Category: สยามเมืองยิ้ม

MasterChef Thailand คือชื่อของรายการแข่งอาหารที่พวกเราหลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่แล้วจากเทปล่าสุดที่ถูกเผยแพร่ในวันที่ 3 มีนาคม 2019 ก็ได้กลายเป็นกระแสที่ทำให้รายการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สาเหตุของกระแสที่เกิดขึ้นนั้น มาจาก “วัตถุดิบ” ที่ทางรายการกำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันใช้ในการประกอบอาหาร ซึ่งมันก็คือ “ปลากระเบน” นั่นเอง   ภาพจากทางรายการ   สำหรับพวกเราหลายๆ คนอาจไม่ได้มีโอกาสได้กินวัตถุดิบชนิดนี้กันสักเท่าไหร่ และมันยิ่งสร้างความตกใจให้กับหลายๆ ฝ่ายมากกว่าเดิม หลังจากที่มีผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่ามันคือ “ปลากระเบนนก” สายพันธุ์หายาก งานนี้จึงทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเริ่มถกเถียงกันว่า “มันสมควรถูกนำมาเป็นวัตถุดิบในรายการแข่งอาหารหรือไม่?”   คอมเมนต์ในหลายๆ มุม . . .   หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ หนึ่งในกรรมการของรายการดังกล่าว ได้มีการพูดถึงปลากระเบนอย่างที่เห็นในภาพ ผ่านการส่งข้อความในไลน์ที่ลูกสาวของเขาได้เป็นคนถามและนำมาโพสต์ลงโซเชียล โดยข้อความของเขานั้น บอกว่าปลากระเบนนกอย่างที่เห็นในรูปเป็นปลาที่ “หาได้ไม่ยาก”   โพสต์ของลูกสาว หม่อมหลวงภาสันต์ . .   ขณะเดียวกัน ทางด้าน อ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์…

สำหรับชายใดที่ยังว่าง ยังโสด และอยากตามหาสาวมาข้างกายสักคน นี่อาจเป็นโอกาสอันดีที่นอกจากคุณจะได้สาวน่ารักๆ มาเคียงกายแล้ว คุณอาจจะตกถังข้าวสารได้แบบไม่รู้ตัว!! กลายเป็นเรื่องฮือฮากันอยู่ในเฟซบุ๊กตอนนี้เมื่อเฟซบุ๊ก อานนท์ รถทอง ได้ประกาศรับสมัครลูกเขย ซึ่งทางโพสต์ได้ใส่แคปชั่นเอาไว้ดังต่อไปนี้  “ประกาศตามหาลูกเขยจ้า. 1. ความรู้ไม่ต้องเอาแค่อ่านออกเขียนได้ (ใบปริญญาไม่เอาเต็มข้างขวาบ้าน) 2. ขยันอดทนทำงานไม่ขี้เกียจ 3. ขี้เหนียวใช้เงินไม่เป็นชอบทำทุเรียน อยู่ที่ไหนเดี๋ยวเราจะไปขอคุณไม่ต้องมาขอเราจะไปขอเอ็นให้ทุนทำกิน 10,000,000 ไม่พอขอได้อีก 555″   รูปภาพของว่าที่พ่อตาที่กำลังรอลูกเขยในอนาคตโพสต์เอาไว้   ลูกสาวคนสวย   ถ่ายกับลูกสักนิด   ทองหยองเต็มไปหมด .   เงินเป็นฟ่อนๆ .   ดูโต๊ะก็รู้แล้วว่าหรูขนาดไหน   รถคันหรู   โพสต์นี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจนได้รับการแชร์ออกไปแล้วมากกว่าเกือบๆ 30,000 ครั้ง อีกทั้งก็มีความเห็นจากชาวเน็ตเข้ามาอย่างมากมาย และถือว่าเป็นสีสันที่สร้างความสนุกได้อยู่ไม่น้อย…   . . . .   ที่มา: อานนท์ รถทอง

ในคืนวันที่ 28 ก.พ. 2019 ช่อง 9 อสมท. ได้จัดการดีเบตเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง ด้วยหัวข้อที่ว่า “คนใหม่…การเมืองใหม่” รายการได้รับความคิดเห็นจากเสียงของนิสิต นักศึกษาจำนวน 100 คน ใน 16 สถาบันทั่วประเทศ ร่วมกับตัวแทนผู้สมัครหน้าใหม่ 10 คนจาก 10 พรรคการเมือง     แต่ทว่าหลังจบรายการ วันที่ 1 มี.ค. 2019 นางอรวรรณ ชูดี กริ่มวิรัตน์กุล หนึ่งในพิธีกรรายการดังกล่าว ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก หลังจากที่เธอถูกบอร์ด อสมท. สั่งให้ยุติการทำหน้าที่ อันเนื่องมาจากการดำเนินรายการในวันนั้น   นางอรวรรณ หนึ่งในผู้ดำเนินรายการ   โพสต์ของเธอกล่าวว่า… “คารวะพลังบริสุทธิ์ของน้องๆนิสิต นศ.ทั้ง 100 คนในห้องส่ง จาก 16 สถาบันทั้งในกทม.เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ที่แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองในรายการดีเบตของช่อง 9…

อย่างที่ทราบกันดีว่าวันนี้ (1 มี.ค. 2019) คือวัน ประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาล หลายๆ คนก็คงได้ลุ้นกันไปแล้วว่าถูกรางวัลไหน หรือว่าอาจจะวืดไปตามๆ กันก็ได้ แต่ก่อนที่จะถึงการประกาศผลรางวัลนั้น สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งพร้อม “ไขควง” บุกเข้าจี้คอผู้ประกาศข่าวสาวที่กำลังเตรียมจะถ่ายทอดรายการสลากกินแบ่งรัฐบาล!!   ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่การออกสลากกินแบ่งรัฐบาลสัญจร จ. พัทลุง เวลาประมาณ 13.30น. นางประภาพรรณ (ไม่ระบุนามสกุล) วัย 35 ปี ชาว อ.เมืองพัทลุง เดินเข้าหาผู้ประกาศข่าวสาวโดยที่ในมือของเธอนั้นกำไขควงไว้แน่น ระหว่างนั้น น.ส.ธนัญญา พิพิษวิณชการ ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะถ่ายทอดรายการผลสลากกินแบ่งในครั้งนี้ และต้องตกใจเป็นอย่างมากหลังจากที่ถูกไขควงจี้คอ     ไขควงยาวประมาณ 5 นิ้วแทงเข้าไปที่ลำคอด้านหน้าจนมีเลือดซึม ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในขณะนั้นก็รีบเข้าไปแยกตัวโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์เอาไว้ โดยระหว่างการควบคุมตัวนั้น นางประภาพรรณ ก็ได้ตะโกนด่าทอกลุ่มตำรวจนายหนึ่งด้วยความไม่พอใจอย่างมาก     ภายหลังทราบว่าเหตุผลที่ทำอย่างนี้ก็เพราะไม่พอใจที่คำร้องทุกข์ของเธอก่อนหน้านี้…

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นทอร์กออฟเดอะทาวน์อยู่สักพักหนึ่ง สำหรับกรณีของคู่บ่าวสาวที่สามารถจัดงานแต่งงานของตัวเองได้อย่างสวยหรูด้วยงบประมาณเพียงแค่ 20,000 บาทเท่านั้น!! เรื่องราวนี้ได้ออกสู่สายตาชาวออนไลน์ผ่านเว็บบอร์ดพันทิปโดยสมาชิกหมายเลข 1988897 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าของกระทู้ได้เล่าว่าตัวเองได้ฤกษ์การแต่งงานเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2561 โดยหลังจากที่รู้ฤกษ์ก็มีเวลาเตรียมงานประมาณ 8 เดือนและโจทย์ของทั้งคู่คือสถานที่จัดงานต้องใกล้บ้าน และประหยัดค่าใช้ส่วนที่สามารถประหยัดได้ จึงเลือกหอประชุมโรงเรียนใกล้บ้านจัดงานทั้งเช้าและเย็น สำหรับค่าตกแต่งงานต่างๆ ด้วยความที่เจ้าของกระทู่ไม่ชอบงานผ้า เลยคิดหาอะไรที่สามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าเป็นเวลานานๆ ได้ พอหาข้อมูลงานแต่งงานของคู่ผ่านๆมาก็สนใจงาน ‘ดอกไม้กระดาษ’ แต่ว่าด้วยราคาร้านที่รับจ้างทำมีราคาที่แพงเกินควร ความคิดการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองจึงเกิดขึ้นกับเจ้าของกระทู้ เธอจึงใช้เวลาหลังจากเลิกงานประจำ วันละ 3-4 ชั่วโมง และสามารถแยกเป็นส่วนต่างๆ ได้ดังนี้ ปล. ภาพทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น   ในเริ่มแรกทดลองทำดอกไฮเดรนเยีย… . .   หลังจากการทดลองทำดอกไฮเดรนเยียผ่านไป ก็มาถึงสิ่งที่ทำออกมาเป็นชิ้นแรกนั่นคือ   1. Backdrop เริ่มจากการหาวิธีการทำดอกไม้กระดาษสำหรับทำ Backdrop และได้คลิปสอนทำจาก Madammouth เป็นคุณครู ผลงานที่ได้คือ   . . . . . . .…

บางครั้งในสังคมไทยของเราก็ยึดติดกับเรื่องดวงชะตา โชคลางมากเกินไป เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ ทนายชื่อดัง เกิดผล แก้วเกิด ที่เปิดให้คำปรึกษาข้อกฎหมายแก่ประชาชน ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้เผยบทสนทนาของเขากับหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ติดต่อเข้ามาปรึกษาว่า โดนโกงจากการซื้อของออนไลน์ จะทำอย่างไรดี “โดนโกงจากการซื้อของออนไลน์ คือสั่งกล้องไปแล้วโอนเงินไปแล้ว แต่ของที่ส่งมามันไม่ใช่กล้องตามแบบที่สั่งไป เงิน 22,000 บาท จะสามารถทำอะไรได้บ้างคะ อยากได้เงินคืน”     และเมื่อทนายถามกลับไปว่ากล้องที่ถูกส่งมาคือกล้องอะไร ผู้ติดต่อเข้ามาก็ตอบกลับมาว่า “ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดดูของเพราะปณ.ยังส่งของมาไม่ถึง แต่ไปดูดวงมาเค้าบอกว่ามันไม่ใช่กล้อง”     เมื่อได้อ่านคำตอบแล้วถึงกับกุมขมับทนายเกิดผล แก้วเกิด จึงนำรูปบทสนทนาดังกล่าวมาโพสต์ด้วยแคปชั่นว่า “ใจเย็นๆ แม่คุณ”     แหม่… ทำไปได้   ที่มา: เกิดผล เกิดแก้ว

จากเหตุการณ์ที่กลายเป็นประเด็นร้อนมาแรงสุดๆ ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมากับกรณีเรื่องสนามสอบโรงเรียนวัดสิงห์ ที่มีแก๊งอันธพาลเข้ามาถล่มสนามสอบเนื่องจากโดนขอให้ลดใช้เสียงในงานบวช เรื่องนี้กลายเป็นที่กล่าวถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ทันที ชาวเน็ตต่างก็ร่วมเข้ามาประนามการกระทำของแก๊งอันธพาล และผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้ถูกจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     ข่าวต้นเรื่อง: ‘แก๊งงานบวช’ ยกพวกบุกโรงเรียน ‘ทำร้ายครู-พังการสอบ’ หลังถูกเตือนเรื่องเสียงดัง!? ข่าวที่เกี่ยวข้องทั้งหมด: วัดสิงห์   ประเด็นร้อนประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ชาวเน็ตต่างก็ติดตามและให้ความสนใจ ส่วนในแง่ของการดำเนินคดีเป็นไปตามกฎหมายและตามขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่อไป มีหนึ่งกระทู้จากเว็บไซต์พันทิปที่ในตอนนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2019) กำลังกลายเป็นกระทู้ที่มีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก จากการเปิดเผยเรื่องราวจากฝั่งนักเรียนในสนามสอบวัดสิงห์โดยสมาชิกหมายเลข 5098532     เจ้าของกระทู้สมาชิกหมายเลข 5098532 ได้เปิดเผยและขอให้พื้นที่ในเว็บไซต์พันทิปเปิดเผยเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยได้บอกว่าเธอเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ขออนุญาตสรุปให้เข้าใจกันสั้นๆ ดังนี้ 1. วันเกิดเหตุ ทางสทศ.(สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ) ได้มีการจัดการสอบ GAT-PAT โดยวิชาที่สอบช่วงบ่ายคือ PAT5 วัดความถนัดทางวิชาชีพครู 2. ตามกฎของการสอบ ผู้สอบจะไม่มีสิทธิ์ออกจากห้องสอบจนกว่าจะหมดเวลาสอบ (16.00 น.) 3. เจ้าของกระทู้ไม่ทราบมาก่อนว่ามีเรื่องของเสียงเพลงดังรบกวนจากวัดเพราะไม่มีสอบช่วงเช้า พอถึงเวลาสอบช่วงบ่ายก็ขึ้นไปทำข้อสอบตามปกติ 4. พอถึงเวลาสอบก็ได้ทำการทำข้อสอบไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลา 14.30 ก็เริ่มได้ยินเสียงเคลื่อนเก้าอี้ แต่เนื่องด้วยที่ห้องสอบเป็นห้องแอร์เลยไม่ค่อยได้ยินเสียงเหตุการณ์ภายนอก…

กำลังเป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์ต่ออย่างมากมายในโลกออนไลน์ขณะนี้ ‘น้องกิจ’ เด็กชายวัน 14 ปี ที่ช่วยพ่อแม่หารายได้ด้วยการเริ่มทำงานตั้งแต่ตี 5 ถึง 3 ทุ่มทุกวัน โดยไม่มีวันหยุดแม้แต่วันเดียว…     เรื่องราวดีๆ ได้ถูกแชร์ผ่านผู้ใช้เฟสบุ๊กนามว่าคุณ Keptawan Kopanitcharoen ที่บอกเล่าเรื่องราวของน้องกิจ ว่าช่วยพ่อแม่ทำงานหารายได้มาตั้งแต่ ป.1 ช่วงเช้าก่อนไปโรงเรียน น้องกิจจะตื่นตี 5 เพื่อชงไมโล กาแฟ และนำปาท่องโก๋ที่แม่ทอด ปั่นจักรยานขายรอบหมู่บ้าน พอหลังเลิกเรียน น้องกิจก็จะมาขายโตเกียวที่ตลาดจนถึง 3 ทุ่ม     หลังจากที่เรื่องราวถูกแชร์ออกไปอย่างแพร่หลาย ชาวเน็ตที่เห็นถึงความกตัญญูและความขยันของน้องกิจ ก็ได้ไปอุดหนุนโตเกียวของน้องกิจที่ตลาดท่าน้ำปากเกร็ด ทำให้น้องกิจขายดียิ่งกว่าเดิม น้องกิจก็ได้เปิดใจกับทางเวิร์คพอยท์นิวส์ ว่า แรกเริ่มที่ตัดสินใจช่วยทำงานตั้งแต่ยังเด็กเพราะสงสารพ่อ ดีใจมากที่ลูกค้าเยอะขึ้น พ่อจะได้มีรายได้มากขึ้น     ปัจจุบันน้องกิจเรียนอยู่ชั้น ม.2 รร.โพธินิมิตร จะมาช่วยขายของทุกวันหลังเลิกเรียน แต่ช่วงนี้กำลังปิดเทอมก็ทำให้ช่วยพ่อได้เต็มที่ ทางด้านลูกค้าที่มาต่อแถวซื้อมากกว่า 30 คิวในตอนที่ช่องข่าวไปถ่ายทำนั้นก็เผยว่า พึ่งเคยมาซื้อเป็นครั้งแรกหลังทราบเรื่องราวจากโซเชียล อยากมาอุดหนุนเพราะน้องน่ารักและเป็นคนขยัน   กระแสดังกล่าวทำให้น้องเป็นคนดัง เป็นที่รู้จัก และขายดีขึ้น…

“โจอี้บอย” ถือว่าเป็นบุคคลหนึ่งในวงการเพลงไทยที่แฟนๆ หลายให้ความเคารพและยึดถือเป็นไอดอล ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นสื่อหรือเพจในโซเชียลมีเดียสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับเขา คราวก่อนเราก็ได้นำเสนอเหตุการณ์ที่มีเพจคำคมเพจหนึ่ง นำรูปของเฮียโจ้ไปใช้พร้อมกับใส่ประโยคคำพูดสุดเท่ ทว่าเฮียแกไม่ได้เป็นคนพูดเอง จนเจ้าตัวต้องไปคอมเมนต์เพจว่า “กูไปกล่าวไว้ตั้งแต่เมื่อไร!?” ข่าวเก่า:  เมื่อเพจคำคม นำรูป “โจอี้บอย” ไปใช้ จนเจ้าตัวมาเอง “กูไปกล่าวไว้ตั้งแต่เมื่อไร!?”     ล่าสุดนี้จากเรื่องของ “ป๊อบ ปองกูล” ชาวเน็ตหลายคนกำลังรอดูว่าคนในวงการเพลงด้วยกันจะมีท่าทีอย่างไรและเมื่อได้เห็นโจอี้บอยไปกดถูกใจคอมเมนต์ๆ หนึ่ง ก็เลยถูกนำมาเป็นประเด็นพูดถึงกัน   .   งานนี้เดือดร้อนถึงโจอี้บอยตัวจริง ต้องออกมาโพสต์แถลงว่า “ข่าวป๊อบ กูไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรทั้งสิ้นนะฮะ เลื่อนดูไอจี นิ้วไปโดนปุ่มหัวใจด้านขวา ไม่รู้แม่งจะไว้ตรงนั้นทำไม พวกแคปมาเล่นต่อ แค่นี้จบ อย่าโยงเก่ง”     และเฮียก็ได้ทำการคอมเมนต์บนภาพข่าวที่แฟนๆ แคปรูปมาให้ได้ชมกันดังนี้   ฟังแล้วถึงกับจุก!! “55555555 จุกพ่อง”   พยายามสุดชีวิตจะให้เฮียเป็นคนพูดให้ได้   เมื่อเฮียโพสต์สเตตัสดังกล่าวลงโซเชียลมีเดีย ก็มีแฟนๆ และชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย   ทำเอาเฮียกุเป็นเรื่องใหญ่เลย   ขยี้เฮียทำม้ายยยย  …

นอกจากการสอบวัดผลระดับประเทศอย่าง GAT – PAT ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ ในอาทิตย์หน้า วันเสาร์ที่ 2 มี.ค. 62 ก็จะถึงคิวของการสอบ O-NET O-NET คือการสอบที่นักเรียนทุกคนในระดับชั้น ป.6 ม.3 และ ม.6 ต้องสอบเพื่อวัดคุณภาพและมาตรฐานของนักเรียนและสถานศึกษา นอกจากนี้ยังเป็นคะแนนที่ใช้เพื่อยื่น Admission เข้ามหาวิทยาลัย     ทั้งนี้การสอบ O-NET ได้ส่งผลกระทบกับสองสโมสรในศึกฟุตบอลไทยลีก 4 นั่นก็คือทีม เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด บี และ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด บี ที่มีคิวลงแข่งขันเกมลีก พร้อมกับการสอบ O-NET ในวันที่ 2 มี.ค 62 เนื่องด้วยทั้งสองทีม มีนักเตะเยาวชนดาวรุ่งอยู่ในทีมเป็นจำนวนมากและติดสอบ O-NET ทำให้แจ้งไปยังทีมที่ต้องแข่งด้วย เพื่อขอเลื่อนการแข่งขันออกไป ไม่งั้นจะถูกปรับแพ้เนื่องจากนักเตะลงสนามได้ไม่ครบ 11 คน     ทางด้าน “หนูนาจอมโหด” วัดโบสถ์ ซิตี้ คู่แข่งของ เจแอล…

ต่อเนื่องจากประเด็นที่กำลังร้อนแรงอยู่ในโลกโซเชียลขณะนี้ อย่างเรื่อง “แก๊งงานบวชบุกโรงเรียนพังการสอบ GAT – PAT” ล่าสุดสำนักข่าว SpringNews ได้ไปสัมภาษณ์น.ส.ขวัญยืน นุชแฟง ญาติของเจ้าภาพที่จัดงานบวชถึงประเด็นที่เกิดขึ้น     ฝั่งงานบวชเผยว่าได้ขออนุญาตไปก่อนแล้วว่าจะมีการจัดงานรื่นเริงขึ้น แต่เมื่อโรงเรียนขอให้เบาเสียงเพราะมีการสอบทางฝั่งงานบวชก็ยอมเบาเสียงให้ อีกทั้งยอมรับว่ามีการดื่มสุราที่โต๊ะจีนมาก่อนจะเริ่มขบวนแห่ และสาเหตุที่ทำให้กลุ่มวัยรุ่นโมโห ตนคิดว่าเป็นเพราะการถูกตักเตือนรอบที่สอง     “ตอนเช้าไปเคลียร์กับทางโรงเรียนมาแล้ว เขาให้ใช้เสียงได้แต่ขอให้เบาหน่อยซึ่งเราก็เบาให้แล้ว แต่พอเริ่มแห่ กลับโทรมาต่อว่าอีกรอบ ปัญหามันเกิดตรงจุดนี้” “ตอนเริ่มแห่ก็ไม่ได้เปิดเสียงดัง แต่คนเราเต้นไปด้วยเขาก็เฮกันไปด้วย เขากำลังสนุก คนแก่ๆมาจากต่างจังหวัดเขาก็ดีใจได้เห็นหลานเขาบวช เห็นเพื่อนลูกบวช”     ญาติเจ้าภาพยังเสริมว่า ระหว่างแห่ไม่รู้ว่าโรงเรียนโทรมาแจ้งกับใคร แต่กว่าจะรู้ว่าห้ามใช้เสียงก็ตอนที่แห่จะเข้าประตูโบสถ์แล้ว “เราบอกไปว่า ‘ทำไมจะเล่นดนตรีไม่ได้ เรามางานบวชนะ ถ้าไม่เล่นแล้วจะสนุกได้ไง’ แล้วเขาก็เงียบกันไป”     จากนั้นหลังวนรอบโบสถ์สามรอบแล้วก็เห็นว่ากลุ่มเพื่อนของเจ้าภาพหายไป แต่ไม่ทราบว่าบุกไปก่อเหตุที่โรงเรียน เพราะคิดว่ากลับกันไปก่อนแล้ว อีกทั้งยังต้องไปร่วมงานเผาศพต่ออีกในช่วงเย็น “เรื่องก็มีอยู่แค่นี้ แต่ถามว่าทำไมก่อนที่เราจะจัดงาน ทำไมไม่แจ้งว่าห้ามใช้เสียง ห้ามดนตรีไปเลย เพราะเราเสียงบไปสองเกือบสามหมื่น ไม่มีใครอยากให้เรื่องเกิดขึ้น แต่เขาไม่แจ้งเราให้เป็นกิจจะลักษณะ”   ที่มา: SpringNews

ได้เกิดเหตุการณ์ร้อนๆ ขึ้นที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง เมื่อโรงเรียนแห่งนี้เป็นสนามที่จัดสอบ GAT – PAT และมีการจัดสอบขึ้นในวันนี้… แต่ว่าด้วยความที่โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้วัด และมีการจัดงานบวชขึ้นมาวันเดียวกันจึงทำให้มีเสียงดังเกิดขึ้น ทางรร.จึงไปแจ้งว่าขอให้งดใช้เสียงเนื่องจากเด็กๆสอบอยู่ ทว่าคำตอบที่ได้รับคือการที่การถูกยกพวกมาตีแทน!! ทวิตเตอร์ @imyme_mind ได้มีการบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าโรงเรียนที่เกิดเหตุคือ ‘โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์’ ในกรุงเทพฯ ซึ่งนี่คือแคปชั่นที่ทวีตได้อธิบายไว้   ทวีตที่กำลังโด่งดังในตอนนี้ และมีการรีทวีตต่อไปกว่า 8,000 ครั้ง วันนี้รร.เราเป็นสนามสอบ GAT PAT ซึ่งรร.ใกล้กับวัด มีงานบวชพอดี ส่งเสียงดังรบกวน ทางรร.จึงไปแจ้งว่าขอให้งดใช้เสียงเนื่องจากเด็กๆสอบอยู่ แต่ทางนั้นไม่พอใจจึงยกพวกมารุมทำร้ายร่างกายคนที่อยู่ในรร. ทั้งผอ. ครู รปภ. นักเรียน ห้องสอบพังเละเทะ — m̶i̶n̶i̶c̶a̶c̶t̶u̶s̶ 🥀 (@tomindcactus) February 24, 2019   ทั้งนี้ในทวิตเตอร์เดียวกันก็มีการระบุว่าไม่มีการยิงกัน แต่ว่ามีคนเห็นว่ากลุ่มที่บุกเข้าในโรงเรียนมีการ ‘พกปืน’ ด้วย แต่ก็ไม่มีหลักฐานมายืนยันถึงเรื่องดังกล่าว ต่อมาทวิตเตอร์ @Kwanyayoei ก็ได้เผยแพร่วิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นภาพภายในโรงเรียนขณะที่มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา   คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้าโรงเรียนมา มีคนมาพังการสอบวันนี้แล้วจะได้สิบใหม่มั้ยอะัมัธยมวัดสิงห์ #GATPAT #แพท5 pic.twitter.com/LeR90OADA0…

ยิ่งเข้าใกล้การเลือกตั้ง บรรยากาศการเมืองไทยก็น่าติดตามและเป็นกระแสมากขึ้นทุกที… แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสอันดีให้ผู้ผลิตผลงานชาวไทย ทั้งงานวาดการ์ตูน งานถ่ายคลิป หรือกระทั่งแอนิเมชั่น ได้มีโอกาสปล่อยของเกี่ยวกับการเมืองกันเต็มที่   ยกตัวอย่างที่น่าสนใจก็คือศิลปิน TAMZEN ที่เลือกหยิบยกนโยบาย “เสรีกัญชา” ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมาอย่างยาวนานหลายปี นำเสนอออกมาในคลิปวิดีโอด้านล่างนี้   ภายใต้การนำเสนอที่แสดงให้เห็นถึงการแข่งขันด้านนโยบายของ 2 พรรค โดยมีพรรคหนึ่งนำเสนอนโยบายแปลกใหม่ เพื่อหวังโกยคะแนนเสียงประชาชน ขณะที่อีกพรรคหนึ่ง เตรียมท่าไม้ตายเอาไว้กับประเด็น “กัญชา” ที่สังคมมีทั้งสนับสนุนและต่อต้าน แต่สุดท้ายเขาก็กลายเป็นผู้ที่ชนะการเลือกตั้งไป นี่สะท้อนแนวคิดที่สังคมที่แม้ส่วนใหญ่อาจจะเห็นด้วย หรือบางส่วนจะไม่เห็นด้วย แต่เรื่องของพืชชนิดดังกล่าวก็เริ่มผ่อนปรนมากขึ้นในช่วงหลัง ถึงขั้นที่ว่าบางพรรคหยิบมาเป็นนโยบายในการหาเสียง ซึ่งหากเป็นในอดีต คงไม่มีพรรคไหนหยิบพืชที่สังคมพูดถึงอย่างแพร่หลายนี้มาเป็นนโยบายแน่นอน มองในทางการเมืองแล้ว นี่คือไอเดียที่แปลก และแตกต่าง!!!   หากมองในงานศิลปะ TAMZEN ยังมีผลงานน่าสนใจอีกหลายงานที่น่าติดตามชม ไม่ว่าจะเป็น…   วิธีรอดจากการเกณฑ์ทหาร   อุบัติเหตุ ที่ใครๆ ก็เคยเจอ   นิทานสอนใคร… เรื่องหมาเฝ้าบ้าน   ผู้ชายชอบผู้หญิงที่หน้าตา จริงหรือ!?   วิธีกำจัดแมลงสาบ   ผลงานเหล่านี้ยังเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น…

สำหรับคู่รักทั้งหลายที่คบกันมานานก็อาจจะมีบ้างที่ความหวานเริ่มจะจืดจางลงไปตามระยะเวลา ซึ่งแต่ละคู่ก็อาจจะมีวิธีเพิ่มความหวานให้ชีวิตรักยืดยาวขึ้นแตกต่างกันไปตามสไตล์ของแต่ละคู่ ซึ่งกิจกรรมที่ว่าอาจจะเป็นการไปกินข้าว ไปเที่ยวด้วยกัน ไปดูหนัง หรือทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกันบ้าง แต่วิธีที่ง่ายที่สุดที่ #เหมียวบู้บี้ เชื่อว่าทุกคู่ต้องเคยทำก็คือการหยอดคำพูดหวานๆ ใส่แฟนตัวเองให้เขินๆ พอชุ่มฉ่ำหัวใจ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นคนประเภท พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ แต่ไม่รู้จะสรรหาคำหวานๆ แบบไหนมาพูดเพิ่มความหวานให้กับคนรักของตัวเองล่ะก็ เหมียวบู้บี้ก็มีอีกหนึ่งกระทู้เด็ดที่จะมาแนะนำจากหัวข้อที่ว่า “ขอมุกจีบแฟนหน่อยค่ะ อยากเติมความหวานให้ชีวิตคู่”   กระทู้นี้ตั้งขึ้นโดยผู้ใช้สมาชิกหมายเลข 2966847 ที่ได้มาขอคำปรึกษาจากชาวพันทิป เพื่ออยากจะหยอดคำพูดหวานๆ ให้กับแฟนที่อยู่ห่างกันไกลถึงสวีเดน อยากได้มุกหยอดแฟนให้พอชุ่มฉ่ำใจ แน่นอนว่าชาวพันทิปไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ต่างก็ได้เข้ามารวมแสดงความคิดเห็นเพื่อช่วยสาวไทยที่ไปทำงานไกลคนนี้ได้หยอดแฟนตามที่ขอ โดยพากันปามุกเสี่ยวกันเข้ามารัวๆ แบบนี้ แหม๊ มุกสมัยพระเจ้าเหา   ลองจับหูดู จะได้รู้ว่าข้างหูเธอมีผมอยู่ เอ๊ะ!?!   เป็นไข้ที่ชล เป็นคนที่ใช่ แอร๊ยยยยยย   ไม่รู้จะหยอดยังไง บอกไป แฟนหนูหล่อจัง   ถึงจะยังไม่มีแฟน แต่ก็ขอมาแวะเก็บข้อมูลก่อน (เผื่อเอาไว้หยอดแฟนในอนาคตไง)   พี่ช่างไม้เค้าก็โรแมนติกเหมือนกันนะ   ….. เคพี่   แต่อย่างไรการกระทำก็สำคัญกว่าคำพูดแหละนะ…

กลายเป็นดราม่าร้อนที่กำลังเดือดในโลกออนไลน์ขณะนี้กับรายการใหม่จากช่อง 7 สีที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมากับรายการที่มีชื่อว่า ลูกทุ่งไอดอล กระแสการเปิดตัวครั้งแรกในโลกออนไลน์ของรายการนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในหลายๆ ด้าน ทั้งชื่นชมในการนำเอาความเป็นลูกทุ่งมาผสมผสานกับในเรื่องของการเป็นไอดอลที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน     แต่ก็มีอีกหนึ่งประเด็นที่ชาวเน็ตดราม่ากันว่า รายการนี้ดันไปละม้ายคล้ายกับรายการ PRODUCE 101 รายการประกวดไอดอลของประเทศเกาหลี รายการลูกทุ่งไอดอล มีรูปแบบการจัดทำโดยเอาสาวๆ ผู้เข้าสมัครจากทั่วประเทศไทยคัดให้เหลือ 100 คนเพื่อเข้ามาแข่งขันเพื่อหาศิลปินไอดอลประดับวงการลูกทุ่งคนใหม่     และดราม่าก็ระอุขึ้นมาอีกรอบเมื่อ เพจ 아이돌 이슈 เพจเกี่ยวกับข่าวสารด้านไอดอลของประเทศเกาหลีลงโจมตีรายการนี้ว่าก๊อบปี้รายการ PRODUCE101   หลังจากที่ทางเพจโพสต์ออกไปก็ได้มีชาวไทยเข้าไปคอมเมนต์ดังนี้ . . . . .   ทางด้านเพจลูกทุ่งไอดอล ได้ทำการโพสต์ชี้แจงในประเด็นดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 62 เวลา 10.44 น. โดยระบุว่า…   “แอดขอชี้แจงจากหลายๆ คำถามเกี่ยวกับรายการ “ลูกทุ่งไอดอล” เบื้องต้น Zense เคารพลิขสิทธิ์ทุกรายการ และเรามีประสบการณ์ในการซื้อลิขสิทธิ์มากกว่า 14 รายการ และมีการขายลิขสิทธิ์ไปต่างประเทศด้วยเช่นกัน…

ว่ากันด้วยเรื่อง ‘ความสัมพันธ์ของมนุษย์’ ก็จะมีมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบ พ่อแม่ลูก, พี่น้อง, คนรัก, และเพื่อน ซึ่งแต่ละความสัมพันธ์ก็จะมีหน้าที่มีความหมายแตกต่างกันออกไป… แต่หนึ่งในรูปแบบความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจะซับซ้อนซ่อนเงื่อน สร้างความอึดอัด ลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยผ่านมันมาก่อน ก็คือความสัมพันธ์แบบ เฟรนด์โซน นี่แหละ     เพราะไม่ว่าจะทำดีแค่ไหน จะรักมากขนาดไหน สุดท้ายแล้วก็เป็นได้แค่เพื่อนคนหนึ่ง ไม่มีวันเลื่อนขั้นกลายเป็นคนรักได้เลย (พูดแล้วน้ำตาจะไหล) ทาง #แก๊งแมวเหมียว เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่จะต้องประสบพบเจอกับความสัมพันธ์แบบนี้มาก่อน เราจึงได้รวบรวมเหตุการณ์ที่น่าจะโดนใจเหล่าพลพรรคคนแอบรักเพื่อน แต่ยังไง๊ยังไงก็อยู่ได้แค่ เฟรนด์โซน   1 ความสัมพันธ์แบบเฟรนด์โซน มันจะเริ่มจากคนที่อยู่ใกล้ๆ ตัว อย่างการเป็นเพื่อนกันก่อนนี่แหละ   2. พอได้เป็นเพื่อนกัน อยู่ใกล้ๆ กัน จู่ๆ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็เกิดคิดไม่ซื่อ เปลี่ยนไปเป็นความรักซะงั้น!?   3. และมันจะเข้าแก๊บของการเป็นเฟรนด์โซนได้ก็ต่อเมื่อ ‘อีกฝ่าย’ ที่เป็นเพื่อน ดันไม่ได้คิดอะไรกับเราเลยแม้แต่น้อย   4. เธอหรือเขาก็จะมองว่าเราเป็นเพื่อนที่แสนดี คอยปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับ ‘คนอื่น’ ที่เข้ามาจีบ…

ในช่วงใกล้เลือกตั้งแบบนี้ หลายๆ คนก็คงจะมีพรรคการเมือง หรือแคนดิเดตนายกในดวงใจอยู่แล้ว เช่นเดียวกันกับเขาคนนี้     เรากำลังพูดถึง รองศาสตราจารย์ สุวินัย ภรณวลัย อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ปัจจุบันเกษียณแล้ว) ที่ล่าสุดได้ออกมาโพสต์เฟซ แสดงการประกอบพิธีกรรม เพื่อหวังจะทำคำขอให้เป็นจริง   โพสต์ของเขา เกี่ยวกับการทำพิธีที่เกิดขึ้น   ล่าสุด เขาสามารถดึงพลังมาได้สำเร็จแล้ว   พรข้อแรกที่เขาต้องการก็คือ…!!   บรรยากาศของการประกอบพิธี . . .   โพสต์ของเขาถูกแชร์ออกไปมากกว่า 700 ครั้ง พร้อมกับมีผู้เข้ามาคอมเมนต์ นับถือในความเชื่อของอาจารย์ที่ทุ่มเทประกอบพิธีดังกล่าวนี้ขึ้นมา   . .   แต่แน่นอนว่าก็อาจมีคนที่ไม่เห็นด้วยอยู่เหมือนกัน . .   อย่างไรก็ตาม นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคลแหละนะ   หลังจากที่เป็นกระแสบนหน้าสื่อออนไลน์ไปแล้ว อาจารย์ได้ออกมาโพสต์เมื่อช่วงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 62…

ใกล้เข้ามาเต็มที่แล้วสำหรับการเลือกตั้งที่ชาวไทยหลายคนรอคอยมาอย่างนานแสนนาน ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่เรียกว่า ‘ฤดูหาเสียง’ ที่นักการเมืองจะได้โปรโมทตัวเองกันผ่านตามสื่อต่างๆ แต่ว่ามีการหาเสียงของผู้สมัครคนหนึ่งที่ดูแปลกแหวกแนวและครีเอทขั้นสุด จนเรียกได้ว่าเป็นมิติใหม่ของการหาเสียงแห่งยุคเลยก็ว่าได้ (มิได้มีเจตนาช่วยโปรโมทแต่อย่างใด ที่นำเสนอเพื่อเรียกสีสันและรอยยิ้มเพียงเท่านั้น)     คิด ภูวพัฒน์ ชนะสกล ผู้สมัครแห่งพรรคเสรีรวมไทย คือเจ้าของการหาเสียงสุดแนวตามที่ได้กล่าวมา โดยป้ายการหาเสียงของเขาแต่ละอัน ต้องบอกว่ามันเรียกเสียงฮาได้ดีเสียจริงๆ ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่ามันจะมีหน้าตาเป็นเช่นไรกัน จะมีรอยยิ้มจริงไหมหรือจะล้ำขนาดไหน ถ้าอย่างนั้นอย่ามัวเสียเวลารูดจอไปดูกันเลยดีกว่า…   ไปนอกโลกแล้วจ้า   อย่าเอาแอร์ดรอปของชั้นไป   เรียกว่ามาหมดทุกการขนส่ง   ออกเรือออกทะเลก็ยังมี   เผื่อนกจะเห็นมั่ง   บอกเลยว่าอย่างเนียน   เข้าหมดทุกตรอกซอกซอย   ว่างๆ มาพาผมเก็บเวลทีงับ   มาในโหมดสายฮา   เรียกได้ว่าเข้าใจทำ   หน้าใหม่ใจดีนะจ๊ะ   คิดถึงลุงๆ ป้าๆ เลยทีเดียว   แหม่ คุ้นๆ นะการวางตำแหน่งอย่างนี้   จึกเข้าให้   อ่ะ ใครอยากเจอก็ไปเจอกันได้…

จากความเดิมตอนที่แล้ว เราได้พูดถึงคุณ พลอยไพลิน รัตนสเถียร สาวสุดเซ็กซี่ผู้ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคามแห่งพรรคพลังท้องถิ่นไท ซึ่งหลังจากได้โพสต์ข่าวของเธอลงในโซเชียลมีเดีย ผู้ชมหลายคนวิพากษ์วิจารณ์เธอ ว่าไม่เหมาะสมกับการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสักเท่าไหร่ เนื่องจากเคยถ่ายภาพแนวเซ็กซี่มาก่อน ข่าวเก่า: พาชมภาพของ “พลอยไพลิน รัตนเสถียร” ผู้สมัคร ส.ส. สุดเซ็กซี่แห่ง “พรรคพลังท้องถิ่นไท”     จากประเด็นดังกล่าว วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ช่อง Bright TV จึงได้ทำการสัมภาษณ์เธอเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยคุณพลอยไพลิน ก็ได้ให้บอกว่า “ความรู้สึกตอนแรกคือเสียใจ แต่ตอนนี้เราเหมือนมีแรงฮึด ผลักดันตัวเองมากขึ้นที่จะเข้ามาทำในจุดๆ นี้ เพราะว่าทางพรรคได้ให้โอกาสหนูมาแล้ว หนูรู้สึกอยากจะทำให้เขาได้เห็นว่าอาชีพของหนูก็ไม่ได้น่ารังเกียจหรือมีผลเสียต่อสังคม อาชีพของหนู ก็เป็นอาชีพที่สุจริต ยิ่งกระแสมีการมองอาชีพหนูในทางลบ มันยิ่งผลักดันให้หนูอยากก้าวเข้ามาในจุดๆ นี้ค่ะ “   คลิปการให้สัมภาษณ์ของพลอยไพลิน จาก Bright TV   และเมื่อถูกถามถึงกระแสที่โซเชียลมีเดียมีต่อเธอ เธอก็ได้บอกว่า “เท่าที่ดูกระแสตอนนี้มีทั้งด้านลบและด้านบวก ในด้านบวกเขาก็มองว่าเราทำอาชีพสุจริต เราเป็นเด็กคนหนึ่งที่ทำเพื่อครอบครัว เราหาเงิน หาเลี้ยงครอบครัวของเราด้วยอาชีพที่ไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้ปล้นหรือชิงทรัพย์ใครเขามา เราทำด้วยแรงกายของเรา…

เมื่อไม่นานมานี้ เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ จากกรณีที่มีคู่หนุ่มสาวได้เข็นรถที่จอดอยู่ในช่องคนพิการก่อนแล้วออกมา และนำรถยนต์ Ford Mustang ของตนเข้าไปจอดแทน   คลิปเหตุการณ์จากเพจบิ๊กเกรียน   หลังจากจอดรถเสร็จคู่หนุ่มสาวก็ถูกถ่ายวิดีโอเอาไว้โดยเจ้าของรถที่โดนเข็นออกมา และนำมาแชร์ผ่านเพจ “พัทยา-รู้ยัง” พร้อมกับโพสต์ตัดพ้อด้วยความน้อยใจ เนื่องจากตนเป็นคนพิการจริงๆ แต่คู่หนุ่มสาวดูปกติดี ทำไมถึงทำอย่างนี้     ใจความจากโพสต์ระบุว่า… “จอดรถอยู่ดีๆก็โดนดึงออก หนูเป็นคนพิการ มาเที่ยวกับเพื่อน จอดรถไว้ที่คนพิการ แล้วก็ไปกินข้าว ที่นั่งกินข้าวก็จะเห็นรถของหนูที่จอดพอดี พอดีข้าวเสร็จกำลังจะไปทำธุระต่อ หันไปที่จอดรถก็เห็นว่า รถของหนูถูกดึงออกมา จอดกลางถนน แล้วมีรถราคาแพงมาจอดแทน คนที่ลงจากรถมาเป็นคนปกติ #คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้ #อยากพิการเหมือนหนูเหรอคะ”   จากนั้นพัทยานิวส์ ได้ไปสอบถามเจ้าของรถที่ถูกเข็นรถออกมา ได้ทราบชื่อว่า นางสาวกมลวรรณ (น้องแบม) โดยเจ้าตัวเผยว่าถาม รปภ. ก่อนแล้วและได้รับอนุญาตให้จอดได้ จึงจอดรถและขึ้นไปกินข้าวบนห้างสรรพสินค้า      โดยระหว่างที่กินข้าวอยู่เผอิญว่าสามารถมองลงมาที่ตนจอดรถได้ จึงเห็นกับตาว่ารถของตนถูกเข็นออกมาและมีรถหรูเข้าไปจอดแทน แต่ถ่ายวิดีโอในช่วงแรกไม่ทัน น้องแบมทิ้งทายว่าตนรู้สึกเสียใจมาก อย่าทำแบบนี้กับคนพิการอีกเลย เพราะพวกเขาเป็นคนส่วนน้อยในสังคม และยังไม่มีสิทธิ์อะไรมากมาย  …

เชื่อเลยว่าคงมีคุณผู้ชายหลายคนที่ต้องหาเหตุผลดีๆ ไปอธิบายกับศรีภรรยาว่าทำไมถึงกลับบ้านช้า ซึ่งเหตุผลที่ว่านี้ถ้าออกมาไม่ดีล่ะก็รับรองว่าไม่สากก็ของแข็งอะไรสักอย่างอาจจะมาปะทะกับหัวกบาลได้ แต่สำหรับคุณตำรวจท่านหนึ่งแล้วเขาได้อ้างกับภรรยาถึงเหตุที่กลับบ้านช้าว่า ‘ช่วยควายออกจากอพาตเมนต์’ งานนี้เหมือนจะเป็นเหตุผลที่ใครๆ ฟังต่างก็ไม่เชื่อ แต่ว่าเขาก็ทำอย่างที่ว่านี้จริงๆ     เฟซบุ๊กชื่อว่า Puripan Suwannarat ได้เผยแพร่เรื่องราวดังกล่าว ซึ่งในภาพของโพสต์นั้นเป็นภาพของคุณตำรวจกำลังช่วย ‘ควาย’ ทั้งตัวที่เข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์ได้อย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ “วันนี้เข้าร้อยเวร202 สภ.เมืองสงขลา พี่กลับบ้านช้าหน่อยนะที่รัก ต้องพาควายออกจากอพาร์ตเมนต์ เอาไปเข้าคอกก่อนนะ” แคปชั่นที่ทางโพสต์เขียนเอาไว้   รูปภาพที่ยืนยันว่านายตำรวจไม่ได้ไปเถลไถลที่ไหนนะจ๊ะที่ร้าก   มานี่เลยนะเจ้าตัวดี   เดี๋ยวพาไปส่งคอกนะจ๊ะ   ภาพของคุณตำรวจกับการช่วยเหลือน้องควายได้กลายเป็นไวรัลที่มีคนแชร์ออกไปแล้วในตอนนี้มากถึง 7,000 ครั้ง รวมทั้งยังมีคอมเมนต์ต่างๆ มาแซวเล่นขำๆ อย่างท่วมท้น แต่สำหรับคุณตำรวจแล้วไม่รู้ชะตากรรมจริงๆ ว่าศรีภรรยาจะเข้าใจหรือไม่ถึงจะมีรูปมายืนยันเช่นนี้ก็ตาม…   . . . .   ที่มา: Puripan Suwannarat 

ในยุคสมัยที่ต้องการความรวดเร็วและสะดวกสบาย หลายคนจึงเลือกที่จะซื้อสินค้าทางออนไลน์ เนื่องจากทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส แถมยังไม่ต้องออกไปซื้อที่ร้าน เผชิญกับอากาศร้อนๆ หรือสภาพการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนน แต่ข้อเสียของการช้อปปิ้งออนไลน์ก็คือสินค้าที่เราไม่ได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง ทำให้บางครั้งผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ตรงกับแบบที่เราคิดไว้ เช่นเดียวกับกรณีของหญิงสาวคนนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก I’Yern Winyoo ได้โพสต์ภาพบทสนทนาระหว่างเธอกับแม่ค้าขายของออนไลน์ โดยเริ่มจากทักไปถามข้อมูลของรองเท้าแบรนด์ Adidas ที่อยากได้กับแม่ค้า อย่างเช่น รุ่น ขนาด และถามปิดท้ายว่า ‘เป็นรองเท้าของแท้หรือไม่’ แน่นอนคำตอบที่ได้รับคือ ‘ของแท้’   โพสต์ที่เป็นประเด็น   เธอจึงตัดสินใจสั่งซื้อ และไม่กี่วันหลังจากนั้น เธอก็ได้รับสินค้าที่สั่ง แต่ปรากฎว่าว่ารองเท้าที่ซื้อมาเป็นของที่ทำเลียนแบบ ก็เลยตัดสินใจทักไปถามแม่ค้าว่ามันยังไงกันแน่!? พร้อมกับขอให้อีกฝ่ายแสดงความรับผิดชอบโดยการคืนเงิน     ส่วนฝ่ายแม่ค้าเองก็ได้ให้เหตุผลว่ารองเท้าที่เธอขาย ‘เป็นรองเท้าของแท้ 100%’ (เป็นรองเท้า แต่ไม่ได้เป็นอย่างอื่น) ไม่ได้เป็นรองเท้าแบรนด์ Adidas ของแท้อย่างที่เธอเข้าใจ ทำให้เธอถึงกับหมดคำถามกันเลยทีเดียว     โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนแชร์ไปมากกว่า 1,000 ครั้งเลยทีเดียว!!   เมื่อชาวเน็ตทราบเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แม่ค้าคนนี้ต่างๆ นานา   “รองเท้าแท้ 100% ..แต่ไม่ได้บอกว่าแด็ทของแท้…

ถ้าหากจะพูดถึงเรื่องของการบนบานศาลกล่าว คงต้องบอกว่าเป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละบุคคลจริงๆ ว่าแต่ละคนจะมีความเชื่อต่อเรื่องพรรค์นี้เช่นไร แต่สำหรับคุณยายท่านหนึ่งแล้ว เธอได้ทำการแก้บนให้กับ ‘จ่าเฉย’ ที่ยายเชื่อว่าดลบันดาลให้เธอถูกหวยกว่า 3 งวดติดแถมยังทำให้ลูกสอบติดราชการได้อีก งานนี้เลยต้องจัดเต็มซะหน่อยแล้ว!!     เรื่องนี้ได้กลายเป็นเรื่องที่แชร์กันกระจายบนโลกโซเชียล โดยเพจงานราชการ ได้เขียนแคปชั่นประกอบโพสต์เอาไว้ว่า  “ยายคนนี้บนจ่าเฉยไว้ถูกล๊อตเตอรี่ 3 งวดติดต่อกันแล้ว แถมบนลูกสอบราชการได้ เลยจัดแก้บนชุดใหญ่” พร้อมกันนี้ทางเพจยังได้แนบรูปภาพของคุณยายท่านหนึ่งที่กำลังบูชา ‘จ่าเฉย’ ที่ใส่เสื้อของสภ.เมืองสงขลา ซึ่งสิ่งที่บูชานี้ก็มีทั้งดอกไม้ธูปเทียนต่างๆ อย่างครบครัน   รูปภาพของยายขณะกำลังแก้บน   สาธุจ้า   จัดเต็มซะหน่อย .   โพสต์ของคุณยายนี้ได้รับการแชร์ออกไปแล้วมากกว่า 2,000 ครั้งแถมยังมีความเห็นจากชาวเน็ตเข้ามาอย่างมากมาย ซึ่งบางคนก็บอกว่าจ่าเฉยรับสินบนอย่างนี้ได้ยังไง มันผิดนะเนี่ย!!   . . . . . .   เรื่องนี้ #เหมียวจิวยี่ ขอไม่ยุ่งแล้วกัน ที่มา: งานราชการ

การเสียเงินซื้อบ้านราคาแพงนอกจากปัจจัยอย่างเช่น ทำเล คุณภาพของบ้าน หรือบรรยากาศ ซึ่งอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผู้คนยอมเสียเงินซื้อบ้านราคาหลายล้านก็คือ ‘คุณภาพของสังคมรอบข้าง’ แต่ผู้ใช้พันทิปนามว่า ‘โชคเจีย’ ไม่ได้รับสิ่งที่กล่าวมาข้างตน แม้จะซื้อบ้านที่มีราคาหลังละเกือบ 10 ล้านบาท แต่มารู้ทีหลังว่า เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามทำกิจการฟาร์มหอยนางรมสดส่งออกทั่วประเทศ     ผู้ตั้งกระทู้เผยว่าตัดสินใจซื้อบ้านที่นี่ในปี 2555 เพราะชอบบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบ ก่อนจะมาทราบถึงธุรกิจของบ้านฝั่งตรงข้ามในภายหลัง ทำให้ต้องทนทุกข์กับมลภาวะทั้งทางเสียงและกลิ่น   ทำให้คุณโชคเจียรู้สึกเหมือนบ้านของตนอยู่ใกล้กับท่าเทียบเรือประมง เพราะกลิ่นคาวของหอยที่ได้สัมผัสทุกวันเกือบ 6 ปี อีกทั้งยังได้รับเสียงรบกวน เมื่อบ้านตรงข้ามเริ่มล้างหอยบริเวณหน้าบ้าน ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดไปจนถึงช่วงสาย     เจ้าตัวเผยว่าเคยเข้าไปคุยกับเจ้าของฟาร์มหอย แต่ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ทางนั้นก็อ้างว่าเขามีสิทธิ์ทำได้ เพราะตนเป็นทนาย รู้ข้อกฏหมายดี และมีแม่เป็นคนใหญ่คนโต เพื่อนบ้านหลังอื่นๆก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน จึงนัดรวมตัวกันไปแจ้งว่าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ทางเจ้าของฟาร์มหอยก็ตอบกลับมาว่า “เหม็นหรอครับ ผมไม่เห็นได้กลิ่นเลย” ทำให้มีหลายคนยอมแพ้และยอมย้ายออกจากหมู่บ้านไป     ทางด้านนิติบุคคลของโครงการก็ไม่แก้ดำเนินการแก้ปัญหาให้ แม้ว่าตอนที่คุณโชคเจียจะซื้อบ้าน ทางนั้นก็เน้นย้ำว่าไม่ให้ทำกิจการหรือ Home Office ในหมู่บ้าน แต่ทว่าเพื่อนบ้านกลับทำฟาร์มหอยเช่นนี้ ทางภาครัฐอย่าง อบต. เคยเข้ามาดูและถามว่าได้รับผลกระทบจากกลิ่นมากแค่ไหน พร้อมกับให้ลงชื่อว่าเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อน…

จากการรายงานของอมรินทร์ทีวี เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 62 ได้เกิดปรากฏการณ์ลาวาโคลนผุดขึ้น ที่กลางทุ่งนาบ้านหนองกุงน้อย ตำบลโคกกระเบื้อง อำเภอบ้านเหลื่อม จังหวัดนครราชสีมา มีคนจำนวนมากเดินทางมาชมบ่อลาวาโคลนแห่งนี้ พร้อมกับนำโคลนลาวามาพอกตัว บางรายก็ตักน้ำจากบ่อผุดดื่ม เพราะมีความเชื่อว่าสามารถนำมารักษาโรคได้     แม้จะมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลติดป้ายขอให้งดดื่มน้ำจากบ่อผุด จนกว่าผลตรวจจะออกมาว่าน้ำในบ่อปลอดภัย แต่ก็ไม่สามารถห้ามได้ ยังคงมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมาเก็บน้ำและโคลนลาวากลับไป แต่หลังจากนั้นเมื่อชาวบ้านที่นำน้ำกับโคลนกลับไป เพื่อดื่มและพอกตัวเกิดอาการล้มป่วย จึงนำกลับมาคืนและมีอาการดีขึ้น จึงเชื่อว่าสาเหตุของอาการป่วย เกิดจากการไม่ได้ทำพิธีบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง     ทั้งนี้ ชาวบ้านจึงได้จัดพิธีการบวงสรวงขึ้น เพื่อทำการบอกกล่าวเจ้าที่ พระแม่ธรณี รวมถึงพญานาคราช ว่าจะขอนำโคลนในบ่อไปใช้ โดยมีผู้เข้าร่วมในงานเป็นจำนวนมาก ทางด้านข่าวช่องวัน รายงานเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 62 ระบุว่า มีคุณลุงในพื้นที่ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนที่ลาวาโคลนจะไหลออกมาเยอะขนาดนี้ ชาวบ้านดื่มน้ำในบ่อนี้มาเป็นสิบปีแล้ว และไม่มีใครเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรงเลย   .   หลังพูดเสร็จคุณลุงชาวบ้านในพื้นที่ก็ใช้แก้วพลาสติกตักน้ำมาดื่มโชว์ให้เห็นกันจะๆ พร้อมกับบอกว่า “ไม่ลองไม่รู้” เมื่อถูกถามว่าไม่กลัวสารเคมีที่มาจากการเกษตรหรือ? คุณลุงก็ตอบว่าพื้นที่ตรงนี้ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้นมากว่าสิบปีแล้ว จึงมั่นใจว่าไม่มีสารเคมีตกค้างบริเวณนี้แน่นอน คอนเฟิร์ม!     …

ในช่วงเย็นวานนี้ (15 ก.พ. 2019) พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก ณ ลานคนเมือง กรุงเทพฯ ซึ่งแน่นอนว่าเราก็จะได้เห็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค อย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เมื่อพูดถึงคุณหญิงสุดารัตน์แล้ว อีกคนหนึ่งที่ #เหมียวตะปู เกิดแวบเข้ามาในความคิดทันทีก็คือน้อง จินนี่ – ยศสุดา ลูกสาวคนสวยที่ตกหัวใจหนุ่มๆ ไปได้อย่างท่วมท้น ถล่มทลาย ใจหายไปเลย หายไปในอากาศ   น้องจินนี่ – ยศสุดา   และล่าสุด ในงานปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของคุณแม่นั้น น้องจินนี่ก็ได้โผล่มาให้กำลังใจถึงข้างเวที ด้วยลุคสุดน่ารักตามสไตล์สาวแว่น สวมชุดนักศึกษา เห็นแล้วใจละลายไปอี๊กกกก!!   น้องจินนี่ ในบทบาทนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   ยิ้มแบบนี้ ใจคอไม่ค่อยดีเลยครับ   โอ๊ยโดนใจฉัน ฟันเหล็กเด็กแนว หน้าตาบ้องแบ้ว น่ารักจังเลย   มาให้กำลังใจแม่ (และหนุ่มๆ ด้วย)   ผมปลิวไสวไปหนึ่ง  …

เนื่องในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ถือว่าเป็นวันแสดงความรักสากล (วันวาเลนไทน์) โดยไม่จำกัดว่ารูปแบบความรักจะอยู่ที่คู่รักเท่านั้น การแสดงความรักต่อผู้มีพระคุณก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เมื่อไม่นานมานี้ ทางเพจ โรงเรียนเทพปัญญา – Theppanya School ได้ทำการโพสต์ภาพของคณะครูและนักเรียน ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการแสดงออกทางความรัก ในวันวาเลนไทน์ โดยเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนได้ติดสติ๊กเกอร์บอกรักครู จนเป็นภาพน่ารักๆ ถูกอกถูกใจชาวเน็ตและแชร์ต่อกันอย่างรวดเร็ว     รายละเอียดจากโพสต์ต้นทางระบุแคปชั่นไว้ว่า… “รู้แล้วว่ารัก..พลังแห่งรักจากลูกๆ วาเลนไทน์ปีนี้..ลูกๆ ชาวเทพปัญญาส่งต่อความรักให้คุณครู ด้วยการติดสติกเกอร์หัวใจ เป็นการแสดงออกถึงความรักของลูกๆ สุดหัวใจ #แค่นี้ครูก็รู้ว่ารักแค่ไหน #Happyvalentine‘s”     หากสังเกตจากตีมงานแล้ว ลักษณะจะเป็นการจัดงานควบคู่กับเทศกาลตรุษจีน สีแดงเปล่งปลั่งพานสะพรั่งไปทั่วโรงเรียน นักเรียนต่างมอบความรักให้กับคุณครูอย่างล้นหลาม ล้นจนแทบจะไม่มีพื้นที่ติดสติ๊กเกอร์แล้วล่ะ ฮร่าาาา   . . .   เหล่านักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง . .   เล็งหาที่พอเหลือแปะให้ครูอยู่ . . . . .  …

สำหรับใครที่สั่งของออนไลน์อยู่บ่อยๆ คงทราบกันดีว่า เวลาบุรุษไปรษณีย์หรือพนักงานส่งของมาส่ง จะต้องให้ผู้รับเซ็นชื่อเอาไว้ ซึ่งลายเซ็นที่เซ็นจะขึ้นโชว์บนเว็บไซต์ของบริษัทส่งของ ทำให้ผู้ส่งและผู้รับสามารถตรวจสอบได้ว่ามีใครรับของที่ส่งไปแล้วหรือยัง และนั่นก็เป็นประเด็นที่เราจะพูดถึงวันนี้นี่เอง เมื่อพ่อบ้านคนหนึ่งต้องเกมโอเวอร์ เมื่อภรรยาเป็นคนรับของที่แอบสั่ง พร้อมกับประทับลายเซ็นให้คุณพ่อบ้านดูว่า “มึงโดนแน่”     วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 สมาชิกเฟซบุ๊กนามว่า Tanachot Laohavijitjan‎ ได้ทำการโพสต์ลงในกลุ่ม Air Jordan & Air max Market Thailand พร้อมกับข้อความว่า “ถามพี่ๆ ในกลุ่มหน่อยครับ พอดี ปณ. มาส่งของที่บ้านเมื่อวันก่อน ช่วงนั้นผมอยู่ต่างจังหวัด พอโทรถามที่บ้าน เขาบอกว่าไม่มีอะไรมาส่งครับ แต่มีคนรับไว้ลายเซ็นไม่คุ้นเลย ทำไงดีครับ“   คนรับคือแฟน แต่ลายเซ็น “มึงโดนแน่” นี่ไม่คุ้นเอาเสียเลย   และหลังจากเขาโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย เมื่อพ่อบ้านคนอื่นๆ ได้เห็นเพื่อนพ่อบ้านเกมโอเวอร์ ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย   อูยยยยยย ไม่อยากรับรู้เลย   บางคนก็แนะนำให้คุยกันดีๆ ก่อนและอย่าลืมหาของขวัญไปด้วยล่ะ บอกว่าได้เป็นของรางวัลจากการเล่นเกมเป็นไง   ลาก่อยยยยย…

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องร้อนๆ บนโลกโซเชียลในวินาทีนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับคลิปวิดีโอหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่ามีมอเตอร์ไซค์มาวิ่งบนฟุตปาธแต่คนที่ยืนอยู่ไม่ยอมหลีกทางให้ เลยถูกย้อนกลับมาชนจนล้มทั้งยืน ณ ตรงนั้น!!     เรื่องนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกมาโดยเฟซบุ๊กชื่อว่า ประเสริฐ แซ่อึ๊ง ซึ่งได้ใส่แคปชั่นประกอบคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ดังนี้ “พอบอกว่าขี่บนทางเท้าไม่ได้นะครับ ขี่ย้อนกลับมาชนเลยครับ”   คลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้    ในคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าเป็นภาพของชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนทางเท้า แต่มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งพยายามจะผ่านทางที่เขายืนอยู่ ทว่าชายคนนั้นก็ยังคงยืนอยู่เช่นเดิมและไม่ได้หลบทางให้แต่อย่างใด จนมอเตอร์ไซค์ต้องเลี่ยงทางไปเอง แต่ในอีกไม่กี่วินาทีต่อมามอเตอร์ไซค์คันเดิมก็แล่นเข้ามาชนชายคนนี้จนเขาล้มลงไปกองอยู่กับพื้น!!     เรื่องราวนี้ได้รับการแชร์ออกไปแล้วมากกว่า 4,000 ครั้ง รวมทั้งมีความคิดเห็นของชาวเน็ตซึ่งส่วนมากแล้วจะไปในทางที่ต่อว่าคนขับขี่มอเตอร์ไซค์คันนั้น…   . . .   ที่มา: ประเสริฐ แซ่อึ๊ง

ใกล้เข้ามาแล้วกับการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวไทย ที่จะได้ออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันอีกครั้งในรอบ 5 ปีในวันที่ 24 มีนาคมที่จะถึงนี้ หลายๆ คนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้เลือกตั้งอีกครั้ง ผู้สมัครตัวแทนพรรคต่างๆ ก็เริ่มเผยนโยบายและเริ่มหาเสียงกันบ้างแล้วในช่วงระยะเวลาก่อนการเลือกตั้งแบบนี้ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสีสันทางการเมืองไทย ยิ่งเป็นยุคของโลกออนไลน์แบบนี้ก็ทำให้เห็นอะไรที่แปลกใหม่มากขึ้น อีกหนึ่งผู้ที่ได้รับการเสนอรายชื่อ แคนดิเดต นายกรัฐมนตรี ที่มาแรงสุดๆ ในโลกออนไลน์ในขณะนี้ นั่นก็คือท่านชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแกร่ง   โดนแซวจากชาวเน็ตอยู่เป็นประจำ   เรื่องของความแข็งแกร่งของท่านชัชชาติมาจากรูปภาพเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว เป็นภาพที่ท่านชัชชาติเดินเท้าเปล่าถือถุงกับข้าวเข้ามาในวัด กลายเป็นมีมที่ถูกตัดต่อกันไปในหัวข้อ รมต.ที่แข็งแกร่งที่สุดในสมัยนั้น เช่น . .   แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปนานหลายปี แต่ท่านชัชชาติก็ยังคงเป็นที่รักของประชาชนในโลกออนไลน์ แน่นอนว่าการกลับมาสู่แวดวงการเมืองของท่านในครั้งนี้ โลกออนไลน์จะต้องสั่นสะเทือนเพราะความแข็งแกร่งของท่านนั่นเอง!! เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าความแข็งแกร่งของท่านชัชชาตินั้นมีมากแค่ไหน #เหมียวบู้บี้ ก็ได้ทำการรวบรวมคอมเมนต์จากชาวเน็ตทั้งในเฟซบุ๊กแฟนเพจ และการค้นหาในทวิตเตอร์ มาดูกันเลยว่าชาวเน็ตคิดเห็นอย่างไรกับท่านชัชชาติ   มีวันนี้เพราะพี่ให้   แต่บุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับแมว   มหากาพย์เรื่องความเทพของท่านชัชชาติ .   . . . .…

ยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างไม่จบสิ้น ในประเด็นของสัตว์จรจัดที่ยังไม่สามารถหาทางแก้ไขได้ เมื่อการให้อาหารสัตว์จรจัด ก่อให้เกิดปัญหากับผู้ที่อยู่อาศัยในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสกปรกและปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย โดยเมื่อช่วงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ชาวเน็ตรายหนึ่งได้ทำการโพสต์รูปภาพป้ายประกาศติดบนเสาไฟฟ้า ระบุใจความได้ว่า ‘กรุณาอย่าให้อาหารสุนัขแถวนี้ครับ ถ้ารักกรุณานำกลับไปเลี้ยงที่บ้านเลยครับ’     โดยหลังจากที่โพสต์รูปภาพดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนหนึ่ง ได้รับการแสดงความรู้สึกร่วมกว่า 1,900 ครั้ง และถูกแชร์ต่อออกไปอีกกว่า 2,300 ครั้ง ประเด็นดังกล่าวกลายมาเป็นที่ถกเถียงกันระหว่างกลุ่มคนรักสัตว์และชาวเน็ตที่ให้มองไปให้ต้นสายปลายเหตุของปัญหา แต่ทว่ากลุ่มคนรักสัตว์ ได้แสดงความคิดเห็นในเชิงด่าว่าคนเขียนป้าย ไม่มีความเมตตาต่อสัตว์   ตัวอย่างความคิดเห็นจากโพสต์ดังกล่าว . . . . . .   เมื่อถูกแย้งว่าหากมีคนเอามาปล่อยแถวบ้านบ้างล่ะ ก็บอกให้ย้ายบ้านหนีแทน   ในขณะที่ชาวเน็ตบางส่วน พยายามอธิบายให้มองอีกด้านหนึ่ง . . .   สาเหตุที่แท้จริงแล้วคือ สิงห์ หมาพันธุ์บางแก้วมาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ถูกนำมาทิ้งเอาไว้โดยเจ้าของเก่า และเจ้าของบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่ชอบสุนัข   อย่างไรก็ตาม ต้นโพสต์ได้ระบุเอาไว้ว่า…

จากการรายงานของข่าวช่องวัน กลายมาเป็นเรื่องฮือฮาของชาวบ้านในพื้นที่ หลังจากพื้นกระเบื้องภายในโบสถ์วัดราษฎร์สามัคคี ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เกิดมีน้ำผุดออกมาจากร่องกระเบื้อง จนชาวบ้านคิดว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ   คลิปจากข่าวเช้าตรู่ ช่องวัน    สืบเนื่องจากในอดีตเคยเป็นพื้นที่ของโบสถ์เก่า และได้ทำการรื้อถอนสร้างโบสถ์ใหม่ โดยช่างและชาวบ้านที่มาร่วมสร้างต่างยืนยันว่าไม่มีการเดินท่อประปา ในบริเวณโบสถ์หลังใหม่นี้แต่อย่างใด ซึ่งทำให้เชื่อว่าบริเวณดังกล่าวเป็นกุฏิของ ปู่นวน และปู่เหล็ก เจ้าอาวาสองค์เดิม ตั้งแต่สมัยเก่าแก่กำลังแสดงอภินิหารให้ชาวบ้านได้เห็น   .   ทั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่าเจ้าอาวาสเป็นผู้พบเห็นก่อน จึงได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านมาช่วยกันดู แต่ทว่าชาวบ้านต่างนำขวดน้ำมากรอกเพื่อดื่ม และกราบไหว้ เชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ช่วยรักษาโรคได้     อย่างไรก็ตาม พระครูสุวรรณ พัฒนโชติ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี กล่าวว่า หลังจากที่เห็นน้ำผุดเป็นคืนที่ 2 ก็เลยประชาสัมพันธ์ให้ญาติโยมมาดู และเรียกช่างประปามาสืบหาสาเหตุ จึงพบว่าเป็นท่อประปาเก่าที่ไม่ได้ใช้งานมานาน พอใช้คู่กับเครื่องปั๊มน้ำแรงดังสูง จึงทำให้ท่อประปาแตก ไม่ใช่น้ำศักดิ์สิทธิ์หรืออภินิหารแต่อย่างใด   คลิปสัมภาษณ์เจ้าอาวาส   “พอดี หาสาเหตุแล้วว่าเกิดจากน้ำประปารั่ว หลังจากที่เราปิดประปา อันนี้ก็หยุด เวลาเราต่อน้ำประปา เปิดน้ำประปา…

แน่นอนว่าเราไม่ควรสนับสนุนให้ผู้คนใช้บริการ “เว็บเถื่อน” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ละเมิดลิขสิทธิ์ของสื่อต่างๆ โดยเฉพาะ “ภาพยนตร์” ที่เราสามารถชมกันได้ฟรีๆ ในขณะที่ผู้ผลิตจะไม่มีรายได้จากจุดนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกคนจะคิดอย่างนั้นเสมอไป ยกตัวอย่างเช่นลูกเพจคนนี้จากเพจ ดราก้อนบอล [Dragon Ball] ที่ทักติดต่อพูดคุยกับแอดมิน หวังหาช่องทางดูหนังแบบฟรีๆ   ภาพการคุยแชท ระหว่างลูกเพจคนดังกล่าว กับทางแอดมินเพจดัง   ทางเพจยืนยันว่าพวกเขาไม่สนับสนุนเว็บไซต์ผิดกฎหมาย   แต่ลูกเพจคนนี้ก็พยายามจะหาช่องทางดูฟรีให้ได้ และมีการต่อว่าแอดมินด้วย   ปิดท้ายด้วยประโยคนี้   หลังจากที่ทางเพจได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโพสต์ให้กับผู้ติดตามคนอื่นๆ ได้อ่านกันในวันที่ 9 ก.พ. 2019 ก็ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความไม่พอใจในสิ่งที่ลูกเพจคนนั้นพูด   งานนี้บอสใหญ่มาเองเลยจ้าาา . . . . . . .   แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ เราควรใช้เหตุผลว่าไม่มีเงิน แล้วหันไปสนับสนุนเว็บเถื่อนอย่างนั้นน่ะหรอ? ลองคอมเมนต์กันเข้ามาดูได้นะฮะ   ที่มา: ดราก้อนบอล [Dragon Ball]

เรียกได้ว่าเป็นที่จับตามองกันทุกปีกับงานฟุตบอลประเพณี “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ซึ่งครั้งนี้ก็จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 73 แล้ว ไฮไลต์ไม่ได้อยู่ที่การแข่งขันฟุตบอล ลีลาเลี้ยงหลบ กระชากยิงตุงตาข่าย แต่ส่วนใหญ่กลับเฝ้ารอชมขบวนพาเหรด และการแปรอักษรล้อเลียนการเมือง ล้อเลียนสังคม เสียมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น การเกิดประเด็นสำคัญการเมืองในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนต่างรอลุ้นว่าจะได้เห็นอะไรในปีนี้บ้าง  เราลองมาดูความพีคในปีนี้กันได้เลยครับ.. (ขออนุญาต Embed เนื้อหาจากต้นทาง ชอบอันไหนก็สามารถเข้าไปกดถูกใจหรือแชร์ต่อได้เช่นกันนะ)   1. ขบวนพาเหรดรณรงค์เรื่องเพศ พร้อมข้อความว่า “ถ้าพระเจ้าเกลียดเกย์ ทำไมต้องสร้างเกย์ให้น่ารักล่ะ!?” IF GOD HATES GAY!! WHY ARE WE SO CUTE? #TUCUBALL73 // ชอบประโยคนี้5555 pic.twitter.com/R6nxqM4xoa — ȶǟռƈɦ ɦʍ (@pakkadMsM) February 9, 2019   เมื่อทางฝั่งธรรมศาสตร์ขึ้นสแตนด์เพียงครึ่งเดียว แต่ก็ยังใจสู้ โดนด่ามาด่ากลับไม่โกง ขำทีม มธ. มีครึ่งสแตนด์แต่กูสู้นะเว้ยย 🤣🤣 #TUCUBALL73…

หลังจากที่มีความเคลื่อนไหวจากทางฝั่งพรรคไทยรักษาชาติ หรือ ทษช. ได้ยื่นเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลกออนไลน์ของไทยตลอดทั้งวันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2562)     ล่าสุดนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงโพสต์ผ่านอินสตาแกรมบัญชี @nichax ระบุว่า ขอบคุณสำหรับทุกความ และทุกกำลังใจ จากคนไทยทุกคน เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.   https://www.instagram.com/p/BtnWN_HH4VUjiBal_aQYyjWKn4kJAs3vHK6V3k0/   ข้อความจากโพสต์ “ขอขอบคุณสำหรับความรัก และทุกกำลังใจ และความสนับสนุนจากพวกเราคนไทยทุกคน ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งที่สุด และ อยากบอกว่าอยากเห็นพวกเราได้มีโอกาส มีสิทธิ์ที่จะมีโอกาส และมีความสุขในประเทศของเรา และขอชี้แจงว่า ดิฉันได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ และอยู่ในฐานะสามัญชนแล้ว ดิฉันจึงขอใช้สิทธิและเสรีภาพอย่างสามัญชนภายใต้รัฐธรรมนูญกฎหมาย และข้าพเจ้ายินยอมให้พรรคไทยรักษาชาติ ใช้ชื่อเพื่อเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเพียงการแสดงถึงสิทธิ เสรีภาพ และความไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆเหนือปวงชนชาวไทยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หากแต่การกระทำครั้งนี้ ข้าพเจ้าได้กระทำด้วยความจริงใจและความตั้งใจเสียสละในการขอโอกาสนำประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง”     และหลังจากที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงโพสต์ภาพดังกล่าวออกไปแล้ว ประชาชนชาวไทยต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงให้กำลังใจ อีกทั้งยังแสดงความคิดเห็นด้วยคำว่า ‘ทรงพระสเลนเดอร์’ กันอย่างคับคั่ง  …

การเมืองไทยเริ่มเข้าใกล้ช่วงเลือกตั้งมาทุกทีแล้ว ซึ่งประชาชนทั้งประเทศต่างเฝ้ารอว่าแต่ละพรรคการเมืองจะเสนอชื่อใครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี! และเป็นทางฝั่งพรรคไทยรักษาชาติที่ทำให้หลายคนตกตะลึงมากๆ เนื่องจาก เพิ่งจะเปิดเผยเสนอชื่อของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำเอาโซเชียลแตกตื่นกันไปทั่ว ในช่วงเวลาตั้งแต่ 09.00 น. ที่ผ่านมาของวันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2562) จนเกิดเป็นกระแส #ทรงพระสเลนเดอร์ ที่พูดถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ และมาแรงมากๆ เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ปาไปแล้วกว่า 100,000 ทวีต   แม้แต่สำนักข่าวต่างๆ เลือกใช้ #ทรงพระสเลนเดอร์ เช่นเดียวกัน ร.ท.ปรีชาพล โชว์ใบสมัคร ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกฯ หนึ่งเดียวของพรรคไทยรักษาชาติ#ทรงพระสเลนเดอร์ #เลือกตั้ง62 #BeginAgainThailand #การเมือง #ข่าวจริง #สปริงนิวส์ #Springnews pic.twitter.com/lqlQT3hx2a — SpringNews (@SPRiNGNEWS_TH) February 8, 2019   เรามาดูกันว่าชาวเน็ตจะมีความคิดเห็นอย่างไรก็กรณีนี้บ้าง เทรนไทยวันนี้…แซ่บแต่หัววันเลยจ้าาา#ทรงพระสเลนเดอร์ #ไทยรักษาชาติ #เลือกตั้ง62 #พลังประชารัฐ แท็ก #แม่มาแล้วธานอส ต้องมาแล้วป้ะ??…

เรียกได้ว่าเป็นไอเทมที่เห็นกันชนจินตาไปซะแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลรับปริญญา สำหรับ ‘พุ่มดอกไม้ธนบัตร’ หรือเรียกง่ายๆ ว่าช่อแบงก์ที่นำเงินมาพับเป็นดอกไม้รูปทรงต่างๆ แล้วรวมกันจนเหมือนเป็นช่อดอกไม้ แต่ว่าในตอนนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ว่าขอความร่วมมืออย่าพับแบงก์อีกเลย เพราะมันอาจจะเกิดการชำรุดก่อนเวลาอันควรได้ และในเรื่องนี้ก็มีทั้งชาวเน็ตที่เห็นด้วยและเห็นต่างอย่างมากมาย!! เรื่องนี้มีอยู่ว่าเฟซบุ๊ก ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ภาพของบุคคลหนึ่งที่สอนวิธีการพับธนบัตรเป็นดอกไม้ ซึ่งทางโพสต์ได้ใส่แคปชั่นเอาไว้ว่า     “ธนบัตรที่มีการขีดเขียน ประทับตรา พับประดิษฐ์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ธนบัตรชำรุดก่อนที่ควรจะเป็นนะครับ ร่วมมือร่วมใจหลีกเลี่ยงการกระทำแบบนี้ วาเลนไทน์นี้เปย์คนรักด้วยวิธีอื่นกันดีกว่าครับ #แบงก์ชาติ ธนบัตรทุกเรื่อง #ธนบัตร #วาเลนไทน์”   รูปภาพของโพสต์ดังกล่าว   โพสต์ดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนมากมายเห็นได้จากการแชร์ที่มีมากกว่า 7,000 ครั้ง แต่ก็มีความคิดเห็นถาโถมเข้ามาอย่างมากมายเช่นเดียวกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นสองฝั่งหลักๆ คือ 1. ฝั่งที่เห็นด้วยกับธนาคาร . . . . .   2. ฝั่งที่เห็นด้วยกับการพับแบงก์ . . .   อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ไม่รู้ว่ากว่าธนบัตรจะสามารถนำมาใช้นั้นไม่ใช่จะผลิตได้ง่ายๆ โดยข้อมูลจากทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุเอาไว้ว่า จะต้องมีขั้นตอนที่ไล่ลำดับกันมาตั้งแต่ การออกแบบธนบัตร, การผลิตแม่พิมพ์ธนบัตร, การพิมพ์ธนบัตร,…

ถ้าจะให้พูดถึงพระเอกขวัญใจมหาชนชาวไทยไม่ว่าจะเป็นลูกเล็กเด็กแดง หญิงสาว ชายหนุ่มหรือวัยดึก พระเอกคนแรกที่ใครๆ ต่างก็ต้องนึกถึงเลยก็คือพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ซึ่งถ้าหากใครติดตามผลงานของชายผู้เป็นชายในฝันของคนทั้งประเทศคนนี้มานานพอสมควรก็จะรู้ว่า นอกจากใบหน้าที่หล่อเหลาของคุณพี่แกนั้น พี่แกก็ยังเป็นคนตลกอีกด้วย   ถึงแม้ว่าจะขยันยิงมุกห้าบาทสิบบาทให้ได้ดูอยู่เสมอ ฮาบ้างกริบบ้าง แต่คนก็พร้อมให้อภัยเพราะว่าหล่อ (อิอิ ^^)   ความขี้เล่น อารมณ์ตลอดเวลาแบบนี้ทำให้เราหลงเข้าไปอีก แต่บางทีก็แอบสงสัยว่าในชีวิตนี้พี่แกเคยโกรธใครบ้างไหม จริงๆ นะ   ล่าสุดพี่ติ๊กได้โพสต์รูปภาพลงในสตอรี่อินสตาแกรม tik_pholdee เป็นรูปภาพของการจราจรบนท้องถนนแห่งหนึ่งที่ถึงแม้ว่าคุณพี่จะเจอกับเพื่อนร่วมทางแย่ๆ แต่ก็ยังมิวายขอยิงมุกสักน้อยนึงเอ๊าะ   ไหล่(ทาง) ไม่อยากให้ใคร๊มาขับ อ่ะ อ่ะ อ่ะ (ทำนองเพลงมนต์สิทธิ์ คำสร้อย)   คิวไม่อยากให้ใคร๊มาปาด อ่ะ อ่ะ อ่ะๆๆ   ถ้าพี่ขับคันนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน   เพียงแค่ 2 รูปนี้แฟนคลับก็คงฮาครืนสมใจพี่ติ๊กแกบ้างแล้ว #เหมียวบู้บี้ ล่ะอยากจะรู้จริงๆ ว่าพี่แกเคยหงุดหงิดใครบ้างไหมในชีวิตนี้ อารมณ์ดีจริงๆ เลยพ่อคุณทูลหัว   ที่มา tik_pholdee

งานรับปริญญา หรืองานฉลองจบการศึกษา เป็นอีกหนึ่งวันที่หลายๆ คนรอคอยไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวผู้เรียนเองหรือผู้ปกครองญาติสนิทมิตรสหาย ภาพของการแสดงความยินดีมักจะมีให้เห็นอยู่เป็นประจำ ดูทีไรก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกที ในวันฉลองการจบการศึกษาแบบนี้ มักจะมีการร่วมแสดงความยินดีในรูปแบบต่างๆ บ้างก็เป็นช่อดอกไม้ เงินสุด ตุ๊กตา ของขวัญต่างๆ แต่คงไม่มีใครพีคเท่าเรื่องนี้อีกแล้ว เรื่องนี้ถูกเผยแพร่มาจากเพจ UTCC News เพจแจ้งข่าวสารของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่มาแชร์เรื่องราวของบัณฑิตสาวคนหนึ่งที่คุณพ่อได้แสดงความยินดีแบบจัดหนัก เล่นใหญ่ยิ่งกว่ารัชดาลัยเธียเตอร์   แสดงความยินดีแบบธรรมดาหลบไป คุณพ่อเล่นใหญ่จ้างคณะเชิดสิงโตมาเลย   นอกจากนี้ยังมีป้ายไวนิลแสดงความยินดี “อาจารย์ขว้างเกรด 4 มาให้ ด้วยความตกใจกูเลย ‘หลบทัน’ #เกรดอัปรีย์แต่หน้าตาดีค่ะ ขอบใจ คุณลูก จบให้กูสักที” พร้อมรูปบัณฑิตกับเกรดเฉลี่ย     จ้างคณะเชิดสิงโตมาเลยจริงๆ คุณลูกก็เขินเลย แต่ก็ยังคงเต้นกับสิงโต ฮ่าาาาา   เป็นอีกหนึงเรื่องราวของการแสดงความยินดีแบบน่ารักๆ ในวันรับปริญญา บ้านไหนสนใจเล่นใหญ่กว่านี้ #เหมียวบู้บี้ จะรอรับชมนะคะ   ที่มา UTCC News

แม้ว่าจะเป็นที่ถกเถียงและยังไม่มีข้อสรุปอย่างแท้จริงว่าเป็นอย่างไรสำหรับเมนู ‘เอสเปรสโซ่เย็น’ แต่ว่าตอนนี้มีการแข่งขันชงกาแฟในชื่อนี้ขึ้นแล้ว และที่สำคัญคือเป็นการจัดครั้งที่ 3 แล้วด้วย!! ‘World Es Yenn Championship’ คือชื่อของงานแข่งขันนี้ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฟ้นหา ‘แชมป์โลก’ แห่งการชงเอสเปรสโซ่เย็น (เมนูซึ่งแต่ละร้านแต่ละคนก็จะสูตรที่แตกต่างกันออกไปหรือบางร้านก็ไม่มีเลย)   ภาพโปรโมทงาน   ซึ่งในเรื่องนี้เฟซบุ๊กชื่อว่า ชูพิชญะ ประมูลผล ได้เขียนโปรโมทงานไว้ได้อย่างสุดเฉียบ ดั่งแคปชั่นต่อไปนี้…   “ว่าด้วยเรื่องภาพความทรงจำของเอสเพรสโซ่เย็น ในวันนั้น”  “วันที่ภาพของชายขับรถสปอร์ตคูเป้ ราคาเฉียด 4 ล้านบาท เลี้ยวผ่านเข้ามาที่สยามสแควร์ซอย 9 แล้วเทียบจอดหน้าร้านผม เค้าตะโกนสั่งเอสเพรสโซ่เย็นหวานมัน กลับบ้าน 2 แก้ว” “วันที่ภาพของนักศึกษาหญิงสวมเสื้อนักศึกษารัดติ้ว หล่อนหิ้วกระเป๋าหลุยส์ สวมนาฬิกาแทคไฮเออร์ หล่อนฝากเพื่อนสาว(ชาย) สั่งเอสเพสโซ่เย็นหวานน้อยให้ด้วย ในขณะที่ตนเองนั้นนั่งเบียดขา และสับหลอกอยู่บนเก้าอี้บาร์ (ผมดัดจริตอุทานในใจเบาๆ ด้วยเสียงกระเส่าสั่นเครือว่า Damn!!)” “วันที่ภาพของครูฝรั่งจากสถาบันสอนภาษาฝั่งตรงข้าม เค้าสั่งเอสเพรสโซ่เย็น ด้วยภาษาไทยที่กระท่อนกระแท่น ผมและทีมงานก็ได้ตอบรับออเดอร์ของเค้า ด้วยภาษาอังกฤษที่กระท่อนกระแท่นด้วยเช่นเดียวกัน” “วันที่ภาพของนักร้องเคยดัง ขวัญใจวัยรุ่น สวมแว่นดำปิดบังใบหน้า ร้องขอให้ทีมงาน ช่วยเพิ่มความหวานให้แก่เอสเพรสโซ่เย็นของเค้า”   …

สำหรับแอปฯ Panya ที่เพิ่งเปิดตัวไปในปีที่แล้ว มีกระแสมาแรงมากๆ ด้วยเงินรางวัลในแต่ละรอบที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท ทำให้มีคนสนใจร่วมเล่นเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถชวนเพื่อนมาเล่นเกมเพื่อรับหัวใจกันตอบคำถามผิดได้อีก มียอดผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว     ท่ามกลางการเล่นเกมตอบคำถามในแต่ละวัน ด้วยจำนวนผู้เล่นที่ตอบถูกจนถึงข้อสุดท้ายเยอะ เงินรางวัลจึงถูกแบ่งให้ทุกคนเท่าๆ กันจนเหลือเพียงหลักสิบหรือหลักหน่วยเท่านั้น โดยผู้เล่นจะสามารถขอถอนเงินได้เมื่อมียอดสะสมถึง 1,000 บาท และจะต้องแนบสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาสมุดบัญชี ไปด้วย       ปัญหาเริ่มก่อตัวขึ้นหลังจากที่มีผู้เล่นจำนวนหนึ่ง เริ่มพูดถึงความล่าช้าในการรับเงินรางวัล โดยผู้เล่นบางส่วนได้ทำการส่งเรื่องถอนเงินไปเมื่อปีที่แล้ว ขึ้นเพียงสถานะได้รับอนุมัติ ยังไม่ได้รับเงินรางวัลใดๆ จากทางแอปฯ ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018 ไปจนถึงผู้เล่นที่เพิ่งทำรายการถอนเงินเมื่อช่วงปลายปี 2018   เกมโชว์ตอบคำถาม Panya รอบ 20.00 น. วันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา มีผู้เล่นเหลือไม่ถึง 10,000 คน   ล่าสุดนี้ทางเพจแอปฯ Panya ได้ประกาศแถลงการณ์จาก CEO โดยระบุว่า มีปัญหาเรื่องเงินรางวัล พยายามจะแก้ปัญหาอย่างถึงที่สุด…

ขึ้นชื่อว่า ‘ไปรษณีย์ไทย’ มักจะมีเรื่องราวแปลกๆ มาให้เราได้เห็นกันตลอดเวลา แต่วันนี้ลองมาฟังเรื่องดีๆ กันบ้างครับ เรื่องของเรื่องก็คือมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ท่านหนึ่งชื่อว่า ดับเบิ้ลยูเอโอ ได้โพสต์เรื่องราวสุดเทพของไปรษณีย์ไทย ที่แม้ว่าจะมีการจ่าหน้าสองเป็นคำสั้นๆ ว่า ?:13 และรหัสไปรษณีย์เพียงอย่างเดียว แต่ก็สามารถไปส่งถึงที่ได้อย่างถูกต้อง!!   ลองไปอ่านโพสต์แบบเต็มๆ กันดูครับ .   ทางเจ้าของเรื่องก็ออกมาชี้แจงว่า ที่มันเป็นภาษาแปลกๆ แบบนั้น ก็เพราะว่าเป็นการส่งของมาจากต่างประเทศ ซึ่งเธอเองก็เคยพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษใส่ที่หน้าตั๋วและหน้าซองจดหมายแล้วปรากฏว่ามันหายไป พอมารอบนี้ก็เลยพิมพ์เป็นภาษาไทย เพราะว่าเคยพิมพ์เป็นภาษาไทยกับเจ้าอื่น แล้วมันขึ้นเป็นภาษาไทยให้ แต่ปรากฏว่ามันดันกลายมาเป็นภาษาแปลกๆ ซะงั้น   ลองไปอ่านคำชี้แจงแบบเต็มๆ ดูครับ   ล่าสุดทางด้านบริษัทไปรษณีย์ไทย เองก็ออกมาเปิดเผยว่าคนส่งของคนนี้ก็คือนายทวีศักดิ์ สายเนตร เป็นเจ้าหน้าที่นำจ่าย ประจำปณ.อ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ที่มีประสบการณ์นำจ่ายสิ่งของในพื้นที่นี้มานานกว่า 6 ปี กับเรื่องราวที่ว่าเขาไปส่งถูกที่ถูกได้อย่างไร… “ผมเดาจากเครื่องหมาย ?:13 ว่าคือ หมู่ 13 ครับ แล้วหมู่ 13 นี่ผมจ่ายอยู่ประจำจะมีแค่บ้านเลขที่ 97 กับ 97/7 บ้านเลขที่…

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา เกิดดราม่าดังอีกเรื่องหนึ่งบนโลกออนไลน์กับประเด็นในเรื่องของการคุกคามทางเพศ หลังจากแรปเปอร์สาวขวัญใจวัยรุ่นที่เรารู้จักกันในนาม ‘วันเดอร์เฟรม’ ได้โพสต์รูปภาพพร้อมกับแคปชั่นที่ว่า “ถามจริง? เฟรมแทบไม่เคยปฏิเสธเลยเวลามีคนมาขอถ่ายรูป  ทั้งในเวลาส่วนตัวและเวลางาน วันนี้เฟรมนั่งกินแมคกับแม่อยู่ พี่คนนี้ก็เดินมาขอถ่ายรูปพร้อมลูก กับภรรยา นึกว่าจะให้เกียรติเพศเดียวกับแม่ของลูกพี่มากกว่านี้นะคะ ส่วนเรื่องที่ว่าใส่เสื้อรัดเองก็ต้องโดนแบบนี้ แล้วผู้หญิงที่ใส่กางเกงขาสั้นก็ต้องถูกข่มขืนเป็นเรื่องปกติหรอคะ? น่าคิดนะ”     โดยเธอได้โพสต์แคปชั่นพร้อมกับรูปภาพที่ของสาววันเดอร์เฟรมถ่ายคู่กับแฟนคลับ ซึ่งหลังจากที่แฟนคลับคนดังกล่าวเผยแพร่รูปนี้ออกไปในเฟซบุ๊กส่วนตัว ก็มีคอมเมนต์ในเชิงคุกคามทางเพศปรากฏขึ้นมา .   ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สาววันเดอร์เฟรมเล่าว่า เธอแทบจะไม่ปฏิเสธเวลามีคนมาขอถ่ายรูป แม้จะอยู่นอกเวลางาน เธอก็ยังเต็มใจที่จะสละเวลาส่วนตัวมาถ่ายรูปร่วมกับแฟนคลับ แต่ผลตอบแทนที่เธอได้รับในครั้งนี้คือ คอมเมนท์ดูหมิ่น ไม่ให้เกียรติ ทั้งนี้ชาวเน็ตหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ข้างต้นว่า สังคมไม่ควรมองว่า การคุกคามทางเพศเป็นเรื่องปกติ   . . .   ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วันเดอร์เฟรมถูกคอมเมนต์เชิงคุกคามทางเพศ มีหลายต่อหลายครั้งที่เธอลงรูปและมักจะมีคอมเมนต์ชาวเน็ต (บางคน) ในแนวทางนี้เสมอ เช่น “ใหญ่จัง”, “น่า…..มากครับ”, “เลียจอเลยครับ” . .   หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว หนุ่มแฟนคลับของสาววันเดอร์เฟรมก็ได้ออกมาแสดงความขอโทษ ที่ไม่ระมัดระวังคำพูดของตัวเอง ทำให้สาววันเดอร์เฟรมเสียหาย…

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่ชาวเน็ตกำลังให้ความสนใจ เมื่อวานนี้ (29 มกราคม 2019) คุณแพร วทานิกา ดีไซน์เนอร์สาวชื่อดัง เจ้าของแบรนด์ Vatanika ได้โพสต์รูปจานอาหารที่มีแมลงสาบตัวเล็กๆ อยู่ในจาน พร้อมแคปชั่นว่า “สั่งอาหารจาก ‘บ้านหญิง’ วันนี้ สาขาอโศก ได้มากกว่าที่คิด โทรไปที่ร้านผู้จัดการเถียงเสียงเเข็ง เเถมบอกให้ลองมาทานที่ร้านสิ เรื่องเกิดนอกร้านขอไม่รับผิดชอบ ประทับใจในบริการจริงๆ ค่ะ”   คุณแพรได้เล่าเหตุการณ์ในแคปชั่นว่า เธอได้สั่งอาหารจากร้านอาหารชื่อดัง สาขาอโศก มาทานที่บ้าน แต่กลับพบของแถมเป็นเจ้าปีเตอร์ตัวจิ๋วติดมาตัว เมื่อเห็นอย่างนั้น คุณแพรก็ไม่รอช้าที่จะแจ้งไปยังร้านอาหารดังกล่าว แต่สิ่งที่เธอได้รับคือการตอบกลับเสียงแข็งจากผู้จัดการร้าน ที่นอกจากจะไม่รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วแล้ว ยังบอกให้เธอลองมาทานที่ร้าน ไม่ใช่สั่งกลับบ้าน เรื่องราวข้างต้นไม่เพียงแต่สร้างความไม่พอใจให้ฝั่งคุณแพรเอง ชาวเน็ตหลายคนก็พากันออกมาแสดงความคิดเห็นในทางเดียวว่า ทางร้านควรออกมาขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบ   ไม่ว่าลูกค้าปลายสายจะเป็นใครก็ไม่ควรจะกล่าวแบบนี้ ร้านอาหารควรแสดงความรับผิดชอบกว่านี้   ผู้จัดการร้านกล่าวปัดความรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำมากๆ   โดยทางร้านก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านการแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ดังกล่าวของคุณแพรดังนี้   ดราม่าดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่จะเตือนให้ทั้งทางฝ่ายร้านอาหารทุกร้านที่ควรแสดงความรับผิดชอบต่ออาหารกับลูกค้าทุกราย ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นใครก็ควรตรวจสอบสินค้าให้มีคุณภาพเสมอ   ที่มา @vatanika

ในช่วงปลายเดือนก่อนจะเข้าสู่เดือนใหม่แบบนี้ เหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายก็คงจะคุ้นเคยกันดีกับคำที่ว่า “สิ้นเดือนก็เหมือนสิ้นใจ” กันเป็นอย่างดีแบบไม่ต้องอธิบายอะไร ไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งกับคำคำนี้ จากเงินเดือนที่ได้รับในแต่ละเดือนๆ ก็ถูกจับจ่ายออกไปในแต่ละวัน ค่าอะไรต่อมิอะไรต่างๆ ที่ต้องกินต้องใช้ทำให้เงินเดือนของเรานั้นทยอยร่อยหรอไปในแต่ละวัน บางทียังไม่ถึงครึ่งเดือนก็เริ่มจะหมดแล้ว     และนั่นเป็นสิ่งที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายต่างก็ย่อมเข้าใจกันเป็นอย่างดีกับภาวะทรัพย์จางช่วงสิ้นเดือนแบบนี้ จึงเป็นการนำไปสู่การตั้งกระทู้โดยผู้ใช้เว็บไซต์พันทิปชื่อ สมาชิกหมายเลข 3356091 โดยได้ตั้งหัวข้อเอาไว้ว่า   “มนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ถ้าให้ชีวิตคุณในช่วงใกล้สิ้นเดือนมาตั้งเป็นชื่อหนังได้ จะตั้งชื่อเรื่องอะไรดี”   อาจเป็นเพราะว่าหัวข้อกระทู้นั้นอาจจะไปโดนใจเหล่ามนุษย์เงินเดือนหลายๆ คน จึงมีสมาชิกเข้ามาตอบกันอย่างล้นหลาม #เหมียวบู้บี้ ก็ได้คัดเอาคอมเมนต์แบบเด็ดๆ จากความครีเอทของเหล่ามนุษย์เงินเดือน มาดูกันว่าจะมีชื่อภาพยนตร์เรื่องไหนที่โดนใจคุณบ้าง   สิ้นเดือน เหมือนสิ้นใจ อันนี้ตายตัวเข้าใจดี T^T   ไม่ว่าจะกี่องศาก็เขมือบทุกบัญชีจริงๆ เกลี้ยงเลยเจ้าค่ะ   ภารกิจของมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขามีชีวิตรอดถึงวันเงินเดือนออก   มหากาพย์ภาพยนตร์ตระกูลทรัพย์จาง มีทั้งหมด 4 ภาคด้วยกัน   เราต้องรอดไปด้วยกันค่ะ   Instant Noodle Wars สงครามพิชิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป   อันนี้คงเป็นหนังเศร้าสำหรับคนเป็นพี่   อันนี้คงเป็นแนวโลกคู่ขนาน  …

สิ่งใดก็ตามที่ขึ้นชื่อว่า “ศิลปะ” ย่อมมาจากการทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการสร้างสรรค์มันขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นงานวาด งานแกะสลักหรืองานปั้นก็ตาม และหากผลงานที่เราตั้งใจและพยายามอย่างหนักเพื่อจะสร้างสรรค์มันขึ้นมา กลับถูกใครก็ไม่รู้มาทำลายมันอย่างง่ายๆ เป็นเพื่อนๆ จะรู้สึกอย่างไร?     วันที่ 28 มกราคม 2019 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ศศิธร กันจันวงศ์ แชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยชื่อดังของภาคเหนือ โดยผู้โพสต์ได้โพสต์ภาพงานปั้นรูปคนที่ตนตั้งใจปั้นขึ้นเพื่อมาส่งอาจารย์ แต่กลับถูกมือดีทำลาย จนแทบจะจำลักษณะเดิมไม่ได้   . .   รูปผลงานก่อนที่จะถูกทำลาย หลังจากที่ผู้โพสต์ได้ทำการโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย   ก่อนอื่นผู้โพสต์ก็ออกมาโพสต์ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม   นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าการศึกษาไม่ได้ยกระดับจิตใจคนให้สูงขึ้น   บางคนก็บอกว่าส่งแบบนี้แหละ แล้วตั้งชื่อผลงานว่า “สันดาน” ซะเลย   ล่าสุดดูเหมือนจะรู้คนทำแล้วและผู้โพสต์ก็ได้มีการพูดคุยกับคนทำ และพบว่าเขาทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์   หลังจากได้รู้ดังกล่าวชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เรียนระดับนี้แล้ว แต่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์เนี่ยนะ!?   เรียนระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ไม่มีคำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์หรอก   ที่มา ศศิธร กันจันวงศ์

หากคุณได้ลองเลื่อนหน้าฟีดส์บนเฟสบุ๊กไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอหน้าเพจของร้านค้าที่ลงโฆษณาขายของอุปกรณ์ของเล่นต่างๆ ที่ควรจะมีราคาสูง แต่กลับขายตัดราคาเจ้าอื่นๆ ในแบบชนิดที่ว่าถูกมากๆ และมักจะลงแคปชั่นว่า ขายขาดทุน เคลียร์สต๊อก ย้ายร้าน เป็นต้น บนโลกออนไลน์ได้ออกมาเตือนกันบ้างแล้วว่า ร้านค้าประเภทดังกล่าวคือร้านค้าของชาวต่างชาติ (ส่วนใหญ่เป็นจีน) สังเกตได้จากการใช้ภาษาไทยแบบผิดวิสัย พิมพ์ผิดบ่อยครั้ง และสินค้าที่ส่งมามักจะไม่ตรงกับสินค้าที่ลงขาย…   หน้าเพจระบุว่าอยู่เซินเจิ้น แต่ลงภาพขายสินค้าเป็นภาษาไทย   ล่าสุดนี้คุณ ธีรเดช มังป๋อง ได้ทำการโพสต์เตือนภัยผ่านกลุ่ม DJI Owner Club Thailand บอกเล่าประสบการณ์การซื้อโดรนราคาถูกกับเพจขายโดรน Actyi.com2 โดยระบุไว้ว่า ‘เพจนี้อย่าไปหลงเชื่อซื้อนะครับผมโดนมาละ’     แชตหลักฐานการพูดคุยติดต่อซื้อสินค้า .   เมื่อได้รับสินค้าแล้ว   ลองแกะดู   ตัวแค่เนี้ยยยย!? . ผิดกับในภาพโฆษณาผ่านเพจลิบลับ   ชาวเน็ตบางส่วนได้ออกมาบอกว่า เพจประเภทนี้เป็นเพจหลอกขายของถูก . . .   ที่มา: ธีรเดช มังป๋อง

หากใครอยู่ใกล้ๆ กับซอยรามคำแหง 68 กรุงเทพฯ ก็อาจเคยมีโอกาสได้ไปลิ้มรสชาติอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มของคาเฟ่ร้านนมที่ชื่อว่า นมน่าทิ่ม กันมาก่อน     แต่ล่าสุด (23 ม.ค. 2019) ทางร้านก็ได้ออกมาเล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจากฝีมือของคุณแม่ที่พาลูกน้อยเข้ามาใช้บริการภายในร้าน กับพฤติกรรมที่ดูไม่น่าพอใจสักเท่าไหร่ ทางร้านได้โพสต์ภาพ “กระดาษจดออเดอร์” ซึ่งใบแรกเป็นฝีมือของเด็กวาดภาพลงไป ในขณะที่ใบที่ 2 นั้นเป็นฝีมือของผู้เป็นแม่เขียนทิ้งเอาไว้ให้หลังจากเช็กเสร็จแล้ว   กระดาษของลูก   กระดาษของแม่   ทางร้านได้เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ว่า   พวกเขาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีนี้   ผู้ปกครองแทบทุกคนจะไม่ทำเหมือนอย่างคุณแม่ท่านนี้   ข้อความตอนท้าย   หลังจากที่เรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้หลายๆ คนเห็นด้วยกับทางร้าน . . .   แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากเราเป็นแม่คนนั้น เราจะทำแบบเดียวกับเธอหรือไม่? หรือการเตือนลูกๆ ของตัวเองเหมือนอย่างที่ร้านบอกอาจเป็นทางออกที่ดีกว่าหรือเปล่า?   ที่มา: นมน่าทิ่ม รามคำแหง68

ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว กับกรณีที่ว่า ‘เมื่อเราไม่สามารถไปร่วมงานแต่งของเพื่อนหรือคนรู้จักได้’ จำเป็นที่จะต้องฝากเงินหรือซองไปด้วยมั้ย? เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ครับ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งไม่สามารถไปร่วมงานแต่งของรุ่นพี่ที่ทำงานได้ แต่โดนทักมาทวงเรื่องเงินใส่ซองซะงั้น!? เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์โดยเพจ Gstrong ผู้หญิงสวย บนโลกความจริง. พร้อมกับแคปชันว่า “เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายนมีพี่ที่ทำงานเก่าแกส่งการ์ดเชิญมาในแชท กำหนดงานคือวันที่ 19/1/62 ในเดือนธันวาคม หนูก็เลยขอเวรเพื่อไปงานแต่งพี่เขาเดือนมกราคม แต่เนื่องจากมีคนลาออกและยอดผู้ป่วยเต็ม ทำให้พี่หัวหน้าไม่สามารถจัดเวรให้ได้ และประกอบกับแม่สามีหนูถูกรถชน จึงไม่สามารถไปร่วมแสดงความยินดีกับพี่เขาได้ค่ะ แต่หนูก็ตั้งใจว่าถ้าวันหยุดแล้วได้กลับบ้านที่สุพรรณ หนูตั้งใจจะแวะเอาซองไปให้ จนวันนี้ตอนเวลา 11.10 น.พี่เขาได้ส่งแชทมาทวงเงินค่าซองพร้อมว่ากล่าวหนูอย่างมากมาย หาว่าหนูเอาแต่ได้ แต่จริงๆ หนูไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย ตกลงหนูผิดใช่มั้ยคะ?”   https://www.facebook.com/gstrong22/posts/2366391743590904       ลองไปอ่านข้อความแชทดูครับ   เรื่องของเรื่องคือพี่ที่ทำงานคนนี้เคยไปร่วมงานแต่งของหญิงสาว พร้อมกับใส่ซองให้ 500 บาท   เธอจึงอธิบายให้ฟังว่าไม่สามารถไปร่วมงานได้ เพราะงานเยอะ บวกกับแม่สามีถูกรถชน .   หญิงสาวก็บอกว่าจะโอนให้แน่นอนตอนสิ้นเดือน   เรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 2,400 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 1,086 ครั้งเลยทีเดียว…

เรื่องของเฉดสี หลายๆ คนก็จะมีวิธีเรียกที่แตกต่างกันออกไปอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน แต่นั่นเองก็อาจทำให้เกิดความสับสนระหว่างการสื่อสารกันได้เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ เรื่องนี้มีอยู่ว่าเฟซบุ๊ก Miew Mii ได้โพสต์ภาพและข้อความเพื่อสอบถามความเห็นจากชาวเน็ตในเรื่องของสี โดยได้ใส่แคปชั่นโพสต์เอาไว้ว่า  “#ชื่อเรื่องสีฟ้าเข้มกับสีน้ำเงิน ไม่ได้ประจานเด้อแค่มาขอความเห็นว่าแม่ค้าไม่ได้ส่งผิดสี คือตอนนี้งงกับสีของนางมาก ใครอยู่ทีมแม่ค้ามากองกันตรงนี้”   และนี่คือภาพแชทระหว่างแม่ค้ากับลูกค้า ที่ทำเอาปวดหัวงงไปหมด . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   ทั้งหมดนี้ก็ไม่รู้ว่าใครผิดใครถูกกันแน่ แต่โพสต์นี้ก็ได้รับการแชร์ออกไปมากมายในตอนนี้กว่า 3,000 ครั้ง และมีความเห็นจากชาวเน็ตอย่างท่วมท้น ซึ่งส่วนใหญ่ดูเหมือนกับว่าจะเข้าข้างทางแม่ค้าเสียมากกว่า   . . . .   ที่มา: Miew Mii

กลายเป็นเรื่องราวที่ชาวเน็ตพูดถึงกันไปทั่ว กับความมักง่ายของคนกลุ่มหนึ่ง ที่เปิดมิติใหม่แห่งความมักง่าย ด้วยการเข็นรถเข็นของทางห้าง กลับไปจอดที่คอนโดฯ ของตนเอง เรื่องราวดังกล่าวถูกนำมาแชร์โดยทวิตเตอร์ของ ครูทอม คำไทย นักแสดง พิธีกร ติวเตอร์ชื่อดัง โดยเขาได้เล่าว่า คอนโดของเขานั้นตั้งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งมีลูกบ้านบางคนมักง่าย ซื้อของจากห้างแล้วก็เข็นรถเข็นกลับมาจอดที่คอนโด   คอนโดอยู่ใกล้โลตัส แล้วชอบมีลูกบ้านเข็นรถเข็นมาคอนโดอะ แล้วก็ไม่เอาไปคืน ลำบากพี่รปภ.ต้องเข็นไปคืนให้ รู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่โอเคอะ มันไม่ใช่หน้าที่พี่ ๆ เขาเลย รถเข็นก็ควรจะใช้อยู่ในบริเวณห้าง ไม่ใช่เข็นกลับถึงบ้านนะครับ pic.twitter.com/yCFLD4swjP — ทอมทอม ไม่ได้เป็นครูแล้ว (@JakkritTomTom) January 21, 2019   ซึ่งการกระทำดังกล่าว สร้างความลำบากให้กับพนักงานของห้างสรรพสินค้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องเดินมาลากรถเข็นกลับไป . .   ซึ่งหลังจากเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นมากมาย   . . ที่มา ครูทอม คำไทย

บริการส่งพัสดุอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน กลับกลายเป็นงานที่มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น เมื่อในปัจจุบันมักจะมีข่าวคราวการนำสิ่งมีชีวิตยัดใส่กล่องพัสดุอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งผลก็คือเสียชีวิตในเวลาไม่นานนัก แต่ทว่ายิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่เพจ ค้นฟ้าคว้าดาว ได้ทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่พัสดุของไปรษณีย์ไทย ทำการแกะกล่องพัสดุต้องสงสัยเพื่อตรวจสอบ ปรากฎว่าเป็นงูถูกบรรจุไว้ในกล่อง…   คลิปการแกะกล่องพัสดุต้องสงสัย   ท่ามกลางความแตกต่างตื่นของพนักงาน ต่างตั้งข้อสังเกตกันว่าเป็นงูจริงหรืองูปลอม โดยหนึ่งในเสียงที่ได้ยินในคลิปพูดออกมาว่าเป็น ‘งูยาง’ แต่เมื่อลองสังเกตดีๆ ส่วนหางของงูที่โผล่ออกมานั้นมีการขยับเองได้ จึงทำให้เกิดเป็นการตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นงูจริงๆ   .   ท่ามกลางความสับสนของชาวเน็ต บางส่วนท้วงติงในเรื่องของสิทธิ์การแกะกล่องพัสดุ ทั้งนี้ หากมีสิ่งต้องสงสัยเจ้าหน้าที่สามารถเปิดดูได้… .   ทั้งนี้ ต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบ 3 คนขึ้นไป . . . .   นอกจากนั้นแล้ว หากสืบจากภาพแรกเริ่มที่ยังไม่แกะ งูอยู่ในสภาพล้นออกมาจากกล่อง . .   ที่มา: @Kamkom.TheStar

เมื่อวานนี้ (17 มกราคม 2019) ได้มีประเด็นหนึ่งที่ถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดีย นั่นคือประเด็นบรรดาเซเลบในทวิตเตอร์ จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาโพสต์ถึงวงไอดอล BNK48 พร้อมกับแฮชแท็ก #โอตะเฟิร์สคลาส   .   ซึ่งชาวเน็ตต่างๆ ก็ได้สังเกตถึงความผิดปกติ เมื่อบรรดาเซเลบที่ออกมาทวีตถึง BNK48 นั้น ไม่เคยที่จะโพสต์ถึงวงดังกล่าวก่อนหน้านี้เลยสักครั้ง แถมบางคนยังเคยโพสต์ออกแนวรำคาญเสียด้วยซ้ำไป   . . . .   เมื่อชาวเน็ตทำการสืบไปสืบมา ก็พอจะได้เรื่องได้ราวว่าทางค่ายผู้ให้บริการ ได้จ้างบรรดาคนดังในทวิตเตอร์ให้โพสต์สนับสนุน BNK48 เนื่องจากมีคนไปเห็นใบประกาศกิจกรรมที่มีคีย์เวิร์ด “โอตะเฟิร์สคลาส” เช่นเดียวกัน     เมื่อพบความจริงดังกล่าว ก็เกิดเป็นกระแสถกเถียงกัน ชาวเน็ตและแฟนๆ ของ BNK48 ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย   บางคนก็บอกว่าปลอมมาก จะอ้วกกับแท็ก #โอตะเฟิร์สคลาส จริงๆ นะ ปลอม เปลือก แถแบบหลังชนฝาแล้ว พยายามสุดแล้ว กำเงินมือสั่นแล้วดิ …ทรูเฟลอะ ใครทำการตลาด บอกได้แค่งานชุ่ยนะ เปลี่ยนคนสำรวจเถอะ…

กำลังเป็นประเด็นเด่นประเด็นร้อนอยู่ ณ ตอนนี้เลย กับกรณีดราม่านักศึกษาฝึกงานร้านอาหาร ที่เข้ามาทำงานได้ 2 วันแต่ดันลาออกซะงั้น!? ทางด้าน เชฟต้น กรรมการจากรายการ Top Chef Thailand ที่เป็นเจ้าของร้านดังกล่าว ก็ออกมาโพสต์เดือดถึงการกระทำของนักศึกษาว่า ‘ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี!!’ ลองไปอ่านโพสต์ดูครับ     หลังจากที่เชฟต้นโพสต์สเตตัสนี้ไปได้ไม่นาน ก็มีคนกดไลก์กดแชร์กันไปร่วม 1,000 ครั้ง และหลายๆ คนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย   บ้างก็ว่าได้มาฝึกงานที่นี่ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว น่าเสียดายแทนจริงๆ   บางส่วนก็บอกว่าไม่อยากให้เชฟตัดโอกาสเด็กคนอื่นๆ ที่ไม่รู้เรื่อง   อาจารย์ถึงกับต้องมาขอโทษด้วยตัวเอง   หลังจากที่โพสต์ของ ‘เชฟต้น’ ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย ไม่นานก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งที่อ้างตัวว่ารู้จักกับนักศึกษาทั้ง 3 คนนั้น ออกมาเล่าเรื่องราวในมุมของพวกเขาบ้าง ประมาณว่านักศึกษาที่ฝึกงานทั้ง 3 คนมีความต้องการอยากมาฝึกงานที่ร้านมากๆ และเมื่อมาชมการทำงานที่ร้านแล้วพบว่ามีคนทำงานน้อย เชื่อว่าจะได้รับประสบการณ์มากมายจากที่ร้านอย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่าเมื่อเริ่มฝึกงานจริงๆ กลับพบว่าที่ร้านรับเด็กฝึกงานเข้ามาอีก 6 คน (ไม่รวมตัวเด็กฝึกงานที่มีปัญหา) รวมกับเชฟในร้านที่มีอยู่แล้วอีก 8 คน ทำงานอยู่ในครัวแคบๆ…

จากประเด็นคลิปคุณครูใช้ไม้บรรทัดวัด และตัดผมเด็กนักเรียนหญิงในโรงเรียนแห่งหนึ่ง กลายเป็นคลิปวิดีโอที่กำลังถูกพูดถึงทั่วโลกออนไลน์เมื่อวานนี้ อ่านข่าวเก่า: ชาวเน็ตโต้กันเดือด ประเด็น ‘ครูตัดผมเด็กนักเรียนหญิง’ สมควรเพราะทำผิดกฎ/ละเมิดสิทธิ์!?   คลิปวิดีโอการตัดผม   เมื่อคลิปดังกล่าวเป็นกระแสดัง มีการส่งต่อและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย และเกิดเป็นข้อสงสัยว่าการกระทำดังกล่าวถูกหรือผิดกฎ ทั้งกฎโรงเรียนและกฎของกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่!?   ทางสำนักข่าวไบรท์ทีวี ได้ให้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อสอบถามจากทางอาจารย์ที่โรงเรียน สรุปใจความได้ดังนี้…   เกิดอะไรขึ้น!? เด็กนักเรียนที่โดนตัดผม คือเด็กชั้น ม.4 ซึ่งไว้ผมยาวเกินกว่ากฎระเบียบของโรงเรียน ที่ให้ยาวแค่ 9 นิ้ว เมื่อครูตรวจพบ คุณครูจึงดำเนินการ ตัดผม เพื่อเป็นการลงโทษตามกฎ แต่ในระหว่างการตัด มีเพื่อคนหนึ่งอัดคลิปไว้ นำไปโพสต์บนโซเชียล จนกลายเป็นกระแสไวรัล มีคนแชร์ต่ออย่างล้นหลาม   ภาพนักเรียนคนอื่นๆ ในโรงเรียน   การลงโทษที่ตามมา!? นอกจากนี้ทางโรงเรียนเผยว่าได้มีการเรียกนักเรียนที่โดนตัดผมเข้ามาคุย และชี้แจงว่าทำตามกฎของโรงเรียน ขณะที่นักเรียนคนที่โพสต์คลิป จนมีเสียงวิจารณ์โรงเรียนมากมายนั้น ทางโรงเรียนได้หักคะแนนความประพฤติ เพราะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของโรงเรียน ส่วนตัวเด็กนักเรียนก็ได้ลบคลิปที่ตนโพสต์ไปเรียบร้อย   ผู้ปกครองว่าอย่างไร!? ทางโรงเรียนชี้แจงว่า ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนในข่าวได้โทรมาพูดคุยกับทางโรงเรียน ซึ่งได้คุยกันได้ข้อสรุปเข้าใจกันดีแล้ว การลงโทษครั้งนี้จะมีเพียงหักคะแนนความประพฤติ ไม่ถึงขั้นไล่ออกแต่อย่างใด  …

กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในโซเชียลบ้านเราอยู่ ณ ตอนนี้เลย กับกรณีของคลิปวิดีโอ ‘นักเรียนหญิง’ ที่ถูกคุณครูตัดผมเพราะ ‘ผิดระเบียบของโรงเรียน’ เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งชื่อว่า @chan_kanhu เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา พร้อมกับแคปชันว่า “มีสิทธิ์อะไรมาตัดผมเด็กขนาดนี้? โรงเรียนมีกฎอันนี้รู้ แต่กฏก็ควรมีขอบเขต อะไรเลยไปก็ไม่ควร เด็กฮึดสู้จะมาหาว่าก้าวร้าว แต่ผู้ใหญ่แบบนี้คือบ้าอำนาจ #กูจะไม่ยอมเห็นรูปนี้คนเดียว #โรงเรียนของเราน่าอยู่”   ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก จนมียอดไลก์พุ่งขึ้นไปถึง 6,731 ครั้งและรีทวีตไปอีกกว่า 62,441 ครั้งเลยทีเดียว กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2562 เพจเฟซบุ๊ก Black Hat ได้นำคลิปวิดีโอเหตุการณ์แบบเต็มมาแชร์อีกครั้งหนึ่ง ทำให้กระแสดังกล่าวถูกนำกลับมาถกเถียงกันอีกครั้งว่ามันเป็นเรื่องที่ ‘สมควร’ แล้วหรือ!? พร้อมแคปชันว่า “#ว่าด้วยดราม่าเรื่องตัดผม จากคลิป บางทีมันก็ดูเกินไปกับการวัดตรวจแล้วตัดเลยแบบนี้ ซึ่งไม่มีการถามเด็กเลยสักคำว่า จะเอาไง โอเคมั้ย จะแก้ยังไง?” “มันเป็นกฎของโรงเรียนก็จริง แต่กฎของกระทรวงที่เขาวางเอาไว้ล่ะ ทำไม รร.ทำไมไม่ทำตามบ้าง ถ้ายังจะเอาแต่ความสะใจตัวเองหรือบ้าอำนาจ ต่อไประบบข้างราชการครูจะแย่แบบนี้ลงไปเรื่อยๆ แน่นอน”   คลิปเหตุการณ์  …

ทุกๆ วันที่ 16 มกราคม ประเทศไทยกำหนดเอาไว้ว่าเป็น ‘วันครูแห่งชาติ’ ซึ่งจะมีกิจกรรมเชิดชูครูบาอาจารย์ผู้สั่งสอนวิชาและรำลึกถึงครูผู้ให้เป็นประจำทุกปี ในทุกๆ ปีทาง 7-Eleven ประเทศไทย จะมีการจัดทำภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับครูในแคมเปญ ‘เชิดชูพระคุณครู’ โดยเนื้อหาของภาพยนตร์สั้นเชิดชูพระคุณครูจะมีเนื้อหาที่เปลี่ยนไปในแต่ละปี ซึ่งแต่ละเรื่องนั้นมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งกินใจจนสามารถสะกิดต่อมน้ำตาให้พังทลายลงได้ เรามาย้อนดูไปพร้อมๆ กันเลย   ปี 2013 ครูสมยศ คุณครูโรงเรียนอาชีวะที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ 3 ที่ โรงเรียน โรงพัก และโรงพยาบาล  .   อาจารย์ใหญ่ ครูผู้ให้จนกระทั่งจากโลกใบนี้ไป  .   มรว. รุจีสมร สุขสวัสดิ์ โรงเรียนวรรณวิทย์  .   เด็กชายเชาว์  .   โรงเรียนปลายข้าว .   และผลงานล่าสุด ครูไอซ์ คุณครูตาบอด ผู้เป็นประทีปส่องสว่างให้กับนักเรียน .  …

ในยุคปัจจุบันมีบริการเดลิเวรี่มากมายหลายอย่าง ให้เราสั่งอาหารจากร้านค้าในบริเวณที่เราอยู่ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาออกไป แลกกับค่าบริการของผู้ส่งในหลักไม่กี่สิบบาท เพราะฉะนั้นการจะสั่งแต่ละครั้งก็มีบุคคลมาเกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย นั่นก็คือ ผู้สั่ง ตัวกลาง และร้านอาหาร ซึ่งหากมีความผิดพลาดที่ตัวกลาง หรือร้านอาหาร ก็ย่อมทำให้ผู้สั่งได้รับอาหารไม่เป็นไปตามที่คิดด้วย อย่างเช่นกรณีนี้…   คุณ Teerapart Klaiwong โพสต์เฟซบุ๊กร้องเรียนการใช้บริการสั่งอาหารออนไลน์เจ้าหนึ่ง ซึ่งพบว่าอาหารที่ได้มานั้นไม่ตรงกับที่เขาคิดเอาไว้เลย “สั่งของกับ xxxxxx กี่ครั้งไม่เคยเจออะไรที่น่าเกลียดขนาดนี้มาก่อน คุณลดราคา แต่ว่าให้ของแบบนี้อ่ะเหรอครับ เหมือนเศษๆ อะไรสักอย่างนะครับ”   จากโพสต์จะเห็นได้ว่าเขาสั่งสเต็กจากร้านหนึ่ง ซึ่งมีเมนูให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นสเต็กปลา หมู ไก่ และดูจากการจัดจานในภาพตัวอย่าง ก็น่ากินมากเสียด้วย   แต่สิ่งที่เขาได้รับมาก็หน้าตาประมาณนี้… . . .   โพสต์ต้นฉบับ   นั่นทำให้เขารู้สึกว่า “WTF!?” เพราะสิ่งที่คาดคิดไว้ทีแรก กับสิ่งที่ได้มาจริงๆ มันไม่เหมือนกับภาพในโฆษณาหน้าปกร้านแต่อย่างใด เขาจึงออกมาโพสต์ร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊กของตนเอง ซึ่งก็กลายเป็นกระแสไวรัลไปในทันที!!   .   บางคนก็บอกว่าร้านน่าจะทำให้ดีกว่านี้ เพราะวัตถุดิบก็ไม่ได้ต้นทุนสูงขนาดนั้น!?  …

เรื่องราวที่กำลังถูกส่งต่อกันอย่างมากในโลกออนไลน์ หลังนักธุรกิจดังในจังหวัดเชียงใหม่ คุณ Amit Chawla โพสต์เฟซบุ๊กร้องเรียน จากกรณีที่เขาถูกปลอมเช็คกว่า 60 ใบ เกิดความเสียหายกว่า 8,000,000 บาท แต่ที่สำคัญและทำให้เขารู้สึกแย่มากก็คือ การตามเรื่องไปยังธนาคารใหญ่ทั้ง 4 ธนาคารเป็นเวลาหลายเดือน แต่ได้รับคำตอบมาเพียงให้ “รอ” และ “จะติดต่อกลับไป”     เขาเล่าเรื่องเหตุการณ์ดังนี้… “เหตุการณ์นี้ผมทราบเรื่องครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 เนื่องจากคู่ค้าได้โทรมาหาผมเพื่อทวงถามว่า ยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้าจากบริษัทของผม แต่เช็คของผมสั่งจ่ายไปแล้ว และได้ตัดเงินจากบัญชีผมไปเรียบร้อยแล้ว ผู้โกงคนนี้ผมจะขอเรียกว่า นาง A เคยเป็นพนักงานบัญชีในบริษัทผม นาง A ได้แก้ไขข้อมูลเช็คของทาง หจก.(ของบริษัทผม) ทั้งเช็คที่ผมสั่งจ่ายให้คู่ค้า และเช็คที่คู่ค้าสั่งจ่ายให้ทางผม โดยเช็คทุกใบที่ถูกแก้นั้น ถูกเปลี่ยนชื่อผู้รับเงินปลายทางเป็นชื่อสามีของนาง A, ชื่อลูกชายของนาง A และชื่อของนาง A เองด้วย แต่ละเดือนในบริษัทผมมีเช็ควิ่งร่วมร้อยใบ นาง A ฉวยโอกาสหยิบเช็คครั้งละ 2-3ใบ และนำไปแก้ไข…

จากคราวก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไทยได้ออกมาแสดงความเห็นในกรณีพายุปาบึก ว่าเขาสวดมนต์ทุกวันตอนพายุเข้า ทำให้เกิดความเสียหายน้อยแล้วสลายไป และปัจจุบันกรุงเทพฯ และปริมณฑลกำลังประสบกับวิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่เกินมาตรฐาน ชาวเน็ตจึงตัดสินใจที่จะยึดวิธีคิดของนายกของเราเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ล่าสุดในโซเชียลมีเดียได้มีคนตั้งกิจกรรมขึ้นในเฟซบุ๊กว่า “ร่วมสวดมนต์ไล่ฝุ่นละออง PM 2.5” โดยมีรายละเอียดว่า “เดินตามรอยนายกลุงตู่ จากการสวดมนต์ไล่พายุ เรามาร่วมกันสวดมนต์ไล่ฝุ่น เพื่อสุขภาพที่ดีของพวกเรา”     ซึ่งรายละเอียดวันจัดกิจกรรมนี้ ก็เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2019 นี้ถึง 7 มีนาคม 2019 รวมระยะทั้งสิ้น 51 วันเลยทีเดียว หลังจากที่กิจกรรมนี้ได้จัดตั้งขึ้นมา ชาวเน็ตก็แชร์ต่อกันอย่างรวดเร็วพร้อมเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย   คาถาปัดเป่าฝุ่นก็มานะ   หากสวดมนต์แล้วไม่หาย ก็ช่วยๆ กันสูดเข้าไปคนละ 2 3 ที ฝุ่นน่าจะลดลงนะครับ   ปรากฏว่าเช้าวันนี้ (15 มกราคม 2019) ได้มีฝนตกในกรุงเทพฯ นี่คงเป็นเพราะการสวดมนต์ครั้งนี้สินะ พิมพ์สาธุ 99 เพื่อแสดงถึงความสำเร็จของพวกเราครับ  …

สายเที่ยวกลางคืน ผู้รักเสียงดนตรี ปาร์ตี้ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจจะเคยพบกับประสบการณ์ สูญเสียทรัพย์สินหรือทำของหายเพราะว่าเมากันมาบ้าง ซึ่งเป็นธรรมดาที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายส่วนมากก็จะเป็นเงิน ของใช้เล็กๆ น้อยๆ เป็นต้น เรื่องราวสุดฮานี้ เกิดขึ้น ณ ร้าน ท่าช้างคาเฟ่ ร้านเหล้าชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นร้านที่วัยรุ่นเชียงใหม่หรือนักท่องเที่ยวสายปาร์ตี้ต้องลองมาเที่ยวสักครั้ง   ภาพจากรายการ ตามใจตุ๊ด   ทางร้านท่าช้างคาเฟ่ได้เปิดเพจ Thachang Lost & Found ของหายได้คืน เพื่อประกาศตามหาเจ้าของทรัพย์สินที่ลืมไว้ที่ร้านไว้โดยเฉพาะ เพราะส่วนมากลูกค้าที่ได้มาเยือนคาเฟ่แห่งนี้มักจะมีอาการเมาแบบว่า ‘ไปให้สุด’ จนลืมทรัพย์สินของมีค่าเอาไว้บ่อยมาก แต่ละวันก็มักจะมีลูกค้าลืมสิ่งของไว้มากมาย ส่วนมากก็จะเป็น โทรศัพท์มือถือ พาวเวอร์แบงค์ สายชาร์จแบต บัตรประชาชน กระเป๋าเงิน แว่นตา แต่ไม่มีใครคิดว่า จะมีคนลืม “ลาบควายดิบ” เอาไว้ด้วย     เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2019 ทางเพจ Thachang Lost & Found ของหายได้คืน ก็ได้ประกาศว่า   “ลูกค้าท่านใดทำสิ่งของตกหล่นไว้…

ในยุคสมัยที่ใครๆ ก็หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น จะไปไหนมาไหนก็พกถุงผ้า แก้วน้ำส่วนตัว หรือหลอดดูดน้ำที่ใช้ซ้ำได้ ทำให้จำนวนพลาสติกที่ใช้ในชีวิตประจำวันลดน้อยลงกว่าแต่ก่อน แคมเปญ “ลดวันละถุง คุณทำได้” เป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่ช่วยลดการใช้ถุงพลาสติก หลายๆ คนอาจจะคุ้นตาจากแสตนดี้พี่ตูน พรีเซนเตอร์ของแคมเปญ ที่ตั้งอยู่บนทางเข้า-ออกร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่น     ทุกครั้งที่เราซื้อสินค้าภายในร้าน โดยไม่รับถุงพลาสติก จะได้ใบเสร็จที่ลงท้ายด้วยคำว่า “ขอบคุณที่ไม่รับถุงพลาสติก” ระบบจะมีการบันทึกไว้เพื่อสบทบทุนครั้งละ 20 สตางค์ให้กับโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งตอนนี้ยอดเงินพุ่งถึง 18.2 ล้านบาทแล้ว   ศิลปินอีกหลายท่านก็ร่วมรณรงค์ในแคมเปญนี้ด้วย   ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม คาดหวังว่าแคมเปญนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เพื่อลูกหลานของเราในอนาคต ปัญหาขยะและถุงพลาสติกที่ยากต่อการย่อยสลายยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน โดยประเทศไทยมีจำนวนขยะกว่า 27.40 ล้านตัน คิดเป็น 75,000 ตันต่อวัน เฉลี่ยแล้วเราสร้างขยะราวๆ 1.13 กิโลกรัมต่อวัน     แคมเปญดังกล่าวจึงเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นที่ของการแสดงความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในโรงพยาบาลอีกด้วย แคมเปญดีๆ แบบนี้ มาช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อรักษาโลกของเราให้น่าอยู่กันเถอะ   ที่มา: @7ElevenThailand, กรุงเทพธุรกิจ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และคนที่อยู่ในคลิปก็เป็นคนจริงๆ!!   เรามักจะได้เห็นข่าวการซุ่มจับวงไพ่กันอยู่บ่อยๆ แต่การจับกุมครั้งนี้กลายเป็นเรื่องพลิกความคาดหมาย และได้กลายมาเป็นคลิปวิดีโอที่แชร์กันไปทั่วโลกออนไลน์ คลิปจากกล้องวงจรปิดที่โพสต์โดยคุณ Supamongkol The-Bankja พร้อมกับแคปชั่นสุดฮาว่า… “เพราะเกมเศรษฐี เกือบเกมแล้วไอ้สัตว์ 55555 ตำรวจเข้ามาเช็ค 5555”   จากคลิปแสดงให้เห็นถึงกลุ่มวัยรุ่นตั้งวงเล่นเกมเศรษฐีกันอยู่บริเวณหน้าบ้าน   จากนั้นก็มีชายแต่งกายแบบเจ้าหน้าที่เดินเข้ามา   พวกน้องทำอะไรกันอ่ะ เล่นไพ่กันอยู่เหรอ!? ป่าวครับ พวกผมเล่นเกมเศรษฐี ตึ่งโป๊ะ!!   เล่นเมื่อยไหมน้อง พี่นวดไหล่ให้นะ อุ๊อิ๊!!   แน่นอนว่าคลิปการบุกจับวงเกมเศรษฐีสุดโป๊ะตึงตึงในครั้งนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากชาวเน็ตอย่างล้นหลาม มีการกดถูกใจกว่า 10,000 ครั้ง แชร์อีกกว่า 9,000 ครั้ง แถมยังเข้ามาคอมเมนต์แท็กเพื่อนมาดู พร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน “ใครเหวอ กว่า ระหว่างคนเล่น กับ คนจับ 5555” – ชาวเน็ตคนหนึ่ง “จะฮาหนักกว่านี้ถ้าพวกที่นั่งเล่นอยู่ลุกแล้ววิ่งหนีด้วย ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด ตำรวจเองก็ยืนงงสักพักแล้วก็วิ่งตาม เห็นเขาวิ่งก็วิ่งจับ” – ชาวเน็ตอีกคน   กลายเป็นอะไรที่แบบว่า..…

คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ… คุณ Valeriya Finogenova ร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊กของเธอเอง ถึงการออกใบสั่งจอดรถในที่ห้ามจอด ซึ่งเธอรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร ในโพสต์เฟซบุ๊กซึ่งมีการลงข้อความเป็นภาษาอังกฤษ เธอเล่าว่า..     “ว็อดเดอะฟัก ฉันเจอกับอะไรเนี่ย… คือมีคนงานมาทาสีขาว-แดง สำหรับการห้ามจอดรถริมถนน โดยทาขยายจากรอยเก่า (บริเวณถนนทัพพระยา) หลังจากที่คนงานทาสีเสร็จปุ๊บ ตำรวจก็มาทันที แล้วออกใบสั่งให้กับรถทุกคันที่จอดผิดกฎหมาย ทั้งๆ ที่เมื่อเช้ามันยังถูกกฎหมายอยู่ แล้วสียังไม่ทันแห้งด้วยซ้ำ!?”     พร้อมกับแนบภาพให้เห็นว่าสียังเพิ่งทาใหม่จริงๆ นะ   หลังจากที่เธอโพสต์ลงไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นและแชร์ต่อออกไปพอสมควร เมื่อมีคนสงสัยว่า พื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นส่วนที่สามารถจอดได้จริงหรือไม่ เธอก็ยืนยันว่าเมื่อเช้านี้ยังไม่มีเครื่องหมายห้ามจอดจริงๆ พร้อมกับแนบรูปภาพจาก Google Maps ภาพนี้มายืนยัน   นั่นทำให้โพสต์ดังกล่าว ถูกวิจารณ์จากชาวเน็ตที่ได้เห็นเป็นอย่างมาก ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเลยทีเดียว… ตัวอย่างเช่น… “Welcome to Pattaya ?” “Typical lazy police, an easy opportunity to make money! ?…

เรื่องน่ารักๆ เรื่องนี้ แชร์มาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tix Wipa หรือ คุณแม่หมอ ได้โพสต์เรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีจิตใจงดงาม ที่กำลังเป็นที่ชื่นชมจากชาวเน็ตในโลกออนไลน์ขณะนี้ โดยคุณแม่หมอได้โพสต์ว่า “?สัญญาทาส(แมว)? น้องอู้ด ได้ตกหลุมรักบูบู้ตั้งแต่เจ้าของเดิมซื้อมา ตอนที่บูบู้อยู่กับเจ้าของเดิมได้ไปเล่นกับแมวตลอด ก่อนหน้านี้ได้ยินข่าวว่าเจ้าของเดิมจะขายเพราะไม่มีเงินรักษาไข้หัดแมว แต่ไม่ทันคุณแมว ที่ซื้อชีวิตมาให้แม่หมอรักษา อู้ดได้ตามมาที่คลินิก มาดู มาถามแม่หมอว่า อู้ด: หมอครับ หมอเลือกเจ้าของใหม่ให้บูบู้ยังไง ถ้าจะรับบูบู้ไปเลี้ยงต้องใช้เงินเท่าไหร่ แม่หมอ : หมอจะเลือกคนที่รักบูบู้ และมีเงินจ่ายค่าอาหาร ทราย วัคซีน ยารักษาเวลาบูบู้ป่วย เพราะบูบู้ต้องมีชีวิตอีก 10 ปีครับ อู้ด : (ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ???) แม่หมอ: หนูเป็นใคร หนูอยากได้บูบู้เหรอ??”   น้องอู้ด   บูบู้   “อู้ด: ครับ ผมรักบูบู้ ผมเล่นกับเค้าตั้งแต่ลุงยามซื้อมาใหม่ๆ ปีกว่าแล้วครับ ผมไปเล่นทุกวัน ผมจะซื้อตอนลุงบอกขาย แต่ไม่ทันครับ แม่หมอ…

บนโลกนี้มีความรักอยู่ด้วยกันหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบปั๊ปปี้เลิฟ ใสๆ ที่เกิดกับวัยรุ่น ความรักที่เข้าใจกันแบบผู้ใหญ่หรือจะเป็นความรักที่เรามอบให้แก่กันแบบเพื่อนแบบครอบครัว วันนี้เราก็ได้นำเรื่องราวของความรักแบบใสๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ในวันที่ 5 มกราคม 2018 มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @JpKhunpan โพสต์เรื่องราวความรักสุดมุ้งมิ้งของแม่บ้านของครอบครัวเธอมาให้เพื่อนชาวเน็ตได้รับชม เรื่องราวความรักของแม่บ้านและบุรุษไปรษณีย์ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เราต้องไปติดตามกัน!!   เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้น จากการสั่งของออนไลน์บ่อยๆ (ฮ่า) https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081517008162742272   เจ้าของโพสต์รักและห่วงแม่บ้านคนนี้เหมือนกับน้องสาวเลยนะ https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081560299885350913   แอบช็อคเมื่อน้องมาสารภาพแบบนี้ https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081561276910788608   อนุญาตนะ แต่ไม่ให้ไปสองคน ต้องมีคนไปด้วยและต้องให้ฝ่ายชายโทรมาขออนุญาตเอง https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081561831137632258 . https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081562893663891458   ในไม่ช้าฝ่ายชายก็โทรมาให้เจ้าของโพสต์จริงๆ https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081602558584471552   พร้อมกับแนะนำตัวอย่างละเอียดเลยทีเดียว https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081603027792932864   เจ้าของโพสต์ก็เริ่มซักถามข้อมูลต่างๆ ว่าจีบน้องตั้งแต่เมื่อไหร่ https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081604031942815745 . https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081604290643353606   ถามต่อว่าตอนนี้พักอยู่แถวไหนและมีครอบครัวรึยัง https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081605937473802240   พร้อมกับถามยืนยันความแน่ใจ https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081606930068467713   ซักคำถามพื้นฐานกันเสร็จแล้วก็ขอเข้าประเด็นหลักที่ให้โทรมาในวันนี้เลยก็แล้วกัน https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081609684077883392   รู้ว่าไม่ใช่คนไทย…

เคยคิดจะออมเงินกันรึเปล่า!? เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะเคยใช้สูตรออมเงินแบบต่างๆ ที่มีการส่งต่อมาบนโลกโซเชียลหลากหลายสูตร หนึ่งในนั้นก็มี “สูตรแบงก์ 50 บาท” เนื่องจากธนบัตรใบละ 50 นั้นจะหาได้ยากกว่าใบละ 20 หรือ 100 บาท จึงก่อกำเนิดเป็นสูตรว่า ถ้ามีโอกาสได้แลกเปลี่ยนหรือซื้อของ แล้วมีเงินทอนเป็นธนบัตร 50 บาท ก็ให้เก็บเอาไว้  ซึ่งวิธีนี้จะไม่ลำบากเงินในกระเป๋า แถมยังเก็บเงินให้กลายเป็นหลักหมื่นได้ จนมีการแชร์ต่อกันอย่างมากมาย!!     ล่าสุดคุณปริณตรา โพสต์เฟซบุ๊กของตัวเอง เพื่อยืนยันว่าสูตรดังกล่าว สามารถเก็บเงินจาก 50 บาท ให้กลายเป็นเงินหลักหมื่นได้จริงๆ เธอเป็นแม่ค้าร้านขายไก่ และมีการกำหนดกับตัวเองว่า หากลูกค้าจ่ายเงินเป็นธนบัตรใบละ 50 บาท แล้วเป็นธนบัตรที่สภาพไม่แย่จนเกินไป ก็จะเก็บไว้   .   ส่วนกระปุกออมสินของเธอ ก็ดูแนวไม่ซ้ำใคร เพราะดัดแปลงจากขวดน้ำเก่าๆ ที่ไม่สามารถบรรจุน้ำดื่มได้แล้ว ให้กลายมาเป็นหีบทองคำของตัวเธอเอง เงินที่เธอเก็บเข้ากระปุก แม้บางวันจะได้มากได้น้อย แต่มีกฎสำคัญที่บังคับตัวเองว่า “เธอจะต้องหยอดมันทุกวัน”    …

เดี๋ยวนี้ภัยอันตรายเรียกได้ว่ามีอยู่รอบๆ ตัวจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ทำงาน ออฟฟิศหรือแม้แต่หน้าบ้านของตัวเองเหมือนกับในกรณีนี้ หญิงสาวคนหนึ่งต้องเผชิญกับชายโรคจิตพยายามจะเข้ามาเปิดประตูรถที่เธอขับอยู่ รวมทั้งเขายังดึงกางเกงลงแก้ผ้าโชว์เธอด้วย เฟซบุ๊กชื่อว่า May Tunyason ได้นำเรื่องดังกล่าวมาแชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้สาวๆ ได้ระวังตัวกันมากยิ่งขึ้น โดยเธอได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้ฟังว่า     “ใครจะไปคิดว่าวันนึงจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตัวเอง… ขอลงเอาไว้เผื่อที่เตือนสติตัวเองและทุกคนๆ รอบตัวนะคะ ในขณะที่เมย์กำลังถอยรถเข้าจอดในบริเวณถนนย่อยส่วนบุคคล ซึ่งอยู่บริเวณรั้วหน้าบ้านตัวเองนั้น ได้มีชายในคลิปไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงสีดำไม่สวมรองเท้าเดินเข้ามา แล้วอ้อมไปบริเวณด้านหลังรถแล้วเดินไปอีกฝั่ง จากนั้นเขาถอดกางเกงลงแล้วพยายามดึงประตูรถด้านหลัง แต่โชคดีที่เมย์เห็นเค้าแต่แรกและเอะใจเพราะไม่เคยเห็นหน้าและท่าทางไม่น่าไว้วางใจ จึงล็อครถและยังไม่ลงจากรถ เพื่อสังเกตพฤติกรรม ตอนแรกยังคิดว่าเป็นคนที่พักอยู่ที่หอพักข้างๆ บ้าน ถ้าใช่เขาต้องเดินตรงขึ้นหอไปเลย แต่ไม่ใช่ สิ่งที่คิดได้และทำในตอนนั้นคือบีบแตรรถยนต์เพื่อให้คนในบ้านหรือคนแถวนั้นได้ยิน มันได้ผลเพราะชายคนดังกล่าวพยายามนุ่งกางเกงกลับแล้วเดินออกไป แต่ถ้าเห็นจากในคลิปจะเห็นว่าเค้าไม่ได้หนีไปทันที ยังคงวนกลับมาอีกรอบ จนเมย์บีบแตรซ้ำ เปิดไฟสูง ซึ่งขณะนั้นพ่อกับแม่ได้เดินออกมาแล้ว   คลิปวิดีโอเหตุการณ์อันน่ากลัวนี้    เหตุการณ์นี้มันน่ากลัวจริงๆ ตอนนั้นยังงงๆ ไม่กล้าลงจากรถจนพ่อเดินออกมาปิดประตูรั้ว คิดไม่ออกเลยว่าถ้าตอนนั้นชายคนดังกล่าวเข้ามาหาเราในขณะที่เราลงไปปิดประตูรั้วอยู่จะเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “สติ” และถ้าเราต้องไปอยู่ในสถานที่หรือเวลาที่มันสุ่มเสี่ยง เราต้องคอยสังเกตสิ่งรอบตัวตลอดเวลา เมย์เป็นคนนึงที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับตัวเองเลย คิดว่าตัวเองค่อนข้างระวังตัว และที่สำคัญนั่นคือหน้าบ้านเราเอง… สำหรับความรู้สึกตอนนี้ ยอมรับว่ายังกลัว หลอน และยังงงๆ กับเหตุที่เกิดกับตัวเอง…

เว็บไซต์พันทิป แหล่งชุมชนออนไลน์ที่ชาวไทยนิยมใช้มาเป็นอันดับต้นๆ ในแต่ละวันก็จะมีผู้ใช้เว็บไซต์คอยมาแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ชาวโลกออนไลน์ได้รับรู้กัน ซึ่งบางทีก็มีสาระบ้าง เป็นกระทู้ร้องทุกข์ กระทู้เตือนภัยบ้างปะปนกันไป แต่กระทู้ต่อไปนี้กำลังได้รับความนิยมสุดๆ ไม่รู้ว่าจะเป็นกระทู้ดักหรือเปล่า แต่ว่าความฮามันอยู่ตรงนี้!!! เรื่องมันมีอยู่ว่า ผู้ใช้เว็บพันทิปชื่อ สมาชิกหมายเลข 5040768 มาตั้งกระทู้เชิงระบายความน้อยใจว่า ไปกินหมูกระทะด้วยกัน แต่แฟนของเธอไม่ตอกไข่ให้ ซึ่งปกติแล้วแฟนจะเป็นคนตอกให้ตลอด หรือนี่จะเป็นสัญญาณของการหมดรักกันแน่   ใครจะไปเชื่อว่า แค่เรื่องการตอกไข่จะกลายมาเป็นปัญหาคู่รักได้ หลังจากที่สาวปริศนาคนนี้ได้โพสต์กระทู้ออกไป ชาวพันทิปจึงได้เข้ามาให้กำลังใจเธอแบบนี้   ใช่ๆๆ แฟนเธอไม่รักเธอแล้วนะ   อ่ออ๊อย แม่สาวน้อย งอนแฟนซะน่ารักเลย   มาแรงมากแม่ พูดตรงมาก   แฟนอาจจะขี้เกียจเช็ดมืออ่ะ อย่าคิดมากนะหนู   พล็อตภาพยนตร์เลยนะ สาวคนหนึ่งตามหาความจริงว่าแฟนหนุ่มหมดรักแล้วหรือไม่ เหตุมาจาก ไม่ตอกไข่ให้   เป็นแฟนพี่หนูไม่ต้องทำอะไร พี่จะปิ้งหมูให้ พี่จะเคี้ยว และกลืนมันลงไปเพื่อหนูด้วย   มีใหม่แน่นอน ถ้าไม่ตักน้ำจิ้มให้อ่ะ   หมดรักแน่นอน ร้อยทั้งร้อย   หาแฟนใหม่ได้เลยอิหนู  …

จากประเด็นเรื่องของการถกเถียงกันเรื่อง บะหมี่หยก MK ควรลวกหรือไม่ลวก กลายเป็นวาระระดับชาติที่มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งก็เป็นข้อพิสูจน์ว่า สำหรับคนไทยแล้ว เรื่องกินมันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน (เรื่องบะหมี่หยกนี่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ระดับโลกเลยนะ) #เหมียวบู้บี้ ก็เห็นว่าเรื่องของอาหารนั้นมันกลายเป็นปัญหาระดับชาติมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็เลยรวบรวมหัวข้อเด็ดๆ ที่คนไทยเคยเถียงกันในเรื่องของอาหารมาให้ดูกัน มาดูเลยว่า คนไทยเราเถียงกันเรื่องอะไรบ้าง   ไข่นกกระทา VS ไข่เต่า   สรุปว่ามันคือ ไข่เต่า หรือ ไข่นกกระทา   ชานม กับชาเย็น (ชาสีส้ม)   ชาสีส้มแบบนี้คุณเรียกว่าอะไร ชานมเย็น หรือชาเย็น หรือชาไทย .   นมเย็น VS นมชมพู   นมเย็นหรือนมชมพู   เรื่องน้ำปลาพริก หรือพริกน้ำปลาก็เรื่องใหญ่   เถียงกันไม่จบไม่สิ้นจริงๆ เรื่องนี้   ข้าวเหนียวมะม่วง ราดกะทิบนข้าว หรือ ราดบนมะม่วง   ราดบนไหนไม่สำคัญ แต่หิวแล้ว  …

จากค่ำคืนวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ชาวเน็ตก็ได้ต้อนรับปีหมูด้วยการเปิดประเด็นเถียงกันเรื่อง “หมี่หยก MK ควรลวก หรือ ไม่ลวก” แน่นอนว่าสำหรับคนไทยแล้ว เรื่องกิน เรื่องใหญ่ จากการเถียงเรื่อง หมี่หยก MK ลวก หรือไม่ลวก กลายเป็นติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ไปซะแล้ววว เมื่อความเห็นไม่ตรงกัน การพนันก็เกิดขึ้น (ไม่ใช่แล้ว!!) เกิดเป็นการแบ่งทีม 2 ฝั่ง ก็คือทีมลวกหมี่หยก และ ทีมไม่ลวกหมี่หยก   ฝ่ายทาง #ทีมลวกหมี่หยก ก็ให้เหตุผลว่า หมี่หยกมันต้องลวก!!! ไม่งั้นมันก็ไม่นิ่มสิฟร๊ะ!!   ก็อยากทำเหมือนขายก๋วยเตี๋ยวอ่ะ ทุกคนต้องมีความฝันเว้ย   ต้องลวกสิ มันเย็นอ่ะ   หมี่หยกต้องลวกสิ   คนลวกหมี่หยกไม่ใช่อาชญากร ใจเย็นครับพี่!!   ฝ่าย #ทีมไม่ลวกหมี่หยก ก็ให้เหตุผลว่า หมี่หยกมันกินได้เลย ไม่ต้องลวก ให้เกียรติกระเทียมเจียวที่โรยมาด้วยสิคุ๊ณณณณ!!!   พนักงานเอ็มเคเก่าขอยืนยันว่าไม่ต้องลวกนะคะ…

อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าตอนนี้ภาคใต้ของประเทศไทยเรา กำลังเผชิญกับพายุโซนร้อน ‘ปาบึก’ (PABUK)  ซึ่งทางเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยาได้ระบุว่า พายุลูกนี้ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณระหว่างอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้วเมื่อเวลา 12.45 น. ของวันนี้ (4 ม.ค.) โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และนี่คือความเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้นแล้วจากความรุนแรงของพายุลูกนี้!!   ประกาศจากทางเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา   เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กชื่อว่า Rungrot Kongpiban ได้โพสต์รายงานถึงความเสียหายล่าสุดที่เกิดขึ้น โดยมีแคปชั่นว่า  “แรงลมดันประตูเหล็ก ศูนย์พักพิง บิดงอแล้ว !! การไฟฟ้าตัดไฟแล้ว #ปากพนัง #พายุปาบึก ความเร็วลมตอนนี้ 60 กม./ชม. ยังมาจากทิศเหนือ ทำให้น้ำไหลเข้าศูนย์พักพิง (มีชาวบ้านกว่า 300 คน) ที่ อ.ปากพนัง…ทหารและชาวบ้าน ต้องช่วยกันระบายน้ำออกจากศูนย์ฯ เร่งด่วน !! #นครศรีธรรมราช #PPTVHD36“   ภาพภายในโพสต์ . . . .   นี่เป็นเพียงความเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้นเท่านั้น!! ในตอนนี้ทุกสายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบินไปยังนครศรีธรรมราชทั้งหมดแล้ว เนื่องจากผลกระทบของพายุลูกนี้…

วันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า นาย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมหารือกับคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ในเรื่องของการกำหนดการจัดวันเลือกตั้งใหม่ ซึ่งอาจจะต้องมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เนื่องจากจะมีพระราชพิธีราชาภิเษกในวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 โดยกำหนดการเลือกตั้งเก่ากำหนดเอาไว้ในวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งกำหนดการเลือกตั้งใหม่นี้จะต้องอยู่ในช่วงเวลา 150 วันนับจากวันที่ 11 ธันวาคม 2561 แต่ไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม 2562     หลังจากที่มีข่าวเรื่องของการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เหล่าชาวเน็ตก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านการตั้งแฮชแท็กในทวิตเตอร์ที่มีแฮชแท็กว่า #เลื่อนแม่มึงสิ ใน #เลื่อนแม่มึงสิ เป็นการแสดงความเห็นของชาวทวิตเตอร์ที่มีการจิกกัดและเสียดสีการเมืองแบบฮาๆ ปนเผ็ดร้อนนิดๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะ ว่าคนไทยนี่ความฮาอยู่ในสายเลือดจริงๆ ตลกได้ทุกสถานการณ์แม้ว่าจะโดนเลื่อนวันเลือกตั้ง สมกับเป็นสยามเมืองยิ้มซะจริงๆ   หาเสียงชาตินี้ เลือกตั้งชาติหน้า   เลื่อนเก่งยิ่งกว่ารอยเลื่อนบนเปลือกโลก   เมเจอร์นี่ท็อปฟอร์มจริงๆ   บายยยยย   ตั้งแต่ 18…

เพราะด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน จึงทำให้เมื่อถึงเวลาที่หลายๆ คนได้หยุดไปเที่ยวกันในช่วงวันเทศกาลต่างๆ ‘เจ้าหน้าที่ตำรวจ’ ก็อาจจะต้องทำหน้าที่และไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวในโอกาสนี้ แต่ถึงอย่างไรแล้วมนุษย์ทุกคนต่างก็ต้องการความรักความอบอุ่นจากครอบครัวกันทั้งนั้น และนี่เองก็ทำให้เกิดภาพน่ารักๆ ขึ้น จากความที่ลูกๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาโผกอดเข้าหาพ่อที่ไม่ได้หยุดยาวในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา!!     เพจ โปลิศไทยแลนด์ – Police Thailand News ได้แชร์เรื่องราวอบอุ่นหัวใจดังกล่าว ซึ่งในโพสต์นั้นได้เขียนแคปชั่นอธิบายรายละเอียดให้ฟังว่า “ภาพสุดซึ้ง พ่อลูกครอบครัวตำรวจโผกอดกันเพราะลูกคิดถึงพ่อที่ลางานไม่ได้ช่วงปีใหม่ นี้เป็นภาพเหตุการณ์สุดซึ้ง เมื่อลูก 2 คน โผล่กอดพ่อซึ่งเป็นตำรวจและไม่ยอมปล่อยเพราะคิดถึง เนื่องจากทั้งพ่อและลูกอยู่คนละที่กัน ตัวของพ่อเป็นตำรวจ คือ พ.ต.อ.กฤษณัฐ วงษ์​ กล้าหาญ​ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอ่าวลึก จ.กระบี่ ส่วนลูกๆทั้งสองคน อยู่กรุงเทพ ในช่วงวันหยุดปีใหม่ ลูกๆ และภรรยา ต้องเดินทางมาหาคุณพ่อ เพราะพ่อไม่สามารถหยุดงานได้ เนื่องจากมีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยประชาชน สำนักงานตำรวจสั่งห้ามลาห้ามขาด ต้องทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ โดยผู้เป็นแม่ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุว่า ‘กว่าจะได้ออก ขอนัวเนียพ่อหน่อย โดนเครื่องหมายบาดได้แผลมาคนละแผล หนทางอีกยาวไกล อ่าวลึก-กทม. ฮึ้บ?? #เป็นลูกเมียตำรวจต้องอดทน?? #แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองกันก่อนฮะ? #ขากลับก็ไม่ค่อยจะมีแรงขับรถ???’”   ลูกๆ…

ในตอนนี้ใครๆ หลายคนคงจะพอรู้จักหรือคุ้นหน้าคุ้นตากันกับ ‘น้องจินนี่’ ลูกสาวคนสวยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือคุณหญิงหน่อยกันมาบ้างแล้ว และแน่นอนว่าความสดใสน่ารักของเธอทำให้ชายไทยต่างพากันโอชิกันเป็นแถว เผื่อใครยังไม่รู้จัก >> ทำความรู้จัก “น้องจินนี่” ลูกสาวคนเก่งของคุณหญิงหน่อย ที่ทำเอาชายไทยใจเต้นไม่เป็นจังหวะ   มุมเอียงๆ แบบเบาๆ   ล่าสุดนี้เมื่อวาน (วันที่ 3 ม.ค.) น้องจินนี่ได้ปรากฏตัวมาให้แฟนๆ ได้เคลิบเคลิ้มกันอีกแล้วในงาน งานอุ่นไอรักคลายความหนาว ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า  ซึ่งเฟซบุ๊กชื่อว่า Teerapol Suksalee ได้เก็บภาพมุมสวยๆ ของเธอกับคุณแม่หน่อยมาฝากกัน จนกลายเป็นกระแสไวรัลที่กำลังพูดถึงกันอยู่ในตอนนี้    ถอดแว่นก็ตัลล้ากก   ต้องบอกเลยว่าน้องจินนี่ยามถอดแว่นในชุดไทยนั้น เป็นอะไรที่ดีต่อใจเอามากๆ ดูได้จากความที่ตอนนี้โพสต์นี้มีคนแชร์มากไปแล้วมากกว่า 1,000 ครั้ง ก็อย่างว่าละหนาใครล่ะจะต้านทานสาวน้อยน่ารักเช่นนี้ไหว…     เอาเป็นว่าตามไปแอบส่องภาพมุมต่างๆ ของเธอกันดีกว่า แล้วระวังให้ดีล่ะว่าจะตกหลุมรักเธอเข้าโดยที่ไม่รู้ตัว   เผลอๆ ยังดูดี   เสยมัดใจซะหน่อย   กับคุณแม่   ชวนเคลิบเคลิ้มจริงๆ .   เซลฟี่ซะหน่อย   ไหนเช็คซิ .  …

กระทู้ดราม่าร้อนๆ จากพันทิปต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่มีผู้ร้องทุกข์ในเว็บไซต์ดังว่า “สายการบินดังยกเลิกเที่ยวบินกะทันหัน” ผู้ใช้เว็บพันทิปชื่อ สมาชิกหมายเลข 4485347 ได้มาร้องทุกข์เอาไว้ว่า 1. เธอได้จองตั๋วกับสายการบินดังผ่านเว็บไซต์ Trip.com เที่ยวบิน ดอนเมือง-นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงโปรโมชั่น 2. เธอได้รับอีเมลแจ้งยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาไปขากลับ จึงได้โทรไปสอบถามข้อมูลกับทาง Trip.com 3. พนักงานตอบกลับว่า ยกเลิกการบิน สามารถแจ้งขอคืนเงินได้   4. เจ้าของกระทู้รู้สึกเฟล เพราะจองทั้งที่พัก เที่ยวบินเดินทางระหว่างประเทศ และวันลางานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 5. เธอได้สอบถามกับทางพนักงานว่า แล้วที่จองที่พักจองอะไรไปให้ทำยังไง พนักงานตอบกลับมาว่า ต้องจัดการเอง แต่เจ้าของกระทู้ก็เลยตัดสินใจว่าจะขอเงินคืน     6. เธอได้สอบถามไปยังพนักงานของสายการบินดังโดยตรง เธอได้รับข้อมูลว่า สามารถเปลี่ยนไปลงที่สนามบินนาริตะได้ เธอก็ตกลงตามนั้น แต่ขากลับขอยกเลิกเที่ยวบินเพื่อขอเอาเงินคืน 7. พนักงานสายการบินให้ติดต่อกับทางพนักงาน Trip.com เรื่องการออกตั๋วใหม่ 8. แต่เธอได้รับอีเมลแจ้งจาก Trip.com ว่า ยกเลิกเที่ยวบินทั้ง 2 เที่ยว เพราะยังไม่ได้รับข้อมูลจากสายการบิน…

ช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นโอกาสอันดีที่หลายๆ คนเลือกให้ของขวัญกัน… อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งก็เลยขอโอกาสตอบแทนผู้เช่า ที่อยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งปี ด้วยการมอบของขวัญปีใหม่เซอร์ไพรส์ทุกห้อง แต่ที่ไม่ธรรมดาและทำให้ชาวเน็ตแชร์กันมากก็คือ นำของขวัญใส่ถุงแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็น Chanel, Hermes หรือ Louis Vuitton อีกด้วย   เรื่องนี้กลายเป็นกระแสดัง หลังผู้ใช้ทวิตเตอร์ “ป้าเกิดมาติ่ง” ได้โพสต์ว่า… https://twitter.com/minney112/status/1076761369934884864   โดยเธอได้ระบุด้วยว่า หอพักแห่งนี้แจกเป็นประจำทุกปี อย่างปีที่แล้วก็มีการแจกขนมโอรีโอให้ 1 กล่อง แต่ปีนี้เล่นใหญ่ใส่ถุงแบรนด์เนมมาห้อยหน้าประตูทุกห้องด้วย ทำไมรีกันเยอะจัง!! 😂😂😂 ปีก่อนเจ้าของหอก็แจกนะ แต่เป็นขนมโอริโอ้ 1กล่อง ปีนี้เล่นใหญ่มาก แต่เค้าก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าของที่แจกเป็นของแท้มั้ย 5555555 — ^_^’ ☘️ (@minney112) December 26, 2018   จากการดูข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าหอพักแห่งนี้ชื่อว่า จิมมี่ ม.แม่ฟ้าหลวง อพาร์ทเม้นท์ ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย โดยอพาร์ทเมนท์ดังกล่าวได้โพสต์เรื่องราวนี้ลงบนเฟซบุ๊กของที่พักเช่นกัน…   ภาพตอนเตรียมของ   และตอนเอาไปห้อยไว้หน้าประตูเซอร์ไพรส์ผู้เช่า   เรื่องราวดังกล่าวสร้างความประทับใจในวงกว้าง…

ในช่วงปีใหม่แบบนี้ หลายๆ คนอาจจะมีแพลนกลับบ้านไปนั่งดื่มเลี้ยงฉลองกับคนในครอบครัว และบรรดาเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ในละแวกบ้าน ที่ในหนึ่งปีจะมีโอกาสได้เจอกันสักครั้งหนึ่ง ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะเสี่ยง ‘ชีวิตของตัวเอง’ ด้วยการเมาแล้วขับ แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน ทางเพจ ชมรมคนกู้ภัยจังหวัดเชียงใหม่ ก็เลยปิ๊งไอเดียคิดโครงการสุดเจ๋งเป้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือทุกคนลดความเสี่ยงจากอุบติเหตุที่อาจเกิดจากเมาแล้วขับ!! โดยใช้ชื่อโครงการว่า ‘มึงเมาเราส่ง’ จัดโดยสมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่ ที่จะช่วยพาบรรดานักดื่มทั้งหลายให้เดินทางอย่างปลอดภัยในช่วงปีใหม่นี้   ลองไปอ่านรายละเอียดแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยครับ   “หมดปัญหาสำหรับพวกคออ่อน สายฟุบ สายแดรกเผื่อหมาทั้งหลาย โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายไฮโซล้านนา กลุ่มแว้นบอย สก๊อยเกิร์ล ที่ซ้อนรถจักรยานยนต์กันไปเมา แล้วไม่รู้จะเอากลับยังไง   ภาพของโครงการที่เคยทำมาก่อน   วันนี้เรามีทางออกให้ กับโครงการ “มึงเมาเราส่ง….!!!!” โดย สมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่ บริการรับ-ส่งคนเมาประเภท คอพับ คอตก นอนฟุบเป็นร่างอันไร้วิญญาณเฝ้าร้านเหล้า สำหรับเรื่องมารยาทการให้บริการนี่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆเอากลับบ้านได้อย่างปลอดภัยแน่นอน สนใจใช้บริการติดต่อได้เบอร์นี้เลย 080-8544736    อีกเคสหนึ่งที่หลับอยู่ข้างถนน   พาขึ้นรถมีที่นอนอย่างดี   โดยผู้ที่จะใช้บริการต้องแจ้งชื่อ-นามสกุล สถานที่ให้ไปรับและไปส่ง หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ อาจจะไปรับช้าบ้างไวบ้างก็รอไปก่อน ทั้งนี้ในเบื้องต้นขออนุญาตรับ-ส่งเฉพาะกลุ่มที่เมาไม่ได้สติเท่านั้น   พาไปส่งถึงหอ!!…

หลังจากที่เป็นกรณีดราม่าบนโลกออนไลน์ หลังจากที่สาว ‘สรัย วัชรพล’ ถูกพุ่งเป้าไปที่ประเด็นการนั่งพ่นควันอยู่ในห้อง VIP ของโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งชาวเน็ตหลายคนต่างสงสัยกับสิ่งที่เธอทำ ว่าเหมาะสมหรือไม่ ควรหรือไม่ควร ข่าวเก่า: ประเด็นดราม่า “สรัย” ลูกสาว “นิด-อรพรรณ” โพสต์ภาพพ่นควันในห้อง VIP โรงพยาบาล   https://www.instagram.com/p/Br0E7j8Fh_x/   เมื่อเรื่องออกไปสู่วงกว้างมากขึ้น จนกระทั่งเกิดการวิจารณ์ไปต่างๆ นานา ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2018 เวลา 17.06 น. สรัยได้ทำการโพสต์ภาพข้อความ เพื่อชี้แจงผ่านอินสตาแกรมของตนเองอีกครั้ง โดยกล่าวว่า ภาพที่เห็นออกไปนั้น ไม่ใช่บุหรี่แต่เป็นขนม Dragon’s Breath ที่มีไอควันจากไนโตรเจนเหลว และสิ่งที่ถืออยู่ในมือคือทัมป์ไดร์ฟ อีกทั้งขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด เป็นคนเคารพและไม่เคยทำผิดกฎหมาย   https://www.instagram.com/p/Br2Me6nFiEv/   ใจความจากในภาพอินสตาแกรม “สวัสดีค่ะทุกคน สรัย มา ณ ที่นี้เพื่อชี้แจงกรณีรูปภาพที่ได้โพสลงไปบน Instagram ล่าสุด Dragon’s Breath…

การเปิดร้านอาหาร ความสะอาดของเครื่องไม้เครื่องมือ รวมถึงวัตดุดิบถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งหากลูกค้าเจอสิ่งแปลกปลอมในอาหารของพวกเขา พวกเขาก็อาจจะไม่มาใช้ทานร้านอาหารร้านนั้นอีก เหมือนเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูในวันนี้ เมื่อสาวคนหนึ่งไปซื้อสุกี้มา แต่เมื่อเทใส่ด้วยก็พบว่ามีแมลงสาบอยู่ในถุงสุกี้!!     วันที่ 26 ธันวาคม 2561 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า พอย บางโพ โพสต์ภาพสุกี้พร้อมแคปชั่นว่า “สุกี้หมูกลายร่าง อีเหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ขนมาทั้งครอบครัวฝากบอกร้านป้าสมจิตร ราม2 เปลี่ยนร้านซื้อหมูด่วน ตอนแรกเห็นหนวดมันในถุงกุนึกว่าป้าใส่กุ้งให้ด้วยหรอ คือกุเห็นป้าไปหยิบถุงผักบุ้งที่หั่นแล้วมาจากหลังร้านแล้วขยุ้มใส่หม้อเลยไง มันน่าจะแดกผักบุ้งอยุ่ละป้าจับโดนตำแหน่งพอดี ตอนเทเค้าก็เทใส่ถุงเลยเนาะไม่มีใครตักทีละช้อนใส่ถุงหรอกอีเวรรรร กุไม่ไปตีหัวแมงสาบแล้วจับมาวางเรียงใส่ชามหรอกกก กุหิวเหมือนกันนน“   .   ทว่าหลังจากที่เธอโพสต์ภาพของเหล่าปีเตอร์ที่นอนเรียงกันอยู่บนสุกี้ลงในโซเชียลมีเดียและเมื่อชาวเน็ตเข้ามาเห็นก็เกิดความสงสัยต่างๆ นานา พร้อมเข้ามาแสดงคิดเห็นอย่างมากมาย   เหมือนสุกี้เพิ่งจะเทนะ แมลงสาบก็เนื้อตัวสะอาดเกิ๊น   ถ้ามันอยู่ในหม้อต้มจริงมันต้องเปื่อย ยุ่ย ขาดไปแล้วสิ   แมลงสาบมาแบบกรอบๆ เลยเชียว   นาทีนี้ ทีมแมลงสาบก็มาจ้า   เตรียมเงินไว้ด้วยนะ ถ้าเรื่องไม่ใช่เรื่องจริงล่ะก็โทษแรงนะจ๊ะ   อยากดังเลยโกหก   ซึ่งล่าสุดเธอเปิดเผยผ่านสื่อช่อง ONE…

อย่างที่รู้ๆ กันว่าเมืองเชียงใหม่ เป็นเมืองมหาเสน่ห์ที่ใครๆ มาต่างก็ต้องติดใจกันไปตามๆ กัน แต่นี่อาจเป็นอีกหนึ่งความสวยงามภายในเมืองนี้ ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาจากหลังเลนส์กล้องถ่ายรูป… เฟซบุ๊กชื่อว่า Piyarad Taduk Grapher หรือคุณโน เป็นเจ้าของภาพถ่ายเซ็ทนีออนเหล่านี้ ซึ่งทางคุณโนได้ใส่คำอธิบายในแคปชั่นเอาไว้ว่า   กาดหลวง only   ‘ 3.00 am Neon Cm .*** เหตุเกิดเพราะลุกมาเข้าห้องน้ำ เวลาตี 3 ของวันนี้ สะลึมสะลือ เปิดประตูหลังห้อง ต้องอุทานออกมาว่า เชี้ย!!!! หมอกลงโคตรจัด แปลกตามาก 55555555 และด้วยไอ้ผีตัวไหนไม่รู้เข้าสิง ไอ้นี่ก็จับกล้องใส่เลนส์ ละก็แว้นถ่ายรูปในเมืองเชียงใหม่ในเวลาตี 3 T_T *** ลองทำภาพเมืองเชียงใหม่ให้เป็นนีออน ฟ้าๆ ม่วงๆ  Chiangmai cyberpunk 55555 Fuji XT1 Gse + XF 35F1.4′   ร้านสลัดนิมมาน   และด้วยความที่เห็นผลงานแล้วรู้สึกว่าต้องทำความรู้จักสักนิด #เหมียวจิวยี่ จึงได้ขอสัมภาษณ์คุณโนแบบคร่าวๆ ด้วยคำถามที่หลายคนอยากรู้… เหมียวจิวยี่: ทำไมถึงเลือกที่จะถ่ายออกมาในโทนนีออนอย่างนี้…

  กลายเป็นประเด็นร้อนแรง เมื่อ ‘สรัย วัชรพล’ ลูกสาวของ ‘นิด อรพรรณ วัชรพล’ อดีตนางเอกฟันกระต่ายชื่อดัง ที่กำลังอยู่ในช่วงป่วยเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา เธอได้ทำการถ่ายรูปและเช็คอินลงในอินสตาแกรม @sreivphol ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง   https://www.instagram.com/p/BrsSVUolZbC/   ทั้งนี้ ด้านแฟนคลับผู้ติดตามต่างเข้ามาให้กำลังใจให้หายจากอาการป่วยโดยเร็ว   ซึ่งในอีกภาพถัดมาในบัญชีอินสตาแกรมเดียวกัน ปรากฏเป็นภาพของ สรัย นั่งถือแท่งที่มีลักษณะคล้ายบุหรี่ไฟฟ้า หรือวิตามินแบบสูบ และพ่นควันออกจากปากอยู่บนเตียง ในห้องผู้ป่วยพิเศษ VIP จึงกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยขึ้นมา…     เพื่อนดาราและคนสนิทเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงทั่วไป .   ภายหลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นรูปถ่ายดังกล่าว ก็เลยมองในอีกแง่มุมของความเหมาะสมกับสิ่งที่ทำลงไป เนื่องจากเป็นสถานพยาบาล แม้จะเป็นห้อง VIP หรือบุหรี่ไฟฟ้า(หรือบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นวิตามินแท่งแบบสูบ)ก็ตาม รวมไปถึงการกระทำแบบนี้ สมควรที่จะถ่ายแล้วเอามาโชว์ให้บุคคลอื่นได้รับรู้ด้วยรึเปล่า…     ความคิดเห็นบางส่วนจากกระทู้พันทิป . . . . . . .  …

งานแต่งงาน คืออีกหนึ่งงานที่สำคัญของชีวิตใครหลายคน และต่างก็อยากจะทำให้มันออกมาดีที่สุด หลายคนยอมเสียเงินหลักแสน หลายแสน ไปจนถึงหลักล้าน เพื่อจ้าง “ออร์แกไนเซอร์” มืออาชีพมาดูแลจัดงานให้ บางเจ้าทำออกมาได้สวยงามตามความคาดหวัง แต่ในขณะที่บางคนก็เผชิญฝันร้ายของการจัดงานแต่ง เช่นเดียวกับที่คุณเม้ง (Lionel MengSi) อยากจะมาเล่าให้ทุกคนฟัง   โพสต์ต้นฉบับ (อ่านแบบสรุปได้ด้านล่าง)   คุณเม้งโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับเตือนภัยการจ้างออร์แกไนเซอร์ที่เขาไว้วางใจ แต่สุดท้ายกลับเงียบหายเพียงแค่ 1 วันก่อนจัดงานเท่านั้น กลายเป็นเรื่องให้เขาต้องมาจัดการแก้ปัญหาเอาเอง กำหนดการณ์เดิม คือจัดงานแต่งงานในวันที่ 22 ธันวาคม 2018 โดยมีไทม์ไลน์ก่อนหน้าดังนี้…   – ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 มีการทำสัญญากับคนจัดงานที่ไว้ใจมาก 2 คน และดำเนินการมาเป็นปกติ ด้วยวงเงินจัดงานแต่งงานเกือบ 500,000 บาท   – วันที่ 21 ธันวาคม เวลาประมาณ 10.54 น. (ก่อนจัดงานแค่วันเดียว) ไม่สามารถติดต่อผู้ประสานงานได้   – ช่วงเย็นของวันที่…

ช่วงนี้คนออกไปท่องเที่ยวชมธรรมชาติกันมากมาย บรรดาที่พัก โรงแรม รีสอร์ท ต่างก็หาจุดขายและโปรโมชั่นมาเอาใจลูกค้า บ้างก็มอบส่วนลด บ้างก็จัดกิจกรรมเสริมที่ไม่เหมือนใคร บ้างก็เน้นการโฆษณาโปรโมตให้ผู้คนรู้จัก ซึ่งหนีไม่พ้นการใช้ “ป้ายโฆษณา” นั่นเอง.. แต่มีอยู่แห่งหนึ่ง ทำป้ายโฆษณาออกมาได้แหวกแนว จนชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างล้นหลาม   ผ่าม!!   ป้ายที่มีคุณป้าใส่เสื้อคอกระเช้าสีเขียว พร้อมข้อความ “มาเที่ยวป่า อย่ากระแดะ – ป้าเบียร์” “แพต้นน้ำ ยินดีต้อนรับ *จะรับไม่รับ แล้วแต่อารมณ์ ถ้ายังไม่ได้โทรจองเชิญกลับจ้า ไม่ได้หยิ่ง แต่ทำไม่ทันโว้ยย!!!!!!” “ที่เบอร์ไม่ใช่ใบ้หวย ไว้โทรจองนะอยากคุย xxxxxxxxxx ลูกค้ารอนานแล้วจะอารมณ์เสียกันอีก เพราะฉะนั้นโทร! เบอร์มีให้แล้ว!”   ภาพดังกล่าวสร้างเสียงตอบรับอย่างล้มหลาม มีการกดไลก์และแชร์ต่อออกไปอีกหลายพันครั้ง ส่วนใหญ่แล้วชาวเน็ตต่างตลกขบขันกับป้าย หลายคนชื่นชอบ หลายคนอยากจะลองไปทานที่แพว่าสมคำร่ำลือไหม แต่ก็มีบางส่วนมองว่าเป็นการใช้ถ้อยคำที่ตรงและออกจะเกรี้ยวกราดไปเล็กน้อย… .   จนกระทั่งทาง “แพต้นน้ำ เขาใหญ่ The raft” ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับป้ายดังกล่าว ว่าทางแพไม่ได้ทำไว้ป้ายเดียวนะ เพราะยังมีป้ายมุ้งมิ้ง สำหรับลูกค้าที่โทรจองไว้แล้ว อย่างเช่นป้ายนี้……

เคยส่งของไปให้ผู้รับ แล้วของหายกลางทางรึเปล่า!? แต่สำหรับเจ้าของสวนส้มรายนี้ ของหายไม่พอ แต่ส้มที่ไปถึงลูกค้า ดันเป็นคนละแบบกับที่เขาส่งไปให้อีกด้วย…เกิดอะไรขึ้นกันนี่!?   คุณ Suriyah Sikka เจ้าของสวนส้มในอ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กร้องเรียนบริการของ “บริษัทส่งของ” เจ้าหนึ่งลงบนเฟซบุ๊กของเขาเอง โดยเขาใช้กล่องซึ่งสั่งทำเฉพาะ มีรูปภาพและชื่อแบรนด์ “พรพิพัฒน์” ติดอยู่ ขณะที่ในกล่องก็จัดแบ่งส้มใส่ในล็อคภายในกล่องอย่างดี ตามภาพนี้…   สภาพของกล่องก่อนส่ง   โดยมีกำหนดการเดิมสำหรับการส่งของดังนี้… – กำหนดเดิม 14 ธันวาคม 2561 ของจะถึงลูกค้าที่จังหวัดพัทลุง   – วันที่ 15 ธันวาคม 2561 ของยังไปไม่ถึงลูกค้า จึงเช็กอีกครั้ง พบว่าของจะไปถึงในวันที่ 17   – วันที่ 17 ธันวาคม 2561 ของยังไปไม่ถึง   – วันที่ 18 ธันวาคม 2561 ของไปถึงลูกค้า บาร์โค้ดหน้ากล่องเป็นแบบเดิม แต่!!…

ทำไมตอนไปรับรถใหม่ ถึงต้องถือป้ายรูปกุญแจ แล้วถ่ายรูปกับเซลด้วยครับ !? นี่คือคำถามที่ชาวเน็ตคนหนึ่งสงสัย และตั้งกระทู้ขึ้นมาในเว็บบอร์ดอันดับหนึ่งของไทยอย่าง “พันทิป” พร้อมกับแคปชั่นและภาพประกอบดังนี้…   “บางทีก็สงสัยว่าทำไมต้องยืนถ่ายด้วย ไอ้ผมก็นึกว่าได้รางวัลมา พอดีตอนไปซื้อบ้านไม่เห็นต้องยืนถือป้ายรูปกุญแจบ้านเลย ใครเป็นคนเริ่มธรรมเนียมนี้คนแรก แล้วสมัยก่อนมีแบบนี้มั้ยครับ ?”   กระทู้ดังกล่าวที่ตั้งไว้เมื่อปี 2560 อยู่ดีๆ ก็มีคนเข้าไปอ่านและคอมเมนต์มากมายอีกครั้งหนึ่ง จนตอนนี้มีมากถึง 200 คอมเมนต์เข้าไปแล้ว ต่างคนต่างก็ช่วยออกความเห็นไปตามความคิดที่แตกต่างกัน   บ้างก็บอกว่าเก็บไว้เป็นผลงานของเซลและศูนย์รถนั้นๆ   บางคนก็พยายามวิเคราะห์ ว่าทำไมต้องถ่ายกันนะ!?   หรือบางคนก็มาเล่นมุก ว่าเอาไว้ทวงหนี้นั่นเอง (ฮ่าาาา)   แต่โดยรวมแล้ว ส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นการสร้างเครดิตให้กับทั้งเซลและศูนย์รถแห่งนั้นนั่นเอง .   แต่… เมื่อมีคอมเมนต์ที่บอกว่า การโพสต์รูปแบบนั้นมันดู “เห่ย” และ “สะเหล่อ” คุณคิดว่าจะเกิดดราม่าไหม!? เกิดสิ!!! (อ๊ะ ไม่ต้องสับสน ราชบัณฑิตบอกว่า “สะเหล่อ” เขียนงี้นะ ^^)   เมนต์ที่มาตอบคนแรก ถามกลับว่ามันเห่ยขนาดนั้นเลยหรือ!?…

กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่กำลังกลายเป็นที่พูดถึงในขณะนี้เกี่ยวกับเรื่องของคุณครูกับนักเรียน ในครั้งนี้เป็นเรื่องของสมาชิกเว็บไซต์พันทิป สมาชิกหมายเลข 5016739 ที่ได้มาตั้งกระทู้ถามความคิดเห็นชาวพันทิปในหัวข้อ   “ลูกสาว 4 ขวบ ถูกครูที่โรงเรียนว่าให้กลับมาย้อมผมสีดำ”   คุณแม่ได้ให้รายละเอียดว่า ลูกสาวของตนอายุ 4 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเธอได้ไปรับลูกที่โรงเรียนตามปกติ คุณครูได้แจ้งกับเธอว่า ให้น้องไปย้อมผมกลับเป็นสีดำ เพราะผมสีน้ำตาลมันผิดระเบียบ และคุณแม่ก็ยืนยันกับทางคุณครูว่า ลูกสาวมีผมสีน้ำตาลอ่อนตามธรรมชาติ ไม่เคยทำสีผม เพราะคงไม่มีพ่อแม่ที่ไหนให้ลูกย้อมผมตั้งแต่ 4 ขวบ มีแต่สารเคมีทั้งนั้น ทางคุณครูก็สวนกลับมาว่า  “น้องไม่ใช่เด็กลูกครึ่ง เคยเห็นพ่อก็เป็นคนไทยไม่น่าจะผมสีนี้ได้ ยังไงทางโรงเรียนก็ต้องให้น้องทำผมสีดำให้ถูกระเบียบ ถ้าไม่ทำก็ให้คุณแม่พาออกไปเรียนโรงเรียนอินเตอร์ดีกว่าค่ะ ถ้ายังเรียนที่นี่มันเป็นตัวอย่างไม่ดีให้เด็กคนอื่น “   ทั้งนี้คุณแม่ยังเสริมอีกว่า เธอเคยให้น้องที่เป็นสาวประเภทสองไปรับลูกสาวที่โรงเรียน พอกลับมาลูกบอกว่า “ไม่ให้น้าไปรับแล้วได้ไหม โดนครูล้อว่าน้าเป็นตุ๊ด”   คุณแม่ได้ตั้งคำถามกับชาวพันทิปเอาไว้ว่า 1. ควรให้ลูกออกจากโรงเรียนนี้แล้วย้ายไปโรงเรียนเอกชนดีไหม 2. หรือควรเอาเรื่องคุณครูคนนี้ แล้วให้ลูกเรียนต่อที่นี่ เนื่องจากคิดว่าโรงเรียนรัฐบาลวิชาการแน่นกว่าเอกชน   ตัวอย่างความเห็นของชาวพันทิป .   ท้ายที่สุดคุณแม่ได้มาอัปเดตหลังจากที่ได้ไปคุยกับผอ.โรงเรียนแห่งนี้เป็นที่เรียบร้อย…

ผู้ใช้เว็บไซต์พันทิปชื่อ เกิดมา3โล4 ได้โพสต์กระทู้เตือนภัยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการซื้อของออนไลน์ ในกรณีนี้ เป็นการซื้อโทรศัพท์มือถือผ่านทางแอปพลิเคชั่น Shopee เครือข่ายซื้อขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ เจ้าของเรื่องได้มาแชร์ประสบการณ์การสั่งซื้อของออนไลน์ในครั้งนี้ว่า น้องสาวของเขาได้สั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy Note 9 จากร้านดังใน Shopee จากโปรโมชั่น 12.12 ที่ผ่านมานี้   น้องสาวได้ทำการสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือจากร้านชื่อดัง รีวิวดี ไม่น่ามีปัญหา จึงได้กดสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือไปในมูลค่า 26,024 บาทแต่พอสั่งซื้อของไปแล้วก็เริ่มมีปัญหาตามมาทีละอย่าง 1. สั่งไปแล้วไม่มีการตอบรับ ต้องไลน์ไปถามส่วนตัว จนทางร้านตอบกลับมาว่า รอทางศูนย์จัดส่งให้ในวันศุกร์ 2. พอได้รับเครื่องก็ได้มีการตรวจเช็คของ ทุกอย่างดูใหม่จนคิดว่าเป็นเครื่องมือหนึ่ง แต่ดันมาโป๊ะแตกตอนที่เข้าแอพลิเคชั่น Galaxy Gift (Galaxy Gift เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับแลกของขวัญ ของรางวัลจากทาง Samsung)     3. เมื่อเช็คข้อมูลใน Galaxy Gift แล้ว พบว่ามีการลงทะเบียนใช้งานเรียบร้อยแล้ว จึงได้สอบถามเจ้าหน้าที่ของ Samsung Support ได้รับคำตอบกลับมาว่าซึ่งถ้าเป็นเครื่องมือ 1 จริงๆ…

กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาในโลกออนไลน์ หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Worawut Yoojamrus ได้ทำการร้องเรียนสื่อเกี่ยวกับเรื่องของมลภาวะทางเสียงที่เขาได้เจอ เจ้าของเรื่องพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง ปทุมธานี ได้ร้องเรียนพฤติกรรมของเพื่อนบ้านว่า เพื่อนบ้านของเขาได้ก่อเสียงดังทุกวัน โดยจะเป็นเสียงตัดเหล็ก เจียรเหล็ก สร้างความรำคาญเป็นอย่างมาก “สวัสดีครับทุกคนที่มาอ่าน ผมมีเรื่องเดือดร้อนจะมาร้องเรียนต่อพี่ๆ สื่อทุกช่องครับ เนื่องด้วยว่าบ้านผมเป็นบ้านเดี่ยว เป็นหมู่บ้านปิด แต่บ้านที่อยู่ใกล้ๆบ้านผมนั้น ได้ทำการ ตัดเหล็ก,เจียรเหล็ก,โยนเหล็ก,อ็อคเหล็ก,ใสไม้,ตัดไม้,ทาสี ทำแทบจะทุกวัน สร้างความรำคาญด้วยเสียงอันดัง ให้แก่เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง บ้านผมอยู่ใกล้ที่สุด ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ต้องปิดประตูหน้าต่างมิดชิดแทบทุกครั้งที่ทำ(พอปิดก็อบอ้าวอีก) จะนอนพักบนห้องก็ไม่ได้ เพราะเสียงดังเกินไป เวลาอยู่หน้าบ้านเราจะดูแลสัตว์เลี้ยง จะพักผ่อน จะโดนรบกวนตลอดเวลา ด้วยเสียง,ฝุ่นฟุ้งตอนตัดไม้,เหม็นกลิ่นทาสี,เหม็นไหม้ จากประตูเข้าบ้านโปร่งรับลมดีต้องเปลี่ยนเป็นประตูทึบ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย ก็ยังเสียงดังเหมือนเดิม ห้องผมอยู่ตรงด้านหน้าผมต้องทนมาตลอด จนผมทนไม่ไหวต้องทุบหน้าต่างห้องตัวเองออก แล้วโบกปูนปิดทึบเพื่อกันไม่ให้เสียงเข้า ห้องผมจะมีสองหน้าต่าง ด้านหน้าและด้านข้าง ด้านหน้าผมปิดปูนโบกทึบไปเลยเพราะเสียงเข้ามาเต็มๆ ส่วนด้านข้างผมเอากระจกหนาๆ มาครอบหน้าต่างอีกทีครับ ผมต้องปิดตายทั้งสองข้างเพราะเสียงมันดังรบกวนมากๆ อยากจะถามพี่ๆ สื่อทั้งหลายว่ามีหน่วยไหนที่รับผิดชอบดำเนินการให้เขาเลิกทำงานเหล็กได้บ้างครับ?? สร้างความเดือดร้อนมาตั้งแต่ปลายปี 60 จนถึงทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ 24/9/61 อบต. มาเจอกำลังตัว กำลังทำก็เตือนไป 13/11/61 ตำรวจสายตรวจมาเจอตัว กำลังทำก็เตือนไป…

นับว่าเป็นอีกเรื่องราวหนึ่งที่ถูกเปิดเผยจากผู้เป็นพ่อ โดยเกิดเป็นเหตุอันน่าสลดกับลูกสาวของเขาเอง ซึ่งระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มชายวัยรุ่นทั้งหมด 5 คน กระทำการฉุดลูกสาวของเขา และทำการข่มขืนรุมโทรม เรื่องราวดังกล่าวเปิดเผยมาจากคุณ ก๊อสด์ เดนด์เด้ฮ์ ร้านสัก สระบุรี ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยในวันที่ 17 ธันวาคม 2018 เวลา 23.39 น.   โดยสามารถสรุปประเด็นได้ดังนี้ – คุณพ่อซึ่งอยู่กรุงเทพ ได้รับแจ้งว่าลูกสาวตัวเอง ถูกวัยรุ่น 5 คน ฉุดเข้าไปกระทำชำเราในร้านขายของข้างถนน – เพื่อนของเขาและพลเมืองดี ช่วยกันจับผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด – คุณพ่อรีบเดินทางกลับไปยัง จ.สระบุรีในทันที – มีชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็น อบต. และเป็นญาติกับหนึ่งในผู้ก่อเหตุ เสนอเงิน 30,000 บาท เพื่อขอให้เรื่องจบ – คุณพ่อมาถึงสถานที่ ด้วยความโมโหจึงทำร้ายร่างกายวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ พ่อของวัยรุ่นคนนั้น และญาติที่อ้างว่าเป็น อบต. – คุณพ่อไม่ยอมความ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุไปสถานีตำรวจ – จากนั้นพาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล – ภายหลังครอบครัวผู้ก่อเหตุแจ้งความฐานทำร้ายร่างกาย…

วันที่ 13 ธันวาคม 2018 ได้มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Aquaman เข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเรา ซึ่งแน่นอนว่าแฟนๆ ฮีโร่หลายคนไม่พลาดเรื่องนี้และเข้าชมเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน แต่ประเด็นที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือ เมื่อการเข้าชมภาพยนตร์ในโรงที่ควรจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานและเพลิดเพลินกลับต้องถูกรบกวนโดยเด็กน้อยซะนี่     วันที่ 13 ธันควาคม 2018 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อวา Gins Jirakulsawat โพสต์ระบายความในว่า “ใครจะไปดู อควาแมน หนังดีมาก แม่งดีแบบไม่รู้จะติยังไง แต่ถ้าจะไปดู…ขอเตือน หารอบที่ไม่มีเด็กละกัน ใครมีลูกเต้ามึงมัดลูกมึงไว้บ้านเลยสัส อย่าเอาไปเป็นมลพิษในโรงหนัง กูแม่งอยากจะลุกไปเอาตีนกระทุ้งหน้าแม่งยกครอบครัวเลยสัส ลูกมึงแหกปากร้อง เบบี้ชาร์ค ทุกครั้งที่เห็นฉลาม แล้วยิ่งแม่ดุมัน แม่งยิ่งแหกปากร้องดังกว่าเดิม ลูกก็แหกปาก แม่ก็ ชู่วๆๆๆๆ พระนางกำลังจ้องตากันบนเรือ แม่ง …เด็กแหกปาก แม่มันก็ชู่วๆๆๆ โอ้พระเจ้า พังเหี้ยๆ … มึงมัดลูกมึง ล่ามแม่งไว้บ้าน รอแผ่นเถอะ ไอ้ชิบหาย #หนังแม่งกาวจนเด็กสติแตกคาโรง ***สำหรับไอ้พ่อแม่วุฒิภาวะควายๆ ตลาดล่างที่คิดว่าลูกมึงเป็นพระเจ้า ทำไรก็เลอเลิศมาด่ากูอะ ลูกมึงเด็กไร้เดียงสาอะกูเข้าใจ แต่….ไอ้สัส คนอื่นเขาจ่ายเงินไปดูนะเว้ย กูทำงาน กูต้องหาวันว่างไปดู…

กลายเป็นเรื่องราวแห่งความประทับใจ เมื่อมีพลเมืองดีคนหนึ่งเก็บเงินที่ตกเอาไว้ได้พร้อม ‘บิลค่าน้ำประปา’ ก็เลยตัดสินใจเอาเงินไปจ่ายค่าน้ำให้ รวมไปถึงฝากเงินเอาไว้กับพนักงานเผื่อว่าเจ้าของจะมาเอาคืน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า สราวุฒิ บุญมา ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมเล่าเหตุการณ์ในคลิปว่า “มีคนทำตังค์ตกอยู่ที่หน้าเซเว่นหน้าปากซอยจอมเทียน 7 น่าจะมาจ่ายค่าน้ำ ข้างในมีเงินสดกว่า 9 พันบาท และบิลค่าน้ำอีก 4 ใบ”   คลิปเหตุการณ์คลิปแรก   ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะนำบิลดังกล่าวไปจ่ายค่าน้ำในเซเว่นฯ ให้ พร้อมกับฝากใบเสร็จและเงินทอนไว้ที่พนักงาน พร้อมกับแจ้งว่าหากใครเป็นเจ้าของก็ให้มารับไป   คลิปเหตุการณ์คลิปที่สอง   โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดไลก์กว่า 1,100 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 1,500 ครั้งเลยทีเดียว ชาวเน็ตหลายคนต่างก็เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมกับการกระทำของพ่อหนุ่มคนนี้กันอย่างล้นหลาม พร้อมทั้งอวยพรให้เขาพบเจอแต่กับความสุขความเจริญ จากการทำความดีในครั้งนี้     หลังจากนั้นไม่นานก็มีคอมเมนต์จากชาวเน็ตเข้ามารายงานสถานการณ์ว่าขณะนี้ เจ้าของเงินได้มารับเงินและใบเสร็จคืนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   ทำความดีต้องได้รับการชื่นชม ขอให้มีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปนะครับผม   ที่มา : สราวุฒิ บุญมา

หลังจากเป็นข่าวครึกโครมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดก็มีข่าวว่าหนุ่มสมญา ‘นัท โอนไว’ ถูกหลอกเงินอีกแล้ว โดยคราวนี้ตกหลุมพรางสาวโปรไฟล์นางฟ้าในเฟซบุ๊ก โดนหลอกเงินไปหลายหมื่น!! โดยในเรื่องนี้ทางเพจ 123 คนดีมีน้ำใจ ได้เป็นผู้เปิดเผยเรื่องราวนี้ ซึ่งทางเพจได้ลงภาพของหนุ่มนัทพร้อมกับหลักฐานการโอนเงินต่างๆ พร้อมกับใส่แคปชั่นเอาไว้ว่า      “ยังไม่เข็ด และไม่เคยเข็ด #นัทโอนไว เจอสาวสวยอึ๋ม ทักเฟซมาคุย คุยไปคุยมา ขอยืมเงิน 2 วัน โอนไป 36,100 บาท” แอดมิน ปวดหัวแต่เช้ามืดเลย เมื่อมีสายจากชายชื่อ “นัท โอนไว” โทรมาหา โอดครวญแต่เช้า “พี่ครับ ช่วยผมหน่อยครับ ผมถูกสาวในเฟซบุ๊ก ที่ทักแชทเข้ามาคุยด้วย แล้วก็มาขอยืมเงินผม เมื่อวันที่ 11-12 ธ.ค.61 โอนไป 4 ครั้ง รวมเงิน 36,100 บาท ได้เงินแล้ว เฟซบุ๊กก็บล็อก ไลน์ก็หาย เบอร์โทรก็ติดต่อไม่ได้ มันคุ้นๆ ว่า เหมือนผมจะโดนหลอกอีกแล้วครับพี่ ไอ้เราก็หมั่นไส้เจ้านัทเป็นทุนเดิม ก็เลยด่าอบรมสั่งสอนไปชุดใหญ่…

Google เป็นเว็บไซต์ search engine รายใหญ่ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลก ซึ่งเว็บไซต์นี้จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกแรกๆ ที่เราจะใช้ค้นหาสิ่งต่างๆ ที่เราอยากรู้ในโลกออนไลน์ ซึ่งในปี 2018 นี้ ทาง Google ก็ได้เผยผลการจัดอันดับคำที่คนไทยใช้ค้นหามากที่สุดในเว็บไซต์ Google เรามาดูกันดีกว่าว่าชาวไทยสนใจอะไรมากที่สุดในปีนี้   หมวด คำค้นหาประจำปี   1. บุพเพสันนิวาส 2. บอลโลก 2018 3. เมีย 2018 4. เลือดข้นคนจาง 5. สัมปทานหัวใจ 6. เกมเสน่หา 7. หวย 30 ล้าน 8. โอ วรุฒ 9. ลิขิตรัก 10. เด็กใหม่   หมวดข่าวในประเทศ   1. ข่าวถ้ำหลวง 13 ชีวิต 2. ข่าวหวย 30 ล้าน…

หลังจากที่เป็นประเด็นถูกวิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์ กับกรณีของนางธมลวรรณ พานแพน หรือ เจ๊ใส่ทองอวดบัตรคนจน ที่ชาวเน็ตสงสัยว่าไปเบียดเบียนสิทธิ์ของคนอื่นหรือไม่ เนื่องจากมีทองใส่ และมีรถขับ     ทั้งนี้ จากรายการทุบโต๊ะข่าวเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 เปิดเผยว่านาย สุทัศน์ แก้งสิงห์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านน้ำแข็ง สามีนางธมลวรรณ ได้กล่าวถึงฐานะของทั้งสองคน โดยพวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านเช่าเดือนละ 3,000 บาท ข้าวของเครื่องใช้ไม่มีอะไรมากมาย แม้แต่ตู้เย็นก็ยังไม่มี อีกทั้งยังมีรายได้รวมกันโดยหักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเพียง 10,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น     ในส่วนของบัตรคนจนนั้น ภรรยาได้ทำบัตรที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว  เนื่องจากตอนนั้นไม่มีรายได้ จนกระทั่งมาคบหากับตนได้ประมาณ 10 เดือน จึงมาทำงานส่งน้ำแข็งที่เชียงราย และเริ่มมีชีวิตที่ดีขึ้น     ด้านทรัพย์สินรถยนต์ประกอบไปด้วย กระบะเก่า 1 คัน และกระบะป้ายแดงจ่ายเป็นค่าออกรถ 4,000 ดาวน์ 0% และจะต้องส่งเดือนละ 7,000 บาท…

หากพูดถึงเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดที่หนึ่งในประเทศไทยแล้ว “มัน ใหญ่ มาก” หรือ “Big Mountain Music Festival” เทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นที่โบนันซ่า เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา แต่ทว่า ในปีนี้ถือว่าโชคไม่ดีสักเท่าไหร่ เมื่อฟ้าฝนไม่เป็นใจให้กับเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่นี้เสียเลย ฝนกระหน่ำลงมาจนพื้นที่จัดงานรวมถึงเต็นท์อยู่ที่อาศัยข้างในนั้นเละเทะไปหมด จนหลายคนแซวกันว่ามันคือ “มัน เละ มาก” แทน   เละตั้งแต่ทางเข้า   ยันเวที   จนไปถึงที่พักอย่างเต็นท์   เพื่อจะให้คนอื่นเห็นภาพ Big Mountain Music Festival ครั้งนี้เละขนาดไหนจึงมีหนุ่มคนหนึ่งนามว่า Kritsada Phoncharatได้โพสต์รูปภาพลงเฟสบุ๊กพร้อมกับแคปชั่นว่า “รีวิวบิ๊กเมาท์เท่นครับ #ให้ภาพเล่าเรื่อง​ #bmmf9​ #bmmf​” ภาพของเขาจะเละขนาดไหนนั้น เราไปรับชมกันเลย   เปิดมาภาพแรกก็พีคแล้ว ของใครลืมไว้โปรดมารับคืนด้วยครัช   ฉันจะพาเธอลอยยยย ลอยยยยย   ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์   สภาพของใครๆ หลายๆ คนนี่ ตรงไหนนอนได้ก็นอนตรงนั้นแหละ! . . . .…

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกบริเวณในประเทศไทยจริงๆ ในกรณีไร้ระเบียบวินัยในการจอดรถ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้คนผ่านไปมาเยอะมากๆ อย่างเช่นตลาดสดหรือสถานพยาบาลต่างๆ จึงเกิดเป็นศึกแย่งชิงที่จอดรถเป็นประจำ หากปล่อยให้เกิดขึ้นบ่อยๆ จนเริ่มติดนิสัยว่า ‘ใครๆ เค้าก็ทำกัน’ ต่อให้ผิดกฎหมายก็ไม่สนใจ ต่อให้ตักเตือนก็แล้วก็ยังจะอ้างเหตุผลร้อยแปดขึ้นมาอ้างอีก     สำหรับกรณีนี้ถูกเผยแพร่มาจากคุณ Saharat Suwantae ได้พูดถึงในประเด็นการจอดรถบริเวณข้างเกาะกลางถนน อันเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว เพราะส่วนใหญ่ที่เห็นจะจอดซ้อนบริเวณด้านซ้ายริมถนน แต่กรณีนี้เป็นกลางถนนแทน…     ใจความจากโพสต์ระบุว่า… “มีวิทยุเรียกให้ไป ว.4 เนื่องจากมีรถทำผิดกฎจราจร (จอดรถบริเวณเกาะกลางถนน) จำนวนสองคัน ก็เข้าไปดำเนินการตามกฎหมาย (เขียนใบสั่ง) พอเขียนเสร็จมีวิทยุเรียกให้ไปทำความเข้าใจกับประชาชน ไปถึงก็มาถามว่าผิดอะไร ทำไมจอดไม่ได้ จะลงไปประกอบศาสนกิจไม่ทันแล้ว ไม่มีที่จอดรถ ก็ชี้แจงไปว่าต้องจอดชิดขอบทางด้านซ้าย ซึ่งคนอื่นเค้าทำได้ แต่มีแค่สองคันนี้ที่มาจอดตรงนี้จึงต้องดำเนินการ รู้ว่าไม่มีที่จอด แต่ไม่ควรมาจอดตรงนี้ คนอื่นเขาทำได้ แต่สองคันนี้ทำไม่ได้ ซึ่งหากผมไม่ดำเนินการ ก็ขัด ว.0 ผู้บังคับบัญชาอีก ทีนี้มันยังไง ทำผิดแต่ไม่ยอมรับผิด กลับอ้างอะไรก็ไม่รู้ จะเอาแต่ความสะดวกสบาย หาว่ารังแก ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าเราผิดซะเอง…

กลายเป็นประเด็นที่ถูกแฉกันอยู่เรื่อยๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมของแท็กซี่ โดยล่าสุดนี้เกิดเหตุไม่ประทับใจกับ ‘คิมอูริ’ พิธีกรชื่อดังและอดีตสไตล์ลิสต์ของวงเกิร์ลกรุ๊ป T-ARA จากประเทศเกาหลีใต้ เจ้าตัวถึงกับโพสต์ลงอินสตาแกรมของตัวเองกันเลย   .   จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 5 ธันวาคม 2561 คิมอูริ เดินทางมาถึงประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อน และได้ขึ้นรถแท็กซี่สีชมพู ทะเบียน ทห 8397 ทว่ากลับถูกพาขับรถวันประมาณ 20 นาที ไม่ยอมกดมิเตอร์ อีกทั้งยังขอคิดเงินเพิ่ม เมื่อเขาไม่ยอมก็ถูกไล่ลงจากรถ คนขับยังจะคว้าไม้มาไล่ตีอีก   .   ด้านนายกมล คนขับแท็กซี่คนดังกล่าว ได้เปิดเผยกับทางรายการทุบโต๊ะข่าวว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 15.00 – 16.00 น. รับผู้โดยสาร 4 คน จากสยามพารากอน โดยมีปลายทางอยู่ที่สำเพ็ง แต่เมื่อผู้โดยสารเปิดแผนที่ให้ดูปลายทางจริงๆ กลับกลายเป็นสาทร ก็เลยปฏิเสธชี้ให้ไปคันอื่น โดยบอกว่าไม่ไปทางนั้น เพราะจะกลัวไปส่งรถเข้าอู่ไม่ทัน     พอหลังจากที่ผู้โดยสารลงจากรถไป แต่ไม่ยอมปิดประตู ก็เลยเกิดอาการโมโหคว้าแกนผ้ากระดาษออกมา ขู่ให้พวกเขาปิดรถ…

นี่อาจเป็นอีกหนึ่งกรณีแปลกๆ แต่ก็เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย เมื่อหนุ่มคนหนึ่งไปหลอกช่างแต่งหน้าว่าช่วยแต่งหน้าเพื่อช่วยง้อแฟน แต่ว่าที่จริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น เพราะเขาตั้งใจปลอมตัวไปปล้นร้านทอง!! โดยเรื่องราวดังกล่าวนี้ทางเพจ Sister Makeup ได้เป็นผู้นำมาตีแผ่ในโลกออนไลน์ให้ได้รับรู้ทั่วกัน ซึ่งทางเพจได้เล่าอธิบายลำดับเหตุการณ์ให้ฟังเป็นแคปชั่นดังนี้    ต้นโพสต์ดังกล่าว   “โจรหลอกให้แต่งหน้าเอฟเฟคให้ เพื่อไปปล้นร้านทอง! ขอแชร์เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยช่างแต่งหน้าด้วยกันค่ะ ก่อนอื่นครูจอยขอเล่าให้ฟังตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยนะคะ เมื่อวันที่ 29 พย มีนักเรียนข้อความมาบอกว่า มีลูกค้าอยากแต่งหน้าเอฟเฟค ไปง้อแฟน อยากเปลี่ยนเป็นคนละคน เอาให้แฟนจำไม่ได้เลย ทีแรกเค้าจะจ้างนักเรียน แต่ น.ร. บอกว่า แต่งเอฟเฟคแผลได้ แต่ถ้าจะเปลี่ยนต้องถึงมือครู จากนั้น นร. เลยส่งต่องานและให้เบอร์โทรครูจอยแก่ลูกค้า ครูถามว่ามี Facebook คนนั้นมั๊ยอยากเห็นหน้า นร. บอกไม่มี ไม่รู้จัก เค้าโทรมาหา จากนั้นลูกค้าแอดไลน์ครูจอยมา (รูปโปรไฟล์เป็นรูปผู้หญิงใส่ชุดเจ้าสาวนั่งฟังผู้ชายที่ใส่ชุดเจ้าบ่าวเล่นกีต้าร์ น่าจะเป็นเค้าและภรรยา )   รูปภาพประกอบที่อยู่ภายในโพสต์   29/11/61 ช่วงบ่ายสองลูกค้าคนนั้นโทรมา บอกว่าอยากแต่งหน้าแปลงโฉม ไปง้อแฟนเอาให้แฟนจำไม่ได้ ขอแต่งวันนี้เลยได้ไม๊ ครูจอยแจ้งว่า ติดสอนนักเรียน วันนี้ไม่มีเวลาแต่งให้ เค้าบอกว่า…

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ถือเป็นช่วงที่วงการเพลงป็อปของประเทศไทยอยู่ในยุครุ่งเรือง และค่ายกามิกาเซ่ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งค่ายที่ประสบความสำเร็จในเวลานั้น ด้วยศิลปินในสังกัดชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โฟร์-มด, เค-โอติก (K-OTIC), หวาย รวมถึง เฟย์ ฟาง แก้ว (FFK) กลุ่มศิลปินหญิงที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้ก็ได้     ใน พ.ศ. 2550 เฟย์ ฟาง แก้วได้ออกอัลบั้มชุดแรกที่มีเพลง “MSN (^_^ )” ที่เป็นชื่อเดียวกับโปรแกรมแชทยอดนิยมขณะนั้นและเพลงนี้ก็ได้กลายเป็นกระแสเป็นอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นแล้วงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ไม่ว่าจะการที่สมาชิกวงเติบโตขึ้น มีภาระต้องรับผิดชอบมากขึ้น วันที่ 28 มีนาคม 2559 ทั้งสามคนก็ได้โพสต์โซเชียลมีเดียว่ายุติการทำวงอย่างเป็นทางการ เรียกได้ว่าในวันนั้นแฟนๆ ของ เฟย์ ฟาง แก้วต่างต้องรู้สึกเศร้าใจ      แต่วันนี้เรามีข่าวดีมาบอกแฟนคลับของ เฟย์ ฟาง แก้ว เมื่อมีคนไปเจอช่องยูทูบ FayeFangKaewofficial ที่เพิ่งเปิดในวันที่ 3 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมานี้พร้อมกับวิดีโอทีเซอร์เพลง และแคปชั่นว่า “ไหนๆ กลับมาเจอกันทั้งที…

แม้ว่าทุกวันนี้จะมีระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาทำหน้าที่แทนระบบจดหมายดั้งเดิม ทว่ายังไม่สามารถทดแทนได้ทั้งหมด เพราะจดหมายบางอย่างจำเป็นจะต้องใช้ในรูปแบบเอกสารอยู่ เช่นเดียวกับระบบการแจ้งชำระค่าบริการต่างๆ เนื่องจากสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงได้ หากเกิดกรณีผิดพลาดขึ้นมา แต่สำหรับในพื้นที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด จังหวัดระยอง ต่างก็ประสบปัญหาไม่ได้รับเอกสารและพัสดุเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย     ล่าสุดนี้ภายในกลุ่ม ‘แชร์ทุกเรื่องเมืองระยอง Rayong We Share’ โดยมีคุณ ตรัยรัตน์ อ่อนสมทรง ทำการโพสต์ภาพกองจดหมายที่ถูกทิ้งเอาไว้ พร้อมกับระบุเอาไว้ว่า “ยังมีอีกเยอะ อยากรู้ ปณ.ไหน ถามมานะครับ”   กองจดหมายขนาดใหญ่ถูกนำมาเททิ้ง บริเวณชุมชนบ้านพลง . . . .   ทางด้านสำนักข่าวอมรินทร์ จากรายการ ข่าวอรุณอมรินทร์ ระบุว่าเป็นฝีมือของไปรษณีย์มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง โดยพบกองจดหมายดังกล่าวบริเวณ ชุมชนบ้านพลง     จากโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้ามาคอมเมนต์จำนวนมาก บ้างก็บอกว่าที่บ้านของตัวเองในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้รับจดหมายมานานหลายเดือน   . . .   ทั้งนี้ทางด้านคุณ Pattamawan…

บ่อยครั้งที่เราจะได้เห็นเกี่ยวกับกรณีการปล่อยห้องเช่าให้กับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นทั้งในรูปแบบห้องเช่า หอพัก อพาร์ทเม้นท์ รวมไปถึงระดับคอนโด ส่วนมากจะเป็นปัญหาของการไม่จ่ายค่าเช่า ผลัดเดือนต่อเดือน จนถึงขั้นติดต่อไม่ได้ อีกหนึ่งปัญหาที่พบกันได้บ่อยก็คือ ผู้เช่าไม่ดูแลรักษาสภาพภายในห้อง ปล่อยให้เป็นไปตามมีตามเกิด โดยไม่เคยคิดจะดูแล (พาลไปถึงไม่ยอมจ่ายค่าเช่า)   ทางด้านเพจ Red Skull หรือ โหลกแดง ได้ทำการเปิดโพสต์จากเจ้าของห้องคอนโดรายหนึ่ง ระบุรายละเอียดเอาไว้ดังนี้…   “แอดคะ.. รบกวนแชร์ข่าว ปล่อยคอนโดให้เช่า โดนเบี้ยวไม่จ่ายค่าเช่า ไม่ติดต่อ แม่บ้านและนิติบอกมีกลิ่นออกมาจากในห้อง พยายามติดต่อน้องเค้า หลังจากที่ไม่จ่ายค่าเช่า 2-3เดือน จ่ายช้าเดือนแรกเราก็ตามบ้าง เข้าใจว่าไม่ค่อยอยู่ห้อง ไปทำงานตปท. บ่อยๆ หลังๆ ก็ก็ติดต่อไม่ได้ เปลี่ยนเบอร์ เราพยายามทุกทางแล้ว เพื่อให้มาเคลียร์ค่าเสียหาย จนเราตัดสินใจหากุญแจเปิดห้อง เข้าใจว่ากม. คุ้มครองผู้เช่า แต่เราก็กลัวว่าจะมีอะไรตายในห้องมั้ย น้องคนนี้ชอบแอบเลี้ยง​ หมาเลี้ยงแมว ทั้งที่เราก็เตือนแล้ว ทำใจเปิดห้องนานหลายวันค่ะ บวกกับหากุญแจด้วย พอเปิดเท่านั้นช็อคกันเป็นครึ่งชม. ต้องถอยหลังออกนอกห้อง มาทำใจ แล้วเข้าไปใหม่ไปถ่ายรูปไว้ หาเฟสของนาง จนติดต่อนางได้…

การลอยกระทงหลายๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ที่ประชาชนชาวไทยสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน แต่เพื่อนๆ เคยรู้ไหมว่ากระทงที่เราลอยกันออกไปนั้น สุดท้ายแล้วมันจะไปจบลงที่ไหน? มันลอยออกไปสู่ทะเลครับ แล้วสักพักมันก็จะถูกคลื่นซัดกลับเข้ามาสู่ฝั่งเหมือนเดิม แน่นอนว่าส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อคนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น โดยเฉพาะส่วนที่เป็น ‘ตะปู’ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Fon Vorapan ได้โพสต์เรื่องราวพร้อมกับรูปภาพแสดงให้เห็นถึงปัญหาของบรรดาตะปูที่ใช้ยึดชิ้นส่วนต่างๆ ของกระทงเข้าด้วยกัน     ในโพสต์เขียนข้อความเอาไว้ว่า “ปัญหาตะปูจากกระทงเต็มหน้าหาด เพื่อนๆ คงต้องรบกวนให้ช่วยแชร์กันด้วยนะ เมื่อวานฝนกับน้องสาวหลังจากเก็บขยะจนสะอาด เช้านี้ตั้งใจว่าจะได้ลงเล่นน้ำซักที พบว่าขยะเยอะกว่าเมื่อวานค่ะ” “มองเผินๆ ไม่มีอะไร พอดูใกล้ๆ ตะปูทั้งนั้นเลย วันนี้ฝนไม่มีเวลาเก็บซะด้วย ทำได้แต่แจ้งเพื่อนบ้านพักข้างๆให้ระวัง และแจ้งเจ้าหน้าที่บ้านพัก ดีที่เช้านี้น้ำทะเลขึ้น พระเลยงดบิณฑบาตทางหน้าหาด ไม่งั้นท่านเดินเท้าเปล่าซะด้วย”   . . . . . .   โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย จนตอนนี้มีคนแชร์ไปถึง 1,000 ครั้งเลยทีเดียว หลายๆ คนต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันไปต่างๆ นานา   บ้างก็ว่า “น่ากลัวมาก คนทำ ไม่คิดถึงเลยเหรอว่าลงน้ำไปแล้วจะเป็นยังไง”  …

สำหรับบรรดาตากล้องทั้งหลายแล้ว ‘งานฟรี’ คงจะเป็นสิ่งที่ต้องพบเจอกันอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็ไม่เต็มใจแต่ก็ทำไงได้เพราะเป็น ‘เพื่อนกัน’ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ทำการโพสต์ประจานตากล้องที่เป็นเพื่อนสนิทกัน เพราะไม่ยอมมาเป็นตากล้องถ่ายในงานแต่งงานให้!?   ภาพในโพสต์เป็นการแคปภาพตอนคุยแชตกันจับใจความได้ว่า   ‘เจ้าบ่าว’ ชวนให้ ‘ตากล้อง’ มาที่งานของตน พร้อมกับบอกให้มาเป็นช่างภาพให้แบบฟรีๆ ซึ่งช่างภาพเองก็เข้าใจว่าเจ้าบ่าวนั้นพูดเล่น อันที่จริงแล้วจะจ่ายค่าจ้างให้ จึงทักมาถามเพื่อความแน่ใจ     แต่ทว่าเจ้าบ่าวดันหมายความว่าแบบนั้นจริงๆ (คือจะให้มาถ่ายฟรีจริงๆ) พอเห็นดังนั้นตากล้องก็อธิบายว่าจำเป็นต้องใช้เงิน และไม่อยากให้แม่ของตนมองเจ้าบ่าวในทางที่ไม่ดี ฝั่งเจ้าบ่าวก็อธิบายว่าถ้าเป็นแม่ของตากล้อง จะไม่ว่าอะไรถ้าถ่ายภาพเป็น แล้วไปถ่ายภาพให้เพื่อนแบบฟรีๆ ตากล้องก็เลยบอกให้เจ้าบ่าวไปหาตากล้องคนอื่นแทน ก็เลยนำไปสู่การโพสต์ประจานแบบที่เห็นนี่แหละครับ     โพสต์ที่เป็นประเด็น     โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 1,600 ครั้ง และแชร์ไปอีกกว่า 1,200 ครั้งเลยทีเดียว   หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนรู้จักฝ่ายตากล้องเข้ามาคอมเมนต์ แนะนำว่าให้จ้างช่างภาพเถอะ แล้วให้ตากล้องไปในฐานะเพื่อนร่วมงานแต่งแทนจะดีกว่าไหม? . .   ทางด้านตากล้องเองก็เข้ามาคอมเมนต์ว่าให้คนรู้จักใจเย็นๆ ก่อนเพราะตนไม่อยากมีปัญหากับเพื่อน   หลังจากนั้นฝ่ายเจ้าบ่าวก็ออกมาตอบประเด็นต่างๆ ให้หายสงสัยตามนี้ครับ .…

ปัจจุบันเรียกว่ากระแสการดูแลสุขภาพกำลังมาแรง หลายคนหันมาทานอาหารเพื่อสุขภาพและออกกำลังกายกันเพิ่มมากขึ้น รวมถึงงานวิ่งหรืองานปั่นจักรยานก็มีมากขึ้นอีกด้วย รวมถึงงานวิ่งจากจังหวัดราชบุรี Smart Charity Run Photharam Half Marathon 2018 ที่เราจะชมในครั้งนี้ด้วย เมื่อเหล่านักวิ่งออกมาแฉว่างานดังกล่าวไม่มีคุณภาพและความปลอดภัยเลยสักนิด     ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2561 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jirayut Soysayumpoo ได้โพสต์ระบายเกี่ยวกับงานวิ่งครั้งนี้ว่า “Smart charity run photharam hlaf marathon 2018 ขอเหตุผลที่สงสัยว่าผู้จัดกิจกรรม เอาเงินไปทำอะไร ค่าสมัคร half 600 มินิ 400 funrun 300 จำนวนคนสมัครประมาณ 500 คนทำไมถึงจัดงานได้แค่นี้ 2. เงินค่าส่งไปรษณีย์ จำนวน 50 บาท ผู้จัดงานบอกว่าจะจัดส่งบิบและเสื้อให้ก่อนวันงาน 2 อาทิตย์ พอใกล้ถึงวันให้ไปรับเสื้อและบิบเอง เงินเอาไปไหน?? 3. ซุ้มจัดงานจ้างเด็กประถมมาทำหรอ ป้ายบอกเวลาไม่มีเป็นแค่ซุ้มลูกโป่งธรรมดา 4. นักวิ่งระยะ ฮาฟมาราธอน…

เราอยู่ในยุคที่อะไรต่อมิอะไรก็ดูรวดเร็วไปซะหมด…รวมไปถึงการจีบสาวเองก็เช่นกัน!?   เรื่องมีอยู่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อว่า Phatthraphorn Wasuwat ได้แชร์เรื่องราวที่ตัวเองถูกหนุ่มคนหนึ่งทักมาหาทำทีท่าว่าจะจีบเธอก็เลยตอบไปว่า ‘มีอะไรป่าวคะ?’ แต่กลับโดนบล็อกเฟซไปเฉยเลย!?   ลองไปอ่านโพสต์แบบเต็มๆ กันครับ   “แอดมาเอง ทักมาเอง แล้วบล็อกไปเอง งงในงง ดูคำพูดคำจาและโปรดใช้วิจารณญาณเอง ที่จริงต้องขอบคุณเรานะที่เราอุตส่าห์กดรับคุณเป็นเพื่อน ไม่ได้ขอให้แอดมาป่ะคะ? แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง เห็นชะนีตอบไปแบบนั้นนางคงเสียเซล์ฟไม่น้อย คิดว่าแค่ออกรายการนี้แล้วคิดว่าตัวเองดังขอให้คิดผิดนะ เพื่อนๆ น้องๆ เราก็ออกนะรายการนี้เยอะแยะก็ไม่เห็นทำนิสัยแบบนี้กันสักคน ขอนะคะนิสัยแบบนี้ไม่ขอเป็นเพื่อนในเฟส ไม่ต้องแอดมา ยิ่งมาม่อหรือมาชงนี่เลิกคิดไปได้เลย ยิ่งไม่อยากจะเสวนาด้วย ขี้รำคาญอะค่ะ ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ตัดสินเองละกัน ว่าเราทำถูกหรือผิด นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ไม่รับแอดคนไม่รู้จัก และไม่อยากจะรู้จักใครให้มันมากมายขนาดนั้น สุดท้ายนี้รู้จักเท่าที่เราอยากให้รู้จักก็พอ ปล. เชิญคอมเมนต์ตามอัธยาศัย ใครเคยเจอมาเม้าท์มอยได้ ไม่ได้อยากทำแบบนี้นะ และไม่เคยทำแบบนี้กับใครจริงๆ คนในเฟซและคนที่ติดตามเราจะรู้ แต่นางทำตัวเองเองค่ะ ถ้าประจานกลับก็เชิญ เพราะเราพิมพ์แค่ประโยคเดียวจริงๆ ใครไม่เห็นด้วยเชิญต่อว่าเราได้นะคะ แมนพอค่ะ #มั่นหน้า2018″   .   ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันเลยยยย!!   โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 10,000 ครั้งและแชร์ไปอีก…

แม้ว่าเราอาจจะเคยเห็นข่าวที่ไม่ค่อยดีนักกับเรื่อง ‘อาหารโรงเรียน’ จากที่ผ่านๆ มา แต่ว่ามีนี่อาจเป็นข่าวดีๆ ที่น่าชื่นชมจริงๆ เพราะมีโรงเรียนแห่งหนึ่งที่จัดอาหารให้กับนักเรียนได้อย่างแสนจะน่ากิน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kannika Bunrod ได้เป็นผู้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ โดยได้แชร์ภาพมื้ออาหารของที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านท่าแลหลา จ.สตูล ที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้เด็กๆ      “แค่เห็นอาหารที่ลูกกินที่โรงเรียนแล้ว… ก็รู้สึกดีที่คิดไม่ผิด… ให้ลูกมาเรียนที่นี่.. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา… กินดีกว่าอยู่ที่บ้านอีก” แคปชั่นโพสต์ดังกล่าว   และนี่คือภาพของอาหารที่เด็กๆ ได้กินในแต่ละวัน   โดยทั้งนี้เว็บไซต์ springnews ได้รายงานว่าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา ต.กำแพง อ.ละงู  จ.สตูล มีเด็กๆ มาเรียนจำนวน 65 คน และมีคุณครูเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น แต่ก็สามารถจัดหาอาหารดีๆ เช่นนี้ให้กับเด็กๆ ได้ ด้วยงบมาณเพียง 20 บาทต่อคนเท่านั้น!! และยังได้รับรางวัลต่างๆ อย่างรางวัลมาตรฐานจากสุขาภิบาลระดับจังหวัด 3 ปีซ้อนด้วย     ทางด้าน น.ส.ฝาตีม๊ะ  ชายา  หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล  เล่าว่า  ส่วนตัวดีใจที่ผลลัพธ์จากเตรียมอาหารกลางวันให้เด็กๆ ทำให้ผู้ปกครองชื่นชอบ…

หนึ่งในปัญหาที่ยังคงสร้างความหงุดหงิดให้กับชาวกทม. ได้อยู่เสมอ คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด นอกจากการจราจรที่สุดแสนจะติดขัด ไม่ว่าจะไปส่วนไหน ทางใด มันก็จะติดกันได้ตลอด ขยับทีจิ๊ดเดียว ไฟเขียว 5 วินาทียังคงทุ้มอยู่ในใจ… เรื่องแบบนี้ ความอเมซิ่งกรุงเทพ อาจจะต้องยกให้เลยก็ได้ เวลาที่มีรถไฟผ่านทางตัดเส้นถนน ตามปกติแล้วยานพาหนะที่สัญจรผ่านจะต้องหยุด ให้รถไฟไปก่อน แต่เนื่องจากกรณีนี้ ดันมีรถติดคารางรถไฟ และรถไฟกำลังจะมาพอดี     คลิปด้านบนนี้ ถูกนำมาเผยแพร่โดยคุณ Takawit Thibthong โดยระบุว่าเป็นบริเวณทางเชื่อม ARL – MRT เพชรบุรี – มักกะสัน พร้อมกับแคปชั่นว่า “ยอม ขนาดรถไฟยังต้องหยุดให้” มีชาวเน็ตร่วมแสดงความรู้สึกเกือบ 10,000 ครั้ง และถูกแชร์ไปอีกมากกว่า 25,000 ครั้ง   สิ่งที่เห็นจากภายในคลิป แสดงให้เห็นว่าไม่มีใครสนใจอะไรเลย   เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นเดียวกัน   รถไฟจะต้องชะลอความเร็ว และหยุดรอให้รถยนต์สัญจรออกไปก่อน   คุณ Takawit ได้แสดงความคิดเห็นใต้คลิปนี้เช่นเดียวกัน  …

ในยุคที่โลกไร้พรมแดนดังเช่นปัจจุบัน เพื่อที่จะให้คนทั้งโลกสามารถเข้าใจความหมายของสิ่งเดียวกันได้ ภาษาสากลหรือสัญลักษณ์สากลจึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยสัญลักษณ์สากลที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ และสามารถเข้าใจได้ในทันทีก็มีอยู่มากมายหลายแบบ เช่นสัญลักษณ์ผู้พิการ, สตรีมีครรภ์, ผู้สูงอายุหรือสัญลักษณ์ห้องน้ำ และประเด็นที่เราจะนำมาพูดถึงในคราวนี้ก็คือเรื่องของสัญลักษณ์ห้องน้ำ เมื่อล่าสุดประเทศไทยได้เปิดตัว “ICONSIAM” ห้างสุดอลังการแห่งใหม่ แต่สัญลักษณ์ของห้องน้ำในห้างออกแบบมาได้ชวนงงเหลือเกิน     ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2018 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Phanidchanok Nidnok Damnoentam ได้โพสต์ภาพและแคปชั่นว่า “เมื่อวันก่อนตอนไป Icon Siam เดินเลี้ยวไปเข้าห้องน้ำ เราก็เดินไปตามทางตามสัญชาตญาณ ผ่านห้อง (ที่คิดว่าเป็น) ห้องน้ำชาย เลี้ยวไปตามทางเพื่อไปห้องน้ำหญิง แบบไม่ได้ตั้งใจดูป้ายสัญลักษณ์อะไรน่ะ จนกระทั่งตรงหน้าห้องน้ำ (ที่คิดว่าเป็น) ห้องน้ำหญิง มีคุณป้าคนนึงแกยืนจ้องป้ายสัญลักษณ์หน้าห้องอยู่นานมาก ทำนองว่า นี่ห้องน้ำหญิงจริงป่ะวะ เราเลยหยุดและฉุกคิดเลยว่า เออว่ะ ใช่ห้องน้ำหญิงมั้ย มองไปที่สัญลักษณ์ ก็เห็นดังภาพ อีห่า ไม่สื่อสารอะไรเลย เลยลองเปิดประตูใจสู้เข้าไปด้านใน ที่พอเข้าไปแล้วก็ดันยังไม่ถึงห้องน้ำเลยอีก ต้องผ่านประติมากรรมใดๆ เข้าไปอีกสองโค้ง ถึงจะได้ยินเสียงผู้หญิงชิทแชทกันอยู่ เลยรู้ว่า เราเข้ามาถูกห้องแล้ว     พอทำธุระเสร็จ…

ในสมัยก่อน เมื่อจะเดินทางไปต่างจังหวัดกลับบ้านเกิด รถไฟไทยมักจะเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ เพราะด้วยค่าตั๋วที่ไม่แพงมากนัก อีกทั้งเป็นประสบการณ์การเดินทางที่ไม่มีรูปแบบไหนเหมือน จนกระทั่งกาลเวลาผ่านไป เริ่มมีทางเลือกที่มากขึ้นและดีกว่า แต่ทว่ารถไฟไทย ยังคงมาตรฐานเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง…     ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา คุณ Athikhom Khoms Khunawut ได้ทำการบันทึกภาพพร้อมกับเล่าผ่านโพสต์ส่วนตัว เกี่ยวกับสิ่งที่เจอระหว่างการเดินทางจาก กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ด้วยรถไฟ ระหว่างการโดยสารด้วยรถไฟไทยนั้น เขากลับมีความรู้สึกที่ผสมกัน เนื่องจากยังพบเห็นผู้โดยสารบางคนที่ต้องมานั่งตามพื้น นอนหน้าห้องน้ำบนขบวนรถไฟ อันเนื่องมาจากเป็นตั๋วชั้นสาม และเขาก็เคยเห็นภาพแบบนี้มาเมื่อ 30-40 ปี ที่แล้ว   ภาพถ่ายที่แนบมาใต้โพสต์ เผยให้เห็นว่าผู้โดยสารรถไฟชั้น 3 จะต้องนั่งบนพื้น .   บางส่วนก็นอน   อีกทั้งท้ายโพสต์ ยังพูดถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การรถไฟ ว่าด้วยเรื่องของพฤติกรรมที่ไม่สมควรทำ     หลังจากที่ภาพสะเทือนใจของการโดยสารด้วยรถไฟไทย ได้ถูกแชร์ออกไปในวงกว้างกว่า 7,000 ครั้ง หนึ่งในนั้นก็มีคุณ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์…

ว่ากันด้วยเรื่องของกฎระเบียบในสถานศึกษา โดยเฉพาะในระดับโรงเรียนชั้นมัธยม ส่วนใหญ่แล้วจะมีข้อบังคับด้านการแต่งกาย ทรงผม และชุดอุปกรณ์การเรียน ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน นักเรียน หรือผู้ปกครอง กรณีดราม่าในครั้งนี้ เกิดขึ้นกับโรงเรียนสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน หลังจากที่ได้ทำการประกาศอย่างเป็นทางการ เรื่องกฎระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการสวมใส่เสื้อกันหนาวนักเรียน   .   ใจความสำคัญจากเอกสารดังกล่าว เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายของการศึกษาอบรมให้นักเรียนเป็นผู้มีระเบียบวินัย และส่งเสริมให้ประพฤติปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ มีคุณธรรมจริยธรรม อยู่อย่างพอเพียง เป็นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยยึดระเบียบของโรงเรียนสา ว่าด้วยการควบคุมความประพฤตินักเรียน พ.ศ.2561 โรงเรียนจึงเห็นสมควรประกาศระเบียบปฏิบัติ เกี่ยวกับการสวมเสื้อกันหนาวนักเรียน ขึ้นเพื่อเป็นแนวปฏิบัติ ดังนี้ 1) โรงเรียนสา ไม่อนุญาตให้นักเรียน สวมใส่เสื้อกันหนาวที่ไม่ใช่เสื้อประจําโรงเรียนสา 2) นักเรียนที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบนี้ ครูที่ปรึกษา ครูประจําวิชา หรือครูที่พบเห็น นักเรียนสวมใส่เสื้อ กันหนาวที่ไม่ใช่เสื้อประจําโรงเรียนสา สามารถดําเนินการตรวจ และยึดเสื้อที่ไม่ใช่เสื้อประจําโรงเรียน พร้อม กับระบุชื่อนักเรียน ชั้น เลขที่ และนําส่งที่ฝ่ายกิจการนักเรียน มีขั้นตอนการดําเนินการ ดังนี้ –…