Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
ชาวฮินดูเผลอกินเนื้อวัวเพราะห้างติดป้ายผิด เรียกค่าชดใช้เป็นตั๋วกลับไปทำ “พิธีชำระบาป”
ใน “ศาสนาฮินดู” นั้น “วัว” ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพาหนะของพระศิวะ ทำให้การบริโภคอาหารหรือใช้เครื่องใช้ที่ทำมาจากวัวนั้นถือเป็นเรื่องที่บาปอย่างมหันต์ ดังนั้นชาวฮินดูคนที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้จึงพยายามเรียกค่าเสียหายเป็นตั๋วกลับไปทำพิธีชำระบาปที่ประเทศอินเดีย กับห้างแห่งหนึ่งในประเทศนิวซีแลนด์ เพราะทางห้างติดป้ายเนื้อวัวเป็นเนื้อแกะ ทำให้เขาหลงเข้าใจผิดและกินมันไป วันที่ 11 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ Stuff ได้ทำการรายงานเกี่ยวกับ Jaswinder Paul หนุ่มอินเดียที่ย้ายมาอยู่ในเมือง Blenheim ประเทศนิวซีแลนด์เมื่อ 20 ปีก่อน โดยเขาได้ทำการเรียกร้องเอาค่าใช้จ่ายเพื่อกลับไปทำพิธีชำระบาปจากห้าง Countdown หลังมีเหตุติดป้ายสินค้าผิดจนทำให้เขาเผลอทานเนื้อวัวเข้าไปด้วยความไม่รู้ “ตามศาสนาของผม ผมต้องกลับประเทศของผมไปและทำพิธีศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลา 4 ถึง 6 สัปดาห์และยังต้องชำระบาปโดยนักบวช ผมถึงจะได้นับถือศาสนาต่อไปได้ มันเป็นพิธีกรรมที่นานมาก” Paul ได้ให้สัมภาษณ์ ซึ่งทางโฆษกของห้าง Countdown ก็ได้ให้สัมภาษณ์กลับว่า “โชคไม่ดีที่ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทางห้างของเราได้มีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการติดป้ายสินค้าเกิดขึ้น ซึ่งสร้างความสับสนให้แก่ลูกค้าอย่างชัดเจน พวกเราต้องขอโทษที่ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น พวกเราขอแสดงความเคารพและนับถือในความเชื่อของคุณ Paul และขอยืนยันว่าเราไม่มีความตั้งใจที่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดกับป้ายสินค้าครั้งนี้” รวมถึงทางห้าง Countdown ได้เสนอกิฟต์วอยเชอร์มูลค่า 200 เหรียญสหรัฐ (6,300…
-
เปิดคดี Gypsy Rose เด็กหญิงที่ถูกบังคับ ‘ป่วยมะเร็ง’ ฆาตกรรมแม่ตัวเอง หลังถูกใช้หากินจากความสงสาร
โศกนาฏกรรมภายในครอบครัวถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ฆ่าลูก หรือ ลูกลงมือฆ่าพ่อแม่ แต่ทุกการกระทำมักจะมีสาเหตุของมันเสมอ เช่นเดียวกันกับคู่แม่ลูกคู่หนึ่งนามว่า Dee Dee Blanchard และ Gypsy Rose Blanchard ที่ลูกสาวได้ตัดสินใจฆาตกรรมแม่ของตนเอง โดยเรื่องราวสุดน่าสลดใจนี้เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องมีอยู่ว่าผู้เป็นแม่ Dee Dee ได้ให้กำเนิดลูกสาวชื่อ Gypsy ซึ่งก็เหมือนแม่ทั่วไปที่มีความรัก ความห่วงใยต่อลูก คอยประคบประหงม ดูแลเลี้ยงดูราวกับไข่ในหิน นั่นทำให้ข่าวการตายของ Dee Dee เป็นที่ฮือฮามาก หลังจากพบว่าเมื่อเธอตายไปแล้ว Gypsy ก็ได้หายไปพร้อมๆ กัน จนผู้คนต่างสงสัยว่าฆาตกรนั้นอาจลักพาตัว Gypsy ไปด้วยก็ได้ การค้นหานักโทษอย่างละเอียดได้เริ่มต้นขึ้น และ Gypsy ก็ถูกพบหลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมของแม่เธอเพียงแค่ 1 วัน แต่ Gypsy นั้นได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่ทุกคนเคยได้ยินมา เพราะ Gypsy ที่ตำรวจเจอคือคนที่เข้มแข็ง สามารถทำกิจวัตรปกติได้เหมือนคนทั่วไป แทนที่จะเป็นสาวขี้โรค อ่อนแอ…
-
ร่วมปกป้องโลกมักเกิล เกม Harry Potter: Wizards Unite เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าแล้ว!
หลังจากเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เกิดกระแส “Pokemon Go” ฟีเวอร์ ผู้คนต่างก้มหน้า จับสมาร์ทโฟน ตั้งใจหาโปเกม่อนกันอย่างสนุกสนานและยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน จนในที่สุด Ninantic Inc. ผู้พัฒนาเกม Pokemon Go และ Warner Bros. เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ Harry Potter ก็ได้ฤกษ์ปล่อยตัวอย่างเกม Harry Potter: Wizards Unite ออกสู่สายตาชาวมักเกิลสักที หลังจากที่ได้ประกาศพัฒนาเกมอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2017 ที่ผ่านมา ภาพโปรโมทจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ในเกมดังกล่าว ผู้เล่นทุกคนจะสามารถเข้าร่วมผจญภัย ไปสัมผัสกับความจริงในโลกเวทมนตร์ สวมบทบาทเป็นพ่อมดและแม่มดจากโลกนวนิยาย Harry Potter ไม่เพียงเท่านั้น ตัวละครในเกมยังสามารถร่ายคาถา และเข้ารวมทำภารกิจต่างๆ เพื่อปกป้องโลกของเหล่ามักเกิลจากเหล่าสัตว์วิเศษและพ่อมดแม่มดฝ่ายอธรรม โดยเรื่องราวในเกมคือที่ Wizards Unite ซึ่งผู้เล่นนั้นจะเป็นสมาชิกของ Statute of Secrecy Task Force คือกลุ่มที่ทำงานเพื่อปกป้องกฎกระทรวงเวทมนตร์ ที่พ่อมดและแม่มดไม่สามารถเปิดเผยให้มักเกิลรับรู้ได้ว่าโลกแห่งเวทมนตร์นั้นมีอยู่จริง และเพื่อหยุดหายนะจากพลัง “Calamity” ในโลกมักเกิล…
-
ร้านตัดผมใจดี “แจกถุงยางฟรี” ให้ลูกค้า แต่นี่เล่นแม็กติดกับนามบัตรมา แล้วจะให้ทำไง?!
ใครๆ ก็ชอบของฟรีกันทั้งนั้นใช่มั้ยล่ะ ยกตัวอย่างร้านอาหารทั้งหลายส่วนใหญ่ที่มักจะแจกลูกอมมิ้นต์หลังจ่ายเงิน เช่นเดียวกันกับเจ้าของร้านบาร์เบอร์แห่งหนึ่งที่มีนโยบาย “แจกถุงยางฟรี” หลังตัดผมเสร็จ… ห๊ะ?! ตอนแรกลูกค้าดูเหมือนจะดีใจที่ได้ของฟรีกันถ้วนหน้า เพียงแต่ว่าพอหยิบมาดูใกล้ๆ แล้วกลับบ่นระนาวเสียนี่… ก็เพราะพี่แกเล่นแม็กกลางถุงยางติดกับนามบัตรเลย!! Jake Gamez เจ้าของร้านบาร์เบอร์ FADEAWAY ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา นึกไอเดียเจ๋งๆ ขึ้นมาได้เพราะเขาคิดว่าหนุ่มคนไหนที่มาตัดผมกับร้านเขา หลังจากนั้นก็จะมีโอกาสได้ใช้ถุงยางเป็นแน่แท้ (รู้ได้ไงนิ) โพสต์ที่ Jake Gamez แชร์ลงบนทวิตเตอร์ (10 มี.ค. 2019) “ต้องติดไอ้นี่เข้าไปทุกนามบัตรเลย พวกคุณจะต้องได้ใช้มันแน่หลังตัดผมให้ เชื่อผมสิ” Gotta include one of these with every card! You’re going to need it after I cut your hair 💈🥇Trust me 🙌🏼 pic.twitter.com/V8XEusCgoe — jake gamez🐍💈…
-
คุณพ่อเปิดร้านโดนัทใหม่ ไม่มีลูกค้ามาเยี่ยมเยียน ลูกชายร้องโซเชียลช่วย-ลูกค้าแห่มาตรึม
ทุกอย่างในโลกล้วนมีสองด้านเสมอ เช่นเดียวกับการใช้โซเชียลมีเดียต่างๆ ที่ถ้าใช้ให้เป็นโทษ ก็จะเกิดโทษ แต่ถ้าใช้ให้เป็นประโยชน์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะมีแต่เรื่องดีๆ เช่นกัน อย่างเช่นเรื่องราวสุดประทับใจนี้ ที่เกิดขึ้นที่เมือง Houston รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ทำการโปรโมทร้านขายโดนัทของคุณพ่อตัวเอง ผู้ใช้รายนี้ชื่อว่า Billy By ได้เปิดเผยเรื่องราวผ่านทวิตเตอร์ของเขาเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2019 ผ่านทวิตเตอร์ชื่อว่า @hibillyby ถึงเรื่องร้านโดนัทของคุณพ่อเขา ชื่อร้านว่า Billy’s Donuts โดย Billy เล่าว่าคุณพ่อของเขาพึ่งเริ่มต้นเปิดร้านโดนัทร้านใหม่ พร้อมกับอัพโหลดภาพคุณพ่อภายในร้านที่ว่างเปล่า เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่สนใจได้มาลองซื้อชิม “คุณพ่อผมยืนเศร้าอยู่ในร้านโดนัทร้านใหม่เพียงลำพังเพราะไม่มีใครมาอุดหนุนเลยครับ” ภาพบรรยากาศภายในร้าน เชื่อไหมว่าแค่เพียงไม่นาน ทวิตเตอร์ของเขามียอดรีทวิตมากกว่า 242,000 รีทวิต และยอดไลค์กว่า 500,000 ไลค์ และนั่นทำให้นักล่าโดนัททั้งหลายแห่มาอุดหนุนตามที่อยู่ที่ Billy ให้ไว้ และโดนัทที่ร้านก็ขายหมดภายในพริบตา โดนัทสดๆ ใหม่ๆ จากเตา ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากเขาได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงอินสตาแกรมของร้าน ก็มีผู้คนจำนวนมากเข้าไปติดตาม…
-
รวม 5 เมืองแห่งนิทรรศการจากทั่วโลก ที่คนชอบงานออกแบบต้องไปเดือน มี.ค. เท่านั้น ปักหมุดไว้เลย!!
ใกล้จะเข้าสู่กลางเดือนมีนาคม 2019 กันแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วในเดือนนี้ เมืองดังๆ ทั่วโลกมักจะจัดงานเกี่ยวกับศิลปะและการออกแบบมากที่สุดในรอบหนึ่งปีทีเดียว แต่ละเมืองที่เลือกจัดนิทรรศการในเดือนนี้บอกได้เลยว่าเป็น “สวรรค์ของชาวดีไซเนอร์และสถาปนิก” อย่างแท้จริง และครั้งนี้ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข24 จะพาทุกคนไปดูกับ 5 อันดับเมืองที่หากใครชื่นชอบงานออกแบบและงานสถาปัตยกรรมจะต้องไปเยือนสักครั้งในเดือนมีนาคมให้จงได้… 1. นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ไม่เพียงแค่ความฝันของดีไซเนอร์เท่านั้น แต่น่าจะเป็นความฝันของใครหลายๆ คนด้วยที่อยากจะไปเยือนมหานครนี้ ภายในเดือนมีนาคมของทุกปีจะมีการจัดงานครบรอบ 25 ปีของ Armory Show ที่แสดงผลงานศิลปะถึงมากถึง 194 งานจากทั่วโลก ต่อจากงานนั้น ในวันที่ 13-23 มีนาคม จะเป็นงานของ Asia Week ที่รวบรวมงานศิลปะทั่วทวีปเอเชียมาให้ชมกัน 21-24 มีนาคม เป็นงานของ Architectural Digest Design Show ที่สถาปนิกและนักออกแบบภายในไม่ควรพลาด เพราะมีโชว์เฟอร์นิเจอร์จาก 400 แบรนด์ทั่วโลก รวมทั้งงานสัมมนาที่มีสถาปนิกระดับโลกมาร่วมงานด้วย หากยังจุใจไม่พอ ใครที่ไปถึงที่นั่นแล้วสามารถเข้าไปดูแถวแม่น้ำ Hudson ได้ ซึ่งมีตึกสร้างใหม่ขึ้นมามากและถือว่าเป็นย่านเกิดใหม่ของที่นี่ อาคารแกลอรี่ของบริษัทสถาปนิกชื่อดัง Diller…
-
ประเทศจีนพบ “ต่อยักษ์” ตัวใหญ่ที่สุดในโลก คาดอาจเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยถูกพบมาก่อน
เชื่อว่าคงมีเพื่อนๆ หลายคนไม่น้อยเลยที่กลัวตัวต่อ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายเท่าไหร่ เพราะในประเทศหลายๆ ประเทศ (อย่างเช่นญี่ปุ่น) ในปีหนึ่งเราก็จะเห็นข่าวคนตายเพราะโดนตัวต่อต่อยกันอยู่บ่อยๆ แถมเจ้าแมลงชนิดนี้ ยิ่งตัวใหญ่เท่าไหร่ก็จะยิ่งดุร้ายขึ้นเสียด้วย ดังนั้นในตอนที่นักกีฏวิทยาของจีนได้ค้นพบต่อยักษ์ที่คาดว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในมณฑลยูนนาน ทางสำนักข่าวทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับข่าวในครั้งนี้กันเป็นอย่างมาก โดยเจ้าต่อยักษ์ที่ถูกค้นพบในครั้งนี้นั้นมีความกว้างปีกอยู่ที่ 9.35 เซนติเมตร และมีขนาดลำตัวที่ยาวถึง 6 เซนติเมตร ซึ่งใหญ่กว่า ต่อยักษ์ที่เคยมีการพบมาก่อนหน้ามาก แถมเจ้าต่อยักษ์เหล่านี้ยังไม่ได้มีเพียงตัวเดียวอีกด้วย เพราะมันถูกพบพร้อมๆ กับรังขนาดใหญ่ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 2 เมตรอีกด้วย เรียกได้ว่าอันตรายมากๆ เลยก็ไม่ผิดนัก น่าเสียดายที่รังของต่อยักษ์ที่ถูกพบในครั้งนี้ไม่มีราชินีอยู่ เพราะตามปกติแล้วราชินีต่อจะมีขนาดใหญ่กว่าต่ออื่นๆ ในรังอีกทีหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ ขนาดของต่อยักษ์ที่ถูกบันทึกไว้ใหญ่ยิ่งกว่าที่มีการบันทึกไว้อีก ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในประเทศจีนบอกว่านี่ไม่เพียงแต่เป็นต่อยักษ์เอเชียที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการพบมาเท่านั้น แต่ต่อยักษ์เหล่านั้นยังมีโอกาสที่จะเป็นต่อยักษ์สายพันธุ์ใหม่อีกด้วย เนื่องจากที่ผ่านๆ มาไม่มีต่อยักษ์ที่มีขนาดโดยรวมใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย อย่างไรก็ตามต่อที่พบนี้จะเป็นสายพันธุ์ใหม่จริงๆ หรือไม่นั้นก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องมีการตรวจสอบกันต่อไปในปัจจุบันอยู่ดี ที่มา ladbible, dailymail,
-
ช่างภาพหนุ่มเกิดไอเดีย ถ่ายรูปหน้าคน ตอนไม่ใส่เสื้อผ้า เปรียบเทียบการแสดงสีหน้า กับตอนปกติ
หากดูรูปภาพของหญิงสาวด้านล่างนี้ในครั้งแรก คุณอาจไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง และอาจคิดได้ว่าสองภาพนี้ถูกถ่ายในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ความจริงแล้วนั้น รูปภาพฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ถูกถ่ายขณะที่ผู้หญิงคนนี้ไม่สวมใส่เสื้อผ้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ในขณะที่อีกรูปหนึ่งนั้นใส่เสื้อผ้าตามปกติ โปรเจกต์ถ่ายภาพชุดนี้เป็นของช่างภาพชาวแคนาดานามว่า Dylan Hamm เขาสร้างขึ้นในเดือนมกราคม ปี 2016 โดยเขาได้สร้างโปรเจกต์การถ่ายภาพระยะใกล้ของคนแปลกหน้า และจะโฟกัสแค่เฉพาะบริเวณใบหน้า เพื่อเปรียบเทียบการแสดงออกทางสีหน้า ระหว่างการแสดงออกในขณะสวมใส่เสื้อผ้าปกติ และสีหน้าขณะที่ไม่สวมใส่อะไรเลย นั่นทำให้โปรเจกต์นี้น่าสนใจมากขึ้นเพื่อให้ผู้ชมค้นหาความจริง และคาดเดาจากการวิเคราะห์การแสดงออกของใบหน้าเปรียบเทียบกัน Dylan กล่าวว่า “แรงกระตุ้นที่ทำให้เกิดโปรเจกต์นี้เพราะผมเกิดคำถามกับตัวเองมาเป็นปีว่ามนุษย์เรานั้นสามารถแสดงออกทางสีหน้าได้แค่ไหนกันขณะที่ไม่รู้สึกตัว” “ผมจึงสร้างโปรเจกต์นี้ขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ความคิดที่ว่าเราต่างแสดงออกทางหน้าตามากกว่าที่เรารู้ตัวซะอีก” “ถือได้ว่าการโป๊ต่อหน้ากล้องเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ในการออกจาก comfort zone เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง” Dylan กล่าว เขายังบอกอีกว่า “ผมไม่ได้เจาะจงว่ารูปภาพฝั่งไหนคือฝั่งที่ใส่เสื้อผ้าและไม่ใส่ เพื่อให้เกิดความท้าทายแก่ผู้พบเห็น และมันอาจต้องมองภาพให้ใกล้ขึ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจเช่นกัน” “ดังนั้น ผมจึงเลือกที่จะไม่เฉลยว่าภาพไหนเป็นภาพไหน เพื่อเอื้อให้เกิดบทสนทนาระหว่างผู้ชมด้วยกันในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น” ลองรับชมภาพต่างๆ ดังต่อไปนี้ และวิเคราะห์การแสดงออกทางสีหน้าของแต่ละภาพดูสิว่ามันสามารถสื่อสารกับเราได้หรือไม่ ไปชมกันเลย… สีหน้าของเธอช่างแตกต่างกันแต่ก็คาดเดายากเหลือเกิน เขากลั้นหัวเราะเพราะแก้อาการเขินขณะไม่ใส่เสื้อผ้ารึเปล่านะ? สีหน้าของเธอแทบไม่เปลี่ยนเลย ช่างยากเกินจะคาดเดาจริงๆ เดาไม่ถูกแล้ววววว . …
-
แคนาดาปล่อยหมาป่า กระโดดร่มลงพื้นที่อุทยาน ควบคุมประชากรกวางมูสตามวิถีธรรมชาติ
ห่วงโซ่อาหาร คือ การที่ธรรมชาติแบ่งสิ่งมีชีวิตออกเป็น ผู้ล่า และ ผู้ถูกล่า เพื่อสร้างสมดุลในระบบนิเวศ โดยสัตว์ทุกระดับนั้นต่างมีปฏิสัมพันธ์กันเป็นระบบ เพื่อไม่ทำให้ระบบนิเวศเสียความสมดุล เช่นเดียวกันกับที่อุทยานแห่งชาติไอร์รอยาล (Isle Royale National Park) ณ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ต้องการทั้งผู้ล่า คือหมาป่า และผู้ถูกล่า คือกวางมูส ให้มีจำนวนที่สมดุลกัน มีรายงานว่าหมาป่าสายพันธุ์แคนาดาถูกปล่อยจากเครื่องบินลงที่รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์เพื่อทำภารกิจสำคัญถึง 2 ภารกิจด้วยกันคือ ล่ากวางมูส และผสมพันธุ์ หมาป่าทั้ง 4 ตัวถูกจับโดยผู้ชำนาญเฉพาะทางของกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งเมืองออนตาริโอ (Ontario Ministry of Natural Resources and Forestry) และถูกขนย้ายไปยังอุทยานแห่งชาติไอล์รอยาล ที่ซึ่งสัตว์ป่าถูกปกป้องจากอันตรายท่ามกลางเกาะในทะเลสาบสุพีเรีย (Lake Superior) การย้ายที่อยู่ใหม่ให้กับหมาป่านั้นเกิดขึ้นเพื่อจัดการปัญหาประชากรกวางมูสมากเกินไปในเขตอุทยาน และเพื่อฟื้นฟูจำนวนประชากรผู้ล่าด้วยเช่นกัน หลังจากที่อุทยานไอร์รอยาลประสบปัญหาจำนวนหมาป่าลดลงตั้งแต่ปี ค.ศ. 1958 และเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานั้น จำนวนประชากรในฝูงหมาป่าก็เหลือแค่ 24…
-
Nicki Minaj ยกเลิกคอนเสิร์ต “วินาทีสุดท้าย” จนแฟนๆ โกรธ เลยตะโกนชื่อ Cardi B ซะ!!
เป็นครั้งที่สองแล้วในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เมื่อนักร้องหญิงชื่อดังอย่าง Nicki Minaj ได้ยกเลิกคอนเสิร์ตกะทันหันเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2019 นี้ ในคืนนั้นเธอควรต้องขึ้นแสดงคอนเสิร์ตที่ Arkea Arena ที่เมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส อีกทั้งแฟนๆ ได้เข้ามารอภายในอาคารแสดงจนเกือบเต็มแล้ว แรปเปอร์หญิง Nicki Minaj เจ้าของเพลง Super Bass และ Barbie Tingz แน่นอนว่าแฟนๆ ที่เดินทางมารอต่างไม่พอใจกับการยกเลิกคอนเสิร์ตดังกล่าว พวกเขาเลยตะโกนเรียกชื่อสาวแรปเปอร์คู่ปรับกันอย่าง Cardi B กระหึ่มกลางอารีน่า!! หนึ่งในแฟนที่ไปรอดูคอนเสิร์ตของเธอได้บันทึกคลิปวิดีโอขณะที่ทุกคนตะโกนเรียกชื่อ Cardi B กัน หลังถูกยกเลิก https://twitter.com/BlueMoonDuDu/status/1104554427195813888 ภายในคืนเดียวกันหลังคอนเสิร์ตถูกยกเลิกไปแม่สาว Nicki ได้เดินทางกลับโรงแรมทันที และออกมาทักทายแฟนๆ สั้นๆ พร้อมทั้งขอโทษพวกเขา… แฟนคลับสาวได้ถ่ายไว้ ระบุว่า: เมืองบอร์กโดซ์ ฉันรู้สึกอกหักจริงๆ ฉันเตรียมกลับสเปนแล้ว ส่วนคลิปนี้พี่สาวฉันถ่ายไว้ตอนที่ Nicki ออกมาหาพวกเราที่โรงแรมที่เธอพัก #NickiWrldTour Burdeaux. I'm so…
-
ฟิลาเดลเฟียออกกฎแบนร้านค้าไร้เงินสด เพื่อไม่ให้เกิด ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ในสังคม
ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังปรับตัวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ทุกคนสามารถซื้อสินค้าและบริการจากร้านต่างๆ ได้ด้วยบัตรเพียงใบเดียว แต่ในฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกานั้น สังคมไร้เงินสดกลับกลายเป็น ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ทางการจึงได้มีกฎหมายออกมาให้ร้านค้าต่างๆ รับทั้ง ‘เงินสด’ และ ‘รับบัตร’ หรือใช้บริการออนไลน์ในการชำระค่าบริการและซื้อสินค้าต่างๆ ก่อนหน้านี้ ร้านค้าต่างๆ ในฟิลาเดลเฟียได้เปลี่ยนไปใช้ช่องทางออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้น นอกจากนั้น ร้านค้าหลายร้านยังเห็นตรงกันว่า การถือเงินสดไว้จำนวนเยอะๆ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะถูกปล้นเหมือนที่ในข่าวบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม มีหลายเสียงที่เห็นต่างกันออกไป เนื่องจากมองว่าประชาชนบางส่วนยังไม่มีบัญชีธนาคารเป็นของตัวเอง การเปลี่ยนแปลงไปเป็นสังคมไร้เงินสดจึงเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำและไม่เท่าเทียม จากการสำรวจของ Federal Deposit Insurance Corporation ในปี 2017 พบว่า มีชาวอเมริกันกว่า 8.4 ล้านคนไม่มีบัญชีธนาคารเป็นของตัวเอง คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นคนมีรายได้น้อย หรือเป็นผู้อพยพ William Greenlee สมาชิกสภาของนครฟิลาเดลเฟีย ได้ออกมาพูดว่า “ในขณะที่ผมสามารถเดินไปซื้อกาแฟต้องข้ามศาลากลางโดยไม่มีเงินสดติดตัวสักบาท คนอีกส่วนหนึ่งที่ถือเงินสดอยู่ในมือกลับซื้อกาแฟไม่ได้ ผมจึงคิดว่ามันไม่ค่อยแฟร์” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกเทศมนตรี Jim Kenney จึงได้เซ็นร่างกฎหมายแบนร้านค้าที่ไม่ยอมรับเงินสด…
-
ชายชรา “แทงม้า” แม่นจัด 12 วันแกแทงถูกไป 48 รอบ โดน “แบนไม่ให้เล่นพนันอีก”
ร้านรับแทงม้าแห่งในหนึ่งย่านชุมชนเอสเซกซ์ ของประเทศอังกฤษ ได้แบนคุณตาห้ามเข้ามาเล่นพนันอีก หลังคุณตาคนนี้ “ชนะพนันบ่อยเกิน” เพราะตลอด 12 วันติดกัน แกแทงถูกถึง 48 ครั้ง!! คุณตาวัยเกษียณอายุ 74 ปีคนนี้ ชื่อว่า Michael Bates ผู้ชื่นชอบการพนันขันต่อโดยเฉพาะ “การแทงม้า” จนทำให้ได้เทคนิคอันแพรวพราวและแกรู้แนวหมดว่าม้าตัวไหนในนัดนั้นจะชนะ… คุณตา Michael Bates ถ่ายภาพคู่กับร้านแทงม้า Coral คุณตา Michael เผยเทคนิคว่าส่วนใหญ่ตามสถิติที่เขาได้รวบรวมหลายปีที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าประมาณ 80% นั้นม้าตั้งแต่เบอร์หนึ่งจนถึงเบอร์สี่มีโอกาสชนะแต่ละนัดมากที่สุด เพราะเทคนิคดังกล่าวทำให้ตลอดระยะเวลา 12 วันคุณตาได้เงินจากการแทงทั้งหมดเป็นจำนวนเงินถึง 2,000 ปอนด์ หรือราวๆ 82,288 บาท แน่นอนว่าหลังคุณตาได้เงินมากขนาดนั้นติดกัน ทำให้ทางร้านรับแทงม้า Coral ที่แกไปเป็นประจำตัดสินใจไม่ให้เขาเข้าร้านอีก ซึ่งคุณตาถึงขั้นรับไม่ได้และช็อกถึงการกระทำของร้านดังกล่าว “พวกเขาไม่ควรทำแบบนี้กับผมนะ ไม่ถูกต้องเลย พวกเขาจะให้พวกเรามาพนันที่ร้านและไล่พวกเราไม่ให้เล่นเพราะว่าชนะพนันได้อย่างไร? ร้านเหล่านี้ต้องการแค่พวกขี้แพ้มาเล่นเท่านั้นล่ะ” คุณตา Michael กล่าว หลังกลายเป็นข่าวออกไป…
-
ซึงรี BIGBANG ประกาศลาออกจากวงการหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดี ‘จัดหาบริการค้าประเวณี’
หลังจากตกเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจตลอดหลายสัปดาห์มานี้ เมื่อศิลปินชื่อดัง Lee Seunghyun หรือที่รู้จักกันในนาม ซึงรี วง BIGBANG ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดี ‘จัดหาบริการค้าประเวณี’ วันนี้หนุ่มซึงรีได้ออกมาประกาศลาออกจากวงการบันเทิงแล้ว โดยได้โพสต์ผ่านไอจีว่า ตนเองขอออกจากวงการบันเทิงเนื่องจากปัญหาและกรณีพิพากต่างๆ ที่มาจากตัวเขาเองได้ส่งผลรุนแรงต่อสังคม เขาไม่สามารถแบกรับเรื่องทั้งหมดไว้ได้ จึงขอยุติผลงานในวงการบันเทิงไว้เพียงเท่านี้ และขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุนเขามาตลอด ซึงรีออกมาประกาศผ่านอินสตาแกรมส่วมตัวของตัวเอง https://www.instagram.com/p/Bu3JOlUBbVK/ ก่อนหน้านี้ทางตำรวจนครบาลกรุงโซลได้ออกมาบอกแล้วว่า ขณะนี้หนุ่มซึงรีอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัย เพื่อง่ายต่อการสืบสวนและพิสูจน์ความจริงตามข้อกล่าวหาที่ออกมาก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา สำนักข่าว SBS FunE ได้เผยแพร่ข้อความในแอปพลิเคชัน Kakaotalk ที่กล่าวหาว่าเป็นบทสนทนาระหว่าง ซึงรี, ซีอีโอของบริษัท Yuri Holdings และพนักงานของเขา ในเนื้อหามีการจัดหาบริการค้าประเวณีใน Club Arena (ไนต์คลับชื่อดังที่ตั้งอยู่ในย่านกังนัม กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้) ให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ ซึ่งทาง YG Fntertainment ต้นสังกัดของหนุ่มซึงรีและบริษัท Yuri Holdings ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าหลักฐานดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่หลังจากนั้นหนุ่มซึงรีก็ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ จนเมื่อวันที่ 10…
-
พ่อตั้งใจ “แต่งนิทานให้ลูกชาย” เป็นครั้งสุดท้าย หลังรู้ว่าหนูน้อยจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
“ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกผมมีความทรงจำสุดท้ายที่ดีที่สุด” ตอนเด็กเชื่อว่าใครหลายคนคงจะมีความทรงจำที่คุณพ่อคุณแม่เล่านิทานให้ฟังก่อนนอนทุกคืน ไม่ว่าจะเล่านิทานจากหนังสือที่ซื้อมาให้ หรือบางครั้งก็คิดนิทานที่แต่งเองให้เราฟังบ้างก็มี… เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวสุดซาบซึ้งของคุณพ่อที่แต่งนิทานให้ลูกชายของเขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนลูกชายจะต้องจากไปด้วย “โรคเครบเบ” หนูน้อย Jackson Garwood ในวัย 9 เดือน คุณพ่อคุณแม่ Darren และ Rebecca Garwood ต่างต้องใจสลายหลังคุณหมอตรวจพบว่าหนูน้อย Jackson ป่วยเป็น“โรคเครบเบ” ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ยากและมักจะทำลายระบบประสาททั้งหมด โรคร้ายดังกล่าวอาจทำให้ Jackson อยู่ไม่ถึงวันเกิดปีที่ 2 ของเขา… Darren ผู้เป็นพ่อ คุณพ่อของหนูน้อยบอกหลังทราบข่าวว่าทุกอย่างเหมือนกับพังทลายลงไปหมด การที่ต้องรู้ว่าลูกชายจะมีชีวิตไม่ถึง 2 ขวบนั้นมันทำให้เขาถึงกับอยากจะหลับและไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรับรู้อะไรทั้งสิ้น สุดท้ายภรรยาได้เตือนสติเขาว่าตอนนี้สิ่งสุดท้ายที่ลูกชายมีคือพวกเราและพวกเขาต้องอยู่ให้ถึงวันนั้นเพื่อ Jackson คุณพ่อ Darren กำลังอ่านนิทานให้ลูกชายฟัง เพื่อเป็นการรำลึกถึงลูกชายที่ใกล้จะถึงเวลาต้องจากโลกนี้ไป Darren จึงเริ่มแต่งนิทานขึ้นมา ชื่อเรื่องว่า Jackson Superhero ที่เป็นเรื่องราวการผจญภัยของหนุ่มน้อยซูเปอร์ฮีโร่นามว่า Jackson ที่ได้ช่วยเหลือเจ้านกฮูกไว้ คุณพ่อใช้เวลาแต่งเพียงไม่นานและส่งเรื่องให้ทางสำนักพิมพ์เมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เพื่อให้มีการตีพิมพ์ในเดือนตุลาคม 2018 จนตามมาด้วยยอดขายถึง…
-
สาววัย 17 ช่วยชีวิตเหยื่อถูกลักพาตัวได้ทัน ขณะพาสุนัขไปเดินเล่น เป็นฮีโร่แบบไม่ทันตั้งตัว
กลายเป็นฮีโร่แบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อวัยรุ่นสาววัย 17 ปี ได้ช่วยชีวิตเหยื่อที่ถูกลักพาตัว ขณะพาสุนัขออกไปเดินเล่นนอกบ้านในเมือง Irvington รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกาในตอนเช้าวันที่ 7 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา Kayla Rose ฮีโร่สาวเล่าว่า “ฉันได้ยินเสียงประหลาดจากรถบรรทุกคันหนึ่ง ฉันจึงเร่งเดินต่อไปเพราะความกลัว หลังจากนั้นฉันก็ได้ยินมันอีกครั้ง เป็นเสียงผู้ชายร้องขอความช่วยเหลือ” เธอจึงรีบวิ่งไปบอกแม่ของเธอและบอกให้เพื่อนบ้านโทรเรียกตำรวจ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์พยายามให้การช่วยเหลือโดยใช้ชะแลงงัดหลังรถบรรทุก แต่ไม่สำเร็จ ทันทีที่เจ้าหน้าที่มาถึง ชายผู้เป็นเหยื่อก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระอีกครั้งและนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บถึงแก่ชีวิต จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เมื่อวันก่อนหน้า ชายคนนี้ถูกโจรสองคนที่ปิดหน้าไว้ ใช้กระบอกปืนข่มขู่ บังคับให้เขาขับรถไปยังธนาคารเพื่อถอนเงินให้ ผู้ต้องหา สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาชายอายุ 24 ปี ชื่อ JaVohn Berrouet พร้อมตั้งข้อหาปล้นชิงทรัพย์ ลักพาตัว และมีอาวุธไว้ในครอบครอง คลิปข่าว นับเป็นความโชคดีที่เหยื่อคนนี้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และเรื่องราวทั้งหมดจบลงโดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บถึงแก่ชีวิต ที่มา: huffpost, abcnews, usatoday
-
ลิงชิมแปนซีพยายามกินแขนตัวเองที่นอร์เวย์ หลังนักท่องเที่ยวโยนขวดใส่ยาปริศนาลงไปให้
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ทางสื่อท้องถิ่นของประเทศนอร์เวย์ได้ออกมารายงานข่าวเหตุการณ์สุดแปลก เมื่อลิงชิมแปนซีชื่อดังของสวนสัตว์คริสเตียนแซนด์นาม “จูเลียส” ได้เริ่มมีอาการประหลาด และเริ่มพยายามกัดแทะกินแขนของตัวเองต่อหน้านักท่องเที่ยวที่เข้ามาชม จากการตรวจสอบกล้อง CCTV พวกเขาก็พบว่าก่อนเกิดเหตุประหลาดในครั้งนี้ไม่นาน เจ้าจูเลียสกำลังเดินไปเดินมาในกรงโดยถือขวดน้ำหวานประหลาดอยู่ จากปากคำของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ พวกเขาบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าขวดที่เจ้าจูเลียสถืออยู่นั้นถูกโยนลงไปในกรงโดยใครบางคนในกลุ่มผู้ที่มาดูลิงที่มีชื่อเสียงตัวนี้ และนับว่าโชคดีมากที่นอกจากจูเลียสแล้ว ไม่มีลิงตัวอื่นสามารถเปิดขวดดังกล่าวออกได้เลย Rolf-Arne Olberg สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์บอกว่าเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จำเป็นที่จะต้องยิงยาสลบใส่เจ้าจูเลียสเพื่อให้มันสงบลง ก่อนที่จะทำการเย็บแผลที่แขน และส่งตัวอย่างเลือดกับปัสสาวะของมันไปให้กับโรงพยาบาล เจ้าจูเลียสในตอนยังเด็ก พวกเขาพบว่าในตัวอย่างปัสสาวะที่ส่งไปนั้นมีสารเสพติดปนเปื้อนอยู่ (ทางสวนสัตว์ไม่ได้เปิดเผยว่าสารเสพติดที่พบมาจากตัวยาอะไร) และได้ทำการประสานงานไปยังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป Olberg เล่าว่าสายพันธุ์ของเจ้าจูเลียสนั้นในปัจจุบันมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์สูง และตัวยาที่มีการใช้งานกับมันในครั้งนี้เองก็อาจจะทำให้ลิงตัวนี้ตายได้เลย นับว่าโชคดีมากที่หลังจากที่ทำแผลเสร็จอาการของเจ้าจูเลียสก็ดูดีขึ้นตามลำดับ และในวันต่อมามันก็ไม่ได้มีอาการเมายาเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว ข่าวต้นฉบับจากเฟสบุ๊ก Dyreparken อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด โดยในปัจจุบันพวกเขาก็ได้ออกตามหาผู้ต้องสงสัยโยนขวดดังกล่าวลงไปในกรงลิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดกันว่าจะหาตัวคนกระทำผิดมาลงโทษได้ในเร็วๆ นี้ ที่มา allthatsinteresting, dailymail และเฟสบุ๊ก Dyreparken
-
#ChallengeForChange ท้าทุกคนสร้างการเปลี่ยนแปลง ให้โลกน่าอยู่ขึ้นได้ด้วยมือตัวเอง
หลายๆ คนอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับบางสิ่ง หนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้นกับเรื่องของ “ธรรมชาติ” เพราะเราต้องไม่ลืมว่าตัวเราเองทุกคนต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกด้วยกันทั้งนั้น แล้วทำไมเราต้องรอให้ใครมาสร้างการเปลี่ยนแปลง ในเมื่อตัวเราเองก็สามารถทำมันได้ง่ายๆ ?! และนี่คงเป็นที่มาของแฮชแท็กยอดฮิต ณ เวลานี้ที่บอกว่า #ChallengeForChange โพสต์เชิญชวนทุกคนมาเล่น (11 มี.ค. 2019) นี่คงถือว่าเป็นความท้าทายใหม่จากเพจ We Don’t Deserve This Planet ที่จะไม่ใช่แค่ให้เรามีอะไรทำโพสต์ลงโซเชียล แต่มันยังจะช่วยทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงและสองมือของเราเอง ความท้าทายนี้ก็ง่ายๆ เพียงแค่เราถ่ายภาพสถานที่ที่รู้สึกอยากให้มีการ “ทำความสะอาด” หรือควรได้รับ “การซ่อมแซม” จากนั้นก็ให้เราลงมือจัดการแก้ไขมันด้วยตนเอง และถ่ายภาพความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ตัวอย่างคนที่ได้ลองทำตามการท้าทายดังกล่าว คืนความสวยงามกลับสู่ธรรมชาติกันเถอะทุกคน อาจไม่ต้องทำอะไรให้ยิ่งใหญ่มากมาย ขอแค่ช่วยกันทีละนิดทีละหน่อยก็เกินพอแล้ว . แต่หากชวนกันไปเป็นหมู่คณะแบบนี้ได้ก็ยิ่งดีแหละนะ . . . . หากถามว่าความท้าทายนี้ได้อะไรกลับมา เราลองคิดถึงรอยยิ้มของพวกเขาเหล่านี้ รวมถึงตัวเราเองที่กำลังรับชมการเปลี่ยนแปลงนี้กันดูสิ เพื่อนๆ คนไหนที่ได้ลองทำความท้าทายนี้แล้ว ก็อย่าลืมเก็บภาพมาอวดกันไว้ใต้คอมเมนต์ด้วยนะฮะ…
-
เหตุสุดระทึก! หญิงถูก ‘เสือจากัวร์’ ตะปบขณะข้ามรั้วกั้นไปถ่ายเซลฟี่ในสวนสัตว์
**คำเตือน ในเนื้อหาประกอบไปด้วยภาพน่ากลัว โปรดทำใจก่อนอ่าน** กลายเป็นเหตุสุดระทึกที่เกิดขึ้น เมื่อหญิงคนหนึ่งถูกเสือจากัวร์ตะปบขณะข้ามรั้วกั้นไปถ่ายเซลฟี่ในสวนสัตว์ Arizona ในสหรัฐอเมริกา จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมาพบรายงานว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งไม่ระบุชื่อ อายุราว 30 ปีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เพื่อรักษาบาดแผลที่ถูกเสือจากัวร์โจมตี Adam Wilkerson ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ถ่ายภาพผู้หญิงคนนี้ไว้และเผยแพร่ลงในสังคมออนไลน์ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บร้องโอดโอยเพราะความเจ็บปวดจากแผลลึกบริเวณแขนด้านซ้ายที่มีเลือดออก . ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกมาบอกว่า เสือจากัวร์ตัวดังกล่าวไม่ได้ออกมาจากรั้วกั้นแต่อย่างใด Mickey Ollson ผู้บริหารสวนสัตว์ป่าแห่งนี้ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “เสือจากัวร์ไม่ได้เป็นอันตราย เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะมนุษย์” นอกจากนั้นเขายังบอกอีกว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองที่เสือจากัวร์โจมตีคนที่พยายามก้าวล้ำเขตแดนของมัน แม้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุอันตรายขึ้น เจ้าหน้าที่ก็ได้เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อไม่ให้อดีตซ้ำรอย แต่บางคนก็ไม่เคารพกฎ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีกครั้ง คลิปเหตุการณ์ ถือว่าเป็นความโชคดีของหญิงคนนี้ที่ไม่ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต และเป็นบทเรียนสำคัญให้คนอื่นๆ เพิ่มความระมัดระวังและเคารพกฎของสถานที่อย่างเคร่งครัด ที่มา: dailymail, huffpost, mirror, ladbible
-
ครอบครัวไม่โอเค หลังแพทย์บอก “คุณตาที่ใกล้เสียชีวิต” ผ่านหน้าจอวิดีโอด้วย “หุ่นยนต์”
ลองคิดดูว่าต่อไปในอนาคตหากคนที่เดินเข้ามาบอกว่า ญาติของเราหรือใครก็ตามใกล้ถึงแก่ความตายแล้ว แต่คนที่มาบอกนั้นกลับไม่ใช่แพทย์ตัวเป็นๆ แต่ดันเป็นหุ่นยนต์แทนจะเป็นอย่างไร?? เรื่องราวนี้ถือว่าใกล้เคียงอะไรแบบนั้นมากเลยทีเดียว และเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นที่ศูนย์การแพทย์แห่งหนึ่งในเมืองฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ชายอายุ 79 ปี นามว่า Ernest Quintana เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและอาจไม่รอดแล้ว ซึ่งนั่นเป็นคำพูดผ่านวิดีโอถ่ายทอดสดที่คุณหมอคนหนึ่งพูดผ่านหน้าจอบนเครื่องที่พวกเขาเรียกมันว่า “หุ่นยนต์” ศูนย์การแพทย์ ที่เมืองฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย คนที่เล่าเรื่องนี้ให้กับสำนักข่าวท้องถิ่น KTVU ฟังก็คือ Annalisia Wilharm ที่เป็นหลานสาวของ Ernest เธอเล่าให้ฟังว่าขณะนั่งอยู่ในห้องพักของศูนย์การแพทย์ พยาบาลได้เคลื่อนสิ่งที่คล้ายกับหุ่นยนต์เข้ามาในห้อง พร้อมหน้าจอที่มีคุณหมอมองมาอยู่ ทีมแพทย์ได้เคลื่อนอุปกรณ์ที่คล้ายหุ่นยนต์พร้อมหน้าจอที่เชื่อมต่อไปยังคุณหมอที่บอกว่าชายคนนี้ได้ใกล้เสียชีวิตแล้ว หลังจากที่เครื่องดังกล่าวย้ายเข้ามาในห้อง เธอก็ได้รับข่าวจากคุณหมอผ่านหน้าจอว่าคุณตาของเธอใกล้ที่จะถึงเวลาที่ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว หลังจากที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานมานานอย่างแสนสาหัส แน่นอนว่าสิ่งที่เธอได้รับมันทำให้เธอใจหายในทันที และสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแย่กว่าเดิมก็เพราะว่าคุณตาของเธอไม่ได้ยินเสียงของเครื่องนี้อย่างชัดเจน ทำให้เธอต้องเป็นฝ่ายบอกคุณตา Ernest เอง… ภาพของนาย Ernest Quintana ในปี 2009 เธอได้บอกกับสำนักข่าวว่า เธอเสียใจอย่างยิ่งที่เธอต้องเป็นคนบอกให้คุณตาฟังว่าเขาอาจจะไม่รอดในสองสามวันนี้ และเธอได้พูดถึงเทคโนโลยีดังกล่าวว่า…. “ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับศูนย์การแพทย์เล็กๆ แบบนี้ และเป็นครั้งแรกที่หลายๆ คนได้เห็นการพูดคุยกับคุณหมอผ่านหน้าจอไลฟ์สด” “แต่อย่างไรก็ดีการพูดคุยผ่านหน้าจอแบบนี้ไม่สามารถเทียบได้เลยกับการพูดคุยตัวต่อตัวระหว่างทีมแพทย์และครอบครัวเอง” ท้ายที่สุดแล้วคุณตา Ernest ก็ได้จากโลกนี้ไปเมื่อวันอังคารที่…
-
บัตรเลือกตั้งไม่ถึงมือ?! คนไทยในจีนโวย บัตรหายไปกว่า 500 ใบ งานนี้ผิดพลาดที่ใคร?
ยังคงเป็นประเด็นร้อนของการเลือกตั้งล่วงหน้าของคนไทยในต่างประเทศ ที่ก่อนหน้านี้คนไทยในมาเลเซียออกมาโวยหลังกกต.จัดตู้คูหาเลือกตั้งให้ด้วยกล่องกระดาษลัง เนื่องจากมีคนเข้ามาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมากและคูหาไม่เพียงพอ ส่วนกรณีล่าสุด (10 มี.ค 62) กลายเป็นข่าวอีกครั้งหลังคนไทยในประเทศจีนที่ต้องได้รับบัตรสำหรับเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร แต่บัตรเลือกตั้งเหล่านั้นกลับส่งไม่ถึงคนไทยหลายคนในเมืองหนานจิง ซึ่งเป็นจำนวนกว่า 500 ใบ คนไทยในเมืองหนานจิงได้ออกมาโพสต์ถึงกรณีไม่ได้รับบัตรเลือกตั้ง เลือกตั้งรอบนี้โปร่งใสที่สุดแล้ว 55555555พูดในฐานะเลือกตั้งในจีน เขตดูแลกงสุลเซี่ยงไฮ้ แต่อยู่เมืองหนานจิง1.บัตรเลือกตั้งของคนในนี้หายไป 500 กว่าใบมันหมายถึงคนที่ไม่ได้รับบัตรมีมากถึง 500 กว่าคน2.กงสุลเอาเบอร์ใครไม่รู้มาใส่แทนเบอร์เรา #เลือกตั้ง62 #เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร — ℳ𝑜𝓃 𝒶𝓂𝑜𝓊𝓇 💗 (@MonAmour0803) March 9, 2019 ทางคนไทยในเมืองหนานจิงได้ทำการติดต่อไปยังสถานกงสุลของไทยหลังไม่ได้รับบัตรเลือกตั้ง ซึ่งทางสถานกงสุลตอบกลับมาว่า อาจเกิดจากการไม่ได้กรอกข้อมูลโทรศัพท์ครบถ้วน ภายหลังที่ได้ติดต่อไปแล้ว และได้ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งปรากฏว่าเขาได้กรอกข้อมูลในโทรศัพท์เรียบร้อย @theKOPFER แสดงหลักฐานว่ากรอกข้อมูลครบถ้วนเรียบร้อย จากข้อ 2. กงสุลเซี่ยงไฮ้โยนความผิดมาให้เราว่าเราไม่ใส่เบอร์ ทีแรกเกือบเชื่อละว่าไม่ใส่เบอร์ แต่เอะใจเรื่องสำคัญขนาดนี้ไม่ใส่เบอร์ได้ไงวะ เลยไปเปิดหลักฐานดู เอ้ากูใส่วะ แล้วทำไมบอกกูไม่ใส่ แล้วมายัดเยียดให้เราอีก pic.twitter.com/rOuQ7P2RoU — ℳ𝑜𝓃 𝒶𝓂𝑜𝓊𝓇 💗…
-
คูหาเลือกตั้งจากลังกระดาษ?! ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ กกต. เผยทำได้ไม่ผิด แต่แค่ไม่สวย
เมื่อวันเสาร์ ที่ 9 มีนาคม 2562 เวลา 21.08 น. ชาวไทยในมาเลเซียได้แชร์ภาพคูหาเลือกตั้งที่ทางกกต. ได้จัดเตรียมไว้ให้ในสภาพที่ทำจาก “กล่องกระดาษลัง” จนทำให้ชาวเน็ตต่างเข้ามาวิจารณ์ถึงความไม่พร้อมนี้ โดยการจัดคูหาเลือกตั้งดังกล่าวได้เตรียมไว้สำหรับ การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่มาเลเซีย ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และมีคนไทยมาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมาก หลังมีการแชร์เรื่องนี้ออกไปทางกกต. ได้ออกมาชี้แจงว่า เนื่องจากมีคนมาใช้สิทธิ์มากจนต้องเพิ่มคูหา ทำให้ต้องใช้กระดาษลัง ส่วนคะแนนยังคงเป็นความลับและมันดูไม่สวยงามเฉยๆ โพสต์ที่คนไทยในมาเลเซียแชร์ได้แชร์ลงเฟซบุ๊ก นอกจากนั้นยังชาวไทยคนอื่นๆ ที่กล่าวถึงเรื่องคูหาเลือกตั้งด้วยลังกระดาษ และการจัดการที่ไม่ล่าช้าของกกต. ทำให้คนที่มารอยืนออด้านนอกเป็นจำนวนมาก เข้าแถวตอน แปดโมงกว่า 9.49 น. เพิ่งได้เข้ามาในตึก ต่อด้วยการเข้าแถวสามขด 10.33น. ออกมาหน้าตึก คนรอแน่นขนาดนี้ 10.46น. คนต่อแถวนอกรั้วสถานทูตยาวจนสุดมุม คลิปวิดีโอที่บันทึกภาพคนไทยรอต่อแถวเข้าคูหาเลือกตั้ง แม้อาจเป็นลักษณะคูหาที่เราอาจไม่เคยเห็นกันมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นทาง กกต. ก็ออกมายืนยันแล้วว่ามันสามารถใช้ได้จริง และไม่ต้องกังวลเรื่องการปิดข้อมูลเป็นความลับแต่อย่างใด ที่มา: dailynews , joydaynapas , Areefah Malbari
-
อังกฤษเตรียมแจก ‘ผ้าอนามัย’ ฟรีในโรงเรียนมัธยม ตอบรับแคมเปญ #FreePeriods
ในช่วง ‘วันแดงเดือด’ หรือวันที่มีประจำเดือน สาวๆ ทุกคนต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แถมในยังมีค่าใช้จ่ายในการซื้อผ้าอนามัยเพิ่มขึ้นมาอีก เมื่อปี 2017 Amika George เห็นว่ามีวัยรุ่นสาวหลายคนในสหราชอาณาจักรที่ต้องขาดเรียนเพราะไม่มีเงินซื้อผ้าอนามัย เธอจึงได้เริ่มแคมเปญ #FreePeriods เพื่อเรียกร้องให้มีการแจกผ้าอนามัยฟรีสำหรับวัยรุ่นที่ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ หลายคนที่เห็นด้วยกับแคมเปญนี้ก็ออกมาเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ และเมื่อเดือนธันวาคม 2017 ก็มีคนกว่า 2,000 คนรวมตัวกันที่ Downing Street เพื่อให้รัฐบาลออกมาแก้ไขปัญหา จนในที่สุด Philip Hammond ฝ่ายรัฐบาลอังกฤษก็ออกมาประกาศว่า จะเริ่มแจกผ้าอนามัยในโรงเรียนมัธยมทั่วประเทศ ในเดือนกันยายน ปี 2019 นี้ ทางด้าน George ผู้ริเริ่มแคมเปญได้ออกมาพูดหลังจากได้ยินประกาศจากทางรัฐบาลว่า “การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความเท่าเทียมทางเพศ” “และเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่จะช่วยแก้ปัญหาการขาดเรียนในช่วงมีประจำเดือนได้” “การมีประจำเดือนต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียน หลังจากรณรงค์แคมเปญนี้อย่างหนัก ในที่สุดเราก็จะได้สิทธิรับผ้าอนามัยฟรีในโรงเรียนมัธยมแล้ว” จากผลสำรวจของ Plan International UK พบนักเรียนหญิง 1 ใน 10 ขาดเรียนเพราะอยู่ในช่วงมีประจำเดือนและไม่มีเงินพอที่จะซื้อผ้าอนามัย ประเทศสกอตแลนด์จึงเป็นประเทศแรกที่แจกผ้าอนามัยให้กับวัยรุ่นในเดือน สิงหาคมปี 2017 ที่ผ่านมา และเป็นตัวอย่างให้กับอีกหลายประเทศทั่วโลกให้เห็นความสำคัญของแคมเปญ #FreePeriods มากขึ้นเรื่อยๆ…
-
อยากสัมผัสชีวิตท่ามกลางบรรยากาศ ‘ดาวอังคาร’ โรงแรมในทะเลทรายแห่งนี้ จัดให้คุณได้!!
ผลกระทบที่เกิดจากสภาวะโลกร้อนในปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อนาคตบนโลกใบนี้จึงเป็นสิ่งไม่แน่นอน เราจึงจินตนาการถึงความเป็นไปได้ในการใช้ชีวิตในดาวดวงอื่น หลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Martian ที่ถ่ายทอดชีวิตของนักบินอวกาศที่ถูกทิ้งไว้บนดาวอังคารเพียงลำพัง หลายคนคงมีความคิดที่จะไปสัมผัสบรรยากาศเหล่านั้นสักครั้ง โรงแรม Sun City Camp ที่พักแบบกระโจมบนอวกาศ ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายวาดิรัม ประเทศจอร์แดน ได้มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้เข้าพัก เสมือนหลุดจากโลกไปอยู่บนดาวอังคาร บรรยากาศโดยรอบเป็นทะเลทรายและภูเขากว้างสุดลูกหูลูกตา ตอนกลางวันอากาศจะปลอดโปร่งและมีลมพัดเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ส่วนตอนกลางคืนสามารถนอนดูดาวได้ในที่พักสุดแสนโรแมนติก ไปชมภาพโรงแรมแห่งนี้พร้อมๆกัน.. ด้านนอกที่พักเป็นทะเลทราย ด้านในห้องพักสะดวกสบาย . . . ชมวิวได้สุดลูกหูลูกตา กิจกรรมกลางแจ้งของโรงแรม ที่สำหรับงานเลี้ยงตอนเย็น บรรยากาศตอนกลางคืนแสนโรแมนติก . . เห็นบรรยากาศแบบนี้แล้ว #เหมียวเปปเปอร์ ก็อยากไปเยือนสักครั้งเหมือนกันนะ ที่มา: Sun City Camp, designyoutrust
-
เรือเฟอร์รี่ที่ญี่ปุ่น ‘ชนวาฬ’ เข้าอย่างจัง ทำให้นักท่องเที่ยวบนเรือบาดเจ็บกว่า 80 คน
เกาะซาโดะ จังหวัดนีงาตะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงด้านการชมวิวของผาหินที่หาดซาวะ รวมทั้งการพานักท่องเที่ยวทัวร์ทะเลด้วยเรือเฟอร์รี่ ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมเหล่านั้นคือการ “พาชมวาฬ” นั่นเอง แต่แล้วการพาทัวร์ดังกล่าวก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2019 เวลา 8:44 น. เมื่อเรือเฟอร์รี่ที่กำลังออกจากท่าเรือจังหวัดนีงาตะ เพื่อมุ่งสู่เกาะซาโดะนั้นได้ชนกับ “วาฬ” เข้าอย่างจัง… เรือเฟอร์รี่ที่บรรทุกผู้โดยสาร 121 ที่นั่งชนเข้ากับ “วาฬ” ผู้โดยสารบนเรือได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 87 คน และ 13 คนในนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส เรือเฟอร์รี่ลำนี้เป็นของบริษัท Sado Steam Ship ผู้ให้บริการเรือเฟอร์รี่ที่ชื่อว่า Ginga สามารถพานักท่องเที่ยวไปถึงเกาะซาโดะในระยะเวลา 1 ชั่วโมง โดยเรือเฟอร์รี่คันดังกล่าวเป็นเรือไฮสปีดแบบไฮโดรฟอยล์ สามารถเร่งความเร็วได้สูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในตอนที่เกิดเหตุนั้นมีผู้โดยสารทั้งหมดจำนวนทั้งสิ้น 121 คน และเจ้าที่บนเรืออีก 4 คน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ท้ายเรือเสียหายเป็นรอยแตกขนาด 15 เซนติเมตร ซึ่งหนึ่งในผู้โดยสารที่อยู่บนเรือขณะนั้นได้กล่าวว่า “มันแรงมากจนคอของเขาชนเข้ากับเบาะเก้าอี้ด้านหน้า” ทางบริษัทจึงได้ออกมาขอโทษผู้โดยสารในกรณีที่เกิดการชนเข้ากับสัตว์ทะเลขนาดใหญ่นี้ และทำให้ผู้โดยสารหลายคนต้องได้รับบาดเจ็บ บริเวณที่เรือชนเข้ากับวาฬระหว่างท่าเรือนีงาตะ…
-
คุณพ่อสิ้นหวังกับความรัก เลยใช้ชีวิตอยู่กับ ‘ตุ๊กตาสาวสวย’ อย่างมีความสุข
เมื่อความรักไม่ได้สวยงามอย่างที่หวัง หลังจากปรับความเข้าใจกันมาแล้วหลายครั้ง ปัญหาของคู่รักหลายคู่ก็ยังแก้ไม่ได้ จึงไม่แปลกที่บางคนเลือกที่จะจบความสัมพันธ์แล้วหันมาใช้ชีวิตอย่างอิสระ เช่นเดียวกับ Dean Bevan คุณพ่อวัย 58 ปีที่หย่ามาแล้ว 2 ครั้ง หลังจากสิ้นหวังในความรัก เขาก็ใช้ชีวิตอยู่กับตุ๊กตาสาวสวย 12 คน Rhiannon ลูกสาววัย 20 ปีของเขาเล่าว่า ตอนแรกเธอรู้สึกตกใจที่พ่อของเธอเริ่มสะสมตุ๊กตา ตั้งแต่เลิกกับผู้หญิงเมื่อสามปีก่อน แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าพ่อใช้ต้องเผชิญกับความเหงาเดียวดายขนาดไหน เมื่ออยู่ในวัยเกษียณ และเธอยังบอกอีกว่า “ฉันไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะมันดูบ้ามากกว่า” “แต่มันก็ตลกดีเวลาที่ฉันเดินไปรอบๆ แล้วพบกับตุ๊กตาพวกนั้นนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาหรือจิบชาอยู่ในครัว” . . ส่วนคุณพ่อเองก็มีความสุขกับตุ๊กตาเหล่านี้และยังบอกอีกว่า “บางคนอาจจะคิดว่ามันดูน่ากลัว แต่ฉันมีความสุขและคิดว่ามันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน” “พวกเธอทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันรู้สึกเหงามาก” . . Dean รู้สึกอุ่นใจที่มีตุ๊กตาอยู่ใกล้ๆ เขามีความสุขกับการตั้งชื่อ แต่งหน้าทำผม เลือกชุดให้กับตุ๊กตาที่เสมือนมีชีวิต และในบางครั้งก็พาพวกเธอออกไปไหนมาไหนด้วย . เมื่อวันถึงวันเกิดของพวกเธอ Dean ก็มอบของขวัญและจัดงานเลี้ยงให้…
-
ซูเปอร์มาร์เก็ตยกเลิกขาย ‘มีดเล่มเดียว’ เพราะเป็นเหตุให้อัตราการก่ออาชญากรรมสูงขึ้น
อุปกรณ์ใกล้ตัวที่เกือบทุกบ้านจะต้องมีอย่างเช่น มีด หรือ ค้อน สามารถนำมาใช้เป็นอาวุธกระทำอันตรายต่อผู้อื่นได้ ล่าสุด คดีอาชญากรรมที่ใช้มีดเป็นอาวุธ ไม่มีทีท่าจะลดลงที่สหราชอาณาจักร ASDA ซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังได้ออกมาประกาศยกเลิกขาย ‘มีดทำครัวเล่มเดียว’ หลังจากหมดเดือน เม.ย. 2019 เป็นต้นไป มีดทำครัวเล่มเดียวแบบขายแยก มีราคาที่ถูกกว่ามีดแบบชุด ซึ่งทาง ASDA ยังเผยว่ามันเป็นสินค้าที่ถูกขโมยบ่อยที่สุด และมันก็เป็นสิ่งที่เหมาะกับการใช้เป็นอาวุธ Nick Jones รองประธานอาวุโสของ ASDA เชื่อว่าพวกเขามีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม จึงยกเลิกการขายมีดเล่มเดียวเพื่อไม่ให้มันตกไปอยู่ในมือของคนไม่ดี และช่วยสร้างความตระหนักไปทั่วประเทศ Home Office หรือกระทรวงมหาดไทยของสหราชอาณาจักร ก็ออกมายินดีกับการเคลื่อนไหวของ ADSA ที่ช่วยให้การซื้อมีดเป็นเรื่องยากขึ้น หลังรัฐประกาศห้ามขายมีดให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ตั้งแต่ปี 2016 จากข้อมูลพบว่าในสหราชอาณาจักร ระหว่างเดือน มี.ค. 2017 ถึง 2018 มีคนตายเพราะมีดหรือของมีคมสูงถึง 285 คน สูงที่สุด นับตั้งแต่ Home Office เริ่มต้นเก็บสถิติในปี…
-
เด็กหนุ่มพิการวัย 19 ปี สร้างแขนเทียมขึ้นมาเอง โดยใช้ “ตัวต่อเลโก้” แถมขยับได้ด้วย!!
“ผมอยากมองตัวเองในกระจกแล้วเหมือนคนอื่นๆ ผมอยากมีมือทั้งสองข้างเหมือนพวกเขา” David Aguilar กล่าว David Aguilar คือหนุ่มชาวสเปนที่เกิดมาโดยมีแขนข้างซ้ายข้างเดียว และยังเป็นผู้มีใจรักใน “ตัวต่อเลโก้” ตั้งแต่ยังเด็กมาจนถึงปัจจุบันในวัย 19 ปี และเขายังสามารถสร้าง “แขนเทียม” ข้างขวาขึ้นมาจากเลโก้เหล่านั้นได้ด้วย ลองมาทำความรู้จักกับชายหนุ่มคนนี้กันดีกว่า จากเด็กขี้อายและไม่มีความมั่นใจเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน กลับกลายเป็นหนุ่มที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่อยากจะช่วยเหลือผู้คนในประเทศของเขา David Aguilar และแขนเทียมที่เขาภูมิใจนำเสนอ David ในวัยเด็กชื่นชอบการสร้างเลโก้เป็นรถยนต์, เครื่องบิน และมอเตอร์ไซค์ ขณะเดียวกันเขานั้นก็เติบโตมาท่ามกลางการถูกเพื่อนๆ ล้อเสมอว่าเขาไม่มีแขนอีกข้าง… คำพูดเหล่านั้นกลับกลายเป็นเหมือนแรงผลักดันที่ทำให้เขานำสิ่งที่ชอบมาประยุกต์ใช้กับตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง ครั้งแรกที่เขาสามารถสร้างแขนเทียมสำเร็จคือตอนที่อายุเพียงแค่ 9 ขวบเท่านั้นเอง หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มพัฒนาออกมาเป็นแขนเทียมรุ่นต่างๆ และพวกมันแข็งแรงมากจนสามารถวิดพื้นด้วยแขนเทียมที่ประกอบขึ้นจากเลโก้ได้ แขนเทียมเลโก้แต่ละรุ่นที่เขาทำขึ้นเอง ปัจจุบัน David เรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยม Andorra ในประเทศสเปน เขาเป็นที่รักของคุณครูและเพื่อนๆ ต่างชื่นชมในความเจ๋งของเขาที่ทำแขนเทียมขึ้นมาได้เอง “ครั้งแรกที่ผมใส่แขนเทียมมาโรงเรียนด้วย ทุกคนดูตื่นเต้นมากเพราะใครจะไปนึกว่าคนคนหนึ่งจะทำแขนขึ้นมาจากตัวต่อเลโก้” ถึงแม้จะมีคนชมเขามากมายว่าเขาทั้งสุดยอดและเป็นอัจฉริยะ แต่ David ยังคิดว่าตัวเองเป็นเพียงแค่วัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น… ทุกวันนี้ David…
-
คุณพ่อโพสต์เตือนหลังถูก ‘ใบมีด’ บาดมือ จากการที่มือดีเอาไปติดไว้กับ ‘ชิงช้า’ สนามเด็กเล่น!!
คำเตือน: บทความนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม… เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเรื่องราวที่ได้รับการพูดถึงอย่างเป็นวงกว้างในโซเชียล จากความที่คุณพ่อคนหนึ่งถูก ‘ใบมีดโกน’ บาดจนเป็นแผลลึก เพราะมีใครบางคนนำมันไปติดไว้กับชิงช้าในสนามเด็กเล่น!! มือของคุณพ่อที่โดนใบมีดบาด Ross Lambert คุณพ่อวัย 39 ปีได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนให้ผู้อื่นระมัดระวังเวลาที่ใช้งานพื้นที่สาธารณะ หลังจากที่เขาถูกมีดโกนบาดขณะที่อยู่ในพื้นที่เด็กเล่นของเมือง Bathgate ประเทศสกอตแลนด์ โดยในเวลานั้นเขาเล่าว่าได้ไปที่สนามเด็กเล่นกับ Chloe ลูกสาววัย 13 ปีของเขา แต่ว่าก็ถูกใบมีดบาดมือเข้าอย่างจังจากความที่มีใครสักคนนำมันมาติดไว้กับชิงช้า จนเขาต้องรีบเข้าโรงพยาบาลไปเย็นแผลอย่างเร่งด่วน ใบมีดที่มีมือดีนำมาติดไว้ แต่ทั้งนี้เขาก็บอกว่าอย่างน้อยมันก็ยังเป็นเรื่องดีที่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ไม่ใช่กับเด็กๆ ที่มาใช้สนามเด็กเล่น… “ผมพาลูกสาวกับหมาไปที่สนามแห่งนั้นแล้วก็พบมันถูกติดเอาไว้กับชิงช้า พวกคนพวกนี้ทำอะไรลงไป ลองนึกภาพถ้าไม่ใช่ผมโดนแต่เป็นเด็กอายุ 4 ขวบล่ะ” Ross กล่าว แผลลึก โดยในตอนนี้เรื่องนี้ได้ถูกแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและสภาเมืองแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งพวกเขากล่าวว่าจะดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ “นี่เป็นอะไรที่บ้าบิ่นและน่าห่วงอย่างมากเราตระหนักถึงเรื่องนี้ดี ในตอนนี้สนามเด็กเล่นแห่งนั้นได้รับการตรวจสอบแล้วและใบมีดก็ถูกนำออกไปแล้ว” “โดยปกติเราก็จะมีการตรวจสอบและดูแลรักษาสนามเด็กเล่นอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ซึ่งหากมีปัญหาในการใช้งานใดๆ เราก็ขอให้ประชาชนรายงานสิ่งที่พบเจอมาทางเราด้วย” สภาเมืองกล่าว ได้รับการเย็บปิดแผลถึง 3 เข็มด้วยกัน …
-
นักดำน้ำเล่าประสบการณ์ ‘อยู่ๆ ก็โลกมืด’ หลังโดนวาฬงาบเข้าปาก ก่อนถูกคายออกมา
การ ‘โดนวาฬงาบ’ เข้าไปในปาก น่าจะเป็นประสบการณ์เสี่ยงตายสุดมันส์ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากกับมนุษย์ แต่มันก็เกิดขึ้นมาแล้วกับนักดำน้ำคนนี้… เขาชื่อ Rainer Schimpf เป็นนักจัดทริปดำน้ำในประเทศแอฟริกาใต้ ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการดำน้ำมายาวนานถึง 15 ปี Rainer Schimpf และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ชีวิตนี้ยังไม่เคยสัมผัส ในวันเกิดเหตุ นาย Schimpf และทีมงานออกเรือไปถ่ายปรากฏการณ์ Sardine Run เป็นปรากฏการณ์ที่เหล่าฝูงปลาซาดีนว่ายเป็นก้อนขนาดใหญ่ โดยมีสัตว์ผู้ล่าทั้ง เพนกวิน ฉลาม โลมา แมวน้ำ และวาฬ ไล่ต้อนฝูงปลาซาดีนเหล่านั้น ระหว่างที่ถ่ายทำ Schimpf เล่าว่าจู่ๆ บรรยากาศรอบข้างก็มืดไปหมด และเขาก็รู้สึกถึงแรงดันตรงช่วงเอว นั่นเพราะเขาถูกวาฬงาบเข้าไปในปากทั้งตัวนั่นเอง! “หมับ” เข้าให้ ในจังหวะนั้น Schimpf ใช้สัญชาตญาณของตนเพื่อหาทางรอด เขากลั้นหายใจเพราะคิดว่าวาฬจะดำน้ำลงไปและปล่อยเขาในท้องทะเลลึก ในตอนนั้นเขาคิดว่ามีความเป็นไปได้สองทาง เขาจะถูกกลืนลงไปหรือวาฬจะว่ายออกไปโดยมีเขาอยู่ในปาก แต่วาฬบรูด้า ที่มีความยาว 16 เมตร และหนักประมาณ 30 ตัน…
-
เด็กเมกันไปแลกเปลี่ยนที่อิตาลี ต้มเส้นพาสต้าไม่ใส่น้ำ เกือบทำไฟไหม้บ้าน
หากเราจะทำอาหารที่เราไม่เคยทำมาก่อนสักอย่าง เพื่อนๆ ก็คงเลือกค้นคว้าหาวิธีการซะก่อนที่จะลงมือทำจริง อย่างน้อยๆ เราก็จะได้รู้ว่าต้องเตรียมของอะไรบ้าง ซึ่งวัตถุดิบนั้นก็ถือเป็นหัวใจหลักของการทำอาหารเลยทีเดียว แต่เรากำลังจะได้ชมวิธีการทำสปาเกตตีที่ร้อนแรงที่สุดจากข่าวนี้ เมื่อมีนักเรียนแลกเปลี่ยนวัย 20 ปีจากสหรัฐอเมริกา 3 คนไปเรียนที่ประเทศอิตาลี และนึกอยากจะลองเข้าครัวทำเมนูสุดคลาสสิกอย่าง สปาเกตตีโบลองเนส ดู ในฐานะที่เราๆ ท่านๆ เป็นคนไทย ที่ส่วนหนึ่งก็มีเชื้อสายจีน เคยชินกับการกินอะไรที่เป็นเส้นๆ อยู่แล้ว แม้การต้มเส้นพาสต้าจะมีความยุ่งยากกว่าการลวกเส้นเล็ก เส้นหมี่ หรือต้มมาม่ากิน แต่เราก็พอรู้กันว่าก่อนเอาไปปรุงอย่างอื่น เราก็ต้องตั้งน้ำแล้วต้มเส้นให้อ่อนลงก่อน #เหมียวม่วง เดาว่าเด็กวัยรุ่นอเมริกันอาจจะแค่เคยกินสปาเกตตีตามร้านอาหาร คนที่ไม่เคยทำอาหารอาจจะไม่เคยชินกับอาหารประเภทที่ต้องต้มเส้นก่อนก็ได้ ดังนั้นวัยรุ่นหัดเข้าครัวทั้ง 3 จึงเอาเส้นพาสต้าใส่ลงในกระทะแล้วตั้งไฟทันที…ใช่แล้ว ทั้งแห้งๆ แบบนั้นแหละ แป้งนั้นเป็นของที่ติดไฟได้อยู่แล้ว ดังนั้นก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่เลยที่เส้นพาสต้าแห้งๆ เหล่านั้นจะมีไฟลุกพรึ่บขึ้นมา แต่ดูเหมือนเจ้าของเรื่องทั้ง 3 คนก็ยังไม่รู้อยู่ดีกว่าการทำสปาเกตตีต้องใช้น้ำ สุดท้ายจึงต้องโทรเรียกพนักงานดับเพลิงมาช่วยดับไฟที่ไหม้เส้นพาสต้าในครัว โชคดีที่เรื่องคราวนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ นอกจากเส้นพาสต้าจำนวนหนึ่ง แถมทางเชฟชื่อดัง Fabio Picchi ยังเสนอให้เด็กทั้ง 3 คนมาเรียนทำอาหารกับเขาที่ร้านด้วย เชฟ Fabio…
-
เปรียบเทียบ “ภาพสงครามและความสงบสุข” ความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ศิลปินชาวตุรกีนามว่า Uğur Gallenkuş ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปินที่นำภาพระหว่างสงครามของประเทศในตะวันออกกลางและความสงบสุขของประเทศตะวันตกเปรียบเทียบกัน ภาพชุด Parallel Worlds หรือโลกคู่ขนานในชีวิตจริงเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ทำให้เรารู้ว่าการใช้ชีวิตท่ามกลางสงครามนั้นช่างโหดร้ายและรุนแรงแค่ไหน สงครามเหล่านี้มีแต่จะสร้างความแตกแยกของมนุษย์ออกไป… * คำเตือน ภาพบางส่วนมีเนื้อหารุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม * . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . เพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมภาพที่รวบรวมมาก่อนหน้านี้ได้ที่ เปิดชุดภาพ ‘โลกคู่ขนานบนใบเดียวกัน’ ความสุขของคนหนึ่งฝั่ง และความทุกข์ของคนอีกฟาก หรืออาจเข้าไปติดตามผลงานของศิลปินคนดังกล่าวได้ในอินสตาแกรม @ugurgallen…
-
โรงแรมที่ผู้คนโหวตว่า “เลวร้ายที่สุดในเคาน์ตี้ Kent” แย่นักใช่ไหม ได้ งั้นเราไปพักกัน!!
เว็บ TripAdvisor ซึ่งเป็นเว็บค้นหาเที่ยวบินและโรงแรมที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ซึ่งส่วนที่เหมือนกับเว็บหาที่พักเว็บอื่นๆ เว็บนี้เราก็สามารถค้นหาโรงแรมโดยระบุเมืองที่อยากพักได้เลย และเราก็สามารถหาอ่านรีวิวและดูคะแนนโหวตของแต่ละโรงแรมได้ด้วย วันนี้เราจะมาพูดถึงโรงแรมแห่งหนึ่งในเคาน์ตี้ Kent กัน ที่พักแห่งนี้มีชื่อว่า Hostel Alma มันไม่ใช่ที่พักที่ดีที่สุดจนต้องมาโชว์ความสวยงามให้ดู แต่จากการโหวตที่พักในแถบ Kent โรงแรมแห่งนี้ได้อันดับบ๊วยจากโรงแรม 189 แห่งเลยทีเดียว หลายคนคงอยากรู้ว่ามันแย่อะไรขนาดนั้น โชคดีที่พวกเราไม่ต้องไปเห็นกับตาตัวเองเพราะ Sean Doherty นักข่าวจากเว็บไซต์ Kent Live เว็บข่าวท้องถิ่นของเคาน์ตี้ Kent ได้รับมอบหมายจากบรรณาธิการให้ไปลองพักดู ใน Hostel Alma นั้นห้องพักเดี่ยวมีราคา 28 ยูโร (999 บาท) ต่อคืนเท่านั้นซึ่งคาดว่าน่าจะถูกที่สุดใน Kent แล้ว เราไปดูกันเลยว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง ด้านหน้าโฮสเทลตอนกลางคืน Sean เล่าว่าเขาไปถึงที่พักตอนสามทุ่มครึ่ง เขาใจหายไปแว้บนึงเมื่อไม่เห็นไฟดวงไหนเปิดอยู่เลย แต่พอเดินเข้าไปหน้าที่พักก็มีป้ายบอกว่าให้กดกริ่งข้างๆ ประตู พร้อมกับป้าย “ไม่มีห้องว่าง” ที่ทำเอาเขาสับสนสุดๆ หลังจากกดกริ่งไปไม่นานผู้จัดการก็ออกมาต้อนรับ บอกเลขห้อง รหัสเข้าห้อง และอวยพรให้หลับฝันดี…
-
NASA เผยภาพกำแพงเสียงรวมตัวกัน ที่จะนำไปสู่การบินเหนือเสียงโดยไม่เกิดโซนิคบูม
เป็นเรื่องที่หลายคนคงจะทราบกันแล้วว่าเครื่องบินรบในปัจจุบันนั้นมีความสามารถในการบินด้วยความเร็วเหนือเสียง จนเกิดเป็นปรากฏการณ์เครื่องบินฝ่ากำแพงเสียง โดยที่ผ่านๆ มานั้นการบินฝ่ากำแพงเสียง จะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็จับภาพได้หากใช้กล้องแบบพิเศษ และมีชื่อเรียกกันว่าภาพ “Knife-Edge” จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเครื่องบินนั้นกำลังพุ่งผ่านโมเลกุลของอากาศ และทำให้สภาพของอากาศบิดเบือนไปจนเกิดเสียงและแรงกระแทกที่ดังสนั่นหรือที่รู้จักกันในชื่อ “โซนิคบูม” แต่แล้วเมื่อไม่นานมานี้เองทางองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซาก็ได้ทำการพัฒนาระบบกล้องถ่ายภาพของพวกเขาขึ้นไปอีกขั้น จนทำให้พวกเขาสามารถจับภาพเครื่องบิน T-38 สองลำพุ่งผ่านกำแพงเสียงพร้อมๆ กัน ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เลย จากรายงานของทางนาซา เครื่องบินทั้งสองลำเป็นเครื่องบินทดสอบที่บินด้วยระยะห่างกัน 9 เมตร ในระดับความสูงที่ต่างกัน 3 เมตร โดยเป็นการถ่ายภาพจากเครื่องบินอีกลำที่บินอยู่สูงกว่าเครื่องบินทั้งสองราวๆ 610 เมตรอีกที ภาพที่ออกมานั้นหากดูเผินๆ อาจคล้ายกับการพุ่งผ่านกำแพงเสียงธรรมดาๆ เพียงแต่มีเครื่องบินสองลำ แต่หากสังเกตให้ดีๆ เราจะพบว่ากำแพงเสียงในส่วนที่ถูกพุ่งผ่านนั้นมีอยู่จุดหนึ่งที่เกิดการรวมตัวกัน จนไม่มีรูปทรงอย่างที่ควรเป็น ลักษณะของภาพที่ออกมานี้เชื่อกันว่าจะสามารถช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศเมื่อเกิดการฝ่ากำแพงเสียงได้เป็นอย่างดี และอาจช่วยให้เราสามารถพัฒนาเครื่องบินระบบใหม่ที่บินเหนือเสียงได้ดีกว่าที่เคยด้วย โดยในเบื้องต้นทางนาซาทางนาซาได้ใช้ข้อมูลดังกล่าวนี้ในการร่วมพัฒนาเครื่องบิน X-59 เครื่องบินซึ่งมีความมีความสามารถในการเร่งความเร็วเหนือเสียงได้โดยที่ไม่เกิดโซนิคบูม ซึ่งใช้งบประมาณในการคิดค้นราวๆ 7,850 ล้านบาท และคาดกันว่าจะสามารถทดลองใช้งานได้จริงในปี 2021-2022 ต่อไปนั่นเอง ที่มา livescience
-
มาเลเซียเตรียมใช้ ‘โดรน’ ในการขนส่งพัสดุและเอกสารในอีก 5 ปีข้างหน้า
เมื่อก่อนโดรน (Drone) หรืออากาศยานไร้คนขับ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทางการทหารเพื่อทำการช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในป่าลึก แต่ในปัจจุบันได้มีการใช้โดรนในการสำรวจ ถ่ายภาพจากมุมสูง หรือกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย บริษัทในมาเลเซียจึงเกิดไอเดียที่จะนำโดรนมาใช้ในการขนส่งพัสดุและเอกสาร ที่มีความรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น Gobind Singh Deo รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาเลเซียแถลงว่า “มาเลเซียจะไม่ยอมเป็นประเทศที่ล้าหลัง ตามที่นายกรัฐมนตรี Tun Dr Mahathir Mohamad ได้กล่าวเอาไว้ว่า ประเทศของเราจะต้องนำเทคโนโลยีใหม่ อย่างโดรนหรือ ระบบ AI มาใช้” นอกจากนั้นท่านรัฐมนตรียังได้ยกตัวอย่างว่า โดรนจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งยารักษาโรคและ วัสดุอุปกรณ์บางการแพทย์บางอย่างไปยังพื้นที่ห่างไกล โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนกับ Pos Malaysia และ MCMC ปรับปรุงบริการขนส่งภายในประเทศ และพัฒนาระบบความปลอดภัยในการให้บริการ คาดว่าจะใช้งานได้ในอีก 5 ข้างหน้า ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับระบบขนส่งที่พัฒนาแบบไม่หยุดยั้ง คงต้องรอลุ้นกัน ที่มา: worldofbuzz
-
‘พัคโบกอม’ ปล่อยทีเซอร์ซิงเกิลแรก ‘Bloomin’ มาเรียกน้ำย่อย พร้อมเดบิวต์ในฐานะนักร้องที่ญี่ปุ่น
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักหนุ่มน้อยหน้าใส ‘พัคโบกอม‘ ในฐานะนักแสดงมากความสามารถที่ฝากผลงานในภาพยนตร์ และซีรีส์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Reply 1988, Moonlight Drawn By Clouds หรือ Encounter เรื่องล่าสุดที่ประกบคู่กับนักแสดงหญิงขวัญใจมหาชนอย่าง ‘ซงเฮเคียว’ ที่ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม นอกเหนือจากผลงานการแสดงแล้ว หนุ่มโบกอมก็ยังแสดงความสามารถในการร้องเพลง ซึ่งจะกำลังจะมีผลงานเพลงในฐานะนักร้องอย่างเต็มตัวในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา หนุ่มโบกอมก็ได้ปล่อยทีเซอร์ซิงเกิลแรกในอัลบั้มชื่อเพลงว่า ‘Bloomin’ ที่จะทำออกมาเป็น 2 เวอร์ชั่น อันมีเอกลักษณ์ ได้แก่ อัลบั้มแบบลิมิเดตและอัลบั้มแบบธรรมดา นอกจากซิงเกิลแรกที่จะปล่อยออกมาในเร็วๆ นี้แล้ว ในอัลบั้มยังประกอบด้วยเพลง ‘Shining Future’ และเพลง ‘My Person’ เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเพลงประกอบซีรีส์ ‘Moonlight Drawn by Clouds ที่สร้างความโด่งดังให้กับหนุ่มโบกอมเป็นอย่างมาก ทีเซอร์เพลง ‘Bloomin’ ใครที่รอผลงานเพลงจากพัคโบกอมก็เตรียมตัวหาซื้ออัลบั้มที่จะวางแผงในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 20 มีนาคม 2019 นี้กันได้เลย…
-
โปสเตอร์ต้านยาเสพติดญี่ปุ่น มาในธีมน่ารัก “เสพยามันขม ดูดเส้นอุด้งกันดีกว่า”
ยาเสพติดนั้นก็เป็นปัญหาที่ทุกประเทศทั่วโลกล้วนกำลังหาทางจัดการกันอยู่ ถ้าเป็นบ้านเราก็มีจัดงานต้นยาเสพติด มีกิจกรรมต่างๆ ให้เด็กนักเรียนได้แสดงความสามารถเพื่อให้ค้นหาตัวตน และงานอดิเรกที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่งคำขวัญประกวด หรือหนักหน่อยก็มีวิดีโอภาพน่ากลัวๆ ให้ดูในคาบเรียน ที่ญี่ปุ่นดินแดนที่มักมีอะไรมาทำให้เราทึ่งกันเสมอนั้นก็มีปัญหายาเสพติดเช่นกัน แต่ในการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดแบบง่ายๆ อย่างการให้ความรู้ผ่านทางโปสเตอร์นั้นก็ยังทำให้เรารู้สึกอึ้งกันจนได้ โปสเตอร์ที่ทุกคนได้เห็นกันอยู่นี้ถูกโพสต์ลงทวิตเตอร์โดยผู้ใช้ชื่อ @thisi2internet พร้อมแคปชั่นว่า “ยาเสพติดได้ถูกจัดการไปแล้วเรียบร้อย” ส่วนบนโปสเตอร์นั้นแปลได้ดังนี้ “วิธีถอยห่างจากยาเสพติด ใช้ すてきなコツ (สุเทคิคทสึ) ของเราในการปฏิเสธยาเสพติด (すてき แปลว่า ดีงาม) (コツ แปลว่า เทคนิค) す สูดเส้นอุด้งแทนดูดยา て ระมัดระวังในการเลือกบริโภค เหมือนเวลาเราเลือกเทมปุระชิ้นที่ดูดี き ไปกินอุด้งแทนกันดีกว่า な กินอุด้งอย่างเอร็ดอร่อย コ กินอุด้งเสร็จก็กลับบ้านด้วยนะ ツ แทนที่จะกินผงสีขาว มากินแป้งสาลีกันดีกว่า” ถ้าคุณกำลังคิดว่านี่มันโปสเตอร์อิหยังวะ ใช่ คุณคิดถูกแล้วเพราะแม้แต่ชาวญี่ปุ่นเองก็รู้สึกว่ามันตลกเกินกว่าจะเชื่อว่ามันคือโปสเตอร์ต่อต้านยาเสพติดจริงๆ เช่นกัน แต่ด้วยความที่โปสเตอร์ดังกล่าวนั้นเป็นผลงานของเมืองคากาวะ ที่อุด้งเป็นของขึ้นชื่อ เลยทำให้มันดูสมเหตุสมผลขึ้นมานิดนึง https://twitter.com/thisi2internet/status/1103926787606642694 ทางด้านชาวเน็ตบางส่วนก็ได้ให้ความเห็นกันไว้ว่า…
-
คุณยาย ‘Kane Tanaka’ ชาวญี่ปุ่นวัย 116 ปี ถูกประกาศเป็น ‘คนที่มีอายุเยอะที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่’!!
เคยสงสัยกันไหมว่า ณ ปัจจุบันคนที่มีอายุเยอะที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่คือใครกัน แล้วเขาอยู่ที่ประเทศไหนอายุเท่าไหร่ ในวันนี้ข้อสงสัยนี้จะหมดไปเพราะว่าได้มีการพบเจอหญิงคนที่ว่านี้แล้ว… เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ของบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ (Guinness World Records) ได้พากันไปที่บ้านพักคนชราในเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้กับหญิงชราท่านหนึ่ง เธอมีชื่อว่า Kane Tanaka ที่ปัจจุบันถึงมีอายุ 116 ปี จึงทำให้เธอคว้าสถิติคนอายุเยอะที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ไปครองโดยปริยาย… “ฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะขอประกาศว่า Kane Tanaka คือคนที่มีอายุเยอะที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยอายุ 116 ปีกับอีก 66 วัน ณ วันที่ 9 มี.ค. “ Kaori Ishikawa กรรมการกินเนสส์กล่าว การมอบรางวัลครั้งนี้มีครอบครัวของคุณยายและนายกเทศมนตรีมาร่วมฉลองด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบใบรับรองจากกินเนสส์สถิติให้กับมือของคุณยายเองเลย โดยอันที่จริงแล้วเมื่อครั้งอดีตคุณยายเคยเผชิญกับโรคร้ายอย่างมะเร็งมาก่อนแต่ก็สามารถเอาชนะมันมาได้ ส่วนในตอนนี้กิจกรรมโปรดที่คุณยายโปรดปรานก็คือการเล่นบอร์ดเกม ‘โอเทลโล่’ และมีอยู่ส่วนหนึ่งของงานที่มีคนถามว่าคุณยายชอบชีวิตช่วงใดมากที่สุดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คุณยายก็ตอบว่า ‘ตอนนี้ยังไงล่ะ’!! โดยคุณยาย Tanaka เกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 1903 เป็นลูกคนที่ 7 จาก…
-
หนุ่มถูกสายการบินปรับเงิน หลังโปรแกรม Auto-Correct สะกดชื่อผิดให้ตอนซื้อตั๋ว!!
Auto-Correct หรือ โปรแกรมช่วยสะกดคำ เป็นโปรแกรมที่สร้างความอัปรีย์มานักต่อนัก ในช่วงแรกๆ ที่สมาร์ทโฟนเริ่มบูมขึ้นมา ในช่วงหลังๆ ไม่แน่ใจว่าโปรแกรมมันฉลาดขึ้นหรือมีคนปิด Auto-Correct เป็นกันเกือบทุกคนแล้ว ทำให้เราไม่ค่อยเห็นข้อความเฟลๆ ตามโซเชียลกันซักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ยังมีมนุษย์ผู้ไม่ยอมปิดโปรแกรมนี้โผล่ออกมาจนได้… Luke Bradley หนุ่มวัย 31 ปี คือชายผู้โชคร้าย ที่ได้ซื้อตั๋วของสายการบิน Ryan Air แต่โปรแกรม Auto-Correct ดันเปลี่ยนชื่อของเขาเป็น Lukewarm หลังจากเสียเงินซื้อตั๋วไป 43 ปอนด์ (ประมาณ 1,700 บาท) Luke ผู้ต้องการเดินทางจากประเทศไอร์แลนด์ ไปที่เมืองลิเวอร์พูลและเดินทางไปแมนเชสเตอร์ต่อ ก็เกิดอาการช็อคมาก ตรูโดน Auto-Correct เล่นซะแล้วววว Current update….Gabi the senior customer service rep insisting Lukewarm is a name #ryanair @Ryanair pic.twitter.com/6krAOiqfOM — Luke…
-
ชาวเน็ตไม่พอใจ หนุ่ม ‘โอตาคุ’ วางตุ๊กตากินพื้นที่บนรถเมล์กว่า 4 ที่นั่ง
หลายคนที่เคยได้ยินคำว่า ‘โอตาคุ’ ที่ใช้เรียกคนที่คลั่งไคล้การ์ตูนหรือแอนิเมชันญี่ปุ่นกันมาบ้าง และคงพอจะรู้ว่าพวกเขาเหล่านี้ทุ่มเทให้กับสิ่งที่ชอบขนาดไหน เรียกว่าเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมาผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า torooo_n ได้เผยแพร่ภาพของหนุ่มโอตาคุคนหนึ่งที่วางตุ๊กตา 2 ตัวใหญ่ ไว้บนที่นั่งของรถเมล์ เมื่อรวมที่นั่งของเขาแล้วกินพื้นที่ของผู้โดยสารไปกว่า 6 คน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างดุเดือด ถึงความไม่เหมาะสม ภาพเหตุการณ์ หนุ่มคนนี้เป็นแฟนตัวยงของการ์ตูน Love Live! Sunshine!! ที่ประกอบไปด้วยตัวละครสาวๆ สุดน่ารัก และหนึ่งในนั้นคือต้นแบบของตุ๊กตา Tera Jumbo ที่หนุ่มคนนี้หอบหิ้วมาด้วย ชาวเน็ตหลายคนออกมาแสดงความไม่พอใจโดยบอกว่า “เพราะแบบนี้ไง ภาพลักษณ์ของโอตาคุเลยแย่ลงทุกวัน” “ถ้าจะใช้พื้นที่เยอะขนาดนี้ก็เก็บเงินตามที่นั่งเลยเหอะ” “ฉันเป็นแฟนการ์ตูนเรื่อง Love Live! เหมือนกัน แต่รับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้” “ทำแบบนี้ไม่เห็นใจคนอื่นเลย” ตุ๊กตา Love Live! Tera Jumbo แต่บางคนก็เห็นว่า ในตอนนั้นยังไม่มีผู้โดยสารขึ้นมา สิ่งที่หนุ่มคนนี้ทำจึงไม่ผิด ทั้งนี้หลายเสียงก็แย้งว่าเป็นเรื่องนี้มารยาทพื้นฐานที่ทุกคนปฏิบัติเมื่อใช้รถสาธารณะ นอกจากนั้นชาวเน็ตยังแนะนำว่า ถ้านำตุ๊กตาออกไปในนอกบ้านก็ควรถือไว้ เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างความเดือดร้อนและสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในสายตาคนอื่น ที่มา: torooo_n,…
-
ชายผิวขาว 6 คน ‘เหยียดคนผิวสี’ ทำท่าล้อเลียนเป็น ‘ลิง’ บนรถไฟใต้ดินลอนดอน
ในปัจจุบันถึงแม้ทั่วโลกจะมีการรณรงค์ให้การ “เหยียดเชื้อชาติ” เป็นเรื่องที่ร้ายแรงและไม่ควรจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่มองเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติและยังเลือกที่จะปฏิบัติตัวแบบนั้นอยู่ดี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่รถไฟใต้ดินของกรุงลอนดอน เมื่อชายผิวขาวหกคนเหยียดชายผิวสีคนหนึ่งด้วยการทำท่าทางและส่งเสียงร้องเหมือน “ลิง” โดยไม่แยแสสายตาผู้คนที่มองมาแม้แต่น้อย… สถานีรถไฟใต้ดิน Kennington วันที่ 8 มีนาคม 2019 รถไฟใต้ดินลอนดอนสายเหนือ ที่กำลังมุ่งหน้าไปสถานี Kennington มีชายผิวสีชื่อว่า Mohammed Dirir วัย 27 ปี นั่งรถไฟเพื่อไปทำงานตามปกติเหมือนกับทุกๆ วัน รถไฟได้หยุดที่สถานีหนึ่งและชายผิวขาวทั้ง 6 คนได้ขึ้นมายังขบวนเดียวกันกับนาย Mohammed ชายทั้ง 6 คนเห็นนาย Mohammed นั่งอยู่และพวกเขาก็เริ่มส่งเสียงร้องเหมือนลิงทันที หนึ่งในพวกนั้นได้ยกนิ้วโป้งให้เขาเหมือนเป็นการบอกว่า “เขานั่นแหละที่กำลังโดนเหยียดอยู่” นาย Mohammed พยายามที่จะไม่สนใจเสียงร้องของคนเหล่านั้น แต่เขาทนที่จะยอมให้คนพวกนี้ทำพฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้ จึงถามออกไปด้วยน้ำเสียงปกติว่า “พวกคุณเป็นอะไรมากรึเปล่า??” ชายกลุ่มนั้นได้พูดคุยกันแล้วบอกว่าเขาทั้งโง่และไม่เข้าใจอะไรเสียเลย หนึ่งในกลุ่มชาวผิวขาวเริ่มกระโดดไปมาหลัง Mohammed ยกกล้องมือถือขึ้นมาบันทึกวิดีโอไว้ ผ่านไปหลายนาทีชายผิวขาวก็ยังไม่หยุด Mohammed จึงหยิบมือถือออกมาเพื่อถ่ายการกระทำอันน่ารังเกียจนี้ไว้ จากนั้นชายคนหนึ่งจึงเริ่มทำท่ากระโดดเหวี่ยงไปมาเหมือนลิงในทันที ชายคนนั้นพยายามเข้ามาใกล้กล้องให้ได้มากที่สุดโดยไม่สนใจใคร หลังจากนั้นนาย Mohammed จึงโพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าวลงบนอินสตาแกรมพร้อมแคปชั่นว่า “คนที่เหยียดผิวก็ยังมีจนถึงทุกวันนี้…
-
กรณีศึกษาเด็กป่วยเป็น “บาดทะยัก” จนเกือบเสียชีวิต แต่พ่อแม่ก็ยังปฏิเสธไม่ให้ลูกฉีดวัคซีน
ในตอนนี้ลัทธิต่อต้านการฉีดวัคซีนกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ในด้านชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลก เพราะความเชื่อส่วนบุคคลดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก ไม่เพียงลูกหลานของคนที่เชื่อจะเสี่ยงติดโรคที่เคยระบาดในอดีต ทั้งที่สามารถป้องกันได้แล้ว การไม่ฉีดวัคซีนก็จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่โรคเหล่านั้นจะกลายพันธุ์ ดื้อยา และพัฒนาเชื้อให้ร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม สุดท้ายโรคดังกล่าวก็จะกลับมาระบาดในสังคมอีกครั้ง ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคได้เผยกรณีศึกษาหนึ่งที่เกิดขึ้นในรัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2017 มีเด็กชายคนหนึ่งป่วยเป็นบาดทะยัก ซึ่งถือว่าเป็นบาดทะยักในเด็กเคสแรกในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว เด็กชายวัย 6 ขวบคนนี้ออกไปเล่นบริเวณฟาร์มนอกบ้านและเกิดอุบัติเหตุทำให้เด็กชายมีแผลที่หน้าผาก แผลดังกล่าวก็ถูกล้าง เย็บ และปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยครอบครัวของเด็กชายเอง 6 วันต่อมาอาการของเด็กคนดังกล่าวก็แย่ลง กรามของเขาเกร็งแน่น กล้ามเนื้อกระตุกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ พ่อกับแม่ของเขาจึงเรียกหน่วยแพทย์ให้มานำตัวลูกชายส่งโรงพยาบาลในทันที ระหว่างทางมาโรงพยาบาลเด็กชายยังรู้สึกตัว ได้ขอน้ำดื่มแต่ด้วยอาการแข็งเกร็ง ทำให้เด็กชายไม่สามารถเปิดปากเพื่อดื่มน้ำได้ แม้แต่การหายใจก็มีปัญหา แพทย์ผู้รักษาเห็นอาการของเด็กน้อยก็สามารถบอกได้ทันทีว่าเขาป่วยเป็นอะไร มันคือ “โรคบาดทะยัก” นั่นเอง แพทย์จึงได้ใส่เครื่องช่วยหายใจให้ ให้ยาต้านพิษ วัคซีน DTaP ซึ่งจะช่วยเขาจากโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน และยาฆ่าเชื้อแก่เด็กชายทันที อาการของเขาแย่มากจนหมอต้องให้ยาที่ทำให้เขาเป็นอัมพาต และเปลี่ยนวิธีช่วยหายใจด้วยการเจาะและสอดท่อทางคอแทน ต่อมาเด็กชายต้องอยู่ในห้องฉุกเฉินที่มืดสนิท เสียบที่อุดหู เพื่อให้มีสิ่งกระตุ้นอาการเกร็งให้น้อยที่สุด เพราะการเกร็งขณะป่วยเป็นบาดทะยักนั้นทำให้เจ็บปวดราวกับเป็นตะคริวทั่วร่าง และมันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากได้ยินเสียง…
-
สาวสุดเซ็ง สั่งชุดออนไลน์ไซส์ปกติมา แต่ทำไมมันสวมให้น้องหมาได้พอดีล่ะเนี่ย!?
เรามักจะเห็นบ่อยๆ ใช่มั้ย เวลาสั่งของออนไลน์มักจะมีเรื่องราวฮาๆ จากชาวเน็ตเสมอ เพราะภาพที่เหล่าคนขายโชว์ไว้มันช่างดูดีเหลือเกิน แต่พอได้ของมามันดันไม่ตรงกับภาพที่โฆษณาไว้เลยเนี่ยสิ… เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องที่จะสงสารหรือฮาแทนก็ไม่รู้ เมื่อสาวคนนี้ได้สั่งซื้อชุดออนไลน์เพื่อจะไปเที่ยวเล่นเก๋ๆ ตอนสั่งก็ว่าบอกไซส์สำหรับมนุษย์ใส่แล้วนะ แต่ชุดที่ได้ทำไมมันใส่กับน้องหมาได้พอดีกันล่ะเนี่ย?? เสื้อที่เธอสั่งซื้อออนไลน์มา โดยเธอใช้บัญชีทวิตเตอร์ว่า @Callie_conway1 โพสต์ภาพดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2019 และชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาคอมเมนต์เป็นจำนวนมากถึงชุดของเธอ (หรือของน้องหมา??) โพสต์ที่เธอแชร์ลงบนทวิตเตอร์ “คืองี้ ฉันสั่งซื้อเสื้อทางออนไลน์มาด้วยไซส์เบอร์ 8 แบบอังกฤษ เพื่อเตรียมจะไปเที่ยวอีบีซ่าสวยๆ แต่พอมาถึง… มันพอดีกับหมาของฉันมากกว่าอีก แฟนซีมากมั้ยล่ะ ขอกรี๊ดดังๆ หน่อยเถอะชาร์ล็อตต์ ?? “ https://twitter.com/Callie_conway1/status/1103334557472960512 แม่สาว Conway บอกว่าเธอเสียเงินให้กับชุดนี้ในราคา 52 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,650 บาท โดยเธอยังไม่ได้เผยว่าสั่งซื้อมาจากร้านไหน และหากเทียบกันแล้วเสื้อผ้าไซส์ 8 แบบอังกฤษสำหรับผู้หญิงจะอยู่ที่ไซส์ 4 ของอเมริกา (อ้างอิงจาก ASOS) ชุดพอดีกับน้องหมาของเธอเลย .…
-
20 แหล่งท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ควรไปเยือนก่อนมันจะ ‘หายไป’ ตลอดกาล
บนโลกใบนี้ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามทางธรรมชาติมากมาย แต่ใครจะรู้ว่าอีก 100 ปีข้างหรืออาจจะเร็วกว่านั้น มันอาจจะหายไปโดยที่เรายังไม่ทันได้ไปสัมผัสที่นั่นเลยสักครั้ง ผลกระทบจากที่เกิดจากภาวะโลกร้อนในปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติจะหายไป จมอยู่ใต้ผืนน้ำ หรือพังลงมาจากการกัดกร่อนและมลพิษ มาดูกันว่าสถานที่ไหนบ้าง ที่เราควรไปเยือนสักครั้ง ก่อนมันจะ ‘หายไป’ ตลอดกาล อ่าวมาหยา ประเทศไทย อ่าวมาหยาที่กำลังประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม จนถึงขั้นมีคำสั่งปิดเพื่อฟื้นฟู ซึ่งหวังว่าจะทำให้สถานที่ดังแห่งนี้กลับมางดงามอย่างในอดีตอีกครั้ง ยอดเขาคิลิมันจาโร ประเทศแทนซาเนีย ในช่วงเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา น้ำแข็งบนยอดเขาหายไปกว่า 85% แล้ว และความงดงามนี้อาจจะหมดไปในอนาคต เกาะ Seychelles ประเทศมาดากัสการ์ ปริมาณน้ำทะเลที่สูงขึ้น จึงคาดว่าอาจจะทำให้ชายหาดอันงดงามแห่ง “เซเชลส์” สูญหายไปภายใน 50-100 ปี อุทยานแห่งชาติ Glacier รัฐมอนแทนา สหรัฐอเมริกา ปริมาณธารน้ำแข็งจาก 150 แห่ง ลดเหลือเพียง 25 แห่งในฤดูร้อน และคาดว่าภายใน 15 ปี เราอาจจะไม่ได้เห็นธารน้ำแข็งในฤดูร้อนอีกแล้ว อุทยานแห่งชาติ…
-
แม่จ๋าแม่!! เด็กประถมลืมกระเป๋าหนังสือไว้บนรถแม่ เลยวิ่งตามรถกว่า 2 กิโลฯ แม่ไม่รู้สักนิด…
เวลาที่เราลืมเอาหนังสือหรือกระเป๋าไปโรงเรียน เราอาจจะบอกกับคุณครูว่า ‘ลืมเอามาครับ/ค่ะ’ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาจากนั้นก็นั่งชิลๆ ลอยไปลอยมาแต่ว่ามีเด็กคนหนึ่งที่ไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น เพราะเขาลงทุนวิ่งตามรถแม่เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร จากความที่เขาลืมกระเป๋าเอาไว้บนรถและจะเอาไปโรงเรียนให้ได้!! แม๊!!! เรื่องราวที่ว่านี้ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมาในเมืองหนิงกั๋ว มณฑลอันฮุย โดยเริ่มจากคุณแม่ได้ไปส่งลูกชายชั้นประถมไปโรงเรียนตามปกติ เมื่อถึงโรงเรียนแล้วเด็กชายคนนี้ก็ลงจากรถแต่เพิ่งนึกได้ว่าลืมกระเป๋าเรียนอยู่บนรถของคุณแม่… แต่กว่าที่เขาจะรู้ตัวคุณแม่ก็ขับรถออกไปแล้วเรียบร้อย เด็กชายคนนี้เลยไม่รู้จะทำยังไงและในที่สุดเขาก็ตัดสินใจวิ่งตามรถของคุณแม่หมายจะเอากระเป๋ามาให้ได้ (เขาไม่มีอุปกรณ์สื่อสารใดๆ) กระเป๋าเจ้ากรรมทำน้องเหนื่อย แม้ว่าจะวิ่งไกลขนาดไหนทว่าก็ดูเหมือนว่าคุณแม่ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าลูกชายได้วิ่งตามรถมา จนกระทั่งทางโรงเรียนได้โทรไปแจ้งกับคุณแม่ว่าลูกชายของเธอยังไม่ได้เข้าเรียนเลย คุณแม่จึงร้อนใจอย่างหนักด้วยความกลัวว่าลูกชายจะหายตัวไป และได้เข้าแจ้งความเรื่องนี้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจอแล้วจ้า ที่แท้วิ่งตามรถนี่เอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจดูกล้องวงจรปิดในละแวกโรงเรียน แล้วก็พบกับความจริงที่เกิดขึ้นว่าเด็กชายคนนี้วิ่งตามรถของแม่มา ซึ่งเป็นจุดที่มีระยะห่างจากโรงเรียนถึง 2 กิโลเมตรเลยทีเดียว… ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่จึงได้พาตัวเด็กชายคนขี้ลืมกลับบ้านมาหยิบกระเป๋าหนังสือ และนำไปส่งที่โรงเรียนให้ด้วย เรื่องราวนี้ได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล ซึ่งบางคนก็บอกว่าทั้งสงสารทั้งเอ็นดูเด็กชายคนนี้ และบางส่วนก็บอกอดขำไม่ได้จริงๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่มา: chinaxinhuanews
-
เด็กหนุ่มวัย 11 คว้าปืนแอบยิง ‘ตูด’ พ่อตอนหลับ หลังไม่พอใจที่ไม่ได้เล่นเกม!!
แม้ว่าเกมจะเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเด็กๆ แต่ว่าบางทีพ่อแม่ก็มีเหตุผลในการห้ามไม่ให้พวกเขาเล่นอาจจะด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ทว่าสำหรับเด็กๆ แล้วก็อาจเกิดความไม่พอใจเกิดขึ้นได้ ดั่งเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกานี้ ที่ลูกชายวัย 11 ขวบใช้ปืนของคุณพ่อที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเข้าใส่ ‘บั้นท้าย’ ของพ่อ เพราะถูกพ่อยึดเกมไปหมด!? คุณพ่อที่ถูกยิงก้น เรื่องมีอยู่ว่าเด็กหนุ่มวัย 11 ปีที่ไม่เปิดเผยชื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ หลังจากที่เขาก่อเหตุใช้ปืนยิง Matt Makowski คุณพ่อที่มีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยอาวุธที่เด็กคนนี้ใช้ก็ไม่ใช่อื่นใด เพราะมันคือปืน .45-Caliber ปืนประจำตำแหน่งของคุณพ่อนั่นเอง ซึ่งอันที่จริงแล้วคุณพ่อได้เก็บปืนนี้เอาไว้ในรถตำรวจที่ล็อกไว้ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากจะให้มันอยู่ไกลมือเด็กๆ แต่เด็กหนุ่มคนนี้ก็ยังไปเอามาได้… เหตุการณ์ในวันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าพวกเขาได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐอินเดียน่าเวลาประมาณ 23.00 น. ซึ่งเมื่อไปถึงเด็กหนุ่มคนนี้ก็ยอมมอบตัวแต่โดยดี ส่วนคุณพ่อก็ถูกส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ทางด้าน Allison Makowski ผู้เป็นแม่ของเด็กคนนี้ก็ให้การกับตำรวจว่า ขณะนั้นเธอและสามีกำลังนอนหลับกันอยู่ ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังลั่นตามมาด้วยเสียงร้องทรมานของสามี เธอจึงรีบวิ่งไปหาลูกและได้พบกับปืนถูกวางทิ้งไว้บนพื้นนอกห้องนอน เธอจึงรีบเข้าไปหยิบปืนมาในทันทีพร้อมกับโทรแจ้ง 911 จากนั้นก็รีบไปซ่อนตัวในห้องหลังจากเห็นลูกชายเดินขึ้นบันไดมาพร้อมกับปืนบีบีกันและปืนช็อตไฟฟ้า จนกระทั่งตำรวจมาถึงเธอจึงสามารถออกจากที่ซ่อนได้ ทางด้านผู้ก่อเหตุได้สารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาอยากจะเล่นเครื่องเล่น PlayStation, Xbox กับคอมพิวเตอร์ และปิดท้ายด้วยประโยคที่ว่า “จะเอาสิ่งพวกนี้ให้ผมหรืออยากจะมีพาร์ท 2…
-
ช่างตัดผมที่อายุน้อยที่สุดโลก วัยเพียง 8 ขวบ อาสาตัดผมให้คนยากไร้ในหมู่บ้าน
ความสามารถไม่ได้วัดกันที่อายุ ในขณะที่ผู้ใหญ่หลายคนมีประสบการณ์มากกว่าคนที่อายุยังน้อย เด็กๆ บางคนก็มีทักษะเหนือผู้ใหญ่ อย่างเช่น เด็กหญิงวัย 8 ขวบคนนี้ Neijae Graham-Henries ช่างตัดผมที่อายุน้อยที่สุดในโลก ที่เริ่มฝึกฝนทักษะของตัวเองในโรงเรียน Junior Barber Academy เมือง West Philadelphia รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา แม่ของเธอเล่าว่า ตอนแรกตั้งใจที่จะส่งลูกชายไปเรียน แต่เขากลับไม่สนใจ ผิดกับลูกสาว Neijae ที่มีความกระตือรือร้นอยากจะไปเรียนตัดผม เธอบอกกับคุณแม่ว่า “หนูเชื่อว่าหนูทำได้ มันดูน่าสนุกดี หนูขอลองดูนะคะ” แม้ว่าเพื่อนในห้องจะไม่มีผู้หญิงเลย แต่เธอก็สนุกกับการเรียนตลอดทั้ง 6 สัปดาห์ โดยแบ่งเวลาไปเป็นช่างตัดผมอาสาสมัครให้กับคนไร้บ้านและคนอื่นๆ ในชุมชนของเธอด้วย สาวน้อยคนนี้เล่าว่า “หนูมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นๆ และทำให้พวกเขาดูดีขึ้น” เมื่อเธอเข้าสู่วงการช่างตัดผม เธอก็ได้พบกับผู้คนมากมาย และพวกเขาเหล่านี้ก็ได้เป็นที่ปรึกษาและคอยให้คำแนะนำเธอ จนกว่าจะได้ใบอนุญาตในการเป็นช่างตัดผมอย่างเต็มตัว ความฝันของสาวน้อย Neijae จะเป็นจริงไม่ได้เลยหากเธอไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของเธอ คุณแม่ของหนูน้อยคนนี้พูดว่า “เรามีความสุขที่ได้เห็นเธอได้ทำอาชีพที่เธอรัก” นอกจากความสามารถที่ไม่แพ้ผู้ใหญ่บางคนแล้ว สาวน้อยคนนี้ยังช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความจริงใจอีกด้วย …
-
ร้านคาเฟ่ในเมลเบิร์นโดน ‘ชาวบ้านด่า’ เหตุเพราะเขียนมุกล้อเลียนคนพิการหน้าร้าน
กลายเป็นข่าวของท้องถิ่นเมื่อร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ถูกชาวบ้านแถวนั้นต่อต้านและโดนต่อว่าหลังทางร้านเขียน “มุกตลกประจำวัน” ลงบนป้ายหน้าร้าน ร้านคาเฟ่ดังกล่าวถือเป็นร้านประจำของหลายๆ คนในย่านนั้น และมักจะชอบเขียนมุกตลกบนป้ายหน้าร้านในทุกๆ วันพร้อมแชร์ภาพลงบนเฟซบุ๊ก แต่คราวนี้ดูท่าจะโชคไม่ดีเพราะร้านดันเล่นมุกล้อเลียนคนพิการซะงั้น… ร้านคาเฟ่ในเมืองเมลเบิร์น ร้านคาเฟ่นี้ชื่อว่าร้าน Seddon Deadly Sins ได้แชร์ภาพมุกตลกดังกล่าวในโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2019 ที่ผ่านมา พร้อมแฮชแท็ก #hahaha #seddendeadlyfunnies #haveyoulaughedlately. ต่อมาร้านคาเฟ่แห่งนี้ก็ถูกต่อว่าอย่างหนัก ทั้งจากชาวเน็ตและคนละแวกนั้น พร้อมสั่งให้รีบลบโพสต์ดังกล่าวและออกมาขอโทษในสิ่งที่ได้เขียนล้อเลียนคนพิการออกไป โพสต์ของทาง @newscomauHQ ที่แชร์ลงบนทวิตเตอร์ โดยในป้ายดังกล่าวเขียนว่า “แฟนสาวบอกเลิกผม ผมก็ขโมยรถเข็นซะเลย ดูสิว่าตอนนี้ใครกันแน่ที่ต้องคลานกลับมาขอร้อง” A popular Melbourne cafe has been forced to apologise after customers were left disgusted by this "vile” joke…
-
เด็กนักเกรียนปล่อยเอกสารปลอม ‘แจ้งตรวจไอ้จ้อน’ ทั่วรร. ใครไม่ตรวจเรียนไม่จบ
เชื่อว่าเด็กวัยรุ่นระดับชั้นมัธยมส่วนมาก เป็นวัยที่กำลังกลัดมันเทพซ่าและชอบทำอะไรพิเรนทร์ๆ เหมือนกับเหตุการณ์นี้ Raif เด็กมัธยมวัย 16 ปี ได้ออกมาเผยใน Reddit ว่า เพื่อนของเขาแจกจ่ายเอกสารปลอมแจ้งเตือนว่าไปทั่วโรงเรียนรัฐเขต Stamford ว่าจะมีการบังคับตรวจ ‘ไอ้จ้อน’ ในเอกสารเขียนพาดหัวไว้ว่า “ประกาศถึงนักเรียนและคณะครูทุกท่าน” พร้อมกับเขียนกำกับไว้ว่าให้อาจารย์อ่านประกาศนี้ให้นักเรียนฟัง รายละเอียดคร่าวๆคือจะมีการบังคับตรวจไอ้จ้อนกับนักเรียนและอาจารย์เพศชายทุกคนในโรงเรียน ตามรหัสสุขภาพที่ 9.51 การตรวจจะมีขึ้นในวันที่ 12 มี.ค. 2019 สำหรับใครที่ผ่านการขลิบให้รายงานกับคนที่ใส่ชุดสูท ส่วนใครที่ยังไม่ผ่านการขลิบให้รายงานกับคนที่ใส่ชุดพยาบาล มีการกำกับไว้อีกว่านักเรียนชายทุกคนจะต้องผ่านการตรวจ ไม่งั้นจะ ‘ไม่ผ่านการศึกษา’ และจะมีผู้ประเมินให้ว่า ‘ผ่าน’ หรือ ‘ไม่ผ่าน’ และเขียนไว้อีกว่า “โปรดทำให้แน่ใจว่าไอ้จ้อนของทุกคนสะอาดและเป็นระเบียบ” ด้านล่างของเอกสารมีการลงชื่อลายเซ็นเอาไว้เสร็จสรรพจาก “Richard L. Dong หัวหน้าการตรวจไอ้จ้อน” และ “Mike Hawk หัวหน้ากรรมการด้านอวัยวะเพศ” อะไรมันจะปั่นขนาดนี้! เมื่อตรวจสอบกับ Raif ก็พบว่าเพื่อนที่ปลอมเอกสารนี้ออกไปมีชื่อว่า Spencer และเขาก็เผยว่าเขาได้สารภาพกับรองครูใหญ่ไปในบ่ายวันนั้น ในระหว่างที่กำลังเดินไปที่ห้องครูใหญ่ เพื่อนๆ ในโรงเรียนที่เขาเดินผ่าน…
-
ช่างภาพชาวอังกฤษตามถ่ายรูป ‘มุมเดิม’ กับ ‘คนเดิม’ หลังจากเวลาผ่านไป 40 ปี
‘เวลา’ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในชีวิต ทั้งรูปร่างหน้าตา ลักษณะนิสัยที่เปลี่ยนไปตามอายุ จะมีสักกี่คนที่บอกว่าตัวเองยังเหมือนเดิมไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน Chris Porsz ได้ถ่ายภาพผู้คนในเมืองปีเตอร์โบโร มณฑลเคมบริดจ์เชอร์ ประเทศอังกฤษ ช่วงปี 1970s -1980s ซึ่งเป็นภาพของครอบครัว คู่รักวัยรุ่น กลุ่มเพื่อน และคนอื่นๆ บนท้องถนน หลังจากเวลาผ่านไปกว่า 40 ปี เขาก็กลับไปตามหาคนในรูปถ่ายอีกครั้ง และขอร้องให้พวกเขากลับมาถ่ายรูปใน ‘มุมเดิม’ กับ ‘คนเดิม’ อีกครั้ง จนเกิดเป็นผลงานหนังสือเล่มใหม่ ที่ชื่อว่า “Reunions” หรือ “การกลับมาเจอกันอีกครั้ง” มาดูกันว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะน่ารักขนาดไหน… คู่รักวัยรุ่นเมื่อ 40 ปีก่อน VS ปัจจุบัน . เพื่อนกลุ่มเดิม . เธอยังมีฉัน ไม่ทิ้งกันไปไหน เจ้าของกิจการคนเดิม 40 ปีผ่านไป…ยังมีที่ประจำอยู่ . ขยันทำงานจนมีรถขับแล้ว…
-
หนุ่มเปิดโรงเรียนสอนเต้นฟรีในเฮติ ‘ช่วยเด็กยากไร้’ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อบริการทางเพศ นทท.
ประเทศเฮติเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรอาหารเป็นอย่างมาก รวมถึงประชาชนและนักท่องเที่ยวที่นั่นต่างต้องระมัดระวังตัวจากโจรและเหตุก่อความไม่สงบในเมืองตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นแม้จะเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่า “แล้งทรัพยากรทางอาหาร” แต่ก็มีประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้แล้งน้ำใจตามไปด้วย… เมื่อ Dieufel Lamisere หนุ่มชาวเฮติคนหนึ่งทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นเด็กยากไร้ในเมืองต้องมาเดินตามท้องถนน และพวกเขาต่างตกเป็นเหยื่อบริการทางเพศให้แก่นักท่องเที่ยวจำนวนมากโดยไม่เต็มใจ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาได้ตัดสินใจเปิดโรงเรียนสอนเต้น Dance to Save Lives แห่งนี้ Lamisere และเด็กๆ ที่เขาสอนเต้นให้ฟรี นาย Lamisere อาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 8 ปี ตลอดช่วงเวลานั้นเขาได้เปิดโรงเรียนสอนการเต้นแบบดั้งเดิมของชาวเฮติที่นั่น และได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก จนกระทั่งในปี 2008 เขาได้เดินทางกลับมายังบ้านเกิดทางตอนเหนือของเฮติ และเห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่รัฐบาลแก้ไม่เคยได้ จนส่งผลกระทบต่อเยาวชนรุ่นหลัง ด้วยเหตุนั้นเอง เขาจึงเริ่มเปิดโรงเรียนสอนเต้นให้กับทุกคนแบบฟรีๆ ขึ้นมา และเริ่มทำการแจกใบปลิวทันที “เหตุผลสำคัญที่ผมเปิดโรงเรียนขึ้นก็เพราะว่าผมอยากช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ผ่านการเรียนรู้” โรงเรียนแห่งนี้สอนการเต้นแบบดั้งเดิมของชาวเฮติให้แก่เด็กๆ เพื่อเป็นการถ่ายทอดไปยังคนรุ่นหลังและพวกเขาสามารถสืบสานต่อไปได้ หนึ่งในการเต้นแบบดั้งเดิมคือ การเต้นแบบ Ibo ที่สื่อถึงชาวเฮติตอนเคยได้รับอิสรภาพในปี 1804 และถูกปลดแอกจากการเป็นทาสของเหล่าประเทศที่พัฒนาแล้ว เด็กเหล่านี้มีความสามารถพิเศษแต่พวกเขาแทบไม่เคยได้รับโอกาสเลย เด็กส่วนใหญ่ที่มาเรียนเต้นที่โรงเรียนแห่งนี้ ต่างมาจากแถบชานเมืองที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในประเทศ……
-
หนุ่มสละชีวิตอันแสนสบาย มาตามหา ‘ความสุขที่แท้จริง’ โดยการดูแลสัตว์ป่าในแอฟริกา
บ่อยครั้งที่ได้ยินว่า ‘ความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน’ บางคนอาจจะชอบออกไปสังสรรค์กับเพื่อนข้างนอก แต่บางคนชอบพักผ่อนอยู่บ้านสบายๆ บางคนชอบซื้อของ แต่บางคนก็ชอบเก็บเงินไว้สำหรับเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งความสุขของชายคนนี้ คือการได้ ‘ดูแลสัตว์’ ที่เขารัก Dean Schneider ชาวสวิตเซอร์แลนด์วัย 26 ปี ได้พิสูจน์แล้วว่าความสุขของเขาไม่ได้เกิดจากเงินทองมากมาย บ้านหลังใหญ่โต หรือหน้าที่การงานที่มีเกียรติ เขาจึงสละทุกอย่างที่มี มาดูแลสัตว์ในแอฟริกา กว่าปีมาแล้วที่เขา ลาออกจากงานตำแหน่งผู้วางทางการเงินในสวิสเซอร์แลนด์ ที่ใครๆ ก็มองว่าเป็นอาชีพให้เงินทองและความสุขสบายให้กับเขาได้ แต่สุดท้ายเขาเลือกที่จะแลกทุกสิ่งเพื่อตามหาความสุขที่แท้จริง . หนุ่ม Dean เดินทางมายังแอฟริกาและก่อตั้งชมรม Hakuna Mipaka ที่มีอาสาสมัครจากทั่วทุกมุมโลกคอยช่วยเหลือ และดูแลสัตว์ป่า อย่างเช่น สิงโต ม้าลาย ละมั่ง หมาใน และลิง เป็นต้น ซึ่งคำว่า Hakuna Mipaka หมายถึง ไม่มีขีดจำกัด เหมือนกับชีวิตของเขา . เขามีความตั้งใจที่ศึกษาเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ ลักษณะนิสัยของสัตว์ตั้งแต่ยังเด็ก เขาจึงชอบดูสารคดีสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ จนเกิดเป็นความฝันที่จะตั้งองค์กรไว้คุ้มครองสัตว์เหล่านี้ นอกจากนั้น หนุ่มคนนี้ยังบอกอีกว่า…
-
สหราชอาณาจักรประสบปัญหา “วิกฤตสุสาน” เมื่อที่ฝังศพมีไม่เพียงพอจนอาจต้องรียูสหลุม
ในแต่ละประเทศและวัฒนธรรมนั้นมีประเพณีในการจัดการศพไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้วิธีฝัง บ้างก็เผา แขวนไว้กับต้นไม้ หรือแม้แต่เอาไปให้สัตว์กินซากกำจัดก็ยังมี โดยทั่วไปโลกเรามีประเพณีศพหลักๆ อยู่ 2 อย่างคือ ฝัง กับ เผา ซึ่งโดยมากวัฒนธรรมทางตะวันตกจะฝังศพกันไว้ในสุสานกัน ให้ญาติพี่น้องไประลึกถึงกันตามโอกาส ในสหราชอาณาจักรเองก็ใช้ทั้งวิธีฝังและเผา และเมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า สถานที่ที่ใช้ฝังศพจึงเหลือน้อยลงทุกที จนตอนนี้ทางสหราชอาณาจักรต้องประสบกับวิกฤตสุสานเข้าแล้ว โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ อย่างลอนดอน แมนเชสเตอร์ และเบอร์มิงแฮม โดยได้มีการเสนอทางแก้ให้หลุมศพเก่าที่มีอายุมากกว่า 99 ปีและไม่มีครอบครัวของผู้ตายมาดูแลสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทางสหพันธ์เจ้าหน้าที่ด้านการฝังและเผาศพ (FBCA) เชื่อว่ามีหลุมศพที่สามารถใช้งานได้นั้นมีจำนวนหลักล้านหลุมเลยทีเดียว โดยข้อเสนอนี้กำลังอยู่ในการพิจารณาว่าจำเป็นหรือไม่ ซึ่งความจริงแล้วมีผู้คนมากมายที่ใช้วิธีเผา แต่ปัจจุบันนั้นการฝังศพกลับได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางแก้อีกทางที่น่าจะเป็นไปได้คือพยายามให้ประชาชนหันมาใช้วิธีเผาศพแทนนั่นเอง ที่มา Mirror
-
เก็บตก ‘วันสตรีสากล’ ด้วยโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่เห็นบทบาทของ ‘ผู้หญิง’ ชัดเจนขึ้น
‘International Women’s Day’ หรือ ‘วันสตรีสากล’ ตรงกับวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี ซึ่งนานาประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเองก็มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญของสตรี และแสดงให้เห็นถึงความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันของคนในสังคมอีกด้วย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้ ผู้หญิงได้เขามามีบทบาทในภาพยนตร์หลายเรื่อง และเพื่อความเท่าเทียม จึงมีการนำ Bechdel Test หรือแบบทดสอบอคติทางเพศมาใช้วัดบทบาทของสตรีที่ปรากฏอยู่ในหนังแต่ละเรื่อง ซึ่งในบางครั้งเราอาจจะมองข้ามตัวละครหญิงเหล่านี้ไป ในวันสตรีสากลปีนี้จึงมีการนำโปสเตอร์ภาพยนตร์มาปรับใหม่ ให้เห็นความสำคัญของ ‘ผู้หญิง’ ในเรื่องมากขึ้น มาดูกันว่ามีภาพยนตร์เรื่องไหนบ้าง! Toys Story 3 Star Wars: The Force Awakens Captain America: Civil War Black Panther Iron Man Harry Potter and the Deathly Hallows Part 2…
-
พ่อลูกชาวยูเครนกินเหล้าเมาจัด ฆ่าตัดหัวเพื่อนที่มาปาร์ตี้ด้วย แล้วเอาร่างเหยื่อไปต้มซุปกิน
เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018 ได้เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นที่ประเทศยูเครน โดย 2 พ่อลูก นาย Maksim Kostyukov อายุ 41 ปี และลูกชาย Yaroslav Kostyukov วัย 20 ปี ผู้ต้องหาได้มาขึ้นศาลเพื่อรับฟังการพิจารณาคดีในเดือนมีนาคม 2019 ผู้ตายนาย Evgeny Petrov ได้รับคำเชิญให้มาสังสรรค์ที่ผับแห่งหนึ่งในพื้นที่ ก่อนจะไปต่อกันที่แฟลตของสองพ่อลูก หลังจากดื่มกินและพูดคุยกันไป นาย Maksim จึงได้รู้ว่า นาย Evgeny เคยประกอบอาชีพตำรวจมาก่อน นาย Maksim นั้นเคยมีปัญหาแย่ๆ เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายและตำรวจมาก่อน บวกกับทั้งหมดดื่มเหล้าจนเมาแล้ว จึงได้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมา แล้วลงมือทำร้ายเพื่อนของตนเอง นาย Yaroslav Kostyukov โดยฝ่ายลูกชายเป็นผู้จับเหยื่อจากด้านหลัง และคนพ่อก็ใช้มีดปาดเข้าที่ลำคอของ Evgeny ก่อนจะใช้มีดทำครัวเล่มนั้นแทงเหยื่อเข้าที่หน้าอกซ้ำๆ อีกหลายครั้ง ทางตำรวจได้ให้การต่อศาลว่า หลังจากเหยื่อตายแล้ว นาย Yaroslav ก็ได้ตัดศีรษะออกจากร่าง และหั่นเนื้อขาและลำตัวของศพเป็นชิ้นๆ เนื้อบางส่วนผู้ต้องสงสัยได้นำไปต้มซุป และอีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ในตู้เย็น ส่วนร่างกายส่วนที่เหลือของเหยื่อนั้นทั้งคู่นำไปโยนทิ้งไว้ไม่ไกลจากแฟลตของตน…
-
ตำรวจหญิงเห็นคนนอนชัก ตัดสินใจ ‘เอานิ้วแหย่ปาก’ ป้องกันการกัดลิ้น สุดท้ายถูกกัดจนน้ำตาไหล!!
บางครั้งการช่วยชีวิตผู้อื่นก็อาจจะต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดของตัวเอง ดั่งเช่นกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศจีนกรณีนี้ ที่ตำรวจหญิงคนหนึ่งถูกกัดนิ้วมือจนร้องไห้ เพราะเธอได้ยื่นนิ้วเข้าไปในปากของหญิงคนหนึ่งเพื่อป้องกันการกัดลิ้นจากอาการชัก!! เรื่องราวที่ว่านี้เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ผ่านมา (4 มี.ค.) เมื่อหญิงวัย 50 ปีคนหนึ่งได้ไปทำธุระบริเวณสถานีตำรวจเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน แต่ว่าจู่ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับเธอเมื่อเธอเกิดอาการล้มชักอยู่บริเวณบันไดหน้าสถานีตำรวจ อาการของเธอไม่ค่อยสู้ดีนักทั้งมีอาการสั่นเกร็งไปทั่วทั้งตัวรวมถึงมีน้ำลายฟูมปาก จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต่างมามุงให้ความช่วยเหลือกันยกใหญ่ พวกเขาได้ทำการกดโทรศัพท์หาสายฉุกเฉิน แต่ว่าในระหว่างนั้นอาการของเธอก็แย่ลงเรื่อยๆ จนหน้าเริ่มจนเปลี่ยนสี อีกทั้งมีการกัดบริเวณมุมปากเกิดขึ้น เมื่อเห็นดังนั้นตำรวจหญิงนามว่า Ye Yinying จึงตัดสินใจเอานิ้วสอดเข้าไปในปากของหญิงคนนี้ เนื่องจากกลัวว่าอาการชักจะทำให้เธอกัดลิ้นของตัวเองจนเป็นอันตรายถึงชีวิต จนทำให้คุณตำรวจถูกหญิงคนนี้กัดนิ้วเข้าอย่างจังๆ บริเวณนิ้วกลาง ในเวลาต่อมารถฉุกเฉินได้มาถึงและรับตัวหญิงผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลได้อย่างทันเวลาจนเธอพ้นขีดอันตราย… ส่วนคุณตำรวจ Ye ก็ได้นำนิ้วให้ทางแพทย์ดูก็พบว่ามีอาการช้ำและเลือดออกใต้เล็บเล็กน้อย ซึ่งทางแพทย์ก็ได้ทำการฆ่าเชื้อให้เป็นที่เรียบร้อย แม้จะมีเสียงติติงอยู่บ้างว่าการเอานิ้วแหย่เข้าไปเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะหากมีข้อผิดพลาดเช่น โดนกัดนิ้วขาด ลงไปอุดหลอดลม นั่นจะยิ่งทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต แต่อีกส่วนก็มองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งความกล้าหาญที่คุณตำรวจหญิงคนนี้แสดงออกมาเช่นกัน… ที่มา: kuaibao
-
2 สินค้าใหม่จาก Kit-Kat มีทั้งถั่ว แครนเบอร์รี่ และช็อกโกแลตทับทิม สวยงามราวกับอัญมณี
หากทุกคนจำกันได้ เมื่อปี 2018 ทางบริษัท Nestlé เจ้าของขนมยี่ห้อ Kit-Kat ได้ออกเวเฟอร์แท่งที่ทำจาก “ช็อกโกแลตทับทิม” เป็นเจ้าแรก หลังจากที่ทาง Barry Callebaut AG ได้เปิดตัวเจ้าช็อกโกแลตชนิดใหม่ ที่ทำจากเมล็ดโกโก้ทับทิมออกมา Ruby Chocolate หรือ ช็อกโกแลตทับทิม วันนี้ทาง Kit-Kat ก็ได้ทำสินค้าใหม่จากเจ้าช็อกโกแลตทับทิมเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งสินค้าคราวนี้เป็นการผสมผสานความลงตัวของเจ้าช็อกโกแลตที่ว่าเข้ากับถั่ว และแครนเบอร์รี่ สินค้าแบบแรกนั้นเป็นเวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลตทับทิม รสถั่วและแครนเบอร์รี่ ในรูปแบบก้อนกลม พอดีคำแบบนี้ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู น่ารักๆ และมีมาให้รูปแบบแท่งคุ้นตาเช่นเคย ที่พิเศษคือการตกแต่งแท่งเวเฟอร์ที่ทำให้ข้างบนดูเหมือนกับแท่งอัญมณี ดูสวยงามมากๆ สวยมากๆ และสินค้าอีกตัวนั้นก็ยังคงเป็นรสชาติถั่วและแครนเบอร์รี่เช่นเดิม แต่เปลี่ยนจากช็อกโกแลตทับทิมเป็นช็อกโกแลตนมแบบดั้งเดิม มีทั้งแบบก้อนกลม และแบบแท่งสวยงามเหมือนกัน . สินค้าใหม่นี้จะวางขายวันที่ 25 มีนาคมนี้ แบบก้อนกลม สนนราคาถุงละ 158…
-
เปิดตัว ‘DeepSpot’ สระว่ายน้ำที่ลึกที่สุดในโลกกับความลึก 45 เมตร ดั่งสวรรค์ของนักดำน้ำ!!
หากว่าพูดถึงสระว่ายน้ำหลายคนคงจะนึกภาพของสระสี่เหลี่ยมธรรมดาๆ ที่มีความลึกแค่ประมาณมิดหัว แต่คุณอาจลืมความนั้นไปได้เลยถ้าหากได้เห็นสระว่ายน้ำที่ลึกที่สุดในโลกแห่งนี้ ซึ่งมันมาพร้อมกับความลึกถึง 45 เมตร!! สระว่ายน้ำชื่อว่า DeepSpot เป็นสระน้ำที่ตั้งอยู่ในเมือง Mszczonów เมืองที่ห่างออกไป 40 กิโลเมตรจากกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งสระน้ำแห่งนี้มีกำหนดจะเปิดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้ ความพิเศษของสระว่ายน้ำแห่งนี้ก็คือ ‘ความลึก’ ที่ลึกถึง 45 เมตรซึ่งถือว่าเป็นสระน้ำที่ลึกที่สุดในโลกแซงหน้าสถิติเดิมของสระว่ายน้ำในประเทศอิตาลีที่มีความลึกเพียง 40 เมตร ด้วยความลึกที่มากถึงขนาดนี้จึงทำให้มีการใช้น้ำถึง 8,000 คิวบิกเมตรสำหรับสระเลยทีเดียว… แต่ว่านอกจากสระน้ำที่เป็นเอกลักษณ์แล้วที่นี่ก็ยังมีส่วนอื่นๆ ให้เยี่ยมชมด้วย อย่างเช่นอุโมงค์ใต้น้ำ โรงแรม ห้องอาหารและห้องประชุมที่ตกแต่งอย่างสวยหรู อย่างไรก็ตามก็เป็นที่น่าเสียดายที่สระน้ำแห่งนี้อาจจะถือสถิติสระว่ายน้ำที่ลึกที่สุดในโลกได้เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียงเท่านั้น เพราะสระ Blue Abyss ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในประเทศอังกฤษกำลังจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้ และสระที่นี่ก็มีความลึกถึง 50 เมตรเลยนั่นเอง ก็เอาเป็นว่าถ้าใครไม่กลัวน้ำลึกหรืออยากจะลองไปดำน้ำเล่นๆ ดู ที่นี่ก็ถือว่าเป็นสระว่ายน้ำที่ตอบโจทย์ข้อนี้ได้อย่างดีสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ!! ที่มา: ladbible, dailymail
-
คนขับรถโรงเรียนเดือด แจกฟัก-ด่าเด็ก ‘ไปตายซะ’ ก่อนแวะจอดปั๊มเดินลงจากรถไปเลย
การขาดสติจากแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดผลเสียมากมาย และร้ายแรงอย่างมากหากมันได้สร้างความอันตรายให้กับผู้อื่นเหมือนกับกรณีนี้ เหตุเกิดที่รัฐ Pennsylvania มีรายงานว่า Lori Ann Mankos อายุ 44 ปี ทำอาชีพเป็นคนขับรถรับส่งนักเรียน ได้ถูกจับเนื่องจากเมาแล้วขับ และทิ้งรถนักเรียนที่มีนักเรียนอยู่ในรถ 26 คน ไว้ที่ปั๊มน้ำมัน Lori Ann Mankos คนขับรถรับส่งนักเรียน เหตุเกิดขึ้นหลังเลิกเรียนในเวลา 14.50 Mankos มีหน้าที่ต้องไปส่งนักเรียนกลับบ้าน แต่ในวันนั้นเธอมีอาการแปลกๆ ดูกระวนกระวาย อ้างอิงจาก Mason Persiani หนึ่งในนักเรียนที่อยู่บนรถ ได้บอกกับ WFMZ TV หลังรถออกเดินทาง เธอก็ขับรถออกจากเส้นทาง “จู่ๆ เธอก็หักเลี้ยวขวา และเหยียบคันเร่งเต็มเหนี่ยว ในตอนนั้นรถอยู่กลางถนนกินเลนฝั่งรถที่สวนมาไปเกือบครึ่ง นั่นคือจุดที่น่ากลัวที่สุด ใจผมนี่เต้นตุบๆ” Mason Persiani หนึ่งในนักเรียนที่อยู่บนรถ ในตอนแรกนักเรียนคิดว่าเป็นเรื่องขำๆ จากนั้นเหล่านักเรียนก็เริ่มขำไม่ออกและโวยวาย Persiani อ้างว่าคนขับได้โชว์นิ้วกลางให้กับพวกนักเรียนพร้อมกับด่าคำหยาบคายว่า “ไปตายซะ” Stephanie Shiller เด็กหญิงอีกคนในรถเผยว่าคนขับคนนี้พึ่งเริ่มงานได้ 2…
-
Isetan x Sailor Moon: ตัวแทนแห่งดวงจันทร์จะแปลงโฉมและแต่งบ้านให้คุณเอง!!
ใครเป็นแฟนสาวน้อยเวทมนตร์รุ่นบุกเบิกอย่าง Sailor Moon บ้าง? ถ้าเพื่อนๆ ชื่นชอบสาวๆ นักรบชุดกะลาสีล่ะก็เตรียมตัวกันให้ดี เพราะทาง Isetan ห้างสรรพสินค้าชื่อดังจากญี่ปุ่นได้ร่วมมือกับการ์ตูน Sailor Moon ออกสินค้าเซ็ตใหม่ของปีมาเขย่ากระเป๋าเงินของทุกคนแล้ว สินค้าในปีนี้นั้นมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ เครื่องประดับสวยงามในธีม Sailor Moon อีกมากมาย ซึ่งได้จับมือกับทั้งผู้ผลิตกระเป๋าอย่างแบรนด์ LeSportsac แฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลก Anna Sui และ ร้านเครื่องประดับชื่อดัง Swarovski ส่วนสินค้าจะมีอะไร ราคาเท่าไหร่บ้าง ไปดูกันเลยจ้า เริ่มที่ตู้ลิ้นชักข้างเตียง ราคา 91,800 เยน (ประมาณ 26,200 บาท) เตียงเดี่ยว ราคา 162,000 เยน (ประมาณ 46,000 บาท) เซ็ตผ้าปูเตียงสีฟ้าอ่อน หรือ ชมพูกุหลาบ ราคา 19,440 เยน (ประมาณ 5,550 บาท) ชั้นวางโทรทัศน์…
-
กลุ่มวัยรุ่นช่วยกันตักหิมะเคลียร์ทางให้คุณยายข้างบ้าน เพื่อให้เธอไปฟอกไตได้ทัน
บนโลกบูดๆ เบี้ยวๆ ใบนี้นั้นนับวันก็มีเหตุการณ์น่ากลัวเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ การเข้ามาของยุคอินเทอร์เน็ตก็ยิ่งทำให้เห็นด้านมืดดำของผู้คนมากยิ่งขึ้น แต่ในที่สุดแล้วก็ไม่ได้มีแต่เรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นบนดาวสีฟ้าดวงนี้หรอกนะ เรื่องดีๆ ก็ยังมีอีกมาก เช่นเรื่องราวน่ารักๆ ที่ #เหมียวม่วง นำมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันวันนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคุณยาย Natalie Blair ผู้ป่วยเป็นโรคไต มีนัดฟอกไตที่โรงพยาบาลตอนเช้าตรู่ เรื่องการเดินทางไปโรงพยาบาลนั้นคุณยายไม่ได้มีปัญหาเลย เพราะจะมีรถจากโรงพยาบาลมารับคุณยายที่บ้านตอน 6 โมงเช้า แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลก็คือสภาพอากาศหนาวเย็นจนทำให้มีหิมะปกคลุมถนนและทางเข้าบ้านคุณยายนี่แหละ ที่อาจทำให้คุณยายไปถึงโรงพยาบาลไม่ทันหมอนัดได้ Patrick Lanigan นักเรียนมัธยมจากโรงเรียน Parsippany High School และเพื่อนร่วมชั้นของเขาใช้เวลาตอนเช้ามืดที่คนทั่วๆ ไปยังนอนซุกผ้าห่มอุ่นๆ อยู่บนเตียง ออกมาช่วยเหลือคุณยาย Natalie เพื่อนบ้านของเขา Brian พี่ชายของ Patrick เคยช่วยตักหิมะออกให้คุณยายไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน แต่เพราะสภาพอากาศเลวร้ายที่ทำให้หิมะกลับมากองเต็มทางอีกครั้ง และรถคงไม่สามารถผ่านเข้ามารับคุณยายได้ ครั้งนี้ Pratrick จึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ และอาสามาช่วยตักหิมะให้แทนพี่ชายที่ต้องทำงานในเช้าวันนั้น โดยเพื่อนๆ ของเด็กหนุ่ม 4 คนมานอนค้างที่บ้านของเขา และตื่นตั้งแต่ตี 4…
-
หนุ่มพยายามจะ “เผาบ้านเพื่อนบ้าน” เหตุเพราะ “เห็นผี” แล้วต้องการที่จะฆ่ามัน
“ความกลัวผี” ของมนุษย์เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะมนุษย์เรามักจะกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น เพียงแต่บางครั้งการที่เรากลัวอะไรมากๆ ก็อาจสร้างปัญหาให้คนอื่นเดือดร้อน ชายคนหนึ่งนามว่า Cuong Pham เรียกได้ว่าเป็นพวกกลัวผีขึ้นสมอง (หรืออาจจะกล้ามากเกินไป) จนถึงขั้นพยายามที่จะหาทางกำจัดมันด้วยการ “จุดไฟเผาบ้านที่มีผีในนั้น” !! ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้าน จะเห็น Cuong ถือน้ำมันแกลลอนติดมือมาด้วย ในกลางดึกคืนวันที่ 7 มี.ค. 2019 ณ เมืองสต็อกตัน รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทุกอย่างเหมือนจะเป็นคืนอันเงียบสงบธรรมดาทั่วๆ ไป จนกระทั่งนาย Cuong เดินตรงเข้ามาพร้อมเคาะประตูเรียกเพื่อนบ้านเสียงดัง เหมือนว่าจะไม่มีใครตอบกลับมาจากภายในบ้าน เขาจึงเดินออกไปและกลับมาอีกครั้งที่หน้าประตูของเพื่อนบ้านพร้อมถือถังน้ำมันแกลลอนสีเหลืองมาด้วย นาย Cuong เทน้ำมันดีเซลลงไปหน้าบ้าน จากนั้นเขาจึงเริ่มต้นละเลงเทน้ำมันดีเซลให้ทั่วบริเวณหน้าประตูของเพื่อนบ้านโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น และทำตัวเองเปียกน้ำมันไปด้วย หลังจากที่เขาเทน้ำมันเสร็จเรียบร้อย Cuong เริ่มจุดไฟเพื่อหวังที่จะให้มันลุกไหม้ท่วมทั้งบ้าน แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่ไฟไม่ติดในทันทีและได้มอดดับลงไป เขาเริ่มต้นจุดไฟเผาหลังเทน้ำมันดีเซล ในตอนเช้าเพื่อนบ้านตื่นมาด้วยความตกใจ เพราะว่าคืนที่ผ่านมามีทั้งพวกเขาที่เป็นผู้ใหญ่สองคนและลูกๆ วัย 3 ขวบกับ 10 ปีกำลังนอนหลับกันอยู่… เมื่อพวกเขาลองเช็คกล้องวงจรปิดดูจึงทำให้รู้ว่าเป็นนาย Cuong Pham อายุ 38 ปี ที่เป็นเพื่อนบ้านหลังถัดไป…
-
สาวจีนช็อก!! หลังพบ “แมลงสาบ” มากกว่า 40 ตัว ในอาหารที่สั่งซื้อกลับมากินที่บ้าน
เวลาไปกินอาหารนอกบ้าน ปัจจัยสำคัญในการเลือกร้านนอกเหนือจากความอร่อยแล้วก็คงจะเป็น “ความสะอาด” ใช่มั้ย?? และที่ต่างประเทศหากพบเจอแมลงเพียงแค่ตัวเดียวในจานก็อาจถึงขั้นฟ้องร้องกันได้เลย แต่เรื่องราวต่อไปนี้ถือเป็นเรื่องที่ชวนสะอิดสะเอียน เมื่อสาวจีนคนหนึ่งสั่งสตูเป็ดกลับมากินที่บ้านจนเธอต้องตะลึง เพราะแทนที่จะได้เนื้อเป็ดคำโตๆ แสนอร่อย เธอกลับได้ “แมลงสาบ” มากกว่า 40 ตัวมาแทน… รูปร่างหน้าตาก็ดูเหมือนสตูเป็ดทั่วไป ที่เมืองเฉิงไห่ เขตซัวเถาประเทศจีน สาวคนดังกล่าวได้สั่งอาหารจากร้านบนเว็บไซต์ออนไลน์ และเมื่ออาหารดังกล่าวมาถึง ทุกอย่างก็ดูปกติดี โดยเธอและเพื่อนๆ ได้กินไปก่อนบ้างแล้ว ก่อนที่จะต้องพบกับความผิดปกติของบางอย่าง พวกเธอเพ่งมองเข้าไปในถาดพลาสติกที่ใส่อาหาร แล้วก็ได้เจอกับความสยดสยองของแมลงสาบที่ลอยฟ่องอยู่ด้านบน!! พวกเธอจึงค่อยๆ ทำการเขี่ยมันออกมาได้หนึ่งตัว ตอนแรกนึกว่าจะมีเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น… หลังจากเธอและเพื่อนๆ กำจัดซากแมลงสาบออกไปได้หนึ่งตัว พวกเธอกลับต้องช็อกหนักยิ่งกว่าเดิม เพราะมันไม่ได้มีแค่ตัวเดียวอย่างที่คิด แต่เรียกได้ว่ามาเป็นฝูง เป็นหมู่คณะ แห่กันมาทั้งตระกูลเลยก็ว่าได้ ยิ่งเธอพยายามเขี่ยออกมาเท่าไรซากแมลงสาบก็ดูจะโผล่ออกมาเรื่อยๆ สิ่งที่พวกเธอทำได้ในตอนนั้นจึงมีเพียงแค่ต้องหยุดกินอาหารดังกล่าว (แหงล่ะ) และช่วยกันใช้ตะเกียบดึงออกมาคนละไม้คนละมือ ซากแมลงสาบเท่าที่พวกเธอนับได้คือประมาณ 40 ตัว!! พวกเธอบอกว่า “แทบอยากจะอ้วกออกมาเลย” เพราะหากมองผ่านๆ จะเห็นว่าซากแมลงสาบพวกนี้สีกลมกลืนไปกับเนื้อเป็ดมาก และคงไม่แปลกถ้าพวกเธออาจจะเผลอกินเข้าไปบ้าง ไม่มากก็น้อย แน่นอนว่าเธอไม่ยอมปล่อยให้ร้านดังกล่าวรอดไปได้ สาวจีนคนนี้จึงโทรไปต่อว่ากับทางร้าน และแจ้งความกับทางตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีและเอาเรื่องให้ถึงที่สุด…
-
บริษัทหนังดังร่วมมือกับ Netflix สร้างมินิซีรีส์ถ่ายทอดเรื่องราว ’13 หมูป่าอคาเดมี่’ ในถ้ำหลวง
หลังจากเหตุการณ์นักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี่จำนวน 13 คน ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ. เชียงราย กว่า 18 วัน และได้รับความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วนพาพวกเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย ทั่วโลกได้ให้ความสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพวกเขาในช่วงที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง และมีค่ายหนังและซีรีส์ติดต่อมามากมาย จนในที่สุด SK Global Entertainment ก็ได้ลิขสิทธิ์ไป ทางบริษัทได้ร่วมมือกับ Netflix ถ่ายทอดเรื่องราวของ 13 สมาชิกทีมหมูป่าอคาเดมี่เป็นมินิซีรีส์ที่ฉายผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิงของ Netflix โดยโฆษกของ Netflix ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเรากำลังทำงานร่วมกับ SK Global Entertainment และบริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด ผลิตมินิซีรีส์เปิดเผยปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยสมาชิกทีมหมูป่าอคาเดมี่” “ซีรีส์เรื่องนี้อิงอ้างจากเหตุการณ์จริงทั้งหมด เพื่อถ่ายทอดให้ทุกคนทั่วโลกได้ชม” ค่าตอบแทนที่นักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าจะได้รับนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท 13 ถ้ำหลวงจำกัดที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของเหล่าสมาชิก นอกจากมินิซีรีย์แล้ว ยังมีค่ายหนังอิสระอีกค่ายนำเรื่องราวของ 13 หมูป่าไปทำเป็นภาพยนตร์ที่คาดว่าจะลงจอกลางปี 2019 นี้ เรียกได้ว่าอดใจรออีกแค่นิดเดียว เราก็จะได้ชมเรื่องราวของพวกเขาแล้ว ^^ ที่มา: foxnews, hollywoodreporter, deadline
-
ชายหนุ่มบอกเล่าความเจ็บปวดของการเป็นเหยื่อข่มขืน “น่าอายจนอยากตายไปให้พ้น”
การล่วงละเมิดทางเพศไม่เคยเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และไม่ใช่เรื่องน่าขำ ไม่ว่าเหยื่อจะเป็นใคร เพศ หรือวัยใดก็ตาม การถูกทำร้ายในลักษณะนี้นั้นสร้างความเจ็บปวดและบาดแผลให้กับทั้งร่างกายและจิตใจอย่างสูง แต่ก็ยังคงเกิดเรื่องราวทำนองนี้ขึ้นตลอดเวลา เชื่อว่า Sam Thompson เป็นผู้ชายเพียงไม่กี่คนจากจำนวนผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศทั่วโลกที่กล้าลุกขึ้นมาบอกเล่าความรู้สึกของตนเอง และยังคงยืนหยัดอยู่ได้กับชีวิตที่มีความทรงจำอันเลวร้ายติดตาม ในตอนเกิดเหตุนั้นเขาอายุ 22 ปี เป็นชายผู้มีความสุข มั่นใจในตัวเอง มีครอบครัวที่สนิทสนมกัน มีเพื่อนมากมาย มีคนรักที่ย้ายตามเขามาเริ่มชีวิตใหม่ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และความสุขทุกอย่างที่เขามีถูกทำลายลงในคืนเพียงคืนเดียว… Sam เล่าว่า วันนั้นเขาออกไปดื่มกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง และหลังจากดื่มกันไปพอสมควรเขาก็แยกกับเพื่อนที่หน้าร้านเหล้าร้านหนึ่ง ก่อนจะได้ไปเจอกับกลุ่มผู้ชายกลุ่มใหญ่ ทีแรกคนเหล่านั้นมาด้วยกันหลายคน เขาตามไปร่วมดื่มและพูดคุยกับเพื่อนกลุ่มใหม่นี้ และกว่าจะรู้ตัวคนในกลุ่มก็ทยอยกลับจนสุดท้ายเหลือเพียงเขาและผู้ชายอีก 2 คน และสุดท้ายชาย 2 คนดังกล่าวก็ลากตัว Sam กลับไปยังโรงแรมและลงมือข่มขืนเขา โดยมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดจับภาพตอนที่ Sam ถูกพาตัวไปที่โรงแรม เขาเล่าความรู้สึกไว้ว่า “ในตอนที่มันเกิดขึ้น มันเหมือนเราจะรู้ตัวแต่ก็ไม่เชิง ผมมักบอกว่ามันเป็นเหมือนกับฝันร้าย คุณตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและยังคงจดจำเศษเสี้ยวของรายละเอียดได้ เป็นรายละเอียดที่มากพอให้รู้ว่าสิ่งนั้นมันเกิดขึ้นจริง แต่คุณไม่อาจเขียนอธิบายได้” เช้าวันถัดมาจากวันเกิดเหตุ เขาตื่นขึ้นมา ชีวิตใหม่ที่มีความสุขพลิกผันไปหมด และ…
-
ทางการเกาหลีเหนือจับกุมชายที่มีไฟล์ ‘เพลงและซีรีส์’ ของเกาหลีใต้ไว้ในครอบครอง
แม้เวลาจะผ่านไปความสัมพันธ์ของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังถือว่าไม่ลงรอยกันทำให้ประเทศแบ่งออกเป็นสองฝั่งชัดเจนและมีระบบการปกครองที่แตกต่างกัน เกาหลีเหนือจะใช้ระบบการปกครองแบบสังคมนิยม ส่วนเกาหลีใต้จะปกครองด้วยระบบประชาธิปไตย ห้ามไม่ให้ฝั่งไหนก้าวล้ำเขตแดนกัน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2019 สำนักข่าว Daily NK รายงานว่าทางการเกาหลีเหนือพบแฟลชไดรฟ์ที่ภายในบรรจุเพลงของศิลปินฝั่งเกาหลีใต้ วง BTS บอยแบนด์วง BTS ในรายงานระบุว่า “พบ USB ที่บรรจุมีไฟล์เพลงของวง BTS และซีรีส์เกาหลีอีกหลายเรื่อง ณ บ้านพักแห่งหนึ่ง ในเมือง Hyesan จังหวัด Yang Kang เกาหลีใต้” “บ้านพักหลังนี้เป็นของนาย Min ผู้เป็นทหารที่ปลดประจำการเนื่องจากอาการป่วย” นอกจากไฟล์เพลงของบอยแบนด์ BTS ที่โด่งดังไปทั่วโลกแล้ว สื่อยังเปิดเผยว่า มีซีรีส์เกาหลีชื่อว่า “Marry Me Now” ซึ่งเป็นที่นิยมรวมอยู่ในนั้นด้วย หลังจากการตรวจพบ ชายผู้เป็นเจ้าของแฟลชไดรฟ์ก็ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่และถูกส่งตัวไปยังสถานกักกันทันที ซีรีย์เรื่อง “Marry Me Now” กรณีดังกล่าว อยู่ภายใต้การดูแลของกรมการปกครองของประเทศเกาหลีเหนือ เพื่อไม่ให้ประชาชนอยู่เหนือกรอบหรือระบอบการปกครองที่วางไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนระบบทุนนิยมอย่างการครอบครองไฟล์เพลงหรือซีรีส์จากเกาหลีใต้ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย…
-
สาวเลือก ‘สักหน้าตัวเอง’ ด้วยเหตุผลว่า เธอบอกไม่แคร์หากไม่ได้งานทำเช่นคนอื่น
ในสังคมของบ้านเราหรือแม้แต่ต่างประเทศเองยังคงมีหลายคนที่ไม่ยอมรับกลุ่มคนที่ “สักลายตามตัว” ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านั้นอาจจะไม่ได้สะท้อนความนึกคิด และนิสัยทั้งหมดเลยก็ตาม แต่หญิงสาวคนนี้มีความคิดที่แตกต่างออกไป เพราะเธอไม่สนใจแม้ว่าสังคมบางส่วนอาจกีดกันเธอออกจากงานบางอย่าง แต่เธอเลือกที่จะทำมันอยู่ดีเพราะเธอเชื่อว่าสิ่งนี้คือสิ่งเดียวที่มอบความมั่นใจให้กับเธอเสมอมา ช่างสักลายสาว Kayleigh Peach สาวผู้มีใจรักในการสักคนนี้มีชื่อว่า Kayleigh Peach สาววัย 26 ปีจากเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ที่ปัจจุบันราวๆ 60% ของพื้นที่บนร่างกายเธอถูกเติมเต็มด้วยรอยสักทั้งหมด Peach สักลายครั้งแรกตอนเธออายุ 18 ปีบนข้อเท้าของเธอ และได้รับรอยสักครั้งแรกบนหน้าตอนที่เธอเป็นผู้ช่วยให้กับช่างสักของร้านแห่งหนึ่ง ตั้งแต่นั้นมาเธอจึงรู้สึกได้ว่าคนอย่างเธอไม่มีทางที่จะได้งานธรรมดาๆ ทำเหมือนคนอื่นเขา และนั่นจึงทำให้เธอเกิดความฝันอันแรงกล้าที่จะยืนหยัดเดินบนเส้นทางนี้ต่อไป ชีวิตวัยรุ่นของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเธอเลือกที่จะเข้าผับและใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงในทุกคืน แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ตัดสินใจหยุดทำทุกอย่าง ลาออกจากงานประจำเพื่อที่จะเริ่มต้นในอาชีพช่างสัก ช่วงแรกที่เธอทำนั้นไม่ได้ค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกันหัวหน้าก็บอกว่าเธอเป็นช่างสักอายุน้อยที่สุด และมีคนอยากมาสักกับเธอเป็นจำนวนมาก สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอหลงรักในงานนี้ก็เพราะว่าเธอเป็นเหมือนคนคอยรับฟังคนที่มาสักเสมอ พวกเขาต่างมีเรื่องราวเบื้องหลังที่เจ็บปวดกันส่วนใหญ่ และเธอก็ยินดีที่จะหยิบยื่นการปลดปล่อยความทุกข์เหล่านั้นออกมาเป็นรอยสักให้พวกเขา รอยสักบนใบหน้าของเธอที่เป็นรูปกุหลาบสื่อถึง “การเริ่มต้นใหม่” เธอพูดถึงอาชีพของเธออย่างมีความสุขและพอใจกับมันมาก “ความคิดของคุณจะไม่หยุดอยู่กับที่ คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่าคุณได้ทำอะไรใหม่ๆ เสมอ และความคิดสร้างสรรค์ก็คือหัวใจหลักของมัน” อีกทั้งเธอยังบอกอีกว่า “สิ่งเหล่านี้มันทำให้ฉันรู้ได้ว่าสุดท้ายแล้วอะไรสำคัญที่สุดในชีวิต มันทำให้ฉันรู้สึกขอบคุณในทุกๆ สิ่ง และฉันก็กลายเป็นคนมองโลกในแง่บวกอยู่ตลอด” …
-
พาทัวร์ผับ ‘เวทมนตร์’ ในนิวยอร์ก ที่เติมเต็มความฝันในโลกแห่งจินตนาให้เป็นจริง
หลายคนปรารถนาอยากมี ‘เวทมนตร์’ เป็นพลังวิเศษ เสกของต่างๆ ได้ดั่งใจนึก แต่จะดีแค่ไหนหากมีคนมาช่วยเติมเต็มความฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง The Cauldron ผับแห่งหนึ่งในเขตแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้จำลองบรรยากาศในเมืองเวทมนตร์ขึ้นมา ให้ลูกค้าได้มีโอกาสได้สัมผัสดินแดนแห่งจินตนาการ Alison Millington หนึ่งในลูกค้าของร้านนี้จะพาเราไปชมภาพบรรยากาศในเมืองเวทมนตร์แห่งนี้กัน ถ้าพร้อมแล้วเตรียมร่ายคาถาเปิดประตูดินแดนในความฝันแห่งนี้กันได้เลย!! ด้านหน้าของผับมีรูปปั้นสิงโต ทำให้สังเกตเห็นได้ง่าย Matthew Cortland และ David Duckworth ผู้ก่อตั้งร้านได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายแฟนตาซีอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ และนาร์เนีย จุดเด่นของร้านนี้จึงเป็นการใช้ไม้กายสิทธิ์แตะแทนคำสั่ง เครื่องดื่มในหม้อต้มขนาดใหญ่เหมือนที่พบในวิชาปรุงยาในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางร้าน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดคลาสสิค . ไม้กายสิทธิ์ที่ใช้แทนคำสั่ง เพียงใช้ไม้กายสิทธิ์เคาะเบาๆ ก็รอรับเบียร์ได้จาก “Tree of life” กันได้เลย ตื่นตาไปกับการปรุงเครื่องดื่มสุดอัศจรรย์ . . เมนูที่เหมือนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ …
-
ชายนั่งรถเข็น อยากถึงที่หมายไวๆ เลยอาศัยวิธีการ ‘เกาะรถพ่วง’ ไปด้วยละกัน!!
ณ ประเทศแอฟริกาใต้ มีชายคนหนึ่ง “นั่งรถเข็น” แบบไม่ธรรมดาเมื่อเขามักจะเกาะรถพ่วงในการไปไหนมาไหน!! ถึงแม้จะไม่มีใครรู้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร แต่การนั่งรถเข็นของเขาก็ช่างน่าหวาดเสียวเหลือเกิน… คนที่โพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าวคือผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @Dzhavhelo1 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา โดยในคลิปวิดีโอจะเห็นชายคนหนึ่งนั่งรถเข็นพร้อมใช้มือขวาจับที่กั้นของรถพ่วงบนถนนใหญ่ที่มีรถขับผ่านไปมา ผู้แชร์คลิปวิดีโอนี้บอกว่า “ยอมแพ้แล้วล่ะ ประเทศนี้คงต้องการนักสตั๊นท์แบบ Lukau แหงๆ “ (Lukau คือชื่อของชายชาวแอฟริกันที่แกล้งนอนตายก่อนจะถูกปลุกคืนชีพโดยบาทหลวง) คนที่ถ่ายวิดีโอไว้ได้กล่าวว่ารถพ่วงคันดังกล่าวขับไปบนเลนกลางของถนนราว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนชายคนนี้ก็ดูจะไม่สนใจในความปลอดภัยใดๆ ทั้งสิ้น หลังรถคันแดงขับผ่านไปถึงเห็นว่าชายพร้อมรถเข็นคันนี้ปล่อยมือจากรถพ่วง และเคลื่อนรถเข็นของเขาชิดเลนซ้าย คลิปวิดีโอดังกล่าว I gave up, this country needs more than lukau's resurrection 😂 😂 pic.twitter.com/Obq4Ve81nE — Mr T 😃 (@Dzhavhelo1) March 5,…
-
หนูน้อยวัย 5 ขวบ รักษามะเร็งได้ทัน หลัง “หมอฟัน” ตรวจพบ “เนื้อร้าย” ก่อนมันลุกลามหนัก
ฮันเตอร์ โจนส์ คือชื่อของหนูน้อยมหัศจรรย์ผู้สามารถรอดชีวิตจากเงื้อมมือของโรคร้ายอย่าง “โรคมะเร็ง” มาได้ หลังจากที่หมอฟันพบว่ามีก้อนเนื้อแปลกๆ แถวฟันกรามของเธอจากการเอกซ์เรย์ ทำให้มันไม่ลามไปมากกว่านี้… ฮันเตอร์ สาวน้อยวัย 5 ขวบจากประเทศสหรัฐอเมริกา หลังหมอฟันบอกอาการให้ เจย์ และ คาร่า โจนส์ พ่อแม่ของเธอ ทั้งคู่ต่างตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่ได้แสดงอาการใดๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นโรคนี้เลยแม้แต่น้อย ครอบครัวของเธอ หลังจากที่หมอฟันเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงมีฟันหลุดร่วงออกมามากกว่าปกติ จนได้พบกับเนื้อร้ายดังกล่าวเข้า และแนะนำให้เธอรักษาอย่างทันท่วงที และนั่นคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิต เพราะทำให้นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2017 หนูน้อยคนนี้จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างหนักหน่วง เธอจำเป็นต้องเข้ารับการรักษากับทีมแพทย์มากมายที่โรงพยาบาลเด็กในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน โดยมะเร็งเริ่มจากที่ช่องท้องของเธอจากนั้นมันจึงค่อยลามไปยังกรามและสะโพก หนูน้อยต้องรับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด (คีโม) จำนวน 5 รอบ, ผ่าตัด, รักษาด้วยการฉายรังสี 12 ครั้ง, ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ และการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ระหว่างนั้นต้องทดลองยาไปเรื่อยๆ กรณีที่ไม่มีการตอบสนองของฤทธิ์ยา อย่างไรก็ตามการรักษาเหล่านี้ทำให้ฮันเตอร์มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลข้างเคียงอย่างโรคลูคิเมีย, โรคไต และโรคตับได้อีกต่างหาก ตลอดระยะเวลา 18…
-
น้องหมูสายดุ แอบตอดเบียร์ 18 กระป๋อง เมาจัดหาเรื่องตี ไล่ขวิดวัวที่เห็นเหตุการณ์
พูดถึงหมูในประเทศไทยนั้นคนไทยคงนึกถึงหมูจุ่ม หมูย่าง ฯลฯ เพราะหมูนั้นมีประโยชน์ต่อคนไทยมานาน เรียกได้ว่าเราต่างเติบโตมาได้เพราะหมู แต่ถ้าเป็นหมูป่าล่ะ? จะมีใครให้ความสนใจเหมือนหมูบ้านหรือไม่ เพราะในออสเตรเลียนั้น หมูป่าตัวหนึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากวีรกรรมสุดพีคที่ไม่เคยเห็นหมูป่าทำมาก่อน นั่นคือการเมา! Swino เป็นหมูป่าตัวผู้อาศัยอยู่บริเวณแถบป่า Pillbara ทางด้านตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ 2013 Swino เป็นที่รู้จักเนื่องจากได้แอบขโมยเบียร์ของผู้ที่ตั้งค่ายพักแรมบริเวณป่าแถวนั้นมาดื่มจนเมา อ่านดูอาจเป็นเรื่องปกติ หมูป่าตัวเดียวจะสามารถขโมยเบียร์กระป๋องไปได้สักเท่าไหร่กัน? แต่เจ้า Swino ตัวนี้ถูกคาดการณ์ว่าขโมยเบียร์กระป๋องไปได้ทั้งหมดถึง 18 กระป๋องด้วยกัน (แพ็ค 6 กระป๋อง จำนวน 3 แพ็ค) สภาพในจุดเกิดเหตุ ไม่เพียงเท่านั้น ผู้พักแรมตามริมแม่น้ำ DeGrey ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นหมูตัวหนึ่งวิ่งไล่ขวิดวัวอย่างบ้าคลั่ง ต่อจากนั้นก็วิ่งไปที่แม่น้ำ และว่ายน้ำไปจนเกินกว่าจะมีใครมองเห็นได้ และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นเจ้า Swino พนักงานซ่อมถนนรายหนึ่งบริเวณนั้นได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ว่า “ฉันเห็นหมูตัวนั้นครั้งสุดท้ายที่ใต้ต้นไม้ ใกล้ๆ แม่น้ำ เหมือนมันกำลังเมาค้าง และน่าจะกำลังพยายามรักษาตัวเองจากอาการนั้น” ภาพของเจ้าหมู Swino …
-
แม่โมโหจัด… ลูกทำข้อสอบได้ไม่ถึง 95 คะแนน บันดาลโทสะ ทุบตี-ทิ้งลูกไว้ข้างถนน!!
ชาวตะวันตกมักจะมองว่าบางประเทศในเอเชียเก่งด้านวิชาการ เพราะคิดว่าชาวเอเชียเรียนหนัก และพ่อแม่ชาวเอเชียส่วนมากก็จะจัดลำดับการศึกษาให้สำคัญกว่าสิ่งใดๆ ให้กับลูกของตน จนบางครั้งก็เป็นการกดดันเด็กจนเกินไป เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้… เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2019 ที่ผ่านมา ที่เมืองลกเอี๋ยง มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน มีรายงานว่าเด็กชายอายุ 12 ปี ถูกทำร้ายโดยมีแม่แท้ๆ ของตัวเองเป็นผู้ลงมือ!! มีผู้พบเห็นเหตุการณ์พอดี ขณะที่คุณแม่กำลังทำร้ายร่างกาย และทิ้งลูกเอาไว้ที่ข้างถนน จึงตัดสินใจที่จะโทรแจ้งตำรวจ พยานที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า หญิงสาวคนดังกล่าวเสียการควบคุมและเริ่มทุบตี พร้อมกับดุด่าลูกของเธอไปด้วย เจ้าหน้าที่ได้ไปพบเด็กชายร่อนเร่อยู่และถามว่าหญิงสาวที่ทุบตีเขาอยู่ใช่แม่ของเขาหรือไม่? เด็กชายพยักหน้าพร้อมกับบอกว่าเขาทำได้ไม่ดีพอในการสอบ เมื่อสืบเรื่องพบว่า แม่ของเด็กชายคาดหวังว่าลูกของตนต้องสอบได้ 95 คะแนน แต่ลูกชายทำได้เพียง 81 คะแนน ตำรวจติดต่อไปยังแม่ของเด็กชาย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอทำให้เจ้าหน้าที่ช็อกอย่างมาก เมื่อแม่ใจร้ายตอบกลับมาว่า “ฉันไม่ต้องการเขาแล้ว คุณจะทำอะไรกับเขาก็ได้ จะปรับเงินก็ปรับไป” เมื่อได้ยินอย่างนี้เจ้าหน้าที่จึงตอบกลับไปว่า “คุณเป็นแม่ที่ไร้ความรับผิดชอบ คุณควรมีความอดทนและให้คำแนะนำกับลูกถ้าเขาทำอะไรผิดไป ไม่ใช่ทิ้งเขาไว้ข้างถนนแบบนี้” ภายหลัง คุณลุงของเด็กชายได้มารับตัวเด็กชายที่ถูกทิ้งไปหลังจากนั่งรอกว่าชั่วโมงที่สถานีตำรวจ ไม่มีรายงานมาว่าแม่ใจร้ายจะถูกดำเนินคดีอย่างไรบ้างที่ทิ้งลูกชายเอาไว้ข้างถนน ที่มา: dailymail, nextshark, pearvideo
-
เด็กสาวผู้มีโอกาสรอดจากโรคมะเร็งแค่ 4% และเธอก็เอาชนะมันได้สำเร็จ!!
‘มะเร็ง’ คือโรคที่น่ากลัวที่ใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ตัว เพราะนี่คือโรคที่พรากชีวิตคนไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงเป็นโรคที่มีโอกาสรักษาให้หายยาก และต้องใช้เงินเป็นจำนวนมหาศาล Isla Caton เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเนื้อเยื่อประสาทระยะที่ 4 เมื่อเดือน มี.ค. 2017 และคุณหมอก็เผยว่าโอกาสรอดของหนูน้อยคนนีมีเพียงแค่ 4% แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น หลังจากได้รับการรักษาแบบใหม่ที่มีชื่อว่า Pioneering ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน หนูน้อย Isla ก็สามารถเอาชนะและหายขาดจากโรคมะเร็งได้!! หมอได้บอกกับพ่อแม่ของหนูน้อยวัย 4 ขวบว่า Isla จะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณ 3-6 เดือนเท่านั้น แต่เธอก็ไม่หวั่นต่อโรคร้ายแม้แต่น้อย Isla เป็นคนที่ 4 ที่รับการรักษาแบบ Pioneering ณ โรงพยาบาลเด็ก Sant Joan de Déu ในบาร์เซโลนา แต่เธอเป็นคนแรกที่หมอวินิจฉัยแล้วว่าเป็นคนแรกของโลกที่หายขาดจากมะเร็งชนิดนี้ได้ Another brilliant video of Isla singing,🎙️Isla is currently having…
-
สองนศ. อังกฤษดื่มหนักจัดจนภาพตัด ตื่นเช้ามาอีกทีอยู่บนไฟลท์บินไปบาร์เซโลนา!?
บางครั้งแอลกอฮอล์ก็ทำให้คนเราขาดสติ จนไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง เหมือนอย่างในหนังเรื่อง The Hangover เช่นเดียวกันกับ Tara Hammersley และ Jack Messer สองนักศึกษาวัย 19 ปี อาศัยอยู่ที่เมือง Crawley ประเทศอังกฤษ ได้ออกท่องราตรีตามปกติ พวกเขาดื่มกันอย่างหนักหน่วง ราวกับว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้ดื่มอีกต่อไปแล้ว จากนั้นทั้งคู่เกิดหิวขึ้นมา จึงตัดสินใจไป McDonald ที่สนามบิน Gatwick เพราะห่างจากไนท์คลับเพียงแค่ 15 นาที ไม่รู้อะไรดลใจทั้งคู่ เมื่อได้เห็นเครื่องบิน ทั้งคู่เลือกที่จะเปิด Skyscanner ขึ้นมาดู และเมื่อเจอตั๋วที่ราคาถูกที่สุด พวกเขาก็ไม่ลังเล จัดการซื้อตั๋วเสร็จสรรพ โดยมีจุดหมายคือเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน Tara เผยว่าเธอจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย สิ่งสุดท้ายที่เธอจำได้คือ กำลังรู้สึกไม่ค่อยดีอยู่ในห้องน้ำของไนท์คลับ ส่วน Jack เผยว่าเขาจำตอนที่ซื้อตั๋วได้ แต่หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย Tara กล่าวว่า “ตอนที่ตื่นขึ้นมาบนเครื่อง ฉันไม่รู้เลยว่าฉันอยู่ที่ไหน ทีแรกคิดว่าฉันตายไปแล้วและกำลังอยู่บนสวรรค์” “หลังจากถาม Jack หลายครั้งว่าพวกเราแม่มอยู่ที่ไหนวะ…
-
นักเรียนจีนขยันเรียนหนัก วางตารางทบทวนช่วงหยุดยาววันละ 17 ชั่วโมง เชื่อว่าการศึกษาจะช่วยครอบครัวได้
การยกระดับ และพัฒนาชีวิตสำหรับคนฐานะยากจนนั้นดูจะเป็นไปได้ยาก แต่ก็เป็นไปได้ และการศึกษาถือเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องได้รับ และเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนฐานะยากจนเช่นกัน ในการพัฒนาตนเองหากอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี Zhu Zheng อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แห่งโรงเรียนมัธยม Wuhan No.11 มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ก็เป็นอีกคนที่มีฐานะยากจน แต่มีสมองที่ชาญฉลาด และต้องการพาตัวเองและครอบครัวออกจากฐานะยากจนนี้ ในเดือนกันยายน ปี 2018 นั้น Zhu ชนะการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับชาติ ทำให้เขาได้รับโอกาสเข้าค่ายที่มีชื่อเสียงด้านคณิตศาสตร์กับมหาวิทยาลัย Tsinghua ของเมืองปักกิ่ง Zhu เป็นเพียงคนเดียวที่ใส่ชุดนักเรียนตลอดทั้งค่าย เพราะเขาได้ให้สัญญากับผู้ปกครองไว้ว่าจะไม่ซื้อเสื้อผ้าเป็นเวลา 1 ปีเพื่อประหยัดเงินไว้ใช้สำหรับครอบครัว หลังจากจบค่าย เขาก็กลับมาเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ คุณครู Tang Yanping ซึ่งเป็นคุณครูที่เคยสอน Zhu ได้เล่าเรื่องราวของเขาลงใน WeChat และมันได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก Tang เล่าว่า Zhu ได้จัดตารางเรียนและทบทวนแบบฝึกหัดของตัวเองตลอดช่วงหน้าหนาวแบบไม่หยุดพักเป็นเวลากว่า 17…
-
ผจก.เนิร์สเซอรี่ใคร่เด็กโวในห้องแชท “ทารกนี่โคตรเซ็กซี่” หารู้ไม่ว่ามีตำรวจแฝงตัวอยู่ด้วย
เมื่อปี 2017 หญิงผู้เป็นผู้จัดการสถานรับเลี้ยงเด็กวัย 44 ปีคนหนึ่ง (ไม่สามารถบอกชื่อได้ด้วยเหตุผลด้านข้อกฎหมาย) ได้ตั้งห้องแชทของเว็บไซต์ Zoom (เป็นเว็บวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์คล้ายๆ Skype) ขึ้นเพื่อพูดคุยกับคนที่มีอาการใคร่เด็กคนอื่นๆ จากบนโทรศัพท์มือถือ เธอคุยโวในห้องแชทว่า ตนเองมีความสนใจทางเพศในเด็กทารก โดยมีประโยคหนึ่งที่เธอพูดว่า “เด็กทารกนี่แม่งโคตรเซ็กซี่” ให้คนอื่นๆ ในห้องแชทราว 40 คนฟัง โดยที่เธอไม่รู้ว่าในกลุ่มคนที่เธอพูดคุยด้วยนั้นมีสายสืบแฝงตัวอยู่ สิ่งที่เธอพูดออกมาจึงทำให้ทางตำรวจจัดการตามแกะรอยเธอทันที จึงทราบว่าเธอทำงานเป็นผู้จัดการเนิร์สเซอรี่อยู่ที่ Surrey มณฑลหนึ่งทางตอนใต้ของสหราชอาณาจักร เธอโดนจับกุมตัวหลังจากนั้นและยังต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยในวันที่ 7 มีนาคม 2019 หญิงคนดังกล่าว (ปัจจุบันไม่ได้ทำงานแล้ว) มารับฟังการพิจารณาคดีที่ศาล Guildford Crown ทางฝ่ายอัยการ Steven Talbot-Hadley ได้รายงานต่อศาลว่า เว็บไซต์ Zoom ที่เธอใช้นั้นสามารถสร้างห้องแชทโดยมีผู้เข้าร่วมได้มากถึง 100 คน และยังสามารถแชร์รูปภาพ วิดีโอ ได้โดยไม่หลงเหลือหลักฐานอุปกรณ์ของผู้อัปโหลดเอาไว้ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่พวกใคร่เด็กมักใช้กัน เขายังบอกอีกว่าในระหว่างการแชทพูดคุยกันนั้น จำเลยที่ใช้นามแฝงว่า XXX ยังแชร์วิดีโอที่มีเนื้อหาข่มขืนและทารุณกรรมทางเพศเด็กหญิงและชายอายุตั้งแต่ 3-13 ปี…
-
บริษัทจิวเวลรี่ผลิต ‘ตะเกียบ’ ราคาอันละ 4 ล้านบาท ที่จะทำให้โต๊ะอาหารของคุณหรูขึ้นอีกร้อยเท่า!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่รวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร จะเอาไปโปรยเล่นก็กลัวทำคนตีกัน จะเอาไปเผาทิ้งก็กลัวโลกร้อน บางทีไอเทมชิ้นนี้อาจจะเป็นไอเทมที่คุณกำลังมองหาอยู่ก็เป็นได้ เพราะนี่คือสุดยอดไอเทมสำหรับคนรวยๆ อย่างคุณ!! เพราะมีบริษัทผลิตจิวเวลรี่แห่งหนึ่งผลิต ‘ตะเกียบ’ อุปกรณ์สำหรับไว้คีบอาหารธรรมดาๆ แต่ว่ามันกลับมีราคาแสนแพงถึง 139,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราวๆ 4.4 ล้านบาท)!! หน้าตาของตะเกียบสุดแพง โดยเจ้าตะเกียบที่ว่านี้เป็นผลงานของ Paul Amey ยอดช่างทองแห่งบริษัท Erotic Jewellery ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งความวิเศษของเจ้าตะเกียบนี้ก็คือความเป็นทองคำ 18 กะรัตนั่นเอง “พวกเราชอบอาหารชั้นเลิศโดยเฉพาะอาหารจีนแบบไฮเอนด์ แต่ก็ไม่เคยมีอุปกรณ์การกินที่คู่ควรกับมัน ผมจึงตัดสินใจผลิตมันขึ้นมาเป็นของตัวเอง” Amey กล่าว โดยนอกจากตัวตะเกียบที่เป็นทองคำ 18 กะรัตแล้ว มันยังถูกประดับประดาไปด้วยเพชร ไข่มุก และไม้ Ebony (ไม้เนื้อแข็งสีดำจำพวกไม้มะเกลือ) ซึ่งกว่าจะได้ตะเกียบนี้มาต้องใช้เวลากว่า 340 ชั่วโมงในการทำ คลิปวิดีโอสัมภาษณ์เกี่ยวกับเจ้าตะเกียบอันนี้ (ดูไม่ได้คลิ๊กที่นี่) ส่วนอีกหนึ่งความพิเศษของตะเกียบนี้คือมันสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย อย่างเช่นไข่มุกที่ห้อยอยู่ตรงท้ายของตะเกียบสามารถที่จะนำออกไปเป็นเครื่องประดับได้ ก็เอาเป็นว่าถ้าหากใครอยากมีอุปกรณ์การกินที่สุดแสนจะหรูหราก็ลองหาซื้อมาใช้กันได้ ซึ่งสามารถคลิ๊กเข้าไปได้ที่เว็บไซต์ eroticjewellery กันเล้ย!!…
-
ร้านแต่งขนสัตว์เบื่อถูกถามทำไมราคาตัดขนถึงแพงกว่าตัดผมคน เลยติดป้ายบอกเหตุผลสุดฮา
#เหมียวโคบี้ เชื่อว่าหลายๆ คนคงมีคำถามเกี่ยวกับร้านตัดแต่งขนสัตว์ ว่าทำไมราคาถึงแพงยิ่งกว่าการตัดผมคนเสียอีก ซึ่งร้านตัดแต่งขนสัตว์ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่มักจะถูกตั้งคำถามดังกล่าว คราวนี้ทางร้านก็เลยทำการติดป้ายบอกเหตุผลที่ทำไมร้านตัดขนสัตว์ถึงราคาแพงมา 10 ข้อซะเลย แต่ละข้อจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปรับชมกันครับ 10. ช่างตัดผมของคุณไม่ได้สระผมให้คุณเสมอ (แต่ร้านตัดแต่งขนสัตว์จะทำการชโลมแชมพูให้เสมอ) 9. คุณไม่ต้องพาสัตว์มาตัดขนเป็นประจำเหมือนที่คนมักจะไปตัดผมทุก 8 สัปดาห์ (คนมักจะพาสัตว์มาให้ตัดขนก็ตอนที่พวกมันขนฟูยาวและยุ่งเหยิง ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรในการตัดแต่งขนเลยล่ะ) 8. ช่างตัดผมไม่ได้ตัดขนแถวจุดสงวนของคุณให้ (แต่ร้านตัดแต่งขนสัตว์จะทำการตัดแต่งให้ทุกซอกทุกมุม) 7. ช่างตัดผมของคุณไม่ได้ทำความสะอาดหูให้แก่คุณ (แต่ร้านตัดแต่งขนสัตว์จะทำความสะอาดหูของสัตว์ให้เป็นอย่างดี) 6. ช่างตัดผมของคุณไม่ได้ทำความสะอาดขี้ตาให้แก่คุณ (แต่สำหรับน้องหมาหลายๆ สายพันธุ์มีขี้ตาเยอะมากๆ ดังนั้นจึงทำต้องความสะอาดอยู่เสมอ) 5. คุณจะอยู่เฉยๆ ตอนที่ตัดผม (แต่กลับกันสัตว์แต่ละตัวที่มาตัดขน หาได้อยู่เฉยๆ ไม่) 4. ช่างตัดผมของคุณไม่ได้ตัดเล็บให้คุณ (แต่ทางร้านตัดแต่งขนสัตว์จะทำการตัดเล็บให้ด้วย) 3. ช่างตัดผมของคุณสระผมให้เฉพาะผมที่อยู่บนหัวของคุณเท่านั้น (แต่ทางร้านตัดแต่งขนต้องล้างให้สัตว์ทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นก้น จุดสงวน หน้าอกหรือหัวนมก็ด้วย) 2. คุณไม่กัดหรือข่วนช่างตัดผม (แต่หมา แมวหรือสัตว์อื่นๆ…
-
“ช้างที่เศร้าที่สุดในโลก” ตายแล้ว หลังจากมีอาการซึมเศร้าและอยู่อย่างโดดเดี่ยวมา 43 ปี
เพื่อนๆ คิดว่าตัวเองจะเศร้าขนาดไหน หากต้องถูกพาตัวมาจากครอบครัวอันเป็นที่รักตั้งแต่ยังเด็กและต้องใช้ชีวิตโตมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว… เหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้า Flavia ช้างอินเดียที่ได้ขึ้นชื่อเป็นช้างที่เศร้าที่สุดในโลก ที่เพิ่งตายจากโลกนี้ไปด้วยอาการซึมเศร้า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมานี้ Flavia เป็นช้างอินเดียเพศเมียที่ถูกพาตัวมาจากฝูงของมันในขณะที่มันอายุได้เพียง 3 ปีให้มาเป็นสมาชิกที่สวนสัตว์ Cordoba Zoo ในประเทศอินเดีย ซึ่งตลอดเวลาที่เจ้า Flavia ถูกพาตัวมา มันได้แสดงอาการไม่พอใจอยู่เสมอ จนกระทั่ง 6 เดือนที่ผ่านมาอาการดังกล่าวได้รุนแรงยิ่งขึ้น น้ำหนักของมันลดลงอย่างรวดเร็ว เรี่ยวแรงไม่มีและมันก็แสดงความโศกเศร้าให้เห็นเป็นอย่างมาก “ในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมาสภาพร่างกายของ Flavia นั้นย่ำแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 2 สัปดาห์ก่อน” Amparo Pernichi ที่ปรึกษาผู้รับผิดชอบสิ่งแวดล้อมแห่งเมือง Cordoba ได้ทำการรายงาน และวันที่ไม่มีใครคาดฝันก็ได้มาถึงเมื่อจู่ๆ เจ้า Flavia ก็ล้มพับลงในกรงของมันอย่างไม่ทราบสาเหตุและไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยตัวเอง เมื่อทางสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เห็นว่าหมดหนทางที่จะช่วยเหลือมันแล้ว จึงจำใจที่จะฉีดยาการุณยฆาต มันเพื่อให้มันได้จากไปโดยไม่ต้องทรมานขณะที่อายุได้ 47 ปี…
-
ญี่ปุ่นเผยภาพชุดว่ายน้ำแบบใหม่ “ชุดว่ายน้ำ+ชุดนักเรียนหญิง” ถูกใจสาวๆ เป็นที่สุด
“ชุดนักเรียนญี่ปุ่น” ถือว่าเป็นชุดเครื่องแบบนักเรียนที่มีความสวยงาม โดดเด่น น่ารักและมีเสน่ห์เสียเหลือเกิน ล่าสุดนี้ Mocolle กลุ่มแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ทำงานร่วมกับนักวาดและนักคอสเพลย์ต่างๆ ออกแบบชุดสุดแฟนตาซี ก็ได้จับชุดนักเรียนญี่ปุ่นมาผสมกับชุดว่ายน้ำและออกแบบออกมาเป็นชุดว่ายน้ำสุดน่ารักและโดดเด่น โดยพวกเขาเรียกผลงานชิ้นใหม่นี้ว่า “Gyaru JK-Style Swimsuit” ซึ่งถ้าแปลตรงๆ ตัวก็สามารถแปลออกมาได้ประมาณชุดว่ายน้ำสไตล์ชุดนักเรียนแบบสาวแกลนั่นเอง ซึ่งชุดดังกล่าวจะแบ่งออกมาเป็นทั้งหมด 4 ส่วน โดยแบ่งออกมาเป็นบีกินี่ 2 ชิ้น กระโปรงคลุมบีกินี่ 1 ชิ้นและเสื้อคลุมสไตล์ชุดนักเรียนญี่ปุ่นอีก 1 ชิ้น ทาง Chamomile นักคอสเพลย์ผู้ออกแบบชุดดังกล่าวได้เผยว่าชุดว่ายน้ำชุดนี้นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากคนที่กังวลว่าจะถูกแดดเผาบริเวณแขน หลังและบั้นท้าย แต่ถ้าใครซื้อมาแล้วไม่ชอบเสื้อคลุมหรือกระโปรงที่ดูเกะกะก็สามารถถอดออกเพื่อโชว์เพียงแค่ชุดบีกินี่ก็สามารถทำได้ . . . . . . . . . ชุดว่ายน้ำดังกล่าวมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 สี ก็คือสีชมพู ฟ้าและสีเทา ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการรวบรวมเงินทุนผ่านเว็บไซต์ Campfire อยู่ แถมยังได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี เพราะสามารถยอดบริจาคทุนพุ่งไปถึง…
-
ศาสนจักรเตรียมเผย เอกสารของ “พระสันตะปาปาปิอุสที่ 12” ในช่วงเหตุการณ์ “ฮอโลคอสต์”
เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าเหตุการณ์สังหารชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองหรือ “ฮอโลคอสต์” มีผู้ที่พยายามออกมาต่อต้าน และช่วยเหลือชาวยิวอยู่มากมาย ตั้งแต่ “นิโคลัส วินตัน” ผู้ช่วยชีวิตเด็กชาวยิวกว่า 669 คน หรือ “ชิอุเนะ ซุงิฮะระ” ผู้ออกวีซ่าให้ผู้ลี้ภัยชาวยิวให้สามารถเดินทางมายังญี่ปุ่นได้ ว่าแต่ทราบกันหรือไม่ว่ามีคนอีกคนหนึ่งที่อาจช่วยเหลือชาวยิวได้ แต่กลับมักถูกสงสัยมาตลอดว่าเขาได้ลงมืออะไรจริงๆ หรือไม่ โดยคนที่ว่านั้นคือสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ผู้ซึ่งครองตำแหน่งผู้นำทางศาสนาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั่นเอง อันที่จริงพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 นั้นได้ชื่อว่าเป็นคนที่ค่อนข้างต่อต้านนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ทันทีที่สงครามจบลงโลกในสมัยนั้นกลับมีเสียงวิจารณ์ปรากฏขึ้นมาว่าทางวาติกันนั้น ต่อต้านนาซีแต่ในนาม และไม่ได้ช่วยเหลือชาวยิวเท่าที่ควรจริงๆ หรือแม้กระทั่งเมินเฉยต่อชาวยิวไปเลย น่าเสียดายที่หลักฐานที่จะเปิดเผยให้โลกทราบว่าจริงๆ แล้ว พระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 เมินเฉยต่อชาวยิวจริงๆ หรือไม่นั้นถูกเก็บไว้โดยทางศาสนจักรในฐานะข้อมูลลับตลอดมา ทำให้นักโบราณไม่สามารถบอกได้เลยว่าในช่วงสงครามโลกนั้น ทางพระสันตะปาปามีแนวคิดอย่างไรกับชาวยิว แต่แล้วเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมานี้เองสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ก็ได้ออกมาประกาศว่าทางศาสนจักรจะทำการเปิดฐานข้อมูลเกี่ยวกับพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ทั้งหมดที่มี ในเดือนมีนาคมปีหน้า เพื่อทำการฉลองครบรอบการขึ้นรับตำแหน่งของพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 พระสันตะปาปาฟรานซิสบอกว่า “ทางโบสถ์จะไม่กลัวประวัติศาสตร์” ในขณะที่ออกมาประกาศการเปิดเผยครั้งใหญ่อีกครั้งของทางวาติกัน ตั้งแต่ที่ออกมาประกาศเรื่องความมีอยู่ของการกดขี่ทางเพศในศาสนจักรเมือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา…
-
เฟซบุ๊กเตรียมบล็อก “ลัทธิต่อต้านวัคซีน” แบนโฆษณา และจำกัดการเข้าถึงกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
ถ้าเพื่อนๆ จำได้ไม่นานมานี้เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นในโลก เพราะโรคหัดที่ไม่ได้ระบาดมานานนั้นกลับมาระบาดอีกครั้งเพราะมีผู้ปกครองหลายบ้านไม่ยอมพาลูกไปฉีดวัคซีน เกิดจากลัทธิทางความเชื่อว่าวัคซีนนั้นไม่ดีต่อร่างกายเด็ก ลัทธิต่อต้านการฉีดวัคซีน (Anti-Vaxx) นั้นระบาดไปทั่วโลก ไม่เพียงแค่ในอเมริกาและญี่ปุ่นที่มีข่าวดังเท่านั้น แม้แต่ในไทยเองลัทธินี้ก็แพร่ระบาดเข้ามา และพยายามเผยแพร่ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ซึ่งผลของการแพร่ความเชื่อดังกล่าวนั้น นอกจากตัวเด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะเป็นอันตรายแล้ว ยังอาจทำให้เชื้อที่กลับมาระบาดเกิดการกลายพันธุ์ ดื้อยา กลายเป็นโรคตัวที่แข็งแรงและอันตรายต่อมนุษย์ยิ่งกว่าเดิม และทำให้มีโอกาสที่โรคต่างๆ จะระบาดไปสู่คนที่ได้รับวัคซีนมาแล้วอีกด้วย แม้ว่าจะมีการให้ความรู้ที่ถูกต้อง แต่ก็ยังมีคนหลงเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งองค์กรและหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวกับสุขภาพและโรคทั่วโลกต่างก็ออกมาขอร้องให้สื่อโซเชียลต่างๆ ให้ความร่วมมือในการกำจัดข้อมูลผิดๆ ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะ Facebook ที่ถือว่าเป็น 1 ในสถานที่รวมตัวของเหล่า Anti-Vaxxer จำนวนมากเลยทีเดียว แม้จะมีการเรียกร้องมาพักใหญ่แล้ว แต่ในที่สุดทาง Facebook ก็มีการเคลื่อนไหวของประเด็นนี้จนได้ โดยทางหัวหน้าทีมระเบียบนโยบายของ Facebook ได้กล่าวว่า “หากว่ามีข้อมูลหลอกลวงในเรื่องการฉีดวัคซีนโผล่มาบน Facebook ทางเราจะรีบดำเนินการในทันที” แต่แทนที่จะลบหรือกำจัดออกจากเว็บไป ทาง Facebook ใช้วิธีลดการเข้าถึงแทน โดยจะตั้งค่าให้กลุ่มและเพจของผู้ต่อต้านการฉีดวัคซีนจะไม่โชว์ขึ้นในหมวดหมู่ของ “กลุ่ม/เพจที่แนะนำ” ลดการแสดงผลในหน้าการค้นหา ตรงช่องที่ใส่คำค้นหาก็จะไม่ช่วยเติมคำแบบออโต้ให้กับคำที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเหล่านี้ …
-
เมื่อกัปตันสึบาสะบุกยึด สถานี Yotsugi เปลี่ยนสถานีรถไฟให้กลายเป็นสนามฟุตบอล
เด็กๆ ในยุคก่อนนั้นคงมีหลายคนที่หันมาเล่นกีฬาตามการ์ตูนที่ตนเองชื่นชอบ ไม่น่าจะเล่นบาสเกตบอลเพราะเรื่อง Slam Dunk หรือเล่นเทนนิสเพราะชอบเรื่อง Prince of Tennis และคนที่เล่นฟุตบอลก็คงรู้จักการ์ตูนเรื่อง กัปตันสึบาสะ กันดี กัปตันสึบาสะ แต่งโดย Yoichi Takahashi ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1981 และยังคงได้รับความนิยมครองใจผู้คนมาจนถึงปัจจุบันนี้ ในช่วงสัปดาห์นี้ทางสนานี Yotsugi สถานีรถไฟในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ตกแต่งทั้งสถานีให้กลายเป็นสนามฟุตบอล และยังมีภาพจากการ์ตูนเรื่องกัปตันสึบาสะประดับอยู่ทั่ว เพราะอาจารย์ Takahashi ผู้แต่งเกิดในละแวกนี้นั่นเอง พอเห็นแล้วก็รู้สึกถึงความหลังอันสนุกสนานมากเลย ในสถานีจะเป็นอย่างไรบ้างเราไปชมกันเลยดีกว่า ป้ายสถานี บันไดของสถานีก็มีรูปสึบาสะกับทาโร่ ผ่านประตูเข้าไปกันเลย อย่างเจ๋งอ่ะ ปูพื้นด้วยภาพสนามฟุตบอลกันไปเลย ที่พื้นมีเงาดำๆ ขนาดใหญ่อยู่ด้วย พอเงยหน้ามองบนเพดานตรงเงาสีดำก็จะเจอกับสึบาสะคุง! มันคือท่าเตะโอเวอร์เฮดคิกในตำนานไงล่ะ https://www.youtube.com/watch?v=_c6Gmoh980Y บันไดทางลงไปยังชานชาลา . บริเวณชานชาลาเองก็มีภาพของฮิวงะกำลังเตะลูกฟุตบอลเช่นกัน ส่วนลูกบอลนั้นอยู่ตรงนี้จ้า…
-
คู่บ่าวสาว ‘ตกหลุมรักเพื่อนเจ้าสาว’ คนเดียวกัน และตกลงเลือกเส้นทางรักเราทั้งสามคน
การแต่งงานที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในสังคมทั่วไป แต่อาจตามมาด้วยความอลเวง เมื่อเรื่องเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในงานต่าง “ตกหลุมรักเพื่อนเจ้าสาว” คนเดียวกัน… ?! คู่บ่าวสาวชาวอเมริกันได้จัดงานแต่งงานขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากก็เพราะว่าหลังงานแต่งงานพวกเขา ทั้งสองคนและเพื่อนเจ้าสาวอีกคนได้ตัดสินใจใช้ชีวิตดังเช่นคู่รักทั่วๆ ไป (แต่อาจมีความต่างที่ว่าพวกเขาอยู่ร่วมกันแบบ 3 คนเท่านั้นเอง) ซ้ายมือคือเพื่อนเจ้าสาว ตรงกลางคือเจ้าสาว และขวามือคือเจ้าบ่าว เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นมาจาก Karalyn Henry เจ้าสาวของงาน รู้ตัวว่าเธอชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ทว่าครอบครัวของเธอนั้นเป็นชาวคริสต์ ทำให้เธอต้องเก็บงำความลับนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งเธอได้มารู้จัก Justin Henry ว่าที่สามีในอนาคต เธอจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังและสิ่งที่เขาตอบกลับมาก็คือ “เธอก็ลองเดตกับผู้หญิงดูสิ” ซึ่งนั่นมันทำให้เธอดีใจมากๆ ทั้งหมดนั้นได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้รู้จักกับสาว Lana บนเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ Lana และ Karalyn ได้พูดคุยและตกหลุมรักกันในที่สุด ด้วยความที่ Lana เองนั้นอยู่ที่ไอร์แลนด์เหนือทำให้ความรักครั้งนี้กลายเป็นรักทางไกล พอใกล้ถึงงานแต่งงานเธอก็ได้เชิญ Lana ให้มาเป็นเพื่อนเจ้าสาว จนทุกๆ อย่างได้เปลี่ยนไปเมื่อ Justin ตกหลุมรักเพื่อนเจ้าสาวคนนี้เข้าอย่างจัง ทั้งสามคนตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกันทั้งหมด ทุกครั้งที่…
-
คู่รักชาวเกย์ถูกร้านสปา ‘ปฏิเสธ’ ไม่ให้บริการการนวดแบบคู่รัก เพราะคู่รักต้องเป็นชาย-หญิงเท่านั้น!!
ในปัจจุบันเรื่องเพศที่สามเป็นเรื่องที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีประเด็นเรื่องเกี่ยวกับ ‘เพศ’ เกิดขึ้นให้เห็นอยู่เสมอ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เข้าข่ายเรื่องนี้… โดยเหตุการณ์ที่ว่านี้ได้เริ่มจากความที่ชายชื่อว่า Michael Garcia กับ Arnaldo แฟนหนุ่มของเขาได้ทำการจองสปา Joy Feet Spa ในรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐฯ เพื่อเข้ารับการนวดแบบ Couples Massage (การนวดแบบพิเศษระหว่างคู่รัก) ทั้งคู่ได้ทำการจ่ายเงินจำนวน 109 ดอลลาร์ (ราวๆ 3,400 บาท) ผ่านทางเว็บไซต์ที่ทำการจองเรียบร้อย แต่พอถึงวันที่พวกเขาไปใช้บริการ Jerry Liu ผู้จัดการชาวจีนของทางร้านก็กลับปฏิเสธว่าไม่สามารถให้บริการได้ ซึ่งในวิดีโอที่โพสต์ในโลกออนไลน์จะเห็นได้ว่านาย Liu ได้หัวเราะออกมาด้วยขณะที่ทั้งคู่ยืนยันว่าพวกเขาเป็นคู่รักกันจริงๆ นอกจากนี้ระหว่างที่นาย Garcia พูดเถียงกับนาย Liu ว่าทางร้านเลือกปฏิบัติและไม่ให้บริการเพราะพวกเขาเป็นเกย์ นาย Liu ก็อธิบายว่า Couples Massage จะให้บริการเฉพาะคู่ชายและหญิงเท่านั้น พร้อมกับชี้ไปที่โปสเตอร์ที่เป็นภาพชายหญิงเพื่อเป็นการยืนยัน ก่อนที่ในที่สุดผู้จัดการคนนี้จะแนะนำทั้งคู่ให้เข้ารับการนวดแบบเดี่ยวแทน คลิปวิดีโอขณะคู่รักเถียงกับนาย Liu หลังจากที่วิดีโอนี้ได้เผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์นาย Liu อย่างมากมาย จนสุดท้ายแล้วเขาก็ออกมากล่าวขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ผมต้องขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำจำกัดความของคำว่า ‘คู่รัก‘ ผมรู้แล้วว่าคู่รักหมายถึงคนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน…
-
ชายข้ามเพศผู้ถูกแพทย์บอกตั้งครรภ์ไม่ได้ กลับตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกน้อยแล้ว
Wyley Simpson ชายข้ามเพศวัย 28 ปีผู้ที่ถูกแพทย์บอกว่าเขาจะไม่สามารถตั้งครรภ์ หลังที่ได้รับการทดแทนฮอร์โมนเพศชาย กลับตั้งครรภ์ขึ้นมาโดยไม่คาดฝัน โดยชายคนดังกล่าวเล่าว่าประจำเดือนของเขาไม่มาติดต่อกันหลายเดือน ซึ่งในตอนแรกเขานึกว่าเป็นเรื่องปกติ ก่อนจะพบว่าที่ประจำเดือนไม่มานั้นเป็นเพราะว่าเขาท้อง Wyley เผยว่าเขากับ Sthphen Gaeth คู่หมั้นของเขานั้นกังวลเรื่องที่ตนท้องเป็นอย่างมากเพราะพวกเขาทั้งคู่ไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อคน แถมยังโดนชาวเน็ตหลายคนเข้ามาคอมเมนต์เสียๆ หายๆ อีกด้วย เขากล่าวไว้ว่า “ผมกังวลมากๆ ผมเริ่มร้องไห้ ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี ผมกังวลเพราะมันเป็นการท้องครั้งแรกของผม แต่ผมยังกังวลเกี่ยวกับที่ผมได้รับคอมเมนต์หยาบคายจากคนอื่นๆ การตั้งครรภ์ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีอย่างมาก ผมได้ผ่านกระบวนการเทคฮอร์โมนเพศตั้งแต่อายุได้ 21 ปี แต่ตอนนี้กลับมีเด็กอยู่ในท้องเหมือนอย่างผู้หญิงทั่วไป ตีกันในหัวผมไปหมด แต่มันก็คุ้มค่าที่จะมี Rowan (ชื่อลูก) และกลายเป็นพ่อคน มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรสักหน่อย” แม้จะเป็นชายข้ามเพศ แต่ Wyley ก็ยังไม่ได้ทำการผ่าตัดแปลงเพศแต่อย่างใด นั่นทำให้เขาสามารถตั้งท้องได้อยู่และตอนนี้เขาก็ได้คลอดลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายของตนเป็นเวลา 1 เดือนเขาก็เผยว่า “ตั้งแต่ที่ผมคลอดลูกแล้วผมก็สามารถกลับไปรับฮอร์โมนทดแทนได้อีกครั้ง ผมรู้สึกดีสำหรับทุกๆ อย่าง ผมกับ Stephan กลายเป็นคู่รักเกย์ที่มีลูกด้วยกันและ Rowan ก็มหัศจรรย์มากๆ เขาทำให้ความเจ็บปวดทั้งกายและใจที่ผ่านมามันคุ้มค่า…
-
โจรดวงกุดปีนข้ามรั้วจะเข้าไปขโมยของ ดันกระโดดแลนดิ้งบนรังผึ้ง 4 รังซะงั้น
ใครๆ ก็รู้ว่าผึ้งนั้นมีคุณประโยชน์ต่อระบบนิเวศ แต่หากไปทำให้มันโกรธขึ้นมา เจ้าแมลงตัวเล็กนี้ก็มีอันตรายมหันต์เช่นกัน แค่โดนผึ้งต่อย 1 ตัวก็ว่าเจ็บจะแย่แล้ว ใครที่แพ้เหล็กในก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ แล้วคิดดูว่าถ้าคุณเผลอไปทำให้ผึ้งราว 80,000 ตัวโกรธขึ้นมา มันจะเป็นอย่างไร? เรื่องราวคราวนี้เกิดขึ้นที่ Potters Field Park กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อมีหัวขโมยไม่ทราบชื่อรายหนึ่งพยายามปีนรั้วเข้าไปขโมยของในพื้นที่ของสวนสาธารณะ รั้วดังกล่าวนั้นมีความสูงถึง 2.4 เมตร คาดว่าคนร้ายพยายามหาที่ทางในการแลนดิ้งของตนเองจนไปพบกับกล่องไม้ที่ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณใกล้รั้ว จึงใช้เป็นจุดกระโดดลงก่อนที่จะลงไปถึงพื้นอีกที แต่แล้วสถานการณ์ก็ไม่เป็นใจให้โจรรายนี้นัก เพราะพื้นที่ดังกล่าวนั้นมีการเลี้ยงผึ้งอยู่ด้วย และกล่อง 4 กล่องที่เขาโดดลงมาเหยียบก็เป็นรังของผึ้งเลี้ยงที่มีจำนวนถึง 20,000 ตัวต่อกล่อง และเหล่าผึ้งคงไม่พอใจนักเวลามีใครมารบกวนรังของพวกมัน อย่างที่รู้ๆ กันว่าผึ้งนั้นพร้อมสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องรังและนางพญาเอาไว้ ทางด้านทีมงานของผู้ดูแลผึ้งนั้นก็รีบรุดหน้าไปดูที่เกิดเหตุเมื่อได้รับแจ้งว่ามีผู้พบเห็นรังผึ้งเลี้ยงพลิกคว่ำกระจัดกระจายบนพื้น Dale Gibson ผู้ดูแลผึ้งกล่าวว่า “ทางเรานั้นเลี้ยงผึ้งให้พวกมันค่อนข้างรักสงบเพราะเราเลี้ยงไว้ในสวนสาธารณะในลอนดอน แต่หากมีใครดันมาพังประตูบ้านพวกมันเข้า เหล่าผึ้งก็พร้อมจะลงโทษผู้บุกรุกตามที่พวกมันเห็นสมควร” เขายังบอกอีกว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คงเป็นไปได้ยากที่คนร้ายจะหนีไปได้โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ เขาควรจะโดนผึ้งต่อยไปไม่น้อยเลยทีเดียว สุดท้ายแล้วทางทีมงานก็ไม่ได้แจ้งความกับตำรวจแต่อย่างใดเพราะพวกเขาถือว่า เจ้าโจรดวงกุดคนนี้ได้ถูก “ธรรมชาติลงโทษ”…
-
หนุ่มฟ้องคลินิกทำแท้งแฟนสาวโดยเขาไม่ยินยอม ศาลรับฟ้องเพราะตัวอ่อนก็มี ‘สิทธิมนุษยชน’
โดยปกติแล้ว ในบางรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกามีการเปิดให้ทำแท้งได้อย่างถูกกฎหมาย สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตร แต่ล่าสุดมีรายงานออกมาว่าคลินิกทำแท้งถูกชายหนุ่มคนหนึ่งฟ้องร้อง เพราะทำแท้งให้แฟนสาวของเขาโดยที่เขาไม่ยินยอม Ryan Magers หนุ่มอเมริกันวัย 19 ปี ตัดสินใจฟ้องคลินิก Alabama Women’s Center เนื่องจากรับทำแท้งแฟนของเขาโดยไม่ได้รับการยินยอมจากฝ่ายแฟนหนุ่ม Ryan Magers ผู้ยื่นฟ้อง แฟนสาวของเขาที่ปัจจุบันได้เลิกรากันไปแล้ว ได้ทำแท้งไปตั้งแต่เดือน ก.พ. 2017 ในขณะที่ท้องได้ 6 สัปดาห์ แต่ Magers พึ่งจะยื่นฟ้องในวัน 6 มี.ค. 2019 ที่ผ่านมา และก็เกิดสิ่งที่น่าเหลือเชื่อขึ้น เมื่อศาลในเขตแมดิสัน รัฐอลาบามา ได้ถือว่าตัวอ่อนที่ถูกทำแท้งออกมา มีสิทธิเทียบเท่ามนุษย์คนหนึ่ง ที่มีสิทธิมนุษยชน และรับฟ้องคดี โดยมี Magers เป็นตัวแทนของตัวอ่อน “กวางน้อย” (Baby Roe) คือชื่อของตัวอ่อนที่ถูกทำแท้งออกมาที่ Magers ใส่ลงไปในเอกสารในการฟ้องร้องคลินิกที่ทำแท้งอดีตแฟนสาว, พนักงานในคลินิก และบริษัทยาที่ผลิตยามาเพื่อใช้ในการทำแท้ง Breaking: Alabama allows a suit from man AND…
-
หนูน้อย 6 ขวบเล่นเกมมือถือเพลิน ก้นติด ‘ชักโครก’ จนต้องร้องขอความช่วยเหลือ
ในยามที่เรามองหาอะไรสักอย่างทำเพื่อฆ่าเวลา เรามักจะหยิบมือถือขึ้นมา เลื่อนหน้าจอมองหาเรื่องราวที่น่าสนใจ ดูคลิปวิดิโอ หรือเล่นเกมเพลิดเพลิน จนบางครั้งหลงลืมไปว่านั่งแช่อยู่ตรงนี้มานานเท่าไรแล้ว เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2019 พบรายงานว่า ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน มีหนูชายอายุ 6 ขวบใช้เวลานั่งอยู่บนชักโครกเป็นเวลานาน จนลุกออกไม่ได้ เพราะก้นติดอยู่กับฝารองนั่ง!! สาเหตุที่หนูน้อยคนนี้อยู่ในห้องน้ำนาน เป็นเพราะว่าเขามัวแต่จดจ่ออยู่กับการเล่นเกมในโทรศัพท์ จนเมื่อเสร็จธุระแล้ว ก็ลุกขยับออกจากชักโครกไม่ได้ จึงร้องหาความช่วยเหลือ เมื่อคนในบ้านได้ยินดังนั้นก็พากันเข้ามาช่วยยกและดึงตัวหนูน้อยคนนี้ขึ้นจากฝารองนั่ง แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงต้องตามเจ้าหน้าที่มาช่วยอีกแรง อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือหนูน้อยคนนี้เต็มไปด้วยความทุลักทุเล และความยากลำบาก เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจตัดฝาชักโครกให้แยกออกจากกัน เมื่อผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ก็สามารถช่วยให้หนูน้อยคนนี้เป็นอิสระอีกครั้งโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ เรื่องราวที่เกิดขึ้นนับเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับผู้ที่เพลิดเพลินกับการใช้โทรศัพท์ระหว่างทำธุระส่วนตัว ให้เพิ่มความระมัดระวังกันมากขึ้น ที่มา: shanghai.ist
-
ชาวเน็ตเผยการ “กินสับปะรดที่ถูกต้อง” จนต้องกลับมาคิดว่าเรากินผิดวิธีมาตลอดเลยหรือ?!
เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนกันแล้ว เชื่อว่าใครหลายๆ คนต้องมีผลไม้ในดวงใจไว้กินคลายร้อนแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น แตงโมหรือมะม่วงสุก และที่ขาดไม่ได้เลยคือ “สับปะรด” แช่เย็นอันหวานฉ่ำนั่นเอง… เจ้าผลไม้สีเหลืองที่มีรูปร่างหน้าตาดูแกะยากแบบนี้ แต่ละบ้านคงจะมีวิธีการปอกเปลือกแตกต่างกันไป แต่ถ้าบอกว่าแท้จริงแล้วมันมีวิธีกินที่ง่ายกว่านั้นมากเลยล่ะ?! วิธีการที่เราเห็นส่วนใหญ่จะเป็นการปอกเหมือนผลไม้อื่นๆ ทั่วไป แต่คราวนี้ชาวเน็ตคนหนึ่งได้บอกเคล็ดลับการปอกเปลือกด้วยการกรีดตามร่องตาของมันแทน จากคลิปเผยให้เห็นว่าพอเราทำอย่างนี้แล้วจะสามารถดึงเนื้อของสับปะรดออกมากินได้โดยไม่ต้องเสียเวลาปอกเปลือกทั้งหมดเลยด้วย!! คลิปวิดีโอที่ชาวเน็ตแชร์วิธีการกิน ด้วยการปอกเปลือกสุดแนว Im sorry but what the actual fuck 😨 pic.twitter.com/DYaDoGMe7i — lewis mccluskey (@lewismccluskey) March 4, 2019 หลังจากคลิปวิดีโอนี้ถูกแชร์ลงบนทวิตเตอร์ ชาวเน็ตต่างพากันให้เหตุผลว่าแท้จริงแล้วตาของสับปะรดแต่ละอัน มันก็เหมือนผลเบอร์รี่แต่ละลูก การกรีดผ่านตาของมันจึงเหมือนการดึงหยิบเอาผลของมันออกมากินแต่ละชิ้น คลิปวิดีโอดังกล่าวมียอดรีทวิตถึง 43,704 อัน ยอดกดไลค์อีกถึง 137,215 ไลค์ ส่วนก่อนหน้านี้ชาวเน็ตเคยรีเอควิธีการกินแบบนี้บนแอปพลิเคชัน TikTok กันมาแล้วด้วย เธอคนนี้ถึงกับบอกว่ามันเป็นวิธีการกินที่ชาญฉลาดเหลือเกิน…
-
‘หวานจนน้ำตาลเรียกพี่’ สาวสร้างฟาร์มสตรอว์เบอร์รีในห้อง รอแฟนหนุ่มมาออกเดตกันตามสัญญา
อย่างที่ทราบกันดีว่า คนญี่ปุ่นทำงานกันอย่างหนัก หามรุ่งหามค่ำจนเป็นเรื่องปกติ แถมบางครั้งยังต้องไปสังสรรค์กันก่อนกลับบ้าน ทำให้หลายคนไม่มีเวลาให้กับเรื่องส่วนตัว เช่นเดียวกับหนุ่มญี่ปุ่นคนนี้ ที่ไม่มีเวลาพาแฟนไปออกเดต จนแฟนสาวต้องสร้างสถานการณ์จำลองเหล่านี้ขึ้นมา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา ชาวเน็ตพากันแชร์ภาพสุดประทับใจของผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า rikujimasukuman ที่สัญญากับแฟนสาวว่าจะพาเธอไปเก็บสตรอว์เบอร์รี แต่เมื่อวันนั้นใกล้จะมาถึง เขากลับพบว่าตัวเองยุ่งเกินกว่าที่จะลาหยุดได้ จึงอาจจะต้องผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ แฟนสาวสุดน่ารักของเขาเห็นดังนั้น จึงผุดไอเดีย ยกเอาฟาร์มสตรอว์เบอร์รีมาที่ห้อง ชวนแฟนหนุ่มออกเดตกันตามสัญญา โดยนำสตรอว์เบอร์รีที่ซื้อมาไปแขวนไว้กับที่ตากผ้า จนกลายเป็นฟาร์มจำลองในแบบของเธอ พร้อมกับบอกแฟนหนุ่มว่า “เอาล่ะ ที่นี้เราก็ได้เก็บสตรอว์เบอร์รีด้วยกันแล้วนะ” https://twitter.com/rikujimasukuman/status/1101420205572382720 เมื่อภาพดังกล่าวได้เผยแพร่ไปในสังคมออนไลน์ ชาวเน็ตก็พากันชื่นชม และแสดงความคิดเห็นว่า “แฟนคุณน่ารักมาก” “ถ้าคุณมีเวลา อย่าลืมพาเธอไปเก็บสตรอว์เบอร์รีจริงๆ ล่ะ” “แฟนคุณทั้งฉลาดและน่ารัก ดูแลเธอดีๆ นะ” “แต่งงานกับเธอเลยเหอะ” เห็นความหวานจนน้ำตาลเรียกพี่ของคู่รักคู่นี้ ทำเอาชาวเน็ตอิจฉาไปตามๆ กัน ใครที่มีแฟนแล้ว ก็อย่าลืมที่ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันแบบนี้บ้างนะฮะ ที่มา: soranews24, nextshark
-
ชายญี่ปุ่นถูกจับหลังออกมาเดินแก้ผ้า ปัดข้อหาอนาจาร อ้าง “ทำไปเพื่อฝึกฝนวิชา”
ตามการ์ตูนญี่ปุ่น เราคงเคยเห็นฉากที่ตัวละครทำการเปลือยกายแล้วไปอยู่ใต้น้ำตกเพื่อฝึกฝนวิชากันอยู่บ่อยๆ ซึ่งในเร็วๆ นี้เหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ก็ได้เกิดขึ้นในโลกจริงแล้ว เมื่อมีรายงานมาว่าตำรวจญี่ปุ่นทำการจับชายวัย 56 ปีคนหนึ่งที่เดินอยู่ข้างถนนโดยไม่สวมเสื้อใดๆ สักชิ้นโดยเขาอ้างว่าที่ทำไปเพื่อจะ “ฝึกฝนวิชา” เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2019 เวลาประมาณ 5.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองกิฟุ ประเทศญี่ปุ่นได้รับรายงานมาว่ามีชีเปลือยคนหนึ่งเดินร่อนอยู่ตามถนน ซึ่งพวกเขาก็รีบรุดหน้าไปยังที่เกิดเหตุ ก่อนจะรีบเข้าจับกุมทันที หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ถูกจับกุม เขาไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แต่ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาอนาจารที่ตำรวจตั้งให้ โดยเขากล่าวว่า “ความตั้งใจของผมไม่ได้เป็นการทำอนาจารแต่อย่างใด ผมทำไปเพื่อฝึกฝนเพียงเท่านั้น” นอกจากนี้ตามรายงานยังบอกไว้อีกด้วยว่าในระหว่างที่ให้การกับตำรวจเขาได้ใช้คำว่า “Shugyo” ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายถึงการฝึกตน ฝึกจิตใจไม่ให้หวั่นไหวกับสิ่งใดด้วย เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันผ่านบนโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตญี่ปุ่นมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็น บางคนก็บอกว่า “นี่มันต้องเป็นการฝึกฝนวิชาแน่ๆ !” หรือจะเป็น “บางทีการถูกจับแบบนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนของเขาด้วยนะนั่น” แต่บางคนก็เห็นแย้งว่า “ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะว่าออกมาเดินในสภาพเปลือยแบบนี้จะเป็นหนึ่งในรูปแบบของ Shugyo… บางทีเขาอาจจะแค่ชอบมันก็เป็นได้” ที่มา Soranews, Tokai TV, Hachima Kiko
-
เด็กน้อยเผลอทำ “ปลาทอง” ของตัวเองตาย เพราะเขาเอามันไปนอนบนเตียงด้วย
สำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนเราก็จะมีความรักความผูกพันให้กับมันเสมอ และอยากจะให้มันอยู่กับเราไปนานๆ หลายๆ บ้านที่มีลูกเล็กก็มักเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนลูกด้วยเป็นการฝึกให้เด็กๆ มีความอ่อนโยนและรับผิดชอบ หนุ่มน้อย Everett Hamlin วัย 4 ขวบเองก็มีสัตว์เลี้ยงเช่นกัน และสัตว์เลี้ยงของเขาก็คือปลาทอง ที่ชื่อว่า Nemo ซึ่งบ้านของ Everett เลี้ยงมันเอาไว้ในตู้ปลาที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ครอบครัว Hamlin วันหนึ่ง Tori คุณแม่ของ Everett สังเกตเห็นว่าเจ้า Nemo ได้หายไปจากตู้ปลา เธอตามหามันจนทั่ว เผื่อว่ามันอาจจะแค่ดีดตัวออกมาข้างนอกตู้ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบเลย แต่เพียงไม่นานนัก Tori ก็หา Nemo พบ เจ้าปลาทองตัวเล็กอยู่ในมือลูกชายที่นอนหลับอยู่บนเตียง Tori ตกใจมากจึงรีบปลุกลูกชายขึ้นมาเพื่อบอกความจริงที่โหดร้ายว่า ถ้าปลาไม่ได้อยู่ในน้ำมันจะตาย… เมื่อ Everett พบว่าเพื่อนรักของเขาไม่มีชีวิตอยู่แล้ว เด็กชายเศร้าเสียใจมากๆ เพราะความจริงแล้วเขาเพียงแค่อยากเล่นและนอนหลับกับเจ้า Nemo เท่านั้นเอง โธ่ Nemo… Tori เล่าว่า “ทีแรกฉันช็อคมากๆ แต่พอลูกบอกว่า เขาแค่อยากลูบตัวมันเล่น…
-
คุณพ่อวิศวกรออกแบบลายเสื้อ ‘รางรถไฟ’ ลูกได้เล่นสนุก พ่อได้นวดหลัง ประโยชน์สองต่อ
เป็นเรื่องปกติสำหรับหลายๆ ครอบครัวที่มีลูกสาวหรือลูกชายวัยกำลังพัฒนาที่มักจะมีสิ่งที่ตัวเองสนใจ และหลงใหลไปกับมัน อยากเล่น อยากใช้เวลากับสิ่งที่ชอบ จนบางครั้งอาจไม่สนใจผู้ปกครอง คงเป็นเรื่องดีถ้าสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ทุกช่วงวัยนั้นถูกสร้างขึ้น เพื่อผู้ปกครองและลูกวัยกำลังซนของพวกเขา และ Ken Kawamoto นักวิศวกรรมซอฟต์แวร์ชาวญี่ปุ่นนั้นเล็งเห็นถึงไอเดียนี้จึงสร้าง “เสื้อรางรถไฟ” ขึ้นมา เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2019 คุณพ่อชาวญี่ปุ่นชื่อ Ken Kawamoto ได้เล่าเรื่องราวผ่านทวิตเตอร์ของเขา @kenkawakenkenke ถึงต้นเหตุของไอเดียที่น่าประทับใจระหว่างเขากับลูกชาย Ken มีลูกชายวัยกำลังซนที่มีสิ่งที่ชอบเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป และลูกชายของเขาก็หลงใหลในรถไฟเอามากๆ นั่นทำให้เขาเกิดไอเดียออกแบบเสื้อที่ทำให้เขาได้ใช้เวลาอยู่กับลูก พร้อมๆ กับที่ลูกของเขาก็ได้อยู่กับสิ่งที่รักนั่นคือ “เสื้อรางรถไฟ” “เสื้อรางรถไฟ” ตัวนี้ ถึงแม้ด้านหน้าจะดูเป็นสีขาวเปล่าๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่หากลองพลิกดูด้านหลังของเสื้อ จะพบกับรางรถไฟหลายราง พร้อมชื่อสถานีรถไฟ และธรรมชาติต่างๆ สงสัยกันไหมล่ะว่าเสื้อรางรถไฟตัวนี้จะช่วยให้เขากระชับความสัมพันธ์กับลูกชายได้อย่างไร? Ken อธิบายถึงไอเดียนี้ว่า “ผมอยากใช้เวลากับลูกในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับรถไฟ และในขณะที่เขากำลังแล่นรถไฟไปตามรางนั้น ผมก็จะได้รับการนวดหลังไปพร้อมๆ กัน” จากเสื้อจะเห็นได้ว่าชื่อสถานีรถไฟประกอบไปด้วย “ไหล่ซ้าย”, “ไหล่ขวา”,…
-
เจ้าสาวหยอกเจ้าบ่าว แกล้งดึงมือออกตอนป้อนเค้ก โดน ‘ตบหน้า’ สนั่นงานแต่ง แขกถึงกับอึ้ง
งานวิวาห์เปรียบเสมือนเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ซึ่งก็แน่นอนว่าในพิธีสำคัญในชีวิตเช่นนี้ใครๆ ต่างก็อยากจะให้มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นทั้งนั้น… แต่ว่ามีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่ดูจะไม่ค่อยดีกับการเริ่มต้นเท่าไหร่นัก เพราะมีเจ้าสาวคนหนึ่งถูกเจ้าบ่าวเงื้อมือตบหน้าเต็มๆ จากความที่เธอหยอกล้อด้วยการดึงมือออกขณะที่ป้อนเค้ก!! เรื่องราวที่ว่านี้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นที่ใด แต่เชื่อกันว่าเป็นประเทศหนึ่งแถบเอเชียกลาง และมีคลิปวิดีโอขณะที่เหตุการณ์เกิดขึ้นถูกถ่ายเอาไว้ ภาพในวิดีโอเริ่มขึ้นจากความที่เจ้าบ่าวป้อนเค้กให้กับเจ้าสาวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติเฉกเช่นกับงานแต่งงานทั่วๆ ไป คลิปวิดีโอเหตุการณ์เต็ม แต่ว่าหลังจากนั้นพอถึงคราวที่เจ้าสาวต้องป้อนเค้กกลับให้เจ้าบ่าวบ้าง เธอก็นึกแหย่เจ้าบ่าวเล่นด้วยการชักมือออกขณะที่เค้กกำลังจะเข้าปากของฝ่ายชาย เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องขำๆ ที่หลายๆ คู่ทำกันแต่ว่าไม่ใช่กับคู่นี้… เพราะทันทีที่เจ้าบ่าวเจอเจ้าสาวแหย่เช่นนี้ เขาก็บันดาลโทสะใช้มือตบเข้าเต็มๆ หน้าของเจ้าสาว จนชายที่อยู่ข้างหลังต้องเข้ามาห้ามปรามอย่างเร่งด่วน ทางด้านเจ้าสาวก็ได้เพียงแต่เอามือจับใบหน้าที่บอบช้ำเอาไว้ จากนั้นคลิปวิดีโอก็จบลงด้วยการไม่ทราบว่าเรื่องราวเป็นเช่นไรต่อไป งานยังคงดำเนินต่อไปหรือถูกยุติลงก็ไม่อาจรู้ได้ คลิปวิดีโอนี้ได้เผยแพร่ออกมาในโลกโซเชียล ซึ่งชาวเน็ตต่างก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็ออกไปทางเห็นใจเจ้าสาวรวมทั้งแนะนำให้เธอยุติการแต่งงานครั้งนี้ลงเสีย… “เจ้าบ่าวควรจะไปเรียนเรื่องสิทธิมนุษยชนบ้างนะ ส่วนเจ้าสาวก็ควรล้มเลิกการแต่งงานลงเถอะ” “ฉันหวังว่าเธอจะไม่ปล่อยให้การแต่งงานดำเนินต่อไปนะ” ที่มา: dailymail
-
หญิงสลบวูบ ตื่นมาประสบอาการ ‘ความจำเสื่อม’ จำชีวิตตัวเองไม่ได้ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา
หลายคนอาจจะเคยเห็นกับโรคแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับคนเรามากมาย แต่ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นกรณีที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะมีโรคที่แปลกซะยิ่งกว่าแปลกเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง และทำให้เธอสูญเสียความจำตลอดช่วง 40 ปีไป… เรื่องราวที่ว่านี้เกิดขึ้นกับหญิงชื่อว่า Kim Denicola ชาวรัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งมันได้เริ่มจากการที่เธอมีอาการปวดหัวและสายตาพร่าเบลอขณะที่อยู่ในโบสถ์ จึงได้บอกสามีถึงอาการที่เกิดขึ้น เมื่อที่ได้รับรู้อาการของภรรยา ทางสามีก็บอกให้เธอรีบไปห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในทันที แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นานก็มีคนเห็นเธอนอนสลบอยู่ที่ลานจอดรถของโบสถ์แห่งนั้น จึงรีบนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน โดยหลังจากที่แพทย์ได้ทำการรักษาและปล่อยให้เธอนอนพักฟื้น เธอก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้งแต่ว่าการตื่นขึ้นมาครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ เพราะเธอไม่สามารถจำอะไรได้ รวมทั้งยังตอบคำถามที่พยาบาลทำการทดสอบผิดหมดทุกข้อ “คุณพยาบาลถามฉันว่ารู้ไหมว่าวันนี้วันอะไรและเป็นปีอะไร ฉันก็ตอบไปว่ารู้สิปี 1980 ไง แล้วพยาบาลก็ถามฉันต่ออีกว่า ‘บอกหน่อยได้ไหมตอนนี้ใครเป็นประธานาธิบดีอยู่’ ฉันก็ตอบไปว่า Ronald Regan ไงล่ะ” Kim ให้สัมภาษณ์ Kim ออกมาเล่าเหตุการณ์ในชีวิต แต่ส่วนที่แย่ยิ่งกว่าการหลงลืมวันเวลาของ Kim ก็คือเธอจำใครที่อยู่ในชีวิตของเธอไม่ได้เลยแม้แต่ David สามีที่อยู่กินกันมาตลอดระยะเวลา 17 ปี ซึ่งเขาได้เดินเข้ามาในห้องจับมือของเธอทั้งน้ำตา ทว่าในสายตาของเธอแล้วเขาเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าคนหนึ่งเพียงเท่านั้นเอง… Kim เล่าว่าเธอจำไม่ได้ว่าเคยแต่งงานแล้ว รวมทั้งจำได้ว่าช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เธอจะสลบไปเธอมีอายุเพียง 18 ปีและอยู่ในช่วงปี 1980…
-
ออสเตรเลียสูญเสีย “จระเข้อาวุโส” อายุ 100 ปี เจ้าหน้าที่บอก “เพราะความเขลาของมนุษย์”
ชุมชนของเมืองคาร์ดเวลล์ ทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย ต้องสูญเสียสัตว์เลื้อยคลานอันเป็นที่รักของพวกเขา เนื่องจากถูกมนุษย์ฆ่าด้วยการยิงปืนเข้าที่หัวของมัน… เจ้าสัตว์เลื้อยคลานตัวนี้ คือ “จระเข้น้ำเค็มอายุราว 100 ปี” ขนาด 4.5 เมตร ชื่อของมันคือ บิสมาร์ก (Bismarck) ซึ่งเป็นชื่อที่คนในชุมชนตั้งไว้ให้กับมัน จระเข้ที่มีชื่อว่า บิสมาร์ก นายเธีย ออร์มอนด์ หนึ่งในคนของพื้นที่นั้นบอกว่าคนในชุมชนต่างเศร้าใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นจระเข้ที่อยู่คู่กับเมืองมานาน อีกทั้งผู้คนต่างพบเห็นมันเป็นประจำ และถึงแม้มันจะเป็นสัตว์ตัวใหญ่แต่เจ้าบิสมาร์กก็เป็นจระเข้ที่อ่อนโยน… นอกจากนั้นผู้คนในเมืองคาร์ดเวลล์ ต่างคุ้นชินกับมันเพราะเจ้าบิสมาร์กมักจะชอบมาอาบแดดอยู่เป็นประจำ ทำให้คนที่ออกมาจับปลาหรือขับเรือผ่านแถวนั้นดีใจที่ได้เจอมันทุกครั้ง พร้อมกับทักทายเจ้าจระเข้ตัวนี้เสมอ ไรอัน มู้ดดี้ ชาวประมงที่พบศพมันเป็นคนแรกบอกว่า “เจ้าจระเข้ตัวนี้ไม่เคยทำร้ายมนุษย์ มันก็แค่ชอบออกมาหาเต่าตัวเล็กๆ กิน และผมเคยเดินผ่านใกล้ๆ มันตอนกำลังรวบรวมเบ็ดแถวห้วย Meunga ด้วย” หลังจากที่เขาพบเจอมันนอนอยู่ในสภาพแน่นิ่งไม่ไหวติง ไรอันจึงได้โพสต์คลิปวิดีโอของมันลงบนโลกโซเชียลเพื่อให้เห็นการกระทำของมนุษย์ ภาพของคนในพื้นที่ที่พบร่างของมันในลำห้วยและรอยกระสุนที่หัว . เขาพูดถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า “มันช่างน่าประหลาดใจจริงๆ ที่มนุษย์สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ให้ร้ายแรงกว่าเดิม ด้วยความโง่เขลาล้วนๆ” อีกทั้งเขายังอธิบายอีกว่าการตายของเจ้าจระเข้ที่อยู่มานานตัวนี้จะกลายเป็นการเปิดอาณาเขตให้จระเข้ตัวอื่นๆ ที่ดุร้ายและเป็นอันตรายมากกว่าอพยพเข้ามาแทนได้ คลิปวิดีโอที่พบเจ้าบิสมาร์กนอนนิ่งไม่เคลื่อนไหวแล้ว ภายหลังการตายของเจ้าบิสมาร์ก…
-
โรงเรียนมัธยมญี่ปุ่นถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังพบว่ามีสั่งให้นักเรียนก้มกราบคุณครู
สำหรับประเทศไทยของเรา เราคงเห็นภาพของเด็กนักเรียนที่ทำการก้มกราบคุณครูอยู่บ่อยๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด แต่หากทำการก้มกราบแบบนี้ในวัฒนธรรมอื่นๆ ล่ะ? เหมือนอย่างโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นจัดกิจกรรมให้นักเรียนก้มกราบคุณครูเหมือนประเทศไทย แต่กลับถูกชาวเน็ตต่อว่าอย่างมากมาย ในวันที่ 2 มีนาคม 2019 มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งชื่อว่า @barbeejill3 ได้ทำการโพสต์ภาพพร้อมกับแคปชั่นว่า “มีนักเรียนชั้นมัธยมปลาย DM รูปมาหาผมพร้อมกับเล่าว่า ‘เวลาที่โรงเรียนของผมจัดประชุม คุณครูมักจะให้นักเรียนทำเซย์กะ (คุกเข่าแบบญี่ปุ่น) พร้อมกับโค้งคำนับเหล่าอาจารย์ โดยคุณครูบอกว่าจะช่วยให้แขกผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมโรงเรียนชื่นชมโรงเรียนของเรามากขึ้น’” 商業高校に通う生徒から画像付きDM 「私の学校では集会が行われる時に先生が前に立つと必ず正座をして礼をしなければなりません。先生達は外部から来た人が褒めていたと自信満々に言います。」 商業高校は人作りの学校だから正座をさせるのらしい… pic.twitter.com/PtU55b1vWd — 合法先生 (@barbeejill3) March 2, 2019 แม้ว่าคุณครูในโรงเรียนดังกล่าวจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่น่ามองน่าชื่นชมในสายตาของอาจารย์หรือแขกที่มาเยี่ยมโรงเรียน แต่ในทางกลับกัน ดูเหมือนว่าชาวเน็ตญี่ปุ่นจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ พร้อมกับเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย บางคนก็ว่า “นี่มันน่าขนลุกมากๆ เหมือนกับลัทธิอะไรสักอย่างหนึ่ง” หรือ “พวกคุณครูคงรู้สึกว่าตัวเองยอดเยี่ยมหรือเป็นคนสำคัญล่ะมั้ง เวลาที่ได้เห็นเหล่านักเรียนคุกเข่าแล้วก้มกราบพวกเขาในแต่ละวันเนี่ย” บ้างก็บอก “ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ฉันได้เห็นเลย ไม่มีคำใดๆ จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้…” รวมถึงยังมีคนบอกว่า “โทษทีนะ แต่นี่มันไม่ต่างอะไรกับพวกคลั่งลัทธิหรือเหล่าทาสเลย” จนถึงตอนนี้ทางโรงเรียนก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด ที่มา Soranews, @barbeejill3
-
ขนส่งนิวซีแลนด์ ปล่อยแคมเปญโชว์ภาพรอยช้ำที่เกิดจากเข็มขัดนิรภัย ไว้เตือนสติผู้ขับรถ
“เข็มขัดนิรภัย” คือหนึ่งในอุปกรณ์ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตของผู้ใช้รถยนต์ แต่หลายๆ คนก็มักจะเมินเฉยและไม่คาดเข็มขัดดังกล่าวเป็นประจำ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของเข็มขัดนิรภัย วันนี้ทางกรมการขนส่งแห่งประเทศนิวซีแลนด์จึงได้ทำแคมเปญลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน โดยให้เห็นรอยช้ำที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ จากรายงานของกรมขนส่งแห่งนิวซีแลนด์พบว่าในทุกๆ ปีจะประชากรนิวซีแลนด์ 90 คนที่เสียชีวิตเพราะพวกเขาไม่ใส่เข็มขัดนิรภัย โดยส่วนมากมักเป็นคนหนุ่ม ทั้งนี้กรมการขนส่งจึงทำการขอความร่วมมือจากผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุจริงๆ มาถ่ายรูปพร้อมเมคอัปรอยช้ำที่เกิดจากเข็มขัดนิรภัยเอาไว้เตือนใจผู้ขับขี่คนอื่น ว่าขนาดเข็มขัดนิรภัยยังทิ้งรอยช้ำขนาดนี้ไว้ มันแสดงว่าคุณพุ่งออกจากที่นั่งเร็วและแรงขนาดไหน “เข็มขัดนิรภัยจะทิ้งรอยช้ำไว้แบบนี้ มันจะช่วยชีวิตของคุณ แต่มันจะทิ้งร่องรอยเอาไว้เพื่อให้คุณเห็นว่ามันช่วยคุณอย่างไร” Dr. Natasha McKay แพทย์ฉุกเฉินพิเศษได้กล่าวเอาไว้ แคมเปญดังกล่าวจะตั้งโชว์บนป้ายโฆษณาต่างๆ ทั่วประเทศนิวซีแลนด์ พร้อมกับมีวิดีโอเรื่องราวของผู้เคยประสบอุบัติเหตุทั้ง 10 คนที่จะสอนแง่คิดเห็นแก่ผู้ขับขี่คนอื่นๆ ให้ดูกันบน Youtube ด้วย . . ตัวอย่างวิดีโอเรื่องราวของผู้เคยประสบอุบัติเหตุ . หลังจากได้เห็นผลกระทบจากรอยช้ำที่เข็มขัดนิรภัยได้ทิ้งไว้ให้กับผู้ประสบอุบัติเหตุ#เหมียวโคบี้ เชื่อหลายๆ คนคงเริ่มเห็นถึงความสำคัญของมันบ้างแล้วล่ะ ที่มา Boredpanda, beltedsurvivors.nz
-
เด็กชายผู้เกิดมามี ‘สมองเพียงแค่ 2 เปอร์เซ็นต์’ พ่อแม่ไม่ยอมแพ้ พารักษาจนป็นปกติ
พ่อแม่ชาวอังกฤษคู่หนึ่งคือ Shalley Wall และ Rob Wall ได้เปิดเผยกับรายการ Good Morning Britain ถึงการให้กำเนิดลูกชายหัวแก้วหัวแหวน คือ Noah Wall ในขณะแรกเกิดนั้นเขามีสมองเพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนแทบจะเป็น 0 หากเทียบกับคนทั่วไป เด็กชายมีพัฒนาการทางสมองผิดปกติจึงเป็นคำอธิบายที่ใกล้เคียงที่สุดสำหรับเขา ก่อนเขาจะเกิดนั้น คุณหมอที่ดูแล Shalley ได้โน้มน้าวให้เธอทำแท้งถึง 5 ครั้ง เพราะลูกชายของเธอมีแนวโน้มจะเกิดมาโดยไร้สมองสูงมาก และการเกิดโดยปราศจากสมองนั้นอาจส่งผลให้เขาเป็นผู้พิการ ไม่สามารถพูด กิน ได้ยินเหมือนคนปกติได้เลย อย่างไรก็ตาม สองสามีภรรยาคู่นี้เลือกที่จะให้กำเนิดเด็กชายคนนี้มา และเลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดีไม่ว่าเขาจะมีสภาพแบบไหนก็ตาม และ Noah ก็ได้โตขึ้นมาเหนือความคาดหมายทุกประการ โดย Noah เข้ารับการพัฒนาสมองที่ประเทศออสเตรเลีย ที่นี่เอง Noah มีโอกาสเรียนรู้การใช้ชีวิตให้ได้เหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการลุกขึ้นนั่ง การเล่นกระดานโต้คลื่น การเดิน รวมไปถึงการเล่นสกี โดยการรักษานี้ชื่อว่า “Neurophysics” เป็นการรักษาผสมผสานระหว่างกายภาพบำบัดและการออกกำลังเพื่อการรับรู้ …
-
ชมภาพบรรยากาศสุดหลอน ใน ‘สวนสนุก Disney World ร้าง’ บนเกาะที่ถูกทิ้งไว้นานกว่า 20 ปี
เมื่อพูดถึงสวนสนุก Disney World ทุกคนคงจินตนาการถึงดินแดนในความฝัน ที่เต็มไปด้วยความสนุก สดใส ชวนย้อนกลับไปตอนวัยเด็ก แต่ยังมีอีกด้านหนึ่งของสวนสนุกที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็น.. ในปี 1974 Disney World ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สร้างธีมปาร์คแยกออกไปบนเกาะแห่งหนึ่ง โดยตั้งชื่อว่า Treasure Island หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Discovery Island ก่อนที่จะปิดตัวลงในปี 1999 คอนเซ็ปต์ของธีมปาร์คแห่งนี้คือ ‘เกาะมหาสมบัติ’ ของเหล่าโจรสลัด เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีนกหลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก ผู้คนต้องนั่งเรือมาสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ กว่า 20 ปีมาแล้วที่สวนสนุกแห่งนี้ถูกทิ้งร้างปิดตายบนเกาะ จน Matt Sonswa ยูทูบเบอร์คนหนึ่งเข้าไปสำรวจ และนี่คือบรรยากาศด้านในของสวนสนุก ท่าเรือที่คอยรับนักท่องเที่ยวพังถูกปิด จุดรอสำหรับขึ้น-ลงเรือ ตึกด้านหน้าผุพังลงมา ตามอายุ . โรงพยาบาลสัตว์ในสวนสนุก ยังมีอุปกรณ์บางอย่างหลงเหลืออยู่ . บริเวณห้องน้ำ .…
-
เปิดภาพวาด ‘คณิตศาสตร์ทางดนตรี’ การถ่ายทอดความสุนทรีย์ของ John Coltrane
ปกติแล้วในการฟังเพลงนั้น เรามักใช้ประสาทสัมผัสการฟังคือหูเพื่อดื่มด่ำกับศาสตร์ทางดนตรีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงตัวโน้ต เครื่องดนตรี รวมไปถึงเนื้อเพลง อ่านดูแล้วอาจเป็นการยากถ้าจะนำศาสตร์ทางดนตรีมาผสมรวมกับศาสตร์อื่นๆ โดยเฉพาะศาสตร์ทางด้านตัวเลขหรือคณิตศาสตร์ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า John Coltrane สามารถนำสองศาสตร์นี้มาผสมรวมกันได้อย่างลงตัว John Coltrane คือนักแซกโซโฟน นักแต่งเพลง และหัวหน้าวงดนตรีแจ๊สชาวอเมริกัน ผู้ผุดไอเดียการนำดนตรี คณิตศาสตร์ และเรขาคณิตเข้าด้วยกัน ทั้งๆ ที่มันไม่น่าจะเป็นสิ่งที่มาบรรจบพบกันได้ ไอเดียนี้เชื่อว่าเกิดขึ้นในขณะที่จอห์นกำลังร่ำเรียนแนวเพลงอินเดียอย่างลึกซึ้งพร้อมกับศึกษาทฤษฏีบางอย่างของอัลเบิร์ต ไอสไตน์ และนั่นทำให้เกิด “วงกลม” (The Circle) ขึ้นจากการฟังผลงานเพลงของตัวเอง รูปภาพของเขาได้เปิดเผยสู่เพื่อนๆ และอาจารย์ของจอห์นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1967 ภายใต้ชื่อว่า “The Coltrane Circle” หรือ “Coltrane’s Circle of Tones” ผลงานนั้นประกอบไปด้วย วงกลมของลำดับที่ 5 (The Circle of Fifths) ซึ่งจากทฤษฎีทางดนตรีนั้นคือวงกลมที่ประกอบไปด้วยตัวโน้ต สัญลักษณ์ทางดนตรี และระดับเสียงต่างๆ ที่ผู้เรียนศาสตร์ทางด้านดนตรีจะเข้าใจดี อย่างไรก็ตาม…
-
เปิดบ้านของ ‘โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์’ ที่ดูไม่มีความเป็น ‘โทนี่ สตาร์ก’ เลย แต่อบอุ่นมาก!!
หลายคนน่าจะรู้จักชายคนนี้ดีในฐานะนักแสดงผู้รับบทเป็น ไอรอนแมน หรือ โทนี่ สตาร์ก เป็นทั้งเศรษฐีและฮีโร่พร้อมบ้านสุดไฮเทค แต่ใครจะรู้บ้างว่าจริงๆ แล้ว โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ เจ้าของบทบาทจะมีบ้านที่แตกต่างจากในเรื่องอย่างสิ้นเชิง… รับรองว่าเพื่อนๆ ทุกคนจะต้องแปลกใจ เพราะบ้านของเขานั้นดูแล้วอบอุ่นสบายตาไม่เหมือนกับบ้านของโทนี่ สตาร์กที่เราเห็นกันในภาพยนตร์เลยแม้แต่น้อย!! ข่าวที่เกี่ยวข้อง: นี่มัน Tony Stark!! แอบส่องคฤหาสน์หลังใหม่ของ Robert Downey Jr. มูลค่า 120 ล้านบาท บ้านหลังนี้ทั้งภรรยาและตัวโรเบิร์ตเองซื้อต่อจาก Joe Nahem ที่เป็นดีไซน์เนอร์อีกทีหนึ่ง พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะได้บ้านที่ดูเรียบๆ ธรรมดามาครอบครองแน่ๆ โดยการเปิดบ้านครั้งนี้ทางทีมของ Architectural Digest ได้ขอเข้าไปถ่ายที่บ้านและขอให้รอเบิร์ตและซูซานพาเดินชมบ้านพร้อมอธิบายไปการตกแต่งและคอนเซ็ปต์ไปด้วย รอเบิร์ตและภรรยาของเขา ซูซาน ดาวนีย์ ถ่ายรูปคู่กับบ้านกังหันที่สร้างขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษ์ที่ 19 ที่ East Hampton รัฐนิวยอร์ก บ้านกังหันหลังนี้มีเหตุผลที่มันต้องหันหน้าไปทางตะวันออกก็เพราะว่าคนในบ้านจะสามารถมองออกไปเห็นโบสถ์ฝั่งตรงข้ามที่ถูกสร้างขึ้นในยุค 50s โบสถ์ฝั่งตรงข้ามหากมองมาจากทางบ้านกังหัน เมื่อเข้าไปในโถงต้อนรับ หน้าบ้านจะถูกรายล้อมไปด้วยงานศิลปะที่โรเบิร์ตและซูซานสะสมไว้ จากขวามือคือผลงานศิลปะของ Ati Sedgwick…
-
รู้จักกับ He Yuhong สาวจีนที่ใช้ ‘เมกอัพ’ แปลงร่างเป็นใครก็ได้บนโลกใบนี้!!
คำกล่าวที่ตอนเด็กๆ คุณครูมักจะบอกกับเราว่า “โตขึ้นหนูจะเป็นอะไรก็ได้” คงใช้ได้จริงกับสาวจีนคนนี้เพราะเธอสามารถแปลงร่างเป็นใครบนโลกใบนี้ก็ได้ด้วยพลังแห่งเมคอัพ เธอมีชื่อว่า He Yuhong สาวชาวจีนที่ทำอาชีพเป็นเมคอัพอาร์ตติสท์ และใช้ความสามารถของตัวเอง เปลี่ยนร่างเป็นคนดังได้ตั้งหลายคน!! ทั้งนักแสดงดังอย่าง Johnny Depp ไปจนถึงAlbert Einstein หรือแม้แต่ สาวในภาพวาด Mona Lisa ก็สามารถทำออกมาได้เหมือนเป๊ะ จากสกิลการแต่งหน้าขั้นเทพทำให้ทุกวันนี้ยอดติดตามบนอินสตาแกรม @yuyamika7 ของเธอพุ่งกระฉูดไปที่ 516,264 คนแล้ว ไม่พอเธอยังมีช่องยูทูบเป็นของตัวเองด้วยชื่อว่า YUYA MIKA ข่าวที่เกี่ยวข้อง: สุดเจ๋ง!! เมคอัพอาร์ติสสาวจีนแต่งหน้าตัวเอง จากสาวหมวยกลายเป็น ‘ป๋าเดปป์’ ได้ด้วย สไตล์เมคอัพเบาๆ ของ He Yuhong แต่เธอสามารถแปลงร่างเป็นคุณลุง Albert Einstein ได้ด้วยนะ Johnny Depp นี่ขอปรบมือให้ดังๆ เพราะเหมือนมากๆ แม่สาว Taylor Swift ก็เหมือนซะจนหาเค้าเดิมของ Yuhong ไม่ได้เลย Black Widowจาก The Avengers ก็มาา เหมือนหลุดออกมาจากภาพMona Lisaเลย!! …
-
เด็กหนุ่มรู้ตัวว่าอยากเป็นศิลปินตั้งแต่เด็ก ตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้ และพัฒนาฝีมือไปให้สุด
การรู้ตัวเองได้เร็วว่าชอบหรือไม่ชอบทำอะไรก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว และหากได้รับการสนับสนุนให้ถูกทางก็ยิ่งมีโอกาสจะประสบความสำเร็จในการทำในสิ่งที่ชอบสูงมากขึ้นเช่นกัน วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักคนๆ หนึ่งที่รู้ตัวว่าอยากเป็นศิลปินตั้งแต่เด็ก ก่อนอื่นก็เลื่อนลงไปชมภาพวาดฝีมือของเขากันได้เลย งานศิลปะใหญ่ขนาดนี้ ลายเส้นคมชัด รายละเอียดเยอะเหมือนผู้มากประสบการณ์เป็นเจ้าของผลงาน แต่หากบอกว่าผลงานชิ้นนี้เป็นฝีมือของเยาวชนอายุเพียง 16 ปี จะเชื่อกันหรือไม่? ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Dusan Krtolica นักเรียนวัย 16 ปีจากประเทศเซอร์เบียคือผู้วาดผลงานที่เห็นในรูปด้านบนจริงๆ จะว่าเกิดมาพร้อมพรสวรรค์เลยก็อาจจะไม่ถูกนัก หนุ่มวัย 16 ปีคนนี้พบว่าตัวเองชอบวาดรูปตั้งแต่อายุ 2 ขวบ พร้อมกับแรงบันดาลใจคือการหลงใหลในสัตว์ ความแตกต่างทางสิ่งแวดล้อม และกลไกทุกอย่างในธรรมชาติ เขาเล่าว่า “ผมเริ่มตวัดข้อมือวาดรูปครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 2 ขวบ จนถึงตอนนี้มีงานแสดงโชว์เดี่ยวมาแล้วกว่า 6 งาน และเข้าร่วมแสดงผลงานทางรายการโทรทัศน์ก็หลายรายการ” “ขณะอายุ 13 ปี ผมได้จัดทำสารานุกรมภาพเกี่ยวกับโลกในยุคดึกดำบรรพ์ ที่ต่อมาก็ถูกตีพิมพ์ในเซอร์เบียและถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อรอการตีพิมพ์เช่นกันหากได้รับโอกาส” แค่อ่านอย่างเดียวอาจจินตนาการไม่ออกว่าตั้งแต่อายุ 2 ขวบจนถึง 16 ปีนั้น Dusan มีพัฒนาการในการวาดรูปเป็นอย่างไรบ้าง เราจึงมีรูปภาพผลงานของเขาตามช่วงวัยต่างๆ มาให้ชม ขณะอายุ…
-
ซิงเกิลมัมฮ่องกง ขอบคุณ “โจว เหวินฟะ” ช่วยพลิกธุรกิจของเธอจากขาดทุนเป็นกำไร
ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า โจว เหวินฟะ ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังชาวฮ่องกง ได้บริจาคเงิน 2 หมื่นกว่าล้านบาท ให้การกุศลเพราะเจ้าตัวคิดว่า “ตายไปก็เอาไปใช้ไม่ได้” นอกจากจะเป็นมหาเศรษฐีใจบุญแล้ว ล่าสุดมีรายงานออกมาว่า โจว เหวินฟะ อดีตเจ้าของบทบาทเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ในวัย 63 ปี ได้ช่วยพลิกชีวิตให้ซิงเกิลมัมรายหนึ่ง โดยการสร้างชื่อเสียงให้ธุรกิจของเธอ Wang Lili คุณแม่ลูกสองตัดสินใจเปิดธุรกิจขาย “Chee Cheong Fun” (ก๋วยเตี๋ยวหลอดฮ่องกง) หลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตลงในปี 2013 เธอได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ Wang ต้องการขยายธุรกิจเพื่อให้เพียงพอต่อการเลี้ยงดูลูกๆ ทั้งสอง เธอจึงตัดสินใจกู้เงินมาลงทุนที่เพิ่ม 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 4 ล้านบาท) แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามแผน ธุรกิจของเธอขาดทุน 5,800 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 23,000 บาท) ทุกเดือน ทำให้ Wang ตัดสินใจที่จะพัฒนาฝีมือการทำอาหารให้เก่งขึ้น เธอเดินทางไปเรียนรู้วิธีทำก๋วยเตี๋ยวหลอดที่มณฑลเซินเจิ้น ประเทศจีน…
-
ญี่ปุ่นเผย พระพุทธรูปเวอร์ชัน “หุ่นยนต์” ตั้งเป้ารณรงค์ให้คนรุ่นใหม่สนใจศาสนา
ญี่ปุ่นเป็นชาติที่โด่งดังในด้านอุตสาหกรรมอิเล็กโทรนิก และล้ำหน้าในด้านการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ แต่บางครั้ง ก็มักจะคิดค้นอะไรแปลกๆ ออกมา เช่นเดียวกับครั้งนี้ เมื่อวัด Kodaiji วัดพุทธนิกายเซนสำนักรินไซ อันเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น มาตั้งแต่ปี 1619 ต้องการที่จะเผยหลักคำสอนของศาสนาพุทธให้กับคนรุ่นใหม่อายุน้อย . ทางวัดจึงได้ติดต่อไปหา Hiroshi Ishiguro ศาสตราจารย์ทางด้านหุ่นยนตร์อัจฉริยะ จากมหาวิทยาลัยโอซาก้า เพื่อสร้างหุ่นยนตร์เผยแผ่คำสอนที่ชื่อว่า “Mindar” ขึ้นมา Mindar มีมูลค่าในการส้รางถึง 100 ล้านเยน (ประมาณ 28 ล้านบาท) ส่วนหัว คอ ไหล่ และมือ ถูกครอบด้วยวัสดุที่สร้างจากซิลิโคนให้เหมือนกับผิวหนังของมนุษย์ ส่วนสูงของหุ่นอยู่ที่ 195 ซม. ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 59 กก. . Kohei Ogawa รองศาสตราจารย์ทางด้านหุ่นยนตร์อัจฉริยะที่ ม.โอซาก้า ผู้ร่วมสร้าง Mindar ขึ้นมา…
-
ชาวเน็ตเล่าสังคมทำงาน เพื่อนร่วมงานรับเงินทุกเดือน ทั้งๆ ที่ไม่มีตำแหน่ง บริษัทก็จับไม่ได้กว่า 10 ปี
มีคนตั้งคำถามแปลกๆ ในเว็บ Quora ว่า “คุณเคยทำงานที่ไม่ต้องทำอะไรและยังได้เงิน แถมไม่มีใครจับได้ไหม” คำถามก็ว่าแปลกแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าคำตอบที่ได้รับนั้นแปลกกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของคุณ Shayne Wytt กับประสบการณ์ของเพื่อนร่วมงานเขาชื่อว่า Bob Shayne เล่าว่าเมื่อนานมาแล้วขณะที่เขาทำงานในบริษัทเกี่ยวกับเหล็กแห่งหนึ่ง เขามีเพื่อนร่วมงานชื่อ Bob เขามักจะเห็น Bob พร้อมกับคลิปบอร์ดและปากกาเสมอ Bob เป็นคนจิตใจดี ในทุกๆ วันหน้าที่ของเขาคือคอยเช็คสต็อกสินค้า, ฉลากสินค้า, กล่องสินค้า, พาเลทสินค้า และภาชนะบรรจุสินค้าต่างๆ เขาทำหน้าที่นี้มานานถึง 15 ปี Bob ชอบเล่นกีฬา เขาเข้ากันได้ดีกับเพื่อนร่วมงานทุกคนตั้งแต่เพื่อนพนักงาน, หัวหน้างาน ไปจนถึงผู้จัดการ เรียกได้ว่าทุกคนชอบ Bob เลยล่ะ เหตุการณ์ในแต่ละวันก็ผ่านไปปกติ จนอยู่มาวันหนึ่งได้มีการประชุมเพื่อหาคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งพนักงานดูแลผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูป และแน่นอนว่า Bob คือคนที่ทุกคนเสนอชื่อในตำแหน่งนี้ ดูเหมือนว่า Bob กำลังไปได้สวยกับงานของเขา ตอนนั้นเองที่ผู้จัดการก็ถามขึ้นมาว่า “Bob ทำงานให้กับฝ่ายไหนใครรู้บ้าง” และความเงียบคือคำตอบ ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ “บางทีเขาอาจขึ้นตรงกับฝ่ายสำนักงานก็ได้นะ”…
-
เด็กชายและหญิงถูกทารุณจนตายโดยครอบครัวตนเอง ก่อนฝังศพเอาในสวนหลังบ้าน
เมื่อปลายปีที่แล้วเจ้าหน้าที่เขตได้พบศพ Mary Crocker เด็กหญิงวัย 14 ปี และ Elwyn Crocker Jr. ผู้เป็นพี่ชายที่หายสาบสูญไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ฝังอยู่ในสวนหลังบ้านของทั้งคู่ ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา โดยพบว่า 2 พี่น้องอาจถูกฆาตกรรมโดยคนในครอบครัว Mary Crocker Elwyn Crocker Jr. ผู้ที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเด็กทั้งสองมีด้วยกัน 5 คนได้แก่ Elwyn Crocker Sr. ผู้เป็นพ่อ, ภรรยาของเขาและแม่เลี้ยงของเด็กทั้งคู่ Candice Crocker , Kim Wright แม่ของ Candice, Roy Anthony Prater คนรักของ Kim และ Mark Anthony Wright พี่ชายของ Candice ส่วนน้องชายของเหยื่อทั้งสอง James Crocker ผู้ป่วยเป็นโรคสมองพิการอยู่ในการดูแลของทางการแล้ว Elwyn Crocker Sr.…
-
นักดับเพลิงเผย ไฟไหม้โบสถ์วอดทั้งหลัง แต่คัมภีร์ไบเบิลรอดเฉยเลย
เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้โบสถ์ Freedom Ministries ตั้งอยู่ในรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางสถานีดับเพลิง Coal City ได้รายงานว่าไฟนั้นแรงมากเสียจนเจ้าหน้าที่ต้องถอยกลับออกมาจากที่เกิดเหตุชั่วครู่เลยทีเดียว แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถระงับเพลิงไหม้ไว้ได้โดยที่ไม่มีใครบาดเจ็บ แต่สิ่งที่เป็นเรื่องฮือฮาจากเหตุการณ์ครั้งนี้นั้นกลับเป็นภาพของคัมภีร์ไบเบิลจำนวนมากที่รอดพ้นจากเปลวไฟมาได้ในสภาพที่เรียกว่าไม่เสียหายเลยสักเล่ม โดยเรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์โดยเพจเฟซบุ๊กของสถานีดับเพลิง Coal City ใจความว่า . “เมื่อวันที่ 3 เวลาประมาณเที่ยงคืน 58 นาที ทางเราได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่โบสถ์ Freedom Ministries ตั้งอยู่ที่ Grandview รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย แม้ว่าเหตุแปลกประหลาดจะทำร้ายเรา แต่พระเจ้าทรงไม่ จากภาพนี้ โบสถ์ที่ถูกไฟไหม้นั้นร้อนเอามากๆ จนนักดับเพลิงต้องถอยออกมาครู่หนึ่ง คุณคงคิดว่าทุกอย่างคงถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน แต่คัมภีร์ไบเบิลเหล่านี้ไม่ไหม้เลย ไม้กางเขนทุกอันก็ยังอยู่ดี และไม่มีนักดับเพลิงได้รับบาดเจ็บเลยสักคน! ภาวนาให้กับบาทหลวงและเหล่าผู้ศรัทธาในพระคริสต์ด้วย” จากเหตุการณ์นี้มีคัมภีร์ไบเบิลราว 24 เล่ม ไม้กางเขน 3 อันที่ไม่ถูกไฟไหม้ ทำให้ผู้ศรัทธาในคริสตศาสนารู้สึกปลาบปลื้มอย่างมาก ทางโบสถ์เองก็แสดงความขอบคุณผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือทุกคน ขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ตหลายๆ คนออกมาบอกในมุมมองของวิทยาศาสตร์ว่า การที่ไบเบิลไม่ไหม้ไฟทั้งที่เป็นกระดาษนั้นเป็นเพราะว่าหนังสือมีความหนามากจนอากาศที่เป็นปัจจัยสำคัญในการติดไฟมีอยู่น้อย รวมทั้งหน้าปกของคัมภีร์เหล่านี้ก็หนามากจนทำให้ยากต่อการไหม้ไฟนั่นเอง …
-
เผยภาพเม่นฟ้า Sonic ฉบับไลฟ์แอคชั่น ที่ดู “อีหยังวะ” จนผู้สร้างตัวละครต้นแบบยังบ่น
เกมเมอร์ส่วนใหญ่คงรู้จักเจ้าเม่นตัวสีฟ้า ที่วิ่งเก็บเหรียญผ่านทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค หกคะเมน ตีลังกาต่างๆ นานา แล้วรู้มั้ยว่าเจ้า Sonic ตัวละครจากเกมสุดคลาสสิกกำลังจะมีหนัง Live-Action เป็นของตัวเองแล้วนะ . ซึ่งภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นดังกล่าวนี้เป็นของทางฝั่งฮอลลีวูด จากค่าย Paramount Pictures ที่แง้มๆ เรื่องนี้กันมานานพอสมควรแล้ว แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้าเราก็เพิ่งจะได้เห็นภาพเจ้า Sonic ในรูปแบบตัวละคร 3D แบบเต็มๆ กันไป ซึ่งทางเว็บไซต์ Hamagami / Carrol, Inc. ได้ปล่อยออกมาให้ได้ชมกัน ทาดาาาาา คือถ้าใส่ซิกแพคให้ได้ก็คงใส่ไปแล้ว ซึ่งภาพที่ออกมานั้นมันผิดจากที่หลายๆ คนหวังเอาไว้น่าดู ที่ฮากว่าคือมือของเข้า Sonic ที่เราเข้าใจกันมาตลอดว่าใส่ถุงมือสีขาวนั้น มันดันดูเหมือนเป็นขนสีขาวซะงั้น (หรือนั่นคือถุงมือที่ทำจากขนกันหว่า?) แล้วไม่ใช่แค่แฟนๆ ของเจ้าเม่นฟ้าซะด้วยที่คิดว่ามัน “อีหยังวะ” เพราะแม้แต่ Yuji Naka ที่เป็นผู้สร้างตัวละคร Sonic ต้นฉบับถึงกับทวีตบ่นในทวิตเตอร์ของตนเองว่า このソニックの全身ビジュアル見ると頭身とお腹の丸さって大事な気がします。もう少しバランス取れなかったのでしょうかねえ https://t.co/6RpIEsYa12 — Yuji…
-
เด็กมัธยมทำงานพาร์ทไทม์ 2 ปี เก็บเงินซื้อ ‘วีลแชร์ไฟฟ้า’ ให้เพื่อนผู้พิการได้สำเร็จ
เพื่อนย่อมไม่ทิ้งกัน… นับว่านี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้เราประทับใจและมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า เมื่อมีเด็กมัธยมคนหนึ่งทำงานเก็บหอมรอมริบเงินกว่า 2 ปี จนในที่สุดแล้วเขาก็สามารถซื้อรถเข็นไฟฟ้าให้กับเพื่อนผู้พิการได้สำเร็จ Wilson กับ Qualls เรื่องราวนี้เริ่มขึ้นจากความที่เด็กมัธยมนามว่า Tanner Wilson รู้ว่า Brandon Qualls เพื่อนผู้พิการของเขามักจะประสบปัญหากับการใช้งานวีลแชร์อยู่เสมอ เพราะเขามักจะไม่มีแรงหมุนล้อและจำต้องนั่งพักเหนื่อยอยู่บ่อยๆ เวลาใช้งาน Wilson จึงทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้ใดทำ นั่นคือเขาตัดสินใจทำงานพาร์ทไทม์เก็บเงินทั้งๆ ที่ยังเรียนอยู่ เพื่อจะซื้อเก้าอี้วีลแชร์ไฟฟ้าให้กับเพื่อนคนนี้ เขาจะได้สามารถใช้ชีวิตได้ง่ายยิ่งขึ้น!! เรื่องราวของทั้งคู่ถูกนำไปรายงานข่าว “แขนของผมมันเหนื่อยล้าจริงๆ และผมต้องหยุดพักอยู่เสมอเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อย” Qualls กล่าว Wilson ทำงานเก็บเงินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านไป 2 ปีเขาก็มีเงินพอสำหรับการซื้อของขวัญชิ้นสำคัญให้กับเพื่อนของเขา “เขาเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ ผมจึงอยากจะทำสิ่งนี้ให้กับเขา ผมแค่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ผมต้องทำและผมก็อยากทำมันด้วย” “ตลอดระยะเวลา 3 ปีให้หลังมาผมอยากจะซื้อให้เขามาเสมอ แล้วผมก็พยายามทำมัน” Wilson กล่าว ในวันอังคารที่ผ่านมา (5 ก.พ.) เป็นวันพิเศษสำหรับทั้งคู่ เพราะวันดังกล่าวคือวันที่…
-
เปิดรังรักมูลค่า 2,800 ล้านที่ ‘Jeff Bezos’ กับคนรัก ‘เกือบจะ’ ได้เข้าอยู่ แต่เป็นข่าวเสียก่อน!!
คิดว่าหลายคนคงคุ้นหูกันดีกับชายชื่อว่า Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Amazon หลังจากเมื่อไม่นานมานี้ชื่อของเขาได้ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ในประเด็นเรื่องหย่าร้างกับภรรยา และจากนั้นไม่นานก็มีข่าวว่าเขาคบกับหญิงอีกคนหนึ่ง Jeff Bezos โดยเรื่องราวคร่าวๆ ก็คือในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Jeff ได้ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่าได้หย่าร้างกับ MacKenzie Bezos ภรรยาที่อยู่กินกันมา 25 ปีเป็นที่เรียบร้อยหลังจากที่แยกกันอยู่มานาน… ส่วนสาวอีกคนที่เป็นข่าวว่าแอบคบลับๆ กับเขาก็คืออดีตผู้ประกาศข่าวชื่อว่า Lauren Sánchez ซึ่งข่าวได้แพร่งพรายออกมาจากการที่มีสื่อขุดคุ้ยเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเธอ Jeff และ Lauren แต่ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูวิมานสวรรค์ที่ Jeff และ Lauren เกือบจะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ซึ่งนี่เป็นบ้านหลังที่ทั้งคู่ได้เข้าไปเยี่ยมชมก่อนหน้าที่ข่าวเรื่องความสัมพันธ์จะถูกเปิดโปง 1 สัปดาห์เท่านั้น… Bel Air Mansion โดยบ้านหลังที่ว่านี้มีชื่อว่า Bel Air Mansion ตั้งอยู่ในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งราคาตั้งขายอยู่ที่ 88 ล้านดอลลาร์ (ราวๆ 2,800 ล้านบาท) บ้านสุดสวย ที่นี่เป็นบ้านสุดหรูที่มาพร้อมกับห้องนอน 9 ห้อง…
-
คุณยายเอ่ยปากขอคุณตาแต่งงานในวัย 70 ปี หลังเคยปฏิเสธ ‘คำขอแต่งงาน’เมื่อ 43 ปีที่แล้ว!!
คุณเคยเชื่อคำว่า “ถ้าคนจะคู่กันแล้ว ยังไงก็คงไม่แคล้วกัน” ไหม? นี่คือเรื่องราวของคู่รักวัยเก๋าคุณยาย Pauline Young วัย 72 ปี กับคุณตา Colin Jones วัย 74 ปี ซึ่งฝ่ายหญิงเป็นคนขอแต่งงานเอง หลังจากที่เธอเคยปฏิเสธคำขอแต่งงานของเขาเมื่อ 43 ปีที่แล้ว.. ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1976 ชายหญิงคู่หนึ่งได้พบกันครั้งแรกที่สนามเด็กเล่น ขณะนั้นพวกเขากำลังพาลูกๆ มาเล่นกันที่สนามแห่งนี้ พวกเขาต่างเป็นพ่อหม้ายและแม่หม้ายกันทั้งคู่ ทั้งสองคนต่างไม่มีใครรู้ว่าจะได้ลงเอยกันในวันหนึ่งข้างหน้า สี่สิบกว่าปีต่อมาทั้งคู่ได้เข้าพิธีวิวาห์กัน เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019 ณ โบสถ์ St. George’s Methodist ในเมือง Telford ประเทศอังกฤษ คุณยาย Pauline และคุณตา Colin ทั้งคู่ถูกชะตากันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ทั้ง Pauline และ Colin ใช้เวลาทำความรู้จักกันไม่นานนัก ก่อนที่เขาจะรวบรวมความกล้าขอเธอแต่งงานแต่ก็ถูกปฏิเสธมาโดยตลอด Colin ที่ดูเหมือนจะถอดใจกับการขอแต่งงานในครั้งนี้ จึงเลือกที่จะเป็นคู่หูให้เธอในการทำธุรกิจร่วมกันผลิตตู้วางของที่ประเทศเวลส์เป็นระยะเวลา 30 ปี ก่อนที่พวกเขาจะย้ายไปอยู่ที่ประเทศมอลตาเพื่อเปิดกิจการโรงแรมที่นั่น สามปีต่อมาด้วยวัยที่แก่ชราลงและโรคภัยที่เริ่มรุมเร้าทำให้คุณยายต้องการคนดูแลตลอดเวลา ทำให้ต้องย้ายไปอยู่ในสถานดูแลคนชราที่เมือง Telford ซึ่งคุณยาย Pauline เองนั้นมีภาวะเกี่ยวกับโรคทางสมอง เป็นเหตุให้เธอเคลื่อนไหวช้าลงและมักจะมีอาการชาตามตัวตลอดเวลา ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นคุณตา Colin…
-
ภรรยาสาวมะกันถึงกับช็อก หลังบังเอิญพบ “สามี” ของตัวเองแสดงอยู่ใน “หนังโป๊เกย์”
สำหรับคู่รักหลายๆ คู่ คงวาดฝันให้ชีวิตหลังแต่งงานนั้นโรยไปด้วยดอกไม้ แต่ในความจริงแล้วไม่ใช่ทุกคู่แต่งงานที่จะมีชีวิตมันเหมือที่เขาวาดฝันเอาไว้ เหมือนอย่างเรื่องของภรรยาสาวคนที่เรานำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ ชีวิตหลังแต่งงานของเธอพังลงทันที เมื่อเธอบังเอิญไปเจอเข้ากับ “สามีตัวเอง” ที่แสดงอยู่ใน “หนังโป๊เกย์” งานนี้เธอโกรธเป็นอย่างมากและอยากจะฟ้องหย่าให้ได้!! วันที่ 2 มีนาคม 2019 เธอใช้ชื่อว่า Henry_Fondles โพสต์กระทู้ลงในเว็บไซต์ Reddit โดยมีชื่อกระทู้ว่า “ฉันเจอสามีของตัวเองอยู่ในหนังโป๊เกย์และฉันไม่รู้จะพูดคุยกับเขาเรื่องนี้อย่างไรดี” โดยในกระทู้เธอได้เล่าว่าเธอชอบดูหนังโป๊เกย์เป็นอย่างมาก และก็มักจะเข้าไปดูเงียบๆ คนเดียวเป็นประจำ ซึ่งในคืนหนึ่งเธอก็ได้เข้าเว็บโป๊เพื่อจะดูหนัง 18+ ในขณะที่สามีกำลังหลับ เธอสุ่มๆ จิ้มหนังโป๊เกย์ขึ้นมาหนึ่งเรื่อง และทันทีที่เธอเริ่มดูก็ต้องตะลึง เมื่อพบว่านักแสดงในหนังดังกล่าวเป็นสามีของเธอเอง เธอเห็นหน้าเขาอย่างชัดเจน รวมถึงยังเห็นรอยสักพิเศษเฉพาะของเขาอีกด้วย งานนี้ฝ่ายภรรยาก็เลยโมโหและขยะแขยงสามีเป็นอย่างมาก ที่เขามีอะไรกับผู้ชวยด้วยกันโดยไม่ได้ป้องกัน เธอคิดมากจนนอนไม่หลับเลยในคืนนั้น ถึงขั้นต้องลางานไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย พร้อมกับเผยว่าตอนนี้เธอไม่สามารถที่จะมองหน้าเขาให้เหมือนเดิมได้อีกต่อไปแล้ว และถามเพื่อนสมาชิก Reddit ว่าเธอควรจะทำอย่างไรดี หลังจากที่เธอโพสต์เหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมกับถามขอคำแนะนำจากเพื่อนสมาชิก หลายๆ คนจึงเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้เธอฟ้องหย่ากับเขา . . สุดท้ายนี้เธอก็เข้ามาอัปเดตกระทู้ว่าเธอได้ทำการพูดคุยกับสามีของเธอแล้ว เขายอมรับเรื่องดังกล่าว แต่เขาบอกว่าเขาไม่ได้เกย์…
-
ชายอังกฤษเคลมว่า “ดื่มปัสสาวะทุกวัน” ช่วยทำให้เขา “มีความสุขและมีพลังมากยิ่งขึ้น”
สำหรับในหลักสูตรที่เราเรียนมา เราคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า “ปัสสาวะ” นั้นคือ “ของเสีย” ที่ร่างกายขับออกมาในรูปแบบของเหลว ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่ามันคือของเสียก็ตาม แต่เราก็คงเคยเห็นข่าวของคนที่นิยมดื่มปัสสาวะของตัวเองอยู่ เช่นเดียวกับ Fabian Farquharson ชายชาวอังกฤษวัย 37 ปีคนที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ครับ Fabian นั้นเป็นอาศัยอยู่ในเมือง Sheffield ทางตอนใต้ของมณฑลยอร์กเชอร์ ซึ่งเขาได้เผยว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมานี้ เขาดื่มปัสสาวะของตัวเองทุกวัน หลังจากได้พบประโยชน์ของปัสสาวะบนอินเตอร์เน็ตโดยบังเอิญ เขาเผยว่าตัวเองจะต้องดื่มปัสสาวะสดๆ ปริมาณ 300-400 มิลลิมิตรในทุกๆ เช้า โดยเชื่อว่ามันทำให้อาการปวดท้องของเขาที่แม้แต่หมอก็ไม่รู้สาเหตุทุเลาลง “ทุกๆ วันผมต้องเดินทางไกลเพื่อไปทำงาน เลยทำได้แค่กินพวกอาหารขยะอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Burger King เอย McDonald’s เอยหรืออื่นๆ ที่ผมสะดวก หลังจากนั้นผมก็เริ่มรู้สึกปวดท้องอย่างหนัก พอไปพบหมอ หมอก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลย ผมจึงเริ่มที่จะหาสาเหตุจากอินเตอร์เน็ตแทน” Fabian กล่าว ผมลองหาความรู้เกี่ยวกับยารักษาทางเลือก ซึ่งขณะเดียวกับที่ผมไปเจอประโยชน์ของการดื่มปัสสาวะ ซึ่งผมเป็นคนที่เปิดรับอะไรใหม่ๆ เสมอก็เลยตัดสินใจที่จะดื่มมัน รสชาติมันขมกว่าเบียร์เล็กน้อย มันแรงกว่าแต่รสชาติก็ไม่ได้แย่และผมก็ไม่มีปัญหาในการดื่มมัน ซึ่งหลังจากดื่มมันเสร็จสักชั่วโมงผมก็เริ่มรู้สึกดียิ่งขึ้น ผมรู้สึกมีพลังงานมากขึ้นและจากที่จะแนะนำมาให้ทุกคนได้ลอง” เขากล่าวต่อ…
-
สาวอ้วนถูกบูลลี่ เลยลดน้ำหนักกว่า 71 กก. แต่ตอนนี้กังวลกว่าเดิมเพราะกลัวพาสปอร์ตไม่ผ่าน
“การลดความอ้วน” ถือว่าเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายของเราดีขึ้น แถมยังสามารถสร้างความมั่นใจให้กับเราได้อีกด้วย เหมือนอย่าง Cassandra Sheldon สาววัย 27 ปีจากประเทศออสเตรเลียคนนี้ เธอตัดสินใจจะทำศัลยกรรมเพื่อลดความอ้วน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวเอง แต่ตอนนี้เธอกลับมีเรื่องไม่มั่นใจเรื่องใหม่แทน เมื่อรูปลักษณ์ใหม่ของเธอแตกต่างจากก่อนหน้าที่จะทำศัลยกรรมมากเกินไปและเธอก็กลัวว่าพาสปอร์ตของเธอจะไม่ผ่านการตรวจ โดย Cassandra เผยว่าแต่เด็กแล้วเธอเป็นคนอ้วน และนั่นเองก็ทำให้เธอต้องพบกับการกลั่นแกล้งในโรงเรียน เธอยังเผยอีกว่าแม้ตลอดระยะเวลาที่เติบโตมา เธอพยายามจะลดความอ้วนด้วยการออกกำลังกายอยู่บ่อยๆ แต่ด้วยนิสัยการกินของเธอก็ยังคงทำให้เธอมีน้ำหนักที่มากอยู่และยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย แถมพอจะออกกกำลังกายก็มักจะมีอาการบาดเจ็บอยู่เสมอ “ทุกๆ คนเป็นกังวลเกี่ยวกับฉันและฉันเองก็กังวลเช่นกัน ว่าหากฉันยังใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปฉันจะจบลงที่เป็นโรคเบาหวานหรือโรคหัวใจจากความอ้วน และฉันไปพบกับศัลยกรรมลดความอ้วนพอดี ฉันศึกษามัน พิจารณาอยู่นานสองปี ฉันศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับศัลยกรรมครั้งนี้มามากและฉันก็ตัดสินใจที่จะทำศัลยกรรมกระเพาะอาหารในปี 2017″ Cassandra กล่าว หลังจากศัลยกรรมมานี้ Cassandra ก็สามารถควบคุมอาหารและพยายามออกกำลังกายตามโปรแกรมที่แพทย์ให้มา เธอสามารถลดน้ำหนักไปได้ถึง 71 กิโลกรัม ซึ่งแน่นอนว่าความกังวลเกี่ยวกับรูปร่างหรือจะถูกกลั่นแกล้งของเธอคงจะหายไปแล้ว แต่ก็มีสิ่งที่น่ากังวลสิ่งใหม่เพิ่มขึ้นมา นั่นคือเธอเผยว่าเธอกังวลว่าจะออกจากประเทศเพื่อไปเที่ยวที่เกาะบาหลี สถานที่เที่ยวในฝันของเธอไม่ได้ เพราะรูปลักษณ์ของเธอนั้นเปลี่ยนแปลงไปจากรูปในพาสปอร์ตอย่างมาก… งานนี้ถ้าจะให้ผ่านชัวๆ #เหมียวโคบี้ คิดว่าเธอควรไปทำพาสปอร์ตใหม่นะ ฮ่าๆ ที่มา Unilad, Dailymail
-
คุณยายวัย 98 โชว์โหดซัดเรียบ ‘แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม หม้อไฟ’ อายุเยอะแล้วไงใครแคร์!!
เราอาจจะเคยได้ยินมาว่าคนที่มีอายุเยอะจะต้องกินอาหารที่ค่อนข้างดีต่อสุขภาพ เพราะร่างกายที่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาอาจทำให้ร่างกายไม่ดีเหมือนดั่งวันวาน แต่ว่ามีคุณยายคนหนึ่งจะมาพิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่าอายุเยอะแล้วไงใครแคร์ จากความที่คุณยายซัดแหลกทั้งแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม แถมด้วยเบอร์เกอร์ที่โปรดปราน!! ซัดให้เรียบ เมื่อไม่นานมานี้คุณยายวัย 98 ปีที่รู้จักกันในนาม Grandma Foodie (คุณยายนักกิน) ได้กลายเป็นเซเลบในโลกโซเชียลของประเทศจีน หลังจากที่ทำคลิปร่วมกับหลานสาวลง TikTok ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อย่อย โดยคลิปส่วนใหญ่ของคุณยายชาวมณฑลเสฉวนก็คือการกิน กิน กิน แล้วก็กิน และอาหารที่เธอชอบยิ่งนักก็คือจำพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หม้อไฟ (ชอบกินเผ็ดมว๊ากก) รวมถึงเบอร์เกอร์ที่คลิปวิดีโอหนึ่งเธอกินมันเร็วเกินจนฟันหลอมหลุดเลย… โดยตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงตอนนี้คุณยายมีผู้ติดตามในโซเชียลแล้วกว่า 416,000 คน ซึ่งคนจำนวนมากก็บอกว่ายินดีด้วยจริงๆ ที่เธอมีความสุขกับชีวิตแม้ว่าอายุอานามจะปาไปเกือบๆ 100 ปีแล้วก็ตาม “ฉันคิดว่าความต่างคือสิ่งที่ทำให้เธอดังได้นะ” “ยายดื่มโค้กกินเบอร์เกอร์ ชอบกินอาหารเผ็ดๆ แล้วก็อาหารที่มันๆ แม้ว่ามันจะดูไม่ค่อยดีต่อสุขภาพนักแต่เธอก็มีอายุยืนยาวมากๆ เลย” Cai หลานสาวของคุณยายกล่าว ตัลล้าก นอกจากนี้ในครั้งหนึ่ง Cai ยังเล่าว่ามีเหตุการณ์น่ารักๆ ของคุณยายเกิดขึ้น ในตอนนั้นเธอบอกกับยายว่ามีคนจำนวนมากชอบคุณยายจากคลิปวิดีโอ แต่ด้วยความที่คุณยายนั้นไม่รู้จักกับโลกโซเชียลแม้แต่น้อย…
-
ชาวเน็ตไม่โอเค เกม Rape Day มีเนื้อหารุนแรงเกินไป ไม่ควรได้วางขายบน Steam
หลายๆ ครั้งที่ทั้งในไทยและต่างประเทศมีประเด็นเรื่องความรุนแรงในเนื้อหาของเกมบางเกม จนเกิดเป็นข้อถกเถียงกันประจำว่าตกลงวิดีโอเกมนั้นส่งผลต่อพฤติกรรมรุนแรงในชีวิตจริงจริงหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด ความจริงแล้วพวกเราเองต่างก็รู้ว่าการก่อความรุนแรงโดยได้รับอิทธิพลจากวิดีโอเกมนั้นมีน้อยมาก และพวกเราทุกคนต่างก็มีความอ่อนไหวต่อเนื้อหารุนแรงแต่ละแบบไม่เท่ากัน วิดีโอเกมชื่อว่า Rape Day จึงเกิดเป็นประเด็นขึ้นมาบนโลกออนไลน์ เมื่อชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยคิดว่าเนื้อหาของมันรุนแรงจนเกินไป และเกมแบบนี้ไม่ควรถูกผลิตหรือนำมาวางขายเด็ดขาด ก่อนอื่นเรามาดูกันว่าเนื้อหาของเกมนี้มันเป็นอย่างไร Rape Day นั้นเป็นวิดีโอเกมที่ทาง Desk Plant เป็นผู้พัฒนาขึ้น เนื้อเรื่องในเกมนั้นเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์ซอมบี้ ตัวละครเอกของเกมเป็นผู้ชายที่มีพฤติกรรมต่อต้านสังคม และเกมจะให้เราสามารถด่าทอ ข่มขืน และฆ่าตัวละครผู้หญิงได้ ไม่เพียงเท่านั้นในส่วนของเนื้อหาติดเรทยังมีความรุนแรงอื่นๆ ด้วย เช่น มีการสมสู่กับศพและซอมบี้ และการร่วมเพศในสายเลือด ซึ่งทางผู้พัฒนาได้นำเกมดังกล่าวนี้ลงวางขายผ่านทางแพลตฟอร์มเกมชื่อดังอย่าง Steam ชาวเน็ตที่ได้รู้ข่าวเกมนี้ต่างก็แสดงความกังวลและไม่พอใจ บางคนบอกว่า “ถ้าเกมแบบนี้ได้วางขายล่ะก็ ฉันคงย้ายไปซื้อเกมกับแพลตฟอร์มอื่นแล้วล่ะ” บางคนก็บอกว่า “ปีศาจตัวไหนที่มันสร้างเกมแบบนี้ขึ้นมาวะ” บางคนก็บอกว่า “ฉันชอบนะที่ Steam มีเกมเนื้อหาติดเรทขาย แต่ไม่คิดว่าเกมนี้มันเกินไปหน่อยเหรอ” และมีคนคอมเมนต์ว่า “ไอ้คนที่ซื้อเกมแบบนี้มาเล่นต้องไปอยู่ในรายชื่อคนที่ FBI ควรจับตาดูแล้วว่ะ 5555” ถึงแม้เกมจะยังไม่ได้รับ “ไฟเขียว” ให้ขายสามารถวางขายอย่างเป็นทางการ…
-
ชาวเน็ตแห่เล่นชาเลนจ์ ‘โยนร้องเท้า Vans’ เพื่อทดสอบดูว่าจะตั้งดังเดิมจริงหรือไม่!?
กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์ของต่างประเทศ เมื่อชาวเน็ตต่างพากันเล่นชาเลนจ์ ‘โยนรองเท้า Vans‘ กัน แต่ที่มันไม่ธรรมดาก็เพราะว่า ต้องเป็นรองเท้า Vans ของแท้เท่านั้นที่พอโยนแล้วมันจะกลับมาตั้งดังเดิม ไม่พอกระแสไวรัลดังกล่าวยังลามไปถึงรองเท้าแบรนด์อื่นอีกด้วย… โดยไวรัลวิดีโอนี้มาจากผู้ใช้บัญชีชื่อว่า @Ibelievthehype เธอได้โพสต์วิดีโอลงบนทวิตเตอร์พร้อมกับแคปชันว่า “คุณรู้มั้ย ไม่ว่าคุณจะโยนรองเท้า Vans จากทิศทางไหนอย่างไร มันจะกลับมาตั้งได้ดังเดิม” และหลังจากที่เธอแชร์ออกไปก็มีคนกดไลค์เป็นจำนวนมากถึง 200,000 ครั้ง และยอดรีทวิตตอนนี้ถึง 94,853 แล้ว ถ้างั้นลองมาดูกันสิว่า #VansChallenge มันจะจริงเหมือนที่ชาวเน็ตเขาว่ากันไว้หรือเปล่า? ผู้ใช้บัญชี Ibelievthehype ได้ลองโยนรองเท้า Vans ดู และปรากฏว่ามันกลับมาตั้งเหมือนเดิมทุกคู่ https://twitter.com/Ibelievthehype/status/1101943684797530112 ชาวเน็ตรายนี้ก็ลองดูบ้าง และมันก็ออกมาตามนั้นจริงๆ ด้วย!! https://twitter.com/BryceMckenney1/status/1102274890898571265 เธอคนนี้บอกว่าถึงขั้นช็อกไปเลยหลังรู้ว่ามันทำได้จริง Decided to do that vans thing when you throw them and they always land up and…
-
สื่อนอกวิเคราะห์ตัวอย่าง Game of thrones ซีซัน 8 ละเอียดยิบ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง??
เมื่อวันอังคารที่ 5 มีนาคม ค.ศ.2019 ที่ผ่านมา HBO ได้ปล่อยคลิปวิดีโอตัวอย่างซีรีส์ที่ทุกคนรอคอย Game of thrones Season 8 และนี่เป็นครั้งแรกที่แฟนคลับทุกคนได้ยลโฉมกับตัวอย่างของอย่างเป็นทางการ ในครั้งนี้ชาวเน็ตต่างพากันคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าสุดท้ายแล้ว ใครจะได้เป็นผู้ครอบครองบังลังก์กันแน่ และการต่อสู้อันดุเดือดกับกองทัพคนตายอย่างไวท์ วอล์กเกอร์ แน่นอนว่าอีกเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น ทั่วโลกจะได้ร่วมชมบทสุดท้ายของซีรีส์เรื่องนี้แล้วและคาดว่ามันน่าจะเป็นซีรีส์ที่มีตอนจบแบบคาดเดาได้ยากมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง หากใครยังดูไม่ถึงซีซัน 7 แล้วล่ะก็ระวังเนื้อหาสปอยล์นะจ้ะ เพราะครั้งนี้ #เหมียวหมายเลข24 ได้นำบทวิเคราะห์จากสื่อต่างประเทศมาให้เพื่อนๆ ได้ชมไปพร้อมๆ กัน ซึ่งมีการเอ่ยถึงเรื่องจากซีซันที่แล้วด้วย ตัวอย่างซีรีส์ Game of Thrones ซีซัน 8 ล่าสุด โดยในแต่ละฉากที่เปิดมามีตัวละครหลักๆ ครบหมด ทั้งของครอบครัวสตาร์ก, แม่มังกรพร้อมเหล่าลูกมังกรทั้งสองของเธอ รวมทั้งเซอร์ซีแลนนิสเตอร์และน้องชายฝาแฝด(ที่เป็นคู่รัก)ของเธอ อีกทั้งยังมีตัวละครสำคัญๆ โผล่มาด้วย ตัวอย่างของ Game of thrones season 8 เริ่มต้นที่อาร์ยา สตาร์กกำลังวิ่งหนีจากอะไรบางอย่าง ระหว่างนั้นมีเสียงของเธอกล่าวถึงเทพไร้หน้าว่า “ฉันรู้จักกับความตาย…
-
อังกฤษประสบความสำเร็จ ในการรักษาเชื้อ HIV ให้กับผู้ป่วยคนที่สองในประวัติศาสตร์โลก
หากกล่าวถึงโรคภัยไข้เจ็บที่คร่าชีวิตมนุษย์เราไปมากมาย เชื่อว่าโรคเอดส์ที่มีต้นกำเนิดมาจากเชื้อไวรัส HIV (Human immunodeficiency virus) ต้องเป็นหนึ่งในนั้นด้วย โรคเอดส์คือระยะร้ายแรงของเชื้อ HIV ที่จะส่งผลถึงขั้นเสียชีวิตได้ กล่าวได้ตั้งแต่ยุคอดีตที่ผ่านมา มนุษย์พยายามหาวิธีการรักษาเพื่อหยุดโรคร้ายนี้ให้ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งการรอคอยย่อมมีวันสิ้นสุดลง… เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2019 ทีมแพทย์จากประเทศอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ป่วยชาวอังกฤษผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้เข้ารับการรักษาเชื้อไวรัส HIV ตามกระบวนการ หลังจากพบว่าตัวเองติดเชื้อตั้งแต่ปี 2003 จนกระทั่งในปี 2016 เขาตัดสินใจเข้ารับการรักษา พร้อมกับอาการแทรกซ้อนที่กลายเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ทีมแพทย์ทำการรักษาด้วยวิธีการปลูกถ่ายไขกระดูก โดยรับเซลล์จากผู้บริจาคที่มียีนส์กลายพันธุ์ CCR5 Delta 32 ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ต่อต้านเชื้อไวรัส HIV ได้ เซลล์พร้อมยีนส์ CCR5 ได้ถูกปลูกถ่ายและเจริญเติบโตในร่างกายผู้ป่วย ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า “การรักษาด้วยยาต้านไวรัส” (Antiretroviral treatment หรือ ART) พร้อมกับรับประทานยาต้านเชื้อ HIV ควบคู่กันไป ถึงแม้จะมีผลข้างเคียงอย่างรุนแรงจากการรักษาในช่วงแรก แต่หลังจากผลข้างเคียงหายไปนั้น ทีมแพทย์ก็พบว่าไม่พบเชื้อไวรัส HIV ในตัวผู้ป่วยแล้ว……
-
หญิงใจเด็ด ดัดนิสัยพวกขี้แซว แจ้งความจับส่งเข้าคุกได้สำเร็จ จนชาวเน็ตแห่ชื่นชม
ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ April Grace ได้ออกมาเล่าเรื่องราวของเธอจากเหตุการณ์ที่ถูกแซวจนสามารถแจ้งความจับขึ้นโรงขึ้นศาลกันได้เลยทีเดียว เธอเล่าว่าเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2019 ขณะที่เธอกำลังเล่นกับสุนัขของเธออยู่ที่ระเบียงบ้านในเมือง Quezon ประเทศฟิลิปปินส์นั้น มีผู้ชายแปลกหน้าได้ตะโกนแซวเธอแนวชู้สาว เช่น “ฮัลโหลเบบี๋”, “สุนัขชื่ออะไรหรอตัวเอง”, “ที่รัก ผมอยากเป็นลูกหมาของคุณจังเลย”, “ให้เบอร์โทรพี่ได้มั้ยน้องสาว” เธอรู้สึกไม่ชอบใจเพราะเธอก็ใส่ชุดสุภาพอยู่ในบ้านของเธอไม่ได้ล่อเสือล่อตะเข้ที่ไหน จนในที่สุด เธอจึงตัดสินใจไปเผชิญหน้าด้วยแต่เขากลับอ้างว่ากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ และหัวเราะเยาะหาว่าเธอเข้าใจผิด เธอได้แจ้งความจับชายคนนี้ที่สถานีตำรวจท้องถิ่นในข้อหาแซวเธอแนวชู้สาวได้สำเร็จ และกลายเป็นไวรัลจนชาวเน็ตต่างลงความเห็นสนับสนุนและชื่นชมเธอดังนี้… ทำดีมาก April ชุดแบบไหนมันก็ปกปิดร่างกายของเราเหมือนกันนั่นแหละ ขอให้เธอปลอดภัยนะ ถ้าฉันอยู่กับเธอนะ นายคนนั้นอาจหน้าช้ำได้! ขอคารวะเธอเลย!!! ผู้ชายคนนี้สมควรโดนต่อยหนักๆ ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาเมือง Lena Marie Juico รายงานว่าย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2016 ได้มีข้อกฎหมายสร้างบทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิดข้อหาสาปแช่ง แซว ขอข้อมูลการติดต่อซ้ำๆ หรือถามออกเดทซ้ำๆ รวมถึงเยาะเย้ยถากถางผู้หญิงเรื่องเพศนั้นจะถูกปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 เปโซ…
-
หนุ่มญี่ปุ่นอึ้ง กลับบ้านเกิดไปเจอคุณตาใช้ “จ๋องกระปิ๋ม” ปักดอกไม้ไหว้คนตายแทนแจกัน
ในภาพยนตร์หรือแอนิเมชั่นจากประเทศ เราคงเคยเห็นฉากที่คนในบ้านนำแจกันใส่ดอกไม้แล้วไปวางข้างรูปสมาชิกครอบครัวที่จากไปแล้วเพื่อเป็นการเคารพคนตายกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งเรื่องของคุณตาที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นเรื่องของการนำดอกไม้ใส่แจกันไปเคารพคนตายเหมือนปกติ แต่มันไม่ปกติก็ตรงที่คุณตาคนนั้นดันใช้ “จิ๋มกระป๋อง” เอาไปเสียบดอกไม้แทนแจกันนี่สิ!! วันที่ 1 มีนาคม 2019 ผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @koniy0805 ได้โพสต์เรื่องราวสุดประหลาดและปนฮา เมื่อเขาพบว่าคุณตาของเขาใช้ Tenga (จิ๋มกระป๋อง) ของเขาไปใส่ดอกไม้แล้ววางแทนแจกันเพื่อเคารพคุณยายซะอย่างงั้น โดยเขาได้โพสต์ว่า “ผมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดหลังจากที่ไม่ได้กลับไปนานสักพักหนึ่ง เพราะคุณยายของผมจากไปเมื่อปีก่อน ผมก็เลยอยากกลับไปเคารพเธอ และทันทีที่ผมกลับไปถึงผมก็พบว่า Tenga ที่ผมได้รับเป็นของขวัญจากที่ทำงานเก่าเมื่อนานมาแล้วถูกคุณตาเอาไปใช้ในทางที่ผิดซะแล้ว คุณตา… นั่นไม่ใช่แจกันดอกไม้ซะหน่อย ทำไมไม่มีญาติๆ คนในของผมหยุดเขาก่อนที่เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเลยนะ? แต่ก็ยังดีที่ผมยังไม่ได้ใช้มัน” 久々に実家に帰宅。一年前に他界した祖母に挨拶しに行くと、前の職場の送別会で貰ったTENGAが、歴史上かつてない程に最悪の使われ方をしていた。 おじいちゃん……それは、花瓶じゃないよ。他の家族は一体なぜこうなる前に止めなかったのか。 未使用品だったのがせめてもの救い。 pic.twitter.com/BmdkTKf7yR — Framingo Devil🎺ノスカー✨ (@koniy0805) March 1, 2019 เรียกได้ว่างานนี้เรียกเสียงฮาได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เขาโพสต์ภาพและเล่าเรื่องดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ไม่นะจิ๋มกระป๋องจัง 555555 自慰ちゃんwwwwww — げんぷ~ (@GENPOOHJP) March 1,…
-
20 ภาพคนธรรมดาที่หน้าตาเหมือน ‘คนดัง’ จนแยกแทบไม่ออก แล้วคนไหนตัวจริงกันล่ะเนี่ย!?
กลายเป็นเรื่องธรรมดาของเหล่าเซเลบคนดังไปแล้ว เมื่อมีการนำภาพของพวกเขามาเปรียบเทียบกับอีกคน ที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างกับพี่น้องคลานตามกันมา จนสร้างความฮือฮาและเสียงหัวเราะให้กับผู้พบเห็น เฟซบุ๊กแฟนเพจที่ชื่อว่า Slavorum ที่แบ่งปันเรื่องราวตลกขบขันและความบันเทิง ได้รวบรวมเอาภาพเหล่าคนธรรมดา ที่หน้าตาเหมือนกับเหล่าคนดังมาให้เราได้ชม จนบางครั้งแทบแยกไม่ออกว่าคนไหนตัวจริง มาดูกันว่าจะมีใครบ้าง… Cara Delevingne Angelina Jolie Donald Trump Rupert Grint Anthony Hopkins Emilia Clark Jennifer Lawrence Megan Fox Justin Bieber Nicole Kidman Sasha Grey Amy Winehouse Leonardo DiCaprio Hugh Laurie Bruce Willis …
-
หญิงสาวถ่ายรูปคนไร้บ้านมาหลายสิบปี กลับพบว่า ‘พ่อ’ ของตัวเอง คือหนึ่งในนั้นด้วย
ปัญหาคนไร้บ้านหรือโฮมเลสในปัจจุบันถือเป็นปัญหาที่ทุกประเทศทั่วโลกต่างต้องประสบพบเจอ แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงคนไร้บ้าน เราก็คงนึกถึงการไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีปัจจัย 4 ที่เพียบพร้อมเหมือนคนทั่วไป และเราคงไม่อยากให้คนในครอบครัวโดยเฉพาะพ่อหรือแม่ผู้ให้กำเนิดต้องทนอยู่ในสภาพโฮมเลสแบบนี้แน่ ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2015 Diana Kim สาวนักถ่ายภาพซึ่งในขณะนั้นมีอายุ 30 ปี ได้ออกมาเล่าเรื่องราวการพบพ่อแท้ๆ ของเธอในขณะที่เธอถ่ายภาพตามติดชีวิตชายไร้บ้านผ่านเลนส์กล้อง เท้าความก่อนว่าช่างภาพสาวชาวเกาหลีชื่อ Diana Kim นั้นเกิดและโตที่เกาะ Maui รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาพ่อและแม่ของเธอแยกทางกัน โดยพ่อของเธอในขณะนั้นมีสถานภาพเป็นบุคคลสูญหาย และเธอก็ถูกเลี้ยงดูโดยญาติและเพื่อนนับแต่นั้นมา เธอรับรู้เรื่องราวของพ่อจากย่าของเธอหลังจากโตขึ้นเพียงแค่ว่าพ่อมีปัญหาสุขภาพจิต มันส่งผลกระทบให้เขาไม่ดูแลตัวเอง ไม่ยอมอาบน้ำและกินข้าว รวมถึงไม่เข้ารับการรักษา จนย่าเธอนั้นยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขายังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม ความทรงจำดีๆ ระหว่างพ่อกับเธอยังคงชัดเจนเนื่องจากพ่อเป็นคนสอนเธอถ่ายรูป เธอยังจดจำได้อีกว่าพ่อชอบให้แหวนลูกอมกับเธอทุกครั้งที่แม่พาเธอไปเยี่ยมพ่อ เธอชอบงอแงขอขนมจากพ่อ และพ่อจะแอบเอาขนมกัมมี่แบร์และแหวนลูกอมให้เธอเสมอ จากความทรงจำในวัยเด็กของเธอกับพ่อและคำบอกเล่าจากย่า เธอได้นำสิ่งที่เธอชอบคือการถ่ายรูปมาทำเป็นโปรเจกต์ตามติดชีวิตคนไร้บ้านขณะที่กำลังเรียนในปี ค.ศ. 2003 และเธอยังถ่ายรูปโปรเจกต์นี้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เธอได้พบกับพ่อที่แท้จริงในปี ค.ศ. 2012 ที่เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกาขณะกำลังถ่ายรูปสำหรับโปรเจกต์นี้ …
-
สองพี่น้องเอาชีวิตรอดในป่า เป็นเวลากว่าสองวัน ทิ้งขนมตามทาง จนเจ้าหน้าที่ตามเจอเบาะแส!
วัยเด็กนั้นถือว่าเป็นวัยกำลังซน ชอบเที่ยวเล่น มีความอยากรู้อยากเห็น อีกทั้งยังถูกดึงความสนใจจากสิ่งรอบข้างได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นกับคน สัตว์ หรือสิ่งของ จนบางครั้งการซุกซนอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรืออันตรายต่อชีวิตได้หากไม่มีทักษะการเอาตัวรอด หรือไม่ได้รับการช่วยเหลือได้ทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบริเวณที่อยู่อาศัยดันมีสิ่งล่อตาล่อใจเยอะด้วยน่ะสิ อย่างเช่นสองพี่น้อง Caroline Carrico อายุ 5 ขวบ และ Leia Carrico อายุ 8 ขวบที่หายตัวไปจากบ้านโดยไม่มีผู้ใดทราบ แหล่งข่าวท้องถิ่นรายงานว่า Caroline และ Leia หายออกไปจากบ้านบริเวณชานเมือง Benbow รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลาประมาณ 14.30 น. และถูกแจ้งความคนหายภายในค่ำวันเดียวกัน ทีมช่วยเหลือเชื่อว่าทั้งสองพี่น้องอาจหายเข้าไปในละแวกป่าแถวบ้าน นั่นจึงทำให้ทีมกว่า 14 ทีม รวมทั้งหมด 250 คน ทำการออกตามหาหนูน้อยทั้งสอง หลังจากเริ่มไปปฏิบัติการตามหาได้ระยะเวลาหนึ่ง พวกเขาก็พบรอยเท้าและถุงขนมกราโนล่าเข้าจนได้ ซึ่งนั่นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีโดยเฉพาะถุงขนมที่ถูกวางบอกทิศทางเป็นระยะๆ พร้อมๆ กับรอยรองเท้าบู๊ท ซึ่งทั้งสองสิ่งนั้นนำทางทีมผู้ช่วยเหลือไปจนถึงป่า Richardson Grove State…
-
‘โปเกม่อนคาเฟ่’ ในญี่ปุ่น ฉลอง ‘ครบรอบ 1 ปี’ ด้วยเมนูสุดคิ้วท์ เปิดให้ชิมกลางเดือนนี้!!
ในยุคที่ ‘คาเฟ่’ ตั้งอยู่ในทุกหัวมุมถนน แต่ละร้านก็ได้งัดเอาไอเดียการตกแต่งอันเป็นเอกลักษณ์และเมนูที่หลากหลายมาดึงดูดใจลูกค้า เช่นเดียวกับ ‘โปเกม่อนคาเฟ่’ ที่เตรียมเมนูสุดคิ้วท์ สำหรับวัน “ครบรอบหนึ่งปี” ของร้านในช่วงวันที่ 14 มีนาคม-26 เมษายน 2019 นี้ เมนูพิเศษดังกล่าวประกอบไปด้วยของคาวและของหวานที่ตกแต่งเป็นรูปตัวละครจากการ์ตูนโปเกม่อน อย่างเช่น ข้าวแกงกะหรี่ Pikachu ช็อกโกแลตพาร์เฟต์ Eevee และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย.. เค้ก Pikachu ทำผมทรงแอโฟร ราคา 1,706 เยน (ประมาณ 485 บาท) ลาเต้อาร์ตสุดน่ารัก 756 เยน (ประมาณ 215 บาท) ชุดเบอร์เกอร์รูป Bulbasaur ราคา 1,490 เยน (ประมาณ 425 บาท) ชุดเนื้อย่างภูเขาไฟ 1,598 เยน (ประมาณ 455 บาท) Squirtle ฟาร์เฟ่ 1,274 เยน (ประมาณ 360 บาท)…
-
เจ้าหนูวัย 5 ขวบถูกพบว่าป่วยเป็น “มะเร็ง” จนคน 4,855 คนมารอต่อคิวบริจาคสเต็มเซลล์ให้
ชีวิตเรามักจะมีเรื่องเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นมาเสมอ จะมาเร็วมาช้าอันนี้ก็แล้วแต่คน และในบางครั้งความเซอร์ไพรส์ที่เกิดขึ้นนั้นก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป ยกตัวอย่างเรื่องราวสุดช็อกอันน่าเศร้าของเจ้าหนูวัย 5 ขวบ Oscar Saxelby-Lee ที่ในเดือนธันวาคม 2018 แพทย์พบว่าเขาป่วยเป็น “โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว” (Acute Lymphoblastic Leukemia) เด็กชายจากเมือง Worcester ประเทศอังกฤษ เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในตอนที่ Olivia Saxelby และ Jamie-Lee พ่อและแม่ของ Oscar สังเกตเห็นว่ามีรอยฟกช้ำจำนวนมากเกิดขึ้นทั่วร่างกายของเขา เมื่อพาไปพบแพทย์จึงทราบว่าเจ้าหนูป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งแพทย์กล่าวว่าจำเป็นต้องรับการรักษาโดยด่วน แข่งกับเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากนี้ การรักษาที่จำเป็นสำหรับเด็กน้อยคนนี้ก็คือ การรับบริจาค “สเต็มเซลล์” (หรือ เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต) จากคนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถใช้เซลล์ดังกล่าวของใครก็ได้ สิ่งสำคัญคือเซลล์ของคนคนนั้นจะต้องมีความเข้ากันได้กับร่างกายของเขา เมื่อเด็กชายไม่สามารถใช้สเต็มเซลล์ของพ่อแม่ได้ พวกเขาจึงพยายามป่าวประกาศตามหาคนที่จะสามารถช่วยลูกของเธอได้ ภายใต้ชื่อโครงการที่ว่า Hand in Hand for Oscar พ่อและแม่ของเขา จากการประกาศตามหาดังกล่าว ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก เมื่อมีคนมายืนต่อคิวรอที่จะบริจาคสเต็มเซลล์ให้กับเด็กน้อยมากถึง 4,855…
-
นักโบราณคดีพบงานศิลป์บนหินของโบราณ โดนขีดเขียนเล่นโดยนักล่าวาฬจากศตวรรษที่ 19
เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าในโลกใบนี้มีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ชอบมือบอนไปทำลายหลักฐานเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจ หรือเพียงแค่ความคึกคะนองชั่วขณะ จนทำให้ทั้งโบราณสถานและวัตถุโบราณล้ำค่าหลายๆ ชิ้นต้องถูกทำลายไปอย่างน่าเสียดาย แถมคนมือบอนเหล่านี้ ยังไม่ได้เพิ่งมามีเอาในยุคปัจจุบันด้วย นั่นเพราะเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมานี้เอง นักโบราณคดีก็ได้ออกมารายงานร่องรอยการทำลายวัตถุโบราณอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่นี่ไม่ใช่ฝีมือของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน แต่เป็นนักล่าวาฬจากในช่วงศตวรรษที่ 19 ต่างหาก การค้นพบในครั้งนี้ เกิดขึ้นในระหว่างนักโบราณคดีทำการศึกษา งานศิลปะบนหินเของชนพื้นเมืองของออสเตรเลียหรือ “ชาวอะบอริจิน” ในพื้นที่เกาะ 42 แห่งในคาบสมุทรทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ซึ่งอาจมีอายุเก่าแก่ได้ถึง 50,000 ปี โดยร่องรอยที่พวกเขาพบนั้นเกิดจากการที่คนในสมัยศตวรรษที่ 19 ทำการสลักข้อความต่างๆ ทับลงไปคนตัวหิน ซึ่งมีทั้งชื่อคน ชื่อเรือ หรือแม้กระทั่งปีที่สลัก ด้วยความที่ว่าอักษรที่ใช้กันในศตวรรษที่ 19 กับปัจจุบันนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปน้อยมาก นักโบราณคดีจึงสามารถระบุได้ในทันทีที่เห็นว่า ผู้ลงมือน่าจะเป็นลูกเรือของเรือล่าวาฬสหรัฐฯ ที่ออกเดินทางผ่านพื้นที่แห่งนี้ในปี 1841 และลูกเรือของเรือชื่อ “Delta” ที่ผ่านหมู่เกาะเหล่านี้ในปี 1849 . ในปัจจุบันนักโบราณคดียังไม่อาจฟันธงได้ว่าผู้ลงมือทำไปด้วยความไม่รู้ ความเกลียดชังชาวอะบอริจิน หรือเพียงแค่ความคึกคะนองเท่านั้น อย่างไรก็ตามเหล่านักโบราณคดีก็ตั้งข้อสังเกตว่าบนเกาะมีหินก้อนอื่นๆ…
-
LA Galaxy เปิดตัวรูปปั้น David Beckham หน้าสนามเหย้า แต่ชาวเน็ตบอกดูยังไงก็ไม่เหมือน
David Beckham ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะในตำนาน ที่มีทั้งฝีมือการค้าแข้งที่สุดยอด แถมยังมีหน้าตาอันหล่อเหลา ทำเอาทั้งชายหญิงต่างคลั่งไคล้ จากการค้าแข้งช่วงสุดท้ายของอาชีพกับทีม Los Angeles Galaxy ล่าสุดทีมดังกล่าวได้ลงทุนทำรูปปั้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Beckham ไว้หน้าสนาม แต่ประเด็นก็คือชาวเน็ตคิดว่ารูปปั้นนั้นมันไม่เหมือน Beckham สักนิด!! Forever in #LAGalaxy history.#BeckhamStatue | #Since96 pic.twitter.com/sHsIehk2yt — LA Galaxy (@LAGalaxy) March 3, 2019 วันที่ 3 มีนาคม 2019 ทางทวิตเตอร์ของ LA Galaxy ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอเปิดตัวรูปปั้นของ David Beckham หน้า Dignity Health Sports Park สนามเหย้าของทีม แต่แทนที่แฟนๆ จะชื่นชมไปกับเกียรติประวัติของนักเตะหน้าหยก ทันทีที่พวกเขาได้เห็นกับหน้าตาของรูปปั้นแบบใกล้ๆ ก็ต้องไปโฟกัสกับหน้าตารูปปั้นที่ดูแล้วยังไงก็ไม่เหมือน Beckham แทน ซูมดูใกล้ๆ…
-
ผู้ดูแลช้างชาวอินเดีย พลาดลื่นเข้าใต้ท้องช้างขณะฝึกให้ช้างนั่ง ถูกทับเสียชีวิต
ไม่ว่าจะทำงานอาชีพอะไรก็ตาม แต่ละอาชีพล้วนมีความเสี่ยงแฝงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ นักกีฬา วิศวกรหรือแม้แต่ผู้ดูแลสัตว์ก็ตาม เมื่อล่าสุดนี้ได้มีผู้ดูแลสัตว์คนหนึ่งต้องเสียชีวิตระหว่างการฝึกสัตว์ หลังพลาดลื่นไปอยู่ข้างช้างตัวที่เขากำลังฝึกให้นั่งลง นั่งทับจนเสียชีวิต โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่ผู้ดูแลสัตว์วัย 40 ปีนามว่า Arun Panikkar จากประเทศอินเดีย กำลังฝึกช้างที่เขากำลังดูแลอยู่ให้นั่งลง ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าช้างจะไม่ค่อยฟังคำสั่งของเขาสั่งสักเท่าไหร่ ทำให้เขาโมโหเป็นอย่างมากและคิดที่จะใช้ไม้ตีมัน แต่ด้วยพื้นที่เขายืนอยู่นั้นเปียกน้ำ ทำให้ตอนที่เขาเหวี่ยงไม้จะตีมัน ก็เกิดเสียหลักและล้มลงไปอยู่ใต้ช้างทันที จังหวะเดียวกันนั้นเจ้าช้างที่เขาฝึกก็นั่งลงพอดี จึงนั่งทับเขาเข้าอย่างจัง จากคลิปวิดีโอ หลังจากที่ Arun ถูกช้างที่ตนฝึกนั่งทับ ก็มีเพื่อนร่วมงานอีกคนรีบวิ่งเข้าไปดู แต่แน่นอนว่าน้ำหนักของช้างนั้นมากเกินกว่าจะคนคนเดียวจะยกหรือดันออกได้ เขาจึงต้องหาทางอื่นเพื่อทำให้ช้างลุกขึ้นจากเพื่อนร่วมงานของเขา เขารีบไปหยิบไม้มาเพื่อไล่ให้ช้างตัวดังกล่าวลุกขึ้น ซึ่งช้างก็ยอมลุกขึ้นโดยดี แต่ไม่ทันการเสียแล้ว เนื่องจาก Arun เสียชีวิตแทบจะทันทีตอนที่ถูกช้างนั่งทับ โดยจากรายงานพบว่าน้ำหนักของช้าง ทำให้กะโหลกของ Arun แหลกทันทีที่มันนั่งทับเขา หลังจากเรื่องนี้ถูกแชร์ลงโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ไว้อาลัยให้กับชายผู้ทำร้ายช้างเพื่อสั่งให้มันนั่งลง” หรือ “เขาได้รับสิ่งที่เขาสมควรโดนแล้ว น่าสงสารช้างที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น” ที่มา Dailymail, Unilad
-
คุณพ่อรีบจัด กลับไปทำงานจนทิ้งลูกน้อยไว้กลางถนน หนูจะกลับบ้านยังไงดีล่ะเนี่ย!?
ในยามเร่งรีบคนเรามักจะขี้หลงขี้ลืมกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ใครจะคิดว่าคุณพ่อคนนี้จะลืมลูกน้อยให้เคว้งคว้างอยู่กลางถนน!? ที่ผ่านมาคุณพ่อคุณแม่ต่างให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางไปโรงเรียนของลูกน้อยอยู่เสมอ แต่ก็ยังมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ในช่วงค่ำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2019 ที่เมือง Daping มณฑล Heilongjiang ประเทศจีน ขณะที่คุณพ่อไปรับลูกชายกลับจากโรงเรียนซึ่งเป็นวันเปิดเทอมวันแรก ได้มีโทรศัพท์สายด่วนเรียกตัวคุณพ่อให้กลับไปทำงาน และด้วยความเร่งรีบทำให้คุณพ่อคนนี้กลับไปทำงานโดยลืมลูกน้อยไว้กลางถนนที่มีรถราวิ่งไปมาอันตราย โชคดีที่มีพลเมืองดีคนหนึ่งผ่านมาเห็น จึงรีบคว้าตัวเด็กชายแล้วพาไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเด็กชายตัวน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ปลอบขวัญและสอบถามข้อมูลจนสามารถติดต่อคุณพ่อได้ในที่สุด หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง คุณพ่อก็มาถึงสถานีตำรวจอย่างรีบร้อน และได้เล่าว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดจากความสะเพร่าของเขาเองที่หลงลืมไปชั่วขณะว่ามีลูกอยู่ข้างกาย และทิ้งเขาไว้กลางถนนในขณะที่ตนรีบกลับไปทำงาน เหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดเพราะเป็นวันเปิดเทอมวันแรก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาเตือนให้พ่อแม่ผู้ปกครองคนอื่นๆ ให้ดูแลลูกหลานของตนด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นความโชคดีของเด็กชายคนนี้ ที่มีพลเมืองดีช่วยไว้ พากลับสู่อ้อมอกคุณพ่อได้อย่างปลอดภัย เห็นทีเจ้านายจะต้องขึ้นเงินเดือนให้คุณพ่อคนนี้แล้วนะเนี่ย ใส่ใจกับการทำงานซะขนาดนี้ ฮ่าๆ ที่มา: new.qq
-
นักวิทย์พบไวรัสชนิดใหม่ ทำอะมีบาให้กลายเป็นหินได้ คล้ายเมดูซ่าในเทพปกรณัมกรีก
ความสามารถในการทำให้เหยื่อกลายเป็นหินนั้น เป็นหนึ่งในลักษณะพิเศษที่เป็นที่โด่งดังของปีศาจในเทพนิยายอย่าง “เมดูซ่า” และถูกมองว่าเป็นเพียงเรื่องในเทพนิยายที่ไม่น่ามีอยู่จริงมาเป็นเวลานาน แต่แล้วเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมานี้เอง นักวิทยาศาสตร์กลับได้มีการออกมาเปิดเผย การมีตัวตนอยู่ของไวรัสชนิดใหม่ที่มีความสามารถทำให้เหยื่อกลายเป็นหิน ซึ่งอาศัยอยู่ในโคลนจากน้ำพุร้อนที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเจ้าไวรัสตัวนี้มักจะอาศัยอยู่ในอะมีบาชื่อ “Acanthamoeba castellanii” และทำให้อะมีบาที่ติดเชื้อพัฒนาผิวชั้นนอกที่หนาและแข็งคล้ายหินขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่สภาพหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวที่เรียกว่า “Encystment” อะมีบา Acanthamoeba castellanii นักวิทยาศาสตร์มองว่าความสามารถของไวรัสตัวนี้นั้นคล้ายกับปีศาจมีชื่อในเทพปกรณัมกรีกมาก จึงได้ตั้งชื่อให้ไวรัสดังกล่าวว่า “Medusavirus” ในเวลาต่อมา แต่ความสามารถในการทำให้เหยื่อกลายเป็นหินนั้นไม่ใช่เพียงเรื่องเดียวที่ทำให้ไวรัสตัวนี้คล้ายกับเมดูซ่า เพราะจากการตรวจสอบรูปร่างของไวรัสเอง นักวิทยาศาสตร์ก็พบว่าไวรัสตัวนี้มีรูปร่างที่น่าสนใจมากเลย นั่นเพราะไวรัสตัวนี้ ไม่เพียงแต่จะมีลักษณะที่ใหญ่กว่าไวรัสทั่วไป (เรียกกันว่าไวรัสยักษ์) แต่มันยังมีหนามที่มีส่วนปลายเป็นทรงกลมจำนวนกว่า 2,600 อันติดอยู่รอบตัวด้วย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เปรียบว่าคล้ายกับงูบนศีรษะของเมดูซ่า และไม่เคยมีการพบมาก่อน ส่งผลให้ไวรัสตัวนี้ถูกเสนอให้จัดหมวดหมู่เป็นไวรัสในตระกูลใหม่ไป รูปจำลองของ Medusavirus เท่านั้นยังไม่พอเพราะยีนหลายตัวของ Medusavirus ยังมีการถูกพบในอะมีบาที่มันอาศัยอยู่อีกด้วย ซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีที่ว่าไวรัสตัวนี้น่าจะมีอยู่บนโลกมาตั้งแต่โบราณแล้ว นับว่าโชคดีมากที่ไวรัสตัวนี้ไม่สามารถอาศัยในร่างกายของมนุษย์ได้ และในปัจจุบันเองนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ทำการศึกษาเจ้าไวรัสตัวนี้ต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพวกเขาหวังว่าจะสามารถทราบลำดับการวิวัฒนาการของไวรัสตัวนี้ได้ในเร็วๆ นี้ ที่มา livescience และ syfy
-
โจรล้วงกระเป๋า ‘สำนึกผิด’ ทิ้งจดหมายขอโทษให้เจ้าของ ทำไปเพราะหาเงินเลี้ยงลูก
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘เงินทองเป็นของหายาก’ กว่าจะได้มาแต่ละบาทนั้น บางคนต้องทุ่มเททั้งหยาดเหงื่อแรงกายทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้เงินมาหล่อเลี้ยงชีวิต จึงไม่แปลกที่ในสังคมจะมีกลุ่มมิจฉาชีพคอยฉกทรัพย์สินอันมีค่าเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง เหมือนกับเรื่องราวต่อไปนี้ Victor Molina ชายผู้เคราะห์ร้าย ถูกล้วงกระเป๋าในเมือง Casila ทางตอนเหนือของประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งภายในกระเป๋ามีเงินอยู่ 13 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 415 บาท) หลังจากนั้น พลเมืองคนหนึ่งก็ได้พบกระเป๋าเงินของ Victor ที่สถานีวิทยุชุมชน และส่งมันคืนให้กับเขา พร้อมกับจดหมายที่เขียนไว้ว่า “ฉันขอโทษ ฉันไม่ใช่คนที่ชอบขโมยของคนอื่นหรอกนะ แต่ฉันไม่มีเงินจะเลี้ยงลูกแล้ว ขอติดหนี้คุณไว้ก่อนนะ” Molina เจ้าของกระเป๋าที่ทำงานเป็นช่างก่อสร้าง กล่าวว่า “ผมมีเงินติดกระเป๋าเพียงไม่กี่บาท คงจะดีที่อย่างน้อยหัวขโมยคนนั้นนำเงินไปเลี้ยงลูกของเขา” “ตามปกติแล้ว หัวขโมยจะเอาเงินออกแล้วทิ้งกระเป๋าไป แต่เขากลับคืนให้กับผมพร้อมจดหมาย หรือบางทีเขาอาจจะรู้จักผมก็ได้นะ” เมื่อเรื่องดังกล่าวได้เผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตก็ต่างพากันเห็นใจหัวขโมยคนนี้เป็นอย่างมาก โดยแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากจริงๆ” บางคนก็บอกว่ามันคล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ที่มีนักศึกษาคนหนึ่งถูกขโมยแลปท็อป และได้รับอีเมลขอโทษจากมิจฉาชีพ ที่ยินดีจะส่งข้อมูลสำคัญในแลปท็อปให้กับเขาหากเขาต้องการ แม้ว่าการขโมยของคนอื่นจะเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่บางคนก็อาจจะมีความจำเป็นบางอย่าง จนทำให้เราไม่อาจทำใจโกรธพวกเขาได้เลยจริงๆ…
-
เด็กหญิง 8 ขวบชอบ ‘กลืนผมเล่น’ จนแพทย์ตรวจพบเส้นผมกว่า 1.5 กิโลกรัมอยู่ในท้อง
เชื่อว่าแต่ละคนคงมีพฤติกรรมเชิงลบ ที่ทำต่อเนื่องกันมาเป็นเวลานานจนติดเป็นนิสัย อย่างเช่น การกัดเล็บ บีบสิว หรือดึงผม ซึ่งบางพฤติกรรมอาจกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับ Feifei เด็กหญิงชาวจีนวัย 8 ขวบคนนี้ ที่มีพฤติกรรม ‘ชอบกินเส้นผม’ มาเป็นเวลานาน จนเกิดอาการปวดท้องรุนแรงและอาเจียนติดต่อกันตลอดทั้งสัปดาห์ กระทั่งคนเป็นแม่สังเกตเห็นว่าท้องของเด็กหญิงบวมใหญ่ผิดปกติ จึงรีบพาลูกสาวไปหาหมอที่โรงพยาบาล Donghu มณฑล Guangdong ทางตอนใต้ของประเทศจีน หลังจากนั้น แพทย์ก็ได้ทำการรักษาโดยทำการล้างท้องของ Feifei จนมั่นใจว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมหลงเหลืออยู่ และทำซีทีสแกนเพิ่มเติม จนพบว่ามี “ก้อนผม” ขนาด 1.5 กิโลกรัมอยู่ในท้องของเธอ!! Tang Shilong แพทย์เจ้าของไข้ ให้สัมภาษณ์ว่า… “ก้อนผมเหล่านี้น่าจะอยู่ในท้องของเธอนานหลายปี พฤติกรรมกลืนเส้นผมของเธอเป็นอาการของโรค Pica หรือโรคที่มีพฤติกรรมการกินผิดปกติ และสิ่งที่เธอทานไม่ใช่อาหารที่เป็นประโยชน์” คุณแม่ของเด็กหญิง Feifei เล่าว่า ลูกสาวมีพฤติกรรมกลืนเส้นผมของตัวเองตั้งแต่อายุสองขวบ แต่เธอก็ได้พยายามเตือนให้เธอเลิกจับผมเข้าปาก จน Feifei เลิกกลืนเส้นผมของตัวเองแล้วตั้งแต่เมื่อต้นปี 2019 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามพฤติกรรมดังกล่าวก่อนหน้านั้น ทำให้เธอต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด…
-
บันทึกเดินทางสู่จุดสุดท้ายของคุณก๊อป หนุ่มไทยผู้เลือกการุณยฆาตตัวเอง ณ สวิตเซอร์แลนด์
มีเพียงไม่กี่ประเทศบนโลกเท่านั้น ที่รองรับการทำ การุณยฆาต (Euthanasia) อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นในเรื่องของความสมัครใจของบุคคล ที่ต้องการจะจากโลกนี้ไปอย่างสงบ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการเป็นผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งมีค่าใช้จ่ายสำหรับกระบวนการดังกล่าวด้วย บนโปรไฟล์ของคุณก๊อป เปลี่ยนสถานะเป็น Remembering เพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่การจากไปของคุณก๊อป เรื่องราวของการทำการุณยฆาตเคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงปีที่ผ่านมา โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บนโลกออนไลน์ของชาวไทย ก็ได้รับรู้เรื่องราวของคุณก๊อป Vis Arshanakh ทำการบอกเล่าผ่านโพสต์เฟสบุ๊กสู่สาธารณะ ให้บุคคลใกล้ตัวและชาวเน็ตไทยได้รับทราบ คุณก๊อปได้กล่าวถึงเรื่องของการเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกในสมองถึง 3 ครั้ง (โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559) ตั้งแต่ในช่วงปีพ.ศ. 2548 จนถึงพ.ศ. 2558 ซึ่งเริ่มมีอาการผิดปกติตั้งแต่อายุ 14 – 15 ปี ทว่าอาการกลับหายไปในช่วงมัธยมปลาย จนกระทั่งกลับมากำเริบหนักอีกครั้งจนรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขามีอาการที่ผิดปกติ และได้รับรู้ว่าตนเองนั้นเป็นเนื้องอกในสมองบริเวณท้ายทอย จะต้องได้รับการผ่าตัดในทันที แต่ในที่สุดแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาร่วม 10 ปี การผ่าตัดเพื่อรักษาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ในวันที่ 20…
-
นักฟุตบอลลีคตุรกีแอบพก “มีดโกน” ลงสนาม ก่อนใช้มันเฉือนคอ+แขนผู้เล่นฝั่งตรงข้าม
ปกติแล้ว การเล่นกีฬาไม่ว่าจะประเภทใดๆ ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี ทำให้เรารู้จักแพ้ รู้จักชนะและรู้จักกับน้ำใจนักกีฬา แต่ดูเหมือนว่าการเล่นกีฬาครั้งที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ จะไม่ได้สุขภาพเสียแล้ว เมื่อมีนักฟุตบอลคนหนึ่งพก “มีดโกน” ลงสนามและใช้มันทำร้ายผู้เล่นอีกทีมจนได้รับบาดเจ็บ Amedsporlu futbolcu Mansur Çalar, Sakaryaspor maçına elinde gizlediği jiletle çıktı ve rakip takım futbolcularını yaraladı@TFF_Orgpic.twitter.com/QHhal7r14n — SPOR (@yenisafakspor) March 3, 2019 เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการแข่งระหว่างทีม Amed SK และ Sakaryaspor ทีมจากดิวิชั่น 3 ของลีคตุรกี ที่จบการแข่งขันด้วยการเสมอกัน 1-1 ประตู ซึ่งระหว่างการแข่งดำเนินอยู่นั้น ได้มีการกระทบกระทั่งกันบ่อยๆ ของผู้เล่นทั้งสองทีม โดย Mansur Calar ผู้เล่นทีม Amed SK ได้เดินเข้าไปใช้มีดโกนที่เขาแอบพกเข้ามาทำร้าย Ferhat…
-
อดีตทหารผ่านศึก World War II อยากได้การ์ด 100 ใบครบรอบวันเกิด 100 ปี สุดท้ายได้เป็นหมื่น!!
เพื่อนๆ เคยนึกถึงตัวเองในอนาคตบ้างหรือเปล่า? ว่าหากตัวเองมีอายุอยู่ถึง 100 ปี จะมีสภาพเป็นอย่างไร จะโดดเดี่ยวเพียงใด เพราะเพื่อนๆ ญาติๆ ของเราคงจะเสียชีวิตจากกันไปหมดแล้ว เหมือนอย่าง Joe Cuba อดีตทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เพิ่งอายุครับ 100 ปีไปเมื่อ 2 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมานี้ ปัจจุบัน Joe อาศัยอยู่ที่บ้านพักคนชรา Brookdale รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสำหรับคนวัย 99 ปีที่กำลังจะอายุ 100 ปี คนรู้จักล้มหายตายจากกันไปหมด การฉลองวันเกิดคงเป็นไปด้วยความเงียบเหงาอย่างแน่นอน ทั้งนี้ทางบ้านพักคนชราจึงคิดเรื่องที่จะทำให้ Joe ไม่เหงาในวันเกิดที่จะถึงขึ้นมา นั่นคือให้ Joe ช่วยถือป้ายที่มีข้อความว่า “ผมเป็นอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ที่กำลังจะอายุครบ 100 ปีในวันที่ 2 มีนาคม 2019 นี้ผมอยากได้รับการ์ดอวยพรวันเกิดสัก 100 ฉบับ” และนำภาพดังกล่าวโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย …
-
ญี่ปุ่นเปิดขาย “ชุดคอสเพลย์เด็กทารก” สำหรับผู้ที่อยากย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
ประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นประเทศที่กล้าคิดกล้าทำและมีความสร้างสรรค์มากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก และยิ่งในวงการคอสเพลย์แล้วด้วย เราก็มักได้เห็นชุดคอสเพลย์แปลกๆ อยู่เสมอๆ ล่าสุดนี้ทาง Moira Design บริษัทจากญี่ปุ่นก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สำหรับผู้ใหญ่ที่อยากเลิกเป็นผู้ใหญ่และอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเด็กๆ เพราะผลิตภัณฑ์นั้นคือ “ชุดคอสเพลย์เด็กทารก” !! ชุดดังกล่าวทางบริษัทได้บอกว่าได้รับแรงบันดาลมาจากประโยคว่า “Otona datte ogyaritai” ที่แปลได้ว่า “แม้แต่ผู้ใหญ่ก็อยากถอยกลับไปสู่วัยเด็ก” และคำว่า Ogyaritai ในประโยคดังกล่าวก็เป็นคำพ้องเสียงที่มาจากคำว่า Ogya (เสียงร้องของเด็ก) อีกด้วย ดังนั้นชุดใหม่ของพวกเขาจึงออกมาเหมือนที่เราได้เห็นกันข้างต้นนี้ ทาง Moira Design ได้เล็งกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์นี้ไปที่เหล่านักคอสเพลย์กับนางแบบเซ็กซี่ แต่บริษัทก็ยังบอกว่าใครๆ ก็สามารถใส่ได้ หากคนดังกล่าวอยากที่จะปลดปล่อยความเครียดและกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง โดยเจ้าชุดคอสเพลย์เด็กทารกนี้เองวางขายจำกัดช่วงเวลา ซึ่งจะเปิดจองในเว็บไซต์ Village Vanguard วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2019 ถึง 8 มีนาคม 2019 เท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 19,800 เยน (5,600 บาท) สำหรับชุดครบเซต หรือหากจะซื้อแยกส่วนชุดกับหมวกก็คืออยู่…
-
หนุ่มและน้องหมาติดอยู่กลางหิมะนาน 5 วัน รอดชีวิตมาได้เพราะ “ซอสเผ็ดของ Taco Bell”
“หิมะ” ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายๆ คนมองว่ามีสวยงามและหาชมได้ยาก แต่แท้จริงแล้วเจ้าหิมะเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแต่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังแอบซ่อนความอันตรายอยู่อีกด้วย เหมือนอย่างเรื่องของ Jeremy Taylor หนุ่มที่เราจะนำมาให้ชมในวันนี้ ต้องติดอยู่บนเขาถึง 5 วัน หลังหิมะตกหนักจนทำให้รถที่เขาขับขึ้นมาไม่สามารถขยับไปไหนได้ วันที่ 2 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ Fox 32 ได้ทำการรายงานว่า Jeremy Taylor หนุ่มวัย 34 ปี ผู้รักกีฬาเอาท์ดอร์ได้หายตัวไปในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2019 โดยตามรายงานพบว่า Jeremy ตั้งใจจะออกไปเดินเขาพร้อมกับ Ally น้องหมาคู่ใจของเขา แต่หิมะนั้นหนาเกินไปจนทำให้พวกเขาเดินกันไม่ได้ และเมื่อทั้งคู่กลับไปที่รถ ก็พบว่ารถขยับไปที่ไหนไม่ได้เพราะหิมะเช่นเดียวกัน โชคดีที่รถยังสามารถสตาร์ทได้อยู่ ดังนั้น Jeremy จึงตัดสินใจที่จะใช้ฮีทเตอร์จากรถให้ความอบอุ่นและนอนหลับภายในนั้น โดยใช้ “ซอสของ Taco Bell” ที่เขาพกมาด้วยเป็นอาหารประทังชีวิต เวลาผ่านไป 5 วันในที่สุดในวันที่ 1 มีนาคม 2019…
-
นักวิทย์สำรวจ “หลุมยักษ์สีน้ำเงิน” เสร็จสิ้น พบแท่งแร่ ซากปูเสฉวน และกระทั่้ง “ขยะพลาสติก”
เพื่อนๆ เคยไปเที่ยวหลุมยักษ์สีน้ำเงิน (Great Blue Hole) แห่งประเทศเบลิซกันไหม มันเป็นหลุมลึกใต้น้ำรูปทรงกลมกลางทะเล ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่บรรดานักดำน้ำอยากไปกันมากที่สุด ตั้งแต่ที่หลุมนี้เริ่มโด่งดังขึ้นมาในปี 1971 จากฝีมือของนักสำรวจและนักสร้างภาพยนตร์อย่าง Jacques Cousteau ก็มีผู้คนมากมายที่พยายามลงไปสำรวจที่ก้นบึ้งของหลุมที่โด่งดังหลุมนี้ โดยหนึ่งในคนเหล่านั้นก็คือ Fabien Cousteau หลานชายของผู้ซึ่งทำให้หลุมยักษ์แห่งนี้โด่งดังออกไปเป็นคนแรกเอง และเมื่อล่าสุดนี้เอง Fabien และทีมสำรวจของเขา ได้ออกมาประกาศว่าการสำรวจหลุมยักษ์สีน้ำเงิน ที่พวกเขาทำการสำรวจมาเป็นเวลานานนั้นในที่สุดก็สำเร็จลงไปด้วยดีแล้ว โดย Fabien กับทีมงานนั้นได้มีการใช้คลื่นโซนาร์ที่ติดกับเรือดำน้ำขนาดเล็กในการสร้างแผนที่สามมิติของหลุมยักษ์ที่มีความลึก 124 เมตร และกว้างถึง 318 เมตรในระดับที่ละเอียดที่สุดเท่าที่เคยมีการทำมา แต่นั่นไม่ใช่การค้นพบเพียงอย่างเดียวของทีมงานกลุ่มนี้ เพราะนอกจากจะมีการสร้างแผนที่สามมิติของหลุมยักษ์สีน้ำเงินแล้ว ทีมนักดำน้ำของ Fabien เองยังพบกับแท่งแร่ชิ้นใหม่ รวมไปถึงซากหอย และปูเสฉวนที่ตายอยู่ใต้ทะเล และที่สำคัญคือ “ขยะพลาสติก” อีกจำนวนหนึ่งด้วย แท่งแร่ที่พบนี้มีรูปร่างคล้ายกับแท่งน้ำแข็งย้อย คาดว่าเกิดขึ้นมาในสมัยที่หลุมแห่งนี้ยังมีสภาพเป็นเพียงถ้ำและระดับน้ำยังต่ำกว่าในปัจจุบันราวๆ 150 เมตร ก่อนที่ตัวถ้ำจะถูกระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นท่วม และผุพังจนกลายเป็นหลุมอย่างทุกวันนี้ ส่วนซากปูเสฉวนที่ตายอยู่ใต้ทะเลนั้น คาดว่าเกิดจากการที่หอยถูกพัดตกลงไปในหลุม ซึ่งลึกมากจนหนีออกไปไม่ได้ และทำให้มันขาดออกซิเจนจนตายไปในที่สุด ปัญหาที่ทีมงานของ Fabien…
-
ผู้โดยสารหนุ่มพก ‘อาหารใส่ถุงซิปล็อค’ ไว้ทานระหว่างรอเครื่องบิน ชาวเน็ตชอบใจ เฮ้ย ผ่านเครื่องสแกนได้ด้วย!!
ในสถานที่ต่างๆ ย่อมมีกฎกติกา ที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อสร้างมาตรฐานในความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่ของ ‘สนามบิน’ เรื่องราวต่อไปนี้เกิดที่สนามบินในลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อผู้โดยสารหนุ่มคนหนึ่งนำ ‘อาหารใส่ถุงซิปล็อก’ ผ่านจุดตรวจค้นเข้าไปด้านในสนามบิน สำหรับทานระหว่างรอเครื่อง!? แบบนี้ก็ได้เหรอ? ฮ่าๆ ก่อนการเดินทาง Nathan ผู้โดยสารหนุ่มที่มาพร้อมกับแฟนสาวและครอบครัวของเธอ ตั้งใจที่จะทานอาหารก่อนมาถึงสนามบิน แต่เขากลับไม่มีเวลา Nathan เล่าว่า “เมื่อพวกเราเดินทางมาถึงสนามบิน ก็รีบมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารทันที แต่ด้วยเวลาที่กระชั้นชิด ผมจึงหาถุงพลาสติกใสมาใส่อาหารพวกนั้นเข้าไปทานระหว่างรอเครื่องแทน” “ผมมั่นใจว่าจะผ่านจุดตรวจค้นไปได้ด้วยของปริมาณของเหลวที่ต่ำกว่า 100 มิลลิลิตร (ตามกฎของสนามบิน) ผมจึงลงมือห่ออาหารด้วยตัวเอง” เขากล่าว Elliot เพื่อนของ Nathan ได้แชร์เรื่องราวของหนุ่มคนนี้ก่อนที่จะกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออกไลน์ โดยชาวเน็ตต่างลงความเห็นว่า ‘ฉลาดมาก’, ‘ไม่น่าเชื่อ’ และ ‘ล้ำไปอีกขั้น’ แต่บางคนก็มองว่าเป็นการโฆษณาร้านอาหารในสนามบิน รึเปล่านะ? อย่างไรก็ตามวิธีการของหนุ่มคนนี้อาจจะประหลาดไปสักนิด แต่ก็ต้องนับถือในความพยายามแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของเขาจริงๆ ฮ่าๆ ที่มา: @elliot_mitchell, ladbible, metro
-
‘งานดี สวัสดิการเด่น’ Nintendo ให้เงินเดือนปีละ 2.5 ล้าน แถมทำงานต่ำกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน
พอเข้าสู่วัยทำงาน บริษัทในอุดมคติของหลายๆ คนก็คงจะเป็นบริษัทที่ให้เงินเดือนสูง หรือสวัสดิการน่าดึงดูด แต่จะดีแค่ไหนหากเราเลือกได้ทั้งสองอย่าง เหมือนกับผลตอบแทนของบริษัทแห่งนี้ เมื่อเดือนกันยายนปี 2018 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเผยถึงเงินเดือนของพนักงานในบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Nintendo ที่สูงถึง 2,500,000 บาทต่อปี ซึ่งพนักงานที่นี่มีชั่วโมงทำงานเฉลี่ยเพียง 7 ชั่วโมง 45 นาที พร้อมกับสวัสดิการอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ค่าเดินทาง หรือโบนัส 2 ครั้งต่อปี! (บางบริษัท 1 ครั้งต่อปีก็น้ำตาจะไหลแล้ว) Pokemon Sword and Shield ภาคล่าสุด Nintendo บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1889 เริ่มแรกทำธุรกิจเกี่ยวกับการ์ดเกมและของเล่น จากนั้นก็พัฒนามาเป็นผู้ผลิตวิดีโอเกมที่มีอายุยาวนาน และทรงอิทธิพลที่สุดจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้บริษัทมีพนักงานกว่า 2,000 คนอายุเฉลี่ยของพนักงานอยู่ที่ 38.6 ปี โดยแต่ละคนมีอายุงานในบริษัทเฉลี่ยคนละ 13.5 ปี บริษัท Nintendo มีสำนักงานใหญ่อยู่สองแห่ง…
-
เปิดตัว ‘GENIUS X’ แปรงสีฟันอัจฉริยะ ใช้ระบบ AI ที่ช่วยให้สุขภาพปากดียิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่า ‘การแปรงฟัน’ เป็นกิจกรรมที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันทั้งเช้าและเย็น หลายๆ คนก็หลงลืมที่จะให้ความสำคัญกับมัน จนกลายเป็นปัญหาสุขภาพปาก ที่ต้องจ่ายค่ารักษาแพงหูฉี่ บริษัท Oral B จึงเปิดตัว ‘GENIUS X’ แปรงสีฟันที่นำเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างระบบ Artificial Intelligence (AI) มาช่วยดูแลสุขภาพปากของคุณ ทำให้การแปรงฟันสนุกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แปรงสีฟัน GENIUS X ได้ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในงาน Mobile World Congress ที่จัดขึ้นในเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นการก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้นของการแปรงฟันที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อแสดงข้อมูลและประเมินสุขภาพในช่องปากของผู้ใช้งาน แปรงสีฟันดังกล่าวเป็นผลมาจากการเก็บข้อมูลที่ศึกษาจากพฤติกรรมการแปรงฟันของคนก่อนหน้านี้ การเก็บข้อมูลที่ว่านั้น ทาง Oral B ได้พัฒนาแปรงสีฟันที่ใช้ระบบเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของมือ ทำงานคู่กับกล้องหน้าของสมาร์ทโฟนที่เปิดใช้ระหว่างแปรงฟัน เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการแปรงฟันของเรา อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานจะต้องปรับองศากล้องให้ตรงกับช่องปาก ซึ่งอาจทำให้เกิดความยุ่งยากและซับซ้อนในระดับหนึ่ง บริษัทจึงได้ปรับปรุงแปรงสีฟันที่ใช้สัญญาณบลูทูธ เข้ามาช่วยแก้ปัญหาการเชื่อมต่อให้ดีขึ้น สำหรับหน้าที่ของระบบอัจฉริยะนั้นก็จะช่วยวัดน้ำหนักมือ ระยะเวลาในการแปรงฟัน และให้คะแนนการแปรงฟันในแต่ละวัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการดูแลสุขภาพช่องปากให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ Oral B…
-
‘ทำงานให้หนัก พักผ่อนให้สุด’ บริษัทจีนอนุญาตให้พนักงานลาหยุดในวัน ‘อารมณ์เสีย’
เมื่อช่วงตรุษจีนที่ผ่านมานี้ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข23 ได้นำเสนอคอนเทนต์ สาวโสดวัยสามสิบมีเฮ! บริษัทจีนเพิ่มวันหยุดให้พนักงานสาวโสด กระตุ้นให้ไปออกเดต ทำเอาหนุ่มสาวที่ ‘ไม่โสด’ แอบอิจฉาตาร้อนกันเบาๆ ที่เหนือไปกว่านั้นคือ บริษัทอีกแห่งหนึ่งในประเทศจีน ได้มีนโยบายเพิ่มวันหยุดอีกหนึ่งวันต่อเดือนให้พนักงานพักผ่อนในวันที่ ‘อารมณ์เสีย!?’ China Dinosaurs Park ในเมืองฉางโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ได้อนุญาตให้พนักงานลาหยุดในวันที่อารมณ์ไม่ดี เป็นการเพิ่มความสุขและประสิทธิภาพในการทำงาน Chen Qingcheng ผู้ดูแลสหภาพแรงงานของบริษัท ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในแต่ละวันพนักงานต้องพบกับลูกค้าหลายประเภท รวมถึงลูกค้าที่ยากจะจัดการดูแลด้วย ทำให้เหล่าพนักงานต้องแบกรับความรู้สึกมากมาย ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้อนุญาตให้พนักงานหยุดพักในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างทำงานเพื่อปรับอารมณ์ให้พร้อมทำงาน แต่ภายหลังก็ได้ปรับเป็นวันหยุดเพิ่มอีกหนึ่งวันต่อเดือน เป็นการแสดงความสนับสนุนและความห่วงใยต่อพนักงาน โดยบริษัทหวังว่าพวกเขาจะได้พักผ่อน คลายความเครียดจนรู้สึกดีขึ้น และพร้อมที่จะกลับมาทำหน้าที่ของตัวเองด้วยความสุข สร้างรอยยิ้มให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ นโยบายดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตหลายคนอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน ชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เป็นนโยบายที่เห็นแก่มนุษยธรรมที่สุด น่าอิจฉาจริงๆ” ส่วนอีกคนบอกว่า “ฉันจะทำยังไงให้เจ้านายเห็นเรื่องนี้โดยบังเอิญดีนะ?” และอีกหลายคนที่บอกว่า “บอสคะ ฉันอารมณ์เสีย” ฮ่าๆ อย่างไรก็ตามยังมีคนอีกส่วนหนึ่งว่านโยบายเพิ่มวันหยุดของบริษัทนี้ไม่สมเหตุสมผล เพราะพนักงานบางคนสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้และไม่จำเป็นต้องใช้วันหยุด …
-
ผู้สร้างโมเดล Momo ประกาศทำลายโมเดลต้นฉบับ พร้อมบอกว่าคำสาปได้หายไปแล้ว
หากเป็นเพื่อนๆ ที่ท่องอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คงเคยเห็นข่าวของ Momo Challenge เกมแห่งความตายที่หลอกให้เด็กๆ ฆ่าตัวตายและกำลังระบาดอย่างหนักบนโซเชียลมีเดีย ข่าวเก่า: เมื่อเด็กหญิง 6 ขวบดูการ์ตูนในยูทูบอยู่ดีๆ ก็เจอเข้ากับ Momo เกมแห่งความตาย แม้ว่าจะกลายเป็นเรื่องดัง แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่มากมายว่าเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่หรือเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้แก่เด็กๆ เพียงเท่านั้น และหลายๆ คนที่เคยเห็นข่าวของ Momo Challenge ก็คงเคยเห็นภาพของ “แม่นก” ผลงานที่ศิลปินญี่ปุ่นวัย 43 ปีนามว่า Keisuke Aiso สร้างขึ้นมาในปี 2016 ซึ่งถูกคนเริ่มเรื่องนำมาเป็นภาพประกอบเกมแห่งความตาย และจากกระแสของเรื่องดังกล่าวเองทำให้ผู้เป็นเจ้าของผลงานถูกชาวเน็ตรุมตามต่อว่าอย่างมากมาย BBCがmomo challenge はフェイクニュースであると報じたり海外のWikipediaなどでも割と正しい事実が掲載されてるんですけど、フェイクニュースに踊らされてる人も凄く多いですね。今度は殺人予告が来ました。怖! pic.twitter.com/VEDHc42zak — 林美登利@第二作品集発売中 (@hayashimidori) March 1, 2019 ล่าสุดนี้ทางคุณ Keisuke Aiso ก็รู้สึกหัวเสียและเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ผลงานของตัวเองถูกผู้ไม่หวังดีเอาไปใช้แต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อทำร้ายเด็กๆ ดังในข่าวลือ ทั้งนี้คุณ Keisuke จึงตัดสินใจประกาศทำลายผลงานของตน เพื่อสร้างความมั่นใจให้เด็กๆ และทำให้เด็กๆ ไม่ต้องกลัว…
-
นักวิจัยเดินป่าช็อก!! เจอ ‘แมงมุมทารันทูล่ายักษ์’ กำลังกินตัวพอซซั่มในมุมมืด
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ป่าอะเมซอน’ ถือเป็นป่าฝนที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก จึงไม่แปลกที่จะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มากมาย และบางครั้งเราก็อาจจะได้เห็นอะไรที่มันเหลือเชื่อมากๆ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้… ทีมนักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางลึกเข้าไปในป่าอะเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ เพื่อทำการส่องพฤติกรรมสัตว์นักล่าที่หายากจำนวน 15 ชนิด โดยในการสำรวจครั้งนี้ก็เพื่องานวิจัยหัวข้อ “การศึกษาด้านนิเทศวิทยาระหว่างตระกูลแมลงสัตว์และสัตว์จำพวกมีกระดูกสันหลังที่ลุ่มน้ำป่าดิบชื้นแอมะซอน” ทีมนักชีววิทยาออกเดินสำรวจป่ากลางดึก หลังจากที่เดินเข้าไปในป่าเรื่อยๆ จู่ๆ ทุกคนต่างก็ต้องตกใจ เพราะจู่ๆ ก็เดินไปเจอกับ ‘แมงมุมทารันทูล่า’ ตัวหนึ่งเข้า!! เผื่อใครไม่เคยเห็นภาพแมงมุมทารันทูล่า แต่มันไม่ใช่แมงมุมทารันทูล่าธรรมดา เพราะเจ้าตัวที่เจอนั้นมันกำลังกินตัวพอซซั่มที่เพิ่งจะจับได้อยู่!? ขนาดของมันตัวบักเอ้ก!! ดูแล้วพอๆ กับจานอาหารเลยทีเดียว มาเช้าสู่ช่วงเกร็ดน่ารู้กันสักหน่อย…เจ้าแมงมุมชนิดนี้เป็นแมงมุมนักล่า และพวกมันมีวิวัฒนาการมากว่า 350 ล้านปีแล้ว โดยทั่วไปพวกมันจะมีขาที่ยาวและขนขาที่แข็งอย่างเห็นได้ชัด ด็อกเตอร์ Mike Grundler หนึ่งในนักชีววิทยาได้เล่าว่า ผืนป่าแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าอุดมสมบูรณ์มาก และการที่เราได้เห็นแมงมุมทารันทูล่าแบบใกล้ชิดขนาดนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจ พวกเขาบอกหลังมันเห็นคนส่องไฟมายังมันที่กำลังกินตัวพอซซั่ม มันก็ค่อยๆ ลากพอซซั่มไปที่อื่นแทน และส่วนใหญ่แล้วเวลาเราเห็นแมงมุมชนิดนี้ล่าเหยื่อได้ก็มักจะเป็นสัตว์อย่างกบตัวเล็กๆ หรือตั๊กแตนหนวดยาว การที่เห็นแมงมุมทารันทูล่าที่มีขนาดใหญ่มากแบบนี้ ไม่พอมันยังกินตัวพอซซั่มที่มีขนาดใหญ่ถึง 35 – 94…
-
ย้อนประวัติ Spider-Man: Into the Spider-Verse จากเกม สู่บทแอนิเมชั่น และชนะออสการ์ในปีนี้
สิ้นสุดไปแล้วกับงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 91 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019 โดยสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมในปีนี้ตกเป็นของ Spider-Man: Into the Spider-Verse’s นั่นเอง จากภาพยนตร์ไอ้แมงมุมที่มีชายหนุ่มชื่อปีเตอร์ พาร์กเกอร์ เป็นตัวดำเนินเรื่องทุกครั้ง แต่แอนิเมชั่นเรื่องนี้มีการนำเสนอที่แตกต่างไปเพราะคนที่ดำเนินเรื่องคือเด็กหนุ่มผิวสี ไมล์ส โมราเลสนั่นเอง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วแอนิเมชั่นเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากเกมก่อนในปี 2010 โดยบริษัทพัฒนาเกมของประเทศแคนาดาที่ทำงานร่วมกับ Activision… ไอเดียดังกล่าวต้องยกให้แดน สล็อตต นักเขียนการ์ตูนจาก Marvel Comics ได้ติดต่อทางค่ายเกมผ่านทวิตเตอร์ ก่อนจะกลายมาเป็นแอนิเมชั่น ‘Spider-verse’ ที่เราได้ชมกันทุกวันนี้ ซึ่งการจะนำเรื่องราวจากเกมมาเป็นบทละครแอนิเมชั่นได้ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ก็เป็นเพราะโลกของเหล่าไอ้แมงมุมในเกมที่ทำให้มันดูน่าสนใจมากๆ นั่นเอง ก่อนหน้าที่แดน สล็อตตจะติดต่อทางค่ายเกม ต้องเล่าย้อนไปขณะที่หัวทีมพัฒนาเกมโทมัส วิลสัน เริ่มหาแนวทางในการทำเกมครั้งนี้ให้ออกมาแตกต่างจากครั้งไหนๆ โทมัสเป็นคนหนึ่งที่เป็นแฟนตัวยงของการ์ตูนไอ้แมงมุมจนชนิดที่เรียกว่าคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้ เขาจึงรู้รายละเอียดเป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มากพอ เขาจึงเข้าค้นลึกเข้าไปถึงจุดกำเนิดของไอ้แมงมุมทั้งหมด และทำให้รู้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่ปีเตอร์ พาร์กเกอร์เท่านั้นที่มีพลังพิเศษ… ไอ้แมงมุมในโลกขาวดำหรือชื่อของมันก็คือ Spider-Man Noir โทมัสได้ข้อมูลมาว่าจักรวาลของไอ้แมงมุมนั้นกว้างมากๆ มีทั้งสไปเดอร์แมนในโลกอนาคตปี 2099 และสไปเดอร์แมน-นัวร์ในจักรวาลโลกขาว-ดำ นั่นจึงการเปิดทางสู่จุดเริ่มต้นที่นำเหล่าสไปดี้มาอยู่ในโลกเดียวกัน และถือเป็นการรวมตัวกันครั้งแรกของจักรวาลหลายจักรวาลของเหล่ามนุษย์แมงมุม พร้อมทั้งทางเจ้าของลิขสิทธิ์ Marvel Comics…
-
จีนเตรียมส่ง ‘สถานีโซลาร์เซลล์’ สู่อวกาศ หวังหาแหล่งพลังงานใหม่ และลดมลพิษบนพื้นโลก!!
โลกยุคปัจจุบันของเรา เทคโนโลยีถูกพัฒนาไปมากขึ้นทุกวัน ทรัพยากรต่างๆ ถูกนำมาใช้งานเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย์ โดยเฉพาะเรื่องของ ‘พลังงาน’ ที่นับวันแล้วมนุษย์จะยิ่งต้องการมันมากขึ้นไปเรื่อยๆ แบบไม่มีที่สิ้นสุด!! ด้วยเหตุนี้ประเทศจีนก็เลยวางแผนที่จะ ‘ออกไปเสาะแสวงหาพลังงานจากนอกโลก’ เพื่อนำกลับมาให้บรรดามนุษย์ได้ใช้งาน รวมไปถึงช่วยลดมลพิษที่เกิดบนพื้นโลกอีกด้วย!! เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา สื่อทางการของประเทศจีนรายงานว่าตอนนี้ คณะวิทยาศาสตร์ของจีนกำลังศึกษาหาความเป็นไปได้ที่จะก่อตั้ง ‘สถานีพลังงานแสงอาทิตย์กลางอวกาศ’ กันอยู่!! เสีย เกิงซิน รองหัวหน้าสถาบันวิจัยนวัตกรรมร่วมเพื่อบูรณาการพลเรือนและกองทัพ แห่งเมืองฉงฉิ่ง ออกมาให้ข้อมูลว่าตอนนี้ได้ดำเนินการมาถึงขั้นที่นักวิจัยเริ่มลงมือออกแบบโครงสร้างสถานีดังกล่าวแล้ว จากนั้นก็จะทำการทดสอบมันในเขตปี้ซานต่อไป เพื่อเช็กดูสมรรถภาพตามทฤษฎี และมองดูถึงความเป็นไปได้ว่ามันจะสามารถถูกส่งออกไปนอกอวกาศได้หรือไม่ ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวที่จะใช้ทดสอบนั้นจะต้องใช้พื้นที่ทั้งหมดเกือบ 83 ไร่ และมีงบประมาณราว 100 ล้านหยวน (500 ล้านบาท) โดยจะมุ่งเป้าไปที่การสาธิตเทคโนโลยีการส่งผ่านอวกาศ รวมไปถึงการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของคลื่นไมโครเวฟ ที่จะถูกยิงกลับมาสู่โลก ว่าจะมีผลกระทบใดต่อโลกและสิ่งมีชีวิต หรือไม่!? ระบบการทำงานของเจ้าสถานีอวกาศจำลองแบบคร่าวๆ ก็คือนักวิทยาศาสตร์จะทำการสร้างบอลลูนโยงที่ติดตั้งแผงโซลาร์ขึ้นมา จากนั้นเมื่อแสงอาทิตย์ส่องมากระทบกับแผงโซลาร์สะสมเป็นพลังงาน ก็จะใช้เครื่องเปลี่ยนพลังงานเหล่านั้นให้กลายเป็นคลื่นไมโครเวฟ แล้วยิงตรงกลับมายังโลก ซึ่งมีตัวรับสัญญาณอยู่ ขั้นตอนสุดท้ายก็คือแปลงคลื่นไมโครเวฟนั้นให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้าแจกจ่ายเข้าโครงข่ายการไฟฟ้าต่อไป …
-
หนุ่มกลุ้มตั้งกระทู้ถามชาวเน็ต แฟนสาวเอา ‘ถุงเท้า’ เขาไป ‘เช็ดขรี้’ จะทำยังไงดีกับเรื่องนี้!!
เรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคนอาจมีแง่มุมที่เราต้องการคำปรึกษาจากคนอื่นๆ บ้างเป็นบางเรื่อง แต่ว่าเรื่องราวของหนุ่มคนนี้อาจเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะอธิบายยากเสียจริงๆ ซึ่งจะเกิดอะไรขึ้นนั้นมาลองติดตามเรื่องของเขากัน… เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องราวชีวิตของหนุ่มรายหนึ่ง ที่เริ่มสังเกตว่าถุงเท้าที่มีของเขาทั้งหมดมันเริ่มเหลือน้อยเต็มทีและสงสัยว่ามันหายไปไหนหมด เขาจึงนำเรื่องนี้ไปถามกับแฟนสาวเผื่อว่าเธอนำมันไปซัก แต่เขาไม่คิดเลยว่าคำถามง่ายๆ เช่นนี้จะทำให้เกิดเรื่องราวบานปลายจนเกิดการทะเลาะกันขึ้นมา เพราะจริงๆ แล้วเกี่ยวกับความลับบางอย่างที่ฝ่ายหญิงซ่อนเอาไว้ ซึ่งพอถูกจับได้เธอก็ร้องไห้ออกมาซะอย่างนั้น ชายคนนี้จึงได้ขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ตหลังจากที่ได้รู้ความลับอัน ‘แปลกประหลาด’ ของแฟนสาวว่าเขาจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี ชายผู้ไม่ประสงค์จะออกนามวัย 28 ปีได้ตั้งกระทู้ถามในเว็บบอร์ด Reddit ถึงเรื่องราวนี้… เขาเริ่มเล่าว่าเขาและแฟนสาวอายุ 26 ปีเพิ่งรู้จักกันไม่นานนัก แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนาอย่างรวดเร็วและตอนนี้ก็ย้ายมาอยู่ร่วมกันแล้วเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็รับหน้าที่เป็นคนดูแลจัดการซักรีดเสื้อผ้าและไม่เคยยอมให้เขาช่วยแม้แต่น้อย ซึ่งในตอนแรกเขาก็คิดว่านี่อาจเป็นเรื่องน่ารักๆ ในชีวิตคู่ที่เธออยากจะทำให้กับเขา แต่เขาไม่รู้เลยว่าจริงๆ มีอีกเหตุผลหนึ่งที่เธอรับหน้าที่เป็นแม่บ้านเช่นนี้ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันเรื่อยมาด้วยความปกติดี จนในวันหนึ่งขณะที่ไปเปิดถังขยะดู หนุ่มรายนี้ก็ได้ค้นพบกับถุงเท้าของเขาจำนวนมากอยู่ในถุง และที่สำคัญคือมันดูเหมือนกับ ‘เปื้อนขรี้’ แทบจะทุกข้าง!! เขางงงันกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเขากับแฟนสาวก็ไม่มีทั้งสัตว์เลี้ยงหรือลูกน้อย เขาจึงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับถุงเท้า รวมทั้งขรี้ที่ติดมันมาได้อย่างไรกัน หนุ่มรายนี้ได้นำเรื่องนี้ไปถามกับแฟนสาว ซึ่งในที่สุดแล้วเธอก็ยอมรับสารภาพออกมาว่า เป็นเธอเองที่นำถุงเท้าของแฟนหนุ่มไปใช้เช็ดก้นแทนที่กระดาษชำระทั่วๆ ไป!! “ผมถามไปโพล่งๆ เลยว่านี่เป็นเรื่อง Fetish (วัตถุที่แสดงความคลั่งไคล้ทางเพศ อาทิ ชุดชั้นใน รองเท้า ฯลฯ)…
-
นาทีสุดประทับใจ! หนุ่มแคชเชียร์สานต่อความฝันให้ ‘เด็กพิเศษ’ โดยลองให้เธอช่วยงาน
เราทุกคนต่างมี ‘ความฝัน’ ที่อยากจะทำให้สำเร็จ แต่ก่อนจะไปถึงจุดหมายที่วางไว้นั้น ทุกคนต้องพบเจอกับอุปสรรค ขวากหนามมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่มี “ความต้องการพิเศษ” เหมือนหนูน้อยคนนี้ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา คุณแม่ของเด็กหญิงที่มีความต้องการพิเศษคนหนึ่ง ได้เผยวินาทีสุดประทับใจ เมื่อหนุ่มแคชเชียร์ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอนุญาตให้ลูกสาวของเธอช่วยงาน Lisa Teach ได้โพสต์ภาพวิดีโอขณะที่ Lily ลูกสาวของเธอกำลังลำเลียงของบนเคาน์เตอร์แคชเชียร์ใส่ถุงให้กับลูกค้าที่มาซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต โดยเธอได้รับการสนับสนุนจาก Isaac Witte พนักงานที่ทำงานที่นั่น คุณแม่เล่าว่าลูกสาวของเธอชอบมองพนักงานแคชเชียร์นำของใส่ถุงในร้านขายของชำ เหมือนเป็นการบำบัดอย่างหนึ่ง Lily มีความฝันหลายอย่างและหนึ่งในความฝันเหล่านั้นคือการทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนั้นเธอยังอยากเป็นแพทย์ และคุณครู คลิปเหตุการณ์ Lily ช่วยงาน Isaac อย่างขยันขันแข็ง เธอคอยรับของจากลูกค้า กะปริมาณของในแต่ละถุงให้เหมาะสมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข ส่วน Isaac เองก็คอยส่งของให้ Lily อย่างใจเย็น ในตอนท้ายของวิดีโอ Lily ได้บอกว่า เธอชอบ Isacc…
-
สนามบิน Salt Lake เผชิญปัญหา ‘เครื่องบินชนนก’ มากที่สุดในอเมริกาตั้งแต่ปีที่ผ่าน
หากจะกล่าวถึงท้องฟ้า หลายคนก็อาจจะคิดถึง ‘นก’ สถานที่ที่พวกมันสามารถโบยบินไปได้อย่างอิสระ แต่เมื่อภายหลังเทคโนโลยีของมนุษย์พัฒนาจนมี ‘เครื่องบิน’ ถือกำเนิดขึ้นมาทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป… การมาของเครื่องบินก็ทำให้เหล่านกทั้งหลายต้องประสบกับปัญหา ที่อาจส่งผลกับชีวิตของพวกมันได้เลยทีเดียว รวมไปถึงเครื่องบินที่อาจจะเสี่ยงต่อการเสียหายเมื่อไปชนกับนกเข้า เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่ามีเมืองแห่งหนึ่งมีการรายงานว่าเครื่องบินขับชนนกจำนวน 280 เที่ยวบินในปี 2018 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่ได้พบบ่อยๆ แต่ตลอดเวลาที่เกิดขึ้นทางการได้เสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมเครื่องบินที่โดนฝูงนกชนมากถึง 675,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 21,453,500 บาท กันเลยทีเดียว!! เมืองที่ว่านั้นคือซอลต์เลค รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และจากหนึ่งในเที่ยวบินทั้ง 280 เที่ยวบิน มีกรณีหนึ่งที่เครื่องบินโบอิ้ง 767 พร้อมผู้โดยสารบนเครื่องราว 223 คนเกือบที่จะต้องลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากบินผ่านฝูงนกหลายร้อยตัว… เครื่องบินของสายการบิน Delta โดยเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นของสายการบิน Delta ที่เตรียมไปลงเครื่องที่ประเทศฝรั่งเศส โชคดีที่ว่าพวกมันไม่ได้บินเข้าไปในเครื่องยนต์ไอพ่น และเครื่องบินก็สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัยใน 7 นาทีถัดมาหลังบินฝ่าฝูงนก Bill Wyatt คณะกรรมการบริหารของสนามบินซอลท์เลคได้เผยว่า “นกเหล่านั้นไม่ได้บินเข้าไปในเครื่องไอพ่น และถือว่าโชคดีเพราะหากเกิดแบบนั้นจริงๆ สถานการณ์ตอนนั้นคงจะเลวร้ายมาก” ทางสนามบินของเมืองซอลท์เลค ได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ให้ทางสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ ด้วยวิธีการเว้นระยะห่างเหล่าสัตว์ป่าเขตนั้นออกไป 8…
-
เมืองแห่งมรดกโลก ‘เวนิส’ เตรียมเก็บค่าเข้าเมือง หลังนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี
โดยปกติเรามักจะจ่ายค่าเข้าให้กับสวนสนุกหรือสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า แต่รู้หรือไม่ว่าตอนนี้ประเทศอิตาลีเตรียมเก็บค่าเข้าในการเข้าชมเมืองเวนิสเป็นแห่งแรกแล้ว เหตุผลที่ต้องเก็บค่าเข้าเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนั้นมากขึ้นในทุกๆ ปี โดยมีจำนวนอย่างต่ำคือปีละ 25 ล้านคน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวเมืองแห่งนี้มักจะเลือกทัวร์แบบหนึ่งวันเท่านั้น กิจกรรมท่องเที่ยวที่นิยมจะมีแค่นั่งเรือชมเมือง รวมทั้งปิกนิกตอนกลางวันมากกว่า มันเลยทำให้รายได้ไม่หมุนเวียนในธุรกิจของคนพื้นที่มากนัก (อ้างอิงจากสำนักข่าว Reuters) พระราชวังดอจ์ด ที่เวนิสประเทศอิตาลี มาตรการเก็บเงินค่าเข้าสถานที่เริ่มมีผลตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ซึ่งจะเก็บค่าเข้าคนละ 3 ยูโร (ประมาณ 108 บาท) สำหรับท่องเที่ยวในเมืองนี้ตลอดทั้งวัน ส่วนค่าเข้าในวันถัดไปสามารถเข้าไปเช็คที่เว็บไซต์ World Heritage ส่วนราคาสำหรับเข้าเที่ยวสถานที่มรดกโลกอย่างคลองเมืองเวนิสอาจสูงขึ้นไปถึง 10.11 ยูโร หรือ 365 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้เมืองเวนิซเองมีมาตรการเก่า คือเก็บนักท่องเที่ยวที่ค้างคืนอยู่แล้ว แท้จริงแล้วคนท้องถิ่นของเมืองเวนิสลดลงหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 จากประชากรจำนวน 175,000 คนเหลือเพียงแค่ 50,000 แต่ขณะเดียวกันจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมีตัวเลขที่สูงมากขึ้น ทางการเวนิสเลยอยากที่จะแก้ไขปัญหา การเพิ่มของนักท่องเที่ยวแต่รายได้คนในพื้นที่ไม่หมุนเวียนมากพอด้วยการ ปรับเปลี่ยนให้เมืองแห่งนี้เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ทั้งเมืองไปเลย Luca Zaia ผู้ว่าราชการจังหวัดของเขตเวโนโตที่มีเมืองหลักคือเวนิสกล่าวว่า “เมืองเวนิสควรจะได้รับความเอาใจใส่มากกว่านี้ เพราะมันเป็นเมืองที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์, สนามกีฬา, โรงหนังเก่า, รถไฟโบราณและเครื่องบิน เราควรที่จะวางแผนสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการอนุรักษ์เมืองแห่งและคนที่ได้รับประโยชน์ก็คือตัวนักท่องเที่ยวเอง”…
-
McDonald’s เปิดตัวเฟรนช์ฟรายส์รส ‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ วางจำหน่ายที่ฮ่องกงเท่านั้น!!
เมื่อเข้าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เมนูแรกๆ ที่เราจะสั่งคงหนีไม่พ้นเบอร์เกอร์สักชิ้น ไก่ทอด หรือนักเก็ต แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คงจะเป็น ‘เฟรนช์ฟรายส์’ ที่หลายๆ คนติดอกติดใจจนลืมว่าอยู่ในช่วงไดเอตไปเลย เมื่อไม่นานมานี้ (ต้นปี 2019) ร้าน McDonald’s ในประเทศฮ่องกงได้ร่วมมือกับผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Nissin เปิดตัว Shake Shake Fries เฟรนช์ฟรายส์สูตรใหม่ที่เริ่มวางขายเมื่อปลายเดือนที่แล้ว เฟรนช์ฟรายส์แบบใหม่นี้เป็นรส ‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ ที่หลายๆ คนคุ้นเคย และมีสองแบบให้เลือก ได้แก่ รส ‘black garlic pork broth’ หรือ รสกระดูกหมูกับกระเทียมดำ ที่เริ่มวางจำหน่ายแล้วเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา ส่วนอีกแบบคือ เฟรนช์ฟรายส์รส ‘sesame oil’ หรือ รสน้ำมันงา ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 21 มีนาคม 2019 (ปลายเดือนนี้นั่นเอง) ซึ่งเมื่อสั่งเมนูนี้ ลูกค้าจะได้ เฟรนช์ฟรายส์ที่แยกมากับผงของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตามรสชาติที่มีให้เลือกสองแบบ สำหรับเทและเขย่าให้รสชาติเข้ากัน นอกจากเฟรนช์ฟรายส์แล้ว McDonald’s ยังจำหน่ายถ้วยชามลาย Demae Iccho…
-
คุณยายช็อกหนัก!! เห็นหลานอยู่ในบ้านสกปรก มีกลิ่นเหม็นอบอวล แต่แม่เด็กไม่สนใจ
สภาพความเป็นอยู่คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ หากแต่ในสังคมปัจจุบัน เรายังพบเห็นเด็กที่ถูกละทิ้ง ปล่อยปละละเลย ให้เผชิญกับความยากลำบาก เพียงเพราะครอบครัวไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบ เหมือนดังเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ เมื่อคุณยายคนหนึ่งพบว่าหลานเล็กๆ ของเธอมีสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้ายสุดจะทน! เสื้อผ้า ข้าวของวางกองอยู่บนพื้น เด็กๆ 5 คนอาศัยอยู่กับคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องลูกคนที่หก ในบ้านที่เต็มไปด้วยความสกปรก ข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้น แถมยังมีกลิ่นฉี่และกลิ่นอึเหม็นอบอวล ญาติของพวกเขาเล่าว่า “เด็กๆ พวกนี้เป็นเด็กดี แต่แม่ของเขาไม่สนใจ เอาแต่โทษคนอื่น ไม่มีความรับผิดชอบ” ทางด้านคุณยายก็ให้สัมภาษณ์ว่า “ลูกสาวของฉันไม่ควรจะมีลูก อย่างแรกที่ควรจะทำคือพาหลานๆ ของฉันออกจากนรกนั่นซะ” ในห้องครัวเต็มไปด้วยขยะ อาหารขึ้นรา กระจัดกระจายอยู่เต็มโต๊ะ เธอเล่าว่า ตอนที่เธอเข้าไปในบ้าน เธอเห็นอาหารที่ขึ้นรากองอยู่บนพื้น เธอกลัวว่าหลานๆ จะหยิบขึ้นมาทานเพราะความไม่รู้ ส่วนฝาตู้ก็พังห้อยลงมา เป็นอันตรายต่อเด็ก ก่อนหน้านี้คุณยายเคยเข้ามาทำความสะอาดบางส่วนไปบ้างแล้ว แต่พอวันถัดไป ทุกอย่างก็กลับมารกเหมือนเดิม ในที่สุดฟางเส้นสุดท้ายของคุณยายก็ขาดลง เมื่อลูกสาวของเธอไม่สนใจใยดีหลานๆ ทิ้งให้พวกเขาอยู่บ้านกับพ่อ แต่ตัวเองกลับออกจากบ้านไปหาแฟนใหม่แทน สภาพในห้องน้ำทรุดโทรม ด้านหลังบ้าน คุณยายอยากจะรับหลานๆ ทุกคนเข้ามาอยู่ในความดูแล แต่เธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้…
-
พาเปิด ‘ประตูไปไหนก็ได้’ รับชมสถานีรถไฟใต้ดิน ‘โดราเอมอน’ ที่ประเทศญี่ปุ่น
ตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยตื่นขึ้นมาในตอนเช้าวันหยุดเพื่อดูการ์ตูนเรื่องโปรดอย่างการ์ตูน โดราเอมอน หุ่นยนต์แมวเหมียวตัวอ้วนจากโลกอนาคต ที่มาพร้อมกับของวิเศษสุดล้ำ ทำเอาเราอยากมีไว้ใช้ในชีวิตจริงเสียเหลือเกิน วันนี้ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข23 ขออาสาพาแฟนการ์ตูน ไปชมภาพบรรยากาศบ้านเกิดโดราเอมอน ณ ประเทศญี่ปุ่น!! โดราเอมอน เป็นการ์ตูนที่เขียนโดย Fujiko F. Fujio ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในเมืองคาวาซากิ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น แต่ก่อนจะถึงพิพิธภัณฑ์ ทุกคนที่เดินทางด้วยรถไฟจะมีโอกาสได้เห็นสถานี Noborito ที่ตกแต่งด้วยธีมโดราเอมอน ด้านในของสถานีรถไฟประกอบไปด้วยสีฟ้า สีขาว และสีแดงที่จะทำให้เรานึกถึงหุ่นยนต์แมวเหมียวในการ์ตูน โดยตลอดทางเดินเราจะเห็นตัวละครโดราเอมอน โนบิตะ ชิซูกะ ซูเนโอะ รวมถึงไจแอนท์ปรากฏอยู่บนกำแพง แม้แต่ถังขยะก็ยังน่ารัก ส่วนใครที่ต้องการฝากของก็มีตู้ล็อกเกอร์สีสันสดใสให้บริการ ตรงห้องน้ำมีดีเทลเล็กๆ เป็นรูปโดราเอมอน (สำหรับผู้ชาย) และ โดเรมี (สำหรับผู้หญิง) ลิฟต์โดยสารถูกตกแต่งเป็น ‘ประตูไปไหนก็ได้’ . มีที่นั่งพักสำหรับหลายคน เป็นมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ทางขึ้นเป็นรูปโดราเอมอนกับคอปเตอร์ไม้ไผ่ สถานีรถไฟแห่งนี้ ใช้เวลาเพียง 15 นาทีจากสถานี Shinjuku ในโตเกียว…
-
‘อายุเป็นเพียงตัวเลข’ คุณยายวัย 84 ปีโชว์เฟี้ยววว สอบขับรถระดับสูงผ่านฉลุย!!
ว่ากันว่า ‘อายุเป็นเพียงตัวเลข’ เพราะความสามารถต่างๆ ไม่ได้วัดกันที่วัย เด็กบางคนมีทักษะเหนือผู้ใหญ่ ในขณะที่ผู้ใหญ่บางคนก็ยังมีร่างกายแข็งแรง ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนกับเด็กๆ เช่นเดียวกับ Thelma Bradshaw คุณยายวัย 86 ปี ที่ผ่านการสอบขับรถระดับสูงของประเทศอังกฤษได้อย่างง่ายดาย การทดสอบขับรถของสถาบัน IAM Roadsmart หรือ Institute of Advanced Motorists ที่คุณยายสอบผ่านนั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นการทดสอบที่โหดหินสุดๆ เพราะต้องใช้ทักษะขั้นสูงกว่าระดับมาตรฐานที่ใช้ทั่วไป ก่อนหน้านี้ คุณยาย Bradshaw เคยผ่านการทดสอบขับรถดังกล่าวมาแล้วเมื่อปี 1977 แต่เธออยากพิสูจน์อีกครั้งว่า ความสามารถในการขับรถของเธอไม่ได้สวนทางกับอายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อตอนยังเด็ก คุณยายถูกปลูกฝังว่า “ผู้หญิงขับรถไม่ได้” จึงเป็นเรื่องยากที่เธอจะพิสูจน์ตัวเองในตอนนั้นว่าเธอทำได้ คุณยายพยายามอย่างหนัก โดยเริ่มฝึกขับรถ ใช้สมาธิขณะจับพวงมาลัย ไม่พูดคุย หรือไม่แม้แต่ฟังวิทยุในรถ บ่อยครั้งที่เธอได้ยินว่า “คนเราควรหยุดขับรถเมื่ออายุถึง 70-80 ปี” แต่คุณยายยังไม่อยากเลิก เธอจึงแสดงความสามารถของเธอด้วยการเป็นหนึ่งในผู้ที่ทำคะแนนได้ดีที่สุด ในการทดสอบครั้งนี้ และคุณยายยังบอกทิ้งท้ายไว้ว่า…
-
FBI ขอความช่วยเหลือจากทั่วโลก เพื่อตามหาที่มาวัตถุโบราณร่วมพันชิ้น ที่ยึดมาในปี 2014
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เจ้าหน้าที่ FBI ของสหรัฐได้ทำการบุกเข้าไปในบ้านของนาย Don Miller อดีตวิศวกรทหาร นักเผยแผ่ศาสนา ผู้ซึ่งตลอดช่วง 70 ปีที่ผ่านมาได้ออกเดินทางและเก็บสะสมวัตถุโบราณผิดกฎหมายเอาไว้เป็นจำนวนมาก ในช่วงเวลานั้นทาง FBI ได้ทำการยึดวัตถุโบราณเอาไว้ร่วม 7,000 ชิ้น และมีการทำการตรวจสอบที่มาของสิ่งของเหล่านั้นเรื่อยมา เพื่อหาเจ้าของดั้งเดิมของวัตถุโบราณเหล่านี้ ทางเจ้าหน้าที่ FBI ออกมาเปิดเผยว่า คุณ Miller ที่อายุ 91 ปีในเวลานั้น ให้ความร่วมมือกับปฏิบัติการและการตามหาที่มาของวัตถุโบราณเป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่เขามีวัตถุโบราณจากทั้งแถบอเมริกาเหนือและใต้ เขตทะเลแคริเบียน ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ไปจนถึงเอเชีย การจะตามหาที่มาของวัตถุโบราณทั้งหมดจึงทำได้ยากมาก และก็นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่คุณ Miller นั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่ในปี 2015 แล้วดังนั้นการค้นหาที่มาของวัตถุโบราณที่เหลือจึงทำได้ยากมากขึ้นไปอีก เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี้เองทาง FBI จึงได้ทำการขอความช่วยเหลือจากชุมชนชาวอเมริกันพื้นเมือง และรัฐบาลทั่วโลก เพื่อช่วยตามหาที่มาของวัตถุโบราณที่ถูกสะสมอย่างผิดกฎหมายนี้ต่อไป การขอความช่วยเหลือจากทางชุมชนชาวอเมริกันพื้นเมืองในครั้งนี้ มีเหตุผลมาจากการที่บรรดาวัตถุโบราณที่ยึดมานั้น มีอยู่หลายชิ้นที่คาดว่าเป็นของชนพื้นเมืองอเมริกัน เช่นโครงกระดูกราวๆ 500 ร่างที่คาดกันว่าถูกขุดขึ้นมาจากสุสานของชนพื้นเมืองนั่นเอง จนถึงในปัจจุบันมีวัตถุโบราณเพียงแค่…
-
ผล DNA เผย หญิงชาวพิตส์เบิร์กผู้ทิ้งครอบครัวไปในปี 1964 แท้จริงแล้วถูกฝังอยู่หลังบ้าน
ย้อนกลับไปเมื่อ 55 ปีก่อน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 1964 ได้มีเหตุการณ์หญิงสาววัย 36 ปีนามว่า Mary Arcuri ผู้อาศัยในเมืองพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ท่ามกลางความสับสนและงุนงงของคนในครอบครัว Mary Arcuri สามีของเธอ Albert Alcuri ได้บอกกับทางตำรวจในเวลานั้นว่า Mary น่าจะตัดสินใจทิ้งเขาและลูกๆ ไปด้วยสีหน้าที่ดูโศกเศร้าและเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อทางตำรวจพบว่าข่าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของ Mary เองก็หายไปเช่นกัน พวกเขาจึงเชื่อว่าหญิงสาวผู้นี้น่าจะหายตัวไปจากบ้านเองด้วยความสมัครใจ หลังจากวันนั้นราวๆ หนึ่งปี Albert ผู้เป็นสามีของ Mary ก็เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุ ดังนั้นครอบครัวที่เหลืออยู่จึงตัดสินใจย้ายออกจากบ้านที่มีความหลังอันเลวร้ายหลังนี้ไป แต่แล้ว ในระหว่างที่คนงานก่อสร้างเข้ามาทำการปรับปรุงบ้านหลังนี้เมื่อช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา พวกเขากลับพบว่าที่หลังบ้านของครอบครัว Alcuri นั้นมีโครงกระดูกปริศนาถูกฝังเอาไว้อยู่ร่างหนึ่ง เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความสงสัยให้กับทางครอบครัวมากๆ ดังนั้นพวกลูกหลานในตระกูลจึงได้ขอให้มีการนำกระดูกดังกล่าวไปตรวจ DNA และเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 ที่ผ่านมานี้เองโลกก็ได้ทราบความจริงที่ว่า Mary Arcuri นั้นจริงๆ แล้วไม่ได้หายตัวไป แต่เสียชีวิตอยู่ที่หลังบ้านในปี 1964 ต่างหาก …
-
รายงานใหม่เผย พบผู้รับศัลยกรรมเสริมบั้นท้าย ป่วยด้วยโรคมะเร็งเป็นรายแรกของสหรัฐฯ แล้ว
สำหรับเพื่อนๆ ที่ติดตามข่าววงการแพทย์มาอาจจะเคยได้ยินข่าวที่ว่าการผ่าตัดเสริมอกด้วยซิลิโคน (โดยเฉพาะแบบผิวไม่เรียบ หรือ Textured Implants) อาจจะนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็งหายากบางชนิดได้ อ้างอิงจากรายงานขององค์กรอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ว่าแต่เพื่อนๆ ทราบกันหรือไม่ว่านอกจากการเสริมหน้าอกแล้ว การผ่าตัดเสริมบั้นท้ายเองก็อาจจะสามารถทำให้เราเป็นมะเร็งได้เช่นกัน มะเร็งที่ว่านี้ คือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่มีเซลล์ใหญ่และโตเร็ว (Anaplastic Large Cell Lymphoma) หรือ ALCL ซึ่งเป็นมะเร็งที่ช่วงปีที่ผ่านมามีผู้ศัลยกรรมหน้าอกเป็นกันมากขึ้นอย่างน่าใจหาย เซลล์ของ ALCL เอาจริงๆ การที่ผู้ศัลยกรรมบั้นท้ายจะเป็นมะเร็ง ALCL เองก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไรเพราะซิลิโคนแบบผิวไม่เรียบที่มีปัญหากันอยู่นั้น มีการใช้งานในการศัลยกรรมบั้นท้ายเช่นกัน ถึงอย่างนั้นก็ตามรายงานล่าสุดที่ออกมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2019 ในวารสาร Aesthetic Surgery Journal กลับเป็นรายงานชิ้นแรกของมะเร็ง ALCL ในผู้ศัลยกรรมบั้นท้าย ที่มีการรายงานออกมาเท่านั้น นี่เป็นเรื่องราวของหญิงสาววัย 49 ปี ที่ทำศัลยกรรมบั้นท้ายด้วยซิลิโคนแบบผิวไม่เรียบ ก่อนที่จะเริ่มป่วยและไปพบแพทย์ ในช่วงเวลาราวๆ หนึ่งปีหลังจากการศัลยกรรม โดยผลการตรวจสอบออกมาว่าเธอนั้นมีแผลเป็นหนองในเนื้อเหยื่อบริเวณใกล้ๆ ซิลิโคน และมีมะเร็ง ALCL กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ รวมทั้งปอดเป็น ซึ่งมะเร็ง ALCL นี้เองที่ส่งผลให้คนไข้เสียชีวิตไปในอีกไม่กี่เดือนต่อมา จริงอยู่ว่านี่เป็นเพียงรายงานที่บอกว่ามีผู้ศัลยกรรมบั้นท้ายที่เป็นมะเร็ง ALCL เท่านั้นและไม่ได้เป็นการระบุว่า…
-
หนุ่มเคนย่าใจดี ขนน้ำหลายพันแกลลอนไปเติมให้สัตว์ป่าในช่วงประสบภัยแล้ง
เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2019 เฟซบุ๊กนาย Patrick Kilonzo Mwalua ได้โพสต์ภาพและบอกเล่าเรื่องราวสิ่งที่เขาได้ทำเพื่อช่วยเหลือสัตว์โลกจากภัยแล้ง Patrick เป็นชาวไร่จากประเทศเคนย่า เขาใช้เวลาว่างขนน้ำทีละหลายพันลิตรนำไปยังอุทยานแห่งชาติ Tsavo West ที่ประสบภัยแล้งมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 แรกๆ เขาใช้รถขนน้ำ 3,000 แกลลอนมาเติมให้เหล่าสัตว์ป่าในอุทยานอาทิตย์ละ 4 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ามีน้ำเพียงพอให้พวกมันดื่มกิน และจะไม่ตายเพราะขาดน้ำ สิ่งที่เขาทำนั้นได้ช่วยเหลือสัตว์ป่าเอาไว้มากมาย และได้รับความสนใจอย่างมาก ในที่สุดเขาได้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นเพื่อขอรับบริจาค เพื่อนำเงินมาจัดหาน้ำมาให้สัตว์ป่าทุกครั้งที่น้ำในบ่อแห้งลงเพราะฝนไม่ตกตามฤดูกาล ช่วงหลังมาเขากับเพื่อนชาวแคนาดา Nina Poletti ต้องนำน้ำมาเติมมากขึ้น แถมบางทีก็ต้องแวะเข้ามาดูทุกวัน และเขายังคงทำแบบนี้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ในตอนนี้กลายเป็นว่าเหล่าสัตว์ป่าทั้งควายป่าและม้าลายต่างก็รู้สึกคุ้นชินกับการมาเยือนของเขา บางครั้งเขาก็พบว่าพวกมันมายืนรอให้เขานำน้ำมาให้ และพวกมันก็ดูตื่นเต้นที่ได้เห็นชายใจดีคนนี้ ถ้าใครสนใจร่วมบริจาคลิกเข้าไปที่เว็บนี้ได้เลยจ้า mwaluawildlifetrust.org https://www.facebook.com/patrick.mwalua/posts/10156307189463635 ที่มา LADbible
-
น้องไม่ไหวแล้ว!! กับ 6 ปีในวงการ ฟุนัชชี่ให้สัมภาษณ์ “เหนื่อยมาก อยากกลับดินแดนสาลี่”
ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศประหลาดที่สามารถทำทุกอย่างให้น่ารักและกลายเป็นมาสคอตได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ดูง่ายๆ อย่างจังหวัดต่างๆ ของญี่ปุ่นก็จะมีมาสคอตประจำเมือง สร้างรายได้ให้กับชุมชนกันเป็นกอบเป็นกำ เมืองฟุนะบาชิ ในจังหวัดจิบะเอง ก็มีมาสคอตประจำเมืองชื่อว่า ฟุนัชชี่ รูปร่างหน้าตานั้นก็มีต้นแบบมาจากลูกสาลี่ ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเมือง แม้จะไม่ได้รับการอนุมัติจากทางการ แต่ผู้คนในเมืองก็สนับสนุนอย่างดี น้องฟุนัชชี่นั้นอยู่ในวงการมาสคอตมาเกือบ 7 ปีเข้าไปแล้ว ด้วยความน่ารักและตลกทำให้มีคนชื่นชอบมากมาย ถือว่าเป็นมาสคอตที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆ เหมือนกันนะ ไม่แพ้คุมะมงหรือแบรี่ซังเลย โดยสินค้าของฟุนัชชี่นั้นทำเงินได้ถึง 800 ล้านเยนทีเดียว (ประมาณ 227 ล้านบาท) เราไม่รู้ว่าในฐานะมาสคอตดาวเด่นที่ต้องออกรายการและทำกิจกรรมโปรโมตต่างๆ อยู่ตลอดนั้น เขามีวันหยุดพักร้อนให้ใช้กันบ้างหรือเปล่า แต่ดูท่าทางงานนี้มันจะเหนื่อยกายและใจสุดๆ ทีเดียว เมื่อฟุนัชชี่ได้บอกออกมาว่า น้องเหนื่อยแล้ว น้องอยากกลับแดนสาลี่ เรื่องของเรื่องคือ ช่วงหลังๆ มานี้สังเกตได้ว่าฟุนัชชี่นั้นห่างหายจากการออกรายการทีวีไปเลย และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฟุนัชชี่ได้ไปออกรายการหนึ่งและได้พูดถึงเรื่องที่หายหน้าไปพักหนึ่ง สาเหตุก็คือการต้องทำตัวร่าเริงและเต้นใหญ่เต้นเต็มทุกครั้งที่ออกสื่อนั้นมันสร้างภาระทางร่างกายได้มากจริงๆ มากจนฟุนัชชี่นั้นอยากจะกลับบ้านเกิดเลยทีเดียว とぉっー♪ヾ(。゜▽゜)ノみんなー今日も一日お疲れ様なっしー♪春になると無性にスキップしたくなるなっしなー♪スキップ着地に犬のうんぽ踏んだあの頃を思い出すなっしー♪明日みんなスキップしていろんなもの踏みます様に梨汁ブシャー:*もやスキップ pic.twitter.com/jMAEfdELY3 — ふなっしー💙 (@funassyi) February 25, 2019 …
-
สุดยอด!! หนุ่มชาวชิลี ‘สอนเจ้าเหยี่ยวให้หัดบิน’ ด้วยการกระโดดร่มลงไปด้วยซะเลย!!
ใครบอกว่าการจะสอนลูกนกให้บินต้องรอให้แม่นกมาสอนอย่างเดียว ในเมื่อมนุษย์อย่างเราก็สอนให้มันบินได้เหมือนกัน… Ariel Marinkovic ชายชาวชิลีที่เลี้ยงเหยี่ยววัย 10 เดือน ชื่อว่าเจ้า ‘ฮุ๊ก’ และเขาก็สอนให้มันหัดบินเป็นครั้งแรกด้วยการกระโดดร่มลงมาด้วย ฮุ๊กเป็นเหยี่ยวที่เริ่มจะหัดบินเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาก มันเป็นเหยี่ยวนักล่าขนาดกลางและขึ้นชื่อว่าฝึกหัดง่ายสำหรับมนุษย์ที่เลี้ยงมัน Ariel พามันไปฝึกหัดเที่ยวบินแรกที่หุบเขาแห่งหนึ่งในซานเตียโกเมืองหลวงของประเทศชิลี การฝึกบินของฮุ๊กและก็ Ariel ออกมาอย่างน่าประทับใจเพราะมันแสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ปีกชนิดนี้ เจ้าฮุ๊กและภาพพื้นหลังเป็น Ariel ที่คอยบินตามดูมันอย่างห่างๆ ฮุ๊ก คือเหยี่ยวสายพันธุ์แฮร์ริส มันมีถิ่นกำเนิดทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกาและมักจะเห็นพวกมันตามธรรมชาติในประเทศชิลีและตอนกลางของประเทศอาร์เจนตินา พวกมันถือเป็นสัตว์ที่มักออกล่าหาอาหารเป็นฝูงหรือก็คือสัตว์สังคมนั่นเอง จึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะเห็นเจ้าฮุ๊กคลอเคลียกับเจ้าของมันได้เป็นอย่างดี ฮุ๊กแสดงความรักกับ Ariel เจ้าของมัน เจ้าฮุ๊กดูแล้วก็หน้าตาน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย เหตุผลที่ต้องมัดเชือกผูกขาของมันไว้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึก และมักจะเป็นหนังวัวหรือหนังสัตว์อื่นๆ ที่มีความเหนียวมากพอ Ariel บันทึกการฝึกซ้อมด้วยกล้องวิดีโอโกโปรบนหมวกกันน็อคตลอดเวลา ได้ภาพออกมาสวยงามมากๆ รอบนอย่างสบายใจ หลังฝึกเสร็จแล้วคงจะได้รางวัลที่บ้านแน่ๆ ยินดีด้วยในที่สุดเจ้าฮุ๊กก็บินได้เสียทีนะ ที่มา: dailymail, bbc
-
หนุ่มโพสต์ว่าดื่ม ‘โค้กนม’ เป็นประจำ ทำชาวเน็ตต่างชาติเถียงกันสนั่นมันมีจริงๆ หรือเมนูนี้!!
เชื่อเลยว่าแทบจะทุกๆ คนคงจะรู้จักกันดีกับเครื่องดื่มโคล่าแสนอร่อยที่มีนามว่า ‘โค้ก’ ซึ่งเป็นน้ำอัดลมที่ดื่มเมื่อไหร่ก็ชื่นใจดับกระหายได้เป็นอย่างดี ยิ่งในหน้าร้อนนี่คือแบบเป็นอะไรที่ตอบโจทย์เอามากๆ… ทว่าด้วยความที่คนเรามักจะหาวิธีใหม่ๆ เพื่อให้ได้ประสบการณ์การกินที่แปลกแหวกไปจากเดิม จึงทำให้โค้กถูกนำมาอแดปเป็นเมนูต่างๆ อย่าง ไก่ต้มโค้ก ไก่ทอดโค้ก เสลอปี้ ไอติมหลอด หรืออื่นอีกมากมาย แต่ว่ามีเมนูหนึ่งที่กลายเป็นที่ข้องใจสำหรับชาวเน็ตซะเหลือเกินว่ามันมีจริงๆ บนโลกใบนี้หรือ เพราะนั่นคือเมนู ‘โค้กผสมนม’ ทว่าชายคนหนึ่งก็ยืนยันว่ามีจริงๆ แถมเมืองที่เขาอยู่ยังกินเมนูมาแล้วกว่าเป็นร้อยๆ ปี!! เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่ถกเถียงกันบนโลกอินเทอร์เน็ต จากความที่ James Felton นักแสดงตลกประเทศอังกฤษ ได้ทวีตถึงเมนูนี้แล้วบอกว่านี่เป็นเมนูที่ชาวเมืองเบอร์มิงแฮมโปรดปรานจริงๆ พร้อมกับโพสต์รูปตัวเองกำลังดื่มด่ำโค้กนมอย่างสบายอุรา ทวีตของหนุ่ม James Milk coke is a real thing. Brummies love it. We can all move on from this discussion now, I will be taking no further questions.…
-
พนักงานทำความสะอาดเจอเงินถูกทิ้งในรถบัส 12 ล้านบาท พร้อมส่งให้ตำรวจตามหาเจ้าของ!!
จะเป็นอย่างไรถ้าหากเราเจอเงินก้อนโตมูลค่าเป็นล้านบาทเข้าให้ มันอาจมีความคิดสักนิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวว่าเราจะเก็บเอาไว้ดีหรือว่าจะเอาไปคืนให้เจ้าของดีนะ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องแล้วแต่ด้านดีด้านมืดของแต่ละคนแล้วแหละ… แต่ว่ามีพนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งของประเทศอังกฤษ เจอเงินบนรถบัสซึ่งมีมูลค่ามากพอที่จะเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย ทว่าในท้ายที่สุดพนักงานคนนี้ก็ตัดสินใจเอาเงินไปคืนตำรวจหาเจ้าของที่แท้จริงต่อไป เรื่องราวดีๆ นี้มีอยู่ว่าพนักงานทำความสะอาดของบริษัท Cordant Cleaners ซึ่งเป็นบริษัทที่รับทำความสะอาดให้กับรถ London Bus ในประเทศอังกฤษ แต่ว่ามีอยู่วันหนึ่งพนักงานที่ไม่เปิดเผยชื่อได้ไปพบซองจดหมายซองหนึ่งถูกทิ้งเอาไว้ขณะทำความสะอาด และเมื่อเปิดดูก็ถึงกับแทบช็อกเมื่อในซองนั้นมีเงินอยู่มากมายนับได้ราวๆ 300,000 ปอนด์ (ราวๆ 12 ล้านบาท)!! เงินจำนวนมากขนาดนี้หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นลาภลอยที่พระเจ้าส่งมาให้เป็นรางวัลสำหรับผู้ที่พบเจอ แต่ในที่สุดแล้วความซื่อสัตย์ที่อยู่ในตัวของพนักงานคนนี้ก็ทำให้ตัดสินใจมอบเงินให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของเงินที่กำลังอาจเดือดร้อนอยู่ นอกจากสิ่งของมีค่าอย่างเงินทองต่างๆ แล้ว พนักงานของบริษัท Cordant ยังบอกว่า พวกเขายังเคยเจอกับสิ่งแปลกๆ มากมายที่ถูกทิ้งเอาไว้บนรถอีก อย่างเช่นเซ็กส์ทอย กระทะ ที่ตรวจครรภ์ ผ้าอ้อมเด็ก ผ้าอนามัยใช้แล้ว ฟันปลอมและอื่นๆ อีกมากมายจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนทิ้งสิ่งเหล่านี้เอาไว้บนรถบัส… สำหรับในตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีคนมาแจ้งความเรื่องเงินหายกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วหรือยัง… ที่มา: dailymail, metro
-
ศิลปินวาดภาพคือพวกขี้เกียจ ‘คำดูถูก’ ทำให้เขากลายเป็นศิลปินสร้างผลงานมูลค่าเกือบล้าน
เคยมั้ยที่โดนคนดูถูกว่าสิ่งที่คุณทำอยู่จะไม่มีใครสนใจมันหรอก? ตอนเด็กๆ อาจจะเคยได้ยินกับคำว่า “เป็นศิลปินมันไส้แห้ง” หรือพอโตมาและเลือกเรียนสาขาที่ไม่ถูกใจพ่อแม่ เขาก็มักจะบอกว่า “จบไปจะทำงานอะไร?” เรื่องเหล่านี้ใกล้เคียงในชีวิตจริงของศิลปินชาวแคเมอรูนที่โดนคุณพ่อของเขาบอกว่า “สิ่งที่แกวาดขีดเขียนอยู่มันก็แค่งานสำหรับพวกขี้เกียจนั่นแหละ” Ajarb Bernard Ategwa เป็นศิลปินวาดภาพศิลปะแนวร่วมสมัยจากสาธารณรัฐแคเมอรูน ที่ชอบชื่นชอบการวาดภาพตั้งแต่เขายังเด็ก และในสมุดจดการบ้านหรือหนังสือเรียนของเขาจะเต็มไปด้วยภาพวาดเต็มไปหมด คุณพ่อของ Ajarb ดูจะไม่ค่อยชอบใจนักที่ลูกชายเอาแต่วาดภาพอย่างเดียวและมักจะตำหนิตั้งแต่เขายังเล็กเสมอว่าวาดรูปไปทำไมไร้สาระสิ้นดี… ปัจจุบัน Ajarb อายุ 30 ปีและเป็นเจ้าของภาพวาดที่มีมูลค่าถึง 20,000 ปอนด์ (840,000 บาท) เขาทำงานและอาศัยอยู่ในเมือง Douala ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐแคเมอรูน เมื่อเขามองย้อนกลับไปตอนที่คุณพ่อดูถูกเขาบอกว่า “ทุกคนในบ้านจบการศึกษาที่สูงกว่าผมหมดก็จริง แต่ตอนนี้พวกเขาก็ให้การยอมรับผมมากเพราะผมประสบความสำเร็จที่สุด” ศิลปินบอกต่อว่าศิลปะคือวิถีชีวิตของเขาเป็นสิ่งที่เขามันตั้งแต่เขาจำความได้ เป็นสิ่งเดียวที่เขารู้ว่าต้องทำมันออกมายังไง เวลาที่เขาโมโหการวาดรูปมันช่วยให้เขาสงบนิ่งลง ตั้งแต่เด็กจนโตมาเขาไม่เคยเรียนศิลปะอย่างจริงจัง เพราะคุณพ่อของเขาไม่ได้สนับสนุนในสายนี้ และเลือกที่จะเรียนรู้การใช้สีเองตั้งแต่เจ็ดขวบ ผลงานเกือบทั้งหมดของเขามักสื่อถึงชีวิตของคนในเมืองและแลนด์สเคปของตึกรามบ้านช่อง งานศิลปะที่ดูมีสีสันของเขาแสดงถึงเมือง Douala ที่เขาอยู่อาศัยด้วยเช่นกัน เพราะหากคุณเคยไปเยือนเมืองนี้จะเต็มไปด้วยตลาด ร้านอาหาร, บาร์ และร้านตัดผมที่มีป้ายไฟหมุน รวมถึงเมืองแห่งนี้เองมีสีสันอีกอย่างคือดนตรีเพราะไม่ว่าที่ไหนก็ตามคุณจะได้ยินเสียงดนตรีคลอไปด้วยตลอดเวลา งานศิลปะของเขาได้ถูกจัดแสดงไปทั่วโลก ล่าสุดงานแกลอรี่ศิลปะของเขาเพิ่งจะเสร็จสิ้นไปที่กรุงลอนดอน จากนั้นก็เตรียมไปจัดงานต่อที่ New York’s Armory Show ในเดือนมีนาคมนี้ ศิลปิน Ajarb ได้บอกถึงเบื้องหลังความสำเร็จของเขาว่า “ลองปล่อยให้พวกเขาได้ทำตามความฝันบ้าง”…
-
15 ภาพในอดีตของ ‘ลาสเวกัส’ ที่สะท้อนได้ดี ว่าทำไมคนถึงเรียกมันว่า Sin City
คงจะไม่มีใครไม่รู้จักเมืองแห่งคาสิโนอันโด่งดังอย่าง ลาสเวกัส ที่อยู่ในเขตรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมืองแห่งนี้เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ ในหนังแก๊งมาเฟีย หรือหนังแอ็คชั่นที่ต้องมีพระเอกเข้ามาเล่นเกมคาสิโนเพื่อเสาะหาตัวร้าย อีกทั้งเมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อว่า “เมืองแห่งคนบาป” เพราะในอดีตมันถือเป็นเมืองที่แก๊งมาเฟียต่างก็อยากเข้ามาครอบครองที่ดินและกว้านซื้อโรงแรมไว้ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ รวมไปถึงการฟอกเงิน และเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าในปี 1900 ลาสเวกัสมีจำนวนประชากรในเมืองเพียงแค่ 22 เท่านั้น แต่ในปัจจุบันมันคือจุดหมายปลายทางของคนเกือบ 39 ล้านคนต่อปีที่อยากจะลองมาเสี่ยงโชคที่ลาสเวกัสดูสักครั้ง #เหมียวฝึกหัดหมายเลข24 จะพาไปดูกับภาพ 15 ภาพที่สะท้อนบรรยากาศของเมืองในสมัยนั้นได้ดีว่าทำไมคนถึงเรียกมันแบบนั้น? 1. ถึงแม้การพนันจะถูกทางการบังคับให้มันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายมาหลายปีแล้ว แต่คนก็ยังคงเล่นกันใต้ดินอยู่ดี 2. The Golden Nugget บ่อนคาสิโนที่เก่าแก่ที่สุดของลาสเวกัส และยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ 3. ปี 1948 ทางการบอกน้ำประปาของทั้งเมืองใช้ไม่ได้ แม้แต่น้ำในก๊อกของโรงพยาบาลก็ไม่ไหล แต่ห่างออกไปไม่กี่ซอยนักท่องเที่ยวกำลังเล่นน้ำในสระอย่างสบายใจ… 4. ธุรกิจท่องเที่ยวและการโรงแรมต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด 5. แก๊งมาเฟียนิวยอร์ก Bugsy Siegel ถึงขั้นต่างยื้อแย่งซื้อธุรกิจโรงแรมเพื่อฟอกเงิน หนึ่งในนั้นคือโรงแรม Tropicana ที่นักท่องเที่ยวต่างนิยมแต่หารู้มั้ยว่ามันมีอะไรอยู่เบื้องหลัง 6. ต่อให้เป็นกลางทะเลทรายห่างไกลผู้คนแค่ไหน บาร์เปลือยก็ยังคงตั้งตระหง่านให้เห็นอยู่ดี 7.…
-
คุณแม่ป่วยเป็นโรคร้าย พยายามต่อสู้ยื้อชีวิตตัวเองเพื่อจะได้ร่วมฉลองงานแต่งของลูกสาว
“ในวันหนึ่งทุกคนล้วนจากไป” นับเป็นสัจธรรมชีวิตที่เที่ยงตรงที่สุด ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ด้วยสาเหตุใดก็ตาม แต่หากว่าคุณสามารถรู้ได้ว่าตนเองเหลือเวลาชีวิตอีกเพียงน้อยนิดล่ะ…คุณคิดว่า คุณอยากจะทำอะไรในวันสุดท้ายของชีวิต? ในปี 2016 คุณแม่ของ Jessica Quigley ชื่อว่า Leona ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งพลาสมาเซลล์ชนิดหายากราว 10 เดือนก่อนที่ลูกสาวจะหมั้นกับ Adam คนรักของเธอ ในตอนที่ Jessica หมั้นนั้นสุขภาพของ Leona ยังคงดีอยู่ เธอยังไปเที่ยวกับลูกสาวและแฟนของลูกอยู่เลย คู่รักต้องการเวลาอีกเป็นปีก่อนจะจัดงานแต่งอย่างเป็นทางการ เพราะ Jessica เห็นว่าแม่ยังแข็งแรงดีอยู่ จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่เพียง 1 เดือนก่อนจะถึงกำหนดวันแต่งงานที่ตั้งใจไว้ สุขภาพของ Leona กลับแย่ลงอย่างรวดเร็ว จน Jessica และ Adam พยายามหาทางเร่งงานแต่งให้เร็วขึ้น แต่ Leona ไม่ยอมให้ทั้งคู่ทำเช่นกัน เธอพยายามทำตัวเข้มแข็ง มองข้ามอาการป่วยของตัวเอง สุดท้ายคู่รักจึงยอมจัดงานแต่งในกำหนดการเดิมตามที่แม่ต้องการ สุดท้าย Jessica และ Adam เข้าพิธีวิวาห์ในวันที่…
-
หนุ่มนักศึกษา เผยเบื้องหลัง 10 ภาพ เก็บตกจากสถานที่จริงใน ‘ภาพยนตร์ชื่อดัง’
นักศึกษาวัย 20 ปีจากประเทศอังกฤษ ที่กำลังศึกษาระดับชั้นวิทยาลัยในสาขาภาพยนตร์ ผู้อยู่เบื้องหลังคนตามเก็บสถานที่จริงในการถ่ายหนัง นักศึกษาหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Thomas Duke ได้เริ่มใช้อินสตาแกรม @steppingthroughfilm ครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2017 เพื่อแชร์ในสิ่งที่เขารักในการถ่ายภาพในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ จนถึงปัจจุบันนี้เขามีผู้ติดตามถึง 15,410 คนและได้ไปเยี่ยมชมสถานที่ถ่ายทำจริงมากกว่า 150 ที่ทั่วโลก!! และได้ให้สัมภาษณ์พร้อมกับบอกเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเลือกทำในสิ่งนี้ตลอดเวลาเกือบปีกว่า? “ทุกอย่างที่ออกมาเป็นภาพที่คุณเห็นมันอยู่ในหัวของผมหมดแล้ว ผมชอบที่จะท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ และเชื่อมโยงมันไปในฉากของภาพยนตร์ที่ผมรัก” ฉากหลุมฝังศพของด็อบบี้ ในภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ และเครื่องรางยมทูตภาค 1 (2010) สถานที่ : ชายหาด Freshwater West ที่ เพมโบรคเชอร์ ประเทศเวลส์ Love Actually (2003) สถานที่ : South Bank, ลอนดอน “ถือเป็นวันที่ยาวนานมาก ผมตื่นมาตอนตี 4 และไปยังสนามบินฮีทโธรว์เพื่อมองเทอร์มินอลที่ใกล้เคียงกับฉากในเรื่อง Love Actually มากที่สุด” “หลังจากนั้นผมก็เดินทางต่อในลอนดอน เพื่อถ่ายฉากอื่นๆ ที่เหลือในเรื่องนี้…
-
eBay ไม่ยอมให้ลงประมูล ‘รถ Fake Taxi’ ด้วยกฎเว็บไซต์ว่าห้ามขาย น้ำ…ของมนุษย์!?
ใครที่เข้ามาอ่านแล้วงงว่า ‘Fake Taxi’ คืออะไร หรือมันหมายถึงรถแท็กซี่ปลอมเหรอ แท้จริงแล้วเจ้าเฟคแท็กซี่ก็คือรถแท็กซี่รุ่นโบราณที่ใครเป็นแฟนคอหนังผู้ใหญ่เห็นแล้วจะต้องคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะเจ้ารถเหล่านี้เคยถูกใช้สำหรับการถ่ายทำหนังผู้ใหญ่ของวงการอุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่ชื่อดังจากฝั่งยุโรป แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ได้มีข่าวเปิดตัวไปแล้วว่ามันถูกประมูลขายลงบน eBay และที่ทำให้แฟนๆ ต่างตื่นเต้นเพราะมันเคยถูกใช้มาแล้วอย่างโชกโชนอีกต่างหาก แต่ดูเหมือนว่าคนที่อยากได้มันจะต้องผิดหวังเพราะล่าสุด eBay ได้ปิดหน้าการประมูลไปเรียบร้อย ทำให้แฟนๆ ต้องชวดเจ้ารถเฟคแท็กซี่ไป อ่านข่าวเพิ่มเติม : Fake Taxi เปิดประมูลรถแท็กซี่รุ่นดั้งเดิม ผ่านการใช้จริงมาแล้ว แฟนพันธุ์แท้ต้องไม่พลาด! เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019 หลังเปิดการประมูลรถดังกล่าวที่ราคา 800 ปอนด์ (33,500 บาท) จนล่าสุดก่อนที่จะมีการปิดหน้าเว็บประมูลลง มียอดคนร่วมประมูลทั้งหมด 180 คน และราคาขึ้นไปอยู่ที่ 65,900 ปอนด์ (2,770,000 บาท) จนกระทั่งวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019 ที่ผ่านมาหลังวันที่ประกาศขายประมูลบน eBay แค่วันเดียว มันก็ถูกปิดหน้าประมูลลง หากเข้าไปที่หน้าขายเฟคแท็กซี่บน ebay จะเห็นว่ามันขึ้นว่าเกิดการขัดข้องและหาสินค้าดังกล่าวไม่เจอ ถึงแม้ตอนแรกคนส่วนใหญ่คิดว่าคงมีคนแจ้งให้ลบการประมูลดังกล่าวลง แต่ที่จริงแล้วทางเว็บไซต์ต่างหากที่เป็นคนปิดการประมูลเนื่องด้วยเหตุผลที่ฟังดูแล้วถือว่าค่อนข้างแปลกทีเดียว…
-
Jordyn Woods เพื่อนซี้ Kylie ให้สัมภาษณ์แล้ว หลังเธอ ‘เล่นชู้’ กับสามีของ Khloe
ก่อนหน้านี้ที่กลายเป็นข่าวดังกรณีเพื่อนรักของ Kylie Jenner แม่สาว Jordyn Woods ดันไปกุ๊กกิ๊กกับ Tristan Thompson สามีของ khloe kardashian จึงเกิดเป็นเรื่องขึ้นมาว่า ‘เพื่อนสนิทสาวดันไปเป็นชู้กับสามีของพี่สาวตัวเอง’ โดยก่อนหน้ามีเพียงแค่ Khloe กับเพื่อนๆ ของเธอเท่านั้นที่ออกมายืนยันว่าทั้งคู่แอบมีความสัมพันธ์แบบลับๆ กันส่วน Kylie เองได้ขอให้เพื่อนสาว Jordyn เก็บของออกจากบ้านแสดงถึงความขัดแย้งว่าทุกอย่างน่าจะจริง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ.2019 Jordyn ได้สัมภาษณ์กับรายการ Red Table Talk เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในรายการสัมภาษณ์นี้เธอถึงกับน้ำตาแตกเลยทีเดียว… อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม : สรุปไทม์ไลน์ความสัมพันธ์ ‘Kylie vs Jordyn’ มหากาพย์เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Jordyn ได้เผยหมดเปลือกถึงสาเหตุทั้งหมดที่ทำให้เธอกับเพื่อนซี้ต้องแตกคอกัน ทุกอย่างเริ่มมาจากคืนหนึ่งหลังจากเธอเที่ยวเสร็จแถวย่านลอสแอนเจลิส และบังเอิญไปเจอ Tristan ที่บาร์แห่งหนึ่งเข้าพอดี เธอบอกอีกว่าปกติแล้วมันถือเป็นวัฒนธรรมของเหล่าคนมีชื่อเสียง ที่มักจะชวนไปงานเลี้ยงปาร์ตี้หลังเลิกงาน และด้วยความบังเอิญเธอบอกว่าสถานที่จัดปาร์ตี้ดันเป็นบ้านส่วนตัวของ Tristan “ฉันไม่ได้นึกเลยด้วยซ้ำว่าฉันไม่ควรจะมาที่นี่ และแค่การที่ฉันคิดแบบนั้นถือเป็นความผิดพลาดตั้งแต่ก้าวแรกเลย” เธอได้ออกมาปฏิเสธกรณีสำนักข่าว Hollywood Unlocked รายงานว่าเห็นเธอและ Tristan…
-
ยายขึ้นนั่งบนแผ่นน้ำแข็งโพสท่าเป็นเอลซ่า แต่โดนน้ำซัดออกทะเลไปนู้น ช่วยยายด้วยยยยยย
ใครๆ ก็รักราชินีเอลซ่า ก็ดูพลังวิเศษของนางสิ ควบคุมน้ำแข็งได้ สร้างหิมะได้ ยิ่งในบ้านเมืองที่อากาศร้อนตับแลบแบบประเทศไทย ใครๆ ก็คงอยากได้พลังวิเศษแบบนั้นมาทำให้อากาศเย็นลงแหละ ต้องยอมรับนะว่าภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Frozen นั้นเป็นที่ชื่นชอบในหมู่เด็กๆ และคนรักดิสนีย์เอามากๆ ความจริงจะบอกว่าคนทุกเพศทุกวัยก็สามารถมีจินตนาการได้ และอาจจะต้องดูพลังความพยายามของคุณยายคนนี้เป็นตัวอย่างด้วย Jökulsárlón Lagoon ประเทศไอซ์แลนด์ คุณยายคนนี้มีชื่อว่า Judith Streng มาจากรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เธอไปเที่ยวชม Jökulsárlón Lagoon ที่ประเทศไอซ์แลนด์กับลูกชาย Rod Streng และในตอนนั้นเองที่เธอสังเกตว่ามีน้ำแข็งก้อนหนึ่งมีรูปร่างคล้ายกับบัลลังก์เลย คุณยายไม่ลังเลที่จะขึ้นไปนั่งเพื่อโพสท่าให้ลูกชายถ่ายรูปให้เป็นที่ระลึก โดยที่ทั้งเธอและลูกไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะมันก็ดูปกติและปลอดภัยดี ความหนาวไม่ทำให้เดือดร้อนสักเท่าไหร่ แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจนได้เมื่อจู่ๆ มีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามาแล้วทำให้ก้อนน้ำแข็งที่ Judith นั่งอยู่ลอยละล่องออกสู่แกรนด์ไลน์ไปนู้น ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตาเดียวหลังจากที่ Rod ถ่ายรูปเสร็จเท่านั้น “ฉันคิดว่ามันปลอดภัยนะ เพราะก่อนหน้าก็มีคนอื่นๆ มานั่งถ่ายรูปโดยไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่อาจเป็นเพราะฉันตัวเบาก็ได้นะ มันเลยลอยออกทะเลไปง่ายๆ ซะแบบนั้น” “คุณรู้มั้ยว่าฉันน่ะอยากจะลองเป็นราชินีมาตลอดเลย แบบว่า ไม่เอาน่าาา มันเป็นโอกาสของฉันเลยนะ!” Judith ให้สัมภาษณ์กับ ABC News เลทอิทโกววว…
-
คุณครูรับดูแลลูกของนักเรียนให้ระหว่างคลาส เพื่ออยากให้นักเรียนจดโน้ตได้อย่างถนัด!!
กลายเป็นเรื่องไวรัลที่ชวนให้มีรอยยิ้มจริงๆ สำหรับเหตุการณ์น่ารักๆ ที่เกิดขึ้นในวิทยาลัยของประเทศสหรัฐฯ เมื่อมีคุณครูท่านหนึ่งอาสาอุ้มเด็กน้อยซึ่งเป็นลูกของนักเรียนให้ เพื่อที่นักเรียนจะได้จดเลคเชอร์ได้อย่างถนัดมากยิ่งขึ้น!! คุณครูนามว่า Nathan Alexander คุณครูสอนคณิตศาสตร์ ณ วิทยาลัย Morehouse College รัฐจอร์เจีย ถูกจับภาพได้ขณะเขากำลังกระเตงเด็กน้อยคนหนึ่งไว้ที่หน้าอก แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ทำก็คือสอนหนังสือนักเรียนไปด้วย ภาพของคุณครูที่กลายเป็นไวรัล เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขาแต่อย่างใด แต่เป็นลูกของนักเรียนชายคนหนึ่งที่ต้องพาลูกมาโรงเรียนด้วย เนื่องจากเขาไม่มีคนดูลูกให้ในเวลาที่มาเรียนนั่นเอง “นักเรียนคนหนึ่งมาเข้าคลาสวันนี้พร้อมกับลูกของเขาเพราะไม่มีใครดูลูกให้ คุณครู Nathan Alexander จึงพูดออกมาว่า ‘เดี๋ยวผมดูลูกคุณให้เอง คุณจะได้จดโน้ตได้ดียิ่งขึ้น” ทวิตเตอร์ของ Nick Vaughn นักเรียนคนหนึ่งในคลาสกล่าว ทวิตเตอร์ที่เผยแพร่ภาพของคุณครูคนเก่ง ภาพของคุณครูกลายเป็นไวรัลที่มียอดกดไลก์สูงถึง 42,000 ครั้ง แถมยังได้รับการรีทวีตอีกนับหมื่นเลยทีเดียว “เขาไม่เพียงแต่สอนทั้งคาบด้วยเด็กน้อยที่ยังอยู่ในอ้อมอกนะ เขายังอยู่ต่อหลังเลิกเรียนเพื่อช่วยตอบคำถามให้กับนักเรียนที่สงสัยในบทเรียนที่เขาสอนด้วย และในเวลานั้นเด็กคนนี้ก็ยังอยู่กับเขาอยู่เลย” Nick กล่าวเสริม คุณครูออกมากล่าวขอบคุณ นอกจากนี้ก็ยังมีนักเรียนคนอื่นๆ ของคุณครูกล่าวชื่นชมเขาที่ทุ่มเทเสียสละตัวเองตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นอะไรที่ช่วยเหลือนักเรียนได้มากๆ เลย “@professornaite เขาคือหนึ่งในคุณครูคนโปรดของฉัน เขาห่วงใยนักเรียนอย่างแท้จริง และมักจะเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือนักเรียนในเรื่องที่ช่วยได้อยู่เสมอ” “ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากขอแสดงความเคารพอย่างสูงจริงๆ” นักเรียนคนหนึ่งกล่าว…
-
สามีทะเลาะกับภรรยา หันไปคว้าปังตอ ‘ตัดนิ้วตัวเอง’ เพราะรู้ว่าทำใจทำร้ายภรรยาไม่ลง…
โดยปกติแล้วเวลาที่เวลาที่คู่สามี – ภรรยาทะเลาะกัน เราจะเห็นข่าวต่างฝ่ายต่างทำร้ายอีกฝ่ายกันจนเป็นภาพชินตา แต่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้อาจทำให้ความคิดเช่นนี้ของคุณเปลี่ยนไป เพราะว่ามีชายคนหนึ่งตัดสินใจ ‘ตัดนิ้วตัวเอง’ ระหว่างที่ทะเลาะกับภรรยา และที่เขาทำอย่างนั้นก็เนื่องจากว่าเขาไม่สามารถทำใจทำร้ายภรรยาได้… เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่เมืองหลานโจว มณฑลกานซู่ ประเทศจีน เมื่อชายคนหนึ่งถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลจากการที่เขาตัดนิ้วมือของตัวเองถึง 4 นิ้วในขณะที่ทะเลาะกับภรรยาอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนที่บ้าน ชายวัย 35 ปีคนนี้ได้บอกกับสื่อท้องถิ่นถึงสาเหตุที่ทำเช่นนี้ ซึ่งนั่นก็เพราะว่าเขาต้องการจะคลายความโมโหในเวลานั้นนั่นเอง “ผมรู้ว่าผมไม่ควรที่จะทุบตีหรือทำร้ายภรรยาของผม ผมเลยหันไปคว้าปังตอที่อยู่ข้างหลังมาตัดนิ้วของตัวเอง ผมทำสิ่งที่โง่เง่าจริงๆ” ในเวลาต่อมาคุณหมอที่พูดถึงอาการของชายคนนี้ โดยอธิบายว่านิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนางและนิ้วก้อยของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนถึงกระดูก แต่ว่าด้วยความที่ภรรยาของเขารีบนำตัวมาส่งอย่างเร่งด่วน จึงทำให้คุณหมอสามารถต่อนิ้วทั้งหมดกลับคืนได้ “เราได้ทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนเพื่อเชื่อมต่อนิ้วชี้และก็ทำมันได้สำเร็จ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ต้องแจ้งว่าเขาอาจใช้งานได้อย่างไม่ 100% เต็มในอนาคตแน่นอน” ทีมแพทย์กล่าว ในขณะนี้ทางคุณสามีกำลังนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลหลังจากการผ่าตัด ซึ่งเขาก็บอกว่าทั้งตัวเองและภรรยาต่างก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น… คลิปวิดีโอของเหตุการณ์นี้ (ดูไม่ได้กดที่นี่) ที่มา: dailymail
-
ชายอ้างตกเป็นเหยื่อ ‘ทาสเซ็กส์’ ให้กับวิญญาณ ต้องใช้กระดองเต่าไว้ใต้หมอนป้องกัน!?
แม้ว่าเรื่องของสิ่งลี้ลับสิ่งที่มองไม่เห็นจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่ก็มีคนมากมายที่สามารถสัมผัสได้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะมีอยู่จริงผ่านสื่อสัมผัสต่างๆ อย่าง รูป รส กลิ่นหรือเสียงที่ได้เจอ… ซึ่งหนึ่งในคนกลุ่มที่ว่านี้ก็คือชายคนหนึ่ง ที่เขาอ้างว่าเขาได้เจอดีกับวิญญาณร้ายเข้าให้ และต้องทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก จากการตกเป็นทาสเซ็กส์ให้กับวิญญาณร้ายตัวนี้ทุกวี่วันเป็นเวลานานกว่า 2 ปีเต็มๆ!! ชายวัย 39 ปีนามว่า Goxitini Mboweni ชาวเมืองลิมโปโป ประเทศแอฟริกาใต้ อ้างว่าเขาตกเป็นทาสเซ็กส์ให้กับวิญญาณตัวหนึ่งที่มาเยี่ยมเยียนบ้านของเขาทุกวันตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แล้วมันก็เมคเลิฟกับเขาตลอดทั้งคืนจนไม่ได้หลับได้นอน… แต่ว่าเขาก็ค้นพบวิธีที่จะหยุดยั้งความกระหายของผีตัวนี้ได้ จากการที่บรรพบุรุษมาเข้าฝันบอกความลับที่สามารถนำมาใช้หยุดยั้งเจ้าวิญญาณตัวนี้!! “ผมตกเป็นทาสเซ็กส์ให้กับ tokoloshe (สัตว์ตำนานของแอฟริกา) จอมกำหนัดเป็นระยะเวลานานเกินไปแล้ว และผมก็แฮปปี้มากๆ ที่บรรพบุรุษมาบอกถึงวิธีหยุดเจ้าสิ่งไร้หัวใจที่ว่านี้” “พวกเขาบอกกับผมว่าผมควรไปที่พุ่มไม้แห่งหนึ่งทันทีที่ตื่นนอน ที่นั่นผมจะได้พบกับซากเต่าที่ตายแล้วตัวหนึ่งถูกฝังอยู่ใต้ต้นไม้ จากนั้นให้เอากระดองมันมาไว้ที่ใต้หมอนทุกๆ คืน” “เช้าวันต่อมาหลังจากที่บรรพบุรุษมาบอกวิธีนี้ ผมก็ทำตามทันทีแล้วก็เป็นเซอร์ไพรส์มากๆ ที่ผมได้เจอเต่าถูกฝังไว้ใต้ต้นไม่จริงๆ!! ผมจึงใช้มีดเลาะตัวเต่าออกแล้วเอากระดองไว้ใต้หมอนตามคำแนะนำ” “ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผมก็บอกลากับเจ้าผีร้ายตัวนั้นไปเลย เท้าของมันไม่กล้าย่างกรายเข้าห้องนอนผมอีกแม้แต่น้อย” Mboweni กล่าว นอกจากนี้นาย Goxitini ยังเล่าด้วยว่าเขาเผชิญกับภัยจากผีมาตั้งแต่ปี 2017 แล้วก็เพิ่งจะสิ้นสุดลงเมื่อปีที่ผ่านมาด้วยกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์อันนี้ “บรรพบุรุษบอกให้ผมเอามันติดตัวไปด้วยเวลาที่ไปหมู่บ้านอื่น พวกเขาบอกว่าผมควรมัดมันไว้กับหลังแล้วซ่อนไว้ใต้เสื้อ เพราะมันจะทำหน้าที่เป็นเครื่องรางของขลังได้ด้วย” Goxitini กล่าวปิดท้าย …
-
รัสเซียเตรียมปล่อยบรรดาลูก ออร์ก้า เบลูกา ‘ผิดกฎหมาย’ เพราะป๋าลีโอนาร์โดช่วย!!
ทางการประเทศรัสเซียได้เตรียมการปล่อยเหล่าวาฬจำนวนกว่า 100 ตัว ด้วยความช่วยเหลือของนักแสดงดัง ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ที่ขอให้คนทั่วโลกช่วยกันร่วมลงชื่อเสนอให้การปล่อยครั้งนี้สำเร็จจนได้ นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมใช้เวลาหลายเดือนในการเรียกร้องให้มีการปล่อยวาฬเหล่านี้กับสู่ธรรมชาติของพวกมัน เนื่องจากพวกมันถูกกักขังไว้ในบ่อที่คับแคบและมีพื้นที่ไม่มากพอ และนักเคลื่อนไหวได้ตั้งชื่อบ่อพวกนี้ว่า “กรงขังวาฬ” ส่วนสถานที่ในการกักขังวาฬอยู่ที่ท่าเรือแปซิฟิก เมืองนาโคกา ประเทศรัสเซีย ซึ่งมีถึง 4 บริษัทด้วยกันที่ถูกปรับเงินแล้วจากข้อหากักขังวาฬแบบผิดกฎหมาย ขณะที่บริษัทเหล่านี้เคยมีประวัติในการขายส่งสัตว์สำหรับสวนสนุกก่อนหน้านี้อีกด้วย สำนักงานความมั่นคงกลางของรัสเซียเป็นผู้ตั้งข้อหาให้บริษัทดังกล่าว และดูเหมือนว่าจะเป็นคำสั่งโดยตรงจากประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูตินเอง โพสต์ที่ ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ขอร้องให้ทุกคนและทุกฝ่ายช่วยกันลงชื่อปล่อยวาฬเพชฌฆาตและวาฬเบลูกา Please sign this petition and join me in speaking out against the inhumane capture of orcas and belugas in Russia. https://t.co/OED9zJ9fnz — Leonardo DiCaprio (@LeoDiCaprio) February 26, 2019 ตามกฎหมายของประเทศรัสเซียแล้วอนุญาตให้สามารถกักวาฬในบ่อตามขนาดมาตรฐานที่กำหนดได้ และต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาทางวิทยาศาสตร์…
-
“มัมมี่ครูเซเดอร์” อายุ 800 ปี ถูกคนร้ายบุกเข้าไปตัดและขโมยศีรษะ จากในโบสถ์ที่ไอร์แลนด์
เมื่อวันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาโบสถ์เซนต์ไมเคิลที่เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ได้มีการแจ้งความกับตำรวจว่าถูกคนร้ายไม่ทราบชื่อและหน้าตาบุกเข้ามาทำลายมัมมี่โบราณ และขโมยชิ้นส่วนบางส่วนไป จากคำให้การของเจ้าหน้าที่ในโบสถ์พวกเขาพบว่าห้องเก็บของใต้ดินของโบสถ์ถูกใครบางคนบุกเข้าไปในช่วงบ่ายวันจันทร์ ก่อนที่จะพบว่ามัมมี่ “The Nun” ที่มีอายุ 400 ปี และมัมมี่ “The Crusader” ที่มีอายุ 800 ปีของโบสถ์นั้นมีร่องรอยการถูกทำให้เสียหายอยู่ ทางโบสถ์ได้รายงานกับตำรวจว่ามัมมี่ The Nun นั้นถูกหักส่วนหัวไป 180 องศา ส่วนมัมมี่ The Crusader นั้นถูกตัดศีรษะออกจากลำตัว ก่อนที่จะขโมยส่วนศีรษะออกจากโบสถ์ไป มัมมี่ The Crusader นั้น ถูกเชื่อโดยเหล่านักโบราณคดีว่าเป็นหนึ่งในทหารที่เข้าร่วมสงครามครูเสดครั้งที่ 4 ในช่วงปี 1202-1204 ซึ่งกลายเป็นมัมมี่ไปตามธรรมชาติจากการที่ร่างของเขาถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของใต้ดินที่ทำจากอิฐหินปูน และดูดเอาความชื้นในอากาศไปจนหมด มัมมี่ทั้งของตัวนี้นับว่าเป็นมัมมี่ที่มีความสำคัญสำหรับโบสถ์แห่งนี้มาก เพราะไม่เพียงแต่มัมมี่ทั้งสองจะมีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ แต่มัมมี่เหล่านี้ยังนับว่าเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวหลักของโบสถ์เลยด้วย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มัมมี่ในโบสถ์แห่งนี้ถูกทำลายแต่อย่างใด เพราะในปี 1996 เอง ห้องเก็บของใต้ดินในโบสถ์ก็เคยถูกเด็กๆ ในพื้นที่บุกเข้าไป “เล่นฟุตบอล” จนมัมมี่เสียหายไปจำนวนหนึ่งมาแล้ว…
-
คุณพ่อนักบิน ประดิษฐ์ ‘เครื่องบินของเล่น’ ขนาดย่อม ส่งต่อความฝันให้ลูกชายตัวน้อย
เมื่อตั้งคำถามกับเด็กว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร?” คำตอบที่ได้ก็มักจะมีอาชีพ ‘นักบิน’ อยู่ในนั้นเสมอ แต่หากความฝันนั้น ใช่ว่าจะสำเร็จได้โดยเร็ววัน คุณพ่อคุณแม่หลายคนจึงเติมเต็มความฝันให้ลูกด้วย ‘ของเล่น’ ที่เสริมสร้างพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก เช่นเดียวกับที่คุณพ่อนักบินคนนี้ได้ทำให้กับลูกชายตัวน้อย Chris Jewett อดีตนักบินกองทัพอากาศสหรัฐ (United States Air Force) ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ได้ส่งต่อความฝันของเขาให้ลูกชาย Axel Jewett วัย 3 ขวบ ด้วยการประดิษฐ์ ‘เครื่องบินของเล่น’ ขนาดย่อมให้ลูกชาย คุณพ่อ Chris ได้วางแผนประกอบเครื่องบิน Gee Bee peddle plane โดยเริ่มจากหาอุปกรณ์ตามแบบโครงสร้างของเครื่องบิน และลงมือประกอบให้เสร็จภายในหกเดือน ตลอดช่วงระยะเวลาในการสร้างเครื่องบินของเล่นลำนี้ขึ้นมา Chris มีลูกชายตัวเล็กเป็นผู้ช่วย Axel รับหน้าที่ในการขัดไม้และระบายสี ทำให้โปรเจกต์เล็กๆ ของทั้งคู่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา . . จนในวันคริสต์มาสในปีที่ผ่านมา เครื่องบินของทั้งคู่ก็สำเร็จ! …
-
Johnny Depp ฟ้องอดีตภรรยา Amber Heard ข้อหาหมิ่นประมาทเรียกเงิน 50 ล้านดอลลาร์
แฟนๆ ป๋าเดปป์คงจำกันได้ว่าเมื่อปี 2016 นั้นมีข่าวดังครึกโครมว่า Johnny Depp หรือป๋าเดปป์นั้นถูกภรรยา Amber Heard ลุกมาแฉว่าใช้กำลังทำร้ายร่างกายเธอ ขว้างโทรศัพท์มือถือใส่หน้า แต่คดีในคราวนั้นพลิกผันอย่างหนัก Amber เพราะทั้งพยานและหลักฐานของเธอนั้นอ่อนมาก เธอโดนกระแสสังคมตีกลับว่าจัดฉากใส่ร้ายอดีตสามี แผลบนหน้าก็ใช้เครื่องสำอางตกแต่งขึ้นมาเอง และทำทุกอย่างไปเพราะหวังผลประโยชน์บางอย่างจากการฟ้องหย่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 มีนาคม 2019 Johnny Depp ได้ทำการฟ้องร้องอดีตภรรยา Amber Heard ในข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอ้างอิงจากบทความที่ Amber เขียนลงใน Washington Post เมื่อเดือนธันวาคม 2018 ในบทความเธอเขียนเล่าว่าเธอถูกทำร้ายร่างกาย มีการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว แต่สังคมกลับเข้าข้างผู้ชาย และเธอที่เป็นเหยื่อกลับถูกกล่าวโทษ โดยเธอเขียนบทความทำนองนี้มาหลายครั้งแล้ว ทางด้านทนายความของ Depp นั้นก็ได้อ้างว่าข้อกล่าวหาที่เธอบอกว่าเขาทำร้ายเธอนั้นล้วนแต่เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น ความบริสุทธิ์ของ Depp สามารถพิสูจน์ได้ด้วยพยานบุคคลเป็นนายตำรวจ 2 นายที่ได้รับแจ้งเหตุ คลิปจากกล้องวงจรปิด 87 คลิป…
-
ชม ‘แสงไฟนีออน’ ยามค่ำคืนในกรุงโตเกียว ผ่านรูปถ่ายอันงดงาม ฝีมือช่างภาพชาวอิตาลี
เมื่อพูดถึง ‘ประเทศญี่ปุ่น’ หลายคนนึกถึงภาพบรรยากาศบ้านเมืองอันแสนอบอุ่น โตเกียวทาวเวอร์ ดอกซากุระ หรืออาหารจานยักษ์ต่างๆ แต่น้อยครั้งนักที่เราจะจินตนาการถึงภาพยามค่ำคืนของสถานที่แห่งนี้ Davide Sasso เจ้าของภาพถ่ายโปรเจกต์ ‘Tokyo Dream Distance’ ได้ถ่ายภาพประทับใจยามค่ำคืนในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เอาไว้ได้อย่างงดงาม การมาเยือนในครั้งนี้เป็นความฝันของเขาตั้งแต่ยังเด็ก เขาใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ในการถ่ายรูปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น โดยเฉพาะภาพถ่ายแสงไฟยามค่ำคืนในเมืองใหญ่ Davide เล่าว่าเขาชอบถ่ายรูปในคืนที่ฝนตก เพราะเงาที่สะท้อนจากที่ต่างๆ ทำให้ภาพของเขามีสีสันแปลกตา เขาอยากให้มันมีกลิ่นอายของภาพยนตร์เรื่อง Blade Runner หรือ Akira ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดของเขา ผลงานของ Davide จะเป็นอย่างไรนั้น ตามเรามาดูพร้อมๆ กันเล๊ยยย… ตามตรอกซอกซอยในกรุงโตเกียว . ร้านค้าต่างๆ มีแสงไฟสีสันสดใส . . บนท้องถนนในเมืองใหญ่ . แหล่งช้อปปิ้งที่ยังคงคึกคักยามค่ำคืน . . . บรรยากาศของคืนหลังฝนตก . …
-
เผยภาพประทับใจของบัณฑิตใหม่ บินข้ามประเทศเพื่อ ‘ถ่ายรูปกับคุณตา’ ที่บ้านเกิด
‘วันรับปริญญา’ นับเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตนักศึกษาที่ใครหลายๆ คนต่างเฝ้ารอ หลังจากที่ทุ่มเทกับการเรียนอย่างหนัก ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัยใช้เวลาไปกว่าหนึ่งส่วนสี่ของชีวิตเลยทีเดียว ในวันสำคัญแบบนี้คนที่ตื่นเต้นไม่แพ้เหล่าบัณฑิตก็คงเป็นเหล่าพ่อแม่ญาติพี่น้องที่ขนกันมาแสดงความยินดีกันถ้วนหน้า ต่างกับบัณฑิตสาวคนนี้ที่บินกลับจากต่างประเทศมาถ่ายรูปกับคุณตาถึงบ้านเกิด Ranie เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย เมื่อจบการศึกษาเธอก็อยากจะมีรูปคู่กับคุณตาสักใบ แต่คุณตาไม่สามารถเดินทางไกลๆ ไปหาเธอในวันรับปริญญาได้ เพราะปัญหาด้านสุขภาพ ตั้งแต่เด็กจนโต คุณตาเป็นคนที่ดูแลเธอมาโดยตลอด เนื่องจากพ่อแม่ของเธอต้องทำงานหนัก Ranie จึงตั้งใจว่าหลังเรียนจบ เธอจะซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางมาถ่ายรูปกับคุณตาที่บ้านเกิดที่สิงคโปร์แทน “สำหรับนักเรียนคนหนึ่งการเก็บเงินเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้านมาหาคุณตา เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก แต่ก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับฉัน” “ฉันเชื่อว่าหลายคนมีเรื่องที่อยากจะทำกับคนที่รัก แต่กลับไม่มีเวลาจนพลาดโอกาสสำคัญ ซึ่งฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย” Ranie กล่าว . ไม่ว่าเธอจะโตขนาดไหน คุณตาก็ยังมองว่าเธอเป็นหลานตัวเล็กๆ อยู่ดี . มือคู่นี้ที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กจนโต หลังจากมีการเผยแพร่ภาพเหล่านี้ออกไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตหลายคนก็ได้แสดงความประทับใจต่อความผูกพันของตาหลานคู่นี้ และร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตสาวในวันจบการศึกษาของเธอ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ มีอะไรที่อยากทำกับคนที่เรารักบ้างหรือเปล่า อย่ามัวรอช้าแล้วปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปนะ ที่มา: Little Panny Photo, mothership
-
อินเดียเฮ! หลังปากีสถานปล่อยตัว ‘นักบินขับเครื่องบินรบ’ ของอินเดียเรียบร้อยแล้ว
นับเป็นเวลา 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019 หลังจากทางการของปากีสถานยิงเครื่องบินของอินเดียตกสองลำ โดยให้เหตุผลเพราะเครื่องบินของอินเดียบินรุกล้ำเส้นเขตแดนน่านฟ้าของปากีสถาน หนึ่งในนั้นมีนักบินที่ถูกทางการปากีสถานจับตัวไปและสร้างสถานการณ์ตึงเครียดให้กับสองประเทศเป็นอย่างมาก กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ.2019 ทางการปากีสถานได้ปล่อยตัว Abhinandan Varthaman นักบินชาวอินเดียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางปากีสถานได้นำตัวส่งนาวาอากาศโท Abhinandan ที่เขตชายแดนของปากีสถานช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 1 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่น ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ประชาชนอินเดียและปากี ร่วมรณรงค์ผ่าน #ProfileForPeace ไม่เอาสงคราม บนทวิตเตอร์ นาวาอากาศโท Abhinandan เป็นนักบินขับเครื่องบินรบที่มีชั่วโมงบินตลอดระยะเวลา 16 ปี ที่ทำงานให้กับทางกองทัพอากาศอินเดีย เขามาจากนครเจนไน ตอนใต้ของประเทศอินเดีย และเริ่มเข้าทำงานให้กับทางการทหารอากาศตั้งแต่ปี 2003 จากเหตุการณ์อันตึงเครียด Abhinandan ได้เผยหลังการปล่อยตัวว่า “ทางการปากีสถานดูแลผมดีมาก พวกเขามีความเป็นมืออาชีพ” หลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวเขาได้เข้าตรวจเช็กร่างกาย และจะกลับไปหาครอบครัวของเขาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนหน้าที่เขาถูกทางการปากีสถานจับนั้น ประชาชนชาวอินเดียและปากีสถานต่างพากันโพสต์ข้อความถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก หลายคนต่างแสดงความห่วงใยผ่านโลกออกไลน์ตลอดเวลา แม้แต่วันที่เขาได้รับการปล่อยตัวแล้วก็ตาม หญิงสาวคนหนึ่งได้โชว์ภาพของ Abhinandan ในการเดินขบวนแห่งหนึ่งที่ปากีสถาน…
-
Nat Geo ฉลองผู้ติดตามครบ 100 ล้านคนใน IG จัดประกวดภาพถ่ายงดงาม 10 อันดับ!!
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019 National Geographic ได้ทำการคัดเลือกผู้เข้าประกวดผ่านอินสตาแกรมทั่วโลกที่เข้าร่วมประกวดถึง 94,000 คน ภายใน 24 ชั่วโมง และได้สุดยอด 10 ภาพที่ดีสุดมาให้เราได้รับชมกัน โดยการประกวดมีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองมีผู้ติดตามอินสตาแกรมของ National Geographic ครบ 100 ล้านคน และได้ทำแฮชแท็ก #natgeo100contest เพื่อเฟ้นหาภาพประกวดจนได้มาทั้งหมด 10 ภาพด้วยกัน หลังจากนี้ก็จะทำการคัดเลือกรางวัลชนะเลิศ Grand Prize อีกครั้งในสัปดาห์หน้า จากการโหวตของผู้ชมที่ติดตามอินสตาแกรม Nat Geo อีกครั้งหนึ่ง ส่วนผู้เข้าประกวดทั้ง 10 คนที่ได้รับเลือกให้เข้ารอบ จะได้โฟโต้บุ๊คพร้อมลายเซ็นจากช่างภาพชื่อดังจาก National Geography อีกด้วย มาชมกันเลยกับ 10 ภาพของผู้เข้าประกวดที่ผ่านเข้ารอบในครั้งนี้… ภาพถ่ายของลูกลิงกอริลลาภูเขาที่กำพร้าแม่ ที่ศูนย์ Senkwekwe สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ถ่ายโดย : Amy Vitale https://www.instagram.com/p/BuGySCcAW7l/ ฉลามวาฬมีนิสัยที่เป็นของตัวเอง เจ้าฉลามวาฬตัวนี้มีนิสัยที่กล้าไม่กลัวคน และพร้อมจะเข้ามาใกล้เรือประมงทุกครั้งเพื่อทักทาย ถ่ายโดย : Cristina Mittermeier https://www.instagram.com/p/BuF_nkqFk8M/…
-
หนุ่มถ่ายคลิปข่มขืนเด็กลงเว็บมืด โดนตำรวจบุกจับขณะอยู่บนเตียงกับเด็กอายุ 5 ขวบ
อาการ “ใคร่เด็ก” นั้นเป็นอาการป่วยทางจิตที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและความต้องการทางเพศที่เป็นอันตรายและไม่ได้รับการยอมรับในสังคม แม้แต่ในเว็บไซต์ที่ให้บริการหนังผู้ใหญ่ก็ยังคอยแบนเนื้อหาเหล่านี้ออกไป แต่ก็ยังคงมีเว็บใต้ดิน หรือที่เราเรียกกันว่า “เว็บมืด” (Dark Web) ที่มีสื่อลามกเด็กหลบซ่อนอยู่มากมายในโลกไซเบอร์ น่าเศร้าที่เนื้อหาเหล่านี้ทำให้เรารู้ว่ามีการล่อลวงและทารุณกรรมทางเพศเด็กอายุน้อยเกิดขึ้นตลอดเวลาทั่วโลก เมื่อเดือนกันยายนปี 2018 นาย Kyle Fox วัย 26 ปี ถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวถึงที่พัก หลังจากเขาถ่ายคลิปตนเองข่มขืนและทารุณกรรมเด็กชายอายุ 5 ขวบ แล้วอัปโหลดมันลงในเว็บมืด จนทางตำรวจแกะรอยจนเจอ ขณะที่ตำรวจบุกเข้าไปก็พบว่านาย Fox นั้นอยู่บนเตียงกับเด็กชายอายุ 5 ขวบคนหนึ่งโดยที่เด็กชายไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเอาไว้สักชิ้น ทางศาล Kingston Crown ได้รับข้อมูลมาว่านาย Fox ใช้ “ยา” ทำให้เด็กชายคนดังกล่าวมึนงง มีสติไม่เต็มร้อย โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบโคเคนบนเส้นผมของเหยื่อ นอกจากนี้ยังพบว่านาย Fox กระทำทารุณกรรมเด็กผู้หญิงอายุ 10 เดือนคนหนึ่งเรื่อยมาจนกระทั่งเธออายุได้ 3 ขวบ นาย Kyle Fox ในคลิปวิดีโอมีสายรัดข้อมือที่มีลักษณะโดดเด่น รวมทั้งผลการวิเคราะห์เสียงพูดก็ออกมาตรงกับตัวเขา จึงเป็นหลักฐานในการบ่งชี้ว่านาย Fox…
-
ตำรวจจีนถึงกับงง เปิดกล้องวงจรปิดดูเจอ ‘คนขับ’ ชูสองนิ้วให้เพียบ เตือนอาจเกิดอุบัติเหตุได้!!
ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ในรถ ไม่แน่ว่ามันอาจจะถูกจับภาพได้โดยกล้องวงจรปิดที่ตำรวจติดเอาไว้สอดส่องดูแลท้องถนน แต่ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ตำรวจแห่งประเทศจีนได้ไปเจอเข้ากับพฤติกรรมของคนขับที่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น เพราะทันทีที่ตำรวจไปเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่ามีคนขับรถแอ็คท่าชูนิ้วสองนิ้วให้กล้องเพียบ และนั่นเป็นสิ่งที่ตำรวจบอกว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย!! เรื่องนี้ได้ถูกพบเมื่อไม่นานมานี้โดยตำรวจจราจรเมืองเยียนไถ มณฑลชานตง ได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดความคมชัดสูงบนทางด่วนแห่งหนึ่ง แล้วภาพที่ปรากฏในจอก็ทำให้ตำรวจต้องประหลาดใจ เพราะสิ่งที่พวกเขาเจอก็คือคนขับจำนวนมากชูนิ้วให้กล่องขณะที่กำลังขับขี่ยานพาหนะอยู่ หรือไม่ก็มีบางคนที่พยายามยิ้มให้กล้องเมื่อถึงจุดที่กล้องติดตั้งไว้ ในด้านของตำรวจได้เห็นว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นอะไรที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะขณะที่กำลังชูนิ้วให้กล้องหรือพยายามจะยิ้มให้ อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้นั่นเอง (เตือนเพราะห่วงนะเนี่ย) “กล้องวงจรปิดไม่ใช่กล้องถ่ายรูปที่บ้าน โปรดอย่าทำเป็นเรื่องเล่นๆ” คำที่เจ้าหน้าที่เตือนเอาไว้ โดยนอกจากการชูสองนิ้วแล้ว การทำอย่างอื่นอย่างเช่นเล่นโทรศัพท์มือถือ สูบบุหรี่ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นเดียวกัน แต่ที่มากไปกว่าเดิมคือการเล่นโทรศัพท์หรือบุหรี่อาจทำให้ถูกปรับเงินได้สูงสุด 200 หยวน (ราวๆ 960 บาท) เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอีกด้วย… ที่มา: china xinhua news
-
เปิดตัว 2 บอร์ดเกมในธีมภาพยนตร์ IT (2017) มาไขปริศนาปีศาจตัวตลกเพนนีไวส์กันเถอะ
เมื่อปี 2017 ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง IT ปีศาจตัวตลกที่ตามไล่ล่าเด็กๆ ขณะอยู่ในภาวะหวาดกลัว (ถ้าใครมีอายุหน่อยก็จะได้ดูเวอร์ชั่นของปี 1990 นะ) ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวถูกดัดแปลงจากนวนิยายในชื่อเดียวกันผลงานของ Stephen King เจ้าพ่อนิยายสยองขวัญแดนตะวันตก ในเดือนกันยายน 2019 นี้ก็เป็นกำหนดฉาย IT: Chapter 2 หนังภาคต่อที่จะมาเขย่าความกลัวตัวตลกที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจของคุณ แต่ระหว่างรอดูภาพยนตร์เรามาตื่นเต้นกับการเปิดตัวบอร์ดเกมเซ็ตใหม่จากบริษัท USAopoly ที่นำ IT มาใช้เป็นธีมถึง 2 ตัวด้วยกัน . บอร์ดเกมแรกคือ CLUE: IT เกมไขปริศนาที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นแก๊งเด็กขี้แพ้ตามสืบแผนการร้ายของปีศาจตัวตลกเพนนีไวส์ เดินทางไปบนกระดานที่มีสถานที่ต่างๆ ตามเนื้อเรื่องทั้งบ้านร้าง ห้องสมุด และโบสถ์ ค้นหาสิ่งของที่เพนนีไวส์ใช้ล่อลวงเด็กๆ ในขณะที่ต้องคอยหลบลูกโป่งสีแดงไปด้วย CLUE: IT วางขายแล้วจ้า ในราคา 39.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ (1,270 บาท) บอร์ดเกมตัวที่ 2 คือ Monopoly: IT เป็นเกมเศรษฐีในธีม IT…
-
ยานอวกาศอิสราเอล ที่เดินทางไปดวงจันทร์ บรรทุกประวัติศาสตร์มนุษย์ร่วม 30 ล้านหน้าไว้
หากเพื่อนๆ เป็นคนที่ติดตามข่าวสารด้านวงการอวกาศ เชื่อว่าหลายคนคงจะได้ยินข่าวการปล่อยยาน Beresheet lander ขึ้นไปบนดวงจันทร์ของทางอิสราเอล เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 กันมาบ้าง ว่าแต่ทราบกันหรือไม่ว่าบนยานที่ถูกปล่อยออกไปนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่อุปกรณ์สำรวจดวงจันทร์ธรรมดาๆ เท่านั้น แต่ทาง SpaceIL (องค์กรทางอวกาศของอิสราเอล) ได้มีการแอบใส่ “แคปซูลกาลเวลา” ลงไปบนตัวยานด้วย เจ้าแคปซูลกาลเวลาที่ว่านี้ คือแผ่นดิสก์นิกเกิลซึ่งมีความหนา 40 ไมครอน 25 แผ่น ซึ่งออกแบบมาให้ทนทานต่อสภาพพื้นที่บนอวกาศ และเก็บเอาข้อมูลประวัติศาสตร์ของมนุษย์ร่วม 30 ล้านหน้าเอาไว้ นี่เป็นแหล่งข้อมูลที่ได้รับชื่อว่า “Lunar Library” หรือห้องสมุดดวงจันทร์ ออกแบบมาเพื่อใช้เป็น “แผนสำรอง” ที่จะป้องกันไม่ใช้ข้อมูลของมนุษยชาติหายไป ซึ่งจัดทำขึ้นโดยมูลนิธิ Arch Mission Foundation โดยภายในแผ่นดิสก์ที่ส่งไปนี้จะมีทั้งข้อมูลของ รูปภาพ หนังสือ หน้าเว็บวิกิพีเดีย เอกสารข้อมูลสำคัญๆ ภาพวาด คู่มือทางวิทยาศาสตร์ อุปกรณ์ช่วยแปลภาษา บทเพลง หรือแม้กระทั่งรูปของเด็กๆ จากรายงานของสื่อต่างประเทศแผ่นดิสก์นี้สามารถอ่านได้ด้วยวิธีการอันหลากหลาย ตั้งแต่การใช้แว่นขยายธรรมดาๆ…
-
หนุ่มสุดงงเข้าปั๊มไปซื้อ ‘น้ำดื่ม’ ให้แฟน ถูกขอให้แสดงบัตรประชาชนแสดงอายุ!?
สำหรับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่างๆ มันคงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีการแสดงบัตรที่บ่งบอกอายุของผู้ซื้อตามกฎหมายในประเทศนั้นๆ ว่าจะสามารถซื้อได้หรือไม่ แต่ว่ามีหนุ่มคนหนึ่งที่ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เพราะเขาเข้าปั๊มน้ำมันไปเพียงแค่ซื้อ ‘น้ำดื่ม’ ให้แฟน แต่กลับถูกขอให้ต้องแสดงบัตรประชาชนซะอย่างงั้น!! เรื่องราวสุดแปลกประหลาดที่ว่านี้เกิดขึ้นกับหนุ่มวัย 20 ปีชาวอังกฤษชื่อว่า Joshua Tacey โดยเขาเล่าว่าในวันนั้นเขาได้แวะปั๊มน้ำมัน Esso BP ในมณฑลลิงคอล์นเชอร์ ประเทศอังกฤษ ในเวลาประมาณบ่ายโมง จุดประสงค์ของการเข้าปั๊มน้ำมันในครั้งนี้ก็เพื่อจะไปซื้อน้ำดื่มให้กับ Lizzie Turvey แฟนสาวของเขาที่ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นัก แต่พอเขาหยิบน้ำแล้วนำไปคิดเงิน ก็ปรากฏว่าแคชเชียร์ให้เขาแสดงบัตรที่ยืนยันว่ามีอายุมากกว่า 18 ปี ทั้งๆ ที่เขาเพียงแค่ซื้อน้ำดื่มธรรมดาๆ เท่านั้นไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด “ผมเข้าไปที่ปั๊มเพื่อจะซื้อน้ำยี่ห้อ Smart Water ให้คุณแฟนที่น่าสงสาร ทว่าพอผมเอามันไปวางที่เคาน์เตอร์ แคชเชียร์คนนั้นก็ถามขอดูบัตรประชาชนของผมซะนี่” “ผมหัวเราะระเบิดออกมาเลย ผู้หญิงที่ต่อคิวผมอยู่ก็หัวเราะด้วยความสับสนด้วยเหมือนกัน ตอนแรกผมนึกว่าเป็นมุกนะ แต่เธอดูเหมือนจริงจังมากเลย” “ผมเลยถามเธอไปว่านี่มันเป็นมุกใช่ไหม เธอก็ตอบมาว่า ‘เปล่านี่ แต่คราวนี้ฉันจะยกให้คุณแล้วกัน’” “ผมแค่คิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระน่ะที่ต้องแสดงบัตรเพื่อซื้อน้ำดื่มธรรมดาๆ ผมเคยได้ยินข่าวเรื่องการขายเครื่องดื่มชูกำลังที่ต้องจำกัดอายุนะ แต่มันไม่ใช่กับน้ำเปล่า” “มันเป็นอะไรที่พูดยากจริงๆ ถ้าเราต้องเผชิญกับอากาศที่โคตรร้อนในซัมเมอร์อย่างปีที่ผ่านมา แล้วมีเด็กเดินเข้ามาซื้อน้ำเขาจะไม่สามารถซื้อได้เพราะมีอายุไม่ถึงเหรอ?” ชายผู้นี้กล่าว อย่างไรก็ตามน้ำดื่มยี่ห้อ Smart Water…
-
พาชม 15 ภาพถ่ายใต้ท้องทะเล ที่ชนะการประกวด Underwater Photographer ปี 2019
โลกใต้ท้องทะเล ถือเป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยปริศนามากมาย เพราะมนุษย์เรายังทำความรู้จักกับสิ่งที่อยู่ลึกลงไปด้านใต้มหาสมุทรได้น้อยมากๆ ฉะนั้น ‘ภาพถ่ายใต้ท้องทะเล’ จึงเป็นสิ่งที่ดูน่าสนใจ และน่าค้นหามากๆ เลยทีเดียว และในวันนี้ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข24 ก็จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพเหล่านั้นกันค่ะ เป็นผลงานการประกวดภาพถ่ายใต้ท้องทะเลในรายการ British Underwater Photographer of the Year 2019 ซึ่งพวกเขาก็เพิ่งจะประกาศรายชื่อผู้เข้าประกวดที่ชนะเลิศทั้งหมด 27 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การประกวดนี้แบ่งออกเป็นทั้งหมด 13 ประเภทด้วยกัน จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. ชื่อภาพ The Gauntlet ถ่ายโดย Richard Barnden จากอังกฤษ ชนะเลิศในประเภท Behaviour 2. ชื่อภาพ : Gentle Giants ถ่ายโดย Francois Baelen จากหมู่เกาะ Reunion ชนะเลิศในประเภท Wide Angle 3. ชื่อภาพ…
-
ทางการเยอรมนีทำการยึด ‘หมาปั๊ก’ จากการที่ครอบครัวค้างค่าภาษีไม่ยอมจ่ายซะที!?
ภาษีแลกกับน้องหมา… ได้เกิดเรื่องที่ชวนอึ้งขึ้นที่ประเทศเยอรมนี เมื่อครอบครัวแห่งหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ของทางการยึด ‘หมา’ ไปขายบนเว็บไซต์ออนไลน์ จากการที่พวกเขาติดค้างค่าภาษีและไม่ยอมชำระเสียที!! เรื่องราวแปลกประหลาดที่ว่านี้เกิดขึ้นที่เมือง Ahlen ประเทศเยอรมนี และจุดเริ่มต้นต้องย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2018 ที่ผ่านมา ในเวลานั้นเจ้าหน้าที่ของทางการได้ไปที่บ้านของครอบครัวแห่งนี้เพื่อจะทำการยึดทรัพย์ จากการที่พวกเขาติดค้างหนี้ภาษี (รวมถึงภาษีสำหรับการเลี้ยงสัตว์) กับทางเทศบาลของเมืองและไม่ยอมจ่ายเสียที ปล. การเลี้ยงหมาหนึ่งตัวในเมือง Ahlen จะต้องจ่ายค่าภาษีประมาณปีละเกือบๆ 90 ดอลลาร์ (ราวๆ 2,850 บาท) ทางครอบครัวบอกกับสื่อท้องถิ่นว่า ในตอนแรกเจ้าหน้าที่จะยึดรถเข็นสำหรับคนพิการของผู้ที่เป็นสามีไป แต่ก็ไม่สามารถนำไปได้เพราะถือเป็นกรณียกเว้น เจ้าหน้าที่จึงจำต้องมองหาสิ่งอื่นแทน แล้วพวกเขาก็เพ่งเล็งมาที่หมาปั๊กชื่อว่า Edda ที่ทางครอบครัวเลี้ยงไว้ แล้วในที่สุดก็ทำการยึดตัวมันไปเป็นที่เรียบร้อย… จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาษีก็นำเจ้า Edda ไปขึ้นขายในเว็บไซต์ eBay ด้วยราคา 750 ยูโร (ราวๆ 27,000 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าราคาปกติของหมาปั๊กที่วางขายตามท้องตลาดประมาณครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ในเวลาต่อมาผู้หญิงชื่อว่า Michaela Jordan ก็ไปเห็นเจ้าหมาตัวนี้เข้า แต่ด้วยความสงสัยว่าทำไมหมาตัวนี้ถึงได้มีราคาถูกนัก เธอจึงได้ส่งข้อความไปถามกับทางคนขายถึงเหตุผล ทางคนขาย (เจ้าหน้าที่รัฐ)…
-
เจ้าของร้านหนังสือป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล เหล่า ‘คู่แข่ง’ ในวงการเลยอาสาดูแลร้านให้
ในสังคมแห่งการแข่งขัน หลายคนถูกปลูกฝังให้เอาตัวรอดโดยการยึดผลประโยชน์ของตนเองเป็นที่ตั้ง ก่อนที่จะเห็นใจคนอื่น แต่เรายังเห็น ‘น้ำใจ’ ของเพื่อนมนุษย์ ที่แบ่งปันให้กันอยู่เสมอ เหมือนเรื่องราวต่อไปนี้ Seth Marko วัย 43 ปีและ Jennifer Powell วัย 40 ปี สองสามีภรรยา เป็นเจ้าของร้านหนังสืออิสระเล็กๆ ที่ชื่อว่า The Book Catapult ในเมืองแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา แต่แล้ววันหนึ่ง Marko ผู้เป็นสามีก็ป่วยหนัก และต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ส่วนลูกจ้างคนเดียวที่มีก็ลาป่วยเช่นกัน พวกเขาจึงต้องปิดร้านอย่างไม่มีกำหนด Ehrig-Burress หนุ่มใจดีที่ทำงานอยู่ในร้านหนังสืออีกร้านจึงอาสาเข้ามาดูแลร้านหนังสือแทน ซึ่งหนุ่มคนนี้เคยทำงานอยู่ที่ร้านของ Marko และ Powell ก่อนจะย้ายไปทำงานอีกที่ ด้วยเหตุนั้นเองเขาจึงเข้าใจระบบในร้านนี้เป็นอย่างดี Ehrig-Burress จัดการทุกอย่างภายในร้านเสมือนว่าเป็นร้านของเขาเอง และบอกกับเพื่อนๆ ในวงการร้านหนังสืออิสระว่า Margo เจ้าของร้านล้มป่วย หลายคนได้ยินดังนั้นจึงอยากช่วยเหลือเขาโดยการเข้ามาเป็นอาสาสมัครในร้านหนังสือแห่งนี้ ทุกๆ เช้า ระหว่างที่ Ehrig-Burress จะต้องเข้าไปจัดการร้านหนังสือ Library Shop ของเขาเองให้เรียบร้อยเป็นอันดับแรก หลังจากที่เตรียมร้านของตัวเองเสร็จแล้ว…
-
ARMY สาวใช้คอมพิวเตอร์ของโรงเรียน 24 เครื่องเพื่อ ‘จองบัตรคอนเสิร์ต’ วง BTS !?
ใครที่เคยมีประสบการณ์ ‘จองบัตรคอนเสิร์ต’ คงจะเข้าใจดีว่า วินาทีสำคัญแห่งการแย่งชิงบัตรนั้นเต็มไปด้วยความดุเดือดเลือดพล่านขนาดไหน แฟนคลับหลายคนจึงต้องวางแผนกันนับตั้งแต่วันประกาศราคาและผังที่นั่ง เพราะใครๆ ก็ไม่อยากพลาดโอกาสหรือเสียเงินเพื่อซื้อบัตรอัพราคาทีหลัง เช่นเดียวกับ Alexis นักเรียนสาวชาวอเมริกันวัย 19 ปีคนนี้ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ของโรงเรียนกว่า 24 เครื่อง ในการจองบัตรคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีที่เธอชื่นชอบอย่างวง BTS โดยคอนเสิร์ตที่ว่านั้นมีชื่อว่า Speak Yourself tour จัดขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2019 ณ Wembley Stadium กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ Alexis เล่าว่าเธอเกิดความคิดที่จะใช้คอมพิวเตอร์ของโรงเรียนในการจองบัตรคอนเสิร์ตหลังจากเคยที่เคยได้บัตรจากการใช้อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหลายเครื่อง คลิปการจองบัตรของเธอในครั้งนี้ (ชมคลิปไม่ได้ คลิก) please god be on our side for the next 24 hours JFJDJZNSJ pic.twitter.com/mDQABvQrJ4 — yamz⁷ | bts misser…
-
รอชมวินาทีประวัติศาสตร์ SpaceX และนาซ่า เตรียมปล่อยยาน ‘Crew Dragon’ วันนี้!!
SpaceX บริษัทสำรวจอวกาศของเอกชนที่มีผู้ก่อตั้งคือ Elon Musk ได้ร่วมมือกับองค์การนาซ่าในการปล่อยยาน Crew Dragon สำหรับขนส่งมนุษย์ โดยจะทำการปล่อยขึ้นสู่กระสวยอวกาศวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ.2019 เวลา 2.49 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่ศูนย์อวกาศ Kennedy ของนาซ่า ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา และนี่จะเป็นครั้งแรกในโลกที่นาซ่าร่วมมือกับบริษัทเอกชนในการปล่อยยานอวกาศเพื่อการขนส่งมนุษย์ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะยังไม่มีการนำนักบินอวกาศขึ้นไปพร้อมกระสวยอวกาศลำนี้ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าเราจะได้เห็นมนุษย์ได้ขึ้นยานจรวดของบริษัท SpaceX หน้าร้อนนี้ SpaceX ได้ปล่อยภาพถ่ายของจรวด Crew Dragon ลงบนทวิตเตอร์ Targeting March 2 for Crew Dragon's first flight to the @Space_Station https://t.co/oJRtDhV3aL pic.twitter.com/lLw1FJHLvI — SpaceX (@SpaceX) February 6, 2019 โครงการปล่อยยาน Crew Dragon นาซ่าได้ตั้งชื่อว่า “dawn of a new…
-
ครอบครัวลัทธิต่อต้านการฉีดวัคซีน ถูกควบคุมตัวในคอสตาริกา หลังพบว่า ‘ป่วยเป็นโรคหัด’
‘โรคหัด’ ถือเป็นหนึ่งในโรคระบาดร้ายแรงที่คร่าชีวิตของมนุษย์มามากมายหลายล้านชีวิตเมื่อครั้งอดีต แต่ในปัจจุบัน เนื่องจากเทตโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาขึ้น ส่งผลให้โรคหัดห่างหายไปจากสังคมของมนุษย์มาเป็นระยะเวลานานแถมการป้องกันก็ง่ายเสียเหลือเกิน เพียงแค่ ‘ฉีดวัคซีน’ ก็จะทำให้คุณไม่ต้องเสี่ยงกับโรคหัดอันแสนน่ากลัวนี้อีกต่อไป… แต่ในปัจจุบันมีการเผยแพร่แนวคิดผิดๆ เกี่ยวกับ ‘การฉีดวัคซีน’ ทำให้พ่อแม่หลายๆ คนในหลายประเทศ ต่างก็เริ่มหันมาปฏิเสธไม่ให้ลูกของตัวเองเข้ารับการฉีดวัคซีน จนเป็นเหตุให้ ‘โรคหัด’ เริ่มกลับมาระบาดในหลายประเทศทั่วโลกแล้วในปัจจุบัน จนทำให้องค์กรอนามัยโลก (WHO) ถึงกับเพิ่ม Anti-Vaxxers หรือ กลุ่มคนที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน ให้เป็น ‘ภัยคุกคาม’ ต่อสุขภาพของประชากรโลก!! นี่คืออีกหนึ่งเรื่องราวที่จะมายืนยันว่า ‘ลัทธิต่อต้านการฉีดวัคซีน’ กำลังกลายเป็นปัญหาที่ทั่วโลกต่างก็ต้องเผชิญ และต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน!! เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ของประเทศอังกฤษรายงานว่ามีสมาชิกครอบครัวชาวฝรั่งเศส ถูกกักตัวเอาไว้ในโรงพยาบาลในคอสตาริกา หลังจากลูกชายวัย 5 ขวบ ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ป่วยเป็นโรคหัดและเดินทางมาเที่ยวในช่วงหยุดยาว โดยเจ้าหน้าสาธารณะสุขของประเทศคอสตาริกา ให้ข้อมูลว่า ไม่มีการรายงานของเด็กในประเทศที่ป่วยเป็นโรคหัดมาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว และในปี 2014 มีเพียงแค่รายเดียวเท่านั้นที่ติดเชื้อโรคหัดซึ่งเป็นชาวต่างชาติ แต่ทว่าล่าสุดหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมายืนยันว่าโรคดังกล่าวได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เด็กชายจากครอบครัวชาวฝรั่งเศสได้นำเชื้อโรคหัดเข้ามา…
-
ประชาชนอินเดียและปากี ร่วมรณรงค์ผ่าน #ProfileForPeace ไม่เอาสงคราม บนทวิตเตอร์
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019 กลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก กรณีที่ปากีสถานได้ออกมาประกาศว่ายิงเครื่องบินแอร์ฟอร์ซของอินเดียตกถึงสองลำ และนักบินคนหนึ่งถูกจับกุมตัวไป ด้วยเหตุผลว่ายิงเพื่อเป็นการเตือนเพราะบินผ่านน่านฟ้าปากีสถาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บรรดานักวิเคราะห์ และสื่อต่างๆ มุ่งไปที่ประเด็นแบ่งแยกเขตดินแดนในพื้นที่แคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน และทั้งสองประเทศได้ประกาศทำสงครามกันถึงสามครั้งเนื่องจากกรณีดังกล่าว อ่านข้อมูลแบบเต็มๆ ได้ที่ : สรุปประเด็น ความตึงเครียดระหว่าง อินเดีย-ปากีสถาน เกิดอะไรขึ้นบนพื้นที่ชายแดนแคชเมียร์!? ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลทั้งสองฝั่งจะทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างไร แต่ดูเหมือนว่าประชาชนของทั้งสองประเทศต่างร่วมมือกันทำแคมเปญแฮชแท็กว่า #ProfileForPeace บนทวิตเตอร์เพื่อจะสื่อว่าพวกเขาไม่ต้องการสงคราม แต่ต้องการความสงบสุขต่างหาก!! คนที่เริ่มต้นทำแคมเปญนี้ครั้งแรกคือ Ram Subramanian นักผลิตภาพยนตร์โฆษณาชาวอินเดีย โดยเขาได้เริ่มแคมเปญ ProfileForPeace ตั้งแต่ปี 2016 แต่ปัจจุบันก็ได้กลับมาเป็นเทรนด์ที่นิยมบนทวิตเตอร์อีกครั้งเพราะเหตุการณ์ที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง วัตถุประสงค์ของเขาคือ อยากให้คนเข้ามาร่วมแคมเปญในครั้งนี้ด้วยการเขียนสิ่งที่ตนอยากจะนำเสนอ ในเรื่องของการยุติความขัดแย้ง และความรุนแรงในประเทศทั้งสองพร้อมโพสต์ภาพตนเองและกระดาษที่เขียนลงบนทวิตเตอร์ ประกาศทางทวิตเตอร์จากหน่วยงานความมั่นคงของปากีสถานว่าได้ยิงเครื่องบินของประเทศอินเดียตกสองลำ พร้อมทั้งจับกุมนักบินหนึ่งคน In response to PAF strikes this morning as released by MoFA, IAF crossed…
-
ยูทูบเบอร์สาวปฏิบัติภารกิจท้าดื่ม ‘ชาไข่มุก’ แกลลอนจุ 4 ลิตร ภายใน 12 ชั่วโมง!?
ยังไม่หมดกับกระแส ‘บับเบิ้ลทีฟีเวอร์’ ที่เปลี่ยนคอนเทนต์หน้าไทม์ไลน์ในช่วงนี้ให้มีแต่ ‘ชาไข่มุก’ แม้ว่าความหวานจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่สาวๆ หลายคนก็ยังเลิกดื่มไม่ได้ เช่นเดียวกันกับยูทูบเบอร์สาวที่ชื่อ Ying คนนี้ที่เรียกตัวเองว่า ‘Bobadict’ หรือ ผู้เสพย์ติดชาไข่มุก จนเกิดภารกิจท้ากินชาไข่มุก 4 ลิตร ภายใน 12 ชั่วโมง (ตั้งแต่บ่ายสอง-สามทุ่ม) Ying อาศัยอยู่ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เธอเกิดไอเดียนี้หลังจากที่เห็นสาวเอเชียดื่มชาไข่มุกเป็นแกลลอน เธอจึงมีความตั้งใจที่จะดื่มชาไข่มุกแบบนั้นบ้าง เธอจึงทำแกลลอนขนาด 4 ลิตรสำหรับใส่ชาไข่มุกขึ้นมาเอง (จริงจังประมาณนี้) และเริ่มภารกิจดื่มชาให้หมดภายใน 12 ชั่วโมง แทนการทานอาหารตามปกติ แกลลอนไข่มุก 4 ลิตร ราคา 28.74 ดอลลาร์แคนาดา (ราวๆ 693 บาท) ระหว่างที่เธอทานชาไข่มุกผู้ชมจะเห็นถึงความลำบากของเธอ Ying เล่าว่าตนเองต้องเข้าห้องน้ำทุกๆ สิบนาทีหลังจากนั้น และเริ่มปวดหัวเมื่อกินชาเข้าไปปริมาณหนึ่งในสี่ของแกลลอน แต่เธอก็ไม่ละความพยายามยังคงกินต่อไป จนหลายคนมองว่าเธอบ้าไปแล้ว…. ในที่สุดเธอก็ดื่มชาจนหมด คงเหลือแต่ไข่มุกก้นแกลลอน…
-
Apple เผย 10 อันดับภาพถ่ายด้วย ‘กล้องไอโฟน’ ที่ชนะการประกวดจากทั่วโลก
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท Apple ได้เชิญชวนทุกคนส่งภาพถ่ายกล้อง ‘ไอโฟน’ เข้าร่วมการประกวด Shot on iPhone Challenge โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ 22 มกราคม-7 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการประกวดจากหลายประเทศทั่วโลก ผู้ชนะเลิศ 10 อันดับมาจากประเทศสิงคโปร์ เยอรมนี เบลารุส อิสราเอล และสหรัฐอเมริกา โดยภาพที่ชนะการประกวดเป็นภาพทัศนียภาพอันงดงามของแต่ละประเทศ ภาพสัตว์ หรือความงดงามที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวัน มาดูกันว่ามีภาพไหนเข้าตากรรมการบ้าง… Alex Jiang จากสหรัฐอเมริกา, ถ่ายด้วย ไอโฟน XS Max ภาพถ่ายโดย Blake Marvin จากสหรัฐอเมริกา, ถ่ายด้วย ไอโฟน XS Max ภาพถ่ายโดย Darren Soh จากสิงคโปร์ ถ่ายด้วย ไอโฟน XS Max ภาพถ่ายโดย Nikita Yarosh จากเบลารุส ถ่ายด้วย…
-
สวนสนุกส่วนตัวไมเคิล แจ็คสัน กลับมาขายทอดตลาดอีกครั้ง ราคาถูกลง 2,200 ล้านบาท
หลายคนน่าจะเคยเห็นหรือได้ยินผ่านๆ มาว่า ไมเคิล แจ็คสัน ศิลปินชื่อดังเจ้าของฉายาราชาเพลงป๊อป มีสวนสนุกส่วนตัวในพื้นที่บ้านของเขาที่ตั้งอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สวนสนุก Neverland Ranch เคยถูกขายทอดตลาดในราคา 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,100 ล้านบาท) ในปี 2015 แต่ในตอนนี้ราคาลดลงมาเหลือ 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 980 ล้านบาท) สวนสนุกของไมเคิล มีพื้นที่ 2,700 เอเคอร์ ประกอบไปด้วย บ้านหลังหลัก 6 ห้องนอน 3 ห้องรับแขก, แม่น้ำและน้ำตกขนาด 3.9 เอเคอร์, สนามเทนนิส, ยุ้งฉาง และที่พักอาศัยของสัตว์อีกหลายแห่ง Kyle Forsyth หนึ่งในนายหน้าเผยถึงสาเหตุที่ราคาลงมาเยอะเป็นเพราะว่าในพื้นที่ตั้งของสวนสนุกนั้นประสบกับภัยแห้งแล้ง ทำให้ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ เขาเผยว่าสวนแห่งนี้ได้รับการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ “ความแห้งแล้งหมดลงแล้วและสวนสนุกแห่งนี้กำลังกลับมาเบ่งบานอีกครั้ง เวลานี้เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะขาย” ในปี 1980 มีรายงานเผยว่าไมเคิลใช้เงิน 19.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 618 ล้านบาท)…
-
หนุ่มฉุนจัด ลงมือตัด ‘กระเป๋าแบรนด์เนม’ ประชดพนักงานที่ ‘เลือกปฏิบัติ’ กับลูกค้า
หลายคนคงเคยได้ยินประโยค ‘Don’t judge a book by its cover’ ที่มีความหมายโดยนัยว่า อย่าตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งอาจนำไปสู่การ ‘เลือกปฏิบัติ’ ต่อผู้อื่น เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียเหตุการณ์นี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Ismail Ariffin Lepat ได้โพสต์วิดิโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อ Louis Vuitton เมื่อ Zanial Abidin เพื่อนของเขาถูกเลือกปฏิบัติจากพนักงานในร้านเพียงเพราะว่าแต่งตัว ‘ธรรมดา’ เกินไป Zanial บอกว่าตนเองอยากสลักชื่อลงไปบนกระเป๋าที่เขาซื้อจากร้านนี้เมื่อสามวันก่อน แต่พนักงานกลับปฏิเสธและปฏิบัติต่อเขาเยี่ยง ‘สุนัข’ จนตนรู้สึกโมโหและได้ขอกรรไกรจากพนักงาน หลังจากนั้น เขาก็ลงมือตัดกระเป่าแบรนด์เนมที่เขาซื้อต่อหน้าพนักงาน พร้อมกับพูดว่า “พวกเขาคงคิดว่ากระเป๋าแบรนด์เนมมีค่ากว่าศักดิ์ศรีของพวกเรา” นอกจากนั้นชาวเน็ตยังสังเกตว่ากระเป๋ารุ่นที่ Zanial สะพายติดตัวมาอีกใบคือรุ่น Louis Vuitton x Takashi Murakami Monogramoflauge Duffle Bag มูลค่า 7,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 220,500 บาท) …
-
พาชมผลงาน ‘กราฟฟิตี้’ จากศิลปินชาวกรีก ใช้ ‘แว่นสามมิติ’ เผยสามมุมมองในภาพเดียว
เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีประสบการณ์ชมหนังสามมิติในโรงภาพยนตร์ ที่เพิ่มความสมจริงโดยการสวมใส่แว่นตาที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ แต่วันนี้ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข23 จะพาทุกท่านไปดูผลงานกราฟฟิตี้ ที่ต้องใช้แว่นสามมิติในการรับชม!? Stathis Tsavalias หรือที่รู้จักกันในนาม Insane51 เป็นศิลปินชาวกรีก วัย 27 ปี เรียนอยู่ที่ Athens School of Fine Arts ผู้อยู่เบื้องหลังงานนิทรรศการทางศิลปะและเทศกาลกราฟฟิตี้ที่จัดขึ้นตามที่ต่างๆ เขายังเป็นเจ้าของผลงานภาพวาดบนผืนผ้าใบที่ชื่อว่า ‘StreetArtToday’ ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเธอร์แลนด์ นอกจากผลงานดังกล่าวแล้ว Stathis เป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินเจ้าของภาพกราฟฟิตี้ ‘Double Exposure 3D’ ที่มองได้ 2 แบบผ่านแว่นสามมิติ ที่สร้างความแปลกใหม่ ตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่พบเห็นทั่วยุโรปและอเมริกา ไปชมผลงานของเขาพร้อมๆ กันเล๊ยยยย… เมื่อชมผมงานด้วยตาเปล่า เมื่อมองผ่านเลนส์สามมิติสีฟ้า เมื่อมองผ่านเลนส์สามมิติสีแดง . . ภาพเปลี่ยนไปตามเลนส์ที่ใช้ . . หนึ่งภาพ สามมุมมอง . . .…
-
ฝูงนกแก้วอินเดีย “เสพติดฝิ่น” เป็นอย่างมาก ออกอาละวาดไล่โจมตีฟาร์มดอกป๊อปปี้ยับ
เพื่อนๆ รู้กันหรือไม่ว่าในโลกนี้ไม่มีเพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่เสพติดสารต่างๆ ได้ แต่สัตว์ชนิดอื่นๆ ก็มีอาการเสพติดได้เช่นเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่เหล่านกแก้วอินเดีย เมื่อล่าสุดนี้มีรายงานมาว่าในประเทศอินเดีย ได้มีการพบนกแก้วโม่งอินเดียที่มีอาการ “เสพติดฝิ่น” ออกอาละวาดบุกรุกไล่โจมตีฟาร์ม “ดอกป๊อปปี้” เล่นเอาชาวสวนเดือดร้อนไปตามๆ กัน โดยที่เป็นอย่างนั้นเนื่องจากต้นฝิ่นถือว่าเป็นหนึ่งในสายพันธ์ของดอกป๊อปปี้และให้สารชนิดเดียวกับที่พวกมันต้องการนั่นเอง ซึ่งการกระทำแบบนี้ของเหล่านกแก้วนั้นถือว่าสร้างความเสียหายให้กับชาวสวนเป็นอย่างมาก เนื่องจากกว่าจะปลูกฝิ่นหรือป๊อปปี้ได้ ต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก จากการขอใบอนุญาตพิเศษถึงจะทำการปลูกได้ “ดอกป๊อปปี้หนึ่งดอกจะมีฝิ่นประมาณ 20-25 กรัม และนกแก้วฝูงใหญ่ก็ลงมากินพืชเหล่านี้วันละ 30-40 ครั้ง บางครั้งถึงขนาดที่คาบต้นป๊อปปี้บินกลับไปด้วย มันส่งผลต่อการผลิตของเรามาก เราต้องเจอกับปัญหาฝนไม่ตกตามฤดู แล้วยังต้องมาเจอปัญหานี้อีก ไม่มีใครยอมฟังปัญหาของพวกเราเลย แล้วใครจะเป็นคนชดใช้สำหรับความสูญเสียของเรา?” Nandkishore หนึ่งในคนปลูกต้นป๊อปปี้กล่าว นอกจากนี้ชาวสวนก็กล่าวเพิ่มเติมว่าเคยขอความช่วยเหลือไปยังเทศบาลเมือง Madhya Pradesh เพื่อขอลำโพงมาเปิดเสียงดังๆ ขับไล่นกแก้วเหล่านี้ดูแล้ว แต่ทางการก็ปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ ทำให้ชาวสวนต้องร่วมมือกันจัดเวรยามทั้งกลางวัน กลางคืนเพื่อทำเสียงดังให้นกกลัวและหนีไปแทน “พวกเราพยายามที่จะทำเสียงดังและใช้ประทัดเพื่อให้นกกลัว แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย” Nandkishore กล่าวเพิ่มเติม ส่วนทาง Dr. R.S. Chundawat ผู้เชี่ยวชาญฝิ่นแห่ง Horticulture College ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าสำหรับนกแล้ว ฝิ่นให้ผลเหมือนที่กาแฟส่งผลต่อมนุษย์ “ฝิ่นช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่นกพวกนี้…
-
ชาวเน็ตจวกคู่รักบล็อกเกอร์ ถ่ายรูปในท่าห้อยตัวนอกรถไฟที่กำลังวิ่ง “มันอันตรายนะ”
ในโลกอินเทอร์เน็ตมีผู้คนมากมายที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากสื่อโซเชียลอย่างเฟซบุ๊ก ยูทูบ ทวิตเตอร์ หรืออินสตาแกรม และคนดังเหล่านั้นวันดีคืนดีก็ลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างจนกลายเป็นกระแสให้คนทำตามกันสนุกๆ หลายๆ คนก็ทำชาเลนจ์น่ารักๆ พอให้เราได้ขำๆ แต่ก็มีบางคนที่ชอบอะไรท้าทายจนกลายเป็นประเด็นถกเถียงบนโลกไซเบอร์เหมือนอย่างคู่รักบล็อกเกอร์แนวท่องเที่ยวคู่นี้ https://www.instagram.com/p/BrGKaWRl67a/?utm_source=ig_web_copy_link Raquel และ Miguel เป็นบล็อกเกอร์แนวท่องเที่ยวชาวโปรตุเกส ทั้งคู่ออกท่องเที่ยวแล้วถ่ายรูปสวยๆ ลงในอินสตาแกรมของตัวเองมากมายจนมีผู้ติดตามถึง 206,894 คนเลยทีเดียว ล่าสุดทั้งคู่ไปเที่ยวที่ประเทศศรีลังกา นั่งรถไฟชมวิวธรรมชาติสวยสดชื่น แฟนๆ เองก็คงหวังว่าจะได้เห็นรูปถ่ายอันงดงามจากทั้งคู่ https://www.instagram.com/p/BuJ0O_RgFKv/ แต่การออกท่องเที่ยวครั้งนี้ทำเอาชาวเน็ตต้องตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการโพสท่า เพราะภาพที่ออกมานั้นเป็นภาพของ Raquel จับราวแล้วห้อยตัวอยู่ข้างนอกตู้รถไฟโดยมี Miguel โน้มตัวออกมาจูบหน้าผากเธอ และในอีกรูปหนึ่ง Miguel จับมือของแฟนสาวเอาไว้เพื่อให้เธอเอนตัวออกไปนอกขบวน มันคงเป็นชุดภาพที่สวยและโรแมนติกมากๆ ถ้าสถานที่ที่ถ่ายภาพไม่ใช่บนรถไฟ และรถไฟนั้นไม่ได้กำลังวิ่งอยู่ https://www.instagram.com/p/BuEqe3lg4ZB/?utm_source=ig_web_copy_link ภายหลังทั้งคู่ก็ได้ออกมาชี้แจงไว้ว่า รถไฟขบวนนี้มันวิ่งช้าเอามากๆ และการถ่ายรูปทั้ง 2 รูปนี้ออกมาก็ไม่ได้อันตรายอะไรอย่างที่ชาวเน็ตคิด ซึ่งแม้จะมีการชี้แจง แต่ชาวเน็ตก็ยังไม่พอใจทั้งคู่อยู่ดี และชาวเน็ตยังบอกอีกว่าทั้งคู่นั้นถือว่าเป็น Influencer (ผู้มีอิทธิพลที่มีอำนาจชี้นำกลุ่มคน) ที่มีผู้ติดตามหลักแสน การโพสต์ภาพแบบนี้ลงอาจทำให้มีคนนำไปเลียนแบบจนเกิดอันตรายหรือความตายขึ้นมาได้ คอมเมนต์หนึ่งบอกว่า “นี่คุณเสี่ยงชีวิตเพียงเพื่อจะได้รูปสวยๆ งั้นเหรอ? เพียงเพื่อคุณจะได้อัปมันลงในโซเชียลงั้นเหรอ?…
-
สนามบินไคโร พบชิ้นส่วนมัมมี่เก่าแก่ถูกซ่อนอยู่ใน “ลำโพง” เตรียมลักลอบขนไปเบลเยียม
ตั้งแต่ในอดีตมา มีอยู่บ่อยครั้งที่เราจะพบโบราณวัตถุไปอยู่ในที่แปลกๆ ที่ไม่น่าจะไปอยู่ ซึ่งแม้ว่าส่วนมากจะเกิดจากความบังเอิญ แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่การพบวัตถุโบราณในที่แปลกๆ นั้นจะเกิดขึ้นด้วยเหตุผลจากน้ำมือของมนุษย์ล้วนๆ อย่างเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมานี้เองทางกระทรวงโบราณวัตถุของอียิปต์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าที่สนามบินของกรุงไคโรได้มีการค้นพบชิ้นส่วนของมัมมี่เก่าแก่ อยู่ในลำโพงที่จะถูกส่งไปเบลเยียมเสียอย่างนั้น นี่เป็นการค้นพบสุดแปลกที่เกิดขึ้นในระหว่างการตรวจสอบพัสดุด้วยระบบเอกซเรย์ก่อนขึ้นเครื่องบิน และทำให้ลำโพงที่พบ ถูกทางภาครัฐนำไปตรวจสอบต่อทันที โดยจากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยออกมา ภายในลำโพงที่ถูกยึดมานั้นมีชิ้นส่วนขาสองข้าง แขนซ้าย และส่วนหนึ่งของลำตัวมนุษย์ที่แห้งจนเป็นมัมมี่ซ่อนอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบของนักโบราณคดี พวกเขาก็พบว่าชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบนั้น น่าจะมาจากมัมมี่เก่าแก่สองร่างในอียิปต์เอง แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น มาจากความพยายามลักลอบขนวัตถุโบราณออกนอกประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายตั้งแต่ช่วงปี 1983 แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเกิดขึ้นบ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงปี 2011-2013 ที่ผ่านมา แม้ไม่อาจทราบได้ว่าชิ้นส่วนที่ กระจายเป็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหล่านี้จะถูกขนออกไปนอกประเทศเพื่อขายให้ใครก็ตาม แต่นี่ก็นับเป็นการกระทำที่ทำให้วัถุโบราณเสียหายเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกดำเนินการตามล่าตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป ชิ้นส่วนมัมมี่ที่ถูกยึดไว้เป็นหลักฐานในครั้งนี้นั้น หลังจากที่การตรวจสอบจบลงก็ได้ถูกส่งไปยัง พิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุอียิปต์ในไคโรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบ และฟื้นฟูชิ้นส่วนมัมมี่เหล่านี้กันต่อไป ที่มา livescience, geek
-
“Edit My Ex” เว็บไซต์ที่จะช่วยคุณ “ลบแฟนเก่า” ออกจากภาพที่มีความหมายสำหรับคุณ
สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ต้องแยกทางกับคนรัก คงจะเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดเวลาที่ได้เห็นรูปที่ถ่ายด้วยกันหรือนึกถึงความทรงจำที่ได้ใช้เวลาร่วมกันมา และถ้าเพื่อนๆ กำลังประสบกับปัญหาดังกล่าว วันนี้ขอแนะนำให้รู้จักกับ Edit My Ex เว็บไซต์แนวใหม่ที่เปิดรับบริการ “ลบภาพแฟนเก่า” ออกจากรูปที่เคยถ่ายด้วยกัน โดยเว็บไซต์ Edit My Ex นี้ก็มีวิธีการใช้แสนง่าย เพียงแค่เข้าไปในเว็บ จากนั้นก็อัปโหลดรูปภาพที่คุณอยากให้ลบรูปแฟนเก่าออกและบอกระบุคนที่คุณอยากให้ลบ พร้อมจ่ายเงินจำนวน 8.99 ปอนด์ (370 บาท) หลังจากนั้นภายใน 48 ชั่วโมง คุณก็จะได้รูปภาพรูปเดิมที่ปราศจากแฟนเก่าของคุณกลับมา Mark Rofe ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ดังกล่าวได้เผยว่าเขาได้ไอเดียนี้มาจากตอนที่เพื่อนขอให้เขาช่วยลบแฟนเก่าที่จบไม่สวยออกจากภาพที่สำคัญของเธอให้หน่อย และเมื่อเขาส่งภาพที่ลบแฟนเก่าออกไปแล้วให้กับเธอ ก็พบว่าเธอรู้สึกยินดีก่อนจะหัวเราะจนน้ำตาไหลออกมา ซึ่งเมื่อ Mark ได้เห็นภาพดังกล่าว เขาก็รู้ถึงความสำคัญของการลบแฟนเก่าออกจากรูปภาพแสนสำคัญทันที “หลังจากผมให้ภาพนั้นเป็นของขวัญให้เพื่อนของผม ผมก็เห็นว่าภาพดังกล่าวมันทรงพลังขนาดไหน ผมก็เลยคิดว่าผมน่าจะใช้ทักษะของผมและทีมทำให้คนที่อกหักกลับมายิ้มได้ พวกเราแทบจะรอไม่ไหวที่จะเริ่มช่วยเหลือคนอื่นๆ ให้นำรูปภาพสำคัญที่เต็มไปด้วยความทรงจำกลับมาเป็นภาพที่พวกเขาชื่นชอบได้อีกครั้ง โดยปราศจากส่วนเกินที่พวกเขาไม่ยินดี” Mark กล่าว สำหรับคนที่อยากใช้บริการของพวกเขา ก็สามารถเข้าไปที่ Edit My Ex ได้เลยนะครับ ซึ่งตอนนี้ทางเว็บมีโปรโมชั่นหากทำขั้นต่ำ 4…
-
เมื่อบัลลังก์จาก Game of Thrones กลายเป็นเตียงของเจ้าสี่ขา จะเท่หรือน่ารักดีล่ะเนี่ยยย
ใครที่เป็นแฟนซีรีส์ชื่อดังอย่าง Game of Thrones ล่ะก็คงอยากจะรู้เหมือนกันนะว่าถ้าได้นั่งบนบัลลังก์เหล็กแล้วเนี่ย มันจะรู้สึกแบบไหนกัน ถึงดูจากวัสดุที่ใช้ทำบัลลังก์แล้วมันก็คงแข็งๆ เย็นๆ ไม่น่าจะสบายตัว สบายตูดเท่าไหร่ก็ตาม แต่มันคงให้ความรู้สึกว่าพลังอำนาจมันเอ่อล้นออกมาเลยทีเดียวเชียว เอาเถอะถึงเจ้าบัลลังก์นี้จะไม่มีจริง และถึงจะมีของจำลองให้ถ่ายรูปด้วยมันก็เดินทางลำบากน่าดู สร้างเองก็คงไม่ไหว แล้วทำไมเราไม่เลือกทางที่ง่ายกว่านั้นล่ะ ในเมื่อมันมีบัลลังก์ขนาดจิ๋วสำหรับเจ้าสี่ขาแสนรักอยู่ด้วยนะ! เจ้าบัลลังก์สุดเท่นี้เป็นสินค้าจากร้าน Made for Pets ที่จำลองบัลลังก์เหล็กมาอยู่ในขนาดพอดีตัวเจ้าตัวป่วนที่บ้าน แถมยังนุ่มนิ่มนั่งสบายอีกต่างหาก ให้ลูกรักอย่างน้องหมานอนก็ดี หรือให้นายท่านอย่างเจ้าเหมียวได้ครอบครองก็เหมาะสมไปทุกทาง เท่มากเยย อย่างเหมาะ 55555 เตียงบัลลังก์เหล็กชิ้นนี้สนนราคาที่ 272 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8,860 บาท อิงจากในเว็บไซต์ที่วางขายนะ) แล้วคุณก็จะได้มีบัลลังก์เหล็กโคตรเท่เป็นของตัวเองไปเลยยยย ผู้ใดสนใจเข้าไปซื้อกันได้ ที่นี่ เลยนะจ๊ะ ส่วน Game of Thrones ซีซั่นสุดท้ายจะฉายเดือนเมษายน 2019 นี้แล้วนะ อย่าลืมรอดูกันล่ะ …
-
Yukon Striker รถไฟเหาะจากแคนาดา ที่จะพาคุณดิ่งลงใต้ดินด้วยความเร็วสูงที่สุดในโลก
แทบทุกประเทศจะต้องมี “สวนสนุก” ที่เป็นสถานที่ในฝันของเหล่าเด็กน้อย บางคนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ยังชอบบรรยากาศและความตื่นเต้นของสวนสนุกอยู่ เป็นสถานที่ที่ยังสามารถไปเที่ยวแล้วมีความสุขได้เสมอ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยก็ว่าได้ แต่ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับเครื่องเล่นในสวนสนุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องเล่นหวาดเสียวอย่างพวกรถไฟเหาะที่นับวันก็ยิ่งแข่งกันสร้างแบบรูปแปลกๆ พุ่งถอยหลังบ้าง อะไรบ้าง เร็วขึ้น สูงขึ้น แรงขึ้น ตีลังกาหลายตลบยิ่งขึ้น ใครที่ชอบความรู้สึกตื่นเต้น ชอบความท้าทาย คงจะชอบเครื่องเล่นแนวนี้อย่างมาก และวันนี้เราจะพาทุกท่านที่ชื่นชอบช่วงเวลาที่เหมือนจะได้ไปเกิดใหม่ไปพบกับรถไฟเหาะของ Canada’s Wonderland ธีมพาร์คที่ตั้งอยู่ในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เจ้ารถไฟเหาะตัวใม่ที่ว่านี้มีชื่อว่า Youkon Striker ออกแบบโดย Bolliger & Mabillard บริษัทออกแบบเครื่องเล่นจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มันจะมาพร้อมกับความเร็วสูงสุด 80 mph (ประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) มีจุดทิ้งตัวที่สูงประมาณ 75 เมตร มีอุโมงค์พาคุณมุดลงไปใต้ดิน มีจุดบิดเกลียวห้อยหัวอีก 4 จุด ลองคิดภาพตามกันว่า ณ จุดทิ้งตัว เจ้าเครื่องนี้จะชะงักให้ได้พอเสียวๆ 3 วินาที ก่อนจะพาคุณดิ่งทะยานลงไปบนรางที่แทบจะตั้งฉาก 90 องศา พาคุณลงอุโมงค์ใต้น้ำไปมันส์ให้จุใจกับรางแบบ 360 องศา…
-
สรุปการเลือกตั้งที่แสนสาหัสแห่ง “ไนจีเรีย” และ 5 บทเรียนสำคัญ จากการเลือกตั้งครั้งนี้
ใกล้เข้าไปกันทุกทีแล้วกับ ‘การเลือกตั้งประจำปี 2562’ ของบ้านเรา ซึ่งหลายคนต่างก็ตื่นตัวกับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นการใช้สิทธิ์ครั้งแรกของใครหลายๆ คน หลังจากที่ไม่ได้เลือกตั้งมานานหลายปี ก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาประเทศ ‘ไนจีเรีย’ ก็เพิ่งจะมีการเลือกตั้งไป แถมยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เรียกได้ว่าหนักหนาเอาการเลยทีเดียว มีทั้งการเลื่อนเลือกตั้งแบบกระชั้นชิด การก่อการร้าย และมีผู้เสียชีวิต และเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019 ผลการเลือกตั้งครั้งนั้นก็ออกมาว่า มูฮัมมาดู บูฮารี ตัวแทนจากของพรรค All Progressives Congress ได้ประธานาธิบดีของไนจีเรียอีกครั้ง โดยเขาได้รับตำแหน่งเป็นสมัยที่สองแล้ว แต่ อติกู อาบูบาการ์ หัวหน้าพรรค People’s Democratic Party ฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและบอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการ ‘หลอกลวง’ ประชาชนอย่างยิ่ง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 มีบรรยากาศทางการเมืองที่ไม่ค่อยดีนัก เมื่อการเลือกตั้งได้ประกาศเลื่อนออกไปก่อนเปิดหีบลงคะแนนเพียงไม่กี่ชั่วโมง ด้วยเหตุผลว่าต้องการจัดการเลือกตั้งที่โปร่งใส จนกระทั่งวันที่ 23 กุมภาพันธ์มีการเลือกตั้งตามปกติอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เกิดเหตุการณ์นองเลือดก่อนเปิดหีบคูหาไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารัมได้ใช้ระเบิดโจมตีเมืองไมดูกูรี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย และมีคนเสียชีวิตทั้งหมด 16 ราย…
-
สาวโสดออกทริปกับเพื่อน แต่เพื่อนมีแฟนไปด้วยหมด ภาพที่ออกมามันก็เลยเหงาๆ อย่างนี้แหละ!!
แม้ว่าความโสดจะมีข้อดีหลายๆ อย่าง แต่ก็เชื่อเลยว่าหลายคนคงไม่อยากโสดแน่ๆ ยิ่งถ้าคนรอบข้างอย่างเพื่อนๆ มีแฟนกันหมดแล้ว ก็อาจจะรู้สึกถึงความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวหัวใจที่หันไปทางไหนก็มีแต่คนมีคู่!! และในอนาคตไม่แน่เหมือนกันว่าคนโสดทั้งหลาย อาจจะต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับสาวคนนี้ก็เป็นได้ ที่ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่ปรากฏว่าทุกคนต่างก็มีคู่กันหมดเลย งานนี้ภาพที่ออกมาเลยดูเหงาแสบสันถึงทรวงในเช่นนี้… เรื่องมีอยู่ว่าเฟซบุ๊ก Jayzelle Joy Oliver ของสาวโสดในภาพ ได้โพสต์รูปสุดเหงาของตัวเธอในยามที่ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ในทริปหนึ่ง แต่คนอื่นในภาพกลับสวีทกับแฟนของแต่ละคนจนน่าหมั่นไส้ “ส่วนที่เลวร้ายที่สุดของการเป็นโสด” เธอเขียนแคปชั่นไว้ ใช่สิ ฉันไม่มีคู่นิ เชอะ เห้อมม โดดเดี่ยวเดียวดายในท้องเล น้ำตาจิไหล ไม่ต้องมาโชว์เลยนะ เชอะ ว๊ายๆ ไม่มีคู่ว๊ายๆ แต่ถึงภาพที่ออกมาสาวคนนี้จะดูน่าสงสารหน่อยๆ แต่เธอก็บอกว่าเขียนอธิบายไว้ว่าจริงๆ แล้วทริปนี้มันสนุกเกินกว่าที่คิดเอาไว้อีกซะอีก และถือเป็นทริปที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว แถมเธอยังเป็นกำลังใจให้สาวโสดทั้งหลายให้มีความสุขกับตัวเอง และรอคอยเวลาที่เหมาะสมสำหรับความรัก และเมื่อนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดด้วย (ทุกรูปเป็นรูปที่สาวคนนี้จัดท่าทางเองแถมยังแต่งเองเลยล่ะ) เห็นแล้วเหม็นความรักขึ้นมาเล๊ย โพสต์ของเธอได้กลายเป็นไวรัลที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกโซเชียล โดยในตอนนี้มีคนกดแชร์ไปแล้วมากกว่า 30,000 ครั้ง อีกทั้งยังมีคอมเมนต์เข้ามาแบบถล่มทลายและส่วนหนึ่งก็บอกว่ามันเข้าถึงอารมณ์สาวโสดได้ดีจริงๆ แล้วเพื่อนๆ ล่ะเห็นแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง เจ็บจี๊ดแปลบๆ…
-
โฟกัสผิดจุด!! ‘ดอนนี่ เยน’ โพสต์คลิปออกกำลังกาย แต่ชาวเน็ตเห็นแต่ ‘ตูด’ ก็มันเตะตานี่!?
จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงชาวเอเชีย ที่คนไทยเราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีสำหรับ ‘ดอนนี่ เยน’ ดาราเจ้าบทบาทสุดหล่อที่มักมาพร้อมกับลีลากังฟูสุดพลิ้วไหวอย่างในเรื่อง ‘ยิปมัน’ ที่โด่งดังถึงขีดสุดในอดีต แต่ว่าเมื่อเร็วๆ มานี้กลับมีเรื่องฮาๆ เกี่ยวกับเจ้าตัวมาให้แฟนคลับได้ขำกันเล่นๆ เพราะใครจะคิดว่าขณะที่เฮียดอนนี่ โพสต์คลิปวิดีโอโชลีลาออกกำลังกาย แต่ชาวเน็ตกลับไปโฟกัส ‘ตูด’ ของเขาแทนซะนี่… เรื่องราวฮาๆ นี้ได้เริ่มขึ้นจากความที่ซูเปอร์สตาร์ชาวฮ่องกง โพสต์คลิปวิดีโอของเขาขณะกำลังออกกำลังกายลงใน IG ของเขา นั่นก็คือคลิปนี้ https://www.instagram.com/p/BuaHUfUhi4N/?utm_source=ig_web_copy_link ทว่าแทนที่ชาวเน็ตจะประทับใจไปกับท่วงท่าการออกอาวุธที่พลิ้วไหว แต่สิ่งที่มันกลับดึงดูดความสนใจไปจนหมดกลับเป็น ‘บั้นท้าย’ อันแน่นของเขาแทนซะนี่ ชาวเน็ตจึงได้พากันคอมเมนต์สนุกๆ ถึงคุณดอนนี่ว่าจริงๆ แล้ว พวกเขาไม่ได้ดูลีลากังฟูของคุณหรอกนะ จริงๆ ก็อยากมองอะไรมากกว่าก้นนะ แต่ทำไงได้ล่ะก็มันคิดอย่างนั้นจริงๆ นี่ ก้นงามดีจริงๆ พ่อคุณเอ๋ย มาแบบตรงๆ แต่ได้ใจความ คุณดอนนี่ คุณมีก้นได้รูปดีเสียจริง ขณะเดียวกันก็มีบางคนออกมาปกป้องว่า ให้ดูที่สกิลของคุณดอนนี่บ้าง อย่ามองแต่ตูดอย่างเดียว เขาแต่งงานแล้วนะ หยุดคอมเมนต์เรื่องก้นซะที งอนงามขนาดนั้น…
-
วิเคราะห์กระแส “Momo Challenge” เป็นเกมฆ่าตัวตายจริง หรือเป็นเพียงเรื่องจ้อจี้บนอินเตอร์เน็ต
กระแสความหวั่นวิตกต่อ Momo Challenge ดูจะขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดเท่าไหร่ คนรุ่นใหม่ก็อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระมากๆ แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่มีลูกเต้าแล้วอาจจะคิดว่ากลัวไว้ก่อนก็ดีกว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ทีนี้เรามาดูกันว่าเจ้า Momo Challenge นี้มันมีหลักฐานการโผล่หน้ามาทักทายเด็กๆ แบบจังๆ เป็นชิ้นเป็นอันบ้างไหม เท่าที่ #เหมียวม่วง ลองค้นดู ในส่วนของ WhatsApp นั้นก็ยังพอมีหน้าจอแชตให้เห็นอยู่บ้าง แต่ถ้าคิดอีกแง่ เบอร์โทรหรือแอคเคานต์ที่ใช้ในแอปนั้นใครก็สามารถทำออกมาเพื่อกลั่นแกล้งให้กลัวได้ หรือแม้แต่ตัดต่อเอาก็เป็นไปได้สูงเช่นกัน (เอาจริงไม่ต้องมีข้อความอะไร แค่หน้าตาก็สะพรึงพอแล้ว) ทีแรกอาจจะแค่เป็นการแกล้งส่งรูปให้ตกใจกลัว แต่อาจมีคนนำรูปไปแต่งเติมกับเรื่องราวน่ากลัวหรือสวมรอยเอาไปเล่นแผลงๆ ก็เป็นได้ ส่วนที่ทำให้เหล่าผู้ปกครองกังวลมากๆ ก็คือเมื่อมีข่าวลือออกมาว่าเจ้า Momo นี้ได้แทรกซึมเข้าไปใน Youtube Kids ทั้งที่เป็นส่วนที่กรองเนื้อหาให้เหมาะกับเด็กแล้ว บ้างก็ว่ามีการสอดไส้คลิปเอาไว้ในการ์ตูนสำหรับเด็ก แต่ทาง Youtube เองกลับไม่เคยได้รับการร้องเรียนและไม่มีหลักฐานใดๆ ส่งเข้ามาเลย ในขณะที่ในเว็บไซต์หลักก็สามารถหาดูคลิป Momo ได้ทั่วไป ซึ่งก็เป็นการดูดมาอัปโหลดใหม่ไปซะส่วนมาก บางทีอาจจะเป็นการอัปคลิปตามกระแสเพื่อดึงยอดวิวด้วยซ้ำ เราจึงไม่มีทางรู้ได้ว่าตัวต้นฉบับนั้นมันมีอยู่เท่าไหร่และเป็นของใครกันแน่ ในส่วนของข่าวที่มีเด็กฆ่าตัวตายจากการเล่น Momo Challenge ก็เป็นเพียงการเชื่อมโยงที่ไม่ได้มีการยืนยันจากทางตำรวจ…
-
หนุ่มจีนถูกลักพาตัวตั้งแต่ 3 ขวบ ได้กลับมาเจอพ่อแม่ที่แท้จริงหลังผ่านไป 31 ปี
เกิดเรื่องราวที่น่าประทับใจขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มที่ถูกลักพาตัวออกจากอ้อมอกของพ่อแม่ไปตั้งแต่ 3 ขวบ ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกันหลังเวลาผ่านไป 31 ปี Qin Yujie หรือชื่อที่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตั้งให้ว่า Cheng Xueping ผู้ถูกลักพาตัวไปจากไซต์ก่อสร้างที่ Cheng Jiguang ผู้เป็นพ่อ และ Gao Lingzhen ผู้เป็นแม่ ได้ทำงานอยู่ในปี 1988 หลังจากที่รู้ว่าลูกชายวัย 3 ขวบหายไป ทั้งคู่ใช้เวลาหลายชั่วโมงในวันนั้นเพื่อตามหาเขา โดยภายหลังก็ตระเวนไปทั่วประเทศจีน แต่ก็ไม่มีความหวังที่จะหาพบ กว่า 31 ปีผ่านไป สุดท้าย Qin ก็ได้กลับมาเจอครอบครัวที่แท้จริงของเขาอีกครั้ง ที่หมู่บ้าน Chengjiawan มณฑลเสฉวน โดยรายล้อมไปด้วยนักข่าวและคนในหมู่บ้านที่ออกมาต้อนรับเขา ในวันที่ 22 ก.พ. 19 “ผมตามหาพ่อแม่มาหลายปีแต่แทบไม่เจอเบาะแสอะไรเลย” เขาบอกกับพ่อแม่ที่กำลังร้องไห้ด้วยความตื้นตัน และ Qin ได้พาภรรยาและลูกๆ มาพบกับพ่อแม่ด้วยเช่นกัน ทางด้านพ่อแม่เผยว่าเมื่อหาลูกชายทั่วประเทศแล้วไม่พบ ทางครอบครัวตัดสินใจนำตัวอย่าง DNA ส่งไปให้กับฐานข้อมูลของประเทศเพื่อหาว่าเกิดอะไรขึ้น…
-
ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยที่สุดในโลก รอดชีวิตแล้ว หลังอยู่ในมือหมอกว่า 5 เดือน
บางครั้งบุคคลที่อึดที่สุดอาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุด 5 เดือนที่แล้ว ได้มีเด็กชายทารกแรกเกิดคนหนึ่ง เกิดขึ้นมาบนโลกโดยมีน้ำหนักเพียงแค่ 268 กรัม เป็นสถิติเด็กเกิดใหม่ที่มีน้ำหนักน้อยที่สุด เด็กชายมีน้ำหนักเพียงแค่ 268 กรัม ในวันแรกที่เกิดขึ้นมา เหตุเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลโตเกียว ในอาทิตย์ที่ 24 คุณแม่ผู้ตั้งท้องต้องทำการผ่าตลอดอย่างเร่งด่วน และทารกแรกเกิดที่ตัวเล็กที่สุดก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา เด็กชายเกิดมาน้ำหนักเบาหวิว บอบบาง และมีขนาดเพียงแค่ฝ่ามือเดียว ทำให้มีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่ทารกคนนี้จะมีชีวิตรอดต่อไป แม้แต่แม่ผู้ให้กำเนิดยังไม่แน่ใจว่าเขาจะรอดต่อไปได้ หลังจากที่แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดกว่า 5 เดือน และความไม่ยอมแพ้ของทารก สุดท้ายเจ้าของสถิติน้ำหนักน้อยที่สุดก็ได้เติบโตขึ้นมามีน้ำหนัก 3.2 กก. และสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ทำให้สามารถกลับบ้านได้ในที่สุด หลังได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด น้ำหนักของเด็กชายก็ขึ้นมาเป็น 3.2 กก. โดยปกติแล้ว ค่าเฉลี่ยของเด็กแรกเกิดจะอยู่ที่ 2.5-4 กก. ซึ่งเป็นอะไรที่น่ายินดีอย่างมาก ที่ทารกเจ้าของสถิติน้ำหนักตัวน้อยที่สุดเพียงแค่ 268 กรัม สามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ ทั้งนี้ สถิติของทารกแรกเกิดใหม่ที่มีน้ำหนักน้อยที่สุดเพศชายคนก่อน เกิดขึ้นที่เยอรมัน โดยมีน้ำหนัก 274…
-
คุณแม่กับลูกสาวแจ้งพนง.รถไฟใต้ดินว่าถูกเหยียดเชื้อชาติ พนง.ดันไปเชคแฮนด์กับคนเหยียดซะงั้น
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Rashina Begum กับลูกสาววัย 3 ขวบใช้บริการรถไฟใต้ดินลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่สถานี Mile End ตอนเวลาบ่าย 2 โมง อยู่ๆ มีชายผิวขาวเดินเข้ามาบอกกับลูกสาวของเธอว่า “กลับไปซีเรียไปเลย ไสหัวกลับประเทศตัวเองไปซะ!” โดยมีแฟนสาวของชายคนดังกล่าวยืนหัวเราะอยู่ใกล้ๆ Rashina รีบตรงเข้าไปแจ้งเรื่องที่เจอมากับเจ้าหน้าที่ TfL (Transport for London) ทันที เจ้าหน้าที่จึงเชิญเธอและลูกให้เข้าไปสอบถามเรื่องราวในสำนักงาน และส่งเจ้าหน้าที่อีกคนลงไปยังชานชาลาที่เกิดเหตุ คุณแม่คิดว่าทุกอย่างคงจบด้วยดี คนที่หยาบคายใส่ลูกของเธอคงถูกเรียกตัวมาสอบสวน ก่อนจะได้รับการลงโทษตามสมควร แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อเธอเห็นผ่านหน้าจอของกล้องวงจรปิดว่าเจ้าหน้าที่ที่ออกไปตามหาคนผิดที่ชานชาลานั้น กลับไปยืนจับมือเชคแฮนด์กับชายผิวขาวคนนั้นซะงั้น แถมยังปล่อยให้เขาขึ้นรถไฟจากไปโดยไม่กักตัวหรือขอชื่อเอาไว้เพื่อแจ้งตำรวจต่อด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจแก่ Rashina อย่างมาก เธอขอชื่อของพนักงานคนดังกล่าว แต่กลับได้มาแค่ชื่อเล่น ไม่ใช่ชื่อจริง เธอจึงนำเรื่องดังกล่าวไปเล่าในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมบอกว่า “นี่เป็นการเหยียดเชื้อชาติที่ลูกสาวอายุ 3 ขวบของฉันเป็นเหยื่อนะ เธอต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก คนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วทำเรื่องแบบนี้ลงไปไม่ควรถูกปล่อยให้ลอยนวลในยุคนี้สมัยนี้แล้ว” นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปยัง TfL แล้วและยังคงรอการตอบกลับอยู่ เธอยากได้คลิปจากกล้องวงจรปิดตอนเกิดเหตุเพื่อนำไปให้ตำรวจช่วยจับกุมตัวชายคนที่รังแกเธอและลูก และต้องการให้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยตัวชายผิวขาวไปด้วย https://www.facebook.com/rashina.begum/posts/10155988780476551…
-
คุณแม่สงสัย “ดักแด้” อะไรกันหว่า?? ชาวเน็ตบอกว่า ก็แค่ “รังแมงมุม” หลายร้อยตัว… ?!
ถ้าคุณมีโอกาสได้ชมสารคดีที่นำเสนอเรื่องราวลึกลับของธรรมชาติ คุณคงจะพบว่ายังมีสิ่งต่างๆ มากมายบนโลกใบนี้ที่เราไม่เคยได้สัมผัส โดยเฉพาะบางสิ่งที่ไม่ได้พบเจอง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างสิ่งที่คุณแม่คนนี้พบ มันคืออะไร บอกกันได้มั้ยคนดี คุณแม่ชาวออสเตรเลียคนหนึ่งได้โพสต์รูปลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก Northern Beaches เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้รู้ว่า ฝักสีน้ำตาล รูปร่างคล้ายกับ “ดักแด้” ที่ห้อยอยู่บนต้นไม้ในสวนของเพื่อนบ้านเธอ แท้จริงแล้วเป็นอะไรกันแน่!? โดยเธอได้บรรยายภาพว่า “มีใยแมงมุมล้อมรอบฝักด้วย ฉันกลัวว่ามันจะเป็นอันตรายเพราะมันอยู่ใกล้บ้านของฉัน” เมื่อเห็นดังนั้น คนในท้องถิ่นจึงเข้ามาตอบว่าสิ่งที่เธอพบคือ ‘รังแมงมุม’ ชนิดหนึ่ง เมื่อฟักเป็นตัวแล้ว ลูกๆ ของแมงมุมจะปล่อยใยเพื่อโรยตัวลงมาด้านล่าง… ว๊อท?!! กลุ่มอนุรักษ์ Australian Plants Society NSW เผยว่าแมงมุมชนิดดังกล่าวไม่เป็นอันตรายต่อคน จึงไม่ต้องเป็นกังวลไปแต่อย่างใด (เหรอ…) พวกเขาอธิบายอีกว่ารังแมงมุมแต่ละรังจะใช้เวลาสร้างค่อนข้างยาวนาน และมีลูกแมงมุมอยู่ในนั้นกว่า 600 ตัว ซึ่งพวกมันจะออกจากรังในปลายฤดูหนาว ก่อนที่จะถูกพัดจากกระแสลม พัดพาไปยังที่ต่างๆ ชาวเน็ตหลายคนที่ไม่เคยเห็นรังแมงมุมรูปแบบนี้ต่างพากันมาแสดงความคิดเห็นว่า… “มันเจ๋งสุดๆ ไปเลย โรยตัวลงมาด้วยใยแมงมุม” “มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่อง แมงมุมเพื่อนรัก ตอนลูกๆ…
-
สาวแจ้งความจับชายหนุ่ม เหตุเพราะ “หมา” ของเขาพยายาม “ขึ้นคร่อม” หมาของเธอ
การอยู่รวมกันในสังคมใหญ่ที่ผู้คนมีนิสัยใจคอต่างกัน อาจทำให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องธรรมดา ปัญหาบางอย่างสามารถแก้ได้โดยอาศัยความประนีประนอม แต่บางปัญหาก็อาจจะนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกันใหญ่โต เหมือนกับเรื่องราวต่อไปนี้ Franklin Baxley ชายผิวสีวัย 42 ปี ได้บันทึกวิดิโอของหญิงสาวคนหนึ่งที่โทรแจ้งความกับตำรวจว่า “สุนัขของเขาพยายามขึ้นคร่อมสุนัขของเธอ” ขณะเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านั้นสาวคนนี้ได้ขอร้องให้ Baxley พาสุนัขของเขาออกไปจากสวนสาธารณะ แต่เขาไม่ยอม ทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มมีปากเสียงกัน จากคลิปในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา Baxley ได้พูดกับหญิงสาวในขณะที่เธอแจ้งความกับตำรวจว่า “เธอโทรหาตำรวจทำไม?! เพราะฉันไม่ยอมออกจากสวน? หรือเพราะหมาของฉันขึ้นคร่อมหมาของเธอ?” ถึงแม้ว่า Baxley จะมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติของสุนัข แต่หญิงสาวคนนี้กลับตั้งใจที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าสุนัขของเขาพยายามจะ ‘ข่มขืน’ สุนัขของเธอ และยังบอกอีกว่า “มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในสวนสาธารณะ” อย่างไรก็ตาม Baxley ยืนยันว่าเขาได้ดึงสุนัขของเขาออกห่าง ในขณะที่หญิงสาวไม่ยอมให้เรื่องจบง่ายๆ ชายคนนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเป็นเจ้าของสุนัขที่มีความรับผิดชอบและสุนัขของผมก็เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ใครที่มาเดินเล่นที่นี่เป็นประจำจะทราบความจริงข้อนั้นเป็นอย่างดี” ในฐานะคนผิวสี Baxley มองว่ากรณีที่เกิดขึ้นคล้ายกับกรณีที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยหญิงคนหนึ่งพยายามกล่าวหาคนผิวสีว่า ‘ย่างบาร์บีคิว’ ในที่ต้องห้าม…
-
หญิงสาวสร้างรายได้ ‘หลักแสนบาท’ ด้วยการ ‘ถ่ายรูปเซลฟี่ของตัวเอง’ เพียงอย่างเดียว!!
ใครจะไปคาดคิดว่ารูปภาพ ‘เซลฟี่’ ของเราก็มีมูลค่าเหมือนกัน เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งจากเมืองสแตฟฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ ได้ลาออกจากงานประจำและมาขายรูปของตัวเองลงบนโลกออนไลน์จนเธอมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เธอคนนี้มีชื่อว่า Lottie Miles สาวเซลฟี่เงินแสนคนนี้หลังออกงานเธอก็พยายามมองหาอะไรใหม่ๆ ทำ จนกระทั่งเพื่อนของเธอได้แนะนำให้รู้จักกับเว็บไซต์ที่ชื่อว่า OnlyFans หน้าตาของเว็บไซต์ OnlyFans โดยเว็บไซต์ OnlyFans นั้นมีไว้สำหรับใครก็ตามที่อยากเข้ามาติดตามเหล่านางแบบ นายแบบและสามารถขอดูภาพสวยๆ เท่ๆ ได้ด้วยการจ่ายเงินทางออนไลน์ ฟังดูแล้วอาจจะไม่คุ้นหูในบ้านเราเท่าไรนัก แต่ส่วนใหญ่แล้วนางแบบเหล่านี้ทำรายได้ค่อนข้างดีจากการได้เงินผ่านภาพของพวกเธอ โดยที่กลุ่มคนที่ติดตามจะจ่ายเงินให้ในราคา 3.75 ปอนด์ (ราวๆ 150 บาท) ไปจนถึง 37.50 ปอนด์ (ประมาณ 1,500 บาท) เลยทีเดียว นอกเหนือไปกว่านั้นผู้ติดตามยังสามารถที่จะพูดคุยบนเว็บไซต์ หรือทักทายผ่านภาพเหล่านั้นได้อีกด้วย Lottie มีแฟนๆ ที่คอยติดตามเธอ 150 คนแล้ว และเธอเล่าว่าเคยทำยอดของเดือนหนึ่งได้ถึง 5,500 ปอนด์ หรือประมาณ 230,493 บาท เพียงแค่ถ่ายรูปเซลฟี่ในห้องนอนเท่านั้น ถือว่าไม่แย่เลยทีเดียวหลังจากที่เธอเพิ่งสมัครเว็บไซต์นี้เมื่อต้นปีค.ศ. 2019 นี้เอง . …
-
สำนักข่าวเกาหลีใต้ โชว์เจ๋ง ไม่ง้อพื้นหลังฉากเขียว ยกสตูดิโอไปถ่ายถึงสถานที่จริงซะเลย
ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีที่ใช้ในวงการสื่อนั้นพัฒนาเป็นอย่างมาก ในหลายๆ รายการข่าวเราจะเห็นว่าบ่อยครั้งที่พวกเขาใช้ฉากหลังเป็น “กรีนสกรีน” เพื่อสามารถใส่ภาพหรือเอฟเฟกต์ต่างๆ ประกอบกับข่าวได้ แต่สำหรับสำนักข่าวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันในวันนี้ กรีนสกรีนไม่จำเป็นสำหรับพวกเขาอีกต่อไป เพราะแทนที่จะใช้ฉากเขียวเหมือนที่เราเห็นกันบ่อยๆ สำนักข่าวนี้ลงทุนยกโต๊ะข่าวไปถ่ายทำให้สถานที่จริงกันเลยทีเดียว พบกับสำนักข่าว MBC ช่องข่าวจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ลงทุนเดินทางไปถึงประเทศเวียดนามเพื่อติดตามทำข่าวประชุมซัมมิตระหว่าง “สหรัฐ-เกาหลีเหนือ” ที่ประเทศดังกล่าวเป็นเจ้าภาพ . ซึ่งปกติแล้วเวลาออกไปทำข่าวนอกสถานที่แบบนี้ ส่วนใหญ่เราก็คงเห็นนักข่าวออกไปยืนรายงานข่าวคนเดียวคู่กับช่างภาพ แต่สำหรับสำนักข่าว MBC แล้ว พวกเขาบังเอิญไปเจอมีวิวสวยๆ บนโรงแรม Hanoi Daewoo Hotel ก็เลยยกสตูดิโอไปตั้งโดยใช้ฉากหลังเป็นวิวของเมืองฮานอยจริงๆ โดยไม่ต้องใช้ฉากเขียวเลยแม้แต่น้อย . หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ลงโซเชียลมีเดียและกลายเป็นไวรัลไปอย่างรวดเร็ว ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย MBCNEWS ลบสำนักข่าว ABS-CBN หรือ GMA ไปเลย *สำนักข่าว KMJS ออกจากกลุ่ม* *ทุกสำนักข่าวออกจากกลุ่ม* วงการสื่อข่าวต้องสั่นสะเทือน …
-
หนุ่มอ้างตัวเป็นเหมือน ‘เทพซูส’ แอบปีนเข้าบ้านไป ‘เลียนิ้วเท้า’ ผู้หญิงที่กำลังนอนหลับอยู่!?
นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา จากความที่ชายโฮมเลสคนหนึ่งอ้างว่าตัวเองเป็น ‘พระเจ้า’ ที่ลงมาจากสวรรค์เพื่อสร้างบันเทิงให้กับผู้หญิง แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งพบว่าขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ที่บ้าน ลืมตาขึ้นมาก็เจอชายคนนี้กำลัง ‘เลียนิ้วเท้า’ ของเธออยู่!!! Richard Michael Parkhurst ชายไร้บ้านวัย 29 ปีชาวแคลิฟอร์เนีย ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมด้วยข้อหาลักขโมย ข้อหาบุกรุก และข้อหาแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอีก 2 กระทง นาย Richard Michael Parkhurst สิ่งที่เขาทำเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปี 2017 นั่นคือการที่เขาไปแก้ผ้าล่อนจ้อนต่อหน้าของผู้หญิงคนหนึ่งที่จูงหมามาเดินเล่นในเวลานั้น ต่อมาในวันเดียวกันนั้นเอง เขาก็แอบย่องเข้าไปในบ้านของผู้หญิงคนหนึ่งแล้วจัดการ ‘เลียนิ้วเท้า’ ของหญิงเจ้าของบ้านขณะที่เธอหลับอยู่ ซึ่งเธอก็ตกใจตื่นขึ้นมาและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และหลักฐานของข้อกล่าวหานี้ก็คือผลการตรวจ DNA ที่ชี้ชัดไปที่ชายคนนี้… “เธอกำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา แล้วพอตื่นขึ้นมาก็เจอเข้ากับชายคนที่กำลังดูดนิ้วเท้าของเธออยู่” อัยการกล่าว นอกจากนี้เขายังได้บุกเข้าไปที่บ้านหลังอื่นๆ ในเขตพื้นที่เดียวกัน ก่อนที่จะถูกจับตัวได้ในที่สุด แต่ก็ไม่วายเขายังไม่หมดฤทธิ์เพียงเท่านั้น เพราะขณะที่เขาอยู่ในห้องขัง เขาก็ทำการช่วยตัวเองขณะที่สายตาจ้องมองผู้คุมหญิงในสถานีตำรวจ มากไปกว่านั้นเขายังได้เขียนโน้ตส่งให้กับผู้คุม ซึ่งข้อความที่อยู่ในโน้ตนั้นเขาเขียนว่า ตัวเขาเองเป็นเหมือนกับเทพเจ้าซูสที่ถูกส่งลงมาจากดวงดาวเพื่อสร้างความหฤหรรษ์ให้กับผู้หญิง “นาย Parkhurst สร้างความเข้าใจผิดในตัวเองขึ้นมาว่าเขาเป็นเหมือนเทพซูสและถูกส่งลงมาเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้หญิง นั่นจึงเป็นเหตุให้เขาทำพฤติกรรมเช่นนี้ อีกทั้งเขายังเชื่อด้วยว่าสิ่งที่ทำลงไปจะทำให้เขามีลูก” “เขาเชื่อว่าลูกหลานของเขาจะเป็นยอดมนุษย์ที่มากอบกู้ดวงดาวดวงนี้”…
-
คู่รักได้แต่มองดู ‘เรือสำราญ’ จากไปอย่างน่าใจหาย หลังเสพสุขบนเกาะนานเกินจนขึ้นเรือไม่ทัน
หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหนังก็คงจะเป็นหนังตลก แต่ถ้ามันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงล่ะก็คงจะขำไม่ออกกันเลยทีเดียว เมื่อคุณอุตส่าเก็บหอมรอมริบซื้อทริปออกเดินทางไปกับเรือสำราญ แต่ขากลับดันมาขึ้นเรือสายจนถูกทิ้งไว้กลางท่าเรือ ขณะเห็นเรือค่อยๆ แล่นออกไปไกลลิบตา… เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นจริงกับคู่รักหนุ่มสาวที่มาท่องเที่ยวที่หมู่เกาะชื่อดังที่กรุงแนสซอ ประเทศบาฮามาส โดยเป็นการออกทริปท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ Royal Caribbean ที่กินระยะเวลา 7 วัน วันสุดท้ายแทนที่ทั้งคู่จะต้องได้นั่งเรือกลับไปยังท่าเรือไมแอมี รัฐฟลอริดาประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาดันขึ้นเรือไม่ทันและโดนปล่อยไว้ที่ท่าเรือซะงั้น!? คลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ขณะคู่รักพยายามจะโบกให้เรือจอด จากคลิปวิดีโอมีการประกาศให้ผู้โดยสารขึ้นเรือได้แล้ว และมีการเรียกเป็นครั้งสุดท้ายเวลา 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น แต่ทั้งคู่มาสายหลังจากประกาศเรียกครั้งสุดท้ายถึง 50 นาที เป็นเหตุให้เรือต้องขับออกไปก่อน สาเหตุเพราะว่าคู่รักใช้เวลาเที่ยวเตร่อยู่บนเกาะกันสองคน เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายแล้ว จนลืมเวลาที่จะต้องกลับมาขึ้นเรือ พอมาถึง ทั้งสองคนพยายามทำทุกอย่างทั้งตะโกนเรียกให้พนักงานบนเรือช่วยหันมามอง และโบกไม้โบกมือเผื่อจะมีคนเห็นบ้าง แต่ดูเหมือนความพยายามจะไม่เป็นผล ขณะที่คนบนเรือสำราญที่ขึ้นมาทันต่างได้แต่มองลงมายังสองคู่รักที่วิ่งไปมาอย่างร้อนรน และไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ เพราะมันสายไปเสียแล้ว… ส่งผลให้คู่รักทำอะไรไม่ได้นอกจากมองตามเรือสำราญค่อยๆ แล่นออกไป มีผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ได้ และนำมาแชร์ต่อในโลกออนไลน์ จนกลายเป็นกระแสไวรัล ผู้คนต่างก็เห็นอกเห็นใจทั้งสองคนเพราะอุตส่าได้มาเที่ยวกับเรือสำราญทั้งทีแต่ดันลืมเวลาจนถูกทิ้งไปซะได้… ตามปกติแล้วหากเกิดมาสายด้วยเหตุจำเป็นจริงๆ สามารถแจ้งทาง Royal Caribbean ได้ทันทีและจะหาทางแก้ไขให้โดยด่วน…
-
หนุ่มแฮ็คตู้โทรศัพท์กว่า 2 ปี เหตุไม่มีมือถือ แต่อยาก”ดูหนัง-อ่านนิยาย”ฟรี
เหตุเกิดขึ้นที่ประเทศจีน มีรายงานว่าชายว่างงานคนหนึ่งถูกพบว่าเขาทำการแฮ็คตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญแบบจอสัมผัส ทำให้โด่งดังไปทั่วโซเชียล ชายคนดังกล่าว ผู้สวมฮูดสีดำ อ้างว่าเขาเป็นอดีตช่างกล เหตุผลที่ทำไปเพราะว่า “ผมไม่มีโทรศัพท์ ผมแฮ็คเข้าไปเพื่ออ่านนิยายและดูหนัง” ก่อนจะโชว์วิธีแฮ็คให้นักข่าวดู (ไม่สามารถเผยแพร่คลิปวิธีทำได้) มีพยานที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงเผยว่าเห็นชายคนดังกล่าวในตู้โทรศัพท์แทบจะทุกคืนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พยานเสริมว่าชายคนนี้จะอยู่ข้างในเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงทุกครั้งที่เข้าไป China Telecom บริษัทเจ้าของโทรศัพท์ยอดเหรียญที่ถูกแฮ็ค ได้ออกมาเผยว่าพวกเขากำลังสืบเรื่อง ทางด้านแผนกบริการลูกค้าก็ออกมายืนยันว่าสิ่งที่ข่าวนำเสนอออกมาเป็นความจริง เพราะมีบันทึกอยู่ในเครื่องว่าตู้โทรศัพท์ถูกแฮ็คเพื่อใช้ไวไฟฟรี เมื่อเรื่องนี้โด่งดังไปทั่วโซเชียล ชาวเน็ตก็มาแสดงความคิดเห็นฮาๆ ไว้อย่างเช่น “เราไม่มีวันรู้เลยว่าเพื่อนร่วมทีมของเราในเกม ใช้อุปกรณ์อะไรเล่นกับเราอยู่” หรือ “หลังจากข่าวนี้เผยแพร่ออกไป นายน่าจะได้งานใหม่และโทรศัพท์ใหม่” ชาวเน็ตอีกคนเสริม ที่มา: South China Morning Post
-
หนุ่มทักพ่อค้า ยังไม่ได้ของสักที ฝ่ายร้านขอหลักฐาน “ถ่ายรูปมาให้ดูก่อน” จนกลายเป็นกระแสไวรัล
การสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ น่าจะเป็นเรื่องที่ปกติไปแล้วในยุคสมัยนี้ ด้วยเหตุผลหลายอย่างเช่น สะดวกกว่าออกไปหาซื้อหรือ การโอนเงินที่ง่ายขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ และแน่นอนว่าธุรกิจซื้อขายออนไลน์ ต้องพึ่งพาธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ควบคู่ไปด้วย ซึ่งบางครั้งปัญหาของการส่งของออนไลน์มักจะเกิดจากการขนส่ง และทำให้ผู้ซื้อสินค้าเกิดความไม่พอใจ เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นที่เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน และกลายเป็นกระแสไปทั่วโซเชียล หลังผู้ซื้อสินค้าออนไลน์รายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพบทสนทนาของเขากับคนขายลงในกลุ่มในเฟซบุ๊ก ผู้สั่งสินค้าออนไลน์คนหนึ่ง ไม่ได้รับพัสดุตามเวลาที่กำหนดไว้ เขาจึงส่งข้อความไปถามคนขายคนขายตอบกลับมาว่า “โอเค คุณยังไม่ได้รับพัสดุใช่ไหม” ผู้ซื้อยืนยันว่าใช่ ก่อนที่คนขายจะพิมพ์กลับมาว่า “ถ้าอย่างงั้นคุณถ่ายรูปพัสดุที่คุณยังไม่ได้รับส่งกลับมาให้เราได้ไหม?” ผู้ซื้อก็งงเป็นไก่ตาแตกสิแบบนี้ เพราะผู้ซื้อจะเอาหลักฐานมาจากไหนล่ะ? ก็มันยังไม่ได้รับนี่นา เขาจึงตอบกลับไปว่า “พัสดุที่ยังมาไม่ถึงงั้นหรือ? แล้วหลักฐานแบบไหนที่อยากให้ผมแสดงให้คุณดู?” เชื่อหรือไม่ ว่าภาพนี้เพียงภาพเดียว ก็กลายเป็นประเด็นไวรัลได้ ผู้ขายยังยืนกรานว่าเขาแค่อยากได้หลักฐาน สุดท้ายผู้ซื้อก็ส่งภาพมือของเขาทำท่าเหมือนถืออะไรอยู่ แต่ไม่ได้ถืออะไรไว้ พร้อมกับพิมพ์ไปว่า “แบบนี้โอเคไหม?” ก็อยากได้หลักฐานเป็นพัสดุที่ยังไม่มาถึงไง! สุดท้ายไม่รู้ว่าผู้ซื้อได้สินค้าที่เขาสั่งไว้หรือไม่ แต่ชาวเน็ตที่เห็นภาพนี้ต่างก็กลั้นขำกันไม่ไหว และต่างพากันเข้ามาถูกใจ คอมเม้นต์ รวมถึงแชร์ต่อกันอย่างท่วมท้น “คนถ่ายส่งไปก็ไม่ได้ผิดนะ แต่นี่มันฮาสุดๆ” “หลักฐานชัดเจนมาก” “รูปภาพที่ส่งไปก็บ่งบอกความจริงไว้หมดแล้ว เขาไม่ได้โกหก!” “ฉันขำไป…
-
สื่อจีนตีข่าว สาวทุ่มเงิน 47,000 ทำตาสองชั้นให้แมว ท่ามกลางข้อถกเถียง “เพื่อสวยงาม หรือ การรักษา!?”
เกิดอะไรขึ้น!? เว็บไซต์ต่างประเทศหลายแห่ง รายงานอ้างอิงจากช่องโทรทัศน์ท้องถิ่นของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน หลังจากช่องทีวีดังกล่าวนำเสนอข่าวว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองนานกิง พาแมวของเธอที่เธอคิดว่ามันน่าเกลียดไปศัลยกรรม เธอยอมจ่ายเงินเป็นจำนวน 10,000 หยวน (47,000 บาท) เพื่อเพิ่มตาสองชั้นให้กับแมวของเธอ โดยสัตวแพทย์ต้องโกนขนที่หน้าของมันและกลีดมีดลงบนเปลือกตาแต่ละข้างของมันและทำการเย็บแผล คำให้การจากผู้เกี่ยวข้อง พนักงานของโรงพยาบาล Rupeng ในหนานจิงได้ให้สัมภาษณ์ว่าในปัจจุบันนี้ การเสริมตาสองชั้นให้กับสัตว์เลี้ยงถือว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดาไปแล้ว นอกจากนี้เขายังเสริมอีกว่าการศัลยกรรมนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมเพียงเจ้าของแมวเท่านั้น เจ้าของหมาก็นิยมทำด้วย เนื่องจากพวกเขาต้องการที่จะสัตว์เลี้ยงไปแข่งขันในรายการต่างๆ อย่างไรก็ตามเขาก็ได้บอกว่าการศัลยกรรมในสัตว์เลี้ยงนี้อาจทำให้สัตว์เลี้ยงไม่สบายตัวและก็มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของพวกมันด้วย เมื่อภาพกลายเป็นไวรัล ย่อมมีเสียงตอบรับกลับมา… หลังจากประเด็นดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันและกลายเป็นไรวรัลอย่างรวดเร็ว ก็มีชาวเน็ตหลายคนออกมาประนามคนที่ทำศัลยกรรมให้สัตว์เลี้ยงอย่างมากมาย บ้างก็ว่า “หากจะทำเพราะอยากให้มันดูน่ารัก นั่นมันไม่จำเป็นเลยเพราะมันสร้างความเจ็บปวดให้แก่สัตว์เหล่านั้น” หรือจะเป็น “มันดูไม่เหมือนแมวอีกต่อไปแล้ว นี่มันคือการทรมานสัตว์ชัดๆ” บางคนก็บอกว่า “ฉันบอกได้เลยว่านี่มันคือการทารุณสัตว์อย่างแท้จริงและพวกเขาก็ไม่ได้สนใจความรู้สึกของเจ้าแมวเลย” ศัลยกรรม หรือ การรักษา!? อย่างไรก็ตาม เมื่อกระแสดังกล่าวดังไปมาก ก็มีคนมาโต้แย้งว่าการผ่าตัดดังกล่าวนั้นช่วยรักษาอาการผิดปกติของดวงตาแมวต่างหาก พร้อมกับยกตัวอย่างว่าแมวของตนเองก็เคยเข้ารับการผ่าตัดลักษณะนี้ เพราะหากไม่ผ่าตัดแล้ว เปลือกตาอาจจะดันเข้าไปในตา ทำให้มันมองไม่เห็นไปตลอดชีวิต ย้อนกลับไปในปี 2017 เคยมีแมวจรจัดตัวหนึ่งในจีน ได้รับการผ่าตัดรักษาในลักษณะดังกล่าว…
-
‘Jack Black’ เดินผ่านคู่รัก แล้วแฟนหนุ่มก็เหลือบมอง กลายเป็นมีมหนุ่มนอกใจหญิง!!
น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก แจ็ค แบล็ค จากบทบาทคุณครูสุดเฟี้ยวในภาพยนตร์เรื่อง School of Rock (ครูซ่าเปิดตำราร็อก) และภาพยนตร์ Jumanji ด้วยมาดสุดกวน หนวดเคราเฟิ้มและเอกลักษณ์เฉพาะในการแสดงสุดฮาทำให้คนจดจำชายคนนี้ได้ดี เมื่อไม่นานมานี้เขาได้เปิดช่องยูทูปเป็นของตัวเองชื่อว่า Jablinski Games และอัปโหลดวิดีโอลงครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2018 จนถึงตอนนี้มียอดผู้ติดตามกว่า 3.8 ล้านคนแล้ว โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน, พาลูกชายไปเที่ยวเล่น, ออกกำลังกายไปจนถึงโกนหนวดของเขาเอง ซึ่งล่าสุดพี่แกก็เพิ่งจะโพสต์คลิปวิดีโอชื่อว่า ‘Jumanji 4’ ลงบนช่องยูทูปเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019 ที่ดูเหมือนจะเป็นคลิปทั่วๆ ไปตามประสายูทูบเบอร์ แต่หลังจากที่ได้ชมคลิปแล้วชาวเน็ตต่างพากันบอกว่า “นี่มันกลายเป็นสุดยอดมีมได้เลยนี่!!” ภายในคลิปดังกล่าวดูเหมือนว่าเขาเพิ่งเสร็จจากการให้ช่างโกนหนวดและออกกำลังกายมาหมาดๆ หลังจากนั้นแจ็คก็ไปทานอาหารที่ร้านเบอร์เกอร์ต่อ ถัดมาเขาออกมาเดินตามถนนและบังเอิญเดินผ่านคู่รักกำลังจูงมือกัน แต่ปฏิกิริยาของแฟนหนุ่มที่เจอแจ็ค ถึงกับอึ้งมากๆ และหันมามองตามจนชาวเน็ตนึกถึงมีมหนึ่งที่เป็นภาพคู่รักที่ฝ่ายชายต้องหันมามองหญิงอื่น ในคลิปวิดีโอสังเกตนาทีที่ 8.11 ที่มีคู่รักเดินผ่านแจ็คไป แต่ทันใดนั้นเองฝ่ายชายก็เหลียวหันมามองตาม!! ชายที่กำลังจูงมือกับแฟนสาวถึงกับอ้าปากเหวอ ภาพจากมีมต้นฉบับ คอมเม้นต์ในวิดีโอดังกล่าวมีทั้ง: “ดูตอนนาทีที่ 8.12 สิ…
-
หนุ่มซื้อ ‘แหวนราคาถูก’ จะขอสาวแต่งงาน โดนพนักงานดูแคลน ว่าที่เจ้าสาวเลยออกมาปกป้อง!!
เรื่องราวของชายหนุ่มที่เตรียมซื้อแหวนให้กับหญิงสาวที่เธอรักในงานแต่งที่กำลังจะมาถึง ทั้งคู่เดินเข้าไปในร้านขายเครื่องเพชรพลอยพร้อมกับเลือกแหวนที่พวกเขาถูกใจที่สุดในร้าน หวังจะเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ ในการเลือกแหวนแต่งงานครั้งแรกด้วยกัน หลังจากทั้งคู่เลือกจนพอใจแล้ว ฝ่ายชายเดินไปจ่ายเงินกับทางร้าน แต่แล้วพนักงานคนหนึ่งที่เห็นแหวนวงนี้ก็พูดขึ้นว่า “ทุกคนดูสิ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีผู้ชายที่ยังจะซื้อแหวนแต่งงานราคานี้อยู่ด้วย ช่างน่าอับอายเหลือเกิน” … ชายหนุ่มรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมากพร้อมกับถามคู่หมั้นว่า “คุณจะแฮปปี้มั้ยถ้าผมซื้อแหวนวงนี้? คุณโอเคกับมันจริงๆ หรือเปล่า?” แฟนสาวของเขาไม่ยอมให้ชายหนุ่มรู้สึกเศร้าใจ เลยออกโรงปกป้องพร้อมแชร์เรื่องราวดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊ก ซึ่งมีคนเข้ามาให้กำลังใจและกดไลค์กันเป็นจำนวนมาก แหวนหมั้นราคา 130 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,090 บาท) หญิงสาวคนนี้ชื่อว่า Ariel Desiree McRae จากแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยขณะนั้นเธอยังคงเป็นคู่หมั้น และจะถึงพิธีวิวาห์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ พวกเขาคบกันมาเป็นเวลาสองปีก่อนที่จะตัดสินใจจัดงานแต่งด้วยกัน ถึงแม้ว่าแฟนหนุ่มของเธอจะไม่มีเงินมากพอที่จัดงานสวยหรู หรือซื้อเพชรเม็ดโตเธอก็ยินดีที่จะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ทั้งสองตกลงไปซื้อแหวนที่ร้าน Pandora และเลือกวงที่มีราคา 130 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,090 บาท) โดยไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะได้รับความผิดหวังจากการปฏิบัติของพนักงานร้านเช่นนี้ หลังจากที่พนักงานร้านดูถูกแฟนหนุ่มเช่นนั้น เธอจึงได้ตอกกลับพนักงานว่า “ทุกอย่างมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่แหวนวงเดียวหรอกนะ มันคือความรักของเราต่างหากล่ะ” พวกเขาจ่ายเงินซื้อแหวนพร้อมเดินออกจากร้านทันที เรื่องราวจบลงตรงที่เธอไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับพนักงานในร้านมากนัก เพียงแค่ต้องการสื่อให้เห็นว่าความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งของเท่านั้นและไม่ควรไปยึดติดว่าความรักจะดีหรือแย่เพราะคำพูดของคนอื่นที่ดูถูกดูแคลนเรา ทั้งสองคนเข้าร่วมพิธีวิวาห์ในวันที่ 18…
-
แม่โยนลูกชายวัย 5 ขวบลงจากระเบียง ก่อนกระโดดตาม คนรอบตัวแทบไม่เชื่อว่าเธอจะคิดสั้น!?
เมื่อวันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2019 ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนกระโดดตึกที่คอนโด Rise Brickell City Centre รัฐไมอามี่ สหรัฐอเมริกา ในที่เกิดเหตุพบร่างของ Solange Virginia Matos หญิงวัย 37 ปี ในพุ่มไม้บริเวณชั้น 6 และเด็กชาย Luciano อายุ 5 ขวบใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำของอาคาร นาง Solange นั้นเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ แต่ลูกชายของเธอนั้นไม่มีการตอบสนองใดๆ ตำรวจพยายามทำ CPR ยื้อชีวิตและนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่โชคร้ายที่ Luciano เองก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการฆาตกรรมและฆ่าตัวตาย โดยผู้เป็นแม่จับลูกชายของตนโยนลงมาจากชั้น 20 ก่อนที่ตัวเธอเองจะกระโดดตามลงมาเพื่อฆ่าตัวตาย สอบถามทางญาติของผู้ตายและผู้ที่อาศัยในอาคารเดียวันทุกคนต่างตกใจและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยมีสัญญาณใดบ่งบอกถึงปัญหาที่น่าจะเป็นสาเหตุให้ Solange ก่อเหตุสะเทือนใจนี้มาก่อน อย่างไรก็ตาม ประเด็นการฆ่าตัวตายและสาเหตุที่นำมาสู่การตายนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบถึงสาเหตุที่แท้จริงเพื่อหาข้อสรุปต่อไป… ที่มา Mirror และ NYPost
-
สาวเอาประจำเดือนละเลงหน้า เชื่อว่าทำให้สาวๆ ได้ใกล้ชิดกับร่างกายและตัวตนมากขึ้น
บทความนี้มีภาพที่อาจทำลายความอยากอาหาร โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและชมนะฮะ ประจำเดือนเป็นช่วงเวลาหายนะทั้งของสาวๆ และคนรอบตัว เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนแปรปรวนจนทำให้อารมณ์ไม่คงที่และอ่อนไหวง่าย แถมคิดสภาพว่ามีเลือดไหนออกมาจากหว่างขาตลอดทั้งวันเป็นสัปดาห์มันจะน่ารำคาญใจขนาดไหน แต่ทุกคนก็ย่อมรู้ดีว่าการมีประจำเดือนนั้นมันเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายสาวๆ ถ้ามันขาดหายไปนานๆ นี่ต้องเครียดกันบ้างแล้ว ถึงรู้ว่ามันมีประโยชน์ในแง่ของความปกติทางร่างกาย แต่คงไม่มีใครใช้ประโยชน์จากเลือดประจำเดือนได้เหมือนสาวคนนี้อีกแล้วแน่ๆ https://www.instagram.com/p/Bq5vqmhny1Y/?utm_source=ig_web_copy_link Demetra Nyx วัย 26 ปี ได้โพสต์รูปและวิดีโอใบหน้าและเนื้อตัวเปื้อนเลือดของตนบนอินสตาแกรม ย้อนกลับไปเมื่อตอนเธออายุ 21 ปี ตอนนั้น Nyx ได้ไปถอดห่วงคุมกำเนิดออก หลังจากนั้นประจำเดือนของเธอก็มาแบบหนักหน่วงมากทำเอาเธอต้องนอนป่วยอยู่บนเตียงไประยะหนึ่ง ชาวพื้นเมืองแคลิฟอร์เนียได้มาทำการทดสอบเลือดเหล่านั้นและสุดท้ายเธอก็เชื่อว่าเลือดประจำเดือนทำให้เธอใกล้ชิดกับตัวตนของตนเองมากยิ่งขึ้น Nyx กล่าวว่า “สังคมสอนเราว่าประจำเดือนนั้นสกปรกและทำให้ไม่สบายตัว โฆษณาผ้าอนามัยก็ชอบพูดว่าช่วยลดกลิ่น ทำให้สดชื่น หรือช่วยให้ตัวเราสะอาดยิ่งขึ้น เหมือนจะสื่อเป็นนัยว่าการทำงานตามธรรมชาติของร่างกายพวกเรานั้นมันน่ารังเกียจ” ตัวเธอนั้นเห็นต่างไปจากสิ่งที่สังคมคิด ตัวเธอเองหลงใหลในร่างกายและธรรมชาติของมันและไม่คิดว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ เธอโพสต์รูปใบหน้าของเธอเองที่ถูกละเลงไปด้วยเลือดประจำเดือนนั้นเป็นการกระตุ้น เพราะเธออยากให้ผู้หญิงทุกคนได้รู้สึกเชื่อมโยงกับวงจรของประจำเดือนของตนเอง และรู้สึกสบายใจที่จะสัมผัสกับมัน แต่คนรอบข้างนั้นดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับเธอนักเพราะมีความคิดเห็นแง่ลบส่งเข้ามาไม่ขาด รวมทั้งครอบครัวและเพื่อนของเธอเองก็มองว่ามันประหลาดและน่าขยะแขยง “นั่นทำให้ฉันมีกำลังใจที่จะโพสต์รูปต่อไปค่ะ ก็ถ้ามันไม่ได้ส่งผลกระทบที่สำคัญอะไร ผู้คนคงไม่มาสนใจรูปของฉันด้วยซ้ำ” Nyx กล่าว รวมมิตรคลิปวิอีโอที่เธอที่เธอโพสต์ลงอินสตาแกรม https://www.youtube.com/watch?v=ZelV8hUS0-0 …
-
เมื่อน้องหมาชิบะกลายเป็นมาร์ชเมลโลว น่ารักจนไม่กล้ากิน แต่นุ่มนิ่มน่าบีบเป็นที่ซู๊ดดด
ถ้าถาม #เหมียวม่วง ว่าชอบหมาพันธุ์ไหน วันนี้ทั้งวันก็คงลังเลเลือกไม่ถูก แต่ถ้าถามว่าน้องหมาพันธุ์ไหนยิ้มเก่งและเหนียงน่าบีบที่สุดล่ะก็ คำตอบแรกที่โผล่มาในหัวก็ต้องเป็นเจ้าชิบะอินุ น้องหมาหน้ายิ้มจากประเทศญี่ปุ่นนี่แหละ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนหลงรักความน่าฟัดของเจ้าชิบะ แถมชอบกินขนมอร่อยๆ เหมือนเหมียวม่วงล่ะก็ เรามา “งู้ยยยยยยยย” ไปพร้อมๆ กันกับข่าวนี้เลยดีกว่า!! งื้ออออออออออออออออ ดูน้องยิ้มสิ มาร์ชเมลโลวรูปชิบะหน้ายิ้มนี้เป็นสินค้าตัวใหม่ของทางบริษัท Felissimo ที่ปกติจะออกสินค้าเอาใจเหล่าทาสแมวซะมากกว่า สินค้าน้องหมาตัวนี้จึงคงเป็นสินค้าต่อยอดจากมาร์ชเมลโลวแมวเหมียวที่เคยทำออกมาก่อนหน้านั่นเอง เมื่อก่อนเขาเคยทำหน้าน้องแมวออกมาก่อน มาร์ชเมลโลวชิบะยิ้มตัวนี้นั้นทำด้วยมือเลียนแบบลักษณะของจมูกน้องหมา แถมยังมีไส้ข้างในเป็นรสช็อกโกแลตผสมผสานเข้ากับถั่วแดงกวนให้ฟีลลิ่งญี่ปุ๊นญี่ปุ่น เหมือนกับสายพันธุ์ของเจ้าชิบะเลย จมูกน้อง สอดไส้ช็อกโกแล็ตผสมถั่วแดงกวน ไม่เพียงเท่านั้นดูแพคเกจจิงของเขาซะก่อน บนหน้ากล่องมีรูปวาดน่ารักๆ ของน้องด้วยนะ ใจเจ๊บางไปหมดแล๊วววว เจ้ามาร์ชเมลโลวสุดแสนจะน่ายักนี้สนนราคาที่กล่องละ 1,296 เยน (ประมาณ 370 บาท) เท่านั้น ข้างในก็มีให้ถึง 9 ชิ้นเลยนะ ราคาก็ถือว่าไม่ได้แพงอะไรมากมายเลยใช่มั้ยล่ะ เหมาะแก่การซื้อเป็นของฝากมากๆ จะกินเปล่าๆ ก็ดี…
-
บริษัทผู้ผลิต Oreo เสนองานในฝัน “นักชิมช็อกโกแลต” เงินเดือนแตะ 50,000 บาท!!
หลายๆ คนคงจะชอบรสชาติขมอมหวาน และกลิ่มหอมๆ ของขนมหวานสุดอร่อยอย่าง ช็อกโกแลต ถ้าไม่กลัวอ้วนจะให้กินทั้งวันก็ยังไหว และมันจะเป็นอย่างไรนะถ้าเราได้กินช็อกโกแลตทั้งวัน แถมได้เงินอีกด้วย!! บริษัท Mondelēz International เจ้าของผลิตภัณฑ์ชื่อดังอย่าง Cadbury, Oreo, Green & Blacks และ Milka กำลังจะมอบโอกาสวันหวานหอมนี้ให้คุณ เพราะทางบริษัทกำลังมองหานักชิมช็อกโกแลตมาร่วมงานด้วยถึง 4 ตำแหน่ง ประกาศรับสมัครงานนี้ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ของของทางบริษัทเอง โดยผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานดังนี้ 1. มีความหลงใหลในขนมหวาน และต่อมรับรสเป็นเลิศ 2. แสดงความคิดเห็นอย่างซื่อตรง 3. มีความกระตือรือร้นที่จะทดลองสินค้าใหม่ 4. มีมนุษย์สัมพันธ์ดีต่อเพื่อนร่วมงาน 5. ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี 6. คุณจะต้องได้กินทั้งกลูเตน ถั่ว และธัญพืชหลายชนิด ถ้าหากคุณแพ้ของพวกนี้ล่ะก็เสียใจด้วยนะ ที่นี่ไม่มีงานที่เหมาะกับคุณ งานนี้เพื่อนๆ ไม่ต้องมีประสบการณ์ในงานด้านนี้มาก่อนก็ได้ แต่ทางบริษัทก็จะฝึกและทดสอบการรับรสและสอนการใช้คำศัพท์ที่ใช้ในการสื่อสารความคิดเห็นที่มีต่อผลิตภัณฑ์ ถ้าหากผ่านการพิจารณาล่ะก็จะได้ทำงานร่วมกับนักชิมอีก 11 คน และหัวหน้าทีม ร่วมกันพูดคุย หารือ และแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ Berkshire…
-
หญิงจะแต่งงานแต่เงินไม่พอ หลอกแฟนเก่าไปจ้ำจี้บนเขา ปล้นและจับมัดเปลือยทิ้งไว้
มีรายงานว่าหญิงสาวนามสกุล Zhou จากมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ได้ล่อลวงแฟนเก่าของเธอขึ้นไปบนเขาและปล้นเงินมาด้วยเหตุผลว่า ต้องการจัดงานแต่งงานแต่มีเงินไม่พอ รายงานเผยว่าหญิงสาวคนดังกล่าวพึ่งจะถูกไล่ออกจากงาน เช่นเดียวกับแฟนหนุ่มคนปัจจุบันของเธอ ทำให้พวกเขาทั้งคู่ว่างงาน เมื่อขัดสนทางด้านรายได้ พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าห้องของตัวเองในจำนวนเพียงแค่ 100 หยวน (ประมาณ 470 บาท) ได้ และถูกขับไล่ออกมา เผอิญว่าในช่วงเวลาดังกล่าว แฟนหนุ่มของเธอได้สัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอ หากพวกเขามีเงินมากพอ ทำให้ Zhou ตื่นเต้นอย่างมาก และคิดแผนการชั่วร้ายในการหาเงินด้วยเวลาอันเล็กน้อยออกมา เธอนึกถึง Ah Gang แฟนเก่าวัย 43 ปี ที่รู้จักกับเธอมาสองปีผ่านการทำงาน แต่เธอเลิกกับเขาเพราะรู้สึกว่าเขาไม่ฉลาดและหล่อพอสำหรับเธอ แต่ Ah Gang ยังคงรักเธออยู่ เธอกลับไปหาแฟนเก่า แสร้งทำเป็นว่าได้เปลี่ยนใจอยากกลับมาคบหาดูใจกับเขาอีกครั้ง ซึ่งแฟนเก่าก็เชื่อสนิทใจ เมื่อ Zhou ขอให้เขาพาเธอไปช็อปปิ้ง เขาก็ตอบตกลงและพกเงิน 10,000 หยวน (ประมาณ 47,000 บาท) ที่สะสมไว้หลายปีติดตัวไปด้วย จากนั้น ระหว่างที่พวกเขาชิลอยู่ที่สวนสาธารณะ Zhou ชวนแฟนเก่าของเธอขึ้นไปหาทำเลเหมาพๆ บนเขาเพื่อ “หาอะไรตื่นเต้นๆ…
-
เมื่อเด็กหญิง 6 ขวบดูการ์ตูนในยูทูบอยู่ดีๆ ก็เจอเข้ากับ Momo เกมแห่งความตาย
Momo Challenge อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยเท่ากับเกมปลาวาฬสีน้ำเงินมากนัก แต่เชื่อเถอะว่าเจ้าเกมฆ่าตัวตายพวกนี้มันอันตรายไม่น้อยหน้าไปกว่ากันเลย โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้นเจ้าเกม Momo นี่แพร่ระบาดในแอปแชตโดยจะส่งข้อความเกลี้ยกล่อมให้เหยื่อ (ส่วนมากเป็นเด็ก) ทำภารกิจอันตรายต่างๆ และสุดท้ายก็จะไปจบที่การกดดันให้เหยื่อฆ่าตัวตาย อ่านรายละเอียดของ Momo Challenge เพิ่มเติมได้ที่นี่: เกมแห่งความตาย ‘Momo’ แพร่ระบาดผ่านแอปฯแชต หลอกให้เด็กหญิงวัย 12 ฆ่าตัวตาย สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือนอกจากแอปแชตอย่าง WhatsApp แล้ว เกมแห่งความตายนี้มันเริ่มแพร่ระบาดเข้าไปยัง Youtube Kids ส่วนย่อยของเว็บไซต์วิดีโอชื่อดังที่คัดกรองเนื้อหาให้เหมาะสมกับเด็กแล้ว โดยเหยื่อที่โดนหมายหัวครั้งนี้เป็นเด็กหญิงวัย 6 ขวบชื่อ Bre-Andria Roussell เรื่องเกิดขึ้นตอนที่เด็กหญิงกำลังดูการ์ตูนเรื่อง Peppa Pig ใน Youtube Kids ในขณะที่วิดีโอเล่นไปจู่ๆ ผู้หญิงตาโตถลน ปากฉีก และร่างกายเป็นนกก็โผล่ขึ้นมาบนหน้าจอ Bre-Andria Roussell คุณแม่ Brittany จึงถามลูกสาวเรื่องเกมแห่งความตายนี้ และเด็กหญิงก็อธิบายถึง Momo ว่า “เธออาจเข้าไปในความฝันของแม่ หรือเธออาจจะฆ่าแม่ก็ได้”…
-
หญิงสาวพิการแขนข้างซ้าย ผู้ไม่เคยยอมแพ้จนคว้าเหรียญทองการแข่ง “ปีนหน้าผา” ถึง 2 ครั้ง
“ฉันมักจะทำในสิ่งที่คนบอกว่าฉันทำไม่ได้เสมอ” Maureen Beck ได้กล่าวไว้ Maureen Beck หญิงสาวจากรัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ดูเหมือนจะมีชีวิตวัยเด็กธรรมดา เธอชอบปีนต้นไม้ ลุยโคลนเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆ แต่สิ่งที่ทำให้เธอแตกต่างคือเธอเกิดมาโดยไร้แขนข้างซ้าย… ตั้งแต่เด็ก Beck มักจะปฏิเสธเข้าร่วมโครงการสำหรับเด็กเล็กพิการ ไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่ยอมรับในสิ่งที่เธอเป็น เพียงแต่เธออยากทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่และท้าทายกว่านั้น วันหนึ่งเธอมีโอกาสเห็นคนพิการกลุ่มหนึ่งที่ปีนเขากันอย่างมืออาชีพ จึงทำให้เธอบอกกับตัวเองว่าจะต้องทำให้ได้เช่นกันและฝึกซ้อมกีฬาปีนเขาอย่างจริงจังนับแต่นั้นเป็นต้นมา Maureen Beck ปีนเขาที่ Vedauwoo รัฐไวโอมิง ครั้งแรกที่ Beck ได้หัดปีนเขาคือตอน 12 ขวบ ตั้งแต่นั้นไม่ว่าจะเป็นหน้าผาจำลอง หรือหน้าผาจริงก็กลายเป็นเหมือนเป้าหมายที่ทำให้เธอต้องพุ่งเข้าใส่และไม่อยากที่จะหยุดปีนเขา ชีวิตในวัยเรียนเธอพยายามลงการแข่งขันกีฬาทุกอย่าง ทั้งบาสเกตบอล วอลเลย์บอล หรือแม้กระทั่งการเป็นผู้รักษาประตูในการแข่งขันฟุตบอลก็ทำมาแล้ว หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในรัฐเวอร์มอนต์ในปีค.ศ. 2009 เธอก็ได้ท้าทายตัวเองด้วยการปีนภูเขาน้ำแข็งเป็นครั้งแรก และเธอได้เขียนเรื่องราวครั้งนั้นลงบนเว็บไซต์ Rockclimbing พร้อมกับแชร์ภาพของเธอกับเครื่องมือเจาะน้ำแข็งที่ยึดติดไว้กับมือข้างซ้ายแทน ทำให้เธอเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนชีวิตของ Beck ไปเลยคือตอนปีค.ศ. 2012 เธอติดต่อกับทาง Paradox Sports กลุ่มนักปีนเขาไม่แสวงผลกำไรและรับคนทุกเชื้อชาติทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงกลุ่มคนพิการด้วย Beck กับการปีนหน้าผาน้ำแข็งพร้อมเครื่องมือเจาะน้ำแข็งที่เธอทำเอง แน่นอนว่าหลังจากนั้น Beck…
-
คลิปไวรัลเผยกลุ่ม ‘ไอซิส’ โชว์เปลี่ยน ‘รถเข็นห้าง’ ให้กลายเป็นป้อมปืนเคลื่อนที่!!
กองกำลังแต่ละกลุ่มจะมีเทคนิคการรบในแบบฉบับของตัวเอง แต่ว่ามีทวิตเตอร์หนึ่งเผยให้เห็นว่ามี ‘กลุ่มไอซิส’ ของประเทศลิเบีย สามารถเปลี่ยนรถเข็นห้างธรรมดาๆ ให้กลายเป็นป้อมปืนกลเคลื่อนที่ได้!! โดยเรื่องนี้ได้เผยแพร่ออกมาโดยทวิตเตอร์ของนาย Hugo Kaaman ซึ่งเขาได้ระบุว่า คลิปนี้เป็นวิดีโอที่มาจากการถ่ายบุคคลหนึ่งที่เป็นสมาชิกกองกำลังไอซิสในประเทศลิเบีย ในปี 2015 วิดีโอการเปลี่ยนรถเข็นเป็นป้อมปืนเคลื่อนที่ Ah, Libya… Land of wonders and shopping cart technicals pic.twitter.com/fL1DGTAf1f — Hugo Kaaman (@HKaaman) February 26, 2019 โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่ารถเข็น DIY นี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่สร้างความมั่นคงให้กับปืนในยามที่ยิงเพียงเท่านั้น แต่มันยังสามารถเอาไว้เก็บกล่องกระสุนได้ด้วย… นอกจากรถเข็มป้อมปืนนี้แล้ว ในทวิตเตอร์ของเขาก็ยังมีการเผยแพร่ภาพของกลุ่มกองกำลังที่ใช้ ‘โรลเลอร์เบลด’ เป็นตัวช่วยในการเคลื่อนไหวด้วย Is your combat gear slowing you down? Improve your mobility like this Libyan rebel…
-
เปิดตำนานทีมบอลหญิงญี่ปุ่น ลงแข่ง 8 ต่อ 11 ทั้งทัวร์นาเมนท์ โค่นแชมป์เก่า 10 สมัย!!
ในโลกของฟุตบอล การเสียเปรียบผู้เล่นเพียงคนเดียว ก็ถือว่าลำบากต่อทีมที่มีคนน้อยกว่าแล้ว แต่ไม่ใช่กับทีมฟุตบอลหญิง จากโรงเรียนมัธยมที่ชื่อว่า Kamimura ที่ตั้งอยู่ที่เมืองอิกะ จังหวัดมิเอะ จังหวัดทางตะวันออกของภูมิภาคคันไซ โรงเรียนนี้เข้ามาเปิดสาขาในเมืองอิกะ ในปี 2017 แต่โรงเรียนขาดแคลนนักเรียน เพราะที่ญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาจากอัตราการคลอดบุตรที่ต่ำ 女子サッカー、8人で県タイトル 神村学園伊賀分校 三重 | 伊勢新聞 https://t.co/tG7C0qmWLt pic.twitter.com/LRhBLFj09u — B級サッカー情報局 (@bqsoccercom) February 26, 2019 Teruhiko Yoshinaga รองครูใหญ่จึงมีแนวคิดที่จะทำทีมฟุตบอลหญิงขึ้นมา และโค้ชทีมด้วยตัวเอง เพื่อดึงความสนใจให้มีนักเรียนเข้ามาสมัครเรียนมากขึ้น อีกทั้งทีมฟุตบอลหญิงของโรงเรียน Kamimura สาขาที่จังหวัดคาโงชิม่า เป็นที่โด่งดังพอสมควร สาขาอิกะ จึงอยากเจริญรอยตาม แต่ปัญหาก็ตามมาเพราะนักเรียนก็น้อยอยู่แล้ว นักกีฬาเลยแทบจะไม่มี โค้ช Yoshinaga ดึงนักเรียน 6 คนมาจากสาขาคาโงชิม่า รวมกับ 2 คนที่มีก็ได้แค่ 8 คน แต่ถึงอย่างนั้น ไอเดียเริ่มแรกของการทำทีมคือการโปรโมทชื่อของโรงเรียน เขาจึงคิดว่าแม้คนจะขาด ก็ลงสนามไปและทำให้ดีที่สุดก็พอ ในการซ้อมพวกเขาจึงเน้นอย่างหนักไปที่การเข้าแย่งบอล และปรับให้นักเตะเล่นได้หลายตำแหน่งเพื่อทดแทนการขาดคน นอกจากนี้…
-
ลูกค้าฟัดกันชุลมุนหน้าเคาน์เตอร์ ‘สตาร์บัคส์’ เหตุแย่งกันซื้อแก้วลิมิเต็ดของทางร้าน!?
ขึ้นชื่อว่าเป็นไอเทม ‘ลิมิเต็ด’ ไม่ว่าใครๆ ต่างก็อยากได้มาครอบครอง เพราะบางทีไอเทมชิ้นนั้นมันอาจไม่ทำมาเพิ่มอีกแล้ว หรือเรียกง่ายๆ ว่าหมดแล้วหมดเลย… แต่ว่าด้วยเรื่องของความลิมิเต็ดนี้เองก็อาจทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นได้ อย่างเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศจีนนี้ที่ลูกค้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแบบอุตลุด เพราะแย่งแก้วลิมิเต็ดจากทาง ‘สตาร์บัคส์’!! เนื่องด้วยความที่สตาร์บัคส์ได้ปล่อยแก้วลิมิเต็ดตัวใหม่ของพวกเขาออกมาโดยมีชื่อว่า Cat’s Paw Cup (แก้วอุ้งเท้าแมว) ซึ่งเป็นแก้วลิมิเต็ดที่มีจำหน่ายเพียง 1,000 ใบต่อวัน ในราคาแก้วละ 199 หยวน (ราวๆ 940 บาท) ด้วยความลิมิเต็ดนี้บวกกับความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้มีผู้อยากครอบครองแก้วใบนี้มากมาย และมีรายงานว่ามีการนำไปขายต่อในโลกออนไลน์ได้ในราคาที่สูงกว่า 600 หยวน (ราวๆ 2,800 บาท) เลยทีเดียว คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ (หากดูไม่ได้คลิ๊กที่นี่) เหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงนำไปสู่เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันระหว่างชายและหญิงคู่หนึ่ง ที่ร้านสตาร์บัคส์สาขาในมณฑลส่านซี ประเทศจีน วันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งสองยื้อยุดฉุกกระชากแก้วกันไปมาอยู่ที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ ของทางร้าน ก่อนที่เหตุการณ์จะยุติลงจากการที่เพื่อนของฝ่ายหญิงเป็นผู้ซื้อแก้วไป และเข้ามาห้ามปรามในที่สุด เรื่องราวทำนองนี้ได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในประเทศจีน…
-
พนักงานเดลิเวอรี่เอา ‘จุ๊ดจู๋’ จุ่มลงในถ้วยซอสที่จะเอาไปส่งให้ลูกค้า เพราะรู้ว่าเธอให้ทิปน้อย!?
เดี๋ยวนี้บริการ ‘เดลิเวอรี่’ เป็นบริการยอดฮิตที่ทั้งคนไทยรวมถึงต่างชาตินิยมใช้กันอย่างมากมาย เพราะมันมีความสะดวกสบายแบบสุดๆ อยากกินอะไรก็แค่โทรสั่งหรือไม่ก็คลิ๊กเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามกว่าที่อาหารจะมาถึงมือเรา เราก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่ามันผ่านอะไรมาก่อนบ้าง และบางทีอาจจะเจอแจ็กพอตเหมือนอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็เป็นได้… Howard Matthew ‘Matt’ Webb เมื่อไม่นานมานี้ลูกค้าร้านอาหารเม็กซิกันในรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐฯ ต้องแทบจะอ้วกแตกออกมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าพนักงานที่นำอาหารของเธอมาส่งที่บ้าน มีการนำ ‘จุ๊ดจู๋’ จุ่มลงไปในซอสซัลซา หลักฐานที่นำมาประกอบคำกล่าวอ้างนี้คือคลิปวิดีโอในเฟซบุ๊กยาว 14 วินาทีที่คนขับรถส่งอาหารถ่ายเอาไว้ พร้อมทั้งมีคำพูดประกอบว่า ‘นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อคุณให้ทิปแค่ 89 เซนต์กับการที่ต้องขับรถมาส่งเกือบๆ 30 นาที’ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนที่ลงมือได้ ซึ่งเขามีชือว่า Howard Matthew ‘Matt’ Webb อายุ 31 ปี โดยเขาถูกจับในข้อหาเจือปนสิ่งสกปรกลงในอาหาร ปกติแล้ว Matt จะทำหน้าที่เป็นพนักงานส่งอาหารฟรีแลนซ์และมักทำงานร่วมกับ Dinner Delivered บริษัทเดลิเวอรี่ (อารมณ์คล้ายๆ แกร็บฟู้ด) แต่ว่าในคืนนั้นเขามาอยู่ในรถคันที่เกิดเหตุได้อย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (หากดูไม่ได้คลิ๊กที่นี่) จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่าเหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นในวันที่ 12…
-
ไอเดียเก๋เอาใจคอเกม แต่งงานธีม Final Fantasy สุดอลังทั้งฉาก-ชุด ในงบ 990,000 บาท!!
การจัดงานแต่งงานในยุคปัจจุบัน เราก็มักจะได้เห็นว่างานแต่งงานในยุคนี้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะธีมงานแต่งที่ทางบ่าวสาวแต่ละคู่ต่างก็ได้งัดเอาไอเดียออกมาจัดเป็นงานแต่งสุดล้ำไม่ซ้ำใคร ส่วนมากที่เราได้เห็นก็มักจะมีเป็นธีมสีต่างๆ เช่นสีชมพู สีฟ้า สีเขียว หรือจะเป็นธีมฉากต่างๆ อย่างงานวัด ดิสนีย์ อะไรประมาณนี้ แต่ขอบอกเลยว่าธีมงานแต่งงานที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ต้องถูกนักเล่นเกมออนไลน์อย่างแน่นอน นี่คือภาพของการโปรโมทการจัดงานแต่งงานในธีม Final Fantasy 14 โดยบริษัทรับจัดงานแต่งงานในประเทศญี่ปุ่นมา ที่จะเนรมิตให้ความฝันของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวเป็นจริงทั้งฉาก พร๊อบประกอบงาน ชุด และองค์ประกอบยิบย่อยของงานทั้งหมดในงบ 31,500 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 991,000 บาท ชุดเจ้าบ่าว . ตัวอย่างชุดเจ้าสาวและเจ้าบ่าว . . น่ารักมาก เค้กก็น่ารัก ตามธีมเกมเป๊ะ แม้แต่อาหารก็ใส่ใจในรายละเอียด ชุดเจ้าสาวน่ารักและสวยมาก ที่มา designyoutrust
-
‘เครื่องบันทึกเส้นทาง’ ที่ติดอยู่บนนกอินทรีเป็นเวลา 20 ปี ทำให้รู้ว่ามัน ‘ไม่บินผ่านทะเล’
โลกของเรานั้นมีสัตว์มากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ แน่นอนว่าการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกมัน ก็ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่มนุษย์ทำมานานมากแล้ว… เช่นเดียวกันกับโปรเจกต์นี้ที่ต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1999 เมื่อทางนักสำรวจได้พบนกอินทรีตัวหนึ่งแถวเขตประเทศรัสเซีย และได้เริ่มติดตั้งเครื่องติดตามตั้งแต่ตอนนั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมของพวกมัน ตลอดระยะเวลา 20 ปี นักวิจัยเฝ้าดูและศึกษาเส้นทางการบินของนกอินทรีตัวนี้ จนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของมัน จึงได้นำข้อมูลการบินทั้งหมดมาสรุปให้เราได้ชมกันผ่านทางเพจเฟซบุ๊กคือ VetDr.Gill สิ่งที่น่าสนใจก็คือตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เจ้านกอินทรีตัวนี้บินผ่านหลายประเทศในแถบตะวันออกกลาง แต่ขณะเดียวกันมันก็หลีกเลี่ยงเส้นทางในการบินผ่านทะเลเกือบทั้งชีวิตของมัน… แผนที่นี้แสดงให้เห็นถึงเส้นทางการเดินของนกอินทรีตลอดระยะเวลา 20 ปี วิธีที่นักสำรวจใช้ติดตามมันก็คือ การนำเครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็กติดไว้บนหลังของมัน และเครื่องส่งสัญญาณนี้จะส่งข้อมูลไปยังดาวเทียมเพื่อทำให้ทราบการเคลื่อนไหวของนกอินทรีตลอดเวลา จากภาพแผนที่การติดตามนกอินทรี จะเห็นได้ว่ามันเลือกที่จะบินเส้นทางระยะที่ไกลกว่าแทนที่จะเลือกบินตัดผ่านทะเลแคสเปียนที่อาจจะถึงที่หมายได้เร็วกว่า และที่ทำให้นักสำรวจประหลาดใจเพราะว่ามีนกหลายชนิดมากที่พวกมันใช้เวลาทั้งชีวิตในการบินผ่านท้องทะเล เช่น อินทรีหัวขาว ที่จัดอยู่ในพวกอินทรีทะเลรวมถึงเป็นนกขนาดใหญ่สุดที่หาปลาเป็นอาหาร แต่ไม่ใช่กับนกอินทรีตัวนี้ ด้วยความที่มันเป็นนกอินทรีที่มักอยู่อาศัยในแถบตะวันออกกลาง ทำให้พอคาดเดาได้ว่ามันน่าจะเป็นนกอินทรีสายพันธุ์ Greater Spotted Eagle ที่ช่วงฤดูหนาวมักจะพบนกชนิดนี้ได้มากในประเทศเยเมน ส่วนฤดูผสมพันธุ์จะพบแถบไซบีเรียตะวันออก เครื่องติดตามบนหลังของนกอินทรี . . ถึงแม้ว่าผ่านไป 20 ปี อินทรีตัวนี้ได้สิ้นอายุขัยของมันแล้ว แต่เชื่อว่ามันก็ทำให้เราได้ทราบเส้นทางการบินของมันเพื่อที่นักวิจัยสามารถไปวิเคราะห์ต่อได้ และวันหนึ่งคงจะได้รู้เหตุผลว่าทำไมมันจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางทะเลตลอดชีวิตของมัน… ที่มา: facebook, scienceabc, wikipedia
-
เด็กน้อย 2 เดือนบาดเจ็บหนัก พี่เลี้ยงเลือกโทรหาแม่ ปล่อยให้เธอฟังเสียงลูกกรีดร้องก่อนสิ้นใจ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 Katy และ Fernando Redondo พ่อและแม่ของหนูน้อย Bella วัย 2 เดือน พาลูกสาวไปฝากไว้ที่ศูนย์เลี้ยงเด็ก Little Bears Beginnings Day Care ซึ่งดูแลโดยพี่เลี้ยง Nydia Carrillo-Maldonado วันหนึ่ง Katy ได้รับโทรศัพท์จากพี่เลี้ยงคนดังกล่าว และในสายเธอได้ยินเสียงลูกสาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังลอดมา และเด็กหญิงเสียชีวิตหลังจากนั้น ผลการตรวจสอบพบว่า Bella ได้รับแรงกระแทกจากของไม่มีคมเข้าที่ศีรษะ จนกะโหลกแตกเป็น 2 ส่วน Nydia Carrillo-Maldonado พี่เลี้ยงเด็ก ถึงแม้จะไม่มีอะไรบ่งชี้ชัดว่า Nydia ตั้งใจทำร้ายเด็กหญิงจนตาย แต่ด้วยความไม่เอาใจใส่ เธอจึงไม่ได้ให้การช่วยเหลือ Bella จนเด็กน้อยเสียชีวิตไปในที่สุด ทำให้พี่เลี้ยงคนดังกล่าวถูกตัดสินจำคุก 3 ปีครึ่งในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและทำให้เกิดความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อเด็ก คดียังคงยืดเยื้อเรื่อยมาถึงการพิจารณาคดีเมื่อค่ำของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2019 Katy และ Fernando นั้นไม่ได้เข้าร่วมการพิจารณาคดีเพราะพวกเขาคิดว่า Nydia สมควรถูกตัดสินโทษรุนแรงมากกว่านี้ …
-
สรุปประเด็น ความตึงเครียดระหว่าง อินเดีย-ปากีสถาน เกิดอะไรขึ้นบนพื้นที่ชายแดนแคชเมียร์!?
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2019 เกิดเป็นประเด็นข่าวที่ทั่วโลกให้ความสนใจและเป็นห่วงถึงสถานภาพความสัมพันธ์ของสองประเทศ นั่นก็คืออินเดียกับปากีสถาน คลิปซากเครื่องบินอินเดียที่ถูกเผยแพร่จากทางฝั่งปากีสถาน Wreckges of Indian fighter planes burning. Well done Pakistan Air Force. The entire nation is proud of you. pic.twitter.com/TTIb1zvNZS — Ministry of Information & Broadcasting (@MoIB_Official) February 27, 2019 เนื่องจากในวันนั้นเกิดเป็นเหตุการณ์เครื่องบินรบของอินเดียถูกยิงร่วงตกในพื้นที่ของปากีสถาน 2 ลำ และนักบินของอินเดียถูกจับตัวเป็นเชลย วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 จุดเริ่มต้นชนวนแห่งความตึงเครียด ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 เกิดเหตุคาร์บอมบ์ในเมือง Pulwama…
-
ตากล้องถ่ายรูปพระจันทร์ 50,000 รูป รวมเป็นภาพเดียว ในความละเอียด 81 ล้านพิกเซล
Andrew McCarthy ช่างภาพผู้อาศัยอยู่ที่เมืองแซคราเมนโต้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้นำรูปพระจันทร์ที่เขาถ่าย 50,000 รูป นำมารวมเป็นภาพเดียว ในความละเอียดที่สูงถึง “81 ล้านพิกเซล” McCarthy เป็นช่างภาพที่รักการถ่ายภาพดวงดาว โดยภาพดวงจันทร์ทั้งหมด 50,000 ภาพ ถูกถ่ายในวันที่ 12 ก.พ. 2019 https://www.instagram.com/p/BqBjp62A83C/ อุปกรณ์ที่เขาใช้ก็จะมี Sony a7II (กล้อง Mirrorless), ZWO ASI 224MC (เซนเซอร์ CCD), Orion XT10 (กล้องโทรทรรศน์) และ Skywatcher EQ6-R Pro (ขาตั้งกล้องโทรทรรศน์) เขาแบ่งถ่ายภาพดวงจันทร์ด้านสว่างออกเป็น 25 ส่วนเพื่อให้ได้ความละเอียดสูงสุด จากนั้นก็เอาแต่ละภาพมารวมกันด้วยโปรแกรมโฟโต้ช็อป โดยภาพแต่ละส่วนของดวงจันทร์นั้น จะใช้ภาพจากกล้อง ZWO จำนวน 2,000 รูปมาซ้อนกันด้วยความละเอียด 50% https://www.instagram.com/p/BuO-ikVBMQh/ ส่วนดวงจันทร์ด้านที่มืดและดวงดาวรอบๆ…
-
ชาวเน็ตต่างออกมาช่วยกันปกป้อง Steve Irwin หลังถูก PETA โพสต์ตำหนิเขา!!
ยังคงประเด็นต่อเนื่องจากข่าวที่ทาง PETA หรือองค์กรที่ทำงานเพื่อพิทักษ์สิทธิ์ของสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ออกมาต่อว่ากรณีที่ Google Doodle ได้โพสต์ระลึกถึง Steve Irwin ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าชาวออสเตรเลีย เนื่องในวันเกิดครบรอบ 57 ปีของเขาเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019 ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนเรื่องดังกล่าวจะจบไม่สวย เมื่อชาวเน็ตต่างออกมาต่อว่าถึงกระทำของ PETA ว่าไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง รวมถึงเคยเกิดเรื่องทำนองนี้หลายครั้งแล้ว และทำให้ชาวเน็ตเป็นจำนวนมากต่างไม่ค่อยพอใจถึงการกระทำขององค์กรดังกล่าว อ่านข่าวเก่าได้ที่ : PETA จวก Google ยับ กรณีทำโพสต์สดุดีแด่ ‘Steve Irwin’ แต่ชาวเน็ตไม่เห็นด้วย!? PETA ได้ออกมาโพสต์ลงทวิตเตอร์ว่าการบังคับสัตว์เพื่อการแสดงมันผิด ก่อนหน้านี้ทาง PETA ได้ตอบกลับทาง Google Doodle ลงบนทวิตเตอร์หลายข้อความถึงความไม่พอใจในสิ่งที่ Steve Irwin เคยทำไว้ในรายการสารคดีต่างๆ ของเขา ทั้งการลากสัตว์ป่าหลายชนิดออกมาจากที่ของมัน เหมือนเป็นการไม่ยอมปล่อยให้พวกมันได้อยู่สงบตามธรรมชาติ แต่ขณะเดียวกันชาวเน็ตมีมุมมองเรื่องนี้แตกต่างกันไป และต่างออกมาปกป้อง Steve Irwin กันเป็นจำนวนมากพร้อมต่อว่ากลับถึงองค์กร PETA …
-
ป้ายหน้าบ้าน…ใครคิดว่าไม่สำคัญ? เมื่อป้ายเหล็กคูลไม่พอ เอาดาบแกะสลักปักหน้าบ้านเลยแล้วกัน
ในประเทศไทยคนส่วนใหญ่ก็จะมีแค่ป้ายบอกบ้านเลขที่แปะลวกๆ ไว้แถวๆ รั้วหรือข้างประตูบ้าน ถ้าคนมีฐานะขึ้นมาหน่อยก็อาจจะมีป้ายสวยๆ เป็นนามสกุลหรือตระกูลติดเอาไว้ แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ว่าตามบ้านเรือนหรือห้องพักก็มีป้ายนามสกุล (เรียกว่า hyosatsu) ติดเอาไว้ให้เห็นกันเป็นปกติ บ้างก็เป็นป้ายไม้สวยๆ มีความพื้นเมือง บ้างก็เป็นป้ายเหล็กดูโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย ถ้าตามอพาร์ทเมนต์ก็เป็นป้ายแบบเสียบกับช่องเพื่อให้ง่ายเวลาเปลี่ยนคนเช่า ป้ายไม้เก๋ๆ ひさびさ作りました。杉のハツリ表札15cm×15cmhttps://t.co/XCqITgwnuv pic.twitter.com/5W0DYXyB9W — 向井 恭介 (@hatsurist) February 19, 2019 ลองคิดกันเล่นๆ ว่าถ้าเพื่อนๆ จะมีป้ายหน้าบ้านสวยๆ สักอัน เพื่อนๆ จะเลือกป้ายแบบไหนมาประดับให้ดูโดดเด่น อาจจะมีการตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ให้ดูน่ารัก กิ๊บเก๋ ถ้ายังคิดไม่ออกลองไปดูผลงานของบริษัท Mino Craft กันดูเลยว่าป้ายนามสกุลหน้าบ้านมันจะอลังการได้มากสุดแค่ไหนกันเชียว ผ่ามมมมม!! แถวบ้าน #เหมียวม่วง เรียกว่า “อย่างคึ” โค๊วววว เรื่องราวป้ายหน้าบ้านสุดอลังการนี้กลายเป็นไวรัลโด่งดังในทวิตเตอร์ เมื่อคุณ @syatyou_eddie ได้ทวีตภาพป้ายหน้าบ้านของตัวเอง “ดาบศักดิ์สิทธิ์ (ป้ายหน้าบ้าน)…
-
Nescafe เปิดตัว “ฝันดีคาเฟ่” ให้ชาวญี่ปุ่นผู้เหนื่อยล้าได้พักสายตาเถอะนะคนดี หลับลงตรงนี้
ไม่นานมานี้มีการศึกษาเรื่องเวลาการนอนของคนแต่ละประเทศ และผลออกมาว่า ประชาชีชาวญี่ปุ่นนั้นนอนหลับน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของคนประเทศอื่นราวๆ 1 ชั่วโมง เป็นผลจากการทำงานหนักตื่นเช้าและหลับดึกนั่นเอง เพราะงั้นหากจะเปิดกิจการสนับสนุนการนอนหลับคงไม่มีประเทศไหนจะเหมาะเท่าประเทศญี่ปุ่นอีกแล้วล่ะ และเนื่องในโอกาสดีที่ใกล้จะถึง “วันนอนหลับโลก” (จัดตั้งขึ้นในวันศุกร์ก่อนวันวสันตวิษุวัต วันที่กลางวันและกลางคืนเท่ากันของทุกปี ของปี 2019 เป็นวันที่ 15 มีนาคม) Nescafe ก็ได้เตรียมเปิด Sleep Cafe หรือ คาเฟ่นอนหลับ ขึ้นในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้!! ที่ผ่านมาทาง Nescafe ก็เคยให้บริการคาเฟ่ที่นอนมาหลายครั้ง แต่จะเป็นแบบคาเฟ่ชั่วคราวที่เปิดในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่คาเฟ่แห่งนี้จะตั้งถาวรให้เข้าไปใช้บริการกันได้ทุกวันเลย โดยการบริการนั้นจะมีหลายคอร์สให้เลือกตั้งแต่ แบบงีบหลับ 30 นาที ในราคา 750 เยน +ภาษี (ประมาณ 213 บาท) ไปจนถึง แบบนอนหลับ 180 นาที ในราคา 4,950 เยน +ภาษี (ประมาณ…
-
คนขับรถบรรทุกเลี้ยวเบียด หาเรื่องนักปั่น วิ่งปรี่เข้ามาจะทำร้ายซ้ำ โดนสวนกลับหมัดเดียวล้ม
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 62 มีวิดีโอถูกอัพโหลดลงในกลุ่ม SG Road Vigilante เผยให้เห็นเหตุการณ์ที่มีคนขับรถบรรทุกกับชายปั่นจักรยานได้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เหตุเกิดขึ้นที่ถนน Jalan Runos ในประเทศสิงคโปร์ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้า แต่ตอนเริ่มต้นคลิปเราได้เห็นว่าชายปั่นจักรยาน ถือจักรยานไว้ เดินมาเคาะข้างๆ รถบรรทุกและพูดอะไรสักอย่าง ก่อนที่รถบรรทุกจะเบียดใส่ จากนั้นชายปั่นจักรยานก็ยกจักรยานขึ้นและเดินต่อไปโดยมองไปที่รถบรรทุก ก่อนที่ชายคนขับรถบรรทุกจะปรี่ลงมาหาเรื่องและถือสิ่งของคล้ายอาวุธติดมือมาด้วย ชายคนขับรถบรรทุกหยุดตรงหน้าชายปั่นจักรยาน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะวางจักรยานลงและ ‘สอย’ คนขับรถบรรทุกร่วงภายในหมัดเดียว วิดีโอเหตุการณ์เต็ม เมื่อวิดีโอดังกล่าว ถูกอัพโหลดขึ้นเวบไซต์ Reddit ชาวเน็ตส่วนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางที่อยู่ข้างเดียวกับชายคนปั่นจักรยานเป็นส่วนมาก “สิ่งที่ผมทำไปก็แค่พยายามใช้รถบรรทุกเหยียบคุณเอง คุณมาต่อยผมทำไม???” (ล้อเลียนคนขับรถบรรทุก) “ผมคงไม่บ้าพอที่จะพยายามวิ่งเข้าใส่ใครก็ตามที่กำลังออกกำลังกาย เห็นได้ชัดว่าหมัดพวกเขาหนักแค่ไหน” คอมเมนท์บน: “ถ้าคุณวิ่งเข้าใส่ใครก็ตามด้วยอาวุธแล้วเขาไม่แม้แต่สะทกสะท้าน คุณต้องมีหยุดคิดบ้างแหละ” คอมเมนท์ล่าง: “คนปั่นจักรยานเห็นชายคนนั้นเข้ามาหา เขาค่อยๆวางจักรยานสุดแพงอย่างนิ่มนวล จัดท่าทาง รอชายคนดังกล่าวเข้ามา หยุดสักครู่ และ หวด!“ หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแชร์ในโลกออนไลน์…
-
คนขับอูเบอร์จัดทำ ‘เมนู’ ให้ลูกค้าเลือก อยากนั่งเงียบๆ หรืออยากคุยมันส์ๆ จัดให้ตามสั่ง!!
เชื่อเลยว่าใครหลายคนที่เคยใช้บริการรถโดยสารผ่านแอพฯ อย่าง ‘แกร็บ’ หรือ ‘อูเบอร์’ อาจจะต้องเคยเจอกับปัญหาที่ว่าคนขับรถชวนคุยในตอนที่เราไม่อยากคุย หรือบางทีเราอยากคุยอะไรสักอย่างด้วย แต่ว่าคนขับก็กลับนิ่งเฉยซะอย่างงั้น… นี่อาจเป็นปัญหาโลกแตกที่เราอาจคิดว่าไม่มีทางแก้ได้ แต่ว่ามีรถอูเบอร์อยู่คันหนึ่งที่สามารถขจัดปัญหานี้ออกไปได้อย่างหมดจด ด้วยการทำเมนูให้ลูกค้าเลือกซะเลยว่าอยากให้คนขับเป็นแบบไหน จะจัดได้ตามใจสั่ง!! โพสต์ที่กลายเป็นไวรัล last night my uber gave me a menu on what kind of ride i wanted , pic.twitter.com/SMBBV4kVpu — Łuí (@LuisLovesGoats) February 25, 2019 เรื่องนี้ได้เริ่มมาจากความที่ทวิตเตอร์ @LuisLovesGoats ได้โพสต์ภาพใบเมนูที่เขาได้รับมาจากคนขับอูเบอร์ที่ใช้ชื่อว่า George หลังจากที่เขาไปใช้บริการรถคันนี้มาที่เมืองซีแอตเทิลเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 ก.พ.) โดยในเมนูนั้นมี 5 ออฟชั่นให้เลือกด้วยกัน ว่าจะให้คนขับทำตัวยังไงกับลูกค้าระหว่างที่นั่งรถ จะให้คุยเป็นเพื่อนหรือจะให้เล่าเรื่องตลกให้ฟัง หรือจะให้อยู่เงียบๆ ก็ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ… ในตัวเลือกของรถนาย George ออฟชั่นแรกมีชิ่อว่า The…
-
ชายผู้ฆ่าไม่ตาย หนุ่มป่วยเป็น ‘มะเร็งสมอง’ หมอบอกอยู่ได้ไม่เกิน 6 ปี แต่รอดมาได้ 19 ปี!!
เรื่องราวของชายผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต… คุณหมอได้บอกชายคนหนึ่งว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึง 6 ปี เนื่องจากป่วยเป็นโรค ‘มะเร็งสมอง’ ทำให้เขาต้องสูญเสียหนึ่งในสี่ของสมองไป เขาผ่านการเข้ารับการผ่าตัดสมองถึง 4 ครั้ง ถูกผ่ากะโหลกออกถึง 3 ส่วนด้วยกัน และต้องทำคีโมถึง 29 ครั้ง… 20 ปีหลังจากคำพูดของคุณหมอในครั้งนั้น เขากลายเป็นชายที่ลงแข่งวิ่งมาราธอน เป็นคุณพ่อของลูกสาว อีกทั้งได้ช่วยให้คนอีกมากมายตระหนักถึงความสำคัญเกี่ยวกับโรคมะเร็งสมอง!! ชายคนนั้นมีนามว่า Michael Moyles Michael ก่อนที่จะต้องเผชิญกับโรคมะเร็งในสมอง ในอดีตเขาเคยเป็นถึงนายทหารอากาศยศพันเอก ทำหน้าที่ในการขับเครื่องบินแอร์ฟอร์ซให้กับกองทัพ นอกจากนี้เขายังเป็นนักบาสเก็ตบอลให้กับทีมในเมืองเล็กๆ ชีวิตของเขาดูเหมือนจะไปได้สวยจนกระทั่ง… วันหนึ่งขณะที่เขากำลังแข่งขันบาสเก็ตบอลเพื่อรักษาแชมป์ หนึ่งในผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามพลาดโยนลูกบาสเกตบอลเข้าที่หัวเขาอย่างแรง ทำให้เขาล้มลงหมดสติไปเกือบ 30 วินาที หลังจากฟื้นขึ้นมาแขวนขวาของเขาก็ไร้ความรู้สึกไปชั่วคราว Michael เดินทางไปเข้ารับการตรวจกับโรงพยาบาล ได้รับการวินิจฉัยเบื้องต้นด้วย CT สแกน ซึ่งตอนแรกดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอะไร และคุณหมอสั่งให้เขากลับบ้านได้ จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นเขาตัดสินใจไปตรวจอีกครั้งด้วยวิธี MRI จึงเป็นที่มาของข่าวร้าย… เนื้องอกในสมองของ Michael Moyles แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคมะเร็งสมอง ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกันที่ก่อนหน้านี้เขาได้ขอ Angie…
-
บาทหลวงที่เคลมว่าปลุกคนตายให้ฟื้นได้ถูกฟ้อง เพราะ ‘สร้างความเสื่อมเสียให้ศาสนา’
เรื่องสุดเหลือเชื่อนี้เกิดขึ้นจริงที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อบาทหลวงนามว่า Alph Lukau ได้ทำพิธีฟื้นคืนชีพคนที่ตายแล้ว!? ฟังดูแล้วเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่ง แต่บาทหลวงท่านนี้ได้ใช้วิธีอื่นหลอกให้คนเชื่อ ด้วยการจ้างคนเป็นมานอนนิ่งให้เหมือนศพ และทำราวกับว่าบาทหลวงสามารถปลุกให้คน (แกล้ง) ตายลุกขึ้นมาจากโลงศพและกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง หนุ่มที่บาทหลวงจ้างมาให้เป็นสตั๊นท์แมนราวกับคนตายที่ฟื้นได้ เหตุการณ์นี้กลายเป็นกระแสในโซเชียลเมื่อมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอออกไป ซึ่งในคลิปมีบาทหลวง Alph ในชุดสูทสีฟ้ากับคนที่นอนอยู่ในชุดสีขาวและรายล้อมไปด้วยเหล่าคนที่ศรัทธาและเชื่อถือ หลังจากนั้นในคลิปวิดีโอจะเห็นบาทหลวงได้เริ่มทำพิธีการปลุกคนตายพร้อมกับพูดว่า“จงลุกขึ้นซะ” และชายในโลงศพก็ลุกขึ้นมาได้จริงราวกับเป็นปาฏิหาริย์… คลิปวิดีโอที่บาทหลวงปลุกฟื้นคนจากโลงศพขึ้นมา แต่หลังที่มีการเผยแพร่คลิปออกมาก็ดูเหมือนท่าจะไม่ดีนัก เมื่อทางการของเมืองโจฮันเนสเบิร์กได้ออกมาฟ้องร้อง บาทหลวงและบริษัทรับจัดงานศพที่บาทหลวงท่านนี้ทำงานให้ รวมไปถึงเตรียมฟ้องบริษัทรับจัดงานศพที่อะไรทำนองนี้อีกสองแห่งคือ Kingdom Blue และ Black Phoenix เหตุผลที่ฟ้องร้องคือการทำให้ศาสนาเสื่อมเสียและทำพิธีการเหล่านี้เพื่อหลอกเอาเงินจากเหล่าคนที่สิ้นหวัง โดยการหลอกให้พวกเขาหลงเชื่อในสิ่งที่เกินจริง โบสถ์ที่รับจัดงานศพ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก อีกทั้งทาง CRL Rights Commission (กลุ่มด้านการอนุรักษ์ทางศาสนา ภาษาและวัฒนธรรม) ได้ออกมาบอกถึงกลุ่มคนที่หลงเชื่อเรื่องนี้ว่า “ไม่มีหรอกคำว่าปาฏิหาริย์” ป้ายบริษัทรับจัดงานศพ Kings and Queens Real Funerals อย่างไรก็ตาม มีคนให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่ามันเป็นเหมือนการดูหมิ่นศาสนา แต่ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนที่มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องขำขันและได้กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงมากมายผ่านแฮชแท็ก #ResurrectionChallenge บนทวิตเตอร์แล้ว ที่มา: ladbible, bbc
-
พบ ‘ปลิง’ ตัวเขื่องอยู่ในหลอดลมของชายชรา คาดมาจากการดื่มน้ำที่ไม่สะอาด!!
ข่าวคราวเรื่องการพบสิ่งแปลกปลอมในร่างกายยังคงเป็นเรื่องที่มีให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดนี้ก็มีกรณีที่ทำให้ได้อ้าปากค้างกันอีกแล้ว เมื่อมีการค้นพบว่ามี ‘ปลิง’ ตัวอ้วนติดอยู่ในหลอดลมของชายวัยชราคนหนึ่ง!? เรื่องนี้มีอยู่ว่าคุณลุงวัย 60 ปีนามชื่อนาย Li มีอาการระคายคอและไอออกมาเป็นเลือดตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา เขาจึงตัดสินใจเข้าโรงพยาบาลเพื่อให้หมอตรวจดูว่าร่างกายของเขามันมีอะไรผิดปกติกันแน่ เขาได้เข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาล Xingwen County Hospital of Traditional Chinese Medicine ในเมืองยีบิน ประเทศจีน และได้พบกับคุณหมอนามว่า Zhang Dadong หลังจากคุณหมอได้รับรู้อาการของคุณลุงคนนี้ก็ใช้วิธีการส่องกล้องลงไปยังลำคอของนาย Li แล้วในที่สุดก็พบกับปัญหาที่มาในลักษณะที่เป็นตัว!! เพราะหมอเจอว่ามีปลิงเกาะอยู่กับหลอดลมของเขา แต่เจ้าปลิงตัวนี้มันอยู่ในจุดที่ค่อนข้างจะยากต่อการเอาออก ทางคุณหมอและทีมงานจึงตัดสินใจพ่นยาระงับประสาทลงไปในลำคอเพื่อให้ปลิงสลบ แล้วจึงนำคีมค่อยๆ คีบมันขึ้นมาได้เป็นที่สำเร็จ ทั้งนี้คุณลุง Li มาจากเมืองชนบทเล็กๆ ที่มีชื่อว่า Daba ซึ่งเขาเชื่อว่าเจ้าปลิงตัวนี้น่าจะมาในลักษณะที่ยังเป็น ‘ไข่’ อยู่จากการที่เขาดื่มน้ำที่ไม่ผ่านการต้มนั่นเอง โดยสำหรับเจ้าปลิงตัวนี้เมื่อนำออกมาได้และนำมาวัดขนาดก็พบว่ามันมีตัวยาวถึง 10 เซนติดเมตรเลยทีเดียว หลังจากดูดเลือดของคุณลุงมาเป็นระยะเวลา 2 เดือน พร้อมกันนี้คุณหมอก็ออกมาเตือนชาวบ้านในเขตชนบทด้วยว่าควรจะต้มน้ำก่อนดื่มด้วยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและจะได้ไม่เกิดเหตุน่ากลัวเหมือนกับในครั้งนี้… ที่มา:…
-
แม่ก็คือแม่ ลูกชายทักทายถ่ายรูปบนอากาศ แม่ขอให้บินปลอดภัย แต่เห็นมั้ย ‘เอ็งยังไม่เก็บที่นอน’
แม้ว่าเราจะเติบโตขึ้นมา มีหน้าที่การงานสูงส่งใหญ่โตแค่ไหน แต่ในสายตาของแม่แล้ว เราก็ยังคงเป็นเด็กหัวแก้วหัวแหวนเหมือนเดิม เช่นเดียวกับนาย Khan วัย 20 ปีคนนี้ ผู้อาศัยอยู่ที่เมืองเดอร์บัง ประเทศแอฟริกาใต้ ที่พึ่งจะได้รับใบอนุญาตนักบินส่วนบุคคลมาเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้กำลังเก็บชั่วโมงบินเพื่อที่จะทำใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรีต่อไป เรื่องราวนี้ถูกแชร์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Nabeela ผู้เป็นน้องสาวของ Khan ว่าในระหว่างที่ Khan เก็บชั่วโมงบินนั้น เขาได้บินผ่านบ้านของตัวเอง และถ่ายภาพหลังคาบ้านพร้อมกับส่งรูปไปทักทายคุณแม่ว่าตอนนี้บินอยู่ข้างบนหัวแม่นะ! Khan กับคุณแม่ของเขา แม่ของนาย Khan ตอบกลับมาว่าได้ยินเสียงเครื่องบินบินผ่านไป แต่แสงจ้าจนมองขึ้นไปไม่ได้ และอวยพรให้เขาปลอดภัย ก่อนที่ตอบกลับไปอีกครั้งหลังผ่านไปสามนาทีว่า “ลูกได้มองลงมาที่ห้องนอนของตัวเอง แล้วเห็นที่นอนที่ยังไม่ได้เก็บไหม” เมื่อคุณกำลังบินอยู่บนท้องฟ้าแต่แม่ของคุณตอบกลับมาว่าเขายังไม่ได้เก็บที่นอน นาย Khan ก็เผยว่า “ผมบอกกับเพื่อนข้างๆ ว่า ‘ตรูโดนแม่ตัวเองเล่นซะแล้ว’ และพวกเราก็หัวเราะอยู่หลายนาทีบนเครื่องบิน” Khan กำลังอยู่ในช่วงหาสปอนเซอร์เพื่อเก็บชั่วโมงบินให้ครบ ซึ่งแม่ของเขาก็บอกต่อว่า “ไม่มีใครอยากสปอนเซอร์คนที่ไม่เก็บที่นอนหรอก” pic.twitter.com/BbzApTpfTy — NAB24 (1:1) 🍉…
-
แพทย์ออกโรงเตือนสาวจีนผู้ทำแท้งลูกมา 17 ครั้งภายใน 6 ปี อาจมีลูกอีกไม่ได้ตลอดชีวิต
สำหรับหนุ่มสาวที่รักสนุก แต่ไม่คิดป้องกัน หากพลาดพลั้งตั้งท้องขึ้น การทำแท้งคงเป็นทางออกที่คู่รักหลายๆ คู่ตัดสินใจเลือกใช้กัน แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่าการทำแท้งนี้มีผลเสียหลายด้าน โดยเฉพาะผลเสียต่อสุขภาพของผู้เป็นแม่ ดังเช่นเรื่องที่เรานำมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนี้ เมื่อผู้หญิงชาวจีนวัย 27 ปีถูกหมอวินิจฉัยว่าอาจจะมีลูกไม่ได้อีกเลย หลังจากทำแท้งมา 17 ครั้งภายในระยะเวลา 6 ปี วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2019 เว็บไซต์ Shiyan Evening News ได้รายงานข่าวของผู้หญิงคนหนึ่งในประเทศจีน ที่มาหาหมอเพื่อทำแท้งอยู่บ่อยๆ โดยภายใน 6 ปีที่เธอคบกับแฟนหนุ่มมา เธอได้ตั้งครรภ์ไปถึง 17 ครั้งและจบลงด้วยการทำแท้งเด็กอยู่ทุกครั้งและล่าสุดในต้นเดือนนี้ ผู้หญิงคนดังกล่าวก็มาที่โรงพยาบาลเพื่อทำแท้งอีกครั้งหนึ่งง แต่ครั้งนี้ทาง Dr. Zhao Qin หัวหน้าแผนกนรีเวชศาสตร์ได้โน้มน้าวให้เธอเก็บเด็กคนดังกล่าวไว้ เนื่องจากมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะสามารถมีลูกได้แล้ว “ฉันพบว่าเยื่อบุมดลูกของเธอนั้นบางมากๆ บางเหมือนเศษกระดาษ เนื่องจากการทำแท้งซ้ำๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาของเธอ ทำให้มดลูกของเธอตอนนี้มีแผลที่เยอะเป็นอย่างมาก” Dr. Zhao กล่าว และแม้ว่าผู้หญิงคนดังกล่าวจะได้รับคำเตือนจากแพทย์ดังนั้น แต่เธอก็ยังยืนยันที่จะทำแท้งไป โดยให้เหตุผลว่าเธอไม่ได้เตรียมตัวที่จะแต่งงานและกลายเป็นพ่อคนแม่คน หากคิดจะรักสนุก…