Category: Highlight
-
คุณยายหวังดีเห็นกางเกงยีนของหลานขาด ก็เลยเย็บซ่อมให้ จนชาวเน็ตหลงรัก
เมื่อพูดถึงกางเกงยีน เราก็มักจะนึกแฟชั่นกางเกงขาดๆ ที่หลายคนชื่นชอบ แน่นอนว่าถ้าเป็นกลุ่มคนในยุคปัจจุบัน เวลาเราเห็นยีนที่ขาดเราก็จะเข้าใจได้ทันทีว่านั่นคือแฟชั่น ไม่ใช่ขาดเพราะชำรุดแน่ๆ แต่ทว่าสำหรับคุณยายชาวญี่ปุ่นคนนี้กลับไม่คิดแบบนั้น เพราะเมื่อเธอมองเห็นแฟชั่นยีนขาดๆ ของหลานสาวเธอก็หวังดีคิดว่ากางเกงของหลานชำรุด เธอเลยจัดการหยิบมันมาซ่อมซะเลย Enter Shizu คือคุณยายชาวญี่ปุ่นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ โดยมันถูกบอกเล่าผ่านทวิตเตอร์ของหลานสาวที่ชื่อ Tomomi ซึ่งเธอเล่าว่าตัวเธอได้ถอดกางเกงยีนแฟชั่นขาดๆ ของเธอไว้ที่บ้าน จากนั้นก็ใส่ชุดอื่นไปทำงาน แต่พอกลับมาเธอก็พบว่ากางเกงยีนของเธอได้หายไป จนกระทั่งเธอได้เจอกับคุณยาย Shizu ซึ่งคุณยายเดินมาบอกหลานสาวด้วยความเป็นห่วงว่า “หลานสามารถใส่กางเกงนี้ไปไหนมาไหนได้แล้วนะ ไม่ต้องห่วง ยายซ่อมให้แล้ว” งานนี้ Tomomi ถึงกับบอกว่าเธอยิ้มไม่หยุดเลยทีเดียว เพราะความน่ารักและผลงานของคุณยายมันบ่งบอกถึงความรักที่เธอส่งผ่านออกมาจริงๆ ไม่เชื่อลองดูผลงานการเย็บอันแสนเพอร์เฟกต์นี่ซะก่อน… คือคุณยายแกทำได้เนี๊ยบสุดๆ หรือว่านี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นกระแสใหม่ให้กับแฟชั่นกางเกงยีนขาดๆ ก็ได้ เปลี่ยนจากยีนที่ขาดและมีเส้นด้ายขาดๆ เป็นเย็บให้สวยงาม ซึ่งมันก็ดูดีไม่หยอกเลยทีเดียว เรื่องราวจากทวิตเตอร์ของ Tomomi นั้นได้รับความนิยมจากชาวเน็ตมากๆ ซึ่งมีการรีทวีตไปแล้วมากกว่า 71,000 ครั้ง แถมทุกคนก็ล้วนชมในความน่ารักของคุณยาย Shizu กันยกใหญ่เลยด้วย นี่แหละความรักของคุณยาย ได้โปรดใส่มันต่อไปนะ เพราะมันเป็นความตั้งใจของคุณยาย และก็หวังว่าคุณยายจะอายุยืนและอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป…
-
แม้ในบทเจไดเขาจะห้ามมีความรัก แต่นอกจอความรักของ Luke กลับหวานแหววและยืนยาวสุดๆ
ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการกลับมาของหนังภาคต่อ Star Wars: The Last Jedi หรือบางคนก็อาจจะโมโหที่มันไม่ค่อยถูกใจ แต่รู้ไหมว่าในเวลาเดียวกันปรมาจารย์เจได Luke Skywalker ก็กำลังปลาบปลื้มกับช่วงเวลาดีๆ ของเขา… เพราะว่าในช่วงเวลาไล่ๆ กันกับหนังฉายนั้นก็เป็นวันครบรอบแต่งงานของ Mark Hamill ชายผู้รับบท Luke Skywalker นั่นเอง และแม้ว่าในบทดังกล่าวจะมีกฎห้ามแต่งงาน แต่ชีวิตจริงพลังฟอร์ซของเขากลับกล้าแกร่งยิ่งขึ้นเมื่ออยู่กับภรรยาของเขา . Mark Hamill นั้นได้สมรสกับ Marilou York หญิงสาวผู้ทำอาชีพเป็นทันตานามัยในเมืองลอสแอนเจลลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทั้งคู่ได้สมรสกันมาแล้วถึง 39 ปี!! ปัจจุบันทั้งคู่นั้นมีชีวิตที่สมหวังสุดๆ โดยทั้งคู่ประกาศแต่งงานกันเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 1978 ซึ่งในตอนนั้น Mark มีอายุ 26 ปี ส่วน Marilou มีอายุ 23 ปี ต่อมาพวกเขาก็มีลูกด้วยกัน 3 คน… …
-
เจ้าเหมียว Elf แมวผู้ว่ายน้ำเก่งมั่กๆ เพราะต้องรักษาอาการบาดเจ็บที่ขาของมัน
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเจ้าแมวเหมียวทั้งหลายที่เราคุ้นเคยกันเนี่ย มันเป็นสัตว์ที่กลัวน้ำมาก จากที่เราเห็นว่าเจ้าแมวทั้งหลายเนี่ยไม่ชอบอาบน้ำเท่าไหร่ เวลาจะทำความสะอาดก็ทำแค่เลียๆ ขนก็ถือว่าสะอาดแล้ว น่าอิจฉาจริงๆ แต่เจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Elf จะมาเปลี่ยนความคิดที่เราเชื่อว่าแมวกลัวน้ำออกไป เพราะพี่เขาน่ะชอบว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจเลยละ แต่ที่เจ้าเหมียวตัวนี้ต้องมาว่ายน้ำนั่นก็เพราะว่าอ้ายมีเหตุผล และเหตุผลที่เจ้าเหมียวตัวนี้ต้องมาว่ายน้ำนั้นก็เนื่องมาจากมันได้รับบาดเจ็บที่กระดูกต้นขาและสะโพก ทำให้มันต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาให้อาการหายดี หลังจากการผ่าตัดนั้นมันก็ต้องเข้ารับการกายภาพบำบัดต่อเพื่อให้มันกลับมาเดินได้อย่างปกติ ในการกายภาพบำบัด วิธีที่จะทำให้เห็นผลเร็วที่สุดนั่นก็คือการกายภาพบำบัดในน้ำ เจ้าทาสของพี่ Elf ก็เลยต้องพาไปเรียนว่ายน้ำซะเลย บร๊ะ! นี่มันไฟท์บังคับชัดๆ แต่เจ้าเหมียวก็ให้ความร่วมมือกับ Katherine Deane ครูฝึกของมันเป็นอย่างดี ภาพก็เลยออกมาแบบนี้ เจ้าเหมียวกับเสื้อชูชีพสีเหลืองของเขาต้องมาว่ายน้ำเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บสัปดาห์ละสองครั้ง ดูไปดูมามันก็น่ารักอยู่นะ ฮ่าๆ . . . . ครูฝึกของเจ้า Elf บอกว่า “ฉันรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่จะได้ไปว่ายน้ำกับเจ้า Elf เนื่องจากว่าบรรดาผู้ป่วยของฉันส่วนมาจะเป็นสุนัขมากกว่า และวิธีการสอนมันก็แตกต่างกันมาก มันก็เสียวๆ ว่าเขาจะเอาเล็บมาฟาดฉันหรือเปล่า ฮ่าๆ” เจ้า Elf นั้นต้องว่ายน้ำเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเป็นเวลา 8 สัปดาห์เพื่อที่จะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง แต่อาการของมันก็ดีขึ้นตามลำดับโดย Ryan…
-
นักวิทย์ถึงกับไปไม่เป็น หลังพบลิงสาวพยายามมีเซ็กส์กับกวาง มันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย!?
ใครที่ได้มีโอกาสได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็คงต้องรู้สึกฉงนงงงวยกันแน่ๆ ก็ใครมันจะไปคิดล่ะว่าเราจะได้เห็นลิงเสพสวาทกับกวาง ซ้ำร้ายลิงที่ขึ้นขี่เจ้ากวางก็ดันเป็นตัวเมียอีกต่างหาก ทำไมถึงได้เกิดปรากฏการณ์แบบนี้ขึ้นกันนะ นักวิทยาศาสตร์ที่สนใจเรื่องนี้จึงได้พยายามทำการค้นคว้าถึงพฤติกรรมสุดแปลกนี้ ว่ามันเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ และมีเหตุผลมาจากอะไร อ้างอิงจาก งานวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเลทบริดจ์ พฤติกรรมการสมสู่ข้ามสายพันธุ์ระหว่างลิงกังตัวเมีย กับกวางซีกาในประเทศญี่ปุ่นนั้น เกิดขึ้นมาสักพักหนึ่งแล้ว นักวิจัย Noëlle Gunst เองก็ระบุว่าคนท้องถิ่นในเมืองมิโน จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นได้พบเห็นพฤติกรรมประหลาดนี้มาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว โดยการสมสู่ข้ามสายพันธุ์ระหว่างลิงกับกวางในลักษณะนี้ จะเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ อย่างสม่ำเสมอ ลิงก็จะขึ้นไปขึ้นขี่กวาง ส่วนกวางก็จะปล่อยให้ลิงสมสู่จนสำเร็จความใคร่ แล้วเลียกินน้ำกามที่เลอะอยู่บนหลังของมัน ในงานวิจัยนี้ นักวิทยาศาสตร์เก็บข้อมูลจากฮอร์โมนที่ได้จากอุจจาระของสัตว์ หลังการสมสู่ระหว่างลิงกังญี่ปุ่นและกวางซีกา จำนวน 258 ครั้ง แล้วนำข้อมูลฮอร์โมนจากอุจจาระที่ได้ มาเปรียบเทียบกับฮอร์โมนที่ได้จากอุจจาระของการสมสู่กันระหว่างลิงตัวเมียสองตัว จึงสรุปได้ว่าการสมสู่ของพวกมันเกิดจากความต้องการทางเพศ โดยสังเกตจากทั้งลักษณะของการขึ้น ลักษณะของการกระเด้า และเสียงร้องของมันตอนสมสู่กัน และจาก 5 ตัวอย่างจากการสมสู่กันของลิงและกวาง 14 คู่ ก็พบว่ามันมีลักษณะการสมสู่กันเหมือนกับการผสมพันธุ์กันระหว่างลิงไม่มีผิดเลย นอกจากนี้กวางส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ปฏิเสธลิงตัวเมียที่เข้ามาสมสู่ด้วย มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีท่าทีต่อต้านและสะบัดตัวหนี การวิจัยครั้งนี้นับเป็นการวิจัยรูปแบบใหม่ เพราะถือว่าเป็นครั้งแรก…
-
พิตบูลตัวน้อย เกิดมามีหน้าตาประหลาด แต่เจ้าของก็ยังคงรักมันเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
การเกิดมาแตกต่างจากคนอื่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะถูกจำกัดจากสิทธิในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่จะได้รับความรัก สิทธิที่จะมีความสุข และอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ Marie DeMarco มอบความรักอันบริสุทธิ์ให้กับ Sasha เจ้าพิตบูลตัวน้อยที่เกิดมากับร่างกายที่อ่อนแอ แต่มันก็สู้สุดตัวเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ Sasha เกิดเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่มันอายุได้เพียง 1 วัน มันก็อยู่ในจุดที่เป็นอันตรายแล้ว เพราะมันเกิดมาพร้อมโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ซึ่งไม่สามารถรักษาได้ น้องหมาจึงถูกส่งตัวไปหา Courtney Bellew ผู้อำนวยการ SNARR Animal Rescue Northeast ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือฉุกเฉินในนิวยอร์กที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลสุนัขที่มีความบกพร่อง Bellew บอกว่า “เมื่อเจ้าของรู้ว่าน้องหมาเกิดมาพร้อมโรคปากแหว่งเพดานโหว่ เธอต้องการช่วยเหลือ เลยพามันมาหาฉัน มันตัวเล็กและอ่อนแอมาก” Sasha จำเป็นต้องกินอาหารผ่านหลอด ดังนั้น Bellew จึงประสานไปยัง DeMarco ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในการดูแลลูกแมวที่ได้รับบาดเจ็บและป่วยหนัก เพราะคิดว่าพวกเขาน่าจะช่วยลูกสุนัขได้เหมือนกัน วันแรก Sasha ชั่งน้ำหนักได้เพียง 311 กรัมเท่านั้น ที่แย่กว่านั้นคือโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ทำให้เริ่มมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาด้วย DeMarco สังเกตเห็นว่าหัวของน้องหมามีขนาดใหญ่ผิดปกติเมื่อเทียบกับร่างกายของมัน ซึ่งทางสัตวแพทย์บอกว่ามันมีภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ส่งผลให้เนื้อสมองเกิดบาดเจ็บเสียหายจนถึงขั้นอาจทำให้เนื้อสมองตายได้ นอกจากนี้สมองของมันมีขนาด…
-
หนุ่มรัสเซียซ้อมเมียจนถึงขั้นเสียชีวิต ก่อนหน้านั้นมีโพสต์ภาพอวดเพื่อน ว่า ‘ตรูเอาอยู่’
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานเรื่องราวของหนุ่มรัสเซียสุดโหดที่ได้ซ้อมภรรยาของตัวเองจนเธอเสียชีวิตอย่างสะเทือนใจ นาย Maxim Gribanov อายุ 34 ปีได้ทำร้ายร่างกาย Anastasia Ovsiannikova ภายในบ้านพักเมือง Lebedyan ทางตะวันตกของรัสเซียหลังจากเธอบอกกับเขาว่า เธออยากจะออกไปจากชีวิตเขาสักที ซึ่งคำพูดของเธอทำให้เขาเกิดอาการไม่พอใจและได้ทั้งตบ ตี ต่อย เตะเธอเป็นเวลาหลายชั่วโมง มิหนำซ้ำยังถ่ายคลิปวิดีโอส่งให้เพื่อนดูอีกจำนวนหลายคนและโพสต์โอ้อวดความเจ๋งว่า เขาสามารถบังคับเธอให้อยู่ใต้เท้าได้ ภาพอาการบอบช้ำของ Anastasia ที่เขาได้ส่งให้เพื่อนๆ ให้ดู เมื่อภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไปทางพลเมืองดีก็ได้แจ้งให้ทางกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือเธอเป็นการด่วน เธอถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยอาการที่ผิวหนังช้ำอย่างรุนแรง กระดูกหัก และเลือดออกภายในอวัยวะ Anastasia ตกอยู่ในอาการโคม่าราว 6 วันก่อนที่จะเสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า เพื่อนๆ และครอบครัวของฝ่ายหญิงได้ให้ปากคำกับทางตำรวจว่า Anastasia มักจะถูกนาย Maxim ทำร้ายร่างกายและถูกข่มขู่ตลอดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังบังคับให้เธอลาออกจากที่ทำงานอีกด้วย รวมไปถึงการขู่พ่อและพี่ชายของเธอว่า เขาจะซ้อมเธอถ้ามีใครแจ้งตำรวจ . ตอนแรกที่เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล…
-
ทัศนคติความงาม ของเหล่าหนุ่มสาวในแต่ละประเทศ กับความโดดเด่นที่ทำให้คุณหลงใหล!!
ความสวยงาม ไม่ได้มีคำจำกัดความที่ชัดเจน นั่นเพราะว่าความสวยงามของแต่ละคนไม่เหมือนกันนั่นเอง บางทีเราอาจจะมองคนคนเดียวกันว่าดูดี แต่คนอื่นอาจจะคิดว่าไม่ดูดีก็ได้ คนจากแต่ละประเทศในโลก ก็มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในแบบของตัวเองเหมือนกัน แม้จะสวยในแบบที่แตกต่างกัน แต่คนทุกคนก็ถือว่ามีความสวยงามทั้งนั้น วันนี้เราจึงอยากนำเสนอว่าคนในแต่ละประเทศ มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์อย่างไรบ้าง โดยเราได้นำภาพของคนหล่อคนสวยจากบางประเทศมาให้ทุกคนได้ชมกัน Norway ชาวนอร์เวย์ ผู้มีเชื้อสายของนักรบไวกิ้ง ดึงดูดสายตาผู้คนด้วยลุคที่ดูมีความแข็งแกร่งและความมั่นใจเต็มเปี่ยม . Pakistan คนประเทศปากีสถานดูมีความโรแมนติก และสายตาที่ดึงดูดเราราวกับถูกแม่เหล็กดึงเข้าไปหา เวลามองแล้วเพลินใจเหลือเกิน . Brazil ประเทศบราซิลนั้นมีผู้คนหลากหลายชาติเข้ามาอยู่ร่วมกัน จึงทำให้คนประเทศนี้มีเอกลักษณ์จากหลายชาติพันธุ์มารวมกัน ดูโดดไม่เหมือนใคร . Australia คนออสเตรเลียก็มีความสวยงามไม่แพ้ชาติอื่นๆ เช่นกัน นักแสดงหรือนายแบบนางแบบชื่อดังหลายคน ก็มาจากประเทศนี้นี่แหละ . Japan ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่านอกจากวัฒนธรรมแล้ว ความมีเสน่ห์ของคนญี่ปุ่นก็ไม่มีใครเหมือน ความสวยความหล่อที่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกบริสุทธิ์และไร้เดียงสานั้น สามารถหาได้จากคนญี่ปุ่นเท่านั้น . Russia หน้าตาที่ดูคมเข้ม น่าหลงใหลแบบนี้ คงไม่มีใครสู้คนรัสเซียได้หรอก . USA คนประเทศสหรัฐอเมริการู้ดีว่าต้องทำยังไงให้ตัวเองดูดีเสมอ จะหันซ้าย…
-
Apple ยอมรับแล้วว่าทำให้ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลง แต่ที่ทำไปก็เพราะหวังดีนะ (เหรอ!?)
ใครที่ใช้ iPhone อยู่คงจะเจอกับปัญหาเครื่องช้าลงอย่างมาก หลังจากที่ได้อัปเดต iOS 10.2.1 ไป จนมีการตั้งข้อสงสัยว่า Apple จงใจทำให้เครื่องช้าลงเพื่อให้คนอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่หรือเปล่า เพราะปัญหานี้ขึ้นเฉพาะกับไอโฟนรุ่นเก่าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากมีประเด็นในอินเตอร์เน็ต ก็เป็นครั้งแรกที่ทางบริษัท Apple เผยว่าพวกเขามีการใส่ฟีเจอร์ให้เครื่องทำงานช้าลงเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปจริง แต่ที่ทำนั้น เป็นเพราะพยายามหลีกเลี่ยงไม่เกิดปัญหาเครื่องดับไปเองหรือดับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากให้คุณซื้อ iPhone รุ่นใหม่ตามที่ผู้คนเข้าใจ โดยทั่วไปแล้ว iPhone จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่สามารถเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หลังจากที่คุณชาร์จโทรศัพท์ไปประมาณ 500 ครั้ง แบตเตอรี่ iPhone เหลือประสิทธิภาพเพียง 80% จากของเดิม ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ คุณอาจจะเริ่มสังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่ของคุณทำงานด้อยลงภายในหนึ่งปีแรกหรือนานกว่านั้น เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมลง ระบบปฏิบัติการจะลดประสิทธิภาพของ CPU และ GPU ของเครื่องโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณไม่สามารถเล่นเกมหรือแอพต่างได้ดีเท่าที่คุณต้องการ ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ iPhone 6 6S SE และ 7 ทำงานช้าลง ในแถลงการณ์ ทาง Apple กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า…
-
เมื่อเอานำของสองสิ่งมาเทียบราคา อาจทำให้คุณได้เปลี่ยน “มุมมองการใช้เงิน” ไปตลอดกาล!?
มีสิ่งของมากมายที่เราอยากได้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ กระเป๋าแบรนด์เนม สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หรือโดรน สิ่งเหล่านี้ราคาไม่น้อยเลยนะ ถ้าเอาไปซื้ออย่างอื่นคงได้หลายอย่างเลยหล่ะ ต่อให้มันเป็นสิ่งที่คุณอยากได้มากแค่ไหน ถ้าลองนำสิ่งของเหล่านั้นไปเทียบกับอย่างอื่นที่มีราคาใกล้เคียงกันหล่ะ คุณจะรู้สึกเสียดายบ้างมั้ย? *ข้อมูลราคาจากเว็บไซต์ BrightSide อ้างอิงราคาสินค้าต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา 1. iPhone X ราคา 44,300 บาท กับ อัลปากา ราคา 42,800 บาท 2. iPhone X ราคา 44,300 บาท กับ ปีกไก่ของ KFC 2,393 ชิ้น ราคา 43,000 บาท 3. นาฬิกา Apple ราคา 13,000 กับ แผ่นกันกระแทก 2 กิโลเมตร ราคา 11,400 บาท 4. MacBook Air ราคา 32,800 บาท…
-
23 ความไร้เดียงสาของเด็กๆ กับตรรกะแปลก พฤติกรรมสุดป่วง ที่จะทำให้คุณยิ้มตาม
วัยเด็กเป็นวัยที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา ความอยากรู้อยากลอง ทดลองทำโน่นทำนี่ตามความคิดแบบเด็กๆ และตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ จนบางครั้งผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็ไม่เข้าใจ แต่บางครั้งความไร้เดียงสาและตรรกะแบบแปลกๆ ของพวกเขา รวมทั้งพฤติกรรมบางอย่าง มันก็ทำให้เราอดขำไม่ได้เลยจริงๆ 1. เด็กชาย 2 คนนั้นตัดสินใจตัดผมทรงเดียวกัน เพื่อไม่ให้คนอื่นจำได้… 2. ได้รองเท้าผ้าใหม่ มันก็จะเห่อหน่อยๆ ใส่เต้นโคฟเวอร์ซะเลย 3. ป้าบอกหลายชายทั้ง 2 ว่าให้จับแบงค์ไว้บนผนังด้วยจมูก ใครทำตกก่อนแพ้ แล้วผู้ชนะก็จะได้แบงค์ทั้ง 2 ใบไปครอง… แล้วใครจะคิดละว่าเพื่อชัยชนะ พวกเขาถึงกับยอมอยู่ในท่านี้นานกว่า 3 ชั่วโมง 4. เมื่อลูกชายตัวน้อยเล่นซ่อนแอบ 5. คุณคงไม่เคยเด็ก ถ้าไม่เคยตัดหน้าม้าด้วยตัวเอง 6. พ่อแม่ไม่เคยมีรูปครอบครัวดีๆ เก็บไว้เลย เพราะลูกไม่ยอมเลิกทำท่านินจาสักที 7. คุณแม่ถึงกับกังวลเมื่อเปิดกล่องของเล่นของลูกสาวแล้วเจอเงิน ปืน และมีด ถูกเก็บไว้ด้วยกัน 8.…
-
ขอโทษนะ… วิทยาศาสตร์บอกว่า ‘รักแรกพบ’ ไม่มีอยู่จริง สิ่งที่เกิดขึ้นคือตัณหาล้วนๆ
“คุณเชื่อในรักแรกพบมั้ย?” เป็นคำถามที่ใครหลายๆ คนต้องเคยเจอกันมาก่อน กับการมองปุ๊บปิ๊งปั๊บ รักเลยอะไรทำนองนั้น แท้จริงแล้วมันก็อาจไม่ใช่ความรักเสมอไป เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาบอกว่า รักแรกพบนั้นส่วนใหญ่แล้วเกิดจากความต้องการทางเพศเท่านั้นเอง การศึกษาในเรื่องนี้ ถูกเผยแพร่ในวารสารงานวิจัย The International Association for Relationship ศึกษาจากการออกเดตกัน 500 ครั้ง ของนักศึกษาชาวดัตช์และชาวเยอรมัน อายุเฉลี่ยที่ 25 ปีจำนวน 200 คน ทุกคนจะถูกกำหนดให้ทำอยู่สามขั้นตอน แรกสุดคือทำแบบสำรวจออนไลน์ ต่อมาจะถูกศึกษาพฤติกรรมในห้องปฏิบัติการ และสุดท้ายจะได้ไปออกเดตแบบเผชิญหน้ากัน โดยทั้งสามขั้นตอนนี้จะมีเวลาให้แค่ 90 นาทีเท่านั้น เมื่อกลุ่มตัวอย่างทำขั้นตอนที่สามคือการออกเดตแบบเผชิญหน้ากันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะถูกถามว่ารู้สึกเหมือนกับได้เจอรักแรกพบบ้างหรือเปล่า และให้บอกว่าระดับความเข้ากันได้ทางกายภาพของเขาและเธอนั้นอยู่ที่เท่าไหร่จาก 3 ระดับ ได้แก่ “รู้สึกสนิทสนม” “รู้สึกใกล้ชิด” และ “รู้สึกถึงความต้องการในเรื่องเพศ” จากการพบกันทั้งหมด ผลออกมาว่ามีสิ่งที่เรียกว่ารักแรกพบเกิดขึ้นมาถึง 49 ครั้ง จากผู้ร่วมการทดสอบแค่ 32 คน และเกือบทั้งหมดนั้นเกิดจากความต้องการในเรื่องเพศแทบทั้งสิ้น หลังจากที่หลงใหลในรูปร่างอันสะดุดตาของเพศตรงข้าม และแม้ว่า…
-
รู้จักกับ ‘Vitas’ เจ้าของวลี ‘วะอะอ้า’ ที่วนเวียนอยู่ในโสตประสาทของพวกเรา แม้เขาจะเลิกร้องไปแล้ว…
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านๆ มา หลายคนคงจะเจอกับเพลงๆ หนึ่งตามหน้าโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ใครๆ ก็ต่างพูดถึงและสามารถร้องตามได้ เพลงที่ว่านั่นก็คือเพลง 7th Element ผลงานเพลงจากนักร้องชาวลัตเวีย Vitas ก่อนจะไปรู้จักกับเขา ขอเชิญเข้าสู่ลัทธิกันก่อน จัดไปครับหนึ่งบทเพลง วะอาอ้า วะอะอ้า อาอ้าาาาอาา บรือออออบรื้อออ (รัวลิ้น)….. ถ้าคุณยังเข้าไม่ถึง เชิญฟังเพลงข้างบนวนไประหว่างอ่านบทความดูนะครับ และเมื่อคุณพร้อมก็ขอเปิดโลกใบใหม่สู่ดินแดนที่คุณอาจจะไม่เคยรู้จัก กับวงการเพลงโอเปร่าจากฝั่งรัสเซียที่มี Vitas เป็นแนวหน้าของวงการ ณ บัดนี้ ผ่างๆ!! Vitas หรือชื่อจริงว่า Vitaliy Vladasovich Grachov (ชื่อของเขาในภาษารัสเซีย Вита́лий Владасович Грачёв) เป็นชายชาวลัตเวียโดยกำเนิด โดยเกิดที่เมืองเดากัฟปิลส์ ประเทศลัตเวีย จริงๆ แล้ว Vitas เป็นชายรูปงามคนหนึ่งเลยนะ แม้ปัจจุบันอายุจะเพิ่มขึ้นหน้าก็ยังหล่อเหมือนเดิม ไม่เชื่อลองดู และด้วยความที่เมืองเกิดของเขามีการใช้ภาษารัสเซียที่แพร่หลายมากๆ นั่นจึงทำให้เขามีความสามารถการพูดภาษารัสเซียเป็นภาษาที่สองนอกจากภาษาลัตเวียเอง และเมื่อโตขึ้น Vitas ค้นพบว่าตัวเขาเองนั้นชอบในเสียงดนตรีมากๆ จึงดันตัวเองเพื่อเข้าสู่วงการนี้ทันที โดยเริ่มศึกษาที่โรงเรียนศิลปะในเมืองโอเดสซา ประเทศยูเครน หลังจากที่ส่วนผสมทุกอย่างของเขามันเริ่มลงตัว เขาก็ไปเปิดตัวผลงานแรกที่ประเทศรัสเซีย…
-
มิตรภาพในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อนักบินเยอรมันปล่อยอีกฝ่ายให้มีชีวิตรอด และบินคุ้มกันไปส่งให้ถึงที่
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทั่วทุกมุมโลกต่างก็ทำการสู้รบกันเพื่อคว้าชัยชนะมาให้กับประเทศตนเอง หากเจอเครื่องบินรบหรือเรือรบของศัตรู ก็เป็นอันต้องทำลายให้สิ้นซากเป็นธรรมดา ศัตรูจะได้ไม่แว้งมาทำร้ายเราในภายหลัง แต่ทหารชาวเยอรมันคนหนึ่งไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย เขาไม่ต้องการฆ่าใครโดยที่ไม่ได้จำเป็น จึงเกิดเป็นเรื่องราวปาฏิหาริย์แห่งมิตรภาพระหว่างทหารเยอรมันและทหารอเมริกา ในปี 1943 นายทหาร Charlie Brown แห่งกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ขับเครื่องบิน B-17 ไปในน่านฟ้าของประเทศเยอรมัน เพื่อสู้รบกัน แต่เครื่องบินของเขาถูกยิงเสียจนสภาพร่อแร ลูกเรือกว่าครึ่งหนึ่งได้รับบาดเจ็บหนัก และเครื่องยนต์บางส่วนก็เสียหายอีกด้วย ในขณะที่เขาพยายามประคองเครื่องบินกลับไปยังประเทศอังกฤษนั้น เขาและนักบินคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นว่าเครื่องบินรบ ME-109 ของเยอรมัน บินเข้ามาใกล้เครื่องของเขามากแล้ว ทุกคนในเครื่องจึงทำใจไว้แล้วว่าโดนยิงเครื่องตกแน่นอน ทว่านักบินเยอรมัน Franz Stigler กลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เขาไม่ได้ยิงเครื่องบิน B-17 แต่อย่างใด นักบินเยอรมันกลับทำความเคารพให้พวกเขาเห็น แล้วบินคุ้มกันพวกเขาไปส่งจนสุดเขตน่านฟ้าเยอรมัน Charlie Brown Brown พาเครื่องบินกลับมาถึงฐานที่ประเทศอังกฤษได้อย่างปาฏิหาริย์ แม้ว่าเครื่องยนต์ 2 ใน 4 ของเครื่องบินจะพังไปแล้ว และน้ำมันก็แทบจะไม่เหลืออยู่เลยก็ตาม หลังจากจบสงครามแล้ว เขาก็ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกตามปกติ เขาพบรักและได้แต่งงาน มีลูกสาวสองคน จากนั้นเมื่อเขาถึงวัยเกษียณแล้ว เขาก็ย้ายไปอยู่ที่รัฐฟลอริด้า…
-
หนุ่มมาเลย์ทำตามฝัน ศัลยกรรมให้หน้าเหมือนตัวการ์ตูน ชาวเน็ตออกมาคอมเมนต์กันตรึม
การทำศัลกรรมในสมัยนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะว่าเป็นวิธีที่ช่วยเปลี่ยนแปลงหน้าตาของเราให้ดูดีขึ้นมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ มีคนไปทำศัลกรรมกันมากมายจนการศัลกรรมนั้นกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ชายคนหนึ่งก็มีความฝันอยากจะทำศัลกรรมให้ตัวเองหน้าตาดูดีขึ้นเช่นกัน เขาจึงได้ทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าจนมีหน้าตาเป็นที่พึงพอใจ แต่สังคมรอบข้างของเขาคงจะไม่เห็นด้วยที่เขาไปทำศัลกรรมมา ภาพของ Amirul Rizwan Musa ก่อนและหลังทำศัลยกรรม Amirul Rizwan Musa หรือที่เป็นที่รู้จักกันในโลกออนไลน์ในนามว่า Miyyo Rizone เป็นชายหนุ่มอายุ 21 ปี สัญชาติมาเลเซีย เขาทำธุรกิจค้าขายเครื่องสำอางออนไลน์ และมีฐานลูกค้าเยอะ จึงนับว่ามีเงินมากในระดับหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจนำเงินจำนวนหนึ่งไปทำศัลกรรม ตามแบบที่เขาอยากทำมาตั้งนานแล้ว พอทำศัลกรรมสำเร็จเขาเลยโพสต์รูปหน้าตาใหม่ของเขา ให้ผู้ติดตามได้ดูสักหน่อย แต่กลับมีชาวเน็ตมากมายเข้าไปคอมเมนต์ในแง่ลบต่อหน้าตาใหม่ของเขา โดยคอมเมนต์ส่วนใหญ่นั้นวิจารณ์ว่าหน้าใหม่ของเขาดูเหมือนกับตัวการ์ตูนที่หลุดออกมาจากจอยังไงยังงั้นเลย และมีข่าวแว่วมาว่าเขาใช้เงินถึงประมาณ 200,000 ริงกิต คิดเป็นเงินไทยกว่า 1.5 ล้านบาทไปกับการเปลี่ยนลุคใหม่ ซึ่งคนส่วนใหญ่น่าจะไม่ชอบในส่วนนี้ จึงต่อต้านที่เขาทำศัลยกรรมมา ส่วน Amirul นั้นออกเปิดเผยว่า ที่หน้าตาของเขาออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความชื่นชอบในแอนิเมะญี่ปุ่นของเขา แต่เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เขาอยากทำศัลกรรมเพราะต้องการลบรอยแผลเป็นที่ดูน่าเกลียดต่างหาก เมื่อตอนอายุ 16 ปีเขาป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส ทำให้เกิดแผลเป็นตามหน้าและตัวของเขา ส่งผลให้เขาสูญเสียความมั่นใจในหน้าตาของตัวเอง เขาจึงได้ทำศัลกรรมตามตัวละครในอนิเมะที่ชอบ เพื่อเรียกความมั่นใจของตนเองกลับมา …
-
การขับขานร้องหมู่คณะ ที่ “เผ็ดร้อน” ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ดูไปก็แสบคอตามไปด้วย
ถ้าหากเพื่อนๆ ได้ยินคำว่าการร้องเพลงที่ ‘เผ็ดร้อน’ ละก็ คงจะนึกถึงนักร้องมากความสามารถบางคน ที่สามารถร้องเพลงสะกดใจคนดูได้ชะงัก ด้วยเสียงอันทรงพลัง ราวกับกำลังพ่นไฟอยู่บนเวทีก็ไม่ปาน แต่วันนี้ ที่ประเทศเดนมาร์กได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของวงร้องประสานเสียงที่เผ็ดร้อนที่สุดในโลกออกมาแล้ว ถ้าเกิดเราเปรียบว่านักร้องมืออาชีพสามารถพ่นไฟได้ละก็ วงประสานเสียงวงนี้คงจะทำให้ร่างลุกเป็นไฟได้เลยทีเดียว Chili Klaus ยูทูบเบอร์ Chili Klaus ได้กลับไปยังบ้านเกิดของเขาที่ประเทศเดนมาร์ก เขาไปเยี่ยมเยียนวงประสานเสียงที่เขาเคยเข้าร่วมเมื่อตอนยังหนุ่ม และร่วมกันร้องเพลง Oh Come, All Ye Faithful เนื่องในโอกาสวันคริสต์มาส พวกเขาร้องประสานเสียงได้เพราะมากทีเดียว คลิปวิดีโอร้องประสานเสียงอันเผ็ดร้อน แต่เมื่อพวกเขาร้องเพลงไปได้สักพักหนึ่ง พวกเขาก็หยุดพักและหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋า เมื่อลองมองดูดีๆ แล้ว สิ่งที่พวกเขาถืออยู่ก็คือ Ghost Pepper ซึ่งเคยเป็นพริกที่นับว่าเผ็ดที่สุดโลกมาก่อน จากนั้นพวกเขาทุกคน ก็กินพริกเข้าไปทั้งอันเลย แล้วการร้องเพลงที่เร่าร้อนที่สุดจึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมนะทุกคน หนึ่ง … สอง …สาม … กิน!! เมื่อความเร่าร้อนเพิ่มขึ้น ทุกคนก็เริ่มร้องเพลงด้วยใบหน้าที่มีสีแดงก่ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หนุ่มน้อยคนนี้รู้สึกร้อนแรง…
-
หญิงชาวอินเดียโวย ถูกปฏิเสธวีซ่าเข้าอังกฤษ ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ภาษาของเธอดีเกินไป’ !?
Alexandria Rintoul หญิงสาวชาวอินเดีย ต้องการทำวีซ่าเพื่อขอเข้าไปอยู่กับสามีของเธอที่ประเทศอังกฤษ เธอเรียนจบด้านภาษาอังกฤษมาโดยตรง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เธอจะใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างช่ำชองทั้งด้านการพูด อ่าน เขียน Bobby และ Alexandria Rintoul เธอจึงเลือกที่จะสอบวัดระดับภาษาอังกฤษในระดับสูง เพื่อนำผลไปยื่นเป็นเกณฑ์อย่างหนึ่งในการทำวีซ่า แต่ทาง The Home Office ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการอนุญาตให้คนเข้าประเทศ ไม่อนุมัติให้วีซ่าของเธอผ่าน เพราะผลวัดระดับภาษาอังกฤษของเธอ สูงกว่าเกณ์ที่ต้องการ Bobby Rintoul สามีของเธอได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “เรารู้ว่าขั้นตอนการทำวีซ่านั้นยาก เราเลยจ้างคนที่ชำนาญเรื่องการทำวีซ่าให้มาช่วยเรา” “เขาก็บอกให้ Alexandria ทำแบบทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษขั้นสูงที่สุด เราก็เลยทำตามนั้นและส่งเอกสารทั้งหมดไปครบถ้วนหมดแล้ว” ทว่าผลการตอบรับจากจดหมายของทาง The Home Office กลับแจ้งว่าภาษาอังกฤษของภรรยาของเขาดีเกินไป เลยปฏิเสธวีซ่าของเธอ “ในจดหมายเขียนว่าเธอน่าจะทำแบบทดสอบที่ง่ายกว่านี้แทน แต่เป็นความผิดของเธอเองที่ทำแบบทดสอบยากๆ โดยไม่จำเป็น และจะให้เราส่งเอกสารไปขอวีซ่าซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่การส่งเอกสารและเดินทางไปทำวีซ่าแต่ละรอบนั้นมันเสียเงินมากถึง 2,000 ปอนด์ (เกือบๆ 90,000 บาท) เลยนะ”…
-
ศิลปินสาวลงสีให้กับตัวการ์ตูนหญิงเสียใหม่ รายละเอียดมากขึ้น และสวยยิ่งกว่าที่เคยเป็น!!
สาวๆ คงจะมีการ์ตูนในดวงใจกันบ้างคนละเรื่องสองเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนจากค่ายไหนก็ตาม และสิ่งที่สะดุดตาสาวๆ มากที่สุดในเรื่องก็คงไม่พ้นนางเอกแสนสวยตัวแสดงนำของเรื่อง นั่งดูไปก็ได้แต่จินตนาการไปว่า อยากสวยอยากดูดีแบบเจ้าหญิงบ้างจังเลย ศิลปินหญิง Isabelle Staub เองก็ชื่นชอบตัวการ์ตูนหญิงเช่นกัน และเธอก็ได้ใช้ความสามารถทางศิลปะของเธอ แต่งเติมสีสันให้กับตัวการ์ตูนเหล่านี้ จนดูสวยงามขึ้นป็นกองเลย โดยเธอภาพตัวการ์ตูนของเธอ สื่อได้ถึงความเป็นตัวเองและมุมมองที่เธอมีต่อตัวละครนั่นเอง ตัวละครจากการ์ตูนเก่าๆ ที่เห็นลายเส้นไม่คม ทรวดทรงไม่สวย บัดนี้ได้ผ่านปลายปากกาของศิลปินหญิง จนกลายเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์ไปหมดแล้ว ลองไปชมกันดู Meg จากเรื่อง Hercules Snow White จากเรื่อง Snow White Jessica Rabbit จากเรื่อง Who Censored Roger Rabbit? Penny Proud จากเรื่อง The Proud Family Belle จากเรื่อง Beauty and The Beast …
-
อ้ออ๊อย!! เจ้าเสือดาวพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ ทำหน้าตาน่าสงสารจนมนุษย์ต้องช่วยเหลือไว้
ด้วยความไม่รู้ภาษีภาษาของสัตว์ ทำให้บางครั้งมันก็มักจะพาตัวเองไปเผชิญอันตรายต่างๆ ด้วยความไร้เดียงสาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของมัน และเมื่อเห็นสัตว์กำลังตกอยู่ในอันตรายซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือก็อาจจะเสียชีวิต มีหรือที่มนุษย์โลกผู้มีจิตใจอารีอย่างเราๆ จะไม่ช่วยเหลือแม้ว่าสัตว์ที่ต้องช่วยนั้นจะเป็นสัตว์ป่าที่ขึ้นชื่อว่าดุร้ายอย่างเสือก็ตาม แง ช่วยหนูด้วย ตามรายงานในประเทศอินเดีย มีสัตว์มากกว่า 1,500 ตัวต้องเสียชีวิตจากการพลัดตกไปในบ่อน้ำซึ่งมีมากในประเทศอินเดียเมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมืองกูวาฮาติ ในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดียและได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อมีเสือดาวตัวหนึ่งเกิดพลัดตกลงไปในบ่อน้ำที่มีความลึกมากถึง 9.1 เมตรและกำลังร้องขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สถานที่เกิดเหตุคือรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย โดยชาวบ้านที่พบเห็นได้คาดการณ์เอาไว้ว่าเจ้าแมวยักษ์ตัวนี้ น่าจะพลัดตกลงไปในบ่อน้ำเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงแล้ว และเมื่อมาพบเสือตัวนี้อยู่ในบ่อน้ำเข้า พวกเขาก็ไม่รอช้าที่จะโทรแจ้งผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ให้มาช่วยเสือตัวนี้ออกจากบ่อน้ำนี้ทันที เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพวกเขาก็สรรหาวิธีที่จะนำเสือดาวตัวนี้ขึ้นมาให้ได้ แต่ด้วยความที่มันเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณเพชฌฆาตอยู่ทำให้การช่วยเหลือมันเป็นไปด้วยความลำบาก และต้องระวังตัวอยู่เสมอ ซึ่งต่างจากการช่วยแกะ ช่วยแพะที่ไม่มีภัยอันตรายเป็นอย่างมาก โดยปกติมันน่ากลัวใช่ไหมล่ะ ซึ่งหลังจากหาวิธีการช่วยเหลือมานาน พวกเขาก็ตกลงกันว่าเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและทั้งเสือ พวกเขาจะยิงยากล่อมประสาทไปที่ตัวเสือก่อนเพื่อให้มันไม่สามารถทำอันตรายใดๆ ได้หลังจากนั้นก็จะส่งคนลงไปอุ้มมันขึ้นมา ในตอนนี้ไร้ซึ่งพิษภัยใดๆ สำหรับผู้โชคดีที่ได้ลงไปสัมผัสเสือตัวเป็นๆ ก็คือ Dr. Bijoy Gogoi สัตวแพทย์มืออาชีพ เขาลงไปด้วยการปีนบันไดลงไปพร้อมกับกำเชือกในมือเพื่อจะผูกเสือตัวนี้แล้วให้คนช่วยดึง และเมื่อลงไปด้านล่างแล้วเขาก็พบว่าเจ้าเสือได้เชื่องเป็นแมวหงอยจากฤทธิ์ของยากล่อมประสาทนั่นเอง …
-
21 สุดยอดเทคนิคทางจิตวิทยา ช่วยให้คุณสามารถอ่านความคิดของ “คู่สนทนา” ได้ง่ายๆ!!
ในบางครั้ง คำพูดอาจไม่ใช่สิ่งที่สามารถอธิบายทุกอย่างได้ทั้งหมด เพราะความจริงแล้วเราสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ผ่านอวัจนภาษา หรือภาษากายของผู้พูดได้ว่า แท้จริงแล้วในตอนนั้นเขารู้สึกหรือว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ การสังเกตภาษากายสามารถทำให้เรารับรู้ข้อมูลของคู่สนทนาได้มากขึ้นถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชาวออสเตรเลีย Allan Pease ได้แนะนำถึงข้อสังเกตง่ายๆ ที่ทำให้เราเข้าใจฝ่ายตรงข้ามได้มากขึ้น เราลองไปดูกันเลยว่ามันมีอะไรบ้าง 1. การหลับตา ถ้าหากอีกฝ่ายกำลังพูดแล้วหลับตาไปด้วย นั่นหมายความว่าเขากำลังพยายามหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก หรือกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง แต่ที่ทำอย่างนั้นไม่ใช่ว่าเพราะเขากลัวคุณ ในทางตรงกันข้าม เขาอาจจะแค่เหนื่อยที่ต้องคุยกับคุณ เลยหลับตาเพื่อทำให้คุณหายไปแทน 2. ใช้มือปิดปาก วิธีนี้ก็เหมือนกับตอนยังเป็นเด็ก ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้เวลาที่เราไม่อยากบอกอะไร อาจจะใช้แค่นิ้วโป้งหรือกำหมัดขึ้นมาปิดเอาไว้ ซึ่งบางทีอาจทำเป็นไอ เพื่อปิดบังว่าเราไม่ต้องการบอกบางสิ่งบางอย่างให้อีกฝ่ายรู้ 3. กัดขาแว่น รวมถึงการคาบปากกาดินสอ คาบบุหรี่ หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง สิ่งเหล่านี้คือการแสดงออกถึงความกังวลที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ภายใน โดยพฤติกรรมในลักษณะนี้จะทำให้รู้สึกปลอดภัย นักจิตวิทยาเผยว่าพฤติกรรมดังกล่าว คล้ายกับตอนดูดนมแม่สมัยเป็นเด็กนั่นเอง 4. การยื่นหน้าออกมา การเอาคางมาเกยไว้บนมือคือท่าทางเพื่อดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม ให้อีกฝ่ายเชยชมใบหน้าของเราอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นหากผู้ชายคนไหนเห็นสาวๆ ทำท่านี้ก็ควรรับรู้ได้ทันที และกล่าวชมเธอไปในเวลาที่เหมาะสม 5.…
-
‘พ่อพระแห่งสรรพสัตว์’ ผู้ฝ่ากัมมันตรังสีสู่ฟุกุชิมะ คอยเลี้ยงดูชีวิตที่ถูกหลงลืมไว้เบื้องหลัง
เมื่อปี 2011 ได้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ขึ้นในจังหวัดฟุกุชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นเขตหวงห้าม ไร้คนอยู่อาศัย เนื่องมาจากอันตรายของกัมมันตรังสีที่กระจายออกมา แม้ว่าชาวบ้านในละแวกนั้นจะสามารถอพยพออกไปอยู่ที่อื่นได้ แต่สัตว์จำนวนมากกลับถูกทิ้งเอาไว้ในสถานที่แห่งนั้น ไม่มีใครเข้าไปดูแล ยกเว้นชายคนนี้ที่ยอมฝ่ากัมมันตรังสีเข้าไปอาศัยอยู่กับพวกมัน โดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง นี่คือ Naoto Matsumura มนุษย์เพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในเขตกัมมันตรังสีที่ชื่อว่า 12.5-mile ในจังหวัดฟุกุชิม่า ในตอนแรกที่เขากลับมา ก็เพื่อจะมาหาสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แต่เขาพบว่ายังมีสัตว์อีกมากที่ต้องการการดูแลเช่นเดียวกัน เขาจึงตัดสินใจดูแลสัตว์ทุกตัวที่ถูกทิ้งไว้ในบริเวณนี้ทั้งหมด ชายวัย 55 ปีคนนี้รู้ดีว่า การอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมันอันตรายมากขนาดไหน แต่เขากลับไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นซักเท่าไหร่ เขาไม่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยมานานราว 30-40 ปี และคิดว่าถ้ายังไงก็ต้องตายอยู่ดี แล้วเราจะไปสนใจเรื่องนั้นทำไมให้มากมาย เขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2011 และยังคงสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด ตอนกลับมาเขาได้เจอวัวเป็นพันๆ ตัว ที่ถูกขังและตายอยู่ในโรงนาหลายแห่ง สัตว์หลายๆ ตัวที่ถูกเจ้าของเก่ามัดเอาไว้ เขาก็เป็นคนมอบอิสระให้กับมัน รวมถึงการให้อาหารกับสัตว์ทุกชนิด และถึงแม้รัฐบาลจะห้ามไม่ให้เขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ แต่นั่นไม่อาจหยุดความตั้งใจของชายคนนี้ไว้ได้ เขาอาศัยและดูแลสัตว์ทั้งหลาย ด้วยสิ่งของที่ได้รับบริจาคมา…
-
มิติใหม่แห่งการแทง นักสนุ๊กจีนเปิดอัลติ ‘สะบัดไม้คิว’ ใช้สะกิดลูกแดง เช็ดครกแบบนี้ก็ได้เหรอฟะ!?
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2017 ได้มีการแข่งขันสนุกเกอร์รายการ Scottish Open รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง Neil Robertson กับ Cao Yupeng โดย Neil สามารถพลิกกลับมาชนะได้จาก 4-8 เฟรม กลายเป็น 9-8 เฟรม แต่แทนที่คนดูจะพูดถึงการเอาชนะได้อย่างน่าทึ่งของอดีตมือวางอันดับ 1 ชาวออสเตรเลียคนนี้ หลายๆ คนกลับมุ่งประเด็นไปที่ลูกแทงของนักสนุ๊กชาวจีน Cao Yupeng เพราะมีอยู่หนึ่งไม้ที่เขาแทงลูกขาวแบบแปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน จนพากันสงสัยว่า “สนุ๊กมันแทงกันอย่างนี้ก็ได้หรอ!?” วิธีการแทงสนุ๊กแบบที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน วิธีการแทงของเขาในลักษณะนี้ เกิดจากความตั้งใจที่จะป้องกันไม่ให้ Neil สามารถแทงต่อได้ง่ายๆ ป้องกันความต่างของคะแนนเอาไว้ แต่เทคนิคการแทงแบบงงนี้ก็ทำให้นักสนุ๊กระดับตำนานอย่าง Dennis Taylor ถึงกับออกมาบอกว่า “จากที่ผมเล่นสนุกเกอร์มา 60 ปี ผมไม่เคยเห็นการแทงแบบนี้มาก่อนเลย” นักสนุ๊กระดับตำนานยังงง เพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย นอกจากมันจะแปลกตาแล้ว มันยังทำให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่า วิธีการนี้ถือว่าผิดกติกาหรือไม่?…
-
แฟนๆ ไม่ปลื้ม!! ชาวเน็ตเร่งล่ารายชื่อ เพื่อถอด The Last Jedi ออกจากจักรวาลหลัก!?
[บทความต่อไปนี้อาจมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญจากภาพยนตร์] เข้าฉายกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Star Wars The Last Jedi มหากาพย์หนังไซไฟอวกาศ ที่ภาคนี้ดูจะมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของหนังหรือรูปแบบการดำเนินเรื่องที่แตกต่างไปจากภาคก่อนๆ สักเล็กน้อย ซึ่งก็มีทั้งเสียงชื่นชมและเสียงก่นด่าคละเคล้ากันไป และด้วยความเกลียดชังใน Star Wars ภาคนี้ ทำให้มีแฟนๆ กลุ่มหนึ่งถึงกับตั้งแคมเปญลงในเว็บไซต์ Change.org เพื่อให้ทาง Disney ถอดเอาภาค The Last Jedi ออกจากจักรวาลหลักของ Star Wars เพราะพวกเขาคิดว่าภาคนี้ได้ทำลายเอกลักษณ์หรือบางสิ่งที่พวกเขารักมากเกินไป Henry Walsh ผู้ก่อตั้งแคมเปญดังกล่าวได้เขียนระบายความรู้สึกของตัวเองลงในเว็บไซต์ Change.org ว่า “ภาค 8 มันคือการล้อเลียน มันคือการทำลายตัวละคร Luke Skywalker และเจไดอย่างสิ้นเชิง มันทำลายสิ่งที่แฟนๆ Star Wars รักมากที่สุดไป” นอกจากนี้นาย Henry ยังอยากให้ทางทีมงานเลื่อนการถ่ายทำภาค 9 ออกไป แล้วกลับไปถ่ายภาค 8 ใหม่ ให้ซื่อตรงต่อตัวละคร…
-
ตำนานของ Postnik Yakovlev สถาปนิกผู้สร้างวิหารเซนต์บาซิล กับจุดจบ ‘เสร็จตึกฆ่าคนสร้าง’
St. Basil’s Cathedral คือหนึ่งในโบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม สีสันสดใส ตัววิหารถูกล้อมรอบด้วยโดมรูปหัวหอมทั้ง 8 ที่มีลวดลายแตกต่างกันไป แต่เพราะความสวยงามเหล่านี้ที่ทำให้มีเรื่องราวอันโหดร้ายเกิดขึ้น ตามประวัติศาสตร์แล้ว สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในปี 1555 หลังจากที่ พระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย สามารถขับไล่ทหารมองโกลที่มารุกรานเมืองคาซานได้สำเร็จ วิหารแห่งนี้ก็คืออนุสรณ์สถานเพื่อประกาศถึงชัยชนะในครั้งนี้ ก่อนที่การก่อสร้างจะเริ่มต้นขึ้น ด้วยความที่พระองค์ต้องการให้สิ่งก่อสร้างนี้ออกมายิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในโลก เขาจึงใช้เวลาตามหาสถาปนิกที่ดีที่สุด จนได้ไปเจอกับ Postnik Yakovlev Postnik ได้สร้างผลงานนี้ขึ้นมาด้วยระยะเวลากว่า 6 ปี จนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวได้ออกมาประจักษ์แก่สายตาทุกคนในปี 1561 และแน่นอนว่าความสวยงามของมันกลายเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนที่พบเห็น โดยเฉพาะพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แต่ด้วยความที่อีวานเป็นกษัตริย์ที่มีความโหดเหี้ยมอย่างมาก จนได้ฉายาว่า “อีวานจอมโหด” จึงทำให้เขาเกิดความคิดว่า ไม่อยากให้มีสิ่งปลูกสร้างไหนๆ สวยกว่าวิหารนี้อีกแล้ว เขาจึงสั่งให้ทหารควักดวงตาของ Postnik เพื่อให้สถาปนิกคนนี้ไม่สามารถไปออกแบบก่อสร้างความสวยงามใดๆ ขึ้นมาได้อีก เรียกว่าเป็นความซวยของชายคนนี้จริงๆ อีกหนึ่งเรื่องที่หลายๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ ชื่อของวิหารแห่งนี้ถูกตั้งตามสมญานามของนักบุญ Vasily Blazhenny ผู้ที่สามารถทำนายปรากฏการณ์ต่างๆ…
-
รวม 20 ภาพสุดแปลกจากเว็บหาคู่ ที่จะทำให้ต้องอ้าปากค้างจนอยากจะออกเดตกับพวกเขา!!
การถ่ายรูปให้ตัวเองดูดีนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาในปัจจุบันไปแล้ว โดยเฉพาะยิ่งเราอยากจะใช้มันบนโซเชียลมีเดียภาพโปรไฟล์ของเราจึงต้องใช้ภาพที่เราดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นเดียวกับการใช้ภาพโปรไฟล์บนแอปหาคู่หรือเว็บไซต์เดตออนไลน์ การใช้รูปที่ดูดีก็ถือเป็นเทคนิคขั้นพื้นฐานสำหรับสร้างความประทับใจครั้งแรกและชวนให้คนอื่นอยากคุยด้วย แต่ทว่าชาวเน็ตหลายคนกลับทำให้มันเหนือไปกว่านั้นด้วยการใช้ภาพตลกๆ หรือไม่ก็แปลกๆ ซึ่งมันอาจจะดูแย่ในวินาทีแรก แต่พอคิดดีๆ เราก็จะรู้สึกได้ว่าพวกเขาเป็นคนตลกและอยากคุยด้วยในบางครั้ง ส่วนถ้าใครคิดไม่ออกนี่ก็คือตัวอย่างของชาวเน็ตประเภทที่ว่า… แม้ฉันจะไม่สวยอย่างคนอื่น แต่ฉันพิเศษกว่าใครๆ เพราะฉันคือนางเงือก!! ข้างซ้ายผมอาจจะดูโหดร้าย แต่ข้าวขวาของผมบ่งบอกว่าผมคือพ่อบ้านที่ดี!! ได้ข่าวว่าสาวๆ ชอบคนมีกล้าม แม้ผมจะเป็นยอดนักรบ แต่ภาพข้างหลังก็บอกถึงความอ่อนโยนของผมได้ ภาพโปรไฟล์ที่บ่งบอกถึงความเซ็กซี่และดิบเถื่อนในเวลาเดียวกัน ว่าแต่แสงที่สะท้อนจากดาบช่างแสบตาจริงๆ สาวๆ ชอบหนุ่มออฟฟิศที่หุ่นดี ผมก็เลยจัดให้!! บางครั้งความสวยอย่างเดียวมันก็ไม่พอ มันต้องดูดุด้วย นอกจากเธอจะได้กินฉันแล้ว เธอจะได้กินปลาที่ฉันถ่ายคู่ด้วยนะ ผมเป็นคนรักสัตว์ครับ รัสเซียนัมบาวาน สงสัยพี่คนนี้จะเป็นชาวร็อค เดี่ยวนะ Boogie นี่นายก็เอากับเขาด้วยเหรอ เบสต์รอยสักแห่งปีจริงๆ ต่อให้พี่ดูไม่หล่อในสายตาน้อง แต่รับรองว่าทรงผมพี่เด็ดสุดไม่เป็นสองรองใคร เซ็กซี่แองเจิล MAN…
-
ชีวิตในหมู่บ้านอุณหภูมิ -60 องศาฯ ความหนาวเหน็บนี้กระทบชีวิตชาวบ้านมากแค่ไหน?
ตอนนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว หลายๆ คนอาจบ่นว่าบ้านเราไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ ซึ่งหากใครชอบอากาศแบบหนาวเย็นแล้วล่ะก็ ลองมาทำความรู้จักกับหมู่บ้าน Verkhoyansk ทางตะวันออกของรัสเซีย ในฤดูหนาวของที่นี่มีอุณหภูมิติดลบกว่า 60 องศาเลยทีเดียว ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Brice Portolano ผู้เข้ามาเก็บภาพการใช้ชีวิตของ Ayal เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้กับแม่ของเขา รอวันที่จะย้ายไปเรียนในเมือง Yakutsk ที่ห่างออกไปกว่า 600 กิโลเมตร ตามรอยพี่ๆ อีก 4 คนของเขา Ayal เด็กหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ . . พ่อกับแม่ของเด็กหนุ่มหย่ากัน จึงทำให้เขาอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังในหมู่บ้านที่ได้รับการบันทึกกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดว่า เป็นดินแดนที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันมากที่สุดในโลก โดยช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิจะติดลบที่ 67.8 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูร้อนอุณหภูมิจะเพิ่มสูงถึง 37.3 องศา ความหนาวจัดเย็นจัดของที่แห่งนี้ ทำให้การใช้ชีวิตของชาวบ้านแตกต่างออกไปจากพื้นที่อื่นๆ บนโลก น้ำที่พวกเขาใช้จะต้องไปตัดเอาน้ำแข็งจากในลำธารมาวางไว้หน้าบ้าน เมื่อไหร่ที่อยากจะใช้ก็แค่ยกมาละลายในบ้าน ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็มีน้ำประปาเหมือนกัน เพียงแต่น้ำจะมีอุณหภูมิสูงมากเพื่อป้องกันไม่ให้ท่อระเบิด และไม่สามารถนำน้ำนั้นมาดื่มกินได้ Stroganina ปลาแช่แข็งเหยาะเกลือกับพริก อาหารขึ้นชื่อของที่นี่…
-
การ์ตูนจากจินตนาการลูก เสริมความแกร่งด้วยมือของคุณพ่อ เดินทางมาถึง Episode IV แล้ว!!
กลับมาอีกครั้งกับเซตภาพใหม่ที่สวยกว่าเดิมของคุณพ่อคนเก่ง ที่ก่อนหน้านี้เขาได้เนรมิตภาพวาดจากจินตนาการของลูกชายมาแล้วถึง 3 เซตใหญ่ และตอนนี้มันก็เดินทางมาถึงผลงานชุดที่ 4 แล้วจ้า (สามารถกลับไปอ่านผลงานชุดเก่าได้ที่ ‘จากไอเดียภาพร่างของลูก ต่อยอดสู่ปลายปากกาของพ่อ จนกลายมาเป็นตัวการ์ตูนสุดเจ๋ง!!‘) ส่วนถ้าใครไม่อยากกลับไปเสพผลงานเดิมๆ แต่อยากเสพผ่านงานครั้งนี้ งั้นก็จะขอเล่าประวัติคร่าวๆ ของคุณพ่อคนนี้สักหน่อย โดยเขามีชื่อว่า Thomas Romain เป็นคุณพ่อชาวฝรั่งเศสผู้ทำงานเป็นศิลปินและฝากผลงานอนิเมะไว้เยอะแยะมากมายในญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเขาว่างเว้นจากงานหลัก เขาก็จะมาเสริมสร้างจินตนาการกับลูกชายของเขา โดยการเปลี่ยนรูปภาพที่มาจากไอเดียของลูกชายให้เป็นผลงานชิ้นใหม่นั่นเอง เอ้าอย่ารอช้า เชิญเสพผลงานชุดใหม่กันได้เลย!! นอกจากจะบอกว่าพ่อเก่งแล้ว ต้องยอมรับนะว่าไอเดียเริ่มต้นของลูกก็ดีไม่แพ้กัน เมื่อสองพ่อลูกร่วมมือกัน งานนี้ตัวละครเจ๋งๆ จึงถือกำเนิดมาได้ไม่หยุด อย่างตัวละครตัวนี้ คือมันดีย์อะ ดีไซน์ของคุณลูกมันเจ๋งเป็นทุนเดิม . . รับรองว่าลูกของชายคนนี้จะต้องโตมาเป็นนักออกแบบตัวละครที่เทพสุดๆ เหลือแค่ฝึกฝีมือกับพ่ออีกสักหน่อย โตมา เก่งแน่นอน!! . . จะว่าไปตัวละครหลายตัวในชุดงานนี้สามารถนำไปใช้ในนวนิยายหรือเกมสักเกมได้เลยนะเนี่ย เพราะส่วนใหญ่ตัวละครมันจะมีธีมและหน้าตาคล้ายๆ กัน ที่สำคัญหลายๆ รูปยังมีการหยิบตัวละครจากภาพเซตก่อนๆ มาใช้ เมื่อมันมีงานชุด…
-
ตุ๊กตาเซ็กส์ดอลล์ Bieber ออกวางจำหน่ายแล้ว แฟนๆ อย่ารอช้ารีบหาซื้อมานอนกอดกันเร็ว!!
คริสต์มาสและปีใหม่ใกล้เข้ามาทุกขณะ ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะให้ของขวัญเพื่อนสาวเป็นอะไรดี งั้นลองมาดูของขวัญสุดพิเศษชิ้นนี้หน่อยเป็นไง กับตุ๊กตายางที่ใช้ Justin Bieber เป็นต้นแบบ…น่าสนใจใช่ไหมล๊าาาา ตุ๊กตาเซ็กส์ดอลล์ที่มีหน้าเหมือน Justine Bieber นั้นได้วางขายอยู่บน AliExpress ที่ราคา 1,300 ดอลลาร์สหรัฐหรือเป็นเงินไทยราว 42,000 บาท ซึ่งราคาอาจจะดูแพงพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่จะได้รับจากตุ๊กตา Justin มันก็คุ้มใช่ไหม นอกจากตัวตุ๊กตาที่ถูกสร้างมาให้เหมือน Bieber แล้วเรายังสามารถเลือกขนาดของปิกาจูได้ด้วยนะ ใครชอบแบบ 9 นิ้วก็สามารถสั่งทำแบบ 9 นิ้วได้ รับรองว่าไซส์ใหญ่ถูกใจสาวๆ แน่นอน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเวลามองดีๆ มันอาจจะไม่เหมือน Justin เป๊ะๆ แต่ด้านวัสดุรับรองว่าของเขาดีจริงๆ เพราะมันใช้ ‘เทอร์โมพลาสติก’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำจากทางการแพทย์นั่นเอง ภายในตัวตุ๊กตายังมีโครงกระดูกที่ทำให้เราสามารถจัดแต่งท่าทางของหุ่นได้ตามใจอยาก ฉะนั้นถ้าเกิดอยากลองท่าไหนก็สามารถทำได้สบายมาก แต่ที่เด็ดสุดคือ เราสามารถสั่งให้ทีมงานปรับแต่งสีผิว ทรงผมและสีเล็บได้ตามที่เราพอใจด้วยนะ โดยตุ๊กตาจะมีความสูงอยู่ที่ 160 เซนติเมตร โดยตุ๊กตาจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ราวๆ 3 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับการดูแล . ฉะนั้นถ้าใครเป็นแฟนอยากได้…
-
เปิดประวัติ ForgetMeNot มิวแทนท์ผู้น่าสงสาร กับพลังสุดเหงาที่ทำให้ตัวเอง ‘ถูกลืม’
เมื่อพูดถึงสุดยอดพลังพิเศษ เพื่อนๆ จะคิดถึงพลังอะไรกัน จะเป็นพลังกล้ามเนื้อสุดแข็งแกร่ง ปล่อยแสงออกจากตาได้ ปล่อยไฟหรือน้ำแข็งอะไรทำนองนี้หรือเปล่า? และถ้าเพื่อนๆ คิดว่าพลังที่ยกตัวอย่างมานั้นแข็งแกร่งที่สุดแล้ว บอกเลยว่าเพื่อนๆ คิดผิด เพราะพลังที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นคือพลังของการไม่มีตัวตน ไม่เชื่อเพื่อนๆ ลองคิดสภาพดูสิว่าเราอยู่ต่อหน้าซุปเปอร์แมนที่มีพลังสุดขี้โม้ แต่เราสามารถหยิบคริปโตไนต์ไปแทงเขาได้สบายๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องหายังไงก็ไม่เจอ ต่อให้รู้ไม่ถึงวินาทีก็ลืมไปแล้ว จะเป็นยังไง เจ๋งใช่ไหมล่ะ? ซึ่งนี่แหละคือพลังของมิวแทนท์จาก Marvel ที่ชื่อ ForgetMeNot แต่แม้มันจะเทพขนาดไหน พลังนี้ก็มาพร้อมกับข้อเสียอันใหญ่หลวงเช่นกัน เพราะมันทำให้เจ้าตัวเหงามากๆ เหงาขนาดทุกวันนี้เจ้าตัวยังไม่มีแม้แต่ชื่อจริง ขนาดว่าคนเขียนก็น่าจะลืมเขาไปแล้วนั่นเอง นี่แหละโฉมหน้าของสุดยอดคนเหงา ForgetMeNot นั้นเริ่มแรกเดิมทีเขาปรากฏตัวครั้งแรกในคอมมิก X-Men: Legacy #300 โดยปรากฏตัวในฉากที่หญิงสาวคนหนึ่งพยายามจะบุกเข้าไปในโรงเรียน Jean Grey แต่สาวเจ้าดันไปติดกำดักเข้าและพี่คนนี้และคือคนที่มาช่วยไว้ ในตอนนั้นเองที่หญิงสาวได้ตัดพ้อว่าชีวิตเธอมันบัดซบมากๆ จนพี่ ForgetMeNot ของเราต้องเล่าว่าเขานั้นมีชีวิตที่แย่ยิ่งกว่าอีก และเรื่องราวของเขามันก็เลยเริ่มจากตรงนี้ ForgetMeNot นั้นเคยเป็นหนึ่งในกองกำลังปฏิวัติของ Magneto ซึ่งต้องทำสงครามมนุษย์กลายพันธุ์กับมนุษย์ปกติ โดยเขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายจากเหตุการณ์นั้น ทั้งเรื่องพลังของตัวเองและวิธีการใช้ชีวิตให้ตัวเองมีค่ากับคนอื่นๆ แม้ตัวเองจะต้องถูกลืมก็ตาม ในสงครามดังกล่าวนั้นเดินอยู่กลางสงครามเดินไปมายังไม่มีใครรู้หรือจำได้เลย แถมอาวุธระยะไกลก็ยังไม่สามารถยิงเขาได้ด้วย (แน่ล่ะ จำไม่ได้ว่ามีคนอยู่ตรงนั้นแล้วมันจะยิงได้ยังไง) เดินอยู่กลางวงศัตรูก็ยังไม่มีใครรู้ว่าหมอนี้อยู่ตรงนั้น (พวกเดียวกันก็ด้วย)…
-
21 ภาพเปรียบเทียบ ‘หมา’ กับ ‘แมว’ ต่างกันตรงไหน ทั้งๆ ที่เป็นสัตว์เลี้ยงเหมือนกัน
สุนัขและแมว เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอันดับต้นๆ ของโลก พวกมันสามารถเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับมนุษย์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญก็คือ ความน่ารักของสุนัขและแมว จะช่วยเยียวยาจิตใจที่เหนื่อยล้าของเราได้นั่นเอง แต่สำหรับมนุษย์มือใหม่ที่ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยง แต่อยากจะหาสัตว์เลี้ยงมาไว้ในครอบครองสักตัว คงจะมีคำถามอยู่ในหัวเป็นแน่ ว่าระหว่างสุนัขกับแมวเราจะเลือกเลี้ยงอะไรดีน้า เราจึงนำภาพเปรียบเทียบสุนัขกับแมว มาไขข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆ ว่าเจ้าสัตว์คู่หูคู่กัดสองชนิดมันเหมือนหรือต่างกันยังไง 1. ในบางครั้ง มันก็ไม่ยอมให้จับเหมือนกัน 2. ตอนที่หมานอนตัก ไม่น่าดีใจเท่าตอนน้องแมวนอนตัก 3. สุนัขจะอยากคุยกับคุณเสมอ ในขณะที่แมว … ก็แล้วแต่อารมณ์มันน่ะนะ 4. สุนัขอ่านอารมณ์ได้ง่าย ส่วนแมวน่ะเดาใจมันเอาละกัน 5. หมาคิดว่าคุณคือพระเจ้าของมัน แต่แมวคิดว่ามันเป็นพระเจ้าของคุณ 6. หมากระตือรือร้นที่จะช่วยเจ้านายของมัน แต่แมวไม่ลังเลที่จะทิ้งทาสเลย 7. เราไม่มีวันใจว่าทั้งหมาทั้งแมวคุยอะไรกัน 8. แมวไม่ชอบให้แสดงความรักจนโอเวอร์ ส่วนหมาน่ะชอบนักชอบหนา 9. หมาเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ส่วนแมวบางทีก็เป็นเหมือนคนรู้จัก 10. หมาตามใจง่ายเหมือนลูก แต่แมวเดาใจยากอย่างกับเจ้านาย…
-
การที่พวกเราไม่เก่งคณิต ไม่ได้แปลว่าโง่ แต่จริงๆ อาจมีความ ‘อัจฉริยะ’ แฝงอยู่ในตัวก็เป็นได้!?
ในสมัยเรียน หลายๆ คนอาจเคยกังวลกับวิชาคณิตศาสตร์ เพราะมันคือหนึ่งในวิชาที่ยากที่สุดและเวลาสอบทีไรคะแนนที่ออกมามันช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะจากการศึกษาในมหาวิทยาลัย Zurich Technical University บอกว่าการไม่เก่งคณิตศาสตร์อาจไม่ได้แปลว่าคุณไม่ฉลาด แต่คุณอาจมีความเป็นอัจฉริยะแฝงอยู่ในตัว ศาสตราจารย์ Elsbeth Stern บอกว่าความสามารถทางคณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด ทำให้มนุษย์ทุกคนสามารถดูออกได้ว่าอันไหนเยอะกว่า อันไหนน้อยกว่า แต่เหตุผลหลักที่ทำให้หลายๆ คนไม่เก่งคณิตศาสตร์คือความผิดพลาดของระบบการศึกษา ที่ไม่สามารถทำให้พวกเขานำคณิตศาสตร์เหล่านั้นมาใช้ในชีวิตจริงได้ Elsbeth พูดว่า “สิ่งสำคัญคือ เรามักจะขาดความเข้าใจในเรื่องของแนวความคิดโดยรวม แม้แต่นักเรียนที่ฉลาดที่สุดก็มักจะไม่สามารถถ่ายโอนข้อมูลเชิงลึกที่ควรได้รับออกไปได้ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่แตกต่างออกไปจากในห้องเรียน” นั่นหมายความว่าการที่เราไม่สามารถทำคณิตศาสตร์ได้ อาจเป็นเพราะการศึกษาที่ไม่ดึงดูดหรือเรียกความสนใจของเรา หรือระบบการสอนที่ขาดความประสิทธิภาพ Elsbeth กล่าวเสริมอีกว่า “บ่อยครั้งที่เด็กถูกสอนให้ท่องจำการคำนวณต่างๆ และไม่สามารถที่จะเข้าใจถึงรากฐานที่แท้จริงของคณิตศาสตร์ได้” “ในการทดลองก่อนหน้านี้ยังบอกอีกว่า หากมีการสอนให้นักเรียนเรียนเรื่องการบวกและคูณไปพร้อมๆ กัน แทนที่จะเรียนทีละอย่างไป จะช่วยให้เด็กสามารถเข้าใจหลักการของการคำนวณได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาต่างๆ ในอนาคตได้ดีมากกว่าเดิม” อย่างไรก็ตาม แม้เราจะมีความสามารถติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่สิ่งที่สำคัญคือแรงจูงใจและความพยายาม โดย Malcolm Gladwell เคยพูดถึงทฤษฎีที่เรียกว่า “กฎ 10,000 ชั่วโมงเอาไว้” อธิบายไว้ว่า…
-
พัฒนาการของนายแบบรุ่นเยาว์จากอินโด Edward Candra จาก วัย 13 ถึง 17 ป๊าดดดด ยิ่งโตยิ่งหล่อ
ถ้าหากเราถามสาวๆ ว่าชอบผู้ชายแบบไหนละก็ คงจะมีคำตอบมากมายหลากหลายกันเลยทีเดียว ก็แต่ละคนมีรสนิยมไม่เหมือนกันนี่นะ แต่ถ้าแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ละก็ส่วนใหญ่พวกเธอจะชอบผู้ชายที่ ‘หล่อ’ หรือไม่ก็ ‘น่ารัก’ น่ะแหละ แต่สาวๆ ไม่ต้องเลือกแล้วละว่าผู้ชายแบบไหนดีกว่ากัน เพราะวันนี้เราพบเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งรวมทั้งสองคุณสมบัติที่หญิงสาวหมายปองไว้ด้วยกันในคนเดียวแล้ว เขาคือหนุ่มน้อย Edward Candra นั่นเอง Edward Candra เป็นนายแบบสัญชาติอินโดนีเซีย เขาเริ่มต้นเข้าสู่วงการนายแบบตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยหน้าตาที่จิ้มลิ้มน่ารัก และหุ่นลีนๆ ที่มี เขาจึงเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ และหนุ่มๆ จำนวนมาก เรามาลองติดตามกันดูว่าเขามีพัฒนาการอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ช่วงเด็กหนุ่มคิวท์บอยจนมาเป็นหนุ่มวัยรุ่นสุดคูล ตอนอายุ 13 ปีดูน่ารักน่าทะนุถนอมจังเลย คุณน้องทำไมยิ้มน่ารักขนาดนี้ ขอเอาไปกอดที่บ้านได้ม๊ายยยย พออายุ 14 ก็ดูแมนซั่มขึ้นมากทันตา แต่ยังคงไม่ทิ้งลายความน่ารักและสดใสให้ เราได้ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ กัน มุมนี้เห็นแล้ว ถึงกับต้องกลืนน้ำลาย อึกๆๆๆ เลย ผ่านไปปีเดียว น้องเขามีกล้ามชัดมาก อยากเอามือไปลูบไล้…
-
21 ภาพที่จะทำให้เราเห็นว่า ในปีที่ผ่านมานี้ มนุษยชาติเรา มาไกลกันขนาดไหน!!?
ในหนึ่งปีมีนวัตกรรมเจ๋งๆ หรือสิ่งประดิษฐ์แบบล้ำๆ ออกมามากมาย เพราะมนุษย์เราไม่รู้จักที่จะหยุดพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และดูเหมือนว่าหลายสิ่งอย่างที่เราเคยมองว่าเป็นจินตนาการจากในหนัง มันถูกสร้างขึ้นมาแล้วจริงๆ!! และนี่คือ 21 ภาพที่จะทำให้เรารู้สึกว่า ในปีที่ผ่านมาเนี่ย มนุษย์เราพัฒนาไปไกลมากเหลือเกิน (แอบดักแก่นิดนึง) 1. เรามีเครื่องไฮไลท์ข้อความ ที่สามารถบันทึกลงระบบดิจิตอล 2. มีแขนกลที่สามารถใช้ชาร์จแบตฯได้ 3. ประตูห้องแบบโปร่งใสเมื่อไม่ได้ล็อค เมื่อล็อคปุ๊บ ก็ทึบปั๊บ 4. คุณแม่สามารถสัมผัสลูกน้อยในครรภ์ ผ่านการอัลตร้าซาวน์แบบ 3 มิติ 5. มีเครื่องแปลภาษาแบบทันใจ 6. มีกล้องที่มาทดแทนดวงตาได้ 7. มีแขนกลสำหรับช่างสัก แบบพ่อหนุ่มคนนี้ 8. แค่ 10 ปีผ่านไป ความแตกต่างของ SD Card ช่างไปไกลเหลือเกิน 9. เช่นเดียวกับเมมโมรี่การ์ด จากขนาดใหญ่จุได้น้อย มาสู่ขนาดเล็กแต่จุได้มาก 10. มีช้อนไฮเทคที่จะช่วยให้ชีวิตผู้ป่วย ง่ายขึ้นอีกเยอะ…
-
เที่ยวชม ‘คุกญี่ปุ่น’ ดูสะดวกสบาย แต่ลึกๆ กลับให้ความรู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมาน!!
หากจะกล่าวถึงหนึ่งในประเทศในฝันแถบเอเชียที่มีทั้งระเบียบวินัยเป็นเลิศ ประเพณีอันงดงามเป็นเอกลักษณ์ บ้านเมืองสะอาด อัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยถึงน้อยมาก อันเนื่องมาจากเป็นประเทศที่พัฒนาทั้งทางด้านความคิดและรูปลักษณ์ภายนอก นั่นก็คือ ‘ประเทศญี่ปุ่น’ นี่แหละ ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นมีอาชญากรรมน้อยมาก การปล้นจี้แทบจะไม่มีเลย โดยเทียบอัตราส่วนของประชากร 100,000 คน จะมีเพียงแค่ 49 เท่านั้นที่เป็นนักโทษ เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกาตัวเลขพุ่งสูงไปถึง 760 คน (อัตราเทียบในปีค.ศ. 2008) โดยระบบยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่นเน้นในเรื่องของ ‘การสำนึกตัวให้กลับมาเป็นคนดี’ หากใครกระทำความผิดที่ไม่ร้ายแรงมากเป็นครั้งแรก ทั้งตำรวจและศาลจะว่ากล่าวตักเตือนก่อนและทำการปล่อยตัวไป พยายามติดต่อคนในครอบครัวช่วยพาผู้ที่หลงผิดกลับตัวเป็นคนดีให้ได้ แต่ถ้าหากว่ารุนแรงเกินกว่าจะเป็นคนดีได้ ก็ต้องถูกส่งตัวเข้าคุกไปตามระเบียบ ดูผิวเผินจากระบบดังกล่าวแล้ว คล้ายๆ กับการให้อภัยแก่ผู้ที่หลงผิดให้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ และสภาพภายในของคุกญี่ปุ่นนั้นดูสะดวกสบายมากๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้เพรียบพร้อมทุกอย่าง แต่กระบวนการต่อจากนี้อาจทำให้ผู้ต้องหาภายในคุกกลับทุข์ทรมานยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เพราะหัวใจหลักของระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นคือ ‘การสารภาพ’ เพราะเชื่อว่าการสารภาพคือขั้นแรกของการกลับตัวกลับใจ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหาในอาชญากรรมรุนแรงอย่างการฆาตกรรม ทำให้เกิดปัญหาที่ว่าผู้ต้องสงสัยหลายรายยอมรับสารภาพ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอการสอบสวนแบบหนักหนาสาหัสอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 23 วัน โดยที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหา โดยการสอบสวนเพื่อเค้นให้ยอมรับสารภาพของตำรวจญี่ปุ่น จะกินเวลาประมาณ…
-
สาวชนะสล็อตได้เงินรางวัล 1.3 พันล้าน โดนพนักงานบอกเครื่องรวนแล้วเลี้ยงอาหารหรูแทน!?
ในบรรดาการลงทุนทั้งหลาย การพนันดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เพราะว่านอกจากบางอย่างจะต้องใช้ฝีมือแล้ว บางครั้งคุณยังต้องใช้โชคชะตาช่วยเกื้อหนุนด้วย ถึงจะได้เงินที่มาจากการเสี่ยงดวงแบบนี้ แต่ก็อย่างว่าดวงคนจะรวยทำอะไรก็รวย คนจะจนทำอะไรก็จน เหมือนกับผู้หญิงคนนี้ที่หมุนตู้สล็อตแมชชีนจนได้รางวัลใหญ่ แต่ทางคาสิโนกลับบอกว่ามันเป็นความผิดพลาดของเครื่องสล็อตแมชชีน และเสนออาหารเย็นเป็นการปลอบใจให้แทนเงินรางวัลก้อนโตซะอย่างงั้น หน้าตาของหญิงสาวผู้พลาดรางวัลก้อนโต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2016 เมื่อ Katrina Bookman เดินทางเพื่อไปเล่นการพนันที่ Resorts World Casino ซึ่งตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อเธอไปหมุนตู้สล็อตแมชชีนในคาสิโนแห่งนี้ก็ปรากฏว่าเธอได้รางวัลมูลค่ากว่าเกือบ 43 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 1.3 พันล้านบาท) เลยทีเดียว “มันขึ้นเป็นตัวใหญ่บนจอเลยบอกว่าฉันถูกรางวัลแจ็กพอตมูลค่ากว่า 43 ล้านดอลลาร์ ในตอนนั้นฉันเหน็บชากินไปทั้งตัวและแทบจะหยุดหายใจไปเลยก็ว่าได้” Bookman กล่าว แหม สบายไปทั้งชาติเลยนะเนี่ย ทว่าในตอนนั้น สาวสุดเฮงคนนี้ก็สัมผัสได้ว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ เพราะว่าเจ้าเครื่องสล็อตมันไม่ยอมออกตั๋วรางวัลขึ้นเงินให้กับเธอ และเมื่อพนักงานมาตรวจสอบให้ เธอก็ต้องได้รับข่าวร้ายจนแทบทรุด เพราะพนักงานบอกว่าสิ่งที่เธอเห็นมันเป็นความผิดพลาดของเครื่อง และเธอก็จะไม่ได้รับเงินรางวัลดังกล่าว แต่เธอก็ยังไม่ยอมแต่โดยดี เพราะเธอบอกว่าในตอนที่เธอเล่นเครื่องมีมันก็เป็นปกติดี และไม่มีอาการบ่งบอกว่ามันจะผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้น หน้าตาของเครื่องสล็อตแมชชีนดังกล่าว และในเวลาต่อมา เมื่อคณะกรรมการดูแลการพนันแห่งนครนิวยอร์กมาตรวจสอบ ก็พบว่าเธอถูกรางวัลจริง!! ทว่ารางวัลที่เธอถูกนั้นมีราคาเพียงแค่ 2.25 ดอลลาร์(ประมาณ…
-
ช่างภาพนำโมเดล “ซูเปอร์ฮีโร่” มาจัดองค์ประกอบใหม่ เพื่อเสนออีกมุมที่เราไม่เคยเห็น
เมื่อพูดถึงซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวล หลายคนอาจจะนึกถึง ธอร์เทพเจ้าสายฟ้าอันน่าเกรงขาม หรือจะเป็นกัปตันอเมริกาผู้รักความยุติธรรม และอีกหลายๆ คนที่มีบุคลิกเท่ๆ อย่างเดอะฮัล์คไอ้ยักษ์ร่างเขียว ซึ่งโดยรวมซูเปอร์ฮีโร่เหล่านี้ต่างมีบุคลิกที่ดูน่าเอาเป็นแบบอย่างทั้งสิ้น แต่หากลองมาคิดดูกันเล่นๆ ว่า จะเป็นอย่างไรเมื่อซูเปอร์ฮีโร่ที่สุดจะยิ่งใหญ่เปลี่ยนไปมีนิสัยเกรียนๆ บ้าง ด้วยเหตุนี้ช่างภาพที่ใช้ชื่อว่า HrJoePhotography จึงได้ลองนำโมเดลซูเปอร์ฮีโร่ของเขามาจัดวางในท่าทางต่างๆ เพื่อให้เห็นว่าจริงๆ แล้วซูเปอร์ฮีโร่เหล่านี้ก็มีความลับบางอย่างที่พวกเขาอาจจะไม่ได้บอกกับเราในฉากหนังก็ได้นะ และนี่คือผลงานของช่างภาพคนนี้ ที่นำโมเดลซูเปอร์ฮีโร่มาทำกิจกรรมเกรียนๆ ซึ่งหากมองดูแล้วก็น่าจะลดความน่าเชื่อถือของพวกเขาไปได้เยอะเหมือนกัน โดยการถ่ายรูปเล่นของเขาครั้งนี้เขาบอกไว้ว่าไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อจะดิสเครดิตแต่อย่างใด แต่อยากจะให้ผู้คนมีรอยยิ้มแค่เพียงเท่านั้น และหากใครชื่นชอบผลงานสุดฮาเหล่านี้ก็สามารถติดตามกันได้ที่ hrjoe Photography วอนซะแล้วไอ้เดดพูล นี่มันที่ของพี่ไอ้น้อง ยอมแล้วจ้า อย่าทำอย่างนี้เลยมันเจ็บเกินทนไหว คนเดียวหัวหาย อันนี้หายทั้งสองหัว อยากได้อะเดะ ไม่ให้หรอก ฮ่าๆ ตีพลาดจะเอ็งโดนดีแน่ๆ เอาป่ะ ให้ฟรีก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าตัวใหญ่ๆ อย่างนี้ก็กลัวเข็มเหมือนกัน ทำไมแกไม่กินข้าวฮะ อุตส่าห์เทเอาไว้ให้ ตกแต่งบ้านต้อนรับคริสต์มาสกันเถอะที่รัก นี่ตูเพื่อนเล่นหรอเนี่ย ลูบซะ …
-
หญิงผู้รอดชีวิตจากการปลิดชีพตัวเอง เผยความรู้สึกกับการต้องมีชีวิตอยู่อีกครั้ง…
ไม่ใช่ทุกครั้งที่การตัดสินใจของเราจะต้องถูกเสมอไป เพราะในบางครั้งเราอาจได้มารู้ทีหลังว่าที่เราทำลงไปนั้นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่อย่างน้อยมันก็อาจเป็นบทเรียนให้กับชีวิตเราในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้เหมือนอย่างหญิงสาวคนนี้.. นี่คือเรื่องราวของ Christen McGinnes วัย 46 ปีจากรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ผู้ที่พยายามฆ่าตัวตายด้วยการยิงปืนเข้าปากตัวเอง จนทำให้สูญเสียกรามขวา ลิ้น ฟันหลายซี่ ปากล่างและตาข้างขวาของเธอไป แต่อย่างน้อยเธอก็รอดมาได้จนพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต เธอเล่าว่า ในปี 2009 เธอใช้ชีวิตทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น มีเพื่อนมากมาย รักงานที่ทำและเธอก็ยังสนิทกับคุณย่าของตัวเองเอามากๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานทุกอย่างก็กลับพินาศลงไปในพริบตา เธอตกงาน คุณย่าตายจากเธอไป พอเธอได้คบกับผู้ชายแสนดีคนหนึ่ง เขาคนนั้นกลับทิ้งเธอไปอีก เธอสูญเสียทุกอย่างแม้แต่เงินเก็บของเธอทั้งหมด ทำให้เริ่มกินเหล้าอย่างหนักและเกิดความคิดว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เธอขอตายซะยังจะดีกว่า ในปีต่อมา หญิงสาวจัดห้องตัวเองให้สะอาดสะอ้าน ก่อนที่จะออกไปตรงระเบียงเตรียมจะยิงตัวตาย วินาทีนั้นเธอไม่ได้กลัวความตายเลย แต่สิ่งที่เธอกลัวคือ กลัวว่ากระสุนจะพุ่งไปห้องข้างๆ จนทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บ เธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกสงบเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ตอนนั้นฉันไม่กลัวตายเลย จากนั้นฉันจึงเหนี่ยวไกเข้าที่ศีรษะของฉัน” ในตอนนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนร่วมห้องของเธอก็อยู่ในห้องด้วย เมื่อเสียงปืนดังลั่น เพื่อนคนนั้นจึงรีบวิ่งมาดู ก่อนที่จะนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล หญิงสาวอยู่ในอาการโคม่านานกว่า 3 สัปดาห์ สิ่งที่เธอจำได้เป็นอย่างแรกในตอนที่ตื่นขึ้นมาคือ…
-
รวม 20 ภาพสแนปแชทฮาๆ ส่งท้ายปี 2017 พร้อมกับแคปชั่นภาพที่มันเหลือเกินเสียจริง..
ตอนนี้กลางเดือนธันวาคม 2017 เข้าสู่ช่วงเทศกาลต่างๆ หลายอย่าง และแน่นอนว่าที่สำคัญที่สุดและรู้จักกันทั่วโลกอย่างแน่นอนก็คือ วันปีใหม่ หนึ่งในเทศกาลจัดงานเฉลิมฉลองให้กับการส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปี 2018 ที่กำลังมาถึงนี้ ก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู่ปีถัดไป #เหมียวตะปู อยากลองชวนเพื่อนๆ ให้ได้มาดูภาพสแนปแชทสุดฮาที่เกินขึ้นในปี 2017 เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เดินต่อไปข้างหน้าพร้อมรอยยิ้ม ว่าแล้วเราก็ไปดูกันเลยยย นี่คงเป็นตัวอย่างจากหนังเรื่อง Up ปู่ซ่าส์บ้าพลัง ภาค 2 เมื่อคืนฝนตกหนักมาก แต่ดูเหมือนจะมีคนหนึ่งไม่รู้ตัวนะ สงสัยคุณพ่อจะพาคุณลูกมาดูสถานที่ทำงาน นี่คงเป็นต้นไม้ที่หยาบคายมากที่สุดในโลกแล้ว บอกผมที ว่านี่หมี มิใช่หมู.. ไหนบอกว่าเป็นครีมบำรุงและฟื้นฟูมือไม่ใช่หรอ ไม่เห็นฟื้นฟูได้จริงเลย ประสบการณ์ดีๆ ที่ได้จากการเล่นรักบี้ของเขา ผมแค่อยากจัดปาร์ตี้ที่บ้านบ้างอ่ะแม่ ที่จอดรถสำหรับคนแก่ที่พิการ อย่างน้อยก็ช่วยปัดกิ่งไม้ออกไปก่อนได้มั้ย เป็นสติกเกอร์ยีราฟที่ดูงงๆ นะว่ามั้ย Iron Man ชิดซ้ายไปเลย เมื่อเจอกับ…
-
สุดยอดหญิงแกร่ง ใจสู้ทำข้อสอบปลายภาคในโรงพยาบาล แล้วคลอดลูกต่อทันที!
คำว่าผู้หญิงแกร่ง มีความหมายแตกต่างกันไปตามมุมมองของแต่ละคน บางทีก็หมายถึงผู้หญิงที่มีร่างกายแข็งแรง อาจจะหมายถึงผู้หญิงที่เก่งกว่าผู้ชาย หรือแม้แต่ผู้หญิงที่มีความอดทนอดกลั้นสูง สามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้มากมายก็ได้ แต่ใครจะแข็งแกร่งไปกว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่มีอีกแล้ว เพราะแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม แต่เธอก็ยังเรียนหนังสือด้วย ทำงานไปด้วย และยังทำงานมากถึงสามแห่งด้วยกัน เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังเอาข้อสอบปลายภาคมานั่งทำตอนรอคลอดหน้าตาเฉย Nayzia Thomas หญิงเหล็ก ถึก อึด ทน Nayzia Thomas เป็นนักศึกษาด้านจิตวิทยาของ Johnson County Community College ในรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอไปเข้าเรียนในชั้นเรียนตั้งแต่ตอนเธอเริ่มท้อง จนถึงตอนที่เธอมีอายุครรภ์ครบ 9 เดือนเลยทีเดียว ตอนแรกเธอวางแผนว่าเธอจะทำงานของหมดในภาคเรียนให้เสร็จ ก่อนจะถึงวันกำหนดคลอด แต่ดูเหมือนว่าลูกของเธออยากจะเจอหน้าคุณแม่ไวๆ เธอเลยจำเป็นต้องคลอดก่อนกำหนด แม้ว่าข้อสอบปลายภาคของเธอจะยังค้างอยู่ก็ตาม “ตอนนี้ยังไม่ถึงกำหนดส่งงานเลย แต่ฉันก็ตั้งใจจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนคลอดลูก เพราะฉันรู้ว่าพอคลอดแล้วก็จะมีแต่เรื่องวุ่นวายเต็มไปหมด ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องทำงานให้เสร็จก่อน” จริงๆ แล้วเธอจะส่งงานทีหลัง แล้วรอให้เกรดออกช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อยก็ได้ เนื่องจากเป็นการลาไปคลอดเป็นเหตุสุดวิสัย อาจารย์คงจะให้เธอสอบช้าได้ แต่ด้วยความแน่วแน่และความตั้งใจของเธอเอง เธอตัดสินใจทำมันให้เสร็จก่อนจะคลอดซะเลย บังเอิญว่าแม่ของเธอได้ถ่ายรูปตอนเธอทำงานเก็บไว้ เธอจึงได้โอกาสแชร์รูปนั้นลงในทวิตเตอร์ ชาวเน็ตที่เห็นจึงถือโอกาสเข้ามาชื่นชมความพยายามของเธอพร้อมทั้งให้กำลังใจ โดยทวีตนี้มียอดไลค์ทะลุ 130,000…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นตกหลุมรัก “เม่นทะเล” แย่งกันกินกะหล่ำปลี มันน่ารักหรือยังไงดีเนี่ย??
เป็นธรรมชาติของสัตว์ที่จะแย่งกินอาหารชิ้นเดียวกัน เหมือนกับสุนัขแย่งกระดูกกันนั่นแหละ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นการกระทำนี้จากเม่นทะเลด้วย แหม่ เม่นทะเลก็เป็นสิ่งมีชีวิตนะ มันจำเป็นต้องกินเพื่อความอยู่รอดเหมือนสัตว์ทั่วไปนั่นแหละ แต่ที่แปลกคงเป็นเพราะมนุษย์เห็นพวกมันแย่งใบกะหล่ำปลีกันละมั้ง ภาพเหล่าเม่นทะเลยื้อแย่งใบกะหล่ำปลีนี้ ถูกถ่ายได้ที่ Aburatsubo Marine Park ในจังหวัดคะนะงะวะ ประเทศญี่ปุ่น โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Cellutane Cellutane เล่าว่า ตอนแรกเม่นทะเลจำนวนหนึ่งอยู่รวมกันในตู้กระจกใส จากนั้นผู้ดูแลก็เอาใบกะหล่ำปลีหย่อนลงไปให้พวกมันกิน โดยทันทีที่หย่อนลงไป มีเจ้าเม่นทะเลสองตัวต่างจับจ้องไปที่ใบกะหล่ำปลีใบเดียวกัน จากนั้นมันก็พุ่งไปที่เป้าหมายพร้อมกัน จนทำให้เกิดการยื้อแย่งขึ้น ต่อมา Cellutane ได้นำภาพเหล่านี้ไปแชร์ลงในทวิตเตอร์ และไม่น่าเชื่อว่ามันได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก เรื่องที่เม่นทะเลกินกะหล่ำปลีว่าแปลกแล้ว การเห็นพวกมันแย่งกันแปลกกว่าอีก เพราะเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นภาพแบบนี้กันสักเท่าไหร่ มีชาวเน็ตบางคนตัดต่อใส่อีโมชั่นที่หน้ามันด้วย ชาวเน็ตอีกคนบอกว่า “มันไม่แปลกนะ ตัวนี้ที่เราไปเห็น มันก็กินใบกะหล่ำปลีเหมือนกัน” เห็นมีแต่ขนแบบนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าปากเม่นทะเลมันอยู่ตรงไหนนะ? แล้วมันมีลักษณะยังไงน้อ? อะ ลองดูวิดีโอด้านล่างนี้ รู้เลย ที่มา rocketnews24
-
มหาวิทยาลัยโตเกียวพัฒนา ‘กระจกซ่อมตัวเองได้’ อีกหนึ่งความก้าวหน้าที่คู่ควรกับสมาร์ทโฟน
เบื่อมั้ยกับปัญหาเวลามือถือตกแล้วหน้าจอแตก ทำให้ต้องเสียทั้งเงินและเวลาพามันไปเปลี่ยนที่ศูนย์หรือให้ร้านซ่อมให้ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ปัญหานั้นอาจหมดไปได้ ด้วยนวัตกรรมใหม่ “กระจกที่สามารถซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง” ความสามารถนี้มีอยู่ในสสารที่ชื่อว่า Polyether Thiourea ซึ่งเป็นสสารแรกของโลกที่มีคุณสมบัติผสมระหว่างความแข็งแกร่งแบบกระจกและความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง สสารชนิดใหม่ที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เจ้าสิ่งนี้ถูกพัฒนาโดยศาสตราจารย์ Takuzo Aida และผู้ช่วยของเขาที่เป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาสามารถค้นพบเจ้าสิ่งนี้ได้ด้วยความบังเอิญ ในตอนที่กำลังพยายามคิดค้นกาวแบบใหม่กันอยู่ ความพิเศษของเจ้า Polyether Thiourea คือ เมื่อไหร่ที่มันแตกหักหรือแยกจากกัน เพียงแค่เราใช้มือดันส่วนที่แตกออกกลับเข้าไปให้มันอยู่ในสภาพเดิม ไม่กี่วินาทีทั้งสองส่วนนั้นจะติดกันเหมือนเดิม และปล่อยไว้ไม่กี่ชั่วโมงกระจกก็จะคืนตัวอย่างสมบูรณ์เรียบเนียน เพียงแต่จะทิ้งรอยแตกไว้ให้เห็นเท่านั้นเอง แตกเป็นเสี่ยงๆ หรือหักออกมาเป็นสองส่วนก็สามารถซ่อมแซมได้ ในตอนแรกที่พวกเขาเจอความสามารถนี้ก็ยังคงตกใจกันอยู่ เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการฟื้นฟูตัวเองในวัตถุที่มีลักษณะเป็นของแข็ง แต่เมื่อพวกเขาทดสอบมันอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้ยังคงเหมือนเดิม ทำให้สามารถยืนยันการค้นพบนี้ได้ ลองคิดดูว่าถ้าเรานำสสารตัวนี้มาใช้กับหน้าจอสมาร์ทโฟนของเรา พอจอแตกปุ๊บ เราก็แค่เก็บเศษกระจกมาดันติดกันเข้าไปใหม่เท่านั้นเอง ง่ายๆ สะดวกสบายเป็นยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่มันยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้เห็นเป็นขีดตรงรอยเชื่อม ซึ่งเชื่อว่าหากแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้เมื่อไหร่แล้วล่ะก็ มันจะต้องได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมหลายๆ ประเภทอย่างแน่นอน แค่นำมาประกบกันไม่กี่วินาที มันก็จะต่อกันแน่นเหมือนเดิมแล้ว ถึงแม้มันอาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ชาวเน็ตหลายๆ คนก็ยังคงทึ่งกับความสุดยอดในการฟื้นฟูตัวเองของเจ้าสิ่งนี้ “คุณพระ!? มหัศจรรย์สุดๆ ไปเลย”…
-
รวม 18 ภาพสัตว์ขนปุย ที่มีขนตามธรรมชาติ แต่สวยอย่างกับไปทำซาลอนมายังไงยังงั้น!?
คนเราไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง ก็ต้องอยากสวยอยากหล่อกันแน่ๆ อยู่แล้วล่ะ เพราะหน้าตานั้นเป็นดั่งหน้าต่างของหัวใจ ถ้าเราดูดีก็จะมีแต่คนรักคนชอบ และนอกจากการมีหน้าตาที่ดีแล้ว การจัดแต่งทรงผมก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน บางคนถึงกับต้องตื่นแต่เช้าตรู่มาทำผมเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่กับสัตว์พวกนี้เลย เพราะธรรมชาติได้สรรค์สร้างให้ขนตามธรรมชาติของพวกมันสวยงามอยู่แล้ว แต่ใช้คำว่าสวยงามเฉยๆ คงไม่พออธิบายภาพของพวกมัน เพราะขนของพวกมันช่างดูสวยเป็นทรงอย่างมหัศจรรย์เลยทีเดียว เจ้าไก่ Polish buff laced chicken ตื่นมาก็เป็นทรงแอฟโฟร่ ทันที นกพิราบ Goura ตีโป่งสวยแบบนี้เข้าสมาคมคุณหญิงได้สบ๊าย แกะ Racka Sheep กับทรงผมทวินเทลตั้งตรง ไม่ง้อเจล เจ้าอัลปาก้ากับทรงผมปัดข้างชิคๆ หวียังไงก็ปัดข้างอยู่ดี สุนัขพันธุ์ซามอย น้องหมาขนนุ่มฟู ฟูยิ่งกว่านางแบบโฆษณาแชมพู ฮา กระต่ายน้อย Wally กับปีกนางฟ้าสุดสวย แต่บินไม่ได้นะ กระต่ายพันธุ์แองโกล่า ขนพองฟูฟ่อง ชนะหมาซามอยขาดลอยเลย มาพบกับ อัลปาก้า กันอีกครั้ง แต่คราวนี้มาในทรงผมเซอร์ๆ เท่ๆ มีเสน่ห์ไม่เบา พบกับลิงจิ๋ว Cotton-top tamarin กับทรงผมที่เซตตัวสวยงาม…
-
หนุ่มรวบรวมความกล้า สารภาพกับแม่ว่าตัวเองเป็นเกย์ สิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างงดงามเหลือเกิน
แม้ว่าในยุคปัจจุบันจะมีการยอมรับกลุ่มคนรักร่วมเพศมากขึ้น ให้พวกเขาสามารถอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติ แต่ก็ยังมีปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไม่กล้าเปิดเผยรสนิยมส่วนตัวออกมา นั่นก็คือครอบครัวนั่นเอง เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าโดยปกติแล้ว หากบ้านไหนมีลูกชาย ก็คงจะคาดหวังให้เขาแต่งงานและมีลูกมาสืบสกุล หรือถ้ามีลูกสาวก็หวังจะได้เห็นพวกเธอมีแฟนหนุ่มที่คอยดูแลเอาใจใส่อย่างดี ดังนั้นการเปิดเผยตัวจนว่าชอบเพศเดียวกัน จึงอาจเป็นการทำลายความคาดหวังของครอบครัวตนเอง แต่ในทางกลับกัน คุณพ่อและคุณแม่อาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ เพราะพ่อแม่มักจะใส่ใจและคอยสังเกตลูกอยู่เสมอ ดังนั้นเพียงแค่รวบรวมความกล้าเข้าไปพูดคุยกับพวกเขา อาจจะพบว่าพ่อและแม่นั้นพร้อมจะคอยอยู่เคียงข้างเราทุกเมื่อ เหมือนในคลิปที่เราจะนำเสนอนี้ เพจ Humankind Stories ได้โพสต์คลิปวิดีโอหนึ่งลงในเฟซบุ๊ก เป็นเรื่องราวของลูกชายที่พยายามจะบอกให้แม่รู้ว่าตนเองชอบเพศเดียวกัน โดยคลิปวิดีโอสะท้อนถึงภาพของพ่อแม่ที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ลูกได้เป็นอย่างดี ในตอนแรกนั้นลูกชายตัวลูกชายรวบรวมความกล้าที่จะบอกกับแม่ไม่ได้ ตัวคุณแม่เห็นดังนั้น จึงพยายามให้ความช่วยเหลือลูก โดยเป็นคนเปิดบทสนทนาเองเสียเลย “แม่: มีอะไรจะบอกกับแม่เหรอ” “ลูก: คือว่า … เอ่อ …” “แม่: … ลูกจะบอกแม่ว่าเป็นเกย์รึเปล่า แม่รู้อยู่แล้วล่ะ แม่เข้าใจลูกนะ” “ลูก: ฮือ แม่ผมขอโทษ” “แม่: ไม่ต้องขอโทษหรอก ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด แม่รักลูกเสมอนะ” เธอยังอธิบายให้ลูกฟังได้ดีอีกด้วยว่า ทำไมพ่อแม่ทั่วไปถึงไม่อยากให้ลูกเป็นเกย์ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเกลียดเกย์หรอก แต่พวกเขาไม่อยากให้ลูกต้องมีชีวิตที่ลำบากต่างหาก “แม่แค่ไม่อยากให้ลูกต้องใช้ชีวิตลำบาก…
-
24 ภาพโฟโต้บอมบ์ กับเรื่องราวเบื้องหลังการถ่ายสุดแสนมุ้งมิ้ง อะไรจะน่ารักกันขนาดนั้น!?
เพื่อนๆ เคยโดนโฟโต้บอมบ์กันไหมครับ เวลาที่เราถ้ารูปอยู่แล้วมีคนมาแกล้งขัดขวาง หรือว่ามีภาพแปลกๆ ติดมาแย่งซีนเรา นั่นแหละครับคือการโฟโต้บอมบ์ ถ้าใครชอบถ่ายรูปคงจะโดนโฟโต้บอมบ์กันมาบ้างแหละ แต่เวลาโดนโฟโต้บอมบ์แล้วมาดูรูปอีกที มันช่างน่าตลกและถูกใจกว่าถ่ายรูปสวยงามธรรมดาเสียอีก ในวันนี้เราเลยอยากพาเพื่อนๆ ไปดูรูปโฟโต้บอมบ์ที่มีเบื้องหลังการถ่ายน่ารักๆ และภาพโฟโต้บอมบ์เจ๋งๆ กัน คุณลุงนักบิดเห็นคู่รักหวานถ่ายรูปท่านี้แล้วชอบ เลยขอทำบ้าง หวานกันจังเลยนะ แคร์ตูบ้าง แม่สอนว่าเวลาเห็นกล้องให้ยิ้ม นั่นเมียแกรึเปล่า มองมาทางนี้แปลกๆ นะ ขอถ่ายด้วยสิตะเอง เดี๋ยวๆ พ่อหนุ่มหัวทอง เขาขอให้ถ่ายรูปให้ ไม่ใช่ให้ไปถ่ายด้วย อาจจะมองกันไม่ชัด ลองดูใกล้ๆ สิ เนียนเชียวนะพ่อหนุ่มน้อย อย่ามัวแต่ถ่ายประสาท สนใจกันบ้าง ชายหนุ่มคิดว่าหญิงสาวบอกรัก จึงทำท่าตอบกลับ แต่เขาแค่ถ่ายรูปโว้ย คู่รักขอให้คุณตาถ่ายรูปคู่ให้หน่อย คุณตาเลยถ่ายให้ เป็นภาพสะท้อนในแว่น เมื่อคู่รักข้าวใหม่ปลามันกำลังถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่ ชาวพังค์จึงอยากมีส่วนร่วมด้วย มาถ่ายรูปคู่กันขวางทางลงบันไดแบบนี้ เพื่อนลงไม่ได้ ก็เลยถ่ายด้วยเลย ลุงแกอยากมีส่วนร่วม พอกดชัตเตอร์ปุ๊บ แกก็โดดเข้ามาปั๊บ วิ่งผ่านมาเฉยๆ…
-
รวมอาหารจาก “โลกอนิเมะ” ดูแล้วไม่น่ารับประทาน ไม่น่ากินสักนิดเลย สักนิดเล๊ยยยย!!
มีใครเบื่ออาหารที่กินกันอยู่ทุกวันบ้างไหม วันไหนคิดอะไรไม่ออกเราก็สั่งข้าวไข่ดาว ข้าวกะเพรา คะน้าหมูกรอบ มีแต่อาหารหน้าตาจืดๆ เห็นแล้วยังเบื่ออาหารแทนคนกินเลย แต่ถ้าลองไปดูอาหารในอนิเมะกันบ้างละก็ บอกได้เลยว่าอาหารที่เรากินๆ กัน กับอาหารในการ์ตูนน่ะ มันเทียบกันไม่ติดเลย เพราะว่าอาหารที่เห็นกันจากอนิเมะน่ะ ดูเวอร์วังมากๆ ไม่น่ากินเลยสักกะติ๊ดดดดด!? ตอกไข่ลงไปแล้วค่อยๆ ทอดจนสุดแบบนั้น … ไม่น่ากินสักนิ๊ดดดด อึก … คิดเหรอว่าเอาบุปเฟ่ต์หน้าตาดูดีมาล่อจะได้ผล โอ้ว ซุปราเม็งทำไมแวววาวได้ขนาดนั้น … แต่ … เรา … ไม่หลงกลหรอก! ราเม็งหมูทอดซอสเยิ้มๆ เหรอ ดูไม่น่าอร่อยเล๊ยยย . ซุปครีมข้นที่ดุละมุนลิ้นนั่นมัน … คงดีแต่หน้าตาแหละน่า! สเต๊กร้อนๆ กับซอสเดือดปุดๆ นี่ … ก็เหมือนจะน่ากินอยู่หรอก . ราเม็งที่มีควันร้อนฉุยแบบนั้นน่ะ ไม่มีจริงหรอกกก อาหารซีฟู้ดน่ะ … เกือบจะน่ากินอยู่ . …
-
แม่พาลูกที่ไม่ได้ป่วยอะไรเลย เข้าโรงพยาบาลกว่า 323 แห่ง รับผ่าตัดอีก 13 ครั้ง
คำกล่าวที่ว่าพ่อแม่ทุกคนต่างต้องการให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ไม่เป็นความจริงเสมอไป เนื่องจากในปัจจุบันมีพ่อแม่บางคนที่ไม่ใส่ใจลูก หรือหนักกว่านั้นคือใช้ลูกเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ เหมือนกับแม่คนนี้ Kaylene Bowen-Wright อาศัยอยู่ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอและสามีหย่าร้างกันแล้ว ส่วนลูกชาย Christopher Bowen นั้นอยู่ในสิทธิ์เลี้ยงดูของเธอ ตอนนี้เขามีอายุได้ 8 ขวบแล้ว แต่เด็กชายไม่ได้ถูกเลี้ยงดูอย่างสุขสบายเลย เพราะคุณแม่พาเขาตระเวนเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลแล้วกว่า 323 ครั้ง และเข้ารับการผ่าตัดมาแล้วทั้งสิ้น 13 ครั้ง ทั้งๆ ที่เด็กชายไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด Kaylene Bowen-Wright และลูกชาย Christopher ในตอนต้นนั้นคุณแม่โกหกว่าลูกเป็นโรคแพ้นมเท่านั้น แต่ต่อมาอาการที่เธอกุขึ้นมาก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบอกว่าลูกมีอาการเหนื่อยง่าย ช็อก ขาอ่อนแรงจนเดินไม่ได้ และที่ร้ายที่สุดคือเธอบอกว่าลูกชายของตัวเองเป็นโรคมะเร็งอีกด้วย จากการที่เธอโกหกมาทั้งหมด ทำให้เด็กชายต้องผ่านการผ่าตัดหลายครั้งโดยไม่มีความจำเป็น และต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือหลายอย่างเหมือนคนพิการ เช่น ท่ออาหาร หน้ากากออกซิเจน และรถเข็น เธอยังคงปั้นน้ำเป็นตัวต่อไปเรื่อยๆ เพื่อรับเงินช่วยเหลือ เธอถึงกับทำเพจโครงการรับบริจาคเงินมาช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกชาย ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองก็สบายดี โครงการรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายการรักษาของ Christopher เมื่อปี…
-
22 ภาพเหมียวอ้วนขนฟู ผู้ยึดฟาร์มในชนบทของชาวนาไซบีเรีย จนเกิดเป็นอาณาจักรแมว
สำหรับชีวิตของทาสแมวแบบเรา จะมีอะไรฟินไปกว่าการได้ไปขลุกอยู่ในคาเฟ่แมวที่รายล้อมไปด้วยแมวหลากหลายพันธุ์ หันไปทางซ้ายก็เจอแมว หันไปทางขวาก็เจอแมว แม้แต่จะหยิบแก้วกาแฟมาจิบก็ยังเจอแมว ใครที่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน คงรู้ดีว่าฟินจิกหมอนขนาดไหน แต่สำหรับ Alla Lebedeva ชาวนาจากเมือง Barnaul ประเทศไซบีเรียแล้ว แค่เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่รายล้อมด้วยแมวคงยังไม่พอหรอก เธอก็เลยทำให้บ้านของตัวเองกลายเป็น ‘อาณาจักรแมว’ ซะเลย แมวพันธุ์ไซบีเรียน ทนหนาว ขนนุ่ม ปุกปุย จริงๆ แล้วที่บ้านของเธอเลี้ยงแมวพันธุ์ไซบีเรียนมานานแล้ว แต่ในเวลาต่อมามันก็มีจำนวนเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องทำโรงนาหลังหนึ่งเป็นที่นอนให้พวกมันทั้งหลังเลย พอเธอเห็นว่าไหนๆ ก็มีแมวเยอะแล้ว งั้นก็เปิดเป็นอาณาจักรแมวเลยก็แล้วกัน จากนั้นเธอจัดแจงพื้นที่ที่มันอยู่ให้สวยงาม แล้วถ่ายรูปกับคลิปวิดีโอของอาณาจักรแมวไปเผยแพร่ลงในยูทูบและทวิตเตอร์ จนตอนนี้มีคนกดไลก์กดแชร์เป็นจำนวนมากกลายเป็นกระแสไวรัลไปแล้ว ลองดูความน่ารักขอดงพวกมันสิ อากาศหนาว สีทนได้ นี่คือถิ่นแห่งเราชาวแมว . ไม่ว่าจะสูงจะต่ำ ก็เป็นพื้นที่ของอาณาจักรแมว . . ยินดีต้อนรับสู่สวรรค์ของแมวเหมียว ตากหิมะฟินๆ . . แม้แต่ม้าก็เป็นทาสเรา . …
-
แมวเกลียดหมาเป็นทุนเดิม แต่เมื่อมาอยู่บ้านร่วมกันก็เปลี่ยนใจไปเที่ยวด้วยกันซะงั้น
หมากับแมวเป็นสัตว์ที่เป็นอริกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน โดยพวกมันมักจะขู่กันฟ่อๆ เมื่อได้เจอหน้ากันโดยไม่รู้สาเหตุ รวมถึงแมวตัวนี้ที่เกลียดสัตว์สี่ขาที่เรียกว่าหมาจนเข้ากระดูกดำ แต่ด้วยสถานการณ์บังคับทำให้มันต้องออกไปเที่ยวด้วยกัน ทำให้ในตอนนี้มันได้เปลี่ยนความคิดและยอมเป็นมิตรกับหมาชนิดที่ว่าเล่นกันเป็นเพื่อนเลยทีเดียว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ Amber Pitcher สัตวแพทย์สาวได้ไปเจอแมวที่ได้รับบาดเจ็บเข้า เธอจึงพามันไปรักษาที่คลินิกที่เธอทำงานอยู่ และเมื่อเธอได้ดูแลเอาใจใส่มันเธอก็พบว่าตกหลุมรักแมวตัวนี้เข้าให้แล้ว “ฉันเจอเจ้าแมวตัวนี้ขณะกำลังร้องอย่างหมดแรง ฉันจึงเดินไปหามันและตรวจดูก็พบว่าขาของมันหักอย่างสิ้นเชิงจนเดินไปไหนไม่ได้ จริงๆ แล้วแมวตัวนี้มันน่ารักมาก ด้วยความสงสารฉันจึงตัดสินใจนำมันไปเลี้ยงที่บ้านและตั้งชื่อให้มันว่า Ollie” Amber กล่าว จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ Amber ได้เลี้ยงหมาตัวหนึ่งอยู่ก่อนแล้วชื่อว่า Ariel ซึ่งเธอรับอุปการะหมาตัวนี้มาจากสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว และเธอก็ได้เล่าที่มาที่ไปของเจ้าหมาตัวนี้ให้ฟัง “ในตอนนั้นฉันไปที่สถานสงเคราะห์กับพ่อแม่ ตอนนั้นฉันยังเรียนมัธยมปลายอยู่และอยากได้หมามาเลี้ยงสักตัว และสิ่งแรกที่ฉันเห็นในตัวของ Ariel ที่มีสีของตาที่แตกต่างกัน มันนั่งนิ่งๆ อยู่กรงหลังๆ” “เมื่อฉันยื่นมือไปหามัน มันก็คลานมาหาและจ้องมองที่ดวงตาของฉัน ฉันรู้ในทันทีว่าเจ้าหมาตัวนี้แหละใช่เลย” Amber เล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ฟัง เมื่อ Amber รับหมาตัวนี้มาเลี้ยงก็ดูเหมือนว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนซี้ต่อกัน และเวลาผ่านไปไม่นานเมื่อ Ariel โตพอที่จะออกไปเที่ยวได้ Amber ก็พามันไปเล่นสกีตามที่ต่างๆ อย่างที่ภูเขาแคทสกิล และทิวเขาอดิรอนแดก…
-
อย่าลองดี… นักปั่นเจอรถมอเตอไซค์สุดกวน เลยแก้เผ็ดด้วยการจุดพลุยิงใส่ไม่ยั้งจนร่วงคาถนน
ในช่วงเวลาออกกำลังกายของเรา มันช่างเป็นเวลาแสนสุขที่ไม่อยากจะให้ใครมากวนใจจริงๆ เพราะตอนออกกำลังกายมันต้องเหนื่อยอยู่แล้ว หากมีคนมากวนจะอาจจะทำให้เราหงุดหงิดจนฟาดงวงฟาดงา เหมือนกับชายคนนี้ที่กำลังปั่นจักรยานอยู่ดีๆ แต่ดันไปเจอรถมอเตอร์ไซค์ขี่มากวนบาทา เขาเลยจัดการยิงพลุใส่ซะรถคนนั้นร่วงเลยทีเดียว เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมาในประเทศอิตาลี เมื่อมีนักปั่นคนหนึ่งกำลังปั่นจักรยานของเขาอยู่ในเลนสำหรับจักรยานอยู่ดีๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งเลี้ยวมาตัดหน้าและเบาเครื่องลงเพื่อจะพูดจาเยาะเย้ยอะไรบางอย่าง ลองของนักใช่ไหม ได้ และดูเหมือนว่าการก่อกวนครั้งนี้จะไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะว่าพวกเขายังคงป้วนเปี้ยนๆ ไม่ให้ชายคนนี้สามารถปั่นจักรยานได้อย่างเป็นสุข และนั่นได้กลายเป็นจุดเดือดให้กับนักปั่นหัวร้อนคนนี้ เมื่อเขาถูกก่อกวนอย่างไม่หยุดยั้ง เขาจึงงัดเอาพลุที่เตรียมไว้สำหรับเหตุการณ์เช่นนี้ออกมา แล้วติดมันไว้บนท่อที่เตรียมเอาไว้พร้อมกับแสยะยิ้ม เหมือนกับกระหยิ่มยิ้มย่องในใจว่าคราวนี้พวกเอ็งเจอของจริงแน่ๆ และเวลาต่อจากนั้นไม่นานสมรภูมิพลุก็ได้กำเนิดขึ้น นี่แหนะ เอาไปกินไอ้พวกก่อกวนชาวบ้าน แต่ว่าแก๊งก่อกวนนี้ยังคงไม่รู้จะรู้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังเจอมันคือพลุไฟ ดังนั้นนักปั่นคนนี้จึงระดมยิงเข้าไปที่มอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวและมีอยู่เม็ดหนึ่งที่ไปโดนเข้าเต็มหลังของคนซ้อน เมื่อนักบิดคนดังกล่าวเห็นเพื่อนของเขาโดนเช่นนั้น เขาจึงไม่รอช้าบิดมอเตอร์ไซค์ของเขาจนหมดปลอก แต่ก็ยังไม่พ้นวิถีกระสุนของพลุดังกล่าวไปได้ เมื่อได้เห็นอันธพาลสองคนนี้ดิ้นในตอนที่โดนยิง มันยิ่งเพิ่มความยิ่งสะใจให้แก่นักปั่นจักรยานหัวร้อนคนนี้ และเขาคิดว่าหากยิงทีละดอกคงจะไม่สนุกเท่าไหร่ เขาจึงใส่ทีเดียวแบบเป็นชุดและกราดยิงแก่ชายสองคนนั้น เมย์เดย์ ร่วงไปแล้วหนึ่งราย ท่ามกลางพลุไฟที่กระหน่ำยิงยิ่งกว่าเม็ดฝน ในเวลาไม่นานนักมอเตอร์ไซค์คนนี้ก็ลงไปนอนลงกับพื้นพร้อมกับคนอีกหนึ่งคน แต่ว่านักปั่นคนนี้เหมือนกับว่ายังไม่พอใจ เขาจึงควบจักรยานตามคนที่วิ่งหนี พร้อมทั้งกระหน่ำยิงซ้ำอีกระลอกหนึ่ง แต่ว่าคราวนี้ยิงไม่โดนเลยสักนัดหนึ่ง และในที่สุดวิดีโอสุดมันส์นี้ก็สิ้นสุดลง ถึงแม้ว่าพลุไฟที่ชายคนนี้ยิงออกไปจะไม่ได้สร้างความเสียหายที่ใหญ่โตนัก และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต แต่ว่าชายอันธพาลสองคนนี้น่าจะหลาบจำว่า ไม่ควรไปก่อกวนใครในตอนที่พวกเขาออกกำลังกาย เพราะด้วยอุณหภูมิในร่างกายที่คุกรุ่นอยู่แล้วอาจทำให้อารมณ์ร้อนเกิดขึ้นได้ง่ายๆ และอาจจะไม่โชคดีเหมือนกับวันนี้ก็เป็นได้…
-
เปรียบเทียบโหมด Portrait ระหว่าง iPhone X, Note 8, Pixel 2 และกล้องโปร อย่างละเอียด
การจะซื้อโทรศัพท์มือถือดีๆ สักเครื่องหนึ่งก็ต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆ อย่างเนื่องจากโทรศัพท์ระดับ Hi-End ในปัจจุบันก็มีราคาที่ค่อนข้างสูงดังนั้นจึงต้องตัดสินใจเลือกให้ดีก่อนที่จะต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง ซึ่งปัจจัยในการเลือกโทรศัพท์มือถือสักเครื่องให้เหมาะสมกับตัวเราก็มีหลายอย่าง เช่น ระบบปฏิบัติการ ขนาดของหน้าจอ และรวมถึงคุณภาพของกล้องถ่ายภาพ ที่ใช้กันบ่อยในแทบจะทุกวันไม่ว่าจะเป็นถ่ายเซลฟี่ ถ่ายกับเพื่อน ถ่ายรูปอาหาร ทำให้กล้องถ่ายภาพในโทรศัพท์กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักๆ ในการเลือกซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้กับตัวเองเลยทีเดียว ดังนั้น จึงมียูทูบเบอร์ที่ใช้ชื่อว่า Marques Brownlee ได้ลองเปรียบเทียบการใช้งานโหมด Portrait หรือโหมดถ่ายภาพบุคคลในโทรศัพท์ระดับตัวท็อปจากหลายๆ ค่ายมาให้ชาวเน็ตได้ชมกัน การทำงานหลักๆ ของกล้องในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งโทรศัพท์ที่เขาใช้รีวิวนั้นก็มีทั้ง iPhone X, Samsung Note 8, Google Pixel 2 นำมาเปรียบเทียบกับกล้องสำหรับช่างภาพมืออาชีพอย่าง Hasselblad X1D ซึ่งมีราคาอยู่ราวๆ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 260,000 บาท) ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนหลายรุ่นบนโลกนี้จะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Dual Cameras หรือว่ากล้องคู่สำหรับการถ่ายภาพในกล้องหลัง ซึ่งเซนเซอร์ส่วนใหญ่ในสมาร์ทโฟนจะมีขนาดเล็ก และถ้าภาพที่จะถ่ายมีขนาดที่กว้างกว่าเซนเซอร์ การถ่ายภาพทั้งหมดจะถูกโฟกัสร่วมกันจึงแยกไม่ได้ว่าจะให้โฟกัสที่ใดเป็นหลัก และสำหรับโหมดการถ่ายภาพบุคคล โหมดนี้จะมีความพิเศษก็คือ มันจะหาความตื้นลึกของภาพจากการตรวจสอบจากขอบภาพ…
-
ผู้เชี่ยวชาญด้าน ‘ดาบซามูไร’ ถูกพบเสียชีวิตในห้องพัก เพราะทำพิธีกรรม ‘ฮาราคีรี’!?
มนุษย์เราเมื่อรักหรือเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ ก็มักจะทุ่มเทชีวิตให้สิ่งนั้น บางคนถึงกับยอมแลกชีวิตตัวเองเพื่อบรรลุเป้าหมายตามสิ่งที่เชื่อ อย่าง Alun Jones ผู้เชี่ยวชาญด้านดาบซามูไรวัย 51 ปี ที่ตัดสินใจจบชีวิตด้วยอาวุธของเขาเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีกรรมของนักรบชาวญี่ปุ่นโบราณ สื่อรายงานว่า Jones ถูกพบเสียชีวิตภายในห้องพักที่เมืองนิวพอร์ต รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในสภาพนองเลือด หลังทำพิธีเซ็ปปุกุ หรือ ฮาราคีรี ซึ่งเป็นการฆ่าตัวตายโดยการคว้านท้องในยุคซามูไร ของประเทศญี่ปุ่น Jones เริ่มเก็บสะสมใบมีดหลังจากที่ทำงานญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายปี แต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Margaret แม่ของเขากลับพบว่า Jones นอนเสียชีวิตบนดาบโดยมืออยู่เหนือศีรษะ Jones ทำงานอยู่ในร้านขายอาวุธที่ประเทศญี่ปุ่น และเขามักจะกลับมาอยู่กับแม่ที่ประเทศอังกฤษในช่วงวันหยุดของเขาเสมอ แต่ในการไต่สวนเกี่ยวกับการตายของเขา Margaret เผยว่าการกลับบ้านครั้งนี้ดูเหมือน Jones จะไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนไม่ใช่ลูกชายที่เธอคุ้นเคย Marianne Caulfield น้องสาวของเขาบอกว่า “เขาใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี และเมื่อเขากลับมา เขามักจะออกไปหาเพื่อนๆ เสมอ แต่ครั้งนี้เขาดูผอมลงไปมากและมักจะอยู่แต่ในห้องของตัวเองเกือบตลอดเวลา” “เขามีดาบซามูไรจำนวนหนึ่งที่เก็บสะสมเอาไว้ และดูเหมือน Jones จะให้ความสนใจกับประเพณีของซามูไรญี่ปุ่นมากกว่าเดิมอีก” น้องสาวกล่าว ทั้งนี้ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เขาจะถูกพบว่าเสียชีวิต เพื่อนบ้านคนหนึ่งเห็นเขาหลับอยู่บนโซฟา โดยมีสมุดภาพครอบครัวเปิดอยู่ข้างๆ เขา ในการไต่สวนระบุอีกว่าสาเหตุที่…
-
คุณพ่อไปเที่ยววันหยุดเลยยืมกล้อง GoPro ของลูกไปใช้ แต่ดั๊นถ่ายกลับด้านเกือบทั้งทริป!!
ผู้ใหญ่หลายๆ คนอาจไม่ชำนาญเรื่องเทคโนโลยีได้เท่ากับวัยรุ่นที่เติบโตมาพร้อมๆ กับสิ่งนี้ และนั่นจึงอาจทำให้พวกเขามีข้อผิดพลาดในการใช้งานเทคโนโลยีอย่างที่เราคาดไม่ถึง ยกตัวอย่างชายวัย 69 ปีคนนี้ ที่ไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยีจนถึงกับถ่ายรูปผิดด้านเกือบตลอดการเดินทางเลยทีเดียว ชายคนนี้มีชื่อว่า Howard Newman เขาและ Joan ภรรยาได้ไปเที่ยวกันที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ก่อนจะไปเขาก็ตัดสินใจยืมกล้อง GoPro ของ Mark ลูกชายของเขาติดตัวไปด้วย แต่แล้วเรื่องราวฮาๆ ก็ได้เกิดขึ้น เมื่อคุณพ่อคนนี้กลับถือกล้องผิดด้านแทบตลอดทั้งทริป จากที่เขาต้องการจะเก็บภาพบรรยากาศวิวทิวทัศน์อันสวยงามระหว่างการเดินทาง มันกลายเป็นการถ่ายภาพเซลฟี่ของตัวเองแทนซะอย่างนั้น คุณพ่อถ่ายหน้าตัวเองทำไมเนี่ย!? เขาถ่ายทุกอย่างในโหมดวิดีโอ ทำให้เราได้เห็นใบหน้า รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของเขาแทบทุกคลิป แต่เรารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ? นั่นก็เพราะคลิปแรกสุดเขาก็พูดออกมาแล้วว่า “ตอนนี้เราอยู่ที่เนเธอร์แลนด์แล้ว เห็นถึงความแตกต่างกันเลยมั้ยล่ะ” จะเห็นความแตกต่างได้ยังไงในเมื่อเห็นแต่หน้าคุณพ่อเกือบทั้งทริป!? ด้วยความที่เขายังคงงงว่าปุ่มของกล้องมันควรต้องอยู่ทิศทางไหน จึงทำให้คลิปที่สองที่เขาถ่าย ภาพที่เราเห็นก็ยังคงเป็นหน้าของชายคนนี้อีกเหมือนเดิม ในส่วนนี้เขาต้องการอวดเส้นทางรถไฟ Great European ให้ประจักษ์แก่สายตาทุกคน หากแต่ว่าคงไม่มีใครได้เห็นอย่างที่เขาเห็นแน่นอน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะถ่ายกลับด้านตลอด เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาควักกล้องมาถ่ายเครื่องบินในด้านที่ถูกต้อง ทำให้เราได้เห็นเครื่องบินบินผ่านไปจริงๆ หลังจากที่เฝ้ารอจะชมวิวกันมานาน แต่สุดท้ายพอเริ่มคลิปใหม่ ก็กลายเป็นหน้าของเขาเหมือนเดิม…
-
อดีตประธานบริษัท Komatsu จัดงานเลี้ยง ‘ปิดฉากชีวิต’ ของตัวเอง หลังจากรู้ว่าอยู่ได้อีกไม่นาน
หากเรารู้ว่าเราเหลือเวลาใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน เราจะทำอย่างไรกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่นั้น บางคนอาจเศร้าโศกเสียใจอยู่กับคนในครอบครัว บางคนอาจออกไปเที่ยวรอบโลก หรือบางคนอาจจัดงานเลี้ยงฉลองให้ยิ่งใหญ่เหมือนกับเขาคนนี้ Satoru Anzaki ชาวญี่ปุ่นวัย 80 ปี อดีตประธานบริษัทเครื่องจักร Komatsu ได้จัดงานเลี้ยงอำลาชีวิตของตัวเองในวันที่ 11 ธันวาคม 2017 บนโรงแรมโตเกียว หลังจากที่เขารู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานหลังจากนี้ ในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนั้น แพทย์บอกกับเขาว่า มีการตรวจพบมะเร็งถุงน้ำดีระยะสุดท้าย แต่ Satoru เลือกที่จะไม่เข้ารับการรักษา เพื่อรักษาคุณภาพของชีวิตของตัวเองให้ดีที่สุด มีความสุขกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ Satoru อดีตประธานบริษัทเครื่องจักร Komatsu ต่อมาเดือนพฤศจิกายน ได้มีการประกาศเรื่องของงานเลี้ยงดังกล่าวลงในหนังสือพิมพ์ จนทำให้มีการพูดถึงกันเป็นวงกว้าง หลายคนชื่นชมในความกล้าที่จะเผชิญหน้าความตาย บางส่วนก็อยากให้ตัวเองได้รับเชิญไปร่วมงานฉลองนี้ จนกระทั่งในวันเลี้ยงฉลองมาถึง แขกกว่า 1,000 คนที่ได้รับเชิญต่างเดินทางมาร่วมงาน มีทั้งเพื่อนคนสนิทในปัจจุบัน เพื่อนเก่าร่วมชั้นในวัยเด็ก คู่ค้าและหุ้นส่วนทางธุรกิจ รวมถึงพนักงานบริษัทในสังกัด Komatsu ภายในงานถูกตกแต่งไปด้วยสิ่งของแห่งความทรงจำของชายคนนี้ อีกทั้งเขายังจ้างนักเต้นรำสไตล์ดั้งเดิมจากบ้านเกิดของเขาในจังหวัดโทคุชิมะ เข้ามาสร้างสีสันและความบันเทิงให้กับแขกทุกคนในงาน Satoru พยายามเดินทักทายและจับมือกับแขกทุกคนที่มาร่วมงาน เขายังคงยิ้มอย่างสดใสร่าเริง ไม่แสดงอาการเศร้าโศกใดๆ ทั้งสิ้น…
-
ส่องไอจีที่รวบรวม ‘นาฬิกาข้อมือ’ ของเหล่าเซเลบคนดัง แต่ละคนจะใส่รุ่นอะไรกันบ้างนะ!?
สืบเนื่องมาจากภาพของหนึ่งในทั่นผู้นำของประเทศละแวกบ้านเราสวมนาฬิกาหรูแบรนด์ไฮเอนด์ที่มีราคาเหยียบหลักล้าน!! ก็เลยทำให้โลกโซเชียลหันมาให้ความสำคัญกับ ‘นาฬิกาข้อมือ’ จนกลายเป็นการเปิดหูเปิดตาจนทำให้รู้ว่าโลกของเรานั้นยังมีนาฬิกาแพงๆ อีกมากมายหลายรุ่นไม่ใช่เฉพาะแค่ Rolex เท่านั้น และล่าสุดก็ได้มีแอคเคาท์อินสตาแกรมชื่อว่า thaicelebwatchspotter เกิดขึ้นมา เป็นอินสตาแกรมที่รวบรวมนาฬิกาของเหล่าคนดังในประเทศไทย แถมระบุชื่อรุ่นและราคาไว้ให้เสร็จสรรพ ซึ่งแอคเคาท์นี้ได้เริ่มโพสต์รูปภาพแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง แต่ผ่านไปแวบเดียวก็มีผู้ติดตามมากกว่า 2,100 คนแล้ว!! เราไปชมกันเลยดีกว่าว่าคนดังในบ้านเราแต่ละคนจะสวมใส่นาฬิกายี่ห้อไหนกันบ้าง และจะมีราคาเท่าไหร่กัน… 1. อั้ม พัชราภา Patek Philippe 175th Anniversary Collection World Time Moon 7175r-001 ราคาประมาณ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.2 ล้านบาท) 2. เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ Hublot MP-05 LaFerrari ราคาประมาณ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.7 ล้านบาท) 3. เฉลิม อยู่บำรุง Patek Philippe 6102p Celestial…
-
โฆษณารองเท้า ของจีนทำ “เส้นผม” มาติดบังรองเท้า เพื่อให้คนปัดขึ้นเข้าหน้าซื้อ โคตรล้ำ!!
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก เมื่อมีบริษัทขายรองเท้าแห่งหนึ่งในจีนทำโฆษณาสุดกวนโอ๊ยออกมา หลอกตาผู้บริโภคมากมายให้กดเข้าไปดูสินค้าลดราคา ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไง โฆษณาชิ้นนี้เป็นของบริษัทรองเท้า Kaiwei Ni ที่ต้องการให้คนกดเข้ามาดูรองเท้าลดราคาของตน พวกเขาจึงคิดกลอุบายลวงตาขึ้นมาในโฆษณาชิ้นนี้ นั่นก็คือการวาดเส้นผมปลอมหนึ่งเส้นติดเข้าไปในตัวโฆษณาด้วย แล้วเผยแพร่โฆษณาชิ้นในลงบนอินสตาแกรม ซึ่งคนที่ใช้มือถือทุกคนที่เห็นโฆษณาตัวนี้ ก็จะคิดว่ามีเส้นผมติดอยู่บนหน้าจอของพวกเขา และวิธีจัดการกับเส้นผมง่ายๆ ก็คือปัดมันให้พ้นจากหน้าจอโทรศัพท์แค่นั้นเอง แต่เมื่อทำการปัดเส้นผมปลอมไปแล้ว กลับกลายเป็นว่าตนเองโดนหลอกให้เปิดเข้าดูโฆษณาซะงั้น ผู้ใช้งานอินสตาแกรมคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Blake Robbins ก็หลงกลกับลูกเล่นของโฆษณาตัวนี้เช่นกัน จึงได้นำโฆษณาตัวนี้ไปแชร์เตือนภัยชาวเน็ตใน ทวิตเตอร์ของเขา ทวีตของ Blake Robbins ตัวโฆษณาถูกวิจารณ์ไปต่างๆ นานา บางส่วนก็ชื่นชมตัวโฆษณาว่าทำมาได้ดีทีเดียว เพราะว่าทั้งดึงดูดความสนใจของคน และยังมีลูกเล่นแปลกๆ ให้คนกดเข้าไปดูโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย นอกจากนี้ยังคิดว่าคนที่คิดโฆษณานี้มีความคิดล้ำหน้าไม่เบาเลย แต่อีกส่วนก็รู้สึกหัวร้อนกับโฆษณา เพราะพวกเขาไม่ได้อยากกดเข้าไปดูโฆษณาสักหน่อย แต่โดนหลอกให้กดเข้าไปต่างหาก ทำให้พวกเขาเสียเวลามานั่งดูอะไรที่พวกเขาไม่ต้องการ ซึ่งการกระทำแบบนี้เหมือนการหลอกลวงผู้บริโภคอยู่เนืองๆ นั่นเอง ทวีตนี้มีคนให้ความสนใจมากมาย และถูกแชร์ไปกว่า 2,000 ครั้ง จนในที่สุดก็ไปผ่านตาถึงอิสตาแกรมของบริษัท Kaiwei Ni เข้าจนได้ ทางบริษัทจึงก็ได้เข้าไปตอบในทวีตนั้นว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องโฆษณาตัวนี้นะ เพราะว่ามันถูกสั่งถอดถอนออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางบริษัทยังถูกสั่งห้ามโพสต์โฆษณาอื่นใด…
-
ครอบครัวของนางงามอิรักถูกขับไล่ออกจากประเทศ หลังเจ้าตัวไปถ่ายเซลฟี่คู่กับมิสอิสราเอล!!
ภาพถ่าย คือสิ่งของที่เก็บรวบรวมความทรงจำต่างๆ เอาไว้ในนั้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนความทรงจำให้แก่เราว่า ครั้งหนึ่งเราก็เคยมีหน้าตาเช่นนี้ และเคยทำกิจกรรมอะไรเช่นนี้ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งของแห่งความทรงจำชิ้นนี้ จะทำให้ครอบครัวหนึ่งโดนไล่ออกจากประเทศไปเลย.. โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนางงามประเทศอิรักชื่อว่า Sarah Idan เพราะว่าเธอไปถ่ายรูปกับนางงามจากประเทศอิสราเอลชื่อว่า Adar Gandelsman เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ระหว่างการประกวดนางงามจักรวาลที่เมืองลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอได้โพสต์รูปดังกล่าวลงในอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ โดยมีแคปชั่นที่ไปในทางที่ว่า ‘เพื่อความสงบสุขและความรัก’ และภาพนั้นก็ได้ก่อให้เกิดผลร้ายที่ตามมาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะว่าภาพนั้นได้ทำให้ชาวอิรักจำนวนมากรู้สึกโกรธ และก็มีผู้คนหลายคนอยากจะขับไล่ครอบครัวของเธอให้ออกไปจากประเทศอิรัก “ประชาชนหลายคนในประเทศอิรักขู่ว่า หากฉันยังไม่ลบภาพดังกล่าวออก พวกเขาจะใช้ความรุนแรงต่อฉันกับครอบครัวของฉัน และความรุนแรงที่ว่านี้ก็อันตรายจนถึงชีวิตเลย” “เพื่อความปลอดภัย ในตอนนี้ครอบครัวของฉันก็ออกจากอิรักแล้ว และจะอยู่ต่างประเทศจนกว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะสงบลง” Sarah กล่าว ภาพในอินสตาแกรมดังกล่าวของเธอมีผู้กดไลก์มากกว่า 3,600 คน แต่ก็มีคอมเมนต์เข้ามาจำนวนมากซึ่งก็มีทั้งในแง่ลบและแง่บวก โดยความเห็นในแง่ลบส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความขัดแย้งที่ทั้งสองประเทศมีต่อกันรวมถึงเรื่องของสงครามศาสนา เพราะว่าประเทศอิรักเป็นประเทศอิสลาม และอิสราเอลเป็นประเทศศาสนายิว “ในตอนนั้น Adar ถามฉันว่าอยากถ่ายรูปด้วยกันไหม ฉันก็บอกว่าได้สิไม่มีปัญหา เพราะว่าพวกเราต่างก็มีจุดมุ่งหมายคือความสันติสุขร่วมกัน และอยากจะส่งข้อความดังกล่าวออกไปในรูปภาพนี้” Idan กล่าว นี่ไม่ใช่กรณีแรกที่ภาพถ่ายของนางงามได้ก่อให้เกิดการพาดพิงเกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ในปี 2014 ก็มีนางงามจากประเทศอิสราเอลถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ เมื่อเธอไปถ่ายรูปคู่กับนางงามตัวแทนจากประเทศเลบานอน นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าประเทศแถบอาหรับส่วนใหญ่ ยังคงตั้งแง่อยู่กับประเทศที่นับถือศาสนายิวอย่างอิสราเอล…
-
สาวมะกันใช้ ‘เจลทาคิ้ว’ แบรนด์เกาหลี แต่ดันลอกไม่ออก แถมแข็งเป็นยางมะตอยเลย…
เรื่องเฟลๆ ของการแต่งหน้าเป็นเรื่องที่เกิดได้บ่อยๆ กับผู้หญิง เช่นเดียวกับสาว Charlotte Knight เธอได้เผยภาพเหตุการณ์สุดเศร้า ที่เธอไม่สามารถลอกเจลเขียนคิ้วออกได้เหมือนกับที่แบรนด์เครื่องสำอางโฆษณาไว้ โดยผลิตภัณฑ์ที่เธอใช้คือ “Tint My Brows Peel Off Gel” ทินท์สำหรับทาคิ้วแบบเจลของแบรนด์ดังจากเกาหลีอย่าง Etude House เธอซื้อมาในราคาเพียง 170 บาท ที่ลดราคาจาก 560 บาท จากเว็บไซต์ eBay คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เขียนไว้ ก็ได้บอกว่าให้ทาทินท์ลงไปบนคิ้วเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหรือถ้าอยากได้สีเข้มขึ้นนั้น สามารถทาทิ้งไว้ข้ามคืนได้เลย แต่หลังจากนั้นเพียง 2 ชั่วโมง Charlotte ก็ได้บอกว่าทินท์ทาคิ้วนั้นมันแห้งและแข็งเป็นหิน แถมยังมีดำเป็นยางมะตอยเลยทีเดียว!!! เธอใช้เวลาขัดๆ ถูๆ คิ้วเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง จนมีขนคิ้วบางส่วนหลุดออกไป จนเธอนึกว่าตัวเองอยู่ในฝันร้ายเลยทีเดียว “ฉันทามันทิ้งไว้กว่าสองชั่วโมง แล้วมันก็เริ่มแข็งและติดแน่นอย่างกับยางมะตอย ฉันร้องไห้และพยายามที่จะลอกมันออก ฉันกลัวว่าขนคิ้วของฉันจะหลุดออกไปจนหมดจริงๆ” เธอเคยคิดว่าผลิตภัณฑ์ที่เธอซื้อมานั้นเป็นของจริง แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เธอก็เริ่มเอะใจแล้วว่า ของปลอมแน่ๆ “ครอบครัวของฉันตกกะใจและถามฉันว่าทำไมถึงใช้มันเนี่ย!!! ในขณะที่เพื่อนของฉันก็ยืนหัวเราะคิกๆ คักๆ…
-
17 หญิงสาวที่ไม่ได้ “งดงาม” ตามค่านิยม แต่เธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเธอก็เป็นนางแบบได้!!
ความสวยในความหมายของแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง?? บางคนอาจจะชอบผิวขาว บางคนอาจจะต้องมีจมูกเป็นสัน แต่กับผู้หญิงเหล่านี้ พวกเธอไม่เคยแคร์คำพูดที่มาต่อว่ารูปลักษณ์ของพวกเธอเลย เพราะพวกเธอภูมิใจและมั่นใจในความเป็นตัวเองแบบสุดๆ จึงไม่แปลกเลยที่จะเห็นสาวๆ เหล่านี้โลดแล่นอยู่ในสื่อต่างๆ มากมาย โดยพวกเธอได้ทำลายกำแพงของความสวยให้หมดไป แล้วสร้างสิ่งที่เรียก “ความมั่นใจ” ขึ้นมาแทนที่ ซึ่งเมื่อมองดูแล้ว พวกเธอก็ดูมีเสน่ห์แบบสุดๆ ไปเลยล่ะ 1. Ilka Brühl เธอเกิดมาพร้อมโรค Ectodermal Dysplasia หรือโรคสังข์ทอง แต่อย่างไรก็ตามความผิดปกติทางพันธุกรรมนี้ ก็ไม่สามารถทำลายจิตใจของเธอได้ เธอบอกว่าภารกิจของเธอคือการบอกผู้หญิงบนโลกว่า “พวกเธอทุกคนนั้นสวยงามเสมอ” . 2. Sophia Hadjipanteli Sophia เป็นนางแบบจากประเทศ Cyprus เรามักจะเห็นภาพของเธออยู่บนสื่อสังคมออนไลน์มากมาย เธอได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการดีไซเนอร์ เรียกได้ว่าเธอเปลี่ยนมาตรฐานความงามแบบเดิมไปเลย . . 3. Swantje Paulina Swantje ไม่เคยพยายามที่จะปกปิดกระของเธอ เธอภูมิใจที่แม่เธอให้มา และเธอมีแฟนคลับกว่า 2 แสนคนในอินสตาแกรม . 4. Dru Presta Dru Presta มีความสูงเพียง 100 เซนติเมตร นางแบบชาวอเมริกันวัย 21…
-
นักบินขับเครื่องบินในเยอรมนี วาดเป็นรูป “ต้นคริสต์มาส” เป็นของขวัญให้ทุกคนส่งท้ายปี
ธุรกิจการบินในทุกวันนี้เป็นเรื่องใกล้ตัว ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นระบบขนส่งสาธารณะลำดับต้นๆ ในใจของใครหลายคนเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่าเมื่อเทศกาลสำคัญใกล้จะมาถึง สายการบินต่างๆ จึงอยากจะคืนความสุขให้แก่ประชาชนที่เลือกใช้บริการ รวมถึงบริษัทผลิตเครื่องบินชื่อว่า Airbus ก็มาร่วมส่งความสุขส่งท้ายปีเช่นเดียวกัน การบินส่งความสุขของเครื่องบินลำนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยบริษัท Airbus ผู้ผลิตเครื่องบินชื่อก้องโลกอยากที่จะทดสอบเครื่องบินของตนก่อนจะนำไปใช้จริง จึงมีการทดสอบการบินเกิดขึ้นที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี แต่ถ้าจะบินทดสอบเฉยๆ ก็จะเป็นการเปลืองน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์ พวกเขาเลยจัดเส้นทางการบินให้กลายเป็นรูปต้นคริสต์มาสซะเลย โดยเครื่องบินที่ใช้สำหรับทดสอบคือเครื่องบินรุ่น Airbus A380 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องบินพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ เส้นทางการบินของเครื่องบินลำนี้ก็คือเริ่มเดินทางออกจากเมืองฮัมบูร์กซึ่งอยู่ทางเหนือของประเทศเยอรมัน และมุ่งหน้าลงทางใต้เพื่อวาดภาพต้นไม้ที่ครอบคลุมประเทศเยอรมันทั้งหมด จากนั้นบินขึ้นสู่ทางเหนืออีกครั้งเพื่อวาดยอดของต้นไม้ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของประเทศเดนมาร์กนั่นเอง ต่อมาโฆษกของบริษัท Airbus ได้ออกมาให้สัมภาษณ์โดยเขาบอกว่าเที่ยวบินนี้กินเวลาถึง 5 ชั่วโมง 22 นาที ซึ่งถือว่า เป็นเวลาที่ปกติสำหรับการทดสอบบินภายในประเทศของเครื่องบินโดยสารลำใหญ่ที่สุดในโลก เส้นทางการบินของเครื่องบินลำนี้แบบเต็มๆ “การกำหนดเส้นทางการบินของไฟลท์นี้สามารถยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ เครื่องบินลำนี้ขึ้นบินและลงจอดในสนามบินของ Airbus ในเมืองฮัมบูร์ก ซึ่งมีไว้สำหรับการทดสอบเครื่องบินต่างๆ” “ต้องขอขอบคุณความร่วมมือจากศูนย์ควบคุมการบิน ที่ทำให้เส้นทางการบินวาดภาพต้นคริสต์มาสออกมาเป็นจริงได้ จริงๆ แล้วนี่เป็นไอเดียของนักบินที่ขับเครื่องทดสอบรวมถึงวิศวกรที่อยู่ในลำนั้น และนี่คือคำทักทายจาก Airbus ถึงแฟนๆ…
-
เพื่อนๆ ร่วมดีใจสุดขีด หลังหนุ่มน้อยวัย 16 ปี สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาวาร์ดได้
หากเราอดทนทำเรื่องยากสักอย่างให้ประสบความสำเร็จ เมื่อเราสมหวังแล้วย่อมรู้สึกปลื้มปีติจนไม่สามารถอธิบายได้ว่ารู้สึกดีใจขนาดไหน เหมือนกับเด็กคนนี้ที่ก้าวผ่านอุปสรรคจนพิชิตเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ เขาคงไม่สามารถบอกได้หรอกว่าดีใจมากแค่ไหน แต่ดูจากน้ำเสียงและท่าทางแล้ว คงรู้สึกยินดีสุดๆ ไปเลย Ayrton Little และแม่ Maureen Little Ayrton Little เป็นนักเรียนจากโรงเรียนเอกชน TM Landry College Prep ในเมือง Opelousas รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีความฝันที่อยากจะเข้าเรียนใน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มาตั้งแต่เด็ก เขาจึงตั้งใจเรียนหนังสือและอ่านหนังสืออย่างหนัก จนเขาสามารถข้ามชั้นเรียนมาได้ และมีสิทธิ์ไปสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ตอนอายุเพียงแค่ 16 ปี เมื่อถึงวันประกาศผลสอบ เพื่อนๆ ในชั้นเรียนของเขาจึงมานั่งเป็นกำลังให้เขาด้วย ตัว Ayrton เองตื่นเต้นมากว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และตอนที่เขาเลื่อนไปถึงส่วนที่แจ้งว่าเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้แล้ว คนทั้งห้องก็ร้องลั่นด้วยความยินดีทันที เพื่อนๆ ทุกคนร่วมกันแสดงความยินดีกับเขาพร้อมทั้งตะโกนว่า “three-peat” เพื่อฉลองที่มีนักเรียนในโรงเรียนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว . Ayrton ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมบอกไม่ถูกว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง แต่มันรู้สึกสุดยอดโคตรๆ…
-
จากคลิปสามีเกาหลีลดน้ำหนักเพื่อภรรยา ทั้งสองกลับโดนคอมเมนต์ต่อว่าจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2017 #เหมียวมู่ทู่ เคยนำเสนอเรื่องราวของ Hugh Gwon หนุ่มเกาหลีผู้เปลี่ยนแปลงตัวเอง พยายามลดน้ำหนักเพื่อเป็นกำลังใจให้ภรรยา Nicholas สาวชาวออสเตรเลียที่ประสบปัญหาการมีลูกยาก (อ่านข่าวเก่าได้ที่ สามีตัดสินใจลดน้ำหนักจนมีซิกแพ็ค เพื่อให้กำลังใจภรรยา ในช่วง ‘ภาวะมีบุตรยาก’) จากการออกกำลังกายและควบคุมอาหารของเขา ทำให้สามารถลดน้ำหนักลงไปได้มากถึง 22 กิโลกรัม ในระยะเวลา 23 สัปดาห์ และภรรยาก็ตั้งท้องได้สำเร็จด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว จากความพยายามของเขา ทำให้เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ เขาและภรรยารู้สึกยินดีกับผลลัพธ์ในครั้งนี้มาก ฟิตเปรี๊ยะ จำแทบไม่ได้เลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้มีเพียงเรื่องราวดีๆ เท่านั้น เพราะหลังจากที่ทั้งคู่โพสต์คลิปความพยายามและการประสบความสำเร็จของนาย Hugh ลงในโลกโซเชียล จนทำให้ชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ในหลากหลายแง่มุม ทำให้ทั้งสองต้องเจอการโจมตีในแง่ลบจากหลายๆ ความคิดเห็น คลิปความพยายามและการเปลี่ยนแปลงของหนุ่มเกาหลีคนนี้ คอมเมนต์จากชาวเน็ตที่เข้ามาโจมตีพวกเขาในหลายๆ เรื่อง.. เมื่อ Hugh ลดน้ำหนักแล้ว นี่คงถึงตาของคุณภรรยาแล้วแหละ . ชาวเน็ตคนนี้เข้ามาบอกว่า Nicholas ดูอ้วนมากๆ และมองว่านี่คือการกดขี่เรื่องเพศที่เหมือนบังคับให้ผู้ชายต้องมาออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ผู้หญิงที่อ้วนเหมือนกันกลับไม่ต้องทำอะไร …
-
ชายหนุ่มกอดให้กำลังใจเจ้าหมาลาบาดอร์ของเขา ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดเนื้องอกใต้หูออก…..
ในวันที่คุณท้อแท้ ในวันที่คุณเหนื่อยล้า หรือในวันที่คุณรู้สึกเจ็บปวด คงไม่มีการปลอบใจไหนที่ทำให้คุณรู้สึกดีไปกว่าการกอดอีกแล้ว ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงกอดให้กำลังใจเจ้าหมาของเขา หลังจากที่มันเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้องอกเสร็จ ทำเอาหลายคนมีน้ำใสๆ รินไหลออกมาจากตาโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ใน Reddit เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถ่ายภายในบ้านหลังหนึ่งที่เมือง Chennai ประเทศอินเดีย ในคลิปเผยให้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังกอดเจ้าหมา Jack Daniel ด้วยความรัก เพื่อให้กำลังใจมันหลังจากที่มันเพิิ่งผ่านการผ่าตัดเอาเนื้องอกใต้หูขวาออก ชายหนุ่มรู้ว่าก่อนหน้านี้ Jack คงจะเจ็บและกลัวมาก แต่มันก็ผ่านมาจนได้ ดังนั้นสิ่งที่เขาจะทำเพื่อปลอบใจมันได้คือการกอดมันด้วยความรัก ส่วนเจ้าหมาเองดูเหมือนการกอดคือสิ่งเดียวที่มันต้องการมากที่สุดในขณะนี้ มันจึงอยู่นิ่งในอ้อมกอดเจ้าของและวางคางไว้บนไหล่ของเขา ใบหน้าของ Jack เหมือนมีคำถามว่า “มันจบแล้วใช่มั้ย? เราจะไม่กลับไปที่นั่นแล้วใช่มั้ย?”…. ชายหนุ่มเองบอกกับมันว่า “ใช่แล้วเพื่อนรัก มันจบแล้ว ฉันขอโทษที่ให้นายเผชิญความเจ็บปวดนั้น แต่ต่อไปนี้ฉันสัญญาว่าจะอยู่ข้างนายและจะคอยดูแลนายเป็นอย่างดี” ที่มา inspiremore
-
ภาพการ์ตูน ‘ความรัก’ จากกิจวัตรประจำวัน ที่คนเรามักจะทำ เมื่ออยู่ในที่ลับตาคน…
ความรักมักจะซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เล็กๆ และช่วงเวลาอันเงียบสงบ อย่างเช่นการนอนเล่นบนเตียงหลังผ่านวันที่แสนยาวนาน นั่งดูทีวี หรือแม้แต่การบีบสิวให้กันและกัน ด้วยเหตุนี้ ศิลปิน Amanda Oleander จึงได้นำเสนอช่วงเวลาเหล่านั้นด้วยภาพประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจความสัมพันธ์ของเธอกับแฟน ความสัมพันธ์กับครอบครัว และความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิท Oleander บอกว่า “ทุกสถานการณ์เหล่านี้คือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน กับครอบครัวของฉัน และเพื่อนๆ เมื่อฟังพวกเขาเล่าให้ฟัง ฉันจะจดไว้อย่างรวดเร็วกันลืม” ฉันมักจะร้องไห้ในช่วงเวลานั้นของเดือน ซึ่งบางทีฉันก็สับสนว่ามันเป็นเพราะความเศร้าจริงๆ หรือเป็นเพราะฮอร์โมนเปลี่ยน แล้วสุดท้ายฉันก็รู้ว่ามันเป็นเพราะฮอร์โมน และอาการแบบนี้มักจะเกิดหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ประจำเดือนจะมา นี่คือภาพพี่สาวของฉันและแฟนของเธอ พี่สาวฉันไม่ชอบโกนหรือถอนขนตามร่างกายและแฟนของเธอก็ชอบที่เธอเป็นแบบนั้น คือฉันอยากบอกว่าคุณควรจะคบกับคนที่รับทุกอย่างที่เป็นคุณได้เพื่อความสัมพันธ์ที่ราบรื่นและยาวนาน คุณมีหนังสือที่ช่วยในการเปลี่ยนแปลงชีิวิตให้ดีขึ้นมั้ย? สำหรับฉันมีอยู่ 3 เล่ม คือ The Secret (ความลับ), The Seven Minute Solution (วิธีแก้ปัญหาภายใน 7 นาที) และ The Art of Tidying Up (ศิลปะในการจัดเก็บ) ฉันเติบโตมาในรัฐฟลอริด้า…
-
ช่างภาพญี่ปุ่นถ่ายทอดชีวิต ‘เด็กแฝด’ แห่งไอซ์แลนด์ทุกปี เผยให้การเปลี่ยนแปลงที่แสนงดงาม
เด็กฝาแฝดบางคู่เนี่ยช่างมีความน่าสนใจอย่างบอกไม่ถูก พวกเขามีบางอย่างที่น่าค้นหาจนคุณอดใจไม่ไหวที่จะทำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้น เหมือนกับเด็กสาวฝาแฝดคู่นี้ที่ดูเตะตาช่างภาพชาวญี่ปุ่น Ariko Inaoka เป็นอย่างมาก จนเธอต้องกลับมาถ่ายภาพทั้งคนทุกปีเพื่อดูพัฒนาการของพวกเธอ ฝาแฝดคู่นี้คือ Erna และ Hrefna จากเมือง Reykjavik ประเทศไอซ์แลนด์ พวกเขาเป็นเด็กสาวที่มีเสน่ห์ น่าค้นหา และมีความลึกลับอย่างบอกไม่ถูก ทั้งคู่ดูน่าสนใจขึ้นไปอีก เมื่อช่างภาพ Ariko ทำให้ภาพของพวกเขาดูสงบเยือกเย็นที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนท่ามกลางหมอกจางๆ สำหรับช่างภาพ Ariko นั้น เธอเกิดในประเทศญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันเป็นชาวนิวยอร์ก ครั้งหนึ่งเธอเดินทางไปยังไอซ์แลนด์เพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ เพราะที่นั่นทำให้เธอนึกถึงบ้านเกิดที่โตเกียว ขณะที่อยู่ในไอซ์แลนด์ Ariko ก็คิดขึ้นได้ว่าจะทำภาพแคตตาล็อกแฟชั่นที่นั่น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เพื่อนของเธอไปเจอเด็กสาวฝาแฝดกำลังเล่นอยู่ในสระน้ำ เธอจึงได้เชิญทั้งคนมาแคสติ้งสำหรับภาพแคตตาล็อกชุดนี้ แม้ว่าตอนนั้น Erna และ Hrefna จะอายุแค่ 6 ขวบเท่านั้น แต่ทั้งคู่มีความงดงามโดยทำธรรมชาติและผ่านการแคสต์ตั้งแต่ครั้งแรก จนได้ถ่ายภาพแคตตาล็อกแฟชั่นในครั้งนั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ Ariko ก็เดินทางกลับบ้านตัวเอง แต่เธอหยุดคิดถึงสองสาว Erna และ Hrefna ไม่ได้เลย เพราะสำหรับเธอแล้ว ทั้งสองเปรียบเสมือนศูนย์รวมความงดงามของไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้ ต่อมาในปี 2009 ขณะที่เด็กสาวฝาแฝดอายุ 9 ขวบ Ariko ได้เดินทางไปยังเมือง Reykjavik เพื่อถ่ายรูปทั้งสองคนอีกครั้ง…
-
พบ ‘ซากคล้ายไดโนเสาร์’ ในอินเดีย ที่ยังมีชิ้นเนื้อติดอยู่ คาดเป็นหลักฐานทางโบราณคดีชิ้นสำคัญ
ไดโนเสาร์คือสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธู์ไปเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว การศึกษาเกี่ยวกับพวกมันจึงหาข้อมูลได้ยาก ที่ผ่านมานั้นนักวิทยาศาสตร์ได้เพียงแต่ศึกษาข้อมูลของพวกมัน ผ่านทางเศษกระดูก รอยเท้า และฟอสซิลที่พบเท่านั้น แต่ล่าสุด มีการค้นพบซากสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ และถ้ามันเป็นซากไดโนเสาร์จริงๆ ละก็ มันจะกลายเป็นข้อมูลชิ้นสำคัญที่ทำให้เราได้ศึกษาไดโนเสาร์ได้ลึกซึ้งมากขึ้น เพราะซากชิ้นส่วนนี้มีความพิเศษไม่เหมือนกับสิ่งที่เคยพบมาก่อนนั่นเอง ซากลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบ ซากรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ที่ว่านี้ถูกค้นพบโดยบังเอิญ เมื่อมีช่างไฟฟ้าคนหนึ่งเข้าไปทำงานที่สถานีรถไฟใต้ดินร้างที่ถูกปล่อยทิ้งไว้กว่า 35 ปี ในเมืองแจสเพอ รัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย แต่มันมีความพิเศษกว่าซากหรือฟอสซิลอื่นๆ ที่เคยพบมา เนื่องจากซากชิ้นนี้ ยังมีชิ้นเนื้อของสิ่งมีชีวิตติดมากับกระดูกที่มีรูปร่างค่อนข้างสมบูรณ์ด้วย นักวิทยาศาสตร์ต่างตื่นเต้นกันมากที่พบซากในลักษณะนี้ ขณะนี้ซากที่พบก็ถูกส่งไปยัง Kamuan University แล้ว เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านฟอสซิล Dr.Bahadur Kotlia ได้ทำการวิเคราะห์ จะได้รู้กันว่ามันเป็นไดโนเสาร์จริงหรือไม่ แล้วมันมีจากยุคใด ซากไดโนเสาร์นั้นมีความยาวประมาณ 28 เซนติเมตร จึงอาจจะตีความได้ว่ามันเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งระหว่าง Deinonychus, Coelophysis และ Dromaeosarus ซึ่งทั้งสามสายพันธุ์นี้เป็นไดโนเสาร์พันธุ์เล็ก จัดเป็นไดโนเสาร์ในกลุ่ม Theropod ซึ่งเป็นกลุ่มสายพันธุ์เดียวกับไดโนเสาร์ T Rex นั่นเอง อย่างไรก็ตามนักอนุรักษ์…
-
ตาแทบหลุดจากเบ้า!! สาวโพสต์ภาพให้ชาวเน็ตช่วยหาแมวที่หายังไงก็ไม่เจอสักที…..
หากจะพูดถึงสัตว์แสนซนที่เอาแต่ใจตัวเอง บนโลกนี้คงไม่น่าจะอะไรเกินไปกว่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แมว’ อีกแล้ว เพราะบางทีเราเรียกมันก็มันก็ไม่ยอมมา บางทีเทข้าวให้ก็ไม่ยอมกิน และบางทีมันก็หายไปดื้อๆ เลยซะอย่างงั้น ทว่ากลับมีแมวบางตัวที่มีนิสัยแปลกๆ อย่างแมวตัวนี้ที่ชอบเล่นซ่อนแอบกับเจ้าของเสมอ และล่าสุดพวกเขาก็ได้ถ่ายรูปให้ชาวเน็ตร่วมเล่นด้วยการช่วยหาแมวตัวนี้ให้หน่อยว่ามันอยู่ตรงไหนของภาพกันนะ ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ใช้ชื่อยูสเซอร์ว่า Grace Spelman ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของแมวของเธอที่ชื่อว่า Pierogi โดยเธอบอกว่าแมวของเธอชอบที่จะเล่นซ่อนแอบกับเธอตลอดเวลา และดูเหมือนว่ามันจะทำได้ดีแทบจะทุกครั้งซะด้วย Pierogi แมวแสนซนที่มักชอบเล่นซ่อนแอบเสมอ Grace ได้โพสต์ภาพห้องห้องหนึ่งในบ้านของเธอโดยเธอได้ใส่แคปชั่นเอาไว้ว่า “พรุ่งนี้ก็เป็นวันทำความสะอาดแล้ว และในตอนนี้ราชินีแห่งกองขยะ Pierogi ก็ซ่อนอยู่ในภาพนี้ด้วย” ภาพที่ Grace ได้โพสต์ลงในโลกโซเชียล ในเวลาเพียงแค่ 2-3 วันรูปภาพที่เธอโพสต์ภาพนี้ลงไปก็มีคนมากดไลค์ให้เกือบ 700 คนและก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครหาแมวให้เธอพบเลยแม้แต่คนเดียว และนั่นได้สร้างความคาใจให้แก่ชาวเน็ตอย่างมากมายที่อาจจะงงว่าทำไมหาเจ้า Pierogi ไม่พบซักที เดือดร้อนจนถึง Grace ต้องออกมาบอกถึงคำใบ้ที่อาจเป็นกุญแจในการไขปริศนานี้แก่ชาวเน็ตได้ โดยเธอได้ออกมาบอกว่า “ลองเพิ่มแสงจอให้สว่างขึ้น แล้วจะพบว่าคำใบ้นี้บอกที่ซ่อนของ Pierogi แล้ว” คำใบ้ที่ Grace ได้ออกมาบอกทำให้ชาวเน็ตรู้สึกสนุกขึ้น แต่ก็ดูเหมือนกับว่ายังไม่มีใครหาเจอซักที เธอจึงออกมาบอกคำใบ้เพิ่มเติม ด้วยการแบ่งภาพออกมาเป็นสองส่วนแล้วยังบอกด้วยว่าแมวของเธออยู่ในส่วนที่สองของภาพนี้ อยู่ในส่วนที่สองนะจ๊ะ…
-
นักวิทย์ค้นพบ ‘ฉลามกรีนแลนด์’ ที่มีอายุ 392 ปี คาดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดในโลก!!
ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าตัวเองแก่ มาตอนนี้คุณคงต้องย้อนกลับมาคิดใหม่แล้วล่ะ เพราะว่าล่าสุดทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบฉลามที่มีอายุยืนถึง 392 ปี และคาดว่ามันนี่แหละคือสัตว์ที่อายุยืนที่สุด! การค้นพบดังกล่าวนั้น ถูกค้นพบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Copenhagen และจากมหาวิทยาลัย Oxford ซึ่งพวกเขาได้ใช้วิธีจากการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีจากฉลามกรีนแลนด์จำนวน 28 ตัว ผลที่ได้คือหนึ่งใน 28 ตัว มีฉลามตัวหนึ่งถูกค้นพบว่ามีอายุถึง 392 ปี ซึ่งมันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ เพราะว่าพวกเขาไม่เคยค้นพบฉลามกรีนแลนด์มีอายุยืนยาวขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าจะมีการยืนยันว่าฉลามสามารถอยู่ได้เกิน 100 ปีก็ตาม Christopher Bronk Ramsey ศาสตราจารย์ภาควิชาโบราณคดีของมหาวิทยาลัย Oxford ก็ออกมาบอกว่า “พวกเราจำเป็นจะต้องตรวจสอบและเพิ่มความยืดหยุ่นในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับฉลามให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก ซึ่งด้วยความที่พวกเราไม่มีความรู้ที่อัปเดตใหม่ พวกเราอาจจะทำการศึกษาเจ้าฉลามสายพันธุ์นี้ได้ยากขึ้นนั่นเอง” อย่างไรก็ตามจากการสำรวจของทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ทำให้พบว่า ฉลามกรีนแลนด์จำนวน 28 ตัวนั้น มีฉลามสองตัวที่มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในโลก โดยมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 4.93 เมตรและอีกตัวมีความยาวอยู่ที่ 5.02 เมตร สุดท้ายแล้วทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ตีช่วงเวลาอายุของฉลามกรีนแลนด์ไว้ว่า พวกมันจะมีอายุยืน โดยจะอยู่ที่ราวๆ 272 ปีเลยทีเดียว โหววว ที่มา dailymail
-
ชาวเน็ตถกเถียง ถ้า Pokemon เปลี่ยนตัวซาโตชิเป็นผู้หญิง มันจะน่าดูมากขึ้นไหม!?
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการปล่อยตัวอย่างสั้นๆ ของโปเกม่อนเวอร์ชันหนังโรงภาคใหม่ ที่จะเข้าฉายในปี 2018 ออกมาให้ทุกคนได้รับชมกัน แม้จะเป็นคลิปสั้นๆ แต่ชาวเน็ตก็ต่างพากันแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ความเห็นจะแตกออกเป็นหลายทิศทาง แต่ก็มีคนจำนวนมากที่แสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันนั่นก็คือ ตัวละครซาโตชิที่ปรากฏออกมานั้นมีหน้าตาที่ดูหล่อขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ คลิปเปิดตัวโปเกม่อน 2018 ที่ว่า ภาพดูสวยขึ้นมากจริงๆ นะ ซึ่งเมื่อความเห็นดังกล่าวไปในทางเดียวกัน ก็มีความเห็นแตกออกมาอีก มันจะดีนะถ้าเราลองเปลี่ยนซาโตชิภาคใหม่นี้ให้เป็นผู้หญิง งานนี้ชาวเน็ตยิ่งเห็นด้วยกันเยอะมากขึ้นจนถึงขนาดลงทุนตัดต่อและเปลี่ยนหน้าซาโตชิกันเลยทีเดียว!! เริ่มกันที่ต้นฉบับกันก่อน ซึ่งก็ยังเป็นซาโตชิแบบปกติ จากนั้นแฟนๆ ก็จัดการเปลี่ยนทรงผมให้เป็นผมยาว เพิ่มแก้มแดงเข้าไป ชาวเน็ตอีกคนเห็นภาพข้างบนแล้วรู้สึกว่า ซาโตชิยังสาวไม่พอเลยจัดการเพิ่มขนตาที่ยาวขึ้นเข้าไป ยังไม่หมดเท่านั้น ชาวเน็ตคนต่อมาก็บอกว่า ผิวซาโตชิน่าจะขาวขึ้นอีกสักหน่อยนะ หลังจากเปลี่ยนสีผิวของซาโตชิ ชาวเน็ตคนต่อมากลับคิดแปลกกว่าเดิม โดยเขาเพิ่มผมให้กับปิกาจูแทน…ห๊ะ!? และเพื่อให้ซาโตชิดูสาวยิ่งขึ้น ชาวเน็ตจึงกลับมาที่โฟกัสที่ตัวละครหลักอีกครั้ง โดยครั้งนี้เพิ่มเครื่องสำอางให้เยอะขึ้น อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรหยุดความกาวของชาวเน็ตได้ เพราะเมื่อไม่รู้จะทำอะไรกับซาโตชิแล้ว พวกเขาก็เลยจัดการลองเปลี่ยนปิกาจูเป็นสีชมพูแทน!? ยัง ชาวเน็ตยังไม่หยุดพวกเขาเพิ่มเครื่องสำอางให้กับปิกาจูด้วยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังเปลี่ยนหางของปิกาจูให้เป็นรูปหัวใจด้วย…
-
เจ้ากวางแวะมาที่ร้านขายของชำแล้วก็กลับไป ผ่านไปไม่นานพาลูกๆ มาด้วย!?
เหล่าบรรดาเพื่อนร่วมโลกของเรามักจะมีเรื่องที่มาทำให้เราประหลาดใจได้เสมอ ความน่ารักของมันมักจะทำให้เราใจละลายได้เรื่อยๆ คราวนี้ไม่ใช่เจ้าหมาหรือเจ้าเหมียวแต่กลับเป็น คุณกวางน้อยนั้นเอง เซอร์ไพรส์ไหมล่ะ Lori Jones พนักงานประจำร้านขายของชำที่ Horsetooth Inn สถานที่พักผ่อนอันแสนงดงามแห่งเทือกเขาร็อกกี้ในเมืองฟอร์ตคอลลิน รัฐโคโรลาโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีธรรมชาติรายล้อมรอบตัว เงียบสงบห่างจากผู้คน เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผู้คนที่ชื่นชอบธรรมชาตินิยมไปเที่ยวเพื่อสัมผัสความงามแบบใกล้ๆ เรื่องสุดประหลาดใจเกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วในขณะที่เธอกำลังจัดข้าวของอยู่ในร้านอยู่ สัญญาณหน้าประตูดังขึ้น เธอรีบออกไปดูคิดว่ามีลูกค้าเข้าร้าน แต่กลับเป็นเจ้ากวางน้อยตัวนี้ สวัสดี เราแค่อยากจะมาชอปปิงน่ะ มันเดินเข้าร้านอย่างสบายใจ เดินไปทั้งโซนของแว่นตาและมันฝรั่งทอด เธอบอกว่าดูแล้วมันน่าตลกมาก . เจ้ากวางตัวนี้ไม่ใช้ผู้แปลกหน้าสำหรับเธอแต่อย่างใด มันอาศัยอยู่บริเวณร้านค้าแถวนั้น วันนี้มันคงจะนึกครึ้มอกครึ้มใจอยากจะไปชอปปิงซะหน่อย แต่เธอต้องหลอกล่อมันให้ออกไปนอกร้านก่อนเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าท่านอื่น พอมันได้ถั่วลิสงแล้วมันก็เลยเดินออกร้านไปอย่างง่ายดาย เวลาผ่านไป 30 นาที เจ้ากวางก็โผล่มาอีกครั้ง แต่ทว่ามันไม่ได้มาแค่ตัวเดียวน่ะสิ นางพาครอบครัวมาด้วย เอากับเขาสิ เจ้ากวางนำทีมเข้ามาเหมือนจะขออนุญาต Lori ให้ครอบครัวของมันเข้ามา มันส่งสายตาเว้าวอนเหมือนเป็นคำถามว่า “ให้ครอบครัวของเราเข้ามาในนี้ได้มั้ย?” ตกลงว่าเข้าไปได้ไหมแม่ . แน่นอนว่าเธอต้องปฏิเสธไม่ให้เจ้ากวางทั้งหลายเข้ามาในร้าน…
-
น้องชายวิ่งเข้าไปช่วยพี่สาว หลังเข้าใจผิดคิดว่า ‘การแข่งมวยปล้ำ’ เป็นการทะเลาะกัน
เด็กน้อยทุกคนนี่มีความไร้เดียงสาซะจริงๆ นะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปซะหมด ผู้ใหญ่แบบเราดูแล้วอิจฉาเหลือเกิน โอ๊ย เห็นแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กจังเลยวุ้ย เรื่องราวสุดน่ารักนี้เกิดขึ้นในการแข่งขันกีฬามวยปล้ำของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในสหรัฐ Ryan Prendergast เด็กหญิงวัย 5 ขวบในชุดสีชมพูกำลังแบทเทิลกีฬามวยปล้ำรุ่นจิ๋วท่ามกลางเสียงเชียร์ของเหล่าผู้ปกครองตรงขอบสนาม สาวน้อยในชุดสีชมพูกำลังวางท่าต่อสู้กับเพื่อนร่วมชั้น ระหว่างที่แข่งขันอยู่นั้นก็มีเด็กผู้ชายวิ่งเข้ามากลางวงต่อสู้ เด็กน้อยคนนั้นคือน้องชายของเธอนั่นเอง หนูน้อยวิ่งแจ้นเข้ามาในวงเพราะคิดว่าพี่สาวของเขากำลังถูกทำร้าย และพยายามเอาตัวเองเข้าแทรกระหว่างกลางคู่ต่อสู้พร้อมกับตะโกนว่า “ออกไปจากพี่สาวฉันเดี๋ยวนี้นะ” น้องมาช่วยแล้วพี่!! อย่ามาทำร้ายพี่สาวผมนะ เด็กชายคงจะไม่รู้ว่านี่คือการแข่งขันมวยปล้ำ โถลูก คงอยากจะปกป้องพี่สาวสินะ เหล่าผู้ปกครองต่างหัวเราะชอบใจ แต่การแข่งขันก็ต้องเริ่มใหม่อีกครั้งหลังจากที่กรรมการให้พ่อของเด็กชายอุ้มเจ้าหนูออกไป ฮ่าๆ พ่อปล่อยผม ผมจะไปช่วยพี่ หลังจากจบการแข่งขัน คลิปวิดีโอเหตุการณ์ชุลมุนสุดน่ารักนี้ก็ได้เผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ จนกลายเป็นหนึ่งคลิปที่มีแต่ชาวเน็ตมาชื่นชมถึงความกล้าหาญและน่ารักของหนูน้อยคนนี้ ไม่มีอะไรแล้ว สู้ต่อได้ คลิปวิดีโอการแข่งขันมวยปล้ำรุ่นจิ๋ว ที่มา metro
-
เจ้าของรถโรลส์-รอยซ์เดือดบังคับให้คู่กรณี ‘ไปขายบ้านแกซะ!’ เพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าเสียหายให้
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ เมืองเหลียวหนิง มณฑลเฉิ่นหยาง ประเทศจีน ได้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นการปะทะกันระหว่างรถโรลส์-รอยซ์สีดำกับคู่กรณีรถฮุนไดสีขาว รถโรลส์-รอยซ์ได้รับความเสียหายทางด้านซ้ายเป็นรอยถูกกระแทกอย่างหนักจนกันชนหน้าแตกเป็นแผลใหญ่ แต่รถคู่กรณีกลับเสียหายมากกว่า ผู้พบเห็นเหตุการณ์ได้อ้างว่า เจ้าของรถโรลส์-รอยซ์เกิดอาหารโมโหอย่างขีดสุด เขาลงมาพูดกับคู่กรณีด้วยน้ำเสียงโกรธจัด “ไปขายบ้านของแกซะ!!!” คู่กรณีก็เงียบและไม่มีการโต้เถียงใดๆ เพราะว่ารถของเขาเสียหายมากกว่า เขาไม่ทำอะไรจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาเคลียร์เรื่องให้ สำนักข่าว Beijing Morning Post ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้เปิดเผยราคาค่าซ่อมรถโรลส์-รอยซ์ตกอยู่ที่ประมาณ 19-68 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่จัดได้ว่าสูงมาก เรื่องนี้ก็เลยกลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตประเทศจีนถกเถียงกันและแบ่งความคิดเห็นออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายแรกคือรถโรลส์-รอยซ์ก็มีส่วนผิดเช่นกันและมันดูไม่ยุติธรรมที่ฝ่ายรถฮุนไดต้องชดใช้ค่าเสียหายมากมายขนาดนั้นและควรจะมีอัตราเพดานค่าชดใช้ค่าเสียหาย อีกฝั่งหนึ่งก็คิดว่าเจ้าของรถหรูทำถูกต้องแล้ว เพราะว่าค่าประกันอาจจะไม่เพียงพอต่อการซ่อมรถที่มีราคาแพงคันนี้ คู่กรณีจึงจำเป็นต้องขายบ้านเพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าซ่อมรถ เรื่องนี้มันคิดได้สองแง่ทั้งฝ่ายของเจ้าของรถ และฝ่ายของคู่กรณี แต่อย่างไรก็ตามเรื่องแบบนี้ก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้น #เหมียวบู้บี้ ขอให้คุณผู้อ่านทุกคนมีสติในการขับรถกันด้วยนะคะ ที่มา nextshark
-
งานวิจัยเผย การมี “น้องสาว” จะช่วยให้คุณมีความสุขและมองโลกในแง่ดีขึ้นไปอีก
จำได้หรือเปล่าว่าใครที่วิ่งเล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ใครกันที่ขี้ฟ้อง ใครที่คอยแนะนำคุณเรื่องการแต่งตัว ใครที่สนุกไปกับคุณทุกที่ไม่ว่าจะช็อปปิ้ง ทานข้าว หรือเม้าเรื่องรักๆ ที่บอกแม่ไม่ได้… เมื่อพูดถึงการมีน้องสาวแล้ว หลายๆ คนอาจจะถึงความป่วนความแสบของน้องสาวตัวดี ที่สร้างความหงุดหงิดและเรื่องปวดหัวอยู่ได้ตลอดเวลา แต่เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่ามีผลวิจัยหนึ่งได้อ้างว่าการมีน้องสาวนั้น จะทำให้คุณมีความสุขกว่าแถมยังมองโลกในแง่ดีมากขึ้นด้วย!!?? ไม่ว่าคุณจะเป็นพี่ชายหรือพี่สาว การมีน้องสาวซักคนนั้นเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย เธอจะคอยให้คำแนะนำกับพี่ชายที่ต้องเดทกับผู้หญิงที่คู่ควร และเป็นเพื่อนรู้ใจของพี่สาวในทุกๆ เรื่อง ถึงแม้ในบางครั้งพี่น้องอาจจะมีทะเลาะกับบ้าง แต่จากการศึกษาได้เผยว่าการมีน้องสาวจะทำให้คุณรู้จักการให้อภัยในข้อบกพร่องของเธอ ถึงแม้ว่าจะแอบโกรธกันอยู่หน่อยๆ ก็ตาม ศาสตราจารย์ Tony Cassidy จาก University of Ulster ได้กล่าวว่าคนที่มีน้องสาวนั้นมักมีสุขภาพจิตที่ดีกว่าคนปกติ “การมีน้องสาว จะทำให้คุณนั้นมีความคิดที่เปิดกว้าง ยอมรับในสิ่งต่างๆ และเธอยังเป็นเหมือนกาวเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย” Tony Cassidy กล่าว แล้วหากมีน้องชายล่ะ??? โดยตามธรรมชาติของเด็กผู้ชายแล้ว มักจะไม่ค่อยพูดถึงสิ่งต่างๆ ให้ใครฟังสักเท่าไหร่ พวกเขามักจะเก็บเงียบ ผิดกับน้องสาวที่เธอจะคอยพูดคุย และทำลายกำแพงกั้นนี้ลง ในผลการวิจัยก็ได้อ้างว่า คนที่มีน้องชายนั้นมีเกณฑ์ประสบความสำเร็จต่ำกว่าบุคคลที่มีน้องสาว พวกพี่ๆ ทั้งหลายที่มีน้องสาวนั้นมีแนวโน้มที่จะมีความทะเยอทะยานมากกว่าและเป็นอิสระมากกว่าตามผลวิจัย …
-
เจ้าเหมียวท้องแก่เดินเข้ามาขอความช่วยเหลือมนุษย์แบบไม่เขินอาย วันต่อมาคลอดลูกให้อีก 7 ตัว!!
หากคุณเป็นหนึ่งในทาสแมว คุณย่อมรู้ดีว่าคุณน่ะไม่ได้เป็นเจ้าของพวกมันหรอก พวกแมวต่างหากที่เป็นเจ้าของคุณ และเมื่อมันอ้อนให้คุณทำอะไรคุณก็ทำให้ทั้งนั้นแหละ Rachale เองก็เป็นทาสแมวเช่นกัน เธอยอมแมวของเธอทุกอย่าง แม้ว่ามันจะขอเข้ามายึดบ้านอยู่ฟรีๆ และพาครอบครัวเข้ามาด้วยก็ตาม เธอเล่าว่าในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีแมวสีส้มตัวหนึ่งมาป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณบ้านเธอ เธอเห็นว่ามันกำลังท้องอยู่ และดูหิวโหยมาก จึงให้อาหารมันกิน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เจ้าเหมียวตัวนี้กลายมาเป็นเจ้าของของเธอ จากนั้นมันก็เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของเธอ เธอจึงตั้งชื่อมันว่า Boots และเมื่อเจ้าเหมียวเข้ามายึดบ้านได้ มันก็เริ่มอ้อนเธอทันที โดยมันอ้อนให้เธอเติมอาหารให้มันอยู่ตลอดเวลา คงจะกินเยอะเพราะมันท้องอยู่ล่ะมั้ง Rachale เล่าว่า “มันกินเยอะมากอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ แล้วมันก็เข้ามายึดครองทุกอย่างภายในบ้านเลย” Boots มาแว้ว หลังจากนั้นเธอจึงพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูว่ามันและลูกสุขภาพแข็งแรงดีรึเปล่า และพวกเขาก็ตกหลุมรักกับความเชื่องของมันอีกครั้ง เพราะมันเดินไปชั่งน้ำหนักเองได้ด้วย “เจ้าเหมียวเดินขึ้นไปนอนบนเครื่องชั่งน้ำหนักด้วยตัวของมันเอง ฉันไม่เคยเห็นแมวตัวไหนฉลาดและเชื่องแบบนี้มาก้อน” ส่วนผลการตรวจนั้นบอกว่ามันน่าจะอุ้มท้องลูกแมวสัก 4 หรือ 5 นี่แหละ และอีกไม่นานก็คงจะคลอดแล้ว ให้เธอเตรียมพร้อมรับมือกับลูกแมวได้เลย โตแล้วชั่งน้ำหนักเป็น ต่อมาในวันที่ 26 พฤษจิกายนที่ผ่านมานี้ เจ้าเหมียวก็ทำให้ Rachale ประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อมันไม่ได้คลอดลูกมาตามที่หมอคาดการณ์ แต่กลับคลอดลูกแมวมาถึง 7…
-
James Fridman หนุ่มนักตัดต่อผู้ทำตามคำขอให้ได้ทุกอย่าง แม้มันจะหินแค่ไหนก็ตาม!!
ถ้าเกิดว่าเราถ่ายรูปออกมาสักรูปหนึ่ง แล้วรู้สึกชอบใจรูปนั้น แต่ว่าดันมีจุดตำหนิติดมาด้วยซะนี่ วิธีการแก้ไขที่สามารถทำได้ง่ายๆ ก็คือการแก้ไขภาพด้วยโปรแกรม Photoshop นั่นเอง แต่โปรแกรมตัดต่อตัวนี้ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็สามารถใช้ได้ เพราะมันซับซ้อนพอสมควร นอกจากนี้จุดบกพร่องในบางภาพยังแก้ไขแทบไม่ได้อีกด้วย แต่หากท่านวานให้หนุ่ม James Fridman ตัดต่อให้ละก็ไม่ว่าคำขอจะยากแค่ไหน จะเป็นยังไง เขาก็ทำตามคำขอได้ทุกอย่าง ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่ชอบนำรูปมาตัดต่อผ่านโปรแกรม Photoshop แบบตลกๆ และไม่ว่าใครจะส่งรูปมาขอให้เขาตัดต่อให้ เขาก็ทำตามคำขอหมด เพียงแต่ว่ารูปภาพที่เขาตัดต่อให้อาจจะไม่ได้เป็นดังที่คนขอคิดเท่านั้นเอง ไม่เชื่อก็ลองไปดูกัน ช่วยเอาหัวล้านของผู้ชายคนนั้นออกทีค่ะ ช่วยปิดขนรักแร้ของแฟนหน่อยได้ไหมคะ คือภาพนี้ดูเหมือนผมกับเพื่อนจับมือกันน่ะครับ ช่วยแก้ให้หน่อยนะ ช่วยทำให้ผมดูเด็กกว่านี้ได้ไหม ฉันอยากให้คุณทำให้ดูเหมือนเรากำลังจับมืออยู่ ทำให้ฉันมีผิวเรียบเนียนและดวงตาสีฟ้าเข้มกว่านี้ทีเถอะ ฉันชอบหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์มากๆ ช่วยทำให้ฉันดูเหมือนตัวละครในเรื่องหน่อยสิ แฟนของผมเธอไม่ได้ใส่รองเท้าตอนถ่ายรูปน่ะครับ ช่วยตัดรองเท้าใส่ให้เธอที ตัดต่อรูปผมกับ Aaron Rodgers ให้ด้วยเถอะครับ ผมเป็นแฟนคลับตัวยงเลย อยากได้ภาพเหมือนฉันกำลังนั่งพรมแล้วบินข้ามทะเลน่ะค่ะ ขอร้องล่ะ ทำให้ผู้หญิงคนนั้นไม่มองมาที่ฉันกับสามีที…
-
โรค ‘จิ๋มตายด้าน’ อาการที่เกิดจากการใช้เครื่องสั่นมากเกินไป แต่ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายจนต้องกังวล
เพื่อนๆ มีใครเคยได้ยิน “โรคจิ๋มตาย” บ้าง? นี่ไม่ใช่มุกตลกหรือคำกำกวมแต่อย่างใด แต่มันคือชื่อโรคจริงๆ ที่มีมานานหลายปีแล้ว โรคจิ๋มตาย คือผลกระทบจากการใช้เซ็กส์ทอยชนิดสั่นมากเกินไป เนื่องจากเครื่องสั่นจะสร้างความทนทานต่อการกระตุ้นคลิตอริสและช่องคลอด จนทำให้ผู้หญิงไม่สามารถไปถึงจุดสุดยอดได้ ถ้าไม่ใช่เครื่องสั่น นั่นหมายความว่าหากคุณยังใช้เครื่องสั่นในการสำเร็จความใคร่ต่อไปเรื่อยๆ ช่องคลอดของคุณจะตายด้าน ไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่มาสัมผัสได้ และทนต่อทุกอย่างที่จะทำให้ถึงจุดสุดยอด มันฟังดูน่ากลัวใช่มั้ย? แต่นี่เป็นเรื่องที่คุณต้องรู้นะ…แน่นอนว่าหากคุณสำเร็จความใคร่ด้วยวิธีใช้เครื่องสั่นมาตลอด มันยากที่จะสำเร็จความใคร่ด้วยวิธีอื่น แต่อย่าเพิ่งกังวลไป สูตินรีแพทย์ Shazia Malik กล่าวว่า “เราไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าภาวะช่องคลอดตายนี้มีอยู่จริง ดังนั้นอย่าเพิ่งกังวลว่าช่องคลอดของคุณจะไม่ตอบสนองในอนาคตถ้าไม่ใช้เครื่องสั่น” Shazia ตั้งข้อสังเกตว่า จริงอยู่ที่ช่องคลอดของผู้หญิงสามารถสูญเสียความรู้สึกได้หลังจากใช้เครื่องสั่นต่อเนื่องกันบ่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากที่คลอดลูก ขณะมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ขณะให้นมบุตร รวมทั้งการทานฮอร์โมนคุมกำเนิด ทั้งนี้ในเรื่องของการตอบสนองของช่องคลอด มีการวิจัยพบว่า หลังจากการใช้เครื่องสั่น ผลกระทบของมันมักจะหายไปภายใน 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้มีการวิเคราะห์ผลกระทบของการใช้เครื่องสั่นกับมือ ซึ่งปรากฏว่าไม่พบความแตกต่างใดๆ เมื่อใช้กับอวัยวะเพศ การใช้เครื่องสั่น อาจทำให้ร่างกายส่วนที่ถูกสัมผัสมีอาการชาเล็กน้อย แต่อาการนั้นจะหายไปหลังจากที่คุณหยุดใช้เครื่องสั่นสักพัก อาการจะไม่ติดค้างนาน งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง เผยว่ามีผู้หญิงเพียง 0.5% เท่านั้น…
-
เมื่อมนุษย์พยายามจับ “ไซบีเรียน ฮัสกี้” มาแต่งคอสเพลย์คริสมาสต์ ผลที่ได้คือความฮา!!
เมื่อพูดถึงเทศกาลแห่งความสุขอย่างคริสต์มาสแล้ว ทุกคนก็คงจะนึกถึงแสงสีสุดอลังการและรอยยิ้มของผู้คนที่มอบให้กันในวันของการแบ่งปันแบบนี้ การแต่งตัวแฟนซีๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่จะทำให้งานมีความสนุกและสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนได้ แต่ไม่ใช่กับหมาตัวนี้… Anuko สุนัขไซบีเรียนที่ดูไม่ค่อยจะอินกับเทศกาลคริสต์มาสซักเท่าไหร่ ก็ดูมันทำหน้าเข้าสิ นี่มันเทศกาลแห่งความสุขนะโว้ยยย ช่วยยิ้มหน่อยได้ไหมมม!!!! Jasmine Milton สาววัย 20 ปี คือเจ้าของของสุนัขหน้าบูดตัวนี้ พวกเขาอาศัยอยู่ที่เมือง Telford เขต Shropshire ประเทศอังกฤษ เธอตกหลุมรักเจ้าไซบีเรียตัวนี้ทันทีที่ได้เห็น Jasmine จึงรับเจ้าสุนัขตัวนี้เป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่ Anuko อายุได้ 8 สัปดาห์ ถึงแม้ว่ามันจะชอบทำสีหน้าไม่พอใจอยู่บ่อยๆ ก็ตาม เธอเฝ้าดูการเติบโตของเจ้าสุนัขหน้ากวนตัวนี้ ความเบื่อหน่ายในสีหน้าของ Anuko มันทำให้เราอดขำไม่ได้จริงๆ แม้แต่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสสุขสันต์นั้น Jasmine ก็ได้แต่งตัวน่ารักๆ ให้ Anuko ทั้งใส่เขากวางเรนเดียร์และผูกผ้าพันคอให้ แต่มันก็ไม่ยอมที่จะแสยะยิ้มให้ใครทั้งสิ้น “เชื่อหรือไม่ว่าเจ้า Anuko มันเคยมีใบหน้าที่น่ารักสุดๆ ในตอนเด็ก และมันก็โตมาเป็นหมาที่สงบเงียบไม่สุ่งสิงกับใคร Anuko เป็นหมาที่ใจดีและไม่เคยโกรธใคร แต่มันก็เป็นสุนัขที่ขี้เกียจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน” เจ้า Anuko อาจจะชอบคริสต์มาสตรงที่มีอากาศหนาวเย็น แต่มันดูไม่สนุกเท่าไหร่กับการตกแต่งต้นคริสต์มาส ไม่สนุกกับการมองอาหารที่มันแตะต้องไม่ได้ แถมเจ้านายยังบังคับให้ใส่ชุดแปลกๆ อีก…
-
10 กลยุทธ์ ‘การจีบ’ ให้ได้ผลชะงัดจากนักจิตวิทยา จนคนที่คุณหมายปองต้านทานไม่ได้
หลายๆ คนต้องสูญเสียคนที่หมายปองให้กับหนุ่มอื่นหรือสาวอื่น ทั้งๆ ที่พยายามตามจีบแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะวิธีจีบของคุณอาจจะไม่เจ๋งพอ ด้วยเหตุนี้ทีมนักจิตวิทยาจาก Psych2Go จึงได้แนะนำ 10 กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการจีบ เพื่อให้คุณลงเอยด้วยดีกับคนที่หมายปอง 1. สบตาสื่อรัก การสบตากันที่นานกว่าปกติเป็นวิธีที่จะทำให้คุณได้ล้วงเอาข้อมูลของอีกฝ่ายผ่านสายตาว่าเค้าคิดอะไรอยู่ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมต้องอย่างน้อย 4-5 วินาที แต่คุณต้องอ่านสายตาคู่ให้ออกภายในเวลาสั้นๆ นี้ให้ได้นะ นักจิตวิทยาบอกว่าการมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายจะทำให้คุณค้นพบความสนใจของเขา และเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้คุณคาดเดาสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับเค้าได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น 2. จะถูกจะแพงขอแดงไว้ก่อน สีแดงมักจะถูกใช้ในข้อความสื่อสารเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่สุก ป้ายถนน หรือสร้อยคอ ทั้งนี้นักจิตวิทยา Adam Pazda ชี้ให้เห็นว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณธรรมชาติ เช่น ลิงบาบูนตัวเมียที่จะทำให้ก้นของมันเป็นสีแดงเพื่อสงสารสัญญาณให้ตัวผู้รู้ว่ามันพร้อมจะมีคู่แล้ว นอกจากนี้เพื่อนร่วมงานของ Adam จากมหาวิทยาลัย University of Rochester ยังได้ทำการทดลอง โดยการให้ผู้ชายดูภาพผู้หญิงในชุดสีขาวและชุดสีแดง จากการทดสอบพบว่าผู้ชายส่วนใหญ่ให้ความใจผู้หญิงในชุดสีแดง เพราะคิดว่าเธอจะเป็นคนเปิดกว้างในเรื่องโรแมนติกมากกว่าผู้หญิงชุดขาว เมื่อนำการทดลองนี้ไปใช้กับผู้หญิง ได้ผลที่คล้ายกันคือ ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงและเสื้อกันหนาวดูน่าสนใจมากขึ้นในสายตาผู้หญิง 3. คนตลกมีชัยไปกว่าครึ่ง ศาสตราจารย์ Geoffrey Miller นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย University of New Mexico…
-
บริษัทสาเกเช่าหน้าหนังสือพิมพ์เกือบทั้งหน้า เพื่อขอร้องให้คนซื้อเลิกซื้อ ‘สาเกราคาแพง’ ของตัวเอง
โดยปกติแล้วการที่จะลงโฆษณาต่างๆ จะมีขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายของสินค้าของตัวเอง แต่ว่าได้มีกรณีสุดแปลกเกิดขึ้นกรณีหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เมื่อมีเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งหนึ่งลงทุนลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์เต็มหนึ่งหน้า เพื่อโน้มน้าวให้ผู้คนเลิกเสียเงินจำนวนมากเกินไปให้กับสินค้าของเขาได้แล้ว!! ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 2-3 ให้ปีหลังมานี้ สาเกยี่ห้อ Dassai ได้พุ่งขึ้นมาติดตลาดอย่างรวดเร็วและมีชื่อเสียงที่โด่งดังอย่างมากในประเทศ ทำให้ทำสาเกยี่ห้อนี้เริ่มขาดตลาดและมีราคาที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในระบบธุรกิจแบบเสรี เพราะเมื่อมีความต้องการซื้อมากของก็จะหายากขึ้นและมีราคาแพงขึ้นนั่นเอง ทว่าราคาสาเกที่สูงขึ้นไม่เพียงแต่สร้างความทุกข์ให้แก่ลูกค้าเท่านั้น แต่ยังทำให้บริษัท Asahi Shuzo ผู้ผลิตสาเกยี่ห้อนี้ไม่มีความสุขตามไปด้วย ที่สินค้าของเขาขายดีเกินไปและมีราคาที่แพงเกินกว่าที่มันควรจะเป็น สาเกยี่ห้อ Dassai ด้วยเหตุนี้บริษัทผู้ผลิตจึงไม่รอช้าที่จะแก้ไขปัญหา โดยพวกเขาได้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา และในหน้าโฆษณานั้นก็มีรูปของสาเกยี่ห้อนี้อยู่พร้อมกับพาดหัวตัวโตว่า “นี่คือคำขอร้อง หยุดจ่ายเงินซื้อสาเกที่มีราคาแพงของพวกเราได้แล้ว” – Kazuhiro Sakurai ประธานและ CEO แห่งบริษัท Asahi Shuzo สิ่งที่เขาทำถือว่าไม่ใช่สิ่งปกติที่บริษัทส่วนใหญ่จะทำกัน เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นก็ยิ่งทำให้บริษัทได้กำไรมากขึ้น แต่ Sakurai เชื่อว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะต้องออกมากล่าวเช่นนี้ ลงทีเต็มหน้าเลยทีเดียว นอกจากนั้นเขายังกล่าวอีกว่าต่อไปนี้บริษัท Asahi Shuzo จะขายผลิตภัณฑ์ Dassai ให้เพียงแต่ร้านค้าปลีกและผู้ค้าส่งที่เป็นคู่ค้ากับบริษัทเท่านั้น เพื่อเป็นการควบคุมราคาไม่ให้แพงจนเกินไปนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีบางความเห็นบอกเอาไว้ว่า ถึงอย่างไรบริษัทแห่งอื่นก็สามารถซื้อสาเก Dassai จากร้านที่เป็นคู่ค้ากับบริษัทที่มีราคาถูก…
-
17 บุคคลผู้เป็นอัจฉริยะในด้าน ‘การแกล้ง’ ใครโดนนี่ขอบอกเลยว่า คุณณควรภูมิใจมากกว่าโกรธ
การแกล้งเพื่อนอาจจะเป็นสิ่งที่เพื่อนสนิทนั้นชอบทำกับคุณอยู่บ่อยๆ และแน่นอนว่าในกลุ่มเพื่อนของคุณจะต้องมีอย่างน้อยซักหนึ่งคนที่น่าแกล้งสุดๆ แต่บางครั้งคนที่ถูกแกล้งเองนั้นก็อาจจะรู้สึกขำไม่ออกเลยทีเดียว แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหากคุณเจอเพื่อนๆ ที่ลงทุนแกล้งขนาดนี้คุณอาจจะรู้สึกขำแทนก็ได้!! 1. คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อกลับมาทำงานในเช้าวันจันทร์แล้วพบว่าที่โต๊ะทำงานเต็มไปด้วยดาราคนโปรดในสภาพแบบนี้!! 2. นี่สินะที่เค้าเรียกว่าตื่นมารับอากาศสดชื่นของทุ่งหญ้าในยามเช้า เดี๋ยวนะ!! หญ้าแบบนี้มันจะสดชื่นไหมเนี่ย?? 3. เจ้าหนูน้อยในบทบาทคนไข้ โถ่!? นึกว่าฟันเป็นแมงจริงๆ 4. โต๊ะทำงานจากโลกอวกาศ ทุกอย่างดูวิบวับวาว!! 5. เจอแบบนี้ตอนตื่นนอนต้องมีสะดุ้งกันบ้างล่ะน่า!! 6. แหม่เอาซะเนียน จนนึกว่าแตกจริงๆ เลยนะเนี่ย!? 7. คุณจะทำอย่างไรเมื่อเจอเจ้าสิ่งนี้อยู่หน้าห้อง หลังจากที่เปิดประตูทิ้งไว้!! 8. ว๊ายยย!! 9. โต๊ะทำงานแบบท่ามกลางธรรมชาติ แถมมีนกฟลามิงโกให้ซะด้วย!! 10. ถ้าเป็นช่วงก่อน การเจอลูกโป่งสีแดงที่ท่อระบายน้ำอาจจะไม่ใช่เรื่องตลก 11. นี่คือการแกล้งแบบเลเวล 99 !! เปิดประตูมาปุ๊บนึกว่าได้ห้องใหม่ 12. ถ้าจะขยันแบบนี้ ก็ยอมให้แล้วจ้าาา…
-
สรุปดีล Disney ซื้อ Fox มีความหมายอะไรบ้าง และอนาคตมันจะเดินไปในทิศทางไหนกันนะ?
กลายเป็นข่าวที่ถูกพูดถึงกันยกใหญ่สุดๆ หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางบริษัท The Walt Disney Company ได้ใช้เงินจำนวนมหาศาลมากกว่า 52,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.7 ล้านล้านบาทฟาดลงไปที่บริษัท 21st Century Fox จนตอนนี้ทุกธุรกิจในเครือเกือบทั้งหมดได้ตกมาอยู่ในมือของ Disney ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนที่สงสัยว่าแล้ว Disney ได้อะไรมาบ้าง ซึ่งถ้าจะให้ร่ายมันก็จะยาวมากๆ เอาเป็นว่าหลักๆ ที่น่าสนใจก็คือเฟรนไชน์หนังต่างๆ จากค่าย Fox จะถูกเปลี่ยนมือไปยัง Disney ทั้ง X-Men, Fantastic 4, Deadpool, Avatar, Alien หรือแม้แต่ Kingsman ก็จัดอยู่ในสัญญาด้วยเช่นกัน นอกจากหนังต่างๆ แล้วรายการโทรทัศน์ต่างๆ รวมถึงระบบสตรีมมิ่งก็ตกมาอยู่ในมือ Disney เช่นกัน ฉะนั้นในอนาคตเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มากแน่นอน แต่ก่อนที่จะถึงตอนนั้นทาง Disney จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือใช้อะไรได้จนกว่าจะครบข้อสัญญาตามกฎหมายเป็นเวลา 1 ปี นี่คือบริษัททั้งหมดในเครือของ Disney ในปัจจุบัน และนี่คือเครือทั้งหมดที่ทาง Disney ได้มาจาก Fox โดยตัวกรอบสีแดงคือเครือที่ยังคงอยู่กับทาง Fox ฉะนั้นก่อนจะถึงตอนนั้น…
-
พิธีกรสาวสปอยล์ ‘สตาร์วอร์ส’ ภาคล่าสุดผ่านรายการสด ทำเอา Boyega ถึงกับอึ้งแดร๊ก!!
(เนื้อหานี้มีการสปอยล์ Star Wars: The Last Jedi ที่หนักหน่วงมาก ใจไม่ถึงกดปิดเลย) ในที่สุดวันที่แฟนๆ Star Wars ทั่วโลกรอคอยก็มาถึงกับการสานต่อตำนานหนังไซไฟสุดยิ่งใหญ่ โดยตอนนี้ Star Wars: The Last Jedi ก็ได้เข้าฉายในโรงหนังเป็นที่เรียบร้อยเป็นวันแรก แน่นอนว่าคนที่ไปดูมาแล้วก็ให้เสียงตอบรับที่ดีมากๆ แฟนๆ ที่ยังหาเวลาไปดูไม่ได้ก็พากันใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเพื่อให้ตัวเองไม่ถูกชาวเน็ต หรือใครก็ตามมาสปอยล์ฉากในหนังเรื่องโปรด แต่ทว่าเรื่องสุดอื้อฉาวก็ดันเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจกลางรายการ This Morning เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ซึ่งเป็นรายการสดที่มีพิธีกร Holly Willoughby และ Phillip Schofield รับหน้าที่ดำเนินรายการในครั้งนี้ ซึ่งช่วงหลักที่ทำให้กลายเป็นปัญหานั่นก็คือช่วงที่พิธีกรทั้งสองต้องสัมภาษณ์หนึ่งในนักแสดงนำ John Boyega ผู้รับบท Finn ผ่านวิดีโอคอล โดยในช่วงระหว่างสัมภาษณ์พิธีกรหลักอย่าง Holly ที่ได้ไปดูหนังรอบสื่อมาก่อนแล้วรู้สึกตื่นเต้นก็เลยเผลอหลุดปากถามคำถามที่เล่นเอาทุกคนต้องอึ้ง… (สปอยล์กำลังจะมา!! เราเตือนคุณแล้วนะ) Holly นั้นได้เผลอลั่นบทสนทนาที่เธอไม่ทันคิดขึ้นว่า “แฟนๆ จะต้องตื่นเต้นกลับการกลับมาของโยดาแน่ๆ” ประโยคเดียวเล่นเอาสะเทือนทั้งวงการ ถึงขนาดที่ John Boyega ที่ได้ยินถึงกับต้องมองผู้คนรอบข้างแล้วกระซิบผ่านวิดีโอคอลว่า “Holly…
-
คุณหมอเขียน “ชื่อ” และ “หน้าที่” ของตัวเองบนหมวกคลุมผม เกิดกระแสเปลี่ยนแปลงในวงการแพทย์
เมื่อเราต้องทำงานร่วมกับคนจำนวนมากที่แทบไม่รู้จักกันเลย เวลาเราต้องประสานงานหรือว่าช่วยงานกัน จึงทำให้การเรียกหรือระบุตัวคนเป็นเรื่องยาก เพราะว่าเราคงไม่สามารถจำชื่อคนทุกคนในเวลาอันสั้นได้ จากปัญหาดังกล่าว ทำให้หมอคนหนึ่งในเมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เกิดความคิดสุดประหลาดขึ้นมาว่า หากเขาเขียนชื่อและตำแหน่งงานของตนเองลงบนหมวกคลุมผม เวลาที่ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน คนอื่นจะได้รู้ว่าเขาชื่ออะไร ทำงานส่วนไหน Dr. Rob Hackett คุณหมอ Rob Hackett เขามักจะมีปัญหาเวลาที่ต้องทำงานกับคนอื่นในห้องผ่าตัด เพราะหมอแทบทุกคนจะใส่หน้ากากอนามัย และหมวกคลุมผม จนแยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร มีหน้าที่อะไรบ้าง ซึ่งเวลาที่หมอแต่ละคนต้องการให้คนช่วยงาน พวกเขาก็จะเสียเวลามานั่งคิดนั่งจำว่าหมอคนนั้นชื่ออะไร เป็นหมอเชี่ยวชาญด้านใด จนอาจทำให้การผ่าตัดล่าช้าโดยใช่เหตุ เขาบอกว่า “เมื่อคุณต้องทำงานในโรงพยาบาลหลายแห่ง ร่วมกับคนหลายร้อยคน ผมบอกเลยว่าผมไม่รู้เลยว่าคนกว่า 3 ใน 4 นั้นชื่ออะไรบ้าง และเวลาจะเรียกให้ช่วยงานกันก็จะรู้สึกกระอักกระอ่วนแปลกๆ” เขาเลยเขียนว่า “Rob วิสัญญีแพทย์” ลงบนหมวกคลุมผมของเขา ทีนี้แพทย์ทุกคนก็จะรู้แล้วว่าเขาทำหน้าที่อะไร และเรียกให้ช่วยงานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลามาแยกว่าคนนั้นเป็นหมอด้านไหน หลังจากนั้นเพียง 6 เดือน ไม่น่าเชื่อว่าไอเดียนี้ของเขา กลายเป็นที่ยอมรับกันอย่างเป็นสากล และมีคนนำไปทำตามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ในประเทศออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร…
-
แฟนเก่าเอา “หมา” ของหญิงสาวไปทิ้ง คนใจดีเก็บได้ ขับรถไกลกว่า 2,100 กิโล พากลับมาคืน!!
เมื่อสัตว์เลี้ยงของเราหายไปจากบ้านแล้ว เราย่อมจะเป็นห่วงพวกมันมาก และการตามหาพวกมันนั้นไม่ง่ายเลย เพราะเราไม่รู้ว่าจะไปตามหาพวกมันที่ไหน จะมีใครไปพบมันเข้ารึเปล่า หรือหากมีคนพบมัน จะมีน้ำใจพากลับมาหาเราไหม จึงอาจพูดได้ว่าแทบไม่มีหวังเลยที่เราจะเจอสัตว์เลี้ยงที่หายไป แต่การตามหาสัตว์เลี้ยงก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว หากว่าโชคดีเจอคนดีมาช่วยเหลือเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักไว้ ก็อาจจะได้พวกมันคืนมาก็ได้ อย่างเรื่องราวอบอุ่นหัวใจที่เราจะพาทุกท่านไปชมนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสถานสงเคราะห์สัตว์แห่ง Caroline County ได้พบสุนัขพิทบูลพันธุ์ผสม หลงอยู่ข้างถนนในรัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาไม่ทราบว่าสุนัขตัวนี้มีเจ้าของไหม แล้วหลงมาได้อย่างไร แต่ก็โชคดีที่มันมีชิปฝังไว้ จึงสามารถตรวจสอบข้อมูลของเจ้าของได้ แต่พวกเขาต้องประหลาดใจเมื่อทราบว่าจากข้อมูลในชิปว่า เจ้าของของสุนัขตัวนี้ อยู่ในเมืองวิชิทอ รัฐแคนซัสซึ่งอยู่ห่างออกไปจากรัฐแมริแลนด์กว่า 1,300 ไมล์หรือราวๆ 2,100 กิโลเมตร พวกเขาจึงได้ติดต่อเจ้าของของมันจากข้อมูลที่มีอยู่ และก็ได้รับการยืนยันว่าสุนัขตัวนั้นเป็นของเธอจริงๆ เธอเล่าให้สถานสงเคราะห์สัตว์ฟังว่าเจ้าหมาตัวนี้ชื่อ Zimba ซึ่งครั้งล่าสุดที่เธอได้เจอมัน คือตอนแฟนของเธอได้พามันไปด้วยตอนออกไปเที่ยวที่รัฐอื่น ส่วนตัวเธอนั้นอยู่ที่บ้านดูแลลูก แต่ระหว่างทางนั้นพวกเธอมีปากเสียงกัน จึงได้ตัดสินใจเลิกกัน ทว่าแฟนหนุ่มคงรู้สึกไม่พอใจและอยากจะแก้แค้น เขาจึงปล่อยสุนัขตัวโปรดของแฟนเก่าลงที่รัฐแมริแลนด์ซะเลย เขาคงหวังว่าเธอจะเสียใจที่ไม่มีวันได้เจอมันอีกแล้ว นี่ถือเป็นโชคดีที่มีคนพบมัน และติดต่อกลับหาเธอ . แต่ปัญหายังไม่หมดลง ถึงแม้ว่าจะพบตัวเจ้าของของ Zimba…
-
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี เธอจะเปลี่ยนพื้นที่มหาวิทยาลัย ให้กลายเป็นงานศิลปะสุดอาร์ต…
ใบไม้เมื่ออยู่บนต้นไม้ มันคอยให้ร่มเงา ให้ที่พักพิงกับสัตว์บางชนิด ซึ่งดูรวมๆ แล้วทำให้เกิดความรู้สึกสบายตาและสบายใจ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ใบไม้ร่วงลงสู่พื้น โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง มันกลายเป็นแค่สิ่งที่ไร้ประโยชน์ หรือเป็นแค่ขยะที่รอการกำจัดทิ้งเท่านั้น แต่สำหรับ Joanna Hedrick แล้ว เธอไม่ได้คิดแบบนี้ ทุกๆ ฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงเวลาที่เธอชื่นชอบมากที่สุดของปี เพราะมันทำให้เธอได้หาความสุขจากใบไม้ที่ร่วงลงสู่พื้น Hedrick เป็นที่ปรึกษาของศูนย์บริการนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย Sacramento State University รัฐแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่ปี 2013 ที่ Hedrick รู้สึกสนุกกับการเล่นใบไม้ โดยการเปลี่ยนใบแปะก๊วยสีเหลือทองที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นให้กลายเป็นงานศิลปะที่มีความซับซ้อน เธอบอกว่า “ศิลปะของฉันคือการทำอะไรบางอย่างที่สวยงงามอยู่แล้วให้กลายเป็นบางอย่างที่ดูมีเอกลักษณ์ และบางสิ่งที่คุณไม่ใช่แค่เดินผ่านไป” จุดเริ่มต้นของการตกแต่งใบไม้ร่วง เกิดจากการที่เธอต้องการฉากหลังสวยๆ เพื่อที่จะรูปลูกๆ ทั้งสองคนคือ Sagan วัย 8 ขวบ และ Emil วัย 4 ขวบ ปรากฏว่าตั้งแต่นั้นมาเธอกลายเป็นคนที่ชื่นชอบการตกแต่งใบไม้ร่วง โดยเฉพาะการทำให้มันเป็นเขาวงกต จนได้รับการชื่นชมจากคนทั้งมหาวิทยาลัยและทั่วโซเชียลมีเดีย ปัจจุบัน เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง เธอจะสร้างผลงานราวๆ 6 แบบต่อปี…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นถกเถียงกันเรื่อง “การใช้ส้วมแบบดั้งเดิม”‘ ว่าทำยังไง ถึงจะถูกต้องกันแน่นะ!?
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และนวัฒกรรมใหม่ๆ มักจะมีเกิดมาจากการคิดค้นของคนญี่ปุ่นนี้แหละ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดนี้ อาจจทำให้ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ไม่รู้จักสิ่งของหรือเครื่องใช้ที่เคยมีในอดีตบางอย่าง โดยเฉพาะของใช้ในวงการห้องน้ำ อย่าง ‘ส้วม’ ล่าสุดในโลกออนไลน์ ได้มีการถกเถียงกันแบบขำๆ เกี่ยวกับวิธีการใช้ ‘ส้วมแบบดั้งเดิม’ ว่าจริงๆ แล้วมันต้องใช้แบบไหนกันแน่ถึงจะถูกต้อง? ไม่แปลกที่ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่จะไม่รู้จักวิธีการใช้ส้วมแบบดั้งเดิม เพราะส้วมที่คนญี่ปุ่นใช้กันอยู่ทุกวันนี้มันทั้งล้ำ สะดวกสบาย แถมมีเสียงเพลงกลบด้วย ส้วมที่เป็นประเด็นนี้คือส้วมแบบญี่ปุ่นที่มีลักษณะคล้ายกับคอห่านบ้านเรานี่แหละ แต่ตรงหัวมีส่วนโค้งที่กันไม่ให้ปัสสาวะกระเด็น เรียกว่า “Kinkakushi” ที่นี้คนญี่ปุ่นแท้ๆ เนี่ยมาเถียงกันมันต้องนั่งแบบไหนกันนะ? ต้องนั่งหันหน้าเข้าหรือหันหน้าออก!? สมาชิกทวิเตอร์ @mikaduki_neko บอกว่า “ต้นกำเนิดของมันคือ Kinkakushi นั่นหมายความว่าคุณต้องหันหน้าออก เหมือนที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่สอนเอาไว้” ชาวเน็ตคนเดิมอธิบายเพิ่มเติมว่า “จริงๆ แล้ว Kinkakushi แบบดั้งเดิมนี่เป็นแท่นไม้ที่มีไว้เพื่อใช้งานในเรื่องของสุขอนามัยของเหล่าซามูไร โดยจะใช้เป็นแท่นวางเพื่อกันไม่ให้กางเกง Hakama เปื้อนสิ่งสกปรกเวลาที่พวกเขาทำการถ่ายหนัก” “นั่นก็เท่ากับว่าเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่การถ่ายหนักใกล้กับรูระบายน้ำจะทำให้เราสามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น และทำให้เราลดความเสี่ยงในการเปื้อนได้อีกด้วย” ชาวเน็ตอีกคน ที่ใช้ชื่อว่า @snufkin_p ออกมาโต้แย้งด้วยภาพจาก Toto…
-
เมื่อเด็กสาวอยากเลี้ยงแมว ก็เลย “จัดบอร์ด” ร้องขอพ่อกับแม่ น่าสงสารจนต้องยอมใจอ่อน
คนรักแมวหลายๆ คน ไม่ได้รับอนุญาตจากครอบครัวให้รับแมวมาเลี้ยง พวกเขาเลยพยายามทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นข้อเสนอต่างๆ เพื่อให้พ่อแม่ใจอ่อน ตัวอย่างเช่น จะล้างรถให้ทุกเดือน จะทำเกรดให้ดีขึ้น หรือถ้ามันไม่ได้ผลจริงๆ บางคนก็ทำกระทั่งแอบเอาเข้าบ้านโดยไม่ให้ใครรู้ แล้วก็ได้เลี้ยงในที่สุด แต่สำหรับเด็กสาวคนนี้ เธอเลือกที่จะจัดบอร์ดบนผนังบ้าน โดยเขียนแมวเหมียวให้ดูน่าสงสารสุดๆ เพื่อให้พ่อแม่รู้สึกผิดที่ไม่รับเลี้ยงพวกมัน เรื่องราวนี้ถูกโพสต์ในทวิตเตอร์โดย Danielle Grubisic จากเมืองเคลเลอร์ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอบอกว่าน้อยสาวตัวน้อยๆ ของเธอจัดบอร์ดที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า เพื่อทำให้พ่อกับแม่รู้สึกแย่ที่ไม่อนุญาตให้เธอรับแมวมาเลี้ยง ข้อความแต่ละข้อความที่เด็กสาวเขียนแปะไว้บนผนังล้วนแล้วทำให้สะเทือนใจ เช่น “คุณจะปล่อยให้มันตายโดยไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอ?” “คุณจะฆ่าสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้ลงหรอ?” นอกจากนี้เธอยังนำภาพแมวที่น้ำตาไหลมาแปะพร้อมข้อความว่า “ดูสิ มันกำลังเศร้า” “น้ำตานี่เป็นเพราะคุณนะ” “ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับฉัน” ยังมีอีกหลายข้อความอีกหลายข้อความที่เด็กสาวเขียนขึ้นมา และเธอก็ย้ำว่าให้พ่อกับแม่อ่านข้อความทั้งหมดเหล่านี้ ซึ่งบอกเลยว่าอ่านแล้วมันช่างน่าสงสารจับใจเหลือเกิน “พวกมันกำลังจะตายอย่างโดดเดี่ยว ทั้งๆ ที่มันไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ ที่เป็นแบบนี้เพราะไม่มีใครสนใจใยดีพวกมัน” ข้อความของเด็กสาว “คุณกำลังจะฆ่าชีวิตที่ไร้เดียงสา” เจอข้อความเศร้าๆ…
-
อัลบั้มภาพถ่าย “ผู้หญิงสวย” ในฝรั่งเศสยุค 70s ความงดงามที่ไม่เสื่อมไปตามกาลเวลา…
ในปัจจุบันนั้นการถ่ายภาพนั้นเป็นศาสตร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่จะเห็นศิลปะภาพถ่ายสวยๆ มากมายจากศิลปินช่างภาพฝีมือดี ที่ถ่ายทอดผลงานของพวกเขาออกมา แต่เมื่อย้อนไปในอดีตนั้น การถ่ายภาพไม่ได้มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเหมือนในปัจจุบัน รูปภาพที่ออกมาจึงดูสวยงามแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกันเซทภาพที่เพื่อนๆ จะได้ชมต่อไปนี้มันดูเหมือนเป็นผลงานภาพถ่ายที่หลุดออกมาจากนิตยสารชื่อดังเลยทีเดียว Jonathan Charles เป็นช่างภาพในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส เขาได้เผยเซ็ทภาพของหญิงสาวที่ชื่อว่า Marie ซึ่งเธอเป็นแบบให้ถ่ายภาพเมื่อครั้งยุค 70 “ผมทำงานถ่ายภาพมากว่า 40 ปีแล้ว และทำมาทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นภาพนามธรรม ภาพถ่ายบุคคล ภาพการเต้นรำในโรงละคร ซึ่งผมจะเพิ่มมิติของสีและประสบการณ์ของผม จิตใต้สำนึกของผมลงไปในภาพด้วย” “ผมมักชอบจะถ่ายนางแบบในขณะที่เธอไม่ทันตั้งตัว เพื่อพยายามเรียนรู้ธรรมชาติของปฏิกิริยาผู้คน” “ผมโชคดีมากที่มีเพื่อนสาวๆ เหล่านี้ พวกเธาให้อิสระกับงานของผมและเป็นแบบที่สวยงาม โดยเฉพาะ Marie เธอเป็นนางแบบที่ร่วมเดินทางไปกับงานศิลปะของผมตั้งแต่เริ่มแรก” ภาพถ่ายที่สวยงามของหญิงสาวสวยคนนี้จะทำให้คุณไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นมากว่า 40 ปีที่แล้ว . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
นิสิตหนุ่มเดือดถามอาจารย์ “ทำไมถึงให้ F” ตัดพ้อแค่นี้ก็ปัดให้ไม่ได้ อีกแค่ 1.2 คะแนนเอง!?
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์บนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างรุนแรง หลังจากที่อาจารย์ท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพข้อความจากนิสิตท่านหนึ่งที่ถามเข้ามาถึงผลคะแนนของตัวเอง คุณ Piyapong Pukan Walker ได้โพสต์ภาพของข้อความจากนิสิตที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับคะแนนของตัวเอง แต่หลังจากที่พูดคุยไปได้ไม่นานดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของนิสิตท่านนี้จะไม่ได้ต้องการความกระจ่างของคะแนนเท่านั้น “ถือว่าขอร้องนะครับนิสิตทุกคน อย่าทำอีกเลยครับ #แล้วเราต้องทำตัวยังไงกับเรื่องแบบนี้” ข้อความจากเฟซบุ๊กของอาจารย์ โดยหลังจากที่นิสิตคนดังกล่าวได้รัลผลการเรียนในวิชาดังกล่าวในลำดับขั้น F นิสิตท่านนี้ก็ได้ส่งข้อความส่วนตัวมายังเฟซบุ๊กของอาจารย์ “ทำไมถึง F ครับ” นิสิตถาม อาจารย์ท่านดังกล่าวได้ตอบข้อสงสัยของเขาไปว่าเพราะคะแนนไม่ถึง 50 เลยได้ F แต่นิสิตท่านนั้นยังไม่คลายข้อสงสัยเขาจึงได้ถามอีกว่าจริงๆ แล้วเขาได้เท่าไหร่ “ขาด 1.2 คะแนน ก็ไม่ปัดให้” นิสิตหนุ่มกล่าว แต่ทางด้านอาจารย์ก็ได้ชี้แจงไปว่าอันที่จริงแล้วการที่นิสิตติด F นั้นไม่ใช่ความผิดของผู้สอนแต่อย่างใด และตัวเขาเองน่าจะตั้งใจให้มากกว่านี้ และหลังจากที่ถูกตักเตือนไป นิสิตก็ดูเหมือนจะเกิดอาการไม่พอใจ จนในที่สุดอาจารย์ท่านดังกล่าวจึงได้ถามกลับไปว่าจริงๆ แล้วตัวนิสิตเองนั้นต้องการอะไรกันแน่ และแล้วนี่คือคำตอบที่ได้!! แน่นอนว่าการขอเกรดนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และงานนี้ทางอาจารย์ก็เลยอธิบายกับนิสิตกลับไปว่า… สรุป 5 ข้อจากอาจารย์คนดังกล่าว ที่เป็นแง่คิดดีๆ ให้กับทั้งอาจารย์คนอื่นๆ และนักเรียนนักศึกษาทุกคน 1. มีการแจ้งชัดเจนทางเฟสบุ๊กของภาควิชาแล้วว่า จะไม่มีการมาขอเกรด 2. การแก้เกรดนิสิต 1 คน…
-
ลูกค้าถึงกับงง นั่ง Uber ประมาณ 20 นาที โดนเก็บค่าโดยสารไปกว่า 460,000 บาท!?
เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มแคนาดาผู้หนึ่ง ที่ได้แชร์ประสบการณ์ราคาแพงของเขา หลังจากที่ถูกคิดค่าโดยสารของบริการรถแท็กซี่จาก Uber เป็นเงินกว่า 18,518.50 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 460,000 บาท!! คุณ Hisham Salama เล่าประสบการณ์ของเขาผ่านทางทวิตเตอร์โดยบอกว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาเขาได้ใช้บริการดังกล่าว เพื่อไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลในเมืองโทรอนโต แต่เมื่อมาถึงที่หมายเขากลับถูกคิดค่าบริการเป็นจำนวนเงินมากกว่าครึ่งล้านบาท!! เจอเก็บค่าบริการแบบนี้ แบงค์ 20 ในกระเป๋าถึงกับสั่น!! จำนวนเงินดังกล่าวถูกแจ้งเป็นยอดที่ค้างไว้ในบัตรเครดิตของเขา “ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนั่งรถแค่ 20 นาทีผมถึงต้องเสียเงินกว่า 18,518.50 เหรียญ” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อของแคนาดา แต่ถึงแม้จะรู้สึกขำๆ เพราะคิดว่ามันจะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกหวั่นๆ เพราะเขาได้รับข้อความยืนยันจาก Uber ว่าค่าโดยสารดังกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว “เราได้ยืนยันแล้วว่าจุดเริ่มต้นที่คุณเลือกและปลายที่ทางเลือกนั้นถูกต้องแล้ว กรุณาบอกเราถ้าหากว่าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม” ส่วนท้ายของข้อความจาก Uber ถึงคุณ Hisham Salama แบบนี้ก็ยิ่งงงกว่าเดิมสิครับ ในเมื่อระบบช่วยเหลืออัตโนมัติไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับคุณ Hisham Salama ได้ งานนนี้ชายหนุ่มเลยต้องเพิ่งพาพลังแห่งโลกอินเตอร์เน็ต หลายๆ คนก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นกันต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนนี้ที่เอามือทาบอกพร้อมกับบอกว่า “เดี๋ยวนะ!! นี่เรื่องจริงหรือ??” ส่วนบางคนก็บอกว่าสงสัยเงินดอลล่าห์ของแคนาดาจะไม่เท่ากับของอเมริกาซะละมั้ง??…
-
มุมมองอันแตกต่างของ ‘ลูกค้า’ กับ ‘ดีไซเนอร์’ ที่เห็นขัดกันตลอด จะต้องแก้งานไม่รู้จบ!!
เมื่อพูดถึงอาชีพดีไซน์เนอร์หรือว่านักออกแบบ ภาพในหัวของใครหลายๆ คนอาจจะเป็นฟรีแลนซ์ที่ทำตัวชิวๆ ไม่ต้องเข้างานตามเวลา โดยคนส่วนใหญ่มักจะพบผู้คนอาชีพเหล่านี้ในร้านกาแฟ หรือสถานที่คูลๆ นั่นจึงทำให้พวกเขาดูเหมือนจะทำงานไม่ยากเย็นนัก แต่จริงๆ แล้วรู้ไม่ว่าดีไซน์เนอร์ ต้องใช้จินตนาการอย่างสูงในการจะสร้างสรรค์งานออกมาแต่ละอย่าง และก็บ่อยครั้งที่การออกแบบของพวกเขาก็ไม่ตรงตามต้องการของลูกค้า เพราะการมองโลกที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังมีมุมมองด้านศิลปะที่ต่างกันอย่างสุดขั้วอีกด้วย และนี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ดีไซน์เนอร์ทำกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ภาพเหล่านี้จะทำให้คุณเข้าใจหัวอกของดีไซน์เนอร์หลายๆ คนได้ดีมากขึ้นเลยทีเดียว หลายครั้งที่ดีไซน์เนอร์ออกแบบสีให้ตรงกับลักษณะงาน แต่ลูกค้ากลับบอกว่าไม่ชัดเจนซะอย่างงั้น คนไม่ใช่ทำอะไรก็ดูผิดไปหม๊ดดดดดดด สิ่งที่พวกเขาคิดว่านักออกแบบใช้ และสิ่งที่นักออกแบบใช้ทำงานจริงๆ ขนาดแค่ช่องว่าง ก็ยังดูใช้ไม่ได้สำหรับบอสทั้งหลาย การหาภาพต่างๆ ในสายตาของทั้งสองอาชีพ เรื่องของมุมมองก็เป็นเรื่องที่ต่างกันอีกเช่นกัน จริงๆ แล้วการใช้ Photoshop มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่ใครนึกนะ นักออกแบบได้กำลังใจจากการสร้างผลงานให้ออกมาดีแล้วมีความสุข ส่วนลูกค้าได้กำลังใจมาจากกำไรต่างๆ การเขียนแบบแนวๆ สามารถดึงดูดสายตาของผู้คนได้ แต่นายจ้างกลับถามว่าทำไมไม่เขียนให้มันเต็มๆ ล่ะ?? เป้าหมายสำหรับนักออกแบบคึือได้รางวัล ส่วนเป้าหมายของลูกค้าก็คือยอดขาย ออกแบบตัวหนังสือมาอย่างได้สัดส่วนแล้ว แต่ลูกค้าดันอยากให้ดูสูงขึ้นอีกซะงั้น แหม ก็มุมมองมันไม่เหมือนกันนี่ครับ เจ้านายย…
-
อดีตพนักงานร้านอินเตอร์เน็ตญี่ปุ่น เผย 5 เรื่องสุดแย่ของเหล่าผู้ใช้บริการ ที่พวกเขาพบเจอ…
ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้การเข้าถึงโลกอินเตอร์เน็ตนั้นไม่ใช่เรื่องยากเหมือนกับเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว แต่ทว่าในประเทศที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ยังคงมีการเปิดให้บริการของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่อยู่ ในประเทศญี่ปุ่นร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นั้นเป็นมากกว่าแหล่งบริการอินเตอร์เน็ตธรรมดาๆ เพราะที่นี่เปรียบเหมือนกับศูนย์รวมความบันเทิงขนาดย่อม ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังแบบฟรี การอ่านการ์ตูนคอลเลคชั่นพิเศษ บริการเครื่องดื่มซอฟดริ๊งค์ รวมถึงเป็นห้องพักราคาถูกสำหรับบางคนที่พลาดรถไฟรอบสุดท้ายอีกด้วย แต่ทว่าภายในล็อกสี่เหลี่ยมเล็กๆ กับเครื่องคอมพิวเตอร์นี้ก็มักจะมีเหตุการณ์แปลกๆ จากเหล่าลูกค้าเกิดขึ้นบ่อยๆ และเมื่อไม่นานมานี้สื่อของประเทศญี่ปุ่นเองได้ทำการสัมภาษณ์อดีตพนักงานในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อแฝงว่า T-san เขาได้ออกมาเปิดเผย 5 ประเภทลูกค้าสุดป่วนในร้านอินเตอร์เน็ตที่เหล่าพนักงานเคยพบเจอมากับตัวเอง… 1. ลูกค้าที่ทำเหมือนกับร้านเป็นบ้านของตัวเอง ถึงแม้ว่าร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในญี่ปุ่นนั้นจะมีบริการเครื่องดื่มและอาหารฟรีๆ หรืออนุญาติให้ลูกค้านำอาหารเข้ามากินในร้านได้ แต่ก็ยังคงมีลูกค้าบางคนที่มักจะทิ้งเศษอาหารเหล่านั้นไม่เป็นที่เป็นทาง หรือกองไว้ที่โต๊ะ และมักจะชอบสร้างความสกปรกในร้าน 2. พวกที่ชอบมาพร้อมกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างที่บอกไปตอนแรก ที่นี่อาจจะกลายเป็นโรงแรมชั่วคราวสำหรับคนที่พลาดรถไฟเที่ยวสุดท้าย แต่สำหรับบางคนร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นั้นแทบไม่ต่างอะไรกับโรงแรมเลยทีเดียว “ทางร้านก็มีบริการฝักบัวด้วย แต่ดูเหมือนว่าลูกค้าประเภทนี้จะไม่ค่อนสนใจฝักบัวที่มีไว้บริการเท่าไหร่ และมักปล่อยกลิ่นตัวให้อบอวลอยู่ในร้าน” คุณ T-san กล่าว 3. ลูกค้าที่ชอบใช้ทิชชูเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าทิชชูนั้นมีไว้สำหรับเช็ดคราบสกปรกต่างๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่กองกระดาษทิชชูนั้นวางอยู่มี่หน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นเราแทบจะไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันถูกใช้ไปด้วยการใด คุณ T-san ให้สัมภาษณ์ว่า “การใช้ทิชชูในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นั้นถือเป็นปัญหาหลักเลย ผมไม่รู้หรอกนะว่าการโตกในร้านเน็ตคาเฟ่นั้นถูกกฎหมายหรือไม่ แต่พวกคุณช่วยเก็บมันไปทิ้งด้วยเถอะ” 4. ลูกค้าแบบคู่รัก นอกจากบริการที่นั่งแบบเดี่ยวแล้ว ในร้านอินเตอร์เน็ตก็ยังมีบริการที่นั่งแบบคู่อีกด้วย และแน่นอนว่ามันโซฟาแบบนั้นก็มักจะถูกนำไปใช้ในจุดประสงค์อย่างอื่น “ในร้านเน็ตคาเฟ่ที่ผมทำงาน…
-
เจ้ากระรอกน้อย ยังคงกลับมาหาครอบครัวผู้ช่วยชีวิตมันทุกๆ วัน แม้ผ่านมาแล้วกว่า 7 ปี
เจ้า Bella กระรอกน้อยที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ถูกช่วยเหลือจนมันสามารถกลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง… ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่มันอายุได้เพียงแค่ 4 สัปดาห์ เจ้ากระรอกถูกนกฮูกทำร้ายและมันกำลังนอนบาดเจ็บเพื่อรอความตาย แต่ทว่าเจ้าหน้าพิทักษ์สัตว์ป่าคุณ Brantley Harrison บังเอิญพบมันเข้าเสียก่อนเจ้ากระรอกน้อยผู้โชคร้ายจึงสามารถมีชีวิตรอดได้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนตุลาคมปี 2009 ในตอนนั้นมันต้องพักรักษาตัวอยู่กับคุณ Brantley และครอบครัวของเธอเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งมันแข็งแรงพอที่จะออกไปด้านนอกได้ และนอกจาก Bella แล้ว หญิงสาวยังได้ช่วยเหลือเพื่อนๆ อีก 3 ตัวของมันด้วยกันนั่นก็คือเจ้า Larry, Moe และ Curly กระรอกน้อยทั้ง 4 ได้รับการดูแลอย่างดี เธอปล่อยให้พวกมันหากินตามธรรมชาติรอบๆ บ้านซึ่งเต็มไปด้วยผลไม้และของโปรของเหล่ากระรอก Bella เป็นที่รักใคร่ของคนในครอบครัวมาก และเมื่อมันแข็งแรง พวกเขาก็ได้พามันกลับสู่ผืนป่าที่มันจากมา “มันเหมือนกระรอกตัวอื่นๆ ที่ฉันเคยดูแลมา พวกเราไม่ได้ดูแลมันเหมือนสัตว์เลี้ยง ความตั้งใจของพวกเราคือการดูแลมันให้แข็งแรงเพื่อพร้อมที่จะกลับสู่ป่าอีกครั้ง” คุณ Brantley กล่าว เจ้ากระรอกทั้งสี่กลับสู่ป่าด้วยความดีใจ พวกมันต่างวิ่งขึ้นต้นไม้และเริ่มสำรวจในพื้นที่ต่างๆ อย่างตื่นเต้น แต่ในขณะที่ตัวอื่นๆ พร้อมที่จะออกไปสู่โลกกว้างแล้ว แต่ดูเหมือนเจ้า Bella จะมีปัญหานิดหน่อย “Bella กลับมาที่บ้านพวกเราอีกครั้งถึงสองครั้งหลังจากที่ถูกปล่อยตัวไป ซึ่งกระรอกตัวอื่นๆ ก็กลับมาเช่นกัน แต่โดยปกติแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ให้หลังพวกมันก็ไม่โผล่มาหาคุณอีก…
-
อุทาหรณ์สอนใจพ่อแม่ คลิปพี่เลี้ยงทุบตีเด็กน้อย หลังเพิ่งโบกมือบ๊ายบายคุณแม่ ไม่ถึง 1 นาที!!!
คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในลิฟต์จากประเทศจีน เผยให้เห็นความโหดร้ายของพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งที่ลงมือทำร้ายร่างกายเจ้าหนูน้อยอย่างรุนแรง หลังจากที่แยกจากแม่ของเด็กไม่ถึงนาที!! เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวพี่เลี้ยงเด็กวัย 42 ปี หลังจากที่คลิปวิดีโอในลิฟต์ได้เผยให้เห็นหลักฐานชิ้นสำคัญในระหว่างที่เธอกำลังทำร้ายเด็กน้อยด้วยการทุบหน้าอกและศีรษะอย่างรุนแรง เพื่อให้เจ้าหนูหยุดร้องไห้ จากการรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน พี่เลี้ยงเด็กคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือนาง Li ได้ทำร้ายเจ้าหนูน้อยเมื่อเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา (แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเพศของเด็กคนดังกล่าว) ภายในคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นการกระทำอันโหดร้ายของนาง Li ในตอนแรกเธอได้ใช้ฝ่ามือทุบไปที่ท้องของเด็กหลายครั้งเพื่อให้เจ้าหนูหยุดร้องได้ แต่นั่นไม่เพียงพอ ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะยังไม่เงียบ เธอจึงได้ใช้ฝ่ามือตบไปที่ท้ายทอยของเด็กอย่างรุนแรงอีกหลายครั้ง และจากนั้นก็เขย่ารถเข็นเด็กอย่างแรง ก่อนที่จะออกจากลิฟต์ไป คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ต และชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของหญิงคนดังกล่าว “เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และทุกที่ การนำแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและการนำเสนอผ่านสื่อเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรทำ” หนี่งในความคิดเห็นจากชาวเน็ตใน Weibo และนี่คือสิ่งที่พี่เลี้ยงเด็กคนนี้กระทำต่อเจ้าหนูน้อยคนนี้ (คำเตือน: อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง) ที่มา nextshark
-
อธิบาย 5 ลำดับขั้นของ “ความสัมพันธ์” ตามหลักวิทยาศาสตร์ ว่าคุณอยู่ในระดับไหนกัน!?
บางครั้งความสัมพันธ์ของเรากับใครสักคนนั้นค่อนข้างซับซ้อน จนบางทีทำให้บางคนสับสนในความสัมพันธ์ว่าอยู่ในขั้นไหนแล้ว และตกลงเราเป็นอะไรกัน? ก่อนที่คุณจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ มาดูงานวิจัยใหม่จากเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ eHarmony ที่เผยให้เห็นถึงความสำคัญของการกระทำตลอดจนความสัมพันธ์ของมนุษย์เรา ในการวิจัยนี้ ทางเว็บไซต์ขอให้ชาวออสเตรเลีย 1,000 คน เปิดความสัมพันธ์ที่สำคัญของพวกเขา ตั้งแต่จูบครั้งแรกไปจนถึงมีอะไรกัน 1. ช่วงเวลาที่เจอกัน จากผลการวิจัยพบว่าส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางกายอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงแรกๆ โดย 1 ใน 4 คู่จะจูบกันตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ในขณะที่ 1 ใน 10 จะรอให้ถึง 3 สัปดาห์ก่อนแล้วค่อนแลกจูบแบบดูดดื่ม นอกจากนี้ผลการวิจัยยังพบอีกว่าคู่เดทไม่เร่งรีบที่จะมีอะไรกับใครสักคน แต่ส่วนใหญ่จะรอให้ถึง 3 เดือนก่อนแล้วค่อยทำแบบนั้น ในขณะเดียวกัน ผู้คน 9% ตัดสินใจที่จะนอนกับคู่เดทตั้งแต่วันแรกหรือสัปดาห์แรกที่เจอกัน ทั้งนี้ผู้ชาย 1 ใน 4 จะมีความกระตือรือร้นที่จะมีอะไรกับคู่เดต เทียบกับผู้หญิงแล้วมีเพียง 1 ใน 10 ที่คิดจะทำสิ่งเดียวกัน โดยทั่วไปผู้หญิง 25% ชอบที่จะรออย่างน้อยหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้นก่อนที่จะตัดสินใจมีอะไรกับคู่เดต 2. ช่วงพัฒนาความสัมพันธ์ คู่เดตหลายๆ คู่มักจะมีความคิดที่แตกต่างในความสัมพันธ์ขั้นตอนนี้จนทำให้พวกเขารู้สึกสับสน เพราะ 1 ใน 3 คิดว่าคุณจำเป็นตองพูดคุยหรือถามก่อนเพื่อจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่พิเศษหรือเริ่มคบกันนั่นเอง ในขณะที่ 2/3 ส่วนที่เหลือเชื่อว่าควรใช้ความรู้สึกมากกว่าที่จะมาพูดคุยกันแบบนั้น การวิจัยพบว่าแม้คู่เดตจะรู้สึกดีต่อกันและตัดสินใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์แล้ว แต่พวกเขาจะรอให้ถึง 3 เดือนก่อนแล้วค่อยปิดการใช้งานแอปหาคู่ออนไลน์…
-
เรื่องราวของ ‘คุกโลมาดำ’ ที่ไม่ได้น่ารักเหมือนชื่อ เพราะนี่คือคุกที่โหดที่สุดในรัสเซีย
คงไม่มีใครอยากติดคุก การต้องติดอยู่ห้องขังหรือรั้วกั้นที่ทำให้เราไม่ได้รับอิสรภาพและไม่ได้เห็นสิ่งต่างๆ ภายนอกเป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินบรรยาย แล้วยิ่งถ้าเป็นคุกที่ขึ้นชื่อว่า “โหดที่สุด” แล้ว มันก็ยิ่งเลวร้ายมากกว่านั้น เหมือนกับสถานที่แห่งนี้ นี่คือคุกที่ชื่อว่า Black Dolphin หรือแปลไทยก็คือ โลมาดำ ตั้งอยู่บนชายแดนประเทศคาซัคสถาน เป็นคุกที่เรียกได้ว่า “โหดที่สุดในรัสเซีย” และการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาเอามากๆ มันโหดขนาดไหนและนักโทษภายในนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง เราลองไปสำรวจกันผ่านภาพเหล่านี้ ชื่อของคุกถูกตั้งขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ จากนักโทษที่ได้เห็นรูปปั้นที่ตั้งอยู่ด้านหน้า ในสถานที่แห่งนี้มีผู้ต้องขังอยู่ราวๆ 700 คน ทั้งฆาตกรต่อเนื่อง มนุษย์กินคน หรือผู้ก่อการร้าย ว่ากันว่าจำนวนของเหยื่อที่นักโทษในคุกแห่งนี้ลงมือสังหารมีประมาณ 3,500 คน เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 5 คดีต่อหนึ่งผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังเหล่านี้ส่วนมากถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต อย่างเช่นในภาพคือนักโทษ Vladimir Nikolayev หนึ่งในมนุษย์กินคน เขาได้ฆ่าชายคนหนึ่งแล้วลากไปที่ห้องน้ำเพื่อหั่นศพออกมาเป็นชิ้นๆ เขากินศพไปบางส่วน ก่อนที่จะแบ่งไปให้คนอื่นๆ ที่คิดว่านั่นคือเนื้อจิงโจ้ เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้ Vladimir คืออีกหนึ่งฆาตกรสุดโหดในรัสเซีย หลังจากที่นักโทษเข้ามาอยู่ในคุกแล้ว พวกเขาจะได้รับการเฝ้าดูผ่านกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง ในแต่ละห้องขังจะถูกกั้นด้วยกรงเหล็กถึง 3 ชั้น เพื่อให้ผู้ต้องขังรู้สึกเหมือนกับการอยู่ในคุกซ้อนคุก…
-
หญิงสาวร่ำไห้กลางศาล ระหว่างไต่สวนอดีตแฟนหนุ่ม ที่บังคับให้เธอเดินเปลือยกลางเมือง
การหึงหวงนั้นอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังแสดงให้เห็นว่าคนรักของคุณนั้นยังคงแคร์และใส่ใจคุณอยู่ แต่บางครั้งความหึงหวงที่เกินกว่าเหตุก็อาจจะนำมาสู่ความรุนแรงและทำร้ายคนรักของคุณได้เช่นกัน คณะลูกขุนต้องอึ้งกันทันทีหลังจากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกบังคับให้เดินเปลือยกายทามกลางอากาศหนาวของเมืองนิวยอร์ก หลังจากที่แฟนหนุ่มของเธอจับได้ว่าเธอแอบส่งข้อความหาชายอื่น “เขาบีบคอฉัน และทรมานฉัน ในตอนนั้นฉันแทบจะหมดลมหายใจทีเดียว” หญิงสาววัย 25 ปีให้การกับศาล หลังจากที่เธอถูก Jason Melo แฟนหนุ่มทรมานนานกว่า 2 ชั่วโมงก่อนที่จะบังคับเธอออกมาด้านนอกพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวท่ามกลางอากาศหนาว และอัดคลิปวิดีโอประจานเธอ นอกจากนี้หนุ่มวัย 26 ปียังถูกกล่าวหาอีกว่าเขาพยายามจะขว้างรูปปั้นพระพุทธรูปใส่เธอ ในขณะที่ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขานอนห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอที่ชายหนุ่มถ่ายประจารแฟนสาวของเขา คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในอินสตราแกรมและ LiveLeak ก่อนที่จะถูกนำมาฉายให้คณะลูกขุนในชั้นศาลเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงคำด่าทอของชายหนุ่มที่พูดกับแฟนสาวของเขาอย่างรุนแรง “ถอดผ้าขนหนูของเธอออก แล้วเดินไปเธอมันคือนางแพศยา หันมาสวัสดีกล้องแล้วบอกสิ ว่าทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้” “ถอดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อตอบแทนกับความละอายใจที่เธอทำกับฉัน ฉันบอกว่าเธอคือผู้หญิงที่ดีที่สุดและอยากจะมีครอบครัวกับเธอ แต่เธอกลับแอบคุยกับผู้ชายมากกว่า 7 คน” คำพูดของชายหนุ่มภายในคลิปวิดีโอ หลังจากนั้นหญิงสาวก็หันมาตอบว่า “แต่ฉันไม่ได้มีเซ็กส์กับพวกเขานะ” นาย Jason ดึงผ้าขนหนูของแฟนสาวออก และปล่อยให้เธอเปลือยกายอยู่บนถนน ก่อนที่หญิงสาวจะพยายามเอามือปิดร่างกายของเธอ และเข้าไปหลบบริเวณที่จอดรถใกล้ๆ หลังจากถูกจับกุมตัว ชายหนุ่มให้การว่าเขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายเธอแต่อย่างใด และตอนนั้นคนอื่นๆ ก็เห็นว่าเธอมีความสุขดี “นักโทษคนอื่นๆ ยังบอกผมเลยว่าบางคนทำสิ่งที่เลวร้ายกว่าผมอีก”…
-
ศิลปินสาวผู้มี “เซลล์รูปกรวย” ในดวงตามากกว่าปกติ จนมองเห็นสีได้มากกว่าคนทั่วไป 100 เท่า
หลายๆ คนรู้ว่าดวงตาของเราจะมีเซลล์หนึ่งเรียกว่า เซลล์รูปกรวย (Cone Cell) ที่มีไว้สำหรับการแยกแยะสีต่างๆ ที่เรามองเห็น โดยในคนปกติทั่วไปจะมีด้วยกันอยู่ 3 เซลล์ แต่เธอคนนี้กลับพิเศษยิ่งกว่า เพราะเธอมีอยู่ถึง 4 เซลล์เลยทีเดียว หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Concetta Antico ศิลปินในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เธอคือคนที่มีเซลล์รูปกรวยอยู่ถึง 4 เซลล์ จึงทำให้สามารถแยกแยะสีออกได้มากกว่าคนทั่วไปเกือบ 100 เท่า ลองคิดดูว่าคนปกติมีสามเซลล์ ในหนึ่งเซลล์สามารถแยกแยะได้ 100 เฉดสี และพอมาใช้ร่วมกันก็เลยทำให้เราสามารถแยกได้ราวๆ 1,000,000 เฉดสี แต่เธอคนนี้มีมากกว่าเรา 1 เซลล์ เธอเลยสามารถเห็นสีได้มากราวๆ 99 ล้านเฉดสีเลยทีเดียว นั่นทำให้เธอคนนี้เหมือนอยู่คนละโลกกับเราเลยก็ว่าได้ อย่างเช่น เวลาเรามองสิ่งๆ หนึ่ง เราอาจเห็นแค่สีเดียว แต่สำหรับเธอมันอาจจะมากกว่านั้นและอาจเป็นสีที่เราไม่เคยคิดจินตนาการมาก่อน ถ้าใครจำได้ว่าช่วงปีก่อน เราเคยถกเถียงกันว่าชุดเดรสตัวหนึ่งว่ามันเป็นสีน้ำเงิน-ดำหรือสีขาว-ทองกันแน่ จนกลายเป็นเรื่องราวโด่งดังไปทั่วโซเชียล แต่ Concetta กลับเห็นต่างออกไปมากกว่าเดิม เพราะเธอบอกว่าเธอเห็นเป็นสีเทาเข้มจางๆ…
-
Sia ทวีตโต้ หลังจากถูกสื่อตั้งคำถาม การใช้แดนเซอร์เด็กไม่ถือเป็นการทารุณกรรมหรือ
ถ้าหากใครที่เป็นแฟนๆ บันเทิงต่างประเทศคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับนักร้องสาวผมปิดหน้าอย่าง Sia กันเป็นอย่างดี และถ้าหากสังเกตดีๆ พักหลังๆ มานี้ในมิวสิควิดีโอหรือการแสดงสดของเธอนั้นก็มักจะปรากฏภาพของสาวน้อยนักเต้นวัย 15 ปีอย่าง Maddie Ziegler ให้เราได้เห็นหน้าค่าตากันอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศเองก็ได้ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้เด็กเป็นสิ่งแทนตัวเองของเธอ โดยสื่อดังกล่าวได้ตั้งคำถามว่า “ความสับสนของ Sia ถ้าหากชื่อเสียงเป็นสิ่งที่อันตราย ทำไมต้องสื่อออกมาผ่านเด็ก” แน่นอนว่างานนี้ขุ่นแม่ Sia ของเราก็ได้ออกมาตอบคำถามดังกล่าว ซึ่งเธอเองก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวว่า เธอเองก็ได้ทำการสอบถามเด็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่เป็นประจำว่าเธอยังคงอยากที่จะทำการแสดงอยู่หรือไม่ และเธอเองก็ยังได้ปรึกษาเรื่องราวดังกล่าวกับทางพ่อแม่ของเด็กและผู้จัดการส่วนตัวของหนูน้อยอยู่บ่อยๆ อีกด้วย “Maddie มีชื่อเสียงอย่างมากตอนที่ฉันพบเธอ ฉันได้เตรียมที่จะรับผิดชอบเมื่อนำเธอเข้ามาแสดง และเป้าหมายของฉันก็คือให้อำนาจเธอในการตัดสินใจกับสิ่งที่เธอเลือก” ข้อความบางส่วนจากทวิตเตอร์ของนักร้องสาว ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะโต้เถียงว่าเด็กวัยรุ่นนั้นอาจจะไม่มีวุฒิภาพวะพอในการเลือก แต่นักร้องสาวก็บอกว่า เธอเองพยายามที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเด็กน้อย และคอยพูดคุยกับเธออยู่เสมอๆ Sia และสาวน้อย Maddie Ziegler นอกจากนี้ Sia ยังได้กล่าวผ่านทวิตเตอร์ของเธอเพิ่มเติมอีกว่า “สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Maddie นั่นก็คือชื่อเสียงที่เกิดขึ้นนั้นมันส่งผลต่อเธอแตกต่างไปจากฉัน ฉันเชื่อทุกอย่างที่เธอพูด และเมื่อไหร่ก็ตามที่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป เราจะหยุดทันที” โดยประเด็นที่ทำให้สื่อออกมาตั้งคำถามดังกล่าวนั้นก็คือ เมื่อปี 2013 นักร้องสาวของเราได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อบันเทิงว่าตัวเธอเองนั้นไม่อยากที่จะมีชื่อเสียง…
-
7 สิ่งที่ร่างกายพยายามจะบอก ว่าสุขภาพจิตของคุณนั้นเข้าใกล้ขีดอันตรายแล้ว
ในบางทฤษฎีอาจบอกว่าร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งที่แยกจากกันโดยสมบูรณ์ แต่เราก็สามารถสังเกตสุขภาพจิตผ่านการตอบสนองของร่างกายเราได้ เพื่อตรวจสอบว่าเรากำลังมีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่อยู่หรือเปล่า นักจิตวิทยา Jenny C.Yip จากลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแนะนำถึง 7 สัญญาณที่สามารถสังเกตตัวเราเองว่ากำลังประสบปัญหาสุขภาพจิตอยู่หรือเปล่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อการใช้ชีวิตของคุณในระยะยาว มีอะไรบ้าง เราลองไปดูกันเลย 1. หัวใจเต้นแรง อาการใจสั่นหรืออัตราการเต้นของหัวใจที่สูงผิดปกติคือสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังวิตกกังวล และมันยังหมายถึงว่าคุณกำลังตกอยู่ในปัญหาความเครียดเรื้อรัง นั่นเป็นเพราะว่าเวลาที่เรารู้สึกกระวนกระวาย สมองของเราจะปล่อยฮอร์โมนออกมาทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น 2. มีอาการแปลกๆ เกิดขึ้นกับมือ อาการเหงื่อออกมือคืออีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังจมอยู่กับความวิตกกังวล ซึ่งอาการดังกล่าวสามารถพบบ่อยเวลาที่คุณถูกกระตุ้นให้ต้องคิดว่า “จะสู้หรือจะถอยหนี” ทำให้ระบบประสาทในร่างกายของเราตอบสนองออกมาอัตโนมัติ 3. รู้สึกว่าภายในร่างกายปั่นป่วนไปหมด การตอบสนองแบบ “จะสู้หรือจะถอยหนี” จะทำให้ร่างกายของเราปล่อยอะดรีนาลีนออกมา จนทำให้การทำงานของระบบย่อยอาหารช้าลงหรืออาจหยุดไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นหากใครตกอยู่ในความเครียดตลอดเวลา ก็จะมีอาการมวนๆ ท้อง จนอาจกลายเป็นอาการของโรคลำไส้แปรปรวน ที่ทำให้รู้สึกปวดท้องท้องผูก หรือท้องเสียได้ 4. รู้สึกปวดหัวตุบๆ อยู่เสมอ หากคุณยังคงมีความเครียดไปเรื่อยๆ อาการปวดหัวเรื้อรังก็จะตามมาอย่างง่ายดาย ซึ่งอาการนี้มักเกิดขึ้นในช่วงสายๆ เที่ยงๆ และจะเป็นอย่างนี้ไปนานหลายเดือน 5. รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา การใช้ความคิดอย่างหนักจะทำให้ร่างกายของเรารู้สึกเหนื่อยตามไปด้วย จิตใจของเราก็เปรียบได้กับจานหนึ่งใบ…
-
มือดีใช้ระบบ ‘อัลกอริทึ่ม’ เปลี่ยนใบหน้าของดาราหนังโป๊ ให้กลายเป็น Gal Gadot ได้!?
ด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำในปัจจุบัน ทำให้โปรแกรมต่างๆ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์สามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างมากมาย ซึ่งก็มีหลายคนที่นำโปรแกรมเหล่านี้ไปสร้างประโยชน์ให้กับสังคม แต่ก็มีอาจมีบางคนใช้ไปในทางที่ผิดเหมือนกับคนๆ นี้ได้นำใบหน้าของดาราภาพยนตร์เรื่องดังไปตัดต่อใส่ในหนังโป๊ซะอย่างงั้น และเหยื่อของการกระทำครั้งนี้ก็คือ Gal Gadot ดาราสาวสุดสวยผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง Wonder Women โดยเธอถูกตัดต่อใบหน้าลงไปในวิดีโอโป๊เรื่องหนึ่ง โดยในฉากนั้นเธอต้องมีเซ็กส์กับลูกพี่ลูกน้องของเธอเอง และจากภาพวิดีโออันล่าสุดของ Gal หากลองมองดูดีๆ จะพบว่ายังมีร่องรอยของการตัดต่ออยู่ อย่างบางทีก็มีใบหน้าที่เคลื่อนหลุดออกจากตัวบ้าง และคำพูดที่ออกมาก็ยังไม่ตรงกับปากอีกด้วย Gal Gadot ในวิดีโอโป๊ที่เธอถูกตัดต่อลงไป วิดีโอโป๊นี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในเว็บบอร์ดชื่อดังก้องโลกอย่าง Reddit ผ่านผู้ใช้ชื่อว่า deepfakes เป็นผู้โพสต์วิดีโอดังกล่าว โดยเขาได้อธิบายว่าเขาสร้างวิดีโอการตัดต่อเหล่านี้ขึ้นโดยใช้ machine learning อัลกอริทึ่มสาธารณะ ที่ใครๆ ก็สามารถใช้งานได้ที่มีชื่อว่า Tensorflow ของ Google ในการตัดต่อวิดีโอครั้งนี้ โดยในอดีต ยูสเซอร์ deepfakes ก็เคยตัดต่อดาราฮอลลีวูดลงไปในหนังโป๊แนวฮาร์ดคอร์มาแล้วหลายคนไม่ว่าเป็น Scarlett Johansson, Maisie Williams, Taylor Swift, Aubrey Plaza และเหยื่อรายล่าสุดก็คือ Gal Gadot นั่นเอง ลองดูดีๆ แล้วจะพบความไม่แนบเนียนอยู่ สำหรับ deefakes นั้นเขาได้ออกมาเผยว่าเขาไม่ใช่นักวิจัยปัญญาประดิษฐ์แต่อย่างใด เขาเป็นเพียงโปรแกรมเมอร์คนหนึ่งที่สนใจในระบบ…
-
คดีแย่งแมวอีรุงตุงนัง แต่ที่น่าสนใจคือ “ของกลาง” ที่ห้ามเคลื่อนย้าย มันน่ารักเหลือเกิ๊น!!
เป็นเรื่องซะแล้วกับคดีสุดอลเวงที่งานนี้มีเจ้าเหมียวมาแจมด้วย เรื่องราวนี้ถูกเผยแพี่ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของคุณ Nutch Prasopsin เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมาหมาดๆ นี้ โพสต์ต้นฉบับ เธอได้โพสต์เรื่องราวที่มีอยู่ว่า “เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งมาก ด่ากันไม่จบ เลยต้องจบที่โรงพัก เรื่อง A ขายแมวให้ B , B ยกให้ C ทำหน้าที่หาบ้านใหม่ให้ ทีนี้ A เห็นเข้าเลยมาทวงคืน เรานี่เป็น C ทีนี้มีการทวงกันผ่าน Social D, E, F คือทีมเสือกที่แท้จริง มีโทรมาข่มขู่อ้างบุคคลไฮโซ ตำรวจนั่นนี่ เลยบันทึกเสียงไว้ ไปแจ้งความ ตอนแรกจะฟ้อง E แต่ตำรวจดูแล้ว D นี่เอ่ยชื่อเพจทำให้คนรู้ว่าผู้เสียหายเป็นใคร เลยต้องพ่วง D ไปด้วย ตอนนี้ E นี่ลบเฟซบุ๊กไปเลย แต่พลาดตรงที่โทรมาข่มขู่เลยมีเบอร์โทรมัดตัว D นี่ปากดีไม่หยุด เลยไม่จบสักที แมวเลยกลายเป็นของกลาง…
-
คนงานรถไฟใต้ดิน LA บังเอิญเจอซากฟอสซิลอายุ 10,000 ปี คาดว่ามีชีวิตในช่วงยุคน้ำแข็ง
ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา มีการขุดเจาะขยายทางรถไฟใต้ดินมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีการค้นพบซากฟอสซิลของชิ้นส่วนสัตว์ดึกดำบรรพ์หลายชนิด อย่างเช่น กรามกระต่าย ฟันของสัตว์ขนาดใหญ่ หรือช่วงขาของอูฐ แต่ถึงแม้ฟอสซิลเหล่านั้นจะมีอายุเก่าแก่มากขนาดไหน ก็ไม่สามารถทำให้ Ashley Leger รู้สึกพึงพอใจได้เท่าครั้งนี้เลย เมื่อลูกทีมของเธอค้นพบฟอสซิลขนาดใหญ่ที่มีอายุมานานกว่า 10,000 ปี การขุดเจาะเพื่อขยายทางรถไฟใต้ดิน . เธอคนนี้คือผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ โดยการขุดเจาะถนนจำเป็นต้องมีเธอเข้ามาร่วมทีมด้วยก็เพราะว่า เมื่อไหร่ที่มีการพบฟอสซิล เธอจะเป็นคนเข้าไปตรวจสอบผลงานดังกล่าวด้วยตัวเอง ระหว่างการขุดเจาะนานเป็นปีๆ คืนหนึ่งลูกทีมของเธอก็ติดต่อมาและบอกว่า ค้นพบฟอสซิลขนาดใหญ่ ซึ่งนั่นทำให้เธอรีบตรงไปยังไซต์งานดังกล่าวในวันต่อมา ฟอสซิลที่ถูกค้นพบในครั้งนี้ก็มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยค้นพบ เพราะมันคือส่วนกะโหลกของแมมมอธ ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 10,000 ปีก่อน ในช่วงสุดท้ายของยุคน้ำแข็ง ฟอสซิลขนาดใหญ่ที่บังเอิญพบเข้าระหว่างการทำงาน Ashley หญิงสาวผู้ควบคุมปฏิบัติการการขุดฟอสซิลในครั้งนี้ จากการตรวจสอบ น่าจะเป็นกะโหลกของโคลัมเบียนแมมมอธวัยประมาณ 8-12 ปี และความพิเศษของเจ้าสิ่งนี้คือ ส่วนของงามันยังคงติดอยู่กับส่วนหัว ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่หาได้ยากมากจากฟอสซิลที่เคยค้นพบก่อนหน้านี้ Ashley บอกว่า “มันเหมือนฝันที่เป็นจริง นี่คือหนึ่งในฟอสซิลที่ฉันอยากค้นพบมากที่สุดตลอดชีวิตการทำงาน” โดยก่อนหน้านี้เธอเคยตามหาฟอสซิลแมมมอธในรัฐเซาท์ดาโคตา แต่เธอก็ไม่เคยเจอฟอสซิลที่มีความสมบูรณ์มากขนาดนี้เลย …
-
เมื่อรายการญี่ปุ่นถามชาวฟินแลนด์ เกี่ยวกับกฎระเบียบอันเข้มงวดของรร. ญี่ปุ่น เด็กฟินแลนด์ถึงกับอึ้ง!!
อย่างที่เรารู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของระเบียบวินัยที่ค่อนข้างเป๊ะไปซะทุกเรื่องรวมถึงกฎระเบียบต่างๆ ในโรงเรียนอีกด้วย และแน่นว่าถ้าหากพูดถึงเรื่องระบบการศึกษาล่ะก็ ประเทศฟินแลนด์เองก็ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าในด้านนี้อันดับต้นๆ ของโลก และอย่างที่เราทราบกันว่าโรงเรียนที่ฟินแลนด์มันคือสวรรค์ของเด็กๆ ชัดๆ ไม่ว่าจะเป็นการบ้านหรือการสอบที่แสนจะน้อยนิด และกฎระเบียบที่ไม่เข้มงวดมาก แต่จะเป็นอย่างไรบ้างถ้าหากเด็กๆ จากฟินแลนด์ได้ยินเกี่ยวกับกฎต่างๆ ของโรงเรียนในญี่ปุ่น?? เมื่อไม่นานมานี้ได้มีชาวเน็ตญี่ปุ่นท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพของรายารทีวีที่ได้ได้เผยให้เห็นคำตอบของเหล่าเด็กๆ จากประเทศฟินแลนด์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ภาพจากทวิตเตอร์ของคุณ @noginoginanamai “ในญี่ปุ่นมีกฎว่าห้ามนักเรียนย้อมผมและใส่ต่างหูมาโรงเรียน พวกหนูๆ คิดว่าอย่างไร้าง??” ทางรายการถามเหล่าเด็กๆ ชาวฟินแลนด์ “เราจะไม่ไปโรงเรียนแน่นอน ถ้าหากมีกฎแบบนั้น” ทางเว็บไซต์ Rocketnews ระบุว่ากฎระเบียบในโรงเรียนที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศนั้นอาจจะมาจากจุดประสงค์ของนโยบายการศึกษา ซึ่งจุดมุ่งหมายในการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ก็คือการเรียนของพวกเด็กๆ เท่านั้น ซึ่งต่างจากบางประเทศที่ให้ความสำคัญกับด้านอื่นๆ ด้วย อย่างเช่นความเป็นระเบียบวินัยของเด็กๆ นั่นเอง และแน่นอนว่าหลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพจากรายการทีวีดังกล่าว ก็ได้มีชาวเน็ตญี่ปุ่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก ซึ่งบางคนก็บอกว่า “ไม่ใช่แค่โรงเรียนในฟินแลนด์เท่านั้นที่ไม่มีกฎเข้มงวด แต่ในโรงเรียนอาชีวะหรือพวกวิทยาลัยต่างๆ ก็ด้วย ฉันอิจฉาพวกเขาจริงๆ กฎเข้มงวดเหล่านี้ไม่มีทางเปลี่ยนได้เลยอย่างนั้นหรือ??” ในขณะที่บางคนก็บอกว่า “แต่ในโรงเรียนเอกชนแพงๆ ก็ไม่ได้มีกฎที่เข้มงวดเหมือนกันนะ พวกเขาทำให้เด็กๆ อยากเรียนรู้ด้วยตัวเองและกฎต่างๆ เหล่านั้นก็ไม่จำเป็น แต่น่าเสียดายที่โรงเรียนส่วนมากยังมีกฎที่เข้มงวดแบบนี้” แล้วโรงเรียนของเพื่อนๆ…
-
งานประติมากรรมไม้สุดอลังการ แต่ดูดีๆ แล้วพื้นผิววัสดุกลับไม่ใช่อย่างที่เห็น…
ปกติแล้วเวลาที่เราจะทำประติมากรรมจากไม้สักชิ้น เราจะต้องหาไม้ชิ้นโตที่มีขนาดใหญ่มากพอเพื่อแกะสลักมันให้ออกมาตามแบบที่เราต้องการ หรือไม่ก็หาไม้ที่มีลักษณะเฉพาะที่เราเห็นแล้วน่าจะใช้มันต่อยอดได้อย่างไม่ยากเย็น แต่สำหรับ Christopher David ช่างทำประติมากรรมยอดฝีมือคนนี้กลับเลือกวิธีที่แตกต่างออกไป เพราะด้วยความที่เขาไม่ได้เป็นแค่ช่างประติมากรรมแต่เขายังเป็นจิตกรด้วย และเมื่อนำสกิลทั้งสองมารวมกันมันจึงทำให้การสร้างผลงานไม้ที่ไม่ต้องใช้ไม้จริงๆ จึงถือกำเนิดขึ้น ดูผ่านๆ ยังไงเราก็ต้องคิดว่ามันคือไม้แน่ๆ แม้แต่รายละเอียดต่างๆ ก็เป๊ะมากๆ ผลงานของ Christopher นั้นจะเป็นการใช้โคลนมาทำเครื่องเซรามิก ซึ่งระหว่างกระบวนการทำก็จะใช้อุปกรณ์พิเศษของเขาในการสร้างลวดลายไม้ และปิดท้ายด้วยการตกแต่งลงสีทุกอย่างให้เสมือนลายไม้เป๊ะๆ นอกจากนี้เขาได้นิยามงานของตัวเองไว้ว่า “การเปลี่ยนแปลงมันคือสิ่งที่ย้ำเตือนเราเสมอว่า ของที่คงทนสภาพเดิมๆ ไว้ ล้วนเป็นภาพลวงตา เช่นเดียวกับงานประติมากรรมของผมที่ผมค้นพบว่า งานเซรามิกของผมมันเป็นการผสมผสานกันระหว่าง มนุษย์ ธรรมชาติ และความไม่ยั่งยืน” “ที่ผมเลือกใช้โคลนแทนไม้จริงๆ นั่นก็เพราะว่ามันนุ่มง่ายต่อการเปลี่ยนรูปร่าง แต่กลับกันมันก็สามารถกลายเป็นของที่แข็งมากๆ ได้ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญมันเป็นวัสดุที่หาง่ายมาก” . “กลับกัน แม้ว่าเซารามิกจะเป็นวัสดุที่แข็ง แต่ความจริงมันก็เปราะบางมากเช่นกันเช่นเดียวกับชีวิตของคนเรา” . . . . . . . . . . . สุดท้ายแล้วถ้าใครชื่นชอบในผลงานของ Christopher ก็สามาระเข้าไปติดตามเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ christopherdavidwhite ได้เลย…
-
10 ไอดอลเกาหลี ที่ยังคงดูดีสวยเด่น แม้จะไม่ได้แต่งหน้าจัดจ้านก็ตาม
เมื่อพูดถึงดารานักร้องหญิงของเกาหลีแล้วนั้น เราคงจะเคยเห็นพวกเธอในมุมที่เฉิดฉายอยู่บนเวทีเท่านั้น ซึ่งนั่นคือภาพเบื้องหน้าที่พวกเธออาบไปด้วยเมคอัพทั้งหลาย ที่ทำให้ดูขาว ตาโต น่ารักในสไตล์สาวเกาหลี แต่จะมีซักกี่คนที่ยอมเผยมุมส่วนตัวที่ลบเครื่องสำอางไปจนหมด ให้แฟนๆ ได้เห็นกันบ้าง แถมแม้จะลบเมคอัพออกแล้ว พวกเธอก็ยังดูสวยน่ารัก ไม่ต่างกับนักร้องหญิงมากความสามารถที่อยู่บนเวทีเลย จะมีใครที่ถอดรูปแล้วก็ยังดูใสกิ๊กกันบ้าง เราไปชมกันเลย!!! 1. HyunA การแต่งหน้าของ HyunA ดูเหมือนจะจำเป็นเมื่อต้องขึ้นโชว์ซะมากกว่า เพราะในวันชิวๆ แล้วเธอก็ยังดูน่ารักและสวยงามโดยที่ไม่มีเมคอัพ . 2. Seolhyun วง AOA ความน่ารักสดใสแบบซื่อๆ ของเธอ ทำให้เธอดูน่ารักสมวัยแม้ในตอนที่ไม่แต่งหน้าก็ตาม . 3. Goo Hara ความน่ารักที่มาในรูปแบบใสๆ เธอไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าเลยด้วยซ้ำ ก็มีเสน่ห์ล้นเหลือมัดใจหนุ่มๆ แล้วล่ะ . 4. Nana วง After School หน้าสดของสาวเซ็กซี่คนนี้ได้เผยออกมาให้รายการสุดโหดอย่าง Real Men แม้แต่ในสภาพแวดล้อมทางทหารที่ไม่มีอะไรให้เลย เธอก็ยังดูเป็นตัวแม่เหมือนเดิิมไม่เคยเปลี่ยน . 5. Wendy วง Red Velvet แม้ในวันที่ต้องเดินทาง เธอก็ดูเหมือนจะไม่แต่งหน้าเลย เพราะมันดูเนเชอรัลจริงๆ แถมผิวพรรณของเธอยังเปล่งปลั่ง สดใส ไร้สิวอีกด้วย…
-
ชาวเน็ตขุดคุ้ยคุณแม่น้อง Keaton กุเรื่องกลั่นแกล้งขึ้นมา เพื่อเรี่ยไรเงินมาจุนเจือตัวเอง?
ก่อนหน้านี้เราอาจได้เห็นเรื่องราวของ Keaton Jones เด็กหนุ่มที่ออกมาพูดแสดงความรู้สึกเกี่ยวกับการที่ตัวเองถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอด จนทำให้คนดังจำนวนมากเข้ามาพูดให้กำลังใจเขา แต่ในวันนี้ได้มีคนเริ่มพูดถึงอีกหลายๆ ประเด็นที่อาจอยู่เบื้อหลังของเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อชาวเน็ตบางคนได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ Kimberly Jones แม่ของเด็กคนดังกล่าว หลังจากมีคนไปเห็นเพจ GoFundMe ที่เรียกร้องเงินให้ช่วยเหลือ Keaton จากการถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งมีถึง 2 เพจด้วยกัน นั่นจึงทำให้มีคนสงสัยว่าเงินจะสามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้จริงหรือเปล่า? ไม่แน่ว่าความจริงแล้วคุณแม่คนนี้อาจกำลังใช้ลูกเป็นเครื่องมือหาเงินก็ได้ คุณแม่ Kimberly ที่ได้กลายมาเป็นประเด็นจากคลิปลูกของเธอ ทาง GoFundMe ออกมาบอกว่า 1 ใน 2 เพจดังกล่าวถูกตั้งขึ้นมาจากชายคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้จักกับ Kimberly เลย ในขณะที่อีกเพจเป็นของคุณแม่ที่เรียกเงินบริจาคสำหรับของขวัญวันคริสต์มาสของ Keaton แต่พอเริ่มมีคนขุดคุ้ยเบื้องหลังของครอบครัวนี้ ทั้ง 2 เพจก็กลับปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หลายๆ คนก็ยังคงสงสัยในตัวคุณแม่คนนี้อยู่ดี เมื่อ Joe Schilling นักศิลปะการต่อสู้แบบผสม (หรือเรียกว่า MMA) ได้พูดคุยกับเธอผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เขากลับรู้สึกไม่พอใจอย่างมากหลังจากที่ความหวังดีของเขาถูกปฏิเสธ เพราะ Kimberly ต้องการแต่เงินเท่านั้น ด้วยความที่เขาสงสาร…
-
การ์ตูนสั้นจากศิลปินรัสเซีย กับมุมมองที่สื่อถึงชีวิตมนุษย์ บิดเบี้ยวความคิดของเราได้เลย!!
พวกเราอาจเคยชินกับมุมมองของสังคมในปัจจุบัน หลายๆ คนอาจสร้างกรอบความคิดไว้ในหัวบ้างแล้วว่าสิ่งนี้คืออะไรและมันต้องเป็นอย่างไรในสายตาเรา แต่ภาพเหล่านี้จะมาเป็นตัวทำลายและเปลี่ยนความหมายของสิ่งที่เราเคยคิดมาตลอด นี่คือภาพจากศิลปินชาวรัสเซียที่ชื่อว่า Anton Gudim กับรูปวาดการ์ตูนน่ารักๆ เรียบง่ายแต่มีความหมายไปอีกมุมมองหนึ่ง ที่เราอาจไม่เคยจินตนาการมาก่อน และแถมแอบสะท้อนถึงสังคมปัจจุบันอีกด้วย ไปดูกันว่าพอลองมองไปแต่ละภาพแล้ว เพื่อนๆ เข้าใจกันว่าอย่างไรกันบ้าง ชีวิตจริงกับการแต่งภาพที่เริ่มแยกกันไม่ออก ภาพซ้ายอาจทำให้เราคิดว่าเธอนั่งอยู่ในห้อง แต่ความจริงก็อาจไม่เป็นอย่างนั้น เคยมั้ยกับการคลิกที่ดวงตา เพื่อดูว่าพิมพ์รหัสถูกหรือเปล่า บางคนอาจรู้สึกคิดถึงแค่ในโลกโซเชียลเท่านั้นเอง การเติบโตของเรา ขึ้นอยู่กับการรับฟังผู้อื่น หรือปิดกั้นแล้วฟังแต่ตัวเอง สิ่งที่ติดอยู่ สิ่งที่เราคิดว่าน่าจะใช่ ก็อาจไม่ใช่เสมอไปหรอกนะ ก้าวข้ามคำว่าขีดจำกัด เพราะจินตนาการของเรามันไร้ขอบเขต การที่เราเห็นแค่สิ่งๆ หนึ่ง นั่นไม่ได้หมายความว่าเราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เรารับรู้จากความเคยชิน จนอาจลืมรับรู้ความจริงไปเลยก็ได้ เอกลักษณ์ของผลงานชุดนี้อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับลายเส้นหรือการลงสีใดๆ หากแต่จินตนาการคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ผลงานของเขามีความหมาย ซึ่งถ้าใครสนใจก็สามารถตามไปดูผลงานอื่นๆ ของเขาได้ที่อินสตาแกรม gudim_public ที่มา: designtaxi
-
สาวจีนไม่ซักปลอกหมอนมานานกว่า 5 ปี จนทำให้ใต้ขนตามีไรอาศัยอยู่กว่า 100 ตัว!!
การดูแลตนเองให้มีสุขอนามัยที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะมันคือตัวช่วยหลักที่ทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากเชื้อโรค ดังนั้นความเป็นอยู่ทั่วๆ ไปและความสะอาดของสิ่งต่างๆ ภายในบ้านก็ควรได้รับการดูแลเอาใจใส่อยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องเจอปัญหาเหมือนกับเธอคนนี้ได้ เรื่องราวนี้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2015 หญิงสาวแซ่ Xu ในมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน เธอรู้สึกระคายเคืองและมีอาการตาแดง จึงไปปรึกษากับแพทย์ แต่ด้วยอาการของเธอแพทย์จึงไม่ได้แนะนำวิธีใดๆ ให้มากนัก นอกจากการให้เธอใช้ยาหยอดตาช่วยบรรเทาอาการไป พอเวลาผ่านไป ในเดือนพฤศจิกายน 2017 เธอต้องกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง เพราะเธอรู้สึกว่าตาเธอแห้งมาก และขนตาของเธอก็เริ่มที่จะติดกันไปเป็นยวง เมื่อแพทย์ได้ตรวจอีกครั้งก็พบว่า มีไรจำนวนมากอาศัยอยู่ในรูขุมขนบริเวณขนตาของเธอ และนั่นจึงทำให้ต้องเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม เพราะแม้มันจะไม่ได้อันตรายถึงชีวิต แต่ก็เป็นปัญหาที่ไม่ควรปล่อยผ่านไปได้ หลังจากตรวจผ่านกล้องจุลทรรศน์ ทำให้เห็นว่ามีไรกว่า 10 ตัวอาศัยอยู่ในรูขุมขนของขนตาหนึ่งเส้น นั่นหมายความว่าบริเวณขนตาของเธอมีไรมาอาศัยอยู่มากกว่า 100 ตัวเลยทีเดียว แล้วลองคิดดูว่าไรพวกนั้นอาศัยอยู่ตรงนี้มานานถึง 2 ปีอีกต่างหาก สุดท้ายเธอได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคตาแดงและ Blepharitis หมายถึงสภาพที่เปลือกตาอักเสบเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ถูกปล่อยออกมาจากตัวไร แต่หลังจากได้รับการรักษาแล้ว หญิงสาวก็กลับมาหายเป็นปกติในที่สุด หมอบอกว่ากรณีของ Xu นั้นมาจากการถ่ายเทอากาศภายในห้องของเธอที่ไม่เพียงพอ รวมถึงสุขอนามัยส่วนตัว ซึ่งนั่นหมายถึงปลอกหมอนของหญิงสาวที่ถูกใช้มากกว่า 5 ปี…
-
เอาใจเจ้านายกับ ‘กล่องวงกต 50 ใบ’ ได้ทั้งความสนุกสนาน พร้อมป้องกันโรคสมองเสื่อมในแมว
ถ้าหากว่าคุณกำลังมองหาของเล่นชิ้นใหม่สำหรับเจ้านายที่บ้านอยู่ล่ะก็ คลิปวิดีโอที่เรานำมาฝากกันวันนี้อาจจะช่วยให้คุณเอาใจท่านเหมียวที่บ้านได้ง่ายๆ คลิปวิดีโอจากช่องยูทูบ Cole and Marmalade ได้แนะนำวิธีการสร้างเขาวงกตสำหรับเจ้าเหมียวง่ายๆ พร้อมกับแนะนำการทำและอุปกรณ์ต่างๆ ให้คุณสามารถเอาไปทำกันเล่นๆ ที่บ้านได้เลย คุณ Chris ชายหนุ่มเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ทำการนำกล่องกระดาษมากกว่า 50 กล่องมาต่อกันเป็นเขาวงกต โดยเขาได้ทำการเจาะรูกล่องแต่ละใบเพื่อให้มีช่องสำหรับทะลุไปมาได้ และหลังจากนั้นก็ปล่อยเจ้าเหมียว 2 ตัวของเขาอย่างเจ้า Marmalade และ Cole เข้ามาชื่นชมของเล่นชิ้นใหม่ที่ว่านี้ กล่องกระดาษมากกว่า 50 ใบ อุปกรณ์หลักในการสร้างเขาวงกตแมว!! แต่งานนี้ดูเหมือนว่า Marmalade และ Cole นั้นจะแอบขี้โกงนิดหน่อย หลังจากที่พวกมันพยายามที่จะกระโดดข้ามเขาวงกต เพื่อหาทางออกแบบลัดๆ โดยแทบจะไม่สนใจทางลอดที่คุณ Chris ทำเอาไว้เลยแม้แต่น้อย!! เอ๊าๆ อย่าแอบขี้โกงสิเจ้าเหมียว!! เฮ้อ เหนื่อยแล้ว ขอพักก่อนนะ ส่วนเจ้าตัวนี้ก็ยังคงเพลินกับการหาทางออกจากเขาวงกตนี้อยู่!! นอกจาการเล่นซ่อนหาในเขาวงกตแล้ว คุณ Chris ก็ยังได้เพิ่มเงื่อนไขสนุกๆ ให้กับเหล่าเจ้าเหมียวอีกด้วย เช่นนำอาหารไปซ่อนในเขาวงกต ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญก็ได้เผยว่าการที่เหล่าเจ้าเหมียวได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่กระตุ้นให้พวกมันเกิดความสนใจใหม่ๆ นั้นสามารถช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมในแมวได้อีกด้วย ชมคลิปวิดีโอการทำเขาวงกตแมว และความซนของเจ้า Marmalade และ Cole กันที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย… ที่มา shareably
-
หญิงสาวเผยความชอกช้ำในวัยเด็ก กับการถูกพ่อติดเหล้าทรมานกว่า 18 ปี เพื่อให้เธอเป็นยอดมนุษย์
ชีวิตของเราในวัยเด็กของแต่ละคนอาจไม่ต่างกันมากเท่าไหร่นัก บางคนอาจเจอกับปัญหาบางอย่างที่ตอนนั้นเราไม่มีกำลังมากพอจะแก้ไขมันได้ เช่นเดียวกันกับเธอคนนี้ที่ต้องเจอกับปัญหามาตั้งแต่เกิด และสิ่งนั้นก็ยังคงทำร้ายเธอมาจนถึงปัจจุบัน นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวชาวฝรั่งเศส Maude Julien ปัจจุบันอายุ 60 ปี เธอถูกพ่อแท้ๆ ของเธอทรมานทั้งกายและใจมาตั้งแต่เกิด เพื่อทำการทดลองเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นยอดมนุษย์ เธอเล่าว่า Didier พ่อของเธอเป็นคนติดเหล้าหนักมากและแทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนบ้าคนหนึ่ง เขาเชื่อว่าโลกกำลังจะถึงจุดจบ เลยจำเป็นต้องฝึกฝนลูกสาวของตัวเองให้กลายเป็นผู้รอดชีวิตและสามารถต่อกรกับปีศาจร้ายได้ ก่อนที่เธอจะเกิด พ่อของเธอได้รับเลี้ยงเด็กสาววัยเพียง 6 ขวบชื่อว่า Jeannine แล้วสองคนนี้ก็ได้แต่งงานกัน จนในปี 1957 ทั้งสองก็มีลูกด้วยกันชื่อว่า Julien ซึ่งก็คือเธอนั่นเอง หลังจากนั้นพอเธอเกิดมา พ่อของเธอจึงเริ่มแผนที่วางเอาไว้ เขาทรมานเธออย่างโหดเหี้ยมเพียงเพราะต้องการให้เธอกลายเป็นยอดมนุษย์ เธอถูกทำร้ายทั้งกายและใจ โดยที่แม่ของเธอกลับทำท่าทีห่างเหิน ไม่สนใจเธอเลย อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นที่เธอได้รับก็มาจากน้องหมาและลูกม้าที่เลี้ยงเอาไว้เท่านั้น เธอบอกว่า “ถ้าตอนนั้นฉันไม่มีสัตว์เลี้ยงพวกนี้อยู่ ฉันก็ไม่รู้เลยว่าจะใช้ชีวิตไปได้อย่างไร” ตอนเธออายุได้ 8 ขวบ พ่อของเธอบังคับให้เธอใช้สองมือเปล่าจับรั้วไฟฟ้าค้างไว้ และห้ามแสดงอาการเจ็บปวดใดๆ ออกมา เธอเคยถูกจับขังไว้ในกรงที่มีหนูติดเชื้ออยู่ด้านใน เพื่อให้เธอมองดูและสำนึกถึงความตายที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งยังถูกบังคับให้ดื่มเหล้าวิสกี้และต้องเดินตัวตรงหลังจากนั้น นอกจากสิ่งที่พ่อเธอทำเอาไว้นับไม่ถ้วนแล้ว เธอยังบอกอีกว่าถูกกรรมกรแถวบ้านล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่อายุ 3…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ประสบการณ์ความบังเอิ๊ญบังเอิญ ที่ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
หากใครที่คิดว่าชีวิตของตัวเองจำเจ น่าเบื่อ ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือทำให้รู้สึกแปลกใจได้เลย นั่นอาจหมายความว่าคุณคงยังไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบชาวเน็ตเหล่านี้ เพราะนี่คือสิ่งที่แทบจะไม่มีใครเคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง นี่อาจเป็นดวง โชคชะตาฟ้าลิขิต หรืออาจเป็นแค่ความบังเอิญ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ชีวิตมีสีสันและน่าค้นหามากยิ่งขึ้นไปอีก สิ่งที่ชาวเน็ตเหล่านี้ไปเจอมามีอะไรบ้าง เราลองไปดูกันเลยดีกว่าาา กำลังพายเรือเล่นอยู่เพลิน จู่ๆ ก็มีเพื่อนร่วมทางขึ้นมานั่งด้วยซะงั้น เจ้านกฮูกที่บินเข้าไปอาศัยอยู่ในรถนานถึง 3 ชั่วโมง แม้ว่าเจ้าของรถจะเปิดกระจกและพยายามไล่มันออกมาแล้วก็ตาม ช่วงเวลามันจะเหมาะเจาะอะไรขนาดนี้ ตั้งใจจะถ่ายหญิงสาว แต่แถมได้รูปน้องโลมาสุดน่ารักมาเพิ่มอีก 3 ตัว ใครจะไปคิดว่า Johnny Depp จะเคยมาเล่นดนตรีให้งานแต่งญาติของเขาในปี 1982 ถ้าเจ้าหมาของเขาไม่ปลุก เขาก็คงไม่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ ภาพของคุณพ่อที่ถูกเจ้าเสืองับแขนเข้าให้ วินาทีนั้นเขาคิดว่านี่คงเป็นภาพสุดท้ายที่จะได้เห็นมือของตัวเองแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็สามารถรอดมาได้ ม้าลายสองตัวที่มีลายเข้ากั๊นเข้ากัน สายรุ้งอันสวยงาม บนท้องฟ้าสีชมพูจางๆ นกนางนวลบินเข้ามาจู่โจมถึงในห้องน้ำ กลัวไอติมละลายหรืออะไร ห่อซะสองชั้นเชียว ภาพนี้มีทั้งแสงออโรร่า ดาวตก และรูปหัวใจสีชมพู มารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย …
-
เด็กสาวจีนวัย 16 ปี โพสต์ภาพโชว์อุ้มท้องให้ชาวเน็ตเห็น ถูกกระแสวิจารณ์ตีกลับอย่างรุนแรง
เมื่อวัยรุ่นตั้งท้องก่อนวัยอันควร ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบเสมอ เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าพวกเขายังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่ เหมือนอย่างวัยรุ่นสาวชาวจีนวัย 16 ปี คนนี้ ที่ถูกกระแสวิจารณ์ตีกลับอย่างรุนแรง หลังจากที่เธอโพสต์ภาพขณะทั้งท้องบนโซเชียล เด็กสาวคนนี้มากจากมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เธอได้โพสต์ภาพตัวเองเพื่อโชว์ให้ชาวเน็ตดูครรภ์ของเธอที่อยู่ในระยะใกล้คลอดเต็มทีแล้ว แทนที่ชาวเน็ตจะร่วมยินดีกับเธอในฐานะคนที่กำลังจะได้กลายเป็นแม่คนในเร็วๆ นี้ แต่ปรากฏว่าพวกเขากลับโฟกัสที่อายุของเธอมากกว่า สื่อจีนเผยว่าเด็กหญิงคนนี้ อายุ 16 ปี เธอเกิดเมื่อปี 2000 ในขณะที่แฟนหนุ่มของเธอหรือว่าที่คุณพ่อของลูกอายุมากกว่าเพียง 1 ปีเท่านั้น ทั้งนี้หญิงสาวโพสต์ในโปรไฟล์ Weibo ของเธอว่า “เราแต่งงานกันแล้ว! เราแต่งงานกันแล้ว! เราแต่งงานกันแล้ว! แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้รับใบสมรส และนี่ก็ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดด้วย” นอกจากนี้หญิงสาวยังบอกอีกว่าถ้าลูกเป็นผู้ชาย พวกเขาจะตั้งชื่อลูกว่า Li Yunxi… อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังคงทำให้ชาวเน็ตจีนสับสนและค้างคาใจ เพราะตามกฎหมายจีนแล้วผู้หญิงที่จะแต่งงานได้นั้นต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนผู้ชายต้อง 22 ปีขึ้นไป ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้รูปภาพของเด็กสาวถูกรีโพสต์ถึง 47,000 ครั้ง และมีการแสดงความคิดเห็นอีกมากกว่า 43,000…
-
อดีตแอร์สาวเกาหลี ลาออกมานั่งกินอาหารให้ชาวเน็ตดู ทำเงินได้เฉลี่ย 800,000 บาทต่อเดือน!!
ปัจจุบันเรียกได้ว่าโลกของเราก้าวเข้าสู่ยุคของอินเตอร์เน็ตอย่างต็มตัว เราสามารถหาทุกสิ่งทุกอย่างได้จากโลกออนไลน์ เพียงแค่เราใช้ปลายนิ้วเท่านั้น หากว่าเราใช้อินเตอร์เน็ตให้ถูกทางก็จะรู้ว่ามันมีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดอีกด้วย หนึ่งในการใช้อินเตอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นก็คือการใช้เป็นช่องทางในการหารายได้ จากที่เราเห็นได้ชัดเลยนั่นก็คือการขายของออนไลน์ที่สามารถทำรายได้รวมกันหลายล้านบาท และอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถทำรายได้อย่างสูงจากการใช้อินเตอร์เน็ตนั่นก็คือ การเป็นเน็ตไอดอลนั่นเอง อย่างเช่นกับสาวเกาหลีที่ชื่อว่า Jung Sora อดีตแอร์โฮสเตสสาวที่ยอมลาออกจากงานที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ใฝ่ฝัน มาใช้ชีวิตอิสระในแบบที่เธอเป็น โดยที่ Sora เลือกที่จะเดินตามเส้นทางที่เธอได้เลือกเองนั่นก็คือการมาเป็นเน็ตไอดอลพร้อมกับทำสิ่งที่เธอชอบไปพร้อมๆ กัน นั่นก็คือการกินนั่นเอง โอโห สุดยอดเลยอะ เธอเริ่มมาเป็นเน็ตไอดอลด้วยการจัดไลฟ์สตรีมมิ่งผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเกาหลีนั่นก็คือ AfreecaTV (คล้ายๆ Garena ในบ้านเรา หรือ Twitch ในต่างประเทศ) ด้วยหน้าตาที่สวยในฉบับสาวเกาหลี บวกกับลีลาท่าทางการพูดแบบเรียบง่าย เรียบร้อย และเป็นกันเองทำให้ Sora มีแฟนคลับติดตามและคอยสนับสนุนทุกครั้งที่เธอจัดรายการ รายการที่เธอจัดนั้นไม่ได้เป็นรายการโชว์เต้นวาบหวิวหรือครางชื่อแบบที่เราเคยเห็นตามการสตรีมมิ่งบ้านเรา แต่ทว่าสาวเกาหลีคนนี้เธอได้สร้างมิติใหม่ในการนำเสนอนั่นก็คือการโชว์กินนั่นเอง แต่ละอย่างที่เธอมากินอวดแฟนๆ นั้น ไม่ว่าใครที่ได้ดูก็ต้องออกไปหาอะไรมากินตามไปด้วยซะทุกอย่าง นอกจากจะได้จัดรายการ ได้กินของที่ชอบแล้ว เรื่องของรายได้ก็ไม่ใช่น้อยๆ นะจ๊ะ จากเดิมที่เธอได้รับเงินเดือนตอนเป็นแอร์โฮสเตสก็ประมาณ 85,000 บาท พอมาจัดรายการก็แค่เพิ่ม 0 ไปตัวเดียว…
-
ชาวญี่ปุ่นทดสอบอัพเกรดมีด 30 บาท ด้วยหินลับมีดมูลค่า 10,000 บาท จากมีดกากๆ ตอนนี้คบกริ๊บ!!
ในปัจจุบันร้านค้า 100 เยนในญี่ปุ่นอย่าง Daiso นั้นกำลังเป็นที่นิยมและกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากหาของใช้ราคาประหยัด เพราะร้านประเภทดังกล่าวจะมีสินค้าให้เลือกเยอะสุดๆ แถมราคาก็เป็นมิตรมากๆ อย่างไรก็ตามเมื่อราคาสินค้าในร้านมันถูก คุณภาพของมันก็จะต่ำลงลงมาตามราคาซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่บางครั้งคุณภาพมันก็แย่เสียจนไม่รู้จะพูดยังไง ถ้าใครคิดไม่ออกก็ยกตัวอย่างง่ายๆ กับมีดยี่ห้อ Galaxy มูลค่า 100 เยนหรือตีเป็นเงินไทยก็ 30 บาทนิดๆ ที่ถูกชาวเน็ตญี่ปุ่นเจ้าของช่อง ! 圧倒的不審者の極み เอาไปทดสอบตัดสิ่งของต่างๆ ซึ่งตัดยังไงก็ไม่ขาดเสียที แม้แต่กระดาษยังต้องออกแรงพอสมควรกระดาษถึงจะขาด… ด้วยเหตุเขาจึงต้องมองหาทางออกในการแก้ปัญหาครั้งนี้ เขาจึงจัดการออกไปซื้อหินลับมีดชนิดต่างๆ ซึ่งหินทุกอันจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2,800 ถึง 30,000 เยน ตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาทนั่นเอง ในช่วงแรกๆ หินลับมีดราคาถูกก็ช่วยได้ไม่มากนัก เขายังคงต้องใช้เวลาราวๆ 7 วินาทีกว่าโฟมชิ้นหนึ่งจะขาด แต่นั่นมันก็แค่การตีบวกครั้งแรกเท่านั้น เขายังคงนำหินลับมีดชนิดต่างๆ ที่มีมูลค่าสูงขึ้นมาลับต่อไป ผลลัพธ์ของการลับมีดทุกครั้งเรียกว่าออกมาดูดีทีเดียว เพราะทุกครั้งที่ทำการลับมีดระยะเวลาการหั่นโฟมก็ลดลงเรื่อยๆ จาก 7 วินาทีเหลือ 5 วินาที…
-
ชาวเน็ตบ่นในพันทิป “ซื้อรถคืนจากคนที่ดูแลไม่ดีได้มั้ย” ท็อปเมนท์มาตอบแทบสำลักน้ำตา…
สำหรับหลายๆ คนที่อยู่ในสมาคม ค.คนรักรถ คงจะรู้สึกเจ็บปวดแน่ๆ เวลาที่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจำเป็นต้องขับรถลุยถนนลาดยางที่เพิ่งทำเสร็จ หรือบังเอิ๊ญขับรถทับขี้หมา!! และสำหรับชาวพันทิปท่านนี้เองก็ดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในสมาชิกสมาคมที่ว่านี้เช่นกัน หลังจากที่เขาได้ตั้งกระทู้ถามชาวเน็ตเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาหลังจากที่ขายรถคันโปรดออกไป แล้วพบว่าเจ้าของใหม่นั้นดูแลไม่ดีเอาเสียเลย “ขายรถให้กับคนที่ไม่ดูแลรถเลย จะเอารถคืนได้มั้ย?? ไม่เคยเห็นเค้าล้างรถเลย เอาไปจอดตากแดดทั้งวัน ขับลุยทางหลุมบ่อ ช่วงล่างมีแต่โคลนแดง เห็นแล้วปวดใจมาก” “ตอนรถอยู่กับเรา เราทนุถนอมแทบไม่เคยโดนอะไร เห็นสภาพรถตัวเองตอนนี้แล้วอยากร้องไห้ เหมือนเห็นคนเอาลูกเราไปเฆี่ยนตีตอนนี้เค้าผ่อนไฟแนนซ์อยู่ เราสามารถซื้อคืนกับไฟแนนซ์ได้เลยมั้ย” ข้อความจากกระทู้ของคุณ SENSEBIORA และแน่นอนว่าคนไทยไม่เคยทิ้งกันอยู่แล้ว งานนนี้เจ้าของกระทู้ของเราก็ได้รับความช่วยเหลือจากชาวเน็ตมากมายที่เข้ามาปลอบใจ พร้อมกับบอกให้เขาทำใจเสียเถอะเพื่อน มันก็แค่ของนอกกาย แต่หลังจากที่กำลังอ่านคอมเมนต์ชาวเน็ตอย่างเพลินๆ และกำลังจะเข้าสู่การบรรลุธรรม เราก็สะดุดกับความคิดเห็นของชาวเน็ตท่านหนึ่งที่บอกว่าตัวเขาเองก็เคยเจอประสบการณ์เดียวกันเหมือนกัน แถมหนักกว่าอีก!! เจ้าของใหม่บอกซื้อไปแต่ง แต่เจออีกทีมาอยู่ช่อง 7 เฉ๊ย และนี่คือโฉมหน้าของรถคันดังกล่าวจากประกาศขาย ที่มาโผล่ในละครช่อง 7…. ถ้าคุณเป็นหนุ่มจากสมาคม ค.คนรักรถ งานนี้มีหัวใจวายกันแน่ๆ และสุดท้ายก็ปิดฉากกันด้วยภาพนี้ บรึ้มมมม!! จากจะซื้อไปแต่งสุดท้ายไหงกลายเป็นเอาไประเบิดได้ซะนี่!? และแน่นอนว่าความฮาระดับมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมาก มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากกว่า 97 คอมเมนต์เลยทีเดียว และนี่คือคอมเมนต์บางส่วนจากชาวเน็ต…
-
‘แม่จัสติน’ ให้สัมภาษณ์ เผยความรู้สึกเป็นครั้งแรก คิดยังไงกับ ‘เซเลน่า’ ว่าที่สะใภ้ของเธอ!?
โอ๊ยยยย อิชั้นล่ะเหม็นกลิ่นความรักเหลือเกินกับคู่รักแห่งปี Justin Bieber นักร้องซุปเปอร์สตาร์กับหวานใจอย่าง Selena Gomez ที่ได้ออกมาประกาศคบหาดูใจกันอีกครั้งหลังจากที่เลิกรากันไป ทำเอาบรรดาเมียผู้จงรักภักดีอย่างเราต้องอกหักตามกันไปเป็นแถว ซึ่งในงานนี้เหมือนทั้งคู่จะไม่ได้คบกันเล่นๆ แล้ว ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ถึงเรื่องราวของความรักทั้งสองอย่างเช่นคุณแม่ Pattie Mallette แม่ของหนุ่มจัสตินก็ได้ออกมาพูดถึงว่าที่ลูกสะใภ้อย่าง Selena ด้วยท่าทีที่เป็นปลื้มสุดๆ “ฉันไม่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวของเจ้าหนูทั้งสองนี้สักเท่าไหร่นะ จัสตินเค้าไม่ค่อยจะเล่าให้ฉันฟังเท่าไหร่ แต่ฉันรักแม่หนูเซเลน่านะ” “ฉันจะคอยสนับสนุนทุกอย่างที่จัสตินทำ ถ้าเขารักใครฉันก็จะรักด้วย ฉันเคยเจอเธอแล้ว ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่ดีและมีค่าคู่ควรกับลูกชายของฉัน ฉันก็พูดอะไรไม่ได้มากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ มันเป็นเรื่องของคนสองคน” แม่จัสตินกล่าว แหม่ ความรักในรอบนี้มันช่างราบรื่นซะเหลือเกินนะ ยังไงก็ยินดีด้วยกับคู่รักที่สามารถกลับมาคืนดีกันได้และดูเหมือนว่าจะหวานกันยิ่งกว่าเดิม #เหมียวบู้บี้ ก็ได้แต่ร้องเพลงว่า “ฉันมายินดีให้กับรักที่สดใส ,ไปเถิดทั้งคู่ ไปสู่ประตูสวรรค์” ที่มา people,buzzfeed
-
จากชายไร้บ้านผู้ร้องเพลงแลกกับ ‘อาหาร’ กลายมาเป็นแรปเปอร์ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ที่รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีชายไร้บ้านคนหนึ่งยืนอยู่ข้างถนน ที่หน้าอกของเขามีป้ายกระดาษแข็งที่เขียนว่า ‘จะร้องเพลงเพื่ออาหาร’ ชายไร้บ้านผู้นี้ชื่อว่า Byon Artrell McCullough เขาออกมาร้องเพลงบนทางเท้าที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน และเขาก็เห็นได้ว่าไม่มีใครสนใจเขาเลยจนกระทั่งมีผู้หญิงสองคนได้เดินผ่านเข้ามา เขาเริ่มร้องเพลงขึ้นมาและผู้คนที่อยู่แถวนั้นก็เริ่มชะงักและหยุดมองเขา โดยเขาได้ร้องเพลง All of Me ของ John Legend ด้วยเสียงสุดไพเราะคล้ายกับต้นฉบับจริงๆ ระหว่างที่ร้องเพลงก็เริ่มมีคนมามุงดูและถ่ายคลิปวิดีโอ เมื่อเขาร้องเพลงจบ ก็มีหลายคนนำอาหารมาให้เขาและแบ่งปันเงินเล็กน้อยให้ เขาจึงเริ่มร้องเพลงอีกครั้ง และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากลายมาเป็นแรปเปอร์ในทุกวันนี้ . คลิปวิดีโอที่มีผู้ถ่ายไว้ได้มีการเผยแพร่บนยูทูบเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2014 และมันก็โด่งดังจนกลายเป็นคลิปไวรัลที่มีผู้ชมมากกว่า 16 ล้านวิวในปัจจุบัน อีกทั้งยังกลายเป็นที่กล่าวถึงในสื่อต่างๆ ตอนนี้ชายหนุ่มไร้บ้านคนนั้นก็ได้หันมาเอาดีทางด้านการเป็นแรปเปอร์ในชื่อ Know Cash เขาได้ใช้ช่องทางนี้เพื่อจุดประกายความคิดให้ทุกคนมองคนไร้บ้านในทางที่ดียิ่งขึ้น “ถ้าคุณมีความสามารถ คุณควรพยายามช่วยตัวเองเป็นอันดับแรก แล้วค่อยกระจายความช่วยเหลือนั้นเผื่อแผ่ไปยังผู้อื่น คนจรจัดก็คือคนเช่นกัน ควรหยุดตัดสินคนจรจัดในทางไม่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่อยากช่วยเหลือด้วยเงิน ก็ขอให้สนับสนุนเขาด้วยสิ่งอื่นๆ” Byon กล่าว…
-
เจ้าเหมียวยอด “นักพูด” จะไม่ยอมนอนเด็ดขาด ถ้าไม่ได้เม้าท์มอยกับเจ้าทาสก่อนนอน…
ขึ้นชื่อว่าแมว อยู่เฉยๆ ก็มีคนแห่ขอเป็นทาสแล้ว แต่บางตัวยังเพิ่มดีกรีความน่ารักด้วยนิสัยเฉพาะตัว เล่นซะมนุษย์หลงหัวปักหัวปำเลย อย่างเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ชอบการพูดคุยกับเจ้าของ โดยเฉพาะเวลาก่อนนอนมันต้องได้คุยกับเจ้าของ ไม่งั้นมันจะไม่ยอมนอนเด็ดขาด ไม่ว่าคืนนั้นเจ้าของจะมีเรื่องคุยด้วยหรือไม่ แต่เจ้าเหมียวขอให้ได้คุยไว้ก่อน เพราะการได้คุยกับทาสเปรียบเสมือนอาหารหลักขาดไม่ได้จริงๆ เมื่อได้เริ่มคุยกับเจ้าของแล้ว สักพักความง่วงก็จะเข้ามา ตามันจะเริ่มปรือๆ แล้วค่อยๆ หลับไปในที่สุด นี่แหละคือความสุขเล็กๆ ของแมวเหมียว ส่วนเจ้าของเองก็เข้าใจในจุดๆ นี้ดี เมื่อให้อาหารมันจนอิ่่มแล้ว เธอก็จะมานอนอยู่ข้างๆ มัน แล้วก็เริ่มคุยกัน แม้จะพูดคุยกันคนละภาษา แต่ความผูกพันที่ผ่านมา ทำให้ทั้งคู่เข้าใจกันเสมอ วันนี้ทำอะไรมาบ้าง เจ้าทาส? ง้อววว ง่วงแล้ว ฝันดีนะ เห็นมั้ยว่าแมวไม่ได้ต้องการอะไรมากมายหรอก มันขอแค่ได้อยู่กับคุณ ได้คุยกับคุณในระยะเวลาสั้นๆ แค่นี้มันก็สุขใจแล้ว ใครที่เลี้ยงแมวอยู่ ลองสังเกตดูน่าเจ้านายของคุณชอบอะไร จะได้ตามใจมันถูกยังไงหล่ะ ที่มา fluffysworld
-
ช่างภาพสาวสุดเซ็ง ถูกปัดงานถ่ายภาพช่วงคลอด เพราะลูกค้า ‘ไม่อยากให้ลูกคลอดมาผิดเพศ’
Faith Grace ช่างภาพสาวอายุ 21 ปี ผู้ที่มีความชื่นชอบการถ่ายรูปมาตั้งแต่เด็ก เธอได้ใช้ความชื่นชอบของเธอมาเป็นอาชีพเพื่อหารายได้นั่นก็คือการรับจ้างถ่ายรูปตามโอกาสสำคัญต่างๆ แต่ชีวิตในการทำงานของเธอก็ต้องมาเจอกับเรื่องราวที่เธอรู้สึกว่า เธอจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว โดย Faith ได้ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ มันเป็นเรื่องที่เธอไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต และหวังว่าหลายๆ คนอาจจะเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังจะอธิบาย เรื่องราวมันเริ่มต้นมาจากที่ช่างภาพสาวได้รับการติดต่อจากหญิงที่ชื่อว่า McKenna ติดต่อเข้ามาเพื่อจะว่าจ้างให้เธอไปถ่ายรูปช่วงเวลาสำคัญนั่นก็คือการคลอดลูก ซึ่งหลังจากที่ได้ตกลงกันเสร็จสรรพ ช่างภาพสาวก็ได้เตรียมตัวล็อกคิวไว้เพื่อจะไปบันทึกภาพในช่วงเวลาสุดแสนพิเศษของคุณแม่ท่านนี้ วันรุ่งขึ้นเธอก็ได้รับข้อความจากคุณลูกค้าคนเดิม แต่เนื้อหาข้อความทำให้เธอโมโหจนปรี๊ดแตกและยังคงสงสัยว่า นี่มันยุคไหนกันแล้วนี่ เนื้อหาข้อความบอกว่า “สวัสดี Faith ฉัน McKenna ที่ติดต่อเธอไปเมื่อคืนนะ คือว่าฉันเพิ่งจะเข้าไปค้นหาข้อมูลและดูตัวอย่างรูปภาพผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวของคุณ แต่สิ่งที่ฉันเจอคือคุณได้โพสต์รูปภาพ Pride Flag (ธงหลากสี สะท้อนความหลากหลายทางเพศ) ฉันเลยมีคำถามว่า คุณเป็นเกย์หรือว่าคุณมีคนในครอบครัวเป็นเกย์มั้ย?” ทางช่างภาพสาวก็ได้ตอบกลับไปว่า “สวัสดี McKenna ขอบคุณที่สนใจ แต่ไม่มีใครในครอบครัวของฉันที่เป็นเกย์ แต่ฉันเป็น นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงมี Pride Flag ในไอจีของฉัน” ทางคุณลูกค้าก็ได้ตอบกลับมาทันทีว่า “จ้า…
-
รวมสัตว์เลี้ยงจอมทรยศ อุตส่าห์เลี้ยงให้เฝ้าบ้าน แต่ดันมาแย่งแฟนของเราไปซะงั้น!!
ใครจะไปคิดล่ะว่าเหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงของเราทั้งหลายมันจะมีความแรดได้ถึงเพียงนี้ ลูกเล่นมารยาของมันแต่ละอย่างจัดได้ว่าน่าหมั่นไส้ม๊ากมาก ยิ่งตอนที่มันอยู่กับแฟนของเรานะ ทำตัวยิ่งกว่าเป็นแฟนของพวกมันซะอีก ยังไงก็ตามถึงแม้ว่ามันจะน่าหมั่นไส้ไปนิด แต่มันก็มีความน่ารักอยู่ดี เห็นแล้วยังไงก็โกรธไม่ลงหรอก ฮ่าๆ เหมือนเจ้าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ยังไงล่ะ เจ้ากระรอกน้อยได้ขโมยแฟนของผมไปแล้ววววว ทำหน้าอ้อร้อมาก รักกันมากใช่มั้ย นี่ก็อีกตัว อย่าคิดว่ามีเจ้านายหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ ตกลงใครมาแย่งที่ใครกันแน่เนี่ย ไม่เกรงใจกันเลยเจ้าหมา มักชักจะมากเกินไปแล้วนะ อิจฉาอ่ะ มีความสุขมากเลยใช่มั้ย นั่งฟินตัวแข็งเลย รักผม ต้องรักแมวของผมด้วย ยิ้มแป้นเลยนะ แหม่ ภรรยาแอบถ่ายเมื่อคุณสามีนอนกับแมว อยากจะเซลฟี่ด้วยก็ไม่บอก ดูสายตานั่นสิคะ ที่รัก มองอะไรนังทาส ไปเอาขนมมาให้ข้าสิ นอนตรงนี้มันอุ่นสุดๆ ไปเลย นี่ฉันมารบกวนเวลาสวีทของคุณหรอเนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม โดนขัดซะงั้น จัดมาเป็นคอลเล็คชัน รู้แล้วจ้าว่ารักกันอ่ะ เหมือนรู้งานอ่ะ…
-
เผยอันดับดาวเด่น YouTube 2017 ทำเงินสูงสุด 540 ล้าน และแชมป์ไม่ใช่ PewDiePie แล้ว
แม้ว่าปี 2016 ผู้ที่คว้าอันดับยูทูบเบอร์ที่ทำรายได้สูงสุดจะเป็น PewDiePie ยูทูบเบอร์ที่มียอดซับสไครบ์สูงที่สุดในโลก แต่มาในปี 2017 กลับไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไป เพราะ Forbes ได้เผยชื่อเจ้าของตำแหน่งคนใหม่เรียบร้อยแล้ว!! ยูทูบเบอร์ที่มาโค่นแชมป์เก่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือ Dan Middleton วัย 26 ปี หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ DanTDM นั่นเอง โดยช่องของเขามีซับสไครบ์อยู่ที่ 11 ล้านซับสไครบ์ แต่ถึงแม้เขาจะมีจำนวนซับสไครป์ที่น้อยกว่าแชมป์เก่า ทว่าเขาก็สามารถทำเงินในปีนี้ไปได้มากกว่า 16.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 540 ล้านบาทเลยทีเดียว เงินจำนวนนั้นทำให้ Dan แซงหน้า PewDiePie ที่ทำเงินได้สูงสุดในปีที่แล้วไป 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเกือบๆ 490 ล้านบาทไปเรียบร้อย ยิ่งไปกว่านั้นในปีนี้ตัว PewDiePie ก็มีรายได้ลดลงจากปีที่แล้วเหลือเพียง 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น โดยเหตุผลหลักๆ ก็คงจะมาจากดราม่าเรื่องนาซี คำหยาบและคำพูดเหยียดผิวของเขาที่เป็นข้อกังขากัน อย่างไรก็ตาม เหตุผลหลักที่ทำให้ Dan สามารถทำเงินได้มหาศาลก็มาจากคุณภาพในช่องของเขาเอง โดยเขาได้กำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนว่าเขาจะมุ่งเน้นคอนเทนต์หลักไปที่กลุ่มเด็กอายุ 5 ถึง 10 ปี ฉะนั้นช่องของเขาจึงไม่มีคำหยาบเลย และนั่นก็ส่งผลให้การขอสปอนเซอร์หรืออะไรก็ตามมันเกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ ซึ่งวิดีโอหลักของช่อง DanTDM ก็จะยังคงเป็นเกม…
-
เด็กหนุ่มระบายความในใจหลังถูกแกล้งในโรงเรียน จนเหล่าคนดังแห่มาให้กำลังใจ!!
การกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ทำให้เหยื่อหลายคนรู้สึกไม่พอใจและอยากลุกขึ้นมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนอย่างเด็กคนนี้ ที่ถูกกลั่นแกล้งจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข การออกมาพูดถึงเรื่องราวและความรู้สึกของตัวเขาเองจึงกลายเป็นกระแสและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2017 เมื่อเด็กมัธยมต้นในเมืองน็อกซ์วิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา ชื่อว่า Keaton Jones ถูกกลั่นแกล้งซ้ำๆ จนเขาไม่กล้าไปกินอาหารกลางวันในโรงอาหาร แม่ของเขาจึงต้องมารับกลับบ้านไป ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งมากแล้ว คนเป็นแม่เห็นอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเฉยๆ ได้ เธอจึงถ่ายคลิปวิดีโอ ให้ลูกชายของเธอเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อการถูกกลั่นแกล้งหรือคนที่คอยกลั่นแกล้ง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการที่ถูกกลั่นแกล้งซ้ำไปซ้ำมา Keaton เล่าว่า “ผมถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอด ทั้งการเทนมใส่อาหารของผมหรือถูกถอดเสื้อผ้าออกกลางโรงอาหาร ไม่เข้าใจเลยว่าคนเหล่านั้นทำแบบนี้กับผมทำไม ไม่เข้าใจว่ามันสนุกนักหรือไงที่ได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์แบบนี้ สำหรับผม ผมรู้สึกไม่โอเคเลย” เมื่อคุณแม่โพสต์คลิปนี้ลงไป เด็กหนุ่มก็ได้รับกำลังใจจากผู้คนในโซเชียล รวมถึงเหล่าคนดังจำนวนมากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของเขา Captain America บอกให้เด็กหนุ่มเข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้คนพวกนั้นมากำหนดชีวิตเรา และเขายังถาม Keaton อีกว่า สนใจพาแม่มาร่วมงาน Avengers Premiere ในลอสแองเจลิส ที่จะจัดขึ้นปีหน้าหรือเปล่า? The Hulk…
-
เหล่าพ่อแม่ที่ฉลาดล้ำนำโลก ถ้าเรายังอยู่ในปี 2017 เค้าก็คงท่องเวลามาจาก 3017 แล้วล่ะ!!
ในปัจจุบันการจะพูดถึงนวัตกรรมต่างๆ หรือการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์แบบล้ำๆ นั้นดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดาไปซะแล้ว เพราะถ้าหากใครที่ติดตามข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีนั้นก็คงจะทราบกันดีว่าตอนนี้โลกเรานั้นไปไกลแค่ไหนแล้ว แต่ถึงแม้ในปี 2017 นี้เราจะมีการคิดค้นทางด้านนวัตกรรมก้าวกระโดดมากแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่ายังไงก็ไม่เท่ากับนวัตกรรมของคุณพ่อคุณแม่ที่ประยุกต์ใช้สิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวจนไปไกลถึงปี 3017 แบบนี้แน่ๆ 1. ลองนึกภาพสติกเกอร์ไลน์ดุ๊กดิ๊กที่มีหน้าคุณแม่ของคุณดูสิ!! อื้อหือ ยิ่งกว่าสวัสดีวันจันทร์แน่นอน!! 2. วิทยุสื่อสารของคุณพ่อที่มาจากปี 3017!! 3. นี่สินะที่เค้าเรียกว่าชุดเกราะกันรังสี (ดูคลิปไม่ได้กด ที่นี่ นะ) y’all livin in my 2017, my dad livin in 3017 pic.twitter.com/HoqRxJmZRA — Austin Roa (@AustinRoa) 17 มิถุนายน 2560 4. ดื่มไวน์แบบเย็นๆ โดยไม่ให้เสียรสชาติ ก็ต้องเอาแก้วแช่แบบนี้แหละนะ 5. การแอบซ่อนเบียร์ในตู้เย็น แบบปี 3017…
-
ถ้าคุณโดนหลอกให้ซื้อ ‘แมวแคระ’ เพราะคนขายอ้างว่าตัวไม่โตไปกว่านี้หรอก ยังจะเลี้ยงอยู่ไหม?
หลายคนอยากเลี้ยงสัตว์ แต่ติดปัญหาคือเราไม่มีพื้นที่ที่มากพอให้มันเข้ามาอยู่ด้วยได้ หรือเราอาจอยากได้สัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ มากกว่า เราจึงมักตามหาแมวแคระตัวจิ๋วและมักจะถามคนขายว่า “เลี้ยงยากมั้ย?” หรือ “มันจะตัวใหญ่ไปมากกว่านี้อีกมั้ย” คำตอบที่ได้ก็คือ “เลี้ยงไม่ยากครับ ตัวมันใหญ่สุดก็เท่านี้แหละ” แต่บางครั้งสิ่งที่เจอมันอาจไม่ได้เหมือนกับที่คนขายเขาบอกเรา พอเลี้ยงเจ้าเหมียวไปซักพัก นอกจากมันจะกินเยอะขึ้นแล้ว ขนาดตัวยังจะขยายใหญ่ขึ้นมาซะอย่างนั้น ที่แท้เราก็คงโดนหลอกให้ซื้อน้องเหมียว สายพันธุ์เมนคูน เฉยเลย!! มันมีรูปร่างที่ใหญ่มากขนาดไหน ต่างจากที่คนขายบอกอย่างไร เราลองไปดูกันเลย อยากได้แมวแคระ แต่โดนคนหลอกขายเมนคูนให้ซะอย่างนั้น นี่มันแคระตรงไหนฟะเนี่ย!? หรือจริงๆ มันก็ไม่ได้ตัวใหญ่อะไร แต่คนที่อุ้มมันอาจตัวเล็กเองหรือเปล่า แค่หางของเจ้าเหมียวนี่ก็เกินคำว่าตัวเล็กไปมากแล้วนะ ตัวเล๊กเล็กกก อยู่บนโต๊ะทีนี่หาที่วางจานข้าวไม่ได้เลย ถ้าอยู่หอพักพื้นที่ซัก 25 ตารางเมตร ก็คงพอให้เลี้ยงเจ้าเหมียวแล้วแหละ.. แต่หมายถึงให้มันอยู่ในห้องตัวเดียว เราอยู่ด้วยไม่ไหวหรอกนะ ไอ้หนูรีบๆ โตหน่อยนะ เดี๋ยวจะไม่ทันเจ้าเหมียวเอาได้ ไม่โตขึ้นแล้วจริงแหละ ถ้าโตกว่านี้ก็อย่าเรียกแมวเลย ทับทีก็มีหายใจไม่ออกกันบ้างแหละนะ ผู้หญิงหัวเล็ก หรือว่าเจ้าแมวหัวใหญ่กันหนอ.. อย่าซึมไปเลยสาวน้อย…
-
ชาวเน็ตเห็น “มีดพกอเนกประสงค์” มูลค่า 300,000 บาท คิดว่าแพงไป เลยรวมหัวรีวิวประชดยกใหญ่!!
เวลาเราพูดถึงมีดพกอเนกประสงค์ เราก็คงจะนึกถึงเครื่องมือขนาดพอดีมือที่สามารถใช้อะไรได้หลายอย่างในอันเดียว แต่ก็ยังมีคนที่อยากจะต่อยอดมันขึ้นไปเพื่อให้อุปกรณ์ดังกล่าวให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก เชิญพบกับ Wenger 16999 Swiss Army Knife Giant มีดพกอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีอุปกรณ์เสริมมากกว่า 87 รูปแบบ เรียกว่าพกเจ้านี้ไปแล้วเกิดอะไรขึ้นก็ตาม มันจะสามารถช่วยคุณแก้ปัญหาได้สบายๆ เลยล่ะ แต่แน่นอนว่าราคาของมันก็แรงตามคุณสมบัติของมัน Wenger 16999 นั้นมีราคาที่สูงถึง 9,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือตีเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 300,000 บาท ซึ่งตอนนี้กำลังวางขายอยู่บนเว็บไซต์ Amazon นั่นเอง ทว่าแทนที่เจ้าเครื่องมือสุดสะดวกนี้จะได้รับการรีวิวอย่างเหมาะสม ชาวเน็ตกลับพากันเห็นว่า ไอ้เจ้าเครื่องมือตัวนี้มันใหญ่เกินความจำเป็นและมันก็แพงใช่ย่อย พวกเขาก็เลยพากันให้คะแนนรีวิว Wenger 16999 กันแบบเกรียนๆ แถมยังยกพวกกันมายกใหญ่เลยด้วย!! ผมดันลืมเจ้าเครื่องมือนี้ไว้บนรถ Chevy 67 คันเก่าของผม พอเช้ามา เจ้ามีดพกอเนกประสงค์อันนี้จัดการซ่อมรถผมจนเอี่ยม แถมยังขับรถไปพาสาวขายบริการกลับมาบ้านอีกสองคน พร้อมกับเบียร์เย็นๆ อีกเพียบ เจ้ามีดพกอเนกประสงค์มันถามผมว่า ผมรู้จัก Sarah Connor ไหม ซพอผมบอกไม่ มันก็เดินออกประตูหน้าไปเลย โชคดีที่ผมรอดมาได้…นี่มันมีดพกอเนกประสงค์หรือคนเหล็กกันแน่ ผมไม่ได้สั่งมีดนี้มานะ แต่ดูเหมือนมันจะสั่งให้ตัวเองมาส่งที่บ้านผม ตอนนี้ผมชักจะสับสนแล้วนะเนี่ย …
-
เจ้าเหมียว ผอ. แวะไปโรงเรียนทุกเช้าเป็นประจำ เข้าไปทักนักเรียนตลอด ไม่เคยขาดเลย…
สำหรับหลายๆ คน การตื่นนอนแต่เช้า และสลัดขี้ตาแต่งตัวออกไปโรงเรียนให้ทันก่อน 8 โมงเช้าอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ!? แต่ทว่าสำหรับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้แล้ว การมาโรงเรียนให้ทันเข้าแถวนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย แถมในทุกๆ วันมันยังมาก่อนเวลาเข้าแถวตั้ง 1 ชั่วโมงอีกด้วย!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่คุณครูประจำชั้นได้ลืมลูกบอลเอาไว้ที่ห้องเรียนของเธอ และบังเอิญว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ดันมาเจอเข้าพอดี และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมามันก็กลายเป็นหนึ่งในนักเรียนคนสำคัญของห้องเรียนไปเลยทันที ทางโรงเรียนตั้งชื่อให้กับมันว่าแซมบ้า และในทุกๆ วันเจ้าเหมียวจะมาที่ห้องเรียนดังกล่าวในตอนเช้า มันไม่เคยขาดเรียนเลยแม้แต่ครั้งเดียวและที่สำคัญยังไม่เคยมาสายเกิน 7 โมงเช้าอีกด้วย!! “มันชอบเข้ามานั่งอยู่บนโต๊ะเรียน และขึ้นมานอนอยู่บนหนังสือของพวกเรา” หนึ่งในนักเรียนของโรงเรียนมัธยม Westbrook ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว และนอกจากความน่ารักน่าชังของเจ้าเหมียวแล้ว ซิมบ้าเองก็ยังเป็นขวัญใจของเหล่านักเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ ถึงขั้นเป็นแรงบันดาลใจในการจัดงานนิทรรศการศิลปะของทางโรงเรียนเลยทีเดียว ไปชมความน่ารักของเจ้าเหมียวได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา awwtopia
-
18 รูปภาพที่จะมาเปิดเผยว่า จริงๆ แล้วสิ่งของที่เราใช้อาจไม่ใช่อย่างที่เราคิดไว้ก็เป็นได้…
ชีวิตของเราในแต่ละวัน เราต้องหยิบจับสิ่งของเป็นสิบเป็นร้อยอย่างต่อวัน ซึ่งบางอย่างที่อยู่รอบตัวเราก็สามารถอำนวยความสะดวกได้ และบางอย่างก็อาจสร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงต่อใจ แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วสิ่งของต่างๆ ที่เรารู้จักมาทั้งชีวิตของเรานั้น บางอย่างก็มีการปลอมแปลงขึ้นมา หรือกระทั่งการย้อมแมวก็ยังมี แต่โดยความไม่รู้เราก็ใช้ไปตามภาษา ซึ่งรูปภาพเหล่านี้จะมาอธิบายว่าจริงๆ แล้วของที่เราเคยหยิบจับหรือเห็นหน้าค่าตาบางอย่าง จริงๆ แล้วของที่อยู่ภายในของมันอาจจะเป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึง และเมื่อได้เห็นแล้วอาจทำให้เราต้องร้องอุทานขึ้นมาว่า ‘ชีวิตตูโดนหลอกมาทั้งชีวิตเลยใช่ไหมเนี่ย’ ที่ยิงไฟ ที่แม่ค้าส่วนใหญ่นิยมใช้จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ไฟแช็กธรรมดาๆ ต่อเข้ากับท่อเท่านั้นเอง สายรัดข้อมือตามงานคอนเสิร์ตที่เด้งดึ๋งๆ จริงๆ แล้วมันอาจทำมาจากใบตลับเมตรเหมือนกันนะ แหม ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่ามันเป็นแค่ตลับเมตรห่อพลาสติกอะเนอะ ฉลากเปลี่ยน การใช้งานก็เปลี่ยนไป จากสเปรย์ดับกลิ่นกายมาเป็นสเปรย์ดับกลิ่นรองเท้าเฉยเลย บางครั้งลูกพูลก็เอามาสอดไส้ใส่ในลูกเปตอง และลูกโบว์ลิ่งอันนี้ก็ย้อมแมวมาจากลูกโบว์ลิ่งของใครสักคนที่ชื่อว่า ซาร่า Case สำหรับใส่สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของใครบางคน อาจจะทำมาจากกล่องยาสีฟันก็ได้นะ เอ้าลองตรวจดูกันหน่อยเร็ว ด้วยความที่มันแข็งเหมือนกันเลยไม่มีใครสังเกตมากนัก รู้หรือไม่ถ่านก้อนใหญ่ๆ มักจะผลิตจากการเอาถ่านก้อนเล็กๆ มารวมกัน อันนี้ก็เช่นกัน มันคือถ่านขนาด 9 โวลต์ที่ใช้ถ่านขนาด AAAA 6…
-
การถ่ายแบบในธีม ‘ฉันมา ฉันเห็น ฉันรุก!!’ จับหนุ่มล่ำมากอดรัดฟัดเหวี่ยง จนอยากเข้าไปแจมบ้าง
การที่นิตยสารต่างๆ จับเอานายแบบหุ่นหล่อล่ำมาถ่ายแบบโชว์เนื้อหนังนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งการตลาดที่จะเรียกลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสาวๆ และหากสาวๆ คนไหนที่ชอบแนวนี้ เราขอแนะนำให้ดูภาพจากนิตยสาร Man About Town ที่เรียกได้ว่าร้อนแรงซะจนอยากมีส่วนร่วมด้วย นี่คือชุดภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ Veni Vidi Vici ของ Man About Town ถ่ายโดย Mario Testino สำหรับงาน Man About Town Fall 2017 เดี๋ยว จะเอาตรงนี้เลยใช่มั้ย? ส่วนคำว่า Veni Vidi Vici เป็นภาษาละติน แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “I Came I Saw I Conquered” ถ้าเป็นไทยก็ “ฉันมา ฉันเห็น ฉันรุก” เป็นคำที่ทหารของ Julius Caesar ใช้ในขณะที่เดินทัพกลับกรุงโรมในปี 46 ก่อนคริสต์ศักราช เพื่อฉลองชัยชนะที่ทัพของ Caesar มีเหนือคู่แข่ง ที่เมือง Zela…
-
ชาวเน็ตถึงกับตกหลุมรัก เมื่อชายหนุ่มตั้งอกตั้งใจเรียนแบบสุดๆ ในคาบวิชาสัตววิทยา
เป็นธรรมดาที่การเรียนจะมีความน่าเบื่อบ้าง น่าตื่นเต้นบ้างสลับกันไป บางวิชาอาจจะไม่ตรงกับความสนใจของเราเลยทำให้ไม่ตั้งใจเรียนเท่าไหร่ ในขณะที่บางวิชาโคตรตรงกับความชอบของเราเลย จนทำให้เราตั้งใจเรียนเป็นพิเศษก็มี แต่ก็ไม่คิดว่าจะตั้งอกตั้งใจขนาดนี้…เรากำลังพูดถึงความตั้งใจเรียนของพ่อหนุ่ม Jalen Brooks วัย 17 นักเรียนชั้นมัธยมจากริเวอร์ไซด์ รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2016 จริงๆ แล้วใครๆ ก็ตั้งใจเรียนทั้งนั้นแหละ แต่ Jalen ดูจะตั้งใจเกินหน้าเกินตาไปหน่อย และบังเอิญว่ามีเพื่อนที่ชื่อ Jill Lojas แอบถ่ายวิดีโอปฏิกิริยาของเขาขณะที่เรียนวิชาสัตววิทยาไว้ด้วย ใส่ใจการเรียนขนาดนี้ เอา A ไปเลยมั้ย? ก่อนที่จะเริ่มเรียนคาบนี้ Jalen รู้อยู่แล้วว่าผู้ชำนาญในเรื่องสัตว์เลื้อยคลานจะนำสัตว์จากการค้าสัตว์ผิดกฎหมายมาโชว์ให้นักศึกษาดู แต่สัตว์ที่ชายหนุ่มคิดว่าไว้กับของจริงมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เค้าคิดว่าคงจะเป็นสัตว์เล็กๆ หรือสัตว์ทั่วไปเท่านั้น แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้หยิบสัตว์ที่เกินความคาดหมายด้วย อย่างพวกสัตว์เลื้อยคลาน โดยเฉพาะตอนที่หยิบงูออกมา ทำเอาชายหนุ่มอ้าปากค้างไปเลย Jalen เล่าว่า “เจ้าหน้าที่เริ่มจากการนำไก่ตัวเล็กๆ ที่ถูกใช้ในการชนไก่ เห็นแบบนั้นผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร แต่แล้วเขาเริ่มนำสัตว์ขนาดใหญ่ขึ้นมา จนทำให้ผมรู้สึกทึ่งมาก” “เขาหยิบสัตว์จำพวกเลื้อยคลานออกมา ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในหัวของผมคือ ‘นี่มันไดโนเสาร์ชัดๆ’ จากนั้นเขาก็ดึงงูหลามออกมา มันใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นเลยล่ะ ผมนี่โคตรทึ่งเลย” …
-
เรื่องราวของลูกสาวคนที่ 10 ที่ ‘พระราชินีวิกตอเรีย’ ทรงรับมาเลี้ยง และเธอเป็นคนผิวสี..
หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย อดีตราชินีแห่งสหราชอาณาจักร ผู้ได้รับฉายาว่า “สมเด็จย่าแห่งยุโรป” นั่นคือสิ่งที่เราเคยได้ยินมาบ้าง แต่เราเคยทราบกันมั้ยว่าพระองค์ทรงรับเลี้ยงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลูกบุญธรรม และเด็กคนนั้นก็ยังเป็นเด็กผิวสีอีกด้วย เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 1848 เมื่อตอนที่ Sarah Forbes Bonetta อายุได้เพียง 5 ขวบ เธอเป็นทาสชาวไนจีเรียที่ถูกราชาแห่งประเทศ Dahomey จับกุมพร้อมกับครอบครัวของเธอ Sarah หญิงสาวผู้ที่ได้รับการเลี้ยงดูจากราชินีวิกตอเรีย สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย อดีตราชินีแห่งสหราชอาณาจักร พ่อแม่ของเด็กสาวถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม และในขณะที่เธอกำลังจะจากโลกนี้ตามพวกเขาไป ทหารเรือชาวอังกฤษ Frederick Forbes ผู้กำลังทำภารกิจเลิกทาสในประเทศดังกล่าว ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเด็กสาวได้ทันเวลาพอดี ทหารหนุ่มตั้งใจที่จะส่งเด็กสาวไปให้ราชินีวิกตอเรีย เพื่อให้พระองค์ทรงรับเลี้ยงต่อไป เขาจึงพา Sarah เดินทางกลับประเทศอังกฤษ ด้วยเรือที่ชื่อว่า HMS Bonetta นั่นจึงกลายเป็นชื่อของเธอในภายหลัง เมื่อองค์ราชินีได้เจอกับเด็กสาวก็รู้สึกถูกชะตาอย่างมาก เธอได้กลายเป็นลูกคนที่ 10 ของพระองค์ และได้รับการเลี้ยงดูไม่ต่างกับพี่น้องคนอื่นๆ เลย เนื่องจากสภาพร่างกายที่อ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก Sarah จึงถูกส่งไปเรียนในประเทศเซียร์ราลีโอน เพราะองค์ราชินีทรงคิดว่าสภาพอากาศของที่นั่นน่าจะเหมาะกับเธอมากกว่า และเมื่อเรียนจบเด็กสาวก็กลับมาประเทศอังกฤษอีกครั้งในปี…
-
เด็กชายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งทานข้าวอยู่คนเดียว เลยเดินเข้าไปขอกอดเพื่อให้กำลังใจ
ตอนเด็กๆ พวกเราอาจมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคือฮีโร่ในสายตาเรา เพราะพวกเขาคอยดูแลความสงบสุขและความปลอดภัยของทุกคน เด็กคนนี้เองก็เช่นกัน เมื่อเขาได้เจอกับฮีโร่ในดวงใจของตัวเองแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปแสดงความรักและให้กำลังใจ เด็กคนนี้มีชื่อว่า TJ อายุ 3 ขวบ เขาและคุณแม่ Jamie Hubbard ได้เข้าไปกินอาหารในร้าน McDonald’s เมื่อเดือนมีนาคม 2016 ทำให้เขาเจอนายตำรวจคนหนึ่งกำลังกินอาหารอยู่ในร้านเพียงลำพัง หนุ่มน้อยคลั่งไคล้ในอาชีพตำรวจและรถมอเตอร์ไซค์อย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เขาเห็นมีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วนเลย เด็กน้อยจึงหันไปถามแม่ของเขาว่า “ผมขอเดินไปหาคุณตำรวจคนนั้นได้มั้ยครับ” เมื่อคุณแม่อนุญาต TJ เลยเดินเข้าไปหาตำรวจคนนั้นด้วยท่าทีเขินอาย เมื่อนายตำรวจ Colter เห็นเข้า เขาก็อดยิ้มให้กับท่าทางของเด็กคนนี้ไม่ได้เลย อ้ำๆ อึ้งๆ กันอยู่ซักพัก TJ ก็หันมาขอความช่วยเหลือจากคุณแม่ เธอจึงตะโกนบอกกับคุณตำรวจว่า “เขาแค่อยากกอดคุณเท่านั้นเอง” ทั้งคู่จึงกอดกันเพื่อเป็นการแสดงความรักและมอบกำลังใจให้กับการทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อยในอาชีพตำรวจ ด้วยความอาย เด็กชายจึงวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ และหลังจากนั้นทั้งสองก็ได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน รักษาความสัมพันธ์เอาไว้เสมอ คลิปเหตุการณ์ที่คุณแม่เป็นคนถ่ายเอาไว้ ทุกครั้งที่ทั้งสองเจอกัน ความอบอุ่นหัวใจก็จะเกิดขึ้นมาเสมอ …
-
มนุษย์กำลังหาบ้านให้มิ้วน้อย แต่เจ้าอ้วนตัวส้มดันคว้าน้องเอาไว้ ไม่ต้องให้ใครพี่ดูแลเอง…
การได้ช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของนับได้ว่าเป็นบุญอันประเสริฐ และนั่นเป็นสิ่งที่ครอบครัวแห่งหนึ่งทำโดยพวกเขาได้ช่วยแมวตัวหนึ่งจากข้างถนน และได้ให้แมวมาพักที่บ้านเพื่อจะหาบ้านที่อบอุ่นให้แก่มัน แต่ปรากฏว่าแมวตัวอ้วนที่พวกเขาเลี้ยงอยู่กลับไม่ยอมปล่อยให้เจ้าแมวที่น่าสงสารไปที่อื่นซะอย่างงั้น ผู้ใช้งานเว็บไซต์ Reddit ชื่อว่า todontblink ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดน่ารักนี้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องราวครอบครัวของเขา ที่พยายามจะหาบ้านใหม่ให้แก่ลูกแมวที่เก็บมาเลี้ยง นอนกอดกันเฉยเลย แต่เมื่อมันเข้ามาอยู่ในบ้านก็ดันไปพบรักกับแมวสีส้มตัวอ้วนที่อยู่มาก่อนแล้ว และดูเหมือนว่าลูกแมวที่เข้ามาใหม่จะชอบเจ้าขนปุยสีส้มนี้มากถึงขนาดเดินตามเป็นเงาตามตัวเลย นายจะเอาลูกแมวตัวนี้ไปไหน ฉันไม่ให้!! ลูกแมวตัวนี้ถูกพบกลางถนนชนบทแห่งหนึ่ง โดยการพบกับครอบครัวนี้ครั้งแรกมันดูตื่นกลัวเป็นอย่างมาก ทว่าด้วยจิตใจที่สงสารเมตตาของครอบครัวนี้ จึงได้พยายามช่วยเหลือมันได้สำเร็จ มาเล่นด้วยกันก่อนเนอะ “พวกเราพยายามหาบ้านให้กับมันทั้งการไปถามเพื่อนบ้าน และลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กแต่ก็ไม่มีใครสักคนรับมันไปเลี้ยงเลย” “วันแรกที่ลูกแมวเข้ามาในบ้านของเรามันดูเคอะเขินหน่อยๆ มันหมกตัวอยู่ที่มุมห้องตลอดเวลา แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานมันก็เริ่มไว้ใจเราและเดินไปรอบๆ บ้านเพราะมันรู้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัย” ยูสเซอร์ todontblink กล่าว แม้แต่หมามันก็ยังจะผูกสัมพันธ์ด้วย เมื่อลูกแมวสีขาว-ดำ เดินไปสำรวจรอบๆ บ้านและพบกับเจ้าแมวอ้วนตัวนี้ แมวเจ้าถิ่นก็กอดมันเอาไว้ในอ้อมแขนทันที อีกทั้งมันยังมีการเลียขนให้กันและกันและในที่สุดทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนรักในเวลาแสนรวดเร็ว สมาชิกใหม่ของบ้าน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและพยายามจะทำความรู้จักกับสิ่งมีชีวิตทุกๆ อย่างภายในบ้านนี้รวมทั้งหมาในบ้านด้วย มันมักจะชอบอยู่ใกล้ๆ กับใครซักคนและแอบอิงพิงกายกับสิ่งนั้นๆ กอดกันกลมเชียว ช่างน่ารักจริงๆ แผนการหาบ้านใหม่ของครอบครัวนี้ได้พังทลายลง…
-
หนูน้อยแรกเกิด มีขาติดกันคล้ายกับหางของนางเงือก แม้แต่แพทย์ก็ระบุเพศไม่ได้
เรื่องราวอันน่าประหลาดใจนี้เกิดขึ้นกับคุณแม่ชาวอินเดีย เมื่อเธอได้ให้กำเนิดลูกน้อยที่มีลักษณะผิดปรกติทางร่างกาย โดยขาทั้งสองข้างของเด็กน้อยนั้นติดกันคล้ายกับหางของนางเงือก ก่อนที่เจ้าหนูน้อยจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหนูน้อยไม่ทราบชื่อเกิดมาพร้อมกับอาการ Sirenomelia หรือ Mermaid Syndrome ที่มีขาที่ติดกันทั้งสองข้าง และนอกจากนี้การพัฒนาของกระดูกเชิงกรานที่ไม่สมบูรณ์ จึงทำให้ทีมแพทย์ไม่สามารถที่จะระบุเพศของเจ้าหนูน้อยคนนี้ได้ นาง Muskura Bibi หญิงสาววัย 23 ปี แม่ของเจ้าหนูน้อย ได้ให้กำเนิดลูกของเธอแบบแบ่งคลอดที่โรงพยาบาล Chittaranjan Deva Sadan ในเมือง Kolkata ทางตะวันออกของประเทศอินเดีย จากรายงานของสื่อต่างประเทศเผยว่า หญิงสาวคนดังกล่าวไม่ได้มีการทำอัลตราซาวด์เด็กก่อนที่เธอจะคลอด จึงทำให้แพทย์ไม่ทราบถึงสภาพของเด็กในท้องก่อนที่จะคลอดออกมา ส่วนทางด้านคุณหมอ Sudip Saha สูตินรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลดังกล่าวได้ออกมาเปิดเผยว่าสองสามีภรรยาพ่อแม่ของเด็กน้อยคนดังกล่าวประกอบอาชีพกรรมกร และพวกเขาก็ไม่ได้รับการฝากครรภ์อย่างถูกต้องเนื่องจากไม่มีเงินพอ โรค Sirenomelia หรือที่รู้จักกันในโรค Mermaid Syndrome เป็นอาการผิดปรกติทางร่างกายของทารกที่พบได้ยากมากๆ โดยมีอัตราการพบเพียงแค่ 1 ใน 60,000 ถึง 100,000 คน โดยอาการดังกล่าวจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนทางระบบทางเดินอาหารของเด็ก และทำให้การพัฒนาของไตทำงานผิดปรกติ ซึ่งในขณะนี้ทางวงการแพทย์ยังหาสาเหตุของโรคดังกล่าวไม่พบ ที่มา dailymail
-
ศิลปินตั้งใจพับนกกระเรียน 1,000 วัน ออกแบบไม่ซ้ำกันทุกตัว สะท้อนความคิดที่เกิดขึ้นทุกวัน
การพับนกพับดาว อาจจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำหรับสาวๆ ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ อย่างวันปีใหม่หรือช่วงวันวาเลนไทน์ ที่เตรียมมอบให้กับหนุ่มๆ คนพิเศษ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าการพับนกกระดาษที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ไม่ใช่แค่การพับนกใส่ขวดโหลธรรดาๆ พร้อมกับคำกลอนหวานๆ อย่าง “ความเหงาไม่เคยฆ่าใคร ถ้าหัวใจฉันมีเธอ” อย่างแน่นอน!! Cristian Marianciuc ศิลปินหนุ่มผู้เริ่มต้นฝึกฝนทักษะการพับกระดาษหรือศิลปะโอริกามิของเขาตั้งแต่ช่วงปี 2015 ชายหนุ่มใช้กระดาษเหมือนกับผืนผ้าใบที่จะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของเขาออกมา “ผมได้เล่าเรื่องราวของผมผ่านสี แสงเงา และทุกๆ อย่างรอบตัวผม” ศิลปินหนุ่มกล่าว เขาใช้เวลาในการฝึกฝนศิลปะโบราณของญี่ปุ่นนี้อยู่นานแรมปี จนในที่สุดก็ออกมาเป็นผลงานการพับนกกระดาษสุดอลังการกว่า 1,000 ชิ้น!! โดยผลงานแต่ละชิ้นก็ได้สะท้อนและบันทึกเรื่องราวในแต่ละวันที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณ Cristian นอกจากการพับนกกระดาษธรรมดาๆ แล้ว ที่ส่วนปีกของพวกมันยังมีการตกแต่งด้วยวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนแกะ เศษไม้ หรือกระดาษชิ้นเล็กๆ ให้ออกมาดูสวยงามอีกด้วย . . . นกกระดาษแต่ละตัวนั้นได้บันทึกความทรงจำของศิลปินหนุ่มผู้นี้เอาไว้ มันเหมือนกับการเก็บดอกไม้ไว้ในสมุดบันทึกตอนเด็กๆ เลยทีเดียว . ไปชมความสวยงามของผลงานศิลปะนกกระดาษธรรมดา ที่ไม่ธรรมดากันได้เลย… . . . . . นอกจากประดับด้วยเศษกระดาษและเศษกิ่งไม้และดอกไม้ต่างๆ แล้ว…
-
พ่อหนุ่มจืดพยายามจีบสาว แอบตัดสายเบรกรถอีกฝ่าย อ้างว่าผมทำไปในนามของ ‘ความรัก’
เชื่อว่าสาวๆ บางคนเคยเจอกับวิธีการจีบอันแสนแปลกประหลาดจากหนุ่มที่พยายามเข้าหา แต่สาวชาวญี่ปุ่นวัย 31 ปีคนนี้กลับเจออะไรที่มันเหนือกว่าคำว่าแปลกไปซะอีก เมื่อเธอได้เจอการจีบในแบบที่เรียกว่าถ้าพลาดขึ้นมาเธออาจถึงกับเสียชีวิตเลยก็ได้ ตอนเช้าวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 เธอกำลังจะขับรถออกไปทำงาน แต่เมื่อเธอสตาร์ทรถปุ๊บ มันก็ดันไหลไปด้านหน้าจนชนเข้ากับกำแพงอิฐ และนั่นจึงทำให้เธอรู้ในทันทีว่าสายเบรกของเธอถูกตัดไปจนเกลี้ยง หญิงสาวจอดรถเอาไว้ในที่จอดรถแห่งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวรีบติดต่อหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบหาว่าคนร้ายที่หมายเอาชีวิตเธอคือใคร จนเมื่อเจ้าหน้าที่ได้เปิดเช็กภาพดูจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในที่จอดรถ จึงทำให้สามารถทราบตัวคนที่มาตัดสายเบรกได้อย่างง่ายดาย ภาพจากกล้องวงจรปิดตอนตี 3 ครึ่งของวันนั้น เผยให้เห็นว่านาย Takuya Kawamura วัย 38 ปี เข้ามาตัดสายเบรกของเธอทุกเส้น จนทำให้รถของเธอไหลไปชนกับกำแพงแบบนั้น Takuya หนุ่มวัยกลางคน ผู้ก่อเหตุตัดสายเบรกรถคันดังกล่าว เมื่อสอบถามถึงแรงจูงใจว่าทำไมชายหนุ่มถึงทำอย่างนั้นลงไป เขาก็ตอบกับเจ้าหน้าที่ว่า “ผมทำสิ่งนี้ลงไปในนามของความรัก!!” ที่แท้นาย Takuya เพียงต้องการจะจีบสาวคนนี้เท่านั้นเอง ด้วยความที่เขาอยู่ในช่วงวัยกลางคนแล้ว การจะใช้วิธีเดินเข้าไปจีบแบบตรงไปตรงมา คิดว่าคงไม่เหมาะสมซักเท่าไหร่ เขาจึงคิดหาวิธีการใหม่เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ หวังให้เธอเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเขา และวิธีการของเขาก็สามารถเรียกร้องความสนใจได้ดีจริงๆ ไม่ใช่แค่กับหญิงสาวเท่านั้น แต่รวมถึงคุณตำรวจทั้งหลายอีกด้วย!! เยี่ยมไปเลย กล้องวงจรปิดที่ถ่ายภาพตอนผู้ร้ายเข้ามาตัดสายเบรกเอาไว้ได้ …
-
สื่อญี่ปุ่นตีข่าว ร้านราเม็งในไทยก็อปไอเดียแฟรนไชส์ราเม็งชื่อดังของญี่ปุ่นไปทั้งดุ้น!?
ร้านราเม็ง Ichiran หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ราเม็งข้อสอบ เป็นร้านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องของรสชาติน้ำซุป ซอสสูตรพิเศษ และจุดที่เห็นชัดที่สุดก็คือการตกแต่งร้านหรือรูปแบบการสั่งอาหารที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าทำข้อสอบอยู่จริงๆ ใครที่เคยลองไปกินราเม็งร้านนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น คงหวังให้ร้านดังกล่าวขยายสาขามาเปิดที่ไทยบ้าง ซึ่งนั่นก็อาจเป็นไปได้ ถ้าไม่ติดที่ว่าตอนนี้ชาวญี่ปุ่นถกเถียงกันว่าร้านราเม็งเจ้าหนึ่งในบ้านเราได้นำเอกลักษณ์ต่างๆ ของ Ichiran มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร้าน Ichiran นั้นมีความเก่าแก่ดั้งเดิม ถือกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1993 และได้มีการขยายสาขาออกไปต่างประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน และฮ่องกง แต่ที่ไทยกลับมีร้านที่ดูเหมือนกับร้านต้นฉบับมากเหลือเกิน จึงทำให้พวกเขาส่งคนเข้ามาตรวจสอบร้านดังกล่าวดู เมื่อผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นได้เดินทางมาใช้บริการร้านที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ราเม็งข้อสอบในไทย พวกเขาก็ถึงกับบอกเลยว่า เอกลักษณ์ทุกอย่างที่เป็นของร้าน Ichiran มารวมเอาไว้อยู่ในร้านนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเว็บไซต์ของร้านดั้งเดิมได้ออกมาพูดถึง 5 เอกลักษณ์ของทางร้าน ได้แก่ 1. ซอสแดงสูตรเฉพาะ 2. ซุปกระดูกหมูไร้กลิ่นเหม็น 3. ที่นั่งกั้นฉาก 4. กระดาษข้อสอบสั่งอาหาร 5. ระบบสั่งเพิ่มเส้น ทั้งหมด 5…
-
ทดลองเทลูกเต๋า 25,000 ลูกใส่กระบอก ผ่านกระบวนการหมุนจนทำให้มันเป็นระเบียบ!?
Compaction Dynamics คือกระบวนการที่ใช้กับวัตถุดิบที่มีลักษณะโมเลกุลแบบเป็นเม็ด อย่างเช่น หิมะ ถั่ว ทราย ข้าว หรือดิน เพื่อช่วยให้สิ่งเหล่านั้นเกิดการรวมตัวกันแน่นหนามากยิ่งขึ้น จึงทำให้กระบวนการนี้เป็นประโยชน์อย่างมากในอุตสาหกรรมการเกษตรหรืออุตสาหกรรมการผลิตพลังงาน ที่ผ่านมาวิธีการดังกล่าวสามารถใช้ได้ดีกับสิ่งที่มีลักษณะเป็นทรงกลม แต่หากเราใช้กระบวนการเดียวกันกับวัตถุทรงลูกบาศก์บ้างล่ะ ผลที่ได้จะออกมาเป็นอย่างไร? จากการตั้งคำถามทำให้การทดลองนี้ถือกำเนิดขึ้น นักฟิสิกส์จากประเทศเม็กซิโก และประเทศสเปน ตัดสินใจนำกระบวนการนั้นมาทดลองกับสิ่งที่มีรูปทรงเป็นลูกบาศก์ นั่นก็คือ “ลูกเต๋า” ความกว้างด้านละครึ่งเซนติเมตร จำนวน 25,000 ลูก ผู้ทำการทดลองเทลูกเต๋าทั้งหมดใส่ลงในภาชนะทรงกระบอกเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.7 เซนติเมตร ตั้งอยู่บนเครื่องมือที่ใช้ในการหมุน จากนั้นการหมุนก็เริ่มขึ้น เครื่องจะหมุนทั้งตามและทวนเข็มนาฬิกา หนึ่งวินาทีก็จะหมุนหนึ่งครั้ง ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ภาพที่เห็นคือลูกเต๋ากำลังเริ่มเรียงตัวกันดูลายตาไปหมด . เมื่อหมุนไปได้ประมาณ 300,000 ครั้ง ลูกเต๋าทั้งหมดกลับสามารถเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยซะอย่างนั้น!! จากนั้นพวกเขาจึงศึกษาเพิ่มเติมทำให้พบว่า ยิ่งหมุนเร็วมากเท่าไหร่ ลูกเต๋าก็สามารถเรียงตัวกันได้เร็วเท่านั้น แต่หากหมุนช้ามากๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือลูกเต๋าจะไม่มีทางเรียงตัวกันได้เลย ผลลัพธ์ดังกล่าวได้รับการอธิบายเอาไว้ว่า แรงหมุนที่เกิดขึ้นทำให้มีแรงผลักลูกเต๋าออกไปอยู่ติดกับผนังของภาชนะ และการเหวี่ยงไปแบบไร้จุดหมายของมันก็นำไปสู่การจัดเรียงโมเลกุลจนออกมาสวยงามอย่างที่เห็น เมื่อวัตถุได้รับแรงกระตุ้นที่มากพอ วัตถุก็จะถูกบีบให้ใช้พื้นที่ภายในให้ได้มากที่สุด หรือก็คือมันพยายามเก็บทุกช่องว่างจนทำให้ลูกเต๋าเรียงตัวกันอย่างแน่นหนาและเป็นระเบียบอย่างนี้…
-
หนุ่มเอาผ้าโพกหัวแบบคนดำมาเซอร์ไพรส์อาจารย์ ในคาบวิชาสังคมวิทยาจนชาวเน็ตตกหลุมรัก
เรื่องราวอันแสนน่ารักนี้เกิดขึ้นในชั่วโมงเรียนวิชาสังคมวิทยา เมื่อคุณ Doug Engelman อาจารย์จากมหาวิทยาลัย University of Tampa ได้ตั้งคำถามในชั่วโมงเรียนดังกล่าว เกี่ยวกับความแตกต่างของวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ Dylan Romero หนึ่งในนักศึกษาในชั้นเรียนก็ถูกถามเกี่ยวกับผ้าโพกหัวแบบชาวแร็ปของเขา ซึ่งอาจารย์ Doug ก็ได้ถามหนุ่มน้อยเกี่ยวกับผ้าโพกหัวและสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร และงานนี้คำตอบที่นักศึกษาวัย 18 ปีตอบนั้นก็เรียกเสียงฮาจากเพื่อนๆ และชาวเน็ตได้ไม่น้อยเลยทีเดียว “เราพูดกันเกี่ยวกับเรื่องของวัฒนธรรมและเราจะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้จากการแต่งกายของพวกเรา และอาจารย์ก็ยกตัวอย่างมาที่ผ้าโพกหัวของผม เขาถามผมว่า ‘นี่ Dylan ผ้าโพกหัวที่เธอสวมน่ะถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของเธอหรือเปล่า??’ ผมก็เลยตอบเขาไปว่า ‘ใช่ครับมันคือวิถีชีวิตของผม’” ชายหนุ่มเล่าถึงเรื่องราวในชั้นเรียนวิชาสังคมวิทยาของเขา และแน่นอนเมื่อวันอังคารที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ชายหนุ่มก็ได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมของเขาให้อาจารย์ดู ชายหนุ่มขอเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อจะทำบางอย่างให้เพื่อนๆ ในชั้นดู Dylan เดินไปที่หน้าชั้นเรียนก่อนที่จะหยิบถุงกระดาษหนึ่งใบที่เต็มไปด้วยผ้าโพกหัวหลากสี เพื่อให้อาจารย์เลือกจากนั้นเขาก็จึงสอนอาจารย์เกี่ยวกับการเป็นแร็ปเปอร์แบบง่ายๆ ด้วยผ้าโพกหัว ทำเอาเพื่อนๆ ในชั้นถึงกับฮาไปตามๆ กัน ไปชมความน่ารักของอาจารย์และหนุ่มน้อยได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… (ดูไม่ได้กด ที่นี่ นะ) So a few weeks prior, My Professor was teaching us about…
-
หญิงสาวเล่าประสบการณ์ ‘เดาะลมเล่นเสียวกับผี’ ติดใจเสียจริง แต่ก็ต้องปล่อยให้ผีไปเกิดใหม่
เราอาจเคยได้ยินข่าวการมีเซ็กซ์แบบพิสดารในหลายรูปแบบ แปลกๆ หน่อยก็คงเป็นข่าวคนมีอะไรกับสัตว์ทำนองนั้น แต่หญิงสาวคนนี้กลับจะทำให้คุณต้องตกใจมากยิ่งกว่านั้นซะอีก เพราะเธอคือคนที่ได้มีเซ็กซ์กับผี!! หญิงสาววัย 26 ปี Sian Jameson ได้ย้ายจากกรุงลอนดอน ไปอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ อันเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ในเมือง Aberystwyth ประเทศเวลส์ และนั่นก็ทำให้เธอได้เจอกับการร่วมรักในแบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เธอเล่าว่า เหตุผลที่ย้ายออกจากกรุงลอนดอนก็เพราะไม่สามารถลืมแฟนเก่าที่คบกันมานานกว่า 3 ปีได้ การได้ย้ายมาอยู่ในบ้านเช่าที่ห่างไกลผู้คนแบบนี้ คือสิ่งที่ตอบโจทย์เธอมากที่สุด การตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วพบว่าตนเองอยู่คนเดียว ทำให้เธอรู้สึกเหงาอยู่เสมอ เธอหวังว่าซักวันหนึ่งเธอจะได้เจอกับผู้ชายคนใหม่เดินเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง หญิงสาวใช้เวลาสำรวจไปรอบๆบ้านหลังใหม่ของเธอที่เต็มไปด้วยรูปวาดและหนังสือจากเจ้าของคนเก่า ก็ได้ไปเจอรูปรูปหนึ่งที่สะดุดตาเธออย่างมาก เป็นภาพของหนุ่มหน้าตาดี ที่ถูกวาดเอาไว้ในปี 1820 เมื่อผ่านไปไม่กี่เดือน ชายหนุ่มในรูปภาพนั้นก็กลายมาเป็นสิ่งที่ลบล้างความเหงาของหญิงสาวออกไป เมื่อวันหนึ่งเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนเช้ามืด และพบกับร่างของชายคนนั้นนอนอยู่ข้างๆ Sian อธิบายว่า “เขามีหน้าตาที่ดูดี ผมสีดำ สวมเสื้อสีขาวตัวหลวม ผ้าพันคอที่ดูเก่าแก่โบราณ ร่างของเขาดูเรืองแสงออกมาเล็กน้อย จนทำให้ฉันรู้สึกว่านี่มันคือความฝันชัดๆ จึงหมุนตัวกลับไปนอนตะแคงอีกฝั่ง หันหน้าเข้ากำแพง” ในตอนนั้นเอง เธอไม่สามารถข่มตาหลับลงไปได้เลย จู่ๆ เธอก็สัมผัสได้ถึงความกลัวที่แผ่ซ่านเข้ามา รู้สึกถึงมืออันแผ่วเบาและเย็นยะเยือกที่สัมผัสเข้ากับเอวของเธอ…
-
20 แมวที่เรียกได้ว่าตาสวยราวกับอัญมณี ถูกใจบรรดาเหล่าทาสกันแน่ๆ กับความคิวท์นี้
รู้หรือไม่ว่าสีตาของเจ้าเหมียวเกิดจากอะไร #เหมียวบู้บี้ ได้ไปศึกษาหาข้อมูลจึงได้รู้มาว่า สีของตาแมวนั้นเกิดมาจากเม็ดเมลานินที่เป็นตัวกำหนดสีตาของเจ้าแมว โดยจะแบ่งออกเป็นหลายสี เช่น สีฟ้า สีเหลือง สีเขียว สีน้ำตาล ตามกรรมพันธุ์ ลูกแมวส่วนมาแรกเกิดจะมีนัยน์ตาสีฟ้าจนเริ่มอายุประมาณ 7-12 สัปดาห์ก็เริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีที่แท้จริง ส่วนมากจะกลายเป็นสีดำ แต่ถ้าหาว่าเม็ดสีเหล่านั้นไม่ได้มีจำนวนมากพอเจ้าเหมียวก็จะมีสีตาที่ต่างจากปกติ ซึ่งในบางตัวก็อาจจะมีอาการ Heterochoromia คือความไม่สมบูรณ์ในการแบ่งเม็ดเมลานินทำให้แมวตัวนั้นมีตาสองสี ซึ่งไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายแต่อย่างใด และยังพบในแมวบางสายพันธุ์ที่มีตาสองสีโดยกรรมพันธุ์เช่น Japanese Bobtail, Turkish Angora แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรทาสแมวอย่างเราๆ ก็หลงแบบหัวปักหัวปำอยู่แล้วล่ะ 1. เจ้าเหมียวตาสองสี หน้าตาแกดูงงๆ แต่น่ารักกก 2. สายตาพิฆาต ใครมองแล้วจะตกหลุมรัก 3. ตาสีเหลืองเหมือนบุษราคัม 4. เหมือนกับมีน้ำทะเลในตาของเจ้าเหมียวตัวนี้เลยอ่ะ สวย 5. จะหาแมวตาสวยๆ แบบนี้ได้จากไหนเนี่ย 6. มองบนแป๊บ 7. ตากลมโต สีสวย ยิ่งมองยิ่งหลงรัก 8.…
-
สาวโพสต์ขอบคุณแฟนหนุ่ม ที่อยู่ข้างกันเสมอแม้เธอจะอ้วน และจะเคียงข้างเธอตลอดไป
Lexi สาวพลัสไซส์ผู้ที่เคยมีน้ำหนักมากกว่า 219 กิโลกรัมได้ออกมาเปิดเผยชีวิตเรื่องราวความรักของเธอกับชายที่ชื่อว่า Danny คนที่รักเธอมากที่สุดในโลกไม่ว่าเธอจะเป็นแบบไหนก็ตาม ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานและได้เข้าพิธีวิวาห์เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2015 ทั้งคู่ได้วางแผนที่จะมีลูกน้อยคนหนึ่งแต่ก็ต้องล้มเลิกโครงการไปเพราะว่าเนื่องจากร่างกายนั้นอ้วนเกินไปจนอาจจะทำให้เด็กเป็นอันตรายได้ การใช้ชีวิตช่วงแรกๆ Lexi เธอชื่นชอบอาหารจานด่วนและไม่ค่อยจะชอบออกกำลังกายเนื่องจากว่าเธอคุ้นชินกับความสะดวกสบายและขาดแรงจูงใจในการลดน้ำหนัก ก็เลยปล่อยให้ตัวเองอ้วนขึ้นๆ ด้วยการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์เหล่านั้นซึ่งมันทำให้ร่างกายของเธอแย่ลงๆ แต่พอเริ่มมาใช้ชีวิตคู่เธอก็เริ่มตระหนักได้ว่าเธอจะต้องเริ่มดูแลสุขภาพเพื่อที่จะได้มีอีกหนึ่งชีวิตมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้กับเธอและสามี เธอจึงได้เริ่มหันกลับมาดูแลตัวเองโดยได้ฤกษ์เริ่มต้นในวันแรกของปี 2016 เธอได้บันทึกรูปภาพและวิธีการการลดน้ำหนักของเธอลงในอินตาแกรมที่ใช้ชื่อว่า Fatgirlfedup ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 477,000 คน และยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตามได้หันมาดูแลสุขภาพแบบง่ายๆ ไปพร้อมกับเธอ วิธีการดูแลสุขภาพของเธอคือการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจากอาหารจานด่วนมาเป็นผักและโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรต อีกทั้งออกกำลังกายแบบเบาๆ แบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เธอได้บอกว่าเธออยากจะขอบคุณสามีของเธอที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ เขาคอยออกกำลังกายเป็นเพื่อนเธออยู่ตลอด การลดน้ำหนักทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับสามีแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ที่คู่สองต่อสู้ก็เพื่อลูกน้อยที่พวกเขารอคอย “ไม่มีเป้าหมายไหนที่มันจะเป็นไปไม่ได้ เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่จะทำเพื่อชีวิตที่จะเจริญเติบโตไปด้วยกัน โชคดีที่มีคู่ชีวิตที่คอยจะซัพพอร์ตทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก สิ่งนี้ช่วยให้ความสัมพันธ์ของเราดียิ่งขึ้นและน่าสนใจ มันทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ฉันอยากจะขอบคุณที่เขาอยู่เคียงข้างฉันมาตลอด” Lexi โพสต์บนอินสตาแกรม …
-
คุณปู่วัย 98 ได้แต่งงานกับชายคนรัก หลังกฎหมายอนุญาตให้แต่งงานกับเพศเดียวกันได้
คู่รักเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคู่ชายรักชาย หรือจะเป็นคู่หญิงรักหญิง ต่างก็อยากใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเหมือนกับคู่รักชายหญิงทั่วไป แต่สิ่งสิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคก็เพราะว่าคู่รักเพศเดียวกันในหลายประเทศ ไม่สามารถแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ เพราะฉะนั้นคู่รักเพศเดียวกันในประเทศเหล่านั้นจึงทำได้เพียงอยู่ร่วมกันเหมือนแฟนเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ และไม่สามารถใช้สิทธิของคู่แต่งงานได้เช่นกัน คู่รักชายรักชายชาวซิดนีย์ก็เช่นกัน พวกเขาอยู่ร่วมกันในฐานะคู่รักมาเป็นเวลานาน จนฝ่ายหนึ่งอายุเหยียบหนึ่งร้อยปีแล้ว แต่ในปัจจุบันพวกเขาก็สามารถแต่งงานกันอย่างถูกกฎหมายได้ในที่สุด Neville Wills และ Ian Fenwicke คู่รักคู่นี้คือ Neville Wills อายุ 98 ปี และ Ian Fenwicke อายุ 74 ปี พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย โดย Wills ทำอาชีพเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทั้งสองพบรักกันเมื่อปี 1978 หลังจากนั้นจึงตัดสินใจอยู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยามาเป็นระยะเวลานานถึง 39 ปี แม้จะไม่มีกฎหมายรองรับความสัมพันธ์นี้ก็ตาม จนเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2017 ได้มีการแก้กฎหมายให้คู่รักเพศเดียวกัน สามารถแต่งงานเป็นสามีภรรยากันได้เหมือนคู่ชายหญิงทั่วไปทุกประการ พอทั้งสองคนทราบข่าวนี้ก็ดีใจกันมาก และวางแผนงานแต่งงานกันทันที Fenwicke พูดหลังจากการออกกฎหมายแต่งงานใหม่ว่า…
-
เจ้าแห่งงูเห่าชาวฟิลิปปินส์ เสียชีวิตหลังจากดื่มเลือดงูพิษ ตัวเดียวกันกับที่กัดเขา…
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแต่ไม่ได้หมายความว่าจะผิดพลาดไม่ได้ อย่างกรณีของผู้เชี่ยวชาญด้านงูเห่าคนนี้ที่เพิ่งเสียชีวิตไปด้วยพิษของงู!? Elies ‘Peter’ Lenturio หรือที่รู้จักในนาม ‘เจ้าแห่งงูเห่าชาวฟิลิปปินส์’ ถูกงูเห่ากัดเข้า เขาเลยแก้แค้นด้วยการตัดหัวและดื่มเลือดของมัน แต่ดูเหมือน Elies จะทำพลาดที่ดื่มเลือดของมัน เพราะปกติแล้วงูเห่าถือเป็นงูที่พิษร้ายแรงมาก และเมื่อถูกมันกัดอาจตายได้ทันทีถ้าไม่รักษาภายในเวลา สำหรับ Elies นั้น เขาค้นพบความสามารถนี้ตอนอายุ 15 ปี ก่อนจะถูกยกให้เป็นเจ้าแห่งงูเห่าในเวลาต่อมา นับตั้งแต่นั้นมาหากบ้านไหนหรือชุมชนไหนเจองูเห่าก็จะเรียกเขาไปช่วยจัดการให้ และนี่ไม่ใช่การถูกงูกัดครั้งแรก แต่เขาเคยโดนกัดมาหลายครั้งแล้วในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา จนรู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อถูกงูกัด อย่างครั้งล่าสุดนี้ เมื่อเจ้าแห่งงูเห่าถูกงูกัด เขาตัดสินใจที่จะไม่ไปโรงพยาบาลแต่เลือกที่จะดื่มเลือดงูตัวนั้นแทน จากนั้นก็กลับไปบ้านไปพักผ่อน กลับกลายเป็นว่านั่นเป็นคืนสุดท้ายของเขาบนโลก…มีฟองออกจากปากของเขาจนสร้างความตกใจให้ครอบครัวเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงพา Elies ไปโรงพยาบาลในคืนนั้น แต่น่าเศร้าที่เขาเสียชีวิตลงเมื่อไปถึง จากการเสียชีวิตของ Elies ทำให้ผู้คนสงสัยว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเชี่ยวชาญเรื่องงูได้อย่างไร? สื่อเล่าว่าปกติเจ้าแห่งงูเห่าจะเก็บงูเห่าของเขาไว้ในกล่องบนรถมอเตอร์ไซค์ จนในวันที่เกิดเหตุ Elies เขาเปิดกล่องใบนั้นตามปกติ แต่กลับถูกงูกัดเข้าที่มือซ้ายของเขา แม้จะเขาจะเลี้ยงงูเห่าตัวนี้ให้เป็นสัตว์เลี้ยงมาตลอด แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้ว่ามันประกาศเป็นศัตรูกับเขา ซึ่งอาจเป็นเพราะส่วนหางของมันถูกขังเบียดเสียดอยู่ในกล่อง ไม่ว่าเจ้างูจะกัดด้วยเหตุผลอะไร แต่นั่นทำให้ Elies โกรธมาก เขาก็เลยตัดหัวของมันและดื่มเลือดของมันแบบสดๆ… เรื่องนี้สร้างความตกใจให้ชาวฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครอบครัวของเขาที่ยังทำใจไม่ได้ ที่ทำให้หลายคนประหลาดใจคือในหลายประเทศอย่างจีน มาเลเซีย และไทย…
-
ชาวเน็ตคลั่งไคล้ James McAvoy ลุคใหม่ จากคนพิการเป็นหนุ่มกล้าม หล่อล่ำน้ำลายไหล!!
ยังจำกันได้ไหมกับพ่อหนุ่ม James McAvoy ในลุคผอมๆ ที่ได้มาจากการรับบท Charles Xavier ในหนังเรื่อง X-Men Apocalypse ซึ่งถ้าใครยังคงติดตาในลุคเดิมนั้น ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่แล้วล่ะ… ลุคเก่าในบทของชายผู้มีพลังจิตแกร่งกล้า และดูไม่ล่ำเท่าไหร่นัก เพราะว่าล่าสุดมีมือดีสังเกตเห็นพี่แกในลุคใหม่สุดเฟิร์ม เรียกว่าสาวๆ หรือเก้งกวางเห็นแล้วจะต้องน้ำลายหกอยากจะเลียแขนกับหน้าอกแน่นๆ ของพี่ James ซะเหลือเกิน หลายคนสงสัยเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนร่างมาเป็นหนุ่มฮอตขนาดนี้ นั่นก็เพราะเขาจะต้องรับบทเป็นตัวเอกในหนังภาคต่อของ Split ที่เขาเคยแสดงก่อนหน้านี้นั่นเอง เอาล่ะอย่ามัวพล่ามกันให้เยอะ เชิญเสพภาพแอบถ่ายแว๊บๆ แต่ตื่นเต้นไม่เบาของพี่แกกันเลยดีกว่า!! มองไกลๆ ยังแน่นขนาดนี้ ถ้าได้เอามือจับสักทีจะแน่นขนาดไหน แน่นแบบไม่โอเวอร์ พอดีๆ จนน่ากัดดูสักที ง่ำๆ งานนี้สาวๆ ชาวเน็ตก็พากันตื่นเต้นกันยกใหญ่ เพราะดาราหนุ่มคนโปรดของพวกเขาเปลี่ยนจากหนุ่มแห้งกลายเป็นหนุ่มหล่อล่ำขนาดนี้ ยิ่งทำให้วารีดำเนินได้ดีกว่าเดิมเสียอีก เลิกสนใจ Armie Hammer กันได้แล้ว เพราะ James Mcavoy เด็ดกว่าเป็นไหนๆ พี่แกมีพลังจิตหรือยังไงถึงรู้ว่าถูกแอบถ่าย ดูสายตาที่มองมานั่นสิ …
-
ชายช่วยมิ้วน้อยที่ถูกแม่มันทิ้ง ออดอ้อนเกาะขาในวันนั้น จนกระทั่งได้ดีในวันนี้
“โอกาส” เป็นคำสั้นๆ ที่ใครๆ ก็อยากได้ เพราะโอกาสมักจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้น และแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนที่ได้รับโอกาส แต่เราสามารถมอบมันให้กับคนอื่นได้ อย่างหนุ่มใจดีคนนี้ที่ตัดสินใจมอบโอกาสให้เจ้ามิ้วน้อยได้มีชีวิตอยู่ต่อ หลังจากที่มันถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่เกิด สุดท้ายเขาก็ได้พบว่ามันคุ้มค่าที่ทำแบบนั้น เจ้ามิ้วน้อย Sansa ถูกทิ้งให้อยู่ลำพังตั้งแต่เกิด ทำให้มันแทบไม่กินอะไรเลย จนร่างกายของมันเหลือแต่หนังและกระดูก ส่วนแม่ของมันนั้น คาดว่ามันคงคิดว่า Sansa ไม่น่ารอด เพราะมันเกิดมาอ่อนแอกว่าพี่น้องตัวอื่นๆ เลยถูกทิ้งไปตั้งแต่นั้นมา แต่โชคดีที่ Alan มาเจอเจ้าเหมียวพอดี เขาเลยตัดสินใจพามันกลับบ้านด้วย… Sansa มีขนาดเล็กกว่าฝ่าเท้าซะอีก แต่พลังในการมีชีวิตของมันนั้นน่ามหัศจรรย์มาก หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือมา เจ้า Sansa ก็เอาแต่กอด Alan ไม่ยอมปล่อยเลย แถมยังนอนหลับในอ้อมแขนของเขาด้วย และนั่นเป็นครั้งแรกที่มิ้วน้อยได้สัมผัสถึงความรัก ส่วน Alan แม้จะเป็นผู้ชาย แต่เขาทำหน้าที่แม่ให้กับเจ้าเหมียวโดยไม่มีขาดตกบกพร่องเลย นอกจากนี้ Alan ยังพามันไปเดินดูรอบๆ บ้าน เพื่อให้มันทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ ส่วนเจ้าเหมียวก็เดินตามต้อยๆ อย่างน่ารักเชียว ชายหนุ่มซื้อที่นอนนุ่มๆ ให้มันได้หลับสบาย และยังซื้อของเล่นให้อีกหลากหลายชิ้น เพื่อทำให้มันไม่รู้สึกเบื่อและมีความสุขในทุกๆ…
-
ครอบครัวถึงกับช็อกเมื่อเห็น ‘สิงโตภูเขา’ มานอนสบายใจเฉิบอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน
ถ้ามีหมาหรือแมวมานอนอยู่หน้าบ้านทั้งๆ ที่ไม่ได้เลี้ยง จะไม่แปลกใจหรือเดือดร้อนอะไรเลย ตรงกันข้ามจะเอาข้าว เอาน้ำให้มันกินด้วยซ้ำ แต่นี่ มันคือ ‘สิงโตภูเขา’ ตัวเป็นๆ ที่ยังหายใจอยู่ มานอนไม่รู้สีไม่รู้สาอยู่หน้าบ้าน เป็นใครก็ช็อกทั้งนั้น แล้วจะออกบ้านยังไงล่ะที่นี้? เจ้าสิงโตภูเขาตัวนี้แหละ ที่มานอนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งในรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คาดว่ามันน่าจะอายุประมาณ 2 ขวบ ก่อนหน้านี้มันคงจะออกไปวิ่งเล่นที่ไหนสักที่ พอเหนื่อยก็หาที่พักเพื่อจะงีบให้หายเหนื่อย แล้วไม่รู้อะไรดลใจให้มันเลือกไปนอนอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง เพื่อนบ้านเล่าว่าเมื่อเห็นสิงโตมานอนอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว พวกเขาก็รีบโทรหาผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อให้มาจัดการก่อนที่มันจะตื่น แต่ปรากฏว่าเจ้าสิงโตดูเหมือนจะรู้ตัว มันเลยเผ่นหนีออกไปก่อน นั่นยิ่งทำให้ผู้คนมีความเสี่ยงตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น แต่โชคดีที่ผู้เชี่ยวชาญตามหาจนเจอภายในหนึ่งชั่วโมงและจับตัวมันไว้ได้ นอนเฉยๆ คนก็ตื่นกลัวแล้ว ทำได้ไง? วันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ก็พามันไปปล่อยบนภูเขาซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของมัน และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไม่กลับไปทำให้ผู้คนตื่นตระหนกอีก ขวัญเอ๊ยขวัญมา… ดีนะไม่มีใครได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่มา iizcat
-
นิตยสาร TIME เผยโฉมหน้าปกฉบับประจำปี ที่มีนางแบบคนหนึ่งถูกตัดออกไปเหลือแต่แขน!?
การจะมีภาพแปะอยู่บนปกนิตยสาร TIME นั้น ไม่ใช่จะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางสังคมมากในระดับหนึ่ง และล่าสุดนิตยสาร TIME ได้ให้เกียรติกับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษที่เคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศและการทำร้ายร่างกายภายใต้ชื่อ #MeToo ให้เป็นบุคคลแห่งปี 2017 โดย TIME ได้นำภาพผู้หญิงที่มีการเคลื่อนไหวอย่างโดดเด่นมาขึ้นปกนิตยสาร ซึ่งประกอบด้วย : Ashley Judd, Taylor Swift, Susan Fowler, Adama Iwu และ Isabel Pascual ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลที่นำการเปลี่ยนแปลงในด้านการปกป้องตัวเอง อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดูดีๆ บนภาพปกดังกล่าวจะเห็นแขนใครคนหนึ่งโผล่มาด้วย ทำให้หลายคนสงสัยว่าเกิดจากความผิดพลาดหรือเปล่า แต่ทางนิตยสารยืนยันแล้วนั่นไม่ใช่ความผิดพลาด ในการให้สัมภาษณ์ Edward Felsenthal หัวหน้าบรรณาธิการของ TIME บอกว่า “หญิงสาวที่โผล่มาแค่แขนแต่ไม่เห็นหน้า เธอคือสัญลักษณ์ของทุกคนที่ยังไม่เปิดเผยตัวเองหรือไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพราะกลัวผลกระทบที่จะตามมา” Felsenthal บอกอีกว่า “นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนเหล่านี้ที่จะเข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว มันคือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา” “การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มาจากความกล้าหาญของผู้หญิงหลายร้อยคนและผู้ชายบางคนที่ออกมาเคลื่อนไหว โดยการบอกเล่าเรื่องราวของตนเอง” ในนิตยสาร TIME เขียนไว้ว่าหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อเลือกที่จะเก็บคนเดียวอย่างเงียบๆ บางคนอาจเก็บไว้นานเป็นเดือนๆ ปีๆ แต่ในที่สุดความโกรธแค้นที่สะสมมาเรื่อยๆ จะเป็นตัวกระตุ้นให้พวกเขาเปิดเผยมันออกมา…
-
หญิงสาวเผยเคยมีเซ็กส์กับผีถึง 20 ตัว และตอนนี้ก็ติดใจจนเลิกมองผู้ชายปกติไปแล้ว
ความสุขในเรื่อง ‘เซ็กส์’ สำหรับคนเราก็มีรสนิยม ความชอบที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าได้มีบุคคลหนึ่งในประเทศอังกฤษที่แปลกซะจนต้องถึงกับเอามาลงข่าว เพราะว่าเธอบอกว่าเธอเคยมีเซ็กส์กับผี และที่สำคัญคือมันทำให้เธอมีความสุขมากจนล้นเอ่อเลยทีเดียว Amethyst Realm ผู้ให้คำแนะนำด้านจิตวิญญาณ จากเมืองบริสตอลประเทศอังกฤษ อ้างว่าเธอเคยมีเซ็กส์กับผีต่างๆ ถึง 20 ตัว อีกทั้งเธอยังบอกอีกด้วยว่า การมีเซ็กส์กับผีทำให้เธอถึงจุดสุดยอดแทบจะทุกครั้งเลยทีเดียว หน้าตาของหญิงสาวที่บอกว่าเธอมีเซ็กส์กับผี ในตอนนี้เธอบอกว่า เธอเลิกสนใจผู้ชายคนใดๆ ในโลกแล้ว อีกทั้งยังหวังอีกว่าจะลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวกับผีสักตัวหนึ่งในโลกของวิญญาณ เธอได้เปิดเผยเรื่องราวนี้ผ่านรายการ This Morning ทางช่อง ITV Realm ว่าเธอสามารถสัมผัสได้ถึงการมีผีอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ที่เธอย้ายเข้าพร้อมกับคู่หมั้นของเธอเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ด้วยความคาใจเธอจึงได้ลองทดสอบว่ามีผีอยู่ในบ้านจริงหรือไม่ ด้วยการสวมชุดสุดเซ็กซี่เพื่อจะยั่วยวนผีขณะที่สามีเธอไม่อยู่ โดยเธอบอกว่าเมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วเธอก็นอนรออยู่ในห้องพร้อมทั้งหรี่ไฟให้สลัวๆ และในที่สุดผีตัวนั้นก็เข้ามาหาเธอ ผู้สัมภาษณ์ยังตะลึงในคำพูดของเธอ “มันเหมือนกับว่ามีน้ำหนักบางอย่างกดตัวฉันอยู่ ฉันสัมผัสได้ถึงบางอย่างอยู่ที่หน้าขาฉัน และในขณะเดียวกันก็มีลมหายใจรดต้นคออยู่ตลอดเวลาและเหมือนมันกำลังเล้าโลมฉันอยู่” Realm กล่าว ด้วยความสงสัย Holly Willoughby ได้ถามเธอว่าผีตัวนั้นได้ทำให้มีความสุขจนถึงขั้นถึงจุดสุดยอดเลยหรือไม่ เธอก็บอกว่า “สำหรับฉัน ใช่ค่ะ” ยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขทุกคืน หลังจากที่เธอมีเซ็กส์กับผีตัว เธอก็เลิกสนใจผู้ชายที่อยู่บนโลกนี้อย่างสิ้นเชิง ยิ่งไปกว่านั้นเธอได้แยกทางกับคู่หมั้นของเธอหลังจากที่เขาจับได้ว่าเธอมีชู้ “ในวันนั้นเขากลับบ้านมาเร็วกว่าปกติ…
-
พิพิธภัณฑ์ปล่อยงานศิลป์กว่า 20,000 ชิ้น ให้โหลดฟรีๆ ใช้เป็นภาพหน้าจอโทรศัพท์สวยๆ
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะเดินทางไปรอบโลกเพื่อเที่ยวชมงานศิลปะตามสถานที่ต่างๆ อันขึ้นชื่อ เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายที่สูงแล้ว เวลาก็เป็นข้อจำกัดอันสำคัญ แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางพิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Los Angeles County Museum of Art (LACMA) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ผุดไอเดียใหม่นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์แบบออนไลน์ ซึ่งสามารถให้คุณเข้าชมงานศิลป์สวยๆ ผ่านจอคอมที่บ้านได้ง่ายๆ !! นอกจากเราจะสามารถเข้าชมงานศิลปะภายในบ้านง่ายๆ แล้ว เรายังสามารถที่จะดาวน์โหลดภาพผลงานศิลป์เหล่านั้นมาเก็บไว้เป็นวอล์เปเปอร์โทรศัพท์ หรือหน้าจอคอมเอาไว้ชื่นชมเองได้ฟรีๆ อีกด้วย โดยผลงานศิลป์ที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้ทำการปล่อยให้ไดาวน์โหลดฟรีๆ ครั้งนี้มีด้วยกันมากถึง 20,000 รูป จากผลงานทั้งหมดกว่า 80,000 ชิ้นงานที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้ทำการจัดแสดงเอาไว้ ส่วนใครที่สนใจอยากจะเก็บผลงานศิลปะเหล่านี้เอาไว้ล่ะก็ สามารถเข้าไปชมกันได้ที่เว็บไซต์ LACMA ของทางพิพิธภัณฑ์กันได้เลย ซึ่งภายในเว็บไซต์ดังกล่าวนั้นจะมีการแบ่งหมวดหมู่ของภาพงานศิลป์เอาไว้เป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการค้นหา และนอกจากนี้คุณยังสามารถค้นหาจากคำเฉพาะได้อีกด้วย แต่ที่สำคัญอย่าลืมเลือกเฉพาะภาพโดเมนสาธารณะเท่านั้นนะจ๊ะ!! และนี่คือภาพบางส่วนที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ . . . . ถ้าหากใครอยากได้ภาพความละเอียดสูงล่ะก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์เลย… . . . . . . ที่มา mymodernmet
-
Ed Sheeran เข้ารับเครื่องราชฯ จากราชวงศ์อังกฤษ และพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
ถ้าหากพูดถึงนักร้องชาวอังกฤษชื่อดังที่เป็นขวัญใจสาวๆ หลายๆ คนที่มาพร้อมกับบทเพลงรูปร่างของคุณ (Shape of You) คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับ Ed Sheeran อย่างแน่นอน นอกจากความสามารถในการร้องเพลงแล้ว ล่าสุดหนุ่ม Ed ของเรายังเพิ่งเข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันวิเศษยิ่งแห่งสหราชอาณาจักรในชั้น MBE จากเจ้าชายชาร์ลส์ ณ พระราชวังบัคกิ้งแฮม อีกด้วย โดยนักร้องหนุ่มของเรานั้นถือว่าเป็นผู้สร้างคุณงามความดีทางด้านศิลปะและงานการกุศล จึงทำให้เขาได้รับเครื่องราชดังกล่าวไปครอง นอกจากจะเข้ารับรางวัลเหรียญตราอันทรงเกียรติแล้ว นักร้องหนุ่มของเรายังได้ร่วมสนทนาอย่างเป็นกันเองกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์อีกด้วย “พระองค์ถามผมเกี่ยวกับเรื่องของเพลงในอัลบัม และผมก็ตอบท่านว่าวันพรุ่งนี้ผมกำลังจะมีงานคอนเสิร์ตที่นิวยอร์ก ท่านรู้สึกทึ่งมากเมื่อรู้ว่าผมจะบินทันทีหลังจากจบงานมอบเครื่องราชฯ” นักร้องหนุ่มกล่าว นอกจากนี้ Ed เองก็ยังได้พูดเกี่ยวกับเรื่องของคุณปู่เขาอีกด้วย โดยเขาบอกว่าคุณปู่ของเขานั้นเป็นรอยัลลิสต์ และท่านคงจะดีใจแน่ๆ ที่ได้เห็นหลานชายของตัวเองได้รับเหรียญตราอันทรงเกียรตินี้ “คุณปู่คงจะดีใจมากๆ เมื่อ 4 ปีที่แล้วท่านจากผมไปในวันเดียวกับที่ผมได้รับเครื่องราชฯ นี้ ผมคิดว่าเขาคงจะภูมิใจในตัวผมมากๆ” นักร้องหนุ่มกล่าว และเมื่อถูกถามถึงเคล็ดลับการประสบความสำเร็จทางด้านดนตรีของเขา นักร้องหนุ่มก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมคิดว่ามันเกี่ยวกับเรื่องของความพยายาม ตัวผมเองไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรมากมายกว่าคนอื่นเลย ผมคิดว่าเรื่องพรสวรรค์มีผลแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ที่เหลือคือเรื่องของความพยายาม มุ่งมั่น และเชื่อมันในตัวเอง” ที่มา bbc
-
Julia Mullock อดีตพระชายาแห่งเกาหลี เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ชีวิตที่ไม่ได้สวยงามดั่งเจ้าหญิง
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2017 มีรายงานว่าอดีตเจ้าหญิง Julia Mullock ผู้เคยเป็นภรรยาของเจ้าชาย Yi Gu แห่งประเทศเกาหลี ได้เสียชีวิตลงอย่างเดียวดาย ด้วยอายุ 94 ปี ที่รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา Julia Mullock เกิดในรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอทำงานอยู่ในบริษัท IM Pei และได้พบกับเจ้าชาย Yi Gu ทายาทคนสุดท้ายของราชวงศ์ Yi ที่เพิ่งเรียนจบด้านสถาปัตยกรรมมาหมาดๆ จากนั้นทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกัน หลังจากนั้นเธอก็แต่งงานกับเจ้าชาย เมื่อเธอมีอายุ 35 ปี แต่เนื่องจากเธอเป็นชาวต่างชาติ ทางราชวงศ์ Yi กลับไม่ยอมรับให้เธอเป็นสมาชิกของราชวงศ์อย่างเป็นทางการ และไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนของราชวงศ์ เธอต้องเจอปัญหาใหญ่กว่าเดิม เมื่อทางราชวงศ์ทราบว่าเธอไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ จึงทำให้เธอถูกบังคับให้หย่ากับเจ้าชาย Yi Gu เพื่อที่พวกเขาจะได้หาภรรยาคนใหม่ที่สามารถให้กำเนิดบุตรชายมาสืบสกุลต่อได้ เธอและเจ้าชาย Yi Gu ไม่ได้ยินยอมที่จะหย่ากัน และยังพยายามคัดค้านเรื่องนี้ แต่ในที่สุดแล้วทั้งคู่ก็ต้องหย่าร้างกันในปี 1982 จนได้ …
-
หมิงนา เวน ผู้ให้เสียง “มู่หลาน” ออกมาตั้งความหวังกับหลิวอี้เฟยว่า ‘อย่าทำพังล่ะ’
หลายๆ คนคงจะพอทราบแล้วว่า Disney จะถ่ายทำแอนิเมชั่นเรื่อง Mulan ใหม่ โดยจะทำเป็นเวอร์ชันภาพยนตร์ที่ใช้คนจีนแสดง ซึ่งคนที่ได้รับบทนางเอกในครั้งนี้ก็คือสาวสวย หลิว อี้เฟย นั่นเอง แน่นอนว่ามีคนให้ความสนใจภาพยนตร์เรื่องนี้มากมาย เพราะ Disney มักจะสร้างผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ อาจพูดได้ว่าค่ายนี้แทบไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะ Mulan เป็นแอนิเมชั่นขวัญใจในวัยเด็กของคนจำนวนมากด้วย จึงไม่แปลกหากแฟนคลับจะรอชมเวอร์ชันใหม่ๆ บ้าง หลิว อี้เฟยในบทของมู่หลาน เรื่องใหญ่แบบนี้ย่อมต้องดังไปถึงหูของ Ming Na Wen ผู้ให้เสียงพากย์มู่หลานในเวอร์ชันแอนิเมชั่นอยู่แล้ว เมื่อเธอรู้ว่าจะมีเวอร์ชันคนแสดง เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นมู่หลานกลับมาโลดแล่นบนจอภาพอีกครั้ง ในรายการ Heroes & Villains Fan Fest San Jose 2017 เธอได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคิดเห็นที่มีต่อหลิว อี้เฟย ดังนี้ “เธอหน้าตาสวยมากเลย และก็ดูเหมาะกับบทนี้ด้วย ที่สำคัญคือเธอเป็นคนจีนเหมือนมู่หลานเลย” เมื่อพิธีกรอยากให้เธอให้คำแนะนำหลิว อี้เฟย ในฐานะที่ตัวเธอนั้นพากย์ให้กับมู่หลานมาก่อน เธอจึงตอบติดตลกกลับไปว่า “อย่าทำพังล่ะ” นั่นก็เพราะว่าเธอรักมู่หลานมากนั่นเอง เธอยังเสริมต่อว่า “ฉันหวังว่ามู่หลานเวอร์ชันแอนิเมชั่นจะยังติดอยู่ในใจพวกคุณเสมอ เพราะฉันและ Lea Salanga (ผู้พากย์เสียงร้องเพลงมู่หลาน) ตั้งใจสร้างมันขึ้นมาจริงๆ ฉันอยากให้มู่หลานแอนิเมชั่นยังคงเป็นตำนานเหมือนเดิม“ ที่เธอพูดมาไม่ได้ต้องการจะสื่อว่าหลิว อี้เฟยอาจจะทำได้ไม่ดีหรอกนะ เพราะเธอยังไปโพสต์ให้กำลังใจหลิว…
-
หมอลูกครึ่งเอเชียถูกลงโทษภาคทัณฑ์ เพราะเปิดเผยเรื่องการโดนเหยียดหยามอย่างรุนแรง
ในประเทศสหรัฐอเมริกา การเหยียดเชื้อชาติยังคงมีให้เห็นอยู่บ้างและในบางครั้งมันก็รุนแรงเสียจนเกิดเป็นการกลั่นแกล้ง จนทำให้ชายหนุ่มที่ตกเป็นเหยื่อคนหนึ่งถึงกับรู้สึกไม่พอใจและยอมให้มีสิ่งนี้ต่อไปไม่ได้ เขาจึงนำเรื่องนี้ออกมาแชร์กับทุกคนและแสดงออกถึงการต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด ชายคนนี้ใช้ชื่อว่า Gu เป็นนายแพทย์เชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน ที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย Vanderbilt รัฐเทนเนสซี โดยเขาได้โพสต์ทวิตเตอร์เรื่องราวการถูกเหยียดเชื้อชาติภายในที่ทำงานของตัวเองเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 เขาต้องเจอกับการกลั่นแกล้งภายในที่ทำงาน เขาเล่าว่าครั้งหนึ่งเขาถูกหัวหน้าทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ศอกกระแทกจนตัวกระเด็น ระหว่างที่กำลังช่วยคนไข้ พยาบาลที่ทำงานด้วยกันก็นำกล่องนมจากถังขยะ มาวางไว้บนโต๊ะของเขา ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะพวกเขาร่ำเรียนและฝึกฝนมาเพื่อช่วยคน แต่สิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกับสิ่งที่พวกเขาปฏิญาณโดยตรง หลังจากที่เขานำเรื่องออกมาเผยแพร่ เขาก็ถูกโรงพยาบาลส่งจดหมายเตือนอย่างรุนแรง รวมทั้งกล่าวหาว่าเขากุเรื่องทั้งหมดขึ้นมาเอง และที่สำคัญ หัวหน้างานที่ทำร้ายร่างกายเขาก็ไม่ได้รับบทลงโทษใดๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับความไม่เป็นธรรมในลักษณะเดียวกันนี้ ในวันแรกที่เขาเข้ามาทำงานในโรงพยาบาลดังกล่าว ขณะที่กำลังจอดรถเขาก็ได้เจอกับคนที่เหมือนกับต้องการความช่วยเหลือ และเมื่อ Gu หวังดีลงรถไปช่วยกลับถูกเหยียดเชื้อชาติด้วยคำหยาบคาย จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ยังตามมากระชากป้ายห้อยคอของเขา ก่อนที่จะค้นดูประวัติส่วนตัวและรายชื่อคนไข้ที่ Gu พกติดตัวมา เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากนั้นไม่นาน ชายที่ทำผิดก็เหมือนจะรอดไปได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เขากลับไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างที่ควรจะได้รับ เขาบอกว่า “ผมรู้สึกเหมือนกับอยู่ในเกาหลีเหนือ พอพูดเรื่องความยุติธรรมก็กลับถูกลงโทษซะอย่างนั้น ผมเรียนจบและอยู่ในอันดับต้นๆ ของมหาวิทยาลัย Stanford และโรงเรียนแพทย์ Duke แต่ผมไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดๆ และต้องเจอกับคนในโรงพยาบาลที่ต้องการทำลายหน้าที่การงานของผม”…
-
ช่างสักบราซิล ใช้หมึกพิเศษซ่อนรอยต่างๆ ตามร่างกายได้อย่างแนบเนียน แม้แต่ใต้ตายังทำได้!!
รอยแตกลายงา หรือร่องรอยต่างๆ ในร่างกายต่างก็ไม่เป็นที่พึงประสงค์สำหรับใครทั้งนั้น หลายบริษัทจึงได้ผลิตเครื่องแต่งหน้า ขึ้นมาเพื่อให้สาวๆ ที่รักสวยรักงามได้มาปกปิดส่วนดังกล่าว ที่นอกจากบางทีจะไม่สวยงามแล้วยังทำให้รู้สึกอายอีกด้วย แต่ว่าในวันนี้ลืมเรื่องเครื่องสำอางไปได้เลย เพราะมีช่างสักลายชาวบราซิลคนหนึ่งสามารถทำให้ร่องรอยต่างๆ ตามร่างกายของเรานั้นหายไปได้ แม้แต่ส่วนที่บอบบางที่สุดนั่นก็คือใต้ดวงตาของเรา!! Rodolpho Torres กับวิธีการสักกลบเกลื่อนร่องรอยของเขา Rodolpho Torres ช่างสักลายจากเมืองเซาเปาโล เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกลบจุดด่างดำต่างๆ ตามร่างกายมนุษย์ โดยเขาใช้น้ำหมึกที่ใกล้เคียงกับสีผิวของแต่ละคนมาซ่อนรอยแผลต่างๆ ที่แม้แต่จุดที่ระคายเคืองง่ายอย่างดวงตายังสามารถทำได้ สำหรับวิธีการกลบเกลื่อนร่องรอยของเขานั้นยังคงเก็บไว้เป็นความลับว่าเขามีขั้นตอนดำเนินการอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่ได้รู้ก็คือเขาจะสร้างสิ่งที่หลอกตาเราขึ้นมา โดยอาจจะเป็นการสักไล่สีผิวเพื่อให้มีความแนบเนียนก็เป็นได้ และที่สำคัญคือน้ำหมึกของเขาได้การรับรองจาก หน่วยงานตรวจตราสุขาภิบาลแห่งชาติประจำประเทศบราซิล (Anvisa) เรียบร้อยแล้วทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยอย่างแน่นอน ดูสิหายไปราวกับเวทมนตร์ น้ำหมึกสุดพิเศษของเขาจะไปกลบรอยแผลต่างๆ รวมทั้งจุดด่างดำที่เกิดบนใบหน้า และไม่ต้องห่วงว่าน้ำหมึกของเขาจะไม่เข้ากับสีผิวใบหน้าเรา เพราะว่า Rodolpho จะคัดสรรสีของน้ำหมึกให้เข้ากับสีผิวของแต่ละคน การสักด้วยหมึกพิเศษของเขาเพียงหนึ่งครั้ง ผิวที่มีรอยแตกต่างๆ ก็จะดูเรียบเนียนขึ้น และอีก 6 วันต่อมาก็จะเหมือนผิวเด็กเกิดใหม่และสามารถนอนอาบแดดได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียว “มันไม่ใช่การแต้มสีเพื่อปกปิดแต่มันคือการสัก!! คุณสามารถใช้ชีวิตปกติและออกไปท้าชนกับแสดงแดดได้ โดยที่ผิวของคุณจะไม่เลอะอย่างแน่นอน และถ้าใครห่วงเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องกลัวเพราะว่า Anvisa ได้รับรองความปลอดภัยให้แก่เราแล้ว” Rodolpho กล่าว ใต้ตาก็ชิวๆ ไร้ปัญหา ด้วยการปฏิวัติวงการอำพรางร่องรอยต่างๆ ตามร่างกายของ…
-
เจ้าเหมียวตาละห้อย ไม่ว่าจะอารมณ์ไหนก็เศร้าตลอด ฉกชิงหัวใจมนุษย์ไปไม่รู้กี่ราย…
ในทั่วทุกมุมโลก ยังคงมีสัตว์หลายชนิดที่ยังคงรอคอยเจ้าของอยู่ ซึ่งสัตว์เหล่านั้นก็คงอยากได้โอกาสที่จะมีบ้านหรือว่ามีใครสักคนที่รักและให้ความอบอุ่นแก่มันได้อย่างไม่มีเงื่อนไข เหมือนกับแมวขี้อายตัวนี้ ที่ไม่ว่าใครเห็นแววตาของมัน ก็ไม่อาจจะสยบความรู้สึกอยากรับมันไปวิ่งเล่นที่บ้านได้ ลูกแมวพเนจรชื่อว่า Mami ถูกพบพร้อมกับครอบครัวของมันนั่นก็คือ แม่และพี่น้องของมันอีก 2 ตัวชื่อว่า Louie และ Henry ที่ถังขยะบริเวณโรงเรียน ซึ่งมันถูกพบโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยท่ามกลางฤดูหนาวที่แสนจะเหน็บหนาว พวกเขาจึงได้นำพวกมันมายังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์แห่งหนึ่งเพื่อจะหาบ้านที่อบอุ่นให้แก่กัน Mami แมวสุดขี้อาย ในบรรดาครอบครัวของมัน Mami ดูเหมือนจะเป็นแมวที่ขี้กลัวที่สุด และบ่อยครั้งที่มันมักจะสะดุ้งเมื่อมีคนมาใกล้ๆ แต่ลึกๆ ในใจแล้ว มันก็อยากจะหาใครสักคนที่พร้อมจะมอบความรักให้แก่มันรับไปเลี้ยงดูในบ้านแสนอบอุ่นเหมือนกัน มันมีแววตาที่เศร้าสร้อยเสมอ และเหมือนโชคชะตานำพาให้ Sinead Brooks และสามีของเธอจากเมืองซาน ฟรานซิสโกได้มาพบกับลูกแมวตาหวานนี้เข้าให้ โดยเธอบอกว่าได้ตกหลุมรักเจ้า Mami ตั้งแต่แรกเห็นเลยก็ว่าได้ ไปอยู่บ้านใหม่แรกๆ ยังคงเคอะเขินอยู่ “ในตอนนั้นเราไม่ได้มองหาลูกแมวหรอก แต่เมื่อมาเจอเจ้า Mami เข้าเราก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เอามันกลับบ้าน” Sinead เล่า เริ่มเป็นมิตรกับคนมากขึ้นแล้ว ด้วยความขี้อายของเจ้า Mami ทำให้เมื่อมันย้ายไปบ้านใหม่ มันก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องน้ำ และมันจะส่งเสียงขู่ทุกครั้งเมื่อมีมนุษย์เข้ามาใกล้ และเมื่อมันอยู่ที่บ้านนี้ได้…
-
คลิปวิดีโอสั้นๆ ที่แสดงให้มนุษย์เราเห็นถึงภัยของ “ภาวะโลกร้อน” ได้อย่างน่าเศร้าใจ…
ปัญหาโลกร้อนหนึ่งในปัญหาที่กำลังลุกลามอย่างหนัก และกำลังส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิของโลก แต่นอกจากผลกระทบต่อพวกเราชาวโลกแล้ว ปัญหาดังกล่าวเองก็ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับสัตว์ขั้วโลกอย่างพวกหมีขาวอีกด้วย คุณ Paul Nicklen ช่างภาพประจำของ National Geographic ร่วมกับทีมถ่ายภาพยนตร์จาก Sea Legacy ได้ถ่ายทอดเรื่องราวอันแสนเศร้าของเจ้าหมีขาวตัวหนึ่งจากเกาะ Baffin Islands ประเทศแคนาดา ที่กำลังพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการหาเศษซากสัตว์จากถังขยะ เจ้าหมีตัวผอมพยายามหาเศษอาหารเพื่อให้มีชีวิตรอด เนื่องจากสภาวะโลกร้อนทำให้แหล่งอาหารของมันลดลงอย่างมาก คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ช่างภาพหนุ่มของเราให้สัมภาษณ์ว่าเขาบันทึกภาพของเจ้าหมีตัวนั้นด้วยความเศร้าและมันช่างเป็นภาพที่น่าหดหู่ใจอย่างมาก “พวกเรารู้สึกหดหู่ใจมาก เราบันทึกภาพของมันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา” คุณ Nicklen กล่าว นอกจากสภาพอันแสนน่าหดหู่ของเจ้าหมีที่ผอมเหลือแต่กระดูกแล้ว ในคลิปวิดีโอยังเผยให้เห็นถึงท่าเดินที่แปลกๆ ของมันเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ขาหน้าอีกด้วย เจ้าหมีกำลังคุ้ยหาเศษอาหารจากถังขยะที่ชาวเอสกิโมท้องถิ่นทิ้งเอาไว้ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่กำลังส่งผลกระทบต่อโลกของเรา และภาพของเจ้าหมีจากแคนาดาตัวนี้คงจะบอกเราเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้จากฝีมือของพวกเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ช่างภาพหนุ่มยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า เขาต้องการที่จะสื่อให้ทุกคนเห็นถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกของเรา และมันก็เป็นการทำใจลำบากไม่น้อยที่ต้องยืนถ่ายภาพอันแสนหดหู่นี้อยู่เฉยๆ โดยที่ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้ “การที่เราโยนอาหารให้กับมันก็เป็นเพียงแค่การยื้อความทุกข์ให้พวกหมีเท่านั้น และนอกจากนี้การเลี้ยงหมีขาวก็ยังถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในแคนาดาอีกด้วย” ช่างภาพหนุ่มกล่าว และนี่คือคลิปวิดีโอที่จะสื่อให้เราเห็นถึงผลกระทบจากการละเลยเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่มา nationalgeographic
-
เจ้าของโวย เชลโลอายุ 210 ปี ราคาแพง พังยับบนเครื่อง แต่สายการบินเบี้ยวไม่รับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2017 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ออกมาโพสต์ถึงสายการบินที่แสนไร้ความผิดชอบ ที่ทำเชลโลของเขาแตกหัก โดยเขาไม่ได้รับการรับผิดชอบใดๆ จากทางสายการบิน ผู้โพสชื่อว่า Yu Hao Xuan มีอาชีพเป็นนักดนตรี เขาอาศัยอยู่ในปประเทศสหรัฐอเมริกา เขาจำเป็นต้องเดินทางทางอากาศจากเมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปยังเมืองดีทรอยด์ รัฐมิชิแกน เขาจึงเลือกเดินทางกับสายการบิน Spirit Airlines โดยที่นำเชลโลคู่ใจติดไปด้วย ซึ่งเชลโลของเขามีชื่อรุ่นว่า Martin Stoss ผลิตขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ช่วงศตวรรษที่ 19 สิริอายุรวมกว่า 210 ปี จากการประเมินราคาล่าสุด มันมีมูลค่ากว่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยได้กว่า 2.6 ล้านบาทเลยทีเดียว!! สภาพที่แตกหักของเชลโล . . . เขานำเชลโลตัวนี้ใส่กล่องของมันอย่างดี และใส่เข้าไปในกล่องกันกระแทกพร้อมทั้งห่อด้วยแผ่นกันกระแทกอีกชั้นหนึ่ง ก่อนจะนำกระเป๋าโหลดลงไปกับเครื่องบิน แต่พอลงมาจากเครื่อง ตัวเชลโลกลับแตกเป็นรูใหญ่และมีรอยร้าวยาวตามตัวเชลโลด้วย เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงได้โวยวายกับทางสายการบิน แต่กลับไม่มีพนักงานคนไหนกล่าวขอโทษเขาหรือว่าแสดงท่าทีรู้สึกผิดเลย ซ้ำยังพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบเชลโลของเขา ทั้งๆ ที่สายการบินนั้นแหละเป็นคนทำพัง เมื่อเห็นว่าสายการบินไม่ยอมรับผิดความเรื่องความเสียหาย เขาจึงตัดสินใจโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กของกลุ่มนักดนตรี เพื่อเตือนภัยแก่นักดนตรีท่านอื่น…
-
ดูหนังโป๊ VR แบบเหมือนทั้งในจอและนอกจอ พอถอดแว่นออกมาเท่านั้นแหละ… จึ๋งเลย!!
ในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยี VR นั้นเป็นอะไรที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และยังถูกนำไปใช้ในงานมากมายไม่ใช่เพียงแค่กับเกมเท่านั้น แต่ที่เด็ดกว่าคือมันถูกนำไปใช้ในการดูหนังผู้ใหญ่ด้วย งานนี้ก็เพิ่มความเสียวแบบ 360 องศาเลยทีเดียว ทว่าจะดูแบบ 360 องศาอย่างเดียวมันก็คงไม่ฟิน พ่อหนุ่มแว่นชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเลยคิดว่าแบบนี้มาดูหนังผู้ใหญ่แบบ VR พร้อมกับจ้างหมอนวดมานวดไปพร้อมๆ กันคงจะฟินกว่าจริงไหม ฉะนั้นคิดได้แล้วก็อย่ารอช้ามาลองกันเลยดีกว่า VR เนี่ยแหละจะพาคุณไปสู่โลกใบใหม่ พร้อมแล้วหรือยัง อิคุโซะ!! เริ่มแรกก่อนจะหนวดก็ต้องแก้ผ้าก่อนนะ โอเคซ้อมก่อนๆ ท่าเตรียม!! พร้อมลุย จะหมัดจะมวย หมอนวดสวยๆ อะไรก็มาเห๊อะ โอ้โห VR นี่มันแจ่มจริงๆ โว้ย อีกฟากหนึ่งในโลกแห่งความจริง… อู้ววว แจ่มจริงๆ ประสบการณ์สมจริงอะไรขนาดนี้ พี่แว่นคงคิดในใจ “เจ้าหมอนี่มันร้องอะไรของมัน…” นวดๆ ถูๆ ขอจับก้นหน่อยนะน้องสาว…ก้นน้องนี่แน่นจริงๆ ฮร่าๆ บักหำ เองเฮ็ดอิหยั่งนิ…
-
ไอซ์แลนด์ลดโอกาสเกิด “ดาวน์ซินโดรม” เกือบเท่ากับศูนย์ จนเกิดประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์
ในบางประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร พบว่าอันตรายของผู้ที่เกิดมาพร้อมกับโรคดาวน์ซินโดรมนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี ในทางกลับกัน ที่ประเทศไอซ์แลนด์พบว่าโอกาสที่เด็กจะเกิดมาเป็นดาวน์ซินโดรมนั้นเกือบเท่ากับศูนย์ จากข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดยสำนักข่าว CBS News ระบุว่าในไอซ์แลนด์มีเด็กเกิดมาเป็นดาวน์ซินโดรม เฉลี่ยปีละแค่ 2 คนเท่านั้น จนทำให้มีการถกเถียงถึงประเด็นนี้ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง Landspítali หรือ National University Hospital of Iceland ได้ทำการทดสอบคัดกรองก่อนคลอดกับหญิงตั้งครรภ์ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการตรวจหาปัญหาของพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมไปถึงโรคดาวน์ซินโดรมด้วย ปกติแล้วหญิงตั้งครรภ์ในสหรัฐอเมริกา 67% จะตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ เมื่อมีการตรวจพบความผิดปกติหรือโรคดาวน์ซินโดรมในทารกที่อยู่ในครรภ์ แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์ในไอซ์แลนด์เกือบ 100% จะยุติการตั้งครรภ์ทันทีเมื่อได้รับการวินิจฉัยแบบนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แทบไม่พบกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมในไอซ์แลนด์เลย นักพันธุศาสตร์ Kari Stefansson บอกกับสำนักข่าว CBS ว่า “ความเข้าใจของฉันคือการกำจัดกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมให้หายไปจากสังคมของเรา” แม้ไอซ์แลนด์จะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ แต่ทว่าในโลกออนไลน์นั้นได้เกิดประเด็นถูกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรมและจริยธรรม พวกเขาบอกว่ามันเหมือนการบีบบังคับคุณแม่ในไอซ์ทำแท้งเพื่อแลกกับการกวาดล้างกลุ่มดาวน์ซินโดรมให้หายไปจากสังคม แม้คุณแม่บางคนจะเต็มใจแต่มันก็ล้วนมาจากการคำพูดหว่านล้อมทั้งนั้น ทางหัวหน้าแผนก Prenatal Diagnosis Unit Hulda Hjartardottir ของ Landspítali ออกมาโต้แย้งว่า “เราพยายามจะให้คำปรึกษาที่เป็นกลางที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่บางคนกล่าวหาว่าเราชี้นำให้คุณแม่ทำแท้ง” …
-
ภาพ GIF สุดปั่นที่ดูแล้วจู่ๆ ก็มีเสียงเฉยเลย กับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?
ประสาทสัมผัสของคนเรานั้นมีอยู่หลายด้าน ทั้งการมองเห็น การสัมผัส การดมกลิ่น รวมทั้งการได้ยิน ซึ่งบางคนก็อาจจะมีประสาทสัมผัสด้านการได้ยินที่ดีเกินไปจนเรียกว่าเกิดอาการ ‘หูแว่ว’ หรือว่าได้ยินสิ่งที่คนอื่นมักไม่ได้ยิน แต่มีภาพเคลื่อนไหวบางภาพ ที่หลายคนต่างยืนยันว่ามีเสียงออกมาจากภาพเหล่านั้นจริงๆ แม้ว่าจะมีการปิดเสียงไว้ก็ตาม ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่พวกเขาได้ยินกันมานั้นมันเป็นเสียงที่อยู่ในภาพหรือว่าเป็นเสียงที่พวกเขาคิดกันอยู่ในหัวกันแน่ ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ชื่อว่า @Lisa DeBruine ได้แชร์ภาพเคลื่อนไหวอันหนึ่ง ที่ไม่ว่าใครได้มาชมต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันมีเสียงออกมาภาพจริงๆ นะ และหากใครอยากทดสอบว่ามันจริงไหมนะ ก็ลองไปทดสอบกันได้เลย ภาพเคลื่อนไหวที่ว่ากันว่ามีเสียงออกมาจากภาพ Does anyone in visual perception know why you can hear this gif? pic.twitter.com/mcT22Lzfkp — @debruine@tech🐘lgbt (@LisaDeBruine) December 2, 2017 ภาพเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นภาพของเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่เล่นกระโดดเชือกกัน โดยสิ่งที่คนส่วนใหญ่ได้ยินเป็นเสียงดังที่มาจากการสั่นสะเทือนของพื้นดินระหว่างที่เสาไฟฟ้านั้นกระโดดข้ามเชือกนั่นเอง มีผู้คนกว่า 67% จาก 300,000 คนบอกว่าได้ยินเสียงดังกล่าว บางคนก็บอกว่าได้ยินเสียง ดึ๋งๆ ในภาพหลังเธอได้ออกมาอธิบายถึงสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ได้ยินเสียงดังมาจากภาพเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยเธอบอกว่ามันเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า…
-
คุณย่าเตรียมของขวัญคริสต์มาสให้หลานสาว พอเปิดออกมาเป็นกระปู๋ปลอมซะงั้น!?
ใกล้ช่วงเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ผู้คนต่างก็เริ่มหาซื้อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้กับคนที่เป็นที่รักของตัวเอง บรรดาห้างร้านต่างๆ ก็ได้ออกมาจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า เป็นอีกหนึ่งเทศกาลแห่งความสุขที่ไม่ว่าใครต่างก็รอคอยให้มาถึง Debbie Greenhalgh ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการหาซื้อของขวัญให้กับคนที่เธอรักนั่นก็คือหลานสาวที่ชื่อว่า Millie วัย 9 ขวบ ในคริสต์มาสนี้ เธอจึงได้เข้าเว็บไซต์ Amazon เพื่อค้นหาของขวัญให้กับหลานสาวของเธอ สิ่งที่เธอวางแผนว่าจะซื้อให้กับหลานสาวนั่นก็คือชุดสติกเกอร์สีทองเพื่อให้เธอได้นำมันไปติดกับการ์ดส่งความสุขให้กับคนอื่นๆ ต่อไป หนู Millie ตื่นเต้นมากและรอคอยให้ไปรษณีย์มาส่งของที่หน้าบ้านอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อพัสดุมาถึงที่บ้านหนูน้อยก็ออกไปรับพัสดุกล่องนั้นมาทันที แต่ทันใดที่เธอเปิดกล่องออก เธอไม่พบกับชุดสติกเกอร์สีทองแบบที่เธอต้องการ แล้วคุณย่าของเธอก็ยังพูดซ้ำว่า “เซอร์ไพรส์ไหมล่ะหนู” แต่เมื่อหลานนำกล่องที่เปิดแล้วมาให้ดูแล้วถามว่านี่คืออะไร เมื่อคุณย่าเห็นแล้วก็ต้องรีบคว้าออกจากมือเธอในทันที มันคือกระปู๋ปลอมที่เอาไว้บีบคลายเครียด คุณย่าก็เกิดสงสัยในทันทีว่าทำไม Amazon ถึงได้ส่งของแบบนี้มาให้เธอและเธอคิดว่ามันอาจจะเป็นความผิดพลาดอะไรบางอย่างก็เป็นได้ เธอจึงได้สอบถามไปยังเว็บไซต์ถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทาง Amazon ได้ออกมาขอโทษถึงความผิดพลาดในครั้งนี้และยินดีคืนเงินให้กับคุณย่ารวมไปถึงการที่พวกเขาจะส่งของขวัญชิ้นใหม่เพื่อมาปลอบขวัญหนู Millie และได้บอกให้คุณย่าเก็บเจ้ากระปู๋ปลอมนี้ไว้ได้โดยไม่ต้องส่งคืนบริษัท “ฉันจะเก็บไว้ทำไม ในเมื่อฉันไม่ต้องใช้มัน” Debbie กล่าว เจอแบบนี้ใครจะไม่เซอร์ไพรส์บ้างล่ะ โชคดีที่หลานสาวไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรจริงๆ ที่มา metro
-
25 รูปปั้นอันแสนงดงาม ที่เหล่าศิลปินทำขึ้นมาด้วยความประณีต ราวกับเทพธิดาสรรค์สร้าง…
ความสวยงามของผู้หญิง ได้รับการยกย่องจากศิลปินในทุกๆ แขนงมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน สังเกตได้จากประติมากรรมจากการแกะสลักจากหิน หินอ่อน และงานปั้นต่างๆ ที่ศิลปินในแต่ละยุคสมัยร่วมถ่ายทอดออกมา ครั้งนี้เราจึงรวบรวมรูปปั้นของผู้หญิงที่ดูมีชีวิตชีวาและพริ้วไหว ที่สื่อความอ่อนโยนผู้หญิงออกมาได้อย่างละเอียดและอ่อนช้อย ถ้าคุณอยากมองเห็นความงดงามของผู้หญิงมากกว่าเดิมก็ต้องไปชมรูปปั้นทั้งหมดที่เรานำมาในวันนี้กันเลย.. 1.ศิลปินที่ชื่อว่า Luo Li Rong เธอได้สร้างรูปปั้นของผู้หญิงที่ผมพริ้วไหวไปกับสายลมได้อยากแนบเนียน ผลงานของเธอดูสง่างามและดูเหมือนว่ารูปปั้นเหล่านี้มีชีวิตจริงๆ . 2. Richard Stainthorp สร้างสรรค์งานประติมากรรมจากลวดโลหะมานานกว่า 20 ปี ผลงานประติมากรรมของเขาเป็นเรื่องที่น่าตื่นตา โดยเฉพาะเมื่อเขาสร้างรูปปั้นผู้หญิงด้วยการดัดโครงลวด ซึ่งมันดูสวยงามจริงๆ . 3. ประติมากรรมลึกลับและตระการตานี้ตั้งอยู่ใน Cimitero Monumentale di Staglieno สุสานที่มีชื่อเสียงในเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี . 4. Jean-Michel Bihorel เธอสร้างความประหลาดใจด้วยรูปปั้นแบบดิจิตอล ที่มีดอกไม้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นความอ่อนโยนและความน่าอัศจจรรย์ใจของผู้หญิง . 5. ศิลปินชาวอิตาลี Vittorio Tessaro สร้างร่างของผู้หญิงออกมาด้วยความสง่างาม ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้หญิงในสมัยปัจจุบันก็ตาม . 6. ประติมากรชาวอเมริกัน Benjamin Matthew Victor รู้วิธีถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศในพื้นผิวสีบรอนซ์ ผลงานศิลปะของเขามีความงดงามและแสดงถึงความละเอียดประณีต ทำให้รูปปั้นของเขาเหมือนกับมีชีวิตอยู่จริงๆ . . 7. Philip Jackson เป็นนักประติมากรรมชาวสกอตแลนด์ เล่าเรื่องของงานศิลปะทุกชิ้นได้อย่างน่าสนใจ การสร้างสรรค์ของเขาทำให้สังเกตได้ยากจริงๆ ว่างานปั้นนี้ทำขึ้นมาจากหิน .…
-
นี่คือ “หมู่บ้านไวอากร้า” เพราะอยู่ติดกับโรงงานผลิตที่รั่วไหล ทำเอาชาวบ้านปึ๋งปั๋งกันทุกวัน
มีใครรู้จักยา Sildenafil บ้างรึเปล่า คงไม่ค่อยมีคนรู้จักหรอก แต่ถ้าหากถามว่ารู้จัก ไวอากร้า ไหมล่ะก็ ทุกคนคงจะบอกว่ารู้จักทันที ยา Sildenafi นั้นเป็นยาเสริมสร้างสมรรถภาพชนิดหนึ่ง ซึ่งถูกจำหน่ายในชื่อว่าไวอากร้า โดยบริษัทยา ไฟเซอร์ เป็นยาที่รู้จักกันดีว่าช่วยให้คุณผู้ชายมีสมรรถภาพทางเพศที่แข็งแรง ช่วยแก้ปัญหาน้องชายอ่อนแอได้เป็นอย่างดี ปกติแล้วยาตัวนี้จะต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้นจึงจะสามารถซื้อได้ จึงไม่ใช่ยาที่ใครๆ ก็สามารถหามาใช้ได้ แต่มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ว่ากันว่าทุกคนในหมู่บ้านได้รับไวอากร้าโดยไม่จำเป็นต้องซื้อเลย หมู่บ้าน Ringaskiddy หมู่บ้านที่ว่านี้คือหมู่บ้าน Ringaskiddy เมืองคอร์ก ประเทศไอร์แลนด์ เป็นเมืองที่ตั้งของโรงงานผลิตยาของบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งเป็นที่ที่คอยผลิตยาไวอากร้านั่นเอง แต่ที่บอกว่าคนในเมืองได้รับไวอากร้าโดยที่ไม่ต้องซื้อ ไม่ได้แปลว่าบริษัทแจกจ่ายยาให้กับคนในเมืองฟรีหรอกนะ แต่ชาวเมืองเชื่อว่าไวอากร้าที่ถูกผลิตที่โรงงานแห่งนี้ ได้ปนมาทางอากาศและน้ำ ทำให้คนในเมืองได้บริโภคมันเข้าไปทางอ้อมต่างหาก โรงงานผลิตยาของไฟเซอร์ในหมู่บ้าน Ringaskiddy The Sunday Times จึงได้ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์คนในหมู่บ้านเกี่ยวกับความเชื่อนี้ โดย Debbie O’Grady หญิงสาวในท้องถิ่นให้สัมภาษณ์ว่า “อยู่เมืองนี้ แค่สูดหายใจเข้าลึกๆ เท่านั้นก็แข็งโป๊กขึ้นมาทันที” ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง Fiona Toomey ก็บอกว่าแม้แต่พวกสุนัขในเมืองยังแข็งโด่ทั้งวันไม่มีหดเลย ไม่ได้มีแต่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่เชื่อเรื่องยาไวอากร้ารั่วไหล ชาวเน็ตที่ได้ยินข่าวนี้บางคนพูดติดตลกว่าอิจฉาคนเมืองนี้จริงๆ บางคนก็บอกว่าอยากลองย้ายมาอยู่เมืองนี้จัง ไม่เพียงเท่านั้นนักท่องเที่ยวที่มาพิสูจน์ว่าข่าวลือนี้จริงหรือไม่ บางคนก็มาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองนี้เลย ไม่แน่ใจว่าเพราะรู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นรึเปล่านะ ยาไวอากร้า แน่นอนว่ามีข่าวลือออกมาแบบนี้ บริษัทไฟเซอร์ย่อมไม่อยู่เฉยๆ…
-
เมื่อเด็กน้อยเขียนบทสัมภาษณ์แมวเหมียวของตัวเอง ก็เลยกลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโซเชียล
เชื่อว่าคนที่มีสัตว์เลี้ยงหลายๆ คน ชอบที่จะขลุกอยู่กับพวกมันเป็นเวลานานๆ เพราะการได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และเหมือนกับมีเพื่อนคอยอยู่เคียงข้างเรา ในบางครั้งเราก็พูดคุยกับมันบ้าง ถึงแม้ว่ามันจะตอบเรากลับเป็นภาษาคนไม่ได้ แต่เจ้าของก็มักจะคิดว่าเข้าใจถึงความรู้สึกของพวกมันดี ถ้าคุณคิดว่าคุณเข้าใจสัตว์เลี้ยงของคุณดีและสามารถสื่อสารกับมันได้ไม่แพ้คนอื่น คุณอาจจะต้องคิดใหม่เมื่อได้เห็นเด็กหญิงคนนี้กับแมวของเธอ เพราะเธอคือคนที่ไม่เพียงแต่สามารถเข้าใจสัตว์เลี้ยงได้ แต่เธอยังก้าวข้ามไปอีกขั้นของการสื่อสารกับแมวซึ่งไม่เคยมีใครในโลกนี้ทำมาก่อน เธอได้ทำการสัมภาษณ์สัตว์เลี้ยงตัวโปรดอย่างเป็นทางการ และดูจากบทสัมภาษณ์แล้วเธอน่าจะคุยกับมันรู้เรื่องจริงๆ ซะด้วย Gabi Duane เจ้าของน้องเหมียว เหมียว Coco สาวน้อย Gabi Duane อายุ 10 ปีคนนี้ เป็นเจ้าของของเจ้าแมวขนฟูสีดำชื่อว่า Coco และเธอน่าจะเป็นเด็กคนแรกที่ได้สัมภาษณ์แมวอย่างเป็นทางการ โดยเรื่องที่เธอสัมภาษณ์มันก็คือ ‘แมวชอบถูกลูบตรงไหนบ้าง’ เผื่อใครดูไม่ค่อยเข้าใจ วันนี้เราช่วยแปลบทสัมภาษณ์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันแล้วครับ บทสัมภาษณ์ Coco Gabi: Coco ขอลูบหัวหน่อยได้ไหม Coco: แน่นอนอยู่แล้ว Gabi: แล้วหลังล่ะ Coco: เต็มที่เลย Gabi: งั้นลูบท้องได้ไหม Coco: ห้าม-แตะ-ต้อง-ท้อง-ตรู-เด็ด-ขาด!! Gabi: ถ้าเป็นขาล่ะ Coco: อันนั้นก็ไม่ได้ Gabi:…
-
พระสิริโฉมอันงดงามของ ‘พระราชินีแห่งภูฏาน’ ผู้ได้ชื่อว่า… ราชินีอายุน้อยที่สุดในโลก!!
หากพูดถึงประเทศที่มีภูมิทัศน์สวยงาม อุดมไปด้วยธรรมชาติและความเป็นอยู่ดั้งเดิมของประชาชน ก็คงจะนึกถึงอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ประเทศภูฏาน” ที่ขึ้นชื่อในเรื่องประเพณีและความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมของประชาชน ที่ปราศจากเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไปครอบงำ และนอกจากธรรมชาติที่งดงามแล้ว ประเทศภูฏานยังมีสิ่งที่สวยงามอยู่อีกสิ่งหนึ่ง นั้นก็คือ “ราชินีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน” ทรงสวยทั้งใบหน้าที่ดูอิ่มเอม และอิริยาบถที่งดงาม เหมือนเป็นแม่ของประชาชนชาวภูฏานทุกคน แม้ว่าทรงจะมีอายุเพียงแค่ 27 ชันษา ก็ตาม นี่คือราชินีที่อายุน้อยที่สุดในโลก จากราชอาณาจักรภูฏาน Jetsun Pema ทรงมีอายุเพียง 27 ชันษา โดยถูกแต่งตั้งให้เป็นราชินีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ในเดือนตุลาคม ปี 2011 เมื่ออายุได้ 21 ชันษา ทรงได้อภิเษกกับเจ้าชายจิกมี หรือ Jigme Khesar Namgyel Wangchuck ในขณะที่เจ้าชายมีพระชนมายุได้ 31 ปี ในตอนนี้ทั้งสองมีพระราชโอรสที่มีพระนามว่า Jigme Namgyel Wangchuck ทรงพระชันษา 1 ปี ทั้งพระราชาและราชินีมีความคล้ายคลึงกัน คือพวกเขาทั้งสองเรียนที่อังกฤษ และหลงใหลในงานศิลปะเช่นเดียวกัน พระราชินีศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จิตวิทยา และประวัติศาสตร์ศิลป์ที่ Regent’s College ในกรุงลอนดอน ในขณะที่กษัตริย์จิกมีศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการเมืองที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด…
-
หนุ่มไปทำงาน แต่แล้วก็จ๊ะเอ๋แม่แมวกับลูกๆ ในวันขอบคุณพระเจ้า จึงเข้าช่วยเหลือพวกมันไว้…
เมื่อพูดถึงของขวัญในวันคริสต์มาสที่จะมาถึง มนุษย์อย่างก็เราคงจะนึกถึงของขวัญกล่องใหญ่ ที่ด้านในบรรจุสิ่งของที่เราได้อธิษฐานไว้กับซานต้า แต่สำหรับแม่แมวตัวหนึ่ง มันกลับได้ของขวัญในวันขอบคุณพระเจ้าเป็นแมวน้อย 4 ตัว ที่สุดแสนจะน่ารัก เจ้าหน้าที่จากศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับผู้ใหญ่ขององค์กรไม่แสวงผลกำไร Salvation Army ในเมืองเซลมา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบแม่แมวจรจัด พร้อมกับลูกของมันอีก 4 ตัว พวกเขาเจอมันในคืนที่มีอุณหภูมิหนาวเหน็บ โชคดีมากที่พวกมันถูกพบก่อนที่จะสายเกินไป ภรรยาของเขาได้ตั้งชื่อให้กับแม่แมวว่า “Faith” ที่แปลว่าศรัทธา “ลูกแมวที่เกิดมาในวันขอบคุณพระเจ้านั้น เป็นลูกแมวที่น่ารักและงดงามที่สุด และแม่แมว Faith ยังมีจุดแต้มสีส้มบนหัวของเธอที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย” . ทั้งคู่หาบ้านใหม่ให้กับครอบครัวแมว ซึ่งเป็นสถานที่รับเลี้ยงแมวในแคลิฟอร์เนียที่ชื่อว่า “The Cat House on the Kings” แม่แมว Faith และลูกแมวของเธอจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและได้รับโอกาสที่ดีกว่าในการอาศัยอยู่ที่บ้านของพวกเขา “Faith เป็นแม่แมวที่น่ารักและใจดีสุดๆ ในขณะที่เธออาศัยอยู่ที่ The Cat House on the Kings เธอรักและทุ่มเทให้กับลูกแมวของเธอทุกตัว” Karla Cortez ผู้ดูแล Cat House on the Kings กล่าว…
-
เจ้าเหมียววัย 20 ปีผู้ป่วยเป็นโรคลมชัก และความจำไม่ดี แต่ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้
โดยปกติแล้วแมวเหมียวที่มีอายุมาก เป็นโรค หรือร่างกายไม่แข็งแรง มักจะถูกมองข้าม ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วพวกมันสมควรได้รับการเอาใจใส่มากที่สุด เหมือนกับ Britches เจ้าแมวอ้วนวัย 20 ปี ที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่ในสภาพอันเลวร้าย และคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าคงไม่คุ้มค่าที่จะช่วยเหลือมัน อย่างไรก็ตาม Karyn Poplin ไม่ได้คิดเหมือนคนส่วนใหญ่ เธอเป็นคนเดียวที่ตัดสินใจให้โอกาสมัน และพามันกลับไปอยู่บ้านด้วย วันแรกที่เข้ามาอยู่ในบ้าน Britches ทำตัวน่ารักมาก มันจะอ้อนให้อุ้มตลอดเวลาและไม่ยอมอยู่ห่างจาก Karyn เลย จนกลายเป็นเหมือนเงาเล็กๆ ที่คอยตามเธอไปทุกที่ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร แต่จริงๆ แล้ว Britches มาพร้อมกับปัญหาสุขภาพมากมาย มันเป็นโรคลมชัก ฟันบางส่วนหายไป และมีความจำที่ไม่ค่อยดีนัก แต่มันไม่เคยยอมแพ้ที่จะมีชีวิตอยู่ Karyn บอกว่า “มันทำได้แค่หันไปทางซ้ายแล้วอยู่อย่างนั้น และทุกๆ เช้ามันจะตื่นมาในที่ที่แตกต่างกัน เพราะความจำไม่ดี มันเลยจำที่นอนเดิมไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นแมวที่สมบูรณ์แบบสำหรับฉัน” “Britches ดูอารมณ์ดีอยู่เสมอ มันรักการผจญภัยและตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ แม้บางทีจะเห็นอะไรเดิมๆ แต่มันก็ยังตื่นเต้นเพราะมันจำไม่ได้ นั่นชีวิตของมันมีแต่เรื่องสนุกทุกวัน” หญิงสาวบอก เจ้าเหมียวแก่รักการกอดมากๆ บางทีแม้ไม่ได้อยู่ในอ้อมกอด แต่ถ้าเอาผ้าห่มไปคลุมให้ มันก็จะงีบหลับอยู่อย่างนั้นสักพักหนึ่ง เพราะมันสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น …
-
แผนที่แสดงให้เห็นว่าภาษาต่างๆ ในโลกต้องใช้เวลาเรียนเท่าไหร่ จึงจะสามารถสื่อสารกันได้!!
บนโลกอันกว้างใหญ่ของเรามีประเทศอยู่นับร้อยนับพันประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีการสื่อสารที่แตกต่างกันออกไป ทั้งลักษณะท่าทาง มารยาท รวมถึง ‘ภาษา’ ที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ซึ่งก็มีทั้งประเทศที่ใช้ภาษาของตัวเอง และประเทศที่ใช้ภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษ นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว หากใครอยากหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาต่างๆ ในตอนนี้ทาง Foreign Service Institute ก็ได้จัดหมวดหมู่ภาษาต่างๆ ในโลกของเราว่าควรเรียนระยะเวลานานเท่าไหร่ เพื่อจะมีความเข้าใจในภาษานั้นๆ ได้อย่างถ่องแท้ อ้างอิงจากผู้ที่มีภาษาแม่เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาต่างๆ บนโลกที่มีการจัดอันดับระยะเวลาในการเรียน และต่อมาผู้ใช้งานเว็บ Reddit คนหนึ่งที่ชื่อว่า Fummy ก็ได้นำข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ไปใส่ไว้ในแผนที่โลกเพื่อให้เราสามารถเข้าใจและเปรียบเทียบระยะเวลาในการเรียนภาษาประเทศนั้นๆ ได้อย่างง่ายดายขึ้นนั่นเอง หมวกแรกยังชิวๆ เรียนแค่ 23-24 สัปดาห์ก็ฟัง พูด อ่าน เขียนได้คล่องปรื๋อ กลุ่มแรกคือกลุ่มภาษาที่มีต้นกำเนิดหรือตระกูลภาษาใกล้ๆ กับภาษาอังกฤษก็อย่างเช่น ภาษาฮอลแลนด์ ภาษาเดนมาร์ก ภาษาสวีเดน ซึ่งมีความคล้ายคลึงราวกับว่าหากรู้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ก็เหมือนกับเรียนรู้ภาษาในประเทศเหล่านี้ไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว เริ่มยากขึ้นมาหน่อย ภาษาอินโดนีเซีย ภาษามาเลเซีย และภาษาสวาฮีลี ต้องมีการเรียนถึง 36 สัปดาห์เลยทีเดียว 44 สัปดาห์สำหรับภาษาเหล่านี้…
-
ตายายถึงกับเซ็ง หลังโดนเพื่อนบ้านสร้างรั้วบังหน้าต่างซะมิด ทำให้ทั้งคู่ต้องอยู่ในความมืดมิด
การอยู่ร่วมกันในสังคม จำเป็นต้องคิดถึงคนอื่นให้มากๆ บางอย่างทำแล้วเราอาจจะมีความสุข แต่ต้องแน่ใจว่าความสุขของเราไม่ได้อยู่บนความทุกข์ของคนอื่น อย่างกรณีของตายายคู่นี้ที่ต้องอยู่ในบ้านที่มีแต่ความมืดมิด หลังถูกเพื่อสร้างรั้วบังหน้าต่างของพวกเขาและบดบังแสงที่จะเข้ามา Arthur และ Eva Evans ตายายที่มีอายุอยู่ในช่วง 80 ปี ได้ย้ายไปอยู่ในบ้านที่ชนบทใน Ashton with Stodday ใกล้กับแลงคาสเตอร์ ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เกษียณเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ทั้งคู่หวังจะใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายอย่างแสนสุขด้วยกันที่นั่น แต่แล้วเพื่อนบ้านก็มาทำลายความสุขนั้นด้วยการสร้างรั้วโดยไม่บอกตายายเลยสักคำ ตายายอ้างว่าเพื่อนบ้าน Roger Clark สร้างกำแพงอิฐขึ้นมาเมื่อ 14 เดือนก่อน ซึ่งติดกับบ้านของพวกเขาไม่ถึงก้าว ยิ่งไปกว่านั้นกำแพงดังกล่าวยังบดยังหน้าต่างทั้ง 5 บานของพวกเขาด้วย ทั้งคู่ยังบอกอีกว่ารู้สึกเครียดมากและไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ Clark ทำมาตั้งแต่แรก แต่ขัดไม่ได้เพราะเขาเป็นเจ้าของบริษัท Stodday Land Ltd ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินส่วนใหญ่ของที่นี่ ตอนแรกนาย Clark บอกกับ Arthur และ Eva ว่าจะสร้างกำแพงนี้แค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ทว่าเวลาล่วงเลยไปกว่าหนึ่งปีแล้ว กำแพงก็ยังอยู่เช่นเดิม เท่านั้นยังไม่พอ Clark ยังวางถึงอึหมาไว้ที่นอกหน้าต่างพวกเขาด้วย จึงจำเป็นต้องปิดหน้าต่างตลอดเวลา เพราะมันส่งกลิ่นเหม็น เมื่อนักข่าวติดต่อไปยังนาย Clark เขาบอกว่าไม่ได้รับการร้องเรียนใดๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ทำ ดังนั้นจึงถือว่าบริษัทของเขาไม่มีความผิดอะไรในขณะนี้…
-
ย้อนร้อยอุบัติเหตุ TG311 กับความสูญเสียครั้งใหญ่ของไทย ที่ยากจะลืมเลือน…
การบินไทยถือเป็นหนึ่งในสายการบินที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในประเทศไทย แต่การที่เราเห็นการบินไทยบินเฉิดฉายอยู่กลางอากาศอย่างสง่างามอย่างทุกวันนี้ ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เคยเกิดความผิดพลาดมาก่อน ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ. 2535 ได้เกิดเห็นเครื่องบินของการบินไทยชนเข้ากับภูเขา ส่งผลให้ผู้โดยสารพร้อมลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิต และกลายเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ได้รับการพูดถึงทั่วโลก ภาพถ่ายเครื่องบินลำที่เกิดเหตุ บนรันเวย์สนามบินดอนเมืองเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2535 เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 โดยการบินไทย เที่ยวบินที่ TG311 ได้เดินทางจากประเทศไทยไปยังท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวัน กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ในวันดังกล่าวสภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวนเนื่องจากมีลมมรสุมที่พัดกระหน่ำ ดังนั้นในขณะที่นักบินจึงพยายามลดระดับลงเพื่อลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวันก็เกิดความผิดพลาดขึ้น โดยขณะที่เครื่องบินอยู่ห่างออกไป 12 ไมล์ ได้เกิดปัญหาแฟลปไม่กาง แต่นักบินพยายามแก้ไขจนแฟลปทำงานได้ปกติ แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาเครื่องลดระดับช้าเกินไป และไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะลงจอดได้ สารคดีเหตุการณ์ TG311 ที่เพิ่งทำออกมา สำหรับผู้ที่สนใจลองชมได้ในคลิปด้านล่างนี้ค่ะ ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือในเวลานั้นสนามบินยังไม่มีเรดาร์ ทำให้ต้องสื่อสารกันผ่านวิทยุ โดยหอควบคุมการบินได้มีคำสั่งให้ TG311 บินวนแล้วเลี้ยวกลับมาลงจอดอีกครั้ง แต่ความพยายามนั้นก็ยังไม่ได้ผลอีก นักบินจึงขอบินวนอีกครั้ง แต่ด้วยการสื่อสารคลาดเคลื่อนระห่างนักบินกับหอควบคุม บวกกับการต้องรอให้เครื่องบินของเนปาลลงจอดก่อน จึงทำให้การบินวนของ TG311 ในครั้งนี้เกิดความผิดพลาด แทนที่จะบินวนไปทางใต้ซึ่งเป็นที่ราบ แต่เที่ยวบิน TG311 กลับมุ่งหน้าไปทางเหนือของสนามบินตรีภูวัน ซึ่งเป็นเขตภูเขาสูง อนุสรณ์สถานที่อุทิศแด่ผู้เสียชีวิตทั้ง 113 คน…
-
22 ภาพวินาทีก่อนที่ ‘ความฉิบหาย’ จะเกิดขึ้น จ๊ากกกกกกก ชั้นทนดูไม่ดั้ยยยย!!
เราเชื่อว่าทุกคนคงเคยมีกันบ้างที่เวลาเรากำลังใช้ชีวิตปกติอยู่ ก็จะบังเอิญมีเรื่องไม่คาดคิดเข้ามาแทรกจนเรารู้สึกตกอกตกใจหรือเสียขวัญกันไม่น้อย และทำให้เราต้องมาวุ่นวายแก้ไขเรื่องน่าปวดหัวเหล่านี้กันทีหลังอีกต่างหาก จนอดคิดไม่ได้เลยว่า ทำไมเราต้องมาเจอเรื่องแย่ๆ แบบนี้ด้วย แต่ถ้าบังเอิญมีคนสามารถจับภาพก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝันพวกนี้เอาไว้ได้ทัน แล้วมานั่งดูนาทีระทึกพวกนี้ในภายหลังละก็ ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเราต้องรู้สึกเสียววาบและหัวเราะกันจนท้องแข็งแน่ๆ เพราะพอเห็นภาพปุ๊บเราก็รู้เลยว่าเสี้ยววินาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับคนในภาพเหล่านั้น วันนี้เราจึงได้รวบรวมภาพหายากของชั่วขณะก่อนเกิดเหตุมาให้ทุกท่านได้ชมกัน รับรองว่าหาดูได้ยากและต้องทำให้เพื่อนๆ รู้สึกเสียวปนฮากับเรื่องที่กำลังจะเกิดต่อจากนั้นแน่ๆ ลองไปรับชมกันเลย ยิ้มนะคร้าบ 1 …2 … 3 … ตุ๊บ! พ่ออย่ามัวแต่มองกล้อง ห่วงลูกบ้าง เจ๊ๆ อย่าดูแต่กล้อง ดูมือถือด้วย กล้องไม่ได้กันน้ำนะโว้ย พกห่อหมกมาแล้วไม่ระวัง ก็เจ็บกันหน่อยนะ ฉันว่าเราน่าจะหนีพ้น … ไม่ทันละ เทียนดับแล้ว แต่ไฟไม่ดับ อย่ากินก่อนถ่ายรูปสิ ท่าทางจะร้องเพลงไม่เพราะนะเนี่ย เขากำลังจะรู้สึกเหมือนอยู่ในเรื่อง Harry Potter แบบนั้นมันผิดกติกานะคุณ เคยเห็นชุดราตรีเปลี่ยนสีกันรึยัง เดี๋ยวต้องมีคนจุก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ๊แกหวงเค้กมากแค่ไหน …
-
เหล่าสาวๆ เพนท์ตัวไปออกกำลังกายที่ยิม เนียนซะนึกว่าใส่ชุดแนบเนื้อจริงๆ นะเนี่ย
ในปัจจุบันมีจิตรกรฝีมือดีมากมายให้ความสนใจในการวาดภาพเสมือนจริง ที่เวลาเราเห็นภาพแล้วบางทีถึงกับนึกว่าเป็นของจริงอย่างไรอย่างนั้น อย่างเช่น ภาพประตูหลอกๆ ที่อยู่บนกำแพง ภาพอุโมงค์ลึกที่ถูกวาดไว้ที่สุดทางตัน หรือว่าภาพน้ำตกไหลเชี่ยวที่วาดไว้บนพื้นหินเรียบๆ ภาพเหล่านี้ดูน่าทึ่งและสมจริงมากเสียจนเราอดนึกชื่นชมผู้เป็นคนวาดภาพเสียไม่ได้ว่าวาดยังไงให้หลอกตาคนได้ขนาดนี้ และก็มีจิตรกรหญิงท่านหนึ่งที่อยากจะทดลองฝีมือของตนเองเสียหน่อยว่าสมจริงขนาดไหน โดยเธอจะลองให้ผลงานของเธอออกสู่สายตาของผู้คนแล้วดูว่าจะมีคนจับผิดได้หรือไม่ แต่เธอไม่ได้วาดภาพลงบนผืนผ้าใบหรือฝาผนังหรอกนะ เธอวาดภาพลงบนตัวคนหรือเป็นที่รู้จักทั่วไปในชื่อบอดี้เพนท์นั่นเอง Maria Luciotti และ Sarah Reilly นางแบบของงานนี้ จิตรกรบอร์ดี้เพนท์หญิง Jen Seidel ได้เชิญ Maria Luciotti และ Sarah Reilly มาเพื่อช่วยเธอในการทดสอบครั้งนี้ โดยให้นางแบบทั้งสองคนใส่เพียงจุกปิดหัวนมและกางเกงในเท่านั้น แล้วเธอจึงลงสีบนตัวของทั้งสองคน ให้เหมือนกับว่าเธอทั้งสองกำลังใส่ชุดออกกำลังกายอยู่ ทีนี้ก็ได้เวลาแล้วที่ทั้งสามคนจะได้รู้เสียทีว่าผลงานของเธอจะแนบเนียนจนทำให้คนทึ่งมากขนาดไหน . . สถานที่ที่พวกเธอเลือกไปก็คือ Planet Fitness ซึ่งมีคนใช้บริการอยู่เป็นประจำ โดยเริ่มจากการเข้าไปขอให้พนักงานหญิงที่ดูแลอยู่ช่วยพาพวกเธอเดินดูรอบๆ ฟิตเนสแห่งนี้หน่อย ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอให้บริการจิตรกรสาวและนางแบบทั้งสอง ตามปกติเหมือนกับว่านางแบบไม่ได้กำลังโป๊อยู่เลย พอพนักงานหญิงได้รู้ความจริงเข้า เธอก็ตกใจไม่ใช่น้อยกับผลงานที่เสมือนจริงขนาดนี้ เท่านั้นยังไม่พอ สาวๆ ยังทำการทดลองต่อไปอีกโดยทำท่าทีว่าพวกเธอมาออกกำลังกายตามปกติท่ามกลางผู้ใช้บริการฟิตเนสมากมาย แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีใครดูออกเลยว่าพวกเขากำลังออกกำลังกายอยู่กับสาวๆ ที่เกือบเปลือยและมีสีสันแต่งแต้มอยู่บนร่างกาย . …
-
นางแบบสาวเดือดโพสต์ประจาน หลังช่างภาพทักมาจ้างงาน แล้วอยากมีเซ็กส์ด้วย!!
ถ้าหากว่าคุณเป็นนางแบบนายแบบที่มีความสามารถและมีรูปร่างหน้าตาดี ไม่แปลกเลยที่คุณจะเป็นที่ต้องการตัวของช่างภาพ จึงมีบ่อยๆ ที่ช่างภาพจะติดต่อกับตัวนายแบบนางแบบเอง เพราะว่าทำให้การคุยรายละเอียดงานนั้นสะดวก และยังเป็นการทำความรู้จักและความคุ้นเคยกันก่อนพบเจอหน้าในชีวิตจริงอีกด้วย แต่การติดต่องานเองนั้นไม่ได้มีอะไรรับรองว่าการทำงานจะเป็นมืออาชีพเสมอไป บางครั้งอาจจะมีอุปสรรคเช่นสถานที่นัดไม่เหมาะสมในการถ่ายแบบ หรืองานที่ต้องทำไม่ตรงกับที่เคยตกลงกันไว้ คนถ่ายแบบเองจึงควรมีความรอบคอบในการรับงาน แต่คงไม่มีอะไรน่ากลัวเท่ากับการที่นางแบบคอสเพลย์ชาวมาเลเซีย Kino Mikii เจอ เมื่อมีคนติดต่อเธอมาเพื่อจะให้เป็นนางแบบให้ แต่ต่อมาถึงได้รู้ว่าเขาต้องการมีเพศสัมพันธ์กับเธอต่างหาก เรื่องเกิดขึ้นเมื่อช่างถ่ายภาพ Michael Alex ได้ติดต่อเธอมาทางข้อความส่วนตัวในอินสตาแกม เพื่อขอให้เธอเป็นนางแบบชุดบิกินี่ให้เขา . . ซึ่งดูๆ แล้วก็เป็นเพียงการถ่ายแบบชุดวาบหวิวธรรมดาๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แถมตัวนางแบบเองก็ยังระมัดระวังตัวอย่างดี โดยถ้านัดถ่ายกันในที่สาธารณะ เธอจะเดินทางไปสถานที่ถ่ายแบบเองเท่านั้น หรือหากต้องถ่ายแบบในที่ลับตา เธอก็จะพาเพื่อนไปกับเธอด้วย จะได้ไม่ถูกลวนลามง่ายๆ แต่เรื่องก็เริ่มดูไม่น่าไว้วางใจ เมื่อเขาถามเธอให้ช่วยถ่ายแบบเพิ่มเติมให้เขา โดยเขาจะให้เธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าของเขาเอง ซึ่งเป็นของจำพวกอวัยวะเพศปลอม เขาต้องการให้เธอถ่ายรูปโดยใส่ชุดยั่วสวาท และถือเซ็กส์ทอยประกอบด้วย . . . ซึ่งเธอก็ยังปฏิเสธเขาด้วยท่าทางสุภาพว่า เธอไม่รับงานถ่ายแบบในทำนองนี้ แต่ยังยินดีจะถ่ายแบบชุดบิกินี่ให้ตามที่ได้ตกลงกันไว้ในตอนแรกนั่นเอง คงจะเห็นท่าว่านางแบบไม่เล่นด้วย เขาจึงตัดสินใจคุยกับเธอซึ่งๆ หน้า ว่าเขาต้องการมีเซ็กส์กับเธอหลังจากเธอถ่ายแบบแล้ว…
-
สาวแท้งลูกลงมือฆาตกรรมว่าที่คุณแม่ท้องแก่ แล้วผ่าลูกในท้องของเธอเอาไปเป็นของตัวเอง!!!
การตั้งครรภ์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดสำหรับผู้หญิง เพราะว่าเป็นการให้กำเนิดอีกหนึ่งชีวิตให้ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก และเธอจะได้รับโอกาสในการเป็นแม่คน ซึ่งเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นคดีหนึ่งในประเทศบราซิล เมื่อมีสาวท้องแก่ใกล้คลอดถูกฆาตกรรมอย่างเลือดเย็น แล้วถูกคนฆ่าผ่าท้องเอาลูกของเธอออกไป แล้วอ้างว่าเป็นลูกของตัวเองซะอย่างงั้น Gabrielle สายน้อยวัย 18 ปีก่อนจะตั้งครรภ์ เหตุการณ์นี้ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่เมือง Uberlandia ประเทศบราซิล สาวท้องแก่ชื่อว่า Gabrielle Barcelos Silva ได้รับการติดต่อจากคนคนหนึ่ง โดยเธอคนนั้นบอกว่าจะบริจาคเสื้อผ้าเด็กให้แก่ลูกของเธอ แต่เธอต้องมารับเองที่บ้าน เมื่อไปถึงบ้านหลังนั้น คนร้ายก็ได้นำกาแฟผสมยากล่อมประสาทมาให้ Gabrielle รับประทานหลังจากที่ยากล่อมประสาทเริ่มออกฤทธิ์ คนร้ายก็ได้รัดคอเธอจนเสียชีวิต จากนั้นก็ได้ใช้มีดผ่าท้องเพื่อนำลูกของเธอออกมา Gabrielle เหยื่อของการฆาตกรรมอันเหี้ยมโหด และเพื่อความแนบเนียนฆาตกรวัย 38 ปีก็ได้ต่อโทรศัพท์ไปยังเลขหมายฉุกเฉิน โดยเธออ้างว่าเธอได้คลอดลูกอยู่ริมถนนแห่งหนึ่งในเมืองนั้น และเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ด้วยความเชี่ยวชาญของหมอ จึงได้เห็นความพิรุธต่างๆ ในตัวของฆาตกรคนนี้ จึงได้โทรแจ้งตำรวจ และในภายหลังคนร้ายคนนี้ก็ได้ยอมรับว่าเธอเป็นผู้ก่อเหตุสุดสยองดังกล่าว โดยศพของ Gabrielle ถูกพบโดยลูกชายวัย 14 ปีของฆาตกร ที่พบศพของเธอม้วนอยู่ในผ้าห่มในสภาพสุดอเนจอนาถเกินกว่าที่ใครคนหนึ่งจะสามารถทนดูได้ เธอมักจะถ่ายรูปคู่กับลูกในท้องของเธอเสมอ ซึ่งก่อนหน้าที่…
-
คุณยายขอแชะภาพครอบครัวที่เจอโดยบังเอิญ แต่นั่นเป็น ‘ภาพครอบครัว’ ภาพสุดท้ายของพวกเขา
คนแต่ละคนย่อมมีงานอดิเรกแตกต่างกัน บางคนก็ชอบดูหนัง บางคนชอบท่องเที่ยว บางคนก็ทำสวนอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็มักเป็นกิจกรรมฆ่าเวลาที่เราทำแล้วมีความสุขเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วกิจกรรมเหล่านี้อาจจะมีคุณค่าต่อบุคคลอื่นที่บังเอิญมามีส่วนเกี่ยวเนื่องกับงานอดิเรกเหล่านี้ด้วย อย่างคุณยาย Joyce Rhinehart ที่อาศัยอยู่ในเขตอัปเปอร์อาร์ลิงตัน เมืองแฟรงคลิน รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอมีงานอดิเรกคือการถ่ายรูปน่ารักๆ ของคนแปลกหน้า แล้วส่งไปให้พวกเขา คุณยาย Joyce Rhinehart ขณะอยู่กับหลานชาย ในวันที่ 8 มิถุนายน 2017 เธอได้พา Blake หลานชายของเธอแวะซื้อไอศกรีมที่ร้าน Rita’s ขณะกำลังกลับจากการเรียนเทนนิส ตอนนั้นเองเธอได้เจอครอบครัวครอบครัวหนึ่งกำลังนั่งทานไอศกรีมกันอย่างมีความสุข เห็นแล้วเธอก็อดไม่ได้ที่จะขอถ่ายรูปพวกเขาเก็บไว้ แล้วก็ไม่ลืมที่จะขอเบอร์ของลูกสาวครอบครัวนั้นไว้เพื่อจะส่งภาพให้ด้วย เธอก็ทำไปตามปกตินิสัยของเธอ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษในการถ่ายรูปครอบครัวนี้ จากนั้นเธอจึงบอกลาครอบครัวนั้น แล้วพาหลานชายกลับบ้านของตน รูปครอบครัวที่คุณยายถ่ายไว้ แต่ในเวลาต่อมา วันที่ 19 มิถุนายน 2017 ซึ่งเป็นวันพ่อ มีเบอร์ปริศนาส่งข้อความมาหาคุณยาย โดยมีใจความดังนี้ “สวัสดีครับ คุณเคยถ่ายรูปครอบครัวให้กับเราที่หน้าร้าน Rita’s ในวันที่ 2 มิถุนายน ผมอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า ภรรยาของผมเสียชีวิตไปเมื่อวานนี้เอง…
-
คุณแม่สอนวิธีการเอาชีวิตรอดให้ลูกสาววัย 4 ขวบ ก่อนที่แม่จะถูก ‘มะเร็งร้าย’ พรากไป
มะเร็งเป็นหนึ่งในโรคร้ายที่สามารถคร่าชีวิตมนุษย์ได้จำนวนหลายล้านคนต่อปี และเป็นโรคที่หาทางรักษาได้ยากอีกทั้งยังเป็นได้ทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กจนถึงคนชรา ซึ่งในปัจจุบันทางการแพทย์ก็ได้หาวิธีการรักษาใหม่ๆ เพื่อให้เจ้าโรคมะเร็งนี้ไม่สามารถคร่าชีวิตของมนุษย์ได้อีกต่อไป แต่โรคมะเร็งก็ยังสามารถทำลายได้ทุกอย่าง อย่างเช่นเรื่องราวของครอบครัวของหนูน้อย Hana Chan วัย 5 ขวบที่ต้องสูญเสียแม่ผู้เป็นที่รักของเธอไปด้วยโรคมะเร็ง เรื่องราวเริ่มต้นมาตั้งแต่คุณ Chie แม่ของหนูน้อยได้แต่งงานกับ Shingo Yasutake เมื่อปี 2001 ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานคุณแม่ก็ได้ไปตรวจร่างกายเพื่อจะเตรียมตัวมีบุตร แต่ก็ต้องพบว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะแรก เธอจึงรีบทำการรักษาเพื่อที่จะได้มีลูกดังที่ใจหมายปองไว้ และแล้วเรื่องมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้นหลังจากที่เธอคิดว่าหมดหวังที่จะมีลูกเนื่องจากโรคมะเร็งเต้านมที่เธอเป็นอยู่ ฟ้าได้ส่งเด็กน้อยมาอยู่ในครรภ์ของเธอ เพื่อเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแม่จะมีชีวิตต่อไปเพื่อเด็กตัวน้อยๆ ที่เธอรอคอยมาทั้งชีวิต และสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตของเธอก็ได้กำเนิดขึ้นเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆ หน้าตาน่ารัก ผู้ที่มาทำให้ชีวิตของเธอมีความหมาย คุณแม่ได้เขียนในบล็อกส่วนตัวของเธอว่า “ลูกสาวของฉันคือสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันรักเธอมากกว่าสิ่งใด และรักเธอมากกว่าชีวิตของฉัน” เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วหนูน้อย Hana ก็ได้เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักของพ่อและแม่ที่รักเธอยิ่งกว่าสิ่งใด แต่ข่าวร้ายก็ได้มาเยือนเมื่อหนูน้อยอายุได้ 9 เดือน คุณแม่ตรวจพบโรคมะเร็งที่กลับมาลุกลามอีกครั้งซึ่งในครั้งนี้เธอรู้ตัวว่า เธออาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งแรกที่เธอได้เจอกับมัน เมื่อรู้ตัวว่าชีวิตของเธออาจจะไม่ยืนยาวพอสำหรับที่จะดูแลลูกสาวของเธอจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ เธอจึงใช้ช่วงเวลาชีวิตของเธอที่ยังมีอยู่ในการสอนให้ลูกสาวตัวน้อยเรียนรู้ชีวิตมาเรื่อยๆ จนหนูน้อยเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง ในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ เธอได้สอนให้หนู…
-
Bitcoin พุ่งทะลุ 430,000 บาท และนี่คือเศรษฐีพันล้านคู่แรก ที่เราแทบทุกคนรู้จัก!!
แม้จะมีการผันผวนของราคาที่ค่อนข้างรุนแรง แต่แนวโน้มราคาของ Bitcoin ยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแตะระดับที่มากกว่า 430,000 บาทไปแล้ว และนั่นทำให้เกิดมหาเศรษฐีพันล้านอย่าง Cameron และ Tyler Winklevoss ที่เชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีคู่นี้… อ๊ะ บางคนอาจจะสงสัยว่าพวกเขาคือใคร ถ้าลองให้ดูรูปนี้ จะพอนึกออกกันรึเปล่า… Cameron และ Tyler Winklevoss คือคู่แฝดที่เคยมีคดีฟ้อง Mark Zuckerberg ว่าขโมยไอเดียของพวกเขาไปสร้างเป็นเว็บไซต์ Facebook อย่างที่เราได้ผ่านตากันในภาพยนตร์ The Social Network นั่นเอง แม้ปัจจุบันพวกเขาจะไม่ได้เป็นนักเรียนของฮาร์วาร์ด หรือเป็นนักกีฬาพายเรือโอลิมปิกแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงโลดแล่นลงทุนอยู่ในธุรกิจไอทีอยู่ และหนึ่งในทรัพย์สินที่พวกเขาถือครองก็คือ Bitcoin นั่นเอง รายงานในปี 2013 พวกเขาเปิดเผยว่าเป็นเจ้าของ Bitcoin มูลค่าประมาณ 11 ล้านเหรียญ (340 ล้านบาท) ซึ่งหลังจากนั้นเหรียญดิจิตัลดังกล่าวก็มีราคาสูงขึ้นมาโดยตลอด โดยเฉพาะในปีนี้ที่มากกว่า 1,000% นั่นทำให้พอจะประมาณได้ว่าตอนนี้ทั้งคู่ถือครอง Bitcoin…
-
หญิงสาวถูกครหา ‘หน้าสด’ กับ ‘หน้าแต่ง’ แทบไม่เหมือนกันเลย เธอจึงต้องตอบโต้ด้วยความชาญฉลาด
ในโลกโซเชียลปัจจุบัน การถูกคอมเมนต์หรือการถูกครหานั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ โดยเฉพาะชาวเน็ตมือไวที่แสดงความคิดเห็นเชิงลบต่อคนบางคนโดยไม่รู้เลยว่านั้นเป็นสิ่งที่ทำร้ายพวกเขาได้เจ็บปวดที่สุด บล็อกเกอร์สาวคนนี้ก็เช่นกัน เธอโดนชาวเน็ตต่อว่า ว่าเธอนั้นมีใบหน้าที่น่าเกลียดในเวลาที่ไม่มีเครื่องสำอาง… Victoria Katei นักศึกษาวัย 19 ปี ตอนนี้เธอกำลังศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิชาจิตวิทยาและชีววิทยาในเมืองดัลลาส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะเรียนทางด้านจิตวิทยา แต่สิ่งหนึ่งที่เธอหลงไหลมากๆ ก็คือการแต่งหน้า โดยฝีมือของเธอนั้นเรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Katei ได้โพสต์ลงใน Instagram ของเธอ ด้วยแคปชั่นที่สร้างแรงบันดาลให้กับสาวๆ เกี่ยวกับการสร้างความมั่นใจและความน่ารักในแบบที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอาง “เมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือนว่าจะมีหลายๆ คนพูดถึงรูปลักษณ์ของฉันในแบบที่ไม่แต่งหน้า และทำไมฉันถึงไม่โพสต์ภาพหน้าสดลงในอินตาแกรมบ้าง” “ในอินสตาแกรมของฉันโพสต์แต่ภาพที่แต่งหน้าสวยๆ ภาพที่ฉันไม่ได้แต่งหน้านั้นมันเหมือนกับหน้าปลาดุกและมันดูน่าเกลียดสุดๆ” “บางคนมาคอมเมนต์ว่าฉันควรฆ่าตัวตายซะ เพราะฉันมีรูปลักษณ์ปลอมๆ จากการแต่งหน้า ชาวเน็ตบอกฉันว่าไม่มีใครที่จะรักฉันได้หรอก เพราะว่าฉันน่ารังเกียจและต้องแต่งหน้าเพื่อปกปิด ‘ใบหน้าที่แท้จริง’ อยู่ตลอด” “เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น ฉันเลืิอกที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่ผู้คนพูด ก่อนอื่นฉันต้องการชี้แจงว่า ‘ฉันชอบตัวเองทั้งในเวลาที่แต่งหน้าและไม่ได้แต่งหน้า’ ฉันไม่ได้ใช้เครื่องสำอางเพื่อหลบซ่อนใบหน้าจากใครๆ เพราะฉันไม่ได้ขอข้าวพวกเขากิน บางคอมเมนต์ทำให้ฉันร้องไห้ แต่ฉันก็มักจะเตือนตัวเองเสมอว่าฉันมีดีมากกว่านั้น” “ฉันเป็นเด็กสาวที่ไปโรงเรียน ฟังเพลง ออกไปสนุกกัยเพื่อนๆ เป็นผู้หญิงที่รักการนอนอยู่บนเตียงทั้งวัน เหงาๆ ก็ดู…
-
รายการญี่ปุ่นโคตรถึงใจ ติดตามชีวิต “ข้าราชการดูงานต่างประเทศ” เพื่อการงานหรือไปเที่ยว!?
บ่อยครั้งที่เรามักจะเจอข้าราชการจากหลายๆ องค์กรในบ้านเราขอเบิกงบจากกองกลาง เพื่อที่พวกเขาจะใช้สำหรับการเดินทางไปดูงานตามที่ต่างๆ อาจจะเป็นต่างจังหวัดหรือหนักหน่อยก็ไปต่างประเทศ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่านั่นคือการไปเที่ยวหรือไปศึกษางานจริงๆ เพราะเราไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสักเท่าไหร่ แต่ใช่ว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้นจะมีแค่ที่ประเทศไทยนะ เพราะที่ญี่ปุ่นก็เป็นเช่นกัน โดยเรื่องราวนี้ได้ถูกเปิดเผยผ่านรายการ 実録! 金の事件簿 2 ซึ่งออกอากาศผ่านช่อง FUJI TV ทีมงานจากรายการดังกล่าวนั้นได้แอบสืบพบว่า ‘คณะสมาชิกสภาจังหวัดคากาวะ’ ได้ขอเบิกงบจากรัฐเป็นเงินกว่า 10 ล้านเยน หรือตีเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 3 ล้านบาท เพื่อที่จะพาทุกคนนั่งเครื่องบินชั้นธุรกิจ ไปดูงานถึงประเทศเยอรมนี อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ กินเวลารวมแล้วกว่า 9 วัน 7 คืน!! โฉมหน้าของคณะสมาชิกสภาจังหวัดคากวะที่เป็นเหยื่อของรายการในครั้งนี้ มาครับนั่งเครื่องบินสุดหรู แล้วบินไปกันเลย ป้ายแรกที่เยอรมนี!! นอกจากเยอรมนีแล้ว ยังมีอีกสองประเทศสุดหรูหราที่ใครๆ ก็อยากไป แน่นอนว่าถ้าเราได้ยินการไปดูงานต่างประเทศแถมไปนานขนาดนี้เราก็ต้องคิดไปก่อนแล้วว่า พวกเขาไม่ได้ไปดูงานหรอกแต่แอบโกงเงินแบบอ้อมๆ ผ่านวิธีดังกล่าวเพื่อให้ได้ไปเที่ยวต่างหาก งานนี้ทีมงานเลยขอปลอมตัวตามติดชีวิตเหล่าคณะสมาชิกสภากันสักหน่อย เอาแบบตามติดตั้งแต่ญี่ปุ่นยาวจนไปถึงต่างประเทศเลย งานนี้และจะได้รู้กันว่าโกงหรือศึกษางานจริงๆ กันแน่!! ตามติดมาจากญี่ปุ่น ตอนนี้เหยื่อทั้งหมดก็มาถึงเยอรมันแล้ว พอมาถึงสถานีแรก เหล่านักเดินทางทั้ง 6 ก็ไม่รอช้า เข้าไปดูงานถึงในร้านอาหารสุดหรูพร้อมสั่งเบียร์ชั้นดีมากระดกอย่างสบายใจ…ดูงานจริงๆ นะ…
-
ปฏิกิริยาของเจ้าเหมียว 5 ตัว ทันทีที่รู้ว่าเจ้าทาสพาเหมียวแปลกหน้ามาอยู่ที่บ้านเพิ่มอีกตัว
รู้หรือไม่ว่าเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราเนี่ย มันก็มีความคิดความรู้สึกเหมือนกับเราเพียงแต่ว่ามันไม่สามารถบอกความรู้สึกทั้งหมดได้ผ่านการพูดเหมือนกับมนุษย์ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องหมั่นคอยสังเกตเอาใจพวกมันบ้าง ผู้ใช้เจ้าของช่องบนยูทูบที่ใช้ชื่อว่า SuriNoel ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดน่ารัก เมื่อเขาพาแมวตัวหนึ่งเข้ามาในบ้าน ในขณะที่เขานั้นมีแก๊งแมวตัวอ้วนอยู่แล้ว 5 ตัว เขาได้ถ่ายวิดีโอปฏิกิริยาที่เจ้าเหมียวทั้งหลายเข้ามาแล้วเจอกับสมาชิกใหม่ที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตามาก่อน เจ้าเหมียวสมาชิกใหม่ที่ถูกช่วยเหลือมา เจ้าถิ่นมาแล้ว 1 ตัว ท่าทางตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เรียกกำลังเสริมมาติดๆ ใจเย็นไอ้เสือ เราต้องค่อยๆ จู่โจม มุมน้ำเงินเดินย่างสามขุมเข้าไปยังฝ่ายแดง ฝ่ายแดงยังงงๆ อยู่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใจเย็นครับพี่…. เห้ยเอาไงดี เจ้าทาสมันนอกใจเรา ไหนขอสำรวจอีกที กลับไปประชุมก่อน เดี๋ยวฉันจะพาแก๊งมาจัดการแกเจ้าเหมียว// มองอย่างตัวร้ายแล้วเดินหลบเข้าฉาก จากคลิปวิดีโอก็แสดงให้เห็นได้ว่าเจ้าเหมียวจะออกแนวไม่พอใจเล็กน้อยหากว่าเราสนใจสิ่งอื่นมากกว่า สงสารก็แต่เจ้าเหมียวน้อยสมาชิกใหม่ที่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกนาน กว่าจะได้รับการยอมรับเข้าแก๊งแมวอ้วนแหละ คลิปวิดีโอแบบเต็มๆ มาดูกันว่าเจ้าเหมียวมันมีปฏิกิริยาอย่างไร ที่มา awwtopia
-
“มิสโคเรีย” เม้าท์ “มิสกาน่า” ว่าขอเบอร์ซุปตาร์ “มินโฮ” เกือบ 80 ครั้งเพราะหล่อนปลื้มมาก
ในการประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ซึ่งหลายคนอาจจะได้ติดตามข่าวคราวกันอยู่บ้าง โดยเวทีการประกวดนางงามระดับโลกนี้ได้จัดที่นครลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และก็ได้ผลเป็นที่เรียบร้อยกับสาวงามจากแอฟริกาใต้ที่ได้มงกุฎไปครองในปีนี้ ในระหว่างการประกวดที่ลาสเวกัส สาวงามตัวแทนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็ได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน ถือว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างประเทศซึ่งเหล่าสาวๆ นอกจากจะได้มาเข้าร่วมประกวดแล้วยังได้ประสบการณ์และมิตรภาพดีๆ กลับบ้านไปด้วย และเรื่องราวแห่งมิตรภาพนางงามสุดฮาก็ได้ถูกเปิดเผยโดยมิสโคเรีย Cho Se Whee สาวงามจากประเทศเกาหลีใต้ที่ได้ออกมาเม้ามอยเพื่อนนางงามของเธอนั่นก็คือ Ruth Quarshire มิสกาน่า ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอว่า “Ruth ที่รัก เธอมาขอเบอร์และที่อยู่ของกูจุนพโยจากฉันเกือบ 80 ครั้งได้แล้วมั้ง ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหน และก็ไม่รู้มาก่อนด้วยว่าเขามีแฟน ใครทราบที่อยู่ช่วยบอกฉันทีนะคะ” มิสโคเรีย . กูจุนพโยที่มิสกาน่าหมายถึงนั่นก็คือ อีมินโฮ นักแสดงหนุ่มเกาหลีชื่อดังที่สาวน้อยสาวใหญ่คลั่งไคล้เขาจากผลงานละครชื่อดังอย่าง Boys Over Flower, The Heirs และในช่วงปีก็มีข่าวว่า อีมินโฮ นั้นได้เลิกกับแฟนสาวที่คบกันมา 3 ปี มิสกาน่าก็ดูจะมีความหวังขึ้นมาหน่อยๆ จึงได้คะยั้นคะยอขอให้มิสโคเรียบอกเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของเขาให้เธอได้รู้ จนมิสโคเรียอดขำไม่ได้จึงต้องมาโพสต์บอกให้ทุกคนได้รู้ อีมินโฮเค้าหล่อบาดใจขนาดนี้ ใครบ้างที่จะไม่ชอบ สามีแห่งชาติ…
-
ตำรวจเร่งตามล่าตัวจอมโจรขโมย “ตุ๊กตายาง” มูลค่ากว่า 145,000 บาท ก็ของมันต้องมี!!
การจะขโมยอะไรสักอย่างนั้น มันจะต้องเริ่มมาจากความอยากของหัวขโมย ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่อยากจะริเริ่มขโมยของก็มักจะมองไปที่ของแพงๆ อย่างเงิน โทรศัพท์มือถือ แหวนเพชรหรืออะไรก็ตามที่ดูหรูหราและน่าจะขายต่อได้ แต่เรื่องของหัวขโมยคนนี้เขาไม่เลือกขโมยอะไรแบบนั้น ทว่าเขามุ่งเป้าไปที่ ‘ตุ๊กตายาง‘ นามว่า ‘Dorothy‘ ซึ่งเป็นตุ๊กตายางรูปงามที่หนุ่มๆ คนไหนเห็นก็ต้องอยากจะแฮ่กๆ กับเธอแน่นอน โฉมหน้าของตุ๊กตาตัวดังกล่าว งานดีใช่ไหมล่ะ? ซึ่งเมื่อมันเป็นแบบนั้น หนุ่มคนนี้ก็คงรู้สึกว่าของมันต้องมีชัวร์ๆ เขาจึงจัดการบุกไปขโมยตุ๊กตายางตัวดังกล่าวออกมาจากร้านเซ็กส์ทอยในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เพียงแต่โชคไม่เข้าข้างเขาเพราะบริเวณนั้นดันมีกล้องวงจรปิดและสามารถบันทึกช่วงเวลาที่ก่อเหตุของเขาไว้ได้เมื่อช่วง 6 นาฬิกาของเช้าวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม ตุ๊กตายางที่ถูกขโมยไปนั้นมีมูลค่ากว่า 4,500 ดอลลาร์สหรัฐหรือตีเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 145,000 บาทเลยทีเดียว แถมสัดส่วนของตุ๊กตายางก็เด็ดดวงสุดๆ ทั้งหน้าอกหน้าใจใบหน้าและส่วนสูง 168 เซนติเมตรของเธอ เตรียมการมาอย่างดี แต่งตัวมิดชิด แน่นอนว่าเขาตั้งใจมาเพื่อสิ่งนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถึงกับยอมทุบประตูร้านอยู่นานสองนานเลยล่ะ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังคงตามหาตัวเขาต่อไป ซึ่งตอนนี้เบาะแสที่ทางการได้มานั้นมีแค่ชายร่างใหญ่ สวมชุดสีดำลายแดง พร้อมกับกางเกงและรองเท้าสีดำ พร้อมกับรถแวนสีขาว แน่นอนว่ามันยังไม่เพียงพอต่อการตามหาตัวคนร้ายนั่นเอง… เด็ดดวงขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว แต่ถ้าอยากได้ก็ต้องซื้อเอานะ ขโมยมันผิด!! ที่มา dailymail
-
ผลงานรวมภาพ “สายพันธุ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์” ย้ำเตือนมนุษย์ ถึงสิ่งที่เราควรปกปักรักษา…
ผลกระทบของมนุษย์ต่อธรรมชาติเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ จากบริเวณกว้างใหญ่ของป่าที่สูญหายไปจนถึงกองขยะบนชายหาด ภาพเหล่านี้อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราได้ทำ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าอาจเกิดเหตุการณ์การสูญพันธุ์ครั้งที่ 6 ขึ้น เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งมนุษย์เป็นผู้รับผิดชอบทั้งทางอ้อมและรับผิดชอบโดยตรงต่อการสูญเสียสายพันธุ์ ช่างภาพคนหนึ่งจึงพยายามที่จะบันทึกภาพเหล่านี้เพื่อเผชิญหน้ากับการต่อสู้ก่อนที่มันจะสายเกินไป ช่างภาพ Tim Flach ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นภาพที่สวยงามในหนังสือ โดยได้คำบรรยายประกอบจาก Jonathan Baille นักวิทยาศาสตร์ หัวหน้าของ National Geographic Society Pangolin (ตัวนิ่ม) ถือเป็นสัตว์ที่ถูกค้าโดยมนุษย์มากที่สุดในโลก พวกมันถูกล่าในแอฟริกาและเอเชีย เพื่อนำเนื้อไปกิน พวกมันถูกนำมาใช้ในการรักษาทางการแพทย์แบบดั้งเดิม ตัวนิ่มทั้งสี่สายพันธุ์ได้รับการพิจารณาว่าอ่อนแอและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ Sea Angel กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หลังความเป็นกรดของท้องทะเลเพิ่มขึ้น พวกมันมีความสำคัญต่อระบบนิเวศ เป็นอาหารของปลาและสัตว์ทะเลหลายชนิด หากพวกมันหายไป ห่วงโซ่อาหารคงอยู่ในสภาวะวิกฤติแน่ๆ ฮิปโปโปเตมัส จำนวนของพวกมันได้ลดลงเนื่องจากการล่าสัตว์ทั้งเนื้อสัตว์ และฟันซึ่งสามารถทดแทนงาช้างได้ หมีขั้วโลก ถูกระบุเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์โดย IUCN เนื่องจากพวกมันได้รับผลกระทบของการละลายน้ำแข็งขั้วโลก เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาพเหล่านี้คือ ปะการัง Chalice Corals เป็นปะการังเดี่ยวที่เติบโตร่วมกันเป็นอาณานิคมในขนาดใหญ่ของสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่ง และมันเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์การฟอกขาวจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ . Yellow-eyed Tree Frogs ไข่ของพวกมันจะอยู่ห่างจากพื้น…
-
หญิงสาวที่โดนเหยียดเชื้อชาติ ตัดสินใจเข้าร่วม ISIS เพื่อแก้แค้น ก่อนจะหนีออกมาในภายหลัง…
ใครก็ตามที่โดนดูถูกเหยียดหยามบ่อยๆ มักจะกลายเป็นคนที่มีปมในใจ เขาอาจจะกลายเป็นคนได้สองรูปแบบ ถ้าไม่เป็นคนขี้กลัว ก็อาจจะกลายเป็นคนหัวรุนแรงไปเลย… Tania Georgelas วัย 33 ปี ชาวอังกฤษ-บังคลาเทศ เป็นหนึ่งในคนที่โดนเหยียดเชื้อชาติ จนทำให้เธอกลายเป็นคนหัวรุนแรง และอยากให้ลูกๆ ของเธอป็นผู้ก่อการร้ายในอนาคตด้วย แต่ปัจจุบัน Tania ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเขตชานเมืองทางตอนเหนือของเมืองดัลลัส โดยอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของอดีตสามี และสามีใหม่ของเธอ ลองไปรับรู้เรื่องราวของเธอ ผ่านบทความที่ #เหมียวขี้ส่อง จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ค่ะ… กว่าจะมาถึงวันนี้ หญิงสาวต้องผ่านอะไรมาเยอะ รวมทั้งการเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุผลและปัจจัยอยู่เบื้องหลัง Tania ได้เผยเรืื่องราวชีวิตของเธอระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อ The Atlantic ตั้งแต่ออกจากอังกฤษแล้วไปใช้ชีวิตในซีเรีย ก่อนจะกลับมาอยู่ในสหรัฐอเมริกา Tania เป็นหนึ่งในเด็กทั้ง 5 คนที่เกิดในลอนดอน โดยเป็นลูกของคู่รักชาวอังกฤษ-บังคลาเทศ Nural และ Jahanara Choudhury เธอใช้ชีวิตวัยเด็กใน Harrow ซึ่งที่นั่นเธอต้องเจอกับปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ แม้แต่เพื่อนบ้านเองก็มักจะเอาก้อนหินปาใส่หน้าต่างบ้านของเธอ จนทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นคนนอก รู้สึกแปลกแยกกับสถานที่แห่งนั้น เมื่อการดูถูกเหยียดหยามทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด Tania ก็คิดหาทางที่จะแก้แค้นคนเหล่านั้น… กระทั่งหญิงสาวอายุ 17 ปี…
-
การกลั่นแกล้งที่ไม่รู้จบ แม้ทำให้ลูกสาวฆ่าตัวตายไปแล้ว ก็ยังตามราวีพ่อแม่ของเค้าต่ออีกด้วย
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017 เด็กสาววัย 13 ปี Rosalie Avila ได้ทำการฆ่าตัวตายในบ้านของเธอเอง ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอถูกกลั่นแกล้งอย่างหนักมาตลอด 2 ปี และถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้เธอตัดสินใจจากโลกนี้ไปแล้ว แต่มันก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อพ่อแม่ของเธอกลายเป็นเป้าหมายต่อไป… หลังจากที่ Freddie Avila พบลูกสาวแขวนคอจบชีวิตตัวเองอยู่ในห้องนอน เขาและ Charlene แม่ของเด็กสาวก็รู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก และพวกเขาก็ยังถูกกลั่นแกล้งในโลกโซเชียลมีเดียเหมือนกับที่ลูกสาวเธอเคยโดนอีกด้วย Rosalie เด็กสาวที่ฆ่าตัวตายเพราะถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก พ่อแม่ของเด็กสาวคือเหยื่อรายต่อไปสำหรับการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้น มีคนส่งข้อความมาหาพวกเธอ เป็นรูปตัดต่อใบหน้า Rosalie ขณะพูดกับแม่ของเธอว่า “คราวหลังแม่ไม่ต้องพาหนูไปนอนบนเตียงนะ พาหนูลงหลุมศพไปเลยดีกว่า” แล้วเป็นภาพเด็กสาวชี้ไปที่หลุมศพของตัวเอง รูปตัดต่อที่ถูกส่งเข้ามาเพื่อแกล้งตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับคนเป็นพ่อเป็นแม่ นี่คือความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของพวกเขามาตลอด 2 ปี ในวันที่เธอฆ่าตัวตายก็ได้ทิ้งจดหมายเอาไว้ให้กับพ่อและแม่ เขียนขอโทษที่เธอต้องทำอย่างนี้ลงไปเพราะว่าตัวเองเป็นคนที่ “น่าเกลียด” และ “ขี้แพ้” Freddie เล่าว่า ก่อนที่ลูกสาวของเขาจะจากไป เธอเคยมาปรึกษาและพูดคุยกับเขาอยู่หลายครั้ง และเขาจะพยายามพูดให้เธอคิดแต่สิ่งดีๆ…
-
หนุ่มออสซี่ตั้งกล้องถ่ายผี แต่กลับเจอผีผ้าห่ม ระหว่าง “แฟนสาว” กับ “ลูกของตัวเอง” แทน!!
ไม่รู้ว่าจะให้คำนิยามอารมณ์ความรู้สึกของเหตุการณ์ต่อไปนี้อย่างไรดี หลังจากที่หนุ่มออสซีผู้หนึ่งที่เชื่อว่าบ้านของเขานั้นมีมวลสารพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ และได้ตั้งกล้องถ่ายวิญญาณเอาไว้ในห้องเพื่อตรวจดูความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในบ้าน แต่ทว่าแทนที่จะได้เห็นผี งานนนี้พ่อหนุ่มของเราดั๊นได้เห็นกิจกรรมเข้าจังหวะ ระหว่างแฟนสาวคนใหม่กับลูกชายของเขาแทนซะนี่!! วันหนึ่งหลังจากที่ชายหนุ่มของเราลืมปิดกล้องที่เขาตั้งไว้เพื่อถ่ายภาพของสิ่งเร้นลับในบ้าน ชายหนุ่มก็ได้พบภาพของแฟนสาวคนใหม่วัย 28 ปีของเขา กำลังเล่นจ้ำจี้กับลูกชายวัย 16 ปีของเขาอยู่ หญิงสาวคนดังกล่าวคบหากับหนุ่มออสซี่ผู้นี้มานานกว่า 11 ปีแล้ว และเธอเองก็เป็นแม่เลี้ยงของเจ้าหนูน้อยมาตั้งแต่ตอนที่เขาอายุได้ 9 ขวบ ชายหนุ่มตัดสินใจฟ้องร้องเธอหลังจากที่เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุทำให้เธอถูกศาลตัดสินจำคุก 6 เดือนข้อหาพรากผู้เยาว์ ผู้พิพากษา David Porter ได้ให้สัมภาษณ์ว่าผู้ต้องหาสาวรู้จักกับหนุ่มน้อยมาตั้งแต่ตอนที่เขาเด็กๆ แล้ว แต่เธอเริ่มเข้ามาอาศัยที่บ้านหลังดังกล่าวเมื่อปี 2012 นอกจากนี้ผู้พิพากษายังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2016 หลังจากที่หญิงสาวคนดังกล่าวได้เข้าไปในห้องนอนของหนุ่มน้อยเพื่อพูดคุยเรื่องการเรียนขับรถ ก่อนที่จะเลยเถิดไปถึงการขับอย่างอื่นแทน จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ เธอให้การสารภาพว่าเธอแอบมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหนุ่มน้อยผู้นี้มากว่า 3 ครั้งแล้ว และนอกจากนี้ เธอยังรับสารภาพอีกว่ารู้สึกละอายใจและเสียใจกับสิ่งที่ทำไปอีกด้วย… ที่มา elitereaders
-
Nolan เผยความลับว่าทำไม Batman เวอร์ชั่นของเขา เป็นสุดยอดหนังมนุษย์ค้างคาว!!
หลังจากที่อัศวินรัตติกาลฉบับพี่ Ben Affleck ได้ออกมาโลดแล่นกันไปแล้วถึงสามเรื่องสามรส ทั้งใน Batman vs Superman, แจมนิดหน่อยใน Suicide Squad และเป็นผู้นำทีมใน Justice League ผู้ชมส่วนใหญ่ต่างบอกว่า บทและการแสดงของเขาไม่ได้น่าพอใจสักเท่าไหร่ งานนี้สเด็จพ่อ Christopher Nolan ผู้สร้างผลงานอัศวินรัตติกาลแบบไตรภาคฉบับ Christian Bale และประสบความสำเร็จสุดๆ ก็ออกมาบอกถึงหนัง Batman ฉบับพี่ Ben ว่าทำไมมันถึงไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ควรทั้งที่หนังเขาฉายไปแล้ว 5 ปีก่อนแต่ยังเปรี้ยงกว่าเสียอีก Nolan ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในงานประกาศรางวัล BAFTA ที่กรุงลอนดอนว่า Batman ของเขาในตอนนั้นมันเป็นการทำหนังแบบตามใจตัวเองมากที่สุด เขาบอกว่า “สิทธิพิเศษและเวลาอันมีค่าในการทำหนังปัจจุบันมันไม่ได้รับการยอมรับอีกต่อไป ผมว่านั่นเป็นครั้งสุดท้ายแล้วมั่งที่ทุกคนสามารถเข้าไปคุยกับสตูดิโอได้ เพราะปัจจุบันตารางปล่อยหนังฮีโร่พวกนี้มันกดดันมากๆ ที่จะส่งต่อให้คนอื่นมาทำต่อ แต่ว่าความคิดสร้างสรรค์มันก็เป็นข้อได้เปรียบสำคัญเช่นกัน ฉะนั้นผมจึงได้สิทธิพิเศษและมีข้อได้เปรียบมากๆ ที่จะสร้างเรื่องราวดีๆ ขึ้นมาพร้อมนำครอบครัวของผมกลับมาร่วมทำงานด้วยกันอีกครั้ง” ซึ่งเหตุผลของเขามันก็ดูมีน้ำหนักมากๆ เพราะ Batman ของ Nolan ใช้เวลา 7 ปีกว่าจะออกมาครบ 3 ภาค…
-
วิธีแก้ปัญหาสุดคูล เมื่อร้านค้าญี่ปุ่นสั่งของมาเกิน จาก 8 ถ้วยเป็น 8 แพค เป็นคุณจะทำยังไง!?
การแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้นเป็นสิ่งที่บุคลากรในทุกอาชีพควรจะมี โดยเฉพาะกับงานที่จะต้องจัดการกับสินค้าหรือลูกค้ายิ่งสำคัญสุดๆ เพราะถ้าเราสามารถจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกได้ทันที ก็สามารถบรรเทาผลลัพธ์ที่ตามมาได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ จากเรื่องราวที่ชาวเน็ตนามว่า フォレ ไปเจอเข้ากับร้านแห่งหนึ่งที่เจ้าของบังเอิญสั่งของมาผิด จากที่ต้องสั่งแค่ 8 ถ้วย แต่พี่แกดันสั่งมาตั้ง 8 แพคหรือ 64 ชิ้นแทน คนรีทวีตเรื่องราวนี้มากถึง 110,281 ครั้งเลยล่ะ โดยปัญหานั้นเกิดขึ้นเมื่อร้านสะดวกซื้อได้สั่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ Nen no Kitsune มาวางขาย กะจะลองตลาดดู เพียงแต่ว่าเจ้าของร้านดันสั่งมาเกินจากเดิมที่ตั้งใจสั่งแค่ 8 ถ้วยมันดันกลายเป็น 64 ถ้วย ไปซะได้ งานนี้ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น เจ้าของร้านจะต้องหาทางแก้ปัญหาที่รวดเร็ว ซึ่งมันก็เร็วจริงๆ เขาได้มองเห็นถึงความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบในเรื่องดวงพอๆ กับบ้านเรา โดยเขาได้นำเรื่อง ‘ไอเทมนำโชค’ มาเป็นไอเดียในการขายบะหมี่ที่เกิน ทางร้านนั้นได้ตั้งให้บะหมี่ Nen no Kitsune เป็นไอเทมเสริมดวงให้กับทุกราศี โดยถ้าใครซื้อไปกินหรือพกติดตัวก็จะโชคดี เพียงแต่ว่ามีราศีธนูเท่านั้นที่ไม่ใช่บะหมี่ยี่ห้อดังกล่าว แต่ถูกเปลี่ยนเป็นขนมปังปูแทน เหมือนกันทุกราศี มาหักตรงราศีสุดท้ายนี่แหละ ไอเดียการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าดังกล่าวถือว่าสุดยอดเลยทีเดียว ทว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีรายงานว่าร้านสะดวกซื้อดังกล่าวประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาไหม บะหมี่ถูกระบายออกจนหมดหรือเปล่า รวมถึงร้านดังกล่าวคือร้านอะไรสาขาไหนก็ไม่มีใครทราบ แต่ก็ต้องชื่นชมเจ้าของที่แก้ปัญหาได้รวดเร็วจริงๆ…
-
ชาวเน็ตรัสเซีย พากันแชร์ภาพสุดแปลกที่สุดเท่าพวกเขาเคยเห็นในที่สาธารณะ จะแปลกแค่ไหนมาดู!!
‘รัสเซีย’ ประเทศมหาอำนาจที่หลายคนก็คงจะรู้ว่าที่นี่ มีวัฒนธรรมแปลกไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะคเอกลักษณ์ในการทำสิ่งต่างๆ ที่รับรองว่าหาในชาติไหนๆ ไม่ได้ บ่อยครั้งเราจะเห็นการทำกิจกรรมบ้าๆ ของชาวรัสเซียไปทุกที่สาธารณะก็ตามทั้งกับสิ่งของ การทำงานหรือไม่เว้นแม้แต่บนรถไฟ พวกเขาก็หาได้แคร์ไม่ งานนี้ชาวเน็ตรัสเซียก็เลยจัดการเอาภาพกิจกรรมแปลกๆ ที่พวกเขาเจอมาแชร์ให้เราได้ดูกัน… เรารู้กันว่าอากาศที่รัสเซียมันหนาว ฉะนั้นน้องหมาก็ควรได้รับความอบอุ่นเช่นกันนะ มันก็คงจะมีแต่ที่นี่แหละ ที่พาหมีนั่งแท็กซี่ได้ เมื่อการทำงานด้วยกระเช้ามันไม่ตื่นเต้น ก็เลยต้องหาลูกเล่นแบบใหม่ เพลง Mission impossible ทำงานออฟฟิศมันต้องอาวุธครบมือขนาดนี้ไหม ยกระดับการเสริมสวย เป็นภาพเหตุการณ์ที่ไม่รู้จะสนใจตรงไหนดี ท่อนบนก็ไม่แปลกอะไร จนกระทั่งเราเลื่อนลงไปเห็นส่วนล่างเท่านั้นแหละ ถ้าเกิดบัมเบิ้ลบีกับไอร่อนแมนรวมทีมก็คงจะออกมาประมาณนี้แหละ คนปกติถ้าอยากขนของต้องใช้รถกระบะ แต่รัสเซียใช้รถอะไรขนก็ได้ บางครั้งคุณป้าแกก็ดูจะโหดเกินไป เรารู้กันว่าที่รัสเซียนั้นเขาชอบ Adidas มากๆ แต่ไม่คิดว่าแม้แต่เก้าอี้ก็ชอบกับเขาเหมือนกัน บ้าๆ สไตล์รัสเซีย แม้พื้นจะพังลงไปพวกเขาก็ไม่ลดความตั้งใจที่จะรอขึ้นรถไฟ ชุดลำลองคูลๆ ที่คนรัสเซียชอบ แน่นอนว่าการเป็นคนรัสเซียก็ต้องคิดนอกกรอบ รถบั๊มก็เปลี่ยนให้เป็นมอเตอร์ไซค์สบายๆ …
-
หญิงสาวโรคซึมเศร้า โพสต์ถามผู้สร้าง Rick and Morty เพื่อหาทางออก เขาตอบกลับแบบสุดยอด…
‘โรคซึมเศร้า’ ปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นกับคนหลายๆ คนมาเป็นเวลานานและยากจะรับมือคนเดียวหรือหาใครมาเข้าใจ ฉะนั้นการจะขอคำแนะนำจากใครสักคนจึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะบางครั้งคนที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคนี้ก็มักจะไม่เข้าใจถึงความร้ายแรงของมัน หนักหน่อยก็จะหาเหตุผลมาโจมตีกลับว่าเรียกร้องความสนใจอะไรทำนองนี้บ้าง แต่ว่าชาวเน็ตนามว่า @chojuroh ได้รวบรวมความกล้าทวีตข้อความหา Dan Harmon ชายผู้สร้างการ์ตูนสุดฮิตแห่งยุค Rick and Morty การ์ตูนที่พูดถึงเรื่องราวความเครียด ความบ้า และความจิตของตัวละครสองตัว ซึ่งก็คือ Rick กับ Morty นั่นเอง โฉมหน้าของ Dan Harmon ผู้ให้กำเนิดและให้เสียงพากย์ตัวละครในเรื่อง Rick and Morty ส่วนนี้ก็คือตัวละครหลักทั้งสองโดยทางซ้ายคือ Morty ส่วนทางขวาคือ Rick ส่วนเหตุผลที่ @chojuroh เลือกจะถาม Dan นั่นก็เพราะว่าเธอต้องการหาทางออกสำหรับการเป็นโรคซึมเศร้า และเธอต้องการคำตอบจากคนที่ต้องเจอกับมันมาแต่ไม่ใช่ระดับผู้เชี่ยวชาญ ฉะนั้น Dan จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดนั่นเอง “คุณมีคำแนะนำสำหรับการต่อสู้กับโรคซึมเศร้าไหม?” Dan ทวีตตอบกลับชาวเน็ตคนดังกล่าวว่า “อย่างแรกคุณต้องยอมรับความจริงที่คุณป่วยเป็นโรคดังกล่าวและมันส่งผลกับทุกอย่างจริงๆ เสียก่อน พวกเรานั้นมักจะกดดันตัวเองมากเกินไปที่จะรู้สึกดีกับสิ่งต่างๆ แน่นอนว่ามันโอเคที่จะรู้สึกแย่ แต่เราก็ควรเลือกที่จะพูดคุยกับคนอื่นๆ อย่าเก็บมันเป็นความลับ มันก็เหมือนเสื้อหรือหมวกนั่นแหละ ความรู้สึกที่เรากำลังรับรู้อยู่มันคือของจริง” …
-
14 ภาพธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษ แต่อย่ามองอีกรอบเชียว เดี๋ยวจิตใจจะแปดเปื้อนนะ!!
ในโลกออนไลน์มักจะมีภาพแปลกๆ มาให้เราได้ดูอยู่เสมอ บางครั้งรูปภาพที่เราเห็นนั้นบางทีมันก็จะออกแนวสองแง่สองง่ามหน่อย ยอมรับเลยว่าบางทีมันก็แอบตกใจเล็กน้อยเวลาเห็นรูปบางรูปที่มันจะออกแนว 18+ นี่ #เหมียวบู้บี้ ไม่ได้ทะลึ่งนะ แต่ไม่รู้ทำไมเวลาเจอภาพเหล่านี้ทีไรมันอดที่จะคิดลึกไม่ได้จริงๆ… 1. การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด 2. ดื่มน้ำเย็นในตอนเช้าๆ มันช่างสดชื่นซะจริงๆ 3. นี่คือหอยจริงๆ นะ 4. ตอนแรกก็น่ารักอยู่หรอก… 5. มะเขือม่วง 6. ไอศกรีม อย่าคิดลึก 7. ตอนออกแบบนี่คิดอะไรอยู่ 8. สัตว์โลกน่ารัก 9. อะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนั้น 10. เดี๋ยวนะ เจ้าหมา 11. หมดกัน เกมในวัยเด็ก 12. กระบองเพชรมันต้องมีหนามไม่ใช่หรอ ทำไมมันโล้นๆ แบบนี้ 13. แค่หัวมันสำปะหลังอ่ะ อย่าคิดมาก…
-
มิสเตอร์เกรย์มั้ยล่ะ… หนุ่มส่งภาพแฟนไปอวดแม่ แต่ชาวเน็ตจับสังเกต เอ๊ะ บนหัวเตียงนั่นมันอะไร๊!?
เมื่อพูดถึงเรื่องบนอินเตอร์เน็ตที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงนี้ คงไม่มีเรื่องไหนแรงไปกว่าเรื่องราวความรักสุดมุ้งมิ้ง Maison Vallance หนุ่มวัย 22 ปีจากรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกาที่อยากจะอวดแฟนสาวให้กับแม่ของเขา แต่ชาวเน็ตตาดีดันสังเกตเห็นบางอย่างที่มันดูผิดปกติได้เนี่ยสิ ทุกอย่างมันเริ่มต้นจาก Maison หนุ่มเจ้าของเรื่องราวได้เล่าถึง Meghan แฟนสาววัย 21 ปีของเขาว่าทั้งคู่ตัดสินใจคบหากันมาแล้วกว่า 2 เดือนซึ่งมันก็นับเป็นเวลาอันสมควรที่จะแนะนำให้ครอบครัวได้รู้จักเสียที… แน่นอนว่าการพบปะกันของแฟนสาวและครอบครัวของชายหนุ่มมันไปได้ด้วยดีมากๆ Maison บอกว่าแฟนสาวของเขาและแม่นั้นพูดคุยกันได้ถูกคอสุดๆ เรียกว่าตอนนี้คุยกันเยอะกว่าคุยกับลูกชายไปแล้ว จนกระทั่งเรื่องราวมันมาพีคตอนที่ คุณแม่ของ Maison ขอให้ลูกชายถ่ายรูปเสื้อที่เธอปักชื่อมาให้ดูหน่อย ซึ่งหลังจากลูกชายหาเจอแล้วก็เลยให้แฟนสาวคนโปรดของคุณแม่ถ่ายคู่กับเสื้อดังกล่าวให้ดู แน่นอนว่าปกติมันก็ไม่ควรจะมีอะไรนอกจากแฟนสาวกับเสื้อของแม่ แต่ชาวเน็ตดันเห็นอะไรมากกว่านั้น!? ตา Maison ก็อวดแฟนสาวตามปกติโดยไม่คิดอะไร แต่คุณเห็นอะไรแปลกๆ ไหม…ไม่เหรอ? ให้ชาวเน็ตคนนี้บอกคุณแทนก็แล้วกัน…เชือก มันไม่ใช่เชือกธรรมดาด้วย มันผูกเป็นบ่วงราวกับไว้มัดอะไรบางอย่าง… ทีนี่คุณรู้แล้วใช่ไหมว่า Maison พลาดตรงไหน ถ้าคุณยังไม่เข้าใจก็ให้นึกถึงมิสเตอร์เกรย์ในเรื่อง Fifty shades of Grey ไว้ งานนี้กว่าพ่อหนุ่ม…
-
เทียบสไตล์การแต่งตัวระหว่าง Kate Middleton และ Meghan Markle เผยให้เห็นรสนิยมที่แตกต่าง
ในตอนนี้ Kate Middleton พระชายาในเจ้าชาย William กำลังที่จะต้อนรับพระเชษฐภคินีคนใหม่เข้าสู่ราชวงศ์อังกฤษ หลังจากมีการเปิดเผยข่าวเกี่ยวกับการอภิเษกสมรสของเจ้าชาย Harry และนักแสดงชาวอเมริกัน Meghan Markle “เจ้าชาย Williamและฉันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก” Kate Middleton กล่าว “เรื่องการอภิเษกของเจ้าชาย Harryและ Meghan Markle เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง และมันคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับคู่รัก หวังว่าพวกเขาจะสนุกกับช่วงเวลาแห่งความสุขนี้” Middleton น่าจะเป็นคนที่เข้าใจที่สุดว่า Markle ต้องเตรียมตัวก่อนเข้าพิธีอภิเษกอย่างไรบ้าง และแม้ว่าทั้งสองจะต้องเข้ามาเป็นเครือญาติในราชวงศ์ แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองก็มีความแตกต่างกันอยู่ในเรื่องของแฟชั่น ดังนั้นเราไปชมกับดีกว่าว่าพวกเธอจะมีรสนิยมอย่างไรกัน Middleton ได้พบและเริ่มเดตกับเจ้าชาย William ขณะที่ทั้งคู่ได้ศึกษาที่มหาวิทยาลัย St. Andrews ทั้งคู่จบการศึกษาเมื่อปี 2005 ภาพในตอนนั้นทั้งคู่ดูเหมือนนักศึกษาวิทยาลัยทั่วไป Middleton มีสไตล์การแต่งตัวในแบบผู้ดีอังกฤษสุดๆ เห็นได้จากชุดในการออกงานกับเจ้าชาย William ในปี 2006 Markle เป็นที่รู้จักกันดีในบทบาทของเธอในภาพยนตร์เรื่อง “Suits” และ “Get Him To The Greek” อีกทั้งเธอยังมีผลงานในซีรีย์เรื่อง “CSI: NY” และ…
-
รวมภาพ 17 ที่ทำให้เห็นว่า การทำ “รีเทนเนอร์” มันคือความสยองของมนุษยชาติชัดๆ!!
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เคยมีประสบการณ์ในการพิมพ์ฟันแล้วละก็ คงจะทราบกันดีว่ามันเป็นขั้นตอนที่สร้างความสยองขวัญให้ผู้ที่ทำฟันสุดๆ แม้ว่าการพิมพ์ฟันนี้จะใช้เวลาไม่นาน แต่เนื้อสัมผัสและรสชาติของของวัสดุที่ใช้พิมพ์ฟันนั้นมันชวนให้เราอ้วกได้ทุกวินาทีจริงๆ แต่ยิ่งไปกว่านั้นภาพพจน์ของเราเวลาที่ทำการพิมพ์นั้นมันแทบจะดูไม่ได้เลย ใบหน้าที่บิดเบี้ยว กระอักกระอ่วน ที่มองแล้วจะอดที่จะขำไม่ได้ เพื่อนๆ จะเคยเป็นแบบนี้กันบ้างรึเปล่านะ??? 1. ในตอนแรกคุณอาจจะยังยิ้มหวานแบบไม่รู้อีโหน่อีเเหน่ 2. จากนั้นทันตแพทย์ก็เริ่มที่ผสมวัสดุพิมพ์ฟัน ซึ่งคุณไม่รู้เลยว่ามันคือปีศาจชัดๆ 3. เอาล่ะๆ ส่วนผสมก็พร้อมแล้ว อ้าปากกกก!!! 4. อั๊ก!!!! ทำไมทั้งกลิ่นและรสชาติมันถึงชวนอ้วกแบบนี้ 5. เป็นภาพที่ไม่ค่อยน่าชมสักเท่าไหร่ 6. การพิมพ์ฟันแบบนี้ต้องกัดฟันทิ้งไว้สักพัก เพื่อให้วัสดุเซทตัว ในตอนนี้แหละเป็นเวลาที่สมองสับสนว่าเราจะอดทนหรือจะอ้วกดีนะ 7. แต่งหน้ามาสวยๆ ก็ไม่รอด 8. ไหวไหมลูกกก… 9. อ้ากว้างๆ หน่อย!! 10. อ้วกมันดันขึ้นมาที่คอแล้วหมอออ!! 11. คิดไว้ว่าต้องอดทนๆ 12. สุดท้ายก็ได้ผลลัพธ์อย่างที่เห็น.. …
-
เมื่อเกม Stardew Valley ถูกสร้างใหม่โดยใช้กราฟิกของ The Sims 4 มันน่าเล่นจริงจริ๊งงง
นับเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ที่ Stardew Valley เกมปลูกผักสุดฮิตได้วางขายและสร้างกระแสฮือฮากันไปยกใหญ่เมื่อต้นปี 2559 ตอนนั้นนี้ถ้าใครไม่ได้ลองซื้อมาเล่นเรียกว่าตกกระแสเลยก็ว่าได้ เพราะเกมมันดีมากๆ แต่แล้วเวลาผ่านไปเกือบสองปีกระแสของเกมก็เริ่มจะเบาลง แต่ว่าคนที่ชื่นชอบในตัวเกมก็ยังคงมีอยู่ และพวกเขาก็คงไม่อยากจะให้เกมที่พวกเขาชอบหยุดอยู่ที่เดิมแน่ๆ งานนี้จึงมีชาวเน็ตสองคนร่วมมือกันสร้างหมู่บ้านจากเกมดังกล่าวขึ้นมาใหม่ แต่ไม่ใช่ด้วยการสร้างขึ้นมาเองนะ พวกเขาทำมันขึ้นมาในแบบของ The Sims 4 . DrGluon คือสตรีมเมอร์ผู้อยู่เบื้องหลังการเนรมิตเมือง Pelican Town ขึ้นมาในเกม The Sims 4 โดยเขาเป็นคนที่รับผิดชอบในส่วนของการออกแบบพื้นที่และสิ่งก่อสร้างทั้งหมดให้ตรงกับเมืองดังกล่าวจากเกม Stardew Valley ส่วนตัวซิมส์นั้น loverrlee จะเป็นคนรับหน้าที่สร้างชาวเมืองทุกคนขึ้นมา โดยรายละเอียดต่างๆ เธอสามารถเก็บรายละเอียดได้เนียนมากๆ จากตัวละคร 2D ที่เดิมทีก็ดูดีอยู่แล้ว พอกลายเป็น 3D กลับยิ่งดูดีขึ้นไปอีก!! . . . . . . . . . . . . …
-
สาวพบแมวน้อยอยู่หน้าบ้าน ชาวเน็ตอ้างไม่ใช่แมวแต่มันคือสิงโต เจ้าหน้าที่โต้ มันคือของปลอม!!
กลายเป็นที่ฮือฮาบนโลกออนไลน์อย่างมาก หลังจากที่หญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์ภาพของเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง พร้อมกับประกาศตามหาเจ้าของ ซึ่งชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยต่างร่วมแชร์ภาพดังกล่าวพร้อมกับช่วยตามหากันยกใหญ่ เธออ้างว่าพบเจ้าเหมียวตัวนี้อยู่ที่หน้าบ้านของเธอในรัฐแอริโซนาเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา จากนั้นก็ให้อาหารกับมันเป็นปลาทูน่า 3 กระป๋องก่อนที่จะพาเจ้าเหมียวตัวนั้นไปอาบน้ำ ข้อความของหญิงสาวพร้อมกับภาพของเจ้าเหมียวยักษ์ตัวนั้น แต่จากการประกาศตามหาเจ้าเหมียวธรรมดาๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ซะนี่ หลังจากที่มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยบอกว่าแมวยักษ์ที่เธอพบน่ะ มันไม่ใช่แมวน้อยธรรมดา แต่มันคือสิงโตภูเขาต่างหากล่ะ!! งานนี้ก็ต้องเดือดร้อนถึงศูนย์ The Arizona Game and Fish Department กันเลยทีเดียว เพราะหลายๆ คนที่ได้เห็นภาพต่างโทรไปแจ้งกับทางศูนย์ขอให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว แต่ทางศูนย์เองก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องของสิงโตภูเขาที่กำลังแตกตื่นกันว่า แท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องแต่งขึ้นต่างหาก และภาพนี้ก็ถูกนำมาหลอกพวกชาวเน็ตหลายต่อหลายครั้งแล้ว พร้อมกับขอร้องให้ประชาชนที่รักอย่าแจ้งเรื่องของเจ้าสิงโตภูเขาตัวนี้มาอีกเลย ภาพของเจ้าเหมียวที่ถูกโพสต์ก่อนหน้า ช่วยยืนยันว่าภาพนี้ถูกใช้มาแล้วหลายครั้ง บางครั้งเรื่องที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์เนี่ยก็ต้องเช็กที่มากันดีๆ หน่อยล่ะนะ ฮ่าๆ ที่มา tucson
-
เมืองไทยคิดว่ายังไง!? นี่คือบทลงโทษใหม่ ที่รัฐบาลเกาหลีใต้ จะใช้กับผู้กระทำความผิดคดีข่มขืน!!
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ยินข่าวเกี่ยวกับการข่มขืน บทลงโทษที่เรามักจะได้ยินเกี่ยวกับโทษในลักษณะนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการถูกตัดสินจำคุก แต่สำหรับที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นพวกเขาได้ออกมาตรการใหม่ในการลงโทษดังกล่าวนั่นก็คือการฉีดสารที่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั่นเอง!! ขณะนี้ทางการเกาหลีได้พิจารณาการนำสารเคมีลดสมรรถภาพทางเพศนี้มาใช้ในการลงโทษสำหรับคดีอนาจารและคดีข่มขืน โดยผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีข่มขืนเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี จะต้องเข้ารับการบำบัดด้วยสารดังกล่าวทุกๆ 1 เดือนนานถึง 15 ปี ร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นถูกนำเสนอผ่านคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และกำลังมีการประชุมหารือถึงรายละเอียดในการลงโทษต่างๆ เกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขณะนี้ สารเคมีดังกล่าวนั้นจะอยู่ในรูปของยาเม็ดหรือยาฉีด ซึ่งจะช่วยลดความต้องการทางเพศของผู้ต้องหา และนอกจากนี้ยังทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัวอีกด้วย โดยทางการคาดว่าการบำบัดนี้จะประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาจะออกจากโครงการแล้วก็ตาม ประเทศเกาหลีใต้ได้เริ่มแนวคิดดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2011 และกลายเป็นประเทศแรกในแถบเอเชียที่เริ่มนำวิธีดังกล่าวมาใช้ในกระบวนการยุติธรรม หลังจากที่ปัญหาอาชญากรรมทางเพศในประเทศนั้นเริ่มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ในร่างกฎหมายดังกล่าวยังได้เสนอเงื่อนไขให้มีการใช้ยาดังกล่าวกับนักโทษก่อนที่พวกเขาจะพ้นโทษประมาณ 6 ถึง 9 เดือน ถึงแม้ว่าการใช้ยาดังกล่าวนั้น จะได้รับการศึกษาและการประเมินทางจิตเวชจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว แต่ทางด้านฝ่ายค้านเองก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่าการใช้สารเคมีดังกล่าว จะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหาหรือไม่ นอกจากนี้ทางด้านผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เองก็ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้การศึกษาเกี่ยวกับตัวยาดังกล่าวนั้นยังมีข้อมูลไม่เพียงพออีกด้วย ชมรายงานเพิ่มเติมได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา koreaherald
-
จะเป็นอย่างไรเมื่อเหล่าคุณแม่ Drac Queen สลัดวิกล้างเมคอัพ โถ้วว นึกว่าคนละคนเลยนะ
แดรคควีน (Drac Queen) คือคำที่ใช้เรียกผู้ชายที่มักจะแต่งตัวเนรมิตตัวเองให้เหมือนกับผู้หญิง ส่วนมากจะอยู่ในวงการบันเทิงและแฟชั่น ซึ่งแดรคควีนเหล่านี้จริงๆ แล้วบางคนไม่ได้มีจิตใจที่เป็นหญิงข้ามเพศ แต่เพียงว่าพวกเขาชอบที่จะแต่งและสนุกไปกับสิ่งที่พวกเขารัก แดรคควีนส่วนใหญ่มักจะมีชื่อเสียงมาจากการจัดแสดงโชว์ต่างๆ และจะแต่งตัวตามบทบาทที่ได้รับ ซึ่งพวกเธอก็จะเล่นใหญ่แบบถึงใจถึงอารมณ์ คล้ายๆ กับการแสดงคาบาเร่ของบ้านเรา ทำให้หลายๆ คนชื่นชอบความเป็นแดรคควีนและติดตามผลงานของแต่ละคนอยู่เสมอ และนี่ก็คือตัวอย่างแดรคควีนระดับต้นๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จะมีใครบ้างลองมาดูกันเลย 1. Lola Lewinsky 2. Bettie Bitch 3. Courtney Act 4. Alaska 5000 5. Ms.Fame 6. Kim Chi 7. Jess Whoo 8. Maddelynn Hatter 9. Trinity Bonet 10. Hector Still …
-
นี่คือ “ลูคัส” แมงมุมน้อยสุดแบ๊ว ที่จะมาช่วยเยียวยาผู้เป็นโรคกลัวแมงมุมให้หายขาด
ในขณะที่ทุกคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า “แมงมุม” เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถทำให้เรารู้สึกขนลุกขนพองเวลาที่ได้จ้องมองมันได้ แต่ถ้าหากคุณได้เห็นโฉมหน้าของ “ลูคัส” แมงมุมน้อยสุดแบ๊วตัวนี้บอกเลยว่าคุณจะเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะมันมีทั้งความน่ารัก แถมยังจะมาช่วยเยียวยาผู้ที่มีอาการเป็น “โรคกลัวแมงมุม” หรือ “Arachnophobia” ให้หายขาดเป็นปลิดทิ้งด้วยนะจ๊ะ >< และเราขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับแมงมุมน้อยสุดน่ารักที่ชื่อว่า…ลูคัส…เลยจ้า สำหรับลูคัสมันคือตัวการ์ตูนแมงมุมอนิเมะหน้าแบ๊ว ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยศิลปินนามว่า Joshua Slice ซึ่งทาง Joshua ได้สร้างตัวการ์ตูนตัวนี้ขึ้นมา เพราะเขาอยากแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วแมงมุมก็มีความน่ารักไม่แพ้สัตว์ชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ เขายังได้ชวนให้หลานชายที่ชื่อ ลูคัส มาให้เสียงเป็นเจ้าแมงมุมตัวนี้อีกด้วย และนั่นก็เป็นที่มาของชื่อลูคัสที่เขาได้ตั้งให้แมงมุมนั่นเอง ดวงตาที่น่ารักและขนขายาวกำลังวิ่งดุ๊กดิ๊กไปรอบๆ ทำให้เจ้าลูคัสดูคล้ายกับตัวการ์ตูนในภาพยนตร์พิกซาร์เลย คุณสามารถเลื่อนลงไปชมคลิปวิดีโอด้านล้างเพื่อชมความตะมุตะมิของมัน อ้อ!! แล้วก็อย่าลืมเปิดเสียงด้วยล่ะ ที่มา : boredpanda
-
19 การโฆษณาที่เจ๋งขึ้นไปอีกขั้น ช่วยดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด แบบนี้เอาใจไปเล้ยย!!
มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่แบรนด์จากบริษัทต่างๆ จะสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ด้วยการโฆษณา ดังนั้น พวกเขาจึงต้องแข่งกันหาไอเดียเจ๋งๆ ที่มีทั้งความคิดสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่ มานำเสนอให้น่าสนใจอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดจะรู้เป็นอย่างดีว่า ว่าความคิดเจ๋งๆ ที่แปลกแหวกแนวเพื่อโฆษณาสินค้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดึงดูดลูกค้านั่นเอง วันนี้เราได้รวบรวม 20 ภาพตัวอย่างการโฆษณากลางแจ้งที่น่าสนใจ และสามารถนำเสนอในสิ่งที่สร้างประโยชน์ให้แก่ผู้คนได้มากอีกด้วย มาดูกันเลยว่าการโฆษณาของบริษัทไหนที่คุณจะกดไลก์ให้มากที่สุด 1. ร้านกาแฟ Caribou Coffee ได้เปิดตัวโฆษณาที่จะมาช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ลูกค้าด้วยเมนูใหม่ “Hot ‘n Wholesome” ที่ได้ติดตั้งเครื่องทำความร้อนไว้ในจุดรอรถบัส 2. สไปรท์เติมความสุขได้ไม่อั้น ติดตั้งฝักบัวอาบน้ำที่ดูเหมือนตู้กดน้ำเอาไว้ที่ชายหาด ซาบซ่าไหมล่ะ!! 3. ป้ายโฆษณาเบียร์ Carlsberg ที่เรียกได้ว่าเป็นป้ายโฆษณาที่ดีที่สุดเลยนะเนี่ย อยากให้มีแบบนี้ให้บ้านเราบ้างเนอะ ฮร่าๆ 4. การโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์นี้ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การขี่จักรยานทำให้อากาศดีขึ้น 5. แปรงสีฟัน Oral-B ที่สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดอะไรก็ได้ 6. COA Youth & Family ได้เปิดตัวโฆษณาแคมเปญที่ชวนให้เด็กๆ…
-
พ่อของเหยื่อฆาตกรรม ดึงสลักระเบิดกลางศาล พลีชีพตัวเองและแก้แค้นจำเลย
การพรากชีวิตของผู้อื่นไปย่อมเกิดผลกระทบที่ตามมาหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือความรู้สึกโกรธแค้นของผู้ที่ต้องสูญเสียคนที่รักจนอาจเกิดเป็นการแก้แค้นอย่างในเหตุการณ์นี้ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ศาลเมืองนิโคปอล ประเทศยูเครน ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2017 ขณะที่พวกเขากำลังไต่สวนคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2016 จู่ๆ พ่อของเหยื่อในคดีนั้นก็เดินเข้ามาพร้อมกับดึงสลักระเบิดมือและทำการพลีชีพตัวเอง แรงระเบิดก็ได้ทำให้เขาเสียชีวิตทันทีพร้อมกับจำเลยอีกคนหนึ่ง ที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จำเลยอีกสามคนก็บาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน รวมถึงเจ้าหน้าที่ศาลสองคนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกสองคน ที่โดนลูกหลงไปด้วย แรงระเบิดอันมหาศาลจนเกือบทำให้ประตูศาลหลุดออกมา จุดเริ่มต้นของการสูญเสียในครั้งนี้เชื่อว่าเกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและทหาร Kiev ในประเทศยูเครน ที่มีมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2014 จนทำให้มีคนตายมากกว่า 10,000 คน และทำให้จำเลยในคดีฆาตกรรมปี 2016 ฆ่าตายไปอีกสองคน ก่อนที่พ่อของเหยื่อรายหนึ่งในคดีนั้นจะกลับมาแก้แค้นในที่สุด ความเสียใจที่เปลี่ยนเป็นความโกรธและกลายเป็นความแค้นในที่สุด ความแค้นคือสิ่งที่ทำให้เกิดการสูญเสียและความเสียใจเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นเอง แน่นอนว่าอารมณ์เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก โดยเฉพาะอารมณ์โกรธแค้น เกลียดชังเหมือนกับคุณพ่อคนนี้ แต่ถึงอย่างไรเราก็ควรไตร่ตรองให้ดีก่อนว่า การใช้อารมณ์มาเป็นตัวตัดสินการกระทำนั้นมันดีแล้วจริงๆ หรือ ที่มา: dailymail
-
แม่เอาของกินมาล่อลูกให้พูดคำว่า ‘มาม๊า’ แต่กลายเป็นเจ้าหมาที่พูดตามแทน!?
เรารู้กันอยู่แล้วว่าหมามีความสามารถพิเศษในหลายๆ เรื่อง อย่างเช่นความสามารถในการดมกลิ่น หรือการทำตามคำสั่งที่ได้รับ สั่งให้นั่งก็นั่ง ขอมือปุ๊บก็ยื่นให้ หรือจะขอให้มันพูดก็ยังได้.. คุณพระ!! และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เมื่อเจ้าหมาตัวหนึ่งได้พูดคำว่า “มาม๊า” ออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถูกโพสต์ลงในยูทูบที่ชื่อว่า Sam Giovanini ในวันที่ 30 มิถุนายน 2015 ขณะที่คุณแม่ Andrea Diaz-Giovanini พยายามใช้อาหารหลอกล่อลูกชายวัย 9 เดือนของตัวเองให้พูดคำว่า “มาม๊า” ที่หมายถึงให้เรียกแม่นั่นเอง เจ้าหมาที่ดูเหมือนจะสงสัยว่าทำอะไรกันอยู่ อาหารที่นำมาเป็นรางวัลในครั้งนี้ไม่ได้ล่อตาล่อใจแค่กับ Sam ลูกชายของเธอ แต่รวมถึงเจ้าหมาสายพันธุ์ออสเตรเลียนเชเพิร์ดที่ชื่อว่า Patch อีกด้วย ทำให้เด็กน้อยและเจ้าหมาพยายามที่จะพูดคำนั้นออกมาเพื่อให้ได้รางวัลชิ้นนั้นไปเป็นของตัวเอง และผู้ชนะในครั้งนี้ก็กลับกลายเป็นเจ้าหมาซะอย่างนั้น เพราะจู่ๆ มันก็เปล่งเสียงออกมาเป็นคำว่ามาม๊าจริงๆ คงจะหิวมาก ถึงขนาดที่พูดมาม๊าออกมาได้เลย โหดเกิ๊นนน และความตลกหลังจากนั้นก็คือเด็กน้อยที่โดนเจ้าหมาแย่งผลงานไป ก็เหมือนกับว่าไม่พอใจ จึงเอามือเล็กๆ ต่อยเข้าไปที่หน้าเจ้าหมาซะเลย สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่ได้เห็น ทำไมเอ็งถึงทำกับข้าอย่างนี้เล่าเจ้า Patch !! ไปชมคลิปความน่ารักของเด็กน้อยและเจ้าหมาพูดได้ตัวนี้กันเลยยย …
-
จัดอันดับ 19 สุดยอดหนังสั้น Pixar ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีเรื่องโปรดของใครบ้างมั้ยเอ่ย?
หากใครเป็นคนชอบดูหนังโดยเฉพาะหนังการ์ตูนอนิเมชั่นด้วยแล้ว เราเชื่อว่าจะต้องรู้จักกับค่ายหนังชื่อดังอย่าง Pixar กันแน่นอน เพราะค่ายนี้ได้สร้างผลงานเอาไว้หลายเรื่อง อย่างเช่น Toy Story, Up หรือ Finding Nemo และอื่นๆ อีกเพียบ นอกจากนั้นค่ายนี้เองก็ยังได้ผลิตหนังสั้นน่ารักๆ ออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ทางเว็บไซต์ Insider จึงได้จัดอันดับหนังสั้นของค่ายนี้ที่สร้างมาตั้งแต่ปลายยุค 80s ให้เหลือเพียงแค่ 19 อันดับ จะมีเรื่องอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยยย 19. The Adventures of André and Wally B. (1984) หนังสั้นเรื่องนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ตอนที่ Pixar ยังเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของค่ายหนัง Lucas Film และนี่คือความแปลกใหม่ของหนังสั้นในยุคนั้นเลยจริงๆ กับเรื่องราวของ André ที่ตื่นขึ้นมาเพราะเจ้าผึ้งตัวหนึ่ง ก่อนที่จะวิ่งหนีเพราะกลัวผึ้งต่อย เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของหนังสั้นที่เรียบง่ายจริงๆ 18. Red’s Dream (1987) หนังสั้นเรื่องนี้เปิดตัวในงานประชุมในด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกที่ชื่อว่า SIGGRAPH และเป็นผลงานในยุคแรกๆ ของ John Lasseter เจ้าของผลงานดังอย่าง Toy Story โดยหนังสั้นเรื่องนี้ได้เล่าถึงตัวตลกปั่นจักรยานล้อเดียวที่ฝันอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของคณะละครสัตว์…
-
25 ภาพวาดบอกเล่าสังคมปัจจุบัน ที่จะทำให้คุณได้เห็นโลกในมุมที่ไม่เคยมองมาก่อน
การใช้ชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบัน เราอาจได้เจอกับสิ่งเดิมๆ ดำเนินชีวิตไปตามบรรทัดฐานของสังคมที่ปูทางไว้ให้แล้ว แต่เราเคยตั้งคำถามกันบ้างมั้ยว่าสังคมที่เราอยู่ในทุกวันนี้แท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่? ลึกๆ แล้วมันมีแต่สิ่งที่ดีๆ อยู่รอบตัวเราจริงๆ หรือ? เราลองมาหาคำตอบของคำถามเหล่านั้นจากภาพเหล่านี้กันดู นี่คือภาพวาดของศิลปินชาวฝรั่งเศสที่ใช้ชื่อว่า Dran เขาได้สร้างผลงานสะท้อนสังคมในปัจจุบัน สื่อไปถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเช่นพลังอำนาจของผู้มีอิทธิพล การคุกคามทางเพศ หรือแม้แต่การเสพโลกสังคมจำลอง ซึ่งเราสามารถมองหาความหมายเหล่านั้นได้จากภาพเหล่านี้ ลองไปดูกันเลย บางสิ่งอาจมีจินตนาการและมีอิสระทางความคิดมากกว่าเราก็ได้ แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ขัดแย้งกับสิ่งที่พูด แม้จะเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่กลับถูกมองข้ามไปราวกับไม่มีตัวตน เรามีอิสระกันอยู่จริงๆ หรือเปล่า การลวนลามทางสายตาที่มีให้เห็นกันจนเป็นเรื่องปกติ การจัดฉากที่ทำให้สื่อมีอำนาจมากยิ่งขึ้น การศึกษาคือปัญหาใหญ่ของเด็กๆ ในหลายๆ แง่มุม ผลงานของศิลปินผู้อดอยาก พื้นที่เล็กๆ ที่ช่วยลบล้างความเป็นจริงที่เกิดขึ้นด้านนอก รอยยิ้มบนความเจ็บปวดของทั้งตัวเองและผู้อื่น อยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้อยู่ในโลกสังคมเดียวกัน ความหวังที่เชื่อว่าเบื้องหลังของความเลวร้าย มีความสวยงามรอเราอยู่ สื่อทางเพศที่พยายามดึงเราเอาไว้ไม่ให้ไปไหน ไปรษณีย์ผู้รับข้อความจากคนอื่นๆ มาส่งให้กับตัวเอง …
-
หนุ่มผู้ชนะรายการ ‘The Biggest Loser’ เมื่อ 10 ปีก่อน ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้างนะ??
ด้วยปัญหาด้วยความที่เป็นคนมีน้ำหนักเยอะ ทำให้หนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่ออยากจะให้ตัวเองกลับมาดูดีอีกครั้ง โดยเขาได้ไปออกรายการ The Biggest Loser ซึ่งเป็นรายการลดความอ้วนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และนั่นจะได้ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน… ในปี 2008 Sam Rouen เด็กหนุ่มวัย 19 ปีในขณะนั้นเป็นผู้ชนะรางวัลรายการทีวีชื่อว่า The Biggest Loser ซึ่งเป็นรายการแข่งขันการลดความอ้วนภายใน 12 สัปดาห์หากใครมีน้ำหนักลดเยอะที่สุดเทียบกับดัชนีมวลกายแล้ว ก็จะเป็นผู้ชนะและได้รางวัลไป Sam ในวัย 19 ปีเมื่อสิบปีที่แล้ว ครั้งแรกที่ Sam ได้เข้าไปประกวดนั้นเขามีน้ำหนักถึง 154 กิโลกรัม ซึ่งนับว่ามากทีเดียวหากเทียบกับอายุของเขา เมื่อได้เข้าร่วมรายการแล้ว Sam ก็ตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยเขาออกกำลังกายอย่างหนักควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร และในที่สุดแล้วเขาก็สามารถลดน้ำหนักไปได้ถึง 71 กิโลกรัมในเวลาเพียง 12 สัปดาห์ ในวัย 29 ปี ตอนนี้ Sam ก็บอกว่าเขาคิดถูกจริงๆ ที่ได้ไปออกรายการในวันนั้น เพราะว่าเขากลายเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และได้รู้จักการดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนั้น อีกทั้งการลดน้ำหนักยังเติมเต็มความฝันของเขาที่อยากจะเป็นนักดับเพลิงมาตลอดชีวิตได้…
-
เมื่อลูกๆ กลับบ้านในช่วงคริสต์มาส ก็เริ่มแชร์ความแปลกของบ้านพ่อแม่ตัวเอง เกินจะรับด๊ายยย!!
สำหรับบางคนที่ต้องออกไปทำงานไกลบ้าน บางครั้งการจะกลับไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน หรือไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัดอาจจะต้องรอคอยให้ถึงช่วงวันหยุดยาวๆ ซะก่อน แน่นอนว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมาถึงบ้านของพวกเขาแล้วล่ะก็ สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องเจอนอกจากอาหารอร่อยๆ ที่เตรียมรอไว้ นั่นก็คือสไตล์การแต่งบ้านที่เปลี่ยนไปแทบจะทุกครั้งนั้นเอง และบางทีนอกจากสไตล์การแต่งบ้านแบบที่ไม่ค่อยพบเห็นทั่วไปแล้ว บางทีคุณอาจจะเจอของใช้แปลกๆ แบบนี้ก็ได้… 1. นี่คือโคมไฟจากฝีมือคุณแม่!! 2. แม่ฮะๆ นั่นคือปูที่ทำจากเปลือกหอยใช่ไหมฮะ!? 3. อืม… แบบนี้รู้เลยว่าเลือกตั้งที่ผ่านมาคุณแม่เลือกพรรคไหน?? 4. บางครั้งเมื่อกลับบ้าน คุณอาจจะพบว่า ตัวเองมีพี่น้องอีกหนึ่งคนที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้!! 5. โคมไฟที่จะทำให้พวกเด็กๆ กลัวกลางคืนไปอีกนาน!! 6. เมอร์รี่คริสต์มาสจ้าลูกรัก!! 7. เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไปบ้านของคุณปู่คุณย่า คุณมักจะเจอสิ่งของน่ากลัวๆ แบบเจ้าม้าตัวนี้!! 8. กบขี่เต่า สมบัติอันล้ำค่าที่สืบทอดต่อกันมา!! 9. ผลงานศิลปะที่สุดแสนจะน่ากลัว 10. ผลงานศิลปะของคุณย่าสามี!! 11. มากันทั้งครอบครัวกันเลยทีเดียว!! 12. ช่วยบอกผมทีฮะแม่…
-
บริษัทในนิวยอร์กเสนอให้สร้างอพาร์ตเมนต์รังผึ้ง กลายเป็นความหวังใหม่ของคนไร้บ้าน
การไม่มีที่พักถือเป็นปัญหาระดับโลก โดยเฉพาะในเมืองหลวงอย่างนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีสถิติคนไร้บ้านเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1955 ตอนนี้มีประมาณ 61,000 คน ที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงสำหรับคนจรจัดของนิวยอร์ก และอีกหลายคนอาศัยอยู่ตามท้องถนน ปัญหาดังกล่าวนี้จะไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้นๆ บริษัทด้านครีเอทีฟเอเจนซีอย่าง Framlab จึงได้เสนอโครงการ Homed เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาคนไร้บ้าน ทางบริษัทเสนอให้ใช้ผนังด้านนอกของอาคารซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ดัดแปลงเป็นที่พักใหม่สำหรับคนไร้บ้าน โดยมีลักษณะเป็นกล่องทรงหกเหลี่ยมแบบรังผึ้งที่สร้างขึ้นด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ และสามารถนำเอาไปติดตั้งกับเฟรมเหล็กข้างตึกที่มีอยู่แล้วได้ในทันที สำหรับตัวกล่อง Homed ถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศในนิวยอร์กตลอดทั้งปี โดยเปลือกนอกจะเป็น Oxidized Aluminum Cladding ส่วนด้านในรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จะเป็น 3D Print ด้วยวัสดุ Bioplastic ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย ในส่วนของกระจกด้านหน้ากล่อง Homed จะเป็นกระจก PMMA Smart Glass ที่สามารถใช้ฉายเนื้อหาดิจิตอลต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นอาร์ตเวิร์กหรือแม้แต่โฆษณา อย่างไรก็ตาม ขณะที่โครงการดังกล่าวดูเหมือนจะไปได้ด้วยดีและน่าประทับใจ ผู้สร้างได้ออกมาบอกว่าการติดตั้งกล่องรังผึ้งเหล่านี้ไม่สามารถแก้ปัญหาที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ เขาบอกว่า “ขนาดที่ใหญ่โตและความซับซ้อนของสถานที่จำเป็นต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายและควรจะมีนโยบายมารองรับ ที่สำคัญคือการออกแบบของชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้” …
-
ผู้หญิงไม่ควรพลาด “22 เทคนิคที่จะทำให้คุณดูเริศในทุกๆ วัน” จากสิ่งของง่ายๆ ในบ้าน..
ในตอนนี้ฤดูหนาวก็ได้พัดผ่านเข้ามาแล้ว สาวๆ อย่างเราก็ดูจะสนุกกับการแต่งตัวธีมวินเทอร์เอายกใหญ่ แต่เสียอย่างไรก็ไม่ควรที่จะลืมดูแลผิวพรรณด้วยนะ ดังนั้นสาวๆ ควรที่จะอ่านบทความนี้ เพื่อที่ว่าจะได้มีทางลัดง่ายๆ ไปสู่การมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง อีกทั้งยังมีทริคดีๆ เกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอางอีกด้วย 1. น้ำมันหอมระเหยจากอบเชยและสะระแหน่มีประสิทธิภาพในการทำให้ริมฝีปากของคุณดูเนียนนุ่มและเปล่งปลั่งขึ้น หากคุณไม่แพ้ส่วนผสมเหล่านี้คุณสามารถเพิ่มเพียงไม่กี่หยดลงในลิปกลอสของคุณดูสิ 2. รีมูฟเวอร์ที่ดีที่สุดอาจจะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ราคาแพง แต่ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันมะกอกก็สามารถเช็ดเครื่องสำอางให้สะอาดหมดจดได้เหมือนกัน แถมยังช่วยบำรุงผิหน้าอีกด้วย 3. หาก foundation ที่คุณใช้อยู่มีเนื้อครีมที่หนักและหนาเกินไป คุณสามารถใช้ครีม moisturizer ที่ชอบ ไปผสมรวมกับ foundation ได้ หรือถ้า foundation มีเฉดที่สว่างเกิดไป คุณก็สามารถให้บรอนเซอร์ชนิดครีมเติมลงไปให้สีเข้มขึ้นได้ 4. หากคุณอยากได้ลุคหน้าฉ่ำวาวเป็นเกาหลีดิวอี้ๆ ก็ลองเตะไฮไลท์เบาๆ ไปที่ส่วน T-Zone โหนกแก้ม สันจมูก คาง และตรงกลางหน้าผาก 5. หากต้องการมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง ลองผสม baking soda 1 ช้อนโต๊ะ เข้ากับ เจลล้างหน้าที่คุณใช้ นวดเบาๆ ที่ใบหน้าสักครู่แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำขั้นตอนนี้ 2-3…
-
10 สัญญาณบ่งบอกว่า ‘คู่ของคุณ’ เป็นคนเสพติดการมีเซ็กส์ จนเข้าขั้นน่าเป็นห่วง!?
อาการเสพติดเซ็กส์ เป็นอีกหนึ่งอาการที่หลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอายและไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้ในยุคปัจจุบัน ซึ่งคู่รักหลายๆ คู่ก็อาจจะประสบปัญหานี้อยู่ก็เป็นได้ อะไรที่มันมากไปหรือน้อยไปมันก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ มันต้องอยู่ในจุดๆ ที่มันพอดี ชีวิตคู่ถึงจะได้อยู่กันยืด และจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่คุณกำลังคบอยู่นั้น เขามีอาการติดเซ็กส์หรือไม่? บทความดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณ Brian Whitney ให้คุณผู้อ่านลองมาเช็กดูหน่อยซิว่า เขามีอาการเหล่านี้ไหม… 1. เขามักจะโกหกอยู่ตลอดเวลา คนที่เสพติดเซ็กส์มักจะเป็นคนขี้โกหกเพราะว่าเรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ควรจะเป็นความลับ คงไม่มีใครอยากจะป่าวประกาศว่าตัวเองเสพติดเซ็กส์ การโกหกในบางเรื่องบางครั้งมันอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเซ็กส์สักเท่าไหร่ แต่การโกหกก็ถือว่าเป็นการหลอกทั้งตัวเองและคนอื่น 2. เขาเป็นคนขี้นอกใจ ชอบหาโอกาสเต๊าะไปเรื่อย เขามักจะฉวยโอกาสในหลายๆ ครั้ง และมักจะหาช่องทางในการทำให้ตัวเองได้รับโอกาสพิเศษอยู่เสมอ พอได้โอกาสดีๆ ลับหลังคุณปุ๊บ เขาก็ไม่พลาดโอกาสนั้นเด็ดขาด 3. เขามักจะไม่คบใครจริงจัง หรือคบใครเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ ข้อนี้สามารถบ่งบอกได้เลยว่าการที่เขาไม่คบกับใครแบบจริงจังนั่นก็เพราะว่าเขาต้องการที่จะเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบคนที่เขาถูกใจที่สุด แต่ไม่ได้หมายคงวามว่าเมื่อเขาพบเจอแล้วจะหยุดอยู่ที่คนคนเดียว ก็อย่างว่าแหละ ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้ 4. เขามักจะช่วยตัวเองบ่อยครั้ง แม้กระทั่งหลังมีเซ็กส์ ถึงแม้ว่าพึ่งจะขึ้นสวรรค์กันไปหยกๆ เขาก็มักจะแอบไปช่วยตัวเองอยู่เสมอ นี่แหละเข้าขั้นของการเสพติดเซ็กส์อย่างหนัก 5. เขาเป็นคนขี้ขลาดในบางเรื่อง…
-
แบรนด์เสื้อผ้าญี่ปุ่นผุด “เสื้อแฮมสเตอร์” สุดคิวท์ ที่แอบซ่อนบางสิ่งไว้ในแก้มตุ่ยๆ
คุณว่าเสน่ห์ของเจ้าหนูแฮมสเตอร์อยู่ตรงไหน ใช่!! หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่น่ารักสดใส บางคนก็ชื่นชอบเวลาที่มันเคี้ยวอาหารเพราะนั่นจะส่งผลให้แก้มของมันมีลักษณะตุ่ยๆ และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้นักออกแบบจากประเทศญี่ปุ่นได้ปิ๊งไอเดียสุดแจ่มว๊าวววว โดยการดึงเอาเสน่ห์ความตุ่ยของแฮมสเตอร์มาเนรมิตเป็นเสื้อเชิ้ตสุดคิวท์ซะเลย แต่เอ…ดูเหมือนว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาที่แท้จริงจะไม่ได้ถูกโฟกัสไปที่แฮมสเตอร์ แต่ดันไปอยู่ที่อื่นนะสิ หืมมม!! สำหรับเสื้อเชิ้ตดังกล่าวได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดย “Mocolle” แบรนด์ออกแบบเสื้อผ้าของญี่ปุ่น ที่เชี่ยวชาญในด้านการออกแบบชุดแฟชั่นที่มีความแปลกใหม่ และแหวกแนวไม่เหมือนใคร เช่น ชุดคลุมท้องแนวโลลิต้า หรือจะเป็นชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “มิโกะ” สาวพรหมจารีในตำนานนั่นเอง และแน่นอนว่าผลงานชิ้นล่าสุดที่ทาง Mocolle ได้สร้างขึ้นมาก็คือ เสื้อยืดหนูแฮมสเตอร์ ตัวนี้… ส่วนความตุ่ยมากตุ่ยน้อยของแฮมสเตอร์นั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดหน้าอกหน้าใจของสาวๆ ซึ่งถ้าหากหน้าอกของคุณมีความโบ้มมมมมม มันก็จะส่งผลให้แก้มแฮมสเตอร์มีความตุ้ยนุ้ยมากยิ่งขึ้น ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้… นี่คือ Saki Miyamoto สาวเอวีสุดแจ่มว๊าวที่ได้มาเป็นแบบสวมเสื้อแฮมสเตอร์ของ Mocolle ในครั้งนี้ ป้าดดด มาเต็มมากจัดได้ว่าตำแหน่งหน้าอกของน้องมากตรงแก้มแฮมสเตอร์เป๊ะ ดูม มาจาเล่ ดูม มาจาเล่ ดูม นอกจากจะได้สวมใส่เสื้อยืดน่ารักๆ ที่เป็นรูปแฮมสเตอร์แล้ว สาวๆ ทั้งหลายยังสามารถเลือกสายพันธุ์ที่ชื่นชอบได้ด้วยนะ…
-
เจ้าเหมียวทำท่านั่งงัวเงียอยู่บนเตียง ยังไม่ทันสร่างก็โดนเอาไปตัดต่อซะเสียเลย
คนที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่บ้าน คงจะรู้ดีว่าสัตว์แต่ละตัวนั้นมีนิสัยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง จึงทำให้สัตว์เลี้ยงทุกตัวมีพฤติกรรมที่ไม่เหมือนกัน หากลองสังเกตดูดีๆ อาจจะได้เห็นมุมแปลกๆ ของสัตว์เลี้ยงที่บ้านก็ได้ เหมือนอย่างแมวตัวหนึ่งที่ผู้ใช้ Reddit ชื่อ nastasia8989 โพสต์รูปลงบนเว็บไซต์ เธอบอกว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงของแฟนเธอ มันมีวิธีเรียกร้องความสนใจที่น่าเอ็นดูเป็นที่สุด โดยมันจะนั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียงนิ่งๆ และไม่ยอมขยับไปไหนจนกว่าจะได้รับความสนใจจากเจ้าของ แต่ท่านั่งนั้นดูๆ แล้วเหมือนกับว่ามันงัวเงียและขี้เกียจซะจนอยากขลุกอยู่บนเตียงทั้งวัน ส่วนนี้คงไปถูกใจผู้ใช้งาน Reddit ท่านอื่นๆ เข้า พวกเขาก็เลยจับมันไปตัดต่อภาพผ่าน Photoshop จนเป็นที่เฮฮากันสำหรับผู้ผ่านมาเห็นภาพเหล่านั้น ภาพที่ถูกตัดต่อบางส่วนจาก Reddit ชีวิตมันเศร้า แมวแอตแลนติส เหมียวเรซซิ่งคาร์ท ข้านี่แหละโปรเกมเมอร์ ดูไว้นะไอ้น้อง รุ่นใหญ่เขาเล่นกันแบบนี้ พรุ่งนี้มีสอบ ทำความเคารพฉันสิ เจ้ามนุษย์ ส่งตัว Solo กับ Wookie มาซะ ไม่อย่างนั้นข้าจะตะปบเจ้าหญิง วันหยุดไม่เห็นมีไรดูเลย อย่าแอบดู…
-
เด็กสาวไม่พอใจในรูปร่างตัวเอง เขียนวันสั่งลาไว้ในไอจี ก่อนจะปลิดชีพตัวเองหลังจากนั้น…
การฆ่าตัวตายมีโอกาสเกิดได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศใดหรืออายุเท่าไหร่ แม้แต่กับเด็กน้อยวัย 11 ปีคนนี้ที่ได้แสดงความต้องการในแง่ลบของเธอออกมาอย่างชัดเจน จนสามารถสังเกตเห็นได้ว่าเธอต้องการที่จะฆ่าตัวตาย แต่กลับไม่สามารถช่วยเธอเอาไว้และได้จากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า นี่คือเรื่องราวของเด็กสาวที่ชื่อว่า Milly Tuomey อาศัยอยู่ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2017 พ่อแม่ของเธอได้เจอกับ “ไดอารี่ฆ่าตัวตาย” ของเด็กสาวที่บันทึกไว้ในอินสตาแกรมว่าตนเองต้องการที่จะตายวันไหน เด็กสาว Milly ที่ฆ่าตัวตายไปตั้งแต่อายุ 11 ปี เธอได้เข้ารับการบำบัดด้วยศิลปะ หลังจากที่เธอได้รับการตรวจสอบอาการทางจิตและพบว่าเธอมีบางอย่างที่ไม่ตรงตามคุณสมบัติทั่วไป ในครั้งแรกที่เธอได้เข้ารับการบำบัดเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2015 นักบำบัดก็ได้แนะนำครอบครัวให้พาเธอไปเข้ารับการตรวจจาก บริการด้านสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นของ HSE เพื่อสำรวจในเรื่องของอารมณ์ที่เกิดขึ้นผ่านการพูดและความหมายของภาพที่เธอรับรู้ นักจิตวิทยาในสถานที่ดังกล่าวกลับไม่ได้สนใจในความผิดปกติของเธอมากเท่าที่ควร พวกเขาได้นัดให้เธอเข้ามารับการตรวจสอบและรักษาในวันที่ 30 มกราคม 2016 ซึ่งนั่นก็สายเกินกว่าที่จะช่วยเด็กคนนี้เอาไว้ได้ Fiona แม่ของเด็กสาวรู้สึกกังวลใจอย่างมาก เธอเล่าว่า “ลูกสาวฉันโพสต์ลงไปว่า ‘คนสวยจะไม่กินอาหาร’ แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติ แล้วเธอก็ยังเขียนบอกอีกว่าต้องการตายวันไหน ซึ่งนั่นทำให้ฉันไม่รู้เลยว่าควรต้องทำอย่างไรต่อไปดี” จนกระทั่งวันที่ 1…
-
แพทย์ถึงกับไปไม่เป็นหลังเห็นรอยสักว่า ‘อย่าช่วยชีวิต’ อยู่บนหน้าอกของผู้ป่วยที่ไม่ได้สติ
หมอมีหน้าที่ช่วยเหลือคนไข้ให้สามารถรอดชีวิตจากความตายมาได้ แต่แน่นอนว่าความต้องการของคนไข้เองก็เป็นส่วนสำคัญเพราะปัจจุบันได้มีกฎหมายที่คนไข้สามารถเลือกที่จะปล่อยให้ตัวเองตายก็ได้ แล้วถ้าคนไข้ไม่ได้พูดกับหมอตรงๆ แต่บอกผ่านรอยสักเหมือนชายคนนี้ล่ะ คุณหมอจะตัดสินใจช่วยเขาดีหรือไม่? สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไมอามี่ สหรัฐอเมริกา เมื่อชายแก่วัย 70 ปีถูกพบในสภาพเมาหมดสติ ก่อนที่จะถูกนำตัวมาที่โรงพยาบาล แต่ในตอนที่หมอกำลังจะทำการช่วยชีวิตเขาอยู่นั้นเอง ก็ได้เจอกับรอยสักที่เขียนไว้ว่า “อย่าช่วยชีวิต” อยู่บนหน้าอกของเขา รอยสักบอกไว้ว่า “อย่าช่วยชีวิต” ความสับสนที่เกิดขึ้นนี้ได้ถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ Daily Mail วันที่ 30 พฤศจิกายน 2017 นายแพทย์ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องช่วยกันตัดสินใจว่าพวกเขาควรทำตามความต้องการของคนไข้หรือควรทำตามหน้าที่ของตนเองกันแน่ นายแพทย์ Greg Holt หนึ่งในหมอผู้อยู่ในเหตุการณ์อธิบายว่าตามกฎหมายแล้ว คนไข้มีสิทธิ์เลือกให้ตัวเองได้ โดยที่หมอจะไม่ทำการช่วยชีวิตใดๆ เลยทั้งสิ้น ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะต้องทำการเซ็นแบบฟอร์มข้อตกลงของคนไข้และแพทย์เสียก่อน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่สามารถยืนยันได้ว่า รอยสักคือความต้องการของคนไข้จริงๆ หรือเป็นเพียงแค่การสักเล่นๆ ตอนวัยรุ่นกันแน่ จึงทำให้การตัดสินใจเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ เพราะนี่คือเรื่องของความเป็นตายของคนเลยทีเดียว จนกระทั่งนายแพทย์ Greg ตัดสินใจยื้อชีวิตของชายหนุ่มเอาไว้ โดยการควบคุมความดันเลือดที่สูงมากของคนไข้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจเพราะยังคงไม่แน่ใจกับความต้องการที่แท้จริงของคนไข้ หลังจากนั้นกลุ่มผู้ให้การปรึกษาด้านจริยธรรมและทีมแพทย์จำนวนมากได้ประเมินสถานการณ์ทุกอย่างทั้งหมดแล้ว และพวกเขาก็ได้เลือกที่จะปล่อยให้ชายแก่คนนี้ตายไปในที่สุด ตามความต้องการที่อยู่บนรอยสัก นายแพทย์ Greg…
-
เรซูเม่แบบเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความมืออาชีพ ดีไซน์สะอาดตา พร้อมนำไปใช้งาน
เวลาที่จะไปสมัครงานสักแห่งหนึ่ง ย่อมต้องเตรียมตัวและเอกสารไปนำเสนอตัวเองให้พร้อม เอกสารที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเรซูเม่ ซึ่งก็คือใบแนะนำตัวแบบคร่าวๆ ของตัวเรา เช่น ชื่อ, อายุ, สถานศึกษา, ระดับการศึกษา, งานอดิเรก หรือ ข้อมูลติดต่อ ถึงแม้เรซูเม่จะเป็นใบแนะนำตัวแบบง่ายๆ แต่จะบอกว่ามันเป็นตัวชี้ชะตาว่าจะได้สัมภาษณ์หรือไม่ก็คงจะไม่ผิด เนื่องจากผู้ที่ทำการสัมภาษณ์ต้องคัดเลือกบุคคลจำนวนมาก เขาก็มักจะดูแค่เรซูเม่ผ่านๆ นี่แหละว่าเราน่าสนใจพอให้ทำความรู้จักเพิ่มเติมไหม แต่การทำเรซูเม่นั้นไม่ง่ายเลย เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่มีแบบฟอร์มตายตัวแน่นอน และต้องทำขึ้นมาเองแทบทั้งหมด หากทำให้ดูไม่สะดุดตาก็จะไม่มีใครสนใจดู แต่หากทำจนสีสันฉูดฉาดมากเกินไปผู้สัมภาษณ์ก็คงไม่อยากอ่านเพราะมันอ่านยากเช่นกัน วันนี้เรามีตัวช่วยมาให้ทุกคนแล้ว เพราะเว็บไซต์ Free Design Resources ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ดาวน์โหลดเอกสารต่างๆ ฟรี ได้ออกแบบเรซูเม่ที่ดูเรียบร้อย แต่มาพร้อมความครบเครื่องและน่าอ่านให้กับทุกคนแล้ว รูปแบบของเรซูเม่ฟรีตัวนี้เรียกได้ว่าใช้ความเรียบง่ายของฟอร์มทำให้ดูสบายตา นอกจากนี้ยังแบ่งข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่และมองหาง่าย ไม่กระจุกกันเป็นก้อนจนอ่านลำบาก ซ้ำยังมีลูกเล่นเล็กน้อยทำให้ดูสะดุดตาและน่าอ่านด้วย เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เรซูเม่ตัวนี้ได้ที่ Free Design Resources เลย ทีนี้เราก็สบายใจได้แล้ว่าเรซูเม่ของเราจะเป็นที่สนใจแน่นอน แต่ก็อย่าลืมตรวจดูเอกสารอื่นๆ ให้ครบด้วยนะ ไม่อย่างนั้นเรซูเม่ดูดีแค่ไหน ก็อาจจะพลาดได้ ที่มา: designtaxi, behance, Free Design Resources
-
ชายผู้เสียโฉมเพราะถูกหมีข่วน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวี แต่ผู้ชมกลับบอกว่า ‘สมควรแล้ว’
หลายคนอาจรู้สึกสงสารกับการที่ชายคนหนึ่งถูกหมีทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่ผลตอบรับจากเรื่องเล่าของเขาคนนั้นกลับออกมาในทิศทางตรงกันข้าม เพราะชาวเน็ตกลับรู้สึกไม่พอใจเขาอย่างมาก สิ่งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017 เมื่อรายการ This Morning ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการสัมภาษณ์ Lee Brooke ผู้เคราะห์ร้ายวัย 60 ปี ที่ถูกหมีทำร้ายจนทำให้ใบหน้าของเขาเกือบจะหายไปทั้งแถบ Lee ชายผู้ถูกหมีทำร้ายจนใบหน้าของเขาต้องใช้อุปกรณ์ในการแพทย์แทนที่จมูกและริมฝีปากบน เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นจำนวนมากเนื่องจากอาการที่สาหัสบริเวณใบหน้า รวมถึงอาการบาดเจ็บอื่นๆ ทั่วร่างกาย เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลนานหลายเดือนจนกระทั่งผิวหนังบนใบหน้าถูกแทนที่ด้วยผิวหนังส่วนขาของเขา รวมถึงการผ่าตัดฝังเหล็กดามเอาไว้บริเวณศีรษะ และยังคงต้องเข้ารับการรักษาอีกในระยะยาว Lee ได้เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์นั้นผ่านการสัมภาษณ์ว่า ตอนนั้นเขาเดินขึ้นเขาในรัฐไวโอมิง เพื่อไปล่ากวางเอลก์ เมื่อเขาฆ่าได้ตัวนึงและกำลังจะเดินไปเก็บซากของเหยื่อตัวนั้น ก็ได้เจอกับแม่หมีวัย 30 ปีและลูกๆ ของมัน แม่หมีตัวนั้นต้องการเหยื่อที่เขาล่าได้ เมื่อเขาเห็นอย่างนั้นจึงหันหลังกลับเพื่อหนีออกไปจากสายตาของมัน แต่เจ้าหมีก็ได้เดินเข้ามากระชากกระเป๋าของเขา ตะปบหน้าจนเขาตกลงไปด้านล่างภูเขาที่ลึงลงไปกว่า 45 เมตร การตกลงมาจากที่สูงทำให้เขาสลบไป ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาหลังจากที่เจ้าหมีตัวนั้นเดินเข้ามาดมแก้มของเขา และเขาเผลอสะดุ้งตื่นเข้ามาจนทำให้เจ้าหมีกัดลงไปบนแขนของเขา Lee พยายามล้วงเข้าไปในคอหอยของมันเพื่อให้มันปล่อยแขนของเขา อีกทั้งยังตีเข้าไปที่หัวของหมีอีกหลายครั้ง นั่นจึงทำให้เขาสามารถรอดมาได้ ก่อนที่เพื่อนที่มาด้วยกันก็มาช่วยเหลือและพาไปโรงพยาบาลในทันที…
-
เจ้าหมาฮีโร่จากอัฟกานิสถานกำลังจะถูกการุณยฆาต หลังปลดประจำการและไม่มีบ้านหลังใหม่
เรื่องราวอันแสนเศร้านี้เกิดขึ้นกับเจ้าหมาจากกองทัพอังกฤษทั้งสองตัวอย่างเจ้า Kevin และ Dazz สุนัขทั้งสองที่เคยผ่านสมรภูมิรบอันแสนโหดร้ายอย่างอัฟกานิสถานมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะถูกปลดประจำการ Kevin และ Dazz นั้นสังกัดอยู่ในหน่วยเก็บกู้ระเบิดและประจำการอยู่ที่เมืองเฮลมานด์ แต่ทว่าในอาทิตย์หน้า เจ้าตูบทั้งสองอาจจะต้องลาโลกนี้ไป หลังจากที่ทางกองทัพตัดสินใจที่จะทำการุณยฆาตพวกมัน เนื่องจากไม่สามารถหาบ้านหลังใหม่ให้ทั้งคู่ได้!! แต่อย่างไรก็ตามทางด้านนายทหารหลายๆ นายและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ได้ออกมาเรียกขอให้ทางกองทัพเปลี่ยนใจ พร้อมกับเขียนจดหมายถึงศูนย์ฝึกในเมืองเลสเตอร์เชอร์เพื่อให้ไว้ชีวิตเจ้าตูบ “ถ้าเป็นไปได้ พวกเราพยายามที่จะหาบ้านหลังใหม่ให้กับพวกเจ้าตูบหลังจากที่พวกมันปลดประจำการ แต่น่าเศร้าที่ไม่มีใครรับ Kevin และ Dazz ไปดูแลเลย” เจ้าหน้าที่จากศูนย์ฝึก Defence Animal Centre กล่าว เจ้า Dazz น้องหมาที่เคยช่วยชีวิตทหารจากสมรภูมิรบ และตอนนี้มันกำลังจะถูกการุณยฆาต หลังจากที่ทางศูนย์ฝึกไม่สามารถหาบ้านหลังใหม่ให้มันได้ ทางด้านคุณ Andy McNab อดีตนายทหารจากหน่วย SAS ที่ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการไว้ชีวิตเจ้าตูบทั้งสอง รวมถึงสุนัขตำรวจอีกตัวอย่างเจ้า Driver ก็ได้กล่าวผ่านเว็บไซต์ของเขาว่า “สุนัขอย่างเจ้า Dazz และ Driver นั้นเปรียบเหมือนสมบัติอันล้ำค่าเวลาที่พวกมันออกปฏิบัติภารกิจ ถึงแม้ว่าพวกมันจะปลดประจำการแล้วแต่ทั้งสองก็ยังคงมีความสำคัญกับพวกเราอยู่ พวกเราหลายๆ คนที่รอดชีวิตมาจากสนามรบเป็นหนี้ชีวิตพวกมันอยู่” นายทหารหลายๆ คนที่สามารถรอดชีวิตมาจากสนามรบได้ต่างเป็นหนี้บุญคุณของเจ้าตูบจากหน่วยเก็บกู้ระเบิด และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะเรียกร้องให้ทางศูนย์ฝึกเปลี่ยนใจและไว้ชีวิตเพื่อนซี้ของพวกเขา เหล่าสุนัขที่ถูกนำไปปฏิบัติการในสนามรบนั้นจะถูกฝึกมาอย่างเป็นพิเศษ และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันถูกปลดประจำการจะถูกส่งตัวกลับมายังศูนย์ฝึกเพื่อทำการฝึกให้พร้อมกลับไปใช้ชีวิตตามปรกติภายนอกได้ ส่วนในการรับอดีตสุนัขทหารไปเลี้ยงได้นั้นค่อนข้างที่จะมีขั้นตอนที่เข้มงวด…
-
5 โรคประหลาด ที่อาจทำให้คุณกลายเป็น ‘ยอดมนุษย์’ เข้าทีม X-Men ได้เลย
บางครั้งความผิดปรกติของร่างกาย ก็อาจจะทำให้เราค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเอง อย่างเช่นการห่อลิ้น หรือการที่คุณสามารถงอนิ้วโป้งได้มากถึง 180 องศา แต่ทว่านอกเหนือจากความสามารถพิเศษเหล่านี้แล้ว ในทางการแพทย์นั้นยังมีอาการแปลกๆ อีกมากมายที่จะทำให้เรากลายเป็นยอดมนุษย์ได้เลยทีเดียว อย่างเช่นอาการเหล่านี้… 1. มีความจำเป็นเลิศ สำหรับผู้ป่วยโรค Hyperthymesia นั้นจะสามารถ ที่จดจำรายละเอียดของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยผู้ป่วยสามารถที่จะบอกรายละเอียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขาที่ผ่านมาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันได้ทั้งหมด นอกจากนี้พวกเขายังสามารถจำข้อความทุกข้อความจากหนังสือที่อ่านมานานหลายปีได้อีกด้วย!! 2. ไร้ความรู้สึกเจ็บปวด โรคไร้ความรู้สึกเจ็บปวดนี้ทางการแพทย์เรียกว่า Congenital analgesia โดยผู้ที่ป่วยด้วยอาการนี้จะไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ ทางร่างกายเลย จากรายงานพบว่าชาวสวีเดนป่วยเป็นโรคที่ว่านี้มากถึง 40 รายเลยทีเดียว 3. เก่งในหลายๆ ด้าน โรค Savant syndrome นั้นเป็นหนึ่งในหนึ่งในความผิดปรกติของระบบประสาทที่พบได้ยากมากๆ โดยผู้ที่มีอาการดังกล่าวนั้นจะมีความสามารถในรอบๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี การคิดเลข การวาดภาพ หรือแม้แต่การสร้างโมเดลสามมิติ คนเหล่านี้ก็สามารถทำได้ดีทุกอย่างเลยทีเดียว 4. ทนความเย็นได้ โรคประหลาดนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มชาวดัตช์ผู้หนึ่งนามว่า Wim Hof โดยชายคนนี้สามารถเดินขึ้นยอดเขา Mont Blanc ในสภาพอากาศแสนหนาวเหน็บและเต็มไปด้วยน้ำแข็ง โดยที่ใส่เพียงแค่กางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวเท่านั้น และที่สำคัญเขายังสามารถลงไปว่ายในน้ำแข็งและอยู่ในนั้นได้นานถึง 120 นาทีเลยอีกด้วย!! 5. ไม่กลัวอันตรายใดๆ โรค Urbach–Wiethe หนึ่งในลักษณะทางพันธุกรรมที่แปลกๆ…
-
ทำความรู้จักกับ ‘โรคเบาจืด’ จำเป็นต้องดื่มน้ำ 20 ลิตรต่อวัน เพื่อจะมีชีวิตรอดในแต่ละวัน
ใครหลายคนอาจจะรู้จักกับโรคเบาหวาน และในประเทศไทยก็มีผู้ป่วยเป็นโรคนี้จำนวนมาก แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีอีกโรคหนึ่งที่ชื่อว่า ‘เบาจืด’ ซึ่งโรคนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเรานัก แต่โรคเบาจืดได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับชีวิตของชายคนหนึ่ง เพราะว่าเขาต้องดื่มน้ำกว่า 20 ลิตรเพื่อจะให้มีชีวิตรอดผ่านไปในแต่ละวัน Marc Wübbenhorst สถาปนิกชาวเยอรมันผู้ป่วยเป็นโรคเบาจืด ต้องดื่มน้ำอย่างต่ำวันละกว่า 20 ลิตรเพื่อไม่ให้ร่างกายของเขาเกิดภาวะขาดน้ำซึ่งเป็นผลมาจากโรคดังกล่าว และหาก Marc หยุดดื่มน้ำเขาจะตายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาการกระหายน้ำ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต Marc ตั้งแต่เขายังจำความได้ โดยอาการของเขาไม่ใช่การกระหายแบบคนปกติ ซึ่งคนปกติหากกระหายน้ำก็ดื่มน้ำเพียงแก้วสองแก้วก็จะหายจากการกระหายแล้ว แต่เพราะด้วยไตของเขาขับถ่ายน้ำออกจากร่างกายอยู่ตลอดเวลา ทำให้ร่างกายของเขาต้องรับน้ำเข้าไปใหม่ มิฉะนั้นแล้วเขาจะมีอาการ ริมฝีปากแตก มึนงงสับสน ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการขาดน้ำของคนขาดน้ำประมาณ 2-3 วัน แต่กับ Marc จะมีอาการเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ในแต่ละวันชีวิตของชายคนนี้จะเริ่มต้นขึ้นด้วยการดื่มน้ำขวดยักษ์ และต่อจากนั้นไม่นานเขาก็ต้องรีบไปเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะทันที และในช่วงเวลากลางคืนก็ยิ่งลำบากขึ้นไปอีก เขาบอกว่าเขาไม่เคยนอนนานกว่า 2 ชั่วโมงเลยตลอดทั้งชีวิต เพราะว่าเขาต้องคอยตื่นมาดื่มน้ำและเข้าห้องน้ำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งใน 1 วัน Marc ต้องเข้าห้องน้ำกว่า 50 รอบเลยทีเดียว นอกจากนี้ Marc…
-
เรื่องจริงจากฉากกอดของคู่รักสูงวัย ‘ไททานิก’ ที่มีความเศร้าไม่แพ้คู่แจ็กกับโรสเลย!!
‘ไททานิก’ เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีผู้ชมมากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจริงในปี 1912 โดยเล่าผ่านตัวละครแจ็กกับโรสที่มาพบรักกันบนเรือสำราญที่มีชื่อว่าไททานิก และฉากจบก็อย่างที่ทุกคนเห็น คือมันช่างน่าเศร้าเหลือเกินเพราะพระ-นางต้องแยกจากกันตลอดกาล แต่ใครจะรู้เล่าว่ามีอีกคู่หนึ่งที่พบกับจุดจบที่เศร้าไม่แพ้กัน ยิ่งไปกว่านั้นมันสร้างมาจากเรื่องจริง นี่คือคู่รักวัยชราที่พบกับจุดจบอันแสนเศร้าในตอนท้ายของหนังไททานิก พวกเขาใช้เวลาในช่วงสุดท้ายของชีวิตกอดกันอยู่บนเตียง ขณะที่มีน้ำอันเยือกเย็นไหลทะลักเข้ามาในห้องที่พวกเขาอยู่ ที่เศร้ากว่านั้นคือ ฉากนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของคนสองคนที่เลือกจะอยู่ด้วยกันในขณะที่เรือค่อยๆ จมลงสู่ก้นมหาสมุทร พวกเขาคือ Isidor และ Ida Straus ซึ่งเป็นผู้โดยสารชั้นหนึ่งบนเรือไททานิก Isidor เป็นเจ้าของร่วมของ Macy’s และยังเป็นสมาชิกสภาของอเมริกา สังกัดพรรค Democratic เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีพร้อมในทุกด้านและเป็นผู้ชายที่นิสัยดีมากๆ คนหนึ่ง Isidor และ Ida Straus แต่งงานกันในปี 1871 และเป็นหนึ่งในคู่รักที่ร่ำรวยที่สุดที่ขึ้นเรือไททานิก เพื่อเดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกาหลังไปใช้วันหยุดด้วยกันในประเทศฝรั่งเศส เมื่อเรือไททานิกชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง พวกเขารู้ทันทีว่าเรือคงจะจมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยความที่ Ida เป็นผู้หญิงและเป็นผู้โดยสารชั้นหนึ่งด้วย เธอจึงถูกนำตัวไปขึ้นเรือชูชีพทันที โดยมี Isidor เดินไปส่ง แต่เมื่อไปถึงเรือชูชีพ Ida กลับปฏิเสธที่จะขึ้นเรือและให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากทิ้งสามีไว้บนเรือที่กำลังจะจมนี่คนเดียว เมื่อได้ฟังดังนั้น หัวหน้าเรือจึงอนุญาตให้…
-
Rihanna บอกเหตุผลแสนฉลาด ที่เธอไม่เลือกผู้หญิงข้ามเพศมาเป็นแบบถ่ายโฆษณาของเธอ
เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่มีชื่อเสียง ที่พวกเขาจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาขึ้นมา เพราะว่าด้วยหน้าตาทางสังคมและความมีชื่อเสียง สามารถส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาสามารถขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว และถ้ายิ่งเป็นคนดังระดับโลกแล้ว ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาสามารถยึดครองตลาดได้ง่ายๆ เลย เมื่อไม่นานมานี้นักร้องสาวคนสวยอย่าง Rihanna ได้สร้างแบรนด์เครื่องสำอางขึ้นมาใหม่ชื่อว่า Fenty Beauty และแบรนด์เครื่องสำอางของเธอ ก็เป็นที่พูดถึงอย่างวงกว้างในแวดวงความสวยความงามทั่วโลก Rihanna กับแบรนด์เครื่องสำอาง Fenty Beauty ไม่ใช่เพียงแต่ตัวผลิตภัณฑ์ของเธอเท่านั้นที่เป็นที่พูดถึง แต่โฆษณาเครื่องสำอางของเธอก็เป็นอีกหนึ่งกระแสเช่นเดียวกัน เพราะว่าโฆษณาที่เธอสร้างขึ้นมันเหมือนกับโฆษณาที่มาจากองค์การสหประชาชาติ ที่มีการใช้ฉากหลังเป็นวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ รวมถึงมีการใช้ผู้หญิงหลากหลายสัญชาติที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ทั้งเรื่องหน้าตา สีผิว รวมถึงการแต่งตัว โฆษณาแบรนด์เครื่องสำอางนี้สามารถกดดูได้ที่นี่ และเมื่อวันพุธที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีแฟนคลับของเธอคนหนึ่งแนะนำให้ Rihanna ใช้ผู้หญิงข้ามเพศเป็นตัวหลัก สำหรับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ Fenty Beauty ชิ้นต่อไป เนื่องจากพวกเขายังไม่เคยได้เป็นนางแบบถ่ายโฆษณาใดๆ ในวงการเครื่องสำอางเลยแม้แต่คนเดียว คำแนะนำจากแฟนคลับของเธอ และสิ่งที่ Rihanna ตอบกลับแฟนคลับคนนั้นได้กลายเป็น Talk of the Town ของผู้คนในโลกอินเทอร์เน็ตเพราะว่าคำตอบของเธอนั้นดูดี และมีเหตุผลอย่างยิ่ง โดยเธอได้กล่าวเอาไว้ว่า …
-
แมวน้อยที่ได้รับการช่วยเหลือ ได้พบกับเหมียวเจ้าของบ้านที่มีหน้าตาคล้ายมันราวกับแฝด
Unagi ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ปลาไหล แต่จริงๆ แล้วเรื่องราวที่เราจะมานำเสนอในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปลาไหลแต่อย่างใด เพราะ Unagi เป็นชื่อของลูกแมวน้อยตัวหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาในชีวิต จนมีมนุษย์ใจดีมาพบ และมอบความรักครั้งใหม่ให้กับมัน ย้อนเวลากลับไปในตอนมิถุนายน 2017 เจ้า Unagi เป็นลูกแมวที่อาศัย ณ ศูนย์สัตว์ทดลอง ในจังหวัดยะมะงุชิ ประเทศญี่ปุ่น และมันก็ต้องการความช่วยเหลือ “ฉันเห็นเจ้าเหมียวผ่านเว็บไซต์โดยบังเอิญในขณะที่กำลังทำงานอยู่ ฉันคิดว่าเจ้าเหมียวที่อยู่ในศูนย์สัตว์ทดลองมันดูคล้ายกับ Suzume แมวของฉันไม่มีผิด และมันก็จะอยู่ในสถานที่แห่งนั้นได้อีกเพียงแค่ 1 สัปดาห์” เจ้าของ Suzume กล่าว เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันครบกำหนดของเจ้าเหมียว เธอเลยใช้เวลาในวันหยุดขับรถออกมาตอนตี 4 ครึ่ง เพื่อเดินทางมายังยะมะงุชิ และช่วยเหลือเจ้าเหมียวน้อย หลังจากที่ได้พบมัน เธอก็ได้นำตัวเจ้าเหมียวไปหาสัตวแพทย์ พอเสร็จสิ้นการดูแลรักษามันก็ถูกพาไปยังบ้านใหม่ ซึ่งในตอนแรกเจ้าเหมียวรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้มันได้รับการทดสอบในศูนย์ทดลองสัตว์มาเป็นเวลานาน “Unagi อายุประมาณ 2 เดือนครึ่ง และมีน้ำหนักเพียง 860 กรัม แต่ก็ยังมีขนาดใหญ่กว่าตอนที่รับ…
-
หนุ่มวัย 18 กลัวแม่ถูกข่มขืน เลยผลิตรองเท้าแตะที่สามารถช็อตไฟฟ้าได้ขึ้นมา
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมลมีรายงานว่า Siddharth Mandala หนุ่มวัย18 ปีจากไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย ผู้ที่กลัวว่าแม่ของเขาอาจจะตกเป็นเหยื่อของการถูกข่มขืน ได้คิดค้น Electroshoe รองเท้าแตะ “ป้องกันตัวเอง” ที่พร้อมจะมาช่วยในการโจมตีผู้ไม่ประสงค์ดีแบบฉับพลันได้!! จากการรายงานระบุว่า เนื่องด้วยอินเดียเป็นประเทศที่มีอัตราการข่มขืนที่สูงมาก และตัวของ Siddharth เองก็รู้สึกตกใจกับสถิตินี้เช่นกัน พร้อมกันนี้เขาก็รู้สึกเป็นห่วงผู้หญิงในครอบครัวของตัวเอง ดังนั้น จึงทำให้เขาได้ตัดสินใจผลิตรองเท้าสุดพิเศษดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งรองเท้าแตะนี้ นอกจากจะสามารถช็อตไฟฟ้าได้แล้ว มันยังช่วยในการโจมตีผู้บุกรุกได้อย่างรวดเร็ว แถมส่งผลทำให้เป็นอัมพาตไปชั่วขณะอีกด้วย เมื่อเริ่มเปิดใช้งาน รองเท้าก็จะขับเคลื่อนด้วยเสียงฝีเท้า ยิ่งถ้าหากผู้ใส่เดินเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ สัญญาณการแจ้งเตือนก็จะถูกส่งไปยังสถานีตำรวจในท้องที่ และครอบครัว โดยพวกเขาก็จะรับรู้ไปด้วยว่าเธอกำลังพบกับปัญหาอยู่ ทางด้าน Siddharth ได้ออกมาเผยว่า “ผมกับแม่ ได้เข้าไปร่วมชุมนุมการประท้วง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหยื่อถูกข่มขืนที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกโกรธมาก และดูเหมือนว่าการประท้วงจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แม้ในบางครั้งการลงโทษผู้ข่มขืนอาจจะช่วยยับยั้งการข่มขืนได้ แต่ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้หญิง นั่นเลยทำให้ผมต้องคิดค้นรองเท้าแตะที่เรียกว่า Electroshoe ขึ้น โดยในระหว่างการทดลองก็เกิดการผิดพลาดหลายครั้ง แต่ถึงอย่างไรผมก็จะพยายามพัฒนาต่อไป เพื่อให้มันได้กลายเป็นสินค้าในท้องตลาด และจะเสริมเทคนิคบางอย่างเข้าไปด้วยเช่น ให้มันกันน้ำได้” …
-
มารู้จักกับ ‘แมวตีนดำ’ อีกหนึ่งสายพันธุ์ของแมวป่า ขนาดตัวเล็ก มีลายเสือ และน่ารักหนักมาก
สัตว์ขนาดเล็กที่สามารถครองใจมนุษย์ได้จนกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงคงหนีไม่พ้น ‘แมว’ นี่แหละ มนุษย์หลายคนกลายมาเป็นทาสนักต่อนักแล้ว แต่ที่เห็นอยู่ทั่วไปนั้นเป็นแมวบ้านซะส่วนใหญ่ คราวนี้เราลองมาดูแมวป่าบ้าง มันจะสู้ความน่ารักของแมวบ้านได้มั้ยหนอ? สำหรับแมวป่าที่ #เหมียวเลเซอร์ จะพามารู้จักกันในคราวนี้ก็คือ แมวตีนดำ (Black Footed Cat) ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นแมวที่มีขนาดเล็กมาก อาศัยอยู่ในเขตแห้งแล้งทางตะวันตกเฉียงใต้ของตอนใต้ทวีปแอฟริกา เป็นที่น่าตกใจด้วยว่าแมวตีนดำนี้ เป็นสัตว์ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธฺ์มาตั้งแต่ปี 2002 ขนาดตัวของพวกมันเล็กแค่ไหนกัน? สำหรับตัวเมียจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 0.8 – 1.6 กิโลกรัมเพียงเท่านั้น ส่วนตัวผู้จะมีน้ำหนักเฉลี่ย 1.6 – 2.1 กิโลกรัม ความยาวของลำตัวอยู่ที่ 50 เซนติเมตร ความสูงหัวไหล่ 25 เซนติเมตร ลักษณะเด่นของแมวตีนดำจะมีขนที่หนานุ่ม เฉดสีขนจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนอมเหลืองหรือสีน้ำตาลแดงและจะมีสีดำพาดตามแนวนอน (คล้ายกับเสือเลย) หัวโตเมื่อเทียบสัดส่วนกับลำตัว ดวงตาก็โตเช่นกัน มีหางสั้น สีขนส่วนคาง หน้าท้อง และขาด้านในจะเป็นสีขาว สีอุ้งเท้าจะเป็นสีดำตามชื่อเลย แมวตีนดำจะพบได้ในประเทศแอฟริกาใต้,…
-
พ่อแม่อุตริ จับลูกน้อยเข้าไมโครเวฟและเปิดอบไว้ ด้วยสาเหตุแสนสุดพิเรนท์!!
ในโลกนี้คงไม่มีใครรักเรามากไปกว่าพ่อแม่อีกแล้ว เพราะพวกเขาเป็นพ่อมอบความรักความอบอุ่นให้เรา ทั้งยังเป็นที่พึ่ง เป็นผู้ดูแล และคอยปกป้องลูกๆ จากอันตรายทั้งหมด แม้แต่เสี่ยงชีวิต พ่อแม่ก็ยอมได้เพื่อลูก แต่สำหรับ Derick และ Mikala Boyce-Slezak แล้ว ดูเหมือนจะเป็นพ่อแม่ที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านั้น เพราะนอกจากไม่ถนอมแล้วพวกเขายังทำร้ายลูกน้อยอย่างโหดเหีี้ยมอีกด้วย Derick และ Mikala อายุ 22 ปีเท่ากัน อาศัยอยู่ในรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่ได้ก่อเหตุทำร้ายลูกชายตัวน้อยด้วยการจับเขาเข้าไปในไมโครเวฟแล้วเปิดอบไว้ โดยอ้างว่าเลียนแบบโฆษณาในทีวี ตามเอกสารที่ศาลได้รับจาก St Louis Post-Dispatch ระบุว่าเด็กน้อยอายุต่ำกว่า 4 เดือน ถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล Cardinal-Glennon Hospital เมื่อเดือนเมษายน เนื่องจากมีผื่นขึ้นบนใบหน้าจนกลายเป็นแผลขนาดใหญ่ จากการตรวจสอบ คุณหมอยืนยันว่าบาดแผลของเด็กน้อยเป็นแผลไฟไหม้ระดับแรก (First-degree burn) ซึ่งแผลจะมีลักษณะสีแดงแต่ไม่มีตุ่มพอง และที่เหลือเป็นแผลไฟไหม้ระดับสอง (Second-degree burn) ซึ่งผิวจะมีสีแดง มีตุ่มพอง และมีอาการปวดแสบปวดร้อน นอกจากนี้ยังพบแผลไหม้ระดับสองที่บริเวณศีรษะส่วนหน้าของเด็กน้อย กะโหลกศีรษะแตก มีภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง (Subdural hematoma) และอาจมีอาการบวมในสมองด้วย ข้อมูลจาก St…
-
หนุ่มสร้าง “หุ่นยนต์ไม้” มาช่วยไม่ให้โดนเตะออกจากเกม Star Wars เพื่อหาเงินเปิดกล่องแก้แค้น EA!!
ถ้าพูดถึงเกมที่เป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ในขณะนี้คงไม่มีเกมไหนที่กระแสจะมาแรงแซงทางโค้งไปกว่า Star Wars: Battlefront 2 อีกแล้ว ซึ่งเรื่องที่ถูกพูดถึงก็ไม่ใช่เรื่องดีอีกต่างหาก โดยประเด็นที่ถูกยกมาพูดถึงเกี่ยวกับเกมดังกล่าวนั่นก็คือระบบ Loot Box หรือที่เราเรียกกันว่ากล่องสุ่ม ซึ่งทางตัวเกมได้ยัดอะไรต่างๆ มากมายที่ส่งผลกับตัวเกมเข้าไปทั้งอาวุธและสกิลรวมกันอยู่ในนั้น แทนที่เกมจะจับยัดแค่ของสวยงามอย่างสกินอาวุธหรือชุดตัวละครเท่านั้น ที่สำคัญไปกว่าสิ่งอื่นเลยก็คือ เกมดังกล่าวก็ไม่ได้เปิดให้เราเล่นฟรีฟรีแถมตัวเกมก็มีราคาแพงอีกต่างหาก ทำให้ทั้งสื่อและผู้เล่นสับกันยับ!! และเมื่อภายในกล่องสุ่มเจ้ากรรมมันดันมีไอเทมเจ๋งๆ ที่ส่งผลกับตัวเกมแน่ๆ ผู้เล่นจึงต้องสรรหาวิธีสุดหัวหมอมาแก้เผ็ด EA ด้วยวิธีสุดเนียนหรือเรียกกันตรงๆ ก็คือการโกงนั่นแหละ โดยพ่อหนุ่มหัวใสนามว่า GARBTRONIX จึงคิดค้นหุ่นยนต์กดจอยสติ๊กแบบอัตโนมัติที่ทำจากเศษไม้ออกมา ซึ่งจุดประสงค์หลักที่พ่อหนุ่มต้องทำแบบนั้น นั่นก็คือการปล่อยให้เจ้าหุ่นยนต์ไม้เล่นเกมเองไว้เฉยๆ โดยการเดินไปมาซ้ายขวา ผลลัพธ์ที่ตามมามันจะทำให้เขาไม่ถูกเตะออกจากห้องที่เขาเล่นอยู่ เพราะถ้าการยืนเฉยๆ จะทำให้เขาถูกเตะออกจากเกมที่เขาเล่นอยู่และไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมา และทุกครั้งที่เขาจบในแต่ล่ะแมทช์เขาก็จะได้รับเงินภายในเกม ซึ่งมันสามารถใช้ไปเปิดเจ้ากล่องสุ่มเจ้าปัญหาได้โดยที่เขาไม่ต้องจ่ายเงินให้กับทาง EA เพิ่มเติมนอกจากราคาเกม แต่ใช่ว่าการกระทำของพ่อหนุ่มคนนี้จะเป็นเรื่องที่ดีหรอกนะ เพราะว่าสิ่งที่เขาทำมันก็คือการโกง และการโกงก็ถือเป็นเรื่องที่ผิดแม้ว่าตัวผู้จัดจ่ายหน่ายอย่าง EA จะแย่แค่ไหนก็ตาม นอกจากนั้นการโกงแบบนี้ยังสร้างภาระให้กับเพื่อนภายในเกมที่ต้องมาเจอพ่อหนุ่มคนนี้ยืนอยู่กับที่โดยไม่เล่นอีก ฉะนั้นถ้าใครอยากจะทำแบบนี้ก็อยากแนะนำว่าอย่าเลย ดูแค่ให้เป็นกรณีตัวอย่างก็พอ เพราะแม้ว่าระบบกล่องสุ่มในเกมจะแย่มากแค่ไหน แต่ตัวเกม Star Wars: Battlefront 2 ก็ไม่ได้แย่เลยล่ะ ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้วเล่นเองเถอะ!!…
-
สวนสัตว์จีนโฆษณาโชว์ ‘สัตว์จากแดนใต้’ แท้จริงกลับมีแต่สัตว์บ้านๆ แถมเก็บค่าชม 40 บาท!!
เมื่อซื้อบัตรเข้าชมสวนสัตว์ สิ่งที่เราส่วนใหญ่คาดหวังคือการได้เห็นสัตว์แปลกๆ สัตว์หายาก หรือสัตว์ที่ไม่สามารถพบได้ทั่วไป รวมทั้งชมโชวการแสดงต่างๆ ของสัตว์ด้วย แต่สวนสัตว์ในประเทศจีนแห่งนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวังหนักมาก เมื่อพบว่าในนั้นมีแต่สัตว์บ้านๆ ที่พบได้ทั่วไป แถมยังมีเพนกวินลมยางอีก เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสวนสัตว์กุ้ยฉาน ได้ทำการโปรโมทว่าจะมีการจัดกิจกรรมสุดพิเศษชื่อว่า ‘สัตว์จากแดนใต้’ ในเมืองยู่หลิน เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วง ทางตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก พวกเขาบอกว่านักท่องเที่ยวจะได้เห็นสัตว์มากมาย หนึ่งในนั้นคือเพนกวินอาร์กติก ที่สำคัญมีค่าเข้าชมแค่ 40 บาทเท่านั้น แต่พอเข้าไปในสวนสัตว์ นักท่องเที่ยวถึงกับงงและรู้สึกโกรธมาก เพราะเพนกวินที่ทางส่วนสัตว์จัดแสดงนั้น เป็นเพียงเพนกวินลมยางเท่านั้น หลายคนคิดว่าทดแทนควมผิดหวังนี้ด้วยสัตว์ชนิดอื่นก็ได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินดูรอบๆ กลับมีแค่ไก่ เป็ด และเต่า แถมยังเป็นพันธุ์บ้านๆ ที่เห็นได้ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเต่าที่ถูกจับไปใว้ในตู้กระจก พร้อมเขียนข้อความว่า “เต่านำโชค” เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการขอพรใส่เงินลงไปในนั้น แน่นอนว่านักท่องเที่ยวที่หลงเข้าไปรู้สึกว่าพวกเขาถูกหลอกมา จึงได้มีการถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงในโซเชียล จนตอนนี้กลายเป็นประเด็นดราม่าที่มีการพูดถึงทั่วสังคมออนไลน์ของจีน หลายคนพยายามไปขอเงินคืนกับทางสวนสัตว์ แต่พวกเขากลับปฏิเสธที่จะคืนให้ จึงทำให้นักท่องเที่ยวต้องกลับบ้านไปพร้อมกับความผิดหวัง ช่างทำกันได้ลงเนาะ ที่มา mirror
-
เอาอีกแล้ว!! แกนนำกลุ่มโลกแบนโฟนอินเข้ารายการดัง เพื่อโต้เถียงกับนักบินอวกาศ
ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มคนที่มีความเชื่อว่าโลกนี้ ‘แบน’ โดยก่อนหน้านี้ก็มีทั้งการจัดตั้งการประชุม สำหรับผู้ที่มีความเชื่อเช่นเดียวกัน มีการสร้างจรวดเพื่อจะขับขึ้นไปพิสูจน์ว่าโลกนี้มันแบน แต่ก็ได้ถูกยกเลิกไปก่อน และมาในตอนนี้พวกเขาก็ยังคงดำเนินการตามความเชื่อที่พวกเขามีต่อไป เมื่อไม่นานมานี้ผู้นำกลุ่มทฤษฎีโลกแบนชื่อว่า Mark Sargent ได้ไปโฟนอินเข้ารายการ Good Morning Britain ซึ่งเป็นรายการข่าวชื่อดังจากประเทศอังกฤษและการออกรายการครั้งนี้ของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เพราะว่า Mark ต้องเจอกับนักบินอวกาศตัวจริงๆ ที่ออกไปนอกโลกมาแล้วมาโต้วาทีกับเขา Mark Sargent กับความคิดโลกแบนของเขา ในงานประชุมที่จัดขึ้นครั้งแรกนั้น Mark เคยกล่าวเอาไว้ว่า จริงๆ แล้วโลกนี้มีลักษณะแบน แต่ว่าหลักฐานต่างๆ ที่องค์การนาซ่าเคยเอามาเผยแพร่เป็นหลักฐานที่ได้ปลอมแปลงขึ้นมา เพื่อเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจกล่าวถึงได้ การโฟนอินเข้ารายการครั้งนี้ของเขา เพื่อจะมาอธิบายถึงเหตุผลมาทำไมเขาจึงมีความเชื่อเช่นนี้ โดยมีผู้ประกาศคนดังอย่าง Piers Morgan ผู้ดำเนินรายการชื่อดังมานั่งร่วมเป็นสักขีพยาน และนี่คือบทสัมภาษณ์บางส่วนที่ Mark ได้เอ่ยออกอากาศ ขณะออกอากาศสัมภาษณ์ในรายการ Good Morning Britain “ที่พวกคุณเห็นว่าน้ำทะเลมันไม่ตกลงไปเนี่ย ก็เพราะว่าโลกเรามันใหญ่มาก จนเราหาจุดสิ้นสุดไม่เจอต่างหาก ไม่ใช่เพราะโลกกลมซะหน่อย” “ภาพถ่ายภาพแรกที่ถ่ายโลกออกมาเป็นทรงกลมคือเมื่อปี 1972 ด้วยยานอวกาศ Apollo 17 และภาพที่สองคือเมื่อสองปีที่แล้วนี่เอง มีใครอธิบายกับผมได้ไหมว่าทำไมกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมาจึงไม่มีการถ่ายภาพโลกของเราเลย”…
-
Red Hot จ้างนายแบบผมแดงมาถ่ายปฏิทินการกุศล ไม่ใส่อะไรเลย มีแต่อิโมจิอันเดียว!!
โอ๊ย ต๋ายแล้วววว ถือว่าเป็นแคมเปญที่ดีมากๆ ที่เราต้องทำการสนับสนุนเป็นอย่างยิ่งกับแคมเปญการถ่ายภาพลงปฏิทินเพื่อการกุศลจากทาง Red Hot Calendar ผู้ผลิตปฏิทินสุดฮอตที่มีผู้รอคอยผลงานทุกๆ ปี ซึ่งปฏิทินแห่งปี 2018 ทาง Red Hot ก็ได้กลับมาทวงบัลลังก์สร้างความฮือฮาอีกครั้งกับปฏิทินสุดสยิวกับภาพนายแบบหนุ่มผมแดงที่จะมาเขย่าหัวใจสาวๆ ด้วยกล้ามแน่นเปรี๊ยะ ฮึ่มมมม โดยภาพถ่ายเซตนี้ได้ช่างภาพชาวอังกฤษที่ชื่อว่า Thomas Knights และ Elliot James Frieze มาเป็นผู้ออกแบบผลงาน ซึ่งนายแบบที่มาถ่ายนั้นการันตีความแซบด้วยนายแบบที่คัดสรรมาอย่างดี เอ๊ะๆ แต่ใช่ว่าปฏิทินสุดสยิวนี้จะสร้างมาในเชิงลามกนะ เขาสร้างมาเพื่อรณรงค์ให้ผู้ชายทั้งหลายตระหนักเรื่องมะเร็งอัณฑะที่กำลังเป็นอีกหนึ่งโรคที่ผู้ชายอายุ 20-34 ปี ในสหราชอาณาจักรกำลังเป็นกันถึงเกือบร้อยละ 47 ส่วนรายได้รายได้จากการขายปฏิทินจะถูกนำไปใช้เพื่อการสนับสนุนมูลนิธิ Movember ที่ทำการรณรงค์เกี่ยวกับโรคมะเร็งในอัณฑะโดยเฉพาะ ว่าแต่ตอนนี้เรามาดูภาพที่ทาง Red Hot ปล่อยมายั่ว เอ๊ย เสนอให้เราอุดหนุนปฏิทินกันดีกว่า… องุ่นมาเป็นพวงเลยแบบนี้ อมยิ้มไหมล่ะ แชมเปญ โอ๊ยยย มะเขือม่วง แครอท…
-
เปรียบเทียบภาพเหล่าสุนัขตั้งแต่เป็นหมาน้อยจนกระทั่งเป็นหมาโตเต็มวัย มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างนะ
ยังจำวันแรกที่เราได้พบเจอกับเจ้าหมาแสนรักของเราได้หรือไม่ การเจอกันครั้งแรกนั้นดูเหมือนว่าเจ้าหมาน้อยตัวนั้นจะไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้เราซักเท่าไหร่ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปกลับทำให้เรากับเจ้าหมาเข้าใกล้กันยิ่งขึ้นและเพิ่มความผูกพันให้มากขึ้นทุกๆ วัน ซึ่งเมื่อเวลาเปลี่ยน แน่นอนเลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง จากเจ้าหมาน้อยขี้กลัวในวันนั้นกลับกลายมาเป็นเพื่อนที่แสนดีของเรา อีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยนั่นก็คือขนาดตัวของมันนั่นเอง มาดูกันดีกว่าว่าพวกมันจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากแค่ไหนนะ เคยนอนยังไง โตมาก็ยังนอนอยู่แบบนั้น ก็มันอุ่นดีนี่นา แกคงคิดว่าแกตัวเล็กมากสินะ จากหมาน้อยในวันนั้น…. น่ารักเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความกวน แหม่ มันช่างน่าตีตูดเหลือเกิน แกไม่ได้ตัวเล็กแล้วนะเจ้าหมา ขอแค่ได้อยู่ข้างๆ พ่อก็พอแล้วฮับ นั่นหมาหรือหมี ขนปุยเชียว หน้าตาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน อ้วนขึ้นนิดหน่อยเอง แม่แบกไม่ไหวแล้ว เจ้าอ้วน มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างนะ ดูแทบไม่ออกเลย ตัวติดกันตั้งแต่เด็กเลย นี่ก็ด้วย อุ้มโยนสูงๆ ไม่ไหวแล้ว ตัวหนักเกิน ตัวจะโตกว่าคนแล้ว รู้สึกว่าเรดาร์ที่หูมันจะตก ไม่ว่าจะตอนไหนก็น่ารักเหมือนเดิมนะเจ้าหมา ที่มา thechive
-
หนุ่มเนรมิตผลงาน “โปสเตอร์หนังเทศสไตล์ไทย” ได้กลิ่นอายแบบเต็มๆ เฮ้ย…มันใช่เลยอ้ะ!!
นอกจากเนื้อหา ตัวนักแสดง รวมไปถึงฉากสุดอลังการต่างๆ แล้ว “โปสเตอร์หนัง” ก็ถือเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เราอยากจะดูหนังเรื่องนั้นเหมือนกันนะ และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาคอหนังทุกคน มารับชมภาพโปสเตอร์หนังดังเจ๋งๆ ที่ถูกเนรมิตขึ้นใหม่ให้อยู่ในรูปแบบสไตล์ไทยๆ บอกเลยว่าความคิดสร้างสรรค์นั้นมาเต็ม ที่เพิ่มมาคือความเฮฮาปาจิงโกะ ฮร่าๆ สำหรับผลงานทั้งหมดนี้เป็นของคุณ ติวเตอร์ ณัฐภูมิ สกนธ์ธัญลักษณ์ ผู้ที่ได้เนรมิตภาพโปสเตอร์หนังเทศให้มาอยู่ในสไตล์ไทย ซึ่งทางเราก็ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์คุณติวเตอร์ถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ขึ้นมาด้วย ซึ่งคุณติวเตอร์ก็เล่าว่า “นี่เป็นงานที่ผมทำส่งอาจารย์ในหัวข้อภาพยนตร์ครับผม บวกกับตัวเองอยากลองทำภาพประกอบ จึงคิดที่จะทำเป็นโปสเตอร์ภาพยนตร์ 10 เรื่องครับ แต่จะแค่ให้วาดภาพเหมือนอย่างเดียวก็ไม่น่าสนใจครับ ผมจึงคิดที่จะหา Concept คลุมตัวงานอีกทีครับ ซึ่งในที่นี้คือ Concept สไตล์ไทยครับผม” ต้องบอกเลยนะว่ากว่าจะออกมาเป็นผลงานเจ๋งๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะแต่ภาพนั้นใช้เวลาทำไม่เท่ากัน โดยภาพแรกๆ นั้นจะอยู่ในช่วงทดลองวาดก็เลยใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ ในขณะที่ช่วงหลังๆ จะใช้เวลาเร็วขึ้น ดังนั้น จากที่นานเป็นอาทิตย์ก็ลดเหลือภาพละ 2 วัน ไปจนถึงวันเดียว แต่ถ้าหากทำแบบไม่รีบมากก็จะใช้เวลาประมาณ 3 วันต่อ 1 รูป…
-
10 สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า ‘ระดับน้ำตาล’ ในเลือดของคุณสูงเกินไปแล้ววว!!
น้ำตาลและของหวานอาจจะเป็นของโปรดสำหรับหลายๆ คน แต่อย่างที่เรารู้ๆ กันดี การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไปนั้นย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายเราอย่างแน่นอน และนอกจากการตรวจเลือดที่โรงพยาบาลแล้ว บางครั้งสัญญาณจากร่างกายของเราก็อาจจะบอกคุณได้ว่า ตอนนี้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณนั้นสูงเกินไปหรือเปล่า!? 1. ปวดปัสวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน ถ้าหากว่ามีสภาวะน้ำตาลในเลือดสูงนั้น ระบบทางเดินปัสสาวะของคุณนั้นจะเกิดการติดเชื้อได้ และมันจะทำให้คุณรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยๆ นั่นเอง 2. รู้สึกกระสับกระส่าย การมีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงนั้นจะทำให้ร่างกายของเราขาดฮอร์โมนอินซูลีน เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายขาดฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้ร่างกายดึงน้ำตาลกลูโคสออกจากเซล ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกกระสับกระส่ายและอ่อนเพลีย นอกจากนี้ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงยังทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำ เนื่องจากต้องการขับน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกายนั่นเอง 3. ริมฝีปากแห้ง ปริมาณของกลูโคสที่อยู่ในเลือดและน้ำลายที่มากเกินไป ซึ่งเป็นผลมาจากระดับน้ำตาลในที่เลือดสูงเกินไป จะทำให้คุณเกิดอาการปากแห้งได้ 4. น้องชายไม่ตื่นนอน นี่อาจจะเป็นปัญหาที่ท่านชายหลายๆ คนไม่อยากพบเจอแน่นอน โดยต้นตอของสาเหตุนี้มาจากการสูญเสียการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดระยะยาว ซึ่งจะมีผลต่อระบบประสาทและหลอดเลือด 5. รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ถ้าหากไทรอยด์ฮอร์โมนของคุณอยู่ในระดับต่ำ มันจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย ง่วงนอน หรือรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่านอกจากนี้ฮอร์โมนต่อมไทยรอยด์นั้นจะควบคุมการเผาผลาญอาหารในร่างกาย และมีผลโดยตรงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย 6. น้ำหนักเกิน/อ้วน นี่อาจจะเป็นสัญญาณพื้นฐานของสภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเลยก็ว่าได้ พลังงานจากอาหารที่มากเกินไปจะสะสมอยู่ในร่างกายของคุณและมันจะทำให้คุณอ้วนนั่นเอง 7. ผิวหนังแห้งและคัน เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของคุณมีการไหลเวียนของเลือดที่ต่ำ จะทำให้ผิวหนังของคุณรู้สึกแห้งและเกิดอาการคันได้…
-
ชาวเน็ตต่างชาติร่วมตกแต่ง ‘เต้านม’ เพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสสุดแฟนซี!!
อีกไม่นานเราทุกคนก็จะก้าวเข้าสู่เทศกาลแห่งความสุขอย่างวันคริสต์มาสแล้ว ลมหนาวที่มาพร้อมกับความอบอุ่นหัวใจกำลังพัดเอาสีสันของเทศกาลมาด้วย และเชื่อเลยว่าใครหลายๆ คนต้องเตรียมตกแต่งต้นคริสต์มาส หรือโต๊ะอาหารกันแล้ว แต่ที่ขาดไม่ก็คงจะเป็นการแต่งหน้าแต่งกายให้ดูแฟนซีสุดๆ และถ้าใครที่ยังคิดไม่ออกว่าคริสต์มาสปีนี้จะแต่งตัวอย่างไรเราขอแนะนำเทรนด์สุดแซ่บอย่าง “Christmas Boobs” ที่เป็นการตกแต่งเต้านมของเราให้เข้ากับธีมคริสต์มาส จะแซบ ร้อนแรง แหวกหิมะขนาดไหน เราไปชมกันเลยย!!! 1. หรือนี่อาจจะเป็นอวสานวันคริสต์มาส 2. เจ้ากวางน้อยคู่นี้น่ารักดีจริงๆ อยากจับจมูกมันดูจัง 3. นี่สิของขวัญที่แท้จริง ซานต้าช่างใจดีกับผม 4. กวางตัวนี้ดูขี้อายนะ ไปหลบอยู่ในเสื้อซะงั้น 5. เป็นดอกไม้ที่ช่างงดงามเหลือเกิน อยากเด็ดมาดมจริงๆ ครับ 6. เวลาที่แม่จะไปไหน ก็จะพกผมไปด้วยทุกที่เลยครับ 7. กวางตัวนี้จมูกยาวดีแฮะ 8. ขอเลียสโนว์แมนหน่อยครับ 9. ก่อนเปิดของขวัญ ก็ต้องแกะโบว์ก่อนสินะ 10. โอ้วชิด พาฉันออกไปจากงานคริสต์มาสนี้ที 11. กวางหน้ากลมจังเลย…
-
คุณลุงโดนเพื่อนบ้านเอาอิฐมาวางขวางที่จอดรถ เลยเอาคืนโดยการฟ้องนักข่าวซะเลย
การมีเพื่อนบ้านที่ดี อาจจะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย และแน่นอนว่าคุณแทบจะไม่ต้องกังวลเลยเวลาที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นแรมปี แต่ถ้าหากว่าคุณดั๊นโชคร้ายได้เพื่อนบ้านแบบที่ตรงกันข้ามล่ะก็ งานนี้มีปวดหัวแน่นอน!! คุณ Oliver Lynch ชายวัย 79 ปี ผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในคนที่โชคร้ายที่ต้องประสบพบเจอกับเพื่อนบ้านเจ้าปัญหา แต่ทว่าคุณปู่ท่านนี้กลับจัดการกับเพื่อนบ้านสุดแสบแบบสาสมเลยทีเดียว “ผมไม่ชอบให้ใครมารังแกผม” คุณปู่ให้สัมภาษณ์ โดยเหตุการณ์เพื่อนบ้านสุดแสบนี้เกิดขึ้นในวันหนึ่ง หลังจากที่คุณปู่กลับบ้านมาแล้วพบว่าถนนทางเข้าหน้าบ้านของเขานั้นถูกเพื่อนบ้านเอาก้อนซีเมนต์มาเรียงเป็นทางเพื่อกันเขต พร้อมกับบอกคุณ Oliver ว่าที่ตรงนี้คือเขตของบ้านพวกเขา เขตแดนที่ถูกแบ่งเข้ามาในที่ของคุณปู่ จากฝีมือของเพื่อนบ้าน แค่กั้นที่ยังไม่พองานนนี้คุณพี่เพื่อนบ้านถึงขั้นก่อปูนเพื่อกันไม่ให้คุณ Oliver ย้ายก้อนซีเมนต์เหล่านั้นได้เลยทีเดียว คุณปู่ได้เอาเอกสารของที่ดินตัวเองออกมาดูเพื่อยืนยันว่าบ้านของเขานั้นไม่ได้ล้ำที่ของใคร โดยในเอกสารที่ดินของคุณ Oliver นั้นระบุว่าเขาไม่ได้รุกล้ำเขตแดนแต่อย่างใด และคุณทางเข้าบ้านของเขานั้นกว้างมากถึง 3.5 เมตรเลยทีเดียว แต่ทว่าหลักฐานดังกล่าวนั้นกลับไม่เพียงพอ ทางศาลไม่สามารถที่จะสั่งทุบทางกั้นดังกล่าวได้ ซึ่งคุณปู่จะต้องทำการรังวัดที่ใหม่เพื่อยืนยัน หรือไม่ก็นำตัวเพื่อนบ้านของเขามาขึ้นศาลด้วย คุณ Oliver คิดว่าการที่จะพาตัวเพื่อนบ้านไปที่ศาลหรือรังวัดที่ใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก งานนี้คุณปู่ของเราจึงจัดการมอบบทเรียนให้กับเพื่อนบ้านด้วยตัวเองมันซะเลย คุณปู่ตัดสินใจติดต่อกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นให้มาทำสกู๊ปพิเศษ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ และดูเหมือนว่ามันจะได้ผลอย่างดีด้วย เพราะหลังจากที่ทางรายการได้ออกอากาศรายการดังกล่าว ก็มีหลายคนที่เห็นใจคุณปู่ท่านนี้ และบอกว่าการกระทำของเพื่อนบ้านนั้นช่างไม่น่ารักเลยจริงๆ เมื่อคุยกันดีๆ ไม่ได้ งานนี้ก็ต้องถึงมือพี่นักข่าวแล้วหล่ะ!! …
-
นี่คือ David Silva นักฟุตบอลที่คุณอาจไม่รู้จัก แต่จะต้องอยากหลังจากได้อ่านและเห็นภาพนี้…
สำหรับใครที่เป็นแฟนฟุตบอลล่ะก็ อาจจะคุ้นชื่อของนักฟุตบอลดังๆ อย่าง Leonel Messi หรือ Cristiano Ronaldo กันเป็นอย่างดี และสำหรับใครที่เป็นแฟนๆ เรือใบสีฟ้าล่ะก็อาจจะรู้จักหรือคุ้นเคยกับชื่อของ David Silva ปีกชาวสเปนผู้นี้กันบ้างแน่นอน แต่ถ้าหากว่าคุณไม่ใช่แฟนของเรือใบสีฟ้า หรือไม่เคยดูฟุตบอลมาก่อนล่ะก็ วันนี้เราจะขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับปีกตัวจี๊ดคนนี้ให้มากขึ้น!! และขอบอกไว้เลยว่าแค่ภาพนี้ภาพเดียวก็อาจจะทำให้คุณจดจำดาวเตะผู้นี้ได้อย่างดีแน่นอน!! ลองทายกันดูว่าคนไหนคือ David Silva?? ภาพถ่ายหลังจบเกมที่ถูกอัพโดยแบ็กซ้ายของทีมอย่าง Benjamin Mendy อาจจะช่วยทำให้หลายๆ คนที่ไม่รู้จักกับ David Silva ได้รู้จักกับพ่อหนุ่มรายนี้มากขึ้น เพราะอะไรน่ะเหรอ!? ถ้าหากว่าคุณลองกลับไปดูภาพแรกแบบช้าๆ อีกครั้งคุณก็จะพบกับคำตอบนั้นเอง ฮ่าๆ ถึงแม้จะเป็นปีกที่มีความเร็วสูง และมีร่างกายที่เล็กแล้ว แต่บางอย่างของเค้านั้นกลับตรงกันข้ามเลยทีเดียว โดยเฉพาะส่วนขา!! ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา พร้อมกับเทคนิคการเล่นที่หาตัวจับได้ยาก ทำให้ในฤดูกาลนี้ David Silva นั้นกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ของกุนซืออย่าง Pep Guardiola เลยทีเดียว และถึงแม้ว่าอายุอานามของพี่แกจะย่างเข้า 32 แล้วแต่ว่าความฟิตของร่างกายนั้นก็ยังไม่ต่างจากวัยรุ่นเลย ไม่เชื่อไปพิสูจน์กันที่ภาพนี้เลย… แบบว่าซิกส์แพคขึ้นแบบเน้นๆ ถึงขั้นมีการทำการ์ดค่าพลังในเกมฟุตบอล Fifa 18 ออกมาแซวว่า ค่าพลังงูเหลือของพี่เขานี่ต้องระดับ 99…
-
25 ความฮาของเหล่า ‘มนุษย์ผัว’ กับสารพัดวิธีพิสดาร ช่วยกระชับความสัมพันธ์ไม่ให้เบื่อหน่าย
ในการใช้ชีวิตคู่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ คู่รักอาจจะมีความเบื่อหน่ายกันบ้าง แต่อย่างไรก็ตามสามี ภรรยาก็เหมือนลิ้นกับฟัน ถึงแม้จะกระทบกระทั่งกันบ้างแต่ก็ขาดจากกันไปไม่ได้ ต้องอยู่เคียงข้างกันตลอดเวลา ถึงแม้ว่าอาจจะไม่มีโมเมนต์หวานๆ เหมือนตอนที่คบกันใหม่ๆ แต่บางครั้งก็มีโมเมนต์กวนๆ ที่คอยมากระชับความสัมพันธ์ให้ชีวิตคู่มีความสุขมากยิ่งขึ้น เหมือนดังรูปภาพต่อไปนี้ 1. อย่าปล่อยแมวไว้กับสามี 2. เมื่อบอกสามีว่าอยากทานอาหารที่จัดจานแบบสวยๆ 3. เมื่อมนุษย์เมียบอกว่าชอบกินเป๊บซี่ทั้งๆ ที่สามีชอบกินโค้ก 4. ติดป้ายขนาดนี้กลัวเมียจะลืมหรอว่านี่เป็นแมวน่ะ 5. อยากได้ Apple Watch หรอ จัดไปสิ 6. เมียบอกว่าอยากให้ตัดต่อรูปเธออยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวๆ 7. เกิดอะไรขึ้นเมื่อบอกให้สามีพาแมวไปตัดขน 8. เป็นรูปครอบครัวที่ฮาที่สุดในขณะนี้ 9. ภรรยากะจะลงมาหาอะไรกินซะหน่อย ตกใจหมดเลย 10. อยากได้กระเป๋า Coach ก็จัดให้ ป๋าอยู่แล้ว 11. ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฝีมือใครทำ 12.…
-
พบจดหมายลับที่เขียนด้วยลายมือจากปี 1777 ซ่อนอยู่ในบั้นท้ายของรูปสลักพระเยซู
ปฏิมากรรมหรืองานศิลปะอื่นๆ อย่างภาพเขียน หรือภาพพิมพ์ในยุคสมัยโบราณนั้น นอกจากจะบ่งบอกถึงความสวยงามของศิลปะในยุคนั้นแล้ว บางครั้งตัวผลงานเองก็อาจจะมีความลับบางอย่างอยู่ในนั้นก็เป็นได้ เหมือนกับรูปสลักพระเยซูอายุกว่า 240 ปีชิ้นนี้ที่มีจดหมายลับซ่อนอยู่!! จดหมายที่เขียนด้วยลายมือจากปี 1777 ฉบับนี้ถูกพบซ่อนอยู่ในรูปสลักพระเยซูโบราณจากประเทศสเปน จดหมายดังกล่าวอยู่ในสถาพสมบูรณ์มากและคาดว่าน่าจะถูกซ่อนไว้โดยนักบวชในสมัยนั้น บริเวณส่วนก้นของรูปสลักที่มีการพบจดหมายฉบับดังกล่าว จดหมายฉบับดังกล่าวถูกเขียนขึ้นโดย Joaquin Minguez และถูกค้นพบโดยทีมซ่อมแซมงานศิลปะจากบริษัท Da Vinci Restauro เนื้อความในจดหมายฉบับดังกล่าวบอกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 อย่างเช่นงานอดิเรกของผู้คน สภาพเศรษฐกิจ การเมืองและศาสนาในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกินอีกด้วย ส่วนก้นของรูปสลักที่ทีมซ่อมแซมงานศิลปะพบกับช่องลับที่บรรจุจดหมายฉบับนี้อยู่ ขณะนี้รูปสลักโบราณชิ้นนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่โบสถ์ Santa Agueda ในเมือง Sotillo de la Ribera ประเทศสเปน “การค้นพบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือฉบับนี้ เป็นการค้นพบที่น่าทึ่งมากๆ ” คุณ Efren Arroyo นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นกล่าว จดหมายจากลายมือของนักบวชฉบับนี้ถือเป็นหนึ่งในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งจะทำให้นักวิชาการได้เข้าใจถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต และนอกจากนี้ยังมีส่วนหนึ่งของจดหมายที่เขียนเล่าถึงโรคระบาดที่พบได้บ่อยในเมือง รวมถึงนักสู้วัวชื่อดังในสมัยนั้นอีกด้วย จดหมายโบราณฉบับนี้ถือเป็นหนึ่งในข้อความที่คนรุ่นหลังต้องการที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ กับพวกเรา และนอกจากจดหมายฉบับนี้แล้ว เชื่อแน่ว่ายังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อีกจำนวนมากที่กำลังรอให้พวกเราค้นพบ ที่มา unilad
-
20 สิ่งที่ดูละม้ายคล้ายอาหาร แต่บอกได้เลยว่ามันก็แค่ของคล้าย มันกินม่ายด๊ายยย!!
เวลาที่เราหิวมากๆ เราก็อาจคิดถึงของกินอยู่ตลอดเวลาจนบางครั้งเราอาจมองสิ่งที่กินไม่ได้ว่านั่นเป็นอาหาร แต่จริงๆ แล้วเจ้าสิ่งที่กินไม่ได้เหล่านั้นบางครั้งมันก็ดันมีหน้าตาเหมือนกับอาหารจริงๆ เนี่ยสิ มันจะชวนให้สับสนกันมากขนาดไหนละนั่น เราลองไปดูตัวอย่าง 20 สิ่งของชวนหิวที่ความเป็นจริงไม่สามารถกินได้ แต่เพราะหน้าตามันดันละม้ายคล้ายคลึงกันมากเหลือเกิ๊นนน ก้อนหินชวนหิว เพราะดูเหมือนกับเบคอนชิ้นใหญ่ยักษ์ อัญมณีที่ดูมีราคาเพราะหน้าตาเหมือนกับช็อกโกแลต ราวกับมีช็อกโกแลตร้อนๆ ราดลงไปบนโดนัท สับปะรดใหญ่ขนาดนี้คงกินกันได้ทั้งหมู่บ้าน น้องหมาเหล่านี้ไม่ควรเดินผ่านร้านไก่ทอดนะ คนอื่นเห็นอาจคิดว่าเป็นไก่ทอดเดินได้ ด้านในลูกกอล์ฟที่พอดูดีๆ แล้วก็น่าเอาไปประกอบอาหารอยู่เหมือนกันนะ แซลมอนซาชิมิ ทานคู่กับแปรงสีฟัน เมื่อนำสบู่เข้าไมโครเวฟ ผลที่ได้กลับเป็นขนมปังซะงั้น กล้วยสายพันธุ์ไหน ทำไมถึงมีเปลือกยาวขนาดนี้?! แซนด์วิชชีสร้อนๆ ที่พอกัดเข้าไปแล้วแข็งเป็นหินเลยจริงๆ ใครมาทำโดนัทตกไว้น่ะ ไม่มีใครมาเก็บเดี๋ยวจะเอาไปละนะ ด้วยมุมกล้องและแสงสะท้อนแล้ว ดูยังไงนี่มันก็กล้วยชัดๆ เมื่อตอนที่เราอยากกินสเต๊ก พอเหลือบไปเห็นกระดาษเก่าก็น่าจะพอแทนกันได้ สรุปว่าทำไมแมวหาย หรือว่าทำขนมปังหายกันแน่ อย่าให้โดนแดดมากนะ เดี๋ยวมันละลายไหลเยิ้มมม ลูกนี้นี่น่าจะเพิ่งเก็บมาเลยนะ ดูสิยังดิ้นได้อยู่เลย…
-
อดีตวิศวกรค้นพบวิธีการทำ “สระทราย” ที่มีลักษณะเหมือนของเหลวและกระเพื่อมได้ด้วย
ตามธรรมชาติแล้วทรายเกิดจากหินที่ถูกย่อยเป็นเม็ดเล็กๆ ที่เราสามารถพบได้ทั่วไปตามชายหาดนั่นแหละ นั่นหมายความว่ามันไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่ Mark Rober อดีตวิศวกรของนาซ่าได้ค้นพบวิธีหาความสุขจากทรายด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่นเดียวกับที่ Bill Nye ทำ นั่นก็คือการทำให้ทรายมีลักษณะเหมือนน้ำ Mark ได้เติมน้ำเข้าไปในสระที่เต็มไปด้วยทราย จากนั้นก็เข้าไปว่ายเล่นอย่างสนุกสนานราวกับว่ามันเป็นสระว่ายน้ำยังไงอย่างงั้นแหละ แน่นอนว่าหลายคนเห็นแล้วถึงกับอึ้ง และอาจสงสัยว่าทรายมันทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ? แล้วมันทำยังไงอะ? ถ้าอยากทำบ้างจะทำได้มั้ย? คำตอบคือทุกคนสามารถทำเองได้ เพราะ Mark ได้สอนขั้นตอนการทำทรายที่เหมือนน้ำพร้อมอธิบายแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกคนได้สนุกไปกับสระทราย ในคลิปจะเห็น Mark พูดถึงสิ่งที่เรียกว่าฟลูอิไดซ์เบด (Fluidized Beds) ซึ่งเป็นการทำแห้ง (Dehydration) ที่ใช้ลมร้อนเป่าผ่านชั้นวัสดุ ทำให้วัสดุลอยตัวเป็นอิสระ เกิดการคลุกเคล้าและสัมผัสกับลมร้อนอย่างสม่ำเสมอ มีอัตราการถ่ายเทความร้อนและมวลสูง จากนั้น Mark ใช้อากาศในการทำให้ทรายกระเพื่อมเหมือนน้ำ โดยการเป่าอากาศเข้าไปใต้ก้นสระที่บรรจุทรายเพื่อเพิ่มช่องว่างระหว่างอนุภาคของทรายแต่ละเม็ด ลดแรงเสียดทานภายใน และเป็นการช่วยให้อนุภาคเคลื่อนที่อย่างอิสระเหมือนของเหลว เขาอธิบายในวิดีโอว่า “นี่คือสิ่งที่ผมอยากทำมานานแล้ว แต่เมื่อลองค้นข้อมูลตามอินเตอร์เน็ต กลับไม่มีเว็บไหนบอกวิธีการทำให้เลย” “ดังนั้นผมจึงเริ่มด้วยการนำต้นแบบหลายๆ อย่างมาผสมผสานกัน เพื่อสร้างเครื่องทำแห้งขนาดใหญ่ แล้วผมก็สังเกตเห็นว่าแทนที่รูระบายอากาศขนาดใหญ่รูเดียว เราควรใช้รูเล็กๆ รูเพื่อการระบายอากาศที่ดีกว่า” …
-
ชายอิตาลีจับหญิงสาวขังเป็นทาสเซ็กส์นานสิบปีไว้ในชั้นใต้ดินสุดโสโครก สุดท้ายตำรวจช่วยไว้ได้
หากเรามองดูชุมชนหลายๆ แห่งดู เรามักจะเห็นบรรยากาศที่เป็นมิตรและเงียบสงบ แต่จริงๆ แล้วในบางที่ก็อาจจะไม่ได้เป็นเหมือนกับที่เราเห็นจากภายนอก อาจจะมีเรื่องราวน่ากลัวชวนขนลุกซุกซ่อนอยู่ก็เป็นได้ อย่างเช่นในหมู่บ้าน Gizzeria ในแถบตอนใต้ของประเทศอิตาลี ตำรวจได้จับชายอายุ 52 ปีคนหนึ่งในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทารุณ และข่มขืนหญิงชาวโรมาเนียคนหนึ่งเป็นเวลานาน 10 ปี จนเธอตั้งครรภ์และมีลูกถึง 2 คน ชายคนนี้ชื่อว่า Aloisio Francesco Rosario Giordano เขาเคยก่อคดีทำนองนี้กับ Maria Rosa มาแล้วครั้งหนึ่งในปีพ.ศ. 2538 และถูกจำคุกเป็นเวลา 5 ปี หลังจากนั้นเขาจึงถูกปล่อยตัวในปีพ.ศ. 2542 การกักขังครั้งนี้คงไม่มีใครรู้หากว่าตำรวจไม่บังเอิญเรียกตรวจรถสภาพเก่าของนาย Alonsio แล้วบังเอิญเหลือบไปเห็นเด็กชายอายุ 9 ปี สภาพมอมแมมที่เบาะหลังของรถ หลังจากเห็นสภาพของเด็กชายแล้วตำรวจจึงขอตรวจค้นบ้านของเขาและพบแม่ของเด็ก ภาพทางเข้าห้องใต้ดินที่กักขังหญิงสาวไว้ เมื่อไปตรวจที่บ้านจึงพบว่ามีหญิงสาวอายุ 29 ปี คนหนึ่งถูกขังไว้ในห้องใต้ดินกับลูกสาวอายุ 3 ปี อีกหนึ่งคน หลังจากสอบถามแล้วพบว่าหญิงสาวถูกขังอยู่ในนี้มา 10 ปี และในระหว่างนั้นก็ถูกทารุณและข่มขืนมาตลอด เขายังบังคับให้เธอคลอดบุตรสองคนในห้องนี้ด้วย…
-
คุณพ่อชอบถ่ายภาพพรมในโรงแรม คุณลูกก็เลยดันให้ดังเป็นของขวัญคริสต์มาสซะเลย!!
ในยุคที่เราทุกคนอยู่กับอินเตอร์เน็ตจนแทบจะเรียกได้ว่าตัวติดกัน ไม่ว่าอะไรก็สามารถกลายเป็นกระแสบนอินเตอร์เน็ตได้แม้แต่งานอดิเรกของคุณ ถ้าไม่เชื่อก็ลองมาดูคู่พ่อลูก Bill Young และ Jill Young สิ ตัวคุณพ่อน่ะเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวและมีงานอดิเรก คือการตามถ่ายพรมของแต่ละโรงแรมไปโพสต์ไว้บนอินสตาแกรมของเขา คุณ Bill Young หน้าอินสตาแกรมของเขา . . ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะถ่ายรูปสวยใช้ได้ แต่ก็เป็นงานอดิเรกที่ดูธรรมดาไม่น่าตื่นเต้น คนติดตามก็เลยมีแค่ 125 คนเท่านั้นเอง แต่เรื่องก็เกิดขึ้นเมื่อลูกสาวอยากจะดันอินสตาแกรมพ่อของเธอให้ดังเป็นของขวัญวันคริสต์มาส ด้วยความที่อินสตราแกรมของเธอมีคนติดตามมากมาย เธอจึงใช้ประโยชน์จากมันด้วยการโพสขอร้องให้ผู้ติดตามทุกคนช่วยทำให้คำขอของเธอเป็นจริง โดยให้พวกเขาช่วยแชร์อินสตราแกรมของพ่อเธอให้ดังกว่านี้ คุณลูกสาว Jill Young โพสต์ของเธอที่ขอให้ช่วยแชร์อินสตราแกรมของคุณพ่อ ใครจะไปรู้ล่ะว่าคำขอของเธอจะทำให้อินสตราแกรมของพ่อเธอดังเป็นพลุแตกในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน จากที่พ่อเธอมีผู้ติดตามเพียง 125 คน ตอนนี้กลับมีคนกดฟอลโลว์ไปแล้วเกือบ 400,000 คนเลยล่ะ และยังไม่พอ ตัวลูกสาวเองยังอยากดันพ่อเธอให้ดังจนได้ไปออกรายการ Ellen Show อีกต่างหาก โดยเธอโพสต์ว่า “ขอบคุณมากที่ทุกคนช่วยฉัน แต่ถ้าพวกเธอช่วยแชร์อีกจนอินสตราแกรมของพ่อได้ไปออกรายการ Ellen Show ฉันกับพ่อจะแต่งกลอนเกี่ยวกับพรมไปอ่านให้พวกเธอฟัง!” อะไรก็ไม่แน่ไม่นอนใช่ไหมล่ะ เราอาจจะได้เห็นพ่อลูกคู่นี้ไปออกรายการ Ellen…
-
Mary Ellen เด็กสาวผู้ถูกกดขี่ จนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดกฎหมายการคุ้มครองเด็กจากครอบครัว
กฎหมายบ้านเมืองที่บังคับใช้กันในทุกวันนี้ย่อมมีที่มาที่ไปเสมอ บางกฎตั้งขึ้นเพื่อจัดระเบียบในสังคม ในขณะที่บางกฎตั้งขึ้นหลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว นั่นก็เพื่อไม่ได้เกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำอีก เหมือนอย่างกฎหมายการคุ้มครองเด็กจากการทารุณกรรมที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ถูกตั้งขึ้นและบังคับใช้หลังจากที่มีการกดขี่เด็กหญิงคนหนึ่ง นี่คือคำบอกเล่าจาก Mary Ellen Wilson เด็กหญิงผู้ถูกกดขี่ “ฉันชื่อ Mary Ellen Wilson ฉันไม่รู้ว่าตัวเองอายุเท่าไหร่ ฉันโดนแม่ตีและเฆี่ยนด้วยแส้เกือบทุกวัน ฉันไม่เคยได้รับการจูบด้วยความรัก” “ฉันไม่เคยได้รับอนุญาตให้เล่นกับเด็กคนอื่นๆ ฉันไม่กล้าพูดกับใคร เพราะถ้าฉันทำ ฉันจะโดนเฆี่ยน…เมื่อแม่ออกไปข้างนอก เธอจะล็อกประตูขังฉันไว้ในห้อง ฉันจึงไม่มีโอกาสได้ออกไปข้างนอกเลย…” ไม่ใช่แค่ Mary Ellen คนเดียว แต่มีเด็กๆ นับไม่ถ้วนที่ถูกทารุณกรรมเช่นเดียวกับเธอ และเรื่องราวของพวกเขามักจะถูกรายงานผ่านสื่อบ่อยมาก ตามข้อมูลจาก Army Community Service Family Advocacy Group ระบุว่า ทุกๆ วันจะมีเด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ซึ่งเป็นผลมาจากการทารุณกรรม โดยสามในสี่มีอายุต่ำกว่า 4 ขวบ ย้อนกลับไปในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ไม่มีกฎหมายสำหรับคุ้มครองเด็กๆ จากการถูกทำร้ายร่างกายโดยพ่อแม่ของพวกเขา นั่นทำให้พ่อแม่มักจะลงโทษลูกตัวเองอย่างหนักเมื่อไม่เชื่อฟังคำสั่ง กรณีของ Mary Ellen เกิดขึ้นเมื่อปี 1874 และเรื่องราวของเธอนี้เองที่เปลี่ยนความเข้าใจของสาธารณชนเกี่ยวกับการล่วงละเมิดต่อเด็กอย่างสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้นสังคมยังให้ความร่วมมือในการป้องกันและยุติการทารุณกรรมต่อเด็กด้วย…
-
อดีตนายทหารเรือช่วยเจ้ามิ้วน้อยจากข้างทาง กลายเป็นคู่หูสุดน่ารัก อรั๊ยยยย อิชั้นใจละลาย
ว่ากันว่าผู้ชายที่รักแมวทุกคนเป็นผู้ชายที่น่ารัก ลองคิดภาพตามว่าผู้ชายตัวโตๆ อุ้มแมวพร้อมกับหยอกล้อเจ้าแมวเล่นอย่างทะนุถนอม #เหมียวบู้บี้ คิดว่ามันโคตรจะน่ารักเลย มาเล่นกับเหมียวตัวนี้บ้างสิพี่จ๋า Gabe Lee อดีตหนุ่มนาวิกโยธินสุดหล่อผู้ที่มาแชร์เรื่องราวน่ารักๆ ของเขากับเจ้าแมวน้อยสุดรักของเขาที่ชื่อว่าเจ้า Jubilee สวัสดีจ้า เขาเล่าว่าเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมเขาได้พบกับเจ้าเหมียวตัวน้อยตัวนี้จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ประจำเมืองซีแอทเทิล ประเทศแคนาดา มันเป็นลูกแมวตัวเล็กที่มีเพียงหนังหุ้มกระดูก พอดูๆ แล้วก็คิดว่ามันคงจะอ่อนแอมากๆ โดยมันมีขนาดพอๆ กับโทรศัพท์ iPhone 5 เท่านั้นเอง เขาดูแลเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้เป็นอย่างดี เรื่องอาหารการกินที่หลับที่นอนนี่ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง และไม่ว่าเจ้าแมวน้อยอยากจะได้สิ่งไหนเขาก็จะเนรมิตขึ้นมาให้ นี่เป็นทาสแมวตัวจริงเลยนะเนี่ย อ่างจากุชชี่ส่วนตัว . ตัวเล็ก นั้ลลั๊กกกก นิ้วมันกินไม่ได้นะเจ้าเหมียว ไหนขอลองปีนดูหน่อยสิ สักวันผมจะอ้วนให้เท่าแตงโมลูกนี้ให้ได้เลยงับ แต่ว่าตอนนี้มีน้ำหนักแค่นี้เอง คงต้องกินนมเยอะๆ เห็นแบบนี้ก็ดีใจแทนเจ้าเหมียวนะ อิจฉาด้วยที่มีเจ้าของหล่อๆ แบบนี้ อดีตทหารสุดล่ำบาดใจ อร๊ายยยยย >< ที่มา inspiremore
-
เกย์คู่แฝด ที่โป๊ะแตกรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเกย์ ก็ตอนมีอะไรกับคนๆ เดียวกัน!!!
เรื่องราวของ Mike และ Zach Zakar หนุ่มคู่แฝดลูกครึ่งอาหรับ-อเมริกัน ที่โด่งดังมากๆ ในอินสตาแกรมอีกทั้งยังเป็นยูทูบเบอร์ในช่อง Zakar Twins ซึ่งมีผู้ติดตามรวมกัน 2 ช่องทางเกือบ 50,000 คน เขาทั้งสองได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของชีวิตก่อนที่ทั้งสองจะออกมาแกรนด์โอเพนนิ่งว่าเป็นเกย์ จนมีแฟนคลับติดตามเยอะมากมายขนาดนี้ผ่านทางคลิปวิดีโอในช่องยูทูบของพวกเขา คลิปวิดีโอเปิดใจ กว่าจะมาเป็นคู่แฝดในตำนาน เรื่องราวมันเริ่มมาตั้งแต่ที่พวกเขาเรียนอยู่โรงเรียนมัธยม ซึ่งต่างคนก็ต่างใช้ชีวิตตามปกติโดยที่ Mike มีความชื่นชอบทางด้านศิลปะ ส่วน Zach ชอบเรื่องกีฬา ทั้งสองจึงได้แยกย้ายกันไปเข้าชมรมตามที่ตัวเองชอบและถนัด ทั้งสองใช้ชีวิตในช่วงมัธยมโดยที่ไม่รู้เลยว่าคู่แฝดของตัวเองนั้นเป็นเกย์ จนกระทั่งวันหนึ่ง Zach ป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหารจนต้องหยุดเรียน 1 สัปดาห์ Mike ก็ได้ไปโรงเรียนตามปกติแต่เขาก็ได้พบกับหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่ชวนเขาไปทำกิจกรรมอย่างว่าที่ในห้องน้ำโรงเรียน ซึ่งในตอนแรกเขาบอกว่าเขาก็กำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นเกย์หรือไม่จนกระทั่งได้ลองแล้วมันรู้สึกดีสุดๆ แต่ในขณะที่พวกเขากำลังมีอะไรกันในห้องน้ำ เพื่อนในทีมรักบี้ของ Zach ก็เข้ามาเห็น เขาตกใจมากและรีบออกไปจากห้องน้ำให้เร็วที่สุด เมื่อเขากลับบ้านไปพี่ชายของเขาก็เริ่มถามว่าเขาเป็นเกย์หรือไม่ เนื่องจากว่าเพื่อนของเขามาถามว่า Zach เป็นเกย์หรือเปล่า สองพี่น้องก็ได้เริ่มเปิดใจคุยกันถึงความจริงและก็ได้รู้ว่าต่างฝ่ายต่างก็เป็นเกย์ ส่วนหนุ่มน้อยที่ได้เจอในวันนั้นเป็นคนเดียวกับคนที่หนุ่ม Zach…
-
นี่คือเหตุผลว่าทำไม ‘ก่อนถ่ายภาพ’ เราควรมองรอบๆ ก่อน ไม่งั้นจะโดนแย่งซีนแบบนี้แหละ!!
เวลาที่เราอยากถ่ายรูปกับใครสักคนหรืออยากถ่ายรูปตัวเอง บางครั้งเราก็ไม่ค่อยจะสนใจสิ่งรอบข้างกันสักเท่าไหร่ ซึ่งมันแน่นอนว่าปกติเราก็จะมองแค่กล้องหรือโฟกัสกับสิ่งที่เราจะถ่ายจนลืมไปว่ามันอาจจะติดอะไรมาด้วย ยิ่งถ้าเราไปถ่ายในที่คนเยอะๆ กลุ่มคนที่มาเป็นฉากหลังอาจจะสร้างปัญหาให้กับเราก็เป็นได้ เช่นอาจจะทำให้ภาพซึ้งๆ กลายเป็นภาพตลก หรือภาพที่เราควรจะเด่นกลับโดนแย่งซีนไปเสียได้ แต่ถ้าใครยังคิดผลลัพธ์ของการถ่ายรูปโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างไม่ออก งั้นลองมาดูตัวอย่างภาพของคนเหล่านี้กัน แล้วคุณจะรู้ซึ้งเลยว่าการเช็กทุกอย่างรอบตัวก่อนถ่ายมันสำคัญขนาดไหน… ภาพคู่รักที่ดูจะหวาน แต่ฉากหลังสองนิ้วนั่น มันกลับเด่นกว่าซะได้ ความน่ารักของแม่หนูต้องพังลงเพราะเจ้าหนูข้างหลัง จะแอบถ่ายเพื่อนข้างหน้า แต่ข้างหลังดันเด่นสุดๆ กะขอแต่งงานแบบคูลๆ แต่ดันจืดเพราะมีคนทำเหมือนกันอยู่ข้างหลัง ดินเนอร์สุดหรูดันพังลงเพราะเจ้าห่านข้างหลังมันไม่ยอมไปไหนจะถ่ายภาพสวยๆ ก็ไม่ได้ โมเมนต์ดีๆ ต้องพังลงเพราะเขามาแทรกกลางระหว่างเราซะได้ Elmo นายไม่ควรมาแย่งซีนของ Woody แบบนี้นะ ความปังของ D.va ต้องพังลงเพราะแม่สาวหน้าเหวอข้างหลัง พี่ข้างหลังเขาตกใจอะไรเบอร์นั้น จะถ่ายท่ายอดฮิตก็ดันโดนแย่งซีนด้วยท่าเดียวกันแต่คนละมุมซะได้ อยากถ่ายภาพโชว์กล้ามอวดสาวๆ แต่ป้าข้างหลังดันเด่นแบบสุดๆ อยากถ่ายรูปมายิม แต่ชุดพี่คนนี้มันเด่นจนละสายตาไม่ได้เลย แมทช์บาสสุดโปรดกับคุณพ่อ แทนที่จะได้ภาพประทับใจมันดันออกไปอีกแบบซะได้ เป็นภาพที่มีการแย่งซีนมากกว่าหนึ่งจุด ภาพความทรงจำในร้านอาหาร…
-
จบเสียที ชีวิตที่ยุ่งยาก ชม “31 สิ่งประดิษฐ์” ที่จะช่วยให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นไปอีกขั้น!!
เพื่อนๆ หลายคนเคยคิดไหมว่า การใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มันดูจะยากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าความเครียด ความวุ่นวายต่างๆ แต่จะดีแค่ไหนถ้ามีอุปกรณ์ที่สามารถทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายและสนุกมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เองมนุษย์อย่างเราจึงปิ๊งไอเดียรังสรรค์สิ่งประดิษฐ์ดีๆ ที่จะมาช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันให้พ้นจากความยุ่งยากในการชีวิต ด้วยผลิตภัณฑ์สุดเจ๋งที่มีประโยชน์ต่อทุกๆ คนอย่างไม่น่าเชื่อ!!! 1. แท่งช็อกโกแลตที่เป็นตัววัดค่าความรู้สึกของคนในสนามบิน 2. ร้านขายเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์แห่งนี้ มีโลกขนาดเล็กสำหรับทดสอบกล้องด้วยล่ะ 3. แผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งอยู่ที่ม้านั่ง ช่วยให้คุณชาร์จอุปกรณ์ได้ 4. ลิฟต์นี้แสดงให้เห็นถึงความจุ ของน้ำหนักของผู้โดยสาร 5. สัญญาณหนีไฟ ที่มีอยู่ในระดับที่คลานแล้วเห็นได้ 6. ตะกร้าที่เป็นดีไซน์โค้งเว้า จะได้เดินสะดวกๆ ไงล่ะ 7. เหตุการณ์ทิชชู่หมดจะหมดไป ขรี้ได้สบายใจ ไม่ต้องบากหน้าไปขอห้องข้างๆ 8. ป้ายเตือนว่าพื้นลื่น สงสัยจะลื่นจริงๆ นะเนี่ย 9. เครื่องเล่นสำหรับเด็ก ระหว่างที่รอขึ้นเครื่องบินจริงๆ น่าสนุกใช่ไหมล้าา… 10. โทรศัพท์สาธารณะส่งข้อความได้ด้วยเหรออ..?? 11. ที่ชาร์จแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ตั้งเมนูอาหารได้ด้วย 12. นี่สิของใช้ที่มนุษยชาติต้องการ…
-
สาวญี่ปุ่นโดนจับหลังขโมยอนิเมะมูลค่า 30,000 บาท ของแฟนหนุ่มที่อาศัยอยู่ด้วยกันไปขาย
งานอดิเรกของคนเรานั้นก็มีอยู่หลายอย่าง อาทิ เล่นดนตรี ดูภาพยนตร์ ออกกำลังกาย หรือกระทั่งสะสมสิ่งของต่างๆซึ่งก็คงเป็นเรื่องที่ดีหากคนที่เราอยู่ด้วยเห็นคุณค่าในงานอดิเรกของเรา แต่คงไม่ใช่เห็นเป็นเงินเหมือนกับเหตุการณ์นี้ ที่มีสาวคนหนึ่งขโมยคอลเลคชั่นสะสมของแฟนหนุ่มไปขายแล้วได้เงินไปกว่า 30,000 บาท!!! เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ยูสเซอร์หนึ่งนามว่า @wkkazuya โดยเขาเล่าว่า เขาเป็นชายญี่ปุ่นอายุ 49 ปีที่คบหากับสาวอายุ 23 ปีคนหนึ่ง ในเริ่มแรกพวกเขาอาศัยอยู่คนละสถานที่กัน โดยเธอคนนั้นอาศัยอยู่ในหอพักของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ ทว่าในภายหลังเธอได้ลาออกจากงาน นั่นจึงเป็นเหตุให้เธอต้องออกจากหอพักนั้นด้วย และในที่สุดเธอจึงตัดสินใจย้ายมาอาศัยอยู่กับเขาในจังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น ใจแทบสลาย หายไปไหนหว่า?? หนุ่มรายนี้ได้บอกว่า งานอดิเรกของเขาคือการสะสมโมเดลการ์ตูนต่างๆ เพราะว่าเขาเป็นแฟนอนิเมะตัวยง ดังนั้นที่บ้านของเขาจึงเต็มไปด้วยแผ่นการ์ตูนมากมายทั้งแบบ DVD, Blu-ray รวมไปถึงโมเดลหายากที่มีมูลค่าสูง และอยู่มาวันหนึ่งก็เกิดเรื่องที่ทำให้ใจเขาแทบสลายเพราะว่ามันมีสิ่งของบางอย่างหายไปจากชั้นสะสมของเขา ด้วยความที่บ้านของเขานั้นไม่มีใครสามารถเข้ามาได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน ชายคนดังกล่าวจึงได้สงสัยว่าต้องเป็นแฟนสาวของเขาแน่นอนที่อยู่เบื้องหลังการหายไปของชุดสะสมสุดรักของเขา เขาจึงได้ไปแจ้งตำรวจเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำไมถึงทำกับฉันด้ายย โดยในตอนแรก สาวคนนี้อ้างว่าเพื่อนของเธอเป็นคนขโมยของเหล่านี้ไป แต่เมื่อสอบสวนไปเรื่อยๆ เธอก็ให้รับสารภาพว่า เธอเป็นคนขโมยคอลเลคชั่นเหล่านั้นเอง แล้วนำไปขายที่ร้านรับซื้อสินค้าอนิเมะมือสองที่ชื่อว่า Geo จนได้เงินไปกว่า 90,000 เยน(30,000 บาท) ซึ่งเธอได้ออกมาบอกในภายหลังว่า “ฉันไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว…
-
อย่างเป็นทางการ!! เซเลน่า โกเมซ ให้สัมภาษณ์ว่ากลับมาคบกับ จัสติน บีเบอร์ แล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่าง Selena Gomez และ Justin Bieber ถือเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ถูกสื่อทั่วโลกจับตามองมากที่สุด เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก งงไปหมด อย่างที่รู้กันว่าทั้งสองเคยคบกันมาก่อนเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่แล้วทั้งคู่ได้เลิกรากันไป และต่างไปฝ่ายก็มีคนใหม่เป็นที่เรียบร้อย แต่เมื่อไม่นานนี้เอง มีสื่อตาดีแชะภาพ Selena กับ Justin ออกมาปั่นจักรยานเล่นกันกะหนุงกะหนิงเหมือนซีรีส์เกาหลี แบบนี้ก็ไม่รู้สินะว่าจะมีลุ้นรีเทิร์นหรือเปล่า!!!?? แค่นั้นยังไม่พอ ปาปารัสซี่ยังได้แอบแชะภาพอันสุดสวีทหวานของทั้งคู่ขณะกำลังจุ๊บปากกันแบบไม่แคร์สื่อ บอกเลยว่าเมื่อก่อนหวานยังไงตอนนี้ก็ยังหวานไม่มีเปลี่ยนแปลง แม้ภาพจะฟ้องว่าทั้งสองคนกลับมาคบกันแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงการตัดสินจากภาพ โดยไม่ได้มีการยืนยันจากทั้งสองคนว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่ ล่าสุดวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Selena ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Billbord ว่า เธอกลับมาคบกับ Justin อีกครั้งจริงๆ ตามที่เป็นข่าว นักร้องสาวบอกว่าเธอจบความสัมพันธ์กับ The Weeknd หลังจากที่คบหาดูใจกันมา 10 เดือน จนตอนนี้กลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกันไปแล้ว เธอบอกว่า “ตอนนี้ฉันอายุ 25 ปีแล้ว ไม่ใช่ 18 19 หรือ 20 ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะรักคนที่มีความหมายกับชีวิตของฉัน ก่อนนี้เราอาจจะฝืนความรู้สึกกับคนที่ไม่ใช่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะหยุดเทคแคร์เขา หลังจากที่เลิกกันไปแล้ว” …
-
หนุ่มปารากวัยหึงโหด ทำร้ายร่างกายภรรยาทุกครั้งที่มีคนมา ‘กดไลค์’ ภาพเธอบนเฟซบุ๊ก
ในความสัมพันธ์รักของหนุ่มสาวย่อมมีความหึงหวงอยู่ด้วยเสมอ โดยคนที่ขี้หึงมักจะอ้างว่าเป็นเพราะรักนั่นแหละจึงทำให้หึง แต่ในบางครั้งการหึงหวงมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาในความสัมพันธ์ได้ อย่างเช่นหนุ่มปารากวัยคนนี้ ที่หึงหวงภรรยาอย่างหนัก ถึงขั้นทำร้ายร่างกายเมื่อมีคนมากดไลค์รูปของเธอบนเฟซบุ๊ก ตำรวจได้รับแจ้งว่า Adolfina Camelli Ortigoza วัย 21 ปี จากเมือง Nemby ใกล้กับกรุงอาซุนซิออง ประเทศปารากวัย ถูกทำร้ายร่างกายภายในบ้านนับครั้งไม่ถ้วนโดย Pedro Heriberto Galeano สามีวัย 32 ปีของเธอ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบ Ortigoza อยู่ในสภาพที่แย่มากๆ ตาและใบหน้าบวมจากการทุบตี ปากแตก และมีรอยช้ำทั่วร่างกาย ต่อมา Arnaldo Martinez ทนายของฝ่ายหญิง เผยสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังของความรุนแรงนี้ว่า Galeano มักจะลงมือทุบตีภรรยาทุกครั้งที่มีคนเข้ามากดไลค์รูปภาพของเธอบนเฟซบุ๊ก ภายหลัง Galeano จึงตัดสินใจควบคุมดูแลเฟซบุ๊กของภรรยา และยังเป็นคนที่โพสต์รูปเธอลงในเฟซฯ เองด้วย แต่เมื่อมีคนมากดไลค์รูปภาพเหล่านั้น เขาก็จะทำการทุบตีเธอเหมือนเช่นเคย แม้ฝ่ายชายจะเป็นคนดูแลเฟซบุ๊กและโพสต์รูปภาพของภรรยาเอง แต่เมื่อมีคนมากดไลค์เขาจะกล่าวหาว่าเธอแอบมีความสัมพันธ์กับคนคนนั้น ทั้งๆ ที่ภรรยาไม่ได้แตะต้องเฟซบุ๊กของตัวเองเลย Martinez กล่าวอีกว่า “Ortigoza ไม่กล้าบอกใครว่าเธอถูกทุบตีทุกครั้งที่มีคนมาคนไลค์รูปหรือมาคอมเมนต์ ทางเพื่อนๆ…