Category: รวมเรื่องมหัศจรรย์

ช่วงนี้เรียกได้ว่ากระแสประกวดมิสยูนิเวิร์สประจำปี 2018 ที่ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพนี่มาแรงจริงๆ ที่เพิ่งได้ผู้ชนะไปไม่นานมานี้ ซึ่งวันนี้เราจะไม่ได้มาพูดถึงผู้ชนะแต่อย่างใด วันนี้เราจะมาพูดถึงมิสเวียดนามคนล่าสุดอย่างคุณ H’Hen Niê ที่มีความสวยความสามารถที่ช่วยส่งผลให้ทะลุเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายไปได้อย่างสวยงาม แต่กว่าจะมาถึง ณ จุดนี้ สำหรับเธอแล้วถือว่าไม่ง่ายเลย เพราะเธอต้องผ่านอะไรมาอย่างมากมาย เรื่องราวของเธอจะเป็นอย่างไร ไปรับชมกันครับ   https://www.instagram.com/p/BjRNgUVDGCs/?utm_source=ig_embed   “เริ่มจากไม่มีอะไร ฉันมาอยู่ตรงนี้ได้ คุณก็ทำได้เหมือนกัน” คือส่วนหนึ่งของคำพูดที่เธอเผยในตอนที่รู้ว่าตัวเองเข้าสู่รอบ 20 คนสุดท้ายของมิสยูนิเวิร์ส 2018 ต้องบอกก่อนเลยว่า H’Hen Niê เธอมาจากชนเผ่า Rade ที่เป็นชนกลุ่มน้อยที่มีจำนวนประชากรประมาณ 5% ของประเทศเท่านั้น ซึ่งชีวิตวัยเด็กต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความยากจนหรือการไม่ได้ยอมรับจากสังคมหรือขาดแคลนโอกาสทางศึกษา   https://www.instagram.com/p/Bp3upgVhUPB/   ตามประเพณีของชนเผ่า Rade แล้ว ผู้หญิงมักจะแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งกับเธอก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ในวัย 14 ปี พ่อแม่ของ H’Hen ได้ขอให้เธอหาสามีและแต่งงานเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม แต่เธอไม่ยอมรับประเพณีดังกล่าว เธอเลือกที่จะต่อต้านประเพณีของเผ่า ก่อนจะตัดสินใจย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ที่นครโฮจิมินห์ เมืองที่ใหญ่สุดของเวียดนามและนี่ก็เพิ่งเป็นการเริ่มเดินทางสู่มิสยูนิเวิร์ส   https://www.instagram.com/p/BrErJxghmQX/?utm_source=ig_embed  …

หลายคนอาจมองว่า “ของกินในถังขยะ” เป็นสิ่งสกปรก ทิ้งแล้วทิ้งเลย ไม่สามารถหยิบมากินได้อีก แต่นั่นไม่ใช่ความคิดของเธอคนนี้ เรากำลังพูดถึงหญิงสาวชาวออสเตรเลียวัย 24 ปีที่ชื่อว่า Lauren Mueller เธอผู้เริ่ม “คุ้ยขยะหาของกิน” มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อ 5 ปีก่อน   Lauren สาวอนุรักษ์ ผู้คุ้ยขยะหาของกินเป็นประจำ   เธอมีความเชื่อที่ว่าหลายๆ สิ่งที่คนทิ้งกันไปนั้น แท้จริงแล้วมันยังสามารถนำกลับมากินได้อยู่ มันไม่ควรที่จะถูกทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์ สิ้นเปลืองทรัพยากรของโลก ด้วยเหตุนั้นเอง เธอจึงเริ่มคุ้ยหาของกินตามถังขยะ จนกลายเป็นสิ่งที่เธอจะต้องทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา   อาหารการกินที่เธอได้มาจากถังขยะ .   แน่นอนว่าในตอนแรกคนรอบข้างของเธอก็คงจะรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่กับการได้เห็นว่าหญิงสาวกินอาหารที่มาจากถังขยะ แต่สิ่งที่เธอเลือกหยิบมาแต่ละอย่างนั้นล้วนแล้วแต่เป็นของที่กินได้จริง จะเป็นอาหารที่ยังไม่เน่าเปื่อย ใกล้หมดอายุ หรือยังไม่ได้หลุดออกมาจากบรรจุภัณฑ์เท่านั้น จึงสามารถวางใจได้   เธอและน้องสาว   Lauren บอกอีกว่าการทำอย่างนี้ช่วยให้เธอสามารถประหยัดเงินไปได้เป็นจำนวนมาก แถมยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะที่ยังไม่ถึงเวลาต้องทิ้งอีกด้วย เธอบอกว่ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของอาหารที่ตัวเองกิน ล้วนมาจากถังขยะทั้งสิ้น   วัตถุดิบในอาหารนี้ ล้วนมาจากถังขยะ   เมื่อปี…

หากใครที่ได้ดูหนังเรื่อง “ATM เออรัก เออเร่อ” ก็คงจะจำกันได้ว่าในหนังเรื่องนั้น เกิดความผิดพลาดกับระบบถอนเงินของตู้ ATM ทำให้ได้รับเงินเป็นสองเท่าจากที่กดไปแบบฟรีๆ และเรื่องราวในลักษณะเดียวกันนั้นก็เกิดขึ้นจริงกับชายหนุ่มชาวออสเตรเลียที่ชื่อว่า Dan Saunders ชายผู้โชคดี สามารถถอนเงินออกมาจากตู้ได้แบบไม่อั้น และใช้มันไปกับไลฟ์สไตล์อันหรูหราตลอด 4 เดือน   Dan ชายผู้โชคดี กับเรื่องราวที่ทำให้เขาจดจำได้ไม่ลืม   เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ในตอนนั้น Dan อายุได้ 29 ปี ทำงานอยู่ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งของเมือง Wangaratta ในคืนหนึ่ง เขาได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ และไม่สามารถใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าเครื่องดื่มได้ เขาจึงเดินออกไปกดเงินที่ตู้ ATM ใกล้ๆ คือเอาจริงๆ แล้วในบัญชีเขานั้นมีเงินเหลืออยู่เพียงแค่ 3 ปอนด์ (ประมาณ 124 บาท) แต่เขาดันพยายามจะกดออกมา 100 ปอนด์ (ประมาณ 4,100 บาท) ซึ่งประเด็นคือมันก็ได้ซะด้วย?!     ตอนนั้นเขาก็ยังงงๆ และเดินกลับไปหาเพื่อนๆ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจอดใจเอาไว้ได้…

เพื่อนๆ บางคนอาจเคยเล่นโทรศัพท์ในระหว่างทำงาน ตอบแชทบ้าง เปิดดูเฟซบุ๊ก ข่าวสารโน่นนี่นั่น แต่สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจชาวอังกฤษวัย 38 ปี ที่ชื่อว่า Phillip Cokell สิ่งที่เขาเปิดดูในโทรศัพท์ระหว่างการทำงานอยู่นั้นก็คือ “หนังโป๊”?!     จากการรายงานบอกว่า ตำรวจหนุ่มคนนี้ต้องเข้าเวร 8 ครั้งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยเขาได้รับมอบหมายให้ตรวจตราบริเวณโดยรอบสนามฟุตบอลของทีม Carlisle United สโมสรในเมืองคาร์ไลล์ แต่ระหว่างที่มีการแข่งขันเกิดขึ้นนั้น ไม่รู้ว่าเขาเกิดมีอารมณ์กำหนัดหรืออย่างไร ซึ่งในภายหลังเขายอมรับว่าตนเองได้เปิดหนังโป๊ขึ้นมาดูในตอนที่กำลังทำงานอยู่     คือการที่เขาเปิดหนังโป๊ดูระหว่างทำงาน หรือการที่เขาแต่งงานแล้วแต่ยังแอบดูหนังโป๊อยู่ เรื่องเหล่านั้นอาจไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือน่าตกใจอะไรมากนัก เมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาได้ทำหลังจากนั้น     ในการรายงานข่าววันที่ 16 ธันวาคม 2018 บอกว่า Phillip ได้ทำการถ่ายรูป “ไอ้จ้อน” ของตัวเองในตอนที่กำลังทำงานอยู่นั่นแหละ ส่งไปให้เจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่งดู ซึ่งเขาและเธอนั้นแทบจะไม่รู้จักกันเลย หญิงสาวคนนั้นทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ และเธอก็แค่เอากาแฟมาเสิร์ฟให้เขาในระหว่างการผลัดเวรเท่านั้นเอง ก่อนที่ทั้งสองจะได้แลกเบอร์กัน และเธอก็ได้รับภาพไอ้จ้อนของตำรวจหนุ่มหลังจากนั้น     แน่นอนว่าทางฝั่งผู้หญิงคงไม่อาจทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เธอจึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคน…

แทบทุกประเทศทั่วโลกนั้นจะมีการสลัก “ใบหน้าของผู้นำประเทศ” เอาไว้บนเงินเหรียญที่ใช้กันทั่วไป เช่นเดียวกับในบ้านเรา แต่ล่าสุด ประเทศเคนย่าได้ออกเงินเหรียญรูปแบบใหม่ จากที่เคยเป็นรูปผู้นำประเทศของพวกเขา ตอนนี้มันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น “รูปสิงสาราสัตว์”   เงินเหรียญรูปแบบใหม่ในประเทศเคนย่า   ธนาคารกลางในประเทศเคนย่าเป็นผู้ผลิตเหรียญตรารูปแบบใหม่ที่ว่านี้ โดยพวกเขาได้เลือกหยิบเอาสัตว์ป่า 4 ชนิดมาอยู่บนเงินเหรียญชิลลิง 1 ชิลลิงเป็นรูป “ยีราฟ” , 5 ชิลลิงเป็นรูป “แรด” , 10 ชิลลิงเป็นรูป “สิงโต” และ 20 ชิลลิงเป็นรูป “ช้าง”     นั่นหมายความว่าพวกเขาได้นำเอาภาพของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมาแทนที่ภาพของอดีตผู้นำประเทศทั้ง 3 คนก่อนหน้านี้ ได้แก่ Jomo Kenyatta , Daniel arap Moi และ Mwai Kibaki Uhuru Kenyatta ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของประเทศเคนย่า ได้ออกมาประกาศถึงจุดประสงค์ของการเปลี่ยนรูปภาพบนเหรียญทั้งหมดนี้ไว้ในวันที่ 11 ธันวาคม 2018   Uhuru…

พวกเราแทบทุกคนอาจต้องเคยได้ยินชื่อของ วัดเส้าหลิน ในประเทศจีน ที่นอกจากจะเป็นแหล่งแห่งธรรมะแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังเป็นดั่งสนามฝึกวิทยายุทธ์ของหลายๆ คนอีกด้วย และในวันนี้ เพื่อนๆ กำลังจะได้ไปทำความรู้จักกับเจ้าหนูแซ่ Qi วัย 3 ขวบ เด็กชายผู้ได้รับฉายาว่า Little Stone เพราะเขาคือเด็กอายุน้อยที่สุดที่เข้ามาฝึกวิทยายุทธ์ในสถานที่แห่งนี้   Qi เด็กชายวัย 3 ขวบ ลูกศิษย์วัดเส้าหลิน   Qi นั้นเดินทางจากบ้านมาเข้ารับการฝึกฝนตนเองที่วัดเส้าหลิน ในมณฑลเหอหนาน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2018 เป็นระยะเวลากว่า 8 เดือนแล้ว เขามีความใฝ่ฝันที่จะกลายเป็น “ผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งวัดเส้าหลิน” เขาจึงตั้งใจฝึกฝนทุกสิ่งอย่างตั้งใจ ทั้งสมรรถภาพทางกายและใจ รวมไปถึงท่วงท่าศิลปะการป้องกันตัวต่างๆ     เด็กชายวัย 3 ขวบจำเป็นที่จะต้องจากบ้านมาโดยที่มีโอกาสกลับไปหาครอบครัวได้เพียงแค่ 2 เดือนครั้งเท่านั้น นั่นจึงทำให้ในตอนแรกเขามักจะร้องไห้อยู่เสมอเมื่อคิดถึงพ่อแม่ที่รออยู่ที่บ้าน     Abbot Yanbo อาจารย์ของเขาบอกว่า “หลังจากผ่านไปไม่กี่เดือน เขาเริ่มคุ้นเคยกับการฝึกฝนต่างๆ และกลายเป็นเด็กที่ฉลาดมากๆ คนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นนักเรียนที่มีความขยันไม่แพ้ใครเลย”…

คงจะมีน้อยคนนักที่เติบโตขึ้นมาโดยที่ไม่เคยผ่านการเล่น ‘ตัวต่อ LEGO’ มาก่อน อย่างที่รู้กันดีในวัยเด็ก มันคือเกมฝึกสมองที่เราจะจับตัวต่อที่เข้าคู่กันมาต่อกันจนออกมาเป็นรูปร่างต่างๆ แต่เมื่อโตขึ้นมาความสามารถเพิ่มมากขึ้น ผู้ใหญ่หลายๆ คนที่ต่อตัวต่อ LEGO ก็เริ่มที่จะคิดแหวกแนวด้วยการ ‘ต่อแบบผิดๆ’ แต่ทว่า มันดันออกมาเจ๋งเป้งอย่างเหลือเชื่อ!? สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพของเหล่าบุคคลผู้ต่อ LEGO แบบผิดๆ แต่ทว่ามันทำให้พวกเขาดูเป็น ‘อัจฉริยะ’ ซะอย่างงั้น!? จะเป็นอย่างไรไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า…   1. เอาเบอร์รี่มาใส่หัว กลายเป็นคุณป้าขึ้นมาทันที!!   2. เอามาต่อแบบนี้ก็ได้เหรอ!?   3. ติดกระเบื้องแบบเอียงๆ   4. ทำเป็น BB8 ซะเลย   5. ถึงจะดูขัดใจ แต่มันก็เจ๋งจริงๆ นั่นแหละ!!   6. กลายเป็นกำแพงสวยๆ   7. หลังคามุงกระเบื้อง   8. ต่อแบบนี้ก็ได้เหร๊ออออ!?  …

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวชวนหลอนเบาๆ ที่เกิดขึ้นจริงในงานศพของหญิงชราวัย 65 ปี หลังจากญาติของเธอได้ยินเสียง “ร้องไห้สะอื้น” ดังออกมาจากโลง?! เหตุการณ์ที่ว่านั้นเกิดขึ้นในเมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา ญาติหลายๆ คนยืนยันว่าพวกเขาได้ยินว่ามีเสียงสะอื้นจากภายในโลงศพนั้นจริงๆ     งานนี้จึงทำให้ผู้ร่วมงานทุกคนถึงกับเหวอไปตามๆ กัน จำเป็นที่จะต้องหยุดชะงักงานศพกลางคันระหว่างที่กำลังลำเลียงโลงศพไปประกอบพิธี จากในภาพเราจะเห็นว่าสัปเหร่อและเหล่าเครือญาติของผู้ตายได้เข้าไปมุงดูอยู่ที่โลงศพบริเวณหลังรถ เพราะพวกเขาเริ่มเกิดความคิดที่ว่าจริงๆ แล้วหญิงชราอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้     ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาจึงทำการเคลื่อนย้ายร่างของผู้ตายไปยังโรงพยาบาล Blas L. Dubarry ทำการตรวจเช็กเพื่อความแน่ใจอีกรอบหนึ่ง แพทย์ยืนยันว่าหญิงชราคนนี้ได้จากโลกนี้ไปแล้วจริงๆ และยังตายไปเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงอีกด้วย     ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว เสียงที่หลายๆ คนได้ยินนั้นมันคือเสียงอะไรกัน?? ไม่แน่ว่ามันอาจมีพลังงานลี้ลับบางอย่างซ่อนตัวอยู่ ก็เป็นได้….   ที่มา: ladbible

แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีความชอบที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจชอบอ่านหนังสือ บางคนชอบฟังเพลง แต่เราอ่ะชอบเธอ กรุ๊ววววว!! (หยอกเล่นเฉยๆ ไม่อยากให้เครียด) และสำหรับชายหนุ่มคนนี้ สิ่งที่เขาชอบทำมากที่สุดก็คือ “การดมถุงเท้าหลังเลิกงานทุกวัน” ?! จนพฤติกรรมดังกล่าวได้ทำให้เขาต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ด้วยอาการ “ปอดติดเชื้อ” !!   ภาพเอกซเรย์ปอดของชายคนดังกล่าว   สำนักข่าวหลายๆ แห่งได้รายงานถึงเรื่องราวนี้เอาไว้ในวันที่ 14 ธันวาคม 2018 หลังจากที่หนุ่มชาวจีน (ไม่ระบุชื่อ) ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการปอดติดเชื้อขั้นรุนแรง ทีมแพทย์จากเมืองจางโจว มณฑลฝูเจี้ยน เชื่อว่าสาเหตุของอาการดังกล่าว เกิดจากการที่ชายคนนี้มักจะดมถุงเท้าของตัวเองหลังเลิกงานอยู่ทุกวัน     เขาเล่าว่าทุกๆ วันหลังจากที่ทำงานมาตลอดทั้งวัน เขาจะกลับบ้านไปแล้วเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ และไม่ลืมที่จะเอาถุงเท้าที่ตัวเองใส่ทำงานนั้นมาดมอยู่เสมอ     ทีมแพทย์อธิบายว่า “เชื้อรา” จากการหมักหมมของเหงื่อบริเวณเท้าของเขาคือสาเหตุของเรื่องนี้ เพราะเขาสูดมันเข้าไปอยู่ทุกวัน จนนำไปสู่อาการติดเชื้อภายในปอดนั่นเอง   การรายงานข่าวในประเทศจีน    จากการรายงานล่าสุดบอกว่า ชายคนดังกล่าวยังคงต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อดูอาการต่อไป โดยเชื่อว่าหลังจากนี้เขาคงจะเลิกดมถุงเท้าตัวเองแล้วล่ะนะ   ที่มา: nextshark , mirror

วันที่ 7 ธันวาคมที่เพิ่งผ่านมานี้ ถือเป็นวันที่แฟนๆ Nintendo ต่างรอคอยกัน เพราะเป็นวันที่ Super Smash Bros Ultimate เกมต่อสู้สุด Exclusive จะวางจำหน่ายให้กับเครื่องเล่นอย่าง Nintendo Switch ซึ่งด้วยแนวเกมที่มีการแข่งขันกัน สามารถเล่นได้หลายคนหรือสามารถเล่นเป็นทีมได้ ทำให้มันกลายเป็นเกมที่เหมาะจะเล่นเฮฮาในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนฝูงเป็นอย่างมาก และกลุ่มเพื่อนสนิทที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ซื้อเกมดังกล่าวมาเล่นเช่นกัน     ในคืนเดียวกับที่เกมได้วางจำหน่าย ณ เมือง Saint Paul รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา กลุ่มเพื่อนสนิทกลุ่มหนึ่งได้มารวมตัวกันเพื่อเล่นเกมอย่างสนุกสนานกันทั้งคืน การเล่นเกมของพวกเขาได้ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย จนเพื่อนบ้านอดรำคาญไม่ได้ เพื่อนบ้านก็เลยโทรศัพท์ไปบอกตำรวจเสียเลย     ไม่นานนักหลังจากเพื่อนบ้านโทรหาตำรวจ เจ้าหน้าที่สองคนก็มาเคาะประตูบ้านของพวกเขาและสอบถามว่าพวกเขาทำอะไรกันอยู่ ก่อนจะรู้ว่าพวกเขาแค่กำลังเล่นเกมที่ใช้ Mario สู้กับ Pikachu อยู่เท่านั้นเอง ทันใดนั้นเอง Jovante M. Williams หนึ่งในกลุ่มก็เอ่ยปากชวนสองเจ้าหน้าที่ให้มาร่วมเล่นกับเขาและทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ปฏิเสธเสียด้วย ทั้งสองตัดสินใจเข้าไปร่วมเล่นเกมด้วย   SO NEIGHBORS CALLED THE COPS 👮🚓 ON US…

ในภาพยนตร์หรือในการ์ตูนต่างๆ เราจะได้เห็นฮีโร่ที่คอยพิทักษ์ความยุติธรรมที่สามารถบินได้หรือมีพลังพิเศษต่างๆ มากมาย แต่ในความเป็นจริงแล้วฮีโร่ไม่ได้มีพลังพิเศษแบบในการ์ตูน เป็นเพียงคนธรรมดาที่คอยช่วยเหลือผู้คนเท่านั้น เหมือนกับเรื่องของชายคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เขาได้ยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อช่วยผลักคนที่กำลังถูกรถเสียหลักพุ่งชนในรอด แต่ตัวเขากลับถูกรถคนนั้นชนเข้าเต็มๆ     ชายคนที่เรากล่าวถึงนี้คือ Mithil Patel ชายวัย 31 ปี ผู้เป็นสายตรวจประจำถนนไฮเวย์ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ในวันเกิดเหตุเขาได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุการณ์ขึ้นบนถนน เขาก็ได้รุดหน้ามาเพื่อดูเหตุการณ์และขณะที่เขากำลังสอบสวน Rony Bottex ชายวัย 65 ปีผู้อยู่ในเหตุการณ์ ก็มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อรถตู้คันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วและพุ่งชนเข้ากับรถเก๋งคันที่อยู่ข้างหน้า จนทำให้รถเก๋งคันดังกล่าวหมุนมาทางที่ทั้งสองคนอยู่      ก่อนที่รถคันที่เสียหลักจะพุ่งคนทั้งคู่ Mithil ตัดสินใจที่จะช่วยผลัก Rony ให้ออกไปจากบริเวณดังกล่าวและตัวเขาต้องรับกับแรงกระแทกจากรถเต็มๆ หลังจากถูกรถชนเข้าเต็มๆ Mithil ได้ถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล St. Mary อย่างเร่งด่วนและตอนนี้เขาก็กำลังรักษาตัวอยู่ที่นั่น      Rony ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ผู้กล้าหาญว่า “หากเขา (Mithil) ไม่ได้อยู่ที่นั่น ผมคงตายไปแล้ว… เขาเห็นรถคนนั้นพุ่งมาทางขวาและก็ตัดสินใจจะผลักผม เขาได้รับบาดเจ็บแทนผม” สุดท้ายนี้ถือว่า Mithil Patel โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ก็ยังไงก็ยังต้องพักที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการต่อไป ส่วนทางภรรยาของฮีโร่ในครั้งนี้ก็ได้สัมภาษณ์กับสื่อว่า…

มหาพีระมิดแห่งกีซา (Great Pyramid of Giza) คือหนึ่งในอนุสรณ์สถานอันยิ่งใหญ่ในประเทศอียิปต์ มีอายุเก่าแก่กว่า 4,600 ปี และเคยเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเรามาก่อน หลายๆ คนคงพอเห็นภาพกันแล้วว่าสถาปัตยกรรมดังกล่าวนั้นมีความยิ่งใหญ่ขนาดนั้น และแน่นอนว่ามันจะต้องถูกควบคุมดูแล ไม่อนุญาตให้ปีนขึ้นไปนอกเหนือจากเวลาที่กำหนด เพื่อรักษามันเอาไว้     แต่ในวันที่ 8 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา ช่างภาพชาวเดนมาร์กที่ชื่อว่า Andreas Hvid กลับโพสต์คลิปที่เผยให้เห็นว่าเขาแอบปีนขึ้นไปในตอนกลางคืนกับผู้หญิงอีกคนที่ถูกปิดบังใบหน้าเอาไว้ ปกติแล้วนักท่องเที่ยวอาจไม่ได้ขึ้นไปถึงจุดที่สูงขนาดนี้ และจะขึ้นได้ไม่เกิน 5 โมงเย็น     Andreas เขียนคำบรรยายใต้คลิปว่า… “ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2018 ผมและเพื่อนได้ปีนขึ้นไปบนมหาพีระมิดแห่งกีซา กลัวว่าจะโดนจับได้โดยเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ผมไม่ได้ถ่ายหลายๆ ชั่วโมงแห่งการแอบย่องเข้ามาในบริเวณนี้ ทำให้ผมปีนขึ้นมาได้สำเร็จ”   คลิปดังกล่าว    เราจะเห็นว่าท้ายคลิปของเขานั้นจบลงด้วยฉากของหญิงสาวที่มาด้วยกัน “ถอดเสื้อออก” ?! และเมื่อเราเลื่อนไปดูตรงคำอธิบายด้านล่างคลิปก็จะเห็นว่าเขาได้แปะลิงก์ “ภาพงานศิลปะอันเปลือยเปล่า” เอาไว้ ซึ่งพอกดเข้าไปดูแล้วเราก็จะเจอกับภาพภาพนี้  …

Tetris คือชื่อของเกมระดับตำนานที่สร้างความสนุกสนานให้กับพวกเรามาตั้งแต่ปี 1984 ด้วยรูปแบบการเล่นที่ง่ายและยากในเวลาเดียวกัน นำบล็อกรูปทรงต่างๆ มาเรียงเป็นแถวแนวนอนเพื่อเก็บแต้มไปเรื่อยๆ   หน้าตาของเกม Tetris   แม้มันจะเป็นเกมที่มีมานานมากแล้วก็ตาม แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีการแข่งขันเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงการแข่งขันระดับโลกที่ชื่อว่า Classic Tetris World Championship ประจำปี 2018 การแข่งขันที่ว่านั้นคือการแข่งขันเจ้าเกม Tetris ในแบบคลาสสิกย้อนยุค ผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องใช้จอยควบคุมของเครื่องเล่นนินเทนโดในสมัยก่อน ซึ่งหากใครทันเจ้าเครื่องนี้ในตอนแรกก็แสดงว่าคุณอาจพ้นช่วงวัยรุ่นกันไปแล้ว     สิ่งที่น่าจับตามองและถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในการแข่งขันปีนี้ก็คือ การที่มีเด็กหนุ่มวัย 16 ปีคนหนึ่งสามารถเอาชนะแชมป์ 7 สมัยไปได้ในรอบชิงชนะเลิศ!! เรากำลังพูดถึงแมตช์สุดมันส์ของ Jonas Neubauer แชมป์ 7 สมัยในรายการนี้ ผู้เรียกได้ว่าแทบจะไม่เคยแพ้ใครมาก่อนตลอดการแข่งขันหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา     แต่แล้วสถิติของเขาก็ต้องสิ้นสุดลงหลังจากที่ Joseph Saelee เด็กหนุ่มวัย 16 ปีสามารถล้ม Jonas ลงได้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ กลายเป็นแชมป์คนล่าสุดของการแข่งขันรายการนี้ไปในทันที   การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศของทั้ง 2 คน…

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงอยากจะมีอายุยืนยาวสักร้อยๆ พันๆ ปี (?!) และในวันนี้เราก็ชวนให้ทุกคนได้มาฟังเคล็ดลับในการที่จะไปถึงจุดนั้น จากปากของชายชราอายุ 100 ปีบริบูรณ์ (จันทร์เรือง…) Arthur Grisbrook คุณทวดเหลนสาม ทหารผ่านศึกจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้มีอายุครบ 1 ศตวรรษไปเมื่อเดือนตุลาคม 2018   Arthur ชายชราผู้อาศัยอยู่ในเมือง Hereford ประเทศอังกฤษ   เขาเป็นคนที่ชื่นชอบกิน “อาหารย่าง” และ “ไวน์แดง” เป็นอย่างมาก ซึ่งนับตั้งแต่ที่ Laura ภรรยาของเขาเสียชีวิตไปด้วยวัย 89 ปีในปี 2008 เขาก็ต้องดูแลทำความสะอาดบ้าน และทำอาหารกินเองมาโดยตลอด Arthur บอกว่าเคล็ดลับที่ทำให้เขามีอายุยืนยาวมากขนาดนี้ก็เพราะอาหารและเครื่องดื่มที่เขาชื่นชอบนั่นแหละ   ภาพงานแต่งงานของเขาในอดีต   แทบทุกวันหลังจากที่ผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 มา สิ่งที่เขากินเป็นประจำก็คือ สเต๊ก แฮมย่าง ไส้กรอกย่าง ไข่ดาว มันฝรั่งทอด เห็ด มะเขือเทศ ถั่วต่างๆ…

เชื่อว่าเพื่อนๆ คงเห็นคลิป “โชว์เจ็บตัว” ที่กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลมาก่อน เช่นเดียวกันกับหนุ่มวัยรุ่นอายุ 19 ปีคนนี้ เมื่อเขาให้เพื่อนๆ ใช้ “แม็กเย็บกระดาษ” เย็บเอาไพ่ทั้งสำรับติดกับหลังของตัวเอง?!     เขามีชื่อว่า Zach Halliday ชายผู้มีโอกาสได้ไปเห็นคลิปของคนที่ใช้แม็กเย็บไพ่ติดหัวมาก่อน และนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาคิดที่จะทำอะไรแบบนี้บ้าง เขาเล่าว่าในตอนที่ตนเองและเพื่อนๆ เห็นคลิปดังกล่าวปุ๊บ เขาก็ยกมืออาสาที่จะทำอะไรที่บ้าระห่ำมากกว่านั้น เสนอให้เพื่อนๆ ใช้แม็กเย็บไพ่ทั้ง 52 ใบติดกับหลังของตัวเองซะเลย   Zach หนุ่มวัยรุ่นสุดบ้าระห่ำ   อุปกรณ์ที่พวกเขาใช้   ด้วยเหตุนั้นเอง เพื่อนวัย 24 ปีที่ชื่อว่า Sean McCarthy จึงช่วยจัดให้ตามคำขอของเขา และเพื่อนคนอื่นๆ ก็ช่วยกันถ่ายคลิปเอาไว้จนกลายเป็นกระแสในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา   คลิปวิดีโอดังกล่าว   Zach ออกมาเปิดใจหลังจากที่คลิปดังกล่าวเริ่มถูกพูดถึงออกไปเป็นวงกว้าง โดยเขาบอกว่า… “ผมชอบที่จะสร้างเสียงหัวเราะและเห็นคนอื่นๆ สนุกสนานกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาเลย ผมเป็นห่วงมากกว่าว่ามันจะกลายเป็นกระแสโด่งดังอย่างที่ตั้งใจเอาไว้หรือเปล่า” “ก่อนที่จะเริ่มเย็บลงไป ผมไม่รู้สึกกังวลเลย แค่รู้สึกตื่นเต้นเพราะมันน่าตื่นเต้นจริงๆ…

ช่วงเวลาที่อากาศหนาว พวกเราก็มักจะหาเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ช่วยทำให้รู้สึกอบอุ่น ป้องกันความหนาวเย็นได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับคุณแม่ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งผู้เป็นห่วงสุขภาพของลูกสาว บอกให้เธอ “ใส่ถุงน่องเอาไว้ใต้กระโปรง” เพื่อทำให้ขาอบอุ่น แต่ทว่าการทำอย่างนั้นกลับถูกอาจารย์ที่โรงเรียนบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม?!     คุณแม่ได้นำเรื่องนี้มาแชร์ในทวิตเตอร์ โดยเธอเล่าว่า… “ลูกสาวฉันบอกว่าเธอรู้สึกเย็นขา ฉันจึงให้เธอสวมถุงน่องเอาไว้ใต้กระโปรง” “แต่เมื่อไปถึงที่โรงเรียน เหล่าคณาจารย์กลับบอกกับลูกสาวฉันว่า ‘ห้ามใส่ถุงน่อง เพราะถ้าขาของเธอรู้สึกอบอุ่น เธอก็จะไม่มีสมาธิ’” “ฉันช่วยอะไรไม่ได้ คิดแต่เพียงว่าพวกเขาเหล่านั้นคือพวกลามกอนาจารที่ต้องการจะจ้องขาอันเปลือยเปล่าของเด็กสาว”   โพสต์ของเธอ (ในวันที่ 3 ธ.ค. 2018)   เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจเคยได้ยินว่าในประเทศญี่ปุ่น โรงเรียนจะบอกให้เด็กทุกคนสวมเครื่องแบบเพราะต้องการให้มีสมาธิต่อการเรียน ไม่จำเป็นต้องเอาเวลาไปคิดเรื่องแฟชั่น หรือคิดว่าวันนี้จะใส่ชุดไหนดี แต่ว่าการห้ามไม่ให้เด็กผู้หญิงใส่ถุงน่องเพื่อป้องกันความหนาวเย็น โดยอ้างว่ามันจะทำให้เธอเสียสมาธิ อาจไม่ใช่เรื่องที่หลายๆ คนเห็นด้วยสักเท่าไหร่นัก     ชาวเน็ตญี่ปุ่นจำนวนมากต่างเข้ามาคอมเมนต์กันในลักษณะที่ไม่ค่อยเห็นด้วย และบางคนก็บอกว่าโรงเรียนอื่นๆ เองก็เป็นเหมือนกัน และไม่สามารถแก้ไขปรับเปลี่ยนอะไรได้เลย… “ฉันเคยไปโรงเรียน กับกฎที่ว่าห้ามใส่ถุงน่อง ห้ามใส่เสื้อคลุม ห้ามใส่ผ้าพันคอ ห้ามใส่ถุงมือ โดยที่ครูเองก็อธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร” “ถ้าอย่างนั้นคุณครูเองก็ต้องห้ามใส่ถุงน่องไว้ใต้กระโปรงด้วยสิ และต้องใส่ถุงเท้าสั้นด้วยนะ เพราะนักเรียนเองก็ยังต้องทำอย่างนั้นเลย” “ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องเพศก็ได้ แต่มันก็ยังมีบางคนที่เต็มไปด้วยตรรกะแปลกๆ ที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องสุขภาพใดๆ…

ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นั้นเป็นประเทศที่ถูกขนานนามว่า ‘มหานครแห่งทะเลทราย’ อย่างแท้จริง สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพถ่ายอันแสนงดงาม เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าประโยคข้างบนนั้น ไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เป็นชุดภาพถ่ายโดยช่างภาพ Irenaeus Herok ชาวออสเตรเลีย ที่ทำการถ่ายภาพถนนสายต่างๆ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ถูกทรายจำนวนมากปกคลุมดูราวกับเป็นโลกในยุคอโพคาลิปส์ก็ไม่ปาน     แต่ถึงอย่างนั้นภาพแต่ละภาพก็ยังคงเผยให้เห็นถึงความงดงาม และความเป็นเอกลักษณ์ และทำให้ประเทศแห่งนี้เหมาะสมแล้วที่จะถูกขนานนามว่า ‘เมืองหลวงแห่งทะเลทราย’ อย่างแท้จริง!!   ลองไปชมภาพกันครับ…   ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประเทศที่ทำการ ‘ค้าน้ำมัน’ เป็นธุรกิจหลักเพื่อหารายได้เข้าประเทศ และเมืองดูไบ เองก็เป็นเมืองที่ได้รับความสนใจจากบรรดานักท่องเที่ยวมากมายอีกด้วย     มีการสร้างถนนหนทาง เพื่อเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ผู้คนต้องขับรถไปตามถนน ที่สองข้างทางเต็มไปด้วย ‘ทะเลทราย’   . . . . . . . . . . . . . .…

นี่คือคดีความที่ต่อเนื่องมาจากเมื่อปีที่แล้ว เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งได้เข้าไปขโมย “รถยก” ในรัฐนอร์ทดาโคตา สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาตั้งใจจะใช้มันเป็นเครื่องมือในการสังหาร Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน Gregory Lee Leingang คือชื่อของชายวัย 42 ปีผู้วางแผนจะทำการสังหารประธานาธิบดีด้วยวิธีการดังกล่าว โดยเขามีความตั้งใจที่จะสังหาร Trump ตอนที่เดินทางมากล่าวปราศรัยในรัฐที่เขาอาศัยอยู่   Gregory ชายผู้ก่อเหตุในครั้งนี้   แต่อย่างที่หลายๆ คนทราบว่า “รถลีมูซีน” ที่ประธานาธิบดีนั่งมานั้นขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ป้องกันได้ทั้งกระสุนและแรงระเบิด สมกับชื่อที่ถูกเรียกขานกันว่า The Beast (สัตว์ร้าย)     เพราะอย่างนั้น Gregory จึงเกิดความคิดที่จะใช้รถยกขับพุ่งเข้าไปช้อนด้านใต้รถลีมูซีนระหว่างที่ Trump อยู่ด้านใน ก่อนที่จะยกมันขึ้นมาให้พลิกคว่ำ เพื่อหวังจะฆ่าผู้นำคนนี้ ทว่าทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้ เพราะเขาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในตอนที่กำลังขโมยรถยก พยายามขับหนีออกมา แต่ว่าดันไปติดตรงประตู     และเมื่อชายหนุ่มได้ให้การกับศาล รวมถึงหน่วยสืบราชการลับแห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับแรงจูงใจและแผนที่เขาวางเอาไว้ ทำให้เขาต้องโดนตัดสินโทษที่หนักกว่าเดิมไปอีก ตอนแรกจะได้ติดคุกแค่ 5 ปี จากโทษฐานขโมยของ ไปๆ…

“การขอแต่งงาน” คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตของทั้งผู้ชายและคนรักของเขา เพราะเหตุนั้นเอง หนุ่มๆ หลายคนจึงตั้งใจที่จะทำมันให้ออกมาดีที่สุด เป็นอีกหนึ่งวันพิเศษเพื่อคนพิเศษที่จะอยู่กับเขาไปอีกนานแสนนาน Dennis Brown II นายแบบชาวอเมริกันวัย 32 ปี เขาคือหนึ่งในคนที่ตั้งใจจะขอแฟนสาวแต่งงาน และต้องการให้มันเป็นวันแห่งความทรงจำอันแสนยอดเยี่ยม จนกลายมาเป็นรอยยิ้มและคราบน้ำตาแห่งความปีติที่เราเห็นนี้     Dennis วางแผนและว่าจ้างทีมออร์แกไนซ์เพื่อให้การขอแต่งงานครั้งนี้ออกมาดีที่สุดตามที่เขาต้องการ เตรียมการทุกอย่างเอาไว้ให้เสร็จสรรพ จนกระทั่งในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2018 ณ ตึก Penthouse at Riverside Wharf รัฐฟลอริด้า ชายหนุ่มก็ได้คุกเข่าลงไปต่อหน้า Atara Dallas หญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนหวาน     และแน่นอนว่าเมื่อจะขอแต่งงาน สิ่งที่ต้องเตรียมมาก็คือ “แหวนแต่งงาน” ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจหยิบมาใช้แค่วงเดียว แต่สำหรับชายคนนี้นั้น เขากลับนำมาขอเธอถึง 6 วง เพื่อให้ว่าที่เจ้าสาวได้เลือกด้วยตัวเอง แต่ละวงจะมีรูปร่างและขนาดต่างกันไป เพื่อให้เธอได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่จะต้องอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอนับจากนี้ไป ด้วยการตัดสินใจของเธอเอง     สำหรับหญิงสาวผู้เป็นที่รักคนนี้ Dennis…

ในต่างประเทศ ผู้รายงานสภาพอากาศประจำเมืองแต่ละเมืองถือว่าเป็นคนดังที่ช่วยรายงานเกี่ยวกับสภาพอากาศที่ผลัดเปลี่ยนตามฤดู คอยแจ้งเตือนหากมีพายุเข้าหรือคอยสร้างรอยยิ้มให้เด็กๆ โดยการแจ้งว่าวันดังกล่าวจะมีหิมะตก ซึ่งสำหรับชาวเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกาแล้ว ผู้รายงานสภาพอากาศนามว่า Chris Bradley ก็คือคนดังประจำเมืองดังกล่าว     โชคไม่ดีที่เมื่อปี 2017 Chris Bradley ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอีลอยด์ (Acute Myeloid Leukaemia) จากตอนนั้นถึงปัจจุบัน ผ่านมาแล้ว 21 เดือนที่เขาต้องต่อสู้กับโรคร้ายอยู่ตลอดเวลา ทั้งเข้ารับการคีโม ปลูกถ่ายเซลล์หรือการทดลองการรักษานานาวิธี แต่นั่นก็ไม่สามารถช่วยให้เขาหายขาดได้ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Chris ได้โพสต์เฟซบุ๊กให้ครอบครัว เพื่อนๆ และแฟนๆ รู้ว่าแม้เขาจะลองทำทุกวิถีทางเพื่อสู้กับโรคดังกล่าว แต่โรคดังกล่าวไม่มีทางรักษาหายและตอนนี้เขาก็หมดหนทางที่จะรักษาแล้ว     เนื่องจากปัจจุบัน Chris ได้รับการดูแลในฐานะผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Hospice Services) ทำให้เขาไม่สามารถเข้าร่วมเทศกาลประดับไฟต้นคริสต์มาสที่ทางเมืองจะจัดขึ้นในทุกๆ ปีได้ กระนั้นเอง เพื่อผู้รายงานสภาพอากาศประจำเมืองแล้ว ชาวเมืองจึงตัดสินใจทำเซอร์ไพรส์ให้แก่ Chris โดยพากันมาร้องเพลงประสานเสียงกันที่สนามหญ้าหน้าบ้านของเขา      โดยช่อง WBNS สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นที่…

ผู้คนจำนวนมากในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย กำลังประสบปัญหากับ “ศพค้างคาว” ที่ตกมาตายเกลื่อนเมือง จนทำให้คุณแม่ลูกสองคนหนึ่งถึงกับต้องพาลูกๆ หนีไปหาโรงแรมนอนกันเลยทีเดียว Philippa Schror คือชื่อของคุณแม่ที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้ โดยเธอเล่าว่าในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา มีค้างคาวมาตายอยู่บริเวณหน้าบ้านของเธอทุกๆ วัน เพียงสัปดาห์เดียวก็มากกว่า 5,500 ตัวเข้าไปแล้ว!!     เธอบอกว่าในตอนแรกที่เปิดประตูออกมาหน้าบ้าน ภาพที่เห็นนั้นเหมือนกับฉากในหนังสยองขวัญ ศพค้างคาวมีอยู่เกลื่อนทั่วบริเวณหน้าบ้านของเธอ ทั้งบนสนามหญ้า หรือบนหลังคาโรงจอดรถ แม้มันอาจจะไม่ได้สร้างความเสียหายกับสิ่งก่อสร้างอะไรมากนัก แต่ว่าศพที่เน่าเปื่อยนั้นกลับส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เป็นมลพิษทางอากาศที่ยากจะอยู่ร่วมด้วยได้ เธอและลูกๆ จึงจำเป็นที่จะต้องย้ายหนีออกไปเป็นการชั่วคราว     เธอบอกว่า “ฉันไม่สามารถกลับไปบ้านได้จนกว่าเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดจะเช็ดคราบบนผนังกำแพง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ คราบที่ติดอยู่บนผืนผ้าหน้าบ้าน รวมไปถึงบริเวณโรงจอดรถ” “เจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดคราบทั้งหมด ก่อนที่กลิ่นมันจะซึมลึกเข้าไปในสิ่งของหรือพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งก่อตัวเป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุข”     และอย่างที่บอกว่าไม่ได้มีแค่คุณแม่คนนี้ที่ประสบปัญหาดังกล่าว เพราะยังมีอีกหลายๆ ครัวเรือนที่จะต้องเจอกับศพค้างคาวจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ Lisa Eagleton หนึ่งในผู้อาศัยภายในรัฐเดียวกัน เธอเล่าว่าในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เธอจะเจอกับฝูงค้างคาวจำนวนนับไม่ถ้วนมาห้อยหัวอยู่บนต้นไม้หลังบ้าน หรือไม่ก็กลายเป็นศพเน่าเกลื่อนพื้น     ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เธอและเพื่อนบ้านคนอื่นๆ…

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก หลังจากที่กลุ่มนักตกปลาได้โพสต์ภาพแสดงความดีใจ ราวกับได้รับมอบถ้วยรางวัลในการจับ “ปลาขนาดใหญ่ยักษ์” ที่หนักกว่า 650 กิโลกรัม?! นี่คือภาพของกลุ่มนักตกปลา Fishing With Scotto หลังจากที่พวกเขาสามารถจับปลา Black Marlin ขนาดใหญ่ได้ บริเวณนอกชายฝั่งของเกาะเฟรเซอร์ ประเทศออสเตรเลีย   ภาพที่พวกเขาโพสต์ลงในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2018   ดูจากสีหน้าของพวกเขาแล้ว เราคงพอเดากันได้ว่าพวกเขายินดีกับการจับปลาขนาดมหึมานี้ได้มากขนาดไหน แต่ในขณะเดียวกัน คนจำนวนมากก็มองว่าพวกเขาคิดพวก “ป่าเถื่อน” และ “โหดร้าย”   “สุดยอดเลยเหล่าฮีโร่ สัตว์อีกตัวหนึ่งต้องถูกฆ่าเพียงเพื่อนำมาถ่ายรูป ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”   ชาวเน็ตจำนวนมากที่ได้เห็นภาพนี้ ก็มีทั้งคนที่แสดงความดีใจกับพวกเขา ในขณะที่หลายๆ คนมองว่ามันคือพฤติกรรมของมนุษย์ที่ได้ไปทำร้ายสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติอันสวยงาม และไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง   ทำไมต้องฆ่าด้วย? ปลาที่มีอายุและตัวใหญ่ขนาดนี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่จะหาเจอกันได้ง่ายๆ นะ   แม้แต่นักตกปลาด้วยกันเองก็มองว่ามันเป็นการกระทำที่ไร้ค่า ไม่ควรฆ่าปลาตัวนี้เลย   การถ่ายภาพหรือวิดีโอในตอนที่จับมันได้ แล้วรีบปล่อยมันไป เท่านั้นก็เพียงพอแล้วหรือเปล่า   เป็นเรื่องเศร้าที่สิ่งมีชีวิตอันสวยงามแห่งท้องทะเล กลับต้องถูกฆ่าเพียงเพื่อเกมกีฬาของมนุษย์  …

สำหรับแฟนบาสแล้วล่ะก็ คงไม่มีใครไม่รู้จักโคตรทีมอย่าง Golden State Warriors ที่นำโดย Super Star Point Guard นามว่า Stephen Curry อย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องที่เราจะนำมาพูดถึงวันนี้ก็เป็นเรื่องของ Stephen Curry นี่แหละ เมื่อเขาไม่ใช่ฮีโร่ของคนดูในสนามเท่านั้น แต่ในชีวิตจริงเขาก็เป็นฮีโร่ให้กับสาวน้อยแฟนบาสคนหนึ่งเช่นกัน   Stephen Curry (เสื้อเหลือง)   เมื่อไม่นานมานี้ได้มีสาวน้อยนามว่า Riley ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Stephen Curry เด็กสาวอยากจะซื้อรองเท้าซิกเนเจอร์ของเขามาใส่เวลาเล่นบาส แต่ในเว็บไซต์ของ Under Armour ยี่ห้อรองเท้าดัง ดันไม่มีไซส์ของเด็กผู้หญิงให้เธอซื้อมาใส่เสียอย่างนั้น   Riley และพ่อของเธอ   เมื่อเห็นว่าไม่มีไซส์ของเด็กผู้หญิง สาวน้อยคนดังกล่าวจึงส่งจดหมายมาหา Stephen Curry ว่า “ถึง Stephen Curry หนูชื่อ Riley (ชื่อเดียวกับลูกสาวของคุณ) หนูอายุ 9 ขวบจากเมือง Napa รัฐแคลิฟอร์เนีย…

เมื่อเวลาผ่านไป คนเราก็ย่อมเติบโตขึ้นเป็นธรรมดา และแต่ละครั้งที่เราเติบโตขึ้นร่างกายของเราจะค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละเล็กละน้อย จนวันหนึ่งก็กลายเป็นผู้ใหญ่ โดยที่เราไม่ทันสังเกตเลยแม้แต่นิดเดียว พ่อหนุ่มคนนี้เค้าก็เลยตัดสินใจ ‘ถ่ายภาพเซลฟี่’ เป็นประจำทุกวัน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 8 ปี เพื่อบันทึกความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นเอาไว้ David Espinosa ได้ตัดสินใจถ่ายเซลฟี่ทุกวัน และนำภาพเหล่านั้นมาทำเป็นคลิปวิดีโอ Time Lapse ความยาว 4 นาที ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา และมันน่าทึ่งเหลือเกิน!!   ลองไปชมคลิปวิดีโอกันก่อนครับ…   นาย David เป็นนักศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เขาเริ่มถ่ายเซลฟี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี จากนั้นก็เริ่มคิดโปรเจกต์นี้ขึ้นมา เพื่อดูว่าหน้าตาของตัวเองจะเปลี่ยนไปแค่ไหนในแต่ละวัน ปัจจุบัน David อายุได้ 22 ปี เท่ากับว่าตอนนี้เขาถ่ายเซลฟี่ทุกวันติดต่อกันมา 8 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามเขาตั้งใจที่จะทำต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงวันสุดท้ายของชีวิต     ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีสมาร์ตโฟน David เล่าว่าเขาใช้ Nintendo DSi ในการถ่ายเซลฟี่ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น iPhone…

ย้อนกลับไปใน 1993 นาย Johan Huibers ยังคงเป็นเด็กชายคนหนึ่งที่นั่งฟังนิทานก่อนนอนจากคุณแม่ และเรื่องที่ประทับใจของเขามากที่สุดก็คือ ‘เรือโนอาห์’ และมันก็ติดอยู่ในหัวของเขาจนกลายมาเป็นผู้ใหญ่ Johan จึงตัดสินใจทุ่มเงินมูลค่า 1.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (53 ล้านบาท) สร้างเรือโนอาห์จำลองของตัวเองขึ้นมา!!     แม้แต่ภรรยาของเขาเองก็ยังคิดว่ามันเป็นไอเดียที่แปลก และตลก พร้อมกับบอกว่า “นี่คุณรู้ไหมว่า เงินที่ใช้สร้างนั่นน่ะมันสามารถพาเราไปพักร้อนที่ดวงจันทร์ได้เลยนะ” แต่ Johan ก็ไม่ยอมแพ้ เขาพยายามอย่างหนักต่อเรือและตกแต่งข้างในจนสำเร็จ และออกมาดูสวยงามแปลกตา จนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม   เรือโนอาห์ของ Johan เริ่มสร้างในปี 2008 ได้รับความช่วยเหลือจากบรรดาช่างไม้ที่มีฝีมือหลายสิบชีวิต   แล้วเสร็จในปี 2012 ใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (53 ล้านบาท)   ข้างในมีการใช้หุ่นจำลองเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ทั้งเสือ ช้าง กอริลลา แรด เป็นต้น ถอดแบบมาจากคัมภีร์ไปเบิลแทบจะทั้งหมดเลย   . .  …

แน่นอนว่า “คนตาบอด” ย่อมไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีหลายๆ อย่างก็ได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพวกเขา ที่ช่วยให้สามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ได้ผ่านประสาทสัมผัสอื่นๆ หนึ่งในเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ได้อย่างมากก็คือ “โปรแกรมแปลงข้อความหรือภาพบนจอคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นเสียง” เพื่อให้พวกเขารับรู้ถึงสิ่งต่างๆ ที่กำลังเปิดอยู่บนจอ     เทคโนโลยีที่ว่านั้นสามารถใช้ได้กับเว็บไซต์มากมายทั่วโลก แต่บางเว็บเองก็ยังคงไม่สามารถใช้โปรแกรมช่วยนี้ได้ หนึ่งในนั้นก็คือเว็บไซต์ของนิตยสารผู้ชายอย่าง Playboy ด้วยเหตุผลนั้นเองที่ทำให้นาย Donald Nixon หนึ่งในผู้พิการทางสายตาชาวอเมริกัน ยื่นฟ้องร้องกับทางบริษัทนิตยสารดังกล่าว หลังจากที่เขาไม่สามารถใช้โปรแกรมช่วยเหลือเพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ได้     Donald ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า การที่ไม่สามารถเข้าถึงเว็บ Playboy.com และ Playboyshop.com ได้ นั่นหมายความว่านิตยสารดังกล่าวกำลังทำร้ายชาวอเมริกันที่มีลักษณะความพิการเหมือนอย่างเขาอยู่ เขาบอกว่าตนเองอยู่ในกลุ่มผู้พิการทางสายตาตามกฎหมาย และคนอื่นๆ ที่เป็นเหมือนกับเขาก็มักจะรู้สึกว่า “ขาดความเท่าเทียมและความเต็มที่ในการที่จะมีความสุขกับสิ่งอำนวยความสะดวก ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการต่างๆ” นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาดำเนินการยื่นฟ้องร้องต่อทางนิตยสารเจ้าของเว็บไซต์ที่ว่านี้     อย่างไรก็ตาม จากการรายงานล่าสุดช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2018 บอกว่าทางนิตยสาร Playboy ยังคงไม่มีการออกมาตอบโต้ใดๆ ซึ่งอาจต้องปล่อยให้เป็นการดำเนินการตามกฎหมายต่อไปในอนาคต   ที่มา: people , unilad , tmz

สิ่งที่เราเรียกว่าความรักนั้นหลายครั้งที่มันไม่เลือกเวลาเกิด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงชีวิตใด ก็สามารถมีความรักที่สวยงามได้ทั้งนั้น เหมือนอย่างกับ Dorothy Williams คุณยายแม่ม่ายวัย 93 ปีจากเมือง Macomb รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกาคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เธอเสียสามีไปตั้งแต่ 25 ปีก่อน ซึ่งหลังจากนั้นตัวเธอก็ยังมีคนมาขอเดตด้วยอยู่เสมอ แต่ไม่มีใครที่เธอคิดว่าคุ้มค่าที่จะมอบความรักให้เลยสักคน จนวันหนึ่งลูกชายของเธอได้ไปซ่อมหลังคาให้กับ Richard Rola คุณตาวัย 87 ปี     หลังจากที่ John Willaims ลูกชายของ Dorothy ได้ไปซ่อมหลังคาให้กับ Richard เขาก็รู้ว่า Richard นั้นอยู่คนเดียวและโดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจชวน Richard มาเต้นโพลกากับเขาและคุณแม่ ทางด้าน Richard ซึ่งเป็นพ่อม่ายเช่นเดียวกับ Dorothy เขาเสียภรรยาไปเมื่อ 4 ปีก่อนและตอนนั้นเขาก็ได้ตอบรับคำชวนของ John     แน่นอนว่า Dorothy ไม่รู้มาก่อนมาว่าลูกชายของตนชวนชายชราแปลกหน้ามาเต้นรำกับเธอด้วย แต่ลูกชายของเธอก็บอกว่า John ไม่สนใจเธอหรอก เขาแค่อยากจะมาเต้นโพลกาเท่านั้น…

เชื่อว่าหลายๆ คนที่เคยมีโอกาสได้ไปต่างประเทศก็อาจเคยเจอกับ “อาหารรูปร่างหน้าตาประหลาด” ที่บางทีก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพราะคนที่เอามาเสิร์ฟนั้นก็ไม่ได้พูดภาษาที่เราเข้าใจซะด้วยนี่สิ เหตุการณ์ในลักษณะนั้นได้เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนหนึ่งในเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Mumsnet พื้นที่ที่ให้ผู้คนเข้ามาถามตอบกัน แต่สิ่งที่เธอโพสต์มาให้ทุกคนได้ดูกันนั้น ปัจจุบันก็ยังหาคำตอบที่แท้จริงไม่ได้เลย?!   ภาพของอาหารที่เธอโพสต์ถามทุกคน   เธออธิบายถึงภาพดังกล่าวไว้ว่า “มันดูเหมือนหนู บอกฉันทีว่าไม่ใช่หนูใช่มั้ย?” “ปกติแล้วฉันก็กินอะไรแปลกๆ อยู่ตลอดนะ (ส่วนหนึ่งเพราะงานที่ฉันต้องทำด้วยแล้ว) แต่ฉันรู้สึกว่าหนูมันแปลกใหม่และไม่โอเคสำหรับฉัน” “คือตอนนี้ฉันอยู่ที่ประเทศรัสเซียและคนที่นำอาหารมาเสิร์ฟก็เป็นแม่บ้านที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษซะด้วย ซึ่งดูเหมือนว่าเธอเองก็จะไม่ค่อยชอบฉันเท่าไหร่”   โพสต์ของเธอในวันที่ 17 พ.ย. 2018   หลังจากที่ภาพของเธอถูกโพสต์ลงไป ชาวเน็ตก็ต่างพยายามช่วยเธอหาคำตอบว่ามันคืออะไรกันแน่ ซึ่งแต่ละคนก็มีคำตอบที่ฉีกออกไปคนละทิศคนละทาง   มันคือหนูตะเภาหรือเปล่า?   ดูน่าสะอิดสะเอียนจัง อย่ากินมันเด็ดขาดเลยนะ!!!   ดูจากลักษณะแล้ว เขาก็คิดว่ามันน่าจะเป็นหนูเหมือนกัน   หรือว่ามันอาจจะเป็นเป็ด?? อันนี้คงต้องลองชิมดูเองละ   อันนี้มาพีคเลย เธอไม่คิดว่ามันคือหนู แต่คิดว่ามันน่าจะเป็น “อัณฑะของสัตว์” มากกว่า   ส่วนคนนี้บอกว่ามันน่าจะเป็นส่วนอกของนก ที่ยื่นออกมาน่าจะเป็นคอมากกว่าหาง   ก็ยังคงไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ…

เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “การหลอกลวง” ที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียล จนทำให้ผู้ตกเป็นเหยื่อต้องเสียเงินไปอย่างมหาศาล โดยที่ไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทนกลับมาเลยแม้แต่น้อย เรากำลังพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณตาชาวอังกฤษวัย 75 ปี Smitten Simon Frost ผู้ต้องเสียเงินไปกว่า 20,000 ปอนด์ (ราวๆ 846,000 บาท) หลังจากโดนคนหลอกเอาเงินใน “เว็บไซต์หาคู่”   Simon คุณตาวัย 75 ปี ในประเทศอังกฤษ   เรื่องมีอยู่ว่าภรรยาของคุณตาได้จากโลกนี้ไปในปี 2007 และอาจด้วยความรู้สึกเหงาและอ้างว้าง Simon จึงเริ่มเล่นเว็บหาคู่ที่ชื่อว่า Real Sex Contacts ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2017 และนั่นจึงทำให้เขาได้รู้จักกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Eva Otoo สาวจากเมืองอักกรา ประเทศกานา ซึ่งทั้งสองก็เริ่มพูดคุยติดต่อกันนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คุณตาไม่รู้เลยว่าเขากำลังจะโดนหลอกเข้าให้แล้ว เพราะแม้แต่รูปโปรไฟล์ของผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ใช่รูปของเธอจริงๆ แต่มันเป็นรูปของ Briana Lee ดาราหนังโป๊สัญชาติอเมริกัน   Briana ดาราหนังโป๊ที่หญิงสาวคนนั้นใช้รูปมาหลอกคุณตา   Eva ทำทีเป็นโทรมาหา ติดต่อพูดคุยกับคุณตาอยู่เสมอ…

“ความฝัน” ถือว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต่างก็มี แต่จะสามารถทำตามความฝันดังกล่าวได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ซึ่งสำหรับบางคนแล้วความฝันก็ไม่ได้สำเร็จต้องตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ทำ แต่ต้องใช้เวลาสั่งสมไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับคุณปู่ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ครับ เมื่อเขาใช้เวลากว่า 44 ปีเพื่อจะไปไล่ตามความฝันนั้น!!     พบกับ Dake Duncan คุณปู่วัย 73 ปีจากเมืองสต็อกพอร์ต ประเทศอังกฤษ ย้อนกลับไปสมัยหนุ่มๆ ในวัย 29 ปี คุณปู่ Dake ได้บังเอิญได้ไปฟังรายการวิทยุ รายการหนึ่ง และนั่นก็ทำให้เขาสนใจในการจัดรายการวิทยุเป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจที่จะจัดรายการของตัวเองให้ได้ แต่… ด้วยความที่เขาไม่มีใบอนุญาต เขาจึงทำได้เพียงแค่จัดรายการวิทยุแบบไม่ถูกกฎหมายในโรงเก็บของในสวนหลังบ้านของเขา ซึ่งในการจัดรายการวิทยุในแต่ละวัน ก็จะมีแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่งที่คอยฟังรายการของเขาทุกวัน นั่นคือภรรยาสุดที่รักของเขา   #OnThisDay 1974: "The station's entire audience has decided to go down the shops" Radio 77 held the dubious…

นี่คือเรื่องราวของช่างแต่งหน้ากับความสามารถอันล้นหลาม ‘แต่งหน้า’ ในแบบดาร์กๆ ออกมาได้อย่างงดงาม!!   ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Joyce Spakman ช่างแต่งหน้าสาว 30 ปี ผู้มากความสามารถ เธอเริ่มหัดแต่งหน้าตอนอายุได้ 14 ปี โดยการวาดบนภาพต่างๆ ลงบนสิ่งของเล็กๆ หรือแขนของตัวเอง ขณะที่กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม เธอก็เริ่มรู้จักกับ ‘การแต่งหน้า’ และนั่นทำให้เธอเริ่มหันมาสนใจที่จะเข้าสู่วงการนี้แบบจริงจัง!!     ในวัย 18 ปีเธอเริ่มเข้าเรียนในโรงเรียนสอนแต่งหน้าในเมืองอัมสเตอร์ดัม ใช้เวลาในการเรียน 3 ปีเท่านั้น “มันเป็น 3 ปีที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของฉันเลย ฉันรักในการแต่งหน้าและมีความสุขที่ได้ทำมันทุกวัน ทุกปี” วันเวลาผ่านมา 12 ปีตอนนี้ Joyce ทำงานเป็นช่างแต่งหน้าฟรีแลนซ์ที่แต่งหน้าในงานหรือเทศกาลต่างๆ ซึ่งผลงานการแต่งหน้าของเธอนั้นจะเป็นแนวดาร์กๆ มืดมน แต่ก็ดูน่าค้นหาเป็นที่สุด ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นคล้ายๆ กับลายเซ็นของเธอไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยครับ…   . . . . . . .…

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมือง Maindee ประเทศเวลส์ เมื่อชายคนหนึ่งสวม “ชุดเกราะอัศวิน” ถือโล่ และควักดาบยาวกว่า 90 เซนติเมตรออกมาจากท้ายรถ เพื่อต้องการจะขู่กลุ่มวัยรุ่น เหตุการณ์ดังกล่าวได้นำไปสู่การดำเนินคดีกับชายสวมเกราะคนดังกล่าว ซึ่งเขามีชื่อว่า Alun Powell วัย 31 ปี ผู้ที่บอกว่าตนเองคือ “ผู้คลั่งไคล้ในกีฬาของยุคกลาง”   Alun ชายผู้ถูกดำเนินคดีจากการควักดาบออกมาในที่สาธารณะ   เขายังบอกอีกว่าตนเองเป็นนักกีฬาฟันดาบ (แบบยุคกลาง) ตัวแทนประเทศ ในการแข่งขันระดับโลกอีกด้วย Alun ได้ให้การกับศาลว่า เขาทำอย่างนั้นลงไปเพราะเห็นว่ามี “มีด” อยู่ในรถของกลุ่มวัยรุ่นนั้นๆ และคนกลุ่มนั้นยังมีลักษณะท่าทางพยายามข่มขู่พ่อของเขาอีกด้วย เพราะอย่างนั้นเอง เขาจึงสวมเกราะเดินไปหยิบดาบที่ท้ายรถของตัวเอง จนทำให้มีผู้พบเห็นและแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ   ชุดเกราะและดาบของเขา   อัยการ Nuhu Gobir มองว่าอาวุธของเขานั้นมีรูปร่างน่ากลัวและอาจเป็นอันตรายได้ “เขาอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งและต้องการจะทำให้วัยรุ่นกลุ่มนั้นรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา จึงไปหยิบอาวุธมายืนในท่าทางพร้อมต่อสู้ ซึ่งเมื่อคนกลุ่มนั้นเห็นอาวุธในมือแล้วก็รีบวิ่งหนีไปด้วยความกลัวในทันที” Nuhu กล่าว ทางด้าน Jenny Yeo ทนายผู้แก้ต่างให้กับ Alun บอกว่าที่เขาทำไปนั้นก็เพื่อต้องการ “ป้องกันตัวเอง”…

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ #เหมียวโคบี้ เป็นกังวลในตอนที่ต้องจอดรถในที่สาธารณะก็คือการที่จะมีคนอื่นๆ จะเอาอะไรมาขูดหรือจะมีรถคันอื่นมาชนเราหรือไม่ เพราะหากไม่ได้เห็นเหตุการณ์ก็ไม่อาจรู้ว่าใครเป็นคนผิด เหมือนอย่างในกรณีที่จะนำมาพูดถึงในวันนี้ เมื่อหนุ่มคนหนึ่งนำรถไปจอดในที่สาธารณะ เมื่อกลับมาก็พบว่ารถของตัวเองมีรอยบุบ แถมยังไม่รู้ว่าใครทำ แต่เคราะห์ดีที่มีเด็ก ป.6 มาเขียนโน้ตบอกว่าเกิดอะไรทิ้งไว้ให้   Shoutout to the anonymous 6th grader for saving me a couple thousand (Bus not drawn to scale) pic.twitter.com/7aNK10xSwX — Andrew Sipowicz (@Andrew_Sipowicz) November 20, 2018   วันที่ 21 พฤศจิกายน 2018 Andrew Sipowicz ได้โพสต์ภาพลงทวิตเตอร์พร้อมกับแคปชั่นว่า “ป่าวประกาศให้ทุกคนทราบว่าเด็ก ป.6 นิรนามได้ช่วยให้ผมสามารถประหยัดเงิน (ค่าซ่อมรถ) ไปได้หลายพันเหรียญ” โดยในภาพที่เขาอัปโหลดมาเป็นภาพของโน้ตของเด็ก ป.6 คนดังกล่าวที่มีใจความว่า “หากคุณสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถของคุณ…

บนเส้นทางสายฝุ่น ในรัฐเนแบรสกา สหรัฐอเมริกา มีเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า Gross ตั้งอยู่ ซึ่งภายในเมืองนี้เองเคยมีประชากรอยู่ด้วยกันทั้งหมด 600 กว่าชีวิต แต่ปัจจุบันกลับเหลือเพียงแค่ 2 ชีวิตเท่านั้น เมืองดังกล่าวสมควรที่จะกลายเป็นเมืองงศูนย์กลางเขตตะวันตกตอนกลางของอเมริกา แต่กลับไม่มีรางรถไฟเข้าถึงและการคมนาคมเส้นอื่นก็ทำได้ลำบาก นานวันเข้า ผู้คนก็ต่างย้ายออกจากเมืองไป จนกระทั่งเหลือแค่ Mary กับ Mike Finnegan คู่รักคู่หนึ่งเท่านั้น     ผ่านมา 33 ปีแล้วที่ครอบครัว Finnegan ได้อาศัยอยู่ใน Gross โดยทั้งคู่ได้เปิดร้านอาหารเล็กๆ ชื่อว่า Nebraska Inn ซึ่งจะคอยต้อนรับและบริการนักเดินทางที่ผ่านมาด้วยความเต็มใจและทุ่มเท ถึงจะไม่ค่อยมีคนเดินทางผ่านมาสักเท่าไหร่และแม้ทั้งสองคนจะเหงา จะคิดถึงคืนวันของที่เมืองเคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเพียงใด แต่คู่รัก Finnegan ก็ยืนยันว่าจะอาศัยอยู่ใน Gross จนชีวิตหาไม่     แต่ในปีนี้เมื่อ Ancestry.com เว็บไซต์ตรวจ DNA ได้ทราบเรื่องราวของ Mike และ Mary พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะมอบของขวัญพิเศษในวันขอบคุณพระเจ้าให้แก่พวกเขา นั่นคือการตรวจสอบหาบุคคลที่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับคู่รัก Finnegan…

ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2018 ได้มีการพูดถึงเรื่องราวอันน่าตกใจที่ถูกโพสต์ลงไปในโซเชียลมีเดีย เมื่อหญิงสาวคนหนึ่ง “ถูกลอกเลียนแบบ” มานานกว่า 2 ปี และมันก็เป็นอะไรที่รบกวนจิตใจเธอมากๆ ลองคิดดูว่าถ้าเราโพสต์ภาพลงไปในอินสตาแกรม แล้วจู่ๆ ก็มีคนโพสต์ภาพที่ดูเหมือนกับเราเอามากๆ คือแต่งชุดเดียวกัน ถ่ายมุมเดียวกันหรือแม้แต่โพสท่าเดียวกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะรู้สึกอย่างไร   เราอาจต้องรู้สึกราวกับ “ถูกสะกดรอยตาม” หากต้องเจอกับอะไรแบบนี้อยู่ซ้ำๆ   นั่นคือสิ่งที่ Chloe Cowan หญิงสาวชาวสกอตแลนด์ต้องเจอมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โดยที่เธอเพิ่งได้รู้ว่ามีผู้หญิงนิรนามอีกคนโพสต์รูปถ่ายที่ดูเหมือนกับภาพถ่ายของเธอเอามากๆ   ด้านซ้ายคือภาพของ Chloe ภาพขวาเป็นภาพของคนที่เลียนแบบเธอ .   และมันไม่ใช่แค่ภาพเดียว แต่แทบทุกรูปของเธอนั้นถูกเลียนแบบหมดเลย ซึ่งไม่ใช่แค่ภาพที่เห็นเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงแคปชั่นของทุกๆ ภาพก็ด้วย   สังเกตตรงแคปชั่นของภาพที่เหมือนกันราวกับก๊อบวาง .   สิ่งที่เกิดขึ้นนี้รบกวนจิตใจของ Chloe เป็นอย่างมาก จนทำให้ Linzi พี่สาวของเธอนำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์แชร์ลงไปในเฟซบุ๊ก เพื่อบอกให้ทุกคนได้รู้ถึง “ความน่ากลัวของโลกโซเชียล”   .  …

เพื่อจะนำขยะที่ถูกทิ้งตามชุมชนต่างๆ ไปจัดการ ทางเทศบาลประจำเมืองจึงต้องส่งรถเก็บขยะมา ซึ่งเราก็คงเคยเห็นกันอยู่บ่อยๆ ในช่วงเช้าของแต่ละวัน ซึ่งการที่เราเจอกับคนขับรถเก็บขยะทุกวันก็อาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่เคยคิดหรือไม่ว่าหากเคยเหตุด่วน เหตุร้ายอะไรคนขับรถขยะนี้อาจจะกลายเป็นคนช่วยชีวิตคุณก็เป็นได้ เหมือนอย่างเรื่องที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ เมื่อหญิงชราวัย 93 ปีติดอยู่ในบ้านที่เมือง Paradise ที่ต้องเผชิญกับไฟป่าแคลิฟอร์เนียคนเดียว แต่โชคดีที่คนขับรถขยะมาช่วยเธอเอาไว้     หญิงชราคนนั้นคือ Margaret Newsum ซึ่งในวันดังกล่าวเธอตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตตามปกติของเธอ เริ่มจากทานอาหารเช้าและก็เปิดโทรทัศน์ดู แต่เมื่อเปิดโทรทัศน์ขึ้นมา เธอก็พบกับข่าวที่ว่าไฟป่ากับลุกลามอยู่บริเวณเมือง Paradise และด้วยการที่เธออยู่บ้านคนเดียวร่วมกับแมวอีกสองตัว แถมไม่สามารถติดต่อหาผู้ดูแลได้ ทำให้เธอหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี ด้วยความตื่นตระหนก เธอจึงรีบวิ่งออกมาข้างนอกบ้านและทันใดนั้นก็มีฮีโร่ขี่ม้าขาวมาหาเธอ นั่นคือ Dane Ray Cummings คนงานขับรถขยะที่มักแวะเข้ามาในหมู่บ้านเป็นประจำ     “คุณไม่ควรอยู่ที่นี่ คุณต้องออกไปได้แล้ว ทำไมคุณถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะ?” คนขับรถขยะกล่าวกับหญิงชรา และหลังจากที่เขาทราบว่าเธอไม่มีครอบครัวในละแวกนี้ แถมยังติดต่อกับผู้ดูแลไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจที่จะรับเธอขึ้นมาบนรถเก็บขยะ แม้ว่านั่นจะขัดต่อนโยบายบริษัทก็ตาม     เมื่อไปสัมภาษณ์ทาง Dane Ray Cummings ก็พบว่าเนื่องจากไฟป่าที่ลุกลามมาอย่างรวดเร็ว ในวันนั้นเจ้านายของเขาจึงบอกให้เขาเลิกงานโดยด่วนและรีบตรงกับบ้านไปซะ แต่ด้วยความเป็นห่วงคนอื่นๆ…

Baju Melayu คือชุดประจำชาติของประเทศมาเลเซีย มีลักษณะเป็นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใช้สวมใส่ในพิธีต่างๆ รวมไปถึงการใส่ถ่ายรูป “พรีเว็ดดิ้ง” ก็ด้วย แต่หนุ่มชาวมาเลย์คนนี้เกิดเปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องของเครื่องแต่งกายกะทันหันก่อนถึงวันแต่งงาน 5 วัน และเลือกที่จะทำตามความต้องการของตัวเองด้วยการสวมชุดดังกล่าวในวันจริงซะเลย แม้อาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ความพีคมันอยู่ที่ลวดลายบนชุดของเขานี่แหละ…   ชุดเจ้าบ่าวลาย “โดราเอมอน” มั้ยล่ะ?!   เจ้าบ่าวผู้คลั่งไคล้การ์ตูน “โดราเอมอน” เป็นอย่างมากคนนี้มีชื่อว่า Abann Dass (หรือรู้จักในชื่อ Mohd Firdaus Mohd Ali) ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2018 เขาได้โพสต์ภาพชุดแต่งงานของตัวเองหลังจากเข้าร่วมพิธีการในวันนั้น   Abann ผู้บริหารบริษัทเครื่องสำอางท้องถิ่นในเมืองโกตาบารู   แน่นอนว่าลวดลายบนชุดของเขาได้กลายเป็นที่สะดุดตาอย่างเห็นได้ชัด เพราะเชื่อว่าคงไม่เคยมีใครเห็นชุดแต่งงานในลักษณะนี้ ยิ่งเป็นชุดประจำชาติของมาเลเซียด้วยแล้วล่ะก็     เขายังบอกอีกด้วยนะว่าชุดแต่งงานธีมโดราเอมอนนี้ไม่ได้มีแค่เขาที่สวมใส่ในวันงาน เพราะแม้แต่ Ana เจ้าสาวของเขาก็สวมชุดในธีมนี้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าเธอแค่เขินอายจนไม่กล้าเผยภาพให้ใครเห็นก็เท่านั้น     Abann บอกว่า “เธอไม่ต้องการที่จะให้ฉันแต่งชุดนี้ เพราะเธอรู้สึกเขินอายเวลาที่คนอื่นๆ เอาไปพูดกันต่อ…

เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่อาจเรียกได้ว่าทั้ง 6 คนนี้เป็นคนที่ “โชคดี” เอามากๆ เมื่อลิฟต์เกิดเหตุขัดข้อง จนทำให้ตกลงมาอย่างเร็วและพวกเขาต้องติดอยู่ในนั้นนานกว่า 3 ชั่วโมง โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในตึกที่เคยมีชื่อว่า John Hancock Center ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบัน มันถูกเรียกตามจุดที่ตั้งว่าอาคาร 875 North Michigan Avenue   อาคารดังกล่าว มีทั้งหมด 97 ชั้น สูงเป็นอันดับที่ 4 ของเมือง   จากการรายงานบอกว่าในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2018 ลิฟต์ภายในอาคารได้เกิดเหตุขัดข้อง ลวดสลิงเกิดขาดระหว่างทำงานอยู่ จนทำให้ลิฟต์ที่กำลังเดินทางลงมาจากชั้น 95 ตกลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตกใจให้กับผู้โดยสารทั้ง 6 คนที่อยู่ภายในลิฟต์ เพราะแน่นอนว่าพวกเขาเองก็ไม่ได้เตรียมใจที่จะมาเจอกับอะไรแบบนี้เลย   ภาพถ่ายของเหลวที่ไหลเข้ามาในลิฟต์   Jaime Montemayor นักท่องเที่ยวชาวเม็กซิโก และภรรยา Mana Castillo…

“การประมูลพรหมจรรย์” กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง เมื่อหญิงสาวหลายๆ คน ตัดสินใจหาเงินด้วยวิธีการดังกล่าว ผ่านการตั้งประมูลในโลกออนไลน์ หญิงสาววัย 18 ปีจากเมือง Penrith ประเทศออสเตรเลีย ผู้ใช้นามแฝงว่า Siena Payton เธอคือหนึ่งคนที่ใช้วิธีดังกล่าว ต้องการเงินกว่า 100,000 ดอลลาร์ฯ (ราวๆ 3 ล้านบาท) เพื่อนำมาใช้ต่อยอดในอนาคต   สาวที่ใช้นามแฝงว่า Siena   แน่นอนว่าการประมูลพรหมจรรย์ยังคงเป็นวิธีการหาเงินที่ไม่ได้ถูกยอมรับอย่างแท้จริง แม้ว่าจะมีหญิงสาวหลายๆ คนใช้วิธีการนี้ก็ตาม ซึ่งในตอนแรก Siena เองก็คิดอย่างนั้น เธอมองว่ามันเป็นเรื่องตลกมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2018 เธอเริ่มสนใจเกี่ยวกับมันมากยิ่งขึ้น หลังจากที่เธอเรียนจบมัธยมและอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ Siena มีโอกาสได้เข้าไปอ่านเรื่องราวของหญิงสาวหลายๆ คนที่เคยทำการประมูลพรหมจรรย์ไปและได้รับค่าตอบแทนกลับมาอย่างมหาศาล มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ฯ     เธอเริ่มคิดว่าวิธีการดังกล่าวก็คือ “โอกาสทางการเงิน” ที่เธอสามารถคว้าเอาไว้ได้ จากการที่เธอไม่เคยเสียพรหมจรรย์ให้กับใครมาก่อน และแรงจูงใจหลักๆ ของเธอเลยก็คือการนำเงินไปใช้สำหรับ “ค่าเล่าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย” หลังจากที่เธอได้รับข้อเสนอในการเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยซิดนีย์…

“อาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง” หรือ “การเหยียดเชื้อชาติ” นั้นอาจเกิดขึ้นจากทัศนคติส่วนตัว หรือความไม่พอใจส่วนบุคคล แต่กับบางครั้ง เราก็ไม่อาจตีความได้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นเสมอไป เช่นเดียวกับการแจ้งข้อหากับ “สุนัข” หลังมันถูกมองว่าเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติ?!     เจ้าหน้าที่ตำรวจในสหราชอาณาจักรได้ทำการรื้อคดีความจำนวนมากที่เคยถูกแจ้งเข้ามาในช่วงปี 2015-2016 ที่ทางฝั่งผู้เสียหายอ้างว่าเป็นการก่ออาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง หรือการเหยียดเชื้อชาติ คดีหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากก็คือ การที่สุนัขตัวหนึ่งถูกแจ้งข้อหาว่ามันเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติ เพราะมันมักจะมา “อึที่หน้าบ้าน” ของเหยื่อ     เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำการจับกุมสุนัขตัวดังกล่าวในฐานะอาชญากรแต่อย่างใด และยิ่งไปกว่านั้นคือคดีความในลักษณะเดียวกันนี้ก็มีแจ้งเข้ามามากกว่า 2,507 ครั้ง ในช่วงเวลาเพียงแค่เกือบ 2 ปี จากกฎหมาย “เสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร (Freedom of Information laws)” ของภาครัฐ ทำให้ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2018 ทางสหราชอาณาจักรได้มีการรื้อนำคดีความในลักษณะเดียวกันนี้ที่เกิดขึ้นช่วงปี 2015-2016 ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะ นอกจากจะมีเรื่องของสุนัขที่ไปอึหน้าบ้านคนอื่นจนกลายเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติแล้ว ยังมีอีกหลายคดีที่ถูกแจ้งเข้ามาคล้ายๆ กัน ยกตัวอย่างเช่น เหยื่อโดนสุนัขเห่าใส่ก็เลยแจ้งความเป็นการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง     คดีที่เพื่อนบ้านมักจะนำรถมาจอดอยู่ตรงหน้าบ้านของผู้เสียหายคนหนึ่งทุกๆ วัน ก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวที่ถูกแจ้งความมาว่า “เพื่อนบ้านทำอย่างนั้นเพราะเห็นเขาเป็นคนผิวดำ” บางคนแค่เจอหนูตายก็แจ้งความว่าโดนเหยียดผิวแล้ว…

“การเดินทางบนเครื่องบิน” อาจทำให้เรารู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวสักเท่าไหร่ บางทีก็อาจรู้สึกว่าช่วงเวลาที่ผ่านไปนั้นมันช่างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน ความคิดเหล่านั้นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้หนุ่มสาว 2 คนนี้คิดหาวิธีผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ด้วยการทำท่ากายกรรมที่เป็นเหมือนกับการเล่น “โยคะคู่” ระหว่างที่เครื่องบินกำลังบินอยู่ซะเลย… ห๊ะ?!     นี่คือคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรมของ Nicholas Coolridge หนุ่มอเมริกัน ผู้เรียกตัวเองว่าเป็น “ศิลปินแห่งการเคลื่อนไหว” หรือ “ทาร์ซานแห่งโลกโมเดิร์น” ในคลิปเผยให้เห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังทำท่าทางเหมือนกับการเล่นโยคะคู่ บริเวณช่องแคบๆ ด้านหลังห้องโดยสาร ระหว่างที่เครื่องบินกำลังแล่นอยู่บนฟากฟ้า   คลิปวิดีโอดังกล่าว หากดูไม่ได้กดที่ลิงก์ Express    จากการรายงานในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2018 หลังจากที่คลิปนี้ได้กลายเป็นที่โด่งดังในโลกโซเชียล ยังคงไม่สามารถระบุดได้ว่าที่เราเห็นนั้นคือการเดินทางบนเที่ยวบินหรือเป็นของสายการบินใด ที่น่าสนใจนอกเหนือจากการที่ 2 คนนั้นกำลังเล่นโยคะคู่กันอยู่ก็คือ ผู้โดยสารทุกคนที่เราเห็นในคลิปนั้นก็ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางคนถึงกับหลับไปเฉยๆ ซึ่งพวกเขาก็อาจจะมองไม่เห็นกันก็ได้ล่ะมั้ง     เมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็นำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบในการกระทำของทั้ง 2 คน “นี่มันเป็นกลุ่มของพวกตัวตลกในคณะละครสัตว์หรือไง” “นี่มันเกิดบ้าอะไรกันไปหมดแล้วเนี่ย?” “ว้าววว เป็นทางออกที่ดีสำหรับการปลดปล่อยความตึงเครียด ขอแนะนำให้ลองกันดูนะ” “ใครอนุญาตให้ทำแบบนี้กัน คนเรามันควรจะโตๆ…

นี่คือคดีความจากเหตุการณ์ “ชนแล้วหนี” ที่เกิดขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวชายพิการผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด และตัดสินโทษให้เขาได้เข้าไปนอนในคุกเป็นที่เรียบร้อย ถึงตอนนี้เพื่อนๆ อาจกำลังคิดว่า “แล้วมันเป็นเรื่องที่แปลกตรงไหนกัน?” คำตอบก็คือมันแปลกตรงที่ว่าการชนแล้วหนีในครั้งนี้มันไม่ใช่ “รถยนต์” ขับมาชนคนแล้วหนี แต่มันคือ “รถเข็นคนพิการ” ต่างหาก?! อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: ตำรวจล่าตัวหนุ่ม “ชนแล้วหนี” โชคดีไม่บาดเจ็บอะไรมาก เพราะที่ชนเป็น “รถเข็นคนพิการ”!!     Aaron Ali ชายหนุ่มวัย 40 ปีคือผู้ร้ายในคดีดังกล่าว ในช่วงกลางเดินมิถุนายน 2018 เขาได้ถอยรถเข็นคนพิการของตัวเองไปชนหญิงชราสองคนวัย 88 และ 90 ปีจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะซิ่งรถเข็นหนีไป จากการหลบหนียาวนานเกือบ 3 เดือน ในที่สุดเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวเอาไว้ได้ในช่วงเดือนกันยายน 2018 และถูกดำเนินคดีในข้อหา “ทำร้ายร่างกาย”   Aaron ผู้ก่อเหตุ   Aaron ให้การกับศาลว่าในวันนั้นเขามีอาการ “เบาหวานกำเริบ” หลังจากที่ไม่ได้ใช้ยาตามปกติ จนทำให้มีอาการเบลอๆ หลงๆ ไปบ้าง เป็นสาเหตุที่ทำให้ถอยรถเข็นไปชนหญิงชราทั้ง 2…

ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2018 สำนักข่าวต่างประเทศหลายต่อหลายแห่งได้รายงานถึงเรื่องของ “การทำลายสถิติโลก” โดยฝีมือของเด็ก 5 ขวบ ซึ่งต้องบอกเลยว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันน่าเหลือเชื่อเอามากๆ… เรากำลังพูดถึงหนูน้อยสุดล่ำบึกที่ชื่อว่า Rakhim Kurayev เด็กชายชาวรัสเซีย ผู้ทำให้ชาวเมืองในสาธารณรัฐเชเชน และคนทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งของเขา กับ “การวิดพื้นติดต่อกันโดยไม่พัก“ นานกว่า 2 ชั่วโมง!!   Rakhim เจ้าหนูวัย 5 ขวบ ผู้สามารถวิดพื้นติดต่อกันได้นานกว่า 2 ชั่วโมง   เอาจริงๆ เห็นกล้ามแล้วนี่คือ #เหมียวตะปู ยอมเลยฮะ….   Rakhim โชว์วิดพื้นติดต่อกันเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4,105 ครั้ง ติดต่อกันยาวนานถึง 2 ชั่วโมง 25 นาที?! กลายเป็นการทำลายสถิติโลกอันน่าทึ่ง (หากแต่ไม่มีการบันทึกเอาไว้อย่างเป็นทางการ) ความสุดยอดของเจ้าหนูวัย 5 ขวบคนนี้ได้สร้างความประทับใจให้กับ Ramzan Kadyrov ขาใหญ่ประจำเมือง และเป็นทหารคนสนิทของ Vladimir Putin…

นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวอินเดียวัย 17 ปี Ganesh Baraiya ชายผู้มีความสูงเพียงแค่ 93 เซนติเมตร หลังจากที่เขามี “ภาวะแคระ” ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายได้มาตั้งแต่เด็ก     เขาอาศัยอยู่กับคนในครอบครัว Devuben และ Viththal Bhai Baraiya แม่และพ่อของเขา ผู้ที่ได้รับรู้ว่าลูกของตัวเองนั้นแตกต่างไปจากคนอื่นๆ หลังจากที่ศีรษะของเด็กหนุ่มเริ่มมีขนาดใหญ่กว่าร่างกาย ในตอนแรก พ่อแม่ของ Ganesh ไม่อาจรับได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาพยายามสวดมนต์หวังให้ลูกเป็นปกติ หาหมวกให้ใส่โดยหวังว่ามันจะทำให้ศีรษะหยุดเจริญเติบโต เพื่อให้ร่างกายได้มีขนาดใหญ่กว่า แต่ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นผล เด็กหนุ่มก็ยังคงสามารถทำใจยอมรับความผิดปกติของตัวเองได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าร่างกายอาจจะเทียบเท่ากับคนทั่วไปไม่ได้ แต่มันสมองของเขานั้นก็เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา     เด็กหนุ่มเล่าว่าตอนเด็กๆ เขาเคยถูกเพื่อนหัวเราะเยาะใส่ แต่สิ่งนั้นได้กลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เขามีกำลังใจใช้ชีวิตต่อ บวกกับเพื่อนๆ บางคนที่ยังคงหวังดี คอยช่วยเหลือหลายๆ อย่าง ทั้งช่วยแบกกระเป๋า หรืออุ้มพาไปไหนมาไหน แต่ในตอนเป็นเด็ก เขาก็เคยต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่น่ากลัว เมื่อเหล่า “คณะละครสัตว์” พยายามจะติดต่อขอซื้อตัวเขาไปทำการแสดงในราคาค่าตัวที่ 1,000 ปอนด์ (ราวๆ 42,000 บาท) แต่คุณพ่อของเขาก็เลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอนั้น…

เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ทำให้ทีมแพทย์ถึงกับต้องเกาหัวด้วยความสงสัยกันในตอนแรก หลังจากที่คนไข้รายหนึ่งเดินทางมาที่โรงพยาบาลด้วยอาการเจ็บท้องอย่างหนัก ก่อนจะพบว่าในร่างกายของเธอเต็มไปด้วย “เครื่องประดับ”?! เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในโรงพยาบาล Ahmedabad Civil เมืองอัห์มดาบาด ประเทศอินเดีย คนไข้สาวชื่อว่า Sangita มีอาการปวดท้องอย่างหนักโดยไม่ทราบสาเหตุ   Sangita คนไข้สาวผู้มีอาการเจ็บท้อง   แพทย์จึงทำการเอ็กซเรย์ตรวจดูภายในท้องของเธอ ได้เจอเข้ากับก้อนกระจุกแข็งๆ ภายในนั้น ซึ่งดูแล้วเป็นการรวมตัวกันของสิ่งแปลกปลอมจำนวนมาก ดอกเตอร์ Nitin Parmar หนึ่งในทีมแพทย์ที่ทำการรักษาคนไข้รายนี้บอกว่า “ท้องของเธอมีลักษณะแข็งเหมือนหิน เมื่อเราเอ็กซเรย์ดูจึงได้พบกับก้อนกระจุกของสิ่งแปลกปลอมภายในนั้น”   ภาพเอ็กซเรย์   ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะพวกเขายังพบว่ามี “เข็มหมุด” เจาะเป็นรูขึ้นไปบริเวณปอดของเธอ รวมถึงอวัยวะหลายๆ ส่วนบริเวณหน้าท้องของเธอก็ด้วย ทำให้แพทย์ตัดสินใจทำการผ่าตัดในทันที     หลังจากที่ผ่าท้องของเธอนำสิ่งแปลกปลอมออกมาได้สำเร็จ หลายๆ คนก็ต่างพากันช็อกกับสิ่งที่เห็น เพราะมันเต็มไปด้วยเครื่องประดับนานาชนิด และวัตถุโลหะต่างๆ นานา แพทย์กล่าวว่ามันมีตั้งแต่ สร้อยคอ แหวน ปิ่นปักผม เข็มหมุด หรือแม้แต่สร้อยตามประเพณีของหญิงสาวชาวฮินดูที่แต่งงานแล้ว   วัตถุที่ถูกผ่าออกมาจากบริเวณหน้าท้องของเธอ   จากการรายงานในวันที่ 14…

ในช่วงเวลาที่ตกต่ำและยากลำบากที่สุดของชีวิตมนุษย์ อาจทำให้หลายๆ คนมองโลกในแง่ลบ บวกกับความรู้สึกไม่ดีที่อยู่ในใจ บางทีก็ทำให้พวกเขาคิดว่าการปลิดชีวิตตัวเองคือทางออกเดียวทีมี เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มวัย 20 ปีคนนี้ ที่พยายามจะกระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ Nicole Oyola สาวใจดีวัย 23 ปีได้ผ่านมาเจอและได้มอบความรักให้กับเขา จนสามารถช่วยเขาได้ในที่สุด     Nicole Oyola สาวชาวอเมริกันได้ขับรถเพื่อไปทำธุระผ่านทางสะพาน Howard-Frankland ที่เชื่อมระหว่างเมือง Tampa กับ St. Petersburg ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ระหว่างที่ขับรถอยู่เธอได้เหลือบไปเห็นกับเด็กหนุ่มที่ตาแดงก่ำราวกับร้องไห้มาเป็นชั่วโมงๆ ยืนลังเลอยู่ข้างสะพาน เธอจึงรีบลงไปหาเด็กคนดังกล่าว แต่เวลาที่เธอจะช่วยเด็กคนนั้นได้เหลืออีกไม่มาก เพราะตอนนั้นเขาได้ปีนข้ามรั้วไปยืนบนขอบสะพานเตรียมตัวที่จะกระโดดลงไปได้ทุกเมื่อ เธอจึงต้องตะโกนบอกอะไรบางอย่างแก่เด็กหนุ่ม     “ฉันรักเธอมากนะ พระเจ้าก็รักเธอมากๆ มาให้ฉันกอดหน่อยสิ” Nicole ตะโกนบอกกับเด็กหนุ่มคนดังกล่าว และทันทีที่เขาได้ยินเธอ เด็กหนุ่มก็รีบข้ามรั้วกลับเข้ามาในสะพานและวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของเธอ “ผมขอโทษ ผมขอโทษ ผมขอโทษ” เด็กหนุ่มพูดขอโทษซ้ำไปซ้ำมา ขณะที่ร้องไห้อยู่ในอ้อมอกของ Nicole     หลังจากช่วยเด็กหนุ่มคนนั้นให้เลิกคิดสั้นได้ ก็มีผู้ที่ผ่านทางไปมาคนอื่นที่เป็นห่วงหยุดรถลงมาดูเด็กหนุ่มเช่นกัน ระหว่างนั้น Nicole จึงแยกออกมาเพื่อโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อทางเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุและได้ทราบที่มาที่ไปของสถานการณ์ เขาก็ได้ทำสิ่งที่เราไม่ค่อยเห็นกันสักเท่าไหร่…

จากอดีตที่ความแตกต่างกันในเรื่องเชื้อชาติและเพศทางเลือกยังไม่ถูกยอมรับ จนปัจจุบันสังคมหลายๆ แห่งเริ่มที่จะมีการยอมรับและให้อิสระแก่เรื่องดังกล่าวมากขึ้น แต่กระนั้นเองก็ยังคงมีอีกหลายคนที่ไม่ยอมรับความแตกต่างนั้นๆ และก็ยังมีบางคนที่ทำเรื่องแย่ๆ ใส่คนที่คนเหล่านั้นอยู่บ่อยๆ เหมือนอย่างที่ Yasmeen Duncan สาวผิวสี นักศึกษาของมหาวิทยาลัย Central Michigan คนนี้ถูกกระทำ     เมื่อเร็วๆ นี้ Yasmeen ได้ใช้ชีวิตนักศึกษาตามปกติ แต่เมื่อเธอกลับมาถึงหอพักก็ต้องตกใจเมื่อเจอกับโน๊ตข้อความเหยียดที่บุคคลปริศนามาทิ้งเอาไว้บนไวท์บอร์ด ในโน้ตดังกล่าวมีข้อความว่า “อีดอก อีกะหรี่ลิงดำ” ซึ่งในหอพักของเธอนั้นมีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาอยู่ 3 คน จึงเป็นที่ชัดเจนว่าข้อความดังกล่าวหมายถึงพวกเธออย่างแน่นอน     Yasmeen จึงได้ทำการปรึกษากับรูมเมทว่าจะส่งเรื่องนี้ไปให้กับผู้อำนวยการ Bob Davies ได้รับรู้ ซึ่งทางผู้อำนวยการก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รีบออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงและตักเตือนเรื่องที่เกิดขึ้น     และเมื่อทางนักศึกษาในหอพักได้รับรู้เรื่องราวที่ Yasmeen ถูกกระทำ ในวันรุ่งขึ้นเพื่อนๆ ในหอพักก็พากันเข้ามาแปะข้อความให้กำลังใจแก่เธอที่ประตูห้องเต็มไปหมด     บางคนก็เอาช่อดอกไม้พร้อมกับการ์ดข้อความให้กำลังใจแก่เธอ   ยิ่งไปกว่านั้นทางผู้อำนวยการยังเรียกเหล่านักเรียนไปร่วมทานพิซซ่ามื้อค่ำร่วมกับเขา เพื่อที่นักเรียนรวมถึงทางเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจะได้ใช้เวลาด้วยกันและได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้สึกแก่กันและกัน   .   สุดท้ายนี้เมื่อเรื่องราวทุกอย่างดีขึ้น…

เป็นเรื่องราวที่เรียกได้ว่า “เกือบกลายเป็นเหตุสลด” ไปแล้ว เชื่อว่าบางคนอาจต้องเคยเจอกับโมเมนต์ในลักษณะเดียวกันนี้มาบ้างแหละ อารมณ์แบบเห็นคนนอนแน่นิ่งจนคิดว่าเขาตายไปแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่เคยก็ลองมาฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้กันดูนะ นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเย็นวันที่ 3 พฤศจิกายน 2018 เมื่อจู่ๆ คุณปู่วัย 95 ปีก็เหมือนเป็นลมล้มพับไป   ตรงกลางที่นั่งอยู่ คือคุณปู่วัย 95 ปี   Budh Ram คือคุณปู่วัย 95 ปีที่อาศัยอยู่กับครอบครัวในเมือง Jhunjhunu รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย เขาหมดสติไปหลังจากที่บ่นถึงอาการเจ็บหน้าอกของตัวเอง ครอบครัวผ่านมาเห็นร่างของเขานอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น จึงรีบตามแพทย์เข้ามาดูอาการในทันที โดยจากการวินิจฉัยนั้น หมอก็ได้บอกกับทุกคนในครอบครัวว่า “คุณปู่ตายแล้ว”!! กลายเป็นความโศกเศร้าของเหล่าเครือญาติที่ถูกตามๆ กันมา รวมถึงนักบวชที่เดินทางมาเพื่อทำพิธีศพให้กับชายคนนี้ในวันเดียวกันนั้น     ทุกคนช่วยกันโกนหัวให้กับคุณปู่ตามประเพณีท้องถิ่น และอาบน้ำให้กับร่างของคุณปู่เป็นครั้งสุดท้าย แต่เมื่อเทน้ำเย็นๆ ลงไปโดนตัวคุณปู่ปุ๊บ จู่ๆ แกก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาราวกับปาฏิหาริย์ Balu Ram ลูกชายคนโตของคุณปู่บอกว่าทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น คิดว่ามันคือเรื่องน่าอัศจรรย์ในการที่ “คนตายคืนชีพขึ้นมา” และช่วยกันอุ้มพาคุณไปปู่ไปนอนกับเตียง     เมื่อญาติๆ ถามคุณปู่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง…

เพื่อนๆ หลายคนอาจเคยโพสต์ขายสินค้าในโลกออนไลน์ เมื่อมีการขายก็ย่อมต้องมีการซื้อเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แต่บางทีมันก็อาจมีอะไรติดไม้ติดมือกลับมาโดยที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนั้นได้เกิดขึ้นกับ Katee Gee หญิงสาวชาวอังกฤษวัย 37 ปี ที่เพิ่งโพสต์ขาย “ผ้าเช็ดตัวสีดำ” ลงใน eBay ไปเมื่อไม่นานมานี้   Katee หญิงสาวที่ได้โพสต์ขาย “ผ้าเช็ดตัว” ลงใน eBay   ผ้าเช็ดตัวของเธอได้ถูกขึ้นประมูลและขายออกไปได้ในราคา 12 ปอนด์ (ราวๆ 513 บาท) โดยที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าชายหนุ่มที่ซื้อผ้าเช็ดตัวของเธอไปจะส่งรีวิวตอบกลับมาให้ด้วย Rory Hayes คือชื่อของชายหนุ่มวัยย่างเข้า 37 ที่ได้ทำการส่งรีวิวแทนคำขอบคุณกลับมาให้กับ Katee โดยภาพที่เขาส่งมาก็คือภาพของตัวเองที่กำลังเปลือยกายนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่   โพสต์ขายผ้าเช็ดตัว ผู้ซื้อส่งภาพตอบกลับมาในแบบที่ไม่คาดคิด   ในตอนแรกสุดหลังจากที่ Rory ซื้อผ้าเช็ดตัวไปจากเธอ เขาได้ส่งข้อความตอบกลับมาว่า “ผมขอพูดเลยว่าคุณเป็นคนที่สวยมากๆ เป็นผู้หญิงที่น่าดึงดูดใจสุดๆ หุ่นเอ็กซ์เซ็กซี่เสียจริง” และถึงแม้ว่า Katee จะตอบกลับไปหาเขาว่าภาพที่โพสต์ลงไปในเป็นแค่ภาพของนางแบบคนอื่น แต่ชายหนุ่มก็ยังคงส่งภาพตอบกลับมา เผยให้เห็นเรือนร่างท่อนบนและท่อนล่างที่ถูกปิดไว้ด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว     หญิงสาวเห็นอย่างนั้นจึงตอบกลับไปอย่างสุภาพว่า…

หากพูดถึงสิ่งสำคัญของการเล่นกีฬาสักอย่าง ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคือการแข่งขัน ชัยชนะและสุขภาพ แต่ก็มีอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่า “มิตรภาพ” และเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้เองก็เป็นเรื่องของมิตรอันสวยงามระหว่างนักกีฬา เมื่อนักวิ่งผู้บกพร่องทางสายตาเกิดล้มลงระหว่างที่ทำการแข่งขัน หากเป็นการแข่งขันปกติ นักกีฬาคนอื่นก็คงทิ้งห่างเขาไป แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะว่านักกีฬาคนอื่นก็รีบวิ่งเข้ามาช่วยพยุงนักกีฬาคนดังกล่าว แล้วเข้าเส้นชัยไปด้วยกัน     เมื่อเร็วๆ มานี้ทางโรงเรียนมัธยม Cazenovia ได้จัดการแข่งขันวิ่งวิบากระยะทาง 200 เมตร ซึ่ง Luke Forther นักเรียนผู้บกพร่องทางสายตาก็เข้าร่วมเช่นกัน แต่ต้องมีพี่เลี้ยงช่วยประคับประคองตลอดเวลา และในขณะที่ Luke กำลังวิ่งขึ้นเนินหญ้านั้น ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเขาลื่นโคลนและล้มลงอย่างแรง ซึ่งข้างหลังของเขาก็มี Jake Tobin ผู้เข้าแข่งขันอีกคนวิ่งตามมาติดๆ แม้ว่า Jake จะสามารถแซง Luke ได้อย่างง่ายดาย แต่เขาเลือกที่จะแสดงความมีน้ำใจ ช่วยพยุง Luke ขึ้นมาแทน     หลังจากที่ Jake ช่วยพยุง Luke ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองก็ช่วยเหลือกันจนสามารถเข้าเส้นชัยได้ในที่สุด และภาพของพวกเขาก็กลายเป็นภาพที่ไม่ว่าใครเห็นต่างก็รู้สึกถึงความสวยงามแห่งมิตรภาพ หลังจบการแข่งโค้ชของ Luke ถึงขั้นต้องออกมากล่าวชื่นชมการกระทำของ…

ประเทศออสเตรเลียถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางระบบนิเวศเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกใจเลยว่าที่นั่นจะมีสัตว์แปลกๆ มากมายอาศัยอยู่ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันแสนมหัศจรรย์ นอกจากความแปลกทางธรรมชาติแล้วพวกเขาก็มีวิถีชีวิต และการใช้ชีวิตที่แปลกเช่นเดียวกัน และนี่คือเหตุผลว่าทำไมออสเตรเลียถึงเป็นประเทศที่พิเศษกว่าที่ไหนๆ ในโลก   1. ผักผลไม้รูปร่างประหลาด   ในประเทศออสเตรเลียคุณสามารถซื้อผลไม้หรือผักรูปร่างประหลาดๆ ในราคาที่ถูกลงในห้างสรรพสินค้าได้ด้วยนะเออ!!   2. มีแต่รถไฟที่อยู่บนดิน   รถไฟในประเทศออสเตรเลียนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะหายาก เพราะส่วนใหญ่ผู้คนที่นั่นจะนิยมเดิน หรือใช้จักรยานไปทำงานมากกว่า สำหรับคนที่ใช้รถบัสประจำทางหรือรถไฟจะมีแค่ 1 ใน 10 เท่านั้น   3. Vegemite   ครีมเนื้อสีดำอมน้ำตาล ที่มีรสเค็มนำ ทำมาจากผักนานาชนิด ยีสต์ ผสมกับมอลต์ เป็นอาหารที่ชาวออสเตรเลียชอบกันมาก กินกันทุกครัวเรือนเลยก็ว่าได้ ทุกคนล้วนเติบโตมากับสิ่งนี้ ก็เหมือนกับคนไทยที่ชอบกินปลาร้า หรือน้ำพริกกะปิอะไรประมาณนี้แหละจ้า   4. การให้คะแนนสุขภาพของอาหารบนแพ็กเกจ   คุณสามารถหาอะไรที่เฮลตี้ทานได้ โดยการสังเกตจากหน้าซอง ถ้าอันไหนดาวเยอะๆ ก็หยิบมาได้เลยจ้า!!   5. กระรอกเป็นสัตว์ที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขา   สำหรับคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ หากไปที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว จะต้องว้าวกับการได้เห็นเหล่าจิงโจ้…

Norman Goldwasser คือนักบำบัดวัย 46 ปีในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ผู้อ้างว่าตนเองสามารถ “รักษาการรักร่วมเพศได้” โดยมองว่าเป็นเหมือนอาการทางจิตคล้ายกับ “โรคย้ำคิดย้ำทำ” เขาคือผู้อำนวยการคลินิก Horizon Psychological Services ที่คนท้องถิ่นรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยแนวคิดและวิธีการบำบัดที่บอกว่าจะสามารถเปลี่ยนให้คนรักร่วมเพศหันมารักเพศตรงข้ามได้   Norman นักบำบัดผู้มองว่า “การรักร่วมเพศ” คือความผิดปกติที่แก้ไขได้   แต่แล้วอดีตคนไข้ของเขาก็ได้ไปพบว่า Norman เองก็แอบใช้ “แอปฯ หาคู่เกย์” อยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นแอปฯ ที่ชื่อว่า Manhunt หรือ Gay Bear Nation นักบำบัดคนนี้ใช้ชื่อไอดีว่า hotnhairy72 พร้อมกับลงรูปเปลือยของตัวเอง พร้อมบอกว่าตนเองสนใจในเรื่องของการจูบ ออกเดต การนวดกับผู้ชาย และชอบผู้ชายที่แต่งงานแล้ว อยากชวนให้ไปทำกิจกรรมทางเพศกัน   หน้าโปรไฟล์ของเขา   อดีตคนไข้ที่ได้ไปพบความลับนี่เข้าก็ได้นำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งกับกลุ่ม Truth Wins Out กลุ่ม LGBT (บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) ซึ่งคอยต่อต้านการบำบัดในลักษณะเดียวกับของ Norman…

การกอดถือว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มนุษย์ใช้แสดงความรัก ความห่วงใยแก่กัน ซึ่งการกอดจากคนที่เรารักหรือคนที่รักเราก็สามารถช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกมีพลังได้ด้วย เหมือนอย่างที่หนูน้อย Jude คนนี้ได้ทำ เมื่อเจ้าหนูไม่ยอมออกจากคอนเสิร์ตที่ตัวเองไปดูเพื่อจะเข้าไปมอบกอดให้คนอื่นๆ ที่มาดูคอนเสิร์ตเหมือนกับเขา กลายเป็นภาพน่ารักที่เราไม่ได้เห็นบ่อยนัก     ในวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม 2018 Nick กับ Stephanie Sasfy จากเมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจียได้พา Jude ลูกชายของพวกเขาไปคอนเสิร์ตกลางแจ้งเป็นครั้งแรก ครอบครัวของพวกเขาสนุกกับคอนเสิร์ตมากๆ แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา จบคอนเสิร์ตก็ต่างคนก็ต้องแยกย้ายกันไป เช่นเดียวกัน Nick และ Stephanie ก็ส่งเสียงเรียกลูกชายของเธอว่าถึงเวลากลับบ้านแล้ว     แต่ผิดคาดที่เจ้าหนู Jude ไม่ยอมกลับ เขาวิ่งตรงไปที่กลุ่มของของคนแปลกหน้าที่มาดูคอนเสิร์ตเช่นเขา ก่อนจะมอบกอดจากอ้อมแขนอันน้อยนิดให้เหล่าคนแปลกหน้า Jude ไล่กอดคนแปลกหน้าทีละคน ไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่มีคนแปลกหน้าคนไหนที่ปฏิเสธหนูน้อย แม้จะไม่ทันตั้งตัว แต่พวกเขาก็ยอมรับอ้อมกอดอันอบอุ่นนี้กันหมด     ฝ่ายคุณพ่อเมื่อเห็นภาพของลูกชายตัวน้อยที่ทำสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้ ก็ไม่ลืมที่จะนำโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกวิดีโอเอาไว้ ก่อนจะนำมาอัปโหลดลงโซเชียลมีเดียและกลายเป็นกระแสไปอย่างรวดเร็ว      พลังบวกแบบนี้ ใครได้รับไปต้องอมยิ้มไปทั้งวันอย่างแน่นอน  …

October Books คือร้านหนังสือที่ไม่แสวงหากำไรแห่งเมือง Southhampton ประเทศอังกฤษ ซึ่งเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานถึง 40 ปี แต่เมื่อเร็วๆ นี้ทางร้านได้พบกับปัญหาใหม่ นั่นคือค่าเช่าของร้านเพิ่มขึ้น ทางร้านจึงตัดสินใจที่จะย้ายไปเปิดในที่ใหม่ ซึ่งห่างจากที่เดิมเพียง 150 เมตรเท่านั้น     แม้ว่าระยะทางของร้านใหม่จะใกล้กับร้านเก่าก็ตาม แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่พนักงานจะเดินขนหนังสือเป็นหมื่นๆ เล่มไปยังร้านใหม่ได้ ดังนั้นทางร้านจึงได้ลงประกาศหาอาสาสมัครมาช่วยกันขนหนังสือผ่านทางอินเตอร์เน็ตและป้ายโฆษณาหน้าร้าน   We still have spaces for Lift and Shift volunteers this week – could you spare a few hours? pic.twitter.com/GeTPC82Lzo — OctoberBooks (@OctoberBooks) October 31, 2018   และถึงทางร้านจะไม่มีค่าจ้างให้กับอาสาสมัครก็ตาม แต่ด้วยความที่เป็นร้านหนังสือเก่าแก่และอยู่คู่กับคนละแวกนั้นมาอย่างยาวนาน ในวันแรกที่ทำการขนย้าย ก็มีอาสาสมัครโผล่มาช่วยถึง 250 คน เมื่อเริ่มทำงาน 250…

นี่คือเรื่องราวของ Tammy Lee Humphrey หญิงสาวชาวอังกฤษวัย 23 ปี อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เธอผู้เคยต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำอยู่นานถึง 4 เดือน จากคดีการคุกคามจนสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่น สิ่งที่เธอทำก็คือ “ส่งข้อความหาเหยื่อ” ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยเธอจะพิมพ์ข้อความไปรบกวนเหยื่อที่เธอเล็งเอาไว้แบบถี่ๆ ไม่มีหยุด และนั่นจึงเป็นเหตุผลให้เธอถูกดำเนินคดีไปในก่อนหน้านี้   Tammy หญิงสาววัย 23 ปี   จากการรายงานบอกว่า Tammy เป็นนักโทษชั้นดี จากความประพฤติอันยอดเยี่ยมทำให้เธอสามารถออกจากคุกมาได้ในระยะเวลา 4 เดือน แต่พอเธอได้ออกมาอยู่ร่วมกับคนในสังคมอีกครั้ง เธอก็ยังคงใช้วิธีการเดิมและโทรศัพท์เครื่องเดิมในการสร้างความรำคาญใจให้กับเด็กหญิงที่เคยเป็นเหยื่อของเธอ จนกระทั่งได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องขึ้นศาลอีกครั้ง เมื่อเธอได้ล่อลวงเด็กหญิงวัย 15 ปีคนหนึ่งไปข่มขืนในสวนสาธารณะ เมือง Chadstone     ศาลลงบันทึกไว้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในวันที่ 4 ตุลาคม 2017 Tammy ใช้โทรศัพท์ของเธอส่งข้อความไปหาเหยื่อรายนั้น บอกว่าเธอจะเลี้ยงเครื่องดื่ม เมื่อเด็กหญิงตามเธอไปยังจุดนัดพบ Tammy ก็ทำการข่มขืนเธอ ในลักษณะของการคุกคามทางเพศแบบที่ผู้หญิงทำกับผู้หญิงด้วยกัน (ไม่มีการชี้แจงถึงรายละเอียดในเรื่องนี้) วันต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุและนำตัวไปดำเนินคดี โดยที่ Tammy…

เราอาจเคยโดนสิ่งมีชีวิตมาฝากของเสียไว้ให้กับรถยนต์สุดรักของเรา ถ้าสุนัขมาชิ้งฉ่องใส่ล้อก็ไม่ได้แปลกอะไร แต่ถ้าต้องเจอ “อึมนุษย์” บนกระจกหน้ารถเหมือนอย่างเธอคนนี้ล่ะ!! เราควรรู้สึกอย่างไรดี? นี่คือเรื่องราวของนักศึกษาสาววัย 22 ปีที่มีชื่อว่า Rachel Holmes กับรถ Renault Clio สุดรักของเธอ ที่ในทุกๆ วันเธอมักจะนำไปจอดตรงบริเวณซอยหลังบ้าน ในเมือง Brynmill ประเทศเวลส์   Rachel กับรถ Renault Clio ของเธอ   จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง เธอก็ต้องมาเจอกับสิ่งปฏิกูลกองอยู่บนกระจกหน้ารถของเธอ และเมื่อตรวจสอบดูแล้วเธอก็พบว่ามันคือ “อึมนุษย์”!! ไม่รู้ว่าคนที่นำมันมาฝากไว้บนรถของเธอนั้นเขาขึ้นไปนั่งอึบนฝากระโปรง หรืออาจหยิบมาวางไว้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือมันเป็นเรื่องที่เธอมองว่า “แปล๊กกกแปลก”   เธอได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น   หลังจากที่ทำความสะอาดไปแล้วในรอบแรก ผ่านไป 10 วัน จู่ๆ ก็เหมือนว่าเธอจะได้รับของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ชิ้นใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เพราะมันดันมีอึมนุษย์โผล่มาอีกแล้ว!! เธอบอกว่าขนาดในรอบนี้คือมีความบิ๊กเบิ้มเอามากๆ ใหญ่ซะจน Rachel ถึงกับเป็นห่วงสุขภาพร่างกายของคนที่นำมาฝากไว้ให้กับเธอเลยทีเดียว   อึที่โผล่มาในรอบที่ 2   ครั้งที่…

‘ปัญหาโลกร้อน’ ถือเป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นและลุกลามใหญ่โต และมีสาเหตุมาจาก ‘มนุษย์’   จากการที่เราใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง ทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างต้นไม้ซึ่งเป็นตัวทำหน้าที่ในการดูดซึมก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุหลักของโลกร้อน ทำให้จำนวนของมันลอยขึ้นไปสู่บรรยากาศมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เองช่างภาพนามว่า Tom Hegen จึงคิดไอเดียสุดเจ๋งเพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาโลกร้อน ว่ามันกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเราเข้าไปทุกวัน ด้วยการถ่ายภาพ ‘ธารน้ำแข็งอาร์กติก’ ในกรีนแลนด์ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนแบบเต็มๆ!! เพื่อแสดงให้เห็นว่ามันเหลือน้อยอยู่เต็มที!!     ผลงานดังกล่าวมีชื่อว่า The Two Degrees คืออุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มขึ้นมา แม้จะน้อยแต่มันสร้างผลกระทบได้อย่างมหาศาล “ระดับน้ำทะเลของโลกที่กำลังเพิ่มขึ้นนั้นถือเป็นปัญหาทางสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในช่วงยุคศตวรรษที่ 21 เลยทีเดียว” “สาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นก็คือ ‘น้ำแข็ง’ ที่ขั้วโลกละลายนั่นเอง เพราะอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น แม้จะน้อยนิดก็ตาม” “หากธารน้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายไปจนหมดเพียงแค่ที่เดียวก็จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 7 เมตรเลยทีเดียว” “ทะเลอาร์กติกเองก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับผลจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นก่อนที่อื่นๆ เราควรจะหันมาใส่ใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังกันเสียที” Tom Hegen กล่าวถึงงานของเขา   . .   บางส่วนที่แตกออกมาและล่องลอยไปในมหาสมุทร ก่อนที่จะค่อยๆ ละลายหายไป .   ภาพที่เขาถ่ายมาจะเป็นมุมสูงทั้งหมด . . . .…