Category: รวมเรื่องมหัศจรรย์

เชื่อว่า คงมีผู้อ่านจำนวนไม่น้อยเลยที่ชื่นชอบการดูคลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ขณะบีบสิว พอดูแล้วมันจะรู้สึกแบบว่า คันไม้คันมืออยากจะบีบออกไปให้หมดๆ และมันก็ดูเพลินจากการที่เห็นสิวกำลังถูกกำจัดออกทีละเม็ดๆ อาาาา ฟินนนน และนี่ก็คือคลิปวิดีโอการบีบสิวแบบปราบเซียน ที่ #เหมียวบู้บี้ ขอบอกว่าใครใจไม่แข็ง อย่าดู มิเช่นนั้นอาจจะต้องอวสานอาหารเช้า กลางวัน เย็น ก็เป็นได้   เตือนแล้วนะ ใจไม่แข็งอย่าดู    คลิปวิดีโอคลิปนี้เป็นขั้นตอนในการนำก้อนซีสต์ออกจากร่างกาย เจ้าก้อนนี้ติดอยู่ที่ไหล่ของชายคนนี้มาตั้งแต่เขาอายุ 16 ปี   เริ่มเจาะก็พุ่งออกมาเป็นสายแล้ว   ทะลักออกมาไม่หยุด งืมมมม   เจ้าก้อนซีสต์นี้มีขนาดใหญ่มาก ยิ่งบีบ ไขมันสีขาวก็ยิ่งพุ่งออกมาใหญ่เลย   เจ้าหน้าที่ได้บีบจนก้อนไขมันนี้ออกจนหมด เหลือไว้แต่เพียงรอยแผลขนาดใหญ่   ก้อนซีสต์ขนาดใหญ่นี้ ฝังลึกใต้ผิวหนังเขามานาน  ต้องใช้เวลานานกว่าจะบีบเอาไขมันออกจนหมด ใครที่ดูคลิปวิดีโอนี้จนจบได้นี่นับถือใจจริงๆ ส่วน #เหมียวบู้บี้ ขอบอกเลยว่า เย็นนี้ ไม่ต้องทานข้าวแล้ว ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ   ที่มา unilad

เชื่อว่าเพื่อนๆ คนไหนที่อ่านการ์ตูนเรื่อง นารูโตะ ต้องเคยเห็นภาพร้านราเมงประจำหมู่บ้านโคโนฮะที่ชื่อ “อิชิรากุราเมง“ กันมาบ้างล่ะ เพราะมันเป็นร้านราเมงที่นารูโตะของพวกเราเข้าไปกินอยู่เป็นประจำนั่นเอง ก็ราเมงมันเป็นของโปรดของคุณพระเอกคนนี้เลยนี่นา     แต่เพื่อนๆ รู้รึเปล่าว่าเจ้าร้าน “อิชิรากุราเมง” ที่ว่าเนี่ย มันมีที่มาเป็นตัวเป็นตนอยู่จริงๆ บนโลกด้วยนะ แถมยังมีตัวตนอยู่มาก่อนหนังสือของนารูโตะจะออกด้วยนะ ร้านราเมงที่ว่านี้ตั้งอยู่ที่ Kyuusandaimae ในเขตฟุกุโอกะ ดูเหมือนว่าคุณ Kishimoto Masashi นักเขียนการ์ตูนเรื่องนารูโตะจะเคยบอกว่า เขาเป็นขาประจำของร้านนี้เลย ดังนั้นก็ไม่แปลกที่ร้านนี้จะไปโผล่อยู่ในการ์ตูนของเขา โชคร้ายที่ร้านแห่งนี้ปิดตัวลงไปแล้วเมื่อปี 2014 ถ้าอย่างนั้นเราควรจะทำอย่างไรถึงจะได้ลิ้มรสชาติราเมงที่นารูโตะทานดี ต้องบอกว่าโชคดีที่แม้ว่าตัวร้านหลักที่เป็นแรงบันดาลใจจะปิดลงไปแล้ว แต่เรายังคงมีร้านอิชิรากุราเมงอีกสาขาอยู่ในเขต ฟุกุโอกะ นั่นเอง โดยที่ร้านแห่งนี้เป็นร้านสาขาชิเมะ ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินฟุกุโอกะ ที่นี่ขายราเมงหลากหลายรูปแบบตามแบบฉบับร้านราเมงทั่วๆ ไป อย่างไรก็ตาม มาถึงร้านราเมงต้นแบบอย่างนี้แล้ว จะไม่สั่ง ‘ราเมงมิโซะ’ ที่เป็นของโปรดของนารูโตะได้อย่างไร   ราเมง มิโซะ หมูชาชู ราคา 850 เยน (ประมาณ 250 บาท)   หมูชาชู ชิ้นหนาๆ พร้อมต้นหอม และถั่วงอก  …

อาหารเป็นสิ่งที่เราต้องเจอวันละหลายครั้งทั้ง มื้อเช้า มื้อกวางวัน มื้อเย็น (แถมบางคนยังมีก่อนนอนอีกนะ) จึงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าเราจะเกิดเบื่ออาหารขึ้นมา เพราะว่ามันมีหน้าตาที่ซ้ำซากจำ เปิดกล่องมาทีไรก็ต้องเจอแต่ข้าวราดแกงหน้าตาซ้ำๆ ที่เรากินกันมาจนกระเพาะแทบจะเดาได้ว่าวันนี้มันจะได้รับอะไร ดังนั้นจึงมียูสเซอร์อินสตาแกรมท่านหนึ่งชื่อว่า @made_by_helga ลงมือสร้างสรรค์เรื่องราวต่างๆ ขึ้นโดยใช้อาหารเป็นตัวสื่อ เพาะว่ามันสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถเปิดมิติใหม่ๆ ให้กับการตกแต่งอาหารสำหรับคนที่พบเจอได้อีกด้วย มีประโยชน์อย่างนี้ ทำไมเราไม่นำเอามาแต่งเล่นบ้างนะ???   อ่านอะไรอยู่อ่ะ ไหนบอกหน่อยสิ   มันจะบินหนีไปไหมอ่ะ   หวัดชื่อฉันชื่อข้าวโพด ยินดีที่ได้รู้จัก   ถ้ามีองุ่นอย่างนี้จริงๆ จะซื้อมากินทุกวันเลยเอ้า   เป็นถาดสีที่น่ากินมากถาดหนึ่ง   มนุษย์สปาเก็ตตี้ได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว   มีแต่ช้างกินกล้วย อันนี้กล้วยสร้างช้าง   แก่แล้วสินะ ผมขาวซะขนาดนี้   ช่วยหนอนน้อยที่น่าสงสารตัวนี้ด้วยเถิด   หมียักษ์แสนน่ารัก   นี่แหนะๆ จิ้มซะให้เข็ด   เป็นทรงผมที่ดูหยึยๆ ยังชอบกลเหมือนกันนะ   ดีนะที่ซีลไว้ก่อนเลยไม่ตกมาแตก   ใครอยากลองมานั่งชิลที่บ้านก็ย่อมได้นะ   นี่มันภูเขาไฟฟูจินี่นา  …

เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่เราในด้านต่างๆ ได้ และในทุกๆ วันมันก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นอีกเยอะ และในตอนนี้ก็มีอีกหนึ่งไอเทมที่ดูเหมือนกับว่าจะมาช่วยดูแลสุขภาพของเราได้เป็นอย่างดี เพราะว่ามันเป็นหน้าจอที่สามารถใช้ติดกับผิวหนังเราได้อย่างไม่เกะกะใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังบอกสุขภาพของเราในช่วงเวลาดังกล่าวได้อีกด้วย!!     โดยมหาวิทยาลัยโตเกียวร่วมกับบริษัท Dai Nippon Printing ได้เป็นผู้พัฒนาหน้าจอที่ว่านี้ ซึ่งพวกเขาบอกเอาไว้ว่าอุปกรณ์ตัวใหม่นี้จะช่วยผู้สูงอายุในเรื่องการดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น และเรื่องที่สำคัญที่สุดคือมันไม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่ซับซ้อนใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับเจ้าหน้าจอสุดไฮเทคตัวนี้ มันมีคุณสมบัติที่โดดเด่นเป็นอย่างมากในเรื่องความบางของมัน ซึ่งหน้าจอแสดงผลได้ทำขึ้นมาจากไฟ LEDs จำนวน 384 ดวง พร้อมด้วยสายไฟที่ติดอยู่บนแผ่นยางทำให้สามารถยืดหยุ่นได้มากกว่าปกติถึง 45 เท่าเลยทีเดียว     ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์นี้ยังสามารถติดไว้บนผิวหนังได้ต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 1 สัปดาห์ โดยไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนังหรือความรำคาญแต่อย่างใด จนถึงขั้นที่ว่าบางคนอาจจะใช้ชีวิตประจำวันไปจนลืมว่ามีมันติดเอาไว้บนแขนเลยก็เป็นได้ “ด้วยเจ้าสิ่งนี้ มันจะให้คุณสามารถแบ่งปันข้อมูลด้านสุขภาพให้กับแพทย์ประจำตัวได้อย่างรวดเร็ว เพื่อที่เวลาเกิดอะไรขึ้นทางแพทย์จะได้สามารถติดต่อกลับไปยังผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที” Takao Someya แพทย์ประจำมหาวิทยาลัยโตเกียว ที่เป็นผู้พัฒนาอุปกรณ์นี้กล่าว     นอกเหนือจากการตรวจสอบสุขภาพของผู้ใช้อย่างเช่น การตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจโดยใช้คลื่นไฟฟ้าหัวใจแล้ว เจ้าสิ่งนี้มันยังสามารถเตือนเวลาการใช้ยาของเรา รวมถึงให้เราสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้อีกด้วย “แค่วางเจ้าหน้าจอนี้ลงบนผิวหนัังของคุณ คุณก็จะรับรู้ได้เลยว่ามันเป็นเสมือนกับส่วนหนึ่งของร่างกาย ในตอนที่มีข้อความส่งมาถึงหน้าจอบนมือคุณ คุณก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดกับผู้ส่งได้มากขึ้น” “ผมคิดว่า ถ้าเป็นคนสูงอายุอย่างคุณปู่ได้รับข้อความจากหลานๆ ว่า ‘หนูรักปู่นะ’ ผ่านหน้าจอนี้ เขาน่าจะรู้สึกอบอุ่นขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย”…

เป็นเรื่องที่รู้กันโดยทั่วไปอยู่แล้วว่าการวาดภาพหรือการสร้างงานศิลปะแต่ละชิ้นให้ออกมาสวยงามและน่าสนใจนั้นต้องใช้ทักษะในการวาดภาพ ความพยายาม และความอดทนอย่างสูง แต่ก็มีศิลปินท่านหนึ่งได้ยกระดับความน่าประทับใจขึ้นมาอีกขั้น David Bayo ศิลปินจากเมือง Strasbourg ประเทศฝรั่งเศสที่เรียนรู้ทักษะการวาดภาพด้วยตัวเอง ได้ใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมงในการจิ้มปากกาเป็นจุดอย่างพิถีพิถันลงในกระดาษ ทำให้เกิดเป็นภาพที่มีรายละเอียดสวยงาม     ในการที่จะชื่นชมความสามารถของเขาอย่างแท้จริงนั้น คุณจะต้องขยับเข้ามาและสังเกตงานของเขาใกล้ๆ แล้วคุณจะเห็นจุดจำนวนนับล้านที่เขาใช้เวลาเป็นร้อยๆ ชั่วโมงในการจิ้มทีละจุด แสดงให้เห็นถึงความใจเย็นในการสร้างงานศิลปะชิ้นนี้ขึ้นมาได้ Bayo ได้เริ่มชิ้นงานของเขาด้วยการวาดโครงร่างคร่าวๆ ด้วยดินสอ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มใส่รายละเอียดเพิ่มเติมด้วยจุดเล็กๆ นับล้านจุด ถึงแม้ว่าจะเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาและความพิถีพิถันอย่างมาก แต่ผลที่ได้ออกมานั้นถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก     ศิลปินชาวฝรั่งเศสท่านนี้ได้สร้างผลงานด้วยทักษะการจุดปากกาชิ้นแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วยผลงานที่มีชื่อว่า Bauhaus ภาพวาดอันสวยงามที่วาดขึ้นมาด้วยจุดนับล้าน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 90 ชั่วโมงในการวาด แต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เขาก็ได้สร้างผลงานใหม่อีกครั้งที่ดูน่าประทับใจกว่าเดิม ซึ่งใช้เวลากว่า 300 ชั่วโมงและประกอบไปด้วยจุดกว่า 3 ล้านจุด   .   Bayo ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “จุดที่ผมอยากให้ทุกคนได้เห็นก็คือความประณีตของเส้นและจุดปากกาของผม ที่ทำให้เกิดเป็นภาพที่ดูสลัวๆ และค่อยๆ จางทำให้ภาพรวมที่ออกมานั้นดูเหมือนคนจริงๆ ผมสามารถใช้เวลาเป็นร้อยชั่วโมงในงานเพียงชิ้นเดียว ค่อยๆ ใส่รายละเอียดที่ผมชอบ”   คลิปวิดีโอผลงานที่ใช้จำนวนจุดประมาณ…

Daniel Rengering  ตำรวจหนุ่มสุดหล่อจากรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่โด่งดังจากภาพการเซลฟี่ก่อนที่จะเข้าปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุเฮอริเคนเออร์มา ดังจนหลายๆ คนต้องสืบหาว่า พี่เขาเป็นใคร มาจากไหน หลังจากที่ชาวเน็ตสืบหาว่าคุณตำรวจท่านนี้เป็นใคร แล้วนำข้อมูลมาเผยแพร่ก็มีเหล่าบรรดาสาวๆ อีกไม่น้อยเลยที่ตกหลุมรักในความหล่อ ความเท่ และความใจดีของคุณตำรวจท่านนี้ จนมีคนสมัครเป็นแฟนคลับเพียบ     เมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ คุณตำรวจได้ออกมาโปรโมตปฏิทินการกุศลที่ได้รับความร่วมมือกับทางกรมตำรวจ Gainesville ในรัฐฟลอริดา โดยรายได้ทั้งหมดจะนำเข้าสู่มูลนิธิ Basketball Cop มูลนิธิที่จัดตั้งเพื่อสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจและเด็ก ทางคุณตำรวจ Daniel ก็ได้นำใบหน้าหล่อๆ มาเชิญชวนให้หญิงสาวทั้งหลายได้อุดหนุนปฏิทินการกุศลนี้ ราคาก็เพียงแค่ชุดละประมาณ 945 บาท เท่านั้นเอ๊งงงงง   ภาพเรียกน้ำย่อยจากปฏิทิน   เหตุผลที่เราต้องอุดหนุนปฏิทินการกุศลอันนี้ค่ะ ของมันต้องมี   คุณตำรวจแซ่บมากกกก   อ่ะสาวๆ เตรียมพรีออเดอร์กันรัวๆ   ภายใต้กล้ามแน่นๆ นั้นก็แฝงความใจดีไว้อย่างเต็มเปี่ยม   ยามออกปฏิบัติหน้าที่ก็หล่อ เท่สุดๆ   แม่ขา ขอเงินซื้อปฏิทิน 10 อัน ค่ะ ช่วงนี้อยากทำบุญมาก…

เชื่อว่าทุกคนคงจะคุ้นเคยกับการ์ตูนสุดคลาสสิกในวัยเด็ก นั่นก็คือการ์ตูนเทพนิยายจาก Disney ที่เราได้ดูกันอยู่บ่อยๆ เหล่าบรรดาเจ้าชายเจ้าหญิงรูปงามที่อยู่ในการ์ตูนนั้นมักจะทำให้เราในสมัยเด็กจินตนาการไปว่า สักวันหนึ่งเราอาจจะได้มีโอกาสได้สัมผัสเจ้าหญิงเจ้าชายตัวเป็นๆ สักครั้ง มันคืออีกหนึ่งความฝันในวัยเด็กของใครหลายๆ คน ทางเว็บไซต์ Insider ได้ทำการรวบรวมบรรดาเจ้าชายเจ้าหญิงจากราชวงศ์ทั่วโลกที่มีลุคละม้ายคล้ายคลึงกับเจ้าชายเจ้าหญิงจากเทพนิยายสุดคลาสสิกของ Disney ทำให้เรารู้ว่า เจ้าชายเจ้าหญิงที่มีอยู่จริงนั้นเป็นอย่างไร   1. เจ้าชาย Carl Philip แห่งสวีเดน ดยุกแห่งแวร์มลันด์ ทรงคล้ายกับ Flynn Rider จากเรื่อง Tangled   2. เจ้าหญิง Mette-Marit แห่งนอร์เวย์ ทรงคล้ายกับ Elsa ในเรื่อง Frozen   3. เจ้าหญิง Charlene แห่งโมนาโก ทรงคล้ายกับ Aurora จากเรื่อง Sleeping Beauty   4. เจ้าหญิง Charlotte แห่งเคมบริดจ์ พระธิดาแห่งดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงคล้ายกับเจ้าหญิง Anna จากเรื่อง Frozen  …

ฉีกกฎการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในแบบเดิมๆ ที่ต้องใส่สุดกับชุดเจ้าสาวภาพสวยๆ ไปได้เลย เมื่อคู่รักจากย่าควีนส์ ในสหรัฐอเมริกาได้เปลี่ยนแนวทางการถ่ายรูปของพวกเขาให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่ปัจจุบันอย่าง ป๊อปคัลเจอร์ Jackie Nguyen และ Nate Huntley สองคู่หมั้นที่กำลังวางแผนจะแต่งงานกันในเร็วๆ นี้ได้รู้สึกว่า ถ้าพวกเขาจะถ่ายพรีเวดดิ้ง พวกเขาขอถ่ายในแบบใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเดิม ทั้งคู่เลยจัดแจงให้เพื่อนช่างภาพของพวกเขา Isaac James มาช่วยเป็นธุระให้หน่อย     และด้วยความที่เดิมที่ทั้งสองนั้นเป็นคู่รักที่ชอบในวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์อยู่แล้ว ฉะนั้นพวกเขาก็เลยหยิบเอาสิ่งที่ทั้งคู่ชอบมาเป็นธีมในการถ่ายภาพซะเลย และนี่ก็คือผลงานที่พวกเขาช่วยกันสร้างสรรค์ออกมา   Marty McFly และ Doc Brown จาก “Back To The Future”   ถ้าบอกว่าทั้งสองเป็นนักคอสเพลย์ก็เชื่อนะ เล่นเอาซะเหมือนเลย   Michael Scott และ Dwight Schrute จาก “The Office”   Ellie Sattler และ Alan Grant จาก…

สำหรับใครที่ชื่นชอบการซดน้ำซุปร้อนๆ หรือชอบกินเมนูเส้นล่ะก็ อาจจะถูกใจกับเรื่องราวที่ #เหมียวเวจจี้ นำมาฝากกันวันนี้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากความหอมของน้ำซุปราเมงแล้ว เจ้าซุปสีฟ้าพร้อมเสิร์ฟจากร้าน Kipposhi ประเทศญี่ปุ่นนี้ก็ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างมาก หลังจากที่พวกเขาได้โพสต์ภาพเมนูดังกล่าวลงบนอินสตาแกรม   อืม… น่ากินอ่าาา!!   ถึงแม้ว่าเจ้าเมนูสุดแปลกนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตาสักเท่าไหร่ แต่ด้วยความพิเศษของมันก็ทำให้หลายๆ คนอยากที่จะลองไปสัมผัสความอร่อยดูสักครั้ง ร้าน Kipposhi ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยคุณ Kozuimi เจ้าของร้านผู้ออกแบบและสร้างสรรค์เมนูนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสวยงามของท้องทะเลสีฟ้าจากฮาวายนั่นเอง     สีสันของซุปจากร้าน Kipposhi นั้นอาจจะดูแปลกตาไปสักหน่อย แต่ในส่วนประกอบหลักของเจ้าราเมงถ้วยนี้ก็แทบไม่ต่างจากราเมงทั่วๆ ไปเลย แถมยังปรุงด้วยสูตรพิเศษที่เป็นความลับเฉพาะของร้านอีกด้วย โดยคุณ Kozuimi ได้ใช้ไก่ที่คัดพิเศษบวกกับกรรมวิธีการปรุงแบบจีนโบราณที่เรียกว่า Chintan เพื่อให้ได้น้ำซุปที่ใสและมีรสชาติกลมกล่อม ก่อนที่จะเติมสีฟ้าลงไปเพื่อให้ซุปที่ได้มีสีสันที่แปลกตา และกลายเป็นซุปสีฟ้าถ้วยนี้     ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยสูตรลับของทางร้าน แต่พวกเขาก็ยืนยันว่าส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้นั้นมาจากธรรมชาติล้วนๆ และสีฟ้าที่ได้นั้นก็มาจากสีของสาหร่ายทะเลนั่นเอง   อืม… รสชาติจะเป็นอย่างไรบ้างนะเนี่ย!!   ร้าน Kipposhi ตั้งอยู่ใกล้กับ Tokyo Sky Tree โดยจะเปิดทำการเวลา 11.30 นาฬิกา – 15.00 นาฬิกา และ 17.00 นาฬิกา – 22.00 นาฬิกา…

หลายๆ คนคงมีความฝันที่จะเป็นนักเดินเรือหรือเดินทางรอบโลกด้วยเรือ แต่ก็กลัวว่าเรือจะจม ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปเมื่อมีนวัตกรรมใหม่ชิ้นนี้ The Thunder Child สร้างโดยบริษัทที่มีชื่อว่า Safehaven Marine ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเรือที่ไม่มีวันจม นั่นหมายความว่ามันไม่สามารถพลิกคว่ำได้ ทางบริษัท Safehaven จึงได้ทดลองคว่ำเรือเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากใช้เครนพลิกเรือให้คว่ำลงและรอให้มันกลับด้านขึ้นมาเอง แต่จุดเด่นของ The Thunder Child ไม่ได้มีแค่พลิกหงายกลับด้าน แต่มันยังสามารถเดินทางในคลื่นทะเลที่แปรปรวนได้อีกด้วย     เรือ The Thunder Child หรือ XSV 17 คือนวัตกรรมที่สามารถทำให้สามารถควบคุมได้ 2 ระบบ ทั้งเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดในน้ำทะเลที่นิ่ง และการผ่าทะลุคลื่นทะเลในสภาพอากาศที่แปรปรวน ด้านหน้าของเรือเป็นทรงแหลมและยกสูงขึ้น 24 องศาด้วยโครงเรือที่ออกแบบมาเพื่อให้ทะลุคลื่นได้ เมื่อเรือยกหัวสูงขึ้นจะทำให้เรือสามารถทะลุผ่านคลื่นไปได้และลดแรงกระแทกคลื่นจากหัวเรืออย่างมาก ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่อำนวย   .   ลักษณะสำคัญอีกอย่างคือใบหางเสือที่สามารถปรับเพื่อความเร็วและความสูงของคลื่นได้ ทำให้เรือไม่สามารถจมได้ในสภาพแวดล้อมอันยากลำบากเนื่องจากจะทำให้ความเร็วลดลง ตัวเรือสามารถแล่นเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยสันข้างเรือที่ออกแบบมาเพื่อรักษาสมดุลการเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 60 น็อต หรือประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรือลำนี้สร้างมาจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้สามารถบรรทุกคนได้ถึง 12 คน…

การเดินทางโดยเครื่องบินอาจเป็นสิ่งที่บางคนรู้สึกไม่ค่อยชอบกันซักเท่าไหร่ เพราะการต้องไปนั่งรอในสนามบินที่วุ่นวาย มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าน่าเบื่อหน่ายและไม่ค่อยสะดวกสบายกับการใช้ชีวิตซักเท่าไหร่ แต่ว่าสนามบินทุกที่มันก็ไม่ได้จะทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้นเสมอไปหรอกนะ เหตุผลที่มันจะไม่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อก็เพราะว่า บางสนามบินในต่างประเทศอาจจะมีวิธีการที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับการมานั่งรอของคุณมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นเครื่องมือเหล่านี้ที่ถูกถ่ายมาจากสนามบินหลายๆ แห่งทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่จะสามารถตอบโจทย์ให้กับหลายๆ ปัญหาที่เพื่อนๆ อาจเคยกังวล จะมีอะไรบ้างเราลองไปดูกันเลย   ห้องขนาดเล็กในสนามบินแห่งหนึ่งที่มีไว้ให้คุณนอนหลับพักผ่อนซักงีบ   เครื่องที่จะพิมพ์เรื่องสั้นออกมาให้คุณได้อ่าน ตอนนั่งรออยู่เฉยๆ   ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน ผู้โดยสารสามารถมาฝึกการ CPR ปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้จากเจ้าเครื่องนี้เลย   ที่นั่งที่ทำให้คุณได้ทั้งออกกำลังกายและชาร์จโทรศัพท์   รอนานๆ แล้วรู้สึกกล้ามเนื้อมันยึด ก็ออกมาวิ่งกันซักหน่อยจะเป็นไรไป   ปุ่มแจ้งพนักงานเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ในห้องน้ำ เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ปัญหาให้ทันที หรือปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมในครั้งต่อไป   ถ้าเบื่อการเดินลงบันได คุณจะสไลด์ลงมาแทนก็ได้นะ   เครื่องบิน Cessna ลำเก่า ถูกเปลี่ยนให้เป็นสนามเด็กเล่นสุดเพลิดเพลิน   ห้องน้ำสำหรับน้องหมา การันตีเลยว่าพวกมันจะต้องได้ปลดทุกข์กันอย่างเป็นสุขแน่นอน   สนามบินที่มีช่องเสียบรองรับหัวปลั๊กทั่วทุกมุมโลก   จุดขายน้ำที่ไม่ต้องมีแคชเชียร์ แต่ใช้ความเชื่อใจให้คุณจ่ายเงินเองที่ตู้   ป้ายที่บอกว่าระยะเวลาสำหรับการเดินไปแต่ละประตูต้องใช้เวลาเท่าไหร่   เครื่องมือที่คุณสามารถปรินต์ป้ายต้อนรับไว้สำหรับคนที่คุณกำลังรออยู่   การต่อแถวที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว…

กัญชา เป็นชื่อของสมุนไพรที่พวกเราบางคนรู้จักกันเป็นอย่างดี และเริ่มมีความเสรีมากขึ้นในหลายๆ ประเทศ สิ่งที่เห็นกันบ่อยๆ คือภาพใบหรือลำต้นของพืชชนิดนี้ แต่วันนี้เรากำลังชวนให้เพื่อนๆ ได้ไปดูภาพของกัญชาเมื่อมองผ่านกล้องจุลทรรศน์ ความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ทำให้เราสามารถมองเจ้ากัญชาผ่านกล้องจุลทรรศน์และช่วยให้เรารู้จักกับความสวยงามและความน่าอัศจรรย์ของพืชชนิดนี้ ว่าแล้วก็อย่ารอช้า เราไปดูภาพอันสวยงามตระการตากันได้เลย   ตรงส่วนตาของต้นกัญชาที่ดูแปลกประหลาด ด้วยกำลังขยายของกล้อง 3.5 มม.   ขนเล็กที่ขึ้นมาบริเวณดอกของมัน ถูกมองผ่านกล้องด้วยกำลังขยาย 0.5 มม.   คริสตัลแปลกๆ ที่ติดอยู่บริเวณลำต้น คาดว่าอาจจะเป็นส่วนของสารเคมีที่พบบ่อยในการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิก   ภาพของการกัญชาที่มีการเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ ผ่านกล้องกำลังขยาย 1 มม.   คริสตัลแคลเซียมออกซาเลตที่ติดอยู่ มองผ่านกล้องกำลังขยาย 0.05 มม. ซึ่งหากเราเสพเจ้าสิ่งนี้เข้าไปแค่นิดเดียวก็สามารถทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนว่าปากและลำคอของเรากำลังเผาไหม้   แนวตัดขวางของส่วนก้าน ส่วนสำคัญที่สามาถดึงไปใช้ผลิตเสื้อผ้าไฟเบอร์ได้   ส่วนตัดขวางบริเวณใบ ทำให้เราสามารถเห็นเส้นใยจำนวนมากได้ ด้วยกำลังขยายของกล้องถึง 3 มม.   ตรงส่วนขอบของใบกัญชา   ภาพแสกนอิเล็กตรอน (SEM) ตรงส่วนกลางบริเวณขอบของใบที่ถูกเพิ่มสีเข้าไป ผ่านกำลังขยาย 3 มม.…

กล่าวกันว่ารูปภาพสามารถแทนคำพูดและความรู้สึกนับพันได้ และดูเหมือนกับว่าคำกล่าวนี้จะเป็นจริง เพราะว่าในชีวิตของเราก็อาจจะเคยเห็นรูปภาพที่สามารถถ่ายทอดความรัก ความอบอุ่น ออกมาได้โดยไม่ต้องใช้ตัวอักษรใดมาเขียนกำกับเอาไว้แม้แต่นิดเดียว ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องใช้ในการรับรู้อารมณ์นั้นก็คือ จินตนาการ ที่แต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ศิลปินลึกลับนามว่า Avogado6 ได้ลงมือภาพวาดขึ้นมา เพื่อให้คนที่ได้พบเห็นได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ตีความออกมาว่าเขาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ สำหรับศิลปินคนนี้ เขาไม่เปิดเผยรายละเอียดของตัวเองออกมามากนัก สิ่งที่เราพอจะได้รู้จักเขาก็มีเพียงประโยคสั้นๆ ที่ว่า ‘ผมเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ชื่นชอบสารเคมี’ เพียงเท่านั้น แต่สิ่งที่จะทำให้เราได้รู้จักเขามากขึ้นก็คือ แนวคิดที่ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาดอันสวยงามนั่นเอง   รู้สึกเหงาเหมือนกันใช่ไหม   มันช่างเป็นเรื่องตลกซะจริงๆ   ลูกของเรา   ใครเป็นนายใครให้มันรู้ซะบ้าง   นี่มันสวรรค์ของทาสแมวชัดๆ   บางคนปิดประตูรับบางสิ่ง แต่กลับบางคนก็ยินดีรับอย่างเต็มใจ   ลมหายใจอันมีค่า   จริงๆ แล้วร่างกายของเราอาจจะมีอะไรซ่อนอยู่ก็เป็นได้   จมดิ่งลงในขวดน้ำ   อยู่ในนั้นก่อนนะเจ้าหิมะ   ออกไปสู่โลกภายนอกที่สวยงาม   เครื่องจักรมนุษย์   ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ ก็คงจะเศร้าใจน่าดู   แค่เพียงกระดาษแผ่นเล็กๆ ก็อาจปลิดชีวิตคนได้   ถ้าคนมีเขาเหมือนกวางจะเป็นไงบ้างนะ   เสียสละเพื่อให้เจ้าเจริญเติบโต…

ภาพถ่ายบุคคลของคุณ Haris Nukem ช่างภาพชาวอังกฤษ ที่มีความโดดเด่นและทำให้เราสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของความมืดมนและดูหลอนๆ เหมือนกับกำลังดูหนังสยองขวัญอยู่ซักเรื่องเลยทีเดียว ภาพของสาวๆ ที่มาพร้อมกับรอยเลือดและรอยแผลบนร่างกายของพวกเธอที่เต็มไปด้วยความปวดร้าวและความกลัว คือหนึ่งในเอกลักษณ์ของผลงานภาพถ่ายจากช่างภาพชาวอังกฤษผู้นี้     รอยสักและโทนสีของภาพ ที่ให้ความรู้สึกหลอนๆ   “สำหรับผม การประสบความสำเร็จคือการทำในสิ่งที่คุณอยากทำ จุดมุ่งหมายของผมคือการสร้างผลงานที่ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกกับมัน และจากนั้นก็พูดถึงมัน” ช่างภาพหนุ่มให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลงานของเขา และวันนี้เราก็มีผลงานการถ่ายภาพบุคคลของคุณ Haris บางส่วนมาให้ได้ชมกัน ผลงานที่เรานำมาฝากกันในวันนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ช่างภาพหนุ่มชาวอังกฤษผู้นี้มีความเต็มใจที่จะนำเสนออย่างมาก ส่วนจะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้นไปชมกันได้เลย…     ภาพของหญิงสาวและเรือนร่างของพวกเธอ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาถึงความลึกลับและน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน . . . .   ภาพถ่ายแต่ละภาพชวนให้เราคิดว่ากำลังชมหนังสยองขวัญอยู่ซักเรื่องเลยทีเดียว . . . . .   ทั้งรอยแผลและคราบเลือดที่อยู่บนตัวนางแบบ ช่วยสื่ออารมณ์ในคอนเซ็ปต์ของผลงานออกมาได้เป็นอย่างดี .   และถ้าหากใครอยากชมผลงานภาพถ่ายของคุณ Haris เพิ่มเติมล่ะก็ สามารถเข้าไปชมกันต่อได้ที่เว็บไซต์ harisnukem หรืออินสตราแกรม harisnukem ของเขาได้เลย…   ที่มา sobadsogood

Pierre de Coubertin ผู้ก่อตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เคยกล่าวไว้ว่า “สิ่งที่สำคัญในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกไม่ใช่การชนะ แต่ต้องมีส่วนร่วม สิ่งสำคัญในชีวิตไม่ใช่ชัยชนะ แต่เป็นการต่อสู้” คำพูดนี้แสดงให้เห็นถึงเป้าหมายของการแข่งกีฬาโอลิมปิกได้อย่างชัดเจน เพราะว่าสิ่งสำคัญของชีวิตเรานั้นไม่ใช่การเอาชนะเสมอไป แต่เป็นการที่เราไม่หนีจากสิ่งที่อยู่ข้างหน้าต่างหาก คณะกรรมการโอลิมปิกสากลถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปีคริสต์ศักราช 1894 และนำไปสู่การแข่งโอลิมปิกสมัยใหม่ครั้งแรกที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ในปี 1896 และนับเป็นโอลิมปิกนานาชาติครั้งแรก และได้มีการจัดแข่งเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าด้วยอายุของการแข่งขันอันยาวนานนี้เอง จึงได้มีการบันทึกภาพโดยตากล้องสมัยต่างๆเป็นจำนวนมาก และภาพเหล่านั้นก็ยังคงถูกเก็บไว้เป็นสิ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมการกีฬาอันยิ่งใหญ่ในสมัยของพวกเขาได้เป็นอย่างดี   พิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกปี 1896 ในสนามกีฬา Panathenaic Stadium ในกรุงเอเธนส์   การแข่งขันยิงธนูประเภทหญิงในกีฬาโอลิมปิกที่ลอนดอน ในปี 1908   การแสดงของช้างในกีฬาโอลิมปิกปี 1914   นักกีฬาอเมริกัน Howard P. Drew ระหว่างทางไปโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1912 ในสตอกโฮล์ม   ทีมยิมนาสติกหญิงเดนมาร์กกำลังฝึกซ้อมในกีฬาโอลิมปิกกรุงลอนดอนปี 1908   ทีมชาติไอริชและเยอรมันเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานโปโลรอบสุดท้ายในช่วงโอลิมปิกฤดูร้อน 1908 ในกรุงลอนดอน ทีมไอริชชนะ 3-1   Isao Fujiki และ Takeshi Kuyama…

ว่ากันด้วยเรื่องของศิลปะ การที่จะสร้างงานศิลปะขึ้นมาอย่างหนึ่งได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่จำเป็นต้องใช้ฝีมือ ความชำนาญ ความตั้งใจ พร้อมทั้งความคิดสร้างสรรค์ หลายคนคิดว่างานศิลปะนั้นจำเป็นต้องสวยงามและดูเหมือนจริง แต่ที่จริง สิ่งสำคัญของงานศิลป์ก็คือ “การสื่ออารมณ์” ดังเช่นผลงานศิลปะของ Helen Thompson ศิลปินจากประเทศอังกฤษ ซึ่งได้สร้างประติมากรรมชั้นยอดจากเส้นลวด ใยลินินจากธรรมชาติ และผ้าเก่าๆ ที่ยังใช้ได้ ให้ออกมาเป็นเหล่าน้องหมาที่บอกได้เลยว่า งานของเธอแต่ละชิ้นนั้นมีเอกลักษณ์ และสะท้อนอารมณ์ได้เป็นอย่างดี   อารมณ์ต่างๆ ถูกสอดแทรกเอาไว้ในผลงานของเธอ   เส้นใยต่างๆ ถูกถักทอและแปะติดกันอย่างมีเอกลักษณ์   มีการลงรายละเอียดที่ท่าทางและแววตาของตัวสุนัข   เพื่อสะท้อนอารมณ์และความรู้สึกต่างๆ ออกมาผ่านสีหน้า แววตา และท่าทางของน้องหมา   ภาพนี้อาจทำให้หลายคนรู้สึกโดดเดี่ยว   ฉงน   ดีใจ   รอคอย   เหงา   สิ้นหวัง   มีหวัง   ประติมากรรมสุนัขที่น่าสงสารเหล่านี้ นอกจากสื่ออารมณ์แล้ว ยังสะท้อนความจริงของโลกว่า สุนัขที่น่าสงสารและเฝ้ารอโอกาสอย่างนี้นั้นมีอยู่จริงๆ   อีกฉายาหนึ่งของ…

อย่างที่รู้กันว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีความพิถีพิถันในการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในระดับที่ไม่น่าเชื่อ แทบทุกอย่างจะแลดูสะอาดมีความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นตู้ขายน้ำอัตโนมัติ รถไฟฟ้า ไปจนถึงห้องน้ำ Marcin Wichary นักออกแบบ และผู้เชี่ยวชาญด้านการทำตัวพิมพ์ ก็เป็นหนึ่งในเหล่าผู้คนที่ชื่นชอบในการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกของประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน เขาได้ทำการทวีตความแปลกใจของเขาที่มีต่อเครื่องอำนวยความสะดวกที่เขาได้พบในการเดินทางไปญี่ปุ่นของเขามากว่า 200 ชิ้นแล้ว โดยสิ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่เขาก็มีตัวอย่างเช่น   ตู้ขายน้ำอัตโนมัติ ทั้งหมดที่เจอที่นี่จะมีไฟขึ้นบอกว่าผมสามารถซื้ออะไรได้บ้าง ด้วยจำนวนเงินที่หยอดไป   22. All the vending machines I used so far (three) used lights to show me what I could afford after putting in money. pic.twitter.com/h88FLevp8f — Marcin Wichary (@mwichary) 1 กุมภาพันธ์ 2561   รถไฟที่นี่จะมีภาพเคลื่อนไหวบอกว่า คุณได้มาถึงสถานีแล้ว แถมยังบอกอีกว่าตู้ที่คุณอยู่จอดอยู่ที่บริเวณไหน และโครงสร้างคร่าวๆ…

ใครหลายคนอาจจะรู้สึกเบื่อที่จะต้องพิมพ์งานโดยใช้คีย์บอร์ดตัวเดิมๆ ที่ไม่มีความพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น ทว่าอย่างไรมันก็เป็นของที่จำเป็นต้องมี เพราะว่าถ้าปราศจากสิ่งนี้เราก็ไม่สามารถจะป้อนคำสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งเล่นเกมบางเกมก็ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แล้วถ้ายิ่งเรื่องของการทำงานยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่ว่าในวันนี้ได้มีคีย์บอร์ดอยู่รุ่นหนึ่ง ที่จะทำให้การกดแป้นคีย์บอร์ดที่เราเคยกดกันอยู่ทุกวันนั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป เพราะว่าทันทีที่เราจิ้มลงไปที่ตัวใดตัวหนึ่ง มันจะสามารถส่งแสงไฟออกมาจนเหมือนกับว่าเราได้เล่นแสงเลเซอร์อยู่เลยก็ว่าได้   เห็นแค่ปุ่มเฉยๆ ยังน่าสัมผัสขนาดนี้   สำหรับเจ้าคีย์บอร์ดที่ว่านี้ เป็นคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีกำหนดจะวางขายโดยบริษัทพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อว่า HKW จากประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 5 เมษายน 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งความพิเศษของมันก็คือ ในตอนที่เราจิ้มตัวอักษรตัวใดตัวหนึ่งลงไป มันก็จะมีไฟวิ่งออกจากตัวอักษรนั้น แล้ววิ่งไปยังทางซ้ายทางขวา เสมือนกับว่าตัวอักษรที่เรากดมันเป็นศูนย์กลางของการกำเนิดแสงเหล่านั้นเลยทีเดียว   มาลองดูไฟแว้บๆ ซะก่อนว่ามันน่าใช้ขนาดไหน (หากดูไม่ได้กดที่นี่) 見て見てこの無駄な機能！！邪魔！！楽しい！！！！！ pic.twitter.com/lkeRZlOy51 — さめ (@SAMEX_1u2y) 6 กุมภาพันธ์ 2561 จากวิดีโอนี้ เราก็อาจจะเห็นได้ว่า แสงสวยๆ ของมันนั้นอาจจะทำให้เราสามารถนั่งทำงานได้อย่างอย่างสุดมันส์ เหมือนกับกำลังทำงานไปด้วยพร้อมกับเล่นเกมไปด้วย แต่มากไปกว่านั้นเพราะว่าด้วยความที่มันเป็นคีย์บอร์ดประเภท Mechanical Keyboard จึงทำให้เราสามารถลงน้ำหนักมือได้ดีกว่าและสามารถพิมพ์ได้แบบสนุกขึ้น รวมถึงอาจจะมีความทนมือทนเท้าได้มากกว่าปกติอีกด้วย และถ้าหากว่าใครคิดว่าแสงเหล่านี้มันน่าเบื่อไปล่ะก็ มันก็ยังมีคุณสมบัติที่จะทำให้เราสามารถปรับแต่งแสงสีได้มากถึง 9 แบบ อีกทั้งยังสามารถปรับความสว่างและความเร็วของแสงได้ดั่งที่ใจเราต้องการกันเลย   วิบวับซะเพลินตาจริงเชียว…

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวพย็องชัง 2018 ระหว่างวันที่ 9-25 กุมภาพันธ์ 2018 ณ เมืองพย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการรวบรวมนักกีฬาจากทั่วโลกมาทำการแข่งขันกีฬาเพื่อชิงแชมป์สุดยอดนักกีฬาในแต่ละประเทศ ซึ่งในการรวมตัวของนักกีฬาแน่นอนว่ามันจะต้องมีนักกีฬาหล่อๆ มาให้เราเชยชม ดังนั้นเราจะไม่รอช้า ขอเปิดวาร์ปเหล่านักกีฬาหนุ่มสุดเซ็กซี่ขยี้หัวใจสาวๆ #เหมียวบู้บี้ รับประกันงานดีมีคุณภาพอีกแล้วค่ะ   1. Mark McMoriis หล่อทะลุหิมะเลยค่ะ นักกีฬาสโนว์บอร์ดจากประเทศแคนาดา อินสตาแกรม: markmcmorris   2. Nathan Chen หนุ่มหล่อสายตี๋ นักสเกตลีลาจากประเทศสหรัฐอเมริกา อินสตาแกรม:nathanwchen   3. Alex Pietrangelo นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งจากประเทศแคนาดา อินสตาแกรม:alexpetro27   4. Hayden Smith นักกีฬา Bobsled จากประเทศออสเตรเลีย อินสตาแกรม:haydentsmith   5. Patrick Chan นักกีฬาสเกตลีลา จากประเทศแคนนาดา อินสตาแกรม:pchan31   6. Kevin Rolland นักกีฬา Freestyle…

การจัดจานที่สวยงามนั้น นอกจากจะทำให้อาหารนั้นดูน่าทานขึ้นมาแล้ว บางครั้งยังทำให้เรารู้สึกว่ามันมีความอร่อยเพิ่มขึ้นมาอีกนะว่าไหม?? และวันนี้เราก็มีภาพของการจัดจานอาหารสวยๆ จากสองพี่น้องชาวญี่ปุ่นอย่างคุณ Kaori และ Saori ที่สร้างสรรค์อาหารหลากหลายชนิดให้กลายเป็นเหล่านกตัวน้อยสุดแสนน่ารัก!!     แน่นอนว่าการทำอาหารนั้นถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง และการจัดจานเองก็ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน และจานอาหารรูปนกเหล่านี้ ก็ช่วยเพิ่มสีสันและความน่าทานให้กับอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของหวานหรือของคาวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งสองชื่นชอบการออกแบบเจ้านกตัวเล็กๆ ไว้ในงานศิลปะของพวกเขาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการถักโครเชต์ ภาพวาด รวมถึงการทำตุ๊กตานกตัวเล็กๆ และการตกแต่งจานอาหารที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ด้วย   อ่า เล่าแล้วอาจจะไม่เห็นภาพ ถ้าอย่างนั้นเราไปชมผลงานศิลปะบนจานอาหารของพวกเขากันเลย… .   จากไข่ต้มธรรมดาๆ เมื่อเพิ่มเจ้านกน้อยน่ารักเข้าไปก็ดูดีขึ้นมาทันที . .   อ่า… เริ่มหิวแล้วละซี้!! .   ข้าวปั้นก็มีนะจ๊ะ   จากอาหารธรรมดาๆ เมื่อผ่านฝีมือการตกแต่งของสองพี่น้องคู่นี้ ก็กลายเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยสีสันและความสวยงาม .   ส่วนภาพนี้คงเหมาะสำหรับใครที่ชอบขนมไดฟุกุแน่นอน!! . . .   ทั้งน่ารักและน่ากินไปเลยนะเนี่ยว่าไหม และถ้าหากใครยังไม่จุใจล่ะก็ สามารถเข้าไปติดตามผลงานของคุณ Kaori และ Saori ได้ที่เว็บไซต์ hane-hane และทวิตเตอร์ ＊kaori＊♡birdshowcas ของเธอได้เลย…   ที่มา sobadsogood

สำหรับตุ๊กตาน่ารักๆ อย่างตุ๊กตาบาร์บี้ ครั้งหนึ่งมันอาจจะเคยเป็นเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเหล่าหญิงสาว ที่ใครหลายคนอาจจะเคยใช้เวลาไปกับการแต่งตัวทำหน้าทำผมให้แก่มัน เอาไปไหนก็เอาไปด้วยชนิดที่ว่าห่างจากตัวแทบจะไม่ได้เลย และในวันนี้การที่เราจะพกตุ๊กตาบาร์บี้ออกไปข้างนอก อาจจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นไปอีก เมื่อมีศิลปินคนหนึ่งได้จัดทำเครื่องประดับที่ทำมาจากชิ้นส่วนของตุ๊กตา ทำให้เราสามารถพกพวกมันติดตัวไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป     โดยคนที่สร้างสิ่งแปลกๆ นี้ขึ้นมาก็คือศิลปินชาวนิวยอร์กชื่อว่า Margaux Lange ที่ได้นำเอาชิ้นส่วนต่างๆ มาตกแต่งไว้ในเครื่องประดับอย่าง สร้อยคอ ต่างหู ทว่าในผลงานของเขาครั้งนี้ ก็ได้ปรับเอาตุ๊กตาบาร์บี้มาทำให้ดูน่ากลัวขึ้นนิดหน่อย เพื่อความลึกลับและน่าค้นหามากขึ้น ซึ่งมันอาจจะถูกใจใครหลายคนก็เป็นได้ และสำหรับใครที่อยากจะชมสินค้าของศิลปินคนนี้เพิ่มเติม หรืออยากจะจับจองเป็นเจ้าของแล้วล่ะก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ Margaux Lange นี้เลย   ทำไมเหลือแขนข้างเดียวล่ะเนี่ย   ริมฝีปากอวบอิ่ม เซ็กซี่ซะไม่มี   มีความชวนหลอนซ่อนอยู่   ว่าไงหรอคะ   ใครเอาไปใส่ต้องใจแข็งพอตัวเลยนะ   ให้ทายส่วนนี้เป็นส่วนไหนเอ่ย   โอ๋บาร์บี้ลูกแม่ ถูกแยกส่วนซะแล้ว   ส่วนเว้าส่วนโค้งนี้ช่างชัดเจนจริงๆ   นี่เธอแอบขโมยลิปฉันไปใช่ไหม   ตกลงจะเอาสีอะไรกันแน่ยะ   อันนี้สวยมากก   แววตาอันเปล่งประกาย   เรียวขายาวแสนสวย   แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ…

รอยกระบนใบหน้า คือสิ่งที่หลายๆ คนมีและมองว่ามันคือตัวที่ทำให้ใบหน้าของเราดูอัปลักษณ์มากกว่าเดิม แต่สำหรับช่างภาพ Brock Elbank แล้ว เขากลับมองมันในมุมที่ต่างออกไป จนทำให้เกิดเป็นชุดผลงานอันทรงคุณค่าและโดดเด่น #Freckles คือชื่อผลงานของช่างภาพคนนี้ เป็นสิ่งที่ช่วยถ่ายทอดให้พวกเราได้เห็นถึงความสวยงามและเอกลักษณ์ของรอยกระบนใบหน้า รวมถึงธรรมชาติที่พวกเขาเหล่านี้ต้องเจอ จากผู้ยื่นใบสมัครจะมาเป็นแบบให้กับเขา 6,500 คน เขาได้เลือกมา 180 คนจากแต่ละทวีปทั่วทุกมุมโลก ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของเพศ ชาติพันธุ์ หรือแม้แต่อายุ ทุกคนได้มารวมตัวกันที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะสร้างผลงานอันน่าประทับใจนี้ขึ้นมา ว่าแล้วก็อย่ารอช้า เราลองไปชมเสน่ห์ของรอยกระพร้อมๆ กันเลย   รอยกระจะเกิดขึ้นมาเป็นจุดๆ ด่างๆ บริเวณใบหน้า . .   มันคือสิ่งที่สามารเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย . .   ลักษณะของรอยกระของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป . .   ไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติใด ก็มีโอกาสที่จะมีเจ้าสิ่งนี้ได้ทั้งนั้น .   บางคนอาจจะมีรอยนี้เกิดขึ้นทั่วใบหน้า   บางคนอาจจะเป็นนิดๆ หน่อยๆ . . .  …

สำหรับคุณสาวๆ หลายคน ขนมเค้กอาจจะถือเป็นหนึ่งในอาหารจานโปรดของคุณเลยทีเดียว และว่ากันว่าถึงแม้คุณจะทานข้าวมาจนอิ่มแค่ไหน แต่คุณก็ยังมีที่ว่างเพียงพอสำหรับของหวานหลังมื้ออาหารเสมอใช่ไหมละ!? และด้วยกลิ่นหอมๆ ของช็อกโกแล็ตและรสชาติหวานๆ ของครีม ก็เพียงพอแล้วที่จะสะกดจิตให้คุณหยิบมันเข้าปากโดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว แต่ถ้าหากว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก หรือกำลังจะเลิกทานของหวานล่ะก็ เราขอแนะนำให้รู้จักกับเค้กยูนิคอร์นเหล่านี้เลย เพราะความน่ารักของมันอาจจะทำให้คุณตัดสินใจกินมันไม่ลงนั่นเอง     เค้กยูนิคอร์นสุดน่ารักนี้ถูกโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ โดยร้านเค้กหลายๆ แห่งไม่ว่าจะเป็นร้าน Chocofrutasbylissy ร้าน Louisabellascakes หรือร้าน Crazysweets.de ซึ่งแต่ละร้านเองก็สร้างสรรค์งานศิลปะบนขนมหวานออกมาได้อย่างสวยงามไม่น้อยเลย   อย่างเช่นเจ้ายูนิคอร์นที่กินเค้กจนอิ่มตัวนี้จากร้าน Chocofrutasbylissy   แหม่… กินอิ่มแล้วก็นอนเลยน้าา เจ้ายูนิคอร์น!!   หลักฐานชัดคาปากขนาดนี้ คงหนีไม่พ้นแน่นอน .   ส่วนเจ้าตัวนี้เป็นผลงานจากร้าน Crazysweets.de อืม… เหมือนกับเจ้า Pony เลยนะเนี่ย   หน้าตาน่ารักขนาดนี้ ใครจะไปกินลงกันล่ะเนี่ย!?   แต่น้องยูนิคอร์นของเราก็ไม่ได้ชอบกินขนมหวานอย่างเดียวนะ บางครั้งมันก็ชอบกินทาร์โก้ เหมือนกัน   อื้มมมม น่ากิน เอ๊ย!! น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ยยย ที่มา buzzfeed

เซ็กส์ หนึ่งกิจกรรมที่มนุษย์นั้นกระทำเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง เป็นวิธีการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่ว่าใครๆ ต่างก็ต้องคุ้นเคยกับเรื่องนี้ บนโลกใบนี้ยังมีเรื่องราวแปลกๆ อีกมากมายที่เรายังไม่เคยรู้ และเรื่องราวเกี่ยวกับเซ็กส์ต่อไปนี้หลายๆ คนอาจจะคิดว่า มันเป็นไปได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ อ่านแล้วอย่าหาว่า #เหมียวบู้บี้ ทะลึ่งนะ มันมีจริงๆ ค่ะคุ๊ณณณณณณณ!!!   1. คนที่จู๋ยาวที่สุดในโลกมีความยาว 19.1 นิ้ว!!! ตำแหน่งคนที่จู๋ยาวที่สุดในโลกตกเป็นของ Daniel จากเมือง Hemet รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ยาวมากกว่า 4 เท่าของขนาดปกติของชายทั่วไป เวลาเดินนี่นึกว่าขาที่สาม   2. จู๋ที่อันเล็กที่สุดของโลกยาว 0.05 นิ้ว เมื่อมีใหญ่สุดก็ต้องมีเล็กสุดกันบ้าง ผู้ที่ได้รับการบันทึกเมื่อปี 2016 ว่ามีขนาดจู๋สั้นที่สุดในโลกคือนาย Mike Carson จากรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ความยาวก็อยู่ที่ 0.13 เซนติเมตร   3. หลั่งน้ำอสุจิพุ่งไกลได้ไกลสุด 6 เมตร สถิตินี้ถูกบันทึกโดยชายชาวอเมริกันคนหนึ่ง บันทึกไว้ว่าเขาหลั่งน้ำอสุจิพุ่งกระฉูดได้ไกลกว่า 6 เมตร…

พวกเราทุกคนรู้กันดีว่าธรรมชาติคือสิ่งสวยงามที่ช่วยสร้างสีสันและความสดใสให้กับโลก แต่สำหรับศิลปินคนนี้เขากลับสามารถทำให้ธรรมชาติกลายเป็นสิ่งที่มีความโดดเด่นและเป็นงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น เรากำลังพูดถึงศิลปินชาวอังกฤษที่ชื่อว่า James Brunt ผู้เปลี่ยนธรรมชาติรอบๆ ตัวในเมือง Yorkshire ให้กลายเป็นงานศิลปะที่สะดุดตา โดยเขาได้นำสิ่งของตามธรรมชาติมาจัดเรียงกันในรูปทรงต่างๆ ทำให้เราได้เห็นทั้งการไล่เฉดสี การไล่ระดับจากเล็กไปใหญ่ หรือการวางเป็นรูปต่างๆ ที่ดูลงตัวแบบสุดๆ ว่าแล้วก็อย่ารอช้า เราลองไปชมผลงานอันสุดวิจิตรตระการตาของเขากันเลย   การจัดเรียงสิ่งของเหล่านี้คือผลงานของ James ผู้เรียนจบเอกวิจิตรศิลป์ จากโรงเรียนศิลปะ Byam Shaw ในลอนดอน   สิ่งของตามธรรมชาติที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ถูกนำมาจัดวางไว้อย่างลงตัว   สีสันสดใส ดึงดูดสายตา   การไล่เรียงของสีที่ดูสบายตาแบบสุดๆ   รูปทรงต่างๆ ถูกสร้างขึ้นมา แต่ยังคงกลมกลืนกับธรรมชาติ   บางผลงานก็อาจจะชวนลายตาอยู่เหมือนกัน   ไม่ใช่แค่รูปทรงวงกลมง่ายๆ ทั่วไป เพราะเขายังสามารถทำอะไรที่มันเจ๋งกว่านั้น   การยืนตามลำดับจากเล็กไปใหญ่ หมุนวนไล่ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ   การเติมแต่งรากให้กับต้นไม้   มองไกลๆ ก็คงทำให้นึกถึงใยแมงมุม   การที่น้ำไหลผ่าน ทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์และสวยงามมากยิ่งขึ้น   หอคอยที่มีสะพานเชื่อมหากัน  …

ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ถ้ามีความสามารถหรือเทคนิคในการถ่ายภาพ คุณอาจะเปลี่ยนสถานที่ที่น่าเบื่อแห่งนั้นให้กลายเป็นภาพที่สวยงามอย่างน่าประทับใจได้เลยทีเดียว ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งที่เป็นช่างภาพนามว่า Adam Delane ได้ถ่ายภาพและโพสต์ลงเฟซบุ๊กของเขาว่า “ใช่แล้วล่ะ พวกเราไปถ่ายรูปกันข้างในห้างฯ Hobby Lobby จริงๆ” อัลบั้มภาพถ่ายจากสถานการณ์ธรรมดาๆ ที่กลายเป็นภาพสุดอลังการของเขาก็ได้มีการแชร์ต่อไปถึงกว่า 3 แสนครั้ง และมียอดแสดงความคิดเห็นกว่า 7 หมื่นความเห็น ว่าแล้วก็ไปดูความสามารถของเขาที่เปลี่ยนจากห้างฯ Hobby Lobby ที่แสนธรรมดาให้กลายเป็นสตูดิโอถ่ายภาพอย่างมืออาชีพกันเลย   โอ้โห!! ปังอะไรขนาดนี้ ราวกับว่ามีออร่า   เบื้องหลัง   สาวสวยกับดอกกุหลาบภายใต้แสงอาทิตย์เบาๆ   เบื้องหลัง   ราวกับว่าอยู่ในสวนอะไรสักอย่าง   เบื้องหลัง   ยังกับภาพพรีเวดดิ้ง   เบื้องหลัง   นี่อยู่ในทุ่งทานตะวันกันรึเปล่านะ   เบื้องหลัง อ้าว ที่เดียวกับรูปแรกเลย   ดอกไม้เต็มไปหมด ช่างสวยงามเหลือเกิน   เบื้องหลัง   ยังกับอยู่ใน MV…

สำหรับใครที่มีโอกาสได้เลี้ยงแมว ก็อาจจะมีบ้างบางครั้งที่เบื่อหน่ายในอารมณ์สุดติสท์ของมัน ที่ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนกันแน่ หรือบางทีก็อาจจะรำคาญที่มันคอยมาพันแข้งพันขา คอยมาแย่งของกินอร่อยๆ ของเราอยู่บ่อยๆ จนอยากจะเตะออกไปให้รู้แล้วรู้รอดซะเลย แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้ววิถีชิวิตแบบแมวๆ ก็แอบแฝงข้อคิดเอาไว้อยู่เหมือนกันนะ ซึ่งหากใครยังไม่รู้ว่าข้อคิดที่ว่านี้หน้าตาเป็นยังไงล่ะก็ ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะว่าในวันนี้เราได้นำข้อคิดการใช้ชีวิตวิถีแมวๆ มาฝาก ซึ่งบางทีถ้าเราใช้ชีวิตแบบมันบ้างก็คงจะมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียวนะ ถ้างั้นอย่ามัวเสียเวลาเลื่อนลงไปดูกันเล๊ย   บางครั้งการยืนยันในจุดยืนของเราก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด   การพักผ่อนมันช่างดีจริงๆ นะ   อย่ากลัวที่จะแสดงความเป็นตัวเองออกมา   บางครั้งแสงแดดอุ่นๆ ก็ช่วยให้เราได้ฟื้นฟูจากความอ่อนล้า   รู้จักผ่อนคลายซะบ้าง   ได้รู้จักการคุมคุณภาพของสิ่งที่ทำ (เช่น ทำยังไงให้ของที่เขี่ยหล่นลงมาแตกทุกชิ้น)   กระดาษทิชชู่ในห้องน้ำเป็นศัตรูซะจริงๆ   สิ่งที่รอเราอยู่หลังประตูที่ปิดเอาไว้ มักจะเป็นเรื่องที่ดีเสมอ   อย่าหยุดที่จะฝัน   การกินข้าวร่วมกันในครอบครัวเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเลยนะ   อย่าไปกลัวที่จะต้องเรียกร้องความสนใจในบางครั้ง   ความสุขเป็นโรคติดต่ออย่างหนึ่งนะ รู้ไหม   หาที่อุ่นๆ อยู่เสมอนะเจ้ามนุษย์   โลกภายนอกยังมีอะไรรอเราอยู่อย่างมากมาย   อย่าไปกังวลเลย มามีความสุขกันเถอะ  …

ด้วยความที่ธรรมชาติต่างๆ ภายในโลกของเรากำลังเสื่อมสภาพไปทุกวัน สาเหตุหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มนุษย์อย่างเราๆ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จึงทำให้ศิลปินคนหนึ่งสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมา เพื่อที่จะให้ทุกคนได้สังเกตุเห็นถึงปัญหาดังกล่าว ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในปัจจุบัน โดยผู้ที่มีความคิดสุดแสนจะบรรเจิดคนนี้ เป็นศิลปินชาวฝรั่งเศสที่ตัดสินใจใช้การตัดกระดาษสื่อความคิดเหล่านี้ออกไป และด้วยความที่เป็นงานถนัดของเขา ผลงานที่ออกมาจึงมีทั้งความสวยงามรวมถึงทำให้เราได้ฉุกคิดถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันด้วย แน่นอนว่าการทำผลงานให้ออกมางดงามเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเขาคนนี้บอกว่าชิ้นงานทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือทั้งนั้น ซึ่งผลลัพธ์ทั้งหมดที่ออกมานี้ก็เป็นสิ่งที่ทำออกมาจากใจ อีกทั้งยังเป็นชิ้นงานที่สำคัญมากๆ สำหรับตัวเขาเองด้วย ดังนั้นเราจึงเห็นได้ถึงความใส่ใจ ความละเอียดอ่อน ความวิจิตรตระการตาอยู่ในผลงานเหล่านี้ และหากใครที่สนใจผลงานเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ hipolyte นี้เลย   ลองดูภาพมุมกว้างกันก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง   เมื่อซูมเข้าไปก็จะเห็นถึงความละเอียดลออของศิลปินคนนี้   เหมือนตัวอะไรสักอย่างไหม   หลากหลายสีสันให้เราเลือกชม   นี่มันทำมาจากกระดาษจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย   คงจะต้องใช้เวลานานพอดูเลยทีเดียว   ต้องเก่งขนาดไหน ถึงจะตัดกระดาษได้ขนาดนี้กันนะ   ปะการังใต้ท้องทะเล   ดูเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ   ดูแล้วรู้สึกหยึยๆ ยังไงชอบกล   มีตัวอะไรอยู่ในนี้บ้างไหม??   เนี้ยบทุกองค์ประกอบ   ไม่ว่าจะคนสร้างหรือธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา ก็มีความสวยงามเช่นกัน  …

ไอศกรีม เป็นหนึ่งในของหวานสุดโปรดที่ใครหลายๆ คนโปรดปราน สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย ไอศกรีมในปัจจุบันจึงถูกพัฒนาให้มีหลากหลายรสชาติหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของเหล่าผู้ชื่นชอบและหลงใหลในไอศกรีม โดยปกติแล้วคนทั่วไปอาจจะชอบรสหวานๆ ของไอศกรีมที่เวลาทานเข้าไปแล้วเย็นชื่นใจ แต่ทว่าในวันนี้ #เหมียวบู้บี้ จะมาแนะนำให้รู้จักกับไอศกรีมรสชาติใหม่ที่ถือได้ว่าเด็ดดวงที่สุดในโลกนั่นก็คือ ไอศกรีม Respiro del Diavolo หรือในฉายาของมันที่เรียกว่า ลมหายใจของปีศาจ แหม่ ฟังชื่อก็น่ากลัวแล้ว     ไอศกรีมลมหายใจแห่งปีศาจนี้มีรสชาติที่แตกต่างจากไอศกรีมธรรมดาโดยสิ้นเชิงเพราะว่าในเนื้อไอศกรีมอันเนียนนุ่มนั้นมีส่วนผสมที่ทำมาจากพริกหลายๆ ชนิด ทำให้รสชาติของมันเผ็ดร้อน จัดจ้านแบบสุดๆ ไอศกรีมสีชมพูหวานแหววนี้ความร้ายกาจของมันอยู่ที่ระดับ 1.5 ล้าน Scoville (หน่วยวัดระดับความเผ็ด) ทำให้มันกลายเป็นไอศกรีมที่อันตรายที่สุดในโลก     Martin Bandoni เจ้าของร้าน Aldwych Cafe & Icecream Parlour เมือง Glasgow ประเทศสก๊อตแลนด์ อ้างว่าไอศกรีมนี้ดัดแปลงมาจากไอศกรีมเจลาโต้สูตรดั้งเดิมของอิตาลีที่มีมานานหลายศตวรรษ เป็นสูตรลับที่ตกทอดกันมาหลายปี  และมันจะถูกนำออกมาจำหน่ายแค่ปีละครั้งเท่านั้น เพื่อท้าทายเหล่าผู้ชอบลองของแปลกให้ได้มาลิ้มลองกัน Lee Bandoni พี่ชายของ Martin กล่าวถึงที่มาของชื่อไอศกรีมลมหายใจแห่งปีศาจนี้ว่า มันมาจากชื่อสถานที่ Devil’s Bridge…

ถ้าหากว่าวันหนึ่งเราดันโชคร้ายไปติดเกาะเข้าล่ะก็ “ไฟ” คงจะเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้มีชีวิตรอดได้เลยล่ะ จะถือว่าในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเลย ถ้าหากเราบังเอิญพกอุปกรณ์ที่สามารถจุดไฟได้ติดตัวไปด้วย แต่ถ้าไม่ได้พกไปก็เรียกได้ว่าซวยในซวยเลยทีเดียว     แต่ถ้าเรามีถุงพลาสติกสักใบหนึ่งก็อาจจะช่วยให้สามารถจุดไฟได้นะ ว่าแต่มันใช้ได้จริงเหรอ แล้วมันทำอย่างไรถึงสามารถจุดไฟได้ล่ะ เอาเป็นว่าคำตอบมันอยู่ที่ชายชาวสเปน Alvaro Cerezo คนนี้ ไปฟังเขาอธิบายกันเลยดีกว่า     Alvaro Cerezo วัย 36 ปี ได้เดินทางไปยังสถานที่ห่างไกลกว่า 400 แห่ง เพื่อแลกเปลี่ยนวิถีการเอาชีวิตรอดของแต่ละพื้นที่ เขาใช้ชีวิตด้วยการไปอาศัยอยู่ยังเกาะร้างต่างๆ เป็นเวลานับสัปดาห์ เพื่อทดสอบสถานที่ที่ปลอดภัยและไม่น่าไว้วางใจด้วยตัวเอง ครั้งนี้เขาอยู่ที่เมืองมาลากาในสเปน และเขาได้แสดงวิธีการใช้ถุงพลาสติกบรรจุน้ำใช้เป็นเครื่องมือจุดไฟในวิดีโอของเขา โดยวิธีการนั้นแสนง่ายเพียงแค่ให้ถุงพลาสติกที่บรรจุน้ำทำหน้าที่เป็นเหมือนแว่นขยายที่รวมแสงอาทิตย์มายังจุดเดียว จากนั้นจึงนำกาบมะพร้าวมาไว้ตรงจุดรวมแสง เมื่อเกิดการรวมแสงก็จะเกิดความร้อนและทำให้ไฟติดที่กาบมะพร้าวนั่นเอง     Alvaro กล่าวว่า “ผมใช้วิธีนี้จุดไฟบ่อยครั้ง ผมบอกผู้คนว่าผมจุดไฟโดยใช้ถุงพลาสติกได้แต่ส่วนมากมักไม่มีใครเชื่อ” “หากคุณไม่ได้นำถุงมาด้วย มันก็มักจะมีถุงพลาสติกที่น้ำพัดพามาติดที่เกาะอยู่เสมอๆ แต่ปัญหาก็คือถุงเหล่านั้นส่วนใหญ่จะขาดเป็นรูทำให้น้ำรั่วมาโดนกาบมะพร้าวจนเปียกและไม่สามารถจุดไฟให้ติดได้ เพราะเหตุนี้คุณจึงจำเป็นต้องมีถุงที่สมบูรณ์ และโปร่งใสด้วย” เขาอธิบายต่อว่า “เมื่อคุณเติมน้ำใส่ถุงแล้ว ควรทำให้มันเป็นทรงกลมโดยการกดมุมด้านข้างมันเข้าไป เพียงเท่านี้มันก็จะทำหน้าที่เหมือนเป็นแว่นขยายแล้ว”     ในปี 2003 Alvaro ได้ก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเองชื่อว่า Docastaway แต่หลังจากที่เขาไปใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ของอินเดียที่ทำให้เขารู้สึกว่าการทำงานในสำนักงานไม่ใช่ทางของเขา…

ภาพของเหล่าทหารเยอรมันที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และภาพของเด็กๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เป็นภาพถ่ายสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 จากฝีมือของ Käthe Buchler ช่างภาพสาวชาวเยอรมัน ช่างภาพของเราได้บันทึกภาพต่างๆ ในช่วงเวลานั้น พร้อมกับให้ความหมายของภาพถ่ายเธอว่า “นี่คือความดื้อรั้นของพลเรือนชั้นกลาง”     ตามมาด้วยภาพของเหล่าทหารที่กำลังดื่มชา หรือพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเหล่าที่ช่วยย้ำเตือนถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี โดยผลงานของช่างภาพสาวรายนี้ ถูกถ่ายด้วยฟิล์มแบบขาวดำทั้งหมด ซึ่งเธอตั้งชื่อผลงานชุดนี้ว่า Beyond the Battlefields และถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายในเมืองเบราน์ชไวก์ ประเทศเยอรมัน     ชุดภาพถ่ายดังกล่าวถูกแสดงในนิทรรศการการท่องเที่ยว ที่พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ Birmingham ประเทศอังกฤษระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2017 ถึง 14 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา   ภาพของพยาบาลสาวและทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามโลกครั้งที่ 1 . .   เด็กๆ ในสถานพยาบาล ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1   ภาพถ่ายของ Käthe Buchler ที่เผยให้เห็นอีกมุมหนึ่งของสงครามได้เป็นอย่างดี . .   ภาพของเด็กชายชาวเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่…

กราบบบบ สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย วันนี้ #เหมียวบู้บี้ คนดีคนเดิมพาผู้ชายมาแนะนำอีกแล้วค่าาาาาา คราวนี้เป็นหนุ่มเกาหลีจ้า อปป้าที่จะมาทำให้หัวใจสาวไทยสั่นหวั่นไหวเพราะความหล่อ ตี๋ ขาว น่าเจี๊ยะ คือมันดีมากกกก ความหล่อของอปป้าคนนั้นกำลังกลายเป็นกระแสในทวิตเตอร์ที่สาวไทยกำลังแห่รีทวีตกันรัวๆ กับความหล่อของอปป้าหนุ่ม จนหลายๆ คนอยากจะรู้ว่า เขาเป็นใครมาจากไหน พ่อหนุ่มเกาหลีคนที่ว่านั้นก็คือคุณ Jang Sung Hoon อ๊ะๆ ขอบอกก่อนเลยนะว่าอปป้าคนนี้เค้าไม่ได้มีดีเพียงแค่ความหล่อนะจ๊ะ แต่เขาพ่วงมาด้วยความฉลาดระดับติวเตอร์แห่งมหาวิทยาลัยชางอุง ประเทศเกาหลีใต้ นอกจากนี้คุณพี่ยังรับจ๊อบเป็นนายแบบด้วยนะ หล่อ ครบ นี่แหละพ่อของลูก   ไงล่ะ งานดีมีคุณภาพจ้า   ผู้ชายแนวผมฟูๆ สวมเสื้อตัวใหญ่ๆ กำลังมา ดูแล้วนึกถึง เดอะทอยส์เลย   จะเอาแบบนี้ //ลงไปดิ้นกับพื้น   1+1 เท่ากับอะไรไม่รู้งงจัง สอนหน่อยค่ะติวเตอร์ขา   ออร่าความหล่อมันพุ่งค่ะคุณ   เนี่ยๆ จองตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีแป๊บบบบ   ใสอะไรเบอร์นั้นล่ะพ่อคุณเอ๊ย   มโนว่าเขาชวนฉันดื่ม   เอาล่ะสาวๆ…

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะการวาดภาพนั้น ไม่จำเป็นจะต้องวาดลงบนสมุดวาดเขียนหรือกระดาษวาดภาพตลอดเวลา ใครจะรู้ว่า “ถุงชงชา” ที่เราเคยเห็นว่าเมื่อใช้ชงเสร็จก็โยนทิ้งไปนั้น สามารถนำมาทำเป็นงานศิลปะขนาดจิ๋ว (Miniature) อันสวยงามได้ Ruby Silvious ศิลปินสาวจากนิวยอร์กที่มองว่าถุงชงชาเก่าๆ ที่เราโยนทิ้งกันนั้น เป็นกระดาษวาดเขียนชั้นดีสำหรับเธอเลย นอกจากจะทำให้สิ่งของที่อาจดูไร้ค่าสำหรับหลายคนมีความงดงามขึ้นมาได้แล้ว ยังเป็นเหมือนกับสมุดบันทึกที่เธอได้จดความรู้สึกของเธอแต่ละวันลงไปเป็นรูปภาพ Ruby เริ่มการเขียนภาพลงบนถุงชงชาตั้งแต่ปี 2015 และก็ได้แชร์ผลงานของตัวเองลงบนอินเทอร์เน็ต เผื่อว่างานของเธอจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับศิลปะที่ไม่จำเป็นต้องวาดอยู่บนกระดาษวาดเขียนเท่านั้น หากใครต้องการที่จะติดตามผลงานของ Ruby ล่ะก็ เข้ามาที่นี่เลย เอาล่ะ อยากเห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่างานเขียนภาพบนถุงชงชาของเธอจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ไปรับชมกันได้เลยยย…   #1   #2   #3   #4   #5   #6   #7   #8   #9   #10   #11   #12   #13  …

การปรับปรุงบ้านเก่าให้กลายเป็นบ้านหลังใหม่นั้น นอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านและทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นแล้ว บางครั้งมันยังอาจจะเพิ่มมูลค่าของบ้านให้เพิ่มสูงหลายเท่าตัวอีกด้วย เหมือนกับบ้านราคา 1 ปอนด์หลังนี้ที่มีมูลค่าเพิ่มมากถึง 70,000 เท่าหลังจากที่ได้รับการปรับปรุง!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่เมืองลิเวอร์พูลประเทศอังกฤษ หลังจากที่ Victoria Brennan นักศึกษาสาวรายหนึ่งได้ลงทุนปรับปรุงบ้านราคา 1 ปอนด์ หรือประมาณ 40 บาทที่เธอประมูลมาจากสภาเมือง ให้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ที่แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลย     บ้านราคาพอๆ กับข้าวผัดกะเพราพิเศษใส่ไข่หลังนี้ เป็นหนึ่งในโครงการของสภาเมืองลิเวอร์พูลที่ต้องการแก้ปัญหาบ้านร้างและเสื่อมโทรมในย่าน Anfield และ the Webster Triangle โดยการเปิดขายให้ประชาชนทั่วไปในราคา 1 ปอนด์หรือประมาณ 40 บาท หลังจากที่ทำการซื้อบ้านหลังดังกล่าวไปแล้ว ผู้ซื้อจะต้องทำการซ่อมแซมและต่อเติมเองทั้งหมด โดยที่นอกจากจะต้องซ่อมแซมสภาพบ้านที่ชำรุดทรุดโทรมอย่างมากแล้ว ผู้ซื้อยังต้องจัดการกับระบบไฟฟ้า รวมไปถึงน้ำปะปาเองทั้งหมดอีกด้วย โดยผู้ซื้อจะมีสัญญาให้พักอาศัยในบ้านเป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่จะสามารถขายบ้านหลังดังกล่าวได้ ซึ่งนอกจากนักศึกษาผู้นี้ก็มีอีกหลายคนที่สนใจในโครงการดังกล่าวเช่นกัน   สภาพของบ้านที่หญิงสาวซื้อไว้เมื่อปี 2016   หญิงสาววัย 30 ปีได้ลงมือต่อเติมบ้านของเธอ โดยภาพภายในบ้านเผยให้เห็นในส่วนของห้องนั่งเล่น และห้องครัวที่ถูกปรับปรุงอย่างสวยงาม บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ในท้องถิ่น ได้ตีราคาของบ้านหลังนี้ไว้ที่ 70,000 ปอนด์…

เราอาจจะไม่เคยได้เห็นแสงเหนือด้วยตาตัวเอง แต่ที่เห็นจากภาพรวมทั้งจากการบอกเล่า มันพอทำให้เราจินตนาการได้ว่าแสงเหนือนั้นงดงามเพียงใด ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงพยายามเก็บหอมรอมริบเพื่อตามล่าฝันหาแสงเหนือที่ปรากฏให้เห็นเฉพาะในบางประเทศบนโลกนี้ แม้จะเสียเท่าไหร่ก็ยอม     ล่าสุด Aryeh Nirenberg ได้โพสต์คลิปวิดีโออันงดงามของแสงเหนือระหว่างนั่งเคร่ื่องบินจากเมืองบอลทิมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา ไปยังเมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา เขามองเห็นความงดงามของแสงเหนือที่ระดับความสูง 10,668 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล และแน่นอนในฐานะนักเดินทาง เขาไม่ลืมที่จะบันทึกภาพนั้นเอาไว้ด้วย     สำหรับใครที่สงสัยว่าเขาสามารถบันทึกภาพเหล่านี้ไว้ได้ยังไง? Aryeh เผยว่าเขาใช้กล้อง Sony A7sII กับเลนส์แคนอน 24mm f/1.4 โดยติดตั้งไว้ที่หน้าต่างเครื่องบิน และใช้ขาดูดสูญญากาศขนาดเล็ก นอกจากนี้เขายังใช้ LensSkirt สำหรับใช้ถ่ายรูปผ่านกระจก เพื่อป้องกันไม่ให้แสงจากห้องโดยสารสะท้อนใส่กระจก จากนั้นก็ตั้งค่าเฟรม 1384 และค่า IOS 4s, f/1.4, 5000     ไม่รู้ว่าเครื่องบินเที่ยวนี้ราคาเท่าไหร่ แต่ถ้านั่งแล้วได้เห็นความงดงามของแสงเหนือกลางอากาศแบบนี้ บอกเลยว่าแพงแค่ไหนก็ยอมทั้งนั้น   .   ที่มา twistedsifter

Gil และ Luna คู่บ่าวสาวที่กำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ก็เป็นเหมือนกับคนรักหมาทั่วๆ ไปที่มีความฝันว่า ในวันแต่งงานพวกเขาจะพาเพื่อนที่ดีที่สุดอย่างเช่นน้องหมามาร่วมในงานแต่งเขาพวกเขา งานแต่งงานของเธอดูวางแผนไว้อย่างเพอร์เฟกต์ ดูแล้วรู้เลยว่าคู่บ่าวสาวนั้นรักหมามากแค่ไหน แม้กระทั่งภาพถ่ายพรีเวดดิ้งพวกเขาก็ยังพาเพื่อนรักอย่างเจ้า Einstein กับเจ้า Chimney มาถ่ายด้วย ออกมาเป็นภาพถ่ายน่ารักๆ แบบนี้     นอกจากนี้บ่าวสาว ยังออกแบบเค้กแต่งงานให้เป็นรูปน้องหมาด้วย น่ารักที่สุด ถูกใจเหล่าคนรักหมาเต็มๆ   นอกจากนี้ยังมีไอเดียเค้กแต่งงานสุดน่ารัก สำหรับคู่บ่าวสาวที่รักสัตว์แล้วอยากให้น้องๆ อยู่ในงาน   มาทั้งแก๊งเลย น่ารักจัง   คนรักหมาเห็นแล้วต้องชอบแน่นอน   เป็นส่วนหนึ่งในงาน   ให้น้องอยู่ด้วยนะ   แอบมุดอยู่ตรงนี้ อย่าตัดมาโดนเค้าล่ะ   พ่อ แม่ ลูก .   I do too.   อันนี้วาดเป็นการ์ตูน เจ๋งมาก   เดินไปด้วยกัน .   นี่ก็มาเป็นแก๊งเหมือนกันนะ  …

ความสวยงามของงานศิลปะนั้นนออกจากจะอยู่ที่ความสร้างสรรค์และความประณีตของผลงานแล้ว การนำเสนอในรูปแบบที่แปลกใหม่หรือมีเทคนิคที่แตกต่างออกไปก็ทำให้ชิ้นงานน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว และผลงานภาพเขียนสีน้ำที่เรานำมาฝากวันนี้เองก็เช่นกัน นอกจากจะเต็มไปด้วยความสวยงามของผลงานแล้ว ขนาดที่เล็กจิ๋วของมันเองก็ยังทำให้ผู้ชมได้ทึ่งในความสามารถของศิลปินอีกด้วย   ภาพวาดดาวเคราะห์ที่มีขนาดเท่ากับเหรียญ   ภาพผลงานสีน้ำขนาดเล็กเท่ากับเหรียญ 25 เซนต์นี้เป็นฝีมือของคุณ Rachel Beltz นักวาดภาพจากรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ศิลปินสาวเล่าถึงที่มาของผลงานภาพสีน้ำขนาดเล็กของเธอผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวว่า “ฉันอยากให้ทุกคนทึ่งในสิ่งเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา โดยการใช้สีน้ำ ฉันตั้งใจจะสร้างผลงานขนาดเล็กที่เท่ากับเหรียญ 25 เซนต์” ข้อความจากเว็บไซต์ของเธอ     ไม่ว่าจะเป็นภาพสัตว์ตัวเล็กๆ   หรือผลไม้สีสันสวยงาม ศิลปินสาวของเราก็ใส่รายละเอียดลงไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ .   การประดับตกแต่ง รอบๆ รูปภาพที่สื่อความหมายเหมือนกับภาพวาด อย่างเช่นเจ้ารถคันนี้ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยอุปกรณ์มากมาย   และแม้แต่ภาพบุคคลเองเธอก็ทำออกมาได้สมจริงสุดๆ .   ผลงานแต่ละชิ้นของเธอมีขนาดประมาณเหรียญ 25 เซนต์ หรือประมาณ 2.8×2.8 เซนติเมตร .   ขวดเบียร์ที่มีขนาดเล็กพอๆ กับฝาขวด!! . .   ชมความสวยงามของผลงานคุณ Rachel Beltz กับแบบยาวๆ เลย… . .…

เหล่าดารานักแสดงนั้นมักจะมีหน้าตาที่โดดเด่น ใครเห็นเป็นต้องจำได้แน่ๆ โดยเฉพาะนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หรือไม่ก็นักแสดงที่เราชื่นชอบ ถ้าหากว่าเราพบเห็นล่ะก็เป็นต้องร้อง “อ๋อ” แน่นอน แต่ก็ไม่เสมอไปหรอก เพราะว่าดารานักแสดงบางคนก็ยอมพลีกายแปลงโฉมตัวเองให้เข้ากับบทบาทในเรื่อง จนกระทั่งเมื่อฉายสู่จอภาพแล้วไม่มีใครจำได้เสียอย่างนั้น วันนี้เราจึงจะพาท่านผู้ชมไปพบกับ 15 นักแสดงที่แปลงโฉมตัวเองเพื่อบทบาทจนลบหน้าตาที่แท้จริงของพวกเขาไปเสียเกือบหมด ไปชมกันเลย…   1. Tilda Swinton ในเรื่อง The Grand Budapest Hotel (2014)   2. Jared Leto ในเรื่อง Dallas Buyers Club (2013)   3. John Travolta ในเรื่อง Hairspray (2007)   4. Danny DeVito ในเรื่อง Batman Returns (1992)   5. Jacob Tremblay ในเรื่อง Wonder (2017)   6. Gary Oldman ในเรื่อง Darkest Hour (2017)…

สิ่งของต่างๆ ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ได้ใช้งาน เราเคยสงสัยไหมว่าเขาสร้างกันอย่างไร และกลไกภายในของมันนั้นทำงานกันอย่างไร ภายใต้รูปลักษณ์อันสวยงามนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ มีโอกาสไม่มากนักที่เราจะได้เห็นภายในของสิ่งของเหล่านี้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างมาดูกัน   1. กีตาร์ ภายในดูเหมือนห้องอพาร์ตเมนต์   2. สัญญานเตือนไฟไหม้ ข้างในเป็นแค่กลไกง่ายๆ   3. ปืนไฟแช็ก ข้างในก็เป็นไฟแช็กธรรมดา   4.ข้างในถ้วยกาแฟ   5. ข้างในกำไลข้อมือแสนสวยของลูกสาว   6. ภายในตู้เติมน้ำมันที่เราคุ้นเคย   7. ภายในเคเบิลใต้ทะเล   8. ระเบิดผ่าครึ่ง   9. ความแตกต่างของร่างกายคนผอมและคนอ้วน   10. เครื่องบินโบอิ้ง 747   11. ครึ่งหนึ่งของร่างกายมนุษย์   12. ภายในยาสีฟัน   13. ข้างในลูกกอล์ฟ สีเหมือนกับเนยถั่ว   14. ตู้จำหน่ายเครื่องดื่ม   15.…

คนเราถ้ามีใจรักที่จะทำอะไรสักอย่างแล้ว ผลของมันก็มักออกมาดีเสมอ เพราะว่าเราตั้งใจที่จะทำมันอย่างแท้จริง ถ้ายิ่งบวกกับความมีพรสวรรค์ด้วยแล้ว มันก็อาจจะกลายเป็นชิ้นงานที่ทั้งโลกให้การยอมรับเลยก็เป็นได้ เหมือนกับช่างภาพคนนี้ที่ได้รับรางวัลจากเวทีการประกวดมาแล้วมากมาย โดยที่มีอายุเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้น!! สำหรับหนูน้อยมหัศจรรย์คนดังกล่าวนี้มีชื่อว่า Josiah Launstein นักถ่ายภาพสัตว์ป่าชาวแคนาดา ที่ชนะรางวัลอันทรงเกียรติมาแล้วมากมาย โดยที่มีอายุเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้น จุดเริ่มต้นของการอยู่หลังเลนส์ของเขานั้นเริ่มต้นในอายุ 5 ขวบ ในตอนนั้นเขาคิดเอาไว้ว่าจะเจริญรอยตามพ่อและพี่สาว ที่เป็นช่างถ่ายภาพสัตว์ป่ามือฉมัง   Josiah Launstein ช่างภาพวัยเพียง 13 ปี   ในเริ่มแรกของเส้นทางช่างภาพของเขานั้น เริ่มต้นจากการใช้กล้อง Nikon D3400 ของพ่อเขาในการถ่ายภาพ ตอนนั้นเขาก็ถ่ายไปอย่างไม่คิดอะไร ทว่าในปี 2012 เขาก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดพลาดในภาพที่เขาถ่ายเอาไว้   เขาชอบถ่ายภาพสัตว์ป่าต่างๆ   โดยภาพที่เรียกได้ว่าเป็นจุดพลิกผันในชีวิตของเด็กคนนี้ก็คือ ภาพของอินทรีหัวขาวตัวหนึ่งที่โฉบลงมาหน้าผิวน้ำเพื่อจะจับปลา และภาพนี้เองที่ทำให้เขาได้เริ่มเห็นความผิดพลาดของตัวเอง   ตัวอะไรลองทายกันสิ   เพราะว่าในภาพนั้นเขาเห็นว่าจุดที่เขาได้จับโฟกัสมันกลับเป็นที่หางของนก แทนที่จะเป็นหัวนก และด้วยความผิดหวังนี้เองทำให้ Josiah เริ่มพัฒนาตัวเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา   ผลงานไม่ธรรมดาจริงๆ   ด้วยความฝึกฝนตัวเองบวกกับพรสวรรค์ทางด้านการถ่ายรูป ทำให้ในที่สุดภาพถ่ายของเขาก็สามารถออกสู่สายตาของชาวแคนาดา และที่สำคัญก็คือยังได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากอีกด้วย…

ภาพถ่ายธรรมชาติที่สวยงาม คงจะเป็นสิ่งที่ช่วยกล่อมเกลาจิตใจ และผ่อนคลายสมองของเราได้ดีเลยใช่ไหมล่ะครับ ดังนั้นเราจึงเห็นภาพเหล่านั้นเกลื่อนกลาดไปหมด แต่ถ้าหากใครกำลังเบื่อๆ กับภาพธรรมชาติที่แสนธรรมดาแบบนั้นล่ะก็ บทความนี้จะนำความยุ่งเหยิงมาให้สมองของผู้ชมเองครับ เพราะว่าภาพที่จะนำมาให้ชมกัน เป็นภาพที่ดูแล้วชวนงง ชวนสับสน และกระตุ้นการครุ่นคิดของสมองได้ดีเลยทีเดียว ก่อนอื่นเรามารู้จักเจ้าของผลงานกันก่อน Monica Carvalho เป็นผู้ที่ชอบตกแต่งภาพให้ผู้ชมสับสน ผลงานของเธอนั้นถูกตัดต่อด้วย Photoshop จากภาพที่เธอถ่ายเอง ซึ่งทำให้ออกมาเป็นภาพที่ผู้ชมต้องขยี้ตาและมองอีกรอบกันเลยทีเดียว Monica บอกว่าแรงบันดาลใจของเธอก็คือ ความสอดคล้องกันของสิ่งต่างๆ ที่เธอเห็น เช่นภูเขากับริมฝีปาก ตึกกับเทียน หรือซิปกับขนตา เป็นต้น ส่วนการตั้งชื่อผลงานของเธอแต่ละชิ้นจะมีการเล่นคำหรือสำนวนแปลกๆ เพื่อชวนให้คนดูยิ่งสับสนเข้าไปอีก เอาล่ะครับ ถึงเวลาพาสมองไปสับสนในภาพเหนือความจริงของ Monica Carvalho กันแล้ว ไปชมกันเลยครับ…   1. C’est La Vie   2. Eye Got You   3. Das Ist Mir Wurst   4. Fiz De Propósito   5. Terrace Guilt…

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ช่างภาพ Jonathan Higbee ได้เดินบนถนนในนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกากับกล้องคู่ใจในมือของเขา เพื่อสอดส่องและถ่ายภาพโมเมนต์สุดบังเอิญที่ไม่ธรรมดาที่เกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาทีผ่านเลนส์กล้องของเขา หลายครั้งที่เขาได้ลบเส้นกั้นระหว่างภาพบนป้ายต่างๆ ที่เป็นมลพิษทางสายตาตามถนน กับคนแปลกหน้าที่เดินผ่านไปผ่านมาราวกับว่าอยู่กันคนละโลก     ด้วยความสามารถอันน่าทึ่งจากการช่างสังเกตของเขาทำให้ช่างภาพชาวมิสซูรีคนนี้ได้เริ่มมีชื่อเสียงในวงการช่างภาพสตรีทที่เขาได้รับรางวัลชนะเลิศในงาน World Street Photography ในปี 2015 และรางวัล LensCulture ในปี 2016 ภาพถ่ายของเขาถูกจัดแสดงในนิทรรศการทั่วโลกรวมไปถึงงาน World Street Photography 4 อีกด้วย   . . . . . . . . .   เป็นความบังเอิญที่สวยงามมากเลยทีเดียว ถ้าอยากเห็นภาพความบังเอิญเพิ่มเติม เข้าไปดูได้ที่ Instagram ของเขาได้เลย ที่มา Thisiscolossal

หากย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม 1915 ตอนนั้นหลายๆ ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสมรภูมิรบที่มีการยิงปืนใส่กันตลอดเวลา ซึ่งคาบสมุทร Gallipoli ในเขตประเทศตุรกี ก็นับว่าเป็นหนึ่งจุดที่มีการห้ำหั่นกันอยู่เรื่อยๆ ในตอนนั้นทางฝ่ายกองกำลัง ANZAC (กองทหารที่รวมตัวกันของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์) ต้องการที่จะล่าถอยออกจากสมรภูมิ นั่นจึงกลายเป็นต้นกำเนิดของสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า Drip Rifle หรือ ไรเฟิลหยดน้ำ   สิ่งประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Drip Rifle   เจ้าสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวเกิดจากไอเดียของนายทหารชาวออสเตรเลียคนหนึ่งที่มีชื่อว่า สิบตรี William Scurry และได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนของเขา Bunty Lawrence ที่ช่วยทำให้สร้างเจ้าสิ่งนี้ออกมาได้สำเร็จ การทำงานของ Drip Rifle คือเจาะรูในกระป๋องน้ำให้หยดใส่ลงถังด้านล่าง โดยถังที่รองอยู่จะมีเชือกผูกติดเอาไว้กับไกปืน ทำให้พอน้ำหยดลงมามีน้ำหนักที่มากพอ ไกปืนก็จะถูกดึง เป็นการยิงปืนแบบที่ไม่ต้องใช้คนนั่นเอง   สิบตรี Willam Scurry ผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้   การทำงานแบบสุ่มเวลา ทำให้ปืนแต่ละกระบอกยิงออกไปไม่พร้อมกัน   กลวิธีดังกล่าวจึงทำให้ฝ่ายศัตรูชาวออตโตมันคิดว่ายังคงมีทหารฝั่ง ANZAC คอยยิงปืนอยู่เรื่อยๆ และพวกเขาก็ไม่กล้าโผล่ออกมาดูด้วยตาของตัวเอง แต่ถึงแม้จะมองไปที่บังเกอร์ฝั่งตรงข้ามในความมืดจากระยะไกล พวกเขาก็จะเห็นเหมือนเงายืนอยู่…

สีเขียวของต้นไม้นั้น นอกจากจะช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายแล้ว มันยังทำให้เรารู้สึกสดชื่นได้อีกด้วย และแน่นอนว่าเหล่าต้นไม้เอง ก็ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่มันยังช่วยกำจัดสารพิษในอากาศได้อีกด้วย และถ้าหากคุณอยากให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ล่ะก็ การปลูกต้นไม้ไว้ในห้องต่างๆ ก็ช่วยได้ไม่น้อยเลยทีเดียวนะ     เริ่มกันที่ห้องน้ำ ถ้าหากอยากทำให้ห้องน้ำกลายเป็นสถานที่แสนวิเศษสำหรับคุณล่ะก็ ลองหาต้นไม้เหล่านี้ไปไว้ดูสิ!! 1. ต้นจั๋ง ต้นไม้ที่จะช่วยกำจัดสารแอมโมเนียในอากาศ ที่มาจากน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ในห้องน้ำ 2. แก้วกาญจนา ช่วยกำจัดสารพิษอย่างฟอร์มาลดีไฮด์ในอากาศ ลองแขวนไว้ที่ใต้ฝักบัวก็ดีไม่น้อยเลยทีเดียวนะ 3. ต้นไอวี่ พืชที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าพืชชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยดูสารพิษในอากาศอื่นๆ อย่างสารฟอร์มาลดีไฮด์ และพวกโลหะหนักอีกด้วย     ห้องนอน อีกหนึ่งห้องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ถ้าหากว่าคุณอยากนอนหลับสบายมากขึ้นต้นไม้เหล่านี้อาจช่วยคุณได้ 1. ลิ้นมังกร นอกจากจะปล่อยออกซิเจนในตอนกลางคืนแล้ว มันยังช่วยดูดซับสารพิษในห้องอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น 2. เดหลี ต้นไม้ที่จะช่วยดูดซับสารพิษที่มาจากมลภาวะด้านนอกและในบ้านได้เป็นอย่างดี ถ้าหากว่าบ้านของคุณอยู่ในที่มีมลภาวะเยอะๆ ล่ะก็ ลองหามาปลูกดูสิ 3. เขากวางอ่อน หนึ่งในพืชสกุลกล้วยไม้ที่มีความสวยงาม นอกจากนี้มันยังช่วยเพิ่มออกซิเจนให้ห้องนอนของคุณอีกด้วย   ห้องของเจ้าตัวน้อย ไม่ใช่แค่คุณเท่านั้นที่ต้องการอากาศดีๆ แต่เจ้าตัวน้อยเองก็เหมือนกันนะ ลองหาต้นไม้เหล่านี้มาไว้ในห้องของพวกเขาสิ!? 1. ต้นกาแฟ ช่วยกรองของเสียในอากาศอย่างเช่นพวกสารเบนซีน…

อดีตกาลเมื่อนานมาแล้ว หลายๆ สิ่งบนโลกมีความแตกต่างจากที่เราใช้ชีวิตกันในปัจจุบัน ทั้งในเรื่องของวิทยาการ สังคม หรือแม้แต่สัตว์บางชนิดที่เชื่อว่าเคยมีอยู่จริงในสมัยก่อนและสูญพันธุ์ไปแล้ว สิ่งเหล่านั้นคงไม่อาจพิสูจน์ได้หากปราศจากการทำงานของเหล่านักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ จากการออกตามหาร่องรอยสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของยุคก่อน ทำให้มีการค้นพบวัตถุโบราณมากมาย และวันนี้เรากำลังพูดถึงวัตถุโบราณเก่าแก่ 8 อย่างที่ทำให้คนทั้งโลกต้องตกตะลึง แต่ละอย่างจะน่าสนใจมากเพียงไหน เพื่อนๆ ลองไปดูกันเองเลย   1. สมองไดโนเสาร์ ใครจะไปคิดว่าหินที่เจอในเมือง Sussex ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2004 แท้จริงแล้วมันคือฟอสซิลสมองของไดโนเสาร์ที่มีอายุราวๆ 133 ล้านปี จากการพิสูจน์ด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิดพิเศษ ทำให้พวกเราได้รับรู้กันว่าสมองของสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่เคยอาศัยอยู่บนโลกสมัยก่อนมีหน้าตาเป็นอย่างไร   2. งานแฮนด์เมดจากฝีมือของทหารแนวหน้าในระหว่างสงครามปรัสเซีย 1870 และสงครามอังกฤษที่สู้รบในกันในแอฟริกาใต้กับอินเดีย ผ้าห่มที่เป็นเอกลักษณ์หลายผืนถูกปักโดยเหล่าทหารหนุ่ม แสดงให้เห็นถึงความสวยงามท่ามกลางสงครามอันโหดร้าย เชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้นจะใช้เวลาทำงานฝีมือในตอนที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามได้มีงานวิจัยออกมาชี้ว่า ผลงานทั้งหมดถูกสร้างขึ้นกลางสมรภูมิระหว่างหยุดพักวางแผนขณะทำภารกิจ ผลงานที่สวยงามและมีความหมายเหล่านี้ถูกจัดแสดงไปเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา   3. ซากมนุษย์โบราณที่เก่าแก่มากที่สุดในโลก นี่เป็นโครงกระดูกของมนุษย์ในยุค Australopithecus ซึ่งถูกจัดแสดงในปี 2017 ความพิเศษของเจ้าสิ่งนี้คือมีอายุนานกว่า 3.6 ล้านปี แต่ยังคงสภาพเอาไว้แทบจะไม่มีการแตกหักในแต่ละส่วน แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ในยุคนั้นมีลักษณะใกล้เคียงกับพวกเราในปัจจุบันมากขนาดไหน ซากศพดังกล่าวถูกค้นพบในถ้ำ Sterkfontein…

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในชีวิตประจำวันของเรานั้นจะต้องมีเจ้าอุปกรณ์สำนักงานอย่างน้อย 1 อย่างที่เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นปากกา ยางลบ หรือสก็อตเทป ก็ตาม และยิ่งถ้าหากคุณเป็นชาวออฟฟิศด้วยแล้วล่ะก็ ในแต่ละวันคุณจะต้องได้หยิบใช้ของพวกนี้อย่างแน่นอน สำหรับใครที่กำลังมองหาเจ้าอุปกรณ์สำนักงานเจ๋งๆ ล่ะก็วันนี้เราก็มีของดีน่าซื้อมาฝากกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันได้เลย…   1. ยางลบรูปซูชินน่ารักน่าใช้ แถมยังเพิ่มสีสันให้โต๊ะทำงานอีกด้วย ราคา: 3 ชิ้น 150 บาท สั่งซื้อได้ ที่นี่ เลย   2. ที่ใส่สก็อตเทปรูปแตงโม สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการทานผลไม้เป็นพิเศษ ราคา: 530 บาท สั่งซื้อได้ ที่นี่ เลย   3. แม่เหล็กมาริโอ สำหรับติดบอร์ด ราคา: 530 บาท สั่งซื้อได้ ที่นี่ เลย   4. ไฟนีออนสำหรับตกแต่งโต๊ะทำงานรูปนก ให้ความรู้สึกเหมือนการออกไปเที่ยวในเขตร้อน ราคา: 1,200 บาท สั่งซื้อได้ ที่นี่ เลย…

การทำงานศิลปะที่ต้องใช้ความประณีตสูง อย่างเช่นการทำภาพดวงดาวที่ต้องใส่รายละเอียดยิบย่อย หลายคนอาจจะคิดว่าศิลปินต้องทุ่มเทเวลาและใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้ภาพออกมาดูสมจริง แต่ Christopher Jonassen ศิลปินชาวนอร์เวย์คนนี้ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเขาสามารถสร้างดวงดาวอันงดงามเสมือนจริงจากอุปกรณ์ที่หาได้รอบตัว     อุปกรณ์ที่ว่าก็มีหลายอย่าง เช่น หม้อเก่าๆ ที่มีรอยยุบ กระทะที่มีรอยขีดข่วนจนไม่อยากนำมาใช้ทำอาหารแล้ว หรือแม้แต่ของใช้ที่ขึ้นสนิม… มันอาจจะฟังดูตลกนะ แต่ Jonassen สามารถเปลี่ยนให้มันกลายเป็นสิ่งสวยงามได้อย่างน่าทึ่ง ชุดดวงดาวเหล่านี้ Jonassen เรียกมันว่า Devour เขาบอกว่า “ตอนนี้ผมเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย ผมอาศัยอยู่ในบ้านเช่าราคาถูกกับเพื่อนๆ และเรามีอุปกรณ์ปรุงอาหารที่สภาพแย่มาก”     ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เริ่มจัดการทำความสะอาดอุปกรณ์เหล่านั้น ทั้งขัด ทั้งถูก เพื่อให้มันถูกสะอาดและน่าใช้ แต่สิ่งที่เขาสังเกตเห็นระหว่างนั้นคือ รอยขัดถูบนก้นหม้อ ก้นกระทะ มันช่างดูคล้ายกับลายดวงดาวซะเหลือเกิน… นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ไอเดียเจ๋งๆ นี้ ผุดขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว ก่อนจะกลายมาเป็นผลงานดวงดาว Devour อย่างที่เห็นอยู่นี้     Jonassen บอกว่า “ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องสังเกตความงามของสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่รอบตัวเราทุกวัน” นอกจากนี้ยังติดตามผลงานเพิ่มเติมของเขาได้ที่เว็บไซต์ Christopherjonassen    . . . . .…

บางครั้งอากาศเย็นนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นอกจากมันจะเป็นอุปสรรคในการตื่นมาทำงานตอนเช้าแล้ว มันยังอาจทำให้คุณป่วยได้ง่ายๆ อีกด้วย แน่นอนว่าในหน้าหนาวนั้นถ้าหากว่าคุณจำเป็นที่จะออกไปข้างนอกล่ะก็ การมีเสื้อกันหนาวอุ่นๆ ซักตัวนั้นก็ช่วยคุณได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แถมถ้าหากเลือกแบบสวยๆ ล่ะก็มันยังทำให้คุณดูดีมีสไตล์ได้อีก และถ้าหากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์กันหนาวน่ารักๆ ล่ะก็วันนี้ #เหมียวเวจจี้ ขอแนะนำชุดกันหนาวสุดน่ารักในอ้อมกอดของเหล่าสรรพสัตว์จากประเทศญี่ปุ่น!!     เจ้าเสื้อกันหนาวที่ดูคล้ายกับชุดเกราะนี้เกิดจากการประกอบกันของชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแพนด้าที่ช่วยทำให้ลำตัวของคุณอบอุ่น หรือเจ้าสล็อตที่คอยระวังหลังให้กับคุณ และนอกจากนี้ยังมีน้องกระต่ายและสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างเจ้าหนู ตัวนากที่จะคอยช่วยให้ส่วนคอ แขน ขาของคุณรู้สึกอุ่นมากขึ้นเช่นกัน   แพนด้านและเจ้าสล็อต ที่ช่วยให้ความอบอุ่นทางด้านหน้าและด้านหลัง   ส่วนตรงคอและข้อมือก็ให้เป็นหน้าที่ของน้องกระต่ายเอง!!   และเมื่อนำทั้งหมดมาประกอบร่างกัน ก็จะได้เป็นชุดกันหนาวจากเหล่าสัตว์สุดน่ารัก   ความพิเศษของชุดกันหนาวที่ว่านี้ก็คือมันช่วยให้คุณสนุกและเพลิดเพลินกับจัดรูปแบบของชุดได้ด้วยตัวเอง ถ้าหากว่าเจ้าแพนด้า สล็อต และน้องกระต่ายยังมอบความอบอุ่นให้กับร่างกายไม่พอล่ะก็ เราสามารถนำพวกสัตว์ตัวอื่นๆ เข้ามาเพิ่มได้อีก หรือตรงกันข้าม ถ้าหากว่าคุณอยู่ในที่ทำงานที่ไม่หนาวมากล่ะก็ แค่น้องกระต่ายเพียงไม่กี่ตัวก็สามรถมอบความอบอุ่นที่เพียงพอให้กับคุณแล้ว ส่วนเหล่าสัตว์ตัวอื่นๆ ที่เหลือก็ยังแบ่งให้เพื่อนได้อีกด้วยนะเออ     ถ้าหากใครไม่ชอบเจ้าสล็อตล่ะก็ เค้าก็มีโคอาล่าน้อยให้เลือกอีกด้วยนะ   หรือจะเป็นพี่หมีตัวนี้ก็ได้เหมือนกัน   ตอนนี้ชุดเหล่าวสัตว์เพิ่มความอุ่นนี้ยังไม่มีจำหน่ายในบ้านเรา แต่ถ้าหากใครอยากสั่งซื้อออนไลน์จากประเทศญี่ปุ่นล่ะก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดการสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ vvstore กันได้เลย โดยชุดสัตว์ตัวเล็กๆ นั้นมีราคาเริ่มต้นที่ 450 บาท…

ปัจจุบัน “การสัก” นั้น กลายเป็นที่นิยมในผู้คนหลายเพศ หลายวัย และหลายชนชาติ เพราะการสักนั้นถือได้ว่าเป็นความงามของศิลปะที่ประทับอยู่บนเรือนร่างของผู้คน ที่ทำให้คนผู้นั้นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ในเมื่อการสักมันได้แพร่หลายกระจายไปยังที่ต่างๆ ของโลก จึงทำให้มีคนที่เรียกตัวเองว่า “ช่างสัก” อยู่มากเช่นกัน ซึ่งฝีมือและสไตล์ของผลงานการสักนั้นก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมผลงานของช่างสักผู้หนึ่งที่บอกได้เลยว่าฝีไม้ลายมือนั้นเทพมากๆ ช่างสักคนนี้ชื่อว่า Karol Rybakowski อายุ 30 ปี เป็นช่างสักชาวโปแลนด์ที่ปัจจุบันชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วเนื่องจากผลงานการสักของเขานั้น ออกมา “สมจริง” สุดๆ บางคนเห็นแค่ภาพถ่ายยังถึงกับบอกว่ามันเป็นภาพตัดต่อชัดๆ จนกระทั่งเกิดการโต้กันระหว่างความเห็น 2 ฝ่าย ที่ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือเขาจริงๆ กับอีกฝ่ายที่เชื่อว่าเป็นการตัดต่อ พูดถึงขนาดนี้ไม่ไปดูไม่ได้แล้วว่าฝีมือเขานั้นเยี่ยมยุทธ์ขนาดไหน   #1   #2   #3   #4   #5   #6   #7   #8   #9 .   เป็นไงบ้างล่ะครับ เหมือนจริงจนคิดว่าใช้…

คนเราเวลาที่ตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งก็ต้องหาแรงบันดาลใจมาเป็นตัวช่วยในการผลักดันให้ตัวเองสามารถไปถึงจุดหมายที่ตัวเองตั้งเป้าเอาไว้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแรงบันดาลใจเหล่านั้นก็มาจากสิ่งต่างๆ รอบตัว อาจเป็นคนในครอบครัว หรือสิ่งใดๆ ที่เรารัก อย่างเช่นพ่อหนุ่มเกาหลีคนหนึ่ง ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของเขาผ่านรายการ Hello Coinselor ทางช่อง KBS ของเกาหลีที่มี Eunhyuk, Shindong, Yesung, และ Donghae สมาชิกวง Super Junior เป็นแขกรับเชิญ     เขาได้บอกเรื่องราวของเขาว่า เขานั้นติดตามผลงานของวง Super Junior มาตั้งแต่พวกเขาเริ่มเดบิวต์ ซึ่งก็เป็นเวลากว่า 13 ปีแล้วที่เขาเป็นแฟนคลับมา     เดิมทีนั้นเขาเป็นคนที่อ้วนมากๆ เขามีน้ำหนักตัวที่มากถึง 119 กิโลกรัม ด้วยความที่เป็นคนอ้วนมากๆ ทำให้เขาได้รับคำติฉินนินทาเสมอ เขามักจะแสดงตัวว่าเขาเป็นแฟนคลับของวงบอยแบนด์สุดฮอตนี้ แต่ก็โดนคอมเมนต์หนึ่งที่ตอกกลับมาว่า “ถ้าคุณชอบซูเปอร์จูเนียร์แล้วทำไมคุณถึงอ้วนล่ะ?” เมื่อเขาได้รับคอมเมนต์แรงๆ นี้มาแทนที่เขาจะย่อท้อ แต่เขากลับเปลี่ยนคำนี้ให้เป็นพลังในการพัฒนาตัวเอง เขาเริ่มลดน้ำหนักภายในระยะเวลา 7 เดือน ซึ่งมันก็ทำให้เขาน้ำหนักลดลงไปถึง 49 กิโลกรัม     และเขายังกล่าวอีกว่า “ตอนที่ผมอ้วน ผมเป็นคนที่ขี้อายมาก แต่ตอนนี้ผมได้เปลี่ยนไปเป็นคนที่มีความมั่นใจมากขึ้นแล้วครับ” หลังจากนั้นเหล่าผู้ดำเนินรายการถึงกับทึ่งในรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของเขาและกล่าวชื่นชมที่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองจากคำด่าจากคนคนหนึ่งได้   ที่มา koreaboo

สำหรับใครที่มองว่าใครๆ ที่มีคู่นั้นดูช่างมีความสุขเสียจริง จนบางทีก็อยากจะมีให้เหมือนกับชาวบ้านเขาบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่าบางที การที่เราใช้ชีวิตอยู่อย่างโสดๆ อย่างเพียงลำพังนั้น อาจจะเป็นชีวิตที่คนมีคู่แอบอิจฉาอยู่ก็เป็นได้ นั่นจึงทำให้ศิลปินชื่อว่า Yaoyao Ma Van As ตัดสินใจถ่ายทอดมุมมองการใช้ชีวิตเมื่อต้องอยู่ลำพัง ออกมาให้ดูว่าจริงๆ แล้วชีวิตประจำวันของคนโสดนั้น มีความสุขที่หาได้ง่ายๆ ขนาดไหน ซึ่งเรื่องเหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไป แต่จริงๆ แล้วมันอาจเป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะตามหามาตลอดทั้งชีวิตเลยก็ได้ ซึ่งภาพวาดที่ออกมานั้น ก็มีทั้งความน่ารักและความสวยงาม อีกทั้งยังแฝงไปด้วยการสื่อถึงสิ่งง่ายๆ ที่เราสามารถหาได้ในทุกวัน เห็นอย่างนี้แล้วก็ไม่ต้องไปแอบอิจฉาคนมีคู่กันแล้วนะยะ!! และหากใครที่ชื่นชอบผลงานลายเส้นของศิลปินท่านนี้ก็สามารถไปติดต่ามกันต่อได้ที่ @yaoyaomva   ทำงานได้โดยไม่ต้องเป็นมีเรื่องให้คิดกวนใจ   นอนเล่นบนเตียงได้ทั้งวัน แถมยังไม่มีใครคอยบ่นคอยว่าอีกด้วย   เล่นกับสัตว์เลี้ยงแสนรักได้แบบสนุกสุดเหวี่ยง   แต่งห้องของเราได้แบบตามใจตัวเอง   มีเวลาว่างๆ ก็ไปหาหนังสือที่ชอบอ่าน โดยไม่ต้องแคร์ใครเล้ยย   เดินกลางฝนแบบคนเดียวก็สดชื่นไปอีกแบบนะ   ทำอะไรก็ไม่ต้องอาย จะนั่งท่าไหนก็ได้   อยู่กับความคิดของตัวเอง และดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ ในยามเช้า   อยากเที่ยวไหนก็ไปได้เลย ไม่ต้องขออนุญาตใคร   ทำสิ่งเพี้ยนๆ ต๊องๆ…

สมัยนี้ก็มีแต่เรื่องเครียดๆ มากมายในชีวิตเราไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภายนอกอย่างการเมือง เศรษฐกิจ หรืออาจจะเป็นเรื่องของตัวเองเช่นเรื่องการเรียน การเงินเป็นต้น บางคนก็เครียดจนรับมือไม่ไหว กลายเป็นโรคซึมเศร้าไปเลยก็มี การที่จะอยู่รอดบนโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้นั้น จะต้องรู้วิธีรับมือกับความเครียดให้ได้ และวันนี้เราก็ได้นำของเล่นแปลกๆ น่าสนุกมานำเสนอ ถึงแม้ว่าของเล่นเหล่านี้อาจจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาของคุณ แต่มันก็จะช่วยให้คุณเผชิญกับปัญหาด้วยรอยยิ้มที่คุณได้รับมา   1 . เจ้าไข่จอมอ้วก ดูมันอ้วก สภาพไม่ต่างกับการที่ต้องตื่นไปทำงานในเช้าวันจันทร์เลยทีเดียว   2. แม่ไก่เบ่งไข่ ถ้าเราบีบท้องของเราแล้วไม่มีอะไรออกมาแบบนี้ แสดงว่าเราโชคดีแล้ว   3. สมุดบันทึกชื่อบุคคลสำคัญ (ที่เราไม่ชอบขี้หน้า) ให้จำชื่อก็คงรกพื้นที่ในสมอง แค่จดไว้ในสมุดเล่มนี้ก็พอแล้ว   4. เกมพายเฟส ถ้าเล่นกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้า จะเปลี่ยนจากครีมเป็นโคลนก็ได้นะ   5. เครื่องนวดหัว การนวดหัวนั้นอาจจะทำให้เราเบาเครียดลงมาได้บ้าง ไม่แน่นะ เราอาจจะมีความสุขมากๆ เหมือนกับชายในรูปนี้ก็ได้นะ   6. ไหเก็บเสียง เมื่อใดที่ทนไม่ไหว อยากจะตะโกนออกมาดังๆ เจ้าไหนี้คงช่วยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว   7. แม่เหล็กเหลว หากรู้สึกเบื่อๆ นั่งดูเจ้าแม่เหล็กนี่เลื้อยไปเลื้อยมาก็อาจจะพอแก้เบื่อได้บ้าง  …

Kristina Makeeva ช่างภาพมากฝีมือจากประเทศรัสเซียผู้สร้างสรรค์ผลงานโดยใช้ ฟองสบู่ ลูกโป่ง และโคมไฟ เป็นธีมหลัก โดยให้เหตุผลว่าภาพที่ใช้วัตถุดังกล่าวเป็นหลัก มันทำให้ภาพของเธอดูสวยงาม สดใสและแฟนตาซีมากขึ้น ราวกับว่าเธอสามารถร่ายเวทมนตร์ลงบนภาพ นอกจากนี้ผลงานของเธอนั้นยังเป็นงานที่ถ่ายมาจากสถานที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก แต่ไม่ว่าจะเป็นมุมในของโลกสิ่งที่เหมือนกันคือในภาพจะต้องมีหนึ่งในสามสิ่งที่เธอใช้เป็นธีมหลัก และโทนภาพแต่ละภาพที่มีหนึ่งของทั้งสามสิ่งก็ล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง   ภาพถ่ายที่ใช้ลูกโป่งนั้นจะมีโทนสีชมพูและฟ้าเป็นหลัก .   แม้จะเป็นลูกโป่งสีน้ำเงินก็ยังให้ความรู้สึกสดใสและสบายตา . .   โดยเฉพาะภาพที่เป็นสีฟ้าล้วนแบบนี้ มันดูสบายตามากๆ เลยทีเดียว   นอกจากสีชมพูแล้ว สีม่วงก็ถูกใช้ในธีมลูกโป่งเหมือนกันนะ . .   ต่อมาคือธีมของโคมไฟ ซึ่งจะให้โทนภาพสีส้มและดำเป็นหลัก ดูแล้วอบอุ่น   โคมไฟที่ว่านั้นรวมถึงหลอดไฟสีส้มด้วยนะ   ภาพนี้ดูเหมือนจะถ่ายที่ประเทศไทยหรือเปล่า? .   ภาพนี้ดูแพงมากๆ .   ปล่อยโคมในตัวเมืองก็มีเช่นกันนะ แม้จะไม่เยอะก็ตาม ซึ่งก็ดูสวยงามอย่างลงตัวเลยทีเดียว   ต่อมาคือธีมของฟองสบู่ ซึ่งจะให้ความรู้สึกแฟนตาซีเล็กๆ .   สวยไปเลยใช่ไหมละ   ยิ่งภาพนี้ยิ่งดูเทพนิยายมากๆ…

“ปีใหม่ ฉันจะผอมให้ได้” นี่คงเป็นอีกหนึ่งปณิธานที่ใครหลายๆ คนได้ตั้งไว้เป็นหนึ่งในภารกิจที่จะทำให้ได้ในปีนี้ แต่พอเริ่มไปได้ไม่กี่วันก็ต้องถอดใจซะแล้ว ก็กับข้าวมันอร่อยจะให้ห้ามใจยังไงไหว ถ้าการลดน้ำหนักด้วยตัวเองมันไม่ได้ผลก็ต้องใช้วิธีใหม่ในการบังคับตัวเอง สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีในการทำให้ตัวเองมีแรงบรรดาลใจในการลดน้ำหนักล่ะก็ ลองมาดูยิมแบบใหม่ของที่ญี่ปุ่นกันดู Himitsu no Gym เป็นยิมที่ตั้งอยู่ในย่านชินจุกุ ยิมแห่งนี้มีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือการเทรนแบบพิเศษจากเทรนเนอร์พิเศษ ที่หนุ่มๆ ทั้งหลายคงจะต้องอยากสมัครสมาชิกกันรัวๆ     ความพิเศษที่ว่านี้ก็คือการจัดห้องออกกำลังกายในธีมซาดิสม์ มาโซคิสม์ แหม่ แค่คิดก็ซี้ดซ้าดซะแล้ว นอกจากนี้ยังมีเทรนเนอร์สาวที่คอยดูแลแบบตัวต่อตัว เทรนแบบเน้นๆ ใครที่ไม่เชื่อฟังเทรนเนอร์ล่ะก็เจอดีแน่ ในห้องออกกำลังกายแห่งนี้จะมีอุปกรณ์สำหรับสายซาดิสม์ มาโซคิสม์เอาไว้ให้ดูทั้งโซ่ แส้ กุญแจมือ มาครบทุกอัน และอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับโชว์เท่านั้น มันเอาไว้ใช้จริงๆ สำหรับลูกค้าที่ยินยอมและเต็มใจจะถูกเทรนแบบพิเศษที่จัดขึ้นโดยทางยิม     เทรนเนอร์สาวจะดูแลคุณเป็นอย่างดีด้วยการบันทึกน้ำหนักก่อนเข้าคอร์ส ดูแลเรื่องโภชนาการและสอนวิธีการออกกำลังกายเพื่อให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่ถ้าคุณลูกค้าดื้อไม่ยอมทำตามหรือน้ำหนักไม่เป็นไปตามคอร์สที่วางไว้ก็ต้องมีการกระตุ้นกันเล็กน้อยด้วยเหล่าอุปกรณ์ทั้งหลายที่แขวนไว้ในยิม     บางครั้งเทรนเนอร์ก็จะใช้เหล่าอุปกรณ์ในการทรมานช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ามีแรงฮึดและมีอารมณ์ในการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น   หลายคนอาจจะอยากรู้ว่าวิธีการเทรนแบบพิเศษนี้มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เริ่มต้นเลยก็ต้องมีการอบอุ่นร่างกายยืดเส้นยืดสายเรียกเหงื่อกันเสียหน่อย   จากนั้นเทรนเนอร์ก็จะเริ่มหยิบเอาอุปกรณ์การทรมานมาใช้ทีละชิ้น เพื่อกระตุ้นให้คุณลูกค้ามีแรงฮึกเหิม   หลังจากการอบอุ่นร่างกายพอสมควรแล้ว เทรนเนอร์ก็จะพาเข้าสู่ขั้นของการคาร์ดิโอ หากว่าคุณลูกค้าเหยาะแหยะก็จะโดนหวดด้วยแส้ทันที   ขั้นต่อไปก็เข้าสู่ขั้นตอนของการเวทเทรนนิ่ง ขั้นตอนนี้เทรนเนอร์อาจจะมีการสาดน้ำตาเทียนใส่เล็กๆ น้อย เพื่อความสะใจของคุณลูกค้า…

ในยุคนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเจ้าไข่ขี้เกียจกุเดทามะสุดน่ารักที่ดูไม่แยแสใดๆ ไร้แรงบรรดาลใจสุดๆ เห็นแล้วอยากจะขี้เกียจตามเลยทีเดียว กุเดทามะ เจ้าไข่ขี้เกียจจาก Sanrio ก็ได้มีโปรเจกต์หลายอย่าง ตั้งแต่เป็นสินค้าต่างๆ ทำเมดคาเฟ่ ไปจนถึงทำร้านขนมหวานเป็นของตัวเอง แต่ครั้งนี้เจ้ากุเดทามะได้มีโปรเจกต์พิเศษ โดยการทำเครื่องประดับร่วมกับผู้ผลิตและร้านค้าปลีกชาวญี่ปุ่น และ THE KISS ซึ่งได้ผลิตเครื่องประดับออกมา 2 แบบให้ได้สั่งซื้อออนไลน์แล้ว   1. สร้อยกุเดทามะ ราคา 91,000 เยน (ประมาณ 26,000 บาท)   สร้อยไข่ขี้เกียจในส่วนของไข่ขาวนั้นสร้างมาจากทองคำขาว 95% และไข่แดงที่ทำมาจากทอง 18 กะรัต ตกแต่งด้วยเพชร 3 เม็ด แถมยังมากับกล่องใส่เป็นรูปเปลือกไข่ที่ทำจากเหล็กมาอีกด้วย การที่ได้เห็นออกมาเป็นรูปเป็นร่างแบบนี้ คงจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว   2. แหวนกุเดทามะ 91,000 เยน (ประมาณ 26,000 บาท)   แหวนเจ้าไข่ที่ดูเหมือนกำลังจะลื่นไหลออกมาจากแหวน สร้างจากวัสดุเช่นเดียวกันกับสร้อยที่ไข่ขาวเป็นทองคำขาว 95% และไข่แดงเป็นทอง 18 กะรัต…

เหมือนเชื่อว่าเด็กหญิงทุกคนคงมีความฝันที่อยากจะมีห้องนอนที่เหมือนเทพนิยาย ประดับไปด้วยแสงต่างๆ ซึ่งมันเป็นไปได้ยากมากที่จะทำได้ แต่สุดยอดคุณพ่อท่านนี้เขาได้ทำให้ลูกสำเร็จแล้ว คุณพ่อได้โพสต์ผลงานของเขาลงในเว็บไซต์ Reddit ซึ่งเป็นห้องนอนที่เขาได้ทำให้กับลูกสาวของเขาโดยใช้เวลากว่า 350 ชั่วโมง หรือ 18 เดือน สร้างเวทมนตร์ขึ้นมา โดยใช้งบประมาณทั้งหมด 150,000 บาทเลยทีเดียว อื้อหืออออ แน่นอนว่างบเยอะขนาดนี้ อุปกรณ์ทุกอย่างนั้นล้วนมีคุณภาพทั้งนั้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณพ่อถึงสร้างอะไรแบบนี้ได้คนเดียว เพราะเขาคือศิลปินผู้ออกแบบเกมต่างๆ นั่นเอง คุณพ่อเล่าว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือเมื่อลูกของเขาอายุครบ 13 แล้ว เขาคงต้องเอาสิ่งพวกนี้ออกไป   นี่คือห้องเดิมก่อนที่จะเติมแต่งลงไป ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนไปมาก   และนี่ก็คือภาพห้องนอนหลังจากตกแต่งเรียบร้อยแล้ว   ภาพการทำงานของคุณพ่อ ดูก็รู้ว่าทุ่มเทกับการสร้างมากๆ เพราะทำเองคนเดียวหมดเลย . . . .   นี่เราควรมอบรางวัลพ่อดีเด่นประจำปีให้เลยรึเปล่านะ . .   ที่มา boredpanda

สัตว์บางชนิดจะมีวิธีการปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ หลายท่านคงเคยเห็นว่าสัตว์บางชนิดนั้นสามารถเปลี่ยนสีได้ เมื่อพูดถึงสัตว์ที่เปลี่ยนสีได้แล้วจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกเสียจากเจ้า “กิ้งก่าคาเมเลี่ยน” นั่นเอง นอกจากมันจะสามารถเปลี่ยนสีแล้ว ปัจจุบันยังพบว่าเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนนั้นยังมีกระดูกที่สามารถ “เรืองแสง” ได้อีกด้วย     จากการศึกษาเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนนั้นพบว่ารอบๆ กะโหลกของมันมีตุ่มเล็กๆ จำนวนมาก นูนออกมาซึ่งมีเพียงหนังใสๆ บางๆ กั้นเอาไว้เท่านั้น ดังนั้น เมื่อมันได้รับแสงยูวี กระดูกของมันจึงเรืองแสงได้นั่นเอง ลักษณะของกระดูกที่สามารถเรืองแสงได้นั้นพบเห็นได้อย่างแพร่หลายในกิ้งก่าคาเมเลี่ยนในมาดากัสการ์และแอฟริกา โดยเจ้ากิ้งก่าจะมีการปรับตัวด้วยการเรืองแสงเมื่ออยู่ในป่าและพื้นที่ชื้นซึ่งมีแสงค่อนข้างมาก     นอกจากนี้การวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์จาก Scientific Reports ยังสันนิษฐานว่าการเรืองแสงออกมาของกิ้งก่าคาเมเลี่ยนนั้นสามารถใช้เป็นวิธีการสื่อสารเพื่อ “ดึงดูดเพศตรงข้าม” และ “หาคู่ผสมพันธุ์” ถึงแม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดถึงหน้าที่ของระบบเรืองแสงในกิ้งก่าคาเมเลี่ยน แต่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า การเรืองแสงนั้นช่วยให้มันรับแสงยูวีน้อยลง ช่วยการถ่ายละอองเรณูของดอกไม้ ป้องกันตัวจากสัตว์อื่น จำแนกสายพันธุ์ตนเองออกจากสายพันธุ์อื่น และเป็นสัญญาณประกาศหาคู่ด้วยนั่นเอง     ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์นั้นทำการศึกษากับกิ้งก่าคาเมเลี่ยนสายพันธุ์ Calumma เพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่กิ้งก่าคาเมเลี่ยนอีกประมาณ 8 สายพันธุ์ก็มีลักษณะของการเรืองแสงได้เช่นกัน ดังนั้นเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจนมากขึ้น การศึกษาครั้งต่อไปจึงจำเป็นต้องศึกษากับกิ้งก่าที่มีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม   ช่างเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีสีสันดีจริงๆ เลยนะเนี่ย อยากมีบ้างจังเลย ที่มา: Iflscience

เพื่อนๆ เบื่อกันบ้างหรือเปล่าครับกับการดูรายการซักรายการ แล้วผู้ดำเนินรายการก็จะเปิดด้วย “สวัสดีครับ พบกันอีกแล้วนะครับ กับรายการ… วันนี้เราจะมา…” นึกภาพออกกันเลยใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับยูทูบเบอร์สาวชาวจีนคนนี้เพื่อนๆ จะไม่ได้ยินอะไรแบบนั้นแน่นอน เพราะว่าเธอมีวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจกว่านั้นเยอะ     เธอคนนี้เป็นสาวจีนที่มีชื่อว่า 李子柒 เธออาศัยอยู่ในเมืองเหมียนหยาง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยคลิปวิดีโอในแชแนลยูทูบของเธอก็คือวิดีโอที่นำเสนอวิธีการทำอาหารต่างๆ นาๆ ซึ่งความไม่ธรรมดาของเธอก็คือ วิธีการนำเสนอที่เล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของคนดูนี่แหละ เพราะตลอดคลิป ไม่ว่าจะคลิปไหนๆ เธอจะไม่พูดแม้แต่คำเดียว! ทำให้คนดูต้องรอลุ้นว่าเธอจะทำอะไรต่อไป และผลสุดท้ายจะออกมาเป็นอะไรกันแน่   . .   ถึงแม้เธอจะไม่พูด แต่บอกเลยว่าแต่ละคลิปวิดีโอของเธอนั้น งานภาพสวยงามสุดๆ อีกทั้งบรรยากาศในคลิปนั้นจะเป็นบรรยากาศของชนบทที่มีแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่อาศัยอยู่กับธรรมชาติที่สวยงาม     การนำเสนอของเธอนั้น แตกต่างจากรายการทำอาหารที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ ประมาณว่าทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว แล้วก็มีการอธิบายว่าใส่อันนู้นอันนี้เท่าไหร่ แต่เธอนั้นเริ่มตั้งแต่การหาวัตถุดิบที่เธอต้องไปเก็บผัก ขุดผัก ให้เห็นกันจะๆ เลยทีเดียว     จากนั้นก็จะเป็นวิธีล้างทำความสะอาดวัตถุดิบต่างๆ รวมไปถึงขั้นตอนการปรุงที่ดูเป็นธรรมชาติสุดๆ ราวกับว่าเรายืนมองคุณแม่ที่กำลังเตรียมทำอาหารอย่างนั้นแหละ     และที่สำคัญเลยก็คือ ยูทูบเบอร์สาวผู้นี้มีรูปโฉมที่เรียกได้ว่า “งดงาม”…