในภาพยนตร์ชุด Harry Potter ได้บังเอิญใส่เสื้อที่มีลาย ‘ธงอาทิตย์อุทัย’ และถ่ายวิดีโอลงอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งเจ้า ธงอาทิตย์อุทัยนี้ เป็นธงที่ประเทศญี่ปุ่นใช้สมัยออกล่าอาณานิคม และถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรุนแรงที่พวกเขารุกรานประเทศอื่นๆ มากมาย โดยเฉพาะประเทศเกาหลี ที่มองธงนี้เป็นสิ่งต้องห้าม จึงกลายเป็นเหตุให้ Tom Felton ลบวิดีโอดังกล่าว และออกมาขอโทษถึงสิ่งที่เขาทำลงไปผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ผมขอโทษจากก้นบึ้งหัวใจหากวิดีโอดังกล่าวได้ไปละเมิดใครเข้า ผมไม่รู้ที่มาของสัญลักษณ์ที่อยู่บนเสื้อยืดที่ผมสวมในตอนนั้น” “ผมเป็นนักรัก ไม่ใช่คนจงเกลียดจงชัง และเสียใจอย่างมากที่ได้ซื้อเสื้อตัวดังกล่าวมาและได้รู้แล้วว่ามันแสดงออกถึงอะไร ไม่มีคำแก้ตัวสำหรับความเขลาของผม แต่ผมเสียใจอย่างสุดซึ้ง” I sincerely apologise if my last Instagram video offended anyone. I had no idea the symbolic reference of…
-
นางแบบโดนขู่ฆ่า เนื่องจากมี ‘คิ้ว’ ที่โดดเด่นเกินไป เจ้าตัวไม่สนใจ ขอแปลกไม่เหมือนใครดีกว่า
แม้จะมีการรณรงค์ให้ลดการเหยียดมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็น เหยียดผิว เหยียดเพศ หรือ เหยียดหน้าตา จนปัจจุบันเข้าสู่ปี 2019 แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นการเหยียดก็ยังไม่หมดไปจากสังคมของมนุษย์ Sophia Hadjipanteli หญิงสาววัย 22 ปี เข้าใจสิ่งนั้นดี เธอเผยว่าเธอได้รับจดหมายขู่ฆ่าและข้อความเหยียดผ่านทางโลกออนไลน์ เนื่องจากเธอมี “คิ้วชนกัน” ที่หนาเข้มและเป็นจุดเด่น https://www.instagram.com/p/Buwa8JxhjKP/ เธอกล่าวกับ Good Morning Britain ว่า เธอพยายามจะไม่อ่านข้อความทางด้านลบ และแฟนหนุ่มของเธอ ก็พยายามให้กำลังใจ และแนะนำให้เธอไม่สนใจเหล่านักลงคีย์บอร์ดทั้งหลาย Sophia เป็นชาวไซปรัสที่อพยพมาอยู่ที่ลอนดอน จากนั้นก็ย้ายไปที่สหรัฐอเมริกา และสร้างชื่อเสียงในวงการนางแบบ จนทำให้เธอมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมเกือบสามแสนคน และตอนนี้ก็ได้เซ็นสัญญาระดับสูงกับ Vogue Italia และ การร่วมือกันระหว่าง SAVAGE X FENTY ของ Rihanna ไปแล้ว https://www.instagram.com/p/BueCIxnByTU/ เมื่อพูดถึงข้อความที่เธอได้รับ เธอก็กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องน่าอายเมื่อคุณอยากจะอ่านอะไรที่ดีต่อใจ กลับกลายเป็นว่าต้องอ่านข้อความอันโหดร้าย แต่ฉันก็คิดว่ามันคุ้มค่านะ”…
-
จากเหตุ #FacebookDown ล่มยาว ย้ายมาแจ้งหน้าทวิตเตอร์ ชาวเน็ตเดือดร้อนพร้อมแซวกันยับ
เมื่อเวลา 00.49 น. ของวันที่ 14 มีนาคม 2019 โซเชียลมีเดียยอดฮิตอย่าง Facebook ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่ากำลังประสบปัญหา ไม่ใช่แค่ Facebook เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแอพลิเคชันอื่นๆ ที่อยู่ใต้เครือบริษัทเดียวเช่น Instagram ก็ด้วย เรียกได้ว่าต่างเป็นกระแสที่ทุกคนทั่วโลกต้องพบเจอ จนเกิดเป็น #FacebookDown ในทวิตเตอร์ สำหรับต้นสายปลายเหตุของปัญหาความขัดข้องนั้นยังไม่มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการ แม้แต่ Facebook เองยังต้องใช้ทวิตเตอร์เพื่อแจ้งผู้ใช้งานแทนกันเลยทีเดียว “พวกเรากังวลเป็นอย่างมาก ที่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียกำลังประสบปัญหาไม่สามารถใช้งาน Facebook และแอพลิเคชันอื่นๆ ในเครือเดียวกันได้ เราพยายามแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด” We’re aware that some people are currently having trouble accessing the Facebook family of apps. We’re working to resolve the issue as soon…
-
สายการบินอังกฤษ Virgin Atlantic ปฏิวัติวงการแอร์โฮสเตส ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าอีกต่อไป
ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาชีพแอร์โฮสเตส หรือตำแหน่งพนักงานต้อนรับบินเครื่องบิน (Cabin Crew) นั้นเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่สาวไทย เพราะอาชีพนี้ถือเป็นงานบริการที่รายได้ดี มีโอกาสได้เที่ยวรอบโลก แต่ก็ต้องแลกกับการนอนไม่เป็นเวลา การแต่งหน้าสวยๆ แต่งตัวดีๆ เพื่อคอยต้อนรับลูกค้าบนเครื่องบิน เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของอาชีพแอร์โฮสเตสไปแล้ว แต่ล่าสุด สายการบิน Virgin Atlantic ซึ่งเป็นสายการบินเอกชนสัญชาติอังกฤษ ได้สร้าง “การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ” ในอุตสาหกรรมการบริการบนเครื่องบินไปเลย นั่นคือ สายการบินได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ลูกเรือผู้หญิงนั้นไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าขณะปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไป แต่หากแอร์โฮสเตสคนไหนยังอยากแต่งหน้าอยู่นั้น ก็สามารถทำได้ โดยใช้โทนสีเครื่องสำอางตามที่สายการบินกำหนด นอกเหนือจากนี้ ตามปกติ อาชีพแอร์โฮสเตสส่วนใหญ่ต้องใส่กระโปรง เพื่อแสดงถึงความเป็นผู้หญิง แต่จากนี้ไป สำหรับสายการบิน Virgin Atlantic นั้น แอร์โฮสเตส สามารถใส่กางเกงขณะทำงานได้ด้วยเช่นกัน โดย Mark Anderson รองประธานบริหารด้านการบริการลูกค้ากล่าวว่า “เครื่องแบบสีแดงที่มีชื่อเสียงระดับโลกเป็นสิ่งที่พวกเราใน Virgin Atlantic ภาคภูมิใจ” “เราต้องการให้เครื่องแบบได้ทำหน้าที่สะท้อนความเป็นตัวตนของเราอย่างแท้จริง และในขณะเดียวกันก็ยังคงความมีชื่อเสียงของ Virgin Atlantic เอาไว้” …
-
เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นโรงพยาบาล อ้างได้รับแจ้งมีกัญชาไว้ครอบครอง โดยผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 4
เมื่อช่วงวันที่ 6 มีนาคม 2019 ตามวันเวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดเหตุที่ทำให้ชาวเน็ตสหรัฐฯ รู้สึกไม่พอใจกับการกระทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อปรากฎตัวอยู่ในคลิประหว่างทำการค้นหา ‘กัญชา’ คาห้องพักผู้ป่วย คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนาย Nolan Sousley Nolan Sousley คือชายผู้ถูกกล่าวหา และเป็นผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนระยะที่ 4 เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้สิทธิ์ในการเข้าตรวจค้นทั้งห้องพักผู้ป่วย โดยพวกเขาทำการรื้อกระเป๋าทุกใบโดยที่ไม่ได้รับความยินยอมใดๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่อ้างว่าได้รับแจ้งจากใครบางคนถึงเบาะแสการมีกัญชาไว้ในครอบครองของนาย Sousley Nolan Sousley เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล Citizens Memorial Hospital เมือง Bolivar โดยในช่วงจังหวะการบุกเข้าตรวจค้น หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามอธิบายต่อหน้ากล้องว่า “ถ้าหากเราตรวจพบกัญชา เราจะไม่จับตัวคุณส่งเข้าคุก แต่เราจะส่งหมายศาลมาให้แทน” ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองรายหนึ่ง กล่าวว่าได้กลิ่นสูบกัญชามาจากห้องของนาย Sousley ซึ่งทางนาย Sousley เองปฏิเสธในข้อกล่าวหานี้ เนื่องจากตัวเขาเองไม่ได้เป็นบุคคลที่สูบบุหรี่หรือกัญชา และไม่เคยใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้โดยตรง เพียงแต่ใช้แคปซูลกับสารสกัดน้ำมันกัญชา THC เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดอันเป็นผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็ง …
-
เบ็คแฮมถูกแกล้ง เปิดตัวรูปปั้นคางแหลม+ก้นบวม เจ้าตัวหน้าเจื่อน ดูยังไงก็ไม่ใช่ผม!
“เทพบุตรลูกหนัง” เดวิด เบ็คแฮม อดีตนักฟุตบอลดาวเด่นของทีมชาติอังกฤษ น่าจะเป็นชายที่ถูกรู้จักในวงกว้าง แม้กับคนที่ไม่ได้ดูหรือติดตามวงการฟุตบอล เพราะใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา นอกจากนี้เขาก็ยังเป็นนักฟุตบอลที่เก่ง และคว้าแชมป์อย่างมากมาย ก่อนที่จะไปจบเส้นทางชีวิตค้าแข้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกากับทีมแอลเอ กาแล็กซี่ (LA Galaxy) แน่นอนว่าสำหรับ แอลเอ กาแล็กซี่แล้ว เบ็คแฮมคือตำนานของทีม ทำให้สโมสรเกิดโปรเจกต์ที่จะสร้างรูปปั้นของเบ็คแฮมขึ้นมาตั้งไว้ที่หน้าสนาม ก่อนหน้านี้ทางเราได้นำเสนอข่าว การเปิดตัวรูปปั้นของเบ็คแฮมไปแล้ว แต่ชาวเน็ตกลับล้อว่ามันเหมือน Gordon Ramsey หรือ Josh Brolin มากกว่า แต่บอกได้เลยว่ารูปปั้นแบบเก่านั้นนับว่าดูดีแล้วเมื่อเทียบกับรูปปั้นใหม่นี้! ก่อนการเปิดตัวรูปปั้นอย่างเป็นทางการ James Corden พิธีกรจากรายการ The Late Late Night ได้เกิดความคิดที่จะแกล้งอดีตดาวเตะหน้าหล่อขึ้นมา เริ่มแรก สโมสรได้แจ้งเบ็คแฮมไปว่ารูปปั้นสร้างเสร็จแล้ว และเชิญเจ้าตัวไปรับชมก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สนามของทีม เมื่อถึงสนาม ทีมงานก็แกล้งโดยการส่งคนไปทักทายว่า “ผมนี่ปลื้มคุณมาตั้งแต่อยู่ แมนฯ ซิตี้แล้ว” จนเจ้าตัวต้องแก้ว่า “ตรูอยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด มันสีเสื้อคนละสีเฟ้ย!!” Tom หน้าม้าของรายการที่เข้าไปปั่นเบ็คแฮม จากนั้นก็เปิดวีทีอาร์ ที่เบ็คแฮมเตะฟรีคิกไม่เข้า, โดนเข้าสกัดอย่างรุนแรง และช็อตที่เบ็คแฮมเข้าไปปะทะกับกับฝ่ายตรงข้ามจนโดนใบแดง…
-
กะลาสีเรือถูกรอกเชือกฟาดตกทะเล ใช้วิธีที่ได้จากหน่วย SEAL มัดกางเกงยีนส์ลอยคอนาน 3 ชั่วโมง
ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ปี 2019 ที่ผ่านมานี้เอง 2 พี่น้องกะลาสีเรือ ชาวเยอรมันนามว่า Arne Murke และ Helge Murke ได้รับมอบหมายให้ส่งมอบเรือยอร์ช Wahoo จากเมืองโอ็คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ไปยังประเทศบราซิล และเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ปี 2019 ในเวลาประมาณ 14.00 น. ขณะทั้งคู่กำลังแล่นเรืออยู่ห่างจากอ่าว Tolaga บริเวณทางตอนเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ไป 20 ไมลส์ ก็เกิดอุบัติเหตุที่สองพี่น้องไม่คาดคิดมาก่อน อยู่ดีๆ รอกเชือกดึงใบ (Mainsheet) ขนาด 40 ฟุตของเรือยอชท์ ก็หลุดออกมาท่ามกลางคลื่นขนาดแรงกลางทะเล จนเป็นเหตุให้มันไปฟาดใส่ Arne จนเขาพลัดตกลงไปในน้ำ ในขณะที่เขาใส่แค่เสื้อยืดและกางเกงยีนส์เท่านั้น ไม่มีเสื้อชูชีพแต่อย่างใด Arne กล่าวว่า “น้องชายผมรีบช่วยเหลืออย่างทันที แต่มันยากมากเพราะคลื่นมีความสูงถึง 3 เมตร เขาจึงโยนเสื้อชูชีพ และเชือกให้ผม แต่มันอยู่ไกลเกินกว่าผมจะเอื้อมถึง” “ผมโชคดีมากที่ใส่กางเกงยีนส์อยู่ และรู้วิธีเอาตัวรอดโดยใช้ยีนส์…
-
กลุ่มวีแกนบุกฟาร์มหมูในอังกฤษ เจ้าของฟาร์มอ้าง เป็นสาเหตุให้ลูกหมูตายถึง 2 ตัว
กลุ่มวีแกน หรือ Vegans (ย่อมาจาก Vegetarians) คือคำเรียกกลุ่มคนที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ล่าสุดกลุ่มวีแกนกลุ่มหนึ่งในสหราชอาณาจักร ได้จัดตั้งโครงการ “พบปะเหยื่อ” (Meat the Victims) ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อแสดงให้คนทั่วไปตระหนักถึงเหยื่อจากอาหารที่เลือกรับประทาน รสชาติของการเห็นอกเห็นใจผู้อื่นนั้นอร่อยสุดแล้ว โดยกลุ่มวีแกน และนักกิจกรรมภายในโครงการนี้จะบุกเข้าไปยังฟาร์มสัตว์ และทำการประท้วงเพื่อให้ตระหนักถึงสิทธิสัตว์อย่างถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าไปบุกฟาร์มหมู Sandilands ในมณฑลลิงคอล์นเชอร์ สหราชอาณาจักร พวกเขาก็ถูกกล่าวหาว่าทำการฆ่าลูกหมูถึง 2 ตัว โดยนาง Sylvia Hook เจ้าของฟาร์มหมู กลุ่มวีแกน และนักกิจกรรมของโครงการ “พบปะเหยื่อ” ในฟาร์มหมู Sandilands เนื่องจากนักกิจกรรมพยายามจะกอดหมู และลูกหมูทั้งหลาย โดยหารู้ไม่ว่านั่นสร้างความเครียดให้แก่มัน “พวกเขาพยายามจะอุ้มลูกหมูและกอดมัน เกิดเสียงร้องดังเต็มไปหมด และลูกหมูก็ไม่ชอบการถูกกอด” “ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังพาลูกหมูกลับไปผิดคอก ซึ่งฉันเชื่อว่า สาเหตุที่ลูกหมูเสียชีวิตอาจเป็นเพราะ ความเครียดจากการถูกนำไปใส่ผิดคอกก็เป็นได้” Sylvia กล่าว “มันช่างน่าตลกที่พวกเขาเรียกตัวเองว่านักกิจกรรม เรียกร้องสิทธิให้แก่สัตว์ แต่พวกเขากลับทำให้ลูกหมูตายซะเอง บ้าไปแล้ว” …
-
เจ้าแพะ Lincoln ชนะการเลือกตั้ง เฉือนหมาคู่แข่ง ได้เป็นนายกเทศมนตรีประจำเมือง Fair Haven
โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยเรื่องราวน่ารักมากมายที่มนุษย์ต่างสร้างสรรค์ขึ้นมา และรอให้มันถูกเปิดเผยขึ้น อย่างเช่นการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกิตติมศักดิ์ ณ เมือง Fair Haven รัฐเวอร์มอนต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมานี้ เพราะผู้ที่สามารถเข้าชิงตำแหน่งนี้ได้นั่นไม่ใช่คน! แต่คือเพื่อนร่วมโลกหรือสัตว์ชนิดต่างๆ ที่ทางบ้านเป็นผู้เสนอชื่อเข้าชิง มีรายชื่อผู้เข้าชิงตำแหน่งกว่า 16 รายชื่อด้วยกัน ทั้งน้องแพะ น้องสุนัข น้องแมว และน้องหนู การเลือกตั้งผ่านไปอย่างน่าสนุกสนาน มีประชาชนเข้าร่วมแสดงสิทธิ์ ใช้เสียงกว่า 43 คน และผู้ที่ได้รับตำแหน่งนายกเทศมนตรีกิตติมศักดิ์นี้ก็คือ แทน แท่น แท๊น Lincoln น้องแพะสายพันธ์แองโกลนูเบียน อายุ 3 ขวบ ที่เฉือนชนะ น้องสุนัข Sammie ไปเพียง 13 ต่อ 10 โหวตเท่านั้น เรียกได้ว่าสูสีกันมาก โฉมหน้าผู้ชนะ โดย Lincoln นั้นจะได้ดำรงตำแหน่งนี้เป็นเวลากว่า…
-
สรุปประเด็น Justin Trudeau ถูกอดีตอัยการสูงสุดออกมาแฉ ‘ข่าวฉาวเรื่องคอรัปชัน’!?
เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ กับกรณี ‘ข่าวฉาว’ ของนาย Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีสุดหล่อเหลาของประเทศแคนาดา ที่เรียกได้ว่ากำลัง ‘งานเข้า’ อย่างหนักหน่วง จนอาจทำให้เขาต้อง ‘ถูกปลด’ จากตำแหน่งกันเลยทีเดียว เรื่องราวเป็นมาอย่างไร #เหมียวหง่าว จะขอสรุปข้อมูลจากสำนักข่าวต่างประเทศ มาให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านกันดูครับ ประเด็นข่าวฉาวที่ว่านั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา เรื่องมีอยู่ว่านาง Jody Wilson-Raybould อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอัยการสูงสุดของประเทศแคนาดาได้ออกมาแฉว่า Jody Wilson-Raybould อดีตอัยการสูงสุด เธอถูกนาย Justin กดดันให้ช่วยเหลือบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่จากรัฐคิวเบก ชื่อว่า SNC-Lavalin เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีในข้อหายัดเงินใต้โต๊ะเป็นมูลค่ากว่า 48 ล้านดอลลาร์แคนาดา (1,150 ล้านบาท) เพื่อเซ็นสัญญาประมูลงานก่อสร้างกับรัฐบาลลิเบียเมื่อ 8 ปีที่แล้ว บริษัท Lavalin นั้นเป็นบริษัทใหญ่ และหากถูกดำเนินคดีจนต้องถูกแบนจากการประมูลงานของรัฐบาลแคนาดาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี จนอาจทำให้แรงงานในแคนาดากว่า 9,000 คนตกงาน…
-
เหล่าคุณแม่ช็อกกับเนื้อหาหนังโป๊บนอินเทอร์เน็ต พวกเธอเลยมากำกับหนังโป๊เองซะเลย
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่นั้นต่างก็ต้องเคยดูหนังผู้ใหญ่กันมาแล้ว ไม่ว่าจะชอบดูหรือไม่ชอบดูก็ตาม ซึ่งมันก็หาดูกันได้ง่ายๆ ตามอินเทอร์เน็ต แต่หนังโป๊ส่วนมากมันไม่ได้มีความสมจริงในแง่ของการมีเพศสัมพันธ์และการคุมกำเนิดที่ถูกต้องเลยสักนิด ซึ่งหลายคนก็คงรู้สึกขัดใจเอามากๆ ร่วมถึงคุณแม่เหล่านี้ด้วย เหล่าคุณแม่ทั้ง 5 คนที่เราจะพูดถึงในวันนี้นั้นได้เข้าร่วมในรายการ Mums Make Porn ทีวีโชว์ของช่อง Channel 4 ของสหราชอาณาจักร ที่จะให้เหล่าแม่ๆ มากำกับหนังผู้ใหญ่ในแบบของตัวเอง แต่ก่อนที่พวกเธอจะถ่ายหนังผู้ใหญ่ของตนเอง พวกเธอต้องค้นคว้าจากหนังโป๊ที่หาดูได้ฟรีๆ ตามอินเทอร์เน็ตเสียก่อน หลังจากดูแล้วคุณแม่คนหนึ่งถึงกับอาเจียนออกมา คนหนึ่งร้องไห้เมื่อได้ดูหนังโป๊ที่ใช้พล็อตข่มขืน ส่วนอีกคนก็ขยะแขยงจนถอนตัวไปเลย พวกเธอบอกว่า “พวกเราต้องทำให้เด็กๆ ได้รู้ว่าเซ็กส์มันมีอะไรมากกว่าไอ้ของแบบนั้นที่พวกเขาได้ดูกันในเน็ต ถ้าลูกชายของฉันทำกับสาวแบบที่พระเอกหนังโป๊ทำล่ะก็ ฉันจะเตะก้นเขาซะเลย” “นางเอกในหนังโป๊ไม่ได้แทนค่าด้วยผู้หญิงปกติทั่วๆ ไป นั่นมันเด็กผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงมาแบบผิดๆ ชัดๆ พวกเขาควรต้องรู้สิว่า นั่นมันไม่ปกติ” รายการ Mums Make Porn มีทั้งหมด 3 ตอน เริ่มฉายวันที่ 20 มีนาคม โดยหนังที่เหล่าคุณแม่กำกับจะฉายในตอนสุดท้ายซึ่งพวกเธอจะพาครอบครัว เพื่อน และลูกๆ มานั่งดูด้วย …
-
จอมโจรของกินแห่งออฟฟิศโดนไล่ออก หลังขโมยอาหารเที่ยงของว่าที่คุณแม่กินทุกวัน
เรื่องของกินส่วนตัวที่แช่ในตู้เย็นส่วนรวมนี้เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก เพราะมักมีมือดีหยิบฉวยของที่ไม่ใช่ของตนเองไปทาน แม้บางออฟฟิศหรือหอพักจะมีสติ๊กเกอร์ให้แปะแสดงความเป็นเจ้าของ บางครั้งเขียนชื่อติด เขียนด่า เขียนแช่งติดไว้ก็ไม่วายหายสาบสูญไปอยู่เนืองๆ ล่าสุดในเว็บ Reddit พนักงานหญิงในออฟฟิศแห่งหนึ่งมาโพสต์เล่าประสบการณ์ว่า อาหารกลางวันของเธอมักจะหายไปอยู่เสมอ แถมอาหารที่ว่าสามีสุดที่รักเป็นคนทำให้อีกต่างหาก แต่ด้วยความใจดีเธอจึงเสนอว่าใครก็ตามที่ขโมยของเธอไป ถ้าจ่ายเงินให้เธอก็จะทำเผื่อมาให้ทุกวัน แต่ดูเหมือนว่าคนร้ายก็ไม่ได้สนใจข้อเสนอของเธอ ยังคงเดินหน้าขโมยอาหารกลางวันอย่างต่อเนื่อง หญิงสาวลองทิ้งโน้ตติดเอาไว้ว่า ตัวเธอกำลังท้องอยู่นะ และอาหารกลางวันมันก็สำคัญกับร่างกายมากๆ เผื่อว่าหัวขโมยจะเห็นใจ แต่โชคร้ายที่อาหารก็ยังหายไปเหมือนทุกครั้ง สุดท้ายเมื่อไม้อ่อนไม่ได้ผล เธอจึงขอดูภาพกล้องวงจรปิด และโฉมหน้าของคนร้ายก็คือ หญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นพนักงานอาวุโสที่พยายามเลื่อนตำแหน่ง แถมหญิงคนนี้ดูท่าทางจะไม่ชอบขี้หน้าเจ้าของอาหารเท่าไหร่เสียด้วย เธอขอให้พนักงานฝ่าย IT คนหนึ่งจับภาพขณะที่หัวขโมยคนนี้หยิบอาหารของเธอไปทุกๆ วัน และส่งเรื่องไปให้ทางบริษัทช่วยจัดการให้ โชคดีที่ผู้บริหารคนหนึ่งจากสำนักงานใหญ่เองก็กำลังท้องอยู่ ส่วนอีกคนหนึ่งก็มีภรรยาที่เพิ่งคลอดลูก เรื่องดังกล่าวจึงกลายเป็นเรื่องร้ายแรงขึ้นมาทันที ผลสุดท้ายหัวขโมยไม่เพียงแค่หยุดขโมยอาหาร แต่ต้องหยุดมาทำงานตลอดไปด้วย เธอถามชาวเน็ตใน Reddit ต่อว่า “ถ้าหากว่าคนของทางสำนักงานใหญ่เรียกฉันไปคุยก่อน ฉันคงไม่ยอมให้เธอโดนไล่ออก ฉันแค่อยากให้เธอหยุดขโมยข้าวกลางวันเท่านั้นเอง นี่ฉันแย่รึเปล่า ที่ทำให้เธอโดนไล่ออก?” ชาวเน็ตท่านหนึ่งตอบกลับมาว่า “เธอไม่ได้ทำให้นางโดนไล่ออกสักหน่อย นางทำตัวของนางเองด้วยการขโมยของของคนอื่น ทั้งที่มีโอกาสกลับตัวโดยไม่ถูกลงโทษตั้งหลายครั้ง” …
-
คาร์ดินัล George Pell ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย 2 คน
คาร์ดินัล George Pell วัย 77 ปี เป็น 1 ในที่ปรึกษาใกล้ชิดของพระสันตะปาปาฟรานซิส และเคยเป็นถึงนักบวชระดับสูงอันดับที่ 3 ของศาสนาคริสต์ นิกายคาธอลิค และตอนนี้เขาก็กลายมาเป็นนักบวชระดับสูงที่สุดที่ต้องโทษล่วงละเมิดทางเพศเด็ก คาร์ดินัล Pell ถูกตั้งข้อหาถึง 5 กระทง ข้อหาหนึ่งในนั้นคือข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ที่เหลือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 1996-1997 เหยื่อทั้ง 2 คนเป็นเด็กในวงขับร้องประสานเสียงของโบสถ์ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วเมื่อคณะลูกขุนได้ตัดสินว่าเขามีความผิด ก็ได้ถูกถอดออกจากตำแหน่งในวาติกัน และในวันที่ 13 มีนาคม 2019 ก็ได้มีการพิจารณาคดีของเขาที่ประเทศออสเตรเลีย ผู้พิพากษาได้กล่าวกับ Pell ในการพิจารณาคดีว่า “การกระทำของจำเลยเป็นการล่วงละเมิดทางเพศอย่างชัดเจน เหยื่อทั้ง 2 คนต้องทนทุกข์ทรมานจากการกระทำดังกล่าว และคุณมั่นใจมากว่าเด็กทั้งคู่จะไม่ปริปากพูด” “นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เหยื่อทั้งคู่ต้องรู้สึกถูกหยามเกียรติและหมดคุณค่า เมื่อรู้ว่าที่พวกเขาโดนทำร้ายนั้นมีคนอื่นรู้เห็นเหตุการณ์ด้วย” “คุณมีเวลาเหลือเฟือในการคิดทบทวนตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังทำร้ายเหยื่อ J อย่างหยาบโลนและร้ายกาจ มันชัดเจนมากว่าเด็กทั้ง 2 คนเชื่อและศรัทธาในตัวคุณ…
-
Supreme ปลอม เปิดสโตร์ในจีน เคียงข้างร้านแบรนด์ดัง ไม่แคร์ว่าตัวจริงจะคิดยังไง
หากพูดถึงแบรนด์แฟชั่นยอดฮิตของยุคนี้ เชื่อว่าป้ายขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดงพร้อมตัวอักษรสีขาว 7 ตัวเขียนว่า “SUPREME” ต้องเป็นที่รู้จักอย่างแน่นอน และเป็นเรื่องธรรมดาของแบรนด์สุดหรูที่มักจะมีของเลียนแบบ หาประโยชน์จากการเป็นสินค้ายอดฮิตของคนทั่วโลก เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ได้มีข่าวว่า SUPREME เปิดตัวร้านค้าแห่งใหม่ในนครเซี่ยงไฮ้ บริเวณย่านแฟชั่น Huai Hai Zhong Lu ประเทศจีน แต่หารู้ไม่ว่า แบรนด์ที่เปิดนั้นคือของเลียนแบบ! โดยใช้ชื่อว่า SUPREME italia จดทะเบียนภายใต้บริษัท International Brand Firm ที่มีโลโก้สินค้า และผลิตภัณฑ์แทบทุกอย่างเหมือนของจริง ขอเกริ่นก่อนว่าเดิมทีนั้น SUPREME ต้นฉบับของแท้มีถิ่นกำเนิดที่แรก อยู่ที่เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย SUPREME แท้นั้นไม่ได้รับสิทธิ์ให้เปิดจำหน่ายร้านค้าภายในประเทศจีน แต่แบรนด์เลียนแบบอย่าง SUPREME italia กลับได้รับสิทธิ์นั้น บรรยากาศวันเปิดร้าน SUPREME italia ที่นครเซี่ยงไฮ้ ทั้งนี้ SUPREME ต้นฉบับที่แท้จริงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ได้ทำการฟ้องร้อง…
-
เด็กหนุ่มถูกบูลลี่จนต้องย้าย รร. บ่อยๆ ต้องหลั่งน้ำตา เมื่อเพื่อนใหม่นำของขวัญมาเซอร์ไพรส์
การกลั่นแกล้งหรือการบูลลี่ถึอว่าเป็นภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในสังคมหลายๆ แห่งมาแต่ช้านาน แต่ไม่มีค่อยมีใครตระหนักถึงมากนัก เช่นเดียวกับสิ่งที่ Azrael Robinson เด็กวัย 15 ปีคนที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้ เขาถูกเพื่อนนักเรียนรุมกลั่นแกล้งมาตลอด จนต้องย้ายโรงเรียนอยู่บ่อยๆ จนในที่สุดก็ย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนมัธยม LaVergne ในรัฐเทนเนสซี โรงเรียนที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล… ในระยะแรกที่ Azrael ย้ายมายังโรงเรียนแห่งใหม่ เขามีท่าทีหวาดระแวง ไม่มั่นใจในตัวเองอย่างมาก ซึ่งเหล่าเพื่อนใหม่ของเขาก็สังเกตเห็นท่าทีดังกล่าวเช่นกัน พวกเขาเป็นห่วง Azrael เป็นอย่างมากจึงทำการหาข้อมูลและพบสาเหตุที่ทำให้เขามีท่าทีดังกล่าว เลยตัดสินใจที่จะช่วยเหลือ Azrael โดยให้ของขวัญแก่เขา Sonji Newman อาจารย์สอนวิชาชีววิทยาของ Azrael ได้กล่าวกับเว็บไซต์ Today ว่ามีนักเรียนในห้องสองคนเข้ามาหาเธอและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับอะไรบางอย่างที่ดีให้แก่เพื่อนร่วมชั้นคนใหม่ของพวกเขา และแล้ววันที่พวกเขาจะเซอร์ไพรส์ Azrael ก็มาถึง… ในวันดังกล่าว Kerolos Girgis หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของ Azrael เดินถือของขวัญเข้ามาในห้อง ก่อนจะนำมาให้ Azrael พร้อมพูดว่าพวกเขาให้สิ่งนี้เพราะความดีที่ Azarel ได้ทำให้กับเพื่อนๆ เสมอมา เมื่อ…
-
เวเนซุเอลาไฟฟ้าดับติดกัน 6 วัน-ปชช.โยนเงินเกลื่อนถนน เหตุใช้เข้าถึงระบบสาธารณูปโภคไม่ได้
ประเทศเวเนซุเอลากำลังอยู่ในช่วงวิกฤติอย่างหนัก ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับกว่า 70% ทั่วประเทศนานติดต่อกันถึง 6 วัน นับตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม สร้างผลกระทบอย่างหนักต่อหลายๆ ภาคส่วนในประเทศ ทั้งด้านคมนาคม ระบบสาธารณสุข และที่สำคัญที่สุดก็คือระบบสาธารณูปโภค ที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงอาหารและน้ำดื่มได้อย่างยากลำบากจนถึงกับต้องออกไปหาน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติและท่อระบายน้ำเพื่อประทังชีวิต People in Venezuela are having to collect water from drain pipes and natural springs. A huge blackout in the country has left many homes without water. https://t.co/MKbFTNipPq pic.twitter.com/scHbdSf04V — CNN International (@cnni) March 12, 2019 ค่าเงินโบลิวาร์ของเวเนซุเอล่ายังเฟ้อหนักจนทำให้ไม่สามารถใช้ซื้ออาหารและน้ำดื่มได้ จนเกิดการโปรยเงินทิ้งทั่วเมือง แถมยังเผาโชว์เพื่อแสดงให้เห็นว่าเงินสกุลโบลิวาร์นั้นไร้ค่า…
-
ญี่ปุ่นเริ่มแคมเปญ #Kutoo เรียกร้องให้บริษัทเลิกบังคับให้ผู้หญิงใส่ ‘ส้นสูง’ มาทำงาน
ในสถานที่ทำงานหลายแห่งในญี่ปุ่น ได้มีกฎให้พนักงานหญิงสวมใส่ ‘รองเท้าส้นสูง’ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพ อย่างที่เห็นตามแบบยูนิฟอร์มของพนักงานบริการในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2019 Yumi Ishikawa นางแบบและนักแสดงวัย 32 ปี ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า บริษัทในญี่ปุ่นควรยกเลิกข้อบังคับให้พนักงานหญิงสวมรองเท้าส้นสูงมาทำงาน https://twitter.com/ishikawa_yumi/status/1088410213105917952?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1088410213105917952&ref_url=http%3A%2F%2Ftime.com%2F5548873%2Fjapan-kutoo-high-heels-metoo%2F ขณะที่ผู้หญิงหลายคนในสังคมออนไลน์ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุน จนเกิดเป็นแคมเปญที่ใช้ #Kutoo ซึ่งมากจากคำว่า “kutsu” ที่แปลว่า รองเท้า และ “kutsuu” ที่แปลว่าความเจ็บปวด สำหรับผู้หญิงบางคน การสวมใส่รองเท้าส้นสูงเกิดความลำบากในการทำงาน ไม่สะดวกสบาย และได้รับบาดเจ็บจากการยืนหรือเดินไปมาเป็นเวลานานๆ Ishikawa ผู้ริเริ่มแคมเปญได้เคลื่อนไหวผ่านทางเว็บไซต์ change.org ลงชื่อสนับสนุนกว่า 14,000 คน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาประกาศให้บริษัทยกเลิกข้อบังคับให้พนักงานหญิงสวมใส่แต่รองเท้าส้นสูงมาทำงาน ก่อนหน้านี้ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศอังกฤษ ได้ออกมาการเคลื่อนไหวกรณีดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากการบังคับให้ผู้หญิงสวมใส่ส้นสูงแสดงถึงความไม่เทียมทางเพศในสถานที่ทำงาน อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวในประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ Ishikawa ยังไม่ได้รับการตอบรับใดใดจากทางรัฐบาลซึ่งคงต้องรอติดตามกันต่อไป ที่มา: Time, Medium
-
หนุ่มตื่นขึ้นมาพบ ‘กระสุน’ ทะลุฝาบ้าน โชคดีที่มีจอคอมเป็นเกราะป้องกัน จึงรอดมาได้!
บางครั้งเหตุการณ์ร้ายๆ ก็เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว แม้ตอนที่เรานอนหลับอยู่ เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดได้ อย่างตอนที่นักเรียนชาวเมเลเซียคนนี้ ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงปืนดังลั่น เมื่อตอนเช้าของ 4 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุยิงกันบริเวณด้านนอกอพาร์ตเมนต์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยที่ Eric Gan นักเรียนชาวมาเลเซียที่อาศัยอยู่ที่นั่นพบว่ามีกระสุนปืนทะลุฝาบ้านเขาจำนวนห้านัด ความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว . . กระสุนปืนหนึ่งนัดพุ่งตรงมายังมายังห้องนอนของเขา แต่โชคดีที่มีจอคอมพิวเตอร์เป็นเกราะป้องกัน หนุ่มนักเรียนคนนี้จึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่ที่น่าประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นคือจอคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นยังใช้การได้ เขาจึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดลงในทวิตเตอร์พร้อมกับชื่นชมบริษัท MSI ผู้ผลิตจอคอมพิวเตอร์ “เกิดเหตุยิงกันด้านนอกบ้านของผม และมีกระสุนทะลุเข้ามาติดตรงจอคอมพิวเตอร์แต่มันยังใช้การได้ ต้องขอบคุณ MSI จริงๆ” เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงในสังคมออนไลน์ โดยชาวเน็ตหลายคนได้ออกมาให้กำลังใจ Eric ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกว่า ฝ่ายบริษัท MSI ออกมาตอบรับว่า ยินดีจะส่งจอใหม่ให้กับ Eric พร้อมกับบริจาคให้กับมูลนิธิต่อต้านความรุนแรงตามจำนวนรีทวิต To all gamers, we appreciate all your blessings to…
-
หญิงที่ถูกเสือจากัวร์ทำร้ายออกมาขอโทษ พร้อมขอให้ทางสวนสัตว์พิจารณาเพิ่มความปลอดภัย
เมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อนๆ คงจำได้ว่ามีข่าวหญิงคนหนึ่งปีนรั้วกั้นเพื่อถ่ายรูปเซลฟี่ในสวนสัตว์แอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา จนเป็นเหตุให้เธอถูกเสือจากัวร์ตะปบจนได้รับบาดเจ็บ (อ่านข่าวเก่าที่นี่) ผลปรากฏว่าหญิงคนดังกล่าว (ทราบเพียงชื่อว่า Leanne) ได้รับบาดเจ็บไม่มาก จึงสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันถัดมา และได้ให้สัมภาษณ์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เธอเล่าว่า ขณะเธอเดินผ่านกรง เธอเห็นว่าเสือจากัวร์อยู่ชิดกับรั้ว เธอจึงคิดว่าอยากจะถ่ายรูปเสียหน่อย เธอจึงพิงและยื่นแขนเข้าไปในรั้วเพื่อถ่ายรูป และเสือจากัวร์ก็ตะปบเข้าที่มือข้างที่เธอถือกล้องยื่นเข้าไป Leanne บอกกับ CBS News ว่า “ฉันผิดเองที่ไปเอนตัวบนรั้วแบบนั้น แต่ฉันว่าสวนสัตว์เองก็ต้องพิจารณาย้ายรั้วให้ถอยเข้าไปด้วยเหมือนกัน” “ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันว่าพวกเราทุกคนเป็นมนุษย์ที่ล้วนแล้วแต่ทำผิดพลาด และฉันก็ได้รับบทเรียนแล้ว” “ใครๆ ก็สามารถยื่นมือเข้าไปได้นะ ฉันไม่ใช่คนแรก แล้วถ้าพวกเขาไม่ทำอะไรสักอย่างกับรั้วนั่น ฉันก็จะไม่ใช่คนสุดท้าย” Adam Wilkerson ชายคนที่เข้าไปช่วยเหลือ Leanne ได้บอกกับ New York Times ว่า รั้วดังกล่าวนั้นสูงประมาณเอวของเขาเท่านั้น Leanne น่าจะยื่นมือเข้าไปมากกว่าปีนรั้ว แต่อย่างไรการยื่นมือเข้าไปก็ไม่ควรอยู่ดี เขาได้กล่าวเสริมอีกว่า “ถ้ามีสามัญสำนึก คุณก็จะรู้เองว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย” ทาง Leanne เองก็ได้ติดต่อไปหา Mickey Ollson…
-
สาวได้รับข้อความบังคับให้พัฒนาตัวเอง 15 ข้อจากคู่เดต ที่เคยเดตด้วยเมื่อ 3 เดือนก่อน
ในยุคออนไลน์อย่างปัจจุบัน การหาคู่เดตสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านทางแอปพลิเคชั่นหาคู่ ซึ่งบางครั้งมันก็ทำให้ได้เจอกับคนดีๆ บางครั้งก็ไม่ เช่นเดียวกับ Kimberley Latham-Hawkesford สาววัย 24 ปี จากเมือง Morecambe ประเทศอังกฤษ ที่เคยได้ใช้แอปฯ หาคู่และได้ออกเดตกับชายคนหนึ่งเมื่อ 3 เดือนก่อน แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใช่สเปคของเขาสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากออกเดตกันครั้งแรก Kimberley ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากชายคนดังกล่าวอีกเลย จนกระทั่งไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอได้รับข้อความจากชายที่เธอเคยออกเดตด้วย โดยในข้อความกล่าวเหตุผลที่เงียบหายไป พร้อมลิสต์สิ่งต่างๆ ที่เขาอยากให้เธอปรับปรุงตัวเองหากอยากจะเดตกับเขาอีกมา 15 ข้อ โดยข้อความดังกล่าวมีใจความว่า “สวัสดี Kimberley ผมรู้ว่าเราเคยไปเดตกันมาก่อน ตอนนี้ขอผมอธิบายหน่อยว่าทำไมผมไม่ได้ทักคุณมาอีก เพราะผมรู้สึกเหมือนว่าคุณยังทำให้เดตของเราดีขึ้นได้อีกและนี่คือสาเหตุว่าทำไม ผมต้องขออภัยหากว่าผมล่วงเกินคุณ – หากคุณลดน้ำหนักอีกสักหน่อย คุณจะดูดีมากๆ บางทีอาจจะลดสัก 6.5 กิโลกรัมหรือมากกว่าหน่อย – คุณขาวเกินไป ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่พวกชอบตากแดด แต่การทำ Fake Tan มันก็ไม่ได้เจ็บอะไรนะ – คุณมีหน้าอกที่ใหญ่ ดังนั้นคุณควรจะโชว์มันให้มากกว่านี้ –…
-
หนุ่มอินโดถูกแฟนสาวนอกใจ เลยลงทุนแก้เผ็ด ด้วยการ “เช่าป้ายโฆษณาแฉ” ซะเลย
สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ชีวิตคู่ที่ไปได้ไม่สวยสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นอกหัก รักคุด หรือแฟนนอกใจ คงจะเข้าใจความเจ็บปวด ณ ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับหนุ่มชาวอินโดนีเซียคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นหนึ่งในคนที่เจ็บปวดจากความรัก เมื่อเขาจับได้ว่าแฟนสาวของตนนอกใจนอก เลยจัดการแก้แค้นโดยการเช่าป้ายโฆษณาแฉซะเลย เรื่องราวดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมือง Semarang ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อหนุ่มที่เรากล่าวถึงข้างต้นได้เช่าป้ายโฆษณาเพื่อแฉแฟนสาวของตัวเอง โดยในป้ายโฆษณามีข้อความว่า “Risna Rahmatika คุณหักอกผม คุณนอกใจผม ผมต้องการที่จะเลิกกับคุณ” https://twitter.com/myxzyptlx/status/1104306786683645957?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1104306786683645957&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.worldofbuzz.com%2Fman-finds-out-his-girlfriend-cheated-on-him-rents-giant-billboard-just-to-break-up-with-her%2F และวันที่ 9 มีนาคม 2019 ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @myxzptlx ได้บันทึกเหตุการณ์ของหนุ่มสาวคู่หนึ่งมีปากเสียงกันบริเวณหน้าป้ายดังกล่าว ซึ่งคาดว่าทั้งคู่คงเป็นคู่กรณีนั่นเอง มีคนถามว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงเหรอ ซึ่งผู้โพสต์ก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง หลังจากที่ผู้โพสต์ โพสต์วิดีโอดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย โพสต์ก็กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็วมีคนเข้าชมกว่า 800,000 ครั้ง รวมถึงทวีตอีก 30,000 ครั้ง ทั้งนี้ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย บางคนกล่าวว่า “เฮ้ย นี่มันเรื่องจริงงั้นเหรอ?” หรือจะเป็น “พระเจ้าช่วย คนเหล่านี้บ้าไปแล้ว” …
-
ตำรวจไม่ยอมแพ้ ตามหลักฐานรื้อคดี จนจับกุมแท็กซี่ ที่เคยก่อคดีข่มขืน 10 ปีที่แล้วได้สำเร็จ
เมื่อไม่นานมานี้ ทางตำรวจอังกฤษได้เปิดเผยว่าสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อคดีข่มขืนหญิงสาวจำนวน 2 ราย ในปี ค.ศ. 2007 ได้ โดยชายคนนี้ลอยนวลเป็นเวลากว่า 10 ปี Shipu Ahmed ในวัย 36 ปี Shipu Ahmed คือผู้ต้องหาในคดีนี้ เขาเป็นคนขับรถแท๊กซี่อยู่ในเมืองลูตัน มณฑลเบดฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ ข้อหาข่มขืนผู้หญิง 2 ราย อายุ 15 ปี และ 22 ปี ตามลำดับ ย้อนกลับไปในปี 2007 เขาไม่ถูกจับกุมในข้อหานี้ เพราะเขาไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจในการตรวจ DNA ของคนขับแท๊กซี่ทุกคน ทำให้เขาไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม ศาลสูงคดีอาญาแห่งลูตัน ได้เปิดเผยว่า ช่วงเดือนกันยายน ปี 2017 Shipu จำเป็นต้องตรวจ DNA จากเหตุการณ์ความรุนแรงภายในครอบครัว ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ด้วยเหตุนี้เองจึงส่งผลให้เขาถูกจับ และถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลากว่า…
-
Ozil ส่งของขวัญชุดใหญ่ให้เด็กชายเคนยา หลังเห็นภาพเด็กสวมเสื้อเขียนชื่อของตนด้วยปากกาเมจิก
‘ฟุตบอล’ คือหนึ่งในกีฬาที่มีความนิยมมากที่สุดบนโลกใบนี้ แฟนฟุตบอลนั้นมีทุกเพศ ทุกวัย ทุกฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย คนหนุ่มหรือคนแก่ คนรวยหรือคนจน เช่นเดียวกับ Lawrence เด็กชายจากกรุงไนโรบี ประเทศเคนย่าคนนี้ก็มีความรักในกีฬาฟุตบอลเช่นกัน และเขาก็กลายเป็นกระแสในโซเชียลขึ้นมา เมื่อมีรูปภาพของเจ้าตัวกำลังไล่ต้อนวัว โดยสวมเสื้อสีแดงและมีชื่อของ Mesut Ozil เพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 ของทีมอาร์เซนอล บนหลังเสื้อที่เขียนขึ้นมาด้วยปากกาเมจิก I saw this kid today grazing in the streets of Nairobi – a city without really grass for cows. He told me he loves @MesutOzil1088 so much(You can see his shirt). Maybe one day…
-
หนุ่มเล่นเครื่องร่อนเพลินๆ ในออสเตรเลีย แลนดิ้งลงมาเจอ “เจ้าถิ่น” ต่อยหน้าเฉย
หลายคนคงรู้ดีว่า “ออสเตรเลีย” นั้นเป็นประเทศสุดเถื่อน เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ทำให้มีสัตว์แปลกๆ ที่ชาวบ้านไม่มีอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะตัวที่เราเห็นกันชินตาอย่างโคอาล่า นกอีมู จิงโจ้ หรือแม้แต่สัตว์อันตรายอย่างงู กบและแมงมุมชนิดที่พิษรุนแรงก็เรียกได้ว่ามีเยอะเอาเรื่อง วันนี้เราจะมาพูดถึงเจ้าถิ่นที่ทุกคนรู้จักดีอย่าง “จิงโจ้” กัน ซึ่งไม่ใช่แค่มีเยอะ แต่ในเรื่องราวครั้งนี้พี่แกยังโฉดอย่างกับมาเฟียคุมประเทศ ใบหน้างามๆ ไม่น่าใจดำเลยแก้วตา เรื่องราวเริ่มต้นที่ชายหนุ่มวัย 35 ปีคนหนึ่งชื่อว่า Jonathan Bishop กำลังเล่นร่มร่อนอย่างสนุกสนานบนท้องฟ้าเหนือประเทศออสเตรเลีย ก่อนจะพาตัวเองร่อนลงสู่พื้นดินบริเวณหุบเขา Orroral ในอุทยานแห่งชาติ Namadgi ขณะที่เขาลงใกล้ถึงพื้นนั้น Jonathan สังเกตเห็นจิงโจ้ 2 ตัวกระโดดดึ๋งๆ ตรงเข้ามาหา ดูแล้วเป็นภาพที่น่ารัก ราวกับว่าพวกมันอยากจะเข้ามาทักทายอย่างไรอย่างนั้น แต่โชคร้าย…ที่เจ้าจิงโจ้พวกนี้มันไม่ได้มาอย่างเป็นมิตร สวัสดี เจ้าจิงโจ้น่ารัก พ่อหนุ่ม Jonathan ไม่ได้คิดอะไร จึงได้ทำการทักทายเจ้า Skip จิงโจ้ตัวที่โดดเข้ามาหาเขา แต่แทนที่จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าถิ่น เจ้า Skip ดันง้างหมัดวิ่งเข้าใส่ ก่อนจะผลักเขาล้มลงกับพื้น แว้กกกกกกกกกก Jonathan ตะโกนไล่เจ้าจิงโจ้ตัวป่วน จนในที่สุดมันกับเพื่อนอีกตัวก็กระโดดด๋องๆ…
-
มหาลัยจีนสอนวิชาเกี่ยวกับบุหรี่ ให้ นศ. ลองสูบในห้อง เผยจะทำให้นักศึกษาเข้าใจบทเรียนยิ่งขึ้น
ในมหาวิทยาลัย เราคงเห็นว่าหลายๆ ที่จะมีบริเวณที่กำหนดให้สูบบุหรี่ได้เฉพาะ แต่จะเป็นอย่างไรล่ะ หากมีการยอมให้สามารถสูบบุหรี่ในห้องเรียนได้ เหมือนอย่างที่มหาวิทยาลัยหนึ่งในประเทศจีน ที่กำลังกลายเป็นที่ฮือฮาในโซเชียลมีเดีย หลังจากมีภาพที่อาจารย์ยอมให้นักศึกษาลองสูบกลางห้องเรียน โดยอ้างว่าให้เป็นบทเรียนแก่นักศึกาา เมื่อไม่นานมานี้มหาวิทยาลัยการเกษตรแห่งมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาใน Weibo โซเชียลมีเดียจีนอย่างรวดเร็ว หลังพบภาพนักเรียนสูบบุหรี่ในห้องเรียนกันอย่างสนุกสนาน โดยทาง Zhao Zhengxiong อธิบดีแห่งมหาวิทยาลัยได้เผยว่าคุณครูได้นำบุหรี่หลายยี่ห้อเข้ามาในห้องเรียนและให้นักศึกษาได้ลองสูบเพื่อทำความเข้าใจกับมันว่ารสชาติ ความระคายเคืองหรือความรู้สึกหลังสูบเป็นอย่างไร และแม้ว่า Zhao จะไม่ได้บังคับให้นักศึกษาทุกคนต้องลองสูบ แต่นักศึกษาส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะลองสูบด้วยตัวเอง หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย “แล้วแบบนี้อะไรคือข้อสอบปลายภาคล่ะ? แข่งกันว่าใครสูบบุหรี่ได้เร็วกว่างี้เหรอ?” ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา “ส่งเสริมให้เด็กๆ สูบบุหรี่ ยอดเยี่ยมไปเลย” ชาวเน็ตอีกคนกล่าว แต่อย่างไรก็ตามทางนักศึกษาของมหาวิทยาลัยดังกล่าวก็ได้ออกมาปกป้องคุณครู โดยเผยว่ากระบวนการดังกล่าวเป็นหนึ่งในการประเมินความรู้สึกจากการสูบบุหรี่ในคาบเรียนวิชา “เทคโนโลยียาสูบ” เท่านั้นและไม่ได้มีทุกวัน “นี่ไม่ใช่การสูบบุหรี่จริงๆ แต่เป็นกระบวนการเรียนรู้ การประเมินความรู้สึกจากการสูบบุหรี่เป็นสิ่งสำคัญ” นักศึกษาคนหนึ่งกล่าว ที่มา Odditycentral, The Paper
-
‘จองจุนยอง’ จำนนต่อหลักฐาน พร้อมยอมรับข้อกล่าวหาและขอยุติผลงานในวงการบันเทิง
กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนคดีของหนุ่ม “ซึงรี BIGBANG” ที่ตกเป็นผู้สงสัยในคดี ‘จัดหาบริการค้าประเวณี’ โดยในวันที่ 12 มีนาคม 2019 ทางเจ้าหน้าได้พบหลักฐานเพิ่มเติมเป็นบทสนทนาในกรุ๊ปแชทที่มีหนุ่มซึงรี จองจุนยอง และคนอื่นๆ ที่ยังไม่เปิดเผยรายชื่อแน่ชัด ภาพของจองจุนยอง หลักฐานเผยว่าจองจุนยองได้แชร์คลิปแอบถ่ายผู้หญิงขณะร่วมกิจกรรมทางเพศลงในกรุ๊ปแชทดังกล่าวหลายต่อหลายครั้ง และใช้วาจาคุมคามทางเพศสาวที่ตกเป็นเหยื่อ ทางต้นสังกัด MakeUs Entertainment จึงตัดสินใจที่จะยุติกิจกรรมทั้งหมดภายในต่างประเทศของเขา และเรียกตัวกลับเกาหลีเพื่อให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวน จองจุนยอง เป็นนักร้องชื่อดังอีกคนหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ ที่โด่งดังมาจากรายการ Superstar K4 มีผลงานเป็นในฐานะสมาชิกของรายการ 2 Days & 1 Night ซีซั่น 3 และรายการ We Got Married 4 อีกทั้งยังเป็นพิธีกรวิทยุ รายการทีวี นักแสดงในภาพยนตร์และซีรีย์หลายเรื่อง ในขณะเดินจองจุนยองเดินทางถึงประเทศเกาหลี คลิปเหตุการณ์ ในทันทีที่จอง จุนยองเดินทางมาถึงสนามบินในประเทศเกาหลี กองทัพสื่อมวลชนก็ได้เข้ามารุมถ่ายรูป พร้อมกับยิงคำถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในวงล้อมของสื่อ มีชายคนหนึ่งใช้มือกระชากศีรษะของจองจุนยองอย่างรุนแรง ในช่วงเช้าของวันที่…
-
ญี่ปุ่นนำร่อง ‘บาร์สะดวกดื่ม’ ซื้อกับแกล้มเข้าร้านได้ ดริงก์เริ่มต้นขั้นต่ำที่ 500 เยน!
สมัยนี้ในยุคที่อะไรๆ ก็ซื้อง่าย ขายคล่องกันไปหมด จนเกิดร้านสะดวกซื้อหลากหลายรูปแบบ ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าได้มากมาย อย่างเช่น 7-11 ในประเทศไทย เป็นต้น แต่ถ้าถามนักดื่มทั้งหลาย คงต้องการร้าน “บาร์สะดวกดื่ม” มากกว่าร้านค้าสะดวกซื้ออย่างแน่นอน บอกได้เลยว่าไม่ต้องรอกันอีกต่อไป เพราะเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมานั้น ประเทศญี่ปุ่นได้นำร่องเปิด “บาร์สะดวกดื่ม” แห่งแรกขึ้นแล้วที่เมืองฟูกุโอกะ บาร์สะดวกดื่ม ที่ว่านี้ตั้งอยู่ภายในห้าง Poplar บริเวณตรงข้ามสถานีรถไฟฟ้าฮากาตะ ในเมืองฟูกุโอกะ ที่ประเทศญี่ปุ่น “Osake no Bijutsukan” (พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งสุรา) คือชื่อบาร์สะดวกดื่มแห่งแรกของญี่ปุ่น โดยเป็นชื่อสาขาของบาร์จากเกียวโต พิพิธภัณฑ์แอลกอฮอล์ที่ว่านี้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มที่หลากหลายกว่า 1,000 รายการ และมีราคาต่ำสุดเริ่มต้นที่เพียง 500 เยน (ราว 142 บาทไทย) เท่านั้น โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่เวลา 15.00 – 24.00 น. กันเลยทีเดียว …
-
อลังการงานสร้าง งานแต่งงานของลูกชายอภิมหาเศรษฐีอินเดีย จ้าง Maroon 5 เล่นในงานแต่ง
นี่คืออภิมหางานแต่งงานสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ที่ไม่มีคำไหนมาที่จะมาบรรยายได้นอกจากคำว่า “พี่รวย” เท่านั้น อภิมหางานแต่งงานที่ #เหมียวบู้บี้ จะมากล่าวถึงในวันนี้ เป็นงานแต่งงานของลูกชายของ Mukesh Ambani ซูเปอร์มหาเศรษฐีแห่งอินเดียผู้ที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในอินเดีย (ระดับความรวยก็คือมีทรัพย์สิน 50.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) หลังจากปีที่แล้วทางพี่สาวของ Akash Ambani ได้จัดงานแต่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไปแล้ว ในต้นปีนี้ก็เป็นคิวของเขา และแน่นอนว่า งานแต่งของน้องชายก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ฝ่ายพี่สาวเลยทีเดียว งานแต่งงานของ Akash Ambani และ Shloka Mehta เจ้าสาว จัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของนครมุมไบ ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าบ่าวและแม่เจ้าบ่าว ในงานนี้นอกจากจะเป็นการรวมตัวของแขกเหรื่อในงานระดับ VVIP แล้ว ยังเป็นการรวมตัวคนดัง นักร้อง นักแสดง และเศรษฐีระดับโลกอีกหลายท่านอีกด้วย และที่สำคัญ วงดนตรีที่มาเล่นในงานแต่งครั้งนี้คือวงชื่อดังอย่าง Maroon 5 นอกจากงานเลี้ยงแขกระดับ VVIP แล้ว…
-
ช่วงเวลาสุดสะเทือนใจ ภาพของหญิงสาว “ในชุดแต่งงาน” ร่ำไห้ ณ หลุมศพของคู่หมั้น
วันแต่งงานถือเป็นงานหนึ่งที่ผู้หญิงมักจะมีความสุขมากที่สุดในชีวิต ทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ ที่รักต่างมาร่วมงานนี้กันชื่นมื่น แต่ไม่ใช่สำหรับเธอคนนี้เพราะวันแต่งงานของเธอคือวันที่คู่หมั้นได้จากโลกนี้ไปแล้ว… แทนที่ภาพจะออกมาเป็นวันที่เธอมีความสุขมากที่สุดจึงกลับกลายเป็นภาพสุดสะเทือนใจ ภาพที่เธอนั่งร้องไห้อยู่ข้างหลุมศพของคู่หมั้น ชายคนหนึ่งที่เธอรักมากที่สุดในชีวิต ว่าที่เจ้าสาว Sara Baluch นั่งร้องไห้ข้างหลุมศพ Mohammad Sharifi คู่หมั้น หญิงสาวคนนี้ชื่อว่า Sara Baluch วัย 22 ปี ผู้ต้องสูญเสีย Mohammad Sharifi หนุ่มวัย 24 ปี ชายผู้เป็นที่รักของเธอไปเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2019 ก่อนจะเข้าร่วมพิธีแต่งงานกันอีกเพียงแค่สองสัปดาห์เท่านั้น พวกเขาทั้งคู่ต่างไม่มีใครคาดคิดว่าในวันนั้นเขาจะไม่ได้พบกับเธออีก เนื่องจาก Mohammad ได้ถูกยิงเสียชีวิตขณะที่กำลังนำเครื่องเล่น Xbox ไปส่งให้คนที่นัดซื้อบริเวณลานจอดรถแห่งหนึ่งในรัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา Sara Baluch และ Mohammad Sharifi หลังเธอทราบข่าวว่าเขาถูกยิง Sara จึงรีบไปที่โรงพยาบาลทันที แต่ปรากฏว่าคุณหมอได้แจ้งเธอว่า “ไม่สามารถยื้อเขาไว้” นั่นหมายความว่ามันสายไปเสียแล้ว แม้แต่จะได้บอกลาเขาเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังทำไม่ได้ ชายที่ยิงเขาได้ถูกจับหลังจากนั้นด้วยข้อหาฆ่าคนตาย แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว มันก็ไม่ได้ทำให้เธอดีใจหรือหลุดพ้นจากความทุกข์ได้เลย… งานศพของเขาได้จัดขึ้นในวันที่ 22…
-
เด็กชายวัย 10 ขวบ เขียนจดหมาย “ขอคำแนะนำธุรกิจสายการบิน” ถึง CEO ของ Qantas
ตอนเด็กเชื่อว่าใครหลายคนคงจะชอบเหล่าเครื่องบินรุ่นต่างๆ ที่โลดแล่นไปบนท้องฟ้า แต่มีเด็กชายคนหนึ่งที่ไม่อยากจะทำได้เพียงแค่เล่นเครื่องบินจำลองเท่านั้น เมื่อเขาอยากจะเปิดสายการบินเป็นของตัวเองด้วยวัยเพียง 10 ขวบ!! เด็กชาย Alex Jacquot จากประเทศออสเตรเลีย คือเด็กคนดังกล่าวที่ไม่ต้องการให้ความตั้งใจนั้นเป็นเพียงแค่ความฝัน พ่อหนุ่มน้อยเลยจริงจังจนถึงขั้นเขียนจดหมายขอคำแนะนำในการทำธุรกิจจาก Alan Joyce ซีอีโอของสายการบิน Qantas กันเลยทีเดียว… เด็กชาย Alex ได้ส่งจดหมายไป โดยเขาบอกว่าตนเองได้เริ่มพัฒนาสายการบินที่ชื่อว่า Oceania Express บางส่วนบ้างแล้ว เช่น จะต้องใช้เครื่องบินรุ่นไหน?? หมายเลขเที่ยวบินอะไร รวมไปถึงอาหารบนเครื่องที่จะมีให้บริการ เด็กชาย Alex ภายในจดหมายของเด็กชาย Alex เปิดมาด้วยคำว่า “ช่วยจริงจังกับผมด้วย” พร้อมคำถาม 3 ข้อถึงซีอีโอ Alan Joyce 1. “ช่วยบอกหน่อยว่าผมต้องทำอะไรบ้าง?” 2. “มีเทคนิคอะไรบ้างในการเริ่มต้นเปิดสายการบิน?” 3. “เที่ยวบินจากเมลเบิร์น-ลอนดอน ใช้เวลานานถึง 25 ชม. เราต้องมีปัญหาในการนอนแน่ๆ มีคำแนะนำอะไรบ้างมั้ย?” จดหมายที่เขาเขียนส่งไป . หลังจากนั้นไม่นานทาง Qantas ก็ได้ตอบกลับมา…
-
พบหลักฐานพายุสุริยะเก่าแก่ ในน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ เชื่อแรงกว่าที่เคยพบตลอด 70 ปีที่ผ่านมา
เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์พายุสุริยะหรือ “Solar Storm” กันไหม นี่เป็นปรากฏการณ์อนุภาคประจุไฟฟ้าพุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์ และทำให้สนามแม่เหล็กโลกแปรปรวน จนบางครั้งก็ทำให้ระบบการสื่อสารบางอย่างของมนุษย์ไม่สามารถใช้การได้ จริงอยู่ที่เหตุการณ์พายุสุริยะอย่างพายุสุริยะนั้นย่อมต้องเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วตลอดชีวิตอันยาวนานของโลก แต่จากรายงานล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ดูเหมือนว่าเมื่อราวๆ 2,500-2,600 ปีก่อน โลกเราจะเคยพบกับพายุสุริยะที่น่าสนใจมากๆ ครั้งหนึ่ง นั่นเพราะเจ้าพายุที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น มันรุนแรงมากพอที่จะทิ้งร่องรอยของมันไว้ในแผ่นน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ ในสภาพของคาร์บอน เบริลเลียม และคลอรีน แถมยังติดอยู่อย่างนั้นมาจนถึงในปัจจุบันเลยด้วย และเจ้าแผ่นน้ำแข็งที่ว่านี้เองก็กลายเป็นสิ่งที่เหล่านักวิทยาศาสตร์นำมาศึกษาจนพบหลักฐานของพายุสุริยะครั้งใหญ่นี้ อ้างอิงจากการคำนวณอนุภาค พายุสุริยะในครั้งนั้นมีความรุนแรงสูงกว่าที่เราเคยมีการบันทึกตลอดช่วง 70 ปีที่ผ่านมาถึง 10 เท่า และมีความรุนแรงในระดับที่ใกล้เคียงกับพายุสุริยะที่รุนแรงที่สุด ที่มนุษย์เคยเจอมาเมื่อปี ค.ศ. 775 เลย ความรุนแรงขนาดนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ถูกรบกวนเท่านั้น แต่ยังมากพอที่จะลดระดับโอโซนของโลกลง จนสิ่งมีชีวิตต้องพบกับรังสีอัลตราไวโอเลตที่รุนแรงขึ้นด้วย แถมการค้นพบพายุสุริยะที่รุนแรงมากหลายครั้งเช่นนี้ ยังทำให้เราทราบว่าสภาพภูมิอากาศในอวกาศอาจจะเลวร้ายกว่าที่เราเคยคาดการณ์ไว้ และไม่แน่ว่าโลกอาจจะต้องพบกับพายุสุริยะที่รุนแรงอีกครั้งเร็วกว่าที่คิดด้วย ซึ่งหากเวลานั้นมาถึง และเราไม่มีการเตรียมการรับมือที่ดี พายุสุริยะนี้ก็อาจจะทำให้เราต้องเสียอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดาวเทียมหลายๆ ดวง และสุขภาพร่างกายของมนุษย์หลายๆ คนไปเลยก็เป็นได้ การค้นพบในครั้งนี้ทำให้ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้เตรียมการค้นหาร่องรอยอื่นๆ ของคลื่นสุริยะในอดีตบนโลกทันที เพราะจากคำบอกเล่าของ Raimund Muscheler หนึ่งในทีมวิจัยเอง…
-
โจรใจโฉด!! ย่องเข้าร้าน “ชานมไข่มุก” ตอนตี 3 ไม่พอ แอบชงกินเองอีกต่างหาก!!
ปี 2019 นี้ต้องบอกจริงๆ ว่าเป็นปีแห่ง “ชานมไข่มุก” เพราะอยู่ๆ มันก็กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกเฉย (ทั้งที่มันก็มีมานานละ) ทำให้มีเรื่องราวสุดแปลกและฮาตามมาด้วยเช่นกัน… หนึ่งในเรื่องสุดฮาและถือว่าเป็นความโชคร้ายของร้านชานมไข่มุกแห่งหนึ่ง ในเมืองแซคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อโจรจะเข้ามาขโมยเงิน แต่เห็นว่าเป็นร้านชาไข่มุกจึงกลายเป็นว่าเข้าทางเขาเลย!! โฉมหน้าโจรใจโฉดที่หวังขโมยเงินไม่พอ แต่ขอกินชาไข่มุกก่อนนะ ชายคนหนึ่งได้แอบงัดแงะเข้าไปในร้านชานมไข่มุกดังกล่าวที่มีชื่อว่า T4 Boba โดยกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพโจรรายนี้เอาไว้ในช่วงเวลาประมาณตี 3 ของวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2019 ภายในวิดีโอบันทึกของกล้องวงจรปิด จะเห็นว่าเขากำลังย่ำไปแถวเครื่องชงชานมไข่มุกเป็นอันดับแรก พร้อมทั้งพยายามอย่างทุลักทุเลเพื่อจะ “ชงชาดื่มเอง”… ด้านหน้าของร้าน T4 Boba ด้วยความที่ร้านไม่มีวัตถุดิบใดๆ เหลือไว้ โจรคนนี้จึงไม่สามารถชงชาไข่มุกได้ดั่งใจหวัง เขาจึงตัดสินใจเดินไปแถวเครื่องแคชเชียร์เพื่อจะขโมยเงิน แน่นอนว่าเครื่องแคชเชียร์มันต้องถูกล็อกอยู่แล้ว แต่เป็นโจรแล้วไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือไปบ้างก็กระไรอยู่!? เขาจึงยกทั้งเครื่องแคชเชียร์ออกไปด้วยโดยที่ไม่รู้เลยว่าด้านในนั้นไม่มีเงินเลยแม้แต่สลึงเดียว… (ร้านส่วนใหญ่จะไม่ทิ้งเงินไว้ในนั้นหลังปิดร้าน) ภาพที่แชร์หน้าร้านชานมไข่มุกพร้อมติดป้ายประกาศถึงโจรรายนี้ รุ่งเช้าวันต่อมาร้านจึงเปิดกล้องวงจรปิดดูทำให้ทราบว่าเครื่องแคชเชียร์หายไปไหน และที่ทำให้ร้านต้องขำกับเรื่องตลกร้ายนี้เพราะเขาพยายามจะชงไข่มุกด้วยนั่นเอง ภายหลังจึงมีการติดป้ายประกาศหน้าร้านไว้ว่า “ชายคนนี้ต้องรอไม่ไหวที่จะกินชานมไข่มุกของร้านเราแน่ๆ เลยมาตั้งแต่ตี 3 เพื่อจะทำกินเอง แต่โชคร้ายที่ร้านของเราชงสดใหม่ตลอดจึงไม่มีของค้างคืนให้เขาได้กินสมใจ …
-
โจรเข้าปล้นเหยื่อสาว ณ ตู้ ATM แต่ตัดสินใจคืนเงินให้เมื่อเห็นว่าไม่เหลือเงินในบัญชีแล้ว
ช่วงที่เรากำลังกดเงินจากตู้กดเงินอัตโนมัติ (ATM) นั้น ถือเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากบางทีก็มีมิจฉาชีพที่อาจจะแอบดูรหัสผ่านหรือรอโอกาสขโมยเงินที่เราเพิ่งกดมาอยู่ เหมือนอย่างเรื่องของสาวคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมนี้ เธอถูกโจรเข้าปล้นเงินขณะที่กำลังกดเงินอยู่ในที่เปลี่ยว แต่ในทันทีที่โจรเห็นยอดคงเหลือในบัญชี โจรก็สงสารและเลือกที่จะคืนเงินให้เหยื่อเสียอย่างนั้น วิดีโอบันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองเหอหยวน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ขณะที่เหยื่อสาวแซ่ลี้กำลังกดเงินจากตู้กดเงินของธนาคาร ICBC อยู่นั้น จู่ๆ โจรปริศนาก็พุ่งเข้ามาข้างหลังเธอ พร้อมกับมีดเล่มหนึ่ง ก่อนจะขู่ให้เธอส่งเงินที่กดมาให้เขาให้หมด ด้วยความกลัวที่จะถูกทำร้าย เธอจึงยอมส่งเงินจำนวน 2,500 หยวน (12,000 บาท) ให้แก่โจรโดยดี แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนโจรจะยังไม่พอใจและบังคับขอดูเงินเหลือใบบัญชีของเหยื่อ ทันทีที่ได้เห็นว่าเงินในบัญชีของเธอไม่มีเหลืออยู่แล้ว โจรก็ดูเหมือนจะสงสารและตัดสินใจที่จะส่งเงินที่ตัวเองเพิ่งปล้นมาคืนให้กลับเหยื่อไป ก่อนจะเดินยิ้มออกจากธนาคารออกมา แต่อย่างไรก็ตาม ความเมตตาในครั้งนั้นของโจร ก็ไม่ได้ช่วยให้เขารอดพ้นจากอาชญากรรมที่เขาก่อเอาไว้ เนื่องจากภายหลังทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถตามจับเขามาลงโทษตามกฎหมายได้สำเร็จ ที่มา Nextshark, Shanghai.ist
-
นักบินต้องวนเครื่องบินกลับฉุกเฉิน หลังมีผู้โดยสารนึกได้ว่าลืม “ลูก” เอาไว้ที่สนามบิน
#เหมียวโคบี้ เชื่อว่าสิ่งที่เพื่อนๆ หลายคนมักกังวลอยู่เสมอก่อนที่จะออกเดินทางไกล ก็คือการลืมสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องสำอาง หรืออาจจะเป็นโทรศัพท์ เช่นเดียวกับเรื่องของคุณแม่คนหนึ่งที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ เพียงทว่าสิ่งที่เธอลืมไม่ใช่สิ่งของต่างๆ แต่เป็น “ลูกของเธอ” ต่างหาก!! วันที่ 11 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ Gulf News ได้ทำการรายงานเกี่ยวกับเที่ยวบิน SV832 ซึ่งบินจากประเทศซาอุดีอาระเบียไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเที่ยวบินดังกล่าวต้องทำเรื่องบินกลับฉุกเฉินหลังมีผู้หญิงคนหนึ่งแจ้งว่าเธอลืมลูกของตัวเองไว้ที่ สนามบินนานาชาติ King Abdul Aziz วิดีโอข้างต้นนี้เป็นวิดีโอที่ถูกบันทึกขึ้นในระหว่างนักบินคุยกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Controller) เพื่อขอบินกลับไปยังสนามบินต้นทางอีกครั้ง “ขอพระเจ้าจงสถิตอยู่กับเรา ตอนนี้ขอผมกลับสนามบินก่อนได้มั้ย เที่ยวบินนี้มีคำร้องให้บินกลับไป มีผู้โดยสารคนหนึ่งลืมลูกของเธอไว้ที่สนามบิน เป็นเรื่องที่น่าสงสารมากๆ” นักบินพูดกับเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะถามเหตุผลกับนักบินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ก่อนที่นักบินจะตอบกลับมาว่า “เราบอกคุณแล้วไง มีผู้โดยสารลืมลูกเอาไว้ในสนามบินและเธอปฏิเสธที่จะขึ้นเครื่องต่อ” สุดท้ายทางหอควบคุมจราจรทางอากาศก็ยอมให้เที่ยวบินดังกล่าววนกลับมาเพื่อรับลูกของผู้โดยสารหญิงคนดังกล่าวได้ และเมื่อเรื่องดังกล่าวถูกแชร์ออกไปในอินเตอร์เน็ต ก็มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมยกย่องนักบินเป็นอย่างมาก สำหรับน้ำใจของมนุษย์ที่เขามีให้แก่ผู้โดยสาร แต่กลับกันบางส่วนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นตำหนิคุณแม่คนดังกล่าว เนื่องจากเธอไม่ระมัดระวังและประมาทจนทำให้เธอลืมลูกของตัวเองเอาไว้ที่สนามบิน ที่มา Unilad,…
-
หญิงมีปัญหากระดูกสันหลัง เมื่อน้ำหนักเพิ่มมา 40 กิโล จากเหตุที่แฟนทำอาหารอร่อยเกินไป
มันคงจะดีไม่ใช่น้อยหากได้ใช้ชีวิตคู่ แต่งงานกับคนที่มีเสน่ห์ปลายจวัก ทำอาหารอร่อย แค่คิดว่าจะได้ทานอาหารของคู่ชีวิตในแต่ละมื้อก็ฟินแล้วล่ะ! เช่นเดียวกันกับหญิงสาวชาวจีนไม่เปิดเผยตัวตนรายหนึ่ง ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ที่มีสามีทำอาหารให้ทานทุกวัน จนตอนนี้น้ำหนักเธอพุ่งพรวดกว่า 40 กิโล ภายในระยะเวลา 2 ปี ในช่วงวัย 20 กว่าปีเท่านั้นเอง นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เธอต้องเข้ารับการรักษาด้านปัญหากระดูกสันหลัง อาการป่วยของเธอเกิดขึ้นเพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ทำให้เกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และมีอาการบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลังส่วนล่าง เธอเล่าว่าเป็นเพราะสามีเธอทำอาหารได้อร่อยมากจนเกินไป “รสชาติอาหารของสามีฉันนั้นไร้ที่ติ และในรอบสองปีมานี้ เขาทำเนื้อให้ฉันทานบ่อยมากๆ” “ตอนก่อนแต่งงานนั้น น้ำหนักฉันอยู่ที่ 60 – 65 กิโล แต่ตอนนี้ น้ำหนักฉันมันเลยเถิดมาจนถึง 100 กิโลแล้ว น้ำหนักฉันเพิ่มถึง 40 กิโล ภายในระยะเวลาแค่ 2 ปี” ในขณะเดียวกัน น้ำหนักของสามีเธอเพิ่มขึ้นมาแค่ 5 กิโลในระยะเวลาเท่ากัน เธอยังเล่าต่อว่า “สามีฉันสูง 190 เซนติเมตร แต่กลับมีน้ำหนักแค่ 75 กิโลเอง” …
-
สองเพื่อนร่วมงานสุดซี้ รู้ความจริงว่าเป็น “พ่อ-ลูก” กัน หลังแอดเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก
เรื่องราวต่อไปนี้ถือว่าน่าเหลือเชื่อ เมื่อหนุ่มจากเมือง Chippewa Falls รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา มารู้ในภายหลังว่าเพื่อนร่วมงานของเขาคือ “พ่อที่แท้จริง” ของตัวเอง… ชายคนนี้มีชื่อว่า Nathan Boos หนุ่มอนาคตไกลวัย 27 ปี ที่ผ่านไปแล้วกว่ายี่สิบปีถึงได้กลับมาพบคุณพ่อที่แท้จริงของเขาอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยสงสัยในอดีตของตัวเอง จนกระทั่งแม่บุญธรรมของเขาเกิดสงสัยขึ้นมาว่า “เอ๊ะ!? ชายคนนี้บนเฟซบุ๊กเขาคือคนเดียวกันกับพ่อจริงๆ ของ Nathan หรือเปล่า?” Nathan Boos ชายผู้เปิดบริษัทรถบรรทุกเป็นของตัวเอง ย้อนไปตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ชีวิตของเขาดำเนินไปอย่างเรียบง่าย หลังจบจากมัธยมปลายเขาจึงได้เปิดบริษัทรถบรรทุกเป็นของตัวเอง และได้พบ Nicole Marie Hein หญิงสาวที่เขารักมาก ก่อนที่จะหมั้นกันในที่สุด แม้ว่า Nathan ถูกรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่ชีวิตที่ผ่านมาเขาก็มีความสุขมาตลอด ทำให้เขาไม่เคยคิดสงสัยเรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่ที่แท้จริงเลย แฟนสาวที่ Nathan รักสุดหัวใจ Nicole Marie Hein วันหนึ่งพ่อบุญธรรมของเขาเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่ Nathan เด็ก เขาดูจะมีความผูกพันกับรถยนต์และรถบรรทุกมาก เหมือนกับว่าสิ่งนี้มันอยู่ใน “สายเลือด” ของเขา เพราะคำพูดนี้นี่เองที่ทำให้…
-
เด็กหญิงถูกขังไว้ในบ้านรังหนูตั้งแต่กำเนิด ตัดขาดจากโลกภายนอกมาแล้วกว่า 5 ปี
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2019 ที่กรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย มีรายงานพบเด็กผู้หญิงอายุ 5 ขวบถูกทิ้งอยู่เพียงลำพังในห้องพักที่เต็มไปด้วยขยะส่งกลิ่นเหม็นและมีแมลงสาบอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงสวมชุดป้องกันสารเคมีเข้าช่วยเหลือ และนำตัวเด็กผู้หญิงคนนี้ออกมา โดยทราบภายหลังว่าเธอชื่อ Lyubov หรือ Love ถูกแม่ที่ชื่อว่า Irina Garashchenko วัย 47 ปีทิ้งไว้ สภาพภายในที่พักเต็มไปด้วยขยะและแมลงสาบ เด็กผู้หญิงคนนี้มีรูปร่างผอมติดกระดูก ร่างกายอ่อนเพลีย มีสร้อยติดอยู่กับผิวหนังที่คอ คาดว่าเด็กสวมใส่สร้อยเส้นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว เธอไม่สามารถสื่อสารเป็นคำพูดได้ เพียงแต่ส่งเสียงร้องออกมา และยังกลัวการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก ซึ่งแตกต่างจากเด็กทั่วไป เมื่อชาวบ้านมาพบเด็กคนนี้สวมเสื้อผ้าสกปรก นั่งร้องไห้อยู่ริมหน้าต่างรอแม่ของเธอด้วยความหิวโหย จึงรีบทำการช่วยเหลือก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สร้อยคอติดอยู่กับผิวหนังที่คอของเด็กหญิง . นอกจากนั้นชาวบ้านเล่าว่าเห็นแม่ของเด็กผู้หญิงคนนี้ได้พาเธอเข้ามาอยู่ที่นี่เมื่อห้าปีก่อน และหลังจากนั้นแม่ของเธอก็บอกกับคนอื่นว่า ลูกสาวของเธอได้ย้ายไปอยู่กับคุณยายแล้ว แต่ความจริงแล้วเด็กผู้หญิงคนนี้ยังอาศัยอยู่ที่นี่โดยถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ให้อยู่ในห้องคนเดียว หลังจากได้รับความช่วยเหลือ แม่ของเธอก็กลับมาและถูกชาวบ้านจับตัวเอาไว้ และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมให้ข้อหา “พยายามฆ่า” อย่างไรก็ตามเด็กน้อยคนนี้ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัยแล้ว โชคดีที่เธอไม่ถูกทิ้งไว้จนได้รับอันตรายไปก่อน ที่มา: dailymail, thesun
-
ชายผู้รอดชีวิตจากเที่ยวบินมรณะ ET302 มาขึ้นเครื่องไม่ทัน ก่อนจะรู้ชะตากรรมของทุกคนบนนั้น
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมานั้น ได้มีรายงานว่า เครื่องบิน โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ ET302 ตกบริเวณทางตะวันออกเฉียงใต้ ของกรุงอาดดิสอาบาบา เมืองหลวงของประเทศเอธิโอเปีย โดยเที่ยวบิน ET302 เริ่มต้นการเดินทางจากกรุงอาดดิสอาบาบา ไปยังกรุงไนโรบี เมืองหลวงของประเทศเคนยา ส่งผลให้ผู้โดยสารทั้ง 149 คน และลูกเรือ 8 คน รวมทั้งหมด 157 คนเสียชีวิตทั้งหมด โดยพยานผู้พบเห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เห็นเครื่องบินหักเลี้ยวอย่างกะทันหัน และลดระดับความสูงลงก่อนจะตกลงมา แต่ใครจะเชื่อว่านาย Antonis Mavropoulos ชายชาวกรีก ประธานสมาคมไม่แสวงผลกำไร International Solid Waste Association รอดจากการเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตอย่างหวุดหวิด เพราะเขามาขึ้นเครื่องช้าไป 2 นาที หากเขาไม่พลาดขึ้นเครื่องบินเที่ยวนี้ เขาอาจเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 158 ก็เป็นได้ Antonis กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า…
-
ตำรวจลงทุนแต่งสาว เตือนภัยหลอกรักออนไลน์ แต่สวยเกิน ชาวเน็ตเลยขอให้สอนแต่งหน้าที
ข้อดีของยุคออนไลน์ คือการที่ทุกคนสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็ว แต่ข้อเสียก็มีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องของมิจฉาชีพที่ปะปนมากับคนที่เราสนทนาด้วย วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มคนหนึ่งก็เลยทำคลิปปลอมตัวเป็นผู้หญิง เพื่อเตือนภัยให้ประชาชนได้รู้ เกี่ยวกับมิจฉาชีพที่ชอบมาในรูปแบบสาวสวย แต่ดูเหมือนจะแต่งสวยไปหน่อย ชาวเน็ตเลยบอกให้ช่วยสอนแต่งหน้าให้ซะงั้น ในโลกออนไลน์ประเทศจีนขณะนี้ การหลอกให้เดตออนไลน์แล้วหลอกลวงเอาทรัพย์ (Catfishing Scams) นั้นกำลังระบาดเป็นอย่างมาก ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนนั้นกำลังหาทางรับมือกับเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ Xie Junhui นายตำรวจหนุ่มจากมณฑลกวางตุ้งก็ได้ปิ๊งไอเดียสลัดเครื่องแบบและออกมาแต่งหน้าพร้อมใส่วิก อัดเป็นวิดีโอเพื่อเตือนภัยประชาชน ในวิดีโอเราจะเห็นได้ว่าเขามีการแต่งหน้า ทำผมและจัดแสงเพื่อแสดงให้เห็นว่าใครๆ ก็สามารถกลายเป็นผู้หญิงสวยได้ง่ายๆ และในตอนสุดท้ายของวิดีโอเขาก็ถูกจับโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคนหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้พูดทิ้งท้ายไว้ในวิดีโอว่า “โปรดระมัดระวังเป็นพิเศษเวลาทำการเดตออนไลน์และระวังพวกมิจฉาชีพให้ดี” . หลังจากวิดีโอดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย ก็กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็วรวมถึงชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย “วิดีโอต่อไป ฉันอยากให้เขาทำวิดีโอสาธิตการแต่งหน้าจัง” ชาวเน็ตคนหนึ่งคอมเมนต์ขึ้นมา “เหยดเข้ ฉันคิดว่าเป็นผู้หญิงซะอีกในตอนที่ฉันดูครั้งแรก แต่งหน้าได้เจ๋งไปเลย” ชาวเน็ตอีกคนกล่าว “แต่งหน้าเหมือนผู้หญิงได้ไม่เลวเลยนะ! ขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่กำลังคอยช่วยเหลือประชาชน!” อีกคนกล่าว ที่มา Nextshark, SCMP
-
ศิลปินเปลี่ยนแมนชันร้างกว่า 20 ปี เป็นที่จัดนิทรรศการโชว์ผลงานศิลปะสุดล้ำ
ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปินแล้ว หยิบจับอะไรก็กลายเป็นงานศิลปะที่งดงามไปเสียทุกอย่าง จากภาพเดิมๆ ที่คุ้นตา ก็สามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งใหม่ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมากขึ้นกว่าเดิม เหมือนโปรเจกต์ “Empire” ที่เริ่มต้นขึ้นมาโดยศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Rone คนนี้ ที่เปลี่ยนแปลงแมนชันที่ถูกทิ้งร้างมากว่า 20 ปี เป็นผลงานสถานที่โชว์ผลงานศิลปะสุดล้ำ แมนชันแห่งนี้ตั้งอยู่บนทิวเขา Dandenong เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียแห่งนี้ถูกตกแต่งด้วยงานศิลปะหลากหลายชิ้น ภายในแมนชันประกอบไปด้วยของโบราณกว่า 500 ชิ้น มีแกรนด์เปียโนตั้งอยู่ตรงกลางของห้อง และผลงานทัศนศิลป์แสดงในห้อง 12 ห้องที่ออกแบบแตกต่างกัน โดยอาศัยองค์ประกอบของแสง เสียง หรือแม้กระทั่งกลิ่น โดยปกติแล้วที่นี่เป็นสถานที่ปิด ห้ามให้คนนอกเข้า แต่ Rone ได้เปิดแมนชันแห่งนี้ให้คนเข้าชมในระหว่างวันที่ 6 มีนาคม – 22 เมษายน 2019 นี้ มาลองชมภาพตัวอย่างของสถานที่แห่งนี้พร้อมๆ กัน ห้องนอนตกแต่งด้วยโทนสีม่วง ข้าวของบางส่วนของแมนชันแห่งนี้ยังถูกวางไว้ที่เดิม แม้เพดานและผนังบางส่วนจะเสื่อมโทรมตามอายุ แต่ก็ยังคงความสวยงามไว้ได้ ภาพวาดบนผนังทำให้ที่แห่งนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น องค์ประกอบของแสงและเงาทำงานงานศิลปะดูโดดเด่นกว่าเดิม แต่ละมุมในแมนชันแห่งนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป …