Category: สยามเมืองยิ้ม
-
มารู้จักรางวัล Miss Universe Thailand 2019 ทั้งเงินสด รถ & ที่พักสุดหรู รวมกว่า 17 ล้าน!!
เวทีการประกวดเรื่องความสวยความงามในประเทศไทยนั้นมีมากมาย และหนึ่งในเวทีที่ชาวไทยต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยรับชมผู้ชนะเลิศก็คือเวทีการประกวด Miss Universe Thailand 2019 นั่นเอง สาวงามผู้คว้าตำแหน่งนั้นนอกเหนือจากมงกุฏที่จะได้รับ และได้เป็นตัวแทนของสาวไทยไปคว้ามงกุฏแห่งยูนิเวิร์สแล้ว ก็ยังได้รับของรางวัลอื่นๆ มากมายอีกด้วย ซึ่งวันนี้ #เหมียวเมษา จะพาไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง โดยเมื่อค่ำคืนวันที่ 29 มิถุนายน 2562 นั้นก็เป็นคืนแห่งการตัดสินว่าใครจะเป็นสาวงามหนึ่งเดียวผู้ได้ครอบครองตำแหน่ง และสาวสวยคนนั้นก็คือ ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น ผู้เข้าประกวดหมายเลข 19 ถือว่าไม่เหนือความคาดหมายเท่าใดนัก เพราะเธอเองก็เป็นหนึ่งในตัวเต็งและมีแฟนๆ คอยเชียร์มากมาย หลังจากได้รับตำแหน่งแล้วเธอก็ต้องเตรียมตัวให้สุดความสามารถ ก่อนจะเข้าร่วมประกวดในเวทีจักรวาลระดับโลกที่จะจัดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ นั่นทำให้สปอนเซอร์มากมายต่างร่วมสนับสนุนเธอในการเตรียมตัว โดยการมอบรางวัลต่างๆ ให้ ทั้งนี้รางวัลอย่างเป็นทางการที่เธอจะได้รับจากกองประกวดในฐานะผู้ชนะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 นั้นมีดังนี้ รางวัลเงินสด 1.5 ล้านบาท รถยนต์ประจำตำแหน่ง Volkswagen รุ่น The New Caravelle T6 มูลค่า 3,830,000 บาท โดยบริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด…
-
เขากลับมาแล้ว… ‘พี่เสก โลโซ’ ปั่นกีตาร์ไลฟ์รัวๆ โชว์ชาวเน็ต ไม่มีพูดเยอะแบบเดิม
หลายคนคงจะอดคิดถึงกันไม่ได้… กับชายสุดปั่นนามว่า ‘เสก โลโซ’ ที่เมื่อก่อนเขาเคยมาไลฟ์ให้แฟนๆ ได้ติดตามการใช้ชีวิต เล่นกีตาร์ หรือพร่ำบ่นเรื่องต่างๆ กับชาวเน็ตชนิดที่เรียกว่าไม่ได้หลับไม่ได้นอน (บางทีไลฟ์เกือบวันแหนะ) ถึงตอนนี้ก็คงจะอดสงสัยกันไม่ได้ว่าพี่เขาหายไปไหน ต้องขอบอกว่าพี่เสกไม่ได้ทอดทิ้งแฟนๆ ให้คิดถึงอย่างเหงาหงอยแต่อย่างใด เพราะเมื่อไม่นานมานี้เขาก็กลับมาไลฟ์อีกแล้ว!! มีของก็โชว์ซะหน่อย พี่เสกจัดได้ว่าเป็นศิลปินอันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่มีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดาเมื่อได้อยู่กับ ‘กีตาร์’ ดังนั้นการคัมแบคของเขานั่นก็คือ การโชว์สกิลเล่นกีตาร์โชว์ให้กับแฟนๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ เท่ๆ สักนิด และหากดูหลายๆ ไลฟ์ก็จะเห็นว่าสไตล์การไลฟ์ของเขาค่อนข้างจะแปลกตาออกไป ไม่มีการพูดถึงเรื่องต่างๆ เหมือนเช่นเคย แต่จะเป็นการปั่นกีตาร์แบบยับๆ มาแทนที่ แล้วต้องขอบอกว่าการเล่นกีตาร์ของพี่เสกช่างมันได้ใจซะเหลือเกิน เสียงกีตาร์ของพี่มันช่างบาดใจซะเหลือเกิน เหตุผลหนึ่งในการออกมาไลฟ์ซ้อมกีตาร์ของพี่เสกนั่นก็คือ ความที่เขากำลังเตรียมตัวจะออกทัวร์คอนเสิร์ตนั่นไงล่ะ ซึ่งก็ต้องขอบอกว่าการไลฟ์พี่เขาไม่ใช่ธรรมดาๆ อย่างไลฟ์ล่าสุดก็มีการแชร์ออกไปแล้วเป็นพันๆ ครั้ง!! คงพอหายคิดถึงกันไปได้สำหรับแฟนๆ ที่เหงาหงอยรอคอยไลฟ์ของพี่เสก และถ้าอยากฟังเสียงกีตาร์เท่ๆ ของพี่เขาเพิ่มเติมก็สามารถไปสดับรับชมกันได้ที่เพจ SEK LOSO เลยละกัน…
-
คลิป ‘ลูกเสือสำรองแด๊นซ์’ สาธิตการ ร้อง-เต้น วิชาลูกเสือสำรอง ชาวเน็ตชอบใจใหญ่!!
หากย้อนกลับไปในช่วงประถม-มัธยมต้น เด็กๆ ทุกคนจะต้องเคยผ่านการเล่าเรียนวิชา ‘ลูกเสือ-ยุวกาชาด’ มาก่อน ซึ่งเป็นวิชากิจกรรมที่เราได้ทำอะไรอย่างหลากหลายมากมาย ทั้งเข้าค่าย ฝึกระเบียบวินัย ฝึกให้เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นต้น และในการเรียนก็จะมีเพลงมาใช้ประกอบกิจกรรมต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นเพลงประจำวิชาเลยก็ว่าได้ แต่เพื่อนๆ จำได้ไหมว่าทั้งหมดนั้นมีกี่เพลง? และแต่ละเพลงนั้นก็มีท่าเต้นของมันด้วยนะเออ!! สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมข้อมูลจากเฟซบุ๊ก ลูกเสือ ยุวกาชาด กิจการนักเรียน สนง.ศึกษาธิการจังหวัดสกลนคร ที่ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสาธิตการเต้นและร้องเพลงของวิชา ‘ลูกเสือสำรอง’ มาให้เราได้ชมกัน โพสต์ต้นฉบับ คลิปวิดีโอชุดดังกล่าวจัดทำโดยนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร เป็นคลิปวิดีโอของคุณครู 3 ท่าน มาร้องเพลงและเต้นรำเพลงลูกเสือสำรองอย่างถูกวิธี บาลู บาเคียร่ามาแล้ว บาเคียร่า บาลู ช่วยเมาคลี ลิงป่าใจกล้าหาญ ชาวเน็ตทั้งหลายพอได้เห็นก็ชอบอกชอบใจกันใหญ่ มีคนเข้ามากดไลก์ที่โพสต์กว่า 2,700 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 8,800 ครั้งในระยะเวลาไม่นาน หลายคนต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันไปต่างๆ…
-
17 สิ่งที่ “ชาวต่างชาติ” เข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ประเทศไทย” จากประสบการณ์จริงสุดจี๊ด
เชื่อว่าหลายคนก็คงจะมีเพื่อนชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกัน ยุโรป แอฟริกา หรือเอเชีย ก็ตามที บางครั้งพวกเขาเหล่านั้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไทยหรืออยู่ต่างประเทศ ก็คงรู้จักเมืองไทยไม่ดีเท่าคนไทยเอง… บางที อาจจะไม่เคยได้ยินคำว่า “ไทยแลนด์” มาก่อนด้วยซ้ำ จึงนำไปสู่ความเชื่อแปลกๆ หรือเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับเมืองไทยของเรา ดั่งเช่นที่แฟนเพจแคทดั๊มบ์หลายๆ คน จะมาเล่าให้คุณฟังในวันนี้ครับ 1. บ้านยูขี่ช้าง!? มีเพื่อนคนอเมริกันถามตอนเราไป Work&Travel สมัยมหาลัย “บ้านยูยังขี่ช้างไปเรียนอยู่ไหม” เลยตอบออกไป “อ่อ เด่วนี้พวกไอเปลี่ยนไปขี่หมูแทนแล้ว” อ้าปากค้างจ้า พร้อมกับอุทาน “อะเมซิ่ง ไทยแล้นนนน” 55555 โดยคุณ Jutamas Fuangkrasae 2. ยังไม่จบเรื่องสัตว์ ถัดจากช้างก็ควายต่อ มีคนรู้จักเราไปจอร์แดนหลายคนไม่รู้จักประเทศไทยแต่มีป้าคนนึงเขาบอกว่าเคยดูสารคดี ประเทศไทยสวย มีควายเยอะเขาบอกว่าวันหลังมาบ้านเขาให้เอาควายใส่กระเป๋ามาฝากหน่อยอยากเลี้ยง #ว๊อททททท โดยคุณ Ahlee Jafar 3. ว่าด้วยเรื่องของภาษาไทย คนไทยอาจจะคิดว่าง่าย แต่ฝรั่งอาจจะแยกระหว่าง ป้าย กับ ไปปปป…
-
‘เจ้าพ่อกรูท’ เซเลบศักดิ์สิทธิ์องค์ใหม่ หนุ่มขนไก่ต้ม-น้ำแดง ไหว้แก้บน ที่บันดาลให้สมหวัง
การที่คนเรามีความเชื่อมต่อสิ่งที่มองไม่เห็น นั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิดเสมอไป (ตราบใดที่ไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น) เพราะบางครั้งมันก็อาจจะสร้างความสุข ความมั่นใจให้กับชีวิตของเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับพ่อหนุ่มคนนี้ ที่นำของเซ่นไหว้ ไปจุดธูปบูชาเจ้าพ่อ ‘กรูท’ มนุษย์ต้นไม้ จากเรื่อง Guardian of the Galaxy เพื่อขอบคุณที่เจ้าพ่อได้ดลบันดาลพรให้ตนสมหวัง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ สวนองุ่นอิ่มสุข ตั้งอยู่ที่ อ.ดอยสะเก็ต ต.เชิงดอย ซึ่งในสวนองุ่นก็จะมีรูปปั้นของกรูทเอาไว้ให้นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่มาเยือนถ่ายรูป สำนักข่าวไทยรัฐ เปิดเผยว่าชายคนดังกล่าวมีชื่อว่านายจิรพันธ์ ตันกุล อายุ 42 ปี ทำอาชีพเป็นนักเขียน ก่อนหน้านี้พี่แกมาเที่ยวที่สวนองุ่นแห่งนี้ แล้วก็เห็นรูปปั้นกรูทตั้งอยู่ ด้วยความที่ชอบตัวละครนี้อยู่แล้ว พร้อมกับเห็นรูปปั้นตัวนี้มีรอยยิ้มที่เปี่ยมสุขมาก ก็เลยนึกขออธิษฐานในใจ ว่าให้ช่วยดลบันดาลให้มีคนเข้ามากดไลก์โพสต์ในเพจเยอะๆ ขอให้ถึง 2,000 ไลก์ก็พอ แล้วก็กลับมาเขียนเรื่องราวลงเพจ เป็นการรีวิวท่องเที่ยวที่สวนองุ่นนี่แหละ และปรากฏว่ามีคนเข้ามากดไลก์กันเยอะมาก จากปกติหลักร้อย แต่โพสต์ดังกล่าวมีคนกดไลก์หลัก 5,000 เลยทีเดียว!! โพสต์ดังกล่าว นายจิรพันธ์ก็เลยเชื่อว่ามันเกิดจากแรงอธิษฐาน…
-
ชาวเน็ตชื่นชมเจ้าหน้าที่ “นกแอร์” สืบยิ่งกว่าโคนัน พาคุณป้าหลงทางกลับบ้านได้ตอนตี 5
นี่คือคุณเอกลักษณ์ จันทร์เพ็ญ และคุณพิพัฒน์ ทองขาม ทั้งสองคนก็เป็นพนักงานเงินเดือนทั่วไปนี่แหละครับ ทำหน้าที่บริการลูกค้าของสายการบินนกแอร์ ในสนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา เหมือนวันทำงานธรรมดาทั่วไป แต่กลับมีเรื่องราวพิเศษเกิดขึ้น… นี่คือคุณป้าปริศนา ซึ่งมาสนามบินดอนเมืองตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงตรง และอยู่ในสนามบินไม่ไปไหน คุณเอกลักษณ์ ซึ่งเข้าทำงานในวันนั้นพอดี สังเกตเห็นคุณป้าตั้งแต่เวลา 17.00 แต่ก็คิดว่าอาจจะมาขึ้นเครื่องไปไหนสักที่ หรือมารอรับญาติที่กำลังบินมาจากที่อื่น เขาเลยไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ และทำหน้าที่ของตนเองต่อไป จนกระทั่ง ช่วงเวลาประมาณตี 3 เขากลับต้องแปลกใจเมื่อพบว่าคุณป้าคนดังกล่าวยังไม่ไปไหน แถมยังมาต่อแถวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินที่จะไปเกาหลีใต้ เขาเห็นว่ามันเริ่มดูไม่ปกติ แม้ตอนนั้นตนเองจะมีหน้าที่ดูแลส่วนของแถวเช็คอิน ที่จะไปประเทศจีนอยู่ก็ตาม แต่เนื่องด้วยหัวใจแห่งการบริการ เขาจึงเข้าไปสอบถาม คุณป้าปริศนา บอกตอนแรกว่า เดินทางมากับญาติเป็นแม่ชี เดี๋ยวญาติจะมา แล้วตอนนี้เธอไม่มีเงินด้วย เขาเห็นว่าเธอหิว เลยพาไปที่นั่งพักของผู้โดยสาร ก่อนจะหาอะไรให้กิน แล้วทำงานของเขาต่อไป แต่จนกระทั่งเขาออกงานตอนประมาณตี 3 ครึ่ง เขาก็เห็นคุณป้ายังนั่งอยู่ตรงนั้น เลยเข้าไปสอบถามอีกรอบ ปรากฏว่ารอบนี้คุณป้าพูดจาวกไปวนมา เขาจึงพาไปที่ สน.ย่อย…
-
พบป้าย “ห้ามใส่บีกีนี” บนเกาะแสมสาร กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันทั้งชาวเน็ตไทยและเทศ
ตอนไปเที่ยวทะเลหรือท่องเที่ยวตามชายหาด เพื่อนๆ จะนึกถึงอะไรบ้าง ก็อาจจะเป็นสายลม เสียงคลื่นและสาวๆ ที่ใส่ชุด “บีกีนี” เล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน แต่ล่าสุดนี้ในโซเชียลมีเดียกำลังเกิดประเด็นถกเถียงกันอย่างมาก เมื่อ “เกาะแสมสาร” อ.สัตหีบ จังหวัดชลบุรี ประเทศไทยของเรา มีป้ายห้าม “ใส่บีกีนี” เล่นทำเอาทั้งคนไทยและเทศต่างงงกันไปตามๆ กัน วันที่ 25 มิถุนายน 2019 เพจเฟซบุ๊ก Stay in Thailand ได้ทำการอัปโหลดภาพของป้ายดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย โดยที่ในป้ายมีรายละเอียดเขียนเอาไว้เป็นภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่า “ห้ามใส่บีกีนี” พร้อมกับยังมีข้อความเพิ่มเติมอีกว่า “โปรดเคารพวัฒนธรรมของเรา” หลังจากภาพของป้ายดังกล่าวถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย ก็กลายเป็นประเด็นให้คนไทยและต่างชาติเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ห้ามใส่บีกีนี งั้นก็เปลือยไปเลยละกัน ที่นี่เป็นหาดเปลือยงั้นเหรอ? น่าอายมาก! สำหรับคนที่ทำป้ายนี้ 1. ฉันคิดว่านี่ไม่ใช่กฎที่เข้มงวดในวัฒนธรรมไทย 2. หากอยากได้นักท่องเที่ยวก็ควรเปิดใจสักหน่อย แต่กระนั้นก็ยังมีคนมาช่วยแถลงว่า เกาะนี้อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ ฉันไม่คิดว่านี่จะเป็นความคิดที่ดี ที่จะเอาภาพนี้มาเป็นประเด็น …
-
ชาวต่างชาติแจ้งความบัตรเครดิตหาย แต่ชาวเน็ตดั๊นโฟกัส “ยาดม” ยาดมอย่างเดียวเลย!!
หลายคนอาจรู้จักกับการ ‘โฟโต้บอมบ์’ หรือการแย่งซีนในฉากต่างๆ ของภาพและวิดีโอ และในครั้งนี้ #เหมียวจิวยี่ จะพาเพื่อนๆ ไปดูการโฟโต้บอมบ์ของคุณตำรวจกับการรับแจ้งความ ที่ทำให้ชาวเน็ตแทบจะลืมรูปคดีไปเลย แต่หันมาสนใจสิ่งที่อยู่รูจมูกของคุณตำรวจแทน!! สำนักข่าว Thairath ได้ลงคลิปวิดีโอของรายการข่าวเที่ยงไทยรัฐ ซึ่งเป็นคดีของชาวจอร์แดนคนหนึ่งที่เข้าแจ้งความกับ สภ.เมืองเชียงใหม่ ถึงเรื่องที่เขาทำบัตรเครดิตหาย แล้วมีคนนำไปรูดซื้อจิวเวลรี่ในห้างดัง รายการข่าวที่ว่านี้ รายละเอียดที่เขาแจ้งก็คือ ทำบัตรเครดิตหายตอนไหนก็ไม่รู้ แต่มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อมีข้อความเข้าโทรศัพท์แจ้งว่าบัตรเครดิตของเขาถูกนำไปรูดซื้อของในร้านสะดวกซื้อ แล้วจากนั้นก็ถูกเอาไปรูดซื้อแหวนมูลค่า 10,000 บาท เขาก็เลยระงับบัตรกับเข้าแจ้งความอย่างที่เห็นเอาไว้ แล้วเกิดความสงสัยว่าคนที่เก็บบัตรได้เอาไปรูดได้อย่างไรกัน เรื่องนี้คุณตำรวจจึงพยายามตามหาคนที่เอาไปรูดอยู่… แต่หากดูจากคอมเมนต์ในวิดีโอแล้ว ดูเหมือนว่าสิ่งที่ชาวเน็ตสนใจกลับไม่ใช่รูปคดีของชายชาวจอร์แดน แต่กลับเป็น ‘ยาดม’ ที่นายตำรวจเสียบคาไว้ที่รูจมูกซะมากกว่า ซึ่งส่วนมากก็บอกมันแทบจะดึงความสนใจไปซะหมดเลย… . ของดีที่ขาดไม่ได้ พ่อหนุ่มไม่ต้องสงสัย ได้ลองแล้วอาจจะติดใจ… . . . . . ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียวกัน… ของเค้าดีจริงๆ เรียบเรียงโดย: #เหมียวจิวยี่
-
รถ ‘Kerry’ เจอถนนลื่นพลิกคว่ำ แต่พนักงานโชว์สปิริต ‘เข้ากอดสินค้าไว้แน่น’ กลัวของลูกค้าพัง!!
อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอและอาจยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณยามที่เราขับขี่รถ ดั่งเช่นในกรณีของรถบริษัทขนส่งคันหนึ่งเกิดพลิกคว่ำข้างทางทำหญ้าหายเป็นแถบๆ แต่สิ่งที่ชาวเน็ตโฟกัสกลับไม่ใช่รถที่พังซะนี่ ทว่ากลับเป็นการที่พนักงานกอดพัสดุของลูกค้าเอาไว้แน่น เพราะกลัวว่าจะทำให้ของของลูกค้าเสียหายหรือเปรอะเปื้อน!! นี่คือเรื่องราวที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก อลงกรณ์ พยัคฆ์บูรพา เปิดเผยต่อชาวโซเชียล ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวได้เขียนแคปชั่นเอาไว้ว่า “#แบบนี้สิเค้าถึงจะเรียกว่าหน้าที่สำคัญเสมอ #ถึงจะเจ็บแต่ก็พร้อมจะส่งให้ถึงมือคุณ หนุ่มเคอรี่ขับรถเพื่อไปส่งสินค้าให้ลูกค้าที่รออยู่ แต่ด้วยถนนลื่นทำให้รถเสียหลักลงข้างทางพลิกคว่ำได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ในมือยังถือเอกสารของลูกค้าไว้ตลอด อาสาสมัครกู้ภัยศีลธรรมสมาคม นำส่งโรงพยาบาลบ้านบึงและอำนวยความสะดวกจุดเกิดเหตุถนน 331 ช่วงวัดเขาไผ่ ฝนตกถนนลื่นระมัดระวังกันด้วยนะครับ” ภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น สภาพของรถที่เสียหาย รถที่ตกลงไปข้างทาง . จากภาพดังกล่าวได้เป็นที่พูดถึงอย่างมากในเรื่องความรับผิดชอบของพนักงาน ที่แม้ตัวจะบาดเจ็บจากอุบัติเหตุแต่ก็ยังเป็นห่วงเป็นใยต่อข้าวของที่กำลังนำไปส่งให้กับลูกค้า แต่บางคนก็บอกว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา มักจะเห็นว่ารถขนส่งชอบที่จะขับเร็วจนน่ากลัวอยู่เสมอ จริงอยู่ที่ว่าอาจต้องทำเวลา ทว่าก็ควรที่จะระวังให้มากกว่านี้เช่นกัน… . . . . . ที่มา: อลงกรณ์ พยัคฆ์บูรพา
-
แฟนคลับร่วมส่งผ่านกำลังใจให้ ‘แทยอน SNSD’ ผ่าน #WeLoveYouTaeYeon หลังรู้ว่าป่วยเป็นซึมเศร้า
กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงในโลกอินเทอร์เน็ตขึ้นมาในบันดล หลังจากที่ ‘แทยอน SNSD’ ลีดเดอร์ของวง Girls’ Genetation ได้ตอบคำถามใน IG Story ว่าตัวเธอเองนั้นกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและกำลังต่อสู้กับโรคนี้อยู่ แฟนๆ จากทั่วทั้งโลกจึงพากันส่งกำลังใจให้กับเธออย่างมากมาย ผ่านทางแฮชแท็ก #WeLoveYouTaeYeon เพื่อภาวนาให้เธอสามารถเอาชนะโรคนี้ให้ได้ ในส่วนนี้ #เหมียวจิวยี่ ก็เลยอยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปดูกำลังใจจากคนไทยที่ส่งผ่านแฮชแท็กนี้ ให้เห็นว่าแฟนคลับชาวไทยเป็นห่วงเป็นใยเธอขนาดไหน อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นได้อย่างดีว่าการส่งกำลังใจให้กับคนคนหนึ่งเป็นเรื่องที่สวยงามขนาดไหน เราจะร่วมผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน… พี่แท เค้าชอบสายตาพี่ที่มองโซวอนที่สุดเลยนะ มันอบอุ่นมากเลย เค้ารักพี่มากๆเลยนะ ขอบคุณพี่นะที่รักตัวเองเหมือนกัน เราจะผ่านเรื่องราวต่างๆไปด้วยกันนะ #WeloveYouTaeyeon 😄😄 pic.twitter.com/HSd4JVNFPq — HappyTime (@endeavor_you) June 16, 2019 เพื่อรอยยิ้มที่สวยงามได้กลับมาอีกครั้ง https://twitter.com/paysianz/status/1140281412995575814 มาร่วมต่อสู้ไปด้วยกันเถอะ ใครจะคิดว่าคนที่คอยมอบความสุขให้คนอื่น เค้าจะรู้สึกยังไง ไม่มีใครเข้าใจ แต่โซวอนทุกคนเข้าใจ และอยากให้พี่มีความสุขมากกว่าโซวอนเองด้วยซ้ำ เราจะผ่านไปด้วยกันจริงๆนะ มาสู้ไปด้วยกัน โซวอนทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แทยอนต้องทำได้นะ💜 #WeLoveYouTaeYeon pic.twitter.com/k8l3RI0btD — as_…
-
รวบรวม 8 สุดยอดประสบการณ์กับ “หวย” ของมนุษย์โลก มีทั้งสุขสม ทั้งเศร้าเคล้าน้ำตา
‘เฮ้ยย!! วันนี้ถูกหวยรางวัลที่ 1 ว่ะ’ เชื่อเลยว่านี่อาจเป็นคำพูดที่แทบจะทุกคนอยากจะลั่น พูดออกมาให้สะใจเวลาหลังหวยออก (รวมถึง #เหมียวจิวยี่ ด้วย ฮ่าๆ) แต่เจ้ากรรมด้วยความดวงกุดหรือพระเจ้าไม่อยากให้รวยก็ไม่รู้ ถึงไม่มีโอกาสได้ถูกหวยรางวัลใหญ่ๆ กับเค้าบ้างซะที… มา มาเป็นของพ่อเถอะลู๊ก ถึงอย่างนั้นก็เชื่อเถอะว่าสักวันมันต้องเป็นดวงของเราแน่ๆ ขอแค่มีความพยายาม อย่างที่เคยมีใครบางคนกล่าวไว้ว่าความพยายามอยู่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น!! แต่ในตอนนี้เราลองไปดูเรื่องราวของคนอื่นๆ กับเรื่อง ‘หวย’ กันบ้างดีกว่า ว่ารอบโลกนี้เคยมีใครสุขสมหรือมีเรื่องเศร้าที่เกี่ยงเนื่องกับเรื่องของ ‘หวย’ มากน้อยเพียงใด และที่ขอแอบบอกเลยก็คือมีหลายเรื่องที่คุณจะต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ 1. ชายผู้ถูกแจ็คพอต 8,000 ล้าน ลืมลอตเตอรี่ใบนั้นไว้ที่ร้าน แต่มีคนเก็บมาคืน!! Mike Weirsky ชายชาวมะกันซื้อลอตเตอรี่จากร้านแห่งหนึ่ง แต่เขาก็มัวแต่เล่นโทรศัพท์จนลืมหยิบลอตเตอรี่ที่ซื้อมาด้วย ต่อมามีคนเก็บคืนส่งให้ร้าน ทางร้านก็เก็บไว้ให้จนเขามารับคืนในวันรุ่งขึ้น และใครจะไปคิดว่าลอตเตอรี่ใบนั้นจะถูกรางวัลมูลค่า 273 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 8.6 พันล้านบาท) เข้าให้ ซึ่งทางร้านบอกถ้าคนที่เก็บได้เขียนชื่อตัวเองลงไปบนหวย ป่านนี้เขาก็เป็นเศรษฐีแทนที่นาย Mike ไปแล้ว อ่านเรื่องเต็มๆ ได้ที่ >> https://www.catdumb.com/old/lucky-man-claim-lost-lottery-511/ …
-
คลิปฝึกซ้อม “ตำรวจบางบ่อ” ฮาหนักจัดเต็ม ฟ้อง บขส. ก็มา – ช้างกูอยู่ไหน ก็มี!!
เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องมีการฝึกซ้อมรูปแบบต่างๆ เพื่อที่เมื่อถึงเหตุการณ์จริงจะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง แต่ว่าก็มีคลิปการฝึกซ้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจคลิปหนึ่งที่กลายเป็นไวรัล เพราะมันช่างดูน่าตลกซะจนเกินกว่าที่ฟันกรามจะรับไหว ซึ่งเกิดอะไรขึ้นนั้น บอกเลยว่าต้องไปดู… คลิปดังกล่าวนี้เผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก พณิช พิพัฒน์สมบัติ ซึ่งได้บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่มีคนร้ายบุกเข้าไปในโรงพยาบาล จนต้องตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจัดการ ตำรวจสภ. บางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ 2 นายนี้ ได้รับแจ้งเหตุคนมาอาละวาดที่โรงพยาบาลบางบ่อ จึงเข้ามาตรวจสอบ แล้วก็พบเข้ากับชาย 2 คนนี้ โดยคนหนึ่งมีอาวุธมีดดาบอยู่ในมือ ส่วนตำรวจมีกระบองแต่ก็ต้องพยายามระงับเหตุให้ได้ คนหนึ่งลงไปกองเรียบร้อย หลังจากตำรวจดูเชิงรอจังหวะอยู่พักหนึ่ง เพื่อนอีกคนเลยพยายามเข้าไปช่วย ตอนนี้ก็เหลือแต่คนที่มีอาวุธแค่คนเดียวแล้ว ซึ่งเขาพยายามโวยวายว่าคนผิดจริงๆ อยู่ในห้องฉุกเฉินนู่น คุณตำรวจช่วยไปจับให้ที ผมไม่ผิด!! มาจับผมทำไมเล้า ข้างในนั่นค้าบบ คุณตำหนวด ไม่เชื่อหรอ ต้องเจอท่านี้ ‘ช้างกูอยู่ไหน’ หลังทำท่านี้ ตำรวจอีกคนก็เดินเข้ามาข้างหลังรวบตัวลงอย่างง่ายดาย ระหว่างนี้เขาบอกว่าจะฟ้องไม่เลือกหน้า ฟ้องให้หมดทั้ง ปปช., รพช., บขส. รวมถึงกกต.…
-
20 ประสบการณ์สุดเจ็บ ที่เกิดขึ้นตอนใช้บริการ ‘วินมอเตอร์ไซค์’ คุณให้มากกว่านี้อีกไหม…
เรียกว่าตอนนี้คงไม่มีอะไรท็อปฟอร์มได้เท่ากับเรื่องของ ‘วินมอเตอร์ไซค์’ ที่มีข่าวแทบไม่เว้นแต่ละวัน ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ทั้งเรื่องยกพวกตีกัน ไล่จับแกร๊บ หรืออื่นๆ ด้วยเหตุนี้เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (16 มิถุนายน) #เหมียวจิวยี่ จึงเปิดโพสต์ให้เพื่อนๆ ได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์ที่แต่ละคนเคยมีกับวินมอเตอร์ไซค์กัน ซึ่งก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย และต้องบอกว่าเป็นบางประสบการณ์ก็เป็นอะไรที่พีคจนเหนือการคาดเดาจริงๆ… บทความนี้จึงจะพาเพื่อนๆ ไปแอบดูความเห็นของพวกเขากัน ว่าเป็นอย่างไรกัน พร้อมแล้วใช่ไหมงั้นไปลุยกันเล้ย!! ประสบการณ์แรกก็พีคละ เจองี้เป็นงงสิ สบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ หาย หายไปเลย… สนับศอกด้วยก็น่าจะดี อากาศร้อน คนก็ร้อน ท่ามกลางแดดร้อนๆ เขาอาจจะอยากช่วยพรมน้ำให้ ก็เป็นได้ น่าร้ากก เคยเจอคำถามเดียวกันบ้างไหม? เรียกว่าเอาคืนได้แสบทีเดียว ซ้อมไปร่วมแข่งรึเปล่า ขอแทรกเข้าไปในหัวจาย หนึ่งตัวอย่างของการพูดจนเห็นภาพ เจอเต่าไหม? ใครไม่รีบ วินรีบ มันปวดร้าว…
-
เย้ย..มาไง!? ภาพถุงยางอนามัยลอยเกลื่อนคลอง ชาวเน็ตแซวซะเสีย ‘กลัวได้เห็นนางเงือกกลางกรุง’
เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตบ้านเรากันเลยทีเดียว กับกรณีภาพของ ‘ถุงยางอนามัย’ ที่ถูกทิ้งลอยเกลื่อนลำคลองแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ภาพที่เป็นประเด็น ชาวเน็ตหลายคนต่างก็ตกใจกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ‘ถุงยางอนามัย’ เหล่านี้ มาได้อย่างไร ทำไมถึงลอยเกลื่อนคลองซะขนาดนี้ พร้อมกับตั้งข้อสันนิษฐานกันไปต่างๆ นานา บ้างก็คิดว่าแถวนั้นคนมีเพศสัมพันธ์กันเยอะมากเลยเหรอ? เกิดจากการทิ้งถุงยางอนามัยลงชักโครกรึเปล่า? ล่าสุดก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อว่า นาย อร่อย อูมามิ ได้เปิดเผยภาพบางส่วน ที่ทำให้ทราบแล้วว่าต้นเหตุของถุงยางอนามัยเหล่านี้แท้จริงแล้วมาจากไหน จากโพสต์ของเจ้าของเรื่อง พอจะทราบได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่คลองบางกอกใหญ่ พร้อมกับมี ‘ถุงขยะ’ ของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งลอยอยู่ใกล้ๆ กันด้วย แต่สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งก็มีการคาดเดากันไปต่างๆ นานา บ้างก็คิดว่าโรงแรมน่าจะนำมาทิ้ง บ้างก็คาดว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุ ที่ถุงขยะตกลงไปในคลอง จนทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นมา . . ชาวเน็ตหลายคนต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่เกิดขึ้นกันอย่างล้นหลาม บ้างก็เข้ามาแซว “คิดมากน่า อาจจะเป็นฝูงแมงกะพรุนก็ได้” “ปลามันจะไม่ท้อง ออกลูกมาเป็นนางเงือกเหรอฟร๊ะนั่น!?” ชาวเน็ตอีกท่านแซว บ้างก็คิดเผื่อไปว่า น้ำที่อยู่ในนี้ สุดท้ายแล้วมันจะไปเป็นน้ำประปารึเปล่านะ? “กลัวมันจะกลายไปเป็นน้ำประปาดื่มได้น่ะสิ” บางส่วนก็มาแซวโรงแรมว่า…
-
ไปรู้จัก ‘มดอาจารย์รวิน’ มดสายพันธุ์ใหม่ของโลก ถูกพบในไทย และมี ‘ชื่อคนไทย’ อยู่ในนั้น
‘มด’ สิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่มีอยู่มากมายหลากหลายสายพันธุ์ เราอาจเคยเห็นพวกมันอยู่ตามบ้าน ตามสนามหญ้า แต่ก็อาจไม่ได้ให้ความสนใจกับเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้สักเท่าไหร่นัก แต่สำหรับมดชนิดนี้ บอกได้เลยว่า “ไม่สนใจไม่ได้แล้วจริงๆ” เพราะนอกจากว่ามันจะเป็น ‘มดชนิดใหม่ของโลก’ แล้ว ความพิเศษอีกอย่างคือชื่อชนิดของมันยังมี ‘ชื่อของคนไทย’ รวมอยู่ในนั้นด้วย!! มดชนิดใหม่ พบในไทย และมีชื่อของคนไทยรวมอยู่ด้วย รู้จักกับ ‘มดอาจารย์รวิน’ มดชนิดใหม่ของโลกที่พบในไทย มดอาจารย์รวิน หรือชื่อเต็มๆ คือ Myrmecina raviwongsei Jaitrong, Samung, Waengsothorn et Okido คือเจ้ามดที่เพิ่งถูกจัดให้เป็นมดชนิดใหม่ของโลกแบบสดๆ ร้อนๆ ในเดือนมิถุนายน 2562 นี้ การค้นพบมดชนิดดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของ ‘พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ’ , ‘คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล’ และ ‘สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย’ จากการร่วมกันศึกษาสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้ในประเทศเรา ทำให้พวกเขาได้ค้นพบมดอาจารย์รวิน ในสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช จังหวัดนครราชสีมา ลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์…
-
พาเหรดล้อการเมือง จากเด็กนักเรียนมัธยม – ฝั่ง ผอ. สนับสนุน “เด็กอยากแสดงออก”
‘พาเหรดล้อการเมือง’ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันในงานกีฬาระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งที่เราคุ้นหูคุ้นตากันดีก็คือประเพณีงานบอลระหว่างมหาวิทยาลัยจุฬา – ธรรมศาสตร์ ที่เป็นข่าวให้เราเห็นเป็นประจำถึงมุมมองของนักศึกษาต่อเรื่องของการเมือง แต่ดูเหมือนว่าขบวนพาเหรดนี้จะไม่ได้มีอยู่แค่เพียงในรั้วมหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียว เพราะตอนนี้ก็มีเด็กมัธยมของโรงเรียนแห่งหนึ่งเดินพาเหรดล้อการเมืองบ้างแล้ว!! โพสต์ที่นำเสนอเรื่องราวนี้ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา โรงเรียนสภาราชินี โรงเรียนที่ตั้งอยู่เยื้องกับบ้านพักของคุณชวน หลีกภัย จังหวัดตรังได้จัดงานกีฬาสีขึ้น ซึ่งในงานนี้ก็มีการจัดขบวนพาเหรด แต่นอกเหนือจากการเดินขบวนแบบเดิมๆ แล้ว ในปีนี้ก็มีการแสดงออกของเด็กๆ กับมุมมองเรื่องของการเมืองด้วย ซึ่งเด็กๆ ทำเป็นหุ่น หรือเขียนเป็นป้ายผ้าแสดงออกถึงความคิดเห็น ลองมาดูการแสดงทัศนะการเมืองของเด็กๆ กัน . . . . ภาพขบวนพาเหรดนี้ได้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์อย่างมากมาย ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่สัมภาษณ์ทางด้านนายสุรศักดิ์ ยี่หลัก ผู้อำนวยการของโรงเรียนสภาราชินี . เขากล่าวว่าก่อนที่จะมีการจัดกิจกรรมแสดงออกนี้ ประธานสภานักเรียนได้นำรูปแบบและข้อความมาเสนอต่อฝ่ายปกครองแล้ว ทางโรงเรียนก็ตรวจสอบกลั่นกรองแล้วเห็นว่าไม่ได้มีเจตนาส่อความรุนแรงใดๆ จึงอนุญาตให้จัดได้ เพราะเข้าใจถึงความคิดของนักเรียนที่ต้องการแสดงออกทางการเมือง แต่ทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตที่พอเหมาะพอควร ซึ่งหลังจากที่รูปถูกแชร์ออกไปมากมาย ก็ไม่ได้มีการถูกตำหนิจากฝ่ายใดๆ ด้วย รู้นะว่ายังไม่จุใจกัน…
-
คุณครูวัยเกษียณเป็นปลื้ม เด็กๆ ตามมาไหว้ถึงท้องนาในวันไหว้ครู แม้จะหมดอายุราชการไปแล้ว
ช่วงนี้อยู่ในช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ และหลายโรงเรียนก็จะมีกิจกรรม ‘ไหว้ครู’ เกิดขึ้น เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสแสดงความเคารพต่อคุณครูผู้ให้ความรู้ รวมถึงสั่งสอนเรื่องต่างๆ แต่ว่าบางทีพอถึงวันไหว้ครูเช่นนี้ หลายคนก็อาจจะนึกถึงคุณครูคนโปรดขึ้นมา เหมือนกับเด็กๆ กลุ่มนี้ที่แม้ว่าคุณครูจะเกษียณราชการไปแล้ว แต่เด็กๆ ก็ยังตามไปไหว้ถึงท้องนา!! นี่คือเรื่องราวชวนให้ยิ้มจากเฟซบุ๊ก Wirat Sawangarom ที่นำเรื่องราวมาเผยแพร่ ซึ่งแคปชั่นของโพสต์ที่เขียนเอาไว้ก็คือ “#ภาพประทับใจ ไหว้ครู .. แม้คุณครูท่านจะเกษียณไปแล้ว แต่ลูกศิษย์ก็ไม่เคยลืมครู ศิษย์เก่าโรงเรียนบ้านหัวดงไม่เคยลืมครูครับ …!!!” ภาพของคุณครู คุณครูที่อยู่ในภาพคือนายคงฤทธิ์ สืบสายลา อดีตคุณครูโรงเรียนบ้านหัวดง จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน จากความที่เขาอุทิศทั้งแรงกายแรงใจให้กับเด็กๆ ตลอดอายุความเป็นครูจนกระทั่งเกษียณราชการ เด็กๆ พากันมาไหวถึงท้องนา ด้วยเหตุนี้เด็กๆ จึงถือโอกาสวันไหว้ครู เดินทางไปแสดงเคารพแด่คุณครูคนนี้ถึงท้องนา แม้ว่าในเวลานั้นนายคงฤทธิ์ยังไถนาอยู่เลยก็ตาม ภาพของคุณครูในวัยเกษียณ ร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น พากันเดินทางมากันในวันสำคัญเช่นนี้ ภาพเหล่านี้ได้เป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล ตอนนี้มีแชร์ออกไปแล้วมากกว่า 3,000 ครั้ง…
-
‘แฟนไปรษณีย์’ ขี่มอเตอร์ไซค์ให้ ‘ไปรษณีย์แขนเจ็บ’ ส่งของตามบ้าน ลูกค้าฉันต้องได้ของ!!
บุรุษไปรษณีย์คืออีกคนที่หลายๆ คนมักจะเฝ้ารอให้เขามาถึงประตูบ้าน (จะได้ของที่สั่งไว้ไงล่ะ!!) แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อไปรษณีย์แขนเจ็บไม่สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ส่งของตามบ้านได้ บางทีแล้วเขาก็อาจแก้ปัญหาด้วยวิธีน่ารักๆ เหมือนกับกรณีนี้ ที่ไปรษณีย์ให้แฟนมาขี่รถให้แทน จนได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมากมาย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจากความที่คุณ Aom Aom AJ Butwong ได้โพสต์ภาพลงในกลุ่มฮาฮักลำพูน ก่อนที่ทางเพจฮาลำพูน จะนำมาแชร์ต่ออีกรอบ.. ชุดภาพที่ถ่ายไว้เป็นภาพของไปรษณีย์คนหนึ่งกับการส่งของตามบ้านโดยมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งเป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ให้ “สุดยอดไปรษณีย์บ้านพี่ แขนใส่เฝือกขี่รถเครื่องเองไม่ได้แต่ยังคงทำหน้าที่ส่งของให้ถึงลูกค้า โดยให้แฟน (คิดว่าคงใช่แฟน) ขี่รถให้ รักนะไปรษณีย์ไทย ♥♥♥ พิกัดหลังโรงเรียนวัดขี้เหล็ก” แคปชั่นของโพสต์ ลองดูความน่ารักของคุณไปรษณีย์กัน ตั๋ว ตั๋วขี่รถหื้ออ้ายกำ (ซับไทย: เธอๆ ขี่รถให้พี่หน่อยสิ) แขนเจ็บแต่ก็ส่งของให้ลูกค้าได้เหมือนเดิม สงสัยเย็นนี้ ต้องพาไปเลี้ยงซะแล้วล่ะ เรื่องน่ารักๆ ของคุณไปรษณีย์นี้ ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมากจนมีการแชร์ออกไปแล้วนับร้อยครั้ง แถมยังมีเสียงแซวตลกๆ เกิดขึ้นอย่างมากมายภายในโพสต์ น้องขอโตด เดี๋ยวเบาๆ ลงละกัน สปิริตแรงกล้าสุดๆ บอกเลยว่าน่ารัก …
-
งงใจ?? ออกรถใหม่ป้ายแดง โดนตำรวจตรวจจับจ้อย ที่ไหนได้บริษัทให้ ‘ป้ายแดงปลอม’ มา!!
การที่เราเพิ่ง ‘ถอยรถป้ายแดงมา’ คงไม่มีใครคิดหรอกว่าจะ ‘ถูกตำรวจจับ’ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดกฎจราจรใดๆ ก็แค่ขับไปบนท้องถนนตามปกติ… แต่เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นแล้วกับชายคนหนึ่ง หลังจากที่เขาถูกตำรวจเรียกตรวจและถูกจับดำเนินคดี ในข้อหา ‘ใช้เอกสารราชการปลอม’ ภาพประกอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องมันมีอยู่ว่า… ทางเพจ ‘มีอะไรบอกด้วย อุบลราชธานี’ ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่ถ้าเราได้เจอด้วยตัวเองก็คงจะต้องงงไปตามๆ กันอย่างแน่นอน เพราะชายคนนี้เพิ่งถอยรถป้ายแดงคันใหม่ออกมาจาก ‘โชว์รูมบริษัทรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง’ แบบสดๆ ร้อนๆ ในจังหวัดปทุมธานี แต่ในเวลาต่อมาเพียงไม่นาน เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจรถป้ายแดงคันดังกล่าว ก่อนที่จะถูกจับกุมตัวและดำเนินคดีในข้อหาใช้เอกสารราชการปลอม…?! เอกสารบันทึกการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ . เพิ่งถอยรถใหม่มา โดนจับได้ยังไงกัน?! หลังจากนั้นทางเจ้าของเรื่องถึงได้ทราบจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ‘ป้ายทะเบียน’ ป้ายแดงที่ทางบริษัทดังกล่าวติดมาให้มันเป็น ‘ป้ายแดงปลอม’ !! งานนี้ทำเอาลูกค้าหนุ่มถึงกับรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าตนเองจะถูกย้อมแมวนำป้ายทะเบียนปลอมมาใส่ให้แบบนี้ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะทางเจ้าของเรื่องยังบอกอีกว่า บริษัทรถยนต์ดังกล่าวยังคงไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆ เลย กลายเป็นว่าตัวเขาที่เป็นลูกค้านั้นกลับต้องถูกฟ้องเป็นคดีอาญาไปซะเอง บทสรุปของเรื่องราวดังกล่าวยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด และต้องรอความคืบหน้าในการดำเนินคดีทางกฎหมาย ที่ทางเจ้าของรถอาจจะฟ้องกลับไปยังบริษัทที่จัดหาป้ายทะเบียนมาให้ต่อไป โพสต์ต้นฉบับ…
-
รู้จักกับ 5 ยอดเด็กสุดเจ๋ง กับ ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ที่อาจเปลี่ยนโลกได้ เด็กแต่เด็ดนะขอบอก
‘ถึงตัวจะเป็นเด็ก แต่สมองเขาเป็นผู้ใหญ่ ชื่อของเขาก็คือ… เด็กเหล่านี้แหละครับ!!’ สำหรับบางคนแล้วแม้จะเพิ่งลืมตาขึ้นมาดูโลกไม่กี่ปี แต่ว่าความคิดความอ่านของพวกเขากลับไปไกลเกินกว่าที่เราจะคาดถึง จนถึงขั้นบางคนได้รับการยอมรับและเสียงชื่นชมจากทั่วทั้งโลกมาแล้ว ดังนั้นในบทความนี้ เราไปรู้จักกับเด็กเจ๋งๆ จากทั่วทั้งโลกที่ #เหมียวจิวยี่ อยากจะแนะนำเพื่อนๆ ให้ได้รู้จักกันดีกว่า แล้วจะรู้ว่าความคิดของพวกเขาไม่ใช่เด็กอย่างที่เราคิด แถมบางทียังล้ำจนตามไม่ทันเลยแหละ!! 1. เกรียตา ทุนแบร์ย (Greta Thunberg) นักรณรงค์สิ่งแวดล้อม ผู้ปลุกให้เยาวชนตื่นตัวเรื่องโลกร้อน เกรียตา ทุนแบร์ยคือวัยรุ่นวัย 16 ปีจากประเทศสวีเดนที่ตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน โดยเธอได้สร้างปรากฏการณ์ปลุกเยาวชนให้ตื่นตัวกับเรื่องนี้ ด้วยการหยุดเรียนไปนั่งประท้วงเงียบที่หน้ารัฐสภาในกรุงสต็อกโฮล์ม ในเวลาต่อมาเธอได้รับโอกาสได้พูดในเวทีประชุมของสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกครั้งที่ 24 หรือ COP24 ที่โปแลนด์ แล้วเธอก็ทำให้หลายคนถึงกับอ้าปากค้าง ด้วยความคิด ความกล้าหาญของวัยรุ่นคนหนึ่งที่กล้าพูดอย่างฉะฉานในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยประโยคเด็กที่ทั้งโลกต้องอึ้งก็คือ “พวกคุณไม่โตพอที่จะพูดความจริง แม้แต่เรื่องที่ว่าคุณทิ้งภาระไว้ให้เด็กอย่างเรา” ซึ่งก็ทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ 2. เด็กชายเหมวิช วาฤทธิ์ หรือน้องฮับ เด็กไทยที่เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย ‘Google Science Fair’ …
-
สาวไทยเจอหนุ่มฝรั่งในแอป Tinder สานสัมพันธ์ก่อเกิดเป็นความรัก ลงเอยด้วยงานวิวาห์
‘รักแท้ในโลกออนไลน์’ หลายคนอาจจะเคยได้เห็นประโยคนี้กันมาแล้วไม่มากก็น้อย และอาจจะตั้งคำถามว่ามันมีอยู่จริงๆ หรือ? เป็นไปได้มากแค่ไหนกัน? หรือเป็นเพียงประโยคเจ๋งๆ ที่มีไว้สร้างแรงบันดาลใจเฉยๆ แต่เอาจริงๆ แล้วมีคู่รักมากมายหลายคู่ ที่พบเจอกันในโลกออนไลน์ และกลายเป็นคู่ชีวิต และนี่ก็คืออีกหนึ่งเรื่องราว ที่จะมาพิสูจน์ให้ทุกท่านได้เห็นว่า ‘รักแท้ในโลกออนไลน์’ นั้นมีอยู่จริงๆ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Kyliecia Claires ได้โพสต์แชร์เรื่องราวความรักอันน่าประทับใจ ที่ได้พบกับสามีหนุ่มชาวต่างชาติผ่านทาง ‘แอปหาคู่’ และสานสัมพันธ์ จนกลายมาเป็นคู่ชีวิตกัน โพสต์ต้นฉบับ อ่านเรื่องราวของเธอไปพร้อมๆ กันได้เลยครับ.. เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อทั้งคุณพลอย และคุณบาร์ท ได้เจอกันในแอปพลิเคชั่นหาคู่เมื่อประมาณเกือบ 2 ปีก่อน . ทั้งสองคนเจอกันในแอปทินเดอร์ (Tinder) . . . . . . . . . . . . . . . . . …
-
ตะลึง!! น้ำผุดใต้ต้นลำใย เชื่อเป็น ‘บ่อน้ำทิพย์’ พากันกราบไหว้บูชา จบตรงจนท. ปิดวาล์วน้ำ…
เรียกว่าตอนนี้คงไม่มีกระแสไหนที่จะมาแรงเท่า ‘บัตรพลังงานรักษาโรค’ อีกแล้ว แต่ก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่หากไม่ถูกเฉลยความจริงซะก่อน ก็อาจจะดังเป็นคู่แข่งกับเจ้าบัตรที่ว่านี้ก็เป็นได้ เพราะที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดเชียงราย มีน้ำผุดขึ้นอย่างปาฏิหาริย์ใกล้ๆ กับต้นลำไยในบ้าน สร้างความฮือฮาว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีการนำกระถางธูปมาตั้งให้คนบูชา แต่ว่าบ่อน้ำนี้กลับนิ่งสนิททันทีที่เจ้าหน้าที่ปิดวาล์วน้ำ… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 112 ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของสองผู้เฒ่าคือนายบุตรและนางแสงหล้า อายุ 70 ปี ที่พบว่ามีน้ำผุดขึ้นมาบริเวณต้นลำไยในรั้วบ้าน ส่วนตัวของทั้งคู่เชื่อว่าน้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือบ่อน้ำทิพย์ ก็เลยนำมาใช้ล้างเนื้อล้างตัว ล้างหัวรวมถึงดื่มกิน โดยเชื่อว่าสามารถทำให้อาการเจ็บป่วยดีขึ้นได้ ข่าวของบ่อน้ำนี้จึงแพร่สะพัดสร้างความแตกตื่นออกไป จนมีคนมากมายเดินทางมาขอน้ำวิเศษจากหลักสิบเป็นหลักร้อยคนต่อวัน รวมทั้งมีการนำกระถางรูป ตู้บริจาคมาตั้งให้ผู้คนได้สักการะกัน (เงินที่ได้ก็จะนำไปทอดผ้าป่าวัด) ในเวลาต่อมาเรื่องนี้ก็ได้ไปเข้าหูนายมานพ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่ยาว จึงได้ลงพื้นที่นำน้ำมาตรวจสอบเพราะเกรงว่าจะมีอันตราย ซึ่งระหว่างนี้ก็มีการติดป้ายห้ามใช้น้ำที่บ่อเอาไว้ด้วย จากนั้นนายประพันธ์ สาธารณสุขอำเภอเมืองเชียงรายก็ลงตรวจสอบด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่เองที่กลายเป็นจุดเฉลยถึงที่มาของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เมื่อทางเจ้าหน้าที่เดินสำรวจพื้นที่แล้วไปดึงท่อที่ต่อจากวาล์วน้ำประปา บ่อน้ำทิพย์ก็นิ่งสนิทสิ้นความขลังลงอย่างง่ายดาย… นายประพันธ์จึงสรุปว่า น้ำที่ผุดออกมาเป็นเพราะท่อประปาเก่าที่เดินไว้ใกล้ๆ กับใต้ต้นลำไยเกิดแตก ทำให้น้ำซึมออกมาจากใต้ดินและไหลออกเป็นทาง ท้ายที่สุดเขาก็กล่าวเตือนชาวบ้านว่า น้ำที่ใช้ดื่มกินควรจะเป็นน้ำที่สะอาดตรวจสอบได้ ทั้งยังเตือนว่าการกินน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อาจเป็นอันตรายกับร่างกายได้ด้วย #เหมียวจิวยี่ ที่มา:…
-
สาวหนักใจ เพื่อนแต่งงานพูดดักคอให้ใส่ซอง 1,000 ทั้งๆ ที่ตอนมางานใส่แค่ 100!?
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การใส่ซอง’ ในงานแต่งงาน ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ทำกันมาอย่างยาวนานในบ้านเรา และก็มักจะมีประเด็นมาให้ขบคิดกันอยู่ตลอดว่า ‘ต้องใส่เท่าไหร่ถึงจะดูไม่น่าเกลียด’ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งมาโพสต์กระทู้ในเว็บไซต์พันทิปใช้หัวข้อว่า “คิดยังไงเพื่อนจะแต่งงานแล้วบอกว่า ‘ต้องใส่ซองกู ไม่ต่ำกว่า 1,000 นะ’ แต่ตอนเราแต่งเพื่อนใส่ซอง 100.-“ จนกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากชาวเน็ต เรื่องของเรื่องก็คือ หญิงสาวคนหนึ่ง ใช้แอคเคาทน์เว็บไซต์พันทิปชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 5301305 เข้ามาตั้งกระทู้สอบถามความคิดเห็นจากเพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ โดยเล่าว่าดังนี้… เพื่อนมาเชิญไปงานแต่ง แต่ดักคอไว้ก่อนว่าให้ใส่ซองไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท แต่ก่อนหน้านี้ที่ไปร่วมงานก็ใส่แค่ 100 บาท แถมขากลับยังมาขอหมูสดที่งาน เพื่อเอากลับไปทำหมูกระทะทานที่บ้าน ผ่านไป 3 ปีเพื่อนจะแต่งงานบ้าง แต่ดันดักไว้ก่อนเลยว่าให้ใส่ซองไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เน้นไปที่เจ้าของกระทู้ เพราะว่าเพื่อนเคยไปร่วมงานมาแล้ว ตัวเจ้าของกระทู้เองก็สงสัยว่าจะทำอย่างไรดี จะใส่ซองคืนให้เท่ากับจำนวนที่เพื่อนขอดีมั้ย? หรือจะใส่เท่ากับจำนวนที่เพื่อนเคยใส่ให้ ก็เลยมาสอบถามชาวเน็ต กระทู้ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก จนขึ้นเป็นกระทู้ยอดนิยม (Trending) ในเว็บไซต์พันทิป…
-
รีวิว ‘โทรสายด่วนสุขภาพจิตครั้งแรก’ บริการดีจนต้องบอกต่อ ยืนยันจากผู้ใช้งานจริงจำนวนมาก
เพื่อนๆ คงจะเคยได้ยินชื่อ ‘สายด่วนสุขภาพจิต 1323’ และอาจเคยคิดว่า พอดูจากชื่อแล้วมันน่าจะเป็นเบอร์สำหรับผู้ที่มี ‘อาการป่วยทางจิต’ แค่เท่านั้น แต่ความจริงแล้วคำว่า ‘สุขภาพจิต’ ไม่จำเป็นต้องมีอาการทางจิตเสมอไปก็ได้ หากแต่เพียงแค่เรารู้สึกไม่สบายใจ มีความคิด หรือรู้สึกจิตตกกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เพียงเท่านั้นเราก็สามารถโทรไปขอคำปรึกษาได้แล้ว และล่าสุดก็ได้มีคนมาตั้งกระทู้ บอกเล่าเรื่องราวการโทรไปใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิต ‘ครั้งแรก’ และมันก็ได้สร้างความประทับใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก กระทู้จาก ‘สมาชิกหมายเลข 3962995‘ (12 มิถุนายน 2562) ประสบการณ์ตรงของเธอ เธอเล่าว่าตนเองทำงานเป็นพนักงานขาย ทำให้แต่ละวันต้องเจอกับความกดดันหลายๆ อย่าง จนเกิดเป็นความเครียดสะสม ในตอนนั้นเองที่เธอเริ่มนึกไปถึงบริการสายด่วนสุขภาพจิต หลังจากที่เคยเห็นว่ามีหลายๆ คนเคยโทรไปขอคำปรึกษา แต่ใจหนึ่งเธอก็มองว่าตนเองไม่น่าจะอาการหนักขนาดนั้นหรือเปล่า… ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ตัดสินใจลองโทรไปและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกประทับใจ ปนความตื้นตันใจเป็นอย่างมาก เธอบอกว่า ถึงแม้คนปลายสายอาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่เธอต้องเผชิญ แต่อย่างน้อยเขาก็ช่วยรับฟัง และพูดคุยจนทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับได้ยกภูเขาออกจากอก ชนิดที่ว่าวางสายแล้วก็ถึงกับร้องไห้ออกมาเลย เธอจึงอยากจะขอขอบคุณที่มีบริการนี้ไว้สำหรับรับฟังปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นของคน ในเมื่อเธอมองว่าสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ต้องการก็คือ ‘คนที่คอยเข้าใจและรับฟังเรา’…
-
6 ไอเทมเคยมีในไทย สุดแปลกแหวกจนนักวิทย์ฯ ยังเกาหัว มันมีสรรพคุณอย่างว่าจริงๆ เหรอ!?
หากสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่าที่ผ่านมาโลกของเรา มีไอเทมแปลกๆ เกิดขึ้นอย่างมากมายหลายสิ่ง บางอย่างก็เป็นสิ่งที่ดีงาม บางอย่างก็ยังงงๆ อยู่ว่าเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร!? แถมยังมีการโฆษณาสรรพคุณแบบครอบจักรวาลสมทบอีก ซึ่งเจ้าสิ่งอย่างหลังนี้จากอดีตจนถึงปัจจุบันก็มีไม่น้อย อย่างเช่นกรณีล่าสุดที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้อย่าง ‘บัตรสมาร์ทการ์ดรักษาโรค’ ที่กำลังโด่งดังกันอยู่ขณะนี้ และไอเทมจำพวกที่ว่านี้จะมีอะไรบ้างเราไปย้อนรอยดูกันดีกว่า ว่าประเทศไทยเราเคยมีอะไรบ้างที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่กลายเป็นที่โด่งดังจนออกเป็นข่าวใหญ่โต ลองเดากันดูละกันว่าจะมีสิ่งที่คุณคิดอยู่ในลิสต์ของ #เหมียวจิวยี่ บ้างรึเปล่า!! 1. บัตรสมาร์ทการ์ดรักษาโรค กำลังเป็นข่าวใหญ่อยู่ในตอนนี้สำหรับบัตรสมาร์ทการ์ด ที่ตัวแทนขายอวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ด้วยการเอาไปแตะตามเนื้อตัว หรือใช้จุ่มในน้ำแล้วดื่ม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมสำหรับชาวบ้านในแถบภาคอีสาน เจ้าบัตรที่ว่านี้มีชื่อว่า Kartu Sakti Kesehatan Bahan Bakar Listrik เป็นภาษาอินโดนีเซียแปลว่าการ์ดวิเศษสำหรับพลังงานไฟฟ้าและสุขภาพที่ดี สนนราคาสูงสุดถึงใบละ 1,500 บาท อย่างไรก็ตามบัตรนี้วิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามันมีคุณสมบัติตามที่อวดอ้างไว้หรือไม่ ซึ่งทางหมอแล็บแพนด้าก็กล่าวว่า อาจเป็นอุปาทานหมู่ของผู้ใช้… 2. ตุ๊กตาลูกเทพ หากยังจำกันได้เมื่อไม่กี่ปีก่อน มีกระแสฮิต ‘ตุ๊กตาลูกเทพ’ เกิดขึ้น ผู้คนต่างแห่กันอุ้มไปไหนมาไหนด้วยโดยเชื่อว่าเป็นเครื่องรางของขลังที่สามารถช่วยเรียกเงินทองได้ แถมยังฮิตกันแบบทั้งบ้านทั้งเมือง!! แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของ ‘ความเชื่อ’ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ผิดเรื่องถูกอะไรและพิสูจน์ไม่ได้ แต่เนื่องจากตุ๊กตาลูกเทพเป็นกระแสที่มาแรงเอามากๆ ในช่วงนั้น ชาวเน็ตหลายคนจึงออกมาวิจารณ์ถึงเรื่องนี้ว่าอาจเป็นเรื่องอุปาทานหมู่ 3. น้ำหมักป้าเช็ง น้ำมหาบำบัดและน้ำเจียระไนเพชร…
-
ชาวเน็ตแชร์สถานการณ์บีบคั้น เมื่อเป็น ‘ผู้ประสบภัยท้องเสีย’ ช่วงที่ไม่ควรปวดขรี้แบบนี้
[Advertorial] เชื่อได้เลยว่าในหนึ่งจังหวะของชีวิตประจำวัน เราจะต้องมีช่วงที่เรียกว่าสถานการณ์บีบคั้น เค้นพลังในช่วงจังหวะที่ไม่เหมาะ อย่างตอนที่โดยสารรถไฟฟ้าคนเยอะๆ แต่ดันปวดท้องฉุกเฉินจะต้องอั้นสุดทาง พยายามนึกภาพห้องน้ำที่อยู่ไกลถึงชมพูทวีป ฮร่าาา เห็นป้ายห้องน้ำแล้ว แต่หนทางยังอีกยาวไกล เหตุการณ์ท้องเสียแย่ๆ มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ไม่มีใครอยากเป็นแต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อร่างกายต้องการปะทะห้องน้ำ จะให้ทำยังไงล่ะ? ชาวเน็ตแต่ละถึงกับต้องมาร่วมแชร์ความทรมานกับความบีบคั้นสุดแสนจะกล้ำกลืน เปิดมาด้วยประเด็น ปวดขี้ตอนไหนทรมานที่สุด! ไม่อยากจะนึกเวลาที่ฝนตกหลังเลิกงาน แล้วติดอยู่กลางถนน… ตอนไปดูหนังในโรงยิ่งแล้วใหญ่ จะลุกกลัวพลาดฉากสำคัญ ฮร่าาาา ตอนสอบก็มา เข้าใจพี่ดีเจเลยนะฮะ แหม่ คนอึด ทน ขี้ยาก!! อุตส่าห์พุ่งไปหาห้องน้ำ ต้องมาเจออะไรแบบนี้อีกกกก เมื่อพูดถกกันถึงเรื่องท้องเสียไปพอสมควรแล้ว สาเหตุหลักๆ น่าจะมาจากลำไส้ที่แพ้อาหารต่างๆ กินไปนิดเดียวร่วงได้เลย คนท้องเสียงง่ายก็มีเยอะเหมือนกันนะ . ไม่ว่าจะท้องเสียด้วยสาเหตุใด ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดอาหารไม่ย่อย ชาวเน็ตจึงอยากจะแนะนำทางออกง่ายๆ มีคู่หูดีๆ พกติดตัวไว้ไม่เสียใจ…
-
แอบส่อง ‘พานไหว้ครู’ จากฝีมือเด็กๆ มาเต็มทั้งการเมือง หมูทะ ลูกชุบ ครีเอทจริงลูกเอ้ย!!
เรียกได้ว่าเป็นประจำทุกๆ ปีในช่วงหลังเปิดเทอมใหม่ๆ ก็จะมีกิจกรรม ‘ไหว้ครู’ เกิดขึ้น และที่แน่เลยว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานนี้ก็คือพานไหว้ครู ที่เป็นสีสันให้ได้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ และในยุคนี้สมัยนี้แล้วหลายๆ โรงเรียนก็มีการประกวดทั้งพานสวยงามและพานแบบสร้างสรรค์ ดังนั้นเด็กๆ จึงใส่ความคิดอันสุดเฉียบลงไปกันอย่างเต็มที่ จนบางทีก็กลายเป็นเรื่องที่ดูแล้วขำท้องแข็งไปตามๆ กัน ว่าแล้วเราก็ลองไปแอบส่องพานไหว้ครูของเด็กๆ ในปีนี้กันดีกว่า ว่าจะมีอะไรที่เราคิดไม่ถึงเกิดขึ้นบ้าง… ไหว้เสร็จ จุดไฟต้มเลยละกัน เลือกได้เลยค่าา จะหมูหรือจะไก่ดี เดอะค็อป ถูกใจสิ่งนี้… เอิ่มม คือเอิ่ม #เหมียวจิวยี่ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีเลย บัตรเขย่งก็มา แสดงให้เห็นว่าเด็กสมัยนี้สนใจการเมืองกันมากจริมๆ กาให้ป๋มด้วยนะก๊าบ หนูลู๊กก กะอิ่มกันเลยใช่ไหม สงสัยไปดูมาแล้วยังอินอยู่ ตัลล้าก ขอรสนัวๆ เด้อลูกเด้อ งานเทสเซอร์แรคก็มี สีหวานนวลชวนหิว ยั่วๆ ไปเลยจ้า งวดนี้รวย เพี้ยง!! …
-
เผยเรื่องราว ‘น้องอาร์ม’ เด็กชั้นป. 6 กับการขอลาเรียน 1 ปีทำหน้าที่ ‘พี่ชาย’ ให้น้องทั้ง 4 คน…
เหตุผลการขอลาพักจากการเรียนของแต่ละคนอาจต่างกันไป บางคนอาจเป็นเรื่องของสุขภาพ บางคนอาจเป็นเรื่องความจำเป็นของครอบครัว อย่างเช่นในกรณีของ ‘น้องอาร์ม’ ที่ขอลาครู 1 ปี ด้วยการให้เหตุผลว่าจะทำหน้าที่ ‘พี่’ ให้กับน้องๆ และนี่คือเรื่องราวของน้องอาร์มที่อยากให้สังคมได้รับรู้… เด็กชายอาทิตย์ มืดคุ้มหรือน้องอาร์ม เป็นนักเรียนชั้นป.6 ของโรงเรียนบ้านใหม่ปฏิรูป จังหวัดนครราชสีมา แต่เมื่อไม่นานมานี้น้องอาร์มก็ขอลาคุณครูพักการเรียน 1 ปี โดยบอกว่าจะไปทำหน้าที่พี่ชายคนโต เลี้ยงดูน้องๆ เพื่อให้ตากับยายทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างเต็มที่ ครอบครัวของน้องอาร์มที่ทั้งหมด 7 ชีวิตด้วยกันได้แก่ ตา (สามีใหม่ของยาย) ยาย น้องอาร์มและน้องๆ อีก 4 คนซึ่งมีอายุ 6 ขวบ, 5 ขวบ, 1 ปี 3 เดือนและคนสุดท้ายอายุ 3 เดือน (ป่วยเพดานโหว่ตั้งแต่เกิด) ส่วนเรื่องฐานะของครอบครัวก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก คุณตา – คุณยายของน้องอาร์มมีอาชีพเก็บของเก่าขาย ด้วยเหตุนี้น้องอาร์มจึงขอพักการเรียนออกมาเลี้ยงน้อง เพื่อให้ตายายได้ทำงาน …
-
แชร์สูตร ‘คุกกี้คอร์นเฟล็ก’ หอม กรอบ อร่อยเพลิน เกินห้ามใจ มือใหม่ก็ทำได้
อีกหนึ่งเมนูขนมที่หลายคนชื่นชอบ คงจะเป็น ‘คุกกี้’ ขนมสุดคลาสสิก ที่มีให้เลือกหลายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นบัตเตอร์คุกกี้ คุกกี้ช็อกโกแลตชิป หรือคุกกี้ข้าวโอ๊ต ที่เสิร์ฟเป็นอาหารว่าง หรือทานคู่กับกาแฟในตอนเช้า สำหรับเมนูขนมที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้ คือ ‘คุกกี้คอร์นเฟล็ก’ ชิ้นเล็กพอดีคำ สูตรจาก Little Pastry Chef เอกลักษณ์ของคุกกี้ชนิดนี้ คือความหอมหวานของส่วนผสมเนยและน้ำตาล เพิ่มอร่อยด้วยลูกเกดและคอร์นเฟล็กแบบเต็มคำ แถมวิธีทำก็ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน ใครที่พร้อมแล้วไปเตรียมส่วนผสมและทำตามขั้นตอนกันได้เลย… ส่วนผสมสำหรับคุกกี้ 39-40 ชิ้น 1. เนยจืด (อุณหภูมิห้อง) 125 กรัม 2. นํ้าตาลไอซิ่ง 60 กรัม 3. แป้งอเนกประสงค์ 120 กรัม 4. แป้งข้าวโพด 15 กรัม 5. แป้งข้าวเจ้า 15 กรัม 6. ลูกเกด 50 กรัม…
-
เมื่อ Cafe Amazon ทำตาราง “เครื่องดื่มมงคลประจำวัน” แต่ไหงคอมเม้นต์มันฮางี้ล่ะ
Cafe Amazon ถือเป็นร้านกาแฟชื่อดังของไทยที่มีสาขามากที่สุดในประเทศ ตอนนี้ก็ขยายไปมากกว่า 2,600 สาขาเข้าไปแล้ว ทำยอดขายแต่ละปีก็ไม่น้อยเลย แน่นอนว่า เมื่อมีสาขาเยอะ ก็มีแฟนคลับเยอะ และมีเพจสาขาหนึ่ง Cafe’Amazon Amata City ได้ทำภาพเพื่อเทคนิคการตลาดสุดแหวกแนว ทางเพจนำเครื่องดื่มที่มีในร้าน มาใส่ในตาราง “เครื่องดื่มมงคลประจำวัน” และสร้างเสียงตอบรับได้ไม่น้อยเลย แน่นอนว่าเรื่องอะไรที่เป็นโชคชะตา มงคล อำนาจวาสนา ก็ย่อมถูกใจคนไทย มีการกดไลก์นับพัน และแชร์ไปเกือบ 3,000 ครั้งแล้ว แบ่งออกเป็น… สำหรับอำนาจวาสนา โชคลาภเงินทอง ไหลมาเทมา ผู้อุปถัมภ์ช่วยเหลือ แต่.. ความสนุกมันอยู่ตรงนี้ครับคุณผู้อ่าน เพราะหลังจากที่ภาพเป็นกระแสดัง คอมเมนต์ชาวเน็ตไทยก็พร้อมร่วมฮาได้ทุกสถานการณ์ มีเสียงตอบรับเข้ามามากมาย ซึ่งสิ่งที่แคทดั๊มบ์แคปมาฝากผู้อ่าน ก็คือเหล่าคอมเมนต์ฮาๆ ที่ได้รับการกดไลก์ไปเพียบ!! ท็อปคอมเม้นต์ของเรา และนี่คือเสียงตอบรับกับเมนต์นี้ เอาสิ เมื่อคุณสั่งหวานน้อยยยยยย สโลแกนใหม่หรืออย่างไร…
-
ชาวเน็ตตั้งข้อสังเกต ‘นวย’ กรรมกรคนดี มีตัวตนจริง หรือ เป็นเพียงเรื่องแต่ง!?
หลังจากที่กลายเป็นคนดังเพียงชั่วข้ามคืน กับ ‘นวย’ หนุ่มคนงานก่อสร้างปริศนา ที่เก็บกระเป๋า Chanel ของหญิงสาวคนหนึ่งได้ และส่งคืนให้เธอ พร้อมกับโน้ตบอกว่า ‘เป็นคนดี แต่จน เลยขอ 200 บาท ไว้เป็นค่าเหล้า’ จากนั้นก็มีการเล่าเรื่องราวของนวยเพิ่มเติม ระบุว่าหลังจากที่ได้รับกระเป๋าคืนมาแล้ว ก็มีการติดต่อกลับไปเพื่อให้รางวัลเพิ่มเติม แต่นวยไม่เอา บอกว่า ‘ถ้าอยากตอบแทนขอเป็นเหล้าขาว 2 ขวดก็พอ’ ทำให้ชาวเน็ตยิ่งหลงรักนวยมากยิ่งขึ้นไปอีก!! อ่านข่าวเก่าได้ที่ : สาวทำ Chanel หาย ผู้หวังดีส่งคืนมาให้ พร้อมโน้ตบอกเป็นคนดีแต่จน ‘ขอ 200 ค่าเหล้านะ’ จากประเด็นดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่างก็ชื่นชมในความซื่อของนวย จนทำให้ดูน่ารักน่าชัง แต่กลับกัน ก็มีชาวเน็ตบางส่วนที่ตั้งข้อสังเกตขึ้นมาว่า ‘นวย’ อาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริงๆ และเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องจ้อจี้ก็เป็นได้… ลองไปอ่านโพสต์ของคนที่ตั้งข้อสังเกตกันดูครับ ทางด้านเพจ บิ๊กเกรียน ก็เปิดเผยข้อสังเกตอีกอย่างที่มีคนส่งเข้ามาในอินบ็อกซ์ข้อความว่า “โดยปกติ ส จะถูกใช้บ่อย ษ คนทั่วไปจะไม่นึกถึง แต่สะกด…
-
เด็กป.3 เก็บกระเป๋าตังค์ได้ มีเงินข้างใน 100,000 กว่าบาท คืนเจ้าของเงินครบทุกบาททุกสตางค์
นี่คือเรื่องราวคุณงามความดีของเด็กชั้นป.3 สุดน่ารักคนหนึ่ง เมื่อเขาเจอกระเป๋าตังค์ตกอยู่อย่างบังเอิญแล้วข้างในนั้นมีเงินและทรัพย์สินอยู่ร่วมแสนบาท เขาเลยนำกระเป๋าตังค์ที่ว่านี้ไปคืนให้กับเจ้าของ โดยที่เงินไม่มีกระเด็นออกจากกระเป๋าแม้แต่บาทเดียว ทำให้ชาวโซเชียลแห่ชื่นชมความซื่อสัตย์ของหนูน้อย!! เพจโรงเรียน บ้านสันต้นดู่ จ.เชียงราย ได้แชร์เรื่องราวน่าประทับใจของหนูน้อยให้กับชาวโซเชียลได้รับรู้ ซึ่งทางเพจได้ใส่คำอธิบายเรื่องราวเอาไว้ว่า “เด็กชายภาวัต ตู้ลา นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านสันต้นดู่ เก็บเงินได้เป็นจำนวนหนึ่งและมีบัตรต่างๆรวมเป็นเงิน 100,000กว่าบาท แล้วนำคืนเจ้าของครบทุกบาททุกสตางค์ เจ้าของเงินเอาค่าตอบแทนเป็นค่าขนมให้เด็กชายภาวัตก็ไม่เอาต้องยัดใส่มือให้ ทางโรงเรียนขอชื่นชมเด็กชายภาวัตจริงๆเป็นตัวอย่างให้คนอื่นและนักเรียนในโรงเรียน เป็นเด็กดีจริงๆๆ👏🏻👏🏻 #ซื่อสัตย์สุจริตมีวินัย🎉” หน้าตาอันใสซื่อของหนูน้อย จดหมายจากเจ้าของกระเป๋าตังค์ ประกาศชื่นชมออกไมค์ซะเลย จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เข้ามาชื่นชมถึงความซื่อสัตย์ของน้องภาวัต อย่างไม่ขาดสาย รวมทั้งตอนนี้ยังมียอดแชร์ออกไปแล้วกว่า 300 ครั้งกับเรื่องนี้ . . . . สุดยอดไปเลยน้อง เอาใจพี่ไปเล้ย!! ที่มา: โรงเรียน บ้านสันต้นดู่
-
หนุ่มเข้าห้องน้ำ บขส.ชัยภูมิ จู่ๆ มี ‘หนอนน้อย’ โผล่จากรูกำแพง เกือบเอายางดีดแล้ว!!
เวลาที่เข้าห้องน้ำมันอาจเป็นเวลาอันแสนสุขที่เราจะได้ปลดทุกข์ออกจากร่างกาย แต่ว่าบางครั้งก็อาจจะต้องเจ็บปวดมากกว่าเดิม หากว่าเจอสถานการณ์เดียวกับหนุ่มคนนี้ ที่เขาไปเข้าห้องน้ำในสถานีขนส่งของจังหวัดหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็พบว่ามีคนเอา ‘หนอนน้อย’ มาแหย่โชว์ผ่านรูกำแพงห้องน้ำ!! เรื่องนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้โพสต์เอาไว้แล้วก็มีคนแชร์ออกไปมากมาย ก่อนที่จะลบทิ้งในเวลาต่อมา ซึ่งแคปชั่นของโพสต์นี้ก็เขียนเอาไว้ว่า “เตือนภัยครับ ห้องน้ำ บขส.ชัยภูมิ กำลังเข้าห้องน้ำบักห่านี้มันเอานิ้วมาแหย่ก่อน บ่ทันโดนมันจะเอาหำมันละแแหย่มา ผมว่าสิเอายางดีดหำมันแล้ว แต่ขี้เดี่ยด หำน้อยกะน้อยๆกะอยากโชว์” เจ้าหนอนน้อยขยุกขยุยของชายปริศนา อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถหาตัวของชายเจ้าของหนอนตัวนี้ได้ ซึ่งผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวช่องวัน ก็ลงพื้นที่ตรวจสอบในสถานีขนส่งจังหวัดชัยภูมิ แล้วก็พบว่าห้องน้ำนั่นมีห้องน้ำชาย 5 ห้อง และ 2 ห้องท้ายมีรูที่ว่านี้จริงๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถามกับนายธนายุทธ คนขับสามล้อประจำสถานีขนส่ง เขาก็เล่าว่าอยู่ที่สถานีขนส่งนี้มานานหลายปีแล้ว แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เพิ่งจะเผชิญกับเรื่องที่ว่านี้เหมือนกัน แต่ก็ยังหาตัวชายชอบโชว์ไม่พบ ข่าวออกทีวีเลยทีเดียว แล้วหลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยเข้าห้องน้ำที่นั่นอีกเลย จนกระทั่งเกิดเหตุกับผู้โพสต์ขึ้น… เขาจึงอยากฝากเตือนไปยังผู้ใช้บริการที่สถานีขนส่งจังหวัดชัยภูมิให้ระวังมากขึ้น เพราะอาจจะต้องเจอเหตุอนาจารแบบนี้ อีกทั้งยังฝากให้เจ้าหน้าที่ช่วยซ่อมแซมผนังห้องน้ำที่ชำรุดให้เรียบร้อยด้วย ที่มา: ข่าวช่องวัน
-
เน็ตไอดอลสาว ‘ขโมยไอโฟน’ รมควันตัวเองในรถ เสียชีวิตก่อนขึ้นศาล คาด “ป่วยซึมเศร้า”
เจ้าหน้าที่พบหญิงสาว ‘ฆ่าตัวตาย’ ด้วยการรมควันตัวเองในรถ ก่อนพบว่าผู้ตายมีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และเคยก่อคดี ‘ขโมยไอโฟน’ ในห้างดังที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุฆ่าตัวตาย ในวันนี้ (10 มิ.ย. 2562) เวลาราวๆ 6.30น. เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวฆ่าตัวตาย จุดไฟเตาถ่านเพื่อรมควันตัวเองในรถยนต์ ภาพจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุภายในซอย 1 บ้านประตูโขง ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน พบร่างของหญิงสาวผู้เสียชีวิตในสภาพนอนตะแคงข้าง ภายในรถยนต์สีชมพู ทะเบียนเชียงใหม่ ที่ติดเครื่องอยู่ นอกจากนั้น ยังพบเตาถ่านขนาดเล็กที่ยังมีถ่านติดไฟอยู่ภายในรถคันดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.อัญญาณี ท้ายนาวา หรือ อัญ วัย 31 ปี ซึ่งที่เกิดเหตุนั้นก็คือบริเวณบ้านของเธอเอง ตำรวจได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นกับทางญาติของเธอ จึงทำให้ทราบว่า อัญ ป่วยเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ มานาน…
-
‘ปารีณา’ พูดถึงกรณี ‘ช่อ พรรณิการ์’ กับภาพโพสต์ที่เป็นประเด็น จี้ตำรวจเอาผิด ม.112
เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในโลกออนไลน์อยู่ ณ ขณะนี้เลย กับกรณีของ ช่อ พรรณิการ์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่มีชาวเน็ตไปขุดเจอภาพหนึ่งของเธอ เป็นภาพที่ถ่ายคู่กับหนังสือที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 พร้อมกับแคปชั่นสั้นๆ ว่า “ภาพนี้ไม่ควรมีคำบรรยาย” ชาวเน็ตหลายคนต่างก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งทางเจ้าตัวก็ออกมาโพสต์ชี้แจงว่าดังนี้ ภาพที่เป็นประเด็น เนื้อหาในโพสต์ที่ชี้แจง “นี่คือ ข้างหลังภาพ ที่บอกว่า ไม่ควรมีคำบรรยาย เราจะบรรยายอย่างไรได้บ้าง ในยุคสมัยที่วันหนึ่ง อาจมีคนมาชี้หน้ากล่าวหาว่าคุณมันไม่จงรักภักดี ดังนั้น คุณต้องติดคุกหรือออกจากประเทศนี้ไป ขอร้องเถอะค่ะ ว่าอย่านำประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ มาโจมตีกันทางการเมืองอีกเลย รวมถึงขอร้องให้ผู้ที่ตามขุดคุ้ยเพื่อนของช่อทุกคนในรูป ยุติการกระทำดังกล่าว อย่าให้พวกเขาเดือดร้อนเพียงเพราะเป็นเพื่อนของนักการเมืองคนหนึ่ง คำขอร้องนี้ไม่ใช่เพื่อตัวช่อเอง แต่เพื่ออนาคตที่มั่นคงยั่งยืนของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งหลายคนมักนำสถานะของสถาบันฯ มารับใช้ตัวเอง เพียงเพื่อหวังทำลายล้างศัตรูทางการเมืองของตน โดยไม่คำนึงถึงต้นทุนทางการเมืองที่ต้องสูญเสียไป” ล่าสุดทางด้าน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.เขต 3 จ.ราชบุรี ของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีประเด็นกับช่อ พรรณิการ์ มาก่อนหน้านี้ ก็ได้ออกมาให้ความเห็นถึงเรื่องดังกล่าว…
-
หนุ่มอุดรฯ ช่วยชีวิตเด็กจมน้ำ 2 คนได้สำเร็จ แต่ตัวเองไม่รอด ภรรยาอุ้มลูกน้อยร่ำไห้
อีกหนึ่งการจากไปอันน่าเศร้าของ ‘หนุ่มพลเมืองดี’ ลงไปช่วยชีวิตเด็กจมน้ำ 2 คนได้สำเร็จ แต่ทว่าตัวเขาเองไม่สามารถว่ายกลับเข้าฝั่งได้ จมหายไปต่อหน้าต่อตาคนในครอบครัว… การตามหาร่างของชายหนุ่ม บริเวณชายหาดนางรำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี (9 มิ.ย. 2562) คำบอกเล่าจากปากของพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ และญาติของผู้ตาย น.ส.จิรานุช ธรรมเมืองคุณ เล่าว่า ตนเองและครอบครัวได้พาหลานๆ มาเที่ยวพักผ่อนกันที่บริเวณหาดนางรำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พอช่วงเวลาราวๆ 16.00 น. พวกตนและครอบครัวก็ได้ยินเสียงตะโกนของชาวบ้านในละแวกนั้นว่า ‘มีเด็กถูกคลื่นซัดออกจากชายฝั่ง และกำลังจะจมน้ำ’ นายวุฒิชัย เจริญธรรม หนุ่มจากจังหวัดอุดรธานี วัย 25 ปี ญาติของ น.ส.จิรานุช จึงรีบวิ่งลงไปในทะเลและสามารถช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 คนเอาไว้ได้สำเร็จ น.ส.จิรานุช ญาติของ นายวุฒิชัย ทว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น หลังจากที่มีคนช่วยกันดึกเด็กทั้งสองขึ้นฝั่งไปได้แล้ว จู่ๆ ก็มีคลื่นลูกใหญ่ซัดร่างของ นายวุฒิชัย ออกไปจากชายฝั่ง โดยที่เขาเองก็พยายามที่จะว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งให้ได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะหมดแรง…
-
‘ฉันเป็นสโมกเกอร์นิ’ ซิงเกิ้ลล่าสุดจาก ‘ดีเจอ๋องแอ๋ง’ กับ MV ที่มีแต่คนถาม นี่เรียก MV จริงๆ หรอว้า…
‘ไปส่งกูบขส. ดู๊’ ชื่อนี้การันตีคุณภาพ อีกมิติใหม่ขอวงการเพลงไทยตามคำพูดของใครหลายคน ด้วยเนื้อเพลงแสนจะกินใจ (มั้ง) และทำนองสุดไพเราะเสนาะหูทำให้ผลงานของวงนี้ เข้าไปอยู่ในใจแฟนๆ ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และรู้ไม่ว่าตอนนี้พวกเขามีผลงานเพลงใหม่ออกมาให้เราได้ชื่นชมกันเป็นที่เรียบร้อย แล้วก็ต้องบอกว่ายังคงเอกลักษณ์ของวงไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งความกวน… ความงงและความฮา ลองมาฟังผลงานเพลงเก่าๆ ของวง ‘ไปส่งกูบขส. ดู๊’ กันก่อน (แล้วระวังจะติดใจ) ผลงานใหม่ของพวกเขามีชื่อว่าฉันเป็นสโมกเกอร์นิ ซึ่งนอกจาก ‘ดีเจอ๋องแอ๋ง’ นักร้องสุดปั่นประจำวงแล้ว ในซิงเกิ้ลนี้ยังมีอีกหลายคนมาร่วมฟีดเจอริ่งด้วยไม่ว่าจะเป็นบูมเดี่ยวหรือโยชิ 300 สตาร์ประจำโลกโซเชียลที่คุ้นหูคุ้นตากัน เอาล่ะพร้อมแล้วใช่ไหม ถามแล้วนะ ชัวร์นะ งั้นไปฟังกันดู๊วว ฮั่นแน่! เพราะใช่ไหมล่ะบอกแล้ว แต่นอกจากเนื้อเพลงที่สุดแสนจะกินใจแล้ว เรื่องของ MV ของพวกเขาก็ได้รับการพูดถึงเหมือนกัน เพราะอย่างที่เห็นใน Official MV ของเพลงนี้ สิ่งที่ขยับก็เห็นจะมีแค่ควันงงๆ เพียงเท่านั้น นี่คือภาพหลักของ MV และนี่คือสิ่งที่ขยับใน MV ใคร ใครวะ…
-
ดราม่าสาวท้องแก่ ‘ไม่ยืนเคารพในโรงหนัง’ คนเดินมาบอกทำงี้ไม่ได้ ‘เป็นนโยบายของบริษัท’
ก่อนหน้านี้เพื่อนๆ คงเคยได้เห็นกระแสดราม่า ‘การไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์’ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: หนุ่มอ้างตัวเป็นคนในข่าว ‘ตำหนิสาวเจ็บขาไม่ยืนทำความเคารพ’ เผยอยากขอโทษคู่กรณี และล่าสุดก็ได้มีดราม่าในลักษณะคล้ายๆ กันเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ ‘สาวท้องแก่รายหนึ่ง’ โพสต์ถึงประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อเธอไม่ได้ยืนทำความเคารพ และถูกคนเดินมาบอกว่า “เธอทำอย่างนี้ไม่ได้” !! เรื่องราวจากคำบอกเล่าของเธอ เธอเล่าว่า ตนเองได้ไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่ง และด้วยความที่เธอกำลังตั้งท้องได้ 8 เดือน เธอจึงไม่สะดวกที่จะลุกขึ้นมา จนกระทั่งพอหนังเริ่มฉายไปได้ประมาณ 2 นาที จู่ๆ ก็มีคนเดินมาบอกกับเธอว่า “พี่แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปแล้วนะคะ” ด้วยความที่เธอได้ยินไม่ค่อยชัดว่าคนคนนั้นต้องการสื่อว่าอะไร เธอจึงถามเขากลับไปว่า “อะไรนะคะ?” ก่อนจะได้คำตอบกลับมาประมาณว่า… “น้องท้องอยู่ใช่มั้ยคะ คือพี่แจ้งเจ้าหน้าที่ไปแล้วนะคะ เขาบอกว่านี่เป็นนโยบายของทางผู้บริหารเครือโรงหนัง คราวหน้าน้องต้องลุกยืนทำความเคารพด้วยนะคะ” หลังจากที่คนคนนั้นพูดกับเธอเสร็จ เขาก็เดินจากไปกลับนั่งยังที่นั่งของตัวเอง ซึ่งเจ้าของเรื่องยังบอกอีกว่า พอหนังจบแล้ว คนคนนั้นก็ยังหันมามองหน้าเธอด้วยท่าทีและสายตาที่ไม่เป็นมิตร เรื่องราวที่เธอเล่า เรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทำให้สาวท้องแก่รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก…
-
รปภ. วัย 60 ขอให้แลกบัตรเข้าคอนโด ชายโมโหพาพวกรุมกระทืบ ญาติแจง ขายังใส่เหล็กอยู่เลย
บางครั้งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็กลายมาเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมาได้ อย่างเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยวัย 60 ปีคนหนึ่งถูกรุมทำร้ายจากชายฉกรรจ์หลายคน จากการที่เขาขอแลกบัตรเข้าคอนโดแล้วกลุ่มชายนั้นโมโห… เพจเฮีย ได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในคอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีพนักงานรักษาความปลอดภัยทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับผู้ที่พักอาศัยอยู่ภายในคอนโด (ภาพในวิดีโอแจ้งว่าเกิดขึ้นคืนวันที่ 7 มิ.ย.) “เขาว่าเรื่องการแลกบัตรเพื่อเข้าคอนโด #ไม่พอใจก็บวก #รอปอพอพ่อพ๊อพอพอ“ แคปชั่นของทางเพจ ในระหว่างนั้นเองมีรถกระบะคันหนึ่งขับเข้ามาในคอนโด ซึ่งก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้าไปพูดคุยด้วยพยายามขอแลกบัตรตามหน้าที่ และภาพในกล้องก็แสดงให้เห็นว่ารถคันดังกล่าวก็สามารถขับผ่านไปได้ แต่ว่าหลังจากนั้นรถกระบะคันดังกล่าวก็กลับมาหาพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกครั้ง ชายคนหนึ่งเข้าไปพูดคุยกับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ป้อมยามและหลังจากนั้นก็เกิดเหตุรุมสกรัมขึ้น… ภาพจากกล้องวงจรปิดวินาทีเกิดเรื่อง ระหว่างเกิดเหตุพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกคนหนึ่งพยายามเข้าช่วยก็โดนลูกหลงไปด้วย ทั้งสองคนรุมทำร้าย โดยฝีมือของชายหลายคนที่มีทั้งเตะทั้งต่อยสารพัด แม้ว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยหนึ่งในนั้นจะมีอายุมากถึง 60 ปีแล้วก็ตาม หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ออกไปก็เป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียล และที่น่าสนใจก็คือมีชาวเน็ตคนหนึ่งอ้างว่าคนที่ถูกทำร้ายคือพ่อของเขาเอง ซึ่งเขาเป็นคนแก่วัย 60 ปีแล้วและที่ขายังใส่เหล็กอยู่เลย ตอนนี้ได้นำเรื่องแจ้งความแล้ว ทางญาติมาบอก มีผู้มาเสริมว่าเป็นเรื่องแลกบัตรจริงๆ ส่วนความเห็นชาวเน็ตคนอื่นๆ ก็ไปในทางตำหนิชายกลุ่มที่ก่อเหตุ . . . . ที่มา: เฮีย
-
ช่วง ‘เสี่ยหนูพบปะประชาชน’ ตอบทุกประเด็น บอก ‘คนปากดี ต้องเอาตะกร้อครอบปากเท่านั้น!!’
หลังจากผ่านพ้นการ “โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี” ก็ตามมาด้วยเรื่องของ “การจัดตั้งรัฐบาล” วางตำแหน่งสร้างคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แล้วเรื่องนี้ก็เหมือนจะมีกลิ่นตุๆ ว่าอาจจะมีปัญหาภายในเกิดขึ้น หลังจากที่ทาง โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาตอบโต้กับผู้นำพรรคร่วมอย่าง นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย. 2562) อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่มีไว้ให้เข้าไปหางานเพื่อบริษัท #ถูกต้องนะครับ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมฝั่งรัฐบาล และล่าสุด ช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน นายอนุทิน ก็ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เผยให้เห็นภาพของ พระสมเด็จวัดระฆัง โพสต์ดังกล่าวของเขา . แต่ความน่าสนใจไม่ได้อยู่แค่ที่ภาพในโพสต์ หากแต่อยู่ตรงที่คอมเมนต์ เพราะไม่ว่าใครจะไปตอบอะไร พี่แกก็ตอบกลับให้หมดเลย แถมพูดถึงในหลายๆ ประเด็นที่น่าสนใจซะด้วยนะ เราลองไปดูการตอบคอมเมนต์ของเขากันเลยดีกว่า . บางคนก็อาจเข้ามาพูดถึงเรื่องพระ ในขณะที่หลายๆ คนดูเหมือนจะโฟกัสไปที่การเมืองเป็นหลัก…
-
15 ภาพของบุคคลสุดปราดเปรื่อง ที่สามารถเอาตัวรอดไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนๆ อย่างนี้ต้องซูฮก!!
เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นคนเรามักจะสามารถเอาตัวรอดหรือพลิกแพลงสถานการณ์ต่างๆ ได้อยู่เสมอ ไม่จะเป็นเรื่องที่คอขาดบาดตายหรือเป็นเรื่องสัพเพเหระในชีวิตประจำวัน สิ่งที่จำเป็นต่อสกิลที่ว่านี้ก็มีเพียงแค่การใช้ ‘สมอง’ อันชาญฉลาดที่พระเจ้าประทานมาให้เพียงเท่านั้น และถ้าคุณอยากรู้ว่ามนุษย์เราสามารถเอาใช้สมองอย่างชาญฉลาดแค่ไหนล่ะก็ ลองมาดูตัวอย่างจากพวกเขาเหล่านี้แล้วกัน!! นี่แหละประโยชน์สูงสุดของส้นสูง ไหนใครบอกหั่นหัวหอมแล้วน้ำตาจะไหล กลัวการเปลี่ยนแปลงหรอ งั้นทิ้งไว้ตรงนี้แล้วกัน (Change สามารถแปลได้ทั้งการเปลี่ยนแปลง หรือ เงินทอน) รอยสักมีประโยชน์ก็คราวนี้ ปิ้งไก่สบายเลยทีนี้ เมื่อคุณมีแขนสั้น เลยต้องหาตัวช่วย พักเบรคสุดชิค ไม่มีร้อน https://www.instagram.com/p/Bi5C54MncJS/?utm_source=ig_embed เวลาไปวิ่ง แต่ไม่มีกระเป๋าใส่กุญแจ ลองวิธีนี้สิ… ใครบ่นไม่มีที่นอนอีกไหม เมื่ออาจารย์บอกว่าให้เอาโน้ตเข้าห้องสอบได้ใบเดียว ทำทุกที่ให้เป็นบ้าน https://www.instagram.com/p/Bxx61rBjsip/?utm_source=ig_embed ทีมเวิร์คเป็นสิ่งที่สำคัญ นี่คือระบบป้องกันลูกน้อยกับเครื่องเกม นี่จริงก็มาขวิดฉันสิ วิธีสอนแมวให้อย่ามายุ่งกับโต๊ะวางของ ที่มา: brightside
-
พารู้จักกับเกม Minesweeper แบบฉบับ ‘สว. เครือข่าย คสช.’ คุณจะเอาชนะพวกเขาได้ไหม…
คิดว่าหลายคนคงเคยเล่นกันกับเกม ‘Minesweeper’ เกมติดวินโดวส์ระดับตำนานที่เล่นง่ายๆ แต่ความมันระดับพระกาฬด้วยการหลบระเบิดและปักธง และวันนี้มาลองย้อนวันวานเล่นเกมนี้ในแบบฉบับที่แตกต่างกันออกไป นั่นคือแบบฉบับที่มีชื่อว่า ‘MINESWEEPER: หมายหัว ส.ว. เครือข่าย คสช.’ หน้าตาของตัวเกม เกมดังกล่าวอยู่ในเว็บไซต์ elect.in.th ซึ่งพวกเขาได้สร้างเกมนี้ขึ้นมาให้เราได้รู้จักกับ สว. ทั้ง 250 คนมากยิ่งขึ้น วิธีการเล่นเกมนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรสามารถดูได้ตามภาพนี้เล้ย หากลองจิ้มเข้าไปก็จะมีชื่อของ สว. ปรากฏขึ้นมา เราก็ต้องเลือกว่าจะหมายหัว (ปักธง) หรือเปิดดู (ถ้าคิดว่าเขาไม่เคยมีตำแหน่ง) หากเปิดได้เลข 1 ก็หมายความว่าจะมี สว. ที่เคยมีตำแหน่งอยู่รอบๆ 1 คน สำหรับตัวเกมมีให้เลือก 3 ระดับด้วยกันไล่ระดับลงไปได้แก่ระดับ คสช. เก่า (ระเบิด 20 ลูก) สนช. เก่า (ระเบิด 89 ลูก) และเลือกประยุทธ์ (ระเบิด 249…
-
หนุ่มเป็นงงโหลดกระเป๋าใต้เครื่อง ถึงบ้านเปิดดู ‘บุหรี่หาย 6 ซอง’ คาดฝีมือพนักงานสายการบิน
เวลาที่เราขึ้นเครื่องบิน บางครั้งบางทีก็อาจจะต้องมีการ ‘โหลดกระเป๋า’ กันบ้างหากมีความจำเป็น แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าอาจจะต้องประสบเหตุเดียวกับชายคนหนึ่ง ที่เขาอ้างว่าถูกขโมยบุหรี่จากกระเป๋าไปจากการนำไปโหลดใต้เครื่อง… กระเป๋าของผู้เสียหาย รายการทุบโต๊ะข่าวรายงานถึงเรื่องนี้ โดยนายมณเทียร ผู้เสียหายได้ให้สัมภาษณ์กับรายการว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา เขาเดินทางจากกระบี่มายังกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินของสายการบินแห่งหนึ่ง ก่อนที่ทำการโหลดกระเป๋าเขาได้ตรวจเช็กกระเป๋าดีแล้วว่าปิดเอาไว้อย่างดี ซึ่งการเดินทางก็เป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งถึงสนามบินดอนเมือง ก็พบว่ากระเป๋าถูกเปิดออกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่าคงเป็นเพราะซิปไหล ลองฟังบทสัมภาษณ์ของเขากัน แต่พอกลับมาที่บ้านพอเปิดกระเป๋าดูเขาก็ต้องตกใจ เพราะเขาซื้อบุหรี่มา 1 คอตตอน (10 ซอง) แต่ว่ามันหายไปถึง 6 ซองด้วยกัน ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ไม่มีอะไรสูญหายรวมทั้งไม่มีร่องรอยการค้น!! สำหรับส่วนตัวของนายมณเทียรแล้ว เขาเชื่อว่าบุหรี่ที่หายไปน่าจะหายไปตั้งแต่อยู่สนามบินกระบี่แล้ว เนื่องจากมีช่วงเวลาที่เครื่องบินดีเลย์ถึง 20 นาทีด้วยกัน จึงเป็นไปได้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวอาจมีคนมาเปิดกระเป๋าขโมยบุหรี่ ซื้อบุหรี่มาคอตตอนหนึ่ง จากเหตุดังกล่าวเขาบอกความรู้สึกว่า ตกใจและเสียใจที่พนักงานสายการบินมีพฤติกรรมเช่นนี้ พร้อมมองว่าไม่มีใครสมควรมาเปิดกระเป๋าผู้โดยสาร ทั้งยังขโมยของผู้โดยสารซึ่งเป็นของส่วนตัวอย่างนี้ เหตุการณ์นี้ทำให้เขาเสียความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและการให้บริการของพนักงานสายการบิน และไม่กล้าที่จะโหลดสัมภาระอีกต่อไป เพราะกลัวว่าจะมีอะไรหายอีก… มีร่องรอยการแกะห่อบุหรี่ ทั้งนี้เขาอยากที่จะให้สายการบินดำเนินการขั้นเด็ดขาด…
-
สื่อนอร์เวย์พูดถึง ‘ภาพ ร.5’ ที่ซ่อนบนธนบัตร 100 บาท เบื้องหลังแห่งกษัตริย์นักพัฒนา
ภาพประวัติศาสตร์เล็กๆ อันแสนยิ่งใหญ่ ที่พวกเราอาจมองข้ามไป จากสิ่งใกล้ตัว หลังจากที่บ้านเราได้มีการเปลี่ยนรูปแบบ “ธนบัตรเงินตรา” ที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน เราอาจไม่ได้สังเกตเห็นจุดจุดหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และถูกเรียกว่า “เป็นการวางรากฐานการเกษตรของไทย” เราอยากลองให้เพื่อนๆ ได้สังเกตดูที่บริเวณด้านหลัง มุมซ้ายล่างของ “ธนบัตร 100 บาท” รูปแบบล่าสุดที่เราใช้กันอยู่ และจะได้เห็นภาพภาพนี้ หลายๆ คนอาจไม่รู้มาก่อนว่าที่เห็นนั้นคือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ในยามที่พระองค์ทรงเสด็จไปเยือนยังประเทศนอร์เวย์ ช่วงฤดูร้อน พ.ศ.2450 ในตอนนั้น พระองค์ทรงเสด็จประพาสเมือง Notodden เพื่อทอดพระเนตรกิจการโรงงานผลิตปุ๋ยของบริษัท Norsk Hydro ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นองค์รัชกาลที่ 5 ขณะทรงประทับรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมพระองค์เจ้า 2 พระองค์ (ไม่ทราบพระนาม) และนาย Sam Eyde วิศวกรและนักอุตสาหกรรมชาวนอร์เวย์ เบื้องหลังภาพแห่งประวัติศาสตร์ ล่าสุด (30 พ.ค. 2562) สำนักข่าว…
-
คนขับรถฟอร์ดเติมน้ำมัน 1,000 ยื่นแบงก์กาโม่ เด็กปั๊มไม่รับ-ยืนงง ขับหนีไปเฉยเลย!?
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘แบงก์กาโม่’ หรือเงินปลอม คือของเล่นที่เรามักจะเอามาเล่นกันตอนเด็กๆ แต่หากนำมาใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าจริงๆ นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะมันไม่ได้ระบุเอาไว้ในกฎหมาย!! แต่สำหรับพ่อหนุ่มคนนี้ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ถึงได้เอา ‘แบงก์กาโม่’ มาจ่ายเงินค่าน้ำมันซะอย่างงั้น ทำเอาเด็กปั๊มถึงกับงงไปเลย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ อมรินทร์ทีวี รายงานว่ามีการแชร์คลิปวิดีโอลงในโลกออนไลน์ เป็นภาพวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านบางนา พร้อมกับเล่าว่า มีลูกค้าคนหนึ่ง ขับรถมาเติมน้ำมัน 1,000 บาท แต่จ่ายด้วยธนบัตรปลอม แต่พนักงานไม่รับ ก่อนที่คนขับจะขับรถหนีไป ล่าสุดพนักงานเติมน้ำมันที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 เวลาประมาณ 14.00 น. มีรถยนต์ฟอร์ด เฟียสต้า สีแดง เข้ามาจะเติมน้ำมัน ตอนแรกเข้าไปจอดผิดช่อง เลยโบกให้มาจอดอีกช่องหนึ่ง จากนั้นคนขับก็ลดกระจกลงมาบอกว่า “เติมน้ำมัน 1,000 บาท” ซึ่งพนักงานคนดังกล่าวก็บริการให้เสร็จสรรพ แต่พอตอนเก็บเงินดันจ่ายให้มาเป็น แบงก์กาโม่เก่าๆ มีลายการ์ตูนอยู่บนนั้นด้วย …
-
พริตตี้โกงแชร์ 400,000 ฝ่ายหนึ่งหนีหนี้-ไม่คืน-เยาะเย้ย อีกฝ่ายอัดคลิปทำร้ายร่างกาย
*เนื้อหามีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณ* เหตุการณ์ที่กำลังเป็นประเด็นพูดถึง และมีการแชร์ต่อในวงกว้างอย่างรวดเร็วบนโลกโซเชียล และนำมาซึ่งข้อถกเถียง… เริ่มจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก จิราวรรณ สุขเกษม เผยแพร่คลิปวิดีโอขณะกำลังทำร้ายร่างกายหญิงสาวคนหนึ่ง เธอระบุว่าหญิงสาวในคลิป คือคนที่โกงเงินค่าแชร์ไป 400,000 บาท เธอบอกว่า นอกจากจะไม่คืนเงินแล้ว ยังปลอมไลน์มาด่า ข่มขู่ด้วยภาพอาวุธปืน บอกว่ามีสามีรวยและสามีจะจ่ายให้ ท้าให้ตามตัวให้เจอ และไม่มีที่ท่าว่าจะจ่าย สุดท้ายเธอตามตัวหญิงสาวคนนั้นจนเจอ แล้วก็เกิดเหตุการณ์อย่างในคลิปขึ้น คลิปที่สอง เธอระบุว่า เหตุผลของการทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นใช้กำลังครั้งนี้ เกิดจากเรื่องเงิน 400,000 บาทที่ถูกโกงค่าแชร์ไปล้วนๆ การทำร้ายร่างกายเป็นการทะเลาะแบบ 1 ต่อ 1 ไม่มีการรุมเกิดขึ้นแต่อย่างใด และยืนยันว่าสิ่งที่เธอทำนั้นถูกต้อง สมควรแก่เหตุแล้ว เพราะเงินเป็นจำนวนมาก หญิงสาวคนดังกล่าวนอกจากหนีหนี้ ยังมาเยาะเย้ยตนที่เป็นเจ้าหนี้อยู่ตลอด ตามมาด้วยการลงภาพของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และภาพที่น่าจะเป็นสภาพผู้ถูกทำร้ายร่างกาย . แต่โพสต์นี้ก็สร้างการถกเถียงขึ้นมาเช่นกัน… เจ้านอกจากตัวยืนยันว่าตนเองทำถูกต้อง ก็มีชาวเน็ตหลายคนที่เข้ามาสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว ว่าเป็นการทวงหนี้ที่เหมาะสมแล้ว ตัวอย่างเช่น… . . . …
-
ป้าอดีตหมอประสาทเปิดใจ หลังถูกอัดคลิป สติขาดจับเหล็กหวดตุ๊กตุ๊ก ที่จอดขวางหน้าร้าน
หลังจากที่มีคลิปหญิงสูงวัยรายหนึ่ง หัวร้อนถือแท่งเหล็กออกมาจากบ้าน ไล่ตีคนขับตุ๊กตุ๊ก จนได้รับบาดเจ็บ จนกลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจในโลกโซเชียล ก่อนอื่นถ้าใครยังไม่ได้ดูคลิปที่เป็นประเด็น… รับชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ได้ที่ เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมาเพจเฟซบุ๊ก รถตระเวนข่าว V.2 ได้เปิดเผยว่าแท้จริงแล้ว หญิงสูงวัยคนดังกล่าวเป็นอดีตแพทย์ด้านระบบประสาท พักอาศัยอยู่ในอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุเพียงลำพัง กับสุนัขอีก 1 ตัว มีการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น ก็ทราบว่าในอดีตคุณป้าไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่พักหลังๆ มานี้เริ่มมีอาการฉุนเฉียว โวยวาย อย่างเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ที่ถือท่อนเหล็กออกมาไล่ตีกลุ่มโชเฟอร์รถรับจ้าง ที่มาจอดรถบริเวณหน้าบ้านของเธอ อย่างไรก็ตามชาวบ้านก็เล่าว่าไม่ได้ต้องการที่จะอัดคลิปประจานแต่อย่างใด แต่เป็นห่วงว่าจะมีอาการทางจิตหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องให้ญาติ หรือคนสนิทพาไปรักษาอาการป่วย เพราะกลัวว่าหากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก อาจมีการใช้อาวุธหนักกว่านี้ไปทำร้ายผู้อื่น ล่าสุดสำนักข่าว ไบรท์ ทีวี ได้ลงพื้นที่ไปขอสัมภาษณ์หญิงสูงวัยคนดังกล่าว ทราบชื่อว่า นางโสภา เกริกไกรกุล เป็นอดีตแพทย์ด้านระบบประสาท พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิป ก็คือวันที่ 4 มิถุนายน 2562 ว่า เธอมีปากเสียงกับโชเฟอร์รถ…
-
ถกเถียง “มีลูกในวัยรุ่น” ผิดมากเลยเหรอคะ!? หลังคุณแม่วัยใส โพสต์ถามสังคมออนไลน์
คำว่า “คุณแม่วัยใส” เป็นอีกหนึ่งคำติดหูในปัจจุบัน หมายถึงผู้หญิงที่มีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย ยังอยู่ในวัยเรียน เช่นเดียวกันกับเธอคนนี้ ที่ได้ตั้งคำถามกับผู้คนบนโลกโซเชียลว่า “มีลูกตอนวัยรุ่น มันผิดมากเลยเหรอคะ?” หลังจากที่เธอถูกคนในสังคมทำพฤติกรรมบางอย่าง ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกไม่สบายใจ เจ้าของกระทู้เล่าว่าตนเอง “พลาดท้องตอนเรียน” และตอนนี้ลูกก็อายุได้ 8 เดือนแล้ว เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2019 เธอและแฟนหนุ่มก็พาลูกน้อยไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ณ ตอนนั้น เธอสังเกตเห็นโต๊ะข้างๆ ที่เป็นผู้หญิงวัยกลางคน 4 คน จ้องมองมาที่โต๊ะของเธอ แล้วเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก่อนจะเรียกให้พนักงานเก็บเงินค่าอาหาร จนเมื่อพนักงานบอกว่าค่าอาหารทั้งหมดอยู่ที่ 1,500 บาท หญิงวัยกลางคนทั้ง 4 คนก็หันมามองเธอพร้อมกัน และหนึ่งในนั้นก็พูดขึ้นมาค่อนข้างดังว่า… “มากินแต่ของแพงๆ มีลูกแล้วน่าจะทำตัวประหยัดหน่อย รักสนุกแต่ไม่รู้จักป้องกัน วัยรุ่นสมัยนี้ใช้ไม่ได้” แฟนหนุ่มของเธอหันไปมอง แต่เธอก็ไม่อยากมีปัญหา จึงดึงแฟนออกมาจากร้าน แต่เรื่องยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะหลังจากที่ออกมาจากร้านอาหารแล้ว ระหว่างที่กำลังเดินซื้อของกันอยู่ เธอก็ได้เจอกับหญิงวัยกลางคนกลุ่มเดิมชี้นิ้วมาที่เธอ แถวๆ แผนกผ้าอ้อมเด็ก…
-
ส่องความน่ารัก ‘น้องแกรมมี่’ ลูกพ่อ ‘ไมค์ ภิรมย์พร’ ปลื้มใจลูกสาวจบปริญญาที่แคนาดา
หนึ่งในศิลปินที่อยู่ในใจของคนวัย 30+ หลายๆ คน หากกล่าวชื่อของ ‘ไมค์ ภิรมย์พร’ เชื่อเลยว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ด้วยเทคนิคการร้องเพลงที่ไม่เหมือนใคร น้ำเสียงแหบหน่อยๆ เป็นเอกลักษณ์ และการแต่งตัวเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ไม่ว่าจะผ่านไปแค่ไหน พี่ไมค์ก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า ไมค์ ภิรมย์พร เค้ามีลูกสาวถึง 3 คนด้วยกัน แถมแต่ละคนยังหน้าตาสวยทีเดียวเชียวล่ะ ล่าสุดคนน้อง ‘แกรมมี่’ ลูกสาวคนรองก็เรียนจบถึงปริญญาจากประเทศแคนาดา และคว้าเกียรตินิยมมาได้อีกต่างหาก!! ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา สำนักข่าวรายงานว่าพี่ไมค์ ภิรมย์พร เดินทางไปประเทศแคนาดาเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับ แกรมมี่ กาญจนา พิทะปะกัง ลูกสาวคนรอง เนื่องในวันสำเร็จการศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา และน้องแกรมมี่ ก็ก้มลงกราบแทบเท้าของพ่อไมค์ กลายเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความประทับใจให้กับพ่อไมค์ และชาวเน็ตอีกมากมาย ทางด้านพ่อไมค์ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคต อยากให้ลูกสาวนำความรู้ที่ได้ กลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตนเองต่อไป ลองไปชมภาพของน้องแกรมมี่เพิ่มเติมกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยครับ .…
-
‘หมอนรองคอ’ ผดส. ตกจากเครื่องสแกนจนเปื้อน จนท.สนามบิน ‘ทำความสะอาดให้’ เรียบร้อย!!
เรื่องราวอันน่าประทับใจที่จะทำให้เราได้รับรู้ถึง “ความทุ่มเท” ในการทำงานของเจ้าหน้าที่หนุ่มคนหนึ่ง ณ เมืองเชียงใหม่ เรากำลังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย. 2019) หลังจากที่ได้เกิดความผิดพลาดขึ้น ทำให้ผู้โดยสารชาวจีนไม่พอใจ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่หนุ่มผู้ทุ่มเท เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตอนเวลาประมาณ 19.15น. อย่างที่เราทราบกันดีว่าผู้โดยสารทุกคนจำเป็นต้องนำสัมภาระตรวจผ่านเครื่องเอกซเรย์ บริเวณจุดตรวจค้นขาออกระหว่างประเทศ แต่การตรวจสอบนั้นเองที่ทำให้ “หมอนรองคอ 2 ใบ” ของผู้โดยสารชาวจีนคนหนึ่ง ตกหล่นออกมาจากถาดวางของที่ใส่ไว้ในตอนแรก ทำให้มีการสัมผัสกับสายพานเครื่องเอกซเรย์ ส่งผลให้เกิดเป็นรอยคราบสกปรก รอยสกปรกบนหมอนรองคอทั้ง 2 ใบ . ผู้โดยสารชาวจีนรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ทางพนักงานจะเสนอชดใช้ค่าเสียหาย หรือซื้อหมอนใบใหม่มาให้ แต่เธอก็ยังไม่ยอมอยู่ดี ณ ตอนนั้นเองที่ จ่าเอกคมสัน ชาบัวน้อย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาวุโสของท่าอากาศยาน เขาได้ยอมที่จะอาสานำปลอกหมอนทั้ง 2 ใบไปทำความสะอาดให้ ด้วยการซักอบเป็นอย่างดี การแก้ปัญหาของเจ้าหน้าที่หนุ่มคนนี้ ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกพึงพอใจ กลายเป็นการจบเรื่องราวดังกล่าวด้วยดี แฮปปี้กันทั้งสองฝ่ายเลยนะฮะ มีรอยยิ้มตรงมุมปากเบาๆ เล็กๆ …
-
คุณแม่ตัดสินใจ ‘ช่วยเด็กถูกรถชน’ ทิ้งลูกให้รอที่โรงเรียน ลูกเข้าใจยกแม่ให้เป็นฮีโร่!!
การทำหน้าที่ของ ‘แม่’ สำหรับบางคนก็อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบเสมอไป เพราะบางครั้งมันอาจจะมีเรื่องราวภายนอกที่ทำให้เราต้อง ‘แวะ’ ทำให้เสร็จเสียก่อน เช่นเดียวกันกับคุณแม่ท่านนี้ ที่กำลังไปรับลูกที่โรงเรียน แต่ทว่ากลางทางกลับเกิดอุบัติเหตุขึ้นใกล้ๆ มีเด็กได้รับบาดเจ็บ ทำให้เธอต้องตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ จนทำให้เธอกลายเป็น ‘ฮีโร่’ ในสายตาของลูก เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งชื่อว่า Tui Tui Tui ได้โพสต์เล่าเรื่องราวแห่งความภาคภูมิใจ ที่ได้ทำการช่วยเหลือเด็กที่ประสบอุบัติเหตุรถชน และพาส่งโรงพยาบาล ระหว่างทางที่จะไปรับลูกที่โรงเรียน คุณแม่เล่าว่าในวันเกิดเหตุ (วันที่ 4 มิถุนายน 2562) เวลาประมาณ 17.45 น. กำลังขับรถไปรับลูกที่โรงเรียน พอขับออกไปถึงปากซอยพบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น รถตู้โรงเรียนถูกรถ ปอ. สาย 150 ชนท้าย ภาพที่คุณแม่เห็นต่อจากนั้นคือมีคนอุ้มเด็กลงมาจากรถ เด็ก 2 คนที่มีเลือดไหลออกมาก ขณะเดียวกันลูกของตัวเองก็โทรมาบอกว่ารออยู่ที่โรงเรียน ใจหนึ่งก็ห่วงลูก อีกใจหนึ่งก็ห่วงเด็กที่ได้รับอุบัติเหตุ กลายเป็นเหตุการณ์ที่เธอจะต้องเลือกว่าจะทำอย่างไรดี? คุณแม่เล่าว่าตอนนั้นคิด คิด คิด แล้วก็คิด คิดถึงลูกตัวเองว่าน่าจะรอได้อยู่ แต่เด็กที่ได้รับบาดเจ็บ 2 คนนี้ล่ะ?…
-
คู่พี่เลี้ยง ‘ลักพาตัว’ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ เหตุเพราะความรัก กลัวแม่แท้ๆ จะพรากเธอไป
ในบางครั้ง แม้เราอาจ “ไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ” แต่เมื่อได้ดูแลเด็กคนนั้นมาตั้งแต่เล็กๆ แล้ว ความรัก ความผูกพันที่มีให้ก็อาจเกิดขึ้นมาได้ไม่ต่างกันเลย และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้เกิดการลักพาตัวขึ้นใน ต.บางขันหมาก อ.เมือง จ.ลพบุรี เมื่อคุณแม่วัย 23 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พี่เลี้ยงเด็กได้ทำการลักพาตัวลูกสาววัย 3 ขวบ 5 เดือนของเธอไป แม่และลูกสาวที่ถูกลักพาตัวไป ในการรายงานวันนี้ (8 มิ.ย. 2562) กล่าวว่า น.ส.สุดารัตน์ คุณแม่คนดังกล่าว ก่อนหน้านี้เธอได้ว่าจ้าง นายหนุ่ม และ นางพัช ช่วยเลี้ยงลูกให้ตั้งแต่ตอนที่ น้องมะตูม ลูกของเธออายุได้เพียง 7 เดือน จนถึงปัจจุบัน น้องมะตูม มีอายุครบ 3 ขวบ 5 เดือนแล้ว ก่อนที่จู่ๆ คุณยายของน้องมะตูมจะมาบอกกับ น.ส.สุดารัตน์ ว่า สร้อยคอทองคำ 2 บาท, พระเลี่ยมทอง 50…
-
รวบหนุ่มขโมยกางเกงในสาวกว่า 20 ตัว ‘สูดดม-สำเร็จความใคร่’ เผยแอบชอบแต่ไม่อาจเอื้อม…
บางครั้งการหลงรักใครสักคน ก็อาจทำให้บางคนทำสิ่งที่เหนือกว่าใครจะคาดคิดได้… อย่างเช่นในกรณีของชายชาวเชียงใหม่คนนี้ ที่ไปหลงรักเข้ากับสาวสวยคนหนึ่ง แต่ด้วยความไม่กล้าบอกความในใจจึงทำให้เขาตัดสินใจ ‘ขโมยกางเกงใน’ ของสาวคนนั้นกว่า 20 ตัวมาสูดดมเพื่อสำเร็จความใคร่แทน เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง ได้รับแจ้งเหตุจากสาวผู้เสียหายคนหนึ่งที่เข้ามาแจ้งความว่า กางเกงในของเธอที่ตากไว้หลังบ้านกว่า 20 ตัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย… เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณละแวกบ้าน แล้วก็ได้ทราบตัวคนร้ายที่มาขโมยกางเกงในของสาวคนนี้ จึงได้ติดตามตัวจนถึงบ้านของผู้ก่อเหตุ และทำการจับกุมในที่สุด จากการสอบปากคำทราบว่าผู้ก่อเหตุมีชื่อว่านายณัฐพล อายุ 19 ปี เขาสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เพราะด้วยความที่หลงรักกับสาวบ้านนี้แต่ว่าไม่มีความกล้าพอที่จะสารภาพรัก เนื่องจากกลัวจะถูกปฏิเสธเพราะไม่มีงานทำ ก็เลยแอบย่องมาขโมยกางเกงในของสาวคนนี้มาสูดดมเพื่อความชื่นใจ พร้อมทั้งสำเร็จความใคร่กับกางเกงใน… เขาเล่าว่าทุกครั้งจะปั่นจักรยานมาดูลาดเลา พอเห็นว่าทางสะดวกก็จะกระโดดข้ามกำแพงมาขโมยกางเกงใน โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็ได้ไป 10 ตัว แล้วก็เก็บรักษาใช้สูดดมเรื่อยมา ก่อนจะโดนจับในที่สุด ในตอนนี้คดีกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ โดยมีของกลางก็คือกางเกงในของหญิงสาวและจักรยานสีส้มของนายณัฐพลนั่นเอง ที่มา: khaosod, dailynews, ข่าวช่องวัน, chiangmainews
-
สาวทำ Chanel หาย ผู้หวังดีส่งคืนมาให้ พร้อมโน้ตบอกเป็นคนดีแต่จน ‘ขอ 200 ค่าเหล้านะ’
เวลาที่เราทำ ‘ของหาย’ แน่นอนว่าเป็นใครใครก็อยากได้คืน โดยเฉพาะ ‘กระเป๋าสตางค์’ ที่หายไป ต่อให้เงินหายไปหมดไม่เหลือเลย แต่อย่างน้อยขอให้ได้เอกสารต่างๆ ที่อยู่ในนั้นกลับคืนมาก็ยังถือว่าโชคดีมากๆ แล้ว เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่หญิงสาวคนหนึ่งบังเอิญทำกระเป๋าสตางค์หาย จนคิดว่าไม่ได้คืนแล้ว สุดท้ายได้กลับมาพร้อมกับ ‘โน้ตข้อความ’ ที่ทำเอาชาวเน็ตชอบใจ เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ปุณณารมย์ สุภาพรลภัสกร ได้ทำการโพสต์เล่าเรื่องราว ของตัวเองที่ทำกระเป๋าสตางค์ยี่ห้อ Chanel หาย และปรากฏว่ามีคนหาเจอ พร้อมกับส่งกลับคืนมาให้ แต่เขียนโน้ตระบุเอาไว้ว่า “ผมเจอตกที่กำแพง ผมเป็นคนดี แต่ผมจน ผมขอค่าเหล้า 1 ขวด ค่าไปรษณีย์ ค่าเสียเวลา 200 ไม่รู้ว่าใครคือผม ผมสบาย ปิดทองหลังพระ” ซึ่งข้อความดังกล่าว น่าจะเขียนโดยคนที่ชื่อว่า ‘นวย’ ทางด้านเจ้าของก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับบอกว่า “โธ่ นวยที่รัก พ่อผู้ปิดทองหลังพระ พ่อขนุนหนังของเค้า เอาตงไปหมดเลยก็ได้” “สวรรค์โปรด ส่งคืนมาครบ หายไปแค่…
-
ตำรวจโล่งใจ… ลุยตรวจสถานบันเทิง ‘ถนนคนเดินพัทยา’ ไม่พบการขายบริการทางเพศ
“ถนนคนเดินพัทยา” หรือที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันในชื่อ Pattaya Walking Street จ.ชลบุรี ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวกันเป็นอย่างมาก ตลอดถนนเส้นนั้น เราก็จะได้พบเห็นนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติ เดินเท้าเพลิดเพลินไปกับแสงไฟในยามราตรีจากสถานบันเทิงต่างๆ ทั้งสองข้างทาง ราวกับเป็นถนนที่ไม่มีวันหลับใหล และด้วยความพลุกพล่านของผู้คนจำนวนมากนั่นเองที่ทำให้เจ้าหน้าที่ของทางภาครัฐ จำเป็นจะต้องตรวจตราในเรื่องความปลอดภัย สิ่งผิดกฎหมายอยู่เสมอ โดยล่าสุด ทางเพจ PattayaupdateNews ก็ได้เผยคลิปการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตำรวจปกครองทหาร ลงตรวจสอบสถานบันเทิงในบริเวณนั้น พบว่าผู้ประกอบการทุกร้านมีใบประกอบการครบถ้วน ถูกกฎหมาย แถมยัง “ไม่เจอการขายบริการทางเพศใดๆ เลย” คลิปเจ้าหน้าที่ลงตรวจสถานบันเทิง เวลา 22.00น. (6 มิ.ย. 2562) พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ รองผู้บังคับบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เป็นผู้นำการลงตรวจพื้นที่ในครั้งนี้ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่จากหลายๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขากล่าวว่านี่เป็นการ “สุ่มตรวจ” แหล่งสถานบันเทิงต่างๆ ที่พบเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก และไม่ใช่แค่กับสถานบันเทิงเท่านั้น แต่ในจุดลับตาคนต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปตรวจสอบดูความเรียบร้อยอย่างครบถ้วน พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ กล่าวว่าการลงตรวจพื้นที่ในลักษณะนี้ก็เพื่อป้องกันเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว รวมถึงไม่ให้มีสิ่งผิดกฎหมายเล็ดลอดเข้ามาได้ อย่างไรก็ตาม…
-
‘พี่ตูน บอดี้สแลม’ โพสต์เคลียร์ดราม่า ‘ผมมีรายไดัพอเลี้ยงดูความฝันของตัวเองและครอบครัว’
หากยังจำกันได้เมื่อไม่นานมานี้ในนัดชิงศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่างลิเวอร์พูล – สเปอร์ส ‘พี่ตูน บอดี้สแลม’ ก็ได้ทำการบินไปเชียร์ทีมโปรดถึงขอบสนาม (พี่ตูนเป็นแฟนทีมสเปอร์ส) กับคุณก้อย รัชวิน แฟนสาว แต่ว่าการบินไปดูบอลของพี่ตูนในครั้งนั้นก็ทำให้เกิดดราม่าขึ้น เมื่อมีเสียงจากชาวเน็ตบางคนบอกว่านี่พี่ตูนนำเงินจากการโครงการวิ่ง ‘ก้าวคนละก้าว’ มาใช้ในส่วนนี้หรือเปล่า อ่านข่าวเก่าที่ >> เพจสื่อฯ โพสต์ภาพ ‘พี่ตูน – ก้อย’ ไปเชียร์บอล ใช้คำว่า ‘นักวิ่งเรี่ยไร’ เกิดเป็นสงครามคีย์บอร์ดย่อมๆ!! จากดราม่าดังกล่าวในเวลาต่อมาคุณเบลล์-ชายชาญ ใบมงคล ครีเอทีฟของโครงการก้าวคนละก้าว ก็ได้ออกมาคอมเมนต์ชี้แจงถึงเรื่องนี้ดังต่อไปนี้ และในตอนนี้คุณตูนบอดี้สแลม ก็ได้ออกมาเคลียร์เรื่องแล้ว ด้วยการโพสต์ภาพในอินสตาแกรมพร้อมกับแคปชั่นสุดคมว่า https://www.instagram.com/p/BybSMs-gK4T/ “ผมมีอาชีพเป็นของตัวเอง มีรายไดัพอเลี้ยงดูความฝันของตัวเอง และครอบครัว สิ่งที่ผมตั้งใจทำมาตลอด2-3ปีที่ผ่านมานี้ ก็เกิดขึ้นจากความสนุกและความสุขล้วนๆ…ซึ่งหากมันจะเกิดประโยชน์กับใครได้บ้าง ก็ถือว่าผมได้ตอบแทนบุญคุณบ้านเกิดผมเองบ้างได้…ไม่มากก็น้อย หากใช่แค่พร่ำบ่น และด่าทอ พอเถอะครับ…หากเจตนาของทุกคนคือการทำให้ทุกอย่างดีขึ้น 🙂 รัก❤ #ก้าวคนละก้าว #ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆเพิ่อ8โรงพยาบาลภาคอีสาน“ ตอนนี้ในโพสต์ของพี่ตูนก็มียอดกดไลก์มากกว่า 100,000 ครั้ง อีกทั้งคนดังเข้ามาร่วมให้กำลังใจอย่างมากมายอีกด้วย… ที่มา: artiwara
-
เด็กหงส์คนจริง ‘บวช 5 พรรษา’ หลังโพสต์ในเฟซบุ๊กว่าถ้าลิเวอร์ฯ คว้าแชมป์จะบวชให้!!
ก่อนเกมฟุตบอลจะเริ่มขึ้นใครๆ ก็มีสิทธิ์จะพูดท้าทายยังไงก็ได้ แต่ประเด็นอยู่ที่หลังจากผลการแข่งขันออกมาจะทำอย่างที่บอกเอาไว้หรือเปล่านี่สิ… แต่ว่ามี ‘เดอะ ค็อป’ แฟนทีมลิเวอร์พูลอยู่คนหนึ่ง ที่เขาบอกเอาไว้ว่าถ้าลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ใดสักแชมป์หนึ่ง เขาจะบวชให้เลย 5 พรรษา แล้วเขาก็ทำอย่างที่ว่าเอาไว้จริงๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ควรค่ากับการชื่นชมว่าเป็น ‘คนจริง’ สำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊ก Zack Ekmongkol ที่เคยโพสต์เอาไว้ว่าหากทีมรักคว้าแชมป์ใดแชมป์หนึ่งระหว่างพรีเมียร์ลีกหรือยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก จะบวชให้ถึง 5 พรรษา เขาโพสต์เอาไว้เมื่อวันที่ 12 พ.ค. และล่าสุดในวันนี้ (8 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันหลังจากเข้าพิธีอุปสมบทไป 1 วัน ในเฟซบุ๊กของชายคนนี้ก็ได้โพสต์ประกาศว่าได้ทำตามที่ได้ลั่นวาจาไว้แล้ว โดยได้ใส่แคปชั่นเอาไว้ว่า “วันที่12พฤษภาคม ขณะที่ลิเวอร์พูลมีลุ้น2แชมป์ ผมได้อธิษฐานไว้ถ้าถ้าหากได้มาสัก1แชมป์ ผมจะบวชยาวๆสัก5พรรษา(ปี) และได้บวชภายใต้พัทธเสมา วัดธรรมมงคล สุขุมวิท101 ท่านใดมีโอกาสมาแถวนี้ก็แวะมาไหว้พระ ทำสมาธิ มาทำบุญ ได้นะ ปล.มีแฟนบอลท่านหนึ่งเป็นเจ้าภาพงานบวชให้และยังมีหลายๆท่านที่ส่งเหรียญโปรยทานมาร่วม และขออนุโมทนากับแฟนบอลลิเวอร์พูลจำนวนมากที่ร่วมอนุโมทนากับผม สาธุๆ” รูปภาพยืนยันถึงการบวช . สุดยอดไปเลยครับ…
-
ฝนตกรถติด เด็กๆ รอพ่อแม่จนมืด โรงเรียนกลัวเด็กหิวเลยทำข้าวต้มเลี้ยง ผู้ปกครองสบายใจได้!!
หลังจากฝนเทกระหน่ำเมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) ก็ทำให้ถนนหลายสายในกรุงเทพฯ เป็นอัมพาต มีน้ำท่วมขังบ้างรวมถึงบางแห่งก็มีการจราจรติดขัด รถติด ขนส่งสาธารณะล่าช้าจากน้ำฝนที่พร้อมใจกันแบ่งปันความชุ่มช่ำ และด้วยเหตุที่ว่านี้แล้วทำให้เด็กๆ หลายคนที่อยู่โรงเรียนต้องรอผู้ปกครองจนมืดค่ำอย่างไม่มีทางเลือก ซึ่งพวกเขาอาจเกิดความหิวขึ้นมาได้ และก็มีโรงเรียนแห่งหนึ่งมองเห็นปัญหาในจุดนี้ ทางโรงเรียนก็เลยทำข้าวต้มเลี้ยงเด็กๆ ซะเลย!! เรื่องราวชวนให้ยิ้มตามนี้เกิดขึ้นจากเพจ Patai Udom Suksa School ของโรงเรียนไผทอุดมศึกษา ย่านหลักสี่ ได้โพสต์ภาพน่ารักๆ ของทางโรงเรียนขณะแจกข้าวต้มให้น้องๆ หนูๆ ซึ่งในคำอธิบายได้เขียนเอาไว้ว่า “วิกฤติคนเมือง ฝนตก รถติด เด็กๆ ติดอยู่รร. เด็กๆ ทุกคนเราดูแลและห่วงใยเหมือนลูกหลาน เนื่องจากวันนี้รถติดมากๆ ทำให้ผู้ปกครองมารับเด็กๆช้า ตอนนี้ทาง รร. ได้ทำข้าวต้มเลี้ยงเด็กๆแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องหิวนะคะ ขอบคุณภาพจากครูขวัญจิตค่ะ ขอบคุณท่านประธานโรงเรียนที่ใส่ใจเด็กๆ ค่ะ” และนี่คือภาพที่เห็นแล้วเป็นอดยิ้มไม่ได้ เด็กๆ ติดอยู่ที่โรงเรียนจนมืดค่ำ มากินข้าวต้มร้อนๆ กันก่อนนะ ยิ้มแย้มกันอย่างมีความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ ผู้ปกครองก็สามารถกินได้เช่นกัน …
-
นักท่องเที่ยวสาวเกาหลีบอกให้กดมิเตอร์ แท็กซี่ฉุนจัด ใช้แป๊ปฟาด-ขโมยโทรศัพท์ ก่อนหนีหายไป
อย่างที่รู้กันดีว่าการใช้บริการรถโดยสาร ‘แท็กซี่’ ทุกครั้งที่เราขึ้นจะต้องมีการกดเปิด ‘มิเตอร์’ เพื่อเป็นตัววัดว่าจะต้องจ่ายค่าใช้บริการเท่าไหร่ แต่หากว่าไม่กดเราก็ไม่รู้ได้เลยว่าค่าโดยสารที่เราจะต้องจ่ายนั้นมันวัดจากอะไร? ซึ่งคนขับแท็กซี่บางคนอาจจะใช้โอกาสนี้เก็บค่าโดยสารเราเท่าไหร่ก็ได้ แน่นอนว่ามันทำให้ผู้ใช้บริการไม่สบายใจ เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2562 มีรายงานว่านักท่องเที่ยวสาวชาวเกาหลี 2 ราย โดยสารแท็กซี่สีส้มคันหนึ่ง มาจากห้างย่านรัชดาภิเษก เมื่อช่วงกลางดึก เพื่อเดินทางไปสมุทรปราการ ซึ่งระหว่างทางก็พบว่าโชเฟอร์ไม่ยอมกดมิเตอร์ให้ จึงทักท้วง จากนั้นโชเฟอร์กลับพาออกนอกเส้นทาง แวะไปที่เปลี่ยว ใช้ท่อนเหล็กทุบตีนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน และชิงสมาร์ตโฟนมูลค่ารวม 50,000 บาท ก่อนที่จะนำไปปล่อยทิ้งที่ข้างถนนแล้วก็เผ่นหนีไป โชคดีที่มีพลเมืองดีมาพบเจอพอดี และให้ความช่วยเหลือกับนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน พร้อมทั้งช่วยแจ้งตำรวจให้อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำหน้าที่สืบสวนกันอย่างหนัก จนสามารถตามจับตัวคนโชเฟอร์แท็กซี่ผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงการณ์การจับกุมนายธนเดช ธนาถิรพงศ์อายุ 51 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ โชเฟอร์แท็กซี่ผู้ก่อเหตุ จากการสอบสวนก็พบว่านายธนเดชยอมรับว่าทำจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจจะก่อเหตุ ที่ทำลงไปเพราะโมโห…
-
ออสเตรเลียพบ ‘ยาไอซ์’ ถูกส่งไปจากไทย รวมเกือบ 3 หมื่นล้านบาท เยอะสุดที่เคยเจอมา!!
เรียกได้ว่าเป็นการ “จับยาไอซ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย” เมื่อทางสำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ชายแดนพบยาเสพติดดังกล่าวถูกซุกซ่อนไว้ในตู้สินค้าเครื่องเสียงลำโพงที่นำเข้ามา “จากประเทศไทย” ตามรายงานในวันที่ 7 มิถุนายน 2019 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชายแดนของออสเตรเลียในกรุงเมลเบิร์น พบตู้สินค้าถูกขนส่งมาทางเรือ นำเข้าจากกรุงเทพฯ โดยภายในเต็มไปด้วยชุดเครื่องเสียงลำโพงจำนวนมาก จนกระทั่งเมื่อลองเอกซเรย์ตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมดู จึงทำให้เจ้าหน้าที่ได้เจอกับ “ยาไอซ์” จำนวนกว่า 1.6 ตัน รวมแล้วเป็นมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราวๆ 26,237 ล้านบาท!! นอกจากยาไอซ์แล้ว พวกเขายังพบ “เฮโรอีน” อีกกว่า 37 กิโลกรัมถูกซุกซ่อนมาด้วยกัน Craig Palmer ผู้บังคับบัญชาของกองกำลังชายแดนออสเตรเลีย กล่าวว่า “นี่คือการจับยาไอซ์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาในประเทศนี้เลย” สำหรับ “ยาไอซ์” นั้นถือว่าเป็นยาเสพติดที่เลวร้ายอย่างมากในออสเตรเลีย และทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามจับกุม ลบล้างมันให้หมดไปจากประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีการรายงานจับกุมตัวผู้กระทำผิดใดๆ ทั้งนี้จึงต้องทำการสืบสวนหาต้นตอกันต่อไป ที่มา:…
-
โปรพิเศษร้านก๋วยเตี๋ยว!! ใครชื่อเหมือน ‘นักการเมือง 5 คนนี้’ กินฟรีตลอดเดือนไปเลยจ้า!!
เราอาจเคยคิดว่า “ไม่อยากมีชื่อเหมือนใคร” แต่รู้มั้ยว่าการที่ชื่อของเรานั้นเหมือนใครสักคน มันก็มีข้อดีอย่างที่เราคาดไม่ถึงอยู่เหมือนกัน หนึ่งในข้อดีที่ว่านั้นก็คือ “การได้กินก๋วยเตี๋ยวฟรีตลอดเดือน”!! ว๊าวววว ฟังดูก็น่าสนใจแล้วมั้ยล่ะ ชื่อเหมือนคนอื่นดียังไง? งั้นลองมารู้จักกับร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ดู ร้านก๊ะเตี๋ยว บ้าบอล คือร้านก๋วยเตี๋ยวเลื่องชื่อในจังหวัดชัยนาท เป็นร้านที่มักจะตามกระแสทันยุคทันสมัยอยู่เสมอ พร้อมจัดโปรโมชั่นให้กับคนที่มี “ชื่อเหมือนคนดัง” อย่างช่วงก่อนที่ละคร “กรงกรรม” กำลังได้รับความนิยม ทางร้านก็ได้จัดโปรโมชั่น “ใครชื่อ เรณู, พิไล, จันตา, อาชา กินฟรี!!” เรียกได้ว่าเป็นโปรที่น่าสนใจไม่เบาเลยล่ะนะ และล่าสุด หลังจากที่เพิ่งผ่านพ้น “การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี” มาได้หมาดๆ ทางร้านก็ได้จัด “โปรคนชื่อเหมือนกินฟรี” ขึ้นมาอีกครั้งแล้วววว สำหรับครั้งนี้ ขอเพียงแค่เพื่อนมีชื่อว่า “ประยุทธ์, จุรินทร์, อนุทิน, ธนาธร, สุดารัตน์” 5 ชื่อนี้ กินฟรีตลอดเดือนมิถุนายนไปเล้ยยยย!! *ปล.ตอนแรกทางร้านติดป้ายแค่ “ประยุทธ์, จุรินทร์, อนุทิน” ตามโปรโมชั่นวันคู่…
-
ผอ.ถูกสั่งย้ายด่วน เซ่นคดีเด็ก 5 ขวบโดนรุมข่มขืนในโรงเรียน สอบข้อเท็จจริง รู้ผลใน 7 วัน
กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์ กับกรณีของครอบครัวของเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ที่ถูกรุ่นพี่และเพื่อนร่วมชั้นรุมกระทำชำเราในห้องน้ำของโรงเรียน พอไปแจ้งเรื่องให้ทางโรงเรียนทราบ กลับปฏิเสธและปัดความรับผิดชอบซะงั้น!? อ่านข่าวเก่าได้ที่ : หลานสาว 5 ขวบ ถูกเพื่อน-รุ่นพี่ข่มขืน มีเลือดไหล โรงเรียนปฏิเสธ เป็นเพราะขี่จักรยาน เหตุการณ์ดังกล่าวถูกนำมาแชร์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา เพราะครอบครัวต้องการที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเด็กหญิง เพราะเรื่องผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ล่าสุดเมื่อวัน 7 มิถุนายน 2562 (วันนี้) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมครอบครัวของเด็กหญิงก็ได้เดินทางเข้ามายังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อร้องเรียน พร้อมกับถือป้าย “แม่จ๋า หนูเจ็บ ช่วยหนูด้วย ย้ายเด็กทำไม ย้าย ผ.อ.ดีกว่า ร.ร.ปัดความรับผิดชอบ” และว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มารับเรื่องดังกล่าว …
-
นักเรียนโชว์สกิล ‘น้ำท่วม’ แต่กลับบ้านยังไงไม่ให้เปียก ‘ส่งเก้าอี้ต่อกัน’ สามัคคีคือพลัง เอ้าลุ้ย!!
เรียกได้ว่าในขณะนี้ กทม. เปรียบได้กับเป็นแม่น้ำขนาดย่อมๆ เพราะหลังจากฝนตกหนัก มองไปทางไหนน้ำก็ท่วมแทบจะทุกหนแห่ง จนตอนนี้เรือน่าจะมีประโยชน์กว่ารถ… แต่ด้วยเหตุฉุกเฉินอย่างนี้แล้ว จึงทำให้หลายคนต้องงัดสกิลการเอาตัวรอดขั้นสุดยอดมาใช้ในการดำรงชีวิตกัน อย่างเช่นในกรณีของเด็กกลุ่มนี้ที่ไม่อยากเปียก เลยต้องรวมพลังกันดั่งเช่นคำที่ว่า ‘รวมกันเราอยู่ แยกกันเราเปียก’!! เพจ นักเกรียน สวนกุหลาบ ได้เผยแพร่คลิปของเด็กนักเรียนสองคนที่พยายามจะเอาชีวิตรอดจากน้ำท่วมไม่ให้เท้าเปียก ด้วยการพากันส่งเก้าอี้เพื่อใช้ก้าวต่อกันไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นความฮาระดับ 5 กะโหลก สามัคคีคือพลัง เราจะต้องรอดให้ได้นะเพื่อน!! จากภาพที่เห็นจะเห็นว่านักเรียนคนอื่นๆ ต่างก็เดินลุยน้ำกันตามยถากรรม แต่สำหรับสองคนนี้แล้ว เพื่อป้องกันแม่ด่าเรื่องถุงเท้าเปียก พวกเขาจะไม่ยอมเป็นอันขาด ด้วยเก้าอี้ที่ผลัดกันส่งต่อไปเรื่อยๆ!! ความฮา ความปั่น ความฉลาดของพวกเขา ทำให้ตอนนี้คลิปมีการแชร์ออกไปแล้วถึง 5,000 ครั้ง แถมยังมีคอมเมนต์ชื่นชมให้เพียบ… . . . . . เด็กฉลาด ชาติเจริญ… ที่มา: นักเกรียน สวนกุหลาบ
-
‘น้องมาเรียม’ พะยูนสุดเปิ่น เผลอหลับบริเวณน้ำตื้น รู้ตัวอีกที ‘น้ำลง’ เลยเกยตื้นซะงั้น!?
เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นเซเลบขวัญใจชาวโซเชียลกันอยู่เลยทีเดียว กับน้อง ‘มาเรียม’ พะยูนน้อยที่อยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ล่าสุดก็มีเรื่องเปิ่นๆ ของน้องออกมาให้ชาวเน็ตได้ชื่นชมกันอีกครั้ง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนถึงหลงรัก และเอ็นดูน้องมาเรียมกันมากมายขนาดนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา น้องมาเรียมเกยตื้นขึ้นมาบนชายหาดของอ่าวทึง และเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติจึงเข้าช่วยเหลือและเลี้ยงดูตั้งแต่นั้นมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 เพจเฟซบุ๊ก ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เปิดเผยว่าน้องมาเรียม ประสบเหตุ ‘เกยตื้น’ อีกครั้ง แต่สาเหตุในครั้งนี้ ขอบอกเลยว่ามันน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก ตามรายงานระบุเอาไว้ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2562 เวลาประมาณ 04.40 น. พบน้องเกยตื้นอยู่ที่บริเวณหน้าเขาบาตู ทราบสาเหตุว่าน้องนอนหลับอยู่บริเวณน้ำตื้น พอถึงช่วงน้ำลง ก็พบว่าตัวเองเกยตื้นเสียแล้ว แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่เฝ้าติดตามน้องมาเรียม ได้นำน้องปล่อยกลับสู่ทะเลเรียบร้อยแล้ว . อีกทั้งยังมีการป้อนนม…
-
‘น้องโทบี้’ สุดตื้นตัน หลังได้รับของขวัญ ‘โมเดลกันดั้ม’ ครอบครัวขอขอบคุณฮีโร่ทุกๆ คน!!
อัปเดตจากเรื่องราวอันน่าประทับใจที่ #เหมียวตะปู ได้บอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันไปเมื่อวานนี้ กับเรื่องของ น้องโทบี้ หนูน้อยที่ต้องป่วยเป็นโรคร้าย ก่อนจะได้รับกำลังใจเป็น “โมเดลกันดั้ม” จากผู้คนในโลกโซเชียล อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: คุณพ่อตามหา ‘โมเดลกันดั้ม’ เพื่อลูกชายที่ป่วยเป็นมะเร็ง ผู้คนพร้อมใจ ‘จะส่งให้ถึงมือเลย’ !! ล่าสุดทางครอบครัวของน้องก็ได้ทำการโพสต์ภาพ เผยให้เห็นรอยยิ้มที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปพร้อมๆ กัน ภาพทั้งหมดที่เราเห็นนี้ คือของขวัญจากทุกคนที่ส่งมาให้กับน้องโทบี้ รวมถึงความสุข ความตื่นเต้นของน้องที่ถ่ายทอดออกมาให้เราสัมผัสกันได้ด้วยใจ รอยยิ้มหลังจากที่ได้รับของขวัญจากทุกคน . โพสต์ดังกล่าวได้บรรยายความรู้สึกของน้องออกมาเป็นตัวหนังสือ โดยมีจุดประสงค์ที่จะต้องการ “ขอบคุณฮีโร่ของน้องครับ นั่นคือพี่ๆ ทุกคน ขอบคุณจากใจพวกเรานะครับ” สิ่งที่ทำให้ทั้งน้องโทบี้และคนในครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ก็เพราะไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้รับของขวัญมากมายขนาดนี้ . . . ทางครอบครัวทราบดีว่าโมเดลแต่ละตัวนั้นเป็นของสะสมที่มีความหมายกับเจ้าของแต่ละคนเป็นอย่างมาก บางชิ้นเป็นของหายาก แต่พวกเขาก็ยอมที่จะสละสิ่งสำคัญดังกล่าวมาให้เพื่อเป็นกำลังใจแก่น้อง บางคนส่งมาจากต่างจังหวัด บ้างก็ส่งมาจากต่างประเทศ หรือบางคนก็ยอมเดินทางนำของมาส่งให้ถึงมือน้องโทบี้เลยทีเดียว . . . …
-
เจ้าหนี้ทวงเงินลูกหนี้ผ่านเฟซบุ๊ก ถูกจ่ายด้วย ‘บาทา’ โดนรุมกระทืบแทนเงินที่ค้างไว้ 3 ปี
เรื่องราวระหว่างเจ้าหนี้ – ลูกหนี้ ยังคงเป็นกรณีที่มีให้เห็นอยู่ในแทบจะทุกยุคทุกสมัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ลูกหนี้เบี้ยวหนี้ เจ้าหนี้ทวงหนี้โหด หรือว่าอาจจะเหมือนในกรณีนี้ที่ลูกหนี้ยกพวกกระทืบเจ้าหนี้ เพราะเจ้าหนี้ทวงหนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก… นายณัฐพงษ์และนายณัฐพล สองพี่น้องได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. พัทยา หลังจากที่ถูกลูกหนี้ 3 คนบุกกระทืบถึงบ้าน จากความที่พวกเขาได้ทวงหนี้ผ่านเฟซบุ๊ก นายณัฐพลให้สัมภาษณ์ เรื่องนี้รายการทุบโต๊ะข่าวเล่าว่า นายณัฐพลได้ให้สัมภาษณ์เล่าถึงเหตุการณ์ โดยบอกว่า ไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุทางครอบครัวได้ข่าวจากญาติว่า คนที่ยืมเงินแม่ไป 50,000 บาทเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โพสต์เฟซบุ๊กว่ากำลังจะออกรถคันใหม่ นายณัฐพงษ์ ผู้เป็นน้องชายจึงเข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์นั้นว่า ‘ถ้ามีเงินใช้หนี้ผมบ้าง’ เพราะไม่รู้จะทวงเงินยังไง โทรศัพท์ไปก็ไม่รับ จากนั้นก็เป็นเรื่อง… ทางลูกหนี้ได้ติดต่อผ่านทางข้อความเฟซบุ๊กของน้องชาย โดยออกอุบายว่าอยู่ที่ไหนจะนำเงินมาคืนให้ ซึ่งน้องชายก็บอกว่าอยู่บ้าน จากนั้นกลุ่มคู่กรณี 3 คนก็พากันมาที่บ้านของน้องชายแล้วรุมกระทืบน้องชาย ขณะนั้นที่บ้านมีเพียงแค่น้องชายกับแฟนสองคน ภาพที่นายณัฐพงษ์ถูกทำร้าย แถมหลังจากทำร้ายร่างกายเสร็จกลุ่มผู้ก่อเหตุยังบอกอีกด้วยว่า ‘วันนี้จะตามเก็บให้หมด’ ซึ่งก็น่าจะหมายถึงนายณัฐพลนั่นเอง ด้วยคำพูดนี้ทางนายณัฐพงษ์จึงโทรบอกพี่ชายให้ระวังตัวเอาไว้ ซึ่งในเวลาต่อมาลูกหนี้กลุ่มนี้ก็มาหานายณัฐพลจริงๆ ถึงสถานที่ทำงาน และได้ทำการรุมสกรัมเขาจนได้รับบาดเจ็บ วิดีโอขณะทั้งคู่ถูกรุมตี นายณัฐพลเล่าว่าทันทีที่เจอกัน ทั้งสามคนไม่มีพูดคุยถามไถ่ใดๆ…
-
หนุ่มมือโพสต์ภาพสาวนั่งขัดสมาธิ ‘ขอโทษกับสังคม’ น้อมรับทุกคำด่า ยันไม่ได้เจตนาทำร้ายใคร
จากเรื่องที่กลายเป็นไวรัลเมื่อวาน ในเรื่องของชายคนหนึ่งที่โพสต์วิจารณ์ท่านั่งของสาวคนหนึ่งในร้านอาหารจนกลายเป็นที่ก่นด่าของชาวโซเชียล ในตอนนี้เขาได้ออกมาขอโทษกับเรื่องนี้แล้ว โดยกล่าวว่าเขายอมรับผิดในทุกๆ อย่างและน้อมรับในทุกคำวิจารณ์ ที่ทำไปนั้นเพราะอยากจะแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเพียงเท่านั้น… อ่านข่าวเก่าที่ >> วิจารณ์ยับ… หนุ่มจวกหญิง ‘นั่งขัดสมาธิในร้าน’ ไร้มารยาท ถ้าพ่อแม่ไม่สอนเดี๋ยวสอนให้?! โพสต์ที่ทำให้กลายเป็นประเด็น ทางเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return v.11 ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายชื่อว่า ‘ต้น’ ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโพสต์ดราม่าดังกล่าว ซึ่งทางเพจใส่แคปชั่นประกอบเอาไว้ว่า “ชายต้ลลลคลเดย์ นักเหยียดปี 2019 เค้าว่าเง้อะ” คลิปวิดีโอที่เขาออกมาขอโทษกับสังคม สำหรับเนื้อหาหลักๆ ภายในคลิปนี้ก็คือเขาขอโทษกับสังคมรวมทั้งน้องผู้หญิงที่อยู่ในภาพ พร้อมทั้งอธิบายว่าสิ่งที่เขาเขียนออกไปไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใครแต่อย่างใด และเป็นความคิดเห็นส่วนตัวเพียงเท่านั้น เขาจะอ่านคอมเมนต์ของชาวเน็ตในเรื่องนี้แล้วและก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องมากนัก ในตอนนี้เขาสำนึกผิดแล้ว และได้ปิดโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ หมดแล้ว เพราะรับไม่ไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่ายอมรับความผิดแต่โดยดี เพราะมันเป็นเรื่องที่ผิดจริงๆ พร้อมกันก็ขออ้อนวอนทุกเพจให้ยุติเรื่องนี้เสียที ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเขาเอง… ภาพที่เขาเคยอัพขอโทษในโซเชียล (ตอนนี้ปิดไปแล้ว) หลังจากคลิปที่ออกสู่สายตาชาวโซเชียล ชาวเน็ตก็มาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ซึ่งถ้าจะแบ่งแล้วก็สามารถแบ่งออกได้เป็นสองฝั่งด้วยกัน ได้แก่ฝั่งที่บอกว่าเมื่อออกมาขอโทษก็พร้อมให้อภัย และฝ่ายที่ยังไม่พร้อมให้อภัย… …
-
น้องลูกเสือชั้น ม.1 ค้นพบตัวตนเป็น ‘เพศทางเลือก’ ขอครูเรียน ‘ยุวกาชาด’ ครูบอกจัดให้!!
ในช่วงที่การเมืองกำลังร้อนระอุ หลายๆ ข่าวอาจทำให้รู้สึกเครียดจนอยากเอาหัวจุ่มถังน้ำแล้วตะโกนออกมาดังๆ ว่า “ว๊ากกกกกก!!” (พอดีนึกคำไม่ออก…) ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ก็มีเรื่องราวเล็กๆ น่ารักๆ ที่อาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกอบอุ่นหัวใจ เหมือนอย่างเรื่องจากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Yanin Krow Prapotung ได้แชร์มาเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่เธอได้แชร์มาก็คือภาพๆ นี้ เป็นภาพของ “นักเรียนชายคนหนึ่ง” สวมชุด “ยุวกาชาด”…. งงกันละสิท่า ก็เพราะยุวกาชาดที่เราเคยเห็นกันจนชินตานั้นมันเป็นชุดสำหรับ “นักเรียนหญิง” ไม่ใช่หรือ?! ภาพเรื่องราวดังกล่าว เจ้าของภาพได้อธิบายเอาไว้ว่า น้องที่เราเห็นนั้นกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องได้เจอกับคาบเรียนวิชา ลูกเสือ (สำหรับผู้ชาย) และ ยุวกาชาด (สำหรับผู้หญิง) แต่ประเด็นคือน้องเขาไม่อยากใส่ชุดลูกเสือ เพราะน้องรู้ตัวว่าตนเองเป็น “เพศทางเลือก” และต้องการที่จะสวมชุดยุวกาชาด เรียนเหมือนอย่างนักเรียนหญิงคนอื่นๆ ด้วยเหตุนั้นเอง หนูน้อยจึงไปขออาจารย์ว่าอย่างนั้น เกิดเป็นการถกเถียงขึ้นภายในโรงเรียนว่า “ควรให้น้องได้ทำอย่างที่ต้องการหรือไม่?” ท้ายที่สุดแล้ว คุณครูก็ยอมรับในการตัดสินใจของน้อง ช่วยกันออกแบบผสมผสานจนกลายมาเป็นชุดยุวกาชาดสำหรับผู้ชายอย่างที่เราเห็นนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ได้แชร์เรื่องราวดังกล่าว เขียนแคปชั่นไว้ว่า งานนี้ก็ทำเอาชาวเน็ตหลายๆ…
-
หนุ่มร่ำไห้ คู่กรณีชี้ตัวมั่ว ถูกตำรวจจับฐานลักทรัพย์ ต้องหาหลักฐานพิสูจน์เอง
บางครั้ง ‘ความซวย’ ก็อาจจะมาเยือนได้โดยที่ไม่รู้ตัว ใครเล่าจะคิดว่าอยู่ดีๆ ก็ต้องกลายมาเป็นขโมย ก่อเหตุลักทรัพย์ เพราะถูกชี้ตัว ‘ผิดคน’!? นี่คือเรื่องราวของ นายชิตพงษ์ วินทะไชย หนุ่มผู้ตกกลายเป็นหัวขโมย ถูกกล่าวหาว่าบุกเข้าไปในบ้านของคู่กรณี ทำทีว่าจะขอซื้อบ้าน แล้วก็ลักสินทรัพย์ออกมา ซึ่งนายชิตพงษ์ก็ยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุดังกล่าว พร้อมทั้งต้องยื่นสินทรัพย์เพื่อประกันตัวกว่า 100,000 บาท และต้องไปหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เลยตัดสินใจออกมาร้องทุกข์ บ้านหลังเกิดเหตุ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นายชิตพงษ์ อ้างว่าตอนนั้นตนทำงานส่งเอกสารที่บริษัทย่านถนนเอกชัย-บางบอน และไม่เคยไปที่บ้านของผู้เสียหาย ที่อยู่ในย่านแสมดำเลยแม้แต่น้อย โดยหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมี และนำมาใช้ในการดำเนินคดีกับนายชิตพงษ์นั้น เป็นภาพกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพตอนที่เขาขับรถมอเตอร์ไซค์ไปตามถนน ห่างจากบ้านคู่กรณีราว 100 เมตร เวลาประมาณ 15.07 น. ทว่านายชิตพงษ์เชื่อว่าไม่ใช่เวลานั้นแน่นอน เลยไปหาภาพจากกล้องวงจรปิดมาเพิ่มเติม สรุปได้ว่า เวลา 14.58 น. เขาอยู่ที่ธนาคารทหารไทย เวลา 16.00 น.…
-
แม่เช็กมือถือลูกสาววัย 15 พบว่า “ขายตัว” แลกเงินพัน ตำรวจซ้อนแผนจับกุมตัวแม่เล้า
ข่าว “การขายบริการทางเพศ” หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “ขายตัว” นั้น ยังคงเป็นเรื่องที่มีให้เห็นในบ้านเราอยู่เรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับข่าวนี้ และสิ่งที่อาจดูโหดร้ายยิ่งกว่าก็คือผู้หญิงขายบริการคนนั้นเป็น “เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี”… ภาพเหตุการณ์จาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ (7 มิ.ย. 2019) คุณแม่ช็อก หลังรู้ว่าลูกสาววัย 15 ขายบริการ ก่อนหน้านี้ คุณแม่ของ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เคยได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.สมุทรปราการ หลังพบว่าลูกสาวของตัวเองหายไปจากบ้านพัก หลังจากแจ้งความเสร็จ คุณแม่ก็ได้เดินทางกลับบ้านไปแล้วพบว่าลูกสาวของตนได้กลับมาถึงบ้านแล้ว แต่กลับมีลักษณะแปลกๆ ดูต่างไปจากเดิม ด้วยเหตุนั้นเอง ผู้เป็นแม่จึงแอบเอาโทรศัพท์ของลูกสาวมาเช็กดู จึงพบกับข้อความที่เผยให้เห็นว่าลูกสาววัย 15 ปีของตนได้มีการพูดคุยติดต่อกับคนแปลกหน้า เพื่อไป “ขายบริการทางเพศ” แชทที่เด็กสาววัย 15 ปี ติดต่อพูดคุยเพื่อไปขายบริการทางเพศ . คุณแม่พาลูกสาวเข้าแจ้งความ ซ้อนแผนรวบตัวแม่เล้า ในเวลาต่อมา คุณแม่ก็ได้พา…
-
หนุ่มหัวร้อนรอคิวนาน ‘ต่อยพยาบาล’ แม่แจงแทนลูกป่วยมะพร้าวตกใส่หัว – มีอาการทางจิต…
กำลังเป็นประเด็นที่ร้อนแรงและถูกหยิบยกมาพูดถึงกันอยู่ ณ ขณะนี้ สำหรับกรณีของหนุ่มรายหนึ่งที่เข้าไปในโรงพยาบาลแล้วโวยวาย ปิดท้ายด้วยการทำร้ายร่างกายต่อย ‘พยาบาล’ ซึ่งเรื่องราวนี้เป็นมาอย่างไรนั้น เราได้ไล่เรียงมาให้คุณได้ดูกันแล้ว จุดเริ่มต้นของเรื่อง เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ จากความที่เพจๆ หนึ่งได้ลงคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ โรงพยาบาลปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งจะเกิดอะไรขึ้นนั้นดูได้จากวิดีโอนี้เลย… วิดีโอขณะที่เกิดเรื่อง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลออกมาพูดถึงเรื่องนี้ รายการทุบโต๊ะข่าวรายงานว่านายแพทย์ทศนเทพ ผอ. รพ.ปลวกแดง ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา วันนั้นในห้องอุบัติเหตุของโรงพยาบาลมีเคสฉุกเฉินเข้ามามาก ซึ่งหนุ่มรายนี้ก็เดินเข้ามาในห้องฉุกเฉินเพื่อจะล้างแผลที่หัว จึงถามพยาบาลว่ามีคิวอีกเยอะไหม ทางพยาบาลก็บอกว่าอีกนานเนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมาก นอกจากนี้คุณพยาบาลยังแนะนำให้หนุ่มรายนี้ไปลงทะเบียนเพื่อจะได้ทราบจำนวนคิว เมื่อได้ยินดังนั้นหนุ่มรายนี้จึงเกิดโมโหขึ้นมาปรี่เข้าทำร้ายร่างกายต่อยพยาบาล อีกทั้งยังจะทำร้ายคนไข้คนอื่นที่เข้ามาห้ามอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางโรงพยาบาลกล่าวว่าต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อเอาผิดกรณีที่มาทำร้ายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงานอยู่ แม่เล่าเรื่องบ้าง… ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปหานางธนิกา แม่ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งแม่ก็เล่าให้ฟังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อกับคุณแม่มาแล้ว แต่แม่ก็ยังติดต่อกับลูกชายไม่ได้ โดยคุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่าลูกชายของเธอได้รับบาดเจ็บที่หัวเนื่องจากมะพร้าวตกใส่ และไปทำแผลที่โรงพยาบาลปลวกแดงมาแล้วหลายครั้ง ในวันเกิดเหตุเป็นวันที่เลยกำหนดตัดไหมที่หัวมาแล้วหลายวัน ลูกชายจึงเข้าไปถามพยาบาลที่ห้องฉุกเฉินเพื่อที่ว่าหากรอนานจะได้ไปตัดที่อื่น แต่ไม่ได้คำตอบเพราะคนเยอะ จึงเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น พร้อมกันนี้คุณแม่ก็บอกว่าตกใจเมื่อได้เห็นคลิป…
-
เรื่องชวนปวดหัวของคนซื้อ-คนขาย คนขายบอก 250 รวมส่ง คนซื้อเป็นงงอะไรค่าส่งตั้ง 250 !?
การสื่อสารให้เข้าใจตรงกันระหว่างคนขาย – คนซื้อ ถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ในการซื้อขาย เพราะบางทีหากเข้าใจไม่ตรงกันก็อาจทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาได้เหมือนกับในการขายของแบบงงๆ กรณีนี้… ที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งเข้าไปโพสต์ถามในกลุ่มถามความเห็นของสมาชิกว่าใครผิดใครถูก งานนี้เขาเลยถูกยำซะเละ เอ้าอยากรู้แล้วล่ะสิ เรื่องเป็นมายังไงไปดูกันเล้ย… เฟซบุ๊ก Manasanan Kualnphan ได้โพสต์ถึงเรื่องสนุกๆ ที่ว่านี้ โดยต้องบอกว่าเรื่องที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กนำมาโพสต์คือเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกคนหนึ่งที่เจรจาต่อรองจะซื้อของกับคนขาย แต่ว่าด้วยความงง หรือเหตุใดก็ไม่อาจทราบได้จึงได้ออกมาในดั่งรูปที่เห็น เอาเป็นว่าให้รูปเล่าเรื่องก็แล้วกัน มีคนมาฝากเตือนในกลุ่ม ทั้งยังถามความเห็นว่าเรื่องนี้ใครผิดกัน ห๊ะ!! ค่าส่งของอะไรตั้ง 250 หลายคนอาจจะยังงงกันอยู่ตอนนี้ แต่ก็มีคนมาตอบเขามากมาย แต่ความจริงคือในแชทนี่ต่างหาก (คนขวาคือเจ้าของโพสต์ ด้านซ้ายคือคนขาย) เอ้ แล้วจริงๆ มันเท่าไหร่ล่ะหึ เป็นมิจฉาชีพไปซะแล้ว อ่ะงั้นเป็นส่งฟรีก็ได้ จะได้เข้าใจง่ายๆ เรื่องราวชวนปวดหัวที่ว่านี้ได้รับการแชร์ออกไปแล้วถึง 4,000 ครั้ง แถมยังมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างท่วมท้น แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะออกไปในทางตำหนิคนซื้อซะนี่… . . . . . …
-
เมื่อสาวโพสต์ขาย ‘ผ้าคลุมล่องหน’ พร้อมรีวิวเนื้อผ้า ชาวเน็ตตะลึง โลกเวทมนตร์มีอยู่จริง!!
‘ผ้าคลุมล่องหน’ ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เวทมนตร์ที่มีชื่อเสียงชิ้นหนึ่งในเรื่องแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ เลยทีเดียว แต่ใครเล่าจะคิดว่าไอ้เจ้า ‘ผ้าคลุมล่องหน’ ที่ว่านั้น จะมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้จริงๆ แถมยังมีการซื้อขายกันผ่านทางทวิตเตอร์ซะด้วย!? เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @CREAM_Fuchan ได้ทำการทวีตต์ขาย ‘ผ้าคลุมล่องหน’ ที่กำลังแขวนอยู่บนไม้แขวนเสื้อ “ขายต่อผ้าคลุมล่องหนค่ะ มีใครสนใจไหมคะ?” ขายต่อผ้าคลุมล่องหนค่ะ มีใครสนใจไหมคะ? pic.twitter.com/ls7lAOMIix — CREAM (@CREAM_Fuchan) June 1, 2019 ชาวเน็ตหลายคนต่างก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก มีคนเข้ามากดไลก์กว่า 4,724 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 53,500 ครั้งเลยทีเดียว มีคนเข้ามาสอบถามรายละเอียดของเนื้อผ้า ขอดูเนื้อผ้าหน่อยค่ะ — วิ (@wi_lnwza555) June 1, 2019 มีตำหนิรึเปล่า? เนื้อผ้าเป็นแบบไหนคะ ไม่มีตำหนิใช่มั้ยคะ — เฮรเฮรเป็นแงว (@smile_4348) June 1,…
-
เพื่อนเก่าทักมา ‘เรียน ป.ตรี ทำไม ซ่อมมอไซดีกว่า’ พออธิบายให้ฟัง ได้คำหยาบกลับมาเพียบ?!
เราต้องเข้าใจก่อนว่า “มุมมองของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน” บางคนอาจมองสิ่งสิ่งหนึ่งว่ามีข้า ในขณะที่อีกคนอาจไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งนั้นเลยแม้แต่น้อย เช่นเดียวกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์บทสนทนาระหว่างเธอกับ “เพื่อนเก่าที่ทักมา” พร้อมตั้งคำถามว่า “เอ็งจะเรียน ป.ตรี ไปทำไม?” เพื่อนเก่าคนนั้นยังบอกอีกว่า “ตอนนี้ทำงานอยู่ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ได้เงินเดือน 15,000 ข้าสงสารเอ็งที่เรียนอยู่เลยว่ะ” พอเป็นอย่างนั้นแล้ว เจ้าของเฟซก็เลยอธิบาย พร้อมเปรียบเทียบให้เขาเห็นภาพเลยว่า “ทำไมถึงเรียนต่อ ป.ตรี” เราลองไปอ่านเรื่องราวนี้พร้อมๆ กันเลยดีกว่า . เพื่อนเก่าที่ทักมานั้น บอกว่าเขาเริ่มทำงานตั้งแต่ตอน ม.3 แล้ว เรียน ป.ตรี เพื่อกระดาษแผ่นเดียวอ่ะนะ?! ข้าสงสารเอ็งเลย . เรียนสูงใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป… พอถึงตรงนี้ เธอเลยอธิบายให้ฟังว่า กระดาษที่เรียกว่า “ปริญญา” นั้นมีค่าอย่างไรในสายตาเธอ . . การตอบกลับโดยใช้คำหยาบคาย เริ่มโผล่มาให้เห็น . จนกระทั่งบทสนทนา เต็มไปด้วยคำหยาบคายเพียบเลย… และจบลงด้วย….…
-
ตำรวจได้รับแจ้งเหตุด่วน ‘ตุ๊กแกขวางประตู’ เจ้าของห้องเข้าห้องไม่ได้ รีบรุดใช้สองมือมับเข้าให้
‘ตุ๊กแก’ แค่ได้เห็นชื่อหลายคนคงรู้สึกขนลุกขนพองกันแล้ว เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่ถูกโฉลกจริงๆ กับเจ้าสัตว์ชนิดนี้ แค่เห็นก็แทบทำเอากรี๊ดแตกแล้ว… แต่จะทำอย่างไรเมื่อมันมาเกาะขวางประตูห้องจนเข้าห้องไม่ได้ แน่นอนว่าคิดไม่ออกบอกไม่ถูกก็ต้องนึกถึง 191 เอาไว้ก่อน และก็มีคนทำอย่างนั้นจริงๆ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังมาจับมันได้คาที่เกิดเหตุ!! เพจ Thailand Police Story เผยแพร่ถึงเรื่องตำรวจกับตุ๊กแกเรื่องนี้ โดยบอกว่าเป็นเรื่องที่เกิดในจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรนั้น ต้องดูคำอธิบายที่ทางเพจใส่เป็นแคปชั่นเอาไว้ดังนี้ “สถานีตำรวจภูธรบึงโขงหลง ภ.จว.บึงกาฬ รับเเจ้งเหตุ 191 ขอความช่วยเหลือ ตุ๊กแกขวางประตู เข้าห้องไม่ได้ ร้อยเวรพร้อมรถ จยย.สายตรวจ นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จับไปปล่อยเรียบร้อย เหตุการณ์ปกติ” ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอย้ำอีกทีภาพนี้เป็นภาพจริงไม่ได้ถ่ายทำ คนที่เห็นในภาพก็เป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ตัวแสดง ปิดล้อมผู้ต้องหาไว้หมดแล้ว!! ในท้ายที่สุดเหตุการณ์ก็จบลงด้วยดีด้วยฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำตัวน้องไปปล่อย ไม่มีการแจ้งข้อหาก่อกวนกับเจ้าตุ๊กแกแต่อย่างใด และเรื่องนี้มันก็กลายเป็นถูกอกถูกใจชาวเน็ตซะเหลือเกิน จนมีคอมเมนต์เข้ามาชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมากมาย รวมถึงส่วนหนึ่งก็บอกว่านี่มันเป็นเรื่องตลกออฟเดอะเดย์จริงๆ . . . . . . เป็นทุกอย่างให้แล้วจริมๆ…
-
สรุปเหตุการณ์ หนุ่มแกร็บโดนลูกค้าด่า ยังต้องการคำขอโทษอยู่ บริษัทยืนยันไม่ถูกระงับสัญญาณ
จากเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจในโลกโซเชียลเมื่อวานที่ผ่านมา กับกรณีของ ‘หนุ่มแกร็บฟู้ด’ ไปส่งอาหารให้ลูกค้า แต่ถูกลูกค้าดูถูกว่าเป็นคนชั้นต่ำ อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ : ลูกค้าเดือด สั่งแกร๊บบอกให้ขึ้นมาส่ง “ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องลงไป” ด่าคนขับเป็นคนชั้นต่ำ ล่าสุดก็มีข่าวอัปเดตเพิ่มเติมออกมาจากฝ่ายลูกค้า ว่าจริงๆ แล้วตนไม่ได้เป็นคนทำ แต่มีเพื่อนเอาโทรศัพท์ไปพิมพ์ประโยคดังกล่าว จนเกิดเป็นประเด็นขึ้นมา และผู้ก่อเหตุก็ออกมายอมรับแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากที่เกิดเหตุไปได้ไม่นาน ทางพนักงานขับแกร็บก็ได้ออกมาโพสต์ว่า บัญชีผู้ใช้งานของตนถูกแบนจากบริษัทแกร็บแล้ว ภายหลังบริษัทแกร็บก็ได้โพสต์ชี้แจงว่า ได้ยกเลิกสัญญาณการให้บริการบนแพล็ตฟอร์มแกร็บกับพนักงานขับแกร็บ เพราะเปิดเผยข้อมูลลูกค้าในโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎของบริษัท แต่ทว่าพอนำมาพิจารณาใหม่แล้ว ก็ได้เปลี่ยนใจให้หนุ่มขับแกร็บกลับมาทำงานต่อได้ และได้ทำการระงับการใช้บริการฝ่ายลูกค้าแทน เพราะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พร้อมยืนยันจุดยืนว่าต้องการให้ทั้งผู้ใช้บริการ และผู้ขับขี่ได้รับความปลอดภัย รวมถึงมีความเคารพซึ่งกันและกัน ทางด้านหนุ่มขับแกร็บ ทราบชื่อว่า นายเบนซ์ ออกมาเปิดใจผ่านรายการ ข่าวเย็นอมรินทร์ โดยเปิดเผยว่าแม้จะถูกดูถูกด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ก็ยังเอาอาหารขึ้นไปส่งถึงหน้าห้องพักของลูกค้าตามที่ระบุเอาไว้ พอไปถึงก็มีคนมารับอาหารด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น ก่อนที่จะจ่ายค่าอาหารตามปกติ แล้วก็ปิดประตูใส่ โดยไม่ได้มีการกล่าวขอโทษใดๆ อย่างไรก็ตามนายเบนซ์ยอมรับว่า ยังต้องการคำขอโทษจากลูกค้าอยู่ ไม่ว่าจะช่องทางไหนก็ตาม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถยอมรับได้…
-
‘มาดามเดียร์’ ผุดแฮชแท็ก #savepunjan แต่งานนี้ผู้คนโฟกัสไปที่ภาพ ‘โลโก้ส้มมาจากไหน?!’
หลังจากที่เมื่อวาน (6 มิ.ย. 2019) นักแสดงหนุ่ม ‘ปั้นจั่น ปรมะ’ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับทัศนะทางด้านการเมืองของตนเอง และโพสต์นั้นก็ได้กลายเป็นกระแสที่ทำให้ผู้คนบนโลกโซเชียลเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: ‘ปั้นจั่น ปรมะ’ โพสต์เรื่องการเมือง ถูกชาวเน็ตถล่มในโซเชียลซะเละ จนต้องปิดคอมเมนต์ โพสต์ดังกล่าวที่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่หลายๆ คนให้ความสนใจ ไม่เว้นแม้แต่ เดียร์ – วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในนาม มาดามเดียร์ มาดามเดียร์ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่เธอได้ทราบเรื่องราวของนักแสดงหนุ่มแล้ว ล่าสุดเธอก็ได้โพสต์ภาพลงในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมแคปชั่นสั้นๆ ว่า “ประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ การเคารพในเสรีภาพความเห็นต่าง” พร้อมด้วยแฮชแท็ก #savepunjan โพสต์ของเธอ (6 มิ.ย. 2019) อย่างที่เราเห็นจากแฮชแท็กว่าเธอได้แสดงตัวออกมาปกป้องในการแสดงทัศนะทางการเมืองของหนุ่มปั้นจั่นอย่างชัดเจน แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่หลายๆ…
-
กูรู UFO นัดชาวเน็ต Live Facebook อ้างเรียกจานบินได้ งานนี้จะจริงหรือแหกตา!?
Advertorial เรามักจะได้เห็นรายงานการพบเห็นวัตถุประหลาดมากมายบนท้องฟ้าทั่วโลก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนทำให้เกิดข้อสงสัยที่ว่า แท้จริงสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจะมีอยู่จริงบนโลกหรือไม่ จนกระทั่งชายที่อ้างตัวว่าเขาคือ ศ.ดร.เอกนันต์ กุลภัทรพี กูรู UFO จากสมาคมสานสัมพันธ์สิ่งมีชีวิตทรงภูมิทั่วจักรวาลแห่งประเทศไทย ได้ออกมายืนยันการค้นพบสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว และเขายังท้าให้คนทั้งโลกร่วมเป็นสักขีพยาน ผ่านการ LIVE Facebook เพื่อเรียก UFO มาให้ได้เห็นกันอีก (เขาบอกว่าเป็นครั้งแรกด้วย เอ้า!!) โดย UFO หรือจานบิน ที่เรารู้จักกันนั้น ย่อมาจาก Unidentified Flying Object ซึ่งแปลตรงตัวว่า วัตถุประหลาดบนท้องฟ้า โดยเป็นคำที่ถูกเรียกมาตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงทศวรรษที่ 50 ศ. ดร. เอกนันต์ กุลภัทรพี กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการค้นพบ UFO ในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่เรารู้จักกันดีอย่าง ‘เขากะลา’ หรือในแถบชานเมืองของหัวเมืองต่างๆ ก็มักมีภาพถ่ายติด UFO ปรากฏขึ้นมาให้เห็นอยู่เสมอ และมาปรากฏในตัวเมืองบ่อยขึ้น…
-
‘ปั้นจั่น ปรมะ’ โพสต์เรื่องการเมือง ถูกชาวเน็ตถล่มในโซเชียลซะเละ จนต้องปิดคอมเมนต์
เรียกได้ว่าเรื่องของการบ้านการเมือง ณ ตอนนี้เป็นกระแสที่มาแรงจนเอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่ และบางทีแล้วการโพสต์อะไรในโซเชียลก็ต้องระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและเปราะบางเอามากๆ ซึ่งล่าสุดก็มีกรณีหนึ่งให้เห็นนั่นก็คือความที่หนุ่ม ‘ปั้นจั่น ปรมะ’ นักแสดงชื่อดังโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับทัศนะทางด้านการเมือง เขาก็ถูกถล่มโซเชียลซะยับจนถึงขั้นต้องปิดคอมเมนต์ใน IG เลยทีเดียว!! เรื่องนี้ได้เริ่มขึ้นจากที่คุณปั้นจั่น ได้โพสต์สเตตัสในเฟซบุ๊ก Prama Imanotai ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง โดยเขาได้เขียนเอาไว้ว่า “คสช. อยู่มา 4-5 ปี บอกสืบทอดอำนาจ ได้อยู่ต่ออีก 3 ปี ก็ยังบอกสืบทอดอำนาจ แล้วไอ้ที่สืบๆกันมาจนลูกจบนอกขับรถซุปเปอร์คาร์นี่มันยังไง ตรูไม่เห็นจะมีนักการเมืองใช้ชีวิตธรรมดาสักคน ต้นทุนบางคนที่ได้มาพ่อแม่ก็เอามาจากภาษีประชาชนทั้งนั้น ฉะนั้นอย่าบ่นมาก ทำมาหากินไป มีเยอะก็เอาไปช่วยคนอื่นละกัน ทำบุญเยอะๆไม่ใช่แดกแต่เหล้าปาร์ตี้มันทุกคืน” ต่อมาแม้ว่าคุณปั้นจั่นจะลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแล้ว แต่ก็ไม่ทันชาวเน็ตที่สามารถแคปภาพไว้ดั่งภาพที่เห็น และหลังจากนั้นในโซเชียลต่างๆ ของเขาก็ถูกชาวเน็ตถล่มซะเละจนถึงขั้นต้องปิดคอมเมนต์ แต่ก็ยังมีชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์ในภาพอื่นๆ อยู่ดี ภาพที่ปิดคอมเมนต์ https://www.instagram.com/p/ByWn1gFBflB/ และนี่คือคอมเมนต์บางส่วนของชาวเน็ตในรูปอื่นๆ ของ IG คุณปั้นจั่น . . . .…
-
วิจารณ์ยับ… หนุ่มจวกหญิง ‘นั่งขัดสมาธิในร้าน’ ไร้มารยาท ถ้าพ่อแม่ไม่สอนเดี๋ยวสอนให้?!
คงไม่มีใครไม่เคย “นั่งขัดสมาธิ” หรอกเนาะ… คือมันอาจเรียกได้ว่าเป็นท่านั่งพื้นฐานที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ แต่แล้วท่านั่งดังกล่าวก็ได้กลายมาเป็นประเด็นให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง แสดงความคิดเห็นออกมาในเชิงไม่พอใจ และมองว่ามันเป็นท่าที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก เมื่อเห็นว่ามี “หญิงสาวคนหนึ่งนัดขัดสมาธิบนที่นั่งโต๊ะอาหาร” หญิงสาวคนหนึ่ง นั่งขัดสมาธิบนที่นั่งโต๊ะอาหาร เขาโพสต์ภาพที่เห็น พร้อมแคปชั่นว่า… “อยากจะบอกทุกท่าน โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรีทั้งหลาย ไม่ว่าคุณจะสวย รวย หรือหน้าที่การงานดีแค่ไหน.. การนั่งขัดสมาธิบนที่นั่งโต๊ะอาหาร โดยเฉพาะตามห้าง” “นั่นเป็นสิ่งที่ ‘ไม่ควรทำอย่างยิ่ง’ มันไม่สุภาพ ราคาตกทันที มันเป็นมารยาทเบื้องต้นบนโต๊ะอาหารนะครับ อย่าทำ ไม่รวยก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้จนตาม…” “คุณสมบัติผู้ดีควรมีติดตัวไว้ในทุกคน ไม่เกี่ยวกับฐานะ มันคือการเคารพตนเองและผู้อื่น ที่สำคัญรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ควรใส่ใจสักนิด” โพสต์ของผู้ใช้คนดังกล่าว นอกจากนั้น ประโยคสำคัญที่สร้างความไม่พอใจให้กับหลายๆ คนเป็นอย่างมากก็คือแฮชแท็กที่ว่า #ถ้าพ่อแม่ไม่สอนผมสอนให้นะครับ แม้ปัจจุบันโพสต์ดังกล่าวจะถูกตั้งค่า “เป็นส่วนตัว” แล้วก็ตาม แต่หลายๆ คนก็สามารถแคปเอาไว้ได้ และนำไปแชร์ต่อๆ กัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือทางเพจ ขอโทษนะคะ ที่เพื่อนทำตัวแบบนี้ หลังจากที่เพจดังกล่าวได้แชร์โพสต์นี้ออกไป…
-
‘TraveliGo’ ที่เดียวครบเรื่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบิน-โรงแรม-ทัวร์ ราคาจริงไม่มีบวกเพิ่ม!!
Advertorial ทุกวันนี้ต้องเรียกได้ว่าคนธรรมดาเดินดินอย่างเราๆ ต้องเผชิญกับปัญหามากมายที่ถาโถมเข้ามาในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหารถติด เบื่องาน เครียดกับการเมือง ฯลฯ จนทำให้หลายคนรู้สึกเหนื่อยล้ากับการใช้ชีวิตซะเหลือเกิน เห็นอย่างนี้แล้วเห็นทีเราต้องหาวิธีชาร์จแบตให้กับตัวเองซะแล้ว!! และรู้นะว่าสำหรับหลายคน วิธีการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือ ‘การไปเที่ยว’ ใช่ไหมล่ะ… ถ้าอย่างนั้นล่ะก็วันนี้เราไปรู้จักกับเว็บไซต์เว็บหนึ่งกันดีกว่า ซึ่งต้องขอบอกเลยว่านี่เป็นเว็บไซต์ที่มาด้วยคอนเซ็ปต์ ‘ครบ จบ ในที่เดียว’ สำหรับเรื่องการเที่ยว และคนที่รักการเที่ยวจะต้องหลงรักกับเว็บไซต์นี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นแน่ๆ และชื่อของเว็บไซต์ที่อยากให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันก็คือ ‘TraveliGo’ (ทราเวลไอโก) TraveliGo (ทราเวลไอโก) คืออะไร!? TraveliGo คือเว็บไซต์เอเจนซี่สัญชาติไทย ให้บริการครบวงจรทางด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม ซื้อทัวร์ เช่ารถ ประกันการเดินทางและอื่นๆ อีกมากมาย ใช้งานง่ายสบายใจได้ทั้งบนเว็บและแอปฯ เพราะด้วยฟีเจอร์ที่เจ๋งสุดๆ ของ TraveliGo ซึ่งต่างจากที่อื่นก็คือ ราคาที่แจ้งให้เห็นเป็นราคาสุดท้าย ไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีกแม้แต่แดงเดียว ตัดปัญหาเรื่องตั๋วถูกแบบหลอกๆ ที่เคยเจอกันมาไปได้เลย และที่นี่จะมีบริการอะไรบ้างนั้น เราไปแยกให้เห็นกันจะจะไปเลยดีกว่าว่ามันสุดยอดครบจบในตัวขนาดไหน… บริการจองตั๋วเครื่องบิน >> คลิ๊ก!! เดี๋ยวนี้เว็บไซต์รับจองตั๋วเครื่องบินมีให้บริการหลายเจ้า ซึ่ง TraveliGo…
-
ลูกค้าเดือด สั่งแกร๊บบอกให้ขึ้นมาส่ง “ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องลงไป” ด่าคนขับเป็นคนชั้นต่ำ
จริงอยู่ว่าสำหรับ ‘งานบริการ’ แล้ว การเอาอกเอาใจลูกค้าถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว แต่บางครั้งลูกค้าก็ไม่ใช่พระเจ้าเสมอไป เพราะหากทำพฤติกรรมแย่ๆ เมื่อไหร่ก็อาจจะทำให้สังคมรุมประณามก็เป็นได้ อย่างเช่นเหตุการณ์ต่อไปนี้ เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ภานุวัฒน์ แน่กลาง หนุ่มขับแกร็บฟู้ด ได้ทำการโพสต์เล่าประสบการณ์อันแสนย่ำแย่ เมื่อเจอลูกค้าดูถูก เหยียดหยาม ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง “ขอที่ว่างระบายหน่อยครับวันนี้ งานที่ 3 ของผมเจอลูกค้าคอมเมนต์แบบนี้ผมถึงกับงงไปพักใหญ่ ทั้งที่ไม่เคยคุย ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว ใช้คำพูดไม่ถูกต้องผมแค่อยากให้ลูกค้าใช้คำพูดที่ดูดีกว่านี้หน่อยดีนะ” “วันนี้คุณเจอคนที่ใจเย็นอย่างผมสักวันคุณอาจจะไม่โชคดีเหมือนวันนี้ก็ได้ ผมก็คนเหมือนกันหาเช้ากินค่ำ ไม่เคยเอาเปรียบใครเจอลูกค้า…. แบบนี้รู้สึกว่ามันไม่โอเคเอาเสียเลย” เรื่องของเรื่องก็คือมีลูกค้าคนหนึ่งสั่งอาหารโดยใช้บริการแกร็บฟู้ด แต่กลายเป็นว่ามีการใส่ข้อความเข้ามาในช่องหมายเหตุระบุว่า ให้ขึ้นมาส่งที่ห้องชั้น 4 เพราะไม่ใช่เรื่องของตัวเองที่จะต้องลงไปรับ “ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องลงไปรับ ผมเป็นใคร คุณเป็นใคร จำใส่หัวไว้ด้วยว่าผมไม่ได้ต่ำเหมือนคุณ” . หลังจากที่โพสต์ไปได้ไม่นานก็มีชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดไลก์กว่า 1,000 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 700 ครั้งเลยทีเดียว ชาวเน็ตหลายคนต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงประณามการกระทำของลูกค้าคนดังกล่าว บ้างก็ตำหนิว่า “การศึกษาไม่ช่วยอะไรจริงๆ…
-
‘ปารีณา’ โพสต์ถึง #อีช่อ ชุดผิดระเบียบ แต่หากได้ใส่เอง “รับรองว่าสวยกว่าล้านเท่า”
แม้จะผ่านพ้น “การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี” ภายในการประชุมสภาเมื่อวานนี้ไปแล้วก็ตาม (5 มิ.ย. 2019) แต่มันก็ยังคงมีหลากหลายประเด็นที่ทำให้เราต้องหยิบขึ้นมาพูดถึงในวันนี้อยู่ และหนึ่งในสิ่งที่หลายๆ คนให้ความสนใจ พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง นั่นก็คือการแต่งตัวของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ชุดที่เธอใส่ในการประชุมสภาเมื่อวานนี้ ชุดที่เธอใส่นั่นเองที่ทำให้หลายๆ ฝ่ายนำไปพูดถึงต่อๆ กันไป ไม่เว้นแม้แต่ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่ได้มีการพูดถึงชุดที่ น.ส.พรรณิการ์ ใส่ไปประชุมครั้งนี้ว่า “ไม่เหมาะสม” แต่หลังจากนั้นไม่นาน แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไป และล่าสุด น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ก็ได้กล่าวถึงเรื่องของการแต่งกายภายในที่ประชุมเช่นเดียวกัน โดยมีการพูดถึงทั้งในส่วนของ คุณหญิงพรทิพย์ และ #อีช่อ เธอได้มีการหยิบยก “หนังสือระเบียบวาระการประชุม” ที่ได้แจ้งไปในตอนแรก มีการพูดถึงการแต่งกายเอาไว้ว่า “สุภาพสตรีแต่งชุดสีดำ” และมองว่า #อีช่อ แต่งตัวไม่ถูกตามระเบียบ ระเบียบวาระการประชุมที่เธอหยิบขึ้นมาพูดถึง . น.ส.ปารีณา…
-
ศึกชิงลูกค้า!! วินมอไซค์ขี่ตามทวงคืนผู้โดยสาร แม้ลูกค้าบอกจะไปกับเจ้าอื่นก็ไม่ยอม…
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ยังเป็นสีเทาๆ อยู่ สำหรับเรื่องของวินมอเตอร์ไซค์ – บริการเรียกรถ (อย่างเช่น Grab) ที่มีปัญหากันมาเป็นเวลานานหรือจะเรียกว่าคาราคาซังก็ยังได้ และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีกรณีหนึ่งที่ทำให้ชาวเน็ตต่างออกมาส่งเสียงกัน เมื่อมีคลิปของวินมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่ขี่รถตามเพื่อจะให้ผู้โดยสารลงจากรถ!? (เป็นป้ายเหลืองเหมือนกัน) ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในกลุ่ม ความรู้รอบตัว ซึ่งได้ใส่แคปชั่นอธิบายประกอบคลิปเอาไว้ว่า “วินมอเตอร์ไซค์มีอำนาจบังคับคนอื่นไม่ไห้ใช้บริการอื่นด้วยหรอครับ” ดูคลิปวิดีโอเต็มๆ ได้ที่นี่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปก็คือมีมอเตอร์ไซค์คนหนึ่ง (จากแคปชั่นระบุว่าเป็นวินมอเตอร์ไซค์) ขี่ตามมอเตอร์ไซค์อีกคันหนึ่ง (คาดว่าเป็นรถบริการจากแอปฯ) จากนั้นวินฯ ก็ถามว่า ‘พี่มารับได้ไงอะ วินเค้าก็มีอ่ะ’ ต่อจากนั้นทั้งสองก็จอดรถคุยกัน โดยผู้โดยสารก็พยายามเถียงกับวินฯ โดยบอกว่าผมเป็นคนกดเรียกมาเอง แต่ทางวินฯ ก็ไม่รับฟัง ส่วนทางด้านคนขับที่ถูกเรียกมาก็บอกว่า แล้วแต่ผู้โดยสารเพราะเขาเป็นคนเรียกมา… และไฮไลท์ก็คือผู้โดยสารบอกว่า ‘เอ้า งั้นพี่คนขับเป็นเพื่อนผมแล้วกัน ไปส่งผมหน่อย’ เมื่อทางวินฯ ได้ยินดังนั้นก็ไม่ยอม บอกไม่ได้ถ้าอย่างนั้นจะแจ้งตำรวจ ในท้ายที่สุดผู้โดยสารจึงต้องยอมลงจากรถคันที่นั่งมา… ในโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตซึ่งได้ร่วมแสดงความคิดเห็น แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะออกไปทางตำหนิวินฯ ที่ทำเช่นนี้ เพราะมองว่าเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องความต้องการของผู้โดยสารซะมากกว่า . . . . .…
-
คุณแม่ ‘แจ็ค’ มือต่อยแฟนสาวจนดั้งหัก ขอโทษสังคม เพื่อนเผยให้ผู้หญิงหาเลี้ยง…
เหตุการณ์ความรุนแรงภายในครอบครัวยังคงเป็นเรื่องที่มีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดนี้ก็คือเรื่องราวของหนุ่มชื่อว่าแจ็ค ที่เข้าทำร้ายแฟนสาวชื่อว่า อุ้ย จนดั้งหัก ซึ่งต้นเหตุก็มาจากความที่ชายหนุ่มมาขอคืนดี แต่หญิงสาวไม่ยอมคืนดีด้วย… เรื่องที่เกิดขึ้นได้รับการแชร์รวมถึงวิจารณ์กันอย่างสนั่นในโลกโซเชียล โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือคุณแจ็คกับคุณอุ้ย ได้เกิดทะเลาะกันที่หน้าคลินิกทำฟันแห่งหนึ่ง และในเวลาต่อมาก็ถึงขั้นตบตีลงไม้ลงมือ ดูภาพขณะเกิดเหตุได้ในรายการ ภาพจากกล้องวงจรปิดได้แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายชายทั้งต่อยทั้งเตะฝ่ายหญิงจนล้มลงก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด หนำซ้ำยังมีการเตะเสยหน้าอีกทีหนึ่งแม้ว่าจะมีคนในบริเวณนั้นคอยห้ามอยู่ก็ตาม ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วฝ่ายหญิงก็เผยว่ามีอาการบาดเจ็บตามเนื้อตัวรวมถึงดั้งหัก… หลังจากเหตุการณ์นี้ผู้สื่อข่าวของรายการทุบโต๊ะข่าว ก็ได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้เป็นแม่ของนายแจ็ค ซึ่งทางคุณแม่ก็ได้กล่าวว่ารับไม่ได้เช่นเดียวกันกับพฤติกรรมของลูก รวมทั้งขอโทษกับสังคมด้วยที่ลูกชายมีอารมณ์ร้อน ในตอนนี้ได้คุยกับทางลูกชายแล้ว ซึ่งลูกชายก็สำนึกผิดและพร้อมจะไปขอโทษกับคุณอุ้ย และทางคุณแม่ก็ได้ถามกับนายแจ็คว่าทำไมต้องไปทำร้ายผู้หญิงถึงขนาดนี้ ทางนายแจ็คก็กล่าวว่าเพราะ ‘รัก’ จึงไปง้อขอคืนดี แต่ฝ่ายหญิงขอเลิกจึงบันดาลโทสะในที่สุด… นอกจากนี้ยังมีบทสัมภาษณ์กับเพื่อนของนายแจ็คชื่อว่าคุณแมน เปิดเผยว่านายแจ็คเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่ค่อยฟังใครแม้กระทั่งพ่อแม่ ไม่มีงานทำต้องให้ฝ่ายหญิงหาเลี้ยง อีกทั้งยังมีเรื่องชกต่อยเป็นประจำ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งหมายเรียกตัวนายแจ็คเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ก็คงต้องตามดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง ที่มา: ทุบโต๊ะข่าว
-
หนุ่มต้องช็อก แหงนหน้าเจอ ‘คนแขวนคอบนระเบียง’ ก่อนเอะใจ ‘ใครสั่งสอนให้ทำแบบนี้!?’
ใครเล่าจะคิดว่ากลับหอมาดึกๆ ดื่นๆ แล้วจะต้องมาเจอกับภาพชวนขนลุกขนพองอะไรแบบนี้ ขอบอกเลยว่ามันอาจจะทำให้คุณร้องจ๊ากกกก!! เมื่อพ่อหนุ่มคนหนึ่งกำลังจะกลับเข้าหอพัก พอเงยหน้าขึ้นไปบนระเบียงชั้นบนเท่านั้นแหละถึงกับต้องช็อก!! เพราะภาพที่เขาเห็นนั้นคล้ายกับมีนักศึกษาสาวผูกคอฆ่าตัวตายอยู่บนระเบียงทางเดิน และนี่คือภาพที่เห็นครับ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kantatee Pumnikom ผู้ประสบเหตุดังกล่าวได้นำภาพเหตุการณ์มาแชร์ให้ชาวโซเชียลได้รับชมเมื่อวานที่ผ่านมา (5 พฤษภาคม 2562) หลายคนต่างก็ตกใจกันไปต่างๆ นานาว่า ‘เฮ้ย มากันให้เห็นแบบโต้งๆ อย่างนี้เลยเหรอออ!?’ ก่อนที่จะเช็กดูดีๆ แล้วก็พบว่า ‘อ๋ออออ ที่แท้เป็นผ้าที่ตากเอาไว้นี่เอง’ เผื่อใครยังไม่เคลียร์ โพสต์ต้นฉบับ โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีคนเข้ามากดไลก์กว่า 50,000 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 123,000 ครั้งเลยทีเดียว ชาวเน็ตหลายคนต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า “ถ้าไฟมืดกว่านี้อีกหน่อยนี่มีวิ่งอ่ะ” (นี่ขนาดมีไฟนะ ยังเข้าใจผิดกันไปแล้วอ่ะ) บางส่วนก็บอกว่า “ถ้าเจอแบบนี้ตรูคงรีบวิ่งเข้าห้อง แล้วก็คงนอนไม่หลับไปทั้งคืนอ่ะ” บางคนก็ทำให้นึกถึงหนังเรื่องบุปผาราตรี “นึกว่าหลุดมาจากเรื่องบุปผาราตรี นี่ถ้ามีลูกปิงปองตกลงมานะ…
-
คุณพ่อตามหา ‘โมเดลกันดั้ม’ เพื่อลูกชายที่ป่วยเป็นมะเร็ง ผู้คนพร้อมใจ ‘จะส่งให้ถึงมือเลย’ !!
เรื่องราวนี้อาจทำให้หลายๆ คนต้องยิ้มทั้งน้ำตา เมื่อคุณพ่อท่านหนึ่งได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากผู้คนบนโลกโซเชียล หลังจากที่ลูกชายตัวน้อย “ป่วยเป็นมะเร็ง” และเพิ่งค้นพบความชอบของตัวเอง ทางเพจ เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน ได้แชร์เรื่องราวดังกล่าวเอาไว้ เป็นสิ่งที่คุณพ่อคนนั้นโพสต์ถามผู้คนภายในกลุ่ม “กันดั้ม ซื้อขาย Gundam Market” ในเฟซบุ๊ก คุณพ่อต้องการตามหา “กันดั้ม” ที่ประกอบเสร็จแล้ว จะเป็นกันดั้มที่ต่อไม่ครบ เป็นซาก หรือมีร่องรอยการติดกาวก็ได้ เขาต้องการมอบมันให้กับ น้องโทบี้ ลูกชายที่กำลังป่วยด้วยโรคร้าย… . คุณพ่ออธิบายไว้ในโพสต์ว่า “ลูกชายกำลังป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ต้องเข้ารับการรักษาตัว ในระหว่างนั้นเองที่ลูกชายพบว่าเขาชอบกันดั้ม” “แต่จะให้พ่อต่อให้ก็ต่อช้า เพราะว่าต่อไม่ค่อยเป็น เลยมาขอรับซื้อหรือบริจาคให้น้องโทบี้ลูกชายทีครับ” เขากล่าว และสำหรับสิ่งตอบแทนที่คุณพ่อพอจะมอบให้กับทุกคนได้ก็คือ สายรัดข้อมือทำเองที่เขียนว่า Save Tobey (ช่วยโทบี้) สายรัดข้อมือที่คุณพ่อทำขึ้นมาเอง โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากคนในกลุ่มเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเขายินดีและพร้อมใจกันตอบคอมเมนต์ ทักคุณพ่อไปใน Inbox เพื่อต้องการที่จะส่งกันดั้มไปให้เด็กชายตัวน้อย ผู้คนจำนวนมาก พร้อมใจที่จะส่งกันดั้มของพวกเขาไปให้เด็กชาย…
-
หลานสาว 5 ขวบ ถูกเพื่อน-รุ่นพี่ข่มขืน มีเลือดไหล โรงเรียนปฏิเสธ เป็นเพราะขี่จักรยาน
บางครั้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ก็อาจจะร้ายรางจนชนิดที่เราแทบไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้… เมื่อเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ถูกเพื่อนๆ ร่วมห้องที่อยู่ในวัยเดียวกัน ‘รุมกระทำชำเรา’ ในห้องน้ำของโรงเรียน!? เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก เพจเฟซบุ๊ก เครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวอันน่าสลดดังกล่าว โดยผู้เปิดเผยออกมานั้นเป็น ‘คุณปู่’ ของเด็กสาวที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งทางครอบครัวของน้องต้องการที่จะเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะเรื่องเกิดมานานและแจ้งทางโรงเรียนไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาใดๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 หลานสาววัย 5 ขวบเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี กลับบ้านพร้อมกับอาการ ‘เลือดออกจากอวัยวะเพศ’ หลานสาวเล่าว่าถูกนักเรียนชาย 2 คนที่เรียนอยู่ในห้องเดียวกัน เอา ‘หลอด’ แหย่เข้าไปในอวัยวะเพศ ส่วนอีกคนเป็นรุ่นพี่เรียนอยู่ชั้น ป.2 คาดว่าใช้อวัยวะเพศชาย ใส่เข้ามาจนทำให้เลือดไหลไม่หยุด ทำให้ต้องสวมใส่ผ้าอนามัย ต่อมาวันที่ 21 ธันวาคม 2562 คุณปู่…
-
เดลิเวอรี่แมนแชร์เรื่องพีค ลูกค้าให้ไปส่งข้าวยัน ‘เถียงนา’ เดินตามคันแถนามาเด้ออ้ายเด้อ
ในยุคสมัยที่โทรศัพท์มือถือเป็นให้ได้ทุกอย่าง การจะหาอะไรมาใส่ลงท้องก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เราเพียงแค่จิ้มๆ ลงในโทรศัพท์เพียงเท่านั้น ก็จะมีบริการเดลิเวอรี่มาส่งถึงหน้าบ้านไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มใดๆ บนโลก!! แต่ถึงอย่างนั้นบางทีมันก็เป็นความลำบากของพี่คนส่ง เพราะอาจต้องเผชิญกับแดดร้อน ฝนตก รถติดหรือพายุเข้าบ้าง หรือไม่แน่เหมือนกันว่าอาจต้องไปส่งถึงที่ๆ ไม่มีใครคาดคิดถึงเหมือนกับพี่พนักงานฟู้ดแพนด้าคนนี้ ที่ไปส่งให้ลูกค้ายั๊นเถียงนา… เฟซบุ๊ก Choco Singthaisong ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวสุดพีคของการเป็นเดลิเวอรี่แมน เมื่อมีลูกค้าคนหนึ่งให้ไปส่งอาหารถึงเถียงนา สถานที่ที่ไม่น่าจะมีใครคิดถึงว่าจะมีคนสั่งอาหาร… ซึ่งเขาได้ใส่แคปชั่นเอาไว้ว่า “ที่อยู่ : เถียงนาหมู่บ้านดวงตะวัน หมู่8 ต.บ้านเป็ด คอมเมนต์ : เดินตามคันแถนามาประมาณ200เมตร ให้สังเกตุเถียงนาที่มีกกบักขามสองต้น ลูกค้าหว่านข้าวอยู่ในไฮนา ให้เอาไปส่งลูกที่เถียงนาได้เลยลูกสาวผมนอนถ่าอยู่ #โอ้ยยย..เฮ็ดผมคักอิหริเจ้า” มีภาพตอนไปส่งด้วยนะ ฮ่าา เรื่องราวฮาๆ เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยในตอนนี้ก็มีคอนแชร์ออกไปแล้วถึง 1,700 ครั้ง แถมยังมีคนเข้ามาขำกันอีกเพียบ!! . . . รอบหน้ามียันในป่าแน่ๆ 5555+ …
-
ค่ายส้มเผลอ… ชาวเน็ตเดือดเห็นคอมเมนต์ ‘ไอ้เ-ี้ย โลม มาแล้ว’ พากันแห่ย้ายค่าย!!
หากใครกำลังติดตาม “เพจเครือข่ายมือถือค่ายส้มค่ายหนึ่ง” อยู่ ก็อาจเกิดความสงสัยกันขึ้นมาได้ว่า “เกิดอะไรขึ้นกัน?!” หลังจากที่ทางเพจดังกล่าวได้ทำการ “โพสต์ขอโทษ” ในช่วงกลางดึก ระหว่างการ ประชุมสภา เมื่อวานนี้ โพสต์ของเพจ True4U ที่กล่าวถึงพฤติกรรมของแอดมินในเครือ เกิดอะไรขึ้นกันหว่า?? โพสต์ที่ชวนให้หลายๆ คนสงสัยนั้น สืบเนื่องมาจากการที่ทางเพจในเครืออย่างได้ทำการ “ไลฟ์สดการประชุมสภา” พร้อมบอกให้ทุกคน “กรุณาใช้คำสุภาพในการแสดงความคิดเห็นนะคะ” จนเมื่อกระทั่ง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้ขึ้นพูดอภิปรายในช่วงหนึ่งนั้นเอง จู่ๆ ก็มีคอมเมนต์หนึ่งจากเพจโผล่ขึ้นมา ซึ่งเป็นคำพูดที่อาจเรียกได้ว่าขัดแย้งกับคำว่า “สุภาพ” อย่างชัดเจน คอมเมนต์ดังกล่าวที่ชาวเน็ตหลายๆ คนแคปเอาไว้ได้ มีคนสอบถามเข้าไปใน Inbox ของทางเพจ และได้คำตอบกลับมาแบบนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้น บอกได้คำเดียวเลยว่า “พลาด!!” เพราะเรื่องดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ชนิดที่ว่าคอมเมนต์หลังจากนั้นคือเด้งขึ้นมาทุกๆ 1 วิเลยก็ว่าได้ คอมเมนต์นั้นมันไม่ใช่แค่ “ความเห็นต่างทางการเมือง” แต่ในตอนแรกทางเพจก็ได้ขอความร่วมมือทุกคนให้แสดงความคิดเห็นกันอย่างสุภาพ แต่ทางแอดมินเพจกลับมาพูดอย่างนี้ซะเอง จึงทำให้หลายๆ…
-
ลูกค้าชอบใจ ‘พนักงานสูงวัย’ (60+) เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม บรรยากาศภายในร้าน Krispy Kreme
คนส่วนใหญ่อาจคิดว่า “วัยเกษียณ” คือวัยหลัง 60 ปีที่พอถึงตอนนั้นจริงๆ ก็คงไม่มีใครจะอยากทำงานกันแล้ว แต่ในความเป็นจริง แม้อายุตัวเลขที่ดูเหมือนจะมาก ทว่าบางครั้งพวกเขาเหล่านั้นก็อาจไม่อยากอยู่แต่บ้านให้ลูกหลานดูแลเสมอไป เพราะ “ไฟในการทำงาน” นั้นยังคงลุกโชติช่วงชัชวาลอยู่เสมอ แล้วถ้าพวกเขาอยากทำงานในวัยนั้น จะมีที่ไหนรับกันล่ะ?? มีสิฮะ ก็ที่นี่ไง!! ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Kong Sopon ได้แชร์ภาพน่ารักๆ จากร้าน Krispy Kreme สาขาสีลม กรุงเทพฯ หลังจากที่เขาพบว่าพนักงานภายในร้านหลายๆ คนดูแตกต่างไปจากร้านอื่นๆ นั่นก็เพราะพนักงานหลายๆ คนภายในร้านเป็นผู้สูงอายุยังไงเล่า!! อย่างที่เราเห็นจากภาพ “ป้ายรับสมัครงาน” และ “พนักงานภายในร้าน” แล้ว นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการทำงานพาร์ทไทม์ที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นเก๋าทั้งหลาย ผู้ยังฟิตปั๋งและยังคงเหลือไฟในการทำงานอย่างเปี่ยมล้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวบอกว่า “คริสปี้ครีมสาขาสีลมน่ารักมาก มีรับคุณลุงคุณป้ามาทำพาร์ทไทม์ ยังแข็งแรงอยู่เลย เสียงใสมาก ยืนเรียกลูกค้าหน้าร้าน ไม่แน่ใจสาขาอื่นมีด้วยมั้ยนะครับ” และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการเปิดรับสมัครพนักงาน “อายุตั้งแต่ 60 ขึ้นไป” เพราะเจ้าของโพสต์ยังได้พูดถึงโครงการในลักษณะเดียวกันนี้ของทาง เทสโก้…
-
“ปิ่นโตกับข้าวฝีมือแม่” เก็บความทรงจำในอินสตาแกรม แสดงถึงความรักจากแม่ต่อลูก
เชื่อว่าวัยเด็กของเพื่อนๆ ต้องมีช่วงเวลาที่นำกล่องข้าวจากที่บ้านห่อไปกินที่โรงเรียน หรือเวลาไปทัศนศึกษาในที่ต่างๆ บ้างล่ะ กล่องข้าวกล่องนั้นหากทำด้วยฝีมือแม่แล้วก็จะอร่อยถูกปาก รสชาติถูกใจลูกๆ เป็นแน่แท้ เพราะแม่ตั้งใจทำให้ลูกรับประทาน ปรุงรสด้วยความรัก พอโตขึ้นเราอาจหลงลืมช่วงเวลาเหล่านั้นไปบ้าง แต่บัญชีผู้ใช้อินสตาแกรมชื่อว่า @whatsinmypinto ก็ทำให้ผู้พบเห็นหวนระลึกถึงช่วงเวลาในวันวาน https://www.instagram.com/p/ByE4RvBDtUl/ เพราะอินสตาแกรมดังกล่าวได้นำเสนอแต่ภาพอาหารในรูปแบบปิ่นโตซะส่วนใหญ่ ในคอนเซ็ปต์ที่ว่า “กับข้าวที่แม่ใส่มาให้ในปิ่นโต เราไม่รู้หรอกว่าวันนี้แม่ใส่อะไรมาให้เรากิน” นอกจากจะชวนหิว น่าทานแล้ว ยังแสดงออกถึงความรัก ความเอาใจใส่ และสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกได้น่ารักสุดๆ พูดแล้วก็หิวใช่มั้ยล่ะ? ไปดูกันดีกว่าว่าอาหารฝีมือคุณแม่ท่านนี้จะดูน่าทานขนาดไหน ปลาสลิดทอด ยำมะเขือยาวไข่ต้ม และกล้วยบวชชี ต้มมะระ ผัดผักบุ้ง ตบท้ายด้วยมะม่วงกับยาคูลท์ ข้าวน้ำพริกกะปิ ปลาทู และต้มมะระยัดไส้ ขนมจีนแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ตบท้ายด้วยเค้กเรดเวลเว็ท หมูตุ๋นผัดกะเพราไข่ดาว และขนมพายสับปะรด ผัดไทยกุ้งสด และมะม่วงสด ข้าวไข่เจียว แกงส้มมะละกอกุ้ง กับแตงโมเย็นๆ ดับร้อน กุ้งอบวุ้นเส้น…
-
อุทยานแห่งชาติ ติดป้าย ‘ห้ามให้อาหารสุนัข’ สาวเดือด ‘แล้วหมาจรจัดจะไปกินที่ไหน?!’
เพื่อนๆ อาจเคยไปเที่ยวยังสถานที่ทางธรรมชาติ อุทยานต่างๆ ทั่วประเทศไทย และเคยพบเจอกับ “สุนัขจรจัด” ที่มักจะรวมกลุ่มกันอยู่บริเวณนั้น เมื่อไหร่ที่เราเปิดถุงอาหาร พวกมันก็จะเดินมายืนทำตาละห้อย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายๆ คนอดที่จะสงสารพวกมันไม่ได้ และนำอาหารที่มีอยู่แบ่งให้พวกมันกินไป หลายๆ ที่อาจทำอย่างนั้นได้ แต่สำหรับที่นี่คุณห้ามทำเด็ดขาด!! ป้ายที่เราเห็นนั้นเป็นป้ายที่ติดอยู่รอบๆ บริเวณ อุทยานแห่งชาติน้ำตกนางรอง หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมประจำจังหวัดนครนายก ซึ่งเขาก็ได้เขียนไว้ชัดเจนเลยว่า… “ห้ามให้อาหารสุนัขโดยเด็ดขาด ฝ่าฝืนมีโทษปรับ” ป้ายดังกล่าวได้ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งเกิดข้อสงสัยว่า “ถ้าเราให้อาหารสุนัขจรจัดไม่ได้ แล้วพวกมันจะไปหาอะไรกินได้ที่ไหน?” ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวมองว่า อาหารที่หลายๆ คนให้พวกมันก็เป็นแค่ “เศษอาหาร” คนเหล่านั้นมีเมตตาให้ก็ไม่น่าจะต้องมาห้ามกันเลย อีกอย่างที่เธอพูดคือ “ถ้าเจ้าหน้าที่อุทยานไม่ได้เป็นคนให้ แล้วยังมาห้ามนักท่องเที่ยวไม่ให้อาหารพวกมันอีก” ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกมันจะไม่หิวโซจนอดตายกันเลยหรือ? โพสต์ของเธอ (1 มิ.ย. 2019) แล้วประเด็นนั้นก็ได้สร้างข้อถกเถียงให้กับหลายๆ คน พากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา ซึ่งมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับความคิดของเจ้าของโพสต์ บางคนก็เห็นด้วยและมองว่าป้ายดังกล่าวเป็น “การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ” .…
-
เด็กวัย 3 ขวบฟันผุทั้งปาก ทำ ‘ตาเกือบบอด’ เผยคุณแม่หาอมยิ้มให้ดูดจะได้ไม่ร้องกวน…
เรื่องของสุขภาพช่องปากเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามและควรใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะบางทีแล้วมันอาจทำให้เกิดอันตรายมากกว่าที่คิด อย่างเช่นในกรณีนี้ ที่มีคุณหมอท่านหนึ่งได้โพสต์เตือนถึงกรณีเด็กวัย 3 ขวบที่มีฟันผุทั้งปาก และด้วยฟันผุที่ว่านี้ มันสร้างผลกระทบจนเกือบทำให้ ‘ตา’ หวิดจะบอด!? วันนี้ (3 มิ.ย.) เฟซบุ๊ก Arak Wongworachat ของ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ถึงเรื่องดังกล่าวนี้ โดยทางคุณหมอได้เขียนอธิบายไว้ว่า “#ฟันผุติดเชื้อรุนแรงหนองขึ้นตาหวิดบอด #ฟันผุอย่ามองข้าม ผู้ป่วยเด็กชายอายุ 3 ขวบเศษมาด้วยเป็นไข้ ปวดตาซ้าย ตาบวมแดงมาก ตาปิด มองเห็นรางๆ ตรวจในช่องปาก ฟันน้ำนมผุทั้งปาก มารดา ญาติ ชอบหาอมยิ้มให้เด็กดูดจะได้ไม่ร้องกวน ไม่ค่อยได้แปรงฟัน ไม่ได้เข้าโรงเรียนอนุบาลหรือศูนย์เด็กเล็ก เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ใบหน้า พบมีหนองในไซนัสและเบ้าตา รากฟันบน ต้องผ่าตัดถอนฟันทั้งปากที่ผุ ระบายหนองออก ให้ยาต้านเชื้อทางเส้นเลือดอยู่หลายวัน” และนี่คือภาพของผู้ป่วยที่คุณหมอได้โพสต์ . . โพสต์นี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะนี้ก็มีผู้แชร์โพสต์ของคุณหมอออกไปแล้วกว่า 13,000…
-
รวมภาพ ‘ขบวนรถแห่’ ของแฟนทีมลิเวอร์พูล ทั้งไทยและเทศมาเต็มจัดหนักกันจริมๆ
หลังจากที่ง้างเก้อกันมาเนิ่นนาน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงสำหรับ ‘ขบวนรถแห่‘ ของเหล่าเดอะค็อปที่ได้นำมาใช้งานเสียทีสำหรับแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกที่เพิ่งคว้ามาเมื่อ 2 – 3 วัน และสำหรับแชมป์นี้แฟนๆ ลิเวอร์พูลคงยิ้มกันแก้มปริ เพราะเป็นแชมป์ที่ช่างรอคอยกันมาเนิ่นนานซะเหลือเกิน (แม้จะไม่เท่าพรีเมียร์ลีกก็เถอะ อิอิ) งานนี้เลยต้องฉลอง และในวันนี้เราก็จะไปดูบรรยากาศขบวนรถแห่ของทั้งต่างประเทศและประเทศไทยกัน!! มาดูของต่างประเทศกันก่อนเลยละกัน ยิ้มแก้มปริเลยนะเฮีย แห่ในเมืองลิเวอร์พูล ซึ่งก็มีแฟนๆ มาต้อนรับเป็นพันคน ฮั่นแน่ WE'VE CONQUERED ALL OF EUROPE! Take it away, lads… 🎶🎶#SixTimes pic.twitter.com/6Rmb9UZPU3 — Liverpool FC (@LFC) June 2, 2019 ขออวดหน่อยละกัน บรรยากาศสุดยิ่งใหญ่ .@LFC are being cheered on by crowds as…
-
ฟังจากปาก 2 เหยื่อสาว กรณี ‘ช่างภาพวัย 18’ ตบหน้า ล้วงเป้า พยายามกดหัว ‘อมนกเขา’
ยังคงเป็นกรณีที่หลายๆ คนติดตามให้ความสนใจ หลังจากที่หลายๆ ฝ่ายได้ออกมาแฉเรื่องราวของ “ช่างภาพวัย 18 ปี” ที่พยายามกระทำอนาจาร ลวนลามนางแบบสาวรุ่นพี่ ก่อนที่จะออกมา “ยอมรับความผิด” อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: ‘ช่างภาพวัย 18’ ยอมรับผิด เหตุจะให้นางแบบ ‘เป่าปี่’ ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ โพสต์ที่ออกมายอมรับผิด และกล่าวขอโทษ ล่าสุด (2 มิ.ย. 2019) ได้มีอัปเดตเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากปากของทางฝั่งผู้เสียหาย โดยทางรายการ ทุบโต๊ะข่าว ได้เข้าไปสัมภาษณ์กับ “พี่ชายของเหยื่อ”, “เหยื่อสาวในโพสต์” และ “เหยื่อสาวอีกคนที่โดนไม่ต่างกัน” บทสัมภาษณ์ “พี่ชายของเหยื่อ” นายปิยะพงษ์ ทองลัก หรือ เอ็ม วัย 31 ปี คือพี่ชายของผู้เสียหาย และเป็นคนที่โพสต์เตือนภัยไปก่อนหน้านี้ เอ็ม กล่าวว่าตนเองรู้จักกับ นายลูกตาล ช่างภาพวัย 18 ปีผู้ก่อเหตุ มาประมาณ…
-
ดราม่า UNHCR เชิญ “นก สินจัย” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ ไม่เหมาะสม!!
กำลังกลายเป็นประเด็นดราม่าที่ถูกพูดถึงกันอย่างดุเดือดในโลกโซเชียลอยู่ ณ ขณะนี้กันเลยทีเดียว กับกรณีขององค์กร UNHCR ได้เชิญ คุณนก สินจัย เปล่งพานิช ไปเป็นพรีเซนเตอร์ในรายการ The Face Thailand 5 รอบ Final Walk เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตมากมาย ก่อนจะเข้าเรื่องเราไปทำความรู้จักกับ UNHCR กันสักหน่อยก็แล้วกันครับ UNCHR หรือมีชื่อไทยว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นมาโดย UN (สหประชาชาติ) ทำหน้าที่ดำเนินงานระหว่างประเทศในการคุ้มครองสิทธิ และความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัยทั่วโลก แล้วทีนี้มันกลายเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อ UNHCR ประเทศไทย ได้ทำการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่าทางองค์กรได้เลือกคุณนก สินจัย มาเป็นพรีเซนเตอร์ และเปิดตัวผ่านรายการ The Face Thailand 5 ช่วง Final Walk ในช่วงเปิดตัวคุณนกกล่าวสุนทรพจน์ว่า “เราทุกคน ต่างต้องการอยู่ในที่ที่มีความรัก ความสุข และความปลอดภัย แต่บางครั้ง สงคราม ความรุนแรงและความขัดแย้งก็ทำให้ผู้คนหลายสิบล้านคนต้องพลัดถิ่นและกลายเป็นผู้ลี้ภัย เราต้องให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองพวกเขาให้มีชีวิตต่อไป จนกว่าจะได้กลับสู่บ้านอีกครั้ง”…
-
แม่ทำร้ายลูก 5 ขวบ เผย “ที่ตีลูกเพราะเครียด” หลังตรวจพบเชื้อ HIV โต้ข่าว ไม่ได้เป็นกันทั้งบ้าน
กลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจจากผู้คนในสังคมมากมายเมื่อช่วงเย็น ของเมื่อวานที่ผ่านมา (2 มิถุนายน 2562) กับกรณีของเด็กชายวัย 5 ขวบ ที่ถูกพ่อแม่ทำร้ายร่างกายต่อเนื่องนาน 2 เดือน จนทั่วร่างกายมีแต่บาดแผลน่ากลัวเต็มไปหมด ล่าสุดก็มีข้อมูลเพิ่มเติมจากรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวพ่อแม่ของเด็กไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็คือ น.ส.วันวิสาข์ วัย 24 ปี (แม่แท้ๆ) และนายสมี ชาวกัมพูชา วัย 26 ปี (เป็นพ่อเลี้ยง) ซึ่งก่อนหน้าที่จะถูกจับนั้น น.ส.วันวิสาข์ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายลูกชายวัย 5 ขวบจริง เนื่องจากเกิดความเครียดจากการไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล และพบว่าตนติดเชื้อ HIV พอลูกชายดื้อ ก็จะตีด้วยอาการเผลอตัว ฝ่ายสามีลงมือทำร้ายลูกไป 4 ครั้ง ซึ่งตัวเองก็รู้สึกสงสารลูกมาก เพราะทำลงไปด้วยความขาดสติ ส่วนที่มีข่าวว่าคนเป็นคนนำเชื้อ HIV ไปติดทั้งครอบครัว รวมไปถึงลูกคนเล็กที่เป็นทารกด้วย น.ส.วันวิสาข์ ระบุว่าไม่เป็นความจริง และขอให้นักข่าวช่วยแก้ข่าวให้ด้วย เธอกล่าวว่าตอนนี้มีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่ติดเชื้อ HIV ส่วนลูกและสามีไม่ได้ติดเชื้อด้วย เวลามีเพศสัมพันธ์กับสามีก็จะให้สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง …
-
สรุปเรื่องราว ‘พลวงทองเทรล’ กับกรณีนักวิ่งถูกช้างกระทืบ เกิดอะไรขึ้นในงานวิ่งเทรลนี้!?
ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมามีหนึ่งกิจกรรมที่เรียกได้ว่าฮอตฮิตขึ้นมาแบบสุดๆ นั่นก็คือ ‘การวิ่ง’ จึงทำให้เกิดงานวิ่งขึ้นมาในหลายๆ พื้นที่ของประเทศ และหนึ่งประเภทที่นิยมกันก็คือ ‘การวิ่งเทรล’ สำหรับใครที่ยังไม่ทราบถึงการวิ่งประเภทนี้ การวิ่งเทรลคือการวิ่งแบบผจญภัยในพื้นที่ธรรมชาติอย่างเช่นในป่า ภูเขา หรือพื้นที่ต่างๆ ตามแต่ภูมิประเทศจะอำนวย แต่ว่าก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ชาวเน็ตเห็นว่า น่าจะเป็นหนึ่งกรณีที่ทำให้เกิดการทบทวน ‘มาตรการรักษาความปลอดภัย’ อย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น เพราะมีข่าวออกมาว่าในงานวิ่งแห่งหนึ่งมีนักวิ่งถูกช้างกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ!? เกิดอะไรขึ้น จนกลายเป็นประเด็น!? เพจนักวิ่งกากๆ ได้เผยว่าที่ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี มีการจัดงานวิ่งเทรลชื่อว่า ‘พลวงทองเทรล’ แต่ว่างานนี้จัดบริเวณรอยต่อของป่าซึ่งเป็นพื้นที่ที่มี ‘ช้างมาหากินเป็นประจำ’ (เพจกล่าวว่าแม้ชาวบ้านบอก แต่ก็ยังจัด) ซึ่งเมื่อมีการวิ่งเกิดขึ้นจึงทำให้นักวิ่งคนหนึ่งถูกช้างทำร้ายด้วยการกระทืบ… ข้อความที่ทางเพจนักวิ่งกากๆ โพสต์เอาไว้ รูปภาพภายในโพสต์ . . . รายละเอียดงานที่ทางเพจคอมเมนต์ชี้แจงเพิ่มเติม กระแสตีกลับบอกว่านักวิ่งไม่ได้โดนช้างกระทืบ แต่โดนช้างฟาดงวงใส่ จากการรายงานของเดลินิวออนไลน์ถึงเรื่องนี้ ระบุว่าในงานดังกล่าวมีการวิ่งทั้งหมด 3 ระยะด้วยกันได้แก่รุ่น 25 กม., รุ่น 10 กม. และรุ่น 6 กม.…
-
สาวแชร์ประสบการณ์ ‘รีวิวการทำงานกับเจ้านายคนจีน’ 7 ปัญหาที่ไม่อาจทนรับไหว
ใครที่กำลังอยู่ในวัยทำงานแล้วต้องเจอกับ “เจ้านายชาวต่างชาติ” หากเราเป็นคนที่ไม่เก่งภาษาด้วยแล้ว แน่นอนว่าก็อาจมีปัญหาในเรื่องของการสื่อสารอยู่บ้างไม่มากก็น้อยแหละนะ แต่สำหรับสิ่งที่หญิงสาวคนนี้ได้เจอนั้น ปัญหามันไม่ได้มีแค่การสื่อสารเนี่ยสิ… และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอนำประสบการณ์ของตัวเองมาเล่าสู่กันฟัง ในหัวข้อที่ชื่อว่า รีวิวการทำงานกับเจ้านายคนจีน เจ้าของเรื่องขอเปิดหัวมาก่อนเลยว่า เธอนั้นเป็น “นักศึกษาจบใหม่” ที่เพิ่งจบการศึกษามาเมื่อปีที่แล้ว ประสบการณ์ทำงานอาจยังไม่มากนัก จึงไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอเจอร้ายแรงสำหรับเพื่อนๆ มากน้อยขนาดไหน แต่สำหรับเธอนั้นมันคงเป็นปัญหาที่เลวร้ายจริงๆ จึงขอนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เธอเล่าว่าประมาณ 4-5 เดือนก่อน เธอยังทำงานอยู่ในบริษัทของคนไทย ทำมาได้เกือบครบ 1 ปีแล้ว แต่ติดตรงที่เรื่องของเงินเดือนที่ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ประจวบเหมาะกับการที่มี “บริษัทจีน” ติดต่อเข้ามาพอดี โดยยื่นข้อเสนอมาว่า… 1. ให้เงินเดือนเยอะกว่าที่เก่า ผ่านโปรแล้วปรับเงินเดือนให้แน่นอน 2. ทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ เวลาทำงานน้อยกว่าบริษัททั่วไป วันละ 1 ชั่วโมง (จันทร์-ศุกร์ 9.00น.-17.00น.) 3. มีค่าคอมมิชชั่นให้ตามโครงสร้างบริษัท 4. มีอาหารกลางวันให้ เธอจึงตัดสินใจลาออกจากที่เก่ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้แทน… เธอเสริมว่าบริษัทใหม่เน้นเอาคนสนิท…
-
ผับถูกบุกจับเจอยาเสพติดเกลื่อน เตรียมถูกสั่งปิด ผ่านไปไม่ถึงวัน เปิดให้จองโต๊ะซะแล้ว!?
เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากผู้คนในสังคมเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว กับกรณีของ ‘ผับชื่อดัง’ ในเขตพัทยาใต้ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 03.40 ของวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่สืบสวนและปราบปราม พร้อมด้วยหน่วยปราบปรามยาเสพติด และทหารกองทัพภาคที่ 1 ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบสถานบันเทิง 2 แห่ง บริเวณพัทยาใต้ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เนื่องจากว่าผับดังกล่าวนั้นเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จากการบุกค้น พบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 20 เข้าไปให้บริการจำนวนมาก แถมยังมียาเสพติดโยนทิ้งเกลื่อนพื้น ในช่วงบุกค้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 400 คน จากการค้นร่างกายพบว่ามีการพกพาอาวุธและยาเสพติดเข้ามา นอกจากนี้ยังมีการตรวจปัสสาวะ พบว่ามีคนปัสสาวะสีม่วงมากกว่า 142 คนจากทั้งหมด แบ่งเป็นชาย 94 คน หญิง 48 คน ซึ่งทางด้านนายอำเภอบางละมุง ก็จะทำการเสนอให้ผู้ว่าราชการชลบุรี มีคำสั่งให้ปิดสถานบริการแห่งนี้ตามคำสั่งที่ 22/2558 ของ คสช. เป็นเวลา…
-
เด็กชายวัย 5 ขวบ ถูกพ่อแม่ทำร้ายร่างกายนาน 2 เดือน บาดแผลทั่วตัว เจ้าหน้าที่รุดเข้าช่วยเหลือ
***คำเตือน : บทความนี้มีภาพที่รุนแรง ขอให้เพื่อนๆ พิจารณาให้ดีก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านนะครับ ‘ความรุนแรงในครอบครัว’ ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่เรามักจะพบเจอได้เป็นประจำ สามีทำร้ายภรรยา หรือ ภรรยาทำร้ายสามี แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือ ‘การทำร้ายร่างกายลูก’ ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมยอมรับไม่ได้ เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปนี้… เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2562 ผู้ใช้เฟซบุ๊กได้นำเรื่องราวอันน่าสลดใจไปเผยแพร่ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก ข่าวอุบัติเหตุชลบุรี พร้อมกับเปิดเผยว่าทีมอาสาสมัครกู้ภัยมังกรได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองชลบุรี ว่ามีเหตุเด็กถูกพ่อกับแม่ทำร้ายร่างกาย จึงสั่งการให้ทีมกู้ภัย และทีมพยาบาลลงไปยังพื้นที่เกิดเหตุ ที่อยู่ในบ้านบางทราย ต.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี พอถึงที่เกิดเหตุพบเด็กชายคนหนึ่งอายุประมาณ 5 ขวบ อยู่ในสภาพหวาดกลัว และมีบาดแผลอยู่เต็มร่างกาย จากการถูกทำร้ายร่างกายอย่างต่อเนื่อง ยาวนานเป็นเวลา 2 เดือน พ่อแม่ของเด็ก เจ้าหน้าที่ได้ทำการรักษาพยาบาลเบื้องต้น และนำน้องส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลชลบุรี ขณะที่พ่อกับแม่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองชลบุรี ควบคุมตัว และดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย . . นำตัวน้องส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก…
-
นักศึกษาโวย โดนรถโดยสาร ‘เอาเปรียบ’ หลอกให้ขึ้นรถ คนแน่นเอี๊ยด แถมเก็บราคาเต็ม!?
สำหรับใครที่เคยใช้บริการรถบัสโดยสาร จะรู้กันดีว่ามีอยู่มากมายหลายบริษัทหลายเจ้า จะเลือกขึ้นของเจ้าไหนก็แล้วแต่ตัวของผู้โดยสารเอง มิใช่ว่ามา ‘บังคับ’ ให้ผู้โดยสารขึ้นไปบนรถ ทั้งๆ ที่ ที่นั่งก็เต็มแล้ว แถมยังเก็บเงินในราคาเต็มอีก ดังเช่นเหตุการณ์ต่อไปนี้… เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2562 เพจเฟซบุ๊ก FM91 Trafficpro ได้เปิดเผยเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ออกมาร้องเรียนจากการถูก ‘รถโดยสารเอาเปรียบ’ ตามรายงานระบุเอาไว้ว่า นักศึกษากว่า 11 คน ขึ้นรถโดยสารจากสถานีขนส่งนครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันนี้ ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่รถใกล้จะออกเดินทางแล้ว ผู้ประกอบการของบริษัทรถบัสหนึ่ง ได้หลอกให้กลุ่มนักศึกษาขึ้นรถ บอกว่ายังเหลือที่นั่งเพียงพอ กลุ่มนักศึกษาก็เลยขึ้นไป และพบว่า ‘ที่นั่งเต็มแล้ว’ ไม่มีที่ให้พวกเขานั่ง และขณะนั้นเองรถโดยสารคันดังกล่าวก็เคลื่อนตัวออกจากสถานีขนส่งทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้ลงไปเปลี่ยนรถโดยสารแต่อย่างใด หลังจากนั่งรถออกไปได้สักพัก พนักงานบริการบนรถก็แก้ปัญหา โดยการให้กลุ่มนักศึกษานั่งตามซอกบันไดบ้าง พื้นทางเดินบ้าง หรือไม่ก็ไปเบียดกับผู้โดยสารท่านอื่นบ้าง แถมยังเก็บค่าโดยสารเต็มจำนวนคือ 125 บาท แต่ต้องทนอยู่ในสภาพอันแออัดเช่นนั้นนานหลายชั่วโมงจนถึงปลายทาง จึงทำให้พวกเขารู้สึกว่าถูกเอารัดเอาเปรียบ…
-
พาชมลีลา ‘ธนาธร’ เตะฟุตซอล ซัดไป 2 ประตูช่วยพาทีมอนาคตใหม่ชนะคู่แข่ง
กระแสเรื่องของการวาดฝีเท้าในช่วงนี้ต้องบอกว่ามาแรงจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทีมลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในเมื่อคืนที่ผ่านมา หรือว่าจะเป็นการวาดฝีเท้าของนักการเมืองรายหนึ่ง ซึ่งเขาก็คือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่วันนี้ลงสนามฟุตซอลในนามทีมอนาคตใหม่ แล้วเขาก็ช่วยทำประตูให้ทีมเอาชนะคู่แข่งไปได้!! วันนี้ (2 มิ.ย.) ทางเพจ Future News รายงานว่า ที่สนามฟุตบอลฟิวเจอร์ อารีนา จ.ปทุมธานี มีการจัดการแข่งขัน “ฟุตบอลกระชับมิตร ครั้งที่ 1” ซึ่งมีนายธนาธรร่วมฟาดแข้งด้วย การแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันกันระหว่างทีมอนาคตใหม่ กับทีมปทุมธานี ทีมละ 7 คน เตะ 45 นาทีและสามารถเปลี่ยนตัวได้ตลอด โดยแน่นอนว่านายธนาธรลงเตะในนามทีมอนาคตใหม่ แล้วเขาก็โชว์ฝีเท้าได้อย่างน่าดูชม สามารถพังประตูคู่ต่อสู้ไปได้ 2 ประตู ทำให้ทีมอนาคตคว้าชัยเหนือทีมปทุมธานีไปด้วยสกอร์ 7 – 5 ประตู คลิปตอนยิงประตู หลังจบเกมนายธนาธรก็มาพูดคุยกับแฟนๆ โดยเขากล่าวว่า “กิจกรรมในวันนี้เป็นความตั้งใจของพรรคอนาคตใหม่…
-
คนเงินเดือน 50,000 ถามยืมตังคนเงินเดือน 15,000 เป็นคุณจะให้หรือไม่ให้ เอาเด๊ะ!?
ว่าด้วยเรื่องของการ “ยืมเงิน” ปัญหาระดับชาติที่ยังคงค้างคาใจใครหลายๆ คนอยู่ ณ ตอนนี้ ยิ่งถ้าเราต้องอยู่ในจุดที่เป็น “เจ้าหนี้” ด้วยแล้วล่ะก็นะ… บางครั้งจะให้เพื่อนยืมก็ว่ายากแล้ว ลองคิดดูว่าถ้าต้องเจอ “รุ่นพี่ในที่ทำงาน” ที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่ไม่กี่เดือนมาขอยืมเงินนี่เราจะยิ่งรู้สึกว่าให้เขาได้ยากมากขนาดไหน ประเด็นอีกอย่างก็คือพี่คนนั้นมีเงินเดือนมากกว่าเราหลายเท่าตัวด้วยเนี่ยสิ!! เจ้าของกระทู้เล่าว่าพี่คนนั้นมาถามเธอว่า “มีคนรู้จักที่มีเงินก้อนให้พี่ยืมสัก 1,000-2,000 บาทมั้ย พอดีตอนนี้เงินเหลือแค่ 200” สำหรับเธอนั้นมันเป็นอะไรที่แปลกมาก เพราะเธอเป็นเด็กใหม่ เพิ่งเข้ามาเริ่มงานที่นี่ได้เพียงแค่ 2 เดือน ไม่เคยไปขอยืมตังอะไรใครมาก่อน ในขณะที่พี่คนนั้นเป็นคนที่ฝึกงาน สอนงานให้กับเธอ ประมาณว่าเป็นคนที่หัวหน้างานฝากให้มาดูแล คนรอบข้างนับหน้าถือตา ทำงานเก่ง ทำงานดีเป็นอันดับต้นๆ ของบริษัทเลยก็ว่าได้ เธอจึงสงสัยว่าเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเธอควรทำอย่างไรดี? โพสต์เรื่องราวดังกล่าว (29 พ.ค. 2019) กระทู้ของเธอได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเพียบ โดยที่ส่วนใหญ่นั้นจะแนะนำว่า “ไม่ให้ยืม” พร้อมบอกวิธีการปฏิเสธที่จะพอช่วยรักษาน้ำใจอีกฝ่าย คงความสัมพันธ์อันดีเอาไว้ได้ . หรือว่าจะเป็นแผนลองใจ? เหมือนมาจากชีวิตจริง… …
-
‘ดีเจอ๋อง ไปส่งกูบขส. ดู๊’ แจกลายเซ็นด้วย ‘เงิน’ สมฐานะวงร็อกฐานะร่ำรวยจริมๆ
ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วสำหรับการเป็นวงดนตรีแนวกวนๆ ที่ไม่มีใครเหมือน (และอาจไม่มีใครอยากเหมือน ฮ่าา) สำหรับวง ‘ไปส่งกู บขส.ดู๊’ วงสุดชิคขวัญใจเด็กแนวที่ชอบมีอะไรแปลกๆ มาเซอร์ไพรส์แฟนเพลงอยู่เสมอ แล้วคราวนี้ก็เอาอีกแล้ว เมื่อดีเจอ๋องแอ๋ง สบัดแผ่น ฟร้อนต์แมนของวงได้ทำการแจกลายเซ็นให้กับแฟนๆ แต่ถ้าจะให้แจกธรรมดาโลกก็คงไม่จำ คราวนี้เขาเลยแจกด้วยการให้เงินไปด้วยซะเลย!! ถ้าใครยังไม่รู้จักลองไปฟังเพลงของพวกเขากันซะก่อน แล้วระวังจะติดใจ!! เพจโคตรfever ได้แชร์คลิปของดีเจอ๋อง ขณะที่โชว์ลีลาสุดแพรวพราวในงาน Cat T-Shirt ซึ่งในงานนี้เขาได้แจกลายเซ็นให้กับแฟนๆ ด้วยการเซ็นบนแบงก์แล้วยื่นให้ (สาวๆ ทั้งนั้นเลยนะ ฮ่าๆ) อยากได้ลายเซ็นบ้างจังเลยค้าบบบ แต่ว่าใครที่เป็นแฟนคลับของวงนี้มานานพอ ก็คงจะรู้ดีว่าวงนี้ชอบแจกเงินอยู่บ่อยๆ อ่ะถ้าไม่เชื่อล่ะก็ พวกเขาคงจะไม่ได้รับการขนานนามว่า ‘วงร๊อคฐานะร่ำรวย’ มาได้หรอกใช่ไหมล่ะ!! อ่ะ แจกเงินสักนิด พาราด็อกแจกลูกโป่ง วงกูแจกเงินเฟ้ย แจกจนหมดตัว ยังไปควักของเพื่อนมาแจกอีก เอ้า แถมให้อีกเพลงปิดท้าย เผื่อใครยังไม่หนำใจ …
-
สาวโพสต์เตือนภัย ถูกแท็กซี่พูดลวนลาม ท่าทางน่ากลัว ทำให้ไม่กล้าขึ้นแท็กซี่คนเดียวอีก
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การขึ้นแท็กซี่’ บางครั้งเราก็อาจจะได้เจอกับ ‘คนขับนิสัยไม่ดี’ หากว่าเราดวงซวยขึ้นมาจริงๆ ดังที่เราจะได้เห็นกันอยู่ในข่าว ว่ามีคนขับแท็กซี่ทำเรื่องอื้อฉาว ซึ่งบางเหตุการณ์ก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเกิดขึ้นแบบนั้นจริงๆ เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์ เมื่อถูกคนขับแท็กซี่แทะโลม ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง เนื้อหาในโพสต์ระบุว่า “ขอแชร์ประสบการณ์เจอแท็กซี่แย่ๆหน่อย เรียกจากหน้าเมกาบางนาตอนถามนางก็บอกไป นี่ก็กวักมือเรียกแฟนมาขึ้นก็เข้าไปนั่งก่อนละเปิดประตูทิ้งไว้ให้แฟนมาขึ้น” “คนขับถามนี่ว่าแฟนมาด้วยหรอ เราก็ตอบค่ะ นางก็บอกนึกว่ามาคนเดียว คือก็รู้สึกแปลกๆ ละว่าถามทำไม” “พอแฟนเดินมาขึ้นคนขับก็ออกรถละก็พูดว่า ถ้ารู้ว่ามากับแฟนไม่รับนะเนี่ย แล้วนางก็ชี้ไปตรงที่คนอื่นรออยู่ละบอกเนี่ยมีคนรออีกเยอะแยะ” “แฟนนี่ก็เลยถามว่า พี่พูดเล่นพูดจริงครับ คนขับก็เงียบ แฟนก็ถามอีกคือพี่พูดจริงจะได้ลงกัน นางก็บอกพูดเล่นๆๆ คือมันแบบไม่ควรพูดมั้ยอ่ะ 555” “นี่ลองคิดนะว่าถ้าแฟนไม่มาด้วยเราจะเป็นยังไงว่ะ แล้วคือคำพูดท่าทางน่ากลัวด้วย มันยิ่งทำให้เราไม่กล้าขึ้นแท็กซี่คนเดียวอีกเลยอ่ะจากปกติก็ไม่ขึ้นคนเดียวอยู่แล้วนะถ้าจำเป็นจริงๆถึงจะเรียก grab อ่ะ” “ก็ไม่คิดว่าจะมาเจองี้กับตัวคือเหี้ยมากๆๆ ถึงมันจะไม่ได้เกิดเรื่องอะไรแต่มันก็ไม่ควรที่คนขับจะมาพูดจาแบบนี้กับเราอ่ะ” “แล้วถ้าเกิดไปเจอผู้โดยสารที่เป็นผู้หญิงมาคนเดียวอ่ะจะเกิดอะไรขึ้น เค้าก็จะใช้คำพูดลวนลามผู้หญิงหรอ เนี่ยมันคือสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์แท็กซี่ข่มขืนผู้โดยสารอ่ะน่ากลัวจริงๆ นะ ไม่ได้มีเจตนาจะทำลายช่องทางหากินของเค้านะแต่เค้ามาทำงี้ก็อยากให้ระวังไว้” โพสต์ดังกล่าวนั้นได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย ทั้งในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างก็เข้ามาแสดงความเป็นห่วงกับเจ้าของโพสต์ บ้างก็แนะนำให้โทรไปร้องเรียนขนส่ง …
-
คุณหมอศัลยกรรมเตือน ‘ร้อยไหมด้วยทอง’ เมื่อเข้าทำ MRI อาจทำหน้าไหม้ได้!!
ยุคสมัยนี้มีสิ่งต่างๆ มากมายที่เอื้อให้เราได้พัฒนาความสวยความหล่อกันอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งหนึ่งในวิธีที่หลายๆ คนเลือกใช้กันก็คือ ‘การร้อยไหม’ ให้ใบหน้าของเราดูกระชับได้รูปมากยิ่งขึ้น แต่ว่าก็อาจมีการร้อยไหมบางประเภทที่เราอาจต้องระวังกันสักนิด อย่างเช่นในกรณีที่นายแพทย์ท่านหนึ่งได้ออกมาเตือนว่า หากร้อยไหมด้วยโลหะบางชนิดแล้วเข้าเครื่อง MRI อาจทำให้หน้าถึงกับไหม้ได้เลย!! คงต้องขอเกริ่นก่อนว่าการร้อยไหมในปัจจุบันมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน อย่างเช่นการร้อยไหมด้วยไหมชนิดไม่ละลายอย่างไหมทำจากพลาสติก หรือไหมทำจากโลหะ และไหมประเภทโลหะนี้เองที่มีแพทย์ท่านหนึ่งเตือนถึงความอันตรายของมัน เฟซบุ๊ก Suthipong Treeratana ของทางคุณหมอด้านศัลยกรรม ได้กล่าวเตือนเอาถึงการร้อยไหมที่มีส่วนผสมของโลหะเช่นทอง เอาไว้ ซึ่งทางคุณหมอได้อธิบายไว้ว่า “ฝากเตือนการร้อยไหมที่มีส่วนผสมของโลหะ เช่นทอง นะครับ จากภาพเอกซเรย์นี้เห็นเส้นไหมได้ชัดว่าจัดเต็ม จัดหนักจริง ปัญหาจะเกิด เมื่อมีเหตุที่อาจจะต้องทำ MRI แล้วสนามแม่เหล็กเหนี่ยวนำโลหะ ให้เกิดความร้อน หน้าจะไหม้ทั้งหน้าเลย คนเราต้องมีโอกาสทำ MRI บ้างในชีวิต เช่นปวดคอ ดูกระดูกต้นคองี้ ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ และไม่มีรังสีแพทย์คนไหนจะทราบมาก่อน (ถึงทราบแล้วจะทำไงดี ไหมเอาออกไม่ได้ แต่ MRI ก็ต้องทำ) รูปภาพภายในโพสต์ ส่วนเหล็ก , screwสำหรับยึดกระดูก, clip หนีบเส้นเลือดโป่งพอง…
-
‘หวานใจมงคลกิตติ์’ ชี้ประโยค ‘อยากเห็น ส.ส. หญิงตบกันในสภา’ ลึกๆ มีความหมายดี
เป็นอีกหนึ่งครั้งที่เราจะได้กล่าวถึงนักการเมืองที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ กับ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายมงคลกิตติ์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในวันที่ 31 พ.ค. 2019 นายมงคลกิตติ์ ก็เคยได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชน พูดถึงประเด็นที่กำลังฮอตฮิตอยู่ในขณะนี้ ประเด็นดังกล่าวก็คือปัญหาระหว่าง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ อย่างที่เราทราบกันดีว่าประเด็นดังกล่าวคือจุดเริ่มต้นของกระแสคำว่า “อีช่อ” ที่กำลังถูกพูดถึงไปทั่วโลกโซเชียลอยู่ ณ ขณะนี้นั่นเอง น.ส.ปารีณา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ น.ส.พรรณิการ์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ทางด้าน นายมงคลกิตติ์ ก็ได้ออกมาเล่าเกริ่นก่อนว่า “สมัยตนเป็นเด็ก ตนชอบดูผู้หญิงสวยๆ ตบกันโดยไม่ห้าม เพราะรู้สึกสนุกดี” “แต่ย้ำว่านี่เป็นความคิดเห็นในฐานะคนธรรมดา เป็นความเห็นของ ด.ช.มงคลกิตติ์ ไม่ใช่ผู้แทนราษฎร เพราะงานโดนสอบเรื่องจริยธรรมได้” เขากล่าว เขายังเสริมอีกว่า ตนเองยกให้ น.ส.ปารีณา สวยกว่า…
-
คุณแม่วัย 17 พาเพื่อนมากินเหล้าที่บ้านหลายวัน อาทนไม่ไหวใช้ ‘ปืนอัดลม’ ยิงเพื่อนหลานเข้ารพ.
สำหรับบางครั้งเหตุการณ์รุนแรงก็เกิดขึ้นมาได้อย่างที่ไม่น่าเชื่อ ดั่งเช่นเหตุการณ์นี้ที่ผู้เป็นอาโมโหที่หลานสาววัยรุ่น พาเพื่อนมากินเหล้าที่บ้าน ส่งเสียงดังโวยวาย จนท้ายที่สุดแล้วก็จบลงด้วยการเอา ‘ปืนอัดลม’ มายิงใส่เพื่อนของหลาน!? รายการทุบโต๊ะข่าวรายงานถึงเรื่องนี้ โดยมีรายละเอียดประมาณว่า น้องน้ำฝน (นามสมมุติ) คุณแม่ลูกหนึ่งอายุ 17 ปี มักจะชักชวนเพื่อนๆ ทั้งชายหญิงซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นวัยรุ่นอายุราวๆ 15 – 17 ปีมาสังสรรค์กินเหล้าภายในบ้าน พฤติกรรมของกลุ่มเพื่อนของน้องน้ำฝนก็คือ เมื่อรวมกลุ่มกันมักจะกินเหล้ากันเสียงดัง อีกทั้งยังมีการบิดมอเตอร์ไซค์สร้างเสียงดังโหวกเหวก จนกระทั่งถึงเวลา 01.00 – 02.00 น. ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเลิกวง ในวันที่เกิดเหตุ (30 พ.ค.) น้องน้ำฝนก็ชักชวนเพื่อนๆ มากินเหล้าที่บ้านเช่นเคยโดยมีผู้ชายราวๆ 4 – 5 คนและผู้หญิงอีก 2 คน ในวันนั้นคุณสมชาย ผู้เป็นอาของน้องน้ำฝนและเจ้าของบ้านก็กลับมาจากการทำงาน จากการที่คุณสมชายเห็นพฤติกรรมของกลุ่มหลานมานาน อีกทั้งยังถูกรบกวนจะไม่ได้พักผ่อน ในที่สุดคุณสมชายก็ทนไม่ไหวออกไปตักเตือนกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ แต่ว่าทางกลุ่มของน้องน้ำฝนก็ไม่ฟัง อาจึงบันดาลโทสะสั่งทำโทษกลุ่มเด็กๆ โดยสั่งให้เด็กผู้ชายวิดพื้น หมอบ…
-
เพจสื่อฯ โพสต์ภาพ ‘พี่ตูน – ก้อย’ ไปเชียร์บอล ใช้คำว่า ‘นักวิ่งเรี่ยไร’ เกิดเป็นสงครามคีย์บอร์ดย่อมๆ!!
ใครจะคิดว่าเรื่องของการ ‘ไปดูบอล’ จะกลายมาเป็นประเด็นให้เกิดการถกเถียงกันขึ้นมาได้ ซึ่งเรื่องที่ว่านี้เกิดขึ้นจากเพจๆ หนึ่งที่นำรูปภาพของ ‘พี่ตูน บอดี้แสลม’ มาโพสต์ จนทำให้เกิดเป็นประเด็นขึ้นมา!! เรื่องของเรื่องคือว่าเพจสื่อออนไลน์เพจหนึ่ง ได้ลงรูปของพี่ตูน บอดี้แสลมที่ถ่ายรูปคู่กับคุณก้อย รัชวิน และใส่แคปชั่นประกอบภาพเอาไว้ว่า “ว้าว!! ‘ตูน’ ควง ‘ก้อย’ เหินฟ้าสู่มาดริดเชียร์บอล ‘ไก่’ ชิงถ้วยยุโรป ‘ตูน บอดี้สแลม’ ร็อคเกอร์หนุ่มนักวิ่งเรี่ยไรแฟนตัวจริง ‘ไก่เดือยทอง’ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ควงแขนหวานใจ ‘ก้อย รัชวิน’ เหินฟ้าสู่มาดริด ประเทศสเปน โดยเป็นภารกิจอื่นไม่ได้นอกจากเชียร์ทีมรักที่จะชิงถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พบกับ ‘หงส์แดง ลิเวอร์พูล’ มีขึ้นวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ณ เอสตาดิโอ เมโทรโปลิตาโน ตอนตี 2 ตามเวลาไทย ประจวบเหมาะ ‘ตูน’ เพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 40 ปี ก็หวังว่าจะได้ของขวัญที่ดีที่สุดเป็นถ้วยแชมป์ยุโรปสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของ สเปอร์ส กลับบ้านด้วย”…
-
‘ช่างภาพวัย 18’ ยอมรับผิด เหตุจะให้นางแบบ ‘เป่าปี่’ ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
หากเพื่อนๆ ยังจำกันได้ เมื่อวาน #เหมียวตะปู ได้นำเสนอข่าวถึงเรื่องราวที่มีคนมาเตือนภัย เกี่ยวกับ “ช่างภาพวัย 18 ปี” คนหนึ่งที่พยายามลวนลามนางแบบ และจะให้เธอ “เป่าปี่” อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: เตือนภัย!! ‘ช่างภาพวัย 18’ ลวงสาวไปถ่ายแบบที่โรงแรม พยายามจะให้ ‘เป่าปี่’ ล่าสุด ช่วงกลางดึกวานนี้ (1 มิ.ย. 2019) ช่างภาพวัยรุ่นคนดังกล่าวก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และ “ยอมรับ” ว่าได้ทำเหมือนอย่างที่นางแบบเล่าจริงๆ เขากล่าวว่า “ผมขอโทษและยอมรับผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าลงมือทำจริง และเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปมากๆ” สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกจิตตกเอามากๆ รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป จนทำให้เขาอยากหายจากโลกนี้ไปเสียเลย ซึ่งนั่นคงเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดและเป็นสิ่งเดียวที่เขาคิดได้ในตอนนี้ ยิ่งเมื่อเขาต้องเจอกับการถูกประณามจากสังคมในโลกออนไลน์ด้วยแล้ว นั่นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกจิตตกลงไปมากกว่าเดิม ณ ตอนนี้ เขาทราบดีว่าการกระทำของตนเป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย แต่นั่นมันก็เกิดจาก “อารมณ์ชั่ววูบ” ซึ่งเขาก็อยากที่จะขอโทษทุกฝ่าย ขอโทษช่างภาพทุกคน ขอโทษพี่นางแบบที่ทำอย่างนั้นลงไป สุดท้ายแล้วเขาก็พูดว่า “ขอยอมรับความผิดทั้งหมด…
-
3 วัยรุ่นเมืองปาย รุมตื้บฝรั่งสาหัส ถูกดำเนินคดี โทรขู่ท้าให้ขึ้นศาล อ้างรู้จักผู้ใหญ่
หลายครั้งที่เรามักจะเห็นข่าวนักท่องเที่ยวถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่นั้นจะมาจาก ‘ความมึนเมา’ เสียส่วนใหญ่ และเหตุการณ์ที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ก็เช่นกัน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562 เว็บไซต์ Workpoint News รายงานว่านางสาวสายฝน เพชร์กระจ่าง วัย 33 ปี ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายลุค เบนจามิน ธอร์นตัน (Luke Benjamin Thornton) วัย 37 ปี สามีของเธอ ลองไปชมคลิปรายงานข่าวกันก่อนครับ หลังจากถูกกลุ่มวัยรุ่น 3 คน รุมทำร้ายร่างกายในพื้นที่ ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา นางสาวสายฝนเล่าว่า สามีของเธอพบเจอกับกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุกำลังรุมทำร้ายร่างกายชายชาวต่างชาติอีกคนหนึ่งอยู่ เลยเข้าไปห้าม แต่มว่ากลุ่มวัยรุ่นดันเกิดความไม่พอใจ เลยหันมารุมทำร้ายร่างกายนายลุคต่อ โดยที่การรุมทำร้ายนั้นกินเวลายาวนานถึง 30 นาที จนได้รับบาดเจ็บสาหัส …
-
เตือนภัย!! ‘ช่างภาพวัย 18’ ลวงสาวไปถ่ายแบบที่โรงแรม พยายามจะให้ ‘เป่าปี่’
วันนี้ (1 มิ.ย. 2019) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้แชร์เรื่องราว #ฝากเตือนภัย ถึงทุกคน หลังจากที่เขาพบว่า “ช่างภาพวัย 18 ปี” คนหนึ่งพยายามจะ “ล่วงละเมิดทางเพศ” น้องสาวของเขาที่ถูกหลอกล่อให้ไปเป็นนางแบบ เรื่องมีอยู่ว่า น้องสาวของเขานั้นถูกช่างภาพคนดังกล่าวชวนให้ไปเป็นนางแบบให้ โดยได้ติดต่อผ่านหนุ่มเจ้าของเฟซบุ๊ก ซึ่งตอนแรกบอกว่าจะพาไปถ่ายที่ “สตูดิโอ” แต่แท้จริงแล้วกลับพาไปถ่ายที่ “โรงแรม” ตอนแรกช่างภาพบอกจะไปถ่ายที่สตูดิโอ แต่จริงๆ กลับพาไปถ่ายที่โรงแรม ด้วยอายุเพียง 18 ปี ทำให้ดูไม่น่ามีพิษมีภัยอะไร แต่จากคำบอกเล่าของนางแบบสาวที่ไปในวันนั้น เธอเล่าให้พี่ชายของเธอฟังว่าเธอถูกลวนลามหลายครั้ง และเหมือนพยายามบังคับให้เธอ “เป่าปี่” ให้เขาอีกต่างหาก เรื่องราวที่เกิดขึ้น จากคำบอกเล่าของนางแบบสาว . . . . . หลังจากเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น ตัวนางแบบเองก็ได้พูดคุยกับช่างภาพ ถามถึงเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำอะไรแบบนั้นกับเธอ… บทสนทนาระหว่างนางแบบกับช่างภาพ . . . . เมื่อเจ้าของเฟซบุ๊กได้ฟังความจากนางแบบที่เป็นน้องสาวของตัวเองแล้ว…
-
ลุงบรรพต นักศึกษาวัย 63 กลับมาเรียนให้จบตามความฝัน หลังพักไปรักษาโรคมะเร็งนาน 3 ปี
‘การเรียน เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็สามารถกระทำได้’ แม้จะอายุเยอะ หรือมีความบกพร่องทางร่างกาย แต่หากจิตใจที่ต้องการจะเรียนจริงๆ ก็ไม่มีใครห้ามได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของ ‘คุณลุงวัย 63 ปี’ ท่านนี้ ที่ยังคงยืนยันว่าจะกลับมาเรียนให้จบให้ได้ หลังจากที่สมัครเรียนมาเป็นนักศึกษารหัส 54 แต่ต้องหยุดเรียนไปนาน 3 ปี คุณลุงบรรพต ปิยะพันธ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงฯ รหัส 54 คณะสื่อสารมวลชน วัย 63 ปี ได้กลับมาลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง พร้อมทั้งเทียบโอนหน่วยกิต หลังจากที่ต้องหยุดเรียนไป 3 ปีเพื่อไปรักษาตัวจากโรคมะเร็ง เมื่ออาการเริ่มดีขึ้น คุณลุงบรรพตก็เลยอยากจะขอทำตามความฝันของตัวเองต่อ ก็คือการ ‘เรียนให้จบ’ นั่นเอง แม้ว่าตอนนี้จะเดินไม่ค่อยสะดวกแล้วก็ตาม ทางด้านภรรยาของคุณลุงเล่าว่า “เขาอยากมา เขาอยากเรียนให้จบ เพราะเหลืออีกแค่ 6 วิชาเท่านั้น เขาอยากทำตามความฝันที่เขาตั้งใจ ช่วงนี้อาการของโรคดีขึ้นมาก จึงตั้งใจมาเรียนให้จบให้ได้” ขณะที่กำลังทำเรื่องลงทะเบียนเรียนและทำเรื่องเทียบโอนหน่วยกิตอยู่นั้น ท่าน ผศ.ดร.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีของ…
-
โซเชียลร้องเรียน ‘อาหารกลางวัน หัวละ 20 บาท’ ทำไมได้แค่นี้?! อีกฝ่ายแย้ง ภาพเก่าแล้วนะ
และสำหรับการร้องเรียนในครั้งนี้ เริ่มต้นจากทางทวิตเตอร์ ทวิตเตอร์ Official.mustshare ระบุว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นใน โรงเรียนเทศบาลวัดหัวข่วง จ.แพร่ กับ “อาหารกลางวันเด็ก หัวละ 20 บาท” ที่ได้น้อยเสียจนถูกมองว่าไม่คุ้มค่าราคาเอาเสียเลย… อาหารกลางวันหัวละ 20 บาท . ทวิตเตอร์ดังกล่าวได้แชร์เรื่องราวการร้องเรียนที่เกิดขึ้น หลังจากที่หลายๆ คนมองว่าอาหารกลางวันที่เด็กๆ ในโรงเรียนแห่งนั้นได้รับ มันไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเลย พวกเขายังบอกอีกว่า เคยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบถึงการทุจริตแล้ว แต่ทว่ากลับไม่มีการแก้ไขปัญหาใดๆ เกิดขึ้น และอาหารก็ยังคงเป็นไปตามปริมาณที่เราเห็นจากภาพ . ทั้งนี้ พวกเขาจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง และขอให้มีการชี้แจงต่อผู้ปกครองด้วยว่า “ทำไมหัวละ 20 บาท ถึงได้อาหารกลางวันในปริมาณเพียงเท่านี้” เพราะเราต้องอย่าลืมว่า คนที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นมากที่สุดก็คือ “เด็กๆ” ภายในโรงเรียน โพสต์ต้นฉบับ (31 พ.ค. 2019) ร้องเรียนทุจริตอาหารกลางวันของรร.เทศบาลวัดหัวข่วง แพร่อาหารหัวละ 20 บาท ลองคิดกันดูว่าถึงหัวละ 20 บาทหรือไม่?…
-
สาวขายเครื่องกรองน้ำ ทดสอบมั่วแถมกล่าวหาน้ำยี่ห้ออื่นอันตราย แบบนี้เสี่ยงโดนฟ้องนะจ๊ะ!!
เครื่องกรองน้ำสมัยนี้ มีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีกลยุทธ์ในการขายแตกต่างกันไป ทั้ง โปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม หรือการบริการหลังการขายที่ดี ซึ่งถือว่าเป็นวิธีในการตลาดเพื่อจูงใจลูกค้า แต่ก็ยังมีบางเจ้าที่หลอกลวงลูกค้าให้หลงเชื่อ โดยใช้วิธีทดสอบน้ำผ่านเครื่องมือต่างๆ ซึ่งเครื่องมือเหล่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวัดมาตรฐานของน้ำดื่มเลย ที่สำคัญยังเอาน้ำดื่มยี่ห้อต่างๆมาทดสอบและกล่าวหาอีกด้วย ซึ่งกรณีแบบนี้ก็มีการฟ้องร้องจนเป็นข่าวมาหลายครั้งแล้ว… ขายเครื่องกรองน้ำวิธีนี้ เสี่ยงโดนฟ้องนะจ๊ะ!! เมื่อไม่นานมานี้ พบว่ามีการส่งต่อคลิปในไลน์เกี่ยวกับเทคนิคการขายเครื่องกรองน้ำ ด้วยการทดสอบความสะอาดของน้ำ ที่ผ่านเครื่องกรองน้ำมาแล้ว และนำมาเปรียบเทียบกับบรรดาน้ำดื่มยี่ห้ออื่นๆ เพื่อชี้ให้เห็นว่า น้ำที่ผ่านเครื่องกรองยี่ห้อตนเองนั้นมีความปลอดภัยที่มากกว่า และกล่าวหาน้ำดื่มยี่ห้ออื่นอันตราย อาจารย์ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยระบุถึงเรื่องคลิปการทดสอบน้ำดื่มสิงห์ว่าอันตราย มีค่าวัดระดับที่แย่ และอาจะทำให้อันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นการทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด และเคยมีเคสแบบนี้ที่โดนฟ้องร้องมาแล้ว โดยเนื้อหาภายในคลิป จะเป็นการนำน้ำดื่มตัวอย่างมา 4 แก้ว มีทั้งแก้วน้ำที่ผ่านเครื่องกรองน้ำ แก้วน้ำประปา แก้วน้ำเซเว่น และแก้วน้ำสิงห์ นำมาวัดเพื่อหาค่า TDS (ค่าของแข็งที่ละลายอยู่ในน้ำ) ปรากฎว่า น้ำประปาได้ 162 น้ำเซเว่นได้ 007 ส่วนน้ำสิงห์ได้ไป 255 แต่ทว่าไม่มีการระบุค่าของน้ำที่ผ่านเครื่องกรองเลย…
-
สาวทนไม่ไหว เพื่อนบ้าน ‘จอดรถขวางประตู’ หลายครั้ง บอกหลายรอบ แต่ก็ทำอยู่อีก!!
กว่าที่เราจะตัดสินใจ ‘ซื้อบ้าน’ สักหลังหนึ่ง ย่อมต้องคาดหวังว่าจะได้อาศัยอยู่อย่างมีความสุขร่วมกับครอบครัว แต่ความสุขที่ว่านั้นก็ต้องรวมไปถึงเรื่องของ ‘เพื่อนบ้าน’ ด้วย หากเจอเพื่อนบ้านนิสัยไม่ดี ก็อาจจะทำให้พบเจอกับเรื่องปวดหัว จนเสียสุขภาพจิตไปเลยก็ได้ เช่นเดียวกันกับหญิงสาวรายนี้ ที่ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวสุดอัดอั้นใจ เมื่อ ‘เพื่อนบ้าน’ มักจะมานำรถมาจอดขวางประตูทางเข้าออกบ้านอยู่เป็นประจำ คุยกันดีๆ ก็แล้ว แต่ปัญหาก็ยังเกิดอยู่ตลอดไม่รู้จะแก้อย่างไร ลองไปอ่านโพสต์เต็มๆ กันดูครับ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ . . เรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก หลายคนต่างก็คอมเมนต์วิจารณ์การกระทำของคุณลุงผู้เป็นเพื่อนบ้านว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ผิดแล้วก็ยังไม่ยอมรับผิดอีก!! ล่าสุดรายการ ทุบโต๊ะข่าว ของช่องอมรินทร์ ทีวี ก็ได้นำเสนอเรื่องราวนี้เช่นกัน ตามรายงานระบุว่าเจ้าของบ้านเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยครั้งมาก จนทนไม่ไหวเลยต้องมาโพสต์สเตตัสเพื่อขอรับฟังความคิดเห็นจากชาวเน็ตว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี เนื่องจากว่าตนไม่อยากมีปัญหา เพราะซื้อบ้านมาก็หวังว่าจะอยู่ไปตลอดชีวิต ซึ่งล่าสุดก็ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้แล้ว ทางฝั่งของเพื่อนบ้านคู่กรณีก็ออกมาเปิดเผยว่า เหตุการณ์ในวันดังกล่าวนั้นลูกชายของตนลืมหมวกกันน็อกเอาไว้ในบ้านเลยเอาไปจอดล้ำไปหน้าบ้านหลังที่เกิดเหตุ และเข้าไปเอาหมวกกันน็อกแค่ครู่เดียวเท่านั้น และยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยไปจอดรถที่หน้าบ้านหลังที่เกิดเหตุ และเป็นปัญหาก็เลยไม่ไปจอดอีก จากนี้ไปก็คงต่างคนต่างอยู่ เพราะไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนบ้าน ที่มา : amarintv, แอม เบอร์รี่
-
ภาพสะเทือนใจ นักท่องเที่ยว ‘เด็ดปะการัง’ ที่อ่าวไทย ชาวเน็ตเดือด ทำไมไกด์ไม่ดูแลให้ดี!!
ในปัจจุบัน มีการรณรงค์ให้บรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลาย ที่เดินทางไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ให้ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้ บางที่ก็มีกฎเอาไว้อย่างชัดเจนว่าห้ามทำลาย แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวอีกมากมายที่ไม่ได้สนใจกับการรณรงค์ดังกล่าว และแหกกฎทำลายธรรมชาติ จนทำให้เราเห็นตามหน้าสื่อต่างๆ แทบจะทุกวัน และเหตุการณ์นี้ก็เช่นกัน เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก Healthy Reefs Club ได้ทำการแชร์ภาพและเรื่องราวของนักท่องเที่ยว ที่ไปเที่ยวทะเลอ่าวไทย และทำการ ‘เด็ด’ ปะการัง เห็นแล้วทำเอาชาวเน็ตเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง โพสต์ที่เป็นประเด็น พร้อมกับแคปชันด้วยข้อความว่า “เป็นเรื่องเศร้า ที่ปะการังต้องถูกทำลาย จากกลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านี้ กว่าปะการังจะเติบโต ต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่ต้องมาพังสลายลงในพริบตา จากน้ำมือของนักท่องเที่ยว ที่เดินทางท่องเที่ยวตามหมู่เกาะต่างๆ ทั้งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน..” . . . โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดไลก์มากกว่า 1,100 และแชร์ ไปกว่า 851 ครั้งเลยทีเดียว หลายคนต่างก็เข้ามาตำหนิการกระทำของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ บางส่วนก็ตำหนิไปถึงไกด์ทัวร์ด้วย ว่าทำไมถึงไม่ดูแลลูกทัวร์ให้ดี …
-
เปิดใจ ส.ส. ม้งคนแรกของไทย ถูกเหยียดชาติพันธุ์ “ผมไม่โกรธ เขาแค่ยังไม่รู้จักตัวตนของเรา”
แม้ว่าสังคมปัจจุบันจะพัฒนามาสู่ ‘ยุคโลกภิวัฒน์’ แล้ว เทคโนโลยีมีการพัฒนาจนเราสามารถเดินทางออกไปนอกอวกาศได้แล้ว รวมไปถึงเรื่อง ‘การยอมรับความหลากหลาย’ ทั้งทางเพศ เชื้อชาติ และสีผิว ก็กลายเป็นประเด็นที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ เพราะมนุษย์ล้วนแล้วต่างก็เท่าเทียม แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้คนอีกมากมายหลายคน ที่ยังปฏิเสธแนวคิดเรื่องความหลากหลาย ซึ่งในปัจจุบันความคิดแบบนี้ไม่ได้รับการยอมรับเหมือนในอดีต และเมื่อเกิดเหตุการณ์ ‘เหยียด’ เกิดขึ้น ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่ถูกยอมรับในสังคมนัก เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้… สืบเนื่องจากวันประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในรอบ 5 ปี ของประเทศไทยเรา เรียกได้ว่า ‘ในสภา’ ล้วนแล้วแต่มีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้ง ส.ส. หน้าใหม่ที่เข้ามาทำงานเป็นครั้งแรก และเรื่องที่น่าสนใจก็คือ ในครั้งนี้เรามี ‘ส.ส.ม้ง’ คนแรกของประเทศไทยเข้าไปทำหน้าที่ในสภาด้วย นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ส.ส. ม้งคนแรกของไทย ซึ่งในวันประชุมสภานั้น ส.ส. คนดังกล่าวก็ได้ทำการสวมชุดชนเผ่า เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ ความเป็นชนเผ่าของตัวเอง เข้าไปประชุมในสภา แต่ก็ไม่วายที่จะถูกชาวเน็ตนำภาพไปวิพากษ์วิจารณ์ ชาวเน็ตหลายคนที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ต่างก็ใช้ถ้อยคำที่รุนแรง . . . …
-
อุทาหรณ์นักดื่ม… เรื่องราวของหนุ่มวัย 26 ผู้ลาโลกนี้ไปทั้งอายุยังน้อย จากการกินเหล้าทุกวัน
เราทุกคนรู้ดีว่า “สุรา” เป็นพิษต่อร่างกาย ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งในระยะยาวและระยะสั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเป็นเครื่องดื่มที่หลายๆ คนมองว่าสามารถดื่มได้ตามปกติทุกวัน จนกระทั่ง #เหมียวตะปู ได้ไปเจอเรื่องราวนี้เข้า เป็นเรื่องราวของหนุ่มวัย 26 ปีคนหนึ่ง ผู้ต้องจากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้าหลังจากการที่เขาดื่มเหล้าเข้าไปอย่างหนักทุกวัน…. ชายหนุ่มคนดังกล่าว ชายในภาพนั้นมีชื่อว่า นายศิริวัชร์ มหาวัง หรือ น้องโอม ผู้จากโลกนี้ไปด้วยโรคตับแข็ง และไตวายเฉียบพลันทำให้เสียเลือดมาก ซึ่งทางครอบครัวและคนรอบข้างของเขาหวังให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆ คน ต้องเล่าก่อนว่า น้องโอม นั้นอยู่กับยายเพียงแค่ 2 คน (เพราะพ่อแม่เลิกกัน) และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องเขารู้สึกว่าไม่ได้รับความรักที่เพียงพอจากคนรอบข้าง ด้วยความรู้สึกที่ว่าตนเองไม่ได้มีครอบครัวที่พร้อมสมบูรณ์ น้องเขาจึงเริ่มที่จะหัดดื่มเหล้าเหมือนอย่างวัยรุ่นทั่วๆ ไป ซึ่งเรื่องนี้คนรอบข้างก็พอจะทราบบ้างและขอให้เขาเบาๆ หน่อย อย่าเมาให้มากนัก ในขณะเดียวกัน น้องโอม ก็มักจะบอกว่าเขากินเหล้าเพื่อให้หลับสบาย เพื่อให้สามารถกินข้าวได้ ดื่มเข้าไปยังไงก็ไม่เมาเพราะเขากินเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว เวลาเมาเขาก็มักจะพูดถึงเรื่องความรักจากคนในครอบครัว หวังที่จะได้รับความอบอุ่นจากคนในบ้านเหมือนอย่างครอบครัวอื่น อยากให้มีคนรักเขาบ้าง จนกระทั่งในช่วง 1-2 ปีหลังจากที่เขาเริ่มหัดกินเหล้า เขาก็เริ่มติดและกินมันมากขึ้น เปลี่ยนจากขวดเล็กๆ กลายเป็นขวดใหญ่ จากเหล้าแดงทั่วไปก็กลายเป็นติดเหล้าขาว…
-
หนุ่มสุดภูมิใจ โพสต์ภาพ ‘พาเหล่าผีน้อย’ 22 คน ผ่าน ตม. เข้าประเทศเกาหลีใต้ได้สำเร็จ
ยังคงมีมาให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง กับข่าวคราวของคนไทยที่พยายามจะลักลอบเข้าไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเกาหลี หรือที่ชาวเน็ตเรียกกันว่า ‘ผีน้อย’ นั่นเอง ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการโพสต์ภาพอย่างภาคภูมิใจ ว่าสามารถพาเหล่าผีน้อยผ่าน ตม. เข้าไปในประเทศเกาหลีได้รวดเดียวถึง 22 คน!! เรื่องของเรื่องคือเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมกับแคปชันว่า “บิน 22 ผ่าน 22 เห็นข่อยเงียบๆ หมู่เจ้าคิดว่าข่อยบ่อยู่บ้านติ จัดไปผลงาน 27/05/2019” จริงๆ แล้วจากภาพดังกล่าว เราอาจจะเข้าใจว่าเป็นเพียงภาพของทัวร์ที่พานักท่องเที่ยวไปเที่ยวในเกาหลีใต้ แต่พอลองเลื่อนลงไปอ่านคอมเมนต์ ก็พอจะทำให้เข้าใจว่าบุคคลเหล่านี้มีจุดประสงค์ที่จะเข้าไปทำงานแบบผิดกฎหมาย รวยเลยล่ะสิ รีบๆ กอบโกยนะ เข้ามาแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง . . . . บางส่วนก็ออกมาต้อนรับ และโพสต์ภาพเงินวอนโชว์ พร้อมกับบอกว่าเป็นนักล่าเงินวอน ทีมบินที่เข้มแข็ง จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเสมือนกับนายหน้าที่คอยจัดหาเที่ยวบินให้กับบรรดานักท่องเที่ยวที่จะไปยังเกาหลีใต้ และคอยให้คำปรึกษาเพื่อให้สามารถผ่านตม. เกาหลีใต้เข้าไปในประเทศได้ และภาพที่นำมาโพสต์นั้นก็เป็นหนึ่งในผลงานของเขานั่นเอง …
-
รวมฮิตมุกคำขวัญ ‘วันงดสูบบุหรี่โลก’ จากชาวเน็ตผู้สุดแสนครีเอท แต่ละอันเห็นแล้วปวดเฮด
31 พฤษภาคมของทุกปีคือ ‘วันงดสูบบุหรี่โลก’ และเนื่องจากโอกาสอันดีนี้หลายๆ คนอาจจะพักปอดพัก พักลำคอหยุดนำควันจากบุหรี่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งก็คือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับตัวเองและคนรอบข้าง และด้วยความที่วันงดสูบบุหรี่โลกในทุกๆ ปีจะมีคำขวัญเกิดขึ้นอย่างในปี 2019 นี้ คำขวัญก็คือ ‘บุหรี่เผาปอด’ (Tobacco Burns Your Lungs) แต่มีหรือที่คนไทยผู้สุดแสนจะครีเอทจะหยุดเพียงคำขวัญสั้นๆ เพียงนี้ เราจะเห็นได้ว่าทุกปีจะมีคำขวัญฮาๆ ในวันนี้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้เราจะพยายามรวบรวมคำขวัญฮาๆ เหล่านั้นมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ว่าความฮาจากวันงดบุหรี่โลกจากความสร้างสรรค์ของเหล่าชาวเน็ตนั้นเป็นเช่นไร พร้อมแล้วก็ตามไปดูกัน!! ป้องกันไว้กันเผื่อไฟช็อต เฮ้ยเดี๋ยว!! ก็ว่างั้นแหละ จัดว่าเฉียบ… ไม่ดีๆ เลยนะแบบนี้ ถ้าสะพานลอยจะปลอดภัยที่สุด เอ้า ถุ้ย!! น่าหนับหนุนไม่เปลืองปอด แต่เหนื่อยนิดหน่อย เค ผ่าน ฮั่นแน่ มีอะไรแอบแฝงรึเปล่านะ นั่นแน่มีแอบเหงา …
-
‘คุณเอ๋ ปารีณา’ เข้าแจ้งความเอาผิดโดนโซเชียลถล่ม ย้ำ ‘อีช่อ’ มีอยู่จริงๆ ใช้ต่อว่าคนในบ้าน
‘อีช่อ’ คำนี้ได้กลายเป็นวลีฮิตเมื่อไม่วันที่ผ่านมา จากความที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี ของทางพรรคพลังประชารัฐ ได้พูดออกมาจากไลฟ์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากการไลฟ์ในครั้งนั้น เธอก็ถูกชาวเน็ตเข้าถล่มในโลกโซเชียลอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นเรื่องร้อนไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต แต่ว่าล่าสุดเธอก็ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี กับเหล่าผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายเข้ามาโจมตีเธอแล้ว ในช่วงเช้าของวันนี้ (31 พ.ค.) นางสาวปารีณาหรือคุณเอ๋ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) คุณเอ๋ได้แจ้งว่าจะดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กที่แสดงความคิดเห็นในเชิงด่าทอด้วยคำหยาบ รวมถึงผู้ที่ใช้โทรศัพท์โทรข่มขู่คุกคาม โดยถ้ารวมๆ แล้วก็มีอยู่ประมาณ 1,000 ราย อย่างไรก็ตามคุณเอ๋ก็เชื่อว่า การกระทำที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียล น่าจะเกิดจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีโดยเฉพาะพรรคฝั่งตรงข้ามที่พยายามปั้นกระแสสร้างความเกลียดชังให้กับตัวเธอ รวมทั้งยังมีการคุกคามผู้ที่เข้ามาให้กำลังใจเธอในโซเชียลอีกด้วย ทั้งนี้คุณเอ๋ก็ยืนยันว่าคำว่า ‘อีช่อ’ ที่ตัวเองได้พูดออกไป เป็นคำที่ใช้ต่อว่าคนภายในบ้านที่ไม่อยู่ในระเบียบเพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ประชาชนในจังหวัดราชบุรีไม่เคยได้ยินคำนี้ ก็มองว่าเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล นอกจากนี้เธอก็ยังยืนยันด้วยว่าคำคำนี้ ไม่ใช่คำที่ใช้ด่า ส.ส. คนหนึ่งของพรรคอนาคตใหม่อย่างแน่นอน หากมีโอกาสเจอหน้ากันก็สามารถพูดคุยกันได้ตามปกติ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้บิดเบือนหรือแถแต่อย่างใดกับเรื่องนี้… ส่วนในเรื่องการดำเนินคดีนั้น พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ รอง ผบก.ปอท. ก็กล่าวหลังจากนี้จะดำเนินการรวบรวมหลักฐานตาที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ โดยต้องขอตรวจสอบพยานหลักฐานก่อนว่าบุคคลเหล่านั้นมีตัวตนจริงหรือไม่!! ที่มา: khaosod, innnews
-
‘เมล็ดตกไปที่ดินข้างบ้าน’ แล้วต้นกะเพราที่โตมาจะเป็นของใคร? ชาวเน็ตช่วยกันแก้ปัญหา!!
หลายๆ ครั้งที่เราต้องเจอกับ “คำถามยากๆ” ในชีวิต ยิ่งถ้าใครรู้จักเว็บไซต์ พันทิป ด้วยแล้ว จะเข้าใจเลยว่ามันมักจะมีคำถามที่ทั้งยากทั้งแปลกประหลาดโผล่มาให้เห็นอยู่ทุ๊กกกกวัน ยกตัวอย่างเช่นคำถามที่ว่า “เมล็ดกะเพราผมตกไปในพื้นที่ข้างบ้าน ผ่านมาแรมเดือน วันนี้ต้นกะเพราโตแล้ว สรุปกะเพราต้นนี้ต้องเป็นของใคร??” เอาแล้วไงๆๆๆๆ เจ้าของกระทู้อธิบายว่า แถวๆ บริเวณที่เขาอยู่นั้นเป็นโรงงานอาหาร และในวันหนึ่งเขาก็ได้ซื้อ “เมล็ดกะเพรา” เพื่อจะนำมาปลูกในที่ดินของตัวเอง ซึ่งปกติแล้วจะนำเมล็ดเหล่านั้นมาตากแดดไว้แถวข้างรั้วกำแพงบ้านของเขา จนกระทั่งเมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ เมล็ดกะเพราที่วางตากแดดเอาไว้กระเด็นไปตกแถว “พื้นดินข้างบ้าน” โดยบริเวณนั้นไม่ได้มีใครอาศัยอยู่ หากแต่มีรั้วและประตูปิดกั้นเอาไว้ ปัจจุบันกลายเป็นว่า เมล็ดกะเพราที่กระเด็นไปนั้นกลับเจริญงอกงาม โตขึ้นมาเป็น “ต้นกะเพรา” คำถามคือ!! 1.ต้นกะเพราเหล่านั้นเป็นของใคร?? (หากเป็นของเขา แล้วเขาต้องทำอย่างไร?) 2.หากเป็นของอีกฝ่าย (เจ้าของที่ดินข้างๆ นั้น) แล้วจะตกลงกันให้ลงตัวยังไง ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เป็นคนซื้อเมล็ดมา? เรื่องราวของเขา (28 พ.ค. 2019) เมื่อมีคำถามในลักษณะนี้เกิดขึ้น บรรดาชาวเน็ตก็แห่กันเข้ามาให้ความช่วยเหลือ บางคนอาจเปลี่ยนโจทย์ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น…
-
หญิงอ่างทองร้องทุกข์ วาง ‘ข้าวเหนียวทุเรียน’ ไว้ตะกร้ารถ กลับมาดู ‘เอ๊าหาย’ วอนโจรคืนมาเถอะ
อย่างที่เหล่าทุเรียนเลิฟเวอร์รู้กันดี ว่าเมื่อใดที่ทุเรียนได้เข้าไปฟีดเจอริ่งกับน้ำกะทิและข้าวเหนียวอร่อยๆ มันจะกลายมาเป็นสุดยอดขนมหวานชั้นยอด ที่แม้แต่จะให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม แต่ถึงอย่างนั้นถึงจะอยากกินขนาดไหน ทางที่ดีคงต้องใช้เงิน ‘ซื้อ’ เอา จะมาขโมยแบบในเหตุการณ์นี้ไม่ได้ เพราะคนอยากกินเค้าเดือดร้อน จนถึงขั้นต้องวนกลับไปซื้อถุงใหม่เลย… กลายมาเป็นเรื่องราวสุดปริศนาชวนปวดหัวกับคดี ‘ข้าวเหนียวกะทิทุเรียนหาย’ เมื่อเพจ Workpoint News – ข่าวเวิร์คพอยท์ ได้ลงรายละเอียดของเรื่องนี้ไว้ คดีสุดสะเทือนขวัญดังกล่าวเกิดขึ้นที่ลานจอดรถตลาดสดเทศบาล 2 จ.อ่างทอง โดยคุณเสน่ห์ ผู้เสียหายวัย 57 ปีเล่าว่า เธอไปตลาดแห่งนี้แล้วก็ได้ซื้อข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน และขนมจีนน้ำยา พร้อมผักเครื่องเคียงอีก 1 ชุด เมื่อซื้อเสร็จสรรพแล้วก็เอาอาหารมื้อเด็ดนี้มาวางไว้ที่ตะกร้าหน้ารถ เพื่อที่จะได้ไปซื้อของอย่างอื่นต่อ แต่เมื่อกลับมาอีกทีก็ถึงขั้นตกตะลึงเพราะพบว่าข้าวเหนียวทุเรียนกับขนมจีน มันหายไป!! คุณเสน่ห์ ผู้เสียหาย อารมณ์ในตอนนั้นคงเป็นอะไรที่เซ็งสุดๆ แต่ด้วยความอยากกินเธอจึงเดินกลับไปซื้ออาหารชุดเดิมอีกครั้งเป็นเงินทั้งหมดราวๆ 200 บาท และนอกจากไปซื้อขนมจีนแล้วเธอก็ยังไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดด้วยว่า อาหารชุดแรกมันหายไปได้อย่างไรกัน และแล้วก็ถึงบางอ้อ ภาพจากกล้องวงจรปิดได้แสดงให้เห็นว่ามีวัยรุ่นสาวสองคนขี่มอเตอร์ไซค์มา ‘ขโมย’ มันไป ซึ่งคุณเสน่ห์ ก็คาดว่าน่าจะทำไปด้วยความสนุกคึกคะนอง หรืออาจจะอยากกินแล้วไม่มีเงินซื้อ คลิปวงจรปิดขณะวัยรุ่นหยิบข้าวเหนียวทุเรียน…
-
หนุ่มไทยสร้างประวัติศาสตร์ เรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ ในฐานะ ‘โรบินฮูด’
กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว เมื่อสื่อนำเสนอข่าวกรณีของ ‘หนุ่มโรบินฮู้ดไทย’ สร้างประวัติศาสตร์ จบหมอคนแรกจากมหาวิทยาลัยยูซีเอสเอฟ เมดิเคิล สกูล เรื่องของเรื่องคือ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Siamtownus ที่รายงานข่าวคนไทยในอเมริกา ได้เปิดเผยเรื่องราวของ นายจิรายุทธ ลัทธิวงศกร หรือ นิว เขากลายเป็น ‘ว่าที่คุณหมอ’ คนแรกในประวัติศาสตร์ 155 ปี ของยูซี ซานฟรานฯ ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยยูซีเอสเอฟ เมดิเคิล สกูล ทั้งที่อยู่ในสถานภาพ ‘โรบินฮูด’ นายจิรายุทธเป็นหนึ่งในโรบินฮูดเชื้อชาติไทยที่มีอยู่มากมายในสหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาอยู่แบบ ‘เกินวีซ่านักท่องเที่ยว’ ตั้งแต่อายุได้ 9 ขวบ หลังจากที่ติดตามพ่อแม่เข้ามาเมื่อหลายปีก่อน เพื่อนๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไมนายจิรายุทธถึงเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ ทั้งๆ ที่อาศัยอยู่ในอเมริกาแบบผิดกฎหมาย คำตอบก็คือเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยภายใต้โครงการของ University of California, San Francisco ที่เน้นให้การศึกษาแก่กลุ่มคนผู้อพยพเป็นหลักนั่นเอง …
-
ผู้ชนะประกวดคำขวัญ 50 ปี ‘ประชาธิปัตย์’ ประกาศขอคืนรางวัล แถมตั้งให้ใหม่อีกถ้าร่วม “พปชร.”
ข่าวเรื่องการบ้านการเมืองในบ้านเรา ยังคงเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ที่ไม่ว่าหันหน้าไปทางไหนๆ ก็มีแต่คนพูดถึง ซึ่งนี่อาจเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรค ‘ประชาธิปัตย์’ โดยตรง เพราะในตอนนี้ผู้ที่เคยชนะการประกวดรางวัลคำขวัญพรรคประชาธิปัตย์เมื่อครั้งครบรอบ 50 ปี ได้ออกมาโพสต์ประกาศว่าเขาจะขอคืนรางวัลให้กับทางพรรค แถมบอกด้วยว่าถ้าเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ จะแต่งคำขวัญให้อีกอันหนึ่ง เฟซบุ๊กWara Chanmanee ของนายวรา จันทร์มณี ได้ทำการโพสต์ถึงเรื่องที่ว่านี้ โดยเขาได้ใส่แคปชั่นอธิบายเรื่องราวเอาไว้ว่า “ผมอยากขอสโลแกน ’50 ปี ประชาธิปัตย์ พัฒนาประชาธิปไตย รับใช้ประชาชน’ ของผมคืน และพร้อมจะโอนเงินรางวัล 5,000 บาท คืนให้พรรคประชาธิปัตย์ด้วย ใครจะติดต่อให้ได้มั่งครับ นอกจากจะคืนเงินให้แล้ว หากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ ผมจะแถมสโลแกนใหม่ให้ด้วย “73 ปี ประชาธิปัตย์ กัดกร่อนประชาธิปไตย ทรยศประชาชน” พูดจริงนะครับ พูดแล้วไม่ตระบัดสัตย์ ใครติดต่อให้ได้ ผมขอขอบคุณล่วงหน้าครับ วรา จันทร์มณี” ภาพที่เขารับรางวัลกับนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปี 2538) จากการรายงานของสำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์ ระบุว่า ภาพดังกล่าวนี้เป็นภาพที่ถ่ายขึ้นในปี 2538…
-
หนุ่มฉุนจัด “หมาตัวเองกัดแพ้” เลยเอามีดฟันคอหมาคู่กรณี เป็นแผลลึกเย็บ 35 เข็ม
เราอาจเคยเห็น “หมากัดกัน” เป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ สิ่งที่เกิดขึ้นในลักษณะนั้นกลับสร้างความไม่พอใจให้กับชายเจ้าของหมาเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นใช้ “มีดฟันคอหมาอีกตัวหนึ่ง” เลย!! เหตุการณ์ที่ว่านั้นถูกแชร์ผ่านทางเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ชิคกี้ ‘เบียร์ หลังจากที่น้องหมาของเธอที่ชื่อว่า “ยิ้ม” ถูกหนุ่มเพื่อนบ้านใช้มีดฟันที่บริเวณลำคอ เกิดเป็นแผลลึกจนอาจเรียกได้ว่า “เกือบขาด” บาดแผลที่คอของ ยิ้ม สุนัขตัวดังกล่าว เรื่องราวดังกล่าว ทำให้วันนี้ (31 พ.ค. 2019) ทางสำนักข่าว ไทยรัฐ ได้ทำการลงพื้นที่ไปยัง ต.ระโนด อ.ระโนด จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ และได้พูดคุยกับ น้องเบียร์ (น.ส.ธารีรัตน์ ปรีเปรม) เจ้าของเฟซ น้องเบียร์ เล่าว่า นางศรีสุดา ผู้เป็นน้าสาวคือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ พบเห็นว่ามีสุนัขสองตัวกัดกันที่บริเวณกลางถนนในซอยหน้าบ้าน หนึ่งในนั้นคือ น้องยิ้ม ส่วนสุนัขอีกตัวเป็นสุนัขของ นายเค ชายเพื่อนบ้านของ น้องเบียร์ ซึ่งในตอนนั้น น้องยิ้ม เป็นฝ่ายที่กัดชนะหมาอีกตัวหนึ่ง นายเค…
-
ครม. อนุมัติร่วมโครงการกับ “ซีพี” รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เงินลงทุนนับแสนล้านบาท
ในช่วงนี้ หลายๆ คนอาจกำลังให้ความสนใจไปที่ “ข่าวการเมือง” ที่กำลังมีความร้อนแรงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกรณีที่มาพร้อมกับคำพูดติดหูอย่าง “อีช่อ” ด้วยแล้ว… ขณะเดียวกัน ระหว่างที่หลายๆ คนให้ความสนใจกับเรื่องดังกล่าวอยู่ ข่าวเรื่องของการคมนาคมใน กทม. เองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เมื่อ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้มีการสร้าง “รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน” !! ในวันที่ 28 พ.ค. 2019 นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เขาได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่าทาง ครม. มีมติอนุมัติ เห็นชอบให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว สนามบินทั้ง 3 แห่งที่จะมีรถไฟความเร็วสูงมาเชื่อมถึงกันนั้น ได้แก่ สนามบินดอนเมือง, สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา นายณัฐพร โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ และสำหรับกลุ่มเอกชนที่ร่วมลงทุนกับ รฟท. ในครั้งนี้ก็คือกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท…
-
หนุ่มพะเยาแอบ ‘บริจาคอวัยวะ’ ตั้งแต่เป็นนักเรียนมัธยม ช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยถึง 6 คนด้วยกัน
ในปัจจุบันมีคนจำนวนมากที่กำลังรอการ ‘บริจาคอวัยวะ’ เพื่อต่อลมหายใจ และบางทีแล้วการที่เราแจ้งบริจาคอวัยวะเอาไว้ เมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็อาจจะเป็นการต่อลมหายใจให้กับคนอีกหลายคน ดั่งเช่นกรณีของเด็กหนุ่มวัย 18 ปีคนนี้ที่เขาได้แอบทำเรื่องเอาไว้เมื่อไม่กี่ปีก่อน ซึ่งในวันนี้แม้เขาจะเสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อย แต่เขาก็ยังสามารถช่วยคนอื่นให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ถึง 6 คนด้วยกัน!! เพจ บิ๊กเกรียน ได้เผยถึงเรื่องดังกล่าว โดยเล่าว่าเมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) ทางทีมแพทย์ของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อมด้วยญาติของนายพงศธร ชาว จ.พะเยา ผู้เสียชีวิตวัย 18 ปี ได้ทำเรื่องขอบริจาคอวัยวะ ทางพ่อแม่ของนายพงศธรก็เล่าถึงที่มาของเรื่องนี้ว่า ลูกชายของทั้งคู่เป็นคนดีชอบทำบุญ มีนิสัยเรียบร้อย เป็นคนไม่ค่อยพูด ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนก็ไปแอบทำเรื่องขอบริจาคอวัยวะผ่านศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เอาไว้ทั้งๆ ที่ยังเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยม โดยในเรื่องนี้ครอบครัวไม่เคยรู้มาก่อน จนมีจดหมายแจ้งตอบรับจากศูนย์รับบริจาคไปถึงบ้านจึงรู้เรื่องนี้ในที่สุด และการบริจาคของนายพงศธรในครั้งนี้ได้ช่วยชีวิตให้กับผู้ป่วยคนอื่นๆ ถึง 6 คนด้วยกัน ได้แก่ผู้ป่วยหัวใจวาย 1 คน ผู้ป่วยไตวาย 2 คน ผู้ป่วยตับวาย 1 คน…
-
ปากคำจาก 2 ฝ่าย.. พ่อทหารบอก “ลูกฉันธรรมะธัมโม” เชื่อว่าเคยมีปัญหากันมาแต่ชาติก่อน
ประเด็นที่หลายๆ คนต่างให้ความสนใจกันเมื่อวานนี้ (30 พ.ค. 2019) กับกรณี “หนุ่มข้าราชการทหาร (ยศเรือตรี) ถีบรถ หวิดโดนรุมประชาทัณฑ์” ซึ่งได้มีการสอบปากคำกันไปในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: สอบปากคำ ‘หนุ่มข้าราชการถีบรถ’ ที่แท้เป็นทหาร อ้างอีกฝ่ายขับแช่-ลงมาทุบรถตนก่อน คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุด ทางเว็บไซต์ สปริงนิวส์ ก็ได้เผยถึงคำให้การของทั้ง 2 ฝ่าย (ทั้งฝั่งหนุ่มข้าราชการทหาร และหญิงสาวคู่กรณีที่เห็นในคลิป) งั้นเราลองไปดูกันดีกว่าว่าพวกเขาพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงกัน หรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ฝั่งทหารหนุ่ม อย่างที่เราทราบกันไปตั้งแต่ข่าวก่อนหน้านี้แล้วว่า ทางฝั่งทหารหนุ่มชุดกากีนั้นได้กล่าวอ้างว่า ในตอนแรกคู่กรณี “ขับปาดหน้าตนแล้วมาแช่อยู่เลนซ้าย” แต่ไม่ยอมเลี้ยวซ้ายสักที จึงมีการบีบแตรไล่กันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ อีกทั้งเขายังบอกว่าคู่กรณีชายหญิงตามที่เห็นในคลิปนั้นเป็นฝ่ายที่ “ลงมาทุบรถของตนเองก่อน” เขาเลยทำการทุบกลับไป ซึ่งในเบื้องต้น คำให้การของเขานั้นยังคงไม่มีอะไรเพิ่มเติม ฝั่งคู่กรณี น.ส.สุนาวรี อินดิบ วัย 32 ปี อาชีพช่างเสริมสวย เธอคือหญิงสาวคู่กรณีตามที่เราเห็นในคลิป โดยเธอยืนยันว่า “ไม่ได้ขับรถปาดหน้าคู่กรณี”…
-
สาวพริตตี้ โดนเพื่อนที่ไว้ใจ ‘หักหลัง’ ลวงจาก กทม. ไปโดนรุมตบราชบุรี คาชุดนอน!!
เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นเหตุการณ์ที่ผู้คนในโลกออนไลน์จำนวนมากกำลังให้ความสนใจกันเลยทีเดียว เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งออกมาโพสต์คลิปเหตุการณ์ ขณะที่ตนเองถูกผู้หญิงอีก 3 คนรุมทำร้ายร่างกายด้วยการ ตบ เตะ กระชากผม จนได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัว เธอเผยว่า ‘ถูกเพื่อนที่เคยสนิท’ ล่อลวงไปให้ผู้หญิงกลุ่มดังกล่าวทำร้ายร่างกาย ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย สาวผู้ถูกทำร้ายร่างกายเปิดเผยผ่านโพสต์เฟซบุ๊กว่า “ไม่คิดเลยว่าเพื่อนที่เคยสนิทจะมาล่อไปโดนตบ ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ผิดอะไรเลย โดนล่อจากกรุงเทพฯ ไปราชบุรี สุดท้ายเราก็ต้องกลับเองด้วยความไว้ใจเพื่อน แต่เพื่อนกลับทำแบบนี้ ไปอ่านในแชตเอานะคะ มิ้นไม่ไหวยังไม่พร้อมตอบแชตใครค่ะ” ภาพเหตุการณ์บางส่วนจากคลิป . ในโพสต์ก็มีแชตที่เธอทักไปถามหนึ่งหญิงสาวที่รุมทำร้ายร่างกายของเธอ ว่าตกลงแล้วเธอไปทำอะไรให้กับใคร ถึงต้องถูกรุมทำร้าย ซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวนั้น เธอมองว่าเป็นเพื่อนกันที่ไว้ใจมาโดยตลอด จากการสอบถามก็ทราบว่าหญิงสาวที่เธอไว้ใจโมโหแทนรุ่นพี่คนหนึ่ง (ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร) จึงลวงมารุมทำร้าย จนเกิดเป็นเหตุการณ์ในคลิป . . . . โดยที่เธอเองก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าตนเองไปทำอะไรไว้กับรุ่นพี่คนนั้น เบื้องต้นก็ได้ทำการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เรียบร้อยแล้ว โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 17,000 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า…
-
โจรมารยาทงาม ชักปืนปล้นเซเว่น ได้เงิน 1,070 บาท บอก “ขอบคุณนะ” ก่อนหนีหายไป
เรามักจะได้รับการสอนมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าหากมีใครให้ของอะไรกับเรา ก็จะต้อง ‘ขอบคุณ’ ถือเป็นมารยาทที่ดีทางสังคม แต่ใครเล่าจะคิดว่าแม้แต่ ‘โจร’ ที่ใช้อาวุธปืนปล้นเงิน ในร้านสะดวกซื้อ ก็ยังต้องกล่าวขอบคุณ ที่พนักงานเอาเงินใส่กระเป๋าให้!? เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. ของวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา สำนักข่าวรายงานว่า มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้ามาปล้นเงินภายในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven สาขาพระราม 2 ซอย 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุก็ทำการสอบถามพนักงานที่ร้าน และขอเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็ทราบเรื่องว่า.. คนร้ายสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบเดินเข้ามาในร้าน ก่อนที่จะชักปืนออกมาและพูดว่า “ขอเงินหน่อย” คนร้ายหันปากกระบอกปืนมาใส่พนักงานพร้อมกับโยนกระเป๋าใบใหญ่มาให้ ทางด้านพนักงานก็เลยนำเงินใส่กระเป๋าให้รวมแล้วเป็นมูลค่ากว่า 1,070 บาท หลังจากนั้นคนร้ายก็หยิบกระเป๋า และออกปากพูดทิ้งท้ายว่า “ขอบคุณนะ” ก่อนที่จะวิ่งออกไปจากร้านและยี่มอเตอร์ไซค์หนีไป ภาพจากกล้องวงจรปิดกลายเป็นหลักฐานสำคัญ ที่จะช่วยให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้ เพราะเห็นภาพอย่างชัดเจน และเจ้าหน้าที่ก็เชื่อว่าคนร้ายน่าจะอาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการหาตัวคนร้ายเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป… ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยครับ ที่มา :…
-
อินโดฯ รวบ “2 หนุ่มไทยกลืนยาไอซ์” ลับลอบขนเข้าประเทศ อาจไม่รอดโทษประหาร
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหา “การลักลอบขนยาเสพติดข้ามประเทศ” ที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของคนไทย หลังจากที่ทางการประเทศอินโดนีเซีย สามารถจับกุมตัวชายไทย 2 คนที่ “กลืนยาไอซ์” ลักลอบเข้าประเทศของพวกเขา ภาพการแถลงข่าวในวันที่ 27 พ.ค. 2019 ในวันที่ 13 พ.ค. 2019 เจ้าหน้าที่ศุลกากรของอินโดฯ สามารถจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหา ณ ท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไร บนเกาะบาหลี การจับกุมตัวในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เครื่องมือเอ็กซเรย์ตรวจพบสิ่งแปลกปลอมภายในท้องของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ลงถึงสนามบินตอนเวลาประมาณตีสอง เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงนำตัวทั้ง 2 คนไปรับการตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลท้องถิ่น หลังจากเอ็กซเรย์ดูก็พบว่ามีของแปลกปลอมอยู่ในระบบย่อยอาหารของพวกเขาจริง เมื่อพยายามนำสิ่งแปลกปลอมที่เห็นนั้นออกมาได้สำเร็จก็พบว่าเป็น “ถุงบรรจุยาไอซ์” ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 คนจะกลืนลงท้องไป ภายหลังจากการตรวจสอบทำให้ทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนี้คือ นายประกอบ สีทาแสง วัย 29 ปี และ นายอดิศร พลมาต วัย 20…
-
เผยภาพคลองลาดพร้าว เต็มไปด้วยขยะ ‘เตียง-โซฟา-ตู้เย็น’ ชาวเน็ตชี้น้ำท่วมอย่าโวยวาย
ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าการ ‘ทิ้งขยะลงคลอง’ เป็นเรื่องที่ไม่ดีและไม่ควรทำ เพราะมันอาจทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาอย่างท่ออุดตันหกรือน้ำเน่าเสียได้ แต่ถึงอย่างนั้นปัญหาเรื่องนี้ก็ยังมีให้เห็นกันอย่างต่อเนื่องในสังคมไทย โดยกรณีล่าสุดที่เป็นข่าวก็คือบริเวณคลองลาดพร้าว จนถึงขั้นที่ว่าผู้ว่าฯ กรุงเทพ ถึงขั้นขอความร่วมมือในเรื่องนี้กันเลยทีเดียว สภาพโดยรวมของคลองลาดพร้าวเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เพจ JS100 Radio ได้เผยแพร่สภาพของคลองลาดพร้าวบริเวณใต้ทางด่วนประดิษฐมนูธรรม ซึ่งเต็มไปด้วยขยะอย่างมากมาย และที่พีคๆ คือมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่างที่นอน โซฟา หรือแม้แต่ตู้เย็นอย่างมากมาย ภาพขยะในคลองที่กลับมาเป็นปัญหาอีกครั้ง . . . ในเรื่องเดียวกันนี้ เมื่อวาน (29 พ.ค.) เพจผู้ว่าฯ อัศวิน ก็ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนหยุดทิ้งขยะลงลำคลอง เนื่องจากกรมอุตุฯ แจ้งว่าช่วงนี้จะมีฝนตกหนักบริเวณกรุงเทพ ซึ่งการมีอยู่ของขยะนี้อาจจะไปขัดขวางการทำงานของระบบระบายน้ำ เช่น เครื่องสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ ทำให้ระบบขัดข้อง จนอาจเกิดน้ำท่วมขังขึ้นมาได้ พร้อมกันนี้ทางเพจก็ระบุด้วยว่าขยะเหล่านี้เจอทุกวันทิ้งกันแบบไม่ยั้งย ในครั้งเดียวสามารถเก็บได้ถึง 3 คันรถบรรทุกเลยทีเดียว!! ส่วนความคิดเห็นชาวเน็ตเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์กันถึงความมักง่ายของผู้ที่ทิ้งขยะซะเป็นส่วนใหญ่…
-
สอบปากคำ ‘หนุ่มข้าราชการถีบรถ’ ที่แท้เป็นทหาร อ้างอีกฝ่ายขับแช่-ลงมาทุบรถตนก่อน
เรียกได้ว่าเป็นคลิปที่ถูกพูดถึงอย่างหนาหูมากในวันนี้ (30 พ.ค. 2019) กับกรณี “หนุ่มสวมชุดข้าราชการ ลงไปถีบรถ จนถูกวิ่งไล่ตาม เกือบโดนประชาทัณฑ์” คลิปแรกสุดที่ถูกพูดถึง เจ้าของเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ปพนศักดิ์ ทรัพย์เกษตรกิจ ผู้เห็นเหตุการณ์ที่ได้โพสต์คลิปดังกล่าว เขาได้ขึ้นแคปชั่นเอาไว้ว่า… “เหตุการณ์เช้านี้ ก่อนหน้านี้ไม่รู้มีเรื่องอะไรกันมาก่อน แต่เห็นรถเก๋ง Vios วิ่งไล่จี้ตูดแล้วบีบแตรค้างไล่มาตลอดทางจนมาถึงที่เกิดเหตุ (ใส่ชุดข้าราชการอีกแล้ว) #ถนนพุทธมณฑลสาย3” ในเวลาต่อมา เจ้าของเฟซบุ๊กคนเดิมก็ได้อัปคลิปเพิ่มลงไป เป็นภาพจากกล้องหน้ารถที่เผยให้เห็นอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น คลิปในอีกมุมหนึ่ง หลังจากคลิปนี้ถูกพูดถึงออกไปเป็นวงกว้าง ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ก็ได้มีความคืบหน้าของกรณีดังกล่าวออกมาแล้ว พ.ต.อ.กฤตินาท ตุลยลักษณ์ ผู้กำกับ สน.ศาลาแดง กทม. ได้มีการนัด “หนุ่มชุดข้าราชการ” และฝ่ายคู่กรณี ให้เข้ามาเจรจากัน ซึ่งเบื้องต้นได้ความว่า หนุ่มชุดข้าราชการคนนั้นเป็น “ทหาร” แต่ยังคงไม่ทราบว่าสังกัดอยู่หน่วยใด ชายคนดังกล่าวอ้างว่า ในตอนแรกคู่กรณี “ขับแช่อยู่เลนซ้าย” แต่ไม่ยอมเลี้ยวซ้ายสักที จึงมีการบีบแตรไล่กันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ (อย่างที่เห็นในคลิปที่สอง) หนุ่มข้าราชการยังบอกอีกว่า…
-
นายตำรวจลงพื้นที่ เจอคนทำผิดกฎเต็มไปหมด ‘ถ้าผมมีอำนาจสั่งย้าย จะสั่งย้ายทั้งเมือง’
‘การจราจร’ ถือได้ว่าเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่คนไทยต้องเผชิญกันทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจราจรติดขัด การมีปัญหากันตามท้องถนน รวมถึงการขาดวินัยทางด้านจราจรซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ อย่างเช่นการไม่สวมหมวกกันน็อคยามขับขี่มอเตอร์ไซค์ การไม่เคารพกฎจราจรต่างๆ ซึ่งผู้ที่มีอำนาจควบคุมในส่วนนี้ก็คือ ‘ตำรวจจราจร’ อย่างที่พวกเรารู้กันดี แต่จะเป็นอย่างไรถ้าหากมีการปล่อยปละละเลยเกิดขึ้น… เกมซะแล้ว!! เฟซบุ๊ก เอก คำแพง ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของนายตำรวจท่านหนึ่งที่ลงพื้นที่บริเวณถนนเทศา จ.นครปฐม ซึ่งจากการบอกเล่าของนายตำรวจภายคลิประบุว่า ถนนนี้เป็นถนนตัวอย่างด้านจราจร… แต่ว่าสิ่งที่เขาเจอก็คือ การที่ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อคกันเต็มไปหมด ซึ่งเขาก็บอกว่าอาจเกิดจากความที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองไม่ค่อยสนใจการกวดขันเท่าไหร่นัก คลิปการลงพื้นที่ของนายตำรวจท่านนี้ นอกจากนี้ยังมีการสุ่มตัวอย่างนั่นคือนักเรียนเสื้อเหลืองคนหนึ่งที่บังเอิญขี่ผ่านมาพอดี เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ก็ถามว่าไม่สวมหมวกมานานหรือยัง เด็กนักเรียนก็ตอบว่านานแล้ว นายตำรวจจึงพูดว่าเรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไข และนอกจากนี้เขายังกล่าวอีกด้วยว่าภาพเหล่านี้เขาจะส่งให้ผู้การได้ดูว่าสภ. เมืองไม่สนใจการกวดขันวินัยเลย!! คุยกับน้องอยู่ ด้านหลังยังขี่บนทางเท้าอยู่เลย… ย้อนศรก็มาาาา โดยนอกจากเรื่องการสวมหมวกกันน็อคแล้ว ภายในคลิปวิดีโอยังเห็นภาพของคนขี่รถย้อนศร การขี่มอเตอร์ไซค์บนฟุตปาธต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่อีกด้วย… ในท้ายที่สุดแล้วนายตำรวจนายนี้ถึงกับออกปากพูดว่า ‘ถ้าผมมีอำนาจสั่งย้าย จะสั่งย้ายทั้งเมือง’ แล้วคลิปก็จบลงไปซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นแล้วบ้าง แต่ที่แน่ๆ ก็คือเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอยู่พอสมควร อย่างเช่นตอนนี้ที่มีการแชร์ออกไปแล้วถึง 600 ครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าจะสะท้อนให้เห็นถึงความจริงอะไรบางอย่างในสังคมได้เหมือนกัน… ที่มา:…
-
KFC จับมือ CARNIVAL เสิร์ฟแฟชั่นไก่ทอด ว้าวทั้งกิน ว้าวทั้งสวมใส่
เมื่อนึกถึงเมนูไก่ทอดอร่อยๆ ทีไร ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงหน้าผู้พันแซนเดอส์ ต้นตำรับไก่ทอด KFC จนเมื่อเรารู้สึกหิวจะต้องแวะไปกินเมนูโปรดอยู่ตลอด แถมบางช่วงก็จะมีเมนูใหม่พิเศษโผล่มาเซอร์ไพรส์เสมอ แต่ตอนนี้เค้าไม่ได้สร้างเซอร์ไพรส์แค่เมนูไก่ทอดนะ เพราะมีดับเบิ้ลเซอร์ไพรซ์ด้วยสตรีทแฟชั่นอีกต่างหาก เปิดตัวเมนูใหม่มา ‘ดับเบิ้ลดาวน์’ เซอร์ไพรซ์แรก คือ แฟนคลับไก่ทอด KFC ชาวไทยจะได้สัมผัสรสชาติของเมนูที่ขายดีมาแล้วทั่วโลกกว่า 10 ล้านชิ้น นั่นคือเมนู ดับเบิ้ลดาวน์ เป็นเนื้อไก่ทอดกรอบประกบกันแบบอร่อยคูณสอง คั่นกลางด้วยไก่ สโมค ชิกเก้น เชดด้าชีส ราดด้วยซอสมายด์ฮอทสูตรเข้มข้นซ้ำเข้าไปอีก ให้รสชาติทั้งเปรี้ยว เผ็ด และกรอบคริสปี้!! เมนูดับเบิ้ลดาวน์นี้สนนอยู่เพียงแค่ 89 บาทเท่านั้น และเปิดขายเพียงไม่ถึง 1 เดือน ตั้งแต่ 30 พฤษภาคมถึงวันที่ 26 มิถุนายนนี้เท่านั้น และขอย้ำว่าของมีจำนวนจำกัด แค่ 1 ล้านชิ้นนะจ๊ะ จะกินที่ร้าน หรือสั่งกลับบ้าน หรือโทร 1150 เพื่อบริการเดลิเวอรี่ก็ยังได้! ไก่ประกบแน่นๆ 2 ชิ้น…
-
กรณีศึกษา ‘อิสราเอล’ ยุบสภา หลังจัดตั้ง ‘รัฐบาลผสม’ ไม่สำเร็จ
อย่างที่รู้กันดีว่า ณ ตอนนี้ สถานการณ์ทางการเมืองในบ้านของเรานั้นกำลังดุเดือดเข้มข้นเรื่อยๆ ฝ่ายพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลพยายามทำข้อตกลงกับพรรคต่างๆ รวมแล้วกว่า 20 พรรค เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้น เมื่อพรรคอันดับที่ 4 ที่มีเสียงในสภามากกว่า 50 เสียง กลับยึกยักเล่นตัวยังไม่ยิมร่วมรัฐบาล ส่งผลให้พรรคอันดับที่ 5 ที่มีเสียงกว่า 50 เสียงเช่นกันออกมาประกาศดึงเกม ว่าหากที่ 4 ไม่เข้าร่วม พรรคตัวเองก็จะไม่เข้าร่วมเช่นกัน และหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ สงสัยมั้ยครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น? ในวันนี้ #เหมียวหง่าว ก็มีกรณีศึกษาจากประเทศอิหร่านมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันดูครับ ทำไมการเจรจาร่วมรัฐบาลของนาย Benjamin Netanyahu ถึงล้มเหลว? เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 สำนักข่าว BBC รายงานว่าสภานิติบัญัติของอิสราเอลลงมติให้ ‘ยุบสภา’ ด้วยคะแนนเสียง 74 ต่อ 45 เพราะนายกรัฐมนตรี Benjamin Netanyahu ไม่สามารถรวมเสียงในสภาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ตามเวลาที่กำหนดเอาไว้ …
-
สาวสวยสายซิ่ง!! ‘ฝน – ศนันธฉัตร’ สลัดคราบนักแสดง ไปเจอกันได้ในสนามแข่งรถ!!
หากใครชื่นชอบ “การประลองความเร็ว” และติดตามข่าวสารมาโดยตลอด ก็คงจะได้รู้กันไปแล้วว่าในเร็วๆ นี้จะมีการแข่งขัน Toyota Gazoo Racing Motorsport 2019 เกิดขึ้นในบ้านเรา การแข่งขันดังกล่าวจัดขึ้นโดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้เข้ามาเรียนรู้ พัฒนาทักษะ และเสริมสร้างประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ทางเรียบ รวมไปถึงพวกเขายังต้องการส่งเสริมให้เกิด “นักแข่งรุ่นใหม่” ทั้งในระดับสมัครเล่น ไปจนถึงระดับมืออาชีพ ให้พวกเขาได้ก้าวเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย และก้าวไกลไปสู่ระดับโลก และสำหรับในการแข่งขันที่ใกล้จะถึงนี้ นักแข่งหน้าใหม่ที่หลายๆ คนให้ความสนใจก็คงหนีไม่พ้น ฝน – ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล นักแสดงสาวสวย ตัวเล็กน่ารัก วัย 24 ปี น้องฝน ดาราสาวสวย หน้าใส ขวัญใจหนุ่มๆ . แต่ล่าสุด เธอได้เข้าร่วมการแข่งขัน ผันตัวมาเป็นสายซิ่งแล้วนะจ๊ะ พวกเราหลายๆ คนอาจเคยชินกับบทบาทการแสดง โดยเฉพาะจากซีรีส์เรื่อง Hormones วัยว้าวุ่น…
-
‘ไบค์เกอร์ไทย’ ผู้พาเด็กส่งโรงพยาบาล ดังไกลถึงต่างชาติ พร้อมคอมเม้นต์ชาวเน็ตแห่ชื่นชม
ฮีโร่ ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษเสมอไป… นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ ความช่วยเหลือกันระหว่างเพื่อนมนุษย์ เมื่อมีไบค์เกอร์คนหนึ่งผ่านมาเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินเข้า เขาจึงได้เข้าช่วยเหลืออย่างไม่ลังเล จนในที่สุดต่างก็ได้รับเสียงชมทั้งเสียงจากชาวไทยรวมถึงทั่วโลก… สกูปจากสื่อไทย เรื่องราวของคุณอิทธิพล เกิดขึ้นที่ จ.พิษณุโลก เมื่อระหว่างทางกลับบ้านเวลาประมาณ 17.00 น. เขาไปเจอกับรถยนต์คันหนึ่งที่จอดนิ่งบนถนนเพราะสภาพการจราจรติดขัด โดยที่ภายในรถคันนั้นมีเด็กนักเรียนที่มีอาการลมชักหมดสติ ตาค้าง พร้อมด้วยน้ำลายฟูมปากอยู่ด้วย ซึ่งทางพ่อแม่ของเด็กก็พยายามจะปลุกลูกให้ตื่นขึ้นมา เขาจึงคิดว่านี่เป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินและสามารถให้ความช่วยเหลือได้ วินาทีที่ไบค์เกอร์เข้าช่วยเด็กในรถ ได้รับความสนใจในต่างประเทศเช่นกัน ไบค์เกอร์คนนี้ได้ลงจากรถไปบอกรถคันอื่นๆ ให้ช่วยเปิดทางให้คุณพ่อนำรถเก๋งเข้ามาไปจอด จากนั้นก็ให้คุณพ่ออุ้มลูกขึ้นมาซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ของเขาไปยังโรงพยาบาล เพราะมันน่าจะเป็นวิธีที่ไวกว่าการใช้รถยนต์ คุณพ่อก็ยอมทำตามแต่โดยดีเพราะเป็นห่วงลูก ไบค์เกอร์คนนี้ก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปยังโรงพยาบาลอย่างเร็วไวพร้อมด้วยการบีบแตรตลอดทั้งทางเพื่อแสดงให้เห็นถึงเหตุฉุกเฉิน ในที่สุดน้องนักเรียนคนป่วยก็ถึงมือหมอได้อย่างทันเวลาและมีอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งทางคุณพ่อก็ไม่ลืมที่จะขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับขอบคุณกับไบค์เกอร์คนนี้ด้วย เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้สร้างความประทับใจให้กับคนไทยทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต จนมีสำนักข่าวใหญ่เข้าสัมภาษณ์กับไบค์เกอร์คนนี้ และเขาก็ให้สัมภาษณ์ว่าทำไปเพราะเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเนื่องจากเขาก็มีลูกสาวเช่นเดียวกัน แต่ว่านอกจากเขาจะกลายเป็นฮีโร่สำหรับคนไทยแล้ว เมื่อเว็บไซต์ Dailymail ได้นำคลิปของเขาไปลง ก็มีผู้เข้าชมมากถึง 12 ล้านครั้ง อีกทั้งกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากสำหรับชาวต่างชาติจนมีคอมเมนต์เข้ามาชื่นชมกว่า 5,000 คอมเมนต์ รวมถึงหากดูในคลิปวิดีโอในตอนสุดท้ายจะเห็นว่าพิธีกรหญิงต่างชาติถึงกับพูดยกย่องเขาว่า ‘ชายคนนี้คือฮีโร่ที่แท้จริง’…
-
ชาวเน็ตบ่นอุบ ภาพ ‘รถเมล์’ ไปสุวรรณภูมิ สภาพเก่าซอมซ่อ ชิ้นส่วนแทบจะแยกออกจากกัน
เรื่องของ ‘รถเมล์’ เป็นประเด็นที่ชาวกรุงเทพฯ พูดถึงกันมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเก่าของตัวรถเมล์ที่บางคันมีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 50 ปี!! หรือราคาที่เพิ่มขึ้นทั้งๆ ที่การบริการยังเป็นเหมือนเดิม!? ล่าสุดก็มีการเปิดเผยภาพของ ‘รถเมล์ปรับอากาศ’ สาย 558 ไปสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีสภาพ ‘เก่าซอมซ่อ’ เหลือเกิน จนทำให้ชาวเน็ตต้องเอามาโวย!! เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก FM91 Trafficpro ได้นำภาพดังกล่าวที่ได้มาจากลูกเพจส่งเข้ามาทางอินบ็อกซ์ เผยแพร่ลงโซเชียล พร้อมกับแคปชันเล่าว่า โพสต์ที่เป็นประเด็น “รถประจำทางปรับอากาศสาย 558 ไปสุวรรณภูมิ เช้าวันนี้คุณผู้ฟังและแฟนเพจ ส่งภาพการเดินทางด้วยรถประจำทางสาย 558 ที่จะไปสุวรรณภูมิมาให้ พร้อมบรรยายตามภาพว่า สภาพภายนอกภายในควรดูแลและใส่ใจมากกว่านี้ เก้าอี้ที่นั่งก็โยกเยก (นึกว่าได้นั่งเก้าอี้ไฟฟ้า) รถสั่นสะเทือนทั้งคัน (ชิ้นส่วนพร้อมหลุดทุกชิ้น) ความสะอาดหาได้จากจุดไหน…ตอนแรกนึกว่าตาพร่ามัว อ้อกระจกติดฟิล์ม (ในอดีตคงใสมาก่อน ) (เคยล้างเช็ดบ้างไหมน้อ คิดในใจ)…. …คำเตือน : ผู้แพ้ทั้งหลายไม่ควรขึ้นรถเมล์คนนี้ (ยกเว้นว่ามีเงินน้อยอย่างอิฉันขึ้นได้บ่อยๆ)……
-
Vicky (ยิมนาสติก เดอะสตาร์ 7) ถูกแชร์ภาพสมัยก่อน ขอเลือกทางของตัวเอง-อย่าทำร้ายกันเลย
วณัฐพงศ์ นาคสัมฤทธิ์ หรือที่หลายๆ คนอาจจดจำกันในชื่อ “ยิมนาสติก เดอะสตาร์ 7” นั่นคือชื่อที่ถูกแชร์ต่อๆ กันไปเป็นจำนวนมากในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ หลังจากที่หลายๆ คนพบว่าเขาแตกต่างไปจากเดิม นั่นเป็นเพียงภาพอดีตสมัยที่เขายังเป็น “ยิมนาสติก” อยู่ จนกระทั่งต่อมามีคนพบว่าเขาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Vicky – วิโรณิกาศ์ นาคสัมฤทธิ์ นอยมันน์ และนี่คือภาพล่าสุดของเธอ อย่างที่เราเห็นว่าเธอนั้นดูแตกต่างไปจากเดิมเป็นอย่างมาก และนั่นก็ทำให้หลายๆ คนได้แชร์เรื่องราวของเธอต่อๆ กันไป แต่ด้วยเหตุนั้นเอง ที่ทำให้ Vicky ต้องออกมาเปิดใจพูดกับทุกคนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากที่ตนเองได้กลายเป็นกระแสขึ้นมา และเริ่มรู้สึกว่าตนเอง “ถูกกลั่นแกล้ง” จากคนในโลกโซเชียล . . . . . Vicky ได้อธิบายชัดเจนเลยว่า “อย่าคาดหวังว่าเราจะเป็นอย่างยิมนาสติกเลยค่ะ” เพราะตอนนี้เธอได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้วจริงๆ การเปลี่ยนแปลงของเธอนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังรวมถึงเรื่องของ “จิตใจ” หลังจากที่เธอต้องเข้าพบจิตแพทย์ในประเทศเยอรมนี มานานหลายปี .…
-
เปิดเรื่องย่อ ‘Animal Farm’ วรรณกรรมที่ถูกพูดถึง เมื่อหมูเฒ่าเป็นใหญ่ เผด็จการสรรพสัตว์
สัตว์ทุกตัวเสมอภาคกัน แต่สัตว์บางตัวเสมอภาคยิ่งกว่าสัตว์อื่นๆ หากจะว่าด้วยเรื่องของนิยายแล้ว บนโลกใบนี้ก็มีให้หากอ่านกันนับหมื่นนับแสนเรื่อง แต่เรื่องที่น่าสนใจที่สุดในชั่วโมงนี้คงจะเห็นไม่พ้น ‘Animal Farm’ ที่ท่านนายกฯ แนะนำอยากให้คนไทยหามาอ่านกัน… แต่ถ้าหากใครยังไม่เคยรู้จักกับนิยายเรื่องนี้ล่ะก็ เอาเป็นว่าในบทความนี้ #เหมียวจิวยี่ จะมาเล่าสั้นๆ ให้ฟังว่าเรื่องของฟาร์มสัตว์แห่งนี้ เป็นอย่างไรกันแน่ รู้จักกับ Animal Farm กันสักนิด นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นโดยนาย จอร์จ ออร์เวลล์ นักประพันธ์ชาวอังกฤษผู้มีแนวคิดสังคมนิยมประชาธิปไตย เขาแต่งเรื่องนี้ขึ้นในปี 1988 เพื่ออยากจะใช้มันสะท้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์ปฏิวัติรัสเซียและการครองอำนาจของ โจเซฟ สตาลิน ในเวลาต่อมาหนังสือเล่มนี้ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น และถูกจัดตีพิมพ์และแปลออกมาในหลายๆ ภาษารวมทั้งภาษาไทย ซึ่งในตอนนี้ Animal Farm ก็มีการแปลไทยมาแล้วถึง 8 ครั้งด้วยกัน นอกจากนี้ Animal Farm ยังได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ให้เป็นหนึ่งในนิยายภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด 100 เรื่อง ระหว่างปี พ.ศ. 2466–2548 รวมถึงอยู่ในอันดับที่ 31 ของรายชื่อนิยายที่ดีที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ของสำนักพิมพ์มอเดิร์นไลบรารี…
-
หนุุ่มเมาได้ที่ ยืมมอเตอไซค์ชาวบ้านไปซิ่งป่วนพระ วนเมรุได้รอบเดียว เอาหัวโหม่งระฆังซะงั้น!!
สำหรับคนเมาแล้วอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำอะไรที่ไม่เคยทำและไม่คิดจะทำมาก่อน อย่างเช่นเหตุการณ์นี้ที่มีคนเมาคนหนึ่งเมื่อเมาได้ที่แล้วก็ฮึกเหิม ยืมมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านไปซิ่งป่วนพระ จนสุดท้ายพลาดหัวไปชนระฆังนอนเจ็บอย่างสิ้นท่า… ตำรวจ สภ.บางปะกง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ในวัดท่าข้ามเจริญศรัทธา จ.ฉะเชิงเทรา หลังได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุ ซึ่งพอไปถึงก็พบกับชายคนหนึ่งนอนอยู่โดยที่หัวมีบาดแผลขนาดใหญ่ มีรอยถลอกตามเนื้อตัว อีกทั้งยังมีความมึนเมาอย่างหนัก ใกล้ๆ กับจุดนั้นก็พบรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ พร้อมกันนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ทำแผลให้เขาก่อนนำส่งโรงพยาบาล ชายคนที่นอนเจ็บอยู่นี้ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนายวิรัตน์ ซึ่งจากการบอกเล่าของนายวิทยา เจ้าของรถก็เล่าว่าเมื่อเช้าตัวเขาขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งหลานที่โรงเรียน พอเข้าวัดก็เจอกับนายวิรัตน์ที่เมาพอได้ที่ นายวิรัตน์จึงเอ่ยปากขอยืมรถมอเตอร์ไซค์เพื่อจะขี่เข้ามาหาพระในวัด นายวิทยาจึงให้ยืมมาอย่างไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาจะเอามาขับป่วนพระ จนกระทั่งพบว่ารถมอเตอร์ไซค์ของเขาพังยับจากการชนกำแพงและระฆัง ส่วนทางด้านพระเมธี พระลูกวัดก็เล่าว่า เมื่อเช้าเห็นนายวิรัตน์ขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้าวัดมาด้วยความเร็วสูงโดยมุ่งหน้าไปทางโบสถ์ แล้วจากนั้นชายคนนี้ก็ควบมอเตอร์ไซค์ขี่วนรอบเมรุไป 1 รอบ แต่ว่าพอจะวนอีกรอบ ปรากฏว่าไม่ไหว… นายวิรัตน์เสียหลักไปชนกำแพงโบสถ์แล้วก็เซไถลเสียหลักไปชนเข้ากับระฆังจนมีเสียงดังสนั่น ในที่สุดพระที่อยู่ในกุฏิเลยต้องออกมาดู ก็เห็นนายวิรัตน์นอนนิ่งไปซะแล้ว สงสัยอยากลองว่าอะไรแข็งกว่ากัน… ที่มา: ข่าวช่องวัน
-
เพจโพสต์รณรงค์หยุดเล่นเอฟเฟกต์ ‘เศียรพระพุทธเจ้า’ ใน IG ชี้ไม่เหมาะสม ชาวเน็ตแห่สนับสนุน
ในช่วงนี้หากใครที่ติด Instagram แบบงอมแงมและชื่นชอบกับการปัดดูสตอรี่ของคนอื่นๆ ก็คงอาจจะผ่านๆ ตากันบ้างกับ ‘เศียร’ พระพุทธเจ้าที่ถูกนำมาทำเป็นเอฟเฟกต์สตอรี่ ในตอนนี้ได้มีการเรียกร้องให้ยุติการเล่นเอฟเฟกต์ที่ว่านี้แล้ว เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะเหมาะสมนักกับการนำเศียรพระพุทธเจ้ามาทำอะไรเช่นนี้… เพจ Knowing Buddha with Master Acharavadee Wongsakon ได้โพสต์ถึงการเรียกร้องนี้ โดยระบุว่าทางเพจได้รับแจ้งว่า มีการใช้พระเศียรพระพุทธเจ้ามาทำเป็นสติกเกอร์แทนหน้าตัวเอง Instagram เอฟเฟกต์นี้เป็น Augmented reality (AR) ที่ออกแบบโดยนักพัฒนา AR ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อ Instagram ว่า @bma_japan https://www.instagram.com/p/BxbLi6xn1jX/ หลังจากการมีเอฟเฟกต์นี้ออกมาก็มีผู้คนดาวน์โหลดไปใช้อย่างกว้างขวาง รวมถึงเริ่มเข้ามาเป็นที่นิยมในประเทศไทยบ้างแล้ว ซึ่งทางเพจระบุด้วยว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นวัยรุ่นและนักเรียน ซะส่วนมากที่ใช้เอฟเฟกต์นี้ในทางไม่เหมาะสม ทางเพจกล่าวว่า เรื่องนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมในจิตสำนึก ทั้งจากผู้สรรค์สร้างและผู้นำมาใช้ซึ่งเป็นคนไทย ที่ไม่ได้คำนึงถึงโทษภัยและผลกระทบที่จะตามมาทั้งต่อตนเอง ต่อวัฒนธรรม และต่อพระพุทธศาสนา ด้วยเหตุนี้ทางเพจจึงวิงวอนว่าให้ช่วยกันรณรงค์เลิกใช้เอฟเฟกต์นี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง และขอให้ช่วยกันตรวจสอบเพื่อนำความดีงามกลับมาสู่สังคมต่อไป ส่วนทางเพจเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังประสานเรื่องนี้ไปยังผู้สร้างเอฟเฟกต์นี้แล้ว… โพสต์ต้นฉบับ โพสต์ดังกล่าวนี้ได้รับการแชร์ออกไปแล้วมากกว่า 2,000 ครั้ง…
-
เขายังไม่อยู่ท้ายรถบรรทุก! ‘จา พนม’ ปัดข่าวลวง โชว์ความพร้อม ฟิตขนาดนี้ไม่มีพลาด
เพื่อนๆ บางคนอาจได้ยินข่าวในช่วงเช้าว่า จา พนม ยีรัมย์ นักแสดงคิวบู๊ชื่อดังของไทย “ได้จากโลกนี้ไปแล้ว” ระหว่างถ่ายทำการแสดง แถมยังบอกว่าได้ทำการเคลื่อนย้ายศพเขากลับ จ.สุรินทร์ ไปเป็นที่เรียบร้อย จา พนม ข่าวการเสียชีวิตของนักแสดงไทยชื่อก้องโลก แต่ในขณะที่หลายๆ คนอาจกำลังโศกเศร้ากับข่าวนี้อยู่นั้นเอง ล่าสุดตอนเวลา 13.43 น. พี่จา พนม “ตัวจริงเสียงจริง” ก็ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กของตัวเองว่า “ตรูยังไม่ต๊ายยยยย”!! เอ่อ.. เอาจริงๆ คือพี่เขาพูดว่า “ใครบางคนเคยพูดว่าข่าวสารประชาสัมพันธ์ทั้งหมดเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดี ตามรายงาน 2-3 เรื่องในประเทศไทยคือ ‘วันนี้ผมตายไปแล้ว’ ซึ่งผมไม่รู้ตัวมาก่อนเลย ผมยังคงสู้ต่อไป” ยังมีชีวิตอยู่ดีนะจ๊ะ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะพี่แกยังอัปคลิปแสดงให้เห็นชัดๆ กันไปเลยว่า “ยังไม่ตายจริงๆ” นะเออ คลิปยืนยัน แถมโชว์ความฟิตเปรี๊ยะสักนิดหน่อย ฝีไม้ลายมืออันสุดยอด พร้อมด้วยคิวบู๊สุดเท่ที่น่าจดจำ ขนาดในหนังพี่แกยังไม่ตายง่ายๆ เล๊ยยยยย เอาเป็นว่าก่อนหน้านี้คือ…
-
3 นทท. สาวไม่เอะใจ ตุ๊กๆ บอกตอนแรก 500 พอถึงที่หมายกลับต้อง “จ่ายคนละ 500” ?!
ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ เคยเจอแบบนี้บ้างมั้ย… กับการเราต่อรองราคากับรถสองแถว หรือ รถตุ๊กตุ๊ก เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ก่อนขึ้นใช้บริการ แต่เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ราคาที่คนขับเรียกให้เราจ่ายจริงๆ กลับแตกต่างออกไปจากเดิม เหตุการณ์ในลักษณะนั้นได้ถูกแชร์ผ่านเพจ จส.100 (วิทยุข่าวสารและการจราจร) เมื่อ “นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ” 3 คน ใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กเพื่อเดินทางจากเขต “นางเลิ้ง” ไปยังโรงแรมแถว “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” กรุงเทพฯ สถานีวิทยุ จส.100 ที่ได้รับแจ้งเรื่องราวดังกล่าว จากคำบอกเล่า ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 11.00น. นักท่องเที่ยวทั้ง 3 คนก็ได้ตกลงราคากับคนขับรถตุ๊กตุ๊กเอาไว้ที่ 500 บาทในตอนแรกก่อนขึ้นนั่ง จนเมื่อขับมาถึงจุดหมายปลายทาง คนขับกลับเรียกเก็บนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คนนั้น “คนละ 500 บาท” รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,500 บาท ในตอนนั้น พวกเธอก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าเป็นความเข้าใจผิดของพวกตนในตอนแรก และยอมจ่ายให้คนขับไปทั้งสิ้น 1,500 บาท แต่เมื่อนำเรื่องนี้มาเล่าให้กับไกด์คนไทยฟัง ไกด์คนนั้นก็รับรู้ทันทีว่าพวกเธอโดนโกง ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น …
-
คุณแม่เล่าท้อง 5 เดือนน้ำคร่ำแตก หมอวินิจฉัยผิด ‘ลูกตายในท้อง’ ซ้ำพยาบาลไล่เบ่งลงชักโครก
เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเรื่องเศร้าเกิดขึ้นกับว่าที่คุณแม่ลูกแฝดคนหนึ่ง เพราะเธอได้เล่าว่าด้วยความที่คุณหมอของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งวินิจฉัยผิด จึงทำให้เธอสูญเสียลูกในท้องไปถึงสองคนด้วยกัน… เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก Walaiporn Thobuhyong หรือคุณมาย ว่าที่คุณแม่วัย 23 ปี ซึ่งเธอได้บอกเล่าผ่านทางเฟซบุ๊กและรายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ทีวี และถอดความได้ว่า คุณแม่เล่าว่าตัวเธอตั้งท้องลูกแฝดได้ 5 เดือนแล้ว แต่ว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 19 พ.ค. ขณะที่อาบน้ำอยู่น้ำคร่ำก็เกิดแตกขึ้นมา จึงรีบไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครนายก เพื่อความปลอดภัย โพสต์ของคุณแม่ ในตอนแรกคุณหมอก็ทำการอัลตร้าซาวด์แล้วบอกว่าเด็กทั้งคู่ยังอยู่ แต่พอคุณหมอมาตรวจวัดมดลูกก็บอกว่า “ไม่รอดหรอกยังไงก็แท้ง อีกไม่นานก็จะปวดเบ่งแล้วก็เบ่งออกมา” ทางคุณแม่จึงถามหมอว่ามีวิธีช่วยไหม คุณหมอก็ตอบกลับว่า ‘เด็กตัวแค่200กรัมจะช่วยยังไง ยังไงก็ไม่รอด ตาย ยังไงก็แท้ง’ ต่อมาคุณแม่ก็บอกว่าเสียใจมากถึงขั้นร้องไห้ออกมาเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว แต่เธอก็ยังนอนรอให้ปวดท้องทั้งคืน ทว่าก็ไม่มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด จนกระทั่งถึงเช้าวันต่อมา ในเช้าวันนั้นคุณหมอก็มาตรวจอีกรอบ แล้วบอกกับคุณแม่ว่าจะให้ยาเร่งออก คุณแม่ก็ร้องไห้ออกมาอีกเพราะยังรู้สึกได้ว่าลูกยังดิ้นอยู่ คุณหมอจึงให้ไปอัลตร้าซาวด์อีกหน พออัลตร้าซาวด์รอบนี้ คุณหมอที่เห็นจอเพียงคนเดียวก็บอกกับคุณแม่ว่า ‘เด็กตายแล้วคนนึง ยังไงก็ต้องเอาออกทั้งคู่’ มิฉะนั้นคุณแม่จะติดเชื้อและเสียชีวิตด้วย… นอกจากนี้คุณแม่ยังถามคุณหมอว่า ‘รู้ไหมค่ะว่าเด็กเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย’…
-
เจ้าของรถถึงกับงง โดนใบสั่งเป็น 10 ทั้งๆ ที่ไม่เคยเอาไปขับเร็ว คาดโดนสวมทะเบียน
ใครเล่าจะคิดว่า ‘อยู่บ้านเฉยๆ’ อยู่ๆ ก็โดนใบสั่งส่งมาที่บ้านเกือบ 10 ใบ!? เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ อมรินทร์ทีวี รายงานว่า นางสุวรรณา ไทยคำ อายุ 56 ปี ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับหลักฐานเป็น ‘ใบสั่งด้วยกล้องตรวจจับความเร็วสูงของตำรวจทางหลวงจำนวน 9 ฉบับ’ เพื่อยืนยันว่ารถและทะเบียนที่ปรากฏในภาพตามใบสั่งนั้น ไม่ใช่รถยนต์ของตนเอง แม้ว่าจะเป็นรถยนต์ฮอนด้ารุ่นเดียวกัน และมีสีม่วงเหมือนกัน และเลขทะเบียนเดียวกัน ซึ่งเธอมั่นใจว่าเป็นการสวมทะเบียนปลอมอย่างแน่นอน!! ส่วนรถของตัวเองนั้นเป็นรถที่ใช้ทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีการจำหน่ายภาษีอย่างถูกต้องเป็นประจำทุกปี ติดต่อกันมานานถึง 16 ปีแล้ว นางสุวรรณา ไทยคำ นางสุวรรณาเล่าว่าใบสั่งแรกนั้นมาตั้งแต่ช่วงปี 2560 1 ฉบับ เป็นใบสั่งที่ให้ไปเสียค่าปรับเพราะขับรถเร็วเกินกำหนด ตอนนั้นก็ได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะไม่เคยนำรถไปใช้ในเส้นทางที่ถูกตรวจจับ ต่อมาในช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 ก็มีใบสั่งตรวจจับความเร็วของตำรวจทางหลวงส่งมาที่บ้านอย่างต่อเนื่อง ติดต่อกันถึง 9 ฉบับ ล้วนแล้วแต่โดนข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนดทั้งหมด…
-
อวสาน ‘บุญเติม’ 4 คนร้ายอุ้มชิงเงินได้ไป 1,200 เสร็จกิจทิ้งศพกลางนา ชาวเน็ตผวากลัวเฮี้ยน!!
‘บุญเติม’ คือชื่อของตู้เติมเงินออนไลน์ ที่มีอยู่ทั่วแทบจะทุกหัวระแหงในประเทศไทย แต่ว่าคงไม่มีใครเคยเห็น ‘บุญเติม’ นอนแอ้งแม้งอยู่กลางท้องนา หมดสภาพจากการโดนโจรรุมเช่นนี้… สำนักข่าวช่องวัน รายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งเหตุจากพนักงาน หจก.ภาวัฒน์ 2009 ตัวแทนติดตั้งตู้เติมเงินโทรศัพท์ “บุญเติม” ในเขตพื้นที่แม่สอด ว่ามีตู้บุญเติมตู้หนึ่งถูกคนร้ายหลายคนรุม ‘ยก’ ตู้ไปทิ้งไว้กลางท้องนา ซึ่งท้องนาในที่นี้อยู่ห่างจุดที่ติดตั้งราวๆ 150 เมตร ตำรวจจึงรุดไปที่เกิดเหตุแล้วก็พบกับโศกนาฏกรรมดังกล่าว โดยสภาพของ ‘บุญเติม’ เรียกได้ว่าถูกปู้ยี่ปู้ยำแทบไม่เหลือชิ้นดี ถูกงัดอุปกรณ์ออกอย่างกระจัดกระจาย แต่ที่น่าสนใจก็คือคนร้ายยกแผ่นปูนที่เป็นฐานของบุญเติมมาด้วย จากการสอบถามจากนายอัตคพล พนักงานจัดเก็บก็ได้ความว่า ตู้ตรงนี้ถูกงัดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ในครั้งแรกคนร้ายไม่ได้เงินไปแต่ตู้เสียหาย เลยนำตู้ที่สองมาตั้ง หลังจากติดตั้งได้ราวๆ หนึ่งสัปดาห์ก็เกิดเรื่องอย่างที่เห็น ที่คนร้ายยกบุญเติมไปทั้งตู้ทั้งแท่นปูนแล้วนำไปงัดแงะตู้กันกลางท้องนา ซึ่งในครั้งนี้กลุ่มคนร้ายได้เงินไปราวๆ 1,200 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบหาคนอุ้มบุญเติมแล้ว โดยมีการเก็บกุญแจที่คาดว่าเป็นของคนร้ายรวมทั้งเก็บลายนิ้วมือเป็นหลักฐาน และเจ้าหน้าที่ก็คาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 4 คนถึงจะสามารถยกตู้ทั้งฐานปูนแบบนี้ได้ หลังจากเป็นข่าวออกไป ชาวเน็ตต่างก็พาสงสารบุญเติม อีกทั้งบางคนก็บอกว่าที่บุญเติมถูกเอามาทิ้งอย่างนี้จะเฮี้ยนหรือเปล่า หรือบางคนก็บอกช่างเป็นคดีสะเทือนขวัญซะจริงๆ…
-
โฆษณา “ชุดนักเรียน” มีมานานไม่เอะใจอะไร พอดูไปดูมากลับมีกลิ่นอาย “ครอบครัว” ซะงั้น?!
คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะได้เห็น “โฆษณาชุดนักเรียน” ตามสื่อต่างๆ ได้เห็นเหล่านางแบบ นายแบบวัยใส สวมใส่ชุดนักเรียนโพสท่าถ่ายภาพดึงดูดความสนใจเหล่าผู้ปกครอง แต่ทว่าสำหรับภาพโฆษณาของ “แบรนด์ชุดนักเรียน” ยี่ห้อหนึ่งที่เรากำลังจะได้เห็นกันนี้ มันกลับไม่ได้ดึงดูดความสนใจแค่กับผู้ปกครอง เมื่อผู้คนเริ่มรู้สึกว่ามันดูทะแม่งๆ แปลกๆ ยังไงพิกล ภาพโฆษณาชุดนักเรียนยี่ห้อหนึ่ง #เหมียวตะปู ลองตามไปดูที่เพจของชุดนักเรียนยี่ห้อนี้ดู แล้วพบว่ามันเป็นภาพที่ถูกเผยแพร่มาตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2019 แล้ว แต่เมื่อเช้าวันนี้ (27 พ.ค. 2019) ชาวเน็ตคนหนึ่งกลับนำภาพดังกล่าวขึ้นมาจุดประเด็น ถามให้หลายๆ คนถึงกับร้องออกมาว่า “อิหยังวะ?!” เมื่อรับรู้ได้ว่าภาพที่เห็นนั้นไม่ได้สื่อไปแค่ในทิศทางของการโฆษณาเพียงอย่างเดียว โพสต์ที่ได้นำเอาภาพดังกล่าวมาพูดถึง ไม่รู้เพื่อนๆ จะคิดเหมือนกันกับพวกเขาหรือเปล่านะ… . . คือถ้าไม่พูดก็อาจไม่คิด แต่นี่คือคิดไปละไง . . . . หมดกัน “พี่ชายน้องสาว” ตอนนี้ในหัวคือมีแค่ “พ่อแม่ลูก” ล้วนๆ… เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
-
งงใจ?! ‘แอปฯ ซื้อของ’ ชื่อดัง เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ติดตามอะไร ซื้อของร้านไหน รู้หมดเลยจ้า!!
ยุคนี้คือยุคที่เราอาจไม่ต้องเดินทางไปซื้อของกันตามห้างด้วยตัวเอง หากแต่สามารถสั่งซื้อผ่านโลกออนไลน์ หรือผ่าน “แอปฯ ชอปปิง” ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายเพียงนิ้วสัมผัส รอของมาส่ง จ่ายเงินปลายทาง จอบอ. แม้มันจะดูสะดวกสบายมากแค่ไหน แต่พอพูดถึงเรื่องของความปลอดภัยใน “ข้อมูลส่วนตัว” แล้วล่ะก็ มันอาจกลายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนความคิดของเราจนไม่อยากใช้แอปฯ ซื้อของกันอีกเลยก็ได้นะ เรากำลังพูดถึงประสบการณ์จากผู้ใช้เว็บไซต์ พันทิป รายหนึ่ง หลังจากที่เธอพบว่าตนเองสามารถรับรู้ข้อมูลส่วนตัวของคนรอบข้างได้ผ่าน “แอปฯ ซื้อของชื่อดัง” โดยใช้แค่ “เบอร์โทรศัพท์” เท่านั้นเอง..?! เธออธิบายว่าได้ลองกดหัวข้อ “ค้นหาจากรายชื่อผู้ติดต่อ” ในแทป “ติดตาม” แล้วแอปฯ ก็ถามว่าจะยินยอมให้เข้าถึงสมุดโทรศัพท์ได้หรือไม่? เธอก็ลองกดตกลงดู เพียงเท่านั้น เธอก็ได้รู้ความลับบางอย่างของคนรอบข้าง!! ทางแอปฯ ก็ทำการเชื่อมโยงระหว่าง “เบอร์ในสมุดโทรศัพท์” ของเธอ และ “เบอร์ที่กรอกไว้ในฐานข้อมูล” ก่อนหน้านี้ ทำให้เธอสามารถรับรู้ได้ว่าคนรอบข้างที่เธอมีเบอร์อยู่นั้น พวกเขาใช้ “ชื่อยูสเซอร์” ว่าอะไรในแอปฯ นั่นหมายความว่าต่อให้เราใช้ “ชื่อปลอม” เพื่อทำการซื้อของผ่านแอปฯ นี้ แต่คนรอบข้างก็สามารถรู้ได้ว่าเราใช้ชื่อปลอมว่าอะไร…
-
ลาออกจากราชการ แต่ไม่ได้ออกจากความเป็นครู ‘ครูโซ่’ เดินตามฝัน สร้าง ร.ร. แห่งความสุข!!
เชื่อเลยว่าหลายคนคงได้ยินชื่อของครูโซ่ หรือนายยอดหทัย รีศรีคำ ครูสอนคณิตฯ ประจำโรงเรียนแกลงวิทยสถาวร จ.ระยอง กันมาบ้าง จากความที่เขามักจะแต่งตัวแปลกๆ หรือมีวิธีการสอนที่ไม่ซ้ำกับใครเพื่อให้เด็กๆ มีความสุขกับการเรียน จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ต แต่งตัวมาสอนสไตล์ครูโซ่ แต่ใครจะไปคิดว่าล่าสุดคุณครูโซ่ได้ยื่นขอลาออกจากการเป็นข้าราชการแล้ว!! หนังสือขอยื่นลาออกจากราชการของครูโซ่ การลาออกในที่นี้อาจทำให้มีคนคิดว่าครูโซ่คงจะยุติอาชีพคุณครูลง แต่ว่าไม่ใช่อย่างนั้นเพราะทางเฟซบุ๊กครูโซ่ ยอดหทัย ของคุณครูได้มาบอกถึงรายละเอียดถึงการลาออก ณ ที่นี้ ครูโซ่เล่าว่าถึงเขาจะลาออกจากการเป็นข้าราชการ แต่ไม่ได้ลาออกจากการเป็นครู เพราะนี่คือสิ่งเขารักมากที่สุด เขารักในการสอนหนังสือ รักทำให้เด็กมีความรู้อย่างมีความสุข สำหรับส่วนตัวของครูโซ่เองแล้ว เขาอธิบายว่าตัวเองมีความเชื่อที่ว่าการเป็นครูไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการเสมอไป เขาจะยังคงเป็นครูอยู่ และจะเป็นครูเพื่อทุกคน แต่เพียงว่าเขาเป็นคุณครูที่ไม่เหมาะกับอยู่ในระบบนี้เพียงเท่านั้น ครูโซ่ยังเล่าต่อว่าเมื่อถึงจุดๆหนึ่ง เขาต้องเลือกอุดมการณ์หรือความทนอยู่ เมื่อสิ่งที่เป็นมันไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์ความสุขของนักเรียน 9 ปีที่ผ่านมานี้ เขาผ่านจุดที่อดทนกับทุกสิ่งที่โถมเข้ามามากมาย เขาต้องตัดสินใจทำอะไรกับมันต่อ จะอยู่เพื่อถูกกรอบแล้วกลายเป็นสิ่งเดิมๆ ที่หมดไฟ หรือจะสร้างสิ่งใหม่ๆ เพื่อเด็กไทยในอนาคต ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจเช่นนี้ จากการลาออกจากราชการ หลายคนก็บอกกับคุณครูว่าเสียดายกว่าจะสอบราชการได้…
-
หนุ่มสุดงง ซื้อโทรศัพท์ ‘มือหนึ่ง’ จากช็อปดัง เจอเฟซบุ๊กใครไม่รู้ล็อกอินอยู่
การที่เราจะ ‘ซื้อของมือหนึ่ง’ สักชิ้นหนึ่ง เราก็คงคิดไว้แล้วว่าอยากจะได้ของใหม่เอี่ยม ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานใดๆ มาก่อนเลย เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อชายหนุ่มตั้งใจไปซื้อ ‘โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่’ ใจก็อยากจะได้ ‘มือหนึ่ง’ แบบใหม่เอี่ยม แต่พอได้มาเท่านั้นแหละ กลายเป็นว่ามี ‘คนล็อกอินเฟซบุ๊ก’ ทิ้งเอาไว้ในเครื่องให้ซะงั้น!? เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ทำการโพสต์ระบายลงหน้าไทม์ไลน์ของตัวเอง เพราะหลังจากซื้อมือถือจากช็อปมา เปิดเครื่องปุ๊บดันไปเจอกับ ‘เฟซบุ๊ก’ ล็อกอินอยู่ เกรงว่าจะมีคนเอาไปใช้งานก่อนจะเอามาขายรึเปล่า? โพสต์ดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวก็สงสัยเป็นอย่างมากว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร เพราะซื้อมือ 1 มาจากช็อป แต่กลายเป็นว่าโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวนั้นเหมือนกับว่าถูกเอาไปใช้งานก่อนที่จะนำมาขายต่อให้ลูกค้า ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ อย่างไรก็ตามด้านเจ้าของโพสต์เล่าต่อว่า ตอนนี้ได้ทำการติดต่อไปยังร้านขายโทรศัพท์มือถือเพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งทางร้านก็ยินดีที่จะคืนเงินให้ พร้อมกับเสนอเปลี่ยนเครื่องใหม่ แต่เจ้าตัวยืนยันจะรับเป็นเงินเพียงอย่างเดียวจึงไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับ ว่าคนซื้อของก็ต้องการได้ของมือ 1 แต่ดันพบว่ามีคนเอาเครื่องใหม่ที่เราซื้อมาไปใช้งานแล้ว ก็อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจ แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง? ลองคอมเมนต์เข้ามาแลกเปลี่ยนกันได้เลยนะ…
-
นักวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ‘ขึ้นมอไซค์’ ลงอีกทีใกล้ถึงเส้นชัย รับถ้วยยิ้มแย้ม อย่างนี้มันไม่ได้
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตในสมัยนี้สำหรับ ‘งานวิ่ง’ ที่มีรายการให้ร่วมลงแข่งขันหลายนับสิบนับร้อยรายการในประเทศ แต่ว่าไม่นานมานี้ก็มีเรื่องๆ หนึ่งที่ไม่รู้จะเรียกว่าดราม่าหรือตลกดี เพราะว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งลงแข่งฮาล์ฟมาราธอน แต่ว่าเธอกลับขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วไปลงเอาตอนใกล้ๆ จะเข้าเส้นชัยซะอย่างงั้น!! เพจ นักวิ่งกากๆ ได้เผยถึงเรื่องราวงงๆ ที่ว่านี้ซึ่งเกิดขึ้นที่งานวิ่งงานหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ และทางเพจก็ได้โพสต์แคปชั่นเอาไว้ว่า “~ นั่งรถรับถ้วย ~ เจ๊แกก็อายุเยอะละ เจ๊อาจจะไม่เข้าใจว่าการนั่งรถไปพ่นสเปรย์เสร็จแล้ววิ่งต่อ สักพักก็ขึ้นใหม่ มาลงอีกที กิโล 20 แล้ววิ่งต่อ มันไม่ควรได้รับถ้วยรางวัลนะเจ๊ แถมเจ๊ไม่เนียน ขึ้นให้ชาวบ้านเห็นไม่พอ ขึ้นให้ช่างภาพเห็นอีกต่างหาก อ่อ ตอนนี้ผู้จัดรู้ละ เจ๊เอาถ้วยมาคืนด้วยล่ะ อ่อ ใครเห็นเจ๊ทำก็อย่าทำตามนะ มันไม่ถูก #ไอ้สัส“ สำหรับการวิ่งของนักวิ่งหญิงท่านนี้เป็นการวิ่งประเภทฮาล์ฟมาราธอนระยะทาง 21 กิโลเมตร ดังนั้นถ้าหากว่าเรื่องดังกล่าวเป็นจริงอย่างที่ทางเพจโพสต์ นั่นก็หมายความว่านักวิ่งคนนี้ลงก่อนเข้าเส้นชัยเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น!! แต่จะอย่างไรก็ดีทางนักวิ่งก็ได้คืนถ้วยรางวัลให้กับผู้จัดแล้ว… สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวเน็ตต่างก็มาแสดงความเห็นกันอย่างเต็มไปหมด ซึ่งบางคนก็บอกว่าอย่างนี้มันไม่ได้จริงๆ นะคะขุ่นพี่… . . .…
-
“สาวตาบอด” ดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 อักษร จุฬาฯ นักเขียนผู้ใช้ “ใจ” มองโลก
หากเราลองหลับตาแล้วคิดดูว่าถ้าต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดมิดแบบนั้นไปตลอด มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะว่ามั้ย? แต่แม้จะต้องใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบากมากขนาดไหน หญิงสาวตาบอดที่ชื่อว่า น้องพลอย – สโรชา กิตติสิริพันธุ์ เธอก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า แม้เธอใช้ชีวิตอยู่กับความมือมิด แต่เธอก็สามารถทำตามฝันได้สำเร็จ น้องพลอย หญิงสาวผู้พิการทางสายตาตั้งแต่ยังเด็ก “พลอย จำไม่ได้ว่าเคยมองเห็น ในความทรงจำมีแต่เสียง และประสาทสัมผัสส่วนอื่นที่ไม่ใช่ดวงตา” บทสัมภาษณ์ที่เธอเคยพูดกับทางเว็บไซต์ GOODLIFEupdate.com สิ่งที่ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดมิดอย่างที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ เกิดจากอาการของ “โรคมะเร็งจอประสาทตา” แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น เธอก็ยังคงไม่ยอมแพ้ให้กับโชคชะตาที่เข้ามาเล่นตลกกับชีวิตของเธอ เธอไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะจมดิ่งอยู่แต่กับความเศร้า ส่วนสำคัญนั้นคงต้องขอบคุณ “ครอบครัวของเธอ” ที่คอยมอบความรัก ให้กำลังใจ สนับสนุนให้เธอได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตหลายๆ อย่างไม่ต่างจากคนทั่วๆ ไป หนึ่งในจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้เธอต้องปรับตัวเข้ากับสังคมปกติ นั่นคือตอนที่เธอได้เริ่มเข้าเรียนในโรงเรียนธรรมดา กับการเข้าศึกษาในระดับมัธยมที่ โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ เธอและคุณพ่อ การออกเผชิญโลกกว้างครั้งแรกทำให้เธอรู้สึกกดดันอยู่บ้าง ในขณะเดียวกันเธอก็ได้รับความช่วยเหลือจากคุณครูในโรงเรียน ชีวิตมัธยมของเธอจึงยังคงเต็มไปด้วยความสนุกปนตื่นเต้นเฉกเช่นเด็กคนอื่นๆ เธอได้เรียนรู้ที่จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ได้มีเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ รวมถึงวิชาเรียนต่างๆ ก็ดูน่าสนใจไปซะหมดสำหรับเธอ …
-
ทำความรู้จักกับ ‘ลลิตา ฤกษ์สำราญ’ รองประธานสภาฯ ‘หญิง’ คนแรกและคนเดียวของไทย!!
ในวันนี้ (26 พ.ค.) มีการเปิดสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งวาระในวันนี้ก็คือการลงคะแนนเลือก ‘รองประธานสภาผู้แทนราษฎร’ ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 คน นั่นคือรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ด้วยวาระนี้ช่วงเช้าที่ผ่านมาจึงมีการลงคะแนนเสียงเลือกรองประธานฯ คนที่ 1 กันในสภา ซึ่งผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อก็ได้แก่นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ และผู้ที่ได้รับการออกคะแนนเสียงมากกว่าก็คือนายสุชาติ ตันเจริญ ที่เอาชนะไปด้วยคะแนน 248 ต่อ 246 เสียง ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสังเกตว่ามีแคนดิเดตรองประธานสภาฯ ที่เป็นผู้หญิงด้วยเหรอ!? ซึ่งคำตอบก็คือใช่ และถ้าเกิด น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ชนะขึ้นมา เธอจะกลายเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ที่เป็นผู้หญิงคนแรก โดยก่อนหน้านี้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยเคยมีรองประธานสภาฯ เป็นผู้หญิงมาแล้ว (แต่ทำหน้าที่รองประธานสภาคนที่ 2) และเป็นผู้หญิงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่เคยดำรงตำแหน่งนี้ ชื่อของเธอก็คือ ‘ลลิตา ฤกษ์สำราญ’ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเธอสักนิดแล้วกัน… ลลิตา ฤกษ์สำราญ รองประธานสภาฯ…
-
เปิดใจหนุ่มขับสิบล้อ หนีตาย ‘หัวเครื่องไหม้’ คว้าเหมียวคู่ใจลงมาด้วย ทิ้งเงิน 8,000 ให้ไฟไหม้
กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก กับกรณีของหนุ่มขับรถสิบล้อ หนีตายจากเหตุไฟไหม้หัวเครื่อง แต่ก็ไม่ลืมที่จะคว้าตัวเจ้าเหมียววิ่งลงมาด้วย อ่านข่าวเก่าได้ที่ : หนุ่มขับรถพ่วง 18 ล้อ หนีตาย ‘ไฟลุกท่วมหัวเครื่อง’ แต่ไม่ลืมอุ้มเจ้าเหมียวลงมาด้วย ล่าสุดเว็บไซต์ จส.100 ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ระบุว่าคนขับรถบรรทุก 18 ล้อคนดังกล่าวชื่อว่า นายสัญญา ทองมิตร และเจ้าเหมียวคู่ใจชื่อว่า เจ้าสิบล้อ นายสัญญาเปิดเผยว่าเจ้าสิบล้อนั้นเป็นแมวสายพันธุ์เปอร์เซีย ที่ซื้อมาจากเพื่อน และเลี้ยงดูมานานกว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งเขาก็มักจะพามันไปไหนมาไหนด้วยอยู่ตลอดเป็นเพื่อนเดินทางกัน ขณะเกิดเหตุนายสัญญาเล่าว่าได้ขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อบรรทุกหินมาจาก จ.สระบุรี และจะนำมาส่งแถว ถ.ติวานนท์ แต่ระหว่างทางก็เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากหัวรถบรรทุกก็เลยรีบจอดข้างทาง จากนั้นไฟก็ลุกไหม้ ด้วยความตกใจนายสัญญาก็เลยรีบคว้าตัวเจ้าสิบล้อ พร้อมกับวิ่งหนีตายออกมาจากรถบรรทุกโดยที่ไม่ได้ถืออะไรติดตัวลงมาเลย สักพักไฟก็ลุกไหม้หน้ารถทั้งหมด เงินสดที่อยู่ในรถกว่า 8,000 บาทก็ไม่ได้หยิบลงมาด้วย เพราะว่าเป็นห่วงแมวมากกว่า “ตอนนั้นพอตั้งสติได้ก็ใช้มือถือถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้เป็นหลักฐานให้กับเถ้าแก่ อีกมือก็อุ้มเจ้าสิบล้อเอาไว้กลัวว่ามันจะตกใจวิ่งหนีหายไป” “ผมเลี้ยงมันมาได้ปีกว่าๆ ซื้อมาจากเพื่อน…
-
กลุ่มเด็กแว๊นโดนรวบตัว ‘รุมทำร้าย’ วัยรุ่น 2 คนทั้งๆ ที่ไม่รู้จัก อ้าง โดนมองหน้า-เร่งเครื่องใส่
‘การใช้ชีวิตในสังคม’ บางครั้งมันก็อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แค่จอดรถรอไฟแดงกลางสี่แยกก็อาจจะทำให้คุณ ‘ถูกรุมกระทืบ’ จนสลบไปได้… เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาสำนักข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคราช ได้ทำการจับกุมแก๊งเด็กแว้น 8 คน พร้อมตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 8 คนนั้นอยู่ในช่วงอายุ 16-25 ปี แต่ละคนมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในคืนวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 2.00 น. ของวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 นายวชิรพงษ์ สียงค์พะเนา อายุ 19 ปี และนายชาญณรงค์ งามขุนทด อายุ 19 ปี เหยื่อผู้ถูกทำร้ายร่างกายกำลังขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ช่วงจังหวะที่จอดรอสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางแยกประโดกโคกไผ่ ก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นร่วมกันทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะและลำตัวจนสลบไป มีผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ความยาวประมาณ 22 วินาทีเป็นพยานหลักฐานในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ และนำไปสู่การจับกุมได้ทั้งหมด ผู้ต้องหาให้การว่าไม่ได้รู้จักกับผู้เสียหาย แต่ในช่วงเกิดเหตุนั้นได้นัดเพื่อนๆ…
-
คู่รักตายาย “จับมือเคียงข้างไม่ห่าง” แม้ในตอนสุดท้ายของชีวิต จากโลกนี้ไปในคืนเดียวกัน
เพื่อนๆ คิดว่า “ความรัก” จะอยู่กับเราไปตลอดกาลอย่างที่เคยได้ยินมาหรือเปล่า? คำว่า “รักกันตลอดไป” มันเป็นคำที่เชื่อถือได้จริงๆ มั้ย? จะเป็นไปได้จริงๆ หรือที่เราจะรักใครสักคนไปจนวันตาย…. ถ้าให้พูดจริงๆ แม้แต่ตัว #เหมียวตะปู เองก็ยังคงให้คำตอบในเรื่องนั้นไม่ได้เหมือนกัน อาจด้วยเพราะว่าตอนนี้ คนที่เรารักก็มีเพียงแค่ พ่อแม่ และญาติพี่น้องเท่านั้นเอง หากแต่คู่ครองนั้นยังคงหามีไม่ แต่ถึงแม้เราจะยังคงไม่มีคู่ก็ตาม ทว่าเมื่อได้เห็นภาพของ “คู่รักตา-ยาย” คู่นี้แล้ว ก็อดที่จะซาบซึ้งใจไม่ได้เลยจริงๆ เมื่อช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตมาถึง พวกเขาทั้งสองก็ยังคงอยู่เคียงข้างกัน ภาพที่เราเห็นนั้นได้ถูกแชร์ต่อๆ กันไปในโลกโซเชียลมากกว่า 10,000 ครั้ง เป็นภาพที่แทบไม่ต้องบรรยายด้วยคำพูดใด ก็รับรู้ได้ถึงความรักที่พวกเขาทั้งสองคนส่งถึงกัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Apirat Muntam คือเจ้าของโพสต์ช่วงเวลาอันน่าเศร้า แสนซาบซึ้งของตา-ยายทั้งสองคน หลังจากที่ญาติๆ พบว่าพวกเขาได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ โดยที่ยังคงจับกุมมือของกันและกันเอาไว้ ภาพของตายายในตอนที่ยังมีชีวิต . . จากข้อมูลกล่าวว่าทั้งสองคนได้จากโลกนี้ไปในคืนเดียวกันของวันที่ 25 พฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา โดยคุณตาเสียชีวิตตอนเที่ยงคืนครึ่ง ส่วนคุณยายนั้นเสียชีวิตตอนตี 2…
-
‘ผีน้อย’ ผ่าฟันคุดที่เกาหลี ปวดหัวไม่กล้าบอกใครสุดท้ายเป็น ‘เจ้าหญิงนิทรา’ ญาติวอนช่วยพากลับไทย
เป็นประเด็นที่ต่อเนื่องจริงๆ สำหรับกรณีของ ‘ผีน้อย’ หรือคนที่เข้าไปทำงานในประเทศเกาหลีแบบผิดกฎหมาย ที่เมื่อไม่นานมานี้เราอาจเห็นข่าวกันมาไม่น้อย ซึ่งเรื่องที่เป็นข่าวล่าสุดคือ เรื่องราวของหญิงคนหนึ่งที่ลักลอบเข้าเกาหลีแล้วไป ‘ผ่าฟันคุด’ สุดท้ายสมองบวมเป็นเจ้าหญิงนิทรา ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียู ทางด้านญาติจึงวอนขอความช่วยเหลือส่งเธอกลับมาที่ประเทศไทย!! เรื่องราวเป็นมาอย่างไร รายการทุบโต๊ะข่าวรายงานว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ น.ส.สันท์ฤทัย ชาวจ.อุบลราชธานี ซึ่งเธอไปทำงานในเชิงการเกษตรแบบผิดกฎหมายที่ประเทศเกาหลีมาแล้วประมาณ 1 ปีกว่าๆ แต่ว่าอยู่ในวันหนึ่งเธอเกิดปวดฟันขึ้นมา เลยขอนายจ้างไปทำฟัน (ผ่าฟันคุด) ทว่าหลังจากนั้นเธอก็มีอาการไม่ค่อยสู้ดีนักจนน็อกล้มไปในที่สุด เพื่อนร่วมงานจึงได้ถ่ายภาพมาบอกญาติๆ เพื่อปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรให้เธอสามารถกลับไทยได้ ญาติเล่ารายละเอียด นางราตรี ญาติของ น.ส.สันท์ฤทัย เล่าว่า น.ส.สันท์ฤทัย ไปทำงานเป็นผีน้อยในเกาหลีใต้จริงโดยทำงานในสวนพริก ในวันเกิดเรื่องหลังจากผ่าฟันคุดมา น.ส.สันท์ฤทัยมีอาการเจ็บแผลมาก แต่ไม่กล้าบอกหมอเพราะกลัวเงินไม่พอ อีกทั้งถ้าให้รายละเอียดหมอมากจะกลัวหมอจะรู้ว่าเข้าเมืองผิดกฎหมายและโดนจับส่งกลับไทย จึงทนเก็บความรู้สึกเอาไว้ หลังจากนั้นทันทีที่กลับมาบ้านนายจ้าง เธอก็หมดสติ ปากบวม ตาบวมและศีรษะบวม จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลจึงได้รู้ว่า น.ส.สันท์ฤทัย ‘ติดเชื้อในสมอง’ หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ปัจจุบันยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ในโรงพยาบาล ในขณะนี้ญาติๆ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะพาเธอกลับบ้านได้เพราะไม่มีเงิน จึงได้แต่รอให้ทางสถานทูตประสานงานกับทางการเกาหลี ซึ่งก็ไม่รู้กำหนดว่าเมื่อไหร่และตอนนี้ก็ไม่มียังไม่มีความคืบหน้าใดๆ… …
-
แม่ร้องกรี๊ด ลูกสาวหยิบ ‘ลูกงูเห่า’ เดินออกมาโชว์ พ่อแซวน้องปลอดภัย เพราะรอยสักที่ขา
‘เด็กก็เปรียบเสมือนกับผ้าขาว’ เป็นประโยคที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาบ่อยๆ เพราะยังไม่มีประสบการณ์กับเรื่องต่างๆ จนอาจไม่เข้าใจเรื่องราวได้ดีเท่าผู้ใหญ่ เช่นเดียวกันกับเจ้าหนูน้อยคนนี้ ที่พบ ‘งูเห่า’ อยู่ในห้องนอน แต่ไร้ความเกรงกลัวเดินเข้าไปหยิบยกมาดื้อๆ คนเป็นแม่มาเห็นถึงกับแทบลมจับ รีบบอกลูกว่าให้ปล่อยแทบไม่ทัน!! เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า เรืองชัย สุทธิจันทร์ ได้ทำการแชร์ภาพและเรื่องราวของลูกสาวตัวเอง พร้อมแคปชันว่า “น้ำมนต์จับงูเห่าออกมาจากห้องแม่ วงแตกครับ เธอปลอดภัยเพราะเธอสักยันต์เอง” เด็กหญิงน้ำมนต์บังเอิญเจอลูกงูเห่าตัวเล็กอยู่ในห้องนอน เลยหยิบเดินออกมาจากห้องอย่างหน้าตาเฉย พร้อมกับเรียกให้แม่ดู ฝั่งผู้เป็นแม่พอเห็นภาพดังกล่าวถึงกับกรี๊ดลั่นด้วยความตกใจ รีบเข้ามาช่วยเหลือลูกให้ปล่อยเจ้างูเห่าตัวน้อยโดยด่วน อย่างไรก็ตามเจ้าของโพสต์ระบุว่า น้องน้ำมนต์ เด็กหญิงที่อยู่ในภาพนั้นปลอดภัยดี เพราะ ‘สักยันต์’ เอาไว้ที่ขา ซึ่งพอไปดูที่ขาของน้อง ก็อ่าม… นั่นมันยันต์ปากกาเมจิกนี่นา ยันต์ของน้องน้ำมนต์ที่เขียนเอาไว้ เรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย กลายเป็นกระแสไวรัล ชาวเน็ตต่างก็อดยิ้มและหัวเราะให้กับความน่ารักของน้องไม่ได้ ทั้งในเรื่องของรอยสักเมจิก และในเรื่องของการหยิบลูกงูมาเป็นๆแบบนั้น บางส่วนก็โล่งใจที่น้องไม่เป็นอะไร ก็ถือว่าโชคดีไปเนอะ ที่มา : เรืองชัย สุทธิจันทร์
-
‘มหัศจรรย์กัญชา’ ซิงเกิลใหม่จากคาราบาว หวังเปลี่ยนมุมมอง ‘กัญชา’ จากอดีต
ถ้าพูดถึงตำนานเพลงเพื่อชีวิตในบ้านเรา วง ‘คาราบาว’ คือชื่ออันดับต้นๆ ที่หลายคนรู้จักกัน ซึ่งก็แน่นอนว่าอีกว่าหนึ่งในบทเพลงที่ฮิตติดหูกันทั้งบ้านทั้งเมือง ก็คือเพลงที่มีเนื้อร้องว่า ‘เส้นทางสุดท้าย นอนตายใต้ต้นกัญชา’ ใช่แล้วเพลงที่ว่านี้คือเพลง ‘กัญชา’ นั่นเอง หากใครที่ฟังกันแล้วก็คงจะสัมผัสได้ว่าเนื้อเพลงภายในเพลงนี้ เป็นการสื่อถึงพิษร้ายอันตรายของกัญชา ที่ทำให้มีความสุขเคลิบเคลิ้มในช่วงแรก ก่อนที่จะค่อยๆ มีอาการซึมเศร้าและมีภาพหลอนเกิดขึ้นในเวลาต่อมา แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้วงคาราบาว ก็เพิ่งจะทำเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ‘กัญชา‘ ขึ้นมาอีกรอบ แต่ว่าคราวนี้เป็นเพลงหลังจากที่น้าแอ๊ด คาราบาว ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับกัญชามาแล้วพบว่ามีประโยชน์ บทเพลง ‘มหัศจรรย์กัญชา’ จึงเกิดขึ้นมาเพื่อหวังจะแก้ไขมุมมองที่เกี่ยวกับพืชชนิดนี้จากเมื่อครั้งอดีต เพลงมหัศจรรย์กัญชา ที่เพิ่งออกมาไม่ถึงเดือนก็ได้ไปแล้วล้านวิว!! คำอธิบายของเพลงนี้เขียนเอาไว้ประมาณว่า น้าแอ๊ดได้เข้าศึกษาเกี่ยวกับกัญชาจากอาจารย์เดชา ศิริภัทร ผู้บุกเบิกแนวทางเกษตรกรรมทางเลือก แล้วก็ได้เห็นคุณค่าของพืชชนิดนี้ จึงได้สร้างเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อหวังจะแก้ไขที่เคยมองกัญชาผิดไป และส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสรักษาอาการโรคร้ายที่รุมเร้าด้วยสรรพคุณของพืชเศรษฐกิจชนิดนี้นั่นเอง หลังจากเพลงนี้ถูกปล่อยออกไป ชาวเน็ตก็มาแสดงความคิดเห็นกันอย่างท่วมท้น บางคนก็เห็นด้วยกับเพลงนี้ ขณะเดียวกันบางคนก็บอกว่าถึงกัญชาจะเป็นยา แต่ก็ต้องนำมาใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ด้วย . . . ที่มา:…
-
ค่าหัว 5 ดาวแน่!! หนุ่มขโมยรถตำรวจ ซิ่งไกล 100 กิโล สอยเสาไป 3 ต้น ให้การมึนๆ
เพื่อนๆ หลายคนอาจรู้จักกับเกมดังอย่าง GTA ที่มีออกมาให้เล่นมากมายหลายภาค เปิดโอกาสให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ จะออกไปขโมยรถ ขับซิ่งชนไฟฟ้าเป็นสิบๆ ต้นก็ยังได้เล๊ยยยย!! ไม่รู้ว่าพ่อหนุ่มคนนี้แกเคยเล่นเกมดังกล่าวมาก่อนหรือเปล่านะ แต่การกระทำของพี่แกนี่ช่างคล้ายคลึงกับการเล่นเกมนั้นมากๆ เลย ต่างกันตรงที่พี่แกดันมาทำในชีวิตจริงเท่านั้นเอง หน้าตาของเกม GTA เกิดอะไรขึ้นกันหว่า?? เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 26 พ.ค. 2019 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พวกเขาได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์ชนเสาสัญญาณจราจรและเสาไฟฟ้า ในพื้นที่ ต.วังตะกอ จนเมื่อไปถึงยังจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พบกับฉากที่บอกได้ในทันทีว่า “นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุทั่วๆ ไป” อย่างแน่นอน เพราะรถยนต์คันดังกล่าวนั้นเล่นสอยเสาสัญญาณจราจรล้มไปตั้ง 3 ต้น ข่าวที่เกิดขึ้น จากรายการ ข่าวอรุณอมรินทร์ . ถึงตอนนั้น ตำรวจก็อาจคิดว่าคนขับนี่คงต้องเป็นคนระห่ำมากแน่ๆ แล้วพวกเขาก็ได้พบกับรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ อยู่ในสภาพพังยับ แทบจะมองเป็นซากรถไปแล้วด้วยซ้ำ ความพีคกว่าสภาพรถที่พังยับเยินนั้นก็คือ มันเป็น “รถกระบะตราโล่” หรือพูดง่ายๆ…
-
โซเชียลเดือดชาวเน็ตโชว์เผาเสื้อทีมบุรีรัมย์ หลัง ‘อนุทิน’ ตบปากรับคำร่วม ‘พลังประชารัฐ’
เรื่องของการบ้านการเมืองยังคงเป็นประเด็นที่ร้อนแรงซะจนหาน้ำมาดับแทบไม่อยู่ ซึ่งหลังจากที่เมื่อวานมีการเปิดสภาผู้แทนราษฎรกันไป ก็มีอีกหนึ่งเรื่องพีคทีเกิดขึ้นในช่วงค่ำ นั่นคือการที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้ทางพรรคภูมิใจไทยได้ตอบตกลงร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ แล้ว เหลือเพียงการตกลงเงื่อนไขบางอย่างเท่านั้น การออกประกาศเช่นนี้ทำให้มีหลายคนรู้สึกไม่พอใจ สังเกตได้จากที่ตอนนี้ในโลกโซเชียลมีการพูดถึงเรื่องนี้กันไปทั่ว และที่มากกว่าพูดก็คือ มีบางคนนำเสื้อบอลของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาเผาแทนการระบายความแค้นซะเลย… เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาเพจ ฉันชอบดูนางงาม ได้แชร์คลิปของชาวเน็ตคนหนึ่งที่เอาเสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาเผาทิ้งหลังจากการประกาศของนายอนุทินไม่นาน นอกจากคลิปการเผาเสื้อนี้แล้วก็ดูเหมือนกับว่า ยังมีบางส่วนตามไปที่เพจอนุทิน ชาญวีรกูล พูดถึงความรู้สึกหลังจากรู้ข่าวนี้ อย่างเช่นในโพสต์หนึ่งที่เป็นภาพบัตร ส.ส. ก็โดนชาวเน็ตถล่มซะเละเช่นกัน ตัวอย่างของความเห็นชาวเน็ตภายในโพสต์นี้ . . . รุนแรงเหลือเกิน… ที่มา: ฉันชอบดูนางงาม, อนุทิน ชาญวีรกูล
-
ช็อตเด็ด!! การเสนอ “เลื่อนเลือกประธานสภาฯ” กับเหตุผลที่ทำเอาคนข้างหลังทำตัวไม่ถูก
เมื่อวานนี้ (25 พ.ค. 2019) เพื่อนๆ ก็คงจะได้ชมบรรยากาศ “การประชุมสภาผู้แทนราษฎร” กันไปแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่ามันช่างเป็นอะไรที่ดุเดือดเลือดพล่าน ตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่อยากพลาดสักช่วงเลย อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: สรุปจัดเต็ม “การประชุมสภาชุดที่ 25” ครั้งแรก มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ตั้งแต่เช้าจนได้ “ประธานสภา” แต่นอกจากเหตุการณ์การถกเถียงกันอย่างดุเดือดแล้ว วันนี้เราก็อยากจะขอเก็บตก “ความฮา” ที่เกิดขึ้นในสภามาสักเล็กน้อย หลังจากที่มีคุณผู้ชมตาดีแอบสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเข้าระหว่างการถ่ายทอดสด ช่วงจังหวะเรียกรอยยิ้มที่เราพูดถึงนั้นเกิดขึ้นในตอนที่ นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เขาได้ขึ้นเสนอว่า “ขอให้เลื่อนการเลือกประธานสภาฯ ไปก่อน” นายสุรทิน ให้เหตุผลว่า “ตนเองเป็น ส.ส. ใหม่ที่เพิ่งเข้าสภา จึงอยากศึกษาข้อบังคับสภาให้ชัดเจนเสียก่อน อยากศึกษาหน้าตาของผู้แทนราษฎรบ้าง ยอมรับว่ายังไม่รู้จักพรรคพวกดีพอ ในการเลื่อนครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เสียหาย” นายสุรทิน ผู้เสนอ “เลื่อนการเลือกประธานสภาฯ” คำพูดที่ว่านั้นยังไม่ใช่ประเด็นหลักที่เราจะมาโชว์ให้เพื่อนๆ เห็น แต่ของจริงมันอยู่ที่ตรงด้านหลังของ นายสุรทิน ระหว่างที่เขาพูดอยู่นั่นต่างหากล่ะ…
-
สรุปจัดเต็ม “การประชุมสภาชุดที่ 25” ครั้งแรก มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ตั้งแต่เช้าจนได้ “ประธานสภา”
25 พฤษภาคม 2562 นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวันที่ถือเป็นประวัติศาสตร์ของชาติไทย เพราะวันนี้เป็นวันเปิดสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ซึ่งนับได้ว่าเป็นการประชุมสภาชุดที่ 25 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 หากใครติดตามข่าวในวันนี้ก็อาจจะรู้ดีว่าเกิดเหตุการณ์มากมายขึ้นในสภาตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามข่าวล่ะก็ เตรียมน้ำเตรียมขนมมาให้พร้อมเลยละกัน เพราะเดี๋ยว #เหมียวจิวยี่ จะมาร่ายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในสภาวันนี้!! เปิดสภา!! ในวันที่ 25 พ.ค. เวลา 09.30 น. ถึงเวลาอันสมควรแก่การเปิดสภา ณ หอประชุมทีโอที แจ้งวัฒนะ ในการเปิดสภาครั้งนี้มีสมาชิกผู้แทนราษฎรเข้าร่วม 498 คนในจำนวนนี้รวมถึง ‘นายธนาธร จึงรุ่งเรืืองกิจ’ จากพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. เป็นการชั่วคราว เชิญ ‘ชัย ชิดชอบ’ ขึ้นเป็นประธานสภา รวมทั้งนำปฏิญาณตน หลังจากเข้าสภาได้มีการเชิญนายชัย ชิดชอบ จากพรรคภูมิใจไทย ขั้นมาทำหน้าที่เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว เนื่องจากเป็น ส.ส. ที่มีอายุมากที่สุด ตามข้อบังคับการประชุมปี…
-
รู้จักกับ ‘ครูอุ้ม’ สาวสวยว่าที่ ‘ดร.’ ละทิ้งความสบาย ขึ้นไปสอนหนังสือให้กับเด็กบนดอย
คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะตัดสินใจ “ละทิ้งความสะดวกสบาย” แล้วมุ่งหน้าไปทำหน้าที่อันยากลำบาก ถึงแม้ว่ามันอาจจะดูเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อจิตใจของเรามุ่งมั่นที่จะทำอย่างนั้นเพื่อ “มอบความสุขให้กับผู้อื่น” แล้วล่ะก็ ภาพที่ได้เห็นก็คงจะเป็น “รอยยิ้ม” จากคนรอบข้างและตัวเราเอง ขอชวนให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับ ครูอุ้ม สาวสวยผู้ละทิ้งความสบาย ขึ้นไปสอนเด็กบนดอย . ครูอุ้ม (สุทธิลักษณ์ กันธิพันธ์) เธอคือคุณครูสาวที่อาจเรียกได้ว่า “สวยทั้งกายและใจ” เมื่อเธอตัดสินใจทิ้งความสะดวกสบายเอาไว้เบื้องหลัง หันหน้าขึ้นไปเผชิญความยากลำบากกับการสอนเด็กบนดอย เธอคนนี้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาเอกสอนภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และจบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาการบริหารและการจัดการการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา ปัจจุบัน เธอกำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยพะเยา ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่เป็นคุณครูสาวสวย อยู่ที่ โรงเรียนบ้านป่าเมี่ยงแม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย อย่างที่เราเห็นว่าประวัติการศึกษานั้นคงทำให้เธอสามารถเข้าสอนในโรงเรียนชื่อดังหลายๆ แห่งได้ไม่ยากนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกที่จะเดินทางขึ้นไปสอนโรงเรียนบนดอย ห่างไกลความเจริญ แน่นอนว่าความยากลำบากที่เธอต้องเจอในช่วงแรกนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ไม่ได้มีเทียบเท่ากับการใช้ชีวิตในเมือง การต้องห่างบ้านไปไกล ในขณะที่สัญญาณมือถือให้ติดต่อหากันก็แทบไม่มี ทักษะที่เธอต้องมี คือการต้องขี่มอไซไปตามทางดิน…
-
อดีตนายสิบร้องทุกข์ ติดคุกคดี ‘รุมข่มขืนสาว 14’ ศาลยกฟ้อง แต่ต้องเผชิญกับบาปที่ไม่ได้ก่อ
บางครั้ง ‘ความผิดพลาด’ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรม อาจจะทำให้ชีวิตของใครบางคนต้องพบกับความทุกข์ ราวกับตกนรกทั้งเป็นเลยก็เป็นได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่ออดีตทหารหนุ่มคนหนึ่งออกมาร้องทุกข์ ถูกกล่าวหาว่ารุมโทรมเด็กสาววัย 14 ปีที่ จ.เชียงราย แต่ไม่พบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งศาลก็ยกฟ้องไปแล้ว แต่พอพ้นมลทินชีวิตกลับต้องเผชิญกับ ‘บาป’ ที่ตนไม่ได้ก่อเอาไว้ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ส.อ.ชลกร พันธุ์สอาด ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่าต้องเผชิญกับช่วงชีวิตอันแสนทุกข์ใจ . ภาพข่าวหน้าหนึ่งที่เป็นประเด็น . เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 (วันเดียวกัน) ส.อ.ชลกร ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง รายการทุบโต๊ะข่าว ของช่องอมรินทร์ทีวี เปิดใจเล่าเหตุการณ์ว่า… เมื่อปี 2558 ในคืนเกิดเหตุเมื่อเวลาราวๆ 16.00 น. รุ่นพี่ได้ชวนตนไปกินเหล้า ตนเองจึงไปกินเหล้าบ้านรุ่นพี่คนดังกล่าวรวมแล้ว 4 คน หลังจากนั้นก็มีเสียงเรียกเข้า รุ่นพี่ได้คุยโทรศัพท์มือถือก่อนที่จะวางสายไป แล้วรุ่นพี่ก็บอกกับตนว่าจะมีน้องๆ มานั่งกินด้วยจะได้ไหม? ก็เลยตอบว่ามาได้…
-
ศิษย์เก่าพิษณุโลกพิทยาคมแค้นหนัก รวมตัว ‘เผาพริกเผาเกลือ’ ประณาม ‘มงคลกิตติ์’
เรียกได้ว่ามีประเด็นให้พูดถึงกันทุกวันสำหรับ ‘นายมงคลกิตติ์’ หรือตี๋เต้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคไทยศีวิไลย์ ที่หากยังจำกันได้เมื่อครั้งก่อนเขาเคยพูดออกสื่อถึงเรื่องสมัยเป็นนักเรียนวัยรุ่น ที่มีการตีรันฟันแทงไปทั่วโดยมีการพาดพิงถึงสถาบันต่างๆ นายมงคลกิตติ์ เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้ทำให้สถาบันทั้งส่วนที่เป็นโรงเรียนรวมถึงมหาวิทยาลัยไม่พอใจ และล่าสุดความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ก็คือศิษย์เก่าโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคมที่เขาเคยเรียน ได้ออกมา ‘เผาพริกเผาเกลือ’ ประณามเขาแล้ว!! เว็บไซต์มติชนได้รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (25 พ.ค.) ศิษย์เก่าโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม หรือ พ.พ. ได้รวมตัวกันที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในพระราชวังจันทน์ โดยกิจกรรมที่กลุ่มศิษย์เก่าได้ทำ ณ ที่นี้ก็คือการชูป้ายที่เขียนประณาม รวมทั้งทำพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งนายนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่เคยเป็นนักเรียนโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ส่วนเหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็คือ ความที่ก่อนหน้านี้นายมงคลกิตติ์ได้เล่าถึงชีวิตของตนสมัยมัธยม ซึ่งในถ้อยคำเหล่านั้นได้กล่าวพาดพิงว่าในสมัยเรียนมัธยม มียาบ้า มีแก๊งนักเลงอันธพาลอยู่เต็มไปหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ศิษย์เก่าของโรงเรียนแห่งนี้รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก และได้รวมตัวกันประณามอีกทั้งยังเรียกร้องให้เขาออกมาแก้ข่าวอธิบายข้อเท็จจริงนั่นเอง ที่มา: มติชน, phitsanulokhotnews
-
เจ้าหมูเศร้านอนเฝ้าหน้าโลงศพเจ้าของที่เสียชีวิต ทำเอาชาวเน็ตเห็นต่างสงสาร…
นับได้ว่าเป็นเรื่องที่สามารถเรียกทั้งรอยยิ้มและความเศร้าได้ในคราเดียวกัน เมื่อเจ้าหมูตัวหนึ่งรู้ว่าเจ้าของของมันได้จากไปแล้ว มันจึงไปนอนเฝ้าอยู่หน้าโลงศพของเจ้าของสร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ทองสุข สิงห์พิมพ์ ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าหมูตัวนี้ลงในกลุ่มสถานีข่าว @ ปราจีนบุรี โดยมีใจความว่าผู้สื่อข่าว (ตัวเขาเอง) ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่งใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อไปถึงก็เจอเข้ากับเจ้าหมูเพศเมียสีขาว-ดำ หนักประมาณ 200 กิโลกรัมนามว่า ‘เจ้าเตี้ย’ ป้วนเปี้ยนๆ อยู่แถวหน้าโลงศพ ซึ่งศพที่อยู่ภายในโลงนั้นก็คือเจ้าของของมันนั่นเอง… จากการสอบถามจากนายสันติภาพ ลูกชายของผู้ตายก็ได้ความว่า พ่อของเขามีชื่อว่านายอเนก เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีเจ้าเตี้ย หมูที่พ่อเลี้ยงไว้ตั้งแต่เล็กมานานเฝ้าหน้าโลงศพ ส่วนทางด้านนางเกษร ภรรยาของผู้ตายก็เล่าว่า สามีของตัวเองเสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว และได้ตั้งสวดศพอภิธรรมไว้ที่บ้าน ซึ่งระหว่างนี้ด้วยความผูกพันเจ้าเตี้ย ก็มานอนเฝ้าหน้าโลงทั้งในกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้เธอยังเล่าว่า สามีของเธอทำงานอยู่ที่เรือนจำฉะเชิงเทราและได้เกษียณอายุเมื่อปีที่แล้ว แต่สำหรับเจ้าหมูตัวนี้ได้ซื้อมาจากสวนจตุจักรเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา จนโตตัวใหญ่อย่างที่เห็น สำหรับนิสัยใจคอของเจ้าเตี้ยก็มีนิสัยน่ารัก ขี้อ้อนสังเกตได้จากความที่มันมักจะมานั่งแทรกอยู่เสมอ และเมื่อคืนนี้ก็เหมือนกับรับรู้ว่าเจ้าของไม่อยู่อีกแล้ว จากความที่มักจะมานั่งป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ โลงศพสร้างความสงสารกับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก…
-
หนุ่มขับรถพ่วง 18 ล้อ หนีตาย ‘ไฟลุกท่วมหัวเครื่อง’ แต่ไม่ลืมอุ้มเจ้าเหมียวลงมาด้วย
สำหรับทาสแมวทั้งหลาย จะรู้กันดีว่า ‘แมว’ ก็เปรียบเสมือนกับเจ้านายที่ต้องยอมตายถวายชีวิตให้ เช่นเดียวกันกับคุณพี่พนักงานขับรถสิบล้อท่านนี้ ที่ต้องอุ้มเจ้าเหมียวหนีลงมาจาก ‘รถบรรทุก’ ที่ไฟลุกท่วม โดยทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่แมว และโทรศัพท์ 1 เครื่องเท่านั้น เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก กลุ่มคนอาสา กู้ชีพ กู้ภัย Thailand ได้เปิดเผยภาพและเรื่องราวของพี่พนักงานขับรถบรรทุกคนดังกล่าว เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาราวๆ 11.10 น. บนถนนติวานนท์ แยกบ้านกลาง ตำบลบางพูน อำเภอเมือง ปทุมธานี ขณะที่พนักงานขับรถพ่วง 18 ล้อมาตามทาง จู่ๆ ก็เกิดเหตุเพลิงลุกท่วมบริเวณหัวเครื่องอย่างรวดเร็ว ทำให้พนักงานขับรถบรรทุกต้องรีบวิ่งหนีตายลงมาจากรถ แต่ก็ไม่ลืมที่จะคว้าตัวของเจ้าเหมียวคู่ใจลงมาด้วย โชคดีที่ทั้งสองชีวิตปลอดภัย และไม่มีใครได้รับอันตราย แต่ภาพเหตุการณ์ก็ทำให้เรารู้สึกใจหวิวๆ อยู่เหมือนกัน เพราะพี่คนขับรถบรรทุกและเจ้าเหมียว ได้แต่ยืนมองอุปกรณ์หากินของตัวเองกำลังไหม้ไปกับตา โดยที่ทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย . . โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ลงไปได้ไม่นานก็มีคนเข้ามากดไลก์กว่า…
-
ชาวบ้านขอคัดค้าน ‘การจะทำเหมืองแร่ถ่านหิน’ ในเชียงใหม่ กระทบทั้งคนและสิ่งแวดล้อม
สำหรับช่วงนี้ เชื่อว่าพวกเราแทบทั้งหมดอาจมุ่งความสนใจไปที่ “การเปิดประชุมสภา” ซึ่งอาจถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ของการเมืองไทยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ณ พื้นที่อันห่างไกลแห่งหนึ่งของประเทศไทย คนในพื้นที่นั้นก็กำลังเกิดข้อถกเถียงกันถึงเรื่องที่เราอาจไม่เคยรับรู้กันมาก่อน กับ “การยื่นคำขอประทานบัตรเหมืองแร่ถ่านหิน” กลุ่มชาวบ้านแถลงการณ์ คัดค้านการขอประทานบัตรเหมืองแร่ถ่านหิน เกิดอะไรขึ้น ณ ที่แห่งนั้น… นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน บ้านกะเบอะดิน หมู่ 12 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เมื่อ บริษัท 99 ธุวานนท์ จำกัด ได้มี “การยื่นคำขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ถ่านหิน” จากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ โดยเนื้อที่ที่ร้องขอนั้นจดทะเบียนเอาไว้ที่ประมาณ 284 ไร่ 30 ตารางวา ซึ่งคำขอนั้นก็ทำให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐนำเรื่องไป “ปิดประกาศ” ณ ที่ว่าการอำเภออมก๋อย ในวันที่ 26 เมษายน 2019 ประกาศข้อมูลการยื่นคำขอดังกล่าวก็ได้ถูกพูดถึงต่อๆ กันไป ประชาชน ชาวบ้านในพื้นที่นั้นได้รับรู้ถึงข้อมูลนี้แล้วก็มองว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนั้นร้ายแรงเกินกว่าที่พวกเขาจะรับได้ จึงออกมาคัดค้านในเรื่องนี้ ภาพตัวอย่างการทำเหมืองแร่ ในพื้นที่อื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้น …
-
หนุ่มสาวซื้อแก้วลาย ‘โดราเอมอน’ มาขายต่อ ถูกตำรวจจับข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์
เรื่องของ ‘ลิขสิทธิ์’ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่เอาจริงๆ แล้วมันใกล้ตัวของเรามากกว่าที่เราคิดมาก เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อหญิงสาวท้องแก่ใกล้คลอดรายหนึ่งไปรับสินค้าลาย ‘โดราเอมอน’ มาขายต่อให้กับลูกค้า แต่โดนจับเพราะข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ซะอย่างนั้น!? เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์ ข่าวช่องวัน รายงานว่านายประพจน์ เอื้อวิไลเลิศ ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทแอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้มาปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ นายประพจน์ เอื้อวิไลเลิศ ได้นำตัวนายทศพล วัย 28 ปี และนางจริยา วัย 29 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง หลังจากมีสินค้าที่มีรูปโดราเอมอน มาขายแบบไม่ถูกลิขสิทธิ์ ทางด้านนางจริยาผู้ต้องหา ได้ให้การว่า ตนเป็นแม่ค้าออนไลน์ ได้ขายของให้กับลูกค้าที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า เกศรินทร์ เป็นแก้วน้ำลายโดราเอมอน 7 ชุด ราคา 2,600 บาท มีค่ามัดจำ 1,000 บาท…
-
ซ้ำรอย!! เจ้าของห้องช้ำ ‘ห้องเช่า’ สุดเขรอะ เผยคนเช่าก็ดูสะอาดเรียบร้อยแต่งตัวดี!!
ปัญหาเรื่องผู้เช่ามหาภัยยังคงเป็นเรื่องที่มีให้เห็นกันอยู่ตลอด และก็สร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของห้องเช่ามาแล้วไม่น้อย ซึ่งในคราวนี้ก็เช่นเดียวกันเมื่อมีเจ้าของห้องคนหนึ่งเข้าไปตรวจดูห้องพักแล้วก็ถึงกับอึ้ง โดยเฉพาะส่วนของห้องน้ำ เป็นอะไรที่ใครเห็นแล้วต้องชีช้ำกะหล่ำปลีแบบสุดๆ!! จุดที่หนักที่สุดของห้องพักแห่งนี้… เฟซบุ๊ก Nathalie Ruangdet ได้โพสต์บอกเล่าถึงเรื่องราวที่ประสบกับตัวเอง โดยเริ่มเล่าว่าตัวของเธอมีห้องเช่าขนาดเล็กอยู่ย่านถนนรามคำแหง และปล่อยให้เช่ากับคนคนหนึ่งมานานกว่า 9 ปีแล้ว แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ผู้เช่าก็โทรศัพท์มาหาแจ้งว่าขอย้ายออกโดยไม่ขอค่ามัดจำคืน พร้อมทั้งเอากุญแจฝากไว้กับ รปภ. ของตึกด้วย ในเช้าวันที่ 22 พ.ค. จึงเข้าตรวจดูสภาพห้อง ก่อนที่จะเจอกับเรื่องสุดช็อกเข้า เพราะห้องเช่าห้องนี้มีสภาพที่ดูไม่ค่อยจืดนัก โดยเฉพาะบริเวณ ‘ห้องน้ำ’ ที่เจ้าของบอกว่าเหมือนไม่เคยทำความสะอาดมาตลอดระยะเวลาที่พักอาศัยอยู่เลย… ภาพอื่นๆ ภายในห้อง . . . . . . อย่างไรก็ตามทางเจ้าของก็ห้องเล่าว่า โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าผู้เช่าคนนี้เป็นคนที่อัธยาศัยดี นิสัยพอใช้ได้ อีกทั้งยังเคยแนะนำเรื่องดีๆ ให้อย่างมากมาย รวมไปถึงเวลาในการจ่ายค่าเช่าก็ชำระตรงมาตลอด แม้ว่าเดือนไหนที่ไม่มีก็จะโทรมาแจ้งเสมอว่าอาจจะจ่ายช้า หรือบางทีก็จ่ายรวบทีเดียวเลย 3 เดือน ตลอดระยะเวลา 9 ปีมานี้ไม่เคยผิดคำพูดแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนบุคลิกส่วนตัวของผู้เช่าก็สุภาพเรียบร้อย แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ยิ่งมาทราบเพิ่มเติมว่ามีอาม่ามาอาศัยอยู่ด้วยปีหลังๆ…
-
คุณยายทำบัตร ATM หายแถวพระโขนง แค่ 3 วันเงินโดนกดไป 150,000 บาท โซเชียลเร่งหาตัว!!
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่อาจทำให้เราระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังใส่ใจกับการดูแลรักษา ‘บัตรเอทีเอ็ม’ ให้อยู่ใกล้ๆ ตัวตลอดเวลา เพราะว่าเมื่อไม่นานมานี้มีทวีตหนึ่งได้เผยว่า คุณยายของเจ้าของทวีตได้ทำบัตรเอทีเอ็มหาย แล้วพอมีคนเก็บไปได้ก็เอาไปกดเงินนับแสนบาท กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว… ทวิตเตอร์ @wannaone11_KDN ได้โพสต์ถึงเรื่องราวสุดเจ็บปวดหัวใจของคุณยายของเธอ โดยเริ่มต้นเล่าว่าคุณยายทำบัตรเอทีเอ็มของธนาคารหนึ่งหล่นหายแถวๆ บริเวณพระโขนง พร้อมทั้งมีการจดรหัสไว้กับเศษกระดาษหลังบัตรด้วยเพราะคุณยายขี้ลืม หลังจากนั้นก็มีคนเก็บได้และเอาไปกดเงินเริ่มจากวันที่ 23 เม.ย. จนถึงวันที่ 25 เม.ย. นับเป็นเวลา 3 วันกว่าที่คุณยายจะรู้ตัวว่าบัตรเอทีเอ็มหายไป ซึ่งใน 3 วันนี้เงินในบัญชีก็หายไปแล้วกว่า 150,000 บาท เมื่อรู้ถึงเรื่องราวดังกล่าวคุณยายก็แจ้งอายัดพร้อมกับแจ้งความ จนในที่สุดแล้วก็นำเรื่องไปขอดูกล้องจากหน้าตู้เอทีเอ็มของธนาคาร แล้วโฉมหน้าของคนที่เก็บบัตรไปกดเงินก็ปรากฏออกมา ซึ่งก็คือคุณลุงคนหนึ่ง รบกวนช่วยรีทีนะคะ ยายเราทำบัตร atm หล่นหายแถวพระโขนง (ยายแก่แล้วเลยต้องจดรหัสใส่เศษกระดาษด้านหลัง) เสร็จแล้วมีคนนำไปกดวันที่ 23 เม.ย. ยายจะไปกดเงินวันที่ 25 เลยพึ่งรู้ว่าบัตรหาย ได้อายัดและเอาสมุดไปอัพ (1) #ทวิตดีคนรีน้อย #ตามหา #ข่าวทั่วไป pic.twitter.com/b4anofxNPI — 👑…
-
ประเดิม “มุกอาหารญี่ปุ่น” จงเปลี่ยนอาหารไทยให้มีกลิ่นอายเจแปน เอ้า ฮาสิครับรอไร!?
ในช่วงที่ข่าวสารบ้านเมืองดูเหมือนจะเต็มไปด้วยเรื่องราวอันเคร่งเครียดแบบนี้ #เหมียวตะปู ก็หวังว่าเพื่อนๆ จะไม่เครียดกันจนเกินไปเสียก่อนนะ…. เพื่อเป็น “การคลายเครียด” เราจึงขอนำเสนอคอนเทนต์ความฮาความเกรียนของเหล่าชาวเน็ต จากเพจ โดนไล่มาเล่นในกรุ๊ป ซึ่งบอกเลยว่าแค่เปิดประเด็นมาก็ฮาแล้ว ชาวเน็ตคนหนึ่งแกดันเกิดไอเดีย “มาเล่นมุกอาหารญี่ปุ่นกัน!!” หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่า “จินตนาการ” หรือ “ความเกรียนขั้นเทพ” ของเหล่าชาวเน็ตกันแน่ ที่ทำให้พวกเขาแห่เข้ามาสาดความฮาให้กับทุกคนได้มากขนาดนี้ คือไม่รู้จะพูดยังไง #เหมียวตะปู ตื่นมาอ่านตั้งแต่ตี 5 ตอนนี้ยังฮาไม่จบไม่สิ้นเลย ไม่เชื่อก็ลองไปดูกันเองเลยจ้าาา แนะนำว่าต้องพยายามอ่านออกเสียงสำเนียงญี่ปุ่นกันด้วยนะ . เว้นวรรคดีๆ นี่เหมือนชื่อดาราญี่ปุ่นเลยนะ เปรี้ยวปากเลยจ้ะ สำหรับคนชอบของหวานนะ . เอ่อ… คือ…. แล้วจะไปต่อยังไงดีล่ะ . . เช้าๆ นะ ฮาตรงบอกให้ดูดน้ำหมึกนี่แหละ . . อ่าห์… ดริฟท์ ดริฟท์ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ…
-
ทหารเปิดค่ายพาดูจุด ‘ทหารเกณฑ์’ เสียชีวิตในค่าย ด้านครอบครัวยังเดินหน้าหาความจริง
จากกรณีที่ทหารเกณฑ์คนหนึ่งเสียชีวิตในค่าย นำไปสู่การสืบหาความจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิต เพราะทางญาติๆ ไม่เชื่อกับสาเหตุที่ทางค่ายแจ้ง อ่านข่าวเก่าได้ที่ >> สรุปประเด็น: หนุ่มไปเกณฑ์ทหาร 11 เดือน เสียชีวิตในค่าย พ่อคาใจร้องทุกข์ ล่าสุดทางค่ายได้พาญาติของผู้ตายเข้าดูจุดเกิดเหตุที่คาดว่าพลทหารคนนี้จะเสียชีวิตแล้ว… เรื่องราวคร่าวๆ เบื้องต้น พลทหารลือชานนท์ นันทบุตร (นนท์) อายุ 22 ปี ตัดสินใจสมัครไปเป็นทหารเกณฑ์ได้ 11 เดือน สังกัดค่ายกองพันทหารสารวัตร สำนักกองบัญชาการกองทัพไทย และเสียชีวิตจากเหตุถูกไฟฟ้าช็อตและตกลงมาจากตึกความสูง 6 ชั้น ทว่าต่อมาทางด้านคุณพ่อคำแพงไม่เชื่อถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย จึงออกมาเรียกทุกข์ให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำบางอย่าง พาญาติไปดูจุดเกิดเหตุแล้ว ในช่วงเช้าของวันนี้เพจบิ๊กเกรียน ได้เปิดเผยว่าทางค่ายกองพันทหารสารวัตร(สห) ได้พาคุณพ่อและญาติๆ ดูจุดเกิดเหตุที่คาดว่านายนนท์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ภาพที่ทางเพจโพสต์เอาไว้ . . . . . . สาเหตุของความเคลือบแคลงใจ จากความที่บริเวณระเบียงของชั้น 3 มีรอยเลือดและนำเถ้าถ่านมาโรยกลบรอยเลือดไว้ ผนวกกับถามเพื่อนทหารของลูกชายก็ได้รับคำตอบไม่ตรงกัน…
-
ความเห็นสุดฮา หลัง “พี่เต้” ขอเซลฟี่ “พี่เอก” พร้อมแคปชั่น “เมื่อ 2 ตี๋มาพบกัน”
เรียกได้ว่าร้อนแรงจริงๆ กับ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ส.ส. บัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่ง และได้รับตำแหน่ง ส.ส. เพียงหนึ่งเดียวเข้าไปทำหน้าที่ในสภาอีกด้วย ซึ่งในวันนี้ (24 พฤษภาคม 2562) ก็ถือเป็นพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ที่จัดขึ้น ณ อาคารวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ก่อนพิธีจะเริ่มก็กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันไปทั่วโซเชียล เมื่อนายมงคลกิตติ์ เดินไปขอจับมือกับนายวัน อยู่บำรุง ส.ส. ของพรรคไทยรักไทย แต่ถูกปฏิเสธไป ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันดูครับ แล้วเหตุการณ์กลายเป็นประเด็นที่ชาวโซเชียลต่างก็แซวกันไป บ้างก็บอกว่าถึงกับหน้าแตกหมอไม่รับเย็บกันเลยทีเดียว ก่อนที่เหตุการณ์จะดำเนินผ่านไปแบบเจื่อนๆ หลังจากที่ช่วงพิธีการจบลง ก็มีกลายเป็นกระแสอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมงคลกิตติ์โพสต์ภาพถ่ายเซลฟี่ร่วมกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ลงเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมกับแคปชันว่า “เมื่อ 2 ตี๋มาพบกัน ตี๋เต้ กับ ตี๋เอก” ปรากฏว่าโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ลงไปแค่ 1 ชั่วโมงก็มีคนมากดไลก์กว่า 5,100…
-
เปิดประวัติ “แก๊สน้ำตา” จากอาวุธสงคราม สู่สิ่งที่ใช้ปราบปรามจลาจลทั่วโลก
ในทุกครั้งทุกคราที่มีจลาจล ‘แก๊สน้ำตา’ คือสิ่งแรกๆ ที่ผู้คนต่างก็นึกถึง แต่ว่าถ้าหากใครยังไม่รู้จักกับเจ้าอาวุธชนิดนี้ว่ามันคืออะไร มีที่มาที่ไปยังไง คุณเข้ามาถูกที่แล้วเพราะเราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับมันกัน!! มันถูกเอาเข้ามาใช้ครั้งแรกเมื่อไหร่กันนะ!! เอาจริงๆ แล้วถ้าจะย้อนถึงวันที่ ‘แก๊สน้ำตา’ ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกของโลกต้องย้อนกลับไปถึงปี 1914 ซึ่งนั่นคือช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังปะทุอย่างดุเดือด และชนชาติแรกที่หยิบมันมาใช้ก็คือ ‘กองทัพฝรั่งเศส’ ในรูปแบบบรรจุใส่ลูกระเบิด ทว่าชาติที่มีความสนใจและพัฒนาอาวุธชนิดนี้กลับกลายเป็นฝ่ายเยอรมัน และนับได้ว่าเป็นฝ่ายแรกที่นำมันมาใช้ในสนามรบอย่างเต็มรูปแบบ แต่ถ้าถามว่าเจ้าแก๊สน้ำตาเข้ามาที่ประเทศไทยเมื่อไหร่กัน คำตอบก็คือมันถูกหยิบเข้ามาใช้ในช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 นั่นเอง แก๊สน้ำตาคืออะไร แก๊สน้ำตา เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตาและแก้วตาดำ ทำให้มีน้ำตาไหลออกมาก เยื่อบุตาจะแดงและแก้วตาดำจะบวม ตามองไม่เห็น น้ำมูกน้ำลายไหล ไอ หายใจลำบาก ส่วนใหญ่จะหายเองภายในหนึ่งชั่วโมง โดยทั่วๆ ไปแล้วจะมี 2 รูปแบบที่นิยมใช้กันนั่นคือแบบยิงและแบบขว้าง (บรรจุใส่ลูกระเบิด) สิ่งที่เกิดขึ้นหากสูดแก๊สน้ำตาเข้าไป การสูดแก๊สน้ำตาจะทำให้มีการระคายเคืองต่อเยื่อบุจมูก หลอดลมและปอด รวมทั้งทำให้มีอาการไอและจาม ถ้าเป็นมากอาจถึงขั้นหลอดลมอักเสบและปอดอักเสบได้ ส่วนมากอาการที่จะเกิดอย่างเห็นได้ชัดก็ได้แก่…
-
กลุ่มวัยรุ่นตีกันหน้าเวทีหมอลำ ผู้ใหญ่บ้านถือไมค์ ‘ยุให้ตีไปเรื่อยๆ อย่าหยุด’ อยู่ๆ ก็เลิกไปซะงั้น!?
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘วัยรุ่น’ ถือเป็นวัยที่มีแต่ความใจร้อน เกิดการกระทบกระทั่งกันสักเล็กน้อยก็อาจจะนำไปสู่การต่อยตีกันเลยก็ว่าได้ แล้วหากใครที่เคยพบเจอเหตุการณ์เหล่านี้ จะรู้ดีว่าการ ‘ห้าม’ ก็เหมือนเป็นการ ‘ยุยง’ ให้ตีกันหนักข้อขึ้นไปอีก เลยกลายมาเป็นปัญหาว่า ‘แล้วเวลาวัยรุ่นตีกัน จะมีวิธีหยุดยั้งความรุนแรงได้อย่างไรบ้าง?’ ซึ่งหากเพื่อนๆ ได้รับชมเรื่องราวต่อไปนี้ ขอบอกเลยว่าจะได้คำตอบอย่างแน่นอน!! เรื่องมีอยู่ว่าอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า น้องแมน พาเพลิน ได้ทำการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นตีกันหน้าเวทีหมอลำ ที่จัดขึ้นบริเวณลานวัดดงมุง บ้านหนองตอ อ.จตุรพัตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด กลุ่มวัยรุ่นตีกันแบบชนิดที่ว่าฝุ่นตลบ กลบเวทีหมอลำกันเลยทีเดียว แต่แล้วท่านผู้ใหญ่บ้านก็ออกมาจับไมค์พูด!! แต่แทนที่จะห้าม ผู้ใหญ่บ้านกลับยุยงให้กลุ่มวัยรุ่นตีกันไปเรื่อยๆ พร้อมกับพูดว่า “หมอลำเขาจ้างมาให้ดูฟรี พวกท่านยังมาทะเลาะกันใส่งาน ตีไปเรื่อยๆ ห้ามหยุดตี ตีไปเรื่อยๆ” แต่ก็แปลก แทนที่กลุ่มวัยรุ่นจะตีกันหนักข้อขึ้นตามคำยุ จู่ๆ ก็แยกย้ายกันไปซะดื้อๆ เลย!? ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างได้เลยครับ คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก…
-
จะทำอย่างไร “ถ้าผู้ชายที่คุยด้วย พาไปกินแต่ข้าวมันไก่” ?! งานนี้หนูคงยอมให้พี่เจมส์ไม่ได้จริงๆ
ว่าด้วยเรื่องของ “ข้าวมันไก่” เมนูยอดฮิตติดชาร์จของคนไทยที่ไม่ว่าใครก็รู้จัก เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน ไม่เว้นแม้แต่ พี่เจมส์ – เรืองศักดิ์ ที่เคยมีแฟรนไชส์ร้านข้าวมันไก่เป็นของตัวเอง รวมถึงผลงานเพลงของเขาก็ด้วย ยอม ยอมเป็นข้าวมันไก่!! ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ จะชอบกินเมนูนี้กันมากขนาดไหน แต่ที่ที่แน่คือคงไม่เท่ากับพ่อหนุ่มคนนี้ เพราะเขาเล่นกินมันซะแทบทุกวันเลย!! งานนี้ก็ทำเอาแฟนสาวของเขาถึงขั้นต้องนำเรื่องราวดังกล่าวมาตั้งคำถามกับชาวเน็ตเลยว่า “ถ้าผู้ชายที่คุณคุยด้วย พาไปกินแต่ข้าวมันไก่ ควรทำอย่างไรดี???” เธอเล่าว่าตนเองได้คุยกับผู้ชายคนหนึ่งมานานพอสมควรแล้ว และสิ่งที่เธอต้องเจอก็คือการที่เขามักจะพาไปกินแต่ “ข้าวมันไก่” ชอบกินยังพอเข้าใจ แต่กับชายคนนี้เขาเล่นกินข้าวมันไก่ “แทบทุกวัน” อย่างน้อยต้องมีสัก 1 มื้อต่อวัน และมากสุดคือเขาเคยพาเธอไปกินสัปดาห์เดียวถึง 5 วัน ด้วยเหตุนั้นเอง เธอจึงตั้งคำถามถามทุกคนว่า “คุณจะมีวิธีการบอกเขายังไง เพราะเราเคยชวนกินอย่างอื่นแล้ว แต่จะกินอย่างอื่นได้ก็แค่ตอนที่ร้านข้าวมันไก่ปิด” โพสต์ของเธอ (23 พ.ค. 2019) งานนี้ก็อย่ารอช้า ผู้คนแห่เข้ามาคอมเมนต์กันเต็มเลยจ้าาา . ต้องชอบขนาดไหน ถึงกินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ…
-
คุณตานั่งกินข้าวกับรูปของภรรยาผู้จากไป ‘จะขอทำอย่างนี้ทุกวัน จนกว่าจะหมดลมหายใจ’
สำหรับคนบางคน ความรักความซื่อสัตย์ที่มีให้กับคู่ชีวิตแม้ความตายก็ไม่อาจพรากไปได้ อย่างเช่นในกรณีของคุณตาคนหนึ่งที่นั่งกินข้าวต่อหน้ารูปภาพของคุณยายอยู่ทุกๆ วัน แม้ว่าเธอจะไม่อยู่บนโลกนี้อีกแล้วก็ตาม… เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 พ.ค.) เฟซบุ๊ก Teerapong Wivasuk ได้แชร์รูปภาพรูปหนึ่งที่ทำเอาชาวเน็ตน้ำตาสะเทือน ซึ่งก็คือภาพของคุณตาคนหนึ่งนั่งกินข้าวอยู่ต่อหน้ารูปของภรรยาที่จากไป “คุณไม่เคยสูญเสียคนที่รัก คุณไม่รู้หรอกการพลัดพรากจากกันมันเป็นยังไง #สงสารตาจัง …ที่ตาต้องมานั่งกินข้าวกับรูปยายทุกวัน” แคปชั่นของภาพ รูปดังกล่าวได้รับการพูดถึงอย่างเป็นวงกว้างและมีการแชร์ออกไปแล้วเกือบๆ 30,000 ครั้ง ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวสปริงนิวส์ จึงลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สอบถามเรื่องราวเพิ่มเติม ซึ่งก็ได้ความว่า คุณตาในภาพคือคุณตาบัว อายุ 74 ปีอยู่กินกับคุณยายเหลืองผู้เป็นภรรยามานานแล้วกว่า 56 ปี มีลูกด้วยกัน 6 คนแบ่งเป็นผู้ชาย 3 คนและผู้หญิง 3 คน ตลอดทั้งช่วงชีวิตที่อยู่ด้วยกันมาทั้งสองไม่เคยแยกจากกันไปไหนไกล เจอกันตลอดไม่ว่าจะเป็นตอนทำงานหรือในยามที่อยู่บ้าน แต่ว่าก็เกิดโชคร้ายขึ้นเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นั่นก็คือความที่คุณยายเหลืองป่วยด้วยโรคมะเร็งตับและรังไข่ ซึ่งในช่วงเวลานี้คุณตาก็ดูแลอยู่ตลอด แต่หลังจากนั้นคุณยายก็เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา …
-
โผล่อีก!! ผีน้อยไทยโดนรวบในเกาหลี มียาบ้า 403 เม็ด ทั้งเสพทั้งค้า ยังไม่เข็ดกันใช่มั้ย?!
เรื่องของ “ผีน้อย” หรือแรงงานผิดกฎหมายชาวไทยในเกาหลีใต้ ยังคงเป็นประเด็นที่มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ โดยในครั้งนี้ได้มี “ยาเสพติด” เข้ามาเกี่ยวข้อง หากใครได้ติดตามข่าวในลักษณะนี้ก็คงทราบกันดีว่า “นี่ไม่ใช่ครั้งแรก” ที่ได้เกิดเหตุการณ์การจับกุมตัว ผีน้อย ที่ทำการ “ลักลอบค้ายา” ในเกาหลีใต้ โดยล่าสุดนั้นก็เพิ่งมีข่าวออกไปในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: ตำรวจเกาหลีใต้จับกุมตัว “ชาวไทยลักลอบขนยา” เข้าประเทศ เพื่อนำไปขายให้ผีน้อย ภาพของกลางจากการจับกุมตัวในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ล่าสุด (23 พ.ค.) สำนักข่าวในประเทศเกาหลีใต้ก็ได้มีการรายงานถึงเหตุจับกุมตัว ผีน้อย ที่ทำการลักลอบค้ายาในเมืองโพชอน จังหวัดคยองกี เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีได้บุกจับกุมตัวแรงงานไทยผิดกฎหมายจำนวนทั้งสิ้น 4 คน สองคนในนั้นคือชายวัย 23 ปี ซึ่งถูกแจ้งข้อหา “ลักลอบค้าและเสพยาเสพติด” และชายวัย 28 ปี ซึ่งทำการซุกซ่อนยาบ้าเอาไว้ โดยของกลางที่พบนั้นมี “ยาบ้า” ที่เชื่อว่านำเข้าจากไทยไป จำนวน 403 เม็ด คิดเป็นมูลค่ากว่า 32…
-
ครูบ้านนอกโอดโรงเรียนเล็กๆ ในพื้นที่ห่างไกลจะโดนยุบ น้อยใจแทนเด็กๆ ถูกมองไร้ค่า
นับเป็นอีกเรื่องที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจกันอย่างมากจนตอนนี้มียอดแชร์ไปแล้วนับหมื่น สำหรับกรณีของโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งที่กำลังจะถูกยุบ แม้ว่าเด็กๆ ของโรงเรียนจะสามารถทำคะแนนระดับประเทศได้ในเกณฑ์สูงก็ตาม!? เพจคณิตศาสตร์ By พี่ช่วย ของคุณครูบุญช่วยได้บอกเล่าถึงเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งขอเท้าความก่อนว่าโรงเรียนที่คุณครูบอกว่ากำลังจะถูกยุบคือโรงเรียนบ้านกุดแคนประชาสรรค์ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ภาพของคุณครูและเด็กๆ ที่โรงเรียน ทางเพจเล่าว่าโรงเรียนแห่งนี้มีคุณครูสอนกันอยู่ 3 คนสอนทุกวิชา มีนักเรียนอยู่ 46 คน ซึ่งแต่ละคนก็มีฐานะที่ค่อนข้างจะยากจนต้องอาศัยอยู่กับตายายแก่ๆ ซึ่งส่วนมากมีอาชีพหาปลา (ส่วนมากเป็นเด็กกำพร้าและอาศัยอยู่กับตายายกว่า 90%) โรงเรียนดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ห่างไกลติดกับเขื่อนอุบลรัตน์ อยู่ห่างจากตัวตำบล 12 กิโลเมตร ห่างจากตัวอำเภอ 24 กิโลเมตร และห่างจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 ถึง 82 กิโลเมตร โดยส่วนมากแล้วงบประมาณที่จะใช้พัฒนาโรงเรียนล้วนมาจากเงินของชาวบ้านทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, สนามกีฬา, ป้าย, รั้ว, บ้านพักครูและอื่นๆ แต่ก็ไม่วายโรงเรียนกำลังจะถูกสั่งยุบ แม้ว่าก่อนหน้านี้คะแนนของเด็กๆ ชั้นป. 6 ปีการศึกษา 2561 จะอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศก็ตาม นี่จึงเป็นเหตุให้คุณครูออกมาโพสต์ถึงเรื่องดังกล่าว แถวหน้าเป็นนักเรียนชั้นป.…
-
ครูสาวมีสัมพันธ์ลับกับ ผอ. เลยต้อง “แสร้งเป็นทอม” เข้าร้องเรียนเพราะเขามีคนอื่น
ในหลายๆ ครั้ง รูปแบบของความสัมพันธ์ที่คลุมเครือก็อาจนำไปสู่เรื่องราวที่ซับซ้อนจนทำให้หลายๆ คนไม่เข้าใจ เช่นเดียวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ในวันที่ 23 พ.ค. 2019 รายการ ทุบโต๊ะข่าว ได้ออกมารายงานถึงเรื่องราวของ ว่าที่ ร.ต.หญิง ฌณกฐ์ปภัสสญ์ “ครูสาวที่ต้องแสร้งเป็นทอม” หลังจากที่แอบมีความสัมพันธ์ลับๆ กับ ผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียน การสัมภาษณ์ของทางรายการ ทุบโต๊ะข่าว จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ลับ… อย่างแรกคือต้องบอกกันว่า ผอ. คนนั้น “มีภรรยาอยู่แล้ว” และมีลูกสาวอยู่หนึ่งคน แต่พวกเขานั้นมีปัญหาในเรื่องของความสัมพันธ์และแยกบ้านกันอยู่ ส่วนทางด้าน “ครูสาว” นั้น เธอเอง “เคยมีสามี” มาก่อนแล้ว และตัดสินใจหย่าร้างกันไปในปี พ.ศ.2552 ก่อนที่จะกลับมาจดทะเบียนด้วยกันอีกครั้งในปีถัดมา ด้วยเหตุผลที่ว่า “มีผู้หญิงจะมาพยายามจับอดีตสามีของเธอ” อย่างไรก็ตาม ครูสาว ก็แค่จดทะเบียนเอาไว้ ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับสามีเก่าของตัวเองแต่อย่างใด จนกระทั่งในเวลาต่อมา เธอก็ได้เริ่มที่จะสนิทสนมกับทาง ผอ. มากยิ่งขึ้น ครูสาว…
-
อย่ามองแต่ภายนอก สาวเล่ามุมดีๆ หนุ่ม ‘แต่งตัวมอมแมม’ มาซื้อโทรศัพท์ที่ร้าน จ่ายสด ไม่ต่อราคา
เรื่องราวอันแสนประทับใจ เมื่อคุณลุงคนหนึ่งแต่งตัวมอมแมมเข้ามาในร้านเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ และเจ้าของร้านก็นำเรื่องราวดังกล่าวมาแชร์ต่อจนชนะใจชาวเน็ตมากมาย ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Pimpim Cooper ได้ทำการโพสต์ภาพและข้อความเหตุการณ์ที่ว่านี้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ลองไปอ่านเรื่องราวแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างได้เลยครับ “#อย่าตัดสินคนที่ภายนอก มาเล่าเรื่องราวดีๆให้ฟัง” ผู้ชายคนนี้เดินมาซื้อโทรศัพท์ที่ร้าน ถามหารุ่นนี้แล้วบอกเอาเลย โดยที่ไม่ต่อสักคำ พร้อมกับควักเงินออกมานับ แล้วบอกว่า “ผมมีแต่แบงก์ยี่สิบนะครับ” “ระหว่างที่แกนั่งรอเราทำเครื่องให้มี รปภ เดินวนมาเพื่อที่จะไล่เค้าหลายรอบมาก เลยบอก รปภ.ไปว่าเค้ามาซื้อโทรศัพท์พี่ไม่มีอะไรค่ะ เฮ้อออ..เค้าพูดรู้เรื่องนะ พูดจาดีด้วย #ที่สำคัญเค้าเปิดบิลให้เราจ้าเช้านี้” . เรื่องราวความประทับใจดังกล่าวโดนใจชาวเน็ตเป็นอย่างมาก มีคนเข้ามากดไลก์กว่า 11,000 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 7,500 ครั้งเลยทีเดียว หลายคนมองว่า เรามักจะตัดสินคนเพียงแต่ภายนอก แต่ไม่เคยมองให้ลึกลงไปที่จิตใจเลยสักครั้ง กลับกันคนที่แต่งตัวดูดี อาจจะไม่น่าไว้ใจมากกว่าเสียอีก อย่าดูคนที่ภายนอก เค้าคงตั้งใจเก็บมานาน . . …
-
เปิดใจสาวคอสเพลย์ชุดกากี ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีแค่ชุดเสมือน รู้สึกเสียใจอยากขอโทษ
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) ได้กลายเป็นประเด็นให้ชาวโซเชียลได้ถกกันถึงเรื่องความเหมาะสม สำหรับกรณีของหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งชุดสีกากีคอสเพลย์เป็นคุณครู วันนี้เธอได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องวันนั้นแล้ว ว่าแท้จริงนั้นเป็นอย่างไร อ่านข่าวเก่า >> สาวแต่งชุดสีกากีคอสเพลย์เป็นคุณครู โต้กลับชาวเน็ต “งดดราม่า แค่คอสเพลย์” รายการทุบโต๊ะข่าว สำนักข่าวอมรินทร์ทีวี ได้รายงานถึงเรื่องนี้ โดยผู้สื่อข่าวได้ลงไปถามกับเจ้าของโพสต์นั่นก็คือหญิงสาวผู้ที่แต่งตัวคอสเพลย์เป็นคุณครู เธอก็ได้เล่าให้ฟังว่าในวันนั้นเป็นงานเลี้ยงครบรอบวันเกิดอายุ 27 ปี จึงจัดเลี้ยงฉลองกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านทองหล่อ ซึ่งในงานนี้เพื่อความสนุกก็ได้จัดธีมให้เพื่อนๆ แต่งกายคล้ายๆ กัน นั่นคือให้เพื่อนๆ แต่งตัวเป็นนักเรียน ส่วนตนเองนั้นแต่งคอสเพลย์เป็นคุณครู… สำหรับชุดคอสเพลย์ที่กลายเป็นประเด็น เป็นชุดที่สั่งตัดเป็นพิเศษในราคา 1,000 บาทเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์งานนั่นคือเน้นความเซ็กซี่ และไม่มีเครื่องหมายที่เกี่ยวข้องกับอาชีพข้าราชการครูแต่อย่างใด นอกจากนี้ถึงแม้ว่าชุดดังกล่าวจะดูเหมือนกับชุดข้าราชการครู แต่เจ้าตัวก็บอกว่าเป็นเพียงแค่ชุดเสมือนเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี รวมทั้งยอมรับว่าชุดดังกล่าวค่อนข้างจะโป๊ ทว่าก็เป็นพฤติกรรมส่วนตัวของตัวเอง และมองว่าไม่ได้อนาจาร ส่วนกลุ่มเพื่อนที่มาร่วมงานส่วนมากก็สนุกกับงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้น แถมหลายคนยังแซวว่า ‘อยากเป็นลูกศิษย์คุณครู จังเลย’ อย่างไรก็ตามเจ้าของโพสต์ก็บอกว่า ที่ผ่านมาเห็นคนคอสเพลย์ชุดมาหลายแบบและไม่ได้เกิดปัญหาอะไร จึงอยากจะแต่งตัวเพื่อสร้างสีสันเพียงเท่านั้น แต่ว่าพอมีคนแชร์ออกไปมากมายก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมา พอถึงตรงนี้เธอก็บอกว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากจะขอโทษกับพฤติกรรมดังกล่าวที่พาดพิงถึงอาชีพครู…
-
สรุปประเด็น: หนุ่มไปเกณฑ์ทหาร 11 เดือน เสียชีวิตในค่าย พ่อคาใจร้องทุกข์
ในทุกปีจะมีการเกณฑ์ชายไทยเข้ารับการฝึกเป็นทหาร หรือสั้นๆ ว่า ‘เกณฑ์ทหาร’ หากชายไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสามารถยื่นสมัครได้ หรือเลือกจับใบดำใบแดงเพื่อลุ้นกันอีกที แต่หลังจากนั้นแล้ว ก็มักจะมีข่าวคราวออกตามมาทุกปีว่า มีทหารเกณฑ์หรือทหารใหม่เสียชีวิตในค่าย ซึ่งมักจะได้คำตอบหรือคำชี้แจงที่ไม่สามารถคลายข้อสงสัยได้มากเท่าไหร่นัก กรณีล่าสุดของ พลทหารลือชานนท์ นันทบุตร อายุ 22 ปี พลทหารลือชานนท์ นันทบุตร (นนท์) อายุ 22 ปี ตัดสินใจสมัครไปเป็นทหารเกณฑ์ได้ 11 เดือน สังกัดค่ายกองพันทหารสารวัตร สำนักกองบัญชาการ และเสียชีวิตจากเหตุถูกไฟฟ้าช็อตและตกลงมาจากตึกความสูง 6 ชั้น โดยที่ นายคำแพง นันทบุตร ผู้เป็นพ่อได้รับแจ้งจากทางค่ายว่า เขาพยายามเข้าไปนอนในห้องพักชั้น 6 จึงปีนบันไดลิงลงมาจากชั้น 7 เพื่อเข้าทางช่องหน้าต่าง แต่ทว่าเกิดอุบัติเหตุพลัดตกและเสียชีวิต ความเคลือบแคลงใจ แต่หลังจากที่ได้รับแจ้งจากทางค่ายแล้ว กลับไม่พบศพภายในทันที โดยพบศพหลังจากผ่านไปได้ 3 วัน และทางค่ายได้แจ้งให้ญาติเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมทำพิธีฌาปนกิจศพ พร้อมจองวัดให้เสร็จสรรพ ไม่ให้นำศพกลับบ้าน แต่ภายหลังได้รับศพนำมาทำพิธีที่บ้านเกิดในจังหวัดศรีสะเกษ…
-
ทหารหญิงแห่งกองทัพอเมริกาโชว์ร้องเพลง ‘ซ่อนกลิ่น’ สร้างความประทับใจให้กับนักเรียน
หลังจากที่ได้ปล่อยออกมาช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เพลง ซ่อนกลิ่น โดยศิลปินชื่อดัง ปาล์มมี่ ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ร้องกันได้ทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งในตอนนี้มียอดรับชมในเว็บไซต์ Youtube มากกว่า 94 ล้านครั้งแล้ว และความฮิตของเพลงไม่ได้ฮิตเพียงแค่ในหมู่คนไทยเท่านั้น ถึงขั้นที่ว่าทหารหญิงอเมริกันยังพยายามฝึกร้องให้เหมือนกับต้นฉบับด้วย คลิปวิดีโอจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @WassanaNanuam เผยคลิปขณะที่ทหารหญิงอเมริกันแห่งวง U.S. Fleet Band ร้องเพลง ซ่อนกลิ่น ในกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ Community Relationship: COMREL ที่จังหวัดจันทบุรี ร้องชัดเจนทุกคำ เพราะไม่แพ้ต้นฉบับ ร้องชัด!! ทหารหญิงอเมริกัน วง U.S. Fleet Band ร้องเพลง”ซ่อนกลิ่น” ของ “ปาล์มมี่” ใน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ Community Relationship : COMRELโครงการ Pacific Partnership 2019 สหรัฐอเมริกา-ออสเตรเลีย-แคนาดา-ญี่ปุ่น-ไทย ที่ จันทบุรี pic.twitter.com/Ay7us5yIN3 —…
-
สาวแต่งชุดสีกากีคอสเพลย์เป็นคุณครู โต้กลับชาวเน็ต “งดดราม่า แค่คอสเพลย์”
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงสุดๆ ในวันนี้ หลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพของตัวเองแต่งชุดสีกากีคล้ายชุดข้าราชการ เปิดให้เห็นเนินหน้าอก อีกทั้งกระโปรงยังสั้นและฟิต จนมีชาวเน็ตเข้ามาถล่มคอมเมนต์ติติงการกระทำว่าไม่เหมาะสม โดยสาวคนนี้ได้โพสต์แคปชั่นว่า “ครูดุนะ หนูไหวหรอ..??? ดิฉันประจำอยู่ห้องเรียนแห่งหมูบ้าน -ีสวดค่ะ #งดดราม่า แค่คอสเพลย์” ภาพการแต่งกายคล้ายชุดข้าราชการสีกากี โชว์หน้าอกและขา . หลังจากที่สาวคนนี้ได้โพสต์ออกไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาถล่มคอมเมนต์ติติงการกระทำของเธอเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของความไม่เหมาะสมในการนำชุดข้าราชการที่สูงส่งมาแต่งยั่วยวนแบบนี้ เนื่องจากว่าแต่ละคอมเมนต์ที่เข้ามาด่าทอสาวคนนี้มีถ้อยคำที่ค่อนข้างจะรุนแรง #เหมียวบู้บี้ ขออนุญาตไม่หยิบคอมเมนต์มา เพราะดูจะรุนแรงและหยาบคายจนเกินไป ซึ่งผู้อ่านสามารถตามไปอ่านได้ที่ต้นโพสต์ของสาวคนนี้ได้เลย ต้นโพสต์ดราม่า แต่งชุดข้าราชการคอสเพลย์ ประเด็นนี้ยังกลายเป็นที่ถกเถียงจากชาวเน็ตที่แบ่งออกเป็นสองฝั่ง คือฝั่งที่ไม่พอใจกับการนำชุดข้าราชการมาแต่งคอสเพลย์แบบนี้ กับอีกฝั่งหนึ่งที่มองว่าเป็นเรื่องขำๆ แล้วคุณผู้อ่านล่ะ คิดอย่างไรกับโพสต์นี้…..
-
แรปเปอร์หนุ่มเชียงใหม่ โชว์แรปให้กำลังใจคุณธนาธร หลังลงพื้นที่เยือนเชียงใหม่
อีกหนึ่งคลิปวิดีโอที่กลายเป็นที่แชร์ส่งต่อกันในโลกออนไลน์ หลังจากที่แรปเปอร์หนุ่มเชียงใหม่ ได้โชว์แรปสดให้กำลังใจคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขณะที่มาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ คลิปวิดีโอนี้โพสต์โดยคุณธนาธร ผ่านทางทวิตเตอร์ Thanathorn Juangroongruangkit เป็นคลิปวิดีโอขณะที่ คุณแอล แรปเปอร์หนุ่มของเชียงใหม่โชว์แรปฟรีสไตล์ด้วยใจความว่า “อุปสรรคมีไว้ฝ่าฟัน ขอให้พี่ได้ต่อสู้และต่อสู้ไปกับมันทุกๆ วัน พี่ไม่คิดจะท้อแท้หรือแต่อย่างใดผมเข้าใจพี่ดี พี่รักความยุติธรรมมากกว่าใคร เพราะนี่คือสิ่งที่เรียกว่าอุดมการณ์ เวลาผมร้องแรปจะแรปจนกว่าจะกลายเป็นตำนาน ฟังแล้วรำคาญผมต้องขออภัย ผมยังเชื่อมั่นว่าพี่ทำได้ด้วยหัวใจ มันคืออุปสรรคมันไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใดหรอกครับ ผมยังเชื่อในความยุติธรรมของคนไทยหลายๆ คนนะครับ” “ผมให้กำลังใจต้องฝ่าฟันกันต่อไปเพราะนี่คืออุดมการณ์ที่เราจะฝ่าฟันและต่อสู้กันต่อไป มันไม่ใช่ความยากลำบากแต่อย่างใด และตอนที่ผมอยู่ตรงนี้แล้วผมก็ให้กำลังใจ เราทุกคนรู้ดีผมไม่ค่อยเก่งเหมือนใครๆ ในขณะที่ร้องแรปผมจะไม่เสียใจ คุณธนาธรครับสู้มันต่อไปนะครับ อย่าไปยอมแพ้แต่อย่างใดนะครับ พี่ครับอุดมการณ์ของเรามันมีค่านะครับ ทำให้ถึงที่สุดเพราะผมนั้นเชื่อในอุดมการณ์ของพี่นะครับ ผมเชื่อว่าพี่ทำได้และสุดท้ายจะทำได้ พังทลายมันลงมานะครับเพราะพี่น่ะทำได้ ผมเชื่อว่าพี่ทำได้และสักวันคงเห็นกัน ว่าพี่จะได้ขึ้นเป็นอะไรอย่างที่เรารู้ๆ กัน” คลิปวิดีโอการแรปแบบเต็มๆ เมื่อคืน แอล เดอะแร็ปเปอร์ เจอผมที่ร้านข้าวต้มในเชียงใหม่ เลยแร็ปสดๆ ให้กำลังใจผมและพรรคอนาคตใหม่ มีคนสนับสนุนแบบนี้ เจออีกกี่อุปสรรคก็สู้เต็มที่ครับ pic.twitter.com/NWPWRQNVMG — Thanathorn…
-
รถขนปลาดุกเกิดอุบัติเหตุ เทกระจายเต็มพื้นถนน ชาวบ้านรุมกรูเข้ามาเก็บ ‘ส่งคืนให้เจ้าของ’
บ่อยครั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์ในทำนองรถขนสินค้าประสบกับอุบัติเหตุ มีการพลิกคว่ำทำให้สินค้าที่บรรถทุกมาด้วยกระจัดกระจายทั่วพื้นถนน จะต้องมีชาวบ้านเข้ามาฉวยโอกาสเก็บไปแน่ๆ เกิดอุบัติเหตุรถกระบะขนปลาดุกเทกระจัดกระจายบนพื้นถนน ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ในจังหวัดนครศรีธรรรมราช เกิดเป็นภาพอันน่าประทับใจที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้คนได้อีกครั้ง… เพราะว่าทางเพจ FM91 Trafficpro ได้ระบุเอาไว้ว่า ชาวนครศรีฯ ต่างร่วมใจกันเข้าไปช่วยเก็บปลาดุกที่กระจัดกระจาย จากอุบัติเหตุบนท้องถนนสายนครศรี -ปากพนัง นำไปส่งคืนให้กับเจ้าของปลา ช่วยกันคนละไม้ละมือ เคลียร์ถนนให้ได้ไวที่สุด ภาพที่เห็นคือชาวบ้านเข้ามาช่วยเก็บปลาดุกส่งคืนให้เจ้าของ ช่วยกันเคลียร์ถนนเพื่อให้เข้าสู่สภาวะสัญจรได้ตามปกติ และช่วยเหลือเจ้าของปลาเหล่านี้ แน่นอนว่าหลังจากที่ได้เห็นภาพอันน่าประทับใจแล้ว ชาวเน็ตต่างชื่นชมความน่ารักของชาวนครศรีฯ . . . . หนึ่งในความคิดเห็น ที่ทำให้ฉุกคิดได้ว่าทำไมกลายเป็นภาพที่หาดูได้ยาก เพราะเมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ชาวบ้านมักจะเก็บเอาไปเป็นของตัวเองหมด จากข่าวที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แม้เจ้าของจะขอร้องและห้ามเท่าไหร่ ชาวบ้านก็ไม่ยอมฟัง https://www.catdumb.com/old/where-is-my-fish-so-sad-339/ ที่มา: @fm91trafficpro
-
เจ้าของปล่อยเช่าคอนโด ‘เละเทะพังกระจาย’ ทำเฟอร์ฯ เสียหายแล้ว ยังขโมยของไปอีก…
ปัญหาระหว่างผู้ให้เช่ากับผู้เช่าเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว กับประเด็นที่ว่าเจ้าของห้องคอนโดปล่อยให้เช่า และมีผู้เช่าเข้ามาทำความเสียหายภายในห้องก่อนที่จะหมดสัญญาเช่า และหนีหายตัวลอยไปในกลีบเมฆ… ก่อนอื่นแล้ว หากได้เห็นภาพ เรื่องราว และพื้นที่เกิดเหตุในเขตพัทยา อาจจะเดาไว้ก่อนว่าผู้เช่าจะต้องเป็นชาวต่างชาติแน่ๆ ซึ่งรายละเอียดจากผู้โพสต์โดยคุณ Sarocha Manput ได้ทำการระบุเอาชื่อเอาไว้ รวมไปถึงจังหวัดพื้นเพกันเลยทีเดียว สภาพความเสียหายภายในห้องเรียกได้ว่าย่อยยับพอสมควร เนื่องจากบริเวณเคาท์เตอร์ต่างๆ อยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้ ข้าวของวางกระจัดกระจาย ระเบียงก็ดูเละเทะ . แม้ว่าที่ผ่านมาจะเจอผู้เช่ามาแล้วมากมาย ทางเจ้าของห้องไม่เคยรู้สึกรังเกียจในเรื่องของขยะ ความไม่สะอาดต่างๆ แต่ที่หนักว่าเคสอื่นๆ ก็คือ ถูกขโมยข้าวของไปอย่างจำพวก พัดลม จานชาม ชุดผ้าปูต่างๆ รวมไปถึงทำการทุบโทรทัศน์เสียหายอีก . . . และหลังจากที่เกิดเป็นเรื่องขึ้นมาแล้ว ทางเจ้าของห้องต้องการจะพบตัวผู้เช่ารายนี้ และไม่อยากให้เกิดขึ้นกับห้องเช่าที่อื่นอีก ซึ่งลูกค้าผู้เช่ารายดังกล่าวก็ได้ติดต่อกลับมาแล้ว แต่ยังไม่มีการเคลียร์เรื่องค่าเสียหายกัน ซึ่งถ้าหากตกลงกันได้ก็ถือว่าจบลงด้วยดี ที่มา: @slocha.monput
-
ชาวพันทิปร่วมแชร์ ‘เพื่อนร่วมงานที่เลวร้ายที่สุด’ จากประสบการณ์ของจริง ยิ่งกว่าละคร
ในชีวิตการทำงานของแต่ละคนก็ย่อมเจอปัญหาที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะองค์กรเล็กหรือองค์กรใหญ่ เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะมีเรื่องผิดพ้องหมองใจกันบ้าง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่ว่าใครต่างก็ต้องได้เจอ ปัญหาเหล่านี้บางทีก็ไม่สามารถแก้ด้วยการพูดออกไปตรงๆ ต่อหน้าเสมอไป ชาวเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 5311145 จึงได้ตั้งกระทู้ให้ชาวพันทิปมาร่วมระบายเรื่องแย่ๆ ของเพื่อนร่วมงานตัวเองในหัวข้อ “ในชีวิตการทำงานของคุณ เคยเจอเพื่อนร่วมงานที่เลวร้ายที่สุดแบบไหนกันบ้างครับ?” . กระทู้นี้กลายเป็นที่สนใจของชาวพันทิปเป็นอย่างมาก มีคนเข้ามาร่วมแสดงความเห็นเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานแบบแย่ๆ ที่ได้เจอ ซึ่งแต่ละคอมเมนต์ก็บรรยายได้จัดเต็มมากๆ พวกมนุษย์รุ่นเก่าเจ้าอารมณ์ ขโมยไอเดีย ก๊อปงาน คนต้นคิดไม่ได้เครดิต ทำได้แต่ลาออก อันนี้เข้าขั้นลุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากๆ เรื่องเพื่อนร่วมงานแย่มีอยู่ทุกที่ อย่าเก็บเอามาคิดมาก นินทาได้ แต่พูดเรื่องจริงด้วย พอหัวหน้าอยู่ แกล้งทำตัวขยัน พอหัวหน้าไม่อยู่ก็แสดงธาตุแท้ เจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้จะไม่ทน ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง ขี้อิจฉา ทำงานได้ แต่ไม่มีความกระตือรือร้น ไม่มีความพยายาม เพื่อนร่วมงานล่วงละเมิดทางเพศ คอมเมนต์สุดท้าย ขอจัดให้เป็นเพื่อนร่วมงานที่ใจร้ายที่สุดในโลกเลย …
-
โผล่แผนที่ ‘สุโขทัยทัน’ ในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ จัดระเบียบปกครองเมืองเพื่อสู้ยักษ์!!
น้อยครั้งที่เราจะได้รู้ว่าเด็กๆ สมัยนี้จะได้เรียนอะไรกันในวิชาประวัติศาสตร์ เพราะจะมีการปรับปรุงเนื้อหาการเรียนการสอนอยู่เสมอ จนบางทีเราก็อาจจะตามกันไม่ทันแล้วก็ได้… แต่จู่ๆ ก็มีภาพของหนังสือเรียนปรากฎเป็นภาพแผนที่ของเมืองสุโขทัยในอดีต ที่มีการจัดการวางแผนการปกครอง ซึ่งดูไม่น่าจะแปลกอะไรมากนัก ผ่างงงงงง!! ภาพที่คุณเห็นดังต่อไปนี้คือภาพ การจัดระเบียบการปกครองของสมัยสุโขทัย แต่ทว่าตัวอักษรที่โผล่อยู่ในภาพและรูปแบบของแผนที่ผังเมืองดังกล่าว กลับดูคล้ายกับสิ่งที่แฟนการ์ตูนญี่ปุ่นคุ้นเคยกันอย่างมาก… เพราะมันมาจากการ์ตูนเรื่อง ผ่าพิภพไททั่น ภาพแผนที่ต้นฉบับ โลโก้ Attack on Titan หนังสือแบบเรียนที่ปรากฎภาพดังกล่าวนั้นคือหนังสือ ประวัติศาสตร์ชาติไทย มีการนำภาพนี้ไปแนบประกอบลงแบบเรียนจนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ยกใหญ่ บางคนถึงกับแซวเป็น ‘สุโขทัยทัน’ สืบไปสืบมาก็รู้ได้ว่า ภาพการจัดระเบียบการปกครองยุคสุโขทัยทันนั้น เริ่มมาจากการที่นักเรียนคนหนึ่งได้ทำการสรุปเนื้อหาเอาไว้เพื่ออ่านเตรียมสอบย่อยภายในโรงเรียน และทำการโพสต์ลงในเว็บไซต์เผยแพร่ โดยใช้ภาพจากการ์ตูนเพื่อประกอบการอธิบายสรุปให้เข้าใจมากขึ้น หลังจากที่พบว่าทวิตนี้ได้รับความสนใจมากมาย โดยเสียงของเพื่อนๆ หลายๆ คนได้เชียร์เราให้ฟ้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เราได้ปรึกษากับคนในวงการกฎหมายมาแล้วประเมินสถานการณ์อย่างละเอียดก่อนจะได้ข้อสรุปว่า "ไม่สามารถฟ้องได้" โดยยึดตามการตีความตามพรบ.ลิขสิทธิ์ ปี 2537 ดังนี้ค่ะ (1) https://t.co/J8QWxuJeYD — B19 roger that (@PiscesB19)…
-
ร้านข้าวต้มโต้รุ่งสไตล์ไทยในเกาหลีใต้ นำอาหารไทยสู่แดนกิมจิ แต่ละเมนูน่ากินมากเวอร์
ข้าวต้ม อีกหนึ่งเมนูอาหารแบบง่ายๆ ที่ชาวไทยชื่นชอบไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มเครื่อง ข้าวต้มน้ำซุปร้อนๆ ใส่เนื้อสัตว์ต่างๆ หรือว่าจะเป็นข้าวต้มกุ๊ย ข้าวหอมมะลิต้มจนนิ่ม ทานกับเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ยำ ผัดผัก แกงต่างๆ นอกจากจะหาทานได้ง่ายแล้วรสชาติยังถูกปากทุกเพศทุกวัยด้วย อย่างที่รู้ๆ กันดีว่า ความอร่อยของอาหารไทยนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อร่อยและน่าสนใจมากๆ สำหรับชาวต่างชาติ ไม่เว้นแม้แต่ที่ประเทศเกาหลีใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยไม่แพ้กัน ที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการแชร์ส่งต่อกันถึงพิกัดร้านอาหารไทยที่ชาวเกาหลีต้องไปลองนั่นก็คือ ข้าวต้มโต้รุ่งสไตล์แบบไทยๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี ร้านนี้มีชื่อร้านน่ารักๆ ว่า ร้าน “ครับผม” แต่ละเมนูที่ร้านครับผมได้นำไปเผยแพร่ ณ แดนกิมจิก็จัดมาทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด แกง ทอด หรือเมนูเด็ดของคนไทย ซึ่งแต่ละเมนูที่ทางร้านได้นำเสนอนั้นขอบอกว่าน่าทานสุดๆ ไปเลยล่ะ ส้มตำไทยใส่จานตราไก่ ของดีเมืองลำปาง https://www.instagram.com/p/BuDDmGGlFFA/ ผัดซีอิ๊ว https://www.instagram.com/p/BtcrSiTlz4R/ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น https://www.instagram.com/p/BtphC7ClQOh/ กะเพราแท้ๆ ไม่ใส่ถั่วฝักยาว กับไข่ดาว https://www.instagram.com/p/Bt0a3u9FOkz/ ต้มยำน้ำข้น…
-
มงคลกิตติ์ เข้าขอขมา มจพ. ทำให้เสียชื่อเสียง รุ่นน้องฉีกหน้ากลางวงสัมภาษณ์-โดนโห่ไล่
ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดของ สส. และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ‘มงคลกิตติ์’ ต่างก็จะเกิดเป็นเสียงก่นร้องไปทั่วโลกออนไลน์ ตั้งแต่ในช่วงการให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมาของเขา ที่กล่าวเกี่ยวเนื่องไปถึงเรื่องราวในอดีต ประสบการณ์ต่างๆ และการพูดถึงสถาบันที่ตนเองเคยร่ำเรียนมา ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2562 นายมงคลกิตติ์ได้ประกาศแจ้งข่าวผ่านเฟสบุ๊กของตนเอง โดยระบุว่า จะเข้าไปทำการขอขมาต่อพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว… คณะครูบาอาจารย์ ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน จากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการกล่าวล่วงเกิน จนทำให้บุคคลในสถาบันรู้สึกไม่พอใจและเสื่อมเสียชื่อเสียง จนต่อมาในวันนี้ (21 พฤษภาคม 2562) นายมงคลกิตติ์ได้เข้าไปทำการขอขมาทางสถาบันจากประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น แต่ทว่าหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการแถลงแล้ว ขณะทำการยืนให้สัมภาษณ์ก็มีรุ่นน้องหรือศิษย์ปัจจุบันเข้ามาถามถึงความรับผิดชอบกับชื่อเสียงของสถาบันที่เสียไป มงคลกิตติ์ กำลังให้สัมภาษณ์ ถูกรุ่นน้องฉีกหน้ากลางห้อง คุณโกหก!! #NationTV pic.twitter.com/5rTUMAUdAh — ittipat pinrarod (@ittipat_tv) May 21, 2019 และการพูดถึงเรื่องในอดีตถึงเรื่องมีการต่อยตี ทำให้ภาพลักษณ์ของศิษย์ปัจจุบันดูไม่ดี โดยที่ศิษย์ปัจจุบันยืนกรานว่าไม่มีเรื่องทะเลาะกันเลย ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการพูดโกหก พบว่าเป็นศิษย์ปัจจุบันกำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 พร้อมกับมีเสียงเสริมตามว่า…
-
‘หมอมน’ สัตวแพทย์สาวที่ชาวเน็ตชื่นชมว่า สวยทั้งหน้าตาและจิตใจ ยกให้เป็นนางฟ้าตัวจริง
หลังจากที่คลิปวิดีโอวินาทีเหตุการณ์ที่สัตวแพทย์สาวได้เข้าช่วยเหลือทำคลอดฉุกเฉิน ช่วยชีวิตเด็กน้อยจนกลายเป็นที่ชื่นชมในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตที่ได้ดูคลิปวิดีโอต่างก็ได้ชื่นชม ‘หมอมน’ ที่ได้ช่วยเหลือเด็กให้รอดชีวิตก่อนถึงมือแพทย์ วินาที “สัตวแพทย์สาว” วิ่งออกไป “ทำคลอดฉุกเฉิน” ผู้คนแห่ชื่นชม ช่วยเด็กน้อยเอาไว้ได้!! หมอมน หรือ สัตวแพทย์หญิง วารีย์ ลิ้มรุ่งสุโข ผู้เป็นฮีโร่เข้ามาช่วยชีวิตเด็กแรกเกิด เป็นเจ้าของคลินิกรักษาสัตว์ชื่อว่า คลินิกหมอมนรักสัตว์ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นสัตวแพทย์ แต่ก็สามารถช่วยเหลือชีวิตทารกแรกเกิดที่อยู่ในขีดอันตรายจนอยู่ในขั้นปลอดภัย เป็นที่ชื่นชมจากชาวเน็ตในโลกออนไลน์และยกย่องให้เป็นนางฟ้าตัวจริง หมอมน เปิดคลินิกรักษาสัตว์และยังเป็นเจ้าของเพจ เพื่อนซี้สี่ขา ประสาหมอมน ที่ในตอนนี้มียอดผู้ติดตามกว่า 264,000 คนแล้ว นอกจากจิตใจที่ดีงามของหมอมนแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ชาวเน็ตต่างชื่นชมว่างามไม่แพ้จิตใจเลยนั่นก็คือ ความสวยของหมอมน ซึ่งสามารถพูดได้เลยว่าสวยทั้งหน้าตาทั้งจิตใจเลยทีเดียว ความสุขของหมอมน รอยยิ้มของหมอมนที่มีความสุขเสมอเมื่อได้อยู่กับสัตว์ ต้องขอบคุณหมอมนที่ได้ช่วยเหลือชีวิตเด็กน้อยคนนั้นให้ปลอดภัย หากใครที่อยากติดตามความน่ารักของหมอมนและเหล่าสัตว์ทั้งหลาย ไปติดตามได้ที่เพจ เพื่อนซี้สี่ขา ประสาหมอมน ได้เลย ที่มา เพื่อนซี้สี่ขา ประสาหมอมน
-
นักวิทย์ฯ ทางทะเล กู่ก้อง “หยุดซ้ำเติมธรรมชาติ” หลังเห็นภาพ นทท. เหยียบปะการัง
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล เขาคือคนหนึ่งที่มักจะออกมาต่อสู้ ปกป้อง และวอนขอให้ทุกคน “หยุดทำร้ายธรรมชาติ” กันไปมากกว่านี้ และล่าสุด (20 พ.ค. 2019) เขาก็ได้แชร์ภาพที่เผยให้เห็นถึงการทำร้ายธรรมชาติในไทย โดยฝีมือของนักท่องเที่ยว ซึ่งราวกับเป็นการซ้ำเติม “ปะการังที่กำลังป่วยอยู่” ภาพของนักท่องเที่ยวเหยียบปะการังในทะเลไทย เขาได้แชร์ภาพดังกล่าวที่เพื่อนเป็นคนถ่ายส่งมาให้ หวังที่จะกระตุ้นให้ทุกคนรับรู้ถึงปัญหาธรรมชาติทางทะเลที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยมุ่งประเด็นไปที่ “การท่องเที่ยว” ตัวแปรที่ส่งผลกระทบต่อการล่มสลายของระบบนิเวศ อ.ธรณ์ มองว่าสิ่งที่เห็นนี้คือเหตุผลว่าทำไมถึงควรมี “มาตรการควบคุมดูแลการท่องเที่ยวให้เหมาะสม” เพราะถ้าเราไม่ช่วยกันดูแลทะเลที่กำลังป่วย การมีระเบียบกฎเกณฑ์ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้ อย่างในภาพนั้นคือ “ปะการังฟอกขาว” (ภาวะที่ปะการังมีสีซีดจางลง จนมองเห็นเป็นสีขาว) ถูกนักท่องเที่ยวเหยียบ ราวกับเป็นการเหยียบย่ำซ้ำเติมธรรมชาติที่กำลังป่วยอยู่ มาตรการรับมือปรากฏการณ์ “ปะการังฟอกขาว” อีกทั้งยังรวมไปถึง “การให้อาหารปลา” ที่ส่งผลต่อการทำให้ระบบนิเวศล่มสลายได้เช่นกัน เขายอมรับว่าหากมีการจัดตั้งมาตรการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้ มันก็อาจส่งผลกระทบไปถึงการทำมาหากิน และการท่องเที่ยวได้ แต่เขามองว่าถ้าหากไม่ทำเช่นนั้นแล้ว ต่อไปธรรมชาติในบ้านเราจะเป็นไปในทิศทางไหนกัน สุดท้ายเขาก็หวังว่าคนรักทะเลทุกคนจะช่วยกันดูแล ช่วยกันเตือน และบอกต่อๆ กันไปให้ถึงหูคนที่ยังคงรู้เท่าไม่ถึงการณ์เกี่ยวกับผลกระทบในเรื่องนี้ “อย่าเหยียบปะการัง อย่าให้อาหารปลา อย่าทิ้งสมอในแนวปะการัง…
-
‘ณเดชน์ – ญาญ่า’ โชว์ลีลาสุดสยิวกลางคอนเสิร์ต ชาวโซเชียลตั้งคำถาม นี่งานศิลป์หรือโชว์สยิว!?
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก กับการแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกในชีวิตของ ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ พระเอกหนุ่มรูปงาม ที่ในงานนี้มีหวานใจ ‘ญาญ่า อุรัสยา’ มาร่วมแสดงด้วย และการแสดงร่วมของทั้งคู่นี้เองที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมา เพราะชาวเน็ตบางส่วนมองว่าการแสดงที่ออกมามันดูแรงเกินไปหรือเปล่า หรือบางคนก็ตั้งคำถามว่านี่มันคอนเสิร์ตหรือโชว์สยิวกันแน่!? คอนเสิร์ต The Real Nadech Concert ถือได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตของหนุ่มแบรี่ ซึ่งจัดขึ้นที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ และมีการจัดแสดงรอบแรกให้แฟนๆ เข้าไปชมกันเมื่อช่วงค่ำของเมื่อวาน (19 พ.ค.) ด้วยความพิเศษเป็นครั้งแรกกับการแสดงคอนเสิร์ตของหนุ่มแบรี่นี้เอง แขกรับเชิญจึงเป็นคนพิเศษอย่างสาวญาญ่า และทั้งคู่ก็ได้ร่วมแสดงด้วยกัน โชว์ลีลาสุดเร่าร้อนจนแฟนๆ ต่างกรี๊ดกันลั่นฮอลล์ . . ชมลีลาของทั้งคู่กันก่อน เรียกได้ว่าเร่าร้อนสุดๆ แต่อย่างไรการแสดงของทั้งคู่นอกจากจะเรียกเสียงกรี๊ดในฮอลล์ได้แล้ว ก็ยังมีเสียงจากโลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ว่าการแสดงนี้ดูแรงเกินไปหรือเปล่า หรือบางคนก็บอกมันส่อไปทางอนาจารเกินไป ขณะเดียวกันบางคนก็บอกว่ามันเป็นแค่การแสดง และทั้งสองก็ตั้งใจแสดงด้วยความเป็นมืออาชีพ งานนี้ความเห็นของชาวเน็ต จึงแบ่งออกได้เป็นสองฝ่ายใหญ่ๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ฝั่งที่มองว่าเป็นเรื่องแรงเกินไป .…
-
แอคทวิต Matahari หายสาบสูญ หลังถูกจับโป๊ะ เอาภาพแม่คนอื่นมาใช้ ชาวเน็ตร่วมวงแฉ
เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในโลกโซเชียล ณ ตอนนี้เลยทีเดียวกับกระแสแฮชแท็ก #มาตาฮารีโป๊ะแตก ที่ขึ้นมาติดอันดับยอดนิยมในไทยเพียงแค่ชั่วข้ามคืน หลายคนอาจจะงง และสงสัย ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!? มาตาฮารีคือใคร? วันนี้ #เหมียวหง่าว จะมาสรุปเรื่องราวให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ มาตาฮารีคือใคร? คงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยว่าเอ๊ะ เค้าคือใคร ทำไมคนถึงให้ความสนใจกันมากมายขนาดนี้ ก็ขอบอกเลยว่าเป็นเหมือนกับตัวตนในโลกออนไลน์หนึ่ง ที่มีคนสร้างขึ้นมา โดยอ้างตัวว่าเป็นสถาปนิก อาศัยอยู่ที่เกาะไซปรัส มีแอคเคาทน์อยู่ทั้งในทวิตเตอร์ พันทิป อินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก ซึ่งก็จะเขียนบทความเล่าเรื่องชีวิตของตัวเองเป็นฉากๆ พร้อมกับมีการนำรูปมาประกอบ จนทำให้มีคนติดตามมากมาย โดยเฉพาะช่วงล่าสุด ที่มักจะโพสต์ถึงเจ้าเหมียวตัวหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ไซม่อน’ เป็นแมวของเพื่อนบ้าน ที่ชอบมาเยี่ยมเยียนอยู่บ่อยๆ ตัวอย่าง มาฮาตารีโป๊ะแตก ทีนี้เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมามาฮาตารี ก็ได้ทำการโพสต์ทวิตเล่าเรื่องราวว่าไม่ค่อยอยากให้เฟซบุ๊กส่วนตัวกับใคร เพราะแม่ชอบเอารูปเก่าๆ ไปโพสต์ และจะโดนเมนต์แซวในเชิงตลกร้าย และเมื่อคืนที่ผ่านมา (19 พฤษภาคม 2562) ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งออกมาแฉว่า โพสต์ด้านบนที่มาตาฮารีเอามาโพสต์น่ะ…
-
สรุปข่าว ‘แมวถูกขังในบ้าน’ ขี้แมวเกลื่อน เจ้าของทราบเรื่อง แจงกำลังอยู่ในช่วงย้ายบ้าน
เรื่องราวอันน่าสลดใจ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งโพสต์เรื่องราว และภาพ เพื่อขอความช่วยเหลือ ‘น้องแมว’ ที่ถูกขังเอาไว้ในบ้านหลังหนึ่ง จนกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในโลกโซเชียล เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพบ้านหลังหนึ่ง ที่สภาพด้านในบ้านนั้นเละเทะ เต็มไปด้วยขี้แมว และมีน้องแมวอีก 4 ตัวที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้น โดยที่มีการล็อกจากด้านใน ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ พร้อมกับข้อความในแคปชันเล่าว่า “ขอความช่วยเหลือค่ะ วันนี้วิ่งหาบ้านย่านมีนบุรี ตกใจมากกกก…เจ้าของทิ้งแมวเปอร์เซียเอาไว้ 4 ตัว ขี้เต็มบ้านเลยค่ะ” “ร้องให้ช่วย บางตัวนอนที่ลุกก็ไม่รอดแล้วอ่ะ มี 1 ตัวนอนเฝ้าลูกตาย ระยะเวลาดูแล้วไม่ต่ำจาก 3 เดือนที่ทิ้งไว้ วิ่งวนหาทางช่วยอยู่ 2 รอบ แต่ประตูล็อกจากข้างใน ต้องแจ้งนิติถึง 2 ครั้งถึงจะเดินเรื่องให้” “หมู่บ้านเข้มงวดมาก คนนอกเข้าไม่ได้ด้วย จะช่วยยังไงได้บ้างคะ?” ลองไปชมภาพบรรยากาศในบ้านกันดูครับ . . . . . …
-
กรมอุทยานฯ แชร์ภาพ ‘ช้าง’ ไม่อยากทำให้รถติด เลยทำตัวเล็กที่สุด เล็กมากเลยลูก!!
“ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างรึเปล่า” ฮั่นแน่!! สงสัยกันล่ะสิว่าทำไมจู่ๆ #เหมียวจิวยี่ ถึงร้องเพลงนี้ขึ้นมา นั่นก็เพราะว่าเราจะพาเพื่อนๆ ไปดูความน่ารักของเจ้าช้างขี้เกรงใจตัวหนึ่งยังไงล่ะ!! มาฮัมเพลงสร้างบรรยากาศกันซะหน่อยเนอะ เจ้าช้างตัวที่ว่านี้ได้ออกสายตาชาวโซเชียลผ่านเพจ ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ถ่ายรูปของน้องขณะที่ยืนตัวกลมอยู่ริมถนน “หนูทำได้!!! อย่างที่บอกไว้หนูจะไม่ขึ้นมาบนถนนให้รถติด… แอดมินนำภาพน่ารักๆมาฝากค่ะ ตอนนี้น้องกลับเข้าป่าไปอย่างปลอดภัยแล้วนะคะ” นุ้งยืนแอบอยู่ข้างๆ ทำตัวเล็กๆ ก็ได้ หนูกลัวทำรถติดง่ะ (น่าร้ากก) ภาพของน้องถูกถ่ายได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งการพบเห็นช้างป่าเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา แล้วเจ้าหน้าที่ก็พาน้องเดินกลับเข้าป่าอย่างปลอดภัย ไม่มีรอยขีดข่วนมาระคายผิวแม้แต่น้อย แล้วต้องบอกเลยแม้แต่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลยังยิงมุกกับภาพน้องอย่างสนุกสนาน เพราะฉะนั้นเรามาดูความน่ารักของน้องกันเฉยๆ ละกันเนอะ (อย่าพากันมาม่านะ)!! และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เราไปแอบดูความเห็นของชาวเน็ตกับภาพของน้องกันสักนิดดีกว่า ว่าเมื่อพวกเขาเห็นภาพของน้องแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง . . . . . ที่มา: ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า…
-
โพสต์ ‘สุ่มแจกบัตรคอนฯ BLACKPINK’ กลับโดนขอโต้งๆ บอก “ร้องไม่เป็นยังจะเ-ือกไป”
หลายๆ คนคงรู้กันแล้วว่าในเดือนกรกฎาคม 2019 นี้จะมีคอนเสิร์ต BLACKPINK 2019 WORLD TOUR ณ กรุงเทพฯ เหล่าแฟนคลับที่ตั้งตารอก็คงจะซื้อบัตรกันไว้เป็นที่เรียบร้อย ในขณะที่บางคนก็อาจกดกันไม่ทันจนพลาดโอกาสที่จะได้ไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนใจดี โพสต์ “สุ่มแจกบัตรคอนฯ” ให้เหมือนอย่างที่เจ้าของทวิตเตอร์คนนี้ทำ แต่ไปๆ มาๆ เธอกลับถูกคนทักมาขอกันแบบโต้งๆ ซะอย่างนั้น? ความพีคกว่านั้นคือ เมื่อเจ้าของโพสต์บอกกับคนที่ทักมาว่า “ต้องรอสุ่มเอา” เท่านั้นแหละ งานนี้อีกฝั่งไม่พอใจ ร่ายยาวด้วยคำหยาบคาย บอกว่า “ร้องไม่เป็นยังจะเ-ือกไป” // “จะสุ่มเพื่อ คิดดีๆ มีเงินแต่ไม่มีสมองปะค่ะ”… ?! ตอนแรกก็เหมือนว่าพยายามจะขอดีๆ แต่ทางเจ้าของโพสต์ก็บอกว่า “ต้องรอสุ่มก่อนนะ” เหมือนเธอจะผิดหวังจากการกดบัตรคอนฯ ไปก่อนหน้านี้ แถมยังบอกว่าตัวเองสามารถร้องเพลงของวงได้เกือบหมดเลยด้วย พอยืนยันว่าต้องใช้วิธีการสุ่ม งานนี้ทางฝั่งโน้นเลยใช้คำหยาบร่ายยาวไปเลยจ้าาา โพสต์ต้นฉบับ โหว ไม่เคยอึ้งขนาดนี้มาก่อน นอกจากยอมรับว่าตัวเองไม่มีดวงเเล้ว ยังอาจจะยอมรับด้วยว่าไม่มีมารยาทเเถมหยาบคายมากก pic.twitter.com/wluHio5Ec4 — ♡…
-
คุณหมอโพสต์เคสตัวอย่างผู้ป่วย ‘ซิฟิลิส’ โรคที่กลับมาระบาดอีกครั้ง อยากให้ตระหนักเรื่องนี้มากขึ้น…
คำเตือน: บทความนี้อาจมีภาพของโรคซิฟิลิสที่มีความน่ากลัวอยู่บ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม ด้วยความกลับมาระบาดอีกครั้งของโรค ‘ซิฟิลิส’ คุณหมอท่านหนึ่งจึงมาแชร์เคสตัวอย่างของคนไข้ที่เป็นโรคนี้ให้ชาวโซเชียลได้เห็น เพื่ออยากจะให้วัยรุ่นตระหนักถึงโรคนี้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม!! ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ ‘ซิฟิลิส’ แบบคร่าวๆ กันก่อน ข้อมูลจากทางเว็บไซต์ honestdocs เขียนเอาไว้ว่าซิฟิลิสคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum ที่มีขนาดเล็กมาก และสามารถอาศัยอยู่ได้เกือบทุกส่วนในร่างกาย โรคซิฟิลิสสามารถติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัสกับแผลที่เกิดจากโรค โดยแผลที่ว่านี้มักจะเกิดขึ้นแถวๆ อวัยวะเพศ ช่องคลอด รวมถึงทวารหนัก ดังนั้นเชื้อจึงมีการส่งผ่านทางเพศสัมพันธ์ได้ ส่วนวิธีป้องกันที่ทางเว็บไซต์แนะนำคือให้ใช้ถุงยางอนามัยในยามมีเพศสัมพันธ์ และพยายามไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ นั่นเอง และที่สำคัญคือปัจจุบันซิฟิลิสได้กลับมาระบาดอีกครั้งแล้ว… เคสที่คุณหมอนำมาแชร์ เฟซบุ๊ก Niwat Polnikorn ได้แชร์ถึงเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นซิฟิลิส ระยะที่ 2 ซึ่งทางโพสต์ได้ใส่คำอธิบายเอาไว้ว่า “วันนี้มีคนไข้ชายหนุ่มมาตรวจเรื่องตุ่มไม่คันตามตัว ในปาก อวัยวะเพศ ผมร่วงหย่อม ตรวจแล้วตกใจมากเพราะไม่เจอโรคนี้มาสิบกว่าปีแล้ว ตั้งแต่มีการระบาดของ HIV และมีการควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ จนโรคกลุ่มนี้หายไปหมด คนไข้รายนี้เป็นโรคซิฟิลิสระยะที่สองยืนยันจากการส่งตรวจเลือด VDRL และ…
-
สาวออกรายการ Take Me Out โดนหนุ่มปิดไปหลังบอกว่าเป็นติ่ง จนพี่โต๋ออกมาโพสต์ให้กำลังใจ
เรื่องรสนิยมความชอบส่วนตัว บางครั้งอาจจะส่งผลต่อการเลือกชีวิตคู่ของเราก็เป็นได้…และเรื่องที่กล่าวไว้ข้างต้นนี้ก็กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์ ณ ตอนนี้เลย กับกรณีของรายการ เทคมีเอาท์ไทยแลนด์ ตอนที่ 2 ซีซั่นที่ 15 ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา มีสาวสวยคนหนึ่งไปออกรายการ… หนุ่มๆ ทั้งหลายต่างก็ตื่นเต้นกันทั้งรายการ แต่พอสาวบอกว่าเป็นแฟนคลับพี่โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ปุ๊บ ปิดไฟกันระนาว สาวคนที่ว่านั้นก็คือคุณ เตย ปรางใส หอมพวงภู่ วัย 30 ปี ที่หน้าตาของเธอนั้นดูจะคล้ายกับ คิม คิมเบอร์ลี่ ที่เป็นนักแสดงชื่อดังไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากเดินเข้ามาในรายการ กลายเป็นว่าหนุ่มๆ ที่อยู่ในรายการต่างก็ให้ความสนใจ ไม่มีใครดับไฟเลยแม้แต่คนเดียว จนกระทั่งถึงช่วงชมคลิปแนะนำตัว พบว่าคุณ เตย ปัจจุบันทำธุรกิจเปิดร้านทำเล็บและสปา ร่วมกับทำงานด้านบัญชีควบคู่ไปด้วย เธอต้องทำงานทุกวัน เข้าออฟฟิศตั้งแต่วันจันทร์-เสาร์ ส่วนตอนเย็นก็ต้องเข้ามาดูร้าน จะว่างก็หลัง 3 ทุ่มเป็นต้นไป ส่วนด้านไลฟ์สไตล์ ก็เป็นแฟนคลับของพี่โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชอบมาตั้งแต่สมัยอยู่ชั้นมัธยมปลาย…
-
วินาที “สัตวแพทย์สาว” วิ่งออกไป “ทำคลอดฉุกเฉิน” ผู้คนแห่ชื่นชม ช่วยเด็กน้อยเอาไว้ได้!!
คงไม่แปลกที่เราจะได้เห็น “หมอ” เป็นคนทำคลอดให้กับหญิงสาวที่ตั้งครรภ์ แต่มันกลับกลายเป็นอะไรที่แปลกมากๆ ถ้าหากหมอคนนั้นคือ “สัตวแพทย์”…?! นี่คือเรื่องราวจริง ภาพเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (19 พ.ค. 2019) หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Min K Wg ได้แชร์คลิปและเรื่องราวสุดระทึก เมื่อสัตวแพทย์สาว “ช่วยทำคลอดฉุกเฉิน” ให้กับหญิงสาวคนหนึ่งริมถนน คลินิกของสัตวแพทย์สาวที่ทำในสิ่งที่น่าประทับใจ เจ้าของเฟซบุ๊กเล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ณ ตอนนั้นเธออยู่ที่คลินิก “หมอมนรักสัตว์” ก่อนที่จู่ๆ จะมีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา บอกกับ หมอมน สัตวแพทย์เจ้าของคลินิกว่า “มีผู้หญิงคลอดลูกอยู่กลางซอย!!” งงกันเลยทีนี้ เพราะด้านหน้าก็เขียนเอาไว้ชัดแล้วว่าที่นี่คือ “คลินิกรักสัตว์” แต่เชื่อว่าผู้ชายคนดังกล่าวคงหมดหนทางแล้วจริงๆ เขาจึงตัดสินใจวิ่งมาขอความช่วยเหลืออย่างนั้น สิ่งที่เขาพูดจนทำให้สัตวแพทย์สาวตัดสินใจวิ่งออกมาในทันทีก็คือ “หมอต้องไปนะครับ ถ้าไม่ไปเด็กตายแน่ๆ ตอนนี้เด็กนิ่งแล้ว” เพียงเท่านั้น “หมอมน” ก็รีบวิ่งไปทำการช่วยเหลือในทันที เธอสามารถช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งไว้ได้สำเร็จ เรื่องราวที่เกิดขึ้น โพสต์ต้นฉบับ งานนี้ก็ทำเอาชาวเน็ตจำนวนมากแห่ชื่นชม…
-
สรุปประเด็น ‘เดอะทอยส์’ ทิ้งกีตาร์ เลิกทำการแสดง หลังมีคนขึ้นป่วนบนเวที
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องร้อนแรงที่เป็นกระแสในช่วงเมื่อคืน (19 พ.ค.) กับเหตุการณ์ที่มีคนขึ้นเวลาไปกอดคอ ‘เดอะทอยส์’ พร้อมกับบังคับให้กินเหล้า ซึ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนยังไม่รู้เรื่องนี้ เราจะมาเล่าให้ฟังเอง!! เกิดอะไรขึ้น!? เรื่องมีอยู่ว่า เดอะทอยส์ ศิลปินชายสุดป๊อปได้เข้าไปทำการแสดงดนตรีที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง แต่ว่าขณะที่เขาทำการบรรเลงเพลง “มีเธอทุกวันก็โอนิ” อยู่นั้นเอง ก็มีชายคนหนึ่งขึ้นเวทีมาแล้วกอดคอเขา พร้อมกับยื่นแก้วแกมบังคับให้กินเหล้า เมื่อเดอะทอยส์เห็นดังนั้นเขาก็หมดความอดทน ปากีตาร์ทิ้งเลิกการแสดงพร้อมกับเดินลงเวทีไปซะเลย ซึ่งก็คาดว่าคนที่ขึ้นมาบนเวทีน่าจะมีอาการมึนเมาด้วย คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ สถานบันเทิงแห่งนั้น กลายเป็นประเด็นดราม่า!? เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ได้ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กโดยผู้ใช้รายหนึ่ง ซึ่งแคปชั่นของโพสต์เขียนเอาไว้ว่า “โต๊ะละ 4,000 ทั้งหมด 3 โต๊ะ 12,000 ร้องได้ยังไม่ทันจบเพลงเลย ไปซะแล้ว #หมดคำสิเว่า” โพสต์นี้ได้ถูกแชร์ออกไปมากมาย พร้อมกับมีคนออกมาต่อว่าเดอะทอยส์อย่างมากกับแคปชั่นและคลิปที่โพสต์ ซึ่งอธิบายว่าที่ขึ้นเวทีเพียงเพราะจะเอาทิปไปให้ แต่เดอะทอยส์ไม่พอใจ . ทว่าต่อมาก็มีคนนำคลิปอีกมุมหนึ่งออกมาเผย โดยเล่าว่าชายคนในคลิปไม่ได้เพียงแต่จะเอาทิปขึ้นไปให้เท่านั้น แต่ยังบังคับให้เดอะทอยส์ดื่มเหล้า จนทำให้นักร้องหนุ่มไม่พอใจต่างหาก ซึ่งในเวลาต่อมาโพสต์ที่กลายเป็นชนวนจุดดราม่าในตอนแรก ก็ถูกลบออกไปเป็นที่เรียบร้อย… มุมนี้เห็นชัดมากว่า"ไม่ได้ขอถ่ายรูป"แต่ว่า"ล๊อคคอทอยจะให้ดื่มเหล้าแล้วมีทิป?มาให้ด้วย"สมควรแล้วหรอคะ…
-
อุทาหรณ์!! สาวเจอกับตัว “เงาะติดคอเด็ก” จนเกือบไม่รอด พร้อมแนะวิธีช่วยเหลือเบื้องต้น
อีกหนึ่งการเตือนภัยและวิธีการที่น่าสนใจที่สามารถ “ช่วยชีวิตคนได้จริง” เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้แชร์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เธอเพิ่งเจอมาแบบสดๆ ร้อนๆ วานนี้ (19 พ.ค. 2019) เรื่องมีอยู่ว่า เธอเพิ่งอยู่ในเหตุการณ์ “เงาะติดคอเด็กคนหนึ่ง” จนทำให้หายใจไม่ออก ต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยความเร่งด่วน เกือบเอาชีวิตไม่รอด ภาพประกอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเล่าว่าเด็กคนดังกล่าวถูกเพื่อนยัดเงาะใส่ปาก เล่นกันขำๆ จนเข้าไปติดคอ สำลักหมดสติไป พอนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ทีมแพทย์ก็ช่วยกันปั๊มหัวใจ ควักเงาะ 1 ลูกที่ติดอยู่ออกมาได้สำเร็จ ปัจจุบัน เธอกล่าวว่าหัวใจของเด็กกลับมาเต้นแล้ว แต่สมองนั้นขาดออกซิเจนไปนานมาก ซึ่งตอนนี้เด็กก็ยังคงไม่ตื่นขึ้นมา นอกจากนั้นเธอก็ยังได้แนะนำทุกคนเกี่ยวกับวิธีการช่วยชีวิตที่เราสามารถ “ทำได้เองเบื้องต้น” ระหว่างรอรถพยาบาล วิธีที่เธอแนะนำได้แก่ 1. หากไม่รู้สึกตัว ให้กดหน้าอกช่วยปั๊มหัวใจทันที (ไม่ว่าจะมีชีพจรหรือไม่) และดูในปากว่ามีสิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาหรือเปล่า ถ้ามีก็ให้ทำการล้วงออกมา 2. หางยังรู้สึกตัวแต่ส่งเสียงไม่ออก ตัวเขียว ให้คนช่วยอ้อมไปหลังผู้ป่วย เอากำปั้นวางไว้ที่ท้องบริเวณลิ้นปี่ของผู้ป่วย จากนั้นใช้มืออีกข้างช่วยกดกำปั้นดันเข้าและขึ้น ทำซ้ำจนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา 3. หากรู้สึกตัวดี พูดได้ หายใจได้ ให้ผู้ป่วยพยายามไอออกมาเอง …
-
จากไปอย่างสงบ… ความต้องการสุดท้ายของคนไข้ ‘ยุติเครื่องพยุงชีพ’ อำลาผู้เป็นที่รัก
มีพบ มีพราก มีจากลา ทุกชีวิตล้วนแล้วแต่ต้องเดินทางไปถึงจุดสิ้นสุด โดยที่เราไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าพอถึงเวลานั้นแล้ว หลายๆ คนก็คงจะอยากให้ “ความปรารถนาสุดท้าย” ของตัวเองเป็นจริง สำหรับคนไข้คนนี้ สิ่งที่เธอต้องการเป็นอย่างสุดท้ายของชีวิตก็คือ “การได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ” และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ญาติสนิท มิตรสหาย รวมถึงเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลอุดรธานีทุกคน ตัดสินใจทำตามความปรารถนาของเธอ ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (19 พ.ค. 2019) นี่คือเรื่องราวที่ถูกแชร์โดยเพจ เมตตารักษ์ หน่วยดูแลประคับประคอง โรงพยาบาลอุดรธานี คนไข้หญิงคนดังกล่าวป่วยด้วยโรคเส้นเลือดสมองตีบ สมองบวม จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ทว่าภายหลังการผ่าตัดเสร็จสิ้น เธอกลับไม่รู้สึกตัวและไม่มีการตอบสนองใดๆ อีกเลย คำขอสุดท้ายที่เธอได้บอกกับทุกๆ คนเอาไว้ในตอนที่ยังมีสติ คือคำพูดที่ว่า “อยากจากไปอย่างสงบ อย่ายื้อ อย่าเจาะคอ อย่าปั๊มหัวใจ” สิ่งนั้นถือว่าเป็น “ความปรารถนาสุดท้าย” (Living Will) อย่างไม่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่มันคือคำพูดอันทรงพลังที่ลูกๆ และคนที่รักเธอทุกคนยึดมั่น ตั้งใจว่าจะทำตามคำขอนี้ ในความกังวลปนความห่วงใย กับคำถามที่ว่า “เราทำถูกต้องมั้ย? สิ่งที่ทำเป็นการทำการุณยฆาตหรือเปล่า?” ท้ายที่สุดแล้วทุกคนรวมถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็เลือกที่จะแน่วแน่ทำตามความต้องการของเธอ…
-
คุณตายืนกางแขนเล่นลมขณะขับรถ โดนจับสารภาพ ‘ผมยอมติดคุกดีกว่ากลับบ้านไปหาเมีย’
ด้วยความเบื่อ ความหน่ายหรือเหตุใดก็ไม่อาจทราบได้ จึงทำให้คุณตาวัย 70 ปีคนหนึ่งตัดสินใจทำตัวเองให้โดนตำรวจจับด้วยการขับรถแบบสุดหวาดเสียว ซึ่งภายหลังเขาก็สารภาพว่าที่ทำไปเพราะไม่อยากกลับบ้านไปหาเมีย!! เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Leonard Olsen ชาวฟลอริด้าวัย 70 ปีถูกตำรวจจับกุมตัวได้ หลังจากที่เขาถูกพบเห็นโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่เอาตัวเองไปยืนกางแขนเล่นลมผ่านซันรูฟขณะขับรถ นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเห็นแล้วยังมีพยานคนอื่นๆ ที่พบเห็นพร้อมกับถ่ายวิดีโอบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ด้วย… ชมลีลาของคุณลุงซะหน่อยละกัน หลังจากเห็นเขาโชว์พฤติกรรมระหว่างขับรถอย่างนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เรียกให้เขาหยุดรถในทันที ซึ่งตอนแรกเขาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอย่างที่ว่าซะหน่อย แถมยังบอกด้วยว่าไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย แค่พอตำรวจบอกว่ามีคนถ่ายวิดีโอคุณเอาไว้นะ เขาก็ยอมมอบสารภาพในทันที โดยบอกว่าวางแผนจะให้ตำรวจจับอยู่แล้ว เพราะไม่อยากกลับไปหาเมียที่บ้าน “นาย Olsen สารภาพว่าเขาหวังจะติดคุกแล้วถามผมว่าเอาเขาไปติดหน่อยได้ไหม ผมก็เลยถามเขาว่าทำไมคุณถึงอยากทำอย่างนั้นล่ะ เขาก็บอกประโยคเด็ดว่า ‘เมียผมทำกับผมอย่างกับเป็นคนใช้แล้วเธอเป็นนายหญิง ผมเบื่อกับเรื่องระยำนี่เต็มทนแล้วล่ะ” นายตำรวจคนหนึ่งกล่าว แล้วในที่สุดเขาก็ได้ดั่งที่หวังเมื่อเจ้าหน้าที่พาเขาไปติดคุกด้วยข้อหาขับรถโดยประมาท และข้อหาอื่นๆ อีก พร้อมทั้งมีค่าปรับอีกจำนวนหนึ่งด้วย… “ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดีในการสรรเสริญพระเจ้าน่ะ” เขากล่าวทิ้งท้าย น่าจะสบายไปช่วงหนึ่งนะคุณตา… ที่มา: odditycentral, foxnews
-
พบหนุ่มโรคจิต “ดมหัว-ก้มดูใต้กระโปรง” เหยื่อสาวบอก “ตำรวจไม่จับ เพราะมีบัตรคนบ้า”
สาวๆ บางคนอาจเคยประสบพบเจอกับ “การถูกแอบมองใต้กระโปรง” โดยฝีมือของหนุ่มหื่นในที่สาธารณะ แต่ขึ้นชื่อว่าการ “แอบมอง” แล้ว แน่นอนว่าคนเหล่านั้นก็คงไม่ก้มลงไปดูกันโต้งๆ หรอกจริงมั้ย? แต่สำหรับสิ่งที่หญิงสาวคนนี้ต้องเจอมันกลับเป็นเหตุการณ์ที่เธอถูกชายคนหนึ่ง “ก้มลงไปมองใต้กระโปรง” เธอแบบไม่แคร์ใครเลย?! ภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด เหยื่อสาวคนดังกล่าวได้โพสต์เฟซบุ๊ก เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่เธอได้เข้าไปใช้บริการเซเว่นสาขาหนึ่งในเขตบ้านวังซอง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา เรื่องมีอยู่ว่าระหว่างที่เธอยืนรอจ่ายเงินตรงเคาน์เตอร์นั้น จู่ๆ ชายคนที่เราเห็นในภาพก็ “ดมหัว” เธอ แถมย่อตัวก้มลงไปมองใต้กระโปรงเธออย่างนั้นโดยที่ไม่แคร์สายตาใครทั้งสิ้น เธอยังบอกอีกว่า หลังจากที่ทำอย่างนั้นกับเธอแล้ว ชายคนนี้ก็ยังจะเปลี่ยนเป้าหมายหันไปทำพฤติกรรมแบบเดียวกันกับคนอื่นอีก ชายผู้ก่อเหตุ นับว่าเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจเอามากๆ ซึ่งเธอก็ได้นำเรื่องนี้ออกมาเตือนภัยทุกๆ คน พร้อมด้วยคำพูดที่ว่า “คนบ้าอ่ะค่ะไม่รู้จะเอาเรื่องมันยังไง” เหตุผลที่เธอพูดอย่างนั้นก็เพราะเธอบอกว่า “ตำรวจก็ยังจับมันไม่ได้ เพราะมันมีบัตรคนบ้า” ?! โพสต์ดังกล่าว สำหรับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจากเว็บไซต์ Sanook ก็ได้ลงพื้นที่สอบถามหาข้อเท็จจริง ระบุตัวผู้ก่อเหตุว่าชื่อ นายชัยยุทธ…
-
นาทีระทึก ตำรวจขับรถไล่ล่า ‘เด็กแว๊นซ์’ หนีการจับกุม หันมาอ้อนวอน ‘อย่าจับผมเลย’
เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีหลากหลายอารมณ์ในเวลาเดียวกัน ทั้งสงสาร ทั้งขำ และลุ้นระทึก กับกรณีคลิปวิดีโอเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการบุกไล่ล่าแก๊งเด็กแว๊นซ์ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 สำนักข่าวเดลินิวส์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดปฏิบัติการไล่ต้อนจับกุม ‘แก๊งเด็กแว๊นซ์’ ที่รวมตัวกันขี่รถมอเตอร์ไซค์ซิ่งบนถนนราษฎร์อุทิศ กลางเมืองหาดใหญ่ ปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เวลาตี 4 ถึงเช้าตรู่ ปรากฏว่าพอตำรวจไปถึง แก๊งเด็กแว๊นซ์ทั้งหลายถึงกับแตกกระเจิง!! หลายคนก็ยอมมอบตัวแต่โดยดี แต่ก็มีบางส่วนที่ควบรถซิ่งหนีกันอุตลุด โดยเฉพาะพ่อหนุ่มคนหนึ่ง ที่ถูกตำรวจขับตามประกบ พอเห็นท่าว่าตัวเองจะโดนจับแน่ๆ เลยพยายามขอร้องไม่ให้ตำรวจจับ ร่ำไห้อ้อนวอน แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายก็ไม่รอด โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขับรถไล่จับกุมได้เกือบทั้งหมด ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยครับ ผลจากการปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดรถได้ทั้งหมด 32 คัน จับกุมวัยรุ่นได้ 30 คน มีชาย 22 คน และหญิง 8 คน ส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชนอยู่แทบทั้งสิ้น…
-
เกมแล้วเกมอีก!! ‘ลุงโทนี่’ โดนรวบอีกแล้ว เหตุไลฟ์ ‘นัวพริตตี้ – ชวนเล่นพนันออนไลน์’
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่มีคนรู้จักอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองสำหรับ ‘ลุงโทนี่’ ชายหนุ่มผมขาวที่มักจะมาไลฟ์สดขายของต่างๆ หรือบางครั้งก็มีการนัวสาวออกไลฟ์อยู่บ่อยๆ แต่ว่าในตอนนี้ลุงโทนี่ ‘เกม’ ซะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากสิ่งที่เขาทำร่วมกับ “ปู่มหามุนี” นั่นคือการไปทำพฤติกรรมส่อไปทางอนาจาร รวมถึงชักชวนให้เข้าเล่นการพนันผ่านเว็บไซต์!! หากใครไม่รู้จักกับลุงโทนี่ เราลองไปทำความรู้จักแบบคร่าวๆ กับแกซะก่อน โดยตอนแรกลุงได้เปิดเพจ ‘โทนี่ บุหรี่ทำเอง’ เพื่อขายยาเส้นรวมถึงเครื่องอัดต่างๆ และด้วยลีลาการขายอันแพรวพราวด้วยวลีฮิต ‘ไอ้หน้าxี’ ทำให้ลุงขายของดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่อย่างไรในเวลาต่อมา เขาก็ถูกจับปรับไป 11 ล้านบาท จากการขายของที่ว่านี้… จากนั้นลุงก็เปลี่ยนอาชีพเป็นรับโปรโมทสินค้าต่างๆ ผ่านเพจแทน และทำเรื่อยมาจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ลุงได้ร่วมกับปู่มหามุนีไลฟ์ เชิญชวนให้เข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ที่ลุงโปรโมท โดยในไลฟ์นั้นนอกจากจะมีคอนเทนต์เชิญชวนให้เล่นพนันแล้ว ก็ยังมีการนัวเนียนกับสาวๆ นุ่งน้อยห่มน้อยอยู่ด้วย… จากเรื่องราวทั้งหมดทำให้เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐาน ก่อนจะขอศาลอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งคนที่โดนจับไปก่อนหน้าลุงโทนี่ก็คือปู่มหามุนี สำหรับลุงโทนี่ถึงแม้ว่าจะกบดานที่ จ.เพชรบูรณ์ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ไปได้ โดยทางตำรวจสืบทราบว่า ลุงโทนี่เดินทางมาพักอาศัยที่จังหวัดนี้ จึงลงพื้นที่ติดตามตัว จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ ชุดจับกุมก็พบรถของลุงโทนี่จึงขอตรวจค้นก่อนที่เข้าจับกุมในที่สุด!! ในเบื้องต้นนายเจริญศักดิ์ โพธิ์ศรีชัย…
-
‘แพรว ฮอร์โมนส์’ สลัดคราบนักเรียนผมเปียตาใส เป็น ‘นักแข่งรถ’ สุดเท่ จนต้องมองเหลียวหลัง!!
เชื่อเลยว่าใครหลายคนคงยังติดภาพความน่ารักสดใสของ ‘ส้มส้ม ฮอร์โมนส์’ หรือแพรว นฤภรกมล ในชุดนักเรียนผมเปียตาใสตามบทบาทในเรื่อง และต้องบอกเลยว่ารอยยิ้มของเธอนี่ช่างเป็นอะไรที่เห็นแล้วเป็นอะไรที่ทำให้ใจสั่นจริงๆ สดใสจริงจริ๊งง งุ้ยๆ แต่ว่าล่าสุดเธอได้สลัดลุคนักเรียนที่เราคุ้นตากัน เปลี่ยนไปเป็นสาวเท่กับการเป็น ‘นักแข่งรถ’ สุดคูล ซึ่งต้องบอกว่านี่อาจเป็นอีกลุคหนึ่งที่ชนะใจใครหลายคน!! ลุคไหนก็ร้ากก เพจ ADVICS Thailand ได้โพสต์ต้อนรับการเป็นสมาชิกใหม่ของสาวแพรว ด้วยข้อความว่า “ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ แพรว นฤภรกมล ฉายแสง เป็นสมาชิก ADVICS AISIN Racing Team นะครับ ถึงจะมือใหม่ แต่พร้อมลุยมากๆ เก็บภาพบรรยากาศการซ้อมที่สนามไทยแลนด์เซอร์กิต นครชัยศรีมาฝาก ยังไงฝากเป็นกำลังใจให้น้องแพรวด้วยนะครับ #ADVICSAISINRacingTeam #artoOsaka #RukTeamService#ToyotaGazooRacingMotorsport2019 #ADVICS #AISIN #WeCanControlTheGame #TeamPraew” ว่าแล้วก็สาดรูปนักแข่งหน้าใหม่แบบรัวๆ ว่าจะเท่ขนาดไหนกัน สู้ๆ นะเราเป็นกำลังใจให้ บรื้น บรื้นน แววตามุ่งมั่นจริงๆ…
-
ตำรวจเกาหลีใต้จับกุมตัว “ชาวไทยลักลอบขนยา” เข้าประเทศ เพื่อนำไปขายให้ผีน้อย
อย่างที่เราทราบกันดีว่า “แรงงานไทยในเกาหลีใต้” ที่เข้าไปทำงาน-อยู่กินอย่างผิดกฎหมายนั้น มักจะถูกเรียกว่า “ผีน้อย” ก่อนหน้านี้ก็ได้มีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจในเกาหลีใต้บุกจับกุมตัวแรงงานเหล่านั้นเพื่อส่งกลับประเทศมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 16 พฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา แต่ว่าในการจับกุมตัวครั้งนี้กลับมีเรื่องของ “ยาเสพติด” เข้ามาเป็นส่วนสำคัญด้วย ของกลางที่พบในการจับกุมตัวครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง Daegu ประเทศเกาหลีใต้ ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวไทยจำนวน 24 คน ในข้อหา “ลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ” เพื่อนำมาขายให้กับเหล่าผีน้อย จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ พบ “ยาไอซ์” จำนวน 292.9 กรัม และ “ยาบ้า” อีกกว่า 244 เม็ด ตำรวจเกาหลีใต้รายงานว่า คนไทยเหล่านี้ได้เข้าประเทศไปด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2018 หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่ต่ออย่างผิดกฎหมาย และลักลอบขนยาเสพติดจากไทยเข้าไปเป็นจำนวนมาก โดยการลักลอบขนเข้าไปนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าอาจได้รับความช่วยเหลือจากคนในของบริษัทขนส่งพัสดุระหว่างประเทศในไทย ซึ่งในส่วนนี้จะทำการสืบสวนต่อไป หลังจากที่ลักลอบขนเข้าไปในเกาหลีใต้สำเร็จแล้ว คนไทยเหล่านั้นก็จะนำไปขายให้กับแรงงานไทยผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่าผีน้อย ผ่านทางการพูดคุยกันในเฟซบุ๊ก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่าผีน้อยที่ทำการซื้อยาเสพติดจากคนเหล่านี้ ทำงานอยู่ในบริษัทอุตสาหกรรม…
-
เพจดังรับเรื่อง-เข้าแจ้งความ กรณีน้องหมาถูกวางยา กับจดหมาย “อย่าให้ไปขี้หน้าบ้านคนอื่น”
ก่อนหน้านี้เพื่อนๆ หลายคนคงได้ทราบเรื่องราวในกรณีที่ “น้องหมาวัย 7 เดือน ถูกวางยา พร้อมกับมีจดหมายส่งมาให้เจ้าของว่า ‘อย่าปล่อยให้มันไปขี้หน้าบ้านคนอื่น’” อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: สาวสุดเศร้า พบ “น้องหมาถูกวางยา” มีจดหมายเตือน “อย่าให้ไปขี้หน้าบ้านคนอื่น” น้องหมาไซบีเรียนวัย 7 เดือน ชื่อว่า “บารอง” สภาพตอนเจ้าของพบศพ จดหมายที่เจ้าของหมาบอกว่า “ได้รับหลังจากพบศพ” และอย่างที่บอกไปในข่าวเก่าว่าทางเจ้าของหมาได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังกลุ่ม WATCHDOG THAILAND กลุ่มพิทักษ์สุนัขในไทย โดยหวังที่จะสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ล่าสุดทางเพจดังกล่าวก็ได้ออกมาโพสต์ ยืนยันว่าพวกเขาได้ทำการรับดูแลเรื่องนี้เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะสำหรับพวกเขานั้น ไม่ว่าอย่างไร “การพรากชีวิต” เจ้าสุนัขตัวนี้ไปก็ถือว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมเอามากๆ ทั้งนี้ พวกเขายังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าเรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในเขตตำบลเชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.อยุธยา โพสต์ของทางเพจ (17 พ.ค. 2019) จากเหตุการณ์ร้องเรียนที่เกิดขึ้นนั้น ทางเพจจึงได้ติดต่อประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรับผิดชอบเขตพื้นที่ดังกล่าว เพื่อแจ้งความในคดีอาญาข้อหา “ทารุณกรรมสัตว์” ทางเจ้าของหมานั้นก็ได้เข้าแจ้งความพร้อมกับ “รายชื่อผู้ต้องสงสัย” โดยหลังจากนี้จะเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ…
-
นศ.ม.เกษตรโพสต์แฉ ช่วงโจรชุมแต่โดนตำรวจตั้งด่านถ่ายรูป บังคับเขียนแคปชันส่งรายงาน
เรียกได้ว่าอันตรายจริงๆ ในเวลากลางค่ำกลางคืนสำหรับนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่กำลังเผชิญกับปัญหาถูก ‘โจร’ จี้กันแบบชนิดที่ว่าถี่มากๆ ถี่แบบโดนติดต่อกันถึง 4 วันเลยทีเดียว!! เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาสำนักข่าวรายงานว่าบรรดานักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรออกมาโพสต์บ่นกันเป็นจำนวนมาก ว่าพักหลังๆ นี้โจรผู้ร้ายออกมาอาละวาด เกิดเหตุจี้ฉกชิงวิ่งราวกันบ่อยครั้ง ผู้สื่อข่าวก็เลยลงไปสอบถามบรรดานักศึกษาที่อาศัยอยู่ในหอพักบริเวณซอยอมรพันธ์ และซอยงามวงศ์วาน 52 ย่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีหอพักอยู่เป็นจำนวนมาก นักศึกษาต่างก็เล่าให้ฟังเป็นเสียงเดียวกันว่าช่วงนี้เกิดเหตุจี้ ปล้น ชิงทรัพย์กันบ่อยจริงๆ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน แต่โชคดีที่ยังไม่มีใครบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต นักศึกษาหลายคนต่างก็คาดเดาว่าน่าจะเป็นฝีมือของโจรกลุ่มเดียวกัน วอนให้ตำรวจเข้ามาช่วยตรวจตรากวดขันจับกุมคนร้าย เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมามีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งออกมาเล่าเรื่องราวอันน่าตกใจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกมาประจำการตั้งด่านแถวๆ ม.เกษตรฯ พร้อมกับบังคับให้เหล่านักศึกษาถ่ายรูป แล้วก็โพสต์แนวๆ ว่า ‘สบายใจจัง มีพี่ตำรวจมาดูแลให้ ว้าว’ ลองไปอ่านโพสต์แบบเต็มๆ กันดูครับ . . ภาพประกอบ โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนรีทวีตไปกว่า…
-
ไปรษณีย์เห็นน้องหมาถูกรถเหยียบ เข้าช่วยเหลือแม้ไม่มีเงิน นำไปสู่การระดมทุนรักษาต่อชีวิต!!
อาชีพหนึ่งทีอาจมีปัญหากับน้องหมามากที่สุดก็คือ ‘ไปรษณีย์’ เพราะมันอาจเป็นภาพคุ้นตาของใครหลายคน กับการเห็นพวกเขาขี่มอเตอร์ไซค์ส่งของตามบ้าน แล้วเจอเจ้าตูบวิ่งไล่ฟัดจนบางทีก็ล้มระเนระนาด แต่ว่าบางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป อย่างเช่นในกรณีของไปรษณีย์คนนี้ที่นอกจากจะไม่ได้เกลียดน้องหมาแต่อย่างใด ในทางกลับกันเขายังมีจิตใจที่ดีงามช่วยเหลือมันในยามที่บาดเจ็บด้วย เรื่องนี้เกิดขึ้นกับบุรุษไปรษณีย์ที่มีชื่อว่า ‘บ็อบ’ ที่วันหนึ่งขณะที่เขากำลังส่งของตามบ้านในเขตลำลูกกา ก็ไปเห็นเหตุการณ์ที่น้องหมาตัวหนึ่งถูกรถเหยียบ จากความที่มันวิ่งเข้าไปที่ล้อหลังของรถคันนั้น และคนที่ขับรถก็คงมองไม่เห็นจึงขับต่อไป คุณบ็อบคนที่ไปเห็นเหตุการณ์ เมื่อเห็นดังนั้นด้วยความจิตใจของเขาจึงตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องช่วยเหลือน้องให้ได้ เลยโทรหาบุรุษไปรษณีย์อีกคนที่มีชื่อว่า ‘บุ๊ก’ ให้มาอยู่ช่วยน้องด้วยกัน จากการเปิดเผยโดยเพจบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อนที่เข้ามาช่วย เขาเล่าว่าตอนนั้นเจ้าหมาเลือดออกเยอะมากมีอาการไม่ดีบวกกับหาเจ้าของมันไม่เจอ เลยตัดสินใจโทรปรึกษากับโรงพยาบาลสัตว์ที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก็ด้วยความที่ไม่มีเงินพอจะส่งรักษาเขาจึงทำได้เพียงเช็ดเลือดให้เบื้องต้น ทันใดนั้นเองขณะที่เช็ดเลือดอยู่สองหนุ่มไปรษณีย์ก็บังเอิญเจอกับเจ้าของน้องหมาพอดี แต่ก็ด้วยคุณลุงเจ้าของมีอาชีพเก็บของเก่าขาย เขาจึงโมโหเพราะไม่มีเงินจะรักษาสัตว์เลี้ยงแสนรักเหมือนกัน คุณลุงเจ้าของน้องหมา ในที่สุดไปรษณีย์จึงตัดสินใจอาสาพาน้องกลับบ้านด้วย เพราะสงสารกับโชคชะตาของมัน… มีการระดมทุนเพื่อรักษาน้อง!! ในเวลาต่อมาเฟซบุ๊ก M’Prang Punyanuch ได้โพสต์ขอระดมทุนรักษาเจ้าหมาตัวนี้ซึ่งสืบทราบว่ามันมีชื่อว่า ‘เจ้าทอง’ อาการเบื้องต้นของเจ้าทองคือถูกรถกระบะเหยียบช่วงสะโพก ทำให้กระดูกเชิงกรานฝั่งซ้ายหักไป 3 ตำแหน่ง รวมทั้งฝั่งขวาก็ยังมีการเคลื่อนอีกด้วย…
-
ตำรวจเกาหลีบุกจับคนไทยคาผับ ผีน้อยร่วมให้กำลังใจ เตือนอย่าออกไปเที่ยว ถ้าไม่อยากโดนส่งกลับ
อย่างที่รู้กันดีว่าปัญหาเรื่อง ‘คนไทยแอบลักลอบเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้’ กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากโซเชียลบ้านเรา และทางการของเกาหลีใต้เอง เจ้าหน้าที่ตำรวจของเกาหลีใต้ก็ทำงานกันอย่างหนักเพื่อตามจับกุมตัวเหล่าแรงงานเถื่อน หรือที่เรียกว่า ‘ผีน้อย’ ทั้งหลาย ส่งตัวกลับประเทศไทยมาแล้วมากมาย ล่าสุดก็มีเหตุการณ์บุกจับเหล่าผีน้อยอีกครั้งที่ผับแห่งหนึ่งในเมืองอุลซาน ในครั้งนี้เป็นการบุกจับครั้งใหญ่ก็ว่าได้เลยทีเดียว และเรื่องก็กลายเป็นประเด็นเมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้แชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์บุกจับดังกล่าว โดยคาดว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นเองก็เป็นคนไทยที่ไปทำงานอยู่ที่เกาหลีเช่นเดียวกัน และมีแคปชันแนวๆ ว่าให้กำลังใจกับผีน้อยคนอื่นๆ ที่ยังลักลอบขายแรงงานอยู่ที่เกาหลีใต้ ขอให้ปลอดภัยจากตำรวจ เหตุการณ์ในคลิปจะได้ยินเสียงของผู้หญิง ถามถึงชื่อของคนรู้จักก่อนจะรู้ว่าคนที่ถามถึงนั้นถูกจับขึ้นรถไปแล้ว นอกจากนี้ก็มีการพูดคุยกันเพิ่มเติมในคอมเมนต์ทำให้ทราบว่าเกิดขึ้นในผับแห่งหนึ่งในเมืองอุลซาน ซึ่งผับดังกล่าวเป็นผับของคนไทย มีคนถูกจับกุมทั้งหมดราวๆ 20 ราย ซึ่งคนที่โดนจับไปมีแต่คนที่เจ้าของโพสต์รู้จักทั้งนั้น โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนแชร์ไปมากกว่า 400 ครั้ง หลายคนต่างก็ให้กำลังใจผู้คนที่ไปทำงานอยู่ในเกาหลี ว่าให้ระมัดระวังตัวอย่าให้โดนจับ ขอให้คนที่อยู่ รอดปลอดภัย ถ้าเศรษฐกิจบ้านเราดี ก็คงไม่ต้องไปลำบากที่ต่างแดน เห็นแล้วสะเทือนใจ . แทกุกสลัมหมายความว่าคนไทย อย่าให้คนไทยต้องบอยคอตสินค้าเกาหลีเลย เรียกได้ว่าช่วงนี้มีข่าวแบบนี้ออกมาให้เห็นบ่อยๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งล่าสุดทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยกับเกาหลีก็ได้ตกลงร่วมมือที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ก็การออกมาตรการให้ทำการลงทะเบียน ETA…
-
กิน “ทุเรียน” ได้ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ด้วย “กระดาษกงเต๊กทุเรียน” ลูกๆ จ๋า เผาตามป๊าไปที!!
เมื่อพูดถึง “กงเต๊ก” แล้ว คงเป็นสิ่งที่หลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับใครที่มีเชื้อสายจีน เพราะมันคือการ “ทำบุญให้แก่ผู้ตาย” ด้วยการเผากระดาษที่เป็นรูปต่างๆ ความเชื่อในลักษณะนี้ก็ประมาณว่าเราเผากระดาษที่มีรูปร่างเหมือนกับสิ่งไหน คนที่ตายไปอยู่บนสวรรค์ก็จะได้รับสิ่งนั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น กระดาษรูปบ้าน หรือที่เห็นกันบ่อยๆ ก็คือกระดาษที่มีลักษณะเหมือน “เงิน” แต่สำหรับกระดาษกงเต๊กในครั้งนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่เราเคยเห็นกันมาก่อนเพราะนี่คือ…. กระดาษกงเต๊กทุเรียน… โซ ว๊อททท?! ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวสิงคโปร์ที่ชื่อว่า Han Li ได้แชร์ภาพการค้นพบอันน่าทึ่งของเขาในร้านค้าแห่งหนึ่ง เมื่อมี “กระดาษกงเต๊กรูปทุเรียน” มาวางขาย พร้อมข้อความว่า.. “ความคลั่งไคล้ทุเรียนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในโลกที่เราอยู่ แต่ยังรวมไปถึงโลกหลังความตายก็ด้วยนะ” โพสต์ต้นฉบับ So the durian craze dont happen only in the living world but also in the netherworld 😂 pic.twitter.com/AVgejpQq9q — Han…
-
ชาวเน็ตให้กำลังใจ ‘ไอ้เน่า’ หรรมถลอก ส่วน ‘อ้วน’ คนขับ ไหปลาร้าหัก แทบไม่มีใครเหลียวแล
เรื่องราวของพ่อหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกเจ้านายใช้ให้ไปเติมน้ำมัน พอสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ออกไปเท่านั้นแหละ เจ้าหมาดันกระโดดขึ้นรถไปด้วย ระหว่างทางก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา คนขับเจ็บหนัก ส่วนหมาแทบไม่เป็นอะไรเลย!? เรื่องราวสุดพีคในครั้งนี้ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก เบิร์ด บทโหด เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา เป็นภาพของ ‘อ้วน’ ลูกน้องที่ถูกไหว้วานให้ไปเติมน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ให้ ขณะกำลังออกไปก็มีเจ้า ‘เน่า’ หมาพันธุ์บูลด็อกกระโดดขึ้นรถไปด้วย ไปๆ มาๆ ระหว่างทางไปเติมน้ำมันก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาซะอย่างนั้น รถมอเตอร์ไซค์พุ่งชนเข้ากับรถแท็กซี่อย่างจัง อ้วนคนขี่รถมอเตอร์ไซค์บาดเจ็บหนักถึงกับ ‘ไหปลาร้าหัก’ ดามเฝือกกันเลยทีเดียว ส่วนเจ้าเน่ารู้ตัวทันกระโดดหนีลงมาจากมอเตอร์ไซค์ได้ก่อน บาดเจ็บเล็กน้อยแค่ ‘หรรมถลอก’ เท่านั้นเอง!! โถน่าสงสาร เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ส่งต่อกันไปมากมายในโลกออนไลน์มากกว่า 4,300 ครั้ง ชาวเน็ตหลายคนต่างก็เข้ามาให้กำลังใจกับเจ้าเน่ากันอย่างล้นหลาม ส่วนพี่อ้วนน่ะเรอะ…พูดถึงน้อยมว๊ากกกก 555+ . . . ในที่สุดก็มีคนเข้าใจพี่อ้วน T T . สรุปแล้วใครน่าสงสารกว่ากัน…
-
ร้านเสื้อมือสองโพสต์ขายชุดหมีสุดน่ารัก ดึง ‘คุณลุง’ มาเป็นนายแบบ ถูกใจชาวเน็ตอย่างจัง!!
การขายเสื้อผ้าถ้าจะให้ดีอาจต้องมีการใช้ ‘พรีเซนเตอร์’ ให้เห็นว่าถ้าหากซื้อเสื้อผ้าไปใส่แล้วก็จะดูดีเหมือนกับนายแบบ – นางแบบของทางร้านนี่แหละ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็มักจะใช้คนสวยคนหล่อเป็นแบบกัน แต่ว่ามีร้านขายเสื้อมือสองอยู่ร้านหนึ่งที่มีกลยุทธ์ที่แหวกกว่านั้น เพราะทางร้านเลือกที่จะใช้คุณลุงหนวดเฟิ้มคนหนึ่งเป็นพรีเซนเตอร์เสื้อผ้าสุดตัลล้าก จากความย้อนแย้งเลยกลายเป็นมาเป็นความน่ารักแบบถูกใจชาวเน็ต!! คุณลุ๊งงง เพจ โกดังญี่ปุ่นมือสอง -Felice Chiang Mai ได้ทำการโพสต์ภาพขายชุดหมีน่ารักๆ ที่เป็นตัวการ์ตูนต่างๆ นานาในราคา 280 บาท ซึ่งคนที่มาเป็นนายแบบครั้งนี้ก็คือคุณลุงคนหนึ่งที่มีหน้าตาดุดันขึงขัง แต่ว่าผลที่ออกมามันกลับเป็นอะไรที่ลงตัวแบบสุดๆ เพราะชุดมันดันเข้ากับคุณลุงได้แบบงงๆ ซึ่งภาพที่ออกมานั้นจะเป็นยังไงนั้น ไปลองดูกันดีกว่า หันหลังซะหน่อยละกัน สองนิ้วแบ๊วๆ ใสๆ ใส่แล้วก็จะน่ารักเหมือนลุงนี่แหละ ได้ทุกชุด จัดจ้านทุกแนว ข้างหลังก็ดูดี๊ดี ชุดขนเหมาะสำหรับไปวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ . ตอนนี้โพสต์ขายเสื้อนี้ได้รับการแชร์ออกไปแล้วถึง 400 ครั้ง นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันในการขายเสื้อเลยก็ว่าได้ แต่จะว่าไปแล้วเราลองไปดูความคิดเห็นของชาวเน็ตกันสักนิดกีกว่า ว่าเมื่อเห็นคุณลุงแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง . . . . . ที่มา:…
-
สองรปภ. หนุ่มสอบติดมหาลัยฯ ดังพร้อมได้ทุน ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมแบ่งเบาภาระพ่อแม่!!
แม้ว่าเรื่องของ ‘ฐานะ’ จะเป็นอุปสรรคสำหรับบางคน แต่ด้วยความตั้งใจมุนานะแล้วก็คงไม่มีอะไรมาขัดขวางการเดินทางตามความฝันได้ อย่างเช่นในกรณีของน้องวี และน้องชาย สองรปภ. หนุ่มที่แม้ฐานะทางบ้านจะไม่ค่อยสู้ดีนักหนำซ้ำยังต้องทำงานพิเศษหาเงินเลี้ยงชีพแต่ก็ยังสอบติดมหาวิทยาลัยดังได้ จนชาวเน็ตต่างชื่นชมกันเป็นยกใหญ่ น้องวี รปภ. ว่าที่นิสิตจุฬา เมื่อประมาณไม่กี่วันก่อน โลกโซเชียลต่างก็แห่แชร์เรื่องราวของ นายวีระพงศ์ แซ่หาญ หรือวี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอายุ 18 ปี แห่งวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยเหตุที่แชร์นั้นก็คือความที่น้องวีสามารถสอบติดคณะสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ แม้ว่าจะทำงานหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่ยังเรียน ม.ปลาย อยู่ และระหว่างรอประกาศผลสอบก็เข้ามาเป็นยามอย่างที่เห็นกันอยู่นี้ น้องวีเล่าเขาจบมัธยมจากโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม จังหวัดน่าน ซึ่งระหว่างที่เรียนที่นั่นก็ตั้งใจเรียนเพราะอยากจะทำความฝันในการเป็นสัตวแพทย์ให้เป็นจริง กระทั่งชั้น ม.6 จึงได้เลือกคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากการสอบเสร็จสิ้นและอยู่ในช่วงปิดเทอมรอผลสอบ เขาก็มาที่ จ.เชียงใหม่ สมัครเข้าทำงานกับบริษัทชัยภูมิโปรการ์ด ทำหน้าที่เป็นรปภ. หารายได้ให้กับครอบครัว ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเขาบอกว่าไม่อายกับอาชีพนี้แต่อย่างใด จนกระทั่งวันที่ผลสอบถูกประกาศออกมา และรู้ว่าความฝันกลายเป็นความจริงเขาก็ดีใจจนน้ำตาไหลออกมา… ในตอนนี้น้องวีได้ยื่นลาออกกับบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ…
-
อาสาฯ นับพัน ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลง “เตียวขึ้นดอยสุเทพ” ปีนี้ ไม่มีขยะเกลื่อนเลยจ้า!!
ผ่านพ้นไปแล้วกับ “ประเพณีเตียวขึ้นดอยสุเทพ” เนื่องใน วันวิสาขบูชา ปี 2019 เมื่อคืนนี้ (17 พ.ค) ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีที่จัดขึ้นอยู่เป็นประจำทุกปี ณ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ประเพณีดังกล่าวมักจะถูกพูดถึงในเรื่องของ “การจัดการปัญหาขยะ” ที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่ผ่านพ้นประเพณีนั้นไป วันต่อมาก็จะมีคนพบขยะจำนวนมากเกลื่อนไปทั่วริมทางถนนที่เดินขึ้นไป ทั้งขวดน้ำพลาสติก กล่องโฟม รวมกันแล้วในคืนเดียวมีมากถึงราวๆ 50 ตัน ขยะเกลื่อนกลาดที่มีให้เห็นในปีก่อนๆ แต่แล้วปัญหาอันน่ากังวลใจนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยภาพการประสบความสำเร็จในปีนี้ หลังจากที่ทางผู้สื่อข่าวของ Sanook ได้ลงพื้นที่ถ่ายบรรยากาศภายหลังการเตียวขึ้นดอย “ไม่พบขยะเกลื่อนกลาดอยู่ตามริมถนนเลย” . เราจะเห็นได้ว่าขยะต่างๆ นั้นถูกใส่เอาไว้ในถุงดำวางตามจุดต่างๆ ตลอดริมถนนระยะทางกว่า 11 กิโลเมตร โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ก็สามารถขึ้นไปเก็บลงมาเพื่อทำลายได้อย่างง่ายดาย แถมยังทำให้ดูสะอาดตามากจริงๆ . นายวัลลภ นามวงศ์พรหม เลขาธิการมูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ต้องขอขอบคุณประชาชนกว่าหมื่นชีวิตที่ให้ความร่วมมือ ไม่ทิ้งขยะตามริมข้างทาง และที่สำคัญคือเหล่าอาสาสมัครกว่าพันคนที่คอยช่วยเหลือ…
-
หนุ่มแชร์ภาพ ‘เด็กถูกกล้อนผม’ พร้อมวิจารณ์ ‘ต้นเหตุความล้มเหลว’ ชาวเน็ตร่วมสนับสนุน
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่ถูกการวิพากษ์วิจารณ์บ่อยครั้งมาก กับการ ‘ตัดผม’ ในโรงเรียน ที่คุณครูจะทำโทษเด็กนักเรียนที่มีทรงผมผิดระเบียบ ด้วยการใช้กรรไกร หรือปัตตาเลี่ยนไถผม จนไม่เป็นทรง และให้นักเรียนกลับไปตัดมาใหม่เพื่อให้ถูกกฎของโรงเรียน ในช่วงเปิดภาคเรียนก็จะมีภาพเหล่านี้มาให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ จนเกิดเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันขึ้นมาว่า ทำแบบนี้มันถูกไหม? เป็นการละเมิดสิทธิของเด็กหรือไม่? เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้… เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @Lahud_In_Black ได้ทำการแชร์ภาพของเด็กนักเรียนที่ถูกปัตตาเลี่ยนไถผมเป็นเส้นตรงกลางหัว พร้อมกับแคปชันว่า “โกรธทุกครั้งที่เห็นอะไรแบบนี้ เพราะมันคือรากเหง้าของความล้มเหลวทั้งหลายในประเทศ ตราบใดที่คุณยังเห็นสิ่งนี้ คุณต้องนับไปอีกสิบปีจึงจะเห็นประเทศไทยก้าวสู่ความพัฒนา ถ้าอีกสิบปีข้างหน้ายังเห็นอีก ก็นับกันต่อไปอีกสิบปี” ภาพที่เป็นประเด็น โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนรีทวีตไปกว่า 45,339 ครั้งเลยทีเดียว โพสต์ต้นฉบับ โกรธทุกคตั้งที่เห็นอะไรแบบนี้เพราะมันคือรากเหง้าของความล้มเหลวทั้งหลายในประเทศตราบไดที่คุณยังเห็นสิ่งนี้ คุณต้องนับไปอีกสิบปีจึงจะเห็นประเทศไทยก้าวสู่ความพัฒนา ถ้าอีกสิบปีข้างหน้ายังเห็นอีก ก็นับกันต่อไปอีกสิบปี pic.twitter.com/rwvLjqUVFi — ทนงทวย คงควรทอง🇵🇸 (@Leopard_Sept) May 17, 2019 เกิดเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาในเรื่องสิทธิของเด็ก, พัฒนาการของระบบการศึกษาไทย, และความเชื่อมโยงกันระหว่างทรงผมกับการเรียน ลองไปอ่านความเห็นของบรรดาชาวเน็ตเหล่านั้นดูครับ…
-
จะเป็นอย่างไร เมื่อ “ตัวซวยในตำนาน” เล่นโซเชียล ไปที่ไหนก็ทำเอาตำรวจกุมขมับเลยนะฮะ
เมื่อพูดถึง “การ์ตูนนักสืบ” อันโด่งดังแล้วล่ะก็ เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักกับ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน อย่างแน่นอน ด้วยสโลแกนติดหูที่ว่า “ตัวแทนแห่งดวงจันทร์ จะลงทัณฑ์แกเอง!!”….. หยอกเล่นเฉยๆ นะ แหะๆ ของจริงต้อง “ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ถึงตัวจะเป็นเด็ก แต่สมองเป็นผู้ใหญ่ ชื่อของเขาคือ โคนัน!!” เพื่อนๆ หลายคนคงชื่นชอบกับการไขคดีของนักสืบจิ๋วคนนี้ ในขณะที่เอาจริงๆ เราจะเรียกว่าเขาเป็น “ตัวซวย” ซะมากกว่า ก็แหมมม เล่นไปที่ไหนก็มีคนตายที่นั่นซะขนาดนั้นนี่เนาะ ไม่ใช่แค่พวกเราที่คิดอย่างนั้นหรอกนะ เพราะตัวละครตัวอื่นๆ ในเรื่องก็อาจคิดไม่ต่างกันเลย ซึ่งสิ่งนั้นสามารถพิสูจน์ได้จากเรื่องราวต่อไปนี้ กับภาพวาดและเนื้อหาฮาๆ ฝีมือลายเส้นคนไทยจากเพจ What the hell? โพสต์ต้นฉบับ สำหรับตอนนี้มีชื่อตอนว่า แอบดูหน้าวอลล์ CONAN ตอน: ตัวซวยในตำนาน โดยทางเพจได้พูดถึงแรงบันดาลใจในการวาดภาพเรื่องราวล้อเลียนฮาๆ นี้ว่า… “เรารู้สึกว่า โคนัน เนี่ยเป็นการ์ตูนที่คนชอบเป็นอันดับต้นๆ ในไทยเลย ทุกกลุ่มอายุ เราจะทำยังไงให้คนฮาไปกับมัน จึงเลือกเรื่องที่เราสงสัยมาล้อเลียน คิดว่าทุกคนก็คงสงสัยไม่ต่างกัน” ว่าแล้วเราก็ลองไปชมความฮาของ…
-
เปิดใจ “นายแบบขาย กกน. ใช้แล้ว” ทำไปเพื่อหาทุนเรียน-ดูแลแม่ป่วย ไม่อายทำกิน
เมื่อวานนี้ (17 พ.ค. 2019) ได้มีการพูดถึงประเด็นของนายแบบหนุ่มคนหนึ่ง หลังเรื่องราวของเขาถูกแชร์ต่อๆ กันไปในโลกโซเชียล กับการไลฟ์สด “ขายกางเกงในใช้แล้ว” พร้อมของแถม (คราบ หรือ ขน) อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: นายแบบหุ่นล่ำโชว์หวิว “ขาย กกน. ใช้แล้ว” พร้อมคราบน้ำ-ขนเพชร แถมลายเซ็นทุกถุง?! ล่าสุดทางรายการ ทุบโต๊ะข่าว ก็ได้มีการพูดคุยสัมภาษณ์ถึงประเด็นที่เกิดขึ้นกับทางนายแบบหนุ่มคนดังกล่าวที่ชื่อว่า นายภานุวัฒน์ อายุ 24 ปี ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เปิดใจว่าเขาตั้งใจขาย กกน. ใช้แล้วอย่างที่เป็นข่าวนั้นจริงๆ รายงานบทสัมภาษณ์จากรายการ ทุบโต๊ะข่าว นายภานุวัฒน์ เล่าว่า ตนเองเริ่มต้นทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 โดยในตอนแรกนั้นเขาเพียงแค่ไลฟ์สดขณะที่ตัวเองกำลัง “เล่นฟิตเนส” อยู่เท่านั้น แต่ผู้คนกลับให้ความสนใจไปที่ขอบกางเกงในที่แพลมออกมา มีหลายๆ คอมเมนต์ที่ถามเขาว่า “ขาย กกน. ที่ใส่อยู่นั่นหรือเปล่า?” นายแบบหนุ่มเองก็คิดว่าเป็นเรื่องที่แปลกดี และได้ลองเริ่มต้นที่จะขาย กกน. ที่ใส่เล่นฟิตเนสนั้น…
-
รวม 10 วาทะเด็ด ‘มงคลกิตติ์’ สส. ที่เป็นกระแสที่สุดในเวลานี้ กับประสบการณ์ชีวิตสุดห้าว
ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครรู้จักชื่อ ‘มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์’ หรือตี๋เต้ สส. ฝีปากกล้าจากพรรคไทยศิวิไลย์ ที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์จากประสบการณ์ชีวิตที่เขามาเอามาบอกเล่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวในสมัยเป็นนักเรียนนักเลงที่มีเรื่องกับชาวบ้านเขาไปทั่ว หรือเมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์และถูกรุ่นพี่พรากพรหมจรรย์ไปจนเลือดสาด… เราลองไปดูกันดีกว่าว่ามีประโยคใดจากปากของเขาที่กลายเป็นวลีติดหูติดตา ไม่ว่าเปิดโซเชียลเมื่อไหร่เป็นต้องเห็นกับ 10 วลีสุดฮิตจากปากของพี่มงคลกิตติ์!! สำหรับใครที่ยังไม่เคยเห็นลีลาการพ่นคำของเขา เอานี่ไปดูกันก่อน และนี่คือเหล่าประโยคเด็ด ที่ #เหมียวจิวยี่ คัดเอามา คุณจะเอาไปใช้ตั้งแคปชั่นตอนไปเที่ยว ตอนลงรูปคู่ หรือเอาไว้ท้าทายคนอื่นๆ คิดว่าพี่เต้ก็คงจะไม่ห้ามนะครับ 1. พี่ไม่ค่อยใช้ลูกน้องนะ เพราะลูกน้องมันโหดไม่เท่าพี่ 2. สมัยเรียนนี่ชกต่อยทุกวัน ต่อยเป็นอาชีพ ชนะห้องนี้เสร็จก็ไปชนะห้องอื่นต่อ 3. ตอนมีเรื่องฝั่งพี่ไปประมาณ 30 ฝั่งนู้นประมาณ 60 พี่เป็นคนเปิดทั้งหมด 4. ปกติเวลามีเรื่อง เค้าจะต้องมาหาพี่ก่อน เพราะพี่รู้จักทุกซุ้ม!! 5. พี่เป็นประธานชมรมเพาะกาย มีพวกห่ามๆ เป็นสมาชิกอยู่ 5,000…
-
หนุ่มสัญชาติเบลเยี่ยม มาไทยตามหา ‘พ่อแม่’ หลังเมื่อ 27 ปีก่อนพวกเขาทิ้งไว้ข้างวัด!!
มีหลายคนที่ทั้งชีวิตไม่เคยแม้แต่จะมีโอกาสจะได้เจอหน้าพ่อ – แม่ที่แท้จริงสักครั้งเดียว เช่นเดียวกับหนุ่มสัญชาติเบลเยี่ยมคนนี้ที่เดินทางมาประเทศไทย เพื่ออยากจะเจอพ่อกับแม่ของเขา หลังจากที่เมื่อ 27 ปีก่อนเขาถูกนำไปทิ้งอยู่ข้างวัดขณะที่มีอายุได้เพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น!! เว็บไซต์พิษณุโลกฮอตนิวส์เปิดเผยว่า MR.PISANU DAMIEM M. (นายพิษณุ) คือหนุ่มไทยสัญชาติเบลเยี่ยมคนดังกล่าว เขาเดินทางมาที่ประเทศไทยในวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนับได้ว่าเป็นการมาไทยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ออกจากประเทศไป จุดประสงค์ของการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง หลังจากทราบจากพ่อแม่บุญธรรมว่ารับเขามาเลี้ยงจากศูนย์รับเลี้ยงเด็กปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยในตอนนั้นเขามีอายุได้ 4 ขวบ หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปเติบโตที่เบลเยียม ในปัจจุบันเขาเรียนจบปริญญาตรี และมีอาชีพเป็นครูสอนเต้นชื่อดังคนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรแล้วเขาก็บอกว่าในใจลึกๆ อยากเจอกับพ่อแม่ที่แท้จริงสักครั้ง จึงเป็นเหตุให้มีการเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้น เขาได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านการสื่อสารกันโดยผ่านแอพฯ แปลภาษาในโทรศัพท์ (พูดไทยไม่ได้เลย) ให้กับพระที่วัดสุดสวาสดิ์ จ.พิษณุโลกฟัง นายพิษณุเล่าว่าเมื่อ 27 ปีก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจเจอเขาถูกทิ้งอยู่ข้างวัดสุดสวาสดิ์ จึงได้ส่งต่อให้ศูนย์รับเลี้ยงเด็กที่ปากเกร็ดเลี้ยงดู และที่นั่นเองทางศูนย์ก็ได้ตั้งชื่อให้เขาว่า ‘พิษณุ’ ให้สอดคล้องกับจ.พิษณุโลกที่ไปเจอตัวเขา แต่ความคิดอยากจะตามหาพ่อแม่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน…
-
ผู้รับเหมารายย่อยชีช้ำ “สร้างบ้านป่าแหว่งเสร็จสิ้น” แต่ไม่ได้ค่าจ้าง จำนองบ้าน ขายรถ มาลงทุน
บางคนอาจหลงลืมประเด็นนี้กันไปแล้ว แต่หากพูดถึงชื่อ “บ้านป่าแหว่ง” หรือ “บ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ” จังหวัดเชียงใหม่ ล่ะก็ หลายๆ คนก็คงจะร้องอ๋อขึ้นมาในทันที บ้านพักตุลาการแห่งนี้ถือว่าเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันอย่างมากเมื่อปีก่อน (2018) หลังจากที่หลายๆ คน โดยเฉพาะชาวเชียงใหม่ ทวงถามขอความเป็นธรรมกับการเข้าไปสร้างบ้านในพื้นที่ป่าดั้งเดิม ทำลายธรรมชาติอันสวยงาม ล่าสุดวันนี้ (17 พ.ค. 2019) ประเด็นดังกล่าวก็ถูกดึงกลับมาพูดถึงอีกครั้ง หลังจากที่ “ผู้รับเหมารายย่อย” กว่า 20 รายออกมาร้องเรียนและให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “พวกตนยังไม่ได้รับค่าจ้าง” หนึ่งในผู้รับเหมารายย่อยที่ได้รับผลกระทบ เขาได้ออกมาให้ข้อมูลกับทางสำนักข่าว Thai PBS ว่าพวกตนถูกเรียกให้มารับงานอีกทอดหนึ่งจาก “บริษัทคู่สัญญาที่ประมูลและได้รับงานจากทางสำนักงานศาลยุติธรรม” ผู้รับเหมารายย่อยกว่า 20 รายได้เข้ามาช่วยเหลือจนการสร้างบ้านพักในครั้งนี้แล้วเสร็จตามกรอบเวลา แต่ทว่าหลังจากที่ส่งมอบงานไปแล้ว พวกเขากลับยังคงไม่ได้รับค่าจ้างจากบริษัทคู่สัญญาฯ แม้จะผ่านมากว่า 1 ปีแล้วก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่าเบื้องต้นมีผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินหลังทำงานแล้วเสร็จ จำนวนตั้งแต่ 10,000-10,000,000 บาท แรกสุดนั้น เขาเล่าว่าผู้จัดการบริษัทคู่สัญญาฯ คนหนึ่งได้ทำการแจ้งรายละเอียดค้างจ่ายทั้งหมด และนัดผู้รับเหมาทุกคนให้ไปแสดงตัว…
-
เจ้าของห้องเช่าลมแทบจับ หนุ่มเช่าห้อง-หายไป 3 เดือน เปิดห้องเจอขยะอย่างกับขนมาทั้งตำบล
จริงอยู่ที่ว่าเมื่อเรามีห้องว่างๆ เราก็สามารถปล่อยให้เช่าเพื่อให้ทำเงินให้กับเราได้ แต่ว่าบางครั้งเราก็ต้องเลือกคนเช่าให้ดีๆ ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะต้องชีช้ำกะหล่ำปลีเหมือนกับเจ้าของห้องเช่ารายนี้ ที่คนเช่าห้องหายหน้าไป 3 เดือน เมื่อเข้าไปดูห้องก็ถึงผงะเพราะมันแทบไม่เหลือสภาพเดิม แถมยังเพิ่มเติมด้วยขยะเป็นกองภูเขา!! เคยเห็นแต่ของคนอื่นไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง เห้อออ อยู่ไปได้ยังไงเนี่ย?ผู้ชายหน้าตาก็ไม่ได้แย่นะ แต่งตัวก็ออกจะดูดี อยู่แบบมืดๆ ไฟไม่ติดก็ไม่มาแจ้งให้เราไปซ่อมให้ หลังๆหายหน้าไป 3เดือน สงสัยเลยเปิดห้องเข้าไปดูก็เจอสภาพอย่างที่เห็น ถึงกับผงะ อ้วกแทบพุ่ง! 🤮 pic.twitter.com/0KvrvN257W — 7.19nd_ (@ND_pang) May 16, 2019 ทวิตเตอร์ @ND_pang ได้เป็นผู้บอกเล่าถึงเรื่องดังกล่าว โดยเล่าว่าเจ้าตัวได้ปล่อยห้องเช่าให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่ดูภูมิฐาน แต่งตัวดี สภาพในห้องเช่า แต่ว่าระยะหลังๆ ผู้เช่าคนนี้ก็หายหน้าหายตาไปสร้างความสงสัยให้กับเจ้าของห้อง ทางเจ้าของจึงเข้าไปดูแล้วก็ถึงกับผงะ เพราะห้องได้กลายเป็นกองขยะไปซะแล้ว ทั้งขวดทั้งขยะอะไรเต็มไปหมด ที่นอนบนกองขยะ ขยะที่ว่านี้มีทั้งถุงพลาสติก ขวดเบียร์ แก้วน้ำพลาสติกวางเอาไว้นับหลายสิบชิ้น แถมไฟห้องก็เสียและไม่มีการแจ้งซ่อมแต่อย่างใด แก้วน้ำเต็มไปหมด เรื่องนี้ถูกรีทวีตออกไปกว่า…
-
เจาะลึก Birth Tourism ธุรกิจคลอดลูกในสหรัฐฯ หนทางเพื่อให้ได้สัญชาติอเมริกัน…
คิดว่าในช่วงนี้หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินคำว่า ‘Birth Tourism’ ผ่านหูกันมาบ้าง แต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าคำๆ นี้มันคืออะไร และมีจุดประสงค์เพื่ออะไรกัน… มารู้จักกับ Birth Tourism กันก่อน Birth Tourism หรือการท่องเที่ยวเพื่อคลอดบุตร หมายถึงการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศหรือดินแดนที่ให้สัญชาติหรือสิทธิบางประการโดยถือหลักการของดินแดนปลายทาง (สิทธิที่มอบให้กับคนที่เกิดในดินแดนนั้นๆ) เพื่อคลอดลูก สิทธิที่ว่านี้ก็มีอยู่มากมายอย่างเช่น สิทธิการอยู่อาศัย สวัสดิการรัฐด้านต่างๆ ทั้งการศึกษา การรักษาพยาบาล การประกันการว่างงาน การประกันสิทธิเสรีภาพ ฯลฯ ส่วนมากประเทศปลายทางของ Birth Tourism มักเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีกฎหมายสัญชาติเปิดโอกาสให้ เช่น สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เป็นต้น ส่วนประเทศต้นทางก็คือประเทศที่กำลังพัฒนานั่นเอง คนที่ไป Birth Tourism ต้องการอะไร?? ประเทศที่ได้ความนิยมมากที่สุดประเทศหนึ่งสำหรับ Birth Tourism คือประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากว่ารัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ระบุให้มีการรับรองให้สัญชาติอเมริกาแก่ผู้ที่กำเนิดในดินแดนของสหรัฐอเมริกา และด้วยการมีสัญชาติอเมริกานี้เอง (ถือว่าเป็นพลเมืองสหรัฐฯ) จะทำให้ได้รับสิทธิเข้าถึงการเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่านักศึกษาต่างชาติ นอกจากนี้เมื่อเด็กที่เกิดมีอายุครบ 21 ปี อาจมีสิทธิในการขอสิทธิอยู่อาศัยให้แก่บิดามารดาได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามการแจ้งจุดประสงค์เข้าสหรัฐฯ…
-
สาวสุดเศร้า พบ “น้องหมาถูกวางยา” มีจดหมายเตือน “อย่าให้ไปขี้หน้าบ้านคนอื่น”
หากใครกำลังเลี้ยงสัตว์อยู่ก็คงรับรู้ได้ถึงความผูกพัน สายใยที่ตัดกันไม่ขาด เมื่อเราไม่ได้มองว่าพวกมันเป็นแค่สัตว์เลี้ยง เพราะมันเป็นเหมือนดั่ง “เพื่อน” ที่อยู่เคียงข้างเรามาทั้งในยามทุกข์และสุข พอถึงเวลาที่ต้องจากลากับพวกมันเมื่อไหร่ น้ำตาของเราก็อาจรินไหลออกมาได้โดยไม่รู้ตัว แต่สำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวคนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องหมาของเธอนั้นมันช่างเป็นการจากลาที่เลวร้ายเสียเหลือเกิน…. เมื่อวานนี้ (16 พ.ค. 2019) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพและเรื่องราวสุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับน้องหมาวัย 7 เดือนของเธอ หลังจากที่เธอพบศพของมัน… น้องหมาของเธอที่ได้จากโลกนี้ไปก่อนเวลาอันควร เธอเล่าว่าช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 โมงครึ่งของเมื่อวานนี้ เธอได้ไปพบศพของมันอยู่ในเขตรั้วของที่ดินรกร้างแห่งหนึ่ง ใกล้กับบริเวณที่อยู่อาศัยของเธอ สภาพของน้องหมาในตอนที่เธอพบศพ จากจุดที่พบร่างนั้น ทำให้สันนิษฐานได้เลยว่าน้องหมาตัวนี้น่าจะถูกคนจับไปขังเอาไว้ภายใน เนื่องจากเขตพื้นที่ดังกล่าวมีรั้วกันเอาไว้ และมีประตูเหล็กปิดไว้ชัดเจน บริเวณพื้นที่ที่พบร่างของมัน . ส่วนน้องหมาก็อยู่ในสภาพอันน่าสงสาร นอนสิ้นใจอยู่ตรงรั้วภายในเขตบริเวณดังกล่าว ซึ่งหญิงสาวผู้เลี้ยงดูมันมาบอกว่าน้องหมาของเธอ “โดนวางยาเบื่อ” จากบุคคลนิรนาม และจับขังไว้ ปล่อยให้นอนเสียชีวิต อีกสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ชัดเจนว่าน้องหมาของเธอถูกใครสักคนวางยา นั่นก็คือการที่มีจดหมายทิ้งเอาไว้ให้กับเธอหลังจากที่พบร่างอันไร้วิญญาณของมัน โดยเนื้อความของจดหมายเขียนไว้ว่า… “รักหมา กรุณาเลี้ยงไว้ในบ้าน อย่าให้ไปขี้หน้าบ้านคนอื่นเขา ต้องล้างหน้าบ้านกันแทบทุกวัน ขืนปล่อยออกมาอีกจะไม่รับประกันความปลอดภัย…
-
สร้างสรรค์ หรือ หมิ่นศาสนา? ร้านชานมไข่มุกในฟิลิปปินส์ กับโลโก้ที่ดูคล้าย “พระพุทธเจ้า”
Bobaism คือชื่อของ “ร้านชานมไข่มุก” ในเมืองมาคาติ ประเทศฟิลิปปินส์ ที่ได้เริ่มเปิดขายมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 ก่อนที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นจะขยายสาขาไปในที่ต่างๆ แล้ว หน้าตาของร้าน Bobaism (ลัทธิชานมไข่มุก) . ในช่วงเวลาประมาณ 8 เดือนที่ผ่านมา ร้านดังกล่าวได้รับคำชมเชยจากลูกค้ามากหน้าหลายตา บางคนชื่นชอบในเรื่องของรสชาติชานมอันหอมหวาน บางคนก็ชอบ “ไข่มุกน้ำผึ้ง” อันแสนอร่อย ตัวอย่างเมนูของทางร้าน . ขณะเดียวกันก็มีหลายๆ คนที่ชื่นชอบในเรื่องของ “ความคิดสร้างสรรค์” กับไอเดียการสรรค์สร้างเมนูที่ไม่เหมือนใคร รวมถึง “มาสคอต” และ “โลโก้” ที่บอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่ติดตาเราเอามากๆ อย่างแน่นอน ลักษณะโลโก้ของทางร้าน มาสคอต และ พนักงานร้าน อย่างที่เราเห็นว่าร้านชานมไข่มุกร้านนี้มีการออกแบบโลโก้และมาสคอตที่ทำให้หลายๆ คนอดไม่ได้ที่จะนึกไปถึง “พระพุทธเจ้า” ศาสดาแห่งศาสนาพุทธ ทั้งรูปลักษณ์ ท่าทาง ทำให้หลายๆ คนคิดไปถึงศาสดาแห่งศาสนาพุทธ…
-
อีกขั้นของความเถื่อน!! หมอโพสต์เตือน ‘รากฟันเทียมเถื่อน’ ใช้ตะปูปักกระทงเสี่ยงทำปากเน่า
คำเตือน: บทความนี้อาจมีภาพที่ค่อนข้างจะโหดร้ายสักนิด โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ของเถื่อน’ แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วมันมักจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะด้วยถ้าหากเรื่องเถื่อนๆ นี้มาเกี่ยวกับสุขภาพของเรา อย่างเช่นการใช้บริการคลินิกเถื่อน หรือการทำ ‘ทันตกรรมเถื่อน’ หลายคนอาจจะเห็นว่าในบ้านเรายังมีข่าวของการจัดฟันเถื่อนให้เห็นกันให้เห็นเป็นประจำ แม้ว่าจะมีการกล่าวเตือนกันอยู่ตลอดก็ตาม แต่ว่านี่อาจเป็นอีกขั้นของทันตกรรมเถื่อนและน่ากลัวเอามากๆ เพราะมันคือ ‘การทำรากฟันเทียมเถื่อน’ ภาพการทำรากฟันเทียมเถื่อน ซึ่งมีการใช้ตะปูปักกระทง เฟซบุ๊ก Wanlapar Wichaisakul ได้เปิดเผยถึงเรื่องสุดสะพรึงที่ว่านี้ ซึ่งส่วนที่รู้แล้วอาจทำให้รู้สึกคันเหงือกหน่อยๆ ก็อยู่ตรงที่ว่าการทำรากฟันเทียมเถื่อนที่ว่านี้ใช้ ‘ตะปูปักกระทง’ แทนอุปกรณ์ที่ทันตแพทย์ใช้… การใช้รากฟันเทียมจากตะปูปักกระทงอย่างเช่นในภาพ อาจทำให้เกิดอาการบวมหรือทำให้เน่าเป็นหนองได้ เนื่องมาจากเป็นวัสดุที่ทำมาจากเหล็กหรืออลูมิเนียม ซึ่งไม่เข้ากับร่างกายของคนนั่นเอง ในโพสต์ได้อธิบายไว้ว่าจริงๆ แล้วรากฟันเทียมที่ทดแทนรากฟันจริง จะผลิตจากวัสดุไทเทเนียม ซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษใช้ในทางการแพทย์โดยทั่วไป เพื่อใช้ยึดติดกับกระดูกขากรรไกรของคนไข้ในตำแหน่งที่สูญเสียฟันและรากธรรมชาติ โดยเจ้าสิ่งนี้จะทำหน้าที่ทดแทนรากฟันธรรมชาติเพื่อรองรับทันตกรรมฟันปลอม (denture), ครอบฟัน (crown) หรือสะพานฟัน (bridge) เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด คุณหมอผู้โพสต์เรื่องนี้ นอกจากนี้คุณหมอยังได้อธิบายถึงส่วนประกอบของรากฟันเทียมด้วย ซึ่งจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้ดังนี้ 1. Fixture…
-
นายแบบหุ่นล่ำโชว์หวิว “ขาย กกน. ใช้แล้ว” พร้อมคราบน้ำ-ขนเพชร แถมลายเซ็นทุกถุง?!
เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่ยานยนต์ แต่ละอย่างเราก็สามารถหาชอปปิ้งในโลกออนไลน์ได้หมด ไม่เว้นแม้แต่ “กางเกงในใช้แล้ว” ก็ด้วย…. ห๊ะ?! สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจฟังดูไม่น่าเชื่อสำหรับหลายๆ คน หลังจากที่ช่วงเช้าวันนี้ (17 พ.ค. 2019) รายการ ข่าวอรุณอมรินทร์ รายงานถึง “นายแบบขาย กกน. ใช้แล้ว พร้อมคราบน้ำ-ขนเพชร” และยังเซ็นให้ทุกถุงอีกต่างหาก?! รายงานถึงเรื่องดังกล่าวจาก ข่าวอรุณอมรินทร์ ช็อกเลยสิครับงานนี้ ร้อยวันพันปีก็ไม่เคยคิดว่าจะมีคนออกมาขาย กกน. ใช้แล้วจริงๆ และภาพของนายแบบหนุ่มคนนี้ก็ได้กลายเป็นกระแสที่ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ โดยเราจะเห็นว่า เขาจะโฆษณาสินค้าของตัวเองด้วยการ “ใส่โชว์” แสดงให้เห็นว่าใช้แล้วจริงๆ ก่อนที่จะโพสต์รูปลงในอินสตาแกรม รวมถึงช่องทางเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ กนน. แต่ละตัวก็ต่างกันไป บางตัวอาจดูไม่มีอะไร บางตัวอาจมี “ขน” ติดมาด้วย หรือพีคๆ หน่อยก็คือมี “คราบน้ำ” ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อไคล ไม่เว้นแม้แต่น้ำสีขาวขุ่น กลิ่นขมขื่น ก็มีมาให้เห็น…
-
เปิดใจคุณแม่ของหนุ่ม ‘จะตบให้ดาวกระเด็น’ วอนสังคมให้จุดยืนลูก ป่วยขี้โวยวาย แต่ไม่ได้ฆ่าใครตาย…
จากเรื่องดังเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในเคสของหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนด่าตำรวจว่าอ้วนเป็นหมู – จะตบให้ดาวกระเด็น ซึ่งหากใครติดตามข่าวก็คงจะรู้กันดีว่าเหตุการณ์หลังจากนั้นคือเขาถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไปที่โรงพัก อ่านข่าวเก่าได้ที่ >> หนุ่มโดนจับไม่มีใบขับขี่ ขู่ตำรวจ ‘จะตบดาวกระเด็น’ โดน 4 ข้อหา แม่บอกมีอาการทางจิต ล่าสุดคุณแม่ของหนุ่มรายนี้ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ วอนขอสังคมให้โอกาสลูกชายเธออีกครั้งหนึ่ง และนี่คือเรื่องที่เป็นห่วงที่สุดของคนเป็นแม่ เพราะกลัวว่าลูกชายจะไม่มีที่ยืนในสังคม คลิปสัมภาษณ์ของคุณแม่ พร้อมข้อมูลสรุปต่อด้านล่างครับ… เรื่องนี้เปิดเผยจากสำนักข่าวอมรินทร์ ซึ่งได้ไปสัมภาษณ์นางสมศรี (นามสมมุติ) คุณแม่ของผู้ก่อเหตุที่เดินทางมาสน. เพื่อติดตามคดีของลูกชาย จากข้อหาทั้งหมดที่หนุ่มคนนี้ถูกตั้งข้อหา เขาโดนปรับเงินไปทั้งสิ้น 5,000 บาท แต่สิ่งที่แม่เป็นห่วงที่สุดไม่ใช่เรื่องของเงินแต่ว่าเป็นเรื่องจุดยืนของลูกชายในสังคม คุณแม่กล่าวว่า เรื่องของอาการทางจิตของลูกชายจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นตั้งแต่กำเนิด แต่ว่าเป็นในช่วงระยะหลังๆ ที่มักมีอาการซึมเศร้าและโวยวายเสียงดัง ซึ่งในเรื่องนี้คุณแม่ก็ได้พาตัวไปเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งและคุณหมอก็ให้ยามากินอย่างต่อเนื่อง ทว่าช่วง 2 – 3 ปีหลังมานี้ลูกชายของเธอขาดยา ตัวคุณแม่ก็คิดว่าหายเป็นปกติแล้ว จนกระทั่งอาการกำเริบอีกครั้งในวันที่เกิดเหตุ ทั้งนี้คุณแม่ก็พูดถึงเรื่องที่เป็นห่วงที่สุดนั่นคือเรื่องที่สังคมรุมประณามลูกชาย โดยคุณแม่เห็นว่าสิ่งที่สังคมรุมกระหน่ำซ้ำเติมลูกชายเป็นสิ่งที่รุนแรงเกินไป เพราะจะอย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ไม่ใช่กลุ่มก่อการร้าย…
-
รถผัวหายแต่ได้คืนอย่างไว ด้วยพลานุภาพแห่ง “GPS ที่เมียแอบติดไว้” กันหนีเที่ยว!!
สามีหลายๆ คนอาจเคยรู้สึกกังวลและไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก กับการที่ศรีภรรยาสุดที่รัก “แอบติด GPS ติดตามตัว” เอาไว้ในรถ ทำเอาบางครั้งก็แอบรู้สึกน้อยใจที่พวกเธอดูเหมือนไม่ไว้ใจเราเลย T T แต่อย่าเพิ่งเศร้าไป เพราะบางครั้งพวกเธอก็อาจทำไปด้วยความห่วงใย แถมยังอาจได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ในเวลาที่ไม่คาดคิด เช่นเดียวกันกับสองสามีภรรยาคู่นี้ การรายงานข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ข่าวเที่ยงช่องวัน เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นในช่วงกลางดึกวันที่ 14 พ.ค. 2019 ณ จังหวัดอุบลราชธานี ในตอนนั้น น.ส.ปิยะนุช พาแก้ว และ นายวุฒิไกร สังขรมย์ สามีของเธอกำลังง่วนอยู่กับการทำธุระอยู่ภายในบ้าน ท่ามกลางความมืดมิดในยามค่ำคืนนั้น ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้แอบมีมือดีย่องเบาเข้าบ้าน ก่อนจะแอบขึ้นไปบนรถกระบะอีซูซุ ดีแม็ก สีบรอนซ์เงิน ของคุณสามีแล้วขับออกไปหน้าตาเฉย เหวอสิครับงานนี้ คือพอได้ยินเสียงและเห็นผ่านๆ ว่ารถถูกขโมยไปจากบ้าน คู่สามีภรรยาก็พากันงงว่า “เฮ้ย เอารถออกไปได้อย่างไร?!” ในเมื่อกุญแจยังวางไว้อยู่ในบ้านอยู่เล้ย!! ตัดคำถามเรื่องกุญแจไปก่อน เพราะ ณ ตอนนั้นทั้งคู่ต่างพากันตกใจเป็นอย่างมาก ลองคิดว่าถ้าเราเป็นคุณสามี เราก็คงจะอยากตะโกนออกมาเลยว่า “เชี๊ยยยย รถตรู!!”…
-
เด็กมหาลัยร่วมแชร์ประสบการณ์สุดปวดใจ เมื่อต้องตอบคำถามผู้ใหญ่ “เรียนคณะอะไร!?”
เวลาหลายคนที่มีโอกาสได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ในสาขาและคณะต่างๆ มักจะเจอคำถามจากคนรอบข้างว่า “เรียนมหาวิทยาลัยไหน?” หรือ “เรียนจบอะไรมา?” คำถามเหล่านี้เปรียบเสมือนคำทักทายของเหล่าญาติผู้ใหญ่ รวมถึงคนข้างบ้าน และแน่นอนว่าเด็กมหาวิทยาลัยอย่างเราก็ต้องตอบคำถามเหล่านั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ทว่า ถ้าคำตอบที่พวกเขาตอบกลับมา มันทำให้เราเงิบ ปนขำล่ะจะเป็นอย่างไร? ล่าสุด ทวิตเตอร์บัญชี @Checkbill1996 ได้ทวีตข้อความประสบการณ์ของตน เมื่อเธอบอกกับคนขับแท็กซี่ว่า เรียนจบนิเทศฯ และคำตอบรับที่ได้จากคนขับแท็กซี่ทำเอาเธอกินจุดไปเลย… https://twitter.com/Checkbill1996/status/1127840721765928960 ทวีตของเธอได้รับการรีทวีตกว่า 58,000 รีทวีต อีกทั้งยังมีเด็กมหาวิทลัยคนอื่นๆ ได้ออกมาตอบกลับทวิตของเธอเกี่ยวกับประสบการณ์คล้ายๆ กันที่พวกเขาได้พบเจอมา ออเจ้าเฉยเลย… ไปถามช่างคอมมม!!! เปิดชาบูบนเที่ยวบินไปเลย . . อุ้ย… หาง่ายมากมั้ง… เกรี้ยวกราดมาก . มันเป็นแค่ชื่ออออออ แคร์คำว่าวิจัยด้วย 555555 . . บางครั้งเด็กมหาวิทยาลัยอย่างเรา ก็เหนื่อยจะอธิบายจริงๆ… ที่มา: @Checkbill1996
-
“กระเป๋าแผ่นรองตัด” ไอเดียจากอดีตเด็กสถาปัตย์ ดูเก๋ไก๋ป้องกันโดนกรีด หรือจะกรีดเองก็ได้
เคยมั้ย เวลาที่ต้องถูกเบียดอยู่ในพื้นที่สาธารณะสุดแออัด คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา จนทำให้เราอาจไม่รู้ตัวเลยว่า ณ ตอนนั้น “กระเป๋า” ที่สะพายมาอาจมีภัย “ถูกกรีด” ขโมยข้าวของข้างไหนไปหมดเรียบ แต่แล้วปัญหานั้นจะหมดไป เมื่อคุณได้รู้จักกับ “กระเป๋าแผ่นรองตัด” สิ่งประดิษฐ์ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในสังคมที่เต็มไปด้วยขโมยขโจร “คิดจะมากรีดกระเป๋าฉันเหรอ ไม่มีทางซะหร๊อกกก!!” https://twitter.com/viewxlf/status/1128619513002332161 กระเป๋าแผ่นรองตัดที่เห็นนั้น คือผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Least Studio แบรนด์คนไทยที่ได้รับการสร้างสรรค์โดย คุณมิ้น และ คุณออม ผู้ก่อตั้งแบรนด์ดังกล่าวนี้ขึ้นมา คุณมิ้น และ คุณออม 2 ผู้ก่อตั้ง https://www.instagram.com/p/BpHPuyml5Va/ จากนิสิตคณะสถาปัตย์ สู่การเป็นเจ้าของแบรนด์กระเป๋าสุดเจ๋ง ทั้งคู่เคยให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ GoodLifeUpdate.com เอาไว้ว่า พวกเขาเริ่มมีหัวการค้าตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในตอนนั้นพวกเขาเริ่มทำพวกเครื่องเขียน หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานสถาปัตย์ วางขายในงานละครคณะสถาปัตย์ รวมถึงร้านเครื่องเขียนในคณะ หลังเรียนจบ ทั้งสองคนก็ได้ออกไปทำงานประจำกันอยู่ช่วงหนึ่ง โดยระหว่างนั้นก็ได้เริ่มต้นทำแบรนด์ Least…
-
ทำถูกแล้วหรือ? เพจทวงทางเท้าชี้ “เบรลล์บล็อก” สร้างใหม่ ไม่ได้เหมาะกับ “คนตาบอด”
ยังคงเป็นปัญหาที่เราพบเห็นได้บน “ทางเท้า” ในบ้านเรา ซึ่งมันอาจไม่ได้ส่งผลกระทบถึงคนส่วนใหญ่ แต่สำหรับ “ผู้พิการทางสายตา” นั้น ปัญหานี้อาจส่งผลกระทบร้ายแรงได้มากกว่าที่เราคิด เพื่อนๆ หลายคนคงเห็นภาพแล้วว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องของ “เบรลล์บล็อก” (Braille Block) พื้นทางเดินสำหรับคนตาบอด ลักษณะของเบรลล์บล็อกที่พบได้ทั่วไป ล่าสุด (16 พ.ค. 2019) ทางเพจ กลุ่มคนไทยขอทวงคืนทางเท้า ก็ได้โพสต์ภาพทางเท้าบริเวณสถานีรถไฟใหม่ของจังหวัดขอนแก่น กับการเรียงแถวพื้นเบรลล์บล็อกที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหา มากกว่าการอำนวยความสะดวกอย่างที่ควรจะเป็น จากในภาพเราจะสังเกตเห็นว่าเบรลล์บล็อกบริเวณทางเท้าแห่งนี้ถูกจัดเรียงไว้เกือบชิดริมขอบถนน แทนที่จะถูกเรียงเอาไว้ตรงแถวกลาง แถมยังมีเสาไฟฟ้าขวางทางเอาไว้อีกต่างหาก ทางเพจกล่าวว่าการจัดวางอย่างนั้นสามารถนำไปสู่ปัญหา “คนตาบอดเหยียบพื้นพลาดจนตกไปบนถนน” หรืออย่างน้อยก็อาจจะ “เดินชนเข้ากับเสาไฟฟ้า” โพสต์ถึงเรื่องนี้ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะทางเพจดังกล่าวยังชี้แจงอีกว่ารูปแบบเบรลล์บล็อกที่ใช้มันผิดไปจากที่ควรเป็น เพราะเบรลล์บล็อกที่เป็นจุดๆ แบบนี้มักใช้สำหรับจุดสิ้นสุดทางเท้าหรือพื้นต่างระดับ ส่วนแบบเส้นประก็จะใช้สำหรับการนำทาง ตัวซ้ายคือเดินไป ตัวขวาคือหยุด และพวกเขายังบอกอีกว่า ต่อให้ผู้จัดวางจะอธิบายว่าเบรลล์บล็อกดังกล่าวมีไว้ให้คนตาบอดรู้ว่าตรงนั้นคือพื้นต่างระดับริมฝั่งถนน แต่นั่นก็เท่ากับว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างทางเดินให้กับคนตาบอดเลยอย่างนั้นหรือ? โพสต์ชี้แจงรูปแบบของเบรลล์บล็อก ภาพที่เห็นจึงกลายเป็นสิ่งที่ส่งต่อความรู้สึกในด้านลบกับหลายๆ คน…
-
คอมเมนต์สุดฮาจากชาวไทย หลังมีข่าวญี่ปุ่นเจอ “หอยเชอรี่” ระบาดหนักเกินควบคุม
เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่า ชาวนาในจังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ประสบปัญหา “หอยเชอรี่” เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติถึง 5 เท่า จนถึงขั้นว่าทางการต้องประกาศเตือนภัยกันเลยทีเดียว!! สำหรับเรื่องนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชาวไทยนามว่า Rujirat Gift Arthy ได้บอกไว้ว่า มันมีสาเหตุมาจากอุณหภูมิที่สูงกว่าปรกติในฤดูหนาวปีนี้ (2019) ส่งผลทำให้อัตราการเสียชีวิตของหอยลดน้อยลง การรายงานข่าวดังกล่าว งานนี้มันเลยกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลให้ชาวนาญี่ปุ่นในพื้นที่นั้น “ต้องใช้ค่าใช้จ่ายและแรงงานเพิ่มสูงขึ้นเพื่อการกำจัดหอย” ทำเอาปวดหัวไปตามๆ กันเลยทีเดียว ฟังดูแล้วก็พอรู้สึกได้เลยนะว่านั่นคงจะเป็นปัญหาที่ค่อนข้างซีเรียสน่าดู แต่ถ้าเราลองคิดว่าปัญหานั้นมาเกิดในบ้านเราล่ะก็… แหม่ สงสัยคงได้ก้อยกินกันเพลินเลยล่ะนะ โพสต์ต้นทาง (15 พ.ค.) และที่แน่ๆ คือไม่ได้มีแค่ #เหมียวตะปู คนเดียวที่คิดอย่างนั้น เพราะจากการไล่ดูคอมเมนต์ชาวเน็ตไทยแล้ว ทุกคนต่างพร้อมใจพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถ้าเกิดขึ้นที่ไทย มันจะไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอนเลยจ้า” คอมเมนต์เสนอวิธีแก้ปัญหาประชากรหอย ควบคู่กับปัญหาปากท้อง น้ำจิ้มเขียวอีสเดอะเบสท์!! ทำงานแลกตำหอย อันนี้ไปในทางยาโด๊ป แย่งกันขนาดนี้ เกรงว่าจะสูญพันธุ์ …
-
สภานักศึกษา มธ. เรียกร้อง ‘ยกเลิกบังคับใส่เครื่องแบบ’ เพิ่มภาระ-เข้าห้องสอบสาย-ไร้เสรีภาพ
กลายเป็นเรื่องร้อนๆ ที่ได้รับการพูดถึงกันอย่างดุเดือด สำหรับเรื่องที่สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้ทำการโพสต์เรียกร้องขอให้ยกเลิกการบังคับให้นักศึกษาแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักศึกษา ในโพสต์เรียกร้องดังกล่าวมีประเด็นใดบ้าง เราจะขอแยกออกมาเป็นเรื่องๆ เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจดังต่อไปนี้ เรื่องนี้เรียกร้องถึงใคร?? ทางสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้เรียกร้องเรื่องนี้ต่อ รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อขอให้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องดังกล่าว ทางสภากล่าวว่า แม้บทบัญญัติแห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2547 ได้รับรองสิทธิของนักศึกษาที่จะแต่งกายด้วยชุดสุภาพในโอกาสทั่วไป โดยทางมหาวิทยาลัยมีการกำหนดให้นักศึกษาแต่งกายด้วยเครื่องแบบในงานพิธีและการสอบทั้งกลางภาคและปลายภาค สำหรับสภานักศึกษามองว่า มีผลกระทบกับนักศึกษาดังนี้ 1. เป็นการเพิ่มภาระให้นักศึกษาต้องเสียเงินค่าซื้อชุดเครื่องแบบนักศึกษาเพิ่ม ทั้งที่ไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน 2. มักเป็นเหตุให้นักศึกษาเข้าห้องสอบล่าช้าหรือไม่ได้เข้าห้องสอบ 3. เป็นการจำกัดเสรีภาพในการเลือกเครื่องแต่งกายเกินควร เนื่องเห็นว่าจากการแต่งกายด้วยเครื่องแบบ ไม่เกี่ยวข้องกับการดําเนินการจัดพิธีหรือจัดสอบแต่อย่างใด และนอกจากนี้ก็ยังมีสถานศึกษาอีกหลายแห่งที่ไม่ได้กำหนดให้นักศึกษาแต่งกายด้วยเครื่องแบบ แต่ก็ดำเนินงานพิธีและการสอบได้… ข้อเรียกร้องของทางสภา จากเหตุผลข้างต้น ทางสภานักศึกษาได้กล่าวเรียกร้องให้มีการแก้ไขการประกาศรวมถึงระเบียบ ซึ่งหลักๆ แล้วก็จะเป็นเรื่องของการกำหนดให้นักศึกษาแต่งกายด้วยเครื่องแบบทั้งในงานพิธีและการสอบ หวังว่าจะมีหนังสือตอบกลับใน 7 วัน… จากข้อเรียกร้องนี้ ทางสภากล่าวว่า “สภานักศึกษาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสภานักศึกษา และมีหนังสือตอบกลับภายใน 7 วัน ทั้งนี้ขอให้มหาวิทยาลัยตระหนักถึงความสําคัญของสิทธิเสรีภาพของนักศึกษา เพื่อให้ตรงตามคํากล่าวของอดีตอธิการบดีศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ที่ว่า…
-
ศิษย์เก่าพระจอมเกล้าฯ รวมตัวต่อต้าน “นักการเมืองแว่น” ระบุทำลายชื่อเสียงสถาบัน
เรียกได้ว่าในตอนนี้คงไม่มีกระแสอะไรที่มาแรงเท่าคลิปของนักการเมืองท่านหนึ่ง ซึ่งออกมาพูดถึงวีรกรรมสมัยเรียนอันโด่งดังของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น การเป็นหัวโจกคุมสถาบัน การไปท้าตีท้าต่อยกับภาควิชา-สถาบันอื่น รวมถึงประเด็นการเป็นหัวหน้าชมรมเพาะกายที่มีสมาชิกจำนวนมากก็ตามที แต่ว่าล่าสุด กระแสได้ตีกลับไปทางเขา เพราะมีการคอมเม้นต์ส่งต่อกันว่าเขาได้ “สร้างเรื่อง” ขึ้นมาทั้งหมด และในตอนนี้ในกลุ่มของศิษย์เก่าพระจอมฯ ก็มีการพยายามรวมตัวเพื่อต่อต้านเขาแล้ว เพราะมองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงสถาบัน จากคลิปอวดภูมิ นำมาสู่กระแสต่อต้าน… ก่อนหน้านี้ เขาได้อัดคลิปเล่าวีรกรรมของตนเอง (ซึ่งหลายคนน่าจะได้ชมคลิปนั้นไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว) จากนั้นก็มีคอมเม้นต์ของหลายๆ คนซึ่งเคยเรียนร่วมรุ่น ทั้งสมัยเรียนมัธยมและสมัยเรียนที่สถาบันพระจอมเกล้าฯ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าไม่เป็นความจริง จนนำมาสู่กระแสของชาวเน็ตที่ต่อต้านเขาในที่สุด… ตัวอย่างเช่น… . . พร้อมกันนี้ มีศิษย์เก่าจากสถาบันดังกล่าว รวมถึงสถาบันใกล้เคียง ซึ่งออกมาให้ความเห็นในลักษณะเดียวกันว่า “เด็กสถาบันพระจอมเกล้าฯ นั้นเป็นกลุ่มเด็กเรียนหนังสือ ตั้งใจไปหาความรู้ ไม่น่าจะมีเวลาว่างไปตีกับใคร เพราะลำพังแค่เรียนก็หนักมากอยู่แล้ว ขณะที่เด็กสถาบันอื่นๆ ที่มีปัญหาตีกัน ก็มักจะไม่มายุ่งกับเด็กพระจอมเกล้าฯ เนื่องจากรู้ว่าพวกเขาไม่ข้องเกี่ยวกับการต่อยตี จะเน้นเรียนเสียมากกว่า” หลายๆ คนจึงมองว่า การคุยโวว่าเด็กพระจอมเกล้าฯ ชอบต่อยตี และท้าตีกันประจำนั้น ทำให้สถาบันเสื่อมเสียเกียรติเช่นกัน จนตอนนี้ก็มีการแชร์โพสต์นี้ออกไปแล้วเกือบ 4,000…
-
ร้านหมูกระทะเจอเงินก้อนใหญ่ ใช้วิธี ‘ลงเงินไม่ครบ’ ตามหาเจ้าของตัวจริง กันคนแอบอ้าง!!
แน่นอนว่า ‘เงินทอง’ เป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างก็ต้องอยากได้ แต่ว่ากับร้านหมูกระทะร้านหนึ่งแม้ว่าจะมีโชคใหญ่มากองทับเจอเงินเป็นปึกนับหมื่นบาท แต่ทางร้านก็ไม่อยากจะเก็บไว้แต่อย่างใด และได้ประกาศตามหาเจ้าของเงินจำนวนนี้ ทว่าที่พีคก็คือความหัวใสของเจ้าของร้านที่โพสต์ภาพเงินไม่ครบ เพื่อป้องกันคนมาแอบอ้างเป็นเจ้าของเงิน จนเจ้าของที่แท้จริงได้เงินคืนไปในที่สุด… กำลังจะปิดร้าน ไหงเจอเงินเกือบแสน!! เว็บไซต์คมชัดลึกได้เผยถึงเรื่องนี้โดยมีเนื้อความว่า ในคืนวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ในเวลาราวๆ 01.00 น. พนักงานของร้าน สุ หมูกะทะ จ.เพชรบูรณ์ กำลังทำความสะอาดเพื่อเตรียมจะปิดร้าน แต่ก็บังเอิญไปเจอกับเงินก้อนหนึ่งเข้าให้ พนักงานจึงเอาเงินจำนวนนี้มาให้กับเจ้าของร้าน ซึ่งลองนับๆ ดูแล้วมันมีมูลค่าถึง 80,000 บาทด้วยกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของลูกค้าโต๊ะสุดท้ายที่เข้ามากินหมูกะทะในเวลาเที่ยงคืน และเช็คบิลออกไปในเวลาตีหนึ่ง โพสต์ตามหาเจ้าของเงิน หลังจากที่รับรู้ถึงการมีเงินปริศนาในร้าน เจ้าของร้านก็ได้ทำการโพสต์ผ่านเพจสุ หมูกระทะ เพื่อตามหาเจ้าของเงินที่แท้จริง และความพีคก็อยู่ตรงนี้ เพราะว่าเจ้าของร้านโพสต์ภาพเงินเพียงแค่ 7 ปึกจากที่จริงๆ แล้วมีทั้งหมด 8 ปึกด้วยกัน!! เพื่อป้องกันคนมาแอบอ้างซึ่งก็มีจริงๆ แต่บอกจำนวนเงินไม่ตรง เจ้าของร้านเลยไม่ได้ให้เงินไป เจ้าของมาตามหาของที่หายไป หลังจากปิดร้านแล้วเจ้าของร้านก็ยังอยู่ที่ร้าน เพราะคาดว่าเจ้าของเงินตัวจริงจะต้องมาตามหาแน่นอน แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้…
-
คุณแม่ช้ำใจ “เพื่อนแกล้งให้ลูกกินน้ำร้อน” ลวกปาก-ลิ้น ค่าเทอมเป็นแสนแก้ปัญหาไม่ได้
เชื่อว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนก็คงไม่อยากเห็น “ลูกโดนแกล้ง” เหมือนอย่างคุณแม่คนนี้ และมันก็ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิมเมื่อทางโรงเรียนกลับลงโทษเด็กที่มาแกล้งลูกของเธอ ในแบบที่หลายๆ คนมองว่า “ไม่สมเหตุสมผล” เรากำลังพูดถึงเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Annie Rossarin Sawasdiraksa คุณแม่ของ น้องมิลลี่ (วัย 7 ขวบ) เด็กหญิงที่ต้องเผชิญกับปัญหาการกลั่นแกล้งภายในโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง โดยเรื่องนี้ ผู้เป็นแม่เล่าว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2019 ลูกสาวกลับมาจากโรงเรียนแล้วเล่าให้เธอฟังว่าถูกเพื่อนผู้หญิงแกล้ง ด้วยการ “เอาน้ำร้อนให้ดื่มแบบไม่รู้ตัว” น้องมิลลี่ คนที่แกล้งนั้นได้เอากระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิของ น้องมิลลี่ ไปใส่น้ำร้อนแล้วเอามาให้เธอดื่ม ซึ่งตอนนั้น น้องมิลลี่ คิดว่าเพื่อนใจดีเติมน้ำมาให้ เธอจึงดื่มเข้าไปโดยไม่คิดอะไร แต่แล้วน้ำร้อนในกระบอกนั้นก็ทำเอาปากและลิ้นของเธอพองจนคุณครูถึงกับต้องพาไปห้องพยาบาล ภาพในวันที่ 14 พ.ค. จะเห็นว่าลิ้นของ น้องมิลลี่ ยังคงพองอยู่ แน่นอนว่าผู้เป็นแม่รู้สึกไม่ค่อยพอใจกับการที่ลูกต้องโดนกลั่นแกล้งรุนแรงขนาดนี้ และยิ่งเมื่อรู้ว่าทางโรงเรียนลงโทษเด็กคนนั้นแค่ “ให้ออกมายืนนอกห้อง 10 นาที” มันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกโมโหมากกว่าเดิม เธอมองว่าเด็กที่แกล้งนั้นจะไม่ได้เรียนรู้อะไรจากการลงโทษในครั้งนี้เลย แถมตอนกลับเข้าห้องมา น้องมิลลี่…